📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ขุทฺทกนิกาเย
มหานิทฺเทส-อฏฺกถา
คนฺถารมฺภกถา
อวิชฺชาลงฺคึ ¶ ¶ ¶ ฆาเตนฺโต, นนฺทิราคฺจ มูลโต;
ภาเวนฺตฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ผุสิ โย อมตํ ปทํ.
ปาปุณิตฺวา ชิโน โพธึ, มิคทายํ วิคาหิย;
ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตฺวา, เถรํ โกณฺฑฺมาทิโต.
อฏฺารสนฺนํ โกฏีนํ, โพเธสิ ตาปโส ตหึ;
วนฺเทหํ สิรสา ตฺจ, สพฺพสตฺตานมุตฺตมํ.
ตถา ¶ ธมฺมุตฺตมฺเจว, สงฺฆฺจาปิ อนุตฺตรํ;
สํขิตฺเตน หิ โย วุตฺตํ, ธมฺมจกฺกํ วิภาคโส.
สาริปุตฺโต มหาปฺโ, สตฺถุกปฺโป ชินตฺรโช;
ธมฺมจกฺกํ วิภาเชตฺวา, มหานิทฺเทสมพฺรวิ;
ปาโ วิสิฏฺโ นิทฺเทโส, ตํนามวิเสสิโต จ.
ตํ สาริปุตฺตํ ชินราชปุตฺตํ, เถรํ ถิราเนกคุณาธิวาสํ;
ปฺาปภาวุคฺคตจารุกิตฺตึ, สุนีจวุตฺติฺจ อโถ นมิตฺวา.
ขมาทยาทิยุตฺเตน ¶ , ยุตฺตมุตฺตาทิวาทินา;
พหุสฺสุเตน เถเรน, เทเวน อภิยาจิโต.
มหาวิหารวาสีนํ ¶ , สชฺฌายมฺหิ ปติฏฺิโต;
คเหตพฺพํ คเหตฺวาน, โปราเณสุ วินิจฺฉยํ.
อโวกฺกเมนฺโต สมยํ สกฺจ, อนามสนฺโต สมยํ ปรฺจ;
ปุพฺโพปเทสฏฺกถานยฺจ, ยถานุรูปํ อุปสํหรนฺโต.
าณปฺปเภทาวหนสฺส ตสฺส, โยคีหิ เนเกหิ นิเสวิตสฺส;
อตฺถํ อปุพฺพํ อนุวณฺณยนฺโต, สุตฺตฺจ ยุตฺติฺจ อนุกฺกเมนฺโต.
อารภิสฺสํ สมาเสน, มหานิทฺเทสวณฺณนํ;
สทฺธมฺมพหุมาเนน, นาตฺตุกฺกํสนกมฺยตา.
วกฺขามหํ อฏฺกถํ ชนสฺส, หิตาย สทฺธมฺมจิรฏฺิตตฺถํ;
สกฺกจฺจ สทฺธมฺมปโชติกํ ตํ, สุณาถ ธาเรถ จ สาธุ สนฺโตติ.
ตตฺถ ‘‘ปาโ วิสิฏฺโ นิทฺเทโส, ตํนามวิเสสิโต จา’’ติ วุตฺตตฺตา ทุวิโธ ปาโ – พฺยฺชนปาโ, อตฺถปาโ จ. เตสุ พฺยฺชนปาโ อกฺขรปทพฺยฺชนอาการนิรุตฺตินิทฺเทสวเสน ¶ ฉพฺพิโธ. อตฺถปาโ สงฺกาสนปกาสนวิวรณวิภชนอุตฺตานีกรณปฺตฺติวเสน ฉพฺพิโธ. ตตฺถ ตีสุ ทฺวาเรสุ ปริสุทฺธปโยคภาเวน วิสุทฺธกรุณานํ จิตฺเตน ปวตฺติตเทสนา วาจาหิ อกถิตตฺตา อเทสิตตฺตา อกฺขรมิติ สฺิตา, ตํ ปารายนิกพฺราหฺมณานํ มนสา ปุจฺฉิตปฺหานํ วเสน ภควตา รตนฆเร นิสีทิตฺวา สมฺมสิตปฏฺานมหาปกรณวเสน จ อกฺขรํ นามาติ คเหตพฺพํ.
อถ ¶ วา อปริปุณฺณํ ปทํ อกฺขรมิติ คเหตพฺพํ ‘‘สฏฺิวสฺสสหสฺสานี’’ติ ¶ เอวมาทีสุ (เป. ว. ๘๐๒; ชา. ๑.๔.๕๔; เนตฺติ. ๑๒๐) วิย. เอตฺถ หิ สการ นการ โสการาทีนิ อกฺขรมิติ, เอกกฺขรํ วา ปทํ อกฺขรมิติ เอเก. ‘‘ยายํ ตณฺหา โปโนภวิกา’’ติ เอวมาทีสุ (มหาว. ๑๔; วิภ. ๒๐๓; ม. นิ. ๓.๓๗๔; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) วิภตฺยนฺตํ อตฺถโชตกํ อกฺขรปิณฺฑํ ปทํ. ‘‘นามฺจ รูปฺจา’’ติ เอวมาทีสุ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๑๐๙; สุ. นิ. ๘๗๘; มหานิ. ๑๐๗; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๖; เนตฺติ. ๔๕) พหุอกฺขเรหิ ยุตฺตํ ปทํ นาม. สํขิตฺเตน วุตฺตํ ปทํ วิภาเวติ. ปเทน อภิหิตํ พฺยฺชยติ พฺยตฺตํ ปากฏํ กโรตีติ พฺยฺชนํ, วากฺยเมว. ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา’’ติ สงฺเขเปน กถิตมตฺถํ. ‘‘กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ. วีริยจิตฺตวีมํสสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวตี’’ติอาทีสุ (วิภ. ๔๓๑; สํ. นิ. ๕.๘๑๓; ที. นิ. ๓.๓๐๖; อ. นิ. ๔.๒๗๖) ปากฏกรณภาเวน พฺยฺชนํ นาม. พฺยฺชนวิภาคปกาโส อากาโร. ‘‘ตตฺถ กตโม ฉนฺโท? โย ฉนฺโท ฉนฺทิกตา กตฺตุกมฺยตา’’ติ เอวมาทีสุ (วิภ. ๔๓๓) กถิตพฺยฺชนํ อเนกวิเธน วิภาคกรณํ อากาโร นาม. อาการาภิหิตสฺส นิพฺพจนํ นิรุตฺติ. ‘‘ผสฺโส, เวทนา’’ติ เอวมาทีสุ (ธ. ส. ๑) อากาเรน กถิตํ ‘‘ผุสตีติ ผสฺโส. เวทิยตีติ เวทนา’’ติ นีหริตฺวา วจนํ นิรุตฺติ นาม. นิพฺพจนวิตฺถาโร นิสฺเสสโต เทโสติ นิทฺเทโส, เวทิยตีติ เวทนาติ นิพฺพจนลทฺธปทํ ‘‘สุขา ทุกฺขา อทุกฺขมสุขา, สุขยตีติ สุขา, ทุกฺขยตีติ ทุกฺขา, เนว ทุกฺขยติ น สุขยตีติ อทุกฺขมสุขา’’ติ อตฺถวิตฺถาโร นิรวเสเสน กถิตตฺตา นิทฺเทโส นาม.
เอวํ ¶ ฉพฺพิธานิ พฺยฺชนปทานิ ชานิตฺวา จ ฉสุ อตฺถปเทสุ สงฺเขปโต กาสนา ทีปนา สงฺกาสนา, ‘‘มฺมาโน โข, ภิกฺขุ, พนฺโธ มารสฺส อมฺมาโน มุตฺโต ปาปิมโต’’ติ เอวมาทีสุ สงฺเขเปน อตฺถทีปนา สงฺกาสนา นาม. เอโส ปน เถโร ‘‘พุทฺเธน ภควตา ¶ เอวํ สงฺเขปํ กตฺวา วุตฺตมตฺถํ ‘อฺาตํ ภควา, อฺาตํ สุคตา’’’ติ กเถตุํ สมตฺโถ ปฏิวิชฺฌิ.
อุปริ ¶ วตฺตพฺพมตฺถํ อาทิโต กาสนา ทีปนา ปกาสนา, ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อาทิตฺต’’นฺติ เอวมาทีสุ (มหาว. ๕๔; สํ. นิ. ๔.๒๘) ปจฺฉา กถิตพฺพมตฺถํ ปมวจเนน ทีปนา ปกาสนา นาม. เอวํ ปมํ ทีปิตํ อตฺถํ ปุน ปากฏํ กตฺวา ทีปเนน ‘‘กิฺจ, ภิกฺขเว, สพฺพํ อาทิตฺตํ? จกฺขุํ, ภิกฺขเว, อาทิตฺตํ, รูปา อาทิตฺตา’’ติ เอวมาทีสุ (มหาว. ๕๔; สํ. นิ. ๔.๒๘) กถิเตสุ ‘‘ติกฺขินฺทฺริโย สงฺเขเปน วุตฺตํ ปฏิวิชฺฌตี’’ติ กถิตตฺตา ทฺเว อตฺถปทานิ ติกฺขินฺทฺริยสฺส อุปการวเสน วุตฺตานิ.
สํขิตฺตสฺส วิตฺถาราภิธานํ สกึ วุตฺตสฺส จ ปุนปิ อภิธานํ วิวรณํ, ‘‘กุสลา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ๑) สงฺเขเปน นิกฺขิตฺตสฺส. ‘‘กตเม ธมฺมา กุสลา? ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ (ธ. ส. ๑) นิทฺเทสวเสน วิตฺถารณํ วิตฺถารวเสน ปุน กถนํ วิวรณํ นาม.
ตํ วิภาคกรณํ วิภชนํ, ‘‘ยสฺมึ สมเย’’ติ (ธ. ส. ๑) วิวริเต กุสเล ธมฺเม ‘‘ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหติ, เวทนา โหตี’’ติ (ธ. ส. ๑) วิภาคกรณํ วิภชนํ นาม. วิวรสฺส วิตฺถาราภิธาเนน วิภตฺตสฺส จ อุปมาภิธาเนน ¶ ปฏิปาทนํ อุตฺตานีกรณํ, วิวรเณน วิวริตตฺถสฺส ‘‘กตโม ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหติ? โย ตสฺมึ สมเย ผสฺโส ผุสนา สมฺผุสนา’’ติ (ธ. ส. ๒) อติวิวริตฺวา กถนฺจ วิภชเนน วิภตฺตสฺส ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, คาวี นิจฺจมฺมา, เอวเมว ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, ผสฺสาหาโร ทฏฺพฺโพติ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๖๓) เอวมาทิอุปมากถนฺจ อุตฺตานีกรณํ นาม. ธมฺมํ สุณนฺตานํ ธมฺมเทสเนน จิตฺตสฺส อเนกวิเธน โสมนสฺสอุปฺปาทนฺจ อติขิณพุทฺธีนํ อเนกวิเธน าณสฺส ติขิณภาวกรณฺจ ปฺตฺติ นาม, เตสํ สุณนฺตานํ ตํจิตฺตโตสเนน ตํจิตฺตนิสามเนน จ ปฺายตีติ ปฺตฺติ. ตตฺถ ภควา อกฺขเรหิ สงฺกาสยติ, ปเทหิ ปกาสยติ, พฺยฺชเนหิ วิวรติ, อากาเรหิ วิภชติ, นิรุตฺตีหิ อุตฺตานีกโรติ, นิทฺเทเสหิ ปฺาปยตีติ. กึ วุตฺตํ โหติ? พุทฺธา ภควนฺโต เอกจฺเจ เวเนยฺเย เอกสฺมึ เทสเน อกฺขเรหิ อตฺถสงฺกาสนํ กโรนฺติ…เป… นิทฺเทเสหิ อตฺถปฺาปนํ กโรนฺตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.
อถ ¶ วา อกฺขเรหิ สงฺกาสยิตฺวา ปเทหิ ปกาสยติ, พฺยฺชเนหิ วิวริตฺวา อากาเรหิ วิภชติ, นิรุตฺตีหิ อุตฺตานีกตฺวา นิทฺเทเสหิ ปฺาปยติ ¶ . กึ วุตฺตํ โหติ? เอวรูเปน ธมฺมเทสเนน เอกจฺเจสุ าเนสุ เอกจฺจานํ เวเนยฺยานํ วินยตีติ.
อถ วา อกฺขเรหิ อุคฺฆาฏยิตฺวา ปเทหิ ปกาเสนฺโต วินยติ อุคฺฆฏิตฺุํ, พฺยฺชเนหิ วิวริตฺวา อากาเรหิ วิภชนฺโต วินยติ วิปฺจิตฺุํ, นิรุตฺตีหิ อุตฺตานีกตฺวา นิทฺเทเสหิ ปฺาเปนฺโต วินยติ เนยฺยํ. อิติ เวเนยฺยวเสนปิ โยเชตพฺพเมว.
อตฺถโต ปเนตฺถ กตโม พฺยฺชนปาโ, กตโม อตฺถปาโติ? พุทฺธานํ ภควนฺตานํ ธมฺมํ เทเสนฺตานํ โย อตฺถาวคมโก สวิฺตฺติกสทฺโท, โส พฺยฺชนปาโ ¶ . โย เตน อภิสเมตพฺโพ ลกฺขณรสาทิสหิโต ธมฺโม, โส อตฺถปาโติ เวทิตพฺโพ. ปุนปิ สนฺธายภาสิโต พฺยฺชนภาสิโต สาวเสสปาโ อนวเสสปาโ นีโต เนยฺโยติ ฉพฺพิโธ ปาโ. ตตฺถ อเนกตฺถวตฺตา สนฺธายภาสิโต ‘‘มาตรํ ปิตรํ หนฺตฺวา, ราชาโน ทฺเว จ ขตฺติเย’’ติ เอวมาทิ (ธ. ป. ๒๙๔). เอกตฺถวตฺตา พฺยฺชนภาสิโต ‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ เอวมาทิ (ธ. ป. ๑.๒; เนตฺติ. ๘๙, ๙๒; เปฏโก. ๑๔). สาวเสโส ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อาทิตฺต’’นฺติ เอวมาทิ (มหาว. ๕๔; สํ. นิ. ๔.๒๘). วิปรีโต อนวเสโส ‘‘สพฺเพ ธมฺมา สพฺพากาเรน พุทฺธสฺส ภควโต าณมุเข อาปาถํ อาคจฺฉนฺตี’’ติ เอวมาทิ (มหานิ. ๑๕๖; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๘๕; ปฏิ. ม. ๓.๕). ยถา วจนํ, ตถา อวคนฺตพฺโพ นีโต ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’’ติ เอวมาทิ. ยุตฺติยา อนุสฺสริตพฺโพ เนยฺโย ‘‘เอกปุคฺคโล ภิกฺขเว’’ติ เอวมาทิ (อ. นิ. ๑.๑๗๐).
อตฺโถ ปน อเนกปฺปกาโร ปาตฺโถ สภาวตฺโถ ายตฺโถ ปาานุรูโป นปาานุรูโป สาวเสสตฺโถ นิรวเสสตฺโถ นีตตฺโถ เนยฺยตฺโถ อิจฺจาทิ. ตตฺถ โย อปฺปสฺสตฺถสฺส าปนตฺถมุจฺจาริยเต, โส ปาตฺโถ ‘‘สาตฺถํ สพฺยฺชน’’นฺติอาทีสุ (ปารา. ๑; ที. นิ. ๑.๑๙๐) วิย. รูปารูปธมฺมานํ ลกฺขณรสาทิสภาวตฺโถ ‘‘สมฺมาทิฏฺึ ภาเวตี’’ติอาทีสุ (วิภ. ๔๘๕; สํ. นิ. ๕.๓) วิย. โย ายมาโน หิตาย สํวตฺตติ, โส าตุํ อรหตีติ ายตฺโถ – ‘‘อตฺถวาที ธมฺมวาที’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๙, ๑๙๔; ๓.๒๓๘; ม. นิ. ๑.๔๑๑) วิย. ยถาปาํ ภาสิโต ปาานุรูโป ‘‘จกฺขุ ¶ , ภิกฺขเว, ปุราณกมฺม’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๑๔๖) ภควตา วุตฺตํ. ตสฺมา จกฺขุมปิ กมฺมนฺติ. พฺยฺชนจฺฉายาย อตฺถํ ปฏิพาหยมาเนน วุตฺโต อตฺโถ นปาานุรูโป, โส ปาโต อนนฺุาโต อกตปฏิกฺเขโป ¶ วิยุตฺโต. โส ¶ จ สงฺคเหตพฺพมฺปิ อสงฺคเหตฺวา, ปริวชฺเชตพฺพมฺปิ วา กิฺจิ อปริวชฺเชตฺวา ปริเสสํ กตฺวา วุตฺโต สาวเสสตฺโถ ‘‘จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ (สํ. นิ. ๔.๖๐; มหานิ. ๑๐๗). สพฺเพ ตสนฺติ ทณฺฑสฺส, สพฺเพ ภายนฺติ มจฺจุโน’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๒๙) วิย. วิปรีโต นิรวเสสตฺโถ ‘‘สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ (ที. นิ. ๒.๑๕๕; มหาว. ๒๘๗; เนตฺติ. ๑๑๔). ตตฺร, ภิกฺขเว, โก มนฺตา โก สทฺธาตา…เป… อฺตฺร ทิฏฺปเทหี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๗.๖๖) วิย. สทฺทวเสเนว เวทิตพฺโพ นีตตฺโถ ‘‘รูปา สทฺทา รสา คนฺธา, โผฏฺพฺพา จ มโนรมา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๕๑, ๑๖๕; มหาว. ๓๓) วิย. สมฺมุติวเสน เวทิตพฺโพ เนยฺยตฺโถ ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, วลาหกูปมา ปุคฺคลา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๑๐๑-๑๐๒) วิย. เอวมิธ ปาฺจ อตฺถฺจ วิวริตฺวา ิโต อสํหีโร ภวติ ปรวาทีหิ ทีฆรตฺตํ ติตฺถวาเสน.
อิติ อสํหีรภาเวน ยาว อาคมาธิคมสมฺปทํ, ตาว วตฺตุํ สกฺโกติ. สงฺเขปวิตฺถารนเยน เหตุทาหรณาทีหิ อวโพธยิตุํ สมตฺโถ. เอวํวิโธ อตฺตานฺจ ปรฺจ โสเธตุํ สมตฺถภาเวน ทุสฺสีลฺยทิฏฺิมลวิรหิตตฺตา สุจิ. ทุสฺสีโล หิ อตฺตานํ อุปหนติ, เตน นาเทยฺยวาโจ จ ภวติ สพฺโยหารมาโน อิธ นิจฺจาตุโร เวชฺโชว. ทุทฺทิฏฺิ ปรํ อุปหนติ, นาวสฺสโย จ ภวติ วาฬคหากุโล อิว กมลสณฺโฑ. อุภยวิปนฺโน ปน สพฺพถาปิ อนุปาสนีโย ภวติ คูถคตมิว ฉวาลาตํ คูถคโต วิย จ กณฺหสปฺโป. อุภยสมฺปนฺโน ปน สพฺพถาปิ อุปาสนีโย เสวิตพฺโพ จ วิฺูหิ, นิรุปทฺทโว อิว รตนากโร, เอวํ ภูโต เอวํ อมจฺฉโร ¶ อหีนาจริยมุฏฺิ. สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาทอตฺตโนมติสงฺขาตานฺจ จตุนฺนํ อปริจฺจาคี, เตสํ วเสน พฺยาขฺยาโต.
‘‘เอกํสวจนํ เอกํ, วิภชฺชวจนํ ปทํ;
ตติยํ ปฏิปุจฺเฉยฺย, จตุตฺถํ ปน าปเย’’ติ.
เอเตสํ ¶ วา อปริจฺจาคี. ตโต เอว โสตูนํ หิเต นิยุตฺตตฺตา เนสํ อวโพธนํ ปติ อกิลาสุ ภวตีติ. อาห เจตฺถ –
‘‘ปาตฺถวิทสํหีโร, วตฺตา สุจิ อมจฺฉโร;
จตุนฺนํ อปริจฺจาคี, เทสกสฺส หิตานฺวิโต’’ติ.
เอตฺถ ¶ เทสกสฺสาติ เทสโก อสฺส, ภเวยฺยาติ อตฺโถ. หิตานฺวิโตติ หิเต อนุคโต หิตจิตฺโต. โส เอโส สุจิตฺตา ปิโย, จตุนฺนํ อปริจฺจาคิตฺตา ครุ, อสํหีรตฺตา ภาวนีโย, เทสกตฺตา วตฺตา, หิตานฺวิตตฺตา วจนกฺขโม, ปาตฺถวิทตฺตา คมฺภีรกถํ กตฺตา, อมจฺฉรตฺตา น จาฏฺาเน นิโยชโก อิติ –
‘‘ปิโย ครุ ภาวนีโย, วตฺตา จ วจนกฺขโม;
คมฺภีรฺจ กถํ กตฺตา, โน จาฏฺาเน นิโยชโก’’ติ. (อ. นิ. ๗.๓๗; เนตฺติ. ๑๑๓);
‘‘อภิหิโต เทสโก โส, ตาว ทานิ อภิธียเต’’.
ตตฺถ ธมฺมครุตฺตา กถํ น ปริภวติ, อาจริยครุตฺตา กถิกํ น ปริภวติ, สทฺธาปฺาทิคุณปฏิมณฺฑิตตฺตา อตฺตานํ น ปริภวติ, อสามายาวิตฺตา อมตาภิมุขตฺตา จ อวิกฺขิตฺตจิตฺโต ภวติ, สุเมธตฺตา โยนิโส มนสิ กโรตีติ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สุณนฺโต สทฺธมฺมํ ภพฺโพ นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ. กตเมหิ ปฺจหิ? น กถํ ปริโภติ, น กถิกํ ปริโภติ, น อตฺตานํ ปริโภติ, อวิกฺขิตฺตจิตฺโต ¶ ธมฺมํ สุณาติ เอกคฺคจิตฺโต, โยนิโส มนสิ กโรตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๕๑).
ตํลกฺขณปฺปตฺตตฺตา ภาวนํ ภชตีติ. อาห เจตฺถ –
‘‘ธมฺมาจริยครุ สทฺธาปฺาทิคุณมณฺฑิโต;
อสามายาวิกสฺส, สุเมโธ อมตาภิมุโข’’. –
อิติ วตฺตา จ โสตา จ.
เอวํ ¶ วุตฺตปฺปการํ พฺยฺชนฺจ อตฺถฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ โย อติอคฺคํ กตฺวา กถิตตฺตา มหาสมุทฺทมหาปถวี วิย มหา จ โส นิทฺเทโส จาติ มหานิทฺเทโส, ตํ มหานิทฺเทสํ วณฺณยิสฺสามิ.
ตเทตํ ¶ มหานิทฺเทสํ อตฺถสมฺปนฺนํ พฺยฺชนสมฺปนฺนํ คมฺภีรํ คมฺภีรตฺถํ โลกุตฺตรปฺปกาสกํ สฺุตปฺปฏิสํยุตฺตํ ปฏิปตฺติมคฺคผลวิเสสสาธนํ ปฏิปตฺติปฏิปกฺขปฏิเสธนํ โยคาวจรานํ าณวรรตนากรภูตํ ธมฺมกถิกานํ ธมฺมกถาวิลาสวิเสสเหตุภูตํ สํสารภีรุกานํ ทุกฺขนิสฺสรณตทุปายทสฺสเนน อสฺสาสชนนตฺถํ ตปฺปฏิปกฺขนาสนตฺถฺจ คมฺภีรตฺถานฺจ อเนเกสํ สุตฺตนฺตปทานํ อตฺถวิวรเณน สุชนหทยปริโตสชนนตฺถํ, ตถาคเตน อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตสพฺพฺุตฺาณมหาทีโปภาเสน สกลชนวิตฺถตมหากรุณาสิเนเหน เวเนยฺยชนหทยคตกิเลสนฺธการวิธมนตฺถํ สมุชฺชลิตสฺส สทฺธมฺมมหาปทีปสฺส ตทธิปฺปายวิกาสนสิเนหปริเสเกน ปฺจวสฺสสหสฺสมติจิรสมุชฺชลนมิจฺฉตา โลกานุกมฺปเกน สตฺถุกปฺเปน ธมฺมราชสฺส ธมฺมเสนาปตินา อายสฺมตา สาริปุตฺตตฺเถเรน ภาสิตํ สุตฺวา อายสฺมา อานนฺโท ปมมหาสงฺคีติกาเล ยถาสุตเมว สงฺคหํ อาโรเปสิ.
โส ปเนส วินยปิฏกํ สุตฺตนฺตปิฏกํ อภิธมฺมปิฏกนฺติ ¶ ตีสุ ปิฏเกสุ สุตฺตนฺตปิฏกปริยาปนฺโน, ทีฆนิกาโย มชฺฌิมนิกาโย สํยุตฺตนิกาโย องฺคุตฺตรนิกาโย ขุทฺทกนิกาโยติ ปฺจสุ มหานิกาเยสุ ขุทฺทกมหานิกายปริยาปนฺโน, สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถา อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลนฺติ นวสุ สตฺถุสาสนงฺเคสุ ยถาสมฺภวํ คาถงฺคเวยฺยากรณงฺคทฺวยสงฺคหิโต.
‘‘ทฺวาสีติ พุทฺธโต คณฺหึ, ทฺเวสหสฺสานิ ภิกฺขุโต;
จตุราสีติ สหสฺสานิ, เย เม ธมฺมา ปวตฺติโน’’ติ. (เถรคา. ๑๐๒๗) –
ธมฺมภณฺฑาคาริกตฺเถเรน ปฺจสุ าเนสุ เอตทคฺคํ อาโรปิเตน ปฏิฺาตานํ จตุราสีติยา ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานํ ภิกฺขุโต คหิเตสุ ทฺวีสุ ธมฺมกฺขนฺธสหสฺเสสุ อเนกสตธมฺมกฺขนฺธสงฺคหิโต. ตสฺส ทฺเว วคฺคา อฏฺกวคฺโค ปารายนวคฺโค ขคฺควิสาณสุตฺตฺจ, เอเกกสฺมึ วคฺเค โสฬส โสฬส กตฺวา ขคฺควิสาณสุตฺตฺจาติ เตตฺตึส สุตฺตานิ กามสุตฺตาทิขคฺควิสาณสุตฺตปริโยสานานิ ¶ . เอวํ อเนกธา ววตฺถาปิตสฺส อิมสฺส มหานิทฺเทสสฺส อนุปุพฺพปทตฺถวณฺณนํ กริสฺสามิ. อยฺหิ มหานิทฺเทโส ปาโต อตฺถโต จ อุทฺทิสนฺเตน นิทฺทิสนฺเตน จ สกฺกจฺจํ อุทฺทิสิตพฺโพ นิทฺทิสิตพฺโพ จ, อุคฺคณฺหนฺเตนาปิ สกฺกจฺจํ อุคฺคณฺหิตพฺโพ ธาเรตพฺโพ จ. ตํ กิสฺส เหตุ? คมฺภีรตฺตา อิมสฺส มหานิทฺเทสสฺส โลกหิตาย โลเก จิรฏฺิตตฺถนฺติ.
๑. อฏฺกวคฺโค
๑. กามสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
ตตฺถ ¶ ¶ กามสุตฺตํ อาทิ. ตสฺมิมฺปิ ‘‘กามํ กามยมานสฺสา’’ติ คาถา อาทิ. สา อุทฺเทสนิทฺเทสปฏินิทฺเทสวเสน ติธา ิตา. ‘‘กามํ กามยมานสฺสา’’ติ เอวมาทิ อุทฺเทโส. ‘‘กามาติ อุทฺทานโต ทฺเว กามา – วตฺถุกามา จ กิเลสกามา จา’’ติ นิทฺเทโส. ‘‘กตเม วตฺถุกามา? มนาปิกา รูปา’’ติ เอวมาทิ ปฏินิทฺเทโส.
๑. ตตฺถ กามนฺติ มนาปิยรูปาทิเตภูมกธมฺมสงฺขาตํ วตฺถุกามํ. กามยมานสฺสาติ อิจฺฉมานสฺส. ตสฺส เจตํ สมิชฺฌตีติ ตสฺส กามยมานสฺส สตฺตสฺส ตํ กามสงฺขาตํ วตฺถุ สมิชฺฌติ เจ, สเจ โส ตํ ลภตีติ วุตฺตํ โหติ. อทฺธา ปีติมโน โหตีติ เอกํสํ ตุฏฺจิตฺโต โหติ. ลทฺธาติ ลภิตฺวา. มจฺโจติ สตฺโต. ยทิจฺฉตีติ ยํ อิจฺฉติ. อิทํ ปน สงฺเขปโต ปทตฺถสมฺพนฺธมตฺตเมว, วิตฺถาโร ปน อุปริ ปาฬิยํ อาคตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ยถา จ อิมสฺมึ, เอวํ อิโต ปรํ สพฺเพสุปีติ.
กามาติ อุทฺทิสิตพฺพปทํ. อุทฺทานโตติ นิทฺทิสิตพฺพปทํ. อุทฺทานโตติ วคฺควเสน ‘‘มจฺฉุทฺทานํ กิเนยฺยา’’ติ อาทีสุ วิย. อถ วา อุปรูปริ ทานโต อุทฺทานํ, อุทฺธํ อุทฺธํ โสธนโต พฺยวทานฏฺเน โวทานํ วิย. วิตฺถารกรณภาเวน วา. กามา อิติ ปาเสสํ กตฺวา วตฺตพฺพํ. ทฺเวติ คณนปริจฺเฉโท ¶ , น เอกํ, น ตโย. วตฺถุกามา จาติ มนาปิยรูปาทิวตฺถุกามา จ. อุปตาปนฏฺเน วิพาธนฏฺเน จ กิเลสกามา จ. เตสุ วตฺถุกาโม ปริฺเยฺโย, กิเลสกาโม ¶ ปหาตพฺโพ. ตตฺถ วตฺถุกาโม ¶ กิเลสกาเมน ปตฺถยิตพฺโพติ กามียตีติ กาโม. กิเลสกาโม วตฺถุกามานํ ปจฺจาสีสนสฺส การณภาเวน กามียเต อเนนาติ กาโม. ตตฺถ รูปาทิกฺขนฺเธ สงฺคหิโต วตฺถุกาโม, สงฺขารกฺขนฺเธ สงฺคหิโต กิเลสกาโม. ฉหิ วิฺาเณหิ วิชานิตพฺโพ วตฺถุกาโม, มโนวิฺาเณน ชานิตพฺโพ กิเลสกาโม. กิเลสานํ ปติฏฺฏฺเน การณฏฺเน อารมฺมณฏฺเน จ วตฺถุกาโม.
‘‘เนเต กามา ยานิ จิตฺรานิ โลเก, สงฺกปฺปราโค ปุริสสฺส กาโม;
ติฏฺนฺติ จิตฺรานิ ตเถว โลเก, อเถตฺถ ธีรา วินยนฺติ ฉนฺท’’นฺติ. (อ. นิ. ๖.๖๓);
นนฺทมาณวก- (ธ. ป. อฏฺ. ๑.๖๘ อุปฺปลวณฺณตฺเถรีวตฺถุ) โสเรยฺยเสฏฺิปุตฺตาทีนํ (ธ. ป. ๔๓) วตฺถูนิ เจตฺถ นิทสฺสนํ. กิเลสกาโม ตาปนฏฺเน พาธนฏฺเน จ สยํ กาเมตีติ กาโม. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘รตฺโต โข, พฺราหฺมณ, ราเคน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตตี’’ติ จ ‘‘รตฺโต โข, พฺราหฺมณ, ปาณมฺปิ หนติ, อทินฺนมฺปิ อาทิยติ, ปรทารมฺปิ คจฺฉติ, มุสาปิ ภณตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๕๔) จ เอวมาทิ นิทสฺสนํ.
ตเมว ปฏินิทฺเทสวเสน วิตฺถาเรตฺวา วตฺตุกาโม – ‘‘กตเม วตฺถุกามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กตเมติ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. ปฺจวิธา หิ ปุจฺฉา, ตาสํ วิภาโค อุปริ ปาฬิยํเยว อาวิ ภวิสฺสติ. ตาสุ อยํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. ตตฺถ มนาปิกาติ มนํ อปฺปายนฺติ วทฺเธนฺตีติ มนาปา, มนาปา เอว มนาปิกา. รูปาติ กมฺมจิตฺตอุตุอาหารสมุฏฺานวเสน จตุสมุฏฺานิกา รูปารมฺมณา. รูปยนฺตีติ รูปา, วณฺณวิการํ อาปชฺชมานา หทยงฺคตภาวํ ปกาเสนฺตีติ อตฺโถ.
ตตฺถ ¶ เกนฏฺเน รูปนฺติ? รุปฺปนฏฺเน. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –
‘‘กิฺจ, ภิกฺขเว, รูปํ วเทถ? รุปฺปตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา ‘รูป’นฺติ วุจฺจติ. เกน รุปฺปติ? สีเตนปิ รุปฺปติ, อุณฺเหนปิ รุปฺปติ, ชิฆจฺฉายปิ ¶ รุปฺปติ, ปิปาสายปิ รุปฺปติ, ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺเสนปิ รุปฺปติ. รุปฺปตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา ‘รูป’นฺติ วุจฺจตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๗๙).
ตตฺถ ¶ รุปฺปตีติ กุปฺปติ ฆฏฺฏียติ ปีฬียติ, ภิชฺชตีติ อตฺโถ. สีเตน ตาว รุปฺปนํ โลกนฺตริกนิรเย ปากฏํ. มหึสกรฏฺาทีสุปิ หิมปาตสีตเลสุ ปเทเสสุ เอตํ ปากฏเมว. ตตฺถ หิ สตฺตา สีเตน ภินฺนฉินฺนสรีรา ชีวิตกฺขยมฺปิ ปาปุณนฺติ.
อุณฺเหน รุปฺปนํ อวีจิมหานิรเย ปากฏํ. ตตฺถ หิ ตตฺตาย โลหปถวิยา นิปชฺชาเปตฺวา ปฺจวิธพนฺธนาทิกรณกาเล สตฺตา มหาทุกฺขํ อนุภวนฺติ.
ชิฆจฺฉาย รุปฺปนํ เปตฺติวิสเย เจว ทุพฺภิกฺขกาเล จ ปากฏํ. เปตฺติวิสยสฺมิฺหิ สตฺตา ทฺเว ตีณิ พุทฺธนฺตรานิ กิฺจิเทว อามิสํ หตฺเถน คเหตฺวา มุเข ปกฺขิปนฺตา นาม น โหนฺติ, อนฺโตอุทรํ อาทิตฺตสุสิรรุกฺโข วิย โหติ. ทุพฺภิกฺเข กฺชิกมตฺตมฺปิ อลภิตฺวา มรณสตฺตานํ ปมาณํ นตฺถิ.
ปิปาสาย รุปฺปนํ กาลกฺชิกาทีสุ ปากฏํ. ตตฺถ หิ สตฺตา ทฺเว ตีณิ พุทฺธนฺตรานิ หทยเตมนมตฺตํ วา ชิวฺหาเตมนมตฺตํ วา อุทกพินฺทุมฺปิ ลทฺธุํ น สกฺโกนฺติ. ‘‘ปานียํ ปิวิสฺสามา’’ติ นทึ คตานํ ชลํ วาลุกาตลํ สมฺปชฺชติ. มหาสมุทฺทํ ปกฺขนฺตานมฺปิ สมุทฺโท ปิฏฺิปาสาโณเยว โหติ. เต สุสฺสนฺตา พลวทุกฺขปีฬิตา วิรวนฺติ. ฑํสาทีหิ รุปฺปนํ ฑํสมกฺขิกาทิพหุเลสุ ปเทเสสุ ปากฏํ. ตํ ปน – ‘‘กตมํ ตํ รูปํ สนิทสฺสนํ? สปฺปฏิฆ’’นฺติ อาทินา นเยน อภิธมฺเม (ธ. ส. ๖๕๖, ๖๕๘) วิตฺถาริตเมว.
สปฺปนฺตีติ สทฺทา, อุทาหรียนฺตีติ อตฺโถ. อุตุจิตฺตวเสน ทฺวิสมุฏฺานิกา สทฺทา. คนฺธยนฺตีติ คนฺธา, อตฺตโน วตฺถูนิ สูจยนฺตีติ อตฺโถ. รสนฺติ เต สตฺตาติ รสา, อสฺสาเทนฺตีติ อตฺโถ. ผุสียนฺตีติ โผฏฺพฺพา ¶ . เอเต คนฺธาทโย จตุสมุฏฺานิกาว ¶ . เตสํ วิภาโค อภิธมฺเม (ธ. ส. ๖๒๒-๖๒๔) วิตฺถาริโตเยว.
ตเมวตฺถํ วิตฺถารวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺถรณา ปาวุรณา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อตฺถริตฺวา นิปชฺชิยนฺตีติ อตฺถรณา. สรีรํ เวเตฺวา ปารุปียนฺตีติ ปาวุรณา. อนฺโตชาตาทโย จตฺตาโร ทาสี จ ทาโส จ ทาสิทาสา. เขตฺตํ นาม ยสฺมึ ปุพฺพณฺณํ รุหติ. วตฺถุ นาม ยสฺมึ อปรณฺณํ รุหติ. ยตฺถ วา อุภยมฺปิ รุหติ, ตํ เขตฺตํ. ตทตฺถาย กตภูมิภาโค วตฺถุ. เขตฺตวตฺถุสีเสน เจตฺถ วาปีตฬากาทีนิปิ สงฺคหิตานิ. หิรฺนฺติ กหาปโณ. สุวณฺณนฺติ ชาตรูปํ. เตสํ คหเณน โลหมาสโก ชตุมาสโก ทารุมาสโกติ สพฺเพปิ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. คามนิคมราชธานิโยติ ¶ เอกกุฏิกาทิ คาโม. อาปณยุตฺโต นิคโม. เอกสฺส รฺโ อาณาปวตฺติฏฺานํ ราชธานี. รฏฺนฺติ ชนปเทกเทสํ. ชนปโทติ กาสิโกสลาทิชนปโท. โกโสติ จตุพฺพิโธ โกโส – หตฺถี อสฺโส รโถ ปตฺติ. โกฏฺาคารนฺติ ติวิธํ โกฏฺาคารํ – ธนโกฏฺาคารํ ธฺโกฏฺาคารํ วตฺถโกฏฺาคารํ. ยํ กิฺจีติ อนวเสสปริยาทานวจนํ. รชนียนฺติ รฺเชตุํ ยุตฺตฏฺเน.
อิโต ปรํ ติกวเสน ทสฺเสตุํ อตีตตฺติกอชฺฌตฺตตฺติกหีนตฺติกโอกาสตฺติกสํโยคตฺติกกามาวจรตฺติกวเสน ฉตฺติเก อาห. ตตฺถ อตีตตฺติเก ตาว อตฺตโน สภาวํ อุปฺปาทาทิกฺขณํ วา ปตฺวา อติกฺกนฺตาติ อตีตา. ตทุภยมฺปิ น อาคตาติ อนาคตา. ตํ ตํ การณํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนาติ ปจฺจุปฺปนฺนา. อิทํ ภเวน ปริจฺฉนฺนํ. ปฏิสนฺธิโต หิ ปฏฺาย อตีตภเวสุ นิพฺพตฺตา อนนฺตรภเว วา นิพฺพตฺตา โหนฺตุ กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถเก วา, สพฺเพ อตีตาเยว นาม. จุติโต ปฏฺาย อนาคตภเวสุ นิพฺพตฺตนกา กามา อนนฺตรภเว วา นิพฺพตฺตนฺตุ กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถเก วา, สพฺเพ ¶ อนาคตาเยว นาม. จุติปฏิสนฺธิอนฺตเร ปวตฺตา กามา ปจฺจุปฺปนฺนา นาม.
อชฺฌตฺตตฺติเก ‘‘เอวํ ปวตฺตมานา มยํ อตฺตาติ คหณํ คมิสฺสามา’’ติ อิมินา วิย อธิปฺปาเยน อตฺตานํ อธิการํ กตฺวา ปวตฺตา อตฺตโน สนฺตาเน ¶ ปวตฺตา ปาฏิปุคฺคลิกา กามา อชฺฌตฺตา กามา นาม. ตโต พหิภูตา ปน อินฺทฺริยพทฺธา วา อนินฺทฺริยพทฺธา วา พหิทฺธา นาม. ตติยปทํ ตทุภยวเสน วุตฺตํ.
หีนตฺติเก หีนาติ ลามกา. มชฺฌิมาติ หีนปณีตานํ มชฺเฌ ภวาติ มชฺฌิมา. อวเสสา อุตฺตมฏฺเน ปณีตา. อปิ จ อุปาทายุปาทาย หีนมชฺฌิมปณีตตา เวทิตพฺพา. เนรยิกานฺหิ กามา โกฏิปฺปตฺตา หีนา นาม. เต อุปาทาย ติรจฺฉาเนสุ นาคสุปณฺณานํ กามา ปณีตา นาม. เสสติรจฺฉานคตานํ กามา มชฺฌิมา นาม. เตสมฺปิ กามา หีนา. เต อุปาทาย มเหสกฺขเปตานํ กามา ปณีตา นาม. อวเสสานํ กามา มชฺฌิมา นาม. เตสมฺปิ หีนา. เต อุปาทาย ชานปทานํ กามา ปณีตา นาม. ปจฺจนฺตวาสีนํ กามา มชฺฌิมา นาม. เตสมฺปิ หีนา. เต อุปาทาย คามโภชกานํ กามา ปณีตา นาม. เตสํ ปริจาริกานํ กามา มชฺฌิมา นาม. เตสมฺปิ หีนา. เต อุปาทาย ชนปทสามิกานํ กามา ปณีตา นาม. เตสํ ปริจาริกานํ กามา มชฺฌิมา นาม. เตสมฺปิ หีนา. เต อุปาทาย ปเทสราชูนํ กามา ปณีตา นาม. เตสํ อมจฺจานํ กามา มชฺฌิมา นาม. เตสมฺปิ หีนา. เต อุปาทาย จกฺกวตฺติรฺโ ¶ กามา ปณีตา นาม. ตสฺส อมจฺจานํ กามา มชฺฌิมา นาม. ตสฺสปิ หีนา. เต อุปาทาย ภุมฺมเทวานํ กามา ปณีตา นาม. เตสํ ปริจาริกานํ เทวานํ กามา มชฺฌิมา นาม. เตสมฺปิ หีนา. เต อุปาทาย จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ กามา ปณีตาติอาทินา นเยน ยาว อกนิฏฺเทวานํ กามา มตฺถกปฺปตฺตา ปณีตา นาม. เอวํ อุปาทายุปาทาย หีนมชฺฌิมปณีตตา เวทิตพฺพา.
โอกาสตฺติเก อาปายิกา กามาติ อวฑฺฒิสงฺขาเตสุ อปคตอเยสุ ¶ จตูสุ อปาเยสุ นิพฺพตฺตกามา อาปายิกา. มนุสฺเสสุ นิพฺพตฺตกามา มานุสิกา. เทเวสุ นิพฺพตฺตกามา ทิพฺพา.
สํโยคตฺติเก ปจฺจุปฏฺิตานํ กามานํ ปริภฺุชนโต เปตฺวา เนรยิเก เสสอปายสตฺตานํ มนุสฺสานํ จาตุมหาราชิเก เทเว อุปาทาย ยาว ตุสิตกายิกานฺจ เทวานํ กามา ปจฺจุปฏฺิตา กามา นาม. ปกติปฏิยตฺตารมฺมณโต อติเรเกน รมิตุกามตากาเล ยถารุจิตํ อารมฺมณํ นิมฺมินิตฺวา นิมฺมินิตฺวา รมนฺตีติ นิมฺมานรตีนํ เทวานํ กามา นิมฺมิตา กามา นาม. อตฺตโน อชฺฌาสยํ ตฺวา ปเรหิ นิมฺมิเต อารมฺมเณ ¶ เสวนฺตีติ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ กามา ปรนิมฺมิตา กามา นาม. ปริคฺคหิตาติ ‘‘มยฺหํ เอต’’นฺติ คหิตา กามา. อปริคฺคหิตาติ ตถา อปริคฺคหิตา อุตฺตรกุรุกานํ กามา. มมายิตาติ ตณฺหาวเสน ‘‘มม เอต’’นฺติ คหิตา. อมมายิตาติ วุตฺตปฏิปกฺขา.
สพฺเพปิ กามาวจรา ธมฺมาติ ‘‘เหฏฺโต อวีจินิรยํ ปริยนฺตํ กริตฺวา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๒๘๗) นเยน วุตฺเตสุ กามาวจรธมฺเมสุ ปริยาปนฺนา. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – อุทฺทานโต ทฺเว กามา, วตฺถุกาโม จ กิเลสกาโม จาติ. ตตฺถ กิเลสกาโม อตฺถโต ฉนฺทราโค. วตฺถุกาโม เตภูมกํ วฏฺฏํ. กิเลสกาโม เจตฺถ กาเมตีติ กาโม. อิตโร กามียตีติ. ยสฺมึ ปน ปเทเส ทุวิโธเปโส กาโม ปวตฺติวเสน อวจรติ, โส จตุนฺนํ อปายานํ มนุสฺสานํ ฉนฺนฺจ เทวโลกานํ วเสน เอกาทสวิโธ ปเทโส กาโม เอตฺถ อวจรตีติ กามาวจโร. ตตฺถ ปริยาปนฺนธมฺเม สนฺธาย ‘‘สพฺเพปิ กามาวจรา ธมฺมา’’ติ วุตฺตํ. อตฺตโน สภาวํ ธาเรนฺตีติ ธมฺมา. รูปาวจรา ธมฺมาติ ‘‘เหฏฺโต พฺรหฺมโลกํ ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต อกนิฏฺเ เทเว อนฺโตกริตฺวา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๒๘๙) นเยน วุตฺตานํ รูปาวจรธมฺมานํ วเสน สพฺเพปิ ธมฺมา รูปาวจรา. อรูปาวจรา ธมฺมาติ ‘‘เหฏฺโต อากาสานฺจายตนุปเค เทเว ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต เนวสฺานาสฺายตนุปเค เทเว อนฺโตกริตฺวา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๒๙๑) นเยน วุตฺตา สพฺเพปิ อรูปาวจรา ธมฺมา ¶ . ตตฺถ รูเป อวจรนฺตีติ รูปาวจรา. อรูเป ¶ อวจรนฺตีติ อรูปาวจรา. ตณฺหาวตฺถุกาติ ปติฏฺฏฺเน การณฏฺเน จ ตณฺหาย วตฺถุภูตา. ตณฺหารมฺมณาติ ตณฺหาปวตฺติวเสน ตณฺหาย อารมฺมณภูตา. กามนียฏฺเนาติ ปจฺจาสีสิตพฺพฏฺเน. รชนียฏฺเนาติ รฺเชตุํ ยุตฺตฏฺเน. มทนียฏฺเนาติ กุลมทาทิมทํ อุปฺปาทนียฏฺเน.
ตตฺถ ‘‘กตเม วตฺถุกามา? มนาปิกา รูปา’’ติอาทึ กตฺวา ‘‘ยํ กิฺจิ รชนียํ วตฺถู’’ติ ปริโยสานํ สวิฺาณกอวิฺาณกวเสน วุตฺตํ. อวเสสํ เอกจตุกฺกาทิกฉตฺติกนฺติ เวทิตพฺพํ.
เอวํ วตฺถุกามํ ทสฺเสตฺวา กิเลสกามํ ทสฺเสตุํ ‘‘กตเม กิเลสกามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ฉนฺโทติ ทุพฺพลราโค. ราโคติ ตโต พลวตโร ¶ . อุปริ ตโยปิ ราคา อิเมหิ พลวตรา. กาเมสูติ ปฺจสุ กามคุเณสุ. กามจฺฉนฺโทติ กามสงฺขาโต ฉนฺโท, น กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท, น ธมฺมจฺฉนฺโท. กามนวเสน รชฺชนวเสน จ กาโมเยว ราโค กามราโค. กามนวเสน นนฺทนวเสน จ กาโมเยว นนฺที กามนนฺที. เอวํ สพฺพตฺถ กามตฺถํ วิทิตฺวา ตณฺหายนฏฺเน กามตณฺหา. สิเนหนฏฺเน กามสฺเนโห. ปริฑยฺหนฏฺเน กามปริฬาโห. มุจฺฉนฏฺเน กามมุจฺฉา. คิลิตฺวา ปรินิฏฺาปนฏฺเน กามชฺโฌสานํ. วฏฺฏสฺมึ โอเฆหิ โอสีทาเปตีติ กาโมโฆ. วฏฺฏสฺมึ โยเชตีติ กามโยโค. ทฬฺหวเสน ตณฺหาทิฏฺิคฺคหณํ อุปาทานํ. จิตฺตํ นีวรติ ปริโยนนฺธตีติ นีวรณํ.
อทฺทสนฺติ อทฺทกฺขึ. กามาติ อาลปนํ. เตติ ตว. มูลนฺติ ปติฏฺํ. สงฺกปฺปาติ ปริกปฺเปน. น ตํ สงฺกปฺปยิสฺสามีติ ตํ ปริกปฺปนํ น กริสฺสามิ. น โหหิสีติ น ภวิสฺสสิ.
อิจฺฉมานสฺสาติ ปจฺจาสีสนฺตสฺส. สาทิยมานสฺสาติ อสฺสาทิยมานสฺส. ปตฺถยมานสฺสาติ ปตฺถนํ อุปฺปาเทนฺตสฺส. ปิหยมานสฺสาติ ปาปุณิตุํ อิจฺฉํ อุปฺปาเทนฺตสฺส. อภิชปฺปมานสฺสาติ ตณฺหาวเสน ติตฺตึ อุปฺปาเทนฺตสฺส. อถ ¶ วา อภิวทนฺตสฺส.
ขตฺติยสฺส วาติอาทิ จตุชฺชาติวเสน วุตฺตํ. คหฏฺสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วาติ ลิงฺควเสน วุตฺตํ. เทวสฺส วา มนุสฺสสฺส วาติ อุปปตฺติวเสน วุตฺตํ. อิชฺฌตีติ นิปฺผชฺชติ. สมิชฺฌตีติ สมฺมา นิปฺผชฺชติ. อิชฺฌติ วิเสสรูปปฏิลาภวเสน. ลภติ ทสฺสนียรูปปฏิลาภวเสน. ปฏิลภติ ¶ ปสาทนียรูปปฏิลาภวเสน. อธิคจฺฉติ สณฺานรูปปฏิลาภวเสน. วินฺทติ ฉวิปฺปสาทรูปปฏิลาภวเสน. อถ วา ปฺุมหตฺเตน อิชฺฌติ. ชาติมหตฺเตน ลภติ. อิสฺสริยมหตฺเตน ปฏิลภติ. สุขมหตฺเตน อธิคจฺฉติ. สมฺปตฺติมหตฺเตน วินฺทตีติ.
เอกํสวจนนฺติ เอกโกฏฺาสวจนํ. ‘‘เอกํสํ จีวรํ กตฺวา (ปารา. ๓๔๙, ๓๖๗), เอกํสพฺยากรณีโย ปฺโห’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๑๒; อ. นิ. ๔.๔๒) วิย อเนกํสคหณปฏิกฺเขโป. นิสฺสํสยวจนนฺติ สํสยวิรหิตวจนํ, สนฺเทหปฏิกฺเขปวจนนฺติ อตฺโถ. นิกฺกงฺขาวจนนฺติ ‘‘กถมิทํ กถมิท’’นฺติ กงฺขาปฏิกฺเขปวจนํ. อทฺเวชฺฌวจนนฺติ ทฺวิธาภาวํ ¶ ทฺเวชฺฌํ, ตํอภาเวน อทฺเวชฺฌวจนํ. ทฺวิธาภาววิรหิตํ ‘‘อทฺเวชฺฌวจนา พุทฺธา’’ติอาทีสุ วิย วิมติปฏิกฺเขโป. อทฺเวฬฺหกวจนนฺติ ทฺวิหทยาภาเวน อทฺเวฬฺหกํ. ‘‘อิติหาส, อิติหาสา’’ติ ทฺเวฬฺหกปฏิกฺเขปวจนํ. นิโยควจนนฺติ เอกสฺมึ อตฺเถ ทฺเว น ยุชฺชนฺตีติ นิโยควจนํ ทฺวิธาปถปฏิกฺเขโป. อฺตฺถ ปน ‘‘นิโยคา อนาคตารมฺมณา นตฺถี’’ติ อาคตํ. อปณฺณกวจนนฺติ ปลาสรหิตํ สารวจนํ อวิรทฺธการณํ ‘‘อปณฺณกํ านเมเก’’ติอาทีสุ (ชา. ๑.๑.๑) วิย, อปณฺณกมณิ วิย สปฺปติฏฺวจนํ. อวตฺถาปนวจนเมตนฺติ เอตํ วจนํ โอตริตฺวา ปติฏฺิตํ สนฺติฏฺาปนํ ปนํ.
ยานิ ¶ อิมสฺมึ มหานิทฺเทเส วิภตฺตึ อาโรปิตานิ ปทานิ, ตานิ วิภตฺตึ คจฺฉนฺตานิ ตีหิ การเณหิ วิภตฺตึ คจฺฉนฺติ, นานา โหนฺตานิ จตูหิ การเณหิ นานา ภวนฺติ. อปรทีปนา ปเนตฺถ ทฺเว านานิ คจฺฉนฺติ. กถํ? ตานิ หิ พฺยฺชนวเสน อุปสคฺควเสน อตฺถวเสน วาติ อิเมหิ ตีหิ การเณหิ วิภตฺตึ คจฺฉนฺติ. ตตฺถ ‘‘โกโธ กุชฺฌนา กุชฺฌิตตฺตํ, โทโส ทุสฺสนา ทุสฺสิตตฺต’’นฺติ (ธ. ส. ๑๐๖๖) เอวํ พฺยฺชนวเสน วิภตฺติคมนํ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ หิ เอโกว โกโธ พฺยฺชนวเสน เอวํ วิภตฺตึ ลภติ. ‘‘อิชฺฌติ สมิชฺฌติ ลภติ ปฏิลภติ คจฺฉติ อธิคจฺฉตี’’ติ เอวํ ปน อุปสคฺควเสน วิภตฺติคมนํ เวทิตพฺพํ. ‘‘ปณฺฑิจฺจํ โกสลฺลํ เนปฺุํ เวภพฺยา จินฺตา อุปปริกฺขา’’ติ (ธ. ส. ๑๖) เอวํ อตฺถวเสน วิภตฺติคมนํ เวทิตพฺพํ.
เตสุ ปีติปทนิทฺเทเส ตาว อิมา ติสฺโส วิภตฺติโย ลพฺภนฺติ. ปีติ ปาโมชฺชนฺติ หิ พฺยฺชนวเสน วิภตฺติคมนํ โหติ. อาโมทนา ปโมทนา ปหาโสติ อุปสคฺควเสน. วิตฺติ ตุฏฺิ โอทคฺยํ อตฺตมนตาติ อตฺถวเสน. อิมินา นเยน สพฺพปทนิทฺเทเสสุ วิภตฺติคมนํ เวทิตพฺพํ.
นานา ¶ โหนฺตานิปิ นามนานตฺเตน ลกฺขณนานตฺเตน กิจฺจนานตฺเตน ปฏิกฺเขปนานตฺเตนาติ อิเมหิ จตูหิ การเณหิ นานา โหนฺติ. ตตฺถ ‘‘กตโม ตสฺมึ สมเย พฺยาปาโท โหติ? โย ตสฺมึ สมเย โทโส ทุสฺสนา’’ติ เอตฺถ พฺยาปาโทติ วา โทโสติ วา ทฺเวปิ เอเต โกโธ เอว, นาเมน ปน นานตฺตํ คตาติ เอวํ นามนานตฺเตน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
ราสฏฺเน ¶ จ ปฺจปิ ขนฺธา เอโกว ขนฺโธ โหติ. เอตฺถ ปน รูปํ รุปฺปนลกฺขณํ, เวทนา เวทยิตลกฺขณา, สฺา สฺชานนลกฺขณา, เจตนา เจตยิตลกฺขณา, วิฺาณํ วิชานนลกฺขณนฺติ อิมินา ลกฺขณนานตฺเตน ปฺจกฺขนฺธา โหนฺติ. เอวํ ลกฺขณนานตฺเตน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
‘‘จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา – อิธ ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย…เป… จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ¶ ปทหตี’’ติ (วิภ. ๓๙๐; ที. นิ. ๒.๔๐๒) เอกเมว วีริยํ กิจฺจนานตฺเตน จตูสุ าเนสุ อาคตํ. เอวํ กิจฺจนานตฺเตน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
‘‘จตฺตาโร อสทฺธมฺมา โกธครุตา, น สทฺธมฺมครุตา, มกฺขครุตา, น สทฺธมฺมครุตา, ลาภครุตา, น สทฺธมฺมครุตา, สกฺการครุตา, น สทฺธมฺมครุตา’’ติ เอวมาทีสุ (อ. นิ. ๔.๔๔) ปน ปฏิกฺเขปนานตฺเตน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
อิมานิ ปน จตฺตาริ นานตฺตานิ น ปีติยาเยว ลพฺภนฺติ, สพฺเพสุปิ ยถาลาภวเสน ลพฺภนฺติ. ปีติยา หิ ปีตีติ นามํ, จิตฺตสฺส จิตฺตนฺติ นามํ. ปีติ จ ผรณลกฺขณา, เวทนา เวทยิตลกฺขณา, สฺา สฺชานนลกฺขณา, เจตนา เจตยิตลกฺขณา, วิฺาณํ วิชานนลกฺขณํ.
ตถา ปีติ ผรณกิจฺจา, เวทนา อนุภวนกิจฺจา, สฺา สฺชานนกิจฺจา, เจตนา เจตยิตกิจฺจา, วิฺาณํ วิชานนกิจฺจนฺติ เอวํ กิจฺจนานตฺเตน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ. ปฏิกฺเขปนานตฺตํ ปีติปเท นตฺถิ.
อโลภาทินิทฺเทเส ปน ‘‘อโลโภ อลุพฺภนา อลุพฺภิตตฺต’’นฺติอาทินา (ธ. ส. ๓๕) นเยน ¶ ลพฺภตีติ เอวํ ปฏิกฺเขปนานตฺเตน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ. เอวํ สพฺพปทนิทฺเทเสสุ ลพฺภมานวเสน จตุพฺพิธมฺปิ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
อปรทีปนา ปน ปทตฺถุติ วา โหติ ทฬฺหีกมฺมํ วาติ เอวํ ทฺเว านานิ คจฺฉติ. ยฏฺิโกฏิยา อุปฺปีเฬนฺเตน วิย หิ สกิเมว ‘‘ปีตี’’ติ วุตฺเต เอตํ ปทํ ผุลฺลิตมณฺฑิตวิภูสิตํ นาม น โหติ, ปุนปฺปุนํ พฺยฺชนวเสน อุปสคฺควเสน อตฺถวเสน ‘‘ปีติ ปาโมชฺชํ อาโมทนา ปโมทนา หาโส ปหาโส วิตฺตี’’ติ (ธ. ส. ๙) วุตฺเต ผุลฺลิตมณฺฑิตวิภูสิตํ นาม โหติ. ยถา หิ ทหรกุมารํ นหาเปตฺวา มโนรมํ วตฺถํ ปริทหาเปตฺวา ปุปฺผานิ ปิฬนฺธาเปตฺวา อกฺขีนิ อฺเชตฺวา อถสฺส นลาเฏ เอกเมว ¶ มโนสิลาพินฺทุํ กเรยฺย, น ตสฺส เอตฺตาวตา จิตฺตติลโก นาม โหติ, นานาวณฺเณหิ ปน ปริวาเรตฺวา พินฺทูสุ กเตสุ จิตฺตติลโก นาม โหติ. เอวํ สมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. อยํ ปทตฺถุติ นาม.
พฺยฺชนวเสน ¶ ปน อุปสคฺควเสน อตฺถวเสน จ ปุนปฺปุนํ ภณนเมว ทฬฺหีกมฺมํ นาม. ยถา หิ ‘‘อาวุโส’’ติ วา ‘‘ภนฺเต’’ติ วา ‘‘ยกฺโข’’ติ วา ‘‘สปฺโป’’ติ วา วุตฺเต ทฬฺหีกมฺมํ นาม น โหติ, ‘‘อาวุโส อาวุโส, ภนฺเต ภนฺเต, ยกฺโข ยกฺโข, สปฺโป สปฺโป’’ติ วุตฺเต ปน ทฬฺหีกมฺมํ นาม โหติ, เอวเมว สกึเทว ยฏฺิโกฏิยา อุปฺปีเฬนฺเตน วิย ‘‘ปีตี’’ติ วุตฺตมตฺเต ทฬฺหีกมฺมํ นาม น โหติ, ปุนปฺปุนํ พฺยฺชนวเสน อุปสคฺควเสน อตฺถวเสน ‘‘ปีติ ปาโมชฺชํ อาโมทนา ปโมทนา หาโส ปหาโส วิตฺตี’’ติ วุตฺเตเยว ทฬฺหีกมฺมํ นาม โหตีติ เอวํ อปรทีปนา ทฺเว านานิ คจฺฉติ. เอติสฺสาปิ วเสน ลพฺภมานกปทนิทฺเทเสสุ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ปีนยตีติ ปีติ. สา สมฺปิยายนลกฺขณา, กายจิตฺตปีณนรสา ผรณรสา วา, โอทคฺยปจฺจุปฏฺานา. ยา ปฺจกามคุณปฏิสฺุตฺตาติ ยา รูปาทิปฺจกามโกฏฺาสปฏิสํยุตฺตา ปีติ, สา ปีนยตีติ ปีติ, อิทํ สภาวปทํ. ปมุทิตสฺส ภาโว ปาโมชฺชํ. อาโมทนากาโร อาโมทนา. ปโมทนากาโร ปโมทนา. ยถา วา เภสชฺชานํ วา เตลานํ วา อุณฺโหทกสีโตทกานํ วา เอกโต กรณํ ‘‘โมทนา’’ติ วุจฺจติ, เอวมยมฺปิ ปีติธมฺมานํ เอกโต กรเณน โมทนา. อุปสคฺควเสน ปน มณฺเฑตฺวา ‘‘อาโมทนา ปโมทนา’’ติ วุตฺตา.
หาเสตีติ หาโส. ปหาเสตีติ ปหาโส, หฏฺปหฏฺาการานเมตํ อธิวจนํ. วิตฺตีติ วิตฺตํ, ธนสฺเสตํ ¶ นามํ. อยํ ปน โสมนสฺสปจฺจยตฺตา วิตฺติสริกฺขตาย วิตฺติ. ยถา หิ ธนิโน ธนํ ปฏิจฺจ โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, เอวํ ปีติมโตปิ ปีตึ ปฏิจฺจ โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. ตสฺมา ‘‘วิตฺตี’’ติ วุตฺตา. ตุฏฺีติ สภาวสณฺิตาย ปีติยา เอตํ นามํ. ปีติมา ปน ปุคฺคโล กายจิตฺตานํ อุคฺคตตฺตา อพฺภุคฺคตตฺตา ‘‘อุทคฺโค’’ติ วุจฺจติ, อุทคฺคสฺส ภาโว โอทคฺยํ.
อตฺตโน มนตา อตฺตมนตา. อนภิรทฺธสฺส หิ มโน ทุกฺขปทฏฺานตฺตา น อตฺตโน มโน นาม โหติ, อภิรทฺธสฺส สุขปทฏฺานตฺตา อตฺตโน ¶ มโน นาม โหติ, อิติ อตฺตโน มนตา ¶ อตฺตมนตา, สกมนตา, สกมนสฺส ภาโวติ อตฺโถ. สา ปน ยสฺมา น อฺสฺส กสฺสจิ อตฺตโน มนตา, จิตฺตสฺเสว ปเนสา ภาโว เจตสิโก ธมฺโม, ตสฺมา ‘‘อตฺตมนตา จิตฺตสฺสา’’ติ วุตฺตา.
จิตฺตวิจิตฺตตาย จิตฺตํ. อารมฺมณํ มินมานํ ชานาตีติ มโน. มานสนฺติ มโน เอว, ‘‘อนฺตลิกฺขจโร ปาโส, ยฺวายํ จรติ มานโส’’ติ (มหาว. ๓๓; สํ. นิ. ๑.๑๕๑) หิ เอตฺถ ปน สมฺปยุตฺตกธมฺโม ‘‘มานโส’’ติ วุตฺโต.
‘‘กถฺหิ ภควา ตุยฺหํ, สาวโก สาสเน รโต;
อปฺปตฺตมานโส เสกฺโข, กาลํกยิรา ชเน สุตา’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๕๙) –
เอตฺถ อรหตฺตํ ‘‘มานส’’นฺติ วุตฺตํ. อิธ ปน มโน เอว มานสํ, พฺยฺชนวเสน เหตํ ปทํ วฑฺฒิตํ.
หทยนฺติ จิตฺตํ. ‘‘จิตฺตํ วา เต ขิปิสฺสามิ, หทยํ วา เต ผาเลสฺสามี’’ติ (สุ. นิ. อาฬวกสุตฺตํ; สํ. นิ. ๑.๒๓๗; ๒๔๖) เอตฺถ อุโร ‘‘หทย’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘หทยา หทยํ มฺเ อฺาย ตจฺฉตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๖๓) เอตฺถ จิตฺตํ. ‘‘วกฺกํ หทย’’นฺติ (ขุ. ปา. ๓.ทฺวตึสากาโร; ที. นิ. ๒.๓๗๗; ม. นิ. ๑.๑๑๐) เอตฺถ หทยวตฺถุ. อิธ ปน จิตฺตเมว อพฺภนฺตรฏฺเน ‘‘หทย’’นฺติ วุตฺตํ. ตเมว ปริสุทฺธฏฺเน ปณฺฑรํ, ภวงฺคํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ยถาห – ‘‘ปภสฺสรมิทํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตฺจ โข อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺ’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๔๙). ตโต นิกฺขนฺตตฺตา ปน อกุสลมฺปิ ¶ คงฺคาย นิกฺขนฺตา นที คงฺคา วิย โคธาวริโต นิกฺขนฺตา โคธาวรี วิย จ ‘‘ปณฺฑร’’นฺตฺเวว วุตฺตํ.
มโน มนายตนนฺติ อิธ ปน มโนคฺคหณํ มนสฺเสว อายตนภาวทีปนตฺถํ. เตเนตํ ทีเปติ ‘‘นยิทํ เทวายตนํ วิย มนสฺส อายตนตฺตา มนายตนํ, อถ โข มโน เอว อายตนํ มนายตน’’นฺติ. ตตฺถ ¶ นิวาสฏฺานฏฺเน อากรฏฺเน สโมสรณฏฺานฏฺเน สฺชาติเทสฏฺเน การณฏฺเน จ อายตนํ เวทิตพฺพํ. ตถา หิ โลเก ‘‘อิสฺสรายตนํ, วาสุเทวายตน’’นฺติอาทีสุ นิวาสฏฺานํ ‘‘อายตน’’นฺติ วุจฺจติ. ‘‘สุวณฺณายตนํ, รชตายตน’’นฺติอาทีสุ อากโร. สาสเน ปน ‘‘มโนรเม อายตเน, เสวนฺติ นํ วิภงฺคมา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๕.๓๘) สโมสรณฏฺานํ. ‘‘ทกฺขิณาปโถ ¶ คุนฺนํ อายตน’’นฺติอาทีสุ สฺชาติเทโส. ‘‘ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติอายตเน’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๑๐๒; ๕.๒๓; ม. นิ. ๓.๑๕๘) การณํ. อิธ ปน สฺชาติเทสฏฺเน สโมสรณานฏฺเน การณฏฺเนาติ ติธาปิ วฏฺฏติ.
ผสฺสาทโย หิ ธมฺมา เอตฺถ สฺชายนฺตีติ สฺชาติเทสฏฺเนปิ เอตํ อายตนํ. พหิทฺธา รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพา อารมฺมณภาเวเนตฺถ โอสรนฺตีติ สโมสรณานฏฺเนปิ อายตนํ. ผสฺสาทีนํ ปน สหชาตาทิปจฺจยฏฺเน การณตฺตา การณฏฺเนปิ อายตนนฺติ เวทิตพฺพํ. ตเทว มนนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, มโน เอว อินฺทฺริยํ มนินฺทฺริยํ.
วิชานาตีติ วิฺาณํ. วิฺาณเมว ขนฺโธ วิฺาณกฺขนฺโธ. ตสฺส ราสิอาทิวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘มหาอุทกกฺขนฺโธตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๕๑) เอตฺถ หิ ราสฏฺเน ขนฺโธ วุตฺโต. ‘‘สีลกฺขนฺโธ สมาธิกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๕๕๕) คุณฏฺเน. ‘‘อทฺทสา โข ภควา มหนฺตํ ทารุกฺขนฺธ’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๒๔๑-๒๔๒) เอตฺถ ปณฺณตฺติมตฺตฏฺเน. อิธ ปน รุฬฺหิโต ขนฺโธ วุตฺโต. ราสฏฺเน หิ วิฺาณกฺขนฺธสฺส เอกเทโส เอกํ วิฺาณํ. ตสฺมา ยถา รุกฺขสฺส เอกเทสํ ฉินฺทนฺโต ‘‘รุกฺขํ ฉินฺทตี’’ติ วุจฺจติ, เอวเมว วิฺาณกฺขนฺธสฺส เอกเทสภูตํ เอกมฺปิ วิฺาณํ รูฬฺหิโต ‘‘วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ วุตฺตํ.
ตชฺชา มโนวิฺาณธาตูติ เตสํ ผสฺสาทีนํ ธมฺมานํ อนุจฺฉวิกา ¶ มโนวิฺาณธาตุ. อิมสฺมิฺหิ ปเท เอกเมว จิตฺตํ มินนฏฺเน มโน, วิชานนฏฺเน วิฺาณํ, สภาวฏฺเน นิสฺสตฺตฏฺเน ¶ วา ธาตูติ ตีหิ นาเมหิ วุตฺตํ. สหคโตติ อวิชหิโต. สหชาโตติ สทฺธึ นิคฺคโต. สํสฏฺโติ สํสคฺโค หุตฺวา ิโต. สมฺปยุตฺโตติ สมํ ปกาเรหิ ยุตฺโต. กตเมหิ ปกาเรหีติ? เอกุปฺปาทาทีหิ. นตฺถิ เกจิ ธมฺมา เกหิจิ ธมฺเมหิ สมฺปยุตฺตาติ? อามนฺตา. อิติ หิ อิมสฺส ปฺหสฺส ปฏิกฺเขเป ‘‘นนุ อตฺถิ เกจิ ธมฺมา เกหิจิ ธมฺเมหิ สหคตา สหชาตา สํสฏฺา เอกุปฺปาทา เอกนิโรธา เอกวตฺถุกา เอการมฺมณา’’ติ (กถา. ๔๗๓) เอวํ เอกุปฺปาทตาทีนํ วเสน สมฺปโยคตฺโถ วุตฺโต. อิติ อิเมหิ เอกุปฺปาทตาทีหิ ¶ สมํ ปกาเรหิ ยุตฺโต สมฺปยุตฺโต. เอกุปฺปาโทติ เอกโต อุปฺปนฺโน, น วินาติ อตฺโถ. เอกนิโรโธติ เอกโต นิโรโธ. เอกวตฺถุโกติ หทยวตฺถุวเสน เอกวตฺถุโก. เอการมฺมโณติ รูปาทิวเสน เอการมฺมโณ.
เอตฺถ สหคตสทฺโท ตพฺภาเว, โวกิณฺเณ, อารมฺมเณ, นิสฺสเย, สํสฏฺเติ ปฺจสุ อตฺเถสุ ทิสฺสติ ชินวจเน. ‘‘ยายํ ตณฺหา โปโนภวิกา นนฺทิราคสหคตา’’ติ (มหาว. ๑๔; วิภ. ๒๐๓; ม. นิ. ๓.๓๗๔; สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) เอตฺถ ตพฺภาเว เวทิตพฺโพ, นนฺทิราคภูตาติ อตฺโถ. ‘‘ยา, ภิกฺขเว, วีมํสา โกสชฺชสหคตา โกสชฺชสมฺปยุตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๘๓๒) เอตฺถ โวกิณฺเณ, อนฺตรนฺตรา อุปฺปชฺชมาเนน โกสชฺเชน โวกิณฺณาติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ‘‘ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํ อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีน’’นฺติ (ปุ. ป. ๓-๖) เอตฺถ อารมฺมเณ, รูปารมฺมณานํ อรูปารมฺมณานนฺติ อตฺโถ. ‘‘อฏฺิกสฺาสหคตํ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๘) เอตฺถ นิสฺสเย, อฏฺิกสฺํ นิสฺสาย อฏฺิกสฺํ ภาเวตฺวา ปฏิลทฺธนฺติ อตฺโถ. ‘‘อิทํ สุขํ อิมาย ปีติยา สหคตํ โหติ สหชาตํ สมฺปยุตฺต’’นฺติ (วิภ. ๕๗๘) เอตฺถ สํสฏฺเ, สํมิสฺสนฺติ อตฺโถ. อิมสฺมิมฺปิ าเน สํสฏฺเ อาคโต.
สหชาตสทฺโท ¶ ‘‘สหชาตํ ปุเรชาตํ ปจฺฉาชาต’’นฺติ (ปฏฺ. ๑.๑.๔๓๕) เอตฺถ วิย สหชาเต. สํสฏฺสทฺโท ‘‘คิหีหิ สํสฏฺโ’’ติ จ, ‘‘เอวํ สํสฏฺโ, ภนฺเต’’ติ (สํ. นิ. ๓.๓) จาติ เอวมาทีสุ สํสคฺเค. ‘‘กิเส ถูเล วิวชฺเชตฺวา สํสฏฺา โยชิตา หยา’’ติ (ชา. ๒.๒๒.๗๐) เอตฺถ สทิเส.
‘‘ปุจิมนฺทปริวาโร, อมฺโพ เต ทธิวาหน;
มูลํ มูเลน สํสฏฺํ, สาขา สาขา นิเสวเร’’ติ. (ชา. ๑.๒.๗๒) –
เอตฺถ อุปจิเต. ‘‘จิตฺตสํสฏฺา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๕๙) เอตฺถ จิตฺตสมฺปยุตฺตธมฺเม ¶ . อิธ ปน โย ผลปฺปทาเน อวิโยคธมฺโม วินิพฺโภคํ อกตฺวา เอกุปฺปาทาทิธมฺโม หุตฺวา ‘‘สมฺปยุตฺโต’’ติ วุจฺจติ. ตํวิสโย. อถ วา ‘‘สหคโต’’ติ วตฺวา ปจฺฉโต ปจฺฉโต อาคตสุตฺเตน วิย โส น โหตีติ ทสฺเสตุํ ¶ ‘‘สหชาโต’’ติ วุตฺตํ. เอกโต อุปฺปนฺนรูปารูปํ วิย โสปิ น โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สํสฏฺโ’’ติ วุตฺตํ.
ขีโรทกํ วิย จ โสปิ น โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺปยุตฺโต’’ติ วุตฺตํ. วินิพฺโภคํ กาตุํ อสกฺกุเณยฺยฏฺเน หิ สหุปฺปนฺนา ธมฺมา สมฺปยุตฺตาปิ อตฺถิ ขีรเตลํ วิย. ตถา วิปฺปยุตฺตาปิ ขีรโต อปนีตํ นวนีตํ วิย. เอวํ ลกฺขณสมฺปยุตฺโต เอกุปฺปาทาทิลกฺขโณเยว โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกุปฺปาโท’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ เอกุปฺปาทสหชาตานํ กึ นานตฺตํ? อุปฺปาเท อนฺตรวิรหิโต เอกุปฺปาโท. ขีรกาลมุตฺตสฺสาปิ ทธิโน มถเน มถเน ปากฏํ นวนีตํ วิย ปุเรภตฺตปจฺฉาภตฺตวเสน เอกทิวสเมว ชาโต วิย โส น โหตีติ ทสฺเสตุํ เอกกฺขเณ นิพฺพตฺโตติ สหชาโต. เอกวตฺถุโกติ ปติฏฺฏฺเน เอกปริจฺเฉเทน เอกวตฺถุโก, ทฺวินฺนํ ¶ ภิกฺขูนํ เอกวตฺถุกตา วิย านนฺตรวิรหิโต. เอการมฺมโณติ อนิยเตการมฺมโณ น จกฺขุวิฺาณํ วิยาติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
มจฺโจติ มูลปทํ. รูปาทีสุ สตฺโต ลคฺโค ลคฺคิโตติ สตฺโต. วุตฺตฺเหตํ ‘‘สตฺโต สตฺโตติ, ภนฺเต, วุจฺจติ, กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, ‘สตฺโต’ติ วุจฺจตีติ? รูเป โข, ราธ, โย ฉนฺโท โย ราโค ยา นนฺที ยา ตณฺหา, ตตฺร สตฺโต ตตฺร วิสตฺโต, ตสฺมา ‘สตฺโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๖๑; มหานิ. ๗). สตฺตโยเคน วา สตฺโต. สุคติทุคฺคตึ นรตีติ นโร. มนุโน ปุตฺโตติ มานโว. อุปกรเณน สยํ โปสยตีติ โปโส. ปุํ วุจฺจติ นิรโย, ตํ คลตีติ ปุคฺคโล. ชีวิตินฺทฺริยํ ธาเรตีติ ชีโว. จุติโต ชาตึ คจฺฉตีติ ชาคุ. ชิยตีติ ชนฺตุ. อินฺทฺริเยน คจฺฉตีติ อินฺทคุ. อถ วา อินฺทภูเตน กมฺมุนา คจฺฉตีติ อินฺทคุ. ‘‘หินฺทคู’’ติปิ ปาฬิ. หินฺทนฺติ มรณํ, ตํ คจฺฉตีติ หินฺทคุ. มนุโต ชาโตติ มนุโช. ยํ สาทิยตีติ ยํ รูปาทึ อสฺสาทิยติ. เสสํ วุตฺตนยเมว. อิโต ปรํ วุตฺตมตฺถํ นิคเมนฺโต เตนาห ภควา –
‘‘กามํ กามยมานสฺส…เป… ลทฺธา มจฺโจ ยทิจฺฉตี’’ติ;
อิโต ปรํ เอตฺตกมฺปิ อวตฺวา วิเสสมตฺตเมว วกฺขาม.
๒. ตสฺส ¶ ¶ เจ กามยานสฺสาติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส กาเม อิจฺฉมานสฺส, กาเมน วา ยายมานสฺส. ฉนฺทชาตสฺสาติ ชาตตณฺหสฺส. ชนฺตุโนติ สตฺตสฺส. เต กามา ปริหายนฺตีติ เต กามา ปริหายนฺติ เจ. สลฺลวิทฺโธว รุปฺปตีติ อถ โส อโยมยาทินา สลฺเลน วิทฺโธ วิย ปีฬียติ. อิโต ปรํ วุตฺตํ วชฺเชตฺวา อวุตฺเตสุ ยํ ยํ อนุตฺตานํ, ตํ ตเทว กถยิสฺสามิ.
จกฺขุปีณนํ อารมฺมณํ ปาปุณนวเสน ยายติ คจฺฉติ ¶ . ทสฺสนียวเสน ปิยตฺตํ อารมฺมณวเสน อปฺปาเปตีติ นิยฺยติ. สวนียํ หุตฺวา กณฺณโสตปีณนํ อารมฺมณวเสน ปริกฑฺฒตีติ วุยฺหติ. สริตพฺพํ หุตฺวา จิตฺตปีณนํ อารมฺมณวเสน คเหตฺวา อุปสํหรียตีติ สํหรียติ. ยถาติ โอปมฺมตฺเถ นิปาโต. หตฺถินา ยายติ คจฺฉตีติ หตฺถิยาเนน วา, วาอิติ วิกปฺปตฺเถ. อสฺเสน ยายติ คจฺฉตีติ อสฺสยาเนน วา. โคยุตฺตํ วยฺหาทิยานํ โคยานํ, เตน โคยาเนน. อชยานาทีสุปิ เอเสว นโย. อิฏฺวเสน ชาโต สฺชาโต.
อารมฺมณปิยตฺตวเสน นิพฺพตฺโต อภินิพฺพตฺโต. อารมฺมณมนาปภาเวน ปาตุภูโต. อถ วา กามราควเสน ชาโต สฺชาโต. กามนนฺทิวเสน นิพฺพตฺโต อภินิพฺพตฺโต. กามตณฺหาวเสน กามสิเนหวเสน กามจฺฉนฺทวเสน กามปริฬาหวเสน จ ปาตุภูโตติ เวทิตพฺโพ.
เต วา กามา ปริหายนฺตีติ เต วตฺถุกามาทโย ปริหายนฺติ วิคจฺฉนฺติ. โส วา กาเมหิ ปริหายตีติ เอโส ขตฺติยาทิปุคฺคโล วตฺถุกามาทิกาเมหิ ปริหายติ วิคจฺฉติ ‘‘ปุพฺเพว มจฺจํ วิชหนฺติ โภคา, มจฺโจ ธเน ปุพฺพตรํ ชหาตี’’ติ (ชา. ๑.๕.๒) เอวมาทีสุ วิย. กถนฺติ เกน ปกาเรน. ติฏฺนฺตสฺเสวาติ ธรนฺตสฺเสว. เต โภเคติ เต วตฺถุกามาทโย โภเค. ราชาโน วาติ ปถพฺยาทิราชาโน. หรนฺตีติ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, อปหรนฺติ วา. โจรา วาติ สนฺธิจฺเฉทาทิกา. อคฺคิ วาติ ทาวคฺคิอาทิ. ทหตีติ ฌาเปติ ภสฺมํ กโรติ. อุทกํ วาติ โอฆาทิอุทกํ ¶ . วหตีติ คเหตฺวา มหาสมุทฺทํ ปาเปติ. อปฺปิยา วาติ อกนฺตา อมนาปา. ทายาทา หรนฺตีติ ทายชฺชวิรหิตา อสฺสามิกา หรนฺติ. นิหิตํ ¶ วาติ นิธานํ กตฺวา ปิตํ. นาธิคจฺฉตีติ น วินฺทติ น ปฏิลภติ, น ปสฺสตีติ อตฺโถ. ทุปฺปยุตฺตาติ วิสมปโยเคน โยชิตา กสิวาณิชฺชาทิกมฺมนฺตา. ภิชฺชนฺตีติ เภทํ ปาปุณนฺติ, น ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘ภฺชนฺติ รถํ อยานกา’’ติอาทีสุ (ชา. ๒.๒๑.๒๙๖) สมฺภโว เวทิตพฺโพ.
กุเล วา กุลงฺคาโร อุปฺปชฺชตีติ ขตฺติยาทิกุเล กุลฌาปโก กุเล อนฺติมปุริโส นิพฺพตฺตติ ¶ . ‘‘กุลงฺกโร’’ติปิ ปาฬิ. โย เต โภเค วิกิรตีติ โย เอโส กุเล ปจฺฉิมโก เต หิรฺาทิเก โภเค เขเปติ. วิธมตีติ วิโยคํ กโรติ, ทูเร ขิปติ. วิทฺธํเสตีติ นาเสติ อทสฺสนํ คเมติ. อถ วา อิตฺถิธุตฺโต หุตฺวา วิกิรติ. สุราธุตฺโต หุตฺวา วิธมติ. อกฺขธุตฺโต หุตฺวา วิทฺธํเสติ. วิกิรติ วา อุปฺปนฺนํ อายํ อชานเนน. วิธมติ วิสฺสชฺชนมุขํ อชานเนน. วิทฺธํเสติ ปิตฏฺาเน อารกฺขํ อสํวิธาเนนาติ เอวมาทินา โยเชตพฺพํ.
อนิจฺจตาเยว อฏฺมีติ วินาสภาโว เอว อฏฺโม. หายนฺตีติ อทสฺสนํ ยนฺติ. ปริหายนฺตีติ น ปุน ปฺายนฺติ. ปริธํเสนฺตีติ านโต อปคจฺฉนฺติ. ปริปตนฺตีติ ปคฺฆรนฺติ. อนฺตรธายนฺตีติ อนฺตรธานํ อทสฺสนํ คจฺฉนฺติ. วิปฺปลุชฺชนฺตีติ จุณฺณวิจุณฺณา หุตฺวา อปคจฺฉนฺติ.
ติฏฺนฺเตว ¶ เต โภเคติ เตสํ ธนานํ ิตกาเล ‘‘ติฏฺนฺเต นิพฺพุเต จาปี’’ติ เอวมาทีสุ (วิ. ว. ๘๐๖) วิย. โสติ โส โภคสามิโก ปุคฺคโล. จวติ เทวโลกโต. มรติ มนุสฺสโลกโต. วิปฺปลุชฺชติ นาคสุปณฺณาทิโลกโต. อถ วา หายติ ธฺโกฏฺาคารวเสน. ปริหายติ ธนโกฏฺาคารวเสน. ปริธํสติ พลิพทฺทหตฺถิอสฺสาทิวเสน. ปริปตติ ทาสิทาสวเสน. อนฺตรธายติ ทาราภรณวเสน. นสฺสติ อุทกาทิวเสนาติ เอเก วณฺณยนฺติ.
อโยมเยนาติ กาฬโลหาทินิพฺพตฺเตน. สลฺเลนาติ กณฺเฑน. อฏฺิมเยนาติ มนุสฺสฏฺึ เปตฺวา อวเสเสน. ทนฺตมเยนาติ หตฺถิทนฺตาทินา. วิสาณมเยนาติ โควิสาณาทินา. กฏฺมเยนาติ เวฬุกฏฺาทินา. วิทฺโธติ วุตฺตปฺปการสลฺลานํ อฺตรฺตเรน ปหโฏ. รุปฺปตีติ วิกิรติ, วิการํ อาปชฺชติ. กุปฺปตีติ จลติ, โกปํ อุปฺปาเทติ. ฆฏฺฏียตีติ ¶ ฆฏฺฏิโต โหติ. ปีฬียตีติ ปีฬิโต โหติ, ลทฺธปฺปหาโร กุปฺปติ. ‘‘ตติยทิวเส สลากํ ปเวเสตฺวา โธวนกาเล ฆฏฺฏียติ. ขารปฺปทาเน ปีฬียติ. ปหารโธวเน วา รุปฺปติ. ตสฺมึ ทุกฺขุปฺปาทเน กุปฺปติ. สลากปเวสเน ปีฬียติ. ขารปฺปทาเน ฆฏฺฏียตี’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
พฺยาธิโตติ ลทฺธปฺปหาโร หุตฺวา ปีฬิโต. โทมนสฺสิโตติ โทมนสฺสปฺปตฺโต. วิปริณามฺถาภาวาติ ปกติภาวํ ชหิตฺวา อฺถาภาวํ อุปนีเตน, อนฺโตโสสาทิ โสโก จ วาจาวิปฺปลาโป ปริเทโว จ กายปีฬนาทิ ทุกฺขฺจ จิตฺตปีฬนาทิ โทมนสฺสฺจ ภุโส อายาโส อุปายาโส จ. เอเต วุตฺตปฺปการา โสกาทโย อุปฺปชฺชนฺติ สมุทาจารํ คจฺฉนฺติ.
๓. ตติยคาถายํ ¶ สงฺเขปตฺโถ – โย ปน อิเม กาเม ตตฺถ ฉนฺทราควิกฺขมฺภเนน วา สมุจฺเฉเทน วา อตฺตโน ปาเทน สปฺปสฺส สิรํ วิย ปริวชฺเชติ, โส ภิกฺขุ สพฺพโลกํ วิปฺผาเรตฺวา ¶ ิตตฺตา โลเก วิสตฺติกาสงฺขาตํ ตณฺหํ สโต หุตฺวา สมติวตฺตตีติ.
โยติ วิภชิตพฺพํ ปทํ. โย ยาทิโสติอาทีนิ ตสฺส วิภชนปทานิ. เอตฺถ จ ยสฺมา โยติ อตฺถปทํ. ตฺจ อนิยเมน ปุคฺคลํ ทีเปติ. ตสฺมา ตสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อนิยเมน ปุคฺคลทีปกํ โย-สทฺทเมว อาห. ตสฺมา เอตฺถ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ – โยติ โย โกจีติ. ยสฺมา โย โย โกจิ นาม, โส อวสฺสํ ยถาลิงฺคยถายุตฺตยถาวิหิตยถาปฺปการยํานปตฺตยํธมฺมสมนฺนาคตวเสน เอเกนากาเรน ปฺายติ, ตสฺมา ตํ ตตฺถ าเปตุํ ตํ เภทํ ปกาเสนฺโต ‘‘ยาทิโส’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยาทิโสติ ลิงฺควเสน ยาทิโส วา ตาทิโส วา โหตุ, ทีโฆ วา รสฺโส วา กาโฬ วา โอทาโต วา มงฺคุรจฺฉวิ วา กิโส วา ถูโล วาติ อตฺโถ.
ยถายุตฺโตติ โยควเสน เยน วา เตน วา ยุตฺโต โหตุ, นวกมฺมยุตฺโต วา อุทฺเทสยุตฺโต วา วาสธุรยุตฺโต วาติ อตฺโถ. ยถาวิหิโตติ ยถาปิโต นวกมฺมาธิฏฺายิกาทิวเสน. ยถาปกาโรติ ยถาปกาเรน ปติฏฺิโต ปทีปนายกาทิวเสน. ยํานปฺปตฺโตติ ¶ ยํ านนฺตรํ ปตฺโต เสนาปติเสฏฺิฏฺานาทิวเสน. ยํธมฺมสมนฺนาคโตติ เยน ธมฺเมน อุปาคโต ธุตงฺคาทิวเสน.
วิกฺขมฺภนโต วาติ อุปจารปฺปนาสมาธีติ กิเลสานํ ทูรีกรณโต วา ฆฏปฺปหาเรน เสวาลานํ วิย. สมุจฺเฉทโต วาติ ปุน อปฺปวตฺตึ กตฺวา อจฺจนฺตโต มคฺเคน กิเลสานํ อุจฺฉินฺนมูลโต ปหานวเสน สมุจฺเฉทโต วา. อฏฺิกงฺกลูปมา กามาติอาทีนิ เอกาทส ปทานิ วิปสฺสนาวเสน วุตฺตานิ.
พุทฺธานุสฺสตึ ภาเวนฺโตปีติอาทีนิ ฉ ปทานิ มรณสฺสตึ ภาเวนฺโตปิ, อุปสมานุสฺสตึ ภาเวนฺโตปีติ ¶ อิมานิ จ อุปจารชฺฌานวเสน วุตฺตานิ. อานาปานสฺสตึ ภาเวนฺโตปิ, กายคตาสตึ ภาเวนฺโตปิ, ปมํ ฌานํ ภาเวนฺโตปีติอาทีนิ เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ ภาเวนฺโตปีติ ปริโยสานานิ อปฺปนาชฺฌานวเสน วุตฺตานิ. ตตฺถ อฏฺิกงฺกลูปมา กามาติ สุนิกฺกนฺตํ นิกฺกนฺตํ นิมฺมํสํ โลหิตมกฺขิตํ อฏฺิกงฺกลํ อุปมา เอเตสํ กามานนฺติ อฏฺิกงฺกลูปมา กามา. อปฺปสฺสาทฏฺเนาติ ‘‘อปฺปํ ปริตฺตํ สุขสฺสาทํ อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย’’ติ ทสฺสนฏฺเน. ปสฺสนฺโตติ ‘‘ยาวเทว ปน โส กุกฺกุโร กิลมถสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺสา’’ติ าณจกฺขุนา ปสฺสนฺโต. ปริวชฺเชตีติ ทูรงฺคเมติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , คหปติ, กุกฺกุโร ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺยปเรโต โคฆาตกสูนํ ปจฺจุปฏฺิโต อสฺส, ตเมนํ ทกฺโข โคฆาตโก วา โคฆาตกนฺเตวาสี วา อฏฺิกงฺกลํ สุนิกฺกนฺตํ นิกฺกนฺตํ นิมฺมํสํ โลหิตมกฺขิตํ อุปสุมฺเภยฺย. ตํ กึ มฺสิ, คหปติ, อปิ นุ โข โส กุกฺกุโร อมฺหํ อฏฺิกงฺกลํ สุนิกฺกนฺตํ นิกฺกนฺตํ นิมฺมํสํ โลหิตมกฺขิตํ ปเลหนฺโต ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺยํ ปฏิวิเนยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อทฺุหิ, ภนฺเต, อฏฺิกงฺกลํ สุนิกฺกนฺตํ นิกฺกนฺตํ นิมฺมํสํ โลหิตมกฺขิตํ, ยาวเทว ปน โส กุกฺกุโร กิลมถสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺสา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘อฏฺิกงฺกลูปมา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย’ติ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา ยายํ อุเปกฺขา นานตฺตา นานตฺตสิตา ¶ , ตํ อภินิวชฺเชตฺวา ยายํ อุเปกฺขา เอกตฺตา เอกตฺตสิตา, ยตฺถ สพฺพโส โลกามิสุปาทานา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, ตเมวูเปกฺขํ ภาเวตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๔๒).
คิชฺฌาทีหิ สาธารณา มํสเปสิ อุปมา เอเตสนฺติ มํสเปสูปมา. พหูนํ สาธารณฏฺเน พหุสาธารณา. อาทิตฺตํ ติณุกฺกํ อุปมา เอเตสนฺติ ติณุกฺกูปมา. อนุทหนฏฺเนาติ หตฺถาทิฌาปนฏฺเน. สาธิกโปริสปฺปมาณา ¶ วีตจฺจิกานํ วีตธูมานํ องฺคารานํ ปูรา องฺคารกาสุ อุปมา เอเตสนฺติ องฺคารกาสูปมา. มหาปริฬาหฏฺเนาติ มหนฺตปริตาปนฏฺเน. อารามรามเณยฺยาทิกํ สุปินํ อุปมา เอเตสนฺติ สุปินกูปมา. อิตฺตรปจฺจุปฏฺานฏฺเนาติ อปฺปตฺวา, น อุปคนฺตฺวา ติฏฺนฏฺเน. ยาจิเตน ลทฺธํ ยานาทิภณฺฑํ อุปมา เอเตสนฺติ ยาจิตกูปมา. ตาวกาลิกฏฺเนาติ อนิพนฺธนฏฺเน. สมฺปนฺนผลรุกฺโข อุปมา เอเตสนฺติ รุกฺขผลูปมา. สมฺภฺชนปริภฺชนฏฺเนาติ สาขาภฺชนฏฺเน เจว สมนฺตโต ภฺชิตฺวา รุกฺขปาตนฏฺเน จ. อสิ จ สูนา จ อุปมา เอเตสนฺติ อสิสูนูปมา. อธิกุฏฺฏนฏฺเนาติ ฉินฺทนฏฺเน. สตฺติสูลํ อุปมา เอเตสนฺติ สตฺติสูลูปมา. วินิวิชฺฌนฏฺเนาติ นิปเตตฺวา คมนฏฺเน. ภยชนนฏฺเน สปฺปสิรํ อุปมา เอเตสนฺติ สปฺปสิรูปมา. สปฺปฏิภยฏฺเนาติ สห อภิมุเข ภยฏฺเน. ทุกฺขชนนํ อคฺคิกฺขนฺธํ อุปมา เอเตสนฺติ อคฺคิกฺขนฺธูปมา. มหาภิตาปนฏฺเนาติ มหนฺตอภิตาปกายปีฬาอุปฺปาทนฏฺเนาติ กามํ ปริวชฺเชตีติ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘เสยฺยถาปิ, คหปติ, คิชฺโฌ วา กงฺโก วา กุลโล วา มํสเปสึ อาทาย อุฑฺฑีเยยฺย, ตเมนํ คิชฺฌาปิ กงฺกาปิ กุลลาปิ อนุปติตฺวา อนุปติตฺวา วิตจฺเฉยฺยุํ วิสฺสชฺเชยฺยุํ. ตํ กึ มฺสิ, คหปติ, สเจ โส คิชฺโฌ วา กงฺโก วา กุลโล วา ตํ มํสเปสึ น ขิปฺปเมว ปฏินิสฺสชฺเชยฺย, โส ตโตนิทานํ มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย ¶ , มรณมตฺตํ วา ทุกฺข’’นฺติ ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, คหปติ, อริยสาวโก ¶ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘มํสเปสูปมา กามา วุตฺตา ภควตา…เป… ตเมวูเปกฺขํ ภาเวติ. เสยฺยถาปิ, คหปติ, ปุริโส อาทิตฺตํ ติณุกฺกํ อาทาย ปฏิวาตํ คจฺเฉยฺย. ตํ กึ มฺสิ, คหปติ, สเจ ¶ โส ปุริโส ตํ อาทิตฺตํ ติณุกฺกํ น ขิปฺปเมว ปฏินิสฺสชฺเชยฺย, ตสฺส สา อาทิตฺตา ติณุกฺกา หตฺถํ วา ทเหยฺย, พาหุํ วา ทเหยฺย, อฺตรํ วา อฺตรํ วา องฺคปจฺจงฺคํ ทเหยฺย, โส ตโตนิทานํ มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย, มรณมตฺตํ วา ทุกฺข’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘ติณุกฺกูปมา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา…เป… ตเมวูเปกฺขํ ภาเวติ. เสยฺยถาปิ, คหปติ, องฺคารกาสุ สาธิกโปริสา ปูรา องฺคารานํ วีตจฺจิกานํ วีตธูมานํ. อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ชีวิตุกาโม อมริตุกาโม สุขกาโม ทุกฺขปฺปฏิกฺกูโล, ตเมนํ ทฺเว พลวนฺโต ปุริสา นานาพาหาสุ คเหตฺวา องฺคารกาสุํ อุปกฑฺเฒยฺยุํ. ตํ กึ มฺสิ คหปติ, อปิ นุ โส ปุริโส อิติ จิติ เจว กายํ สนฺนาเมยฺยา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺสเหตุ’’? ‘‘วิทิตฺหิ, ภนฺเต, ตสฺส ปุริสสฺส ‘อิมฺจ อหํ องฺคารกาสุํ ปปติสฺสามิ, ตโตนิทานํ มรณํ วา นิคจฺฉิสฺสามิ มรณมตฺตํ วา ทุกฺข’’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข คหปติ อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘องฺคารกาสูปมา กามา วุตฺตา ภควตา…เป… ตเมวูเปกฺขํ ภาเวติ. เสยฺยถาปิ, คหปติ, ปุริโส สุปินกํ ปสฺเสยฺย อารามรามเณยฺยกํ วนรามเณยฺยกํ ภูมิรามเณยฺยกํ โปกฺขรณิรามเณยฺยกํ, โส ปฏิพุทฺโธ น กิฺจิ ปฏิปสฺเสยฺย. เอวเมว โข, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘สุปินกูปมา กามา วุตฺตา ภควตา…เป… ตเมวูเปกฺขํ ภาเวติ. เสยฺยถาปิ, คหปติ, ปุริโส ยาจิตกํ โภคํ ยาจิตฺวา ยานํ วา โปริเสยฺยํ ปวรมณิกุณฺฑลํ. โส เตหิ ยาจิตเกหิ โภเคหิ ปุรกฺขโต ¶ ปริวุโต อนฺตราปณํ ปฏิปชฺเชยฺย. ตเมนํ ชโน ทิสฺวา เอวํ วเทยฺย ‘โภคี วต โภ ปุริโส, เอวํ กิร โภ โภคิโน โภคานิ ภฺุชนฺตี’ติ. ตเมนํ สามิกา ยตฺถ ยตฺเถว ตานิ ปสฺเสยฺยุํ, ตตฺถ ตตฺเถว ตานิ หเรยฺยุํ. ตํ กึ มฺสิ, คหปติ, อลํ นุ โข ตสฺส ปุริสสฺส อฺถตฺตายา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺสเหตุ’’? ‘‘สามิโน หิ, ภนฺเต, ตานิ หรนฺตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘ยาจิตกูปมา ¶ กามา วุตฺตา ภควตา…เป… ตเมวูเปกฺขํ ภาเวติ. เสยฺยถาปิ, คหปติ, คามสฺส วา นิคมสฺส วา อวิทูเร ติพฺโพ วนสณฺโฑ, ตตฺรสฺส รุกฺโข สมฺปนฺนผโล จ อุปปนฺนผโล จ. น จสฺสุ กานิจิ ผลานิ ภูมิยํ ปติตานิ. อถ ปุริโส ¶ อาคจฺเฉยฺย ผลตฺถิโก ผลคเวสี ผลปริเยสนํ จรมาโน. โส ตํ วนสณฺฑํ อชฺโฌคาเหตฺวา ตํ รุกฺขํ ปสฺเสยฺย สมฺปนฺนผลฺจ อุปปนฺนผลฺจ. ตสฺส เอวมสฺส ‘อยํ โข รุกฺโข สมฺปนฺนผโล จ อุปปนฺนผโล จ, นตฺถิ จ กานิจิ ผลานิ ภูมิยํ ปติตานิ, ชานามิ โข ปนาหํ รุกฺขํ อาโรปิตุํ. ยํนูนาหํ อิมํ รุกฺขํ อาโรหิตฺวา ยาวทตฺถฺจ ขาเทยฺยํ, อุจฺฉงฺคฺจ ปูเรยฺย’นฺติ? โส ตํ รุกฺขํ อาโรหิตฺวา ยาวทตฺถฺจ ขาเทยฺย, อุจฺฉงฺคฺจ ปูเรยฺย. อถ ทุติโย ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ผลตฺถิโก ผลคเวสี ผลปริเยสนํ จรมาโน ติณฺหํ กุารึ อาทาย. โส ตํ วนสณฺฑํ อชฺโฌคาเหตฺวา ตํ รุกฺขํ ปสฺเสยฺย สมฺปนฺนผลฺจ อุปปนฺนผลฺจ. ตสฺส เอวมสฺส ‘อยํ โข รุกฺโข สมฺปนฺนผโล จ อุปปนฺนผโล จ, นตฺถิ จ กานิจิ ผลานิ ภูมิยํ ปติตานิ, น โข ปนาหํ ชานามิ รุกฺขํ อาโรหิตุํ. ยํนูนาหํ อิมํ รุกฺขํ มูลโต เฉตฺวา ยาวทตฺถฺจ ขาเทยฺยํ, อุจฺฉงฺคฺจ ปูเรยฺย’นฺติ. โส ตํ รุกฺขํ มูลโตว ฉินฺเทยฺย. ตํ กึ มฺสิ ¶ , คหปติ, อมุโก โส ปุริโส ปมํ รุกฺขํ อารูฬฺโห, สเจ โส น ขิปฺปเมว โอโรเหยฺย, ตสฺส โส รุกฺโข ปปตนฺโต หตฺถํ วา ภฺเชยฺย ปาทํ วา ภฺเชยฺย อฺตรํ วา อฺตรํ วา องฺคปจฺจงฺคํ ภฺเชยฺย, โส ตโตนิทานํ มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย, มรณมตฺตํ วา ทุกฺข’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘รุกฺขผลูปมา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย’ติ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา ยายํ อุเปกฺขา นานตฺตา นานตฺตสิตา, ตํ อภินิวชฺเชตฺวา ยายํ อุเปกฺขา เอกตฺตา เอกตฺตสิตา. ยตฺถ สพฺพโส โลกามิสูปาทานา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ. ตเมวูเปกฺขํ ภาเวตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๔๓-๔๘).
เอวํ ¶ อฏฺิกงฺกลาทิกอคฺคิกฺขนฺธูปมปริโยสานโต วิปสฺสนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อุปจารสมาธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘พุทฺธานุสฺสตึ ภาเวนฺโต’’ติอาทิมาห.
ตตฺถ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต สติ เอว อนุสฺสติ. ปวตฺติตพฺพฏฺานมฺหิเยว จ ปวตฺตตฺตา สทฺธาปพฺพชิตสฺส กุลปุตฺตสฺส อนุรูปา สตีติปิ อนุสฺสติ. พุทฺธํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ พุทฺธานุสฺสติ. อรหตาทิพุทฺธคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ, ตํ พุทฺธานุสฺสตึ. ภาเวนฺโตติ วฑฺเฒนฺโต พฺยูเหนฺโต. ธมฺมํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ ธมฺมานุสฺสติ, สฺวากฺขาตตาทิธมฺมคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. สงฺฆํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ สงฺฆานุสฺสติ, สุปฺปฏิปนฺนตาทิสงฺฆคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. สีลํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ ¶ สีลานุสฺสติ, อตฺตโน อขณฺฑตาทิสีลคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. จาคํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ จาคานุสฺสติ, อตฺตโน มุตฺตจาคตาทิจาคคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. เทวตา อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ เทวตานุสฺสติ, เทวตา สกฺขิฏฺาเน ¶ เปตฺวา อตฺตโน สทฺธาทิคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. อานาปาเน อารพฺภ อุปฺปนฺนา สติ อานาปานสฺสติ, อานาปานนิมิตฺตารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. มรณํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา สติ มรณสฺสติ, เอกภวปริยาปนฺนชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทสงฺขาตมรณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ.
กุจฺฉิตานํ เกสาทีนํ ปฏิกฺกูลานํ อายตฺตา อากรตฺตา กาโยติ สงฺขํ คเต สรีเร คตา ปวตฺตา สติ กายคตาสติ, ตาทิสํ วา กายํ คตา สติ ‘‘กายคตสตี’’ติ วตฺตพฺเพ รสฺสํ อกตฺวา ‘‘กายคตาสตี’’ติ วุตฺตํ. เกสาทิเกสุ กายโกฏฺาเสสุ ปฏิกฺกูลนิมิตฺตารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. อุปสมํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ. อุปสมานุสฺสติ, สพฺพทุกฺขูปสมารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ.
วิตกฺกวิจารปีติสุขจิตฺเตกคฺคตาสมฺปยุตฺตํ ปมชฺฌานํ ภาเวนฺโต. ปีติสุขจิตฺเตกคฺคตาสมฺปยุตฺตํ ทุติยชฺฌานํ ภาเวนฺโต. สุขจิตฺเตกคฺคตาสมฺปยุตฺตํ ตติยชฺฌานํ ภาเวนฺโต. อุเปกฺขาจิตฺเตกคฺคตาสมฺปยุตฺตํ จตุตฺถชฺฌานํ ภาเวนฺโต…เป… เนวสฺานาสฺายตนํ ภาเวนฺโตปิ กาเม ปริวชฺเชตีติ.
วิกฺขมฺภนปฺปหานํ ¶ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สมุจฺเฉเทน กามานํ ปหานํ ทสฺเสตุํ ‘‘โสตาปตฺติมคฺคํ ภาเวนฺโตปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ มคฺคโสตสฺส อาปชฺชนํ โสตาปตฺติ, โสตาปตฺติยา มคฺโค โสตาปตฺติมคฺโค. อปายคมนีเย กาเมติ เยหิ อปายํ คจฺฉนฺติ, เต อปายคมนีเย กาเม สมุจฺเฉทโต โสตาปตฺติมคฺคํ ภาเวนฺโต ปริวชฺเชติ. ปฏิสนฺธิวเสน สกึเยว อิมํ โลกํ อาคจฺฉตีติ สกทาคามี, ตสฺส มคฺโค สกทาคามิมคฺโค. ตํ มคฺคํ ภาเวนฺโต. โอฬาริเกติ ปริฬาหปฺปตฺเต. ปฏิสนฺธิวเสเนว กามภวํ นาคจฺฉตีติ อนาคามี, ตสฺส มคฺโค อนาคามิมคฺโค. ตํ มคฺคํ ภาเวนฺโต. อนุสหคเตติ สุขุมภาวปฺปตฺเต. กิเลเสหิ อารกตฺตา, กิเลสารีนํ หตตฺตา, สํสารจกฺกสฺส อรานํ หตตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา ¶ จ อรหํ, อรหโต ภาโว อรหตฺตํ. กึ ตํ? อรหตฺตผลํ. อรหตฺตสฺส มคฺโค อรหตฺตมคฺโค. ตํ อรหตฺตมคฺคํ ภาเวนฺโต. สพฺเพน สพฺพนฺติ สพฺเพนากาเรน สพฺพํ. สพฺพถา สพฺพนฺติ สพฺพปฺปกาเรน สพฺพํ. อเสสํ นิสฺเสสนฺติ นิรวเสสํ คนฺธมตฺตมฺปิ อฏฺเปตฺวา. อถ วา สพฺเพน ¶ สพฺพํ มูลวเสน. สพฺพถา สพฺพํ อาการนิปฺปเทสวเสน. อเสสํ นิสฺเสสํ ภาวนานิปฺปเทสวเสน. ตถา ปุริเมน ทุจฺจริตาภาเวน. ทุติเยน ปริยุฏฺานาภาเวน. ตติเยน อนุสยาภาเวน เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
สปฺโป วุจฺจติ อหีติ โย โกจิ สรนฺโต คจฺฉติ. เกนฏฺเนาติ เกน อตฺเถน. สํสปฺปนฺโต คจฺฉตีติ ยสฺมา สมฺมา สํสรนฺโต คจฺฉตีติ สปฺโป. ภุชนฺโตติ วงฺกวงฺโก หุตฺวา. ปนฺนสิโรติ นิปนฺนสีโส หุตฺวา. สิเรน สุปตีติ สีสํ โภคนฺตเร กตฺวา สุปนภาเวน สิรสา สุปตีติ สรีสโป. พิเล สยตีติ พิลาสโย. ‘‘พิลสโย’’ติปิ ปาฬิ, ตํ สุนฺทรํ. คุหายํ เสตีติ คุหาสโย. ทาา ตสฺส อาวุโธติ ตสฺส สปฺปสฺส ทุเว ทาา ปหรณสตฺถสงฺขาโต อาวุโธ. วิสํ ตสฺส โฆรนฺติ ตสฺส สปฺปสฺส พฺยาปกสงฺขาตํ วิสํ ทารุณํ กกฺขฬํ. ชิวฺหา ตสฺส ทุวิธาติ ตสฺส สปฺปสฺส ทฺเวธา ชิวฺหา. ทฺวีหิ ชิวฺหาหิ รสํ สายตีติ ทุวิธาหิ ชิวฺหาหิ รสํ ชานาติ อสฺสาทํ วินฺทติ สาทิยตีติ. ชีวิตุํ กามยตีติ ชีวิตุกาโม. อมริตุํ กามยตีติ อมริตุกาโม. สุขํ กามยตีติ สุขกาโม. ทุกฺขปฺปฏิกฺกูโลติ ทุกฺขํ ¶ อนิจฺฉมาโน. ปาเทนาติ อตฺตโน ปาเทน. สปฺปสิรนฺติ สปฺปสฺส สีสํ. วชฺเชยฺยาติ ทูรโต วชฺเชยฺย. วิวชฺเชยฺยาติ ตสฺส ปมาเณน. ปริวชฺเชยฺยาติ สมนฺตโต. อภินิวชฺเชยฺยาติ จตุตฺถปฺปมาเณน. อถ วา ปุริเมน สีสโต. ทุติยตติเยน ทฺวีหิ ปสฺเสหิ. จตุตฺเถน ปจฺฉโต. ‘‘กาเม ปน อปฺปตฺตสฺส ปริเยสนมูลทุกฺขวตฺถุภาเวน วชฺเชยฺย. ปตฺตสฺส อารกฺขมูลทุกฺขวตฺถุภาเวน ¶ วิวชฺเชยฺย. อฺาณปริฬาหทุกฺขวตฺถุภาเวน ปริวชฺเชยฺย. วินาสมุเข ปิยวิปฺปโยคทุกฺขวตฺถุภาเวน อภินิวชฺเชยฺยา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
รฺชนวเสน ราโค. พลวรฺชนฏฺเน สาราโค. วิสเย สตฺตานํ อนุ อนุ นยนโต อนุนโย. อนุรุชฺฌตีติ อนุโรโธ, กาเมตีติ อตฺโถ. ยตฺถ กตฺถจิ ภเว สตฺตา เอตาย นนฺทนฺตีติ นนฺที, สยํ วา นนฺทตีติ นนฺที. นนฺที จ สา รฺชนฏฺเน ราโค จาติ นนฺทิราโค. ตตฺถ เอกสฺมึ อารมฺมเณ สกึ อุปฺปนฺนา ตณฺหา นนฺที, ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชมานา นนฺทิราโคติ วุจฺจติ. จิตฺตสฺส สาราโคติ โย เหฏฺา ‘‘พลวรฺชนฏฺเน สาราโค’’ติ วุตฺโต, โส น สตฺตสฺส, จิตฺตสฺเสว สาราโคติ อตฺโถ.
อิจฺฉนฺติ เอตาย อารมฺมณานีติ อิจฺฉา. พหลกิเลสภาเวน มุจฺฉนฺติ เอตาย ปาณิโนติ มุจฺฉา. คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา คหณวเสน อชฺโฌสานํ. อิมินา สตฺตา คิชฺฌนฺติ เคธํ อาปชฺชนฺตีติ เคโธ. พหลฏฺเน วา เคโธ. ‘‘เคธํ วา ปน ปวนสณฺฑ’’นฺติ หิ พหลฏฺเเนว วุตฺตํ ¶ . อนนฺตรปทํ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตํ, สพฺพโตภาเคน วา เคโธติ ปลิเคโธ. สชฺชนฺติ เอเตนาติ สงฺโค. ลคฺคนฏฺเน วา สงฺโค. โอสีทนฏฺเน ปงฺโก. อากฑฺฒนวเสน เอชา. ‘‘เอชา อิมํ ปุริสํ ปริกฑฺฒติ ตสฺส ตสฺเสว ภวสฺส อภินิพฺพตฺติยา’’ติ หิ วุตฺตํ. วฺจนฏฺเน มายา. วฏฺฏสฺมึ สตฺตานํ ชนนฏฺเน ชนิกา. ‘‘ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ, จิตฺตมสฺส วิธาวตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๕๕) หิ วุตฺตํ. วฏฺฏสฺมึ สตฺเต ทุกฺเขน สํโยชยมานา ชเนตีติ สฺชนนี. ฆฏนฏฺเน สิพฺพินี. อยฺหิ วฏฺฏสฺมึ สตฺเต จุติปฏิสนฺธิวเสน สิพฺพติ ฆเฏติ ตุนฺนกาโร วิย ปิโลติกาย ปิโลติกํ, ตสฺมา ‘‘ฆฏนฏฺเน สิพฺพินี’’ติ วุตฺตา. อเนกปฺปการํ ¶ วิสยชาลํ ตณฺหาวิปฺผนฺทิตนิเวสสงฺขาตํ วา ชาลมสฺสา อตฺถีติ ชาลินี.
อากฑฺฒนฏฺเน ¶ สีฆโสตา สริตา วิยาติ สริตา. อลฺลฏฺเน วา สริตา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘สริตานิ สิเนหิตานิ จ โสมนสฺสานิ ภวนฺติ ชนฺตุโน’’ติ (ธ. ป. ๓๔๑). อลฺลานิ เจว สินิทฺธานิ จาติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. อนยพฺยสนาปาทนฏฺเน กุมฺมานุพนฺธสุตฺตกํ วิยาติ สุตฺตํ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘สุตฺตนฺติ โข, ภิกฺขเว, นนฺทิราคสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๙). รูปาทีสุ วิตฺถตฏฺเน วิสตา. ตสฺส ตสฺส ปฏิลาภตฺถาย สตฺเต อายูหาเปตีติ อายูหินี. อุกฺกณฺิตุํ อปทานโต สหายฏฺเน ทุติยา. อยฺหิ สตฺตานํ วฏฺฏสฺมึ อุกฺกณฺิตุํ น เทติ, คตคตฏฺาเน ปิยสหาโย วิย อภิรมาเปติ. เตเนว วุตฺตํ –
‘‘ตณฺหาทุติโย ปุริโส, ทีฆมทฺธานสํสรํ;
อิตฺถภาวฺถาภาวํ, สํสารํ นาติวตฺตตี’’ติ. (อิติวุ. ๑๕; อ. นิ. ๔.๙; มหานิ. ๑๙๑; จูฬนิ. ปายายนานุคีติคาถานิทฺเทส ๑๐๗);
ปณิธานกวเสน ปณิธิ. ภวเนตฺตีติ ภวรชฺชุ. เอตาย หิ สตฺตา รชฺชุยา คีวายํ พทฺธา โคณา วิย อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺานํ นิยฺยนฺติ. ตํ ตํ อารมฺมณํ วนติ ภชติ อลฺลียตีติ วนํ, วนติ ยาจตีติ วา วนํ. วนโถติ พฺยฺชเนน ปทํ วฑฺฒิตํ. อนตฺถทุกฺขานํ วา สมุฏฺาปนฏฺเน คหนฏฺเน จ วนํ วิยาติ วนํ. พลวตณฺหาเยตํ นามํ. คหนตรฏฺเน ปน ตโต พลวตรา วนโถ นาม. เตน วุตฺตํ –
‘‘วนํ ฉินฺทถ มา รุกฺขํ, วนโต ชายเต ภยํ;
เฉตฺวา วนฺจ วนถฺจ, นิพฺพนา โหถ ภิกฺขโว’’ติ. (ธ. ป. ๒๘๓);
สนฺถวนวเสน ¶ ¶ สนฺถโว, สํสคฺโคติ อตฺโถ. โส ทุวิโธ – ตณฺหาสนฺถโว มิตฺตสนฺถโว จ. เตสุ อิธ ตณฺหาสนฺถโว อธิปฺเปโต. สิเนหวเสน สฺเนโห. อาลยกรณวเสน กมฺปมานา อเปกฺขตีติ อเปกฺขา. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อิมานิ เต เทว จตุราสีติ นครสหสฺสานิ กุสาวตีราชธานิปฺปมุขานิ, เอตฺถ เทว ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๖๖). อาลยํ กโรหีติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. ปาฏิเยกฺเก ปาฏิเยกฺเก อารมฺมเณ พนฺธตีติ ปฏิพนฺธุ, าตกฏฺเน วา ปาฏิเยกฺโก พนฺธูติปิ ปฏิพนฺธุ. นิจฺจสนฺนิสฺสิตฏฺเนปิ สตฺตานํ ตณฺหาสโม พนฺธุ นาม นตฺถิ. อารมฺมณานํ ¶ อสนโต อาสา. อชฺโฌตฺถรณโต เจว ติตฺตึ อนุคนฺตฺวาว ปริภฺุชนโต จาติ อตฺโถ. อาสีสนวเสน อาสีสนา. อาสีสิตสฺส ภาโว อาสีสิตตฺตํ.
อิทานิ ตสฺสา ปวตฺติฏฺานํ ทสฺเสตุํ ‘‘รูปาสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาสีสนวเสน อาสาติ อาสาย อตฺถํ คเหตฺวา รูเป อาสา รูปาสา. เอวํ นวปิ ปทานิ เวทิตพฺพานิ. เอตฺถ จ ปุริมานิ ปฺจ ปฺจกามคุณวเสน วุตฺตานิ, ปริกฺขารโลภวเสน ฉฏฺํ. ตํ วิเสสโต ปพฺพชิตานํ, ตโต ปรานิ ตีณิ อติตฺติยวตฺถุวเสน คหฏฺานํ. น หิ เตสํ ธนปุตฺตชีวิเตหิ อฺํ ปิยตรํ อตฺถิ. ‘‘อิทํ มยฺหํ, อิทํ มยฺห’’นฺติ วา ‘‘อสุเกน เม อิทํ ทินฺนํ, อิทํ ทินฺน’’นฺติ วา เอวํ สตฺเต ชปฺปาเปตีติ ชปฺปา. ปรโต ทฺเว ปทานิ อุปสคฺเคน วฑฺฒิตานิ, ตโต ปรํ อฺเนากาเรน วิภชิตุํ อารทฺธตฺตา ปุน ‘‘ชปฺปา’’ติ วุตฺตํ. ชปฺปนากาโร ชปฺปนา. ชปฺปิตสฺส ภาโว ชปฺปิตตฺตํ. ปุนปฺปุนํ วิสเย ลุมฺปติ อากฑฺฒตีติ โลลุโป, โลลุปสฺส ภาโว โลลุปฺปํ. โลลุปฺปนากาโร โลลุปฺปายนา. โลลุปฺปสมงฺคิโน ภาโว โลลุปฺปายิตตฺตํ.
ปุจฺฉฺชิกตาติ ¶ ยาย ตณฺหาย ลาภฏฺาเนสุ ปุจฺฉํ จาลยมานา สุนขา วิย กมฺปมานา วิจรนฺติ, ตํ ตสฺสา กมฺปนตณฺหาย นามํ. สาธุ มนาปมนาเป วิสเย กาเมตีติ สาธุกาโม, ตสฺส ภาโว สาธุกมฺยตา. มาตามาตุจฺฉาติอาทิเก อยุตฺตฏฺาเน ราโคติ อธมฺมราโค. ยุตฺตฏฺาเนปิ พลวา หุตฺวา อุปฺปนฺโน โลโภ วิสมโลโภ. ‘‘ราโค วิสม’’นฺติอาทิวจนโต (วิภ. ๙๒๔) วา ยุตฺตฏฺาเน วา อยุตฺตฏฺาเน วา อุปฺปนฺโน ฉนฺทราโค อธมฺมฏฺเน อธมฺมราโค. วิสมฏฺเน วิสมโลโภติ เวทิตพฺโพ. อารมฺมณานํ นิกามนวเสน นิกนฺติ. นิกามนากาโร นิกามนา. ปตฺถยนวเสน ปตฺถนา. ปิหายนวเสน ปิหนา. สุฏฺุ ปตฺถนา สมฺปตฺถนา. ปฺจสุ กามคุเณสุ ตณฺหา กามตณฺหา. รูปารูปภเวสุ ตณฺหา ภวตณฺหา. อุจฺเฉทสงฺขาเต วิภเว ตณฺหา วิภวตณฺหา. สุทฺเธ รูปภวสฺมึเยว ตณฺหา รูปตณฺหา. อรูปภเว ตณฺหา อรูปตณฺหา. อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต ¶ ราโค, นิโรเธ ตณฺหา นิโรธตณฺหา. รูเป ตณฺหา รูปตณฺหา. สทฺเท ตณฺหา สทฺทตณฺหา. คนฺธตณฺหาทีสุปิ เอเสว นโย. โอฆาทโย วุตฺตตฺถาว.
กุสลธมฺเม ¶ อาวรตีติ อาวรณํ. ฉาทนวเสน ฉทนํ. สตฺเต วฏฺฏสฺมึ พนฺธตีติ พนฺธนํ. จิตฺตํ อุปหนฺตฺวา กิลิสฺสติ สํกิลิฏฺํ กโรตีติ อุปกฺกิเลโส. ถามคตฏฺเน อนุ อนุ เสตีติ อนุสโย. อุปฺปชฺชมานํ จิตฺตํ ปริยุฏฺาตีติ ปริยุฏฺานํ, อุปฺปชฺชิตุํ อปทาเนน กุสลวารํ คณฺหาตีติ อตฺโถ. ‘‘โจรา มคฺเค ปริยุฏฺึสุ, ธุตฺตา มคฺเค ปริยุฏฺึสู’’ติอาทีสุ (จูฬว. ๔๓๐) หิ มคฺคํ คณฺหึสูติ อตฺโถ. เอวมิธาปิ คหณฏฺเน ปริยุฏฺานํ เวทิตพฺพํ. ปลิเวนฏฺเน ¶ ลตา วิยาติ ลตา. ‘‘ลตา อุปฺปชฺช ติฏฺตี’’ติ (ธ. ป. ๓๔๐) อาคตฏฺาเนปิ อยํ ตณฺหา ลตาติ วุตฺตา. วิวิธานิ วตฺถูนิ อิจฺฉตีติ เววิจฺฉํ. วฏฺฏทุกฺขสฺส มูลนฺติ ทุกฺขมูลํ. ตสฺเสว ทุกฺขสฺส นิทานนฺติ ทุกฺขนิทานํ. ตํ ทุกฺขํ อิโต ปภวตีติ ทุกฺขปฺปภโว. พนฺธนฏฺเน ปาโส วิยาติ ปาโส, มารสฺส ปาโส มารปาโส. ทุรุคฺคิลนฏฺเน พฬิสํ วิยาติ พฬิสํ, มารสฺส พฬิสํ มารพฬิสํ. ตณฺหาภิภูตา มารสฺส วิสยํ นาติกฺกมนฺติ, เตสํ อุปริ มาโร วสํ วตฺเตตีติ อิมินา ปริยาเยน มารสฺส วิสโยติ มารวิสโย. สนฺทนฏฺเน ตณฺหาว นที ตณฺหานที. อชฺโฌตฺถรณฏฺเน ตณฺหาว ชาลํ ตณฺหาชาลํ. ยถา สุนขา คทฺทูลพทฺธา ยทิจฺฉกํ นิยฺยนฺติ, เอวํ ตณฺหาพทฺธา สตฺตาติ ทฬฺหพนฺธนฏฺเน คทฺทูลํ วิยาติ คทฺทูลํ, ตณฺหาว คทฺทูลํ ตณฺหาคทฺทูลํ. ทุปฺปูรณฏฺเน ตณฺหาว สมุทฺโท ตณฺหาสมุทฺโท. อภิชฺฌายนฏฺเน อภิชฺฌา. ลุพฺภนฺติ เอเตน, สยํ วา ลุพฺภติ, ลุพฺภนมตฺตเมว วา ตนฺติ โลโภ. สมฺปยุตฺตกานํ อกุสลานํ ปติฏฺฏฺเน มูลํ.
วิสตฺติกาตีติ วิสตฺติกา อิติ. เกนฏฺเนาติ เกน สภาเวน. วิสตาติ วิตฺถฏา รูปาทีสุ. วิสาลาติ วิปุลา. วิสฏาติ เตภูมกพฺยาปกวเสน วิสฏา. ปุริมวจนเมว ตการสฺส ฏการํ กตฺวา พฺยฺชนวิภาคํ กตฺวา วุตฺตํ. วิสกฺกตีติ ปริสปฺปติ สหติ วา. รตฺโต หิ ราควตฺถุนา ปาเทน ตาฬิยมาโนปิ สหติ. โอสกฺกนํ วิปฺผนฺทนํ วา ‘‘วิสกฺกน’’นฺติปิ วทนฺติ. ‘‘กุสลากุสลานํ ปตี’’ติ เกจิ วณฺณยนฺติ. วิสํหรตีติ ตถา ตถา กาเมสุ อานิสํสํ ปสฺสนฺตี วิวิเธหิ อากาเรหิ เนกฺขมฺมาภิมุขปฺปวตฺติโต จิตฺตํ ¶ สํหรติ สงฺขิปติ, วิสํ วา ทุกฺขํ, ตํ หรติ, วหตีติ อตฺโถ. วิสํวาทิกาติ อนิจฺจาทึ นิจฺจาทิโต คณฺหนฺตี วิสํวาทิกา โหติ. ทุกฺขนิพฺพตฺตกสฺส กมฺมสฺส เหตุภาวโต วิสมูลา ¶ , วิสํ วา ทุกฺขทุกฺขาทิภูตา เวทนา มูลํ เอติสฺสาติ วิสมูลา. ทุกฺขสมุทยตฺตา วิสํ ผลํ เอติสฺสาติ ¶ วิสผลา. ยาย ตณฺหาย รูปาทิกสฺส ทุกฺขสฺเสว ปริโภโค โหติ, น อมตสฺสาติ สา ‘‘วิสปริโภคา’’ติ วุตฺตา. สพฺพตฺถ นิรุตฺติวเสน ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา.
ตสฺสา วิสยํ ทสฺเสตุกาโม ‘‘วิสาลา วา ปน สา ตณฺหา รูเป’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิสาลา วา ปนาติ มหนฺตี เอว ตณฺหายนฏฺเน ตณฺหา, รูปาทโย ปฺจ ปฺจกามคุณิกราควเสน วุตฺตา. กุเล คเณติอาทีนิ เอกาทส ปทานิ โลลุปฺปาทวเสน วุตฺตานิ. กามธาตุตฺติโก กมฺมวฏฺฏวเสน วิภตฺโต, กามภวตฺติโก วิปากวฏฺฏวเสน วิภตฺโต, สฺาภวตฺติโก สฺาวเสน วิภตฺโต, เอกโวการภวตฺติโก ขนฺธวเสน วิภตฺโต. อตีตตฺติโก กาลวเสน, ทิฏฺจตุกฺโก อารมฺมณวเสน, อปายตฺติโก โอกาสวเสน, ขนฺธตฺติโก นิสฺสตฺตนิชฺชีววเสน วิภตฺโตติ าตพฺพํ. ตตฺรายํ สงฺเขเปน อตฺถทีปนา วิภาวนา จ –
‘‘ตตฺถ กตมา กามธาตุ? เหฏฺโต อวีจินิรยํ ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทเว อนฺโตกริตฺวา ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร เอตฺถาวจรา เอตฺถ ปริยาปนฺนา ขนฺธธาตุอายตนา รูปํ เวทนา สฺา สงฺขารา วิฺาณํ, อยํ วุจฺจติ กามธาตุ’’ (ธ. ส. ๑๒๘๗).
‘‘ตตฺถ กตมา รูปธาตุ? เหฏฺโต พฺรหฺมโลกํ ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต อกนิฏฺเ เทเว อนฺโตกริตฺวา ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร ¶ เอตฺถาวจรา เอตฺถ ปริยาปนฺนา สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา ทิฏฺธมฺมสุขวิหาริสฺส วา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา, อยํ วุจฺจติ รูปธาตุ’’ (ธ. ส. ๑๒๘๙).
‘‘ตตฺถ กตมา อรูปธาตุ? เหฏฺโต อากาสานฺจายตนุปเค เทเว ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต เนวสฺานาสฺายตนุปเค เทเว อนฺโตกริตฺวา ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร เอตฺถาวจรา เอตฺถ ปริยาปนฺนา สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา ทิฏฺธมฺมสุขวิหาริสฺส วา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา, อยํ วุจฺจติ อรูปธาตู’’ติ (ธ. ส. ๑๒๙๑). อฏฺกถายํ ปน ‘‘กามธาตูติ กามภโว, ปฺจกฺขนฺธา ลพฺภนฺติ. รูปธาตูติ รูปภโว, ปฺจกฺขนฺธา ลพฺภนฺติ. อรูปธาตูติ อรูปภโว, จตฺตาโร ขนฺธา ลพฺภนฺตี’’ติ วุตฺตํ.
อถ ¶ วา กามราคสงฺขาเตน กาเมน ยุตฺตา ธาตุ กามธาตุ, กามสงฺขาตา วา ธาตุ กามธาตุ. กามํ ปหาย รูเปน ยุตฺตา ธาตุ รูปธาตุ, รูปสงฺขาตา วา ธาตุ รูปธาตุ. กามฺจ รูปฺจ ¶ ปหาย อรูเปน ยุตฺตา ธาตุ อรูปธาตุ, อรูปสงฺขาตา วา ธาตุ อรูปธาตุ. ตา เอว ธาตุโย ปุน ภวปริยาเยน วุตฺตา. ภวนฺตีติ หิ ภวาติ วุจฺจนฺติ. สฺาย ยุตฺโต ภโว, สฺาวตํ วา ภโว, สฺา วา เอตฺถ ภเว อตฺถีติ สฺาภโว. โส กามภโว จ อสฺาภวมุตฺโต รูปภโว จ เนวสฺานาสฺาภวมุตฺโต อรูปภโว จ โหติ.
น สฺาภโว อสฺาภโว, โส รูปภเวกเทโส. โอฬาริกตฺตาภาวโต เนวสฺา, สุขุมตฺเตน สพฺภาวโต นาสฺาติ เนวสฺานาสฺา, ตาย ยุตฺโต ภโว เนวสฺานาสฺาภโว. อถ วา โอฬาริกาย สฺาย อภาวา สุขุมาย จ ภาวา เนวสฺานาสฺา อสฺมึ ภเวติ เนวสฺานาสฺาภโว, โส อรูปภเวกเทโส. เอเกน รูปกฺขนฺเธน โวกิณฺโณ ภโว, เอโก วา โวกาโร, อสฺส ภวสฺสาติ เอกโวการภโว, โส อสฺาภโวว. จตูหิ อรูปกฺขนฺเธหิ ¶ โวกิณฺโณ ภโว, จตฺตาโร วา โวการา อสฺส ภวสฺสาติ จตุโวการภโว, โส อรูปภโว เอว. ปฺจหิ ขนฺเธหิ โวกิณฺโณ ภโว, ปฺจ วา โวการา อสฺส ภวสฺสาติ ปฺจโวการภโว, โส กามภโว จ รูปภเวกเทโส จ โหติ. อตีตตฺติโก เหฏฺา วุตฺตนโยว. ทิฏฺนฺติ จตุสมุฏฺานิกํ รูปารมฺมณํ. สุตนฺติ ทฺวิสมุฏฺานิกํ สทฺทารมฺมณํ. มุตนฺติ ผุสิตฺวา คเหตพฺพานิ จตุสมุฏฺานิกานิ คนฺธรสโผฏฺพฺพารมฺมณานิ. วิฺาตพฺพํ นาม มนสา ชานิตพฺพํ ธมฺมารมฺมณํ. เตสุ ทิฏฺสุตมุตวิฺาตพฺเพสุ ธมฺเมสุ. วิสฏา วิตฺถตาติ มหนฺตา ปตฺถฏา.
อปายโลเกติ วฑฺฒิสงฺขาตสฺส อยสฺส อภาเวน อปาโย, ตสฺมึ อปายโลเก. ขนฺธโลเกติ ราสฏฺเน รูปาทโย ปฺจกฺขนฺธา เอว โลโก. ธาตุโลเกติ สฺุตฏฺเน จกฺขุธาตุอาทโย อฏฺารส ธาตุโย เอว โลโก. อายตนโลเกติ อายตนาทีหิ การเณหิ ทฺวาทสายตนานิ เอว โลโก. สพฺเพปิ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโก, วุตฺตปฺปกาเร โลเก วิสฏา วิตฺถฏาติ วิสตฺติกา. สโตติ สรตีติ สโต, ปุคฺคเลน สติ วุตฺตา.
ตตฺถ ¶ สรณลกฺขณา สติ. สรนฺติ ตาย, สยํ วา สรติ, สรณมตฺตเมว วา เอสาติ สติ. สา ปเนสา อปิลาปนลกฺขณา, อสมฺโมสนรสา, อารกฺขปจฺจุปฏฺานา, วิสยาภิมุขภาวปจฺจุปฏฺานา วา, ถิรสฺาปทฏฺานา, กายาทิสติปฏฺานปทฏฺานา วา. อารมฺมเณ ทฬฺหปติฏฺิตตฺตา ปน เอสิกา วิย, จกฺขุทฺวาราทีนํ รกฺขณโต โทวาริโก วิย จ ทฏฺพฺพา.
ตสฺสา ปวตฺติฏฺานํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กาเย กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ ภาเวนฺโต สโต’’ติอาทินา นเยน ¶ จตุพฺพิธํ สติปฏฺานมาห. ตตฺถ กาเยติ รูปกาเย. รูปกาโย หิ อิธ องฺคปจฺจงฺคานํ เกสาทีนฺจ ธมฺมานํ สมูหฏฺเน หตฺถิกายรถกายาทโย วิย ‘‘กาโย’’ติ อธิปฺเปโต. ยถา จ สมูหฏฺเน, เอวํ กุจฺฉิตานํ อายฏฺเน. กุจฺฉิตานฺหิ ปรมเชคุจฺฉานํ ¶ โส อาโยติปิ กาโย. อาโยติ อุปฺปตฺติเทโส. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – อายนฺติ ตโตติ อาโย. เก อายนฺตีติ? กุจฺฉิตา เกสาทโย. อิติ กุจฺฉิตานํ เกสาทีนํ อาโยติ กาโย.
กายานุปสฺสนาติ กายสฺส อนุปสฺสนา, กายํ วา อนุปสฺสนา, ‘‘กาเย’’ติ จ วตฺวาปิ ปุน ‘‘กายานุปสฺสนา’’ติ ทุติยํ กายคฺคหณํ อสมฺมิสฺสโต ววตฺถานฆนวินิพฺโภคาทิทสฺสนตฺถํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ.
เตน น กาเย เวทนานุปสฺสนา จิตฺตธมฺมานุปสฺสนา วา, อถ โข กายานุปสฺสนาเยวาติ กายสงฺขาเต วตฺถุสฺมึ กายานุปสฺสนาการสฺเสว ทสฺสเนน อสมฺมิสฺสโต ววตฺถานํ ทสฺสิตํ โหติ, ตถา น กาเย องฺคปจฺจงฺควินิมุตฺตเอกธมฺมานุปสฺสนา, นาปิ เกสโลมาทิวินิมุตฺตอิตฺถิปุริสานุปสฺสนา. โยปิ เจตฺถ เกสโลมาทิโก ภูตุปาทายสมูหสงฺขาโต กาโย, ตตฺถาปิ น ภูตุปาทายวินิมุตฺตเอกธมฺมานุปสฺสนา, อถ โข รถสมฺภารานุปสฺสกสฺส วิย องฺคปจฺจงฺคสมูหานุปสฺสนา, นคราวยวานุปสฺสกสฺส วิย เกสโลมาทิสมูหานุปสฺสนา, กทลิกฺขนฺธปตฺตวฏฺฏิวินิภุชนกสฺส วิย ริตฺตมุฏฺิวินิเวกสฺส วิย จ ภูตุปาทายสมูหานุปสฺสนาเยวาติ สมูหวเสเนว กายสงฺขาตสฺส วตฺถุโน นานปฺปการโต ทสฺเสนฺเตน ฆนวินิพฺโภโค ทสฺสิโต โหติ. น เหตฺถ ยถาวุตฺตสมูหวินิมุตฺโต กาโย วา อิตฺถี วา ปุริโส ¶ วา อฺโ วา โกจิ ธมฺโม ทิสฺสติ, ยถาวุตฺตธมฺมสมูหมตฺเตเยว ปน ตถา ตถา สตฺตา มิจฺฉาภินิเวสํ กโรนฺติ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ยํ ปสฺสติ น ตํ ทิฏฺํ, ยํ ทิฏฺํ ตํ น ปสฺสติ;
อปสฺสํ พชฺฌเต มูฬฺโห, พชฺฌมาโน น มุจฺจตี’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๓; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๖);
ฆนวินิพฺโภคาทิทสฺสนตฺถนฺติ วุตฺตํ. อาทิสทฺเทน เจตฺถ อยมฺปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยฺหิ เอตสฺมึ กาเย กายานุปสฺสนาเยว ¶ , น อฺธมฺมานุปสฺสนา. ยถา อนุทกภูตายปิ มรีจิยา อุทกานุปสฺสนา โหติ, น เอวํ อนิจฺจทุกฺขานตฺตาสุภภูเตเยว อิมสฺมึ กาเย นิจฺจสุขตฺตสุภภาวานุปสฺสนา ¶ , อถ โข กายานุปสฺสนา อนิจฺจทุกฺขานตฺตาสุภาการสมูหานุปสฺสนาเยวาติ วุตฺตํ โหติ.
อถ วา ยฺวายํ มหาสติปฏฺาเน ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรฺคโต วา…เป… โส สโตว อสฺสสตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๓๗๔; ม. นิ. ๑.๑๐๗) นเยน อสฺสาสปสฺสาสาทิจุณฺณิกชาตอฏฺิกปริโยสาโน กาโย วุตฺโต, โย จ ปฏิสมฺภิทายํ สติปฏฺานกถายํ ‘‘อิเธกจฺโจ ปถวีกายํ อนิจฺจโต อนุปสฺสติ. อาโปกายํ. เตโชกายํ. วาโยกายํ. เกสกายํ. โลมกายํ. ฉวิกายํ. จมฺมกายํ. มํสกายํ. รุหิรกายํ. นฺหารุกายํ. อฏฺิกายํ. อฏฺิมิฺชกาย’’นฺติ กาโย วุตฺโต, ตสฺส สพฺพสฺส อิมสฺมึเยว กาเย อนุปสฺสนโต กาเย กายานุปสฺสนาติ เอวมฺปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
อถ วา กาเย ‘‘อห’’นฺติ วา ‘‘มม’’นฺติ วา เอวํ คเหตพฺพสฺส ยสฺส กสฺสจิ อนุปสฺสนโต ตสฺส ตสฺเสว ปน เกสโลมาทิกสฺส นานาธมฺมสมูหสฺส อนุปสฺสนโต กาเย เกสาทิสมูหสงฺขาตกายานุปสฺสนาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อปิ จ ‘‘อิมสฺมึ กาเย อนิจฺจโต อนุปสฺสติ, โน นิจฺจโต’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๓.๓๕) อนุกฺกเมน ปฏิสมฺภิทายํ อาคตนยสฺส สพฺพสฺเสว อนิจฺจลกฺขณาทิโน อาการสมูหสงฺขาตสฺส กายสฺส อนุปสฺสนโตปิ กาเย กายานุปสฺสนาติ เอวมฺปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อยํ ปน จตุสติปฏฺานสาธารโณ อตฺโถ.
สติปฏฺานนฺติ ¶ ตโย สติปฏฺานา สติโคจโรปิ, ติธา ปฏิปนฺเนสุ สาวเกสุ สตฺถุโน ปฏิฆานุนยวีติวตฺตตาปิ, สติปิ. ‘‘จตุนฺนํ, ภิกฺขเว, สติปฏฺานานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ เทสิสฺสามิ, ตํ สุณาถ สาธุกํ มนสิ กโรถ…เป… โก จ, ภิกฺขเว, กายสฺส สมุทโย? อาหารสมุทยา กายสมุทโย’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๔๐๘) หิ สติโคจโร ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุจฺจติ ¶ . ตถา ‘‘กาโย อุปฏฺานํ, โน สติ, สติ อุปฏฺานฺเจว สติ จา’’ติอาทีสุปิ (ปฏิ. ม. ๓.๓๕). ตสฺสตฺโถ – ปติฏฺาติ อสฺมินฺติ ปฏฺานํ. กา ปติฏฺาติ? สติ. สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานํ, ปธานฏฺานนฺติ วา ปฏฺานํ, สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานํ, หตฺถิฏฺานอสฺสฏฺานาทีนิ วิย.
‘‘ตโย สติปฏฺานา ยทริโย เสวติ, ยทริโย เสวมาโน สตฺถา คณมนุสาสิตุมรหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๐๔, ๓๑๑) เอตฺถ ติธา ปฏิปนฺเนสุ สาวเกสุ สตฺถุโน ปฏิฆานุนยวีติวตฺตตา ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตา. ตสฺสตฺโถ – ปฏฺเปตพฺพโต ปฏฺานํ, ปวตฺตยิตพฺพโตติ ¶ อตฺโถ. เกน ปฏฺเปตพฺโพติ? สติยา, สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานนฺติ. ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา พหุลีกตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๔๗) ปน สติเยว ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุจฺจติ. ตสฺสตฺโถ – ปติฏฺาตีติ ปฏฺานํ, อุปฏฺาติ โอกฺกนฺติตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา ปวตฺตตีติ อตฺโถ. สติเยว ปฏฺานนฺติ สติปฏฺานํ. อถ วา สรณฏฺเน สติ, อุปฏฺานฏฺเน ปฏฺานํ. อิติ สติ จ สา ปฏฺานฺจาติปิ สติปฏฺานํ. อิทมิธ อธิปฺเปตํ. ตํ สติปฏฺานํ. ภาเวนฺโตติ วฑฺเฒนฺโต. เอตฺถ จ ยํ ติธา ปฏิปนฺเนสุ สาวเกสุ สตฺถุโน ปฏิฆานุนยวีติวตฺตตา ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ อิมินา สุตฺเตน คเหตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –
‘‘ตโย สติปฏฺานา ยทริโย เสวติ, ยทริโย เสวมาโน สตฺถา คณมนุสาสิตุมรหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๐๔, ๓๑๑) อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. อิธ, ภิกฺขเว, สตฺถา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสติ อนุกมฺปโก หิเตสี อนุกมฺปํ อุปาทาย ‘‘อิทํ โว หิตาย อิทํ โว สุขายา’’ติ. ตสฺส สาวกา ¶ น สุสฺสูสนฺติ, น โสตํ โอทหนฺติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ, โวกฺกมฺม จ สตฺถุ สาสนา วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต น เจว อนตฺตมโน โหติ, น จ อนตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ ¶ , อนวสฺสุโต จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ สติปฏฺานํ. ยทริโย…เป… มรหติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สตฺถา…เป… อิทํ โว สุขายาติ. ตสฺส เอกจฺเจ สาวกา น สุสฺสูสนฺติ…เป… วตฺตนฺติ. เอกจฺเจ สาวกา สุสฺสูสนฺติ…เป… น จ โวกฺกมฺม สตฺถุ สาสนา วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต น เจว อนตฺตมโน โหติ, น จ อนตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ, น จ อตฺตมโน โหติ, น จ อตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ. อนตฺตมนตา จ อตฺตมนตา จ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุติยํ…เป….
‘‘ปุน จปรํ…เป… อิทํ โว สุขายาติ. ตสฺส สาวกา สุสฺสูสนฺติ…เป… วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต อตฺตมโน เจว โหติ, อตฺตมนตฺจ ปฏิสํเวเทติ, อนวสฺสุโต จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ตติย’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๓๑๑).
เอวํ ปฏิฆานุนเยหิ อนวสฺสุตตา นิจฺจํ อุปฏฺิตสติตาย ตทุภยํ วีติวตฺตตา ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ ¶ วุตฺตา. พุทฺธานเมว กิร นิจฺจํ อุปฏฺิตสติตา โหติ, น ปจฺเจกพุทฺธาทีนนฺติ.
เวทนาสุ เวทนานุปสฺสนาติอาทีสุ เวทนาทีนํ ปุน วจเน ปโยชนํ กายานุปสฺสนายํ วุตฺตนเยเนว ยถาโยคํ โยเชตฺวา เวทิตพฺพํ. อยมฺปิ สาธารณตฺโถ. สุขาทีสุ อเนกปฺปเภทาสุ เวทนาสุ วิสุํ วิสุํ อนิจฺจาทิโต เอเกกเวทนานุปสฺสนา. สราคาทิเก โสฬสปฺปเภเท จิตฺเต วิสุํ วิสุํ อนิจฺจาทิโต เอเกกจิตฺตานุปสฺสนา. กายเวทนาจิตฺตานิ เปตฺวา เสสเตภูมกธมฺเมสุ วิสุํ วิสุํ อนิจฺจาทิโต เอเกกธมฺมานุปสฺสนา สติปฏฺานสุตฺตนฺเต วุตฺตนเยน นีวรณาทิธมฺมานุปสฺสนาติ. เอตฺถ จ กาเยติ เอกวจนํ, สรีรสฺส เอกตฺตา ¶ . จิตฺเตติ เอกวจนํ, จิตฺตสฺส สภาวเภทาภาวโต ชาติคฺคหเณน กตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยถา ¶ จ เวทนาทโย อนุปสฺสิตพฺพา, ตถานุปสฺสนฺโต เวทนาสุ เวทนานุปสฺสนา, จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสนา, ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสนาติ เวทิตพฺพา. กถํ เวทนา อนุปสฺสิตพฺพา? สุขา ตาว เวทนา ทุกฺขโต, ทุกฺขา เวทนา สลฺลโต, อทุกฺขมสุขา อนิจฺจโต อนุปสฺสิตพฺพา. ยถาห –
‘‘โย สุขํ ทุกฺขโต อทฺท, ทุกฺขมทฺทกฺขิ สลฺลโต;
อทุกฺขมสุขํ สนฺตํ, อทฺทกฺขิ นํ อนิจฺจโต;
ส เว สมฺมทฺทโส ภิกฺขุ, ปริชานาติ เวทนา’’ติ. (สํ. นิ. ๔.๒๕๓);
สพฺพา เอว เจตา ทุกฺขโตปิ อนุปสฺสิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ยํ กิฺจิ เวทยิตํ, ตํ ทุกฺขสฺมินฺติ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๕๙). สุขทุกฺขโตปิ จ อนุปสฺสิตพฺพา. ยถาห ‘‘สุขา เวทนา ิติสุขา, วิปริณามทุกฺขา. ทุกฺขา เวทนา ิติทุกฺขา, วิปริณามสุขา. อทุกฺขมสุขา เวทนา าณสุขา, อฺาณทุกฺขา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕). อปิ จ อนิจฺจาทิสตฺตวิปสฺสนาวเสนาปิ อนุปสฺสิตพฺพา. จิตฺตธมฺเมสุปิ จิตฺตํ ตาว อารมฺมณาธิปติสหชาตภูมิกมฺมวิปากกิริยาทินานตฺตเภทานํ อนิจฺจาทิสตฺตานุปสฺสนานํ สราคาทิโสฬสเภทานฺจ วเสน อนุปสฺสิตพฺพํ. ธมฺมา สลกฺขณสามฺลกฺขณานํ สฺุตธมฺมสฺส อนิจฺจาทิสตฺตานุปสฺสนานํ สนฺตาสนฺตาทีนฺจ วเสน อนุปสฺสิตพฺพา.
อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลพฺภนฺติ. อฺเเนว หิ จิตฺเตน กายํ ปริคฺคณฺหาติ, อฺเน เวทนํ, อฺเน จิตฺตํ, อฺเน ธมฺเม ปริคฺคณฺหาติ, โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ¶ ปน เอกจิตฺเตเยว ลพฺภนฺตีติ. อาทิโต หิ กายํ ปริคฺคณฺหิตฺวา อาคตสฺส วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สติ กายานุปสฺสนา นาม, ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล กายานุปสฺสี นาม. วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อริยมคฺคํ ปตฺตสฺส ¶ มคฺคกฺขเณ มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ กายานุปสฺสนา นาม, ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล กายานุปสฺสี นาม.
เวทนํ ปริคฺคณฺหิตฺวา จิตฺตํ ปริคฺคณฺหิตฺวา ธมฺเม ปริคฺคณฺหิตฺวา อาคตสฺส วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สติ ธมฺมานุปสฺสนา นาม, ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ธมฺมานุปสฺสี นาม. วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อริยมคฺคํ ปตฺตสฺส ¶ มคฺคกฺขเณ มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ ธมฺมานุปสฺสนา นาม, ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ธมฺมานุปสฺสี นาม, เอวํ ตาว เทสนา ปุคฺคเล ติฏฺติ, กาเย ปน ‘‘สุภ’’นฺติ วิปลฺลาสปฺปหานา กายปริคฺคาหิกา สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ กายานุปสฺสนา นาม. เวทนาย ‘‘สุข’’นฺติ วิปลฺลาสปฺปหานา เวทนาปริคฺคาหิกา สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ เวทนานุปสฺสนา นาม. จิตฺเต ‘‘นิจฺจ’’นฺติ วิปลฺลาสปฺปหานา จิตฺตปริคฺคาหิกา สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ จิตฺตานุปสฺสนา นาม. ธมฺเมสุ ‘‘อตฺตา’’ติ วิปลฺลาสปฺปหานา ธมฺมปริคฺคาหิกา สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ ธมฺมานุปสฺสนา นาม. อิติ เอกาว มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ จตุกิจฺจสาธกฏฺเน จตฺตาริ นามานิ ลภติ. เตน วุตฺตํ ‘‘โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺเตเยว ลพฺภนฺตี’’ติ.
ปุน อุปการวเสน จ อปริหีนวเสน จ คุณวเสน จ อปเร ตโย จตุกฺกา วุตฺตา. ตตฺถ อสติปริวชฺชนายาติ น สติ อสติ, สติ เอตฺถ นตฺถีติ วา อสติ, มุฏฺสฺสติยา เอตํ อธิวจนํ. ปริวชฺชนายาติ สมนฺตโต วชฺชเนน. ภตฺตนิกฺขิตฺตกากสทิเส หิ มุฏฺสติปุคฺคเล ปริวชฺชเนน อุปฏฺิตสติปุคฺคลเสวเนน านนิสชฺชาทีสุ สติสมุฏฺาปนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตตาย จ สติ อุปฺปชฺชติ. สติกรณียานํ ธมฺมานนฺติ สติยา กาตพฺพานํ ธมฺมานํ. กตตฺตาติ กตภาเวน. จตุนฺนํ มคฺคานํ กตตฺตา, ภาวิตตฺตาติ อตฺโถ. สติปริพนฺธานํ ธมฺมานํ หตตฺตาติ กามจฺฉนฺทาทีนํ นาสิตภาเวน. สตินิมิตฺตานํ ธมฺมานํ อสมฺมุฏฺตฺตาติ สติยา การณานํ กายาทิอารมฺมณานํ อนฏฺภาเวน.
สติยา ¶ สมนฺนาคตตฺตาติ สติยา สมฺมา อาคตตฺตา อปริหีนตฺตา จ. วสิตตฺตาติ วสิภาวปฺปตฺเตน. ปาคฺุตายาติ ปคุณภาเวน. อปจฺโจโรหณตายาติ อนิวตฺตนภาเวน อปจฺโจสกฺกนภาเวน.
สตฺตตฺตาติ ¶ สภาเวน วิชฺชมานตฺตา. สนฺตตฺตาติ นิพฺพุตสภาวตฺตา. สมิตตฺตาติ กิเลสานํ วูปสมิตภาวตฺตา. สนฺตธมฺมสมนฺนาคตตฺตาติ สปฺปุริสธมฺเมหิ อปริหีนตฺตา. พุทฺธานุสฺสติอาทโย เหฏฺา วุตฺตนยา เอว. สรณกวเสน สติ, อิทํ สติยา สภาวปทํ. ปุนปฺปุนํ สรณโต อนุสฺสรณวเสน ¶ อนุสฺสติ. อภิมุขํ คนฺตฺวา วิย สรณโต ปฏิสรณวเสน ปฏิสฺสติ. อุปสคฺควเสน วา วฑฺฒิตมตฺตเมว. สรณากาโร สรณตา. ยสฺมา ปน สรณตาติ ติณฺณํ สรณานมฺปิ นามํ, ตสฺมา ตํ ปฏิเสเธตุํ ปุน สติคฺคหณํ กตํ. สติสงฺขาตา สรณตาติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. สุตปริยตฺตสฺส ธารณภาวโต ธารณตา. อนุปวิสนสงฺขาเตน โอคาหนฏฺเน อปิลาปนภาโว อปิลาปนตา. ยถา หิ อุทเก ลาพุกฏาหาทีนิ ปลวนฺติ, น อนุปวิสนฺติ, น ตถา อารมฺมเณ สติ. อารมฺมณฺหิ เอสา อนุปวิสติ, ตสฺมา ‘‘อปิลาปนตา’’ติ วุตฺตา. จิรกตจิรภาสิตานํ น สมฺมุสฺสนภาวโต อสมฺมุสฺสนตา. อุปฏฺานลกฺขเณ โชตนลกฺขเณ จ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, สติสงฺขาตํ อินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ. ปมาเท น กมฺปตีติ สติพลํ. ยาถาวสติ นิยฺยานสติ กุสลสตีติ สมฺมาสติ. พุชฺฌนกสฺส องฺโคติ โพชฺฌงฺโค, ปสฏฺโ สุนฺทโร วา โพชฺฌงฺโค สมฺโพชฺฌงฺโค, สติเยว สมฺโพชฺฌงฺโค สติสมฺโพชฺฌงฺโค.
เอกายนมคฺโคติ เอกมคฺโค, อยํ มคฺโค น ทฺเวธาปถภูโตติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อถ วา เอเกน อยิตพฺโพติ เอกายโน. เอเกนาติ คณสงฺคณิกํ ปหาย วูปกฏฺเน ปวิวิตฺตจิตฺเตน. อยิตพฺโพ ปฏิปชฺชิตพฺโพ, อยนฺติ วา เอเตนาติ อยโน, สํสารโต นิพฺพานํ คจฺฉตีติ อตฺโถ ¶ . เอกสฺส อยโน เอกายโน. เอกสฺสาติ เสฏฺสฺส. สพฺพสตฺตานํ เสฏฺโว ภควา, ตสฺมา ‘‘ภควโต’’ติ วุตฺตํ โหติ. กิฺจาปิ หิ เตน อฺเปิ อยนฺติ, เอวํ สนฺเตปิ ภควโตว โส อยโน เตน อุปฺปาทิตตฺตา. ยถาห ‘‘โส หิ พฺราหฺมณ ภควา อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๑.๒๑๕; ปฏิ. ม. ๓.๕; ม. นิ. ๓.๗๙). อยตีติ วา อยโน, คจฺฉติ ปวตฺตตีติ อตฺโถ. เอกสฺมึ อยโน เอกายโน. อิมสฺมึเยว ธมฺมวินเย ปวตฺตติ, น อฺตฺถาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘อิมสฺมึ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค อุปลพฺภตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๔). เทสนาเภโทเยว เหโส, อตฺถโต ปน เอโกว. อปิ จ เอกํ อยตีติ เอกายโน. ปุพฺพภาเค นานามุขภาวนานเยน ปวตฺโตปิ อปรภาเค เอกํ นิพฺพานเมว คจฺฉตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห พฺรหฺมา สหมฺปติ –
‘‘เอกายนํ ¶ ¶ ชาติขยนฺตทสฺสี, มคฺคํ ปชานาติ หิตานุกมฺปี;
เอเตน มคฺเคน ตรึสุ ปุพฺเพ, ตริสฺสนฺติ เย จ ตรนฺติ โอฆ’’นฺติ. (สํ. นิ. ๕.๓๘๔, ๔๐๙);
มคฺโคติ เกนฏฺเน มคฺโค? นิพฺพานํ คมนฏฺเน, นิพฺพานตฺถิเกหิ มคฺคนียฏฺเน จ. อุเปโตติ อาสนฺนํ คโต. สมุเปโตติ ตโต อาสนฺนตรํ คโต. อุภเยนปิ สติยา อปริหีโนติ อตฺโถ. อุปคโตติ อุปคนฺตฺวา ิโต. สมุปคโตติ สมฺปยุตฺโต หุตฺวา ิโต. ‘‘อุปาคโต สมุปาคโต’’ติปิ ปาฬิ. อุภเยนาปิ สติสมีปํ อาคโตติ อตฺโถ. อุปปนฺโนติ อวิโยคาปนฺโน. สมุปปนฺโนติ ปริปุณฺโณ. สมนฺนาคโตติ อวิกโล วิชฺชมาโน. ‘‘อุเปโต สมุเปโตติ ทฺวีหิ ปเทหิ ปวตฺตํ กถิตํ. อุปคโต สมุปคโตติ ทฺวีหิ ปเทหิ ปฏิเวโธ. อุปปนฺโน สมุปปนฺโน สมนฺนาคโตติ ตีหิ ปเทหิ ปฏิลาโภ กถิโต’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
โลเก วา สา วิสตฺติกาติ ยา เอสา อเนกปฺปกาเรน วุตฺตา วิสตฺติกา, สา ขนฺธโลเก เอว, น อฺตฺร ขนฺเธหิ ปวตฺตตีติ ¶ อตฺโถ. โลเก วา ตํ วิสตฺติกนฺติ ขนฺธโลเก เอว ปวตฺตํ เอตํ วิสตฺติกสงฺขาตํ ตณฺหํ. ตรติ กาเม ปริวชฺเชนฺโต. อุตฺตรติ กิเลเส ปชหนฺโต. ปตรติ เตสํ ปติฏฺาเหตุํ ฉินฺทนฺโต. สมติกฺกมติ สํสารํ อติกฺกมนฺโต. วีติวตฺตติ ปฏิสนฺธิอภพฺพุปฺปตฺติกํ กโรนฺโต. อถ วา ตรติ อุตฺตรติ กายานุปสฺสเนน. ปตรติ เวทนานุปสฺสเนน. สมติกฺกมติ จิตฺตานุปสฺสเนน. อถ วา ตรติ สีเลน. อุตฺตรติ สมาธินา. ปตรติ วิปสฺสนาย. สมติกฺกมติ มคฺเคน. วีติวตฺตติ ผเลนาติ เอวมาทินา โยเชตพฺพํ.
๔. จตุตฺถคาถาย อยํ สงฺเขปตฺโถ – โย เอกํ สาลิเขตฺตาทิเขตฺตํ วา ฆรวตฺถาทิวตฺถุํ วา กหาปณสงฺขาตํ หิรฺํ วา โคอสฺสาทิเภทํ ควาสฺสํ วา อนฺโตชาตาทิทาเส วา ภตกาทิกมฺมกเร วา อิตฺถิสฺิตา ถิโย วา าติพนฺธวาทิพนฺธู วา อฺเ วา มนาปิยรูปาทิเก ปุถุกาเม ¶ อนุคิชฺฌตีติ. สาลิกฺเขตฺตนฺติ ยตฺถ สาลิโย วิรุหนฺติ. วีหิกฺเขตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย. วีหีติ อวเสสวีหโย. โมทยตีติ มุคฺโค. ฆรวตฺถุนฺติ ฆรปติฏฺาปนตฺถํ กตากตภูมิภาโค. โกฏฺกวตฺถาทีสุปิ เอเสว นโย. โกฏฺโกติ ทฺวารโกฏฺาทิ. ปุเรติ ฆรสฺส ปุรโต. ปจฺฉาติ ฆรสฺส ปจฺฉโต. เอตฺถ อาราเมนฺติ จิตฺตํ โตเสนฺตีติ อาราโม, ปุปฺเผนปิ ผเลนปิ ฉายายปิ ทเกนปิ รมนฺตีติ อตฺโถ.
ปสุกาทโยติ ¶ เอฬกาทโย. อนฺโตชาตโกติ อนฺโตฆรทาสิยา กุจฺฉิมฺหิ ชาโต. ธนกฺกีตโกติ ธเนน กีณิตฺวา ปริวตฺเตตฺวา คหิโต. สามํ วาติ สยํ วา. ทาสพฺยนฺติ ทาสสฺส ภาโว ทาสพฺยํ, ตํ ทาสพฺยํ. อุเปตีติ อุปคจฺฉติ. อกามโก วาติ อตฺตโน อรุจิยา วา กรมรานีโต.
เต ¶ จตฺตาโร ปุนปิ ทสฺเสตุํ ‘‘อามาย ทาสาปิ ภวนฺติ เหเก’’ติ อาห. อามาย ทาสาติ อนฺโตชาตทาสา. ‘‘ยตฺถ ทาโส อามชาโต ิโต ถุลฺลานิ คจฺฉตี’’ติ เอตฺถาปิ เอเตว วุตฺตา. ธเนน กีตาติ ธนทาสา. สามฺจ เอเกติ สยํ ทาสา. ภยาปณุนฺนาติ อกามทาสา. ภเยน ปณุนฺนา ขิปิตา.
ภตกาติ ภติยา ชีวนกา. กสิกมฺมาทิกมฺมํ กโรนฺตีติ กมฺมกรา. อุปชีวิโนติ สมฺมนฺตนาทินา อุปคนฺตฺวา นิสฺสยํ กตฺวา ชีวนฺตีติ อุปชีวิโน.
อิตฺถีติ ถิยติ เอติสฺสํ คพฺโภติ อิตฺถี. ปริคฺคโหติ สหายี สสฺสามิกา. มาตาปิติพนฺธวาปิ าติพนฺธุ. สโคตฺโต โคตฺตพนฺธุ. เอกาจริยกุเล วา เอกชาติมนฺตํ วา อุคฺคหิตมนฺโต มนฺตพนฺธุ. ธนุสิปฺปาทิสทฺธึ อุคฺคหิตโก สิปฺปพนฺธุ. ‘‘มิตฺตพนฺธวาติปิ พนฺธู’’ติ กตฺถจิ โปตฺถเก ปาโ ทิสฺสติ.
คิชฺฌตีติ กิเลสกาเมน ปตฺเถติ. อนุคิชฺฌตีติ อนุ อนุ คิชฺฌติ ปุนปฺปุนํ ปตฺเถติ. ปลิคิชฺฌตีติ สมนฺตโต ปตฺเถติ. ปลิพชฺฌตีติ วิเสเสน ปตฺเถติ. ‘‘โอฬาริกตฺเตน นิมิตฺตคฺคาหวเสน คิชฺฌติ, อนุคิชฺฌติ, อนุพฺยฺชนคฺคาหวเสน ปลิคิชฺฌติ, ปลิพชฺฌตี’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
๕. ปฺจมคาถายํ ¶ อยํ สงฺเขปตฺโถ – ตํ ปุคฺคลํ อพลขฺยา กิเลสา พลียนฺติ สหนฺติ มทฺทนฺติ. สทฺธาพลาทิวิรเหน วา อพลํ ตํ ปุคฺคลํ อพลา กิเลสา พลียนฺติ, อพลตฺตา พลียนฺตีติ อตฺโถ. อถ วา ตํ กามคิทฺธํ กามรตฺตํ ¶ กามปริเยสนฺตฺจ สีหาทโย จ ปากฏปริสฺสยา, กายทุจฺจริตาทโย จ อปากฏปริสฺสยา มทฺทนฺติ. ตโต อปากฏปริสฺสเยหิ อภิภูตํ ตํ ปุคฺคลํ ชาติอาทิทุกฺขํ ภินฺนํ นาวํ อุทกํ วิย อนฺเวติ.
อพลาติ นตฺถิ เอเตสํ พลนฺติ อพลา, พลวิรหิตา. ทุพฺพลาติ มนฺทปโยคาพเลน กตฺตพฺพกิจฺจวิรหิตา ¶ . อปฺปพลาติ อปฺปํ ปริตฺตํ เอเตสํ พลนฺติ อปฺปพลา, ยุชฺฌิตุํ อสมตฺถา. อปฺปถามกาติ อปฺโป ปริตฺโต ถาโม เอเตสํ วายาโม อุสฺสาโหติ อปฺปถามกา. หีนา นิหีนา ปโยคหีเนน. โอมกา ถามหีเนน. ลามกา ปจฺจยหีเนน. ฉตุกฺกา อชฺฌาสยหีเนน. ปริตฺตา ปตฺติหีเนน. สหนฺตีติ มทฺทนฺติ ฆฏฺฏนํ อุปฺปาเทนฺติ. ปริสหนฺตีติ สพฺพโต มทฺทนฺติ. อภิภวนฺติ อปราปรํ อุปฺปตฺติวเสน. อชฺโฌตฺถรนฺติ ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติวเสน. ปริยาทิยนฺติ สุสฺโสเสตฺวา าเนน. มทฺทนฺติ กุสลุปฺปตฺตินิวารเณน.
สทฺธาพลนฺติ สทฺทหนฺติ เอตาย, สยํ วา สทฺทหติ, สทฺทหนมตฺตเมว วา เอสาติ สทฺธา. สา สทฺทหนลกฺขณา, โอกปฺปนลกฺขณา วา, สมฺปสาทนรสา อุทกปฺปสาทกมณิ วิย. ปกฺขนฺทนรสา วา โอฆุตฺตรโณ วิย. อกาลุสิยปจฺจุปฏฺานา, อธิมุตฺติปจฺจุปฏฺานา วา. สทฺเธยฺยวตฺถุปทฏฺานา, โสตาปตฺติยงฺคปทฏฺานา วา. สา หตฺถวิตฺตพีชานิ วิย ทฏฺพฺพา. อสทฺธิเย น กมฺปตีติ สทฺธาพลํ. วีริยพลนฺติ วีรสฺส ภาโว วีริยํ, วีรานํ วา กมฺมํ วีริยํ, วิธินา วา นเยน อุปาเยน อีรยิตพฺพํ ปวตฺตยิตพฺพนฺติ วีริยํ. ตํ ปเนตํ อุปตฺถมฺภนลกฺขณฺจ ปคฺคหณลกฺขณฺจ วีริยํ, สหชาตานํ อุปตฺถมฺภนรสํ, อสํสีทนภาวปจฺจุปฏฺานํ, ‘‘สํวิคฺโค โยนิโส ปทหตี’’ติ วจนโต (อ. นิ. ๔.๑๑๓) สํเวคปทฏฺานํ, วีริยารมฺภวตฺถุปทฏฺานํ วา. สมฺมา อารทฺธํ สพฺพสมฺปตฺตีนํ มูลนฺติ ทฏฺพฺพํ. โกสชฺเช น กมฺปตีติ วีริยพลํ. สติยา ¶ ลกฺขณาทีนิ วุตฺตาเนว.
มุฏฺสฺสจฺเจ ¶ น กมฺปตีติ สติพลํ. สหชาตานิ สมฺมา อาธียติ เปตีติ สมาธิ. โส ปาโมกฺขลกฺขโณ อวิกฺเขปลกฺขโณ วา, สหชาตานํ ธมฺมานํ อารมฺมเณ สมฺปิณฺฑนรโส นฺหานิยจุณฺณานํ อุทกํ วิย, อุปสมปจฺจุปฏฺาโน, าณปจฺจุปฏฺาโน วา. ‘‘สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาติ ปสฺสตี’’ติ หิ วุตฺตํ. วิเสสโต สุขปทฏฺาโน นิวาเต ปทีปจฺจีนํ ิติ วิย เจตโส ิตีติ ทฏฺพฺโพ. อุทฺธจฺเจ น กมฺปตีติ สมาธิพลํ. ปชานาตีติ ปฺา. กึ ปชานาติ? ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติอาทินา (มหาว. ๑๕) นเยน อริยสจฺจานิ. สา ยถาสภาวปฏิเวธลกฺขณา, อกฺขลิตปฏิเวธลกฺขณา วา กุสลิสฺสาสขิตฺตอุสุปฏิเวโธ วิย, วิสโยภาสนรสา ปทีโป วิย, อสมฺโมหปจฺจุปฏฺานา อรฺคตสุเทสโก วิย. อวิชฺชาย น กมฺปตีติ ปฺาพลํ. หิริพลํ โอตฺตปฺปพลนฺติ อหิริเก น กมฺปตีติ หิริพลํ. อโนตฺตปฺเป น กมฺปตีติ โอตฺตปฺปพลํ. อยํ อุภยวเสน อตฺถวณฺณนา โหติ. กายทุจฺจริตาทีหิ หิรียตีติ หิรี, ลชฺชาเยตํ อธิวจนํ. เตหิ เอว โอตฺตปฺปตีติ โอตฺตปฺปํ, ปาปโต อุพฺเพคสฺเสตํ อธิวจนํ.
เตสํ ¶ นานากรณทีปนตฺถํ – ‘‘สมุฏฺานํ อธิปติ, ลชฺชาทิลกฺขเณน จา’’ติ อิมํ มาติกํ เปตฺวา อยํ วิตฺถารกถา วุตฺตา – อชฺฌตฺตสมุฏฺานา หิรี นาม, พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ นาม. อตฺตาธิปติ หิรี นาม, โลกาธิปติ โอตฺตปฺปํ นาม. ลชฺชาสภาวสณฺิตา หิรี นาม, ภยสภาวสณฺิตํ โอตฺตปฺปํ นาม. สปฺปติสฺสวลกฺขณา หิรี นาม, วชฺชภีรุกภยทสฺสาวิลกฺขณํ โอตฺตปฺปํ นาม.
ตตฺถ อชฺฌตฺตสมุฏฺานํ หิรึ จตูหิ การเณหิ สมุฏฺาเปติ – ชาตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา, วยํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา, สูรภาวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา, พาหุสจฺจํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา. กถํ? ‘‘ปาปกรณํ นาเมตํ น ชาติสมฺปนฺนานํ กมฺมํ, หีนชจฺจานํ เกวฏฺฏาทีนํ อิทํ กมฺมํ, มาทิสสฺส ชาติสมฺปนฺนสฺส ¶ อิทํ กมฺมํ กาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ เอวํ ตาว ชาตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาณาติปาตาทิปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. ตถา ‘‘ปาปกรณํ นาเมตํ ทหเรหิ กตฺตพฺพํ กมฺมํ, มาทิสสฺส วเย ิตสฺส อิทํ กมฺมํ กาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ เอวํ วยํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาณาติปาตาทิปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. ตถา ‘‘ปาปกมฺมํ นาเมตํ ทุพฺพลชาติกานํ กมฺมํ, มาทิสสฺส สูรภาวสมฺปนฺนสฺส ¶ อิทํ กมฺมํ กาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ เอวํ สูรภาวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาณาติปาตาทิปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. ตถา ‘‘ปาปกมฺมํ นาเมตํ อนฺธพาลานํ กมฺมํ, น ปณฺฑิตานํ. มาทิสสฺส ปณฺฑิตสฺส พหุสฺสุตสฺส อิทํ กมฺมํ กาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ เอวํ พาหุสจฺจํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาณาติปาตาทิปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. เอวํ อชฺฌตฺตสมุฏฺานํ หิรึ จตูหิ การเณหิ สมุฏฺาเปติ. สมุฏฺาเปตฺวา จ ปน อตฺตโน จิตฺเต หิรึ ปเวเสตฺวา ปาปกมฺมํ น กโรติ. เอวํ อชฺฌตฺตสมุฏฺานา หิรี นาม โหติ. กถํ พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ นาม? ‘‘สเจ ตฺวํ ปาปกมฺมํ กริสฺสสิ, จตูสุ ปริสาสุ ครหปฺปตฺโต ภวิสฺสสิ –
‘‘ครหิสฺสนฺติ ตํ วิฺู, อสุจึ นาคริโก ยถา;
วชฺชิโต สีลวนฺเตหิ, กถํ ภิกฺขุ กริสฺสสี’’ติ. (ธ. ส. อฏฺ. ๑ กามาวจรกุสล ธมฺมุทฺเทสกถา) –
เอวํ ปจฺจเวกฺขนฺโต หิ พหิทฺธาสมุฏฺิเตน โอตฺตปฺเปน ปาปกมฺมํ น กโรติ, เอวํ พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ นาม โหติ.
กถํ อตฺตาธิปติ หิรี นาม? อิเธกจฺโจ กุลปุตฺโต อตฺตานํ อธิปตึ เชฏฺกํ กตฺวา ‘‘มาทิสสฺส ¶ สทฺธาปพฺพชิตสฺส พหุสฺสุตสฺส ธุตงฺคธรสฺส น ยุตฺตํ ปาปกมฺมํ ¶ กาตุ’’นฺติ ปาปํ น กโรติ. เอวํ อตฺตาธิปติ หิรี นาม โหติ. เตนาห ภควา ‘‘โส อตฺตานํเยว อธิปตึ กริตฺวา อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ, สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑ กามาวจรกุสล ธมฺมุทฺเทสกถา; อ. นิ. ๓.๔๐).
กถํ โลกาธิปติ โอตฺตปฺปํ นาม? อิเธกจฺโจ กุลปุตฺโต โลกํ อธิปตึ เชฏฺกํ กตฺวา ปาปกมฺมํ น กโรติ. ยถาห –
‘‘มหา โข ปนายํ โลกสนฺนิวาโส, มหนฺตสฺมึ โข ปน โลกสนฺนิวาเส สนฺติ สมณพฺราหฺมณา อิทฺธิมนฺโต ทิพฺพจกฺขุกา ปรจิตฺตวิทุโน, เต ทูรโตปิ ปสฺสนฺติ, อาสนฺนาปิ น ทิสฺสนฺติ, เจตสาปิ จิตฺตํ ชานนฺติ. เตปิ มํ เอวํ ชาเนยฺยุํ ‘ปสฺสถ โภ อิมํ กุลปุตฺตํ สทฺธาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน โวกิณฺโณ วิหรติ ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’ติ. เทวตาปิ โข สนฺติ อิทฺธิมนฺตินิโย ทิพฺพจกฺขุกา ปรจิตฺตวิทุนิโย, ตา ทูรโตปิ ปสฺสนฺติ, อาสนฺนาปิ ¶ น ทิสฺสนฺติ, เจตสาปิ จิตฺตํ ชานนฺติ. ตาปิ มํ เอวํ ชาเนยฺยุํ ‘ปสฺสถ โภ อิมํ กุลปุตฺตํ สทฺธาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน โวกิณฺโณ วิหรติ ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’ติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘อารทฺธํ โข ปน เม วีริยํ ภวิสฺสติ อสลฺลีนํ, อุปฏฺิตา สติ อสมฺมุฏฺา, ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ, สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺค’นฺติ. โส โลกํเยว อธิปตึ กริตฺวา อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ, สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑ กามาวจรกุสล ธมฺมุทฺเทสกถา; อ. นิ. ๓.๔๐).
เอวํ โลกาธิปติ โอตฺตปฺปํ นาม โหติ. ‘‘ลชฺชาสภาวสณฺิตา หิรี, ภยสภาวสณฺิตํ โอตฺตปฺป’’นฺติ เอตฺถ ปน ลชฺชาติ ลชฺชนากาโร, เตน สภาเวน สณฺิตา หิรี. ภยนฺติ อปายภยํ, เตน สภาเวน สณฺิตํ โอตฺตปฺปํ. ตทุภยมฺปิ ปาปปริวชฺชเน ปากฏํ โหติ. เอกจฺโจ หิ ยถา นาม เอโก กุลปุตฺโต อุจฺจารปสฺสาวาทีนิ กโรนฺโต ลชฺชิตพฺพยุตฺตกํ เอกํ ทิสฺวา ลชฺชนาการปฺปตฺโต ภเวยฺย หีฬิโต, เอวเมว อชฺฌตฺตํ ลชฺชีธมฺมํ โอกฺกมิตฺวา ปาปกมฺมํ น กโรติ. เอกจฺโจ อปายภยภีโต หุตฺวา ปาปกมฺมํ น กโรติ.
ตตฺริทํ ¶ โอปมฺมํ – ยถา หิ ทฺวีสุ อโยคุเฬสุ เอโก สีตโล ภเวยฺย คูถมกฺขิโต, เอโก อุณฺโห อาทิตฺโต. ตตฺถ ปณฺฑิโต สีตลํ คูถมกฺขิตตฺตา ชิคุจฺฉนฺโต น คณฺหาติ, อิตรํ ฑาหภเยน. ตตฺถ สีตลสฺส ¶ คูถมกฺขนชิคุจฺฉาย อคณฺหนํ วิย อชฺฌตฺตํ ลชฺชีธมฺมํ โอกฺกมิตฺวา ปาปสฺส อกรณํ, อุณฺหสฺส ฑาหภเยน อคณฺหนํ วิย อปายภเยน ปาปสฺส อกรณํ เวทิตพฺพํ.
‘‘สปฺปติสฺสวลกฺขณา หิรี, วชฺชภีรุกภยทสฺสาวิลกฺขณํ โอตฺตปฺป’’นฺติ อิทมฺปิ ทฺวยํ ปาปปริวชฺชเน เอว ปากฏํ โหติ. เอกจฺโจ หิ ชาติมหตฺตปจฺจเวกฺขณา สตฺถุมหตฺตปจฺจเวกฺขณา ทายชฺชมหตฺตปจฺจเวกฺขณา สพฺรหฺมจาริมหตฺตปจฺจเวกฺขณาติ จตูหิ การเณหิ สปฺปติสฺสวลกฺขณํ หิรึ สมุฏฺาเปตฺวา ปาปํ น กโรติ. เอกจฺโจ อตฺตานุวาทภยํ ปรานุวาทภยํ ทณฺฑภยํ ทุคฺคติภยนฺติ จตูหากาเรหิ วชฺชภีรุกภาวทสฺสาวิลกฺขณํ โอตฺตปฺปํ ¶ สมุฏฺาเปตฺวา ปาปํ น กโรติ. ตตฺถ ชาติมหตฺตปจฺจเวกฺขณาทีนิ เจว อตฺตานุวาทภยาทีนิ จ วิตฺถาเรตฺวา กเถตพฺพานิ. เอวํ วุตฺตํ สตฺตวิธํ พลํ ยสฺส ปุคฺคลสฺส นตฺถิ, เต กิเลสา ตํ ปุคฺคลํ สหนฺติ…เป… ปริยาทิยนฺติ มทฺทนฺตีติ.
ทฺเว ปริสฺสยาติ ปากฏาปากฏวเสน ทฺเว เอว อุปทฺทวา, น เอกํ, น ตีณิ. เต วิภาคโต ทสฺเสตุํ ‘‘กตเม ปากฏปริสฺสยา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ โกกาติ เกกา. อยเมว วา ปาโ. โจราติ โจริยกมฺเมหิ ยุตฺตา. มาณวาติ สาหสิกกมฺเมหิ ยุตฺตา. กตกมฺมาติ สนฺธิจฺเฉทาทิกตโจริกกมฺมา. อกตกมฺมาติ ตํ กมฺมํ กาตุํ นิกฺขนฺตา. เอตฺถ อสฺสูติ ภเวยฺยุนฺติ อตฺโถ. จกฺขุโรโคติ จกฺขุสฺมึ อุปฺปนฺนโรโค, รุชตีติ โรโค. จกฺขุโรโคติอาทโย วตฺถุวเสน เวทิตพฺพา. นิพฺพตฺติตปสาทานฺหิ โรโค นาม นตฺถิ. กณฺณโรโคติ พหิกณฺณโรโค. มุขโรโคติ มุเข อุปฺปนฺนโรโค. ทนฺตโรโคติ ทนฺตสูลํ. กาโสติ ขยโรโค. สาโสติ สฺวาโส อุคฺคารโรโค. ปินาโสติ พหินาสิกาย โรโค. ฑาโหติ อพฺภนฺตเร อุปฺปชฺชนโก อุณฺโห. มุจฺฉาติ ¶ สติวิสฺสชฺชนกา. ปกฺขนฺทิกาติ โลหิตปกฺขนฺทิกา อติสาโร. สูลาติ อามสูลา กุจฺฉิวาโต. วิสูจิกาติ มหนฺโต วิเรจนโก. กิลาโสติ สพโล. โสโสติ สุกฺขนโก โสสพฺยาธิ. อปมาโรติ อมนุสฺสคฺคาโห เวริยกฺขาพาโธ. ททฺทูติ ททฺทุปีฬกา. กณฺฑูติ ขุทฺทกปีฬกา. กจฺฉูติ มหากจฺฉุ. รขสาติ นเขหิ วิลิขิตฏฺาเน โรโค. ‘‘นขสา’’ติปิ ปาฬิ. วิตจฺฉิกาติ หตฺถตลปาทตเลสุ หีรํ หีรํ กตฺวา ผาเลนฺโต อุปฺปชฺชนกโรโค. โลหิตปิตฺตนฺติ โสณิตปิตฺตํ, รตฺตปิตฺตนฺติ ¶ วุตฺตํ โหติ. มธุเมโหติ สรีรพฺภนฺตเร อุกฺกฏฺโรโค. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อปิ จ มธุเมโห อาพาโธ อุกฺกฏฺโ’’ติ (ปาจิ. ๑๕).
อํสาติ อริสโรโค. ปีฬกาติ โลหิตปีฬกา. ภคํ ทาลยตีติ ภคนฺทลา, วจฺจมคฺคํ ผาเลตีติ อตฺโถ. ปิตฺตสมุฏฺานาติ ปิตฺเตน สมุฏฺานํ อุปฺปตฺติ เอเตสนฺติ ปิตฺตสมุฏฺานา. เต กิร ทฺวตฺตึส โหนฺติ. เสมฺหสมุฏฺานาทีสุปิ เอเสว นโย. สนฺนิปาติกาติ วาตปิตฺตเสมฺหานํ สนฺนิปาเตน ¶ เอกีภาเวน อุปฺปนฺนา. อาพาธฏฺเน อาพาธา. อุตุปริณามชาติ อุตุปริณาเมน. อจฺจุณฺหาติ สีเตน อุปฺปชฺชนกโรคา. วิสมปริหารชาติ อติฏฺานนิสชฺชาทินา วิสมปริหาเรน ชาตา. โอปกฺกมิกาติ วธพนฺธนาทินา อุปกฺกเมน ชาตา. กมฺมวิปากชาติ พลวกมฺมวิปากสมฺภูตา. สีตํ อุณฺหํ…เป… สมฺผสฺโสติ อิเม ปากฏา เอว. อิติ วาติ เอวํ วา. อิเม วุจฺจนฺตีติ นิคเมนฺโต อาห.
กตเม ปฏิจฺฉนฺนปริสฺสยาติ อปากฏา อจฺฉาทิตอุปทฺทวา ¶ กตเมติ ปุจฺฉติ. ตตฺถ กายทุจฺจริตนฺติ ปาณาติปาตอทินฺนาทานมิจฺฉาจารเจตนา เวทิตพฺพา. วจีทุจฺจริตนฺติ มุสาวาทปิสุณวาจาผรุสวาจาสมฺผปฺปลาปเจตนา เวทิตพฺพา. มโนทุจฺจริตนฺติ อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทิฏฺิโย เวทิตพฺพา. กาเย ปวตฺตํ, กายโต วา ปวตฺตํ, ทุฏฺุ จริตํ, กิเลสปูติกตฺตา วา ทุฏฺุ จริตนฺติ กายทุจฺจริตํ. วจีมโนทุจฺจริเตสุปิ เอเสว นโย.
กามียนฺตีติ กามา, ปฺจ กามคุณา. กาเมสุ ฉนฺโท กามจฺฉนฺโท. กามยตีติ วา กาโม, กาโม เอว ฉนฺโท, กามจฺฉนฺโท น กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท, น ธมฺมจฺฉนฺโท วา. กามตณฺหาว เอวํนามิกา. กุสลธมฺเม นีวรตีติ นีวรณํ, กามจฺฉนฺโท เอว นีวรณํ กามจฺฉนฺทนีวรณํ. เอวํ เสเสสุปิ. พฺยาปชฺชติ เตน จิตฺตํ ปูติภาวํ อุปคจฺฉติ, พฺยาปาทยติ วา วินยาจารรูปสมฺปตฺติหิตสุขาทีนีติ วา พฺยาปาโท. ถินนตา ถินํ. มิทฺธนตา มิทฺธํ, อนุสฺสาหสํหนนตา อสตฺติวิฆาตตา จาติ อตฺโถ. ถินฺจ มิทฺธฺจ ถินมิทฺธํ. ตตฺถ ถินํ อนุสฺสาหนลกฺขณํ, วีริยวิโนทนรสํ, สํสีทนปจฺจุปฏฺานํ. มิทฺธํ อกมฺมฺตาลกฺขณํ, โอนหนรสํ, ลีนภาวปจฺจุปฏฺานํ, ปจลายิกานิทฺทาปจฺจุปฏฺานํ วา. อุภยมฺปิ อรติตนฺทีวิชมฺภิตาทีสุ อโยนิโสมนสิการปทฏฺานนฺติ.
อุทฺธตสฺส ภาโว อุทฺธจฺจํ. ตํ อวูปสมลกฺขณํ วาตาภิฆาตจลชลํ วิย, อนวฏฺานรสํ วาตาภิฆาตจลธชปฏากํ วิย, ภนฺตตฺตปจฺจุปฏฺานํ ปาสาณาภิฆาตสมุทฺธตภสฺมํ วิย ¶ , เจตโส อวูปสโม อโยนิโสมนสิการปทฏฺานํ. จิตฺตวิกฺเขโปติ ทฏฺพฺพํ. กุจฺฉิตํ กตํ กุกตํ, ตสฺส ¶ ภาโว กุกฺกุจฺจํ. ตํ ปจฺฉานุตาปลกฺขณํ, กตากตานุโสจนรสํ, วิปฺปฏิสารปจฺจุปฏฺานํ, กตากตปทฏฺานํ ทาสพฺยํ วิย ทฏฺพฺพํ ¶ . อุทฺธจฺจฺจ กุกฺกุจฺจฺจ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ. วิคตา จิกิจฺฉาติ วิจิกิจฺฉา, สภาวํ วา วิจินนฺโต เอตาย กิจฺฉติ กิลมตีติ วิจิกิจฺฉา, สา สํสยลกฺขณา, สํสปฺปนรสา, อนิจฺฉยปจฺจุปฏฺานา, อเนกํสคฺคาหปจฺจุปฏฺานา วา, อโยนิโสมนสิการปทฏฺานา. ปฏิปตฺติอนฺตรายกราติ ทฏฺพฺพา.
รชฺชนลกฺขโณ ราโค. ทุสฺสนลกฺขโณ โทโส. มุยฺหนลกฺขโณ โมโห. กุชฺฌนลกฺขโณ โกโธ, จณฺฑิกฺกลกฺขโณ วา, อาฆาตกรณรโส, ทูสนปจฺจุปฏฺาโน. อุปนนฺธนลกฺขโณ อุปนาโห, เวรอปฺปฏินิสฺสชฺชนรโส, โกธานุพนฺธภาวปจฺจุปฏฺาโน. วุตฺตฺเจตํ ‘‘ปุพฺพกาลํ โกโธ, อปรกาลํ อุปนาโห’’ติอาทิ (วิภ. ๘๙๑).
ปรคุณมกฺขนลกฺขโณ มกฺโข. เตสํ วินาสนรโส, ตทจฺฉาทนปจฺจุปฏฺาโน. ยุคคฺคาหลกฺขโณ ปฬาโส, ปรคุเณหิ อตฺตโน คุณานํ สมีกรณรโส, ปเรสํ คุณปฺปมาเณน อุปฏฺานปจฺจุปฏฺาโน.
ปรสมฺปตฺติขียนลกฺขณา อิสฺสา, ตสฺส อกฺขมนลกฺขณา วา, ตตฺถ อนภิรติรสา, ตโต วิมุขภาวปจฺจุปฏฺานา. อตฺตโน สมฺปตฺตินิคูหนลกฺขณํ มจฺฉริยํ, อตฺตโน สมฺปตฺติยา ปเรหิ สาธารณภาวํ อกฺขมนรสํ, สงฺโกจนปจฺจุปฏฺานํ.
กตปาปปฏิจฺฉาทนลกฺขณา มายา, ตสฺส นิคูหนรสา, ตทาวรณปจฺจุปฏฺานา. อตฺตโน อวิชฺชมานคุณปฺปกาสนลกฺขณํ สาเยฺยํ, เตสํ สมุทาหรณรสํ, สรีรากาเรหิปิ เตสํ วิภูตกรณปจฺจุปฏฺานํ.
จิตฺตสฺส อุทฺธุมาตภาวลกฺขโณ ถมฺโภ, อปฺปติสฺสววุตฺติรโส, อมทฺทวปจฺจุปฏฺาโน. กรณุตฺตริยลกฺขโณ สารมฺโภ, วิปจฺจนีกตารโส, อคารวปจฺจุปฏฺาโน.
อุณฺณติลกฺขโณ มาโน, อหํการรโส, อุทฺธุมาตภาวปจฺจุปฏฺาโน. อพฺภุณฺณติลกฺขโณ อติมาโน, อติวิย อหํการรโส, อจฺจุทฺธุมาตภาวปจฺจุปฏฺาโน.
มตฺตภาวลกฺขโณ ¶ ¶ มโท, มทคฺคหณรโส, อุมฺมาทปจฺจุปฏฺาโน ¶ . ปฺจสุ กามคุเณสุ จิตฺตสฺส โวสฺสคฺคลกฺขโณ ปมาโท, โวสฺสคฺคานุปฺปทนรโส, สติวิปฺปวาสปจฺจุปฏฺาโนติ เอวํ อิเมสํ ธมฺมานํ ลกฺขณาทีนิ เวทิตพฺพานิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน ‘‘ตตฺถ กตโม โกโธ’’ติอาทินา วิภงฺเค (วิภ. ๘๙๑) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
วิเสสโต เจตฺถ อามิสคิทฺโธ อตฺตนา อลภนฺโต อฺสฺส ลาภิโน กุชฺฌติ, ตสฺส สกึ อุปฺปนฺโน โกโธ โกโธเยว. ตทุตฺตริ อุปนาโห. โส เอวํ กุทฺโธ อุปนยฺหนฺโต จ สนฺเตปิ อฺสฺส ลาภิโน คุณํ มกฺเขติ ‘‘อหมฺปิ ตาทิโส’’ติ จ ยุคคฺคาหํ คณฺหาติ. อยมสฺส มกฺโข จ ปลาโส จ, โส เอวํ มกฺขี ปลาสี ตสฺส ลาภสกฺการาทีสุ ‘‘กึ อิมสฺส อิมินา’’ติ อิสฺสติ ปทุสฺสติ, อยมสฺส อิสฺสา. สเจ ปนสฺส กาจิ สมฺปตฺติ โหติ, ตสฺสา เตน สาธารณภาวํ น สหติ, อิทมสฺส มจฺเฉรํ. ลาภเหตุ โข ปน อตฺตโน สนฺเตปิ โทเส ปฏิจฺฉาเทติ, อยมสฺส มายา. อสนฺเตปิ คุเณ ปกาเสติ, อิทมสฺส สาเยฺยํ. โส เอวํ ปฏิปนฺโน สเจ ปน ยถาธิปฺปายํ ลาภํ ลภติ, เตน ถทฺโธ โหติ อมุทุจิตฺโต ‘‘น อิทํ เอวํ กาตพฺพ’’นฺติ โอวทิตุํ อสกฺกุเณยฺโย, อยมสฺส ถมฺโภ. สเจ ปน นํ โกจิ กิฺจิ วทติ ‘‘น อิทํ เอวํ กาตพฺพ’’นฺติ, เตน สารทฺธจิตฺโต โหติ, ภากุฏิกมุโข ‘‘โก เม ตฺว’’นฺติ ปสยฺหภาณี, อยมสฺส สารมฺโภ. ตโต ถมฺเภน ‘‘อหเมว เสยฺโย’’ติ อตฺตานํ มฺนฺโต มานี โหติ. สารมฺเภน ‘‘เก อิเม’’ติ ปเร อติมฺนฺโต อติมานี, อยมสฺส มาโน จ อติมาโน จ. โส เตหิ มานาติมาเนหิ ชาติมทาทิอเนกรูปํ มทํ ชเนติ, มตฺโต สมาโน กามคุณาทิเภเทสุ วตฺถูสุ ปมชฺชติ, อยมสฺส มโท จ ปมาโท จาติ เวทิตพฺพํ.
สพฺเพ กิเลสาติ สพฺเพปิ อกุสลา ธมฺมา. อุปตาปนฏฺเน วิพาธนฏฺเน จ กิเลสา. กิเลสปูติกตฺตา ทุจฺจริตา. กิเลสทรถกรณฏฺเน ทรถา. อนฺโตฑาหาทิกรณฏฺเน ¶ ปริฬาหา. สทา ตาปนฏฺเน สนฺตาปา. อโกสลฺลสมฺภูตฏฺเน อภิสงฺขรณฏฺเน จ สพฺเพ อกุสลาภิสงฺขารา.
เกนฏฺเนาติ ¶ เกน อตฺเถน. อภิภวนาทิติวิธํ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปริสหนฺตีติ ปริสฺสยา’’ติอาทิมาห. ปริสหนฺตีติ ทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺติ อภิภวนฺติ. ปริหานาย สํวตฺตนฺตีติ กุสลานํ ธมฺมานํ ปริจฺจชนาย สํวตฺตนฺติ. ตตฺราสยาติ ตสฺมึ สรีเร อกุสลา ธมฺมา อาสยนฺติ นิวสนฺติ อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. เต ปริสฺสยาติ กายทุจฺจริตาทโย อุปทฺทวา. กุสลานํ ธมฺมานํ อนฺตรายายาติ อุปริ วตฺตพฺพานํ สมฺมาปฏิปทาทิโต โกสลฺลสมฺภูตานํ ธมฺมานํ อนฺตรธานาย อทสฺสนตฺถาย สํวตฺตนฺติ. สมฺมาปฏิปทายาติ สุนฺทราย ปสฏฺาย วา ปฏิปทาย, น ¶ มิจฺฉาปฏิปทาย. อนุโลมปฏิปทายาติ อวิรุทฺธปฏิปทาย, น ปฏิโลมปฏิปทาย. อปจฺจนีกปฏิปทายาติ น ปจฺจนีกปฏิปทาย, อปจฺจตฺถิกปฏิปทาย. อนฺวตฺถปฏิปทายาติ อตฺถอนุคตาย ปฏิปทาย, อุปรูปริ วฑฺฒิตาย ปฏิปทาย. ยถา อตฺโถ, ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพาย ปฏิปทายาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อตฺตตฺถปฏิปทายา’’ติปิ ปาฬิ, ตํ น สุนฺทรํ. ธมฺมานุธมฺมปฏิปทายาติ ธมฺโม นาม นวโลกุตฺตรธมฺโม. อนุธมฺโม นาม วิปสฺสนาทิ. ตสฺส ธมฺมสฺส อนุรูปา ธมฺมปฏิปทา ธมฺมานุธมฺมปฏิปทา, ตสฺสา ธมฺมานุธมฺมปฏิปทาย.
สีเลสุ ปริปูริการิตายาติ ปาติโมกฺขสีเลสุ ปาริปูรึ กตฺวา ิตตาย. อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตายาติ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๑๓; อ. นิ. ๓.๑๖; ม. นิ. ๒.๒๔; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑๘) นเยน วุตฺเตสุ มนจฺฉฏฺเสุ อินฺทฺริเยสุ สุโคปิตทฺวารภาวสฺส. โภชเน มตฺตฺุตายาติ ปฏิคฺคหณาทีสุ ปมาณยุตฺตตาย. อลํสาฏกาทึ มฺุจิตฺวา มิตโภชนตาย.
ชาคริยานุโยคสฺสาติ ‘‘ทิวสํ จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธมฺเมหี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๖; ม. นิ. ๒.๒๔) เอวมาทินา นเยน ปฺจ ชาครณธมฺเม อนุโยคสฺส. สติสมฺปชฺสฺสาติ ¶ สพฺพกมฺมฏฺานภาวนานุยุตฺตานํ สพฺพโยคีนํ สพฺพทา อุปการกสฺส สติสมฺปชฺสฺส.
สติปฏฺานานนฺติ อารมฺมเณสุ โอกฺกนฺติตฺวา ปกฺกนฺทิตฺวา อุปฏฺานโต ปฏฺานํ, สติเยว ปฏฺานํ สติปฏฺานํ. กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ ปนสฺสา อสุภทุกฺขานิจฺจานตฺตาการคหณวเสน ¶ สุภสุขนิจฺจตฺตสฺาปหานกิจฺจสาธนวเสน จ ปวตฺติโต จตุธา ปเภโท โหติ, เตสํ จตุนฺนํ สติปฏฺานานํ.
จตุนฺนํ สมฺมปฺปธานานนฺติ ปทหนฺติ เอเตนาติ ปธานํ, โสภนํ ปธานํ สมฺมปฺปธานํ, สมฺมา วา ปทหนฺติ เอเตนาติ สมฺมปฺปธานํ, โสภนํ วา ตํ กิเลสวิรูปตฺตวิรหโต, ปธานฺจ หิตสุขนิปฺผาทกฏฺเน เสฏฺภาวาวหนโต, ปธานภาวกรณโต จาติ สมฺมปฺปธานํ, วีริยสฺเสตํ อธิวจนํ. อุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานฺจ จตุนฺนํ อกุสลกุสลานํ ปหานานุปฺปตฺติอุปฺปาทฏฺิติกิจฺจสาธนวเสน ปวตฺติโต ปนสฺส จตุธา ปเภโท โหติ, เตสํ จตุนฺนํ สมฺมปฺปธานานํ.
จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานนฺติ เอตฺถ ฉนฺทวีริยจิตฺตวีมํสาสุ เอเกโก อิชฺฌตีติ อิทฺธิ, สมิชฺฌติ ¶ นิปฺผชฺชตีติ อตฺโถ. อิชฺฌนฺติ วา เอตาย สตฺตา อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติ อิทฺธิ. ปเมน อตฺเถน อิทฺธิเยว ปาโทติ อิทฺธิปาโท, อิทฺธิโกฏฺาโสติ อตฺโถ. ทุติเยน อตฺเถน อิทฺธิยา ปาโทติ อิทฺธิปาโท, ปาโทติ ปติฏฺา อธิคมุปาโยติ อตฺโถ. เตน หิ ยสฺมา อุปรูปริวิเสสสงฺขาตํ อิทฺธึ ปชฺชนฺติ ปาปุณนฺติ, ตสฺมา ปาโทติ วุจฺจติ. เตสํ จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานํ.
สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานนฺติ โพธิยา, โพธิสฺส วา องฺคาติ โพชฺฌงฺคา. อิทํ วุตฺตํ โหติ, ยา เอสา ธมฺมสามคฺคี ยาย โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ อุปฺปชฺชมานาย ลีนุทฺธจฺจปติฏฺานายูหนกามสุขตฺตกิลมถานุโยคอุจฺเฉทสสฺสตาภินิเวสาทีนํ อเนเกสํ อุปทฺทวานํ ปฏิปกฺขภูตาย สติธมฺมวิจยวีริยปีติปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสงฺขาตาย ธมฺมสามคฺคิยา อริยสาวโก พุชฺฌตีติ กตฺวา ‘‘โพธี’’ติ ¶ วุจฺจติ, พุชฺฌตีติ กิเลสสนฺตานนิทฺทาย อุฏฺหติ, จตฺตาริ วา อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ, นิพฺพานเมว วา สจฺฉิกโรติ, ตสฺสา ธมฺมสามคฺคิสงฺขาตาย โพธิยา องฺคาติปิ โพชฺฌงฺคา ฌานงฺคมคฺคงฺคาทีนิ วิย. โย ปเนส ยถาวุตฺตปฺปการาย เอตาย ธมฺมสามคฺคิยา พุชฺฌตีติ กตฺวา อริยสาวโก ‘‘โพธี’’ติ วุจฺจติ, ตสฺส โพธิสฺส องฺคาติปิ โพชฺฌงฺคา เสนงฺครถงฺคาทโย วิย. เตนาหุ ¶ อฏฺกถาจริยา ‘‘พุชฺฌนกสฺส ปุคฺคลสฺส องฺคาติ โพชฺฌงฺคา’’ติ. เตสํ สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ.
อริยสฺส อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺสาติ อริโยติ ตํตํมคฺควชฺฌกิเลเสหิ อารกตฺตา อริยภาวกรตฺตา อริยผลปฏิลาภกรตฺตา จ อริโย. อฏฺงฺคานิ อสฺสาติ อฏฺงฺคิโก. สฺวายํ จตุรงฺคิกา วิย เสนา, ปฺจงฺคิกํ วิย จ ตูริยํ องฺคมตฺตเมว โหติ, องฺควินิมุตฺโต นตฺถิ. นิพฺพานํ มคฺคติ, กิเลเส วา มาเรนฺโต คจฺฉตีติ มคฺโค, ตสฺส อริยสฺส อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺส ภาวนานุโยคสฺส. อิเมสํ กุสลานํ ธมฺมานนฺติ วุตฺตปฺปการานํ โลกิยโลกุตฺตรกุสลธมฺมานํ. อนฺตรายายาติ โลกุตฺตรกุสลธมฺมานํ อนฺตรายาย อนฺตรธานาย โลกิยกุสลธมฺมานํ ปริจฺจาคาย.
เตสุ โลกุตฺตรกุสลธมฺมานํ อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทานฏฺเน ปริสฺสยา นาม. เต หิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌมานา อุปทฺทวํ นาวหนฺติ. ตตฺเถเตติ ตสฺมึ อตฺตภาเว เอเต. ปาปกาติ ลามกา. อตฺตภาวสนฺนิสฺสยาติ อตฺตภาวํ อุปนิสฺสาย อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺตภาวสนฺนิสฺสยา. ทเกติ อุทเก.
วุตฺตํ ¶ เหตนฺติ กถิตฺหิ เอตํ. สานฺเตวาสิโกติ อนฺเตวาสิกสงฺขาเตน กิเลเสน สห วสตีติ สานฺเตวาสิโก. สาจริยโกติ สมุทาจรณสงฺขาเตน กิเลเสน สห วสตีติ สาจริยโก.
จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ปสฺสิตฺวา. อุปริ โสเตน สทฺทํ สุตฺวาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อุปฺปชฺชนฺตีติ สมุทาจรนฺติ. สรสงฺกปฺปาติ นานารมฺมเณ สํสรณวเสน อุปฺปนฺนา ปริกปฺปา. สํโยชนิยาติ อารมฺมณภาวํ ¶ อุปคนฺตฺวา สํโยชนสมฺพนฺธเนน สํโยชนานํ หิตา. ตฺยสฺสาติ เต ปาปกา อสฺส ปุคฺคลสฺส. อนฺโต วสนฺตีติ อพฺภนฺตเร จิตฺเต นิวสนฺติ. อนฺวาสวนฺตีติ กิเลสสนฺตานํ อนุคนฺตฺวา ภุสํ สวนฺติ อนุพนฺธนฺติ. เต นนฺติ ตํ ปุคฺคลํ เอเต อกุสลา ธมฺมา. สมุทาจรนฺตีติ สมฺมา อาจรนฺติ ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ.
กิลิสฺสนฏฺเน มลา. สตฺตุอตฺเถน อมิตฺตา. เวริอตฺเถน สปตฺตา. หนนฏฺเน วธกา. ปจฺจามิตฺตฏฺเน ปจฺจตฺถิกา. อถ วา มลา สูริยสฺโสปกฺกิเลสวลาหกา วิย. อมิตฺตา สูริยสฺส ธูมํ วิย. สปตฺตา ¶ สูริยสฺส หิมํ วิย. วธกา สูริยสฺส รชํ วิย. ปจฺจตฺถิกา สูริยสฺส ราหุ วิย. ‘‘มลา สุวณฺณสฺส มลํ วิย จิตฺตปฺปภานาสกา. อมิตฺตา กาฬโลหมลํ วิย จิตฺเต สินิทฺธภาวนาสกา, สปตฺตา ยุคนทฺธํ ยุชฺฌนฺตา สปตฺตา วิย จิตฺเต ปติฏฺิตธมฺมธํสกา. วธกา มนุสฺสฆาตกา วิย ธมฺมฆาตกา. ปจฺจตฺถิกา รฺา อุปคตสฺส วินาโส วิย โมกฺขมคฺคสฺส ปฏิเสธกา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
อนตฺถชนโนติ น อตฺถํ อนตฺถํ, ตํ อนตฺถํ อุปฺปาเทตีติ อนตฺถชนโน. โก โส? โลโภ. จิตฺตปฺปโกปโนติ จิตฺตสฺส ปโกปโน จลโน, กุสลํ นิวาเรตฺวา จิตฺตํ รุนฺธตีติ อตฺโถ. ภยมนฺตรโต ชาตนฺติ อพฺภนฺตเร อตฺตโน จิตฺเตเยว ชาตํ, อนตฺถชนนาทิภยเหตุ. ตํ ชโน นาวพุชฺฌตีติ ตํ ภยํ พาลมหาชโน อวคนฺตฺวา โอตริตฺวา น ชานาติ. อตฺถนฺติ ลุทฺโธ ปุคฺคโล โลกิยโลกุตฺตรอตฺถํ น ชานาติ. ธมฺมนฺติ ตสฺส เหตุํ. อนฺธตมนฺติ พหลนฺธการํ. ยนฺติ ยสฺมา, ยํ นรํ วา. สหเตติ อภิภวติ.
อชฺฌตฺตนฺติ สกสนฺตาเน. อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺตีติ ปุพฺพนฺตโต อุทฺธํ อุปฺปชฺชมานา อหิตาย อุปฺปชฺชนฺติ ทุกฺขาย ¶ . ตทุภเยน อผาสุวิหาราย. อหิตายาติ เจตสิกทุกฺขตฺถาย. ทุกฺขายาติ กายิกทุกฺขตฺถาย. อผาสุวิหารายาติ ตทุภเยน น สุขวิหารตฺถาย. อถ วา ‘‘อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺตีติ ภวงฺคจลนโต ปฏฺาย ยาว โวฏฺพฺพนา, ตาว ¶ อุปฺปชฺชมานา นาม. โวฏฺพฺพนํ ปน ปตฺวา อนิวตฺตนภาเวน อุปฺปชฺชนฺติ นามา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
ตจสารํว สมฺผลนฺติ อตฺตโน ผเลน นาสิตํ ตจสารสงฺขาตํ เวฬุ วิย. อรตีติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ อุกฺกณฺิตตา. รตีติ ปฺจกามคุเณ อภิรติ. โลมหํโสติ กณฺฏกสทิโส หุตฺวา อุทฺธคฺคโลโม. อิโตนิทานาติ อยํ อตฺตภาโว นิทานํ ปจฺจโย เอเตสนฺติ อิโตนิทานา. อิโตชาติ อิโต อตฺตภาวโต ชาตา. อิโต สมุฏฺาย มโนวิตกฺกาติ ยถา ทีฆสุตฺตเกน ปาเท พทฺธํ กากํ กุมารกา ตสฺส สุตฺตสฺส ปริยนฺตํ องฺคุลึ เวเตฺวา โอสฺสชฺชนฺติ, โส ทูรํ ¶ คนฺตฺวาปิ ปุน เตสํ ปาทมูเลเยว ปตติ, เอวเมว อิโต อตฺตภาวโต สมุฏฺาย ปาปวิตกฺกา จิตฺตํ โอสฺสชฺชนฺติ.
‘‘สานฺเตวาสิโก’’ติอาทิกํ ปมสุตฺตํ กิเลเสน สหวาสํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อนฺตรามลา’’ติอาทิกํ ทุติยํ กุสลธมฺมมลีนกรณวเสน อตฺถานตฺถสฺส อชานนวเสน จ. ‘‘ตโย โข, มหาราช, ปุริสสฺส ธมฺมา อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมานา’’ติอาทิกํ ตติยํ อตฺตโน นิสฺสยฆาตนวเสน. ‘‘ราโค จ โทโส จ อิโตนิทานา’’ติอาทิกํ จตุตฺถํ กิเลสานํ ปติฏฺาทสฺสนวเสน วุตฺตนฺติ าตพฺพํ.
ตโต ตโต ปริสฺสยโตติ ตมฺหา ตมฺหา อุปทฺทวา. ตํ ปุคฺคลนฺติ วุตฺตปฺปการกิเลสสมงฺคีปุคฺคลํ. ทุกฺขํ อนฺเวตีติ ทุกฺขํ อนุ เอติ มาตุ ปจฺฉโต ขีรปิวโก วิย. อนุคจฺฉตีติ สมีปํ คจฺฉติ โจรฆาตโก วิย วชฺฌปฺปตฺตสฺส ¶ . อนฺวายิกํ โหตีติ สมฺปตฺตํ โหติ ธมฺมคนฺถิกาย ปริจฺเฉโท วิย. ชาติทุกฺขนฺติ ชาติสทฺทสฺส ตาว อเนเก อตฺถา ปเวทิตา. ยถา –
ภโว กุลํ นิกาโย จ, สีลํ ปฺตฺติ ลกฺขณํ;
ปสูติ สนฺธิ เจวาติ, ชาติอตฺถา ปเวทิตา.
ตถา หิสฺส ‘‘เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย’’ติอาทีสุ (ปารา. ๑๒; ที. นิ. ๑.๓๑; ม. นิ. ๒.๒๕๗) ภโว อตฺโถ. ‘‘อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทนา’’ติ (ที. นิ. ๑.๓๐๓) เอตฺถ กุลํ. ‘‘อตฺถิ, วิสาเข, นิคณฺา นาม สมณชาตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๗๑) เอตฺถ นิกาโย. ‘‘ยโตหํ, ภคินิ, อริยาย ชาติยา ชาโต นาภิชานามี’’ติ ¶ (ม. นิ. ๒.๓๕๑) เอตฺถ อริยสีลํ. ‘‘ติริยา นาม ติณชาติ นาภิยา อุคฺคนฺตฺวา นภํ อาหจฺจ ิตา อโหสี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๙๖) เอตฺถ ปฺตฺติ. ‘‘ชาติ ทฺวีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิตา’’ติ (ธาตุ. ๗๑) เอตฺถ สงฺขตลกฺขณํ. ‘‘สมฺปติชาโต, อานนฺท, โพธิสตฺโต’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๑; ม. นิ. ๓.๒๐๗) เอตฺถ ปสูติ. ‘‘ภวปจฺจยา ชาตี’’ติ (มหาว. ๑; อุทา. ๑; ม. นิ. ๑.๔๐๓; สํ. นิ. ๒.๕๓; วิภ. ๒๒๕; กถา. ๔๕๐) จ, ‘‘ชาติปิ ทุกฺขา’’ติ (มหาว. ๑๔; วิภ. ๑๙๐; ที. นิ. ๒.๓๘๗; ม. นิ. ๒.๓๗๓; สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) จ เอตฺถ ปริยายโต ปฏิสนฺธิกฺขโณ, นิปฺปริยายโต ปน ตตฺถ ตตฺถ นิพฺพตฺตมานานํ สตฺตานํ เย เย ขนฺธา ปาตุภวนฺติ, เตสํ เตสํ ปมปาตุภาโว ชาติ นาม.
กสฺมา ¶ ปเนสา ชาติ ทุกฺขาติ เจ? อเนเกสํ ทุกฺขานํ วตฺถุภาวโต. อเนกานิ หิ ทุกฺขานิ. เสยฺยถิทํ – ทุกฺขทุกฺขํ วิปริณามทุกฺขํ สงฺขารทุกฺขํ ปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ อปฺปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ ปริยายทุกฺขํ นิปฺปริยายทุกฺขนฺติ.
ตตฺถ กายิกเจตสิกา ทุกฺขเวทนา สภาวโต จ นามโต จ ทุกฺขตฺตา ‘‘ทุกฺขทุกฺข’’นฺติ วุจฺจติ.
สุขเวทนา วิปริณาเมน ทุกฺขุปฺปตฺติเหตุโต วิปริณามทุกฺขํ. อุเปกฺขาเวทนา เจว อวเสสา จ เตภูมกา สงฺขารา อุทยพฺพยปีฬิตตฺตา สงฺขารทุกฺขํ.
กณฺณสูลทนฺตสูลราคชปริฬาหโทสโมหชปริฬาหาทิ ¶ กายิกเจตสิโก อาพาโธ ปุจฺฉิตฺวา ชานิตพฺพโต อุปกฺกมสฺส จ อปากฏภาวโต ปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ. อปากฏทุกฺขนฺติปิ วุจฺจติ.
ทฺวตฺตึสกมฺมการณาทิสมุฏฺาโน อาพาโธ อปุจฺฉิตฺวาว ชานิตพฺพโต อุปกฺกมสฺส จ ปากฏภาวโต อปฺปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ. ปากฏทุกฺขนฺติปิ วุจฺจติ.
เปตฺวา ทุกฺขทุกฺขํ เสสํ ทุกฺขสจฺจวิภงฺเค อาคตํ ชาติอาทิ สพฺพมฺปิ ตสฺส ตสฺส ทุกฺขสฺส วตฺถุภาวโต ปริยายทุกฺขํ. ทุกฺขทุกฺขํ ปน นิปฺปริยายทุกฺขนฺติ วุจฺจติ.
ตตฺรายํ ¶ ชาติ ยํ ตํ พาลปณฺฑิตสุตฺตาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๔๖ อาทโย) ภควตาปิ อุปมาวเสน ปกาสิตํ อาปายิกํ ทุกฺขํ, ยฺจ สุคติยมฺปิ มนุสฺสโลเก คพฺโภกฺกนฺติมูลกาทิเภทํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส วตฺถุภาวโต ทุกฺขา.
ตตฺริทํ คพฺโภกฺกนฺติมูลกาทิเภทํ ทุกฺขํ – อยฺหิ สตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตมาโน น อุปฺปลปทุมปุณฺฑริกาทีสุ นิพฺพตฺตติ, อถ โข เหฏฺา อามาสยสฺส อุปริ ปกฺกาสยสฺส อุทรปฏลปิฏฺิกณฺฏกานํ เวมชฺเฌ ปรมสมฺพาเธ ติพฺพนฺธกาเร นานากุณปคนฺธปริภาวิเต อสุจิปรมทุคฺคนฺธปวนวิจริเต อธิมตฺตเชคุจฺเฉ กุจฺฉิปฺปเทเส ปูติมจฺฉปูติกุมฺมาสจนฺทนิกาทีสุ กิมิ วิย นิพฺพตฺตติ. โส ตตฺถ นิพฺพตฺโต ทส มาเส มาตุกุจฺฉิสมฺภเวน อุสฺมนา ปุฏปากํ วิย ปจฺจมาโน ปิฏฺปิณฺฑิ วิย เสทิยมาโน สมิฺชนปสารณาทิวิรหิโต ¶ อธิมตฺตํ ทุกฺขํ ปจฺจนุโภตีติ, อิทํ ตาว คพฺโภกฺกนฺติมูลกํ ทุกฺขํ.
ยํ ปน โส มาตุ สหสา อุปกฺขลนคมนนิสีทนวุฏฺานปริวตฺตนาทีสุ สุราธุตฺตหตฺถคโต เอฬโก วิย อหิตุณฺฑิกหตฺถคโต สปฺปโปตโก วิย จ อากฑฺฒนปริกฑฺฒนโอธุนนทฺธุนนาทินา อุปกฺกเมน อธิมตฺตํ ทุกฺขํ อนุภวติ, ยฺจ มาตุ สีตุทกปานกาเล สีตนรกุปปนฺโน วิย อุณฺหยาคุภตฺตาทิอชฺโฌหรณกาเล องฺคารวุฏฺิสมฺปริกิณฺโณ วิย โลณมฺพิลาทิอชฺโฌหรณกาเล ขาราปฏิจฺฉกาทิกมฺมการณปตฺโต วิย ติพฺพํ ทุกฺขํ อนุโภติ, อิทํ คพฺภปริหรณมูลกํ ทุกฺขํ.
ยํ ¶ ปนสฺส มูฬฺหคพฺภาย มาตุยา มิตฺตามจฺจสุหชฺชาทีหิปิ อทสฺสนารเห ทุกฺขุปฺปตฺติฏฺาเน เฉทนผาลนาทีหิ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, อิทํ คพฺภวิปตฺติมูลกํ ทุกฺขํ.
ยํ วิชายมานาย มาตุยา กมฺมเชหิ วาเตหิ ปริวตฺเตตฺวา นรกปปาตํ วิย อติภยานกํ โยนิมคฺคํ ปฏิปาติยมานสฺส ปรมสมฺพาเธน จ โยนิมุเขน ตาฬจฺฉิคฺคเฬน วิย มหานาคสฺส นิกฑฺฒิยมานสฺส นรกสตฺตสฺส วิย จ สงฺฆาตปพฺพเตหิ วิจุณฺณิยมานสฺส ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, อิทํ วิชายนมูลกํ ทุกฺขํ.
ยํ ปน ชาตสฺส ตรุณวณสทิสสุขุมาลสรีรสฺส หตฺถคฺคหณนฺหาปนโธวนโจฬปริมชฺชนาทิกาเล สูจิมุขขุรธาราหิ วิชฺฌนผาลนสทิสํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, อิทํ มาตุกุจฺฉิโต พหินิกฺขมนมูลกํ ทุกฺขํ.
ยํ ¶ ปน ตโต ปรํ ปวตฺติยํ อตฺตนาว อตฺตานํ วเธนฺตสฺส อเจลกวตาทิวเสน อาตาปนปริตาปนานุโยคมนุยุตฺตสฺส โกธวเสน อภฺุชนฺตสฺส อุพฺพนฺธนฺตสฺส จ ทุกฺขํ โหติ, อิทํ อตฺตูปกฺกมมูลกํ ทุกฺขํ.
ยํ ปน ปรโต วธพนฺธนาทีนิ อนุภวนฺตสฺส ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, อิทํ ปรูปกฺกมมูลกํ ทุกฺขนฺติ.
อิติ อิมสฺส สพฺพสฺสาปิ ทุกฺขสฺส อยํ ชาติ วตฺถุเมว โหติ, อิทํ ชาติทุกฺขํ อนฺเวติ.
ชราทุกฺขนฺติ ¶ ทุวิธา ชรา – สงฺขตลกฺขณฺจ ขณฺฑิจฺจาทิสมฺมโต สนฺตติยํ เอกภวปริยาปนฺโน ขนฺธปุราณภาโว จ, สา อิธ อธิปฺเปตา. สา ปเนสา ทุกฺขา สงฺขารทุกฺขภาวโต เจว ทุกฺขวตฺถุโต จ. ยํ หิทํ องฺคปจฺจงฺคสิถิลภาวโต อินฺทฺริยวิการวิรูปตา โยพฺพนวินาสพลูปฆาตสติมติวิปฺปวาสปรปริภวาทิอเนกปจฺจยํ กายิกเจตสิกํ ทุกฺขมุปฺปชฺชติ, ชรา ตสฺส วตฺถุ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘องฺคานํ ¶ สิถิลภาวา, อินฺทฺริยานํ วิการโต;
โยพฺพนสฺส วินาเสน, พลสฺส อุปฆาตโต.
‘‘วิปฺปวาสา สตาทีนํ, ปุตฺตทาเรหิ อตฺตโน;
อปฺปสาทนียโต เจว, ภิยฺโย พาลตฺตปตฺติยา.
‘‘ปปฺโปติ ทุกฺขํ ยํ มจฺโจ, กายิกํ มานสํ ตถา;
สพฺพเมตํ ชราเหตุ, ยสฺมา ตสฺมา ชรา ทุขา’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๒; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๒);
อิทํ ชราทุกฺขํ อนฺเวตีติ สมฺพนฺโธ. พฺยาธีติ วิวิธํ ทุกฺขํ อาทหติ วิทหตีติ พฺยาธิ. พฺยาธยติ ตาปยติ กมฺปยตีติ วา พฺยาธิ.
มรณทุกฺขนฺติ เอตฺถาปิ ทุวิธํ มรณํ สงฺขตลกฺขณฺจ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ชรามรณํ ทฺวีหิ ¶ ขนฺเธหิ สงฺคหิต’’นฺติ (ธาตุ. ๗๑). เอกภวปริยาปนฺนชีวิตินฺทฺริยปพนฺธวิจฺเฉโท จ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘นิจฺจํ มรณโต ภย’’นฺติ (สุ. นิ. ๕๘๑; ชา. ๑.๑๑.๘๘). ตํ อิธ อธิปฺเปตํ. ชาติปจฺจยา มรณํ อุปกฺกมมรณํ สรสมรณํ อายุกฺขยมรณํ ปฺุกฺขยมรณนฺติปิ ตสฺเสว นามํ. ปุน ขณิกมรณํ สมฺมุติมรณํ สมุจฺเฉทมรณนฺติ อยมฺปิ เภโท เวทิตพฺโพ. ปวตฺเต รูปารูปธมฺมานํ เภโท ขณิกมรณํ นาม. ติสฺโส มโต ผุสฺโส มโตติ อิทํ ปรมตฺถโต สตฺตสฺส อภาวา, สสฺสํ มตํ, รุกฺโข มโตติ อิทมฺปิ ชีวิตินฺทฺริยสฺส อภาวา สมฺมุติมรณํ นาม. ขีณาสวสฺส อปฺปฏิสนฺธิกา กาลกิริยา สมุจฺเฉทมรณํ นาม. พาหิรสมฺมุติมรณํ เปตฺวา อิตรํ สมฺมุติมรณฺจ อิธ ยถาวุตฺตปฺปพนฺธวิจฺเฉทนภาเวน สงฺคหิตํ, ทุกฺขสฺส ปน วตฺถุภาวโต ทุกฺขํ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ปาปสฺส ¶ ปาปกมฺมาทิ-นิมิตฺตมนุปสฺสโต;
ภทฺทสฺสาปสหนฺตสฺส, วิโยคํ ปิยวตฺถุกํ;
มียมานสฺส ยํ ทุกฺขํ, มานสํ อวิเสสโต.
‘‘สพฺเพสฺจาปิ ¶ ยํ สนฺธิ-พนฺธนจฺเฉทนาทิกํ;
วิตุชฺชมานมมฺมานํ, โหติ ทุกฺขํ สรีรชํ.
‘‘อสยฺหมปฺปติการํ, ทุกฺขสฺเสตสฺสิทํ ยโต;
มรณํ วตฺถุ เตเนตํ, ทุกฺขมิจฺเจว ภาสิต’’นฺติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๓; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๓);
โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสทุกฺขนฺติ เอตฺถ โสกาทีสุ โสโก นาม าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺสฺส อนฺโตนิชฺฌานลกฺขโณ จิตฺตสนฺตาโป. ทุกฺโข ปนสฺส ทุกฺขทุกฺขตฺตา เจว ทุกฺขสฺส จ วตฺถุภาวโต. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘สตฺตานํ หทยํ โสโก, สลฺลํ วิย วิตุชฺชติ;
อคฺคิตตฺโตว นาราโจ, ภุสฺจ ฑหเต ปุน.
‘‘สมาวหติ ¶ จ พฺยาธิ-ชรามรณเภทนํ;
ทุกฺขมฺปิ วิวิธํ ยสฺมา, ตสฺมา ทุกฺโขติ วุจฺจตี’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๔; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๔);
ปริเทโว นาม าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺสฺส วจีปลาโป. ทุกฺโข ปนสฺส สํสารทุกฺขภาวโต ทุกฺขวตฺถุโต จ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ยํ โสกสลฺลวิหโต ปริเทวมาโน, กณฺโฏฺตาลุตลโสสชมปฺปสยฺหํ;
ภิยฺโยธิมตฺตมธิคจฺฉติเยว ทุกฺขํ, ทุกฺโขติ เตน ภควา ปริเทวมาหา’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๕; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๕);
ทุกฺขํ นาม กายปีฬนลกฺขณํ กายิกํ ทุกฺขํ. ทุกฺขํ ปนสฺส ทุกฺขทุกฺขตฺตา เจว มานสทุกฺขาวหนโต จ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ปีเฬติ กายิกมิทํ, ทุกฺขํ ทุกฺขฺจ มานสํ ภิยฺโย;
ชนยติ ยสฺมา ตสฺมา, ทุกฺขนฺติ วิเสสโต วุตฺต’’นฺติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๖-๑๙๗; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๖);
โทมนสฺสํ ¶ ¶ นาม จิตฺตปีฬนลกฺขณํ มานสํ ทุกฺขํ. ทุกฺขํ ปนสฺส ทุกฺขทุกฺขตฺตา เจว กายิกทุกฺขาวหนโต จ. เจโตทุกฺขสมปฺปิตา หิ เกเส ปกิริย กนฺทนฺติ, อุรานิ ปติปิเสนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ, วิวฏฺฏนฺติ, ฉินฺนปปาตํ ปปตนฺติ, สตฺถํ อาหรนฺติ, วิสํ ขาทนฺติ, รชฺชุยา อุพฺพนฺธนฺติ, อคฺคึ ปวิสนฺติ, นานปฺปการํ ทุกฺขํ อนุภวนฺติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ปีเฬติ ยโต จิตฺตํ, กายสฺส จ ปีฬนํ สมาวหติ;
ทุกฺขนฺติ โทมนสฺสมฺปิ, โทมนสฺสํ ตโต อหู’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๖-๑๙๗; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๗);
อุปายาโส นาม าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺสฺส อธิมตฺตเจโตทุกฺขปฺปภาวิโต โทโสเยว. สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺโน เอโก ธมฺโมติ เอเก. ทุกฺโข ปนสฺส สงฺขารทุกฺขภาวโต จิตฺตํ ปริทหนโต กายสฺส วิหนนโต จ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘จิตฺตสฺส ¶ จ ปริทหนา, กายสฺส วิหนนโต จ อธิมตฺตํ;
ยํ ทุกฺขมุปายาโส, ชเนติ ทุกฺโข ตโต วุตฺโต’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๘; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๘);
เอตฺถ จ มนฺทคฺคินา อนฺโตภาชเน ปาโก วิย โสโก, ติกฺขคฺคินา ปจฺจมานสฺส ภาชนโต พหิ นิกฺขมนํ วิย ปริเทโว, พหิ นิกฺขนฺตาวเสสสฺส นิกฺขมิตุมฺปิ อปฺปโหนฺตสฺส อนฺโตภาชเนเยว ยาว ปริกฺขยา ปาโก วิย อุปายาโส ทฏฺพฺโพ.
เนรยิกํ ทุกฺขนฺติ นิรเย ปฺจวิธพนฺธนาทิกํ ทุกฺขํ อนฺเวติ, ตํ เทวทูตสุตฺเตน ทีเปตพฺพํ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ชาเยถ โน เจ นรเกสุ สตฺโต, ตตฺถคฺคิทาหาทิกมปฺปสยฺหํ;
ลเภถ ทุกฺขํ นุ กุหึ ปติฏฺํ, อิจฺจาห ทุกฺขาติ มุนีธ ชาติ’’นฺติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๑; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๑);
ติรจฺฉานโยนิกํ ¶ ทุกฺขนฺติ ติรจฺฉาเนสุ กสาปโตทตาฬนวิชฺฌนาทิกํ อเนกวิธํ ทุกฺขํ อนฺเวติ, ตํ พาลปณฺฑิตสุตฺตโต คเหตพฺพํ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ทุกฺขํ ¶ ติรจฺเฉสุ กสาปโตททณฺฑาภิฆาตาทิภวํ อเนกํ;
ยํ ตํ กถํ ตตฺถ ภเวยฺย ชาตึ, วินา ตหึ ชาติ ตโตปิ ทุกฺขา’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๑; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๑);
เปตฺติวิสยิกํ ทุกฺขนฺติ เปเตสุ ปน ขุปฺปิปาส วาตาตปาทินิพฺพตฺตํ ทุกฺขฺจ โลกนฺตเร ติพฺพนฺธกาเร อสยฺหสีตาทิทุกฺขฺจ อนฺเวติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘เปเตสุ ทุกฺขํ ปน ขุปฺปิปาสาวาตาตปาทิปฺปภวํ วิจิตฺตํ;
ยสฺมา อชาตสฺส น ตตฺถ อตฺถิ, ตสฺมาปิ ทุกฺขํ มุนิ ชาติมาห.
‘‘ติพฺพนฺธกาเร ¶ จ อสยฺหสีเต, โลกนฺตเร ยํ อสุเรสุ ทุกฺขํ;
น ตํ ภเว ตตฺถ น จสฺส ชาติ, ยโต อยํ ชาติ ตโตปิ ทุกฺขา’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๑; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๑);
มานุสิกํ ทุกฺขนฺติ มนุสฺเสสุ วธพนฺธนาทิกํ ทุกฺขํ. คพฺโภกฺกนฺติมูลกํ ทุกฺขนฺติ ‘‘อยฺหิ สตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตมาโน น อุปฺปลปทุมปุณฺฑริกาทีสุ นิพฺพตฺตตี’’ติอาทินา นเยน ยํ ชาติทุกฺขํ วุตฺตํ, อิทํ ตาว คพฺโภกฺกนฺติมูลกํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. คพฺเภ ิติมูลกํ ทุกฺขนฺติ ยํ ปน ‘‘โส มาตุ สหสา อุปกฺขลนคมนนิสีทนา’’ติอาทินา นเยน ยํ ติพฺพํ ทุกฺขํ วุตฺตํ, อิทํ คพฺเภ ิติมูลกํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. คพฺภา วุฏฺานมูลกํ ทุกฺขนฺติ ‘‘ยํ ปนสฺส มูฬฺหคพฺภาย มาตุยา มิตฺตามจฺจสุหชฺชาทีหิปิ อทสฺสนารเห ทุกฺขุปฺปตฺติฏฺาเน’’ติอาทินา นเยน ยํ ทุกฺขํ วุตฺตํ, อิทํ ¶ มาตุกุจฺฉิโต พหิ นิกฺขนฺตมูลกํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ยฺจาปิ คูถนรเก วิย มาตุคพฺเภ,
สตฺโต วสํ จิรมโต พหิ นิกฺขมนฺจ;
ปปฺโปติ ทุกฺขมติโฆรมิทมฺปิ นตฺถิ,
ชาตึ วินา อิติปิ ชาติ อยฺหิ ทุกฺขา.
‘‘กึ ¶ ภาสิเตน พหุนา นนุ ยํ กุหิฺจิ,
อตฺถีธ กิฺจิรปิ ทุกฺขมิทํ กทาจิ;
เนวตฺถิ ชาติวิรเห ยทโต มเหสิ,
ทุกฺขาติ สพฺพปมํ อิมมาห ชาติ’’นฺติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๑; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๑);
ชาตสฺสูปนิพนฺธกํ ทุกฺขนฺติ ชาตสฺส อุปนิพนฺธนํ นฺหานเลปนขาทนปิวนาทิชคฺคนทุกฺขํ อนฺเวติ. ชาตสฺส ปราเธยฺยกํ ทุกฺขนฺติ ปรสฺส อฺสฺส อายตฺตํ อิสฺสริยทุกฺขํ อนฺเวติ. ‘‘สพฺพํ ปรวสํ ทุกฺข’’นฺติ หิ วุตฺตํ. อตฺตูปกฺกมํ ทุกฺขนฺติ ยํ อตฺตนาว อตฺตานํ วเธนฺตสฺส อเจลกวตาทิวเสน อาตาปนปริตาปนานุโยคมนุยุตฺตสฺส โกธวเสน อภฺุชนฺตสฺส อุพฺพนฺธนฺตสฺส จ ทุกฺขํ โหติ, อิทํ อตฺตูปกฺกมํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. ปรูปกฺกมํ ทุกฺขนฺติ ยํ ปรโต วธพนฺธนาทีนิ อนุภวนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ, อิทํ ปรูปกฺกมํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. ทุกฺขทุกฺขนฺติ ¶ กายิกเจตสิกา ทุกฺขา เวทนา สภาวโต จ นามโต จ ทุกฺขตฺตา ทุกฺขทุกฺขํ, อิทํ ทุกฺขทุกฺขํ อนฺเวติ. สงฺขารทุกฺขนฺติ อุเปกฺขาเวทนา เจว อวเสสา จ เตภูมกสงฺขารา อุทยพฺพยปีฬิตตฺตา สงฺขารทุกฺขํ, อิทํ สงฺขารทุกฺขํ อนฺเวติ. วิปริณามทุกฺขนฺติ สุขเวทนา วิปริณามทุกฺขสฺส เหตุโต วิปริณามทุกฺขํ, อิทํ วิปริณามทุกฺขํ อนฺเวติ.
มาตุมรณนฺติ ¶ มาตุยา มรณํ. ปิตุมรณนฺติ ปิตุโน มรณํ. ภาตุมรณนฺติ เชฏฺกนิฏฺภาตูนํ มรณํ. ภคินิมรณนฺติ เชฏฺกนิฏฺภคินีนํ มรณํ. ปุตฺตมรณนฺติ ปุตฺตานํ มรณํ. ธีตุมรณนฺติ ธีตูนํ มรณํ. าติพฺยสนํ ทุกฺขนฺติ าตีนํ พฺยสนํ, โจรโรคภยาทีหิ าติกฺขโย, าติวินาโสติ อตฺโถ. เตน าติพฺยสเนน ผุฏฺสฺส อชฺโฌตฺถฏสฺส อภิภูตสฺส อุปฺปนฺนํ ทุกฺขํ าติพฺยสนํ ทุกฺขํ, ตํ าติพฺยสนํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – โภคานํ พฺยสนํ โภคพฺยสนํ, ราชโจราทิวเสน โภคกฺขโย, โภควินาโสติ อตฺโถ. วุตฺตนเยน ตํ โภคพฺยสนํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. โรคพฺยสนนฺติ โรโค เอว พฺยสนํ โรคพฺยสนํ. โรโค หิ อาโรคฺยํ พฺยสติ วินาเสตีติ พฺยสนํ, วุตฺตนเยน ตํ โรคพฺยสนํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. สีลพฺยสนํ ทุกฺขนฺติ สีลสฺส พฺยสนํ สีลพฺยสนํ, ทุสฺสีลฺยสฺเสตํ นามํ. วุตฺตนเยน ¶ ตํ สีลพฺยสนํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. สมฺมาทิฏฺึ วินาสยมานา อุปฺปนฺนา ทิฏฺิเยว พฺยสนํ ทิฏฺิพฺยสนํ, วุตฺตนเยน ตํ ทิฏฺิพฺยสนํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. เอตฺถ จ ปุริมานิ ทฺเว อนิปฺผนฺนานิ, ปจฺฉิมานิ ตีณิ นิปฺผนฺนานิ ติลกฺขณาหตานิ. ปุริมานิ จ ตีณิ เนว กุสลานิ นากุสลานิ. สีลทิฏฺิพฺยสนทฺวยํ อกุสลํ.
ยถาติ โอปมฺเม. ภินฺนํ นาวนฺติ สิถิลพนฺธนํ นาวํ, ชชฺชรีภูตํ วา ปทรุคฺฆาฏิมํ วา. ทกเมสินฺติ อุทกทายึ อุทกปฺปเวสนึ. ตโต ตโต อุทกํ อนฺเวตีติ ตโต ตโต ภินฺนฏฺานโต อุทกํ ปวิสติ. ปุรโตปีติ นาวาย ปุริมภาคโตปิ. ปจฺฉโตปีติ ตสฺสา ปจฺฉิมภาคโตปิ. เหฏฺโตปีติ อโธภาคโตปิ. ปสฺสโตปีติ อุภยปสฺสโตปิ. ยํ อนฺตรนฺตรา น วุตฺตํ, ตํ ปาานุสาเรน เวทิตพฺพํ.
ตสฺมา ¶ กายคตาสติอาทิภาวนาย ชนฺตุ, สทา สโต หุตฺวา วิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทวเสน รูปาทีสุ วตฺถุกาเมสุ สพฺพปฺปการมฺปิ กิเลสกามํ ปริวชฺเชนฺโต กามานิ ปริวชฺเชยฺย. เอวํ เต กาเม ปหาย ตปฺปหานกรมคฺเคเนว จตุพฺพิธมฺปิ โอฆํ ตเรยฺย ตริตุํ สกฺกุเณยฺย. ตโต ยถา ปุริโส ครุกํ นาวํ อุทกํ สิฺจิตฺวา ลหุกาย นาวาย อปฺปกสิเรเนว ปารคู ภเวยฺย ปารํ ¶ คจฺเฉยฺย, เอวเมวํ อตฺตภาวนาวํ กิเลสูทกครุกํ สิฺจิตฺวา ลหุเกน อตฺตภาเวน ปารคู ภเวยฺย. สพฺพธมฺมปารํ นิพฺพานํ คโต ภเวยฺย, อรหตฺตปฺปตฺติยา คจฺเฉยฺย อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพาเนนาติ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ.
ตสฺมาติ ยสฺมา ชาติอาทิกํ ทุกฺขํ เอตํ ปุคฺคลํ อนฺเวติ, ตสฺมา. ตํการณา ตํเหตูติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ยสฺมา วุตฺตปฺปการทุกฺขํ เอตํ อนฺเวติ, ตํเหตุ. ยสฺมา อนฺเวติ ตปฺปจฺจยา, ยสฺมา อนฺเวติ ตํนิทานนฺติ เอวํ ปทโยชนา กาตพฺพา. เหตูติอาทีนิ การณเววจนานิ. การณฺหิ เตน ตสฺส ผลํ หิโนติ ปวตฺตตีติ เหตุ. ตํ ตํ ปฏิจฺจ ผลํ เอติ ปวตฺตตีติ ปจฺจโย. ‘‘หนฺท นํ คณฺหถา’’ติ ทสฺเสนฺตํ วิย อตฺตโน ผลํ นิเทตีติ นิทานํ.
‘‘ตํการณาติ อการณนิกฺการณปฏิเสโธ. ตํเหตูติ อเหตุมหาภูตเหตุปฏิเสโธ. ตปฺปจฺจยาติ อปฺปจฺจเยน สทฺธึ อสาธารณปจฺจยปฏิเสโธ ¶ . ตํนิทานาติ อนิทาเนน สห อาคมาธิคมนิทานปฏิเสโธ’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. เอตํ อาทีนวํ สมฺปสฺสมาโนติ เอตํ วุตฺตปฺปการํ อุปทฺทวํ วิปสฺสนาาเณน สมฺมา ปสฺสมาโน ทกฺขมาโน.
สทาติ มูลปทํ. ปุน สทาติ อตฺถปทํ. สทาติ สพฺพทิวเส. สพฺพทาติ สพฺพสฺมึ กาเล. สพฺพกาลนฺติ ปุพฺพณฺหาทิสพฺพกาลํ. นิจฺจกาลนฺติ ทิวเส ทิวเส. ธุวกาลนฺติ อพฺโพจฺฉินฺนกาลํ. สตตนฺติ นิรนฺตรํ. สมิตนฺติ เอกีภูตํ. อพฺโพกิณฺณนฺติ อฺเน อสมฺมิสฺสํ. โปงฺขานุโปงฺขนฺติ ปฏิปาฏิยา ฆฏิตํ ‘‘โปงฺขานุโปงฺขํ อวิราธิตํ ¶ อุปฏฺาตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๑๑๑๕) วิย. อุทกูมิกชาตนฺติ นิพฺพตฺตอุทกอูมิตรงฺคํ วิย. อวีจีติ อวิรฬํ. สนฺตตีติ อนุปจฺฉินฺนํ. สหิตนฺติ ฆฏิตํ เอกีภูตํ วา ‘‘สหิตํ เม, อสหิตํ เต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๐๒) วิย. ผสฺสิตนฺติ ผุสิตํ ‘‘นิวาเต ผุสิตคฺคเล’’ติอาทีสุ วิย. ปุเรภตฺตํ ปจฺฉาภตฺตนฺติ ทฺเว ปทานิ ทิวากาลวิภาควเสน. ปุริมํ ยามํ มชฺฌิมํ ยามํ ปจฺฉิมํ ยามนฺติ ตีณิ รตฺติวิภาควเสน. กาเฬ ชุณฺเหติ อฑฺฒมาสวเสน. วสฺเส…เป… คิมฺเหติ ตีณิ อุตุวเสน. ปุริเม วโยขนฺเธ…เป… ปจฺฉิเม วโยขนฺเธติ ตีณิ วโยวิภาควเสน วุตฺตานีติ าตพฺพํ.
สโตติ จตูหิ การเณหิ สโต. ‘‘กาเย กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ ภาเวนฺโต สโต’’ติอาทีนิ ‘‘เอวํ สมุจฺเฉทโต กาเม ปริวชฺเชยฺยา’’ติ ปริโยสานานิ วุตฺตตฺถาเนว. อปิ ¶ จ สตฺตตฺตา สโตติ ตีสุ วตฺถูสุ สตฺตภาเวน วา ตโย กิเลเส ปฏิกฺกมาเปตุํ สตฺติภาเวน วา สตตฺตา สโต. สนฺตตฺตาติ กิเลโสปกฺกิเลเส ปลาเปตฺวา าเนน จ อารมฺมเณน จ ปโมเจตฺวา สนฺตตฺตา สโต. สมิตตฺตาติ อิฏฺผลทายกปฺุเน จ อนิฏฺผลทายกปาเปน จ สมิตตฺตา สโต. สนฺตธมฺมสมนฺนาคโตติ สปฺปุริสธมฺเม ภชนโต พุทฺธาทิอริยปุคฺคเล เสวนโต สนฺตธมฺมสมนฺนาคตตฺตา สโต.
วตฺถุกาเม ปริชานิตฺวาติ เอเต วุตฺตปฺปกาเร เตภูมเก วตฺถุกาเม ตีรณปริฺาย ชานิตฺวา. ปหายาติ กิเลสกาเม ปหานปริฺาย ¶ ปริจฺจชิตฺวา. ปชหิตฺวาติ ฉฑฺเฑตฺวา. กึ กจวรํ วิย ปิฏเกนาติ? น หิ, อปิ จ โข ตํ วิโนเทตฺวา ตริตฺวา วิชฺฌิตฺวา นีหริตฺวา. กึ พลิพทฺทมิว ปโตเทนาติ ¶ ? น หิ, อถ โข ตํ พฺยนฺตึ กริตฺวา วิคตนฺตํ กริตฺวา. ยถาสฺส อนฺโตปิ นาวสิสฺสติ, อนฺตมโส ภงฺคมตฺตมฺปิ, ตถา ตํ กริตฺวา. กถํ ปน ตํ ตถา กตนฺติ? อนภาวํ คเหตฺวา อนุ อภาวํ คเมตฺวา. สมุจฺเฉทปฺปหาเนน ยถา สมุจฺฉินฺนา โหติ, ตถา กริตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. เอส นโย กามจฺฉนฺทนีวรณาทีสุ.
กาโมฆนฺติอาทีสุ ปฺจกามคุณิกราโค อวสีทนฏฺเน ‘‘กาโมโฆ’’ติ วุจฺจติ. ภโวโฆติ รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค ฌานนิกนฺติ จ. ทิฏฺโโฆติ สสฺสตทิฏฺาทิสหคตา ภเว ปตฺถนาเยว, ทิฏฺโโฆ ภโวเฆ เอว สโมธานํ คจฺฉติ. อวิชฺโชโฆ จตูสุ สจฺเจสุ อฺาณํ. ตตฺถ กามคุเณ อสฺสาทโต มนสิ กโรโต อนุปฺปนฺโน จ กาโมโฆ อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน จ กาโมโฆ สํวฑฺฒติ. มหคฺคตธมฺเม อสฺสาทโต มนสิ กโรโต อนุปฺปนฺโน จ ภโวโฆ อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน จ สํวฑฺฒติ. เตภูมกธมฺเมสุ จตุวิปลฺลาสปทฏฺานภาเวน อนุปฺปนฺโน จ อวิชฺโชโฆ อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน จ สํวฑฺฒตีติ เวทิตพฺโพ. วุตฺตนยปจฺจนีกโต สุกฺกปกฺโข วิตฺถาเรตพฺโพ.
อปฺปณิหิตวิโมกฺขํ ปฏิปนฺโน กาโมฆํ, อนิมิตฺตวิโมกฺขํ ปฏิปนฺโน ภโวฆํ, สฺุตวิโมกฺขํ ปฏิปนฺโน อวิชฺโชฆฺจ ตเรยฺย. ปมมคฺควเสน ตเรยฺย, ทุติยมคฺควเสน อุตฺตเรยฺย, ตติยมคฺควเสน ปตเรยฺย, จตุตฺถมคฺควเสน สมติกฺกเมยฺย, ผลวเสน วีติวตฺเตยฺยาติ. อถ วา ‘‘กาโมฆวเสน ตเรยฺย, ภโวฆวเสน อุตฺตเรยฺย, ทิฏฺโฆวเสน ปตเรยฺย, อวิชฺโชฆวเสน สมติกฺกเมยฺย, สพฺโพฆวเสน วีติวตฺเตยฺยา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
ครุกนฺติ น สลฺลหุกํ. ภาริกนฺติ ภารภณฺฑํ เอตฺถ ปยนฺตีติ ภาริกํ. อุทกํ สิตฺวาติ ¶ อุทกํ ¶ สิฺจิตฺวา. โอสิฺจิตฺวาติ อติเรกํ สิฺจิตฺวา. ฉฑฺเฑตฺวาติ ปาเตตฺวา. ลหุกายาติ สลฺลหุกาย. ขิปฺปนฺติ สีฆํ. ลหุนฺติ ตํขณํ. อปฺปกสิเรเนวาติ นิทุกฺเขเนว. ปารํ วุจฺจติ อมตํ นิพฺพานนฺติ สกฺกายโอรโต ปารภูตํ ปารํ. ตณฺหาวานโต นิกฺขนฺตํ นิพฺพานํ ¶ กถียติ. โยโสติ โย เอโส. สพฺพสงฺขารสมโถติอาทิ สพฺพํ นิพฺพานเมว. ยสฺมา หิ ตํ อาคมฺม สพฺพสงฺขารวิปฺผนฺทิตานิ สมนฺติ วูปสมนฺติ, ตสฺมา ‘‘สพฺพสงฺขารสมโถ’’ติ วุจฺจติ. ยสฺมา เจตํ อาคมฺม สพฺเพ อุปธโย ปฏินิสฺสฏฺา โหนฺติ, สพฺพา ตณฺหา ขียนฺติ, สพฺเพ กิเลสรชฺชา วิรชฺชนฺติ, สพฺพํ ทุกฺขํ นิรุชฺฌติ, ตสฺมา ‘‘สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค, ตณฺหกฺขโย, วิราโค, นิโรโธ’’ติ วุจฺจติ. ยา ปเนสา ตณฺหา ภเวน ภวํ, ผเลน วา สทฺธึ กมฺมํ วินติ สํสิพฺพตีติ กตฺวา วานนฺติ วุจฺจติ, ตโต นิกฺขนฺตํ วานโตติ นิพฺพานํ. ปารํ คจฺเฉยฺย นิมิตฺตวเสน เอกโต วุฏฺานโคตฺรภุาเณน นิพฺพานปารํ ปาปุเณยฺย. อธิคจฺเฉยฺย นิมิตฺตปวตฺเตหิ อุภโตวุฏฺานมคฺคาเณน นิพฺพานปารํ วิเสเสน ปาปุเณยฺย. ผุเสยฺย นิพฺพานารมฺมณผลจิตฺตวเสน นิพฺพานปารํ ผุเสยฺย. สจฺฉิกเรยฺย คุณวเสน ผุสิตฺวา ปจฺจเวกฺขณาเณน นิพฺพานปารํ ปจฺจกฺขํ กเรยฺย. อถ วา ‘‘ปมมคฺเคน ปารํ คจฺเฉยฺย, ทุติเยน อธิคจฺเฉยฺย, ตติเยน ผุเสยฺย, จตุตฺเถน สจฺฉิ กเรยฺยา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. โยปิ ปารํ คนฺตุกาโมติ โย โกจิ วิปสฺสนาาเณ ิโต ปุคฺคโล นิพฺพานปารํ คนฺตุกาโม, โสปิ อวสฺสํ ตตฺถ คมิสฺสตีติ ปารคู. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘โอติณฺโณมฺหิ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหี’’ติอาทิ ¶ . ปุพฺพภาเค อชฺฌาสยวเสน วิปสฺสนาโยเคน จ, โสปิ ปารคู นาม. โยปิ ปารํ คจฺฉตีติ โยปิ มคฺคสมงฺคี นิพฺพานปารํ คจฺฉติ, โสปิ ปารคู นาม. โยปิ ปารํ คโตติ โยปิ มคฺเคน กิจฺจํ นิฏฺาเปตฺวา ผเล ิโต นิพฺพานปารงฺคโต, โสปิ ปารคู นาม.
ตํ ชินวจเนน ทสฺเสตุํ ‘‘วุตฺตมฺปิ เหตํ ภควตา – ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ’’ติอาทิมาห. อภิฺาปารคูติ อธิคเตน าเณน าตปริฺาย นิพฺพานปารํ คนฺตุกาโม คจฺฉติ, คโตติ ปารคู. ปริฺาปารคูติ สพฺพธมฺมานํ ตีรณปริฺาย สมติกฺกมิตฺวา วุตฺตนเยน ปารคู. ปหานปารคูติ สมุทยปกฺขิกานํ กิเลสานํ ปหานปริฺาย สมติกฺกมิตฺวา วุตฺตนเยน ปารคู. โย หิ สพฺพธมฺมํ ปริชานาติ, โส ตีหิ ปริฺาหิ ปริชานาติ าตปริฺาย ตีรณปริฺาย ปหานปริฺายาติ. ตตฺถ กตมา าตปริฺา? สพฺพธมฺมํ ชานาติ ‘‘อิเม อชฺฌตฺติกา, อิเม พาหิรา, อิทมสฺส ลกฺขณํ, อิมานิ รสปจฺจุปฏฺานปทฏฺานานี’’ติ, อยํ ¶ าตปริฺา. กตมา ตีรณปริฺา? เอวํ าตํ กตฺวา ลพฺภมานวเสน สพฺพธมฺมํ ตีเรติ ‘‘อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๓.๑๒๒), อยํ ¶ ตีรณปริฺา. กตมา ปหานปริฺา? เอวํ ตีรยิตฺวา อคฺคมคฺเคน ธมฺเมสุ ฉนฺทราคํ ปชหติ, อยํ ปหานปริฺาติ. อิมา ปริฺาโย สนฺธาย ‘‘โส อภิฺาปารคู ปริฺาปารคู ปหานปารคู’’ติ อาห.
ภาวนาปารคูติ ภาวนาย โกฏึ ปตฺวา มคฺควเสน นิพฺพานปารํ คโต. สจฺฉิกิริยาปารคูติ ผลนิพฺพานวเสน สจฺฉิ กิริยาผลนิพฺพานปารํ คโต. สมาปตฺติปารคูติ อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ ปารํ ปตฺโต. สพฺพธมฺมานนฺติ ปฺจกฺขนฺธาทิสพฺพธมฺมานํ. สพฺพทุกฺขานนฺติ ชาติทุกฺขาทิสพฺพทุกฺขานํ. สพฺพกิเลสานนฺติ กายทุจฺจริตาทิสพฺพกิเลสานํ. อริยมคฺคานนฺติ โสตาปตฺติมคฺคาทิจตุนฺนํ อริยมคฺคานํ ¶ . นิโรธสฺสาติ นิพฺพานสฺส. สพฺพสมาปตฺตีนนฺติ สพฺพาสมฺปิ อฏฺนฺนํ รูปารูปสมาปตฺตีนํ. โสติ โส อริโย. วสิปฺปตฺโตติ วสีภาวปฺปตฺโต. อถ วา กนฺตภาวํ อิสฺสริยภาวํ นิปฺผนฺนภาวํ ปตฺโต. ปารมิปฺปตฺโตติ ปารมีติ อวสานํ นิฏฺานํ, อุตฺตมภาวํ วา ตํ ปตฺโต. กตฺถ ปตฺโตติ อาห ‘‘อริยสฺมึ สีลสฺมิ’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อริยสฺมึ สีลสฺมินฺติ นิทฺโทเส สีลสฺมึ. อริยสฺมึ สมาธิสฺมินฺติ นิทฺโทเส สมาธิสฺมึ. อริยาย ปฺายาติ นิทฺโทสาย ปฺาย. อริยาย วิมุตฺติยาติ นิทฺโทสาย ผลวิมุตฺติยา. ปุริเมน วาจากมฺมนฺตาชีวา คหิตา, ทุติเยน วายามสติสมาธโย คหิตา, ตติเยน วิตกฺกสมฺมาทิฏฺิโย คหิตา, จตุตฺเถน ตํสมฺปยุตฺตา เสสธมฺมา คหิตาติ เวทิตพฺพา.
อนฺตคโตติ มคฺเคน สงฺขารโลกนฺตํ คโต. อนฺตปฺปตฺโตติ ตเมว โลกนฺตํ ผเลน ปตฺโต. โกฏิคโตติ มคฺเคน สงฺขารโกฏึ คโต. โกฏิปฺปตฺโตติ ตเมว โกฏึ ผเลน ปตฺโต. ปริยนฺตคโตติ มคฺเคน ขนฺธายตนาทิโลกปริยนฺตํ ปริจฺเฉทํ ปริวฏุมํ กตฺวา คโต. ปริยนฺตปฺปตฺโตติ ตเมว โลกํ ผเลน ปริยนฺตํ กตฺวา ปตฺโต. โวสานคโตติ มคฺเคน อวสานํ คโต. โวสานปฺปตฺโตติ ผเลน อวสานํ ปตฺโต. ตาณคโตติ มคฺเคน ตายนํ คโต. ตาณปฺปตฺโตติ ผเลน ตายนํ ปตฺโต. เลณคโตติ มคฺเคน นิลียนํ คโต. เลณปฺปตฺโตติ ตํ ผเลน นิลียนํ ปตฺโต. สรณคโตติ มคฺเคน ปติฏฺํ คโต. สรณปฺปตฺโตติ ผเลน สรณํ ปตฺโต ¶ . อภยคโตติ มคฺเคน นิพฺภยํ คโต. อภยปฺปตฺโตติ ผเลน นิพฺภยํ นิพฺพานํ ปตฺโต. อจฺจุตคโตติ จุติวิรหิตํ นิพฺพานํ มคฺเคน คโต. อจฺจุตปฺปตฺโตติ ตํ ผเลน ปตฺโต. อมตคโตติ มรณรหิตํ นิพฺพานํ มคฺเคน คโต. อมตปฺปตฺโตติ ตํ ผเลน ปตฺโต. นิพฺพานคโตติ ตณฺหาวานโต นิกฺขนฺตํ นิพฺพานํ มคฺเคน คโต. นิพฺพานปฺปตฺโตติ ตเมว ผเลน ปตฺโต. โส ¶ วุฏฺวาโสติ โส อรหา ทสสุ อริยวาเสสุ วสิ ปริวสิ วุฏฺโ วุฏฺาติ จ วุฏฺวาโส. จิณฺณจรโณติ สีเลน สห อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ จิณฺณวสีติ จิณฺณจรโณ. คตทฺโธติ สํสารทฺธานํ ¶ อติกฺกนฺโต. คตทิโสติ สุปินนฺเตนปิ อคตปุพฺพํ นิพฺพานทิสํ คโต. คตโกฏิโกติ อนุปาทิเสสนิพฺพานโกฏึ คโต หุตฺวา ิโต. ปาลิตพฺรหฺมจริโยติ รกฺขิตพฺรหฺมจริโย. อุตฺตมทิฏฺิปฺปตฺโตติ อุตฺตมํ สมฺมาทิฏฺึ ปตฺโต. ปฏิวิทฺธากุปฺโปติ อกุปฺปํ อจลนํ อรหตฺตผลํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิโต. สจฺฉิกตนิโรโธติ นิโรธํ นิพฺพานํ สจฺฉิกตฺวา ิโต.
ทุกฺขํ ตสฺส ปริฺาตนฺติ ติวิธํ ทุกฺขํ เตน สมติกฺกมิตฺวา ปริจฺฉินฺนํ. อภิฺเยฺยนฺติ สภาวลกฺขณาวโพธวเสน โสภเนน อากาเรน ชานิตพฺพํ. อภิฺาตนฺติ อธิเกน าเณน าตํ. ปริฺเยฺยนฺติ สามฺลกฺขณาวโพธวเสน กิจฺจสมาปนฺนวเสน จ พฺยาปิตฺวา ปริชานิตพฺพํ. ปริฺาตนฺติ สมนฺตโต าตํ. ภาเวตพฺพนฺติ วฑฺเฒตพฺพํ. สจฺฉิกาตพฺพนฺติ ปจฺจกฺขํ กาตพฺพํ. ทุวิธา หิ สจฺฉิกิริยา ปฏิลาภสจฺฉิกิริยา อารมฺมณสจฺฉิกิริยา จาติ.
อุกฺขิตฺตปลิโฆติ เอตฺถ ปลิโฆติ วฏฺฏมูลิกา อวิชฺชา. อยฺหิ ทุกฺขิปนฏฺเน ‘‘ปลิโฆ’’ติ วุจฺจติ. เตเนส ตสฺสา อุกฺขิตฺตตฺตา ‘‘อุกฺขิตฺตปลิโฆ’’ติ วุตฺโต. สํกิณฺณปริโขติ ปริขา วุจฺจติ ปุนพฺภวทายโก ภเวสุ ชายนวเสน เจว สํสรณวเสน จ ‘‘ชาติสํสาโร’’ติ ลทฺธนามานํ ปุนพฺภวกฺขนฺธานํ ปจฺจโย กมฺมาภิสงฺขาโร. โส หิ ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติกรณวเสน ปริกฺขิปิตฺวา ิตตฺตา ‘‘ปริขา’’ติ วุจฺจติ. เตเนส ตสฺสา สํกิณฺณตฺตา วิกิณฺณตฺตา ‘‘สํกิณฺณปริโข’’ติ วุตฺโต. อพฺพูฬฺเหสิโกติ เอสิกาติ วฏฺฏมูลิกา ตณฺหา. อยฺหิ คมฺภีรานุคตฏฺเน ‘‘เอสิกา’’ติ วุจฺจติ. เตเนส ตสฺสา อพฺพูฬฺหตฺตา ลฺุจิตฺวา ฉฑฺฑิตตฺตา ‘‘อพฺพูฬฺเหสิโก’’ติ ¶ วุจฺจติ. นิรคฺคโฬติ อคฺคฬํ วุจฺจนฺติ โอรมฺภาคชนกานิ กามภเว อุปฺปตฺติปจฺจยานิ โอรมฺภาคิยานิ. เอตานิ หิ มหากวาฏํ วิย นครทฺวารํ จิตฺตํ ปิทหิตฺวา ิตตฺตา ‘‘อคฺคฬ’’นฺติ วุจฺจนฺติ ¶ . เตเนส เตสํ นิรคฺคฬตฺตา ภินฺนตฺตา ‘‘นิรคฺคโฬ’’ติ วุตฺโต. อริโยติ นิกฺกิเลโส ปริสุทฺโธ. ปนฺนทฺธโชติ ปาติตมานทฺธโช. ปนฺนภาโรติ ขนฺธภารกิเลสภารอภิสงฺขารภารปฺจกามคุณภารา ปนฺนา โอโรปิตา อสฺสาติ ปนฺนภาโร. อปิ จ อิธ มานภารสฺเสว โอโรปิตตฺตา ‘‘ปนฺนภาโร’’ติ อธิปฺเปโต. วิสํยุตฺโตติ จตูหิ โยเคหิ สพฺพกิเลเสหิ จ วิสํยุตฺโต. อิธ ปน มานโยเคเนว วิสํยุตฺตตฺตา ‘‘วิสํยุตฺโต’’ติ อธิปฺเปโต.
เอตฺตาวตา เถเรน มคฺเคน กิเลเส เขเปตฺวา นิโรธสยนวรคตสฺส ขีณาสวสฺส นิพฺพานารมฺมณํ ¶ ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา วิหรณกาโล ทสฺสิโต. ยถา หิ ทฺเว นครานิ เอกํ โจรนครํ, เอกํ เขมนครํ. อถ เอกสฺส มหาโยธสฺส เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย ‘‘ยาวิมํ โจรนครํ ติฏฺติ, ตาว เขมนครํ ภยโต น มุจฺจติ. โจรนครํ อนครํ กริสฺสามี’’ติ สนฺนาหํ กตฺวา ขคฺคํ คเหตฺวา โจรนครํ อุปสงฺกมิตฺวา นครทฺวาเร อุสฺสาปิเต เอสิกตฺถมฺเภ ขคฺเคน ฉินฺทิตฺวา สทฺธึ ทฺวารพาหาหิ กวาฏํ ภินฺทิตฺวา ปลิฆํ อุกฺขิปิตฺวา ปาการํ ภินฺทนฺโต ปริขํ สํกิริตฺวา นครโสภนตฺถาย อุสฺสาปิเต ธเช ปาเตตฺวา นครํ อคฺคินา ฌาเปตฺวา เขมนครํ ปวิสิตฺวา อุปริปาสาทมารุยฺห าติคณปริวุโต สุรสโภชนํ ภฺุเชยฺย. เอวํ โจรนครํ วิย สกฺกาโย, เขมนครํ วิย นิพฺพานํ, มหาโยโธ วิย โยคาวจโร. ตสฺเสวํ โหติ ‘‘ยาว สกฺกายวฏฺฏํ วฏฺฏติ, ตาว ทฺวตฺตึสกมฺมการเณหิ อฏฺนวุติโรเคหิ ปฺจวีสติมหพฺภเยหิ จ ปริมุจฺจนํ นตฺถี’’ติ. โส มหาโยโธ วิย สนฺนาหํ สีลสนฺนาหํ กตฺวา ปฺาติณฺหขคฺคํ คเหตฺวา ขคฺเคน เอสิกตฺถมฺเภ วิย อรหตฺตมคฺเคน ตณฺเหสิกํ ฉินฺทิตฺวา, โส โยโธ สทฺวารพาหกํ นครกวาฏํ วิย ปฺโจรมฺภาคิยสํโยชนคฺคฬํ อุคฺโฆเฏตฺวา, โส โยโธ ปลิฆํ วิย อวิชฺชาปลิฆํ อุกฺขิปิตฺวา, โส โยโธ ปาการํ ภินฺทนฺโต ปริขํ ¶ วิย กมฺมาภิสงฺขารปาการํ ภินฺทนฺโต ชาติสํสารปริขํ สํกิริตฺวา, โส โยโธ นครโสภนตฺถาย อุสฺสาปิเต ธเช วิย มานทฺธเช ¶ ปาเตตฺวา สกฺกายนครํ ฌาเปตฺวา, โส โยโธ เขมนครํ ปวิสิตฺวา อุปริปาสาเท สุรสโภชนํ ภฺุชนฺโต วิย นิพฺพานนครํ ปวิสิตฺวา อมตนิโรธารมฺมณํ ผลสมาปตฺติสุขํ อนุภวมาโน กาลํ วีตินาเมติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา (อ. นิ. ๕.๗๑) –
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุกฺขิตฺตปลิโฆ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อวิชฺชา ปหีนา โหติ อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุกฺขิตฺตปลิโฆ โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สํกิณฺณปริโข โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน โปโนภวิโก ชาติสํสาโร ปหีโน โหติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สํกิณฺณปริโข โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อพฺพูฬฺเหสิโก โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตณฺหา ปหีนา โหติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อพฺพูฬฺเหสิโก โหติ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ นิรคฺคโฬ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ โหนฺติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ นิรคฺคโฬ โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อริโย ปนฺนทฺธโช ปนฺนภาโร วิสํยุตฺโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อสฺมิมาโน ปหีโน โหติ อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อริโย ปนฺนทฺธโช ปนฺนภาโร วิสํยุตฺโต โหติ (อ. นิ. ๕.๗๑).
‘‘เอวํ วิมุตฺตจิตฺตํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุํ สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา สปชาปติกา อนฺเวสํ นาธิคจฺฉนฺติ ‘อิทํนิสฺสิตํ ตถาคตสฺส วิฺาณ’’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๔๖).
ปฺจงฺควิปฺปหีโนติ กามจฺฉนฺทาทิปฺจงฺคานิ วิวิเธหิ อุปาเยหิ ปชหิตฺวา ิโต. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘กถฺจาวุโส ¶ , ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน กามจฺฉนฺโท ปหีโน โหติ, พฺยาปาโท ปหีโน โหติ, ถินมิทฺธํ ปหีนํ โหติ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหีนํ โหติ, วิจิกิจฺฉา ปหีนา ¶ โหติ. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๔๘, ๓๖๐).
ฉฬงฺคสมนฺนาคโตติ ฉนฺนํ องฺคานํ ปูเรตฺวา ฉสุ ทฺวาเรสุ รูปาทิอารมฺมเณ ปฏิฆานุนยํ วชฺเชตฺวา อุเปกฺขาวเสน สโต สมฺปชาโน หุตฺวา วิหรณวเสน ฉฬงฺคานิ ปูเรตฺวา ปริปุณฺณํ กตฺวา ิตตฺตา ‘‘ฉฬงฺคสมนฺนาคโต’’ติ วุตฺโต. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา, ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา, กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา, มนสา ธมฺมํ วิฺาย เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๔๘, ๓๖๐).
เอการกฺโขติ ¶ สติอารกฺเขน เอโก อุตฺตโม อารกฺโข อสฺสาติ เอการกฺโข. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ เอการกฺโข โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สตารกฺเขน เจตสา สมนฺนาคโต วิหรติ. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ เอการกฺโข โหตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๔๘, ๓๖๐).
จตุราปสฺเสโนติ ปฺาย ปฏิเสวนปริวชฺชนวิโนทนปชหนานํ วเสน จตุนฺนํ อปสฺสยานํ อิโต จิโต จ อปริวตฺตมานานํ วเสน จตุราปสฺเสโน, เตสํ ปาปุณิตฺวา ิโต. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ จตุราปสฺเสโน โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สงฺขาเยกํ ปฏิเสวติ, สงฺขาเยกํ ปริวชฺเชติ. สงฺขาเยกํ ¶ วิโนเทติ, สงฺขาเยกํ ปชหตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๓๔๘, ๓๖๐) นเยน วิตฺถาเรตพฺพํ.
ปณุนฺนปจฺเจกสจฺโจติ ‘‘อิทเมว ทสฺสนํ สจฺจํ, อิทเมว สจฺจ’’นฺติ เอวํ ปาฏิเอกฺกํ คหิตตฺตา ปจฺเจกสงฺขาตานิ ทิฏฺิสจฺจานิ ปณุนฺนานิ นิหฏานิ ปหีนานิ อสฺสาติ ปณุนฺนปจฺเจกสจฺโจ.
สมวยสฏฺเสโนติ เอตฺถ อวยาติ อนูนา. สฏฺาติ วิสฺสฏฺา. สมฺมา อวยา สฏฺา เอสนา อสฺสาติ สมวยสฏฺเสโน. สมฺมา วิสฺสฏฺสพฺพเอสโนติ อตฺโถ. เกวลีติ ¶ ปริปุณฺโณ. วุสิตวาติ วุสิตพฺรหฺมจริโย, ครุสํวาเส อริยมคฺเคปิ ทสสุ อริยวาเสสุปิ วุสิตวนฺโต. อุตฺตมปุริโสติ ขีณกิเลสตฺตา วิเสสปุริโส อาชฺปุริโส. ปรมปุริโสติ อุตฺตมปุริโส, ปรมํ วา ปฏิลาภํ ปตฺตตฺตา อุตฺตมํ ปตฺตพฺพํ อรหตฺตปฏิลาภํ ปตฺโต อนุตฺตรปฺุกฺเขตฺตภูโต อุตฺตมปุริโส, เตเนวตฺเถน ปรมปุริโส. อนุตฺตรํ สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตุํ อมตํ ปฏิลาภํ ปตฺตตฺตา ปรมปตฺติปฺปตฺโต. อถ วา ‘‘ฆราวาเส อาทีนวํ สฺชานิตฺวา สาสนปวิสนวเสน อุตฺตมปุริโส. อตฺตภาเว อาทีนวํ สฺชานิตฺวา วิปสฺสนาปวิสนวเสน ปรมปุริโส. กิเลเส อาทีนวํ สฺชานิตฺวา อริยภูมนฺตรํ ปวิฏฺโ ปรมปตฺติปฺปตฺโตติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
เนวาจินตีติ ¶ กุสลากุสลานํ ปหีนตฺตา เตสํ วิปากํ น วฑฺเฒติ. นาปจินตีติ ผเล ิตตฺตา น วิทฺธํเสติ. อปจินิตฺวา ิโตติ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปหาเน ิตตฺตา กิเลเส วิทฺธํเสตฺวา ิโต. อิโต ปรํ ตีหิปิ ปเทหิ มคฺคผลวเสเนว โยเชตพฺพํ. เนว ปชหตีติ ปหาตพฺพาภาเวน กิเลเส น ปชหติ. น อุปาทิยตีติ ตณฺหามานทิฏฺีหิ คเหตพฺพาภาวโต เตหิ น คณฺหาติ. ปชหิตฺวา ิโตติ จชิตฺวา ิโต. เนว สํสิพฺพตีติ ตณฺหาวเสน เนว สํสิพฺพติ. น อุสฺสิเนตีติ มานวเสน น อุกฺกํสติ. วิสินิตฺวา ิโตติ ตณฺหาสํสีวนํ อกตฺวา ิโตติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. เนว วิธูเปตีติ กิเลสคฺคึ น นิพฺพาเปติ. น สนฺธูเปตีติ กิเลสคฺคึ น ชาลาเปติ. วิธูเปตฺวา ิโตติ ตํ นิพฺพาเปตฺวา ิโต.
อเสกฺเขน ¶ ¶ สีลกฺขนฺเธนาติ สิกฺขิตพฺพาภาเวน อเสกฺเขน วาจากมฺมนฺตาชีวสีลกฺขนฺเธน สีลราสินา สมนฺนาคตตฺตา ิโต, อปริหีนภาเวน ิโต. สมาธิกฺขนฺเธนาติ วายามสตีหิ สมฺปยุตฺเตน สมาธินา. วิมุตฺติกฺขนฺเธนาติ ผลวิมุตฺติสมฺปยุตฺตกฺขนฺเธน. วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธนาติ ปจฺจเวกฺขณาเณน. สจฺจํ สมฺปฏิปาทิยิตฺวาติ จตุอริยสจฺจํ สภาววเสน สกสนฺตาเน สมฺปาทิยิตฺวา ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิโต. เอชํ สมติกฺกมิตฺวาติ กมฺปนตณฺหํ อติกฺกมิตฺวา. กิเลสคฺคินฺติ ราคาทิกิเลสคฺคึ. ปริยาทิยิตฺวาติ เขเปตฺวา นิพฺพาเปตฺวา. อปริคมนตายาติ สํสาเร อคมนภาเวน ปุนาคมนาภาเวนาติ อตฺโถ. กฏํ สมาทายาติ ชยคฺคาหํ คเหตฺวา. มุตฺติปฏิเสวนตายาติ สพฺพกิเลเสหิ มุจฺจิตฺวา รูปาทิอารมฺมณเสวนวเสน. อถ วา สพฺพกิเลเสหิ มุตฺตผลสมาปตฺติเสวนวเสน. เมตฺตาย ปาริสุทฺธิยาติ อุปกฺกิเลสมุตฺตาย ปริสุทฺธภาเว ิตาย เมตฺตาย ิโต. กรุณาทีสุปิ เอเสว นโย.
อจฺจนฺตปาริสุทฺธิยาติ อติกฺกนฺตปริสุทฺธภาเวน ปริสุทฺธิยา อนฺตํ ปาปุณิตฺวา ิโต. อตมฺมยตายาติ ตณฺหาทิฏฺิมานา ‘‘ตมฺมยา’’ติ วุจฺจนฺติ. เตสํ อภาโว อตมฺมยตา, ตาย ตณฺหาทิฏฺิมานวิรหิตตาย ิโต. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘โส ตาทิโส โลกวิทู สุเมโธ, สพฺเพสุ ธมฺเมสุ อตมฺมโย มุนี’’ติ (อ. นิ. ๓.๔๐). เอตฺถาปิ ตณฺหามานทิฏฺิวิรหิโตติ อตฺโถ. วิมุตฺตตฺตาติ สพฺพกิเลเสหิ มุตฺตภาเวน. สนฺตุสฺสิตตฺตาติ ยถาลาภยถาพลยถาสารุปฺปสนฺโตสวเสน สนฺตุฏฺภาเวน ิโต.
ขนฺธปริยนฺเตติ ¶ เอกจตุปฺจกฺขนฺธานํ ตีหิ ปริฺคฺคีหิ ฌาเปตฺวา อนฺเต อวสาเน ิโต ¶ , นตฺถิ เอตสฺส อนฺโตติ วา ปริยนฺตํ, ตสฺมึ ปริยนฺเต. ธาตุปริยนฺตาทีสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – ธาตุปริยนฺเตติ อฏฺารสนฺนํ ธาตูนํ ปริยนฺเต. อายตนปริยนฺเตติ ทฺวาทสนฺนํ อายตนานํ. คติปริยนฺเตติ นิรยาทิปฺจนฺนํ คตีนํ. อุปปตฺติปริยนฺเตติ สุคติทุคฺคตีสุ นิพฺพตฺติยา. ปฏิสนฺธิปริยนฺเตติ กามรูปารูปภเวสุ ปฏิสนฺธิยา ¶ . ภวปริยนฺเตติ เอกโวการจตุปฺจสฺาอสฺาเนวสฺานาสฺากามรูปอรูปภวานํ. สํสารปริยนฺเตติ ขนฺธธาตุอายตนานํ อพฺโพจฺฉินฺนปวตฺติยา. วฏฺฏปริยนฺเตติ กมฺมวิปากกิเลสวฏฺฏานํ ปริยนฺเต. อนฺติเม ภเวติ อวสาเน อุปปตฺติภเว. อนฺติเม สมุสฺสเย ิโตติ อวสาเน สมุสฺสเย สรีเร ิโต. อนฺติมเทหธโรติ อนฺติมํ อวสานเทหํ สรีรํ ธาเรตีติ อนฺติมเทหธโร. อรหาติ อารกตฺตา อรีนํ, อรานฺจ หตตฺตา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวา อรหา.
ตสฺสายํ ปจฺฉิมโกติ ตสฺส ขีณาสวสฺส อยํ สมุสฺสโย อตฺตภาโว อวสาโน. จริโมติ อปฺโป มนฺโท จริโม อาโลโป, จริมํ กพฬํ วิย. ปุน ปฏิสนฺธิยา นตฺถิภาวํ สนฺธาย ‘‘ชาติมรณสํสาโร, นตฺถิ ตสฺส ปุนพฺภโว’’ติ อาห. ชนนํ ชาติ, มรนฺติ เตนาติ มรณํ, ขนฺธาทีนํ อพฺโพจฺฉินฺนา สํสารปวตฺติ จ ตสฺส ขีณาสวสฺส ปุน นตฺถีติ วุตฺตํ คาถํ นิคเมนฺโต อาห เตนาห ภควา –
‘‘ตสฺมา ชนฺตุ…เป… นาวํ สิตฺวาว ปารคู’’ติ.
อิมสฺมึ สุตฺเต ยํ อนฺตรนฺตรา น วุตฺตํ, ตํ ปาานุสาเรน คเหตพฺพํ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย
กามสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. คุหฏฺกสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๗. ทุติเย ¶ ¶ – สตฺโตติ ลคฺโค. คุหายนฺติ กาเย. กาโย หิ ราคาทีนํ วาฬานํ วสโนกาสโต ‘‘คุหา’’ติ วุจฺจติ. พหุนาภิฉนฺโนติ พหุนา ราคาทิกิเลสชาเตน อภิจฺฉนฺโน. เอเตน อชฺฌตฺตพนฺธนํ วุตฺตํ. ติฏฺนฺติ ราคาทิวเสน ติฏฺนฺโต. โมหนสฺมึ ปคาฬฺโหติ โมหนํ วุจฺจติ กามคุโณ. เอตฺถ หิ เทวมนุสฺสา มุยฺหนฺติ เตสุ อชฺโฌคาฬฺหา หุตฺวา; เอเตน พาหิรพนฺธนํ วุตฺตํ. ทูเร วิเวกา หิ ตถาวิโธ โสติ โส ตถารูโป นโร ติวิธาปิ กายวิเวกาทิวิเวกา ทูเร ¶ , อนาสนฺเน. กึการณา? กามา หิ โลเก น หิ สุปฺปหายาติ ยสฺมา โลเก กามา สุปฺปหายา น โหนฺติ, ตสฺมาติ วุตฺตํ โหติ.
สตฺโตติ หิ โข วุตฺตนฺติ ‘‘สตฺโต, นโร, มานโว’’ติ เอวมาทินา นเยน กถิโตเยว. คุหา ตาว วตฺตพฺพาติ คุหา ตาว กเถตพฺพา. กาโยติ วาติอาทีสุ อยํ ตาว ปทโยชนา – กาโย อิติ วา คุหา อิติ วา…เป… กุมฺโภ อิติ วาติ. ตตฺถ กาโยติ ‘‘กุจฺฉิตานํ อาโยติ กาโย’’ติอาทินา เหฏฺา สติปฏฺานกถายํ วุตฺโตเยว. ราคาทิวาฬานํ วสโนกาสฏฺเน คุหา, ‘‘ปฏิจฺฉาทนฏฺเนา’’ติปิ เอเก. ‘‘ทูรงฺคมํ เอกจรํ, อสรีรํ คุหาสย’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๓๗) วิย. ราคาทีหิ ฌาปนฏฺเน เทโห ‘‘เต หิตฺวา มานุสํ เทห’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๓๒ โถกํ วิสทิสํ) วิย. ปมตฺตกรณฏฺเน สนฺเทโห ‘‘ภิชฺชติ ปูติสนฺเทโห, มรณนฺตฺหิ ชีวิต’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๔๘) วิย. สํสาเร ¶ สฺจรณฏฺเน นาวา ‘‘สิฺจ ภิกฺขุ อิมํ นาวํ, สิตฺตา เต ลหุเมสฺสตี’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๓๖๙) วิย. อิริยาปถสฺส อตฺถิภาวฏฺเน รโถ ‘‘รโถ สีลปริกฺขาโร, ฌานกฺโข จกฺกวีริโย’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๔) วิย. อจฺจุคฺคตฏฺเน ธโช ‘‘ธโช รถสฺส ปฺาณ’’นฺติอาทีสุ (ชา. ๒.๒๒.๑๘๔๑) วิย.
กิมิกุลานํ อาวาสภาเวน วมฺมิโก ‘‘วมฺมิโกติ โข, ภิกฺขุ, อิมสฺเสตํ จาตุมหาภูติกสฺส ¶ กายสฺส อธิวจน’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๕๑) วิย. ยเถว หิ พาหิรโก วมฺมิโก, วมติ วนฺตโก วนฺตุสฺสโย วนฺตสิเนหสมฺพทฺโธติ จตูหิ การเณหิ ‘‘วมฺมิโก’’ติ วุจฺจติ. โส หิ อหินกุลอุนฺทูรฆรโคฬิกาทโย นานปฺปกาเร ปาณเก วมตีติ วมฺมิโก. อุปจิกาหิ วนฺตโกติ วมฺมิโก. อุปจิกาหิ วมิตฺวา มุขตุณฺฑเกหิ อุกฺขิตฺตปํสุจุณฺเณน กฏิปฺปมาเณนปิ โปริสปฺปมาเณนปิ อุสฺสิโตติ วมฺมิโก. อุปจิกาหิ วนฺตเขฬสิเนเหน อาพทฺธตาย สตฺตสตฺตาหํ เทเว วสฺสนฺเตปิ น วิปฺปกิรียติ, นิทาเฆปิ ตโต ปํสุมุฏฺึ คเหตฺวา ¶ ตสฺมึ มุฏฺินา ปีฬิยมาเน สิเนโห นิกฺขมติ, เอวํ วนฺตสิเนเหน สมฺพทฺโธติ วมฺมิโก. เอวมยํ กาโยปิ ‘‘อกฺขิมฺหา อคฺคิคูถโก’’ติอาทินา นเยน นานปฺปการํ อสุจิกลิมลํ วมตีติ วมฺมิโก. พุทฺธปจฺเจกพุทฺธขีณาสวา อิมสฺมึ อตฺตภาเว นิกนฺติปริยาทาเนน อตฺตภาวํ ฉฑฺเฑตฺวา คตาติ อริเยหิ วนฺตโกติปิ วมฺมิโก. เยหิ จายํ ตีหิ อฏฺิสเตหิ อุสฺสิโต นหารุสมฺพทฺโธ มํสาวเลปโน อลฺลจมฺมปริโยนทฺโธ ฉวิรฺชิโต สตฺเต วฺเจติ, ตํ สพฺพํ อริเยหิ วนฺตเมวาติ วนฺตุสฺสโยติปิ วมฺมิโก. ‘‘ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ, จิตฺตมสฺส วิธาวตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๕๕-๕๗) เอวํ ตณฺหาย ชนิตตฺตา อริเยหิ วนฺเตเนว ตณฺหาสิเนเหน สมฺพทฺโธ อยนฺติ วนฺตสิเนเหน สมฺพทฺโธติปิ วมฺมิโก. ยถา จ วมฺมิกสฺส อนฺโต นานปฺปการา ปาณกา ตตฺเถว ชายนฺติ, อุจฺจารปสฺสาวํ ¶ กโรนฺติ, คิลานา สยนฺติ, มตา นิปตนฺติ. อิติ โส เตสํ สูติฆรํ วจฺจกุฏิ คิลานสาลา สุสานฺจ โหติ. เอวํ ขตฺติยมหาสาลาทีนมฺปิ กาโย ‘‘อยํ โคปิตรกฺขิโต มณฺฑิตปสาทิโต มหานุภาวานํ กาโย’’ติ อจินฺเตตฺวา ฉวินิสฺสิตา ปาณา จมฺมนิสฺสิตา ปาณา มํสนิสฺสิตา ปาณา นหารุนิสฺสิตา ปาณา อฏฺินิสฺสิตา ปาณา อฏฺิมิฺชนิสฺสิตา ปาณาติ เอวํ กุลคณนาย อสีติมตฺตานิ กิมิกุลสหสฺสานิ อนฺโตกายสฺมึเยว ชายนฺติ, อุจฺจารปสฺสาวํ กโรนฺติ, เคลฺเน อาตุริตานิ สยนฺติ, มตามตา นิปตนฺติ. อิติ อยมฺปิ เตสํ ปาณานํ สูติฆรํ วจฺจกุฏิ คิลานสาลา สุสานฺจ โหตีติ ‘‘วมฺมิโก’’ติ สงฺขํ คโต.
มนาปามนาปปตนฏฺเน นครํ ‘‘สกฺกายนคร’’นฺติอาทีสุ วิย. โรคาทีนํ นีฬภาเวน กุลาวกภาเวน นีฬํ ‘‘โรคนีฬํ ปภงฺคุร’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๔๘) วิย. ปฏิสนฺธิยา นิวาสเคหฏฺเน กุฏิ ‘‘ปฺจทฺวารายํ กุฏิกายํ ปสกฺกิยา’’ติอาทีสุ (เถรคา. ๑๒๕) วิย. ปูติภาเวน คณฺโฑ ‘‘โรโคติ ภิกฺขเว, คณฺโฑติ ภิกฺขเว, สลฺโลติ ภิกฺขเว, กายสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๙.๑๕) วิย. ภิชฺชนฏฺเน กุมฺโภ ‘‘กุมฺภูปมํ กายมิมํ วิทิตฺวา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๔๐) วิย. กายสฺเสตํ อธิวจนนฺติ เอตํ วุตฺตปฺปการํ จตุมหาภูตมยสฺส กุจฺฉิตธมฺมานํ อายสฺส อธิวจนํ, กถนนฺติ อตฺโถ. คุหายนฺติ สรีรสฺมึ ¶ ¶ . สตฺโตติ อลฺลีโน. วิสตฺโตติ วณฺณราคาทิวเสน วิวิโธ อลฺลีโน. สณฺานราควเสน อาสตฺโต. ตตฺเถว ¶ ‘‘สุภํ สุข’’นฺติ คหณวเสน ลคฺโค. อตฺตคฺคหณวเสน ลคฺคิโต. ปลิพุทฺโธติ ผสฺสราควเสน อมฺุจิตฺวา ิโต. ภิตฺติขิเลติ ภิตฺติยํ อาโกฏิตขาณุเก. นาคทนฺเตติ ตเถว หตฺถิทนฺตสทิเส วงฺกทณฺฑเก. สตฺตนฺติ ภิตฺติขิเล ลคฺคํ. วิสตฺตนฺติ นาคทนฺเต ลคฺคํ. อาสตฺตนฺติ จีวรวํเส ลคฺคํ. ลคฺคนฺติ จีวรรชฺชุยา ลคฺคํ. ลคฺคิตนฺติ ปีปาเท ลคฺคํ. ปลิพุทฺธนฺติ มฺจปาเท ลคฺคนฺติ เอวมาทินา นเยน โยเชตพฺพํ.
ลคฺคนาธิวจนนฺติ วิเสเสน อลฺลียนกถนํ. ฉนฺโนติ วุตฺตปฺปกาเรหิ กิเลเสหิ ฉาทิโต. ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติวเสน อุปรูปริ ฉนฺโนติ อุจฺฉนฺโน. อาวุโตติ อาวริโต. นิวุโตติ วาริโต. โอผุโตติ อวตฺถริตฺวา ฉาทิโต. ปิหิโตติ ภาชเนน อุกฺขลิมุขํ วิย ปลิคุณฺิโต. ปฏิจฺฉนฺโนติ อาวโฏ. ปฏิกุชฺชิโตติ อโธมุขํ ปิโต. ตตฺถ ติณปณฺณาทีหิ ฉาทิตํ วิย ฉนฺโน. อุจฺฉนฺโน นทึ อาวรณเสตุ วิย. อาวุโต ชนสฺจรณมคฺคาวรณํ วิย.
วินิพทฺโธ มานวเสนาติ นานาวิเธน มานาติมานวเสน นานาวิเธ อารมฺมเณ พทฺโธ หุตฺวา ติฏฺติ. ปรามฏฺโ ทิฏฺิวเสนาติ ทฺวาสฏฺิทิฏฺีนํ วเสน ปรามฏฺโ อามสิตฺวา คหิโต. วิกฺเขปคโต อุทฺธจฺจวเสนาติ อารมฺมเณ อสนฺติฏฺนวเสน จิตฺตวิกฺเขปํ ปตฺโต อุปคโต. อนิฏฺงฺคโต วิจิกิจฺฉาวเสนาติ รตนตฺตยาทีสุ กงฺขาสงฺขาตาย วิจิกิจฺฉาย วเสน สนฺนิฏฺานํ อปฺปตฺโต. ถามคโต อนุสยวเสนาติ ทุนฺนีหรณอปฺปหีนานุสยวเสน ถิรภาวํ ปตฺโต อุปคโต หุตฺวา ติฏฺติ.
รูปูปยนฺติ ตณฺหาทิฏฺูปยวเสน รูปํ อุปคนฺตฺวา อารมฺมณํ กตฺวา. วิฺาณํ ติฏฺมานํ ติฏฺตีติ ตสฺมึ อารมฺมเณ รูปารมฺมณํ วิฺาณํ ติฏฺนฺตํ ติฏฺติ. รูปารมฺมณํ ¶ รูปปติฏฺนฺติ รูปเมว อารมฺมณํ อาลมฺพิตฺวา รูปเมว ปติฏฺํ กตฺวา. นนฺทูปเสจนนฺติ สปฺปีติกตณฺโหทเกน อาสิตฺตํ วิฺาณํ. วุทฺธินฺติ วุทฺธิภาวํ. วิรูฬฺหินฺติ ชวนวเสน อุปริโต วิรูฬฺหิภาวํ. เวปุลฺลนฺติ ตทารมฺมณวเสน เวปุลฺลํ.
อตฺถิ ¶ ราโคติอาทีนิ โลภสฺเสว นามานิ. โส หิ รฺชนวเสน ราโค, นนฺทนวเสน นนฺที, ตณฺหายนวเสน ตณฺหาติ วุจฺจติ. ปติฏฺิตํ ตตฺถ วิฺาณํ วิรูฬฺหนฺติ กมฺมํ ชวาเปตฺวา ปฏิสนฺธิอากฑฺฒนสมตฺถตาย ปติฏฺิตฺเจว วิรูฬฺหฺจ. ยตฺถาติ เตภูมกวฏฺเฏ ภุมฺมํ. สพฺพตฺถ วา ปุริมปเท เอตํ ภุมฺมํ. อตฺถิ ตตฺถ สงฺขารานํ วุทฺธีติ อิทํ อิมสฺมึ วิปากวฏฺเฏ ิตสฺส อายตึ ¶ วฏฺฏเหตุเก สงฺขาเร สนฺธาย วุตฺตํ. ยตฺถ อตฺถิ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺตีติ ยสฺมึ าเน อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ อตฺถิ. ตตฺถ ปุริมสุตฺตํ รูปาทิอารมฺมณลคฺคนวเสน วุตฺตํ, ทุติยสุตฺตํ ตเทวารมฺมณํ อภินนฺทนวเสน วุตฺตํ, ตติยํ วิฺาณปติฏฺานวเสน วุตฺตํ, จตุตฺถํ จตุพฺพิธอาหารวเสน, กุสลากุสลวิฺาณปติฏฺานวเสน วุตฺตนฺติ าตพฺพํ.
เยภุยฺเยนาติ ปาเยน. มุยฺหนฺตีติ โมหํ อาปชฺชนฺติ. สมฺมุยฺหนฺตีติ วิเสเสน มุยฺหนฺติ. สมฺปมุยฺหนฺตีติ สพฺพากาเรน มุยฺหนฺติ. อถ วา รูปารมฺมณํ ปฏิจฺจ มุยฺหนฺติ, สทฺทารมฺมณํ ปฏิจฺจ สมฺมุยฺหนฺติ, มุตารมฺมณํ ปฏิจฺจ สมฺปมุยฺหนฺติ. อวิชฺชาย อนฺธีกตาติ อฏฺสุ าเนสุ อฺาณาย อวิชฺชาย อนฺธีกตา. ‘‘คตา’’ติ วา ปาโ, อนฺธภาวํ อุปคตาติ อตฺโถ. ปคาฬฺโหติ ปวิฏฺโ. โอคาฬฺโหติ เหฏฺาภาคํ ปวิฏฺโ. อชฺโฌคาฬฺโหติ อธิโอคาหิตฺวา อวตฺถริตฺวา วิเสเสน ปวิฏฺโ นิมุคฺโคติ อโธมุขํ หุตฺวา ปวิฏฺโ. อถ วา ทสฺสนสํสคฺเคน ¶ โอคาฬฺโห. สวนสํสคฺเคน อชฺโฌคาฬฺโห. วจนสํสคฺเคน นิมุคฺโค. สปฺปุริสสํสคฺควิรหิโต วา โอคาฬฺโห. สทฺธมฺมเสวนวิรหิโต วา อชฺโฌคาฬฺโห. ธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺติวิรหิโต วา นิมุคฺโค.
วิเวกาติ วิวิตฺติ, วิวิจฺจนํ วา วิเวโก. ตโยติ คณนปริจฺเฉโท. กายวิเวโกติ กาเยน วิวิตฺติ, วินา อปสกฺกนํ. จิตฺตวิเวกาทีสุปิ เอเสว นโย. อิธ ภิกฺขูติ อิมสฺมึ สาสเน. สํสาเร ภยํ อิกฺขนโต ภิกฺขุ. วิวิตฺตนฺติ สฺุํ, อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสนฺติ อตฺโถ. เอตเทว หิ สนฺธาย วิภงฺเค ‘‘วิวิตฺตนฺติ สนฺติเก เจปิ เสนาสนํ โหติ, ตฺจ อนากิณฺณํ คหฏฺเหิ ปพฺพชิเตหิ, เตน ตํ วิวิตฺต’’นฺติ (วิภ. ๕๒๖) วุตฺตํ. เสติ เจว อาสติ จ เอตฺถาติ เสนาสนํ, มฺจปีาทีนเมตมธิวจนํ. เตนาห –
‘‘เสนาสนนฺติ ¶ มฺโจปิ เสนาสนํ, ปีมฺปิ… ภิสิปิ… พิพฺโพหนมฺปิ… วิหาโรปิ… อฑฺฒโยโคปิ… ปาสาโทปิ… อฏฺโฏปิ… มาโฬปิ… เลณมฺปิ… คุหาปิ… รุกฺขมูลมฺปิ… เวฬุคุมฺโพปิ… ยตฺถ วา ปน ภิกฺขู ปฏิกฺกมนฺติ, สพฺพเมตํ เสนาสน’’นฺติ (วิภ. ๕๒๗).
อปิ จ วิหาโร อฑฺฒโยโค ปาสาโท หมฺมิยํ คุหาติ อิทํ วิหารเสนาสนํ นาม. มฺโจ ปีํ ภิสิ พิพฺโพหนนฺติ อิทํ มฺจปีเสนาสนํ นาม. จิมิลิกา จมฺมขณฺโฑ ติณสนฺถาโร ปณฺณสนฺถาโรติ อิทํ สนฺถตเสนาสนํ นาม. ยตฺถ วา ปน ภิกฺขู ปฏิกฺกมนฺติ, อิทํ โอกาสเสนาสนํ ¶ นามาติ เอวํ จตุพฺพิธํ เสนาสนํ โหติ. ตํ สพฺพมฺปิ เสนาสนคฺคหเณน คหิตเมว.
อิธ ปนสฺส สกุณสทิสสฺส จาตุทฺทิสสฺส ภิกฺขุโน อนุจฺฉวิกเสนาสนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อรฺํ รุกฺขมูล’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อรฺนฺติ ‘‘นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ (วิภ. ๕๒๙) อิทํ ภิกฺขุนีนํ วเสน อาคตํ. ‘‘อารฺกํ นาม เสนาสนํ ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปารา. ๖๕๔) อิทํ ¶ ปน อิมสฺส ภิกฺขุโน อนุรูปํ. ตสฺส ลกฺขณํ วิสุทฺธิมคฺเค ธุตงฺคนิทฺเทเส (วิสุทฺธิ. ๑.๓๑) วุตฺตํ. รุกฺขมูลนฺติ ยํกิฺจิ สนฺตจฺฉายํ วิวิตฺตํ รุกฺขมูลํ. ปพฺพตนฺติ เสลํ. ตตฺถ หิ อุทกโสณฺฑีสุ อุทกกิจฺจํ กตฺวา สีตาย รุกฺขจฺฉายาย นิสินฺนสฺส นานาทิสาสุ ขายมานาสุ สีเตน วาเตน พีชิยมานสฺส จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. กนฺทรนฺติ กํ วุจฺจติ อุทกํ, เตน ทาริตํ, อุทเกน ภินฺนํ ปพฺพตปเทสํ. ยํ ‘‘นทีตุมฺพ’’นฺติปิ ‘‘นทีกฺุช’’นฺติปิ วทนฺติ. ตตฺถ หิ รชตปฏฺฏสทิสา วาลุกา โหติ, มตฺถเก มณิวิตานํ วิย วนคหนํ, มณิขนฺธสทิสํ อุทกํ สนฺทติ. เอวรูปํ กนฺทรํ โอรุยฺห ปานียํ ปิวิตฺวา คตฺตานิ สีตานิ กตฺวา วาลุกํ อุสฺสาเปตฺวา ปํสุกูลจีวรํ ปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส สมณธมฺมํ กโรโต จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. คิริคุหนฺติ ทฺวินฺนํ ปพฺพตานํ อนฺตรํ, เอกสฺมึเยว วา อุมงฺคสทิสํ มหาวิวรํ. สุสานลกฺขณํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๓๔) วุตฺตํ.
วนปตฺถนฺติ คามนฺตํ อติกฺกมิตฺวา มนุสฺสานํ อนุปจารฏฺานํ ยตฺถ น กสนฺติ น วปนฺติ. เตเนวาห ‘‘วนปตฺถนฺติ ทูรานเมตํ เสนาสนานํ อธิวจน’’นฺติอาทิ (วิภ. ๕๓๑). อพฺโภกาสนฺติ อจฺฉนฺนํ. อากงฺขมาโน ปเนตฺถ จีวรกุฏึ ¶ กตฺวา วสติ. ปลาลปฺุชนฺติ ปลาลราสึ. มหาปลาลปฺุชโต หิ ปลาลํ นิกฺกฑฺฒิตฺวา ปพฺภารเลณสทิเส อาลเย กโรนฺติ, คจฺฉคุมฺพาทีนมฺปิ อุปริ ปลาลํ ปกฺขิปิตฺวา เหฏฺา นิสินฺนา สมณธมฺมํ กโรนฺติ. สพฺพเมตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘กาเยน วิวิตฺโต วิหรตี’’ติอาทิ. เอโก จงฺกมํ อธิฏฺาติ ปวตฺตยตีติ วุตฺตํ โหติ. อิริยตีติ อิริยาปถํ วตฺตยติ. วตฺตตีติ อิริยาปถวุตฺตึ อุปฺปาเทติ. ปาเลตีติ อิริยาปถํ รกฺขติ. ยเปตีติ ยปยติ. ยาเปตีติ ยาปยติ.
ปมํ ¶ ฌานํ สมาปนฺนสฺสาติ กุสลชฺฌานสมงฺคิสฺส. นีวรเณหิ จิตฺตํ วิวิตฺตนฺติ อุปจาเรน นีวรเณหิ วิวิตฺตมฺปิ สมานํ อนฺโตอปฺปนายํ สุฏฺุ วิวิตฺตํ นาม โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส นีวรเณหิ จิตฺตํ วิวิตฺตํ โหตี’’ติ วุตฺตํ. เอเสว นโย วิตกฺกวิจารปีติสุขทุกฺเขหิ ¶ ทุติยตติยจตุตฺถชฺฌานานิ สมาปนฺนานนฺติ. รูปสฺายาติ กุสลวิปากกิริยวเสน ปฺจทสนฺนํ รูปาวจรชฺฌานานํ สฺาย. ปฏิฆสฺายาติ จกฺขุรูปาทิสงฺฆฏฺฏเนน อุปฺปนฺนาย กุสลากุสลวิปากวเสน ทฺวิปฺจวิฺาณสงฺขาตาย ปฏิฆสฺาย จ. นานตฺตสฺายาติ นานารมฺมเณ ปวตฺตาย จตุจตฺตาลีสกามาวจรสฺาย จ จิตฺตํ วิวิตฺตํ โหติ สฺุํ โหติ.
อากาสานฺจายตนํ สมาปนฺนสฺสาติ เอตฺถ นาสฺส อนฺโตติ อนนฺตํ, อากาสํ อนนฺตํ อากาสานนฺตํ, อากาสานนฺตเมว อากาสานฺจํ, ตํ อากาสานฺจํ อธิฏฺานฏฺเน อายตนมสฺส สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ฌานสฺส เทวานํ เทวายตนมิวาติ อากาสานฺจายตนํ, กสิณุคฺฆาฏิมากาสารมฺมณฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. ตํ อากาสานฺจายตนํ สมาปนฺนสฺส กุสลกิริยฌานํ สมาปนฺนสฺส. รูปสฺายาติ สฺาสีเสน รูปาวจรชฺฌานโต เจว ตทารมฺมณโต จ. รูปาวจรชฺฌานมฺปิ หิ ‘‘รูป’’นฺติ วุจฺจติ ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙), ตสฺส อารมฺมณมฺปิ ‘‘พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติอาทีสุปิ (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙). ตสฺมา อิธ รูเป สฺา รูปสฺาติ เอวํ สฺาสีเสน รูปาวจรชฺฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. รูเป สฺา อสฺสาติ รูปสฺํ, รูปมสฺส นามนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ ปถวีกสิณาทิเภทสฺส ตทารมฺมณสฺส ¶ เจตํ อธิวจนนฺติ เวทิตพฺพํ. เอตาย กุสลวิปากกิริยาวเสน ปฺจทสวิธาย ¶ ฌานสงฺขาตาย รูปสฺาย. เอตาย จ ปถวีกสิณาทิวเสน อฏฺวิธาย อารมฺมณสงฺขาตาย รูปสฺาย.
ปฏิฆสฺายาติ จกฺขาทีนํ วตฺถูนํ รูปาทีนํ อารมฺมณานฺจ ปฏิฆาเตน สมุปฺปนฺนา สฺา ปฏิฆสฺา, รูปสฺาทีนํ เอตํ อธิวจนํ. ยถาห – ‘‘ตตฺถ กตมา ปฏิฆสฺา? รูปสฺา สทฺทสฺา คนฺธสฺา รสสฺา โผฏฺพฺพสฺา, อิมา วุจฺจนฺติ ปฏิฆสฺาโย’’ติ (วิภ. ๖๐๓). ตา กุสลวิปากา ปฺจ อกุสลวิปากา ปฺจาติ เอตาย ปฏิฆสฺาย.
นานตฺตสฺายาติ นานตฺเต โคจเร ปวตฺตาย สฺาย, นานตฺตาย วา สฺาย. ยถาห – ‘‘ตตฺถ กตมา นานตฺตสฺา? อสมาปนฺนสฺส มโนธาตุสมงฺคิสฺส วา มโนวิฺาณธาตุสมงฺคิสฺส วา สฺา สฺชานนา สฺชานิตตฺตํ, อิมา วุจฺจนฺติ นานตฺตสฺาโย’’ติ (วิภ. ๖๐๔) เอวํ วิภงฺเค วิภชิตฺวา วุตฺตา. ตา อิธ อธิปฺเปตา. อสมาปนฺนสฺส มโนธาตุมโนวิฺาณธาตุสงฺคหิตา สฺา รูปสทฺทาทิเภเท นานตฺเต นานาสภาเว โคจเร ปวตฺตนฺติ. ยสฺมา เจสา อฏฺ กามาวจรกุสลสฺา, ทฺวาทส อกุสลสฺา, เอกาทส กามาวจรกุสลวิปากสฺา, ทฺเว อกุสลวิปากสฺา ¶ , เอกาทส กามาวจรกิริยสฺาติ เอวํ จตุจตฺตาลีสมฺปิ สฺา นานตฺตา นานาสภาวา อฺมฺํ อสทิสา, ตสฺมา ‘‘นานตฺตสฺา’’ติ วุตฺตา, ตาย นานตฺตสฺาย.
จิตฺตํ วิวิตฺตํ โหตีติ อากาสานฺจายตนํ สมาปนฺนสฺส รูปสฺาปฏิฆสฺานานตฺตสฺาสงฺขาตาหิ สฺาหิ ฌานจิตฺตํ วิวิตฺตํ โหติ วินา โหติ อปสกฺกนํ โหติ. วิฺาณฺจายตนนฺติ เอตเทว วิฺาณํ อธิฏฺานฏฺเน อายตนมสฺสาติ วิฺาณฺจายตนํ, อากาเส ปวตฺตวิฺาณารมฺมณสฺส ฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. ตํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส วุตฺตปฺปการาย อากาสานฺจายตนสฺาย จิตฺตํ วิวิตฺตํ โหติ.
อากิฺจฺายตนนฺติ ¶ เอตฺถ ปน นาสฺส กิฺจนนฺติ อกิฺจนํ, อนฺตมโส ภงฺคมตฺตมฺปิ อสฺส อวสิฏฺํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. อกิฺจนสฺส ภาโว อากิฺจฺํ, อากาสานฺจายตนวิฺาณาปคมสฺเสตํ อธิวจนํ. ตํ อากิฺจฺํ อธิฏฺานฏฺเน อายตนมสฺสาติ อากิฺจฺายตนํ, อากาเส ¶ ปวตฺติตวิฺาณาปคมารมฺมณฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. ตํ อากิฺจฺายตนํ สมาปนฺนสฺส ตาย วิฺาณฺจายตนสฺาย จิตฺตํ วิวิตฺตํ.
เนวสฺานาสฺายตนนฺติ เอตฺถ ปน ยาย สฺาย ภาวโต ตํ ‘‘เนวสฺานาสฺายตน’’นฺติ วุจฺจติ, ยถาปฏิปนฺนสฺส สา สฺา โหติ, ตํ ตาว ทสฺเสตุํ วิภงฺเค (วิภ. ๖๒๐) ‘‘เนวสฺีนาสฺี’’ติ อุทฺธริตฺวา ตฺเว ‘‘อากิฺจฺายตนํ สนฺตโต มนสิ กโรติ, สงฺขาราวเสสสมาปตฺตึ ภาเวติ, เตน วุจฺจติ เนวสฺีนาสฺี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ สนฺตโต มนสิ กโรตีติ ‘‘สนฺโตวตายํ สมาปตฺติ, ยตฺร หิ นาม นตฺถิภาวมฺปิ อารมฺมณํ กริตฺวา วสตี’’ติ เอวํ สนฺตารมฺมณตาย นํ ‘‘สนฺตา’’ติ มนสิ กโรติ. ตํ เนวสฺานาสฺายตนํ อปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส ตาย อากิฺจฺายตนสฺาย ฌานจิตฺตํ สฺุํ โหติ.
โสตาปนฺนสฺสาติ โสตาปตฺติผลํ ปตฺตสฺส. สกฺกายทิฏฺิยาติ วีสติวตฺถุกาย สกฺกายทิฏฺิยา. วิจิกิจฺฉายาติ อฏฺสุ าเนสุ กงฺขาย. สีลพฺพตปรามาสาติ ‘‘สีเลน สุทฺธิ, วเตน สุทฺธี’’ติ ปรามสิตฺวา อุปฺปชฺชนกทิฏฺิ. ทิฏฺานุสยาติ อปฺปหีนฏฺเน สนฺตาเน อนุสยกา ทิฏฺานุสยา. ตถา วิจิกิจฺฉานุสยา. ตเทกฏฺเหิ จาติ เตหิ สกฺกายทิฏฺิอาทีหิ เอกโต ¶ ิเตหิ จ. อุปตาเปนฺติ วิพาเธนฺติ จาติ กิเลสา, เตหิ สกฺกายทิฏฺิยาทิกิเลเสหิ จิตฺตํ วิวิตฺตํ สฺุํ โหติ. เอตฺถ ‘‘ตเทกฏฺ’’นฺติ ทุวิธํ เอกฏฺํ ปหาเนกฏฺํ สหเชกฏฺฺจ. อปายคมนียา หิ กิเลสา ยาว โสตาปตฺติมคฺเคน น ปหียนฺติ, ตาว ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาหิ สห เอกสฺมึ ปุคฺคเล ิตาติ ปหาเนกฏฺา. ทสสุ หิ กิเลเสสุ อิธ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉา ¶ เอว อาคตา. อนุสเยสุ ทิฏฺานุสยวิจิกิจฺฉานุสยา อาคตา. เสสา ปน อปายคมนีโย โลโภ โทโส โมโห มาโน ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อฏฺ กิเลสา ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาหิ สห ปหาเนกฏฺา หุตฺวา ทฺวีหิ อนุสเยหิ สทฺธึ โสตาปตฺติมคฺเคน ปหียนฺติ. ราคโทสโมหปมุเขสุ วา ทิยฑฺเฒสุ กิเลสสหสฺเสสุ โสตาปตฺติมคฺเคน ทิฏฺิยา ปหียมานาย ทิฏฺิยา สห วิจิกิจฺฉา ปหีนา, ทิฏฺานุสยวิจิกิจฺฉานุสเยหิ สห อปายคมนียา สพฺพกิเลสา ปหาเนกฏฺวเสน ปหียนฺติ. สหเชกฏฺา ¶ ปน ทิฏฺิยา สห วิจิกิจฺฉาย จ สห เอเกกสฺมึ จิตฺเต ิตา อวเสสกิเลสา.
โสตาปตฺติมคฺเคน หิ จตฺตาริ ทิฏฺิสหคตานิ วิจิกิจฺฉาสหคตฺจาติ ปฺจ จิตฺตานิ ปหียนฺติ. ตตฺถ ทฺวีสุ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตอสงฺขาริกจิตฺเตสุ ปหียมาเนสุ เตหิ สหชาโต โลโภ โมโห อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อิเม กิเลสา สหเชกฏฺวเสน ปหียนฺติ, ทฺวีสุ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตสสงฺขาริกจิตฺเตสุ ปหียมาเนสุ เตหิ สหชาโต โลโภ โมโห ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อิเม กิเลสา สหเชกฏฺวเสน ปหียนฺติ, วิจิกิจฺฉาสหคตจิตฺเต ปหียมาเน เตน สหชาโต โมโห อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อิเม กิเลสา สหเชกฏฺวเสน ปหียนฺติ. เตหิ ทุวิเธกฏฺเหิ กิเลเสหิ จิตฺตํ วิวิตฺตํ โหตีติ มคฺคจิตฺตํ วิวิจฺจติ, ผลจิตฺตํ วิวิตฺตํ วิยุตฺตํ อปสกฺกิตํ สฺุํ โหตีติ อตฺโถ.
สกทาคามิสฺส โอฬาริกา กามราคสฺโชนาติ โอฬาริกภูตา กายทฺวาเร วีติกฺกมสฺส ปจฺจยภาเวน ถูลภูตา เมถุนราคสงฺขาตา สฺโชนา. โส หิ กามภเว สฺโเชตีติ ‘‘สฺโชน’’นฺติ วุจฺจติ. ปฏิฆสฺโชนาติ พฺยาปาทสฺโชนา. โส หิ อารมฺมเณ ปฏิหฺตีติ ‘‘ปฏิฆ’’นฺติ วุจฺจติ. เต เอว ถามคตฏฺเน สนฺตาเน อนุเสนฺตีติ อนุสยา. อณุสหคตาติ สุขุมภูตา กามราคสฺโชนา ปฏิฆสฺโชนา อณุสหคตา กามราคานุสยา ปฏิฆานุสยาติ อปฺปหีนฏฺเน สนฺตาเน อนุสยนวเสน สุขุมภูตา กามราคปฏิฆานุสยา. ตเทกฏฺเหิ จาติ วุตฺตตฺเถหิ ทุวิเธกฏฺเหิ กิเลเสหิ จิตฺตํ วิวิตฺตํ สฺุํ โหติ.
อรหโตติ ¶ กิเลสารีนํ หตตฺตา ‘‘อรหา’’ติ ลทฺธนามสฺส. รูปราคาติ รูปภเว ฉนฺทราคา ¶ . อรูปราคาติ อรูปภเว ฉนฺทราคา. มานาติ อรหตฺตมคฺควชฺฌา มานา เอว. ตถา อุทฺธจฺจอวิชฺชามานานุสยาทโย อรหตฺตมคฺควชฺฌา. เอเตสุ อุณฺณติลกฺขโณ มาโน. อวูปสมลกฺขณํ อุทฺธจฺจํ. อนฺธภาวลกฺขณา อวิชฺชา. รูปราคอรูปราควเสน ปวตฺตา ภวราคานุสยา. ตเทกฏฺเหิ จาติ เตหิ เอกโต ิเตหิ ¶ จ กิเลเสหิ. พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตหีติ อชฺฌตฺตจิตฺตสนฺตาเน อกุสลกฺขนฺเธ อุปาทาย ‘‘พหิทฺธา’’ติ สงฺขํ คเตหิ อชฺฌตฺตํ มฺุจิตฺวา พหิทฺธา ปวตฺเตหิ สพฺพสงฺขารนิมิตฺเตหิ มคฺคจิตฺตํ วิวิจฺจติ วินา โหติ อปสกฺกติ, ผลจิตฺตํ วิวิตฺตํ วิยุตฺตํ อปสกฺกิตํ โหติ.
ตตฺถ กิเลสปฏิปาฏิยา มคฺคปฏิปาฏิยา จาติ ทฺวิธา อนุสยานํ อภาโว เวทิตพฺโพ. กิเลสปฏิปาฏิยา หิ กามราคานุสยปฏิฆานุสยานํ ตติยมคฺเคน อภาโว โหติ, มานานุสยสฺส จตุตฺถมคฺเคน, ทิฏฺานุสยวิจิกิจฺฉานุสยานํ ปมมคฺเคน, ภวราคานุสยาวิชฺชานุสยานํ จตุตฺถมคฺเคเนว. มคฺคปฏิปาฏิยา ปน ปมมคฺเคน ทิฏฺานุสยวิจิกิจฺฉานุสยานํ อภาโว โหติ, ทุติยมคฺเคน กามราคานุสยปฏิฆานุสยานํ ตนุภาโว, ตติยมคฺเคน สพฺพโส อภาโว, จตุตฺถมคฺเคน มานานุสยภวราคานุสยาวิชฺชานุสยานํ อภาโว โหติ. จิตฺตวิเวโกติ มหคฺคตโลกุตฺตรจิตฺตานํ กิเลเสหิ สฺุภาโว, ตุจฺฉภาโวติ อตฺโถ.
อุปธิวิเวโกติ กิเลสกฺขนฺธอภิสงฺขารสงฺขาตานํ อุปธีนํ สฺุภาโว. อุปธึ ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘อุปธิ วุจฺจนฺติ กิเลสา จา’’ติอาทิมาห. ราคาทโย ยสฺส อุปฺปชฺชนฺติ, ตํ อุปตาเปนฺติ วิพาเธนฺตีติ กิเลสา จ. อุปาทานโคจรา รูปาทโย ปฺจกฺขนฺธา จ. อุปาทานสมฺภูตา ปฺุาปฺุอาเนฺชาภิสงฺขารา จ. อมตนฺติ นตฺถิ เอตสฺส มรณสงฺขาตํ มตนฺติ อมตํ, กิเลสวิสปฏิปกฺขตฺตา อคทนฺติปิ อมตํ. สํสารโยนิคติอุปปตฺติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาเสสุ สํสิพฺพติ วินตีติ ตณฺหา ‘‘วาน’’นฺติ วุจฺจติ, ตํ ตตฺถ นตฺถีติ นิพฺพานํ. วิเวกฏฺกายานนฺติ ¶ คณสงฺคณิกาย อปคตสรีรานํ. เนกฺขมฺมาภิรตานนฺติ เนกฺขมฺเม กามาทิโต นิกฺขนฺเต ปมชฺฌานาทิเก อภิรตานํ ตนฺนินฺนานํ. ปรมโวทานปฺปตฺตานนฺติ อุตฺตมปริสุทฺธภาวผลํ ปาปุณิตฺวา ิตานํ. ‘‘อุปกฺกิเลสาภาเวน ปริสุทฺธจิตฺตานํ, กิเลเสหิ มุตฺตภาเวน ปรมโวทานปฺปตฺตานํ. วิกฺขมฺภนปฺปหาเนน ปริสุทฺธจิตฺตานํ, สมุจฺเฉทปฺปหาเนน ปรมโวทานปฺปตฺตาน’’นฺติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. นิรูปธีนนฺติ วิคตูปธีนํ. วิสงฺขารคตานนฺติ สงฺขารารมฺมณํ จชิตฺวา วิคตสงฺขารํ นิพฺพานํ อารมฺมณวเสน อุปคตานํ. วิสงฺขารคตํ จิตฺตนฺติ เอตฺถปิ หิ นิพฺพานเมว ‘‘วิสงฺขาร’’นฺติ วุตฺตํ.
วิทูเรติ ¶ ¶ วิวิเธ ทูเร. สุวิทูเรติ สุฏฺุ วิทูเร. น สนฺติเกติ น สมีเป. น สามนฺตาติ น เอกปสฺเส. อนาสนฺเนติ อนจฺจนฺตสมีเป. วิเวกฏฺเติ อติทูเร, วิคเตติ อตฺโถ. ตาทิโสติ ตํสทิโส. ตสฺสณฺิโตติ เตน อากาเรน ิโต. ตปฺปกาโรติ เตน ปกาเรน ิโต. ตปฺปฏิภาโคติ ตํโกฏฺาสิโก. อถ วา ‘‘อตฺตภาวคุหาย ลคฺคภาเวน ตาทิโส. กิเลเสหิ ฉนฺนภาเวน ตสฺสณฺิโต. โมหนสฺมึ ปคาฬฺหภาเวน ตปฺปกาโร. ตีหิ วิเวเกหิ ทูรภาเวน ตปฺปฏิภาโคติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
ทุปฺปหายาติ สุเขน ปหาตพฺพา น โหนฺติ. ทุจฺจชฺชาติ สุเขน ชหิตุํ น สกฺกา. ทุปฺปริจฺจชฺชาติ สพฺพากาเรน ชหิตุํ น สกฺกา. ทุนฺนิมฺมทยาติ นิมฺมทํ อมทํ กาตุํ น สกฺกา. ทุพฺพินิเวยาติ วินิเวนํ โมจนํ กาตุํ น สกฺกา. ทุตฺตราติ อุตฺตริตฺวา อติกฺกนฺตุํ น สกฺกา. ทุปฺปตราติ วิเสเสตฺวา ตริตุํ น สกฺกา. ทุสฺสมติกฺกมาติ ทุกฺเขน อติกฺกมิตพฺพา. ทุพฺพินิวตฺตาติ นิวตฺเตตุํ ทุกฺขา. อถ ¶ วา ‘‘ปกติวเสน ทุปฺปริจฺจชฺชา. โคณปตาสํ วิย ทุนฺนิมฺมทยา. นาคปาสํ วิย ทุพฺพินิเวยา. คิมฺหสมเย มรุกนฺตารํ วิย ทุตฺตรา ทุปฺปตรา. พฺยคฺฆปริคฺคหิตา อฏวี วิย ทุสฺสมติกฺกมา. สมุทฺทวีจิ วิย ทุพฺพินิวตฺตาติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
๘. เอวํ ปมคาถาย ‘‘ทูเร วิเวกา หิ ตถาวิโธ’’ติ สาเธตฺวา ปุน ตถาวิธานํ สตฺตานํ ธมฺมตํ อาวิ กโรนฺโต ‘‘อิจฺฉานิทานา’’ติอาทิคาถมาห. ตตฺถ อิจฺฉานิทานาติ ตณฺหาเหตุกา. ภวสาตพทฺธาติ สุขเวทนาทิมฺหิ ภวสาเตน พทฺธา. เต ทุปฺปมฺุจาติ เต ภวสาตวตฺถุภูตา ธมฺมา. เต วา ตตฺถ พทฺธา อิจฺฉานิทานา สตฺตา ทุปฺปโมจยา. น หิ อฺโมกฺขาติ อฺเ จ โมเจตุํ น สกฺโกนฺติ. การณวจนํ วา เอตํ. เต สตฺตา ทุปฺปมฺุจา. กสฺมา? ยสฺมา อฺเน โมเจตพฺพา น โหนฺติ. ยทิ สตฺตา มฺุเจยฺยุํ, สเกน ถาเมน มฺุเจยฺยุนฺติ อยมสฺส อตฺโถ. ปจฺฉา ปุเร วาปิ อเปกฺขมานาติ อนาคเต อตีเต วา กาเม อเปกฺขมานา. อิเม ว กาเม ปุริเม ว ชปฺปนฺติ อิเม วา ปจฺจุปฺปนฺเน กาเม ปุริเม วา ทุวิเธปิ อตีตานาคเต พลวตณฺหาย ปตฺถยมานา. อิเมสฺจ ทฺวินฺนํ ปทานํ ‘‘เต ทุปฺปมฺุจา น หิ อฺโมกฺขา’’ติ ¶ อิมินาว สห สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อิตรถา อเปกฺขมานา ชปฺปํ กึ กโรนฺติ, กึ วา กตาติ น ปฺาเยยฺยุํ.
ภวสาตพทฺธาติ ภเว สาตํ ภวสาตํ, เตน ภวสาเตน สุขสฺสาเทน พทฺธา หุตฺวา ิตา. ตํ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เอกํ ภวสาตํ – สุขา เวทนา’’ติอาทิมาห. โยพฺพนภาโว โยพฺพฺํ. อโรคภาโว ¶ อาโรคฺยํ. ชีวิตินฺทฺริยสฺส ปวตฺตภาโว ชีวิตํ. ลาโภติ ¶ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ ลาโภ. ยโสติ ปริวาโร. ปสํสาติ กิตฺติ. สุขนฺติ กายิกเจตสิกํ สุขํ. มนาปิกา รูปาติ มนวฑฺฒนกา รูปา. เสเสสุปิ เอเสว นโย.
จกฺขุสมฺปทาติ จกฺขุสฺส สมฺปทา. ‘‘มยฺหํ จกฺขุ สมฺปนฺนํ มณิวิมาเน อุคฺฆาฏิตสีหปฺชรํ วิย ขายตี’’ติ อุปฺปนฺนํ สุขสฺสาทํ สนฺธาย ‘‘จกฺขุสมฺปทา’’ติ วุตฺตํ. โสตสมฺปทาทีสุปิ เอเสว นโย. สุขาย เวทนาย สาตพทฺธา…เป… วิพทฺธาติ วิวิธากาเรน พทฺธา. อาพทฺธาติ วิเสเสน อาทิโต พทฺธา. ลคฺคาติ อารมฺมเณน สทฺธึ อปฺปิตา. ลคฺคิตาติ นาคทนฺเต ผาณิตวารโก วิย ลคฺคิตา. ยเมตฺถ จ อวุตฺตํ, ตํ สตฺโต วิสตฺโตติอาทิมฺหิ วุตฺตนเยน คเหตพฺพํ.
น หิ อฺโมกฺขาติ น ปเรหิ โมกฺขา. เต วา ภวสาตวตฺถู ทุปฺปมฺุจาติ ภเว สุขสฺสาทวตฺถุภูตา ธมฺมา เต มฺุจิตุํ ทุกฺขา. สตฺตา วา เอตฺโต ทุมฺโมจยาติ สตฺตา เอว วา เอตสฺมา ภวสาตวตฺถุโต โมเจตุํ ทุกฺขา.
ทุรุทฺธราติ อุทฺธริตุํ ทุกฺขา. ทุสฺสมุทฺธราติ สมนฺตโต ฉินฺนตเฏ นรกาวาเฏ ปติโต วิย อุทฺธํ กตฺวา อุทฺธริตุํ ทุกฺขา. ทุพฺพุฏฺาปยาติ อุฏฺาเปตุํ ทุกฺขา. ทุสฺสมุฏฺาปยาติ สุขุมอตฺตภาวํ ปถวิยํ ปติฏฺาปนํ วิย อุสฺสาเปตุํ อติวิย ทุกฺขา.
เต อตฺตนา ปลิปปลิปนฺนาติ คมฺภีรกทฺทเม ยาว สีสโต นิมุคฺคา น สกฺโกนฺติ. ปรํ ปลิปปลิปนฺนํ อุทฺธริตุนฺติ อปรํ ตเถว นิมุคฺคํ หตฺเถ วา สีเส วา คเหตฺวา อุทฺธริตฺวา ถเล ปติฏฺาเปตุํ น สกฺโกนฺติ. โส วต จุนฺทาติ โสติ วตฺตพฺพาการปุคฺคลนิทฺเทโส. ตสฺส ‘‘โย’’ติ อิมํ อุทฺเทสวจนํ อาหริตฺวา โย อตฺตนา ปลิปปลิปนฺโน, โส วต ¶ , จุนฺท, ปรํ ปลิปปลิปนฺนํ อุทฺธริสฺสตีติ. เอวํ เสสปเทสุ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ปลิปปลิปนฺโนติ คมฺภีรกทฺทเม นิมุคฺโค วุจฺจติ. ยถา, จุนฺท, โกจิ ปุริโส ยาว ¶ สีสโต คมฺภีรกทฺทเม นิมุคฺโค, ปรมฺปิ ตเถว นิมุคฺคํ หตฺเถ วา สีเส วา คเหตฺวา อุทฺธริสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. น หิ ตํ การณมตฺถิ, เยน โส ตํ อุทฺธริตฺวา ถเล ปติฏฺาเปยฺยาติ. อทนฺโต อวินีโต อปรินิพฺพุโตติ เอตฺถ ปน อนิพฺพิเสวนตาย อทนฺโต. อสิกฺขิตวินยตาย อวินีโต. อนิพฺพุตกิเลสตาย อปรินิพฺพุโตติ เวทิตพฺโพ. โส ตาทิโส ปรํ ทเมสฺสติ นิพฺพิเสวนํ กริสฺสติ, วิเนสฺสติ ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขาเปสฺสติ. ปรินิพฺพาเปสฺสติ ตสฺส กิเลเส นิพฺพาเปสฺสติ.
นตฺถฺโ ¶ โกจีติ อฺโ โกจิ ปุคฺคโล โมเจตุํ สมตฺโถ นตฺถิ. สเกน ถาเมนาติ อตฺตโน าณถาเมน. พเลนาติ าณพเลน. วีริเยนาติ าณสมฺปยุตฺตเจตสิกวีริเยน. ปุริสปรกฺกเมนาติ ปรํ ปรํ านํ อกฺกมเนน มหนฺตวีริเยน.
นาหํ สหิสฺสามีติ อหํ น สหิสฺสามิ น สกฺโกมิ, น วายมิสฺสามีติ วุตฺตํ โหติ. ปโมจนายาติ ปโมเจตุํ. กถํกถินฺติ สกงฺขํ. โธตกาติ อาลปนํ. ตเรสีติ ตเรยฺยาสิ.
‘‘อตฺตนา หิ กตํ ปาปํ, อตฺตนา สํกิลิสฺสติ;
อตฺตนา อกตํ ปาปํ, อตฺตนาว วิสุชฺฌติ;
สุทฺธี อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ, นาฺโ อฺํ วิโสธเย’’ติ. (ธ. ป. ๑๖๕; กถา. ๗๔๓) –
เอตฺถายมตฺโถ – เยน อตฺตนา อกุสลํ กมฺมํ กตํ โหติ, โส จตูสุ อปาเยสุ ทุกฺขํ อนุภวนฺโต อตฺตนาว สํกิลิสฺสติ. เยน ปน อตฺตนา อกตํ ปาปํ, โส สุคติฺเจว อคติฺจ คจฺฉนฺโต อตฺตนาว วิสุชฺฌติ. กุสลกมฺมสงฺขาตา สุทฺธิ อกุสลกมฺมสงฺขาตา จ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ การกสตฺตานํ อตฺตนิเยว วิปจฺจติ. อฺโ ปุคฺคโล อฺํ ปุคฺคลํ น วิโสธเย เนว วิโสเธติ, น กิเลเสตีติ วุตฺตํ โหติ.
ติฏฺเตว นิพฺพานนฺติ อมตมหานิพฺพานํ ติฏฺติเยว. นิพฺพานคามิมคฺโคติ ปุพฺพภาควิปสฺสนาโต ปฏฺาย อริยมคฺโค. ติฏฺามหํ สมาทเปตาติ อหํ คณฺหาเปตา ปติฏฺาเปตา ติฏฺามิ. เอวํ ¶ โอวทิยมานา เอวํ อนุสาสิยมานาติ ¶ มยา เอวํ โอวทิยมานา เอวํ อนุสาสิยมานา. เอตฺถ อุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมึ วทนฺโต โอวทติ นาม, อนุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมึ อนุสาสนฺโต ‘‘อยโสปิ เต ภวิสฺสตี’’ติอาทิวเสน อนาคตํ ทสฺเสนฺโต อนุสาสติ นาม. สมฺมุขา วทนฺโตปิ โอวทติ นาม, ปรมฺมุขา ทูตสาสนํ วา เปเสนฺโต อนุสาสติ นาม. สกึ วทนฺโตปิ โอวทติ นาม, ปุนปฺปุนํ วทนฺโต อนุสาสติ นาม. โอวทนฺโต เอว วา อนุสาสติ นาม. อปฺเปกจฺเจติ อปิ เอกจฺเจ, เอเกติ อตฺโถ. อจฺจนฺตนิฏฺํ นิพฺพานํ อาราเธนฺตีติ ขยวยสงฺขาตํ อนฺตํ อตีตนฺติ อจฺจนฺตํ, อจฺจนฺตฺจ ตํ สพฺพสงฺขารานํ อปฺปวตฺติฏฺานตฺตา นิฏฺฺจาติ อจฺจนฺตนิฏฺํ, เอกนฺตนิฏฺํ, สตตนิฏฺนฺติ อตฺโถ. ตํ อจฺจนฺตนิพฺพานํ อาราเธนฺติ สมฺปาเทนฺติ. นาราเธนฺตีติ น สมฺปาเทนฺติ, น ปฏิลภนฺตีติ อตฺโถ. เอตฺถ กฺยาหนฺติ เอเตสุ กึ อหํ, กึ กโรมีติ อตฺโถ. มคฺคกฺขายีติ ปฏิปทามคฺคกฺขายี ¶ . อาจิกฺขติ กเถติ. อตฺตนา ปฏิปชฺชมานา มฺุเจยฺยุนฺติ ปฏิปชฺชนฺตา มยํ มฺุเจยฺยุํ.
อตีตํ อุปาทายาติ อตีตํ ปฏิจฺจ. กถํ ปุเร อเปกฺขํ กโรตีติ เกน ปกาเรน อิกฺขํ โอโลกนํ กโรติ. เอวํรูโป อโหสินฺติ ทีฆรสฺสอณุกถูลาทิวเสน เอวํชาติโก เอวรูโป อภวึ. ตตฺถ นนฺทึ สมนฺนาเนตีติ ตสฺมึ รูปารมฺมเณ ตณฺหํ สมฺมา อานยติ อุปเนติ. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย.
‘‘อิติ เม จกฺขู’’ติอาทโย วตฺถุอารมฺมณวเสน ตณฺหุปฺปตฺตึ ทสฺเสนฺโต อาห. อิติ รูปาตีติ เอวํ รูปา อิติ. ตตฺถ ฉนฺทราคปฏิพทฺธนฺติ เตสุ จกฺขุรูเปสุ ทุพฺพลสงฺขาโต ฉนฺโท จ พลวสงฺขาโต ราโค จ, เตน ฉนฺทราเคน ปฏิพทฺธํ อลฺลีนํ. วิฺาณนฺติ ชวนจิตฺตํ. ฉนฺทราคปฏิพทฺธตฺตา วิฺาณสฺสาติ ตสฺส ชวนวิฺาณสฺส ฉนฺทราเคน พทฺธภาวา. ตทภินนฺทตีติ ตํ อารมฺมณํ ตณฺหาวเสน อภินนฺทติ.
ยานิสฺส ¶ ตานีติ ยานิ อสฺส ตานิ. ปุพฺเพติ อตีเต. สทฺธินฺติ เอกโต. หสิตลปิตกีฬิตานีติ ทนฺตวิทํสาทิหสิตานิ จ, วจีเภทํ กตฺวา ลปิตานิ จ, กายขิฑฺฑาทิกีฬิตานิ จ. ตทสฺสาเทตีติ ตํ อสฺสาทยติ อสฺสาทํ วินฺทติ สาทิยติ. ตํ นิกาเมตีติ ตํ นิกามยติ ปจฺจาสีสติ. วิตฺตึ อาปชฺชตีติ ตุฏฺึ ปาปุณาติ.
สิยนฺติ ¶ ภเวยฺยํ. อปฺปฏิลทฺธสฺส ปฏิลาภายาติ อปฺปตฺตสฺส ปาปุณนตฺถาย. จิตฺตํ ปณิทหตีติ จิตฺตํ เปติ. เจตโส ปณิธานปจฺจยาติ จิตฺตสฺส ปนการณา.
สีเลน วาติ ปฺจสีลาทิสีเลน วา. วเตน วาติ ธุตงฺคสมาทาเนน วา. ตเปน วาติ วีริยสมาทาเนน วา. พฺรหฺมจริเยน วาติ เมถุนวิรติยา วา. เทโว วาติ มหานุภาโว เทวราชา วา. เทวฺตโร วาติ เตสํ อฺตโร วา.
ชปฺปนฺตาติ คุณวเสน กเถนฺตา. ปชปฺปนฺตาติ ปกาเรน กเถนฺตา. อภิชปฺปนฺตาติ วิเสเสน กเถนฺตา, อุปสคฺควเสน วา วฑฺฒิตํ.
๙. เอวํ ปมคาถาย ‘‘ทูเร วิเวกา หิ ตถาวิโธ’’ติ สาเธตฺวา ทุติยคาถาย จ ตถาวิธานํ ¶ ธมฺมตํ อาวิ กตฺวา อิทานิ เตสํ ปาปกรณํ อาวิ กโรนฺโต ‘‘กาเมสุ คิทฺธา’’ติ คาถมาห.
ตสฺสตฺโถ – เต สตฺตา กาเมสุ ปริโภคตณฺหาย คิทฺธา, ปริเยสนาทิมนุยุตฺตตฺตา ปสุตา, สมฺโมหมาปนฺนตฺตา ปมูฬฺหา, อวคมนตาย มจฺฉริยตาย พุทฺธาทีนํ วจนํ อนาทิยตาย จ อวทานิยา, กายวิสมาทิมฺหิ วิสเม นิวิฏฺา, อนฺตกาเล มรณทุกฺขูปนีตา, ‘‘กึสุ ภวิสฺสาม อิโต จุตาเส’’ติ ปริเทวยนฺตีติ.
คิทฺธาติ กามราเคน คิทฺธา. คธิตาติ สงฺกปฺปราเคน ปจฺจาสีสมานา หุตฺวา คธิตา. มุจฺฉิตาติ กามตณฺหาย มุจฺฉาปเรตา. อชฺโฌสนฺนาติ กามนนฺทิยา อธิโอสนฺนา อชฺโฌตฺถฏา. ลคฺคาติ กามสิเนเหน อลฺลีนา. ลคฺคิตาติ กามปริฬาเหน เอกีภูตา. ปลิพุทฺธาติ กามสฺาย อาวฏฺฏิตา. อถ วา ‘‘ทิฏฺิทสฺสเน คิทฺธา. อภิณฺหทสฺสเน คธิตา. สํสคฺคกิริยสฺมึ ¶ มุจฺฉิตา. วิสฺสาสกิริยสฺมึ อชฺโฌสนฺนา. สิเนหวฬฺชสฺมึ ลคฺคา. ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติมฺหิ ลคฺคิตา. อปราปรํ อมฺุจมานา หุตฺวา ปลิพุทฺธา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
เอสนฺตีติ ปจฺจาสีสนฺติ. คเวสนฺตีติ มคฺคยนฺติ. ปริเยสนฺตีติ สพฺพากาเรน อิจฺฉนฺติ ปตฺเถนฺติ. อถ วา ทิฏฺารมฺมเณ สุภาสุภํ อตฺถิ, นตฺถีติ เอสนฺติ. สุภาสุภารมฺมเณ ปจฺจกฺขํ กตฺวา วฬฺชนตฺถาย ปิยํ กโรนฺตา คเวสนฺติ ¶ . จิตฺตวเสน เอสนฺติ. ปโยควเสน คเวสนฺติ. กรณวเสน ปริเยสนฺติ. เต ทุวิเธ กาเม ปฏิจฺจ โอตริตฺวา จรนฺตีติ ตจฺจริตา. เต จ กาเม พหุลํ เยภุยฺเยน วฑฺเฒนฺติ ปวตฺตยนฺตีติ ตพฺพหุลา. เต จ กาเม ครุํ กตฺวา รหนฺตีติ ตคฺครุกา. เตสุ กาเมสุ นินฺนา นมิตา หุตฺวา วสนฺตีติ ตนฺนินฺนา. เตสุ กาเมสุ สนฺนินฺนา หุตฺวา วสนฺตีติ ตปฺโปณา. เตสุ กาเมสุ อวลมฺพิตา หุตฺวา เตสุเยว นมิตา วสนฺตีติ ตปฺปพฺภารา. เตสุ กาเมสุ อวตฺถริตฺวา มุจฺฉาปเรตปฺปสงฺคา หุตฺวา วทนฺตีติ ตทธิมุตฺตา. เต จ กาเม อธิปตึ เชฏฺกํ กตฺวา วสนฺตีติ ตทธิปเตยฺยา. อถ วา ‘‘อารมฺมณสฺส อิฏฺภาเวน ตจฺจริตา. อารมฺมณสฺส กนฺตภาเวน ตพฺพหุลา. อารมฺมณสฺส มนาปภาเวน ตคฺครุกา. อารมฺมณสฺส ปิยภาเวน ตนฺนินฺนา. อารมฺมณสฺส กามุปสํหิตภาเวน ตปฺโปณา. อารมฺมณสฺส รชนียภาเวน ตปฺปพฺภารา. อารมฺมณสฺส มุจฺฉนียภาเวน ตทธิมุตฺตา. อารมฺมณสฺส พนฺธนียภาเวน ตทธิปเตยฺยา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
รูเป ¶ ปริเยสนฺตีติอาทีสุ ปริเยสนฺตีติ อลทฺธสฺส ลาภาย เอสนวเสน. ปฏิลภนฺตีติ หตฺถคตวเสน. ปริภฺุชนฺตีติ วฬฺชนวเสน วุตฺตนฺติ าตพฺพํ. กลหํ วิวาทํ กโรตีติ กลหการโก. ตสฺมึ นิยุตฺโตติ กลหปสุโต. กมฺมการกาทีสุปิ เอเสว นโย. โคจเร จรนฺโตติ เวสิยาทิโคจเร, สติปฏฺานาทิโคจเร วา ¶ จรมาโน. เตสุ นิยุตฺโต โคจรปสุโต. อารมฺมณูปนิชฺฌานวเสน ฌานํ อสฺส อตฺถีติ ฌายี. ตสฺมึ นิยุตฺโต ฌานปสุโต.
อวคจฺฉนฺตีติ อปายํ คจฺฉนฺติ. มจฺฉริโนติ สกสมฺปตฺตึ นิคุหนฺตา. วจนนฺติ กถนํ. พฺยปถนฺติ วากฺยปถํ. เทสนนฺติ วิสฺสชฺชนโอวาทํ. อนุสิฏฺินฺติ อนุสาสนึ. นาทิยนฺตีติ น คณฺหนฺติ น ครุํ กโรนฺติ. ‘‘น ปฏิสฺสนฺตี’’ติ วา ปาโ, โสเยว อตฺโถ. วตฺถุโต มจฺฉริยทสฺสนตฺถํ ‘‘ปฺจ มจฺฉริยานิ อาวาสมจฺฉริย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาวาเส มจฺฉริยํ อาวาสมจฺฉริยํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.
อาวาโส ¶ นาม สกลาราโมปิ ปริเวณมฺปิ เอโกวรโกปิ รตฺติฏฺานาทีนิปิ. เตสุ วสนฺตา สุขํ วสนฺติ, ปจฺจเย ลภนฺติ. เอโก ภิกฺขุ วตฺตสมฺปนฺนสฺเสว เปสลสฺส ภิกฺขุโน ตตฺถ อาคมนํ น อิจฺฉติ, อาคโตปิ ‘‘ขิปฺปํ คจฺฉตู’’ติ จินฺเตสิ, อิทํ อาวาสมจฺฉริยํ นาม. ภณฺฑนการกาทีนํ ปน ตตฺถ วาสํ อนิจฺฉโต อาวาสมจฺฉริยํ นาม น โหติ.
กุลนฺติ อุปฏฺากกุลมฺปิ าติกุลมฺปิ. ตตฺถ อฺสฺส อุปสงฺกมนํ อนิจฺฉโต กุลมจฺฉริยํ โหติ. ปาปปุคฺคลสฺส ปน อุปสงฺกมนํ อนิจฺฉโตปิ มจฺฉริยํ นาม น โหติ. โส หิ เตสํ ปสาทเภทาย ปฏิปชฺชติ. ปสาทํ รกฺขิตุํ สมตฺถสฺเสว ปน ภิกฺขุโน ตตฺถ อุปสงฺกมนํ อนิจฺฉโต มจฺฉริยํ นาม โหติ.
ลาโภติ จตุปจฺจยลาโภว. ตํ อฺสฺมึ สีลวนฺเตเยว ลภนฺเต ‘‘มา ลภตู’’ติ จินฺเตนฺตสฺส ลาภมจฺฉริยํ โหติ. โย ปน สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตติ, อปริโภคทุปฺปริโภคาทิวเสน วินาเสติ, ปูติภาวํ คจฺฉนฺตมฺปิ อฺสฺส น เทติ, ตํ ทิสฺวา ‘‘สเจ อิมํ เอส น ลเภยฺย, อฺโ สีลวา ลเภยฺย, ปริโภคํ คจฺเฉยฺยา’’ติ จินฺเตนฺตสฺส มจฺฉริยํ นาม นตฺถิ.
วณฺโณ ¶ นาม สรีรวณฺโณปิ คุณวณฺโณปิ. ตตฺถ สรีรวณฺเณ มจฺฉรี ‘‘ปโร ปาสาทิโก รูปวา’’ติ ¶ วุตฺเต ตํ น กเถตุกาโม โหติ. คุณวณฺณมจฺฉรี ปรสฺส สีเลน ธุตงฺเคน ปฏิปทาย อาจาเรน วณฺณํ น กเถตุกาโม โหติ.
ธมฺโมติ ปริยตฺติธมฺโม จ ปฏิเวธธมฺโม จ. ตตฺถ อริยสาวกา ปฏิเวธธมฺมํ น มจฺฉรายนฺติ, อตฺตนา ปฏิวิทฺธธมฺเม สเทวกสฺส โลกสฺส ปฏิเวธํ อิจฺฉนฺติ. ตํ ปน ปฏิเวธํ ‘‘ปเร ชานนฺตู’’ติ อิจฺฉนฺติ, ตนฺติธมฺเมเยว ปน ธมฺมมจฺฉริยํ นาม โหติ. เตน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ยํ คุฬฺหํ คนฺถํ วา กถามคฺคํ วา ชานาติ, ตํ อฺเ น ชานาเปตุกาโม โหติ. โย ปน ปุคฺคลํ อุปปริกฺขิตฺวา ธมฺมานุคฺคเหน ธมฺมํ วา อุปปริกฺขิตฺวา ปุคฺคลานุคฺคเหน น เทติ, อยํ ธมฺมมจฺฉรี นาม น โหติ. ตตฺถ เอกจฺโจ ปุคฺคโล โลโล โหติ, กาเลน สมโณ โหติ ¶ , กาเลน พฺราหฺมโณ, กาเลน นิคณฺโ. โย หิ ภิกฺขุ ‘‘อยํ ปุคฺคโล ปเวณิอาคตํ ตนฺตึ สณฺหํ สุขุมํ ธมฺมนฺตรํ ภินฺทิตฺวา อาลุเฬสฺสตี’’ติ น เทติ, อยํ ปุคฺคลํ อุปปริกฺขิตฺวา ธมฺมานุคฺคเหน น เทติ นาม. โย ปน ‘‘อยํ ธมฺโม สณฺโห สุขุโม, สจายํ ปุคฺคโล คณฺหิสฺสติ, อฺํ พฺยากริตฺวา อตฺตานํ อาวิ กตฺวา นสฺสิสฺสตี’’ติ น เทติ, อยํ ธมฺมํ อุปปริกฺขิตฺวา ปุคฺคลานุคฺคเหน น เทติ นาม. โย ปน ‘‘สจายํ อิมํ ธมฺมํ คณฺหิสฺสติ, อมฺหากํ สมยํ ภินฺทิตุํ สมตฺโถ ภวิสฺสตี’’ติ น เทติ, อยํ ธมฺมมจฺฉรี นาม โหติ.
อิเมสุ ปฺจสุ มจฺฉริเยสุ อาวาสมจฺฉริเยน ตาว ยกฺโข วา เปโต วา หุตฺวา ตสฺเสว อาวาสสฺส สงฺการํ สีเสน อุกฺขิปิตฺวา วิจรติ. กุลมจฺฉริเยน ตสฺมึ กุเล อฺเสํ ทานมานนาทีนิ กโรนฺเต ทิสฺวา ‘‘ภินฺนํ วติทํ กุลํ มมา’’ติ จินฺตยโต โลหิตมฺปิ มุขโต อุคฺคจฺฉติ, กุจฺฉิวิเรจนมฺปิ โหติ, อนฺตานิปิ ขณฺฑาขณฺฑานิ หุตฺวา นิกฺขมนฺติ. ลาภมจฺฉริเยน สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา สนฺตเก ลาเภ มจฺฉรายิตฺวา ปุคฺคลิกปริโภคํ วิย ปริภฺุชิตฺวา ยกฺโข วา เปโต วา มหาอชคโร วา หุตฺวา นิพฺพตฺตติ. สรีรวณฺณคุณวณฺณมจฺฉเรน ¶ ปน ปริยตฺติธมฺมมจฺฉริเยน จ อตฺตโนว วณฺณํ วณฺเณติ, ปเรสํ วณฺเณ ‘‘กึ วณฺโณ เอโส’’ติ ตํ ตํ โทสํ วทนฺโต ปริยตฺติธมฺมฺจ กสฺสจิ กิฺจิ อเทนฺโต ทุพฺพณฺโณ เจว เอฬมูโค จ โหติ.
อปิ จ อาวาสมจฺฉริเยน โลหเคเห ปจฺจติ, กุลมจฺฉริเยน อปฺปลาโภ โหติ, ลาภมจฺฉริเยน คูถนิรเย นิพฺพตฺตติ, วณฺณมจฺฉริเยน ภเว ภเว นิพฺพตฺตสฺส วณฺโณ นาม น โหติ, ธมฺมมจฺฉริเยน กุกฺกุฬนิรเย นิพฺพตฺตตีติ.
มจฺฉรายนวเสน ¶ มจฺฉริยํ. มจฺฉรายนากาโร มจฺฉรายนา. มจฺฉเรน อยิตสฺส มจฺเฉรสมงฺคิโน ภาโว มจฺฉรายิตตฺตํ. ‘‘มยฺหเมว โหนฺตุ, มา อฺสฺสา’’ติ สพฺพาปิ อตฺตโน สมฺปตฺติโย พฺยาเปตุํ น อิจฺฉตีติ วิวิจฺโฉ, วิวิจฺฉสฺส ภาโว เววิจฺฉํ, มุทุมจฺฉริยสฺเสตํ นามํ. กทริโย วุจฺจติ อนาทโร, ตสฺส ภาโว กทริยํ, ถทฺธมจฺฉริยสฺเสตํ นามํ. เตน หิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ปรมฺปิ ปเรสํ ททมานํ นิวาเรติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘กทริโย ¶ ปาปสงฺกปฺโป, มิจฺฉาทิฏฺิอนาทโร;
ททมานํ นิวาเรติ, ยาจมานาน โภชน’’นฺติ. (สํ. นิ. ๑.๑๓๒);
ยาจเก ทิสฺวา กฏุกภาเวน จิตฺตํ อฺจติ สงฺโกเจตีติ กฏุกฺจุโก, ตสฺส ภาโว กฏุกฺจุกตา. อปโร นโย – กฏุกฺจุกตา วุจฺจติ กฏจฺฉุคฺคาโห. สมติตฺติกปุณฺณาย หิ อุกฺขลิยา ภตฺตํ คณฺหนฺโต สพฺพโตภาเคน สงฺกุฏิเตน อคฺคกฏจฺฉุนา คณฺหาติ ปูเรตฺวา คเหตุํ น สกฺโกติ, เอวํ มจฺฉริปุคฺคลสฺส จิตฺตํ สงฺกุจติ, ตสฺมึ สงฺกุจิเต กาโยปิ ตเถว สงฺกุจติ ปฏิกุฏติ ปฏินิวฏฺฏติ น สมฺปสารียตีติ มจฺเฉรํ ‘‘กฏุกฺจุกตา’’ติ วุตฺตํ.
อคฺคหิตตฺตํ จิตฺตสฺสาติ ปเรสํ อุปการกรเณ ทานาทินา อากาเรน ยถา น สมฺปสารียติ, เอวํ อาวริตฺวา คหิตภาโว จิตฺตสฺส. ยสฺมา ปน มจฺฉริปุคฺคโล อตฺตโน สนฺตกํ ปเรสํ ¶ อทาตุกาโม โหติ, ปรสนฺตกํ คณฺหิตุกาโม. ตสฺมา ‘‘อิทํ อจฺฉริยํ มยฺหเมว โหตุ, มา อฺสฺสา’’ติ ปวตฺติวเสนสฺส อตฺตสมฺปตฺตินิคูหนลกฺขณตา ปรสมฺปตฺติคฺคหณลกฺขณตา จ เวทิตพฺพา.
ขนฺธมจฺฉริยมฺปิ มจฺฉริยนฺติ อตฺตโน ปฺจกฺขนฺธสงฺขาตํ อุปปตฺติภวํ อฺเหิ อสาธารณํ ‘‘อจฺฉริยํ มยฺหเมว โหตุ, มา อฺสฺสา’’ติ ปวตฺตํ มจฺฉริยํ ขนฺธมจฺฉริยํ นาม. ธาตุอายตนมจฺฉริเยสุปิ เอเสว นโย. คาโหติ คาหนิจฺฉยวเสน คหณํ. อวทฺุตายาติ สพฺพฺุพุทฺธานมฺปิ กถิตํ อชานนภาเวน. ยาจกานํ อททมาโน หิ เตหิ กถิตํ น ชานาติ นาม. ชนา ปมตฺตาติ สติวิปฺปวาสา ชนา. วจนนฺติ สงฺเขปวจนํ. พฺยปฺปถนฺติ วิตฺถารวจนํ. เทสนนฺติ อุปมํ ทสฺเสตฺวา อตฺถสนฺทสฺสนวจนํ. อนุสิฏฺินฺติ ปุนปฺปุนํ สํลกฺขาปนวจนํ. อถ วา ทสฺเสตฺวา กถนํ วจนํ นาม. คณฺหาเปตฺวา กถนํ พฺยปฺปถํ นาม. โตเสตฺวา กถนํ เทสนํ นาม. ปทสฺเสตฺวา กถนํ อนุสิฏฺิ นาม. อถ วา ปริตาปทุกฺขํ นาเสตฺวา กถนํ วจนํ นาม. ปริฬาหทุกฺขํ นาเสตฺวา กถนํ พฺยปฺปถํ นาม. อปายทุกฺขํ นาเสตฺวา กถนํ เทสนํ นาม. ภวทุกฺขํ นาเสตฺวา ¶ กถนํ อนุสิฏฺิ นาม. อถ วา ทุกฺขสจฺจปริฺาปฏิเวธยุตฺตํ วจนํ. สมุทยสจฺจปหานปฏิเวธยุตฺตํ พฺยปฺปถํ. นิโรธสจฺจสจฺฉิกิริยปฏิเวธยุตฺตํ เทสนํ. มคฺคสจฺจภาวนาปฏิเวธยุตฺตํ อนุสิฏฺีติ เอวมาทินา นเยน เอเก วณฺณยนฺติ.
น ¶ สุสฺสุสนฺตีติ น สุณนฺติ. น โสตํ โอทหนฺตีติ สวนตฺถํ กณฺณโสตํ น เปนฺติ. น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺตีติ ชานนตฺถํ จิตฺตํ น ปติฏฺเปนฺติ. อนสฺสวาติ โอวาทํ อสุณมานา. อวจนกราติ สุณมานาปิ วจนํ น กโรนฺตีติ อวจนกรา. ปฏิโลมวุตฺติโนติ ปฏาณี หุตฺวา ปวตฺตนกา ¶ . อฺเเนว มุขํ กโรนฺตีติ กโรนฺตาปิ มุขํ น เทนฺตีติ อตฺโถ.
วิสเมติ กายสุจริตาทิสมฺมตสฺส สมสฺส ปฏิปกฺขตฺตา วิสมํ, ตสฺมึ วิสเม. นิวิฏฺาติ ปวิฏฺา ทุนฺนีหรา. กายกมฺเมติ กายโต ปวตฺเต, กาเยน วา ปวตฺเต กายกมฺเม. วจีกมฺมาทีสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ กายกมฺมวจีกมฺมมโนกมฺมานิ ทุจฺจริตวเสน วิภตฺตานิ, ปาณาติปาตาทโย ทสอกุสลกมฺมปถวเสน วิภตฺตาติ าตพฺพํ. อยํ ตาเวตฺถ สาธารณปทวณฺณนา, อสาธารเณสุ ปน ปาณสฺส อติปาโต ปาณาติปาโต, ปาณวโธ ปาณฆาโตติ วุตฺตํ โหติ. ปาโณติ เจตฺถ โวหารโต สตฺโต, ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ. ตสฺมึ ปน ปาเณ ปาณสฺิโน ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทกอุปกฺกมสมุฏฺาปิตา กายวจีทฺวารานํ อฺตรทฺวารปวตฺตา วธกเจตนา ปาณาติปาโต. โส คุณวิรหิเตสุ ติรจฺฉานคตาทีสุ ปาเณสุ ขุทฺทเก ปาเณ อปฺปสาวชฺโช, มหาสรีเร มหาสาวชฺโช. กสฺมา? ปโยคมหนฺตตาย, ปโยคสมตฺเตปิ วตฺถุมหนฺตตาย. คุณวนฺเตสุ มนุสฺสาทีสุ อปฺปคุเณ ปาเณ อปฺปสาวชฺโช, มหาคุเณ มหาสาวชฺโช. สรีรคุณานํ ปน สมภาเว สติ กิเลสานํ อุปกฺกมานฺจ มุทุตาย อปฺปสาวชฺโช, ติพฺพตาย มหาสาวชฺโชติ เวทิตพฺโพ.
ตสฺส ปฺจ สมฺภารา โหนฺติ – ปาโณ ปาณสฺิตา วธกจิตฺตํ อุปกฺกโม เตน มรณนฺติ. ฉปฺปโยคา – สาหตฺถิโก อาณตฺติโก นิสฺสคฺคิโย ถาวโร วิชฺชามโย อิทฺธิมโยติ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ วิตฺถาริยมาเน อติปปฺโจ โหติ, ตสฺมา นํ น วิตฺถารยิสฺสาม. อฺฺจ เอวรูปํ ¶ , อตฺถิเกหิ ปน สมนฺตปาสาทิกํ วินยฏฺกถํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๒) โอโลเกตฺวา คเหตพฺพํ.
อทินฺนสฺส ¶ อาทานํ อทินฺนาทานํ, ปรสฺส หรณํ เถยฺยํ โจริกาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ อทินฺนนฺติ ปรปริคฺคหิตํ, ยตฺถ ปโร ยถากามการิตํ อาปชฺชนฺโต อทณฺฑารโห อนุปวชฺโช จ โหติ, ตสฺมึ ปน ปรปริคฺคหิเต ปรปริคฺคหิตสฺิโน ตทาทายกอุปกฺกมสมุฏฺาปิกา เถยฺยเจตนา ¶ อทินฺนาทานํ. ตํ หีเน ปรสนฺตเก วตฺถุสฺมึ อปฺปสาวชฺชํ, ปณีเต มหาสาวชฺชํ. กสฺมา? วตฺถุปณีตตาย, วตฺถุสมตฺเต สติ คุณาธิกานํ สนฺตเก วตฺถุสฺมึ มหาสาวชฺชํ. ตํ ตํ คุณาธิกํ อุปาทาย ตโต ตโต หีนคุณสฺส สนฺตเก วตฺถุสฺมึ อปฺปสาวชฺชํ.
ตสฺส ปฺจ สมฺภารา โหนฺติ – ปรปริคฺคหิตํ ปรปริคฺคหิตสฺิตา เถยฺยจิตฺตํ อุปกฺกโม เตน หรณนฺติ. ฉปฺปโยคา สาหตฺถิกาทโยว. เต จ โข ยถานุรูปํ เถยฺยาวหาโร ปสยฺหาวหาโร ปฏิจฺฉนฺนาวหาโร ปริกปฺปาวหาโร กุสาวหาโรติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ อวหารานํ วเสน ปวตฺตนฺติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺโต.
กาเมสุมิจฺฉาจาโรติ เอตฺถ ปน กาเมสูติ เมถุนสมาจาเรสุ. มิจฺฉาจาโรติ เอกนฺตนินฺทิโต ลามกาจาโร. ลกฺขณโต ปน อสทฺธมฺมเสวนาธิปฺปาเยน กายทฺวารปฺปวตฺตา อคมนียฏฺานวีติกฺกมเจตนา กาเมสุมิจฺฉาจาโร.
ตตฺถ อคมนียฏฺานํ นาม ปุริสานํ ตาว มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา าติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา สารกฺขา สปริทณฺฑาติ มาตุรกฺขิตาทโย ทส, ธนกฺกีตา ฉนฺทวาสินี โภควาสินี ปฏวาสินี โอทปตฺตกินี โอภตจุมฺพฏกา ทาสี จ ภริยา กมฺมการี จ ภริยา ธชาหฏา มุหุตฺติกาติ เอตา ธนกฺกีตาทโย ทสาติ วีสติ อิตฺถิโย. อิตฺถีสุ ปน ทฺวีนฺนํ สารกฺขสปริทณฺฑานํ ทสนฺนฺจ ธนกฺกีตาทีนนฺติ ทฺวาทสนฺนํ อิตฺถีนํ อฺเ ปุริสา, อิทํ อคมนียฏฺานํ นาม.
โส ปเนส มิจฺฉาจาโร สีลาทิคุณรหิเต อคมนียฏฺาเน อปฺปสาวชฺโช, สีลาทิคุณสมฺปนฺเน มหาสาวชฺโช. ตสฺส จตฺตาโร สมฺภารา ¶ – อคมนียวตฺถุ ตสฺมึ เสวนจิตฺตํ เสวนปโยโค มคฺเคน มคฺคปฏิปตฺติอธิวาสนนฺติ. เอโก ปโยโค สาหตฺถิโก เอว.
มุสาติ ¶ วิสํวาทนปุเรกฺขารสฺส อตฺถภฺชนโก วจีปโยโค กายปโยโค วา. วิสํวาทนาธิปฺปาเยน ปนสฺส ปรวิสํวาทกกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา มุสาวาโท. อปโร นโย – มุสาติ อภูตํ อตจฺฉํ วตฺถุ. วาโทติ ¶ ตสฺส ภูตโต ตจฺฉโต วิฺาปนํ. ลกฺขณโต ปน อตถํ วตฺถุํ ตถโต ปรํ วิฺาเปตุกามสฺส ตถาวิฺตฺติสมุฏฺาปิกา เจตนา มุสาวาโท. โส ยมตฺถํ ภฺชติ, ตสฺส อปฺปตาย อปฺปสาวชฺโช, มหนฺตตาย มหาสาวชฺโช. อปิ จ คหฏฺานํ อตฺตโน สนฺตกํ อทาตุกามตาย ‘‘นตฺถี’’ติอาทินยปฺปวตฺโต อปฺปสาวชฺโช, สกฺขินา หุตฺวา อตฺถภฺชนตฺถํ วุตฺโต มหาสาวชฺโช. ปพฺพชิตานํ อปฺปกมฺปิ เตลํ วา สปฺปึ วา ลภิตฺวา หสาธิปฺปาเยน ‘‘อชฺช คาเม เตลํ นที มฺเ สนฺทตี’’ติ ปูรณกถานเยน ปวตฺโต อปฺปสาวชฺโช, อทิฏฺํเยว ปน ทิฏฺนฺติอาทินา นเยน วทนฺตานํ มหาสาวชฺโช.
ตสฺส จตฺตาโร สมฺภารา โหนฺติ – อตถํ วตฺถุ วิสํวาทนจิตฺตํ ตชฺโช วายาโม ปรสฺส ตทตฺถวิชานนนฺติ. เอโก ปโยโค สาหตฺถิโกว. โส จ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา วาจาย วา ปรวิสํวาทกกิริยากรเณ ทฏฺพฺโพ. ตาย เจ กิริยาย ปโร ตมตฺถํ ชานาติ, อยํ กิริยสมุฏฺาปิกา เจตนากฺขเณเยว มุสาวาทกมฺมุนา พชฺฌติ.
ปิสุณวาจาติอาทีสุ ยาย วาจาย ยสฺส ตํ วาจํ ภาสติ, ตสฺส หทเย อตฺตโน ปิยภาวํ ปรสฺส จ สฺุภาวํ กโรติ, สา ปิสุณวาจา. ยาย ปน อตฺตานมฺปิ ปรมฺปิ ผรุสํ กโรติ, ยา วาจา สยมฺปิ ผรุสา เนว กณฺณสุขา น หทยงฺคมา, อยํ ผรุสวาจา. เยน สมฺผํ ปลปติ นิรตฺถกํ, โส สมฺผปฺปลาโป. เตสํ มูลภูตาปิ เจตนา ปิสุณวาจาทินามเมว ลภติ, สา เอว อิธ อธิปฺเปตาติ.
ตตฺถ สํกิลิฏฺจิตฺตสฺส ปเรสํ วา เภทาย อตฺตโน ปิยกมฺยตาย วา กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา ปิสุณวาจา. สา ยสฺส เภทํ กโรติ ¶ , ตสฺส อปฺปคุณาย อปฺปสาวชฺชา, มหาคุณตาย มหาสาวชฺชา.
ตสฺสา จตฺตาโร สมฺภารา โหนฺติ – ภินฺทิตพฺโพ ปโร ‘‘อิติ อิเม นานา ภวิสฺสนฺติ วินา ภวิสฺสนฺตี’’ติ เภทปุเรกฺขารตา วา, ‘‘อิติ อหํ ปิโย ภวิสฺสามิ วิสฺสาสิโก’’ติ วิยกมฺยตา วา, ตชฺโช วายาโม, ตสฺส ตทตฺถวิชานนนฺติ.
ปรสฺส มมฺมจฺเฉทกกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เอกนฺตผรุสเจตนา ¶ ผรุสวาจา. มมฺมจฺเฉทโกปิ ¶ ปโยโค จิตฺตสณฺหตาย ผรุสวาจา น โหติ. มาตาปิตโร หิ กทาจิ ปุตฺตเก เอวมฺปิ วทนฺติ ‘‘โจรา โว ขณฺฑาขณฺฑิกํ กโรนฺตู’’ติ, อุปฺปลปตฺตมฺปิ จ เนสํ อุปริ ปตนฺตํ น อิจฺฉนฺติ. อาจริยุปชฺฌายา จ กทาจิ นิสฺสิตเก เอวํ วทนฺติ ‘‘กึ อิเม อหิริกา อโนตฺตปฺปิโน จรนฺติ, นิทฺธมถ เน’’ติ. อถ จ เนสํ อาคมาธิคมสมฺปตฺตึ อิจฺฉนฺติ. ยถา จ จิตฺตสณฺหตาย ผรุสวาจา น โหติ, เอวํ วจนสณฺหตาย อผรุสวาจาปิ น โหติ. น หิ มาราเปตุกามสฺส ‘‘อิมํ สุขํ สยาเปถา’’ติ วจนํ อผรุสวาจา โหติ, จิตฺตผรุสตาย ปเนสา ผรุสวาจาว, สา ยํ สนฺธาย ปวตฺติตา. ตสฺส อปฺปคุณตาย อปฺปสาวชฺชา, มหาคุณตาย มหาสาวชฺชา. ตสฺสา ตโย สมฺภารา – อกฺโกสิตพฺโพ ปโร กุปิตจิตฺตํ อกฺโกสนนฺติ.
อนตฺถวิฺาปิกา กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา อกุสลเจตนา สมฺผปฺปลาโป. โส อาเสวนมนฺทตาย อปฺปสาวชฺโช, อาเสวนมหนฺตตาย มหาสาวชฺโช. ตสฺส ทฺเว สมฺภารา โหนฺติ – ภารตยุทฺธสีตาหรณาทินิรตฺถกกถาปุเรกฺขารตา ตถารูปีกถากถนฺจาติ.
อภิชฺฌายตีติ อภิชฺฌา, ปรภณฺฑาภิมุขี หุตฺวา ตนฺนินฺนตาย ปวตฺตตีติ อตฺโถ. สา ‘‘อโห วต อิทํ มมาสฺสา’’ติ เอวํ ปรภณฺฑาภิชฺฌายนลกฺขณา. อทินฺนาทานํ วิย อปฺปสาวชฺชา มหาสาวชฺชา จ. ตสฺสา ทฺเว สมฺภารา โหนฺติ – ปรภณฺฑํ อตฺตโน ปริณามนฺจาติ. ปรภณฺฑวตฺถุเก หิ โลเภ อุปฺปนฺเนปิ น ตาว กมฺมปถเภโท โหติ, ยาว ‘‘อโห วติทํ มมาสฺสา’’ติ อตฺตโน น ปริณาเมติ.
หิตสุขํ ¶ พฺยาปาทยตีติ พฺยาปาโท, โส ปรวินาสาย มโนปโทสลกฺขโณ. ผรุสวาจา วิย อปฺปสาวชฺโช มหาสาวชฺโช จ. ตสฺส ทฺเว สมฺภารา โหนฺติ – ปรสตฺโต จ ตสฺส จ วินาสจินฺตาติ. ปรสตฺตวตฺถุเก หิ โกเธ อุปฺปนฺเนปิ น ตาว กมฺมปถเภโท ¶ โหติ, ยาว ‘‘อโห วตายํ อุจฺฉิชฺเชยฺย วินสฺเสยฺยา’’ติ ตสฺส วินาสํ น จินฺเตสิ.
ยถาภุจฺจคหณาภาเวน มิจฺฉา ปสฺสตีติ มิจฺฉาทิฏฺิ. สา ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินา นเยน วิปรีตทสฺสนลกฺขณา. สมฺผปฺปลาโป วิย อปฺปสาวชฺชา มหาสาวชฺชา จ.
สฺี, อสฺี, เนวสฺีนาสฺี ภวิสฺสามาติ รูปาทิวเสน กงฺขนฺติ. ภวิสฺสาม นุ โข มยนฺติอาทินา อตฺตานํ กงฺขนฺติ. ตตฺถ ภวิสฺสาม นุ โข. น นุ โข ภวิสฺสามาติ ตสฺส ¶ สสฺสตาการฺจ อุจฺเฉทาการฺจ นิสฺสาย อนาคเต อตฺตานํ วิชฺชมานตฺจ อวิชฺชมานตฺจ กงฺขนฺติ. กึ นุ โข ภวิสฺสามาติ ชาติลิงฺคุปปตฺติโย นิสฺสาย ‘‘ขตฺติยา นุ โข ภวิสฺสาม, พฺราหฺมณเวสฺสสุทฺทคหฏฺปพฺพชิตเทวมนุสฺสานํ อฺตรา’’ติ กงฺขนฺติ. กถํ นุ โข ภวิสฺสามาติ สณฺานาการํ นิสฺสาย ‘‘ทีฆา นุ โข ภวิสฺสาม, รสฺสโอทาตกณฺหปมาณิกอปฺปมาณิกาทีนํ อฺตรา’’ติ กงฺขนฺติ. เกจิ ปน ‘‘อิสฺสรนิมฺมานาทีนิ นิสฺสาย ‘เกน นุ โข การเณน ภวิสฺสามา’ติ เหตุโต กงฺขนฺตี’’ติ วทนฺติ. กึ หุตฺวา กึ ภวิสฺสาม นุ โข มยนฺติ ชาติอาทีนิ นิสฺสาย ‘‘ขตฺติยา หุตฺวา นุ โข พฺราหฺมณา ภวิสฺสาม…เป… เทวา หุตฺวา มนุสฺสา’’ติ อตฺตโน ปรมฺปรํ กงฺขนฺติ. สพฺพตฺเถว ปน อทฺธานนฺติ กาลาธิวจนเมตํ.
๑๐. ยสฺมา เอตเทว ตสฺมา หิ สิกฺเขถ…เป… อาหุ ธีราติ. ตตฺถ สิกฺเขถาติ ติสฺโส สิกฺขา อาวชฺเชยฺย. อิเธวาติ อิมสฺมึเยว สาสเน. ตตฺถ สิกฺขิตพฺพาติ สิกฺขา. ติสฺโสติ คณนปริจฺเฉโท. อธิสีลสิกฺขาติ อธิกํ อุตฺตมํ สีลนฺติ อธิสีลํ, อธิสีลฺจ ตํ สิกฺขิตพฺพฏฺเน สิกฺขา จาติ อธิสีลสิกฺขา. เอส นโย อธิจิตฺตอธิปฺาสิกฺขาสุ.
กตมํ ปเนตฺถ สีลํ, กตมํ อธิสีลํ, กตมํ จิตฺตํ, กตมํ อธิจิตฺตํ, กตมา ปฺา, กตมา อธิปฺาติ? วุจฺจเต – ปฺจงฺคทสงฺคสีลํ ตาว สีลเมว ¶ . ตฺหิ พุทฺเธ อุปฺปนฺเนปิ อนุปฺปนฺเนปิ โลเก ปวตฺตติ ¶ . อุปฺปนฺเน พุทฺเธ ตสฺมึ สีเล พุทฺธาปิ สาวกาปิ มหาชนํ สมาทเปนฺติ, อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ ปจฺเจกพุทฺธา จ กมฺมวาทิโน จ ธมฺมิกา สมณพฺราหฺมณา จ จกฺกวตฺตี จ มหาราชาโน มหาโพธิสตฺตา จ สมาทเปนฺติ, สามมฺปิ ปณฺฑิตา สมณพฺราหฺมณา สมาทิยนฺติ. เต ตํ กุสลํ ธมฺมํ ปริปูเรตฺวา เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ สมฺปตฺตึ อนุโภนฺติ.
ปาติโมกฺขสํวรสีลํ ปน ‘‘อธิสีล’’นฺติ วุจฺจติ. ตฺหิ สูริโย วิย ปชฺโชตานํ สิเนรุ วิย ปพฺพตานํ สพฺพโลกิยสีลานํ อธิกฺเจว อุตฺตมฺจ, พุทฺธุปฺปาเทเยว จ ปวตฺตติ, น วินา พุทฺธุปฺปาทา. น หิ ตํ ปฺตฺตึ อุทฺธริตฺวา อฺโ สตฺโต เปตุํ สกฺโกติ. พุทฺธาเยว ปน สพฺพโส กายวจีทฺวารอชฺฌาจารโสตํ ฉินฺทิตฺวา ตสฺส ตสฺส วีติกฺกมสฺส อนุจฺฉวิกํ ตํ สีลสํวรํ ปฺเปนฺติ. ปาติโมกฺขสํวรโตปิ จ มคฺคผลสมฺปยุตฺตเมว สีลํ อธิสีลํ.
กามาวจรานิ ¶ ปน อฏฺ กุสลจิตฺตานิ โลกิยอฏฺสมาปตฺติจิตฺตานิ จ เอกชฺฌํ กตฺวา จิตฺตเมวาติ เวทิตพฺพานิ. พุทฺธุปฺปาทานุปฺปาเท จสฺส ปวตฺติ, สมาทปนํ สมาทานฺจ สีเล วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
วิปสฺสนาปาทกํ อฏฺสมาปตฺติจิตฺตํ ปน ‘‘อธิจิตฺต’’นฺติ วุจฺจติ. ตฺหิ อธิสีลํ วิย สีลานํ, สพฺพโลกิยจิตฺตานํ อธิกฺเจว อุตฺตมฺจ, พุทฺธุปฺปาเทเยว จ โหติ, น วินา พุทฺธุปฺปาทา. ตโตปิ จ มคฺคผลจิตฺตเมว อธิจิตฺตํ.
‘‘อตฺถิ ทินฺนํ อตฺถิ ยิฏฺ’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตํ (ม. นิ. ๒.๙๔) ปน กมฺมสฺสกตาาณํ ปฺา. สา หิ พุทฺเธ อุปฺปนฺเนปิ อนุปฺปนฺเนปิ โลเก ปวตฺตติ. อุปฺปนฺเน พุทฺเธ ตสฺสา ปฺาย พุทฺธาปิ สาวกาปิ มหาชนํ สมาทเปนฺติ, อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ ปจฺเจกพุทฺธา จ กมฺมวาทิโน จ ธมฺมิกา สมณพฺราหฺมณา จ จกฺกวตฺตี จ มหาราชาโน มหาโพธิสตฺตา จ สมาทเปนฺติ, สามมฺปิ ปณฺฑิตา สตฺตา สมาทิยนฺติ. ตถา หิ องฺกุโร ทสวสฺสสหสฺสานิ มหาทานํ อทาสิ. เวลาโม เวสฺสนฺตโร อฺเ จ พหู ปณฺฑิตมนุสฺสา มหาทานานิ อทํสุ. เต ตํ กุสลํ ธมฺมํ ปริปูเรตฺวา เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ สมฺปตฺตึ อนุภวึสุ.
ติลกฺขณาการปริจฺเฉทกํ ¶ ปน ¶ วิปสฺสนาาณํ ‘‘อธิปฺา’’ติ วุจฺจติ. สา หิ อธิสีลอธิจิตฺตานิ วิย สีลจิตฺตานํ, สพฺพโลกิยปฺานํ อธิกา เจว อุตฺตมา จ, น จ วินา พุทฺธุปฺปาทา โลเก ปวตฺตติ. ตโตปิ จ มคฺคผลปฺาว อธิปฺา.
อิทานิ เอเกกํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กตมา อธิสีลสิกฺขา – อิธ ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรตี’’ติอาทิมาห. อิธาติ วจนํ ปุพฺพภาคกรณียสมฺปทาย สมฺปนฺนสฺส สพฺพปการสีลปริปูรกสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิสฺสยภูตสาสนปริทีปนํ, อฺสาสนสฺส จ ตถาภาวปฏิเสธนํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ…เป… สฺุา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อฺเหี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙-๑๔๐). ภิกฺขูติ ตสฺส สีลสฺส ปริปูรกสฺส ปุคฺคลสฺส ปริทีปนํ. ปาติโมกฺขสํวรสํวุโตติ อิทมสฺส ปาติโมกฺขสํวเร ปติฏฺิตภาวปริทีปนํ. วิหรตีติ อิทมสฺส ตทนุรูปวิหารสมงฺคีภาวปริทีปนํ. อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ อิทมสฺส ปาติโมกฺขสํวรสฺส อุปการกธมฺมปริทีปนํ. อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวีติ อิทมสฺส ปาติโมกฺขโต อจวนธมฺมตาปริทีปนํ. สมาทายาติ อิทมสฺส สิกฺขาปทานํ ¶ อนวเสสโต อาทานปริทีปนํ. สิกฺขตีติ อิทมสฺส สิกฺขาย สมงฺคีภาวปริทีปนํ. สิกฺขาปเทสูติ อิทมสฺส สิกฺขิตพฺพธมฺมปริทีปนํ.
ตตฺถ ภิกฺขูติ สํสาเร ภยํ อิกฺขตีติ ภิกฺขุ. สีลมสฺส อตฺถีติ สีลวาติ เอตฺถ สีลนฺติ สีลนฏฺเน สีลํ. กิมิทํ สีลนํ นาม? สมาธานํ วา, กายกมฺมาทีนํ สุสีลฺยวเสน อวิปฺปกิณฺณตาติ อตฺโถ. อุปธารณํ วา, กุสลานํ ธมฺมานํ ปติฏฺาวเสน อาธารภาโวติ อตฺโถ. เอตเทว หิ เอตฺถ อตฺถทฺวยํ สทฺทลกฺขณวิทู อนุชานนฺติ. อฺเ ปน ‘‘อธิเสวนฏฺเน อาจารฏฺเน ¶ สีลนฏฺเน สิรฏฺเน สีตลฏฺเน สิวฏฺเน สีล’’นฺติ วณฺณยนฺติ.
สีลนํ ลกฺขณํ ตสฺส, ภินฺนสฺสาปิ อเนกธา;
สนิทสฺสนตฺตํ รูปสฺส, ยถา ภินฺนสฺสเนกธา.
ยถา หิ นีลปีตาทิเภเทนเนกธา ภินฺนสฺสาปิ รูปายตนสฺส สนิทสฺสนตฺตํ ลกฺขณํ นีลาทิเภเทน ภินฺนสฺสาปิ สนิทสฺสนภาวานติกฺกมนโต. ตถา สีลสฺส เจตนาทิเภเทน อเนกธา ภินฺนสฺสาปิ ยเทตํ ¶ กายกมฺมาทีนํ สมาธานวเสน, กุสลานฺจ ธมฺมานํ ปติฏฺาวเสน วุตฺตํ สีลนํ, ตเทว ลกฺขณํ เจตนาทิเภเทน ภินฺนสฺสาปิ สมาธานปติฏฺาภาวานติกฺกมนโต. เอวํ ลกฺขณสฺส ปนสฺส –
ทุสฺสีลฺยวิทฺธํสนตา, อนวชฺชคุโณ ตถา;
กิจฺจสมฺปตฺติอตฺเถน, รโส นาม ปวุจฺจติ.
ตสฺมา อิทํ สีลํ นาม กิจฺจฏฺเน รเสน ทุสฺสีลฺยวิทฺธํสนรสํ, สมฺปตฺติอตฺเถน รเสน อนวชฺชรสนฺติ เวทิตพฺพํ.
โสเจยฺยปจฺจุปฏฺานํ, ตยิทํ ตสฺส วิฺุภิ;
โอตฺตปฺปฺจ หิรี เจว, ปทฏฺานนฺติ วณฺณิตํ.
ตฺหิทํ สีลํ ‘‘กายโสเจยฺยํ วจีโสเจยฺยํ มโนโสเจยฺย’’นฺติ เอวํ วุตฺตโสเจยฺยปจฺจุปฏฺานํ, โสเจยฺยภาเวน ปจฺจุปฏฺาติ คหณภาวํ คจฺฉติ. หิโรตฺตปฺปฺจ ปน ตสฺส วิฺูหิ ปทฏฺานนฺติ วณฺณิตํ, อาสนฺนการณนฺติ อตฺโถ. หิโรตฺตปฺเป หิ สติ สีลํ อุปฺปชฺชติ ¶ เจว ติฏฺติ จ, อสติ เนว อุปฺปชฺชติ เจว น ติฏฺติ จาติ เอวํวิเธน สีเลน สีลวา โหติ. เอตํ สีลํ นาม ปาณาติปาตาทีหิ วา วิรมนฺตสฺส, วตฺตปฏิปตฺตึ วา ปูเรนฺตสฺส เจตนาทโย ¶ ธมฺมา เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ปฏิสมฺภิทายํ ‘‘กึ สีลนฺติ? เจตนา สีลํ, เจตสิกํ สีลํ, สํวโร สีลํ, อวีติกฺกโม สีล’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๓๙).
ตตฺถ เจตนา สีลํ นาม ปาณาติปาตาทีหิ วา วิรมนฺตสฺส วตฺตปฏิปตฺตึ วา ปูเรนฺตสฺส เจตนา. เจตสิกํ สีลํ นาม ปาณาติปาตาทีหิ วิรมนฺตสฺส วิรติ. อปิ จ เจตนา สีลํ นาม ปาณาติปาตาทีนิ ปชหนฺตสฺส สตฺตกมฺมปถเจตนา. เจตสิกํ สีลํ นาม ‘‘อภิชฺฌํ ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๑๗) นเยน สํยุตฺตมหาวคฺเค วุตฺตา อนภิชฺฌาพฺยาปาทสมฺมาทิฏฺิธมฺมา. สํวโร สีลนฺติ เอตฺถ ปฺจวิเธน สํวโร เวทิตพฺโพ – ปาติโมกฺขสํวโร สติสํวโร าณสํวโร ขนฺติสํวโร วีริยสํวโร. ตสฺส นานากรณํ อุปริ อาวิ ภวิสฺสติ. อวีติกฺกโม สีลนฺติ สมาทินฺนสีลสฺส กายิกวาจสิโก อวีติกฺกโม. เอตฺถ จ สํวรสีลํ, อวีติกฺกมสีลนฺติ อิทเมว นิปฺปริยายโต ¶ สีลํ. เจตนาสีลํ, เจตสิกํ สีลนฺติ ปริยายโต สีลนฺติ เวทิตพฺพํ.
ปาติโมกฺขนฺติ สิกฺขาปทสีลํ. ตฺหิ โย นํ ปาติ รกฺขติ, ตํ โมกฺเขติ โมเจติ อาปายิกาทีหิ ทุกฺเขหิ, ตสฺมา ‘‘ปาติโมกฺข’’นฺติ วุตฺตํ. ปาติโมกฺขสํวรสํวุโตติ ปาติโมกฺขสํวรสีเลน สมนฺนาคโต. อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ อาจาเรน เจว โคจเรน จ สมฺปนฺโน. อณุมตฺเตสูติ อปฺปมตฺตเกสุ. วชฺเชสูติ อกุสลธมฺเมสุ. ภยทสฺสาวีติ ภยทสฺสี. สมาทายาติ สมฺมา อาทิยิตฺวา. สิกฺขติ สิกฺขาปเทสูติ ตํ ตํ สิกฺขาปทํ สมาทิยิตฺวา สิกฺขติ. อปิ จ สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสูติ ยํกิฺจิ สิกฺขาปเทสุ สิกฺขาโกฏฺาเสสุ สิกฺขิตพฺพํ กายิกํ วา เจตสิกํ วา, ตํ สพฺพํ สมาทาย สิกฺขติ.
ขุทฺทโก สีลกฺขนฺโธติ สงฺฆาทิเสสาทิสาวเสโส สีลกฺขนฺโธ. มหนฺโตติ ปาราชิกาทินิรวเสโส. ยสฺมา ปน ปาติโมกฺขสีเลน ภิกฺขุ สาสเน ปติฏฺาติ นาม ¶ , ตสฺมา ตํ ‘‘ปติฏฺา’’ติ วุตฺตํ. ปติฏฺหติ วา เอตฺถ ภิกฺขุ, กุสลา ธมฺมา เอว วา เอตฺถ ปติฏฺหนฺตีติ ปติฏฺา. อยมตฺโถ ‘‘สีเล ปติฏฺาย นโร สปฺโ’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๓, ๑๙๒) จ, ‘‘ปติฏฺานลกฺขณํ, มหาราช, สีลํ สพฺเพสํ กุสลานํ ธมฺมาน’’นฺติ (มิ. ป. ๒.๑.๙) จ ¶ , ‘‘สีเล ปติฏฺิโต โข, มหาราช…เป… สพฺเพ กุสลา ธมฺมา น ปริหายนฺตี’’ติ (มิ. ป. ๒.๑.๙) จ อาทิสุตฺตวเสน เวทิตพฺโพ.
ตเทตํ ปุพฺพุปฺปตฺติอตฺเถน อาทิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ อุตฺติย อาทิเมว วิโสเธหิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ. โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ, สีลฺจ สุวิสุทฺธํ ทิฏฺิ จ อุชุกา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๘๒). ยถา หิ นครวฑฺฒกี นครํ มาเปตุกาโม ปมํ นครฏฺานํ โสเธติ, ตโต อปรภาเค วีถิจตุกฺกสิงฺฆาฏกาทิปริจฺเฉเทน วิภชิตฺวาว นครํ มาเปติ. เอวเมว โยคาวจโร อาทิโต สีลํ วิโสเธติ, ตโต อปรภาเค สมาธิวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพานานิ สจฺฉิกโรติ. ยถา วา ปน รชโก ปมํ ตีหิ ขาเรหิ วตฺถํ โธวิตฺวา ปริสุทฺเธ วตฺเถ ยทิจฺฉกํ รงฺคชาตํ อุปเนติ, ยถา วา ปน เฉโก จิตฺตกาโร รูปํ ลิขิตุกาโม อาทิโตว ภิตฺติปริกมฺมํ กโรติ, ตโต อปรภาเค รูปํ สมุฏฺาเปติ. เอวเมว โยคาวจโร ¶ อาทิโตว สีลํ วิโสเธตฺวา อปรภาเค สมถวิปสฺสนาทโย ธมฺเม สจฺฉิกโรติ. ตสฺมา สีลํ ‘‘อาที’’ติ วุตฺตํ.
ตเทตํ จรณสริกฺขตาย จรณํ. จรณาติ หิ ปาทา วุจฺจนฺติ. ยถา หิ ฉินฺนจรณสฺส ปุริสสฺส ทิสํ คมนาภิสงฺขาโร น ชายติ, ปริปุณฺณปาทสฺเสว ชายติ, เอวเมว ยสฺส สีลํ ภินฺนํ โหติ ขณฺฑํ อปริปุณฺณํ, ตสฺส นิพฺพานคมนาย าณคมนํ น สมฺปชฺชติ. ยสฺส ปน ตํ อภินฺนํ โหติ อขณฺฑํ ปริปุณฺณํ, ตสฺส นิพฺพานคมนาย าณคมนํ สมฺปชฺชติ. ตสฺมา สีลํ ‘‘จรณ’’นฺติ วุตฺตํ.
ตเทตํ สํยมนวเสน สํยโม. สํวรณวเสน สํวโรติ อุภเยนาปิ สีลสํยโม เจว สีลสํวโร จ กถิโต. วจนตฺโถ ปเนตฺถ สํยเมติ วีติกฺกมวิปฺผนฺทนํ ¶ , ปุคฺคลํ วา สํยเมติ วีติกฺกมวเสน ตสฺส วิปฺผนฺทิตุํ น เทตีติ สํยโม. วีติกฺกมสฺส ปเวสนทฺวารํ สํวรติ ปิทหตีติ สํวโร.
โมกฺขนฺติ อุตฺตมํ มุขภูตํ วา. ยถา หิ สตฺตานํ จตุพฺพิโธ อาหาโร มุเขน ปวิสิตฺวา องฺคมงฺคานิ ผรติ, เอวํ โยคิโนปิ จตุภูมกกุสลํ สีลมุเขน ปวิสิตฺวา อตฺถสิทฺธึ สมฺปาเทติ. เตน ‘‘โมกฺข’’นฺติ. ปมุเข สาธูติ ปาโมกฺขํ, ปุพฺพงฺคมํ เสฏฺํ ปธานนฺติ อตฺโถ. กุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยาติ จตุภูมกกุสลานํ ปฏิลาภตฺถาย ปาโมกฺขํ ปุพฺพงฺคมํ เสฏฺํ ปธานนฺติ เวทิตพฺพํ.
วิวิจฺเจว ¶ กาเมหีติ กาเมหิ วิวิจฺจ วินา หุตฺวา อปกฺกมิตฺวา. โย ปนายเมตฺถ เอวกาโร, โส นิยมตฺโถติ เวทิตพฺโพ. ยสฺมา จ นิยมตฺโถ, ตสฺมา ตสฺมึ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรณสมเย อวิชฺชมานานมฺปิ กามานํ ตสฺส ปมชฺฌานสฺส ปฏิปกฺขภาวํ กามปริจฺจาเคเนว จสฺส อธิคมํ ทีเปติ. กถํ? ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติ เอวฺหิ นิยเม กริยมาเน อิทํ ปฺายติ, นูนิมสฺส ฌานสฺส กามา ปฏิปกฺขภูตา, เยสุ สติ อิทํ น ปวตฺตติ อนฺธกาเร สติ ปทีโปภาโส วิย, เตสํ ปริจฺจาเคเนว จสฺส อธิคโม โหติ โอริมตีรปริจฺจาเคน ปาริมตีรสฺเสว. ตสฺมา นิยมํ กโรตีติ.
ตตฺถ ¶ สิยา ‘‘กสฺมา ปเนส ปุพฺพปเทเยว วุตฺโต น อุตฺตรปเท, กึ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อวิวิจฺจาปิ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยา’’ติ? น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ. ตํนิสฺสรณโต หิ ปุพฺพปเท เอว เอส วุตฺโต. กามธาตุสมติกฺกมนโต หิ กามราคปฏิปกฺขโต จ อิทํ ฌานํ กามานเมว นิสฺสรณํ. ยถาห – ‘‘กามานเมตํ นิสฺสรณํ ยทิทํ เนกฺขมฺม’’นฺติ (อิติวุ. ๗๒). อุตฺตรปเทปิ ปน ยถา ¶ ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙) เอตฺถ เอวกาโร อาเนตฺวา วุจฺจติ, เอวํ วตฺตพฺโพ. น หิ สกฺกา อิโต อฺเหิปิ นีวรณสงฺขาเตหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อวิวิจฺจ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. ตสฺมา วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺเจว อกุสเลหิ ธมฺเมหีติ เอวํ ปททฺวเยปิ เอส ทฏฺพฺโพ. ปททฺวเยปิ จ กิฺจาปิ วิวิจฺจาติ อิมินา สาธารณวจเนน ตทงฺควิเวกาทโย กายวิเวกาทโย จ สพฺเพปิ วิเวกา สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, ตถาปิ ปุพฺพภาเค กายวิเวกจิตฺตวิเวกวิกฺขมฺภนวิเวกา ทฏฺพฺพา. โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ กายวิเวกจิตฺตวิเวกสมุจฺเฉทวิเวกนิสฺสรณวิเวกา.
กาเมหีติ อิมินา ปน ปเทน เย จ อิธ ‘‘กตเม วตฺถุกามา มนาปิกา รูปา’’ติอาทินา นเยน วตฺถุกามา วุตฺตา, เย จ อิเธว วิภงฺเค ‘‘ฉนฺโท กาโม ราโค กาโม ฉนฺทราโค กาโม สงฺกปฺโป กาโม ราโค กาโม สงฺกปฺปราโค กาโม’’ติ เอวํ กิเลสกามา วุตฺตา, เต สพฺเพปิ สงฺคหิตา อิจฺเจว ทฏฺพฺพา. เอวฺหิ สติ วิวิจฺเจว กาเมหีติ วตฺถุกาเมหิปิ วิวิจฺเจวาติ อตฺโถ ยุชฺชติ. เตน กายวิเวโก วุตฺโต โหติ.
วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหีติ กิเลสกาเมหิ สพฺพากุสเลหิ วา วิวิจฺจาติ อตฺโถ ยุชฺชติ. เตน จิตฺตวิเวโก วุตฺโต โหติ. ปุริเมน เจตฺถ วตฺถุกาเมหิ วิเวกวจนโต เอว กามสุขปริจฺจาโค, ทุติเยน กิเลสกาเมหิ วิเวกวจนโต เนกฺขมฺมสุขปริคฺคโห วิภาวิโต โหติ ¶ . เอวํ วตฺถุกามกิเลสกามวิเวกวจนโตเยว จ เอเตสํ ปเมน สํกิเลสวตฺถุปฺปหานํ, ทุติเยน สํกิเลสปฺปหานํ. ปเมน โลลภาวสฺส เหตุปริจฺจาโค, ทุติเยน พาลภาวสฺส. ปเมน จ ปโยคสุทฺธิ, ทุติเยน อาสยโปสนํ วิภาวิตํ โหตีติ าตพฺพํ ¶ . เอส ตาว นโย ‘‘กาเมหี’’ติ เอตฺถ วุตฺตกาเมสุ วตฺถุกามปกฺเข ¶ .
กิเลสกามปกฺเข ปน ฉนฺโทติ จ ราโคติ จ เอวมาทีหิ อเนกเภโท กามจฺฉนฺโทว ‘‘กาโม’’ติ อธิปฺเปโต. โส จ อกุสลปริยาปนฺโนปิ สมาโน ‘‘ตตฺถ กตโม กามจฺฉนฺโท, กาโม’’ติอาทินา นเยน วิภงฺเค ฌานปฏิปกฺขโต วิสุํ วุตฺโต. กิเลสกามตฺตา วา ปุริมปเท วุตฺโต, อกุสลปริยาปนฺนตฺตา ทุติยปเท. อเนกเภทโต จสฺส กามโตติ อวตฺวา กาเมหีติ วุตฺตํ. อฺเสมฺปิ จ ธมฺมานํ อกุสลภาเว วิชฺชมาเน ‘‘ตตฺถ กตเม อกุสลา ธมฺมา, กามจฺฉนฺโท’’ติอาทินา นเยน วิภงฺเค (วิภ. ๕๖๔) อุปริฌานงฺคานํ ปจฺจนีกปฏิปกฺขภาวทสฺสนโต นีวรณาเนว วุตฺตานิ. นีวรณานิ หิ ฌานงฺคปจฺจนีกานิ เตสํ ฌานงฺคาเนว ปฏิปกฺขานิ, วิทฺธํสกานิ วิฆาตกานีติ วุตฺตํ โหติ. ตถา หิ ‘‘สมาธิ กามจฺฉนฺทสฺส ปฏิปกฺโข, ปีติ พฺยาปาทสฺส, วิตกฺโก ถินมิทฺธสฺส, สุขํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส, วิจาโร วิจิกิจฺฉายา’’ติ เปฏเก วุตฺตํ.
เอวเมตฺถ วิวิจฺเจว กาเมหีติ อิมินา กามจฺฉนฺทสฺส วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต โหติ, วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหีติ อิมินา ปฺจนฺนมฺปิ นีวรณานํ. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน ปเมน กามจฺฉนฺทสฺส, ทุติเยน เสสนีวรณานํ. ตถา ปเมน ตีสุ อกุสลมูเลสุ ปฺจกามคุณเภทวิสยสฺส โลภสฺส, ทุติเยน อาฆาตวตฺถุเภทาทิวิสยานํ โทสโมหานํ. โอฆาทีสุ วา ธมฺเมสุ ปเมน กาโมฆกามโยคกามาสวกามุปาทานอภิชฺฌากายคนฺถกามราคสํโยชนานํ, ทุติเยน อวเสสโอฆโยคาสวอุปาทานคนฺถสํโยชนานํ. ปเมน จ ตณฺหาย ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ, ทุติเยน อวิชฺชาย ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ. อปิ จ ปเมน โลภสมฺปยุตฺตอฏฺจิตฺตุปฺปาทานํ, ทุติเยน เสสานํ จตุนฺนํ อกุสลจิตฺตุปฺปาทานํ วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต โหตีติ เวทิตพฺโพ.
เอตฺตาวตา จ ปมสฺส ฌานสฺส ปหานงฺคํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สมฺปโยคงฺคํ ทสฺเสตุํ ‘‘สวิตกฺกํ สวิจาร’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อารมฺมเณ ¶ จิตฺตสฺส อภินิโรปนลกฺขโณ วิตกฺโก, อารมฺมณานุมชฺชนลกฺขโณ วิจาโร. สนฺเตปิ จ เนสํ กตฺถจิ อวิโยเค โอฬาริกฏฺเน ปุพฺพงฺคมฏฺเน ¶ จ ฆณฺฑาภิฆาโต วิย เจตโส ปมาภินิปาโต วิตกฺโก, สุขุมฏฺเน ¶ อนุมชฺชนสภาเวน จ ฆณฺฑานุรโว วิย อนุปพนฺโธ วิจาโร. วิปฺผารวา เจตฺถ วิตกฺโก ปมุปฺปตฺติกาเล ปริปฺผนฺทนภูโต จิตฺตสฺส, อากาเส อุปฺปติตุกามสฺส ปกฺขิโน ปกฺขวิกฺเขโป วิย, ปทุมาภิมุขปาโต วิย จ คนฺธานุพนฺธเจตโส ภมรสฺส. สนฺตวุตฺติ วิจาโร นาติปริปฺผนฺทนภาโว จิตฺตสฺส, อากาเส อุปฺปติตสฺส ปกฺขิโน ปกฺขปฺปสารณํ วิย, ปริพฺภมนํ วิย จ ปทุมาภิมุขปติตสฺส ภมรสฺส ปทุมสฺส อุปริภาเค.
ทุกนิปาตฏฺกถายํ ปน ‘‘อากาเส คจฺฉโต มหาสกุณสฺส อุโภหิ ปกฺเขหิ วาตํ คเหตฺวา ปกฺเข สนฺนิสีทาเปตฺวา คมนํ วิย อารมฺมเณ เจตโส อภินิโรปนภาเวน ปวตฺโต วิตกฺโก, วาตคฺคหณตฺถํ ปกฺเข ผนฺทาปยมานสฺส คมนํ วิย อนุมชฺชนภาเวน ปวตฺโต วิจาโร’’ติ วุตฺตํ. ตํ อนุปฺปพนฺเธน ปวตฺติยํ ยุชฺชติ. โส ปน เนสํ วิเสโส ปมทุติยชฺฌาเนสุ ปากโฏ โหติ. อปิ จ มลคฺคหิตํ กํสภาชนํ เอเกน หตฺเถน ทฬฺหํ คเหตฺวา อิตเรน หตฺเถน จุณฺณเตลวาลณฺฑุปเกน ปริมชฺชนฺตสฺส ทฬฺหคฺคหณหตฺโถ วิย วิตกฺโก. ปริมชฺชนหตฺโถ วิย วิจาโร. ตถา กุมฺภการสฺส ทณฺฑปฺปหาเรน จกฺกํ ภมยิตฺวา ภาชนํ กโรนฺตสฺส อุปฺปีฬนหตฺโถ วิย วิตกฺโก. อิโต จิโต จ สฺจรณหตฺโถ วิย วิจาโร. ตถา มณฺฑลํ กโรนฺตสฺส มชฺเฌ สนฺนิรุมฺภิตฺวา ิตกณฺฏโก วิย อภินิโรปโน วิตกฺโก. พหิ ปริพฺภมนกณฺฏโก วิย อนุมชฺชมาโน วิจาโร. อิติ อิมินา จ วิตกฺเกน อิมินา จ วิจาเรน สห วตฺตติ รุกฺโข วิย ปุปฺเผน จ ผเลน จาติ อิทํ ฌานํ ‘‘สวิตกฺกํ สวิจาร’’นฺติ วุจฺจติ.
วิเวกชนฺติ เอตฺถ วิวิตฺติ วิเวโก, นีวรณวิคโมติ อตฺโถ. วิวิตฺโตติ วา วิเวโก, นีวรณวิวิตฺโต ฌานสมฺปยุตฺตธมฺมราสีติ อตฺโถ. ตสฺมา วิเวกา, ตสฺมึ วา วิเวเก ชาตนฺติ วิเวกชํ. ปีติสุขนฺติ เอตฺถ ปิณยตีติ ปีติ, สา สมฺปิยายนลกฺขณา. สา ¶ ปเนสา ขุทฺทิกาปีติ ¶ , ขณิกาปีติ, โอกฺกนฺติกาปีติ, อุพฺเพคาปีติ, ผรณาปีตีติ ปฺจวิธา โหติ.
ตตฺถ ขุทฺทิกาปีติ สรีเร โลมหํสมตฺตเมว กาตุํ สกฺโกติ. ขณิกาปีติ ขเณ ขเณ วิชฺชุปฺปาทสทิสา โหติ. โอกฺกนฺติกาปีติ สมุทฺทตีรํ วีจิ วิย, กายํ โอกฺกมิตฺวา โอกฺกมิตฺวา ภิชฺชติ. อุพฺเพคาปีติ พลวตี โหติ, กายํ อุทฺธคฺคํ กตฺวา อากาเส ลงฺฆาปนปฺปมาณปตฺตา.
ผรณาปีติ ¶ อติพลวตี โหติ. ตาย หิ อุปฺปนฺนาย สกลสรีรํ ธมิตฺวา ปูริตวตฺถิ วิย มหตา อุทโกเฆน ปกฺขนฺทปพฺพตกุจฺฉิ วิย จ อนุปริปฺผุฏํ โหติ. สา ปเนสา ปฺจวิธา ปีติ คพฺภํ คณฺหนฺตี ปริปากํ คจฺฉนฺตี ทุวิธํ ปสฺสทฺธึ ปริปูเรติ กายปสฺสทฺธิฺจ จิตฺตปสฺสทฺธิฺจ, ปสฺสทฺธิ คพฺภํ คณฺหนฺตี ปริปากํ คจฺฉนฺตี ทุวิธมฺปิ สุขํ ปริปูเรติ กายิกํ เจตสิกฺจ, สุขํ คพฺภํ คณฺหนฺตํ ปริปากํ คจฺฉนฺตํ ติวิธํ สมาธึ ปริปูเรติ ขณิกสมาธึ อุปจารสมาธึ อปฺปนาสมาธิฺจาติ. ตาสุ ยา อปฺปนาสมาธิสฺส มูลํ หุตฺวา วฑฺฒมานา สมาธิสมฺปโยคงฺคตา ผรณาปีติ, อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปตา ปีตีติ.
อิตรํ ปน สุขยตีติ สุขํ, ยสฺส อุปฺปชฺชติ, ตํ สุขิตํ กโรตีติ อตฺโถ. สุขนํ วา สุขํ, สุฏฺุ วา ขาทติ ขณติ จ กายจิตฺตาพาธนฺติ สุขํ, โสมนสฺสเวทนาเยตํ นามํ. ตํ สาตลกฺขณํ. สนฺเตปิ จ เนสํ กตฺถจิ อวิปฺปโยเค อิฏฺารมฺมณปฏิลาภตุฏฺิ ปีติ, ปฏิลทฺธรสานุภวนํ สุขํ. ยตฺถ ปีติ, ตตฺถ สุขํ, ยตฺถ สุขํ, ตตฺถ น นิยมโต ปีติ. สงฺขารกฺขนฺธสงฺคหิตา ปีติ, เวทนากฺขนฺธสงฺคหิตํ สุขํ. กนฺตารขินฺนสฺส วนนฺโตทกทสฺสนสวเนสุ วิย ปีติ, วนจฺฉายปฺปเวสนอุทกปริโภเคสุ วิย สุขํ. ตสฺมึ ตสฺมึ สมเย ปากฏภาวโต เจตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิติ อยฺจ ปีติ อิทฺจ สุขํ อสฺส ฌานสฺส, อสฺมึ วา ฌาเน ¶ อตฺถีติ อิทํ ฌานํ ‘‘ปีติสุข’’นฺติ วุจฺจติ.
อถ วา ปีติ จ สุขฺจ ปีติสุขํ ธมฺมวินยาทโย วิย. วิเวกชํ ปีติสุขํ อสฺส ฌานสฺส, อสฺมึ วา ฌาเน อตฺถีติ เอวมฺปิ วิเวกชํปีติสุขํ. ยเถว หิ ฌานํ, เอวํ ปีติสุขมฺเปตฺถ วิเวกชเมว โหติ, ตฺจสฺส อตฺถิ, ตสฺมา ¶ อโลปสมาสํ กตฺวา เอกปเทเนว ‘‘วิเวกชํปีติสุข’’นฺติปิ วตฺตุํ ยุชฺชติ.
ปมนฺติ คณนานุปุพฺพตา ปมํ, อิทํ ปมํ อุปฺปนฺนนฺติปิ ปมํ. ฌานนฺติ ทุวิธํ ฌานํ อารมฺมณูปนิชฺฌานํ ลกฺขณูปนิชฺฌานฺจาติ. ตตฺถ อฏฺ สมาปตฺติโย ปถวีกสิณาทิอารมฺมณํ อุปนิชฺฌายนฺตีติ อารมฺมณูปนิชฺฌานนฺติ สงฺขฺยํ คตา. วิปสฺสนามคฺคผลานิ ปน ลกฺขณูปนิชฺฌานํ นาม. ตตฺถ วิปสฺสนา อนิจฺจาทิลกฺขณสฺส อุปนิชฺฌานโต ลกฺขณูปนิชฺฌานํ. วิปสฺสนาย กตกิจฺจสฺส มคฺเคน อิชฺฌนโต มคฺโค ลกฺขณูปนิชฺฌานํ, ผลํ ปน นิโรธสจฺจํ ตถลกฺขณํ อุปนิชฺฌายตีติ ลกฺขณูปนิชฺฌานํ. เตสุ อิธ ปุพฺพภาเค อารมฺมณูปนิชฺฌานํ, โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ลกฺขณูปนิชฺฌานํ อธิปฺเปตํ. ตสฺมา อารมฺมณูปนิชฺฌานโต จ ลกฺขณูปนิชฺฌานโต จ ปจฺจนีกฌาปนโต จ ฌานนฺติ เวทิตพฺพํ.
อุปสมฺปชฺชาติ ¶ อุปคนฺตฺวา, ปาปุณิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อุปสมฺปาทยิตฺวา วา, นิปฺผาเทตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. วิหรตีติ ตทนุรูเปน อิริยาปถวิหาเรน อิริยติ, วุตฺตปฺปการฌานสมงฺคี หุตฺวา อตฺตภาวสฺส อิริยนํ วุตฺตึ อภินิปฺผาเทติ.
ตํ ปเนตํ ปมชฺฌานํ ปฺจงฺควิปฺปหีนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ ติวิธกลฺยาณํ, ทสลกฺขณสมฺปนฺนํ. ตตฺถ กามจฺฉนฺโท พฺยาปาโท ถินมิทฺธํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ วิจิกิจฺฉาติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ นีวรณานํ ปหานวเสน ปฺจงฺควิปฺปหีนตา เวทิตพฺพา. น หิ เอเตสุ อปฺปหีเนสุ ฌานํ อุปฺปชฺชติ. เตนสฺเสตานิ ปหานงฺคานีติ วุจฺจนฺติ. กิฺจาปิ หิ ฌานกฺขเณ อฺเปิ อกุสลา ธมฺมา ปหียนฺติ, ตถาปิ เอตาเนว วิเสเสน ฌานนฺตรายกรานิ. กามจฺฉนฺเทน หิ นานาวิสยปฺปโลภิตํ จิตฺตํ น เอกตฺตารมฺมเณ ¶ สมาธิยติ, กามจฺฉนฺทาภิภูตํ วา, ตํ น กามธาตุปฺปหานาย ปฏิปทํ ปฏิปชฺชติ. พฺยาปาเทน วา อารมฺมเณ ปฏิหฺมานํ น นิรนฺตรํ ปวตฺตติ. ถินมิทฺธาภิภูตํ อกมฺมฺํ โหติ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปเรตํ อวูปสนฺตเมว หุตฺวา ปริพฺภมติ. วิจิกิจฺฉาย อุปหตํ ฌานาธิคมสาธิกํ ปฏิปทํ นาโรหติ. อิติ วิเสเสน ฌานนฺตรายกรตฺตา เอตาเนว ปหานงฺคานีติ วุตฺตานิ.
ยสฺมา ปน วิตกฺโก อารมฺมเณ จิตฺตํ อภินิโรเปติ, วิจาโร อนุปพนฺธติ, เตหิ อวิกฺเขปาย สมฺปาทิตปโยคสฺส เจตโส ปโยคสมฺปตฺติสมฺภวา ¶ ปีติ ปีณนํ สุขฺจ อุปพฺรูหนํ กโรติ. อถสฺส เสสสมฺปยุตฺตธมฺมา เอเตหิ อภินิโรปนานุพนฺธนปีณนุปพฺรูหเนหิ อนุคฺคหิตา เอกคฺคตา เอกตฺตารมฺมเณ สมํ สมฺมา จ อาธิยติ. ตสฺมา วิตกฺโก วิจาโร ปีติ สุขํ จิตฺเตกคฺคตาติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ อุปฺปตฺติวเสน ปฺจงฺคสมนฺนาคตตา เวทิตพฺพา. อุปฺปนฺเนสุ หิ เอเตสุ ปฺจสุ ฌานํ อุปฺปนฺนํ นาม โหติ. เตนสฺส เอตานิ ปฺจงฺคสมนฺนาคตานีติ วุจฺจนฺติ. ตสฺมา น เอเตหิ สมนฺนาคตํ อฺเทว ฌานํ นาม อตฺถีติ คเหตพฺพํ. ยถา ปน องฺคมตฺตวเสเนว จตุรงฺคินี เสนา, ปฺจงฺคิกํ ตูริยํ, อฏฺงฺคิโก จ มคฺโคติ วุจฺจติ, เอวมิทมฺปิ องฺคมตฺตวเสเนว ปฺจงฺคิกนฺติ วา ปฺจงฺคสมนฺนาคตนฺติ วา วุจฺจตีติ เวทิตพฺพํ.
เอตานิ จ ปฺจงฺคานิ กิฺจาปิ อุปจารกฺขเณปิ อตฺถิ, อถ โข อุปจาเร ปกติจิตฺตโต พลวตรานิ. อิธ ปน อุปจารโตปิ พลวตรานิ รูปาวจรลกฺขณปฺปตฺตานิ นิปฺผนฺนานิ. เอตฺถ หิ วิตกฺโก สุวิสเทน อากาเรน อารมฺมเณ จิตฺตํ อภินิโรปยมาโน อุปฺปชฺชติ. วิจาโร อติวิย อารมฺมณํ อนุมชฺชมาโน. ปีติสุขํ สพฺพาวนฺตมฺปิ กายํ ผรมานํ ¶ . เตเนวาห – ‘‘นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส วิเวกเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๒๖). จิตฺเตกคฺคตาปิ เหฏฺิมมฺหิ สมุคฺคปฏเล ¶ อุปริมํ สมุคฺคปฏลํ วิย อารมฺมเณสุ ผุสิตา หุตฺวา อุปฺปชฺชติ, อยเมเตสํ อิตเรหิ วิเสโส. ตตฺถ จิตฺเตกคฺคตา กิฺจาปิ ‘‘สวิตกฺกํ สวิจาร’’นฺติ อิมสฺมึ ปาเ น นิทฺทิฏฺา, ตถาปิ วิภงฺเค (วิภ. ๕๖๕) ‘‘ฌานนฺติ วิตกฺโก วิจาโร ปีติ สุขํ จิตฺเตกคฺคตา’’ติ เอวํ วุตฺตตฺตา องฺคเมว. เยน หิ อธิปฺปาเยน ภควตา อุทฺเทโส กโต, โสเยว เตน วิภงฺเค ปกาสิโตติ.
ติวิธกลฺยาณํ
ติวิธกลฺยาณํ ทสลกฺขณสมฺปนฺนนฺติ เอตฺถ ปน อาทิมชฺฌปริโยสานวเสนติวิธกลฺยาณตา. เตสํเยว จ อาทิมชฺฌปริโยสานานํ ลกฺขณวเสน ทสลกฺขณสมฺปนฺนตา เวทิตพฺพา. ตตฺรายํ ปาฬิ –
‘‘ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ, อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ, สมฺปหํสนา ปริโยสานํ, ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ. อาทิสฺส กติ ลกฺขณานิ? อาทิสฺส ตีณิ ลกฺขณานิ – โย ¶ ตสฺส ปริปนฺโถ, ตโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ, วิสุทฺธตฺตา จิตฺตํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ, ปฏิปนฺนตฺตา ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. ยฺจ ปริปนฺถโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ, ยฺจ วิสุทฺธตฺตา จิตฺตํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ, ยฺจ ปฏิปนฺนตฺตา ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ, อาทิสฺส อิมานิ ตีณิ ลกฺขณานิ. เตน วุจฺจติ – ‘ปมํ ฌานํ อาทิกลฺยาณฺเจว โหติ ติลกฺขณสมฺปนฺนฺจา’ติ.
‘‘ปมสฺส ฌานสฺส อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ. มชฺฌสฺส กติ ลกฺขณานิ? มชฺฌสฺส ตีณิ ลกฺขณานิ – วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ, สมถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ, เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ. ยฺจ วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ, ยฺจ สมถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ, ยฺจ เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ. ปมสฺส ฌานสฺส อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ, มชฺฌสฺส อิมานิ ตีณิ ลกฺขณานิ. เตน วุจฺจติ – ‘ปมํ ฌานํ มชฺเฌกลฺยาณฺเจว โหติ ติลกฺขณสมฺปนฺนฺจา’ติ.
‘‘ปมสฺส ฌานสฺส สมฺปหํสนา ปริโยสานํ. ปริโยสานสฺส กติ ลกฺขณานิ? ปริโยสานสฺส ¶ จตฺตาริ ลกฺขณานิ – ตตฺถ ¶ ชาตานํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนฏฺเน สมฺปหํสนา, อินฺทฺริยานํ เอกราสฏฺเน สมฺปหํสนา, ตทุปควีริยวาหนฏฺเน สมฺปหํสนา, อาเสวนฏฺเน สมฺปหํสนา. ปมสฺส ฌานสฺส สมฺปหํสนา ปริโยสานํ, ปริโยสานสฺส อิมานิ จตฺตาริ ลกฺขณานิ. เตน วุจฺจติ ‘ปมํ ฌานํ ปริโยสานกลฺยาณฺเจว โหติ จตุลกฺขณสมฺปนฺนฺจา’’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๘).
‘‘ตตฺร ปฏิปทาวิสุทฺธิ นาม สสมฺภาริโก อุปจาโร. อุเปกฺขานุพฺรูหนา นาม อปฺปนา. สมฺปหํสนา นาม ปจฺจเวกฺขณา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. ยสฺมา ปน ‘‘เอกตฺตคตํ จิตฺตํ ปฏิปทาวิสุทฺธิปกฺขนฺทฺเจว โหติ อุเปกฺขานุพฺรูหิตฺจ าเณน จ สมฺปหํสิต’’นฺติ ปาฬิยํ วุตฺตํ, ตสฺมา อนฺโตอปฺปนายเมว อาคมนวเสน ปฏิปทาวิสุทฺธิ, ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจวเสน อุเปกฺขานุพฺรูหนา, ธมฺมานํ อนติวตฺตนาทิภาวสาธเนน ปริโยทาปกสฺส าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน สมฺปหํสนา จ เวทิตพฺพา.
กถํ ¶ ? ยสฺมิฺหิ วาเร อปฺปนา อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ โย นีวรณสงฺขาโต กิเลสคโณ ตสฺส ฌานสฺส ปริปนฺโถ, ตโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ. วิสุทฺธตฺตา อาวรณวิรหิตํ หุตฺวา มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ. มชฺฌิมสมถนิมิตฺตํ นาม สมปฺปวตฺโต อปฺปนาสมาธิเยว. ตทนนฺตรํ ปน ปุริมจิตฺตํ เอกสนฺตติปริณามนเยน ตถตฺตํ อุปคจฺฉมานํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ นาม, เอวํ ปฏิปนฺนตฺตา ตถตฺตุปคมเนน ตตฺถ ปกฺขนฺทติ นาม. เอวํ ตาว ปุริมจิตฺเต วิชฺชมานาการนิปฺผาทิกา ปมสฺส ฌานสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว อาคมนวเสน ปฏิปทาวิสุทฺธิ เวทิตพฺพา.
เอวํ วิสุทฺธสฺส ปน ตสฺส ปุน วิโสเธตพฺพาภาวโต วิโสธเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. สมถภาวูปคมเนน สมถปฏิปนฺนสฺส ปุน สมาธาเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต สมถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. สมถปฏิปนฺนภาวโต เอว จสฺส กิเลสสํสคฺคํ ปหาย เอกตฺเตน อุปฏฺิตสฺส ปุน เอกตฺตุปฏฺาเน ¶ พฺยาปารํ อกโรนฺโต เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. เอวํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจวเสน อุเปกฺขานุพฺรูหนา เวทิตพฺพา.
เย ปเนเต เอวํ อุเปกฺขานุพฺรูหิเต ตตฺถ ชาตา สมาธิปฺาสงฺขาตา ยุคนทฺธธมฺมา อฺมฺํ อนติวตฺตมานา หุตฺวา ปวตฺตา, ยานิ จ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ นานากิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติรเสน เอกรสานิ หุตฺวา ปวตฺตานิ, ยฺเจส ตทุปคํ เตสํ อนติวตฺตนเอกรสภาวานํ ¶ อนุจฺฉวิกํ วีริยํ วาหยติ, ยา จสฺส ตสฺมึ ขเณ ปวตฺตา อาเสวนา, สพฺเพปิ เต อาการา ยสฺมา าเณน สํกิเลสโวทาเนสุ ตํ ตํ อาทีนวฺจ อานิสํสฺจ ทิสฺวา ตถา ตถา สมฺปหํสิตตฺตา วิโสธิตตฺตา ปริโยทาปิตตฺตา นิปฺผนฺนาว, ตสฺมา ‘‘ธมฺมานํ อนติวตฺตนาทิภาวสาธเนน ปริโยทาปกสฺส าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน สมฺปหํสนา เวทิตพฺพา’’ติ วุตฺตํ.
วิตกฺกวิจารานํ วูปสมาติ วิตกฺกสฺส จ วิจารสฺส จาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ วูปสมา สมติกฺกมา, ทุติยชฺฌานกฺขเณ อปาตุภาวาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ กิฺจาปิ ทุติยชฺฌาเน สพฺเพปิ ปมชฺฌานธมฺมา น สนฺติ, อฺเเยว หิ ปมชฺฌาเน ผสฺสาทโย, อฺเ อิธ. โอฬาริกสฺส ปน โอฬาริกสฺส องฺคสฺส สมติกฺกมา ปมชฺฌานโต ปเรสํ ทุติยชฺฌานาทีนํ อธิคโม โหตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’’ติ ¶ เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อชฺฌตฺตนฺติ อิธ นิยกชฺฌตฺตํ อธิปฺเปตํ, วิภงฺเค ปน ‘‘อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺต’’นฺติ (วิภ. ๕๗๓) เอตฺตกเมว วุตฺตํ. ยสฺมา นิยกชฺฌตฺตํ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา อตฺตนิ ชาตํ, อตฺตโน สนฺตาเน นิพฺพตฺตนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ.
สมฺปสาทนนฺติ สมฺปสาทนํ วุจฺจติ สทฺธา. สมฺปสาทนโยคโต ฌานมฺปิ สมฺปสาทนํ, นีลวณฺณโยคโต นีลวตฺถํ วิย. ยสฺมา วา ตํ ฌานํ สมฺปสาทนสมนฺนาคตตฺตา วิตกฺกวิจารกฺโขภวูปสมเนน จ เจโต สมฺปสาทยติ, ตสฺมาปิ ‘‘สมฺปสาทน’’นฺติ ¶ วุตฺตํ. อิมสฺมิฺจ อตฺถวิกปฺเป สมฺปสาทนํ เจตโสติ เอวํ ปทสมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ปุริมสฺมึ ปน อตฺถวิกปฺเป เจตโสติ เอตํ เอโกทิภาเวน สทฺธึ โยเชตพฺพํ.
ตตฺรายํ อตฺถโยชนา – เอโก อุเทตีติ เอโกทิ, วิตกฺกวิจาเรหิ อนชฺฌารูฬฺหตฺตา อคฺโค เสฏฺโ หุตฺวา อุเทตีติ อตฺโถ. เสฏฺโปิ หิ โลเก เอโกติ วุจฺจติ. วิตกฺกวิจารวิรหิโต วา เอโก อสหาโย หุตฺวาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อถ วา สมฺปยุตฺตธมฺเม อุทายตีติ อุทิ, อุฏฺาเปตีติ อตฺโถ. เสฏฺฏฺเน เอโก จ โส อุทิ จาติ เอโกทิ, สมาธิสฺเสตํ อธิวจนํ. อิติ อิมํ เอโกทึ ภาเวติ วฑฺเฒตีติ อิทํ ทุติยชฺฌานํ เอโกทิภาวํ. โส ปนายํ เอโกทิ ยสฺมา เจตโส, น สตฺตสฺส, น ชีวสฺส. ตสฺมา เอตํ ‘‘เจตโส เอโกทิภาว’’นฺติ วุตฺตํ.
นนุ จายํ สทฺธา ปมชฺฌาเนปิ อตฺถิ, อยฺจ เอโกทินามโก สมาธิ, อถ กสฺมา อิทเมว ¶ ‘‘สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาว’’นฺติ วุตฺตนฺติ? วุจฺจเต – อทฺุหิ ปมชฺฌานํ วิตกฺกวิจารกฺโขเภน วีจิตรงฺคสมากุลมิว ชลํ น สุปฺปสนฺนํ โหติ, ตสฺมา สติยาปิ สทฺธาย สมฺปสาทนนฺติ น วุตฺตํ. น สุปฺปสนฺนตฺตาเยว เจตฺถ สมาธิปิ น สุฏฺุ ปากโฏ, ตสฺมา เอโกทิภาวนฺติปิ น วุตฺตํ. อิมสฺมึ ปน ฌาเน วิตกฺกวิจารปลิโพธาภาเวน ลทฺโธกาสา พลวตี สทฺธา, พลวสทฺธาสหายปฏิลาเภเนว จ สมาธิปิ ปากโฏ. ตสฺมา อิทเมว เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อวิตกฺกํ อวิจารนฺติ ภาวนาย ปหีนตฺตา เอตสฺมึ, เอตสฺส วา วิตกฺโก นตฺถีติ อวิตกฺกํ. อิมินาว นเยน อวิจารํ. เอตฺถาห ‘‘นนุ จ ‘วิตกฺกวิจารานํ ¶ วูปสมา’ติ อิมินาปิ อยมตฺโถ สิทฺโธ. อถ กสฺมา ปุน วุตฺตํ ‘อวิตกฺกํ อวิจาร’’’นฺติ? วุจฺจเต – เอวเมตํ, สิทฺโธวายมตฺโถ. น ปเนตํ ตทตฺถทีปกํ, นนุ อโวจุมฺห ‘‘โอฬาริกสฺส ปน โอฬาริกสฺส องฺคสฺส สมติกฺกมา ปมชฺฌานโต ปเรสํ ทุติยชฺฌานาทีนํ สมธิคโม โหตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’ติ เอวํ วุตฺต’’นฺติ.
อปิ ¶ จ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อิทํ สมฺปสาทนํ, น กิเลสกาลุสฺสิยสฺส. วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมา เอโกทิภาวํ, น อุปจารชฺฌานมิว นีวรณปฺปหานา, น ปมชฺฌานมิว จ องฺคปาตุภาวาติ เอวํ สมฺปสาทนเอโกทิภาวานํ เหตุปริทีปกมิทํ วจนํ. ตถา วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อิทํ อวิตกฺกํ อวิจารํ, น ตติยจตุตฺถชฺฌานานิ วิย จกฺขุวิฺาณาทีนิ วิย จ อภาวาติ, เอวํ อวิตกฺกอวิจารภาวสฺส เหตุปริทีปกฺจ, น วิตกฺกวิจาราภาวมตฺตปริทีปกํ. วิตกฺกวิจาราภาวมตฺตปริทีปกเมว ปน ‘‘อวิตกฺกํ อวิจาร’’นฺติ อิทํ วจนํ. ตสฺมา ปุริมํ วตฺวาปิ ปุน วตฺตพฺพเมวาติ.
สมาธิชนฺติ ปมชฺฌานสมาธิโต สมฺปยุตฺตสมาธิโต วา ชาตนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ กิฺจาปิ ปมมฺปิ สมฺปยุตฺตสมาธิโต ชาตํ, อถ โข อยเมว สมาธิ ‘‘สมาธี’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหติ, วิตกฺกวิจารกฺโขภวิรเหน อติวิย อจลตฺตา สุปฺปสนฺนตฺตา จ. ตสฺมา อิมสฺส วณฺณภณนตฺถํ อิทเมว ‘‘สมาธิช’’นฺติ วุตฺตํ. ปีติสุขนฺติ อิทํ วุตฺตนยเมว.
ทุติยนฺติ คณนานุปุพฺพตา ทุติยํ. อิทํ ทุติยํ อุปฺปนฺนนฺติปิ ทุติยํ.
ปีติยา จ วิราคาติ วิราโค นาม วุตฺตปฺปการาย ปีติยา ชิคุจฺฉนํ วา สมติกฺกโม วา ¶ . อุภินฺนํ ปน อนฺตรา จ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ, โส วูปสมํ วา สมฺปิณฺเฑติ วิตกฺกวิจารวูปสมํ วา. ตตฺถ ยทา วูปสมเมว สมฺปิณฺเฑติ, ตทา ปีติยา วิราคา จ, กิฺจ ภิยฺโย วูปสมา จาติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. อิมิสฺสา จ โยชนาย วิราโค ชิคุจฺฉนตฺโถ โหติ, ตสฺมา ปีติยา ชิคุจฺฉนา จ สมติกฺกมา จาติ อยมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยทา ปน วิตกฺกวิจารวูปสมํ สมฺปิณฺเฑติ, ตทา ปีติยา จ วิราคา, กิฺจ ภิยฺโย วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมาติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. อิมิสฺสา ¶ จ โยชนาย วิราโค สมติกฺกมนตฺโถ โหติ, ตสฺมา ปีติยา จ สมติกฺกมา วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมาติ อยมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
กามฺเจเต วิตกฺกวิจารา ทุติยชฺฌาเนเยว ¶ วูปสนฺตา, อิมสฺส ปน ฌานสฺส มคฺคปริทีปนตฺถํ วณฺณภณนตฺถฺเจตํ วุตฺตํ. ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’’ติ หิ วุตฺเต อิทํ ปฺายติ ‘‘นูน วิตกฺกวิจารวูปสโม มคฺโค อิมสฺส ฌานสฺสา’’ติ. ยถา จ ตติเย อริยมคฺเค อปฺปหีนานมฺปิ สกฺกายทิฏฺาทีนํ ‘‘ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปหานา’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๓๒-๑๓๓) เอวํ ปหานํ วุจฺจมานํ วณฺณภณนํ โหติ, ตทธิคมาย อุสฺสุกฺกานํ อุสฺสาหชนกํ, เอวเมว อิธ อวูปสนฺตานมฺปิ วิตกฺกวิจารานํ วูปสโม วุจฺจมาโน วณฺณภณนํ โหติ, เตนายมตฺโถ วุตฺโต ‘‘ปีติยา จ สมติกฺกมา วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมา’’ติ.
อุเปกฺขโก จ วิหรตีติ เอตฺถ อุปปตฺติโต อิกฺขตีติ อุเปกฺขา, สมํ ปสฺสติ, อปกฺขปติตา หุตฺวา ปสฺสตีติ อตฺโถ. ตาย วิสทาย วิปุลาย ถามคตาย สมนฺนาคตตฺตา ตติยชฺฌานสมงฺคี ‘‘อุเปกฺขโก’’ติ วุจฺจติ.
อุเปกฺขา ปน ทสวิธา โหติ – ฉฬงฺคุเปกฺขา พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา โพชฺฌงฺคุเปกฺขา วีริยุเปกฺขา สงฺขารุเปกฺขา เวทนุเปกฺขา วิปสฺสนุเปกฺขา ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา ฌานุเปกฺขา ปาริสุทฺธุเปกฺขาติ.
ตตฺถ ยา ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน’’ติ (ม. นิ. ๖.๑) เอวมาคตา ขีณาสวสฺส ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺานิฏฺฉฬารมฺมณาปาเถ ปริสุทฺธปกติภาวาวิชหนาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ ฉฬงฺคุเปกฺขา นาม.
ยา ¶ ปน ‘‘อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๕๕๖; ม. นิ. ๑.๗๗) เอวมาคตา สตฺเตสุ มชฺฌตฺตาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา นาม.
ยา ¶ ปน ‘‘อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิต’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๒๔๗) เอวมาคตา สหชาตานํ ธมฺมานํ มชฺฌตฺตาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ โพชฺฌงฺคุเปกฺขา นาม.
ยา ปน ‘‘กาเลน กาลํ อุเปกฺขานิมิตฺตํ มนสิ กโรตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๐๓) เอวมาคตา ¶ อนจฺจารทฺธนาติสิถิลวีริยสงฺขาตา อุเปกฺขา, อยํ วีริยุเปกฺขา นาม.
ยา ปน ‘‘กติ สงฺขารุเปกฺขา สมถวเสน อุปฺปชฺชนฺติ, กติ สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺติ? อฏฺ สงฺขารุเปกฺขา สมถวเสน อุปฺปชฺชนฺติ, ทส สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๗) เอวมาคตา นีวรณาทิปฏิสงฺขาสนฺติฏฺนาคหเณ มชฺฌตฺตภูตา อุเปกฺขา, อยํ สงฺขารุเปกฺขา นาม.
ยา ปน ‘‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ อุเปกฺขาสหคต’’นฺติ (ธ. ส. ๑๕๐) เอวมาคตา อทุกฺขมสุขสงฺขาตา อุเปกฺขา, อยํ เวทนุเปกฺขา นาม.
ยา ปน ‘‘ยทตฺถิ ยํ ภูตํ, ตํ ปชหติ, อุเปกฺขํ ปฏิลภตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๗๑-๗๒; อ. นิ. ๗.๕๕) เอวมาคตา วิจินเน มชฺฌตฺตภูตา อุเปกฺขา, อยํ วิปสฺสนุเปกฺขา นาม.
ยา ปน ฉนฺทาทีสุ เยวาปนเกสุ อาคตา สหชาตานํ สมวาหิตภูตา อุเปกฺขา, อยํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา นาม.
ยา ปน ‘‘อุเปกฺขโก จ วิหรตี’’ติ เอวมาคตา อคฺคสุเขปิ ตสฺมึ อปกฺขปาตชนนี อุเปกฺขา, อยํ ฌานุเปกฺขา นาม.
ยา ปน ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌาน’’นฺติ (ธ. ส. ๑๖๕; ที. นิ. ๑.๒๓๒) เอวมาคตา ¶ สพฺพปจฺจนีกปริสุทฺธา ปจฺจนีกวูปสมเนปิ อพฺยาปารภูตา อุเปกฺขา, อยํ ปาริสุทฺธุเปกฺขา นาม.
ตตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขา จ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา จ โพชฺฌงฺคุเปกฺขา จ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา จ ฌานุเปกฺขา จ ปาริสุทฺธุเปกฺขา จ อตฺถโต เอกา, ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาว โหติ. เตน เตน อวตฺถาเภเทน ปนสฺสา อยํ เภโท ¶ . เอกสฺสาปิ สโต สตฺตสฺส กุมารยุวเถรเสนาปติราชาทิวเสน เภโท วิย, ตสฺมา ตาสุ ยตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขา, น ตตฺถ โพชฺฌงฺคุเปกฺขาทโย. ยตฺถ วา ปน โพชฺฌงฺคุเปกฺขา, น ตตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขาทโย โหนฺตีติ เวทิตพฺพา.
ยถา เจตาสํ อตฺถโต เอกีภาโว, เอวํ สงฺขารุเปกฺขาวิปสฺสนุเปกฺขานมฺปิ. ปฺา เอว หิ เอสา, กิจฺจวเสน ทฺวิธา ภินฺนา, ยถา หิ ปุริสสฺส สายํ เคหํ ปวิฏฺํ สปฺปํ อชปททณฺฑํ ¶ คเหตฺวา ปริเยสมานสฺส ตํ ถุสโกฏฺเก นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘สปฺโป นุ โข โน’’ติ อวโลเกนฺตสฺส โสวตฺถิกตฺตยํ ทิสฺวา นิพฺเพมติกสฺส ‘‘สปฺโป น สปฺโป’’ติ วิจินเน มชฺฌตฺตตา อุปฺปชฺชติ, เอวเมว ยา อารทฺธวิปสฺสกสฺส วิปสฺสนาาเณน ลกฺขณตฺตเย ทิฏฺเ สงฺขารานํ อนิจฺจภาวาทิวิจินเน มชฺฌตฺตตา อุปฺปชฺชติ, อยํ วิปสฺสนุเปกฺขา. ยถา ปน ตสฺส ปุริสสฺส อชปททณฺฑเกน คาฬฺหํ สปฺปํ คเหตฺวา ‘‘กินฺตาหํ อิมํ สปฺปํ อวิเหเนฺโต อตฺตานฺจ อิมินา อฑํสาเปนฺโต มฺุเจยฺย’’นฺติ มฺุจนาการเมว ปริเยสโต คหเณ มชฺฌตฺตตา โหติ, เอวเมว ยา ลกฺขณตฺตยสฺส ทิฏฺตฺตา อาทิตฺเต วิย ตโย ภเว ปสฺสโต สงฺขารคฺคหเณ มชฺฌตฺตตา, อยํ สงฺขารุเปกฺขา. อิติ วิปสฺสนุเปกฺขาย สิทฺธาย สงฺขารุเปกฺขาปิ สิทฺธาว โหติ. อิมินา ปเนสา วิจินนคฺคหเณสุ มชฺฌตฺตตาสงฺขาเตน กิจฺเจน ทฺวิธา ภินฺนาติ. วีริยุเปกฺขา ปน เวทนุเปกฺขา จ อฺมฺฺจ อวเสสาหิ จ อตฺถโต ภินฺนาเยวาติ. อาห เจตฺถ –
‘‘มชฺฌตฺตพฺรหฺมโพชฺฌงฺคฉฬงฺคฌานสุทฺธิโย;
วิปสฺสนา จ สงฺขารเวทนาวีริยํ อิติ.
‘‘วิตฺถารโต ทโสเปกฺขา-ฉมชฺฌตฺตาทิโต ตโต;
ทุเว ปฺา ตโต ทฺวีหิ, จตสฺโสว ภวนฺติมา’’ติ.
อิติ อิมาสุ อุเปกฺขาสุ ฌานุเปกฺขา อิธ อธิปฺเปตา. สา มชฺฌตฺตลกฺขณา, อนาโภครสา ¶ , อพฺยาปารปจฺจุปฏฺานา, ปีติวิราคปทฏฺานาติ. เอตฺถาห – ‘‘นนุ จายํ อตฺถโต ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาว โหติ, สา จ ปมทุติยชฺฌาเนสุปิ อตฺถิ. ตสฺมา ตตฺราปิ ‘อุเปกฺขโก จ วิหรตี’ติ เอวมยํ วตฺตพฺพา สิยา, สา กสฺมา น วุตฺตา’’ติ? อปริพฺยตฺตกิจฺจโต. อปริพฺยตฺตฺหิ ¶ ตสฺสา ตตฺถ กิจฺจํ, วิตกฺกาทีหิ อภิภูตตฺตา. อิธ ปนายํ วิตกฺกวิจารปีตีหิ อนภิภูตตฺตา อุกฺขิตฺตสิรา วิย หุตฺวา ปริพฺยตฺตกิจฺจา ชาตา, ตสฺมา วุตฺตาติ.
สโต ¶ จ สมฺปชาโนติ เอตฺถ สรตีติ สโต. สมฺปชานาตีติ สมฺปชาโน. อิติ ปุคฺคเลน สติ จ สมฺปชฺฺจ วุตฺตํ. ตตฺถ สรณลกฺขณา สติ, อสมฺมุสฺสนรสา อารกฺขปจฺจุปฏฺานา. อสมฺโมหลกฺขณํ สมฺปชฺํ, ตีรณรสํ, ปวิจยปจฺจุปฏฺานํ.
ตตฺถ กิฺจาปิ อิทํ สติสมฺปชฺํ ปุริมชฺฌาเนสุปิ อตฺถิ, มุฏฺสฺสติสฺส หิ อสมฺปชานสฺส อุปจารมตฺตมฺปิ น สมฺปชฺชติ, ปเคว อปฺปนา. โอฬาริกตฺตา ปน เตสํ ฌานานํ ภูมิยํ วิย ปุริสสฺส จิตฺตสฺส คติ สุขา โหติ, อพฺยตฺตํ ตตฺถ สติสมฺปชฺกิจฺจํ. โอฬาริกงฺคปฺปหาเนน ปน สุขุมตฺตา อิมสฺส ฌานสฺส ปุริสสฺส ขุรธารายํ วิย สติสมฺปชฺกิจฺจปริคฺคหิตา เอว จิตฺตสฺส คติ อิจฺฉิตพฺพาติ อิเธว วุตฺตํ. กิฺจ ภิยฺโย – ยถา เธนุปโค วจฺโฉ เธนุโต อปนีโต อรกฺขิยมาโน ปุนเทว เธนุํ อุปคจฺฉติ, เอวมิทํ ตติยชฺฌานสุขํ ปีติโต อปนีตมฺปิ สติสมฺปชฺารกฺเขน อรกฺขิยมานํ ปุนเทว ปีตึ อุปคจฺเฉยฺย, ปีติสมฺปยุตฺตเมว สิยา, สุเข วาปิ สตฺตา สารชฺชนฺติ. อิทฺจ อติมธุรสุขํ, ตโต ปรํ สุขาภาวา. สติสมฺปชฺานุภาเวน ปเนตฺถ สุเข อสารชฺชนา โหติ, โน อฺถาติ อิมมฺปิ อตฺถวิเสสํ ทสฺเสตุํ อิทมิเธว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อิทานิ สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตีติ เอตฺถ กิฺจาปิ ตติยชฺฌานสมงฺคิโน สุขปฏิสํเวทนาโภโค นตฺถิ, เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา ตสฺส นามกาเยน สมฺปยุตฺตํ สุขํ. ยํ วา ตํ นามกายสมฺปยุตฺตํ สุขํ, ตํสมุฏฺาเนนสฺส ยสฺมา อติปณีเตน รูเปน รูปกาโย ผุโฏ, ยสฺส ผุฏตฺตา ฌานา วุฏฺิโตปิ สุขํ ปฏิสํเวเทยฺย, ตสฺมา เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตี’’ติ อาห.
อิทานิ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารีติ เอตฺถ ยํฌานเหตุ ยํฌานการณา ¶ ตํ ตติยชฺฌานสมงฺคีปุคฺคลํ พุทฺธาทโย อริยา อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺติ ปฺเปนฺติ ¶ ปฏฺเปนฺติ วิวรนฺติ วิภชนฺติ อุตฺตานีกโรนฺติ ปกาเสนฺติ, ปสํสนฺตีติ อธิปฺปาโย. กินฺติ? อุเปกฺขโก ¶ สติมา สุขวิหารีติ. ตํ ตติยชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา.
กสฺมา ปน ตํ เต เอวํ ปสํสนฺตีติ? ปสํสารหโต. อยฺหิ ยสฺมา อติมธุรสุเข สุขปารมิปฺปตฺเตปิ ตติยชฺฌาเน อุเปกฺขโก, น ตตฺถ สุขาภิสงฺเคน อากฑฺฒียติ. ยถา จ ปีติ น อุปฺปชฺชติ, เอวํ อุปฏฺิตสติตาย สติมา. ยสฺมา จ อริยกนฺตํ อริยชนเสวิตเมว จ อสํกิลิฏฺํ สุขํ นามกาเยน ปฏิสํเวเทติ, ตสฺมา ปสํสารโห. อิติ ปสํสารหโต นํ อริยา เต เอวํ ปสํสาเหตุภูเต คุเณ ปกาเสนฺโต ‘‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’’ติ เอวํ ปสํสนฺตีติ เวทิตพฺพํ. ตติยนฺติ คณนานุปุพฺพตา ตติยํ, อิทํ ตติยํ อุปฺปนฺนนฺติปิ ตติยํ.
สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานาติ กายิกสุขสฺส จ กายิกทุกฺขสฺส จ ปหานา. ปุพฺเพวาติ ตฺจ โข ปุพฺเพว, น จตุตฺถชฺฌานกฺขเณ. โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาติ เจตสิกสุขสฺส จ เจตสิกทุกฺขสฺส จาติ อิเมสมฺปิ ทฺวินฺนํ ปุพฺเพว อตฺถงฺคมา, ปหานา อิจฺเจว วุตฺตํ โหติ.
กทา ปน เนสํ ปหานํ โหติ? จตุนฺนํ ฌานานํ อุปจารกฺขเณ. โสมนสฺสฺหิ จตุตฺถชฺฌานสฺส อุปจารกฺขเณเยว ปหียติ, ทุกฺขโทมนสฺสสุขานิ ปมทุติยตติยชฺฌานานํ อุปจารกฺขเณสุ. เอวเมเตสํ ปหานกฺกเมน อวุตฺตานํ, อินฺทฺริยวิภงฺเค ปน อินฺทฺริยานํ อุทฺเทสกฺกเมเนว อิธาปิ วุตฺตานํ สุขทุกฺขโสมนสฺสโทมนสฺสานํ ปหานํ เวทิตพฺพํ.
ยทิ ปเนตานิ ตสฺส ตสฺส ฌานสฺส อุปจารกฺขเณเยว ปหียนฺติ, อถ กสฺมา ‘‘กตฺถ จุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, เอตฺถ จุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ. กตฺถ จุปฺปนฺนํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ… สุขินฺทฺริยํ… โสมนสฺสินฺทฺริยํ อปริเสสํ ¶ นิรุชฺฌติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ, สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺถ จุปฺปนฺนํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๕๑๐) เอวํ ¶ ฌาเนสฺเวว นิโรโธ วุตฺโตติ. อติสยนิโรธตฺตา. อติสยนิโรโธ หิ เนสํ ปมชฺฌานาทีสุ, น นิโรโธเยว. นิโรโธเยว ปน อุปจารกฺขเณ นาติสยนิโรโธ.
ตถา ¶ หิ นานาวชฺชเน ปมชฺฌานูปจาเร นิรุทฺธสฺสาปิ ทุกฺขินฺทฺริยสฺส ฑํสมกสาทิสมฺผสฺเสน วา วิสมาสนุปตาเปน วา สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว อนฺโตอปฺปนายํ. อุปจาเร วา นิรุทฺธมฺเปตํ น สุฏฺุ นิรุทฺธํ โหติ, ปฏิปกฺเขน อวิหตตฺตา. อนฺโตอปฺปนายํ ปน ปีติผรเณน สพฺโพ กาโย สุโขกฺกนฺโต โหติ, สุโขกฺกนฺตกายสฺส จ สุฏฺุ นิรุทฺธํ โหติ ทุกฺขินฺทฺริยํ, ปฏิปกฺเขน วิหตตฺตา. นานาวชฺชเนเยว จ ทุติยชฺฌานูปจาเร ปหีนสฺสาปิ โทมนสฺสินฺทฺริยสฺส ยสฺมา เอตํ วิตกฺกวิจารปจฺจเยปิ กายกิลมเถ จิตฺตุปฆาเต จ สติ อุปฺปชฺชติ, วิตกฺกวิจาราภาเว เนว อุปฺปชฺชติ. ยตฺถ ปน อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ วิตกฺกวิจารภาเว. อปฺปหีนาเยว จ ทุติยชฺฌานูปจาเร วิตกฺกวิจาราติ ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว ทุติยชฺฌาเน, ปหีนปฺปจฺจยตฺตา. ตถา ตติยชฺฌานูปจาเร ปหีนสฺสาปิ สุขินฺทฺริยสฺส ปีติสมุฏฺานปณีตรูปผุฏกายสฺส สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว ตติยชฺฌาเน. ตติยชฺฌาเน หิ สุขสฺส ปจฺจยภูตา ปีติ สพฺพโส นิรุทฺธาติ. ตถา จตุตฺถชฺฌานูปจาเร ปหีนสฺสาปิ โสมนสฺสินฺทฺริยสฺส อาสนฺนตฺตา, อปฺปนาปตฺตาย อุเปกฺขาย อภาเวน สมฺมา อนติกฺกนฺตตฺตา จ สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว จตุตฺถชฺฌาเน. ตสฺมา เอว จ ‘‘เอตฺถุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตี’’ติ ตตฺถ ตตฺถ อปริเสสคฺคหณํ กตนฺติ.
เอตฺถาห – ‘‘อเถวํ ตสฺส ตสฺส ฌานสฺสุปจาเร ปหีนาปิ เอตา เวทนา อิธ กสฺมา สมาหฏา’’ติ? สุขคฺคหณตฺถํ. ยา หิ อยํ อทุกฺขมสุขนฺติ เอตฺถ อทุกฺขมสุขา เวทนา วุตฺตา, สา สุขุมา ทุพฺพิฺเยฺยา, น สกฺกา สุเขน คเหตุํ, ตสฺมา ¶ ยถา นาม ทุฏฺสฺส ยถา วา ตถา วา อุปสงฺกมิตฺวา คเหตุํ อสกฺกุเณยฺยสฺส โคณสฺส สุขคหณตฺถํ โคโป เอกสฺมึ วเช สพฺพา คาโว สมาหรติ, อเถเกกํ นีหรนฺโต ปฏิปาฏิยา อาคตํ ‘‘อยํ โส คณฺหถ น’’นฺติ ตมฺปิ คาหาเปติ, เอวเมว ภควา สุขคฺคหณตฺถํ สพฺพา เอตา สมาหรีติ. เอวฺหิ สมาหฏา เอตา ทสฺเสตฺวา ‘‘ยํ เนว สุขํ, น ทุกฺขํ, น โสมนสฺสํ, น โทมนสฺสํ, อยํ อทุกฺขมสุขา เวทนา’’ติ สกฺกา โหติ เอสา คาหยิตุํ.
อปิ จ อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา ปจฺจยทสฺสนตฺถฺจาปิ เอตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. ทุกฺขปฺปหานาทโย หิ ตสฺสา ปจฺจยา. ยถาห – ‘‘จตฺตาโร ¶ โข, อาวุโส, ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา. อิธาวุโส, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ¶ …เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเม โข, อาวุโส, จตฺตาโร ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๘). ยถา วา อฺตฺถ ปหีนาปิ สกฺกายทิฏฺิอาทโย ตติยมคฺคสฺส วณฺณภณนตฺถํ ‘‘ตตฺถ ปหีนา’’ติ วุตฺตา, เอวํ วณฺณภณนตฺถมฺเปตสฺส ฌานสฺเสตา อิธ วุตฺตาติปิ เวทิตพฺพา. ปจฺจยฆาเตน วา เอตฺถ ราคโทสานํ อติทูรภาวํ ทสฺเสตุมฺเปตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. เอตาสุ หิ สุขํ โสมนสฺสสฺส ปจฺจโย, โสมนสฺสํ ราคสฺส, ทุกฺขํ โทมนสฺสสฺส, โทมนสฺสํ โทสสฺส. สุขาทิฆาเตน จ เต สปฺปจฺจยา ราคโทสา หตาติ อติทูเร โหนฺตีติ.
อทุกฺขมสุขนฺติ ทุกฺขาภาเวน อทุกฺขํ, สุขาภาเวน อสุขํ. เอเตเนตฺถ สุขทุกฺขปฏิปกฺขภูตํ ตติยเวทนํ ทีเปติ, น ทุกฺขสุขาภาวมตฺตํ. ตติยเวทนา นาม อทุกฺขมสุขา, อุเปกฺขาติปิ วุจฺจติ. สา อิฏฺานิฏฺวิปรีตานุภวนลกฺขณา, มชฺฌตฺตรสา, อวิภูตปจฺจุปฏฺานา, สุขนิโรธปทฏฺานาติ เวทิตพฺพา.
อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธินฺติ อุเปกฺขาย ชนิตสติปาริสุทฺธึ. อิมสฺมิฺหิ ฌาเน สุปริสุทฺธา สติ, ยา จ ตสฺสา สติยา ¶ ปาริสุทฺธิ, สา อุเปกฺขาย กตา, น อฺเน. ตสฺมา เอตํ ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิ’’นฺติ วุจฺจติ. ยาย จ อุเปกฺขาย เอตฺถ สติ ปาริสุทฺธิ โหติ, สา อตฺถโต ตตฺรมชฺฌตฺตตาติ เวทิตพฺพา. น เกวลฺเจตฺถ ตาย สติเยว ปริสุทฺธา, อปิ จ โข สพฺเพปิ สมฺปยุตฺตธมฺมา, สติสีเสน ปน เทสนา วุตฺตา.
ตตฺถ กิฺจาปิ อยํ อุเปกฺขา เหฏฺาปิ ตีสุ ฌาเนสุ วิชฺชติ, ยถา ปน ทิวา สูริยปฺปภาภิภวา โสมฺมภาเวน จ อตฺตโน อุปการกตฺเตน วา สภาคาย รตฺติยา อลาภา ทิวา วิชฺชมานาปิ จนฺทเลขา อปริสุทฺธา โหติ อปริโยทาตา, เอวมยมฺปิ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาจนฺทเลขา วิตกฺกาทิปจฺจนีกธมฺมเตชาภิภวา สภาคาย จ อุเปกฺขาเวทนารตฺติยา อปฏิลาภา วิชฺชมานาปิ ปมชฺฌานาทิเภเทสุ อปริสุทฺธา โหติ. ตสฺสา จ อปริสุทฺธาย ทิวา อปริสุทฺธจนฺทเลขาย ปภา วิย สหชาตาปิ สติอาทโย ¶ อปริสุทฺธาว โหนฺติ. ตสฺมา เตสุ เอกมฺปิ ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิ’’นฺติ น วุตฺตํ. อิธ ปน วิตกฺกาทิปจฺจนีกธมฺมเตชาภิภวาภาวา สภาคาย จ อุเปกฺขาเวทนารตฺติยา ปฏิลาภา อยํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาจนฺทเลขา อติวิย ปริสุทฺธา, ตสฺสา ปริสุทฺธตฺตา ปริสุทฺธจนฺทเลขาย ปภา วิย สหชาตาปิ สติอาทโย ปริสุทฺธา โหนฺติ ปริโยทาตา. ตสฺมา อิทเมว ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิ’’นฺติ ¶ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. จตุตฺถนฺติ คณนานุปุพฺพตา จตุตฺถํ. อิทํ จตุตฺถํ อุปฺปนฺนนฺติปิ จตุตฺถํ.
ปฺวา โหตีติ ปฺา อสฺส อตฺถีติ ปฺวา. อุทยตฺถคามินิยาติ อุทยคามินิยา เจว อตฺถคามินิยา จ. สมนฺนาคโตติ ปริปุณฺโณ. อริยายาติ นิทฺโทสาย. นิพฺเพธิกายาติ นิพฺเพธปกฺขิกาย. ทุกฺขกฺขยคามินิยาติ นิพฺพานคามินิยา. โส อิทํ ทุกฺขนฺติ เอวมาทีสุ ‘‘เอตฺตกํ ทุกฺขํ น อิโต ภิยฺโย’’ติ สพฺพมฺปิ ทุกฺขสจฺจํ สรสลกฺขณปฏิเวเธน ยถาภูตํ ปชานาติ ปฏิวิชฺฌติ. ตสฺส จ ทุกฺขสฺส นิพฺพตฺติกํ ตณฺหํ ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ. ตทุภยมฺปิ ยํ านํ ปตฺวา นิรุชฺฌติ, ตํ เตสํ อปฺปวตฺตึ ¶ นิพฺพานํ ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ. ตสฺส จ สมฺปาปกํ อริยมคฺคํ ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ สรสลกฺขณปฏิเวเธน ยถาภูตํ ปชานาติ ปฏิวิชฺฌตีติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
เอวํ สรูปโต สจฺจานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ กิเลสวเสน ปริยายโต ทสฺเสนฺโต ‘‘อิเม อาสวา’’ติอาทิมาห. เต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เอวํ ติสฺโส สิกฺขาโย ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตาสํ ปาริปูริกฺกมํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิมา ติสฺโส สิกฺขาโย อาวชฺชนฺโต สิกฺเขยฺยา’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – ปจฺเจกํ ปริปูเรตุํ อาวชฺชนฺโตปิ สิกฺเขยฺย, อาวชฺชิตฺวาปิ ‘‘อยํ นาม สิกฺขา’’ติ ชานนฺโตปิ สิกฺเขยฺย, ชานิตฺวา ปุนปฺปุนํ ปสฺสนฺโตปิ สิกฺเขยฺย, ปสฺสิตฺวา ยถาทิฏฺํ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ สิกฺเขยฺย, ปจฺจเวกฺขิตฺวา ตตฺเถว จิตฺตํ อจลํ กตฺวา ปติฏฺเปนฺโตปิ สิกฺเขยฺย, ตํตํสิกฺขาสมฺปยุตฺตสทฺธาวีริยสติสมาธิปฺาหิ สกสกกิจฺจํ กโรนฺโตปิ สิกฺเขยฺย, อภิฺเยฺยาภิชานนกาเลปิ ตํ ตํ กิจฺจํ กโรนฺโตปิ ติสฺโส สิกฺขาโย สิกฺเขยฺย, อธิสีลํ อาจเรยฺย, อธิจิตฺตํ สมฺมา จเรยฺย, อธิปฺํ สมาทาย วตฺเตยฺย.
อิธาติ ¶ มูลปทํ. อิมิสฺสา ทิฏฺิยาติอาทีหิ ทสหิ ปเทหิ สิกฺขตฺตยสงฺขาตํ สพฺพฺุพุทฺธสาสนเมว กถิตํ. ตฺหิ พุทฺเธน ภควตา ทิฏฺตฺตา ทิฏฺีติ วุจฺจติ. ตสฺเสว ขมนวเสน ขนฺติ, รุจฺจนวเสน รุจิ, คหณวเสน อาทาโย, สภาวฏฺเน ธมฺโม, สิกฺขิตพฺพฏฺเน วินโย, ตทุภเยนปิ ธมฺมวินโย, ปวุตฺตวเสน ปาวจนํ, เสฏฺจริยฏฺเน พฺรหฺมจริยํ, อนุสิฏฺิทานวเสน สตฺถุสาสนนฺติ วุจฺจติ. ตสฺมา ‘‘อิมิสฺสา ทิฏฺิยา’’ติอาทีสุ อิมิสฺสา พุทฺธทิฏฺิยา อิมิสฺสา พุทฺธขนฺติยา อิมิสฺสา พุทฺธรุจิยา อิมสฺมึ พุทฺธอาทาเย อิมสฺมึ พุทฺธธมฺเม อิมสฺมึ พุทฺธวินเย.
‘‘เย ¶ โข ตฺวํ, โคตมิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ ‘อิเม ธมฺมา สราคาย สํวตฺตนฺติ, โน วิราคาย, สฺโคาย สํวตฺตนฺติ, โน วิสฺโคาย, อาจยาย สํวตฺตนฺติ, โน อปจยาย, มหิจฺฉตาย สํวตฺตนฺติ, โน อปฺปิจฺฉตาย, อสนฺตุฏฺิยา สํวตฺตนฺติ, โน สนฺตุฏฺิยา, สงฺคณิกาย สํวตฺตนฺติ ¶ , โน ปวิเวกาย, โกสชฺชาย สํวตฺตนฺติ, โน วีริยารมฺภาย, ทุพฺภรตาย สํวตฺตนฺติ, โน สุภรตายา’ติ. เอกํเสน, โคตมิ, ธาเรยฺยาสิ ‘เนโส ธมฺโม, เนโส วินโย, เนตํ สตฺถุสาสน’นฺติ.
‘‘เย จ โข ตฺวํ, โคตมิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ ‘อิเม ธมฺมา วิราคาย สํวตฺตนฺติ, โน สราคาย…เป… สุภรตาย สํวตฺตนฺติ, โน ทุพฺภรตายา’ติ. เอกํเสน, โคตมิ, ธาเรยฺยาสิ ‘เอโส ธมฺโม, เอโส วินโย, เอตํ สตฺถุสาสน’’’นฺติ (อ. นิ. ๘.๕๓; จูฬว. ๔๐๖) –
เอวํ วุตฺเต อิมสฺมึ พุทฺธธมฺมวินเย อิมสฺมึ พุทฺธปาวจเน อิมสฺมึ พุทฺธพฺรหฺมจริเย อิมสฺมึ พุทฺธสาสเนติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อปิ เจตํ สิกฺขตฺตยสงฺขาตํ สกลํ สาสนํ ภควตา ทิฏฺตฺตา สมฺมาทิฏฺิปจฺจยตฺตา สมฺมาทิฏฺิปุพฺพงฺคมตฺตา จ ทิฏฺิ. ภควโต ขมนวเสน ขนฺติ. รุจฺจนวเสน รุจิ. คหณวเสน อาทาโย. อตฺตโน การกํ อปาเยสุ อปตมานํ กตฺวา ธาเรตีติ ธมฺโม. โสว สํกิเลสปกฺขํ วิเนตีติ วินโย. ธมฺโม จ โส วินโย จาติ ธมฺมวินโย. กุสลธมฺเมหิ วา อกุสลธมฺมานํ เอส วินโยติ ธมฺมวินโย. เตเนว วุตฺตํ –
‘‘เย ¶ จ โข ตฺวํ, โคตมิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ ‘อิเม ธมฺมา วิราคาย สํวตฺตนฺติ, โน สราคาย…เป… เอกํเสน โคตมิ ธาเรยฺยาสิ ‘เอโส ธมฺโม, เอโส วินโย, เอตํ สตฺถุสาสน’’’นฺติ (อ. นิ. ๘.๕๓; จูฬว. ๔๐๖).
ธมฺเมน วา วินโย, น ทณฺฑาทีหีติ ธมฺมวินโย. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ทณฺเฑเนเก ทมยนฺติ, องฺกุเสหิ กสาหิ จ;
อทณฺเฑน อสตฺเถน, นาโค ทนฺโต มเหสินา’’ติ. (จูฬว. ๓๔๒; ม. นิ. ๒.๓๕๒);
ตถา ¶ –
‘‘ธมฺเมน นียมานานํ, กา อุสูยา วิชานต’’นฺติ. (มหาว. ๖๓);
ธมฺมาย วา วินโย ธมฺมวินโย. อนวชฺชธมฺมตฺถฺเหส วินโย, น ภวโภคามิสตฺถํ. เตนาห ภควา ‘‘นยิทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ชนกุหนตฺถ’’นฺติ ¶ (อ. นิ. ๔.๒๕) วิตฺถาโร. ปุณฺณตฺเถโรปิ อาห ‘‘อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถํ โข, อาวุโส, ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๕๙). วิสิฏฺํ วา นยตีติ วินโย. ธมฺมโต วินโย ธมฺมวินโย. สํสารธมฺมโต หิ โสกาทิธมฺมโต วา เอส วิสิฏฺํ นิพฺพานํ นยติ. ธมฺมสฺส วา วินโย, น ติตฺถกรานนฺติ ธมฺมวินโย. ธมฺมภูโต หิ ภควา, ตสฺเสว วินโย.
ยสฺมา วา ธมฺมา เอว อภิฺเยฺยา ปริฺเยฺยา ปหาตพฺพา ภาเวตพฺพา สจฺฉิกาตพฺพา จ, ตสฺมา เอส ธมฺเมสุ วินโย, น สตฺเตสุ น ชีเวสุ จาติ ธมฺมวินโย. สาตฺถสพฺยฺชนตาทีหิ อฺเสํ วจนโต ปธานํ วจนนฺติ ปวจนํ, ปวจนเมว ปาวจนํ. สพฺพจริยาหิ วิสิฏฺจริยภาเวน พฺรหฺมจริยํ. เทวมนุสฺสานํ สตฺถุภูตสฺส ภควโต สาสนนฺติ สตฺถุสาสนํ. สตฺถุภูตํ วา สาสนนฺติปิ สตฺถุสาสนํ. ‘‘โส โว มมจฺจเยน สตฺถาติ (ที. นิ. ๒.๒๑๖) หิ ธมฺมวินโยว สตฺถา’’ติ วุตฺโตติ เอวเมเตสํ ปทานํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ยสฺมา ปน อิมสฺมึเยว สาสเน สพฺพปฺปการชฺฌานนิพฺพตฺตโก ภิกฺขุ ทิสฺสติ, น อฺตฺร, ตสฺมา ตตฺถ ตตฺถ ‘‘อิมิสฺสา’’ติ จ ‘‘อิมสฺมิ’’นฺติ จ อยํ นิยโม กโตติ เวทิตพฺโพ.
ชีวนฺติ ¶ เตน ตํสมฺปยุตฺตกา ธมฺมาติ ชีวิตํ. อนุปาลนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. ชีวิตเมว อินฺทฺริยํ ชีวิตินฺทฺริยํ. ตํ ปวตฺตสนฺตตาธิปเตยฺยํ โหติ. ลกฺขณาทีหิ ปน อตฺตนา อวินิภุตฺตานํ ธมฺมานํ อนุปาลนลกฺขณํ ชีวิตินฺทฺริยํ, เตสํ ปวตฺตนรสํ, เตสํเยว ปนปจฺจุปฏฺานํ, ยาปยิตพฺพธมฺมปทฏฺานํ. สนฺเตปิ จ อนุปาลนลกฺขณาทิมฺหิ วิธาเน อตฺถิกฺขเณเยว ตํ เต ธมฺเม อนุปาเลติ, อุทกํ วิย อุปฺปลาทีนิ. ยถาสกํ ปจฺจเยหิ อุปฺปนฺเนปิ จ ธมฺเม ปาเลติ, ธาติ วิย กุมารํ, สยํปวตฺติตธมฺมสมฺพนฺเธเนว ¶ จ ปวตฺตติ, นิยามโก วิย นาวํ. น ภงฺคโต อุทฺธํ ปวตฺตยติ, อตฺตโน จ ปวตฺตยิตพฺพานฺจ อภาวา. น ภงฺคกฺขเณ เปติ, สยํ ภิชฺชมานตฺตา, ขียมาโน วิย วฏฺฏิสิเนโห ปทีปสิขํ, น จ อนุปาลนปวตฺตนฏฺปนานุภาววิรหิตํ ¶ , ยถาวุตฺตกฺขเณ ตสฺส ตสฺส สาธนโตติ ทฏฺพฺพํ. ิติปริตฺตตาย วาติ ิติกฺขณสฺส มนฺทตาย โถกตาย. อปฺปกนฺติ มนฺทํ ลามกํ. สรสปริตฺตตาย วาติ อตฺตโน ปจฺจยภูตานํ กิจฺจานํ สมฺปตฺตีนํ วา อปฺปตาย ทุพฺพลตาย.
เตสํ ทฺวินฺนํ การณํ วิภาคโต ทสฺเสตุํ ‘‘กถํ ิติปริตฺตตายา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘อตีเต จิตฺตกฺขเณ ชีวิตฺถาติ เอวมาทิ ปฺจโวการภเว ปวตฺติยํ จิตฺตสฺส นิรุชฺฌนกาเล สพฺพสฺมึ รูปารูปธมฺเม อนิรุชฺฌนฺเตปิ รูปโต อรูปสฺส ปฏฺานภาเวน อรูปชีวิตํ สนฺธาย, จุติจิตฺเตน วา สทฺธึ สพฺเพสํ รูปารูปานํ นิรุชฺฌนภาเวน ปฺจโวการภเว จุติจิตฺตํ สนฺธาย, จตุโวการภเว รูปสฺส อภาเวน จตุโวการภวํ สนฺธาย กถิต’’นฺติ เวทิตพฺพํ. อตีเต จิตฺตกฺขเณติ อตีตจิตฺตสฺส ภงฺคกฺขณสมงฺคีกาเล ตํสมงฺคีปุคฺคโล ‘‘ชีวิตฺถ’’ อิติ วตฺตุํ ลพฺภติ. น ชีวตีติ ‘‘ชีวตี’’ติปิ วตฺตุํ น ลพฺภติ. น ชีวิสฺสตีติ ‘‘ชีวิสฺสตี’’ติปิ วตฺตุํ น ลพฺภติ. อนาคเต จิตฺตกฺขเณ ชีวิสฺสตีติ อนาคตจิตฺตสฺส อนุปฺปชฺชนกฺขณสมงฺคีกาเล ‘‘ชีวิสฺสตี’’ติ วตฺตุํ ลพฺภติ. น ชีวตีติ ‘‘ชีวตี’’ติ วตฺตุํ น ลพฺภติ. น ชีวิตฺถาติ ‘‘ชีวิตฺถ’’อิติปิ วตฺตุํ น ลพฺภติ. ปจฺจุปฺปนฺเน จิตฺตกฺขเณติ ปจฺจุปฺปนฺนจิตฺตกฺขณสมงฺคีกาเล. ชีวตีติ ‘‘อิทานิ ชีวตี’’ติ วตฺตุํ ลพฺภติ. น ชีวิตฺถาติ ‘‘ชีวิตฺถ’’อิติ วตฺตุํ น ลพฺภติ. น ชีวิสฺสตีติ ‘‘ชีวิสฺสตี’’ติปิ วตฺตุํ น ลพฺภติ.
ชีวิตํ ¶ อตฺตภาโว จ สุขทุกฺขา จาติ อยํ คาถา ปฺจโวการภวํ อมฺุจิตฺวา ลพฺภมานาย ทุกฺขาย เวทนาย คหิตตฺตา ¶ ปฺจโวการภวเมว สนฺธาย วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. กถํ? ชีวิตนฺติ ชีวิตสีเสน สงฺขารกฺขนฺโธ. อตฺตภาโวติ รูปกฺขนฺโธ. ‘‘อุเปกฺขา ปน สนฺตตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๓๒) วุตฺตตฺตา อุเปกฺขาเวทนา อนฺโตกริตฺวา สุขทุกฺขา จาติ เวทนากฺขนฺโธ, จิตฺตํ อิติ วิฺาณกฺขนฺโธ วุตฺโต. อิเมสํ จตุนฺนํ ขนฺธานํ กถิตตฺตาเยว ขนฺธลกฺขเณน เอกลกฺขณภาเวน ลกฺขณาการวเสน สฺากฺขนฺโธปิ กถิโตติ เวทิตพฺโพ. เอวํ วุตฺเตสุ ปฺจสุ ขนฺเธสุ อรูปธมฺมํ มฺุจิตฺวา กมฺมสมุฏฺานาทิรูปสฺส อปฺปวตฺตนภาเวน เอกจิตฺตสมายุตฺตาติ อรูปปธานภาโว กถิโต โหติ. กถํ? อสฺสตฺเต รูปมฺปิ อิธุปจิตกมฺมพลํ อมฺุจิตฺวาว ปวตฺตติ, นิโรธสมาปนฺนานํ รูปมฺปิ ปมสมาปนฺนสมาปตฺติพลํ อมฺุจิตฺวาว ปวตฺตติ. เอวํ อตฺตโน อปฺปวตฺติฏฺาเนปิ รูปปวตฺตึ อตฺตโน สนฺตกเมว กตฺวา ปวตฺตนสภาวสฺส อรูปธมฺมสฺส อตฺตโน ปวตฺติฏฺาเน รูปปวตฺติยา ปธานการณภาเวน เอกจิตฺตสมายุตฺตาติ จิตฺตปธานภาโว กถิโตติ เวทิตพฺโพ.
เอวํ ¶ ปฺจโวการภเว ปวตฺติยํ รูปปวตฺติยา ปธานภูตจิตฺตนิโรเธน รูเป ธรมาเนเยว ปวตฺตานํ นิโรโธ นาม โหตีติ อรูปธมฺมวเสน เอว ‘‘ลหุโส วตฺตเต ขโณ’’ติ วุตฺตํ. อถ วา ปฺจโวการภเว จุติจิตฺตํ สนฺธาย กถิตาติ เวทิตพฺพา. เอวํ กถิยมาเน สุขทุกฺขา จาติ กายิกเจตสิกสุขเวทนา จ กายิกเจตสิกทุกฺขเวทนา จ จุติจิตฺตกฺขเณ อโหนฺตีปิ เอกสนฺตติวเสน จุติจิตฺเตน สทฺธึ นิรุชฺฌตีติ กถิตา. จตุโวการภวํ วา สนฺธาย กถิตาติปิ เวทิตพฺพา. กถํ ¶ ? อฺสฺมึ าเน อตฺตภาโวติ สฺากฺขนฺธสฺส วุตฺตภาเวน อตฺตภาโวติ สฺากฺขนฺโธว คหิโต. พฺรหฺมโลเก กายิกสุขทุกฺขโทมนสฺสํ อโหนฺตมฺปิ สุขทุกฺขา จาติ เวทนาสามฺโต ลพฺภมาโน เวทนากฺขนฺโธ คหิโตติ เวทิตพฺพํ. เสสํ วุตฺตสทิสเมว. อิเมสุ จ ตีสุ วิกปฺเปสุ เกวลาติ ธุวสุขสุภอตฺตา นตฺถิ, เกวลํ เตหิ อโวมิสฺสา. ลหุโส วตฺตติ ขโณติ วุตฺตนเยน เอกจิตฺตกฺขณิกตาย ลหุโก อติปริตฺโต ชีวิตาทีนํ ขโณ วตฺตติ.
เอกโต ¶ ทฺวินฺนํ จิตฺตานํ อปฺปวตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘จุลฺลาสีติสหสฺสานี’’ติ คาถมาห. จุลฺลาสีติสหสฺสานิ, กปฺปา ติฏฺนฺติ เย มรูติ เย เทวคณา จตุราสีติ กปฺปสหสฺสานิ อายุํ คเหตฺวา เนวสฺานาสฺายตเน ติฏฺนฺติ. ‘‘เย นรา’’ติปิ ปาฬิ. น ตฺเวว เตปิ ชีวนฺติ, ทฺวีหิ จิตฺตสโมหิตาติ เตปิ เทวา ทฺวีหิ จิตฺเตหิ สโมหิตา เอกโต หุตฺวา ยุคนทฺเธน จิตฺเตน น ตุ เอว ชีวนฺติ, เอเกเนเกน จิตฺเตน ชีวนฺตีติ อตฺโถ.
อิทานิ มรณกาลํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เย นิรุทฺธา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ เย นิรุทฺธาติ เย ขนฺธา นิรุทฺธา อตฺถงฺคตา. มรนฺตสฺสาติ มตสฺส. ติฏฺมานสฺส วาติ ธรมานสฺส วา. สพฺเพปิ สทิสา ขนฺธาติ จุติโต อุทฺธํ นิรุทฺธกฺขนฺธา วา ปวตฺเต นิรุทฺธกฺขนฺธา วา ปุน ฆเฏตุํ อสกฺกุเณยฺยฏฺเน สพฺเพปิ ขนฺธา สทิสา. คตา อปฺปฏิสนฺธิกาติ นิรุทฺธกฺขนฺธานํ ปุน อาคนฺตฺวา ปฏิสนฺธานาภาเวน คตา อปฺปฏิสนฺธิกาติ วุจฺจนฺติ.
อิทานิ ตีสุ กาเลสุ นิรุทฺธกฺขนฺธานํ นานตฺตํ นตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อนนฺตรา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อนนฺตรา จ เย ภคฺคา, เย จ ภคฺคา อนาคตาติ เย ขนฺธา อนนฺตราตีตา หุตฺวา ¶ ภินฺนา นิรุทฺธา, เย จ อนาคตา ขนฺธา ภิชฺชิสฺสนฺติ. ตทนฺตเรติ เตสํ อนฺตเร นิรุทฺธานํ ปจฺจุปฺปนฺนขนฺธานํ. เวสมํ นตฺถิ ลกฺขเณติ วิสมสฺส ภาโว เวสมํ, ตํ เวสมํ นตฺถิ, เตหิ นานตฺตํ นตฺถีติ อตฺโถ. ลกฺขียตีติ ลกฺขณํ, ตสฺมึ ลกฺขเณ.
อิทานิ ¶ อนาคตกฺขนฺธานํ วตฺตมานกฺขนฺเธหิ อสมฺมิสฺสภาวํ กเถนฺโต ‘‘อนิพฺพตฺเตน น ชาโต’’ติ คาถมาห. อนิพฺพตฺเตน น ชาโตติ อชาเตน อปาตุภูเตน อนาคตกฺขนฺเธน น ชาโต น นิพฺพตฺโต. เอเตน อนาคตกฺขนฺธสฺส วตฺตมานกฺขนฺเธน อสมฺมิสฺสภาวํ กเถสิ. ปจฺจุปฺปนฺเนน ชีวตีติ ขณปจฺจุปฺปนฺเนน วตฺตมานกฺขนฺเธน ชีวติ. เอเตน เอกกฺขเณ ทฺวีหิ จิตฺเตหิ น ชีวตีติ กถิตํ. จิตฺตภคฺคา มโตติ ทฺวีหิ จิตฺเตหิ เอกกฺขเณ อชีวนภาเวน จิตฺตภงฺเคน มโต. ‘‘อุปริโต จิตฺตภงฺคา’’ติปิ ปาฬิ, ตํ อุชุกเมว. ปฺตฺติ ปรมตฺถิยาติ ‘‘รูปํ ชีรติ มจฺจานํ, นามโคตฺตํ น ชีรตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๗๖) วจนกฺกเมน ปณฺณตฺติมตฺตํ น ชีรณสภาเวน ปรมา ิติ เอติสฺสาติ ปรมตฺถิยา, สภาวฏฺิติกาติ อตฺโถ. ‘‘ทตฺโต ¶ มโต, มิตฺโต มโต’’ติ ปณฺณตฺติมตฺตเมว หิ ติฏฺติ. อถ วา ปรมตฺถิยาติ ปรมตฺถิกา. ปรโม อตฺโถ เอติสฺสาติ ปรมตฺถิกา. อชฏากาโสติ ปฺตฺติยา นตฺถิธมฺมํ ปฏิจฺจ กถนํ วิย มโตติ ปฺตฺติ นตฺถิธมฺมํ ปฏิจฺจ น กถิยติ, ชีวิตินฺทฺริยภงฺคสงฺขาตํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กถิยติ.
อนิธานคตา ¶ ภคฺคาติ เย ขนฺธา ภินฺนา, เต นิธานํ นิหิตํ นิจยํ น คจฺฉนฺตีติ อนิธานคตา. ปฺุโช นตฺถิ อนาคเตติ อนาคเตปิ เนสํ ปฺุชภาโว ราสิภาโว นตฺถิ. นิพฺพตฺตาเยว ติฏฺนฺตีติ ปจฺจุปฺปนฺนวเสน อุปฺปนฺนา ิติกฺขเณ วยธมฺมาว หุตฺวา ติฏฺนฺติ. กิมิว? อารคฺเค สาสปูปมาติ สูจิมุเข สาสโป วิย.
อิทานิ ขนฺธานํ ทสฺสนภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นิพฺพตฺตาน’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ นิพฺพตฺตานํ ธมฺมานนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนานํ ขนฺธานํ. ภงฺโค เนสํ ปุรกฺขโตติ เอเตสํ เภโท ปุรโต กตฺวา ปิโต. ปโลกธมฺมาติ นสฺสนสภาวา. ปุราเณหิ อธิสฺสิตาติ ปุเร อุปฺปนฺเนหิ ขนฺเธหิ น มิสฺสิตา น สํสคฺคา.
อิทานิ ขนฺธานํ อทสฺสนภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อทสฺสนโต อายนฺตี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อทสฺสนโต อายนฺตีติ อทิสฺสมานาเยว อาคจฺฉนฺติ อุปฺปชฺชนฺติ. ภงฺคา คจฺฉนฺติทสฺสนนฺติ เภทา ภงฺคโต อุทฺธํ อทสฺสนภาวํ คจฺฉนฺติ. วิชฺชุปฺปาโทว อากาเสติ วิวฏากาเส วิชฺชุลตานิจฺฉรณํ วิย. อุปฺปชฺชนฺติ วยนฺติ จาติ ปุพฺพนฺตโต อุทฺธํ อุปฺปชฺชนฺติ จ ภิชฺชนฺติ จ, นสฺสนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘อุเทติ อาปูรติ เวติ จนฺโท’’ติ (ชา. ๑.๕.๓) เอวมาทีสุ วิย.
เอวํ ¶ ิติปริตฺตตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สรสปริตฺตตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กถํ สรสปริตฺตตายา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อสฺสาสูปนิพนฺธํ ชีวิตนฺติ อพฺภนฺตรปวิสนนาสิกวาตปฏิพทฺธํ ชีวิตินฺทฺริยํ. ปสฺสาโสติ พหินิกฺขมนนาสิกวาโต. อสฺสาสปสฺสาโสติ ตทุภยํ. มหาภูตูปนิพนฺธนฺติ จตุสมุฏฺานิกานํ ปถวีอาปเตชวายานํ มหาภูตานํ ปฏิพทฺธํ ชีวิตํ. กพฬีการาหารูปนิพนฺธนฺติ อสิตปีตาทิกพฬีการอาหาเรน อุปนิพนฺธํ. อุสฺมูปนิพนฺธนฺติ ¶ กมฺมชเตโชธาตูปนิพนฺธํ. วิฺาณูปนิพนฺธนฺติ ภวงฺควิฺาณูปนิพนฺธํ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อายุ อุสฺมา จ วิฺาณํ, ยทา กายํ ชหนฺติม’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๙๕).
อิทานิ ¶ เนสํ ทุพฺพลการณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มูลมฺปิ อิเมสํ ทุพฺพล’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ มูลมฺปีติ ปติฏฺฏฺเน มูลภูตมฺปิ. อสฺสาสปสฺสาสานฺหิ กรชกาโย มูลํ. มหาภูตาทีนํ อวิชฺชากมฺมตณฺหาหารา. อิเมสนฺติ วุตฺตปฺปการานํ อสฺสาสาทีนํ ชีวิตินฺทฺริยปวตฺติการณวเสน วุตฺตานํ. เอเตสุ หิ เอเกกสฺมึ อสติ ชีวิตินฺทฺริยํ น ติฏฺติ. ทุพฺพลนฺติ อปฺปถามํ. ปุพฺพเหตูปีติ อตีตชาติยํ อิมสฺส วิปากวฏฺฏสฺส เหตุภูตา การณสงฺขาตา อวิชฺชาสงฺขารตณฺหุปาทานภวาปิ. อิเมสํ ทุพฺพลา เย ปจฺจยา เตปิ ทุพฺพลาติ เย อารมฺมณาทิสาธารณปจฺจยา. ปภาวิกาติ ปธานํ หุตฺวา อุปฺปาทิกา ภวตณฺหา. สหภูมีติ สหภวิกาปิ รูปารูปธมฺมา. สมฺปโยคาปีติ เอกโต ยุตฺตาปิ อรูปธมฺมา. สหชาปีติ สทฺธึ เอกจิตฺเต อุปฺปนฺนาปิ. ยาปิ ปโยชิกาติ จุติปฏิสนฺธิวเสน โยเชตุํ นิยุตฺตาติ ปโยชิกา, วฏฺฏมูลกา ตณฺหา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ตณฺหาทุติโย ปุริโส’’ติ (อิติวุ. ๑๕, ๑๐๕). นิจฺจทุพฺพลาติ นิรนฺตเรน ทุพฺพลา. อนวฏฺิตาติ น อวฏฺิตา, โอตริตฺวา น ิตา. ปริปาตยนฺติ อิเมติ อิเม อฺมฺํ ปาตยนฺติ เขปยนฺติ. อฺมฺสฺสาติ อฺโ อฺสฺส, เอโก เอกสฺสาติ อตฺโถ. หิ-อิติ การณตฺเถ นิปาโต. นตฺถิ ตายิตาติ ตายโน รกฺขโก นตฺถิ. น จาปิ เปนฺติ อฺมฺนฺติ อฺเ อฺํ เปตุํ น สกฺโกนฺติ. โยปิ ¶ นิพฺพตฺตโก โส น วิชฺชตีติ โยปิ อิเมสํ อุปฺปาทโก ธมฺโม, โส อิทานิ นตฺถิ.
น จ เกนจิ โกจิ หายตีติ โกจิ เอโกปิ กสฺสจิ วเสน น ปริหายติ. คนฺธพฺพา จ อิเม หิ สพฺพโสติ สพฺเพ หิ อิเม ขนฺธา สพฺพากาเรน ภงฺคํ ปาปุณิตุํ ยุตฺตา. ปุริเมหิ ปภาวิตา อิเมติ ปุพฺพเหตุปจฺจเยหิ อิเม วตฺตมานกา อุปฺปาทิกา. เยปิ ปภาวิกาติ เยปิ อิเม วตฺตมานกา อุปฺปาทกา ปุพฺพเหตุปจฺจยา. เต ปุเร มตาติ เต วุตฺตปฺปการปจฺจยา วตฺตมานํ อปาปุณิตฺวา ปมเมว มรณํ ปตฺตา. ปุริมาปิ จ ปจฺฉิมาปิ จาติ ปุริมา ปุพฺพเหตุปจฺจยาปิ ¶ จ ปจฺฉิมา วตฺตมาเน ปจฺจยสมุปฺปนฺนา จ. อฺมฺํ น กทาจิ มทฺทสํสูติ อฺมฺํ กิสฺมิฺจิ กาเล น ทิฏฺปุพฺพา. ม-กาโร ปทสนฺธิวเสน วุตฺโต.
จาตุมหาราชิกานํ เทวานนฺติ ธตรฏฺวิรูฬฺหกวิรูปกฺขกุเวรสงฺขาตา จตุมหาราชา อิสฺสรา เอเตสนฺติ จาตุมหาราชิกา. รูปาทีหิ ทิพฺพนฺติ กีฬนฺตีติ ¶ เทวา. เต สิเนรุปพฺพตสฺส เวมชฺเฌ โหนฺติ. เตสุ อตฺถิ ปพฺพตฏฺกาปิ, อตฺถิ อากาสฏฺกาปิ. เตสํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ ปตฺตา. ขิฑฺฑาปโทสิกา มโนปโทสิกา สีตวลาหกา อุณฺหวลาหกา จนฺทิมา เทวปุตฺโต สูริโย เทวปุตฺโตติ เอเต สพฺเพปิ จาตุมหาราชิกเทวโลกฏฺา เอว เตสํ จาตุมหาราชิกานํ ชีวิตํ. อุปาทายาติ ปฏิจฺจ. ปริตฺตกนฺติ วุทฺธิปฏิเสโธ. โถกนฺติ มนฺทกาลํ, ทีฆทิวสปฏิเสโธ. ขณิกนฺติ มนฺทกาลํ, กาลนฺตรปฏิเสโธ. ลหุกนฺติ สลฺลหุกํ, อลสปฏิเสโธ. อิตรนฺติ สีฆพลวปฏิเสโธ ¶ . อนทฺธนียนฺติ กาลวเสน น อทฺธานกฺขมํ. นจิรฏฺิติกนฺติ ทิวเสน จิรํ น ติฏฺตีติ นจิรฏฺิติกํ, ทิวสปฏิเสโธ.
ตาวตึสานนฺติ เตตฺตึสชนา ตตฺถ อุปปนฺนาติ ตาวตึสา. อปิ จ ตาวตึสาติ เตสํ เทวานํ นามเมวาติปิ วุตฺตํ. เตปิ อตฺถิ ปพฺพตฏฺกา, อตฺถิ อากาสฏฺกา, เตสํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ ปตฺตา. ตถา ยามาทีนํ. เอกเทวโลเกปิ หิ เทวานํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ อปฺปตฺตา นาม นตฺถิ. ทิพฺพสุขํ ยาตา ปยาตา สมฺปตฺตาติ ยามา. ตุฏฺา ปหฏฺาติ ตุสิตา. ปกติปฏิยตฺตารมฺมณโต อติเรเกน นิมฺมิตุกามกาเล ยถารุจิเต โภเค นิมฺมินิตฺวา รมนฺตีติ นิมฺมานรตี. จิตฺตาจารํ ตฺวา ปเรหิ นิมฺมิเตสุ โภเคสุ วสํ วตฺเตนฺตีติ ปรนิมฺมิตวสวตฺตี. พฺรหฺมกาเย พฺรหฺมฆฏาย นิยุตฺตาติ พฺรหฺมกายิกา. สพฺเพปิ ปฺจโวการพฺรหฺมาโน คหิตา.
คมนิโยติ คนฺธพฺโพ. สมฺปราโยติ ปรโลโก. โย ภิกฺขเว จิรํ ชีวติ, โส วสฺสสตนฺติ โย จิรํ ติฏฺมาโน, โส วสฺสสตมตฺตํ ติฏฺติ. อปฺปํ วา ภิยฺโยติ วสฺสสตโต อุปริ ติฏฺมาโน ทฺเว วสฺสสตานิ ติฏฺมาโน นาม นตฺถิ. หีเฬยฺย นนฺติ นํ ชีวิตํ อวฺาตํ กเรยฺย, ลามกโต จินฺเตยฺย. ‘‘หีเฬยฺยาน’’นฺติ จ ปนฺติ. อจฺจยนฺตีติ อติกฺกมนฺติ. อโหรตฺตาติ รตฺตินฺทิวปริจฺเฉทา. อุปรุชฺฌตีติ ชีวิตินฺทฺริยํ นิรุชฺฌติ, อภาวํ อุปคจฺฉติ. อายุ ขิยฺยติ มจฺจานนฺติ สตฺตานํ อายุสงฺขาโร ขยํ ยาติ. กุนฺนทีนํว โอทกนฺติ ยถา อุทกจฺฉินฺนาย กุนฺนทิยา อุทกํ, เอวํ มจฺจานํ อายุ ขิยฺยติ. ปรมตฺถโต หิ อติปริตฺโต สตฺตานํ ชีวิตกฺขโณ เอกจิตฺตกฺขณิกมตฺโตเยว. ยถา นาม รถจกฺกํ ปวตฺตมานมฺปิ ¶ ¶ เอเกเนว เนมิปเทเสน ปวตฺตติ, ติฏฺมานมฺปิ เอเกเนว ติฏฺติ, เอวเมว เอกจิตฺตกฺขณิกํ สตฺตานํ ชีวิตํ ¶ ตสฺมึ จิตฺเต นิรุทฺธมตฺเต สตฺโต นิรุทฺโธติ วุจฺจติ.
ธีราติ ธีรา อิติ. ปุน ธีราติ ปณฺฑิตา. ธิติมาติ ธิติ อสฺส อตฺถีติ ธิติมา. ธิติสมฺปนฺนาติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคตา. ธีกตปาปาติ ครหิตปาปา. ตํเยว ปริยายํ ทสฺเสตุํ ‘‘ธี วุจฺจติ ปฺา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปชานาตีติ ปฺา. กึ ปชานาติ? ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติอาทินา นเยน อริยสจฺจานิ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘ปฺาปนวเสน ปฺา’’ติ วุตฺตา. กินฺติ ปฺาเปติ? ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’’ติ ปฺาเปติ. สาว อวิชฺชาย อภิภวนโต อธิปติยฏฺเน อินฺทฺริยํ, ทสฺสนลกฺขเณ วา อินฺทฏฺํ กาเรตีติปิ อินฺทฺริยํ, ปฺาว อินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ. สา ปเนสา โอภาสนลกฺขณา, ปชานนลกฺขณา จ; ยถา หิ จตุภิตฺติเก เคเห รตฺติภาเค ทีเป ชลิเต อนฺธการํ นิรุชฺฌติ, อาโลโก ปาตุภวติ, เอวเมว โอภาสนลกฺขณา ปฺา. ปฺโภาสสโม โอภาโส นาม นตฺถิ. ปฺวโต หิ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺนสฺส ทสสหสฺสิโลกธาตุ เอกาโลกา โหติ. เตนาห เถโร –
‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส อนฺธกาเร เคเห เตลปฺปทีปํ ปเวเสยฺย, ปวิฏฺโ ปทีโป อนฺธการํ วิทฺธํเสติ, โอภาสํ ชเนติ, อาโลกํ วิทํเสติ, ปากฏานิ จ รูปานิ กโรติ; เอวเมว โข, มหาราช, ปฺา อุปฺปชฺชมานา อวิชฺชนฺธการํ วิทฺธํเสติ, วิชฺโชภาสํ ชเนติ, าณาโลกํ วิทํเสติ, ปากฏานิ อริยสจฺจานิ กโรติ. เอวํ โข, มหาราช, โอภาสนลกฺขณา ปฺา’’ติ (มิ. ป. ๒.๑.๑๕).
ยถา ปน เฉโก ภิสกฺโก อาตุรานํ สปฺปายาสปฺปายานิ โภชนาทีนิ ชานาติ, เอวํ ปฺา อุปฺปชฺชมานา กุสลากุสเล เสวิตพฺพาเสวิตพฺเพ หีนปฺปณีตกณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคอปฺปฏิภาเค ธมฺเม ปชานาติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ธมฺมเสนาปตินา ‘‘ปชานาติ ปชานาตีติ โข, อาวุโส, ตสฺมา ปฺวาติ วุจฺจติ. กิฺจ ปชานาติ? อิทํ ทุกฺขนฺติ ปชานาตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๔๙) วิตฺถาเรตพฺพํ. เอวมสฺสา ปชานนลกฺขณตา เวทิตพฺพา.
อปโร ¶ ¶ นโย – ยถาสภาวปฏิเวธลกฺขณา ปฺา, อกฺขลิตปฏิเวธลกฺขณา วา, กุสลิสฺสาสขิตฺตอุสุปฏิเวโธ วิย. วิสโยภาสรสา, ปทีโป วิย. อสมฺโมหปจฺจุปฏฺานา, อรฺคตสุเทสโก วิย.
ขนฺธธีราติ ¶ ปฺจสุ ขนฺเธสุาณํ ปวตฺเตนฺตีติ ขนฺธธีรา. อฏฺารสสุ ธาตูสุ าณํ ปวตฺเตนฺตีติ ธาตุธีรา. เสเสสุปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เนตพฺโพ. เต ธีรา เอวมาหํสูติ เอเต ปณฺฑิตา เอวํ กถยึสุ. กเถนฺตีติ ‘‘อปฺปกํ ปริตฺตก’’นฺติ กถยนฺติ. ภณนฺตีติ ‘‘โถกํ ขณิก’’นฺติ ภาสนฺติ. ทีปยนฺตีติ ‘‘ลหุกํ อิตฺตร’’นฺติ ปติฏฺเปนฺติ. โวหรนฺตีติ ‘‘อนทฺธนิกํ นจิรฏฺิติก’’นฺติ นานาวิเธน พฺยวหรนฺติ.
๑๑. อิทานิ เย ตถา น กโรนฺติ, เตสํ พฺยสนุปฺปตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปสฺสามี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ ปสฺสามีติ มํสจกฺขุอาทีหิ เปกฺขามิ. โลเกติ อปายาทิมฺหิ. ปริผนฺทมานนฺติ อิโต จิโต จ ผนฺทมานํ. ปชํ อิมนฺติ อิมํ สตฺตกายํ. ตณฺหาคตนฺติ ตณฺหาย คตํ อภิภูตํ นิปาติตนฺติ อธิปฺปาโย. ภเวสูติ กามภวาทีสุ. หีนา นราติ หีนกมฺมนฺตา นรา. มจฺจุมุเข ลปนฺตีติ อนฺตกาเล สมฺปตฺเต มรณมุเข ปริเทวนฺติ. อวีตตณฺหาเสติ อวิคตตณฺหา. ภวาติ กามภวาทิกา. ภเวสูติ กามภวาทิเกสุ. อถ วา ภวาภเวสูติ ภวภเวสุ, ปุนปฺปุนภเวสูติ วุตฺตํ โหติ.
ปสฺสามีติ มํสจกฺขุนาปิ ปสฺสามีติ ทุวิธํ มํสจกฺขุ – สสมฺภารจกฺขุ ปสาทจกฺขูติ. ตตฺถ โยยํ อกฺขิกูปเก ปติฏฺิโต เหฏฺา อกฺขิกูปกฏฺิเกน อุปริ ภมุกฏฺิเกน อุภโต อกฺขิกูเฏหิ พหิทฺธา อกฺขิโลเมหิ ปริจฺฉินฺโน อกฺขิกูปกมชฺฌา นิกฺขนฺเตน นฺหารุสุตฺตเกน มตฺถลุงฺเค อาพทฺโธ เสตกณฺหมณฺฑลวิจิตฺโต มํสปิณฺโฑ, อิทํ สสมฺภารจกฺขุ นาม. โย ปน ¶ เอตฺถ สิโต เอตฺถ ปฏิพทฺโธ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโท, อิทํ ปสาทจกฺขุ นาม. อิทมธิปฺเปตํ. ตเทตํ ตสฺส สสมฺภารจกฺขุโน เสตมณฺฑลปริกฺขิตฺตสฺส กณฺหมณฺฑลสฺส มชฺเฌ อภิมุเข ิตานํ สรีรสณฺานุปฺปตฺติปเทเส ทิฏฺมณฺฑเล สตฺตสุ ¶ ปิจุปฏเลสุ อาสิตฺตเตลํ ปิจุปฏลานิ วิย สตฺตกฺขิปฏลานิ พฺยาเปตฺวา ปมาณโต อูกาสิรมตฺตํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฏฺติ.
ตํ จกฺขตีติ จกฺขุ, เตน มํสจกฺขุนา ปสฺสามิ. ทิพฺพจกฺขุนาติ ‘‘อทฺทสํ โข อหํ, ภิกฺขเว, ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธนา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๔) เอวํวิเธน ทิพฺพจกฺขุนา. ปฺาจกฺขุนาติ ‘‘วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาที’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๙๕; มหาว. ๑๖) เอวํ อาคเตน ปฺาจกฺขุนา. พุทฺธจกฺขุนาติ ‘‘อทฺทสํ โข อหํ, ภิกฺขเว, พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๓) เอวมาคเตน พุทฺธจกฺขุนา. สมนฺตจกฺขุนาติ ‘‘สมนฺตจกฺขุ วุจฺจติ สพฺพฺุตฺาณ’’นฺติ (จูฬนิ. โธตกมาณวปุจฺฉาอิทฺเทส ๓๒; โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕) เอวมาคเตน ¶ สมนฺตจกฺขุนา. ปสฺสามีติ มํสจกฺขุนา หตฺถตเล ปิตามลกํ วิย รูปคตํ มํสจกฺขุนา. ทกฺขามีติ สฺชานามิ ทิพฺเพน จกฺขุนา จุตูปปาตํ. โอโลเกมีติ อวโลเกมิ ปฺาจกฺขุนา จตุสจฺจํ. นิชฺฌายามีติ จินฺเตมิ พุทฺธจกฺขุนา สทฺธาปฺจมกานิ อินฺทฺริยานิ. อุปปริกฺขามีติ สมนฺตโต อิกฺขามิ ปริเยสามิ สมนฺตจกฺขุนา ปฺจ เนยฺยปเถ.
ตณฺหาผนฺทนาย ผนฺทมานนฺติ ตณฺหาจลนาย จลมานํ. อิโต ปรํ ทิฏฺิผนฺทนาทิทิฏฺิพฺยสเนน ทุกฺเขน ผนฺทมานปริโยสานํ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมว. สมฺผนฺทมานนฺติ ปุนปฺปุนํ ผนฺทมานํ. วิปฺผนฺทมานนฺติ นานาวิเธน จลมานํ. เวธมานนฺติ กมฺปมานํ. ปเวธมานนฺติ ปธาเนน กมฺปมานํ. สมฺปเวธมานนฺติ ¶ ปุนปฺปุนํ กมฺปมานํ. อุปสคฺเคน วา ปทํ วฑฺฒิตํ.
ตณฺหานุคตนฺติ ตณฺหาย อนุปวิฏฺํ. ตณฺหายานุสฏนฺติ ตณฺหาย อนุปตฺถฏํ. ตณฺหายาสนฺนนฺติ ตณฺหาย นิมุคฺคํ. ตณฺหาย ปาติตนฺติ ตณฺหาย ขิตฺตํ. ‘‘ปริปาติต’’นฺติ วา ปาโ. อภิภูตนฺติ ตณฺหาย มทฺทิตํ อชฺโฌตฺถฏํ. ปริยาทินฺนจิตฺตนฺติ เขเปตฺวา คหิตจิตฺตํ. อถ วา โอเฆน คตํ วิย ตณฺหาคตํ. อุปาทิณฺณกรูปปจฺจเยหิ ปติตฺวา คตํ วิย ตณฺหานุคตํ. อุทกปิฏฺึ ฉาเทตฺวา ปตฺถฏนีลิกา อุทกปิฏฺิ วิย ตณฺหานุสฏํ. วจฺจกูเป นิมุคฺคํ วิย ตณฺหายาสนฺนํ. รุกฺขคฺคโต ปติตฺวา นรเก ปติตํ วิย ตณฺหาปาติตํ. อุปาทิณฺณกรูปํ สํโยคํ วิย ตณฺหาย อภิภูตํ. อุปาทิณฺณกรูปปริคฺคาหกสฺส อุปฺปนฺนวิปสฺสนํ วิย ตณฺหาย ปริยาทินฺนจิตฺตํ. อถ วา กามจฺฉนฺเทน ตณฺหาคตํ. กามปิปาสาย ตณฺหานุคตํ. กามาสเวน ¶ ตณฺหานุสฏํ. กามปริฬาเหน ตณฺหายาสนฺนํ. กามชฺโฌสาเนน ตณฺหาย ปาติตํ. กาโมเฆน ตณฺหาย อภิภูตํ. กามุปาทาเนน ตณฺหาย ปริยาทินฺนจิตฺตนฺติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. กามภเวติ กามาวจเร. รูปภเวติ รูปาวจเร. อรูปภเวติ อรูปาวจเร. เตสํ นานตฺตํ เหฏฺา ปกาสิตํเยว.
ภวาภเวสูติ ภวาภเวติ ภโวติ กามธาตุ. อภโวติ รูปารูปธาตุ. อถ วา ภโวติ กามธาตุ รูปธาตุ. อภโวติ อรูปธาตุ. เตสุ ภวาภเวสุ. กมฺมภเวติ กมฺมวฏฺเฏ. ปุนพฺภเวติ โปโนภวิเก วิปากวฏฺเฏ. กามภเวติ กามธาตุยา. กมฺมภเวติ กมฺมวฏฺเฏ. ตตฺถ กมฺมภโว ภาวยตีติ ภโว. กามภเว ปุนพฺภเวติ กามธาตุยา อุปปตฺติภเว วิปากวฏฺเฏ. วิปากภโว ภวตีติ ภโว. รูปภวาทีสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ ‘‘กามภเว รูปภเว อรูปภเว’’ติ ¶ โอกาสภวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตีสุปิ ‘‘กมฺมภเว’’ติ กมฺมภวํ ¶ , ตถา ‘‘ปุนพฺภเว’’ติ อุปปตฺติภวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปุนปฺปุนพฺภเวติ อปราปรํ อุปฺปตฺติยํ. คติยาติ ปฺจคติยา อฺตราย. อตฺตภาวาภินิพฺพตฺติยาติ อตฺตภาวานํ อภินิพฺพตฺติยา. อวีตตณฺหาติ มูลปทํ. อวิคตตณฺหาติ ขณิกสมาธิ วิย ขณิกปฺปหานาภาเวน น วิคตา ตณฺหา เอเตสนฺติ อวิคตตณฺหา. อจตฺตตณฺหาติ ตทงฺคปฺปหานาภาเวน อปริจฺจตฺตตณฺหา. อวนฺตตณฺหาติ วิกฺขมฺภนปฺปหานาภาเวน น วนฺตตณฺหาติ อวนฺตตณฺหา. อมุตฺตตณฺหาติ อจฺจนฺตสมุจฺเฉทปฺปหานาภาเวน น มุตฺตตณฺหา. อปฺปหีนตณฺหาติ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานาภาเวน น ปหีนตณฺหา. อปฺปฏินิสฺสฏฺตณฺหาติ นิสฺสรณปฺปหานาภาเวน ภเว ปติฏฺิตํ อนุสยกิเลสํ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา ิตตฺตา อปฺปฏินิสฺสฏฺตณฺหา.
๑๒. อิทานิ ยสฺมา อวิคตตณฺหา เอวํ ผนฺทนฺติ จ ลปนฺติ จ, ตสฺมา ตณฺหาวินเย สมาทเปนฺโต ‘‘มมายิเต’’ติ คาถมาห. ตตฺถ มมายิเตติ ตณฺหาทิฏฺิมมตฺเตหิ ‘‘มม’’นฺติ ปริคฺคหิเต วตฺถุสฺมึ. ปสฺสถาติ โสตาเร อาลปนฺโต อาห. เอตมฺปีติ เอตมฺปิ อาทีนวํ. เสสํ ปากฏเมว.
ทฺเว มมตฺตาติ ทฺเว อาลยา. ยาวตาติ ปริจฺเฉทนิยมตฺเถ นิปาโต. ตณฺหาสงฺขาเตนาติ ตณฺหาโกฏฺาเสน, สงฺขา สงฺขาตนฺติ อตฺถโต ¶ เอกํ ‘‘สฺานิทานา หิ ปปฺจสงฺขา’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๘๘๐) วิย. สีมกตนฺติ อปริจฺเฉทโทสวิรหิตํ มริยาทกตํ ‘‘ติโยชนปรมํ สีมํ สมฺมนฺนิตุ’’นฺติ อาทีสุ (มหาว. ๑๔๐) วิย. โอธิกตนฺติ วจนปริจฺเฉทโทสวิรหิตํ ปริจฺเฉทกตํ ¶ สีมนฺตริกรุกฺโข วิย. ปริยนฺตกตนฺติ ปริจฺเฉทกตํ. สีมนฺตริกรุกฺโข ปน ทฺวินฺนํ สาธารณํ, อยํ ปน เอกาพทฺธตาลปนฺติ วิย กตนฺติ ปริยนฺตกตํ. ปริคฺคหิตนฺติ กาลนฺตเรปิ ปรายตฺตํ มฺุจิตฺวา สพฺพากาเรน คหิตํ. มมายิตนฺติ อาลยกตํ วสฺสูปคตํ เสนาสนํ วิย. อิทํ มมนฺติ สมีเป ิตํ. เอตํ มมนฺติ ทูเร ิตํ. เอตฺตกนฺติ ปริกฺขารนิยมนํ ‘‘เอตฺตกมฺปิ นปฺปฏิภาเสยฺยา’’ติ วิย. เอตฺตาวตาติ ปริจฺเฉทตฺเถปิ นิปาตนิยมนํ ‘‘เอตฺตาวตา โข มหานามา’’ติ วิย. เกวลมฺปิ มหาปถวินฺติ สกลมฺปิ มหาปถวึ.
อฏฺสตํ ตณฺหาวิจริตนฺติ อฏฺุตฺตรสตํ ตณฺหาคมนวิตฺถารํ. อฏฺุตฺตรสตํ กถํ โหตีติ เจ? รูปตณฺหา…เป… ธมฺมตณฺหาติ เอวํ จกฺขุทฺวาราทีสุ ชวนวีถิยา ปวตฺตา ตณฺหา ‘‘เสฏฺิปุตฺโต, พฺราหฺมณปุตฺโต’’ติ เอวมาทีสุ ปิติโต ลทฺธนามา วิย ปิตุสทิสารมฺมเณ ภูตา. เอตฺถ ¶ จ รูปารมฺมณา รูเป ตณฺหาติ รูปตณฺหา. สา กามราคภาเวน รูปํ อสฺสาเทนฺตี ปวตฺตมานา กามตณฺหา. สสฺสตทิฏฺิสหคตราคภาเวน ‘‘รูปํ นิจฺจํ ธุวํ สสฺสต’’นฺติ เอวํ อสฺสาเทนฺตี ปวตฺตมานา ภวตณฺหา. อุจฺเฉททิฏฺิสหคตราคภาเวน ‘‘รูปํ อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ ปจฺเฉทํ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ อสฺสาเทนฺตี ปวตฺตมานา วิภวตณฺหาติ เอวํ ติวิธา โหติ. ยถา จ รูปตณฺหา, ตถา สทฺทตณฺหาทโยปีติ เอตานิ อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานิ โหนฺติ. ตานิ อชฺฌตฺตรูปาทีสุ อฏฺารส, พหิทฺธารูปาทีสุ อฏฺารสาติ ฉตฺตึส, อิติ อตีตานิ ฉตฺตึส, อนาคตานิ ฉตฺตึส, ปจฺจุปฺปนฺนานิ ฉตฺตึสาติ อฏฺสตํ. อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทาย ‘‘อสฺมี’’ติ โหติ, ‘‘อิตฺถสฺมี’’ติ โหตีติ วา เอวมาทีนิ อชฺฌตฺติกรูปาทินิสฺสิตานิ อฏฺารส, พาหิรสฺสุปาทาย อิมินา ‘‘อสฺมี’’ติ โหติ, อิมินา ‘‘อิตฺถสฺมี’’ติ โหตีติ พาหิรรูปาทินิสฺสิตานิ อฏฺารสาติ ฉตฺตึส. อิติ อตีตานิ ฉตฺตึส, อนาคตานิ ฉตฺตึส, ปจฺจุปฺปนฺนานิ ฉตฺตึสาติ เอวมฺปิ อฏฺสตตณฺหาวิจริตานิ โหนฺติ.
วีสติวตฺถุกา ¶ ¶ สกฺกายทิฏฺีติ รูปาทีนํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ เอเกกมฺปิ ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๑๓๐-๑๓๑) นเยน จตุธา คาหวเสน ปวตฺตานิ วตฺถูนิ กตฺวา อุปฺปนฺนา วิชฺชมานฏฺเน สติ ขนฺธปฺจกสงฺขาเต กาเย ทิฏฺีติ สกฺกายทิฏฺิ. ทสวตฺถุกา มิจฺฉาทิฏฺีติ ‘‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺ’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตา มิจฺฉาทิฏฺิ, อยาถาวทิฏฺิ วิรชฺฌิตฺวา คหณโต วา วิตถา ทิฏฺิ มิจฺฉาทิฏฺิ, อนตฺถาวหตฺตา ปณฺฑิเตหิ กุจฺฉิตา ทิฏฺีติปิ มิจฺฉาทิฏฺิ. สา อโยนิโส อภินิเวสลกฺขณา, ปรามาสรสา, มิจฺฉาภินิเวสปจฺจุปฏฺานา, อริยานมทสฺสนกามตาทิปทฏฺานา, ปรมวชฺชาติ ทฏฺพฺพา. ทสวตฺถุกา อนฺตคฺคาหิกา ทิฏฺีติ สสฺสโต โลโก, อสสฺสโต โลโก, อนฺตวา โลโก’’ติ อาทินยปฺปวตฺตา เอเกกํ โกฏฺาสํ ปติฏฺํ กตฺวา คหณวเสน เอวํ ปวตฺตา ทิฏฺิ ทสวตฺถุกา อนฺตคฺคาหิกา ทิฏฺิ. ยา เอวรูปา ทิฏฺีติ ยา เอวํชาติกา ทิฏฺิ. ทิฏฺิคตนฺติ ทิฏฺีสุ คตํ. อิทํ ทสฺสนํ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิอนฺโตคธตฺตาติ ทิฏฺิคตํ, ทิฏฺิเยว ทุรติกฺกมนฏฺเน คหนํ ทิฏฺิคหนํ ติณคหนวนคหนปพฺพตคหนานิ วิย. สาสงฺกสปฺปฏิภยฏฺเน ทิฏฺิกนฺตารํ โจรกนฺตารวาฬกนฺตารนิรุทกกนฺตารทุพฺภิกฺขกนฺตารา วิย. สมฺมาทิฏฺิยา วินิวิชฺฌนฏฺเน วิโลมนฏฺเน จ ทิฏฺิวิสูกายิกํ. มิจฺฉาทสฺสนฺหิ อุปฺปชฺชมานํ สมฺมาทสฺสนํ วินิวิชฺฌติ เจว วิโลเมติ จ. กทาจิ สสฺสตสฺส, กทาจิ อุจฺเฉทสฺส คหณโต ทิฏฺิยา วิรูปํ ผนฺทิตนฺติ ทิฏฺิวิปฺผนฺทิตํ. ทิฏฺิคติโก หิ เอกสฺมึ ปติฏฺาตุํ น สกฺโกติ. กทาจิ สสฺสตํ อนุสฺสรติ, กทาจิ อุจฺเฉทํ. ทิฏฺิเยว พนฺธนฏฺเน สํโยชนนฺติ ทิฏฺิสํโยชนํ. สุสุมาราทโย ¶ วิย ปุริสํ อารมฺมณํ ทฬฺหํ คณฺหาตีติ คาโห. ปติฏฺหนโต ปติฏฺาโห. อยฺหิ ¶ พลวปวตฺติภาเวน ปติฏฺหิตฺวา คณฺหาติ. นิจฺจาทิวเสน อภินิวิสตีติ อภินิเวโส. ธมฺมสภาวํ อติกฺกมิตฺวา นิจฺจาทิวเสน ปรโต อามสตีติ ปรามาโส. อนตฺถาวหตฺตา กุจฺฉิโต มคฺโค, กุจฺฉิตานํ วา อปายานํ มคฺโคติ กุมฺมคฺโค. อยาถาวปถโต มิจฺฉาปโถ. ยถา หิ ทิสามูฬฺเหน ‘‘อยํ อสุกคามสฺส นาม ปโถ’’ติ คหิโตปิ ตํ คามํ น สมฺปาเปติ, เอวํ ทิฏฺิคติเกน ‘‘สุคติปโถ’’ติ คหิตาปิ ทิฏฺิ สุคตึ น ปาเปตีติ อยาถาวปถโต มิจฺฉาปโถ. มิจฺฉาสภาวโต มิจฺฉตฺตํ. ตตฺเถว ปริพฺภมนโต ¶ ตรนฺติ เอตฺถ พาลาติ ติตฺถํ, ติตฺถฺจ ตํ อนตฺถานฺจ อายตนนฺติ ติตฺถายตนํ, ติตฺถิยานํ วา สฺชาติเทสฏฺเน นิวาสฏฺานฏฺเน จ อายตนนฺติปิ ติตฺถายตนํ. วิปริเยสภูโต คาโห, วิปริเยสโต วา คาโหติ วิปริเยสคฺคาโห. อสภาวคาโหติ วิปรีตคฺคาโห. ‘‘อนิจฺเจ นิจฺจ’’นฺติ อาทินยปฺปวตฺตวเสน ปริวตฺเตตฺวา คาโห วิปลฺลาสคฺคาโห. อนุปายคาโห มิจฺฉาคาโห. อยาถาวกสฺมึ วตฺถุสฺมึ น สภาวสฺมึ วตฺถุสฺมึ ตถํ ยาถาวกํ สภาวนฺติ คาโห ‘‘อยาถาวกสฺมึ ยาถาวก’’นฺติ คาโห. ยาวตาติ ยตฺตกา. ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตานีติ พฺรหฺมชาเล (ที. นิ. ๑.๒๙ อาทโย) อาคตานิ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตานิ.
อจฺเฉทสํกิโนปิ ผนฺทนฺตีติ อจฺฉินฺทิตฺวา ปสยฺห พลกฺกาเรน คณฺหิสฺสนฺตีติ อุปฺปนฺนสํกิโนปิ จลนฺติ. อจฺฉินฺทนฺเตปีติ วุตฺตนเยน อจฺฉิชฺชนฺเตปิ. อจฺฉินฺเนปีติ วุตฺตนเยน อจฺฉินฺทิตฺวา คหิเตปิ. วิปริณามสํกิโนปีติ ปริวตฺเตตฺวา อฺถาภาเวน อาสํกิโนปิ ¶ . วิปริณามนฺเตปีติ วิปริวตฺตนกาเลปิ. วิปริณเตปีติ วิปริวตฺติเตปิ. ผนฺทนฺตีติ จลนฺติ. สมฺผนฺทนฺตีติ สพฺพากาเรน จลนฺติ. วิปฺผนฺทนฺตีติ วิวิธากาเรน ผนฺทนฺติ. เวธนฺตีติ ภยํ ทิสฺวา กมฺปนฺติ. ปเวธนฺตีติ ฉมฺภิตตฺตา ภเยน วิเสเสน กมฺปนฺติ. สมฺปเวธนฺตีติ โลมหํสนภเยน สพฺพากาเรน กมฺปนฺติ. ผนฺทมาเนติ อุปโยคพหุวจนํ. อปฺโปทเกติ มนฺโททเก. ปริตฺโตทเกติ ลุฬิโตทเก. อุทกปริยาทาเนติ ขีโณทเก. พลากาหิ วาติ วุตฺตาวเสสาหิ ปกฺขิชาตีหิ. ปริปาติยมานาติ วิหึสิยมานา ฆฏฺฏิยมานา. อุกฺขิปิยมานาติ กทฺทมนฺตรโต นีหริยมานา คิลิยมานา วา. ขชฺชมานาติ ขาทิยมานา. ผนฺทนฺติ กาเกหิ. สมฺผนฺทนฺติ กุลเลหิ. วิปฺผนฺทนฺติ พลากาหิ. เวธนฺติ ตุณฺเฑน คหิตกาเล มรณวเสน. ปเวธนฺติ วิชฺฌนกาเล. สมฺปเวธนฺติ มรณสมีเป.
ปสฺสิตฺวาติ อคุณํ ปสฺสิตฺวา. ตุลยิตฺวาติ คุณาคุณํ ตุลยิตฺวา. ตีรยิตฺวาติ คุณาคุณํ วิตฺถาเรตฺวา. วิภาวยิตฺวาติ วตฺถุหานภาคึ มฺุจิตฺวา วชฺเชตฺวา. วิภูตํ กตฺวาติ นิปฺผตฺตึ ปาเปตฺวา อาเวณิกํ กตฺวา. อถ วา สํกิณฺณโทสํ โมเจตฺวา วตฺถุวิภาคกรเณน ปสฺสิตฺวา. อปริจฺเฉทโทสํ ¶ โมเจตฺวา ปมาณกรณวเสน ตุลยิตฺวา. วตฺถุโทสํ โมเจตฺวา วิภาคกรณวเสน ตีรยิตฺวา. สมฺโมหโทสํ โมจยิตฺวา ¶ อคฺควิภาคกรณวเสน วิภาวยิตฺวา. ฆนโทสํ โมเจตฺวา ปกติวิภาคกรเณน วิภูตํ กตฺวา. ปหายาติ ปชหิตฺวา. ปฏินิสฺสชฺชิตฺวาติ นิสฺสชฺชิตฺวา. อมมายนฺโตติ ตณฺหาทิฏฺีหิ อาลยํ อกโรนฺโต. อคณฺหนฺโตติ ทิฏฺิยา ปุพฺพภาเค ปฺาย ตํ น คณฺหนฺโต. อปรามสนฺโตติ วิตกฺเกน อูหนํ อกโรนฺโต. อนภินิเวสนฺโตติ นิยาโมกฺกนฺติทิฏฺิวเสน นปฺปวิสนฺโต.
อกุพฺพมาโนติ ปริคฺคาหตณฺหาวเสน อกโรนฺโต. อชนยมาโนติ โปโนภวิกตณฺหาวเสน อชนยมาโน. อสฺชนยมาโนติ ¶ วิเสเสน อสฺชนยมาโน. อนิพฺพตฺตยมาโนติ ปตฺถนาตณฺหาวเสน น นิพฺพตฺตยมาโน. อนภินิพฺพตฺตยมาโนติ สพฺพากาเรน น อภินิพฺพตฺตยมาโน. อุปสคฺควเสน วา เอตานิ ปทานิ วฑฺฒิตานิ. เอวเมตฺถ ปมคาถาย อสฺสาทํ.
๑๓. ตโต ปราหิ จตูหิ คาถาหิ อาทีนวฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สอุปายํ นิสฺสรณํ นิสฺสรณานิสํสฺจ ทสฺเสตุํ, สพฺพาหิ วา เอตาหิ กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุโภสุ อนฺเตสู’’ติ คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ อุโภสุ อนฺเตสูติ ผสฺสผสฺสสมุทยาทีสุ ทฺวีสุ, ทฺวีสุ ปริจฺเฉเทสุ. วิเนยฺย ฉนฺทนฺติ ฉนฺทราคํ วิเนตฺวา. ผสฺสํ ปริฺายาติ จกฺขุสมฺผสฺสาทิผสฺสํ, ผสฺสานุสาเรน วา ตํสมฺปยุตฺเต สพฺเพปิ อรูปธมฺเม, เตสํ วตฺถุทฺวารารมฺมณวเสน รูปธมฺเม จาติ สกลมฺปิ นามรูปํ ตีหิ ปริฺาหิ ปริชานิตฺวา. อนานุคิทฺโธติ รูปาทีสุ สพฺพธมฺเมสุ อคิทฺโธ. ยทตฺตครหี ตทกุพฺพมาโนติ ยํ อตฺตนา ครหติ, ตํ อกุรุมาโน. น ลิมฺปตี ทิฏฺสุเตสุ ธีโรติ โส เอวรูโป ธิติสมฺปนฺโน ธีโร ทิฏฺเสุ จ สุเตสุ จ ธมฺเมสุ ทฺวินฺนํ เลปานํ เอเกนาปิ เลเปน น ลิมฺปติ, อากาสมิว นิรุปลิตฺโต อจฺจนฺตโวทานปฺปตฺโต โหติ.
ผสฺโส เอโก อนฺโตติ ผสฺโส เอกปริจฺเฉโท. ผุสตีติ ผสฺโส. สฺวายํ ผุสนลกฺขโณ, สงฺฆฏฺฏนรโส, สนฺนิปาตปจฺจุปฏฺาโน, อาปาถคตวิสยปทฏฺาโน. อยฺหิ อรูปธมฺโมปิ สมาโน อารมฺมเณ ¶ ผุสนากาเรเนว ปวตฺตตีติ ผุสนลกฺขโณ. เอกเทเสเนว อนลฺลียมาโนปิ รูปํ วิย จกฺขุํ, สทฺโท วิย จ โสตํ จิตฺตํ อารมฺมณฺจ สงฺฆฏฺเฏตีติ สงฺฆฏฺฏนรโส, วตฺถารมฺมณสงฺฆฏฺฏนโต วา อุปฺปนฺนตฺตา สมฺปตฺติอตฺเถนปิ รเสน ‘‘สงฺฆฏฺฏนรโส’’ติ เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ –
‘‘จตุภูมกผสฺโส ¶ โน ผุสนลกฺขโณ นาม นตฺถิ, สงฺฆฏฺฏนรโส ปน ปฺจทฺวาริโกว โหติ. ปฺจทฺวาริกสฺส หิ ผุสนลกฺขโณติปิ สงฺฆฏฺฏนรโสติปิ นามํ. มโนทฺวาริกสฺส ผุสนลกฺขโณตฺเวว นามํ, น สงฺฆฏฺฏนรโส’’ติ ¶ (ธ. ส. อฏฺ. ๑, กามาวจรกุสล, ธมฺมุทฺเทสกถา).
อิทฺจ วตฺวา อิทํ สุตฺตํ (มิ. ป. ๒.๓.๘) อาภตํ –
‘‘ยถา, มหาราช, ทฺเว เมณฺฑา ยุชฺเฌยฺยุํ, ยถา เอโก เมณฺโฑ, เอวํ จกฺขุ ทฏฺพฺพํ. ยถา ทุติโย เมณฺโฑ, เอวํ รูปํ ทฏฺพฺพํ. ยถา เตสํ สนฺนิปาโต, เอวํ ผสฺโส ทฏฺพฺโพ. เอวํ ผุสนลกฺขโณ จ ผสฺโส สงฺฆฏฺฏนรโส จ. ยถา, มหาราช, ทฺเว สมฺมา วชฺเชยฺยุํ, ทฺเว ปาณี วชฺเชยฺยุํ. ยถา เอโก ปาณิ, เอวํ จกฺขุ ทฏฺพฺพํ. ยถา ทุติโย ปาณิ, เอวํ รูปํ ทฏฺพฺพํ. ยถา เตสํ สนฺนิปาโต, เอวํ ผสฺโส ทฏฺพฺโพ. เอวํ ผุสนลกฺขโณ จ ผสฺโส สงฺฆฏฺฏนรโส จา’’ติ วิตฺถาโร.
ยถา วา ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๓๕๒, ๑๓๕๔) จกฺขุวิฺาณาทีนิ จกฺขุอาทินาเมน วุตฺตานิ, เอวมิธาปิ ตานิ จกฺขุอาทินาเมเนว วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. ตสฺมา ‘‘เอวํ จกฺขุ ทฏฺพฺพ’’นฺติอาทีสุ เอวํ จกฺขุวิฺาณํ ทฏฺพฺพนฺติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวํ สนฺเต จิตฺตารมฺมณสงฺฆฏฺฏนโต อิมสฺมิมฺปิ สุตฺเต กิจฺจฏฺเเนว รเสน ‘‘สงฺฆฏฺฏนรโส’’ติ สิทฺโธ โหติ. ติณฺณํ สนฺนิปาตสงฺขาตสฺส ปน อตฺตโน การณสฺส วเสน ปเวทิตตฺตา สนฺนิปาตปจฺจุปฏฺาโน. อยฺหิ ตตฺถ ตตฺถ ‘‘ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส’’ติ เอวํ การณสฺเสว วเสน ปเวทิโตติ. อิมสฺส จ สุตฺตปทสฺส ติณฺณํ สงฺคติยา ผสฺโสติ อยมตฺโถ, น สงฺคติมตฺตเมว ผสฺโส.
เอวํ ¶ ปเวทิตตฺตา ปน เตเนวากาเรน ปจฺจุปฏฺาตีติ ‘‘สนฺนิปาตปจฺจุปฏฺาโน’’ติ วุตฺโต. ผลฏฺเน ปน ปจฺจุปฏฺาเนเนส เวทนาปจฺจุปฏฺาโน นาม โหติ. เวทนํ เหส ปจฺจุปฏฺาเปติ, อุปฺปาเทตีติ อตฺโถ. อุปฺปาทยมาโน จ ยถา พหิทฺธา อุณฺหปจฺจยาปิ สมานา ลาขาสงฺขาตธาตุนิสฺสิตา อุสฺมา อตฺตโน นิสฺสเย มุทุภาวการี โหติ, น อตฺตโน ปจฺจยภูเตปิ พหิทฺธา วีตจฺจิตงฺคารสงฺขาเต อุณฺหภาเว. เอวํ วตฺถารมฺมณสงฺขาตอฺปจฺจโยปิ สมาโน จิตฺตนิสฺสิตตฺตา อตฺตโน นิสฺสยภูเต จิตฺเต เอว เอส เวทนุปฺปาทโก โหติ, น อตฺตโน ปจฺจยภูเตปิ วตฺถุมฺหิ อารมฺมเณวาติ ¶ เวทิตพฺโพ. ตชฺเชน ¶ สมนฺนาหาเรน ปน อินฺทฺริเยน จ ปริกฺขเต วิสเย อนนฺตราเยน อุปฺปชฺชนโต เอส ‘‘อาปาถคตวิสยปทฏฺาโน’’ติ วุจฺจติ.
ผสฺโส ยโต สมุเทติ อุปฺปชฺชติ, โส ‘‘ผสฺสสมุทโย’’ติ วุจฺจติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส’’ติ (มหาว. ๑; วิภ. ๒๒๕). อตีตทุโก กาลวเสน วุตฺโต. เวทนาทุโก ‘‘อุเปกฺขา ปน สนฺตตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๓๒) วุตฺตตฺตา อุเปกฺขาเวทนํ สุขเมว กตฺวา สุขทุกฺขวเสน, นามรูปทุโก รูปารูปวเสน, อายตนทุโก สํสารปวตฺติวเสน, สกฺกายทุโก ปฺจกฺขนฺธวเสน วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ สุขยตีติ สุขา. เวทยตีติ เวทนา. ทุกฺขยตีติ ทุกฺขา. นมนลกฺขณํ นามํ. รุปฺปนลกฺขณํ รูปํ. จกฺขายตนาทีนิ ฉ อชฺฌตฺติกานิ. รูปายตนาทีนิ ฉ พาหิรานิ. รูปกฺขนฺธาทโย ปฺจกฺขนฺธา วิชฺชมานฏฺเน สกฺกาโย. อวิชฺชากมฺมตณฺหาอาหารผสฺสนามรูปา สกฺกายสมุทโย.
จกฺขุสมฺผสฺโสติ จกฺขตีติ จกฺขุ, รูปํ อสฺสาเทติ วิภาเวติ จาติ อตฺโถ. จกฺขุโต ปวตฺโต สมฺผสฺโส จกฺขุสมฺผสฺโส. โส ปน อตฺตนา สมฺปยุตฺตาย เวทนาย สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากอาหารสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน อฏฺธา ปจฺจโย โหติ. สุณาตีติ โสตํ. ตํ สสมฺภารโสตพิลสฺส อนฺโต ตนุตมฺพโลมาจิเต องฺคุลิเวกสณฺาเน ปเทเส โสตวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฏฺติ. โสตโต ปวตฺโต สมฺผสฺโส โสตสมฺผสฺโส. ฆานสมฺผสฺสาทีสุปิ เอเสว นโย. ฆายตีติ ฆานํ ¶ . ตํ สสมฺภารพิลสฺส อนฺโต อชปทสณฺาเน ปเทเส ฆานวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฏฺติ. ชีวิตมวฺหายตีติ ชิวฺหา, สายนฏฺเน วา ชิวฺหา. สา สสมฺภารชิวฺหาย อติอคฺคมูลปสฺสานิ วชฺเชตฺวา อุปริมตลมชฺเฌ ภินฺนอุปฺปลทลคฺคสณฺาเน ปเทเส ชิวฺหาวิฺาณาทีนํ ¶ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานา ติฏฺติ. กุจฺฉิตานํ สาสวธมฺมานํ อาโยติ กาโย. อาโยติ อุปฺปตฺติเทโส. ยาวตา อิมสฺมึ กาเย อุปาทิณฺณปวตฺติ นาม อตฺถิ, ตตฺถ เยภุยฺเยน กายปฺปสาโท กายวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมาโน ติฏฺติ. มุนาตีติ มโน, วิชานาตีติ อตฺโถ. มโนติ สหาวชฺชนภวงฺคํ; มนโต ปวตฺโต สมฺผสฺโส มโนสมฺผสฺโส.
ฉพฺพิธมฺปิ ผสฺสํ ทุวิธเมว โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อธิวจนสมฺผสฺโส ปฏิฆสมฺผสฺโส’’ติ อาห ¶ . มโนทฺวาริโก อธิวจนสมฺผสฺโส. ปฺจทฺวาริโก วตฺถารมฺมณาทิปฏิเฆน อุปฺปชฺชนโต ปฏิฆสมฺผสฺโส.
สุขเวทนาย อารมฺมเณ สุขเวทนีโย. ทุกฺขเวทนาย อารมฺมเณ ทุกฺขเวทนีโย. อทุกฺขมสุขเวทนาย อารมฺมเณ อทุกฺขมสุขเวทนีโย. ตตฺถ สุขยตีติ สุขํ, ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ สุขิตํ กโรตีติ อตฺโถ. สุฏฺุ วา ขนติ, ขาทติ จ กายจิตฺตาพาธนฺติ สุขํ. ทุกฺขยตีติ ทุกฺขํ, ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ ทุกฺขิตํ กโรตีติ อตฺโถ. น ทุกฺขํ น สุขนฺติ อทุกฺขมสุขํ, ม-กาโร ปทสนฺธิวเสน วุตฺโต.
กุสโลติอาทโย ชาติวเสน วุตฺตา. ตตฺถ กุสโลติ เอกวีสติกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺโต. อกุสโลติ ทฺวาทสากุสลจิตฺตสมฺปยุตฺโต. อพฺยากโตติ อวเสสวิปากกิริยาพฺยากตจิตฺตสมฺปยุตฺโต.
ปุน ภวปฺปเภทวเสน นิทฺทิสนฺโต ‘‘กามาวจโร’’ติอาทิมาห. จตุปฺาสกามาวจรจิตฺตสมฺปยุตฺโต กามาวจโร. กามํ ปหาย รูเป อวจรตีติ รูปาวจโร, กุสลาพฺยากตวเสน ปฺจทสรูปาวจรจิตฺตสมฺปยุตฺโต. กามฺจ รูปฺจ ปหาย อรูเป อวจรตีติ อรูปาวจโร, กุสลาพฺยากตวเสน ทฺวาทสารูปาวจรจิตฺตสมฺปยุตฺโต.
อิทานิ ¶ อภินิเวสวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘สฺุโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สฺุโตติ ราคโทสโมเหหิ สฺุตฺตา สฺุโต. ราคโทสโมหนิมิตฺเตหิ อนิมิตฺตตฺตา อนิมิตฺโต. ราคโทสโมหปณิธีนํ อภาวโต อปฺปณิหิโตติ วุจฺจติ.
อิทานิ วฏฺฏปริยาปนฺนอปริยาปนฺนวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘โลกิโย’’ติอาทิมาห. โลโก วุจฺจติ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน วฏฺฏํ ¶ , ตสฺมึ ปริยาปนฺนภาเวน โลเก นิยุตฺโตติ โลกิโย. อุตฺติณฺโณติ อุตฺตโร, โลเก อปริยาปนฺนภาเวน โลกโต อุตฺตโรติ โลกุตฺตโร. ผุสนาติ ผุสนากาโร. สมฺผุสนา สมฺผุสิตตฺตนฺติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ.
เอวํ าตํ กตฺวาติ เอวํ ปากฏํ กตฺวา ชานนฺโต ตีเรติ ตีรยติ, อุปริ วตฺตพฺพากาเรน จินฺเตติ. อนิจฺจนฺติกตาย อาทิอนฺตวนฺตตาย จ อนิจฺจโต ตีเรติ. อุปฺปาทวยปฏิปีฬนตาย ทุกฺขวตฺถุตาย จ ทุกฺขโต. ปจฺจยยาปนียตาย โรคมูลตาย จ โรคโต. ทุกฺขตาสูลโยคิตาย ¶ กิเลสาสุจิปคฺฆรตาย อุปฺปาทชราภงฺเคหิ อุทฺธุมาตปริปกฺกปภินฺนตาย จ คณฺฑโต. ปีฬาชนกตาย อนฺโตตุทนตาย ทุนฺนีหรณียตาย จ สลฺลโต. วิครหณียตาย อวฑฺฒิอาวหนตาย อฆวตฺถุตาย จ อฆโต. อเสริภาวชนกตาย อาพาธปทฏฺานตาย จ อาพาธโต. อวสตาย อวิเธยฺยตาย จ ปรโต. พฺยาธิชรามรเณหิ ลุชฺชนปลุชฺชนตาย ปโลกโต. อเนกพฺยสนาวหนตาย อีติโต. อวิทิตานํเยว วิปุลานํ อนตฺถานํ อาวหนโต สพฺพูปทฺทววตฺถุตาย จ อุปทฺทวโต. สพฺพภยานํ อากรตาย จ ทุกฺขวูปสมสงฺขาตสฺส ปรมสฺสาสสฺส ปฏิปกฺขภูตตาย จ ภยโต. อเนเกหิ อนตฺเถหิ อนุพทฺธตาย โทสูปสฏฺตาย, อุปสคฺโค วิย อนธิวาสนารหตาย จ อุปสคฺคโต. พฺยาธิชรามรเณหิ เจว ลาภาทีหิ จ โลกธมฺเมหิ ปจลิตตาย จลโต. อุปกฺกเมน เจว สรเสน จ ปภงฺคุปคมนสีลตาย ปภงฺคุโต. สพฺพาวตฺถาวินิปาติตาย, ถิรภาวสฺส จ อภาวตาย อธุวโต. อตายนตาย เจว อลพฺภเนยฺยเขมตาย จ ¶ อตาณโต. อลฺลียิตุํ อนรหตาย, อลฺลีนานมฺปิ จ เลณกิจฺจาการิตาย อเลณโต. นิสฺสิตานํ ภยสารกตฺตาภาเวน อสรณโต. ยถาปริกปฺปิเตหิ ธุวสุภสุขตฺตภาเวหิ ¶ ริตฺตตาย ริตฺตโต. ริตฺตตาเยว ตุจฺฉโต, อปฺปกตฺตา วา. อปฺปกมฺปิ หิ โลเก ‘‘ตุจฺฉ’’นฺติ วุจฺจติ. สามินิวาสิเวทก การกาธิฏฺายกวิรหิตตาย สฺุโต.
สยฺจ อสามิกภาวาทิตาย อนตฺตโต. ปวตฺติทุกฺขตาย, ทุกฺขสฺส จ อาทีนวตาย อาทีนวโต. อถ วา อาทีนํ วาติ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ อาทีนโว, กปณมนุสฺสสฺเสตํ อธิวจนํ. ขนฺธาปิ จ กปณาเยวาติ อาทีนวสทิสตาย อาทีนวโต. ชราย เจว มรเณน จาติ ทฺเวธา ปริณามปกติตาย วิปริณามธมฺมโต. ทุพฺพลตาย, เผคฺคุ วิย สุขภฺชนียตาย จ อสารกโต. อฆเหตุตาย อฆมูลโต. มิตฺตมุขสปตฺโต วิย วิสฺสาสฆาติตาย วธกโต. วิคตภวตาย วิภวสมฺภูตตาย จ วิภวโต. อาสวปทฏฺานตาย สาสวโต. เหตุปจฺจเยหิ อภิสงฺขตตาย สงฺขตโต. มจฺจุมารกิเลสมารานํ อามิสภูตตาย มารามิสโต. ชาติชราพฺยาธิมรณปกติตาย ชาติชราพฺยาธิมรณธมฺมโต. โสกปริเทวอุปายาสเหตุตาย โสกปริเทวอุปายาสธมฺมโต. ตณฺหาทิฏฺิทุจฺจริตสํกิเลสานํ วิสยธมฺมตาย สํกิเลสธมฺมโต. อวิชฺชากมฺมตณฺหาสฬายตนวเสน อุปฺปตฺติโต สมุทยโต. เตสํ อภาเวน อตฺถงฺคมโต. ผสฺเส ฉนฺทราควเสน มธุรสฺสาเทน อสฺสาทโต. ผสฺสสฺส วิปริณาเมน อาทีนวโต. อุภินฺนํ นิสฺสรเณน นิสฺสรณโต ตีเรตีติ สพฺเพสุ จ อิเมสุ ‘‘ตีเรตี’’ติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ.
ปชหตีติ สกสนฺตานโต นีหรติ. วิโนเทตีติ ตุทติ. พฺยนฺตึ กโรตีติ วิคตนฺตํ ¶ กโรติ. อนภาวํ คเมตีติ อนุ อนุ อภาวํ คเมติ. อริยมคฺคสตฺเถน อุจฺฉินฺนํ ตณฺหาอวิชฺชามยํ มูลเมเตสนฺติ อุจฺฉินฺนมูลา. ตาลวตฺถุ วิย เนสํ วตฺถุ กตนฺติ ตาลาวตฺถุกตา. ยถา หิ ตาลรุกฺขํ สมูลํ อุทฺธริตฺวา ตสฺส วตฺถุมตฺเต ตสฺมึ ปเทเส กเต น ปุน ตสฺส ตาลสฺส อุปฺปตฺติ ปฺายติ, เอวํ อริยมคฺคสตฺเถน สมูเล รูปาทิรเส อุทฺธริตฺวา เตสํ ปุพฺเพ อุปฺปนฺนปุพฺพภาเวน วตฺถุมตฺเต จิตฺตสนฺตาเน กเต สพฺเพปิ เต ‘‘ตาลาวตฺถุกตา’’ติ วุจฺจนฺติ. ยสฺเสโสติ ¶ ยสฺส ¶ ปุคฺคลสฺส เอโส เคโธ. สมุจฺฉินฺโนติ อุจฺฉินฺโน. วูปสนฺโตติ ผเลน วูปสนฺโต. ปฏิปสฺสทฺโธติ ปฏิปสฺสทฺธิปฺปหาเนน ปฏิปสฺสมฺภิโต. อุปสคฺเคน วา ปทํ วฑฺฒิตํ. อภพฺพุปฺปตฺติโกติ ปุน อุปฺปชฺชิตุํ อภพฺโพ. าณคฺคินา ทฑฺโฒติ มคฺคาณคฺคินา ฌาปิโต. อถ วา วิสนิกฺขิตฺตํ ภาชเนน สห ฉฑฺฑิตํ วิย วตฺถุนา สห ปหีโน. มูลจฺฉินฺนวิสวลฺลิ วิย สมูลจฺฉินฺโนติ สมุจฺฉินฺโน. อุทฺธเน อุทกํ สิฺจิตฺวา นิพฺพาปิตองฺคารํ วิย วูปสนฺโต. นิพฺพาปิตองฺคาเร ปติตอุทกผุสิตํ วิย ปฏิปสฺสทฺโธ. องฺกุรุปฺปตฺติยา เหตุจฺฉินฺนพีชํ วิย อภพฺพุปฺปตฺติโก. อสนิปาตวิสรุกฺโข วิย าณคฺคินา ทฑฺโฒติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
วีตเคโธติ อิทํ สกภาวปริจฺจชนวเสน วุตฺตํ. วิคตเคโธติ อิทํ อารมฺมเณ สาลยภาวปริจฺจชนวเสน. จตฺตเคโธติ อิทํ ปุน อนาทิยนภาวทสฺสนวเสน. มุตฺตเคโธติ อิทํ สนฺตติโต วินิโมจนวเสน. ปหีนเคโธติ อิทํ มุตฺตสฺสาปิ กฺวจิ อนวฏฺานทสฺสนวเสน. ปฏินิสฺสฏฺเคโธติ อิทํ อาทินฺนปุพฺพสฺส นิสฺสคฺคทสฺสนวเสน วุตฺตํ. วีตราโค วิคตราโค จตฺตราโคติ วุตฺตนเยน โยเชตพฺพํ. ตตฺถ คิชฺฌนวเสน เคโธ. รฺชนวเสน ราโค. นิจฺฉาโตติ นิตฺตณฺโห. ‘‘นิจฺฉโท’’ติปิ ปาโ, ตณฺหาฉทนวิรหิโตติ อตฺโถ. นิพฺพุโตติ นิพฺพุตสภาโว. สีติภูโตติ สีตสภาโว. สุขปฏิสํเวทีติ กายิกเจตสิกสุขํ อนุภวนสภาโว. พฺรหฺมภูเตนาติ อุตฺตมสภาเวน. อตฺตนาติ จิตฺเตน.
กตตฺตา จาติ ปาปกมฺมานํ กตภาเวน จ. อกตตฺตา จาติ กุสลานํ อกตภาเวน จ. กตํ เม กายทุจฺจริตํ, อกตํ เม กายสุจริตนฺติอาทโย ทฺวารวเสน อวิรติวิรติวเสน กมฺมปถวเสน จ วุตฺตา. สีเลสุมฺหิ น ปริปูรการีติอาทโย จตุปาริสุทฺธิสีลวเสน. ชาคริยมนนุยุตฺโตติ ปฺจชาครณวเสน. สติสมฺปชฺเนาติ สาตฺถกาทิสมฺปชฺวเสน ¶ . จตฺตาโร สติปฏฺานาติอาทโย โพธิปกฺขิยธมฺมา โลกิยโลกุตฺตรวเสน. ทุกฺขํ เม อปริฺาตนฺติอาทโย จตฺตาโร อริยสจฺจวเสน วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. เต อตฺถโต ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนยตฺตา ปากฏาเยว.
ธีโร ¶ ¶ ปณฺฑิโตติ สตฺต ปทา วุตฺตตฺถาเยว. อปิ จ ทุกฺเข อกมฺปิยฏฺเน ธีโร. สุเข อนุปฺปิลวฏฺเน ปณฺฑิโต. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกตฺเถ กตปริจยฏฺเน ปฺวา. อตฺตตฺถปรตฺเถ นิจฺจลฏฺเน พุทฺธิมา. คมฺภีรอุตฺตานตฺเถ อปจฺโจสกฺกนฏฺเน าณี. คุฬฺหปฏิจฺฉนฺนตฺเถ โอภาสนฏฺเน วิภาวี. นิกฺกิเลสพฺยวทานฏฺเน ตุลาสทิโสติ เมธาวี. น ลิมฺปตีติ สชาติยา น ลิมฺปติ อากาเส เลขา วิย. น ปลิมฺปตีติ วิเสเสน น ลิมฺปติ. น อุปลิมฺปตีติ สฺโโค หุตฺวาปิ น ลิมฺปติ หตฺถตเล เลขา วิย. อลิตฺโตติ สฺโโค หุตฺวาปิ น กิลิสฺสติ กาสิกวตฺเถ ปิตมณิรตนํ วิย. อปลิตฺโตติ วิเสเสน น กิลิสฺสติ มณิรตเน ปลิเวิตกาสิกวตฺถํ วิย. อนุปลิตฺโตติ อุปคนฺตฺวาปิ น อลฺลียติ โปกฺขรปตฺเต อุทกพินฺทุ วิย. นิกฺขนฺโตติ พหิ นิกฺขนฺโต พนฺธนาคารโต ปลาโต วิย. นิสฺสโฏติ ปาปปหีโน อมิตฺตสฺส ปฏิจฺฉาปิตกิลิฏฺวตฺถุ วิย. วิปฺปมุตฺโตติ สุฏฺุ มุตฺโต คยฺหูปเค วตฺถุมฺหิ รตึ นาเสตฺวา ปุน นาคมนํ วิย. วิสฺุตฺโตติ กิเลเสหิ เอกโต น ยุตฺโต พฺยาธินา มุตฺตคิลาโน วิย. วิมริยาทิกเตน เจตสาติ วิคตมริยาทกเตน จิตฺเตน, สพฺพภเวน สพฺพารมฺมเณน สพฺพกิเลเสหิ มุตฺตจิตฺเตนาติ อตฺโถ.
๑๔. สฺํ ปริฺาติ คาถาย ปน อยํ สงฺเขปตฺโถ – น เกวลฺจ ผสฺสเมว, อปิ จ โข ปน กามสฺาทิเภทํ สฺํ, สฺานุสาเรน วา ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว นามรูปํ ตีหิ ปริฺาหิ ปริชานิตฺวา อิมาย ปฏิปทาย จตุพฺพิธมฺปิ ¶ วิตเรยฺย โอฆํ, ตโต โส ติณฺโณโฆ ตณฺหาทิฏฺิปริคฺคเหสุ ตณฺหาทิฏฺิกิเลสปฺปหาเนน อนุปลิตฺโต ขีณาสวมุนิ ราคาทิสลฺลานํ อพฺพูฬฺหตฺตา อพฺพูฬฺหสลฺโล, สติเวปุลฺลปฺปตฺติยา อปฺปมตฺโต จรํ, ปุพฺพภาเค วา อปฺปมตฺโต จรนฺโต เตน อปฺปมาทจาเรน อพฺพูฬฺหสลฺโล หุตฺวา สกปรตฺตภาวาทิเภทํ นาสีสติ โลกมิมํ ปรฺจ, อฺทตฺถุ จริมจิตฺตนิโรธา นิรุปาทาโนว ชาตเวโท ปรินิพฺพาตีติ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ, ธมฺมเนตฺติปนเมว กโรนฺโต; น ตุ อิมาย เทสนาย มคฺคํ วา ผลํ วา อุปฺปาเทสิ, ขีณาสวสฺส เทสิตตฺตาติ.
นีลาทิเภทํ ¶ อารมฺมณํ สฺชานาตีติ สฺา. สา สฺชานนลกฺขณา ปจฺจาภิฺาณรสา. จตุภูมิกสฺา หิ โนสฺชานนลกฺขณา นาม นตฺถิ, สพฺพา สฺชานนลกฺขณาว. ยา ปเนตฺถ อภิฺาเณน สฺชานาติ, สา ปจฺจาภิฺาณรสา นาม โหติ. ตสฺสา วฑฺฒกิสฺส ทารุมฺหิ อภิฺาณํ กตฺวา ปุน เตน อภิฺาเณน ตํ ปจฺจาภิชานนกาเล, ปุริสสฺส กาฬติลกาทิอภิฺาณํ สลฺลกฺเขตฺวา ปุน เตน อภิฺาเณน ‘‘อสุโก นาม เอโส’’ติ ตสฺส ปจฺจาภิชานนกาเล, รฺโ ปิฬนฺธนโคปกภณฺฑาคาริกสฺส ¶ ตสฺมึ ตสฺมึ ปิฬนฺธเน นามปณฺณกํ พนฺธิตฺวา ‘‘อสุกํ ปิฬนฺธนํ นาม อาหรา’’ติ วุตฺเต ทีปํ ชาเลตฺวา สารคพฺภํ ปวิสิตฺวา ปณฺณํ วาเจตฺวา ตสฺส ตสฺเสว ปิฬนฺธนสฺส อาหรณกาเล จ ปวตฺติ เวทิตพฺพา.
อปโร นโย – สพฺพสงฺคาหิกวเสน หิ สฺชานนลกฺขณา สฺา, ปุนสฺชานนปจฺจยนิมิตฺตกรณรสา ทารุอาทีสุ ตจฺฉกาทโย วิย, ยถาคหิตนิมิตฺตวเสน อภินิเวสกรณปจฺจุปฏฺานา หตฺถิทสฺสกอนฺโธ วิย, อารมฺมเณ อโนคาฬฺหวุตฺติตาย อจิรฏฺานปจฺจุปฏฺานา วา วิชฺชุ วิย, ยถาอุปฏฺิตวิสยปทฏฺานา ติณปุริสเกสุ มิคโปตกานํ ปุริสาติ อุปฺปนฺนสฺา วิย. ยา ปเนตฺถ าณสมฺปยุตฺตา โหติ, สา าณเมว อนุวตฺตติ, สสมฺภารปถวีอาทีสุ เสสธมฺมา ปถวีอาทีนิ วิยาติ เวทิตพฺพา.
กามปฏิสฺุตฺตา สฺา กามสฺา. พฺยาปาทปฏิสฺุตฺตา สฺา พฺยาปาทสฺา. วิหึสาปฏิสฺุตฺตา สฺา วิหึสาสฺา ¶ . เตสุ ทฺเว สตฺเตสุปิ สงฺขาเรสุปิ อุปฺปชฺชนฺติ. กามสฺา หิ ปิเย มนาเป สตฺเต วา สงฺขาเร วา วิตกฺเกนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ. พฺยาปาทสฺา อปฺปิเย อมนาเป สตฺเต วา สงฺขาเร วา กุชฺฌิตฺวา โอโลกนกาลโต ปฏฺาย ยาว วินาสนา อุปฺปชฺชติ. วิหึสาสฺา สงฺขาเรสุ น อุปฺปชฺชติ. สงฺขาโร หิ ทุกฺขาเปตพฺโพ นาม นตฺถิ. ‘‘อิเม สตฺตา หฺนฺตุ วา, อุจฺฉิชฺชนฺตุ วา, วินสฺสนฺตุ วา, มา วา อเหสุ’’นฺติ จินฺตนกาเล ปน สตฺเตสุ อุปฺปชฺชติ. เนกฺขมฺมปฏิสฺุตฺตา สฺา เนกฺขมฺมสฺา, สา อสุภปุพฺพภาเค กามาวจรา โหติ, อสุภฌาเน รูปาวจรา, ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปนฺนมคฺคผลกาเล โลกุตฺตรา. อพฺยาปาทปฏิสฺุตฺตา สฺา อพฺยาปาทสฺา, สา เมตฺตาปุพฺพภาเค กามาวจรา โหติ, เมตฺตาฌาเน รูปาวจรา, ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปนฺนมคฺคผลกาเล ¶ โลกุตฺตรา. อวิหึสาปฏิสฺุตฺตา สฺา อวิหึสาสฺา, สา กรุณาปุพฺพภาเค กามาวจรา, กรุณาฌาเน รูปาวจรา, ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปนฺนมคฺคผลกาเล โลกุตฺตรา. ยทา อโลโภ สีสํ โหติ, ตทา อิตเร ทฺเว ตทนฺวายิกา ภวนฺติ. ยทา เมตฺตา สีสํ โหติ, ตทา อิตเร ทฺเว ตทนฺวายิกา ภวนฺติ. ยทา กรุณา สีสํ โหติ, ตทา อิตเร ทฺเว ตทนฺวายิกา ภวนฺติ. รูปารมฺมณํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา สฺา รูปสฺา. สทฺทสฺาทีสุปิ เอเสว นโย. อิทํ ตสฺสาเยว อารมฺมณโต นามํ. อารมฺมณานํ วุตฺตตฺตา จกฺขุสมฺผสฺสชาทิวตฺถูนิปิ วุตฺตาเนว โหนฺติ.
ยา เอวรูปา สฺาติ อฺาปิ ‘‘ปฏิฆสมฺผสฺสชา สฺา อธิวจนสมฺผสฺสชา สฺา’’ติ เอวมาทิกา เวทิตพฺพา. ตตฺถ อธิวจนสมฺผสฺสชา สฺาติปิ ปริยาเยน ฉทฺวาริกาเยว ¶ . ตโย หิ อรูปิโน ขนฺธา สยํ ปิฏฺิวฏฺฏกา หุตฺวา อตฺตนา สหชาตสฺาย ‘‘อธิวจนสมฺผสฺสชา สฺา’’ติ นามํ กโรนฺติ, นิปฺปริยาเยน ปน ปฏิฆสมฺผสฺสชา สฺา นาม ปฺจทฺวาริกา สฺา, อธิวจนสมฺผสฺสชา สฺา นาม มโนทฺวาริกา สฺา. เอตา อติเรกสฺา ปริคฺคหิตาติ เวทิตพฺพา.
สฺาติ ¶ สภาวนามํ. สฺชานนาติ สฺชานนากาโร. สฺชานิตตฺตนฺติ สฺชานิตภาโว.
อวิชฺโชฆนฺติ ปูเรตุํ อยุตฺตฏฺเน กายทุจฺจริตาทิ อวินฺทิยํ นาม, อลทฺธพฺพนฺติ อตฺโถ. ตํ อวินฺทิยํ วินฺทตีติ อวิชฺชา. ตพฺพิปรีตโต กายสุจริตาทิ วินฺทิยํ นาม, ตํ วินฺทิยํ น วินฺทตีติ อวิชฺชา. ขนฺธานํ ราสฏฺํ, อายตนานํ อายตนฏฺํ, ธาตูนํ สฺุฏฺํ, อินฺทฺริยานํ อธิปติยฏฺํ, สจฺจานํ ตถฏฺํ อวิทิตํ กโรตีติปิ อวิชฺชา. ทุกฺขาทีนํ ปีฬนาทิวเสน วุตฺตํ จตุพฺพิธํ อตฺถํ อวิทิตํ กโรตีติปิ อวิชฺชา. อนฺตวิรหิเต สํสาเร โยนิคติภววิฺาณฏฺิติสตฺตาวาเสสุ สตฺเต ชวาเปตีติ อวิชฺชา. ปรมตฺถโต อวิชฺชมาเนสุ อิตฺถิปุริสาทีสุ ชวติ, วิชฺชมาเนสุ ขนฺธาทีสุ น ชวตีติ อวิชฺชา. อปิ จ จกฺขุวิฺาณาทีนํ วตฺถารมฺมณานํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฏิจฺจสมุปฺปนฺนานฺจ ธมฺมานํ ฉาทนโตปิ อวิชฺชา, ตํ อวิชฺโชฆํ. กาโมฆวเสน อุตฺตเรยฺย. ภโวฆวเสน ปตเรยฺย. ทิฏฺโฆวเสน สมติกฺกเมยฺย. อวิชฺโชฆวเสน วีติวตฺเตยฺย. อถ วา โสตาปตฺติมคฺเคน ¶ ปหานวเสน อุตฺตเรยฺย. สกทาคามิมคฺเคน ปหานวเสน ปตเรยฺย. อนาคามิมคฺเคน ปหานวเสน สมติกฺกเมยฺย. อรหตฺตมคฺเคน ปหานวเสน วีติวตฺเตยฺย. อถ วา ‘‘ตเรยฺยาทิปฺจปทํ ตทงฺคาทิปฺจปหาเนน โยเชตพฺพ’’นฺติ เกจิ วทนฺติ.
‘‘โมนํ วุจฺจติ าณ’’นฺติ วตฺวา ตํ ปเภทโต ทสฺเสตุํ ‘‘ยา ปฺา ปชานนา’’ติอาทิมาห. ตํ วุตฺตนยเมว เปตฺวา ‘‘อโมโห ธมฺมวิจโย’’ติ ปทํ. อโมโห กุสเลสุ ธมฺเมสุ อภาวนาย ปฏิปกฺโข ภาวนาเหตุ. อโมเหน อวิปรีตํ คณฺหาติ มูฬฺหสฺส วิปรีตคฺคหณโต. อโมเหน ยาถาวํ ยาถาวโต ธาเรนฺโต ยถาสภาเว ปวตฺตติ. มูฬฺโห หิ ‘‘ตจฺฉํ อตจฺฉํ, อตจฺฉฺจ ตจฺฉ’’นฺติ คณฺหาติ; ตถา อิจฺฉิตาลาภทุกฺขํ น โหติ. อมูฬฺหสฺส ‘‘ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’’ติ เอวมาทิปจฺจเวกฺขณสมฺภวโต มรณทุกฺขํ น โหติ. สมฺโมหมรณฺหิ ทุกฺขํ, น จ ตํ อมูฬฺหสฺส โหติ. ปพฺพชิตานํ สุขสํวาโส โหติ, ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺติ น โหติ. โมเหน หิ นิจฺจสมฺมูฬฺหา ติรจฺฉานโยนึ อุปปชฺชนฺติ ¶ ¶ . โมหปฏิปกฺโข จ อโมโห โมหวเสน อมชฺฌตฺตภาวสฺส อภาวกโร. อโมเหน อวิหึสาสฺา ธาตุสฺา มชฺฌิมาย ปฏิปตฺติยา ปฏิปชฺชนํ, ปจฺฉิมคนฺถทฺวยสฺส ปเภทนฺจ โหติ. ปจฺฉิมานิ ทฺเว สติปฏฺานานิ ตสฺเสว อานุภาเวน อิชฺฌนฺติ. อโมโห ทีฆายุกตาย ปจฺจโย โหติ. อมูฬฺโห หิ หิตาหิตํ ตฺวา อหิตํ ปริวชฺเชนฺโต หิตฺจ ปฏิเสวมาโน ทีฆายุโก โหติ, อตฺตสมฺปตฺติยา อปริหีโน โหติ. อมูฬฺโห หิ อตฺตโน หิตเมว กโรนฺโต อตฺตานํ สมฺปาเทติ. อริยวิหารสฺส ปจฺจโย โหติ, อุทาสินปกฺเขสุ นิพฺพุโต โหติ อมูฬฺหสฺส สพฺพาภิสงฺคตาย อภาวโต. อโมเหน อนตฺตทสฺสนํ โหติ. อสมฺมูฬฺโห หิ ยาถาวคหณกุสโล อปริณายกํ ขนฺธปฺจกํ อปริณายกโต พุชฺฌติ. ยถา จ เอเตน อนตฺตทสฺสนํ, เอวํ อตฺตทสฺสนํ โมเหน. โก หิ นาม อตฺตสฺุตํ พุชฺฌิตฺวา ปุน สมฺโมหํ อาปชฺเชยฺยาติ.
เตน าเณน สมนฺนาคโตติ เอเตน วุตฺตปฺปกาเรน าเณน สมงฺคีภูโต เสกฺขาทโย มุนิ. โมนปฺปตฺโตติ ปฏิลทฺธาโณ มุนิภาวํ ¶ ปตฺโต. ตีณีติ คณนปริจฺเฉโท. โมเนยฺยานีติ มุนิภาวกรา โมเนยฺยกรา ปฏิปทา ธมฺมา. กายโมเนยฺยนฺติอาทีสุ วิฺตฺติกายรูปกายวเสน ปฺาเปตพฺพํ กายโมเนยฺยํ. วิฺตฺติวาจาสทฺทวาจาวเสน ปฺาเปตพฺพํ วจีโมเนยฺยํ. มโนทฺวาริกจิตฺตาทิวเสน ปฺาเปตพฺพํ มโนโมเนยฺยํ. ติวิธกายทุจฺจริตานํ ปหานนฺติ ปาณาติปาตาทิวิธานํ กายโต ปวตฺตานํ ทุฏฺุ จริตานํ ปชหนํ. กายสุจริตนฺติ กายโต ปวตฺตํ สุฏฺุ จริตํ. กายารมฺมเณ าณนฺติ กายํ อารมฺมณํ กตฺวา อนิจฺจาทิวเสน ปวตฺตํ กายารมฺมเณ าณํ. กายปริฺาติ กายํ าตตีรณปฺปหานปริฺาหิ ชานนวเสน ปวตฺตํ าณํ. ปริฺาสหคโต มคฺโคติ อชฺฌตฺติกํ กายํ สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิตมคฺโค ปริฺาสหคโต. กาเย ฉนฺทราคสฺส ปหานนฺติ กาเย ตณฺหาฉนฺทราคสฺส ปชหนํ. กายสงฺขารนิโรโธติ ¶ อสฺสาสปสฺสาสานํ นิโรโธ อาวรโณ, จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติสมาปชฺชนํ. วจีสงฺขารนิโรโธติ วิตกฺกวิจารานํ นิโรโธ อาวรโณ, ทุติยชฺฌานสมาปตฺติสมาปชฺชนํ. จิตฺตสงฺขารนิโรโธติ สฺาเวทนานํ นิโรโธ อาวรโณ, สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติสมาปชฺชนํ.
ปมคาถาย กายมุนินฺติอาทีสุ กายทุจฺจริตปฺปหานวเสน กายมุนิ. วจีทุจฺจริตปฺปหานวเสน วาจามุนิ. มโนทุจฺจริตปฺปหานวเสน มโนมุนิ. สพฺพากุสลปฺปหานวเสน อนาสวมุนิ. โมเนยฺยสมฺปนฺนนฺติ ชานิตพฺพํ ชานิตฺวา ผเล ิตตฺตา โมเนยฺยสมฺปนฺนํ. อาหุ สพฺพปฺปหายินนฺติ สพฺพกิเลเส ปชหิตฺวา ิตตฺตา สพฺพปฺปหายินํ กถยนฺติ.
ทุติยคาถาย ¶ นินฺหาตปาปกนฺติ โย อชฺฌตฺตพหิทฺธสงฺขาเต สพฺพสฺมิมฺปิ อายตเน อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณวเสน อุปฺปตฺติรหานิ สพฺพปาปกานิ มคฺคาเณน นินฺหาย โธวิตฺวา ิตตฺตา นินฺหาตปาปกํ อาหูติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อคารมชฺเฌ วสนฺตา อคารมุนิโน. ปพฺพชฺชุปคตา อนคารมุนิโน. ตตฺถ เสกฺขา เสกฺขมุนิโน. อรหนฺโต อเสกฺขมุนิโน. ปจฺเจกพุทฺธา ปจฺเจกมุนิโน. สมฺมาสมฺพุทฺธา มุนิมุนิโน.
ปุน กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาวเสน ‘‘กตเม อคารมุนิโน’’ติ อาห. อคาริกาติ กสิโครกฺขาทิอคาริกกมฺเม นิยุตฺตา. ทิฏฺปทาติ ทิฏฺนิพฺพานา ¶ . วิฺาตสาสนาติ วิฺาตํ สิกฺขตฺตยสาสนํ เอเตสนฺติ วิฺาตสาสนา. อนคาราติ กสิโครกฺขาทิอคาริยกมฺมํ เอเตสํ นตฺถีติ ปพฺพชิตา ‘‘อนคารา’’ติ วุจฺจนฺติ. สตฺต เสกฺขาติ โสตาปนฺนาทโย สตฺต. ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขนฺตีติ เสกฺขา. อรหนฺโต น สิกฺขนฺตีติ อเสกฺขา. ตํ ตํ การณํ ปฏิจฺจ เอกกาว อนาจริยกาว จตุสจฺจํ พุชฺฌิตวนฺโตติ ปจฺเจกพุทฺธา ปจฺเจกมุนิโน.
มุนิมุนิโน วุจฺจนฺติ ตถาคตาติ เอตฺถ อฏฺหิ การเณหิ ภควา ตถาคโต – ตถา อาคโตติ ตถาคโต, ตถา คโตติ ตถาคโต, ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต, ตถธมฺเม ยาถาวโต ¶ อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต, ตถทสฺสิตาย ตถาคโต, ตถวาทิตาย ตถาคโต, ตถาการิตาย ตถาคโต, อภิภวนฏฺเน ตถาคโตติ.
กถํ ภควา ตถา อาคโตติ ตถาคโต? ยถา สพฺพโลกหิตาย อุสฺสุกฺกมาปนฺนา ปุริมกา สมฺมาสมฺพุทฺธา อาคตา. กึ วุตฺตํ โหติ? เยนาภินีหาเรน ปุริมกา ภควนฺโต อาคตา, เตเนว อมฺหากมฺปิ ภควา อาคโต. อถ วา ยถา ปุริมกา ภควนฺโต ทานสีลเนกฺขมฺมปฺาวีริยขนฺติสจฺจาธิฏฺานเมตฺตุเปกฺขาสงฺขาตา ทส ปารมิโย ทส อุปปารมิโย ทส ปรมตฺถปารมิโยติ สมตึสปารมิโย ปูเรตฺวา องฺคปริจฺจาคํ นยนธนรชฺชปุตฺตทารปริจฺจาคนฺติ อิเม ปฺจ มหาปริจฺจาเค ปริจฺจชิตฺวา ปุพฺพโยคปุพฺพจริยธมฺมกฺขานาตตฺถจริยาทโย ปูเรตฺวา พุทฺธิจริยาย โกฏึ ปตฺวา อาคตา, ตถา อมฺหากมฺปิ ภควา อาคโต. ยถา จ ปุริมกา ภควนฺโต จตฺตาโร สติปฏฺาเน, จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเน, จตฺตาโร อิทฺธิปาเท, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺเค, อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวตฺวา ปูเรตฺวา อาคตา, ตถา อมฺหากมฺปิ ภควา อาคโต. เอวํ ตถา อาคโตติ ตถาคโต.
‘‘ยถา ¶ จ ทีปงฺกรพุทฺธอาทโย, สพฺพฺุภาวํ มุนโย อิธาคตา;
ตถา อยํ สกฺยมุนีปิ อาคโต, ตถาคโต วุจฺจติ เตน จกฺขุมา’’ติ.
กถํ ¶ ตถา คโตติ ตถาคโต? ยถา สมฺปติชาตา ปุริมกา ภควนฺโต คตา. กถฺจ เต คตา? เต หิ สมฺปติชาตา สเมหิ ปาเทหิ ปถวิยํ ปติฏฺาย อุตฺตราภิมุขา สตฺตปทวีติหาเรน คตา. ยถาห –
‘‘สมฺปติชาโต, อานนฺท, โพธิสตฺโต สเมหิ ปาเทหิ ปถวิยํ ปติฏฺหิตฺวา อุตฺตราภิมุโข สตฺตปทวีติหาเรน คจฺฉติ, เสตมฺหิ ฉตฺเต อนุธาริยมาเน สพฺพา จ ทิสา อนุวิโลเกติ, อาสภิฺจ วาจํ ภาสติ – ‘อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส, เชฏฺโหมสฺมิ โลกสฺส, เสฏฺโหมสฺมิ โลกสฺส, อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๑; ม. นิ. ๓.๒๐๗).
ตฺจสฺส คมนํ ตถํ อโหสิ อวิตถํ อเนเกสํ วิเสสาธิคมานํ ¶ ปุพฺพนิมิตฺตภาเวน. ยฺหิ โส สมฺปติชาโต สเมหิ ปาเทหิ ปติฏฺาติ, อิทมสฺส จตุริทฺธิปาทปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. อุตฺตรมุขภาโว ปนสฺส สพฺพโลกุตฺตรภาวสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. สตฺตปทวีติหาโร สตฺตโพชฺฌงฺครตนปฏิลาภสฺส. ‘‘สุวณฺณทณฺฑา วีติปตนฺติ จามรา’’ติ (สุ. นิ. ๖๙๓) เอตฺถ วุตฺตจามรุกฺเขโป ปน สพฺพติตฺถิยนิมฺมทนสฺส. เสตจฺฉตฺตธารณํ อรหตฺตวิมุตฺติวรวิมลเสตจฺฉตฺตปฏิลาภสฺส. สพฺพทิสานุวิโลกนํ สพฺพฺุตานาวรณาณปฏิลาภสฺส. อาสภิวาจาภาสนํ ปน อปฺปฏิวตฺติยวรธมฺมจกฺกปวตฺตนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ตถา อยํ ภควาปิ คโต. ตฺจสฺส คมนํ ตถํ อโหสิ อวิตถํ เตสํเยว วิเสสาธิคมานํ ปุพฺพนิมิตฺตภาเวน. เตนาหุ โปราณา –
‘‘มุหุตฺตชาโตว ควมฺปตี ยถา, สเมหิ ปาเทหิ ผุสี วสุนฺธรํ;
โส วิกฺกมี สตฺต ปทานิ โคตโม, เสตฺจ ฉตฺตํ อนุธารยุํ มรู.
‘‘คนฺตฺวาน โส สตฺต ปทานิ โคตโม, ทิสา วิโลเกสิ สมา สมนฺตโต;
อฏฺงฺคุเปตํ คิรมพฺภุทีรยิ, สีโห ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺิโต’’ติ. (ปฏิ. ม. อฏฺ. ๑.๑.๓๗; อิติวุ. อฏฺ. ๓๘);
อถ วา ยถา ปุริมกา ภควนฺโต, อยมฺปิ ภควา ตเถว เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺทํ…เป… ปมชฺฌาเนน นีวรเณ…เป… อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจสฺํ…เป… อรหตฺตมคฺเคน สพฺพกิเลเส ปหาย คโต, เอวมฺปิ ตถา คโตติ ตถาคโต.
กถํ ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต? ปถวีธาตุยา กกฺขฬตฺตลกฺขณํ ตถํ อวิตถํ, อาโปธาตุยา ปคฺฆรณลกฺขณํ, เตโชธาตุยา อุณฺหตฺตลกฺขณํ, วาโยธาตุยา วิตฺถมฺภนลกฺขณํ, อากาสธาตุยา อสมฺผุฏฺลกฺขณํ, วิฺาณธาตุยา วิชานนลกฺขณํ.
รูปสฺส ¶ รุปฺปนลกฺขณํ, เวทนาย เวทยิตลกฺขณํ, สฺาย สฺชานนลกฺขณํ, สงฺขารานํ อภิสงฺขรณลกฺขณํ, วิฺาณสฺส วิชานนลกฺขณํ.
วิตกฺกสฺส อภินิโรปนลกฺขณํ, วิจารสฺส อนุมชฺชนลกฺขณํ, ปีติยา ผรณลกฺขณํ, สุขสฺส สาตลกฺขณํ, จิตฺเตกคฺคตาย อวิกฺเขปลกฺขณํ, ผสฺสสฺส ผุสนลกฺขณํ.
สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิโมกฺขลกฺขณํ, วีริยินฺทฺริยสฺส ปคฺคหลกฺขณํ, สตินฺทฺริยสฺส อุปฏฺานลกฺขณํ, สมาธินฺทฺริยสฺส อวิกฺเขปลกฺขณํ, ปฺินฺทฺริยสฺส ปชานนลกฺขณํ.
สทฺธาพลสฺส อสฺสทฺธิเย อกมฺปิยลกฺขณํ, วีริยพลสฺส โกสชฺเช, สติพลสฺส มุฏฺสฺสจฺเจ, สมาธิพลสฺส อุทฺธจฺเจ, ปฺาพลสฺส อวิชฺชาย อกมฺปิยลกฺขณํ.
สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฏฺานลกฺขณํ, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ปวิจยลกฺขณํ, วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ปคฺคหลกฺขณํ, ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ผรณลกฺขณํ, ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปสมลกฺขณํ, สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อวิกฺเขปลกฺขณํ, อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ปฏิสงฺขานลกฺขณํ.
สมฺมาทิฏฺิยา ทสฺสนลกฺขณํ, สมฺมาสงฺกปฺปสฺส อภินิโรปนลกฺขณํ, สมฺมาวาจาย ปริคฺคหลกฺขณํ, สมฺมากมฺมนฺตสฺส สมุฏฺานลกฺขณํ, สมฺมาอาชีวสฺส โวทานลกฺขณํ, สมฺมาวายามสฺส ¶ ปคฺคหลกฺขณํ, สมฺมาสติยา อุปฏฺานลกฺขณํ, สมฺมาสมาธิสฺส อวิกฺเขปลกฺขณํ.
อวิชฺชาย ¶ อฺาณลกฺขณํ, สงฺขารานํ เจตนาลกฺขณํ, วิฺาณสฺส วิชานนลกฺขณํ, นามสฺส นมนลกฺขณํ, รูปสฺส รุปฺปนลกฺขณํ, สฬายตนสฺส อายตนลกฺขณํ, ผสฺสสฺส ผุสนลกฺขณํ, เวทนาย เวทยิตลกฺขณํ, ตณฺหาย เหตุลกฺขณํ, อุปาทานสฺส คหณลกฺขณํ, ภวสฺส อายูหนลกฺขณํ, ชาติยา นิพฺพตฺติลกฺขณํ, ชราย ชีรณลกฺขณํ, มรณสฺส จุติลกฺขณํ.
ธาตูนํ สฺุตลกฺขณํ, อายตนานํ อายตนลกฺขณํ, สติปฏฺานานํ อุปฏฺานลกฺขณํ, สมฺมปฺปธานานํ ปทหนลกฺขณํ, อิทฺธิปาทานํ อิชฺฌนลกฺขณํ, อินฺทฺริยานํ อธิปติลกฺขณํ, พลานํ อกมฺปิยลกฺขณํ, โพชฺฌงฺคานํ นิยฺยานลกฺขณํ, มคฺคสฺส เหตุลกฺขณํ.
สจฺจานํ ตถลกฺขณํ, สมถสฺส อวิกฺเขปลกฺขณํ, วิปสฺสนาย อนุปสฺสนาลกฺขณํ, สมถวิปสฺสนานํ เอกรสลกฺขณํ, ยุคนทฺธานํ อนติวตฺตนลกฺขณํ.
สีลวิสุทฺธิยา สํวรณลกฺขณํ, จิตฺตวิสุทฺธิยา อวิกฺเขปลกฺขณํ, ทิฏฺิวิสุทฺธิยา ทสฺสนลกฺขณํ, ขเย าณสฺส สมุจฺเฉทลกฺขณํ, อนุปฺปาเท าณสฺส ปสฺสทฺธิลกฺขณํ, ฉนฺทสฺส มูลลกฺขณํ.
มนสิการสฺส สมุฏฺานลกฺขณํ, ผสฺสสฺส ¶ สโมธานลกฺขณํ, เวทนาย สโมสรณลกฺขณํ, สมาธิสฺส ปมุขลกฺขณํ, สติยา อาธิปเตยฺยลกฺขณํ, ปฺาย ตตุตฺตริยลกฺขณํ, วิมุตฺติยา สารลกฺขณํ, อมโตคธสฺส นิพฺพานสฺส ปริโยสานลกฺขณํ ตถํ อวิตถํ, เอตํ ตถลกฺขณํ าณคติยา อาคโต อวิรชฺฌิตฺวา ปตฺโต อนุปฺปตฺโตติ ตถาคโต. เอวํ ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต.
กถํ ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต? ตถธมฺมา นาม จตฺตาริ อริยสจฺจานิ. ยถาห –
‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ตถานิ อวิตถานิ อนฺถานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ‘อิทํ ¶ ทุกฺข’นฺติ, ภิกฺขเว, ตถเมตํ อวิตถเมตํ อนฺถเมต’’นฺติ วิตฺถาโร (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๐).
ตานิ ¶ จ ภควา อภิสมฺพุทฺโธติ ตถานํ อภิสมฺพุทฺธตฺตา ตถาคโตติ วุจฺจติ. อภิสมฺพุทฺธตฺโถ หิ เอตฺถ คตสทฺโท.
อปิ จ ชรามรณสฺส ชาติปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตฏฺโ ตโถ อวิตโถ อนฺโถ…เป… สงฺขารานํ อวิชฺชาปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตฏฺโ ตโถ อวิตโถ อนฺโถ. ตถา อวิชฺชาย สงฺขารานํ ปจฺจยฏฺโ…เป… ชาติยา ชรามรณสฺส ปจฺจยฏฺโ ตโถ อวิตโถ อนฺโถ. ตํ สพฺพํ ภควา อภิสมฺพุทฺโธ, ตสฺสาปิ ตถานํ อภิสมฺพุทฺธตฺตา ตถาคโต. เอวํ ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต.
กถํ ตถทสฺสิตาย ตถาคโต? ภควา ยํ สเทวเก โลเก…เป… สเทวมนุสฺสาย ปชาย อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อปริมาณานํ สตฺตานํ จกฺขุทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉนฺตํ รูปารมฺมณํ นาม อตฺถิ, ตํ สพฺพากาเรน ชานาติ ปสฺสติ. เอวํ ชานตา ปสฺสตา จ เตน ตํ อิฏฺานิฏฺาทิวเสน วา ทิฏฺสุตมุตวิฺาเตสุ ลพฺภมานกปทวเสน วา ‘‘กตมํ ตํ รูปํ รูปายตนํ? ยํ รูปํ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย วณฺณนิภา สนิทสฺสนํ สปฺปฏิฆํ นีลํ ปีตก’’นฺติอาทินา (ธ. ส. ๖๑๖) นเยน อเนเกหิ นาเมหิ เตรสหิ วาเรหิ ทฺวิปฺาสาย นเยหิ วิภชฺชมานํ ตถเมว โหติ, วิตถํ นตฺถิ. เอส นโย โสตทฺวาราทีสุปิ อาปาถมาคจฺฉนฺเตสุ ¶ สทฺทาทีสุ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา –
‘‘ยํ, ภิกฺขเว, สเทวกสฺส โลกสฺส…เป… สเทวมนุสฺสาย ปชาย ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมหํ ชานามิ…เป… ตมหํ อพฺภฺาสึ. ตํ ตถาคตสฺส วิทิตํ, ตํ ตถาคโต น อุปฏฺาสี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔).
เอวํ ตถทสฺสิตาย ตถาคโต. ตตฺถ ตถทสฺสีอตฺเถ ตถาคโตติ ปทสมฺภโว เวทิตพฺโพ.
กถํ ตถวาทิตาย ตถาคโต? ยํ รตฺตึ ภควา โพธิมณฺเฑ อปราชิตปลฺลงฺเก นิสินฺโน จตุนฺนํ มารานํ มตฺถกํ มทฺทิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ, ยฺจ รตฺตึ ยมกสาลานมนฺตเร ¶ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิ, เอตฺถนฺตเร ปฺจจตฺตาลีสวสฺสปริมาเณ กาเล ¶ ปมโพธิยมฺปิ มชฺฌิมโพธิยมฺปิ ปจฺฉิมโพธิยมฺปิ ยํ ภควตา ภาสิตํ สุตฺตํ เคยฺยํ…เป… เวทลฺลํ. สพฺพํ ตํ อตฺถโต พฺยฺชนโต จ อนุปวชฺชํ อนูนมนธิกํ สพฺพาการปริปุณฺณํ ราคมทนิมฺมทนํ โทสโมหมทนิมฺมทนํ, นตฺถิ ตตฺถ วาลคฺคมตฺตมฺปิ ปกฺขลิตํ, สพฺพํ ตํ เอกมุทฺทิกาย ลฺฉิตํ วิย, เอกนาฬิยา มิตํ วิย, เอกตุลาย ตุลิตํ วิย จ ตถเมว โหติ อวิตถํ อนฺถํ. ยถาห –
‘‘ยฺจ, จุนฺท, รตฺตึ ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌติ, ยฺจ รตฺตึ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ, ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร ภาสติ ลปติ นิทฺทิสติ, สพฺพํ ตํ ตเถว โหติ โน อฺถา, ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๘๘).
คทอตฺโถ หิ เอตฺถ คตสทฺโท. เอวํ ตถวาทิตาย ตถาคโต.
อปิ จ อาคทนํ อาคโท, วจนนฺติ อตฺโถ. ตโถ อวิปรีโต อาคโท อสฺสาติ ทการสฺส ตการํ กตฺวา ตถาคโตติ เอวเมตสฺมึ อตฺเถ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา.
กถํ ตถาการิตาย ตถาคโต? ภควโต หิ วาจาย กาโย อนุโลเมติ, กายสฺสาปิ วาจา. ตสฺมา ยถาวาที ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที จ โหติ. เอวํภูตสฺส จสฺส ยถา วาจา ¶ , กาโยปิ ตถา คโต ปวตฺโตติ อตฺโถ. ยถา จ กาโย, วาจาปิ ตถา คตา ปวตฺตาติ ตถาคโต. เตเนวาห – ‘‘ยถาวาที, ภิกฺขเว, ตถาคโต ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที. อิติ ยถาวาที ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที. ‘ตสฺมา ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓). เอวํ ตถาการิตาย ตถาคโต.
กถํ อภิภวนฏฺเน ตถาคโต? อุปริ ภวคฺคํ เหฏฺา อวีจึ ปริยนฺตํ กตฺวา ติริยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ สพฺพสตฺเต อภิภวติ สีเลน สมาธินา ปฺาย วิมุตฺติยา วิมุตฺติาณทสฺสเนน, น ตสฺส ตุลา วา ปมาณํ วา อตฺถิ, อถ โข อตุโล อปฺปเมยฺโย อนุตฺตโร ราชาติราชา เทวานํ อติเทโว สกฺกานํ อติสกฺโก พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมา. เตนาห –
‘‘สเทวเก ¶ , ภิกฺขเว, โลเก…เป… สเทวมนุสฺสาย ปชาย ตถาคโต อภิภู อนภิภูโต ¶ อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี, ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓).
ตตฺเถวํ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา – อคโท วิย อคโท. โก ปเนส? เทสนาวิลาโส เจว ปฺุุสฺสโย จ. เตน เหส มหานุภาโว ภิสกฺโก ทิพฺพาคเทน สปฺเป วิย สพฺพปรปฺปวาทิโน สเทวกฺจ โลกํ อภิภวติ. อิติ สพฺพโลกาภิภวเน ตโถ อวิปรีโต เทสนาวิลาสมโย เจว ปฺุมโย จ อคโท อสฺสาติ ทการสฺส ตการํ กตฺวา ตถาคโตติ เวทิตพฺโพ. เอวํ อภิภวนฏฺเน ตถาคโต.
อปิ จ ตถาย คโตติปิ ตถาคโต, ตถํ คโตติปิ ตถาคโต. คโตติ อวคโต, อตีโต ปตฺโต ปฏิปนฺโนติ อตฺโถ. ตตฺถ สกลํ โลกํ ตีรณปริฺาย ตถาย คโต อวคโตติ ตถาคโต, โลกสมุทยํ ปหานปริฺาย ตถาย คโต อตีโตติ ตถาคโต, โลกนิโรธํ สจฺฉิกิริยาย ตถาย คโต ปตฺโตติ ตถาคโต, โลกนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ตถํ คโต ปฏิปนฺโนติ ตถาคโต. เตน ยํ วุตฺตํ ภควตา –
‘‘โลโก, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ, โลกสฺมา ตถาคโต วิสํยุตฺโต. โลกสมุทโย, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ, โลกสมุทโย ตถาคตสฺส ปหีโน. โลกนิโรโธ, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ, โลกนิโรโธ ตถาคตสฺส สจฺฉิกโต. โลกนิโรธคามินี ¶ ปฏิปทา, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา, โลกนิโรธคามินี ปฏิปทา ตถาคตสฺส ภาวิตา. ยํ, ภิกฺขเว, สเทวกสฺส โลกสฺส…เป… อนุวิจริตํ มนสา, สพฺพํ ตํ ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธํ. ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓).
ตสฺส ¶ เอวมฺปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิทมฺปิ จ ตถาคตสฺส ตถาคตภาวทีเปน มุขมตฺตเมว. สพฺพากาเรน ปน ตถาคโตว ตถาคตสฺส ตถาคตภาวํ วณฺเณยฺย. ยสฺมา ปน สพฺพพุทฺธา ตถาคตคุเณนาปิ สมสมา, ตสฺมา สพฺเพสํ วเสน ‘‘ตถาคตา’’ติ อาห.
อรหนฺโตติ กิเลเสหิ อารกตฺตา, อรีนํ อรานฺจ หตตฺตา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวา ตถาคโต อรหํ. อารกา หิ โส สพฺพกิเลเสหิ สุวิทูรวิทูเร ิโต มคฺเคน สวาสนานํ กิเลสานํ วิทฺธํสิตตฺตาติ อารกตฺตา อรหํ.
‘‘โส ¶ ตโต อารกา นาม, ยสฺส เยนาสมงฺคิตา;
อสมงฺคี จ โทเสหิ, นาโถ เตนารหํ มโต’’.
เต จาเนน กิเลสารโย มคฺเคน หตาติ อรีนํ หตตฺตาปิ อรหํ.
‘‘ยสฺมา ราคาทิสงฺขาตา, สพฺเพปิ อรโย หตา;
ปฺาสตฺเถน นาเถน, ตสฺมาปิ อรหํ มโต’’.
ยฺเจตํ อวิชฺชาภวตณฺหามยนาภึ ปฺุาทิอภิสงฺขารานํ ชรามรณเนมึ อาสวสมุทยมเยน อกฺเขน วิชฺฌิตฺวา ติภวรเถ สมาโยชิตํ อนาทิกาลปฺปวตฺตํ สํสารจกฺกํ, ตสฺสาเนน โพธิมณฺเฑ วีริยปาเทหิ สีลปถวิยํ ปติฏฺาย สทฺธาหตฺเถน กมฺมกฺขยกรํ าณผรสุํ คเหตฺวา สพฺเพ อรา หตาติ อรหํ.
‘‘อรา สํสารจกฺกสฺส, หตา าณาสินา ยโต;
โลกนาเถน เตเนส, ‘อรห’นฺติ ปวุจฺจติ’’.
อคฺคทกฺขิเณยฺยตฺตา ¶ จ จีวราทิปจฺจเย อรหติ ปูชาวิเสสฺจ, เตเนว จ อุปฺปนฺเน ตถาคเต เย เกจิ มเหสกฺขา เทวมนุสฺสา, น เต อฺตฺถ ปูชํ กโรนฺติ. ตถา หิ พฺรหฺมา สหมฺปติ สิเนรุมตฺเตน รตนทาเมน ตถาคตํ ปูเชสิ, ยถาพลฺจ อฺเ เทวา จ มนุสฺสา จ พิมฺพิสารโกสลราชาทโย. ปรินิพฺพุตมฺปิ จ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส ฉนฺนวุติโกฏิธนํ วิสฺสชฺเชตฺวา อโสกมหาราชา สกลชมฺพุทีเป จตุราสีติวิหารสหสฺสานิ ปติฏฺาเปสิ. โก ปน วาโท อฺเสํ ปูชาวิเสสานนฺติ ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตาปิ อรหํ.
‘‘ปูชาวิเสสํ ¶ สห ปจฺจเยหิ, ยสฺมา อยํ อรหติ โลกนาโถ;
อตฺถานุรูปํ อรหนฺติ โลเก, ตสฺมา ชิโน อรหติ นามเมตํ’’.
ยถา จ โลเก เย เกจิ ปณฺฑิตมานิโน พาลา อสิโลกภเยน รโห ปาปํ กโรนฺติ, เอวเมส น กทาจิ ปาปํ กโรตีติ ปาปกรเณ รหาภาวโตปิ อรหํ.
‘‘ยสฺมา นตฺถิ รโห นาม, ปาปกมฺเมสุ ตาทิโน;
รหาภาเวน เตเนส, อรหํ อิติ วิสฺสุโต’’.
เอวํ ¶ สพฺพถาปิ –
‘‘อารกตฺตา หตตฺตา จ, กิเลสารีน โส มุนิ;
หตสํสารจกฺกาโร, ปจฺจยาทีน จารโห;
น รโห กโรติ ปาปานิ, อรหํ เตน วุจฺจตี’’ติ.
ยสฺมา ปน สพฺเพ พุทฺธา อรหตฺตคุเณนาปิ สมสมา, ตสฺมา สพฺเพสมฺปิ วเสน ‘‘อรหนฺโต’’ติ อาห. สมฺมาสมฺพุทฺธาติ สมฺมา สามฺจ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺโธ. ตถา เหส สพฺพธมฺเม สมฺมาสมฺพุทฺโธ, อภิฺเยฺเย ธมฺเม อภิฺเยฺยโต, ปริฺเยฺเย ธมฺเม ปริฺเยฺยโต, ปหาตพฺเพ ธมฺเม ปหาตพฺพโต, สจฺฉิกาตพฺเพ ธมฺเม สจฺฉิกาตพฺพโต, ภาเวตพฺเพ ธมฺเม ภาเวตพฺพโต. เตเนวาห –
‘‘อภิฺเยฺยํ ¶ อภิฺาตํ, ภาเวตพฺพฺจ ภาวิตํ;
ปหาตพฺพํ ปหีนํ เม, ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ พฺราหฺมณา’’ติ. (สุ. นิ. ๕๖๓; ม. นิ. ๒.๓๙๙);
อถ วา จกฺขุ ทุกฺขสจฺจํ, ตสฺส มูลการณภาเวน สมุฏฺาปิกา ปุริมตณฺหา สมุทยสจฺจํ, อุภินฺนํ อปฺปวตฺติ นิโรธสจฺจํ, นิโรธปชานนา ปฏิปทา มคฺคสจฺจนฺติ เอวํ เอเกกปทุทฺธาเรนาปิ สพฺพธมฺเม สมฺมา สามฺจ พุทฺโธ. เอส นโย โสตฆานชิวฺหากายมเนสุ. เอเตเนว จ นเยน รูปาทีนิ ฉ อายตนานิ, จกฺขุวิฺาณาทโย ฉ วิฺาณกายา, จกฺขุสมฺผสฺสาทโย ฉ ผสฺสา, จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนาทโย ฉ เวทนา, รูปสฺาทโย ¶ ฉ สฺา, รูปสฺเจตนาทโย ฉ เจตนา, รูปตณฺหาทโย ฉ ตณฺหากายา, รูปวิตกฺกาทโย ฉ วิตกฺกา, รูปวิจาราทโย ฉ วิจารา, รูปกฺขนฺธาทโย ปฺจกฺขนฺธา, ทส กสิณานิ, ทส อนุสฺสติโย, อุทฺธุมาตกสฺาทิวเสน ทส สฺา, เกสาทโย ทฺวตฺตึสาการา, ทฺวาทสายตนานิ, อฏฺารส ธาตุโย, กามภวาทโย นว ภวา, ปมาทีนิ จตฺตาริ ฌานานิ, เมตฺตาภาวนาทโย จตสฺโส อปฺปมฺาโย, จตสฺโส อรูปสมาปตฺติโย, ปฏิโลมโต ชรามรณาทีนิ, อนุโลมโต อวิชฺชาทีนิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานิ จ โยเชตพฺพานิ.
ตตฺรายํ เอกปทโยชนา – ชรามรณํ ทุกฺขสจฺจํ, ชาติ สมุทยสจฺจํ, อุภินฺนํ นิสฺสรณํ นิโรธสจฺจํ, นิโรธปชานนา ปฏิปทา มคฺคสจฺจนฺติ เอวํ เอเกกปทุทฺธาเรน สพฺพธมฺเม สมฺมา สามฺจ ¶ พุทฺโธ อนุพุทฺโธ ปฏิวิทฺโธ. ยํ วา ปน กิฺจิ อตฺถิ เนยฺยํ นาม, สพฺพสฺส สมฺมา สมฺพุทฺธตฺตา วิโมกฺขนฺติกาณวเสน สมฺมาสมฺพุทฺโธ. เตสํ ปน วิภาโค อุปริ อาวิ ภวิสฺสติ. ยสฺมา ปน สพฺพพุทฺธา สมฺมาสมฺพุทฺธคุเณนาปิ สมสมา, ตสฺมา สพฺเพสมฺปิ วเสน ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธา’’ติ อาห.
โมเนนาติ กามฺหิ โมเนยฺยปฏิปทาสงฺขาเตน มคฺคาณโมเนน มุนิ นาม โหติ, อิธ ปน ตุณฺหีภาวํ สนฺธาย ‘‘น โมเนนา’’ติ วุตฺตํ. มูฬฺหรูโปติ ตุจฺฉรูโป. อวิทฺทสูติ ¶ อวิฺู. เอวรูโป หิ ตุณฺหีภูโตปิ มุนิ นาม น โหติ. อถ วา โมเนยฺยมุนิ นาม น โหติ, ตุจฺฉภาโว จ ปน อฺาณี จ โหตีติ อตฺโถ. โย จ ตุลํว ปคฺคยฺหาติ ยถา หิ ตุลํ คเหตฺวา ิโต อติเรกํ เจ โหติ, หรติ, อูนํ เจ โหติ, ปกฺขิปติ; เอวเมว โส อติเรกํ หรนฺโต วิย ปาปํ หรติ ปริวชฺเชติ, อูนเก ปกฺขิปนฺโต วิย กุสลํ ปริปูเรติ. เอวฺจ ปน กโรนฺโต สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนสงฺขาตํ วรํ อุตฺตมเมว อาทาย ปาปานิ อกุสลกมฺมานิ ปริวชฺเชติ ส มุนิ นามาติ อตฺโถ. เตน โส มุนีติ กสฺมา ปน โส มุนีติ เจ? ยํ เหฏฺา วุตฺตการณํ, เตน โส มุนีติ อตฺโถ. โย มุนาติ อุโภ โลเกติ โย ปุคฺคโล อิมสฺมึ ขนฺธาทิโลเก ตุลํ อาโรเปตฺวา มินนฺโต วิย ‘‘อิเม อชฺฌตฺติกา ขนฺธา, อิเม พาหิรา’’ติอาทินา นเยน อิเม ¶ อุโภ อตฺเถ มุนาติ. มุนิ เตน ปวุจฺจตีติ เตน ปน การเณน ‘‘มุนี’’ติ วุจฺจติเยวาติ อตฺโถ.
อสตฺจาติ คาถาย อยํ สงฺเขปตฺโถ – ยฺวายํ อกุสลกุสลปฺปเภโท, อสตฺจ สตฺจ ธมฺโม, ตํ ‘‘อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา’’ติ อิมสฺมึ สพฺพโลเก ปวิจยาเณน อสตฺจ สตฺจ ตฺวา ธมฺมํ. ตสฺส าตตฺตา เอว, ราคาทิเภทโต สตฺตวิธํ สงฺคํ ตณฺหาทิฏฺิเภทโต ทุวิธํ ชาลฺจ อติจฺจ อติกฺกมิตฺวา ิโต, โส เตน โมนสงฺขาเตน ปวิจยาเณน สมนฺนาคตตฺตา มุนิ. เทวมนุสฺเสหิ ปูชิโตติ อิทํ ปนสฺส ถุติวจนํ. โส หิ ขีณาสวมุนิตฺตา เทวมนุสฺสานํ ปูชารโห โหติ, ตสฺมา เอวํ วุตฺโตติ.
สลฺลนฺติ มูลปทํ. สตฺต สลฺลานีติ คณนปริจฺเฉโท. ราคสลฺลนฺติ รฺชนฏฺเน ราโค จ ปีฬาชนกตาย อนฺโตตุทนตาย ทุนฺนีหรณตาย สลฺลฺจาติ ราคสลฺลํ. โทสสลฺลาทีสุปิ เอเสว นโย. อพฺพูฬฺหสลฺโลติ มูลปทํ. อพฺพหิตสลฺโลติ นีหฏสลฺโล. อุทฺธตสลฺโลติ อุทฺธํ หฏสลฺโล อุทฺธริตสลฺโล. สมุทฺธตสลฺโลติ อุปสคฺควเสน วุตฺโต. อุปฺปาฏิตสลฺโลติ ลฺุจิตสลฺโล. สมุปฺปาฏิตสลฺโลติ อุปสคฺควเสเนว.
สกฺกจฺจการีติ ¶ ¶ ทานาทีนํ กุสลธมฺมานํ ภาวนาย ปุคฺคลสฺส วา เทยฺยธมฺมสฺส วา สกฺกจฺจกรณวเสน สกฺกจฺจการี. สตตภาวกรเณน สาตจฺจการี. อฏฺิตกรเณน อฏฺิตการี. ยถา นาม กกณฺฏโก โถกํ คนฺตฺวา โถกํ ติฏฺติ, น นิรนฺตรํ คจฺฉติ; เอวเมว โย ปุคฺคโล เอกทิวสํ ทานํ ทตฺวา ปูชํ วา กตฺวา ธมฺมํ วา สุตฺวา สมณธมฺมํ วา กตฺวา ปุน จิรสฺสํ กโรติ, ตํ น นิรนฺตรํ ปวตฺเตติ. โส ‘‘อสาตจฺจการี, อนฏฺิตการี’’ติ วุจฺจติ. อยํ เอวํ น กโรตีติ อฏฺิตการี. อโนลีนวุตฺติโกติ นิรนฺตรกรณสงฺขาตสฺส วิปฺผารสฺส ภาเวน น ลีนวุตฺติโกติ อโนลีนวุตฺติโก. อนิกฺขิตฺตจฺฉนฺโทติ กุสลกรเณ วีริยจฺฉนฺทสฺส อนิกฺขิตฺตภาเวน อนิกฺขิตฺตจฺฉนฺโท. อนิกฺขิตฺตธุโรติ วีริยธุรสฺส อโนโรปเนน อนิกฺขิตฺตธุโร, อโนสกฺกิตมานโสติ อตฺโถ. โย ตตฺถ ฉนฺโท จ วายาโม จาติ โย เตสุ กุสลธมฺเมสุ กตฺตุกมฺยตาธมฺมจฺฉนฺโท จ ปยตฺตสงฺขาโต วายาโม จ. อุสฺสหนวเสน ¶ อุสฺสาโห จ. อธิมตฺตุสฺสหนวเสน อุสฺโสฬฺหี จ. วายาโม เจโส ปารํ คมนฏฺเน. อุสฺสาโห เจโส ปุพฺพงฺคมนฏฺเน. อุสฺโสฬฺหี เจโส อธิมตฺตฏฺเน. อปฺปฏิวานิ จาติ อนิวตฺตนา จ. สติ จ สมฺปชฺนฺติ สรตีติ สติ. สมฺปชานาตีติ สมฺปชฺํ, สมนฺตโต ปกาเรหิ ชานาตีติ อตฺโถ. สาตฺถกสมฺปชฺํ สปฺปายสมฺปชฺํ โคจรสมฺปชฺํ อสมฺโมหสมฺปชฺนฺติ อิมสฺส สมฺปชานสฺส วเสน เภโท เวทิตพฺโพ. อาตปฺปนฺติ กิเลสตาปนวีริยํ. ปธานนฺติ อุตฺตมวีริยํ. อธิฏฺานนฺติ กุสลกรเณ ปติฏฺาภาโว. อนุโยโคติ อนุยฺุชนํ. อปฺปมาโทติ นปฺปมชฺชนํ, สติยา อวิปฺปวาโส.
อิมํ โลกํ นาสีสตีติ มูลปทํ. สกตฺตภาวนฺติ อตฺตโน อตฺตภาวํ. ปรตฺตภาวนฺติ ปรโลเก อตฺตภาวํ. สกรูปเวทนาทโย อตฺตโน ปฺจกฺขนฺเธ, ปรรูปเวทนาทโย จ ปรโลเก ปฺจกฺขนฺเธ. กามธาตุนฺติ กามภวํ. รูปธาตุนฺติ รูปภวํ. อรูปธาตุนฺติ อรูปภวํ. ปุน รูปารูปวเสน ทุกํ ¶ ทสฺเสตุํ กามธาตุํ รูปธาตุํ เอกํ กตฺวา, อรูปธาตุํ เอกํ กตฺวา วุตฺตํ. คตึ วาติ ปติฏฺานวเสน ปฺจคติ วุตฺตา. อุปปตฺตึ วาติ นิพฺพตฺติวเสน จตุโยนิ วุตฺตา. ปฏิสนฺธึ วาติ ติณฺณํ ภวานํ ฆฏนวเสน ปฏิสนฺธิ วุตฺตา. ภวํ วาติ กมฺมภววเสน. สํสารํ วาติ ขนฺธาทีนํ อพฺโพจฺฉินฺนวเสน. วฏฺฏํ วาติ เตภูมกวฏฺฏํ นาสีสตีติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย
คุหฏฺกสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ทุฏฺฏฺกสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๑๕. ทุฏฺฏฺเก ¶ ¶ ปมคาถายํ ตาว ตตฺถ วทนฺตีติ ภควนฺตํ ภิกฺขุสงฺฆฺจ อุปวทนฺติ. ทุฏฺมนาปิ เอเก, อโถปิ เว สจฺจมนาติ เอกจฺเจ ทุฏฺจิตฺตา, เอกจฺเจ ตถสฺิโนปิ หุตฺวา ติตฺถิยา ตุฏฺจิตฺตา, เย เตสํ สุตฺวา สทฺทหึสุ, เต สจฺจมนาติ อธิปฺปาโย. วาทฺจ ชาตนฺติ เอตํ อกฺโกสวาทํ อุปฺปนฺนํ. มุนิ โน อุเปตีติ อการกตาย จ อกุปฺปนตาย จ พุทฺธมุนิ น อุเปติ. ตสฺมา มุนี นตฺถิ ขิโล กุหิฺจีติ เตน การเณน อยํ มุนิ, ราคาทิขิเลหิ นตฺถิ ขิโล กุหิฺจีติ เวทิตพฺโพ.
ทุฏฺมนาติ ¶ อุปฺปนฺเนหิ โทเสหิ ทูสิตจิตฺตา. วิรุทฺธมนาติ เตหิ กิเลเสหิ กุสลสฺส ทฺวารํ อทตฺวา อาวริตจิตฺตา. ปฏิวิรุทฺธมนาติ อุปสคฺควเสน ปทํ วฑฺฒิตํ. อาหตมนาติ ปฏิเฆน อาหตํ จิตฺตํ เอเตสนฺติ อาหตมนา. ปจฺจาหตมนาติ อุปสคฺควเสเนว. อาฆาติตมนาติ วิหึสาวเสน อาฆาติตํ มนํ เอเตสนฺติ อาฆาติตมนา. ปจฺจาฆาติตมนาติ อุปสคฺควเสเนว. อถ วา ‘‘โกธวเสน ทุฏฺมนา, อุปนาหวเสน ปทุฏฺมนา, มกฺขวเสน วิรุทฺธมนา, ปฬาสวเสน ปฏิวิรุทฺธมนา, โทสวเสน อาหตปจฺจาหตมนา, พฺยาปาทวเสน อาฆาติตปจฺจาฆาติตมนา. ปจฺจยานํ อลาเภน ทุฏฺมนา ปทุฏฺมนา, อยเสน วิรุทฺธมนา ปฏิวิรุทฺธมนา, ครเหน อาหตปจฺจาหตมนา, ทุกฺขเวทนาสมงฺคีภาเวน อาฆาติตปจฺจาฆาติตมนา’’ติ เอวมาทินา นเยน เอเก วณฺณยนฺติ. อุปวทนฺตีติ ครหํ อุปฺปาเทนฺติ. อภูเตนาติ อสํวิชฺชมาเนน.
สทฺทหนฺตาติ ปสาทวเสน สทฺธํ อุปฺปาเทนฺตา. โอกปฺเปนฺตาติ ¶ คุณวเสน โอตริตฺวา อวกปฺปยนฺตา. อธิมุจฺจนฺตาติ สมฺปสาทนวเสน สนฺนิฏฺานํ กตฺวา เตสํ กถํ อธิวาเสนฺตา. สจฺจมนาติ ตจฺฉมนา. สจฺจสฺิโนติ ตจฺฉสฺิโน. ตถมนาติ อวิปรีตมนา. ภูตมนาติ ภูตตฺถมนา. ยาถาวมนาติ นิจฺจลมนา. อวิปรีตมนาติ นิจฺฉยมนา. ตตฺถ ‘‘สจฺจมนา ¶ สจฺจสฺิโน’’ติ สจฺจวาทิคุณํ, ‘‘ตถมนา ตถสฺิโน’’ติ สจฺจสทฺธาคุณํ, ‘‘ภูตมนา ภูตสฺิโน’’ติ ิตคุณํ, ‘‘ยาถาวมนา ยาถาวสฺิโน’’ติ ปจฺจยิกคุณํ, ‘‘อวิปรีตมนา อวิปรีตสฺิโน’’ติ อวิสํวาทคุณํ กถิตนฺติ าตพฺพํ.
ปรโตโฆโสติ อฺเสํ สนฺติกา อุปฺปนฺนสทฺโท. อกฺโกโสติ ชาติอาทีสุ ทสสุ อกฺโกเสสุ อฺตโร. โย วาทํ อุเปตีติ โย ปุคฺคโล อุปวาทํ อุปคจฺฉติ. การโก วาติ กตโทโส วา. การกตายาติ โทสสฺส กตภาเวน วุจฺจมาโนติ กถิยมาโน. อุปวทิยมาโนติ โทสํ อุปวชฺชมาโน. กุปฺปตีติ โกปํ กโรติ.
ขีลชาตตาปิ ¶ นตฺถีติ จิตฺตพนฺธภาวจิตฺตกจวรภาวสงฺขาตํ ปฏิฆขิลํ ชาตํ อสฺสาติ ขิลชาโต, ตสฺส ภาโว ขิลชาตตา, ตาปิ นตฺถิ น สนฺติ. ปฺจปิ เจโตขิลาติ กาเม อวีตราโค, กาเย อวีตราโค, รูเป อวีตราโค, ยาวทตฺถํ อุทราวเทหกํ ภฺุชิตฺวา เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุตฺโต วิหรติ, อฺตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยํ จรติ ‘‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ, เทวฺตโร วา’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๘๖) เอวรูปา ปฺจปิ จิตฺตสฺส พนฺธภาวกจวรภาวสงฺขาตา เจโตขิลา นตฺถิ.
๑๖. อิมฺจ คาถํ วตฺวา ภควา อานนฺทตฺเถรํ ปุจฺฉิ – ‘‘เอวํ ขุํเสตฺวา วมฺเภตฺวา วุจฺจมานา ภิกฺขู, อานนฺท, กึ ¶ วทนฺตี’’ติ, ‘‘น กิฺจิ ภควา’’ติ. ‘‘น, อานนฺท, ‘อหํ สีลวา’ติ สพฺพตฺถ ตุณฺหี ภวิตพฺพํ. โลเก หิ นาภาสมานํ ชานนฺติ, มิสฺสํ พาเลหิ ปณฺฑิต’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๒๔๑) วตฺวา ‘‘ภิกฺขู, อานนฺท, เต มนุสฺเส เอวํ ปฏิโจเทนฺตู’’ติ ธมฺมเทสนตฺถาย ‘‘อภูตวาที นิรยํ อุเปตี’’ติ (ธ. ป. ๓๐๖; อุทา. ๓๘; อิติวุ. ๔๘; สุ. นิ. ๖๖๖) อิมํ คาถํ อภาสิ. เถโร ตํ อุคฺคเหตฺวา ภิกฺขู อาห – ‘‘มนุสฺสา ตุมฺเหหิ อิมาย คาถาย ปฏิโจเทตพฺพา’’ติ. ภิกฺขู ตถา อกํสุ. ปณฺฑิตมนุสฺสา ตุณฺหี อเหสุํ. ราชาปิ ราชปุริเส สพฺพตฺถ เปเสตฺวา เยสํ ธุตฺตานํ ลฺชํ ทตฺวา ติตฺถิยา ตํ มาราเปสุํ, เต คเหตฺวา นิคฺคยฺห ตํ ปวตฺตึ ตฺวา ติตฺถิเย ปริภาสิ. มนุสฺสาปิ ติตฺถิเย ทิสฺวา เลฑฺฑุนา หนนฺติ, ปํสุนา โอกิรนฺติ ‘‘ภควโต อยสํ อุปฺปาเทสุ’’นฺติ. อานนฺทตฺเถโร ตํ ทิสฺวา ภควโต อาโรเจสิ, ภควา เถรสฺส อิมํ คาถมภาสิ ‘‘สกฺหิ ทิฏฺึ…เป… วเทยฺยา’’ติ.
ตสฺส ¶ อตฺโถ – ยายํ ทิฏฺิ ติตฺถิยชนสฺส ‘‘สุนฺทรึ มาเรตฺวา สมณานํ สกฺยปุตฺติยานํ อวณฺณํ ปกาเสตฺวา เอเตนุปาเยน ลทฺธํ สกฺการํ สาทิยิสฺสามา’’ติ โส ตํ ทิฏฺึ กถํ อติกฺกเมยฺย? อถ โข โส อยโส ตเมว ติตฺถิยชนํ ปจฺจาคโต ตํ ทิฏฺึ อจฺเจตุํ อสกฺโกนฺตํ. โย วา สสฺสตาทิวาที, โสปิ สกํ ทิฏฺึ กถมจฺจเยยฺย, เตน ทิฏฺิฉนฺเทน อนุนีโต ตาย จ ทิฏฺิรุจิยา นิวิฏฺโ, อปิ จ โข ปน สยํ สมตฺตานิ ปกุพฺพมาโน อตฺตนาว ปริปุณฺณานิ ตานิ ทิฏฺิคตานิ กโรนฺโต ยถา ชาเนยฺย, ตเถว วเทยฺยาติ.
อวณฺณํ ¶ ปกาสยิตฺวาติ อคุณํ ปากฏํ กตฺวา. สกฺการนฺติ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ สกฺกจฺจกรณํ. สมฺมานนฺติ จิตฺเตน พหุมานนํ. ปจฺจาหริสฺสามาติ เอตํ ลาภาทึ นิพฺพตฺเตสฺสาม. เอวํทิฏฺิกาติ เอวํลทฺธิกา. ยถา ตํ ‘‘ลาภาทึ นิพฺพตฺเตสฺสามา’’ติ เอวํ อยํ ลทฺธิ เตสํ อตฺถิ, ตถา ‘‘อตฺถิ เม วุตฺตปฺปกาโร ธมฺโม’’ติ เอเตสํ ขมติ เจว รุจฺจติ จ, เอวํสภาวเมว วา เตสํ จิตฺตํ ‘‘อตฺถิ เม จิตฺต’’นฺติ. ตทา เตสํ ทิฏฺิ วา, ทิฏฺิยา ¶ สห ขนฺติ วา, ทิฏฺิขนฺตีหิ สทฺธึ รุจิ วา, ทิฏฺิขนฺติรุจีหิ สทฺธึ ลทฺธิ วา, ทิฏฺิขนฺติรุจิลทฺธีหิ สทฺธึ อชฺฌาสโย วา, ทิฏฺิขนฺติรุจิลทฺธิอชฺฌาสเยหิ สทฺธึ อธิปฺปาโย วา โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอวํทิฏฺิกา…เป… เอวํอธิปฺปายา’’ติ อาห. สกํ ทิฏฺินฺติ อตฺตโน ทสฺสนํ. สกํ ขนฺตินฺติ อตฺตโน สหนํ. สกํ รุจินฺติ อตฺตโน รุจึ. สกํ ลทฺธินฺติ อตฺตโน ลทฺธึ. สกํ อชฺฌาสยนฺติ อตฺตโน อชฺฌาสยํ. สกํ อธิปฺปายนฺติ อตฺตโน ภาวํ. อติกฺกมิตุนฺติ สมติกฺกมิตุํ. อถ โข สฺเวว อยโสติ โส เอว อยโส เอกํเสน. เต ปจฺจาคโตติ เตสํ ปติอาคโต. เตติ สามิอตฺเถ อุปโยควจนํ.
อถ วาติ อตฺถนฺตรทสฺสนํ. สสฺสโตติ นิจฺโจ ธุโว. โลโกติ อตฺตภาโว. อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺนฺติ อิทํ เอว ตจฺฉํ ตถํ, อฺํ ตุจฺฉํ. สมตฺตาติ สมฺปุณฺณา. สมาทินฺนาติ สมฺมา อาทินฺนา. คหิตาติ อุปคนฺตฺวา คหิตา.
ปรามฏฺาติ สพฺพากาเรน ปรามสิตฺวา คหิตา. อภินิวิฏฺาติ วิเสเสน ลทฺธปฺปติฏฺา. อสสฺสโตติ วุตฺตวิปริยาเยน เวทิตพฺโพ.
อนฺตวาติ สอนฺโต. อนนฺตวาติ วุทฺธิอนนฺตวา. ตํ ชีวนฺติ โส ชีโว, ลิงฺควิปลฺลาโส กโต. ชีโวติ จ อตฺตาเยว. ตถาคโตติ สตฺโต, ‘‘อรห’’นฺติ เอเก. ปรํ มรณาติ มรณโต อุทฺธํ, ปรโลเกติ อตฺโถ. น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ มรณโต อุทฺธํ น ¶ โหติ. โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ มรณโต อุทฺธํ โหติ จ น โหติ จ. เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ อุจฺเฉทวเสน เนว โหติ, ตกฺกิกวเสน น น โหติ.
สกาย ¶ ทิฏฺิยาติอาทโย กรณวจนํ. อลฺลีโนติ เอกีภูโต.
สยํ สมตฺตํ กโรตีติ อตฺตนา อูนภาวํ โมเจตฺวา สมฺมา อตฺตํ สมตฺตํ กโรติ. ปริปุณฺณนฺติ อติเรกโทสํ โมเจตฺวา สมฺปุณฺณํ. อโนมนฺติ หีนโทสํ โมเจตฺวา อลามกํ. อคฺคนฺติ อาทึ. เสฏฺนฺติ ปธานํ นิทฺโทสํ. วิเสสนฺติ เชฏฺกํ ¶ . ปาโมกฺขนฺติ อธิกํ. อุตฺตมนฺติ วิเสสํ น เหฏฺิมํ. ปวรํ กโรตีติ อติเรเกน อุตฺตมํ กโรติ. อถ วา ‘‘อาสยโทสโมจเนน อคฺคํ, สํกิเลสโทสโมจเนน เสฏฺํ, อุปกฺกิเลสโทสโมจเนน วิเสสํ, ปมตฺตโทสโมจเนน ปาโมกฺขํ, มชฺฌิมโทสโมจเนน อุตฺตมํ, อุตฺตมมชฺฌิมโทสโมจเนน ปวรํ กโรตี’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. อยํ สตฺถา สพฺพฺูติ อยํ อมฺหากํ สตฺถา สพฺพชานนวเสน สพฺพฺู. อยํ ธมฺโม สฺวากฺขาโตติ อยํ อมฺหากํ ธมฺโม สุฏฺุ อกฺขาโต. อยํ คโณ สุปฺปฏิปนฺโนติ อยํ อมฺหากํ คโณ สุฏฺุ ปฏิปนฺโน. อยํ ทิฏฺิ ภทฺทิกาติ อยํ อมฺหากํ ลทฺธิ สุนฺทรา. อยํ ปฏิปทา สุปฺตฺตาติ อยํ อมฺหากํ ปุพฺพภาคา อตฺตนฺต ปาทิปฏิปทา สุฏฺุ ปฺตฺตา. อยํ มคฺโค นิยฺยานิโกติ อยํ อมฺหากํ นิยฺยาโมกฺกนฺติโก มคฺโค นิยฺยานิโกติ สยํ สมตฺตํ กโรติ.
กเถยฺย ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติ. ภเณยฺย ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. ทีเปยฺย ‘‘อนฺตวา โลโก’’ติ. โวหเรยฺย นานาวิเธน คณฺหาเปยฺย ‘‘โหติ จ น จ โหตี’’ติ.
๑๗. อถ ราชา สตฺตาหจฺจเยน ตํ กุณปํ ฉฑฺฑาเปตฺวา สายนฺหสมยํ วิหารํ คนฺตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา อาห – ‘‘นนุ, ภนฺเต, อีทิเส อยเส อุปฺปนฺเน มยฺหมฺปิ อาโรเจตพฺพํ สิยา’’ติ? เอวํ วุตฺเต ภควา ‘‘น, มหาราช, ‘อหํ สีลวา คุณสมฺปนฺโน’ติ ปเรสํ อาโรเจตุํ อริยานํ ปฏิรูป’’นฺติ วตฺวา ตสฺสา อฏฺุปฺปตฺติยา ‘‘โย อตฺตโน สีลวตานีติ อวเสสคาถาโย อภาสิ.
ตตฺถ สีลวตานีติ ปาติโมกฺขาทีนิ สีลานิ, อารฺิกาทีนิ ธุตงฺควตานิ จ. อนานุปุฏฺโติ อปุจฺฉิโต. ปาวาติ วทติ. อนริยธมฺมํ กุสลา ตมาหุ, โย อาตุมานํ สยเมว ปาวาติ ¶ โย เอวํ อตฺตานํ ¶ สยเมว วทติ, ตสฺส ตํ วาทํ ‘‘อนริยธมฺโม เอโส’’ติ กุสลา เอวํ กเถนฺติ.
อตฺถิ สีลฺเจว วตฺจาติ สีลนฏฺเน สีลฺเจว อตฺถิ, สมาทานฏฺเน วตฺจ อตฺถิ, วตํ น สีลนฺติ วุตฺตตฺเถน วตํ อตฺถิ, ตํ น สีลํ. กตมนฺติ ¶ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. อิธ ภิกฺขุ สีลวาติอาทโย วุตฺตนยา เอว. สํวรฏฺเนาติ สํวรณฏฺเน, วีติกฺกมทฺวารํ ปิทหนฏฺเน. สมาทานฏฺเนาติ ตํ ตํ สิกฺขาปทํ สมฺมา อาทานฏฺเน. อารฺิกงฺคนฺติ อรฺเ นิวาโส สีลํ อสฺสาติ อารฺิโก, ตสฺส องฺคํ อารฺิกงฺคํ. ปิณฺฑปาติกงฺคนฺติ ภิกฺขาสงฺขาตานํ ปรอามิสปิณฺฑานํ ปาโต ปิณฺฑปาโต, ปเรหิ ทินฺนานํ ปิณฺฑานํ ปตฺเต นิปตนนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตํ ปิณฺฑปาตํ อฺุฉติ ตํ ตํ กุลํ อุปสงฺกมนฺโต คเวสตีติ ปิณฺฑปาติโก, ปิณฺฑาย วา ปติตุํ วตเมตสฺสาติ ปิณฺฑปาตี. ปติตุนฺติ จริตุํ. ปิณฺฑปาตี เอว ปิณฺฑปาติโก, ตสฺส องฺคํ ปิณฺฑปาติกงฺคํ. องฺคนฺติ การณํ วุจฺจติ. ตสฺมา เยน สมาทาเนน โส ปิณฺฑปาติโก โหติ, ตสฺเสตํ อธิวจนนฺติ เวทิตพฺพํ. เอเตเนว นเยน รถิกาสุสานสงฺการกูฏาทีนํ ยตฺถ กตฺถจิ ปํสูนํ อุปริ ิตตฺตา อพฺภุคฺคตฏฺเน เตสุ ปํสุกูลมิวาติ ปํสุกูลํ. อถ วา ปํสุ วิย กุจฺฉิตภาวํ อุลตีติ ปํสุกูลํ, กุจฺฉิตภาวํ คจฺฉตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ ลทฺธนิพฺพจนสฺส ปํสุกูลสฺส ธารณํ ปํสุกูลํ, ปํสุกูลํ สีลมสฺสาติ ปํสุกูลิโก, ปํสุกูลิกสฺส องฺคํ ปํสุกูลิกงฺคํ. สงฺฆาฏิอุตฺตราสงฺคอนฺตรวาสกสงฺขาตํ ติจีวรํ สีลมสฺสาติ เตจีวริโก, เตจีวริกสฺส องฺคํ เตจีวริกงฺคํ. สปทานจาริกงฺคนฺติ ทานํ วุจฺจติ อวขณฺฑนํ, อเปตํ ทานโต อปทานํ, อนวขณฺฑนนฺติ อตฺโถ. สห อปทาเนน สปทานํ, อวขณฺฑนวิรหิตํ, อนุฆรนฺติ วุตฺตํ โหติ. สปทานํ จริตุํ อิทมสฺส สีลนฺติ สปทานจารี, สปทานจารีเยว สปทานจาริโก, ตสฺส องฺคํ สปทานจาริกงฺคํ. ขลุปจฺฉาภตฺติกงฺคนฺติ ขลูติ ปฏิเสธนตฺเถ นิปาโต. ปวาริเตน สตา ปจฺฉา ลทฺธํ ภตฺตํ ปจฺฉาภตฺตํ นาม, ตสฺส ปจฺฉาภตฺตสฺส โภชนํ ปจฺฉาภตฺตโภชนํ, ตสฺมึ ปจฺฉาภตฺตโภชเน ปจฺฉาภตฺตสฺํ กตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ สีลมสฺสาติ ปจฺฉาภตฺติโก, น ปจฺฉาภตฺติโก ¶ ขลุปจฺฉาภตฺติโก, สมาทานวเสน ปฏิกฺขิตฺตาติริตฺตโภชนสฺเสตํ นามํ, ตสฺส องฺคํ ขลุปจฺฉาภตฺติกงฺคํ ¶ . เนสชฺชิกงฺคนฺติ สยนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา นิสชฺชาย วิหริตุํ สีลมสฺสาติ เนสชฺชิโก, ตสฺส องฺคํ เนสชฺชิกงฺคํ. ยถาสนฺถติกงฺคนฺติ ยเทว สนฺถตํ ยถาสนฺถตํ, ‘‘อิทํ ตุยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ เอวํ ปมํ อุทฺทิฏฺเสนาสนสฺเสตํ อธิวจนํ. ตสฺมึ ยถาสนฺถเต วิหริตุํ สีลมสฺสาติ ยถาสนฺถติโก, ตสฺส องฺคํ ยถาสนฺถติกงฺคํ. สพฺพาเนว ปเนตานิ เตน เตน สมาทาเนน ธุตกิเลสตฺตา ธุตสฺส ภิกฺขุโน องฺคานิ, กิเลสธุนนโต วา ธุตนฺติ ลทฺธโวหารํ าณํ องฺคํ เอเตสนฺติ ธุตงฺคานิ. อถ ¶ วา ธุตานิ จ ตานิ ปฏิปกฺขานํ ธุนนโต องฺคานิ จ ปฏิปตฺติยาติปิ ธุตงฺคานิ. เอวํ ตาเวตฺถ อตฺถโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย. สพฺพาเนว เจตานิ สมาทานเจตนาลกฺขณานิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘โย สมาทิยติ, โส ปุคฺคโล. เยน สมาทิยติ, จิตฺตเจตสิกา เอเต ธมฺมา. ยา สมาทานเจตนา, ตํ ธุตงฺคํ. ยํ ปฏิกฺขิปติ, ตํ วตฺถุ’’นฺติ (วิสุทฺธิ. ๑.๒๓).
สพฺพาเนว จ โลลุปฺปวิทฺธํสนรสานิ, นิลฺโลลุปฺปภาวปจฺจุปฏฺานานิ, อปฺปิจฺฉตาทิอริยธมฺมปทฏฺานานิ. เอวเมตฺถ ลกฺขณาทีหิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
วีริยสมาทานมฺปีติ วีริยคฺคหณมฺปิ. กามนฺติ เอกํสตฺเถ นิปาโต. ตโจ จ นฺหารุ จาติ ฉวิ จ นฺหารุวลฺลิโย จ. อฏฺิ จาติ สพฺพา อฏฺิโย จ. อวสิสฺสตูติ ติฏฺตุ. อุปสุสฺสตุ มํสโลหิตนฺติ สพฺพํ มํสฺจ โลหิตฺจ สุกฺขตุ. ‘‘ตโจ’’ติ เอกํ องฺคํ, ‘‘นฺหารู’’ติ เอกํ, ‘‘อฏฺี’’ติ เอกํ, ‘‘อุปสุสฺสตุ มํสโลหิต’’นฺติ เอกํ องฺคํ. ยํ ตนฺติ อุปริ วตฺตพฺพปเทน สมฺพนฺโธ. ปุริสถาเมนาติ ปุริสสฺส กายิเกน พเลน, พเลนาติ าณพเลน. วีริเยนาติ เจตสิกาณวีริยเตเชน. ปรกฺกเมนาติ ปรํ ปรํ านํ อกฺกมเนน อุสฺสาหปฺปตฺตวีริเยน. ปตฺตพฺพนฺติ ¶ ยํ ตํ ปาปุณิตพฺพํ. น ตํ อปาปุณิตฺวาติ ตํ ปตฺตพฺพํ อปฺปตฺวา. วีริยสฺส สณฺานํ ภวิสฺสตีติ วุตฺตปฺปการสฺส วีริยสฺส สิถิลตฺตํ โอสีทนํ น ภวิสฺสติ. ‘‘ปฏฺาน’’นฺติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ. จิตฺตํ ปคฺคณฺหาตีติ จิตฺตํ อุสฺสาหํ คณฺหาเปติ. ปทหตีติ ปติฏฺาเปติ.
นาสิสฺสนฺติ ¶ น ขาทิสฺสามิ น ภฺุชิสฺสามิ. น ปิวิสฺสามีติ ยาคุปานาทีนิ น ปิวิสฺสามิ. วิหารโต น นิกฺขเมติ เสนาสนโต พหิ น นิกฺขเมยฺยํ. นปิ ปสฺสํ นิปาเตสฺสนฺติ ปสฺสํ มฺเจ วา ปีเ วา ภูมิยํ วา กฏสนฺถรเก วา ปาตนํ ปนํ น กริสฺสามิ. ตณฺหาสลฺเล อนูหเตติ ตณฺหาสงฺขาเต กณฺเฑ อนุทฺธเฏ, อวิคเตติ อตฺโถ.
อิมํ ปลฺลงฺกนฺติ สมนฺตโต อาภุชิตํ อูรุพทฺธาสนํ. น ภินฺทิสฺสามีติ น วิชหิสฺสามิ. ยาว เม น อนุปาทายาติ จตูหิ อุปาทาเนหิ คหณํ อคฺคเหตฺวา. อาสเวหีติ กามาสวาทีหิ จตูหิ อาสเวหิ. วิมุจฺจิสฺสตีติ สมุจฺเฉทวิมุตฺติยา น มุจฺจิสฺสติ. น ตาวาหํ อิมมฺหา อาสนา วุฏฺหิสฺสามีติ อาทึ กตฺวา ยาว รุกฺขมูลา นิกฺขมิสฺสามีติ โอกาสวเสน ¶ วุตฺตา. อิมสฺมิฺเว ปุพฺพณฺหสมยํ อริยธมฺมํ อาหริสฺสามีติ อาทึ กตฺวา ยาว คิมฺเหติ กาลวเสน วุตฺตา. ปุริเม วโยขนฺเธติอาทโย วยวเสน วุตฺตา. ตตฺถ อาสนา น วุฏฺหิสฺสามีติ นิสินฺนาสนา น อุฏฺหิสฺสามิ. อฑฺฒโยคาติ นิกุณฺฑเคหา. ปาสาทาติ ทีฆปาสาทา. หมฺมิยาติ มุณฺฑจฺฉทนเคหา. คุหายาติ ปํสุคุหาย. เลณาติ มริยาทฉินฺนจฺฉิทฺทา ปพฺพตเลณา. กุฏิยาติ อุลฺลิตฺตาทิกุฏิยา. กูฏาคาราติ กณฺณิกํ อาโรเปตฺวา กตเคหโต. อฏฺฏาติ ทฺวารฏฺฏาลกา. มาฬาติ วฏฺฏเคหา. อุทฺทณฺโฑ นาม เอโก ปติสฺสยวิเสโส. ‘‘ติฉทนเคโห’’ติปิ เอเก. อุปฏฺานสาลาติ สนฺนิปาตสาลา โภชนสาลา วา. มณฺฑปาทโย ปากฏาเยว. อริยธมฺมนฺติ ¶ อนวชฺชธมฺมํ, อริยานํ วา พุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกานํ ธมฺมํ. อาหริสฺสามีติ มม จิตฺตสมีปํ อานยิสฺสามิ สีเลน. สมาหริสฺสามีติ วิเสเสน อานยิสฺสามิ สมาธินา. อธิคจฺฉิสฺสามีติ ปฏิลาภวเสน คมิสฺสามิ ตทงฺเคน. ผสฺสยิสฺสามีติ ผุสิสฺสามิ มคฺเคน. สจฺฉิกริสฺสามีติ ปจฺจกฺขํ กริสฺสามิ ผเลน. อถ วา โสตาปตฺติมคฺเคน อาหริสฺสามิ. สกทาคามิมคฺเคน สมาหริสฺสามิ, อนาคามิมคฺเคน อธิคจฺฉิสฺสามิ, อรหตฺตมคฺเคน ผสฺสยิสฺสามิ, ปจฺจเวกฺขเณน สจฺฉิกริสฺสามิ. ทฺวีสุปิ นเยสุ ผสฺสยิสฺสามีติ นามกาเยน นิพฺพานํ ผุสิสฺสามีติ อตฺโถ.
อปุฏฺโติ มูลปทํ, ตสฺส อปุจฺฉิโตติ อตฺโถ. อปุจฺฉิโตติ อชานาปิโต. อยาจิโตติ อนายาจิโต. อนชฺเฌสิโตติ อนาณาปิโต ¶ , ‘‘น อิจฺฉิโต’’ติ เอเก. อปสาทิโตติ น ปสาทาปิโต. ปาวทตีติ กถยติ. อหมสฺมีติ อหํ อสฺมิ ภวามิ. ชาติยา วาติ ขตฺติยพฺราหฺมณชาติยา วา. โคตฺเตน วาติ โคตมาทิโคตฺเตน วา. โกลปุตฺติเยน วาติ กุลปุตฺตภาเวน วา. วณฺณโปกฺขรตาย วาติ สรีรสุนฺทรตาย วา. ธเนน วาติ ธนสมฺปตฺติยา วา. อชฺเฌเนน วาติ อชฺฌายกรเณน วา. กมฺมายตเนน วาติ กมฺมเมว กมฺมายตนํ, เตน กมฺมายตเนน, กสิโครกฺขกมฺมาทินา วา. สิปฺปายตเนน วาติ ธนุสิปฺปาทินา วา. วิชฺชาฏฺาเนน วาติ อฏฺารสวิชฺชาฏฺาเนน วา. สุเตน วาติ พหุสฺสุตคุเณน วา. ปฏิภาเนน วาติ การณาการณปฏิภานสงฺขาตาเณน วา. อฺตรฺตเรน วา วตฺถุนาติ ชาติอาทีนํ เอเกเกน วตฺถุนา วา.
อุจฺจา กุลาติ ขตฺติยพฺราหฺมณกุลา, เอเตน ชาติโคตฺตมหตฺตํ ทีเปติ. มหาโภคกุลาติ คหปติมหาสาลกุลา, เอเตน อฑฺฒมหตฺตํ ทีเปติ. อุฬารโภคกุลาติ อวเสสเวสฺสาทิกุลา, เอเตน ปหูตชาตรูปรชตาทึ ทีเปติ. จณฺฑาลาปิ หิ อุฬารโภคา โหนฺติ. าโตติ ปากโฏ. ยสฺสสฺสีติ ปริวารสมฺปนฺโน. สุตฺตนฺติโกติ ¶ สุตฺตนฺเต นิยุตฺโต. วินยธโรติ วินยปิฏกธโร. ธมฺมกถิโกติ ¶ อาภิธมฺมิโก. อารฺิโกติอาทโย ธุตงฺคปุพฺพงฺคมปฏิปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตา. ปมสฺส ฌานสฺส ลาภีติอาทโย รูปารูปอฏฺสมาปตฺติโย ทสฺเสตฺวา ปฏิเวธทสฺสนวเสน วุตฺตา. ปาวทตีติ มูลปทํ. กเถตีติ ‘‘ปิฏกาจริโยสฺมี’’ติ กถยติ. ภณตีติ ‘‘ธุตงฺคิโกมฺหี’’ติ ปากฏํ กโรติ. ทีปยตีติ ‘‘รูปชฺฌานํ ลาภีมฺหี’’ติ ปริทีปยติ. โวหรตีติ ‘‘อรูปชฺฌานํ ลาภีมฺหี’’ติ วากฺยเภทํ กโรติ.
ขนฺธกุสลาติ ปฺจสุ ขนฺเธสุ สลกฺขณสามฺลกฺขเณสุ เฉกา, าตตีรณปหานวเสน กุสลาติ อตฺโถ. ธาตุอายตนปฏิจฺจสมุปฺปาทาทีสุปิ เอเสว นโย. นิพฺพานกุสลาติ นิพฺพาเน เฉกา. อนริยานนฺติ น อริยานํ. เอโส ธมฺโมติ เอโส สภาโว. พาลานนฺติ อปณฺฑิตานํ. อสปฺปุริสานนฺติ น โสภนปุริสานํ. อตฺตาติ อตฺตานํ.
๑๘. สนฺโตติ ราคาทิกิเลสูปสเมน สนฺโต. ตถา อภินิพฺพุตตฺโต. อิติ’หนฺติ สีเลสุ อกตฺถมาโนติ ‘‘อหมสฺมิ สีลสมฺปนฺโน’’ติอาทินา ¶ นเยน อิติ สีเลสุ อกตฺถมาโน, สีลนิมิตฺตํ อตฺตุปนายิกํ วาจํ อภาสมาโนติ วุตฺตํ โหติ. ตมริยธมฺมํ กุสลา วทนฺตีติ ตสฺส ตํ อกตฺถนํ ‘‘อริยธมฺโม เอโส’’ติ พุทฺธาทโย ขนฺธาทิกุสลา วทนฺติ. ยสฺสุสฺสทา นตฺถิ กุหิฺจิ โลเกติ ยสฺส ขีณาสวสฺส ราคาทโย สตฺตุสฺสทา กุหิฺจิ โลเก นตฺถิ. ตสฺส ตํ อกตฺถนํ ‘‘อริยธมฺโม เอโส’’ติ เอวํ กุสลา วทนฺตีติ สมฺพนฺโธ.
สนฺโตติ มูลปทํ. ราคสฺส สมิตตฺตาติ รฺชนลกฺขณสฺส ราคสฺส สมิตภาเวน. โทสาทีสุปิ เอเสว นโย. วิชฺฌาตตฺตาติ สพฺพปริฬาหานํ ฌาปิตตฺตา. นิพฺพุตตฺตาติ สพฺพสนฺตาปานํ นิพฺพาปิตภาเวน. วิคตตฺตาติ สพฺพากุสลาภิสงฺขารานํ วิคตภาเวน ทูรภาเวน. ปฏิปสฺสทฺธตฺตาติ สพฺพากาเรน อภพฺพุปฺปตฺติกภาเวน. สตฺตนฺนํ ¶ ธมฺมานํ ภินฺนตฺตา ภิกฺขูติ อุปริ วตฺตพฺพานํ สตฺตธมฺมานํ ภินฺทิตฺวา ิตภาเวน ภิกฺขุ. สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาโสติ อิเม ตโย กิเลสา โสตาปตฺติมคฺเคน ภินฺนา, ราโค โทโสติ อิเม ทฺเว กิเลสา โอฬาริกา สกทาคามิมคฺเคน ภินฺนา, เต เอว อณุสหคตา อนาคามิมคฺเคน ภินฺนา, โมโห มาโนติ อิเม ทฺเว กิเลสา อรหตฺตมคฺเคน ภินฺนา. อวเสเส กิเลเส ทสฺเสตุํ ‘‘ภินฺนาสฺส โหนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา’’ติ อาห. สํกิเลสิกาติ กิเลสปจฺจยา. โปโนภวิกาติ ปุนพฺภวทายิกา. สทราติ กิเลสทรถา เอตฺถ สนฺตีติ สทรา. ‘‘สทฺทรา’’ติปิ ปาโ, สหทรถาติ อตฺโถ. ทุกฺขวิปากาติ ผลกาเล ทุกฺขทายิกา. อายตึ ชาติชรามรณิยาติ อนาคเต ชาติชรามรณสฺส ปจฺจยา.
ปชฺเชน ¶ กเตน อตฺตนาติ คาถาย อยํ ปิณฺฑตฺโถ – โย อตฺตนา ภาวิเตน มคฺเคน ปรินิพฺพานํ คโต, กิเลสปรินิพฺพานํ ปตฺโต, ปรินิพฺพานคตตฺตา เอว จ วิติณฺณกงฺโข, วิปตฺติสมฺปตฺติหานิวุทฺธิอุจฺเฉทสสฺสตอปฺุปฺุปฺปเภทํ ภวฺจ วิภวฺจ วิปฺปหาย มคฺควาสํ วุสิตวา ขีณปุนพฺภโวติ เอเตสํ ถุติวจนานํ อรโห โส ภิกฺขูติ.
อิติหนฺติ ¶ , อิทหนฺตีติ ทุวิโธ ปาโ. อิตีติ ปทสนฺธิอาทโย สนฺธาย ‘‘อิทห’’นฺติ ปาํ น โรเจนฺติ. ตตฺถ อิตีติ ยํ วุตฺตํ. ปทสนฺธีติ ปทานํ สนฺธิ ปทสนฺธิ, ปทฆฏนนฺติ อตฺโถ. ปทสํสคฺโคติ ปทานํ เอกีภาโว. ปทปาริปูรีติ ปทานํ ปริปูรณํ ทฺวินฺนํ ปทานํ เอกีภาโว. อกฺขรสมวาโยติ เอกีภูโตปิ อปริปุณฺโณปิ โหติ, อยํ น เอวํ. อกฺขรานํ สมวาโย สนฺนิปาโต โหตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อกฺขรสมวาโย’’ติ อาห. พฺยฺชนสิลิฏฺตาติ พฺยฺชนสมุจฺจโย ปทมีติ วุตฺตานํ พฺยฺชนานํ อตฺถพฺยฺชนานํ อตฺถพฺยตฺติการณานํ วา มธุรภาวตฺตา ปาสฺส มุทุภาโว. ปทานุปุพฺพตา ¶ เมตนฺติ ปทานํ อนุปุพฺพภาโว ปทานุปุพฺพตา, ปทปฏิปาฏิภาโวติ อตฺโถ. เมตนฺติ เอตํ. กตมนฺติ เจ? อิตีติ อิทํ. เมตนฺติ เอตฺถ ม-กาโร ปทสนฺธิวเสน วุตฺโต. กตฺถี โหตีติ ‘‘อหมสฺมิ สีลสมฺปนฺโน’’ติ อตฺตานํ อุกฺกํเสตฺวา กถนสีโล โหติ. กตฺถตีติ วุตฺตนเยน กถยติ. วิกตฺถตีติ วิวิธา กถยติ. กตฺถนาติ กถนา. อารโตติ ทูรโต รโต. วิรโตติ านสงฺกนฺติวเสน วิคตภาเวน รโต. ปฏิวิรโตติ ตโต นิวตฺติตฺวา สพฺพากาเรน วิยุตฺโต หุตฺวา รโต. ตตฺถ ปิสาจํ วิย ทิสฺวา ปลาโต อารโต. หตฺถิมฺหิ มทฺทนฺเต วิย ปริธาวิตฺวา คโต วิรโต. โยธสมฺปหารํ วิย โปเถตฺวา มทฺเทตฺวา คโต ปฏิวิรโต.
ขีณาสวสฺสาติ ขีณกิเลสาสวสฺส. กมฺมุสฺสโทติ ปฺุาภิสงฺขารอปฺุาภิสงฺขารอาเนฺชาภิสงฺขารสงฺขาตานํ กมฺมานํ อุสฺสโท อุสฺสนฺนตา. ยสฺสิเมติ ยสฺส ขีณาสวสฺส อิเม อุสฺสทา.
๑๙. เอวํ ขีณาสวปฏิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ทิฏฺิคติกานํ ติตฺถิยานํ ปฏิปตฺติฺจ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ปกปฺปิตา สงฺขตา’’ติ. ตตฺถ ปกปฺปิตาติ ปริกปฺปิตา. สงฺขตาติ ปจฺจยาภิสงฺขตา. ยสฺสาติ ยสฺส กสฺสจิ ทิฏฺิคติกสฺส. ธมฺมาติ ทิฏฺิโย. ปุรกฺขตาติ ปุรโต กตา. สนฺตีติ สํวิชฺชนฺติ. อวีวทาตาติ อโวทาตา. ยทตฺตนิ ปสฺสติ อานิสํสํ, ตํ นิสฺสิโต กุปฺปปฏิจฺจสนฺตินฺติ ยสฺเสเต ทิฏฺิธมฺมา ‘ปุรกฺขตา อโวทาตา สนฺติ, โส เอวํวิโธ ยสฺมา อตฺตนิ ตสฺสา ทิฏฺิยา ทิฏฺธมฺมิกฺจ สกฺการาทึ, สมฺปรายิกฺจ คติวิเสสาทึ ¶ อานิสํสํ สมฺปสฺสติ, ตสฺมา ตฺจ อานิสํสํ, ตฺจ กุปฺปตาย จ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนตาย จ สมฺมุติสนฺติตาย จ กุปฺปปฏิจฺจสนฺติสงฺขาตํ ¶ ทิฏฺึ นิสฺสิโต จ โหติ. โส ตํ นิสฺสิตตฺตา อตฺตานํ วา อุกฺกํเสยฺย, ปเร วา วมฺเภยฺย อภูเตหิปิ คุณโทเสหิ.
สงฺขตาติ มูลปทํ. สงฺขตาติ ปจฺจเยหิ สมาคนฺตฺวา กตา. อุปสคฺควเสน ปทํ วฑฺฒิตํ. อภิสงฺขตาติ ¶ ปจฺจเยหิ อภิกตา. สณฺปิตาติ ปจฺจยวเสเนว สมฺมา ปิตา. อนิจฺจาติ หุตฺวา อภาเวน. ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนาติ วตฺถารมฺมณํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนา. ขยธมฺมาติ กเมน ขยสภาวา. วยธมฺมาติ ปวตฺติวเสน ปริหายนสภาวา. วิราคธมฺมาติ อนิวตฺตี หุตฺวา วิคจฺฉนสภาวา. นิโรธธมฺมาติ นิรุชฺฌนสภาวา, อนุปฺปตฺติธมฺมา หุตฺวา นิรุชฺฌนสภาวาติ อตฺโถ. ทิฏฺิคติกสฺสาติ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิโย คเหตฺวา ิตปุคฺคลสฺส.
ปุเรกฺขาราติ ปุเร กตา. ตณฺหาธโชติ อุสฺสาปิตฏฺเน ตณฺหาธโช, ตณฺหาปฏากา อสฺส อตฺถีติ ตณฺหาธโช. ปุเรจาริกฏฺเน ตณฺหา เอว เกตุ อสฺสาติ ตณฺหาเกตุ. ตณฺหาธิปเตยฺโยติ ฉนฺทาธิปติวเสน, ตณฺหา อธิปติโต อาคตาติ วา ตณฺหาธิปเตยฺโย, ตณฺหาธิปติ วา เอตสฺส อตฺถีติ ตณฺหาธิปเตยฺโย. ทิฏฺิธชาทีสุปิ เอเสว นโย. อโวทาตาติ อปริสุทฺธา. สํกิลิฏฺาติ สยํ กิลิฏฺา. สํกิเลสิกาติ ตปนียา.
ทฺเว อานิสํเส ปสฺสตีติ ทฺเว คุเณ ทกฺขติ. ทิฏฺธมฺมิกฺจ อานิสํสนฺติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ปจฺจกฺขธมฺมานิสํสฺจ. สมฺปรายิกนฺติ ปรโลเก ปตฺตพฺพํ อานิสํสฺจ. ยํทิฏฺิโก สตฺถา โหตีติ สตฺถา ยถาลทฺธิโก ภวติ. ตํทิฏฺิกา สาวกา โหนฺตีติ ตสฺส วจนํ สุณนฺตา สาวกาปิ ตถาลทฺธิกา โหนฺติ. สกฺกโรนฺตีติ สกฺการปฺปตฺตํ กโรนฺติ. ครุํ กโรนฺตีติ ครุการปฺปตฺตํ กโรนฺติ. มาเนนฺตีติ มนสา ปิยายนฺติ. ปูเชนฺตีติ จตุปจฺจยาภิหารปูชาย ปูเชนฺติ. อปจิตึ กโรนฺตีติ อปจิติปฺปตฺตํ กโรนฺติ. ตตฺถ ยสฺส จตฺตาโร ปจฺจเย สกฺกริตฺวา สุอภิสงฺขเต ปณีเต กตฺวา เทนฺติ, โส สกฺกโต. ยสฺมึ ครุภาวํ ปฏฺเปตฺวา เทนฺติ, โส ครุกโต. ยํ มนสา ปิยายนฺติ, โส มานิโต. ยสฺส สพฺพมฺเปตํ กโรนฺติ, โส ปูชิโต. ยสฺส อภิวาทนปจฺจุปฏฺานอฺชลิกมฺมาทิวเสน ¶ ปรมนิปจฺจการํ กโรนฺติ, โส อปจิโต. เกจิ ¶ ‘‘สกฺกโรนฺติ กาเยน, ครุํ กโรนฺติ วาจาย, มาเนนฺติ จิตฺเตน, ปูเชนฺติ ลาเภนา’’ติ วณฺณยนฺติ. อลํ นาคตฺตาย วาติ นาคภาวาย นาคราชภาวาย วา อลํ ปริยตฺตํ. สุปณฺณตฺตาย วาติ สุปณฺณราชภาวาย. ยกฺขตฺตาย วาติ ยกฺขเสนาปติภาวาย. อสุรตฺตาย ¶ วาติ อสุรภาวาย. คนฺธพฺพตฺตาย วาติ คนฺธพฺพเทวฆเฏ นิพฺพตฺตภาวาย. มหาราชตฺตาย วาติ จตุนฺนํ มหาราชานํ อฺตรภาวาย. อินฺทตฺตาย วาติ สกฺกภาวาย. พฺรหฺมตฺตาย วาติ พฺรหฺมกายิกาทีนํ อฺตรภาวาย. เทวตฺตาย วาติ สมฺมุติเทวาทีนํ อฺตรภาวาย. สุทฺธิยาติ ปริสุทฺธภาวาย อลํ ปริยตฺตํ. วิสุทฺธิยาติ สพฺพมลรหิตอจฺจนฺตปริสุทฺธภาวาย. ปริสุทฺธิยาติ สพฺพากาเรน ปริสุทฺธภาวาย.
ตตฺถ ติรจฺฉานโยนิยํ อธิปจฺจตฺตํ สุทฺธิยา. เทวโลเก อธิปจฺจตฺตํ วิสุทฺธิยา. พฺรหฺมโลเก อธิปจฺจตฺตํ ปริสุทฺธิยา. จตุราสีติกปฺปสหสฺสานิ อติกฺกมิตฺวา มุจฺจนตฺถํ มุตฺติยา. อนฺตรายาภาเวน มุจฺจนตฺถํ วิมุตฺติยา. สพฺพากาเรน มุตฺติยา ปริมุตฺติยา. สุชฺฌนฺตีติ ตสฺมึ สมเย ปพฺพชิตภาเวน สุทฺธึ ปาปุณนฺติ. วิสุชฺฌนฺตีติ ปพฺพชฺชํ คเหตฺวา ปฏิปตฺติยา ยุตฺตภาเวน วิวิเธน สุชฺฌนฺติ. ปริสุชฺฌนฺตีติ นิปฺผตฺตึ ปาเปตฺวา สพฺพากาเรน สุชฺฌนฺติ. มุจฺจนฺติ เตสํ สมยนฺตรธมฺเมน. วิมุจฺจนฺติ เอตสฺส สตฺถุโน โอวาเทน. ปริมุจฺจนฺติ เอตสฺส สตฺถุโน อนุสาสเนน. สุชฺฌิสฺสามีติอาทโย อนาคตวเสน วุตฺตา. อายตึ ผลปาฏิกงฺขีติ อนาคเต วิปากผลมากงฺขมาโน. อิทํ ทิฏฺิคติกานํ อิจฺฉามตฺตํ. ทิฏฺิคตฺหิ อิชฺฌมานํ นิรยํ วา ติรจฺฉานโยนึ วา นิปฺผาเทติ.
อจฺจนฺตสนฺตีติ อติอนฺตนิสฺสรณสนฺติ. ตทงฺคสนฺตีติ ปมชฺฌานาทิคุณงฺเคน นีวรณาทิอคุณงฺคํ สเมตีติ ฌานํ ตทงฺคสนฺติ. สมฺมุติสนฺตีติ สมาหารวเสน ทิฏฺิสนฺติ. ตา วิภาคโต ทสฺเสตุํ ‘‘กตมา อจฺจนฺตสนฺตี’’ติอาทิมาห. อมตํ ¶ นิพฺพานนฺติ เอวมาทโย เหฏฺา วุตฺตตฺถาเยว. ปมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส นีวรณา สนฺตา โหนฺตีติ เอวมาทโย อนฺโต อปฺปนายํ อติสยวเสน วุตฺตา. อปิ จ สมฺมุติสนฺติ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปตา, สนฺตีติ อิตเร ทฺเว สนฺติโย ปฏิกฺขิปิตฺวา สมฺมุติสนฺติเมว ทีเปติ. กุปฺปสนฺตินฺติ วิปากชนกวเสน ปริวตฺตนวเสน จลสนฺตึ ¶ . ปกุปฺปสนฺตินฺติ วิเสเสน จลสนฺตึ. เอริตสนฺตินฺติ กมฺปนสนฺตึ. สเมริตสนฺตินฺติ วิเสเสน กมฺปิตสนฺตึ. จลิตสนฺตินฺติ ตสฺเสว เววจนํ. ฆฏฺฏิตสนฺตินฺติ ปีฬิตสนฺตึ. สนฺตึ นิสฺสิโตติ ทิฏฺิสงฺขาตํ สนฺตึ นิสฺสิโต. อสฺสิโตติ อาสิโต วิเสเสน นิสฺสิโต. อลฺลีโนติ เอกีภูโต.
๒๐. เอวํ นิสฺสิเต ตาว ‘‘ทิฏฺีนิเวสา…เป… อาทิยตี จ ธมฺม’’นฺติ ตตฺถ ทิฏฺีนิเวสาติ อิทํสจฺจาภินิเวสสงฺขาตานิ ทิฏฺินิเวสนานิ. น หิ สฺวาติวตฺตาติ สุเขน อติวตฺติตพฺพา น โหนฺติ. ธมฺเมสุ นิจฺเฉยฺย สมุคฺคหีตนฺติ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคเตสุ ตํ ตํ สมุคฺคหิตํ ¶ อภินิวิฏฺธมฺมํ นิจฺฉินิตฺวา ปวตฺตา ทิฏฺินิเวสา น หิ สฺวาติวตฺตาติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมา นโร เตสุ นิเวสเนสุ, นิรสฺสตี อาทิยตี จ ธมฺมนฺติ ยสฺมา น หิ สฺวาติวตฺตา, ตสฺมา นโร เตสุเยว ทิฏฺินิเวสเนสุ อชสีลโคสีลกุกฺกุรสีลปฺจาตปมรุปฺปปาตอุกฺกุฏิกปฺปธานกณฺฏกาปสฺสยาทิเภทํ สตฺถารํ ธมฺมกฺขานํ คณาทิเภทฺจ ตํ ตํ ธมฺมํ นิรสฺสติ จ อาทิยติ จ ชหติ จ คณฺหาติ จ วนมกฺกโฏ วิย ตํ ตํ สาขนฺติ วุตฺตํ โหติ.
เอวํ นิรสฺสนฺโต จ อาทิยนฺโต จ อนวฏฺิตจิตฺตตฺตา อสนฺเตหิปิ ¶ คุณโทเสหิ อตฺตโน วา ปรสฺส วา ยสายสํ อุปฺปาเทยฺย. ทุรติวตฺตาติ อติกฺกมิตุํ ทุกฺขา. ทุตฺตราติ ทุอุตฺตรา. ทุปฺปตรา ทุสฺสมติกฺกมา ทุพฺพินิวตฺตาติ อุปสคฺเคน วฑฺฒิตา.
นิจฺฉินิตฺวาติ สสฺสตวเสน นิจฺฉยํ กตฺวา. วินิจฺฉินิตฺวาติ อตฺตวเสน นานาวิเธน วินิจฺฉยํ กตฺวา. วิจินิตฺวาติ ปริเยสิตฺวา. ปวิจินิตฺวาติ อตฺตนิยวเสน สพฺพากาเรน ปริเยสิตฺวา. ‘‘นิจินิตฺวา วิจฺจินิตฺวา’’ติปิ ปาโ. โอธิคฺคาโหติ อวธิยิตฺวา คาโห. พิลคฺคาโหติ โกฏฺาสวเสน คาโห ‘‘พิลโส วิภชิตฺวา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๗๘; ม. นิ. ๑.๑๑๑) วิย. วรคฺคาโหติ อุตฺตมคาโห. โกฏฺาสคฺคาโหติ อวยววเสน คาโห. อุจฺจยคฺคาโหติ ราสิวเสน คาโห. สมุจฺจยคฺคาโหติ โกฏฺาสวเสน ราสิวเสน จ คาโห. อิทํ สจฺจนฺติ อิทเมว สภาวํ. ตจฺฉนฺติ ตถภาวํ อวิปรีตสภาวํ. ตถนฺติ วิปริณามรหิตํ. ภูตนฺติ วิชฺชมานํ. ยาถาวนฺติ ยถาสภาวํ. อวิปรีตนฺติ น วิปรีตํ.
นิรสฺสตีติ ¶ นิอสฺสติ วิกฺขิปติ. ปรวิจฺฉินฺทนาย วาติ ปเรหิ วิสฺสชฺชาปเนน. อนภิสมฺภุณนฺโต วาติ อสมฺปาปุณนฺโต วา อสกฺโกนฺโต วา วิสฺสชฺเชติ. ปโร วิจฺฉินฺเทตีติ อฺโ วิโยคํ กโรติ. นตฺเถตฺถาติ นตฺถิ เอตฺถ. สีลํ อนภิสมฺภุณนฺโตติ สีลํ อสมฺปาเทนฺโต. สีลํ นิรสฺสตีติ สีลํ วิสฺสชฺเชติ. อิโต ปเรสุปิ เอเสว นโย.
๒๑. โย ปนายํ สพฺพทิฏฺิคตาทิโทสธุนนาย ปฺาย สมนฺนาคตตฺตา โธโน, ตสฺส โธนสฺส หิ…เป… อนูปโย โส. กึ วุตฺตํ โหติ? โธนธมฺมสมนฺนาคมา โธนสฺส ธุตสพฺพปาปสฺส อรหโต กตฺถจิ โลเก เตสุ เตสุ ภเวสุ ¶ สํกปฺปนา ทิฏฺิ นตฺถิ. โส ตสฺสา ทิฏฺิยา อภาวา, ยาย จ อตฺตนา กตํ ปาปกมฺมํ ปฏิจฺฉาเทนฺตา ติตฺถิยา มายาย วา มาเนน วา เอวํ อคตึ คจฺฉนฺติ, ตมฺปิ มายฺจ มานฺจ ปหาย โธโน ราคาทีนํ โทสานํ เกน ¶ คจฺเฉยฺย, ทิฏฺธมฺเม สมฺปราเย วา นิรยาทีสุ คติวิเสเสสุ เกน สงฺขํ คจฺเฉยฺย, อนูปโย โส, โส หิ ตณฺหาทิฏฺิอุปยานํ ทฺวินฺนํ อภาเวน อนูปโยติ.
กึ การณาติ เกน การเณน. โธนา วุจฺจติ ปฺาติ โธนา อิติ กึการณา ปฺา กถียติ. ตาย ปฺาย กายทุจฺจริตนฺติ ตาย วุตฺตปฺปการาย ปฺาย กายโต ปวตฺตํ ทุฏฺุ กิเลสปูติกตฺตา วา จริตนฺติ กายทุจฺจริตํ. ธูตฺจ โธตฺจาติ กมฺปิตฺจ โธวิตฺจ. สนฺโธตฺจาติ สมฺมา โธวิตฺจ. นิทฺโธตฺจาติ วิเสเสน สุฏฺุ นิทฺโธตฺจ. ราโค ธุโต จาติอาทโย จตุนฺนํ มคฺคานํ วเสน โยเชตพฺพา.
สมฺมาทิฏฺิยา มิจฺฉาทิฏฺิ ธุตา จาติ มคฺคสมฺปยุตฺตาย สมฺมาทิฏฺิยา มิจฺฉาทิฏฺิ กมฺปิตา จลิตา โธวิตา. สมฺมาสงฺกปฺปาทีสุปิ เอเสว นโย. วุตฺตฺเหตํ ‘‘สมฺมาทิฏฺิกสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฏฺิ นิชฺชิณฺณา โหตี’’ติ สุตฺตํ (อ. นิ. ๑๐.๑๐๖; ที. นิ. ๓.๓๖๐) วิตฺถาเรตพฺพํ. สมฺมาาเณนาติ มคฺคสมฺปยุตฺตาเณน, ปจฺจเวกฺขณาเณน วา. มิจฺฉาาณนฺติ วิปรีตาณํ อยาถาวาณํ, ปาปกิริยาสุ อุปจินฺตาวเสน ปาปํ กตฺวา ‘‘สุกตํ มยา’’ติ ปจฺจเวกฺขณากาเรน จ ¶ อุปฺปนฺโน โมโห. สมฺมาวิมุตฺติยา มิจฺฉาวิมุตฺตีติ สมุจฺเฉทวิมุตฺติยา วิปรีตา อยาถาววิมุตฺติเยว เจโตวิมุตฺติสฺิตา.
อรหา อิเมหิ โธเนยฺเยหิ ธมฺเมหีติ ราคาทีหิ กิเลเสหิ ทูเร ิโต อรหา อิเมหิ วุตฺตปฺปกาเรหิ กิเลสโธวเนหิ ธมฺเมหิ อุเปโต โหติ. โธโนติ โธโน ปุคฺคโล, เตเนว ‘‘โส ธุตราโค’’ติอาทโย อาห.
มายา วุจฺจติ วฺจนิกาจริยาติ วฺจนกิริยํ วฺจนกรณํ อสฺสา อตฺถีติ วฺจนิกาจริยา. ตสฺส ปฏิจฺฉาทนเหตูติ ¶ เตสํ ทุจฺจริตานํ อปฺปกาสนการณา. ปาปิกํ อิจฺฉํ ปณิทหตีติ ลามกํ ปตฺถนํ ปติฏฺาเปติ. ‘‘มา มํ ชฺา’’ติ อิจฺฉตีติ ‘‘มยฺหํ กตํ ปาปํ ปเร มา ชานึสู’’ติ ปจฺจาสีสติ. สงฺกปฺเปตีติ วิตกฺกํ อุปฺปาเทติ. วาจํ ภาสตีติ ชานํเยว ปณฺณตฺตึ วีติกฺกมนฺโต ภิกฺขุ ภาริยํ กโรติ. ‘‘อมฺหากํ วีติกฺกมฏฺานํ นาม นตฺถี’’ติ อุปสนฺโต วิย ภาสติ. กาเยน ปรกฺกมตีติ ‘‘มยา กตํ อิทํ ปาปกมฺมํ มา เกจิ ชานึสู’’ติ กาเยน วตฺตํ กโรติ. วิชฺชมานโทสปฏิจฺฉาทนโต จกฺขุโมหนมายา อสฺสาติ มายาวี, มายาวิโน ภาโว มายาวิตา. กตฺวา ปาปํ ปุน ปฏิจฺฉาทนโต อติจฺจ อสฺสรติ เอตาย สตฺโตติ อจฺจสรา. กายวาจากิริยาหิ อฺถา ทสฺสนโต วฺเจตีติ วฺจนา ¶ . เอตาย สตฺตา นิกโรนฺตีติ นิกติ, มิจฺฉา กโรนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘นาหํ เอวํ กโรมี’’ติ ปาปานํ วิกฺขิปนโต นิกิรณา. ‘‘นาหํ เอวํ กโรมี’’ติ ปริวชฺชนโต ปริหรณา. กายาทีหิ สํหรณโต คูหนา. สมภาเคน คูหนา ปริคูหนา. ติณปณฺเณหิ วิย คูถํ กายวจีกมฺเมหิ ปาปํ ฉาเทตีติ ฉาทนา. สพฺพโต ภาเคน ฉาทนา ปริจฺฉาทนา. น อุตฺตานึ กตฺวา ทสฺเสตีติ อนุตฺตานิกมฺมํ. น ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสตีติ อนาวิกมฺมํ. สุฏฺุ ฉาทนา โวจฺฉาทนา. กตปฏิจฺฉาทนวเสน ปุนปิ ปาปสฺส กรณโต ปาปกิริยา. อยํ วุจฺจตีติ อยํ กตปฏิจฺฉาทนลกฺขณา มายา นาม วุจฺจติ, ยาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ภสฺมปฏิจฺฉนฺโน วิย องฺคาโร, อุทกปฏิจฺฉนฺโน วิย ขาณุ, ปิโลติกปลิเวิตํ วิย จ สตฺถํ โหติ.
เอกวิเธน ¶ มาโนติ เอกปริจฺเฉเทน เอกโกฏฺาเสน มาโน. ยา จิตฺตสฺส อุนฺนตีติ ยา จิตฺตสฺส อพฺภุสฺสาปนา, อยํ มาโนติ อตฺโถ. เอตฺถ ปุคฺคลํ อนามสิตฺวา นิพฺพตฺติตมาโนว วุตฺโต.
อตฺตุกฺกํสนมาโนติ อตฺตานํ อุปริ ปนมาโน. ปรวมฺภนมาโนติ ปเร ลามกกรณมาโน. อิเม ทฺเว มานา เยภุยฺเยน ตถา ปวตฺตาการวเสน วุตฺตา.
‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มาโนติ ชาติอาทีนิ นิสฺสาย ‘‘อหมสฺมิ เสยฺโย’’ติ ¶ อุปฺปนฺโน มาโน. สทิสมานาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวมิเมปิ ตโย มานา ปุคฺคลวิเสสํ อนิสฺสาย ตถา ปวตฺตาการวเสน วุตฺตา. เตสุ เอเกโก ติณฺณมฺปิ เสยฺยสทิสหีนานํ อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มาโน เสยฺยสฺเสว ยาถาวมาโน, เสสานํ อยาถาวมาโน. ‘‘สทิโสหมสฺมี’’ติ มาโน สทิสสฺเสว ยาถาวมาโน, เสสานํ อยาถาวมาโน. ‘‘หีโนหมสฺมี’’ติ มาโน หีนสฺเสว ยาถาวมาโน, เสสานํ อยาถาวมาโน.
จตุพฺพิเธน มาโน โลกธมฺมวเสน วุตฺโต. ปฺจวิเธน มาโน ปฺจกามคุณวเสน วุตฺโต. ฉพฺพิเธน มาโน จกฺขาทิสมฺปตฺติวเสน วุตฺโต. ตตฺถ มานํ ชเนตีติ มานํ อุปฺปาเทติ.
สตฺตวิเธน มานนิทฺเทเส มาโนติ อุนฺนโม. อติมาโนติ ‘‘ชาติอาทีหิ มยา สทิโส นตฺถี’’ติ อติกฺกมิตฺวา มฺนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน. มานาติมาโนติ ‘‘อยํ ปุพฺเพ มยา สทิโส, อิทานิ อหํ เสฏฺโ, อยํ หีนตโร’’ติ อุปฺปนฺโน มาโน. อยํ ภาราติภาโร วิย ปุริมํ ¶ สทิสมานํ อุปาทาย มานาติมาโน นามาติ ทสฺเสตุํ ‘‘มานาติมาโน’’ติ อาห. โอมาโนติ หีนมาโน. โย ‘‘หีโนหมสฺมี’’ติ มาโน นาม วุตฺโต, อยํ โอมาโน นาม. อปิ เจตฺถ ‘‘ตฺวํ ชาติมา, กากชาติ วิย เต ชาติ. ตฺวํ โคตฺตวา, จณฺฑาลโคตฺตํ วิย เต โคตฺตํ. ตุยฺหํ สโร อตฺถิ, กากสโร วิย เต สโร’’ติ เอวํ อตฺตานํ เหฏฺา กตฺวา ปวตฺตนวเสน อยํ ‘‘โอมาโน’’ติ เวทิตพฺโพ.
อธิมาโนติ จตฺตาริ สจฺจานิ อปฺปตฺวา ปตฺตสฺิสฺส, จตูหิ มคฺเคหิ กตฺตพฺเพ กิจฺเจ อกเตเยว กตสฺิสฺส, จตุสจฺจธมฺเม อนธิคเต อธิคตสฺิสฺส ¶ , อรหตฺเต อสจฺฉิกเต สจฺฉิกตสฺิสฺส อุปฺปนฺโน อธิคตมาโน อธิมาโน นาม. อยํ ปน กสฺส อุปฺปชฺชติ, กสฺส น อุปฺปชฺชตีติ? อริยสาวกสฺส ตาว น อุปฺปชฺชติ. โส หิ มคฺคผลนิพฺพานปหีนกิเลสาวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขเณน สฺชาตโสมนสฺโส อริยคุณปฏิเวเธ นิกฺกงฺโข, ตสฺมา โสตาปนฺนาทีนํ ‘‘อหํ สกทาคามี’’ติอาทิวเสน มาโน น อุปฺปชฺชติ, ทุสฺสีลสฺส จ น อุปฺปชฺชติ. โส หิ อริยคุณาธิคเม นิราโสว. สีลวโตปิ ปริจฺจตฺตกมฺมฏฺานสฺส นิทฺทารามตาทิมนุยุตฺตสฺส น อุปฺปชฺชติ ¶ , ปริสุทฺธสีลสฺส ปน กมฺมฏฺาเน อปฺปมตฺตสฺส นามรูปํ ววตฺถเปตฺวา ปจฺจยปริคฺคเหน วิติณฺณกงฺขสฺส ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺตสฺส อารทฺธวิปสฺสกสฺส อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺเน จ สุทฺธสมถลาภี สุทฺธวิปสฺสนาลาภี วา อนฺตรา เปติ. โส หิ ทสปิ วสฺสานิ วีสมฺปิ วสฺสานิ ตึสมฺปิ วสฺสานิ อสีติปิ วสฺสานิ กิเลสสมุทาจารํ อปสฺสนฺโต ‘‘อหํ โสตาปนฺโน’’ติ วา ‘‘สกทาคามี’’ติ วา ‘‘อนาคามี’’ติ วา มฺติ, สมถวิปสฺสนาลาภี ปน อรหตฺเตเยว เปติ. ตสฺส หิ สมาธิพเลน กิเลสา วิกฺขมฺภิตา, วิปสฺสนาพเลน สงฺขารา สุปริคฺคหิตา, ตสฺมา สฏฺิปิ วสฺสานิ อสีติปิ วสฺสานิ วสฺสสตมฺปิ กิเลสา น สมุทาจรนฺติ, ขีณาสวสฺเสว จิตฺตาจาโร โหติ. โส เอวํ ทีฆรตฺตํ กิเลสสมุทาจารํ อปสฺสนฺโต อนฺตรา อฏฺตฺวาว ‘‘อรหา อห’’นฺติ มฺติ.
อสฺมิมาโนติ รูเป อสฺมีติอาทินา นเยน ปฺจสุ ขนฺเธสุ ‘‘อหํ รูปาทโย’’ติ อุปฺปนฺโน มาโน. มิจฺฉามาโนติ ปาปเกหิ กมฺมายตนสิปฺปายตนวิชฺชาฏฺานสุตปฏิภานสีลพฺพเตหิ, ปาปิกาย จ ทิฏฺิยา อุปฺปนฺโน มาโน. ตตฺถ ปาปกํ กมฺมายตนํ นาม เกวฏฺฏมจฺฉพนฺธเนสาทานํ กมฺมํ. ปาปกํ สิปฺปายตนํ นาม มจฺฉชาลขิปกุมีนกรเณสุ เจว ปาสโอฑฺฑนสูลาโรปนาทีสุ จ เฉกตา. ปาปกํ วิชฺชาฏฺานํ นาม ยา กาจิ ปรูปฆาตวิชฺชา. ปาปกํ สุตํ นาม ภารตยุทฺธสีตาหรณาทิปฏิสํยุตฺตํ. ปาปกํ ปฏิภานํ นาม ทุพฺภาสิตยุตฺตํ กปฺปนาฏกวิลปฺปนาทิปฏิภานํ ¶ . ปาปกํ สีลํ นาม อชสีลํ โคสีลํ. วตมฺปิ อชวตโควตเมว. ปาปิกา ทิฏฺิ ปน ทฺวาสฏฺิยา ทิฏฺิคเตสุ ยากาจิ ทิฏฺิ. อฏฺวิธมาโน อุตฺตานตฺโถเยว.
นววิเธน ¶ มานนิทฺเทเส เสยฺยสฺส ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทโย นว มานา ปุคฺคลํ นิสฺสาย วุตฺตา. เอตฺถ ปน เสยฺยสฺส ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มาโน ราชานฺเจว ปพฺพชิตานฺจ อุปฺปชฺชติ. ราชา หิ ‘‘รฏฺเน วา ธนวาหเนหิ วา โก ¶ มยา สทิโส อตฺถี’’ติ เอตํ มานํ กโรติ. ปพฺพชิโตปิ ‘‘สีลธุตงฺคาทีหิ โก มยา สทิโส อตฺถี’’ติ เอตํ มานํ กโรติ.
เสยฺยสฺส ‘‘สทิโสหมสฺมี’’ติ มาโนปิ เอเตสํเยว อุปฺปชฺชติ. ราชา หิ ‘‘รฏฺเน วา ธนวาหเนหิ วา อฺราชูหิ สทฺธึ มยฺหํ กึ นานากรณ’’นฺติ เอตํ มานํ กโรติ. ปพฺพชิโตปิ ‘‘สีลธุตงฺคาทีหิ อฺเน ภิกฺขุนา มยฺหํ กึ นานากรณ’’นฺติ เอตํ มานํ กโรติ.
เสยฺยสฺส ‘‘หีโนหมสฺมี’’ติ มาโนปิ เอเตสํเยว อุปฺปชฺชติ. ยสฺส หิ รฺโ รฏฺํ วา ธนวาหนาทีนิ วา นาติสมฺปนฺนานิ โหนฺติ, โส ‘‘มยฺหํ ราชาติ โวหารสุขมตฺตกเมว, กึ ราชา นาม อห’’นฺติ เอตํ มานํ กโรติ. ปพฺพชิโตปิ อปฺปลาภสกฺกาโร ‘‘อหํ ธมฺมกถิโก, พหุสฺสุโต, มหาเถโรติ กถามตฺตเมว, กึ ธมฺมกถิโก นามาหํ, กึ พหุสฺสุโต นามาหํ, กึ มหาเถโร นามาหํ, ยสฺส เม ลาภสกฺกาโร นตฺถี’’ติ เอตํ มานํ กโรติ.
สทิสสฺส ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มานาทโย อมจฺจาทีนํ อุปฺปชฺชนฺติ. อมจฺโจ วา หิ รฏฺิโย วา ‘‘โภคยานวาหนาทีหิ โก มยา สทิโส อฺโ ราชปุริโส อตฺถี’’ติ วา, ‘‘มยฺหํ อฺเหิ สทฺธึ กึ นานากรณ’’นฺติ วา, ‘‘อมจฺโจติ นามเมว มยฺหํ, ฆาสจฺฉาทนมตฺตมฺปิ เม นตฺถิ, กึ อมจฺโจ นามาห’’นฺติ วา เอเต มาเน กโรติ.
หีนสฺส ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มานาทโย ทาสาทีนํ อุปฺปชฺชนฺติ. ทาโส หิ ‘‘มาติโต วา ปิติโต วา โก มยา สทิโส อฺโ ทาโส นาม อตฺถิ, อฺเ ชีวิตุํ อสกฺโกนฺตา กุจฺฉิเหตุ ทาสา นาม ชาตา, อหํ ปน ปเวณีอาคตตฺตา เสยฺโย’’ติ วา, ‘‘ปเวณีอาคตภาเวน อุภโตสุทฺธิกทาสตฺเตน อสุกทาเสน นาม สทฺธึ กิ มยฺหํ นานากรณ’’นฺติ วา, ‘‘กุจฺฉิวเสนาหํ ทาสพฺยํ อุปคโต, มาตาปิตุโกฏิยา ปน เม ทาสฏฺานํ นตฺถิ ¶ , กึ ทาโส นาม อห’’นฺติ วา เอเต มาเน กโรติ. ยถา จ ทาโส, เอวํ ปุกฺกุสจณฺฑาลาทโยปิ เอเต มาเน กโรนฺติเยว.
เอตฺถ ¶ จ เสยฺยสฺส ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ อุปฺปนฺนมาโนว ยาถาวมาโน, อิตเร ทฺเว อยาถาวมานา. ตถา สทิสสฺส ‘‘สทิโสหมสฺมี’’ติ, หีนสฺส ‘‘หีโนหมสฺมี’’ติ อุปฺปนฺนมาโนว ยาถาวมาโน, อิตเร ทฺเว อยาถาวมานา. ตตฺถ ยาถาวมานา อรหตฺตมคฺควชฺฌา, อยาถาวมานา โสตาปตฺติมคฺควชฺฌา.
เอตฺถ ¶ จ เสยฺยสฺส ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มาโน อุตฺตมสฺส อุตฺตมฏฺเน ‘‘อหํ เสยฺโย’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนมาโน, เสยฺยสฺส ‘‘สทิโสหมสฺมี’’ติ มาโน อุตฺตมสฺส สมฏฺเน ‘‘อหํ สทิโส’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนมาโน. เสยฺยสฺส ‘‘หีโนหมสฺมี’’ติ มาโน อุตฺตมสฺส ลามกฏฺเน ‘‘อหํ หีโน’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนมาโน. เอวํ เสยฺยมาโน สทิสมาโน หีนมาโนติ อิเม ตโย มานา เสยฺยสฺส อุปฺปชฺชนฺติ. สทิสสฺสาปิ อหํ เสยฺโย, สทิโส, หีโนติ ตโย มานา อุปฺปชฺชนฺติ. หีนสฺสาปิ อหํ หีโน, สทิโส, เสยฺโยติ ตโย มานา อุปฺปชฺชนฺติ.
ทสวิธมานนิทฺเทเส อิเธกจฺโจ มานํ ชเนตีติ เอกจฺโจ ปุคฺคโล มานํ ชนยติ. ชาติยา วาติ ขตฺติยภาวาทิชาติสมฺปตฺติยา วา. โคตฺเตน วาติ โคตมโคตฺตาทินา อุกฺกฏฺโคตฺเตน วา. โกลปุตฺติเยน วาติ มหากุลภาเวน วา. วณฺณโปกฺขรตาย วาติ วณฺณสมฺปนฺนสรีรตาย วา. สรีรฺหิ ‘‘โปกฺขร’’นฺติ วุจฺจติ, ตสฺส วณฺณสมฺปตฺติยา อภิรูปภาเวนาติ อตฺโถ. ธเนน วาติ ธนสมฺปนฺนภาเวน วา, มยฺหํ นิธานคตสฺส ธนสฺส ปมาณํ นตฺถีติ อตฺโถ. อชฺเฌเนน วาติ อชฺฌายนวเสน วา. กมฺมายตเนน วาติ ‘‘อวเสสา สตฺตา ฉินฺนปกฺขกากสทิสา, อหํ ปน มหิทฺธิโก มหานุภาโว’’ติ วา, ‘‘อหํ ยํ ยํ กมฺมํ กโรมิ, ตํ ตํ สมิชฺฌตี’’ติ วา เอวมาทินยปฺปวตฺเตน กมฺมายตเนน วา. สิปฺปายตเนน วาติ ‘‘อวเสสา สตฺตา นิสิปฺปา, อหํ สิปฺปวา’’ติ เอวมาทินยปฺปวตฺเตน สิปฺปายตเนน วา. วิชฺชาฏฺาเนน วาติ อิทํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. สุเตน วาติ ‘‘อวเสสา สตฺตา อปฺปสฺสุตา, อหํ ปน พหุสฺสุโต’’ติ เอวมาทิสุเตน วา. ปฏิภาเนน วาติ ‘‘อวเสสา สตฺตา อปฺปฏิภานา, มยฺหํ ปน ปฏิภานปฺปมาณํ นตฺถี’’ติ เอวมาทิปฏิภาเนน วา. อฺตรฺตเรน วา วตฺถุนาติ อวุตฺเตน อฺเน วตฺถุนา วา. โย เอวรูโป มาโนติ มานกรณวเสน มาโน. มฺนา มฺิตตฺตนฺติ อาการภาวนิทฺเทโส. อุสฺสิตฏฺเน อุนฺนติ. ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ ¶ ปุคฺคลํ อุนฺนาเมติ อุกฺขิปิตฺวา เปตีติ อุนฺนาโม. สมุสฺสิตฏฺเน ธโช. อุกฺขิปนฏฺเน จิตฺตํ สมฺปคฺคณฺหาตีติ สมฺปคฺคาโห. เกตุ ¶ วุจฺจติ พหูสุ ธเชสุ อจฺจุคฺคตธโช ¶ . มาโนปิ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชมาโน อปราปเร อุปาทาย อจฺจุคฺคตฏฺเน เกตุ วิยาติ เกตุ, ตํ เกตุํ อิจฺฉตีติ เกตุกมฺยํ, ตสฺส ภาโว เกตุกมฺยตา. สา ปน จิตฺตสฺส, น อตฺตโน. เตน วุตฺตํ ‘‘เกตุกมฺยตา จิตฺตสฺสา’’ติ. มานสมฺปยุตฺตฺหิ จิตฺตํ เกตุํ อิจฺฉติ, ตสฺส ภาโว, เกตุสงฺขาโต มาโนติ. โธโน มายฺจ มานฺจ ปหาย ปชหิตฺวา โย โส โธโน อรหา เหฏฺา วุตฺตนเยน วิโนทนพฺยนฺติกรณาทิวเสน กิเลเส ปชหิตฺวา ิโต, โส เตน ราคาทินา กิเลเสน คจฺเฉยฺย.
เนรยิโกติ วาติ นิรเย นิพฺพตฺตกสตฺโตติ วา. ติรจฺฉานโยนิกาทีสุปิ เอเสว นโย. โส เหตุ นตฺถีติ เยน ชนกเหตุนา คติยาทีสุ นิพฺพตฺเตยฺย, โส เหตุ นตฺถิ. ปจฺจโยติ ตสฺเสว เววจนํ. การณนฺติ านํ. การณฺหิ ตทายตฺตวุตฺติตาย อตฺตโน ผลสฺส านนฺติ วุจฺจติ. ตสฺมา เยน เหตุนา เยน ปจฺจเยน คติยาทีสุ นิพฺพตฺเตยฺย, ตํ การณํ นตฺถิ.
๒๒. โย ปน เนสํ ทฺวินฺนํ อุปยานํ ภาเวน อุปโย โหติ, โส อุปโย หิ…เป… ทิฏฺิมิเธว สพฺพนฺติ. ตตฺถ อุปโยติ ตณฺหาทิฏฺินิสฺสิโต. ธมฺเมสุ อุเปติ วาทนฺติ ‘‘รตฺโต’’ติ วา ‘‘ทุฏฺโ’’ติ วา เอวํ เตสุ เตสุ ธมฺเมสุ อุเปติ วาทํ. อนูปยํ เกน กถํ วเทยฺยาติ ตณฺหาทิฏฺิปฺปหาเนน ปน อนูปยํ ขีณาสวํ เกน ราเคน วา โทเสน วา กถํ ‘‘รตฺโต’’ติ วา ‘‘ทุฏฺโ’’ติ วา วเทยฺย. เอวํ อนุปวชฺโช จ โส กึ ติตฺถิยา วิย กตปฏิจฺฉาทโก ภวิสฺสตีติ อธิปฺปาโย. อตฺตา นิรตฺตา น หิ ตสฺส อตฺถีติ ตสฺส หิ อตฺตทิฏฺิ วา อุจฺเฉททิฏฺิ วา นตฺถิ, คหณมฺุจนํ วาปิ อตฺตนิรตฺตสฺิตํ นตฺถิ. กึ การณา นตฺถีติ เจ? อโธสิ โส ทิฏฺิมิเธว สพฺพนฺติ. ยสฺมา โส อิเธว อตฺตภาเว าณมฺพุนา สพฺพทิฏฺิคตํ อโธสิ ปชหิ วิโนเทสีติ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ. ตํ สุตฺวา ราชา อตฺตมโน ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปกฺกามีติ.
รตฺโตติ วาติ ราเคน รตฺโตติ วา. ทุฏฺโติ วาติอาทีสุปิ เอเสว ¶ นโย. เต อภิสงฺขารา อปฺปหีนาติ เย ปฺุาปฺุอาเนฺชาภิสงฺขารา, เต ¶ อปฺปหีนา. อภิสงฺขารานํ อปฺปหีนตฺตาติ เตสํ วุตฺตปฺปการานํ กมฺมาภิสงฺขารานํ น ปหีนภาเวน. คติยา วาทํ อุเปตีติ ปฺจนฺนํ คตีนํ อฺตราย กถนํ อุปคจฺฉติ. เตเนวาห – ‘‘เนรยิโกติ วา…เป… วาทํ อุเปติ อุปคจฺฉตี’’ติ. วเทยฺยาติ กเถยฺย. คหิตํ นตฺถีติ คเหตพฺพํ นตฺถิ. มฺุจิตพฺพํ นตฺถีติ มฺุจิตฺวา ิตตฺตา โมเจตพฺพํ นตฺถิ.
ยสฺสตฺถิ ¶ คหิตนฺติ ยสฺส ปุคฺคลสฺส ‘‘อหํ มมา’’ติ คหิตํ อตฺถิ. ตสฺสตฺถิ มฺุจิตพฺพนฺติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส โมเจตพฺพํ อตฺถิ. อุปริ ปทานิ ปริวตฺเตตฺวา โยเชตพฺพานิ. คหณํ มฺุจนา สมติกฺกนฺโตติ คหณโมจนา อรหา อติกฺกนฺโต. พุทฺธิปริหานิวีติวตฺโตติ วฑฺฒิฺจ ปริหานิฺจ อติกฺกมิตฺวา ปวตฺโต. โส วุฏฺวาโสติอาทึ กตฺวา าณคฺคินา ทฑฺฒานีติ ปริโยสานํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. อโธสีติ กนฺเตสิ. ธุนิ สนฺธุนิ นิทฺธุนีติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย
ทุฏฺฏฺกสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สุทฺธฏฺกสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๒๓. จตุตฺเถ ¶ ¶ สุทฺธฏฺเก ปมคาถาย ตาวตฺโถ – น, ภิกฺขเว, เอวรูเปน ทสฺสเนน สุทฺธิ โหติ, อปิ จ โข กิเลสมลีนตฺตา อสุทฺธํ, กิเลสโรคานํ อธิคมา สโรคเมว จนฺทาภํ พฺราหฺมณํ, อฺํ วา เอวรูปํ ทิสฺวา ทิฏฺิคติโก พาโล อภิชานาติ ‘‘ปสฺสามิ สุทฺธํ ปรมํ อโรคํ, เตน จ ทิฏฺิสงฺขาเตน ทสฺสเนน สํสุทฺธิ นรสฺส โหตี’’ติ, โส เอวํ อภิชานนฺโต ตํ ทสฺสนํ ‘‘ปรม’’นฺติ ตฺวา ตสฺมึ ทสฺสเน สุทฺธานุปสฺสี สมาโน ตํ ทสฺสนํ ‘‘มคฺคาณ’’นฺติ ปจฺเจติ. ตํ ปน มคฺคาณํ น โหติ.
ปรมํ อาโรคฺยปฺปตฺตนฺติ อุตฺตมํ นิพฺยาธึ ปาปุณิตฺวา ิตํ. ตาณปฺปตฺตนฺติ ตถา ปาลนปฺปตฺตํ. เลณปฺปตฺตนฺติ นิลียนปฺปตฺตํ.สรณปฺปตฺตนฺติ ปติฏฺาปตฺตํ, ทุกฺขนาสนํ วา ปตฺตํ. อภยปฺปตฺตนฺติ นิพฺภยภาวปฺปตฺตํ. อจฺจุตปฺปตฺตนฺติ นิจฺจลภาวํ ปตฺตํ. อมตปฺปตฺตนฺติ อมตํ มหานิพฺพานํ ปตฺตํ. นิพฺพานปฺปตฺตนฺติ วานวิรหิตํ ปตฺตํ.
อภิชานนฺโตติ ¶ วิเสเสน ชานนฺโต. อาชานนฺโตติ อาชานมาโน. วิชานนฺโตติ อเนกวิเธน ชานมาโน. ปฏิวิชานนฺโตติ ตํ ตํ ปฏิจฺจ วิชานมาโน. ปฏิวิชฺฌนฺโตติ หทเย กุรุมาโน.
จกฺขุวิฺาณํ รูปทสฺสเนนาติ จกฺขุวิฺาเณน รูปทสฺสนํ. าณนฺติ ปจฺเจตีติ ปฺา อิติ สทฺทหติ. มคฺโคติ ปจฺเจตีติ ‘‘อุปาโย’’ติ สทฺทหติ. ปโถติ สฺจาโร. นียานนฺติ คเหตฺวา ยาตีติ นียานํ. ‘‘นิยฺยาน’’นฺติ วา ปาโ.
๒๔. ‘‘ทิฏฺเน ¶ เจ สุทฺธี’’ติ ทุติยคาถา. ตสฺสตฺโถ – เตน รูปทสฺสนสงฺขาเตน ทิฏฺเน ยทิ กิเลสสุทฺธิ นรสฺส โหติ, เตน วา าเณน โส ยทิ ชาติอาทิทุกฺขํ ปชหาติ, เอวํ สนฺเต ¶ อริยมคฺคโต อฺเน อสุทฺธิมคฺเคเนว โส สุชฺฌติ, ราคาทีหิ อุปธีหิ สอุปธิโก เอว สมาโน สุชฺฌตีติ วตฺตพฺพตํ อาปนฺโน โหติ, น จ เอวํวิโธ สุชฺฌติ. ตสฺมา ทิฏฺี หิ นํ ปาว ตถา วทานํ, สา นํ ทิฏฺิเยว ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิโก อย’’นฺติ กเถติ, ทิฏฺิอนุรูปํ ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติอาทินา นเยน ตถา ตถา วทตีติ.
ราเคน สห วตฺตตีติ สราโค, ราควาติ อตฺโถ. สโทโสติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
๒๕. น พฺราหฺมโณติ ตติยคาถา. ตสฺสตฺโถ – โย ปน พาหิตปาปตฺตา พฺราหฺมโณ โหติ, โส มคฺเคน อธิคตาสวกฺขโย ขีณาสวพฺราหฺมโณ อริยมคฺคาณโต อฺเน อภิมงฺคลสมฺมตรูปสงฺขาเต ทิฏฺเ, ตถาวิธสทฺทสงฺขาเต สุเต, อวีติกฺกมสงฺขาเต สีเล, หตฺถิวตาทิเภเท วเต, ปถวิอาทิเภเท มุเต จ อุปฺปนฺเนน มิจฺฉาาเณน สุทฺธึ น อาหาติ. เสสมสฺส พฺราหฺมณสฺส วณฺณภณนาย วุตฺตํ. โส หิ เตธาตุกปฺุเ สพฺพสฺมิฺจ ปาเป อนูปลิตฺโต, กสฺมา? ตสฺส ปหีนตฺตา ตสฺส อตฺตทิฏฺิยา, ยสฺส กสฺสจิ วา คหณสฺส ปหีนตฺตา อตฺตฺชโห, ปฺุาภิสงฺขาราทีนํ อกรณโต ‘‘นยิธ ปกุพฺพมาโน’’ติ วุจฺจติ. ตสฺมา นํ เอวํ ปสํสนฺโต อาห. สพฺพสฺเสว จสฺส ปุริมปาเทน สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ – ปฺุเ จ ปาเป จ อนูปลิตฺโต อตฺตฺชโห ¶ นยิธ ปกุพฺพมาโน น พฺราหฺมโณ อฺโต สุทฺธิมาหาติ. นาติ ปฏิกฺเขโปติ น อิติ ปฏิเสโธ.
พาหิตฺวา สพฺพปาปกานีติ คาถายตฺโถ – โย จตุตฺถมคฺเคน พาหิตฺวา สพฺพปาปกานิ ิตตฺโต ิโตอิจฺเจว วุตฺตํ โหติ. พาหิตปาปตฺตา เอว จ วิมโล วิมลภาวํ พฺรหฺมภาวํ เสฏฺภาวํ ปตฺโต, ปฏินิสฺสฏฺสมาธิวิกฺเขปกรกิเลสมเลน ¶ อคฺคมคฺคผลสมาธินา สาธุสมาหิโต, สํสารเหตุสมติกฺกเมน สํสารมติจฺจ ปรินิฏฺิตกิจฺจตาย เกวลีติ จ, ตณฺหาทิฏฺีหิ อนิสฺสิตตฺตา อนิสฺสิโตติ จ, โลกธมฺเมหิ นิพฺพิการตฺตา ตาทีติ จ ปวุจฺจติ. เอวํ ถุติรโห ส พฺรหฺมา โส พฺราหฺมโณติ.
อฺตฺร สติปฏฺาเนหีติ จตฺตาโร สติปฏฺาเน มฺุจิตฺวา. สมฺมปฺปธานาทีสุปิ เอเสว นโย.
สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณาติ เอกจฺเจ โลกสงฺเกเตน ‘‘สมณพฺราหฺมณา’’ติ ลทฺธโวหารา สํวิชฺชนฺติ. ทิฏฺสุทฺธิกาติ ทิฏฺเน สุทฺธึ อิจฺฉมานา. เต เอกจฺจานํ รูปานํ ทสฺสนนฺติ เอเต ทิฏฺสุทฺธิกา ¶ เอเตสํ รูปารมฺมณานํ โอโลกนํ. มงฺคลํ ปจฺเจนฺตีติ อิทฺธิการณํ พุทฺธิการณํ สพฺพสมฺปตฺติการณํ ปติฏฺาเปนฺติ. อมงฺคลํ ปจฺเจนฺตีติ อนิทฺธิการณํ น พุทฺธิการณํ น สมฺปตฺติการณํ ปติฏฺาเปนฺติ. เต กาลโต วุฏฺหิตฺวาติ เอเต ทิฏฺาทิมงฺคลิกา ปุเรตรเมว อุฏฺหิตฺวา. อภิมงฺคลคตานีติ วิเสเสน วุฑฺฒิการณคตานิ. รูปานิ ปสฺสนฺตีติ นานาวิธานิ รูปารมฺมณานิ ทกฺขนฺติ. จาฏกสกุณนฺติ เอวํนามกํ. ผุสฺสเวฬุวลฏฺินฺติ ผุสฺสนกฺขตฺเตน อุปฺปนฺนํ ตรุณเพฬุวลฏฺึ. คพฺภินิตฺถินฺติ สคพฺภํ อิตฺถึ. กุมารกํ ขนฺเธ อาโรเปตฺวา คจฺฉนฺตนฺติ ตรุณทารกํ อํเส อุสฺสาเปตฺวา คจฺฉมานํ. ปุณฺณฆฏนฺติ อุทกปุณฺณฆฏํ. โรหิตมจฺฉนฺติ รตฺตโรหิตมจฺฉํ. อาชฺรถนฺติ สินฺธวยุตฺตรถํ. อุสภนฺติ มงฺคลอุสภํ. โคกปิลนฺติ กปิลคาวึ.
ปลาลปฺุชนฺติ ถุสราสึ. ตกฺกฆฏนฺติ โคตกฺกาทิปูริตจาฏึ. ริตฺตฆฏนฺติ ¶ ตุจฺฉฆฏํ. นฏนฺติ นฏกาทึ. ‘‘ธุตฺตกิริย’’นฺติ เอเก. นคฺคสมณกนฺติ นิจฺโจฬสมณํ ¶ . ขรนฺติ คทฺรภํ. ขรยานนฺติ คทฺรภยุตฺตํ วยฺหาทิกํ. เอกยุตฺตยานนฺติ เอเกน วาหเนน สํยุตฺตํ ยานํ. กาณนฺติ เอกกฺขิอุภยกฺขิกาณํ. กุณินฺติ หตฺถกุณึ. ขฺชนฺติ ขฺชปาทํ ติริยคตปาทํ. ปกฺขหตนฺติ ปีสปฺปึ. ชิณฺณกนฺติ ชราชิณฺณํ. พฺยาธิกนฺติ พฺยาธิปีฬิตํ. มตนฺติ กาลงฺกตํ.
สุตสุทฺธิกาติ โสตวิฺาเณน สุเตน สุทฺธึ อิจฺฉมานา. สทฺทานํ สวนนฺติ สทฺทารมฺมณานํ สวนํ. วฑฺฒาติ วาติอาทโย โลเก ปวตฺตสทฺทมตฺตานิ คเหตฺวา วุตฺตา. อมงฺคลํ ปน ‘‘กาโณ’’ติอาทินา เตน เตน นาเมน วุตฺตสทฺทาเยว. ‘‘ฉินฺท’’นฺติ วาติ หตฺถปาทาทิจฺฉินฺนนฺติ วา. ‘‘ภินฺท’’นฺติ วาติ สีสาทิภินฺนนฺติ วา. ‘‘ทฑฺฒ’’นฺติ วาติ อคฺคินา ฌาปิตนฺติ วา. ‘‘นฏฺ’’นฺติ วาติ โจราทีหิ วินาสิตนฺติ วา. ‘‘นตฺถี’’ติ วาติ น วิชฺชตีติ วา.
สีลสุทฺธิกาติ สีเลน วิสุทฺธึ อิจฺฉนกา. สีลมตฺเตนาติ สํวรณมตฺเตน. สํยมมตฺเตนาติ อุปรมมตฺเตน. สํวรมตฺเตนาติ ทฺวารถกนมตฺเตน. อวีติกฺกมมตฺเตนาติ น อติกฺกมิตมตฺเตน. สมโณ มุณฺฑิกาปุตฺโตติ มาติโต ลทฺธนามํ. สมฺปนฺนกุสลนฺติ ปริปุณฺณกุสลํ. ปรมกุสลนฺติ อุตฺตมกุสลํ. อุตฺตมปตฺติปฺปตฺตนฺติ อุตฺตมํ อรหตฺตํ ปาปุณิตพฺพตํ ปตฺวา ิตํ. อโยชฺชนฺติ ปราเชตุํ อสกฺกุเณยฺยํ สมณํ.
วตสุทฺธิกาติ สมาทาเนน วเตน สุทฺธึ อิจฺฉนกา. หตฺถิวติกา วาติ สมาทินฺนํ หตฺถิวตํ ¶ เอเตสํ อตฺถีติ หตฺถิวติกา, สพฺพหตฺถิกิริยํ กโรนฺตีติ อตฺโถ. กถํ? ‘‘อชฺช ¶ ปฏฺาย หตฺถีหิ กาตพฺพํ กริสฺสามี’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนจิตฺตา หตฺถีนํ คมนาการํ ติฏฺนาการํ นิสีทนาการํ สยนาการํ อุจฺจารปสฺสาวกรณาการํ, อฺเ หตฺถี ทิสฺวา โสณฺฑํ อุสฺสาเปตฺวา คมนาการฺจ สพฺพํ กโรนฺตีติ หตฺถิวติกา. อสฺสวติกาทีสุปิ ลพฺภมานวเสน ยถาโยคํ โยเชตพฺพํ. เตสุ อวสาเน ทิสาวติกา วาติ ปุรตฺถิมาทิทิสานํ นมสฺสนวเสน สมาทินฺนทิสาวติกา, เอเตสํ วุตฺตปฺปการานํ สมณพฺราหฺมณานํ วตสมาทานํ สมฺปชฺชมานํ หตฺถิอาทีนํ สหพฺยตํ อุปเนติ. สเจ โข ปนสฺส มิจฺฉาทิฏฺิ โหติ ‘‘อิมินาหํ สีลวตสมาทานพฺรหฺมจริเยน เทโว วา เทวฺตโร วา โหมี’’ติ จินฺตยนฺตสฺส นิรยติรจฺฉานโยนีนํ อฺตโร โหตีติ าตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา (ม. นิ. ๒.๗๙) –
‘‘อิธ ¶ , ปุณฺณ, เอกจฺโจ กุกฺกุรวตํ ภาเวติ ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ, กุกฺกุรสีลํ ภาเวติ ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ, กุกฺกุรจิตฺตํ ภาเวติ ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ, กุกฺกุรากปฺปํ ภาเวติ ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ. โส กุกฺกุรวตํ ภาเวตฺวา ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ, กุกฺกุรสีลํ ภาเวตฺวา ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ, กุกฺกุรจิตฺตํ ภาเวตฺวา ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ, กุกฺกุรากปฺปํ ภาเวตฺวา ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา กุกฺกุรานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. สเจ โข ปนสฺส เอวํทิฏฺิ โหติ ‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร วา’ติ, สาสฺส โหติ มิจฺฉาทิฏฺิ. มิจฺฉาทิฏฺิสฺส โข อหํ, ปุณฺณ, ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรํ คตึ วทามิ นิรยํ วา ติรจฺฉานโยนึ วา. อิติ โข, ปุณฺณ, สมฺปชฺชมานํ กุกฺกุรวตํ กุกฺกุรานํ สหพฺยตํ อุปเนติ, วิปชฺชมานํ นิรย’’นฺติ.
คนฺธพฺพวติกาทโย คนฺธพฺพาทีนํ สหพฺยตํ อุปคจฺฉนฺตีติ อตฺโถ น คเหตพฺโพ, มิจฺฉาทิฏฺิยา คหิตตฺตา นิรยติรจฺฉานโยนิเมว อุปคจฺฉนฺตีติ คเหตพฺโพ.
มุตสุทฺธิกาติ ¶ ผุสิเตน สุทฺธิกา. ปถวึ อามสนฺตีติ สสมฺภาริกํ มหาปถวึ กาเยน ผุสนฺติ. หริตนฺติ อลฺลนีลสทฺทลํ. โคมยนฺติ ควาทิโคมยํ. กจฺฉปนฺติ อฏฺิกจฺฉปาทิอเนกวิธํ. ผาลํ อกฺกมนฺตีติ อยผาลํ มทฺทนฺติ. ติลวาหนฺติ ติลสกฏํ ติลราสึ วา. ผุสฺสติลํ ขาทนฺตีติ มงฺคลปฏิสํยุตฺตํ ติลํ ขาทนฺติ. ผุสฺสเตลํ มกฺเขนฺตีติ ตถารูปํ ติลเตลํ สรีรพฺภฺชนํ กโรนฺติ. ทนฺตกฏฺนฺติ ทนฺตโปณํ. มตฺติกาย นฺหายนฺตีติ กุงฺกุฏฺาทิกาย ¶ สณฺหมตฺติกาย สรีรํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา นฺหายนฺติ. สาฏกํ นิวาเสนฺตีติ มงฺคลปฏิสํยุตฺตํ วตฺถํ ปริทหนฺติ. เวนํ เวเนฺตีติ สีสเวนํ ปตฺตุณฺณาทิปฏํ สีเส เปนฺติ ปฏิมุจฺจนฺติ.
เตธาตุกํ กุสลาภิสงฺขารนฺติ กามธาตุรูปธาตุอรูปธาตูสุ ปฏิสนฺธิทายกํ โกสลฺลสมฺภูตํ ปจฺจยาภิสงฺขารํ. สพฺพํ อกุสลนฺติ ทฺวาทสวิธํ อโกสลฺลสมฺภูตํ อกุสลํ. ยโตติ ยทา. เต ทสวิโธ ¶ ปฺุาภิสงฺขาโร จ, ทฺวาทสวิโธ อปฺุาภิสงฺขาโร จ, จตุพฺพิโธ อาเนฺชาภิสงฺขาโร จ ยถานุรูปํ สมุจฺเฉทปฺปหาเนน ปหีนา โหนฺติ. อตฺตทิฏฺิชโหติ ‘‘เอโส เม อตฺตา’’ติ คหิตทิฏฺึ ชโห. คาหํ ชโหติ ‘‘เอโสหมสฺมี’’ติ มานสมฺปยุตฺตคหณํ ชโห. ปุน อตฺตฺชโหติ ‘‘เอตํ มมา’’ติ ตณฺหาคหณวเสน จ ทิฏฺิคหณวเสน จ ปรามสิตฺวา คหิตํ, ปรโต อามฏฺฺจ, ตสฺมึ อภินิวิฏฺฺจ, พลวตณฺหาวเสน คิลิตฺวา อชฺโฌสิตฺจ, พลวมุจฺฉิตฺจ. สพฺพํ ตํ จตฺตํ โหตีติอาทโย วุตฺตนยาเยว.
๒๖. เอวํ ‘‘น พฺราหฺมโณ อฺโต สุทฺธิมาหา’’ติ วตฺวา อิทานิ เย ทิฏฺิคติกา อฺโต สุทฺธึ พฺรุวนฺติ, เตสํ ตสฺสา ทิฏฺิยา อนิพฺพาหกภาวํ ¶ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปุริมํ ปหายา’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – เตหิ อฺโต สุทฺธิวาทา สมานาปิ ยสฺสา ทิฏฺิยา อปฺปหีนตฺตา คหณมฺุจนํ โหติ, ตาย ปุริมํ สตฺถาราทึ ปหาย อปรํ นิสฺสิตา, เอชาสงฺขาตาย ตณฺหาย อนุคตา อภิภูตา ราคาทิเภทํ น ตรนฺติ สงฺคํ, ตฺจ อตรนฺตา ตํ ตํ ธมฺมํ อุคฺคณฺหนฺติ จ นิรสฺสชนฺติ จ มกฺกโฏว สาขนฺติ.
ปุริมํ สตฺถารํ ปหายาติ ปุริมคหิตํ สตฺถุปฏิฺํ วชฺเชตฺวา. ปรํ สตฺถารํ นิสฺสิตาติ อฺํ สตฺถุปฏิฺํ นิสฺสิตา อลฺลีนา. ปุริมํ ธมฺมกฺขานํ ปหายาติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
เอชานุคาติ ตณฺหาย อนุคา. เอชานุคตาติ ตณฺหาย อนุคตา. เอชานุสฏาติ ตณฺหาย อนุสฏา ปกฺขนฺทา วา. เอชาย ปนฺนา ปติตาติ ตณฺหาย นิมุคฺคา จ นิกฺขิปิตา จ.
มกฺกโฏติ วานโร. อรฺเติ วิปิเน. ปวเนติ มหาวเน. จรมาโนติ คจฺฉมาโน. เอวเมวาติ โอปมฺมสํสนฺทนํ. ปุถูติ นานา. ปุถุทิฏฺิคตานีติ นานาวิธานิ ทิฏฺิคตานิ. คณฺหนฺติ จ มฺุจนฺติ จาติ คหณวเสน คณฺหนฺติ จ จชนวเสน มฺุจนฺติ จ. อาทิยนฺติ จ นิรสฺสชนฺติ จาติ ปลิโพธํ กโรนฺติ จ วิสฺสชฺเชนฺติ จ ขิปนฺติ จ.
๒๗. ปฺจมคาถาย ¶ จ สมฺพนฺโธ – โย จ โส ‘‘ทิฏฺี หิ นํ ปาว ตถา วทาน’’นฺติ วุตฺโต, โส สยํ สมาทายาติ. ตตฺถ สยนฺติ สามํ ¶ . สมาทายาติ คเหตฺวา. วตานีติ หตฺถิวตาทีนิ. อุจฺจาวจนฺติ อปราปรํ, หีนปณีตํ วา สตฺถารโต สตฺถาราทึ. สฺสตฺโตติ กามสฺาทีสุ ลคฺโค. วิทฺวา จ เวเทหิ สเมจฺจ ธมฺมนฺติ ปรมตฺถวิทฺวา จ อรหา จตูหิ มคฺคาณเวเทหิ จตุสจฺจธมฺมํ อภิสเมจฺจาติ. เสสํ ปากฏเมว.
สามํ สมาทายาติ สยเมว คเหตฺวา. อาทายาติ อาทิยิตฺวา คณฺหิตฺวา. สมาทายาติ สมฺมา อาทาย. อาทิยิตฺวาติ ปลิโพธํ ¶ กตฺวา. สมาทิยิตฺวาติ สมฺมา ปลิโพธํ กตฺวา. คณฺหิตฺวาติ อวิสฺสชฺเชตฺวา. ปรามสิตฺวาติ ทสฺสิตฺวา. อภินิวิสิตฺวาติ ปติฏฺหิตฺวา. กามสฺาทโย วุตฺตนยา เอว.
วิทฺวาติ เมธาวี. วิชฺชาคโตติ วิชานนภาวํ คโต. าณีติ ปฺาสมฺปนฺโน. วิภาวีติ าเณน วีมํสโก. เมธาวีติ อนิจฺจาทีหิ ตุลิตาโณ. ปฺาติอาทโย เหฏฺา วุตฺตนยาเยว. จตุสจฺจธมฺมํ วิจินาตีติ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค. โพชฺฌงฺคตฺโถ เหฏฺา วุตฺโตว. วีมํสาติ จตุสจฺจธมฺมวิจินนา ปฺาว. ‘‘วีมํสา ธมฺมจินฺตนา’’ติ หิ วุตฺตา. วิปสฺสนาติ มคฺคสมฺปยุตฺตา วิวิธากาเรน ปสฺสนา ปฺาว. สมฺมาทิฏฺีติ โสภนา ปสฏฺา สุนฺทรา มคฺคสมฺปยุตฺตา สมฺมาทิฏฺิ. เตหิ เวเทหีติ เอเตเหว จตูหิ มคฺคาเณหิ. อนฺตคโตติ ชาติชรามรณสฺส ปริโยสานํ คโต. โกฏิคโตติอาทโย เหฏฺา วุตฺตนยาว. เวทานํ วา อนฺตคโตติ ชานิตพฺพานํ อวสานปฺปตฺโต. เวเทหิ วา อนฺตคโตติ จตูหิ มคฺคาณเวเทหิ วฏฺฏทุกฺขสฺส ปริยนฺตภาเวน อนฺตสงฺขาตํ นิพฺพานํ คโต. วิทิตตฺตาติ วิทิตภาเวน ชานิตภาเวน.
เวทานิ วิเจยฺย เกวลานีติ คาถาย อยมตฺโถ – โย จตูหิ มคฺคาณเวเทหิ กิเลสกฺขยํ กโรนฺโต คโต, โส ปรมตฺถโต เวทคู นาม โหติ. โสว สพฺพสมณพฺราหฺมณานํ สตฺถสฺิตานิ เวทานิ ตาเยว มคฺคภาวนาย กิจฺจโต อนิจฺจาทิวเสน วิเจยฺย. ตตฺถ ฉนฺทราคปฺปหาเนน ตเมว สพฺพํ เวทมติจฺจ ยาปิ เวทปจฺจยา, อฺถา วา อุปฺปชฺชนฺติ เวทนา, ตาสุ สพฺพเวทนาสุ วีตราโค โหติ. ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กึ ปตฺตินมาหุ เวทคุ’’นฺติ (สุ. นิ. ๕๓๓) ปุฏฺโ ‘‘อิทํ ปตฺติน’’นฺติ อวตฺวา ¶ ‘‘เวทานิ วิเจยฺย…เป… เวทคู โส’’ติ อาห. ยสฺมา วา โย ปวิจยปฺาย เวทานิ วิเจยฺย, ตตฺถ ฉนฺทราคปฺปหาเนน สพฺพํ เวทมติจฺจ วตฺตติ. โส สตฺถสฺิตานิ เวทานิ คโต าโต อติกฺกนฺโตว โหติ. โย เวทนาสุ ¶ วีตราโค, โสปิ เวทนาสฺิตานิ เวทานิ คโต อติกฺกนฺโต ¶ , อติเวทนํ คโตติปิ เวทคู. ตสฺมา ตมฺปิ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทํ ปตฺติน’’นฺติ อวตฺวา ‘‘เวทานิ วิเจยฺย…เป… เวทคู โส’’ติ อาห.
สเมจฺจาติ าเณน สมาคนฺตฺวา. อภิสเมจฺจาติ าเณน ปฏิวิชฺฌิตฺวา. ธมฺมนฺติ จตุสจฺจธมฺมํ. สพฺเพ สงฺขาราติ สพฺเพ สปฺปจฺจยา ธมฺมา. เต หิ สงฺขตสงฺขารา นาม. ปจฺจเยหิ สงฺคมฺม กรียนฺตีติ สงฺขารา, เต เอวํ ปจฺจเยหิ สงฺคมฺม กตตฺตา ‘‘สงฺขตา’’ติ วิเสเสตฺวา วุตฺตา. ‘‘กมฺมนิพฺพตฺตา เตภูมกรูปารูปธมฺมา อภิสงฺขตสงฺขารา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๕๘๗) อฏฺกถาสุ วุตฺตา. เตปิ ‘‘อนิจฺจา วต สงฺขารา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๒๒๑, ๒๗๒; สํ. นิ. ๑.๑๘๖) สงฺขตสงฺขาเรสุ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ‘‘อวิชฺชาคโตยํ, ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคโล ปฺฺุเจ สงฺขารํ อภิสงฺขโรตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๕๑) อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราว อาคตา. เตภูมิกกุสลากุสลเจตนา อภิสงฺขรณกสงฺขารา นาม. ‘‘ยาวติกา อภิสงฺขารสฺส คติ, ตาวติกํ คนฺตฺวา อกฺขาหตํ มฺเ อฏฺาสี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๑๕) อาคตํ กายิกเจตสิกวีริยํ ปโยคาภิสงฺขาโร นาม. ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺนสฺส โข, อาวุโส วิสาข, ภิกฺขุโน ปมํ นิรุชฺฌติ วจีสงฺขาโร, ตโต กายสงฺขาโร, ตโต จิตฺตสงฺขาโร’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๔๖๔) อาคตา วิตกฺกวิจารา วาจํ สงฺขโรนฺตีติ วจีสงฺขารา, อสฺสาสปสฺสาสา กาเยน สงฺขรียนฺตีติ กายสงฺขารา, สฺา จ เวทนา จ จิตฺเตน สงฺขรียนฺตีติ จิตฺตสงฺขารา. อิธ ปน สงฺขตสงฺขารา อธิปฺเปตา. อนิจฺจา หุตฺวา อภาวฏฺเน. ทุกฺขา ปฏิปีฬนฏฺเน. สพฺเพ ธมฺมาติ นิพฺพานมฺปิ อนฺโตกตฺวา วุตฺตา. อนตฺตา อวสวตฺตนฏฺเน. อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ เอตฺถ ยํ ปฏิจฺจ ผลเมติ, โส ปจฺจโย. ปฏิจฺจาติ น วินา, อปจฺจกฺขิตฺวาติ อตฺโถ. เอตีติ อุปฺปชฺชติ เจว ปวตฺตติ จาติ อตฺโถ. อปิจ อุปการกฏฺโ ปจฺจยฏฺโ. อวิชฺชา จ สา ปจฺจโย จาติ อวิชฺชาปจฺจโย, ตสฺมา ¶ อวิชฺชาปจฺจยา. สงฺขารา สมฺภวนฺตีติ นิพฺพตฺตนฺติ, เอวํ สมฺภวนฺติสทฺทสฺส เสสปเทหิปิ โยชนา กาตพฺพา.
ตตฺถ ¶ กตมา อวิชฺชา? ทุกฺเข อฺาณํ, ทุกฺขสมุทเย อฺาณํ, ทุกฺขนิโรเธ อฺาณํ, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย อฺาณํ, ปุพฺพนฺเต อฺาณํ, อปรนฺเต อฺาณํ, ปุพฺพนฺตาปรนฺเต อฺาณํ, อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ อฺาณํ. กตเม สงฺขารา? ปฺุาภิสงฺขาโร อปฺุาภิสงฺขาโร อาเนฺชาภิสงฺขาโร, กายสงฺขาโร วจีสงฺขาโร จิตฺตสงฺขาโร, อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา, ปฺจ รูปาวจรกุสลเจตนา ปฺุาภิสงฺขาโร, ทฺวาทส อกุสลเจตนา ¶ อปฺุาภิสงฺขาโร, จตสฺโส อรูปาวจรกุสลเจตนา อาเนฺชาภิสงฺขาโร, กายสฺเจตนา กายสงฺขาโร, วจีสฺเจตนา วจีสงฺขาโร, มโนสฺเจตนา จิตฺตสงฺขาโร.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘อิเม สงฺขารา อวิชฺชาปจฺจยา โหนฺตี’’ติ? อวิชฺชาภาเว ภาวโต. ยสฺส หิ ทุกฺขาทีสุ อวิชฺชาสงฺขาตํ อฺาณํ อปฺปหีนํ โหติ, โส ทุกฺเข ตาว ปุพฺพนฺตาทีสุ จ อฺาเณน สํสารทุกฺขํ สุขสฺาย คเหตฺวา ตสฺเสว เหตุภูเต ติวิเธปิ สงฺขาเร อารภติ. สมุทเย อฺาเณน ทุกฺขเหตุภูเตปิ ตณฺหาปริกฺขาเร สงฺขาเร สุขเหตุโต มฺมาโน อารภติ. นิโรเธ ปน มคฺเค จ อฺาเณน ทุกฺขสฺส อนิโรธภูเตปิ คติวิเสเส ทุกฺขนิโรธสฺี หุตฺวา นิโรธสฺส จ อมคฺคภูเตสุปิ ยฺามรตปาทีสุ นิโรธมคฺคสฺี หุตฺวา ทุกฺขนิโรธํ ปตฺถยมาโน ยฺามรตปาทิมุเขน ติวิเธปิ สงฺขาเร อารภติ.
อปิ จ โส ตาย จตูสุ สจฺเจสุ อปฺปหีนาวิชฺชตาย วิเสสโต ชาติชราโรคมรณาทิอเนกาทีนวโวกิณฺณมฺปิ ปฺุผลสงฺขาตํ ทุกฺขํ ทุกฺขโต อชานนฺโต ตสฺส อธิคมาย กายวจีจิตฺตสงฺขารเภทํ ปฺุาภิสงฺขารํ อารภติ เทวจฺฉรกามโก วิย มรุปฺปปาตํ. สุขสมฺมตสฺสาปิ จ ตสฺส ปฺุผลสฺส อนฺเต มหาปริฬาหชนิกํ วิปริณามทุกฺขตํ อปฺปสฺสาทตฺจ อปสฺสนฺโตปิ ตปฺปจฺจยํ วุตฺตปฺปการเมว ปฺุาภิสงฺขารํ อารภติ สลโภ วิย ทีปสิขาภินิปาตํ, มธุพินฺทุคิทฺโธ วิย จ มธุลิตฺตสตฺถธาราเลหนํ.
กามุปเสวนาทีสุ ¶ จ สวิปาเกสุ อาทีนวํ อปสฺสนฺโต สุขสฺาย เจว กิเลสาภิภูตตาย จ ทฺวารตฺตยปฺปวตฺตมฺปิ อปฺุาภิสงฺขารํ อารภติ พาโล ¶ วิย คูถกีฬนํ, มริตุกาโม วิย จ วิสขาทนํ. อารุปฺปวิปาเกสุ จาปิ สงฺขารวิปริณามทุกฺขตํ อนวพุชฺฌมาโน สสฺสตาทิวิปลฺลาเสน จิตฺตสงฺขารภูตํ อาเนฺชาภิสงฺขารํ อารภติ ทิสามูฬฺโห วิย ปิสาจนคราภิมุขมคฺคคมนํ. เอวํ ยสฺมา อวิชฺชาภาวโตว สงฺขารภาโว, น อภาวโต. ตสฺมา ชานิตพฺพเมตํ ‘‘อิเม สงฺขารา อวิชฺชาปจฺจยา โหนฺตี’’ติ.
เอตฺถาห – คณฺหาม ตาว เอตํ ‘‘อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโย’’ติ, กึ ปนายเมกาว อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโย, อุทาหุ อฺเปิ ปจฺจยา สนฺตีติ? กึ ปเนตฺถ ยทิ ตาว เอกาว, เอกการณวาโท อาปชฺชติ. อถ อฺเปิ สนฺติ, ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ เอกการณนิทฺเทโส นุปปชฺชตีติ? น นุปปชฺชติ. กสฺมา? ยสฺมา –
‘‘เอกํ ¶ น เอกโต อิธ, นาเนกมเนกโตปิ โน เอกํ;
ผลมตฺถิ อตฺถิ ปน เอก-เหตุผลทีปเน อตฺโถ’’. (วิภ. อฏฺ. ๒๒๖, สงฺขารปทนิทฺเทส; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๑.๑.๑๐๕; วิสุทฺธิ. ๒.๖๑๗);
ภควา หิ กตฺถจิ ปธานตฺตา, กตฺถจิ ปากฏตฺตา, กตฺถจิ อสาธารณตฺตา เทสนาวิลาสสฺส จ เวเนยฺยานฺจ อนุรูปโต เอกเมว เหตุํ วา ผลํ วา ทีเปติ. ตสฺมา อยมิธ อวิชฺชา วิชฺชมาเนสุปิ อฺเสุ วตฺถารมฺมณสหชาตธมฺมาทีสุ สงฺขารการเณสุ ‘‘อสฺสาทานุปสฺสิโน ตณฺหา ปวฑฺฒตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๕๒) จ, ‘‘อวิชฺชาสมุทยา อาสวสมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๔) จ วจนโต อฺเสมฺปิ ตณฺหาทีนํ สงฺขารเหตูนํ เหตูติ ปธานตฺตา, ‘‘อวิทฺวา, ภิกฺขเว, อวิชฺชาคโต ปฺุาภิสงฺขารมฺปิ อภิสงฺขโรตี’’ติ ปากฏตฺตา, อสาธารณตฺตา จ สงฺขารานํ เหตุภาเวน ทีปิตาติ เวทิตพฺพา. เอเตเนว จ เอเกกเหตุผลทีปนปริหารวจเนน สพฺพตฺถ เอเกกเหตุผลทีปเน ปโยชนํ เวทิตพฺพนฺติ.
เอตฺถาห – เอวํ สนฺเตปิ เอกนฺตานิฏฺผลาย สาวชฺชาย อวิชฺชาย กถํ ปฺุาเนฺชาภิสงฺขารปจฺจยตฺตํ ยุชฺชติ? น หิ นิมฺพพีชโต อุจฺฉุ อุปฺปชฺชตีติ. กถํ น ยุชฺชิสฺสติ? โลกสฺมิฺหิ –
‘‘วิรุทฺโธ ¶ จา วิรุทฺโธ จ, สทิสาสทิโส ตถา;
ธมฺมานํ ปจฺจโย สิทฺโธ, วิปากา เอว เต จ น’’.
อิติ ¶ อยํ อวิชฺชา วิปากวเสน เอกนฺตานิฏฺผลา, สภาววเสน จ สาวชฺชาปิ สมานา สพฺเพสมฺปิ เอเตสํ ปฺุาภิสงฺขาราทีนํ ยถานุรูปํ านกิจฺจสภาววิรุทฺธาวิรุทฺธปจฺจยวเสน, สทิสาสทิสปจฺจยวเสน จ ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพา. อปิ จ อยํ อฺโปิ ปริยาโย –
‘‘จุตูปปาเต สํสาเร, สงฺขารานฺจ ลกฺขเณ;
โย ปฏิจฺจสมุปฺปนฺน-ธมฺเมสุ จ วิมุยฺหติ.
‘‘อภิสงฺขโรติ โส เอเต, สงฺขาเร ติวิเธ ยโต;
อวิชฺชา ปจฺจโย เตสํ, ติวิธานมฺปยํ ตโต.
‘‘ยถาปิ ¶ นาม ชจฺจนฺโธ, นโร อปริณายโก;
เอกทา ยาติ มคฺเคน, อุมฺมคฺเคนาปิ เอกทา.
‘‘สํสาเร สํสรํ พาโล, ตถา อปริณายโก;
กโรติ เอกทา ปฺุํ, อปฺุมปิ เอกทา.
‘‘ยทา จ ตฺวา โส ธมฺมํ, สจฺจานิ อภิสเมสฺสติ;
ตทา อวิชฺชูปสมา, อุปสนฺโต จริสฺสตี’’ติ.
สงฺขารปจฺจยา วิฺาณนฺติ ฉวิฺาณกายา จกฺขุวิฺาณํ โสตวิฺาณํ ฆานวิฺาณํ ชิวฺหาวิฺาณํ กายวิฺาณํ มโนวิฺาณํ. ตตฺถ จกฺขุวิฺาณํ กุสลวิปากํ อกุสลวิปากนฺติ ทุวิธํ. ตถา โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณานิ. มโนวิฺาณํ ปน ทฺเว วิปากมโนธาตุโย, ติสฺโส อเหตุกวิปากมโนวิฺาณธาตุโย, อฏฺ สเหตุกวิปากจิตฺตานิ, ปฺจ รูปาวจรวิปากจิตฺตานิ, จตฺตาริ อรูปาวจรวิปากจิตฺตานีติ พาวีสติวิธํ. อิติ สพฺพานิ พาตฺตึสโลกิยวิปากวิฺาณานิ.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘อิทํ วุตฺตปฺปการํ วิฺาณํ สงฺขารปจฺจยา โหตี’’ติ? อุปจิตกมฺมาภาเว วิปากาภาวโต. วิปากฺเหตํ, วิปากฺจ น อุปจิตกมฺมาภาเว อุปฺปชฺชติ, ยทิ อุปฺปชฺเชยฺย, สพฺเพสํ ¶ สพฺพวิปากานิ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, น จ อุปฺปชฺชนฺตีติ ชานิตพฺพเมตํ ‘‘สงฺขารปจฺจยา อิทํ วิฺาณํ โหตี’’ติ. สพฺพเมว หิ อิทํ ปวตฺติปฏิสนฺธิวเสน ทฺเวธา ปวตฺตติ ¶ . ตตฺถ ทฺเว ปฺจวิฺาณานิ, ทฺเว มโนธาตุโย, โสมนสฺสสหคตา อเหตุกมโนวิฺาณธาตูติ อิมานิ เตรส ปฺจโวการภเว ปวตฺติยํเยว ปวตฺตนฺติ. เสสานิ เอกูนวีสติ ตีสุ ภเวสุ ยถานุรูปํ ปวตฺติยมฺปิ ปฏิสนฺธิยมฺปิ ปวตฺตนฺติ.
‘‘ลทฺธปฺปจฺจยมิติ ธมฺม-มตฺตเมตํ ภวนฺตรมุเปติ;
นาสฺส ตโต สงฺกนฺติ, น ตโต เหตุํ วินา โหติ’’.
อิติ เหตํ ลทฺธปฺปจฺจยํ รูปารูปธมฺมมตฺตํ อุปฺปชฺชมานํ ‘‘ภวนฺตรมุเปตี’’ติ วุจฺจติ, น สตฺโต น ชีโว. ตสฺส จ นาปิ อตีตภวโต อิธ สงฺกนฺติ อตฺถิ, นาปิ ตโต เหตุํ วินา อิธ ¶ ปาตุภาโว. เอตฺถ จ ปุริมํ จวนโต จุติ, ปจฺฉิมํ ภวนฺตราทิปฏิสนฺธานโต ปฏิสนฺธีติ วุจฺจติ.
เอตฺถาห – นนุ เอวํ อสงฺกนฺติปาตุภาเว สติ เย อิมสฺมึ มนุสฺสตฺตภาเว ขนฺธา, เตสํ นิรุทฺธตฺตา, ผลปจฺจยสฺส จ กมฺมสฺส ตตฺถ อคมนโต, อฺสฺส อฺโต จ ตํ ผลํ สิยา, อุปภฺุชเก จ อสติ กสฺส ตํ ผลํ สิยา, ตสฺมา น สุนฺทรมิทํ วิธานนฺติ? ตตฺริทํ วุจฺจติ –
‘‘สนฺตาเน ยํ ผลํ เอตํ, นาฺสฺส น จ อฺโต;
พีชานํ อภิสงฺขาโร, เอตสฺสตฺถสฺส สาธโก.
‘‘ผลสฺสุปฺปตฺติยา เอว, สิทฺธา ภฺุชกสมฺมุติ;
ผลุปฺปาเทน รุกฺขสฺส, ยถา ผลติ สมฺมุตี’’ติ.
โยปิ วเทยฺย ‘‘เอวํ สนฺเตปิ เอเต สงฺขารา วิชฺชมานา วา ผลสฺส ปจฺจยา สิยุํ, อวิชฺชมานา วา. ยทิ จ วิชฺชมานา, ปวตฺติกฺขเณเยว เนสํ วิปาเกน ภวิตพฺพํ. อถ อวิชฺชมานา, ปวตฺติโต ปุพฺเพ ปจฺฉา จ นิจฺจํ ผลาวหา สิยุ’’นฺติ. โส เอวํ วตฺตพฺโพ –
‘‘กตตฺตา ปจฺจยา เอเต, น จ นิจฺจํ ผลาวหา;
ปาฏิโภคาทิกํ ตตฺถ, เวทิตพฺพํ นิทสฺสน’’นฺติ.
วิฺาณปจฺจยา ¶ ¶ นามรูปนฺติ อิธ เวทนาสฺาสงฺขารกฺขนฺธา นามํ, จตฺตาริ มหาภูตานิ จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูปํ รูปํ. อภาวกคพฺภเสยฺยกานํ อณฺฑชานฺจ ปฏิสนฺธิกฺขเณ วตฺถุทสกํ กายทสกนฺติ วีสติ รูปรูปานิ, ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ เอเต เตวีสติ ธมฺมา ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ เวทิตพฺพา. สภาวกานํ ภาวทสกํ ปกฺขิปิตฺวา เตตฺตึส, โอปปาติกสตฺเตสุ พฺรหฺมกายิกาทีนํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ จกฺขุโสตวตฺถุทสกานิ ชีวิตินฺทฺริยนวกฺจาติ เอกูนจตฺตาลีส รูปรูปานิ, ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ เอเต พาจตฺตาลีส ธมฺมา ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ เวทิตพฺพา. กามภเว ปน เสสโอปปาติกานํ, สํเสทชานํ วา สภาวกปริปุณฺณายตนานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายวตฺถุภาวทสกานีติ สตฺตติ รูปรูปานิ, ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ เอเต ¶ เตสตฺตติ ธมฺมา ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ เวทิตพฺพา. เอส อุกฺกํโส, อวกํเสน ปน ตํตํทสกวิกลานํ ตสฺส ตสฺส วเสน หาเปตฺวา หาเปตฺวา ปฏิสนฺธิยํ วิฺาณปจฺจยา นามรูปสงฺขา เวทิตพฺพา. อรูปีนํ ปน ตโยว อรูปิโน ขนฺธา. อสฺีนํ รูปโต ชีวิตินฺทฺริยนวกเมวาติ. เอส ตาว ปฏิสนฺธิยํ นโย.
ปวตฺเต ปน สพฺพตฺถ รูปปวตฺติเทเส ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส ิติกฺขเณ ปฏิสนฺธิจิตฺเตน สห ปวตฺตอุตุโต อุตุสมุฏฺานํ สุทฺธฏฺกํ ปาตุภวติ. ปมภวงฺคโต ปภุติ จิตฺตสมุฏฺานํ สุทฺธฏฺกํ, สทฺทปาตุภาวกาเล อุตุโต เจว จิตฺตโต จ สทฺทนวกํ, กพฬีการาหารูปชีวีนํ อาหารสมุฏฺานํ สุทฺธฏฺกนฺติ เอวํ อาหารสมุฏฺานสฺส, สุทฺธฏฺกสฺส, อุตุจิตฺตสมุฏฺานานฺจ ทฺวินฺนํ นวกานํ วเสน ฉพฺพีสติวิธํ, เอเกกจิตฺเต ติกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชมานํ วุตฺตกมฺมสมุฏฺานฺจ สตฺตติวิธนฺติ ฉนฺนวุติวิธํ รูปํ, ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ นวนวุติธมฺมา ยถาสมฺภวํ ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ เวทิตพฺพา.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘ปฏิสนฺธินามรูปํ วิฺาณปจฺจยา โหตี’’ติ? สุตฺตโต ยุตฺติโต จ. สุตฺเต ¶ หิ ‘‘จิตฺตานุปริวตฺติโน ธมฺมา’’ติอาทินา (ธ. ส. ทุกมาติกา ๖๒) นเยน พหุธา เวทนาทีนํ วิฺาณปจฺจยตา สิทฺธา. ยุตฺติโต ปน –
‘‘จิตฺตเชน ¶ หิ รูเปน, อิธ ทิฏฺเน สิชฺฌติ;
อทิฏฺสฺสาปิ รูปสฺส, วิฺาณํ ปจฺจโย อิตี’’ติ.
นามรูปปจฺจยา สฬายตนนฺติ นามํ วุตฺตเมว. อิธ ปน รูปํ นิยมโต จตฺตาริ มหาภูตานิ, ฉ วตฺถูนิ, ชีวิตินฺทฺริยนฺติ เอกาทสวิธํ. สฬายตนํ ปน จกฺขายตนํ โสตฆานชิวฺหากายมนายตนํ.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘นามรูปํ สฬายตนสฺส ปจฺจโย’’ติ? นามรูปภาเว ภาวโต. ตสฺส ตสฺส หิ นามสฺส รูปสฺส จ ภาเว ตํ ตํ อายตนํ โหติ, น อฺถาติ.
สฬายตนปจฺจยา ผสฺโสติ –
‘‘ฉเฬว ¶ ผสฺสา สงฺเขปา, จกฺขุสมฺผสฺสอาทโย;
วิฺาณมิว พาตฺตึส, วิตฺถาเรน ภวนฺติ เต’’.
ผสฺสปจฺจยา เวทนาติ –
‘‘ทฺวารโต เวทนา วุตฺตา, จกฺขุสมฺผสฺสชาทิกา;
ฉเฬว ตา ปเภเทน, อิธ พาตฺตึส เวทนา’’.
เวทนาปจฺจยา ตณฺหาติ –
‘‘รูปตณฺหาทิเภเทน, ฉ ตณฺหา อิธ ทีปิตา;
เอเกกา ติวิธา ตตฺถ, ปวตฺตาการโต มตา.
‘‘ทุกฺขี สุขํ ปตฺถยติ, สุขี ภิยฺโยปิ อิจฺฉติ;
อุเปกฺขา ปน สนฺตตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตา.
‘‘ตณฺหาย ปจฺจยา ตสฺมา, โหนฺติ ติสฺโสปิ เวทนา;
เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, อิติ วุตฺตา มเหสินา’’ติ.
ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานนฺติ จตฺตาริ อุปาทานานิ กามุปาทานํ ทิฏฺุปาทานํ สีลพฺพตุปาทานํ อตฺตวาทุปาทานํ. อุปาทานปจฺจยา ภโวติ อิธ กมฺมภโว อธิปฺเปโต, อุปปตฺติภโว ปน ปทุทฺธารวเสน วุตฺโต. ภวปจฺจยา ชาตีติ กมฺมภวปจฺจยา ชาติ ปฏิสนฺธิขนฺธานํ ปาตุภโว.
ตตฺถ ¶ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘ภโว ชาติยา ปจฺจโย’’ติ เจ? พาหิรปจฺจยสมตฺเตปิ หีนปณีตตาทิวิเสสทสฺสนโต. พาหิรานฺหิ ชนกชนนิสุกฺกโสณิตาหาราทีนํ ปจฺจยานํ สมตฺเตปิ สตฺตานํ ยมกานมฺปิ ¶ สตํ หีนปณีตตาทิวิเสโส ทิสฺสติ. โส จ น อเหตุโก สพฺพทา จ สพฺเพสฺจ อภาวโต, น กมฺมภวโต อฺเหตุโก ตทภินิพฺพตฺตกสตฺตานํ อชฺฌตฺตสนฺตาเน อฺสฺส การณสฺส อภาวโตติ กมฺมภวเหตุโกว. กมฺมฺหิ สตฺตานํ หีนปณีตตาทิวิเสสสฺส เหตุ. เตนาห ภควา – ‘‘กมฺมํ สตฺเต ¶ วิภชติ ยทิทํ หีนปณีตตายา’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๘๙). ตสฺมา ชานิตพฺพเมตํ ‘‘ภโว ชาติยา ปจฺจโย’’ติ.
ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติอาทีสุ ยสฺมา อสติ ชาติยา ชรามรณฺเจว โสกาทโย จ ธมฺมา น โหนฺติ, ชาติยา ปน สติ ชรามรณฺเจว ชรามรณสงฺขาตทุกฺขธมฺมผุฏฺสฺส พาลสฺส ชรามรณาทิสมฺพนฺธา วา เตน เตน ทุกฺขธมฺเมน ผุฏฺสฺส อนภิสมฺพนฺธา วา โสกาทโย จ ธมฺมา โหนฺติ. ตสฺมา ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ. สเมจฺจ อภิสเมจฺจ ธมฺมนฺติ าเณน สมาคนฺตฺวา จตุสจฺจธมฺมํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา.
เอวํ ทฺวาทสปทิกํ ปจฺจยาการปฺปวตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิวฏฺฏวเสน อวิชฺชาทีนํ นิโรธทสฺสนตฺถํ ‘‘อวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธติ สเมจฺจ อภิสเมจฺจ ธมฺม’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อวิชฺชานิโรธาติ อวิชฺชาย อนุปฺปาทนิโรธา ปุน อปฺปวตฺตินิโรเธน. สงฺขารนิโรโธติ สงฺขารานํ อนุปฺปาทนิโรโธ โหติ. เอวํ เสสปเทสุปิ. อิทํ ทุกฺขนฺติอาทโย ปุพฺเพ วุตฺตนยา เอว. อิเม ธมฺมา อภิฺเยฺยาติ อิเม เตภูมกา ธมฺมา สภาวลกฺขณาวโพธวเสน โสภนากาเรน, อธิเกน าเณน วา สภาวโต ชานิตพฺพา. ปริฺเยฺยาติ สามฺลกฺขณาวโพธวเสน, กิจฺจสมาปนวเสน จ พฺยาปิตฺวา ชานิตพฺพา. อิเม ธมฺมา ปหาตพฺพาติ อิเม สมุทยปกฺขิกา ธมฺมา เตน เตน คุณงฺเคน ปหาตพฺพา. ภาเวตพฺพาติ ¶ วฑฺเฒตพฺพา. สจฺฉิกาตพฺพาติ ปจฺจกฺขํ กาตพฺพา. ทุวิธา สจฺฉิกิริยา ปฏิลาภสจฺฉิกิริยา จ อารมฺมณสจฺฉิกิริยา จ. ฉนฺนํ ผสฺสายตนานนฺติ จกฺขาทีนํ ฉนฺนํ อายตนานํ. สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจาติ อุปฺปาทฺจ นิโรธฺจ.
ภูริปฺโติ ภูริ วิยาติ ภูริ, ตาย ภูริปฺาย สมนฺนาคโต ภูริปฺโ. มหาปฺโติอาทีสุ มหาปฺาทีหิ สมนฺนาคโตติ อตฺโถ.
ตตฺริทํ ¶ มหาปฺาทีนํ นานตฺตํ – กตมา มหาปฺา? มหนฺเต อตฺเถ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา. มหนฺเต ธมฺเม…เป… มหนฺตา นิรุตฺติโย… มหนฺตานิ ปฏิภานานิ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา. มหนฺเต สีลกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา. มหนฺเต สมาธิกฺขนฺเธ…เป… ปฺากฺขนฺเธ… วิมุตฺติกฺขนฺเธ… วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา. มหนฺตานิ านาานานิ…เป… มหาวิหารสมาปตฺติโย… มหนฺตานิ อริยสจฺจานิ… มหนฺเต สติปฏฺาเน… สมฺมปฺปธาเน… อิทฺธิปาเท… มหนฺตานิ อินฺทฺริยานิ ¶ … พลานิ… โพชฺฌงฺคานิ… มหนฺเต อริยมคฺเค… มหนฺตานิ สามฺผลานิ… มหาอภิฺาโย… มหนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา.
กตมา ปุถุปฺา? ปุถุนานาขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา. ปุถุนานาธาตูสุ…เป… ปุถุนานาอายตเนสุ… ปุถุนานาปฏิจฺจสมุปฺปาเทสุ… ปุถุนานาสฺุตมนุปลพฺเภสุ… ปุถุนานาอตฺเถสุ… ธมฺเมสุ… นิรุตฺตีสุ… ปฏิภาเนสุ… ปุถุนานาสีลกฺขนฺเธสุ… ปุถุนานาสมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธสุ… ปุถุนานาานาาเนสุ… ปุถุนานาวิหารสมาปตฺตีสุ… ปุถุนานาอริยสจฺเจสุ… ปุถุนานาสติปฏฺาเนสุ… สมฺมปฺปธาเนสุ… อิทฺธิปาเทสุ… อินฺทฺริเยสุ… พเลสุ… โพชฺฌงฺเคสุ… ปุถุนานาอริยมคฺเคสุ… สามฺผเลสุ… อภิฺาสุ… ปุถุนานาชนสาธารเณ ธมฺเม สมติกฺกมฺม ปรมตฺเถ นิพฺพาเน าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา.
กตมา ¶ หาสปฺา? อิเธกจฺโจ หาสพหุโล เวทพหุโล ตุฏฺิพหุโล ปาโมชฺชพหุโล สีลํ ปริปูเรติ. อินฺทฺริยสํวรํ ปริปูเรติ. โภชเน มตฺตฺุตํ…เป… ชาคริยานุโยคํ… สีลกฺขนฺธํ… สมาธิกฺขนฺธํ… ปฺากฺขนฺธํ… วิมุตฺติกฺขนฺธํ… วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺธํ ปริปูเรตีติ หาสปฺา. หาสพหุโล…เป… ปาโมชฺชพหุโล านาานํ ปฏิวิชฺฌตีติ หาสปฺา. หาสพหุโล วิหารสมาปตฺติโย ปริปูเรตีติ หาสปฺา. หาสพหุโล อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌตีติ หาสปฺา. สติปฏฺาเน ภาเวติ สมฺมปฺปธาเน… อิทฺธิปาเท… อินฺทฺริยานิ… พลานิ… โพชฺฌงฺเค… อริยมคฺคํ ภาเวตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล สามฺผลานิ สจฺฉิกโรตีติ หาสปฺา, อภิฺาโย ปฏิวิชฺฌตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตีติ หาสปฺา.
กตมา ¶ ชวนปฺา? ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ รูปํ อนิจฺจโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. ทุกฺขโต, อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. ยา กาจิ เวทนา…เป… ยา กาจิ สฺา… เย เกจิ สงฺขารา… ยํ กิฺจิ วิฺาณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ…เป… ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ วิฺาณํ อนิจฺจโต… ทุกฺขโต… อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. จกฺขุํ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจโต… ทุกฺขโต… อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา.
รูปํ ¶ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ ขยฏฺเน, ทุกฺขํ ภยฏฺเน, อนตฺตา อสารกฏฺเนาติ ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา รูปนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. เวทนา… สฺา… สงฺขารา… วิฺาณํ… จกฺขุํ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ ขยฏฺเน, ทุกฺขํ ภยฏฺเน, อนตฺตา อสารกฏฺเนาติ ตุลยิตฺวา…เป… วิภูตํ กตฺวา ชรามรณนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา.
รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมนฺติ ตุลยิตฺวา…เป… ¶ วิภูตํ กตฺวา รูปนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. เวทนา…เป… สฺา… สงฺขารา… วิฺาณํ… จกฺขุํ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ…เป… นิโรธธมฺมนฺติ ตุลยิตฺวา…เป… วิภูตํ กตฺวา ชรามรณนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา.
กตมา ติกฺขปฺา? ขิปฺปํ กิเลเส ฉินฺทตีติ ติกฺขปฺา. อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ. อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ… อุปฺปนฺนํ วิหึสาวิตกฺกํ… อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม… อุปฺปนฺนํ ราคํ… อุปฺปนฺนํ โทสํ… โมหํ… โกธํ… อุปนาหํ… มกฺขํ… ปฬาสํ… อิสฺสํ… มจฺฉริยํ… มายํ… สาเยฺยํ… ถมฺภํ… สารมฺภํ… มานํ… อติมานํ… มทํ… ปมาทํ… สพฺเพ กิเลเส… สพฺเพ ทุจฺจริเต… สพฺเพ อภิสงฺขาเร… สพฺเพ ภวคามิกมฺเม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมตีติ ติกฺขปฺา. เอกมฺหิ อาสเน จตฺตาโร อริยมคฺคา, จตฺตาริ จ สามฺผลานิ, จตสฺโส จ ปฏิสมฺภิทาโย, ฉ อภิฺาโย อธิคตา โหนฺติ สจฺฉิกตา ผสฺสิตา ปฺายาติ ติกฺขปฺา.
กตมา ¶ นิพฺเพธิกปฺา? อิเธกจฺโจ สพฺพสงฺขาเรสุ อุพฺเพคพหุโล โหติ อุตฺตาสพหุโล อุกฺกณฺนพหุโล อรติพหุโล อนภิรติพหุโล พหิมุโข น รมติ สพฺพสงฺขาเรสุ, อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปทาลิตปุพฺพํ โลภกฺขนฺธํ นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกปฺา. อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปทาลิตปุพฺพํ โทสกฺขนฺธํ…เป… โมหกฺขนฺธํ… โกธํ… อุปนาหํ…เป… สพฺเพ ภวคามิกมฺเม นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกปฺา.
๒๘. ส สพฺพธมฺเมสุ วิเสนิภูโต, ยํ กิฺจิ ทิฏฺํ ว สุตํ มุตํ วาติ โส ภูริปฺโ ขีณาสโว ยํ กิฺจิ ทิฏฺํ วา สุตํ วา มุตํ วา เตสุ สพฺพธมฺเมสุ มารเสนํ วินาเสตฺวา ิตภาเวน ¶ วิเสนิภูโต. ตเมว ทสฺสินฺติ ตํ เอว วิสุทฺธทสฺสึ. วิวฏํ จรนฺตนฺติ ตณฺหาฉทนาทิวิคเมน วิวฏํ หุตฺวา จรนฺตํ. เกนีธ โลกสฺมิ วิกปฺปเยยฺยาติ ¶ เกน อิธ โลเก ตณฺหากปฺเปน วา ทิฏฺิกปฺเปน วา โกจิ วิกปฺเปยฺย, เตสํ วา ปหีนตฺตา ราคาทินา ปุพฺเพ วุตฺเตนาติ.
กามา เต ปมา เสนาติอาทีสุ จตูสุ คาถาสุ อยมตฺโถ – ยสฺมา อาทิโตว อคาริยภูเต สตฺเต วตฺถุกาเมสุ กิเลสกามา โมหยนฺติ, เต อภิภุยฺย อนคาริยภาวํ อุปคตานํ ปนฺเตสุ วา เสนาสเนสุ, อฺตรฺตเรสุ วา อธิกุสเลสุ ธมฺเมสุ อรติ อุปฺปชฺชติ. วุตฺตฺเจตํ – ‘‘ปพฺพชิเตน โข, อาวุโส, อภิรติ ทุกฺกรา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๓๑). ตโต เต ปรปฏิพทฺธชีวิกตฺตา ขุปฺปิปาสา พาเธติ, ตาย พาธิตานํ ปริเยสนตณฺหา จิตฺตํ กิลมยติ, อถ เนสํ กิลนฺตจิตฺตานํ ถินมิทฺธํ โอกฺกมติ ตโต วิเสสมนธิคจฺฉนฺตานํ ทุรภิสมฺภเวสุ อรฺวนปตฺเถสุ เสนาสเนสุ วิหรตํ อุตฺราสสฺิตา ภีรุ ชายติ, เตสํ อุสฺสงฺกิตปริสงฺกิตานํ ทีฆรตฺตํ วิเวกรสมนสฺสาทยมานานํ วิหรตํ ‘‘น สิยา นุ โข เอส มคฺโค’’ติ ปฏิปตฺติยํ วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชติ, ตํ วิโนเทตฺวา วิหรตํ อปฺปมตฺตเกน วิเสสาธิคเมน มานมกฺขถมฺภา ชายนฺติ, เตปิ วิโนเทตฺวา วิหรตํ ตโต อธิกตรํ วิเสสาธิคมํ นิสฺสาย ลาภสกฺการสิโลกา อุปฺปชฺชนฺติ, ลาภาทิมุจฺฉิตา ธมฺมปฏิรูปกานิ ปกาเสนฺตา มิจฺฉายสํ อธิคนฺตฺวา ตตฺถ ิตา ชาติอาทีหิ อตฺตานํ อุกฺกํเสนฺติ, ปรํ วมฺเภนฺติ. ตสฺมา กามาทีนํ ปมเสนาทิภาโว เวทิตพฺโพ.
เอวเมตํ ¶ ทสวิธํ เสนํ อุทฺทิสิตฺวา ยสฺมา สา กณฺหธมฺมสมนฺนาคตตฺตา กณฺหสฺส นมุจิโน อุปการาย สํวตฺตติ, ตสฺมา นํ ‘‘ตว เสนา’’ติ นิทฺทิสนฺโต อาห – ‘‘เอสา นมุจิ เต เสนา, กณฺหสฺสาภิปฺปหารินี’’ติ. ตตฺถ อภิปฺปหารินีติ สมณพฺราหฺมณานํ ฆาตินี นิปฺโปถินี, อนฺตรายกรีติ อตฺโถ. น นํ อสูโร ชินาติ, เชตฺวาว ลภเต สุขนฺติ เอวํ ตว เสนํ อสูโร กาเย จ ชีวิเต จ สาเปกฺโข ปุริโส น ชินาติ, สูโร ปน ชินาติ, เชตฺวาว มคฺคสุขํ ผลสุขฺจ อธิคจฺฉติ.
ยโต ¶ จตูหิ อริยมคฺเคหีติ ยทา จตูหิ นิทฺโทสนิพฺพานมคฺคนสงฺขาเตหิ มคฺเคหิ. มารเสนาติ มารสฺส เสนา วจนกรา กิเลสา. ปฏิเสนิกราติ ปฏิปกฺขกรา. ชิตา จาติ ปราชยมานา หนิตา จ. ปราชิตา จาติ นิคฺคหิตา จ. ภคฺคาติ ภินฺนา. วิปฺปลุคฺคาติ จุณฺณวิจุณฺณา. ปรมฺมุขาติ วิมุขภาวํ ปาปิตา. วิเสนิภูโตติ นิกฺกิเลโส หุตฺวา ิโต.
โวทาตทสฺสินฺติ ¶ พฺยวทาตทสฺสึ. ตานิ ฉทนานีติ เอตานิ ตณฺหาทิกิเลสฉทนานิ. วิวฏานีติ ปากฏีกตานิ. วิทฺธํสิตานีติ ิตฏฺานโต อปหตานิ. อุคฺฆาฏิตานีติ อุปฺปาฏิตานิ. สมุคฺฆาฏิตานีติ วิเสเสน อุปฺปาฏิตานิ.
๒๙. น กปฺปยนฺตีติ คาถาย สมฺพนฺโธ อตฺโถ จ – กิฺจ ภิยฺโย? เต หิ ตาทิสา สนฺโต ทฺวินฺนํ กปฺปานํ ปุเรกฺขารานฺจ เกนจิ น กปฺปยนฺติ, น ปุเรกฺขโรนฺติ. ปรมตฺถํ อจฺจนฺตสุทฺธึ อธิคตตฺตา อนจฺจนฺตสุทฺธึเยว อกิริยสสฺสตทิฏฺึ ‘‘อจฺจนฺตสุทฺธี’’ติ น เต วทนฺติ. อาทานคนฺถํ คติตํ วิสชฺชาติ จตุพฺพิธมฺปิ รูปาทีนํ อาทายกตฺตา อาทานคนฺถํ อตฺตโน จิตฺตสนฺตาเน คถิตํ พทฺธํ อริยมคฺคสตฺเถน วิสฺสชฺช ฉินฺทิตฺวา. เสสํ ปากฏเมว.
อจฺจนฺตสุทฺธินฺติ อจฺจนฺตํ ปรมตฺถํ สุทฺธึ. สํสารสุทฺธินฺติ สํสารโต สุทฺธึ. อกิริยทิฏฺินฺติ กโรโต น กรียติ ปาปนฺติ อกิริยทิฏฺึ. สสฺสตวาทนฺติ ‘‘นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต’’ติ วจนํ. น วทนฺติ น กเถนฺติ.
คนฺถาติ ¶ นามกายํ คนฺเถนฺติ, จุติปฏิสนฺธิวเสน วฏฺฏสฺมึ ฆเฏนฺตีติ คนฺถา. อภิชฺฌา จ สา นามกายฆฏนวเสน คนฺโถ จาติ อภิชฺฌากายคนฺโถ. หิตสุขํ พฺยาปาทยตีติ พฺยาปาโท. พฺยาปาโท จ โส วุตฺตนเยน คนฺโถ จาติ พฺยาปาโท กายคนฺโถ. สีลพฺพตปรามาโสติ ‘‘อิโต พหิทฺธา สมณพฺราหฺมณานํ สีเลน สุทฺธิ วเตน สุทฺธี’’ติ (ธ. ส. ๑๑๔๓, ๑๒๒๒) ปรโต อามาโส. อิทํสจฺจาภินิเวโสติ สพฺพฺุภาสิตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’’นฺติ ¶ (ธ. ส. ๑๑๔๔) อิมินา อากาเรน อภินิเวโส อิทํสจฺจาภินิเวโส. อตฺตโน ทิฏฺิยา ราโคติ อตฺตนา อภินิวิสิตฺวา คหิตาย ทิฏฺิยา ฉนฺทราโค. ปรวาเทสุ อาฆาโตติ ปรสฺส วจเนสุ โกโป. อปฺปจฺจโยติ อตุฏฺากาโร. อตฺตโน สีลํ วาติ อตฺตนา สมาทินฺนํ โคสีลาทิสีลํ วา. อตฺตโน ทิฏฺีติ อตฺตนา คหิตา ปรามฏฺา ทิฏฺิ. เตหิ คนฺเถหีติ เอเตหิ วุตฺเตหิ นามกายฆฏเนหิ. รูปํ อาทิยนฺตีติ จตุสมุฏฺานิกํ รูปารมฺมณํ อาทิยนฺติ คณฺหนฺติ. อุปาทิยนฺตีติ อุปคนฺตฺวา คณฺหนฺติ ตณฺหาคหเณน. ปรามสนฺติ ทิฏฺิคหเณน. อภินิวิสนฺติ มานคหเณน. วฏฺฏนฺติ เตภูมกวฏฺฏํ. คนฺเถติ พนฺธเน.
โวสชฺชิตฺวา วาติ สมฺมา วิสฺสชฺชิตฺวา วา. คถิเตติ พนฺธเน. คนฺถิเตติ คนฺถเนน คนฺถิเต. วิพนฺเธติ วิเสเสน พนฺเธ. อาพนฺเธติ อเนกวิเธน พนฺเธ. ปลิพุทฺเธติ อมฺุจิเต. พนฺธเน โปฏยิตฺวาติ ตณฺหามานทิฏฺิพนฺธนานิ ปปฺโปฏยิตฺวา. วิสชฺชาติ จชิตฺวา.
อิเม ¶ ปน จตฺตาโร คนฺเถ กิเลสปฏิปาฏิยาปิ อาหริตุํ วฏฺฏติ, มคฺคปฏิปาฏิยาปิ – กิเลสปฏิปาฏิยา อภิชฺฌากายคนฺโถ อรหตฺตมคฺเคน ปหียติ, พฺยาปาโท กายคนฺโถ อนาคามิมคฺเคน, สีลพฺพตปรามาโส กายคนฺโถ อิทํสจฺจาภินิเวโส กายคนฺโถ โสตาปตฺติมคฺเคน. มคฺคปฏิปาฏิยา สีลพฺพตปรามาโส กายคนฺโถ อิทํสจฺจาภินิเวโส กายคนฺโถ โสตาปตฺติมคฺเคน, พฺยาปาโท กายคนฺโถ อนาคามิมคฺเคน, อภิชฺฌากายคนฺโถ อรหตฺตมคฺเคนาติ. เอเต จตฺตาโร คนฺถา ยสฺส สํวิชฺชนฺติ, ตํ จุติปฏิสนฺธิวเสน วฏฺฏสฺมึ คนฺเถนฺติ ฆเฏนฺตีติ คนฺถา. เต จตุปฺปเภทา อภิชฺฌายนฺติ เอตาย, สยํ วา อภิชฺฌายติ, อภิชฺฌายนมตฺตเมว วา เอสาติ อภิชฺฌา. โลโภเยว ¶ นามกายํ คนฺเถติ จุติปฏิสนฺธิวเสน วฏฺฏสฺมึ ฆเฏตีติ กายคนฺโถ. พฺยาปชฺชติ เตน จิตฺตํ ปูติภาวํ คจฺฉติ, พฺยาปาทยติ ¶ วา วินยาจารรูปสมฺปตฺติหิตสุขาทีนีติ พฺยาปาโท. ‘‘อิโต พหิทฺธา สมณพฺราหฺมณานํ สีเลน สุทฺธิ วเตน สุทฺธี’’ติ ปรามสนํ สีลพฺพตปรามาโส, สพฺพฺุภาสิตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’’นฺติอาทินา อากาเรน อภินิวิสตีติ อิทํสจฺจาภินิเวโส. ยถา วยฺหํ วาติอาทึ วยฺหาทิวิสงฺขรณํ คนฺถานํ วิโยคกรเณ อุปมํ ทสฺเสนฺโต อาห.
น ชเนนฺตีติ น อุปฺปาเทนฺติ. น สฺชเนนฺตีติ น นิพฺพตฺเตนฺติ. นาภินิพฺพตฺเตนฺตีติ อุปสคฺควเสน ปทํ วฑฺฒิตํ. น สฺชเนนฺตีติ อุปฺปาทกฺขณํ. น นิพฺพตฺเตนฺติ นาภินิพฺพตฺเตนฺตีติ ปวตฺติกฺขณํ สนฺธาย วุตฺตํ.
๓๐. สีมาติโคติ คาถา เอกปุคฺคลาธิฏฺานาย เทสนาย วุตฺตา. ปุพฺพสทิโส เอว ปนสฺสา สมฺพนฺโธ, โส เอวํ อตฺถวณฺณนาย สทฺธึ เวทิตพฺโพ – กิฺจ ภิยฺโย? โส อีทิโส ภูริปฺโ จตุนฺนํ กิเลสสีมานํ อตีตตฺตา สีมาติโค, พาหิตปาปตฺตา จ พฺราหฺมโณ, อิตฺถมฺภูตสฺส จ ตสฺส นตฺถิ, ปรจิตฺตปุพฺเพนิวาสาเณหิ ตฺวา วา มํสทิพฺพจกฺขูหิ ทิสฺวา วา กิฺจิ สมุคฺคหีตํ, อภินิวิฏฺนฺติ วุตฺตํ โหติ. โส จ กามราคาภาวโต น ราคราคี รูปารูปราคาภาวโต น วิราครตฺโต, ยโต เอวํวิธสฺส ตสฺส ‘‘อิทํ ปรม’’นฺติ กิฺจิ อิธ อุคฺคหีตํ นตฺถีติ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ.
จตสฺโส สีมาโยติ จตฺตาโร ปริจฺเฉทา. ทิฏฺานุสโยติ ทิฏฺิ จ สา อปฺปหีนฏฺเน อนุสโย จาติ ทิฏฺานุสโย. วิจิกิจฺฉานุสยาทีสุปิ เอเสว นโย. เกนฏฺเน อนุสยา? อนุสยนฏฺเน. โก เอส อนุสยฏฺโ นามาติ? อปฺปหีนฏฺโ. เอเต หิ อปฺปหีนฏฺเน ตสฺส ตสฺส ¶ สนฺตาเน อนุเสนฺติ นาม, ตสฺมา ‘‘อนุสยา’’ติ วุจฺจนฺติ. อนุเสนฺตีติ อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. อถาปิ สิยา – อนุสยฏฺโ นาม อปฺปหีนากาโร, อปฺปหีนากาโร จ ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ วตฺตุํ น ยุชฺชติ, ตสฺมา น อนุสยา อุปฺปชฺชนฺตีติ. ตตฺริทํ ปฏิวจนํ – อปฺปหีนากาโร อนุสโย, อนุสโยติ ปน อปฺปหีนฏฺเน ถามคตา กิเลสา วุจฺจนฺติ. โส จิตฺตสมฺปยุตฺโต สารมฺมโณ สปฺปจฺจยฏฺเน ¶ สเหตุโก เอกนฺตากุสโล อตีโตปิ โหติ อนาคโตปิ ปจฺจุปฺปนฺโนปิ, ตสฺมา ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ วตฺตุํ ยุชฺชติ.
ตตฺริทํ ¶ ปมาณํ – ปฏิสมฺภิทายํ ตาว อภิสมยกถายํ (ปฏิ. ม. ๓.๒๑) ‘‘ปจฺจุปฺปนฺเน กิเลเส ปชหตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา อนุสยานํ ปจฺจุปฺปนฺนภาวสฺส อตฺถิตาย ‘‘ถามคโต อนุสยํ ปชหตี’’ติ วุตฺตํ. ธมฺมสงฺคณิยํ โมหสฺส ปทภาชเน (ธ. ส. ๓๙๐) ‘‘อวิชฺชานุสโย อวิชฺชาปริยุฏฺานํ, อวิชฺชาลงฺคี โมโห อกุสลมูลํ, อยํ ตสฺมึ สมเย โมโห โหตี’’ติ อกุสลจิตฺเตน สทฺธึ อวิชฺชานุสยสฺส อุปฺปนฺนภาโว วุตฺโต. กถาวตฺถุสฺมึ ‘‘อนุสยา อพฺยากตา อนุสยา อเหตุกา อนุสยา จิตฺตวิปฺปยุตฺตา’’ติ (กถา. ๖๐๕) สพฺเพ วาทา ปฏิเสธิตา. อนุสยยมเก สตฺตนฺนํ มหาวารานํ อฺตรสฺมึ อุปฺปชฺชนวาเร ‘‘ยสฺส กามราคานุสโย อุปฺปชฺชติ ตสฺส ปฏิฆานุสโย อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘อนุเสนฺตีติ อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ ยํ วุตฺตํ, ตํ อิมินา ตนฺติปฺปมาเณน สุวุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยมฺปิ ‘‘จิตฺตสมฺปยุตฺโต สารมฺมโณ’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตมฺปิ สุวุตฺตเมว. อนุสโย หิ นาเมส ปรินิปฺผนฺโน จิตฺตสมฺปยุตฺโต อกุสลธมฺโมติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.
ตตฺถ ทิฏฺานุสโย จตูสุ ทิฏฺิสมฺปยุตฺเตสุ, วิจิกิจฺฉานุสโย วิจิกิจฺฉาสหคเต, อวิชฺชานุสโย ทฺวาทสสุ อกุสลจิตฺเตสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จ; ตโยปิ อวเสสเตภูมกธมฺเมสุ อารมฺมณวเสน ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาโมหา. กามราคานุสโย เจตฺถ โลภสหคตจิตฺเตสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จ, มนาเปสุ อวเสสกามาวจรธมฺเมสุ อารมฺมณวเสน อุปฺปชฺชมาโน โลโภ. ปฏิฆานุสโย โทมนสฺสสหคตจิตฺเตสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จ, อมนาเปสุ อวเสสกามาวจรธมฺเมสุ อารมฺมณวเสเนว อุปฺปชฺชมาโน โทโส. มานานุสโย ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตโลภสหคตจิตฺเตสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จ, ทุกฺขเวทนาวชฺเชสุ อวเสสกามาวจรธมฺเมสุ รูปารูปาวจรธมฺเมสุ จ อารมฺมณวเสเนว อุปฺปชฺชมาโน มาโน. ภวราคานุสโย จตูสุ ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเตสุ อุปฺปชฺชมาโนปิ ¶ ¶ สหชาตวเสน วุตฺโต. อารมฺมณวเสเนว ปน รูปารูปาวจรธมฺเมสุ อุปฺปชฺชมาโน โลโภ วุตฺโต.
ตตฺถ ¶ ทิฏฺานุสโยติ ทฺวาสฏฺิวิธา ทิฏฺิ. วิจิกิจฺฉานุสโยติ อฏฺวตฺถุกา วิจิกิจฺฉา. ตเทกฏฺา จ กิเลสาติ สหเชกฏฺวเสน ทิฏฺิยา วิจิกิจฺฉาย, สหเชกฏฺวเสน เอกโต ิตา. มานานุสโยติ นววิธมาโน. ปรมตฺถาเณน วา ตฺวาติ ปเรสํ จิตฺตาจารชานนปฺาย ชานิตฺวา, เจโตปริยาเณน ชานิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณน วาติ อตีเต นิวุฏฺกฺขนฺธานุสฺสรณาเณน ชานิตฺวา. มํสจกฺขุนา วาติ ปกติจกฺขุนา. ทิพฺพจกฺขุนา วาติ ทิพฺพสทิเสน ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสิเตน วา ทิพฺพจกฺขุนา ปสฺสิตฺวา. ราครตฺตาติ ราเคน รฺชิตา. เย ปฺจสุ กามคุเณสูติ เย ปฺจสุ รูปาทิวตฺถุกามโกฏฺาเสสุ. วิราครตฺตาติ วิราคสงฺขาตาสุ รูปารูปสมาปตฺตีสุ อติรตฺตา อลฺลีนา. ยโต กามราโค จาติ ยทา กามภเว ราโค จ. รูปารูปราเคสุปิ เอเสว นโย.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย
สุทฺธฏฺกสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ปรมฏฺกสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๓๑. ปฺจเม ¶ ¶ ปรมฏฺกสุตฺเต ปรมนฺติ ทิฏฺีสุ ปริพฺพสาโนติ อิทํ ปรมนฺติ คเหตฺวา สกาย สกาย ทิฏฺิยา วสมาโน. ยทุตฺตรึ กุรุเตติ ยํ อตฺตโน สตฺถาราทึ เสฏฺํ กโรติ. หีนาติ อฺเ ตโต สพฺพมาหาติ ตํ อตฺตโน สตฺถาราทึ เปตฺวา ตโต อฺเ สพฺเพ ‘‘หีนา อิเม’’ติ อาห. ตสฺมา วิวาทานิ อวีติวตฺโตติ เตน การเณน โส ทิฏฺิกลเห อวีติวตฺโตว โหติ.
วสนฺตีติ ปมุปฺปนฺนทิฏฺิวเสน วสนฺติ. ปวสนฺตีติ ปวิสิตฺวา วสนฺติ. อาวสนฺตีติ วิเสเสน วสนฺติ. ปริวสนฺตีติ สพฺพภาเคน วสนฺติ. ตํ อุปมาย สาเธนฺโต ‘‘ยถา อาคาริกา วา’’ติอาทิมาห. อาคาริกา วาติ ฆรสามิกา. ฆเรสุ วสนฺตีติ อตฺตโน ฆเรสุ อาสงฺกวิรหิตา หุตฺวา นิวสนฺติ. สาปตฺติกา วาติ อาปตฺติพหุลา. สกิเลสา วาติ ¶ ราคาทิกิเลสพหุลา. อุตฺตรึ กโรตีติ อติเรกํ กโรติ. อยํ สตฺถา สพฺพฺูติ ‘อยํ อมฺหากํ สตฺถา สพฺพํ ชานาติ’.
สพฺเพ ปรปฺปวาเท ขิปตีติ สพฺพา ปรลทฺธิโย ฉฑฺเฑติ. อุกฺขิปตีติ นีหรติ. ปริกฺขิปตีติ ปรมฺมุเข กโรติ. ทิฏฺิเมธคานีติ ทิฏฺิวิเหสกานิ.
๓๒. ทุติยคาถายตฺโถ – เอวํ อวีติวตฺโต จ ยํ ทิฏฺเ สุเต สีลวเต มุเตติ เอเตสุ จตูสุ วตฺถูสุ อุปฺปนฺนทิฏฺิสงฺขาเต อตฺตนิ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการํ อานิสํสํ ปสฺสติ, ตเทว โส ตตฺถ สกาย ทิฏฺิยา อานิสํสํ ‘‘อิทํ เสฏฺ’’นฺติ อภินิวิสิตฺวา อฺํ สพฺพํ ปรสตฺถาราทิกํ นิหีนโต ปสฺสติ.
ทฺเว อานิสํเส ปสฺสตีติ ทฺเว คุเณ โอโลเกติ. ทิฏฺธมฺมิกฺจาติ ¶ ทิฏฺเ ปจฺจกฺเข อตฺตภาเว ¶ วิปจฺจนกรณํ. สมฺปรายิกฺจาติ ปรโลเก ปฏิลภิตพฺพคุณฺจ. ยํทิฏฺิโก สตฺถาติ ยํลทฺธิโก ติตฺถายตนสามิโก. อลํ นาคตฺตาย วาติ นาคราชภาวาย วา ปริยตฺตํ. สุปณฺณตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย. เทวตฺตาย วาติ สมฺมุติเทวาทิภาวาย. อายตึ ผลปาฏิกงฺขี โหตีติ อนาคเต วิปากผลํ ปตฺถยาโน โหติ. ทิฏฺสุทฺธิยาปิ ทฺเว อานิสํเส ปสฺสตีติ จกฺขุวิฺาเณน ทิฏฺรูปายตนสฺส วเสน สุทฺธิยา เหตุตฺตาปิ อตฺตโน คหิตคหเณน ทฺเว คุเณ โอโลเกติ. สุตสุทฺธิยาทีสุปิ เอเสว นโย.
๓๓. ตติยคาถายตฺโถ – เอวํ ปสฺสโต จ ยํ อตฺตโน สตฺถาราทึ นิสฺสิโต อฺํ ปรสตฺถาราทึ หีนํ ปสฺสติ, ตํ ปน ทสฺสนํ คนฺถเมว กุสลา วทนฺติ, พนฺธนนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺมา เอตเทว, ตสฺมา หิ ทิฏฺํ ว สุตํ มุตํ วา, สีลพฺพตํ ภิกฺขุ น นิสฺสเยยฺย, นาภินิเวเสยฺยาติ วุตฺตํ โหติ.
กุสลาติ ขนฺธาทิชานเน เฉกา. ขนฺธกุสลาติ รูปาทีสุ ปฺจสุ ขนฺเธสุ กุสลา. ธาตุอายตนปฏิจฺจสมุปฺปาทสติปฏฺานสมฺมปฺปธานอิทฺธิปาทอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคผลนิพฺพาเนสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ มคฺคกุสลาติ จตูสุ มคฺเคสุ. ผลกุสลาติ จตูสุ ผเลสุ. นิพฺพานกุสลาติ ทุวิเธ นิพฺพาเน เฉกา. เต กุสลาติ เต เอเตสุ วุตฺตปฺปกาเรสุ ¶ เฉกา. เอวํ วทนฺตีติ เอวํ กเถนฺติ. คนฺโถ เอโสติ ปสฺสโต จ อตฺตโน สตฺถาราทินิสฺสิตฺจ อฺํ ปรสตฺถาราทึ หีนโต ทสฺสนฺจ คนฺโถ พนฺธโน เอโสติ วทนฺติ. ลคฺคนํ เอตนฺติ เอตํ วุตฺตปฺปการํ นาคทนฺเต ลคฺคิตํ วิย อโธลมฺพนํ. พนฺธนํ เอตนฺติ นิจฺฉินฺทิตุํ ทุกฺขฏฺเน สงฺขลิกาทิพนฺธนํ ¶ วิย เอตํ พนฺธนํ. ปลิโพโธ เอโสติ สํสารโต นิกฺขมิตุํ อปฺปทานฏฺเน เอโส ปลิโพโธ.
๓๔. จตุตฺถคาถายตฺโถ – น เกวลํ ทิฏฺสุตาทีสุ น นิสฺสเยยฺย, อปิจ โข ปน อสฺชาตํ อุปรูปริ ทิฏฺิมฺปิ โลกสฺมึ น กปฺปเยยฺย, น ชเนยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. กีทิสํ? าเณน วา สีลวเตน วาปิ, สมาปตฺติาณาทิาเณน วา สีลวเตน วา ยา กปฺปิยติ, เอตํ ทิฏฺึ น กปฺเปยฺย. น เกวลฺจ ทิฏฺึ น กปฺปเยยฺย, อปิจ โข ปน มาเนนปิ ชาติอาทีหิ วตฺถูหิ สโมติ อตฺตานมนูปเนยฺย, หีโน น มฺเถ วิเสสิ วาปีติ.
อฏฺสมาปตฺติาเณน วาติ ปมชฺฌานาทีนํ อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ สมฺปยุตฺตปฺาย วา. ปฺจาภิฺาาเณน วาติ โลกิยานํ ปฺจนฺนํ อภิฺานํ สมฺปยุตฺตปฺาย วา. มิจฺฉาาเณน วาติ ¶ วิปรีตสภาเวน ปวตฺตาย ปฺาย อมุตฺเต มุตฺตํ ปสฺสาติ เอวํ อุปฺปนฺเนน มิจฺฉาาเณน วา.
๓๕. ปฺจมคาถายตฺโถ – เอวฺหิ ทิฏฺึ อกปฺเปนฺโต อมฺมาโน จ อตฺตํ ปหาย อนุปาทิยาโน ยํ ปุพฺเพ คหิตํ, ตํ ปหาย ปรํ อคฺคณฺหนฺโต ตสฺมิมฺปิ วุตฺตปฺปกาเร าเณ ทุวิธํ นิสฺสยํ โน กโรติ, อกโรนฺโต จ ส เว วิยตฺเตสุ นานาทิฏฺิวเสน ภินฺเนสุ สตฺเตสุ น วคฺคสารี ฉนฺทาทิวเสน อคจฺฉนธมฺโม หุตฺวา ทฺวาสฏฺิยา ทิฏฺีสุ กิฺจิ ทิฏฺึ น ปจฺเจติ, น ปจฺจาคจฺฉตีติ วุตฺตํ โหติ.
จตูหิ อุปาทาเนหีติ กามุปาทานาทีหิ จตูหิ ภุสํ คหเณหิ ส เว วิยตฺเตสูติ โส ปุคฺคโล นิจฺฉิเตสุ. ภินฺเนสูติ ทฺวิธา ภินฺเนสุ.
๓๖. อิทานิ โย โส อิมาย คาถาย วุตฺโต ขีณาสโว, ตสฺส วณฺณภณนตฺถํ ‘‘ยสฺสูภยนฺเต’’ติอาทิกา ติสฺโส คาถาโย อาห. ตตฺถ ปมคาถาย ยสฺสูภยนฺเตติ ปุพฺเพ วุตฺเต ผสฺสาทิเภเท. ปณิธีติ ¶ ตณฺหา. ภวาภวายาติ ปุนปฺปุนภวาย ¶ . อิธ วา หุรํ วาติ สกตฺตภาวาทิเภเท อิธ วา ปรตฺตภาวาทิเภเท ปรตฺถ วา.
ผสฺโส เอโก อนฺโตติ จกฺขุสมฺผสฺสาทิโก เอโก โกฏฺาโส. ผสฺสสมุทโยติ วตฺถารมฺมโณ. ยโต สมุเทติ อุปฺปชฺชติ, โส สมุทโย. ทุติโย อนฺโตติ ทุติโย โกฏฺาโส. อตีตนฺติ อติ อิตํ อตีตํ, อติกฺกนฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. อนาคตนฺติ น อาคตํ, อนุปฺปนฺนนฺติ วุตฺตํ โหติ. สุขา เวทนาทโย วิสภาควเสน. นามรูปทุกํ นมนรุปฺปนวเสน. อชฺฌตฺติกาทโย อชฺฌตฺตพาหิรวเสน. สกฺกายาทโย ขนฺธปฺจกานํ ปวตฺติสมุทยวเสน วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
สกตฺตภาโวติ อตฺตโน อตฺตภาโว. ปรตฺตภาโวติ ปรสฺส อตฺตภาโว.
๓๗. ทุติยคาถาย ทิฏฺเ วาติ ทิฏฺสุทฺธิยา วา. เอส นโย สุตาทีสุ. สฺาติ สฺาสมุฏฺาปิกา ทิฏฺิ.
อปรามสนฺตนฺติ ¶ ตณฺหามานทิฏฺีหิ น ปรามสนฺตํ. อนภินิเวสนฺตนฺติ เตเหว อนภินิวิสนฺตํ.
‘‘วินิพทฺโธ’’ติ วาติ มาเนน วินิพทฺโธติ วา. ‘‘ปรามฏฺโ’’ติ วาติ ปรโต นิจฺจสุขสุภาทีหิ ปรามฏฺโติ วา. วิกฺเขปคโตติ อุทฺธจฺจวเสน. อนิฏฺงฺคโตติ วิจิกิจฺฉาวเสน. ถามคโตติ อนุสยวเสน. คติยาติ คนฺตพฺพวเสน.
๓๘. ตติยคาถาย ธมฺมาปิ เตสํ น ปฏิจฺฉิตาเสติ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตธมฺมาปิ เตสํ ‘‘อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’’นฺติ (อุทา. ๕๔) เอวํ น ปฏิจฺฉิตา. ปารงฺคโต น ปจฺเจติ ตาทีติ นิพฺพานปารํ คโต เตน เตน มคฺเคน ปหีเน กิเลเส ปุน นาคจฺฉติ ปฺจหิ จ อากาเรหิ ตาที โหตีติ. เสสํ ปากฏเมว.
วีสติวตฺถุกา สกฺกายทิฏฺีติ ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๑๓๒) นเยน เอเกกสฺมึ ขนฺเธ จตูหิ จตูหิ อากาเรหิ ปฺจกฺขนฺเธ ปติฏฺํ กตฺวา ปวตฺตา วิชฺชมาเน กาเย ทิฏฺิ. ทสวตฺถุกา ¶ มิจฺฉาทิฏฺีติ ‘‘นตฺถิ ¶ ทินฺน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตา (ธ. ส. ๑๒๒๑) ทิฏฺิ. อนฺตคฺคาหิกาทิฏฺีติ ‘‘สสฺสโต โลโก อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตา (ม. นิ. ๓.๒๗) เอเกกํ อนฺตํ อตฺถีติ คเหตฺวา ปวตฺตา ทิฏฺิ. ยา เอวรูปา ทิฏฺีติ อิทานิ วุจฺจมานานํ เอกูนวีสปทานํ สาธารณํ มูลปทํ. ยา ทิฏฺิ, ตเทว ทิฏฺิคตํ; ยา ทิฏฺิ, ตเทว ทิฏฺิคหนนฺติ สพฺเพสํ สมฺพนฺโธ กาตพฺโพ. ยา อยาถาวทสฺสนฏฺเน ทิฏฺิ, ตเทว ทิฏฺีสุ คตํ ทสฺสนํ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิยา อนฺโตคตตฺตาติ ทิฏฺิคตํ. เหฏฺาปิสฺส อตฺโถ วุตฺโตเยว.
ทฺวินฺนํ อนฺตานํ เอกนฺตคตตฺตาติปิ ทิฏฺิคตํ. ตตฺถ สสฺสโตติ นิจฺโจ. โลโกติ อตฺตา. ‘‘อิธ สรีรํเยว นสฺสติ, อตฺตา ปน อิธ ปรตฺถ จ โสเยวา’’ติ มฺนฺติ. โส หิ สามฺเว อาโลเกตีติ กตฺวา โลโกติ มฺติ. อสสฺสโตติ อนิจฺโจ. อตฺตา สรีเรเนว สห นสฺสตีติ มฺนฺติ. อนฺตวาติ ปริตฺเต กสิเณ ฌานํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ ปริตฺตกสิณารมฺมณํ เจตนํ ‘‘สปริยนฺโต อตฺตา’’ติ มฺนฺติ. อนนฺต วาติ น อนฺตวา อปฺปมาเณ กสิเณ ฌานํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ อปฺปมาณกสิณารมฺมณํ เจตนํ ‘‘อปริยนฺโต อตฺตา’’ติ มฺนฺติ. ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ ชีโว จ สรีรฺจ ตํเยว. ชีโวติ อตฺตา, ลิงฺควิปลฺลาเสน นปุํสกวจนํ กตํ. สรีรนฺติ ราสฏฺเน ขนฺธปฺจกํ. อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรนฺติ อฺโ ชีโว อฺํ ขนฺธปฺจกํ ¶ . โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ ขนฺธา อิเธว วินสฺสนฺติ, สตฺโต มรณโต ปรํ โหติ วิชฺชติ น นสฺสติ, ตถาคโตติ เจตํ สตฺตาธิวจนนฺติ. เกจิ ปน ‘‘ตถาคโตติ อรหา’’ติ วทนฺติ. อิเม น โหตีติ ปกฺเข โทสํ ทิสฺวา เอวํ คณฺหนฺติ. น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ ขนฺธาปิ อิเธว นสฺสนฺติ ¶ , ตถาคโต จ มรณโต ปรํ น โหติ อุจฺฉิชฺชติ. อิเม โหตีติ ปกฺเข โทสํ ทิสฺวา เอวํ คณฺหนฺติ. โหติ จ น จ โหตีติ อิเม เอเกกปกฺขปริคฺคเห โทสํ ทิสฺวา อุภยปกฺขํ คณฺหนฺติ. เนว โหติ น น โหตีติ อิเม อุภยปกฺขปริคฺคเห อุภยโทสาปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘โหติ จ น โหตี’’ติ จ ‘‘เนว โหติ น น โหตี’’ติ จ อมราวิกฺเขปปกฺขํ คณฺหนฺติ.
อยํ ปเนตฺถ อฏฺกถานโย (ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๑๓) – ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติ วาติอาทีหิ ทสหากาเรหิ ทิฏฺิปเภโทว วุตฺโต. ตตฺถ สสฺสโต โลโกติ ¶ จ ขนฺธปฺจกํ โลโกติ คเหตฺวา ‘‘อยํ โลโก นิจฺโจ ธุโว สพฺพกาลิโก’’ติ คณฺหนฺตสฺส สสฺสตนฺติ คหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. อสสฺสโตติ ตเมว โลกํ ‘‘อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสตี’’ติ คณฺหนฺตสฺส อุจฺเฉทคฺคหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. อนฺตวาติ ปริตฺตกสิณลาภิโน สุปฺปมตฺเต วา สราวมตฺเต วา กสิเณ สมาปนฺนสฺส อนฺโตสมาปตฺติยํ ปวตฺติตรูปารูปธมฺเม ‘‘โลโก’’ติ จ กสิณปริจฺเฉทนฺเตน ‘‘อนฺตวา’’ติ จ คณฺหนฺตสฺส ‘‘อนฺตวา โลโก’’ติ คหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. สา สสฺสตทิฏฺิปิ โหติ อุจฺเฉททิฏฺิปิ. วิปุลกสิณลาภิโน ปน ตสฺมึ กสิเณ สมาปนฺนสฺส อนฺโตสมาปตฺติยํ ปวตฺติตรูปารูปธมฺเม ‘‘โลโก’’ติ จ กสิณปริจฺเฉทนฺเตน จ ‘‘อนนฺโต’’ติ คณฺหนฺตสฺส ‘‘อนนฺตวา โลโก’’ติ คหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. สา สสฺสตทิฏฺิ โหติ, อุจฺเฉททิฏฺิปิ. ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ เภทนธมฺมสฺส สรีรสฺเสว ‘‘ชีว’’นฺติ คหิตตฺตา ‘‘สรีเร อุจฺฉิชฺชมาเน ชีวมฺปิ อุจฺฉิชฺชตี’’ติ อุจฺเฉทคฺคหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. ทุติยปเทน สรีรโต อฺสฺส ชีวสฺส คหิตตฺตา ‘‘สรีเร จ อุจฺฉิชฺชมาเนปิ ชีวํ น อุจฺฉิชฺชตี’’ติ สสฺสตคหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. โหติ ตถาคโตติอาทีสุ ‘‘สตฺโต ตถาคโต นาม, โส ปรํ มรณา โหตี’’ติ คณฺหโต ปมา สสฺสตทิฏฺิ. ‘‘น โหตี’’ติ คณฺหโต ทุติยา อุจฺเฉททิฏฺิ. ‘‘โหติ จ น จ โหตี’’ติ คณฺหโต ตติยา เอกจฺจสสฺสตทิฏฺิ. ‘‘เนว โหติ น น โหตี’’ติ คณฺหโต จตุตฺถา อมราวิกฺเขปทิฏฺีติ วุตฺตปฺปการา ทสวิธา ทิฏฺิ. ยถาโยคํ ภวทิฏฺิ จ วิภวทิฏฺิ จาติ ทฺวิธา โหติ. ตาสุ เอกาปิ เตสํ ขีณาสวานํ น ปฏิจฺฉิตาติ อตฺโถ.
เย กิเลสาติ เย กิเลสา โสตาปตฺติมคฺเคน ปหีนา, เต กิเลเส ¶ . น ปุเนตีติ น ปุน เอติ ¶ . น ปจฺเจตีติ ปุน นิพฺพตฺเตตฺวา น ปฏิเอติ, น ปจฺจาคจฺฉตีติ ปจฺจภเว นาคจฺฉติ. ปฺจหากาเรหิ ตาทีติ ปฺจหิ การเณหิ โกฏฺาเสหิ วา สทิโส. อิฏฺานิฏฺเ ตาทีติ อิฏฺารมฺมเณ จ อนิฏฺารมฺมเณ จ อนุนยปฏิฆํ มฺุจิตฺวา ิตตฺตา ทฺวีสุ สทิโส. จตฺตาวีติ กิเลเส จชิตวา. ติณฺณาวีติ สํสารํ อติกฺกมิตวา. มุตฺตาวีติ ราคาทิโต มุตฺตวา. ตํนิทฺเทสา ตาทีติ เตน เตน สีลสทฺธาทินา นิทฺทิสิตฺวา นิทฺทิสิตฺวา กเถตพฺพโต สทิโส.
ตํ ¶ ปฺจวิธํ วิตฺถาเรตฺวา กเถตุกาโม ‘‘กถํ อรหา อิฏฺานิฏฺเ ตาที’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ลาเภปีติ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ ลาเภปิ. อลาเภปีติ เตสํ อลาเภปิ. ยเสปีติ ปริวาเรปิ. อยเสปีติ ปริวารวิปตฺติยาปิ. ปสํสายปีติ วณฺณภณนายปิ. นินฺทายปีติ ครหายปิ. สุเขปีติ กายิกสุเขปิ. ทุกฺเขปีติ กายิกทุกฺเขปิ. เอกฺเจ พาหํ คนฺเธน ลิมฺเปยฺยุนฺติ สเจ เอกํ พาหํ จตุชาติยคนฺเธน เลปํ อุปรูปริ ทเทยฺยุํ. วาสิยา ตจฺเฉยฺยุนฺติ ยทิ เอกํ พาหํ วฑฺฒกี วาสิยา ตจฺเฉตฺวา ตจฺเฉตฺวา ตนุํ กเรยฺยุํ. อมุสฺมึ นตฺถิ ราโคติ อมุสฺมึ คนฺธเลปเน สิเนโห นตฺถิ น สํวิชฺชติ. อมุสฺมึ นตฺถิ ปฏิฆนฺติ อมุสฺมึ วาสิยา ตจฺฉเน ปฏิหนนสงฺขาตํ ปฏิฆํ โกปํ นตฺถิ น สํวิชฺชติ. อนุนยปฏิฆวิปฺปหีโนติ สิเนหฺจ โกปฺจ ปชหิตฺวา ิโต. อุคฺฆาตินิฆาติวีติวตฺโตติ อนุนยวเสน อนุคฺคหฺจ ปฏิฆวเสน นิคฺคหฺจ อติกฺกมิตฺวา ิโต. อนุโรธวิโรธสมติกฺกนฺโตติ อนุนยฺจ ปฏิฆฺจ สมฺมา อติกฺกนฺโต.
สีเล สตีติ สีเล สํวิชฺชมาเน. สีลวาติ สีลสมฺปนฺโน. เตน นิทฺเทสํ กถนํ ลภตีติ ตาที. สทฺธาย สติ สทฺโธติ เอวมาทีสุปิ เอเสว นโย.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย
ปรมฏฺกสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ชราสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๓๙. ฉฏฺเ ¶ ¶ ชราสุตฺเต อปฺปํ วต ชีวิตํ อิทนฺติ อิทํ วต มนุสฺสานํ ชีวิตํ อปฺปกํ ปริตฺตํ ิติปริตฺตตาย สรสปริตฺตตายาติ คุหฏฺกสุตฺเตปิ วุตฺตนยเมตํ. โอรํ วสฺสสตาปิ มิยฺยตีติ วสฺสสตา โอรํ กลลาทิกาเลปิ มิยฺยติ. อติจฺจาติ วสฺสสตํ อติกฺกมิตฺวา. ชรสาปิ มิยฺยตีติ ชราย มิยฺยติ. อิโต ปรํ คุหฏฺกสุตฺตวณฺณนาย วุตฺตนเยเนว คเหตพฺพํ.
อปฺปนฺติ ¶ มนฺทํ. คมนีโย สมฺปราโยติ ปรโลโก คนฺตพฺโพ. กลลกาเลปีติ เอตฺถ กลลกาลํ นาม ปฏิสนฺธิกฺขเณ ตีหิ ชาติอุณฺณํสูหิ กตสุตฺตคฺเค ิตเตลพินฺทุปฺปมาณํ อจฺฉํ วิปฺปสนฺนกลลํ โหติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –
‘‘ติลเตลสฺส ยถา พินฺทุ, สปฺปิมณฺโฑ อนาวิโล;
เอวํ วณฺณปฺปฏิภาคํ, กลลํ สมฺปวุจฺจตี’’ติ. (สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๓๕; วิภ. อฏฺ. ๒๖ ปกิณฺณกกถา);
ตสฺมึ ¶ กลลกาเลปิ. จวตีติ ชีวิตํ คฬติ. มรตีติ ชีวิตวิโยคํ อาปชฺชติ. อนฺตรธายตีติ อทสฺสนํ ปาปุณาติ. วิปฺปลุชฺชตีติ ฉิชฺชติ. ‘‘อณฺฑชโยนิยา จวติ. ชลาพุชโยนิยา มรติ. สํเสทชโยนิยา อนฺตรธายติ. โอปปาติกโยนิยา วิปฺปลุชฺชตี’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. อพฺพุทกาเลปีติ อพฺพุทํ นาม กลลโต สตฺตาหจฺจเยน มํสโธวนอุทกวณฺณํ โหติ, กลลนฺติ นามํ อนฺตรธายติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘สตฺตาหํ ¶ กลลํ โหติ, ปริปกฺกํ สมูหตํ;
วิวฏฺฏมานํ ตพฺภาวํ, อพฺพุทํ นาม ชายตี’’ติ. (สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๓๕);
ตสฺมึ อพฺพุทกาเลปิ. เปสิกาเลปีติ ตสฺมาปิ อพฺพุทา สตฺตาหจฺจเยน วิลีนติปุสทิสา เปสิ นาม สฺชายติ. สา มริจผาณิเตน ทีเปตพฺพา. คามทาริกา หิ สุปกฺกานิ มริจานิ คเหตฺวา สาฏกนฺเต ภณฺฑิกํ กตฺวา ปีเฬตฺวา มณฺฑํ อาทาย กปาเล ปกฺขิปิตฺวา อาตเป เปนฺติ, ตํ สุกฺขมานํ สพฺพภาเคหิ มุจฺจติ. เอวรูปา เปสิ โหติ, อพฺพุทนฺติ นามํ อนฺตรธายติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘สตฺตาหํ อพฺพุทํ โหติ, ปริปกฺกํ สมูหตํ;
วิวฏฺฏมานํ ตพฺภาวํ, เปสิ นาม ปชายตี’’ติ. (สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๓๕);
ตสฺมึ เปสิกาเลปิ. ฆนกาเลปีติ ตโตปิ เปสิโต สตฺตาหจฺจเยน กุกฺกุฏณฺฑสณฺาโน ฆโน นาม มํสปิณฺโฑ นิพฺพตฺตติ, เปสีติ นามํ อนฺตรธายติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘สตฺตาหํ ¶ เปสิ ภวติ, ปริปกฺกํ สมูหตํ;
วิวฏฺฏมานํ ตพฺภาวํ, ฆโนติ นาม ชายติ.
‘‘ยถา กุกฺกุฏิยา อณฺฑํ, สมนฺตา ปริมณฺฑลํ;
เอวํ ฆนสฺส สณฺานํ, นิพฺพตฺตํ กมฺมปจฺจยา’’ติ. (สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๓๕);
ตสฺมึ ฆนกาเลปิ. ปสาขกาเลปีติ ปฺจเม สตฺตาเห ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ หตฺถปาทานํ สีสสฺส จตฺถาย ปฺจ ปีฬกา ชายนฺติ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ปฺจเม, ภิกฺขเว, สตฺตาเห ปฺจ ปีฬกา สณฺหนฺติ กมฺมโต’’ติ. ตสฺมึ ปสาขกาเลปิ. ตโต ปรํ ฉฏฺสตฺตมาทีนิ สตฺตาหานิ อติกฺกมฺม เทสนํ สงฺขิปิตฺวา ทฺวาจตฺตาลีสสตฺตาเห ปริณตกาเล เกสโลมนขาทีนํ อุปฺปตฺติกาลฺจ. ตสฺส จ นาภิโต อุฏฺิโต นาโฬ มาตุ อุทรปฏเลน เอกาพทฺโธ โหติ, โส อุปฺปลทณฺฑโก วิย ฉิทฺโท, เตน อาหารรโส สํสริตฺวา อาหารสมุฏฺานรูปํ สมุฏฺาเปติ. เอวํ โส ทสมาเส ยาเปติ, ตํ ¶ สพฺพํ อวตฺวา ‘‘สูติฆเร’’ติ อาห. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –
‘‘เกสา ¶ โลมา นขานิ จ’’;
‘‘ยฺจสฺส ภฺุชตี มาตา, อนฺนํ ปานฺจ โภชนํ;
เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, มาตุกุจฺฉิคโต นโร’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๓๕; กถา. ๖๙๒);
ตตฺถ สูติฆเรติ สูติกฆเร, วิชายนฆเรติ อตฺโถ. ‘‘สูติกาฆเร’’ติ วา ปาโ, สูติกายาติ ปทจฺเฉโท. อทฺธมาสิโกปีติ ชาตทิวสโต ปฏฺาย อทฺธมาโส เอตสฺส อตฺถีติ อทฺธมาสิโก. ทฺเวมาสิกาทีสุปิ เอเสว นโย. ชาตทิวสโต ปฏฺาย เอกํ สํวจฺฉรํ เอตสฺส อตฺถีติ สํวจฺฉริโก. อุปริ ทฺเววสฺสิกาทีสุปิ เอเสว นโย.
ยทา ชิณฺโณ โหตีติ ยสฺมึ กาเล ชราชิณฺโณ ภวติ ชชฺชรีภูโต. วุทฺโธติ วโยวุทฺโธ. มหลฺลโกติ ชาติมหลฺลโก. อทฺธคโตติ ตโย อทฺเธ อติกฺกนฺโต. วโยอนุปฺปตฺโตติ ตติยํ วยํ อนุปฺปตฺโต. ขณฺฑทนฺโตติ อนฺตรนฺตรา ปติตา ทนฺตา ผาลิตา จ ชรานุภาเวน ขณฺฑา ทนฺตา ชาตา อสฺสาติ ขณฺฑทนฺโต. ปลิตเกโสติ ปณฺฑรเกโส. วิลูนนฺติ ลฺุจิตฺวา คหิตเกสา วิย ขลฺลาฏสีโส ¶ . ขลิตสิโรติ มหาขลฺลาฏสีโส. วลินนฺติ สฺชาตวลิ. ติลกาหตคตฺโตติ เสตติลกกาฬติลเกหิ วิกิณฺณสรีโร. โภคฺโคติ ภคฺโค, อิมินาปิสฺส วงฺกภาวํ ทีเปติ. ทณฺฑปรายโณติ ทณฺฑปฏิสฺสรโณ ทณฺฑทุติโย. โส ชรายปีติ โส ปุคฺคโล ชรายปิ อภิภูโต มรติ. นตฺถิ มรณมฺหา โมกฺโขติ มรณโต มฺุจนุปาโย นตฺถิ นุปลพฺภติ.
ผลานมิว ปกฺกานํ, ปาโต ปตนโต ภยนฺติ ปริปากคตานํ สิถิลวณฺฏานํ ปนสผลาทิปกฺกานํ ปจฺจูสกาเล อวสฺสํ ปติสฺสนฺตีติ ผลสามิกานํ ภายมานานํ วิย. เอวํ ชาตาน มจฺจานํ, นิจฺจํ มรณโต ภยนฺติ เอวเมว อุปฺปนฺนานํ สตฺตานํ มจฺจุสงฺขาตมรณโต สตตํ กาลํ ภยํ.
ยถาปิ ¶ กุมฺภการสฺสาติ ยถา นาม มตฺติกาภาชนํ กโรนฺตสฺส. กตํ มตฺติกภาชนนฺติ (สุ. นิ. ๕๘๒) เตน นิฏฺาปิตภาชนํ. สพฺพํ เภทนปริยนฺตนฺติ ปกฺกาปกฺกํ สพฺพํ เภทนํ ภิชฺชปริยนฺตํ อวสานํ อสฺสาติ เภทนปริยนฺตํ. เอวํ มจฺจาน ชีวิตนฺติ เอวเมว สตฺตานํ อายุสงฺขารํ.
ทหรา ¶ จ มหนฺตา จาติ ตรุณา จ มหลฺลกา จ. เย พาลา เย จ ปณฺฑิตาติ เย จ อสฺสาสปสฺสาสายตฺตา ชีวิตา พาลา เย จ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคตา พุทฺธาทโย. สพฺเพ มจฺจุวสํ ยนฺตีติ เอเต วุตฺตปฺปการา ทหราทโย สพฺเพ มจฺจุโน อิสฺสริยํ อุปคจฺฉนฺติ.
เตสํ มจฺจุปเรตานนฺติ เอเตสํ มจฺจุนา ปริวาริตานํ. คจฺฉตํ ปรโลกโตติ อิโต มนุสฺสโลกโต ปรโลกํ คจฺฉนฺตานํ. น ปิตา ตายเต ปุตฺตนฺติ ปิตา ปุตฺตํ น รกฺขติ. าตี วา ปน าตเกติ มาตาปิติปกฺขิกา าตี วา เตเยว าตเก รกฺขิตุํ น สกฺโกนฺติ.
เปกฺขตฺเว าตีนนฺติ วุตฺตวิธานํเยว าตีนํ เปกฺขนฺตานํเยว โอโลเกนฺตานํเยว. ปสฺส ลาลปฺปตํ ปุถูติ ปสฺสาติ อาลปนํ. ลาลปนฺตานํ วิลปนฺตานํ ปุถูนํ นานปฺปการานํ. เอกเมโกว มจฺจานํ, โควชฺโฌ วิย นิยฺยตีติ สตฺตานํ เอกเมโก วธาย นิยฺยมานโคโณ วิย มรณาย นิยฺยติ ปาปุณียติ. เอวมพฺภาหโต โลโกติ ¶ เอวเมว สตฺตโลโก ภุสํ อาหโต. มจฺจุนา จ ชราย จาติ มรเณน จ ชราย จ อภิภูโต.
๔๐. มมายิเตติ มมายิตวตฺถุการณา. วินาภาวํ สนฺตเมวิทนฺติ สนฺตํ วิชฺชมานํ วินาภาวเมว อิทํ, น สกฺกา อวินาภาเวน ภวิตุนฺติ วุตฺตํ โหติ.
โสจนฺตีติ จิตฺเตน โสจนํ กโรนฺติ. กิลมนฺตีติ กาเยน กิลมถํ ปาปุณนฺติ. ปริเทวนฺตีติ นานาวิธํ วาจาวิลาปํ ภณนฺติ. อุรตฺตาฬึ กนฺทนฺตีติ อุรํ ตาเฬตฺวา ตาเฬตฺวา กนฺทนฺติ. สมฺโมหํ อาปชฺชนฺตีติ สมฺโมหภาวํ ปาปุณนฺติ.
อนิจฺโจติ หุตฺวา อภาวฏฺเน. สงฺขโตติ ปจฺจเยหิ สงฺคมฺม กโต. ปฏิจฺจสมุปฺปนฺโนติ ปจฺจยสามคฺคึ ปฏิจฺจ น ปจฺจกฺขาย สห สมฺมา จ อุปฺปนฺโน. ขยธมฺโมติ ¶ ขยํ คมนสภาโว. วยธมฺโมติ วยํ คมนสภาโว, ภงฺควเสน ภงฺคคมนสภาโวติ อตฺโถ. วิราคธมฺโมติ วิรชฺชนสภาโว. นิโรธธมฺโมติ นิรุชฺฌนสภาโว. ยฺวายํ ปริคฺคโหติ โย อยํ ปริคฺคโห. ‘‘ยาย ปริคฺคโห’’ติปิ ปาโ, อยเมว ปทจฺเฉโท. นิจฺโจติ สตตกาลิโก. ธุโวติ ถิโร. สสฺสโตติ อจวโน. อวิปริณามธมฺโมติ ปกติอชหนสภาโว. สสฺสติ สมํ ตเถว สฺสตีติ จนฺทสูริยสิเนรุมหาสมุทฺทปถวีปพฺพตาทโย วิย ติฏฺเยฺย.
นานาภาโวติ ชาติยา นานาภาโว. วินาภาโวติ มรเณน วิโยคภาโว. อฺถาภาโวติ ¶ สพฺภาวโต อฺถาภาโว. ปุริมานํ ปุริมานํ ขนฺธานนฺติ อนนฺตเร ปุเร อุปฺปนฺนานํ ขนฺธานํ. วิปริณามฺถาภาวาติ ปกติภาวํ ชหิตฺวา อฺถาภาเวน. ปจฺฉิมา ปจฺฉิมา ขนฺธาทโย ปวตฺตนฺติ อุปฺปชฺชนฺตีติ สมฺพนฺโธ.
สพฺพํ ฆราวาสปลิโพธนฺติ สกลํ คิหิภาวชฏํ. าติมิตฺตามจฺจปลิโพธนฺติ มาตาปิตุปกฺขิกา าตี, มิตฺตา สหายา, อมจฺจา ภจฺจา. สนฺนิธิปลิโพธนฺติ นิธานชฏํ ฉินฺทิตฺวา. เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวาติ เกเส จ มสฺสูนิ จ โอโรปยิตฺวา. กาสายานิ วตฺถานีติ กสายรสปีตานิ วตฺถานิ.
๔๑. มามโกติ ¶ มม อุปาสโก ภิกฺขุ วาติ สงฺขํ คโต, พุทฺธาทีนิ วา วตฺถูนิ มมายมาโน.
เตสํ เตสํ สตฺตานนฺติ อเนเกสํ สตฺตานํ สาธารณนิทฺเทโส. ‘‘ยฺทตฺตสฺส มรณํ, โสมทตฺตสฺส มรณ’’นฺติ เอวฺหิ ทิวสมฺปิ กถิยมาเน เนว สตฺตา ปริยาทานํ คจฺฉนฺติ, น สพฺพํ อปรตฺตทีปนํ สิชฺฌติ. อิเมหิ ปน ทฺวีหิ ปเทหิ น โกจิ สตฺโต อปริยาทินฺโน โหติ, น กิฺจิ อปรตฺตาทีปนํ น สิชฺฌติ. ตมฺหา ตมฺหาติ อยํ คติวเสน อเนเกสํ นิกายานํ สาธารณนิทฺเทโส. สตฺตนิกายาติ สตฺตานํ นิกายา, สตฺตฆฏา สตฺตสมูหาติ อตฺโถ. จุตีติ ¶ จวนวเสน วุตฺตํ. เอกจตุปฺจกฺขนฺธาย จุติยา สามฺวจนเมตํ. จวนตาติ ภาววจเนน ลกฺขณนิทสฺสนํ. เภโทติ จุติขนฺธานํ ภงฺคุปฺปตฺติปริทีปนํ. อนฺตรธานนฺติ ฆฏสฺส วิย ภินฺนสฺส ภินฺนานํ ขนฺธานํ เยน เกนจิ ปริยาเยน านาภาวปริทีปนํ. มจฺจุมรณนฺติ มจฺจุสงฺขาตํ มรณํ, น ขณิกมรณํ. กาโล นาม อนฺตโก, ตสฺส กิริยาติ กาลํกิริยา. เอตฺตาวตา สมฺมุติมรณํ ทีปิตํ. อิทานิ ปรมตฺเถน ทีเปตุํ ‘‘ขนฺธานํ เภโท’’ติอาทิมาห. ปรมตฺเถน หิ ขนฺธาเยว ภิชฺชนฺติ, น สตฺโต นาม โกจิ มรติ. ขนฺเธสุ ปน ภิชฺชมาเนสุ สตฺโต มรติ, ภินฺเนสุ ‘‘มโต’’ติ โวหาโร โหติ.
เอตฺถ จ จตุโวการปฺจโวการวเสน ขนฺธานํ เภโท, เอกโวการวเสน กเฬวรสฺส นิกฺเขโป. จตุโวการวเสน วา ขนฺธานํ เภโท, เสสทฺวยวเสน กเฬวรสฺส นิกฺเขโป เวทิตพฺโพ. กสฺมา? กามรูปภวทฺวเยปิ รูปกายสงฺขาตสฺส กเฬวรสฺส สพฺภาวโต. ยสฺมา วา จาตุมหาราชิกาทีสุ ขนฺธา ภิชฺชนฺเตว, น กิฺจิ นิกฺขิปนฺติ, ตสฺมา เตสํ วเสน ขนฺธานํ เภโท, มนุสฺสาทีสุ กเฬวรสฺส ¶ นิกฺเขโป. เอตฺถ จ กเฬวรสฺส นิกฺเขปกรณโต มรณํ ‘‘กเฬวรสฺส นิกฺเขโป’’ติ วุตฺตํ. ชีวิตินฺทฺริยสฺสุปจฺเฉโทติ อิมินา อินฺทฺริยพทฺธสฺเสว มรณํ นาม โหติ, อนินฺทฺริยพทฺธสฺส มรณํ นาม นตฺถีติ ทสฺเสติ. ‘‘สสฺสํ มตํ, รุกฺโข มโต’’ติ อิทํ ปน โวหารมตฺตเมว. อตฺถโต ปน เอวรูปานิ วจนานิ สสฺสาทีนํ ขยวยภาวเมว ทีเปนฺติ. รูปคตนฺติ รูปเมว รูปคตํ. เวทนาคตนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ ¶ ปุพฺเพว มจฺจนฺติ มจฺจํ วา โภคา ปุพฺเพว ปมตรฺเว วิชหนฺติ. มจฺโจ วา เต โภเค ปุพฺพตรํ ชหติ. กามกามีติ โจรราชานํ อาลปติ. อมฺโภ กาเม กามยมาน กามกามิ โภคิโน นาม โลเก อสสฺสตา, โภเคสุ วา นฏฺเสุ ชีวมานา จ อโภคิโน โหนฺติ. โภเค วา ปหาย สยํ นสฺสนฺติ, ตสฺมา อหํ มหาชนสฺส โสกกาเลปิ น โสจามีติ อตฺโถ.
วิทิตา ¶ มยา สตฺตุก โลกธมฺมาติ โจรราชานํ อาลปนฺโต อาห. อมฺโภ สตฺตุก มยา ลาโภ อลาโภ ยโส อยโสติอาทโย โลกธมฺมา วิทิตา. ยเถว หิ จนฺโท อุเทติ จ ปูรติ จ ปุน จ ขียติ, ยถา จ สูริโย อนฺธการํ วิธเมนฺโต มหนฺตํ โลกปฺปเทสํ ตปิตฺวาน ปุน สายํ อตฺถํ ปเลติ อตฺถํ คจฺฉติ น ทิสฺสติ, เอวเมว โภคา อุปฺปชฺชนฺติ จ วินสฺสนฺติ จ, ตตฺถ กึ โสเกน, ตสฺมา น โสจามีติ อตฺโถ.
ตณฺหามฺนาย มฺตีติ ตณฺหาย ชนิตมานมฺนาย มฺติ. มานํ กโรติ ทิฏฺิมฺนายาติ ทิฏฺึ อุปนิสฺสยํ กตฺวา อุปฺปนฺนาย มฺนาย. มานมฺนายาติ สหชาตมานมฺนาย. กิเลสมฺนายาติ วุตฺตปฺปการาย อุปตาปนฏฺเน กิเลสมฺนาย มฺติ.
กุหาติ วิมฺหาปกา. ถทฺธาติ ขาณุ วิย ถทฺธา. ลปาติ ปจฺจยนิมิตฺเตน ลปนกา.
๔๒. สงฺคตนฺติ สมาคตํ, ทิฏฺํ ผุฏฺํ วา. ปิยายิตนฺติ ปิยกตํ.
สงฺคตนฺติ สมฺมุขีภูตํ. สมาคตนฺติ สมีปํ อาคตํ. สมาหิตนฺติ เอกีภูตํ. สนฺนิปติตนฺติ ปิณฺฑิตํ. สุปินคโตติ สุปินํ ปวิฏฺโ. เสนาพฺยูหํ ปสฺสตีติ เสนาสนฺนิเวสํ ทกฺขติ. อารามรามเณยฺยกนฺติ ปุปฺผารามาทีนํ รมณียภาวํ. วนรามเณยฺยกาทีสุปิ เอเสว นโย. เปตนฺติ อิโต ปรโลกํ คตํ. กาลงฺกตนฺติ มตํ.
๔๓. นามํเยวาวสิสฺสติ ¶ , อกฺเขยฺยนฺติ สพฺพํ รูปาทิธมฺมชาตํ ปหียติ, นามมตฺตเมว ตุ อวสิสฺสติ ‘‘พุทฺธรกฺขิโต ธมฺมรกฺขิโต’’ติ เอวํ อกฺขาตุํ กเถตุํ.
เย ¶ จกฺขุวิฺาณาภิสมฺภูตาติ เย สยํ จกฺขุวิฺาเณน อภิสมฺภูตา ราสิกตา ทิฏฺา จตุสมุฏฺานิกา รูปา. โสตวิฺาณาภิสมฺภูตาติ ปรโตโฆเสน โสตวิฺาเณน ราสิกตา สุตา ทฺวิสมุฏฺานิกา สทฺทา.
๔๔. มุนโยติ ขีณาสวมุนโย. เขมทสฺสิโนติ นิพฺพานทสฺสิโน.
โสโกติ โสกนิทฺเทเส – พฺยสตีติ พฺยสนํ, หิตสุขํ ขิปติ ¶ วิทฺธํเสตีติ อตฺโถ. าตีนํ พฺยสนํ าติพฺยสนํ, โจรโรคภยาทีหิ าติกฺขโย าติวินาโสติ อตฺโถ. เตน าติพฺยสเนน. ผุฏฺสฺสาติ อชฺโฌตฺถฏสฺส, อภิภูตสฺส สมนฺนาคตสฺสาติ อตฺโถ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – โภคานํ พฺยสนํ โภคพฺยสนํ, ราชโจราทิวเสน โภคกฺขโย โภควินาโสติ อตฺโถ. โรโคเยว พฺยสนํ โรคพฺยสนํ. โรโค หิ อาโรคฺยํ พฺยสติ วินาเสตีติ พฺยสนํ. สีลสฺส พฺยสนํ สีลพฺยสนํ, ทุสฺสิลฺยสฺเสตํ นามํ. สมฺมาทิฏฺึ วินาสยมานา อุปฺปนฺนา ทิฏฺิเยว พฺยสนํ ทิฏฺิพฺยสนํ. เอตฺถ จ ปุริมานิ ทฺเว อนิปฺผนฺนานิ, ปจฺฉิมานิ ตีณิ นิปฺผนฺนานิ ติลกฺขณพฺภาหตานิ. ปุริมานิ จ ตีณิ เนว กุสลานิ นากุสลานิ, สีลทิฏฺิพฺยสนทฺวยํ อกุสลํ.
อฺตรฺตเรนาติ คหิเตสุ วา เยน เกนจิ อคฺคหิเตสุ วา มิตฺตามจฺจพฺยสนาทีสุ เยน เกนจิ. สมนฺนาคตสฺสาติ สมนุพนฺธสฺส อปริมุจฺจมานสฺส. อฺตรฺตเรน ทุกฺขธมฺเมนาติ เยน เกนจิ โสกทุกฺขสฺส อุปฺปตฺติเหตุนา. โสโกติ โสจนกวเสน โสโก. อิทํ เตหิ การเณหิ อุปฺปชฺชนกโสกสฺส สภาวปจฺจตฺตํ. โสจนาติ โสจนากาโร. โสจิตตฺตนฺติ โสจิตภาโว. อนฺโตโสโกติ อพฺภนฺตรโสโก. ทุติยปทํ อุปสคฺเคน วฑฺฒิตํ. โส หิ อพฺภนฺตรํ สุกฺขาเปนฺโต วิย ปริสุกฺขาเปนฺโต วิย อุปฺปชฺชตีติ ‘‘อนฺโตโสโก อนฺโตปริโสโก’’ติ วุจฺจติ. อนฺโตทาโหติ อพฺภนฺตรทาโห. ทุติยปทํ อุปสคฺเคน วฑฺฒิตํ. เจตโส ปริชฺฌายนาติ จิตฺตสฺส ฌานนากาโร. โสโก หิ อุปฺปชฺชมาโน อคฺคิ วิย จิตฺตํ ฌาเปติ ¶ ทหติ, ‘‘จิตฺตํ เม ฌามํ, น เม กิฺจิ ปฏิภาตี’’ติ วทาเปติ. ทุกฺขิโต มโน ทุมฺมโน, ตสฺส ภาโว โทมนสฺสํ. อนุปวิฏฺฏฺเน โสโกว สลฺลนฺติ โสกสลฺลํ.
ปริเทวนิทฺเทเส ¶ – ‘‘มยฺหํ ธีตา, มยฺหํ ปุตฺโต’’ติ เอวํ อาทิสฺส อาทิสฺส เทวนฺติ โรทนฺติ เอเตนาติ อาเทโว. ตํ ตํ วณฺณํ ปริกิตฺเตตฺวา ปริกิตฺเตตฺวา เทวนฺติ เอเตนาติ ปริเทโว. ตโต ปรานิ ทฺเว ทฺเว ปทานิ ปุริมทฺวยสฺเสว อาการภาวนิทฺเทสวเสน วุตฺตานิ. วาจาติ วจนํ. ปลาโปติ ตุจฺฉํ นิรตฺถกวจนํ ¶ . อุปฺปฑฺฒภณิตอฺภณิตาทิวเสน วิรูโป ปลาโป วิปฺปลาโป. ลาลปฺโปติ ปุนปฺปุนํ ลปนํ. ลาลปฺปนากาโร ลาลปฺปนา. ลาลปฺปิตสฺส ภาโว ลาลปฺปิตตฺตํ. มจฺฉริยาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว.
๔๕. สตฺตมคาถา เอวํ มรณพฺภาหเต โลเก อนุรูปปฏิปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตา. ตตฺถ ปติลีนจรสฺสาติ ตโต ตโต ปติลีนํ จิตฺตํ กตฺวา จรนฺตสฺส. ภิกฺขุโนติ กลฺยาณปุถุชฺชนสฺส วา เสกฺขสฺส วา. สามคฺคิยมาหุ ตสฺส ตํ, โย อตฺตานํ ภวเน น ทสฺสเยติ ตสฺเสตํ ปติรูปมาหุ, โย เอวํปฏิปนฺโน นิรยาทิเภเท ภวเน อตฺตานํ น ทสฺสเย. เอวฺหิ โส อิมมฺหา มรณา มุจฺเจยฺยาติ อธิปฺปาโย.
ปติลีนจรา วุจฺจนฺตีติ ตโต ตโต ลีนจิตฺตาจารา กถียนฺติ. สตฺต เสกฺขาติ อธิสีลาทีสุ ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขนฺตีติ โสตาปตฺติมคฺคฏฺํ อาทึ กตฺวา ยาว อรหตฺตมคฺคฏฺา สตฺต เสกฺขา. อรหาติ ผลฏฺโ. โส นิฏฺิตจิตฺตตฺตา ปติลีโน. เสกฺขานํ ปติลีนจรณภาเว การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กึ การณา’’ติอาทิมาห. เต ตโต ตโตติ เต สตฺต เสกฺขา เตหิ เตหิ อารมฺมเณหิ จิตฺตํ ปติลีเนนฺตาติ อตฺตโน จิตฺตํ นิลีเนนฺตา. ปติกุเฏนฺตาติ สงฺโกเจนฺตา. ปติวฏฺเฏนฺตาติ กฏสารกํ วิย อาภุเชนฺตา. สนฺนิรุทฺธนฺตาติ สนฺนิรุชฺฌนฺตา. สนฺนิคณฺหนฺตาติ นิคฺคหํ กุรุมานา. สนฺนิวาเรนฺตาติ วารยมานา. รกฺขนฺตาติ รกฺขํ กุรุมานา. โคเปนฺตาติ จิตฺตมฺชูสาย โคปยมานา.
อิทานิ ¶ ทฺวารวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘จกฺขุทฺวาเร’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จกฺขุทฺวาเรติ จกฺขุวิฺาณทฺวาเร. โสตทฺวาราทีสุปิ เอเสว นโย. ภิกฺขุโนติ ปุถุชฺชนกลฺยาณกสฺส วา ภิกฺขุโน, เสกฺขสฺส วา ภิกฺขุโนติ ภิกฺขุสทฺทสฺส วจนตฺถํ อวตฺวา อิธาธิปฺเปตภิกฺขุเยว ทสฺสิโต. ตตฺถ ปุถุชฺชโน จ โส กิเลสานํ อสมุจฺฉินฺนตฺตา, กลฺยาโณ จ สีลาทิปฏิปตฺติยุตฺตตฺตาติ ¶ ปุถุชฺชนกลฺยาโณว ปุถุชฺชนกลฺยาณโก, ตสฺส ปุถุชฺชนกลฺยาณกสฺส. อธิสีลาทีนิ สิกฺขตีติ เสกฺโข, ตสฺส เสกฺขสฺส วา โสตาปนฺนสฺส วา สกทาคามิโน วา อนาคามิโน วา.
อาสนฺติ ¶ นิสีทนฺติ เอตฺถาติ อาสนํ. ยตฺถาติ เยสุ มฺจปีาทีสุ. มฺโจติอาทีนิ อาสนสฺส ปเภทวจนานิ. มฺโจปิ หิ นิสชฺชายปิ โอกาสตฺตา อิธ อาสเนสุ วุตฺโต, โส ปน มสารกพุนฺทิกาพทฺธกุฬีรปาทกอาหจฺจปาทกานํ อฺตโร. ปีมฺปิ เตสํ อฺตรเมว. ภิสีติ อุณฺณภิสิ โจฬภิสิ วากภิสิ ติณภิสิ ปณฺณภิสีนํ อฺตรา. ตฏฺฏิกาติ ตาลปณฺณาทีหิ วินิตฺวา กตา. จมฺมขณฺโฑติ นิสชฺชารโห โย โกจิ จมฺมขณฺโฑ. ติณสนฺถาราทโย ติณาทีนิ คุมฺเพตฺวา กตา. อสปฺปายรูปทสฺสเนนาติ อสปฺปายานํ อิฏฺรูปานํ โอโลกเนน. ริตฺตนฺติ อพฺภนฺตรโต ตุจฺฉํ. วิวิตฺตนฺติ พหิทฺธาปเวสเนน สฺุํ. ปวิวิตฺตนฺติ โกจิ คหฏฺโ ตตฺถ นตฺถีติ อติเรเกน สฺุํ. อสปฺปายสทฺทสฺสวเนปิ เอเสว นโย. ปฺจหิ กามคุเณหีติ อิตฺถิรูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺเพหิ ปฺจหิ กามโกฏฺาเสหิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘รูปา สทฺทา รสา คนฺธา, โผฏฺพฺพา จ มโนรมา;
ปฺจ กามคุณา โลเก, อิตฺถิรูปสฺมึ ทิสฺสเร’’ติ. (อ. นิ. ๕.๕๕);
ภชโตติ จิตฺเตน เสวนํ กโรนฺตสฺส. สมฺภชโตติ สมฺมา เสวนฺตสฺส. เสวโตติ อุปสงฺกมนฺตสฺส. นิเสวโตติ นิสฺสยํ กตฺวา เสวนฺตสฺส. สํเสวโตติ สุฏฺุ เสวนฺตสฺส. ปฏิเสวโตติ ปุนปฺปุนํ อุปสงฺกมนฺตสฺส.
คณสามคฺคีติ สมณานํ เอกีภาโว สมคฺคภาโว. ธมฺมสามคฺคีติ สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺมานํ สมูหภาโว. อนภินิพฺพตฺติสามคฺคีติ อนิพฺพตฺตมานานํ ¶ อนุปฺปชฺชมานานํ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุตานํ อรหนฺตานํ สมูโห. สมคฺคาติ กาเยน อวิโยคา. สมฺโมทมานาติ จิตฺเตน สุฏฺุ โมทมานา ตุสฺสมานา. อวิวทมานาติ วาจาย ¶ วิวาทํ อกุรุมานา. ขีโรทกีภูตาติ ขีเรน สํสฏฺอุทกสทิสา.
เต เอกโต ปกฺขนฺทนฺตีติ เต โพธิปกฺขิยธมฺมา เอกํ อารมฺมณํ ปวิสนฺติ. ปสีทนฺตีติ ตสฺมึเยว อารมฺมเณ ปสาทมาปชฺชนฺติ. อนุปาทิเสสายาติ อุปาทิวิรหิตาย.
นิพฺพานธาตุยาติ อมตมหานิพฺพานธาตุยา. อูนตฺตํ วาติ เอตฺถ อุนภาโว อูนตฺตํ, อปริปุณฺณภาโวติ อตฺโถ. ปุณฺณตฺตํ วาติ ปริปุณฺณภาโว ปุณฺณตฺตํ, ปุณฺณภาโว วา น ปฺายติ นตฺถีติ อตฺโถ.
เนรยิกานนฺติ ¶ นิรเย นิพฺพตฺตนกกมฺมานํ อตฺถิภาเวน. นิรยํ อรหนฺตีติ เนรยิกา, เตสํ เนรยิกานํ. นิรโย ภวนนฺติ นิรโย เอว เตสํ วสนฏฺานํ ฆรํ. ติรจฺฉานโยนิกานนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ตสฺเสสา สามคฺคีติ ตสฺส ขีณาสวสฺส เอสา นิพฺพานสามคฺคี. เอตํ ฉนฺนนฺติ เอตํ อนุจฺฉวิกํ. ปติรูปนฺติ สทิสํ ปฏิภาคํ, อสทิสํ อปฺปฏิภาคํ น โหติ. อนุจฺฉวิกนฺติ เอตํ สมณพฺราหฺมณานํ วา ธมฺมานํ, มคฺคผลนิพฺพานสาสนธมฺมานํ วา อนุจฺฉวิกํ. เตสํ ฉวึ ฉายํ สุนฺทรภาวํ อนฺเวติ อนุคจฺฉติ, อถ โข สนฺติกาว เตหิ ธมฺเมหิ อนุจฺฉวิกตฺตา เอว จ อนุโลมํ. เตสฺจ อนุโลเมติ, อถ โข น วิโลมํ น ปจฺจนีกภาเว ิตํ.
๔๖. อิทานิ ‘‘โย อตฺตานํ ภวเน น ทสฺสเย’’ติ เอวํ ขีณาสโว วิภาวิโต, ตสฺส วณฺณภณนตฺถํ อิโต ปรา ติสฺโส คาถาโย อาห. ตตฺถ ปมคาถาย สพฺพตฺถาติ ทฺวาทสสุ อายตเนสุ. น ปิยํ กุพฺพติ โนปิ อปฺปิยนฺติ นิทฺเทเส ปิยาติ จิตฺเต ปีติกรา. เต วิภาคโต ทสฺเสนฺโต ‘‘กตเม สตฺตา ปิยา, อิธ ยสฺส เต โหนฺตี’’ติ อาห. ตตฺถ ยสฺส เตติ เย อสฺส เต. โหนฺตีติ ภวนฺติ. อตฺถกามาติ วฑฺฒิกามา. หิตกามาติ สุขกามา. ผาสุกามาติ สุขวิหารกามา. โยคกฺเขมกามาติ จตูหิ โยเคหิ เขมํ นิพฺภยํ กามา. มมายตีติ ¶ มาตา. ปิยายตีติ ปิตา. ภชตีติ ภาตา. ภคินีติ ¶ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปุํ ตายติ รกฺขตีติ ปุตฺโต. กุลวํสํ ธาเรตีติ ธีตา. มิตฺตา สหายา. อมจฺจา ภจฺจา. าตี ปิตุปกฺขิกา. สาโลหิตา มาติปกฺขิกา. อิเม สตฺตา ปิยาติ อิเม สตฺตา ปีติชนกา. วุตฺตวิปริยาเยน อปฺปิยา เวทิตพฺพา.
๔๗. ยทิทํ ทิฏฺสุตมุเตสุ วาติ เอตฺถ ปน ยทิทํ ทิฏฺสุตํ, เอตฺถ วา มุเตสุ วา ธมฺเมสุ; เอวํ มุนิ น อุปลิมฺปตีติ เอวํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ.
อุทกเถโวติ อุทกสฺส เถโว. ‘‘อุทกตฺเถวโก’’ติปิ ปาโ. ปทุมปตฺเตติ ปทุมินิปตฺเต.
๔๘. โธโน น หิ เตน มฺติ, ยทิทํ ทิฏฺสุตมุเตสุ วาติ อตฺราปิ ยทิทํ ทิฏฺสุตํ, เตน วตฺถุนา น มฺติ, มุเตสุ วา ธมฺเมสุ น มฺตีติ เอวเมว สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. น หิ โส รชฺชติ, โน วิรชฺชตีติ พาลปุถุชฺชโน วิย น รชฺชติ, กลฺยาณปุถุชฺชนเสกฺขา วิย น วิรชฺชติ, ราคสฺส ขีณตฺตา ‘‘วิรตฺโต’’ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ. เสสํ ปากฏเมวาติ.
ตาย ¶ ปฺาย กายทุจฺจริตนฺติ สมฺปยุตฺตาย ปุพฺพภาคาเยว วา ปฺาย ปริคฺคเหตพฺเพ ปริคฺคณฺหนฺโต โยคี ติวิธํ กายทุจฺจริตํ สมุจฺเฉทวเสน ธุนาติ. อยฺจ ปุคฺคโล วิปนฺนธมฺมํ เทสนาธมฺเมสุ ธุนนฺเตสุ ตํธมฺมสมงฺคีปุคฺคโลปิ ธุนาติ นาม. เต จ ธมฺเม ปฺาย อตฺตโน ปวตฺติกฺขเณ ธุนิตุมารทฺโธ ธุตาติ วุจฺจติ, ยถา ภฺุชิตุมารทฺโธ ภุตฺโตติ วุจฺจติ. ลกฺขณํ ปเนตฺถ สทฺทสตฺถโต เวทิตพฺพํ. ธุตนฺติ กตฺตุสาธนํ. ธุตํ ปมมคฺเคน. โธตํ ทุติยมคฺเคน. สนฺโธตํ ตติยมคฺเคน. นิทฺโธตํ จตุตฺถมคฺเคน.
โธโน ทิฏฺํ น มฺตีติ อรหา มํสจกฺขุนา ทิฏฺํ ¶ ทิพฺพจกฺขุนา ทิฏฺํ รูปายตนํ น มฺติ ตีหิ มฺนาหิ, กถํ? รูปายตนํ สุภสฺาย สุขสฺาย จ ปสฺสนฺโต น ตตฺถ ฉนฺทราคํ ชเนติ น ตํ อสฺสาเทติ นาภินนฺทติ, เอวํ ทิฏฺํ ตณฺหามฺนาย น มฺติ. ‘‘อิติ เม รูปํ สิยา อนาคตมทฺธาน’’นฺติ วา ปเนตฺถ นนฺทึ น สมนฺนาเนติ. รูปสมฺปทํ วา อากงฺขมาโน ทานํ น เทติ, สีลํ น สมาทิยติ, อุโปสถกมฺมํ น กโรติ. เอวมฺปิ ¶ ทิฏฺํ ตณฺหามฺนาย น มฺติ, อตฺตโน ปน ปรสฺส จ รูปสมฺปตฺติวิปตฺตึ นิสฺสาย มานํ น ชเนติ. ‘‘อิมินาหํ เสยฺโยสฺมีติ วา, สทิโสสฺมีติ วา, หีโนสฺมีติ วา’’ติ เอวํ ทิฏฺํ มานมฺนาย น มฺติ. รูปายตนํ ปน ‘‘นิจฺจํ ธุวํ สสฺสต’’นฺติ น มฺติ. อตฺตานํ ‘‘อตฺตนิย’’นฺติ น มฺติ. มงฺคลํ ‘‘อมงฺคล’’นฺติ น มฺติ. เอวํ ทิฏฺํ ทิฏฺิมฺนาย น มฺติ. ทิฏฺสฺมึ น มฺตีติ รูปสฺมึ อตฺตานํ สมนุปสฺสนนเยน อมฺนฺโต ทิฏฺสฺมึ น มฺติ. ยถา วา ถเน ถฺํ, เอวํ รูปสฺมึ ราคาทโยติ อมฺนฺโตปิ ทิฏฺสฺมึ น มฺติ. ตสฺมึเยว ปนสฺส ทิฏฺิมฺนาย อมฺิเต วตฺถุสฺมึ สิเนหํ มานฺจ น อุปฺปาทยโต ตณฺหามานมฺนาปิ นตฺถีติ เวทิตพฺพา. เอวํ ทิฏฺสฺมึ น มฺติ. ทิฏฺโต น มฺตีติ เอตฺถ ปน ทิฏฺโตติ นิสฺสกฺกวจนํ. ตสฺมา สอุปการณสฺส อตฺตโน วา ปรสฺส วา ยถาวุตฺตปฺปเภทโต ทิฏฺโต อุปปตฺติ วา นิคฺคมนํ วา ทิฏฺโต วา อฺโ อตฺตาติ อมฺมาโน ทิฏฺโต น มฺตีติ เวทิตพฺโพ. อยมสฺส น ทิฏฺิมฺนา. ตสฺมึเยว ปนสฺส ทิฏฺิมฺนาย อมฺิเต วตฺถุสฺมึ สิเนหํ มานฺจ น อุปฺปาทยโต น ตณฺหามานมฺนาปิ เวทิตพฺพา.
ทิฏฺา เมติ น มฺตีติ เอตฺถ ปน ‘‘เอตํ มมา’’ติ ตณฺหาวเสน อมมายมาโน ทิฏฺํ ตณฺหามฺนาย น มฺติ. สุตนฺติ ¶ มํสโสเตนปิ สุตํ, ทิพฺพโสเตนปิ สุตํ, สทฺทายตนสฺเสตํ อธิวจนํ. มุตนฺติ มุตฺวา มุนิตฺวา จ คหิตํ อาหจฺจ อุปคนฺตฺวาติ อตฺโถ. อินฺทฺริยานํ อารมฺมณานฺจ อฺมฺํ สํกิเลเส วิฺาตนฺติ วุตฺตํ โหติ. คนฺธรสโผฏฺพฺพายตนานํ ¶ เอตํ อธิวจนํ. วิฺาตนฺติ มนสา วิฺาตํ, เสสานํ สตฺตานํ อายตนานเมตํ อธิวจนํ, ธมฺมารมฺมณสฺส วา, อิธ ปน สกฺกายปริยาปนฺนเมว ลพฺภติ. วิตฺถาโร ปเนตฺถ ทิฏฺวาเร วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.
อิทานิ ภควตา วุตฺตสุตฺตวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘อสฺมีติ ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อสฺมีติ ภวามิ, นิจฺจสฺเสตํ อธิวจนํ. มฺิตเมตนฺติ ทิฏฺิกปฺปนํ เอตํ. อยมหมสฺมีติ อยํ อหํ อสฺมิ ภวามิ.
อฺตฺร สติปฏฺาเนหีติ เปตฺวา จตุสติปฏฺาเน.
สพฺเพ พาลปุถุชฺชนา รชฺชนฺตีติ สกลา อนฺธพาลา นานาชนา ลคฺคนฺติ. สตฺต เสกฺขา วิรชฺชนฺตีติ โสตาปนฺนาทโย สตฺต อริยชนา วิราคํ อาปชฺชนฺติ ¶ . อรหา เนว รชฺชติ โน วิรชฺชตีติ กิเลสานํ ปรินิพฺพาปิตตฺตา อุภยมฺปิ น กโรติ. ขยา ราคสฺสาติอาทโย ติวิธาปิ นิพฺพานเมว.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย
ชราสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ติสฺสเมตฺเตยฺยสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๔๙. สตฺตเม ¶ ¶ ติสฺสเมตฺเตยฺยสุตฺเต เมถุนมนุยุตฺตสฺสาติ เมถุนธมฺมํ สมายุตฺตสฺส. อิตีติ เอวมาห. อายสฺมาติ ปิยวจนเมตํ. ติสฺโสติ นามํ ตสฺส เถรสฺส. โสปิ หิ ติสฺโสติ นาเมน. เมตฺเตยฺโยติ โคตฺตํ, โคตฺตวเสเนว เอส ปากโฏ อโหสิ. ตสฺมา อฏฺุปฺปตฺติยํ (สุ. นิ. อฏฺ. ๒.๘๒๑) วุตฺตํ – ‘‘ติสฺสเมตฺเตยฺยา นาม ทฺเว สหายา’’ติ. วิฆาตนฺติ อุปฆาตํ. พฺรูหีติ อาจิกฺข. มาริสาติ ปิยวจนเมตํ, นิทฺทุกฺขาติ วุตฺตํ โหติ. สุตฺวาน ตว สาสนนฺติ ตว วจนํ สุตฺวา. วิเวเก สิกฺขิสฺสามเสติ สหายํ อารพฺภ ธมฺมเทสนํ ยาจนฺโต ภณติ, โส ปน สิกฺขิตสิกฺโขเยว.
เมถุนธมฺโม นามาติ อิทํ นิทฺทิสิตพฺพสฺส เมถุนธมฺมสฺส อุปเทสปทํ. อสทฺธมฺโมติ อสตํ นีจชนานํ ธมฺโม. คามธมฺโมติ คามวาสีนํ เสวนธมฺโม. วสลธมฺโมติ วสลานํ ธมฺโม, กิเลสวสฺสนโต วา สยเมว วสโล ธมฺโมติ วสลธมฺโม. ทุฏฺุลฺโลติ ทุฏฺโ จ กิเลเสหิ ทุฏฺตฺตา, ถูโล จ อนิปุณภาวโตติ ทุฏฺุลฺโล. ยสฺมา จ ตสฺส ธมฺมสฺส ปริวารภูตํ ทสฺสนมฺปิ คหณมฺปิ อามสนมฺปิ ผุสนมฺปิ ฆฏฺฏนมฺปิ ทุฏฺุลฺลํ, ตสฺมาปิ ทุฏฺุลฺโล โส เมถุนธมฺโม. โอทกนฺติโกติ อุทกํ อสฺส อนฺเต สุทฺธตฺถํ อาทิยตีติ อุทกนฺโต, อุทกนฺโตเยว โอทกนฺติโก. รโห ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเส กตฺตพฺพตาย รหสฺโส. วินเย ปน ‘‘ทุฏฺุลฺลํ โอทกนฺติกํ รหสฺส’’นฺติ (ปารา. ๓๙) ปาโ. ตตฺถ ตีสุ ปเทสุ โย โสติ ปทํ ปริวตฺเตตฺวา ยํ ตนฺติ ¶ กตฺวา โยเชตพฺพํ ‘‘ยํ ตํ ทุฏฺุลฺลํ, โส เมถุนธมฺโม, ยํ ตํ โอทกนฺติกํ โส เมถุนธมฺโม, ยํ ตํ รหสฺสํ ¶ , โส เมถุนธมฺโม’’ติ. อิธ ปน ‘‘โย โส อสทฺธมฺโม, โส เมถุนธมฺโม…เป… โย โส รหสฺโส, โส เมถุนธมฺโม’’ติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. ทฺวเยน ทฺวเยน สมาปชฺชิตพฺพโต ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติ. ตตฺถ โยชนา – ยา สา ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติ, โส เมถุนธมฺโม นามาติ. กึการณา วุจฺจติ เมถุนธมฺโมติ เกน การเณน เกน ปริยาเยน เมถุนธมฺโมติ กถียติ. ตํ การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุภินฺนํ รตฺตาน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อุภินฺนํ รตฺตานนฺติ ¶ ทฺวินฺนํ อิตฺถิปุริสานํ ราเคน รฺชิตานํ. สารตฺตานนฺติ วิเสเสน สุฏฺุ รฺชิตานํ. อวสฺสุตานนฺติ กิเลเสน ตินฺตานํ. ปริยุฏฺิตานนฺติ กุสลาจารํ ปริยาทิยิตฺวา มทฺทิตฺวา ิตานํ ‘‘มคฺเค โจรา ปริยุฏฺิตา’’ติอาทีสุ วิย. ปริยาทินฺนจิตฺตานนฺติ กุสลจิตฺตํ ปริยาทิยิตฺวา เขเปตฺวา ิตจิตฺตานํ. อุภินฺนํ สทิสานนฺติ ทฺวินฺนํ กิเลเสน สทิสานํ. ธมฺโมติ สภาโว. ตํ การณาติ เตน การเณน. ตํ อุปมาย สาเธนฺโต ‘‘อุโภ กลหการกา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อุโภ กลหการกาติ ปุพฺพภาเค กลหการกา ทฺเว. เมถุนกาติ วุจฺจนฺตีติ สทิสาติ วุจฺจนฺติ. ภณฺฑนการกาติ ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา ภณฺฑนํ กโรนฺตา. ภสฺสการกาติ วาจากลหํ กโรนฺตา. วิวาทการกาติ นานาวจนํ กโรนฺตา. อธิกรณการกาติ วินิจฺฉยปาปุณนวิเสสการณํ กโรนฺตา. วาทิโนติ วาทปฏิวาทิโน. สลฺลาปกาติ วาจํ กเถนฺตา เอวเมวนฺติ อุปมาสํสนฺทนํ.
ยุตฺตสฺสาติ สฺุตฺตสฺส. ปยุตฺตสฺสาติ อาทเรน ยุตฺตสฺส. อายุตฺตสฺสาติ วิเสเสน ยุตฺตสฺส. สมายุตฺตสฺสาติ เอกโต ยุตฺตสฺส. ตจฺจริตสฺสาติ ตํจริตํ กโรนฺตสฺส. ตพฺพหุลสฺสาติ ตํพหุลํ กโรนฺตสฺส. ตคฺครุกสฺสาติ ตํครุํ กโรนฺตสฺส. ตนฺนินฺนสฺสาติ ตสฺมึ นตจิตฺตสฺส. ตปฺโปณสฺสาติ ตสฺมึ นตกายสฺส. ตปฺปพฺภารสฺสาติ ¶ ตสฺมึ อภิมุขกายสฺส. ตทธิมุตฺตสฺสาติ ตสฺมึ อธิหริตสฺส. ตทธิปเตยฺยสฺสาติ ตํ อธิปตึ เชฏฺกํ กตฺวา ปวตฺตสฺส.
วิฆาตนฺติ นิทฺเทสสฺส อุทฺเทสวจนํ. วิฆาตนฺติ ปีฬนํ. อุปฆาตนฺติ สมีปํ กตฺวา ปีฬนํ. ปีฬนนฺติ ฆฏฺฏนํ. ฆฏฺฏนนฺติ ปีฬนํ. สพฺพํ อฺมฺเววจนํ. อุปทฺทวนฺติ หึสนํ. อุปสคฺคนฺติ ตตฺถ ตตฺถ อุปคนฺตฺวา ปีฬนาการํ. พฺรูหีติ กเถหิ. อาจิกฺขาติ ¶ วิสฺสชฺเชหิ. เทเสหีติ ทสฺเสหิ. ปฺเปหีติ าเปหิ. ปฏฺเปหีติ เปหิ. วิวราติ ปากฏํ กโรหิ. วิภชาติ ภาเชหิ. อุตฺตานีกโรหีติ ตีรํ ปาเปหิ. ปกาเสหีติ ปากฏํ กโรหิ.
ตุยฺหํ วจนนฺติ ตว วาจํ. พฺยปฺปถนฺติ วจนํ. เทสนนฺติ อาจิกฺขนํ. อนุสาสนนฺติ โอวาทํ. อนุสิฏฺนฺติ อนุสาสนํ. สุตฺวาติ โสเตน สุตฺวา. สุณิตฺวาติ ตสฺเสว เววจนํ. อุคฺคเหตฺวาติ สมฺมา คเหตฺวา. อุปธารยิตฺวาติ อนาเสตฺวา. อุปลกฺขยิตฺวาติ สลฺลกฺเขตฺวา.
๕๐. มุสฺสเต วาปิ สาสนนฺติ ปริยตฺติปฏิปตฺติโต ทุวิธมฺปิ สาสนํ นสฺสติ. วาปีติ ปทปูรณมตฺตํ. เอตํ ตสฺมึ อนริยนฺติ ตสฺมึ ปุคฺคเล เอตํ อนริยํ, ยทิทํ มิจฺฉาปฏิปทา. คารวาธิวจนนฺติ คุณวิสิฏฺสพฺพสตฺตุตฺตมครุคารวาธิวจนํ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ภควาติ ¶ วจนํ เสฏฺํ, ภควาติ วจนมุตฺตมํ;
ครุ คารวยุตฺโต โส, ภควา เตน วุจฺจตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๔๒);
จตุพฺพิธํ วา นามํ อาวตฺถิกํ, ลิงฺคิกํ, เนมิตฺติกํ, อธิจฺจสมุปฺปนฺนนฺติ. อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ นาม โลกิยโวหาเรน ‘‘ยทิจฺฉก’’นฺติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ วจฺโฉ, ทมฺโม, พลีพทฺโธติ เอวมาทิ อาวตฺถิกํ, ทณฺฑี, ฉตฺตี, สิขี, กรีติ เอวมาทิ ลิงฺคิกํ, เตวิชฺโช, ฉฬภิฺโติ เอวมาทิ เนมิตฺติกํ, สิริวฑฺฒโก, ธนวฑฺฒโกติ เอวมาทิ ¶ วจนตฺถํ อนเปกฺขิตฺวา ปวตฺตํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ. อิทํ ปน ภควาติ นามํ เนมิตฺติกํ, น มหามายาย, น สุทฺโธทนมหาราเชน, น อสีติยา าติสหสฺเสหิ กตํ, น สกฺกสนฺตุสิตาทีหิ เทวตาวิเสเสหิ กตํ. วกฺขติ จ ‘‘ภควาติ เนตํ นามํ มาตรา กตํ…เป… ปฏิลาภา สจฺฉิกา ปฺตฺติ ยทิทํ ภควา’’ติ (มหานิ. ๘๔).
‘‘ภาคฺยวา ภคฺควา ยุตฺโต, ภเคหิ จ วิภตฺตวา;
ภตฺตวา วนฺตคมโน, ภเวสุ ภควา ตโต’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๔๔);
ตตฺถ –
‘‘วณฺณาคโม วณฺณวิปริยาโย, ทฺเว จาปเร วณฺณวิการนาสา;
ธาตูนมตฺถาติสเยน โยโค, ตทุจฺจเต ปฺจวิธํ นิรุตฺติ’’นฺติ. –
เอวํ ¶ วุตฺตนิรุตฺติลกฺขณํ คเหตฺวา ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. ตตฺถ ‘‘นกฺขตฺตราชาริว ตารกาน’’นฺติ เอตฺถ รการาคโม วิย อวิชฺชมานสฺส อกฺขรสฺส อาคโม วณฺณาคโม นาม. ‘‘หึสนา, หึโส’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สีโห’’ติ วิย วิชฺชมานกฺขรานํ เหฏฺุปริยวเสน ปริวตฺตนํ วณฺณวิปริยาโย นาม. ‘‘นเว ฉนฺนเก ทานํ ทิยฺยตี’’ติ เอตฺถ อการสฺส เอการาปชฺชนตา วิย อฺกฺขรสฺส อฺกฺขราปชฺชนตา วณฺณวิกาโร นาม. ‘‘ชีวนสฺส มูโต ชีวนมูโต’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ชีมูโต’’ติ วการนการานํ วินาโส วิย วิชฺชมานกฺขรวินาโส วณฺณวินาโส นาม. ‘‘ผรุสาหิ วาจาหิ ปกฺรุพฺพมาโน อาสชฺช มํ ตฺวํ วทสิ กุมารา’’ติ เอตฺถ ปกฺรุพฺพมาโนติ ปทสฺส อภิภวมาโนติ อตฺถปฏิปาทนํ วิย ตตฺถ ตตฺถ ยถาโยคํ วิเสสตฺถโยโค ธาตูนํ อตฺถาติสเยน โยโค นาม.
เอวํ ¶ นิรุตฺติลกฺขณํ คเหตฺวา สทฺทนเยน วา ปิโสทราทินิสฺสิโต ปติฏฺานีติ ปิโสทราทิปกฺเขปลกฺขณํ คเหตฺวา ยสฺมา โลกิยโลกุตฺตรสุขาภินิพฺพตฺตกํ ¶ ทานสีลาทิปารปฺปตฺตํ ภาคฺยมสฺส อตฺถิ, ตสฺมา ‘‘ภาคฺยวา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ภควา’’ติ วุจฺจตีติ าตพฺพํ.
ยสฺมา ปน โลภโทสโมหวิปรีตมนสิการอหิริกาโนตฺตปฺปโกธูปนาหมกฺขปฬาสอิสฺสา- มจฺฉริยมายาสาเยฺยถมฺภสารมฺภมานาติมานมทปมาทตณฺหาอวิชฺชาติวิธากุสลมูลทุจฺจริต- สํกิเลสมลวิสมสฺาวิตกฺกปปฺจจตุพฺพิธวิปริเยสอาสวคนฺถโอฆโยคอคติ- ตณฺหุปฺปาทุปาทานปฺจเจโตขีลวินิพนฺธนีวรณาภินนฺทนฉวิวาทมูลตณฺหากายสตฺตานุสย- อฏฺมิจฺฉตฺตนวตณฺหามูลกทสากุสลกมฺมปถทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตอฏฺสตตณฺหาวิจริตปฺปเภสพฺพทรถ- ปริฬาหกิเลสสตสหสฺสานิ, สงฺเขปโต วา ปฺจ กิเลสขนฺธอภิสงฺขารเทวปุตฺตมจฺจุมาเร อภฺชิ, ตสฺมา ภคฺคตฺตา เอเตสํ ปริสฺสยานํ ‘‘ภคฺควา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ภควา’’ติ วุจฺจติ. อาห เจตฺถ –
‘‘ภคฺคราโค ภคฺคโทโส, ภคฺคโมโห อนาสโว;
ภคฺคาสฺส ปาปกา ธมฺมา, ภควา เตน วุจฺจตี’’ติ. (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๖; วิสุทฺธิ. ๑.๑๔๔);
ภาคฺยวนฺตตาย จสฺส สตปฺุชลกฺขณวรสฺส รูปกายสมฺปตฺติ ทีปิตา โหติ. ภคฺคโทสตาย ธมฺมกายสมฺปตฺติ. ตถา โลกิยสริกฺขกานํ พหุมตภาโว ¶ , คหฏฺปพฺพชิเตหิ อภิคมนียตา, อภิคตานฺจ เนสํ กายจิตฺตทุกฺขาปนยเน ปฏิพลภาโว, อามิสทานธมฺมทาเนหิ อุปการิตา, โลกิยโลกุตฺตรสุเขหิ จ สฺโชนสมตฺถตา ทีปิตา โหติ.
ยสฺมา จ โลเก อิสฺสริยธมฺมยสสิริกามปยตฺเตสุ ฉสุ ธมฺเมสุ ภคสทฺโท ปวตฺตติ, ปรมฺจสฺส สกจิตฺเต อิสฺสริยํ, อณิมาลงฺฆิมาทิกํ วา โลกิยสมฺมตํ สพฺพาการปริปูรํ อตฺถิ, ตถา โลกุตฺตโร ธมฺโม, โลกตฺตยพฺยาปโก ยถาภุจฺจคุณาธิคโต อติวิย ปริสุทฺโธ ยโส, รูปกายทสฺสนพฺยาวฏชนนยนปฺปสาทชนนสมตฺถา สพฺพาการปริปูรา สพฺพงฺคปจฺจงฺคสิรี, ยํ ยํ เอเตน อิจฺฉิตํ ปตฺถิตํ อตฺตหิตํ ปรหิตํ วา, ตสฺส ตสฺส ตเถว อภินิปฺผนฺนตฺตา ¶ อิจฺฉิติจฺฉิตตฺถนิปฺผตฺติสฺิโต กาโม, สพฺพโลกครุภาวปฺปตฺติเหตุภูโต สมฺมาวายามสงฺขาโต ปยตฺโต จ อตฺถิ, ตสฺมา อิเมหิ ภเคหิ ยุตฺตตฺตาปิ ภคา อสฺส สนฺตีติ อิมินา อตฺเถน ‘‘ภควา’’ติ วุจฺจติ.
ยสฺมา ¶ ปน กุสลาทีหิ เภเทหิ สพฺพธมฺเม, ขนฺธายตนธาตุสจฺจอินฺทฺริยปฏิจฺจสมุปฺปาทาทีหิ วา กุสลาทิธมฺเม, ปีฬนสงฺขตสนฺตาปวิปริณามฏฺเน วา ทุกฺขมริยสจฺจํ, อายูหนนิทานสํโยคปลิโพธฏฺเน สมุทยํ, นิสฺสรณวิเวกาสงฺขตอมตฏฺเน นิโรธํ, นิยฺยานิกเหตุทสฺสนาธิปเตยฺยฏฺเน มคฺคํ วิภตฺตวา, วิภชิตฺวา วิวริตฺวา เทสิตวาติ วุตฺตํ โหติ, ตสฺมา ‘‘วิภตฺตวา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ภควา’’ติ วุจฺจติ.
ยสฺมา จ เอส ทิพฺพพฺรหฺมอริยวิหาเร กายจิตฺตอุปธิวิเวเก สฺุตปฺปณิหิตานิมิตฺตวิโมกฺเข อฺเ จ โลกิยโลกุตฺตเร อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม ภชิ เสวิ พหุลมกาสิ, ตสฺมา ‘‘ภตฺตวา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ภควา’’ติ วุจฺจติ.
ยสฺมา ปน ตีสุ ภเวสุ ตณฺหาสงฺขาตํ คมนํ อเนน วนฺตํ, ตสฺมา ‘‘ภเวสุ วนฺตคมโน’’ติ วตฺตพฺเพ ภวสทฺทโต ภการํ คมนสทฺทโต คการํ วนฺตสทฺทโต วการฺจ ทีฆํ กตฺวา อาทาย ‘‘ภควา’’ติ วุจฺจติ, ยถา โลเก ‘‘เมหนสฺส ขสฺส มาลา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘เมขลา’’ติ วุจฺจติ.
ปุน ¶ อปรมฺปิ ปริยายํ นิทฺทิสนฺโต ‘‘อปิ จ ภคฺคราโคติ ภควา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ภคฺโค ราโค อสฺสาติ ภคฺคราโค. ภคฺคโทสาทีสุปิ เอเสว นโย. กณฺฑโกติ วินิวิชฺฌนฏฺเน กิเลสา เอว. ภชีติ อุทฺเทสวเสน วิภาคํ กตฺวา ภาเชสิ. วิภชีติ นิทฺเทสวเสน วิวิธา ภาเชสิ. ปวิภชีติ ปฏินิทฺเทสวเสน ปกาเรน วิภชิ. อุคฺฆฏิตฺูนํ วเสน ภชิ. วิปฺจิตฺูนํ วเสน วิภชิ. เนยฺยานํ วเสน ปวิภชิ.
ธมฺมรตนนฺติ –
‘‘จิตฺตีกตํ มหคฺฆฺจ, อตุลํ ทุลฺลภทสฺสนํ;
อโนมสตฺตปริโภคํ, รตนํ เตน วุจฺจตี’’ติ. (ขุ. ปา. อฏฺ. ๖.๓; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๓) –
เอวํ วณฺณิตํ ธมฺมรตนํ ติวิเธน ภาเชสิ. ภวานํ ¶ อนฺตกโรติ กามภวาทีนํ นวนฺนํ ภวานํ ปริจฺเฉทํ ปริยนฺตํ ปริวฏุมํ การโก. ภาวิตกาโยติ วฑฺฒิตกาโย. ตถา อิตเรสุปิ. ภชีติ เสวิ. อรฺวนปตฺถานีติ คามสฺส วา นครสฺส วา อินฺทขีลโต พหิ อรฺํ. วนปตฺถานิ มนุสฺสูปจาราติกฺกนฺตานิ ¶ วนสณฺฑานิ. ปนฺตานีติ ยตฺถ มนุสฺสา น กสนฺติ น วปนฺติ ทูรานิ เสนาสนานิ. เกจิ ปน ‘‘วนปตฺตานีติ ยสฺมา ยตฺถ พฺยคฺฆาทโย อตฺถิ, ตํ วนํ เต ปาลยนฺติ รกฺขนฺติ, ตสฺมา เตหิ รกฺขิตตฺตา วนปตฺตานี’’ติ วทนฺติ. เสนาสนานีติ เสติ เจว อาสติ จ เอตฺถาติ เสนาสนานิ. อปฺปสทฺทานีติ วจนสทฺเทน อปฺปสทฺทานิ. อปฺปนิคฺโฆสานีติ คามนครนิคฺโฆสสทฺเทน อปฺปนิคฺโฆสานิ. วิชนวาตานีติ อนฺโตสฺจรณชนสฺส สรีรวาเตน วิรหิตานิ. ‘‘วิชนวาทานี’’ติปิ ปาโ, ‘‘อนฺโตชนวาเทน วิรหิตานี’’ติ อตฺโถ. ‘‘วิชนปาตานี’’ติปิ ปาโ, ‘‘ชนสฺจารวิรหิตานี’’ติ อตฺโถ. มนุสฺสราหสฺเสยฺยกานีติ มนุสฺสานํ รหสฺสกรณฏฺานานิ. ปฏิสลฺลานสารุปฺปานีติ วิเวกานุรูปานิ. ภาคี วาติ ‘‘ภาโค จีวราทิโกฏฺาโส อสฺส อตฺถี’’ติ ภาคี. ‘‘ปฏิลาภวเสน อตฺถรสาทิภาโค อสฺส อตฺถี’’ติ ภาคี. อตฺถรสสฺสาติ เหตุผลสมฺปตฺติสงฺขาตสฺส อตฺถรสสฺส. ธมฺมรสสฺสาติ เหตุสมฺปตฺติสงฺขาตสฺส ธมฺมรสสฺส. วุตฺตฺเหตํ ‘‘เหตุผเล าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา, เหตุมฺหิ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๒๐). วิมุตฺติรสสฺสาติ ผลสมฺปตฺติสงฺขาตสฺส วิมุตฺติรสสฺส. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘กิจฺจสมฺปตฺติอตฺเถน, รโส นาม ปวุจฺจตี’’ติ (ปฏิ. ม. อฏฺ. ๑.๑.๒ มาติกาวณฺณนา; วิสุทฺธิ. ๑.๘).
จตุนฺนํ ¶ ฌานานนฺติ ปมชฺฌานาทีนํ จตุนฺนํ ฌานานํ. จตุนฺนํ อปฺปมฺานนฺติ เมตฺตาทีนํ ผรณปฺปมาณวิรหิตานํ จตุนฺนํ พฺรหฺมวิหารานํ. จตุนฺนํ อรูปสมาปตฺตีนนฺติ อากาสานฺจายตนาทีนํ จตุนฺนํ อรูปชฺฌานานํ. อฏฺนฺนํ วิโมกฺขานนฺติ ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๒๔๘) นเยน วุตฺตานํ อารมฺมณวิมุตฺตานํ อฏฺนฺนํ วิโมกฺขานํ. อภิภายตนานนฺติ ¶ เอตฺถ อภิภูตานิ อายตนานิ เอเตสํ ฌานานนฺติ อภิภายตนานิ, ฌานานิ. อายตนานีติ อธิฏฺานฏฺเน อายตนสงฺขาตานิ กสิณารมฺมณานิ. าณุตฺตริโก หิ ปุคฺคโล วิสทาโณติ กึ เอตฺถ อารมฺมเณ สมาปชฺชิตพฺพํ, น มยิ จิตฺเตกคฺคตากรเณ ภาโร อตฺถีติ ตานิ อารมฺมณานิ อภิภวิตฺวา สมาปชฺชติ. สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนเวตฺถ อปฺปนํ นิพฺพตฺเตตีติ อตฺโถ. เอวํ อุปฺปาทิตานิ ฌานานิ อภิภายตนานีติ วุจฺจนฺติ, เตสํ อฏฺนฺนํ อภิภายตนานํ. นวนฺนํ อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺตีนนฺติ ปุพฺพํ ปุพฺพํ อนุ อนุปุพฺพํ, อนุปุพฺพํ วิหริตพฺพโต สมาปชฺชิตพฺพโต อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺติ, อนุปฏิปาฏิยา สมาปชฺชิตพฺพาติ อตฺโถ, ตาสํ นวนฺนํ อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺตีนํ. ทสนฺนํ สฺาภาวนานนฺติ คิริมานนฺทสุตฺเต (อ. นิ. ๑๐.๖๐) อาคตานํ อนิจฺจสฺาทีนํ ทสนฺนํ สฺาภาวนานํ. ทสนฺนํ กสิณสมาปตฺตีนนฺติ สกลฏฺเน กสิณสงฺขาตานํ ปถวีกสิณชฺฌานาทีนํ ทสนฺนํ ฌานานํ. อานาปานสฺสติสมาธิสฺสาติ อานาปานสฺสติสมฺปยุตฺตสมาธิสฺส ¶ . อสุภสมาปตฺติยาติ อสุภชฺฌานสมาปตฺติยา. ทสนฺนํ ตถาคตพลานนฺติ ทสพลพลานํ ทสนฺนํ. จตุนฺนํ เวสารชฺชานนฺติ วิสารทภาวานํ จตุนฺนํ เวสารชฺชานํ. จตุนฺนํ ปฏิสมฺภิทานนฺติ ปฏิสมฺภิทาาณานํ จตุนฺนํ. ฉนฺนํ อภิฺาณานนฺติ อิทฺธิวิธาทีนํ ฉนฺนํ อภิฺาณานํ. ฉนฺนํ พุทฺธธมฺมานนฺติ ‘‘สพฺพํ กายกมฺมํ าณานุปริวตฺตี’’ติอาทินา (จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕; เนตฺติ. ๑๕) นเยน อุปริ อาคตานํ ฉนฺนํ พุทฺธธมฺมานํ.
ตตฺถ จีวราทโย ภาคฺยสมฺปตฺติวเสน วุตฺตา. อตฺถรสติโก ¶ ปฏิเวธวเสน วุตฺโต. อธิสีลติโก ปฏิปตฺติวเสน. ฌานตฺติโก รูปารูปชฺฌานวเสน. วิโมกฺขตฺติโก สมาปตฺติวเสน. สฺาจตุกฺโก อุปจารปฺปนาวเสน. สติปฏฺานาทโย สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺมวเสน. ตถาคตพลานนฺติอาทโย อาเวณิกธมฺมวเสน วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
อิโต ¶ ปรํ ภควาติ เนตํ นามนฺติอาทิ ‘‘อตฺถมนุคตา อยํ ปฺตฺตี’’ติ าปนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ สมณา ปพฺพชฺชุปคตา. พฺราหฺมณา โภวาทิโน สมิตปาปพาหิตปาปา วา. เทวตา สกฺกาทโย พฺรหฺมาโน จ. วิโมกฺขนฺติกนฺติ วิโมกฺโข อรหตฺตมคฺโค, วิโมกฺขสฺส อนฺโต อรหตฺตผลํ, ตสฺมึ วิโมกฺขนฺเต ภวํ วิโมกฺขนฺติกํ นามํ. สพฺพฺุภาโว หิ อรหตฺตมคฺเคน สิชฺฌติ, อรหตฺตผลาธิคเมน สิทฺโธ โหติ. ตสฺมา สพฺพฺุภาโว วิโมกฺขนฺเต ภโว โหติ. ตํ เนมิตฺติกมฺปิ นามํ วิโมกฺขนฺเต ภวํ นาม โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘วิโมกฺขนฺติกเมตํ พุทฺธานํ ภควนฺตาน’’นฺติ. โพธิยา มูเล สห สพฺพฺุตฺาณสฺส ปฏิลาภาติ มหาโพธิรุกฺขมูเล ยถาวุตฺตกฺขเณ สพฺพฺุตฺาณสฺส ปฏิลาเภน สห. สจฺฉิกา ปฺตฺตีติ อรหตฺตผลสจฺฉิกิริยาย สพฺพธมฺมสจฺฉิกิริยาย วา ชาตา ปฺตฺติ. ยทิทํ ภควาติ ยา อยํ ภควาติ ปฺตฺติ.
ทฺวีหิ การเณหีติ ทฺวีหิ โกฏฺาเสหิ. ปริยตฺติสาสนนฺติ เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ. ปฏิปตฺตีติ ปฏิปชฺชติ เอตายาติ ปฏิปตฺติ. ยํ ตสฺส ปริยาปุฏนฺติ เตน ปุคฺคเลน ยํ ปริยาปุฏํ สชฺฌายิตํ กรณตฺเถ สามิวจนํ. ‘‘ปริยาปุฏฺฏ’’นฺติปิ ปาโ. สุตฺตนฺติ อุภโตวิภงฺคนิทฺเทสขนฺธกปริวารา, สุตฺตนิปาเต มงฺคลสุตฺต- (ขุ. ปา. ๕.๑ อาทโย; สุ. นิ. ๒๖๑ อาทโย) รตนสุตฺต- (ขุ. ปา. ๖.๑ อาทโย) ตุวฏกสุตฺตานิ (สุ. นิ. ๙๒๑ อาทโย), อฺมฺปิ จ สุตฺตนามกํ ตถาคตวจนํ สุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เคยฺยนฺติ สพฺพมฺปิ สคาถกํ สุตฺตํ เคยฺยนฺติ เวทิตพฺพํ, วิเสเสน สํยุตฺตเก สกโลปิ สคาถาวคฺโค. เวยฺยากรณนฺติ ¶ สกลํ อภิธมฺมปิฏกํ นิคฺคาถกํ สุตฺตํ, ยฺจ อฺมฺปิ อฏฺหิ องฺเคหิ อสงฺคหิตํ พุทฺธวจนํ ¶ , ตํ ‘‘เวยฺยากรณ’’นฺติ เวทิตพฺพํ. คาถาติ ธมฺมปทํ, เถรคาถา, เถรีคาถา, สุตฺตนิปาเต โนสุตฺตนามิกา สุทฺธิกคาถา จ ‘‘คาถา’’ติ เวทิตพฺพา. อุทานนฺติ โสมนสฺสาณมยิกคาถาปฏิสํยุตฺตา ทฺเวอสีติ สุตฺตนฺตา ‘‘อุทาน’’นฺติ เวทิตพฺพํ. อิติวุตฺตกนฺติ ‘‘วุตฺตฺเหตํ ภควตา’’ติอาทินยปฺปวตฺตา (อิติวุ. ๑ อาทโย) ทสุตฺตรสตสุตฺตนฺตา ‘‘อิติวุตฺตก’’นฺติ เวทิตพฺพํ. ชาตกนฺติ อปณฺณกชาตกาทีนิ (ชา. ๑.๑.๑) ปณฺณาสาธิกานิ ปฺจชาตกสตานิ ‘‘ชาตก’’นฺติ เวทิตพฺพํ. อพฺภุตธมฺมนฺติ ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, อจฺฉริยา อพฺภุตธมฺมา อานนฺเท’’ติอาทินยปฺปวตฺตา (ที. นิ. ๒.๒๐๙; อ. นิ. ๔.๑๒๙) สพฺเพปิ อจฺฉริยอพฺภุตธมฺมปฏิสํยุตฺตา สุตฺตนฺตา ‘‘อพฺภุตธมฺม’’นฺติ เวทิตพฺพํ. เวทลฺลนฺติ จูฬเวทลฺล- (ม. นิ. ๑.๔๖๐ อาทโย) มหาเวทลฺล- (ม. นิ. ๑.๔๔๙ อาทโย) สมฺมาทิฏฺิ- (ม. นิ. ๑.๘๙ อาทโย) สกฺกปฺห- (ที. นิ. ๒.๓๔๔ อาทโย) สงฺขารภาชนิยมหาปุณฺณมสุตฺตาทโย (ม. นิ. ๓.๘๕ อาทโย) สพฺเพปิ เวทฺจ ตุฏฺิฺจ ลทฺธา ลทฺธา ปุจฺฉิตสุตฺตนฺตา ‘‘เวทลฺล’’นฺติ เวทิตพฺพํ. อิทํ ปริยตฺติสาสนนฺติ อิทํ วุตฺตปฺปการํ เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ ปริยาปุณิตพฺพฏฺเน ปริยตฺติ, อนุสาสนฏฺเน สาสนนฺติ กตฺวา ปริยตฺติสาสนํ. ตมฺปิ มุสฺสตีติ ตมฺปิ ปริยตฺติสาสนํ นสฺสติ. สมฺมุสฺสตีติ อาทิโต นสฺสติ. ปริพาหิโร โหตีติ ปรมฺมุโข โหติ.
กตมํ ปฏิปตฺติสาสนนฺติ โลกุตฺตรธมฺมโต ปุพฺพภาโค ตทตฺถํ ปฏิปชฺชียตีติ ปฏิปตฺติ. สาสียนฺติ เอตฺถ เวเนยฺยาติ สาสนํ. สมฺมาปฏิปทาติอาทโย วุตฺตนยา เอว.
ปาณมฺปิ หนตีติ ชีวิตินฺทฺริยมฺปิ ฆาเตติ. อทินฺนมฺปิ อาทิยตีติ ปรปริคฺคหิตมฺปิ วตฺถุํ คณฺหาติ. สนฺธิมฺปิ ฉินฺทตีติ ฆรสนฺธิมฺปิ ฉินฺทติ. นิลฺโลปมฺปิ หรตีติ คาเม ปหริตฺวา มหาวิโลปมฺปิ กโรติ. เอกาคาริกมฺปิ ¶ กโรตีติ ปณฺณาสมตฺเตหิปิ สฏฺิมตฺเตหิปิ ปริวาเรตฺวา ชีวคฺคาหํ คเหตฺวาปิ ธนํ อาหราเปติ. ปริปนฺเถปิ ติฏฺตีติ ปนฺถทูหนกมฺมํ กโรติ. ปรทารมฺปิ คจฺฉตีติ ปรทาเรสุ จาริตฺตํ อาปชฺชติ. มุสาปิ ภณตีติ อตฺถภฺชนกํ มุสาปิ วทติ. อนริยธมฺโมติ อนริยสภาโว.
๕๑. เอโก ปุพฺเพ จริตฺวานาติ ปพฺพชฺชาสงฺขาเตน วา คณาววสฺสคฺคฏฺเน วา ปุพฺเพ โลเก วิหริตฺวา. ยานํ ภนฺตํว ตํ โลเก, หีนมาหุ ปุถุชฺชนนฺติ ตํ วิพฺภนฺตกํ ปุคฺคลํ ยถา หตฺถิยานาทิยานํ อทนฺตํ วิสมมฺปิ อาโรหติ, อาโรหนกมฺปิ ภฺชติ, ปปาเตปิ ปปตติ, เอวํ ¶ กายทุจฺจริตาทิวิสมาโรหเนน นิรยาทีสุ, อตฺถภฺชเนน ชาติปปาตาทีสุ ปปตเนน จ ยานํ ภนฺตํว หีนํ ปุถุชฺชนฺจ อาหูติ.
ปพฺพชฺชาสงฺขาเตน วาติ ปพฺพชฺชาโกฏฺาเสน วา ‘‘ปพฺพชิโต สมโณ’’ติ คณนาโรปเนน วา. คณาววสฺสคฺคฏฺเน วาติ คณสงฺคณิการามตํ วิสฺสชฺเชตฺวา วสฺสคฺคฏฺเน วา.
เอโก ¶ ปฏิกฺกมตีติ เอกโกว คามโต นิวตฺตติ. โย นิเสวตีติ นิทฺเทสสฺส อุทฺเทสปทํ. อปเรน สมเยนาติ อฺสฺมึ กาเล อปรภาเค. พุทฺธนฺติ สพฺพฺุพุทฺธํ. ธมฺมนฺติ สฺวากฺขาตตาทิคุณยุตฺตํ ธมฺมํ. สงฺฆนฺติ สุปฺปฏิปนฺนตาทิคุณยุตฺตํ สงฺฆํ. สิกฺขนฺติ อธิสีลาทิสิกฺขิตพฺพํ สิกฺขํ. ปจฺจกฺขายาติ พุทฺธาทึ ปฏิกฺขิปิตฺวา. หีนายาติ หีนตฺถาย คิหิภาวาย. อาวตฺติตฺวาติ นิวตฺติตฺวา. เสวติ เอกวารํ เสวติ. นิเสวติ อเนกวิเธน เสวติ. สํเสวติ อลฺลียิตฺวา เสวติ. ปฏิเสวติ ปุนปฺปุนํ เสวติ.
ภนฺตนฺติ วิพฺภนฺตํ. อทนฺตนฺติ ทนฺตภาวํ อนุปนีตํ. อการิตนฺติ สุสิกฺขิตกิริยํ อสิกฺขาปิตํ. อวินีตนฺติ น วินีตํ อาจารสมฺปตฺติยา อสิกฺขิตํ. อุปฺปถํ คณฺหาตีติ วุตฺตปฺปการํ ยานํ อทนฺตาติยุตฺตํ ภนฺตํ วิสมมคฺคํ อุเปติ. วิสมํ ขาณุมฺปิ ปาสาณมฺปิ อภิรุหตีติ วิสมํ หุตฺวา ิตํ ขรขาณุมฺปิ ตถา ¶ ปพฺพตปาสาณมฺปิ อาโรหติ. ยานมฺปิ อาโรหนกมฺปิ ภฺชตีติ วยฺหาทิยานํ อาโรหนฺตสฺส ปาเชนฺตสฺส หตฺถปาทาทิมฺปิ ภินฺทติ. ปปาเตปิ ปปตตีติ เอกโตจฺฉินฺนปพฺภารปปาเตปิ ปาเตติ. โส วิพฺภนฺตโกติ โส ปฏิกฺกนฺตโก. ภนฺตยานปฏิภาโคติ อนวฏฺิตยานสทิโส. อุปฺปถํ คณฺหาตีติ กุสลกมฺมปถโต ปฏิกฺกมิตฺวา อปายปถภูตํ อุปฺปถํ มิจฺฉามคฺคํ อุเปติ. วิสมํ กายกมฺมํ อภิรุหตีติ สมสฺส ปฏิปกฺขํ กายทุจฺจริตสงฺขาตํ วิสมํ กายกมฺมํ อาโรหติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. นิรเย อตฺตานํ ภฺชตีติ นิรสฺสาทสงฺขาเต นิรเย อตฺตภาวํ จุณฺณวิจุณฺณํ กโรติ. มนุสฺสโลเก อตฺตานํ ภฺชตีติ วิวิธกมฺมการณวเสน ภฺชติ. เทวโลเก อตฺตานํ ภฺชตีติ ปิยวิปฺปโยคาทิทุกฺขวเสน. ชาติปปาตมฺปิ ปปตตีติ ชาติปปาเตปิ ปาเตติ. ชราปปาตาทีสุปิ เอเสว นโย. มนุสฺสโลเกติ อิธ อธิปฺเปตโลกเมว ทสฺเสติ.
ปุถุชฺชนาติ นิทฺเทสสฺส อุทฺเทสปทํ. ตตฺถ ปุถุชฺชนาติ –
ปุถูนํ ¶ ชนนาทีหิ, การเณหิ ปุถุชฺชโน;
ปุถุชฺชนนฺโตคธตฺตา, ปุถุวายํ ชโน อิติ.
โส ¶ หิ ปุถูนํ นานปฺปการานํ กิเลสาทีนํ ชนนาทีหิปิ การเณหิ ปุถุชฺชโน. ตํ วิภาคโต ทสฺเสตุํ ‘‘ปุถุ กิเลเส ชเนนฺตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ พหูนํ นานปฺปการานํ สกฺกายทิฏฺีนํ อวิหตตฺตา วา ตา ชเนนฺติ, ตาหิ ชนิตาติ วา ปุถุชฺชนา. อวิหตเมวตฺถํ ชนสทฺโท วทติ. ปุถุ สตฺถารานํ มุขุลฺโลกิกาติ เอตฺถ ปุถู นานาชนา สตฺถุปฏิฺา เอเตสนฺติ ปุถุชฺชนาติ วจนตฺโถ. ปุถุ สพฺพคตีหิ อวุฏฺิตาติ เอตฺถ ชเนตพฺพา ชนยนฺติ เอตฺถาติ ชนา, คติโย. ปุถู ชนา เอเตสนฺติ ปุถุชฺชนา. อิโต ปเร ชายนฺติ เอเตหีติ ชนา, อภิสงฺขาราทโย. เต เอเตสํ วิชฺชนฺตีติ ปุถุชฺชนา. อภิสงฺขรณาทิอตฺโถ เอว วา ชนสทฺโท ทฏฺพฺโพ. นานาสนฺตาเปหิ สนฺตปนฺตีติ ราคคฺคิอาทโย สนฺตาปา. เต เอว วา สพฺเพปิ วา กิเลสา ปริฬาหา. ปุถุ ¶ ปฺจสุ กามคุเณสูติ เอตฺถ ชายตีติ ชโน, ราโค เคโธติ เอวมาทิโก, ปุถุ ชโน เอเตสนฺติ ปุถุชฺชนา. ปุถุ ชาตา รตฺตาติ เอวํ ราคาทิอตฺโถ เอว วา ชนสทฺโท ทฏฺพฺโพ. ปลิพุทฺธาติ สมฺพทฺธา. อาวุตาติ อาวริตา. นิวุตาติ วาริตา. โอวุตาติ อุปริโต ปิหิตา. ปิหิตาติ เหฏฺาภาเคน ปิหิตา. ปฏิจฺฉนฺนาติ อปากฏา. ปฏิกุชฺชิตาติ อโธมุขคตา.
อถ วา ปุถูนํ วา คณนปถมตีตานํ อริยธมฺมปรมฺมุขานํ นีจธมฺมสมาจารานํ ชนานํ อนฺโตคธตฺตาปิ ปุถุชฺชนา. ปุถุ วา อยํ วิสุํเยว สงฺขํ คโต, วิสํสฏฺโ สีลสุตาทิคุณยุตฺเตหิ อริเยหิ ชโนติปิ ปุถุชฺชโน.
เอวํ เย เต –
‘‘ทุเว ปุถุชฺชนา วุตฺตา, พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา;
อนฺโธ ปุถุชฺชโน เอโก, กลฺยาเณโก ปุถุชฺชโน’’ติ. –
ทฺเวว ปุถุชฺชนา วุตฺตา, เตสุ อนฺธปุถุชฺชโน วุตฺโต โหตีติ เวทิตพฺโพ.
๕๒. ยโส กิตฺติ จาติ ลาภสกฺกาโร ปสํสา จ. ปุพฺเพติ ปพฺพชิตภาเว. หายเต วาปิ ตสฺส สาติ ตสฺส วิพฺภนฺตกสฺส สโต โส ¶ จ ยโส สา จ กิตฺติ หายติ. เอตมฺปิ ทิสฺวาติ ¶ เอตมฺปิ ปุพฺเพ ยสกิตฺตีนํ ลาภํ ปจฺฉา จ หานึ ทิสฺวา. สิกฺเขถ เมถุนํ วิปฺปหาตเวติ ติสฺโส สิกฺขาโย สิกฺเขถ. กึ การณา? เมถุนํ วิปฺปหาตเว, เมถุนปฺปหานตฺถายาติ วุตฺตํ โหติ.
กิตฺติวณฺณคโตติ ภควา กิตฺติวณฺโณ, กิตฺติสทฺทฺเจว คุณฺจ อุกฺขิปิตฺวา วทนฺโต โหตีติ อตฺโถ. จิตฺตํ นานานเยน กถนํ อสฺส อตฺถีติ จิตฺตกถี. กลฺยาณปฏิภาโนติ สุนฺทรปฺโ.
หายตีติ นิทฺเทสสฺส อุทฺเทสปทํ. ปริหายตีติ สมนฺตโต หายติ. ปริธํสตีติ อโธปถวึ ปตติ. ปริปตตีติ ¶ สมนฺตโต อปคจฺฉติ. อนฺตรธายตีติ อทสฺสนํ ยาติ. วิปฺปลุชฺชตีติ อุจฺฉิชฺชติ.
ขุทฺทโก สีลกฺขนฺโธติ ถุลฺลจฺจยาทิ. มหนฺโต สีลกฺขนฺโธติ ปาราชิกสํงฺฆาทิเสโส.
เมถุนธมฺมสฺส ปหานายาติ ตทงฺคาทิปหาเนน ปชหนตฺถาย. วูปสมายาติ มลานํ วูปสมนตฺถาย. ปฏินิสฺสคฺคายาติ ปกฺขนฺทนปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺคตฺถาย. ปฏิปสฺสทฺธิยาติ ปฏิปสฺสทฺธิสงฺขาตสฺส ผลสฺส อตฺถาย.
๕๓. โย หิ เมถุนํ น วิปฺปชหติ สงฺกปฺเปหิ…เป… ตถาวิโธ. ตตฺถ ปเรโตติ สมนฺนาคโต. ปเรสํ นิคฺโฆสนฺติ อุปชฺฌายาทีนํ นินฺทาวจนํ. มงฺกุ โหตีติ ทุมฺมโน โหติ.
กามสงฺกปฺเปนาติ กามปฏิสํยุตฺเตน วิตกฺเกน. อุปริฏฺเปิ เอเสว นโย. ผุฏฺโติ วิตกฺเกหิ ผุสิโต. ปเรโตติ อปริหีโน. สโมหิโตติ สมฺมา โอหิโต อนฺโต ปวิฏฺโ. กปโณ วิยาติ ทุคฺคตมนุสฺโส วิย. มนฺโท วิยาติ อฺาณี วิย. โมมูโห วิยาติ สมฺโมหภูโต วิย. ฌายตีติ จินฺเตติ. ปชฺฌายตีติ ภุสํ จินฺเตติ. นิชฺฌายตีติ อเนกวิเธน จินฺเตติ. อปชฺฌายตีติ ตโต อปคนฺตฺวา จินฺเตติ. อุลูโกติ อุลูกสกุโณ. รุกฺขสาขายนฺติ รุกฺเข อุฏฺิตสาขาย, วิฏเป วา. มูสิกํ มคยมาโนติ มูสิกํ คเวสมาโน, ‘‘มคฺคยมาโน’’ติปิ ปนฺติ. โกตฺถูติ สิงฺคาโล. พิฬาโรติ พพฺพุ. สนฺธิสมลสงฺกฏิเรติ ¶ ทฺวินฺนํ ฆรานํ อนฺตเร จ อุทกนิทฺธมนจิกฺขลฺลกจวรนิกฺขิปนฏฺาเน จ ถณฺฑิเล จ. วหจฺฉินฺโนติ ปิฏฺิคีวมํสจฺฉินฺโน. อิโต ปรา คาถา ปากฏสมฺพนฺธา เอว.
๕๔. ตาสุ ¶ สตฺถานีติ กายทุจฺจริตาทีนิ. ตานิ หิ อตฺตโน ปเรสฺจ เฉทนฏฺเน ‘‘สตฺถานี’’ติ วุจฺจนฺติ. เตสุ วายํ วิเสเสน ตาว อาทิโต มุสาวจนสตฺถาเนว กโรติ, ‘‘อิมินา การเณนาหํ วิพฺภนฺโต’’ติ ภณนฺโต. เตเนวาห – ‘‘เอส ขฺวสฺส มหาเคโธ ¶ , โมสวชฺชํ ปคาหตี’’ติ. ตตฺถ เอส ขฺวสฺสาติ เอส โข อสฺส. มหาเคโธติ มหาพนฺธนํ. กตโมติ เจ? ยทิทํ โมสวชฺชํ ปคาหติ, สฺวายํ มุสาวาทชฺโฌคาโห ‘‘มหาเคโธ’’ติ เวทิตพฺโพ.
ตีณิ สตฺถานีติ ตโย เฉทกา. กายทุจฺจริตํ กายสตฺถํ. วจีสตฺถาทีสุปิ เอเสว นโย. ตํ วิภาคโต ทสฺเสตุํ ‘‘ติวิธํ กายทุจฺจริตํ กายสตฺถ’’นฺติ อาห. สมฺปชานมุสา ภาสตีติ ชานนฺโต ตุจฺฉํ วาจํ ภาสติ. อภิรโต อหํ ภนฺเต อโหสึ ปพฺพชฺชายาติ สาสเน ปพฺพชฺชาย อนภิรติวิรหิโต อหํ อาสึ. มาตา เม โปเสตพฺพาติ มาตา มยา โปเสตพฺพา. เตนมฺหิ วิพฺภนฺโตติ ภณตีติ เตน การเณน ปฏิกฺกนฺโต อสฺมีติปิ กเถติ. ปิตา เม โปเสตพฺโพติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
เอโส ตสฺส มหาเคโธติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส เอโส มหาพนฺโธ. มหาวนนฺติ มหนฺตํ ทุฏฺวนํ. คหนนฺติ ทุรติกฺกมํ. กนฺตาโรติ โจรกนฺตาราทิสทิโส. วิสโมติ กณฺฏกวิสโม. กุฏิโลติ วงฺกกฏกสทิโส. ปงฺโกติ ปลฺลลสทิโส. ปลิโปติ กทฺทมสทิโส. ปลิโพโธติ มหาทุกฺโข. มหาพนฺธนนฺติ มหนฺตํ ทุโมจยพนฺธนํ. ยทิทํ สมฺปชานมุสาวาโทติ โย อยํ สมฺปชานมุสาวาโท.
สภคฺคโต วาติ สภายํ ิโต วา. ปริสคฺคโต วาติ คามปริสายํ ิโต วา. าติมชฺฌคโต วาติ ทายาทานํ มชฺเฌ ิโต วา. ปูคมชฺฌคโต วาติ เสนีนํ มชฺเฌ ิโต วา. ราชกุลมชฺฌคโต วาติ ราชกุลสฺส มชฺเฌ มหาวินิจฺฉเย ิโต วา. อภินีโตติ ปุจฺฉนตฺถาย นีโต. สกฺขิปุฏฺโติ สกฺขึ กตฺวา ปุจฺฉิโต. เอหมฺโภ ปุริสาติ ¶ อาลปนเมตํ. อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วาติ อตฺตโน วา ปรสฺส วา หตฺถปาทาทิเหตุ วา ธนเหตุ วา. อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วาติ เอตฺถ อามิสนฺติ ลาโภ อธิปฺเปโต. กิฺจิกฺขนฺติ ยํ วา ตํ วา อปฺปมตฺตกํ, อนฺตมโส ติตฺติรวฏฺฏกสปฺปิปิณฺฑนวนีตปิณฺฑาทิมตฺตกสฺสปิ ลาภสฺส เหตูติ ¶ อตฺโถ. สมฺปชานมุสา ภาสตีติ ชานนฺโตเยว มุสาวาทํ กโรติ.
ปุน อฺํ ปริยายํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิ จ ตีหากาเรหิ มุสาวาโท โหติ, ปุพฺเพวสฺส โหตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตีหากาเรหีติ สมฺปชานมุสาวาทสฺส องฺคภูเตหิ ตีหิ การเณหิ. ปุพฺเพวสฺส ¶ โหตีติ ปุพฺพภาเคเยว อสฺส ปุคฺคลสฺส เอวํ โหติ ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ. ภณนฺตสฺส โหตีติ ภณมานสฺส โหติ. ภณิตสฺส โหตีติ ภณิเต อสฺส โหติ. ยํ วตฺตพฺพํ ตสฺมึ วุตฺเต โหตีติ อตฺโถ. อถ วา ภณิตสฺสาติ วุตฺตวโต นิฏฺิตวจนสฺส โหตีติ. โย เอวํ ปุพฺพภาเคปิ ชานาติ, ภณนฺโตปิ ชานาติ, ปจฺฉาปิ ชานาติ ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ, โส เอวํ วทนฺโต มุสาวาทกมฺมุนา พชฺฌตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ ทสฺสิโต. กิฺจาปิ ทสฺสิโต, อถ โข อยเมตฺถ วิเสโส – ปุจฺฉา ตาว โหติ, ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ ปุพฺพภาโค อตฺถิ, ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ ปจฺฉาภาโค นตฺถิ. วุตฺตมตฺตเมว หิ โกจิ ปมุสฺสติ กึ ตสฺส มุสาวาโท โหติ, น โหตีติ? สา เอวํ อฏฺกถาสุ วิสฺสชฺชิตา – ปุพฺพภาเค ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ จ, ภณนฺตสฺส ‘‘มุสา ภณามี’’ติ จ ชานโต ปจฺฉาภาเค ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ น สกฺกา น ภวิตุํ, สเจปิ น โหติ, มุสาวาโทเยว. ปุริมเมว หิ องฺคทฺวยํ ปมาณํ. ยสฺสาปิ ปุพฺพภาเค ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ อาโภโค นตฺถิ, ภณนฺโต ปน ‘‘มุสา ภณามี’’ติ ชานาติ. ภณิเตปิ ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ ชานาติ. โส มุสาวาเทน น กาเรตพฺโพ. ปุพฺพภาโค หิ ปมาณตโร. ตสฺมึ อสติ ทวา ภณิตํ วา, รวา ภณิตํ วา โหตีติ.
เอตฺถ จ ตําณตา จ าณสโมธานฺจ ปริจฺจชิตพฺพํ. ตําณตา ปริจฺจชิตพฺพาติ เยน จิตฺเตน ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ ชานาติ, เตเนว ‘‘มุสา ภณามี’’ติ จ, ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ จ ชานาตีติ เอวํ เอกจิตฺเตเนว ตีสุ ขเณสุ ชานาตีติ อยํ ตําณตา ปริจฺจชิตพฺพา. น ¶ หิ สกฺกา เตเนว จิตฺเตน ตํ จิตฺตํ ชานิตุํ, ยถา น สกฺกา เตเนว อสินา โส อสิ ฉินฺทิตุนฺติ. ปุริมํ ปุริมํ ปน จิตฺตํ ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส จิตฺตสฺส ตถา อุปฺปตฺติยา ปจฺจโย หุตฺวา นิรุชฺฌติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ปมาณํ ¶ ปุพฺพภาโคว, ตสฺมึ สติ น เหสฺสติ;
เสสทฺวยนฺติ นตฺเถต, มิติ วาจา ติวงฺคิกา’’ติ. (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๐๐);
าณสโมธานํ ปริจฺจชิตพฺพนฺติ เอตานิ ตีณิ จิตฺตานิ เอกกฺขเณ อุปฺปชฺชนฺตีติ น คเหตพฺพานิ. อิทฺหิ จิตฺตํ นาม –
‘‘อนิรุทฺธมฺหิ ปเม, น อุปฺปชฺชติ ปจฺฉิมํ;
นิรนฺตรุปฺปชฺชนโต, เอกํ วิย ปกาสตี’’ติ. (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๐๐);
อิโต ¶ ปรํ ปน ยฺวายํ อชานํเยว ‘‘ชานามี’’ติอาทินา นเยน สมฺปชานมุสา ภณติ, ยสฺมา โส ‘‘อิทํ อภูต’’นฺติ เอวํทิฏฺิโก โหติ, ตสฺส หิ อตฺเถว อยํ ลทฺธิ. ตถา ‘‘อิทํ อภูต’’นฺติ เอวมสฺส ขมติ เจว รุจฺจติ จ. เอวมสฺส สฺา, เอวํสภาวเมว จสฺส จิตฺตํ ‘‘อิทํ อภูต’’นฺติ. ยทา ปน มุสา วตฺตุกาโม โหติ, ตทา ตํ ทิฏฺึ วา ทิฏฺิยา สห ขนฺตึ วา ทิฏฺิขนฺตีหิ สทฺธึ รุจึ วา ทิฏฺิขนฺติรุจีหิ สทฺธึ สฺํ วา ทิฏฺิขนฺติรุจิสฺาหิ สทฺธึ ภาวํ วา วินิธาย นิกฺขิปิตฺวา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อภูตํ กตฺวา ภณติ. ตสฺมา เตสมฺปิวเสน องฺคเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิ จ จตูหากาเรหี’’ติอาทิ วุตฺตํ.
เอตฺถ จ วินิธาย ทิฏฺินฺติ พลวธมฺมวินิธานวเสเนตํ วุตฺตํ. วินิธาย ขนฺตินฺติอาทีนิ ตโต ทุพฺพลทุพฺพลานํ วินิธานวเสน. วินิธาย สฺนฺติ อิทํ ปเนตฺถ สพฺพทุพฺพลธมฺมวินิธานวเสน. สฺามตฺตมฺปิ นาม อวินิธาย สมฺปชานมุสา ภาสิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
๕๕. มนฺโทว ปริกิสฺสตีติ ปาณวธาทีนิ กโรนฺโต ตโตนิทานฺจ ทุกฺขมนุโภนฺโต โภคปริเยสนารกฺขณานิ จ กโรนฺโต โมมูโห วิย ปริกิลิสฺสติ.
ตเมนํ ราชาโน คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา กาเรนฺตีติ น ราชาโน กโรนฺติ, ราชาธีนปุริสา นานาวิธานิ กมฺมการณานิ กโรนฺติ. กสาหิปิ ¶ ตาเฬนฺตีติ กสาทณฺฑเกหิปิ วิตชฺเชนฺติ. เวตฺเตหีติ เวตฺตลตาหิ. อทฺธทณฺฑเกหีติ ¶ มุคฺคเรหิ, ปหารสาธนตฺถํ วา จตุหตฺถทณฺฑํ ทฺเวธา เฉตฺวา คหิตทณฺฑเกหิ. พิลงฺคถาลิกนฺติ กฺชิยอุกฺขลิกกมฺมการณํ. ตํ ¶ กโรนฺตา สีสกปาลํ อุปฺปาเฏตฺวา ตตฺตํ อโยคุฬํ สณฺฑาเสน คเหตฺวา ตตฺถ ปกฺขิปนฺติ, เตน มตฺถลุงฺคํ ปกฺกุฏฺิตฺวา อุปริ อุตฺตรติ. สงฺขมุณฺฑิกนฺติ สงฺขมุณฺฑกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา อุตฺตโรฏฺอุภโตกณฺณจูฬิกคลวาฏกปริจฺเฉเทน จมฺมํ ฉินฺทิตฺวา สพฺพเกเส เอกโต คณฺึ กตฺวา ทณฺฑเกน เวเตฺวา อุปฺปาเฏนฺติ, สห เกเสหิ จมฺมํ อุฏฺหติ. ตโต สีสกฏาหํ ถูลสกฺขราหิ ฆํสิตฺวา โธวนฺตา สงฺขวณฺณํ กโรนฺติ. ราหุมุขนฺติ ราหุมุขกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา สงฺกุนา มุขํ วิวริตฺวา อนฺโตมุเข ทีปํ ชาเลนฺติ, กณฺณจูฬิกาหิ วา ปฏฺาย มุขํ นิขาทเนน ขนนฺติ, โลหิตํ ปคฺฆริตฺวา มุขํ ปูเรติ.
โชติมาลิกนฺติ สกลสรีรํ เตลปิโลติกาย เวเตฺวา อาลิมฺเปนฺติ. หตฺถปชฺโชติกนฺติ หตฺเถ เตลปิโลติกาย เวเตฺวา ทีปํ วิย ปชฺชาเลนฺติ. เอรกวตฺติกนฺติ เอรกวตฺตกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา เหฏฺาคีวโต ปฏฺาย จมฺมวฏฺเฏ กนฺติตฺวา โคปฺผเก ปาเตนฺติ. อถ นํ โยตฺเตหิ พนฺธิตฺวา กฑฺฒนฺติ. โส อตฺตโน จมฺมวฏฺเฏ อกฺกมิตฺวา อกฺกมิตฺวา ปตติ. จิรกวาสิกนฺติ จิรกวาสิกกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา ตเถว จมฺมวฏฺเฏ กนฺติตฺวา กฏิยํ เปนฺติ, กฏิโต ปฏฺาย กนฺติตฺวา โคปฺผเกสุ เปนฺติ, อุปริเมหิ เหฏฺิมสรีรํ จิรกนิวาสนนิวตฺถํ วิย โหติ. เอเณยฺยกนฺติ เอเณยฺยกกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา อุโภสุ กปฺปเรสุ จ อุโภสุ ชณฺณุเกสุ จ อยวลยานิ ทตฺวา อยสูลานิ โกฏฺเฏนฺติ, โส จตูหิ อยสูเลหิ ภูมิยํ ปติฏฺหติ. อถ นํ ปริวาเรตฺวา อคฺคึ กโรนฺติ. ‘‘เอเณยฺยโก โชติปริคฺคโห ยถา’’ติ อาคตฏฺาเนปิ อิทเมว วุตฺตํ. ตํ สนฺธิโต สนฺธิโต สูลานิ อปเนตฺวา จตูหิ อฏฺิโกฏีหิเยว เปนฺติ. เอวรูปา กมฺมการณา นาม นตฺถิ.
พฬิสมํสิกนฺติ ¶ อุภโตมุเขหิ พฬิเสหิ ปหริตฺวา จมฺมมํสนฺหารูนิ อุปฺปาเฏนฺติ. กหาปณิกนฺติ สกลสรีรํ ติณฺหาหิ วาสีหิ โกฏิโต ปฏฺาย กหาปณมตฺตํ กหาปณมตฺตํ ปาเตนฺตา โกฏฺเฏนฺติ. ขาราปตจฺฉิกนฺติ สรีรํ ¶ ตตฺถ ตตฺถ อาวุเธหิ ปหริตฺวา โกจฺเฉหิ ขารํ ฆํเสนฺติ, จมฺมมํสนฺหารูนิ ปคฺฆริตฺวา ปสวนฺติ, อฏฺิกสงฺขลิกาว ติฏฺติ. ปลิฆปริวตฺติกนฺติ เอเกน ปสฺเสน นิปชฺชาเปตฺวา กณฺณจฺฉิทฺเทน อยสูลํ โกฏฺเฏตฺวา ปถวิยา เอกาพทฺธํ กโรนฺติ. อถ นํ ปาเท คเหตฺวา อาวิฺฉนฺติ. ปลาลปีกนฺติ เฉกา การณิกา ฉวิจมฺมํ อจฺฉินฺทิตฺวา นิสทโปตกาหิ อฏฺีนิ ฉินฺทิตฺวา เกเสสุ คเหตฺวา อุกฺขิปนฺติ, มํสราสิเยว โหติ. อถ นํ เกเสเหว ปริโยนนฺธิตฺวา คณฺหนฺติ, ปลาลปีํ วิย กตฺวา ปลิเวเนฺติ. สุนเขหิปีติ กติปยานิ ทิวสานิ อาหารํ อทตฺวา ฉาตสุนเขหิ ขาทาเปนฺติ. เต มุหุตฺเตน อฏฺิสงฺขลิกเมว กโรนฺติ. เอวมฺปิ กิสฺสตีติ เอวมฺปิ วิฆาตํ ปาปุณาติ. ปริกิสฺสตีติ สพฺพภาเคน วิฆาตํ ปาปุณาติ. ปริกิลิสฺสตีติ อุปตาปํ ปาปุณาติ.
ปุน อฺํ การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ วา กามตณฺหาย อภิภูโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กามตณฺหายาติ ปฺจกามคุณิกโลเภน. อภิภูโตติ เตน มทฺทิโต. ปริยาทินฺนจิตฺโตติ กุสลาจารํ เขเปตฺวา คหิตจิตฺโต. โภเค ปริเยสนฺโตติ ธนํ คเวสมาโน. นาวาย มหาสมุทฺทํ ปกฺขนฺทตีติ ตรณีสงฺขาตาย นาวาย มหนฺตํ โลณสาครํ ปวิสติ. สีตสฺส ปุรกฺขโตติ สีตํ ปุรโต กตฺวา. อุณฺหสฺส ปุรกฺขโตติ อุณฺหํ ปุรโต กตฺวา. ฑํสาติ ปิงฺคลมกฺขิกา. มกสาติ มกสา เอว. ปีฬิยมาโนติ ฑํสาทิสมฺผสฺเสหิ วิเหสิยมาโน. ขุปฺปิปาสาย มิยฺยมาโนติ ขุทฺทาปิปาสาย มรมาโน. ติคุมฺพํ คจฺฉตีติอาทีนิ มูลปทํ คจฺฉตีติปริโยสานานิ จตุวีสติ ปทานิ รฏฺนาเมน วุตฺตานิ. มรุกนฺตารํ ¶ คจฺฉตีติ วาลุกกนฺตารํ ตารกสฺาย คจฺฉติ ¶ . ชณฺณุปถนฺติ ชาณูหิ คนฺตพฺพมคฺคํ. อชปถนฺติ อเชหิ คนฺตพฺพมคฺคํ. เมณฺฑปเถปิ เอเสว นโย.
สงฺกุปถนฺติ ขาณุเก โกฏฺเฏตฺวา เตหิ อุคฺคมิตพฺพํ ขาณุมคฺคํ, ตํ คจฺฉนฺโต ปพฺพตปาเท ตฺวา อยสิงฺฆาฏกํ โยตฺเตน พนฺธิตฺวา อุทฺธํ ขิปิตฺวา ปพฺพเต ลคฺคาเปตฺวา โยตฺเตนารุยฺห วชิรคฺเคน โลหทณฺเฑน ปพฺพตํ วิชฺฌิตฺวา ขาณุกํ โกฏฺเฏตฺวา ตตฺถ ตฺวา สิงฺฆาฏกํ อากฑฺฒิตฺวา ปุน อุปริ ลคฺคาเปตฺวา ตตฺถ ิโต จมฺมโยตฺตํ โอลมฺเพตฺวา ตํ อาทาย โอตริตฺวา เหฏฺิมขาณุเก พนฺธิตฺวา วามหตฺเถน โยตฺตํ คเหตฺวา ทกฺขิณหตฺเถน มุคฺครํ อาทาย โยตฺตํ ปหริตฺวา ขาณุกํ นีหริตฺวา ปุน ¶ อภิรุหติ. เอเตนุปาเยน ปพฺพตมตฺถกํ อภิรุยฺห ปรโต โอตรนฺโต ปุริมนเยเนว ปมํ ปพฺพตมตฺถเก ขาณุกํ โกฏฺเฏตฺวา จมฺมปสิพฺพเก โยตฺตํ พนฺธิตฺวา ขาณุเก เวเตฺวา สยํ อนฺโตปสิพฺพเก นิสีทิตฺวา มกฺกฏกานํ สุตฺตวิสฺสชฺชนากาเรน โยตฺตํ วินิเวเตฺวา โอตรติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ขาณุเก โกฏฺเฏตฺวา เตหิ อุคฺคมิตพฺพํ ขาณุมคฺค’’นฺติ. ฉตฺตปถนฺติ จมฺมฉตฺเตน วาตํ คาหาเปตฺวา สกุเณหิ วิย โอตริตพฺพํ มคฺคํ. วํสปถนฺติ เวณุคุมฺพเฉทนสตฺเถน ฉินฺทิตฺวา รุกฺขํ ผรสุนา โกฏฺเฏตฺวา มคฺคํ กโรนฺโต เวฬุวเน นิสฺเสณึ กตฺวา เวฬุคุมฺเพ อารุยฺห เวฬุํ ฉินฺทิตฺวา อปรสฺส เวฬุคุมฺพสฺส อุปริ ปาเตตฺวา เวฬุคุมฺพมตฺถเกเนว คนฺตพฺพํ มคฺคํ สนฺธาย ‘‘วํสปถํ คจฺฉตี’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
คเวสนฺโต น วินฺทติ, อลาภมูลกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทตีติ อวินฺทนมูลกมฺปิ กายิกเจตสิกํ ทุกฺขํ ปฏิลภติ.
ลทฺธาติ ลภิตฺวา. อารกฺขมูลกนฺติ รกฺขณมูลกมฺปิ. กินฺติ เม โภเคติ เกน อุปาเยน มม โภเค. เนว ราชาโน หเรยฺยุํ…เป… น อปฺปิยา ทายาทา หเรยฺยุนฺติ. โคปยโตติ มฺชูสาทีหิ โคปยนฺตสฺส. วิปฺปลุชฺชนฺตีติ วินสฺสนฺติ.
๕๖. เอตมาทีนวํ ¶ ตฺวา, มุนิ ปุพฺพาปเร อิธาติ เอตํ ‘‘ยโส กิตฺติ จ ยา ปุพฺเพ, หายเต วาปิ ตสฺส สา’’ติ อิโต ปภุติ วุตฺเต ปุพฺพาปเร อิธ อิมสฺมึ สาสเน ปุพฺพโต อปเร สมณภาวโต วิพฺภนฺตกภาเว อาทีนวํ มุนิ ตฺวา.
ทฬฺหํ กเรยฺยาติ นิทฺเทสปทสฺส อุทฺเทสปทํ. ถิรํ กเรยฺยาติ อสิถิลํ กเรยฺย. ทฬฺหํ สมาทาโน อสฺสาติ ถิรปฏิฺโ ภเวยฺย. อวฏฺิตสมาทาโนติ สนฺนิฏฺานปฏิฺโ.
๕๗. เอตํ ¶ อริยานมุตฺตมนฺติ ยทิทํ วิเวกจริยา, เอตํ พุทฺธาทีนํ อริยานํ อุตฺตมํ. ตสฺมา วิเวกํเยว สิกฺเขถาติ อธิปฺปาโย. น เตน เสฏฺโ มฺเถาติ เตน จ วิเวเกน อตฺตานํ ‘‘เสฏฺโ อห’’นฺติ น มฺเยฺย, เตน มานถทฺโธ น ภเวยฺยาติ วุตฺตํ โหติ.
อุนฺนตินฺติ ¶ อุสฺสาปนํ. อุนฺนมนฺติ อุคฺคนฺตฺวา ปฏฺปนํ. มานนฺติ อหํการํ. ถามนฺติ พลกฺการํ. ถมฺภนฺติ ถทฺธกรณํ. ถทฺโธติ อมทฺทโว. ปตฺถทฺโธติ วิเสเสน อมทฺทโว. ปคฺคหิตสิโรติ อุฏฺิตสีโส. สามนฺตาติ น อารกา. อาสนฺเนติ น ทูเร. อวิทูเรติ สมีเป. อุปกฏฺเติ สนฺติเก.
๕๘. ริตฺตสฺสาติ วิวิตฺตสฺส, กายทุจฺจริตาทีหิ วิรหิตสฺส. โอฆติณฺณสฺส ปิหยนฺติ, กาเมสุ คธิตา ปชาติ วตฺถุกาเมสุ ลคฺคา สตฺตา ตสฺส จตุโรฆติณฺณสฺส ปิหยนฺติ อิณายิกา วิย อาณณฺยสฺสาติ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ.
ริตฺตสฺสาติ สพฺพกิเลเสหิ ตุจฺฉสฺส. วิวิตฺตสฺสาติ สฺุสฺส. ปวิวิตฺตสฺสาติ เอกกสฺส. อิทานิ เยหิ ริตฺโต โหติ, เต ทสฺเสนฺโต ‘‘กายทุจฺจริเตน ริตฺตสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กิเลสปฏิปาฏิยา มคฺคปฏิปาฏิยาติ ทฺวิธา ริตฺตตา เวทิตพฺพา. กิเลสปฏิปาฏิยา ตาว ราโค โมโห ถมฺโภ สารมฺโภ มาโน มโทติ, อิเมหิ ฉหิ กิเลเสหิ อรหตฺตมคฺเคน ริตฺโต โหติ; โทโส โกโธ อุปนาโห ปมาโทติ, อิเมหิ จตูหิ กิเลเสหิ อนาคามิมคฺเคน ¶ ริตฺโต โหติ; อติมาโน มกฺโข ปฬาโส อิสฺสา มจฺฉริยํ มายา สาเยฺยนฺติ, อิเมหิ สตฺตหิ โสตาปตฺติมคฺเคน ริตฺโต โหติ.
มคฺคปฏิปาฏิยา ปน โสตาปตฺติมคฺเคน อติมาโน มกฺโข ปฬาโส อิสฺสา มจฺฉริยํ มายา สาเยฺยนฺติ; อิเมหิ สตฺตหิ ริตฺโต โหติ, อนาคามิมคฺเคน โทโส โกโธ อุปนาโห ปมาโทติ, อิเมหิ จตูหิ ริตฺโต โหติ; อรหตฺตมคฺเคน ราโค โมโห ถมฺโภ สารมฺโภ มาโน มโทติ, อิเมหิ ฉหิ ริตฺโต โหติ. ตีณิ ทุจฺจริตานิ สพฺพกิเลเสหีติอาทินา นเยน อวเสสาปิ ยถาโยคํ โยเชตพฺพา.
วตฺถุกาเม ¶ ปริชานิตฺวาติ เตภูมเก วตฺถุกาเม าตตีรณปริฺาหิ สมาปนวเสน ชานิตฺวา. กิเลสกาเม ปหายาติ ฉนฺทาทโย กิเลสกาเม ปหานปริฺาย ชหิตฺวา. พฺยนฺตึ กริตฺวาติ วิคตนฺตํ วิคตโกฏึ กริตฺวา.
กาโมฆํ ¶ ติณฺณสฺสาติ อนาคามิมคฺเคน อวสานสงฺขาตํ กาโมฆํ ตริตฺวา ิตสฺส. ภโวฆนฺติ อรหตฺตมคฺเคน. ทิฏฺโฆนฺติ โสตาปตฺติมคฺเคน. อวิชฺโชฆนฺติ อรหตฺตมคฺเคน. สพฺพํ สํสารปถนฺติ สพฺพขนฺธธาตุอายตนปฏิปาฏิสงฺขาตํ ปถํ อรหตฺตมคฺเคเนว ตริตฺวา ิตสฺส. โสตาปตฺติมคฺเคน อุตฺติณฺณสฺส. สกทาคามิมคฺเคน นิตฺติณฺณสฺส. อนาคามิมคฺเคน กามธาตุํ อติกฺกนฺตสฺส. อรหตฺตมคฺเคน สพฺพภวํ สมติกฺกนฺตสฺส. ผลสมาปตฺติวเสน วีติวตฺตสฺส. ปารํคตสฺสาติอาทีนิ นิพฺพานวเสน วุตฺตานิ. ยถา อิณายิกา อาณณฺยนฺติ ปวฑฺฒกอิณํ อาทาย วิจรนฺตา อาณณฺยํ. ปตฺเถนฺตีติ ปตฺถนํ อุปฺปาเทนฺติ. อาพาธิกา อาโรคฺยนฺติ ปิตฺตาทิโรคาตุโร เภสชฺชกิริยาย ตํโรควูปสมนตฺถํ อาโรคฺยํ. ยถา พนฺธนพทฺธาติ นกฺขตฺตทิวเส พนฺธนาคาเร พทฺธปุริสา. ยถา ทาสา ภุชิสฺสนฺติ ยสฺมา ภุชิสฺสา ปุริสา ยํ อิจฺฉนฺติ, ตํ กโรนฺติ, น นํ โกจิ พลกฺกาเรน ตโต นิวตฺเตติ, ตสฺมา ทาสา ภุชิสฺสภาวํ ปตฺเถนฺติ. ยถา กนฺตารทฺธานปกฺขนฺทาติ ยสฺมา พลวนฺโต ปุริสา หตฺถภารํ คเหตฺวา สชฺชาวุธา สปริวารา ¶ กนฺตารํ ปฏิปชฺชนฺติ, เต โจรา ทูรโตว ทิสฺวา ปลายนฺติ. เต โสตฺถินา กนฺตารํ นิตฺถริตฺวา เขมนฺตํ ปตฺวา หฏฺตุฏฺา โหนฺติ. ตสฺมา กนฺตารปกฺขนฺทา เขมนฺตภูมึ ปตฺเถนฺติ. เทสนาปริโยสาเน ติสฺโส โสตาปตฺติผลํ ปตฺวา ปจฺฉา ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ.
สทฺธมฺมปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย
ติสฺสเมตฺเตยฺยสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ปสูรสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๕๙. อฏฺเม ¶ ¶ ปสูรสุตฺตนิทฺเทเส ปมคาถาย ตาว สงฺเขโป – อิเม ทิฏฺิคติกา อตฺตโน ทิฏฺึ สนฺธาย ‘‘อิเธว สุทฺธี’’ติ วทนฺติ. อฺเสุ ปน ธมฺเมสุ วิสุทฺธึ นาหุ, เอวํ ยํ อตฺตโน สตฺถาราทึ นิสฺสิตา, ตตฺเถว ‘‘เอส วาโท สุโภ’’ติ เอวํ สุภวาทา หุตฺวา ปุถู สมณพฺราหฺมณา ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติอาทีสุ ปจฺเจกสจฺเจสุ นิวิฏฺา.
สพฺเพ ¶ ปรวาเท ขิปนฺตีติ สพฺพา ปรลทฺธิโย ฉฑฺเฑนฺติ. อุกฺขิปนฺตีติ ทูรโต ขิปนฺติ. ปริกฺขิปนฺตีติ สมนฺตโต ขิปนฺติ. สุภวาทาติ นิทฺเทสสฺส อุทฺเทสปทํ. โสภนวาทาติ ‘‘เอตํ สุนฺทร’’นฺติ กเถนฺตา. ปณฺฑิตวาทาติ ‘‘ปณฺฑิตา มย’’นฺติ เอวํ กเถนฺตา. ถิรวาทาติ ‘‘นิทฺโทสวาทํ วทามา’’ติ กเถนฺตา. ายวาทาติ ‘‘ยุตฺตวาทํ วทามา’’ติ กเถนฺตา. เหตุวาทาติ ‘‘การณสหิตํ วทามา’’ติ กเถนฺตา. ลกฺขณวาทาติ ‘‘สลฺลกฺเขตพฺพํ วทามา’’ติ วทนฺตา. การณวาทาติ ‘‘อุทาหรณยุตฺตวาทํ วทามา’’ติ กเถนฺตา. านวาทาติ ‘‘ปกฺกมิตุํ อสกฺกุเณยฺยวาทํ วทามา’’ติ วทนฺตา.
นิวิฏฺาติ อนฺโตปวิฏฺา. ปติฏฺิตาติ ตตฺเถว ิตา.
๖๐. เอวํ นิวิฏฺา จ ‘‘เต วาทกามา’’ติ ทุติยคาถา. ตตฺถ พาลํ ทหนฺตี มิถุ อฺมฺนฺติ ‘‘อยํ พาโล, อยํ พาโล’’ติ เอวํ ทฺเวปิ ชนา อฺมฺํ พาลํ ทหนฺติ, พาลโต ปสฺสนฺติ. วทนฺติ เต อฺสิตา กโถชฺชนฺติ เต อฺมฺสตฺถาราทินิสฺสิตา กลหํ วทนฺติ. ปสํสกามา กุสลาวทานาติ ปสํสตฺถิกา อุโภปิ ‘‘มยํ กุสลาวทานา ปณฺฑิตวาทา’’ติ เอวํ สฺิโน หุตฺวา.
วาทตฺถิกาติ วาเทน อตฺถิกา. วาทาธิปฺปายาติ วาทชฺฌาสยา. วาทปุเรกฺขาราติ วาทเมว ปุรโต ¶ กตฺวา จรมานา ¶ . วาทปริเยสนํ จรนฺตาติ วาทเมว คเวสนํ จรมานา. วิคยฺหาติ ปวิสิตฺวา. โอคยฺหาติ โอตริตฺวา. อชฺโฌคาเหตฺวาติ นิมุชฺชิตฺวา. ปวิสิตฺวาติ อนฺโตกตฺวา.
อโนชวนฺตีติ นิหีนโอชวตี, เตชวิรหิตาติ อตฺโถ. สา กถาติ เอสา วาจา. กโถชฺชํ วทนฺตีติ นิตฺเตชํ ภณนฺติ. เอวํ วทาเนสุ จ เตสุ เอโก นิยมโต เอว.
๖๑. ยุตฺโต กถายนฺติ คาถา. ตตฺถ ยุตฺโต กถายนฺติ วาทกถาย อุสฺสุกฺโก. ปสํสมิจฺฉํ วินิฆาติ โหตีติ อตฺตโน ปสํสํ อิจฺฉนฺโต ‘‘กถํ นุ โข นิคฺคเหสฺสามี’’ติอาทินา นเยน ปุพฺเพว วาทา กถํกถี วินิฆาตี โหติ. อปาหตสฺมินฺติ ปฺหวีมํสเกหิ ‘‘อตฺถาปคตํ เต ภณิตํ, พฺยฺชนาปคตํ เต ภณิต’’นฺติอาทินา นเยน อปหริเต ¶ วาเท. นินฺทาย โส กุปฺปตีติ เอวํ อปาหตสฺมิฺจ วาเท อุปฺปนฺนาย นินฺทาย โส กุปฺปติ. รนฺธเมสีติ ยสฺส รนฺธเมว คเวสนฺโต.
โถมนนฺติ วณฺณภณนํ. กิตฺตินฺติ ปากฏกรณํ. วณฺณหาริยนฺติ คุณวฑฺฒนํ. ปุพฺเพว สลฺลาปาติ สลฺลาปโต ปุเรตรเมว. ‘‘กถมิทํ กถมิท’’นฺติ กถํกถา อสฺส อตฺถีติ กถํกถี. ชโย นุ โข เมติ มม ชโย. กถํ นิคฺคหนฺติ เกน ปกาเรน นิคฺคณฺหนํ. ปฏิกมฺมํ กริสฺสามีติ มม ลทฺธึ ปริสุทฺธึ กริสฺสามิ. วิเสสนฺติ อติเรกํ. ปฏิวิเสสนฺติ ปุนปฺปุนํ วิเสสํ. อาเวิยํ กริสฺสามีติ ปริเวนํ กริสฺสามิ. นิพฺเพิยนฺติ มม นิพฺเพนํ โมจนํ นิกฺขมนํ. เฉทนฺติ วาทฉินฺทนํ. มณฺฑลนฺติ วาทสงฺฆาตํ. ปาริสชฺชาติ ปริจาริกา. ปาสาริกาติ การณิตา. อปหรนฺตีติ ปฏิพาหนฺติ.
อตฺถาปคตนฺติ อตฺถโต อปคตํ ¶ , อตฺโถ นตฺถีติ. อตฺถโต อปหรนฺตีติ อตฺถมฺหา ปฏิพาหนฺติ. อตฺโถ เต ทุนฺนิโตติ ตว อตฺโถ น สมฺมา อุปนีโต. พฺยฺชนํ เต ทุโรปิตนฺติ ตว พฺยฺชนํ ทุปฺปติฏฺาปิตํ. นิคฺคโห เต อกโตติ ตยา นิคฺคโห น กโต. ปฏิกมฺมํ เต ทุกฺกฏนฺติ ตยา อตฺตโน ลทฺธิปติฏฺาปนํ ทุฏฺุ กตํ. วิสมกถํ ทุกฺกถิตนฺติ น สมฺมา กถิตํ. ทุพฺภณิตนฺติ ภณนฺเตนปิ ทุฏฺุ ภณิตํ. ทุลฺลปิตนฺติ น สมฺมา วิสฺสชฺชิตํ. ทุรุตฺตนฺติ อฺถา ภณิตํ. ทุพฺภาสิตนฺติ วิรูปํ ภาสิตํ.
นินฺทายาติ ครหเณน. ครหายาติ โทสกถเนน. อกิตฺติยาติ อคุณกถเนน. อวณฺณหาริกายาติ อคุณวฑฺฒเนน.
กุปฺปตีติ ¶ ปกติภาวํ ชเหตฺวา จลติ. พฺยาปชฺชตีติ โทสวเสน ปูติภาวํ อาปชฺชติ. ปติฏฺียตีติ โกธวเสน คณภาวํ คจฺฉติ. โกปฺจาติ กุปิตภาวํ. โทสฺจาติ ทูสนํ. อปจฺจยฺจาติ อตุฏฺาการฺจ. ปาตุกโรตีติ ปากฏํ กโรติ. รนฺธเมสีติ อนฺตรคเวสี. วิรนฺธเมสีติ ฉิทฺทคเวสี. อปรทฺธเมสีติ คุณํ อปเนตฺวา โทสเมว คเวสี. ขลิตเมสีติ ปกฺขลนคเวสี. คฬิตเมสีติ ปตนคเวสี. ‘‘ฆฏฺฏิตเมสี’’ติปิ ปาโ, ตสฺส ปีฬนคเวสีติ อตฺโถ. วิวรเมสีติ โทสคเวสี.
๖๒. น ¶ เกวลฺจ โส กุปฺปติ, อปิจ โข ปน ‘‘ยมสฺส วาท’’นฺติ คาถา. ตตฺถ ปริหีนมาหุ, อปาหตนฺติ อตฺถพฺยฺชนาทิโต อปาหตํ ปริหีนํ วทนฺติ. ปริเทวตีติ ตโตนิมิตฺตํ โส ‘‘อฺํ มยา อาวชฺชิต’’นฺติอาทีหิ วิปฺปลปติ. โสจตีติ ‘‘ตสฺส ชโย’’ติอาทีนิ อารพฺภ โสจติ. ‘‘อุปจฺจคา ม’’นฺติ อนุตฺถุนาตีติ ‘‘โส มํ วาเทน วาทํ อติกฺกนฺโต’’ติอาทินา นเยน สุฏฺุตรํ วิปฺปลปติ.
ปริหาปิตนฺติ น วฑฺฒิตํ. อฺํ มยา อาวชฺชิตนฺติ อฺํ การณํ มยา อวนมิตํ. จินฺติตนฺติ วีมํสิตํ. มหาปกฺโขติ มหนฺโต าติปกฺโข เอตสฺสาติ มหาปกฺโข. มหาปริโสติ มหาปริจาริกปริโส. มหาปริวาโรติ มหาทาสทาสิปริวาโร. ปริสา จายํ วคฺคาติ อยฺจ ปริสา วคฺคา, น เอกา. ปุน ภฺชิสฺสามีติ ปุน ภินฺทิสฺสามิ.
๖๓. เอเต ¶ วิวาทา สมเณสูติ เอตฺถ ปน สมณา วุจฺจนฺติ พาหิรปริพฺพาชกา. เอเตสุ อุคฺฆาตินิฆาติ โหตีติ เอเตสุ วาเทสุ ชยปราชยาทิวเสน จิตฺตอุคฺฆาตนิฆาตํ วา ปาปุณนฺโต อุคฺฆาติ จ นิฆาติ จ โหติ. วิรเม กโถชฺชนฺติ ปชเหยฺย กลหํ. น หฺทตฺถตฺถิ ปสํสลาภาติ น หิ เอตฺถ ปสํสลาภโต อฺโ อตฺโถ อตฺถิ. อุตฺตาโน วาติ น คมฺภีโรติ อตฺโถ ‘‘ปฺจิเม กามคุณา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๖.๖๓) วิย.
คมฺภีโร วาติ ทุปฺปเวโส อปฺปติฏฺโ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท วิย. คูฬฺโห วาติ ปฏิจฺฉนฺโน หุตฺวา ิโต ‘‘อภิรม นนฺท อหํ เต ปาฏิโภโค’’ติอาทีสุ (อุทา. ๒๒) วิย. ปฏิจฺฉนฺโน วาติ อปากโฏ ‘‘มาตรํ ปิตรํ หนฺตฺวา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๒๙๔; เนตฺติ. ๑๑๓) วิย. เนยฺโย วาติ นีหริตฺวา กเถตพฺโพ ‘‘อสทฺโธ อกตฺู จา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๙๗) วิย. นีโต วาติ ปาฬิยา ิตนิยาเมน กเถตพฺโพ ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อริยวํสา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๒๘) วิย. อนวชฺโช วาติ นิทฺโทสตฺโถ ‘‘กุสลา ธมฺมา’’ติอาทีสุ ¶ (ธ. ส. ติกมาติกา ๑) วิย. นิกฺกิเลโส วาติ กิเลสวิรหิโต วิปสฺสนา วิย. โวทาโน วาติ ¶ ปริสุทฺโธ โลกุตฺตรํ วิย. ปรมตฺโถ วาติ อุตฺตมตฺโถ อุตฺตมตฺถภูโต อตฺโถ ขนฺธธาตุอายตนนิพฺพานานิ วิย.
๖๔. ฉฏฺคาถายตฺโถ – ยสฺมา จ น หฺทตฺถตฺถิ ปสํสลาภา, ตสฺมา ปรมํ ลาภํ ลภนฺโตปิ ‘‘สุนฺทโร อย’’นฺติ ตตฺถ ทิฏฺิยา ปสํสิโต วา ปน โหตีติ ตํ วาทํ ปริสาย มชฺเฌ ทีเปตฺวา ตโต โส เตน ชยตฺเถน ตุฏฺึ วา ทนฺตวิทํสกํ วา อาปชฺชนฺโต หสฺสติ, มาเนน จ อุนฺนมติ. กึ การณํ? ยสฺมา ตํ ชยตฺถํ ปปฺปุยฺย ยถามโน ชาโต.
ถมฺภยิตฺวาติ ปูเรตฺวา. พฺรูหยิตฺวาติ วฑฺเฒตฺวา. อิมิสฺสา คาถาย นิทฺเทโส อุตฺตานตฺโถ.
๖๕. เอวํ อุนฺนมโต จ ‘‘ยา อุนฺนตี’’ติ คาถา. ตตฺถ มานาติมานํ วทเต ปเนโสติ เอโส ปน ตํ อุนฺนตึ ‘‘วิฆาตภูมี’’ติ อพุชฺฌมาโน มานฺจ อติมานฺจ วทติ. เอวํ อิมิสฺสาปิ คาถาย นิทฺเทโส อุตฺตานตฺโถ.
๖๖. เอวํ วาเท โทสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตสฺส วาทํ อสมฺปฏิจฺฉนฺโต ¶ ‘‘สูโร’’ติ คาถมาห. ตตฺถ ราชขาทายาติ ราชขาทนีเยน, ภตฺตเวตเนนาติ วุตฺตํ โหติ. อภิคชฺชเมติ ปฏิสูรมิจฺฉนฺติ ยถา โส ปฏิสูรํ อิจฺฉนฺโต อภิคชฺชนฺโต เอติ, เอวํ ทิฏฺิคติโก ทิฏฺิคติกนฺติ ทสฺเสติ. เยเนว โส เตน ปเลหีติ เยน โส ตุยฺหํ ปฏิสูโร, เตน คจฺฉ. ปุพฺเพว นตฺถิ ยทิทํ ยุธายาติ ยํ ปน กิเลสชาตํ ยุทฺธาย สิยา, ตํ อิธ ปุพฺเพว นตฺถิ, โพธิมูเลเยวสฺส ปหีนนฺติ ทสฺเสติ.
สูโรติ นิทฺเทสสฺส อุทฺเทสปทํ. สุฏฺุ อุโร สูโร, วิสฺสฏฺอุโร นินฺนอุโรติ อตฺโถ. วีโรติ ปรกฺกมวนฺโต. วิกฺกนฺโตติ สงฺคามํ ปวิสนฺโต. อภีรูติอาทโย วุตฺตนยา เอว. ปุฏฺโติ นิทฺเทสสฺส อุทฺเทสปทํ. โปสิโตติ ถูลกโต. อาปาทิโตติ อุปฑฺฒพลิโต ปฏิปาทิโต. วฑฺฒิโตติ ตโต ตโต ภาวิโต.
คชฺชนฺโตติ ¶ อพฺยตฺตสเรน คชฺชนฺโต. อุคฺคชฺชนฺโตติ อุกฺกุฏฺึ กโรนฺโต. อภิคชฺชนฺโตติ สีหนาทํ กโรนฺโต. เอตีติ อาคจฺฉติ. อุเปตีติ ตโต สมีปํ คจฺฉติ. อุปคจฺฉตีติ ตโต สมีปํ ¶ คนฺตฺวา น นิวตฺตติ. ปฏิสูรนฺติ นิพฺภยํ. ปฏิปุริสนฺติ สตฺตุปุริสํ. ปฏิสตฺตุนฺติ สตฺตุ หุตฺวา อภิมุเข ิตํ. ปฏิมลฺลนฺติ ปฏิเสธํ หุตฺวา ยุชฺฌนฺตํ. อิจฺฉนฺโตติ อากงฺขมาโน.
ปเลหีติ คจฺฉ. วชาติ มา ติฏฺ. คจฺฉาติ สมีปํ อุปสงฺกม. อภิกฺกมาติ ปรกฺกมํ กโรหิ.
โพธิยา มูเลติ มหาโพธิรุกฺขสฺส สมีเป. เย ปฏิเสนิกรา กิเลสาติ เย กิเลสา ปฏิปกฺขกรา. ปฏิโลมกราติ ปฏาณีกรา. ปฏิกณฺฏกกราติ วินิวิชฺฌนกรา. ปฏิปกฺขกราติ สตฺตุกรา.
๖๗. อิโต ปรํ เสสคาถา ปากฏสมฺพนฺธา เอว. ตตฺถ วิวาทยนฺตีติ วิวทนฺติ. ปฏิเสนิกตฺตาติ ปฏิโลมการกา. ‘‘น ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานาสี’’ติอาทินา นเยน วิรุทฺธวจนํ วิวาโท.
สหิตํ เมติ มม วจนํ อตฺถสํหิตํ. อสหิตํ เตติ ตว วจนํ อนตฺถสํหิตํ. อธิจิณฺณํ เต วิปราวตฺตนฺติ ¶ ยํ ตํ อธิจิณฺณํ จิรกาลเสวนวเสน ปคุณํ, ตํ มม วาทํ อาคมฺม นิวตฺตํ. อาโรปิโต เต วาโทติ ตุยฺหํ อุปริ มยา โทโส อาโรปิโต. จร วาทปฺปโมกฺขายาติ ภตฺตปุฏํ อาทาย ตํ ตํ อุปสงฺกมิตฺวา วาทา ปโมกฺขตฺถาย อุตฺตรํ ปริเยสมาโน วิจร. นิพฺเพเหิ วาติ อถ วา มยา อาโรปิตโทสโต อตฺตานํ โมเจหิ. สเจ ปโหสีติ สเจ สกฺโกสิ.
อาเวิยาย อาเวิยนฺติ อาเวเตฺวา นิวตฺตเนน นิวตฺตนํ. นิพฺเพิยาย นิพฺเพิยนฺติ โทสโต โมจเนน โมจนํ. เฉเทน เฉทนฺติ เอวมาทิ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา ยถาโยคํ โยเชตพฺพํ.
๖๘. วิเสนิกตฺวาติ กิเลสเสนํ วินาเสตฺวา. กึ ลเภถาติ ปฏิมลฺลํ กึ ลภิสฺสสิ. ปสูราติ ตํ ปริพฺพาชกํ อาลปติ. เยสีธ นตฺถีติ เยสํ อิธ นตฺถิ. อิมายปิ คาถาย นิทฺเทโส อุตฺตานตฺโถเยว.
๖๙. ปวิตกฺกนฺติ ¶ ‘‘ชโย นุ โข เม ภวิสฺสตี’’ติอาทีนิ วิตกฺเกนฺโต. โธเนน ยุคํ สมาคมาติ ธุตกิเลเสน พุทฺเธน สทฺธึ ยุคคฺคาหํ สมาปนฺโน. น หิ ตฺวํ สกฺขสิ สมฺปยาตเวติ ¶ โกตฺถุอาทโย วิย สีหาทีหิ โธเนน สห ยุคํ คเหตฺวา เอกปทมฺปิ สมฺปยาตุํ ยุคคฺคาหเมว วา สมฺปาเทตุํ น สกฺขิสฺสสีติ.
มโนติ นิทฺเทสสฺส อุทฺเทสปทํ. จิตฺตนฺติ จิตฺตตาย จิตฺตํ. ‘‘อารมฺมณํ มินมานํ ชานาตี’’ติ มโน. มานสนฺติ มโน เอว. ‘‘อนฺตลิกฺขจโร ปาโส, ยฺวายํ จรติ มานโส’’ติ (มหาว. ๓๓; สํ. นิ. ๑.๑๕๑) หิ เอตฺถ ปน สมฺปยุตฺตกธมฺโม มานโสติ วุตฺโต.
‘‘กถฺหิ ภควา ตุยฺหํ, สาวโก สาสเน รโต;
อปฺปตฺตมานโส เสกฺโข, กาลํกยิรา ชเนสุตา’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๕๙) –
เอตฺถ ¶ อรหตฺตํ มานสนฺติ วุตฺตํ. อิธ ปน มโนว มานสํ, พฺยฺชนวเสน เหตํ ปทํ วฑฺฒิตํ.
หทยนฺติ จิตฺตํ. ‘‘จิตฺตํ วา เต ขิปิสฺสามิ, หทยํ วา เต ผาเลสฺสามี’’ติ (สุ. นิ. อาฬวกสุตฺต; สํ. นิ. ๑.๒๓๗) เอตฺถ อุโร หทยนฺติ วุตฺตํ. ‘‘หทยา หทยํ มฺเ อฺาย ตจฺฉตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๖๓) เอตฺถ จิตฺตํ. ‘‘วกฺกํ หทย’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๓๗๗; ม. นิ. ๑.๑๑๐; ขุ. ปา. ๓.ทฺวตฺตึสาการ) เอตฺถ หทยวตฺถุ. อิธ ปน จิตฺตเมว อพฺภนฺตรฏฺเน ‘‘หทย’’นฺติ วุตฺตํ. ตเมว ปริสุทฺธฏฺเน ปณฺฑรํ, ภวงฺคํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ยถาห ‘‘ปภสฺสรมิทํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตฺจ โข อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺ’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๔๙). ตโต นิกฺขนฺตตฺตา ปน อกุสลมฺปิ คงฺคาย นิกฺขนฺตา นที คงฺคา วิย โคธาวริโต นิกฺขนฺตา โคธาวริ วิย จ ‘‘ปณฺฑร’’นฺตฺเวว วุตฺตํ.
มโน มนายตนนฺติ อิธ ปน มโนคหณํ มนสฺเสว อายตนภาวทีปนตฺถํ. เตเนตํ ทีเปติ ‘‘นยิทํ เทวายตนํ วิย มนสฺส อายตนตฺตา มนายตนํ, อถ โข มโน เอว อายตนํ มนายตน’’นฺติ. ตตฺถ นิวาสฏฺานฏฺเน อากรฏฺเน สโมสรณฏฺานฏฺเน สฺชาติเทสฏฺเน การณฏฺเน จ อายตนํ เวทิตพฺพํ. ตถา หิ โลเก ‘‘อิสฺสรายตนํ วาสุเทวายตน’’นฺติอาทีสุ นิวาสฏฺานํ อายตนนฺติ วุจฺจติ ¶ . ‘‘สุวณฺณายตนํ รชตายตน’’นฺติอาทีสุ อากโร. สาสเน ปน ‘‘มโนรเม อายตเน, เสวนฺติ นํ วิหงฺคมา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๕.๓๘) สโมสรณฏฺานํ. ‘‘ทกฺขิณาปโถ คุนฺนํ อายตน’’นฺติอาทีสุ สฺชาติเทโส. ‘‘ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ¶ ปาปุณาติ สติ สติอายตเน’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๑๐๒; ม. นิ. ๓.๑๕๘) การณํ. อิธ ปน สฺชาติเทสฏฺเน สโมสรณฏฺานฏฺเน การณฏฺเนาติ ติธาปิ วฏฺฏติ.
ผสฺสาทโย หิ ธมฺมา เอตฺถ สฺชายนฺตีติ สฺชาติเทสฏฺเนปิ เอตํ อายตนํ. พหิทฺธา รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพา อารมฺมณภาเวเนตฺถ โอสรนฺตีติ สโมสรณฏฺานฏฺเนปิ อายตนํ ¶ . ผสฺสาทีนํ ปน สหชาตาทิปจฺจยฏฺเน การณตฺตา การณฏฺเนาปิ อายตนนฺติ เวทิตพฺพํ. มนินฺทฺริยํ วุตฺตตฺถเมว.
วิชานาตีติ วิฺาณํ. วิฺาณเมว ขนฺโธ วิฺาณกฺขนฺโธ. ตสฺส ราสิอาทิวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘มหาอุทกกฺขนฺโธตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๕๑) เอตฺถ หิ ราสฏฺเน ขนฺโธ วุตฺโต. ‘‘สีลกฺขนฺโธ สมาธิกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๕๕) คุณฏฺเน. ‘‘อทฺทส โข ภควา มหนฺตํ ทารุกฺขนฺธ’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๒๔๑) เอตฺถ ปณฺณตฺติมตฺตฏฺเน. อิธ ปน รูฬฺหิโต ขนฺโธ วุตฺโต. ราสฏฺเน หิ วิฺาณกฺขนฺธสฺส เอกเทโส เอกํ วิฺาณํ. ตสฺมา ยถา รุกฺขสฺส เอกเทสํ ฉินฺทนฺโต รุกฺขํ ฉินฺทตีติ วุจฺจติ, เอวเมว วิฺาณกฺขนฺธสฺส เอกเทสภูตํ เอกมฺปิ วิฺาณํ รูฬฺหิโต วิฺาณกฺขนฺโธติ วุตฺตํ.
ตชฺชา มโนวิฺาณธาตูติ เตสํ ผสฺสาทีนํ ธมฺมานํ อนุจฺฉวิกา มโนวิฺาณธาตุ. อิมสฺมิฺหิ ปเท เอกเมว จิตฺตํ มินนฏฺเน มโน, วิชานนฏฺเน วิฺาณํ, สภาวฏฺเน นิสฺสตฺตฏฺเน วา ธาตูติ ตีหิ นาเมหิ วุตฺตํ.
สทฺธึ ยุคํ สมาคมนฺติ เอกปฺปหาเรน สทฺธึ. สมฺมาคนฺตฺวาติ ปาปุณิตฺวา. ยุคคฺคาหํ คณฺหิตฺวาติ ยุคปฏิภาคํ คเหตฺวา. สากจฺเฉตุนฺติ สทฺธึ กเถตุํ. สลฺลปิตุนฺติ อลฺลาปสลฺลาปํ กาตุํ. สากจฺฉํ สมาปชฺชิตุนฺติ สทฺธึ กถนํ ปฏิปชฺชิตุํ. น ปฏิพลภาเว การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ กิสฺสเหตุ, ปสูโร ปริพฺพาชโก หีโน’’ติอาทิมาห. โส หิ ภควา อคฺโค ¶ จาติ อสทิสทานอคฺคตฺตา อสมานปฺตฺตา อคฺโค จ. เสฏฺโ จาติ สพฺพคุเณหิ อปฺปฏิสมฏฺเน เสฏฺโ จ. โมกฺโข จาติ สวาสเนหิ กิเลเสหิ มุตฺตตฺตา โมกฺโข จ. อุตฺตโม จาติ อตฺตโน อุตฺตริตรวิรหิตตฺตา อุตฺตโม จ. ปวโร จาติ สพฺพโลเกน อภิปตฺถนียตฺตา ปวโร จ. มตฺเตน ¶ มาตงฺเคนาติ ปภินฺนมเทน หตฺถินา.
โกตฺถุโกติ ¶ ชิรณสิงฺคาโล. สีเหน มิครฺา สทฺธินฺติ เกสรสีเหน มิคราเชน สห. ตรุณโกติ ฉาปโก. เธนุปโกติ ขีรปโก. อุสเภนาติ มงฺคลสมฺมเตน อุสเภน. จลกกุนา สทฺธินฺติ จลมานกกุนา สทฺธึ. ธงฺโกติ กาโก. ครุเฬน เวนเตยฺเยน สทฺธินฺติ เอตฺถ ครุเฬนาติ ชาติวเสน นามํ. เวนเตยฺเยนาติ โคตฺตวเสน. จณฺฑาโลติ ฉวจณฺฑาโล. รฺา จกฺกวตฺตินาติ จาตุทฺทีปิกจกฺกวตฺตินา. ปํสุปิสาจโกติ กจวรฉฑฺฑนฏฺาเน นิพฺพตฺตโก ยกฺโข. อินฺเทน เทวรฺา สทฺธินฺติ สกฺเกน เทวราเชน สห. โส หิ ภควา มหาปฺโติอาทีนิ ฉปฺปทานิ เหฏฺา วิตฺถาริตานิ. ตตฺถ ปฺาปเภทกุสโลติ อตฺตโน อนนฺตวิกปฺเป ปฺาเภเท เฉโก. ปภินฺนาโณติ อนนฺตปฺปเภทปตฺตาโณ. เอเตน ปฺาปเภทกุสลตฺเตปิ สติ ตาสํ ปฺานํ อนนฺตเภทตฺตํ ทสฺเสติ. อธิคตปฏิสมฺภิโทติ ปฏิลทฺธอคฺคจตุปฏิสมฺภิทาโณ. จตุเวสารชฺชปฺปตฺโตติ จตฺตาริ วิสารทภาวสงฺขาตานิ าณานิ ปตฺโต. ยถาห –
‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต ปฏิชานโต ‘อิเม ธมฺมา อนภิสมฺพุทฺธา’ติ, ตตฺร วต มํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ สหธมฺเมน ปฏิโจเทสฺสตีติ นิมิตฺตเมตํ, ภิกฺขเว, น สมนุปสฺสามิ, เอตมหํ, ภิกฺขเว, นิมิตฺตํ อสมนุปสฺสนฺโต เขมปฺปตฺโต อภยปฺปตฺโต เวสารชฺชปฺปตฺโต วิหรามิ.
‘‘ขีณาสวสฺส เต ปฏิชานโต ‘อิเม อาสวา อปริกฺขีณา’ติ…เป… ‘เย โข ปน เต อนฺตรายิกา ธมฺมา วุตฺตา, เต ปฏิเสวโต นาลํ อนฺตรายายา’’ติ…เป… ยสฺส โข ปน ¶ เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโต, โส น นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายาติ, ตตฺร วต มํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ สหธมฺเมน ปฏิโจเทสฺสตีติ นิมิตฺตเมตํ, ภิกฺขเว, น สมนุปสฺสามิ, เอตมหํ, ภิกฺขเว, นิมิตฺตํ อสมนุปสฺสนฺโต เขมปฺปตฺโต อภยปฺปตฺโต เวสารชฺชปฺปตฺโต วิหรามี’’ติ (อ. นิ. ๔.๘; ม. นิ. ๑.๑๕๐).
ทสพลพลธารีติ ¶ ทส พลานิ เอเตสนฺติ ทสพลา, ทสพลานํ พลานิ ทสพลพลานิ, ตานิ ทสพลพลานิ ธารยตีติ ทสพลพลธารี, ทสพลาณพลธารีติ อตฺโถ. เอเตหิ ตีหิ วจเนหิ อนนฺตปฺปเภทานํ เนยฺยานํ ปเภทมุขมตฺตํ ทสฺสิตํ. โสเยว ปฺาปโยควเสน อภิมงฺคลสมฺมตฏฺเน ปุริสาสโภ. อสนฺตาสฏฺเน ปุริสสีโห. มหนฺตฏฺเน ปุริสนาโค. ปชานนฏฺเน ปุริสาชฺโ. โลกกิจฺจธุรวหนฏฺเน ปุริสโธรยฺโห.
อถ ¶ เตชาทิกํ อนนฺตาณโต ลทฺธํ คุณวิเสสํ ทสฺเสตุกาโม เตสํ เตชาทีนํ อนนฺตาณมูลภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนนฺตาโณ’’ติ วตฺวา ‘‘อนนฺตเตโช’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อนนฺตาโณติ คณนวเสน จ ปภาววเสน จ อนฺตวิรหิตาโณ. อนนฺตเตโชติ เวเนยฺยสนฺตาเน โมหตมวิธมเนน อนนฺตาณเตโช. อนนฺตยโสติ ปฺาคุเณเหว โลกตฺตยวิตฺถตานนฺตกิตฺติโฆโส. อฑฺโฒติ ปฺาธนสมิทฺธิยา สมิทฺโธ. มหทฺธโนติ ปฺาธนวฑฺฒตฺเตปิ ปภาวมหตฺเตน มหนฺตํ ปวตฺตปฺาธนมสฺสาติ มหทฺธโน. ‘‘มหาธโน’’ติ วา ปาโ. ธนวาติ ปสํสิตพฺพปฺาธนวตฺตา นิจฺจยุตฺตปฺาธนวตฺตา อติสยภาเวน ปฺาธนวตฺตา ธนวา. เอเตสุปิ หิ ตีสุ อตฺเถสุ อิทํ วจนํ สทฺทวิทู อิจฺฉนฺติ.
เอวํ ปฺาคุเณน ภควโต อตฺตสมฺปตฺติสิทฺธึ ทสฺเสตฺวา ปุน ปฺาคุเณเนว โลกหิตสมฺปตฺติสิทฺธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘เนตา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เวเนยฺเย สํสารสงฺขาตภยฏฺานโต นิพฺพานสงฺขาตํ เขมฏฺานํ เนตา ¶ . ตตฺถ นยนกาเล เอว สํวรวินยปหานวินยวเสน เวเนยฺเย วิเนตา. ธมฺมเทสนากาเล เอว สํสยจฺเฉทเนน อนุเนตา. สํสยํ ฉินฺทิตฺวา สฺาเปตพฺพํ อตฺถํ ปฺาเปตา. ตถา ปฺาปิตานํ นิจฺฉยกรเณน นิชฺฌาเปตา. ตถา นิชฺฌาปิตสฺส อตฺถสฺส ปฏิปตฺติปโยชนวเสน ¶ เปกฺเขตา. ตถาปฏิปนฺเน ปฏิปตฺติพเลน ปสาเทตา. โส หิ ภควาติ เอตฺถ หิ-กาโร อนนฺตรํ วุตฺตสฺส อตฺถสฺส การโณปเทเส นิปาโต.
อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตาติ สกสนฺตาเน นอุปฺปนฺนปุพฺพสฺส ฉอสาธารณาณเหตุภูตสฺส อริยมคฺคสฺส โพธิมูเล โลกหิตตฺถํ สกสนฺตาเน อุปฺปาเทตา. อสฺชาตสฺส มคฺคสฺส สฺชเนตาติ เวเนยฺยสนฺตาเน อสฺชาตปุพฺพสฺส สาวกปารมีาณเหตุภูตสฺส อริยมคฺคสฺส ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนโต ปภุติ ยาวชฺชกาลา เวเนยฺยสนฺตาเน สฺชเนตา. สาวกเวเนยฺยานมฺปิ หิ สนฺตาเน ภควตา วุตฺตวจเนเนว อริยมคฺคสฺส สฺชนนโต ภควา สฺชเนตา นาม โหติ. อนกฺขาตสฺส มคฺคสฺส อกฺขาตาติ อฏฺธมฺมสมนฺนาคตานํ พุทฺธภาวาย กถาภินีหารานํ โพธิสตฺตานํ พุทฺธภาวาย พฺยากรณํ ทตฺวา อนกฺขาตปุพฺพสฺส ปารมิตามคฺคสฺส ‘‘พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากรณมตฺเตเนว โพธิมูเล อุปฺปชฺชิตพฺพสฺส อริยมคฺคสฺส อกฺขาตา. อยํ นโย ปจฺเจกโพธิสตฺตพฺยากรเณปิ ลพฺภติเยว. มคฺคฺูติ ปจฺจเวกฺขณาวเสน อตฺตโน อุปฺปาทิตสฺส อริยมคฺคสฺส าตา. มคฺควิทูติ เวเนยฺยสนฺตาเน ชเนตพฺพสฺส อริยมคฺคสฺส กุสโล. มคฺคโกวิโทติ โพธิสตฺตานํ อกฺขาตพฺพมคฺเค วิจกฺขโณ. อถ วา อภิสมฺโพธิปฏิปตฺติ มคฺคฺู, ปจฺเจกโพธิปฏิปตฺติ มคฺควิทู, สาวกโพธิปฏิปตฺติ มคฺคโกวิโท. อถ วา –
‘‘เอเตน ¶ มคฺเคน ตรึสุ ปุพฺเพ,
ตริสฺสนฺติ เย จ ตรนฺติ โอฆ’’นฺติ. (สํ. นิ. ๕.๔๐๙) –
วจนโต ยถาโยคํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนพุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวกานํ มคฺควเสน จ สฺุตานิมิตฺตอปฺปณิหิตมคฺควเสน ¶ จ อุคฺฆฏิตฺูวิปฺจิตฺูเนยฺยปุคฺคลานํ มคฺควเสน จ ยถากฺกเมเนตฺถ โยชนํ กโรนฺติ ¶ . มคฺคานุคา จ ปนสฺสาติ ภควโต คตมคฺคานุคามิโน หุตฺวา. เอตฺถ จ-สทฺโท เหตุอตฺเถ นิปาโต, เอเตน จ ภควตา มคฺคุปฺปาทนาทิคุณาธิคมาย เหตุ วุตฺโต โหติ. ปน-สทฺโท กตตฺเถ นิปาโต, เตน ภควตา กตมคฺคกรณํ วุตฺตํ โหติ. ปจฺฉา สมนฺนาคตาติ ปมํ คตสฺส ภควโต ปจฺฉา สีลาทิคุเณน สมนฺนาคตา. อิติ เถโร ‘‘อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา’’ติอาทีหิ ยสฺมา สพฺเพปิ ภควโต สีลาทโย คุณา อรหตฺตมคฺคเมว นิสฺสาย อาคตา, ตสฺมา อรหตฺตมคฺคเมว นิสฺสาย คุณํ กเถสิ.
ชานํ ชานาตีติ ชานิตพฺพํ ชานาติ, สพฺพฺุตาย ยํกิฺจิ ปฺาย ชานิตพฺพํ นาม อตฺถิ, ตํ สพฺพํ ปฺจเนยฺยปถภูตํ ปฺาย ชานาตีติ อตฺโถ. ปสฺสํ ปสฺสตีติ ปสฺสิตพฺพํ ปสฺสติ, สพฺพทสฺสาวิตาย ตํเยว เนยฺยปถํ จกฺขุนา ทิฏฺํ วิย กโรนฺโต ปฺาจกฺขุนา ปสฺสตีติ อตฺโถ. ยถา วา เอกจฺโจ วิปรีตํ คณฺหนฺโต ชานนฺโตปิ น ชานาติ, ปสฺสนฺโตปิ น ปสฺสติ, น เอวํ ภควา. ภควา ปน ยถาสภาวํ คณฺหนฺโต ชานนฺโต ชานาติเยว, ปสฺสนฺโต ปสฺสติเยว. สฺวายํ นยน ปริณายกฏฺเน จกฺขุภูโต. วิทิตตาทิอตฺเถน าณภูโต. อวิปรีตสภาวฏฺเน วา ปริยตฺติธมฺมปวตฺตนโต หทเยน จินฺเตตฺวา วาจาย นิจฺฉาริตธมฺมมโยติ วา ธมฺมภูโต. เสฏฺฏฺเน พฺรหฺมภูโต. อถ วา จกฺขุ วิย ภูโตติ จกฺขุภูโต. าณํ วิย ภูโตติ าณภูโต. อวิปรีตธมฺโม วิย ภูโตติ ธมฺมภูโต. พฺรหฺมา วิย ภูโตติ พฺรหฺมภูโต. ยฺวายํ ธมฺมสฺส วจนโต วตฺตนโต วา วตฺตา. นานปฺปกาเรหิ วจนโต วตฺตนโต วา ปวตฺตา. อตฺถํ นีหริตฺวา ทสฺสนโต อตฺถสฺส นินฺเนตา. อมตาธิคมาย ปฏิปตฺติเทสนโต, อมตปฺปกาสนาย วา ธมฺมเทสนาย อมตสฺส อธิคมาปนโต ¶ อมตสฺส ทาตา. โลกุตฺตรสฺส ธมฺมสฺส อุปฺปาทิตตฺตา เวเนยฺยานุรูเปน ยถาสุขํ โลกุตฺตรธมฺมสฺส ทาเนน จ ธมฺเมสุ อิสฺสโรติ ธมฺมสฺสามี. ตถาคตปทํ เหฏฺา วุตฺตตฺถํ.
อิทานิ ‘‘ชานํ ชานาตี’’ติอาทีหิ วุตฺตคุณํ สพฺพฺุตาย วิเสเสตฺวา ทสฺเสตุกาโม สพฺพฺุตํ สาเธนฺโต ‘‘นตฺถี’’ติอาทิมาห. เอวํภูตสฺส หิ ¶ ตสฺส ภควโต ปารมิตาปฺุผลปฺปภาวนิปฺผนฺเนน อรหตฺตมคฺคาเณน สพฺพธมฺเมสุ สวาสนสฺส สมฺโมหสฺส วิหตตฺตา อสมฺโมหโต ¶ สพฺพธมฺมานํ าตตฺตา อฺาตํ นาม นตฺถิ. ตเถว จ สพฺพธมฺมานํ จกฺขุนา วิย าณจกฺขุนา ทิฏฺตฺตา อทิฏฺํ นาม นตฺถิ. าเณน ปตฺตตฺตา อวิทิตํ นาม นตฺถิ. อสมฺโมหสจฺฉิกิริยาย สจฺฉิกตตฺตา อสจฺฉิกตํ นาม นตฺถิ. อสมฺโมหปฺาย ผุฏฺตฺตา ปฺาย อผสฺสิตํ นาม นตฺถิ.
ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนํ กาลํ วา ธมฺมํ วา. อุปาทายาติ อาทาย, อนฺโตกตฺวาติ อตฺโถ. อุปาทายวจเนเนว กาลวินิมุตฺตํ นิพฺพานมฺปิ คหิตเมว โหติ. ‘‘อตีตา’’ทิวจนานิ จ ‘‘นตฺถี’’ติอาทิวจเนเนว ฆฏิยนฺติ, ‘‘สพฺเพ’’ติอาทิวจเนน วา. สพฺเพ ธมฺมาติ สพฺพสงฺขตาสงฺขตธมฺมปริยาทานํ. สพฺพากาเรนาติ สพฺพธมฺเมสุ เอเกกสฺเสว ธมฺมสฺส อนิจฺจาการาทิสพฺพาการปริยาทานํ. าณมุเขติ าณาภิมุเข. อาปาถํ อาคจฺฉนฺตีติ โอสรณํ อุเปนฺติ. ชานิตพฺพนฺติ ปทํ เนยฺยนฺติ ปทสฺส อตฺถวิวรณตฺถํ วุตฺตํ.
อตฺตตฺโถ วาติอาทีสุ วา-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. อตฺตตฺโถติ อตฺตโน อตฺโถ. ปรตฺโถติ ปเรสํ ติณฺณํ โลกานํ อตฺโถ. อุภยตฺโถติ อตฺตโน จ ปเรสฺจาติ สกึเยว อุภินฺนํ อตฺโถ. ทิฏฺธมฺมิโกติ ทิฏฺธมฺเม นิยุตฺโต, ทิฏฺธมฺมปฺปโยชโน วา อตฺโถ. สมฺปราเย นิยุตฺโต, สมฺปรายปฺปโยชโน วา สมฺปรายิโก. อุตฺตาโนติอาทีสุ โวหารวเสน วตฺตพฺโพ สุขปติฏฺตฺตา อุตฺตาโน ¶ . โวหารํ อติกฺกมิตฺวา วตฺตพฺโพ สฺุตาปฏิสํยุตฺโต ทุกฺขปติฏฺตฺตา คมฺภีโร. โลกุตฺตโร อจฺจนฺตติโรกฺขตฺตา คูฬฺโห. อนิจฺจตาทิโก ฆนาทีหิ ปฏิจฺฉนฺนตฺตา ปฏิจฺฉนฺโน. อปจุรโวหาเรน วตฺตพฺโพ ยถารุตํ อคฺคเหตฺวา อธิปฺปายสฺส เนตพฺพโต เนยฺโย. ปจุรโวหาเรน วตฺตพฺโพ วจนมตฺเตเนว อธิปฺปายสฺส นีตตฺตา นีโต. สุปริสุทฺธสีลสมาธิวิปสฺสนตฺโถ ตทงฺควิกฺขมฺภนวเสน วชฺชวิรหิตตฺตา อนวชฺโช. กิเลสสมุจฺเฉทนโต อริยมคฺคตฺโถ นกฺกิเลโส. กิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา อริยผลตฺโถ โวทาโน. สงฺขตาสงฺขเตสุ อคฺคธมฺมตฺตา นิพฺพานํ ปรมตฺโถ. ปริวตฺตตีติ พุทฺธาณสฺส วิสยภาวโต อพหิภูตตฺตา อนฺโตพุทฺธาเณ พฺยาปิตฺวา วา สมนฺตา วา อลงฺกริตฺวา วา วิเสเสน วา วตฺตติ.
‘‘สพฺพํ ¶ กายกมฺม’’นฺติอาทีหิ ภควโต าณวิสยตํ ทสฺเสติ. าณานุปริวตฺตีติ าณํ อนุปริวตฺติ, าณวิรหิตํ น โหตีติ อตฺโถ. อปฺปฏิหตนฺติ นิราวรณตํ ทสฺเสติ. ปุน สพฺพฺุตํ อุปมาย สาเธตุกาโม ‘‘ยาวตก’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ชานิตพฺพนฺติ เนยฺยํ. เนยฺยปริยนฺโต เนยฺยาวสานมสฺส อตฺถีติ เนยฺยปริยนฺติกํ. อสพฺพฺูนํ ปน เนยฺยาวสานเมว นตฺถิ. าณปริยนฺติเกปิ เอเสว นโย. ปุริมยมเก วุตฺตตฺถเมว อิมินา ยมเกน วิเสเสตฺวา ทสฺเสติ ¶ , ตติยยมเกน ปฏิเสธวเสน นิยเมตฺวา ทสฺเสติ. เอตฺถ จ เนยฺยํ าณสฺส ปถตฺตา เนยฺยปโถ. อฺมฺปริยนฺตฏฺายิโนติ เนยฺยฺจ าณฺจ เขเปตฺวา านโต อฺมฺสฺส ปริยนฺเต านสีลา.
อาวชฺชนปฏิพทฺธาติ มโนทฺวาราวชฺชนายตฺตา, อาวชฺชิตานนฺตรเมว ชานาตีติ อตฺโถ. อากงฺขปฏิพทฺธาติ รุจิอายตฺตา ¶ , อาวชฺชนานนฺตรํ ชวนาเณน ชานาตีติ อตฺโถ. อิตรานิ ทฺเว ปทานิ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปทานํ ยถากฺกเมน อตฺถปฺปกาสนตฺถํ วุตฺตานิ. อาสยํ ชานาตีติ เอตฺถ อาสยนฺติ นิสฺสยนฺติ เอตฺถาติ อาสโย, มิจฺฉาทิฏฺิยา สมฺมาทิฏฺิยา กามาทีหิ เนกฺขมฺมาทีหิ วา ปริภาวิตสฺส สนฺตานสฺเสตํ อธิวจนํ. สตฺตสนฺตานํ อนุเสนฺติ อนุปวตฺเตนฺตีติ อนุสยา, ถามคตานํ กามราคาทีนํว เอตํ อธิวจนํ. อนุสยํ ชานาตีติ อนุสยกถา เหฏฺา วุตฺตาเยว.
จริตนฺติ ปุพฺเพ กตกุสลากุสลกมฺมํ. อธิมุตฺตินฺติ สมฺปติ กุสเล อกุสเล วา จิตฺตโวสคฺโค. อปฺปรชกฺเขติ ปฺามเย อกฺขิมฺหิ อปฺปํ ราคาทิรโช เอเตสนฺติ อปฺปรชกฺขา. อปฺปํ ราคาทิรโช เอเตสนฺติ วา อปฺปรชกฺขา, เต อปฺปรชกฺเข. มหารชกฺเขติ าณมเย อกฺขิมฺหิ มหนฺตํ ราคาทิรโช เอเตสนฺติ มหารชกฺขา. มหนฺตํ ราคาทิรโช เอเตสนฺติ วา มหารชกฺขา, เต มหารชกฺเข. ติกฺขินฺทฺริเย มุทินฺทฺริเยติ ติกฺขานิ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ เอเตสนฺติ ติกฺขินฺทฺริยา. มุทูนิ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ เอเตสนฺติ มุทินฺทฺริยา. สฺวากาเร ทฺวากาเรติ สุนฺทรา สทฺธาทโย อาการา โกฏฺาสา เอเตสนฺติ สฺวาการา. กุจฺฉิตา ครหิตา อสทฺธาทโย อาการา โกฏฺาสา เอเตสนฺติ ทฺวาการา. สุวิฺาปเย ทุวิฺาปเยติ เย กถิตํ การณํ สลฺลกฺเขนฺติ ¶ สุเขน สกฺกา โหนฺติ วิฺาเปตุํ, เต สุวิฺาปยา. ตพฺพิปรีตา ทุวิฺาปยา. ภพฺพาภพฺเพติ ภพฺเพ จ อภพฺเพ จ. อริยาย ชาติยา ภวนฺติ ชายนฺตีติ ภพฺพา. วตฺตมานสมีเป วตฺตมานวจนํ. ภวิสฺสนฺติ ชายิสฺสนฺติ วาติ ภพฺพา, ภาชนภูตาติ อตฺโถ. เย อริยมคฺคปฏิเวธสฺส อนุจฺฉวิกา อุปนิสฺสยสมฺปนฺนา, เต ภพฺพา. วุตฺตปฏิปกฺขา อภพฺพา.
สตฺเต ปชานาตีติ รูปาทิเก อารมฺมเณ ลคฺเค ลคฺคิเต สตฺเต ปชานาติ. สเทวโก ¶ โลโกติ สห เทเวหิ สเทวโก. สห มาเรน สมารโก. สห พฺรหฺมุนา สพฺรหฺมโก. สห สมณพฺราหฺมเณหิ สสฺสมณพฺราหฺมณี. ปชาตตฺตา ปชา. สห เทวมนุสฺเสหิ สเทวมนุสฺสา. ‘‘ปชา’’ติ สตฺตโลกสฺส ปริยายวจนเมตํ. ตตฺถ สเทวกวจเนน ปฺจกามาวจรเทวคฺคหณํ, สมารกวจเนน ¶ ฉฏฺกามาวจรเทวคฺคหณํ. สพฺรหฺมกวจเนน พฺรหฺมกายิกาทิพฺรหฺมคฺคหณํ. สสฺสมณพฺราหฺมณีวจเนน สาสนสฺส ปจฺจตฺถิกปจฺจามิตฺตสมณพฺราหฺมณคฺคหณํ สมิตปาปพาหิตปาปสมณพฺราหฺมณคฺคหณฺจ. ปชาวจเนน สตฺตโลกคฺคหณํ. สเทวมนุสฺสวจเนน สมฺมุติเทวอวเสสมนุสฺสคฺคหณํ. เอวเมตฺถ ตีหิ ปเทหิ โอกาสโลโก. ทฺวีหิ ปชาวเสน สตฺตโลโก คหิโตติ เวทิตพฺโพ.
อปโร นโย – สเทวกคฺคหเณน อรูปาวจรโลโก คหิโต, สมารกคฺคหเณน ฉกามาวจรโลโก, สพฺรหฺมกคฺคหเณน รูปาวจรพฺรหฺมโลโก, สสฺสมณพฺราหฺมณาทิคฺคหเณน จตุปริสวเสน สมฺมุติเทเวหิ วา สห มนุสฺสโลโก, อวเสสสพฺพสตฺตโลโก วา. อปิ เจตฺถ สเทวกวจเนน อุกฺกฏฺปริจฺเฉทโต สพฺพสฺสปิ โลกสฺส อนฺโตพุทฺธาเณ ปริวตฺตนภาวํ สาเธติ. ตโต เยสํ สิยา ‘‘มาโร มหานุภาโว ฉกามาวจริสฺสโร วสวตฺตี, กึ โสปิ อนฺโตพุทฺธาเณ ปริวตฺตตี’’ติ. เตสํ วิมตึ วิธเมนฺโต ‘‘สมารโก’’ติ อาห. เยสํ ปน สิยา ‘‘พฺรหฺมา มหานุภาโว, เอกงฺคุลิยา เอกสฺมึ จกฺกวาฬสหสฺเส อาโลกํ ผรติ. ทฺวีหิ…เป… ทสหิ องฺคุลีหิ ทสสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ อาโลกํ ผรติ, อนุตฺตรฺจ ฌานสมาปตฺติสุขํ ปฏิสํเวเทติ, กึ โสปิ อนฺโตพุทฺธาเณ ปริวตฺตตี’’ติ. เตสํ วิมตึ วิธเมนฺโต ‘‘สพฺรหฺมโก’’ติ อาห. ตโต เยสํ ¶ สิยา ‘‘ปุถู สมณพฺราหฺมณา สาสนปจฺจตฺถิกา, กึ เตปิ อนฺโตพุทฺธาเณ ปริวตฺตนฺตี’’ติ. เตสํ วิมตึ วิธเมนฺโต ‘‘สสฺสมณพฺราหฺมณี ปชา’’ติ อาห.
เอวํ อุกฺกฏฺานํ อนฺโตพุทฺธาเณ ปริวตฺตนภาวํ ปกาเสตฺวา อถ สมฺมุติเทเว อวเสสมนุสฺเส จ อุปาทาย อุกฺกฏฺปริจฺเฉทวเสน เสสสตฺตโลกสฺส อนฺโตพุทฺธาเณ ¶ ปริวตฺตนภาวํ ปกาเสนฺโต ‘‘สเทวมนุสฺสา’’ติ อาห. อยเมตฺถ อนุสนฺธิกฺกโม. โปราณา ปนาหุ ‘‘สเทวโกติ เทวตาหิ สทฺธึ อวเสสโลโก. สมารโกติ มาเรน สทฺธึ อวเสสโลโก. สพฺรหฺมโกติ พฺรหฺเมหิ สทฺธึ อวเสสโลโก. เอวํ สพฺเพปิ ติภวูปเค สตฺเต ตีหากาเรหิ ตีสุ ปเทสุ ปกฺขิปิตฺวา ปุน ทฺวีหากาเรหิ ปริยาทาตุํ ‘สสฺสมณพฺราหฺมณี ปชา สเทวมนุสฺสา’ติ วุตฺตํ. เอวํ ปฺจหิ ปเทหิ เตน เตน อากาเรน เตธาตุกเมว ปริยาทินฺนํ โหตี’’ติ.
อนฺตมโสติ อุปริมนฺเตน. ติมิติมิงฺคลนฺติ เอตฺถ ติมิ นาม เอกา มจฺฉชาติ, ติมึ คิลิตุํ สมตฺถา ตโต มหนฺตสรีรา ติมิงฺคลา นาม เอกา มจฺฉชาติ, ติมิงฺคลมฺปิ คิลิตุํ สมตฺถา ปฺจโยชนสติกสรีรา ติมิติมิงฺคลา นาม เอกา มจฺฉชาติ. อิธ ชาติคฺคหเณน เอกวจนํ ¶ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. ครุฬํ เวนเตยฺยนฺติ เอตฺถ ครุโฬติ ชาติวเสน นามํ. เวนเตยฺโยติ โคตฺตวเสน. ปเทเสติ เอกเทเส. สาริปุตฺตสมาติ สพฺพพุทฺธานํ ธมฺมเสนาปติตฺเถเร คเหตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เสสสาวกา หิ ปฺาย ธมฺมเสนาปติตฺเถเรน สมา นาม นตฺถิ. ยถาห – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ มหาปฺานํ ยทิทํ สาริปุตฺโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๘-๑๘๙). อฏฺกถายฺจ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๗๑; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๓.๕) วุตฺตํ –
‘‘โลกนาถํ เปตฺวาน, เย จฺเ สนฺติ ปาณิโน;
ปฺาย สาริปุตฺตสฺส, กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสิ’’นฺติ.
ผริตฺวาติ พุทฺธาณํ สพฺพเทวมนุสฺสานมฺปิ ปฺํ ปาปุณิตฺวา านโต เตสํ ปฺํ ผริตฺวา พฺยาปิตฺวา ติฏฺติ. อภิภวิตฺวาติ สพฺพเทวมนุสฺสานมฺปิ ปฺํ อติกฺกมิตฺวา, เตสํ อวิสยภูตมฺปิ สพฺพํ เนยฺยํ อภิภวิตฺวา ติฏฺตีติ อตฺโถ.
ปฏิสมฺภิทายํ ¶ (ปฏิ. ม. ๓.๕) ปน ‘‘อติฆํสิตฺวา’’ติ ปาโ, ฆํสิตฺวา ตุทิตฺวาติ อตฺโถ. เยปิ เตติอาทีหิ เอวํ ผริตฺวา อภิภวิตฺวา านสฺส ปจฺจกฺขการณํ ทสฺเสติ. ตตฺถ ปณฺฑิตาติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคตา ¶ . นิปุณาติ สณฺหสุขุมพุทฺธิโน สุขุเม อตฺถนฺตเร ปฏิวิชฺฌนสมตฺถา. กตปรปฺปวาทาติ วิฺาตปรปฺปวาทา เจว ปเรหิ สทฺธึ กตวาทปริจยา จ. วาลเวธิรูปาติ วาลเวธิธนุคฺคหสทิสา. โว ภินฺทนฺตา มฺเ จรนฺติ ปฺาคเตน ทิฏฺิคตานีติ วาลเวธี วิย วาลํ สุขุมานิปิ ปเรสํ ทิฏฺิคมนานิ อตฺตโน ปฺาคมเนน ภินฺทนฺตา วิย จรนฺตีติ อตฺโถ. อถ วา ‘‘คูถคตํ มุตฺตคต’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๙.๑๑) วิย ปฺา เอว ปฺาคตํ. ทิฏฺิโย เอว ทิฏฺิคตานิ. ปฺเห อภิสงฺขริตฺวา อภิสงฺขริตฺวาติ ทฺวิปทมฺปิ ติปทมฺปิ จตุปทมฺปิ ปุจฺฉํ รจยิตฺวา เตสํ ปฺหานํ อติพหุกตฺตา สพฺพสงฺคหตฺถํ ทฺวิกฺขตฺตุํ วุตฺตํ. คูฬฺหานิ จ ปฏิจฺฉนฺนานิ จ อตฺถชาตานีติ ปาเสโส. เตสํ ตถา วินยํ ทิสฺวา อตฺตนา อภิสงฺขตํ ปฺหํ ปุจฺฉนฺตีติ เอวํ ภควตา อธิปฺเปตตฺตา ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ. อฺเสํ ปน ปุจฺฉาย โอกาสเมว อทตฺวา ภควา อุปสงฺกมนฺตานํ ธมฺมํ เทเสติ. ยถาห –
‘‘เต ปฺหํ อภิสงฺขโรนฺติ ‘อิมํ มยํ ปฺหํ สมณํ โคตมํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิสฺสาม, สเจ โน สมโณ โคตโม เอวํ ปุฏฺโ เอวํ พฺยากริสฺสติ, เอวมสฺส มยํ วาทํ ¶ อาโรเปสฺสาม, เอวํ เจปิ โน ปุฏฺโ เอวํ พฺยากริสฺสติ, เอวมฺปิสฺส มยํ วาทํ อาโรเปสฺสามา’ติ. เต สุณนฺติ ‘สมโณ ขลุ โภ โคตโม อมุกํ นาม คามํ วา นิคมํ วา โอสโฏ’ติ. เต เยน สมโณ โคตโม เตนุปสงฺกมนฺติ. เต สมโณ โคตโม ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ. เต สมเณน โคตเมน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุตฺเตชิตา สมฺปหํสิตา น เจว สมณํ โคตมํ ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ, กุโตสฺส วาทํ อาโรเปสฺสนฺติ, อฺทตฺถุ สมณสฺเสว โคตมสฺส สาวกา สมฺปชฺชนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๙).
กสฺมา ปฺเห น ปุจฺฉนฺตีติ เจ? ภควา กิร ปริสมชฺเฌ ธมฺมํ เทเสนฺโต ปริสาย อชฺฌาสยํ โอโลเกติ, ตโต ปสฺสติ ‘‘อิเม ปณฺฑิตา คูฬฺหํ รหสฺสํ ปฺหํ โอวฏฺฏิกสารํ กตฺวา อาคตา’’ติ. โส เตหิ อปุฏฺโเยว ¶ ‘‘ปฺหปุจฺฉาย เอตฺตกา โทสา, วิสฺสชฺชเน เอตฺตกา, อตฺเถ, ปเท, อกฺขเร เอตฺตกาติ; อิมํ ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต เอวํ ปุจฺเฉยฺย, วิสฺสชฺเชนฺโต ¶ เอวํ วิสฺสชฺเชยฺยา’’ติ; อิติ โอวฏฺฏิกสารํ กตฺวา อานีเต ปฺเห ธมฺมกถาย อนฺตเร ปกฺขิปิตฺวา ทสฺเสติ. เต ปณฺฑิตา ‘‘เสยฺยา วต โน, เย มยํ อิเม ปฺเห น ปุจฺฉิมฺหา. สเจปิ มยํ ปุจฺเฉยฺยาม, อปฺปติฏฺิเต โน กตฺวา สมโณ โคตโม ขิเปยฺยา’’ติ อตฺตมนา ภวนฺติ.
อปิ จ พุทฺธา นาม ธมฺมํ เทเสนฺตา ปริสํ เมตฺตาย ผรนฺติ. เมตฺตาผรเณน ทสพเลสุ มหาชนสฺส จิตฺตํ ปสีทติ. พุทฺธา นาม รูปคฺคปฺปตฺตา โหนฺติ ทสฺสนสมฺปนฺนา มธุรสฺสรา มุทุชิวฺหา สุผุสิตทนฺตาวรณา, อมเตน หทยํ สิฺจนฺตา วิย ธมฺมํ กเถนฺติ. ตตฺร เนสํ เมตฺตาผรเณน ปสนฺนจิตฺตานํ เอวํ โหติ – ‘‘เอวรูปํ อทฺเวชฺฌกถํ อโมฆกถํ นิยฺยานิกกถํ กเถนฺเตน ภควตา สทฺธึ น สกฺขิสฺสาม ปจฺจนีกคฺคาหํ คณฺหิตุ’’นฺติ อตฺตโน ปสนฺนภาเวเนว ปฺเห น ปุจฺฉนฺตีติ.
กถิตา วิสฺสชฺชิตา วาติ ‘‘เอวํ ตุมฺเห ปุจฺฉถา’’ติ อปุจฺฉิตปฺหานํ อุจฺจารเณน เต ปฺหา ภควตา กถิตา เอว โหนฺติ. ยถา จ เต วิสฺสชฺเชตพฺพา, ตถา วิสฺสชฺชิตา เอว โหนฺติ. นิทฺทิฏฺการณาติ อิมินา การเณน อิมินา เหตุนา เอวํ โหนฺตีติ เอวํ สเหตุกํ กตฺวา วิสฺสชฺชเนน ภควตา นิทฺทิฏฺการณา เอว โหนฺติ เต ปฺหา. อุปกฺขิตฺตกา จ เต ภควโต สมฺปชฺชนฺตีติ ขตฺติยปณฺฑิตาทโย ภควโต ปฺหวิสฺสชฺชเนเนว ภควโต สมีเป ขิตฺตกา ปกฺขิตฺตกา สมฺปชฺชนฺติ; สาวกา วา สมฺปชฺชนฺติ, อุปาสกา วาติ อตฺโถ; สาวกสมฺปตฺตึ วา ¶ ปาปุณนฺติ, อุปาสกสมฺปตฺตึ วาติ วุตฺตํ โหติ. อถาติ อนนฺตรตฺเถ, เตสํ อุปกฺขิตฺตกสมฺปตฺติสมนนฺตรเมวาติ อตฺโถ. ตตฺถาติ ตสฺมึ าเน, ตสฺมึ อธิกาเร วา. อติโรจตีติ อติวิย โชตติ ปกาสติ. ยทิทํ ปฺายาติ ยายํ ภควโต ปฺา, ตาย ปฺาย ภควาว อติโรจตีติ อตฺโถ. อิติ-สทฺโท การณตฺโถ, อิมินา การเณนาติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมวาติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย
ปสูรสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. มาคณฺฑิยสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๗๐. นวเม ¶ ¶ ¶ มาคณฺฑิยสุตฺตนิทฺเทเส ปมคาถาย ตาว อชปาลนิคฺโรธมูเล นานารูปานิ นิมฺมินิตฺวา อภิกามํ อาคตํ มารธีตรํ ทิสฺวาน ตณฺหํ อรตึ รคฺจ ฉนฺทมตฺตมฺปิ เมถุนสฺมึ นาโหสิ, กิเมวิทํ อิมิสฺสา ทาริกาย มุตฺตกรีสปุณฺณํ รูปํ ทิสฺวา ภวิสฺสติ, สพฺพถา ปาทาปิ นํ สมฺผุสิตุํ น อิจฺเฉ, กุโตเนน สํวสิตุนฺติ.
มุตฺตปุณฺณนฺติ อาหารอุตุวเสน วตฺถิปุฏนฺตรํ ปูเรตฺวา ิตมุตฺเตน ปูริตํ. กรีสปุณฺณนฺติ ปกฺกาสยสงฺขาเต เหฏฺานาภิปิฏฺิกณฺฏกมูลานํ อนฺตเร อุพฺเพเธน อฏฺงฺคุลมตฺเต อนฺตาวสาเน ิตวจฺเจน ปุณฺณํ. เสมฺหปุณฺณนฺติ อุทรปฏเล ิตเอกปตฺตปฺปมาเณน เสมฺเหน ปูริตํ. รุหิรปุณฺณนฺติ ยกนสฺส เหฏฺาภาคํ ปูเรตฺวา หทยวกฺกปปฺผาสานํ อุปริ โถกํ โถกํ ปคฺฆรนฺเตน วกฺกหทยยกนปปฺผาเส เตมยมาเนน ิเตน เอกปตฺตสฺส ปูรณมตฺเตน สนฺนิจิตโลหิตสงฺขาเตน จ เกสโลมนขทนฺตานํ มํสวินิมุตฺตฏฺานฺเจว ถทฺธสุกฺขจมฺมฺจ เปตฺวา ธมนีชาลานุสาเรน สพฺพํ อุปาทิณฺณกสรีรํ ผริตฺวา ิตสํสรณโลหิตสงฺขาเตน จ ทุวิเธน รุหิเรน ปุณฺณํ.
อฏฺิสงฺฆาตนฺติ สกลสรีเร เหฏฺา อฏฺีนํ อุปริฏฺิตานิ สาธิกานิ ตีณิ อฏฺิสตานิ, เตหิ อฏฺีหิ ฆฏิตํ. นฺหารุสมฺพนฺธนฺติ สกลสรีเร อฏฺีนิ อาพนฺธิตฺวา ิตานิ นว นฺหารุสตานิ, เตหิ นฺหารูหิ สมฺพนฺธํ อาพนฺธํ. รุธิรมํสาวเลปนนฺติ สํสรณโลหิเตน จ สาธิกานิ ตีณิ อฏฺิสตานิ อนุลิมฺเปตฺวา ิเตน นวมํสเปสิสเตน จ อนุลิตฺตํ สรีรํ. จมฺมวินทฺธนฺติ สกลสรีรํ ปริโยนนฺธิตฺวา ปากฏกิโลมกสฺส อุปริ ฉวิยา เหฏฺา ¶ ิตํ จมฺมํ, เตน จมฺเมน วินทฺธํ ปริโยนทฺธํ. ‘‘จมฺมาวนทฺธ’’นฺติปิ ปาฬิ. ฉวิยา ปฏิจฺฉนฺนนฺติ อติสุขุมฉวิยา ปฏิจฺฉนฺนํ ฉาเทตฺวา ิตํ. ฉิทฺทาวฉิทฺทนฺติ อเนกฉิทฺทํ. อุคฺฆรนฺตนฺติ อกฺขิมุขาทีหิ อุคฺฆรนฺตํ. ปคฺฆรนฺตนฺติ อโธภาเคน ปคฺฆรนฺตํ. กิมิสงฺฆนิเสวิตนฺติ สูจิมุขาทีหิ ¶ นานาปาณกุลสมูเหหิ อาเสวิตํ. นานากลิมลปริปูรนฺติ อเนกวิเธหิ อสุจิโกฏฺาเสหิ ปูริตํ.
๗๑. ตโต ¶ มาคณฺฑิโย ‘‘ปพฺพชิตา นาม มานุสเก กาเม ปหาย ทิพฺพกามตฺถาย ปพฺพชนฺติ, อยฺจ ทิพฺเพปิ กาเม น อิจฺฉติ, อิทมฺปิ อิตฺถิรตนํ, กา นุ อสฺส ทิฏฺี’’ติ ปุจฺฉิตุํ ทุติยํ คาถมาห. ตตฺถ เอตาทิสํ เจ รตนนฺติ ทิพฺพิตฺถิรตนํ สนฺธาย ภณติ. นารินฺติ อตฺตโน ธีตรํ สนฺธาย. ทิฏฺิคตํ สีลวตํ นุ ชีวิตนฺติ ทิฏฺิฺจ สีลฺจ วตฺจ ชีวิตฺจ. ภวูปปตฺติฺจ วเทสิ กีทิสนฺติ อตฺตโน ภวูปปตฺตึ วา ตุวํ กีทิสํ วเทสิ.
๗๒. อิโต ปรา ทฺเว คาถา วิสฺสชฺชนปุจฺฉานเยน ปวตฺตตฺตา ปากฏสมฺพนฺธาเยว. ตาสุ ปมคาถาย สงฺเขปตฺโถ – ตสฺส มยฺหํ มาคณฺฑิย ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตธมฺเมสุ นิจฺฉินิตฺวา ‘‘อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๒๗, ๓๐๑) เอวํ อิทํ วทามีติ สมุคฺคหีตํ น โหติ นตฺถิ น วิชฺชติ, กึ การณา? อหฺหิ ปสฺสนฺโต ทิฏฺีสุ อาทีนวํ กฺจิ ทิฏฺึ อคฺคเหตฺวา สจฺจานิ ปวิจินนฺโต อชฺฌตฺตํ ราคาทีนํ สนฺติภาเวน อชฺฌตฺตสนฺติสงฺขาตํ นิพฺพานเมว อทฺทสนฺติ.
อาทีนวนฺติ อุปทฺทวํ. สทุกฺขนฺติ กายิกทุกฺเขน สทุกฺขํ. สวิฆาตนฺติ เจตสิกทุกฺเขน สหิตํ. สอุปายาสนฺติ อุปายาสสหิตํ. สปริฬาหนฺติ สทรถํ. น นิพฺพิทายาติ น วฏฺเฏ นิพฺพินฺทนตฺถาย. น วิราคายาติ น วฏฺเฏ วิราคตฺถาย. น นิโรธายาติ น วฏฺฏสฺส นิโรธตฺถาย. น อุปสมายาติ น วฏฺฏสฺส อุปสมตฺถาย. น อภิฺายาติ น วฏฺฏสฺส อภิชานนตฺถาย. น สมฺโพธายาติ น กิเลสนิทฺทาวิคเมน วฏฺฏโต สมฺพุชฺฌนตฺถาย ¶ . น นิพฺพานายาติ น อมตนิพฺพานตฺถาย. เอตฺถ ปน ‘‘นิพฺพิทายา’’ติ วิปสฺสนา. ‘‘วิราคายา’’ติ มคฺโค. ‘‘นิโรธาย อุปสมายา’’ติ นิพฺพานํ. ‘‘อภิฺาย สมฺโพธายา’’ติ มคฺโค. ‘‘นิพฺพานายา’’ติ นิพฺพานเมว. เอวํ เอกสฺมึ าเน วิปสฺสนา, ตีสุ มคฺโค, ตีสุ นิพฺพานํ วุตฺตนฺติ เอวํ ววตฺถานกถา เวทิตพฺพา. ปริยาเยน ปน สพฺพานิเปตานิ มคฺคเววจนานิปิ นิพฺพานเววจนานิปิ โหนฺติเยว.
อชฺฌตฺตํ ราคสฺส สนฺตินฺติ อชฺฌตฺตราคสฺส สนฺตภาเวน นิพฺพุตภาเวน อชฺฌตฺตสนฺติสงฺขาตํ นิพฺพานํ โอโลเกสึ. โทสสฺส สนฺตินฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ปจินนฺติ นิทฺเทสสฺส อุทฺเทสปทํ. วิจินนฺโตติ สจฺจานิ วฑฺเฒนฺโต วิภาเวนฺโต. ปวิจินนฺโตติ ตาเนว ปจฺเจกํ วิภาเวนฺโต ¶ . เกจิ ¶ ‘‘คเวสนฺโต’’ติ วณฺณยนฺติ. อทสฺสนฺติ โอโลเกสึ. อทกฺขินฺติ วินิวิชฺฌึ. อผสฺสินฺติ ปฺาย ผุสึ. ปฏิวิชฺฌินฺติ าเณน ปจฺจกฺขํ อกาสึ.
๗๓. ทุติยคาถาย สงฺเขปตฺโถ – ยานิมานิ ทิฏฺิคตานิ เตหิ เตหิ สตฺเตหิ วินิจฺฉินิตฺวา คหิตตฺตา ‘‘วินิจฺฉยา’’ติ จ อตฺตโน ปจฺจเยหิ อภิสงฺขตภาวาทินา นเยน ‘‘ปกปฺปิตานี’’ติ จ วุจฺจนฺติ, เต เว มุนี ทิฏฺิคตธมฺเม อคฺคเหตฺวา อชฺฌตฺตสนฺตีติ ยเมตมตฺถํ พฺรูสิ, อาจิกฺข เม, กถํ นุ ธีเรหิ ปเวทิตํ ตํ กถํ ปกาสิตํ ธีเรหีติ วทติ.
อิมิสฺสา คาถาย นิทฺเทโส อุตฺตานตฺโถ เปตฺวา ปรมตฺถปทํ. ตตฺถ ยํ ปรมตฺถนฺติ ยํ อุตฺตมํ นิพฺพานํ.
๗๔. อถสฺส ภควา ยถา เยน อุปาเยน ตํ ปทํ ธีเรหิ ปกาสิตํ, ตํ อุปายํ สปฏิปกฺขํ ทสฺเสนฺโต ‘‘น ทิฏฺิยา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ น ทิฏฺิยาติอาทีหิ ทิฏฺิสุติอฏฺสมาปตฺติาณพาหิรสีลพฺพตานิ ปฏิกฺขิปติ. ‘‘สุทฺธิมาหา’’ติ เอตฺถ วุตฺตํ อาห-สทฺทํ สพฺพตฺถ นกาเรน สทฺธึ โยเชตฺวา ปุริมปทตฺตยํ เนตฺวา ‘‘ทิฏฺิยา สุทฺธึ นาห ¶ น กเถมี’’ติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยถา เจตฺถ, เอวํ อุตฺตรปเทสุปิ. ตตฺถ จ อทิฏฺิยา นาหาติ ทสวตฺถุกํ สมฺมาทิฏฺึ วินา น กเถมิ. ตถา อสฺสุติยาติ นวงฺคํ สวนํ วินา. อาณาติ กมฺมสฺสกตสจฺจานุโลมิกาณํ วินา. อสีลตาติ ปาติโมกฺขสํวรํ วินา. อพฺพตาติ ธุตงฺควตํ วินา. โนปิ เตนาติ เตสุ เอกเมเกน ทิฏฺิอาทิมตฺเตนาปิ น กเถมีติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอเต จ นิสฺสชฺช อนุคฺคหายาติ เอเต จ ปุริมทิฏฺิอาทิเภเท กณฺหปกฺขิเก ธมฺเม สมุคฺฆาตกรเณน นิสฺสชฺช, ปจฺฉิเม อทิฏฺิอาทิเภเท สุกฺกปกฺขิเกปิ อตมฺมยตาปชฺชเนน อนุคฺคหาย. สนฺโต อนิสฺสาย ภวํ น ชปฺเปติ อิมาย ปฏิปตฺติยา ราคาทิวูปสเมน สนฺโต จกฺขาทีสุ กฺจิ ธมฺมํ อนิสฺสาย เอกมฺปิ ภวํ น ชปฺเป, อปิเหตุํ อปตฺเถตุํ สมตฺโถ สิยา, อยมสฺส อชฺฌตฺตสนฺตีติ อธิปฺปาโย.
สวนมฺปิ อิจฺฉิตพฺพนฺติ สุตฺตาทิวเสน สุณนมฺปิ อากงฺขิตพฺพํ. สมฺภารา อิเม ธมฺมาติ สมฺมาทิฏฺิอาทิกา อิเม ธมฺมา อุปการฏฺเน สมฺภารา โหนฺติ ¶ . กณฺหปกฺขิกานนฺติ อกุสลปกฺเข ภวานํ. สมุคฺฆาตโต ปหานํ อิจฺฉิตพฺพนฺติ สมฺมา หนนโต สมุจฺเฉทโต ปหานํ อากงฺขิตพฺพํ. เตธาตุเกสุ กุสเลสุ ธมฺเมสูติ กามรูปารูปสงฺขาเตสุ เตภูมเกสุ โกสลฺลสมฺภูเตสุ. อตมฺมยตาติ นิตฺตณฺหภาโว.
๗๕. เอวํ ¶ วุตฺเต วจนตฺถํ อสลฺลกฺเขนฺโต มาคณฺฑิโย ‘‘โน เจ กิรา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ ทิฏฺาทีนิ วุตฺตนยาเนว. กณฺหปกฺขิกานิเยว ปน สนฺธาย อุภยตฺราปิ อาห. อาห-สทฺทํ ปน ‘‘โน เจ’’ติ สทฺเทน โยเชตฺวา โน เจ กิร อาห โน เจ กิร กเถสีติ เอวํ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. โมมูหนฺติ อติมูฬฺหํ, โมหนํ วา. ปจฺเจนฺตีติ ชานนฺติ. อิมิสฺสาปิ คาถาย นิทฺเทโส อุตฺตาโน.
๗๖. อถสฺส ¶ ภควา ตํ ทิฏฺึ นิสฺสาย ปุจฺฉํ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘ทิฏฺิฺจ นิสฺสายา’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ตฺวํ มาคณฺฑิย ทิฏฺึ นิสฺสาย ปุนปฺปุนํ ปุจฺฉมาโน ยานิ เต ทิฏฺิคตานิ สมุคฺคหิตานิ, เตสฺเวว สมุคฺคหีเตสุ ปโมหํ อาคโต ตฺวํ อิโต จ มยา วุตฺตอชฺฌตฺตสนฺติโต ปฏิปตฺติโต ธมฺมเทสนโต วา อณุมฺปิ ยุตฺตสฺํ น ปสฺสสิ, เตน การเณน ตฺวํ อิมํ ธมฺมํ โมมูหโต ปสฺสสีติ.
ลคฺคนํ นิสฺสาย ลคฺคนนฺติ ทิฏฺิลคฺคนํ อลฺลียิตฺวา ทิฏฺิลคฺคนํ. พนฺธนนฺติ ทิฏฺิพนฺธนํ. ปลิโพธนฺติ ทิฏฺิปลิโพธํ.
อนฺธการํ ปกฺขนฺโทสีติ พหลนฺธการํ ปวิฏฺโสิ. ยุตฺตสฺนฺติ สมณธมฺเม ยุตฺตสฺํ. ปตฺตสฺนฺติ สมณธมฺเม ปฏิลทฺธสฺํ. ลคฺคนสฺนฺติ สฺชานิตสฺํ. การณสฺนฺติ เหตุสฺํ. านสฺนฺติ การณสฺํ. น ปฏิลภสีติ น วินฺทสิ. กุโต าณนฺติ มคฺคาณํ ปน เกน การเณน ลภิสฺสสิ. อนิจฺจํ วาติ หุตฺวา อภาวฏฺเน ปฺจกฺขนฺธา อนิจฺจํ. อนิจฺจสฺานุโลมํ วาติ ‘‘ปฺจกฺขนฺธา อนิจฺจา’’ติ อุปฺปนฺนา สฺา อนิจฺจสฺา, ตาย สฺาย อนุโลมํ อปฺปฏิกฺกูลํ อนิจฺจสฺานุโลมํ. กึ ตํ? วิปสฺสนาาณํ. ทฺวินฺนํ วิปสฺสนาาณานํ ทุกฺขานตฺตสฺานุโลมานมฺปิ เอเสว นโย.
๗๗. เอวํ สมุคฺคหิเตสุ ปโมเหน มาคณฺฑิยสฺส วิวาทาปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตสุ อฺเสุ จ ธมฺเมสุ วิคตปฺปโมหสฺส อตฺตโน นิพฺพิวาทตํ ¶ ทสฺเสนฺโต ‘‘สโม วิเสสี’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – โย เอวํ ติธา มาเนน วา ทิฏฺิยา วา ปุคฺคเลน วา มฺติ, โส เตน มาเนน ตาย วา ทิฏฺิยา เตน วา ปุคฺคเลน วิวเทยฺย. โย ปน อมฺหาทิโส อิมาสุ ตีสุ วิธาสุ อวิกมฺปมาโน, สโม วิเสสีติ น ตสฺส โหติ, น จ หีโนติ ปาเสโส. อิมิสฺสาปิ คาถาย นิทฺเทโส อุตฺตาโนว.
๗๘. กิฺจ ¶ ภิยฺโย – ‘‘สจฺจนฺติ โส’’ติ คาถา. ตสฺสตฺโถ – โส เอวรูโป ปหีนมานทิฏฺิโก ‘‘มาทิโส ‘พาหิตปาปตฺตา’ทินา นเยน พฺราหฺมโณ, อิทเมว สจฺจ’’นฺติ กึ วเทยฺย กึ วตฺถุํ ภเณยฺย, เกน ¶ วา การเณน ภเณยฺย, ‘‘มยฺหํ สจฺจํ, ตุยฺหํ มุสา’’ติ วา เกน มาเนน ทิฏฺิยา ปุคฺคเลน วา วิวเทยฺย. ยสฺมึ มาทิเส ขีณาสเว ‘‘สทิโสหมสฺมี’’ติ ปวตฺติยา สมํ วา, อิตรทฺวยภาเวน ปวตฺติยา วิสมํ วา มฺิตํ นตฺถิ, สมานาทีสุ เกน วาทํ ปฏิสํยุเชยฺย ปฏิปฺผเรยฺยาติ. อิมิสฺสาปิ คาถาย นิทฺเทโส อุตฺตาโน.
๗๙. นนุ เอกํเสเนว เอวรูโป ปุคฺคโล? ‘‘โอกํ ปหายา’’ติ คาถา. ตตฺถ โอกํ ปหายาติ รูปธาตฺวาทิวิฺาณสฺโสกาสํ ตตฺร ฉนฺทราคปฺปหาเนน ฉฑฺเฑตฺวา. อนิเกตสารีติ รูปนิมิตฺตนิเกตาทีนิ ตณฺหาวเสน อสรนฺโต. คาเม อกุพฺพํ มุนิ สนฺถวานีติ คาเม คิหิสนฺถวานิ อกโรนฺโต. กาเมหิ ริตฺโตติ กาเมสุ ฉนฺทราคาภาเวน สพฺพกาเมหิ ปุถุภูโต. อปุรกฺขราโนติ อายตึ อตฺตภาวํ อนภินิพฺพตฺเตนฺโต. กถํ น วิคฺคยฺห ชเนน กยิราติ ชเนน สทฺธึ วิคฺคาหิกกถํ น กเถยฺย.
หาลิทฺทกานีติ เอวํนามโก คหปติ. เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมีติ เยนาติ ภุมฺมตฺเถ กรณวจนํ. ตสฺมา ยตฺถ มหากจฺจาโน, ตตฺถ อุปสงฺกมีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เยน วา การเณน มหากจฺจาโน เทวมนุสฺเสหิ อุปสงฺกมิตพฺโพ, เตน การเณน อุปสงฺกมีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เกน จ การเณน ¶ มหากจฺจาโน อุปสงฺกมิตพฺโพ? นานปฺปการคุณวิเสสาธิคมาธิปฺปาเยน, สาทุผลูปโภคาธิปฺปาเยน ทิชคเณหิ นิจฺจผลิตมหารุกฺโข วิย. อุปสงฺกมีติ จ คโตติ วุตฺตํ โหติ. อุปสงฺกมิตฺวาติ อุปสงฺกมนปริโยสานทีปนํ. อถ วา เอวํ คโต ตโต อาสนฺนตรํ านํ มหากจฺจานสฺส สมีปสงฺขาตํ คนฺตฺวาติปิ วุตฺตํ โหติ.
อภิวาเทตฺวาติ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา. อิทานิ เยนตฺเถน มหากจฺจานสฺส อุปฏฺานํ อาคโต, ตํ ปุจฺฉิตุกาโม ทสนขสโมธานสมุชฺชลํ อฺชลึ สิรสิ ปติฏฺาเปตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส ¶ ‘‘วิสมํ จนฺทิมสูริยา ปริวตฺตนฺตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๗) วิย. ตสฺมา ยถา นิสินฺโน เอกมนฺตํ นิสินฺโน โหติ, เอวํ นิสีทีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ภุมฺมตฺเถ วา เอตํ อุปโยควจนํ. นิสีทีติ นิสชฺชํ กปฺเปสิ. ปณฺฑิตา หิ เทวมนุสฺสา ครุฏฺานิยํ อุปสงฺกมิตฺวา อาสนกุสลตาย เอกมนฺตํ นิสีทนฺติ. อยฺจ คหปติ เตสํ อฺตโร, ตสฺมา เอกมนฺตํ นิสีทิ.
กถํ ¶ นิสินฺโน จ ปน เอกมนฺตํ นิสินฺโน โหตีติ? ฉ นิสชฺชโทเส วชฺเชตฺวา. เสยฺยถิทํ? อติทูรํ อจฺจาสนฺนํ อุปริวาตํ อุนฺนตปฺปเทสํ อติสมฺมุขํ อติปจฺฉาติ. อติทูเร นิสินฺโน หิ สเจ กเถตุกาโม โหติ, อุจฺจาสทฺเทน กเถตพฺพํ โหติ. อจฺจาสนฺเน นิสินฺโน สงฺฆฏฺฏนํ กโรติ. อุปริวาเต นิสินฺโน สรีรคนฺเธน พาธติ. อุนฺนตปฺปเทเส นิสินฺโน อคารวํ ปกาเสติ. อติสมฺมุขา นิสินฺโน สเจ ทฏฺุกาโม โหติ, จกฺขุนา จกฺขุํ อาหจฺจ ทฏฺพฺพํ โหติ. อติปจฺฉา นิสินฺโน สเจ ทฏฺุกาโม โหติ, คีวํ ปสาเรตฺวา ทฏฺพฺพํ โหติ. ตสฺมา อยมฺปิ เอเต ฉ นิสชฺชโทเส วชฺเชตฺวา นิสีทิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เอกมนฺตํ นิสีที’’ติ.
เอตทโวจาติ เอตํ อโวจ. วุตฺตมิทํ ภนฺเต กจฺจาน ภควตา อฏฺกวคฺคิเย มาคณฺฑิยปฺเหติ อฏฺกวคฺคิยมฺหิ มาคณฺฑิยปฺโห นาม อตฺถิ, ตสฺมึ ปฺเห.
รูปธาตูติ รูปกฺขนฺโธ อธิปฺเปโต. รูปธาตุราควินิพนฺธนฺติ รูปธาตุมฺหิ ราเคน วินิพทฺธํ. วิฺาณนฺติ กมฺมวิฺาณํ. โอกสารีติ เคหสารี อาลยสารี. กสฺมา ปเนตฺถ ‘‘วิฺาณธาตุ โข คหปตี’’ติ น วุตฺตนฺติ? สมฺโมหวิฆาตตฺถํ. ‘‘โอโก’’ติ หิ อตฺถโต ปจฺจโย วุจฺจติ, ปุเรชาตฺจ ¶ กมฺมวิฺาณํ ปจฺฉาชาตสฺส กมฺมวิฺาณสฺสปิ วิปากวิฺาณสฺสปิ, วิปากวิฺาณฺจ วิปากวิฺาณสฺสปิ กมฺมวิฺาณสฺสปิ ปจฺจโย โหติ, ตสฺมา ‘‘กตรํ นุ โข อิธ วิฺาณ’’นฺติ สมฺโมโห ภเวยฺย. ตสฺส วิฆาตตฺถํ ตํ อคฺคเหตฺวา อสมฺภินฺนาว เทสนา กตาติ. อปิจ วิปากอารมฺมณวเสน จตสฺโส อภิสงฺขารวิฺาณฏฺิติโยติ วุตฺตาติ ตา ทสฺเสตุมฺปิ อิธ วิฺาณํ น คหิตํ.
อุปยุปาทานาติ ¶ ตณฺหูปยทิฏฺูปยวเสน ทฺเว อุปยา, กามุปาทานาทีนิ จตฺตาริ อุปาทานานิ จ. เจตโส อธิฏฺานาภินิเวสานุสยาติ อกุสลจิตฺตสฺส อธิฏฺานภูตา เจว อภินิเวสภูตา จ อนุสยภูตา จ. ตถาคตสฺสาติ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. สพฺเพสมฺปิ หิ ขีณาสวานํ เอเต ปหีนาว, สตฺถุ ปน ขีณาสวภาโว โลเก อติปากโฏติ อุปริมโกฏิยา เอวํ วุตฺตํ. วิฺาณธาตุยาติ อิธ วิฺาณํ กสฺมา คหิตํ? กิเลสปฺปหานทสฺสนตฺถํ. กิเลสา หิ น เกวลํ จตูสุเยว ขนฺเธสุ ปหีนา ปหียนฺติ, ปฺจสุปิ ปหียนฺติเยวาติ กิเลสปฺปหานทสฺสนตฺถํ คหิตํ. เอวํ โข คหปติ อโนกสารี โหตีติ เอวํ กมฺมวิฺาเณน โอกํ อสรนฺเตน อโนกสารี นาม โหติ.
รูปนิมิตฺตนิเกตวิสารวินิพนฺธาติ รูปเมว กิเลสานํ ปจฺจยฏฺเน นิมิตฺตํ, อารมฺมณกิริยสงฺขาเตน ¶ นิวาสฏฺเน นิเกตนฺติ รูปนิมิตฺตนิเกตํ. วิสาโร จ วินิพนฺโธ จ วิสารวินิพนฺธา. อุภเยนปิ หิ กิเลสานํ ปตฺถฏภาโว จ วินิพนฺธนภาโว จ วุตฺโต, รูปนิมิตฺตนิเกเต วิสารวินิพนฺธาติ รูปนิมิตฺตนิเกตวิสารวินิพนฺธา, ตสฺมา รูปนิมิตฺตนิเกตมฺหิ อุปฺปนฺเนน กิเลสวิสาเรน เจว กิเลสวินิพนฺธเนน จาติ อตฺโถ. นิเกตสารีติ วุจฺจตีติ อารมฺมณกรณวเสน นิวาสฏฺานฏฺเน นิเกตสารีติ วุจฺจติ. ปหีนาติ เต รูปนิมิตฺตนิเกเต กิเลสวิสารวินิพนฺธา ปหีนา.
กสฺมา ปเนตฺถ ปฺจกฺขนฺธา จ ‘‘โอกา’’ติ วุตฺตา, ฉ อารมฺมณานิ ‘‘นิเกต’’นฺติ? ฉนฺทราคสฺส พลวทุพฺพลตาย. สมาเนปิ หิ เอเตสํ อาลยฏฺเน วิสยภาเว โอโกติ นิปฺปริยาเยน สุทฺธํ เคหเมว วุจฺจติ, นิเกตนฺติ ¶ ‘‘อชฺช อสุกฏฺาเน กีฬิสฺสามา’’ติ กตสงฺเกตานํ นิวาสนฏฺานํ อุยฺยานาทิ. ตตฺถ ยถา ปุตฺตทารธนธฺปุณฺณเคเห ฉนฺทราโค พลวา โหติ, เอวํ อชฺฌตฺติเกสุ ขนฺเธสุ. ยถา ปน อุยฺยานฏฺานาทีสุ ตโต ทุพฺพลตโร โหติ, เอวํ พาหิเรสุ ¶ ฉสุ อารมฺมเณสูติ ฉนฺทราคสฺส พลวทุพฺพลตาย เอวํ เทสนา กตาติ เวทิตพฺพา.
สุขิเตสุ สุขิโตติ อุปฏฺาเกสุ ธนธฺลาภาทิวเสน สุขิเตสุ ‘‘อิทานาหํ มนาปํ จีวรํ มนาปํ โภชนํ ลภิสฺสามี’’ติ เคหสฺสิตสุเขน สุขิโต โหติ, เตหิ ปตฺตสมฺปตฺตึ อตฺตนา อนุภวมาโน วิย จรติ. ทุกฺขิเตสุ ทุกฺขิโตติ เตสํ เกนจิเทว การเณน ทุกฺเข อุปฺปนฺเน สยํ ทฺวิคุเณน ทุกฺเขน ทุกฺขิโต โหติ. กิจฺจกรณีเยสูติ กิจฺจสงฺขาเตสุ กรณีเยสุ. โวโยคํ อาปชฺชตีติ อุปโยคํ สยํ เตสํ กิจฺจานํ กตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ.
กาเมสูติ วตฺถุกาเมสุ. เอวํ โข คหปติ กาเมหิ อริตฺโต โหตีติ เอวํ กิเลสกาเมหิ อริตฺโต โหติ.
อนฺโต กามานํ ภาเวน อตุจฺโฉ. สุกฺกปกฺโข เตสํ อภาเวน ริตฺโต ตุจฺโฉติ เวทิตพฺโพ.
ปุรกฺขราโนติ วฏฺฏํ ปุรโต กุรุมาโน. เอวํรูโป สิยนฺติอาทีสุ ทีฆรสฺสกาโฬทาตาทีสุ รูเปสุ เอวํรูโป นาม ภเวยฺยนฺติ ปตฺเถติ. สุขาทีสุ เวทนาสุ เอวํเวทโน นาม. นีลสฺาทีสุ สฺาสุ เอวํสฺโ นาม. ปฺุาภิสงฺขาราทีสุ สงฺขาเรสุ เอวํสงฺขาโร นาม. จกฺขุวิฺาณาทีสุ วิฺาเณสุ เอวํวิฺาโณ นาม ภเวยฺยนฺติ ปตฺเถติ.
อปุรกฺขราโนติ ¶ วฏฺฏํ ปุรโต อกุรุมาโน. สหิตํ เม, อสหิตํ เตติ ตุยฺหํ วจนํ อสหิตํ อสิลิฏฺํ, มยฺหํ สหิตํ สิลิฏฺํ มธุรํ มธุรปานสทิสํ. อธิจิณฺณํ เต วิปราวตฺตนฺติ ยํ ตุยฺหํ ทีเฆน กาเลน ปริจิตํ สุปฺปคุณํ, ตํ มม วาทํ อาคมฺม สพฺพํ ขเณน วิปราวตฺตํ นิวตฺตํ. อาโรปิโต เต วาโทติ ตุยฺหํ โทโส มยา อาโรปิโต. จร วาทปฺปโมกฺขายาติ ตํ ตํ อาจริยํ อุปสงฺกมิตฺวา อุตฺตรํ ปริเยสนฺโต อิมสฺส วาทสฺส โมกฺขาย จร อาหิณฺฑ. นิพฺเพเหิ วา สเจ ปโหสีติ อถ สยเมว ปโหสิ, อิเธว นิพฺเพเหีติ.
๘๐. โส ¶ เอวรูโป ‘‘เยหิ วิวิตฺโต’’ติ คาถา. ตตฺถ เยหีติ เยหิ ทิฏฺิคตาทีหิ. วิวิตฺโต วิจเรยฺยาติ ริตฺโต จเรยฺย. น ตานิ ¶ อุคฺคยฺห วเทยฺย นาโคติ ‘‘อาคุํ น กโรตี’’ติอาทินา (จูฬนิ. ภทฺราวุธมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๗๐; ปารายนานุคีตินิทฺเทส ๑๐๒) นเยน นาโค ตานิ ทิฏฺิคตานิ อุคฺคเหตฺวา น จเรยฺย. เอลมฺพุชนฺติ เอลสฺิเต อมฺพุมฺหิ ชาตํ กณฺฏกนาฬํ วาริชํ, ปทุมนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยถา ชเลน ปงฺเกน จนูปลิตฺตนฺติ ตํ ปทุมํ ยถา ชเลน จ ปงฺเกน จ อนุปลิตฺตํ โหติ. เอวํ มุนิ สนฺติวาโท อคิทฺโธติ เอวํ อชฺฌตฺตสนฺติวาโท มุนิ เคธาภาเวน อคิทฺโธ. กาเม จ โลเก จ อนูปลิตฺโตติ ทุวิเธปิ กาเม อปายาทิเก จ โลเก ทฺวีหิ สิเลเสหิ อนุปลิตฺโต โหติ.
อาคุํ น กโรตีติ อกุสลาทิโทสํ น กโรติ. น คจฺฉตีติ อคติวเสน น คจฺฉติ. นาคจฺฉตีติ ปหีนกิเลเส น อุเปติ. ปาปกาติ ลามกา. อกุสลาติ อโกสลฺลสมฺภูตา. เต กิเลเส น ปุเนตีติ เย กิเลสา ปหีนา, เต กิเลเส ปุน น เอติ. น ปจฺเจตีติ ปฏิ น อุเปติ. น ปจฺจาคจฺฉตีติ ปุน น นิวตฺตติ.
ขรทณฺโฑติ ขรปตฺตทณฺโฑ ผรุสทณฺโฑ. จตฺตเคโธติ วิสฺสฏฺเคโธ. วนฺตเคโธติ วมิตเคโธ. มุตฺตเคโธติ ฉินฺนพนฺธนเคโธ. ปหีนเคโธติ ปชหิตเคโธ. ปฏินิสฺสฏฺเคโธติ ยถา น ปุน จิตฺตํ อารุหติ, เอวํ ปฏิวิสฺสชฺชิตเคโธ. อุปริ วีตราคาทีสุปิ เอเสว นโย. สพฺพาเนว ตานิ คหิตคฺคหณสฺส วิสฺสฏฺภาวเววจนานิ.
๘๑. กิฺจ ภิยฺโย – ‘‘น เวทคู’’ติ คาถา. ตตฺถ น เวทคู ทิฏฺิยายโกติ จตุมคฺคเวทคู มาทิโส ทิฏฺิยายโก น โหติ, ทิฏฺิยา คจฺฉนฺโต วา, ตํ สารโต ปจฺเจนฺโต วา น โหติ. ตตฺถ วจนตฺโถ – ยายตีติ ยายโก. กรณวจเนน ทิฏฺิยา ยายตีติ ทิฏฺิยายโก. อุปโยคตฺเถ สามิวจเนนปิ ทิฏฺิยา ยาตีติปิ ทิฏฺิยายโก. น มุติยา ส มานเมตีติ ¶ มุตรูปาทิเภทาย มุติยาปิ โส มานํ น เอติ. น หิ ตมฺมโย โสติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน ตมฺมโย โหติ ตปฺปรายโณ, อยํ ปน น ตาทิโส. น กมฺมุนา โนปิ ¶ สุเตน เนยฺโยติ ปฺุาภิสงฺขาราทินา กมฺมุนา วา, สุตสุทฺธิอาทินา สุเตน วา ¶ โส เนตพฺโพ น โหติ. อนูปนีโต ส นิเวสเนสูติ โส ทฺวินฺนมฺปิ อุปยานํ ปหีนตฺตา สพฺเพสุ ตณฺหาทิฏฺินิเวสเนสุ อนุปนีโต.
มุตรูเปน วาติ เอตฺถ มุตรูปํ นาม คนฺธรสโผฏฺพฺพานิ. มานํ เนตีติ อสฺมิมานํ น เอติ. น อุเปตีติ สมีปํ น เอติ. น อุปคจฺฉตีติ อุปคนฺตฺวา น ติฏฺติ. ตมฺมโยติ ตปฺปกโต.
๘๒. ตสฺส จ เอวํวิธสฺส ‘‘สฺาวิรตฺตสฺสา’’ติ คาถา. ตตฺถ สฺาวิรตฺตสฺสาติ เนกฺขมฺมสฺาปุพฺพงฺคมาย ภาวนาย ปหีนกามาทิสฺสฺส. อิมินา ปเทน อุภโตภาควิมุตฺโต สมถยานิโก อธิปฺเปโต. ปฺาวิมุตฺตสฺสาติ วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมาย ภาวนาย สพฺพกิเลเสหิ วิมุตฺตสฺส. อิมินา สุกฺขวิปสฺสโก อธิปฺเปโต. สฺฺจ ทิฏฺิฺจ เย อคฺคเหสุํ, เต ฆฏฺฏมานา วิจรนฺติ โลเกติ เย ปน กามสฺาทิกํ สฺํ อคฺคเหสุํ, เต วิเสสโต คหฏฺา กามาธิกรณํ, เย จ ทิฏฺึ อคฺคเหสุํ, เต วิเสสโต ปพฺพชิตา ธมฺมาธิกรณํ อฺมฺํ ฆฏฺเฏนฺตา วิจรนฺตีติ.
โย สมถปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวตีติ โย ปุคฺคโล สมถปุพฺพงฺคมํ ปุเรจาริกํ กตฺวา สหวิปสฺสนํ อริยมคฺคํ ภาเวติ, ปมํ สมาธึ อุปฺปาเทตฺวา ปจฺฉา สหวิปสฺสนํ อริยมคฺคํ อุปฺปาเทตีติ อตฺโถ. ตสฺส อาทิโตติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส ปมชฺฌานาทิโต. อุปาทายาติ ปฏิจฺจ อาคมฺม. คนฺถา วิกฺขมฺภีตา โหนฺตีติ คนฺถา ทูรีกตา ภวนฺติ. อรหตฺเต ปตฺเตติ อรหตฺตผลํ ปตฺเต. อรหโตติ อรหตฺตผเล ิตสฺส. คนฺถา จ โมหา จาติอาทโย สพฺเพ กิเลสา ปหีนา โหนฺติ.
โย วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวตีติ โย ปุคฺคโล วิปสฺสนํ ปุพฺพงฺคมํ ปุเรจาริกํ กตฺวา อริยมคฺคํ ภาเวติ, ปมํ วิปสฺสนํ อุปฺปาเทตฺวา ปจฺฉา อริยมคฺคสมฺปยุตฺตํ สมาธึ ภาเวตีติ อตฺโถ. ตสฺส อาทิโต อุปาทายาติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส วิปสฺสนโต ปฏฺาย วิปสฺสนํ ¶ ปฏิจฺจ. โมหา วิกฺขมฺภิตา โหนฺตีติ เอตฺถ วิกฺขมฺภิตาติ ทูรํ ปาปิตา สฺาวเสน. ฆฏฺเฏนฺตีติ เย กามสฺาทึ คณฺหนฺติ, เต สฺาวเสน ปีเฬนฺติ. สงฺฆฏฺเฏนฺตีติ ตโต ตโต ปีเฬนฺติ ¶ . อิทานิ ฆฏฺเฏนฺเต ทสฺเสตุํ ‘‘ราชาโนปิ ¶ ราชูหิ วิวทนฺตี’’ติอาทินา นเยน วิตฺถาโร วุตฺโต. อฺมฺํ ปาณีหิปิ อุปกฺกมนฺตีติ เอตฺถ อฺมฺํ หตฺเถหิ ปหรนฺติ. เลฑฺฑูหีติ กปาลขณฺเฑหิ. ทณฺเฑหีติ อฑฺฒทณฺฑเกหิ. สตฺเถหีติ อุภโตธาเรหิ สตฺเถหิ.
อภิสงฺขารานํ อปฺปหีนตฺตาติ ปฺุาทิอภิสงฺขารานํ อปฺปหีนภาเวน. คติยา ฆฏฺเฏนฺตีติ คนฺตพฺพาย ปติฏฺาภูตาย คติยา ปีเฬนฺติ ฆฏฺฏนํ อาปชฺชนฺติ. นิรยาทีสุปิ เอเสว นโย. เสสเมตฺถ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมว.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย
มาคณฺฑิยสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ปุราเภทสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๘๓. ทสเม ¶ ¶ ปุราเภทสุตฺตนิทฺเทเส กถํทสฺสีติ อิมสฺส สุตฺตสฺส อิโต ปเรสฺจ ปฺจนฺนํ กลหวิวาทจูฬพฺยูหมหาพฺยูหตุวฏกอตฺตทณฺฑสุตฺตานํ สมฺมาปริพฺพาชนียสุตฺตวณฺณนายํ (สุ. นิ. อฏฺ. ๒.๓๖๒ อาทโย) วุตฺตนเยเนว สามฺโต อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา. วิเสสโต ปน ยเถว ตสฺมึ มหาสมเย ราคจริตเทวตานํ สปฺปายวเสน ธมฺมํ เทเสตุํ นิมฺมิตพุทฺเธน อตฺตานํ ปุจฺฉาเปตฺวา สมฺมาปริพฺพาชนียสุตฺตนฺต- (สุ. นิ. ๓๖๑ อาทโย) มภาสิ, เอวํ ตสฺมึเยว มหาสมเย ‘‘กึ นุ โข ปุรา สรีรเภทา กตฺตพฺพ’’นฺติ อุปฺปนฺนจิตฺตานํ เทวตานํ จิตฺตํ ตฺวา ตาสํ อนุคฺคหตฺถํ อฑฺฒเตฬสภิกฺขุสตปริวารํ นิมฺมิตพุทฺธํ อากาเสน อาเนตฺวา เตน อตฺตานํ ปุจฺฉาเปตฺวา อิมํ สุตฺตมภาสิ.
กถํ? พุทฺธา นาม มหนฺตา เอเต สตฺตวิเสสา, ยํ สเทวกสฺส โลกสฺส ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา น กิฺจิ กตฺถจิ นีลาทิวเสน วิภตฺตรูปารมฺมเณสุ วิภตฺตรูปารมฺมณํ วา, เภริสทฺทาทิวเสน วิภตฺตสทฺทารมฺมณาทีสุ สทฺทาทิอารมฺมณํ วา อตฺถิ, ยํ เอเตสํ าณมุเข อาปาถํ นาคจฺฉติ. ยถาห – ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, สเทวกสฺส โลกสฺส…เป… สเทวมนุสฺสาย ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ ¶ มนสา, ตมหํ ชานามิ ตมหํ อพฺภฺาสิ’’นฺติ (อ. นิ. ๔.๒๔). เอวํ สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตาโณ ภควา สพฺพาปิ ตา เทวตา ภพฺพาภพฺพวเสน ทฺเว โกฏฺาเส อกาสิ. ‘‘กมฺมาวรเณน วา สมนฺนาคตา’’ติอาทินา (ปุ. ป. ๑๒) หิ นเยน วุตฺตา สตฺตา อภพฺพา นาม. เต เอกวิหาเร วสนฺเตปิ พุทฺธา น โอโลเกนฺติ. วิปรีตา ปน ภพฺพา นาม. เต ทูเร วสนฺเตปิ คนฺตฺวา สงฺคณฺหนฺติ. ตสฺมึ เทวตาสนฺนิปาเต เย อภพฺพา, เต ¶ ปหาย ภพฺเพ ปริคฺคเหสิ. ปริคฺคเหตฺวา ‘‘เอตฺตกา เอตฺถ ราคจริตา, เอตฺตกา โทสาทิจริตา’’ติ จริยวเสน ฉ โกฏฺาเส อกาสิ. อถ เนสํ สปฺปายธมฺมเทสนํ อุปธาเรนฺโต ‘‘ราคจริตานํ เทวานํ สมฺมาปริพฺพาชนียสุตฺตํ (สุ. นิ. ๓๖๑ อาทโย) กเถสฺสามิ, โทสจริตานํ กลหวิวาทสุตฺตํ ¶ (สุ. นิ. ๘๖๘ อาทโย), โมหจริตานํ มหาพฺยูหสุตฺตํ (สุ. นิ. ๙๐๑ อาทโย), วิตกฺกจริตานํ จูฬพฺยูหสุตฺตํ (สุ. นิ. ๘๘๔ อาทโย), สทฺธาจริตานํ ตุวฏกสุตฺตํ (สุ. นิ. ๙๒๑ อาทโย), พุทฺธิจริตานํ ปุราเภทสุตฺตํ (สุ. นิ. ๘๕๔ อาทโย) กเถสฺสามี’’ติ เทสนํ ววตฺถาเปตฺวา ปุน ตํ ปริสํ มนสากาสิ ‘‘อตฺตชฺฌาสเยน นุ โข ชาเนยฺย, ปรชฺฌาสเยน, อฏฺุปฺปตฺติเกน, ปุจฺฉาวเสนา’’ติ. ตโต ‘‘ปุจฺฉาวเสน ชาเนยฺยา’’ติ ตฺวา ‘‘อตฺถิ นุ โข โกจิ เทวตานํ อชฺฌาสยํ คเหตฺวา จริยวเสน ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ สมตฺโถ’’ติ ‘‘เตสุ ปฺจสเตสุ ภิกฺขูสุ เอโกปิ น สกฺโกตี’’ติ อทฺทส. ตโต อสีติมหาสาวเก, ทฺเว อคฺคสาวเก จ สมนฺนาหริตฺวา ‘‘เตปิ น สกฺโกนฺตี’’ติ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘สเจ ปจฺเจกพุทฺโธ ภเวยฺย, สกฺกุเณยฺย นุ โข’’ติ. ‘‘โสปิ น สกฺกุเณยฺโย’’ติ ตฺวา ‘‘สกฺกสุยามาทีสุ โกจิ สกฺกุเณยฺยา’’ติ สมนฺนาหริ. สเจ หิ เตสุ โกจิ สกฺกุเณยฺย, ตํ ปุจฺฉาเปตฺวา อตฺตนา วิสฺสชฺเชยฺย. น ปน เตสุปิ โกจิ สกฺโกติ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มาทิโส พุทฺโธเยว สกฺกุเณยฺย, อตฺถิ ปน กตฺถจิ อฺโ พุทฺโธ’’ติ อนนฺตาสุ โลกธาตูสุ อนนฺตาณํ ปตฺถริตฺวา โลกํ โอโลเกนฺโต น อฺํ พุทฺธํ อทฺทส. อนจฺฉริยฺเจตํ, อิทานิ อตฺตนา สมํ น ปสฺเสยฺย, โย ชาตทิวเสปิ พฺรหฺมชาลวณฺณนายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๗) วุตฺตนเยน อตฺตนา สมํ อปสฺสนฺโต ‘‘อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺสา’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๑) อปฺปฏิวตฺติยํ สีหนาทํ นทิ. เอวํ อฺํ อตฺตนา สมํ อปสฺสิตฺวา จินฺเตสิ ‘‘สเจ ¶ อหํ ปุจฺฉิตฺวา อหเมว วิสฺสชฺเชยฺยํ, เอวํ ตา เทวตา น สกฺขิสฺสนฺติ ปฏิวิชฺฌิตุํ. อฺสฺมึ ปน พุทฺเธเยว ปุจฺฉนฺเต มยิ จ วิสฺสชฺชนฺเต อจฺเฉรกํ ภวิสฺสติ, สกฺขิสฺสนฺติ จ เทวตา ปฏิวิชฺฌิตุํ, ตสฺมา นิมฺมิตพุทฺธํ มาเปสฺสามี’’ติ อภิฺาปาทกํ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘ปตฺตจีวรคฺคหณํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิฺชิตํ ปสาริตฺจ มม สทิสํเยว โหตู’’ติ กามาวจรจิตฺเตหิ ปริกมฺมํ กตฺวา ¶ ‘‘ปาจีนยุคนฺธรปริกฺเขปโต อุลฺลงฺฆยมานํ จนฺทมณฺฑลํ ภินฺทิตฺวา นิกฺขมนฺโต วิย อาคจฺฉตู’’ติ รูปาวจรจิตฺเตน อธิฏฺาสิ. เทวสงฺโฆ ตํ ทิสฺวา ‘‘อฺโปิ นุ โข โภ, จนฺโท อุคฺคโต’’ติ อาห. อถ จนฺทํ โอหาย อาสนฺนตเร ชาเต ‘‘น จนฺโท, สูริโย อุคฺคโต’’ติ. ปุน อาสนฺนตเร ชาเต ‘‘น สูริโย, เทววิมานํ เอต’’นฺติ. ปุน อาสนฺนตเร ชาเต ‘‘น เทววิมานํ, เทวปุตฺโต เอโส’’ติ. ปุน อาสนฺนตเร ชาเต ‘‘น เทวปุตฺโต, มหาพฺรหฺมา เอโส’’ติ. ปุน อาสนฺนตเร ชาเต ‘‘น มหาพฺรหฺมา, อปโรปิ โภ พุทฺโธ อาคโต’’ติ อาห.
ตตฺถ ปุถุชฺชนเทวตา จินฺตยึสุ – ‘‘เอกพุทฺธสฺส ตาว อยํ เทวตาสนฺนิปาโต. ทฺวินฺนํ กีวมหนฺโต ภวิสฺสตี’’ติ. อริยเทวตา จินฺตยึสุ – ‘‘เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว พุทฺธา นาม ¶ นตฺถิ, อทฺธา ภควา อตฺตนา สทิสํ อฺํ เอกํ พุทฺธํ นิมฺมินี’’ติ. อถสฺส เทวสงฺฆสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว นิมฺมิตพุทฺโธ อาคนฺตฺวา ทสพลํ อวนฺทิตฺวาว สมฺมุขฏฺาเน สมสมํ กตฺวา มาปิเต อาสเน นิสีทิ. ภควโต พาตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ, นิมฺมิตสฺสาปิ, ภควโต สรีรา ฉพฺพณฺณรสฺมิโย นิกฺขมนฺติ, นิมฺมิตสฺสาปิ, ภควโต สรีรรสฺมิโย นิมฺมิตสรีเร ปฏิหฺนฺติ, นิมฺมิตสฺส รสฺมิโย ภควโต กาเย ปฏิหฺนฺติ. ตา ทฺวินฺนมฺปิ พุทฺธานํ สรีรโต อุคฺคมฺม ภวคฺคํ อาหจฺจ ตโต ตโต ปฏินิวตฺติตฺวา เทวตานํ มตฺถกมตฺถกปริยนฺเตน โอตริตฺวา จกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ ปติฏฺหึสุ. สกลจกฺกวาฬคพฺภํ สุวณฺณมยวงฺกโคปานสิวินทฺธมิว เจติยฆรํ วิโรจิตฺถ. ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตา เอกจกฺกวาเฬ ราสิภูตา ทฺวินฺนํ พุทฺธานํ รสฺมิอพฺภนฺตรํ ปวิสิตฺวา อฏฺํสุ. นิมฺมิโต นิสีทนฺโตเยว ‘‘กถํทสฺสี กถํสีโล, อุปสนฺโตติ วุจฺจตี’’ติอาทินา นเยน อธิปฺาทิกํ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห.
ตตฺถ ปุจฺฉาย ตาว โส นิมฺมิโต กถํทสฺสีติ อธิปฺํ, กถํสีโลติ อธิสีลํ, อุปสนฺโตติ อธิจิตฺตํ ปุจฺฉติ. เสสํ ปากฏเมว.
นิมฺมิตพุทฺธาทิวิภาวนตฺถํ ¶ ¶ เปฏเก –
‘‘อุเปติ ธมฺมํ ปริปุจฺฉมาโน, กุสลํ อตฺถุปสฺหิตํ;
น ชีวติ น นิพฺพุโต น มโต, ตํ ปุคฺคลํ กตมํ วทนฺติ พุทฺธา. (ปริ. ๔๗๙);
‘‘สํสารขีโณ น จ วนฺตราโค, น จาปิ เสกฺโข น จ ทิฏฺธมฺโม;
อขีณาสโว อนฺติมเทหธารี, ตํ ปุคฺคลํ กตมํ วทนฺติ พุทฺธา.
‘‘น ทุกฺขสจฺเจน สมงฺคิภูโต, น มคฺคสจฺเจน กุโต นิโรโธ;
สมุทยสจฺจโต สุวิทูรวิทูโร, ตํ ปุคฺคลํ กตมํ วทนฺติ พุทฺธา.
‘‘อเหตุโก โนปิ จ รูปนิสฺสิโต, อปจฺจโย โนปิ จ โส อสงฺขโต;
อสงฺขตารมฺมโณ โนปิ จ รูปี, ตํ ปุคฺคลํ กตมํ วทนฺติ พุทฺธา’’ติ. –
วุตฺตํ.
ตตฺถ ¶ ปมคาถา นิมฺมิตพุทฺธํ สนฺธาย, ทุติยคาถา ปจฺฉิมภวิกโพธิสตฺตํ สนฺธาย, ตติยคาถา อรหตฺตผลฏฺํ สนฺธาย, จตุตฺถคาถา อรูเป นิพฺพานปจฺจเวกฺขณมโนทฺวารปุเรจาริกจิตฺตสมงฺคึ สนฺธาย วุตฺตาติ าตพฺพา. กีทิเสน ทสฺสเนนาติ กีทิสวเสน ทสฺสเนน. กึสณฺิเตนาติ กึสริกฺเขน. กึปกาเรนาติ กึวิเธน. กึปฏิภาเคนาติ กึอากาเรน.
ยํ ปุจฺฉามีติ ยํ ปุคฺคลํ ปุจฺฉามิ, ตํ มยฺหํ วิยากโรหิ. ยาจามีติ อายาจามิ. อชฺเฌสามีติ อาณาเปมิ. ปสาเทมีติ ตว สนฺตาเน โสมนสฺสํ อุปฺปาเทมิ. พฺรูหีติ นิทฺเทสสฺส อุทฺเทสปทํ. อาจิกฺขาติ เทเสตพฺพานํ ‘‘อิมานิ นามานี’’ติ นามวเสน กเถหิ. เทเสหีติ ทสฺเสหิ ¶ . ปฺเปหีติ ชานาเปหิ. าณมุขวเสน หิ อปฺปนํ เปนฺโต ‘‘ปฺเปหี’’ติ ¶ วุจฺจติ. ปฏฺเปหีติ ปฺาเปหิ, ปวตฺตาเปหีติ อตฺโถ. าณมุเข เปหีติ วา. วิวราติ วิวฏํ กโรหิ, วิวริตฺวา ทสฺเสหีติ อตฺโถ. วิภชาติ วิภาคกิริยาย วิภาเวนฺโต ทสฺเสหีติ อตฺโถ. อุตฺตานีกโรหีติ ปากฏภาวํ กโรหิ.
อถ วา อาจิกฺขาติ เทสนาทีนํ ฉนฺนํ ปทานํ มูลปทํ. เทสนาทีนิ ฉ ปทานิ เอตสฺส อตฺถสฺส วิวรณตฺถํ วุตฺตานิ. ตตฺถ เทเสหีติ อุคฺฆฏิตฺูนํ วเสน สงฺเขปโต ปมํ อุทฺเทสวเสน เทเสหิ. อุคฺฆฏิตฺู หิ สงฺเขเปน วุตฺตํ ปมํ วุตฺตฺจ ปฏิวิชฺฌนฺติ. ปฺเปหีติ วิปฺจิตฺูนํ วเสน เตสํ จิตฺตโตสเนน พุทฺธินิสาเนน จ ปมํ สํขิตฺตสฺส วิตฺถารโต นิทฺเทสวเสเนว ปฺเปหิ. ปฏฺเปหีติ เตสํเยว นิทฺทิฏฺสฺส นิทฺเทสสฺส ปฏินิทฺเทสวเสน วิตฺถาริตวเสน เปติ ปฏฺเปหิ. วิวราติ นิทฺทิฏฺสฺสปิ ปุนปฺปุนํ วจเนน วิวราหิ. วิภชาติ ปุนปฺปุนํ วุตฺตสฺสาปิ วิภาคกรเณน วิภชาหิ. อุตฺตานีกโรหีติ วิวฏสฺส วิตฺถารตรวจเนน วิภตฺตสฺส จ นิทสฺสนวจเนน อุตฺตานึ กโรหิ. อยํ เทสนา เนยฺยานมฺปิ ปฏิเวธาย โหตีติ.
๘๔. วิสฺสชฺชเน ปน ภควา สรูเปน อธิปฺาทีนิ อวิสฺสชฺเชตฺวาว อธิปฺาทิปฺปภาเวน เยสํ กิเลสานํ อุปสมา ‘‘อุปสนฺโต’’ติ วุจฺจติ, นานาเทวตานํ อาสยานุโลเมน เตสํ อุปสมเมว ทีเปนฺโต ‘‘วีตตณฺโห’’ติอาทิกา คาถาโย อภาสิ. ตตฺถ อาทิโต อฏฺนฺนํ คาถานํ ‘‘ตํ พฺรูมิ อุปสนฺโต’’ติ อิมาย คาถาย สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ, ตโต ปราสํ ‘‘ส เว สนฺโตติ วุจฺจตี’’ติ อิมินา สพฺพปจฺฉิเมน ปเทน.
อนุปทวณฺณนานโย – วีตตณฺโห ปุราเภทาติ โย สรีรเภทา ปุพฺพเมว ปหีนตณฺโห. ปุพฺพมนฺตมนิสฺสิโตติ ¶ อตีตทฺธาทิเภทํ ปุพฺพอนฺตํ อนิสฺสิโต. เวมชฺเฌ นุปสงฺเขยฺโยติ ปจฺจุปฺปนฺเนปิ อทฺธนิ ‘‘รตฺโต’’ติอาทินา นเยน น อุปสงฺขาตพฺโพ ¶ . ตสฺส นตฺถิ ปุรกฺขตนฺติ ตสฺส อรหโต ทฺวินฺนํ ปุเรกฺขารานํ อภาวา อนาคเต อทฺธนิ ปุรกฺขตมปิ นตฺถิ, ตํ พฺรูมิ อุปสนฺโตติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา. เอส นโย สพฺพตฺถ.
ปุรา กายสฺส เภทาติ กรชกายสฺส เภทโต ปุพฺเพเยว. อตฺตภาวสฺสาติ สกลตฺตภาวสฺส. กเฬวรสฺส นิกฺเขปาติ กเฬวรสฺส นิกฺเขปโต ¶ สรีรสฺส ปนโต. ชีวิตินฺทฺริยสฺส อุปจฺเฉทาติ ทุวิธสฺส ชีวิตินฺทฺริยสฺส อุปจฺเฉทโต ปุพฺพเมว.
ปุพฺพนฺโต วุจฺจติ อตีโต อทฺธาติ ปุพฺพสงฺขาโต อนฺโต โกฏฺาโส ‘‘อตีโต อทฺธาติ, อติกฺกนฺโต กาโล’’ติ กถียติ. อตีตํ อทฺธานํ อารพฺภาติ อตีตกาลํ ปฏิจฺจ ตณฺหา ปหีนา.
อปรมฺปิ ภทฺเทกรตฺตปริยายํ (ม. นิ. ๓.๒๗๒ อาทโย) ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เอวํรูโป อโหสินฺติ กาโฬปิ สมาโน อินฺทนีลมณิวณฺโณ อโหสินฺติ เอวํ มนฺุรูปวเสเนว เอวํรูโป อโหสึ. กุสลสุขโสมนสฺสเวทนาวเสเนว เอวํเวทโน. ตํ สมฺปยุตฺตานํเยว สฺาทีนํ วเสน เอวํสฺโ. เอวํสงฺขาโร. เอวํวิฺาโณ อโหสึ อตีตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทึ น สมนฺนาเนตีติ เตสุ รูปาทีสุ ตณฺหํ วา ตณฺหาสมฺปยุตฺตทิฏฺึ วา นานุปวตฺตยติ. อปเรน ปริยาเยน มหากจฺจานภทฺเทกรตฺตปริยายํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ วา อิติ เม จกฺขุ อโหสี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จกฺขูติ จกฺขุปสาโท. รูปาติ จตุสมุฏฺานิกรูปา. อิมินา นเยน เสสายตนานิปิ เวทิตพฺพานิ. วิฺาณนฺติ นิสฺสยวิฺาณํ. น ตทภินนฺทตีติ ตํ จกฺขฺุเจว รูปฺจ ตณฺหาทิฏฺิวเสน นาภินนฺทติ. อิติ เม มโน อโหสิ อิติ ธมฺมาติ เอตฺถ ปน มโนติ ภวงฺคจิตฺตํ. ธมฺมาติ เตภูมกธมฺมารมฺมณํ. หสิตลปิตกีฬิตานีติ ทนฺตวิทํสกหสิตฺจ วาจาลปิตฺจ กายกีฬาทิกีฬิตฺจาติ หสิตลปิตกีฬิตานิ. น ตทสฺสาเทตีติ ตานิ หสิตาทีนิ นาภินนฺทติ. น ตํ นิกาเมตีติ กนฺตํ น กโรติ. น จ เตน วิตฺตึ อาปชฺชตีติ เตน จ ตุฏฺึ น ปาปุณาติ.
ตํ ¶ ตํ ปจฺจยํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺโนติ ปจฺจุปฺปนฺโน. รตฺโตติ นุปสงฺเขยฺโยติ ราเคน รตฺโตติ คณนํ น อุปเนตพฺโพ. อุปริปิ เอเสว นโย. เอวรูโป สิยนฺติอาทีสุ ปณีตมนฺุรูปาทิวเสเนว ¶ ตณฺหาทิฏฺิปวตฺตนสงฺขาตา นนฺที สมนฺนานยนา เวทิตพฺพา. น ปณิทหตีติ ปตฺถนาวเสน น เปติ. อปฺปณิธานปจฺจยาติ น ปตฺถนาปนการเณน.
๘๕. อสนฺตาสีติ เตน เตน อลาภโต อสนฺตสนฺโต. อวิกตฺถีติ สีลาทีหิ อวิกตฺถนสีโล. อกุกฺกุโจติ หตฺถกุกฺกุจฺจาทิวิรหิโต. มนฺตภาณีติ มนฺตาย ปริคฺคเหตฺวา วาจํ ภาสิตา. อนุทฺธโตติ ¶ อุทฺธจฺจวิรหิโต. ส เว วาจายโตติ โส วาจาย ยโต สํยโต จตุโทสวิรหิตํ วาจํ ภาสิตา โหติ.
อกฺโกธโนติ ยฺหิ โข วุตฺตนฺติ ‘‘น โกธโน อโกธโน โกธวิรหิโต’’ติ ยํ กถิตํ, ตํ ปมํ ตาว โกธํ กเถตุกาโม ‘‘อปิจ โกโธ ตาว วตฺตพฺโพ’’ติ อาห. โกโธ ตาว วตฺตพฺโพติ ปมํ โกโธ กเถตพฺโพ. ทสหากาเรหิ โกโธ ชายตีติ ทสหิ การเณหิ โกโธ อุปฺปชฺชติ. อนตฺถํ เม อจรีติ อวฑฺฒึ เม อกาสิ, อิมินา อุปาเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อฏฺาเน วา ปน โกโธ ชายตีติ อการเณ โกโธ อุปฺปชฺชติ. เอกจฺโจ หิ ‘‘เทโว อติวสฺสตี’’ติ กุปฺปติ, ‘‘น วสฺสตี’’ติ กุปฺปติ, ‘‘สูริโย ตปฺปตี’’ติ กุปฺปติ, ‘‘น ตปฺปตี’’ติ กุปฺปติ, วาเต วายนฺเตปิ กุปฺปติ, อวายนฺเตปิ กุปฺปติ, สมฺมชฺชิตุํ อสกฺโกนฺโต โพธิปณฺณานํ กุปฺปติ, จีวรํ ปารุปิตุํ อสกฺโกนฺโต วาตสฺส กุปฺปติ, อุปกฺขลิตฺวา ขาณุกสฺส กุปฺปติ. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อฏฺาเน วา ปน โกโธ ชายตี’’ติ. ตตฺถ เหฏฺา นวสุ าเนสุ สตฺเต อารพฺภ อุปฺปนฺนตฺตา กมฺมปถเภโท โหติ.
อฏฺานฆาโต ปน สงฺขาเรสุ อุปฺปนฺโน กมฺมปถเภทํ น กโรติ. จิตฺตํ อาฆาเตนฺโต อุปฺปนฺโนติ จิตฺตสฺส อาฆาโต. ตโต พลวตโร ปฏิฆาโต. ปฏิหฺนวเสน ปฏิฆํ. ปฏิวิรุชฺฌตีติ ปฏิวิโรโธ. กุปฺปนวเสน โกโป. ปโกโป สมฺปโกโปติ อุปสคฺควเสน ปทํ วฑฺฒิตํ. ทุสฺสนวเสน โทโส. ปโทโส สมฺปโทโสติ อุปสคฺควเสน ปทํ วฑฺฒิตํ. จิตฺตสฺส ¶ พฺยาปตฺตีติ จิตฺตสฺส วิปนฺนตา วิปริวตฺตนากาโร. มนํ ปทูสยมาโน อุปฺปชฺชตีติ มโนปโทโส. กุชฺฌนวเสน โกโธ. กุชฺฌนากาโร กุชฺฌนา. กุชฺฌิตสฺส ภาโว กุชฺฌิตตฺตํ. ทุสฺสตีติ โทโส. ทุสฺสนาติ ทุสฺสนากาโร. ทุสฺสิตตฺตนฺติ ทุสฺสิตภาโว. ปกติภาววิชหนฏฺเน พฺยาปชฺชนํ พฺยาปตฺติ. พฺยาปชฺชนาติ พฺยาปชฺชนากาโร. วิรุชฺฌตีติ วิโรโธ. ปุนปฺปุนํ วิรุชฺฌตีติ ปฏิวิโรโธ. วิรุทฺธาการปฏิวิรุทฺธาการวเสน วา อิทํ วุตฺตํ. จณฺฑิโก วุจฺจติ จณฺโฑ, ถทฺธปุคฺคโล, ตสฺส ภาโว จณฺฑิกฺกํ. น เอเตน สุโรปิตํ วจนํ โหติ, ทุรุตฺตํ อปริปุณฺณเมว โหตีติ อสุโรโป. กุทฺธกาเล หิ ¶ ปริปุณฺณวจนํ นาม นตฺถิ, สเจปิ กสฺสจิ ¶ โหติ, ตํ อปฺปมาณํ. อปเร ปน ‘‘อสฺสุชนนฏฺเน อสฺสุโรปนโต อสฺสุโรโป’’ติ วทนฺติ, ตํ อการณํ โสมนสฺสสฺสาปิ อสฺสุชนนโต. เหฏฺาวุตฺตอตฺตมนตาปฏิปกฺขโต น อตฺตมนตาติ อนตฺตมนตา. สา ปน ยสฺมา จิตฺตสฺเสว, น สตฺตสฺส, ตสฺมา ‘‘จิตฺตสฺสา’’ติ วุตฺตํ.
อธิมตฺตปริตฺตตา เวทิตพฺพาติ อธิมตฺตภาโว ปริตฺตภาโว จ, พลวภาโว มนฺทภาโวติ อตฺโถ. กฺจิ กาเลติ เอกทา. ‘‘กฺจิ กาล’’นฺติปิ ปาโ. จิตฺตาวิลกรณมตฺโต โหตีติ จิตฺตสฺส อาวิลกรณปฺปมาโณ, จิตฺตกิลิฏฺกรณปฺปมาโณติ อตฺโถ. ‘‘จิตฺตาลสกรณมตฺโต’’ติปิ ปาโ, ตํ น สุนฺทรํ. ตสฺส จิตฺตกิลมถกรณมตฺโตติ อตฺโถ. น จ ตาว มุขกุลานวิกุลาโน โหตีติ มุขสฺส สงฺโกจนวิสงฺโกจโน น จ ตาว โหติ. น จ ตาว หนุสฺโจปโน โหตีติ ทฺวินฺนํ หนูนํ อปราปรํ จลโน น จ ตาว โหติ. น จ ตาว ผรุสวาจํ นิจฺฉารโณ โหตีติ ปเรสํ มมฺมจฺเฉทกํ ผรุสวาจํ มุขโต นีหรเณน พหิ นิกฺขมโน น จ ตาว โหติ. น จ ตาว ทิสาวิทิสานุวิโลกโน โหตีติ ปรสฺส อพฺภุกฺกิรณตฺถํ ทณฺฑาทิอตฺถาย ทิสฺจ อนุทิสฺจ ปุนปฺปุนํ วิโลกโน น จ ตาว โหติ.
น จ ตาว ทณฺฑสตฺถปรามสโน โหตีติ อาฆาตนตฺถํ ทณฺฑฺจ เอกโตธาราทิสตฺถฺจ อาทิยโน น จ ตาว โหติ. น จ ตาว ทณฺฑสตฺถอพฺภุกฺกิรโณ โหตีติ วุตฺตปฺปการํ ทณฺฑสตฺถํ อุกฺขิปิตฺวา ปหรโณ น จ ตาว โหติ. น จ ตาว ¶ ทณฺฑสตฺถอภินิปาตโน โหตีติ เอตํ ทุวิธํ ปรสฺส ปหรณตฺถํ น จ ตาว ขิปโน โหติ. น จ ตาว ฉินฺนวิจฺฉินฺนกรโณ โหตีติ ทณฺฑสตฺถาทิขิปเนน ปรสรีรํ ทฺวิธากรโณ จ วิวิธากาเรน วณกรโณ จ น ตาว โหติ. ‘‘ฉิทฺทวิจฺฉิทฺทกรโณ’’ติปิ ปาโ. น จ ตาว สมฺภฺชนปลิภฺชโน โหตีติ สรีรํ ภฺชิตฺวา จุณฺณวิจุณฺณกรโณ น จ ตาว โหติ. น จ ตาว องฺคมงฺคอปกฑฺฒโน โหตีติ องฺคปจฺจงฺคํ สมฺปคฺคเหตฺวา อปเนตฺวา กฑฺฒโน น จ ตาว โหติ. น จ ตาว ชีวิตา โวโรปโน โหตีติ ชีวิตินฺทฺริยโต โวโรปโน น จ ตาว โหติ. น จ ตาว สพฺพจาคปริจฺจาคาย สณฺิโต โหตีติ สพฺพํ ปรสฺส ¶ ชีวิตํ นาเสตฺวา อตฺตโน ชีวิตนาสนตฺถาย สณฺิโต น จ ตาว โหติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยทา อฺํ ชีวิตา โวโรเปตฺวา อตฺตานํ ชีวิตา โวโรปนตฺถาย ิโต, ตทา สพฺพจาคปริจฺจาคา นาม โหติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –
‘‘โกธํ ¶ เฉตฺวา สุขํ เสติ, โกธํ เฉตฺวา น โสจติ;
โกธสฺส วิสมูลสฺส, มธุรคฺคสฺส พฺราหฺมณ;
วธํ อริยา ปสํสนฺติ, ตฺหิ เฉตฺวา น โสจตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๘๗, ๒๖๗);
ยโตติ ยทา. ปรปุคฺคลํ ฆาเฏตฺวาติ ปรปุคฺคลํ นาเสตฺวา. อตฺตานํ ฆาเฏตีติ อตฺตานํ มาเรติ. ปรมุสฺสทคโตติ อติพลวภาวํ คโต. ปรมเวปุลฺลปฺปตฺโตติ อติวิปุลภาวํ ปตฺโต. โกธสฺส ปหีนตฺตาติ อนาคามิมคฺเคน วุตฺตปฺปการสฺส โกธสฺส ปหีนภาเวน. โกธวตฺถุสฺส ปริฺาตตฺตาติ โกธสฺส ปติฏฺาภูตสฺส การณภูตสฺส ปิยาปิยอฏฺานสงฺขาตสฺส วตฺถุสฺส าตตีรณปริฺาหิ พฺยาเปตฺวา าตภาเวน. โกธเหตุสฺส อุปจฺฉินฺนตฺตาติ โกธสฺส ชนกเหตุโน โทมนสฺสสหคตจิตฺตุปฺปาทสฺส อุจฺฉินฺนภาเวน.
ตาสีติ ภายนสีโล โหติ. อุตฺตาสีติ อติภายนสีโล. ปริตฺตาสีติ สมนฺตโต ภายนสีโล. ภายตีติ ภยํ อุปฺปชฺชติ. สนฺตาสํ อาปชฺชตีติ วิรูปภาวํ ปาปุณาติ. กตฺถี ¶ โหตีติ อตฺตโน วณฺณภณนสีโล โหติ. วิกตฺถีติ วิวิธา นานปฺปการโต วณฺณภณนสีโล. ชาติยา วาติ ขตฺติยภาวาทิชาติสมฺปตฺติยา วา. โคตฺเตน วาติ โคตมโคตฺตาทินา อุกฺกฏฺโคตฺเตน วา. โกลปุตฺติเยน วาติ มหากุลภาเวน วา. วณฺณโปกฺขรตาย วาติ วณฺณสมฺปนฺนสรีรตาย วา. สรีรฺหิ ‘‘โปกฺขร’’นฺติ วุจฺจติ, ตสฺส วณฺณสมฺปตฺติยา อภิรูปภาเวนาติ อตฺโถ. ธเนน วาติอาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.
กุกฺกุจฺจนฺติ นิทฺเทสสฺส อุทฺเทสปทํ. ตตฺถ กุกฺกุจฺจนฺติ กุจฺฉิตํ กตํ กุกตํ, ตสฺส ภาโว กุกฺกุจฺจํ. ตํ ปจฺฉานุตาปลกฺขณํ, กตากตานุโสจนรสํ, วิปฺปฏิสารปจฺจุปฏฺานํ, กตากตปทฏฺานํ, ทาสพฺยํ วิย ทฏฺพฺพํ. หตฺถกุกฺกุจฺจมฺปีติ หตฺเถหิ กุจฺฉิตํ กตํ กุกตํ, ตสฺส ภาโว หตฺถกุกฺกุจฺจํ. ปาทกุกฺกุจฺจาทีสุปิ เอเสว นโย.
อกปฺปิเย ¶ กปฺปิยสฺิตาติ อจฺฉมํสํ สูกรมํสนฺติ ขาทติ, ทีปิมํสํ มิคมํสนฺติ ขาทติ, อกปฺปิยโภชนํ กปฺปิยโภชนนฺติ ภฺุชติ, วิกาเล กาลสฺิตาย ภฺุชติ, อกปฺปิยปานกํ กปฺปิยปานกนฺติ ¶ ปิวติ. อยํ อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตา. กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตาติ สูกรมํสํ อจฺฉมํสนฺติ ขาทติ, มิคมํสํ ทีปิมํสนฺติ ขาทติ, กปฺปิยโภชนํ อกปฺปิยโภชนนฺติ ภฺุชติ, กาเล วิกาลสฺิตาย ภฺุชติ, กปฺปิยปานกํ อกปฺปิยปานกนฺติ ปิวติ. อยํ กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตา. อวชฺเช วชฺชสฺิตาติ นิทฺโทเส โทสสฺิตา. วชฺเช อวชฺชสฺิตาติ สโทเส นิทฺโทสสฺิตา. กุกฺกุจฺจายนาติ กุกฺกุจฺจายนากาโร. กุกฺกุจฺจายิตตฺตนฺติ กุกฺกุจฺจายิตภาโว. เจตโส วิปฺปฏิสาโรติ จิตฺตสฺส วิรูโป ปฏิสรณภาโว. มโนวิเลโขติ จิตฺตสฺส วิเลโข.
กตตฺตา จ อกตตฺตา จาติ กายทุจฺจริตาทีนํ กตภาเวน จ กายสุจริตาทีนํ อกตภาเวน จ. กตํ เม กายทุจฺจริตนฺติ มยา กาเยน กิเลสปูติกตฺตา ทุฏฺุ จริตํ กาเยน กตํ. อกตํ เม กายสุจริตนฺติ มยา กาเยน สุฏฺุ จริตํ น กตํ. วจีทุจฺจริตวจีสุจริตาทีสุปิ เอเสว นโย นิโรธปริโยสาเนสุ ¶ .
จิตฺตสฺสาติ น สตฺตสฺส น โปสสฺส. อุทฺธจฺจนฺติ อุทฺธตากาโร. อวูปสโมติ น วูปสโม. เจโต วิกฺขิปตีติ เจตโส วิกฺเขโป, ภนฺตตฺตํ จิตฺตสฺสาติ จิตฺตสฺส ภนฺตภาโว ภนฺตยานภนฺตโคณาทีนํ วิย. อิมินา เอการมฺมณสฺมึเยว วิปฺผนฺทนํ กถิตํ. อุทฺธจฺจฺหิ เอการมฺมเณ วิปฺผนฺทติ, วิจิกิจฺฉา นานารมฺมเณติ. อิทํ วุจฺจติ อุทฺธจฺจนฺติ อยํ อุทฺธตภาโว กถียติ.
มุสาวาทํ ปหายาติ เอตฺถ มุสาติ วิสํวาทนปุเรกฺขารสฺส อตฺถภฺชโก วจีปโยโค กายปโยโค วา. วิสํวาทนาธิปฺปาเยน ปนสฺส ปรวิสํวาทกกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา มุสาวาโท.
อปโร นโย – มุสาติ อภูตํ อตจฺฉํ วตฺถุ. วาโทติ ตสฺส ภูตโต ตจฺฉโต วิฺาปนํ. ลกฺขณโต ปน อตถํ วตฺถุํ ตถโต ปรํ วิฺาเปตุกามสฺส ตถาวิฺตฺติสมุฏฺาปิกา เจตนา มุสาวาโท, ตํ มุสาวาทํ. ปหายาติ อิมํ มุสาวาทเจตนาสงฺขาตํ ทุสฺสีลฺยํ ปชหิตฺวา ¶ . ปฏิวิรโตติ ปหีนกาลโต ปฏฺาย ตโต ทุสฺสีลฺยโต โอรโต วิรโตว. นตฺถิ ตสฺส วีติกฺกมิสฺสามีติ จกฺขุโสตวิฺเยฺยา ธมฺมา, ปเคว กายวิฺเยฺยาติ อิมินา นเยน อฺเสุปิ เอวรูเปสุ ปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
สจฺจํ วทตีติ สจฺจวาที. สจฺเจน สจฺจํ สนฺทหติ ฆเฏตีติ สจฺจสนฺโธ, น อนฺตรนฺตรา มุสา วทตีติ อตฺโถ. โย หิ ปุริโส กทาจิ มุสา วทติ, กทาจิ สจฺจํ, ตสฺส ¶ มุสาวาเทน อนฺตริตตฺตา สจฺจํ สจฺเจน น ฆฏิยติ, ตสฺมา โส น สจฺจสนฺโธ, อยํ ปน น ตาทิโส, ชีวิตเหตุปิ มุสา อวตฺวา สจฺเจน สจฺจํ สนฺทหติเยวาติ สจฺจสนฺโธ.
เถโตติ ถิโร, ถิรกโถติ อตฺโถ. เอโก หิ ปุคฺคโล หลิทฺทิราโค วิย, ถุสราสิมฺหิ นิขาตขาณุ วิย, อสฺสปิฏฺเ ปิตกุมฺภณฺฑมิว จ น ถิรกโถ โหติ, เอโก ปาสาณเลขา วิย, อินฺทขีลา วิย จ ถิรกโถ โหติ, อสินา สีสํ ฉินฺทนฺเตปิ ทฺเว กถา น กเถติ, อยํ วุจฺจติ เถโต.
ปจฺจยิโกติ ปตฺติยายิตพฺพโก, สทฺธายิตพฺพโกติ อตฺโถ. เอกจฺโจ หิ ¶ ปุคฺคโล น ปจฺจยิโก โหติ, ‘‘อิทํ เกน วุตฺตํ, อสุเกนา’’ติ วุตฺเต ‘‘มา ตสฺส วจนํ สทฺทหถา’’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. เอโก ปจฺจยิโก โหติ, ‘‘อิทํ เกน วุตฺตํ, อสุเกนา’’ติ วุตฺเต ‘‘ยทิ เตน วุตฺตํ, อิทเมว ปมาณํ, อิทานิ อุปปริกฺขิตพฺพํ นตฺถิ, เอวเมว อิท’’นฺติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ, อยํ วุจฺจติ ปจฺจยิโก.
อวิสํวาทโก โลกสฺสาติ ตาย สจฺจวาทิตาย โลกํ น วิสํวาเทตีติ อตฺโถ.
ปิสุณํ วาจํ ปหายาติอาทีสุ ยาย วาจาย ยสฺส ตํ วาจํ ภาสติ, ตสฺส หทเย อตฺตโน ปิยภาวํ ปรสฺส จ สฺุภาวํ กโรติ, สา ปิสุณา วาจา. ยาย ปน อตฺตานมฺปิ ปรมฺปิ ผรุสํ กโรติ, ยา วาจา สยมฺปิ ผรุสา, เนว กณฺณสุขา น หทยงฺคมา, อยํ ผรุสา วาจา. เยน สมฺผํ ปลปติ นิรตฺถกํ, โส สมฺผปฺปลาโป. ยา เตสํ มูลภูตา เจตนาปิ ปิสุณวาจาทินามเมว ลภติ, สา เอว จ อิธ อธิปฺเปตา.
อิเมสํ ¶ เภทายาติ เยสํ อิโต วุตฺตานํ สนฺติเก สุตํ, เตสํ เภทาย. ภินฺนานํ วา สนฺธาตาติ ทฺวินฺนํ มิตฺตานํ วา สมานุปชฺฌายกาทีนํ วา เกนจิเทว การเณน ภินฺนานํ เอกเมกํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ อีทิเส กุเล ชาตานํ เอวํ พหุสฺสุตานํ อิทํ น ยุตฺต’’นฺติอาทีนิ วตฺวา สนฺธานํ กตฺตา อนุกตฺตา.
อนุปฺปทาตาติ สนฺธานานุปฺปทาตา. ทฺเว ชเน สมคฺเค ทิสฺวา ‘‘ตุมฺหากํ เอวรูเป กุเล ชาตานํ เอวรูเปหิ คุเณหิ สมนฺนาคตานํ อนุจฺฉวิกเมต’’นฺติอาทีนิ วตฺวา ทฬฺหีกมฺมํ กตฺตาติ อตฺโถ. สมคฺโค อาราโม อสฺสาติ สมคฺคาราโม, ยตฺถ สมคฺคา นตฺถิ, ตตฺถ วสิตุมฺปิ น ¶ อิจฺฉตีติ อตฺโถ. ‘‘สมคฺคราโม’’ติปิ ปาฬิ, อยเมเวตฺถ อตฺโถ. สมคฺครโตติ สมคฺเคสุ รโต, เต ปหาย อฺตฺร คนฺตุมฺปิ น อิจฺฉตีติ อตฺโถ. สมคฺเค ทิสฺวาปิ สุตฺวาปิ นนฺทตีติ สมคฺคนนฺที. สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตาติ ยา วาจา สตฺเต สมคฺเคเยว กโรติ, ตํ สามคฺคิคุณปริทีปิกเมว วาจํ ภาสติ, น อิตรนฺติ.
ปรสฺส มมฺมจฺเฉทกกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เอกนฺตผรุสเจตนา ผรุสา วาจา, เนลาติ เอลํ วุจฺจติ โทโส, นสฺสา เอลนฺติ เนลา, นิทฺโทสาติ อตฺโถ ‘‘เนลงฺโค เสตปจฺฉาโท’’ติ เอตฺถ (อุทา. ๖๕; เปฏโก. ๒๕) วุตฺตเนลํ วิย. กณฺณสุขาติ พฺยฺชนมธุรตาย ¶ กณฺณานํ สุขา, สูจิวิชฺฌนํ วิย กณฺณสูลํ น ชเนติ. อตฺถมธุรตาย สกลสรีเร โกปํ อชเนตฺวา เปมํ ชเนตีติ เปมนียา. หทยํ คจฺฉติ อปฏิหฺมานา สุเขน จิตฺตํ ปวิสตีติ หทยงฺคมา. คุณปริปุณฺณตาย ปุเร ภวาติ โปรี, ปุเร สํวฑฺฒนารี วิย สุกุมาราติปิ โปรี, ปุรสฺส เอสาติปิ โปรี, นครวาสีนํ กถาติ อตฺโถ. นครวาสิโน หิ ยุตฺตกถา โหนฺติ, ปิติมตฺตํ ปิตาติ ภาติมตฺตํ ภาตาติ วทนฺติ. เอวรูปี กถา พหุโน ชนสฺส กนฺตา โหตีติ พหุชนกนฺตา. กนฺตภาเวเนว พหุโน ชนสฺส มนาปา จิตฺตวุฑฺฒิกราติ พหุชนมนาปา.
อนตฺถวิฺาปิกา กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา อกุสลเจตนา สมฺผปฺปลาโป. กาเลน วทตีติ กาลวาที, วตฺตพฺพยุตฺตกาลํ สลฺลกฺเขตฺวา วทตีติ อตฺโถ. ภูตํ ตถํ ตจฺฉํ สภาวเมว วทตีติ ภูตวาที ¶ . ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกตฺถสนฺนิสฺสิตเมว กตฺวา วทตีติ อตฺถวาที. นวโลกุตฺตรธมฺมสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา วทตีติ ธมฺมวาที. สํวรวินยปหานวินยสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา วทตีติ วินยวาที.
นิธานํ วุจฺจติ ปโนกาโส, นิธานมสฺส อตฺถีติ นิธานวตี, หทเย นิธาตพฺพยุตฺตกํ วาจํ ภาสิตาติ อตฺโถ. กาเลนาติ เอวรูปึ ภาสมาโนปิ จ ‘‘อหํ นิธานวตึ วาจํ ภาสิสฺสามี’’ติ น อกาเลน ภาสติ, ยุตฺตกาลํ ปน อเปกฺขิตฺวาว ภาสตีติ อตฺโถ. สาปเทสนฺติ สอุปมํ, สการณนฺติ อตฺโถ. ปริยนฺตวตินฺติ ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา ยถาสฺสา ปริจฺเฉโท ปฺายติ, เอวํ ภาสตีติ อตฺโถ. อตฺถสํหิตนฺติ อเนเกหิปิ นเยหิ วิภชนฺเตน ปริยาทาตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อตฺถสมฺปนฺนํ ภาสติ. ยํ วา โส อตฺถวาที อตฺถํ วทติ, เตน อตฺเถน สหิตตฺตา อตฺถสํหิตํ วาจํ ภาสติ, น อฺํ นิกฺขิปิตฺวา อฺํ ภาสตีติ วุตฺตํ โหติ. จตุทฺโทสาปคตํ วาจํ ภาสตีติ มุสาวาทาทีหิ จตูหิ โทเสหิ อปคตํ วาจํ ภาสติ. ทฺวตฺตึสาย ติรจฺฉานกถายาติ ทฺวตฺตึสาย สคฺคโมกฺขานํ ติรจฺฉานภูตาย กถาย.
ทส ¶ กถาวตฺถูนีติ อปฺปิจฺฉตาทีนิ ทส วิวฏฺฏนิสฺสิตาย กถาย วตฺถุภูตานิ การณานิ. อปฺปิจฺฉกถนฺติ เอตฺถ อปฺปิจฺโฉติ ¶ อิจฺฉาวิรหิโต อนิจฺโฉ นิตฺตณฺโห. เอตฺถ หิ พฺยฺชนํ สาวเสสํ วิย, อตฺโถ ปน นิรวเสโส. น หิ ขีณาสวสฺส อณุมตฺตาปิ อิจฺฉา นาม อตฺถิ.
อปิเจตฺถ อตฺริจฺฉตา ปาปิจฺฉตา มหิจฺฉตา อปฺปิจฺฉตาติ อยํ เภโท เวทิตพฺโพ – ตตฺถ สกลาเภ อติตฺตสฺส ปรลาภปตฺถนา อตฺริจฺฉตา นาม, ตาย สมนฺนาคตสฺส เอกภาชเน ปกฺกปูเวปิ อตฺตโน ปตฺเต ปติเต น สุปกฺโก วิย ขุทฺทโก วิย จ ขายติ, สฺเวว ปน ปรสฺส ปตฺเต ปกฺขิตฺโต สุปกฺโก วิย มหนฺโต วิย จ ขายติ. อสนฺตคุณสมฺภาวนตา ปน ปฏิคฺคหเณ จ อมตฺตฺุตา ปาปิจฺฉตา นาม, สา ‘‘อิเธกจฺโจ อสทฺโธ สมาโน สทฺโธติ มํ ชโน ชานาตู’’ติอาทินา (วิภ. ๘๕๑) นเยน อตฺเรว อาคตาเยว. ตาย จ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล โกหฺเ ปติฏฺาติ. สนฺตคุณสมฺภาวนตา ปน ปฏิคฺคหเณ ¶ จ อมตฺตฺุตา มหิจฺฉตา นาม, สาปิ ‘‘อิเธกจฺโจ สทฺโธ สมาโน สทฺโธติ มํ ชโน ชานาตูติ อิจฺฉติ, สีลวา สมาโน สีลวาติ มํ ชโน ชานาตู’’ติ (วิภ. ๘๕๑) อิมินา นเยน อาคตาเยว. ตาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ทุสฺสนฺตปฺปโย โหติ, วิชาตมาตาปิสฺส จิตฺตํ คเหตุํ น สกฺโกติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘อคฺคิกฺขนฺโธ สมุทฺโท จ, มหิจฺโฉ จาปิ ปุคฺคโล;
สกเฏน ปจฺจเย เทตุ, ตโยเปเต อตปฺปยา’’ติ. (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒๕๒; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๖๓; อุทา. อฏฺ. ๓๑);
สนฺตคุณนิคูหนตา ปน ปฏิคฺคหเณ จ มตฺตฺุตา อปฺปิจฺฉตา นาม, ตาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล อตฺตนิ วิชฺชมานมฺปิ คุณํ ปฏิจฺฉาเทตุกามตาย สทฺโธ สมาโน ‘‘สทฺโธติ มํ ชโน ชานาตู’’ติ น อิจฺฉติ. สีลวา… ปวิวิตฺโต… พหุสฺสุโต… อารทฺธวีริโย… สมาธิสมฺปนฺโน… ปฺวา… ขีณาสโว สมาโน ‘‘ขีณาสโวติ มํ ชโน ชานาตู’’ติ น อิจฺฉติ เสยฺยถาปิ มชฺฌนฺติกตฺเถโร. เอวํ อปฺปิจฺโฉ จ ปน ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนํ ลาภํ อุปฺปาเทติ, อุปฺปนฺนํ ถาวรํ กโรติ, ทายกานํ จิตฺตํ อาราเธติ, ยถา ยถา หิ โส ¶ อตฺตโน อปฺปิจฺฉตาย อปฺปํ คณฺหาติ, ตถา ตถา ตสฺส วตฺเต ปสนฺนา มนุสฺสา พหู เทนฺติ.
อปโรปิ จตุพฺพิโธ อปฺปิจฺโฉ ปจฺจยอปฺปิจฺโฉ ธุตงฺคอปฺปิจฺโฉ ปริยตฺติอปฺปิจฺโฉ อธิคมอปฺปิจฺโฉติ ¶ . ตตฺถ จตูสุ ปจฺจเยสุ อปฺปิจฺโฉ ปจฺจยอปฺปิจฺโฉ. โส ทายกสฺส วสํ ชานาติ, เทยฺยธมฺมสฺส วสํ ชานาติ, อตฺตโน ถามํ ชานาติ. ยทิ หิ เทยฺยธมฺโม พหุ โหติ, ทายโก อปฺปํ ทาตุกาโม, ทายกสฺส วเสน อปฺปํ คณฺหาติ. เทยฺยธมฺโม อปฺโป, ทายโก พหุํ ทาตุกาโม, เทยฺยธมฺมสฺส วเสน อปฺปํ คณฺหาติ. เทยฺยธมฺโมปิ พหุ, ทายโกปิ พหุํ ทาตุกาโม, อตฺตโน ถามํ ตฺวา ปมาเณเนว คณฺหาติ.
ธุตงฺคสมาทานสฺส อตฺตนิ อตฺถิภาวํ น ชานาเปตุกาโม ธุตงฺคอปฺปิจฺโฉ นาม. โย ปน พหุสฺสุตภาวํ น ชานาเปตุกาโม, อยํ ปริยตฺติอปฺปิจฺโฉ นาม. โย ปน โสตาปนฺนาทีสุ อฺตโร หุตฺวา โสตาปนฺนาทิภาวํ ชานาเปตุํ น อิจฺฉติ, อยํ อธิคมอปฺปิจฺโฉ นาม. ขีณาสโว ¶ ปน อตฺริจฺฉตํ ปาปิจฺฉตํ มหิจฺฉตํ ปหาย สพฺพโส อิจฺฉาปฏิปกฺขภูตาย อโลภสงฺขาตาย ปริสุทฺธาย อปฺปิจฺฉตาย สมนฺนาคตตฺตา อปฺปิจฺโฉ นาม. ‘‘อาวุโส, อตฺริจฺฉตา ปาปิจฺฉตา มหิจฺฉตาติ, อิเม ธมฺมา ปหาตพฺพาติ, เตสุ อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา เอวรูปํ อปฺปิจฺฉตํ สมาทาย วตฺติตพฺพ’’นฺติ วทนฺโต อปฺปิจฺฉกถํ กเถติ นาม.
สนฺตุฏฺีกถนฺติอาทีสุ วิเสสตฺถเมว ทีปยิสฺสาม, โยชนา ปน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. สนฺตุฏฺีกถนฺติ อิตรีตรปจฺจยสนฺโตสํ นิสฺสิตํ กถํ. โส ปเนส สนฺโตโส ทฺวาทสวิโธ โหติ. เสยฺยถิทํ – จีวเร ยถาลาภสนฺโตโส, ยถาพลสนฺโตโส, ยถาสารุปฺปสนฺโตโสติ ติวิโธ. เอวํ ปิณฺฑปาตาทีสุปิ.
ตสฺสายํ ปเภทวณฺณนา – อิธ ภิกฺขุ จีวรํ ลภติ สุนฺทรํ วา อสุนฺทรํ วา. โส เตเนว ยาเปติ, อฺํ น ปตฺเถติ, ลภนฺโตปิ น คณฺหาติ. อยมสฺส ¶ จีวเร ยถาลาภสนฺโตโส. อถ ปน โย ปกติทุพฺพโล วา โหติ, อาพาธชราภิภูโต วา, ครุจีวรํ ปารุปนฺโต กิลมติ. โส สภาเคน ภิกฺขุนา สทฺธึ ตํ ปริวตฺเตตฺวา ลหุเกน ยาเปนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส จีวเร ยถาพลสนฺโตโส. อปโร ปณีตปจฺจยลาภี โหติ. โส ปตฺตุณฺณจีวราทีนํ อฺตรํ มหคฺฆจีวรํ, พหูนิ วา ปน จีวรานิ ลภิตฺวา ‘‘อิทํ เถรานํ จิรปพฺพชิตานํ, อิทํ พหุสฺสุตานํ อนุรูปํ, อิทํ คิลานานํ, อิทํ อปฺปลาภีนํ โหตู’’ติ ทตฺวา เตสํ ปุราณจีวรํ วา สงฺการกูฏาทิโต วา นนฺตกานิ อุจฺจินิตฺวา เตหิ สงฺฆาฏึ กตฺวา ธาเรนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส จีวเร ยถาสารุปฺปสนฺโตโส.
อิธ ปน ภิกฺขุ ปิณฺฑปาตํ ลภติ ลูขํ วา ปณีตํ วา, โส เตเนว ยาเปติ, อฺํ น ¶ ปตฺเถติ, ลภนฺโตปิ น คณฺหาติ. อยมสฺส ปิณฺฑปาเต ยถาลาภสนฺโตโส. โย ปน อตฺตโน ปกติวิรุทฺธํ วา พฺยาธิวิรุทฺธํ วา ปิณฺฑปาตํ ลภติ, เยนสฺส ปริภุตฺเตน อผาสุ โหติ, โส ตํ สภาคสฺส ภิกฺขุโน ทตฺวา ตสฺส หตฺถโต สปฺปายโภชนํ ภฺุชิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส ปิณฺฑปาเต ยถาพลสนฺโตโส. อปโร พหุํ ปณีตํ ปิณฺฑปาตํ ¶ ลภติ, โส ตํ จีวรํ วิย เถรจิรปพฺพชิตพหุสฺสุตอปฺปลาภีคิลานานํ ทตฺวา เตสํ วา เสสกํ ปิณฺฑาย วา จริตฺวา มิสฺสกาหารํ ภฺุชนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส ปิณฺฑปาเต ยถาสารุปฺปสนฺโตโส.
อิธ ปน ภิกฺขุ เสนาสนํ ลภติ มนาปํ วา อมนาปํ วา, โส เตน เนว โสมนสฺสํ น โทมนสฺสํ อุปฺปาเทติ, อนฺตมโส ติณสนฺถารเกนาปิ ยถาลทฺเธเนว ตุสฺสติ. อยมสฺส เสนาสเน ยถาลาภสนฺโตโส. โย ปน อตฺตโน ปกติวิรุทฺธํ วา พฺยาธิวิรุทฺธํ วา เสนาสนํ ลภติ, ยตฺถสฺส วสโต อผาสุ โหติ, โส ตํ สภาคสฺส ภิกฺขุโน ทตฺวา ตสฺส สนฺตเก สปฺปายเสนาสเน วสนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส เสนาสเน ยถาพลสนฺโตโส.
อปโร มหาปฺุโ เลณมณฺฑปกูฏาคาราทีนิ พหูนิ ปณีตเสนาสนานิ ลภติ, โส ตํ จีวรํ วิย เถรจิรปพฺพชิตพหุสฺสุตอปฺปลาภีคิลานานํ ทตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ วสนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส เสนาสเน ยถาสารุปฺปสนฺโตโส. โยปิ ¶ ‘‘อุตฺตมเสนาสนํ นาม ปมาทฏฺานํ, ตตฺถ นิสินฺนสฺส ถินมิทฺธํ โอกฺกมติ, นิทฺทาภิภูตสฺส ปุน ปฏิพุชฺฌโต ปาปวิตกฺกา ปาตุภวนฺตี’’ติ ปฏิสฺจิกฺขิตฺวา ตาทิสํ เสนาสนํ ปตฺตมฺปิ น สมฺปฏิจฺฉติ, โส ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อพฺโภกาสรุกฺขมูลาทีสุ วสนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส เสนาสเน ยถาสารุปฺปสนฺโตโส.
อิธ ปน ภิกฺขุ เภสชฺชํ ลภติ ลูขํ วา ปณีตํ วา, โส ยํ ลภติ, เตเนว ตุสฺสติ, อฺํ น ปตฺเถติ, ลภนฺโตปิ น คณฺหาติ. อยมสฺส คิลานปจฺจเย ยถาลาภสนฺโตโส. โย ปน เตเลน อตฺถิโก ผาณิตํ ลภติ, โส ตํ สภาคสฺส ภิกฺขุโน ทตฺวา ตสฺส หตฺถโต เตลํ คเหตฺวา อฺเทว วา ปริเยสิตฺวา เภสชฺชํ กโรนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส คิลานปจฺจเย ยถาพลสนฺโตโส.
อปโร ¶ มหาปฺุโ พหุํ เตลมธุผาณิตาทิปณีตเภสชฺชํ ลภติ, โส ตํ จีวรํ วิย เถรจิรปพฺพชิตพหุสฺสุตอปฺปลาภีคิลานานํ ทตฺวา เตสํ อาภเตน เยน เกนจิ ยาเปนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว ¶ โหติ. โย ปน เอกสฺมึ ภาชเน จตุมธุรํ เปตฺวา เอกสฺมึ มุตฺตหรีตกํ ‘‘คณฺห, ภนฺเต, ยทิจฺฉสี’’ติ วุจฺจมาโน ‘‘สจสฺส เตสุ อฺตเรนปิ โรโค วูปสมฺมติ, อถ มุตฺตหรีตกํ นาม พุทฺธาทีหิ วณฺณิต’’นฺติ จตุมธุรํ ปฏิกฺขิปิตฺวา มุตฺตหรีตเกน เภสชฺชํ กโรนฺโต ปรมสนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส คิลานปจฺจเย ยถาสารุปฺปสนฺโตโส. อิเมสํ ปน ปจฺเจกปจฺจเยสุ ติณฺณํ ติณฺณํ สนฺโตสานํ ยถาสารุปฺปสนฺโตโสว อคฺโค. อรหา เอเกกสฺมึ ปจฺจเย อิเมหิ ตีหิปิ สนฺตุฏฺโว.
ปวิเวกกถนฺติ ปวิเวกนิสฺสิตํ กถํ. ตโย หิ วิเวกา กายวิเวโก จิตฺตวิเวโก อุปธิวิเวโกติ. ตตฺถ เอโก คจฺฉติ, เอโก ติฏฺติ, เอโก นิสีทติ, เอโก เสยฺยํ กปฺเปติ, เอโก คามํ ปิณฺฑาย ปวิสติ, เอโก ปฏิกฺกมติ, เอโก อภิกฺกมติ, เอโก จงฺกมํ อธิฏฺาติ, เอโก จรติ, เอโก วิหรตีติ อยํ กายวิเวโก นาม. อฏฺ สมาปตฺติโย ปน จิตฺตวิเวโก นาม. นิพฺพานํ อุปธิวิเวโก นาม.
วุตฺตมฺปิ เหตํ ¶ – ‘‘กายวิเวโก จ วิเวกฏฺกายานํ เนกฺขมฺมาภิรตานํ. จิตฺตวิเวโก จ ปริสุทฺธจิตฺตานํ ปรมโวทานปฺปตฺตานํ. อุปธิวิเวโก จ นิรุปธีนํ ปุคฺคลานํ วิสงฺขารคตาน’’นฺติ (มหานิ. ๕๗).
อสํสคฺคกถนฺติ เอตฺถ ปน สวนสํสคฺโค ทสฺสนสํสคฺโค สมุลฺลปนสํสคฺโค สมฺโภคสํสคฺโค กายสํสคฺโคติ ปฺจวิโธ สํสคฺโค. เตสุ อิธ ภิกฺขุ สุณาติ ‘‘อมุกสฺมึ คาเม วา นิคเม วา อิตฺถี วา กุมารี วา อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา’’ติ, โส ตํ สุตฺวา สํสีทติ วิสีทติ, น สกฺโกติ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา หีนายาวตฺตติ. เอวํ ปเรหิ กถิยมานรูปาทิสมฺปตฺตึ อตฺตนา วา หสิตลปิตคีตสทฺทํ สุณนฺตสฺส โสตวิฺาณวีถิวเสน อุปฺปนฺโน ราโค สวนสํสคฺโค นาม.
‘‘อิธ ¶ ภิกฺขุ น เหว โข สุณาติ, อปิ จ โข สามํ ปสฺสติ อิตฺถึ วา กุมารึ วา อภิรูปํ ทสฺสนียํ ปาสาทิกํ ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตํ, โส ตํ ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ, น สกฺโกติ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา หีนายาวตฺตติ. เอวํ วิสภาครูปํ โอโลเกนฺตสฺส ปน จกฺขุวิฺาณวีถิวเสน อุปฺปนฺนราโค ทสฺสนสํสคฺโค นาม.
อฺมฺํ ¶ อลฺลาปสลฺลาปวเสน อุปฺปนฺนราโค ปน สมุลฺลปนสํสคฺโค นาม. ภิกฺขุโน ภิกฺขุนิยา สนฺตกํ ภิกฺขุนิยา วา ภิกฺขุสฺส สนฺตกํ คเหตฺวา ปริโภคกรณวเสน อุปฺปนฺนราโค สมฺโภคสํสคฺโค นาม. หตฺถคฺคาหาทิวเสน อุปฺปนฺนราโค ปน กายสํสคฺโค นาม. อรหา อิเมหิ ปฺจหิ สํสคฺเคหิ จตูหิปิ ปริสาหิ สทฺธึ อสํสฏฺโ, คาหมุตฺตโก เจว สํสคฺคมุตฺตโก จ. อสํสคฺคสฺส วณฺณํ ภณนฺโต อสํสคฺคกถํ กเถติ นาม.
วีริยารมฺภกถนฺติ เอตฺถ โย ปคฺคหิตวีริโย ปริปุณฺณกายิกเจตสิกวีริโย โหติ, คมเน อุปฺปนฺนํ กิเลสํ านํ ¶ ปาปุณิตุํ น เทติ, าเน อุปฺปนฺนํ กิเลสํ นิสชฺชํ, นิสชฺชาย อุปฺปนฺนํ กิเลสํ สยนํ ปาปุณิตุํ น เทติ, ทณฺเฑน กณฺหสปฺปํ อุปฺปีเฬตฺวา คณฺหนฺโต วิย อมิตฺตํ คีวาย อกฺกมนฺโต วิย จ วิจรติ, ตาทิสสฺส อารทฺธวีริยสฺส วณฺณํ ภณนฺโต วีริยารมฺภกถํ กเถติ นาม.
สีลกถนฺติอาทีสุ สีลนฺติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ. สมาธีติ วิปสฺสนาปาทกา อฏฺ สมาปตฺติโย. ปฺาติ โลกิยโลกุตฺตราณํ. วิมุตฺตีติ อรหตฺตผลวิมุตฺติ. วิมุตฺติาณทสฺสนนฺติ เอกูนวีสติวิธํ ปจฺจเวกฺขณาณํ. สีลาทีนํ คุณํ ปกาเสนฺโต สีลาทิกถํ กเถติ นาม.
สติปฏฺานกถนฺติอาทีนิ สงฺคชาลมติจฺจ โส มุนีติปริโยสานานิ ปุพฺเพ วุตฺตานุสาเรน เวทิตพฺพานิ.
๘๖. นิราสตฺตีติ นิตฺตณฺโห. วิเวกทสฺสี ผสฺเสสูติ ปจฺจุปฺปนฺเนสุ จกฺขุสมฺผสฺสาทีสุ อตฺตาทิภาววิเวกํ ปสฺสติ. ทิฏฺีสุ จ น นียตีติ ทฺวาสฏฺิยา ทิฏฺีสุ กายจิ ทิฏฺิยา น นียติ.
วิปริณตํ ¶ วา วตฺถุํ น โสจตีติ ปกติภาวํ ชหิตฺวา นฏฺเ กิสฺมิฺจิ วตฺถุสฺมึ น โสกํ อาปชฺชติ. วิปริณตสฺมึ วาติ วินสฺสมาเน วตฺถุมฺหิ.
จกฺขุสมฺผสฺโสติ จกฺขุํ วตฺถุํ กตฺวา จกฺขุวิฺาณสหชาโต ผสฺโส จกฺขุสมฺผสฺโส. เสเสสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ ปุริมา จกฺขุปสาทาทิวตฺถุกาว, มโนสมฺผสฺโส หทยวตฺถุโกปิ อวตฺถุโกปิ สพฺโพ จตุภูมโก ผสฺโส. อธิวจนสมฺผสฺโสติ ปริยาเยน เอตสฺส นามํ โหติเยว ¶ . ตโย หิ อรูปิโน ขนฺธา สยํ ปิฏฺิวฏฺฏกา หุตฺวา อตฺตโน สหชาตสมฺผสฺสสฺส อธิวจนสมฺผสฺโสติ นามํ กโรนฺติ. ปฏิฆสมฺผสฺโสติ นิปฺปริยาเยน ปน ปฏิฆสมฺผสฺโส นาม ปฺจทฺวาริกผสฺโส. อธิวจนสมฺผสฺโส นาม มโนทฺวาริกผสฺโส. สุขเวทนีโย ผสฺโสติ สุขเวทนาย หิโต อุปฺปาทโก ผสฺโส. อิตรทฺวเยปิ เอเสว นโย. กุสโล ผสฺโสติ เอกวีสติกุสลจิตฺตสหชาโต ผสฺโส. อกุสโลติ ทฺวาทสอกุสลสหชาโต ผสฺโส. อพฺยากโตติ ฉปฺปฺาสอพฺยากตสหชาโต ผสฺโส. กามาวจโรติ จตุปฺาสกามาวจรสหชาโต ผสฺโส. รูปาวจโรติ กุสลาทิปฺจทสรูปาวจรสมฺปยุตฺโต ¶ . อรูปาวจโรติ กุสลาพฺยากตวเสน ทฺวาทสอรูปาวจรสมฺปยุตฺโต.
สฺุโตติ อนตฺตานุปสฺสนาวเสน วิปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺโน มคฺโค สฺุโต, เตน สหชาโต ผสฺโส สฺุโต ผสฺโส. อิตรทฺวเยปิ เอเสว นโย. อนิมิตฺโตติ เอตฺถ อนิจฺจานุปสฺสนาวเสน วิปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺโน มคฺโค อนิมิตฺโต. อปฺปณิหิโตติ ทุกฺขานุปสฺสนาวเสน วิปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺโน มคฺโค อปฺปณิหิโต. โลกิโยติ โลโก วุจฺจติ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน วฏฺโฏ, ตสฺมึ ปริยาปนฺนภาเวน โลเก นิยุตฺโตติ โลกิโย, เตภูมโก ธมฺโม. โลกุตฺตโรติ โลกโต อุตฺตโร อุตฺติณฺโณติ โลกุตฺตโร, โลเก อปริยาปนฺนภาเวนปิ โลกุตฺตโร. อตฺเตน วาติ อตฺตภาเวน วา. อตฺตนิเยน วาติ อตฺตายตฺเตน วา.
๘๗. ปติลีโนติ ราคาทีนํ ปหีนตฺตา ตโต อปคโต. อกุหโกติ อวิมฺหาปโก ตีหิ กุหนวตฺถูหิ. อปิหาลูติ อปิหนสีโล, ปตฺถนาตณฺหาย ¶ รหิโตติ วุตฺตํ โหติ. อมจฺฉรีติ ปฺจมจฺเฉรวิรหิโต. อปฺปคพฺโภติ กายปาคพฺภิยาทิวิรหิโต. อเชคุจฺโฉติ สมฺปนฺนสีลาทิตาย อเชคุจฺฉนีโย อเสจนโก มนาโป. เปสุเณยฺเย จ โน ยุโตติ ทฺวีหิ อากาเรหิ อุปสํหริตพฺเพ ปิสุณกมฺเม อยุตฺโต.
ราคสฺส ปหีนตฺตาติ อรหตฺตมคฺเคน ราคกิเลสสฺส ปหีนภาเวน. อสฺมิมาโน ปหีโน โหตีติ อสฺมีติ อุนฺนติมาโน สมุจฺเฉทวเสน ปหีโน โหติ.
ตีณิ กุหนวตฺถูนีติ ตีณิ วิมฺหาปนการณานิ. ปจฺจยปฏิเสวนสงฺขาตํ กุหนวตฺถูติอาทีสุ จีวราทีหิ นิมนฺติตสฺส ตทตฺถิกสฺเสว สโต ปาปิจฺฉตํ นิสฺสาย ปฏิกฺขิปเนน เต จ คหปติเก อตฺตนิ สุปฺปติฏฺิตปสาเท ตฺวา ปุน เตสํ ‘‘อโห อยฺโย อปฺปิจฺโฉ, น กิฺจิ ¶ ปฏิคฺคณฺหิตุํ อิจฺฉติ, สุลทฺธํ วต โน อสฺส, สเจ อปฺปมตฺตกมฺปิ กิฺจิ ปฏิคฺคณฺเหยฺยา’’ติ นานาวิเธหิ อุปาเยหิ ปณีตานิ จีวราทีนิ อุปเนนฺตานํ ตทนุคฺคหกามตํเยว อวิกตฺวา ปฏิคฺคหเณน จ ตโต ปภุติ อปิ สกฏภาเรหิ อุปนามนเหตุภูตํ วิมฺหาปนํ ปจฺจยปฏิเสวนสงฺขาตํ กุหนวตฺถูติ เวทิตพฺพํ. ปาปิจฺฉสฺเสว ปน สโต สมฺภาวนาธิปฺปาเยน กเตน อิริยาปเถน ¶ วิมฺหาปนํ อิริยาปถสงฺขาตํ กุหนวตฺถูติ เวทิตพฺพํ. ปาปิจฺฉสฺเสว ปน สโต อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาธิคมปริทีปนวาจาย ตถา ตถา วิมฺหาปนํ สามนฺตชปฺปนสงฺขาตํ กุหนวตฺถูติ เวทิตพฺพํ.
กตมํ ปจฺจยปฏิเสวนสงฺขาตนฺติ เอตฺถ ปจฺจยปฏิเสวนนฺติ เอวํ สงฺขาตํ ปจฺจยปฏิเสวนสงฺขาตํ. นิมนฺเตนฺตีติ อิธ คหปติกา ‘‘ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ ภิกฺขู นิมนฺเตนฺติ. อยเมว วา ปาโ. ‘‘นิมนฺเตตี’’ติ วา ‘‘วทนฺตี’’ติ วา เกจิ ปนฺติ. ตาทิเส นิมนฺตาเปนฺติ. นิมนฺเตนฺตีติ ปาสฺส สมฺภโว ทฏฺพฺโพ. จีวรํ ปจฺจกฺขาตีติ จีวรํ ปฏิกฺขิปติ. เอตํ สารุปฺปํ, ยํ สมโณติ ยํ จีวรธารณํ สมโณ กโรติ, เอตํ สารุปฺปํ อนุจฺฉวิกํ. ปาปณิกา วา นนฺตกานีติ อาปณทฺวาเร ปติกานิ อนฺตวิรหิตานิ ปิโลติกานิ. อุจฺจินิตฺวาติ สํกฑฺฒิตฺวา. อฺุฉาจริยายาติ ภิกฺขาจรเณน. ปิณฺฑิยาโลเปนาติ ปิณฺฑํ กตฺวา ลทฺธอาโลเปน. ปูติมุตฺเตน วาติ โคมุตฺเตน ¶ วา. โอสธํ กเรยฺยาติ เภสชฺชกิจฺจํ กเรยฺย. ตทุปาทายาติ ตโต ปฏฺาย. ธุตวาโทติ ธุตคุณวาที. ภิยฺโย ภิยฺโย นิมนฺเตนฺตีติ อุปรูปริ นิมนฺเตนฺติ. สมฺมุขีภาวาติ สมฺมุขีภาเวน, วิชฺชมานตายาติ อตฺโถ. ปสวตีติ ปฏิลภติ. สทฺธาย สมฺมุขีภาเวน สกฺกา กาตุนฺติ ‘‘สทฺธาย สมฺมุขีภาวา’’ติอาทิมาห. เทยฺยธมฺมา สุลภา ทกฺขิเณยฺยา จ, สทฺธา ปน ทุลฺลภา. ปุถุชฺชนสฺส หิ สทฺธา อถาวรา, ปทวาเร ปทวาเร นานา โหติ. เตเนวสฺส มหาโมคฺคลฺลานสทิโสปิ อคฺคสาวโก ปาฏิโภโค ภวิตุํ อสกฺโกนฺโต อาห ‘‘ทฺวินฺนํ โข เนสํ อาวุโส ธมฺมานํ ปาฏิโภโค โภคานฺจ ชีวิตสฺส จ, สทฺธาย ปน ตฺวํ ปาฏิโภโค’’ติ.
เอวํ ตุมฺเห ปฺุเน ปริพาหิรา ภวิสฺสถาติ เอตฺถ ปฺุเนาติ ¶ นิสฺสกฺกตฺเถ กรณวจนํ. ปฺุโต ปริหีนา ปรมฺมุขา ภวิสฺสถ. ภากุฏิกาติ มุขานํ ปธานปุริมฏฺิตภาวทสฺสเนน ภากุฏิกรณํ, มุขสงฺโกโจติ วุตฺตํ โหติ. ภากุฏิกรณํ สีลมสฺสาติ ภากุฏิโก, ภากุฏิกสฺส ภาโว ภากุฏิยํ. กุหนาติ วิมฺหาปนา. กุหสฺส อายนา กุหายนา. กุหิตสฺส ภาโว กุหิตตฺตํ.
ปาปิจฺโฉติ ¶ อสนฺตคุณทีปนกาโม. อิจฺฉาปกโตติ อิจฺฉาย อปกโต, อุปทฺทุโตติ อตฺโถ. สมฺภาวนาธิปฺปาโยติ พหุมานชฺฌาสโย. คมนํ สณฺเปตีติ อภิกฺกมาทิคมนํ อภิสงฺขโรติ, ปาสาทิกภาวํ กโรตีติ วุตฺตํ โหติ. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. ปณิธาย คจฺฉตีติ ปตฺถนํ เปตฺวา คจฺฉติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. สมาหิโต วิย คจฺฉตีติ อุปจารปฺปตฺโต วิย คจฺฉติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.
อาปาถกชฺฌายีว โหตีติ สมฺมุขา อาคตานํ มนุสฺสานํ ฌานํ สมาปชฺชนฺโต วิย สนฺตภาวํ ทสฺเสติ. อิริยาปถสฺสาติ จตุอิริยาปถสฺส. อาปนาติ อาทิฏฺปนา, อาทเรน วา ปนา. ปนาติ ปนากาโร. สณฺปนาติ อภิสงฺขรณํ, ปาสาทิกภาวกรณนฺติ วุตฺตํ โหติ. อริยธมฺมสนฺนิสฺสิตนฺติ โลกุตฺตรธมฺมปฏิพทฺธํ. กฺุจิกนฺติ อวาปุรณํ. มิตฺตาติ สิเนหวนฺโต. สนฺทิฏฺาติ ทิฏฺมตฺตา. สมฺภตฺตาติ ทฬฺหมิตฺตา. อุทฺทณฺเฑติ เอโก ปติสฺสยวิเสโส.
โกรชิกโกรชิโกติ ¶ สงฺโกจสงฺโกจโก, อติสงฺโกจโกติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘โกรจกโกรจโก’’ติ วา ปาโ. ภากุฏิกภากุฏิโกติ อติวิย มุขสงฺโกจนสีโล. กุหกกุหโกติ อติวิย วิมฺหาปโก. ลปกลปโกติ อติวิย สลฺลาปโก. มุขสมฺภาวิโกติ อตฺตโน มุขวเสน อฺเหิ สห สมฺภาวิโก, อปฺปิตจิตฺโตติ เอเก. สนฺตานนฺติ กิเลสสนฺตตาย สนฺตานํ. สมาปตฺตีนนฺติ สมาปชฺชิตพฺพานํ. คมฺภีรนฺติ นินฺนปติฏฺานํ. คูฬฺหนฺติ ¶ ทสฺเสตุํ ทุกฺขํ. นิปุณนฺติ สุขุมํ. ปฏิจฺฉนฺนนฺติ ปทตฺเถน ทุปฺปฏิวิชฺฌาธิปฺปายํ. โลกุตฺตรนฺติ ธมฺมทีปกํ. สฺุตาปฏิสฺุตฺตนฺติ นิพฺพานปฏิสฺุตฺตํ. อถ วา โลกุตฺตรสฺุตาปฏิสฺุตฺตนฺติ โลกุตฺตรธมฺมภูตนิพฺพานปฏิสฺุตฺตํ.
กายิกํ ปาคพฺภิยนฺติ กาเย ภวํ กายิกํ. วาจสิกเจตสิเกสุปิ เอเสว นโย. อจิตฺตีการกโตติ พหุมานกิริยรหิโต. อนุปาหนานํ จงฺกมนฺตานนฺติ อุปาหนวิรหิตานํ จงฺกมนฺตานํ สมีเป, อนาทเร วา สามิวจนํ. สอุปาหโนติ อุปาหนารูฬฺโห หุตฺวา จงฺกมติ. นีเจ จงฺกเม จงฺกมนฺตานนฺติ อกตปริจฺเฉทาย ภูมิยา จงฺกมนฺเต ปริจฺเฉทํ กตฺวา วาลุกํ อากิริตฺวา อาลมฺพนํ โยเชตฺวา กตจงฺกเม นีเจปิ จงฺกเม จงฺกมนฺเต. อุจฺเจ จงฺกเม จงฺกมตีติ อิฏฺกจยนสมฺปนฺเน เวทิกาปริกฺขิตฺเต อุจฺเจ จงฺกเม จงฺกมติ. สเจ ปาการปริกฺขิตฺโต โหติ ทฺวารโกฏฺกยุตฺโต, ปพฺพตนฺตรวนนฺตรภูมนฺตรสฺส วา สุปฺปฏิจฺฉนฺโน, ตาทิเส จงฺกเม จงฺกมิตุํ วฏฺฏติ, อปฺปฏิจฺฉนฺเนปิ อุปจารํ มฺุจิตฺวา วฏฺฏติ. ฆฏฺฏยนฺโตปิ ติฏฺตีติ อติสมีเป ติฏฺติ. ปุรโตปิ ¶ ติฏฺตีติ ปุรตฺถิมโตปิ ติฏฺติ. ิตโกปิ ภณตีติ ขาณุโก วิย อโนนมิตฺวา ภณติ. พาหาวิกฺเขปโกติ พาหุํ ขิปิตฺวา ขิปิตฺวา ภณติ.
อนุปขชฺชาติ สพฺเพสํ นิสินฺนฏฺานํ ปวิสิตฺวา. นเวปิ ภิกฺขู อาสเนน ปฏิพาหตีติ อตฺตโน ปตฺตาสเน อนิสีทิตฺวา ปุเร วา ปจฺฉา วา ปวิสนฺโต อาสเนน ปฏิพาหติ นาม.
อนาปุจฺฉมฺปิ กฏฺํ ปกฺขิปตีติ อนาปุจฺฉิตฺวา อนปโลเกตฺวา อคฺคิมฺหิ ทารุํ ขิปติ. ทฺวารํ ปิทหตีติ ชนฺตาฆเร ปิทหติ.
โอตรตีติ ¶ อุทกติตฺถํ ปวิสติ. นฺหายตีติ สรีรํ สิเนเหติ. อุตฺตรตีติ อุทกติตฺถโต ตีรํ อุคฺคจฺฉติ.
โวกฺกมฺมาปีติ อติกฺกมิตฺวาปิ. โอวรกานีติ คพฺเภ ปติฏฺิตสยนฆรานิ.
คูฬฺหานีติ ¶ ปฏิจฺฉนฺนานิ. ปฏิจฺฉนฺนานีติ อฺเหิ ปฏิจฺฉาทิตานิ.
อนชฺฌิฏฺโ วาติ เถเรหิ ‘‘ธมฺมํ ภณาหี’’ติ อนาณตฺโต อนายาจิโต จ.
ปาปธมฺโมติ ลามกธมฺโม. อสุจิสงฺกสรสมาจาโรติ อฺเหิ ‘‘อยํ ทุสฺสีโล’’ติ สงฺกาย สริตพฺโพ อาจาโร สํโยโค เอตสฺสาติ อสุจิสงฺกสรสมาจาโร. สงฺกสฺสรสมาจาโรติ สการํ สํโยคํ กตฺวาปิ ปนฺติ. ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโตติ ปฏิจฺฉาทิตกายวจีกมฺมนฺโต. อสฺสมโณติ น สมโณ. สมณปฏิฺโติ ‘‘อหํ สมโณ’’ติ ปฏิชานนฺโต. อพฺรหฺมจารีติ เสฏฺจริยา วิรหิโต. พฺรหฺมจาริปฏิฺโติ วุตฺตปฏิปกฺโข. อนฺโตปูตีติ อพฺภนฺตเร กุสลธมฺมวิรหิตตฺตา อนฺโตปูติภาวมาปนฺโน. อวสฺสุโตติ ราเคน ตินฺโต. กสมฺพุชาโตติ สงฺการสภาโว. อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ เอตฺถ ภิกฺขุ สคารโว สปฺปติสฺโส หิโรตฺตปฺปสมฺปนฺโน สุนิวตฺโถ สุปารุโต ปาสาทิเกน อภิกฺกนฺเตน ปฏิกฺกนฺเตน อาโลกิเตน วิโลกิเตน สมิฺชิเตน ปสาริเตน โอกฺขิตฺตจกฺขุ อิริยาปถสมฺปนฺโน อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โภชเน มตฺตฺู ชาคริยมนุยุตฺโต สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต อปฺปิจฺโฉ สนฺตุฏฺโ อารทฺธวีริโย อาภิสมาจาริเกสุ สกฺกจฺจการี ครุจิตฺตีการพหุโล วิหรติ, อยํ วุจฺจติ อาจาโร. เอวํ ตาว อาจาโร เวทิตพฺโพ.
โคจโร ¶ ปน ติวิโธ อุปนิสฺสยโคจโร อารกฺขโคจโร อุปนิพนฺธโคจโรติ. ตตฺถ กตโม อุปนิสฺสยโคจโร? ทสกถาวตฺถุคุณสมนฺนาคโต กลฺยาณมิตฺโต, ยํ นิสฺสาย อสฺสุตํ สุณาติ, สุตํ ปริโยทาเปติ, กงฺขํ วิตรติ, ทิฏฺึ อุชุํ กโรติ, จิตฺตํ ปสาเทติ; ยสฺส วา ปน อนุสิกฺขมาโน สทฺธาย วฑฺฒติ, สีเลน, สุเตน, จาเคน, ปฺาย วฑฺฒติ. อยํ วุจฺจติ อุปนิสฺสยโคจโร.
กตโม ¶ อารกฺขโคจโร? อิธ ภิกฺขุ อนฺตรฆรํ ปวิฏฺโ วีถึ ปฏิปนฺโน โอกฺขิตฺตจกฺขุ ยุคมตฺตทสฺสาวี สุสํวุโต คจฺฉติ, น หตฺถึ โอโลเกนฺโต, น อสฺสํ, น รถํ, น ปตฺตึ, น อิตฺถึ, น ปุริสํ โอโลเกนฺโต, น อุทฺธํ อุลฺโลเกนฺโต, น ¶ อโธ โอโลเกนฺโต, น ทิสาวิทิสํ เปกฺขมาโน คจฺฉติ. อยํ วุจฺจติ อารกฺขโคจโร.
กตโม อุปนิพนฺธโคจโร? จตฺตาโร สติปฏฺานา ยตฺถ จิตฺตํ อุปนิพนฺธติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘โก จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน โคจโร สโก เปตฺติโก วิสโย? ยทิทํ จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๗๒), อยํ วุจฺจติ อุปนิพนฺธโคจโรติ. อิติ อิมินา จ อาจาเรน อิมินา จ โคจเรน อุเปโต…เป… สมนฺนาคโต. เตนปิ วุจฺจติ อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ.
อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวีติ อณุปฺปมาเณสุ อสฺจิจฺจ อาปนฺนเสขิยอกุสลจิตฺตุปฺปาทาทิเภเทสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสนสีโล. สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสูติ ยํกิฺจิ สิกฺขาปเทสุ สิกฺขิตพฺพํ, ตํ สพฺพํ สมฺมา อาทาย สิกฺขติ. เอตฺถ จ ‘‘ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต’’ติ เอตฺตาวตา จ ปุคฺคลาธิฏฺานาย เทสนาย ปาติโมกฺขสํวรสีลํ ทสฺสิตํ. ‘‘อาจารโคจรสมฺปนฺโน’’ติอาทิ ปน สพฺพํ ยถาปฏิปนฺนสฺส ตํ สีลํ สมฺปชฺชติ, ตํ ปฏิปตฺตึ ทสฺเสตุํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๘๘. สาติเยสุ อนสฺสาวีติ สาตวตฺถูสุ กามคุเณสุ ตณฺหาสนฺถววิรหิโต. สณฺโหติ สณฺเหหิ กายกมฺมาทีหิ สมนฺนาคโต. ปฏิภานวาติ ปริยตฺติปริปุจฺฉาธิคมปฏิภาเนหิ สมนฺนาคโต. น สทฺโธติ สามํ อธิคตธมฺมํ น กสฺสจิ สทฺทหติ. น วิรชฺชตีติ ขยา ราคสฺส วิรตฺตตฺตา อิทานิ น วิรชฺชติ.
เยสํ เอสาติ เยสํ ปุคฺคลานํ สาตวตฺถูสุ กามคุเณสุ อิจฺฉา ตณฺหา. อปฺปหีนาติ สนฺถวสมฺปยุตฺตา ¶ ตณฺหา อรหตฺตมคฺเคน อปฺปหีนา. เตสํ จกฺขุโต รูปตณฺหา สวตีติ เอเตสํ จกฺขุทฺวารโต ปวตฺตชวนวีถิสมฺปยุตฺตา รูปารมฺมณา ตณฺหา อุปฺปชฺชติ. อาสวตีติ โอกาสโต ยาว ภวคฺคา ธมฺมโต ยาว โคตฺรภู สวติ. สนฺทตีติ นทีโสตํ วิย อโธมุขํ สนฺทติ. ปวตฺตตีติ ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติวเสน ¶ ปวตฺตติ. เสสทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย. สุกฺกปกฺเข วุตฺตวิปริยาเยน ตณฺหา อรหตฺตมคฺเคน สุปฺปหีนา. เตสํ จกฺขุโต รูปตณฺหา น สวติ.
สณฺเหน ¶ กายกมฺเมน สมนฺนาคโตติ อผรุเสน มุทุนา กายกมฺเมน สมงฺคีภูโต เอกีภูโต. วจีกมฺมาทีสุปิ เอเสว นโย. สณฺเหหิ สติปฏฺาเนหีติอาทีสุ สติปฏฺานาทโย โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา. ปริยาปุณนอตฺถาทิปริปุจฺฉาโลกิยโลกุตฺตรธมฺมาธิคมวเสน สลฺลกฺขณวิภาวนววตฺถานกรณสมตฺถา ติสฺโส ปฏิภานปฺปเภทสงฺขาตา ปฺา ยสฺส อตฺถิ, โส ปฏิภานวา. ตสฺส ปริยตฺตึ นิสฺสาย ปฏิภายตีติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส ปริยาปุณนํ อลฺลียิตฺวา าณํ ชายติ าณํ อภิมุขํ โหติ. จตฺตาโร สติปฏฺานาติ สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกวเสน วุตฺตา. มคฺคผลานิ นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรวเสน. จตสฺโส ปฏิสมฺภิทาโย ฉ จ อภิฺาโย วิโมกฺขนฺติกวเสน วุตฺตาติ าตพฺพา.
ตตฺถ จตสฺโส ปฏิสมฺภิทาโยติ จตฺตาโร าณปฺปเภทาติ อตฺโถ. อิทฺธิวิธาทิอาสวกฺขยปริโยสานานิ อธิกานิ ฉ าณานิ. ตสฺสาติ ปรสฺส, อตฺโถ ปฏิภายตีติ สมฺพนฺโธ. อตฺโถติ สงฺเขปโต เหตุผลํ. ตฺหิ ยสฺมา เหตุอนุสาเรน อรียติ อธิคมียติ ปาปุณียติ, ตสฺมา อตฺโถติ วุจฺจติ. ปเภทโต ปน ยํกิฺจิ ปจฺจยุปฺปนฺนํ นิพฺพานํ ภาสิตตฺโถ วิปาโก กิริยาติ อิเม ปฺจ ธมฺมา อตฺโถติ เวทิตพฺพา, ตํ อตฺถํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส โส อตฺโถ ปเภทโต าโต ปากโฏ โหติ. ธมฺโมติ สงฺเขปโต ปจฺจโย. โส หิ ยสฺมา ตํ ตํ วิทหติ ปวตฺเตติ เจว ปาเปติ จ, ตสฺมา ธมฺโมติ วุจฺจติ. ปเภทโต ปน โย โกจิ ผลนิพฺพตฺตโก เหตุ อริยมคฺโค ภาสิตํ กุสลํ อกุสลนฺติ อิเม ปฺจ ธมฺมา ธมฺโมติ เวทิตพฺพา, ตํ ธมฺมํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส โส ธมฺโม ปเภทโต าโต ปากโฏ โหติ, ตสฺมึ อตฺเถ จ ธมฺเม จ ยา สภาวนิรุตฺติ อพฺยภิจารี โวหาโร, ตสฺส อภิลาเป ภาสเน อุทีรเณ ตํ ลปิตํ ภาสิตํ อุทีริตํ สภาวนิรุตฺติสทฺทํ อารมฺมณํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส สา นิรุตฺติ าตา ปากฏา โหติ.
เอตฺถ ¶ อตฺเถ าเต อตฺโถ ปฏิภายตีติ อิทานิ ตสฺส สทฺทํ อาหริตฺวา วุตฺตปฺปเภเท อตฺเถ ปากฏีภูเต วุตฺตปฺปเภโท ¶ อตฺโถ ตสฺส ปุคฺคลสฺส ปฏิภายติ าณาภิมุโข โหติ. ธมฺเม าเต ¶ ธมฺโม ปฏิภายตีติ วุตฺตปฺปเภเท ธมฺเม ปากฏีภูเต วุตฺตปฺปเภโท ธมฺโม ปฏิภายติ. นิรุตฺติยา าตาย นิรุตฺติ ปฏิภายตีติ วุตฺตปฺปเภทาย นิรุตฺติยา ปากฏาย วุตฺตปฺปเภทา นิรุตฺติ ปฏิภายติ. อิเมสุ ตีสุ าเณสุ าณนฺติ อตฺถธมฺมนิรุตฺตีสุ อิเมสุ ตีสุ สพฺพตฺถกาณมารมฺมณํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส เตสุ ตีสุ าเณสุ ปเภทคตํ าณํ, ยถาวุตฺเตสุ วา เตสุ ตีสุ าเณสุ โคจรกิจฺจาทิวเสน วิตฺถารคตํ าณํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทา. อิมาย ปฏิภานปฏิสมฺภิทายาติ อิมาย วุตฺตปฺปการาย ยถาวุตฺตวิตฺถารปฺาย อุเปโต โหติ. โส วุจฺจติ ปฏิภานวาติ นิคเมนฺโต อาห. ยสฺส ปริยตฺติ นตฺถีติ ปริยตฺติ นาม พุทฺธวจนํ. ตฺหิ อุคฺคณฺหนฺตสฺส ปฏิสมฺภิทา วิสทา โหนฺติ. ยสฺส ปุคฺคลสฺส เอวรูปา ปริยตฺติ นตฺถิ. ปริปุจฺฉา นตฺถีติ ปริปุจฺฉา นาม ปาฬิอฏฺกถาทีสุ คณฺิปทอตฺถปทวินิจฺฉยกถา. อุคฺคหิตปาฬิอาทีสุ หิ อตฺถํ กเถนฺตสฺส ปฏิสมฺภิทา วิสทา โหนฺติ. อธิคโม นตฺถีติ อธิคโม นาม อรหตฺตปฺปตฺติ. อรหตฺตฺหิ ปตฺตสฺส ปฏิสมฺภิทา วิสทา โหนฺติ. ยสฺส วุตฺตปฺปการา ติวิธา สมฺปตฺติ นตฺถิ. กึ ตสฺส ปฏิภายิสฺสตีติ เกน การเณน ตสฺส ปุคฺคลสฺส ปเภทคตํ าณํ อุปฏฺหิสฺสติ.
สามนฺติ สยเมว. สยํ อภิฺาตนฺติ สยเมว เตน าเณน อวคมิตํ. อตฺตปจฺจกฺขํ ธมฺมนฺติ อตฺตนา ปฏิวิชฺฌิตํ ปจฺจเวกฺขิตํ ธมฺมํ. น กสฺสจิ สทฺทหตีติ อตฺตปจฺจกฺขตาย ปเรสํ น สทฺทหติ, สทฺธาย น คจฺฉติ. อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติอาทิกํ ทฺวาทสปทิกปจฺจยาการทสฺสนวเสน วุตฺตํ. อวิชฺชานิโรธาติอาทโย สํสารนิวตฺตึ สนฺธาย วุตฺตา. อิทํ ทุกฺขนฺติอาทิ สจฺจทสฺสนวเสน. อิเม อาสวาติอาทโย อปเรน ปริยาเยน กิเลสวเสน ปจฺจยทสฺสนวเสน. อิเม ธมฺมา อภิฺเยฺยาติอาทโย อภิฺเยฺยปริฺเยฺยปหาตพฺพภาเวตพฺพสจฺฉิกาตพฺพธมฺมานํ ทสฺสนวเสน. ฉนฺนํ ผสฺสายตนานนฺติอาทโย ผสฺสายตนานํ อุปฺปตฺติฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ ¶ อุปทฺทวฺจ นิสฺสรณฺจ ทสฺสนวเสน. ปฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ ปฺจวีสติวิเธน อุทยฺจ วยฺจ, เตสุ ฉนฺทราควเสน ¶ อสฺสาทฺจ, เตสํ วิปริณามํ อาทีนวฺจ, นิสฺสรณสงฺขาตํ นิพฺพานฺจ. จตุนฺนํ มหาภูตานํ อวิชฺชาทิสมุทยฺจ, อวิชฺชาทินิโรเธ อตฺถงฺคมฺจ เอวมาทิทสฺสนวเสน วุตฺตา. เอเต ธมฺมา ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพา.
อมโตคธนฺติ นตฺถิ เอตสฺส มรณสงฺขาตํ มตนฺติ อมตํ. กิเลสวิสปฏิปกฺขตฺตา อคทนฺติปิ อมตํ. ตสฺมึ นินฺนตาย อมโตคธํ. อมตปรายนนฺติ วุตฺตปฺปการํ อมตํ ปรํ อยนํ ¶ คติ ปติฏฺา อสฺสาติ อมตปรายนํ. อมตปริโยสานนฺติ ตํ อมตํ สํสารสฺส นิฏฺาภูตตฺตา ปริโยสานมสฺสาติ อมตปริโยสานํ.
๘๙. ลาภกมฺยา น สิกฺขตีติ ลาภปตฺถนาย สุตฺตนฺตาทีนิ น สิกฺขติ. อวิรุทฺโธ จ ตณฺหาย, รเสสุ นานุคิชฺฌตีติ วิโรธาภาเวน จ อวิรุทฺโธ หุตฺวา ตณฺหาย มูลรสาทีสุ เคธํ นาปชฺชติ.
เกน นุ โขติ ลาภปตฺถนาย การณจินฺเตน ปิหสฺส ปริเยสเน นิปาโต. ลาภาภินิพฺพตฺติยาติ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ วิเสเสน อุปฺปตฺติยา. ลาภํ ปริปาเจนฺโตติ ปจฺจเย ปริปาจยนฺโต.
อตฺตทมตฺถายาติ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตาย ปฺาย อตฺตโน ทมนตฺถาย. อตฺตสมตฺถายาติ สมาธิสมฺปยุตฺตาย ปฺาย อตฺตโน สมาธานตฺถาย. อตฺตปรินิพฺพาปนตฺถายาติ ทุวิเธนาปิ าเณน อตฺตโน อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถาย. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถํ โข อาวุโส ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๕๙). อปฺปิจฺฉฺเว นิสฺสายาติ เอตฺถ ปจฺจยอปฺปิจฺโฉ อธิคมอปฺปิจฺโฉ ปริยตฺติอปฺปิจฺโฉ ธุตงฺคอปฺปิจฺโฉติ จตฺตาโร อปฺปิจฺฉา, เตสํ นานตฺถํ เหฏฺา วิตฺถาริตํ เอว, ตํ อปฺปิจฺฉํ อลฺลียิตฺวา. สนฺตุฏฺิฺเวาติ จตูสุ ปจฺจเยสุ จ ติวิธํ สนฺโตสํ อลฺลียิตฺวา, เอเตสํ วิภาโค เหฏฺา วิตฺถาริโตเยว. สลฺเลขฺเวาติ กิเลสเลขนํ. อิทมตฺถิตฺเวาติ อิเมหิ กุสลธมฺเมหิ ¶ อตฺถิ อิทมตฺถิ, ตสฺส ภาโว อิทมตฺถิตา, ตํ อิทมตฺถิตํเยว นิสฺสาย อลฺลียิตฺวา.
รโสติ นิทฺเทสสฺส อุทฺเทสปทํ. มูลรโสติ ยํกิฺจิ มูลํ ปฏิจฺจ นิพฺพตฺตรโส. ขนฺธรสาทีสุปิ เอเสว นโย. อมฺพิลนฺติ ตกฺกมฺพิลาทิ. มธุรนฺติ ¶ เอกนฺตโต โคสปฺปิอาทิ. มธุ ปน กสาวยุตฺตํ จิรนิกฺขิตฺตํ กสาวํ โหติ, ผาณิตํ ขาริยุตฺตํ จิรนิกฺขิตฺตํ ขาริยํ โหติ. สปฺปิ ปน จิรนิกฺขิตฺตํ วณฺณคนฺเธ ชหนฺตมฺปิ รสํ น ชหตีติ ตเทว เอกนฺตมธุรํ. ติตฺตกนฺติ นิมฺพปณฺณาทิ. กฏุกนฺติ สิงฺคิเวรมริจาทิ. โลณิกนฺติ สามุทฺทิกโลณาทิ. ขาริกนฺติ วาติงฺคณกฬีราทิ. ลมฺพิกนฺติ พทรามลกกปิฏฺสาลวาทิ. กสาวนฺติ หรีตกาทิ. อิเม สพฺเพปิ รสา วตฺถุวเสน วุตฺตา. ตํตํวตฺถุโก ปเนตฺถ รโส จ อมฺพิลาทีนิ นาเมหิ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. สาทูติ อิฏฺรโส. อสาทูติ อนิฏฺรโส. อิมินา ปททฺวเยน สพฺโพปิ รโส ปริยาทินฺโน. สีตนฺติ สีตรโส. อุณฺหนฺติ ¶ อุณฺหรโส. เอวมยํ มูลรสาทินา เภเทน ภินฺโนปิ รโส ลกฺขณาทีหิ อภินฺโนเยว. สพฺโพปิ เหส ชิวฺหาปฏิหนนลกฺขโณ, ชิวฺหาวิฺาณสฺส วิสยภาวรโส, ตสฺเสว โคจรปจฺจุปฏฺาโน. เต ชิวฺหคฺเคน รสคฺคานีติ เอเต สมณพฺราหฺมณา ปสาทชิวฺหคฺเคน อุตฺตมรสานิ. ปริเยสนฺตาติ คเวสมานา. อาหิณฺฑนฺตีติ ตตฺถ ตตฺถ วิจรนฺติ. เต อมฺพิลํ ลภิตฺวา อนมฺพิลํ ปริเยสนฺตีติ ตกฺกาทิอมฺพิลํ ลทฺธา อนมฺพิลํ คเวสนฺติ. เอวํ สพฺพํ ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา โยชิตํ.
ปฏิสงฺขา โยนิโส อาหารํ อาหาเรตีติ ปฏิสงฺขานปฺาย ชานิตฺวา อุปาเยน อาหารํ อาหาเรติ. อิทานิ อุปายํ ทสฺเสตุํ ‘‘เนว ทวายา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ตตฺถ เนว ทวายาติ ทวตฺถาย น อาหาเรติ. ตตฺถ นฏลงฺฆกาทโย ทวตฺถาย อาหาเรนฺติ นาม. ยฺหิ โภชนํ ภุตฺตสฺส นจฺจคีตกพฺพสิโลกสงฺขาโต ทโว อติเรกตเรน ปฏิภาติ, ตํ โภชนํ อธมฺเมน วิสเมน ปริเยสิตฺวา เต อาหาเรนฺติ. อยํ ปน ภิกฺขุ น เอวมาหาเรติ.
น ¶ มทายาติ มานมทปุริสมทานํ วฑฺฒนตฺถาย น อาหาเรติ. ตตฺถ ราชราชมหามตฺตา มทตฺถาย อาหาเรนฺติ นาม. เต หิ อตฺตโน มานมทปุริสมทานํ วฑฺฒนตฺถาย ปิณฺฑรสโภชนาทีนิ ปณีตโภชนานิ ภฺุชนฺติ. อยํ ปน ภิกฺขุ เอวํ นาหาเรติ.
น ¶ มณฺฑนายาติ สรีรมณฺฑนตฺถาย น อาหาเรติ. ตตฺถ รูปูปชีวินิโย มาตุคามา อนฺเตปุริกาทโย จ สปฺปิผาณิตาทีนิ ปิวนฺติ, สินิทฺธมุทุมทฺทวโภชนํ อาหาเรนฺติ. เอวํ โน องฺคลฏฺิ สุสณฺิตา ภวิสฺสติ, สรีเร ฉวิวณฺโณ ปสนฺโน ภวิสฺสตีติ. อยํ ปน ภิกฺขุ เอวํ น อาหาเรติ.
น วิภูสนายาติ สรีเร มํสวิภูสนตฺถาย น อาหาเรติ. ตตฺถ นิพฺพุทฺธมลฺลมุฏฺิกมลฺลเจฏกาทโย สุสินิทฺเธหิ มจฺฉมํสาทีหิ สรีรํ ปีเณนฺติ ‘‘เอวํ โน มํสํ อุสฺสทํ ภวิสฺสติ ปหารสหนตฺถายา’’ติ. อยํ ปน ภิกฺขุ เอวํ สรีเร มํสวิภูสนตฺถาย น อาหาเรติ.
ยาวเทวาติ อาหาราหรณปโยชนสฺส ปริจฺเฉทนิยมทสฺสนํ. อิมสฺส กายสฺส ิติยาติ อิมสฺส ¶ จตุมหาภูติกสฺส กรชกายสฺส ปนตฺถาย อาหาเรติ, อิทมสฺส อาหาราหรเณ ปโยชนนฺติ อตฺโถ. ยาปนายาติ ชีวิตินฺทฺริยยาปนตฺถาย อาหาเรติ. วิหึสูปรติยาติ วิหึสา นาม อภุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกขุทฺทา, ตสฺสา อุปรติยา วูปสมนตฺถาย อาหาเรติ. พฺรหฺมจริยานุคฺคหายาติ พฺรหฺมจริยํ นาม ติสฺโส สิกฺขา สกลสาสนํ, ตสฺส อนุคฺคณฺหตฺถาย อาหาเรติ.
อิตีติ อุปายนิทสฺสนํ, อิมินา อุปาเยนาติ อตฺโถ. ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามีติ ปุราณเวทนํ นาม อภุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกเวทนา, ตํ ปฏิหนิสฺสามีติ อาหาเรติ. นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามีติ นวเวทนา นาม อติภุตฺตปจฺจเยน อุปฺปชฺชนกเวทนา, น ตํ อุปฺปาเทสฺสามีติ อาหาเรติ. อถ วา นวเวทนา นาม ภุตฺตปจฺจยา น อุปฺปชฺชนกเวทนา, ตสฺสา อนุปฺปนฺนาย อนุปฺปชฺชนตฺถเมว อาหาเรติ.
ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสตีติ ยาปนา จ เม ภวิสฺสติ. อนวชฺชตา จาติ เอตฺถ อตฺถิ สาวชฺชํ, อตฺถิ อนวชฺชํ. ตตฺถ อธมฺมิกปริเยสนา อธมฺมิกปฏิคฺคหณํ อธมฺเมน ปริโภโคติ อิทํ สาวชฺชํ นาม. ธมฺเมน ปน ปริเยสิตฺวา ¶ ธมฺเมน ปฏิคฺคเหตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภฺุชนํ อนวชฺชํ นาม. เอกจฺโจ อนวชฺเชเยว สาวชฺชํ กโรติ, ‘‘ลทฺธํ เม’’ติ กตฺวา ปมาณาติกฺกนฺตํ ¶ ภฺุชติ, ตํ ชีราเปตุํ อสกฺโกนฺโต อุทฺธํวิเรจนอโธวิเรจนาทีหิ กิลมติ, สกลวิหาเร ภิกฺขู ตสฺส สรีรปฏิชคฺคนเภสชฺชปริเยสนาทีสุ อุสฺสุกฺกํ อาปชฺชนฺติ, ‘‘กึ อิท’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อสุกสฺส นาม อุทรํ อุทฺธุมาต’’นฺติอาทึ วทนฺติ. ‘‘เอส นิจฺจกาลมฺปิ เอวํ ปกติโกเยว, อตฺตโน กุจฺฉิปฺปมาณํ นาม น ชานาตี’’ติ นินฺทนฺติ ครหนฺติ. อยํ อนวชฺเชเยว สาวชฺชํ กโรติ นาม. เอวํ อกตฺวา ‘‘อนวชฺชตา จ เม ภวิสฺสตี’’ติ อาหาเรติ.
ผาสุวิหาโร จาติ เอตฺถาปิ อตฺถิ ผาสุวิหาโร, อตฺถิ น ผาสุวิหาโร. ตตฺถ อาหรหตฺถโก อลํสาฏโก ตตฺรวฏฺฏโก กากมาสโก ภุตฺตวมิตโกติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ พฺราหฺมณานํ โภชนํ น ผาสุวิหาโร นาม. เอเตสุ หิ อาหรหตฺถโก นาม พหุํ ภฺุชิตฺวา อตฺตโน ธมฺมตาย อุฏฺาตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘อาหร หตฺถ’’นฺติ วทติ. อลํสาฏโก นาม อจฺจุทฺธุมาตกุจฺฉิตาย อุฏฺิโตปิ สาฏกํ นิวาเสตุํ น สกฺโกติ. ตตฺรวฏฺฏโก นาม อุฏฺาตุํ อสกฺโกนฺโต ตตฺเรว ปริวฏฺฏติ. กากมาสโก นาม ยถา กาเกหิ อามสิตุํ สกฺโกติ, เอวํ ยาว มุขทฺวารา อาหาเรติ. ภุตฺตวมิตโก นาม มุเขน สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต ตตฺเถว วมติ. เอวํ ¶ อกตฺวา ‘‘ผาสุวิหาโร จ เม ภวิสฺสตี’’ติ อาหาเรติ. ผาสุวิหาโร นาม จตูหิ ปฺจหิ อาโลเปติ อูนูทรตา. เอตฺตกฺหิ ภฺุชิตฺวา ปานียํ ปิวโต จตฺตาโร อิริยาปถา สุเขน ปวตฺตนฺติ. ตสฺมา ธมฺมเสนาปติ เอวมาห –
‘‘จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป, อภุตฺวา อุทกํ ปิเว;
อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน’’ติ. (เถรคา. ๙๘๓; มิ. ป. ๖.๕.๑๐);
อิมสฺมึ ปน าเน องฺคานิ สโมธาเนตพฺพานิ. เนว ทวายาติ หิ เอกํ องฺคํ, น มทายาติ เอกํ, น มณฺฑนายาติ เอกํ, น วิภูสนายาติ เอกํ, ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา ยาปนายาติ เอกํ, วิหึสูปรติยา พฺรหฺมจริยานุคฺคหายาติ เอกํ, อิติ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามิ นวฺจ ¶ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามีติ เอกํ, ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสตีติ เอกํ องฺคํ, อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จาติ อยเมตฺถ โภชนานิสํโส.
มหาสิวตฺเถโร ¶ ปนาห – ‘‘เหฏฺา จตฺตาริ องฺคานิ ปฏิกฺเขโป นาม, อุปริ ปน อฏฺงฺคานิ สโมธาเนตพฺพานี’’ติ. ตตฺถ ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยาติ เอกํ องฺคํ, ยาปนายาติ เอกํ, วิหึสูปรติยาติ เอกํ, พฺรหฺมจริยานุคฺคหายาติ เอกํ, อิติ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามีติ เอกํ, นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามีติ เอกํ, ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสตีติ เอกํ, อนวชฺชตา จาติ เอกํ, ผาสุวิหาโร ปน โภชนานิสํโสติ. เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อาหารํ อาหาเรติ.
๙๐. อุเปกฺขโกติ ฉฬงฺคุเปกฺขาย สมนฺนาคโต. สโตติ กายานุปสฺสนาทิสติยุตฺโต.
อุเปกฺขโกติ ฉฬงฺคุเปกฺขาย สมนฺนาคโตติ เอตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขาธมฺโม นาม โกติ? าณาทโย. ‘‘าณ’’นฺติ วุตฺเต กิริยโต จตฺตาริ าณสมฺปยุตฺตานิ ลพฺภนฺติ, ‘‘สตตวิหาโร’’ติ วุตฺเต อฏฺ มหาจิตฺตานิ ลพฺภนฺติ, ‘‘รชฺชนทุสฺสนํ นตฺถี’’ติ วุตฺเต ทส จิตฺตานิ ลพฺภนฺติ. โสมนสฺสํ อาเสวนวเสน ลพฺภติ. จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ การณวเสน จกฺขูติ ลทฺธโวหาเรน รูปทสฺสนสมตฺเถน จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ทิสฺวา. โปราณา ปนาหุ – จกฺขุ รูปํ น ปสฺสติ อจิตฺตกตฺตา, จิตฺตมฺปิ น ปสฺสติ อจกฺขุกตฺตา. ทฺวารารมฺมณสงฺฆฏฺฏเนน ปน ปสาทวตฺถุเกน จิตฺเตน ปสฺสติ. อีทิเสสุ ปน าเนสุ ‘‘ธนุนา วิชฺฌตี’’ติอาทีสุ ¶ วิย สสมฺภารกถา นาม โหติ. ตสฺมา จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ทิสฺวาติ อยเมเวตฺถ อตฺโถ.
เนว สุมโน โหตีติ โลภุปฺปตฺติวเสน ฉนฺทราคุปฺปตฺติวเสน โสมนสฺโส น โหติ. น ทุมฺมโนติ ปฏิฆุปฺปตฺติวเสน ทุฏฺจิตฺโต น โหติ. อุเปกฺขโกติ อุปปตฺติโต อิกฺขโก โหติ, อปกฺขปติโต หุตฺวา อิริยาปถํ ปวตฺเตติ. สโต สมฺปชาโนติ สติมา าณสมฺปนฺโน. มนาปํ นาภิคิชฺฌตีติ มนวฑฺฒนกํ อิฏฺารมฺมณํ นาภิคิชฺฌติ น ปตฺเถติ. นาภิหํสตีติ น ตุสฺสติ. น ราคํ ชเนตีติ ตตฺถ ตตฺถ รฺชนํ น อุปฺปาเทติ. ตสฺส ¶ ิโตว กาโย โหตีติ ตสฺส ขีณาสวสฺส จกฺขาทิกาโย กมฺปารหิตตฺตา ิโต นิจฺจโล โหติ. อมนาปนฺติ อนิฏฺารมฺมณํ ¶ . น มงฺกุ โหตีติ โทมนสฺสิโต น โหติ. อปฺปติฏฺิตจิตฺโตติ โกธวเสน ิตมโน น โหติ. อลีนมนโสติ อลีนจิตฺโต. อพฺยาปนฺนเจตโสติ พฺยาปาทรหิตจิตฺโต.
รชนีเย น รชฺชตีติ รชนียสฺมึ วตฺถุสฺมึ น ราคํ อุปฺปาเทติ. ทุสฺสนีเย น ทุสฺสตีติ โทสุปฺปาเท วตฺถุสฺมึ น โทสํ อุปฺปาเทติ. โมหนีเย น มุยฺหตีติ โมหนียสฺมึ วตฺถุสฺมึ น โมหํ อุปฺปาเทติ. โกปนีเย น กุปฺปตีติ โกธนียสฺมึ วตฺถุสฺมึ น จลติ. มทนีเย น มชฺชตีติ มทนียสฺมึ วตฺถุสฺมึ น สํสีทติ. กิเลสนีเย น กิลิสฺสตีติ อุปตปนียสฺมึ วตฺถุสฺมึ น อุปตปฺปติ. ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺโตติ รูปารมฺมเณ จกฺขุวิฺาเณน ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺโต. สุเต สุตมตฺโตติ สทฺทายตเน โสตวิฺาเณน สุเต สุตมตฺโต. มุเต มุตมตฺโตติ ฆานชิวฺหากายวิฺาเณน ปาปุณิตฺวา คหิเต คหิตมตฺโต. วิฺาเต วิฺาตมตฺโตติ มโนวิฺาเณน าเต าตมตฺโต. ทิฏฺเ น ลิมฺปตีติ จกฺขุวิฺาเณน ทิฏฺเ รูปารมฺมเณ ตณฺหาทิฏฺิเลเปน น ลิมฺปติ. ทิฏฺเ อนูปโยติ รูปารมฺมเณ นิตฺตณฺโห โหติ. อนปาโยติ อปทุฏฺจิตฺโต.
สํวิชฺชตีติ ลพฺภติ. ปสฺสตีติ โอโลเกติ. ฉนฺทราโคติ สิเนโห. รูปารามนฺติ รูปํ อารามํ อสฺสาติ รูปารามํ. รูเป รตนฺติ รูปรตํ. รูเป สนฺตุฏฺีติ รูปสมฺมุทิตํ.
ทนฺตํ นยนฺติ สมิตินฺติ อุยฺยานกีฬามณฺฑลาทีสุ มหาชนมชฺฌํ คจฺฉนฺตา ทนฺตเมว โคณชาตึ วา อสฺสชาตึ วา ยาเน โยเชตฺวา นยนฺติ. ราชาติ ตถารูปาเนว านานิ คจฺฉนฺโต ราชาปิ ทนฺตเมว อภิรุหติ. มนุสฺเสสูติ มนุสฺเสสุปิ จตูหิ อริยมคฺเคหิ ทนฺโต นิพฺพิเสวโนว ¶ เสฏฺโ. โยติวากฺยนฺติ โย เอวรูปํ อติกฺกมวจนํ ปุนปฺปุนํ วุจฺจมานมฺปิ ติติกฺขติ น ปฏิปฺผนฺทติ น วิหฺติ, เอวรูโป ทนฺโต เสฏฺโติ อตฺโถ.
อสฺสตราติ ¶ วฬวาย คทฺรเภน ชาตา. อาชานียาติ ยํ อสฺสทมฺมสารถิ การณํ กาเรติ, ตสฺส ขิปฺปํ ชานนสมตฺถา. สินฺธวาติ สินฺธวรฏฺเ ชาตา อสฺสา. มหานาคาติ กฺุชรสงฺขาตา มหาหตฺถิโน. อตฺตทนฺโตติ ¶ เอเต อสฺสตรา วา อาชานียา วา สินฺธวา วา กฺุชรา วา วรา ทนฺตา, น อทนฺตา. โย ปน จตุมคฺคสงฺขาเตน อตฺตทนฺเตน ทนฺตตาย อตฺตทนฺโต นิพฺพิเสวโน, อยํ ตโตปิ วรํ, สพฺเพหิปิ เอเตหิ อุตฺตริตโรติ อตฺโถ.
น หิ เอเตหิ ยาเนหีติ ยานิ เอตานิ หตฺถิยานาทิยานานิ, น หิ เอเตหิ ยาเนหิ โกจิ ปุคฺคโล สุปินนฺเตนปิ อคตปุพฺพตฺตา ‘‘อคต’’นฺติ สงฺขาตํ นิพฺพานทิสํ, ตํ านํ คจฺเฉยฺย. ยถา ปุพฺพภาเค อินฺทฺริยทเมน ทนฺเตน อปรภาเค อริยมคฺคภาวนาย สุทนฺเตน ทนฺโต นิพฺพิเสวโน สปฺปฺโ ปุคฺคโล ตํ อคตปุพฺพํ ทิสํ คจฺฉติ, ทนฺตภูมึ ปาปุณาติ. ตสฺมา อตฺตทมนเมว วรนฺติ อตฺโถ.
วิธาสุ น วิกมฺปนฺตีติ เสยฺยสฺส เสยฺโยหมสฺมีติอาทีสุ มานวิธาสุ น จลนฺติ นปฺปเวธนฺติ. วิปฺปมุตฺตา ปุนพฺภวาติ ปุนพฺภวปฏิสนฺธิยา ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติโต สุฏฺุ มุตฺตา มฺุจิตฺวา ิตา. ทนฺตภูมิมนุปฺปตฺตาติ เอกนฺตทมนํ อรหตฺตผลภูมึ ปาปุณิตฺวา ิตา. เต โลเก วิชิตาวิโนติ เต อรหนฺโต สตฺตโลเก วิชิตวิชยา วิชิตวนฺโต นาม โหนฺติ.
ยสฺมา จ ภาวิตินฺทฺริโย นิพฺภโย นิพฺพิกาโร ทนฺโต โหติ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยสฺสินฺทฺริยานี’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ยสฺส จกฺขาทีนิ ฉฬินฺทฺริยานิ โคจรภาวนาย อนิจฺจาทิติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา วาสนาภาวนาย สติสมฺปชฺคนฺธํ คาหาเปตฺวา ภาวิตานิ, ตานิ จ โข อชฺฌตฺตโคจรภาวนาย, เอวํ ปน พหิทฺธา จ สพฺพโลเกติ ยตฺถ ยตฺถ อินฺทฺริยานํ เวกลฺลตา เวกลฺลโต วา สมฺภโว, ตตฺถ นาภิชฺฌาทิวเสน ภาวิตานีติ เอวํ นิพฺพิชฺฌ ตฺวา ปฏิวิชฺฌิตฺวา อิมํ ปรฺจ โลกํ สกสนฺตติขนฺธโลกํ ปรสนฺตติขนฺธโลกฺจ ¶ ทนฺตมรณํ มริตุกาโม กาลํ กงฺขติ, ชีวิตกฺขยกาลํ อาคเมติ ปติมาเนติ, น ภายติ มรณสฺส. ยถาห –
‘‘มรเณ เม ภยํ นตฺถิ, นิกนฺติ นตฺถี ชีวิเต’’. (เถรคา. ๒๐);
‘‘นาภิกงฺขามิ ¶ มรณํ, นาภิกงฺขามิ ชีวิตํ;
กาลฺจ ปติมาเนมิ, นิพฺพิสํ ภตโก ยถา’’ติ. (เถรคา. ๖๐๖, ๖๕๔, ๑๐๐๒; มิ. ป. ๒.๒.๔ โถกํ วิสทิสํ);
ภาวิโต ¶ ส ทนฺโตติ เอวํ ภาวิตินฺทฺริโย โส ทนฺโต.
๙๑. นิสฺสยตาติ ตณฺหาทิฏฺินิสฺสยา. ตฺวา ธมฺมนฺติ อนิจฺจาทีหิ อากาเรหิ ธมฺมํ ชานิตฺวา. อนิสฺสิโตติ เอวํ เตหิ นิสฺสเยหิ อนิสฺสิโต. เตน อฺตฺร ธมฺมาณา นตฺถิ นิสฺสยานํ อภาโวติ ทีเปติ. ภวาย วิภวาย วาติ สสฺสตาย อุจฺเฉทาย วา. อิมิสฺสา คาถาย นิทฺเทโส อุตฺตาโน.
๙๒. ตํ พฺรูมิ อุปสนฺโตติ ตํ เอวรูปํ เอเกกคาถาย วุตฺตํ อุปสนฺโตติ กเถมิ. อตรี โส วิสตฺติกนฺติ โส อิมํ วิสตาทิภาเวน วิสตฺติกาสงฺขาตํ มหาตณฺหํ อตริ.
อตฺตโน ทิฏฺิยา ราโค อภิชฺฌากายคนฺโถติ สยํ คหิตทิฏฺิยา รฺชนสงฺขาโต ราโค อภิชฺฌากายคนฺโถ. ปรวาเทสุ อาฆาโต อปฺปจฺจโยติ ปเรสํ วาทปฏิวาเทสุ โกโป จ อตุฏฺากาโร จ พฺยาปาโท กายคนฺโถ. อตฺตโน สีลํ วา วตํ วาติ สยํ คหิตเมถุนวิรติสงฺขาตํ สีลํ วา โควตาทิวตํ วา. สีลพฺพตํ วาติ ตทุภยํ วา. ปรามาโสติ อิมินา สุทฺธีติอาทิวเสน ปรโต อามสติ. อตฺตโน ทิฏฺิ อิทํสจฺจาภินิเวโส กายคนฺโถติ สยํ คหิตทิฏฺึ ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ (อุทา. ๕๔; ม. นิ. ๓.๒๗, ๓๐๑) อโยนิโส อภินิเวโส อิทํสจฺจาภินิเวโส กายคนฺโถ. คนฺถา ตสฺส น วิชฺชนฺตีติ ตสฺส ขีณาสวสฺส ทฺเว ทิฏฺิคนฺถา โสตาปตฺติมคฺเคน น สนฺติ. พฺยาปาโท กายคนฺโถ อนาคามิมคฺเคน. อภิชฺฌากายคนฺโถ อรหตฺตมคฺเคน.
๙๓. อิทานิ ตเมว อุปสนฺตํ ปสํสนฺโต อาห ‘‘น ตสฺส ปุตฺตา’’ติ เอวมาทิ. ตตฺถ ปุตฺตา อตฺรชาทโย จตฺตาโร. เอตฺถ จ ปุตฺตปริคฺคหาทโย ปุตฺตาทินาเมน วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. เต หิสฺส น วิชฺชนฺติ, เตสํ วา อภาเวน ปุตฺตาทโย น วิชฺชนฺตีติ. อตฺตาติ ¶ ‘‘อตฺตา อตฺถี’’ติ คหิตา สสฺสตทิฏฺึ นตฺถิ. นิรตฺตาติ ‘‘อุจฺฉิชฺชตี’’ติ คหิตา อุจฺเฉททิฏฺิ.
นตฺถีติ ¶ คเหตพฺพํ นตฺถิ. มฺุจิตพฺพํ นตฺถีติ โมเจตพฺพํ นตฺถิ. ยสฺส นตฺถิ คหิตนฺติ ยสฺส ¶ ปุคฺคลสฺส ตณฺหาทิฏฺิวเสน คหิตํ น วิชฺชติ. ตสฺส นตฺถิ มฺุจิตพฺพนฺติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส มฺุจิตพฺพํ น วิชฺชติ. คาหมฺุจนสมติกฺกนฺโตติ คหณฺจ โมจนฺจ วีติวตฺโต. วุทฺธิปริหานิวีติวตฺโตติ วุฑฺฒิฺจ หานิฺจ อติกฺกนฺโต.
๙๔. เยน นํ วชฺชุํ ปุถุชฺชนา, อโถ สมณพฺราหฺมณาติ เยน ตํ ราคาทินา วชฺเชน ปุถุชฺชนา สพฺเพปิ เทวมนุสฺสา อิโตว พหิทฺธา สมณพฺราหฺมณา จ รตฺโตติ วา ทุฏฺโติ วา วเทยฺยุํ. ตํ ตสฺส อปุรกฺขตนฺติ ตํ ราคาทิวชฺชํ ตสฺส อรหโต อปุรกฺขตํ. ตสฺมา วาเทสุ เนชตีติ ตํการณา นินฺทาวจเนสุ น กมฺปติ.
เนชตีติ นิทฺเทสสฺส อุทฺเทสปทํ. น อิฺชตีติ จลนํ น กโรติ. น จลตีติ น ตตฺถ นมติ. น เวธตีติ กมฺเปตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย น ผนฺทติ. นปฺปเวธตีติ น กมฺปติ. น สมฺปเวธตีติ น ปริวตฺตติ.
๙๕. น อุสฺเสสุ วทเตติ วิสิฏฺเสุ อตฺตานํ อนฺโตกตฺวา ‘‘อหํ วิสิฏฺโ’’ติ อติมานวเสน น วทติ. เอส นโย อิตเรสุ ทฺวีสุ. กปฺปํ เนติ อกปฺปิโยติ โส เอวรูโป ทุวิธมฺปิ กปฺปํ น เอติ. กสฺมา? ยสฺมา อกปฺปิโย, ปหีนกปฺโปติ วุตฺตํ โหติ. อิมิสฺสาปิ คาถาย นิทฺเทโส อุตฺตาโนว.
๙๖. สกนฺติ มยฺหนฺติ ปริคฺคหิตํ. อสตา จ น โสจตีติ อวิชฺชมานาทินา อสตา จ น โสจติ. ธมฺเมสุ จ น คจฺฉตีติ สพฺพธมฺเมสุ ฉนฺทาทิวเสน น คจฺฉติ. ส เว สนฺโตติ วุจฺจตีติ โส เอวรูโป นรุตฺตโม ‘‘สนฺโต’’ติ วุจฺจติ. อิมิสฺสาปิ คาถาย นิทฺเทโส อุตฺตาโนว. อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ. เทสนาปริโยสาเน โกฏิสตสหสฺสเทวตานํ อรหตฺตปฺปตฺติ อโหสิ, โสตาปนฺนาทีนํ คณนา นตฺถีติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย
ปุราเภทสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. กลหวิวาทสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๙๗. เอกาทสเม ¶ ¶ ¶ กลหวิวาทสุตฺตนิทฺเทเส กุโตปหูตา กลหา วิวาทาติ กลโห จ ตสฺส ปุพฺพภาโค วิวาโท จาติ อิเม กุโต ชาตา. ปริเทวโสกา สหมจฺฉรา จาติ ปริเทวโสกา จ สหมจฺฉรา จ กุโต ปหูตา. มานาติมานา สหเปสุณา จาติ มานา จ อติมานา จ เปสุณา จ กุโต ปหูตา. เตติ เต สพฺเพปิ อฏฺ กิเลสธมฺมา. ตทิงฺฆ พฺยูหีติ ตํ มยา ปุจฺฉิตมตฺถํ พฺรูหิ, ยาจามิ ตํ อหนฺติ. ยาจนตฺโถ หิ อิงฺฆาติ นิปาโต.
เอเกน อากาเรนาติ เอเกน การเณน. อปเรน อากาเรนาติ อปเรน การเณน. อาคาริกา ทณฺฑปสุตาติ คหปติโน วิเหสมานา. ปพฺพชิตา อาปตฺตึ อาปชฺชนฺตาติ อนคาริกา สตฺตสุ อาปตฺติกฺขนฺเธสุ อฺตรํ อาปชฺชมานา.
กุโตปหูตาติ กุโตภูตา. กุโตชาตาติ กุโต ปฏิลทฺธภาวา. กุโตสฺชาตาติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ. กุโตนิพฺพตฺตาติ กุโต นิพฺพตฺตลกฺขณํ ปตฺตา. อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺเฒตฺวา ‘‘กุโตอภินิพฺพตฺตา’’ติ วุตฺตํ. กุโตปาตุภูตาติ กุโตปากฏีภูตา. กึ นิทานาติอาทีสุ อตฺตโน ผลํ นิเทตีติ นิทานํ. เอตสฺมา ผลํ สมุเทตีติ สมุทโย. เอตสฺมา ผลํ ชายตีติ ชาติ. เอตสฺมา ผลํ ปภวตีติ ปภโว. มูลํ ปุจฺฉตีติ กลหสฺส การณํ ปุจฺฉติ. การณฺหิ ปติฏฺฏฺเน มูลํ. อตฺตโน ผลนิปฺผาทนตฺถํ หิโนติ ปวตฺตตีติ เหตุ. ‘‘หนฺท นํ คณฺหถา’’ติ ทสฺเสนฺตํ วิย อตฺตโน ผลํ นิเทตีติ นิทานํ. เอตสฺมา ผลํ สมฺภวตีติ สมฺภโว. ปภวติ ผลํ เอตสฺมาติ ปภโว. สมุฏฺาติ เอตฺถ ผลํ, เอเตน วา สมุฏฺาตีติ สมุฏฺานํ. อตฺตโน ผลํ อาหรตีติ อาหาโร. อปฏิกฺขิปิตพฺพฏฺเน อตฺตโน ผลํ อารเมตีติ อารมฺมณํ. เอตํ ปฏิจฺจ อปฏิกฺขิปิตฺวา ผลํ ¶ เอติ ปวตฺตตีติ ปจฺจโย. เอตสฺมา ผลํ สมุเทตีติ สมุทโยติ เอวเมเตสํ ปทานํ วจนตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตํ สนฺธาย ‘‘กลหสฺส จ วิวาทสฺส จ มูลํ ปุจฺฉตี’’ติอาทินา นเยน เทสนา วุตฺตา.
๙๘. ปิยปฺปหูตาติ ¶ ปิยวตฺถุโต ชาตา. มจฺเฉรยุตฺตา กลหา วิวาทาติ อิมินา กลหวิวาทาทีนํ น เกวลํ ปิยวตฺถุเมว, มจฺฉริยมฺปิ ปจฺจยํ ¶ ทสฺเสติ. กลหวิวาทสีเสน เจตฺถ สพฺเพปิ เต ธมฺมา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. ยถา จ เอเตสํ มจฺฉริยํ, ตถา เปสุณานฺจ วิวาทํ. เตนาห ‘‘วิวาทชาเตสุ จ เปสุณานี’’ติ. อิมิสฺสา คาถาย นิทฺเทโส อุตฺตานตฺโถเยว.
๙๙. ปิยา สุ โลกสฺมึ กุโตนิทานา, เย จาปิ โลภา วิจรนฺติ โลเกติ ‘‘ปิยปฺปหูตา กลหา’’ติ เย เอตฺถ วุตฺตา, เต ปิยา โลกสฺมึ กุโตนิทานา, น เกวลฺจ ปิยา, เย จาปิ ขตฺติยาทโย โลเก วิจรนฺติ โลภเหตุ โลเภนาภิภูตา วิจรนฺติ, เตสํ โส โลโภ จ กุโตนิทาโนติ ทฺเว อตฺเถ เอกาย ปุจฺฉาย ปุจฺฉติ. กุโตนิทานาติ เจตฺถ กึนิทานา กึเหตุกาติ ปจฺจตฺตวจนสฺส โตอาเทโส เวทิตพฺโพ, สมาเส จสฺส โลปาภาโว. อถ วา นิทานาติ ชาตา, อุปฺปนฺนาติ อตฺโถ. ตสฺมา กุโต ชาตา กุโต อุปฺปนฺนาติ วุตฺตํ โหติ. อาสา จ นิฏฺา จาติ อาสา จ ตสฺสา อาสาย สมิทฺธิ จ. เย สมฺปรายาย นรสฺส โหนฺตีติ เย นรสฺส สมฺปรายาย โหนฺติ, ปรายนา โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. เอกา เอวายมฺปิ ปุจฺฉา.
ทีปา โหนฺตีติ ปติฏฺา ภวนฺติ. สรณา โหนฺตีติ ทุกฺขนาสนา โหนฺติ. นิฏฺาปรายนา โหนฺตีติ สมิทฺธิปรายนา โหนฺติ.
๑๐๐. ฉนฺทานิทานานีติ กามจฺฉนฺทาทิฉนฺทนิทานานิ. เย จาปิ โลภา วิจรนฺตีติ เย จาปิ ขตฺติยาทโย โลภา วิจรนฺติ, เตสํ โลโภปิ ฉนฺทนิทาโนติ ทฺเวปิ อตฺเถ เอกโต วิสฺสชฺเชติ. อิโตนิทานาติ ฉนฺทนิทานา เอวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อิโตนิทานา’’ติ หิ ฉนฺทํ สนฺธายาห. ฉนฺทนิทานา หิ โลภาทโย. ‘‘อิโตนิทานา’’ติ สทฺทสิทฺธิ ¶ เจตฺถ ‘‘กุโตนิทานา’’ติ เอตฺถ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพา. อาสาย สมิทฺธิ วุจฺจติ นิฏฺาติ อชฺฌาสยนิพฺพตฺติปฏิลาโภ กถียติ.
๑๐๑. วินิจฺฉยาติ ตณฺหาทิฏฺิวินิจฺฉยา. เย จาปิ ธมฺมา สมเณน วุตฺตาติ เย จ อฺเปิ โกธาทีหิ สมฺปยุตฺตา, ตถารูปา วา อกุสลา ธมฺมา พุทฺธสมเณน วุตฺตา, เต กุโตปหูตาติ.
อฺชาติกาติ ¶ อฺสภาวา. อฺวิหิตกาติ อฺเนากาเรน ิตา. สมิตปาเปนาติ นิพฺพาปิตปาเปน. พาหิตปาปธมฺเมนาติ ปหีนลามกธมฺเมน. ภินฺนกิเลสมูเลนาติ กิเลสมูลานิ ¶ ภินฺทิตฺวา ิเตน. สพฺพากุสลมูลพนฺธนา ปมุตฺเตนาติ ทฺวาทสอกุสลพนฺธนํ โมเจตฺวา ิเตน. วุตฺตาติ กถิตา. ปวุตฺตาติ ปกาเรน กถิตา.
๑๐๒. ตมูปนิสฺสาย ปโหติ ฉนฺโทติ ตํ สุขทุกฺขเวทนํ ตทุภยวตฺถุสงฺขาตํ สาตาสาตํ อุปนิสฺสาย สํโยควิโยคปตฺถนาวเสน ฉนฺโท ปโหติ. เอตฺตาวตา ‘‘ฉนฺโท นุ โลกสฺมึ กุโตนิทาโน’’ติ อยํ ปฺโห วิสฺสชฺชิโต โหติ. รูเปสุ ทิสฺวา วิภวํ ภวฺจาติ รูเปสุ วยฺจ อุปฺปาทฺจ ทิสฺวา. วินิจฺฉยํ กุพฺพติ ชนฺตุ โลเกติ อปายาทิเก โลเก อยํ ชนฺตุ โภคาธิคมตฺถํ ตณฺหาวินิจฺฉยํ ‘‘อตฺตา เม อุปฺปนฺโน’’ติอาทินา นเยน ทิฏฺิวินิจฺฉยฺจ กุรุเต. เอตฺตาวตา ‘‘วินิจฺฉยา จาปิ กุโตปภูตา’’ติ อยํ ปฺโห วิสฺสชฺชิโต โหติ.
สาตาสาตํ นิสฺสายาติ มธุรฺจ อมธุรฺจ อุปนิสฺสยํ กตฺวา. อิฏฺานิฏฺนฺติ อิฏฺารมฺมณฺจ อนิฏฺารมฺมณฺจ.
สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานานุโยคนฺติ เอตฺถ สุราติ ปิฏฺสุรา ปูวสุรา โอทนสุรา กิณฺณปกฺขิตฺตา สมฺภารสํยุตฺตาติ ปฺจ สุรา. เมรยนฺติ ปุปฺผาสโว ผลาสโว มธฺวาสโว คุฬาสโว สมฺภารสํยุตฺโตติ ปฺจ อาสวา. ตํ สพฺพมฺปิ มทกรณวเสน มชฺชํ. ปมาทฏฺานนฺติ ปมาทการณํ, ยาย เจตนาย ตํ มชฺชํ ปิวติ, ตสฺเสตํ อธิวจนํ. อนุโยคนฺติ ตํ สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานานุโยคํ ¶ อนุอาโยคํ ปุนปฺปุนํ กรณํ. ยสฺมา จ ปน ตํ อนุยุตฺตสฺส เม อุปฺปนฺนา เจว โภคา ปริหายนฺติ, อนุปฺปนฺนา จ นุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา ‘‘เม โภคา ปริกฺขยํ ขีณภาวํ คจฺฉนฺตี’’ติ ชานาติ. เอวํ สพฺพตฺถ. วิกาลวิสิขาจริยานุโยคนฺติ อเวลาย วิสิขาสุ จริยานุยุตฺตํ. สมชฺชาภิจรณนฺติ นจฺจาทิทสฺสนวเสน สมชฺชาภิคมนํ. อาลสฺยานุโยคนฺติ กายาลสิยตาย ยุตฺตปฺปยุตฺตตํ. อปายมุขานิ น เสวตีติ โภคานํ วินาสทฺวารานิ น เสวติ.
กสิยา วาติ กสิกมฺเมน วา. วณิชฺชาย วาติ ธมฺมิกวณิชฺชกมฺเมน วา. โครกฺเขน วาติ โคปาลกมฺเมน วา. อิสฺสตฺเถน วาติ ธนุสิปฺเปน ¶ วา. ราชโปริเสน วาติ ราชเสวกกมฺเมน วา. สิปฺปฺตเรน วาติ กุมฺภการาทิสิปฺปานํ อฺตเรน วา. ปฏิปชฺชตีติ ปโยคํ กโรติ. จกฺขุสฺมึ อุปฺปนฺเน ชานาตีติ สสมฺภารจกฺขุสฺมึ อุปฺปนฺเน ชานาติ. ‘‘อตฺตา เม อุปฺปนฺโน’’ติ ทิฏฺึ คณฺหาติ. จกฺขุสฺมึ อนฺตรหิเตติ ตสฺมึ วินฏฺเ. อตฺตา ¶ เม อนฺตรหิโตติ ‘‘มม อตฺตา วินฏฺโ’’ติ ทิฏฺึ คณฺหาติ. วิคโต เม อตฺตาติ วีติกฺกนฺโต มม อตฺตา. โสตสฺมินฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
๑๐๓. เอเตปิ ธมฺมา ทฺวยเมว สนฺเตติ เอเต โกธาทโย ธมฺมา สาตาสาตทฺวเย สนฺเต เอว โหนฺติ อุปฺปชฺชนฺติ. เอตฺตาวตา ตติยปฺโหปิ วิสฺสชฺชิโต โหติ. อิทานิ โย เอวํ วิสฺสชฺชิเตสุ เอเตสุ ปฺเหสุ กถํกถี ภเวยฺย, ตสฺส กถํกถาปหานูปายํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘กถํกถี าณปถาย สิกฺเข’’ติ, าณทสฺสนาณาธิคมนตฺถํ ติสฺโส สิกฺขา สิกฺเขยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. กึการณา? ตฺวา ปวุตฺตา สมเณน ธมฺมา. พุทฺธสมเณน หิ ตฺวา ธมฺมา วุตฺตา, นตฺถิ ตสฺส ธมฺเมสุ อฺาณํ, อตฺตโน ปน าณานุภาเวน เต อชานนฺโต น ชาเนยฺย, น เทสนาโทเสน. ตสฺมา กถํกถี าณปถาย สิกฺเข, ตฺวา ปวุตฺตา สมเณน ธมฺมาติ.
ปกฺเขปพนฺธเนน วา พทฺโธติ นาคริกพนฺเธน พทฺโธ. ปริกฺเขปพนฺธเนน วาติ วติปริกฺเขปพนฺธเนน วา. คามพนฺธเนนาติอาทีสุ ตสฺมา ตสฺมา ¶ านโต นิกฺขมิตุํ อลภนฺโต คามพนฺธนาทีหิ พทฺโธ นาม โหติ. ตสฺส พนฺธนสฺส โมกฺขตฺถายาติ เอตสฺส วุตฺตปฺปการสฺส พนฺธนสฺส โมจนตฺถํ.
าณมฺปิ าณปโถติ ปุเร อุปฺปนฺนํ าณํ อปราปรุปฺปนฺนสฺส าณมฺปิ าณสฺส สฺจรณมคฺโคติ าณมฺปิ าณปโถ. าณสฺส อารมฺมณมฺปิ าณปโถติ าณสฺส ปจฺจโยปิ ตํ อาลมฺพิตฺวา อุปฺปชฺชนโต าณปโถ. าณสหภุโนปิ ธมฺมา าณปโถติ าเณน สหุปฺปนฺนา อวเสสา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมาปิ าณปโถ. อิทานิ อุปมาย สาเธนฺโต ‘‘ยถา อริยมคฺโค อริยปโถ’’ติอาทิมาห.
กถํกถี ¶ ปุคฺคโลติ วิจิกิจฺฉาวนฺโต ปุคฺคโล. สกงฺโขติ สทฺเวฬฺหโก. สวิเลโขติ จิตฺตราชิวนฺโต. สทฺเวฬฺหโกติ กงฺขาวนฺโต. สวิจิกิจฺโฉติ สนฺเทหวนฺโต. าณาธิคมายาติ าณปฏิลาภตฺถาย. าณผุสนายาติ าณปฏิวิชฺฌนตฺถาย. อถ วา าณวินฺทนตฺถาย. าณสจฺฉิกิริยายาติ าณสฺส ปจฺจกฺขกรณตฺถาย. สนิทานาหนฺติ อหํ สนิทานํ สปจฺจยํ กตฺวา ธมฺมเทสนํ กโรมิ. สปฺปาฏิหาริยนฺติ นิยฺยานิกํ กตฺวา. โน อปฺปาฏิหาริยนฺติ อนิยฺยานิกํ อกตฺวา ธมฺมเทสนํ กโรมิ.
๑๐๔. สาตํ อสาตฺจ กุโตนิทานาติ เอตฺถ สาตาสาตนฺติ สุขทุกฺขเวทนา เอว อธิปฺเปตา ¶ . น ภวนฺติ เหเตติ น ภวนฺติ เอเต. วิภวํ ภวฺจาปิ ยเมตมตฺถํ, เอตํ เม ปพฺรูหิ ยโตนิทานนฺติ สาตาสาตานํ วิภวํ ภวฺจ เอตมฺปิ ยํ อตฺถํ. ลิงฺคพฺยตฺตโย เอตฺถ กโต. อิทํ ปน วุตฺตํ โหติ – สาตาสาตานํ วิภโว ภโว จาติ โย เอส อตฺโถ, เอตํ เม ปพฺรูหิ ยโตนิทานนฺติ. เอตฺถ จ สาตาสาตานํ วิภวภววตฺถุกา วิภวภวทิฏฺิโย เอว วิภวภวาติ อตฺถโต เวทิตพฺพา. ตถา หิ อิมสฺส ปฺหสฺส วิสฺสชฺชนปกฺเข ‘‘ภวทิฏฺิปิ ผสฺสนิทานา, วิภวทิฏฺิปิ ผสฺสนิทานา’’ติ อุปริ นิทฺเทเส (มหานิ. ๑๐๕) วกฺขติ. อิมาย คาถาย นิทฺเทเส วตฺตพฺพํ นตฺถิ.
๑๐๕. อิโตนิทานนฺติ ผสฺสนิทานํ. อิมายปิ วตฺตพฺพํ นตฺถิ.
๑๐๖. กิสฺมึ ¶ วิภูเต น ผุสนฺติ ผสฺสาติ กิสฺมึ วีติวตฺเต จกฺขุสมฺผสฺสาทโย ปฺจ ผสฺสา น ผุสนฺติ. อิมายปิ วตฺตพฺพํ นตฺถิ.
๑๐๗. นามฺจ รูปฺจ ปฏิจฺจาติ สมฺปยุตฺตกนามฺจ วตฺถารมฺมณรูปฺจ ปฏิจฺจ. รูเป วิภูเต น ผุสนฺติ ผสฺสาติ รูเป วีติวตฺเต ปฺจ ผสฺสา น ผุสนฺติ.
ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโสติ จกฺขุรูปวิฺาณานํ ติณฺณนฺนํ สงฺคติยา ผสฺโส ชายติ. จกฺขุ จ รูปา จ รูปสฺมินฺติ ปสาทจกฺขฺุจ รูปารมฺมณานิ จ รูปภาเค รูปโกฏฺาเส กตฺวา. จกฺขุสมฺผสฺสํ เปตฺวาติ ติณฺณํ สงฺคติยา อุปฺปนฺนผสฺสํ มฺุจิตฺวา. สมฺปยุตฺตกา ธมฺมา นามสฺมินฺติ อวเสสา เวทนาทโย ¶ ผสฺเสน สหชาตา ธมฺมา นามภาเค. โสตฺจ ปฏิจฺจาติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
จตูหากาเรหิ รูปํ วิภูตํ โหตีติ จตูหิ การเณหิ รูปํ วีติวตฺตํ โหติ. าตวิภูเตนาติ ปากฏํ กตฺวา วีติวตฺเตน. ตีรณวิภูเตนาติ อนิจฺจาทิโต ตีรยิตฺวา วีติวตฺเตน. ปหานวิภูเตนาติ ฉนฺทราคปหานโต วีติวตฺเตน. สมติกฺกมวิภูเตนาติ จตุนฺนํ อรูปสมาปตฺตีนํ ปฏิลาภวเสน วีติวตฺเตน.
๑๐๘. กถํ สเมตสฺสาติ กถํ ปฏิปนฺนสฺส. วิโภติ รูปนฺติ รูปํ วิภวติ, น ภเวยฺย วา. สุขํ ทุขฺจาติ อิฏฺานิฏฺรูปเมว ปุจฺฉติ.
ชาเนยฺยามาติ ¶ ชานิสฺสาม. อาชาเนยฺยามาติ วิเสเสน ชานิสฺสาม. วิชาเนยฺยามาติ อเนกวิเธน ชานิสฺสาม. ปฏิวิชาเนยฺยามาติ สมฺมา ชานิสฺสาม. ปฏิวิชฺเฌยฺยามาติ จิตฺเตน พุชฺฌิสฺสาม.
๑๐๙. น สฺสฺีติ ยถา สเมตสฺส วิโภติ รูปํ, โส ปกติสฺาย สฺีปิ น โหติ. น วิสฺสฺีติ วิสฺายปิ วิรูปาย สฺาย วิสฺี น โหติ อุมฺมตฺตโก วา ขิตฺตจิตฺโต วา. โนปิ อสฺีติ สฺาวิรหิโตปิ น โหติ นิโรธสมาปนฺโน วา อสฺสตฺโต วา. น วิภูตสฺีติ ‘‘สพฺพโส รูปสฺาน’’นฺติอาทินา (วิภ. ๕๐๘) นเยน สมติกฺกนฺตสฺีปิ น โหติ อรูปชฺฌานลาภี. เอวํ สเมตสฺส วิโภติ รูปนฺติ เอตสฺมึ สฺสฺิตาทิภาเว อฏฺตฺวา ยเทตํ วุตฺตํ ‘‘โส เอวํ ¶ สมาหิเต จิตฺเต…เป… อากาสานฺจายตนสมาปตฺติปฏิลาภตฺถาย จิตฺตํ อภินีหรตี’’ติ, เอวํ สเมตสฺส อรูปมคฺคสมงฺคิโน วิโภติ รูปํ. สฺานิทานา หิ ปปฺจสงฺขาติ เอวํ ปฏิปนฺนสฺสาปิ จ ยา สฺา, ตํนิทานา ตณฺหาทิฏฺิปปฺจาสฺส อปฺปหีนาว โหนฺตีติ ทสฺเสติ.
อสฺิโน วุจฺจนฺติ นิโรธสมาปนฺนาติ สฺาเวทนา นิโรเธตฺวา นิโรธสมาปนฺนา สฺาภาเวน อสฺิโนติ กถียนฺติ. อสฺสตฺตาติ สพฺเพน สพฺพํ สฺาภาเวน อสฺภเว นิพฺพตฺตา.
โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเตติ ตตฺถ โสติ โส ภิกฺขุ. เอวนฺติ จตุตฺถชฺฌานกฺกมนิทสฺสนเมตํ, อิมินา กเมน จตุตฺถชฺฌานํ ปฏิลภิตฺวาติ วุตฺตํ ¶ โหติ. สมาหิเตติ อิมินา จตุตฺถชฺฌานสมาธินา สมาหิเต. ปริสุทฺเธติอาทีสุ ปน อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิภาเวน ปริสุทฺเธ. ปริสุทฺธตฺตาเยว ปริโยทาเต, ปภสฺสเรติ วุตฺตํ โหติ. สุขาทีนํ ปจฺจยานํ ฆาเตน วิหตราคาทิองฺคณตฺตา อนงฺคเณ. อนงฺคณตฺตา เอว จ วิคตูปกฺกิเลเส. องฺคเณน หิ จิตฺตํ อุปกฺกิลิสฺสติ. สุภาวิตตฺตา มุทุภูเต, วสีภาวปฺปตฺเตติ วุตฺตํ โหติ. วเส วตฺตมานฺหิ จิตฺตํ มุทูติ วุจฺจติ. มุทุตฺตาเยว จ กมฺมนิเย, กมฺมกฺขเม กมฺมโยคฺเคติ วุตฺตํ โหติ. มุทุ หิ จิตฺตํ กมฺมนิยํ โหติ สุทฺธนฺตมิว สุวณฺณํ. ตทุภยมฺปิ จ สุภาวิตตฺตาเยว. ยถาห ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกธมฺมมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํ ภาวิตํ กมฺมนิยํ โหติ ยถยิทํ, ภิกฺขเว, จิตฺต’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๒๒).
เอเตสุ หิ ปริสุทฺธภาวาทีสุ ิตตฺตา ิเต. ิตตฺตาเยว อาเนฺชปฺปตฺเต อจเล นิริฺชเนติ วุตฺตํ ¶ โหติ. มุทุกมฺมฺภาเวน วา อตฺตโน วเส ิตตฺตา ิเต. สทฺธาทีหิ ปริคฺคหิตตฺตา อาเนฺชปฺปตฺเต. สทฺธาปริคฺคหิตฺหิ จิตฺตํ อสฺสทฺธิเยน น อิฺชติ, วีริยปริคฺคหิตํ โกสชฺเชน น อิฺชติ, สติปริคฺคหิตํ ปมาเทน น อิฺชติ, สมาธิปริคฺคหิตํ อุทฺธจฺเจน น อิฺชติ, ปฺาปริคฺคหิตํ อวิชฺชาย น อิฺชติ, โอภาสคตํ กิเลสนฺธกาเรน น อิฺชติ. อิเมหิ ฉหิ ธมฺเมหิ ปริคฺคหิตุํ อาเนฺชปฺปตฺตํ โหติ. เอวํ ¶ อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ จิตฺตํ อภินีหารกฺขมํ โหติ อากาสานฺจายตนสมาปตฺติปฏิลาภตฺถาย.
อปโร นโย – จตุตฺถชฺฌานสมาธินา สมาหิเต. นีวรณทูรีภาเวน ปริสุทฺเธ. วิตกฺกาทิสมติกฺกเมน ปริโยทาเต. ฌานปฏิลาภปจฺจนิกานํ ปาปกานํ อิจฺฉาวจรานฺจ อภาเวน อนงฺคเณ. อิจฺฉาวจรานนฺติ อิจฺฉาย อวจรานํ, อิจฺฉาวเสน โอติณฺณานํ ปวตฺตานํ นานปฺปการานํ โกปอปฺปจฺจยานนฺติ อตฺโถ. อภิชฺฌาทีนํ จิตฺตูปกฺกิเลสานํ วิคเมน วิคตูปกฺกิเลเส. อุภยมฺปิ เจตํ องฺคณสุตฺตวตฺถสุตฺตานุสาเรเนว (ม. นิ. ๑.๕๗ อาทโย, ๗๐ อาทโย) เวทิตพฺพํ. วสิปฺปตฺติยา มุทุภูเต. อิทฺธิปาทภาวูปคมเนน กมฺมนิเย. ภาวนาปาริปูริยา ปณีตภาวูปคเมน ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต, ยถา อาเนฺชภาวํ อาเนฺชปฺปตฺตํ โหติ, เอวํ ิเตติ อตฺโถ. เอวมฺปิ อฏฺงฺคสมนฺนาคเมน จิตฺตํ อภินีหารกฺขมํ โหติ อากาสานฺจายตนสมาปตฺติปฏิลาภตฺถาย ปาทกํ ปทฏฺานภูตํ.
อารุปฺปมคฺคสมงฺคีติ ¶ อรูปสมาปตฺติยา คมนมคฺเคน อปริหีโน. ปปฺจาเยว ปปฺจสงฺขาติ ตณฺหาทิปปฺจาเยว ปปฺจสงฺขา.
๑๑๐. เอตฺตาวตคฺคํ นุ วทนฺติ เหเก, ยกฺขสฺส สุทฺธึ อิธ ปณฺฑิตาเส. อุทาหุ อฺมฺปิ วทนฺติ เอตฺโตติ เอตฺตาวตา นุ อิธ ปณฺฑิตา สมณพฺราหฺมณา อคฺคํ สุทฺธึ สตฺตสฺส วทนฺติ, อุทาหุ อฺมฺปิ เอตฺโต อรูปสมาปตฺติโต อธิกฺจ วทนฺตีติ ปุจฺฉติ.
เอตฺโต อรูปสมาปตฺติโตติ เอตสฺมา อรูปสมาปตฺติโต.
๑๑๑. เอตฺตาวตคฺคมฺปิ วทนฺติ เหเกติ เอเก สสฺสตวาทา สมณพฺราหฺมณา ปณฺฑิตมานิโน เอตฺตาวตาปิ อคฺคํ สุทฺธึ วทนฺติ. เตสํ ปเนเก สมยํ วทนฺตีติ เตสฺเว เอเก อุจฺเฉทวาทา สมยํ อุจฺเฉทํ วทนฺติ. อนุปาทิเสเส กุสลาวทานาติ อนุปาทิเสเส กุสลวาทา สมานา.
ภวตชฺชิตาติ ¶ ภวโต ภีตา. วิภวํ อภินนฺทนฺตีติ อุจฺเฉทํ ¶ ปฏิจฺจ ตุสฺสนฺติ. เต สตฺตสฺส สมนฺติ เต อุจฺเฉทวาทิโน ปุคฺคลสฺส สมํ อนุปฺปตฺตึ วทนฺติ. อุปสมนฺติ อตีว สมํ. วูปสมนฺติ สนฺตํ. นิโรธนฺติ อนุปฺปาทํ. ปฏิปสฺสทฺธินฺติ อปุนุปฺปตฺตึ.
๑๑๒. เอเต จ ตฺวา อุปนิสฺสิตาติ เอเต จ ทิฏฺิคติเก สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิโย นิสฺสิตาติ ตฺวา. ตฺวา มุนี นิสฺสเย โส วีมํสีติ นิสฺสเย จ ตฺวา โส วีมํสี ปณฺฑิโต พุทฺธมุนิ. ตฺวา วิมุตฺโตติ ทุกฺขานิจฺจาทิโต ธมฺเม ตฺวา วิมุตฺโต. ภวาภวาย น สเมตีติ ปุนปฺปุนํ อุปปตฺติยา น สมาคจฺฉติ. อปรามสนฺติ อปรามสนฺโต. ปรามาสํ นาปชฺชนฺโตติ อตฺโถ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย
กลหวิวาทสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. จูฬพฺยูหสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
ทฺวาทสเม ¶ ¶ ¶ จูฬพฺยูหสุตฺตนิทฺเทเส สกํสกํทิฏฺิปริพฺพสานาติ อิทมฺปิ ตสฺมึเยว มหาสมเย ‘‘สพฺเพปิเม ทิฏฺิคติกา ‘สาธุรูปามฺหา’ติ ภณนฺติ, กึ นุ โข สาธุรูปาว อิเม อตฺตโน เอว ทิฏฺิยา ปติฏฺหนฺติ, อุทาหุ อฺมฺปิ ทิฏฺึ คณฺหนฺตี’’ติ อุปฺปนฺนจิตฺตานํ เอกจฺจานํ เทวตานํ ตมตฺถํ ปกาเสตุํ ปุริมนเยเนว นิมฺมิตพุทฺเธน อตฺตานํ ปุจฺฉาเปตฺวา วุตฺตํ.
๑๑๓. ตตฺถ อาทิโต ทฺเวปิ คาถา ปุจฺฉาคาถาเยว. ตาสุ สกํ สกํ ทิฏฺิปริพฺพสานาติ อตฺตโน อตฺตโน ทิฏฺิยา วสมานา. วิคฺคยฺห นานา กุสลา วทนฺตีติ ตํ ทิฏฺึ พลวคฺคาหํ คเหตฺวา ‘‘ตตฺถ กุสลามฺหา’’ติ ปฏิชานมานา ปุถุ ปุถุ วทนฺติ, เอกํ น วทนฺติ. โย เอวํ ชานาติ ส เวทิ ธมฺมํ, อิทํ ปฏิกฺโกสมเกวลี โสติ ตฺจ ทิฏฺึ สนฺธาย โย เอวํ ชานาติ, โส ธมฺมํ เวทิยิ. อิทํ ปน ปฏิกฺโกสนฺโต หีโน โหตีติ จ วทนฺติ.
นานา วทนฺตีติ นานาการณํ ภณนฺติ. วิวิธํ วทนฺตีติ นานาวิธํ ภณนฺติ. อฺโฺํ วทนฺตีติ เอกํ อวตฺวา อฺํ อฺํ คเหตฺวา วทนฺติ. อเกวลี โสติ โย อกุสโล อยํ. อสมตฺโตติ น ปริปูโร. อปริปุณฺโณติ น สมฺปุณฺโณ.
๑๑๔. พาโลติ หีโน. อกฺกุสโลติ อวิทฺวา.
๑๑๕. อิทานิ ติสฺโส วิสฺสชฺชนคาถา โหนฺตีติ. ตา ปุริมฑฺเฒน วุตฺตมตฺถํ ปจฺฉิมฑฺเฒน ปฏิพฺยูหิตฺวา ิตา. เตน พฺยูเหน อุตฺตรสุตฺตโต จ อปฺปกตฺตา อิทํ สุตฺตํ ‘‘จูฬพฺยูห’’นฺติ นามํ ลภิ. ตตฺถ ปมคาถายํ ตาว ปรสฺส เจ ธมฺมนฺติ ปรสฺส ทิฏฺึ. สพฺเพวิเม พาลาติ เอวํ สนฺเต สพฺเพว อิเม ¶ พาลา โหนฺตีติ อธิปฺปาโย. กึการณา? สพฺเพวิเม ทิฏฺิปริพฺพสานาติ.
๑๑๖. สนฺทิฏฺิยา ¶ เจว น วีวทาตา, สํสุทฺธปฺา กุสลา มุตีมาติ สกาย ทิฏฺิยา อนวีวทาตา อโวทาตา สํกิลิฏฺาว สมานา สํสุทฺธปฺา จ กุสลา จ มุติมนฺโต จ เต โหนฺติ เจ. อถ วา ‘‘สนฺทิฏฺิยา เจ วทาตา’’ติ ปาโ, ตสฺสตฺโถ – สกาย ปน ทิฏฺิยา โวทาตา ¶ สํสุทฺธปฺา กุสลา มุติมนฺโต โหนฺติ เจ, น เตสํ โกจีติ เอวํ สนฺเต เตสํ เอโกปิ นิหีนปฺโ น โหติ, กึการณา? ทิฏฺี หิ เตสมฺปิ ตถา สมตฺตา, ยถา อิตเรสนฺติ.
๑๑๗. น วาหเมตนฺติ คาถาย สงฺเขปตฺโถ – ยํ เต มิถุ ทฺเว ทฺเว ชนา อฺมฺํ ‘‘พาโล’’ติ อาหุ, อหํ เอตํ ตถิยนฺติ ตจฺฉนฺติ เนว พฺรูมิ. กึการณา? ยสฺมา สพฺเพว เต สกํ สกํ ทิฏฺึ ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ อกํสุ, เตน จ การเณน ปรํ ‘‘พาโล’’ติ ทหนฺติ. เอตฺถ จ ตถิยํ, ตเถวนฺติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๒.๘๘๙) ทฺเวปิ ปาา.
ตจฺฉนฺติ อตุจฺฉํ. ตถนฺติ อวิปรีตํ, ภูตนฺติ สนฺตํ. ยาถาวนฺติ สํวิชฺชมานํ. อวิปริตนฺติ น วิสงฺเกตํ.
๑๑๘. ยมาหูติ ปุจฺฉาคาถาย ‘‘ยํ ทิฏฺิสจฺจํ ตถิย’’นฺติ เอเก อาหุ.
๑๑๙. เอกฺหิ สจฺจนฺติ วิสฺสชฺชนคาถาย เอกํ สจฺจํ นิโรโธ มคฺโค วา. ยสฺมึ ปชา โน วิวเท ปชานนฺติ ยมฺหิ สจฺเจ ปชานนฺโต ปชา โน วิวเทยฺยุํ. สยํ ถุนนฺตีติ อตฺตนา วทนฺติ.
๑๒๐. กสฺมา นูติ ปุจฺฉาคาถาย ปวาทิยาเสติ วาทิโน. อุทาหุ เต ตกฺกมนุสฺสรนฺตีติ เต วาทิโน อุทาหุ อตฺตโน ตกฺกมตฺตํ อนุคจฺฉนฺติ.
ตกฺกปริยาหตนฺติ วิตกฺเกน สมนฺตโต อาหตํ. วีมํสานุจริตนฺติ อตฺตโน อุปฏฺิตปฺาย วิจริตํ. สยํปฏิภานนฺติ อตฺตโน ปฏิภานํ.
๑๒๑. น ¶ เหวาติ วิสฺสชฺชนคาถาย อฺตฺร สฺาย นิจฺจานีติ เปตฺวา สฺามตฺเตน นิจฺจนฺติ คหิตคฺคหณานิ. ตกฺกฺจ ทิฏฺีสุ ปกปฺปยิตฺวาติ อตฺตโน นิจฺจสงฺกปฺปมตฺตํ ทิฏฺีสุ ชเนตฺวา.
ยสฺมา ¶ ปน ทิฏฺีสุ วิตกฺกํ ชเนนฺตา ทิฏฺิโย สฺชเนนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ทิฏฺิคตานิ ชเนนฺติ สฺชเนนฺตี’’ติอาทิ. ชเนนฺตีติ อุปรูปริ ทิฏฺึ อุปฺปาเทนฺตา ชเนนฺติ. สฺชเนนฺตีติอาทีนิ อุปสคฺควเสน ปทํ วฑฺเฒตฺวา วุตฺตานิ. มยฺหํ สจฺจนฺติ มม วจนํ ตจฺฉํ.
๑๒๒. อิทานิ ¶ เอวํ นานาสจฺเจสุ อสนฺเตสุ ตกฺกมตฺตํ อนุสฺสรนฺตานํ ทิฏฺิคติกานํ วิปฺปฏิปตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘ทิฏฺเ สุเต’’ติอาทิกา คาถาโย อภาสิ. ตตฺถ ทิฏฺเติ ทิฏฺํ, ทิฏฺสุทฺธินฺติ อธิปฺปาโย. เอส นโย สุตาทีสุ. เอเต จ นิสฺสาย วิมานทสฺสีติ เอเต ทิฏฺิธมฺเม นิสฺสยิตฺวา สุทฺธิภาวสงฺขาตํ วิมานํ อสมฺมานํ ปสฺสนฺโตปิ. วินิจฺฉเย ตฺวา ปหสฺสมาโน, พาโล ปโร อกฺกุสโลติ จาหาติ เอวํ วิมานทสฺสีปิ ตสฺมึ ทิฏฺิวินิจฺฉเย ตฺวา ตุฏฺิชาโต หาสชาโต หุตฺวา ปโร ‘‘หีโน จ อวิทฺวา จา’’ติ เอวํ วทติเยว.
น สมฺมาเนตีติปิ วิมานทสฺสีติ น พหุมานํ กโรตีติ เอวมฺปิ วิมานทสฺสี น พหุมานทสฺสี. โทมนสฺสํ ชเนตีติ ปมํ ทิฏฺินิสฺสยํ อลฺลียิตฺวา โทมนสฺสํ ปตฺวา ปจฺฉา ทิฏฺิวินิจฺฉเย ิตกาเล โสมนสฺสํ อุปฺปาเทตีติ อตฺโถ.
วินิจฺฉยทิฏฺิยา ตฺวาติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา คหิตทิฏฺิยา ตฺวา.
๑๒๓. เอวํ สนฺเต เยเนวาติ คาถา. ตตฺถ สยมตฺตนาติ สยเมว อตฺตานํ. วิมาเนตีติ ครหติ. ตเทว ปาวาติ ตเทว วจนํ ทิฏฺึ วทติ, ตํ วา ปุคฺคลํ.
๑๒๔. อติสารทิฏฺิยาติ คาถายตฺโถ – โส เอวํ ตาย ลกฺขณาติสารินิยา อติสารทิฏฺิยา สมตฺโต ปริปุณฺโณ อุทฺธุมาโต, เตน จ ทิฏฺิมาเนน มตฺโต ‘‘ปริปุณฺโณ ¶ อหํ เกวลี’’ติ เอวํ ปริปุณฺณมานี. สยเมว อตฺตานํ มนสา ‘‘อหํ ปณฺฑิโต’’ติ อภิสิฺจติ. กึการณา? ทิฏฺี หิ สา ตสฺส ตถา สมตฺตาติ.
สพฺพา ตา ทิฏฺิโย ลกฺขณาติกฺกนฺตาติ ตา สพฺพา ทฺวาสฏฺิทิฏฺิโย ลกฺขณํ อตีตา อติสรนฺตีติ อติกฺกนฺตา. อโนโมติ อนูโน.
๑๒๕. ปรสฺส เจติ คาถาย สมฺพนฺโธ อตฺโถ จ – กิฺจ ภิยฺโย? โย โส วินิจฺฉเย ตฺวา ปหสฺสมาโน ‘‘พาโล ปโร อกฺกุสโล’’ติ จาห, ตสฺส ปรสฺส เจ หิ วจสา โส เตน วุจฺจมาโน ¶ นิหีโน โหติ, ตุโม สหา โหติ นิหีนปฺโ, โสปิ เตเนว สห นิหีนปฺโ โหติ. โสปิ หิ ตํ ‘‘พาโล’’ติ วทติ. อถ ตสฺส ¶ วจนํ อปฺปมาณํ, โส ปน สยเมว เวทคู จ ธีโร จ โหติ. เอวํ สนฺเต น โกจิ พาโล สมเณสุ อตฺถิ. สพฺเพปิ หิ เต อตฺตโน อิจฺฉาย ปณฺฑิตา.
วาจายาติ กถเนน. วจเนนาติ ภาสิเตน. นินฺทิตการณาติ ครหเหตุนา. ครหิตการณาติ อวฺาตเหตุนา. อุปวทิตการณาติ อุปวาทเหตุนา.
๑๒๖. อฺํ อิโตติ คาถาย สมฺพนฺโธ อตฺโถ จ – ‘‘อถ เจ สยํ เวทคู โหติ ธีโร. น โกจิ พาโล สมเณสุ อตฺถี’’ติ เอวฺหิ วุตฺเตปิ สิยา กสฺสจิ ‘‘กสฺมา’’ติ. ตตฺถ วุจฺจเต – ยสฺมา อฺํ อิโต ยาภิวทนฺติ ธมฺมํ, อปรทฺธา สุทฺธิมเกวลี เต. เอวมฺปิ ติตฺถฺยา ปุถุโส วทนฺติ, เย อิโต อฺํ ทิฏฺึ อภิวทนฺติ, เต อปรทฺธา วิรทฺธา สุทฺธิมคฺคํ, อเกวลิโน จ เตติ เอวํ ปุถุติตฺถิยา ยสฺมา วทนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. กสฺมา ปเนวํ วทนฺตีติ เจ? สนฺทิฏฺิราเคน หิ เตภิรตฺตา, ยสฺมา สเกน ทิฏฺิราเคน เต อภิรตฺตาติ วุตฺตํ โหติ.
เต สุทฺธิมคฺคนฺติ เต อฺติตฺถิยา อกิลิฏฺมคฺคํ. วิสุทฺธิมคฺคนฺติ นิทฺโทสมคฺคํ. ปริสุทฺธิมคฺคนฺติ สุกฺกมคฺคํ. โวทาตมคฺคนฺติ ปณฺฑรมคฺคํ. ปริโยทาตมคฺคนฺติ ปภาวนฺตมคฺคํ. วิรทฺธาติ วุตฺตวิธินา มคฺเคน วิรชฺฌิตฺวา ิตา. อปรทฺธาติ อปรชฺฌิตฺวา ิตา. ขลิตาติ ¶ ปริหีนา. คลิตาติ ตโต ภฏฺา. อฺายาติ อฺาเณน. อปรทฺธาติ ปราชยมาปนฺนา. อถ วา ‘‘ายาปรทฺธา’’ติปิ ปาโ. าเยน มคฺเคน วิรทฺธาติ อตฺโถ.
๑๒๗. เอวํ อภิรตฺตา จ – อิเธว สุทฺธินฺติ คาถา. ตตฺถ สกายเนติ สกมคฺเค. ทฬฺหํ วทานาติ ทฬฺหวาทา.
ถิรวาทาติ สนฺนิฏฺานวาทา. พลิกวาทาติ พลวนฺตวาทา. อวฏฺิตวาทาติ ปติฏฺหิตฺวา กถิตวาทา.
๑๒๘. เย เอวฺจ ทฬฺหวาทา, เตสุ โย โกจิ ติตฺถิโย สกายเน วาปิ ทฬฺหํ วทาโน กเมตฺถ พาโลติ ปรํ ทเหยฺย, สงฺเขปโต ตตฺถ สสฺสตุจฺเฉทสงฺขาเต วิตฺถารโต นตฺถิกอิสฺสรการกนิยติอาทิเภเท สเก อยเน ‘‘อิทเมว สจฺจ’’นฺติ ทฬฺหํ วทาโน กํ ปรํ เอตฺถ ทิฏฺิคเต ¶ ‘‘พาโล’’ติ สห ธมฺเมน ปสฺเสยฺย, นนุ สพฺโพปิ ตสฺส มเตน ปณฺฑิโต ¶ เอว สุปฺปฏิปนฺโน เอว จ. เอวํ สนฺเต สยเมว โส เมธคมาวเหยฺย, ปรํ วทํ พาลมสุทฺธิธมฺมํ. โสปิ ปรํ ‘‘พาโล จ อสุทฺธิธมฺโม จ อย’’นฺติ วทนฺโต อตฺตนาว กลหํ อาวเหยฺย. กสฺมา? ยสฺมา สพฺโพปิ ตสฺส มเตน ปณฺฑิโตเยว สุปฺปฏิปนฺโนเยว จ.
๑๒๙. เอวํ สพฺพถาปิ วินิจฺฉเย ตฺวา สยํ ปมาย, อุทฺธํ ส โลกสฺมึ วิวาทเมตีติ ทิฏฺิยา ตฺวา สยฺจ สตฺถาราทึ มินิตฺวา โส ภิยฺโย วิวาทเมตีติ. เอวํ ปน วินิจฺฉเยสุ อาทีนวํ ตฺวา อริยมคฺเคน หิตฺวาน สพฺพานิ วินิจฺฉยานิ, น เมธคํ กุพฺพติ ชนฺตุ โลเกติ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ.
สยํ ปมายาติ อตฺตนา มินิตฺวา. ปมินิตฺวาติ ปมาณํ กตฺวา. ‘‘ปวิเนตฺวา’’ติปิ ปาโ, ตํ น สุนฺทรํ. อุทฺธํ วาเทน สทฺธินฺติ อตฺตโน อุปริ กเถนฺเตน สห. เทสนาปริโยสาเน ปุราเภทสุตฺเต (มหานิ. ๘๓) วุตฺตสทิโส เอว อภิสมโย อโหสีติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย
จูฬพฺยูหสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. มหาพฺยูหสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๑๓๐. เตรสเม ¶ ¶ มหาพฺยูหสุตฺตนิทฺเทเส เย เกจิเม ทิฏฺิปริพฺพสานาติ อิทมฺปิ ‘‘กึ นุ โข อิเม ทิฏฺิปริพฺพสานา วิฺูนํ สนฺติกา นินฺทเมว ลภนฺติ, อุทาหุ ปสํสมฺปี’’ติ อุปฺปนฺนจิตฺตานํ เอกจฺจานํ เทวตานํ ตมตฺถํ อาวิกาตุํ ปุริมนเยเนว นิมฺมิตพุทฺเธน อตฺตานํ ปุจฺฉาเปตฺวา วุตฺตํ. ตตฺถ อนฺวานยนฺตีติ อนุ อานยนฺติ ปุนปฺปุนํ อาหรนฺติ.
นินฺทเมว อนฺเวนฺตีติ ครหเมว อุปคจฺฉนฺติ.
๑๓๑. อิทานิ ยสฺมา เต ‘‘อิทเมว สจฺจ’’นฺติ วทนฺตาปิ ทิฏฺิคติกวาทิโน กทาจิ กตฺถจิ ปสํสมฺปิ ลภนฺติ, ยํ เอตํ ปสํสาสงฺขาตํ วาทผลํ, ตํ อปฺปํ, ราคาทีนํ สมาย สมตฺถํ น โหติ, โก ปน วาโท ทุติเย นินฺทาผเล, ตสฺมา ¶ เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อิมํ ตาว วิสฺสชฺชนคาถํ อาห ‘‘อปฺปฺหิ เอตํ น อลํ สมาย, ทุเว วิวาทสฺส ผลานิ พฺรูมี’’ติ. ตตฺถ ทุเว วิวาทสฺส ผลานีติ นินฺทา จ ปสํสา จ ชยปราชยาทีนิ วา ตํสภาคานิ. เอตมฺปิ ทิสฺวาติ ‘‘นินฺทา อนิฏฺา เอว, ปสํสา นาลํ สมายา’’ติ เอตมฺปิ วิวาทผเล อาทีนวํ ทิสฺวา. เขมาภิปสฺสํ อวิวาทภูมินฺติ อวิวาทภูมึ นิพฺพานํ เขมนฺติ ปสฺสมาโน.
อปฺปกนฺติ มนฺทํ. ปริตฺตกนฺติ โถกํ. โอมกนฺติ เหฏฺิมกํ. ลามกนฺติ ปาปกํ. สมายาติ ราคาทีนํ สมนตฺถาย. อุปสมายาติ อุปรูปริ สมนตฺถาย. วูปสมายาติ สนฺนิสีทาปนตฺถาย. นิพฺพานายาติ อมตมหานิพฺพานตฺถาย. ปฏินิสฺสคฺคายาติ มคฺเคน กิเลสานํ นิสฺสชฺชนตฺถาย. ปฏิปสฺสทฺธิยาติ ผเลน ปฏิปสฺสทฺธานํ อนุปฺปชฺชนตฺถาย นาลํ.
๑๓๒. เอวฺหิ อวิวาทมาโน – ยา กาจิมาติ คาถา. ตตฺถ สมฺมุติโยติ ทิฏฺิโย. ปุถุชฺชาติ ปุถุชฺชนสมฺภวา. โส ¶ อุปยํ กิเมยฺยาติ โส อุปคนฺตพฺพฏฺเน อุปยํ รูปาทีสุ เอกมฺปิ ¶ ธมฺมํ กึ อุเปยฺย, เกน วา การเณน อุเปยฺย. ทิฏฺเ สุเต ขนฺติมกุพฺพมาโนติ ทิฏฺสุตสุทฺธีสุ เปมํ อกโรนฺโต.
ปุถุชฺชเนหิ ชนิตาติ ปุถุชฺชเนหิ อุปฺปาทิตา. สมฺมุติโยติ ทิฏฺิโย. ปุถุ นานาชเนหิ ชนิตา วาติ อเนกวิเธหิ ทิฏฺิคติเกหิ อุปฺปาทิตา วา. เนตีติ น เอติ. น อุเปตีติ สมีปํ น เอติ. น อุปคจฺฉตีติ นิวตฺตติ. นาภินิวิสตีติ ปวิสิตฺวา นปฺปติฏฺติ.
๑๓๓. อิโต พาหิรา ปน – สีลุตฺตมาติ คาถา ตสฺสตฺโถ – สีลํเยว ‘‘อุตฺตม’’นฺติ มฺมานา สีลุตฺตมาติ เอเก โภนฺโต สํยมมตฺเตน สุทฺธึ วทนฺติ, หตฺถิวตาทิฺจ วตํ สมาทาย อุปฏฺิตาเส. อิเธว ทิฏฺิยํ อสฺส สตฺถุโน สุทฺธึ ภวูปนีตา ภวชฺโฌสิตา สมานา วทนฺติ, อปิ จ เต กุสลาวทานา ‘‘กุสลา มย’’นฺติ เอวํวาทา.
๑๓๔. เอวํ สีลุตฺตเมสุ จ เตสุ ตถา ปฏิปนฺโน โย โกจิ – สเจ จุโตติ คาถา. ตสฺสตฺโถ – สเจ ตโต สีลวตโต ปรวิจฺฉินฺทเนน วา อนภิสมฺภุณนฺโต วา จุโต โหติ, โส ตํ สีลพฺพตกมฺมํ ปฺุาภิสงฺขาราทิกมฺมํ วา วิราธยิตฺวา เวธตี. น เกวลฺจ เวธติ ¶ , อปิ จ โข ตํ สีลพฺพตสุทฺธึ ปชปฺปตี จ วิปฺปลปติ จ ปตฺถยตี จ. กิมิว? สตฺถาว หีโน ปวสํ ฆรมฺหา, ฆรมฺหา ปวสนฺโต สตฺถโต หีโน ยถา ตํ ฆรํ วา สตฺถํ วา ปตฺถยตีติ.
ปรวิจฺฉินฺทนาย วาติ ปเรน วาริยมาโน วา. อนภิสมฺภุณนฺโต วาติ ตํ ปฏิปตฺตึ อสมฺปาเทนฺโต วา.
อฺาย อปรทฺโธติ นิพฺพาเนน ปริหีโน มคฺคโต วา. ตํ วา สตฺถํ อนุพนฺธตีติ ตํ วา สตฺถํ สพฺพตฺถ ปจฺฉโต คจฺฉติ.
๑๓๕. เอวํ ปน สีลุตฺตมานํ ปเวธนการณํ อริยสาวโก สีลพฺพตํ วาปิ ปหาย สพฺพนฺติ คาถา. ตตฺถ สาวชฺชานวชฺชนฺติ สพฺพากุสลํ โลกิยกุสลฺจ. เอตํ สุทฺธึ อสุทฺธินฺติ ¶ อปตฺถยาโนติ ปฺจกามคุณาทิเภทํ สุทฺธึ อกุสลาทิเภทํ อสุทฺธิฺจ อปตฺถยมาโน. วิรโต จเรติ สุทฺธิยา อสุทฺธิยา จ วิรโต จเรยฺย. สนฺติ มนุคฺคหายาติ ทิฏฺึ อคฺคเหตฺวา.
กณฺหํ ¶ กณฺหวิปากนฺติ อกุสลกมฺมํ อกุสลวิปากทายกํ. สุกฺกํ สุกฺกวิปากนฺติ โลกิยกุสลํ อตฺตนา สทิสํ สุกฺกวิปากทายกํ.
นิยามาวกฺกนฺตินฺติ มคฺคปวิสนํ. เสกฺขาติ สตฺต เสกฺขา. อคฺคธมฺมนฺติ อุตฺตมธมฺมํ, อรหตฺตผลํ.
๑๓๖. เอวํ อิโต พาหิรเก สีลุตฺตเม สํยเมน วิสุทฺธิวาเท เตสฺจ วิปากํ สีลพฺพตปหายิโน อรหโต จ ปฏิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อฺถาปิ สุทฺธิวาเท พาหิรเก ทสฺเสนฺโต ‘‘ตมูปนิสฺสายา’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – สนฺตฺเปิ สมณพฺราหฺมณา, เต ชิคุจฺฉิตํ อมรนฺตปํ วา ทิฏฺสุทฺธิอาทีสุ วา อฺตรฺตรํ อุปนิสฺสายอกิริยทิฏฺิยา วา อุทฺธํสรา หุตฺวา ภวาภเวสุ อวีตตณฺหา สุทฺธิ’มนุตฺถุนนฺติ วทนฺติ กเถนฺตีติ.
ตโปชิคุจฺฉวาทาติ กายปีฬนาทิตเปน ปาปหิรียนวาทา. ตโปชิคุจฺฉสาราติ เตเนว ตเปน หิรียนสารวนฺโต. อุทฺธํสราวาทาติ สํสาเรน สุทฺธึ กถยนฺตา.
๑๓๗. เอวํ ¶ เตสํ อวีตตณฺหานํ สุทฺธึ อนุตฺถุนนฺตานํ โยปิ สุทฺธิปฺปตฺตเมว อตฺตานํ มฺเยฺย, ตสฺสาปิ อวีตตณฺหตฺตา ภวาภเวสุ ตํ ตํ วตฺถุํ ปตฺถยมานสฺส หิ ชปฺปิตานิ ปุนปฺปุนํ โหนฺติเยวาติ อธิปฺปาโย. ตณฺหา หิ อาเสวิตา ตณฺหํ วฑฺฒยเตว, น เกวลฺจ ชปฺปิตานิ, ปเวธิตํ วาปิ ปกปฺปิเตสุ, ตณฺหาทิฏฺีหิ จสฺส ปกปฺปิเตสุ วตฺถูสุ ปเวธิตมฺปิ โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ภวาภเวสุ ปน วีตตณฺหตฺตา อายตึ จุตูปปาโต อิธ ยสฺส นตฺถิ, ส เกน เวเธยฺย กุหึ ว ชปฺเปติ อยเมติสฺสา คาถาย สมฺพนฺโธ.
อาคมนนฺติ ปุน อาคมนํ. คมนนฺติ อิโต อฺตฺถ คมนํ ¶ . คมนาคมนนฺติ อิโต คนฺตฺวา ปุน นิวตฺตนํ. กาลนฺติ มรณํ. คตีติ คมนวเสน คติยา คนฺตพฺพํ.
๑๓๘. ยมาหุ ธมฺมนฺติ ปุจฺฉาคาถา.
๑๓๙. อิทานิ ยสฺมา เอโกปิ เอตฺถ วาโท สจฺโจ นตฺถิ, เกวลํ ทิฏฺิมตฺตเกน หิ เต วทนฺติ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สกํ หี’’ติ อิมํ ตาว วิสฺสชฺชนคาถมาห. ตตฺถ สมฺมุตินฺติ ทิฏฺึ. อโนมนฺติ อนูนํ.
๑๔๐. เอวเมเตสุ ¶ สกํ ธมฺมํ ปริปุณฺณํ พฺรูวนฺเตสุ อฺสฺส ธมฺมํ ปน หีนนฺติ วทนฺเตสุ ยสฺส กสฺสจิ – ปรสฺส เจ วมฺภยิเตน หีโนติ คาถา. ตสฺสตฺโถ – ยทิ ปรสฺส นินฺทิตการณา หีโน ภเวยฺย, น โกจิ ธมฺเมสุ วิเสสิ อคฺโค ภเวยฺย. กึการณา? ปุถู หิ อฺสฺส วทนฺติ ธมฺมํ นิหีนโต สพฺเพว เต สมฺหิ ทฬฺหํ วทานาสกธมฺเม ทฬฺหวาทา เอว.
วมฺภยิตการณาติ ธํสิตการณา. ครหิตการณาติ ลามกกตการณา. อุปวทิตการณาติ อกฺโกสิตการณา. สกายนนฺติ สกมคฺคํ.
๑๔๑. กิฺจ ภิยฺโย – สทฺธมฺมปูชาติ คาถา. ตสฺสตฺโถ – เต จ ติตฺถิยา ยถา ปสํสนฺติ สกายนานิ, สทฺธมฺมปูชาปิ เนสํ ตเถว วตฺตติ. เต หิ อติวิย สตฺถาราทีนิ สตฺตโรนฺติ. ตตฺถ ยทิ เต ปมาณา สิยุํ, เอวํ สนฺเต สพฺเพว วาทา ตถิยา ภเวยฺยุํ. กึการณา ¶ ? สุทฺธี หิ เนสํ ปจฺจตฺตเมว. น สา อฺตฺถ สิชฺฌติ, นาปิ ปรมตฺถโต. อตฺตนิ ทิฏฺิคาหมตฺตเมว หิ ตํ เตสํ ปรปจฺจยเนยฺยพุทฺธีนํ. ปจฺจตฺตเมวาติ ปาเฏกฺกเมว.
๑๔๒. โย ปน วิปรีตโต พาหิตปาปตฺตา พฺราหฺมโณ, ตสฺส น พฺราหฺมณสฺส ปรเนยฺยมตฺถีติ คาถา. ตสฺสตฺโถ – พฺราหฺมณสฺส หิ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติอาทินา นเยน สุทิฏฺตฺตา ปเรน เนตพฺพํ าณํ นตฺถิ. ทิฏฺิธมฺเมสุ ‘‘อิทเมว ¶ สจฺจ’’นฺติ นิจฺฉินิตฺวา สุมคฺคหีตมฺปิ นตฺถิ. ตํการณา โส ทิฏฺิกลหานิ อติกฺกนฺโต, น หิ โส เสฏฺโต ปสฺสติ ธมฺมมฺํ อฺตฺร สติปฏฺานาทีหิ.
น ปรเนยฺโยติ ปเรน เนตพฺโพ ชานาเปตพฺโพ น โหติ. น ปรปตฺติโย น ปรปจฺจโยติ ปเรสํ ปจฺเจตพฺโพ น โหติ. น ปรปฏิพทฺธคูติ ปเรสํ ปฏิพทฺธคมโน น โหติ.
๑๔๓. ชานามีติ คาถาย สมฺพนฺโธ อตฺโถ จ – เอวํ ตาว ปรมตฺถพฺราหฺมโณ น หิ เสฏฺโต ปสฺสติ ธมฺมมฺํ, อฺเ ปน ติตฺถิยา ปรจิตฺตาณาทีหิ ชานนฺตาปิ ปสฺสนฺตาปิ ‘‘ชานามิ ปสฺสามิ ตเถว เอต’’นฺติ เอวํ วทนฺตาปิ จ ทิฏฺิยา สุทฺธึ ปจฺเจนฺติ. กสฺมา? ยสฺมา เตสุ เอโกปิ อทกฺขิ เจ อทฺทส เจปิ เตน ปรจิตฺตาณาทินา ยถาภูตมตฺถํ, กิฺหิ ตุมสฺส เตน ตสฺส เตน ทสฺสเนน กึ กตํ, กึ ทุกฺขปริฺา สาธิตา, อุทาหุ สมุทยปฺปหานาทีนํ อฺตรํ, ยโต สพฺพถาปิ อติกฺกมิตฺวา อริยมคฺคํ เต ติตฺถิยา อฺเเนว ¶ วทนฺติ สุทฺธึ, อติกฺกมิตฺวา วา เต ติตฺถิเย พุทฺธาทโย อฺเเนว วทนฺติ สุทฺธินฺติ.
๑๔๔. ปสฺสํ นโรติ คาถาย สมฺพนฺโธ อตฺโถ จ – กิฺจ ภิยฺโย? ยฺวายํ ปรจิตฺตาณาทีหิ อทฺทกฺขิ, โส ปสฺสํ นโร ทกฺขติ นามรูปํ, น ตโต ปรํ, ทิสฺวาน วา สฺสติ ตานิเมว นามรูปานิ นิจฺจโต สุขโต วา, น อฺถา; โส เอวํ ปสฺสนฺโต กามํ พหุํ ปสฺสตุ อปฺปกํ วา นามรูปํ นิจฺจโต สุขโต จ อถสฺส เอวรูเปน ทสฺสเนน น หิ เตน สุทฺธึ กุสลา วทนฺติ.
๑๔๕. นิวิสฺสวาทีติ ¶ คาถาย สมฺพนฺโธ อตฺโถ จ – เตน จ ทสฺสเนน สุทฺธิยา อสติยาปิ โย ‘‘ชานามิ ปสฺสามิ ตเถว เอต’’นฺติ เอวํ นิวิสฺสวาที, เอตํ วา ทสฺสนํ ปฏิจฺจ ทิฏฺิยา สุทฺธึ ปจฺเจนฺโต ‘‘อิทเมว สจฺจ’’นฺติ เอวํ นิวิสฺสวาที, โส สุพฺพินโย น โหติ ตํ ตถา ปกปฺปิตํ อภิสงฺขตํ ทิฏฺึ ปุรกฺขราโน. โส หิ ยํ สตฺถาราทึ นิสฺสิโต, ตตฺเถว สุภํ วทาโน สุทฺธึ วโท, ‘‘ปริสุทฺธิวาโท ¶ ปริสุทฺธิทสฺสโน วา อห’’นฺติ อตฺตานํ มฺมาโน ตตฺถ ตถทฺทสา โส, ตตฺถ สกาย ทิฏฺิยา อวิปรีตเมว โส อทฺทส. ยถา สา ทิฏฺิ ปวตฺตติ, ตเถว ตํ อทฺทส, น อฺถา ปสฺสิตุํ อิจฺฉตีติ อธิปฺปาโย.
นิวิสฺสวาทีติ ปติฏฺหิตฺวา กเถนฺโต. ทุพฺพินโยติ วิเนตุํ ทุกฺโข. ทุปฺปฺาปโยติ าเปตุํ จิตฺเตน ลพฺภาเปตุํ ทุกฺโข. ทุนฺนิชฺฌาปโยติ จิตฺเตน วีมํสิตฺวา คหณตฺถํ ปุนปฺปุนํ นิชฺฌาปยิตุํ ทุกฺโข. ทุปฺเปกฺขาปโยติ อิกฺขาปยิตุํ ทุกฺโข. ทุปฺปสาทโยติ จิตฺเต ปสาทํ อุปฺปาเทตุํ ทุกฺโข.
อปฺปสฺสีติ าเณน ปฏิเวธํ ปาปุณิ. ปฏิวิชฺฌีติ จิตฺเตน อวโพธํ ปาปุณิ.
๑๔๖. เอวํ ปกปฺปิตํ ทิฏฺึ ปุรกฺขราเนสุ ติตฺถิเยสุ – น พฺราหฺมโณ กปฺปมุเปติ สงฺขาติ คาถา. ตตฺถ สงฺขาติ สงฺขาย, ชานิตฺวาติ อตฺโถ. นปิ าณพนฺธูติ สมาปตฺติาณาทินา อกตตณฺหาทิฏฺิพนฺธุ. ตตฺถ วิคฺคโห – นาปิ อสฺส าเณน กโต พนฺธุ อตฺถีติ นปิ าณพนฺธุ. สมฺมุติโยติ ทิฏฺิสมฺมุติโย. ปุถุชฺชาติ ปุถุชฺชนสมฺภวา. อุคฺคหณนฺติ มฺเติ อุคฺคหณนฺติ อฺเ, อฺเ ตา สมฺมุติโย อุคฺคณฺหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
อุเปกฺขตีติ ¶ อุปปตฺติโต อปกฺขปติโต หุตฺวา ปสฺสติ.
๑๔๗. กิฺจ ภิยฺโย – วิสฺสชฺช คนฺถานีติ คาถา. ตตฺถ อนุคฺคโหติ อุคฺคหณวิรหิโต, โสปิ นาสฺส อุคฺคโหติ อนุคฺคโห. น วา อุคฺคณฺหาตีติ อนุคฺคโห.
คนฺเถ โวสฺสชฺชิตฺวาติ อภิชฺฌาทิเก คนฺเถ จชิตฺวา. วิสฺสชฺชาติ ปุน อนาทิยนวเสน ชหิตฺวา. คธิเตติ ฆฏิเต. คนฺถิเตติ สุตฺเตน สงฺคหิเต วิย คนฺถิเต. พนฺเธติ สุฏฺุ พนฺเธ. วิพนฺเธติ วิวิธา พนฺเธ. ปลิพุทฺเธติ ¶ สมนฺตโต พนฺธเนน พนฺเธ. พนฺธเนติ กิเลสพนฺธเน. โผฏยิตฺวาติ ปปฺโผเฏตฺวา. สจฺจํ วิสฺสชฺชํ กโรนฺตีติ วิสงฺขริตฺวา อปริโภคํ กโรนฺติ. วิโกเปนฺตีติ จุณฺณวิจุณฺณํ กโรนฺติ.
๑๔๘. กิฺจ ภิยฺโย – โส เอวรูโป – ปุพฺพาสเวติ คาถา. ตตฺถ ปุพฺพาสเวติ อตีตรูปาทีนิ อารพฺภ อุปฺปชฺชนธมฺมกิเลเส ¶ . นเวติ ปจฺจุปฺปนฺนรูปาทีนิ อารพฺภ อุปฺปชฺชนธมฺเม. น ฉนฺทคูติ ฉนฺทาทิวเสน น คจฺฉติ. อนตฺตครหีติ กตากตวเสน อตฺตานํ อครหนฺโต.
๑๔๙. เอวํ อนตฺตครหี จ – ส สพฺพธมฺเมสูติ คาถา. ตตฺถ สพฺพธมฺเมสูติ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิธมฺเมสุ ‘‘ยํ กิฺจิ ทิฏฺํ วา’’ติ เอวํปเภเทสุ. ปนฺนภาโรติ ปติตภาโร. น กปฺเปตีติ น กปฺปิโย, ทุวิธมฺปิ กปฺปํ น กโรตีติ อตฺโถ. นูปรโตติ ปุถุชฺชนกลฺยาณกเสกฺขา วิย อุปรติสมงฺคีปิ โน โหติ. น ปตฺถิโยติ นิตฺตณฺโห. ตณฺหา หิ ปตฺถยตีติ ปตฺถิยา, นาสฺส ปตฺถิยาติ น ปตฺถิโย. อิโต ปรฺจ เหฏฺา จ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมว. เอวํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทสนํ นิฏฺาเปสิ, เทสนาปริโยสาเน ปุราเภทสุตฺเต (มหานิ. ๘๓) วุตฺตสทิโส เอว อภิสมโย อโหสีติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย
มหาพฺยูหสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๔. ตุวฏกสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๑๕๐. จุทฺทสเม ¶ ¶ ตุวฏกสุตฺตนิทฺเทเส ปุจฺฉามิ ตนฺติ อิทมฺปิ ตสฺมึเยว มหาสมเย ‘‘กา นุ โข อรหตฺตปฺปตฺติยา ปฏิปตฺตี’’ติ อุปฺปนฺนจิตฺตานํ เอกจฺจานํ เทวตานํ ตมตฺถํ ปกาเสตุํ ปุริมนเยเนว นิมฺมิตพุทฺเธน อตฺตานํ ปุจฺฉาเปตฺวา วุตฺตํ.
ตตฺถ อาทิปุจฺฉาคาถาย ตาว ปุจฺฉามีติ เอตฺถ อทิฏฺโชตนาทิวเสน ปุจฺฉา วิภชิตา. อาทิจฺจพนฺธูติ อาทิจฺจสฺส โคตฺตพนฺธุ. วิเวกํ ¶ สนฺติปทฺจาติ วิเวกฺจ สนฺติปทฺจ. กถํ ทิสฺวาติ เกน การเณน ทิสฺวา, กถํ ปวตฺตทสฺสโน หุตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.
ติสฺโส ปุจฺฉาติ คณนปริจฺเฉโท. อทิฏฺโชตนาติ ยํ น ทิฏฺํ น ปฏิวิทฺธํ, ตสฺส ปากฏกรณตฺถาย ปุจฺฉา. ทิฏฺสํสนฺทนาติ ยํ าณจกฺขุนา ทิฏฺํ, ตสฺส ฆฏนตฺถาย. วิมติจฺเฉทนาติ ยา กงฺขา, ตสฺสาจฺเฉทนตฺถํ. ปกติยา ลกฺขณํ อฺาตนฺติ ธมฺมานํ ตถลกฺขณํ ปกติยา น าตํ. อทิฏฺนฺติ น ทิฏฺํ. ‘‘น นิฏฺ’’นฺติปิ ปาโ. อตุลิตนฺติ ตุลาย ตุลิตํ วิย น ตุลิตํ. อตีริตนฺติ ตีรณาย น ตีริตํ. อวิภูตนฺติ น ปากฏํ. อวิภาวิตนฺติ ปฺาย น วฑฺฒิตํ. ตสฺส าณายาติ ตสฺส ธมฺมสฺส ลกฺขณชานนตฺถาย. ทสฺสนายาติ ทสฺสนตฺถาย. ตุลนายาติ ตุลนตฺถาย. ตีรณายาติ ตีรณตฺถาย. วิภาวนายาติ วิภาคกรณตฺถาย. อฺเหิ ปณฺฑิเตหีติ อฺเหิ พุทฺธิสมฺปนฺเนหิ. สํสยปกฺขนฺโทติ สนฺเทหํ ปวิฏฺโ.
มนุสฺสปุจฺฉาติ มนุสฺสานํ ปุจฺฉา. อมนุสฺสปุจฺฉาติ นาคสุปณฺณาทีนํ ปุจฺฉา. คหฏฺาติ อวเสสคหฏฺา. ปพฺพชิตาติ ลิงฺควเสน วุตฺตา. นาคาติ สุผสฺสาทโย นาคา. สุปณฺณาติ สุปณฺณสํยุตฺตวเสน (สํ. นิ. ๓.๓๙๒ อาทโย). ยกฺขาติ ยกฺขสํยุตฺตวเสน (สํ. นิ. ๑๐.๒๓๕ อาทโย) จ เวทิตพฺพา ¶ . อสุราติ ปหาราทาทโย. คนฺธพฺพาติ ปฺจสิขคนฺธพฺพปุตฺตาทโย ¶ . มหาราชาโนติ จตฺตาโร มหาราชาโน. อหีนินฺทฺริยนฺติ สณฺานวเสน อวิกลินฺทฺริยํ. โส นิมฺมิโตติ โส ภควตา นิมฺมิโต พุทฺโธ.
โวทานตฺถปุจฺฉาติ วิเสสธมฺมปุจฺฉา. อตีตปุจฺฉาติ อตีเต ธมฺเม อารพฺภ ปุจฺฉา. อนาคตาทีสุปิ เอเสว นโย. กุสลปุจฺฉาติ อนวชฺชธมฺมปุจฺฉา. อกุสลปุจฺฉาติ สาวชฺชธมฺมปุจฺฉา. อพฺยากตปุจฺฉาติ ตทุภยวิปรีตธมฺมปุจฺฉา.
อชฺเฌสามิ ตนฺติ ตํ อาณาเปมิ. กถยสฺสุ เมติ มยฺหํ กเถหิ. โคตฺตาตโกติ โคตฺเตน าตโก. โคตฺตพนฺธูติ โคตฺตชฺฌตฺติโก. เอเกนากาเรนาติ เอเกน โกฏฺาเสน.
สนฺติปทนฺติ สนฺติสงฺขาตํ นิพฺพานปทํ. เย ธมฺมา สนฺตาธิคมายาติ เย สติปฏฺานาทโย ธมฺมา นิพฺพานปฏิลาภตฺถาย. สนฺติผุสนายาติ าณผสฺเสน ¶ นิพฺพานผุสนตฺถาย. สจฺฉิกิริยายาติ ปจฺจกฺขกรณตฺถาย. มหนฺตํ สีลกฺขนฺธนฺติ มหนฺตํ สีลราสึ. สมาธิกฺขนฺธาทีสุปิ เอเสว นโย. สีลกฺขนฺธาทโย โลกิยโลกุตฺตรา, วิมุตฺติาณทสฺสนํ โลกิยเมว.
ตโมกายสฺส ปทาลนนฺติ อวิชฺชาราสิสฺส วิทฺธํสนํ. วิปลฺลาสสฺส เภทนนฺติ จตุพฺพิธวิปลฺลาสสฺส เภทนํ. ตณฺหาสลฺลสฺส อพฺพุหนนฺติ ตณฺหากณฺฏกสฺส ลฺุจนํ. อภิสงฺขารสฺส วูปสมนฺติ ปฺุาทิอภิสงฺขารสฺส นิพฺพาปนํ. ภารสฺส นิกฺเขปนนฺติ ปฺจกฺขนฺธภารสฺส ปนํ. สํสารวฏฺฏสฺส อุปจฺเฉทนนฺติ สํสารปวตฺตสฺส เฉทนํ. สนฺตาปสฺส นิพฺพาปนนฺติ กิเลสสนฺตาปสฺส นิพฺพุติ. ปริฬาหสฺส ปฏิปสฺสทฺธินฺติ กิเลสทรถสฺส สนฺนิสีทนํ. เทวเทโวติ เทวานํ อติเทโว.
๑๕๑. อถ ภควา ยสฺมา ยถา ปสฺสนฺโต กิเลเส อุปรุนฺธติ, ตถา ทิสฺวา ตถา ปวตฺตทสฺสโน หุตฺวา ปรินิพฺพาติ, ตสฺมา ตมตฺถํ อาวิกโรนฺโต นานปฺปกาเรน ตํ เทวปริสํ กิเลสปฺปหาเน ¶ นิโยเชนฺโต ‘‘มูลํ ปปฺจสงฺขายา’’ติ อารภิตฺวา ปฺจ คาถา อภาสิ.
ตตฺถ อาทิคาถาย ตาว สงฺเขปตฺโถ – ปปฺจสงฺขาติ ปปฺจาติ สงฺขาตตฺตา ปปฺจา เอว ปปฺจสงฺขา. ตสฺสา อวิชฺชาทโย กิเลสา มูลํ, ตํ ปปฺจสงฺขาย มูลํ อสฺมีติ ปวตฺตมานฺจ ¶ สพฺพํ มนฺตาย อุปรุนฺเธ. ยา กาจิ อชฺฌตฺตํ ตณฺหา อุปฺปชฺเชยฺยุํ. ตาสํ วินยาย ปหานาย สทา สโต สิกฺเข อุปฏฺิตสฺสติ หุตฺวา สิกฺเขยฺยาติ.
อชฺฌตฺตสมุฏฺานา วาติ จิตฺเต อุปฺปนฺนา วา. ปุเรภตฺตนฺติ ทิวาภตฺตโต ปุเรกาลํ. อจฺจนฺตสํโยคตฺเถ อุปโยควจนํ, อตฺถโต ปน ภุมฺมเมว ปุเรภตฺเตติ, เอส นโย ปจฺฉาภตฺตาทีสุ. ปจฺฉาภตฺตนฺติ ทิวาภตฺตโต ปจฺฉากาลํ. ปุริมํ ยามนฺติ รตฺติยา ปมโกฏฺาสํ. มชฺฌิมํ ยามนฺติ รตฺติยา ทุติยโกฏฺาสํ. ปจฺฉิมํ ยามนฺติ รตฺติยา ตติยโกฏฺาสํ. กาเฬติ กาฬปกฺเข. ชุณฺเหติ สุกฺกปกฺเข. วสฺเสติ จตฺตาโร วสฺสานมาเส. เหมนฺเตติ จตฺตาโร เหมนฺตมาเส. คิมฺเหติ จตฺตาโร คิมฺหานมาเส. ปุริเม วโยขนฺเธติ ปเม วโยโกฏฺาเส, ปมวเยติ อตฺโถ. ตีสุ จ วเยสุ วสฺสสตายุกสฺส ปุริสสฺส เอเกกสฺมึ วเย จตุมาสาธิกานิ เตตฺตึส วสฺสานิ โหนฺติ.
๑๕๒. เอวํ ¶ ปมคาถาย ตาว ตีหิ สิกฺขาหิ ยุตฺตํ เทสนํ อรหตฺตนิกูเฏน เทเสตฺวา ปุน มานปฺปหานวเสน เทเสตุํ ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ ยํ กิฺจิ ธมฺมมภิชฺา อชฺฌตฺตนฺติ ยํ กิฺจิ อุจฺจากุลีนตาทิกํ อตฺตโน คุณํ ชาเนยฺย. อถ วาปิ พหิทฺธาติ อถ วา พหิทฺธาปิ อาจริยุปชฺฌายานํ วา คุณํ ชาเนยฺย. น เตน ถามํ กุพฺเพถาติ เตน คุเณน มานํ น กเรยฺย.
สตานนฺติ สนฺตคุณวนฺตานํ. สนฺตานนฺติ นิพฺพุตสนฺตานํ. น วุตฺตาติ น กถิตา. นปฺปวุตฺตาติ น วิสฺสชฺชิตา.
๑๕๓. อิทานิสฺส อกรณวิธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘เสยฺโย น เตนา’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – เตน จ มาเนน ‘‘เสยฺโยห’’นฺติ วา ‘‘นีโจห’’นฺติ ¶ วา ‘‘สริกฺโขห’’นฺติ วาปิ น มฺเยฺย. เตหิ จ อุจฺจากุลีนตาทีหิ คุเณหิ ผุฏฺโ อเนกรูเปหิ ‘‘อหํ อุจฺจา กุลา ปพฺพชิโต’’ติอาทินา นเยน อตฺตานํ วิกปฺเปนฺโต น ติฏฺเยฺยาติ.
๑๕๔. เอวํ มานปฺปหานวเสนปิ เทเสตฺวา อิทานิ สพฺพกิเลสูปสมวเสน เทเสตุํ ‘‘อชฺฌตฺตเมวา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อชฺฌตฺตเมวุปสเมติ อตฺตนิ เอว ราคาทิสพฺพกิเลเส อุปสเมยฺย. น อฺโต ภิกฺขุ สนฺติเมเสยฺยาติ เปตฺวา จ สติปฏฺานาทีนิ อฺเน อุปาเยน สนฺตึ น ปริเยเสยฺย. กุโต นิรตฺตา วาติ นิรตฺตา กุโตเยว.
น ¶ เอเสยฺยาติ สีลพฺพตาทีหิ น มคฺเคยฺย. น คเวเสยฺยาติ น โอโลเกยฺย. น ปริเยเสยฺยาติ ปุนปฺปุนํ น อิกฺเขยฺย.
๑๕๕. อิทานิ อชฺฌตฺตํ อุปสนฺตสฺส ขีณาสวสฺส ตาทิภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มชฺเฌ ยถา’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ยถา มหาสมุทฺทสฺส อุปริเหฏฺิมภาคานํ เวมชฺฌสงฺขาเต จตุโยชนสหสฺสปฺปมาเณ มชฺเฌ ปพฺพตนฺตเร ิตสฺส วา มชฺเฌ สมุทฺทสฺส อูมิ โน ชายติ, ิโตว โส โหติ อวิกมฺปมาโน, เอวํ อเนโช ขีณาสโว ลาภาทีสุ ิโต อสฺส อวิกมฺปมาโน, โส ตาทิโส ราคาทิอุสฺสทํ ภิกฺขุ น กเรยฺย กุหิฺจีติ.
อุพฺเพเธนาติ เหฏฺาภาเคน. คมฺภีโรติ อุทกปิฏฺิโต ปฏฺาย จตุราสีติโยชนสหสฺสานิ คมฺภีโร. ‘‘อุพฺเพโธ’’ติปิ ปาโ, ตํ น ¶ สุนฺทรํ. เหฏฺาติ อนฺโตอุทกํ. อุปรีติ อุทฺธํอุทกํ. มชฺเฌติ เวมชฺเฌ. น กมฺปตีติ ิตฏฺานโต น จลติ. น วิกมฺปตีติ อิโต จิโต จ น จลติ. น จลตีติ นิจฺจลํ โหติ. น เวธตีติ น ผนฺทติ. นปฺปเวธตีติ น ปริวตฺตติ. น สมฺปเวธตีติ น ปริพฺภมติ. อเนริโตติ น เอริโต. อฆฏฺฏิโตติ อกฺโขโภ. อจลิโตติ น กมฺปิโต. อลุฬิโตติ น กลลีภูโต. ตตฺร อูมิ โน ชายตีติ ตสฺมึ าเน วีจิ น อุปฺปชฺชติ.
สตฺตนฺนํ ปพฺพตานํ อนฺตริกาสูติ ยุคนฺธราทีนํ สตฺตนฺนํ ปพฺพตานํ อนฺตรนฺตรา. สีทนฺตราติ อนฺตมโส สิมฺพลีตูลมฺปิ เตสุ ปติตปติตํ สีทตีติ สีทา, ปพฺพตนฺตเร ชาตตฺตา อนฺตรา. ‘‘อนฺตรสีทา’’ติปิ ปาโ.
๑๕๖. อิทานิ ¶ เอวํ อรหตฺตนิกูเฏน เทสิตํ ธมฺมเทสนํ อพฺภานุโมเทนฺโต ตสฺส จ อรหตฺตสฺส อาทิปฏิปทํ ปุจฺฉนฺโต นิมฺมิตพุทฺโธ ‘‘อกิตฺตยี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อกิตฺตยีติ อาจิกฺขิ. วิวฏจกฺขูติ วิวเฏหิ อนาวรเณหิ ปฺจหิ จกฺขูหิ สมนฺนาคโต. สกฺขิธมฺมนฺติ สกายตฺตํ สยํ อภิฺาตํ อตฺตปจฺจกฺขธมฺมํ. ปริสฺสยวินยนฺติ ปริสฺสยวินยนํ. ปฏิปทํ วเทหีติ อิทานิ ปฏิปตฺตึ วเทหิ. ภทฺทนฺเตติ ภทฺทํ ตว อตฺถูติ ภควนฺตํ อาลปนฺโต อาห. อถ วา ภทฺทํ สุนฺทรํ ตว ปฏิปทํ วเทหีติปิ วุตฺตํ โหติ. ปาติโมกฺขํ อถ วาปิ สมาธินฺติ ตเมว ปฏิปทํ ภินฺทิตฺวา ปุจฺฉติ. ปฏิปทนฺติ เอเตน วา มคฺคํ ปุจฺฉติ. อิตเรหิ สีลํ สมาธิฺจ ปุจฺฉติ.
มํสจกฺขุนาปีติ ¶ สสมฺภาริกมํสจกฺขุนาปิ. ทิพฺพจกฺขุนาปีติ ทิพฺพสทิสตฺตา ทิพฺพํ. เทวานฺหิ สุจริตกมฺมนิพฺพตฺตํ ปิตฺตเสมฺหรุหิราทีหิ อปลิพุทฺธํ อุปกฺกิเลสวินิมุตฺตตาย ทูเรปิ อารมฺมณสมฺปฏิจฺฉนสมตฺถํ ทิพฺพํ ปสาทจกฺขุ โหติ. อิทฺจาปิ วีริยภาวนาพลนิพฺพตฺตํ าณจกฺขุ ตาทิสเมวาติ ทิพฺพสทิสตฺตา ทิพฺพํ. ทิพฺพวิหารวเสน ปฏิลทฺธตฺตา, อตฺตนา จ ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสิตตฺตาปิ ทิพฺพํ. อาโลกปริคฺคเหน มหาชุติกตฺตาปิ ทิพฺพํ. ติโรกุฏฺฏาทิคตรูปทสฺสเนน มหาคติกตฺตาปิ ทิพฺพํ. ตํ สพฺพํ สทฺทสตฺถานุสาเรน เวทิตพฺพํ. ทสฺสนฏฺเน จกฺขุ, จกฺขุกิจฺจกรเณน จกฺขุมิวาติปิ จกฺขุ, ทิพฺพฺจ ตํ จกฺขุ จาติ ทิพฺพจกฺขุ. เตน ทิพฺพจกฺขุนาปิ วิวฏจกฺขุ. อิทานิ ปฺจวิธํ จกฺขุํ วิตฺถาเรน กเถตุํ ‘‘กถํ ภควา มํสจกฺขุนาปิ วิวฏจกฺขู’’ติอาทิมาห ¶ . มํสจกฺขุมฺหิ ภควโต ปฺจวณฺณา สํวิชฺชนฺตีติ เอตฺถ สสมฺภาราทิกจกฺขุมฺหิ พุทฺธสฺส ภควโต ปฺจ โกฏฺาสา ปจฺเจกํ ปจฺเจกํ อุปลพฺภนฺติ.
นีโล จ วณฺโณติ อุมาปุปฺผวณฺโณ. ปีตโก จ วณฺโณติ กณิการปุปฺผวณฺโณ. โลหิตโก จ วณฺโณติ อินฺทโคปกวณฺโณ. กณฺโห จ วณฺโณติ อฺชนวณฺโณ. โอทาโต จ วณฺโณติ โอสธิตารกวณฺโณ. ยตฺถ จ อกฺขิโลมานิ ปติฏฺิตานีติ ยสฺมึ าเน อกฺขิโลมานิ ปติฏฺหิตฺวา ¶ อุฏฺิตานิ. ตํ นีลํ โหติ สุนีลนฺติ เอตฺถ นีลนฺติ สพฺพสงฺคาหกวเสน วุตฺตํ. สุนีลนฺติ อนฺตรวิรหิตํ สุฏฺุ นีลํ. ปาสาทิกนฺติ ปสาทชนกํ. ทสฺสเนยฺยนฺติ ทสฺสนียํ. อุมาปุปฺผสมานนฺติ ทกสีตลปุปฺผสทิสํ. ตสฺส ปรโตติ ตสฺส สมนฺตา พาหิรปสฺเส. ปีตกนฺติ สพฺพสงฺคาหกํ. สุปีตกนฺติ อนฺตรวิรหิตํ สุฏฺุ ปีตกํ. อุภยโต จ อกฺขิกูฏานีติ ทฺเว จ อกฺขิโกฏิโย. โลหิตกานีติ สพฺพสงฺคาหกวเสน วุตฺตํ. สุโลหิตกานีติ อปฺายมานวิวรานิ สุฏฺุ โลหิตกานิ. มชฺเฌ กณฺหนฺติ อกฺขีนํ มชฺฌิมฏฺานํ อฺชนสทิสํ กณฺหํ. สุกณฺหนฺติ อนฺตรวิรหิตํ สุฏฺุ กณฺหํ. อลูขนฺติ ปาสาทิกํ. สินิทฺธนฺติ ปณีตํ. ภทฺทาริฏฺกสมานนฺติ อปนีตตจภทฺทาริฏฺกผลสทิสํ. ‘‘อทฺทาริฏฺกสมาน’’นฺติปิ ปาฬิ, ตสฺสา ตินฺตกากสทิสนฺติ อตฺโถ. โอทาตนฺติ สพฺพสงฺคาหกวเสน วุตฺตํ. สุโอทาตนฺติ อนฺตรวิรหิตํ รชตมณฺฑลสทิสํ สุฏฺุ โอทาตํ. เสตํ ปณฺฑรนฺติ ทฺวีหิปิ อติโอทาตตํ ทสฺเสติ. ปากติเกน มํสจกฺขุนาติ ปกติมํสจกฺขุนา. อตฺตภาวปริยาปนฺเนนาติ อตฺตภาวสนฺนิสฺสิเตน. ปุริมสุจริตกมฺมาภินิพฺพตฺเตนาติ ปุริเมสุ ตตฺถ ตตฺถุปฺปนฺเนสุ อตฺตภาเวสุ กายสุจริตาทิกมฺมุนา อุปฺปาทิเตน. สมนฺตา โยชนํ ปสฺสตีติ สมนฺตโต จตุคาวุตปฺปมาเณ โยชเน ติโรกุฏฺฏาทิคตํ รูปํ อาวรณวิรหิตํ ปกติมํสจกฺขุนา ทกฺขติ.
ทิวา ¶ เจว รตฺติฺจาติ ทิวสภาเค จ รตฺติภาเค จ. จตุรงฺคสมนฺนาคโตติ จตูหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต ปริปุณฺณอนฺธกาโร อาโลกวิรหิโต. สูริโย วา อตฺถงฺคโตติ สูรภาวํ ชนยนฺโต อุฏฺิโต สูริโย ¶ วิคโต. กาฬปกฺโข จ อุโปสโถติ กาฬปกฺเข จาตุทฺทสีอุโปสถทิวโส จ. ติพฺโพ จ วนสณฺโฑติ คหโน จ รุกฺขราสิ. มหา จ กาฬเมโฆ อพฺภุฏฺิโตติ มหนฺโต กาฬเมโฆ อพฺภปฏโล จ อุฏฺิโต โหติ. กุฏฺโฏ วาติ อิฏฺกาจโย วา. กวาฏํ วาติ ทฺวารวาตปานาทิกวาฏํ วา. ปากาโร วาติ มตฺติกาทิปากาโร วา. ปพฺพโต วาติ ปํสุปพฺพตาทิปพฺพโต วา. คจฺฉํ วาติ ตรุณคจฺฉาทิคจฺฉํ วา ¶ . ลตา วาติ กรวินฺทาทิ ลตา วา. อาวรณํ รูปานํ ทสฺสนายาติ รูปารมฺมณานํ ทสฺสนตฺถาย ปฏิเสธํ นตฺถิ. เอกฺเจ ติลผลํ นิมิตฺตํ กตฺวาติ สเจ เอกํ ติลพีชํ สฺาณํ กตฺวา. ติลวาเห ปกฺขิเปยฺยาติ ทฺเว สกเฏ ติลราสิมฺหิ ขิเปยฺย. เกจิ ปน ‘‘วาโห นาม กุมฺภาติเรกทฺเวสกฏ’’นฺติ วทนฺติ. ตฺเว ติลผลํ อุทฺธเรยฺยาติ ตํนิมิตฺตกตํ ติลพีชํเยว อุทฺธริตฺวา คณฺเหยฺย.
ทิพฺเพน จกฺขุนาติ อิทํ วุตฺตตฺถเมว. วิสุทฺเธนาติ จุตูปปาตทสฺสเนน ทิฏฺิวิสุทฺธิเหตุตฺตา วิสุทฺเธน. โย หิ จุติมตฺตเมว ปสฺสติ น อุปปาตํ, โส อุจฺเฉททิฏฺึ คณฺหาติ. โย อุปปาตเมว ปสฺสติ น จุตึ, โส นวสตฺตปาตุภาวสสฺสตทิฏฺึ คณฺหาติ. โย ปน ตทุภยํ ปสฺสติ, โส ยสฺมา ทุวิธมฺปิ ตํ ทิฏฺิคตํ อติวตฺตติ, ตสฺมาสฺส ตํ ทสฺสนํ ทิฏฺิวิสุทฺธิเหตุ โหติ, อุภยฺเจตํ พุทฺธปุตฺตา ปสฺสนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘จุตูปปาตทสฺสเนน ทิฏฺิวิสุทฺธิเหตุตฺตา วิสุทฺธ’’นฺติ. มนุสฺสูปจารํ อติกฺกมิตฺวา รูปทสฺสเนน อติกฺกนฺตมานุสกํ, มานุสกํ วา มํสจกฺขุํ อติกฺกนฺตตฺตา อติกฺกนฺตมานุสกนฺติ เวทิตพฺพํ.
เตน ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสตีติ มนุสฺสมํสจกฺขุนา วิย สตฺเต โอโลเกติ. จวมาเน อุปปชฺชมาเนติ เอตฺถ จุติกฺขเณ อุปปตฺติกฺขเณ วา ทิพฺพจกฺขุนา ทฏฺุํ น สกฺกา. เย ปน อาสนฺนจุติกา อิทานิ จวิสฺสนฺติ, เต จวมานา. เย จ คหิตปฏิสนฺธิกา สมฺปตินิพฺพตฺตาว, เต อุปปชฺชมานาติ อธิปฺเปตา. เต เอวรูเป จวมาเน อุปปชฺชมาเน จ ปสฺสตีติ ทสฺเสติ. หีเนติ โมหนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา หีเน. ตพฺพิปรีเต ปณีเต. สุวณฺเณติ อโทสนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา อิฏฺกนฺตมนาปวณฺณยุตฺเต. ตพฺพิปรีเต ทุพฺพณฺเณ, อภิรูเป วิรูเปติ อตฺโถ. สุคเตติ สุคติคเต, อโลภนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา วา อฑฺเฒ มหทฺธเน. ทุคฺคเตติ ¶ ทุคฺคติคเต, โลภนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา วา ทลิทฺเท อปฺปนฺนปาเน. ยถากมฺมูปเคติ ยํ ยํ กมฺมํ อุปจิตํ, เตน เตน อุปคเต ¶ . ตตฺถ ปุริเมหิ ‘‘จวมาเน’’ติอาทีหิ ทิพฺพจกฺขุกิจฺจํ วุตฺตํ ¶ . อิมินา ปน ปเทน ยถากมฺมูปคาณกิจฺจํ.
ตสฺส จ าณสฺส อยมุปฺปตฺติกฺกโม – อิธ ภิกฺขุ เหฏฺานิรยาภิมุขํ อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา เนรยิเก สตฺเต ปสฺสติ มหาทุกฺขํ อนุภวมาเน, ตํ ทสฺสนํ ทิพฺพจกฺขุกิจฺจเมว. โส เอวํ มนสิ กโรติ ‘‘กึ นุ โข กมฺมํ กตฺวา อิเม สตฺตา เอตํ ทุกฺขํ อนุภวนฺตี’’ติ, อถสฺส ‘‘อิทํ นาม กตฺวา’’ติ ตํ กมฺมารมฺมณํ าณํ อุปฺปชฺชติ. ตถา อุปริเทวโลกาภิมุขํ อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา นนฺทนวน มิสฺสกวน ผารุสกวนาทีสุ สตฺเต ปสฺสติ มหาสมฺปตฺตึ อนุภวมาเน. ตมฺปิ ทสฺสนํ ทิพฺพจกฺขุกิจฺจเมว. โส เอวํ มนสิ กโรติ ‘‘กึ นุ โข กมฺมํ กตฺวา อิเม สตฺตา เอตํ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺตี’’ติ. อถสฺส ‘‘อิทํ นาม กตฺวา’’ติ ตํ กมฺมารมฺมณํ าณมุปฺปชฺชติ. อิทํ ยถากมฺมูปคาณํ นาม. อิมสฺส วิสุํ ปริกมฺมํ นาม นตฺถิ. ยถา จ อิมสฺส, เอวํ อนาคตํสาณสฺสาปิ. ทิพฺพจกฺขุปาทกาเนว หิ อิมานิ ทิพฺพจกฺขุนา สเหว อิชฺฌนฺติ.
อิเม วต โภนฺโตติอาทีสุ อิเมติ ทิพฺพจกฺขุนา ทิฏฺานํ นิทสฺสนวจนํ. วตาติ อนุโสจนตฺเถ นิปาโต. โภนฺโตติ ภวนฺโต. ทุฏฺุ จริตํ, ทุฏฺุํ วา จริตํ กิเลสปูติกตฺตาติ ทุจฺจริตํ; กาเยน ทุจฺจริตํ, กายโต วา อุปฺปนฺนํ ทุจฺจริตนฺติ กายทุจฺจริตํ. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. สมนฺนาคตาติ สมงฺคีภูตา.
อริยานํ อุปวาทกาติ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกานํ อริยานํ อนฺตมโส คิหิโสตาปนฺนานมฺปิ อนตฺถกามา หุตฺวา อนฺติมวตฺถุนา วา คุณปริธํสเนน วา อุปวาทกา, อกฺโกสกา ครหกาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ ‘‘นตฺถิ อิเมสํ สมณธมฺโม, อสฺสมณา เอเต’’ติ วทนฺโต อนฺติมวตฺถุนา อุปวทติ. ‘‘นตฺถิ อิเมสํ ฌานํ วา วิโมกฺโข วา มคฺโค วา ผลํ วา’’ติอาทีนิ วทนฺโต คุณปริธํสเนน อุปวทตีติ เวทิตพฺโพ. โส จ ฌานํ วา อุปวเทยฺย อฌานํ วา, อุภยถาปิ อริยูปวาโทว โหติ; อติภาริยํ กมฺมํ, อนนฺตริยกมฺมสทิสํ, สคฺคาวรณํ มคฺคาวรณฺจ, สเตกิจฺฉํ ปน โหติ. ตสฺมา โย อริยํ อุปวทติ, เตน คนฺตฺวา สเจ อตฺตนา วุฑฺฒตโร โหติ ¶ , อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา ‘‘อหํ อายสฺมนฺตํ ¶ อิทฺจิทฺจ อวจํ, ตํ เม ขมาหี’’ติ ขมาเปตพฺโพ. สเจ ปน นวกตโร โหติ, วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺเห อิทฺจิทฺจ อวจํ, ตํ เม ขมถา’’ติ ขมาเปตพฺโพ. สเจ โส นกฺขมติ, ทิสาปกฺกนฺโต วา โหติ, สยํ วา คนฺตฺวา สทฺธิวิหาริเก วา ¶ เปเสตฺวา ขมาเปตพฺโพ. สเจ นาปิ คนฺตุํ น เปเสตุํ สกฺกา โหติ, เย ตสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู วสนฺติ, เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา สเจ นวกตรา โหนฺติ, อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา สเจ วุฑฺฒตรา, วุฑฺเฒ วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, อสุกํ นาม อายสฺมนฺตํ อิทฺจิทฺจ อวจํ, ตํ ขมตุ เม โส อายสฺมา’’ติ วตฺวา ขมาเปตพฺโพ. สมฺมุขา อขมนฺเตปิ เอตเทว กาตพฺพํ. สเจ เอกจาริกภิกฺขุ โหติ, เนว ตสฺส วสนฏฺานํ น คตฏฺานํ ปฺายติ, เอกสฺส ปณฺฑิตสฺส ภิกฺขุโน สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, อสุกํ นาม อายสฺมนฺตํ อิทฺจิทฺจ อวจํ, ตํ เม อนุสฺสรโต อนุสฺสรโต วิปฺปฏิสาโร โหติ, กึ กโรมี’’ติ วตฺตพฺพํ. โส วกฺขติ ‘‘ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถ, เถโร ตุมฺหากํ ขมติ, จิตฺตํ วูปสเมถา’’ติ. เตนปิ อริยสฺส คตทิสาภิมุเขน อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘ขมถา’’ติ วตฺตพฺพํ. ยทิ โส ปรินิพฺพุโต โหติ, ปรินิพฺพุตมฺจฏฺานํ คนฺตฺวา ยาว สิวถิกํ คนฺตฺวาปิ ขมาเปตพฺโพ. เอวํ กเต เนว สคฺคาวรณํ น มคฺคาวรณํ โหติ, ปากติกเมว โหตีติ.
มิจฺฉาทิฏฺิกาติ วิปรีตทสฺสนา. มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานาติ มิจฺฉาทิฏฺิวเสน สมาทินฺนนานาวิธกมฺมา, เย จ มิจฺฉาทิฏฺิมูลเกสุ กายกมฺมาทีสุ อฺเปิ สมาทเปนฺติ. เอตฺถ จ วจีทุจฺจริตคฺคหเณเนว อริยูปวาเท, มโนทุจฺจริตคฺคหเณน จ มิจฺฉาทิฏฺิยา สงฺคหิตายปิ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปุนวจนํ มหาสาวชฺชภาวทสฺสนตฺถนฺติ เวทิตพฺพํ. มหาสาวชฺโช หิ อริยูปวาโท อานนฺตริยสทิโส. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘เสยฺยถาปิ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน สมาธิสมฺปนฺโน ปฺาสมฺปนฺโน ทิฏฺเว ธมฺเม อฺํ อาราเธยฺย, เอวํสมฺปทมิทํ, สาริปุตฺต, วทามิ. ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ ¶ นิรเย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๔๙).
มิจฺฉาทิฏฺิโต จ มหาสาวชฺชตรํ นาม อฺํ นตฺถิ. ยถาห –
‘‘นาหํ ¶ , ภิกฺขเว, อฺํ เอกธมฺมมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํมหาสาวชฺชํ ยถยิทํ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฏฺิ. มิจฺฉาทิฏฺิปรมานิ ภิกฺขเว, มหาสาวชฺชานี’’ติ (อ. นิ. ๑.๓๑๐).
กายสฺส เภทาติ อุปาทินฺนกฺขนฺธปริจฺจาคา. ปรํ มรณาติ ตทนนฺตราภินิพฺพตฺตกฺขนฺธคฺคหเณ ¶ . อถ วา กายสฺส เภทาติ ชีวิตินฺทฺริยสฺสุปจฺเฉทา. ปรํ มรณาติ จุติจิตฺตโต อุทฺธํ. อปายนฺติ เอวมาทิ สพฺพํ นิรยเววจนเมว. นิรโย หิ สคฺคโมกฺขเหตุภูตา ปฺุสมฺมตา อยา อเปตตฺตา, สุขานํ วา อายสฺส อภาวา อปาโย. ทุกฺขสฺส คติ ปฏิสรณนฺติ ทุคฺคติ, โทสพหุลตาย วา ทุฏฺเน กมฺมุนา นิพฺพตฺตา คตีติ ทุคฺคติ. วิวสา นิปตนฺติ ตตฺถ ทุกฺกฏการิโนติ วินิปาโต, วินสฺสนฺตา วา เอตฺถ นิปตนฺติ สมฺภิชฺชมานงฺคปจฺจงฺคาติปิ วินิปาโต. นตฺถิ เอตฺถ อสฺสาทสฺิโต อโยติ นิรโย.
อถ วา อปายคฺคหเณน ติรจฺฉานโยนึ ทีเปติ, ติรจฺฉานโยนิ หิ อปาโย สุคติโต อเปตตฺตา. น ทุคฺคติ, มเหสกฺขานํ นาคราชาทีนํ สมฺภวโต. ทุคฺคติคฺคหเณน เปตฺติวิสยํ ทีเปติ, โส หิ อปาโย เจว ทุคฺคติ จ สุขโต อเปตตฺตา ทุกฺขสฺส จ คติภูตตฺตา, น ตุ วินิปาโต, อสุรกายสทิสํ อวินิปติตตฺตา. วินิปาตคฺคหเณน อสุรกายํ ทีเปติ. โส หิ ยถาวุตฺเตน อตฺเถน อปาโย เจว ทุคฺคติ จ สพฺพสมุสฺสเยหิ จ วินิปติตตฺตา วินิปาโตติ วุจฺจติ. นิรยคฺคหเณน อวีจิอาทิอเนกปฺปการํ นิรยเมว ทีเปตีติ. อุปปนฺนาติ อุปคตา, ตตฺถ อภินิพฺพตฺตาติ อธิปฺปาโย. วุตฺตวิปริยาเยน สุกฺกปกฺโข เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – ตตฺถ สุคติคฺคหเณน มนุสฺสคติปิ สงฺคยฺหติ. สคฺคคฺคหเณน เทวคติเยว. ตตฺถ สุนฺทรา คตีติ สุคติ. รูปาทีหิ วิสเยหิ สุฏฺุ อคฺโคติ สคฺโค. โส สพฺโพปิ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโกติ อยํ วจนตฺโถ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนาติอาทิ สพฺพํ นิคมนวจนํ.
เอวํ ทิพฺเพน จกฺขุนา ปสฺสตีติ อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ทิพฺพจกฺขุาณํ ¶ ปริตฺตปจฺจุปฺปนฺนอชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณวเสน จตูสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ ¶ . ยถากมฺมูปคาณํ ปริตฺตมหคฺคตาตีตอชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณวเสน ปฺจสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ. อนาคตํสาณํ ปริตฺตมหคฺคตอปฺปมาณมคฺคอนาคตอชฺฌตฺตพหิทฺธานวตฺตพฺพารมฺมณวเสน อฏฺสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตตีติ.
อากงฺขมาโน จ ภควาติ ภควา อิจฺฉมาโน. เอกมฺปิ โลกธาตุํ ปสฺเสยฺยาติ เอกํ จกฺกวาฬํ โอโลเกยฺย. สหสฺสิมฺปิ จูฬนิกนฺติ เอตฺถ ยาวตา จนฺทิมสูริยา ปริหรนฺติ, ทิสา ภานฺติ วิโรจมานา, ตาว สหสฺสธา โลโก, เอสา สหสฺสิจูฬนิกา นาม. จูฬนิกนฺติ ขุทฺทกํ. ทฺวิสหสฺสิมฺปิ มชฺฌิมิกํ โลกธาตุนฺติ เอตฺถ สหสฺสจกฺกวาฬานํ สหสฺสภาเคน คเณตฺวา ทสสตสหสฺสจกฺกวาฬปริมาณา ทฺวิสหสฺสี มชฺฌิมิกา โลกธาตุ นาม. เอตฺตเกน พุทฺธานํ ชาติกฺเขตฺตํ ¶ นาม ทสฺสิตํ. โพธิสตฺตานฺหิ ปจฺฉิมภเว เทวโลกโต จวิตฺวา มาตุกุจฺฉิยํ ปฏิสนฺธิคฺคหณทิวเส จ มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมนทิวเส จ มหาภินิกฺขมนทิวเส จ สมฺโพธิธมฺมจกฺกปวตฺตนอายุสงฺขาโรสฺสชฺชนปรินิพฺพานทิวเสสุ จ เอตฺตกํ านํ กมฺปติ.
ติสหสฺสิมฺปิ. มหาสหสฺสิมฺปิ โลกธาตุนฺติ สหสฺสิโต ปฏฺาย ตติยาติ ติสหสฺสี, ปมสหสฺสึ สหสฺสธา กตฺวา คณิตํ มชฺฌิมิกํ สหสฺสธา กตฺวา คณิตตฺตา มหนฺเตหิ สหสฺเสหิ คณิตาติ มหาสหสฺสี. เอตฺตาวตา โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬปริมาโณ โลโก ทสฺสิโต โหติ. คณกปุตฺตติสฺสตฺเถโร ปน เอวมาห – ‘‘น หิ ติสหสฺสิมหาสหสฺสิโลกธาตุยา เอตํ ปริมาณํ ¶ . อิทฺหิ อาจริยานํ สชฺฌายมูลกํ วาจาย ปริหีนฏฺานํ, ทสโกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬปริมาณํ ปน านํ ติสหสฺสิมหาสหสฺสิโลกธาตุ นามา’’ติ. เอตฺตาวตา หิ ภควโต อาณากฺเขตฺตํ นาม ทสฺสิตํ. เอตสฺมิฺหิ อนฺตเร อาฏานาฏิยปริตฺต- (ที. นิ. ๓.๒๗๕ อาทโย) อิสิคิลิปริตฺต- (ม. นิ. ๓.๑๓๓ อาทโย) ธชคฺคปริตฺต- (สํ. นิ. ๑.๒๔๙) โพชฺฌงฺคปริตฺตขนฺธปริตฺต- (อ. นิ. ๔.๖๗) โมรปริตฺต- (ชา. ๑.๒.๑๗-๑๘) เมตฺตปริตฺต- (ขุ. ปา. ๙.๑ อาทโย; สุ. นิ. ๑๔๓ อาทโย) รตนปริตฺตานํ (ขุ. ปา. ๖.๑ อาทโย; สุ. นิ. ๒๒๔ อาทโย) อาณา ผรติ.
ยาวตกํ วา ปน อากงฺเขยฺยาติ ยตฺตกํ วา อิจฺเฉยฺย. อิมินา วิสยกฺเขตฺตํ ทสฺสิตํ. พุทฺธานฺหิ วิสยกฺเขตฺตสฺส ปมาณปริจฺเฉโท นาม นตฺถิ ¶ , นตฺถิกภาเว จสฺส อิมํ อุปมํ อาหรนฺติ – โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬมฺหิ ยาว พฺรหฺมโลกา สาสเปหิ ปูเรตฺวา สเจ โกจิ ปุรตฺถิมาย ทิสาย เอกจกฺกวาเฬ เอกํ สาสปํ ปกฺขิปนฺโต อาคจฺเฉยฺย, สพฺเพปิ เต สาสปา ปริกฺขยํ คจฺเฉยฺยุํ. น ตฺเวว ปุรตฺถิมาย ทิสาย จกฺกวาฬานิ. ทกฺขิณาทีสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ พุทฺธานํ อวิสโย นาม นตฺถิ. ตาวตกํ ปสฺเสยฺยาติ ตตฺตกํ โอโลเกยฺย. เอวํ ปริสุทฺธํ ภควโต ทิพฺพจกฺขูติ ทิพฺพจกฺขุกถํ นิฏฺาเปสิ.
กถํ ภควา ปฺาจกฺขุนาปิ วิวฏจกฺขูติ เกนปฺปกาเรน ปฺาจกฺขุนา อปิหิตจกฺขุ? มหาปฺโ ปุถุปฺโติอาทิกํ ตตฺถ อติโรจติ ยทิทํ ปฺายาติ ปริโยสานํ เหฏฺา วุตฺตตฺถเมว.
พุทฺธจกฺขุนาติ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาเณน จ อาสยานุสยาเณน จ. อิเมสํ ทฺวินฺนํ าณานํ พุทฺธจกฺขูติ นามํ, สพฺพฺุตฺาณสฺส สมนฺตจกฺขูติ, ติณฺณํ มคฺคาณานํ ธมฺมจกฺขูติ ¶ . โลกํ โวโลเกนฺโต อทฺทส สตฺเตติ สตฺเต อทฺทกฺขิ. อปฺปรชกฺเขติอาทีสุ เยสํ วุตฺตนเยเนว ปฺาจกฺขุมฺหิ ราคาทิรชํ อปฺปํ, เต อปฺปรชกฺขา. เยสํ ตํ มหนฺตํ, เต มหารชกฺขา. เยสํ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ ติกฺขานิ, เต ติกฺขินฺทฺริยา. เยสํ ตานิ มุทูนิ, เต มุทินฺทฺริยา. เยสํ เตเยว สทฺธาทโย อาการา สุนฺทรา, เต สฺวาการา. เย กถิตการณํ สลฺลกฺเขนฺติ, สุเขน สกฺกา โหนฺติ วิฺาเปตุํ เต สุวิฺาปยา. เย ปรโลกฺเจว วชฺชฺจ ภยโต ปสฺสนฺติ, เต ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิโน นาม.
อุปฺปลินิยนฺติ ¶ อุปฺปลวเน. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. อนฺโตนิมุคฺคโปสีนีติ ยานิ อนฺโตนิมุคฺคาเนว โปสิยนฺติ. อุทกํ อจฺจุคฺคมฺม ติฏฺนฺตีติ อุทกํ อติกฺกมิตฺวา ติฏฺนฺติ. ตตฺถ ยานิ ยานิ อจฺจุคฺคมฺม ิตานิ, ตานิ ตานิ สูริยรสฺมิสมฺผสฺสํ อาคมยมานานิ ิตานิ อชฺช ปุปฺผนกานิ. ยานิ สโมทกํ ิตานิ, ตานิ สฺเว ปุปฺผนกานิ. ยานิ อุทกา อนุคฺคตานิ อนฺโตนิมุคฺคโปสีนิ, ตานิ ตติยทิวเสว ปุปฺผนกานิ. อุทกา ปน อนุคฺคตานิ อฺานิปิ สโรคอุปฺปลานิ นาม อตฺถิ, ยานิ เนว ปุปฺผิสฺสนฺติ, มจฺฉกจฺฉปภกฺขาเนว ภวิสฺสนฺติ, ตานิ ปาฬึ นารูฬฺหานิ, อาหริตฺวา ปน ทีเปตพฺพานีติ ทีปิตานิ.
ยเถว ¶ หิ ตานิ จตุพฺพิธปุปฺผานิ, เอวเมว อุคฺฆฏิตฺู วิปฺจิตฺู เนยฺโย ปทปรโมติ จตฺตาโร ปุคฺคลา. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อุทาหฏเวลาย ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล อุคฺฆฏิตฺู. ยสฺส ปุคฺคลสฺส สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺเถ วิภชียมาเน ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล วิปฺจิตฺู. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อุทฺเทสโต ปริปุจฺฉโต โยนิโส มนสิกโรโต กลฺยาณมิตฺเต เสวโต ภชโต ปยิรุปาสโต ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล เนยฺโย. ยสฺส ปุคฺคลสฺส พหุมฺปิ สุณโต พหุมฺปิ ภณโต พหุมฺปิ ธารยโต พหุมฺปิ วาจโต น ตาย ชาติยา ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ปทปรโม. ตตฺถ ภควา อุปฺปลวนาทิสทิสํ ทสสหสฺสิโลกธาตุํ โอโลเกนฺโต อชฺช ปุปฺผนกานิ อุคฺฆฏิตฺู, สฺเว ปุปฺผนกานิ วิปฺจิตฺูติ เอวํ สพฺพาการโต จ อทฺทส. ตตฺถ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ภควโต ธมฺมเทสนา อตฺถํ สาเธติ, ปทปรมานํ อนาคตตฺถาย วาสนา โหติ.
ราคจริโตติอาทีสุ รชฺชนวเสน อารมฺมเณ จรณํ เอตสฺส อตฺถีติ ราคจริโต. ทุสฺสนวเสน อารมฺมเณ จรณํ เอตสฺส อตฺถีติ โทสจริโต. มุยฺหนวเสน อารมฺมเณ จรณํ เอตสฺส อตฺถีติ โมหจริโต. วิตกฺกนวเสน อูหนวเสน อารมฺมเณ จรณํ เอตสฺส อตฺถีติ วิตกฺกจริโต ¶ . โอกปฺปนสทฺธาวเสน อารมฺมเณ จรณํ เอตสฺส อตฺถีติ สทฺธาจริโต. าณเมว จรณํ, าเณน วา จรณํ, าณสฺส วา จรณํ, าณโต วา จรณํ เอตสฺส อตฺถีติ าณจริโต. ราคจริตสฺสาติ ¶ ราคุสฺสทสฺส ราคพหุลสฺส. ปรโตปิ เอเสว นโย.
อสุภกถํ กเถตีติ อุทฺธุมาตกาทิทสวิธํ อสุภปฏิสํยุตฺตกถํ อาจิกฺขติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อสุภา ภาเวตพฺพา ราคสฺส ปหานายา’’ติ (อ. นิ. ๙.๑). เมตฺตาภาวนํ อาจิกฺขตีติ เมตฺตาภาวนํ จิตฺตสิเนหนํ กเถติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘เมตฺตา ภาเวตพฺพา พฺยาปาทสฺส ปหานายา’’ติ. อุทฺเทเสติ สชฺฌายเน. ปริปุจฺฉายาติ อฏฺกถาย. กาเลน ธมฺมสฺสวเนติ ยุตฺตปฺปตฺตกาเล อุตฺตริ ปริยตฺติธมฺมสฺสวเน. ธมฺมสากจฺฉายาติ อฺเหิ สทฺธึ สากจฺฉาย. ครุสํวาเสติ ครูนํ ปยิรุปาสเน. นิเวเสตีติ อาจริยานํ สนฺติเก ปติฏฺาเปติ. อานาปานสฺสตึ อาจิกฺขตีติ ¶ อานาปานสฺสติสมฺปยุตฺตกมฺมฏฺานํ กเถติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อานาปานสฺสติ ภาเวตพฺพา วิตกฺกุปจฺเฉทายา’’ติ (อ. นิ. ๙.๑). ปสาทนียํ นิมิตฺตํ อาจิกฺขตีติ จูฬเวทลฺล- (ม. นิ. ๑.๔๖๐ อาทโย) มหาเวทลฺลา- (ม. นิ. ๑.๔๔๙ อาทโย) ทิปสาทชนกํ สุตฺตํ กเถติ. พุทฺธสุโพธินฺติ พุทฺธสฺส ภควโต พุทฺธตฺตปฏิเวธํ. ธมฺมสุธมฺมตนฺติ นววิธโลกุตฺตรธมฺมสฺส สฺวากฺขาตตํ. สงฺฆสุปฺปฏิปตฺตินฺติ อฏฺวิธอริยสงฺฆสฺส สุปฺปฏิปนฺนตาทิสุฏฺุปฏิปตฺตึ. สีลานิ จ อตฺตโนติ อตฺตโน สนฺตกสีลานิ จ. อาจิกฺขติ วิปสฺสนานิมิตฺตนฺติ อุทยพฺพยาทิปฏิสํยุตฺตํ กเถติ. อนิจฺจาการนฺติ หุตฺวา อภาวาการํ. ทุกฺขาการนฺติ อุทยพฺพยปฏิปีฬนาการํ. อนตฺตาการนฺติ อวสวตฺตนาการํ.
เสเล ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺิโตติ เสลมเย เอกคฺฆเน ปพฺพตมุทฺธนิ ิโตว, น หิ ตตฺถ ิตสฺส ทสฺสนตฺถํ อภิมุเข คีวุกฺขิปนปสารณาทิกิจฺจํ อตฺถิ. ตถูปมนฺติ ตปฺปฏิภาคํ เสลปพฺพตูปมํ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ยถา เสลปพฺพตมุทฺธนฺติ ิโตว จกฺขุนา ปุริโส สมนฺตโต ชนตํ ปสฺเสยฺย. สุเมธ สุนฺทรปฺ สพฺพฺุตฺาเณน สมนฺตจกฺขุ ภควา ธมฺมมยํ ปฺามยํ ปาสาทมารุยฺห สยํ อเปตโสโก ¶ โสกาวติณฺณํ ชาติชราภิภูตฺจ ชนตํ อเวกฺขสฺสุ อุปธารยตุ อุปปริกฺขตุ.
อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย – ยถา หิ ปพฺพตปาทสามนฺตา มหนฺตํ เขตฺตํ กตฺวา ตตฺถ เกทารปาฬีสุ กุฏิโย กตฺวา รตฺตึ อคฺคึ ชาเลยฺย, จตุรงฺคสมนฺนาคตฺจ อนฺธการํ อสฺส, อถ ตสฺส ปพฺพตสฺส มตฺถเก ตฺวา จกฺขุมโต ปุริสสฺส ภูมึ โอโลกยโต เนว เขตฺตํ น เกทารปาฬิโย ¶ น กุฏิโย น ตตฺถ สยิตมนุสฺสา ปฺาเยยฺยุํ, กุฏิกาสุ ปน อคฺคิชาลมตฺตเมว ปฺาเยยฺย. เอวํ ธมฺมปาสาทํ อารุยฺห สตฺตกายํ โอโลกยโต ตถาคตสฺส เย เต อกตกลฺยาณา สตฺตา, เต เอกวิหาเร ทกฺขิณชาณุปสฺเส นิสินฺนาปิ พุทฺธจกฺขุสฺส อาปาถํ นาคจฺฉนฺติ, รตฺตึ ขิตฺตสรา วิย โหนฺติ. เย ปน กตกลฺยาณา เวเนยฺยปุคฺคลา, เต เอวสฺส ทูเรปิ ิตา อาปาถํ คจฺฉนฺติ, เต เอว อคฺคิ วิย หิมวนฺตปพฺพโต วิย จ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ทูเร สนฺโต ปกาเสนฺติ, หิมวนฺโตว ปพฺพโต;
อสนฺเตตฺถ น ทิสฺสนฺติ, รตฺตึ ขิตฺตา ยถา สรา’’ติ. (ธ. ป. ๓๐๔; เนตฺติ. ๑๑);
สพฺพฺุตฺาณนฺติ ¶ เอตฺถ ปฺจเนยฺยปถปฺปเภทํ สพฺพํ อฺาสีติ สพฺพฺู. สงฺขตาสงฺขตาทิเภทา สพฺพธมฺมา หิ สงฺขาโร วิกาโร ลกฺขณํ นิพฺพานํ ปฺตฺตีติ ปฺเจว เนยฺยปถา โหนฺติ. สพฺพฺุสฺส ภาโว สพฺพฺุตา, สพฺพฺุตา เอว าณํ ‘‘สพฺพฺุตาาณ’’นฺติ วตฺตพฺเพ ‘‘สพฺพฺุตฺาณ’’นฺติ วุตฺตํ. สพฺพฺูติ จ กมสพฺพฺู สกึสพฺพฺู สตตสพฺพฺู สตฺติสพฺพฺู าตสพฺพฺูติ ปฺจวิธา สพฺพฺุโน สิยุํ. เตสุ กเมน สพฺพชานนกาลาสมฺภวโต กมสพฺพฺุตา น โหติ, สกึ สพฺพารมฺมณคฺคหณาภาวโต สกึสพฺพฺุตา น โหติ, จกฺขุวิฺาณาทีนํ ยถารมฺมณจิตฺตสมฺภวโต ภวงฺคจิตฺตวิโรธโต ยุตฺติอภาวโต จ สตตสพฺพฺุตา น โหติ, ปริเสสโต สพฺพชานนสมตฺถตาย ¶ สตฺติสพฺพฺุตา วา สิยา, วิทิตสพฺพธมฺมตฺตา าตสพฺพฺุตา วา, สตฺติสพฺพฺุโน สพฺพชานนตฺตํ นตฺถีติ ตมฺปิ น ยุชฺชติ, ‘‘น ตสฺส อทิฏฺมิธตฺถิ กิฺจิ…เป… สมนฺตจกฺขู’’ติ วุตฺตตฺตา าตสพฺพฺุตา เอว ยุชฺชติ. เอวฺหิ สติ กิจฺจโต อสมฺโมหโต การณสิทฺธิโต อาวชฺชนปฏิพทฺธโต สพฺพฺุตเมว โหตีติ. เตน าเณนาติ เตน สพฺพชานนาเณน.
ปุน อปเรน ปริยาเยน สพฺพฺุภาวสาธนตฺถํ ‘‘น ตสฺสา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ น ตสฺส อทฺทิฏฺมิธตฺถิ กิฺจีติ ตสฺส ตถาคตสฺส อิธ อิมสฺมึ เตธาตุเก โลเก อิมสฺมึ ปจฺจุปฺปนฺนกาเล วา ปฺาจกฺขุนา อทิฏฺํ นาม กิฺจิ อปฺปมตฺตกมฺปิ น อตฺถิ น สํวิชฺชติ. อตฺถีติ อิทํ วตฺตมานกาลิกํ อาขฺยาตปทํ, อิมินา ปจฺจุปฺปนฺนกาลิกสฺส สพฺพธมฺมสฺส าตภาวํ ทสฺเสติ. คาถาพนฺธสุขตฺถํ ปเนตฺถ ท-กาโร ปยุตฺโต. อโถ อวิฺาตนฺติ เอตฺถ อโถติ วจโนปาทาเน ¶ นิปาโต. อวิฺาตนฺติ อตีตกาลิกํ อวิฺาตํ นาม กิฺจิ ธมฺมชาตํ นาโหสีติ ปาเสโส. อพฺยยภูตสฺส อตฺถิ-สทฺทสฺส คหเณ ปาเสสํ วินาปิ ยุชฺชติเยว. อิมินา อตีตกาลิกสฺส สพฺพธมฺมสฺส าตภาวํ ทสฺเสติ. อชานิตพฺพนฺติ อนาคตกาลิกํ อชานิตพฺพํ นาม ธมฺมชาตํ น ภวิสฺสติ นตฺถีติ. อิมินา อนาคตกาลิกสฺส สพฺพธมฺมสฺส าตภาวํ ทสฺเสติ. ชานนกิริยาวิเสสมตฺตเมว วา เอตฺถ อ-กาโร. สพฺพํ อภิฺาสิ ยทตฺถิ เนยฺยนฺติ เอตฺถ ยํ เตกาลิกํ วา กาลวินิมุตฺตํ วา เนยฺยํ ชานิตพฺพํ กิฺจิ ธมฺมชาตํ อตฺถิ, ตํ สพฺพํ ตถาคโต อภิฺาสิ อธิเกน สพฺพฺุตฺาเณน ¶ ชานิ ปฏิวิชฺฌิ, เอตฺถ อตฺถิ-สทฺเทน เตกาลิกสฺส กาลวิมุตฺตสฺส จ คหณา อตฺถิ-สทฺโท อพฺยยภูโตเยว ทฏฺพฺโพ. ตถาคโต เตน สมนฺตจกฺขูติ กาลวเสน โอกาสวเสน จ นิปฺปเทสตฺตา สมนฺตา สพฺพโต ปวตฺตํ าณจกฺขุ อสฺสาติ สมนฺตจกฺขุ, เตน ยถาวุตฺเตน การเณน ตถาคโต สมนฺตจกฺขุ สพฺพฺูติ วุตฺตํ โหติ ¶ . อิมิสฺสา คาถาย ปุคฺคลาธิฏฺานาย เทสนาย สพฺพฺุตฺาณํ สาธิตํ.
น อิติหิติหนฺติ ‘‘เอวํ กิร อาสิ, เอวํ กิร อาสี’’ติ น โหติ. น อิติกิรายาติ ‘‘เอวํ กิร เอต’’นฺติ น โหติ. น ปรมฺปรายาติ ปรมฺปรกถายาปิ น โหติ. น ปิฏกสมฺปทายาติ อมฺหากํ ปิฏกตนฺติยา สทฺธึ สเมตีติ น โหติ. น ตกฺกเหตูติ ตกฺกคฺคาเหนปิ น โหติ. น อาการปริวิตกฺเกนาติ ‘‘สุนฺทรมิทํ การณ’’นฺติ เอวํ การณปริวิตกฺเกนปิ น โหติ. น ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยาติ อมฺหากํ นิชฺฌายิตฺวา ขมิตฺวา คหิตทิฏฺิยา สทฺธึ สเมตีติปิ น โหติ.
อถ วาปิ สมาธินฺติ เอตฺถ สมาธินฺติ กุสลจิตฺเตกคฺคตา สมาธิ. เกนฏฺเน สมาธีติ? สมาธานฏฺเน. กิมิทํ สมาธานํ นาม? เอการมฺมเณ จิตฺตเจตสิกานํ สมํ สมฺมา จ อาธานํ, ปนนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมา ยสฺส ธมฺมสฺส อานุภาเวน เอการมฺมเณ จิตฺตเจตสิกา สมํ สมฺมา จ อวิกฺขิปฺปมานา อวิปฺปกิณฺณา จ หุตฺวา ติฏฺนฺติ, อิทํ สมาธานนฺติ เวทิตพฺพํ. ตสฺส โข ปน สมาธิสฺส –
‘‘ลกฺขณํ ตุ อวิกฺเขโป, วิกฺเขปทฺธํสนํ รโส;
อกมฺปนมุปฏฺานํ, ปทฏฺานํ สุขํ ปน’’. (ปฏิ. ม. อฏฺ. ๑.๑.๓);
สมาธิ อนาวิลอจลภาเวน อารมฺมเณ ติฏฺตีติ ิติ. ปรโต ปททฺวยํ อุปสคฺควเสน ¶ วฑฺฒิตํ. อปิ จ สมฺปยุตฺตธมฺเม อารมฺมณมฺหิ สมฺปิณฺเฑตฺวา ติฏฺตีติ สณฺิติ. อารมฺมณํ โอคาเหตฺวา อนุปวิสิตฺวา ติฏฺตีติ อวฏฺิติ. กุสลปกฺขสฺมิฺหิ จตฺตาโรว ธมฺมา อารมฺมณํ โอคาหนฺติ สทฺธา สติ สมาธิ ปฺาติ. เตเนว สทฺธา ‘‘โอกปฺปนา’’ติ วุตฺตา, สติ ‘‘อปิลาปนตา’’ติ, สมาธิ ‘‘อวฏฺิตี’’ติ, ปฺา ‘‘ปริโยคาหนา’’ติ. อกุสลปกฺเข ปน ตโย ธมฺมา อารมฺมณํ โอคาหนฺติ ตณฺหา ¶ ทิฏฺิ อวิชฺชาติ. เตเนเวเต ‘‘โอฆา’’ติ วุตฺตา. จิตฺเตกคฺคตา ปเนตฺถ น พลวตี โหติ. ยถา ¶ หิ รชุฏฺานฏฺาเน อุทเกน สิฺจิตฺวา สมฺมฏฺเ โถกเมว กาลํ รโช สนฺนิสีทติ, สุกฺขนฺเต สุกฺขนฺเต ปุน ปกติภาเวเนว วุฏฺาติ, เอวเมว อกุสลปกฺเข จิตฺเตกคฺคตา น พลวตี โหติ.
อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาวเสน ปวตฺตสฺส วิสาหารสฺส ปฏิปกฺขโต อวิสาหาโร. อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาวเสเนว คจฺฉนฺตํ จิตฺตํ วิกฺขิปติ นาม. อยํ ปน ตถาวิโธ วิกฺเขโป น โหตีติ อวิกฺเขโป. อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาวเสเนว จิตฺตํ วิสาหฏํ นาม โหติ, อิโต จิโต จ หรียติ, อยํ ปน เอวํ อวิสาหฏมานสสฺส ภาโวติ อวิสาหฏมานสตา. สมโถติ ติวิโธ สมโถ จิตฺตสมโถ อธิกรณสมโถ สพฺพสงฺขารสมโถติ. ตตฺถ อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ จิตฺเตกคฺคตา จิตฺตสมโถ นาม. ตฺหิ อาคมฺม จิตฺตจลนํ จิตฺตวิปฺผนฺทิตํ สมฺมติ วูปสมฺมติ, ตสฺมา โส ‘‘จิตฺตสมโถ’’ติ วุจฺจติ. สมฺมุขาวินยาทิสตฺตวิโธ สมโถ อธิกรณสมโถ นาม. ตฺหิ อาคมฺม ตานิ ตานิ อธิกรณานิ สมฺมนฺติ วูปสมฺมนฺติ, ตสฺมา โส ‘‘อธิกรณสมโถ’’ติ วุจฺจติ. ยสฺมา ปน สพฺเพ สงฺขารา นิพฺพานํ อาคมฺม สมฺมนฺติ วูปสมฺมนฺติ วูปสมฺมนฺติ, ตสฺมา ตํ ‘‘สพฺพสงฺขารสมโถ’’ติ วุจฺจติ. อิมสฺมึ อตฺเถ จิตฺตสมโถ อธิปฺเปโต. สมาธิลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ สมาธินฺทฺริยํ. อุทฺธจฺเจ น กมฺปตีติ สมาธิพลํ. สมฺมาสมาธีติ ยาถาวสมาธิ นิยฺยานิกสมาธิ.
๑๕๗. อถสฺส ภควา ยสฺมา อินฺทฺริยสํวโร สีลสฺส รกฺขา, ยสฺมา วา อิมินานุกฺกเมน เทสิยมานา อยํ เทสนา ตาสํ เทวตานํ สปฺปายา, ตสฺมา อินฺทฺริยสํวรโต ปภุติ ปฏิปทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘จกฺขูหี’’ติอาทิ อารทฺโธ. ตตฺถ จกฺขูหิ เนว โลลสฺสาติ อทิฏฺทกฺขิตพฺพาทิวเสน จกฺขูหิ โลโล เนว อสฺส. คามกถาย อาวรเย โสตนฺติ ติรจฺฉานกถาย โสตํ อาวเรยฺย.
จกฺขุโลลิเยนาติ จกฺขุทฺวาเร อุปฺปนฺนโลลวเสน จกฺขุโลลิเยน. อทิฏฺํ ทกฺขิตพฺพนฺติ อทิฏฺปุพฺพํ รูปารมฺมณํ ปสฺสิตุํ ยุตฺตํ. ทิฏฺํ สมติกฺกมิตพฺพนฺติ ทิฏฺปุพฺพรูปารมฺมณํ อติกฺกมิตุํ ¶ ยุตฺตํ. อาราเมน อารามนฺติ ปุปฺผารามาทิอาราเมน ¶ ผลารามาทึ ¶ วา ปุปฺผารามาทึ วา. ทีฆจาริกนฺติ ทีฆจรณํ. อนวฏฺิตจาริกนฺติ อสนฺนิฏฺานจรณํ. อนุยุตฺโต โหติ รูปทสฺสนายาติ รูปารมฺมณทสฺสนตฺถาย ปุนปฺปุนํ ยุตฺโต โหติ.
อนฺตรฆรํ ปวิฏฺโติ อุมฺมารพฺภนฺตรํ ปวิฏฺโ. วีถึ ปฏิปนฺโนติ อนฺตรวีถึ โอติณฺโณ. ฆรมุขานิ โอโลเกนฺโตติ ฆรทฺวารานิ อวโลเกนฺโต. อุทฺธํ อุลฺโลเกนฺโตติ อุปริทิสํ อุทฺธํมุโข หุตฺวา วิโลเกนฺโต.
จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ การณวเสน จกฺขูติ ลทฺธโวหาเรน รูปทสฺสนสมตฺเถน จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ทิสฺวา. โปราณา ปนาหุ – ‘‘จกฺขุ รูปํ น ปสฺสติ อจิตฺตกตฺตา, จิตฺตํ น ปสฺสติ อจกฺขุกตฺตา. ทฺวารารมฺมณสงฺฆฏฺเฏ ปน ปสาทวตฺถุเกน จิตฺเตน ปสฺสติ. อีทิสี ปเนสา ‘ธนุนา วิชฺฌตี’ติอาทีสุ วิย สสมฺภารกถา นาม โหติ. ตสฺมา จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ทิสฺวาติ อยเมตฺถ อตฺโถ’’ติ. นิมิตฺตคฺคาหีติ อิตฺถิปุริสนิมิตฺตํ วา สุภนิมิตฺตาทิกํ วา กิเลสวตฺถุภูตํ นิมิตฺตํ ฉนฺทราควเสน คณฺหาติ, ทิฏฺมตฺเตเยว น สณฺาติ. อนุพฺยฺชนคฺคาหีติ กิเลสานํ อนุอนุพฺยฺชนโต ปากฏภาวกรณโต อนุพฺยฺชนนฺติ ลทฺธโวหารํ หตฺถปาทสิตหสิตกถิตอาโลกิตวิโลกิตาทิเภทํ อาการํ คณฺหาติ. ยตฺวาธิกรณเมนนฺติอาทิมฺหิ ยํการณา ยสฺส จกฺขุนฺทฺริยาสํวรสฺส เหตุ เอตํ ปุคฺคลํ สติกวาเฏน จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ อปิหิตจกฺขุทฺวารํ หุตฺวา วิหรนฺตํ เอเต อภิชฺฌาทโย ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ อนุปฺปพนฺเธยฺยุํ อชฺโฌตฺถเรยฺยุํ. ตสฺส สํวราย น ปฏิปชฺชตีติ ตสฺส จกฺขุนฺทฺริยสฺส สติกวาเฏน ปิทหนตฺถาย น ปฏิปชฺชติ. เอวํภูโตเยว จ น รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ. น จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชตีติปิ วุจฺจติ. ตตฺถ กิฺจาปิ จกฺขุนฺทฺริเย สํวโร วา อสํวโร วา นตฺถิ. น หิ จกฺขุปสาทํ นิสฺสาย สติ วา มุฏฺสฺสจฺจํ วา อุปฺปชฺชติ. อปิจ ยทา รูปารมฺมณํ จกฺขุสฺส อาปาถํ อาคจฺฉติ, ตทา ภวงฺเค ทฺวิกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธ กิริยามโนธาตุ ¶ อาวชฺชนกิจฺจํ สาธยมานา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ, ตโต จกฺขุวิฺาณํ ทสฺสนกิจฺจํ, ตโต มโนธาตุ สมฺปฏิจฺฉนกิจฺจํ, ตโต วิปากาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ สนฺตีรณกิจฺจํ, ตโต กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ ¶ โวฏฺพฺพนกิจฺจํ สาธยมานา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ, ตทนนฺตรํ ชวนํ ชวติ.
ตตฺราปิ เนว ภวงฺคสมเย น อาวชฺชนาทีนํ อฺตรสมเย สํวโร วา อสํวโร วา อตฺถิ. ชวนกฺขเณ ปน สเจ ทุสฺสีลฺยํ วา มุฏฺสฺสจฺจํ วา อฺาณํ วา อกฺขนฺติ วา โกสชฺชํ ¶ วา อุปฺปชฺชติ, อสํวโร โหติ. เอวํ โหนฺโต ปน โส ‘‘จกฺขุนฺทฺริเย อสํวโร’’ติ วุจฺจติ. กสฺมา? ยสฺมา ตสฺมึ อสํวเร สติ ทฺวารมฺปิ อคุตฺตํ โหติ, ภวงฺคมฺปิ อาวชฺชนาทีนิปิ วีถิจิตฺตานิ. ยถา กึ? ยถา นคเร จตูสุ ทฺวาเรสุ อสํวุเตสุ กิฺจาปิ อนฺโตฆรทฺวารโกฏฺกคพฺภาทโย สํวุตา, ตถาปิ อนฺโตนคเร สพฺพํ ภณฺฑํ อรกฺขิตํ อโคปิตเมว โหติ. นครทฺวาเรน หิ ปวิสิตฺวา โจรา ยทิจฺฉนฺติ ตํ กเรยฺยุํ, เอวเมว ชวเน ทุสฺสีลฺยาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ตสฺมึ อสํวเร สติ ทฺวารมฺปิ อคุตฺตํ โหติ ภวงฺคมฺปิ อาวชฺชนาทีนิปิ วีถิจิตฺตานิ.
สทฺธาเทยฺยานีติ กมฺมฺจ ผลฺจ อิธโลกฺจ ปรโลกฺจ สทฺทหิตฺวา ทินฺนานิ. ‘‘อยํ เม าตีติ วา, มิตฺโตติ วา, อิทํ วา ปฏิกริสฺสติ, อิทํ วาเนน กตปุพฺพ’’นฺติ วา เอวํ น ทินฺนานีติ อตฺโถ. เอวํ ทินฺนานิ หิ น สทฺธาเทยฺยานิ นาม โหนฺติ. โภชนานีติ จ เทสนาสีสมตฺตเมตํ, อตฺถโต ปน สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภฺุชิตฺวา จีวรานิ ปารุปิตฺวา เสนาสนานิ เสวมานา คิลานปจฺจยเภสชฺชํ ปริภฺุชมานาติ สพฺพเมตํ วุตฺตเมว โหติ.
เสยฺยถิทนฺติ นิปาโต. ตสฺสตฺโถ, กตโม โหติ. นจฺจํ นาม ยํกิฺจิ นจฺจํ, ตํ มคฺคํ คจฺฉนฺเตนาปิ คีวํ ปสาเรตฺวา ทฏฺุํ น วฏฺฏติ. คีตนฺติ ยํกิฺจิ คีตํ. วาทิตนฺติ ยํกิฺจิ วาทิตํ. เปกฺขนฺติ นฏสมชฺชํ. อกฺขานนฺติ ภารตรามายนาทิกํ. ยสฺมึ าเน กถียติ, ตตฺถ คนฺตุมฺปิ น วฏฺฏติ. ปาณิสฺสรนฺติ กํสตาฬํ, ‘‘ปาณิตาฬ’’นฺติปิ วทนฺติ. เวตาฬนฺติ ฆนตาฬํ, ‘‘มนฺเตน มตสรีรุฏฺาปน’’นฺติปิ เอเก. กุมฺภถูณนฺติ จตุรสฺสอมฺพณกตาฬํ ¶ , ‘‘กุมฺภสทฺท’’นฺติปิ เอเก. โสภนกนฺติ นฏานํ อพฺโภกฺกิรณํ; โสภนกรํ วา, ปฏิภานจิตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. จณฺฑาลนฺติ อโยคุฬกีฬา, ‘‘จณฺฑาลานํ สาณโธวนกีฬา’’ติปิ วทนฺติ. วํสนฺติ เวณุํ อุสฺสาเปตฺวา กีฬนํ.
โธวนนฺติ ¶ อฏฺิโธวนํ, เอกจฺเจสุ กิร ชนปเทสุ กาลงฺกเต าตเก น ฌาเปนฺติ, นิขณิตฺวา เปนฺติ. อถ เตสํ ปูติภูตํ กายํ ตฺวา นีหริตฺวา อฏฺีนิ โธวิตฺวา คนฺเธหิ มกฺเขตฺวา เปนฺติ. เต นกฺขตฺตกาเล เอกสฺมึ าเน อฏฺีนิ เปตฺวา เอกสฺมึ าเน สุราทีนิ เปตฺวา โรทนฺตา ปริเทวนฺตา สุรํ ปิวนฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อตฺถิ ภิกฺขเว ทกฺขิเณสุ ชนปเทสุ โธวนํ นาม, ตตฺถ โหติ อนฺนมฺปิ ปานมฺปิ ขชฺชมฺปิ โภชฺชมฺปิ เลยฺยมฺปิ เปยฺยมฺปิ นจฺจมฺปิ คีตมฺปิ วาทิตมฺปิ. อตฺเถกํ ภิกฺขเว โธวนํ, เนตํ นตฺถีติ วทามี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑๐๗). เอกจฺเจ ปน ‘‘อินฺทชาเลน อฏฺิโธวนํ โธวน’’นฺติ วทนฺติ. หตฺถิยุทฺธาทีสุ ¶ ภิกฺขุโน เนว หตฺถิอาทีหิ สทฺธึ ยุชฺฌิตุํ, น เต ยุชฺฌาเปตุํ, น ยุชฺฌนฺเต ทฏฺุํ วฏฺฏติ. นิพฺพุทฺธนฺติ มลฺลยุทฺธํ. อุยฺโยธิกนฺติ ยตฺถ สมฺปหาโร ทิยฺยติ. พลคฺคนฺติ พลคณนฏฺานํ. เสนาพฺยูหนฺติ เสนานิเวโส, สกฏพฺยูหาทิวเสน เสนาย นิเวสนํ. อนีกทสฺสนนฺติ ‘‘ตโย หตฺถี ปจฺฉิมํ หตฺถานีก’’นฺติอาทินา (ปาจิ. ๓๒๔) นเยน วุตฺตสฺส อนีกสฺส ทสฺสนํ.
น นิมิตฺตคฺคาหี โหตีติ ฉนฺทราควเสน วุตฺตปฺปการํ นิมิตฺตํ น คณฺหาติ. เอวํ เสสปทานิปิ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺพานิ. ยถา จ เหฏฺา ชวเน ทุสฺสีลฺยาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ตสฺมึ อสํวเร สติ ทฺวารมฺปิ อคุตฺตํ โหติ, ภวงฺคมฺปิ อาวชฺชนาทีนิปิ วีถิจิตฺตานีติ วุตฺตํ, เอวมิธ ตสฺมึ สีลาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ทฺวารมฺปิ คุตฺตํ โหติ, ภวงฺคมฺปิ อาวชฺชนาทีนิปิ วีถิจิตฺตานิ. ยถา กึ? ยถา นครทฺวาเรสุ สํวุเตสุ กิฺจาปิ อนฺโตฆราทโย อสํวุตา โหนฺติ, ตถาปิ อนฺโตนคเร สพฺพํ ภณฺฑํ สุรกฺขิตํ สุโคปิตเมว โหติ, นครทฺวาเรสุ ปิหิเตสุ โจรานํ ปเวโส ¶ นตฺถิ. เอวเมว ชวเน สีลาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ทฺวารมฺปิ คุตฺตํ โหติ, ภวงฺคมฺปิ อาวชฺชนาทีนิปิ วีถิจิตฺตานิ. ตสฺมา ชวนกฺขเณ อุปฺปชฺชมาโนปิ ‘‘จกฺขุนฺทฺริเย สํวโร’’ติ วุตฺโต. อิโต ปรํ เหฏฺา จ อุปริ จ วุตฺตปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
วิสูกทสฺสนาติ ปฏาณีทสฺสนโต. คามกถาติ คามวาสีนํ กถา. พาตฺตึสาติ ทฺวตฺตึส. อนิยฺยานิกตฺตา สคฺคโมกฺขมคฺคานํ ติรจฺฉานภูตา กถาติ ติรจฺฉานกถา. ตตฺถ ราชานํ อารพฺภ ‘‘มหาสมฺมโต ¶ มนฺธาตา ธมฺมาโสโก เอวํ มหานุภาโว’’ติอาทินา นเยน ปวตฺตา กถา ราชกถา. เอส นโย โจรกถาทีสุ. เตสุ ‘‘อสุโก ราชา อภิรูโป ทสฺสนีโย’’ติอาทินา นเยน เคหสฺสิตกถาว ติรจฺฉานกถา โหติ. ‘‘โสปิ นาม เอวํ มหานุภาโว ขยํ คโต’’ติ เอวํ ปวตฺตา ปน กมฺมฏฺานภาเว ติฏฺติ. โจเรสุปิ ‘‘มูลเทโว เอวํ มหานุภาโว, เมฆมาโล เอวํ มหานุภาโว’’ติ เตสํ กมฺมํ ปฏิจฺจ ‘‘อโห สูรา’’ติ เคหสฺสิตกถาว ติรจฺฉานกถา. ยุทฺเธปิ ภารตยุทฺธาทีสุ ‘‘อสุเกน อสุโก เอวํ มาริโต เอวํ วิทฺโธ’’ติ กามสฺสาทวเสเนว กถา ติรจฺฉานกถา. ‘‘เตปิ นาม ขยํ คตา’’ติ เอวํ ปวตฺตา ปน สพฺพตฺถ กมฺมฏฺานเมว โหติ.
อปิ จ อนฺนาทีสุ ‘‘เอวํ วณฺณวนฺตํ คนฺธวนฺตํ รสวนฺตํ ผสฺสสมฺปนฺนํ ขาทิมฺห ภฺุชิมฺห ปิวิมฺห ปริภฺุชิมฺหา’’ติ กามสฺสาทวเสน กเถตุํ น วฏฺฏติ, สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘ปุพฺเพ เอวํ วณฺณาทิสมฺปนฺนํ อนฺนํ ปานํ วตฺถํ สยนํ มาลํ คนฺธํ สีลวนฺตานํ อทมฺห, เจติยปูชํ อกริมฺหา’’ติ ¶ กเถตุํ วฏฺฏติ. าติกถาทีสุ ปน ‘‘อมฺหากํ าตกา สูรา สมตฺถา’’ติ วา, ‘‘ปุพฺเพ มยํ เอวํ วิจิตฺเรหิ ยาเนหิ วิจริมฺหา’’ติ วา อสฺสาทวเสน วตฺตุํ น วฏฺฏติ, สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘เตปิ โน าตกา ขยํ คตา’’ติ วา, ‘‘ปุพฺเพ มยํ เอวรูปา อุปาหนา สงฺฆสฺส อทมฺหา’’ติ วา กเถตุํ วฏฺฏติ. คามกถาปิ สุนิวิฏฺทุนฺนิวิฏฺสุภิกฺขทุพฺภิกฺขาทิวเสน ‘‘อสุกคามวาสิโน สูรา สมตฺถา’’ติ วา เอวํ อสฺสาทวเสน วตฺตุํ น วฏฺฏติ, สาตฺถกํ ปน กตฺวา ¶ ‘‘สทฺธา ปสนฺนา’’ติ วา, ‘‘ขยวยํ คตา’’ติ วา วตฺตุํ วฏฺฏติ.
นิคมนครชนปทกถาสุปิ เอเสว นโย. อิตฺถิกถาปิ วณฺณสณฺานาทีนิ ปฏิจฺจ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺธา ปสนฺนา, ขยวยํ คตา’’ติ เอวเมว วฏฺฏติ. สูรกถาปิ ‘‘นนฺทิมิตฺโต นาม โยโธ สูโร อโหสี’’ติ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ. ‘‘สทฺโธ อโหสิ, ขยวยํ คโต’’ติ เอวเมว วฏฺฏติ. วิสิขากถาปิ ‘‘อสุกา วิสิขา สุนิวิฏฺา ทุนฺนิวิฏฺา สูรา สมตฺถา’’ติ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ. ‘‘สทฺธา ปสนฺนา, ขยวยํ คตา’’อิจฺเจว วฏฺฏติ.
กุมฺภฏฺานกถาติ ¶ อุทกฏฺานกถา, ‘‘อุทกติตฺถกถา’’ติปิ วุจฺจติ, กุมฺภทาสิกถา วา. สาปิ ‘‘ปาสาทิกา, นจฺจิตุํ คายิตุํ เฉกา’’ติ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺธา ปสนฺนา’’ติอาทินา นเยน วฏฺฏติ. ปุพฺพเปตกถาติ อตีตาติกถา. ตตฺถ วตฺตมานาติกถาสทิโสว วินิจฺฉโย.
นานตฺตกถาติ ปุริมปจฺฉิมกถาหิ วิมุตฺตา อวเสสา นานาสภาวา นิรตฺถกกถา. โลกกฺขายิกาติ ‘‘อยํ โลโก เกน นิมฺมิโต? อสุเกน นาม นิมฺมิโต. กาโก เสโต อฏฺีนํ เสตตฺตา, พลากา รตฺตา โลหิตสฺส รตฺตตฺตา’’ติ เอวมาทิกา โลกายตวิตณฺฑสลฺลาปกถา.
สมุทฺทกฺขายิกา นาม กสฺมา สมุทฺโท สาคโร? สาครเทเวน ขตตฺตา สาคโร, ‘‘ขโต เม’’ติ หตฺถมุทฺทาย สยํ นิเวทิตตฺตา สมุทฺโทติ เอวมาทิกา นิรตฺถกา สมุทฺทกฺขานกถา. ภโวติ วุทฺธิ. อภโวติ หานิ. อิติ ภโว อิติ อภโวติ ยํ วา ตํ วา นิรตฺถกการณํ วตฺวา ปวตฺติตกถา อิติภวาภวกถา.
อาวเรยฺยาติ อาวรณํ กเรยฺย. นิวาเรยฺยาติ อารมฺมณโต วาเรยฺย. สํวเรยฺยาติ สมฺมา นิสฺเสสํ ¶ กตฺวา วาเรยฺย. รกฺเขยฺยาติ รกฺขํ กเรยฺย. โคเปยฺยาติ สํโคเปยฺย. ปิทเหยฺยาติ ปิทหนํ กเรยฺย. ปจฺฉินฺเทยฺยาติ โสตํ ฉินฺเทยฺย.
เตน ¶ เตน น ตุสฺสนฺตีติ เตน เตน อมฺพิลาทินา รเสน น สนฺโตสํ อาปชฺชนฺติ. อปราปรํ ปริเยสนฺตีติ อุปรูปริ คเวสนฺติ.
๑๕๘. ผสฺเสนาติ โรคผสฺเสน. ภวฺจ นาภิชปฺเปยฺยาติ ตสฺส ผสฺสสฺส วิโนทนตฺถาย กามภวาทิภวฺจ น ปตฺเถยฺย. เภรเวสุ จ น สมฺปเวเธยฺยาติ ตสฺส ผสฺสสฺส ปจฺจยภูเตสุ สีหพฺยคฺฆาทีสุ เภรเวสุ จ น สมฺปเวเธยฺย, อวเสเสสุ วา ฆานินฺทฺริยมนินฺทฺริยวิสเยสุ น สมฺปเวเธยฺย. เอวํ ปริปูโร อินฺทฺริยสํวโร จ วุตฺโต โหติ. ปุริเมหิ วา อินฺทฺริยสํวรํ ทสฺเสตฺวา อิมินา ‘‘อรฺเ วสตา เภรวํ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา นปฺปเวธิตพฺพ’’นฺติ ทสฺเสติ.
เอเกนากาเรนาติ ¶ เอเกน การเณน. ภยมฺปิ เภรวมฺปิ ตฺเวาติ ภยนฺติ จ เภรวนฺติ จ ขุทฺทกมฺปิ มหนฺตมฺปิ อุตฺตาสนิมิตฺตเมว. ตเมวตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘วุตฺตํ เหต’’นฺติอาทิมาห. ภยนฺติ ตปฺปจฺจยา อุปฺปนฺนภยํ. ภยานกนฺติ อาการนิทฺเทโส. ฉมฺภิตตฺตนฺติ ภยวเสน คตฺตจลนํ. โลมหํโสติ โลมานํ หํสนํ อุทฺธคฺคภาโว. อิมินา ปททฺวเยน กิจฺจโต ภยํ ทสฺเสตฺวา ปุน ‘‘เจตโส อุพฺเพโค อุตฺราโส’’ติ สภาวโต ทสฺเสติ. อุพฺเพคฺโคติ ภีรุโก, อุตฺราโสติ จิตฺตกฺโขโภ. ชาติภยนฺติ ชาตึ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนภยํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ราชโต อุปฺปนฺนภยํ ราชภยํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อตฺตานุวาทภยนฺติ ปาปกมฺมิโน อตฺตานํ อนุวทนฺตสฺส อุปฺปชฺชนกภยํ. ปรานุวาทภยนฺติ ปรสฺส อนุวาทโต อุปฺปชฺชนกภยํ.
ทณฺฑภยนฺติ อาคาริกสฺส รฺา ปวตฺติตทณฺฑํ, อนาคาริกสฺส วินยทณฺฑํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกภยํ. ทุคฺคติภยนฺติ จตฺตาโร อปาเย ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกภยํ. อูมิภยนฺติ มหาสมุทฺเท อุทกํ โอโรหนฺตสฺส ปวตฺตภยํ. มหาสมุทฺเท กิร มหินฺทวีจิ นาม สฏฺิ โยชนานิ อุคฺคจฺฉติ, ตรงฺควีจิ นาม ปณฺณาส โยชนานิ, โรหณวีจิ นาม จตฺตาลีส โยชนานิ อุคฺคจฺฉติ. เอวรูปา อูมิโย ปฏิจฺจ ปวตฺตํ อูมิภยํ ¶ . กุมฺภีลโต ปวตฺตํ ภยํ กุมฺภีลภยํ. อุทกาวฏฺฏโต ภยํ อาวฏฺฏภยํ. สุสุกา วุจฺจติ จณฺฑมจฺโฉ, ตโต ภยํ สุสุกาภยํ. อาชีวิกภยนฺติ ชีวิตวุตฺติโต ภยํ อาชีวิกภยํ. อสิโลกภยนฺติ ครหโต ภยํ.
๑๕๙. ลทฺธา ¶ น สนฺนิธึ กยิราติ เอเตสํ อนฺนาทีนํ ยํกิฺจิ ธมฺเมน ลภิตฺวา ‘‘อรฺเ จ เสนาสเน วสตา ทุลฺลภ’’นฺติ จินฺเตตฺวา สนฺนิธึ น กเรยฺย.
โอทโนติ สาลิ วีหิ ยโว โคธุโม กงฺคุ วรโก กุทฺรูสโกติ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ธฺานุโลมานฺจ ตณฺฑุเลหิ นิพฺพตฺโต. กุมฺมาโสติ ยเวหิ นิพฺพตฺโต. สตฺตูติ สาลิอาทีหิ กตสตฺตุ. มจฺโฉ ทกสมฺภโว. มํสํ ปากฏเมว. อมฺพปานนฺติ อาเมหิ วา ปกฺเกหิ วา อมฺเพหิ กตปานํ. ตตฺถ อาเมหิ กโรนฺเตน อมฺพตรุณานิ ภินฺทิตฺวา อุทเก ปกฺขิปิตฺวา อาตเป อาทิจฺจปาเกน ปจิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา ตทหุ ปฏิคฺคหิเตหิ ¶ มธุสกฺกรกปฺปูราทีหิ โยเชตฺวา กาตพฺพํ. ชมฺพุปานนฺติ ชมฺพุผเลหิ กตปานํ. โจจปานนฺติ อฏฺิเกหิ กทลิผเลหิ กตปานํ. โมจปานนฺติ อนฏฺิเกหิ กทลิผเลหิ กตปานํ. มธุกปานนฺติ มธุกานํ ชาติรเสน กตปานํ. ตํ ปน อุทกสมฺภินฺนํ วฏฺฏติ, สุทฺธํ น วฏฺฏติ. มุทฺทิกปานนฺติ มุทฺทิกา อุทเก มทฺทิตฺวา อมฺพปานํ วิย กตปานํ. สาลูกปานนฺติ รตฺตุปฺปลนีลุปฺปลาทีนํ สาลูเก มทฺทิตฺวา กตปานํ. ผารุสกปานนฺติ ผารุสเกหิ อมฺพปานํ วิย กตปานํ. โกสมฺพปานนฺติ โกสมฺพผเลหิ กตปานํ. โกลปานนฺติ โกลผเลหิ กตปานํ. พทรปานนฺติ มหาโกลผเลหิ อมฺพปานํ วิย กตปานํ. อิมานิ เอกาทส ปานานิ, ตานิปิ อาทิจฺจปากานิ วฏฺฏนฺติ.
ฆตปานนฺติ สปฺปิปานํ. เตลปานนฺติ ติลเตลาทีนํ ปานํ. ปโยปานนฺติ ขีรปานํ. ยาคุปานนฺติ สีตลาทิยาคุปานํ. รสปานนฺติ สากาทิรสปานํ. ปิฏฺขชฺชกนฺติ สตฺตนฺนํ ตาว ธฺานํ ธฺานุโลมานํ อปรณฺณานฺจ ปิฏฺํ ปนสปิฏฺํ ลพุชปิฏฺํ ¶ อมฺพาฏกปิฏฺํ สาลปิฏฺํ ขีรวลฺลิปิฏฺฺจาติ เอวมาทีนํ ปิฏฺเหิ กตํ ปิฏฺขชฺชกํ. ปูวขชฺชกมฺปิ เอเตหิเยว กตํ. มูลขชฺชกนฺติ มูลกมูลํ ขารกมูลํ จุจฺจุมูลนฺติ เอวมาทิ. ตจขชฺชกนฺติ อุจฺฉุตจาทโย. ปตฺตขชฺชกนฺติ นิมฺพปณฺณกุฏชปณฺณปโฏลปณฺณสุลสปณฺณาทโย. ปุปฺผขชฺชกนฺติ มูลกปุปฺผขารกปุปฺผเสตวรณสิคฺคุอุปฺปลปทุมกาทโย. ผลขชฺชกนฺติ ปนสลพุชตาลนาฬิเกรอมฺพาฏกตินฺติณิกมาตุลุงฺคกปิฏฺผลอลาพุกุมฺภณฺฑผุสฺส- ผลติมฺพรูสกติลวาติงฺคณโจจโมจมธุกาทีนํ ผลานํ ขชฺชกํ.
น กุหนายาติ น วิมฺหาปนาย. น ลปนายาติ ปจฺจยตฺถํ น ลปนาย. วิหารํ อาคเต มนุสฺเส ทิสฺวา ‘‘กิมตฺถาย โภนฺโต อาคตา’’ติ ภิกฺขู นิมนฺเตตุนฺติ. ‘‘ยทิ เอวํ คจฺฉถ, อหํ ปจฺฉโต คเหตฺวา อาคจฺฉามี’’ติ เอวํ น ¶ ลปนาย. อถ วา อตฺตานํ อุปเนตฺวา ‘‘อหํ ติสฺโส, มยิ ราชา ปสนฺโน, มยิ อสุโก ราชา อสุโก จ ราชมหามตฺโต ปสนฺโน’’ติ เอวํ น ลปนาย. น เนมิตฺติกตายาติ เยน เกนจิ ปเรสํ ปจฺจยทานสฺาชนเกน กายวจีกมฺเมน น เนมิตฺติกตาย. น นิปฺเปสิกตายาติ ยา ปเรสํ อกฺโกสนาทิกิริยา ยสฺมา เวฬุเปสิกา วิย อพฺภงฺคํ ปรสฺส คุณํ นิปฺเปเสติ นิปฺุฉติ, ยสฺมา วา คนฺธชาตํ นิปิสิตฺวา คนฺธมคฺคนา วิย ปรคุเณ นิปิสิตฺวา วิจุณฺเณตฺวา ¶ เอสา ลาภมคฺคนา โหติ, ตสฺมา ‘‘นิปฺเปสิกตา’’ติ วุจฺจติ. น เอวรูปาย นิปฺเปสิกตาย. น ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนตายาติ เอตฺถ นิชิคีสนตาติ มคฺคนา, อฺโต ลทฺธฺหิ อฺตฺถ หรณวเสน ลาเภน ลาภมคฺคนา นาม โหติ. น เอวรูปาย ลาเภน ลาภมคฺคนาย.
น ทารุทาเนนาติ น ปจฺจยเหตุเกน ทารุทาเนน วิหาเร อุฏฺิตฺหิ อรฺโต วา อาหริตฺวา รกฺขิตโคปิตทารุํ ‘‘เอวํ เม ปจฺจยํ ทสฺสนฺตี’’ติ อุปฏฺากานํ ทาตุํ น วฏฺฏติ. เอวฺหิ ชีวิกํ กปฺเปนฺโต อเนสนาย มิจฺฉาชีเวน ชีวติ, โส ทิฏฺเว ธมฺเม ครหํ ปาปุณาติ, สมฺปราเย จ อปายปริปูรโก โหติ. อตฺตโน ปุคฺคลิกํ ทารุํ กุสลงฺคหตฺถาย ¶ ททนฺโต กุลทูสกทุกฺกฏํ อาปชฺชติ, ปรปุคฺคลิกํ เถยฺยจิตฺเตน ททนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. สงฺฆิเกปิ เอเสว นโย. สเจ ปน ตํ อิสฺสรตาย เทติ, ครุภณฺฑวิสฺสชฺชนํ อาปชฺชติ. กตรํ ปน ทารุ ครุภณฺฑํ โหติ, กตรํ น โหตีติ? ยํ ตาว อโรปิมํ สยํชาตํ, ตํ สงฺเฆน ปริจฺฉินฺนฏฺาเนเยว ครุภณฺฑํ, ตโต ปรํ น ครุภณฺฑํ. โรปิมฏฺาเน จ สพฺเพน สพฺพํ ครุภณฺฑํ, ปมาณโต สูจิทณฺฑกปฺปมาณํ ครุภณฺฑํ.
น เวฬุทาเนนาติอาทีสุปิ น เวฬุทาเนนาติ น ปจฺจยเหตุเกน เวฬุทาเนนาติอาทิ สพฺพํ น ทารุทาเนนาติ เอตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เวฬุ ปน ปมาณโต เตลนาฬิปฺปมาโณ ครุภณฺฑํ, น ตโต เหฏฺา. มนุสฺสา วิหารํ คนฺตฺวา เวฬุํ ยาจนฺติ, ภิกฺขู ‘‘สงฺฆิโก’’ติ ทาตุํ น วิสหนฺติ, มนุสฺสา ปุนปฺปุนํ ยาจนฺติ วา ตชฺเชนฺติ วา, ตทา ภิกฺขูหิ ‘‘ทณฺฑกมฺมํ กตฺวา คณฺหถา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ, เวฬุทานํ นาม น โหติ. สเจ เต ทณฺฑกมฺมตฺถาย วาสิผรสุอาทีนิ วา ขาทนียํ วา โภชนียํ วา เทนฺติ, คเหตุํ น วฏฺฏติ.
วินยฏฺกถายํ ปน ‘‘ทฑฺฒเคหา มนุสฺสา คณฺหิตฺวา คจฺฉนฺตา น วาเรตพฺพา’’ติ วุตฺตํ. สเจ สงฺฆสฺส เวฬุคุมฺเพ เวฬุทูสิกา อุปฺปชฺชติ, ตํ อโกฏฺฏาเปนฺตานํ เวฬุ นสฺสติ. ‘‘กึ กาตพฺพ’’นฺติ ภิกฺขาจาเร มนุสฺสานํ อาจิกฺขิตพฺพํ. สเจ โกฏฺเฏตุํ น อิจฺฉนฺติ, ‘‘สมํ ภาคํ ลภิสฺสถา’’ติ ¶ วตฺตพฺพา. น อิจฺฉนฺติเยว, ‘‘ทฺเว โกฏฺาเส ลภิสฺสถา’’ติ วตฺตพฺพา. เอวมฺปิ อนิจฺฉนฺเตสุ นฏฺเน อตฺโถ นตฺถิ, ‘‘ตุมฺหากํ ขเณ สติ ทณฺฑกมฺมํ กริสฺสถ, โกฏฺเฏตฺวา คณฺหถา’’ติ ¶ วตฺตพฺพา, เวฬุทานํ นาม น โหติ. เวฬุคุมฺเพ อคฺคิมฺหิ อุฏฺิเตปิ อุทเกน วุยฺหมานเวฬูสุปิ เอเสว นโย.
ปตฺตทาเน ครุภณฺฑตาย อยํ วินิจฺฉโย – ปตฺตมฺปิ หิ ยตฺถ วิกฺกายติ, คนฺธการาทโย คนฺธปลิเวนาทีนํ อตฺถาย คณฺหนฺติ, ตาทิเส ทุลฺลภฏฺาเนเยว ครุภณฺฑํ โหติ. เอส ตาว กึสุกปตฺตกณฺณปิฬนฺธนตาลปตฺตาทีสุ ¶ วินิจฺฉโย. ตาลปณฺณมฺปิ อิมสฺมึเยว าเน กเถตพฺพํ – ตาลปณฺณมฺปิ หิ สยํชาเต ตาลวเน สงฺเฆน ปริจฺฉินฺนฏฺาเนเยว ครุภณฺฑํ, น ตโต ปรํ, โรปิมตาเลสุ สพฺพมฺปิ ครุภณฺฑํ, ตสฺส ปมาณํ เหฏฺิมโกฏิยา อฏฺงฺคุลปฺปมาโณปิ ริตฺตโปตฺถโก. ติณมฺปิ เอตฺเถว ปกฺขิปิตฺวา กเถตพฺพํ. ยตฺถ ปน ติณํ นตฺถิ, ตตฺถ ตาลนาฬิเกรปณฺณาทีหิปิ ฉาเทนฺติ. ตสฺมา ตานิปิ ติเณเนว สงฺคหิตานิ. อิติ มฺุชปลาลาทีสุ ยํกิฺจิ มุฏฺิปฺปมาณํ ติณํ. นาฬิเกรปณฺณาทีสุ จ เอกปณฺณมฺปิ สงฺฆสฺส ทินฺนํ วา ตตฺถ ชาตํ วา พหิอาราเม สงฺฆสฺส ติณวตฺถุมฺหิ ชาตติณํ วา รกฺขิตโคปิตํ วา ครุภณฺฑํ โหติ. ตํ ปน สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเต อติเรกํ ปุคฺคลิกกมฺเม ทาตุํ วฏฺฏติ. เหฏฺา วุตฺตทารุเวฬูสุปิ เอเสว นโย.
ปุปฺผทาเน ‘‘เอตฺตเกสุ รุกฺเขสุ ปุปฺผานิ วิสฺสชฺชิตฺวา ยาคุภตฺตตฺถาย อุปเนนฺตุ, เอตฺตเกสุ เสนาสนปฏิสงฺขรเณ อุปเนนฺตู’’ติ เอวํ นิยมิตฏฺาเนเยว ปุปฺผานิ ครุภณฺฑานิ โหนฺติ. ยทิ สามเณรา ปุปฺผานิ โอจินิตฺวา ราสึ กโรนฺติ, ปฺจงฺคสมนฺนาคโต ปุปฺผภาชโก ภิกฺขุ ภิกฺขุสงฺฆํ คเณตฺวา โกฏฺาเส กโรติ. โส สมฺปตฺตปริสาย สงฺฆํ อนาปุจฺฉิตฺวาว ทาตุํ ลภติ. อสมฺมเตน ปน อาปุจฺฉิตฺวา ทาตพฺพํ. ภิกฺขุโน ปน กสฺส ปุปฺผานิ ทาตุํ ลพฺภติ, กสฺส น ลพฺภตีติ? มาตาปิตูนํ เคหํ หริตฺวาปิ เคหโต ปกฺโกสาเปตฺวาปิ ‘‘วตฺถุปูชํ กโรถา’’ติ ทาตุํ ลพฺภติ, ปิฬนฺธนตฺถาย น ลพฺภติ. เสสาตีนํ ปน หริตฺวา น ทาตพฺพํ, ปกฺโกสาเปตฺวา ปูชนตฺถาย ทาตพฺพํ. เสสชนสฺส ปูชนฏฺานํ สมฺปตฺตสฺส อปจฺจาสีสนฺเตน ทาตพฺพํ, ปุปฺผทานํ นาม น โหติ.
วิหาเร ¶ พหูนิ ปุปฺผานิ ปุปฺผนฺติ, ภิกฺขุนา ปิณฺฑาย จรนฺเตน มนุสฺเส ทิสฺวา ‘‘วิหาเร พหูนิ ปุปฺผานิ ปูเชถา’’ติ วตฺตพฺพํ, วจนมตฺเต โทโส นตฺถิ, ‘‘มนุสฺสา ขาทนียโภชนียํ อาทาย อาคมิสฺสนฺตี’’ติ จิตฺเตน ปน น วตฺตพฺพํ. สเจ วทติ, ขาทนียโภชนียํ น ปริภฺุชิตพฺพํ. มนุสฺสา อตฺตโน ธมฺมตาย ‘‘วิหาเร ปุปฺผานิ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อสุกทิวเส วิหารํ อาคมิสฺสาม, สามเณรานํ ¶ ปุปฺผานิ โอจินิตุํ มา ¶ เทถา’’ติ วทนฺติ. ภิกฺขุ สามเณรานํ กเถตุํ ปมุฏฺโ, สามเณเรหิ ปุปฺผานิ โอจิตานิ, มนุสฺสา ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา มยํ ตุมฺหากํ อสุกทิวเส เอวํ อาโรจยิมฺห ‘‘สามเณรานํ ปุปฺผานิ โอจินิตุํ มา เทถา’’ติ, กสฺมา น วารยิตฺถาติ? ‘‘สติ เม ปมุฏฺา, ปุปฺผานิ โอจินิตมตฺตาเนว, น ตาว ปูชา กตา’’ติ วตฺตพฺพํ, ‘‘คณฺหถ ปูเชถา’’ติ น วตฺตพฺพํ. สเจ วทติ, อามิสํ น ปริภฺุชิตพฺพํ. อปโร ภิกฺขุ สามเณรานํ อาจิกฺขติ ‘‘อสุกคามวาสิโน ‘ปุปฺผานิ มา โอจินิตฺถา’ติ อาหํสู’’ติ มนุสฺสาปิ อามิสํ อาหริตฺวา ทานํ ทตฺวา วทนฺติ ‘‘อมฺหากํ มนุสฺสา น พหุกา, สามเณเร อมฺเหหิ สห ปุปฺผานิ โอจินิตุํ อาณาเปถา’’ติ. ‘‘สามเณเรหิ ภิกฺขา ลทฺธา. เย ภิกฺขาจารํ น คจฺฉนฺติ, เต สยเมว ชานิสฺสนฺติ อุปาสกา’’ติ วตฺตพฺพํ. เอตฺตกํ นยํ ลภิตฺวา สามเณเร ปุตฺเต วา ภาติเก วา กตฺวา ปุปฺผานิ โอจินาเปตุํ โทโส นตฺถิ, ปุปฺผทานํ นาม น โหติ.
ผลทาเน ผลมฺปิ ปุปฺผํ วิย นิยมิตเมว ครุภณฺฑํ โหติ. วิหาเร พหุกสฺมึ ผลาผเล สติ อผาสุกมนุสฺสา อาคนฺตฺวา ยาจนฺติ, ภิกฺขู ‘‘สงฺฆิก’’นฺติ ทาตุํ น อุสฺสหนฺติ, มนุสฺสา วิปฺปฏิสาริโน อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ, ตตฺถ กึ กาตพฺพนฺติ? ผเลหิ วา รุกฺเขหิ วา ปริจฺฉินฺทิตฺวา กถิกา กาตพฺพา ‘‘อสุเก จ รุกฺเข อสุเก จ รุกฺเข เอตฺตกานิ ผลานิ คณฺหนฺตา, เอตฺตเกสุ วา รุกฺเขสุ ผลานิ คณฺหนฺตา น วาเรตพฺพา’’ติ. โจรา วา อิสฺสรา วา พลกฺกาเรน คณฺหนฺตา น วาเรตพฺพา. กุทฺธา หิ เต สกลวิหารมฺปิ นาเสยฺยุํ, อาทีนโว ปน กเถตพฺโพติ.
สินานทาเน สินานจุณฺณานิ โกฏฺฏิตานิ น ครุภณฺฑานิ, อโกฏฺฏิโต รุกฺเข ิโตว รุกฺขตโจ ครุภณฺฑํ, จุณฺณํ ปน อคิลานสฺส รชนนิปกฺกํ วฏฺฏติ. คิลานสฺส ยํกิฺจิ จุณฺณํ ทาตุํ วฏฺฏติเยว.
น ¶ จุณฺณทาเนนาติ วุตฺตนเยน สิรีสจุณฺณาทีนํ ทาเนน. มตฺติกาทาเนมตฺติกา หิ ยตฺถ ทุลฺลภา โหติ, ตตฺเถว ครุภณฺฑํ. สาปิ เหฏฺิมโกฏิยา ตึสปลคุฬปิณฺฑปฺปมาณาว, ตโต เหฏฺา น ครุภณฺฑนฺติ.
ทนฺตกฏฺทาเน ¶ ทนฺตกฏฺํ อจฺฉินฺนกเมว ครุภณฺฑํ. เยสํ สามเณรานํ สงฺฆโต ทนฺตกฏฺวาโร ปาปุณาติ, เต อตฺตโน อาจริยุปชฺฌายานํ ปาฏิเยกฺกํ ทาตุํ น ลภนฺติ. เยหิ ปน ‘‘เอตฺตกานิ ทนฺตกฏฺานิ อาหริตพฺพานี’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วารา คหิตา, เต อติเรกานิ อาจริยุปชฺฌายานํ ¶ ทาตุํ ลภนฺติ. เอเกน ภิกฺขุนา ทนฺตกฏฺมาฬกโต พหูนิ ทนฺตกฏฺานิ น คเหตพฺพานิ, เทวสิกํ เอเกกเมว คเหตพฺพํ. ปาฏิเยกฺกํ วสนฺเตนาปิ ภิกฺขุสงฺฆํ คณยิตฺวา ยตฺตกานิ อตฺตโน ปาปุณนฺติ, ตตฺตกาเนว คเหตฺวา คนฺตพฺพํ. อนฺตรา อาคนฺตุเกสุ วา อาคเตสุ ทิสํ วา ปกฺกมนฺเตสุ อาหริตฺวา คหิตฏฺาเนเยว เปตพฺพานิ. น มุโขทกทาเนนาติ น มุขโธวนอุทกทาเนน.
น จาฏุกมฺยตายาติอาทีสุ จาฏุกมฺยตา วุจฺจติ อตฺตานํ ทาสํ วิย นีจฏฺาเน เปตฺวา ปรสฺส ขลิตวจนมฺปิ สณฺเปตฺวา ปิยกามตาย ปคฺคยฺหวจนํ. น มุคฺคสูปฺยตายาติ น มุคฺคสูปสมานตาย. มุคฺคสูปสมานตาติ สจฺจาลิเกน ชีวิกํ กปฺปนตาย เอตํ อธิวจนํ. ยถา หิ มุคฺคสูเป ปจฺจนฺเต พหู มุคฺคา ปากํ คจฺฉนฺติ โถกา น คจฺฉนฺติ, เอวเมว สจฺจาลิเกน ชีวิกกปฺปเก ปุคฺคเล พหุ อลิกํ โหติ, อปฺปกํ สจฺจํ. ยถา วา มุคฺคสูปสฺส อปวิสนฏฺานํ นาม นตฺถิ, เอวเมว สจฺจาลิกวุตฺติโน ปุคฺคลสฺส อปฺปติฏฺานํ นาม นตฺถิ. สิงฺฆาฏกํ วิย อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺานสฺส ปติฏฺาติ. เตนสฺส สา มุสาวาทิตา ‘‘มุคฺคสูปฺยตา’’ติ วุตฺตา. น ปาริภฏฺยตายาติ น ปริภฏกมฺมภาเวน. ปริภฏสฺส หิ กมฺมํ ปาริภฏฺยํ, ตสฺส ภาโว ปาริภฏฺยตา, อลงฺการกรณาทีหิ ทารกกีฬาปนสฺเสตํ อธิวจนํ. น ปีมทฺทิกตายาติ น สหสา ฆรํ ปวิสิตฺวา ปีเก นิสีทนกตาย.
น วตฺถุวิชฺชายาติอาทีสุ วตฺถุวิชฺชา นาม คามนิคมนคราทีนํ สุนิวิฏฺทุนฺนิวิฏฺชานนสตฺถํ. ติรจฺฉานวิชฺชา ¶ นาม อนิยฺยานิกตฺตา สคฺคโมกฺขมคฺคานํ ติรจฺฉานภูตา องฺคสตฺถนิมิตฺตาทิกา อวเสสวิชฺชา. องฺควิชฺชา ¶ นาม อิตฺถิปุริสานํ สุภคทุพฺภคลกฺขณชานนํ. นกฺขตฺตวิชฺชา นาม นกฺขตฺตานํ โยคชานนสตฺถํ.
น ทูตคมเนนาติ น ทูเตยฺยํ กตฺวา คมเนน. น ปหิณคมเนนาติ น คิหีนํ สาสนํ คเหตฺวา ฆรา ฆรํ ปหิตสฺส คมเนน. น ชงฺฆเปสนิเยนาติ คามนฺตรเทสนฺตราทีสุ เตสํ เตสํ คิหีนํ สาสนปฏิสาสนํ หรเณน. อิทฺหิ ชงฺฆเปสนิยํ นาม อตฺตโน มาตาปิตูนํ, เย จาสฺส มาตาปิตโร อุปฏฺหนฺติ, เตสํ สาสนํ คเหตฺวา กตฺถจิ คมนวเสน วฏฺฏติ. เจติยสฺส วา สงฺฆสฺส วา อตฺตโน วา กมฺมํ กโรนฺตานํ วฑฺฒกีนมฺปิ สาสนํ หริตุํ วฏฺฏติ. มนุสฺสา ‘‘ทานํ ทสฺสาม, ปูชํ กริสฺสาม, ภิกฺขุสงฺฆสฺส อาจิกฺขถา’’ติ จ วทนฺติ; ‘‘อสุกตฺเถรสฺส นาม เทถา’’ติ ปิณฺฑปาตํ วา เภสชฺชํ วา จีวรํ วา เทนฺติ, ‘‘วิหาเร ปูชํ กโรถา’’ติ มาลาคนฺธวิเลปนาทีนิ ¶ วา ธชปฏากาทีนิ วา นิยฺยาเตนฺติ. สพฺพํ หริตุํ วฏฺฏติ, ชงฺฆเปสนิยํ นาม น โหติ. เสสสาสนํ คเหตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ปทวาเร ปทวาเร โทโส.
น เวชฺชกมฺเมนาติ น เวชฺเชน หุตฺวา กายติกิจฺฉนาทิเภสชฺชกรเณน. เภสชฺชํ ปน ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ กาตพฺพํ ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุนิยา สิกฺขมานาย สามเณรสฺส สามเณริยา. สมสีลสทฺธาปฺานฺหิ เอเตสํ ตีสุ สิกฺขาสุ ยุตฺตานํ เภสชฺชํ อกาตุํ น ลพฺภติ. มาตาปิตูนํ ตทุปฏฺากานํ อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺส ปณฺฑุปลาสสฺสาติ เอเตสํ ปฺจนฺนมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ. เชฏฺภาตุ, กนิฏฺภาตุ, เชฏฺภคินิยา, กนิฏฺภคินิยา, จูฬมาตุยา, มหามาตุยา, จูฬปิตุโน, มหาปิตุโน, ปิตุจฺฉาย, มาตุจฺฉายาติ เอเตสํ ปน ทสนฺนมฺปิ กโรนฺเตน เตสํเยว สนฺตกํ เภสชฺชํ คเหตฺวา เกวลํ โยเชตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ นปฺปโหติ, อตฺตโน สนฺตกํ ตาวกาลิกํ ทาตพฺพํ. เอเตสํ ปุตฺตปรมฺปรา ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา, ตาว จตฺตาโร ปจฺจเย อาหราเปนฺตสฺส อกตวิฺตฺติ วา, เภสชฺชํ กโรนฺตสฺส เวชฺชกมฺมํ วา, กุลทูสกาปตฺติ วา น โหติ.
น ¶ ปิณฺฑปฏิปิณฺฑเกนาติ เอตฺถ ปิณฺฑปาโต กสฺส ทาตพฺโพ, กสฺส น ทาตพฺโพ? มาตาปิตูนํ ตทุปฏฺากานํ เวยฺยาวจฺจกรสฺส ปณฺฑุปลาสสฺส สมฺปตฺตสฺส ทามริกโจรสฺส อิสฺสรสฺสาปิ ทาตพฺโพ. เอเตสํ ทตฺวา ปจฺฉา ลทฺธมฺปิ ปิณฺฑปฏิปิณฺฑํ นาม น โหติ. น ทานานุปฺปทาเนนาติ อตฺตโน ¶ ทินฺนกานํ น ปุน ทาเนน. ธมฺเมนาติ ธมฺเมน อุปฺปนฺนํ. สเมนาติ กายสุจริตาทินา. ลทฺธาติ กาเยน ลทฺธา. ลภิตฺวาติ จิตฺเตน ปาปุณิตฺวา. อธิคนฺตฺวาติ สมฺปาปุณิตฺวา. วินฺทิตฺวาติ าเณน วินฺทิตฺวา. ปฏิลภิตฺวาติ ปุนปฺปุนํ ลภิตฺวา.
อนฺนสนฺนิธินฺติ เอตฺถ ทุวิธา อนฺนกถา วินยวเสน จ สลฺเลขวเสน จ. วินยวเสน ตาว ยํกิฺจิ อนฺนํ อชฺช ปฏิคฺคหิตํ อปรชฺชุ สนฺนิธิการกํ โหติ, ตสฺส ปริโภเค ปาจิตฺติยํ. อตฺตนา ลทฺธํ ปน สามเณรานํ ทตฺวา เตหิ ลทฺธํ ปาเปตฺวา ทุติยทิวเส ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ, สลฺเลโข ปน น โหติ.
ปานสนฺนิธิมฺหิปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปานํ นาม อมฺพปานาทีนิ อฏฺ ปานานิ, ยานิ เจ เตสํ อนุโลมานิ.
วตฺถสนฺนิธินฺติอาทิมฺหิ อนธิฏฺิตาวิกปฺปิตํ สนฺนิธิ จ โหติ สลฺเลขฺจ โกเปติ. อยํ ¶ ปริยาย กถาว, นิปฺปริยายโต ปน ติจีวรสนฺตุฏฺเน ภวิตพฺพํ, จตุตฺถํ ลภิตฺวา อฺสฺส ทาตพฺพํ. สเจ ยสฺส กสฺสจิ ทาตุํ น สกฺโกติ, ยสฺส ปน ทาตุกาโม โหติ, โส อุทฺเทสตฺถาย วา ปริปุจฺฉตฺถาย วา คโต, อาคตมตฺเต ทาตพฺพํ, อทาตุํ น วฏฺฏติ. จีวเร ปน อปฺปโหนฺเต สติยา ปจฺจาสาย อนฺุาตกาลํ เปตุํ วฏฺฏติ. สูจิสุตฺตจีวรการกานํ อลาเภน ตโต ปรมฺปิ วินยกมฺมํ กตฺวา เปตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อิมสฺมึ ชิณฺเณ ปุน อีทิสํ กุโต ลภิสฺสามี’’ติ ปน เปตุํ น วฏฺฏติ, สนฺนิธิ จ โหติ, สลฺเลขฺจ วิโกเปติ.
ยานสนฺนิธิมฺหิ ยานํ นาม วยฺหํ รโถ สกฏํ สนฺทมานิกา สิวิกา ปาฏงฺกีติ เนตํ ปพฺพชิตสฺส ยานํ. อุปาหนา ปน ปพฺพชิตสฺส ยานํเยว. เอกภิกฺขุสฺส หิ เอโก อรฺตฺถาย, เอกา โธตปาทกตฺถายาติ อุกฺกํสโต ทฺเว อุปาหนสงฺฆาฏา ¶ วฏฺฏนฺติ, ตติยํ ลภิตฺวา อฺสฺส ทาตพฺโพ, ‘‘อิมสฺมึ ชิณฺเณ อฺํ กุโต ลภิสฺสามี’’ติ หิ เปตุํ น วฏฺฏติ, สนฺนิธิ จ โหติ, สลฺเลขฺจ วิโกเปติ.
สยนสนฺนิธิมฺหิ สยนนฺติ มฺโจ. เอกสฺส ภิกฺขุโน เอโก คพฺเภ เอโก ทิวาฏฺาเนติ อุกฺกํสโต ทฺเว มฺจา วฏฺฏนฺติ, ตโต อุตฺตริ ลภิตฺวา อฺสฺส ภิกฺขุโน วา คณสฺส วา ทาตพฺโพ, อทาตุํ น วฏฺฏติ, สนฺนิธิ เจว โหติ, สลฺเลขฺจ โกเปติ.
คนฺธสนฺนิธิมฺหิ ¶ ภิกฺขุโน กณฺฑุกจฺฉุฉวิโทสาทิอาพาเธ สติ คนฺโธ วฏฺฏติ. เตน คนฺเธน ตสฺมึ โรเค วูปสนฺเต อฺเสํ วา อาพาธิกานํ ทาตพฺโพ. ทฺวาเร ปฺจงฺคุลฆรธูปนาทีสุ วา อุปเนตพฺโพ. ‘‘ปุน โรเค สติ ภวิสฺสตี’’ติ เปตุํ น วฏฺฏติ, คนฺธสนฺนิธิ จ โหติ, สลฺเลขฺจ โกเปติ.
อามิสนฺติ อนฺนาทิวุตฺตาวเสสํว ทฏฺพฺพํ. เสยฺยถิทํ – อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ ‘‘ตถารูเป กาเล อุปการาย ภวิสฺสนฺตี’’ติ ติลตณฺฑุลมุคฺคมาสนาฬิเกรโลณมจฺฉมํสวลฺลูรสปฺปิเตลคุฬ- ภาชนาทีนิ อาหราเปตฺวา เปติ. โส วสฺสกาเล กาลสฺเสว สามเณเรหิ ยาคุํ ปจาเปตฺวา ภฺุชิตฺวา ‘‘สามเณร อุทกกทฺทเม ทุกฺขํ คามํ ปวิสิตุํ, คจฺฉ อสุกกุลํ คนฺตฺวา มยฺหํ วิหาเร นิสินฺนภาวํ อาโรเจหิ, อสุกกุลโต ทธิอาทีนิ อาหรา’’ติ เปเสติ. ภิกฺขูหิ ‘‘กึ, ภนฺเต, คามํ ปวิสถา’’ติ วุตฺเตปิ ‘‘ทุปฺปเวโส อาวุโส อิทานิ คาโม’’ติ วทติ. เต ‘‘โหตุ, ภนฺเต, อจฺฉถ ตุมฺเห, มยํ ภิกฺขํ ปริเยสิตฺวา อาหริสฺสามา’’ติ คจฺฉนฺติ. อถ สามเณโรปิ ทธิอาทีนิ อาหริตฺวา ภตฺตฺจ พฺยฺชนฺจ สมฺปาเทตฺวา อุปเนติ, ตํ ภฺุชนฺตสฺเสว ¶ อุปฏฺากา ภตฺตํ ปหิณนฺติ, ตโตปิ มนาปํ มนาปํ ภฺุชติ. อถ ภิกฺขู ปิณฺฑปาตํ คเหตฺวา อาคจฺฉนฺติ, ตโตปิ มนาปํ มนาปํ คีวายามกํ ภฺุชติเยว. เอวํ จตุมาสมฺปิ วีตินาเมติ. อยํ วุจฺจติ ภิกฺขุ ‘‘มุณฺฑกุฏุมฺพิกชีวิกํ ชีวติ, น สมณชีวิก’’นฺติ. เอวรูโป อามิสสนฺนิธิ นาม โหติ.
ภิกฺขุโน ปน วสนฏฺาเน เอกา ตณฺฑุลนาฬิ เอโก คุฬปิณฺโฑ จตุภาคมตฺตํ สปฺปีติ เอตฺตกํ นิเธตุํ วฏฺฏติ อกาเล สมฺปตฺตโจรานํ อตฺถาย. เต หิ เอตฺตกมฺปิ อามิสปฏิสนฺถารํ อลภนฺตา ชีวิตาปิ โวโรเปยฺยุํ, ตสฺมา ¶ สเจปิ เอตฺตกํ นตฺถิ, อาหราเปตฺวาปิ เปตุํ วฏฺฏติ. อผาสุกกาเล จ ยเทตฺถ กปฺปิยํ, ตํ อตฺตนาปิ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. กปฺปิยกุฏิยํ ปน พหุํ เปนฺตสฺสาปิ สนฺนิธิ นาม นตฺถิ.
๑๖๐. ฌายี น ปาทโลลสฺสาติ ฌานาภิรโต จ น จ ปาทโลโล อสฺส. วิรเม กุกฺกุจฺจา นปฺปมชฺเชยฺยาติ หตฺถกุกฺกุจฺจาทิกุกฺกุจฺจํ วิโนเทยฺย, สกฺกจฺจการิตาย เจตฺถ นปฺปมชฺเชยฺย.
เอกตฺตมนุยุตฺโตติ ¶ เอกีภาวํ อนุยุตฺโต. ปรมตฺถครุโกติ อุตฺตมตฺถครุโก. ‘‘สกตฺถครุโก’’ติ วา ปาโ.
ปฏิสลฺลานาราโมติ อารมณํ อาราโม, ตโต ตโต อารมฺมณโต ปฏิสํหริตฺวา เอกีภาเว ปฏิสลฺลาเน อาราโม ยสฺส โส ปฏิสลฺลานาราโม. อสฺสาติ ภเวยฺย. ตสฺมึ รโตติ ปฏิสลฺลานรโต. เอเตหิ สีเลสุ ปริปูรการิตํ ทสฺเสติ. ตํ กิสฺส เหตุ? สีลวิปนฺนสฺส เอกคฺคตาปิ น สมฺปชฺชติ. อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺโตติ อตฺตโน จิตฺตสมเถ ยุตฺโต. เอตฺถ หิ อชฺฌตฺตนฺติ วา อตฺตโนติ วา เอตํ เอกตฺถํ, พฺยฺชนเมว นานํ. ภุมฺมตฺเถ ปเนตํ อุปโยควจนํ. อนูติ อิมินา อุปสคฺเคน โยเค สิทฺธํ.
อนิรากตชฺฌาโนติ พหิ อนิหตชฺฌาโน อวินาสิตชฺฌาโน วา. นีหรณวินาสตฺถฺหิ อิทํ นิรากรณํ นาม. ‘‘ถมฺภํ นิรํกตฺวา นิวาตวุตฺตี’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๓๒๘) จสฺส ปโยโค ทฏฺพฺโพ. วิปสฺสนาย สมนฺนาคโตติ สตฺตวิธาย อนุปสฺสนาย ยุตฺโต. สตฺตวิธา อนุปสฺสนา นาม อนิจฺจานุปสฺสนา ทุกฺขานุปสฺสนา อนตฺตานุปสฺสนา นิพฺพิทานุปสฺสนา วิราคานุปสฺสนา นิโรธานุปสฺสนา ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาติ. ตา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๗๔๑ อาทโย, ๘๔๙ อาทโย) วิตฺถาริตา ¶ . พฺยูเหตา สฺุาคารานนฺติ วฑฺเฒตา สฺุาคารานํ. เอตฺถ จ สมถวิปสฺสนาวเสน กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา รตฺตินฺทิวํ สฺุาคารํ ปวิสิตฺวา นิสีทมาโน ภิกฺขุ ‘‘พฺรูเหตา สฺุาคาราน’’นฺติ ¶ เวทิตพฺโพ. เอกภูมกาทิเภเท ปาสาเท กุรุมาโนปิ สฺุาคารานํ พฺรูเหตาติ ทฏฺพฺโพ.
สกฺกจฺจการีติอาทีสุ ทานาทีนํ กุสลธมฺมานํ ภาวนาย ปุคฺคลสฺส วา เทยฺยธมฺมสฺส วา สกฺกจฺจการิตาวเสน สกฺกจฺจการี. อสฺสาติ ภเวยฺย. สตตภาโว สาตจฺจํ, สาตจฺจการิตาวเสน สาตจฺจการี. นิรนฺตรการิตาย อฏฺิตการี. ยถา นาม กกณฺฏโก โถกํ คนฺตฺวา โถกํ ติฏฺติ, น นิรนฺตรํ คจฺฉติ, เอวเมว โย ปุคฺคโล เอกทิวสํ ทานํ ทตฺวา ปูชํ วา กตฺวา ธมฺมํ วา สุตฺวา สมณธมฺมํ วา กตฺวา ปุน จิรสฺสํ กโรติ, ตํ น นิรนฺตรํ ปวตฺเตติ. โส ‘‘อสาตจฺจการี, ิตการี’’ติ วุจฺจติ. โย ปน เอวํ น โหติ, โส อฏฺิตการี. อโนลีนวุตฺติโกติ นิรนฺตรกรณสงฺขาตสฺส ¶ วิปฺผารสฺส อตฺถิตาย น โอลีนวุตฺติโก. อนิกฺขิตฺตจฺฉนฺโทติ กุสลกิริยาย วีริยจฺฉนฺทสฺส อนิกฺขิตฺตภาเวน อนิกฺขิตฺตจฺฉนฺโท. อนิกฺขิตฺตธุโรติ วีริยธุรสฺส อโนโรปโก, อโนสกฺกิตมานโสติ อตฺโถ.
อปฺปฏิวานีติ อนิวตฺตนํ. อธิฏฺานนฺติ กุสลกรเณ ปติฏฺาภาโว. อนุโยโคติ อนุยฺุชนํ. อปฺปมาโทติ สติยา อวิปฺปวาโส.
๑๖๑. ตนฺทึ มายํ หสฺสํ ขิฑฺฑนฺติ อาลสิยฺจ มายฺจ หสฺสฺจ กายิกํ วาจสิกํ ขิฑฺฑฺจ. สวิภูสนฺติ สทฺธึ วิภูสาย.
รตฺตินฺทิวํ ฉโกฏฺาสํ กริตฺวาติ ปุริมยามมชฺฌิมยามปจฺฉิมยามวเสน รตฺตึ ตโย ตถา ทิวาติ ฉพฺพิธํ โกฏฺาสํ กตฺวา. ปฺจโกฏฺาสํ ปฏิชคฺเคยฺยาติ รตฺตึ มชฺฌิมยามํ วิสฺสชฺเชตฺวา อวเสสปฺจโกฏฺาเสสุ น นิทฺทํ โอกฺกเมยฺย. เอกโกฏฺาสํ นิปชฺเชยฺยาติ เอกํ มชฺฌิมยามโกฏฺาสํ สโต สมฺปชาโน นิปชฺชิตฺวา นิทฺทํ โอกฺกเมยฺย.
อิธ ภิกฺขุ ทิวสมฺปิ ปุพฺพณฺเห มชฺฌนฺเห สายนฺเหติ ตโยปิ ทิวสโกฏฺาสา คหิตา. จงฺกเมน นิสชฺชายาติ สกลํ ทิวสํ อิมินา อิริยาปถทฺวเยเนว วิหรนฺโต จิตฺตสฺส อาวรณโต อาวรณีเยหิ ธมฺเมหิ ปฺจหิ นีวรเณหิ สพฺพากุสลธมฺเมหิ วา. จิตฺตํ ปริโสเธยฺยาติ เตหิ ธมฺเมหิ ¶ จิตฺตํ ¶ วิโสเธยฺย. านํ ปเนตฺถ กิฺจาปิ น คหิตํ, จงฺกมนิสชฺชาสนฺนิสฺสิตํ ปน กตฺวา คเหตพฺพเมว. ปมํ ยามนฺติ สกลสฺมิมฺปิ ปมยาเม.
เสยฺยนฺติ เอตฺถ กามโภคีเสยฺยา เปตเสยฺยา สีหเสยฺยา ตถาคตเสยฺยาติ จตสฺโส เสยฺยา. ตตฺถ ‘‘เยภุยฺเยน, ภิกฺขเว, กามโภคี วาเมน ปสฺเสน เสนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๑.๔๒๔๖) อยํ กามโภคีเสยฺยา. เตสุ หิ เยภุยฺเยน ทกฺขิณปสฺเสน สยาโน นาม นตฺถิ. ‘‘เยภุยฺเยน, ภิกฺขเว, เปตา อุตฺตานา เสนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๖) อยํ เปตเสยฺยา. อปฺปมํสโลหิตตฺตา หิ อฏฺิสงฺฆาฏฆฏฺฏิตา เอเกน ปสฺเสน สยิตุํ น สกฺโกนฺติ, อุตฺตานาว เสนฺติ. ‘‘สีโห, ภิกฺขเว, มิคราชา ทกฺขิเณน ปสฺเสน เสยฺยํ กปฺเปติ…เป… อตฺตมโน โหตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๖) อยํ สีหเสยฺยา. เตชุสฺสทตฺตา หิ สีโห มิคราชา ทฺเว ปุริมปาเท เอกสฺมึ ปจฺฉิมปาเท เอกสฺมึ าเน ¶ เปตฺวา นงฺคุฏฺํ อนฺตรสตฺถิมฺหิ ปกฺขิปิตฺวา ปุริมปาทปจฺฉิมปาทนงฺคุฏฺานํ ิโตกาสํ สลฺลกฺเขตฺวา ทฺวินฺนํ ปุริมปาทานํ มตฺถเก สีสํ เปตฺวา สยติ. ทิวสมฺปิ สยิตฺวา ปพุชฺฌมาโน น อุตฺรสฺโต ปพุชฺฌติ, สีสํ ปน อุกฺขิปิตฺวา ปุริมปาทาทีนํ ิโตกาสํ สลฺลกฺเขติ. สเจ กิฺจิ านํ วิชหิตฺวา ิตํ โหติ, ‘‘นยิทํ ตุยฺหํ ชาติยา, น สูรภาวสฺส อนุรูป’’นฺติ อนตฺตมโน หุตฺวา ตตฺเถว สยติ, น โคจราย ปกฺกมติ. อวิชหิตฺวา ิเต ปน ‘‘ตุยฺหํ ชาติยา จ สูรภาวสฺส จ อนุรูปมิท’’นฺติ หฏฺตุฏฺโ อุฏฺาย สีหวิชมฺภิตํ วิชมฺภิตฺวา เกสรภารํ วิธุนิตฺวา ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา โคจราย ปกฺกมติ. จตุตฺถชฺฌานเสยฺยา ปน ตถาคตเสยฺยาติ วุจฺจติ. ตาสุ อิธ สีหเสยฺยา อาคตา. อยฺหิ เตชุสฺสทอิริยาปถตฺตา อุตฺตมเสยฺยา นาม.
ปาเท ปาทนฺติ ทกฺขิณปาเท วามปาทํ. อจฺจาธายาติ อติอาธาย อีสกํ อติกฺกมฺม เปตฺวา. โคปฺผเกน หิ โคปฺผเก, ชาณุนา วา ชาณุมฺหิ สงฺฆฏฺฏิยมาเน อภิณฺหํ เวทนา อุปฺปชฺชติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ น โหติ, เสยฺยา อผาสุ โหติ. ยถา ปน น สงฺฆฏฺเฏติ, เอวํ อติกฺกมฺม ปิเต เวทนา นุปฺปชฺชติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, เสยฺยา ¶ ผาสุ โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปาเท ปาทํ อจฺจาธายา’’ติ. สโต สมฺปชาโนติ สติยา เจว สมฺปชานปฺาย จ สมนฺนาคโต หุตฺวา. อิมินา สุปริคฺคาหกํ สติสมฺปชฺํ กถิตํ. อุฏฺานสฺํ มนสิกริตฺวาติ ‘‘อสุกเวลาย นาม อุฏฺหิสฺสามี’’ติ เอวํ อุฏฺานเวลาปริจฺเฉทกํ อุฏฺานสฺํ จิตฺเต เปตฺวา. เอวํ กตฺวา นิปนฺโน หิ ยถาปริจฺฉินฺนกาเลเยว อุฏฺาติ.
วีริยินฺทฺริยนิทฺเทเส เจตสิโกติ อิทํ วีริยสฺส นิยมโต เจตสิกภาวทีปนตฺถํ วุตฺตํ, อิทฺหิ ¶ วีริยํ ‘‘ยทปิ, ภิกฺขเว, กายิกํ วีริยํ, ตทปิ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค, ยทปิ เจตสิกํ วีริยํ, ตทปิ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโคติ. อิติหิทํ อุทฺเทสํ คจฺฉตี’’ติ เอวมาทีสุ สุตฺเตสุ (สํ. นิ. ๕.๒๓๓) จงฺกมาทีนิ กโรนฺตสฺส อุปฺปชฺชนตาย กายิกนฺติ วุจฺจมานมฺปิ กายวิฺาณํ วิย กายิกํ นาม นตฺถิ, เจตสิกเมว ปเนตนฺติ ทีเปตุํ ‘‘เจตสิโก’’ติ วุตฺตํ. วีริยารมฺโภติ วีริยสงฺขาโต อารมฺโภ. อยฺหิ อารมฺภสทฺโท กมฺเม อาปตฺติยํ กิริยายํ วีริเย หึสายํ วิโกปเนติ อเนเกสุ อตฺเถสุ อาคโต.
‘‘ยํ ¶ กิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ, สพฺพํ อารมฺภปจฺจยา;
อารมฺภานํ นิโรเธน, นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโว’’ติ. (สุ. นิ. ๗๔๙) –
เอตฺถ หิ กมฺมํ อารมฺโภติ อาคตํ. ‘‘อารมฺภติ จ วิปฺปฏิสารี จ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๔๒; ปุ. ป. ๑๙๑) เอตฺถ อาปตฺติ. ‘‘มหายฺา มหารมฺภา, น เต โหนฺติ มหปฺผลา’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๙; สํ. นิ. ๑.๑๒๐) เอตฺถ ยูปุสฺสาปนาทิกิริยา. ‘‘อารมฺภถ นิกฺกมถ, ยฺุชถ พุทฺธสาสเน’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๘๕; กถา. ๓๓๓; เนตฺติ. ๒๙; เปฏโก. ๓๘; มิ. ป. ๕.๑.๔) เอตฺถ วีริยํ. ‘‘สมณํ โคตมํ อุทฺทิสฺส ปาณํ อารมฺภนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๕๑) เอตฺถ หึสา. ‘‘พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๐; ม. นิ. ๑.๒๙๓) เอตฺถ เฉทนภฺชนาทิกํ วิโกปนํ. อิธ ปน วีริยเมว อธิปฺเปตํ. เตนาห ‘‘วีริยารมฺโภติ วีริยสงฺขาโต อารมฺโภ’’ติ. วีริยฺหิ อารมฺภนวเสน อารมฺโภติ วุจฺจติ. อิทมสฺส สภาวปทํ. โกสชฺชโต นิกฺขมนวเสน นิกฺกโม. ปรํ ปรํ านํ อกฺกมนวเสน ปรกฺกโม. อุคฺคนฺตฺวา ยมนวเสน ¶ อุยฺยาโม. วายมนวเสน วายาโม. อุสฺสหนวเสน อุสฺสาโห. อธิมตฺตุสฺสหนวเสน อุสฺโสฬฺหี. ถิรภาวฏฺเน ถาโม. จิตฺตเจตสิกานํ ธารณวเสน อวิจฺเฉทโต วา ปวตฺตนวเสน กุสลสนฺตานํ ธาเรตีติ ธิติ.
อปโร นโย – นิกฺกโม เจโส กามานํ ปนุทนาย. ปรกฺกโม เจโส พนฺธนจฺเฉทาย. อุยฺยาโม เจโส โอฆสฺส นิตฺถรณาย. วายาโม เจโส ปารํ คมนฏฺเน. อุสฺสาโห เจโส ปุพฺพงฺคมฏฺเน. อุสฺโสฬฺหี เจโส อธิมตฺตฏฺเน. ถาโม เจโส ปลิฆุคฺฆาฏนตาย. ธิติ เจโส อฏฺิตการิตายาติ.
‘‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ จ, อฏฺิ จ อวสิสฺสตู’’ติ (อ. นิ. ๒.๕) เอวํ ปวตฺติกาเล ¶ อสิถิลปรกฺกมวเสน อสิถิลปรกฺกมตา, ถิรปรกฺกโม ทฬฺหปรกฺกโมติ อตฺโถ. ยสฺมา ปเนตํ วีริยํ กุสลกมฺมกรณฏฺาเน ฉนฺทํ น นิกฺขิปติ, ธุรํ น นิกฺขิปติ, น โอตาเรติ น วิสฺสชฺเชติ, อโนสกฺกิตมานสตํ อาวหติ, ตสฺมา ‘‘อนิกฺขิตฺตจฺฉนฺทตา อนิกฺขิตฺตธุรตา’’ติ วุตฺตํ. ยถา ปน ตชฺชาติเก อุทกสมฺภินฺนฏฺาเน ธุรวาหโคณํ ‘‘คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, โส ชาณุนา ภูมึ อุปฺปีเฬตฺวาปิ ธุรํ วหติ, ภูมิยํ ปติตุํ น เทติ, เอวเมว ¶ วีริยํ กุสลกมฺมกรณฏฺาเน ธุรํ น นิกฺขิปติ ปคฺคณฺหาติ, ตสฺมา ‘‘ธุรสมฺปคฺคาโห’’ติ วุตฺตํ. ปคฺคหลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ วีริยินฺทฺริยํ. โกสชฺเช น กมฺปตีติ วีริยพลํ. ยาถาวนิยฺยานิกกุสลวายามตาย สมฺมาวายาโม.
ตนฺทีติ ชาติอาลสิยํ. ตนฺทิยนาติ ตนฺทิยนากาโร. ตนฺทิมนกตาติ ตนฺทิยา อภิภูตจิตฺตตา. อลสสฺส ภาโว อาลสฺยํ, อาลสฺยายนากาโร อาลสฺยายนา. อาลสฺยายิตสฺส ภาโว อาลสฺยายิตตฺตํ. อิติ สพฺเพหิ อิเมหิ ปเทหิ กิเลสวเสน กายาลสิยํ กถิตํ.
วฺจนิกา จริยาติ วฺจนิกา กิริยา. มา มํ ชฺาติ วาจํ ภาสตีติ ชานํเยว ปณฺณตฺตึ วีติกฺกมนฺโต ภิกฺขุ ภาริยํ กโรติ, อมฺหากํ ปน วีติกฺกมฏฺานํ นาม นตฺถีติ อุปสนฺโต วิย ภาสติ. กาเยน ปรกฺกมตีติ ¶ ‘‘มยา กตํ อิทํ ปาปกมฺมํ มา เกจิ ชานึสู’’ติ กาเยน วตฺตํ กโรติ. วิชฺชมานโทสปฏิจฺฉาทนโต จกฺขุโมหนมายา วิยาติ มายา, มายาวิโน ภาโว มายาวิตา. กตฺวา ปาปํ ปุน ปฏิจฺฉาทนโต อติ อสฺสรติ เอตาย สตฺโตติ อจฺจสรา. กายวาจากิริยาหิ อฺถา ทสฺสนโต วฺเจตีติ วฺจนา. เอตาย สตฺตา นิกโรนฺตีติ นิกติ, มิจฺฉา กโรนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘นาหํ เอวํ กโรมี’’ติ ปาปานํ นิกฺขิปนโต นิกิรณา. ‘‘นาหํ เอวํ กโรมี’’ติ ปริวชฺชนโต ปริหรณา. กายาทีหิ สํวรณโต คูหนา. สพฺพโต ภาเคน คูหนา ปริคูหนา. ติณปณฺเณหิ วิย คูถํ กายวจีกมฺเมหิ ปาปํ ฉาทิยตีติ ฉาทนา. สพฺพโต ภาเคน ฉาทนา ปริจฺฉาทนา. น อุตฺตานํ กตฺวา ทสฺเสตีติ อนุตฺตานีกมฺมํ. น ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสตีติ อนาวิกมฺมํ. สุฏฺุ ฉาทนา โวจฺฉาทนา. กตปาปปฏิจฺฉาทนวเสน ปุนปิ ปาปสฺส กรณโต ปาปกิริยา. อยํ วุจฺจตีติ อยํ กตปฏิจฺฉาทนลกฺขณา มายา นาม วุจฺจติ. ยาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ภสฺมาปฏิจฺฉนฺโน วิย องฺคาโร, อุทกปฏิจฺฉนฺโน วิย ขาณุ, ปิโลติกาย ปลิเวิตํ วิย จ สตฺถํ โหติ. อติเวลํ ทนฺตวิทํสกํ หสตีติ ปมาณาติกฺกนฺตํ ทนฺตํ วิวริตฺวา ปเรสํ ทสฺเสตฺวา หาสํ โสมนสฺสํ อุปฺปาเทตฺวา หสติ.
กายิกา ¶ ¶ จ ขิฑฺฑาติ กาเยน ปวตฺตา กีฬา. เอเสว นโย วาจสิกายปิ. หตฺถีหิปิ กีฬนฺตีติ หตฺถีหิ กีฬิตตฺถาย ปุรโต ธาวนอาธาวนปิฏฺนิสีทนาทิกีฏฺาย กีฬนฺติ. เอเสว นโย อสฺสรเถสุปิ. อฏฺปเทปิ กีฬนฺตีติ เอเกกาย ปนฺติยา อฏฺ อฏฺ ปทานิ อสฺสาติ อฏฺปทํ, ตสฺมึ อฏฺปเท. ทสปเทปิ เอเสว นโย. อากาเสปีติ อฏฺปททสปเทสุ วิย อากาเสเยว กีฬนฺติ. ปริหารปเถปีติ ภูมิยํ นานาปถมณฺฑลํ กตฺวา ตตฺถ ปริหริตพฺพปถํ ปริหรนฺตา กีฬนฺติ. สนฺติกายปิ กีฬนฺตีติ สนฺติกกีฬาย กีฬนฺติ, เอกชฺฌํ ปิตา ¶ สาริโย วา ปาสาณสกฺขราโย วา อจาเลนฺตา นเขเนว อปเนนฺติ จ อุปเนนฺติ จ. สเจ ตตฺถ กาจิ จลติ, ปราชโย โหตีติ.
ขลิกายาติ ชูตผลเก ปาสกกีฬาย กีฬนฺติ. ฆฏิกายาติ ฆฏิกา วุจฺจติ ทีฆทณฺฑเกน รสฺสทณฺฑกํ ปหรณกีฬา, ตาย กีฬนฺติ. สลากหตฺเถนาติ ลาขาย วา มฺชฏฺิยา วา ปิฏฺโทเกน วา สลากหตฺถํ เตเมตฺวา ‘‘กึ โหตู’’ติ ภูมิยํ วา ภิตฺติยํ วา ตํ ปหริตฺวา หตฺถิอสฺสาทิรูปานิ ทสฺเสนฺตา กีฬนฺติ. อกฺเขนาติ คุเฬน. ปงฺกจีเรนาติ ปงฺกจีรํ วุจฺจติ ปณฺณนาฬิกา, ตํ ธมนฺตา กีฬนฺติ. วงฺกเกนาติ คามทารกานํ กีฬนเกน ขุทฺทกนงฺคเลน. โมกฺขจิกายาติ สมฺปริวตฺตกกีฬาย, อากาเส วา ทณฺฑํ คเหตฺวา ภูมิยํ วา สีสํ เปตฺวา เหฏฺุปริยภาเวน ปริวตฺตนฺตา กีฬนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. จิงฺคุลเกนาติ จิงฺคุลกํ วุจฺจติ ตาลปณฺณาทีหิ กตํ วาตปฺปหาเรน ปริพฺภมนจกฺกํ, เตน กีฬนฺติ. ปตฺตาฬฺหเกนาติ ปตฺตาฬฺหกํ วุจฺจติ ปณฺณนาฬิ, ตาย วาลิกาทีนิ มินนฺตา กีฬนฺติ. รถเกนาติ ขุทฺทกรเถน. ธนุเกนาติ ขุทฺทกธนุนา. อกฺขริกายาติ อกฺขริกา วุจฺจติ อากาเส วา ปิฏฺิยํ วา อกฺขรชานนกีฬา, ตาย กีฬนฺติ. มเนสิกายาติ มเนสิกา วุจฺจติ มนสา จินฺติตชานนกีฬา, ตาย กีฬนฺติ. ยถาวชฺเชนาติ ยถาวชฺชํ วุจฺจติ กาณกุณิขุชฺชาทีนํ ยํ ยํ วชฺชํ, ตํ ตํ ปโยเชตฺวา ทสฺสนกีฬา, ตาย กีฬนฺติ. มุขเภริกนฺติ มุขสทฺเทน เภรี วิย วาทนํ. มุขาลมฺพรนฺติ มุขานุลิตฺตเภริสทฺทกรณํ. มุขฑิณฺฑิมกนฺติ มุเขน ปหตเภริสทฺทกรณํ. มุขวลิมกนฺติ โอฏฺมํสํ ชิมฺหํ กตฺวา สทฺทกรณํ. ‘‘มุขตลิก’’นฺติปิ ปาโ, มุขํ ปริวตฺเตตฺวา ธมนํ ¶ . มุขเภรุฬกนฺติ มุเขน เภริวาทนํ. นาฏกนฺติ อภินยํ ทสฺเสตฺวา อุคฺคณฺหาปนํ. ‘‘นฏฺฏก’’นฺติปิ ปาโ. ลาปนฺติ อุกฺกุฏฺิตกรณํ. คีตนฺติ คายนํ. ทวกมฺมนฺติ ¶ หสฺสกีฬากรณํ. อยํ วาจสิกา ขิฑฺฑาติ อยํ กีฬา วาจาย ชาตา วจีทฺวาเร อุปฺปนฺนา.
เกสา จ มสฺสุ จาติอาทีสุ เกสานํ กตฺตริกาย านาติริตฺตานิ อกตฺวา กตฺตริกาย เฉทนํ ¶ มสฺสูนํ ทาิกํ เปตฺวา กปฺปาสนฺจ เอกโตวณฺฑิกาทิมาลา จ มูลคนฺธาทิคนฺธา จ ฉวิกรณวิเลปนา จ. คีวาทีสุ ปิฬนฺธนอาภรณา จ สีเส ปฏิมฺุจนปสาธนปิฬนฺธนา จ สรีรนิวาสนวิจิตฺรวตฺถา จ สํเวลฺลิยพนฺธนปสาธนฺจ. ‘‘ปราสน’’นฺติปิ ปาโ. สีสเวนปฏสงฺขาตเวนฺจ.
อุจฺฉาทนาทีสุ มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขนฺตทารกานํ สรีรคนฺโธ ทฺวาทสมตฺตวสฺสกาเล นสฺสติ, เตสํ สรีรคนฺธหรณตฺถาย คนฺธจุณฺณาทีหิ อุจฺฉาเทนฺติ, เอวรูปํ อุจฺฉาทนํ น วฏฺฏติ. ปฺุวนฺเต ปน ทารเก อูรูสุ นิปชฺชาเปตฺวา เตเลน มกฺเขตฺวา หตฺถปาทอูรุนาภิอาทีนํ สณฺานสมฺปาทนตฺถํ ปริมทฺทนฺติ, เอวรูปํ ปริมทฺทนํ น วฏฺฏติ.
นฺหาปนนฺติ เตสํเยว ทารกานํ คนฺธาทีหิ นฺหาปนํ. สมฺพาหนนฺติ มหามลฺลานํ วิย หตฺถปาเท มุคฺคราทีหิ ปหริตฺวา พาหุวฑฺฒนํ. อาทาสนฺติ ยํกิฺจิ อาทาสํ ปริหริตุํ น วฏฺฏติ. อฺชนํ อลงฺการฺชนเมว. มาลาติ พทฺธมาลา วา อพทฺธมาลา วา. วิเลปนนฺติ ยํกิฺจิ ฉวิราคกรณํ. มุขจุณฺณกํ มุขเลปนนฺติ มุเข กาฬปีฬกาทีนํ หรณตฺถาย มตฺติกากกฺกํ เทนฺติ. เตน โลหิเต จลิเต สาสปกกฺกํ เทนฺติ, เตน โทเส ขาทิเต ติลกกฺกํ เทนฺติ, เตน โลหิเต สนฺนิสินฺเน หลิทฺทิกกฺกํ เทนฺติ, เตน ฉวิวณฺเณ อารูฬฺเห มุขจุณฺณเกน มุขํ จุณฺเณนฺติ, ตํ สพฺพํ น วฏฺฏติ.
หตฺถพนฺธาทีสุ หตฺเถ วิจิตฺรสงฺขกปาลาทีนิ พนฺธิตฺวา วิจรนฺติ, ตํ วา อฺํ วา สพฺพมฺปิ หตฺถาภรณํ น วฏฺฏติ. อปเร สิขํ พนฺธิตฺวา วิจรนฺติ, สุวณฺณจีรกมุตฺตาวฬิอาทีหิ จ ตํ ปริกฺขิปนฺติ, ตํ สพฺพํ น วฏฺฏติ. อปเร จตุหตฺถทณฺฑํ วา อฺํ วา ปน อลงฺกตทณฺฑกํ คเหตฺวา วิจรนฺติ ¶ , ตถา อิตฺถิปุริสรูปาทิวิจิตฺตํ เภสชฺชนาฬิกํ สุปริกฺขิตฺตํ วามปสฺเส โอลคฺเคนฺติ, อปเร ¶ อเนกจิตฺรโกสํ อติติขิณํ อสึ, ปฺจวณฺณสุตฺตสิพฺพิตํ มกรทนฺตกาทิวิจิตฺตํ ฉตฺตํ, สุวณฺณรชตาทิวิจิตฺรา โมรปิฺฉาทิปริกฺขิตฺตา อุปาหนา, เกจิ รตนมตฺตายามํ จตุรงฺคุลวิตฺถตํ เกสนฺตปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา เมฆมุเข วิชฺชุลตํ วิย นลาเฏ อุณฺหีสปฏฺฏํ พนฺธิตฺวา จูฬามณึ ธาเรนฺติ, จามรวาลพีชนึ ธาเรนฺติ, ตํ สพฺพํ น วฏฺฏติ.
อิมสฺส วา ปูติกายสฺสาติ อิมสฺส จาตุมหาภูตมยสฺส กุณปสรีรสฺส. เกฬนาติ กีฬาปนา ¶ . ปริเกฬนาติ สพฺพโต ภาเคน กีฬาปนา. เคธิตตาติ อภิกงฺขิตตา. เคธิตตฺตนฺติ คิทฺธภาโว อภิกงฺขิตภาโว. จปลตาติ อลงฺการกรณํ. จาปลฺยนฺติ จปลภาวํ.
สวิภูสนฺติอาทีสุ วิภูสาย สห สวิภูสํ. ฉวิราคกรณสงฺขาเตน ปริวาเรน สห สปริวารํ. ปริภณฺเฑน สห สปริภณฺฑํ. ปริกฺขาเรน สห สปริกฺขารํ.
๑๖๒. อาถพฺพณนฺติ อาถพฺพณิกมนฺตปฺปโยคํ. สุปินนฺติ สุปินสตฺถํ. ลกฺขณนฺติ มณิลกฺขณาทึ. โน วิทเหติ นปฺปโยเชยฺย. วิรุตฺจาติ มิคาทีนํ วฏฺเฏตฺวา วสฺสิตํ.
อาถพฺพณิกาติ ปรูปฆาตมนฺตชานนกา. อาถพฺพณํ ปโยเชนฺตีติ อาถพฺพณิกา กิร สตฺตาหํ อโลณกํ ภฺุชิตฺวา ทพฺเพ อตฺถริตฺวา ปถวิยํ สยมานา ตปํ จริตฺวา สตฺตเม ทิวเส สุสานภูมึ สชฺเชตฺวา สตฺตเม ปเท ตฺวา หตฺถํ วฏฺเฏตฺวา วฏฺเฏตฺวา มุเขน วิชฺชํ ปริชปฺปนฺติ, อถ เตสํ กมฺมํ สมิชฺฌติ. เอวรูปํ สนฺธาย ‘‘อาถพฺพณํ ปโยเชนฺตี’’ติ อาห. ตตฺถ ปโยเชนฺตีติ ยุตฺตปฺปยุตฺตา โหนฺติ. นคเร วา รุทฺเธติ นคเร สมนฺตโต รุนฺธิตฺวา อาวริตฺวา คหิเต. สงฺคาเม วา ปจฺจุปฏฺิเตติ รเณ อุปคนฺตฺวา ิเต. ปจฺจตฺถิเกสุ ปจฺจามิตฺเตสูติ ปฏาณีภูเตสุ เวรีสุ. อีตึ อุปฺปาเทนฺตีติ สรีรจลนํ กมฺปนํ, ตสฺส อุปฺปาทนํ กโรนฺติ. อุปทฺทวนฺติ กายปีฬนํ กโรนฺติ. โรคนฺติ ¶ พฺยาธึ. ปชฺชรกนฺติ ชรํ. สูลนฺติ อุทฺธุมาตกํ. วิสูจิกนฺติ วิชฺฌนํ. ปกฺขนฺทิกนฺติ โลหิตปกฺขนฺทิกํ. กโรนฺตีติ อุปฺปาเทนฺติ.
สุปินปากาติ สุปินพฺยากรณกา. อาทิสนฺตีติ พฺยากโรนฺติ. โย ปุพฺพณฺหสมยํ สุปินํ ปสฺสตีติอาทีสุ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ, ปุพฺพณฺหสมเยติ อตฺโถ. เอวํ วิปาโก โหตีติ อิฏฺานิฏฺวเสน เอวรูโป ¶ วิปาโก โหติ. อวกุชฺช นิปนฺโนติ อโธมุโข หุตฺวา นิปนฺโน ปสฺสติ. เอวํ สุปินปากา สุปินํ อาทิสนฺติ.
ตฺจ ปน สุปินํ ปสฺสนฺโต จตูหิ การเณหิ ปสฺสติ ธาตุกฺโขภโต วา อนุภูตปุพฺพโต วา เทวโตปสํหารโต วา ปุพฺพนิมิตฺตโต วาติ. ตตฺถ ปิตฺตาทีนํ โขภกรณปจฺจยโยเคน ขุภิตธาตุโก ธาตุกฺโขภโต สุปินํ ปสฺสติ, ปสฺสนฺโต จ นานาวิธํ สุปินํ ปสฺสติ. อนุภูตปุพฺพโต ปสฺสนฺโต ปุพฺเพ อนุภูตปุพฺพํ อารมฺมณํ ปสฺสติ. เทวโตปสํหารโต ปสฺสนฺโต เทวตานํ อานุภาเวน อารมฺมณานิ ปสฺสติ. ปุพฺพนิมิตฺตโต ปสฺสนฺโต ปฺุาปฺุวเสน อุปฺปชฺชิตุกามสฺส อตฺถสฺส วา อนตฺถสฺส วา ปุพฺพนิมิตฺตภูตํ สุปินํ ปสฺสติ ¶ . ตตฺถ ยํ ธาตุกฺโขภโต อนุภูตปุพฺพโต จ สุปินํ ปสฺสติ, น ตํ สจฺจํ โหติ. ยํ เทวโตปสํหารโต ปสฺสติ, ตํ สจฺจํ วา โหติ อลิกํ วา. กุทฺธา หิ เทวตา อุปาเยน วินาเสตุกามา วิปรีตมฺปิ กตฺวา ทสฺเสนฺติ. ยํ ปน ปุพฺพนิมิตฺตโต ปสฺสติ, ตํ เอกนฺตสจฺจเมว โหติ. เอเตสํ จตุนฺนํ มูลการณานํ สํสคฺคเภทโตปิ สุปินเภโท โหติเยว. ตฺจ ปเนตํ จตุพฺพิธํ สุปินํ เสกฺขปุถุชฺชนาว ปสฺสนฺติ อปฺปหีนวิปลฺลาสตฺตา. อเสกฺขา น ปสฺสนฺติ ปหีนวิปลฺลาสตฺตา.
กึ ปเนตํ ปสฺสนฺโต สุตฺโต ปสฺสติ, อุทาหุ ปฏิพุทฺโธ, อุทาหุ เนว สุตฺโต น ปฏิพุทฺโธติ? กิฺเจตฺถ – ยทิ ตาว สุตฺโต ปสฺสติ, อภิธมฺมวิโรโธ อาปชฺชติ. ภวงฺคจิตฺเตน หิ สุปติ, ตํ รูปนิมิตฺตาทิอารมฺมณํ ราคาทิสมฺปยุตฺตํ วา น โหติ, สุปินํ ปสฺสนฺตสฺส จ อีทิสานิ จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อถ ปฏิพุทฺโธ ปสฺสติ, วินยวิโรโธ อาปชฺชติ. ยฺหิ ปฏิพุทฺโธ ปสฺสติ, ตํ สพฺโพหาริกจิตฺเตน ปสฺสติ, สพฺโพหาริกจิตฺเตน จ กเต วีติกฺกเม ¶ อนาปตฺติ นาม นตฺถิ, สุปินํ ปสฺสนฺเตน ปน กเต วีติกฺกเม เอกนฺตํ อนาปตฺติ เอว. อถ เนว สุตฺโต น ปฏิพุทฺโธ ปสฺสติ, โก นาม ปสฺสติ. เอวฺจ สติ สุปินสฺส อภาโวว อาปชฺชติ, น อภาโว. กสฺมา? ยสฺมา กปินิทฺทาปเรโต ปสฺสติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘มชฺฌูปคโต, มหาราช, กปินิทฺทาปเรโต สุปินํ ปสฺสตี’’ติ (มิ. ป. ๕.๓.๕).
กปินิทฺทาปเรโตติ ¶ มกฺกฏนิทฺทาย ยุตฺโต. ยถา หิ มกฺกฏสฺส นิทฺทา ลหุปริวตฺตา โหติ, เอวํ ยา นิทฺทา ปุนปฺปุนํ กุสลาทิจิตฺตโวกิณฺณตฺตา ลหุวิปริวตฺตา. ยสฺสา ปวตฺติยํ ปุนปฺปุนํ ภวงฺคโต อุตฺตรณํ โหติ, ตาย ยุตฺโต สุปินํ ปสฺสติ. เตนายํ สุปิโน กุสโลปิ โหติ อกุสโลปิ อพฺยากโตปิ. ตตฺถ สุปินนฺเต เจติยวนฺทนธมฺมสฺสวนธมฺมเทสนาทีนิ กโรนฺตสฺส กุสโล, ปาณาติปาตาทีนิ กโรนฺตสฺส อกุสโล, ทฺวีหิ อนฺเตหิ มุตฺโต อาวชฺชนตทารมฺมณกฺขเณ อพฺยากโตติ เวทิตพฺโพ. สฺวายํ ทุพฺพลวตฺถุกตฺตา เจตนาย ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒิตุํ อสมตฺโถ, ปวตฺเต ปน อฺเหิ กุสลากุสเลหิ อุปตฺถมฺภิโต วิปากํ เทติ.
มณิลกฺขณาทีสุ เอวรูโป มณิ ปสตฺโถ, เอวรูโป อปสตฺโถ, สามิโน อาโรคฺยอิสฺสริยาทีนํ เหตุ โหติ, น โหตีติ เอวํ วณฺณสณฺานาทิวเสน มณิอาทีนํ ลกฺขณํ อาทิสนฺตีติ อตฺโถ. ตตฺถ อาวุธลกฺขณนฺติ เปตฺวา อสิอาทีนิ อวเสสํ อาวุธํ ¶ . อิตฺถิลกฺขณาทีนิปิ ยมฺหิ กุเล อิตฺถิปุริสาทโย วสนฺติ, ตสฺส วุทฺธิหานิวเสเนว เวทิตพฺพานิ. อชลกฺขณาทีสุ ปน ‘‘เอวรูปานํ อชาทีนํ มํสํ ขาทิตพฺพํ, เอวรูปานํ น ขาทิตพฺพ’’นฺติ อยมฺปิ วิเสโส เวทิตพฺโพ.
อปิ เจตฺถ โคธาย ลกฺขเณ จิตฺตกมฺมปิฬนฺธนาทีสุปิ ‘‘เอวรูปาย โคธาย สติ อิทํ นาม โหตี’’ติ อยมฺปิ วิเสโส เวทิตพฺโพ. กณฺณิกาลกฺขณํ ปิฬนฺธนกณฺณิกายปิ เคหกณฺณิกายปิ วเสน เวทิตพฺพํ. กจฺฉปลกฺขณมฺปิ โคธลกฺขณสทิสเมว. มิคลกฺขณํ สพฺพสงฺคาหิกํ สพฺพจตุปฺปทานํ ลกฺขณวเสน วุตฺตํ. เอวํ ลกฺขณปากา ลกฺขณํ อาทิสนฺตีติ เอวํ ลกฺขณสตฺถวาจกา ลกฺขณํ อาทิสนฺติ กเถนฺติ.
นกฺขตฺตานีติ ¶ กตฺติกาทีนิ อฏฺวีสติ นกฺขตฺตานิ. อิมินา นกฺขตฺเตน ฆรปฺปเวโส กาตพฺโพติ เคหปฺปเวสมงฺคลํ กาตพฺพํ. มกุฏํ พนฺธิตพฺพนฺติ ปสาธนมงฺคลํ กาตพฺพํ. วาเรยฺยนฺติ ‘‘อิมสฺส ทารกสฺส อสุกกุลโต อสุกนกฺขตฺเตน ทาริกํ อาเนถา’’ติ อาวาหกรณฺจ ‘‘อิมํ ทาริกํ อสุกสฺส นาม ทารกสฺส อสุกนกฺขตฺเตน เทถ, เอวํ เอเตสํ วุฑฺฒิ ภวิสฺสตี’’ติ วิวาหกรณฺจ วตฺวา วาเรยฺยสงฺขาตํ อาวาหวิวาหมงฺคลํ กาตพฺพนฺติ อาทิสนฺติ. พีชนีหาโรติ พีชานํ วปฺปตฺถาย พหิ นีหรณํ. ‘‘นิหโร’’ติปิ ¶ ปาฬิ. มิควากฺกนฺติ อิทํ สพฺพสงฺคาหิกนามํ, สพฺพสกุณจตุปฺปทานํ รุตาณวเสเนว วุตฺตํ. มิควากฺกปากาติ สกุนฺตจตุปฺปทานํ สทฺทพฺยากรณกา. มิควากฺกํ อาทิสนฺตีติ เตสํ สทฺทํ สุตฺวา พฺยากโรนฺติ. รุตนฺติ สทฺทํ. ‘‘รุท’’นฺติ วา ปาฬิ. วสฺสิตนฺติ วาจํ. คพฺภกรณียาติ วินสฺสมานสฺส คพฺภสฺส ปุน อวินาสาย โอสธทาเนน คพฺภสณฺานการกา. คพฺโภ หิ วาเตน ปาณเกหิ กมฺมุนา จาติ ตีหิ การเณหิ วินสฺสติ. ตตฺถ วาเตน วินสฺสนฺเต วาตวินาสนํ สีตลํ เภสชฺชํ เทติ. ปาณเกหิ วินสฺสนฺเต ปาณกานํ ปฏิกมฺมํ กโรติ. กมฺมุนา วินสฺสนฺเต ปน พุทฺธาปิ ปฏิพาหิตุํ น สกฺโกนฺติ. ตสฺมา น ตํ อิธ คหิตํ. สาลากิยนฺติ สลากเวชฺชกมฺมํ. สลฺลกตฺติยนฺติ สลฺลกตฺตเวชฺชกมฺมํ. กายติกิจฺฉนฺติ มูลเภสชฺชาทีนิ โยเชตฺวา กายติกิจฺฉเวชฺชกมฺมํ. ภูติยนฺติ ภูตเวชฺชกมฺมํ. โกมารภจฺจนฺติ โกมารกเวชฺชกมฺมํ. กุหาติ วิมฺหาปกา. ถทฺธาติ ทารุกฺขนฺธํ วิย ถทฺธสรีรา. ลปาติ ปจฺจยปฏิพทฺธวจนกา. สิงฺคิติ มณฺฑนปกติกา. อุนฺนฬาติ อุคฺคตมานนฬา. อสมาหิตาติ อุปจารปฺปนาสมาธิวิรหิตา.
น คณฺเหยฺยาติอาทีสุ อุทฺเทสคฺคหณวเสน น คณฺเหยฺย. สชฺฌายวเสน น อุคฺคณฺเหยฺย. จิตฺเต ¶ ปนวเสน น ธาเรยฺย. สมีปํ กตฺวา ปนวเสน น อุปธาเรยฺย. อุปปริกฺขาวเสน น อุปลกฺเขยฺย. อฺเสํ วาจนวเสน นปฺปโยเชยฺย.
๑๖๓. เปสุณิยนฺติ ¶ เปสฺุํ. เสสนิทฺเทโส จ วุตฺตตฺโถเยว.
๑๖๔. กยวิกฺกเยติ ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ สทฺธึ วฺจนวเสน วา อุทยปตฺถนาวเสน วา น ติฏฺเยฺย. อุปวาทํ ภิกฺขุ น กเรยฺยาติ อุปวาทกเร กิเลเส อนิพฺพตฺเตนฺโต อตฺตนิ ปเรหิ สมณพฺราหฺมเณหิ อุปวาทํ น ชเนยฺย. คาเม จ นาภิสชฺเชยฺยาติ คาเม จ คิหิสํสคฺคาทีหิ นาภิสชฺเชยฺย. ลาภกมฺยา ชนํ น ลปเยยฺยาติ ลาภกามตาย ชนํ น ลปเยยฺย.
เย กยวิกฺกยา วินเย ปฏิกฺขิตฺตาติ เย ทานปฏิคฺคหณวเสน กยวิกฺกยสิกฺขาปเท (ปารา. ๕๙๓ อาทโย) น วฏฺฏตีติ ปฏิกฺขิตฺตา, อิธาธิปฺเปตํ กยวิกฺกยํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฺจนฺนํ สทฺธึ ปตฺตํ วา จีวรํ วา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปฺจนฺนํ สทฺธินฺติ ¶ ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ สห. ปฺจ สหธมฺมิกา นาม ภิกฺขุภิกฺขุนีสิกฺขมานสามเณรสามเณริโย. วฺจนิยํ วาติ ปฏิรูปกํ ทสฺเสตฺวา วฺจนิยํ วา. อุทยํ วา ปตฺถยนฺโตติ วุฑฺฒึ ปตฺเถนฺโต วา. ปริวตฺเตตีติ ปริวตฺตนํ กโรติ.
อิทฺธิมนฺโตติ อิชฺฌนปภาววนฺโต. ทิพฺพจกฺขุกาติ ทิพฺพสทิสาณจกฺขุกา. อถ วา ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสเยน ลทฺธาณจกฺขุกา. ปรจิตฺตวิทุโนติ อตฺตโน จิตฺเตน ปเรสํ จิตฺตชานนกา. เต ทูรโตปิ ปสฺสนฺตีติ เอกโยชนโตปิ โยชนสตโตปิ โยชนสหสฺสโตปิ โยชนสตสหสฺสโตปิ จกฺกวาฬโตปิ ทฺเวตีณิจตฺตาริปฺจทสวีสติจตฺตาลีสสหสฺสโตปิ ตโต อติเรกโตปิ จกฺกวาฬโต ปสฺสนฺติ ทกฺขนฺติ. อาสนฺนาปิ น ทิสฺสนฺตีติ สมีเป ิตาปิ นิสินฺนาปิ น ปฺายนฺติ. เจตสาปิ จิตฺตํ ปชานนฺตีติ อตฺตโน จิตฺเตนาปิ ปเรสํ จิตฺตํ ปชานนฺติ. เทวตาปิ โข สนฺติ อิทฺธิมนฺตินิโยติ เทวตาปิ เอวํ สํวิชฺชนฺติ อิชฺฌนปภาววนฺตินิโย. ปรจิตฺตวิทุนิโยติ ปเรสํ จิตฺตํ ชานนฺติโย. โอฬาริเกหิ วา กิเลเสหีติ กายทุจฺจริตาทิเกหิ วา อุปตาเปหิ. มชฺฌิเมหิ วาติ กามวิตกฺกาทิเกหิ วา. สุขุเมหิ วาติ าติวิตกฺกาทิเกหิ วา. กายทุจฺจริตาทโย กมฺมปถวเสน ¶ , กามวิตกฺกาทโย วฏฺฏมูลกกิเลสวเสน เวทิตพฺพา.
าติวิตกฺกาทีสุ ¶ ‘‘มยฺหํ าตโย สุขชีวิโน สมฺปตฺติยุตฺตา’’ติ เอวํ ปฺจกามคุณสนฺนิสฺสิเตน เคหสนฺนิสฺสิตเปเมน าตเก อารพฺภ อุปฺปนฺนวิตกฺโก าติวิตกฺโก. ‘‘มยฺหํ าตโย ขยํ คตา วยํ คตา สทฺธา ปสนฺนา’’ติ เอวํ ปวตฺโต ปน าติวิตกฺโก นาม น โหติ.
‘‘อมฺหากํ ชนปโท สุภิกฺโข สมฺปนฺนสสฺโส’’ติ ตุฏฺมานสสฺส เคหสฺสิตเปมวเสน อุปฺปนฺนวิตกฺโก ชนปทวิตกฺโก. ‘‘อมฺหากํ ชนปเท มนุสฺสา สทฺธา ปสนฺนา ขยํ คตา วยํ คตา’’ติ เอวํ ปวตฺโต ปน ชนปทวิตกฺโก นาม น โหติ.
อมรตฺตาย วิตกฺโก, อมโร วา วิตกฺโกติ อมรวิตกฺโก. ตตฺถ อุกฺกุฏิกปฺปธานาทีหิ ทุกฺเข นิชิณฺเณ สมฺปราเย อตฺตา สุขี โหติ. อมโรติ ¶ ทุกฺกรการิกํ กโรนฺตสฺส ตาย ทุกฺกรการิกาย ปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก อมรตฺตาย วิตกฺโก นาม. ทิฏฺิคติโก ปน ‘‘สสฺสตํ วเทสี’’ติอาทีนิ ปุฏฺโ ‘‘เอวนฺติปิ เม โน, ตถาติปิ เม โน, อฺถาติปิ เม โน, โนติปิ เม โน, โน โนติปิ เม โน’’ติ วิกฺเขปํ อาปชฺชติ, ตสฺส โส ทิฏฺิคตปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก, ยถา อมโร นาม มจฺโฉ อุทเก คเหตฺวา มาเรตุํ น สกฺกา, อิโต จิโต จ ธาวติ คาหํ น คจฺฉติ, เอวเมว เอกสฺมึ ปกฺเข อสณฺหนโต น มรตีติ อมโร นาม โหติ, ตํ ทุวิธมฺปิ เอกโต กตฺวา ‘‘อมรวิตกฺโก’’ติ วุตฺตํ.
ปรานุทฺทยตาปฏิสฺุตฺโตติ อนุทฺทยตาปฏิรูปเกน เคหสฺสิตเปเมน ปฏิสํยุตฺโต. อุปฏฺาเกสุ นนฺทเกสุ โสจนฺเตสุ จ เตหิ สทฺธึ ทิคุณํ นนฺทติ ทิคุณํ โสจติ, เตสุ สุขิเตสุ ทิคุณํ สุขิโต โหติ, ทุกฺขิเตสุ ทิคุณํ ทุกฺขิโต โหติ. อุปฺปนฺเนสุ กิจฺจกรณีเยสุ อตฺตนา โวโยคํ อาปชฺชติ. ตานิ ตานิ กิจฺจานิ สาเธนฺโต ปฺตฺตึ วีติกฺกมติ, สลฺเลขํ โกเปติ. โย ตสฺมึ สํสฏฺวิหาเร ตสฺมึ วา โวโยคาปชฺชเน เคหสฺสิโต วิตกฺโก, อยํ ปรานุทฺทยตาปฏิสฺุตฺโต วิตกฺโก นาม.
ลาภสกฺการสิโลกปฏิสฺุตฺโตติ จีวราทิลาเภน เจว สกฺกาเรน จ กิตฺติสทฺเทน จ สทฺธึ อารมฺมณกรณวเสน ปฏิสฺุตฺโต. อนวฺตฺติปฏิสฺุตฺโตติ ¶ ‘‘อโห วต มํ ปเร น อวชาเนยฺยุํ, น โสเธตฺวา วิโสเธตฺวา กเถยฺยุ’’นฺติ เอวํ อนวฺาตภาวปตฺถนาย สทฺธึ อุปฺปชฺชนกวิตกฺโก ¶ . โส ตสฺมึ ‘‘มา มํ ปเร อวชานึสู’’ติ อุปฺปนฺเน วิตกฺเก ปฺจกามคุณสงฺขาตเคหนิสฺสิโต หุตฺวา อุปฺปนฺนวิตกฺโก อนวฺตฺติปฏิสฺุตฺโต วิตกฺโก.
ตตฺร ตตฺร สชฺชตีติ เตสุ เตสุ อารมฺมเณสุ ลคฺคติ. ตตฺร ตตฺร คณฺหาตีติ วุตฺตปฺปการํ อารมฺมณํ ปวิสติ. พชฺฌตีติ เตหิ เตหิ อารมฺมเณหิ สทฺธึ พชฺฌติ เอกีภวติ. อนยพฺยสนนฺติ ตตฺถ ตตฺถ อวฑฺฒึ วินาสํ. อาปชฺชตีติ ปาปุณาติ.
อามิสจกฺขุกสฺสาติ ¶ จีวราทิอามิสโลลสฺส. โลกธมฺมครุกสฺสาติ โลกุตฺตรธมฺมํ มฺุจิตฺวา รูปาทิโลกธมฺมเมว ครุํ กตฺวา จรนฺตสฺส. อาลปนาติ วิหารํ อาคตมนุสฺเส ทิสฺวา ‘‘กิมตฺถาย โภนฺโต อาคตา, กึ ภิกฺขู นิมนฺเตตุํ, ยทิ เอวํ คจฺฉถ, อหํ ปจฺฉโต ภิกฺขู คเหตฺวา อาคจฺฉามี’’ติ เอวํ อาทิโตว ลปนา. อถ วา อตฺตานํ อุปเนตฺวา ‘‘อหํ ติสฺโส, มยิ ราชา ปสนฺโน, มยิ อสุโก จ อสุโก จ ราชมหามตฺโต ปสนฺโน’’ติ เอวํ อตฺตุปนายิกา ลปนาติ อาลปนา. ลปนาติ ปุฏฺสฺส สโต วุตฺตปฺปการเมว ลปนํ.
สลฺลปนาติ คหปติกานํ อุกฺกณฺเน ภีตสฺส โอกาสํ ทตฺวา สุฏฺุ ลปนา. อุลฺลปนาติ ‘‘มหากุฏุมฺพิโก มหานาวิโก มหาทานปตี’’ติ เอวํ อุทฺธํ กตฺวา ลปนา. สมุลฺลปนาติ สพฺพโต ภาเคน อุทฺธํ กตฺวา ลปนา. อุนฺนหนาติ ‘‘อุปาสกา ปุพฺเพ อีทิเส กาเล นวทานํ เทถ, อิทานิ กึ น เทถา’’ติ เอวํ ยาว ‘‘ทสฺสาม ภนฺเต, โอกาสํ น ลภามา’’ติอาทีนิ วทนฺติ, ตาว อุทฺธํ อุทฺธํ นหนา, เวนาติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา อุจฺฉุหตฺถํ ทิสฺวา ‘‘กุโต อาภตํ อุปาสกา’’ติ ปุจฺฉติ. อุจฺฉุเขตฺตโต ภนฺเตติ. กึ ตตฺถ อุจฺฉุ มธุรนฺติ. ขาทิตฺวา ภนฺเต ชานิตพฺพนฺติ. น อุปาสกา ‘‘ภิกฺขุสฺส อุจฺฉุํ เทถา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ ยา เอวรูปา นิพฺเพเนฺตสฺสปิ นิเวนกกถา, สา อุนฺนหนา. สพฺพโต ภาเคน ปุนปฺปุนํ อุนฺนหนา สมุนฺนหนา. อุกฺกาจนาติ ¶ ‘‘เอตํ กุลํ มํเยว ชานาติ, สเจ เอตฺถ เทยฺยธมฺโม อุปฺปชฺชติ, มยฺหํเยว เทตี’’ติ เอวํ อุกฺขิปิตฺวา กาจนา อุกฺกาจนา, อุทฺทีปนาติ วุตฺตํ โหติ. สพฺพโต ภาเคน ปน ปุนปฺปุนํ อุกฺกาจนา สมุกฺกาจนา. อนุปฺปิยภาณิตาติ ปจฺจยวเสน ปุนปฺปุนํ ปิยวจนภณนา. สณฺหวาจตาติ มุทุวจนตา. สขิลวาจตาติ มนฺทปมาณยุตฺตวจนตา สิถิลวจนตา วา. สิถิลวาจตาติ อลฺลียวจนตา. อผรุสวาจตาติ มธุรวจนตา.
ปุราณํ มาตาเปตฺติกนฺติ ปุเร อุปฺปนฺนํ มาตาปิตูนํ สนฺตกํ. อนฺตรหิตนฺติ ปฏิจฺฉนฺนํ ติโรภูตํ ¶ . ายามีติ ปากโฏ โหมิ. อสุกสฺส กุลูปโกติ อสุกสฺส อมจฺจสฺส กุลปยิรุปาสโก. อสุกายาติ อสุกาย อุปาสิกาย. มํ อุชฺฌิตฺวาติ มํ วิสฺสชฺชิตฺวา.
๑๖๕. ปยุตฺตนฺติ ¶ จีวราทีหิ สมฺปยุตฺตํ, ตทตฺถํ วา ปโยชิตํ. อิมิสฺสา คาถาย นิทฺเทโส สพฺโพ เหฏฺา วุตฺตนโยว.
๑๖๖. โมสวชฺเช น นิยฺเยถาติ มุสาวาเท น นิยฺเยถ.ชีวิเตนาติ ชีวิกาย.
สโติ อสนฺตคุณทีปนโต น สมฺมา ภาสิตา. สพฺพโต ภาเคน สโ ปริสโ. ยํ ตตฺถาติ ยํ ตสฺมึ ปุคฺคเล. สนฺติ อสนฺตคุณทีปนํ เกราฏิยํ. สตาติ สากาโร. สาเยฺยนฺติ สภาโว. กกฺกรตาติ ปทุมนาฬสฺส วิย อปรามสนกฺขโม ผรุสภาโว. กกฺกริยนฺติปิ ตสฺเสว เววจนํ. ปริกฺขตฺตตา ปาริกฺขตฺติยนฺติ ปททฺวเยน นิขณิตฺวา ปิตํ วิย ทฬฺหเกราฏิยํ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘กกฺกรตาติ สมฺภาวยิตฺวา วจนํ. กกฺกริยนฺติ สมฺภาวยิตฺวา วจนภาโว. ปริกฺขตฺตตาติ อลงฺกรณากาโร. ปาริกฺขตฺติยนฺติ อลงฺกรณภาโว’’ติ อตฺถํ วณฺณยนฺติ. อิทํ วุจฺจตีติ อิทํ อตฺตโน อวิชฺชมานคุณปฺปกาสนลกฺขณํ สาเยฺยํ นาม วุจฺจติ. เยน สมนฺนาคตสฺส ปุคฺคลสฺส กุจฺฉึ วา ปิฏฺึ วา ชานิตุํ น สกฺกา.
‘‘วาเมน ¶ สูกโร โหติ, ทกฺขิเณน อชามิโค;
สเรน เนลโก โหติ, วิสาเณน ชรคฺคโว’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๒๙๖; วิภ. อฏฺ. ๘๙๔) –
เอวํ วุตฺตยกฺขสูกรสทิโส โหติ. อติมฺตีติ อติกฺกมิตฺวา มฺติ.
กึ ปนายํ พหุลาชีโวติ อยํ ปน ปุคฺคโล โก นาม พหุลาชีวโก. สพฺพํ สํภกฺเขตีติ ลทฺธํ สพฺพํ ขาทติ. อปฺปปฺุโติ มนฺทปฺุโ. อปฺเปสกฺโขติ ปริวารวิรหิโต. ปฺาสมฺปนฺโนติ สมฺปนฺนปฺโ ปริปุณฺณปฺโ. ปฺหํ วิสฺสชฺเชตีติ ปฺหํ กเถติ พฺยากโรติ.
๑๖๗. สุตฺวา รุสิโต พหุํ วาจํ, สมณานํ วา ปุถุชนานนฺติ รุสิโต ฆฏฺฏิโต ปเรหิ เตสํ ¶ สมณานํ วา ขตฺติยาทิเภทานํ วา อฺเสํ ปุถุชนานํ พหุมฺปิ อนิฏฺํ วาจํ สุตฺวา. น ปฏิวชฺชาติ น ปฏิวเทยฺย. กึ การณา? น หิ สนฺโต ปฏิเสนึ กโรนฺติ.
กกฺขเฬนาติ ¶ ทารุเณน. สนฺโตติ นิพฺพุตกิเลสา. ปฏิเสนินฺติ ปฏิสตฺตุํ. ปฏิมลฺลนฺติ ปฏิโยธํ. ปฏิกณฺฏกนฺติ ปฏิเวรึ. ปฏิปกฺขนฺติ กิเลสปฏิปกฺขํ, กิเลสวเสน สงฺคํ น กโรนฺตีติ อตฺโถ.
๑๖๘. เอตฺจ ธมฺมมฺายาติ สพฺพเมตํ ยถาวุตฺตํ ธมฺมํ ตฺวา. วิจินนฺติ วิจินนฺโต. สนฺตีติ นิพฺพุตึ ตฺวาติ นิพฺพุตึ ราคาทีนํ สนฺตีติ ตฺวา.
สมฺจาติ กายสุจริตาทึ. วิสมฺจาติ กายทุจฺจริตาทึ. ปถฺจาติ ทสกุสลกมฺมปถํ. วิปถฺจาติ ทสอกุสลกมฺมปถํ. สาวชฺชฺจาติ อกุสลฺจ. อนวชฺชฺจาติ กุสลฺจ. หีนปณีตกณฺหสุกฺกวิฺูครหิตวิฺูปสตฺถนฺติ อิทมฺปิ กุสลากุสลเมว. ตตฺถ กายสุจริตาทิ สมกรณโต สมํ. กายทุจฺจริตาทิ วิสมกรณโต วิสมํ. ทสกุสลกมฺมปถา สุคติคมนปถตฺตา ปถํ. ทสอกุสลกมฺมปถา สุคติคมนปฏิปกฺขตฺตา อปายคมนปถตฺตา วิปถํ. อกุสลํ สโทสตฺตา สาวชฺชํ. กุสลํ นิทฺโทสตฺตา อนวชฺชํ. ตถา โมเหน วา โทสโมเหน วา โลภโมเหน วา สมฺปยุตฺตตฺตา หีนํ ¶ . อโลภอโทสอโมหสมฺปยุตฺตตฺตา ปณีตํ. กณฺหวิปากตฺตา กณฺหํ. สุกฺกวิปากตฺตา สุกฺกํ. พุทฺธาทีหิ วิฺูหิ ครหิตตฺตา วิฺูครหิตํ. เตหิ เอว โถมิตตฺตา วิฺูปสตฺถนฺติ าตพฺพํ.
๑๖๙. กึ การณา นปฺปมชฺเชยฺย อิติ เจ – อภิภู หิ โสติ คาถา. ตตฺถ อภิภูติ รูปาทีนํ อภิภวิตา. อนภิภูโตติ เตหิ อนภิภูโต. สกฺขิธมฺมมนีติหมทฺทสีติ ปจฺจกฺขเมว อนีติหํ ธมฺมํ อทฺทกฺขิ. สทา นมสฺส’มนุสิกฺเขติ สทา นมสฺสนฺโต ติสฺโส สิกฺขาโย สิกฺเขยฺย.
เกหิจิ กิเลเสหีติ เกหิจิ ราคาทิอุปตาปกเรหิ กิเลเสหิ. อภิโภสิ เนติ เต กิเลเส อภิภวิ. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.
เกวลํ ปน เอตฺถ ‘‘จกฺขูหิ เนว โลโล’’ติอาทีหิ อินฺทฺริยสํวโร, ‘‘อนฺนานมโถ ปานาน’’นฺติอาทีหิ สนฺนิธิปฏิกฺเขปมุเขน ปจฺจยปฏิเสวนสีลํ, เมถุนโมสวชฺชเปสุณิยาทีหิ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ ¶ , ‘‘อาถพฺพณํ สุปินํ ลกฺขณ’’นฺติอาทีหิ อาชีวปาริสุทฺธิสีลํ, ‘‘ฌายี น ปาทโลลสฺสา’’ติ อิมินา สมาธิ, ‘‘วิจินํ ภิกฺขู’’ติ อิมินา ปฺา, ‘‘สทา สโต ¶ สิกฺเข’’ติ อิมินา ปุน สงฺเขปโต ติสฺโสปิ สิกฺขา, ‘‘อถ อาสเนสุ สยเนสุ, อปฺปสทฺเทสุ ภิกฺขุ วิหเรยฺย, นิทฺทํ น พหุลีกเรยฺยา’’ติอาทีหิ สีลสมาธิปฺานํ อุปการานุปการสงฺคณฺหนวิโนทนานิ วุตฺตานีติ. เอวํ ภควา นิมฺมิตสฺส ปริปุณฺณปฏิปทํ วตฺวา อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ, เทสนาปริโยสาเน ปุราเภทสุตฺเต (มหานิ. ๘๓ อาทโย) วุตฺตสทิโสเยวาภิสมโย อโหสีติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย
ตุวฏกสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๕. อตฺตทณฺฑสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๑๗๐. ปนฺนรสเม ¶ ¶ อตฺตทณฺฑสุตฺตนิทฺเทเส อตฺตทณฺฑา ภยํ ชาตนฺติ ปมคาถาย อตฺโถ – ยํ โลกสฺส ทิฏฺธมฺมิกํ วา สมฺปรายิกํ วา ภยํ ชาตํ, ตํ สพฺพํ อตฺตทณฺฑา ภยํ ชาตํ อตฺตโน ทุจฺจริตการณา ชาตํ, เอวํ สนฺเตปิ ชนํ ปสฺสถ เมธคํ, อิมํ สากิยาทิชนํ ปสฺสถ อฺมฺํ เมธคํ หึสกํ พาธกนฺติ. เอวํ ตํ ปฏิวิรุทฺธํ วิปฺปฏิปนฺนํ ชนํ ปริภาสิตฺวา อตฺตโน สมฺมา ปฏิปตฺติทสฺสเนน ตสฺส สํเวคํ ชเนตุํ อาห ‘‘สํเวคํ กิตฺตยิสฺสามิ, ยถา สํวิชิตํ มยา’’ติ. ปุพฺเพ โพธิสตฺเตเนว สตาติ อธิปฺปาโย.
ตโยติ คณนปริจฺเฉโท. ทณฺฑาติ ทุจฺจริตา. กายทณฺโฑติ กายทุจฺจริตํ. วจีทณฺฑาทีสุปิ เอเสว นโย. ติวิธํ กายทุจฺจริตนฺติ ปาณาติปาตาทิกายโต ปวตฺตํ ทุฏฺุํ จริตํ, กิเลสปูติกตฺตา วา ทุฏฺุ จริตนฺติ ลทฺธนามํ ติวิธํ ทุจฺจริตํ กายทุจฺจริตํ. จตุพฺพิธนฺติ มุสาวาทาทิจตุพฺพิธํ. ติวิธนฺติ อภิชฺฌาทิติวิธํ. ทิฏฺธมฺมิกนฺติ ทิฏฺเว ธมฺเม อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ปฏิสํเวทนียํ. สมฺปรายิกนฺติ อนาคเต อตฺตภาเว ปฏิสํเวทนียํ. อาคุจารีติ ปาปการี อปราธการี. ตเมนํ ราชา ปริภาสตีติ ปาปการึ ราชา ปริภาสติ, ภยํ อุปฺปาเทติ. ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทตีติ กายิกํ ทุกฺขํ เจตสิกํ โทมนสฺสํ วินฺทติ. เอตํ ภยํ ทุกฺขํ โทมนสฺสนฺติ เอวรูปํ ภยฺจ ทุกฺขฺจ โทมนสฺสฺจ. กุโต ตสฺสาติ ¶ ตสฺส โจรสฺส กุโต อุปฺปนฺนํ. อตฺตทณฺฑโต ชาตนฺติ อตฺตนา กตทุจฺจริตโต อุปฺปนฺนํ.
อนฺตมโสติ เหฏฺิมโต. สวจนียมฺปิ กโรติ ‘‘น ¶ เต ลพฺภา อิโต ปกฺกมิตุ’’นฺติ อิโต อิมมฺหา คามาทินา คนฺตุํ น ลพฺภา. น สกฺกา พหิ นิกฺขมิตุนฺติ ปลิโพธํ สงฺคํ กโรติ. ธนชานิปจฺจยาปีติ ธนปริหานิการณาปิ. ราชา ตสฺส วิวิธา กมฺมการณา การาเปติ. กสาหิปิ ตาเฬตีติ กสาทณฺฑเกหิ โปเถติ. เวตฺเตหิปิ ตาเฬตีติ สกณฺฏกเวตฺตลตาหิ โปเถติ. อฑฺฒทณฺฑเกหีติอาทโย เหฏฺา วุตฺตนยาเยว. สุนเขหิปิ ขาทาเปตีติ ¶ กติปยานิ ทิวสานิ อาหาเร อทตฺวา ฉาตสุนเขหิ ขาทาเปติ. เต มุหุตฺเตน อฏฺิกสงฺขลิกเมว กโรติ. สูเล อุตฺตาเสตีติ สูลํ อาโรเปติ. ราชา อิเมสํ จตุนฺนํ ทณฺฑานํ อิสฺสโรติ อิมาสํ จตุนฺนํ อาณานํ กาตุํ ราชา สมตฺโถ.
สเกน กมฺเมนาติ สยํกเตน กมฺเมน. ตเมนํ นิรยปาลาติ เอตฺถ เอกจฺเจ เถรา ‘‘นิรยปาลา นาม นตฺถิ, ยนฺตรูปํ วิย กมฺมเมว การณํ กาเรตี’’ติ วทนฺติ. เตสํ ตํ ‘‘อตฺถิ นิรเยสุ นิรยปาลาติ, อามนฺตา. อตฺถิ จ การณิกา’’ติอาทินา นเยน อภิธมฺเม (กถา. ๘๖๖ อาทโย) ปฏิเสธิตเมว. ยถา หิ มนุสฺสโลเก กมฺมการณการกา อตฺถิ, เอวเมว นิรเยสุ นิรยปาลา อตฺถีติ. ตตฺตํ อโยขิลนฺติ ติคาวุตํ อตฺตภาวํ สมฺปชฺชลิตาย โลหปถวิยา อุตฺตานกํ นิปชฺชาเปตฺวา ทกฺขิณหตฺเถ ตาลปฺปมาณํ อยสูลํ ปเวเสนฺติ, ตถา วามหตฺถาทีสุ. ยถา จ อุตฺตานกํ นิปชฺชาเปตฺวา เอวํ อุเรนปิ วามปสฺเสนปิ ทกฺขิณปสฺเสนปิ นิปชฺชาเปตฺวา ตํ กมฺมการณํ กโรนฺติเยว.
สํเวเสตฺวาติ ชลิตาย โลหปถวิยา ติคาวุตํ อตฺตภาวํ นิปชฺชาเปตฺวา. กุารีหีติ มหตีหิ เคหจฺฉาทนสฺส เอกปกฺขมตฺตาหิ กุารีหิ ตจฺเฉนฺติ, โลหิตํ นที หุตฺวา สนฺทติ, โลหปถวิโต ชาลา อุฏฺหิตฺวา ตจฺฉิตฏฺานํ คณฺหาติ, มหาทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, ตจฺฉนฺตา ปน สุตฺตาหตํ กริตฺวา ทารุ วิย อฏฺํสมฺปิ ฉฬํสมฺปิ กโรนฺติ. วาสีหีติ มหาสุปฺปปมาณาหิ ¶ วาสีหิ. รเถ โยเชตฺวาติ สทฺธึ ยุคโยตฺตอุปกฺขรจกฺกกุพฺพรปาชเนหิ สพฺพโต ¶ ปชฺชลิเต รเถ โยเชตฺวา. มหนฺตนฺติ มหากูฏาคารปฺปมาณํ. อาโรเปนฺตีติ สมฺปชฺชลิเตหิ อยมุคฺคเรหิ โปเถนฺตา อาโรเปนฺติ. สกิมฺปิ อุทฺธนฺติ สุปกฺกุตฺถิตาย อุกฺขลิยา ปกฺขิตฺตตณฺฑุลํ วิย อุทฺธํ อโธ ติริยฺจ คจฺฉติ. มหานิรเยติ อวีจิมหานิรยมฺหิ.
จตุกฺกณฺโณติ จตุรสฺสมฺชูสาสทิโส. วิภตฺโตติ จตุทฺวารวเสน วิภตฺโต. ภาคโส มิโตติ ทฺวารวีถีนํ วเสน ภาเค เปตฺวา เปตฺวา วิภตฺโต. ปริยนฺโตติ ปริกฺขิตฺโต. อยสาติ อุปริ นวโยชนิเกน อยปตฺเตน ฉาทิโต. สมนฺตา โยชนสตํ ผริตฺวา ติฏฺตีติ เอวํ ผริตฺวา ติฏฺติ, ยถา สมนฺตา โยชนสเต ตฺวา โอโลเกนฺตสฺส อกฺขีนิ ยมกโคฬกา วิย นิกฺขมนฺติ. กทริยาตปนาติ สพฺเพปิ เต อุสฺสเทหิ สทฺธึ อฏฺ มหานิรยา กทริยา นิจฺจํ ตปนฺตีติ กทริยาตปนา. พลวทุกฺขตาย โฆรา. กปฺปฏฺิกานํ อจฺจีนํ อตฺถิตาย อจฺจิมนฺโต. อาสาเทตุํ ฆฏฺเฏตุํ ทุกฺกรตาย ทุราสทา. ทิฏฺมตฺตา วา สุตมตฺตา วา โลมานิ หํเสนฺตีติ โลมหํสนรูปา. ภีสนตาย ภิสฺมา. ภยชนนตาย ปฏิภยา. สุขาภาเวน ทุขา.
ปุรตฺถิมาย ¶ ภิตฺติยาติอาทิคาถานํ เอวํ อวีจินิรโยติ ปริยนฺตํ กตฺวา อยํ สงฺเขปตฺโถ – อคฺคิชาลานํ วา ปน สตฺตานํ วา เตสํ ทุกฺขสฺส วา วีจิ อนฺตรํ นตฺถิ เอตฺถาติ อวีจิ. ตตฺร หิ ปุรตฺถิมาทีหิ ภิตฺตีหิ ชาลาราสิ อุฏฺหิตฺวา ปาปกมฺมิโน ปุคฺคเล ฌาเปนฺโต ปจฺฉิมาทีสุ ภิตฺตีสุ ปฏิหฺติ ปหรติ, ตา จ ภิตฺติโย วินิวิชฺฌิตฺวา ปรโต โยชนสตํ คณฺหาติ, เหฏฺา อุฏฺิตา อุปริ ปฏิหฺติ, อุปริ อุฏฺิตา เหฏฺา ปฏิหฺติ. เอวํ ตาเวตฺถ ชาลานํ วีจิ นาม นตฺถิ. ตสฺส ปน อนฺโต โยชนสตฏฺานํ ขีรวลฺลิปิฏฺสฺส ปูริตนาฬิ วิย สตฺเตหิ นิรนฺตรํ ปูริตํ จตูหิ อิริยาปเถหิ ปจฺจนฺตานํ สตฺตานํ ปมาณํ นตฺถิ, น จ อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺติ, สกสกฏฺาเนเยว ปจฺจนฺติ. เอวเมตฺถ สตฺตานํ วีจิ นาม นตฺถิ. ยถา ปน ชิวฺหคฺเค ฉ มธุพินฺทูนิ สตฺตมสฺส ตมฺพโลหพินฺทุโน อนุทหนพลวตาย อพฺโพหาริกานิ โหนฺติ, ตถา ตตฺถ ¶ อนุทหนพลวตาย เสสา ¶ ฉ อกุสลวิปากุเปกฺขา อพฺโพหาริกา โหนฺติ, ทุกฺขเมว นิรนฺตรํ ปฺายติ. เอวเมตฺถ ทุกฺขสฺส วีจิ นาม นตฺถิ. นิรสฺสาทฏฺเน นิรโย.
ตตฺถ สตฺตา มหาลุทฺทาติ ตสฺมึ นิพฺพตฺตา สตฺตา มหนฺตา ลุทฺทา. มหากิพฺพิสการิโนติ มหนฺตทารุณกมฺมการิโน. อจฺจนฺตปาปกมฺมนฺตาติ เอกํเสน ปาปกมฺมิโน. ปจฺจนฺติ น จ มิยฺยเรติ ฉนฺนํ ชาลานมนฺตเร ปจฺจนฺติ, น จ มิยฺยนฺติ. ชาตเวทสโม กาโยติ เตสํ สรีรํ อคฺคิสทิสํ. เตสํ นิรยวาสินนฺติ เตสํ ปาปกมฺมานํ นิรยวาสีนํ. ปสฺส กมฺมานํ ทฬฺหตฺตนฺติ ปาปกมฺมานํ ถิรภาวํ โอโลเกหิ. น ภสฺมา โหติ นปี มสีติ ฉาริกาปิ น โหติ องฺคาโรปิ. ปุรตฺถิเมนาติ ยทา ตํ ทฺวารํ อปารุตํ โหติ, อถ ตทภิมุขา ธาวนฺติ, เตสํ ตตฺถ ฉวิอาทีนิ ฌายนฺติ. ทฺวารสมีปํ ปตฺตานฺจ เตสํ ตํ ปีธียติ, ปจฺฉิมํ อปารุตํ วิย ขายติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อภินิกฺขมิตาสา เตติ นิรยา นิกฺขมิตุํ อาสา เอเตสนฺติ นิกฺขมิตาสา. โมกฺขคเวสิโนติ มฺุจนุปายํ เอสนฺตา คเวสนฺตาปิ. น เต ตโต นิกฺขมิตุํ, ลภนฺติ กมฺมปจฺจยาติ เต สตฺตา นิรยโต นิกฺขมนทฺวารํ ปาปกมฺมปจฺจยา นาธิคจฺฉนฺติ. เตสฺจ ปาปกมฺมนฺตํ, อวิปกฺกํ กตํ พหุนฺติ เตสฺจ สตฺตานํ ลามกํ ทารุณกมฺมํ อวิปากํ พหุวิธํ นานปฺปการํ อทินฺนวิปากํ กตํ อุปจิตํ อตฺถิ.
สํเวคนฺติ วินิลนํ. อุพฺเพคนฺติ ิตฏฺานโต คมนํ. อุตฺราสนฺติ อุพฺเพชนํ อสนฺนิฏฺานํ. ภยนฺติ จิตฺตุตฺราสนํ. ปีฬนนฺติ ฆฏฺฏนํ. ฆฏฺฏนนฺติ ปีฬากรณํ. อุปทฺทวนฺติ อีตึ. อุปสคฺคนฺติ รุนฺธนํ.
๑๗๑. อิทานิ ¶ ยถาเนน สํวิชิตํ, ตํ ปการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ผนฺทมาน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ผนฺทมานนฺติ ตณฺหาทิฏฺีหิ กมฺปมานํ. อปฺโปทเกติ อปฺเป อุทเก. อฺมฺเหิ พฺยารุทฺเธ ¶ ทิสฺวาติ นานาสตฺเต จ อฺมฺเหิ สทฺธึ วิรุทฺเธ ทิสฺวา. มํ ภยมาวิสีติ มํ ภยํ ปวิฏฺํ.
กิเลสผนฺทนาย ผนฺทมานนฺติ ราคาทิกิเลสจลนาย จลมานํ. ปโยโคติ กายวจีมโนปโยโค.
วิรุทฺธาติ วิโรธมาปนฺนา. ปฏิวิรุทฺธาติ ปฏิมุขํ หุตฺวา วิโรธมาปนฺนา, สุฏฺุ วิรุทฺธา วา. อาหตาติ โกเธน อาหตา ปหตา. ปจฺจาหตาติ ¶ ปฏิมลฺลา หุตฺวา อาหตา. อาฆาติตาติ ฆฏฺฏิตา. ปจฺจาฆาติตาติ วิเสเสน ฆฏฺฏิตา. ปาณีหิปิ อุปกฺกมนฺตีติ หตฺเถหิปิ ปหรนฺติ.
๑๗๒. สมนฺตมสาโร โลโกติ นิรยํ อาทึ กตฺวา สมนฺตโต โลโก อสาโร นิจฺจสาราทิรหิโต. ทิสา สพฺพา สเมริตาติ สพฺพา ทิสา อนิจฺจตาย กมฺปิตา. อิจฺฉํ ภวนมตฺตโนติ อตฺตโน ตาณํ อิจฺฉนฺโต. นาทฺทสาสึ อโนสิตนฺติ กิฺจิ านํ ชราทีหิ อนชฺฌาวุฏฺํ นาทฺทกฺขินฺติ.
อสาโรติ น สาโร, สารวิรหิโต วา. นิสฺสาโรติ สพฺเพน สพฺพํ สารวิรหิโต. สาราปคโตติ สารโต อปคโต. นิจฺจสารสาเรน วาติ สตตสารสงฺขาเตน สาเรน วา. อุปริปททฺวเยปิ เอเสว นโย. เย ปุรตฺถิมาย ทิสาย สงฺขาราติ เย ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปจฺจเยหิ สงฺคมฺม สมาคมฺม กตา สงฺขารา. เตปิ เอริตาติ เตปิ สงฺขารา กมฺปิตา. สเมริตาติ สมฺมา กมฺปิตา. จลิตาติ จลนํ คตา. ฆฏฺฏิตาติ อุทยพฺพเยน ปีฬิตา. อนิจฺจตายาติ หุตฺวา อภาวตาย. ชาติยา อนุคตาติ นิพฺพตฺติยา อนุปวิฏฺา. ชราย อนุสฏาติ ปริปกฺกตาย อนุปตฺถฏา. พฺยาธินา อภิภูตาติ จาตุวิสเมน อุปฺปนฺนพฺยาธินา อชฺโฌตฺถฏา. มรเณน อพฺภาหตาติ มจฺจุนา อภิอาหตา ปหตา. อตาณาติ รกฺขวิรหิตา. อเลณาติ เลณวิรหิตา. อสรณาติ นตฺถิ เอเตสํ สรณนฺติ อสรณา. อสรณีภูตาติ สยํ สรณกิจฺจํ น กโรนฺตีติ อสรณีภูตา.
อตฺตโน ภวนนฺติ นิทฺเทสปทสฺส อุทฺเทสปทํ. ตาณนฺติ ปาลนํ. เลณนฺติ เลณฏฺานํ. สรณนฺติ ¶ ทุกฺขนาสนํ. คตินฺติ ปติฏฺํ. ปรายนนฺติ ปรํ อยนํ. อชฺโฌสิตํเยว ¶ อทฺทสนฺติ ชราทีหิ มทฺทิตํเยว อทฺทกฺขึ. สพฺพํ โยพฺพฺนฺติ โยพฺพนภาโว โยพฺพฺํ, สเจตนานํ สพฺพํ โยพฺพฺํ. ชราย โอสิตนฺติ ปริปากาย ชราย อวสิตํ มทฺทิตํ. เอวํ สพฺพตฺถ.
๑๗๓. โอสาเน ตฺเวว พฺยารุทฺเธ, ทิสฺวา เม อรตี อหูติ โยพฺพฺาทีนํ โอสาเนเยว อนฺตคมเก เอว วินาสเก เอว ชราทีหิ พฺยารุทฺเธ อาหตจิตฺเต ¶ สตฺเต ทิสฺวา อรติ เม อโหสิ. อเถตฺถ สลฺลนฺติ อถ เอเตสุ สตฺเตสุ ราคาทิสลฺลํ. หทยสฺสิตนฺติ จิตฺตนิสฺสิตํ.
โยพฺพฺํ ชรา โอสาเปตีติ ชรา อตฺถงฺคเมติ วินาเสติ. เอวํ สพฺพตฺถ.
๑๗๔. ‘‘กถํ อานุภาวํ สลฺล’’นฺติ เจ? เยน สลฺเลน โอติณฺโณติ คาถา. ตตฺถ ทิสา สพฺพา วิธาวตีติ สพฺพา ทุจฺจริตทิสาปิ ปุรตฺถิมาทิทิสาปิ วิทิสาปิ ธาวติ. ตเมว สลฺลมพฺพุยฺห, น ธาวติ น สีทตีติ ตเมว สลฺลํ อุทฺธริตฺวา ตา จ ทิสา น ธาวติ, จตุโรเฆ จ น สีทติ.
อฺาณนฺติอาทีสุ าณทสฺสนปฏิปกฺขโต อฺาณํ อทสฺสนํ. อภิมุโข หุตฺวา ธมฺเมน น สเมติ น สมาคจฺฉตีติ อนภิสมโย. อนุรูปโต ธมฺเม พุชฺฌตีติ อนุโพโธ. ตปฺปฏิปกฺขตาย อนนุโพโธ. อนิจฺจาทีหิ สทฺธึ โยเชตฺวา น พุชฺฌตีติ อสมฺโพโธ. อสนฺตํ อสมฺจ พุชฺฌตีติปิ อสมฺโพโธ. จตุสจฺจธมฺมํ น ปฏิวิชฺฌตีติ อปฺปฏิเวโธ. รูปาทีสุ เอกธมฺมมฺปิ อนิจฺจาทิสามฺโต น สงฺคณฺหาตีติ อสงฺคาหณา. ตเมว ธมฺมํ น ปริโยคาหตีติ อปริโยคาหณา. น สมํ เปกฺขตีติ อสมเปกฺขนา. ธมฺมานํ สภาวํ ปติ น อเปกฺขตีติ อปจฺจเวกฺขณา.
กุสลากุสลกมฺเมสุ วิปรีตวุตฺติยา สภาวคหณาภาเวน วา เอกมฺปิ กมฺมํ เอตสฺส ปจฺจกฺขํ นตฺถิ, สยํ วา กสฺสจิ ธมฺมสฺส ปจฺจกฺขกรณํ นาม น โหตีติ อปจฺจกฺขกมฺมํ. ยํ เอตสฺมึ อนุปฺปชฺชมาเน จิตฺตสนฺตานํ เมชฺฌํ ภเวยฺย สุจิ โวทานํ, ตํ ทุฏฺุํ เมชฺฌํ อิมินาติ ทุมฺเมชฺฌํ. พาลานํ ภาโว พาลฺยํ. มุยฺหตีติ โมโห. พลวตโร โมโห ปโมโห. สมนฺตโต ¶ มุยฺหตีติ สมฺโมโห. วิชฺชาย ปฏิปกฺขภาวโต น วิชฺชาติ อวิชฺชา. โอฆโยคตฺโถ วุตฺโตเยว. ถามคตฏฺเน อนุเสตีติ อนุสโย. จิตฺตํ ปริยุฏฺาติ อภิภวตีติ ปริยุฏฺานํ. หิตคฺคหณาภาเวน หิตาภิมุขํ คนฺตุํ น สกฺโกติ อฺทตฺถุ ลงฺคติเยวาติ ลงฺคี, ขฺชตีติ ¶ อตฺโถ. ทุรุคฺฆาฏนฏฺเน วา ลงฺคี. ยถา หิ มหาปลิฆสงฺขาตา ลงฺคี ทุรุคฺฆาฏา โหติ, เอวมยมฺปิ ลงฺคี วิยาติ ลงฺคี. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.
ยา ¶ เอวรูปา กงฺขาติ เอตฺถ กงฺขนวเสน กงฺขา. กงฺขํ อานยตีติ กงฺขายนา. ปุริมกงฺขา หิ อุตฺตรกงฺขํ อานยติ นาม. อาการวเสน วา เอตํ วุตฺตํ. กงฺขาสมงฺคิจิตฺตํ กงฺขาย อายิตตฺตา กงฺขายิตํ นาม. ตสฺส ภาโว กงฺขายิตตฺตํ. วิมตีติ วิคตา มติ วิมติ. วิจิกิจฺฉาติ วิคตา จิกิจฺฉา วิจิกิจฺฉา, สภาวํ วา วิจินนฺโต กิจฺฉติ กิลมติ เอตายาติ วิจิกิจฺฉา. สา สํสยลกฺขณา, กมฺปนรสา, อนิจฺฉยปจฺจุปฏฺานา, อเนกํสคฺคาหปจฺจุปฏฺานา วา, อโยนิโสมนสิการปทฏฺานา, ปฏิปตฺติยา อนฺตรายกราติ ทฏฺพฺพา.
กมฺปนฏฺเน ทฺวิธา เอฬยตีติ ทฺเวฬฺหกํ. ปฏิปตฺตินิวารเณน ทฺวิธาปโถ วิยาติ ทฺเวธาปโถ. ‘‘นิจฺจํ วา อิทํ อนิจฺจํ วา’’ติอาทิปวตฺติยา เอกสฺมึ อากาเร สณฺาตุํ อสมตฺถตาย สมนฺตโต เสตีติ สํสโย. เอกํสํ คเหตุํ อสมตฺถตาย น เอกํสคฺคาโหติ อเนกํสคฺคาโห. นิจฺเฉตุํ อสกฺโกนฺตี อารมฺมณโต โอสกฺกตีติ อาสปฺปนา. โอคาหิตุํ อสกฺโกนฺตี ปริสมนฺตโต สปฺปตีติ ปริสปฺปนา. ปริโยคาหิตุํ อสมตฺถตาย อปริโยคาหณา. นิจฺฉยวเสน อารมฺมเณ ปวตฺติตุํ อสมตฺถตาย ฉมฺภิตตฺตํ จิตฺตสฺส, ถทฺธภาโวติ อตฺโถ. วิจิกิจฺฉา หิ อุปฺปชฺชิตฺวา จิตฺตํ ถทฺธํ กโรติ, ยสฺมา ปน สา อุปฺปชฺชมานา อารมฺมณํ คเหตฺวา มนํ วิลิขนฺตี วิย, ตสฺมา มโนวิเลโขติ วุตฺตา.
วิทฺโธติ สลฺเลน ลทฺธปฺปหาโร. ผุฏฺโติ ฆฏฺฏิโต. ปเรโตติ ปีฬิโต. ธาวตีติ ปุรโต คจฺฉติ. วิธาวตีติ อเนกวิเธน ¶ คจฺฉติ. สนฺธาวตีติ เวเคน ธาวติ. สํสรตีติ อิโต จิโต จ จรติ.
อเจลโกติ นิจฺโจโล, นคฺโคติ อตฺโถ. มุตฺตาจาโรติ วิสฏฺาจาโร, อุจฺจารกมฺมาทีสุ โลกิยกุลปุตฺตาจาเรน วิรหิโต ิตโกว อุจฺจารํ กโรติ, ปสฺสาวํ กโรติ, ขาทติ ภฺุชติ. หตฺถาปเลขโนติ หตฺเถ ปิณฺฑมฺหิ ิเต ชิวฺหาย หตฺถํ อปลิขติ, อุจฺจารํ วา กตฺวา หตฺถมฺหิเยว ทณฺฑกสฺี หุตฺวา หตฺเถน อปลิขติ. เต กิร ทณฺฑกํ ‘‘สตฺโต’’ติ ปฺเปนฺติ. ภิกฺขาคหณตฺถํ ‘‘เอหิ ภทนฺเต’’ติ วุตฺโต น เอตีติ น เอหิภทนฺติโก. เตน หิ ‘‘ติฏฺ ¶ ภทนฺเต’’ติ วุตฺโตปิ น ¶ ติฏฺตีติ น ติฏฺภทนฺติโก. ตทุภยมฺปิ กิร โส ‘‘เอตสฺส วจนํ กตํ ภวิสฺสตี’’ติ น กโรติ.
อภิหฏนฺติ ปุเรตรํ คเหตฺวา อาหฏํ ภิกฺขํ. อุทฺทิสฺสกตนฺติ ‘‘อิทํ ตุมฺเห อุทฺทิสฺส กต’’นฺติ เอวํ อาโรจิตํ ภิกฺขํ. น นิมนฺตนนฺติ ‘‘อสุกํ นาม กุลํ วา วีถึ วา คามํ วา ปวิเสยฺยาถา’’ติ เอวํ นิมนฺติตภิกฺขมฺปิ น สาทิยติ น คณฺหาติ. น กุมฺภิมุขาติ กุมฺภิโต อุทฺธริตฺวา ทิยฺยมานํ ภิกฺขํ น คณฺหาติ. น กโฬปิมุขาติ กโฬปีติ อุกฺขลิ วา ปจฺฉิ วา, ตโตปิ น คณฺหาติ. กสฺมา? กุมฺภิกโฬปิโย มํ นิสฺสาย กฏจฺฉุนา ปหารํ ลภนฺตีติ. น เอฬกมนฺตรนฺติ อุมฺมารํ อนฺตรํ กริตฺวา ทิยฺยมานํ น คณฺหาติ. กสฺมา? อยํ มํ นิสฺสาย อนฺตรกรณํ ลภตีติ. ทณฺฑมุสเลสุปิ เอเสว นโย.
น ทฺวินฺนนฺติ ทฺวีสุ ภฺุชมาเนสุ เอกสฺมึ อุฏฺาย เทนฺเต น คณฺหาติ. กสฺมา? กพฬนฺตราโย โหตีติ. น คพฺภินิยาติอาทีสุ ปน ‘‘คพฺภินิยา กุจฺฉิยํ ทารโก กิลมตี’’ติ, ปายนฺติยา ทารกสฺส ขีรนฺตราโย โหตี’’ติ, ‘‘ปุริสนฺตรคตาย รติอนฺตราโย โหตี’’ติ น คณฺหาติ. น สํกิตฺตีสูติ สํกิตฺเตตฺวา กตภตฺเตสุ. ทุพฺภิกฺขสมเย กิร อเจลกสาวกา อเจลกานมตฺถาย ตโต ตโต ตณฺฑุลาทีนิ สมาทเปตฺวา ภตฺตํ ปจนฺติ, อุกฺกฏฺโ อเจลโก ตโตปิ น ปฏิคฺคณฺหาติ. น ยตฺถ สาติ ยตฺถ สุนโข ‘‘ปิณฺฑํ ลภิสฺสามี’’ติ อุปฏฺิโต โหติ, ตตฺถ ตสฺส อทตฺวา อาหฏํ น คณฺหาติ. กสฺมา? เอตสฺส ปิณฺฑนฺตราโย โหตีติ. สณฺฑสณฺฑจารินีติ สมูหสมูหจารินี ¶ . สเจ หิ อเจลกํ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺส ภิกฺขํ ทสฺสามา’’ติ มนุสฺสา ภตฺตเคหํ ปวิสนฺติ, เตสุ จ ปวิสนฺเตสุ กโฬปิมุขาทีสุ นิลีนา มกฺขิกา อุปฺปติตฺวา สณฺฑสณฺฑา จรนฺติ. ตโต อาหฏํ ภิกฺขํ น คณฺหาติ. กสฺมา? มํ นิสฺสาย มกฺขิกานํ โคจรนฺตราโย ชาโตติ. ถุโสทกนฺติ สพฺพสสฺสสมฺภาเรหิ กตํ โสวีรกํ. เอตฺถ จ สุราปานเมว สาวชฺชํ, อยํ ปน สพฺเพสุปิ สาวชฺชสฺี.
เอกาคาริโกติ โย เอกสฺมึเยว เคเห ภิกฺขํ ลภิตฺวา นิวตฺตติ. เอกาโลปิโกติ โย เอเกเนว อาโลเปน ยาเปติ. ทฺวาคาริกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอกิสฺสาปิ ทตฺติยาติ เอกาย ทตฺติยา. ทตฺติ นาม เอกา ขุทฺทกปาติ โหติ, ยตฺถ อคฺคภิกฺขํ ปกฺขิปิตฺวา เปนฺติ. เอกาหิกนฺติ ¶ เอกทิวสนฺตริกํ. อฑฺฒมาสิกนฺติ อฑฺฒมาสนฺตริกํ. ปริยายภตฺตโภชนนฺติ วารภตฺตโภชนํ ¶ , เอกาหวาเรน ทฺวีหวาเรน สตฺตาหวาเรน อฑฺฒมาสวาเรนาติ เอวํ ทิวสวาเรน อาภตํ ภตฺตโภชนํ.
สากภกฺโขติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. อุพฺภฏฺโกติ อุทฺธํ ิตโก. อุกฺกุฏิกปฺปธานมนุยุตฺโตติ อุกฺกุฏิกํ วีริยํ อนุยุตฺโต. คจฺฉนฺโตปิ อุกฺกุฏิโกว หุตฺวา อุปฺปติตฺวา อุปฺปติตฺวา คจฺฉติ. กณฺฏกาปสฺสยิโกติ อยกณฺฏเก วา ปกติกณฺฏเก วา ภูมิยํ โกฏฺเฏตฺวา ตตฺถ จมฺมํ อตฺถริตฺวา านจงฺกมาทีนิ กโรติ. เสยฺยนฺติ สยนฺโตปิ ตตฺเถว เสยฺยํ กปฺเปติ. ผลกเสยฺยนฺติ รุกฺขผลเก เสยฺยํ. ถณฺฑิลเสยฺยนฺติ ถณฺฑิเล อุจฺเจ ภูมิฏฺาเน เสยฺยํ. เอกปสฺสยิโกติ เอกปสฺเสเนว สยติ. รโชชลฺลธโรติ สรีรํ เตเลน มกฺเขตฺวา รชุฏฺานฏฺาเน ติฏฺติ, อถสฺส สรีเร รโชชลฺลํ ลคฺคติ, ตํ ธาเรติ. ยถาสนฺถติโกติ ลทฺธํ อาสนํ อโกเปตฺวา ยเทว ลภติ, ตตฺเถว นิสีทนสีโล. เวกฏิโกติ วิกฏขาทนสีโล, วิกฏนฺติ คูถํ วุจฺจติ. อปานโกติ ปฏิกฺขิตฺตสีตุทกปาโน. สายํ ตติยํ อสฺสาติ สายตติยกํ. ปาโต มชฺฌนฺหิเก สายนฺติ ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ ‘‘ปาปํ ¶ ปวาเหสฺสามี’’ติ อุทโกโรหนานุโยคํ อนุยุตฺโต วิหรติ.
เต สลฺเล อภิสงฺขโรตีติ เต ราคาทิสตฺตสลฺเล อภินิพฺพตฺเตติ. อภิสงฺขโรนฺโตติ อภินิพฺพตฺเตนฺโต. สลฺลาภิสงฺขารวเสนาติ สลฺลาภินิพฺพตฺตาปนการณา. ปุรตฺถิมํ ทิสํ ธาวตีติ ปุริมํ ทิสํ คจฺฉติ. เต สลฺลาภิสงฺขารา อปฺปหีนาติ เอเต ราคาทิสลฺลา ปโยคา นปฺปหีนา. สลฺลาภิสงฺขารานํ อปฺปหีนตฺตาติ สลฺลปโยคานํ อปฺปหีนภาเวน. คติยา ธาวตีติ คติยํ ธาวติ. คติยา คตินฺติ คติโต คตึ.
น สีทตีติ น นิมุชฺชติ. น สํสีทตีติ น สมนฺตโต มุชฺชติ. น โอสีทตีติ น โอสกฺกติ. น อวสีทตีติ น ปจฺโจสกฺกติ. น อวคจฺฉตีติ น เหฏฺา คจฺฉติ.
๑๗๕. เอวํ มหานุภาเวน สลฺเลน โอติณฺเณสุ จ สตฺเตสุ – ตตฺถ สิกฺขานุคียนฺติ, ยานิ โลเก คธิตานีติ คาถา. ตสฺสตฺโถ – เย โลเก ¶ ปฺจ กามคุณา ปฏิลาภาย คิชฺฌนฺตีติ กตฺวา ‘‘คธิตานี’’ติ วุจฺจนฺติ, จิรกาลเสวิตตฺตา วา ‘‘คธิตานี’’ติ วุจฺจนฺติ. ตตฺถ ตํ นิมิตฺตํ หตฺถิสิกฺขาทิกา อเนกา สิกฺขา กถียนฺติ, อุคฺคยฺหนฺติ วา. ปสฺสถ ยาว สมตฺโถ วายํ โลโก, ยโต ปณฺฑิโต กุลปุตฺโต เตสุ วา คธิเตสุ ตาสุ วา สิกฺขาสุ ¶ อธิมุตฺโต น สิยา, อฺทตฺถุ อนิจฺจาทิทสฺสเนน นิพฺพิชฺฌ สพฺพโส กาเม. อตฺตโน นิพฺพานเมว สิกฺเขติ.
ปฏิวิชฺฌิตฺวาติ าเณน นิกฺขเมตฺวา วา นิพฺพิชฺฌิตฺวา วา.
๑๗๖. อิทานิ ยถา นิพฺพานาย สิกฺขิตพฺพํ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สจฺโจ สิยา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สจฺโจติ วาจาสจฺเจน าณสจฺเจน มคฺคสจฺเจน จ สมนฺนาคโต. ริตฺตเปสุโณติ ปหีนเปสุโณ. เววิจฺฉนฺติ มจฺฉริยํ.
๑๗๗. นิทฺทํ ตนฺทึ สเห ถีนนฺติ ปจลายิกฺจ กายาลสิยฺจ จิตฺตาลสิยฺจาติ อิเม ตโย ธมฺเม อภิภเวยฺย. นิพฺพานมานโสติ นิพฺพานนินฺนจิตฺโต.
กายสฺส อกลฺยตาติ ขนฺธตฺตยสงฺขาตสฺส นามกายสฺส คิลานภาโว. คิลาโน หิ อกลฺลโกติ วุจฺจติ. วินเยปิ (ปารา. ๑๕๑) วุตฺตํ – ‘‘นาหํ, ภนฺเต, อกลฺลโก’’ติ. อกมฺมฺตาติ กายเคลฺสงฺขาโต ¶ อกมฺมฺตากาโร. เมโฆ วิย อากาสํ กายํ โอนยฺหตีติ โอนาโห. สพฺพโต ภาเคน โอนาโห ปริโยนาโห. อพฺภนฺตเร สโมรุนฺธตีติ อนฺโตสโมโรโธ. เมธตีติ มิทฺธํ, อกมฺมฺภาเวน วิหึสตีติ อตฺโถ. สุปนฺติ เตนาติ สุปฺปํ. อกฺขิทลาทีนํ ปจลภาวํ กโรตีติ ปจลายิกา. สุปฺปนา สุปฺปิตตฺตนฺติ อาการภาวนิทฺเทสา. โอลียนาติ โอลียนากาโร. ทุติยํ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตํ. ลีนนฺติ อวิปฺผาริกตาย ปฏิกุฏิกํ. อิตเร ทฺเว อาการภาวนิทฺเทสา. ถินนฺติ สปฺปิปิณฺโฑ วิย อวิปฺผาริกตาย ฆนภาเวน ิตํ. ถิยนาติ อาการนิทฺเทโส. ถิยิตสฺส ภาโว ถิยิตตฺตํ, อวิปฺผารวเสน ถทฺธตาติ อตฺโถ.
สพฺพสงฺขารธาตุยาติ ¶ นิพฺพานนินฺนมานโส สพฺพเตภูมิกสงฺขาตธาตุยา. จิตฺตํ ปฏิวาเปตฺวาติ จิตฺตํ นิวตฺตาเปตฺวา. เอตํ สนฺตนฺติ เอตํ นิพฺพานํ. กิเลสสนฺตตาย สนฺตํ. อตปฺปกฏฺเน ปณีตํ.
น ปณฺฑิตา อุปธิสุขสฺส เหตูติ ทพฺพชาติกา กามสุขสฺส การณา ทานานิ น เทนฺติ. กามฺจ เต อุปธิปริกฺขยายาติ เอกํเสน เต ปณฺฑิตา กามกฺขยาย กามกฺเขปนตฺถํ ทานานิ เทนฺติ ¶ . อปุนพฺภวายาติ นิพฺพานตฺถาย. ฌานานิ ภาเวนฺตีติ ปมชฺฌานาทีนิ วฑฺเฒนฺติ. ปุนพฺภวายาติ ปุนพฺภวการณา. เต ปณฺฑิตา นิพฺพานํ อภิมุขํ หุตฺวา ทานํ ททนฺติ.
๑๗๘. สาหสาติ รตฺตสฺส ราคจริตาทิเภทา สาหสาการณา. นิทฺเทโส อุตฺตานตฺโถเยว.
๑๗๙. ปุราณํ นาภินนฺเทยฺยาติ อตีตํ รูปาทึ นาภินนฺเทยฺย. นเวติ ปจฺจุปฺปนฺเน. หียมาเนติ วินสฺสมาเน. อากาสํ น สิโต สิยาติ ตณฺหานิสฺสิโต น ภเวยฺย. ตณฺหา หิ รูปาทีนํ อากาสนโต ‘‘อากาโส’’ติ วุจฺจติ.
เวมาเนติ ¶ อภวมาเน. วิคจฺฉมาเนติ อปคจฺฉมาเน.
‘‘อากาสตี’’ติ ‘‘อากสฺสตี’’ติ จ ทุวิโธ ปาโ.
๑๘๐. กึ การณา อากาสํ น สิโต สิยาติ เจ? เคธํ พฺรูมีติ คาถา. ตสฺสตฺโถ – อหฺหิ อิมํ อากาสสงฺขาตํ ตณฺหํ รูปาทีสุ คิชฺฌนโต เคธํ พฺรูมิ ‘‘เคโธ’’ติ วทามิ. กิฺจ ภิยฺโย – อวหนนฏฺเน ‘‘โอโฆ’’ติ จ อาชวนฏฺเน ‘‘อาชว’’นฺติ จ ‘‘อิทํ มยฺหํ, อิทํ มยฺห’’นฺติ ชปฺปการณโต ‘‘ชปฺปน’’นฺติ จ ทุมฺมฺุจนฏฺเน ‘‘อารมฺมณ’’นฺติ จ กมฺปกรณฏฺเน ‘‘กมฺปน’’นฺติ จ พฺรูมิ, เอสาว โลกสฺส ปลิโพธฏฺเน ทุรติกฺกมนียฏฺเน จ ‘‘กามปงฺโก ทุรจฺจโย’’ติ.
อาชวนฺติ อาปฏิสนฺธิโต ชวติ ธาวตีติ อาชวํ, วฏฺฏมูลตาย ปุนพฺภเว ปฏิสนฺธิทานตณฺหาเยตํ อธิวจนํ. ชปฺปนนฺติ ปตฺถนา, ตณฺหาเยตํ อธิวจนํ. อารมฺมณมฺปิ วุจฺจติ ตณฺหาติ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ อุปฺปนฺนตณฺหา มุจฺจิตุํ อสกฺกุเณยฺยฏฺเน อารมฺมณาติ กถียติ. กามปงฺโกติ โอสีทนฏฺเน กลลํ. กทฺทโมติ สงฺคฏฺเน กทฺทโม. ตาปนฏฺเน กิเลโส ¶ . นิยฺยาสํ วิย ลคฺคาปนฏฺเน ปลิโป. รุนฺธิตฺวา ธารณฏฺเน ปลิโรโธ. เอวเมตํ เคธาทิปริยายํ อากาสํ อนิสฺสิโต.
๑๘๑. สจฺจา อโวกฺกมนฺติ คาถา. ตสฺสตฺโถ – ปุพฺเพ วุตฺตา ติวิธาปิ สจฺจา อโวกฺกมํ โมเนยฺยปตฺติยา มุนีติ สงฺขํ คโต นิพฺพานถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ, ส เวเอวรูโป สพฺพานิ อายตนานิ นิสฺสชฺชิตฺวา ‘‘สนฺโต’’ติ วุจฺจติ. นิทฺเทเส วตฺตพฺพํ นตฺถิ.
๑๘๒. กิฺจ ¶ ภิยฺโย – ส เว วิทฺวาติ คาถา. ตตฺถ ตฺวา ธมฺมนฺติ อนิจฺจาทินเยน สงฺขตธมฺมํ อฺาย. สมฺมา โส โลเก อิริยาโนติ อสมฺมาอิริยนกรานํ กิเลสานํ ปหานา สมฺมา โส โลเก อิริยมาโน.
๑๘๓. เอวํ ¶ อปิเหนฺโต จ – โยธ กาเมติ คาถา. ตตฺถ สงฺคนฺติ สตฺตวิธํ สงฺคํ โย อจฺจตริ. นาชฺเฌตีติ น อภิชฺฌายติ.
๑๘๔. ตสฺมา ตุมฺเหสุปิ โย เอวรูโป โหตุํ อิจฺฉติ, ตํ วทามิ – ยํ ปุพฺเพติ คาถา. ตตฺถ ยํ ปุพฺเพติ อตีเต สงฺขาเร อารพฺภ อุปฺปชฺชนธมฺมํ กิเลสชาตํ อตีตํ กมฺมฺจ. ปจฺฉา เต มาหุ กิฺจนนฺติ อนาคเตปิ สงฺขาเร อารพฺภ อุปฺปชฺชนธมฺมํ ราคาทิกิฺจนํ มา อหุ. มชฺเฌ เจ โน คเหสฺสสีติ ปจฺจุปฺปนฺนรูปาทิธมฺเมปิ น คเหสฺสสิ เจ. เอวํ อุปสนฺโต จริสฺสสิ.
อพีชํ กโรหีติ มคฺคาเณน น พีชํ กโรหิ. ราคกิฺจนนฺติ ราคผนฺทนํ. โทสกิฺจนาทีสุปิ เอเสว นโย.
๑๘๕. เอวํ อรหตฺตปฺปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อรหโต ถุติวเสน อิโต ปรา คาถาโย อภาสิ. ตตฺถ สพฺพโสติ คาถาย มมายิตนฺติ มมตฺตกรณํ. ‘‘มม อิท’’นฺติ คหิตํ วา วตฺถุ. อสตา จ น โสจตีติ อวิชฺชมานการณา อสนฺตการณา น โสจติ. น ชียตีติ ชานึ นาธิคจฺฉติ.
อหุ ¶ วต เมติ มยฺหํ อโหสิ วต. ตํ วต เม นตฺถีติ ยํ อตีเต อโหสิ, ตํ มยฺหํ อิทานิ น สนฺติ. สิยา วต เมติ ยํ มยฺหํ ภวิสฺสติ, ตํ วตาหํ น ลภามีติ อิทานิ อหํ เอกํเสน น ปาปุณามิ.
๑๘๖. กิฺจ ภิยฺโย – ยสฺส นตฺถีติ คาถา. ตตฺถ กิฺจนนฺติ กิฺจิ รูปาทิธมฺมชาตํ.
อภิสงฺขตนฺติ กมฺเมน สงฺขริตํ. อภิสฺเจตยิตนฺติ จิตฺเตน ราสิกตํ. อวิชฺชาย ตฺเววาติ อวิชฺชาย ตุ เอว. อเสสวิราคนิโรธาติ วิราคสงฺขาเตน มคฺเคน นิรวเสสนิโรธา.
สฺุโต ¶ โลกํ อเวกฺขสฺสูติ อวสวตฺติสลฺลกฺขณวเสน วา ตุจฺฉสงฺขารสมนุปสฺสนวเสน วาติ ทฺวีหากาเรหิ สฺุโต โลกํ ปสฺส. อตฺตานุทิฏฺึ อูหจฺจาติ สกฺกายทิฏฺึ อุทฺธริตฺวา. เอวํ มจฺจุตโร สิยาติ เอวํ มรณสฺส ¶ ตรโณ ภเวยฺย. เอวํ โลกํ อเวกฺขนฺตนฺติ เอวํ ขนฺธโลกํ ปสฺสนฺตํ. มจฺจุราชา น ปสฺสตีติ มรณราชา น โอโลเกติ น ทกฺขติ.
นาฺํ ปตฺถยเต กิฺจีติ อฺํ อปฺปมตฺตกมฺปิ น ปตฺถยติ น ปิหยติ. อฺตฺร อปฺปฏิสนฺธิยาติ นิพฺพานํ เปตฺวา. ‘‘อฺตฺรปฺปฏิสนฺธิยา’’ติ เอกปทํ กตฺวาปิ ปนฺติ.
๑๘๗. กิฺจ ภิยฺโย – อนิฏฺุรีติ คาถา. ตตฺถ อนิฏฺุรีติ อนิสฺสุกี. ‘‘อนิฏฺรี’’ติปิ เกจิ ปนฺติ. สพฺพธี สโมติ สพฺพตฺถ สโม, อุเปกฺขโกติ อธิปฺปาโย. กึ วุตฺตํ โหติ? โย โส ‘‘นตฺถิ เม’’ติ น โสจติ, ตมหํ อวิกมฺปินํ ปุคฺคลํ ปุฏฺโ สมาโน อนิฏฺุรี อนนุคิทฺโธ, อเนโช สพฺพธี สโมติ อิมํ ตสฺมึ ปุคฺคเล จตุพฺพิธํ อานิสํสํ พฺรูมีติ.
นิฏฺุริโยติ อิสฺสุกี. นิฏฺุรภาโว นิฏฺุริยํ, ตํ นิสฺสาย เอตฺตกมฺปิ นตฺถีติ เขฬปาตนฺติ อตฺโถ. นิฏฺุริยกมฺมนฺติ นิฏฺุริยกรณํ. คหฏฺโ วา หิ คหฏฺํ ภิกฺขุ วา ภิกฺขุํ นิสฺสาย วสนฺโต อปฺปมตฺตเกเนว กุชฺฌิตฺวา ตํ นิสฺสาย เอตฺตกมฺปิ นตฺถีติ เขฬํ ปาเตตฺวา ปาเทน มทฺทนฺโต วิย นิฏฺุริยํ นาม กโรติ. ตสฺส ตํ กมฺมํ ‘‘นิฏฺุริยกมฺม’’นฺติ วุจฺจติ. อิสฺสาติ สภาวนิทฺเทโส ¶ . ตโต ปรา ทฺเว อาการภาวนิทฺเทสา. อิตรตฺตยํ ปริยายวจนํ. ลกฺขณาทิโต ปเนสา ปรสมฺปตฺตีนํ อุสูยนลกฺขณา อิสฺสา; ตตฺถ จ อนภิรติรสา; ตโต วิมุขภาวปจฺจุปฏฺานา; ปรสมฺปตฺติปทฏฺานา.
ลาเภปิ น อิฺชตีติ ปจฺจยลาเภ น จลติ. อลาเภปีติ ปจฺจยานํ อลาเภปิ.
๑๘๘. กิฺจ ภิยฺโย – อเนชสฺสาติ คาถา. ตตฺถ นิสงฺขตีติ ปฺุาภิสงฺขาราทีสุ โย โกจิ สงฺขาโร. โส หิ ยสฺมา นิสงฺขริยติ, นิสงฺขโรติ วา, ตสฺมา ‘‘นิสงฺขตี’’ติ วุจฺจติ. วิยารมฺภาติ วิวิธา ปฺุาภิสงฺขาราทิกา อารมฺภา. เขมํ ปสฺสติ สพฺพธีติ สพฺพตฺถ อภยเมว ปสฺสติ.
อารมฺภาติ ¶ กมฺมานํ ปมารมฺภา. วิยารมฺภาติ อุปรูปริ ¶ วิวิธอารมฺภนวเสน วีริยารมฺภา. ตีสุ ภเวสุ ปฏิสนฺธิชนกกมฺมานํ เอตํ อธิวจนํ. ตสฺมา วิยารมฺภา อารโต.
๑๘๙. เอวํ ปสฺสนฺโต น สเมสูติ คาถา. ตตฺถ น วทเตติ ‘‘สทิโสหมสฺมี’’ติอาทินา มานวเสน สเมสุปิ อตฺตานํ น วทติ โอเมสุปิ อุสฺเสสุปิ. นาเทติ น นิรสฺสตีติ รูปาทีสุ กฺจิ ธมฺมํ น คณฺหาติ น นิสฺสชฺชติ. เสสํ สพฺพตฺถ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนยตฺตา ปากฏเมว. เอวํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทสนํ นิฏฺาเปสีติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย
อตฺตทณฺฑสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๖. สาริปุตฺตสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๐. โสฬสเม ¶ ¶ น เม ทิฏฺโติ สาริปุตฺตสุตฺตนิทฺเทโส. ตตฺถ อิโต ปุพฺเพติ อิโต สงฺกสฺสนคเร โอตรณโต ปุพฺเพ. วคฺคุวโทติ สุนฺทรวโท. ตุสิตา คณิมาคโตติ ตุสิตกายา จวิตฺวา มาตุกุจฺฉึ อาคตตฺตา ตุสิตา อาคโต. คณาจริยตฺตา คณี ¶ . สนฺตุฏฺฏฺเน วา ตุสิตสงฺขาตา เทวโลกา คณึ อาคโต, ตุสิตานํ วา อรหนฺตานํ คณึ อาคโตติ.
อิมินา จกฺขุนาติ อิมินา อตฺตภาวปริยาปนฺเนน ปกติมํสจกฺขุนา. อิมินา อตฺตภาเวนาติ อิมินา ปจฺฉิเมน อตฺตภาเวน. ตาวตึสภวเนติ ตาวตึสเทวโลเก. ปาริจฺฉตฺตกมูเลติ โกวิฬารรุกฺขสฺส เหฏฺา. ปณฺฑุกมฺพลสิลายนฺติ รตฺตกมฺพลสทิสปาสาณปิฏฺเ. วสฺสํ วุฏฺโติ วุฏฺวสฺโส. เทวคณปริวุโตติ เทวสงฺเฆน ปริวาริโต. โอติณฺโณติ อวติณฺโณ. อิมํ ทสฺสนํ ปุพฺเพติ อฺตฺร อิมมฺหา ทสฺสนา ปุพฺเพ. น ทิฏฺโติ อฺทา น ทิฏฺปุพฺโพ.
ขตฺติยสฺส วาติ ขตฺติยสฺส วทนฺตสฺส น สุโต. พฺราหฺมณาทีสุปิ เอเสว นโย.
มธุรวโทติอาทีสุ พฺยฺชนสมฺปนฺนํ มธุรํ วทตีติ มธุรวโท. เปมชนกํ เปมารหํ วทตีติ เปมนียวโท. หทยงฺคมจิตฺเต ปนโยคฺยํ วทตีติ หทยงฺคมวโท. กรวีกสกุณสทฺโท วิย มธุรโฆโส อสฺสาติ กรวีกรุตมฺชุโฆโส. วิสฺสฏฺโ จาติ อปลิพุทฺโธ ตตฺถ ตตฺถ อปกฺขลโน. วิฺเยฺโย จาติ สุวิชาเนยฺโย จ. มฺชุ จาติ มธุโร จ. สวนีโย จาติ กณฺณสุโข จ. พินฺทุ จาติ ฆโน จ. อวิสารี จาติ น ปตฺถโฏ จ. คมฺภีโร จาติ น อุตฺตาโน จ. นินฺนาทิ จาติ โฆสวนฺโต จ. อสฺสาติ อสฺส สตฺถุโน. พหิทฺธา ปริสายาติ ปริสโต พหิ. น นิจฺฉรตีติ น นิกฺขมติ. กึการณา? เอวรูโป มธุรสทฺโท นิกฺการณา มา วินสฺสตูติ. พฺรหฺมสฺสโรติ ¶ อฺเ ฉินฺนสฺสราปิ ภินฺนสฺสราปิ กากสฺสราปิ โหนฺติ, อยํ ปน มหาพฺรหฺมุโน สรสทิเสน สเรน สมนฺนาคโต. มหาพฺรหฺมุโน หิ ปิตฺตเสมฺเหหิ อปลิพุทฺธตฺตา สโร วิสุทฺโธ โหติ, ภควตาปิ กตกมฺมํ วตฺถุํ โสเธติ, วตฺถุโน สุทฺธตฺตา นาภิโต ปฏฺาย สมุฏฺหนฺโต สโร ¶ วิสุทฺโธ อฏฺงฺคสมนฺนาคตาว สมุฏฺาติ. กรวีโก วิย ภณตีติ กรวีกภาณี, มตฺตกรวีกรุตมฺชุโฆโสติ อตฺโถ.
ตาเรตีติ อเขมนฺตฏฺานํ อติกฺกาเมติ. อุตฺตาเรตีติ เขมนฺตภูมึ อุปเนนฺโต ตาเรติ. นิตฺตาเรตีติ อเขมนฺตฏฺานโต นิกฺขาเมนฺโต ตาเรติ ¶ . ปตาเรตีติ ปริคฺคเหตฺวา ตาเรติ, หตฺเถน ปริคฺคเหตฺวา วิย ตาเรตีติ อตฺโถ. สพฺพมฺเปตํ ตารณุตฺตารณาทิเขมนฺตฏฺาเน ปนเมวาติ อาห – ‘‘เขมนฺตภูมึ สมฺปาเปตี’’ติ. สตฺเตติ เวเนยฺยสตฺเต. มหาคหนตาย มหานตฺถตาย ทุนฺนิตฺตริยตาย จ ชาติเยว กนฺตาโร ชาติกนฺตาโร, ตํ ชาติกนฺตารํ.
คณสฺส สุสฺสูสตีติ คโณ อสฺส วจนํ สุสฺสูสติ สุณาติ อุปลกฺเขติ. โสตํ โอทหตีติ โสตุกามตาย โสตํ อวทหติ ปติฏฺาเปติ. อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปตีติ าตุกามํ จิตฺตํ ปณิทหติ. คณํ อกุสลา วุฏฺาเปตฺวาติ ชนสมูหํ อโกสลฺลสมฺภูตา อกุสลา อุฏฺาเปตฺวา. กุสเล ปติฏฺาเปตีติ โกสลฺลสมฺภูเต กุสเล เปติ. สงฺฆีติ ราสิวเสน สงฺโฆ อสฺส อตฺถีติ สงฺฆี. ปริสวเสน คโณ อสฺส อตฺถีติ คณี. คณสฺส อาจริโยติ คณาจริโย.
๑๙๑. ทุติยคาถาย สเทวกสฺส โลกสฺส, ยถา ทิสฺสตีติ สเทวกสฺส โลกสฺส วิย มนุสฺสานมฺปิ ทิสฺสติ. ยถา วา ทิสฺสตีติ ตจฺฉโต อวิปรีตโต ทิสฺสติ. จกฺขุมาติ อุตฺตมจกฺขุมา. เอโกติ ปพฺพชฺชาสงฺขาตาทีหิ เอโก. รตินฺติ เนกฺขมฺมรติอาทึ.
ปติรูปโกติ สุวณฺณปติรูปโก กุณฺฑโล. มตฺติกากุณฺฑโลวาติ มตฺติกาย กตกุณฺฑโล วิย. โลหฑฺฒมาโสว สุวณฺณฉนฺโนติ สุวณฺเณน ปฏิจฺฉนฺโน โลหมาสโก วิย. ปริวารฉนฺนาติ ปริวาเรน ฉาทิตา. อนฺโต อสุทฺธาติ ¶ อพฺภนฺตรโต ราคาทีหิ อปริสุทฺธา. พหิ โสภมานาติ จีวราทีหิ พาหิรโต สุนฺทรา.
อกปฺปิตอิริยาปถา จาติ อสชฺชิตอิริยาปถา. ปณิธิสมฺปนฺนาติ ปริปุณฺณปตฺถนา.
วิสุทฺธสทฺโทติ ปริสุทฺธกิตฺติสทฺโท, ยถาภูตถุติโฆโสติ อตฺโถ. คตกิตฺติสทฺทสิโลโกติ กิตฺติสทฺทฺจ สิโลกฺจ คเหตฺวา จรณสีโล. กตฺถ วิสุทฺธสทฺโทติ เจ? ‘‘นาคภวเน จ สุปณฺณภวเน ¶ จา’’ติอาทินา ¶ นเยน วิตฺถาเรตฺวา วุตฺตฏฺาเน. ตโต จ ภิยฺโยติ ตโต วุตฺตปฺปการโต จ เวเนยฺยวเสน อติเรกตโรปิ ทิสฺสติ.
สพฺพํ ราคตมนฺติ สกลํ ราคนฺธการํ. โทสตมาทีสุปิ เอเสว นโย. อนฺธกรณนฺติ ปฺาโลกนิวารณกรณํ. อจกฺขุกรณนฺติ ปฺาจกฺขุโน อกรณํ. อฺาณกรณนฺติ าเณน อชานนกรณํ. ปฺานิโรธิกนฺติ ปฺานยนนาสกํ. วิฆาตปกฺขิกนฺติ ปีฬาโกฏฺาสิกํ. อนิพฺพานสํวตฺตนิกนฺติ อปจฺจยอมตนิพฺพานตฺถาย น สํวตฺตนิกํ.
สพฺพํ ตํ เตน โพธิาเณน พุชฺฌีติ ตํ สกลํ เตน จตุมคฺคาณวเสน พุชฺฌิ. ปมมคฺควเสน ชานิ อนุพุชฺฌิ. ทุติยมคฺควเสน ปุน อฺาสิ ปฏิวิชฺฌิ. ตติยมคฺควเสน ปฏิเวธํ ปาปุณิ สมฺพุชฺฌิ. จตุตฺถมคฺควเสน นิสฺเสสปฏิเวเธน สมฺมาพุชฺฌิ. อธิคจฺฉิ ผสฺเสสิ สจฺฉากาสีติ เอตํ ตยํ ผลวเสน โยเชตพฺพํ. ปมทุติยวเสน ปฏิลภิ. ตติยวเสน าณผสฺเสน ผุสิ. จตุตฺถวเสน ปจฺจกฺขํ อกาสิ. อถ วา เอเกกผลสฺส ตโยปิ ลพฺภนฺติ เอว.
เนกฺขมฺมรตินฺติ ปพฺพชฺชาทีนิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนรตึ. วิเวกรตินฺติ กายวิเวกาทิมฺหิ อุปฺปนฺนรตึ. อุปสมรตินฺติ กิเลสวูปสเม รตึ. สมฺโพธิรตินฺติ มคฺคํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อุปฺปนฺนรตึ.
๑๙๒. ตติยคาถาย พหูนมิธ พทฺธานนฺติ อิธ พหูนํ ขตฺติยาทีนํ สิสฺสานํ. สิสฺสา หิ อาจริยปฏิพทฺธวุตฺติตฺตา ‘‘พทฺธา’’ติ วุจฺจนฺติ. อตฺถิ ปฺเหน อาคมนฺติ อตฺถิโก ปฺเหน อาคโตมฺหิ ¶ , อตฺถิกานํ วา ปฺเหน อาคมนํ, ปฺเหน อตฺถิ อาคมนํ วาติ.
พุทฺโธติ ปทสฺส อภาเวปิ ตํ พุทฺธนฺติ ปเท โย โส พุทฺโธ, ตํ นิทฺทิสิตุกาเมน ‘‘พุทฺโธ’’ติ วุตฺตํ. สยมฺภูติ อุปเทสํ วินา สยเมว ภูโต. อนาจริยโกติ สยมฺภูปทสฺส อตฺถวิวรณํ. โย หิ อาจริยํ วินา สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ, โส สยมฺภู นาม โหตีติ. ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสูติอาทิ อนาจริยกภาวสฺส อตฺถปฺปกาสนํ. อนนุสฺสุเตสูติ อาจริยโต อนนุสฺสุเตสุ. สามนฺติ สยเมว. อภิสมฺพุชฺฌีติ ภุสํ สมฺมา ปฏิวิชฺฌิ. ตตฺถ จ สพฺพฺุตํ ปาปุณีติ เตสุ จ สจฺเจสุ สพฺพฺุภาวํ ปาปุณิ. ยถา สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌนฺตา สพฺพฺุโน โหนฺติ ¶ , ตถา สจฺจานํ ปฏิวิทฺธตฺตา เอวํ วุตฺตํ. ‘‘สพฺพฺุตํ ปตฺโต’’ติปิ ปาโ. พเลสุ ¶ จ วสีภาวนฺติ ทสสุ จ ตถาคตพเลสุ อิสฺสรภาวํ ปาปุณิ. โย โส เอวํ ภูโต, โส พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ สพฺพธมฺเมสุ อปฺปฏิหตาณนิมิตฺตานุตฺตรวิโมกฺขาธิคมปริภาวิตขนฺธสนฺตานํ อุปาทาย ปณฺณตฺติโก, สพฺพฺุตปทฏฺานํ วา สจฺจาภิสมฺโพธิมุปาทาย ปณฺณตฺติโก สตฺตวิเสโส พุทฺโธ. เอตฺตาวตา อตฺถโต พุทฺธวิภาวนา กตา โหติ.
อิทานิ พฺยฺชนโต วิภาเวนฺโต ‘‘พุทฺโธติ เกนฏฺเน พุทฺโธ’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยถา โลเก อวคนฺตา ‘‘อวคโต’’ติ วุจฺจติ, เอวํ พุชฺฌิตา สจฺจานีติ พุทฺโธ. ยถา ปณฺณโสสา วาตา ‘‘ปณฺณสุสา’’ติ วุจฺจนฺติ, เอวํ โพเธตา ปชายาติ พุทฺโธ. สพฺพฺุตาย พุทฺโธติ สพฺพธมฺมพุชฺฌนสมตฺถาย พุทฺธิยา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. สพฺพทสฺสาวิตาย พุทฺโธติ สพฺพธมฺมานํ าณจกฺขุนา ทิฏฺตฺตา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. อนฺเนยฺยตาย พุทฺโธติ อฺเน อโพธนียโต สยเมว พุทฺธตฺตา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. วิสวิตาย พุทฺโธติ นานาคุณวิกสนโต ปทุมมิว วิกสนฏฺเน พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. ขีณาสวสงฺขาเตน พุทฺโธติอาทีหิ ฉหิ ปริยาเยหิ จิตฺตสงฺโกจกรธมฺมปฺปหาเนน นิทฺทาย วิพุทฺโธ ปุริโส วิย สพฺพกิเลสนิทฺทาย วิพุทฺธตฺตา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. สงฺขา ¶ สงฺขาตนฺติ อตฺถโต เอกตฺตา สงฺขาเตนาติ วจนสฺส โกฏฺาเสนาติ อตฺโถ. ตณฺหาเลปทิฏฺิเลปาภาเวน นิรุปเลปสงฺขาเตน สวาสนานํ สพฺพกิเลสานํ ปหีนตฺตา เอกนฺตวจเนน วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. เอกนฺตนิกฺกิเลโสติ ราคโทสโมหาวเสเสหิ สพฺพกิเลเสหิ นิกฺกิเลโส.
เอกายนมคฺคํ คโตติ พุทฺโธติ คมนตฺถานํ ธาตูนํ พุชฺฌนตฺถตฺตา พุชฺฌนตฺถาปิ ธาตุโย คมนตฺถา โหนฺเตว, ตสฺมา เอกายนมคฺคํ คตตฺตา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. เอกายนมคฺโค เจตฺถ –
‘‘มคฺโค ปนฺโถ ปโถ ปชฺโช, อฺชสํ วฏุมายนํ;
นาวา อุตฺตรเสตู จ, กุลฺโล จ ภิสิ สงฺกโม’’ติ. (จูฬนิ. ปารายนตฺถุติคาถานิทฺเทส ๑๐๑) –
มคฺคสฺส ¶ พหูสุ นาเมสุ อยนนาเมน วุตฺตมคฺคนาเมน วุตฺโต. ตสฺมา เอกมคฺคภูโต มคฺโค, น ทฺเวธาปถภูโตติ อตฺโถ. อถ วา เอเกน อยิตพฺโพ มคฺโคติ เอกายนมคฺโค. เอเกนาติ คณสงฺคณิกํ ปหาย ปวิวิตฺเตน. อยิตพฺโพติ ปฏิปชฺชิตพฺโพ, อยนฺติ วา เอเตนาติ อยโน, สํสารโต นิพฺพานํ คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. เอเกสํ อยโนติ เอกายโน. เอเกสนฺติ เสฏฺานํ. สพฺพสตฺตเสฏฺา จ สมฺมาสมฺพุทฺธา, ตสฺมา เอเกสํ มคฺคภูโต สมฺมาสมฺพุทฺธานํ อยนภูโต มคฺโคติ ¶ วุตฺตํ โหติ. อยตีติ วา อยโน, คจฺฉติ ปวตฺตตีติ อตฺโถ. เอกสฺมึ อยโน มคฺโคติ เอกายนมคฺโค. เอกสฺมึเยว พุทฺธสาสเน ปวตฺตมาโน มคฺโค, น อฺตฺถาติ วุตฺตํ โหติ. อปิ จ เอกํ อยตีติ เอกายโน. ปุพฺพภาเค นานามุขภาวนานยปฺปวตฺโตปิ อปรภาเค เอกํ นิพฺพานเมว คจฺฉตีติ วุตฺตํ โหติ, ตสฺมา เอกายนมคฺโคติ เอกนิพฺพานคมนมคฺโคติ อตฺโถ.
เอโก อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ น ปเรหิ พุทฺธตฺตา พุทฺโธ, กินฺตุ สยเมว อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺธตฺตา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. อพุทฺธิวิหตตฺตา พุทฺธิปฏิลาภตฺตา พุทฺโธติ พุทฺธิ พุทฺธํ โพโธติ ปริยายวจนเมตํ. ตตฺถ ยถา ¶ ‘‘นีลรตฺตคุณโยคา นีโล ปโฏ, รตฺโต ปโฏ’’ติ วุจฺจติ, เอวํ พุทฺธคุณโยคา ‘‘พุทฺโธ’’ติ าเปตุํ วุตฺตํ.
ตโต ปรํ พุทฺโธติ เนตํ นามนฺติอาทิ ‘‘อตฺถมนุคตา อยํ ปฺตฺตี’’ติ าปนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ มิตฺตา สหายา. อมจฺจา ภจฺจา. าตี ปิตุปกฺขิกา. สาโลหิตา มาตุปกฺขิกา. สมณา ปพฺพชฺชุปคตา. พฺราหฺมณา โภวาทิโน, สมิตปาปพาหิตปาปา วา. เทวตา สกฺกาทโย พฺรหฺมาโน จ. วิโมกฺขนฺติกนฺติ วิโมกฺโข อรหตฺตมคฺโค, วิโมกฺขสฺส อนฺโต อรหตฺตผลํ, ตสฺมึ วิโมกฺขนฺเต ภวํ วิโมกฺขนฺติกํ นามํ. สพฺพฺุภาโว หิ อรหตฺตมคฺเคน สิชฺฌติ, อรหตฺตผโลทเย สิทฺธํ โหติ. ตสฺมา สพฺพฺุภาโว วิโมกฺขนฺเต ภโว โหติ. ตํ เนมิตฺติกมฺปิ นามํ วิโมกฺขนฺเต ภวํ นาม โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘วิโมกฺขนฺติกเมตํ พุทฺธานํ ภควนฺตาน’’นฺติ. โพธิยา มูเล สห สพฺพฺุตฺาณสฺส ปฏิลาภาติ มหาโพธิรุกฺขมูเล ยถาวุตฺตกฺขเณ สพฺพฺุตฺาณสฺส ปฏิลาเภน สห. สจฺฉิกา ปฺตฺตีติ อรหตฺตผลสจฺฉิกิริยาย สพฺพธมฺมสจฺฉิกิริยาย ¶ วา ชาตา ปฺตฺติ. ยทิทํ พุทฺโธติ ปฺตฺติ. อยํ พฺยฺชนโต พุทฺธวิภาวนา. อิโต ปรํ วหสฺเสตํ ภารนฺติ ปริโยสานํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนยตฺตา ยถาปาฬิเมว นิยฺยาติ.
๑๙๓. จตุตฺถคาถาย วิชิคุจฺฉโตติ ชาติอาทีหิ อฏฺฏียโต. ริตฺตมาสนนฺติ วิวิตฺตํ มฺจปีํ. ปพฺพตานํ คุหาสุ วาติ ปพฺพตคุหาสุ วา ริตฺตมาสนํ ภชโตติ สมฺพนฺธิตพฺพํ.
ชาติยา วิชิคุจฺฉโตติ ชาตึ วิชิคุจฺฉโต. ชราย. พฺยาธินาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ภชโตติ เอวมาทีสุ ภชโตติ ภชนฺตสฺส. เสวโตติ เสวนฺตสฺส. นิเสวโตติ สมฺมา เสวนฺตสฺส ¶ . สํเสวโตติ ปุนปฺปุนํ เสวนฺตสฺส. ปฏิเสวโตติ อุปคนฺตฺวา เสวนฺตสฺส. ปพฺพตปพฺภาราติ ปพฺพตกุจฺฉิโย.
๑๙๔. ปฺจมคาถาย อุจฺจาวเจสูติ หีนปณีเตสุ. สยเนสูติ วิหาราทีสุ เสนาสเนสุ. กีวนฺโต ตตฺถ เภรวาติ กิตฺตกา ตตฺถ ภยการณา. ‘‘กุวนฺโต’’ติปิ ปาโ, กูชนฺโตติ จสฺส อตฺโถ.
กุวนฺโตติ ¶ สทฺทายนฺโต. กูชนฺโตติ อพฺยตฺตสทฺทํ กโรนฺโต. นทนฺโตติ อุกฺกุฏฺึ กโรนฺโต. สทฺทํ กโรนฺโตติ วาจํ ภาสนฺโต. กตีติ ปุจฺฉา. กิตฺตกาติ ปมาณปุจฺฉา. กีวตกาติ ปริจฺเฉทปุจฺฉา. กีวพหุกาติ ปมาณปริจฺเฉทปุจฺฉา. เต เภรวาติ เอเต ภยชนนุปทฺทวา ภยารมฺมณา. กีวพหุกาติ ปุจฺฉิเต อารมฺมเณ ทสฺเสตุํ ‘‘สีหา พฺยคฺฆา ทีปี’’ติอาทีหิ วิสฺสชฺเชติ.
๑๙๕. ฉฏฺคาถาย กติ ปริสฺสยาติ กิตฺตกา อุปทฺทวา. อคตํ ทิสนฺติ นิพฺพานํ. ตฺหิ อคตปุพฺพตฺตา อคตํ, นิทฺทิสิตพฺพโต ทิสา จาติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อคตํ ทิส’’นฺติ. อมตํ ทิส’’นฺติปิ ปาโ. อภิสมฺภเวติ อภิสมฺภเวยฺย. ปนฺตมฺหีติ ปริยนฺเต.
อคตปุพฺพา สา ทิสาติ ยา ทิสา สุปินนฺเตนปิ น คตปุพฺพา. น สา ทิสา คตปุพฺพาติ เอสา ทิสา วุตฺตนเยน น คตปุพฺพา. อิมินา ทีเฆน อทฺธุนาติ อเนน ทีฆกาเลน.
สมติตฺติกนฺติ ¶ อนฺโตมุขวฏฺฏิเลขํ ปาเปตฺวา สมภริตํ. อนวเสกนฺติ อนวสิฺจนกํ อปริสิฺจนกํ กตฺวา. เตลปตฺตนฺติ ปกฺขิตฺตเตลํ เตลปตฺตํ. ปริหเรยฺยาติ หเรยฺย อาทาย คจฺเฉยฺย. เอวํ สจิตฺตมนุรกฺเขติ ตํ เตลภริตํ ปตฺตํ วิย อตฺตโน จิตฺตํ กายคตาย สติยา โคจเร เจว สมฺปยุตฺตสติยา จาติ อุภินฺนํ อนฺตเร ปกฺขิปิตฺวา ยถา มุหุตฺตมฺปิ พหิทฺธา โคจเร น วิกฺขิปติ, ตถา ปณฺฑิโต โยคาวจโร รกฺเขยฺย โคปเยยฺย. กึการณา? เอตสฺส หิ –
‘‘ทุนฺนิคฺคหสฺส ลหุโน, ยตฺถกามนิปาติโน;
จิตฺตสฺส ทมโถ สาธุ, จิตฺตํ ทนฺตํ สุขาวหํ’’. (ธ. ป. ๓๕);
ตสฺมา ¶ –
‘‘สุทุทฺทสํ สุนิปุณํ, ยตฺถกามนิปาตินํ;
จิตฺตํ รกฺเขถ เมธาวี, จิตฺตํ คุตฺตํ สุขาวหํ’’. (ธ. ป. ๓๖);
อิทฺหิ –
‘‘ทูรงฺคมํ เอกจรํ, อสรีรํ คุหาสยํ;
เย จิตฺตํ สํยเมสฺสนฺติ, โมกฺขนฺติ มารพนฺธนา’’. (ธ. ป. ๓๗);
อิตรสฺส ปน –
‘‘อนวฏฺิตจิตฺตสฺส ¶ , สทฺธมฺมํ อวิชานโต;
ปริปฺลวปสาทสฺส, ปฺา น ปริปูรติ’’. (ธ. ป. ๓๘);
ถิรกมฺมฏฺานสหายสฺส ปน –
‘‘อนวสฺสุตจิตฺตสฺส, อนนฺวาหตเจตโส;
ปฺุปาปปหีนสฺส, นตฺถิ ชาครโต ภยํ’’. (ธ. ป. ๓๙);
ตสฺมา เอตํ –
‘‘ผนฺทนํ จปลํ จิตฺตํ, ทูรกฺขํ ทุนฺนิวารยํ;
อุชุํ กโรติ เมธาวี, อุสุกาโรว เตชนํ’’. (ธ. ป. ๓๓);
เอวํ อุชุํ กโรนฺโต สจิตฺตมนุรกฺเข.
ปตฺถยาโน ¶ ทิสํ อคตปุพฺพนฺติ อิมสฺมึ กายคตาสติกมฺมฏฺาเน กมฺมํ อารภิตฺวา อนมตคฺเค สํสาเร อคตปุพฺพํ ทิสํ ปตฺเถนฺโต วุตฺตนเยน สกํ จิตฺตํ รกฺเขยฺยาติ อตฺโถ. กา ปเนสา ทิสา นาม –
‘‘มาตาปิตา ¶ ทิสา ปุพฺพา, อาจริยา ทกฺขิณา ทิสา;
ปุตฺตทารา ทิสา ปจฺฉา, มิตฺตามจฺจา จ อุตฺตรา.
‘‘ทาสกมฺมกรา เหฏฺา, อุทฺธํ สมณพฺราหฺมณา;
เอตา ทิสา นมสฺเสยฺย, อลมตฺโต กุเล คิหี’’ติ. (ที. นิ. ๓.๒๗๓) –
เอตฺถ ตาว มาตาปิตาทโย ‘‘ทิสา’’ติ วุตฺตา.
‘‘ทิสา จตสฺโส วิทิสา จตสฺโส, อุทฺธํ อโธ ทส ทิสา อิมาโย;
กตมํ ทิสํ ติฏฺติ นาคราชา, ยมทฺทสา สุปิเน ฉพฺพิสาณ’’นฺติ. (ชา. ๑.๑๖.๑๐๔) –
เอตฺถ ปุรตฺถิมาทิเภทา ทิสาว ‘‘ทิสา’’ติ วุตฺตา.
‘‘อคาริโน อนฺนทปานวตฺถทา, อวฺหายิกา ตมฺปิ ทิสํ วทนฺติ;
เอสา ทิสา ปรมา เสตเกตุ, ยํ ปตฺวา ทุกฺขี สุขิโน ภวนฺตี’’ติ ¶ . (ชา. ๑.๖.๙) –
เอตฺถ นิพฺพานํ ‘‘ทิส’’นฺติ วุตฺตํ. อิธาปิ ตเทว อธิปฺเปตํ. ตณฺหกฺขยํ วิราคนฺติอาทีหิ ทิสฺสติ อปทิสฺสติ ตสฺมา ‘‘ทิสา’’ติ วุจฺจติ. อนมตคฺเค ปน สํสาเร เกนจิ พาลปุถุชฺชเนน สุปิเนนปิ อคตปุพฺพตาย ‘‘อคตปุพฺพา ทิสา นามา’’ติ วุจฺจติ. ตํ ปตฺถยนฺเตน กายคตาสติยา โยโค กรณีโยติ. วชโตติอาทีสุ เอตฺถ มคฺคุปฺปาทโต สมีปํ วชโต. ิติกฺขเณ คจฺฉโต. ผโลทยโต อติกฺกมโต.
อนฺเตติ อนฺตมฺหิ ิเต. ปนฺเตติ วนคหนคมฺภีเร ิเต. ปริยนฺเตติ ทูรภาเวน ปริยนฺเต ิเต. เสลนฺเตติ ปพฺพตานํ อนฺเต. วนนฺเตติ วนฆฏานํ อนฺเต. นทนฺเตติ นทีนํ อนฺเต. อุทกนฺเตติ อุทกานํ ปริยนฺเต. ยตฺถ น กสียติ น วปียตีติ ยสฺมึ กสนฺจ วปนฺจ น กรียติ. ชนนฺตํ ¶ อติกฺกมิตฺวา ิเต. มนุสฺสานํ อนุปจาเรติ กสนวปนวเสน มนุสฺเสหิ อนุปจริตพฺเพ เสนาสเน.
๑๙๖. สตฺตมคาถาย ¶ กฺยาสฺส พฺยปฺปถโย อสฺสูติ กิทิสานิ ตสฺส วจนานิ อสฺสุ.
มุสาวาทํ ปหายาติ เอตฺถ มุสาติ วิสํวาทนปุเรกฺขารสฺส อตฺถภฺชนโก วจีปโยโค กายปโยโค วา. วิสํวาทนาธิปฺปาเยน ปนสฺส ปรวิสํวาทกกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา มุสาวาโท. อปโร นโย – มุสาติ อภูตํ อตจฺฉํ วตฺถุ, วาโทติ ตสฺส ภูตโต ตจฺฉโต วิฺาปนํ. ลกฺขณโต ปน อตถํ วตฺถุํ ตถโต ปรํ วิฺาเปตุกามสฺส ตถาวิฺตฺติสมุฏฺาปิกา เจตนา มุสาวาโท. โส ยมตฺถํ ภฺชติ, ตสฺส อปฺปตาย อปฺปสาวชฺโช, มหนฺตตาย มหาสาวชฺโช. อปิ จ คหฏฺานํ อตฺตโน สนฺตกํ อทาตุกามตาย ‘‘นตฺถี’’ติอาทินยปฺปวตฺโต อปฺปสาวชฺโช, สกฺขินา หุตฺวา อตฺถภฺชนตฺถํ วุตฺโต มหาสาวชฺโช. ปพฺพชิตานํ อปฺปกมฺปิ เตลํ วา สปฺปึ วา ลภิตฺวา หสาธิปฺปาเยน ‘‘อชฺช คาเม เตลํ นที มฺเ สนฺทตี’’ติ ปูรณกถานเยน ปวตฺโต อปฺปสาวชฺโช, อทิฏฺํเยว ปน ทิฏฺนฺติอาทินา นเยน วทนฺตานํ มหาสาวชฺโช.
ตสฺส จตฺตาโร สมฺภารา โหนฺติ – อตถํ วตฺถุ ¶ วิสํวาทนจิตฺตํ ตชฺโช วายาโม ปรสฺส ตทตฺถวิชานนนฺติ. เอโก ปโยโค สาหตฺถิโกว. โส จ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา วาจาย วา ปรวิสํวาทกกิริยากรเณ ทฏฺพฺโพ. ตาย เจ กิริยาย ปโร ตมตฺถํ ชานาติ, อยํ กิริยสมุฏฺาปิกา เจตนากฺขเณเยว มุสาวาทกมฺมุนา พชฺฌติ.
สจฺจํ วทตีติ สจฺจวาที. สจฺเจน สจฺจํ สนฺทหติ ฆเฏตีติ สจฺจสนฺโธ, น อนฺตรนฺตรา มุสา วทตีติ อตฺโถ. โย หิ ปุริโส กทาจิ มุสา วทติ, กทาจิ สจฺจํ, ตสฺส มุสาวาเทน อนฺตริกตาย สจฺจํ สจฺเจน น ฆฏิยติ, ตสฺมา น โส สจฺจสนฺโธ. อยํ ปน น ตาทิโส, ชีวิตเหตุปิ มุสา อวตฺวา สจฺเจน สจฺจํ สนฺทหติเยวาติ สจฺจสนฺโธ.
เถโตติ ถิโร, ถิรกโถติ อตฺโถ. เอโก ปุคฺคโล หลิทฺทิราโค วิย ถุสราสิมฺหิ นิขาตขาณุ วิย อสฺสปิฏฺเ ปิตกุมฺภณฺฑมิว จ ¶ น ถิรกโถ โหติ. เอโก ปาสาณเลขา วิย อินฺทขีโล วิย จ ถิรกโถ โหติ, อสินา สีสํ ฉินฺทนฺเตปิ ทฺเวกถา น กเถติ. อยํ วุจฺจติ เถโต.
ปจฺจยิโกติ ปตฺติยายิตพฺโพ, สทฺธายิตพฺพโกติ อตฺโถ. เอกจฺโจ หิ ปุคฺคโล น ปจฺจยิโก โหติ, ‘‘อิทํ เกน วุตฺตํ, อสุเกนา’’ติ วุตฺเต ‘‘มา ตสฺส วจนํ สทฺทหถา’’ติ วตฺตพฺพตํ ¶ อาปชฺชติ. เอโก ปจฺจยิโก โหติ, ‘‘อิทํ เกน วุตฺตํ, อสุเกนา’’ติ วุตฺเต ‘‘ยทิ เตน วุตฺตํ, อิทเมว ปมาณํ, อิทานิ อุปปริกฺขิตพฺพํ นตฺถิ, เอวเมว อิท’’นฺติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ, อยํ วุจฺจติ ปจฺจยิโก. อวิสํวาทโก โลกสฺสาติ ตาย สจฺจวาทิตาย โลกํ น วิสํวาเทตีติ อตฺโถ.
ปิสุณํ วาจํ ปหายาติอาทีสุ ยาย วาจาย ยสฺส ตํ วาจํ ภาสติ, ตสฺส หทเย อตฺตโน ปิยภาวํ ปรสฺส จ สฺุภาวํ กโรติ, สา ปิสุณวาจา. ยาย ปน อตฺตานมฺปิ ปรมฺปิ ผรุสํ กโรติ, ยา วาจา สยมฺปิ ผรุสา, เนว กณฺณสุขา น หทยงฺคมา, อยํ ผรุสวาจา. เยน สมฺผํ ปลปติ นิรตฺถกํ, โส สมฺผปฺปลาโป. เตสํ มูลภูตาปิ ¶ เจตนา ปิสุณวาจาทินามเมว ลภติ, สา เอว อิธ อธิปฺเปตาติ.
ตตฺถ สํกิลิฏฺจิตฺตสฺส ปเรสํ วา เภทาย อตฺตโน ปิยกมฺยตาย วา กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา ปิสุณวาจา. สา ยสฺส เภทํ กโรติ, ตสฺส อปฺปคุณตาย อปฺปสาวชฺชา, มหาคุณตาย มหาสาวชฺชา.
ตสฺสา จตฺตาโร สมฺภารา โหนฺติ – ภินฺทิตพฺโพ ปโร, ‘‘อิติ อิเม นานา ภวิสฺสนฺติ วินา ภวิสฺสนฺตี’’ติ เภทปุเรกฺขารตา วา, ‘‘อิติ อหํ ปิโย ภวิสฺสามิ วิสฺสาสิโก’’ติ ปิยกมฺยตา วา, ตชฺโช วายาโม, ตสฺส ตทตฺถวิชานนนฺติ.
อิเมสํ เภทายาติ เยสํ อิโตติ วุตฺตานํ สนฺติเก สุตํ, เตสํ เภทาย. ภินฺนานํ วา สนฺธาตาติ ทฺวินฺนํ มิตฺตานํ วา สมานุปชฺฌายกาทีนํ วา เกนจิเทว การเณน ภินฺนานํ เอกเมกํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ อีทิเส กุเล ชาตานํ เอวํ พหุสฺสุตานํ อิทํ น ยุตฺต’’นฺติอาทีนิ วตฺวา สนฺธานํ กตฺตา. อนุปฺปทาตาติ สนฺธานานุปฺปทาตา, ทฺเว ชเน สมคฺเค ทิสฺวา ¶ ‘‘ตุมฺหากํ เอวรูเป กุเล ชาตานํ เอวรูเปหิ คุเณหิ สมนฺนาคตานํ อนุจฺฉวิกเมต’’นฺติอาทีนิ วตฺวา ทฬฺหีกมฺมํ กตฺตาติ อตฺโถ.
สมคฺโค อาราโม อสฺสาติ สมคฺคาราโม, ยตฺถ สมคฺคา นตฺถิ, ตตฺถ วสิตุมฺปิ น อิจฺฉตีติ อตฺโถ. ‘‘สมคฺคราโม’’ติปิ ปาฬิ, อยเมวตฺโถ. สมคฺครโตติ สมคฺเคสุ รโต, เต ปหาย อฺตฺร คนฺตุมฺปิ น อิจฺฉตีติ อตฺโถ. สมคฺเค ทิสฺวาปิ สุตฺวาปิ นนฺทตีติ สมคฺคนนฺที ¶ . สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตาติ ยา วาจา สตฺเต สมคฺเคเยว กโรติ, ตํ สามคฺคิคุณปริทีปกเมว วาจํ ภาสติ, น อิตรนฺติ.
ปรสฺส มมฺมจฺเฉทกกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เอกนฺตผรุสเจตนา ผรุสวาจา. มมฺมจฺเฉทโกปิ ปโยโค จิตฺตสณฺหตาย ผรุสวาจา น โหติ. มาตาปิตโร หิ กทาจิ ปุตฺตเก เอวมฺปิ วทนฺติ ‘‘โจรา โว ขณฺฑาขณฺฑิกํ กโรนฺตู’’ติ, อุปฺปลปตฺตมฺปิ จ เนสํ อุปริ ปตนฺตํ น อิจฺฉนฺติ. อาจริยุปชฺฌายา จ กทาจิ นิสฺสิตเก เอวํ วทนฺติ ‘‘กึ อิเม อหิริกา อโนตฺตปฺปิโน จรนฺติ, นิทฺธมถ เน’’ติ. อถ จ เนสํ อาคมาธิคมสมฺปตฺตึ อิจฺฉนฺติ. ยถา จ จิตฺตสณฺหตาย ผรุสวาจา น โหติ, เอวํ ¶ วจนสณฺหตาย อผรุสวาจาปิ น โหติ. น หิ มาราเปตุกามสฺส ‘‘อิมํ สุขํ สยาเปถา’’ติ วจนํ อผรุสวาจา โหติ, จิตฺตผรุสตาย ปเนสา ผรุสวาจาว, สา ยํ สนฺธาย ปวตฺติตา. ตสฺส อปฺปคุณตาย อปฺปสาวชฺชา, มหาคุณตาย มหาสาวชฺชา. ตสฺสา ตโย สมฺภารา – อกฺโกสิตพฺโพ ปโร กุปิตจิตฺตํ อกฺโกสนาติ.
เนลาติ เอลํ วุจฺจติ โทโส, นาสฺสา เอลนฺติ เนลา, นิทฺโทสาติ อตฺโถ. ‘‘เนลงฺโค เสตปจฺฉาโท’’ติ (อุทา. ๖๕; เปฏโก. ๒๕) เอตฺถ วุตฺตเนลํ วิย. กณฺณสุขาติ พฺยฺชนมธุรตาย กณฺณานํ สุขา, สูจิวิชฺฌนํ วิย กณฺณสูลํ น ชเนติ. อตฺถมธุรตาย สกลสรีเร โกปํ อชเนตฺวา เปมํ ชเนตีติ เปมนิยา. หทยํ คจฺฉติ อปฏิหฺมานา สุเขน จิตฺตํ ปวิสตีติ หทยงฺคมา. คุณปริปุณฺณตาย ปุเร ภวาติ โปรี. ปุเร สํวทฺธนารี วิย สุกุมาราติปิ โปรี. ปุรสฺส เอสาติปิ โปรี, นครวาสีนํ กถาติ อตฺโถ. นครวาสิโน หิ ยุตฺตกถา โหนฺติ, ปิติมตฺตํ ปิตาติ ภาติมตฺตํ ภาตาติ วทนฺติ. เอวรูปี กถา พหุโน ชนสฺส กนฺตา ¶ โหตีติ พหุชนกนฺตา. กนฺตภาเวเนว พหุโน ชนสฺส มนาปา จิตฺตวุฑฺฒิกราติ พหุชนมนาปา.
อนตฺถวิฺาปิกา กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา อกุสลเจตนา สมฺผปฺปลาโป. โส อาเสวนมนฺทตาย อปฺปสาวชฺโช, อาเสวนมหนฺตตาย มหาสาวชฺโช. ตสฺส ทฺเว สมฺภารา – ภารตยุทฺธสีตาหรณาทินิรตฺถกกถา ปุเรกฺขารตา, ตถารูปีกถากถนฺจ.
กาเลน วทตีติ กาลวาที, วตฺตพฺพยุตฺตกาลํ สลฺลกฺเขตฺวา วทตีติ อตฺโถ. ภูตํ ตจฺฉํ สภาวเมว วทตีติ ภูตวาที. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกตฺถสนฺนิสฺสิตเมว กตฺวา วทตีติ อตฺถวาที ¶ . นวโลกุตฺตรธมฺมสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา วทตีติ ธมฺมวาที. สํวรวินยปหานวินยสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา วทตีติ วินยวาที. นิธานํ วุจฺจติ ปโนกาโส, นิธานมสฺสา อตฺถีติ นิธานวตี, หทเย นิธาตพฺพยุตฺตํ วาจํ ภาสิตาติ อตฺโถ. กาเลนาติ เอวรูปึ ภาสมาโนปิ จ ‘‘อหํ นิธานวตึ ¶ วาจํ ภาสิสฺสามี’’ติ น อกาเลน ภาสติ, ยุตฺตกาลํ ปน อเปกฺขิตฺวาว ภาสตีติ อตฺโถ. สาปเทสนฺติ สอุปมํ, สการณนฺติ อตฺโถ. ปริยนฺตวตินฺติ ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา ยถาสฺสา ปริจฺเฉโท ปฺายติ, เอวํ ภาสตีติ อตฺโถ. อตฺถสํหิตนฺติ อเนเกหิ นเยหิ วิภชนฺเตน ปริยาทาตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อตฺถสมฺปนฺนํ. ยํ วา โส อตฺถวาที อตฺถํ วทติ, เตน อตฺเถน สหิตตฺตา อตฺถสํหิตํ วาจํ ภาสติ, น อฺํ นิกฺขิปิตฺวา อฺํ ภาสตีติ วุตฺตํ โหติ.
จตูหิ วจีสุจริเตหีติ ‘‘มุสาวาทํ ปหายา’’ติอาทินา นเยน วุตฺเตหิ จตูหิ วาจาหิ ยุตฺเตหิ สุฏฺุ จริเตหิ. สมนฺนาคโตติ อปริหีโน. จตุโทสาปคตํ วาจํ ภาสตีติ อปฺปิยาทีหิ จตูหิ โทเสหิ อปคตํ ปริหีนํ วาจํ ภาสติ.
อตฺถิ อโคจโรติ กิฺจาปิ เถโร สมณาจารํ สมณโคจรํ กเถตุกาโม ‘‘อตฺถิ อโคจโร, อตฺถิ โคจโร’’ติ ปทํ อุทฺธริ, ยถา ปน มคฺคกุสโล ปุริโส มคฺคํ อาจิกฺขนฺโต ‘‘วามํ มฺุจ, ทกฺขิณํ คณฺหา’’ติ ปมํ มฺุจิตพฺพํ สภยมคฺคํ อุปฺปถมคฺคํ อาจิกฺขติ, ปจฺฉา คเหตพฺพํ เขมมคฺคํ อุชุมคฺคํ, เอวเมว มคฺคกุสลปุริสสทิโส ธมฺมเสนาปติ ปมํ ปหาตพฺพํ ¶ พุทฺธปฏิกุฏฺํ อโคจรํ อาจิกฺขิตฺวา ปจฺฉา โคจรํ อาจิกฺขิตุกาโม ‘‘กตโม อโคจโร’’ติอาทิมาห. ปุริเสน หิ อาจิกฺขิตมคฺโค สมฺปชฺเชยฺย วา น วา, ตถาคเตน อาจิกฺขิตมคฺโค อปณฺณโก อินฺทวิสฺสฏฺํ วชิรํ วิย อวิรชฺฌนโก นิพฺพานนครํเยว สโมสรติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปุริโส มคฺคกุสโลติ โข ติสฺส ตถาคตสฺเสตํ อธิวจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๘๔).
ยสฺมา วา สสีสํ นฺหาเนน ปหีนเสทมลชลฺลิกสฺส ปุริสสฺส มาลาคนฺธวิเลปนาทิวิภูสนวิธานํ วิย ปหีนปาปธมฺมสฺส กลฺยาณธมฺมสมาโยโค สมฺปนฺนรูโป โหติ, ตสฺมา เสทมลชลฺลิกํ วิย ปหาตพฺพํ ปมํ อโคจรํ อาจิกฺขิตฺวา ปหีนเสทมลชลฺลิกสฺส มาลาคนฺธวิเลปนาทิวิภูสนวิธานํ วิย ปจฺฉา โคจรํ อาจิกฺขิตุกาโมปิ ‘‘กตโม อโคจโร’’ติอาทิมาห.
ตตฺถ ¶ ¶ โคจโรติ ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถาย อุปสงฺกมิตุํ ยุตฺตฏฺานํ. อยุตฺตฏฺานํ อโคจโร. เวสิยา โคจโร อสฺสาติ เวสิยาโคจโร, มิตฺตสนฺถววเสน อุปสงฺกมิตพฺพฏฺานนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ เวสิยา นาม รูปูปชีวินิโย เยน เกนจิเทว สุลภชฺฌาจารตา มิตฺตสนฺถวสิเนหวเสน อุปสงฺกมนฺโต เวสิยาโคจโร นาม โหติ. ตสฺมา เอวํ อุปสงฺกมิตุํ น วฏฺฏติ. กึการณา? อารกฺขวิปตฺติโต. เอวํ อุปสงฺกมนฺตสฺส หิ จิรรกฺขิตโคปิโตปิ สมณธมฺโม กติปาเหเนว นสฺสติ. สเจปิ น นสฺสติ, ครหํ ลภติ. ทกฺขิณาวเสน ปน อุปสงฺกมนฺเตน สตึ อุปฏฺเปตฺวา อุปสงฺกมิตพฺพํ.
วิธวา วุจฺจนฺติ มตปติกา วา ปวุฏฺปติกา วา. ถุลฺลกุมาริโยติ มหลฺลิกา อนิพฺพิทฺธกุมาริโย. ปณฺฑกาติ โลกามิสนิสฺสิตกถาพหุลา อุสฺสนฺนกิเลสา อวูปสนฺตปริฬาหา นปุํสกา. เตสํ สพฺเพสมฺปิ อุปสงฺกมเน อาทีนโว วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ภิกฺขุนีสุปิ เอเสว นโย. อปิ จ ภิกฺขู นาม อุสฺสนฺนพฺรหฺมจริยา โหนฺติ, ตถา ภิกฺขุนิโย. เต อฺมฺํ สนฺถววเสน กติปาเหเนว รกฺขิตโคปิตสมณธมฺมํ นาเสนฺติ. คิลานปุจฺฉเกน ปน คนฺตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุนา ปุปฺผานิ ลภิตฺวา ปูชนตฺถายปิ โอวาททานตฺถายปิ คนฺตุํ วฏฺฏติเยว.
ปานาคารนฺติ ¶ สุราปานฆรํ, ตํ พฺรหฺมจริยนฺตรายกเรหิ สุราโสณฺเฑหิ อวิวิตฺตํ โหติ. ตตฺถ เตหิ สทฺธึ สหโสณฺฑวเสน อุปสงฺกมิตุํ น วฏฺฏติ, พฺรหฺมจริยนฺตราโย โหติ. สํสฏฺโ วิหรติ ราชูหีติอาทีสุ ราชาโนติ อภิสิตฺตา วา โหนฺตุ อนภิสิตฺตา วา, เย รชฺชมนุสาสนฺติ. ราชมหามตฺตาติ ราชูนํ อิสฺสริยสทิสาย มหติยา อิสฺสริยมตฺตาย สมนฺนาคตา. ติตฺถิยาติ วิปรีตทสฺสนา พาหิรปริพฺพาชกา. ติตฺถิยสาวกาติ ภตฺติวเสน เตสํ ปจฺจยทายกา, เอเตหิ สทฺธึ สํสคฺคชาโต โหตีติ อตฺโถ.
อนนุโลมิเกน สํสคฺเคนาติ อนนุโลมิกสํสคฺโค นาม ติสฺสนฺนํ สิกฺขานํ อนนุโลโม ปจฺจนีกสํสคฺโค. เยน พฺรหฺมจริยนฺตรายํ ปฺตฺติวีติกฺกมํ สลฺเลขปริหานิฺจ ปาปุณาติ. เสยฺยถิทํ? ราชราชมหามตฺเตหิ สทฺธึ สหโสกิตา สหนนฺทิตา สมสุขทุกฺขตา อุปฺปนฺเนสุ กิจฺจกรณีเยสุ ¶ อตฺตนา โยคํ อาปชฺชนตา ติตฺถิยติตฺถิยสาวเกหิ สทฺธึ เอกจฺฉนฺทรุจิสมาจารตา เอกจฺฉนฺทรุจิสมาจารภาวาวโห วา สิเนหพหุมานสนฺถโว. ตตฺถ ราชราชมหามตฺเตหิ สทฺธึ สํสคฺโค พฺรหฺมจริยนฺตรายกโร, อิตเรหิ ติตฺถิยสาวเกหิ เตสํ ลทฺธิคฺคหณํ ¶ . เตสํ ปน วาทํ ภินฺทิตฺวา อตฺตโน ลทฺธึ คณฺหาเปตุํ สมตฺเถน อุปสงฺกมิตุํ วฏฺฏติ.
อิทานิ อปเรนปิ ปริยาเยน อโคจรํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยานิ วา ปน ตานิ กุลานี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อสฺสทฺธานีติ พุทฺธาทีสุ สทฺธาวิรหิตานิ. ตานิ ‘‘พุทฺโธ สพฺพฺู, ธมฺโม นิยฺยานิโก, สงฺโฆ สุปฺปฏิปนฺโน’’ติ น สทฺทหนฺติ. อปฺปสนฺนานีติ จิตฺตํ ปสนฺนํ อนาวิลํ กาตุํ น สกฺโกนฺติ. อกฺโกสกปริภาสกานีติ อกฺโกสกานิ เจว ปริภาสกานิ จ. ‘‘โจโรสิ, พาโลสิ, มูฬฺโหสิ, โอฏฺโสิ, โคโณสิ, คทฺรโภสิ, อาปายิโกสิ, เนรยิโกสิ, ติรจฺฉานคโตสิ, นตฺถิ ตุยฺหํ สุคติ, ทุคฺคติเยว ตุยฺหํ ปาฏิกงฺขา’’ติ เอวํ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสนฺติ. ‘‘โหตุ, อิทานิ ตํ ปหริสฺสาม, พนฺธิสฺสาม, วธิสฺสามา’’ติ เอวํ ภยทสฺสเนน ปริภาสนฺติ จาติ อตฺโถ.
อนตฺถกามานีติ ¶ อตฺถํ น อิจฺฉนฺติ, อนตฺถเมว อิจฺฉนฺติ. อหิตกามานีติ อหิตเมว อิจฺฉนฺติ, หิตํ น อิจฺฉนฺติ. อผาสุกามานีติ ผาสุกํ น อิจฺฉนฺติ, อผาสุกเมว อิจฺฉนฺติ. อโยคกฺเขมกามานีติ จตูหิ โยเคหิ เขมํ นิพฺภยํ น อิจฺฉนฺติ, สภยเมว อิจฺฉนฺติ. ภิกฺขูนนฺติ เอตฺถ สามเณราปิ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ภิกฺขุนีนนฺติ เอตฺถ สิกฺขมานาสามเณริโยปิ. สพฺเพสมฺปิ หิ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิตานฺเจว สรณคตานฺจ จตุนฺนมฺปิ ปริสานํ ตานิ อนตฺถกามานิเยว. ตถารูปานิ กุลานีติ เอวรูปานิ ขตฺติยกุลาทีนิ กุลานิ. เสวตีติ นิสฺสาย ชีวติ. ภชตีติ อุปสงฺกมติ. ปยิรุปาสตีติ ปุนปฺปุนํ อุปสงฺกมติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เวสิยาทิโคจรสฺส เวสิยาทิโก ราชาทิสํสฏฺสฺส ราชาทิโก อสฺสทฺธกุลาทิเสวกสฺส อสฺสทฺธกุลาทิโก จาติ ติปฺปกาโรปิ อยุตฺตโคจโร ‘‘อโคจโร’’ติ เวทิตพฺโพ.
ตสฺส อิมินาปิ ปริยาเยน อโคจรตา เวทิตพฺพา – เวสิยาทิโก ตาว ปฺจกามคุณนิสฺสยโต อโคจโร เวทิตพฺโพ. ยถาห – ‘‘โก จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อโคจโร ปรวิสโย, ยทิทํ ปฺจ กามคุณา’’ติ ¶ . ราชาทิโก ฌานานุโยคสฺส อนุปนิสฺสยโต ลาภสกฺการาสนิจกฺกนิปฺผาทนโต ทิฏฺิวิปตฺติเหตุโต จ, อสฺสทฺธกุลาทิโก สทฺธาหานิจิตฺตปโทสาวหนโต อโคจโร.
อนฺตรฆรปฺปเวสาทิโก จ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา นิมิตฺตคฺคาหาทิโก จ สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ¶ ภฺุชิตฺวา วิสูกทสฺสนานุโยโค จ ปฺจ กามคุณา จาติ จตุพฺพิโธปิ ปน กิเลสุปฺปตฺติวเสน อโคจโรติ เวทิตพฺโพ.
มา ภิกฺขเว อโคจเร จรถาติ จริตุํ อยุตฺตฏฺาเน มา จรถ. ปรวิสเยติ สตฺตุวิสเย. อโคจเร ภิกฺขเว จรตนฺติ อยุตฺตฏฺาเน จรนฺตานํ. ‘‘จร’’นฺติปิ ปาโ. ลจฺฉตีติ ลภิสฺสติ ปสฺสิสฺสติ. มาโรติ เทวปุตฺตมาโรปิ มจฺจุมาโรปิ. โอตารนฺติ รนฺธํ ฉิทฺทํ วิวรํ.
โคจรนิทฺเทเส น เวสิยาโคจโร โหตีติอาทีนิ วุตฺตปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺพานิ. อยํ ปน วิเสโส – จตฺตาโร สติปฏฺานา โคจโรติ ¶ จริตุํ ยุตฺตฏฺานวเสน จตุสติปฏฺานา โคจโร. สเกติ อตฺตโน สนฺตเก. เปตฺติเก วิสเยติ ปิติโต อาคตวิสเย.
อารทฺธวีริยสฺสาติ สมฺมาอุปฏฺิตจตุสมฺมปฺปธานวีริยวนฺตสฺส. ถามคตสฺสาติ พลปฺปตฺตสฺส. ทฬฺหปรกฺกมสฺสาติ ถิรวีริยสฺส. ยสฺสตฺถาย เปสิโตติ เยน อรหตฺตตฺถาย อตฺตภาโว ปริจฺจตฺโต. อตฺตตฺเถ จาติ อตฺตโน อตฺเถ อรหตฺตผเล จ. าเย จาติ อริเย อฏฺงฺคิเก มคฺเค จ. ลกฺขเณ จาติ อนิจฺจาทิลกฺขณปฏิเวเธ จ. การเณ จาติ เหตุมฺหิ จ. านาาเน จาติ าเน จ อฏฺาเน จ, การณาการเณ จาติ อตฺโถ. อิทานิ วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติอาทิมาห.
๑๙๗. อฏฺมคาถาย เอโกทิ นิปโกติ เอกคฺคจิตฺโต ปณฺฑิโต.
ชาตรูปสฺส โอฬาริกมฺปิ มลํ ธมตีติ สุวณฺณสฺส ถูลํ ชลฺลํ อคฺคิสํโยเคน นีหรติ. สนฺธมตีติ สมฺมา นีหรติ. นิทฺธมตีติ อปุนภวปฺปตฺติกํ กตฺวา นีหรติ. ‘‘ฌาเปตี’’ติ เกจิ วทนฺติ. มชฺฌิมกมฺปีติ ตโต สุขุมตรมฺปิ. สุขุมกมฺปีติ อติสุขุมตรมฺปิ. เอวเมวาติ ¶ โอปมฺมสมฺปฏิปาทนํ. อตฺตโน โอฬาริเกปิ กิเลเส ธมตีติ กายทุจฺจริตาทิเก ถูลกิเลเส วีริยาตเปน นีหรติ. มชฺฌิมเกปิ กิเลเสติ กามวิตกฺกาทิเก โอฬาริกสุขุมานํ มชฺฌิมเกปิ. สุขุมเกปีติ าติวิตกฺกาทิเก อติสณฺหเกปิ กิเลเส. สมฺมาทิฏฺิยา มิจฺฉาทิฏฺึ ธมตีติ สห วิปสฺสนาย มคฺคสมฺปยุตฺตาย สมฺมาทิฏฺิยา วิปรีตสงฺขาตํ มิจฺฉาทิฏฺึ นีหรติ. สมฺมาสงฺกปฺปาทีสุปิ เอเสว นโย.
๑๙๘. เอวํ อายสฺมตา สาริปุตฺเตน ตีหิ คาถาหิ ภควนฺตํ โถเมตฺวา ปฺจหิ คาถาหิ ปฺจสตานํ ¶ สิสฺสานมตฺถาย จ เสนาสนโคจรสีลวตาทีนิ ปุจฺฉิโต ตมตฺถํ ปกาเสตุํ ‘‘วิชิคุจฺฉมานสฺสา’’ติอาทินา นเยน วิสฺสชฺชนมารทฺธํ. ตตฺถ ปมคาถาย ตาวตฺโถ – ชาติอาทีหิ ชิคุจฺฉมานสฺส ริตฺตาสนํ สยนํ เสวโต เว สมฺโพธิกามสฺส สาริปุตฺต ภิกฺขุโน ยทิทํ ผาสุ โย ผาสุวิหาโร ยถานุธมฺมํ โย จ อนุธมฺโม, ตํ เต ปวกฺขามิ ยถา ปชานํ ยถา ปชานนฺโต ¶ วเทยฺย, เอวํ วทามีติ. ยํ ผาสุวิหารนฺติ ยํ สุขวิหารํ. อสปฺปายรูปทสฺสเนนาติ อิตฺถิรูปาทิสมณาสปฺปายรูปทสฺสเนน. ตํ โพธึ พุชฺฌิตุกามสฺสาติ ตํ จตุมคฺคาณสงฺขาตํ โพธึ พุชฺฌิตุํ อิจฺฉนฺตสฺส. อนุพุชฺฌิตุกามสฺสาติ อนุรูปาย ปฏิปตฺติยา พุชฺฌิตุกามสฺส. ปฏิวิชฺฌิตุกามสฺสาติ อภิมุเข กตฺวา นิพฺพิชฺฌิตุกามสฺส. สมฺพุชฺฌิตุกามสฺสาติ ปหีนกิเลเส อปจฺจาคมนวเสน สมฺมา พุชฺฌิตุํ อิจฺฉนฺตสฺส. อธิคนฺตุกามสฺสาติ ปาปุณิตุกามสฺส. สจฺฉิกาตุกามสฺสาติ ปฏิลาภสจฺฉิกิริยาย ปตฺตุกามสฺส. อถ วา พุชฺฌิตุกามสฺสาติ โสตาปตฺติมคฺคาณํ าตุกามสฺส. อนุพุชฺฌิตุกามสฺสาติ สกทาคามิมคฺคาณํ ปุน าตุกามสฺส. ปฏิวิชฺฌิตุกามสฺสาติ อนาคามิมคฺคาณํ ปฏิเวธวเสน าตุกามสฺส. สมฺพุชฺฌิตุกามสฺสาติ อรหตฺตมคฺคาณํ สมฺมา าตุกามสฺส. อธิคนฺตุกามสฺสาติ จตุพฺพิธมฺปิ อธิคนฺตุกามสฺส. ผสฺสิตุกามสฺสาติ าณผุสนาย ผุสิตุกามสฺส. สจฺฉิกาตุกามสฺสาติ ปจฺจเวกฺขณาย ปจฺจกฺขํ ¶ กตฺตุกามสฺส.
จตุนฺนํ มคฺคานํ ปุพฺพภาเค วิปสฺสนาติ จตุนฺนํ อริยมคฺคานํ ปุริมโกฏฺาเส อุปฺปนฺนอุทยพฺพยาทิวิปสฺสนาาณานิ.
๑๙๙. ทุติยคาถาย สปริยนฺตจารีติ สีลาทีสุ จตูสุ ปริยนฺเตสุ จรมาโน. ฑํสาธิปาตานนฺติ ปิงฺคลมกฺขิกานฺจ เสสมกฺขิกานฺจ. เต หิ ตโต ตโต อธิปติตฺวา ขาทนฺติ, ตสฺมา ‘‘อธิปาตา’’ติ วุจฺจนฺติ. มนุสฺสผสฺสานนฺติ โจราทิผสฺสานํ.
จตฺตาโร ปริยนฺตาติ จตฺตาโร มริยาทา ปริจฺเฉทา. อนฺโตปูติภาวํ ปจฺจเวกฺขมาโนติ อพฺภนฺตเร กุจฺฉิตภาวํ สีลวิรหิตภาวํ โอโลกยมาโน. อนฺโต สีลสํวรปริยนฺเต จรตีติ สีลสํวรปริจฺเฉทพฺภนฺตเร จรติ วิจรติ. มริยาทํ น ภินฺทตีติ สีลมริยาทํ สีลปริจฺเฉทํ น โกเปติ.
อาทิตฺตปริยายํ ปจฺจเวกฺขมาโนติ อาทิตฺตเทสนํ (มหาว. ๕๔; สํ. นิ. ๓.๖๑; ๔.๒๘) โอโลเกนฺโต. อกฺขพฺภฺชนวณปฏิจฺฉาทนปุตฺตมํสูปมํ ปจฺจเวกฺขมาโนติ สากฏิกสฺส ¶ ¶ อกฺขพฺภฺชนอุปมฺจ, กุฏฺพฺยาธิโน วณานํ ปฏิจฺฉาทนเตลปิโลติกอุปมฺจ, กนฺตารปฏิปนฺนานํ ชายมฺปติกานํ ปุตฺตมํสขาทนอุปมฺจ (สํ. นิ. ๒.๖๓; มิ. ป. ๖.๑.๒) โอโลเกนฺโต. ภทฺเทกรตฺตวิหารํ ปจฺจเวกฺขมาโนติ –
‘‘อตีตํ นานฺวาคเมยฺย, นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ;
ตํ เว ‘ภทฺเทกรตฺโต’ติ, สนฺโต อาจิกฺขเต มุนี’’ติ. (ม. นิ. ๓.๒๘๐; เนตฺติ. ๑๐๓) –
เอวํ วุตฺตํ ภทฺเทกรตฺตวิหารํ โอโลเกนฺโต. ตา อุปฺปติตฺวา อุปฺปติตฺวา ขาทนฺตีติ นิปฺปติตฺวา นิปฺปติตฺวา ขาทนฺติ.
๒๐๐. ตติยคาถาย ปรธมฺมิกา นาม สตฺตสหธมฺมิกวชฺชา สพฺเพปิ เต พาหิรกา. กุสลานุเอสีติ กุสลธมฺเม อนฺเวสมาโน.
สตฺต สหธมฺมิเก เปตฺวาติ ภิกฺขุภิกฺขุนีสิกฺขมานาสามเณรสามเณรีอุปาสกอุปาสิกาโย วชฺเชตฺวา. อถาปรานิปิ ¶ อตฺถิ อภิสมฺโภตพฺพานีติ อปรานิปิ มทฺทิตพฺพานิ อตฺถิ สํวิชฺชนฺติ.
๒๐๑. จตุตฺถคาถาย อาตงฺกผสฺเสนาติ โรคผสฺเสน. สีตํ อถุณฺหนฺติ สีตฺจ อุณฺหฺจ. โส เตหิ ผุฏฺโ พหุธาติ โส เตหิ อาตงฺกาทีหิ อเนเกหิ อากาเรหิ ผุฏฺโ สมาโน. อโนโกติ อภิสงฺขารวิฺาณาทีนํ อโนกาสภูโต. อพฺภนฺตรธาตุปโกปวเสน วาติ สรีรพฺภนฺตเร อาโปธาตุกฺโขภวเสน วา อฺธาตุกฺโขภวเสน วา. อุณฺหนฺติ สรีรพฺภนฺตเร เตโชธาตุกฺโขภวเสน อุณฺหํ ภวติ. อภิสงฺขารสหคตวิฺาณสฺสาติ กุสลากุสลเจตนาสมฺปยุตฺตจิตฺตสฺส. โอกาสํ น กโรตีติ อวกาสํ ปติฏฺํ น กโรติ. อวตฺถิตสมาทาโนติ โอตริตฺวา คาหโก.
๒๐๒. เอวํ ‘‘ภิกฺขุโน วิชิคุจฺฉโต’’ติอาทีหิ ตีหิ คาถาหิ ปุฏฺมตฺถํ วิสฺสชฺเชตฺวา อิทานิ ‘‘กฺยาสฺส พฺยปฺปถโย’’ติอาทินา นเยน ปุฏฺํ วิสฺสชฺเชนฺโต ‘‘เถยฺยํ น กาเร’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ผสฺเสติ ผุเสยฺย. ยทาวิลตฺตํ มนโส วิชฺาติ ยํ จิตฺตสฺส อาวิลตฺตํ วิชาเนยฺย, ตํ สพฺพํ ‘‘กณฺหสฺส ปกฺโข’’ติ วิโนทเยยฺย.
อทินฺนาทานํ ¶ ¶ ปหายาติ เอตฺถ อทินฺนสฺส อาทานํ อทินฺนาทานํ, ปรสํหรณํ, เถยฺยํ โจริกาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ อทินฺนนฺติ ปรปริคฺคหิตํ, ยตฺถ ปโร ยถากามการิตํ อาปชฺชนฺโต อทณฺฑารโห อนุปวชฺโช จ โหติ; ตสฺมึ ปรปริคฺคหิเต ปรปริคฺคหิตสฺิโน ตทาทายกอุปกฺกมสมุฏฺาปิกา เถยฺยเจตนา อทินฺนาทานํ. ตํ หีเน ปรสฺส สนฺตเก อปฺปสาวชฺชํ, ปณีเต มหาสาวชฺชํ. กสฺมา? วตฺถุปณีตตาย. วตฺถุสมตฺเต สติ คุณาธิกานํ สนฺตเก วตฺถุสฺมึ มหาสาวชฺชํ, ตํ ตํ คุณาธิกํ อุปาทาย ตโต ตโต หีนคุณสฺส สนฺตเก วตฺถุสฺมึ อปฺปสาวชฺชํ.
ตสฺส ปฺจ สมฺภารา โหนฺติ – ปรปริคฺคหิตํ, ปรปริคฺคหิตสฺิตา, เถยฺยจิตฺตํ, อุปกฺกโม, เตน หรณนฺติ. ปหายาติ อิมํ อทินฺนาทานเจตนาสงฺขาตํ ทุสฺสีลฺยํ ปชหิตฺวา. ปฏิวิรโตติ ปหีนกาลโต ปฏฺาย ตโต ทุสฺสีลฺยโต โอรโต วิรโตว. ทินฺนเมว อาทิยตีติ ทินฺนาทายี. จิตฺเตนปิ ทินฺนเมว ปฏิกงฺขตีติ ทินฺนปาฏิกงฺขี. เถเนตีติ ¶ เถโน, น เถเนน อเถเนน. อเถนตฺตาเยว สุจิภูเตน. อตฺตนาติ อตฺตภาเวน, อเถนํ สุจิภูตํ อตฺตภาวํ กตฺวา วิหรตีติ วุตฺตํ โหติ. อิโต ปรํ วุตฺตนยเมว.
เมตฺตายนวเสน เมตฺติ. เมตฺตากาโร เมตฺตายนา. เมตฺตาย อยิตสฺส เมตฺตาสมงฺคิโน จิตฺตสฺส ภาโว เมตฺตายิตตฺตํ. อนุทยตีติ อนุทยา, รกฺขตีติ อตฺโถ. อนุทยากาโร อนุทยนา. อนุทยิตสฺส ภาโว อนุทยิตตฺตํ. หิตสฺส เอสนวเสน หิเตสิตา. อนุกมฺปนวเสน อนุกมฺปา. สพฺเพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ อุปจารปฺปนาปฺปตฺตาว เมตฺตา วุตฺตา. วิปุเลนาติ เอตฺถ ผรณวเสน วิปุลตา ทฏฺพฺพา. ภูมิวเสน ปน ตํ มหคฺคตํ. ปคุณวเสน อปฺปมาณํ. สตฺตารมฺมณวเสน จ อปฺปมาณํ. พฺยาปาทปจฺจตฺถิกปฺปหาเนน อเวรํ. โทมนสฺสปฺปหานโต อพฺยาปชฺชํ, นิทฺทุกฺขนฺติ วุตฺตํ โหติ.
อาวิลนฺติ อปฺปสนฺนํ. ลุฬิตนฺติ กลลํ. เอริตนฺติ อสนฺนิฏฺานํ. ฆฏฺฏิตนฺติ อารมฺมเณน ฆฏฺฏนมาปาทิตํ. จลิตนฺติ กมฺปมานํ. ภนฺตนฺติ วิพฺภนฺตํ. อวูปสนฺตนฺติ อนิพฺพุตํ.
โย ¶ โส มาโรติ เอวมาทีสุ มหาชนํ อนตฺเถ นิโยเชตฺวา มาเรตีติ มาโร. กณฺหกมฺมตฺตา กณฺโห. กามาวจริสฺสรตฺตา อธิปติ. มรณํ ปาปนโต อนฺตคู. มฺุจิตุํ อปฺปทานฏฺเน นมุจิ. มารสฺส พฬิสนฺติ มารพฬิสํ. วฏฺฏสนฺนิสฺสิตฏฺเน มารสฺส อามิสนฺติ มารามิสํ. วสวตฺตนฏฺเน มารสฺส วิสโยติ มารวิสโย. โคจรฏฺเน มารสฺส นิวาโสติ มารนิวาโส ¶ . กามจารํ จรฏฺเน มารสฺส โคจโรติ มารโคจโร. ทุปฺปมฺุจนฏฺเน มารสฺส พนฺธนนฺติ มารพนฺธนํ. ทุกฺขุทฺทโยติ ทุกฺขพนฺธโน.
๒๐๓. มูลมฺปิ เตสํ ปลิขฺ ติฏฺเติ เตสํ โกธาติมานานํ ยํ อวิชฺชาทิกํ มูลํ, ตมฺปิ ปลิขณิตฺวา ติฏฺเยฺย. อทฺธา ภวนฺโต อภิสมฺภเวยฺยาติ เอตํ ปิยาปิยํ อภิภวนฺโต เอกํเสเนว อภิภเวยฺย, น ตตฺถ สิถิลํ ปรกฺกเมยฺยาติ อธิปฺปาโย.
อวิชฺชา มูลนฺติอาทโย ¶ อวิชฺชา โกธสฺส อุปนิสฺสยสหชาตาทิวเสน มูลํ โหติ. อนุปายมนสิกาโร จ อสฺมิมาโน จ อิเม ทฺเว อุปนิสฺสยวเสเนว. อหิริกอโนตฺตปฺปอุทฺธจฺจา อิเม ตโย อุปนิสฺสยสหชาตาทิวเสน มูลานิ โหนฺติ, ตถา อติมานสฺสาปิ.
๒๐๔. ปฺํ ปุรกฺขตฺวาติ ปฺํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา. กลฺยาณปีตีติ กลฺยาณปีติยา สมนฺนาคโต. จตุโร สเหถ ปริเทวธมฺเมติ อนนฺตรคาถาย วุจฺจมาเน ปริเทวนียธมฺเม สเหยฺย.
วิจยพหุโลติ ปริวีมํสนพหุโล. ปวิจยพหุโลติ วิเสเสน วีมํสนพหุโล. เปกฺขายนพหุโลติ อิกฺขณพหุโล. สเมกฺขายนพหุโลติ เอสนพหุโล. วิภูตวิหารีติ ปากฏํ กตฺวา าตวิหารี.
อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเตติ เอตฺถ ตาว อภิกฺกนฺตํ วุจฺจติ คมนํ. ปฏิกฺกนฺตํ นิวตฺตนํ. ตทุภยมฺปิ จตูสุ อิริยาปเถสุ ลพฺภติ. คมเน ตาว ปุรโต กายํ อภิหรนฺโต อภิกฺกมติ นาม. ปฏินิวตฺเตนฺโต ปฏิกฺกมติ นาม. าเนปิ ิตโกว กายํ ปุรโต โอนเมนฺโต อภิกฺกมติ นาม. ปจฺฉโต อปนาเมนฺโต ปฏิกฺกมติ นาม. นิสชฺชายปิ นิสินฺนโกว อาสนสฺส ปุริมองฺคาภิมุโข สํสรนฺโต อภิกฺกมติ นาม. ปจฺฉิมองฺคปฺปเทสํ ปจฺฉา สํสรนฺโต ปฏิกฺกมติ นาม. นิปชฺชายปิ เอเสว นโย.
สมฺปชานการี ¶ โหตีติ สมฺปชฺเน สพฺพกิจฺจการี, สมฺปชฺเมว วา การี โหติ. โส หิ อภิกฺกนฺตาทีสุ สมฺปชฺํ กโรเตว, น กตฺถจิ สมฺปชฺวิรหิโต โหติ. อาโลกิเต วิโลกิเตติ เอตฺถ ปน อาโลกิตํ นาม ปุรโต เปกฺขนํ. วิโลกิตํ นาม อนุทิสาเปกฺขนํ. อฺานิปิ เหฏฺา อุปริ ปจฺฉโต เปกฺขนวเสน โอโลกิตอุลฺโลกิตอปโลกิตานิ ¶ นาม โหนฺติ. ตานิ อิธ น คหิตานิ. สารุปฺปวเสน ปน อิมาเนว ทฺเว คหิตานิ, อิมินา วา มุเขน สพฺพานิ คหิตาเนวาติ.
สมิฺชิเต ปสาริเตติ ปพฺพานํ สมิฺชนปสารเณ. สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณติ เอตฺถ สงฺฆาฏิจีวรานํ นิวาสนปารุปนวเสน ¶ , ปตฺตสฺส ภิกฺขาปฏิคฺคหณาทิวเสน ปริโภโค ธารณํ นาม. อสิตาทีสุ อสิเตติ ปิณฺฑปาตโภชเน. ปีเตติ ยาคุอาทิปาเน. ขายิเตติ ปิฏฺขชฺชกาทิขาทเน. สายิเตติ มธุผาณิตาทิสายเน. อุจฺจารปสฺสาวกมฺเมติ อุจฺจารสฺส จ ปสฺสาวสฺส จ กรเณ. คตาทีสุ คเตติ คมเน. ิเตติ าเน. นิสินฺเนติ นิสชฺชาย.
สุตฺเตติ สยเน. ชาคริเตติ ชาครเณ. ภาสิเตติ กถเน. ตตฺถ อุปาทารูปสฺส สทฺทายตนสฺส อปฺปวตฺเต สติ ภาสิตา นาม น โหติ, ตสฺมึ ปวตฺตนฺเต โหตีติ ปริคฺคาหโก ภิกฺขุ ภาสิเต สมฺปชานการี นาม โหติ. วิมุตฺตายตนสีเสน ธมฺมํ เทเสนฺโตปิ พาตฺตึสติรจฺฉานกถํ ปหาย ทสกถาวตฺถุนิสฺสิตํ กถํ กเถนฺโตปิ ภาสิเต สมฺปชานการี นาม. ตุณฺหีภาเวติ อกถเน. ตตฺถ อุปาทารูปสฺส สทฺทายตนสฺส ปวตฺติยํ ตุณฺหีภาโว นาม นตฺถิ, อปฺปวตฺติยํ โหตีติ ปริคฺคาหโก ภิกฺขุ ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี นาม โหติ. อฏฺตึสอารมฺมเณสุ จิตฺตรุจิยํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา นิสินฺโนปิ ทุติยชฺฌานํ สมาปนฺโนปิ ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี นาม. เอตฺถ จ เอโก อิริยาปโถ ทฺวีสุ าเนสุ อาคโต. โส เหฏฺา อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเตติ เอตฺถ ภิกฺขาจารคามํ คจฺฉโต อาคจฺฉโต จ อทฺธานคมนวเสน กถิโต. คเต ิเตติ เอตฺถ วิหาเร จุณฺณิกปาทุทฺธารวเสน กถิโตติ เวทิตพฺโพ. พุทฺธานุสฺสติวเสนาติอาทโย เหฏฺา ตตฺถ ตตฺถ ปกาสิตา เอว.
อรตีติ ¶ รติปฏิกฺเขโป. อรติตาติ อรมนากาโร. อนภิรตีติ อนภิรตภาโว. อนภิรมนาติ อนภิรมนากาโร. อุกฺกณฺิตาติ อุกฺกณฺนากาโร. ปริตสฺสิตาติ อุกฺกณฺนวเสเนว ปริตสฺสนา.
๒๐๕. กึ สู อสิสฺสนฺติ กึ ภฺุชิสฺสามิ. กุว วา อสิสฺสนฺติ กุหึ วา อสิสฺสามิ. ทุกฺขํ วต เสตฺถ กุวชฺช เสสฺสนฺติ อิมํ รตฺตึ ทุกฺขํ สยึ, อชฺช อาคมนรตฺตึ กตฺถ สยิสฺสํ. เอเต วิตกฺเกติ เอเต ปิณฺฑปาตนิสฺสิเต ทฺเว, เสนาสนนิสฺสิเต ทฺเวติ จตฺตาโร วิตกฺเก. อนิเกตจารีติ อปลิโพธจารี นิตฺตณฺหจารี.
ผลเก ¶ ¶ วาติ วงฺกาทิผลกปีเ จ. อาคามิรตฺตินฺติ อาคมนิรตฺติยํ. อาเทวเนยฺเยติ วิเสเสน เทวนิยฺเย. ปริเทวเนยฺเยติ สมนฺตโต เทวนิยฺเย.
๒๐๖. กาเลติ ปิณฺฑปาตกาเล ปิณฺฑปาตสงฺขาตํ อนฺนํ วา, จีวรกาเล จีวรสงฺขาตํ วสนํ วา ลทฺธา ธมฺเมน สเมนาติ อธิปฺปาโย. มตฺตํ ส ชฺาติ ปริคฺคเห จ ปริโภเค จ โส ปมาณํ ชาเนยฺย. อิธาติ สาสเน, นิปาตมตฺตเมว วา เอตํ. โตสนตฺถนฺติ สนฺโตสตฺถํ, เอตทตฺถํ มตฺตํ ชาเนยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. โส เตสุ คุตฺโตติ โส ภิกฺขุ เตสุ ปจฺจเยสุ คุตฺโต. ยตจารีติ สฺตวิหาโร, รกฺขิตอิริยาปโถ รกฺขิตกายวจีมโนทฺวาโร จาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ยติจารี’’ติปิ ปาโ, เอโสเยวตฺโถ. รุสิโตติ โรสิโต. ฆฏฺฏิโตติ วุตฺตํ โหติ.
ทฺวีหิ การเณหิ มตฺตํ ชาเนยฺยาติ ทฺวีหิ ภาเคหิ ปมาณํ ชาเนยฺย. ปฏิคฺคหณโต วาติ ปเรหิ ทิยฺยมานคฺคหณกาลโต วา. ปริโภคโต วาติ ปริภฺุชนกาลโต วา. โถเกปิ ทิยฺยมาเนติ อปฺปเกปิ ทิยฺยมาเน. กุลานุทยายาติ กุลานํ อนุทยตาย. กุลานุรกฺขายาติ กุลานํ อนุรกฺขณตฺถาย. ปฏิคฺคณฺหาตีติ โถกมฺปิ คณฺหาติ. พหุเกปิ ทิยฺยมาเนติ อนปฺปเกปิ ทิยฺยมาเน. กายปริหาริกํ จีวรํ ปฏิคฺคณฺหาตีติ เอตฺถ กายํ ปริหรติ โปเสตีติ กายปริหาริกํ. กุจฺฉิปริหาริกนฺติ กุจฺฉึ ปริหรติ โปเสตีติ กุจฺฉิปริหาริกํ. อิตรีตรปจฺจยสนฺโตเสน สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน อฏฺ ปริกฺขารา วฏฺฏนฺติ ตีณิ จีวรานิ ปตฺโต ทนฺตกฏฺจฺเฉทนวาสิ เอกา สูจิ กายพนฺธนํ ปริสฺสาวนนฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ติจีวรฺจ ¶ ปตฺโต จ, วาสิ สูจิ จ พนฺธนํ;
ปริสฺสาวเนน อฏฺเเต, ยุตฺตโยคสฺส ภิกฺขุโน’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๑๕; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒๙๔; ๒.๓๔๙; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๔.๑๙๘);
เต สพฺเพ กายปริหาริกาปิ โหนฺติ กุจฺฉิปริหาริกาปิ. กถํ? ติจีวรํ ตาว นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ วิจรณกาเล กายํ ¶ ปริหรติ โปเสตีติ กายปริหาริกํ โหติ. จีวรกณฺเณน อุทกํ ปริสฺสาเวตฺวา ปิวนกาเล ขาทิตพฺพผลาผลคฺคหณกาเล จ กุจฺฉึ ปริหรติ โปเสตีติ กุจฺฉิปริหาริกํ โหติ.
ปตฺโตปิ เตน อุทกํ อุทฺธริตฺวา นฺหานกาเล กุฏิปริภณฺฑกรณกาเล จ กายปริหาริโก โหติ ¶ . อาหารํ คเหตฺวา ภฺุชนกาเล กุจฺฉิปริหาริโก. วาสิปิ ตาย ทนฺตกฏฺจฺเฉทนกาเล มฺจปีานํ องฺคปาทจีวรกุฏิทณฺฑกสชฺชนกาเล จ กายปริหาริกา โหติ. อุจฺฉุจฺเฉทนนาฬิเกราทิตจฺฉนกาเล กุจฺฉิปริหาริกา. สูจิ จีวรสิพฺพนกาเล กายปริหาริกา โหติ. ปูวํ วา ผลํ วา วิชฺฌิตฺวา ขาทนกาเล กุจฺฉิปริหาริกา. กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา วิจรณกาเล กายปริหาริกํ. อุจฺฉุอาทีนิ พนฺธิตฺวา คหณกาเล กุจฺฉิปริหาริกํ. ปริสฺสาวนํ เตน อุทกํ ปริสฺสาเวตฺวา นฺหานกาเล เสนาสนปริภณฺฑกรณกาเล จ กายปริหาริกํ, ปานียปาณกปริสฺสาวนกาเล เตเนว ติลตณฺฑุลปุถุกาทีนิ คเหตฺวา ขาทนกาเล จ กุจฺฉิปริหาริกํ.
ปฏิสงฺขาโยนิโสติ อุปาเยน ปเถน ปฏิสงฺขาย ตฺวา, ปจฺจเวกฺขิตฺวาติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ‘‘สีตสฺส ปฏิฆาตายา’’ติอาทินา นเยน วุตฺตปจฺจเวกฺขณเมว โยนิโส ปฏิสงฺขาติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ จีวรนฺติ อนฺตรวาสกาทีสุ ยํกิฺจิ. ปฏิเสวตีติ ปริภฺุชติ นิวาเสติ วา ปารุปติ วา. ยาวเทวาติ ปโยชนาวธิปริจฺเฉทนิยมวจนํ. เอตฺตกเมว หิ โยคิโน จีวรปฏิเสวเน ปโยชนํ, ยทิทํ สีตสฺส ปฏิฆาตายาติอาทิ, น อิโต ภิยฺโย. สีตสฺสาติ อชฺฌตฺตธาตุกฺโขภวเสน วา พหิทฺธา อุตุปริณามนวเสน วา อุปฺปนฺนสฺส ยสฺส กสฺสจิ สีตสฺส.
ปฏิฆาตายาติ ปฏิหนนตฺถํ. ยถา สรีเร อาพาธํ น อุปฺปาเทติ, เอวํ ตสฺส วิโนทนตฺถํ. สีตพฺภาหเต หิ สรีเร วิกฺขิตฺตจิตฺโต โยนิโส ปทหิตุํ น สกฺโกติ. ตสฺมา สีตสฺส ปฏิฆาตาย จีวรํ เสวิตพฺพนฺติ ¶ ภควา อนฺุาสิ. เอส นโย สพฺพตฺถ. เกวลฺเหตฺถ อุณฺหสฺสาติ อคฺคิสนฺตาปสฺส, ตสฺส วนทาหาทีสุ สมฺภโว เวทิตพฺโพ. ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสานนฺติ เอตฺถ ปน ฑํสาติ ฑํสนมกฺขิกา. ‘‘อนฺธมกฺขิกา’’ติปิ วุจฺจนฺติ. มกสาติ มกสา เอว. วาตาติ สรชอรชาทิเภทา ¶ . อาตโปติ สูริยาตโป. สรีสปาติ เย เกจิ สรนฺตา คจฺฉนฺติ ทีฆชาติกา สปฺปาทโย, เตสํ ทฏฺสมฺผสฺโส จ ผุฏฺสมฺผสฺโส จาติ ทุวิโธ สมฺผสฺโส; โสปิ จีวรํ ปารุปิตฺวา นิสินฺนํ น พาธติ. ตสฺมา ตาทิเสสุ าเนสุ เตสํ ปฏิฆาตตฺถาย ปฏิเสวติ. ยาวเทวาติ ปุน เอตสฺส วจนํ นิยตปโยชนาวธิปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ. หิริโกปีนปฏิจฺฉาทนตฺถนฺติ นิยตปโยชนํ, อิตรานิ กทาจิ โหนฺติ. ตตฺถ หิริโกปีนนฺติ ตํ ตํ สมฺพาธฏฺานํ. ยสฺมึ ยสฺมิฺหิ องฺเค วิวริยมาเน หิรี กุปฺปติ วินสฺสติ, ตํ ตํ หิรึ โกปนโต หิริโกปีนนฺติ วุจฺจติ. ตสฺส จ หิริโกปีนสฺส ปฏิจฺฉาทนตฺถนฺติ หิริโกปีนปฏิจฺฉาทนตฺถํ. ‘‘หิริโกปีนํ ปฏิจฺฉาทนตฺถ’’นฺติปิ ปาโ.
ปิณฺฑปาตนฺติ ¶ ยํกิฺจิ อาหารํ. โย หิ โกจิ อาหาโร ภิกฺขุโน ปิณฺโฑลฺเยน ปตฺเต ปติตตฺตา ‘‘ปิณฺฑปาโต’’ติ วุจฺจติ. ปิณฺฑานํ วา ปาโต ปิณฺฑปาโต, ตตฺถ ตตฺถ ลทฺธานํ ภิกฺขานํ สนฺนิปาโต, สมูโหติ วุตฺตํ โหติ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.
เสนาสนนฺติ สยนฺจ อาสนฺจ. ยตฺถ ยตฺถ หิ เสติ วิหาเร วา อฑฺฒโยคาทิมฺหิ วา, ตํ เสนํ. ยตฺถ ยตฺถ อาสติ นิสีทติ, ตํ อาสนํ, ตํ เอกโต กตฺวา ‘‘เสนาสน’’นฺติ วุจฺจติ. อุตุปริสฺสยวิโนทนปฏิสลฺลานารามตฺถนฺติ ปริสหนฏฺเน อุตุเยว อุตุปริสฺสโย. อุตุปริสฺสยสฺส วิโนทนตฺถฺจ ปฏิสลฺลานารามตฺถฺจ. โย สรีราพาธจิตฺตวิกฺเขปกโร อสปฺปาโย อุตุ เสนาสนปฏิเสวเนน วิโนเทตพฺโพ โหติ, ตสฺส วิโนทนตฺถํ เอกีภาวสุขตฺถฺจาติ วุตฺตํ โหติ. กามฺจ สีตปฏิฆาตาทินาว อุตุปริสฺสยวิโนทนํ วุตฺตเมว. ยถา ปน จีวรปฏิเสวเน ‘‘หิริโกปีนปฏิจฺฉาทนํ นิยตปโยชนํ, อิตรานิ กทาจิ กทาจิ ภวนฺตี’’ติ วุตฺตํ, เอวมิธาปิ นิยตอุตุปริสฺสยวิโนทนํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อถ วา อยํ วุตฺตปฺปกาโร อุตุ อุตุเยว. ปริสฺสโย ปน ทุวิโธ ปากฏปริสฺสโย จ ปฏิจฺฉนฺนปริสฺสโย จ. ตตฺถ ¶ ปากฏปริสฺสโย สีหพฺยคฺฆาทโย, ปฏิจฺฉนฺนปริสฺสโย ราคโทสาทโย. เต ยตฺถ อปริคุตฺติยา จ อสปฺปายรูปทสฺสนาทินา จ อาพาธํ น กโรนฺติ, ตํ เสนาสนํ เอวํ ชานิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปฏิเสวนฺโต ¶ ภิกฺขุ ปฏิสงฺขา โยนิโส เสนาสนํ อุตุปริสฺสยวิโนทนตฺถํ ปฏิเสวตีติ เวทิตพฺโพ.
คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารนฺติ เอตฺถ โรคสฺส ปฏิอยนฏฺเน ปจฺจโย, ปจฺจนีกคมนฏฺเนาติ อตฺโถ. ยสฺส กสฺสจิ สปฺปายสฺเสตํ อธิวจนํ. ภิสกฺกสฺส กมฺมํ เตน อนฺุาตตฺตาติ เภสชฺชํ. คิลานปจฺจโยว เภสชฺชํ คิลานปจฺจยเภสชฺชํ, ยํ กิฺจิ คิลานสฺส สปฺปายํ ภิสกฺกกมฺมํ เตลมธุผาณิตาทีติ วุตฺตํ โหติ. ปริกฺขาโรติ ปน ‘‘สตฺตหิ นครปริกฺขาเรหิ สุปริกฺขตฺตํ โหตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๗.๖๗) ปริวาโร วุจฺจติ. ‘‘รโถ สีลปริกฺขาโร, ฌานกฺโข จกฺกวีริโย’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๔) อลงฺกาโร. ‘‘เย จ โข อิเม ปพฺพชิเตน ชีวิตปริกฺขารา สมุทาเนตพฺพา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๙๑-๑๙๒) สมฺภาโร. อิธ ปน สมฺภาโรปิ ปริวาโรปิ วฏฺฏติ. ตฺจ คิลานปจฺจยเภสชฺชํ ชีวิตสฺส ปริวาโรปิ โหติ, ชีวิตนาสกาพาธุปฺปตฺติยา อนฺตรํ อทตฺวา รกฺขณโต สมฺภาโรปิ. ยถาจิรํ ปวตฺตติ, เอวมสฺส การณภาวโต; ตสฺมา ‘‘ปริกฺขาโร’’ติ วุจฺจติ. เอวํ คิลานปจฺจยเภสชฺชฺจ ตํ ปริกฺขาโร จาติ คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาโร, ตํ ¶ คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ. คิลานสฺส ยํ กิฺจิ สปฺปายํ ภิสกฺกานฺุาตํ เตลมธุผาณิตาทิชีวิตปริกฺขารนฺติ วุตฺตํ โหติ.
อุปฺปนฺนานนฺติ ชาตานํ ภูตานํ นิพฺพตฺตานํ. เวยฺยาพาธิกานนฺติ เอตฺถ พฺยาพาโธติ ธาตุกฺโขโภ ตํสมุฏฺานา จ กุฏฺคณฺฑปีฬกาทโย, พฺยาพาธโต อุปฺปนฺนตฺตา เวยฺยาพาธิกา. เวทนานนฺติ ทุกฺขเวทนา, อกุสลวิปากเวทนา, ตาสํ เวยฺยาพาธิกานํ เวทนานํ. อพฺยาพชฺฌปรมตายาติ นิทฺทุกฺขปรมตาย. ยาว ตํ ทุกฺขํ สพฺพํ ปหีนํ โหติ, ตาวาติ อตฺโถ.
สนฺตุฏฺโ โหตีติ ปจฺจยสนฺโตเสน สนฺตุฏฺโ โหติ. อิตรีตเรน จีวเรนาติ ถูลสุขุมลูขปณีตถิรชิณฺณานํ เยน เกนจิ. อถ โข ยถาลทฺธาทีนํ อิตรีตเรน เยน เกนจิ สนฺตุฏฺโ โหตีติ ¶ อตฺโถ. จีวรสฺมิฺหิ ตโย ¶ สนฺโตสา ยถาลาภสนฺโตโส ยถาพลสนฺโตโส ยถาสารุปฺปสนฺโตโสติ. ปิณฺฑปาตาทีสุปิ เอเสว นโย.
วณฺณวาทีติ เอโก สนฺตุฏฺโ โหติ, สนฺโตสสฺส วณฺณํ น กเถติ, เอโก น สนฺตุฏฺโ โหติ, สนฺโตสสฺส วณฺณํ กเถติ, เอโก เนว สนฺตุฏฺโ โหติ, น สนฺโตสสฺส วณฺณํ กเถติ, เอโก สนฺตุฏฺโ จ โหติ, สนฺโตสสฺส วณฺณํ กเถติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที’’ติ วุตฺตํ. อเนสนนฺติ ทูเตยฺยปหีนคมนานุโยคปฺปเภทํ นานปฺปการํ อเนสนํ. อปฺปติรูปนฺติ อยุตฺตํ. อลทฺธา จาติ อลภิตฺวา. ยถา เอกจฺโจ ‘‘กถํ นุ โข จีวรํ ลภิสฺสามี’’ติ ปฺุวนฺเตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ เอกโต หุตฺวา โกหฺํ กโรนฺโต อุตฺตสฺสติ ปริตสฺสติ, สนฺตุฏฺโ ภิกฺขุ เอวํ อลทฺธา จ จีวรํ น ปริตสฺสติ. ลทฺธา จาติ ธมฺเมน สเมน ลภิตฺวา. อคธิโตติ วิคตโลภวนฺโต. อมุจฺฉิโตติ อธิมตฺตตณฺหาย มุจฺฉํ อนาปนฺโน. อนชฺฌาปนฺโนติ ตณฺหาย อโนตฺถโฏ อปริโยนทฺโธ. อาทีนวทสฺสาวีติ อเนสนาปตฺติยฺจ คธิตปริโภเค จ อาทีนวํ ปสฺสมาโน. นิสฺสรณปฺโติ ‘‘ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตายา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๓) วุตฺตํ นิสฺสรณํ เอว ปชานนฺโต. อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยาติ เยน เกนจิ จีวเรน สนฺตุฏฺิยา. เนวตฺตานุกฺกํเสตีติ ‘‘อหํ ปํสุกูลิโก, มยา อุปสมฺปทมาเฬเยว ปํสุกูลิกงฺคํ คหิตํ, โก มยา สทิโส อตฺถี’’ติ อตฺตุกฺกํสนํ น กโรติ. น ปรํ วมฺเภตีติ ‘‘อิเม ปนฺเ ภิกฺขู น ปํสุกูลิกา’’ติ วา ‘‘ปํสุกูลิกมตฺตมฺปิ เอเตสํ นตฺถี’’ติ วา เอวํ ปรํ น วมฺเภติ.
โย ¶ หิ ตตฺถ ทกฺโขติ โย ตสฺมึ จีวรสนฺโตเส วณฺณวาที, ตาสุ วา ทกฺโข เฉโก พฺยตฺโต. อนลโสติ สาตจฺจกิริยาย อาลสิยวิรหิโต. สมฺปชาโน ปฏิสฺสโตติ สมฺปชานปฺาย เจว สติยา จ ยุตฺโต. โปราเณติ น อธุนุปฺปตฺติเก. อคฺคฺเติ ‘‘อคฺโค’’ติ ชานิตพฺเพ. อริยวํเส ิโตติ อริยานํ วํเส ปติฏฺิโต. อริยวํโสติ จ ยถา หิ ขตฺติยวํโส พฺราหฺมณวํโส เวสฺสวํโส สุทฺทวํโส ¶ สมณวํโส กุลวํโส ราชวํโส, เอวํ อยมฺปิ อฏฺโม อริยวํโส อริยตนฺติ อริยปเวณี นาม โหติ. โส โข ปนายํ อริยวํโส อิเมสํ วํสานํ มูลคนฺธาทีนํ กาฬานุสาริคนฺธาทโย วิย อคฺคมกฺขายติ. เก ปน เต อริยา เยสํ เอโส วํโสติ? อริยา วุจฺจนฺติ พุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ ตถาคตสาวกา จ, เอเตสํ อริยานํ วํโสติ อริยวํโส. อิโต ปุพฺเพ หิ สตสหสฺสกปฺปาทิกานํ จตุนฺนํ อสงฺขฺเยยฺยานํ ¶ มตฺถเก ตณฺหงฺกโร เมงฺเกโร สรณงฺกโร ทีปงฺกโรติ จตฺตาโร พุทฺธา อุปฺปนฺนา, เต อริยา, เตสํ อริยานํ วํโสติ อริยวํโส. เตสํ พุทฺธานํ ปรินิพฺพานโต อปรภาเค เอกํ อสงฺขฺเยยฺยํ อติกฺกมิตฺวา โกณฺฑฺโ นาม พุทฺโธ อุปฺปนฺโน…เป… อิมสฺมึ กปฺเป กกุสนฺโธ โกณาคมโน กสฺสโป อมฺหากํ ภควา โคตโมติ จตฺตาโร พุทฺธา อุปฺปนฺนา, เตสํ อริยานํ วํโสติ อริยวํโส. อปิ จ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ สพฺพพุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวกานํ อริยานํ วํโสติ อริยวํโส, ตสฺมึ อริยวํเส ปติฏฺิโต.
อิตรีตเรน ปิณฺฑปาเตนาติ เยน เกนจิ ปิณฺฑปาเตน. เสนาสนาทีสุปิ เอเสว นโย. อายตเนสูติ จกฺขาทีสุ อายตเนสุ.
ยโตติ สฺโต. ยตฺโตติ ยตฺตวา. ปฏิยตฺโตติ อติวิย ยตฺตวา. คุตฺโตติ รกฺขิโต. โคปิโตติ มฺชูสาย วิย ปฏฺปิโต. รกฺขิโตติ ปฏิสามิโต. สํวุโตติ ทฺวารสํวรเณน ปิหิโต. ขุํสิโตติ ครหิโต. วมฺภิโตติ อปสาทิโต. ฆฏฺฏิโตติ ฆฏฺฏนมาปาทิโต. ครหิโตติ อวมฺิโต. อุปวทิโตติ อกฺโกสิโต.
ผรุเสนาติ มมฺมจฺเฉทนวจเนน. กกฺขเฬนาติ ทารุเณน. นปฺปฏิวชฺชาติ ปฏิปฺผริตฺวา น กเถยฺย.
๒๐๗. ฌานานุยุตฺโตติ อนุปฺปนฺนุปฺปาทเนน อุปฺปนฺนเสวเนน จ ฌาเนน อนุยุตฺโต. อุเปกฺขมารพฺภ สมาหิตตฺโตติ จตุตฺถชฺฌานุเปกฺขํ อุปฺปาเทตฺวา สมาหิตจิตฺโต. ตกฺกาสยํ กุกฺกุจฺจฺจุปจฺฉินฺเทติ ¶ กามวิตกฺกาทิวิตกฺกฺจ กามสฺาทิกํ วิตกฺกสฺส อาสยฺจ หตฺถกุกฺกุจฺจาทิกุกฺกุจฺจฺจ อุปจฺฉินฺเทยฺย.
อนุปฺปนฺนสฺส ¶ วา ปมสฺส ฌานสฺส อุปฺปาทายาติ ตสฺมึ อตฺตภาเว อนุปฺปนฺนสฺส วา อุปฺปชฺชิตฺวา ปริหีนสฺส วา ปมชฺฌานสฺส อุปฺปาทนตฺถํ อตฺตโน สนฺตาเน ปฏิลาภตฺถํ. อุปฺปนฺนํ วา ปมํ ฌานํ อาเสวตีติอาทีสุ เอตฺถ อาทเรน เสวติ ปคุณํ กโรติ ภาเวติ วฑฺเฒติ พหุลีกโรติ ปุนปฺปุนํ กโรติ.
อุเปกฺขาติ ¶ จตุตฺถชฺฌาเน อุปฺปนฺนา ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา. อุเปกฺขาติ สภาวปทํ. อุเปกฺขนาติ อุปปตฺติโต อิกฺขนากาโร. อชฺฌุเปกฺขนาติ อธิกา หุตฺวา อิกฺขนา. จิตฺตสมตาติ จิตฺตสฺส สมตา จิตฺตสฺส อูนาติริตฺตตํ วชฺเชตฺวา สมภาโว. จิตฺตปฺปสฺสทฺธตาติ จิตฺตสฺส อปฺปคพฺภตา, อถทฺธภาโวติ อตฺโถ. มชฺฌตฺตตา จิตฺตสฺสาติ น สตฺตสฺส น โปสสฺส, จิตฺตสฺส มชฺฌตฺตภาโวติ อตฺโถ. จตุตฺเถ ฌาเน อุเปกฺขํ อารพฺภาติ จตุตฺถสฺมึ ฌานสฺมึ อุปฺปนฺนํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขํ ปฏิจฺจ. เอกคฺคจิตฺโตติ เอการมฺมเณ ปวตฺตจิตฺโต. อวิกฺขิตฺตจิตฺโตติ อุทฺธจฺจวิรหิโต น วิกฺขิตฺตจิตฺโต.
นว วิตกฺกา วุตฺตนยา เอว. กามวิตกฺกานํ กามสฺาสโยติ กามวิตกฺกํ วิตกฺเกนฺตสฺส อุปฺปนฺนา กามสฺา เตสํ วิตกฺกานํ อาสโย วสโนกาโสติ กามสฺาสโย. พฺยาปาทวิตกฺกาทีสุปิ เอเสว นโย.
๒๐๘. จุทิโต วจีภิ สติมาภินนฺเทติ อุปชฺฌายาทีหิ วาจาหิ โจทิโต สมาโน สติมา หุตฺวา ตํ โจทนํ อภินนฺเทยฺย. วาจํ ปมฺุเจ กุสลนฺติ าณสมุฏฺิตํ วาจํ ปมฺุเจยฺย. นาติเวลนฺติ อติเวลํ ปน วาจํ กาลเวลฺจ สีลเวลฺจ อติกฺกนฺตํ นปฺปมฺุเจยฺย. ชนวาทธมฺมายาติ ชนปริวาทกถาย. น เจตเยยฺยาติ เจตนํ น อุปฺปาเทยฺย.
อิทํ เต อปฺปตฺตนฺติ อิทํ ตว น ปตฺตํ. อสารุปฺปนฺติ ตว ปโยคํ อสารุปฺปํ. อสีลฏฺนฺติ ตว ปโยคํ น สีเล ปติฏฺนฺติ อสีลฏฺํ, สีเล ิตสฺส ปโยคํ น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. เกจิ ‘‘อสิลิฏฺ’’นฺติ ปนฺติ, อมฏฺวจนนฺติ อตฺถํ วณฺณยนฺติ.
นิธีนนฺติ ตตฺถ ตตฺถ นิทหิตฺวา ปิตานํ หิรฺสุวณฺณาทิปูรานํ นิธิกุมฺภีนํ. ปวตฺตารนฺติ ¶ กิจฺฉชีวิเก ¶ ทุคฺคตมนุสฺเส อนุกมฺปํ กตฺวา ‘‘เอหิ สุเขน เต ¶ ชีวนุปายํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ นิธิฏฺานํ เนตฺวา หตฺถํ ปสาเรตฺวา ‘‘อิมํ คเหตฺวา สุขํ ชีวา’’ติ อาจิกฺขิตารํ วิย. วชฺชทสฺสินนฺติ ทฺเว วชฺชทสฺสิโน ‘‘อิมินา นํ อสารุปฺเปน วา ขลิเตน วา สงฺฆมชฺเฌ นิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ รนฺธคเวสโก จ อฺาตํ าปนตฺถาย าตํ อนุคฺคณฺหตฺถาย สีลาทินา จสฺส วุทฺธิกามตาย ตํ ตํ วชฺชํ โอโลกเนน อุลฺลปนสภาวสณฺิโต จ. อยํ อิธ อธิปฺเปโต. ยถา หิ ทุคฺคตมนุสฺโส ‘‘อิมํ คณฺหาหี’’ติ ตชฺเชตฺวา โปฏฺเตฺวาปิ นิธึ ทสฺเสนฺเต โกปํ น กโรติ, ปมุทิโตว โหติ, เอวเมว เอวรูเป ปุคฺคเล อสารุปฺปํ วา ขลิตํ วา ทิสฺวา อาจิกฺขนฺเต โกโป น กาตพฺโพ, ตุฏฺเเนว ภวิตพฺพํ. ‘‘ภนฺเต มหนฺตํ โว กตํ กมฺมํ, มยฺหํ อาจริยุปชฺฌายฏฺาเน ตฺวา โอวทนฺเตหิ ปุนปิ มํ วเทยฺยาถา’’ติ ปวาเรตพฺพเมว. นิคฺคยฺหวาทินฺติ เอกจฺโจ หิ สทฺธิวิหาริกาทีนํ อสารุปฺปํ วา ขลิตํ วา ทิสฺวา ‘‘อยํ เม มุโขทกทานาทีหิ สกฺกจฺจํ อุปฏฺหติ, สเจ นํ วกฺขามิ, น มํ อุปฏฺหิสฺสติ, เอวํ มม ปริหานิ ภวิสฺสตี’’ติ วตฺตุํ อวิสหนฺโต น นิคฺคยฺหวาที นาม โหติ, โส อิมสฺมึ สาสเน กจวรํ อากิรติ. โย ปน ตถารูปํ วชฺชํ ทิสฺวา วชฺชานุรูปํ ตชฺเชตฺวา ปณาเมนฺโต ทณฺฑกมฺมํ กโรนฺโต วิหารา นีหรนฺโต สิกฺขาเปติ, อยํ นิคฺคยฺหวาที นาม เสยฺยถาปิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘นิคฺคยฺห นิคฺคยฺหาหํ, อานนฺท, วกฺขามิ, ปวยฺห ปวยฺหาหํ, อานนฺท, วกฺขามิ, โย สาโร โส สฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๙๖). เมธาวินฺติ ธมฺโมชปฺาย สมนฺนาคตํ. ตาทิสนฺติ เอวรูปํ ปณฺฑิตํ ภเชยฺย ปยิรุปาเสยฺย. ตาทิสฺหิ อาจริยํ ภชมานสฺส อนฺเตวาสิกสฺส เสยฺโยว โหติ, น ปาปิโย, วุฑฺฒิเยว โหติ, โน ปริหานีติ.
โอวเทยฺยาติ อุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมึ วทนฺโต โอวทติ นาม, อนุปฺปนฺเน ‘‘อยโสปิ เต สิยา’’ติอาทิวเสน อนาคตํ ทสฺเสนฺโต อนุสาสติ นาม. สมฺมุขา วทนฺโตปิ โอวทติ นาม, ปรมฺมุขา ¶ ทูตํ วา สาสนํ วา เปเสนฺโต อนุสาสติ นาม. สกึ วทนฺโตปิ โอวทติ นาม, ปุนปฺปุนํ วทนฺโต อนุสาสติ นาม. โอวทนฺโต เอว วา อนุสาสติ นามาติ เอวํ โอวเทยฺย อนุสาเสยฺย. อสพฺภาติ อกุสลธมฺมา นิวาเรยฺย, กุสลธมฺเม ปติฏฺเปยฺยาติ อตฺโถ. สตฺหิ โส ปิโย โหตีติ โส เอวรูโป ปุคฺคโล พุทฺธาทีนํ สปฺปุริสานํ ปิโย โหติ. เย ¶ ปน อทิฏฺธมฺมา อวิติณฺณปรโลกา อามิสจกฺขุกา ชีวิกตฺถาย ปพฺพชิตา, เตสํ อสตํ โส โอวาทโก อนุสาสโก ‘‘น ตฺวํ อมฺหากํ อุปชฺฌาโย, น อาจริโย, กสฺมา อมฺหากํ โอวทสี’’ติ เอวํ มุขสตฺตีหิ วิชฺฌนฺตานํ อปฺปิโย โหตีติ.
เอกกมฺมนฺติ ¶ อปโลกนกมฺมาทิกํ เอกกมฺมํ. เอกุทฺเทโสติ นิทานุทฺเทสาทิโก เอกุทฺเทโส. สมสิกฺขตาติ สมานสิกฺขตา. อาหตจิตฺตตนฺติ โกเธน ปหตจิตฺตภาวํ. ขิลชาตตนฺติ ถทฺธภาวํ. ปฺจปิ เจโตขิเลติ พุทฺธธมฺมสงฺฆสิกฺขาสพฺรหฺมจารีสุ ปฺจสุปิ จิตฺตสฺส ถทฺธภาเว.
าณสมุฏฺิตํ วาจนฺติ าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน อุปฺปาทิตํ วากฺยํ. มฺุเจยฺยาติ วิสฺสชฺเชยฺย. อตฺถูปสํหิตนฺติ อตฺถสหิตํ การณสหิตํ. ธมฺมูปสํหิตนฺติ ธมฺเมน ยุตฺตํ. กาลาติกฺกนฺตํ วาจํ น ภาเสยฺยาติ กาลาตีตํ วาจํ น กเถยฺย ตสฺส กาลสฺส อติกฺกนฺตตฺตา. เวลาติกฺกนฺตนฺติ มริยาทาตีตํ วจนํ น ภเณยฺย วจนมริยาทสฺส อติกฺกนฺตตฺตา. อุภยวเสน กาลเวลา.
โย เว กาเล อสมฺปตฺเตติ อตฺตโน วจนกาเล อสมฺปตฺเต. อติเวลนฺติ เวลาติกฺกนฺตํ กตฺวา อติเรกปฺปมาณํ ภาสติ. นิหโต เสตีติ นิคฺฆาติโต สยติ. โกกิลาเยว อตฺรโชติ กากิยา ปฏิชคฺคิโต โกกิลาย อพฺภนฺตเร ชาโต โกกิลโปตโก วิย.
๒๐๙. อถาปรนฺติ อถ อิทานิ อิโต ปรมฺปิ. ปฺจ รชานีติ รูปราคาทีนิ ปฺจ รชานิ. เยสํ สตีมา วินยาย สิกฺเขติ เยสํ อุปฏฺิตสฺสติ หุตฺวาว วินยนตฺถํ ติสฺโส สิกฺขา สิกฺเขยฺย. เอวํ สิกฺขนฺโต หิ รูเปสุ…เป… ผสฺเสสุ สเหถ ราคํ, น อฺเติ.
รูปรโชติ ¶ รูปารมฺมณํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺโน ราคาทิรโช. สทฺทรชาทีสุปิ เอเสว นโย.
๒๑๐. ตโต โส เตสํ วินยาย สิกฺขนฺโต อนุกฺกเมน – เอเตสุ ธมฺเมสูติ คาถา. ตตฺถ เอเตสูติ รูปาทีสุ. กาเลน โส สมฺมา ธมฺมํ ปริวีมํสมาโนติ โส ภิกฺขุ ยฺวายํ ‘‘อุทฺธเต จิตฺเต สมถสฺส ¶ กาโล’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๒๓๔) นเยน กาโล วุตฺโต, เตน กาเลน สพฺพํ สงฺขตธมฺมํ อนิจฺจาทินเยน ปริวีมํสมาโน. เอโกทิภูโต วิหเน ตมํ โสติ โส เอกคฺคจิตฺโต สพฺพํ โมหาทิตมํ วิหเนยฺย, นตฺถิ เอตฺถ สํสโย.
อุทฺธเต จิตฺเตติ วีริยินฺทฺริยวเสน จิตฺเต อวูปสนฺเต. พลววีริยฺหิ มนฺทสมาธึ วีริยสฺส อุทฺธจฺจปกฺขตฺตา อุทฺธจฺจํ อภิภวติ. เอวํ อุทฺธเต จิตฺเต. สมถสฺส กาโลติ สมาธิสฺส ภาวนาย กาโล. สมาหิเต จิตฺเตติ อุปจารปฺปนาหิ จิตฺเต สมาหิเต. พลวสมาธิ หิ มนฺทวีริยํ สมาธิสฺส โกสชฺชปกฺขตฺตา โกสชฺชํ อภิภวติ. สมาธิ วีริเยน สฺโชิโต โกสชฺเช ปติตุํ น ลภติ. วีริยํ สมาธินา สฺโชิตํ อุทฺธจฺเจ ปติตุํ น ลภติ ¶ . ตสฺมา ตทุภยํ สมํ กาตพฺพํ. อุภยสมตาย หิ อปฺปนา โหติ. วิปสฺสนาย กาโลติ เอวํ สมาหิเต อนิจฺจาทิวเสน วิวิธาย ปสฺสนาย กาโล, สมาธิกมฺมิกสฺส พลวตีปิ สทฺธา วฏฺฏติ. เอวํ สทฺทหนฺโต โอกปฺเปนฺโต อปฺปนํ ปาปุณาติ. สมาธิปฺาสุ ปน สมาธิกมฺมิกสฺส พลวตี เอกคฺคตา วฏฺฏติ. เอวฺหิ โส อปฺปนํ ปาปุณาติ. วิปสฺสนากมฺมิกสฺส ปน ปฺา พลวตี วฏฺฏติ. เอวฺหิ โส ลกฺขณปฺปฏิเวธํ ปาปุณาติ. อุภินฺนํ ปน สมตฺเตปิ อปฺปนา โหติ เอว.
กาเล ปคฺคณฺหติ จิตฺตนฺติ ยสฺมึ สมเย อติสิถิลวีริยตาทีหิ ลีนํ จิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ สมเย ธมฺมวิจยวีริยปีติสมฺโพชฺฌงฺคสมุฏฺาปเนน ตํ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ. นิคฺคณฺหตีติ ยสฺมึ สมเย อจฺจารทฺธวีริยตาทีหิ อุทฺธตํ จิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ สมเย ปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสมุฏฺาปเนน ตํ จิตฺตํ นิคฺคณฺหาติ. สมฺปหํสติ กาเลนาติ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปฺาปโยคมนฺทตาย วา อุปสมสุขานํ วิคเมน วา นิรสฺสาทํ โหติ ¶ , ตสฺมึ สมเย อฏฺสํเวควตฺถุปจฺจเวกฺขเณน สํเวเชติ. อฏฺ สํเวควตฺถูนิ นาม – ชาติชราพฺยาธิมรณานิ จตฺตาริ, อปายทุกฺขํ ปฺจมํ, อตีเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ อนาคเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, ปจฺจุปฺปนฺเน อาหารปริเยฏฺิมูลกํ ทุกฺขนฺติ. รตนตฺตยคุณานุสฺสรเณนาสฺส ปสาทํ ชเนติ. อยํ วุจฺจติ ‘‘สมฺปหํสติ กาเลนา’’ติ. กาเล จิตฺตํ สมาทเหติ ยสฺมึ สมเย ¶ สทฺธาปฺานํ สมาธิวีริยานฺจ สมภาโว, ตสฺมึ กาเล จิตฺตํ สมาทเหยฺย.
อชฺฌุเปกฺขติ กาเลนาติ ยสฺมึ สมเย สมฺมา ปฏิปตฺตึ อาคมฺม อลีนํ อนุทฺธตํ อนิรสฺสาทํ อารมฺมเณ สมปฺปวตฺตํ สมถวีถิปฏิปนฺนํ จิตฺตํ โหติ, ตทาสฺส ปคฺคหนิคฺคหสมฺปหํสเนสุ น พฺยาปารํ อาปชฺชติ สารถิ วิย สมปฺปวตฺเตสุ อสฺเสสุ. อยํ วุจฺจติ ‘‘อชฺฌุเปกฺขติ กาเลนา’’ติ. โส โยคี กาลโกวิโทติ เอโส วุตฺตปฺปกาโร กมฺมฏฺานโยเค นิยุตฺโต ปคฺคหนิคฺคหสมฺปหํสนสมาทหนอชฺฌุเปกฺขนกาเลสุ เฉโก พฺยตฺโต. กิมฺหิ กาลมฺหีติอาทินา ปคฺคหาทิกาลํ ปุจฺฉติ.
อิทานิ ปคฺคหาทิกาลํ วิสฺสชฺเชนฺโต ‘‘ลีเน จิตฺตมฺหี’’ติอาทิมาห. อติสิถิลวีริยตาทีหิ จิตฺเต ลีนภาวํ คเต ธมฺมวิจยวีริยปีติสมฺโพชฺฌงฺคสมุฏฺาปเนน ปคฺคโห. อุทฺธตสฺมึ วินิคฺคโหติ อจฺจารทฺธวีริยตาทีหิ อุทฺธเต จิตฺเต ปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสมุฏฺาปเนน นิคฺคโห. นิรสฺสาทคตํ จิตฺตํ, สมฺปหํเสยฺย ตาวเทติ ปฺาปโยคมนฺทตาย วา อุปสมสุขานํ ¶ วิคเมน วา อสฺสาทวิรหิตํ คตํ อฏฺสํเวควตฺถุปจฺจเวกฺขเณน วา รตนตฺตยคุณานุสฺสรเณน วา ตสฺมึ ขเณ จิตฺตํ สมฺปหํเสยฺย.
สมฺปหฏฺํ ยทา จิตฺตนฺติ ยสฺมึ กาเล วุตฺตนเยเนว สมฺปหํสิตํ จิตฺตํ โหติ. อลีนํ ภวติ นุทฺธตนฺติ วีริยสมาธีหิ สฺโชิตตฺตา ลีนุทฺธจฺจวิรหิตฺจ โหติ. สมถนิมิตฺตสฺสาติ สมโถ จ นิมิตฺตฺจ สมถนิมิตฺตํ, ตสฺส สมถนิมิตฺตสฺส. โส กาโลติ โย โส ลีนุทฺธจฺจวิรหิตกาโล วุตฺโต, โส กาโล. อชฺฌตฺตํ รมเย มโนติ ฌานสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ กสิณาทิโคจรชฺฌตฺเต โตเสยฺย อภิรมาเปยฺย.
เอเตน ¶ เมวุปาเยนาติ เอเตน วุตฺตอุปาเยน เอว. ม-กาโร ปทสนฺธิวเสน วุตฺโต. อชฺฌุเปกฺเขยฺย ตาวเทติ ยทา อุปจารปฺปนาหิ ตํ จิตฺตํ สมาหิตํ, ตทา ‘‘สมาหิตํ จิตฺต’’นฺติ ชานิตฺวา ปคฺคหนิคฺคหสมฺปหํสเนสุ พฺยาปารํ อกตฺวา ตสฺมึ ขเณ อชฺฌุเปกฺขนเมว กเรยฺย.
อิทานิ ¶ ‘‘กิมฺหิ กาลมฺหิ ปคฺคาโห’’ติ ปุฏฺคาถํ นิคเมนฺโต ‘‘เอวํ กาลวิทู ธีโร’’ติอาทิมาห. กาเลน กาลํ จิตฺตสฺส, นิมิตฺตมุปลกฺขเยติ กาลานุกาลํ สมาธิสมฺปยุตฺตจิตฺตสฺส อารมฺมณํ สลฺลกฺเขยฺย, อุปปริกฺเขยฺยาติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว. เอวํ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสีติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย
สาริปุตฺตสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
อฏฺกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกา นาม มหานิทฺเทส-อฏฺกถา นิฏฺิตา.