📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

ขุทฺทกนิกาเย

มหานิทฺเทส-อฏฺกถา

คนฺถารมฺภกถา

อวิชฺชาลงฺคึ ฆาเตนฺโต, นนฺทิราคฺจ มูลโต;

ภาเวนฺตฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ผุสิ โย อมตํ ปทํ.

ปาปุณิตฺวา ชิโน โพธึ, มิคทายํ วิคาหิย;

ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตฺวา, เถรํ โกณฺฑฺมาทิโต.

อฏฺารสนฺนํ โกฏีนํ, โพเธสิ ตาปโส ตหึ;

วนฺเทหํ สิรสา ตฺจ, สพฺพสตฺตานมุตฺตมํ.

ตถา ธมฺมุตฺตมฺเจว, สงฺฆฺจาปิ อนุตฺตรํ;

สํขิตฺเตน หิ โย วุตฺตํ, ธมฺมจกฺกํ วิภาคโส.

สาริปุตฺโต มหาปฺโ, สตฺถุกปฺโป ชินตฺรโช;

ธมฺมจกฺกํ วิภาเชตฺวา, มหานิทฺเทสมพฺรวิ;

ปาโ วิสิฏฺโ นิทฺเทโส, ตํนามวิเสสิโต จ.

ตํ สาริปุตฺตํ ชินราชปุตฺตํ, เถรํ ถิราเนกคุณาธิวาสํ;

ปฺาปภาวุคฺคตจารุกิตฺตึ, สุนีจวุตฺติฺจ อโถ นมิตฺวา.

ขมาทยาทิยุตฺเตน, ยุตฺตมุตฺตาทิวาทินา;

พหุสฺสุเตน เถเรน, เทเวน อภิยาจิโต.

มหาวิหารวาสีนํ, สชฺฌายมฺหิ ปติฏฺิโต;

คเหตพฺพํ คเหตฺวาน, โปราเณสุ วินิจฺฉยํ.

อโวกฺกเมนฺโต สมยํ สกฺจ, อนามสนฺโต สมยํ ปรฺจ;

ปุพฺโพปเทสฏฺกถานยฺจ, ยถานุรูปํ อุปสํหรนฺโต.

าณปฺปเภทาวหนสฺส ตสฺส, โยคีหิ เนเกหิ นิเสวิตสฺส;

อตฺถํ อปุพฺพํ อนุวณฺณยนฺโต, สุตฺตฺจ ยุตฺติฺจ อนุกฺกเมนฺโต.

อารภิสฺสํ สมาเสน, มหานิทฺเทสวณฺณนํ;

สทฺธมฺมพหุมาเนน, นาตฺตุกฺกํสนกมฺยตา.

วกฺขามหํ อฏฺกถํ ชนสฺส, หิตาย สทฺธมฺมจิรฏฺิตตฺถํ;

สกฺกจฺจ สทฺธมฺมปโชติกํ ตํ, สุณาถ ธาเรถ จ สาธุ สนฺโตติ.

ตตฺถ ‘‘ปาโ วิสิฏฺโ นิทฺเทโส, ตํนามวิเสสิโต จา’’ติ วุตฺตตฺตา ทุวิโธ ปาโ – พฺยฺชนปาโ, อตฺถปาโ จ. เตสุ พฺยฺชนปาโ อกฺขรปทพฺยฺชนอาการนิรุตฺตินิทฺเทสวเสน ฉพฺพิโธ. อตฺถปาโ สงฺกาสนปกาสนวิวรณวิภชนอุตฺตานีกรณปฺตฺติวเสน ฉพฺพิโธ. ตตฺถ ตีสุ ทฺวาเรสุ ปริสุทฺธปโยคภาเวน วิสุทฺธกรุณานํ จิตฺเตน ปวตฺติตเทสนา วาจาหิ อกถิตตฺตา อเทสิตตฺตา อกฺขรมิติ สฺิตา, ตํ ปารายนิกพฺราหฺมณานํ มนสา ปุจฺฉิตปฺหานํ วเสน ภควตา รตนฆเร นิสีทิตฺวา สมฺมสิตปฏฺานมหาปกรณวเสน จ อกฺขรํ นามาติ คเหตพฺพํ.

อถ วา อปริปุณฺณํ ปทํ อกฺขรมิติ คเหตพฺพํ ‘‘สฏฺิวสฺสสหสฺสานี’’ติ เอวมาทีสุ (เป. ว. ๘๐๒; ชา. ๑.๔.๕๔; เนตฺติ. ๑๒๐) วิย. เอตฺถ หิ การ การ โสการาทีนิ อกฺขรมิติ, เอกกฺขรํ วา ปทํ อกฺขรมิติ เอเก. ‘‘ยายํ ตณฺหา โปโนภวิกา’’ติ เอวมาทีสุ (มหาว. ๑๔; วิภ. ๒๐๓; ม. นิ. ๓.๓๗๔; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) วิภตฺยนฺตํ อตฺถโชตกํ อกฺขรปิณฺฑํ ปทํ. ‘‘นามฺจ รูปฺจา’’ติ เอวมาทีสุ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๑๐๙; สุ. นิ. ๘๗๘; มหานิ. ๑๐๗; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๖; เนตฺติ. ๔๕) พหุอกฺขเรหิ ยุตฺตํ ปทํ นาม. สํขิตฺเตน วุตฺตํ ปทํ วิภาเวติ. ปเทน อภิหิตํ พฺยฺชยติ พฺยตฺตํ ปากฏํ กโรตีติ พฺยฺชนํ, วากฺยเมว. ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา’’ติ สงฺเขเปน กถิตมตฺถํ. ‘‘กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ. วีริยจิตฺตวีมํสสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวตี’’ติอาทีสุ (วิภ. ๔๓๑; สํ. นิ. ๕.๘๑๓; ที. นิ. ๓.๓๐๖; อ. นิ. ๔.๒๗๖) ปากฏกรณภาเวน พฺยฺชนํ นาม. พฺยฺชนวิภาคปกาโส อากาโร. ‘‘ตตฺถ กตโม ฉนฺโท? โย ฉนฺโท ฉนฺทิกตา กตฺตุกมฺยตา’’ติ เอวมาทีสุ (วิภ. ๔๓๓) กถิตพฺยฺชนํ อเนกวิเธน วิภาคกรณํ อากาโร นาม. อาการาภิหิตสฺส นิพฺพจนํ นิรุตฺติ. ‘‘ผสฺโส, เวทนา’’ติ เอวมาทีสุ (ธ. ส. ๑) อากาเรน กถิตํ ‘‘ผุสตีติ ผสฺโส. เวทิยตีติ เวทนา’’ติ นีหริตฺวา วจนํ นิรุตฺติ นาม. นิพฺพจนวิตฺถาโร นิสฺเสสโต เทโสติ นิทฺเทโส, เวทิยตีติ เวทนาติ นิพฺพจนลทฺธปทํ ‘‘สุขา ทุกฺขา อทุกฺขมสุขา, สุขยตีติ สุขา, ทุกฺขยตีติ ทุกฺขา, เนว ทุกฺขยติ น สุขยตีติ อทุกฺขมสุขา’’ติ อตฺถวิตฺถาโร นิรวเสเสน กถิตตฺตา นิทฺเทโส นาม.

เอวํ ฉพฺพิธานิ พฺยฺชนปทานิ ชานิตฺวา จ ฉสุ อตฺถปเทสุ สงฺเขปโต กาสนา ทีปนา สงฺกาสนา, ‘‘มฺมาโน โข, ภิกฺขุ, พนฺโธ มารสฺส อมฺมาโน มุตฺโต ปาปิมโต’’ติ เอวมาทีสุ สงฺเขเปน อตฺถทีปนา สงฺกาสนา นาม. เอโส ปน เถโร ‘‘พุทฺเธน ภควตา เอวํ สงฺเขปํ กตฺวา วุตฺตมตฺถํ ‘อฺาตํ ภควา, อฺาตํ สุคตา’’’ติ กเถตุํ สมตฺโถ ปฏิวิชฺฌิ.

อุปริ วตฺตพฺพมตฺถํ อาทิโต กาสนา ทีปนา ปกาสนา, ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อาทิตฺต’’นฺติ เอวมาทีสุ (มหาว. ๕๔; สํ. นิ. ๔.๒๘) ปจฺฉา กถิตพฺพมตฺถํ ปมวจเนน ทีปนา ปกาสนา นาม. เอวํ ปมํ ทีปิตํ อตฺถํ ปุน ปากฏํ กตฺวา ทีปเนน ‘‘กิฺจ, ภิกฺขเว, สพฺพํ อาทิตฺตํ? จกฺขุํ, ภิกฺขเว, อาทิตฺตํ, รูปา อาทิตฺตา’’ติ เอวมาทีสุ (มหาว. ๕๔; สํ. นิ. ๔.๒๘) กถิเตสุ ‘‘ติกฺขินฺทฺริโย สงฺเขเปน วุตฺตํ ปฏิวิชฺฌตี’’ติ กถิตตฺตา ทฺเว อตฺถปทานิ ติกฺขินฺทฺริยสฺส อุปการวเสน วุตฺตานิ.

สํขิตฺตสฺส วิตฺถาราภิธานํ สกึ วุตฺตสฺส จ ปุนปิ อภิธานํ วิวรณํ, ‘‘กุสลา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ๑) สงฺเขเปน นิกฺขิตฺตสฺส. ‘‘กตเม ธมฺมา กุสลา? ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ (ธ. ส. ๑) นิทฺเทสวเสน วิตฺถารณํ วิตฺถารวเสน ปุน กถนํ วิวรณํ นาม.

ตํ วิภาคกรณํ วิภชนํ, ‘‘ยสฺมึ สมเย’’ติ (ธ. ส. ๑) วิวริเต กุสเล ธมฺเม ‘‘ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหติ, เวทนา โหตี’’ติ (ธ. ส. ๑) วิภาคกรณํ วิภชนํ นาม. วิวรสฺส วิตฺถาราภิธาเนน วิภตฺตสฺส จ อุปมาภิธาเนน ปฏิปาทนํ อุตฺตานีกรณํ, วิวรเณน วิวริตตฺถสฺส ‘‘กตโม ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหติ? โย ตสฺมึ สมเย ผสฺโส ผุสนา สมฺผุสนา’’ติ (ธ. ส. ๒) อติวิวริตฺวา กถนฺจ วิภชเนน วิภตฺตสฺส ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, คาวี นิจฺจมฺมา, เอวเมว ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, ผสฺสาหาโร ทฏฺพฺโพติ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๖๓) เอวมาทิอุปมากถนฺจ อุตฺตานีกรณํ นาม. ธมฺมํ สุณนฺตานํ ธมฺมเทสเนน จิตฺตสฺส อเนกวิเธน โสมนสฺสอุปฺปาทนฺจ อติขิณพุทฺธีนํ อเนกวิเธน าณสฺส ติขิณภาวกรณฺจ ปฺตฺติ นาม, เตสํ สุณนฺตานํ ตํจิตฺตโตสเนน ตํจิตฺตนิสามเนน จ ปฺายตีติ ปฺตฺติ. ตตฺถ ภควา อกฺขเรหิ สงฺกาสยติ, ปเทหิ ปกาสยติ, พฺยฺชเนหิ วิวรติ, อากาเรหิ วิภชติ, นิรุตฺตีหิ อุตฺตานีกโรติ, นิทฺเทเสหิ ปฺาปยตีติ. กึ วุตฺตํ โหติ? พุทฺธา ภควนฺโต เอกจฺเจ เวเนยฺเย เอกสฺมึ เทสเน อกฺขเรหิ อตฺถสงฺกาสนํ กโรนฺติ…เป… นิทฺเทเสหิ อตฺถปฺาปนํ กโรนฺตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.

อถ วา อกฺขเรหิ สงฺกาสยิตฺวา ปเทหิ ปกาสยติ, พฺยฺชเนหิ วิวริตฺวา อากาเรหิ วิภชติ, นิรุตฺตีหิ อุตฺตานีกตฺวา นิทฺเทเสหิ ปฺาปยติ. กึ วุตฺตํ โหติ? เอวรูเปน ธมฺมเทสเนน เอกจฺเจสุ าเนสุ เอกจฺจานํ เวเนยฺยานํ วินยตีติ.

อถ วา อกฺขเรหิ อุคฺฆาฏยิตฺวา ปเทหิ ปกาเสนฺโต วินยติ อุคฺฆฏิตฺุํ, พฺยฺชเนหิ วิวริตฺวา อากาเรหิ วิภชนฺโต วินยติ วิปฺจิตฺุํ, นิรุตฺตีหิ อุตฺตานีกตฺวา นิทฺเทเสหิ ปฺาเปนฺโต วินยติ เนยฺยํ. อิติ เวเนยฺยวเสนปิ โยเชตพฺพเมว.

อตฺถโต ปเนตฺถ กตโม พฺยฺชนปาโ, กตโม อตฺถปาโติ? พุทฺธานํ ภควนฺตานํ ธมฺมํ เทเสนฺตานํ โย อตฺถาวคมโก สวิฺตฺติกสทฺโท, โส พฺยฺชนปาโ. โย เตน อภิสเมตพฺโพ ลกฺขณรสาทิสหิโต ธมฺโม, โส อตฺถปาโติ เวทิตพฺโพ. ปุนปิ สนฺธายภาสิโต พฺยฺชนภาสิโต สาวเสสปาโ อนวเสสปาโ นีโต เนยฺโยติ ฉพฺพิโธ ปาโ. ตตฺถ อเนกตฺถวตฺตา สนฺธายภาสิโต ‘‘มาตรํ ปิตรํ หนฺตฺวา, ราชาโน ทฺเว จ ขตฺติเย’’ติ เอวมาทิ (ธ. ป. ๒๙๔). เอกตฺถวตฺตา พฺยฺชนภาสิโต ‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ เอวมาทิ (ธ. ป. ๑.๒; เนตฺติ. ๘๙, ๙๒; เปฏโก. ๑๔). สาวเสโส ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อาทิตฺต’’นฺติ เอวมาทิ (มหาว. ๕๔; สํ. นิ. ๔.๒๘). วิปรีโต อนวเสโส ‘‘สพฺเพ ธมฺมา สพฺพากาเรน พุทฺธสฺส ภควโต าณมุเข อาปาถํ อาคจฺฉนฺตี’’ติ เอวมาทิ (มหานิ. ๑๕๖; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๘๕; ปฏิ. ม. ๓.๕). ยถา วจนํ, ตถา อวคนฺตพฺโพ นีโต ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’’ติ เอวมาทิ. ยุตฺติยา อนุสฺสริตพฺโพ เนยฺโย ‘‘เอกปุคฺคโล ภิกฺขเว’’ติ เอวมาทิ (อ. นิ. ๑.๑๗๐).

อตฺโถ ปน อเนกปฺปกาโร ปาตฺโถ สภาวตฺโถ ายตฺโถ ปาานุรูโป นปาานุรูโป สาวเสสตฺโถ นิรวเสสตฺโถ นีตตฺโถ เนยฺยตฺโถ อิจฺจาทิ. ตตฺถ โย อปฺปสฺสตฺถสฺส าปนตฺถมุจฺจาริยเต, โส ปาตฺโถ ‘‘สาตฺถํ สพฺยฺชน’’นฺติอาทีสุ (ปารา. ๑; ที. นิ. ๑.๑๙๐) วิย. รูปารูปธมฺมานํ ลกฺขณรสาทิสภาวตฺโถ ‘‘สมฺมาทิฏฺึ ภาเวตี’’ติอาทีสุ (วิภ. ๔๘๕; สํ. นิ. ๕.๓) วิย. โย ายมาโน หิตาย สํวตฺตติ, โส าตุํ อรหตีติ ายตฺโถ – ‘‘อตฺถวาที ธมฺมวาที’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๙, ๑๙๔; ๓.๒๓๘; ม. นิ. ๑.๔๑๑) วิย. ยถาปาํ ภาสิโต ปาานุรูโป ‘‘จกฺขุ, ภิกฺขเว, ปุราณกมฺม’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๑๔๖) ภควตา วุตฺตํ. ตสฺมา จกฺขุมปิ กมฺมนฺติ. พฺยฺชนจฺฉายาย อตฺถํ ปฏิพาหยมาเนน วุตฺโต อตฺโถ นปาานุรูโป, โส ปาโต อนนุฺาโต อกตปฏิกฺเขโป วิยุตฺโต. โส จ สงฺคเหตพฺพมฺปิ อสงฺคเหตฺวา, ปริวชฺเชตพฺพมฺปิ วา กิฺจิ อปริวชฺเชตฺวา ปริเสสํ กตฺวา วุตฺโต สาวเสสตฺโถ ‘‘จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ (สํ. นิ. ๔.๖๐; มหานิ. ๑๐๗). สพฺเพ ตสนฺติ ทณฺฑสฺส, สพฺเพ ภายนฺติ มจฺจุโน’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๒๙) วิย. วิปรีโต นิรวเสสตฺโถ ‘‘สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ (ที. นิ. ๒.๑๕๕; มหาว. ๒๘๗; เนตฺติ. ๑๑๔). ตตฺร, ภิกฺขเว, โก มนฺตา โก สทฺธาตา…เป… อฺตฺร ทิฏฺปเทหี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๗.๖๖) วิย. สทฺทวเสเนว เวทิตพฺโพ นีตตฺโถ ‘‘รูปา สทฺทา รสา คนฺธา, โผฏฺพฺพา จ มโนรมา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๕๑, ๑๖๕; มหาว. ๓๓) วิย. สมฺมุติวเสน เวทิตพฺโพ เนยฺยตฺโถ ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, วลาหกูปมา ปุคฺคลา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๑๐๑-๑๐๒) วิย. เอวมิธ ปาฺจ อตฺถฺจ วิวริตฺวา ิโต อสํหีโร ภวติ ปรวาทีหิ ทีฆรตฺตํ ติตฺถวาเสน.

อิติ อสํหีรภาเวน ยาว อาคมาธิคมสมฺปทํ, ตาว วตฺตุํ สกฺโกติ. สงฺเขปวิตฺถารนเยน เหตุทาหรณาทีหิ อวโพธยิตุํ สมตฺโถ. เอวํวิโธ อตฺตานฺจ ปรฺจ โสเธตุํ สมตฺถภาเวน ทุสฺสีลฺยทิฏฺิมลวิรหิตตฺตา สุจิ. ทุสฺสีโล หิ อตฺตานํ อุปหนติ, เตน นาเทยฺยวาโจ จ ภวติ สพฺโยหารมาโน อิธ นิจฺจาตุโร เวชฺโชว. ทุทฺทิฏฺิ ปรํ อุปหนติ, นาวสฺสโย จ ภวติ วาฬคหากุโล อิว กมลสณฺโฑ. อุภยวิปนฺโน ปน สพฺพถาปิ อนุปาสนีโย ภวติ คูถคตมิว ฉวาลาตํ คูถคโต วิย จ กณฺหสปฺโป. อุภยสมฺปนฺโน ปน สพฺพถาปิ อุปาสนีโย เสวิตพฺโพ จ วิฺูหิ, นิรุปทฺทโว อิว รตนากโร, เอวํ ภูโต เอวํ อมจฺฉโร อหีนาจริยมุฏฺิ. สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาทอตฺตโนมติสงฺขาตานฺจ จตุนฺนํ อปริจฺจาคี, เตสํ วเสน พฺยาขฺยาโต.

‘‘เอกํสวจนํ เอกํ, วิภชฺชวจนํ ปทํ;

ตติยํ ปฏิปุจฺเฉยฺย, จตุตฺถํ ปน าปเย’’ติ.

เอเตสํ วา อปริจฺจาคี. ตโต เอว โสตูนํ หิเต นิยุตฺตตฺตา เนสํ อวโพธนํ ปติ อกิลาสุ ภวตีติ. อาห เจตฺถ –

‘‘ปาตฺถวิทสํหีโร, วตฺตา สุจิ อมจฺฉโร;

จตุนฺนํ อปริจฺจาคี, เทสกสฺส หิตานฺวิโต’’ติ.

เอตฺถ เทสกสฺสาติ เทสโก อสฺส, ภเวยฺยาติ อตฺโถ. หิตานฺวิโตติ หิเต อนุคโต หิตจิตฺโต. โส เอโส สุจิตฺตา ปิโย, จตุนฺนํ อปริจฺจาคิตฺตา ครุ, อสํหีรตฺตา ภาวนีโย, เทสกตฺตา วตฺตา, หิตานฺวิตตฺตา วจนกฺขโม, ปาตฺถวิทตฺตา คมฺภีรกถํ กตฺตา, อมจฺฉรตฺตา น จาฏฺาเน นิโยชโก อิติ –

‘‘ปิโย ครุ ภาวนีโย, วตฺตา จ วจนกฺขโม;

คมฺภีรฺจ กถํ กตฺตา, โน จาฏฺาเน นิโยชโก’’ติ. (อ. นิ. ๗.๓๗; เนตฺติ. ๑๑๓);

‘‘อภิหิโต เทสโก โส, ตาว ทานิ อภิธียเต’’.

ตตฺถ ธมฺมครุตฺตา กถํ น ปริภวติ, อาจริยครุตฺตา กถิกํ น ปริภวติ, สทฺธาปฺาทิคุณปฏิมณฺฑิตตฺตา อตฺตานํ น ปริภวติ, อสามายาวิตฺตา อมตาภิมุขตฺตา จ อวิกฺขิตฺตจิตฺโต ภวติ, สุเมธตฺตา โยนิโส มนสิ กโรตีติ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สุณนฺโต สทฺธมฺมํ ภพฺโพ นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ. กตเมหิ ปฺจหิ? น กถํ ปริโภติ, น กถิกํ ปริโภติ, น อตฺตานํ ปริโภติ, อวิกฺขิตฺตจิตฺโต ธมฺมํ สุณาติ เอกคฺคจิตฺโต, โยนิโส มนสิ กโรตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๕๑).

ตํลกฺขณปฺปตฺตตฺตา ภาวนํ ภชตีติ. อาห เจตฺถ –

‘‘ธมฺมาจริยครุ สทฺธาปฺาทิคุณมณฺฑิโต;

อสามายาวิกสฺส, สุเมโธ อมตาภิมุโข’’. –

อิติ วตฺตา จ โสตา จ.

เอวํ วุตฺตปฺปการํ พฺยฺชนฺจ อตฺถฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ โย อติอคฺคํ กตฺวา กถิตตฺตา มหาสมุทฺทมหาปถวี วิย มหา จ โส นิทฺเทโส จาติ มหานิทฺเทโส, ตํ มหานิทฺเทสํ วณฺณยิสฺสามิ.

ตเทตํ มหานิทฺเทสํ อตฺถสมฺปนฺนํ พฺยฺชนสมฺปนฺนํ คมฺภีรํ คมฺภีรตฺถํ โลกุตฺตรปฺปกาสกํ สุฺตปฺปฏิสํยุตฺตํ ปฏิปตฺติมคฺคผลวิเสสสาธนํ ปฏิปตฺติปฏิปกฺขปฏิเสธนํ โยคาวจรานํ าณวรรตนากรภูตํ ธมฺมกถิกานํ ธมฺมกถาวิลาสวิเสสเหตุภูตํ สํสารภีรุกานํ ทุกฺขนิสฺสรณตทุปายทสฺสเนน อสฺสาสชนนตฺถํ ตปฺปฏิปกฺขนาสนตฺถฺจ คมฺภีรตฺถานฺจ อเนเกสํ สุตฺตนฺตปทานํ อตฺถวิวรเณน สุชนหทยปริโตสชนนตฺถํ, ตถาคเตน อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตสพฺพฺุตฺาณมหาทีโปภาเสน สกลชนวิตฺถตมหากรุณาสิเนเหน เวเนยฺยชนหทยคตกิเลสนฺธการวิธมนตฺถํ สมุชฺชลิตสฺส สทฺธมฺมมหาปทีปสฺส ตทธิปฺปายวิกาสนสิเนหปริเสเกน ปฺจวสฺสสหสฺสมติจิรสมุชฺชลนมิจฺฉตา โลกานุกมฺปเกน สตฺถุกปฺเปน ธมฺมราชสฺส ธมฺมเสนาปตินา อายสฺมตา สาริปุตฺตตฺเถเรน ภาสิตํ สุตฺวา อายสฺมา อานนฺโท ปมมหาสงฺคีติกาเล ยถาสุตเมว สงฺคหํ อาโรเปสิ.

โส ปเนส วินยปิฏกํ สุตฺตนฺตปิฏกํ อภิธมฺมปิฏกนฺติ ตีสุ ปิฏเกสุ สุตฺตนฺตปิฏกปริยาปนฺโน, ทีฆนิกาโย มชฺฌิมนิกาโย สํยุตฺตนิกาโย องฺคุตฺตรนิกาโย ขุทฺทกนิกาโยติ ปฺจสุ มหานิกาเยสุ ขุทฺทกมหานิกายปริยาปนฺโน, สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถา อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลนฺติ นวสุ สตฺถุสาสนงฺเคสุ ยถาสมฺภวํ คาถงฺคเวยฺยากรณงฺคทฺวยสงฺคหิโต.

‘‘ทฺวาสีติ พุทฺธโต คณฺหึ, ทฺเวสหสฺสานิ ภิกฺขุโต;

จตุราสีติ สหสฺสานิ, เย เม ธมฺมา ปวตฺติโน’’ติ. (เถรคา. ๑๐๒๗) –

ธมฺมภณฺฑาคาริกตฺเถเรน ปฺจสุ าเนสุ เอตทคฺคํ อาโรปิเตน ปฏิฺาตานํ จตุราสีติยา ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานํ ภิกฺขุโต คหิเตสุ ทฺวีสุ ธมฺมกฺขนฺธสหสฺเสสุ อเนกสตธมฺมกฺขนฺธสงฺคหิโต. ตสฺส ทฺเว วคฺคา อฏฺกวคฺโค ปารายนวคฺโค ขคฺควิสาณสุตฺตฺจ, เอเกกสฺมึ วคฺเค โสฬส โสฬส กตฺวา ขคฺควิสาณสุตฺตฺจาติ เตตฺตึส สุตฺตานิ กามสุตฺตาทิขคฺควิสาณสุตฺตปริโยสานานิ. เอวํ อเนกธา ววตฺถาปิตสฺส อิมสฺส มหานิทฺเทสสฺส อนุปุพฺพปทตฺถวณฺณนํ กริสฺสามิ. อยฺหิ มหานิทฺเทโส ปาโต อตฺถโต จ อุทฺทิสนฺเตน นิทฺทิสนฺเตน จ สกฺกจฺจํ อุทฺทิสิตพฺโพ นิทฺทิสิตพฺโพ จ, อุคฺคณฺหนฺเตนาปิ สกฺกจฺจํ อุคฺคณฺหิตพฺโพ ธาเรตพฺโพ จ. ตํ กิสฺส เหตุ? คมฺภีรตฺตา อิมสฺส มหานิทฺเทสสฺส โลกหิตาย โลเก จิรฏฺิตตฺถนฺติ.

๑. อฏฺกวคฺโค

๑. กามสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา

ตตฺถ กามสุตฺตํ อาทิ. ตสฺมิมฺปิ ‘‘กามํ กามยมานสฺสา’’ติ คาถา อาทิ. สา อุทฺเทสนิทฺเทสปฏินิทฺเทสวเสน ติธา ิตา. ‘‘กามํ กามยมานสฺสา’’ติ เอวมาทิ อุทฺเทโส. ‘‘กามาติ อุทฺทานโต ทฺเว กามา – วตฺถุกามา จ กิเลสกามา จา’’ติ นิทฺเทโส. ‘‘กตเม วตฺถุกามา? มนาปิกา รูปา’’ติ เอวมาทิ ปฏินิทฺเทโส.

. ตตฺถ กามนฺติ มนาปิยรูปาทิเตภูมกธมฺมสงฺขาตํ วตฺถุกามํ. กามยมานสฺสาติ อิจฺฉมานสฺส. ตสฺส เจตํ สมิชฺฌตีติ ตสฺส กามยมานสฺส สตฺตสฺส ตํ กามสงฺขาตํ วตฺถุ สมิชฺฌติ เจ, สเจ โส ตํ ลภตีติ วุตฺตํ โหติ. อทฺธา ปีติมโน โหตีติ เอกํสํ ตุฏฺจิตฺโต โหติ. ลทฺธาติ ลภิตฺวา. มจฺโจติ สตฺโต. ยทิจฺฉตีติ ยํ อิจฺฉติ. อิทํ ปน สงฺเขปโต ปทตฺถสมฺพนฺธมตฺตเมว, วิตฺถาโร ปน อุปริ ปาฬิยํ อาคตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ยถา จ อิมสฺมึ, เอวํ อิโต ปรํ สพฺเพสุปีติ.

กามาติ อุทฺทิสิตพฺพปทํ. อุทฺทานโตติ นิทฺทิสิตพฺพปทํ. อุทฺทานโตติ วคฺควเสน ‘‘มจฺฉุทฺทานํ กิเนยฺยา’’ติ อาทีสุ วิย. อถ วา อุปรูปริ ทานโต อุทฺทานํ, อุทฺธํ อุทฺธํ โสธนโต พฺยวทานฏฺเน โวทานํ วิย. วิตฺถารกรณภาเวน วา. กามา อิติ ปาเสสํ กตฺวา วตฺตพฺพํ. ทฺเวติ คณนปริจฺเฉโท, น เอกํ, น ตโย. วตฺถุกามา จาติ มนาปิยรูปาทิวตฺถุกามา จ. อุปตาปนฏฺเน วิพาธนฏฺเน จ กิเลสกามา จ. เตสุ วตฺถุกาโม ปริฺเยฺโย, กิเลสกาโม ปหาตพฺโพ. ตตฺถ วตฺถุกาโม กิเลสกาเมน ปตฺถยิตพฺโพติ กามียตีติ กาโม. กิเลสกาโม วตฺถุกามานํ ปจฺจาสีสนสฺส การณภาเวน กามียเต อเนนาติ กาโม. ตตฺถ รูปาทิกฺขนฺเธ สงฺคหิโต วตฺถุกาโม, สงฺขารกฺขนฺเธ สงฺคหิโต กิเลสกาโม. ฉหิ วิฺาเณหิ วิชานิตพฺโพ วตฺถุกาโม, มโนวิฺาเณน ชานิตพฺโพ กิเลสกาโม. กิเลสานํ ปติฏฺฏฺเน การณฏฺเน อารมฺมณฏฺเน จ วตฺถุกาโม.

‘‘เนเต กามา ยานิ จิตฺรานิ โลเก, สงฺกปฺปราโค ปุริสสฺส กาโม;

ติฏฺนฺติ จิตฺรานิ ตเถว โลเก, อเถตฺถ ธีรา วินยนฺติ ฉนฺท’’นฺติ. (อ. นิ. ๖.๖๓);

นนฺทมาณวก- (ธ. ป. อฏฺ. ๑.๖๘ อุปฺปลวณฺณตฺเถรีวตฺถุ) โสเรยฺยเสฏฺิปุตฺตาทีนํ (ธ. ป. ๔๓) วตฺถูนิ เจตฺถ นิทสฺสนํ. กิเลสกาโม ตาปนฏฺเน พาธนฏฺเน จ สยํ กาเมตีติ กาโม. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘รตฺโต โข, พฺราหฺมณ, ราเคน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตตี’’ติ จ ‘‘รตฺโต โข, พฺราหฺมณ, ปาณมฺปิ หนติ, อทินฺนมฺปิ อาทิยติ, ปรทารมฺปิ คจฺฉติ, มุสาปิ ภณตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๕๔) จ เอวมาทิ นิทสฺสนํ.

ตเมว ปฏินิทฺเทสวเสน วิตฺถาเรตฺวา วตฺตุกาโม – ‘‘กตเม วตฺถุกามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กตเมติ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. ปฺจวิธา หิ ปุจฺฉา, ตาสํ วิภาโค อุปริ ปาฬิยํเยว อาวิ ภวิสฺสติ. ตาสุ อยํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. ตตฺถ มนาปิกาติ มนํ อปฺปายนฺติ วทฺเธนฺตีติ มนาปา, มนาปา เอว มนาปิกา. รูปาติ กมฺมจิตฺตอุตุอาหารสมุฏฺานวเสน จตุสมุฏฺานิกา รูปารมฺมณา. รูปยนฺตีติ รูปา, วณฺณวิการํ อาปชฺชมานา หทยงฺคตภาวํ ปกาเสนฺตีติ อตฺโถ.

ตตฺถ เกนฏฺเน รูปนฺติ? รุปฺปนฏฺเน. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘กิฺจ, ภิกฺขเว, รูปํ วเทถ? รุปฺปตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา ‘รูป’นฺติ วุจฺจติ. เกน รุปฺปติ? สีเตนปิ รุปฺปติ, อุณฺเหนปิ รุปฺปติ, ชิฆจฺฉายปิ รุปฺปติ, ปิปาสายปิ รุปฺปติ, ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺเสนปิ รุปฺปติ. รุปฺปตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา ‘รูป’นฺติ วุจฺจตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๗๙).

ตตฺถ รุปฺปตีติ กุปฺปติ ฆฏฺฏียติ ปีฬียติ, ภิชฺชตีติ อตฺโถ. สีเตน ตาว รุปฺปนํ โลกนฺตริกนิรเย ปากฏํ. มหึสกรฏฺาทีสุปิ หิมปาตสีตเลสุ ปเทเสสุ เอตํ ปากฏเมว. ตตฺถ หิ สตฺตา สีเตน ภินฺนฉินฺนสรีรา ชีวิตกฺขยมฺปิ ปาปุณนฺติ.

อุณฺเหน รุปฺปนํ อวีจิมหานิรเย ปากฏํ. ตตฺถ หิ ตตฺตาย โลหปถวิยา นิปชฺชาเปตฺวา ปฺจวิธพนฺธนาทิกรณกาเล สตฺตา มหาทุกฺขํ อนุภวนฺติ.

ชิฆจฺฉาย รุปฺปนํ เปตฺติวิสเย เจว ทุพฺภิกฺขกาเล จ ปากฏํ. เปตฺติวิสยสฺมิฺหิ สตฺตา ทฺเว ตีณิ พุทฺธนฺตรานิ กิฺจิเทว อามิสํ หตฺเถน คเหตฺวา มุเข ปกฺขิปนฺตา นาม น โหนฺติ, อนฺโตอุทรํ อาทิตฺตสุสิรรุกฺโข วิย โหติ. ทุพฺภิกฺเข กฺชิกมตฺตมฺปิ อลภิตฺวา มรณสตฺตานํ ปมาณํ นตฺถิ.

ปิปาสาย รุปฺปนํ กาลกฺชิกาทีสุ ปากฏํ. ตตฺถ หิ สตฺตา ทฺเว ตีณิ พุทฺธนฺตรานิ หทยเตมนมตฺตํ วา ชิวฺหาเตมนมตฺตํ วา อุทกพินฺทุมฺปิ ลทฺธุํ น สกฺโกนฺติ. ‘‘ปานียํ ปิวิสฺสามา’’ติ นทึ คตานํ ชลํ วาลุกาตลํ สมฺปชฺชติ. มหาสมุทฺทํ ปกฺขนฺตานมฺปิ สมุทฺโท ปิฏฺิปาสาโณเยว โหติ. เต สุสฺสนฺตา พลวทุกฺขปีฬิตา วิรวนฺติ. ฑํสาทีหิ รุปฺปนํ ฑํสมกฺขิกาทิพหุเลสุ ปเทเสสุ ปากฏํ. ตํ ปน – ‘‘กตมํ ตํ รูปํ สนิทสฺสนํ? สปฺปฏิฆ’’นฺติ อาทินา นเยน อภิธมฺเม (ธ. ส. ๖๕๖, ๖๕๘) วิตฺถาริตเมว.

สปฺปนฺตีติ สทฺทา, อุทาหรียนฺตีติ อตฺโถ. อุตุจิตฺตวเสน ทฺวิสมุฏฺานิกา สทฺทา. คนฺธยนฺตีติ คนฺธา, อตฺตโน วตฺถูนิ สูจยนฺตีติ อตฺโถ. รสนฺติ เต สตฺตาติ รสา, อสฺสาเทนฺตีติ อตฺโถ. ผุสียนฺตีติ โผฏฺพฺพา. เอเต คนฺธาทโย จตุสมุฏฺานิกาว. เตสํ วิภาโค อภิธมฺเม (ธ. ส. ๖๒๒-๖๒๔) วิตฺถาริโตเยว.

ตเมวตฺถํ วิตฺถารวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺถรณา ปาวุรณา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อตฺถริตฺวา นิปชฺชิยนฺตีติ อตฺถรณา. สรีรํ เวเตฺวา ปารุปียนฺตีติ ปาวุรณา. อนฺโตชาตาทโย จตฺตาโร ทาสี จ ทาโส จ ทาสิทาสา. เขตฺตํ นาม ยสฺมึ ปุพฺพณฺณํ รุหติ. วตฺถุ นาม ยสฺมึ อปรณฺณํ รุหติ. ยตฺถ วา อุภยมฺปิ รุหติ, ตํ เขตฺตํ. ตทตฺถาย กตภูมิภาโค วตฺถุ. เขตฺตวตฺถุสีเสน เจตฺถ วาปีตฬากาทีนิปิ สงฺคหิตานิ. หิรฺนฺติ กหาปโณ. สุวณฺณนฺติ ชาตรูปํ. เตสํ คหเณน โลหมาสโก ชตุมาสโก ทารุมาสโกติ สพฺเพปิ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. คามนิคมราชธานิโยติ เอกกุฏิกาทิ คาโม. อาปณยุตฺโต นิคโม. เอกสฺส รฺโ อาณาปวตฺติฏฺานํ ราชธานี. รฏฺนฺติ ชนปเทกเทสํ. ชนปโทติ กาสิโกสลาทิชนปโท. โกโสติ จตุพฺพิโธ โกโส – หตฺถี อสฺโส รโถ ปตฺติ. โกฏฺาคารนฺติ ติวิธํ โกฏฺาคารํ – ธนโกฏฺาคารํ ธฺโกฏฺาคารํ วตฺถโกฏฺาคารํ. ยํ กิฺจีติ อนวเสสปริยาทานวจนํ. รชนียนฺติ รฺเชตุํ ยุตฺตฏฺเน.

อิโต ปรํ ติกวเสน ทสฺเสตุํ อตีตตฺติกอชฺฌตฺตตฺติกหีนตฺติกโอกาสตฺติกสํโยคตฺติกกามาวจรตฺติกวเสน ฉตฺติเก อาห. ตตฺถ อตีตตฺติเก ตาว อตฺตโน สภาวํ อุปฺปาทาทิกฺขณํ วา ปตฺวา อติกฺกนฺตาติ อตีตา. ตทุภยมฺปิ น อาคตาติ อนาคตา. ตํ ตํ การณํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนาติ ปจฺจุปฺปนฺนา. อิทํ ภเวน ปริจฺฉนฺนํ. ปฏิสนฺธิโต หิ ปฏฺาย อตีตภเวสุ นิพฺพตฺตา อนนฺตรภเว วา นิพฺพตฺตา โหนฺตุ กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถเก วา, สพฺเพ อตีตาเยว นาม. จุติโต ปฏฺาย อนาคตภเวสุ นิพฺพตฺตนกา กามา อนนฺตรภเว วา นิพฺพตฺตนฺตุ กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถเก วา, สพฺเพ อนาคตาเยว นาม. จุติปฏิสนฺธิอนฺตเร ปวตฺตา กามา ปจฺจุปฺปนฺนา นาม.

อชฺฌตฺตตฺติเก ‘‘เอวํ ปวตฺตมานา มยํ อตฺตาติ คหณํ คมิสฺสามา’’ติ อิมินา วิย อธิปฺปาเยน อตฺตานํ อธิการํ กตฺวา ปวตฺตา อตฺตโน สนฺตาเน ปวตฺตา ปาฏิปุคฺคลิกา กามา อชฺฌตฺตา กามา นาม. ตโต พหิภูตา ปน อินฺทฺริยพทฺธา วา อนินฺทฺริยพทฺธา วา พหิทฺธา นาม. ตติยปทํ ตทุภยวเสน วุตฺตํ.

หีนตฺติเก หีนาติ ลามกา. มชฺฌิมาติ หีนปณีตานํ มชฺเฌ ภวาติ มชฺฌิมา. อวเสสา อุตฺตมฏฺเน ปณีตา. อปิ จ อุปาทายุปาทาย หีนมชฺฌิมปณีตตา เวทิตพฺพา. เนรยิกานฺหิ กามา โกฏิปฺปตฺตา หีนา นาม. เต อุปาทาย ติรจฺฉาเนสุ นาคสุปณฺณานํ กามา ปณีตา นาม. เสสติรจฺฉานคตานํ กามา มชฺฌิมา นาม. เตสมฺปิ กามา หีนา. เต อุปาทาย มเหสกฺขเปตานํ กามา ปณีตา นาม. อวเสสานํ กามา มชฺฌิมา นาม. เตสมฺปิ หีนา. เต อุปาทาย ชานปทานํ กามา ปณีตา นาม. ปจฺจนฺตวาสีนํ กามา มชฺฌิมา นาม. เตสมฺปิ หีนา. เต อุปาทาย คามโภชกานํ กามา ปณีตา นาม. เตสํ ปริจาริกานํ กามา มชฺฌิมา นาม. เตสมฺปิ หีนา. เต อุปาทาย ชนปทสามิกานํ กามา ปณีตา นาม. เตสํ ปริจาริกานํ กามา มชฺฌิมา นาม. เตสมฺปิ หีนา. เต อุปาทาย ปเทสราชูนํ กามา ปณีตา นาม. เตสํ อมจฺจานํ กามา มชฺฌิมา นาม. เตสมฺปิ หีนา. เต อุปาทาย จกฺกวตฺติรฺโ กามา ปณีตา นาม. ตสฺส อมจฺจานํ กามา มชฺฌิมา นาม. ตสฺสปิ หีนา. เต อุปาทาย ภุมฺมเทวานํ กามา ปณีตา นาม. เตสํ ปริจาริกานํ เทวานํ กามา มชฺฌิมา นาม. เตสมฺปิ หีนา. เต อุปาทาย จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ กามา ปณีตาติอาทินา นเยน ยาว อกนิฏฺเทวานํ กามา มตฺถกปฺปตฺตา ปณีตา นาม. เอวํ อุปาทายุปาทาย หีนมชฺฌิมปณีตตา เวทิตพฺพา.

โอกาสตฺติเก อาปายิกา กามาติ อวฑฺฒิสงฺขาเตสุ อปคตอเยสุ จตูสุ อปาเยสุ นิพฺพตฺตกามา อาปายิกา. มนุสฺเสสุ นิพฺพตฺตกามา มานุสิกา. เทเวสุ นิพฺพตฺตกามา ทิพฺพา.

สํโยคตฺติเก ปจฺจุปฏฺิตานํ กามานํ ปริภุฺชนโต เปตฺวา เนรยิเก เสสอปายสตฺตานํ มนุสฺสานํ จาตุมหาราชิเก เทเว อุปาทาย ยาว ตุสิตกายิกานฺจ เทวานํ กามา ปจฺจุปฏฺิตา กามา นาม. ปกติปฏิยตฺตารมฺมณโต อติเรเกน รมิตุกามตากาเล ยถารุจิตํ อารมฺมณํ นิมฺมินิตฺวา นิมฺมินิตฺวา รมนฺตีติ นิมฺมานรตีนํ เทวานํ กามา นิมฺมิตา กามา นาม. อตฺตโน อชฺฌาสยํ ตฺวา ปเรหิ นิมฺมิเต อารมฺมเณ เสวนฺตีติ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ กามา ปรนิมฺมิตา กามา นาม. ปริคฺคหิตาติ ‘‘มยฺหํ เอต’’นฺติ คหิตา กามา. อปริคฺคหิตาติ ตถา อปริคฺคหิตา อุตฺตรกุรุกานํ กามา. มมายิตาติ ตณฺหาวเสน ‘‘มม เอต’’นฺติ คหิตา. อมมายิตาติ วุตฺตปฏิปกฺขา.

สพฺเพปิ กามาวจรา ธมฺมาติ ‘‘เหฏฺโต อวีจินิรยํ ปริยนฺตํ กริตฺวา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๒๘๗) นเยน วุตฺเตสุ กามาวจรธมฺเมสุ ปริยาปนฺนา. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – อุทฺทานโต ทฺเว กามา, วตฺถุกาโม จ กิเลสกาโม จาติ. ตตฺถ กิเลสกาโม อตฺถโต ฉนฺทราโค. วตฺถุกาโม เตภูมกํ วฏฺฏํ. กิเลสกาโม เจตฺถ กาเมตีติ กาโม. อิตโร กามียตีติ. ยสฺมึ ปน ปเทเส ทุวิโธเปโส กาโม ปวตฺติวเสน อวจรติ, โส จตุนฺนํ อปายานํ มนุสฺสานํ ฉนฺนฺจ เทวโลกานํ วเสน เอกาทสวิโธ ปเทโส กาโม เอตฺถ อวจรตีติ กามาวจโร. ตตฺถ ปริยาปนฺนธมฺเม สนฺธาย ‘‘สพฺเพปิ กามาวจรา ธมฺมา’’ติ วุตฺตํ. อตฺตโน สภาวํ ธาเรนฺตีติ ธมฺมา. รูปาวจรา ธมฺมาติ ‘‘เหฏฺโต พฺรหฺมโลกํ ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต อกนิฏฺเ เทเว อนฺโตกริตฺวา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๒๘๙) นเยน วุตฺตานํ รูปาวจรธมฺมานํ วเสน สพฺเพปิ ธมฺมา รูปาวจรา. อรูปาวจรา ธมฺมาติ ‘‘เหฏฺโต อากาสานฺจายตนุปเค เทเว ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต เนวสฺานาสฺายตนุปเค เทเว อนฺโตกริตฺวา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๒๙๑) นเยน วุตฺตา สพฺเพปิ อรูปาวจรา ธมฺมา. ตตฺถ รูเป อวจรนฺตีติ รูปาวจรา. อรูเป อวจรนฺตีติ อรูปาวจรา. ตณฺหาวตฺถุกาติ ปติฏฺฏฺเน การณฏฺเน จ ตณฺหาย วตฺถุภูตา. ตณฺหารมฺมณาติ ตณฺหาปวตฺติวเสน ตณฺหาย อารมฺมณภูตา. กามนียฏฺเนาติ ปจฺจาสีสิตพฺพฏฺเน. รชนียฏฺเนาติ รฺเชตุํ ยุตฺตฏฺเน. มทนียฏฺเนาติ กุลมทาทิมทํ อุปฺปาทนียฏฺเน.

ตตฺถ ‘‘กตเม วตฺถุกามา? มนาปิกา รูปา’’ติอาทึ กตฺวา ‘‘ยํ กิฺจิ รชนียํ วตฺถู’’ติ ปริโยสานํ สวิฺาณกอวิฺาณกวเสน วุตฺตํ. อวเสสํ เอกจตุกฺกาทิกฉตฺติกนฺติ เวทิตพฺพํ.

เอวํ วตฺถุกามํ ทสฺเสตฺวา กิเลสกามํ ทสฺเสตุํ ‘‘กตเม กิเลสกามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ฉนฺโทติ ทุพฺพลราโค. ราโคติ ตโต พลวตโร. อุปริ ตโยปิ ราคา อิเมหิ พลวตรา. กาเมสูติ ปฺจสุ กามคุเณสุ. กามจฺฉนฺโทติ กามสงฺขาโต ฉนฺโท, น กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท, น ธมฺมจฺฉนฺโท. กามนวเสน รชฺชนวเสน จ กาโมเยว ราโค กามราโค. กามนวเสน นนฺทนวเสน จ กาโมเยว นนฺที กามนนฺที. เอวํ สพฺพตฺถ กามตฺถํ วิทิตฺวา ตณฺหายนฏฺเน กามตณฺหา. สิเนหนฏฺเน กามสฺเนโห. ปริฑยฺหนฏฺเน กามปริฬาโห. มุจฺฉนฏฺเน กามมุจฺฉา. คิลิตฺวา ปรินิฏฺาปนฏฺเน กามชฺโฌสานํ. วฏฺฏสฺมึ โอเฆหิ โอสีทาเปตีติ กาโมโฆ. วฏฺฏสฺมึ โยเชตีติ กามโยโค. ทฬฺหวเสน ตณฺหาทิฏฺิคฺคหณํ อุปาทานํ. จิตฺตํ นีวรติ ปริโยนนฺธตีติ นีวรณํ.

อทฺทสนฺติ อทฺทกฺขึ. กามาติ อาลปนํ. เตติ ตว. มูลนฺติ ปติฏฺํ. สงฺกปฺปาติ ปริกปฺเปน. น ตํ สงฺกปฺปยิสฺสามีติ ตํ ปริกปฺปนํ น กริสฺสามิ. น โหหิสีติ น ภวิสฺสสิ.

อิจฺฉมานสฺสาติ ปจฺจาสีสนฺตสฺส. สาทิยมานสฺสาติ อสฺสาทิยมานสฺส. ปตฺถยมานสฺสาติ ปตฺถนํ อุปฺปาเทนฺตสฺส. ปิหยมานสฺสาติ ปาปุณิตุํ อิจฺฉํ อุปฺปาเทนฺตสฺส. อภิชปฺปมานสฺสาติ ตณฺหาวเสน ติตฺตึ อุปฺปาเทนฺตสฺส. อถ วา อภิวทนฺตสฺส.

ขตฺติยสฺส วาติอาทิ จตุชฺชาติวเสน วุตฺตํ. คหฏฺสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วาติ ลิงฺควเสน วุตฺตํ. เทวสฺส วา มนุสฺสสฺส วาติ อุปปตฺติวเสน วุตฺตํ. อิชฺฌตีติ นิปฺผชฺชติ. สมิชฺฌตีติ สมฺมา นิปฺผชฺชติ. อิชฺฌติ วิเสสรูปปฏิลาภวเสน. ลภติ ทสฺสนียรูปปฏิลาภวเสน. ปฏิลภติ ปสาทนียรูปปฏิลาภวเสน. อธิคจฺฉติ สณฺานรูปปฏิลาภวเสน. วินฺทติ ฉวิปฺปสาทรูปปฏิลาภวเสน. อถ วา ปุฺมหตฺเตน อิชฺฌติ. ชาติมหตฺเตน ลภติ. อิสฺสริยมหตฺเตน ปฏิลภติ. สุขมหตฺเตน อธิคจฺฉติ. สมฺปตฺติมหตฺเตน วินฺทตีติ.

เอกํสวจนนฺติ เอกโกฏฺาสวจนํ. ‘‘เอกํสํ จีวรํ กตฺวา (ปารา. ๓๔๙, ๓๖๗), เอกํสพฺยากรณีโย ปฺโห’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๑๒; อ. นิ. ๔.๔๒) วิย อเนกํสคหณปฏิกฺเขโป. นิสฺสํสยวจนนฺติ สํสยวิรหิตวจนํ, สนฺเทหปฏิกฺเขปวจนนฺติ อตฺโถ. นิกฺกงฺขาวจนนฺติ ‘‘กถมิทํ กถมิท’’นฺติ กงฺขาปฏิกฺเขปวจนํ. อทฺเวชฺฌวจนนฺติ ทฺวิธาภาวํ ทฺเวชฺฌํ, ตํอภาเวน อทฺเวชฺฌวจนํ. ทฺวิธาภาววิรหิตํ ‘‘อทฺเวชฺฌวจนา พุทฺธา’’ติอาทีสุ วิย วิมติปฏิกฺเขโป. อทฺเวฬฺหกวจนนฺติ ทฺวิหทยาภาเวน อทฺเวฬฺหกํ. ‘‘อิติหาส, อิติหาสา’’ติ ทฺเวฬฺหกปฏิกฺเขปวจนํ. นิโยควจนนฺติ เอกสฺมึ อตฺเถ ทฺเว น ยุชฺชนฺตีติ นิโยควจนํ ทฺวิธาปถปฏิกฺเขโป. อฺตฺถ ปน ‘‘นิโยคา อนาคตารมฺมณา นตฺถี’’ติ อาคตํ. อปณฺณกวจนนฺติ ปลาสรหิตํ สารวจนํ อวิรทฺธการณํ ‘‘อปณฺณกํ านเมเก’’ติอาทีสุ (ชา. ๑.๑.๑) วิย, อปณฺณกมณิ วิย สปฺปติฏฺวจนํ. อวตฺถาปนวจนเมตนฺติ เอตํ วจนํ โอตริตฺวา ปติฏฺิตํ สนฺติฏฺาปนํ ปนํ.

ยานิ อิมสฺมึ มหานิทฺเทเส วิภตฺตึ อาโรปิตานิ ปทานิ, ตานิ วิภตฺตึ คจฺฉนฺตานิ ตีหิ การเณหิ วิภตฺตึ คจฺฉนฺติ, นานา โหนฺตานิ จตูหิ การเณหิ นานา ภวนฺติ. อปรทีปนา ปเนตฺถ ทฺเว านานิ คจฺฉนฺติ. กถํ? ตานิ หิ พฺยฺชนวเสน อุปสคฺควเสน อตฺถวเสน วาติ อิเมหิ ตีหิ การเณหิ วิภตฺตึ คจฺฉนฺติ. ตตฺถ ‘‘โกโธ กุชฺฌนา กุชฺฌิตตฺตํ, โทโส ทุสฺสนา ทุสฺสิตตฺต’’นฺติ (ธ. ส. ๑๐๖๖) เอวํ พฺยฺชนวเสน วิภตฺติคมนํ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ หิ เอโกว โกโธ พฺยฺชนวเสน เอวํ วิภตฺตึ ลภติ. ‘‘อิชฺฌติ สมิชฺฌติ ลภติ ปฏิลภติ คจฺฉติ อธิคจฺฉตี’’ติ เอวํ ปน อุปสคฺควเสน วิภตฺติคมนํ เวทิตพฺพํ. ‘‘ปณฺฑิจฺจํ โกสลฺลํ เนปุฺํ เวภพฺยา จินฺตา อุปปริกฺขา’’ติ (ธ. ส. ๑๖) เอวํ อตฺถวเสน วิภตฺติคมนํ เวทิตพฺพํ.

เตสุ ปีติปทนิทฺเทเส ตาว อิมา ติสฺโส วิภตฺติโย ลพฺภนฺติ. ปีติ ปาโมชฺชนฺติ หิ พฺยฺชนวเสน วิภตฺติคมนํ โหติ. อาโมทนา ปโมทนา ปหาโสติ อุปสคฺควเสน. วิตฺติ ตุฏฺิ โอทคฺยํ อตฺตมนตาติ อตฺถวเสน. อิมินา นเยน สพฺพปทนิทฺเทเสสุ วิภตฺติคมนํ เวทิตพฺพํ.

นานา โหนฺตานิปิ นามนานตฺเตน ลกฺขณนานตฺเตน กิจฺจนานตฺเตน ปฏิกฺเขปนานตฺเตนาติ อิเมหิ จตูหิ การเณหิ นานา โหนฺติ. ตตฺถ ‘‘กตโม ตสฺมึ สมเย พฺยาปาโท โหติ? โย ตสฺมึ สมเย โทโส ทุสฺสนา’’ติ เอตฺถ พฺยาปาโทติ วา โทโสติ วา ทฺเวปิ เอเต โกโธ เอว, นาเมน ปน นานตฺตํ คตาติ เอวํ นามนานตฺเตน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.

ราสฏฺเน จ ปฺจปิ ขนฺธา เอโกว ขนฺโธ โหติ. เอตฺถ ปน รูปํ รุปฺปนลกฺขณํ, เวทนา เวทยิตลกฺขณา, สฺา สฺชานนลกฺขณา, เจตนา เจตยิตลกฺขณา, วิฺาณํ วิชานนลกฺขณนฺติ อิมินา ลกฺขณนานตฺเตน ปฺจกฺขนฺธา โหนฺติ. เอวํ ลกฺขณนานตฺเตน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.

‘‘จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา – อิธ ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย…เป… จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหตี’’ติ (วิภ. ๓๙๐; ที. นิ. ๒.๔๐๒) เอกเมว วีริยํ กิจฺจนานตฺเตน จตูสุ าเนสุ อาคตํ. เอวํ กิจฺจนานตฺเตน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.

‘‘จตฺตาโร อสทฺธมฺมา โกธครุตา, น สทฺธมฺมครุตา, มกฺขครุตา, น สทฺธมฺมครุตา, ลาภครุตา, น สทฺธมฺมครุตา, สกฺการครุตา, น สทฺธมฺมครุตา’’ติ เอวมาทีสุ (อ. นิ. ๔.๔๔) ปน ปฏิกฺเขปนานตฺเตน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.

อิมานิ ปน จตฺตาริ นานตฺตานิ น ปีติยาเยว ลพฺภนฺติ, สพฺเพสุปิ ยถาลาภวเสน ลพฺภนฺติ. ปีติยา หิ ปีตีติ นามํ, จิตฺตสฺส จิตฺตนฺติ นามํ. ปีติ จ ผรณลกฺขณา, เวทนา เวทยิตลกฺขณา, สฺา สฺชานนลกฺขณา, เจตนา เจตยิตลกฺขณา, วิฺาณํ วิชานนลกฺขณํ.

ตถา ปีติ ผรณกิจฺจา, เวทนา อนุภวนกิจฺจา, สฺา สฺชานนกิจฺจา, เจตนา เจตยิตกิจฺจา, วิฺาณํ วิชานนกิจฺจนฺติ เอวํ กิจฺจนานตฺเตน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ. ปฏิกฺเขปนานตฺตํ ปีติปเท นตฺถิ.

อโลภาทินิทฺเทเส ปน ‘‘อโลโภ อลุพฺภนา อลุพฺภิตตฺต’’นฺติอาทินา (ธ. ส. ๓๕) นเยน ลพฺภตีติ เอวํ ปฏิกฺเขปนานตฺเตน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ. เอวํ สพฺพปทนิทฺเทเสสุ ลพฺภมานวเสน จตุพฺพิธมฺปิ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.

อปรทีปนา ปน ปทตฺถุติ วา โหติ ทฬฺหีกมฺมํ วาติ เอวํ ทฺเว านานิ คจฺฉติ. ยฏฺิโกฏิยา อุปฺปีเฬนฺเตน วิย หิ สกิเมว ‘‘ปีตี’’ติ วุตฺเต เอตํ ปทํ ผุลฺลิตมณฺฑิตวิภูสิตํ นาม น โหติ, ปุนปฺปุนํ พฺยฺชนวเสน อุปสคฺควเสน อตฺถวเสน ‘‘ปีติ ปาโมชฺชํ อาโมทนา ปโมทนา หาโส ปหาโส วิตฺตี’’ติ (ธ. ส. ๙) วุตฺเต ผุลฺลิตมณฺฑิตวิภูสิตํ นาม โหติ. ยถา หิ ทหรกุมารํ นหาเปตฺวา มโนรมํ วตฺถํ ปริทหาเปตฺวา ปุปฺผานิ ปิฬนฺธาเปตฺวา อกฺขีนิ อฺเชตฺวา อถสฺส นลาเฏ เอกเมว มโนสิลาพินฺทุํ กเรยฺย, น ตสฺส เอตฺตาวตา จิตฺตติลโก นาม โหติ, นานาวณฺเณหิ ปน ปริวาเรตฺวา พินฺทูสุ กเตสุ จิตฺตติลโก นาม โหติ. เอวํ สมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. อยํ ปทตฺถุติ นาม.

พฺยฺชนวเสน ปน อุปสคฺควเสน อตฺถวเสน จ ปุนปฺปุนํ ภณนเมว ทฬฺหีกมฺมํ นาม. ยถา หิ ‘‘อาวุโส’’ติ วา ‘‘ภนฺเต’’ติ วา ‘‘ยกฺโข’’ติ วา ‘‘สปฺโป’’ติ วา วุตฺเต ทฬฺหีกมฺมํ นาม น โหติ, ‘‘อาวุโส อาวุโส, ภนฺเต ภนฺเต, ยกฺโข ยกฺโข, สปฺโป สปฺโป’’ติ วุตฺเต ปน ทฬฺหีกมฺมํ นาม โหติ, เอวเมว สกึเทว ยฏฺิโกฏิยา อุปฺปีเฬนฺเตน วิย ‘‘ปีตี’’ติ วุตฺตมตฺเต ทฬฺหีกมฺมํ นาม น โหติ, ปุนปฺปุนํ พฺยฺชนวเสน อุปสคฺควเสน อตฺถวเสน ‘‘ปีติ ปาโมชฺชํ อาโมทนา ปโมทนา หาโส ปหาโส วิตฺตี’’ติ วุตฺเตเยว ทฬฺหีกมฺมํ นาม โหตีติ เอวํ อปรทีปนา ทฺเว านานิ คจฺฉติ. เอติสฺสาปิ วเสน ลพฺภมานกปทนิทฺเทเสสุ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ตตฺถ ปีนยตีติ ปีติ. สา สมฺปิยายนลกฺขณา, กายจิตฺตปีณนรสา ผรณรสา วา, โอทคฺยปจฺจุปฏฺานา. ยา ปฺจกามคุณปฏิสฺุตฺตาติ ยา รูปาทิปฺจกามโกฏฺาสปฏิสํยุตฺตา ปีติ, สา ปีนยตีติ ปีติ, อิทํ สภาวปทํ. ปมุทิตสฺส ภาโว ปาโมชฺชํ. อาโมทนากาโร อาโมทนา. ปโมทนากาโร ปโมทนา. ยถา วา เภสชฺชานํ วา เตลานํ วา อุณฺโหทกสีโตทกานํ วา เอกโต กรณํ ‘‘โมทนา’’ติ วุจฺจติ, เอวมยมฺปิ ปีติธมฺมานํ เอกโต กรเณน โมทนา. อุปสคฺควเสน ปน มณฺเฑตฺวา ‘‘อาโมทนา ปโมทนา’’ติ วุตฺตา.

หาเสตีติ หาโส. ปหาเสตีติ ปหาโส, หฏฺปหฏฺาการานเมตํ อธิวจนํ. วิตฺตีติ วิตฺตํ, ธนสฺเสตํ นามํ. อยํ ปน โสมนสฺสปจฺจยตฺตา วิตฺติสริกฺขตาย วิตฺติ. ยถา หิ ธนิโน ธนํ ปฏิจฺจ โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, เอวํ ปีติมโตปิ ปีตึ ปฏิจฺจ โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. ตสฺมา ‘‘วิตฺตี’’ติ วุตฺตา. ตุฏฺีติ สภาวสณฺิตาย ปีติยา เอตํ นามํ. ปีติมา ปน ปุคฺคโล กายจิตฺตานํ อุคฺคตตฺตา อพฺภุคฺคตตฺตา ‘‘อุทคฺโค’’ติ วุจฺจติ, อุทคฺคสฺส ภาโว โอทคฺยํ.

อตฺตโน มนตา อตฺตมนตา. อนภิรทฺธสฺส หิ มโน ทุกฺขปทฏฺานตฺตา น อตฺตโน มโน นาม โหติ, อภิรทฺธสฺส สุขปทฏฺานตฺตา อตฺตโน มโน นาม โหติ, อิติ อตฺตโน มนตา อตฺตมนตา, สกมนตา, สกมนสฺส ภาโวติ อตฺโถ. สา ปน ยสฺมา น อฺสฺส กสฺสจิ อตฺตโน มนตา, จิตฺตสฺเสว ปเนสา ภาโว เจตสิโก ธมฺโม, ตสฺมา ‘‘อตฺตมนตา จิตฺตสฺสา’’ติ วุตฺตา.

จิตฺตวิจิตฺตตาย จิตฺตํ. อารมฺมณํ มินมานํ ชานาตีติ มโน. มานสนฺติ มโน เอว, ‘‘อนฺตลิกฺขจโร ปาโส, ยฺวายํ จรติ มานโส’’ติ (มหาว. ๓๓; สํ. นิ. ๑.๑๕๑) หิ เอตฺถ ปน สมฺปยุตฺตกธมฺโม ‘‘มานโส’’ติ วุตฺโต.

‘‘กถฺหิ ภควา ตุยฺหํ, สาวโก สาสเน รโต;

อปฺปตฺตมานโส เสกฺโข, กาลํกยิรา ชเน สุตา’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๕๙) –

เอตฺถ อรหตฺตํ ‘‘มานส’’นฺติ วุตฺตํ. อิธ ปน มโน เอว มานสํ, พฺยฺชนวเสน เหตํ ปทํ วฑฺฒิตํ.

หทยนฺติ จิตฺตํ. ‘‘จิตฺตํ วา เต ขิปิสฺสามิ, หทยํ วา เต ผาเลสฺสามี’’ติ (สุ. นิ. อาฬวกสุตฺตํ; สํ. นิ. ๑.๒๓๗; ๒๔๖) เอตฺถ อุโร ‘‘หทย’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘หทยา หทยํ มฺเ อฺาย ตจฺฉตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๖๓) เอตฺถ จิตฺตํ. ‘‘วกฺกํ หทย’’นฺติ (ขุ. ปา. ๓.ทฺวตึสากาโร; ที. นิ. ๒.๓๗๗; ม. นิ. ๑.๑๑๐) เอตฺถ หทยวตฺถุ. อิธ ปน จิตฺตเมว อพฺภนฺตรฏฺเน ‘‘หทย’’นฺติ วุตฺตํ. ตเมว ปริสุทฺธฏฺเน ปณฺฑรํ, ภวงฺคํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ยถาห – ‘‘ปภสฺสรมิทํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตฺจ โข อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺ’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๔๙). ตโต นิกฺขนฺตตฺตา ปน อกุสลมฺปิ คงฺคาย นิกฺขนฺตา นที คงฺคา วิย โคธาวริโต นิกฺขนฺตา โคธาวรี วิย จ ‘‘ปณฺฑร’’นฺตฺเวว วุตฺตํ.

มโน มนายตนนฺติ อิธ ปน มโนคฺคหณํ มนสฺเสว อายตนภาวทีปนตฺถํ. เตเนตํ ทีเปติ ‘‘นยิทํ เทวายตนํ วิย มนสฺส อายตนตฺตา มนายตนํ, อถ โข มโน เอว อายตนํ มนายตน’’นฺติ. ตตฺถ นิวาสฏฺานฏฺเน อากรฏฺเน สโมสรณฏฺานฏฺเน สฺชาติเทสฏฺเน การณฏฺเน จ อายตนํ เวทิตพฺพํ. ตถา หิ โลเก ‘‘อิสฺสรายตนํ, วาสุเทวายตน’’นฺติอาทีสุ นิวาสฏฺานํ ‘‘อายตน’’นฺติ วุจฺจติ. ‘‘สุวณฺณายตนํ, รชตายตน’’นฺติอาทีสุ อากโร. สาสเน ปน ‘‘มโนรเม อายตเน, เสวนฺติ นํ วิภงฺคมา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๕.๓๘) สโมสรณฏฺานํ. ‘‘ทกฺขิณาปโถ คุนฺนํ อายตน’’นฺติอาทีสุ สฺชาติเทโส. ‘‘ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติอายตเน’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๑๐๒; ๕.๒๓; ม. นิ. ๓.๑๕๘) การณํ. อิธ ปน สฺชาติเทสฏฺเน สโมสรณานฏฺเน การณฏฺเนาติ ติธาปิ วฏฺฏติ.

ผสฺสาทโย หิ ธมฺมา เอตฺถ สฺชายนฺตีติ สฺชาติเทสฏฺเนปิ เอตํ อายตนํ. พหิทฺธา รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพา อารมฺมณภาเวเนตฺถ โอสรนฺตีติ สโมสรณานฏฺเนปิ อายตนํ. ผสฺสาทีนํ ปน สหชาตาทิปจฺจยฏฺเน การณตฺตา การณฏฺเนปิ อายตนนฺติ เวทิตพฺพํ. ตเทว มนนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, มโน เอว อินฺทฺริยํ มนินฺทฺริยํ.

วิชานาตีติ วิฺาณํ. วิฺาณเมว ขนฺโธ วิฺาณกฺขนฺโธ. ตสฺส ราสิอาทิวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘มหาอุทกกฺขนฺโธตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๕๑) เอตฺถ หิ ราสฏฺเน ขนฺโธ วุตฺโต. ‘‘สีลกฺขนฺโธ สมาธิกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๕๕๕) คุณฏฺเน. ‘‘อทฺทสา โข ภควา มหนฺตํ ทารุกฺขนฺธ’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๒๔๑-๒๔๒) เอตฺถ ปณฺณตฺติมตฺตฏฺเน. อิธ ปน รุฬฺหิโต ขนฺโธ วุตฺโต. ราสฏฺเน หิ วิฺาณกฺขนฺธสฺส เอกเทโส เอกํ วิฺาณํ. ตสฺมา ยถา รุกฺขสฺส เอกเทสํ ฉินฺทนฺโต ‘‘รุกฺขํ ฉินฺทตี’’ติ วุจฺจติ, เอวเมว วิฺาณกฺขนฺธสฺส เอกเทสภูตํ เอกมฺปิ วิฺาณํ รูฬฺหิโต ‘‘วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ วุตฺตํ.

ตชฺชา มโนวิฺาณธาตูติ เตสํ ผสฺสาทีนํ ธมฺมานํ อนุจฺฉวิกา มโนวิฺาณธาตุ. อิมสฺมิฺหิ ปเท เอกเมว จิตฺตํ มินนฏฺเน มโน, วิชานนฏฺเน วิฺาณํ, สภาวฏฺเน นิสฺสตฺตฏฺเน วา ธาตูติ ตีหิ นาเมหิ วุตฺตํ. สหคโตติ อวิชหิโต. สหชาโตติ สทฺธึ นิคฺคโต. สํสฏฺโติ สํสคฺโค หุตฺวา ิโต. สมฺปยุตฺโตติ สมํ ปกาเรหิ ยุตฺโต. กตเมหิ ปกาเรหีติ? เอกุปฺปาทาทีหิ. นตฺถิ เกจิ ธมฺมา เกหิจิ ธมฺเมหิ สมฺปยุตฺตาติ? อามนฺตา. อิติ หิ อิมสฺส ปฺหสฺส ปฏิกฺเขเป ‘‘นนุ อตฺถิ เกจิ ธมฺมา เกหิจิ ธมฺเมหิ สหคตา สหชาตา สํสฏฺา เอกุปฺปาทา เอกนิโรธา เอกวตฺถุกา เอการมฺมณา’’ติ (กถา. ๔๗๓) เอวํ เอกุปฺปาทตาทีนํ วเสน สมฺปโยคตฺโถ วุตฺโต. อิติ อิเมหิ เอกุปฺปาทตาทีหิ สมํ ปกาเรหิ ยุตฺโต สมฺปยุตฺโต. เอกุปฺปาโทติ เอกโต อุปฺปนฺโน, น วินาติ อตฺโถ. เอกนิโรโธติ เอกโต นิโรโธ. เอกวตฺถุโกติ หทยวตฺถุวเสน เอกวตฺถุโก. เอการมฺมโณติ รูปาทิวเสน เอการมฺมโณ.

เอตฺถ สหคตสทฺโท ตพฺภาเว, โวกิณฺเณ, อารมฺมเณ, นิสฺสเย, สํสฏฺเติ ปฺจสุ อตฺเถสุ ทิสฺสติ ชินวจเน. ‘‘ยายํ ตณฺหา โปโนภวิกา นนฺทิราคสหคตา’’ติ (มหาว. ๑๔; วิภ. ๒๐๓; ม. นิ. ๓.๓๗๔; สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) เอตฺถ ตพฺภาเว เวทิตพฺโพ, นนฺทิราคภูตาติ อตฺโถ. ‘‘ยา, ภิกฺขเว, วีมํสา โกสชฺชสหคตา โกสชฺชสมฺปยุตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๘๓๒) เอตฺถ โวกิณฺเณ, อนฺตรนฺตรา อุปฺปชฺชมาเนน โกสชฺเชน โวกิณฺณาติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ‘‘ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํ อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีน’’นฺติ (ปุ. ป. ๓-๖) เอตฺถ อารมฺมเณ, รูปารมฺมณานํ อรูปารมฺมณานนฺติ อตฺโถ. ‘‘อฏฺิกสฺาสหคตํ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๘) เอตฺถ นิสฺสเย, อฏฺิกสฺํ นิสฺสาย อฏฺิกสฺํ ภาเวตฺวา ปฏิลทฺธนฺติ อตฺโถ. ‘‘อิทํ สุขํ อิมาย ปีติยา สหคตํ โหติ สหชาตํ สมฺปยุตฺต’’นฺติ (วิภ. ๕๗๘) เอตฺถ สํสฏฺเ, สํมิสฺสนฺติ อตฺโถ. อิมสฺมิมฺปิ าเน สํสฏฺเ อาคโต.

สหชาตสทฺโท ‘‘สหชาตํ ปุเรชาตํ ปจฺฉาชาต’’นฺติ (ปฏฺ. ๑.๑.๔๓๕) เอตฺถ วิย สหชาเต. สํสฏฺสทฺโท ‘‘คิหีหิ สํสฏฺโ’’ติ จ, ‘‘เอวํ สํสฏฺโ, ภนฺเต’’ติ (สํ. นิ. ๓.๓) จาติ เอวมาทีสุ สํสคฺเค. ‘‘กิเส ถูเล วิวชฺเชตฺวา สํสฏฺา โยชิตา หยา’’ติ (ชา. ๒.๒๒.๗๐) เอตฺถ สทิเส.

‘‘ปุจิมนฺทปริวาโร, อมฺโพ เต ทธิวาหน;

มูลํ มูเลน สํสฏฺํ, สาขา สาขา นิเสวเร’’ติ. (ชา. ๑.๒.๗๒) –

เอตฺถ อุปจิเต. ‘‘จิตฺตสํสฏฺา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๕๙) เอตฺถ จิตฺตสมฺปยุตฺตธมฺเม. อิธ ปน โย ผลปฺปทาเน อวิโยคธมฺโม วินิพฺโภคํ อกตฺวา เอกุปฺปาทาทิธมฺโม หุตฺวา ‘‘สมฺปยุตฺโต’’ติ วุจฺจติ. ตํวิสโย. อถ วา ‘‘สหคโต’’ติ วตฺวา ปจฺฉโต ปจฺฉโต อาคตสุตฺเตน วิย โส น โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สหชาโต’’ติ วุตฺตํ. เอกโต อุปฺปนฺนรูปารูปํ วิย โสปิ น โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สํสฏฺโ’’ติ วุตฺตํ.

ขีโรทกํ วิย จ โสปิ น โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺปยุตฺโต’’ติ วุตฺตํ. วินิพฺโภคํ กาตุํ อสกฺกุเณยฺยฏฺเน หิ สหุปฺปนฺนา ธมฺมา สมฺปยุตฺตาปิ อตฺถิ ขีรเตลํ วิย. ตถา วิปฺปยุตฺตาปิ ขีรโต อปนีตํ นวนีตํ วิย. เอวํ ลกฺขณสมฺปยุตฺโต เอกุปฺปาทาทิลกฺขโณเยว โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกุปฺปาโท’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ เอกุปฺปาทสหชาตานํ กึ นานตฺตํ? อุปฺปาเท อนฺตรวิรหิโต เอกุปฺปาโท. ขีรกาลมุตฺตสฺสาปิ ทธิโน มถเน มถเน ปากฏํ นวนีตํ วิย ปุเรภตฺตปจฺฉาภตฺตวเสน เอกทิวสเมว ชาโต วิย โส น โหตีติ ทสฺเสตุํ เอกกฺขเณ นิพฺพตฺโตติ สหชาโต. เอกวตฺถุโกติ ปติฏฺฏฺเน เอกปริจฺเฉเทน เอกวตฺถุโก, ทฺวินฺนํ ภิกฺขูนํ เอกวตฺถุกตา วิย านนฺตรวิรหิโต. เอการมฺมโณติ อนิยเตการมฺมโณ น จกฺขุวิฺาณํ วิยาติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.

มจฺโจติ มูลปทํ. รูปาทีสุ สตฺโต ลคฺโค ลคฺคิโตติ สตฺโต. วุตฺตฺเหตํ ‘‘สตฺโต สตฺโตติ, ภนฺเต, วุจฺจติ, กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, ‘สตฺโต’ติ วุจฺจตีติ? รูเป โข, ราธ, โย ฉนฺโท โย ราโค ยา นนฺที ยา ตณฺหา, ตตฺร สตฺโต ตตฺร วิสตฺโต, ตสฺมา ‘สตฺโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๖๑; มหานิ. ๗). สตฺตโยเคน วา สตฺโต. สุคติทุคฺคตึ นรตีติ นโร. มนุโน ปุตฺโตติ มานโว. อุปกรเณน สยํ โปสยตีติ โปโส. ปุํ วุจฺจติ นิรโย, ตํ คลตีติ ปุคฺคโล. ชีวิตินฺทฺริยํ ธาเรตีติ ชีโว. จุติโต ชาตึ คจฺฉตีติ ชาคุ. ชิยตีติ ชนฺตุ. อินฺทฺริเยน คจฺฉตีติ อินฺทคุ. อถ วา อินฺทภูเตน กมฺมุนา คจฺฉตีติ อินฺทคุ. ‘‘หินฺทคู’’ติปิ ปาฬิ. หินฺทนฺติ มรณํ, ตํ คจฺฉตีติ หินฺทคุ. มนุโต ชาโตติ มนุโช. ยํ สาทิยตีติ ยํ รูปาทึ อสฺสาทิยติ. เสสํ วุตฺตนยเมว. อิโต ปรํ วุตฺตมตฺถํ นิคเมนฺโต เตนาห ภควา –

‘‘กามํ กามยมานสฺส…เป… ลทฺธา มจฺโจ ยทิจฺฉตี’’ติ;

อิโต ปรํ เอตฺตกมฺปิ อวตฺวา วิเสสมตฺตเมว วกฺขาม.

. ตสฺส เจ กามยานสฺสาติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส กาเม อิจฺฉมานสฺส, กาเมน วา ยายมานสฺส. ฉนฺทชาตสฺสาติ ชาตตณฺหสฺส. ชนฺตุโนติ สตฺตสฺส. เต กามา ปริหายนฺตีติ เต กามา ปริหายนฺติ เจ. สลฺลวิทฺโธว รุปฺปตีติ อถ โส อโยมยาทินา สลฺเลน วิทฺโธ วิย ปีฬียติ. อิโต ปรํ วุตฺตํ วชฺเชตฺวา อวุตฺเตสุ ยํ ยํ อนุตฺตานํ, ตํ ตเทว กถยิสฺสามิ.

จกฺขุปีณนํ อารมฺมณํ ปาปุณนวเสน ยายติ คจฺฉติ. ทสฺสนียวเสน ปิยตฺตํ อารมฺมณวเสน อปฺปาเปตีติ นิยฺยติ. สวนียํ หุตฺวา กณฺณโสตปีณนํ อารมฺมณวเสน ปริกฑฺฒตีติ วุยฺหติ. สริตพฺพํ หุตฺวา จิตฺตปีณนํ อารมฺมณวเสน คเหตฺวา อุปสํหรียตีติ สํหรียติ. ยถาติ โอปมฺมตฺเถ นิปาโต. หตฺถินา ยายติ คจฺฉตีติ หตฺถิยาเนน วา, วาอิติ วิกปฺปตฺเถ. อสฺเสน ยายติ คจฺฉตีติ อสฺสยาเนน วา. โคยุตฺตํ วยฺหาทิยานํ โคยานํ, เตน โคยาเนน. อชยานาทีสุปิ เอเสว นโย. อิฏฺวเสน ชาโต สฺชาโต.

อารมฺมณปิยตฺตวเสน นิพฺพตฺโต อภินิพฺพตฺโต. อารมฺมณมนาปภาเวน ปาตุภูโต. อถ วา กามราควเสน ชาโต สฺชาโต. กามนนฺทิวเสน นิพฺพตฺโต อภินิพฺพตฺโต. กามตณฺหาวเสน กามสิเนหวเสน กามจฺฉนฺทวเสน กามปริฬาหวเสน จ ปาตุภูโตติ เวทิตพฺโพ.

เต วา กามา ปริหายนฺตีติ เต วตฺถุกามาทโย ปริหายนฺติ วิคจฺฉนฺติ. โส วา กาเมหิ ปริหายตีติ เอโส ขตฺติยาทิปุคฺคโล วตฺถุกามาทิกาเมหิ ปริหายติ วิคจฺฉติ ‘‘ปุพฺเพว มจฺจํ วิชหนฺติ โภคา, มจฺโจ ธเน ปุพฺพตรํ ชหาตี’’ติ (ชา. ๑.๕.๒) เอวมาทีสุ วิย. กถนฺติ เกน ปกาเรน. ติฏฺนฺตสฺเสวาติ ธรนฺตสฺเสว. เต โภเคติ เต วตฺถุกามาทโย โภเค. ราชาโน วาติ ปถพฺยาทิราชาโน. หรนฺตีติ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, อปหรนฺติ วา. โจรา วาติ สนฺธิจฺเฉทาทิกา. อคฺคิ วาติ ทาวคฺคิอาทิ. ทหตีติ ฌาเปติ ภสฺมํ กโรติ. อุทกํ วาติ โอฆาทิอุทกํ. วหตีติ คเหตฺวา มหาสมุทฺทํ ปาเปติ. อปฺปิยา วาติ อกนฺตา อมนาปา. ทายาทา หรนฺตีติ ทายชฺชวิรหิตา อสฺสามิกา หรนฺติ. นิหิตํ วาติ นิธานํ กตฺวา ปิตํ. นาธิคจฺฉตีติ น วินฺทติ น ปฏิลภติ, น ปสฺสตีติ อตฺโถ. ทุปฺปยุตฺตาติ วิสมปโยเคน โยชิตา กสิวาณิชฺชาทิกมฺมนฺตา. ภิชฺชนฺตีติ เภทํ ปาปุณนฺติ, น ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘ภฺชนฺติ รถํ อยานกา’’ติอาทีสุ (ชา. ๒.๒๑.๒๙๖) สมฺภโว เวทิตพฺโพ.

กุเล วา กุลงฺคาโร อุปฺปชฺชตีติ ขตฺติยาทิกุเล กุลฌาปโก กุเล อนฺติมปุริโส นิพฺพตฺตติ. ‘‘กุลงฺกโร’’ติปิ ปาฬิ. โย เต โภเค วิกิรตีติ โย เอโส กุเล ปจฺฉิมโก เต หิรฺาทิเก โภเค เขเปติ. วิธมตีติ วิโยคํ กโรติ, ทูเร ขิปติ. วิทฺธํเสตีติ นาเสติ อทสฺสนํ คเมติ. อถ วา อิตฺถิธุตฺโต หุตฺวา วิกิรติ. สุราธุตฺโต หุตฺวา วิธมติ. อกฺขธุตฺโต หุตฺวา วิทฺธํเสติ. วิกิรติ วา อุปฺปนฺนํ อายํ อชานเนน. วิธมติ วิสฺสชฺชนมุขํ อชานเนน. วิทฺธํเสติ ปิตฏฺาเน อารกฺขํ อสํวิธาเนนาติ เอวมาทินา โยเชตพฺพํ.

อนิจฺจตาเยว อฏฺมีติ วินาสภาโว เอว อฏฺโม. หายนฺตีติ อทสฺสนํ ยนฺติ. ปริหายนฺตีติ น ปุน ปฺายนฺติ. ปริธํเสนฺตีติ านโต อปคจฺฉนฺติ. ปริปตนฺตีติ ปคฺฆรนฺติ. อนฺตรธายนฺตีติ อนฺตรธานํ อทสฺสนํ คจฺฉนฺติ. วิปฺปลุชฺชนฺตีติ จุณฺณวิจุณฺณา หุตฺวา อปคจฺฉนฺติ.

ติฏฺนฺเตว เต โภเคติ เตสํ ธนานํ ิตกาเล ‘‘ติฏฺนฺเต นิพฺพุเต จาปี’’ติ เอวมาทีสุ (วิ. ว. ๘๐๖) วิย. โสติ โส โภคสามิโก ปุคฺคโล. จวติ เทวโลกโต. มรติ มนุสฺสโลกโต. วิปฺปลุชฺชติ นาคสุปณฺณาทิโลกโต. อถ วา หายติ ธฺโกฏฺาคารวเสน. ปริหายติ ธนโกฏฺาคารวเสน. ปริธํสติ พลิพทฺทหตฺถิอสฺสาทิวเสน. ปริปตติ ทาสิทาสวเสน. อนฺตรธายติ ทาราภรณวเสน. นสฺสติ อุทกาทิวเสนาติ เอเก วณฺณยนฺติ.

อโยมเยนาติ กาฬโลหาทินิพฺพตฺเตน. สลฺเลนาติ กณฺเฑน. อฏฺิมเยนาติ มนุสฺสฏฺึ เปตฺวา อวเสเสน. ทนฺตมเยนาติ หตฺถิทนฺตาทินา. วิสาณมเยนาติ โควิสาณาทินา. กฏฺมเยนาติ เวฬุกฏฺาทินา. วิทฺโธติ วุตฺตปฺปการสลฺลานํ อฺตรฺตเรน ปหโฏ. รุปฺปตีติ วิกิรติ, วิการํ อาปชฺชติ. กุปฺปตีติ จลติ, โกปํ อุปฺปาเทติ. ฆฏฺฏียตีติ ฆฏฺฏิโต โหติ. ปีฬียตีติ ปีฬิโต โหติ, ลทฺธปฺปหาโร กุปฺปติ. ‘‘ตติยทิวเส สลากํ ปเวเสตฺวา โธวนกาเล ฆฏฺฏียติ. ขารปฺปทาเน ปีฬียติ. ปหารโธวเน วา รุปฺปติ. ตสฺมึ ทุกฺขุปฺปาทเน กุปฺปติ. สลากปเวสเน ปีฬียติ. ขารปฺปทาเน ฆฏฺฏียตี’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.

พฺยาธิโตติ ลทฺธปฺปหาโร หุตฺวา ปีฬิโต. โทมนสฺสิโตติ โทมนสฺสปฺปตฺโต. วิปริณามฺถาภาวาติ ปกติภาวํ ชหิตฺวา อฺถาภาวํ อุปนีเตน, อนฺโตโสสาทิ โสโก จ วาจาวิปฺปลาโป ปริเทโว จ กายปีฬนาทิ ทุกฺขฺจ จิตฺตปีฬนาทิ โทมนสฺสฺจ ภุโส อายาโส อุปายาโส จ. เอเต วุตฺตปฺปการา โสกาทโย อุปฺปชฺชนฺติ สมุทาจารํ คจฺฉนฺติ.

. ตติยคาถายํ สงฺเขปตฺโถ – โย ปน อิเม กาเม ตตฺถ ฉนฺทราควิกฺขมฺภเนน วา สมุจฺเฉเทน วา อตฺตโน ปาเทน สปฺปสฺส สิรํ วิย ปริวชฺเชติ, โส ภิกฺขุ สพฺพโลกํ วิปฺผาเรตฺวา ิตตฺตา โลเก วิสตฺติกาสงฺขาตํ ตณฺหํ สโต หุตฺวา สมติวตฺตตีติ.

โยติ วิภชิตพฺพํ ปทํ. โย ยาทิโสติอาทีนิ ตสฺส วิภชนปทานิ. เอตฺถ จ ยสฺมา โยติ อตฺถปทํ. ตฺจ อนิยเมน ปุคฺคลํ ทีเปติ. ตสฺมา ตสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อนิยเมน ปุคฺคลทีปกํ โย-สทฺทเมว อาห. ตสฺมา เอตฺถ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ – โยติ โย โกจีติ. ยสฺมา โย โย โกจิ นาม, โส อวสฺสํ ยถาลิงฺคยถายุตฺตยถาวิหิตยถาปฺปการยํานปตฺตยํธมฺมสมนฺนาคตวเสน เอเกนากาเรน ปฺายติ, ตสฺมา ตํ ตตฺถ าเปตุํ ตํ เภทํ ปกาเสนฺโต ‘‘ยาทิโส’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยาทิโสติ ลิงฺควเสน ยาทิโส วา ตาทิโส วา โหตุ, ทีโฆ วา รสฺโส วา กาโฬ วา โอทาโต วา มงฺคุรจฺฉวิ วา กิโส วา ถูโล วาติ อตฺโถ.

ยถายุตฺโตติ โยควเสน เยน วา เตน วา ยุตฺโต โหตุ, นวกมฺมยุตฺโต วา อุทฺเทสยุตฺโต วา วาสธุรยุตฺโต วาติ อตฺโถ. ยถาวิหิโตติ ยถาปิโต นวกมฺมาธิฏฺายิกาทิวเสน. ยถาปกาโรติ ยถาปกาเรน ปติฏฺิโต ปทีปนายกาทิวเสน. ยํานปฺปตฺโตติ ยํ านนฺตรํ ปตฺโต เสนาปติเสฏฺิฏฺานาทิวเสน. ยํธมฺมสมนฺนาคโตติ เยน ธมฺเมน อุปาคโต ธุตงฺคาทิวเสน.

วิกฺขมฺภนโต วาติ อุปจารปฺปนาสมาธีติ กิเลสานํ ทูรีกรณโต วา ฆฏปฺปหาเรน เสวาลานํ วิย. สมุจฺเฉทโต วาติ ปุน อปฺปวตฺตึ กตฺวา อจฺจนฺตโต มคฺเคน กิเลสานํ อุจฺฉินฺนมูลโต ปหานวเสน สมุจฺเฉทโต วา. อฏฺิกงฺกลูปมา กามาติอาทีนิ เอกาทส ปทานิ วิปสฺสนาวเสน วุตฺตานิ.

พุทฺธานุสฺสตึ ภาเวนฺโตปีติอาทีนิ ฉ ปทานิ มรณสฺสตึ ภาเวนฺโตปิ, อุปสมานุสฺสตึ ภาเวนฺโตปีติ อิมานิ จ อุปจารชฺฌานวเสน วุตฺตานิ. อานาปานสฺสตึ ภาเวนฺโตปิ, กายคตาสตึ ภาเวนฺโตปิ, ปมํ ฌานํ ภาเวนฺโตปีติอาทีนิ เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ ภาเวนฺโตปีติ ปริโยสานานิ อปฺปนาชฺฌานวเสน วุตฺตานิ. ตตฺถ อฏฺิกงฺกลูปมา กามาติ สุนิกฺกนฺตํ นิกฺกนฺตํ นิมฺมํสํ โลหิตมกฺขิตํ อฏฺิกงฺกลํ อุปมา เอเตสํ กามานนฺติ อฏฺิกงฺกลูปมา กามา. อปฺปสฺสาทฏฺเนาติ ‘‘อปฺปํ ปริตฺตํ สุขสฺสาทํ อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย’’ติ ทสฺสนฏฺเน. ปสฺสนฺโตติ ‘‘ยาวเทว ปน โส กุกฺกุโร กิลมถสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺสา’’ติ าณจกฺขุนา ปสฺสนฺโต. ปริวชฺเชตีติ ทูรงฺคเมติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘เสยฺยถาปิ, คหปติ, กุกฺกุโร ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺยปเรโต โคฆาตกสูนํ ปจฺจุปฏฺิโต อสฺส, ตเมนํ ทกฺโข โคฆาตโก วา โคฆาตกนฺเตวาสี วา อฏฺิกงฺกลํ สุนิกฺกนฺตํ นิกฺกนฺตํ นิมฺมํสํ โลหิตมกฺขิตํ อุปสุมฺเภยฺย. ตํ กึ มฺสิ, คหปติ, อปิ นุ โข โส กุกฺกุโร อมฺหํ อฏฺิกงฺกลํ สุนิกฺกนฺตํ นิกฺกนฺตํ นิมฺมํสํ โลหิตมกฺขิตํ ปเลหนฺโต ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺยํ ปฏิวิเนยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อทุฺหิ, ภนฺเต, อฏฺิกงฺกลํ สุนิกฺกนฺตํ นิกฺกนฺตํ นิมฺมํสํ โลหิตมกฺขิตํ, ยาวเทว ปน โส กุกฺกุโร กิลมถสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺสา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘อฏฺิกงฺกลูปมา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย’ติ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา ยายํ อุเปกฺขา นานตฺตา นานตฺตสิตา, ตํ อภินิวชฺเชตฺวา ยายํ อุเปกฺขา เอกตฺตา เอกตฺตสิตา, ยตฺถ สพฺพโส โลกามิสุปาทานา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, ตเมวูเปกฺขํ ภาเวตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๔๒).

คิชฺฌาทีหิ สาธารณา มํสเปสิ อุปมา เอเตสนฺติ มํสเปสูปมา. พหูนํ สาธารณฏฺเน พหุสาธารณา. อาทิตฺตํ ติณุกฺกํ อุปมา เอเตสนฺติ ติณุกฺกูปมา. อนุทหนฏฺเนาติ หตฺถาทิฌาปนฏฺเน. สาธิกโปริสปฺปมาณา วีตจฺจิกานํ วีตธูมานํ องฺคารานํ ปูรา องฺคารกาสุ อุปมา เอเตสนฺติ องฺคารกาสูปมา. มหาปริฬาหฏฺเนาติ มหนฺตปริตาปนฏฺเน. อารามรามเณยฺยาทิกํ สุปินํ อุปมา เอเตสนฺติ สุปินกูปมา. อิตฺตรปจฺจุปฏฺานฏฺเนาติ อปฺปตฺวา, น อุปคนฺตฺวา ติฏฺนฏฺเน. ยาจิเตน ลทฺธํ ยานาทิภณฺฑํ อุปมา เอเตสนฺติ ยาจิตกูปมา. ตาวกาลิกฏฺเนาติ อนิพนฺธนฏฺเน. สมฺปนฺนผลรุกฺโข อุปมา เอเตสนฺติ รุกฺขผลูปมา. สมฺภฺชนปริภฺชนฏฺเนาติ สาขาภฺชนฏฺเน เจว สมนฺตโต ภฺชิตฺวา รุกฺขปาตนฏฺเน จ. อสิ จ สูนา จ อุปมา เอเตสนฺติ อสิสูนูปมา. อธิกุฏฺฏนฏฺเนาติ ฉินฺทนฏฺเน. สตฺติสูลํ อุปมา เอเตสนฺติ สตฺติสูลูปมา. วินิวิชฺฌนฏฺเนาติ นิปเตตฺวา คมนฏฺเน. ภยชนนฏฺเน สปฺปสิรํ อุปมา เอเตสนฺติ สปฺปสิรูปมา. สปฺปฏิภยฏฺเนาติ สห อภิมุเข ภยฏฺเน. ทุกฺขชนนํ อคฺคิกฺขนฺธํ อุปมา เอเตสนฺติ อคฺคิกฺขนฺธูปมา. มหาภิตาปนฏฺเนาติ มหนฺตอภิตาปกายปีฬาอุปฺปาทนฏฺเนาติ กามํ ปริวชฺเชตีติ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘เสยฺยถาปิ, คหปติ, คิชฺโฌ วา กงฺโก วา กุลโล วา มํสเปสึ อาทาย อุฑฺฑีเยยฺย, ตเมนํ คิชฺฌาปิ กงฺกาปิ กุลลาปิ อนุปติตฺวา อนุปติตฺวา วิตจฺเฉยฺยุํ วิสฺสชฺเชยฺยุํ. ตํ กึ มฺสิ, คหปติ, สเจ โส คิชฺโฌ วา กงฺโก วา กุลโล วา ตํ มํสเปสึ น ขิปฺปเมว ปฏินิสฺสชฺเชยฺย, โส ตโตนิทานํ มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย, มรณมตฺตํ วา ทุกฺข’’นฺติ ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘มํสเปสูปมา กามา วุตฺตา ภควตา…เป… ตเมวูเปกฺขํ ภาเวติ. เสยฺยถาปิ, คหปติ, ปุริโส อาทิตฺตํ ติณุกฺกํ อาทาย ปฏิวาตํ คจฺเฉยฺย. ตํ กึ มฺสิ, คหปติ, สเจ โส ปุริโส ตํ อาทิตฺตํ ติณุกฺกํ น ขิปฺปเมว ปฏินิสฺสชฺเชยฺย, ตสฺส สา อาทิตฺตา ติณุกฺกา หตฺถํ วา ทเหยฺย, พาหุํ วา ทเหยฺย, อฺตรํ วา อฺตรํ วา องฺคปจฺจงฺคํ ทเหยฺย, โส ตโตนิทานํ มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย, มรณมตฺตํ วา ทุกฺข’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘ติณุกฺกูปมา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา…เป… ตเมวูเปกฺขํ ภาเวติ. เสยฺยถาปิ, คหปติ, องฺคารกาสุ สาธิกโปริสา ปูรา องฺคารานํ วีตจฺจิกานํ วีตธูมานํ. อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ชีวิตุกาโม อมริตุกาโม สุขกาโม ทุกฺขปฺปฏิกฺกูโล, ตเมนํ ทฺเว พลวนฺโต ปุริสา นานาพาหาสุ คเหตฺวา องฺคารกาสุํ อุปกฑฺเฒยฺยุํ. ตํ กึ มฺสิ คหปติ, อปิ นุ โส ปุริโส อิติ จิติ เจว กายํ สนฺนาเมยฺยา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺสเหตุ’’? ‘‘วิทิตฺหิ, ภนฺเต, ตสฺส ปุริสสฺส ‘อิมฺจ อหํ องฺคารกาสุํ ปปติสฺสามิ, ตโตนิทานํ มรณํ วา นิคจฺฉิสฺสามิ มรณมตฺตํ วา ทุกฺข’’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข คหปติ อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘องฺคารกาสูปมา กามา วุตฺตา ภควตา…เป… ตเมวูเปกฺขํ ภาเวติ. เสยฺยถาปิ, คหปติ, ปุริโส สุปินกํ ปสฺเสยฺย อารามรามเณยฺยกํ วนรามเณยฺยกํ ภูมิรามเณยฺยกํ โปกฺขรณิรามเณยฺยกํ, โส ปฏิพุทฺโธ น กิฺจิ ปฏิปสฺเสยฺย. เอวเมว โข, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘สุปินกูปมา กามา วุตฺตา ภควตา…เป… ตเมวูเปกฺขํ ภาเวติ. เสยฺยถาปิ, คหปติ, ปุริโส ยาจิตกํ โภคํ ยาจิตฺวา ยานํ วา โปริเสยฺยํ ปวรมณิกุณฺฑลํ. โส เตหิ ยาจิตเกหิ โภเคหิ ปุรกฺขโต ปริวุโต อนฺตราปณํ ปฏิปชฺเชยฺย. ตเมนํ ชโน ทิสฺวา เอวํ วเทยฺย ‘โภคี วต โภ ปุริโส, เอวํ กิร โภ โภคิโน โภคานิ ภุฺชนฺตี’ติ. ตเมนํ สามิกา ยตฺถ ยตฺเถว ตานิ ปสฺเสยฺยุํ, ตตฺถ ตตฺเถว ตานิ หเรยฺยุํ. ตํ กึ มฺสิ, คหปติ, อลํ นุ โข ตสฺส ปุริสสฺส อฺถตฺตายา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺสเหตุ’’? ‘‘สามิโน หิ, ภนฺเต, ตานิ หรนฺตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘ยาจิตกูปมา กามา วุตฺตา ภควตา…เป… ตเมวูเปกฺขํ ภาเวติ. เสยฺยถาปิ, คหปติ, คามสฺส วา นิคมสฺส วา อวิทูเร ติพฺโพ วนสณฺโฑ, ตตฺรสฺส รุกฺโข สมฺปนฺนผโล จ อุปปนฺนผโล จ. น จสฺสุ กานิจิ ผลานิ ภูมิยํ ปติตานิ. อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ผลตฺถิโก ผลคเวสี ผลปริเยสนํ จรมาโน. โส ตํ วนสณฺฑํ อชฺโฌคาเหตฺวา ตํ รุกฺขํ ปสฺเสยฺย สมฺปนฺนผลฺจ อุปปนฺนผลฺจ. ตสฺส เอวมสฺส ‘อยํ โข รุกฺโข สมฺปนฺนผโล จ อุปปนฺนผโล จ, นตฺถิ จ กานิจิ ผลานิ ภูมิยํ ปติตานิ, ชานามิ โข ปนาหํ รุกฺขํ อาโรปิตุํ. ยํนูนาหํ อิมํ รุกฺขํ อาโรหิตฺวา ยาวทตฺถฺจ ขาเทยฺยํ, อุจฺฉงฺคฺจ ปูเรยฺย’นฺติ? โส ตํ รุกฺขํ อาโรหิตฺวา ยาวทตฺถฺจ ขาเทยฺย, อุจฺฉงฺคฺจ ปูเรยฺย. อถ ทุติโย ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ผลตฺถิโก ผลคเวสี ผลปริเยสนํ จรมาโน ติณฺหํ กุารึ อาทาย. โส ตํ วนสณฺฑํ อชฺโฌคาเหตฺวา ตํ รุกฺขํ ปสฺเสยฺย สมฺปนฺนผลฺจ อุปปนฺนผลฺจ. ตสฺส เอวมสฺส ‘อยํ โข รุกฺโข สมฺปนฺนผโล จ อุปปนฺนผโล จ, นตฺถิ จ กานิจิ ผลานิ ภูมิยํ ปติตานิ, น โข ปนาหํ ชานามิ รุกฺขํ อาโรหิตุํ. ยํนูนาหํ อิมํ รุกฺขํ มูลโต เฉตฺวา ยาวทตฺถฺจ ขาเทยฺยํ, อุจฺฉงฺคฺจ ปูเรยฺย’นฺติ. โส ตํ รุกฺขํ มูลโตว ฉินฺเทยฺย. ตํ กึ มฺสิ, คหปติ, อมุโก โส ปุริโส ปมํ รุกฺขํ อารูฬฺโห, สเจ โส น ขิปฺปเมว โอโรเหยฺย, ตสฺส โส รุกฺโข ปปตนฺโต หตฺถํ วา ภฺเชยฺย ปาทํ วา ภฺเชยฺย อฺตรํ วา อฺตรํ วา องฺคปจฺจงฺคํ ภฺเชยฺย, โส ตโตนิทานํ มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย, มรณมตฺตํ วา ทุกฺข’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘รุกฺขผลูปมา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย’ติ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา ยายํ อุเปกฺขา นานตฺตา นานตฺตสิตา, ตํ อภินิวชฺเชตฺวา ยายํ อุเปกฺขา เอกตฺตา เอกตฺตสิตา. ยตฺถ สพฺพโส โลกามิสูปาทานา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ. ตเมวูเปกฺขํ ภาเวตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๔๓-๔๘).

เอวํ อฏฺิกงฺกลาทิกอคฺคิกฺขนฺธูปมปริโยสานโต วิปสฺสนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อุปจารสมาธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘พุทฺธานุสฺสตึ ภาเวนฺโต’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต สติ เอว อนุสฺสติ. ปวตฺติตพฺพฏฺานมฺหิเยว จ ปวตฺตตฺตา สทฺธาปพฺพชิตสฺส กุลปุตฺตสฺส อนุรูปา สตีติปิ อนุสฺสติ. พุทฺธํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ พุทฺธานุสฺสติ. อรหตาทิพุทฺธคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ, ตํ พุทฺธานุสฺสตึ. ภาเวนฺโตติ วฑฺเฒนฺโต พฺยูเหนฺโต. ธมฺมํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ ธมฺมานุสฺสติ, สฺวากฺขาตตาทิธมฺมคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. สงฺฆํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ สงฺฆานุสฺสติ, สุปฺปฏิปนฺนตาทิสงฺฆคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. สีลํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ สีลานุสฺสติ, อตฺตโน อขณฺฑตาทิสีลคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. จาคํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ จาคานุสฺสติ, อตฺตโน มุตฺตจาคตาทิจาคคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. เทวตา อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ เทวตานุสฺสติ, เทวตา สกฺขิฏฺาเน เปตฺวา อตฺตโน สทฺธาทิคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. อานาปาเน อารพฺภ อุปฺปนฺนา สติ อานาปานสฺสติ, อานาปานนิมิตฺตารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. มรณํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา สติ มรณสฺสติ, เอกภวปริยาปนฺนชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทสงฺขาตมรณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ.

กุจฺฉิตานํ เกสาทีนํ ปฏิกฺกูลานํ อายตฺตา อากรตฺตา กาโยติ สงฺขํ คเต สรีเร คตา ปวตฺตา สติ กายคตาสติ, ตาทิสํ วา กายํ คตา สติ ‘‘กายคตสตี’’ติ วตฺตพฺเพ รสฺสํ อกตฺวา ‘‘กายคตาสตี’’ติ วุตฺตํ. เกสาทิเกสุ กายโกฏฺาเสสุ ปฏิกฺกูลนิมิตฺตารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. อุปสมํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ. อุปสมานุสฺสติ, สพฺพทุกฺขูปสมารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ.

วิตกฺกวิจารปีติสุขจิตฺเตกคฺคตาสมฺปยุตฺตํ ปมชฺฌานํ ภาเวนฺโต. ปีติสุขจิตฺเตกคฺคตาสมฺปยุตฺตํ ทุติยชฺฌานํ ภาเวนฺโต. สุขจิตฺเตกคฺคตาสมฺปยุตฺตํ ตติยชฺฌานํ ภาเวนฺโต. อุเปกฺขาจิตฺเตกคฺคตาสมฺปยุตฺตํ จตุตฺถชฺฌานํ ภาเวนฺโต…เป… เนวสฺานาสฺายตนํ ภาเวนฺโตปิ กาเม ปริวชฺเชตีติ.

วิกฺขมฺภนปฺปหานํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สมุจฺเฉเทน กามานํ ปหานํ ทสฺเสตุํ ‘‘โสตาปตฺติมคฺคํ ภาเวนฺโตปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ มคฺคโสตสฺส อาปชฺชนํ โสตาปตฺติ, โสตาปตฺติยา มคฺโค โสตาปตฺติมคฺโค. อปายคมนีเย กาเมติ เยหิ อปายํ คจฺฉนฺติ, เต อปายคมนีเย กาเม สมุจฺเฉทโต โสตาปตฺติมคฺคํ ภาเวนฺโต ปริวชฺเชติ. ปฏิสนฺธิวเสน สกึเยว อิมํ โลกํ อาคจฺฉตีติ สกทาคามี, ตสฺส มคฺโค สกทาคามิมคฺโค. ตํ มคฺคํ ภาเวนฺโต. โอฬาริเกติ ปริฬาหปฺปตฺเต. ปฏิสนฺธิวเสเนว กามภวํ นาคจฺฉตีติ อนาคามี, ตสฺส มคฺโค อนาคามิมคฺโค. ตํ มคฺคํ ภาเวนฺโต. อนุสหคเตติ สุขุมภาวปฺปตฺเต. กิเลเสหิ อารกตฺตา, กิเลสารีนํ หตตฺตา, สํสารจกฺกสฺส อรานํ หตตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา จ อรหํ, อรหโต ภาโว อรหตฺตํ. กึ ตํ? อรหตฺตผลํ. อรหตฺตสฺส มคฺโค อรหตฺตมคฺโค. ตํ อรหตฺตมคฺคํ ภาเวนฺโต. สพฺเพน สพฺพนฺติ สพฺเพนากาเรน สพฺพํ. สพฺพถา สพฺพนฺติ สพฺพปฺปกาเรน สพฺพํ. อเสสํ นิสฺเสสนฺติ นิรวเสสํ คนฺธมตฺตมฺปิ อฏฺเปตฺวา. อถ วา สพฺเพน สพฺพํ มูลวเสน. สพฺพถา สพฺพํ อาการนิปฺปเทสวเสน. อเสสํ นิสฺเสสํ ภาวนานิปฺปเทสวเสน. ตถา ปุริเมน ทุจฺจริตาภาเวน. ทุติเยน ปริยุฏฺานาภาเวน. ตติเยน อนุสยาภาเวน เอวเมเก วณฺณยนฺติ.

สปฺโป วุจฺจติ อหีติ โย โกจิ สรนฺโต คจฺฉติ. เกนฏฺเนาติ เกน อตฺเถน. สํสปฺปนฺโต คจฺฉตีติ ยสฺมา สมฺมา สํสรนฺโต คจฺฉตีติ สปฺโป. ภุชนฺโตติ วงฺกวงฺโก หุตฺวา. ปนฺนสิโรติ นิปนฺนสีโส หุตฺวา. สิเรน สุปตีติ สีสํ โภคนฺตเร กตฺวา สุปนภาเวน สิรสา สุปตีติ สรีสโป. พิเล สยตีติ พิลาสโย. ‘‘พิลสโย’’ติปิ ปาฬิ, ตํ สุนฺทรํ. คุหายํ เสตีติ คุหาสโย. ทาา ตสฺส อาวุโธติ ตสฺส สปฺปสฺส ทุเว ทาา ปหรณสตฺถสงฺขาโต อาวุโธ. วิสํ ตสฺส โฆรนฺติ ตสฺส สปฺปสฺส พฺยาปกสงฺขาตํ วิสํ ทารุณํ กกฺขฬํ. ชิวฺหา ตสฺส ทุวิธาติ ตสฺส สปฺปสฺส ทฺเวธา ชิวฺหา. ทฺวีหิ ชิวฺหาหิ รสํ สายตีติ ทุวิธาหิ ชิวฺหาหิ รสํ ชานาติ อสฺสาทํ วินฺทติ สาทิยตีติ. ชีวิตุํ กามยตีติ ชีวิตุกาโม. อมริตุํ กามยตีติ อมริตุกาโม. สุขํ กามยตีติ สุขกาโม. ทุกฺขปฺปฏิกฺกูโลติ ทุกฺขํ อนิจฺฉมาโน. ปาเทนาติ อตฺตโน ปาเทน. สปฺปสิรนฺติ สปฺปสฺส สีสํ. วชฺเชยฺยาติ ทูรโต วชฺเชยฺย. วิวชฺเชยฺยาติ ตสฺส ปมาเณน. ปริวชฺเชยฺยาติ สมนฺตโต. อภินิวชฺเชยฺยาติ จตุตฺถปฺปมาเณน. อถ วา ปุริเมน สีสโต. ทุติยตติเยน ทฺวีหิ ปสฺเสหิ. จตุตฺเถน ปจฺฉโต. ‘‘กาเม ปน อปฺปตฺตสฺส ปริเยสนมูลทุกฺขวตฺถุภาเวน วชฺเชยฺย. ปตฺตสฺส อารกฺขมูลทุกฺขวตฺถุภาเวน วิวชฺเชยฺย. อฺาณปริฬาหทุกฺขวตฺถุภาเวน ปริวชฺเชยฺย. วินาสมุเข ปิยวิปฺปโยคทุกฺขวตฺถุภาเวน อภินิวชฺเชยฺยา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.

รฺชนวเสน ราโค. พลวรฺชนฏฺเน สาราโค. วิสเย สตฺตานํ อนุ อนุ นยนโต อนุนโย. อนุรุชฺฌตีติ อนุโรโธ, กาเมตีติ อตฺโถ. ยตฺถ กตฺถจิ ภเว สตฺตา เอตาย นนฺทนฺตีติ นนฺที, สยํ วา นนฺทตีติ นนฺที. นนฺที จ สา รฺชนฏฺเน ราโค จาติ นนฺทิราโค. ตตฺถ เอกสฺมึ อารมฺมเณ สกึ อุปฺปนฺนา ตณฺหา นนฺที, ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชมานา นนฺทิราโคติ วุจฺจติ. จิตฺตสฺส สาราโคติ โย เหฏฺา ‘‘พลวรฺชนฏฺเน สาราโค’’ติ วุตฺโต, โส น สตฺตสฺส, จิตฺตสฺเสว สาราโคติ อตฺโถ.

อิจฺฉนฺติ เอตาย อารมฺมณานีติ อิจฺฉา. พหลกิเลสภาเวน มุจฺฉนฺติ เอตาย ปาณิโนติ มุจฺฉา. คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา คหณวเสน อชฺโฌสานํ. อิมินา สตฺตา คิชฺฌนฺติ เคธํ อาปชฺชนฺตีติ เคโธ. พหลฏฺเน วา เคโธ. ‘‘เคธํ วา ปน ปวนสณฺฑ’’นฺติ หิ พหลฏฺเเนว วุตฺตํ. อนนฺตรปทํ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตํ, สพฺพโตภาเคน วา เคโธติ ปลิเคโธ. สชฺชนฺติ เอเตนาติ สงฺโค. ลคฺคนฏฺเน วา สงฺโค. โอสีทนฏฺเน ปงฺโก. อากฑฺฒนวเสน เอชา. ‘‘เอชา อิมํ ปุริสํ ปริกฑฺฒติ ตสฺส ตสฺเสว ภวสฺส อภินิพฺพตฺติยา’’ติ หิ วุตฺตํ. วฺจนฏฺเน มายา. วฏฺฏสฺมึ สตฺตานํ ชนนฏฺเน ชนิกา. ‘‘ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ, จิตฺตมสฺส วิธาวตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๕๕) หิ วุตฺตํ. วฏฺฏสฺมึ สตฺเต ทุกฺเขน สํโยชยมานา ชเนตีติ สฺชนนี. ฆฏนฏฺเน สิพฺพินี. อยฺหิ วฏฺฏสฺมึ สตฺเต จุติปฏิสนฺธิวเสน สิพฺพติ ฆเฏติ ตุนฺนกาโร วิย ปิโลติกาย ปิโลติกํ, ตสฺมา ‘‘ฆฏนฏฺเน สิพฺพินี’’ติ วุตฺตา. อเนกปฺปการํ วิสยชาลํ ตณฺหาวิปฺผนฺทิตนิเวสสงฺขาตํ วา ชาลมสฺสา อตฺถีติ ชาลินี.

อากฑฺฒนฏฺเน สีฆโสตา สริตา วิยาติ สริตา. อลฺลฏฺเน วา สริตา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘สริตานิ สิเนหิตานิ จ โสมนสฺสานิ ภวนฺติ ชนฺตุโน’’ติ (ธ. ป. ๓๔๑). อลฺลานิ เจว สินิทฺธานิ จาติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. อนยพฺยสนาปาทนฏฺเน กุมฺมานุพนฺธสุตฺตกํ วิยาติ สุตฺตํ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘สุตฺตนฺติ โข, ภิกฺขเว, นนฺทิราคสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๙). รูปาทีสุ วิตฺถตฏฺเน วิสตา. ตสฺส ตสฺส ปฏิลาภตฺถาย สตฺเต อายูหาเปตีติ อายูหินี. อุกฺกณฺิตุํ อปทานโต สหายฏฺเน ทุติยา. อยฺหิ สตฺตานํ วฏฺฏสฺมึ อุกฺกณฺิตุํ น เทติ, คตคตฏฺาเน ปิยสหาโย วิย อภิรมาเปติ. เตเนว วุตฺตํ –

‘‘ตณฺหาทุติโย ปุริโส, ทีฆมทฺธานสํสรํ;

อิตฺถภาวฺถาภาวํ, สํสารํ นาติวตฺตตี’’ติ. (อิติวุ. ๑๕; อ. นิ. ๔.๙; มหานิ. ๑๙๑; จูฬนิ. ปายายนานุคีติคาถานิทฺเทส ๑๐๗);

ปณิธานกวเสน ปณิธิ. ภวเนตฺตีติ ภวรชฺชุ. เอตาย หิ สตฺตา รชฺชุยา คีวายํ พทฺธา โคณา วิย อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺานํ นิยฺยนฺติ. ตํ ตํ อารมฺมณํ วนติ ภชติ อลฺลียตีติ วนํ, วนติ ยาจตีติ วา วนํ. วนโถติ พฺยฺชเนน ปทํ วฑฺฒิตํ. อนตฺถทุกฺขานํ วา สมุฏฺาปนฏฺเน คหนฏฺเน จ วนํ วิยาติ วนํ. พลวตณฺหาเยตํ นามํ. คหนตรฏฺเน ปน ตโต พลวตรา วนโถ นาม. เตน วุตฺตํ –

‘‘วนํ ฉินฺทถ มา รุกฺขํ, วนโต ชายเต ภยํ;

เฉตฺวา วนฺจ วนถฺจ, นิพฺพนา โหถ ภิกฺขโว’’ติ. (ธ. ป. ๒๘๓);

สนฺถวนวเสน สนฺถโว, สํสคฺโคติ อตฺโถ. โส ทุวิโธ – ตณฺหาสนฺถโว มิตฺตสนฺถโว จ. เตสุ อิธ ตณฺหาสนฺถโว อธิปฺเปโต. สิเนหวเสน สฺเนโห. อาลยกรณวเสน กมฺปมานา อเปกฺขตีติ อเปกฺขา. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อิมานิ เต เทว จตุราสีติ นครสหสฺสานิ กุสาวตีราชธานิปฺปมุขานิ, เอตฺถ เทว ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๖๖). อาลยํ กโรหีติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. ปาฏิเยกฺเก ปาฏิเยกฺเก อารมฺมเณ พนฺธตีติ ปฏิพนฺธุ, าตกฏฺเน วา ปาฏิเยกฺโก พนฺธูติปิ ปฏิพนฺธุ. นิจฺจสนฺนิสฺสิตฏฺเนปิ สตฺตานํ ตณฺหาสโม พนฺธุ นาม นตฺถิ. อารมฺมณานํ อสนโต อาสา. อชฺโฌตฺถรณโต เจว ติตฺตึ อนุคนฺตฺวาว ปริภุฺชนโต จาติ อตฺโถ. อาสีสนวเสน อาสีสนา. อาสีสิตสฺส ภาโว อาสีสิตตฺตํ.

อิทานิ ตสฺสา ปวตฺติฏฺานํ ทสฺเสตุํ ‘‘รูปาสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาสีสนวเสน อาสาติ อาสาย อตฺถํ คเหตฺวา รูเป อาสา รูปาสา. เอวํ นวปิ ปทานิ เวทิตพฺพานิ. เอตฺถ จ ปุริมานิ ปฺจ ปฺจกามคุณวเสน วุตฺตานิ, ปริกฺขารโลภวเสน ฉฏฺํ. ตํ วิเสสโต ปพฺพชิตานํ, ตโต ปรานิ ตีณิ อติตฺติยวตฺถุวเสน คหฏฺานํ. น หิ เตสํ ธนปุตฺตชีวิเตหิ อฺํ ปิยตรํ อตฺถิ. ‘‘อิทํ มยฺหํ, อิทํ มยฺห’’นฺติ วา ‘‘อสุเกน เม อิทํ ทินฺนํ, อิทํ ทินฺน’’นฺติ วา เอวํ สตฺเต ชปฺปาเปตีติ ชปฺปา. ปรโต ทฺเว ปทานิ อุปสคฺเคน วฑฺฒิตานิ, ตโต ปรํ อฺเนากาเรน วิภชิตุํ อารทฺธตฺตา ปุน ‘‘ชปฺปา’’ติ วุตฺตํ. ชปฺปนากาโร ชปฺปนา. ชปฺปิตสฺส ภาโว ชปฺปิตตฺตํ. ปุนปฺปุนํ วิสเย ลุมฺปติ อากฑฺฒตีติ โลลุโป, โลลุปสฺส ภาโว โลลุปฺปํ. โลลุปฺปนากาโร โลลุปฺปายนา. โลลุปฺปสมงฺคิโน ภาโว โลลุปฺปายิตตฺตํ.

ปุจฺฉฺชิกตาติ ยาย ตณฺหาย ลาภฏฺาเนสุ ปุจฺฉํ จาลยมานา สุนขา วิย กมฺปมานา วิจรนฺติ, ตํ ตสฺสา กมฺปนตณฺหาย นามํ. สาธุ มนาปมนาเป วิสเย กาเมตีติ สาธุกาโม, ตสฺส ภาโว สาธุกมฺยตา. มาตามาตุจฺฉาติอาทิเก อยุตฺตฏฺาเน ราโคติ อธมฺมราโค. ยุตฺตฏฺาเนปิ พลวา หุตฺวา อุปฺปนฺโน โลโภ วิสมโลโภ. ‘‘ราโค วิสม’’นฺติอาทิวจนโต (วิภ. ๙๒๔) วา ยุตฺตฏฺาเน วา อยุตฺตฏฺาเน วา อุปฺปนฺโน ฉนฺทราโค อธมฺมฏฺเน อธมฺมราโค. วิสมฏฺเน วิสมโลโภติ เวทิตพฺโพ. อารมฺมณานํ นิกามนวเสน นิกนฺติ. นิกามนากาโร นิกามนา. ปตฺถยนวเสน ปตฺถนา. ปิหายนวเสน ปิหนา. สุฏฺุ ปตฺถนา สมฺปตฺถนา. ปฺจสุ กามคุเณสุ ตณฺหา กามตณฺหา. รูปารูปภเวสุ ตณฺหา ภวตณฺหา. อุจฺเฉทสงฺขาเต วิภเว ตณฺหา วิภวตณฺหา. สุทฺเธ รูปภวสฺมึเยว ตณฺหา รูปตณฺหา. อรูปภเว ตณฺหา อรูปตณฺหา. อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต ราโค, นิโรเธ ตณฺหา นิโรธตณฺหา. รูเป ตณฺหา รูปตณฺหา. สทฺเท ตณฺหา สทฺทตณฺหา. คนฺธตณฺหาทีสุปิ เอเสว นโย. โอฆาทโย วุตฺตตฺถาว.

กุสลธมฺเม อาวรตีติ อาวรณํ. ฉาทนวเสน ฉทนํ. สตฺเต วฏฺฏสฺมึ พนฺธตีติ พนฺธนํ. จิตฺตํ อุปหนฺตฺวา กิลิสฺสติ สํกิลิฏฺํ กโรตีติ อุปกฺกิเลโส. ถามคตฏฺเน อนุ อนุ เสตีติ อนุสโย. อุปฺปชฺชมานํ จิตฺตํ ปริยุฏฺาตีติ ปริยุฏฺานํ, อุปฺปชฺชิตุํ อปทาเนน กุสลวารํ คณฺหาตีติ อตฺโถ. ‘‘โจรา มคฺเค ปริยุฏฺึสุ, ธุตฺตา มคฺเค ปริยุฏฺึสู’’ติอาทีสุ (จูฬว. ๔๓๐) หิ มคฺคํ คณฺหึสูติ อตฺโถ. เอวมิธาปิ คหณฏฺเน ปริยุฏฺานํ เวทิตพฺพํ. ปลิเวนฏฺเน ลตา วิยาติ ลตา. ‘‘ลตา อุปฺปชฺช ติฏฺตี’’ติ (ธ. ป. ๓๔๐) อาคตฏฺาเนปิ อยํ ตณฺหา ลตาติ วุตฺตา. วิวิธานิ วตฺถูนิ อิจฺฉตีติ เววิจฺฉํ. วฏฺฏทุกฺขสฺส มูลนฺติ ทุกฺขมูลํ. ตสฺเสว ทุกฺขสฺส นิทานนฺติ ทุกฺขนิทานํ. ตํ ทุกฺขํ อิโต ปภวตีติ ทุกฺขปฺปภโว. พนฺธนฏฺเน ปาโส วิยาติ ปาโส, มารสฺส ปาโส มารปาโส. ทุรุคฺคิลนฏฺเน พฬิสํ วิยาติ พฬิสํ, มารสฺส พฬิสํ มารพฬิสํ. ตณฺหาภิภูตา มารสฺส วิสยํ นาติกฺกมนฺติ, เตสํ อุปริ มาโร วสํ วตฺเตตีติ อิมินา ปริยาเยน มารสฺส วิสโยติ มารวิสโย. สนฺทนฏฺเน ตณฺหาว นที ตณฺหานที. อชฺโฌตฺถรณฏฺเน ตณฺหาว ชาลํ ตณฺหาชาลํ. ยถา สุนขา คทฺทูลพทฺธา ยทิจฺฉกํ นิยฺยนฺติ, เอวํ ตณฺหาพทฺธา สตฺตาติ ทฬฺหพนฺธนฏฺเน คทฺทูลํ วิยาติ คทฺทูลํ, ตณฺหาว คทฺทูลํ ตณฺหาคทฺทูลํ. ทุปฺปูรณฏฺเน ตณฺหาว สมุทฺโท ตณฺหาสมุทฺโท. อภิชฺฌายนฏฺเน อภิชฺฌา. ลุพฺภนฺติ เอเตน, สยํ วา ลุพฺภติ, ลุพฺภนมตฺตเมว วา ตนฺติ โลโภ. สมฺปยุตฺตกานํ อกุสลานํ ปติฏฺฏฺเน มูลํ.

วิสตฺติกาตีติ วิสตฺติกา อิติ. เกนฏฺเนาติ เกน สภาเวน. วิสตาติ วิตฺถฏา รูปาทีสุ. วิสาลาติ วิปุลา. วิสฏาติ เตภูมกพฺยาปกวเสน วิสฏา. ปุริมวจนเมว ตการสฺส ฏการํ กตฺวา พฺยฺชนวิภาคํ กตฺวา วุตฺตํ. วิสกฺกตีติ ปริสปฺปติ สหติ วา. รตฺโต หิ ราควตฺถุนา ปาเทน ตาฬิยมาโนปิ สหติ. โอสกฺกนํ วิปฺผนฺทนํ วา ‘‘วิสกฺกน’’นฺติปิ วทนฺติ. ‘‘กุสลากุสลานํ ปตี’’ติ เกจิ วณฺณยนฺติ. วิสํหรตีติ ตถา ตถา กาเมสุ อานิสํสํ ปสฺสนฺตี วิวิเธหิ อากาเรหิ เนกฺขมฺมาภิมุขปฺปวตฺติโต จิตฺตํ สํหรติ สงฺขิปติ, วิสํ วา ทุกฺขํ, ตํ หรติ, วหตีติ อตฺโถ. วิสํวาทิกาติ อนิจฺจาทึ นิจฺจาทิโต คณฺหนฺตี วิสํวาทิกา โหติ. ทุกฺขนิพฺพตฺตกสฺส กมฺมสฺส เหตุภาวโต วิสมูลา, วิสํ วา ทุกฺขทุกฺขาทิภูตา เวทนา มูลํ เอติสฺสาติ วิสมูลา. ทุกฺขสมุทยตฺตา วิสํ ผลํ เอติสฺสาติ วิสผลา. ยาย ตณฺหาย รูปาทิกสฺส ทุกฺขสฺเสว ปริโภโค โหติ, น อมตสฺสาติ สา ‘‘วิสปริโภคา’’ติ วุตฺตา. สพฺพตฺถ นิรุตฺติวเสน ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา.

ตสฺสา วิสยํ ทสฺเสตุกาโม ‘‘วิสาลา วา ปน สา ตณฺหา รูเป’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิสาลา วา ปนาติ มหนฺตี เอว ตณฺหายนฏฺเน ตณฺหา, รูปาทโย ปฺจ ปฺจกามคุณิกราควเสน วุตฺตา. กุเล คเณติอาทีนิ เอกาทส ปทานิ โลลุปฺปาทวเสน วุตฺตานิ. กามธาตุตฺติโก กมฺมวฏฺฏวเสน วิภตฺโต, กามภวตฺติโก วิปากวฏฺฏวเสน วิภตฺโต, สฺาภวตฺติโก สฺาวเสน วิภตฺโต, เอกโวการภวตฺติโก ขนฺธวเสน วิภตฺโต. อตีตตฺติโก กาลวเสน, ทิฏฺจตุกฺโก อารมฺมณวเสน, อปายตฺติโก โอกาสวเสน, ขนฺธตฺติโก นิสฺสตฺตนิชฺชีววเสน วิภตฺโตติ าตพฺพํ. ตตฺรายํ สงฺเขเปน อตฺถทีปนา วิภาวนา จ –

‘‘ตตฺถ กตมา กามธาตุ? เหฏฺโต อวีจินิรยํ ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทเว อนฺโตกริตฺวา ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร เอตฺถาวจรา เอตฺถ ปริยาปนฺนา ขนฺธธาตุอายตนา รูปํ เวทนา สฺา สงฺขารา วิฺาณํ, อยํ วุจฺจติ กามธาตุ’’ (ธ. ส. ๑๒๘๗).

‘‘ตตฺถ กตมา รูปธาตุ? เหฏฺโต พฺรหฺมโลกํ ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต อกนิฏฺเ เทเว อนฺโตกริตฺวา ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร เอตฺถาวจรา เอตฺถ ปริยาปนฺนา สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา ทิฏฺธมฺมสุขวิหาริสฺส วา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา, อยํ วุจฺจติ รูปธาตุ’’ (ธ. ส. ๑๒๘๙).

‘‘ตตฺถ กตมา อรูปธาตุ? เหฏฺโต อากาสานฺจายตนุปเค เทเว ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต เนวสฺานาสฺายตนุปเค เทเว อนฺโตกริตฺวา ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร เอตฺถาวจรา เอตฺถ ปริยาปนฺนา สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา ทิฏฺธมฺมสุขวิหาริสฺส วา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา, อยํ วุจฺจติ อรูปธาตู’’ติ (ธ. ส. ๑๒๙๑). อฏฺกถายํ ปน ‘‘กามธาตูติ กามภโว, ปฺจกฺขนฺธา ลพฺภนฺติ. รูปธาตูติ รูปภโว, ปฺจกฺขนฺธา ลพฺภนฺติ. อรูปธาตูติ อรูปภโว, จตฺตาโร ขนฺธา ลพฺภนฺตี’’ติ วุตฺตํ.

อถ วา กามราคสงฺขาเตน กาเมน ยุตฺตา ธาตุ กามธาตุ, กามสงฺขาตา วา ธาตุ กามธาตุ. กามํ ปหาย รูเปน ยุตฺตา ธาตุ รูปธาตุ, รูปสงฺขาตา วา ธาตุ รูปธาตุ. กามฺจ รูปฺจ ปหาย อรูเปน ยุตฺตา ธาตุ อรูปธาตุ, อรูปสงฺขาตา วา ธาตุ อรูปธาตุ. ตา เอว ธาตุโย ปุน ภวปริยาเยน วุตฺตา. ภวนฺตีติ หิ ภวาติ วุจฺจนฺติ. สฺาย ยุตฺโต ภโว, สฺาวตํ วา ภโว, สฺา วา เอตฺถ ภเว อตฺถีติ สฺาภโว. โส กามภโว จ อสฺาภวมุตฺโต รูปภโว จ เนวสฺานาสฺาภวมุตฺโต อรูปภโว จ โหติ.

น สฺาภโว อสฺาภโว, โส รูปภเวกเทโส. โอฬาริกตฺตาภาวโต เนวสฺา, สุขุมตฺเตน สพฺภาวโต นาสฺาติ เนวสฺานาสฺา, ตาย ยุตฺโต ภโว เนวสฺานาสฺาภโว. อถ วา โอฬาริกาย สฺาย อภาวา สุขุมาย จ ภาวา เนวสฺานาสฺา อสฺมึ ภเวติ เนวสฺานาสฺาภโว, โส อรูปภเวกเทโส. เอเกน รูปกฺขนฺเธน โวกิณฺโณ ภโว, เอโก วา โวกาโร, อสฺส ภวสฺสาติ เอกโวการภโว, โส อสฺาภโวว. จตูหิ อรูปกฺขนฺเธหิ โวกิณฺโณ ภโว, จตฺตาโร วา โวการา อสฺส ภวสฺสาติ จตุโวการภโว, โส อรูปภโว เอว. ปฺจหิ ขนฺเธหิ โวกิณฺโณ ภโว, ปฺจ วา โวการา อสฺส ภวสฺสาติ ปฺจโวการภโว, โส กามภโว จ รูปภเวกเทโส จ โหติ. อตีตตฺติโก เหฏฺา วุตฺตนโยว. ทิฏฺนฺติ จตุสมุฏฺานิกํ รูปารมฺมณํ. สุตนฺติ ทฺวิสมุฏฺานิกํ สทฺทารมฺมณํ. มุตนฺติ ผุสิตฺวา คเหตพฺพานิ จตุสมุฏฺานิกานิ คนฺธรสโผฏฺพฺพารมฺมณานิ. วิฺาตพฺพํ นาม มนสา ชานิตพฺพํ ธมฺมารมฺมณํ. เตสุ ทิฏฺสุตมุตวิฺาตพฺเพสุ ธมฺเมสุ. วิสฏา วิตฺถตาติ มหนฺตา ปตฺถฏา.

อปายโลเกติ วฑฺฒิสงฺขาตสฺส อยสฺส อภาเวน อปาโย, ตสฺมึ อปายโลเก. ขนฺธโลเกติ ราสฏฺเน รูปาทโย ปฺจกฺขนฺธา เอว โลโก. ธาตุโลเกติ สุฺตฏฺเน จกฺขุธาตุอาทโย อฏฺารส ธาตุโย เอว โลโก. อายตนโลเกติ อายตนาทีหิ การเณหิ ทฺวาทสายตนานิ เอว โลโก. สพฺเพปิ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโก, วุตฺตปฺปกาเร โลเก วิสฏา วิตฺถฏาติ วิสตฺติกา. สโตติ สรตีติ สโต, ปุคฺคเลน สติ วุตฺตา.

ตตฺถ สรณลกฺขณา สติ. สรนฺติ ตาย, สยํ วา สรติ, สรณมตฺตเมว วา เอสาติ สติ. สา ปเนสา อปิลาปนลกฺขณา, อสมฺโมสนรสา, อารกฺขปจฺจุปฏฺานา, วิสยาภิมุขภาวปจฺจุปฏฺานา วา, ถิรสฺาปทฏฺานา, กายาทิสติปฏฺานปทฏฺานา วา. อารมฺมเณ ทฬฺหปติฏฺิตตฺตา ปน เอสิกา วิย, จกฺขุทฺวาราทีนํ รกฺขณโต โทวาริโก วิย จ ทฏฺพฺพา.

ตสฺสา ปวตฺติฏฺานํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กาเย กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ ภาเวนฺโต สโต’’ติอาทินา นเยน จตุพฺพิธํ สติปฏฺานมาห. ตตฺถ กาเยติ รูปกาเย. รูปกาโย หิ อิธ องฺคปจฺจงฺคานํ เกสาทีนฺจ ธมฺมานํ สมูหฏฺเน หตฺถิกายรถกายาทโย วิย ‘‘กาโย’’ติ อธิปฺเปโต. ยถา จ สมูหฏฺเน, เอวํ กุจฺฉิตานํ อายฏฺเน. กุจฺฉิตานฺหิ ปรมเชคุจฺฉานํ โส อาโยติปิ กาโย. อาโยติ อุปฺปตฺติเทโส. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – อายนฺติ ตโตติ อาโย. เก อายนฺตีติ? กุจฺฉิตา เกสาทโย. อิติ กุจฺฉิตานํ เกสาทีนํ อาโยติ กาโย.

กายานุปสฺสนาติ กายสฺส อนุปสฺสนา, กายํ วา อนุปสฺสนา, ‘‘กาเย’’ติ จ วตฺวาปิ ปุน ‘‘กายานุปสฺสนา’’ติ ทุติยํ กายคฺคหณํ อสมฺมิสฺสโต ววตฺถานฆนวินิพฺโภคาทิทสฺสนตฺถํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ.

เตน น กาเย เวทนานุปสฺสนา จิตฺตธมฺมานุปสฺสนา วา, อถ โข กายานุปสฺสนาเยวาติ กายสงฺขาเต วตฺถุสฺมึ กายานุปสฺสนาการสฺเสว ทสฺสเนน อสมฺมิสฺสโต ววตฺถานํ ทสฺสิตํ โหติ, ตถา น กาเย องฺคปจฺจงฺควินิมุตฺตเอกธมฺมานุปสฺสนา, นาปิ เกสโลมาทิวินิมุตฺตอิตฺถิปุริสานุปสฺสนา. โยปิ เจตฺถ เกสโลมาทิโก ภูตุปาทายสมูหสงฺขาโต กาโย, ตตฺถาปิ น ภูตุปาทายวินิมุตฺตเอกธมฺมานุปสฺสนา, อถ โข รถสมฺภารานุปสฺสกสฺส วิย องฺคปจฺจงฺคสมูหานุปสฺสนา, นคราวยวานุปสฺสกสฺส วิย เกสโลมาทิสมูหานุปสฺสนา, กทลิกฺขนฺธปตฺตวฏฺฏิวินิภุชนกสฺส วิย ริตฺตมุฏฺิวินิเวกสฺส วิย จ ภูตุปาทายสมูหานุปสฺสนาเยวาติ สมูหวเสเนว กายสงฺขาตสฺส วตฺถุโน นานปฺปการโต ทสฺเสนฺเตน ฆนวินิพฺโภโค ทสฺสิโต โหติ. น เหตฺถ ยถาวุตฺตสมูหวินิมุตฺโต กาโย วา อิตฺถี วา ปุริโส วา อฺโ วา โกจิ ธมฺโม ทิสฺสติ, ยถาวุตฺตธมฺมสมูหมตฺเตเยว ปน ตถา ตถา สตฺตา มิจฺฉาภินิเวสํ กโรนฺติ. เตนาหุ โปราณา –

‘‘ยํ ปสฺสติ น ตํ ทิฏฺํ, ยํ ทิฏฺํ ตํ น ปสฺสติ;

อปสฺสํ พชฺฌเต มูฬฺโห, พชฺฌมาโน น มุจฺจตี’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๓; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๖);

ฆนวินิพฺโภคาทิทสฺสนตฺถนฺติ วุตฺตํ. อาทิสทฺเทน เจตฺถ อยมฺปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยฺหิ เอตสฺมึ กาเย กายานุปสฺสนาเยว, น อฺธมฺมานุปสฺสนา. ยถา อนุทกภูตายปิ มรีจิยา อุทกานุปสฺสนา โหติ, น เอวํ อนิจฺจทุกฺขานตฺตาสุภภูเตเยว อิมสฺมึ กาเย นิจฺจสุขตฺตสุภภาวานุปสฺสนา, อถ โข กายานุปสฺสนา อนิจฺจทุกฺขานตฺตาสุภาการสมูหานุปสฺสนาเยวาติ วุตฺตํ โหติ.

อถ วา ยฺวายํ มหาสติปฏฺาเน ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรฺคโต วา…เป… โส สโตว อสฺสสตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๓๗๔; ม. นิ. ๑.๑๐๗) นเยน อสฺสาสปสฺสาสาทิจุณฺณิกชาตอฏฺิกปริโยสาโน กาโย วุตฺโต, โย จ ปฏิสมฺภิทายํ สติปฏฺานกถายํ ‘‘อิเธกจฺโจ ปถวีกายํ อนิจฺจโต อนุปสฺสติ. อาโปกายํ. เตโชกายํ. วาโยกายํ. เกสกายํ. โลมกายํ. ฉวิกายํ. จมฺมกายํ. มํสกายํ. รุหิรกายํ. นฺหารุกายํ. อฏฺิกายํ. อฏฺิมิฺชกาย’’นฺติ กาโย วุตฺโต, ตสฺส สพฺพสฺส อิมสฺมึเยว กาเย อนุปสฺสนโต กาเย กายานุปสฺสนาติ เอวมฺปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

อถ วา กาเย ‘‘อห’’นฺติ วา ‘‘มม’’นฺติ วา เอวํ คเหตพฺพสฺส ยสฺส กสฺสจิ อนุปสฺสนโต ตสฺส ตสฺเสว ปน เกสโลมาทิกสฺส นานาธมฺมสมูหสฺส อนุปสฺสนโต กาเย เกสาทิสมูหสงฺขาตกายานุปสฺสนาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อปิ จ ‘‘อิมสฺมึ กาเย อนิจฺจโต อนุปสฺสติ, โน นิจฺจโต’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๓.๓๕) อนุกฺกเมน ปฏิสมฺภิทายํ อาคตนยสฺส สพฺพสฺเสว อนิจฺจลกฺขณาทิโน อาการสมูหสงฺขาตสฺส กายสฺส อนุปสฺสนโตปิ กาเย กายานุปสฺสนาติ เอวมฺปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อยํ ปน จตุสติปฏฺานสาธารโณ อตฺโถ.

สติปฏฺานนฺติ ตโย สติปฏฺานา สติโคจโรปิ, ติธา ปฏิปนฺเนสุ สาวเกสุ สตฺถุโน ปฏิฆานุนยวีติวตฺตตาปิ, สติปิ. ‘‘จตุนฺนํ, ภิกฺขเว, สติปฏฺานานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ เทสิสฺสามิ, ตํ สุณาถ สาธุกํ มนสิ กโรถ…เป… โก จ, ภิกฺขเว, กายสฺส สมุทโย? อาหารสมุทยา กายสมุทโย’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๔๐๘) หิ สติโคจโร ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุจฺจติ. ตถา ‘‘กาโย อุปฏฺานํ, โน สติ, สติ อุปฏฺานฺเจว สติ จา’’ติอาทีสุปิ (ปฏิ. ม. ๓.๓๕). ตสฺสตฺโถ – ปติฏฺาติ อสฺมินฺติ ปฏฺานํ. กา ปติฏฺาติ? สติ. สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานํ, ปธานฏฺานนฺติ วา ปฏฺานํ, สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานํ, หตฺถิฏฺานอสฺสฏฺานาทีนิ วิย.

‘‘ตโย สติปฏฺานา ยทริโย เสวติ, ยทริโย เสวมาโน สตฺถา คณมนุสาสิตุมรหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๐๔, ๓๑๑) เอตฺถ ติธา ปฏิปนฺเนสุ สาวเกสุ สตฺถุโน ปฏิฆานุนยวีติวตฺตตา ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตา. ตสฺสตฺโถ – ปฏฺเปตพฺพโต ปฏฺานํ, ปวตฺตยิตพฺพโตติ อตฺโถ. เกน ปฏฺเปตพฺโพติ? สติยา, สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานนฺติ. ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา พหุลีกตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๔๗) ปน สติเยว ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุจฺจติ. ตสฺสตฺโถ – ปติฏฺาตีติ ปฏฺานํ, อุปฏฺาติ โอกฺกนฺติตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา ปวตฺตตีติ อตฺโถ. สติเยว ปฏฺานนฺติ สติปฏฺานํ. อถ วา สรณฏฺเน สติ, อุปฏฺานฏฺเน ปฏฺานํ. อิติ สติ จ สา ปฏฺานฺจาติปิ สติปฏฺานํ. อิทมิธ อธิปฺเปตํ. ตํ สติปฏฺานํ. ภาเวนฺโตติ วฑฺเฒนฺโต. เอตฺถ จ ยํ ติธา ปฏิปนฺเนสุ สาวเกสุ สตฺถุโน ปฏิฆานุนยวีติวตฺตตา ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ อิมินา สุตฺเตน คเหตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘ตโย สติปฏฺานา ยทริโย เสวติ, ยทริโย เสวมาโน สตฺถา คณมนุสาสิตุมรหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๐๔, ๓๑๑) อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. อิธ, ภิกฺขเว, สตฺถา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสติ อนุกมฺปโก หิเตสี อนุกมฺปํ อุปาทาย ‘‘อิทํ โว หิตาย อิทํ โว สุขายา’’ติ. ตสฺส สาวกา น สุสฺสูสนฺติ, น โสตํ โอทหนฺติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ, โวกฺกมฺม จ สตฺถุ สาสนา วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต น เจว อนตฺตมโน โหติ, น จ อนตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ, อนวสฺสุโต จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ สติปฏฺานํ. ยทริโย…เป… มรหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สตฺถา…เป… อิทํ โว สุขายาติ. ตสฺส เอกจฺเจ สาวกา น สุสฺสูสนฺติ…เป… วตฺตนฺติ. เอกจฺเจ สาวกา สุสฺสูสนฺติ…เป… น จ โวกฺกมฺม สตฺถุ สาสนา วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต น เจว อนตฺตมโน โหติ, น จ อนตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ, น จ อตฺตมโน โหติ, น จ อตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ. อนตฺตมนตา จ อตฺตมนตา จ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุติยํ…เป….

‘‘ปุน จปรํ…เป… อิทํ โว สุขายาติ. ตสฺส สาวกา สุสฺสูสนฺติ…เป… วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต อตฺตมโน เจว โหติ, อตฺตมนตฺจ ปฏิสํเวเทติ, อนวสฺสุโต จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ตติย’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๓๑๑).

เอวํ ปฏิฆานุนเยหิ อนวสฺสุตตา นิจฺจํ อุปฏฺิตสติตาย ตทุภยํ วีติวตฺตตา ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตา. พุทฺธานเมว กิร นิจฺจํ อุปฏฺิตสติตา โหติ, น ปจฺเจกพุทฺธาทีนนฺติ.

เวทนาสุ เวทนานุปสฺสนาติอาทีสุ เวทนาทีนํ ปุน วจเน ปโยชนํ กายานุปสฺสนายํ วุตฺตนเยเนว ยถาโยคํ โยเชตฺวา เวทิตพฺพํ. อยมฺปิ สาธารณตฺโถ. สุขาทีสุ อเนกปฺปเภทาสุ เวทนาสุ วิสุํ วิสุํ อนิจฺจาทิโต เอเกกเวทนานุปสฺสนา. สราคาทิเก โสฬสปฺปเภเท จิตฺเต วิสุํ วิสุํ อนิจฺจาทิโต เอเกกจิตฺตานุปสฺสนา. กายเวทนาจิตฺตานิ เปตฺวา เสสเตภูมกธมฺเมสุ วิสุํ วิสุํ อนิจฺจาทิโต เอเกกธมฺมานุปสฺสนา สติปฏฺานสุตฺตนฺเต วุตฺตนเยน นีวรณาทิธมฺมานุปสฺสนาติ. เอตฺถ จ กาเยติ เอกวจนํ, สรีรสฺส เอกตฺตา. จิตฺเตติ เอกวจนํ, จิตฺตสฺส สภาวเภทาภาวโต ชาติคฺคหเณน กตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยถา จ เวทนาทโย อนุปสฺสิตพฺพา, ตถานุปสฺสนฺโต เวทนาสุ เวทนานุปสฺสนา, จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสนา, ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสนาติ เวทิตพฺพา. กถํ เวทนา อนุปสฺสิตพฺพา? สุขา ตาว เวทนา ทุกฺขโต, ทุกฺขา เวทนา สลฺลโต, อทุกฺขมสุขา อนิจฺจโต อนุปสฺสิตพฺพา. ยถาห –

‘‘โย สุขํ ทุกฺขโต อทฺท, ทุกฺขมทฺทกฺขิ สลฺลโต;

อทุกฺขมสุขํ สนฺตํ, อทฺทกฺขิ นํ อนิจฺจโต;

ส เว สมฺมทฺทโส ภิกฺขุ, ปริชานาติ เวทนา’’ติ. (สํ. นิ. ๔.๒๕๓);

สพฺพา เอว เจตา ทุกฺขโตปิ อนุปสฺสิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ยํ กิฺจิ เวทยิตํ, ตํ ทุกฺขสฺมินฺติ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๕๙). สุขทุกฺขโตปิ จ อนุปสฺสิตพฺพา. ยถาห ‘‘สุขา เวทนา ิติสุขา, วิปริณามทุกฺขา. ทุกฺขา เวทนา ิติทุกฺขา, วิปริณามสุขา. อทุกฺขมสุขา เวทนา าณสุขา, อฺาณทุกฺขา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕). อปิ จ อนิจฺจาทิสตฺตวิปสฺสนาวเสนาปิ อนุปสฺสิตพฺพา. จิตฺตธมฺเมสุปิ จิตฺตํ ตาว อารมฺมณาธิปติสหชาตภูมิกมฺมวิปากกิริยาทินานตฺตเภทานํ อนิจฺจาทิสตฺตานุปสฺสนานํ สราคาทิโสฬสเภทานฺจ วเสน อนุปสฺสิตพฺพํ. ธมฺมา สลกฺขณสามฺลกฺขณานํ สุฺตธมฺมสฺส อนิจฺจาทิสตฺตานุปสฺสนานํ สนฺตาสนฺตาทีนฺจ วเสน อนุปสฺสิตพฺพา.

อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลพฺภนฺติ. อฺเเนว หิ จิตฺเตน กายํ ปริคฺคณฺหาติ, อฺเน เวทนํ, อฺเน จิตฺตํ, อฺเน ธมฺเม ปริคฺคณฺหาติ, โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺเตเยว ลพฺภนฺตีติ. อาทิโต หิ กายํ ปริคฺคณฺหิตฺวา อาคตสฺส วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สติ กายานุปสฺสนา นาม, ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล กายานุปสฺสี นาม. วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อริยมคฺคํ ปตฺตสฺส มคฺคกฺขเณ มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ กายานุปสฺสนา นาม, ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล กายานุปสฺสี นาม.

เวทนํ ปริคฺคณฺหิตฺวา จิตฺตํ ปริคฺคณฺหิตฺวา ธมฺเม ปริคฺคณฺหิตฺวา อาคตสฺส วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สติ ธมฺมานุปสฺสนา นาม, ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ธมฺมานุปสฺสี นาม. วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อริยมคฺคํ ปตฺตสฺส มคฺคกฺขเณ มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ ธมฺมานุปสฺสนา นาม, ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ธมฺมานุปสฺสี นาม, เอวํ ตาว เทสนา ปุคฺคเล ติฏฺติ, กาเย ปน ‘‘สุภ’’นฺติ วิปลฺลาสปฺปหานา กายปริคฺคาหิกา สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ กายานุปสฺสนา นาม. เวทนาย ‘‘สุข’’นฺติ วิปลฺลาสปฺปหานา เวทนาปริคฺคาหิกา สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ เวทนานุปสฺสนา นาม. จิตฺเต ‘‘นิจฺจ’’นฺติ วิปลฺลาสปฺปหานา จิตฺตปริคฺคาหิกา สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ จิตฺตานุปสฺสนา นาม. ธมฺเมสุ ‘‘อตฺตา’’ติ วิปลฺลาสปฺปหานา ธมฺมปริคฺคาหิกา สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ ธมฺมานุปสฺสนา นาม. อิติ เอกาว มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ จตุกิจฺจสาธกฏฺเน จตฺตาริ นามานิ ลภติ. เตน วุตฺตํ ‘‘โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺเตเยว ลพฺภนฺตี’’ติ.

ปุน อุปการวเสน จ อปริหีนวเสน จ คุณวเสน จ อปเร ตโย จตุกฺกา วุตฺตา. ตตฺถ อสติปริวชฺชนายาติ น สติ อสติ, สติ เอตฺถ นตฺถีติ วา อสติ, มุฏฺสฺสติยา เอตํ อธิวจนํ. ปริวชฺชนายาติ สมนฺตโต วชฺชเนน. ภตฺตนิกฺขิตฺตกากสทิเส หิ มุฏฺสติปุคฺคเล ปริวชฺชเนน อุปฏฺิตสติปุคฺคลเสวเนน านนิสชฺชาทีสุ สติสมุฏฺาปนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตตาย จ สติ อุปฺปชฺชติ. สติกรณียานํ ธมฺมานนฺติ สติยา กาตพฺพานํ ธมฺมานํ. กตตฺตาติ กตภาเวน. จตุนฺนํ มคฺคานํ กตตฺตา, ภาวิตตฺตาติ อตฺโถ. สติปริพนฺธานํ ธมฺมานํ หตตฺตาติ กามจฺฉนฺทาทีนํ นาสิตภาเวน. สตินิมิตฺตานํ ธมฺมานํ อสมฺมุฏฺตฺตาติ สติยา การณานํ กายาทิอารมฺมณานํ อนฏฺภาเวน.

สติยา สมนฺนาคตตฺตาติ สติยา สมฺมา อาคตตฺตา อปริหีนตฺตา จ. วสิตตฺตาติ วสิภาวปฺปตฺเตน. ปาคุฺตายาติ ปคุณภาเวน. อปจฺโจโรหณตายาติ อนิวตฺตนภาเวน อปจฺโจสกฺกนภาเวน.

สตฺตตฺตาติ สภาเวน วิชฺชมานตฺตา. สนฺตตฺตาติ นิพฺพุตสภาวตฺตา. สมิตตฺตาติ กิเลสานํ วูปสมิตภาวตฺตา. สนฺตธมฺมสมนฺนาคตตฺตาติ สปฺปุริสธมฺเมหิ อปริหีนตฺตา. พุทฺธานุสฺสติอาทโย เหฏฺา วุตฺตนยา เอว. สรณกวเสน สติ, อิทํ สติยา สภาวปทํ. ปุนปฺปุนํ สรณโต อนุสฺสรณวเสน อนุสฺสติ. อภิมุขํ คนฺตฺวา วิย สรณโต ปฏิสรณวเสน ปฏิสฺสติ. อุปสคฺควเสน วา วฑฺฒิตมตฺตเมว. สรณากาโร สรณตา. ยสฺมา ปน สรณตาติ ติณฺณํ สรณานมฺปิ นามํ, ตสฺมา ตํ ปฏิเสเธตุํ ปุน สติคฺคหณํ กตํ. สติสงฺขาตา สรณตาติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. สุตปริยตฺตสฺส ธารณภาวโต ธารณตา. อนุปวิสนสงฺขาเตน โอคาหนฏฺเน อปิลาปนภาโว อปิลาปนตา. ยถา หิ อุทเก ลาพุกฏาหาทีนิ ปลวนฺติ, น อนุปวิสนฺติ, น ตถา อารมฺมเณ สติ. อารมฺมณฺหิ เอสา อนุปวิสติ, ตสฺมา ‘‘อปิลาปนตา’’ติ วุตฺตา. จิรกตจิรภาสิตานํ น สมฺมุสฺสนภาวโต อสมฺมุสฺสนตา. อุปฏฺานลกฺขเณ โชตนลกฺขเณ จ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, สติสงฺขาตํ อินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ. ปมาเท น กมฺปตีติ สติพลํ. ยาถาวสติ นิยฺยานสติ กุสลสตีติ สมฺมาสติ. พุชฺฌนกสฺส องฺโคติ โพชฺฌงฺโค, ปสฏฺโ สุนฺทโร วา โพชฺฌงฺโค สมฺโพชฺฌงฺโค, สติเยว สมฺโพชฺฌงฺโค สติสมฺโพชฺฌงฺโค.

เอกายนมคฺโคติ เอกมคฺโค, อยํ มคฺโค น ทฺเวธาปถภูโตติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อถ วา เอเกน อยิตพฺโพติ เอกายโน. เอเกนาติ คณสงฺคณิกํ ปหาย วูปกฏฺเน ปวิวิตฺตจิตฺเตน. อยิตพฺโพ ปฏิปชฺชิตพฺโพ, อยนฺติ วา เอเตนาติ อยโน, สํสารโต นิพฺพานํ คจฺฉตีติ อตฺโถ. เอกสฺส อยโน เอกายโน. เอกสฺสาติ เสฏฺสฺส. สพฺพสตฺตานํ เสฏฺโว ภควา, ตสฺมา ‘‘ภควโต’’ติ วุตฺตํ โหติ. กิฺจาปิ หิ เตน อฺเปิ อยนฺติ, เอวํ สนฺเตปิ ภควโตว โส อยโน เตน อุปฺปาทิตตฺตา. ยถาห ‘‘โส หิ พฺราหฺมณ ภควา อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๑.๒๑๕; ปฏิ. ม. ๓.๕; ม. นิ. ๓.๗๙). อยตีติ วา อยโน, คจฺฉติ ปวตฺตตีติ อตฺโถ. เอกสฺมึ อยโน เอกายโน. อิมสฺมึเยว ธมฺมวินเย ปวตฺตติ, น อฺตฺถาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘อิมสฺมึ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค อุปลพฺภตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๔). เทสนาเภโทเยว เหโส, อตฺถโต ปน เอโกว. อปิ จ เอกํ อยตีติ เอกายโน. ปุพฺพภาเค นานามุขภาวนานเยน ปวตฺโตปิ อปรภาเค เอกํ นิพฺพานเมว คจฺฉตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห พฺรหฺมา สหมฺปติ –

‘‘เอกายนํ ชาติขยนฺตทสฺสี, มคฺคํ ปชานาติ หิตานุกมฺปี;

เอเตน มคฺเคน ตรึสุ ปุพฺเพ, ตริสฺสนฺติ เย จ ตรนฺติ โอฆ’’นฺติ. (สํ. นิ. ๕.๓๘๔, ๔๐๙);

มคฺโคติ เกนฏฺเน มคฺโค? นิพฺพานํ คมนฏฺเน, นิพฺพานตฺถิเกหิ มคฺคนียฏฺเน จ. อุเปโตติ อาสนฺนํ คโต. สมุเปโตติ ตโต อาสนฺนตรํ คโต. อุภเยนปิ สติยา อปริหีโนติ อตฺโถ. อุปคโตติ อุปคนฺตฺวา ิโต. สมุปคโตติ สมฺปยุตฺโต หุตฺวา ิโต. ‘‘อุปาคโต สมุปาคโต’’ติปิ ปาฬิ. อุภเยนาปิ สติสมีปํ อาคโตติ อตฺโถ. อุปปนฺโนติ อวิโยคาปนฺโน. สมุปปนฺโนติ ปริปุณฺโณ. สมนฺนาคโตติ อวิกโล วิชฺชมาโน. ‘‘อุเปโต สมุเปโตติ ทฺวีหิ ปเทหิ ปวตฺตํ กถิตํ. อุปคโต สมุปคโตติ ทฺวีหิ ปเทหิ ปฏิเวโธ. อุปปนฺโน สมุปปนฺโน สมนฺนาคโตติ ตีหิ ปเทหิ ปฏิลาโภ กถิโต’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.

โลเก วา สา วิสตฺติกาติ ยา เอสา อเนกปฺปกาเรน วุตฺตา วิสตฺติกา, สา ขนฺธโลเก เอว, น อฺตฺร ขนฺเธหิ ปวตฺตตีติ อตฺโถ. โลเก วา ตํ วิสตฺติกนฺติ ขนฺธโลเก เอว ปวตฺตํ เอตํ วิสตฺติกสงฺขาตํ ตณฺหํ. ตรติ กาเม ปริวชฺเชนฺโต. อุตฺตรติ กิเลเส ปชหนฺโต. ปตรติ เตสํ ปติฏฺาเหตุํ ฉินฺทนฺโต. สมติกฺกมติ สํสารํ อติกฺกมนฺโต. วีติวตฺตติ ปฏิสนฺธิอภพฺพุปฺปตฺติกํ กโรนฺโต. อถ วา ตรติ อุตฺตรติ กายานุปสฺสเนน. ปตรติ เวทนานุปสฺสเนน. สมติกฺกมติ จิตฺตานุปสฺสเนน. อถ วา ตรติ สีเลน. อุตฺตรติ สมาธินา. ปตรติ วิปสฺสนาย. สมติกฺกมติ มคฺเคน. วีติวตฺตติ ผเลนาติ เอวมาทินา โยเชตพฺพํ.

. จตุตฺถคาถาย อยํ สงฺเขปตฺโถ – โย เอกํ สาลิเขตฺตาทิเขตฺตํ วา ฆรวตฺถาทิวตฺถุํ วา กหาปณสงฺขาตํ หิรฺํ วา โคอสฺสาทิเภทํ ควาสฺสํ วา อนฺโตชาตาทิทาเส วา ภตกาทิกมฺมกเร วา อิตฺถิสฺิตา ถิโย วา าติพนฺธวาทิพนฺธู วา อฺเ วา มนาปิยรูปาทิเก ปุถุกาเม อนุคิชฺฌตีติ. สาลิกฺเขตฺตนฺติ ยตฺถ สาลิโย วิรุหนฺติ. วีหิกฺเขตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย. วีหีติ อวเสสวีหโย. โมทยตีติ มุคฺโค. ฆรวตฺถุนฺติ ฆรปติฏฺาปนตฺถํ กตากตภูมิภาโค. โกฏฺกวตฺถาทีสุปิ เอเสว นโย. โกฏฺโกติ ทฺวารโกฏฺาทิ. ปุเรติ ฆรสฺส ปุรโต. ปจฺฉาติ ฆรสฺส ปจฺฉโต. เอตฺถ อาราเมนฺติ จิตฺตํ โตเสนฺตีติ อาราโม, ปุปฺเผนปิ ผเลนปิ ฉายายปิ ทเกนปิ รมนฺตีติ อตฺโถ.

ปสุกาทโยติ เอฬกาทโย. อนฺโตชาตโกติ อนฺโตฆรทาสิยา กุจฺฉิมฺหิ ชาโต. ธนกฺกีตโกติ ธเนน กีณิตฺวา ปริวตฺเตตฺวา คหิโต. สามํ วาติ สยํ วา. ทาสพฺยนฺติ ทาสสฺส ภาโว ทาสพฺยํ, ตํ ทาสพฺยํ. อุเปตีติ อุปคจฺฉติ. อกามโก วาติ อตฺตโน อรุจิยา วา กรมรานีโต.

เต จตฺตาโร ปุนปิ ทสฺเสตุํ ‘‘อามาย ทาสาปิ ภวนฺติ เหเก’’ติ อาห. อามาย ทาสาติ อนฺโตชาตทาสา. ‘‘ยตฺถ ทาโส อามชาโต ิโต ถุลฺลานิ คจฺฉตี’’ติ เอตฺถาปิ เอเตว วุตฺตา. ธเนน กีตาติ ธนทาสา. สามฺจ เอเกติ สยํ ทาสา. ภยาปณุนฺนาติ อกามทาสา. ภเยน ปณุนฺนา ขิปิตา.

ภตกาติ ภติยา ชีวนกา. กสิกมฺมาทิกมฺมํ กโรนฺตีติ กมฺมกรา. อุปชีวิโนติ สมฺมนฺตนาทินา อุปคนฺตฺวา นิสฺสยํ กตฺวา ชีวนฺตีติ อุปชีวิโน.

อิตฺถีติ ถิยติ เอติสฺสํ คพฺโภติ อิตฺถี. ปริคฺคโหติ สหายี สสฺสามิกา. มาตาปิติพนฺธวาปิ าติพนฺธุ. สโคตฺโต โคตฺตพนฺธุ. เอกาจริยกุเล วา เอกชาติมนฺตํ วา อุคฺคหิตมนฺโต มนฺตพนฺธุ. ธนุสิปฺปาทิสทฺธึ อุคฺคหิตโก สิปฺปพนฺธุ. ‘‘มิตฺตพนฺธวาติปิ พนฺธู’’ติ กตฺถจิ โปตฺถเก ปาโ ทิสฺสติ.

คิชฺฌตีติ กิเลสกาเมน ปตฺเถติ. อนุคิชฺฌตีติ อนุ อนุ คิชฺฌติ ปุนปฺปุนํ ปตฺเถติ. ปลิคิชฺฌตีติ สมนฺตโต ปตฺเถติ. ปลิพชฺฌตีติ วิเสเสน ปตฺเถติ. ‘‘โอฬาริกตฺเตน นิมิตฺตคฺคาหวเสน คิชฺฌติ, อนุคิชฺฌติ, อนุพฺยฺชนคฺคาหวเสน ปลิคิชฺฌติ, ปลิพชฺฌตี’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.

. ปฺจมคาถายํ อยํ สงฺเขปตฺโถ – ตํ ปุคฺคลํ อพลขฺยา กิเลสา พลียนฺติ สหนฺติ มทฺทนฺติ. สทฺธาพลาทิวิรเหน วา อพลํ ตํ ปุคฺคลํ อพลา กิเลสา พลียนฺติ, อพลตฺตา พลียนฺตีติ อตฺโถ. อถ วา ตํ กามคิทฺธํ กามรตฺตํ กามปริเยสนฺตฺจ สีหาทโย จ ปากฏปริสฺสยา, กายทุจฺจริตาทโย จ อปากฏปริสฺสยา มทฺทนฺติ. ตโต อปากฏปริสฺสเยหิ อภิภูตํ ตํ ปุคฺคลํ ชาติอาทิทุกฺขํ ภินฺนํ นาวํ อุทกํ วิย อนฺเวติ.

อพลาติ นตฺถิ เอเตสํ พลนฺติ อพลา, พลวิรหิตา. ทุพฺพลาติ มนฺทปโยคาพเลน กตฺตพฺพกิจฺจวิรหิตา. อปฺปพลาติ อปฺปํ ปริตฺตํ เอเตสํ พลนฺติ อปฺปพลา, ยุชฺฌิตุํ อสมตฺถา. อปฺปถามกาติ อปฺโป ปริตฺโต ถาโม เอเตสํ วายาโม อุสฺสาโหติ อปฺปถามกา. หีนา นิหีนา ปโยคหีเนน. โอมกา ถามหีเนน. ลามกา ปจฺจยหีเนน. ฉตุกฺกา อชฺฌาสยหีเนน. ปริตฺตา ปตฺติหีเนน. สหนฺตีติ มทฺทนฺติ ฆฏฺฏนํ อุปฺปาเทนฺติ. ปริสหนฺตีติ สพฺพโต มทฺทนฺติ. อภิภวนฺติ อปราปรํ อุปฺปตฺติวเสน. อชฺโฌตฺถรนฺติ ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติวเสน. ปริยาทิยนฺติ สุสฺโสเสตฺวา าเนน. มทฺทนฺติ กุสลุปฺปตฺตินิวารเณน.

สทฺธาพลนฺติ สทฺทหนฺติ เอตาย, สยํ วา สทฺทหติ, สทฺทหนมตฺตเมว วา เอสาติ สทฺธา. สา สทฺทหนลกฺขณา, โอกปฺปนลกฺขณา วา, สมฺปสาทนรสา อุทกปฺปสาทกมณิ วิย. ปกฺขนฺทนรสา วา โอฆุตฺตรโณ วิย. อกาลุสิยปจฺจุปฏฺานา, อธิมุตฺติปจฺจุปฏฺานา วา. สทฺเธยฺยวตฺถุปทฏฺานา, โสตาปตฺติยงฺคปทฏฺานา วา. สา หตฺถวิตฺตพีชานิ วิย ทฏฺพฺพา. อสทฺธิเย น กมฺปตีติ สทฺธาพลํ. วีริยพลนฺติ วีรสฺส ภาโว วีริยํ, วีรานํ วา กมฺมํ วีริยํ, วิธินา วา นเยน อุปาเยน อีรยิตพฺพํ ปวตฺตยิตพฺพนฺติ วีริยํ. ตํ ปเนตํ อุปตฺถมฺภนลกฺขณฺจ ปคฺคหณลกฺขณฺจ วีริยํ, สหชาตานํ อุปตฺถมฺภนรสํ, อสํสีทนภาวปจฺจุปฏฺานํ, ‘‘สํวิคฺโค โยนิโส ปทหตี’’ติ วจนโต (อ. นิ. ๔.๑๑๓) สํเวคปทฏฺานํ, วีริยารมฺภวตฺถุปทฏฺานํ วา. สมฺมา อารทฺธํ สพฺพสมฺปตฺตีนํ มูลนฺติ ทฏฺพฺพํ. โกสชฺเช น กมฺปตีติ วีริยพลํ. สติยา ลกฺขณาทีนิ วุตฺตาเนว.

มุฏฺสฺสจฺเจ น กมฺปตีติ สติพลํ. สหชาตานิ สมฺมา อาธียติ เปตีติ สมาธิ. โส ปาโมกฺขลกฺขโณ อวิกฺเขปลกฺขโณ วา, สหชาตานํ ธมฺมานํ อารมฺมเณ สมฺปิณฺฑนรโส นฺหานิยจุณฺณานํ อุทกํ วิย, อุปสมปจฺจุปฏฺาโน, าณปจฺจุปฏฺาโน วา. ‘‘สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาติ ปสฺสตี’’ติ หิ วุตฺตํ. วิเสสโต สุขปทฏฺาโน นิวาเต ปทีปจฺจีนํ ิติ วิย เจตโส ิตีติ ทฏฺพฺโพ. อุทฺธจฺเจ น กมฺปตีติ สมาธิพลํ. ปชานาตีติ ปฺา. กึ ปชานาติ? ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติอาทินา (มหาว. ๑๕) นเยน อริยสจฺจานิ. สา ยถาสภาวปฏิเวธลกฺขณา, อกฺขลิตปฏิเวธลกฺขณา วา กุสลิสฺสาสขิตฺตอุสุปฏิเวโธ วิย, วิสโยภาสนรสา ปทีโป วิย, อสมฺโมหปจฺจุปฏฺานา อรฺคตสุเทสโก วิย. อวิชฺชาย น กมฺปตีติ ปฺาพลํ. หิริพลํ โอตฺตปฺปพลนฺติ อหิริเก น กมฺปตีติ หิริพลํ. อโนตฺตปฺเป น กมฺปตีติ โอตฺตปฺปพลํ. อยํ อุภยวเสน อตฺถวณฺณนา โหติ. กายทุจฺจริตาทีหิ หิรียตีติ หิรี, ลชฺชาเยตํ อธิวจนํ. เตหิ เอว โอตฺตปฺปตีติ โอตฺตปฺปํ, ปาปโต อุพฺเพคสฺเสตํ อธิวจนํ.

เตสํ นานากรณทีปนตฺถํ – ‘‘สมุฏฺานํ อธิปติ, ลชฺชาทิลกฺขเณน จา’’ติ อิมํ มาติกํ เปตฺวา อยํ วิตฺถารกถา วุตฺตา – อชฺฌตฺตสมุฏฺานา หิรี นาม, พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ นาม. อตฺตาธิปติ หิรี นาม, โลกาธิปติ โอตฺตปฺปํ นาม. ลชฺชาสภาวสณฺิตา หิรี นาม, ภยสภาวสณฺิตํ โอตฺตปฺปํ นาม. สปฺปติสฺสวลกฺขณา หิรี นาม, วชฺชภีรุกภยทสฺสาวิลกฺขณํ โอตฺตปฺปํ นาม.

ตตฺถ อชฺฌตฺตสมุฏฺานํ หิรึ จตูหิ การเณหิ สมุฏฺาเปติ – ชาตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา, วยํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา, สูรภาวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา, พาหุสจฺจํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา. กถํ? ‘‘ปาปกรณํ นาเมตํ น ชาติสมฺปนฺนานํ กมฺมํ, หีนชจฺจานํ เกวฏฺฏาทีนํ อิทํ กมฺมํ, มาทิสสฺส ชาติสมฺปนฺนสฺส อิทํ กมฺมํ กาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ เอวํ ตาว ชาตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาณาติปาตาทิปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. ตถา ‘‘ปาปกรณํ นาเมตํ ทหเรหิ กตฺตพฺพํ กมฺมํ, มาทิสสฺส วเย ิตสฺส อิทํ กมฺมํ กาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ เอวํ วยํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาณาติปาตาทิปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. ตถา ‘‘ปาปกมฺมํ นาเมตํ ทุพฺพลชาติกานํ กมฺมํ, มาทิสสฺส สูรภาวสมฺปนฺนสฺส อิทํ กมฺมํ กาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ เอวํ สูรภาวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาณาติปาตาทิปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. ตถา ‘‘ปาปกมฺมํ นาเมตํ อนฺธพาลานํ กมฺมํ, น ปณฺฑิตานํ. มาทิสสฺส ปณฺฑิตสฺส พหุสฺสุตสฺส อิทํ กมฺมํ กาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ เอวํ พาหุสจฺจํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาณาติปาตาทิปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. เอวํ อชฺฌตฺตสมุฏฺานํ หิรึ จตูหิ การเณหิ สมุฏฺาเปติ. สมุฏฺาเปตฺวา จ ปน อตฺตโน จิตฺเต หิรึ ปเวเสตฺวา ปาปกมฺมํ น กโรติ. เอวํ อชฺฌตฺตสมุฏฺานา หิรี นาม โหติ. กถํ พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ นาม? ‘‘สเจ ตฺวํ ปาปกมฺมํ กริสฺสสิ, จตูสุ ปริสาสุ ครหปฺปตฺโต ภวิสฺสสิ –

‘‘ครหิสฺสนฺติ ตํ วิฺู, อสุจึ นาคริโก ยถา;

วชฺชิโต สีลวนฺเตหิ, กถํ ภิกฺขุ กริสฺสสี’’ติ. (ธ. ส. อฏฺ. ๑ กามาวจรกุสล ธมฺมุทฺเทสกถา) –

เอวํ ปจฺจเวกฺขนฺโต หิ พหิทฺธาสมุฏฺิเตน โอตฺตปฺเปน ปาปกมฺมํ น กโรติ, เอวํ พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ นาม โหติ.

กถํ อตฺตาธิปติ หิรี นาม? อิเธกจฺโจ กุลปุตฺโต อตฺตานํ อธิปตึ เชฏฺกํ กตฺวา ‘‘มาทิสสฺส สทฺธาปพฺพชิตสฺส พหุสฺสุตสฺส ธุตงฺคธรสฺส น ยุตฺตํ ปาปกมฺมํ กาตุ’’นฺติ ปาปํ น กโรติ. เอวํ อตฺตาธิปติ หิรี นาม โหติ. เตนาห ภควา ‘‘โส อตฺตานํเยว อธิปตึ กริตฺวา อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ, สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑ กามาวจรกุสล ธมฺมุทฺเทสกถา; อ. นิ. ๓.๔๐).

กถํ โลกาธิปติ โอตฺตปฺปํ นาม? อิเธกจฺโจ กุลปุตฺโต โลกํ อธิปตึ เชฏฺกํ กตฺวา ปาปกมฺมํ น กโรติ. ยถาห –

‘‘มหา โข ปนายํ โลกสนฺนิวาโส, มหนฺตสฺมึ โข ปน โลกสนฺนิวาเส สนฺติ สมณพฺราหฺมณา อิทฺธิมนฺโต ทิพฺพจกฺขุกา ปรจิตฺตวิทุโน, เต ทูรโตปิ ปสฺสนฺติ, อาสนฺนาปิ น ทิสฺสนฺติ, เจตสาปิ จิตฺตํ ชานนฺติ. เตปิ มํ เอวํ ชาเนยฺยุํ ‘ปสฺสถ โภ อิมํ กุลปุตฺตํ สทฺธาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน โวกิณฺโณ วิหรติ ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’ติ. เทวตาปิ โข สนฺติ อิทฺธิมนฺตินิโย ทิพฺพจกฺขุกา ปรจิตฺตวิทุนิโย, ตา ทูรโตปิ ปสฺสนฺติ, อาสนฺนาปิ น ทิสฺสนฺติ, เจตสาปิ จิตฺตํ ชานนฺติ. ตาปิ มํ เอวํ ชาเนยฺยุํ ‘ปสฺสถ โภ อิมํ กุลปุตฺตํ สทฺธาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน โวกิณฺโณ วิหรติ ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’ติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘อารทฺธํ โข ปน เม วีริยํ ภวิสฺสติ อสลฺลีนํ, อุปฏฺิตา สติ อสมฺมุฏฺา, ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ, สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺค’นฺติ. โส โลกํเยว อธิปตึ กริตฺวา อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ, สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑ กามาวจรกุสล ธมฺมุทฺเทสกถา; อ. นิ. ๓.๔๐).

เอวํ โลกาธิปติ โอตฺตปฺปํ นาม โหติ. ‘‘ลชฺชาสภาวสณฺิตา หิรี, ภยสภาวสณฺิตํ โอตฺตปฺป’’นฺติ เอตฺถ ปน ลชฺชาติ ลชฺชนากาโร, เตน สภาเวน สณฺิตา หิรี. ภยนฺติ อปายภยํ, เตน สภาเวน สณฺิตํ โอตฺตปฺปํ. ตทุภยมฺปิ ปาปปริวชฺชเน ปากฏํ โหติ. เอกจฺโจ หิ ยถา นาม เอโก กุลปุตฺโต อุจฺจารปสฺสาวาทีนิ กโรนฺโต ลชฺชิตพฺพยุตฺตกํ เอกํ ทิสฺวา ลชฺชนาการปฺปตฺโต ภเวยฺย หีฬิโต, เอวเมว อชฺฌตฺตํ ลชฺชีธมฺมํ โอกฺกมิตฺวา ปาปกมฺมํ น กโรติ. เอกจฺโจ อปายภยภีโต หุตฺวา ปาปกมฺมํ น กโรติ.

ตตฺริทํ โอปมฺมํ – ยถา หิ ทฺวีสุ อโยคุเฬสุ เอโก สีตโล ภเวยฺย คูถมกฺขิโต, เอโก อุณฺโห อาทิตฺโต. ตตฺถ ปณฺฑิโต สีตลํ คูถมกฺขิตตฺตา ชิคุจฺฉนฺโต น คณฺหาติ, อิตรํ ฑาหภเยน. ตตฺถ สีตลสฺส คูถมกฺขนชิคุจฺฉาย อคณฺหนํ วิย อชฺฌตฺตํ ลชฺชีธมฺมํ โอกฺกมิตฺวา ปาปสฺส อกรณํ, อุณฺหสฺส ฑาหภเยน อคณฺหนํ วิย อปายภเยน ปาปสฺส อกรณํ เวทิตพฺพํ.

‘‘สปฺปติสฺสวลกฺขณา หิรี, วชฺชภีรุกภยทสฺสาวิลกฺขณํ โอตฺตปฺป’’นฺติ อิทมฺปิ ทฺวยํ ปาปปริวชฺชเน เอว ปากฏํ โหติ. เอกจฺโจ หิ ชาติมหตฺตปจฺจเวกฺขณา สตฺถุมหตฺตปจฺจเวกฺขณา ทายชฺชมหตฺตปจฺจเวกฺขณา สพฺรหฺมจาริมหตฺตปจฺจเวกฺขณาติ จตูหิ การเณหิ สปฺปติสฺสวลกฺขณํ หิรึ สมุฏฺาเปตฺวา ปาปํ น กโรติ. เอกจฺโจ อตฺตานุวาทภยํ ปรานุวาทภยํ ทณฺฑภยํ ทุคฺคติภยนฺติ จตูหากาเรหิ วชฺชภีรุกภาวทสฺสาวิลกฺขณํ โอตฺตปฺปํ สมุฏฺาเปตฺวา ปาปํ น กโรติ. ตตฺถ ชาติมหตฺตปจฺจเวกฺขณาทีนิ เจว อตฺตานุวาทภยาทีนิ จ วิตฺถาเรตฺวา กเถตพฺพานิ. เอวํ วุตฺตํ สตฺตวิธํ พลํ ยสฺส ปุคฺคลสฺส นตฺถิ, เต กิเลสา ตํ ปุคฺคลํ สหนฺติ…เป… ปริยาทิยนฺติ มทฺทนฺตีติ.

ทฺเว ปริสฺสยาติ ปากฏาปากฏวเสน ทฺเว เอว อุปทฺทวา, น เอกํ, น ตีณิ. เต วิภาคโต ทสฺเสตุํ ‘‘กตเม ปากฏปริสฺสยา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ โกกาติ เกกา. อยเมว วา ปาโ. โจราติ โจริยกมฺเมหิ ยุตฺตา. มาณวาติ สาหสิกกมฺเมหิ ยุตฺตา. กตกมฺมาติ สนฺธิจฺเฉทาทิกตโจริกกมฺมา. อกตกมฺมาติ ตํ กมฺมํ กาตุํ นิกฺขนฺตา. เอตฺถ อสฺสูติ ภเวยฺยุนฺติ อตฺโถ. จกฺขุโรโคติ จกฺขุสฺมึ อุปฺปนฺนโรโค, รุชตีติ โรโค. จกฺขุโรโคติอาทโย วตฺถุวเสน เวทิตพฺพา. นิพฺพตฺติตปสาทานฺหิ โรโค นาม นตฺถิ. กณฺณโรโคติ พหิกณฺณโรโค. มุขโรโคติ มุเข อุปฺปนฺนโรโค. ทนฺตโรโคติ ทนฺตสูลํ. กาโสติ ขยโรโค. สาโสติ สฺวาโส อุคฺคารโรโค. ปินาโสติ พหินาสิกาย โรโค. ฑาโหติ อพฺภนฺตเร อุปฺปชฺชนโก อุณฺโห. มุจฺฉาติ สติวิสฺสชฺชนกา. ปกฺขนฺทิกาติ โลหิตปกฺขนฺทิกา อติสาโร. สูลาติ อามสูลา กุจฺฉิวาโต. วิสูจิกาติ มหนฺโต วิเรจนโก. กิลาโสติ สพโล. โสโสติ สุกฺขนโก โสสพฺยาธิ. อปมาโรติ อมนุสฺสคฺคาโห เวริยกฺขาพาโธ. ททฺทูติ ททฺทุปีฬกา. กณฺฑูติ ขุทฺทกปีฬกา. กจฺฉูติ มหากจฺฉุ. รขสาติ นเขหิ วิลิขิตฏฺาเน โรโค. ‘‘นขสา’’ติปิ ปาฬิ. วิตจฺฉิกาติ หตฺถตลปาทตเลสุ หีรํ หีรํ กตฺวา ผาเลนฺโต อุปฺปชฺชนกโรโค. โลหิตปิตฺตนฺติ โสณิตปิตฺตํ, รตฺตปิตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. มธุเมโหติ สรีรพฺภนฺตเร อุกฺกฏฺโรโค. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อปิ จ มธุเมโห อาพาโธ อุกฺกฏฺโ’’ติ (ปาจิ. ๑๕).

อํสาติ อริสโรโค. ปีฬกาติ โลหิตปีฬกา. ภคํ ทาลยตีติ ภคนฺทลา, วจฺจมคฺคํ ผาเลตีติ อตฺโถ. ปิตฺตสมุฏฺานาติ ปิตฺเตน สมุฏฺานํ อุปฺปตฺติ เอเตสนฺติ ปิตฺตสมุฏฺานา. เต กิร ทฺวตฺตึส โหนฺติ. เสมฺหสมุฏฺานาทีสุปิ เอเสว นโย. สนฺนิปาติกาติ วาตปิตฺตเสมฺหานํ สนฺนิปาเตน เอกีภาเวน อุปฺปนฺนา. อาพาธฏฺเน อาพาธา. อุตุปริณามชาติ อุตุปริณาเมน. อจฺจุณฺหาติ สีเตน อุปฺปชฺชนกโรคา. วิสมปริหารชาติ อติฏฺานนิสชฺชาทินา วิสมปริหาเรน ชาตา. โอปกฺกมิกาติ วธพนฺธนาทินา อุปกฺกเมน ชาตา. กมฺมวิปากชาติ พลวกมฺมวิปากสมฺภูตา. สีตํ อุณฺหํ…เป… สมฺผสฺโสติ อิเม ปากฏา เอว. อิติ วาติ เอวํ วา. อิเม วุจฺจนฺตีติ นิคเมนฺโต อาห.

กตเม ปฏิจฺฉนฺนปริสฺสยาติ อปากฏา อจฺฉาทิตอุปทฺทวา กตเมติ ปุจฺฉติ. ตตฺถ กายทุจฺจริตนฺติ ปาณาติปาตอทินฺนาทานมิจฺฉาจารเจตนา เวทิตพฺพา. วจีทุจฺจริตนฺติ มุสาวาทปิสุณวาจาผรุสวาจาสมฺผปฺปลาปเจตนา เวทิตพฺพา. มโนทุจฺจริตนฺติ อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทิฏฺิโย เวทิตพฺพา. กาเย ปวตฺตํ, กายโต วา ปวตฺตํ, ทุฏฺุ จริตํ, กิเลสปูติกตฺตา วา ทุฏฺุ จริตนฺติ กายทุจฺจริตํ. วจีมโนทุจฺจริเตสุปิ เอเสว นโย.

กามียนฺตีติ กามา, ปฺจ กามคุณา. กาเมสุ ฉนฺโท กามจฺฉนฺโท. กามยตีติ วา กาโม, กาโม เอว ฉนฺโท, กามจฺฉนฺโท น กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท, น ธมฺมจฺฉนฺโท วา. กามตณฺหาว เอวํนามิกา. กุสลธมฺเม นีวรตีติ นีวรณํ, กามจฺฉนฺโท เอว นีวรณํ กามจฺฉนฺทนีวรณํ. เอวํ เสเสสุปิ. พฺยาปชฺชติ เตน จิตฺตํ ปูติภาวํ อุปคจฺฉติ, พฺยาปาทยติ วา วินยาจารรูปสมฺปตฺติหิตสุขาทีนีติ วา พฺยาปาโท. ถินนตา ถินํ. มิทฺธนตา มิทฺธํ, อนุสฺสาหสํหนนตา อสตฺติวิฆาตตา จาติ อตฺโถ. ถินฺจ มิทฺธฺจ ถินมิทฺธํ. ตตฺถ ถินํ อนุสฺสาหนลกฺขณํ, วีริยวิโนทนรสํ, สํสีทนปจฺจุปฏฺานํ. มิทฺธํ อกมฺมฺตาลกฺขณํ, โอนหนรสํ, ลีนภาวปจฺจุปฏฺานํ, ปจลายิกานิทฺทาปจฺจุปฏฺานํ วา. อุภยมฺปิ อรติตนฺทีวิชมฺภิตาทีสุ อโยนิโสมนสิการปทฏฺานนฺติ.

อุทฺธตสฺส ภาโว อุทฺธจฺจํ. ตํ อวูปสมลกฺขณํ วาตาภิฆาตจลชลํ วิย, อนวฏฺานรสํ วาตาภิฆาตจลธชปฏากํ วิย, ภนฺตตฺตปจฺจุปฏฺานํ ปาสาณาภิฆาตสมุทฺธตภสฺมํ วิย, เจตโส อวูปสโม อโยนิโสมนสิการปทฏฺานํ. จิตฺตวิกฺเขโปติ ทฏฺพฺพํ. กุจฺฉิตํ กตํ กุกตํ, ตสฺส ภาโว กุกฺกุจฺจํ. ตํ ปจฺฉานุตาปลกฺขณํ, กตากตานุโสจนรสํ, วิปฺปฏิสารปจฺจุปฏฺานํ, กตากตปทฏฺานํ ทาสพฺยํ วิย ทฏฺพฺพํ. อุทฺธจฺจฺจ กุกฺกุจฺจฺจ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ. วิคตา จิกิจฺฉาติ วิจิกิจฺฉา, สภาวํ วา วิจินนฺโต เอตาย กิจฺฉติ กิลมตีติ วิจิกิจฺฉา, สา สํสยลกฺขณา, สํสปฺปนรสา, อนิจฺฉยปจฺจุปฏฺานา, อเนกํสคฺคาหปจฺจุปฏฺานา วา, อโยนิโสมนสิการปทฏฺานา. ปฏิปตฺติอนฺตรายกราติ ทฏฺพฺพา.

รชฺชนลกฺขโณ ราโค. ทุสฺสนลกฺขโณ โทโส. มุยฺหนลกฺขโณ โมโห. กุชฺฌนลกฺขโณ โกโธ, จณฺฑิกฺกลกฺขโณ วา, อาฆาตกรณรโส, ทูสนปจฺจุปฏฺาโน. อุปนนฺธนลกฺขโณ อุปนาโห, เวรอปฺปฏินิสฺสชฺชนรโส, โกธานุพนฺธภาวปจฺจุปฏฺาโน. วุตฺตฺเจตํ ‘‘ปุพฺพกาลํ โกโธ, อปรกาลํ อุปนาโห’’ติอาทิ (วิภ. ๘๙๑).

ปรคุณมกฺขนลกฺขโณ มกฺโข. เตสํ วินาสนรโส, ตทจฺฉาทนปจฺจุปฏฺาโน. ยุคคฺคาหลกฺขโณ ปฬาโส, ปรคุเณหิ อตฺตโน คุณานํ สมีกรณรโส, ปเรสํ คุณปฺปมาเณน อุปฏฺานปจฺจุปฏฺาโน.

ปรสมฺปตฺติขียนลกฺขณา อิสฺสา, ตสฺส อกฺขมนลกฺขณา วา, ตตฺถ อนภิรติรสา, ตโต วิมุขภาวปจฺจุปฏฺานา. อตฺตโน สมฺปตฺตินิคูหนลกฺขณํ มจฺฉริยํ, อตฺตโน สมฺปตฺติยา ปเรหิ สาธารณภาวํ อกฺขมนรสํ, สงฺโกจนปจฺจุปฏฺานํ.

กตปาปปฏิจฺฉาทนลกฺขณา มายา, ตสฺส นิคูหนรสา, ตทาวรณปจฺจุปฏฺานา. อตฺตโน อวิชฺชมานคุณปฺปกาสนลกฺขณํ สาเยฺยํ, เตสํ สมุทาหรณรสํ, สรีรากาเรหิปิ เตสํ วิภูตกรณปจฺจุปฏฺานํ.

จิตฺตสฺส อุทฺธุมาตภาวลกฺขโณ ถมฺโภ, อปฺปติสฺสววุตฺติรโส, อมทฺทวปจฺจุปฏฺาโน. กรณุตฺตริยลกฺขโณ สารมฺโภ, วิปจฺจนีกตารโส, อคารวปจฺจุปฏฺาโน.

อุณฺณติลกฺขโณ มาโน, อหํการรโส, อุทฺธุมาตภาวปจฺจุปฏฺาโน. อพฺภุณฺณติลกฺขโณ อติมาโน, อติวิย อหํการรโส, อจฺจุทฺธุมาตภาวปจฺจุปฏฺาโน.

มตฺตภาวลกฺขโณ มโท, มทคฺคหณรโส, อุมฺมาทปจฺจุปฏฺาโน. ปฺจสุ กามคุเณสุ จิตฺตสฺส โวสฺสคฺคลกฺขโณ ปมาโท, โวสฺสคฺคานุปฺปทนรโส, สติวิปฺปวาสปจฺจุปฏฺาโนติ เอวํ อิเมสํ ธมฺมานํ ลกฺขณาทีนิ เวทิตพฺพานิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน ‘‘ตตฺถ กตโม โกโธ’’ติอาทินา วิภงฺเค (วิภ. ๘๙๑) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

วิเสสโต เจตฺถ อามิสคิทฺโธ อตฺตนา อลภนฺโต อฺสฺส ลาภิโน กุชฺฌติ, ตสฺส สกึ อุปฺปนฺโน โกโธ โกโธเยว. ตทุตฺตริ อุปนาโห. โส เอวํ กุทฺโธ อุปนยฺหนฺโต จ สนฺเตปิ อฺสฺส ลาภิโน คุณํ มกฺเขติ ‘‘อหมฺปิ ตาทิโส’’ติ จ ยุคคฺคาหํ คณฺหาติ. อยมสฺส มกฺโข จ ปลาโส จ, โส เอวํ มกฺขี ปลาสี ตสฺส ลาภสกฺการาทีสุ ‘‘กึ อิมสฺส อิมินา’’ติ อิสฺสติ ปทุสฺสติ, อยมสฺส อิสฺสา. สเจ ปนสฺส กาจิ สมฺปตฺติ โหติ, ตสฺสา เตน สาธารณภาวํ น สหติ, อิทมสฺส มจฺเฉรํ. ลาภเหตุ โข ปน อตฺตโน สนฺเตปิ โทเส ปฏิจฺฉาเทติ, อยมสฺส มายา. อสนฺเตปิ คุเณ ปกาเสติ, อิทมสฺส สาเยฺยํ. โส เอวํ ปฏิปนฺโน สเจ ปน ยถาธิปฺปายํ ลาภํ ลภติ, เตน ถทฺโธ โหติ อมุทุจิตฺโต ‘‘น อิทํ เอวํ กาตพฺพ’’นฺติ โอวทิตุํ อสกฺกุเณยฺโย, อยมสฺส ถมฺโภ. สเจ ปน นํ โกจิ กิฺจิ วทติ ‘‘น อิทํ เอวํ กาตพฺพ’’นฺติ, เตน สารทฺธจิตฺโต โหติ, ภากุฏิกมุโข ‘‘โก เม ตฺว’’นฺติ ปสยฺหภาณี, อยมสฺส สารมฺโภ. ตโต ถมฺเภน ‘‘อหเมว เสยฺโย’’ติ อตฺตานํ มฺนฺโต มานี โหติ. สารมฺเภน ‘‘เก อิเม’’ติ ปเร อติมฺนฺโต อติมานี, อยมสฺส มาโน จ อติมาโน จ. โส เตหิ มานาติมาเนหิ ชาติมทาทิอเนกรูปํ มทํ ชเนติ, มตฺโต สมาโน กามคุณาทิเภเทสุ วตฺถูสุ ปมชฺชติ, อยมสฺส มโท จ ปมาโท จาติ เวทิตพฺพํ.

สพฺเพ กิเลสาติ สพฺเพปิ อกุสลา ธมฺมา. อุปตาปนฏฺเน วิพาธนฏฺเน จ กิเลสา. กิเลสปูติกตฺตา ทุจฺจริตา. กิเลสทรถกรณฏฺเน ทรถา. อนฺโตฑาหาทิกรณฏฺเน ปริฬาหา. สทา ตาปนฏฺเน สนฺตาปา. อโกสลฺลสมฺภูตฏฺเน อภิสงฺขรณฏฺเน จ สพฺเพ อกุสลาภิสงฺขารา.

เกนฏฺเนาติ เกน อตฺเถน. อภิภวนาทิติวิธํ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปริสหนฺตีติ ปริสฺสยา’’ติอาทิมาห. ปริสหนฺตีติ ทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺติ อภิภวนฺติ. ปริหานาย สํวตฺตนฺตีติ กุสลานํ ธมฺมานํ ปริจฺจชนาย สํวตฺตนฺติ. ตตฺราสยาติ ตสฺมึ สรีเร อกุสลา ธมฺมา อาสยนฺติ นิวสนฺติ อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. เต ปริสฺสยาติ กายทุจฺจริตาทโย อุปทฺทวา. กุสลานํ ธมฺมานํ อนฺตรายายาติ อุปริ วตฺตพฺพานํ สมฺมาปฏิปทาทิโต โกสลฺลสมฺภูตานํ ธมฺมานํ อนฺตรธานาย อทสฺสนตฺถาย สํวตฺตนฺติ. สมฺมาปฏิปทายาติ สุนฺทราย ปสฏฺาย วา ปฏิปทาย, น มิจฺฉาปฏิปทาย. อนุโลมปฏิปทายาติ อวิรุทฺธปฏิปทาย, น ปฏิโลมปฏิปทาย. อปจฺจนีกปฏิปทายาติ น ปจฺจนีกปฏิปทาย, อปจฺจตฺถิกปฏิปทาย. อนฺวตฺถปฏิปทายาติ อตฺถอนุคตาย ปฏิปทาย, อุปรูปริ วฑฺฒิตาย ปฏิปทาย. ยถา อตฺโถ, ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพาย ปฏิปทายาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อตฺตตฺถปฏิปทายา’’ติปิ ปาฬิ, ตํ น สุนฺทรํ. ธมฺมานุธมฺมปฏิปทายาติ ธมฺโม นาม นวโลกุตฺตรธมฺโม. อนุธมฺโม นาม วิปสฺสนาทิ. ตสฺส ธมฺมสฺส อนุรูปา ธมฺมปฏิปทา ธมฺมานุธมฺมปฏิปทา, ตสฺสา ธมฺมานุธมฺมปฏิปทาย.

สีเลสุ ปริปูริการิตายาติ ปาติโมกฺขสีเลสุ ปาริปูรึ กตฺวา ิตตาย. อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตายาติ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๑๓; อ. นิ. ๓.๑๖; ม. นิ. ๒.๒๔; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑๘) นเยน วุตฺเตสุ มนจฺฉฏฺเสุ อินฺทฺริเยสุ สุโคปิตทฺวารภาวสฺส. โภชเน มตฺตฺุตายาติ ปฏิคฺคหณาทีสุ ปมาณยุตฺตตาย. อลํสาฏกาทึ มุฺจิตฺวา มิตโภชนตาย.

ชาคริยานุโยคสฺสาติ ‘‘ทิวสํ จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธมฺเมหี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๖; ม. นิ. ๒.๒๔) เอวมาทินา นเยน ปฺจ ชาครณธมฺเม อนุโยคสฺส. สติสมฺปชฺสฺสาติ สพฺพกมฺมฏฺานภาวนานุยุตฺตานํ สพฺพโยคีนํ สพฺพทา อุปการกสฺส สติสมฺปชฺสฺส.

สติปฏฺานานนฺติ อารมฺมเณสุ โอกฺกนฺติตฺวา ปกฺกนฺทิตฺวา อุปฏฺานโต ปฏฺานํ, สติเยว ปฏฺานํ สติปฏฺานํ. กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ ปนสฺสา อสุภทุกฺขานิจฺจานตฺตาการคหณวเสน สุภสุขนิจฺจตฺตสฺาปหานกิจฺจสาธนวเสน จ ปวตฺติโต จตุธา ปเภโท โหติ, เตสํ จตุนฺนํ สติปฏฺานานํ.

จตุนฺนํ สมฺมปฺปธานานนฺติ ปทหนฺติ เอเตนาติ ปธานํ, โสภนํ ปธานํ สมฺมปฺปธานํ, สมฺมา วา ปทหนฺติ เอเตนาติ สมฺมปฺปธานํ, โสภนํ วา ตํ กิเลสวิรูปตฺตวิรหโต, ปธานฺจ หิตสุขนิปฺผาทกฏฺเน เสฏฺภาวาวหนโต, ปธานภาวกรณโต จาติ สมฺมปฺปธานํ, วีริยสฺเสตํ อธิวจนํ. อุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานฺจ จตุนฺนํ อกุสลกุสลานํ ปหานานุปฺปตฺติอุปฺปาทฏฺิติกิจฺจสาธนวเสน ปวตฺติโต ปนสฺส จตุธา ปเภโท โหติ, เตสํ จตุนฺนํ สมฺมปฺปธานานํ.

จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานนฺติ เอตฺถ ฉนฺทวีริยจิตฺตวีมํสาสุ เอเกโก อิชฺฌตีติ อิทฺธิ, สมิชฺฌติ นิปฺผชฺชตีติ อตฺโถ. อิชฺฌนฺติ วา เอตาย สตฺตา อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติ อิทฺธิ. ปเมน อตฺเถน อิทฺธิเยว ปาโทติ อิทฺธิปาโท, อิทฺธิโกฏฺาโสติ อตฺโถ. ทุติเยน อตฺเถน อิทฺธิยา ปาโทติ อิทฺธิปาโท, ปาโทติ ปติฏฺา อธิคมุปาโยติ อตฺโถ. เตน หิ ยสฺมา อุปรูปริวิเสสสงฺขาตํ อิทฺธึ ปชฺชนฺติ ปาปุณนฺติ, ตสฺมา ปาโทติ วุจฺจติ. เตสํ จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานํ.

สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานนฺติ โพธิยา, โพธิสฺส วา องฺคาติ โพชฺฌงฺคา. อิทํ วุตฺตํ โหติ, ยา เอสา ธมฺมสามคฺคี ยาย โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ อุปฺปชฺชมานาย ลีนุทฺธจฺจปติฏฺานายูหนกามสุขตฺตกิลมถานุโยคอุจฺเฉทสสฺสตาภินิเวสาทีนํ อเนเกสํ อุปทฺทวานํ ปฏิปกฺขภูตาย สติธมฺมวิจยวีริยปีติปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสงฺขาตาย ธมฺมสามคฺคิยา อริยสาวโก พุชฺฌตีติ กตฺวา ‘‘โพธี’’ติ วุจฺจติ, พุชฺฌตีติ กิเลสสนฺตานนิทฺทาย อุฏฺหติ, จตฺตาริ วา อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ, นิพฺพานเมว วา สจฺฉิกโรติ, ตสฺสา ธมฺมสามคฺคิสงฺขาตาย โพธิยา องฺคาติปิ โพชฺฌงฺคา ฌานงฺคมคฺคงฺคาทีนิ วิย. โย ปเนส ยถาวุตฺตปฺปการาย เอตาย ธมฺมสามคฺคิยา พุชฺฌตีติ กตฺวา อริยสาวโก ‘‘โพธี’’ติ วุจฺจติ, ตสฺส โพธิสฺส องฺคาติปิ โพชฺฌงฺคา เสนงฺครถงฺคาทโย วิย. เตนาหุ อฏฺกถาจริยา ‘‘พุชฺฌนกสฺส ปุคฺคลสฺส องฺคาติ โพชฺฌงฺคา’’ติ. เตสํ สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ.

อริยสฺส อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺสาติ อริโยติ ตํตํมคฺควชฺฌกิเลเสหิ อารกตฺตา อริยภาวกรตฺตา อริยผลปฏิลาภกรตฺตา จ อริโย. อฏฺงฺคานิ อสฺสาติ อฏฺงฺคิโก. สฺวายํ จตุรงฺคิกา วิย เสนา, ปฺจงฺคิกํ วิย จ ตูริยํ องฺคมตฺตเมว โหติ, องฺควินิมุตฺโต นตฺถิ. นิพฺพานํ มคฺคติ, กิเลเส วา มาเรนฺโต คจฺฉตีติ มคฺโค, ตสฺส อริยสฺส อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺส ภาวนานุโยคสฺส. อิเมสํ กุสลานํ ธมฺมานนฺติ วุตฺตปฺปการานํ โลกิยโลกุตฺตรกุสลธมฺมานํ. อนฺตรายายาติ โลกุตฺตรกุสลธมฺมานํ อนฺตรายาย อนฺตรธานาย โลกิยกุสลธมฺมานํ ปริจฺจาคาย.

เตสุ โลกุตฺตรกุสลธมฺมานํ อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทานฏฺเน ปริสฺสยา นาม. เต หิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌมานา อุปทฺทวํ นาวหนฺติ. ตตฺเถเตติ ตสฺมึ อตฺตภาเว เอเต. ปาปกาติ ลามกา. อตฺตภาวสนฺนิสฺสยาติ อตฺตภาวํ อุปนิสฺสาย อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺตภาวสนฺนิสฺสยา. ทเกติ อุทเก.

วุตฺตํ เหตนฺติ กถิตฺหิ เอตํ. สานฺเตวาสิโกติ อนฺเตวาสิกสงฺขาเตน กิเลเสน สห วสตีติ สานฺเตวาสิโก. สาจริยโกติ สมุทาจรณสงฺขาเตน กิเลเสน สห วสตีติ สาจริยโก.

จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ปสฺสิตฺวา. อุปริ โสเตน สทฺทํ สุตฺวาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อุปฺปชฺชนฺตีติ สมุทาจรนฺติ. สรสงฺกปฺปาติ นานารมฺมเณ สํสรณวเสน อุปฺปนฺนา ปริกปฺปา. สํโยชนิยาติ อารมฺมณภาวํ อุปคนฺตฺวา สํโยชนสมฺพนฺธเนน สํโยชนานํ หิตา. ตฺยสฺสาติ เต ปาปกา อสฺส ปุคฺคลสฺส. อนฺโต วสนฺตีติ อพฺภนฺตเร จิตฺเต นิวสนฺติ. อนฺวาสวนฺตีติ กิเลสสนฺตานํ อนุคนฺตฺวา ภุสํ สวนฺติ อนุพนฺธนฺติ. เต นนฺติ ตํ ปุคฺคลํ เอเต อกุสลา ธมฺมา. สมุทาจรนฺตีติ สมฺมา อาจรนฺติ ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ.

กิลิสฺสนฏฺเน มลา. สตฺตุอตฺเถน อมิตฺตา. เวริอตฺเถน สปตฺตา. หนนฏฺเน วธกา. ปจฺจามิตฺตฏฺเน ปจฺจตฺถิกา. อถ วา มลา สูริยสฺโสปกฺกิเลสวลาหกา วิย. อมิตฺตา สูริยสฺส ธูมํ วิย. สปตฺตา สูริยสฺส หิมํ วิย. วธกา สูริยสฺส รชํ วิย. ปจฺจตฺถิกา สูริยสฺส ราหุ วิย. ‘‘มลา สุวณฺณสฺส มลํ วิย จิตฺตปฺปภานาสกา. อมิตฺตา กาฬโลหมลํ วิย จิตฺเต สินิทฺธภาวนาสกา, สปตฺตา ยุคนทฺธํ ยุชฺฌนฺตา สปตฺตา วิย จิตฺเต ปติฏฺิตธมฺมธํสกา. วธกา มนุสฺสฆาตกา วิย ธมฺมฆาตกา. ปจฺจตฺถิกา รฺา อุปคตสฺส วินาโส วิย โมกฺขมคฺคสฺส ปฏิเสธกา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.

อนตฺถชนโนติ น อตฺถํ อนตฺถํ, ตํ อนตฺถํ อุปฺปาเทตีติ อนตฺถชนโน. โก โส? โลโภ. จิตฺตปฺปโกปโนติ จิตฺตสฺส ปโกปโน จลโน, กุสลํ นิวาเรตฺวา จิตฺตํ รุนฺธตีติ อตฺโถ. ภยมนฺตรโต ชาตนฺติ อพฺภนฺตเร อตฺตโน จิตฺเตเยว ชาตํ, อนตฺถชนนาทิภยเหตุ. ตํ ชโน นาวพุชฺฌตีติ ตํ ภยํ พาลมหาชโน อวคนฺตฺวา โอตริตฺวา น ชานาติ. อตฺถนฺติ ลุทฺโธ ปุคฺคโล โลกิยโลกุตฺตรอตฺถํ น ชานาติ. ธมฺมนฺติ ตสฺส เหตุํ. อนฺธตมนฺติ พหลนฺธการํ. นฺติ ยสฺมา, ยํ นรํ วา. สหเตติ อภิภวติ.

อชฺฌตฺตนฺติ สกสนฺตาเน. อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺตีติ ปุพฺพนฺตโต อุทฺธํ อุปฺปชฺชมานา อหิตาย อุปฺปชฺชนฺติ ทุกฺขาย. ตทุภเยน อผาสุวิหาราย. อหิตายาติ เจตสิกทุกฺขตฺถาย. ทุกฺขายาติ กายิกทุกฺขตฺถาย. อผาสุวิหารายาติ ตทุภเยน น สุขวิหารตฺถาย. อถ วา ‘‘อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺตีติ ภวงฺคจลนโต ปฏฺาย ยาว โวฏฺพฺพนา, ตาว อุปฺปชฺชมานา นาม. โวฏฺพฺพนํ ปน ปตฺวา อนิวตฺตนภาเวน อุปฺปชฺชนฺติ นามา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.

ตจสารํว สมฺผลนฺติ อตฺตโน ผเลน นาสิตํ ตจสารสงฺขาตํ เวฬุ วิย. อรตีติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ อุกฺกณฺิตตา. รตีติ ปฺจกามคุเณ อภิรติ. โลมหํโสติ กณฺฏกสทิโส หุตฺวา อุทฺธคฺคโลโม. อิโตนิทานาติ อยํ อตฺตภาโว นิทานํ ปจฺจโย เอเตสนฺติ อิโตนิทานา. อิโตชาติ อิโต อตฺตภาวโต ชาตา. อิโต สมุฏฺาย มโนวิตกฺกาติ ยถา ทีฆสุตฺตเกน ปาเท พทฺธํ กากํ กุมารกา ตสฺส สุตฺตสฺส ปริยนฺตํ องฺคุลึ เวเตฺวา โอสฺสชฺชนฺติ, โส ทูรํ คนฺตฺวาปิ ปุน เตสํ ปาทมูเลเยว ปตติ, เอวเมว อิโต อตฺตภาวโต สมุฏฺาย ปาปวิตกฺกา จิตฺตํ โอสฺสชฺชนฺติ.

‘‘สานฺเตวาสิโก’’ติอาทิกํ ปมสุตฺตํ กิเลเสน สหวาสํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อนฺตรามลา’’ติอาทิกํ ทุติยํ กุสลธมฺมมลีนกรณวเสน อตฺถานตฺถสฺส อชานนวเสน จ. ‘‘ตโย โข, มหาราช, ปุริสสฺส ธมฺมา อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมานา’’ติอาทิกํ ตติยํ อตฺตโน นิสฺสยฆาตนวเสน. ‘‘ราโค จ โทโส จ อิโตนิทานา’’ติอาทิกํ จตุตฺถํ กิเลสานํ ปติฏฺาทสฺสนวเสน วุตฺตนฺติ าตพฺพํ.

ตโต ตโต ปริสฺสยโตติ ตมฺหา ตมฺหา อุปทฺทวา. ตํ ปุคฺคลนฺติ วุตฺตปฺปการกิเลสสมงฺคีปุคฺคลํ. ทุกฺขํ อนฺเวตีติ ทุกฺขํ อนุ เอติ มาตุ ปจฺฉโต ขีรปิวโก วิย. อนุคจฺฉตีติ สมีปํ คจฺฉติ โจรฆาตโก วิย วชฺฌปฺปตฺตสฺส. อนฺวายิกํ โหตีติ สมฺปตฺตํ โหติ ธมฺมคนฺถิกาย ปริจฺเฉโท วิย. ชาติทุกฺขนฺติ ชาติสทฺทสฺส ตาว อเนเก อตฺถา ปเวทิตา. ยถา –

ภโว กุลํ นิกาโย จ, สีลํ ปฺตฺติ ลกฺขณํ;

ปสูติ สนฺธิ เจวาติ, ชาติอตฺถา ปเวทิตา.

ตถา หิสฺส ‘‘เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย’’ติอาทีสุ (ปารา. ๑๒; ที. นิ. ๑.๓๑; ม. นิ. ๒.๒๕๗) ภโว อตฺโถ. ‘‘อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทนา’’ติ (ที. นิ. ๑.๓๐๓) เอตฺถ กุลํ. ‘‘อตฺถิ, วิสาเข, นิคณฺา นาม สมณชาตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๗๑) เอตฺถ นิกาโย. ‘‘ยโตหํ, ภคินิ, อริยาย ชาติยา ชาโต นาภิชานามี’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๕๑) เอตฺถ อริยสีลํ. ‘‘ติริยา นาม ติณชาติ นาภิยา อุคฺคนฺตฺวา นภํ อาหจฺจ ิตา อโหสี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๙๖) เอตฺถ ปฺตฺติ. ‘‘ชาติ ทฺวีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิตา’’ติ (ธาตุ. ๗๑) เอตฺถ สงฺขตลกฺขณํ. ‘‘สมฺปติชาโต, อานนฺท, โพธิสตฺโต’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๑; ม. นิ. ๓.๒๐๗) เอตฺถ ปสูติ. ‘‘ภวปจฺจยา ชาตี’’ติ (มหาว. ๑; อุทา. ๑; ม. นิ. ๑.๔๐๓; สํ. นิ. ๒.๕๓; วิภ. ๒๒๕; กถา. ๔๕๐) จ, ‘‘ชาติปิ ทุกฺขา’’ติ (มหาว. ๑๔; วิภ. ๑๙๐; ที. นิ. ๒.๓๘๗; ม. นิ. ๒.๓๗๓; สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) จ เอตฺถ ปริยายโต ปฏิสนฺธิกฺขโณ, นิปฺปริยายโต ปน ตตฺถ ตตฺถ นิพฺพตฺตมานานํ สตฺตานํ เย เย ขนฺธา ปาตุภวนฺติ, เตสํ เตสํ ปมปาตุภาโว ชาติ นาม.

กสฺมา ปเนสา ชาติ ทุกฺขาติ เจ? อเนเกสํ ทุกฺขานํ วตฺถุภาวโต. อเนกานิ หิ ทุกฺขานิ. เสยฺยถิทํ – ทุกฺขทุกฺขํ วิปริณามทุกฺขํ สงฺขารทุกฺขํ ปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ อปฺปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ ปริยายทุกฺขํ นิปฺปริยายทุกฺขนฺติ.

ตตฺถ กายิกเจตสิกา ทุกฺขเวทนา สภาวโต จ นามโต จ ทุกฺขตฺตา ‘‘ทุกฺขทุกฺข’’นฺติ วุจฺจติ.

สุขเวทนา วิปริณาเมน ทุกฺขุปฺปตฺติเหตุโต วิปริณามทุกฺขํ. อุเปกฺขาเวทนา เจว อวเสสา จ เตภูมกา สงฺขารา อุทยพฺพยปีฬิตตฺตา สงฺขารทุกฺขํ.

กณฺณสูลทนฺตสูลราคชปริฬาหโทสโมหชปริฬาหาทิ กายิกเจตสิโก อาพาโธ ปุจฺฉิตฺวา ชานิตพฺพโต อุปกฺกมสฺส จ อปากฏภาวโต ปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ. อปากฏทุกฺขนฺติปิ วุจฺจติ.

ทฺวตฺตึสกมฺมการณาทิสมุฏฺาโน อาพาโธ อปุจฺฉิตฺวาว ชานิตพฺพโต อุปกฺกมสฺส จ ปากฏภาวโต อปฺปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ. ปากฏทุกฺขนฺติปิ วุจฺจติ.

เปตฺวา ทุกฺขทุกฺขํ เสสํ ทุกฺขสจฺจวิภงฺเค อาคตํ ชาติอาทิ สพฺพมฺปิ ตสฺส ตสฺส ทุกฺขสฺส วตฺถุภาวโต ปริยายทุกฺขํ. ทุกฺขทุกฺขํ ปน นิปฺปริยายทุกฺขนฺติ วุจฺจติ.

ตตฺรายํ ชาติ ยํ ตํ พาลปณฺฑิตสุตฺตาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๔๖ อาทโย) ภควตาปิ อุปมาวเสน ปกาสิตํ อาปายิกํ ทุกฺขํ, ยฺจ สุคติยมฺปิ มนุสฺสโลเก คพฺโภกฺกนฺติมูลกาทิเภทํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส วตฺถุภาวโต ทุกฺขา.

ตตฺริทํ คพฺโภกฺกนฺติมูลกาทิเภทํ ทุกฺขํ – อยฺหิ สตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตมาโน น อุปฺปลปทุมปุณฺฑริกาทีสุ นิพฺพตฺตติ, อถ โข เหฏฺา อามาสยสฺส อุปริ ปกฺกาสยสฺส อุทรปฏลปิฏฺิกณฺฏกานํ เวมชฺเฌ ปรมสมฺพาเธ ติพฺพนฺธกาเร นานากุณปคนฺธปริภาวิเต อสุจิปรมทุคฺคนฺธปวนวิจริเต อธิมตฺตเชคุจฺเฉ กุจฺฉิปฺปเทเส ปูติมจฺฉปูติกุมฺมาสจนฺทนิกาทีสุ กิมิ วิย นิพฺพตฺตติ. โส ตตฺถ นิพฺพตฺโต ทส มาเส มาตุกุจฺฉิสมฺภเวน อุสฺมนา ปุฏปากํ วิย ปจฺจมาโน ปิฏฺปิณฺฑิ วิย เสทิยมาโน สมิฺชนปสารณาทิวิรหิโต อธิมตฺตํ ทุกฺขํ ปจฺจนุโภตีติ, อิทํ ตาว คพฺโภกฺกนฺติมูลกํ ทุกฺขํ.

ยํ ปน โส มาตุ สหสา อุปกฺขลนคมนนิสีทนวุฏฺานปริวตฺตนาทีสุ สุราธุตฺตหตฺถคโต เอฬโก วิย อหิตุณฺฑิกหตฺถคโต สปฺปโปตโก วิย จ อากฑฺฒนปริกฑฺฒนโอธุนนทฺธุนนาทินา อุปกฺกเมน อธิมตฺตํ ทุกฺขํ อนุภวติ, ยฺจ มาตุ สีตุทกปานกาเล สีตนรกุปปนฺโน วิย อุณฺหยาคุภตฺตาทิอชฺโฌหรณกาเล องฺคารวุฏฺิสมฺปริกิณฺโณ วิย โลณมฺพิลาทิอชฺโฌหรณกาเล ขาราปฏิจฺฉกาทิกมฺมการณปตฺโต วิย ติพฺพํ ทุกฺขํ อนุโภติ, อิทํ คพฺภปริหรณมูลกํ ทุกฺขํ.

ยํ ปนสฺส มูฬฺหคพฺภาย มาตุยา มิตฺตามจฺจสุหชฺชาทีหิปิ อทสฺสนารเห ทุกฺขุปฺปตฺติฏฺาเน เฉทนผาลนาทีหิ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, อิทํ คพฺภวิปตฺติมูลกํ ทุกฺขํ.

ยํ วิชายมานาย มาตุยา กมฺมเชหิ วาเตหิ ปริวตฺเตตฺวา นรกปปาตํ วิย อติภยานกํ โยนิมคฺคํ ปฏิปาติยมานสฺส ปรมสมฺพาเธน จ โยนิมุเขน ตาฬจฺฉิคฺคเฬน วิย มหานาคสฺส นิกฑฺฒิยมานสฺส นรกสตฺตสฺส วิย จ สงฺฆาตปพฺพเตหิ วิจุณฺณิยมานสฺส ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, อิทํ วิชายนมูลกํ ทุกฺขํ.

ยํ ปน ชาตสฺส ตรุณวณสทิสสุขุมาลสรีรสฺส หตฺถคฺคหณนฺหาปนโธวนโจฬปริมชฺชนาทิกาเล สูจิมุขขุรธาราหิ วิชฺฌนผาลนสทิสํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, อิทํ มาตุกุจฺฉิโต พหินิกฺขมนมูลกํ ทุกฺขํ.

ยํ ปน ตโต ปรํ ปวตฺติยํ อตฺตนาว อตฺตานํ วเธนฺตสฺส อเจลกวตาทิวเสน อาตาปนปริตาปนานุโยคมนุยุตฺตสฺส โกธวเสน อภุฺชนฺตสฺส อุพฺพนฺธนฺตสฺส จ ทุกฺขํ โหติ, อิทํ อตฺตูปกฺกมมูลกํ ทุกฺขํ.

ยํ ปน ปรโต วธพนฺธนาทีนิ อนุภวนฺตสฺส ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, อิทํ ปรูปกฺกมมูลกํ ทุกฺขนฺติ.

อิติ อิมสฺส สพฺพสฺสาปิ ทุกฺขสฺส อยํ ชาติ วตฺถุเมว โหติ, อิทํ ชาติทุกฺขํ อนฺเวติ.

ชราทุกฺขนฺติ ทุวิธา ชรา – สงฺขตลกฺขณฺจ ขณฺฑิจฺจาทิสมฺมโต สนฺตติยํ เอกภวปริยาปนฺโน ขนฺธปุราณภาโว จ, สา อิธ อธิปฺเปตา. สา ปเนสา ทุกฺขา สงฺขารทุกฺขภาวโต เจว ทุกฺขวตฺถุโต จ. ยํ หิทํ องฺคปจฺจงฺคสิถิลภาวโต อินฺทฺริยวิการวิรูปตา โยพฺพนวินาสพลูปฆาตสติมติวิปฺปวาสปรปริภวาทิอเนกปจฺจยํ กายิกเจตสิกํ ทุกฺขมุปฺปชฺชติ, ชรา ตสฺส วตฺถุ. เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘องฺคานํ สิถิลภาวา, อินฺทฺริยานํ วิการโต;

โยพฺพนสฺส วินาเสน, พลสฺส อุปฆาตโต.

‘‘วิปฺปวาสา สตาทีนํ, ปุตฺตทาเรหิ อตฺตโน;

อปฺปสาทนียโต เจว, ภิยฺโย พาลตฺตปตฺติยา.

‘‘ปปฺโปติ ทุกฺขํ ยํ มจฺโจ, กายิกํ มานสํ ตถา;

สพฺพเมตํ ชราเหตุ, ยสฺมา ตสฺมา ชรา ทุขา’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๒; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๒);

อิทํ ชราทุกฺขํ อนฺเวตีติ สมฺพนฺโธ. พฺยาธีติ วิวิธํ ทุกฺขํ อาทหติ วิทหตีติ พฺยาธิ. พฺยาธยติ ตาปยติ กมฺปยตีติ วา พฺยาธิ.

มรณทุกฺขนฺติ เอตฺถาปิ ทุวิธํ มรณํ สงฺขตลกฺขณฺจ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ชรามรณํ ทฺวีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิต’’นฺติ (ธาตุ. ๗๑). เอกภวปริยาปนฺนชีวิตินฺทฺริยปพนฺธวิจฺเฉโท จ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘นิจฺจํ มรณโต ภย’’นฺติ (สุ. นิ. ๕๘๑; ชา. ๑.๑๑.๘๘). ตํ อิธ อธิปฺเปตํ. ชาติปจฺจยา มรณํ อุปกฺกมมรณํ สรสมรณํ อายุกฺขยมรณํ ปุฺกฺขยมรณนฺติปิ ตสฺเสว นามํ. ปุน ขณิกมรณํ สมฺมุติมรณํ สมุจฺเฉทมรณนฺติ อยมฺปิ เภโท เวทิตพฺโพ. ปวตฺเต รูปารูปธมฺมานํ เภโท ขณิกมรณํ นาม. ติสฺโส มโต ผุสฺโส มโตติ อิทํ ปรมตฺถโต สตฺตสฺส อภาวา, สสฺสํ มตํ, รุกฺโข มโตติ อิทมฺปิ ชีวิตินฺทฺริยสฺส อภาวา สมฺมุติมรณํ นาม. ขีณาสวสฺส อปฺปฏิสนฺธิกา กาลกิริยา สมุจฺเฉทมรณํ นาม. พาหิรสมฺมุติมรณํ เปตฺวา อิตรํ สมฺมุติมรณฺจ อิธ ยถาวุตฺตปฺปพนฺธวิจฺเฉทนภาเวน สงฺคหิตํ, ทุกฺขสฺส ปน วตฺถุภาวโต ทุกฺขํ. เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘ปาปสฺส ปาปกมฺมาทิ-นิมิตฺตมนุปสฺสโต;

ภทฺทสฺสาปสหนฺตสฺส, วิโยคํ ปิยวตฺถุกํ;

มียมานสฺส ยํ ทุกฺขํ, มานสํ อวิเสสโต.

‘‘สพฺเพสฺจาปิ ยํ สนฺธิ-พนฺธนจฺเฉทนาทิกํ;

วิตุชฺชมานมมฺมานํ, โหติ ทุกฺขํ สรีรชํ.

‘‘อสยฺหมปฺปติการํ, ทุกฺขสฺเสตสฺสิทํ ยโต;

มรณํ วตฺถุ เตเนตํ, ทุกฺขมิจฺเจว ภาสิต’’นฺติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๓; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๓);

โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสทุกฺขนฺติ เอตฺถ โสกาทีสุ โสโก นาม าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺสฺส อนฺโตนิชฺฌานลกฺขโณ จิตฺตสนฺตาโป. ทุกฺโข ปนสฺส ทุกฺขทุกฺขตฺตา เจว ทุกฺขสฺส จ วตฺถุภาวโต. เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘สตฺตานํ หทยํ โสโก, สลฺลํ วิย วิตุชฺชติ;

อคฺคิตตฺโตว นาราโจ, ภุสฺจ ฑหเต ปุน.

‘‘สมาวหติ จ พฺยาธิ-ชรามรณเภทนํ;

ทุกฺขมฺปิ วิวิธํ ยสฺมา, ตสฺมา ทุกฺโขติ วุจฺจตี’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๔; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๔);

ปริเทโว นาม าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺสฺส วจีปลาโป. ทุกฺโข ปนสฺส สํสารทุกฺขภาวโต ทุกฺขวตฺถุโต จ. เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘ยํ โสกสลฺลวิหโต ปริเทวมาโน, กณฺโฏฺตาลุตลโสสชมปฺปสยฺหํ;

ภิยฺโยธิมตฺตมธิคจฺฉติเยว ทุกฺขํ, ทุกฺโขติ เตน ภควา ปริเทวมาหา’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๕; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๕);

ทุกฺขํ นาม กายปีฬนลกฺขณํ กายิกํ ทุกฺขํ. ทุกฺขํ ปนสฺส ทุกฺขทุกฺขตฺตา เจว มานสทุกฺขาวหนโต จ. เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘ปีเฬติ กายิกมิทํ, ทุกฺขํ ทุกฺขฺจ มานสํ ภิยฺโย;

ชนยติ ยสฺมา ตสฺมา, ทุกฺขนฺติ วิเสสโต วุตฺต’’นฺติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๖-๑๙๗; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๖);

โทมนสฺสํ นาม จิตฺตปีฬนลกฺขณํ มานสํ ทุกฺขํ. ทุกฺขํ ปนสฺส ทุกฺขทุกฺขตฺตา เจว กายิกทุกฺขาวหนโต จ. เจโตทุกฺขสมปฺปิตา หิ เกเส ปกิริย กนฺทนฺติ, อุรานิ ปติปิเสนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ, วิวฏฺฏนฺติ, ฉินฺนปปาตํ ปปตนฺติ, สตฺถํ อาหรนฺติ, วิสํ ขาทนฺติ, รชฺชุยา อุพฺพนฺธนฺติ, อคฺคึ ปวิสนฺติ, นานปฺปการํ ทุกฺขํ อนุภวนฺติ. เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘ปีเฬติ ยโต จิตฺตํ, กายสฺส จ ปีฬนํ สมาวหติ;

ทุกฺขนฺติ โทมนสฺสมฺปิ, โทมนสฺสํ ตโต อหู’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๖-๑๙๗; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๗);

อุปายาโส นาม าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺสฺส อธิมตฺตเจโตทุกฺขปฺปภาวิโต โทโสเยว. สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺโน เอโก ธมฺโมติ เอเก. ทุกฺโข ปนสฺส สงฺขารทุกฺขภาวโต จิตฺตํ ปริทหนโต กายสฺส วิหนนโต จ. เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘จิตฺตสฺส จ ปริทหนา, กายสฺส วิหนนโต จ อธิมตฺตํ;

ยํ ทุกฺขมุปายาโส, ชเนติ ทุกฺโข ตโต วุตฺโต’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๘; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๘);

เอตฺถ จ มนฺทคฺคินา อนฺโตภาชเน ปาโก วิย โสโก, ติกฺขคฺคินา ปจฺจมานสฺส ภาชนโต พหิ นิกฺขมนํ วิย ปริเทโว, พหิ นิกฺขนฺตาวเสสสฺส นิกฺขมิตุมฺปิ อปฺปโหนฺตสฺส อนฺโตภาชเนเยว ยาว ปริกฺขยา ปาโก วิย อุปายาโส ทฏฺพฺโพ.

เนรยิกํ ทุกฺขนฺติ นิรเย ปฺจวิธพนฺธนาทิกํ ทุกฺขํ อนฺเวติ, ตํ เทวทูตสุตฺเตน ทีเปตพฺพํ. เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘ชาเยถ โน เจ นรเกสุ สตฺโต, ตตฺถคฺคิทาหาทิกมปฺปสยฺหํ;

ลเภถ ทุกฺขํ นุ กุหึ ปติฏฺํ, อิจฺจาห ทุกฺขาติ มุนีธ ชาติ’’นฺติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๑; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๑);

ติรจฺฉานโยนิกํ ทุกฺขนฺติ ติรจฺฉาเนสุ กสาปโตทตาฬนวิชฺฌนาทิกํ อเนกวิธํ ทุกฺขํ อนฺเวติ, ตํ พาลปณฺฑิตสุตฺตโต คเหตพฺพํ. เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘ทุกฺขํ ติรจฺเฉสุ กสาปโตททณฺฑาภิฆาตาทิภวํ อเนกํ;

ยํ ตํ กถํ ตตฺถ ภเวยฺย ชาตึ, วินา ตหึ ชาติ ตโตปิ ทุกฺขา’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๑; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๑);

เปตฺติวิสยิกํ ทุกฺขนฺติ เปเตสุ ปน ขุปฺปิปาส วาตาตปาทินิพฺพตฺตํ ทุกฺขฺจ โลกนฺตเร ติพฺพนฺธกาเร อสยฺหสีตาทิทุกฺขฺจ อนฺเวติ. เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘เปเตสุ ทุกฺขํ ปน ขุปฺปิปาสาวาตาตปาทิปฺปภวํ วิจิตฺตํ;

ยสฺมา อชาตสฺส น ตตฺถ อตฺถิ, ตสฺมาปิ ทุกฺขํ มุนิ ชาติมาห.

‘‘ติพฺพนฺธกาเร จ อสยฺหสีเต, โลกนฺตเร ยํ อสุเรสุ ทุกฺขํ;

น ตํ ภเว ตตฺถ น จสฺส ชาติ, ยโต อยํ ชาติ ตโตปิ ทุกฺขา’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๑; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๑);

มานุสิกํ ทุกฺขนฺติ มนุสฺเสสุ วธพนฺธนาทิกํ ทุกฺขํ. คพฺโภกฺกนฺติมูลกํ ทุกฺขนฺติ ‘‘อยฺหิ สตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตมาโน น อุปฺปลปทุมปุณฺฑริกาทีสุ นิพฺพตฺตตี’’ติอาทินา นเยน ยํ ชาติทุกฺขํ วุตฺตํ, อิทํ ตาว คพฺโภกฺกนฺติมูลกํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. คพฺเภ ิติมูลกํ ทุกฺขนฺติ ยํ ปน ‘‘โส มาตุ สหสา อุปกฺขลนคมนนิสีทนา’’ติอาทินา นเยน ยํ ติพฺพํ ทุกฺขํ วุตฺตํ, อิทํ คพฺเภ ิติมูลกํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. คพฺภา วุฏฺานมูลกํ ทุกฺขนฺติ ‘‘ยํ ปนสฺส มูฬฺหคพฺภาย มาตุยา มิตฺตามจฺจสุหชฺชาทีหิปิ อทสฺสนารเห ทุกฺขุปฺปตฺติฏฺาเน’’ติอาทินา นเยน ยํ ทุกฺขํ วุตฺตํ, อิทํ มาตุกุจฺฉิโต พหิ นิกฺขนฺตมูลกํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘ยฺจาปิ คูถนรเก วิย มาตุคพฺเภ,

สตฺโต วสํ จิรมโต พหิ นิกฺขมนฺจ;

ปปฺโปติ ทุกฺขมติโฆรมิทมฺปิ นตฺถิ,

ชาตึ วินา อิติปิ ชาติ อยฺหิ ทุกฺขา.

‘‘กึ ภาสิเตน พหุนา นนุ ยํ กุหิฺจิ,

อตฺถีธ กิฺจิรปิ ทุกฺขมิทํ กทาจิ;

เนวตฺถิ ชาติวิรเห ยทโต มเหสิ,

ทุกฺขาติ สพฺพปมํ อิมมาห ชาติ’’นฺติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๑; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๑);

ชาตสฺสูปนิพนฺธกํ ทุกฺขนฺติ ชาตสฺส อุปนิพนฺธนํ นฺหานเลปนขาทนปิวนาทิชคฺคนทุกฺขํ อนฺเวติ. ชาตสฺส ปราเธยฺยกํ ทุกฺขนฺติ ปรสฺส อฺสฺส อายตฺตํ อิสฺสริยทุกฺขํ อนฺเวติ. ‘‘สพฺพํ ปรวสํ ทุกฺข’’นฺติ หิ วุตฺตํ. อตฺตูปกฺกมํ ทุกฺขนฺติ ยํ อตฺตนาว อตฺตานํ วเธนฺตสฺส อเจลกวตาทิวเสน อาตาปนปริตาปนานุโยคมนุยุตฺตสฺส โกธวเสน อภุฺชนฺตสฺส อุพฺพนฺธนฺตสฺส จ ทุกฺขํ โหติ, อิทํ อตฺตูปกฺกมํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. ปรูปกฺกมํ ทุกฺขนฺติ ยํ ปรโต วธพนฺธนาทีนิ อนุภวนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ, อิทํ ปรูปกฺกมํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. ทุกฺขทุกฺขนฺติ กายิกเจตสิกา ทุกฺขา เวทนา สภาวโต จ นามโต จ ทุกฺขตฺตา ทุกฺขทุกฺขํ, อิทํ ทุกฺขทุกฺขํ อนฺเวติ. สงฺขารทุกฺขนฺติ อุเปกฺขาเวทนา เจว อวเสสา จ เตภูมกสงฺขารา อุทยพฺพยปีฬิตตฺตา สงฺขารทุกฺขํ, อิทํ สงฺขารทุกฺขํ อนฺเวติ. วิปริณามทุกฺขนฺติ สุขเวทนา วิปริณามทุกฺขสฺส เหตุโต วิปริณามทุกฺขํ, อิทํ วิปริณามทุกฺขํ อนฺเวติ.

มาตุมรณนฺติ มาตุยา มรณํ. ปิตุมรณนฺติ ปิตุโน มรณํ. ภาตุมรณนฺติ เชฏฺกนิฏฺภาตูนํ มรณํ. ภคินิมรณนฺติ เชฏฺกนิฏฺภคินีนํ มรณํ. ปุตฺตมรณนฺติ ปุตฺตานํ มรณํ. ธีตุมรณนฺติ ธีตูนํ มรณํ. าติพฺยสนํ ทุกฺขนฺติ าตีนํ พฺยสนํ, โจรโรคภยาทีหิ าติกฺขโย, าติวินาโสติ อตฺโถ. เตน าติพฺยสเนน ผุฏฺสฺส อชฺโฌตฺถฏสฺส อภิภูตสฺส อุปฺปนฺนํ ทุกฺขํ าติพฺยสนํ ทุกฺขํ, ตํ าติพฺยสนํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – โภคานํ พฺยสนํ โภคพฺยสนํ, ราชโจราทิวเสน โภคกฺขโย, โภควินาโสติ อตฺโถ. วุตฺตนเยน ตํ โภคพฺยสนํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. โรคพฺยสนนฺติ โรโค เอว พฺยสนํ โรคพฺยสนํ. โรโค หิ อาโรคฺยํ พฺยสติ วินาเสตีติ พฺยสนํ, วุตฺตนเยน ตํ โรคพฺยสนํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. สีลพฺยสนํ ทุกฺขนฺติ สีลสฺส พฺยสนํ สีลพฺยสนํ, ทุสฺสีลฺยสฺเสตํ นามํ. วุตฺตนเยน ตํ สีลพฺยสนํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. สมฺมาทิฏฺึ วินาสยมานา อุปฺปนฺนา ทิฏฺิเยว พฺยสนํ ทิฏฺิพฺยสนํ, วุตฺตนเยน ตํ ทิฏฺิพฺยสนํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. เอตฺถ จ ปุริมานิ ทฺเว อนิปฺผนฺนานิ, ปจฺฉิมานิ ตีณิ นิปฺผนฺนานิ ติลกฺขณาหตานิ. ปุริมานิ จ ตีณิ เนว กุสลานิ นากุสลานิ. สีลทิฏฺิพฺยสนทฺวยํ อกุสลํ.

ยถาติ โอปมฺเม. ภินฺนํ นาวนฺติ สิถิลพนฺธนํ นาวํ, ชชฺชรีภูตํ วา ปทรุคฺฆาฏิมํ วา. ทกเมสินฺติ อุทกทายึ อุทกปฺปเวสนึ. ตโต ตโต อุทกํ อนฺเวตีติ ตโต ตโต ภินฺนฏฺานโต อุทกํ ปวิสติ. ปุรโตปีติ นาวาย ปุริมภาคโตปิ. ปจฺฉโตปีติ ตสฺสา ปจฺฉิมภาคโตปิ. เหฏฺโตปีติ อโธภาคโตปิ. ปสฺสโตปีติ อุภยปสฺสโตปิ. ยํ อนฺตรนฺตรา น วุตฺตํ, ตํ ปาานุสาเรน เวทิตพฺพํ.

ตสฺมา กายคตาสติอาทิภาวนาย ชนฺตุ, สทา สโต หุตฺวา วิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทวเสน รูปาทีสุ วตฺถุกาเมสุ สพฺพปฺปการมฺปิ กิเลสกามํ ปริวชฺเชนฺโต กามานิ ปริวชฺเชยฺย. เอวํ เต กาเม ปหาย ตปฺปหานกรมคฺเคเนว จตุพฺพิธมฺปิ โอฆํ ตเรยฺย ตริตุํ สกฺกุเณยฺย. ตโต ยถา ปุริโส ครุกํ นาวํ อุทกํ สิฺจิตฺวา ลหุกาย นาวาย อปฺปกสิเรเนว ปารคู ภเวยฺย ปารํ คจฺเฉยฺย, เอวเมวํ อตฺตภาวนาวํ กิเลสูทกครุกํ สิฺจิตฺวา ลหุเกน อตฺตภาเวน ปารคู ภเวยฺย. สพฺพธมฺมปารํ นิพฺพานํ คโต ภเวยฺย, อรหตฺตปฺปตฺติยา คจฺเฉยฺย อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพาเนนาติ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ.

ตสฺมาติ ยสฺมา ชาติอาทิกํ ทุกฺขํ เอตํ ปุคฺคลํ อนฺเวติ, ตสฺมา. ตํการณา ตํเหตูติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ยสฺมา วุตฺตปฺปการทุกฺขํ เอตํ อนฺเวติ, ตํเหตุ. ยสฺมา อนฺเวติ ตปฺปจฺจยา, ยสฺมา อนฺเวติ ตํนิทานนฺติ เอวํ ปทโยชนา กาตพฺพา. เหตูติอาทีนิ การณเววจนานิ. การณฺหิ เตน ตสฺส ผลํ หิโนติ ปวตฺตตีติ เหตุ. ตํ ตํ ปฏิจฺจ ผลํ เอติ ปวตฺตตีติ ปจฺจโย. ‘‘หนฺท นํ คณฺหถา’’ติ ทสฺเสนฺตํ วิย อตฺตโน ผลํ นิเทตีติ นิทานํ.

‘‘ตํการณาติ อการณนิกฺการณปฏิเสโธ. ตํเหตูติ อเหตุมหาภูตเหตุปฏิเสโธ. ตปฺปจฺจยาติ อปฺปจฺจเยน สทฺธึ อสาธารณปจฺจยปฏิเสโธ. ตํนิทานาติ อนิทาเนน สห อาคมาธิคมนิทานปฏิเสโธ’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. เอตํ อาทีนวํ สมฺปสฺสมาโนติ เอตํ วุตฺตปฺปการํ อุปทฺทวํ วิปสฺสนาาเณน สมฺมา ปสฺสมาโน ทกฺขมาโน.

สทาติ มูลปทํ. ปุน สทาติ อตฺถปทํ. สทาติ สพฺพทิวเส. สพฺพทาติ สพฺพสฺมึ กาเล. สพฺพกาลนฺติ ปุพฺพณฺหาทิสพฺพกาลํ. นิจฺจกาลนฺติ ทิวเส ทิวเส. ธุวกาลนฺติ อพฺโพจฺฉินฺนกาลํ. สตตนฺติ นิรนฺตรํ. สมิตนฺติ เอกีภูตํ. อพฺโพกิณฺณนฺติ อฺเน อสมฺมิสฺสํ. โปงฺขานุโปงฺขนฺติ ปฏิปาฏิยา ฆฏิตํ ‘‘โปงฺขานุโปงฺขํ อวิราธิตํ อุปฏฺาตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๑๑๑๕) วิย. อุทกูมิกชาตนฺติ นิพฺพตฺตอุทกอูมิตรงฺคํ วิย. อวีจีติ อวิรฬํ. สนฺตตีติ อนุปจฺฉินฺนํ. สหิตนฺติ ฆฏิตํ เอกีภูตํ วา ‘‘สหิตํ เม, อสหิตํ เต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๐๒) วิย. ผสฺสิตนฺติ ผุสิตํ ‘‘นิวาเต ผุสิตคฺคเล’’ติอาทีสุ วิย. ปุเรภตฺตํ ปจฺฉาภตฺตนฺติ ทฺเว ปทานิ ทิวากาลวิภาควเสน. ปุริมํ ยามํ มชฺฌิมํ ยามํ ปจฺฉิมํ ยามนฺติ ตีณิ รตฺติวิภาควเสน. กาเฬ ชุณฺเหติ อฑฺฒมาสวเสน. วสฺเส…เป… คิมฺเหติ ตีณิ อุตุวเสน. ปุริเม วโยขนฺเธ…เป… ปจฺฉิเม วโยขนฺเธติ ตีณิ วโยวิภาควเสน วุตฺตานีติ าตพฺพํ.

สโตติ จตูหิ การเณหิ สโต. ‘‘กาเย กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ ภาเวนฺโต สโต’’ติอาทีนิ ‘‘เอวํ สมุจฺเฉทโต กาเม ปริวชฺเชยฺยา’’ติ ปริโยสานานิ วุตฺตตฺถาเนว. อปิ สตฺตตฺตา สโตติ ตีสุ วตฺถูสุ สตฺตภาเวน วา ตโย กิเลเส ปฏิกฺกมาเปตุํ สตฺติภาเวน วา สตตฺตา สโต. สนฺตตฺตาติ กิเลโสปกฺกิเลเส ปลาเปตฺวา าเนน จ อารมฺมเณน จ ปโมเจตฺวา สนฺตตฺตา สโต. สมิตตฺตาติ อิฏฺผลทายกปุฺเน จ อนิฏฺผลทายกปาเปน จ สมิตตฺตา สโต. สนฺตธมฺมสมนฺนาคโตติ สปฺปุริสธมฺเม ภชนโต พุทฺธาทิอริยปุคฺคเล เสวนโต สนฺตธมฺมสมนฺนาคตตฺตา สโต.

วตฺถุกาเม ปริชานิตฺวาติ เอเต วุตฺตปฺปกาเร เตภูมเก วตฺถุกาเม ตีรณปริฺาย ชานิตฺวา. ปหายาติ กิเลสกาเม ปหานปริฺาย ปริจฺจชิตฺวา. ปชหิตฺวาติ ฉฑฺเฑตฺวา. กึ กจวรํ วิย ปิฏเกนาติ? น หิ, อปิ จ โข ตํ วิโนเทตฺวา ตริตฺวา วิชฺฌิตฺวา นีหริตฺวา. กึ พลิพทฺทมิว ปโตเทนาติ? น หิ, อถ โข ตํ พฺยนฺตึ กริตฺวา วิคตนฺตํ กริตฺวา. ยถาสฺส อนฺโตปิ นาวสิสฺสติ, อนฺตมโส ภงฺคมตฺตมฺปิ, ตถา ตํ กริตฺวา. กถํ ปน ตํ ตถา กตนฺติ? อนภาวํ คเหตฺวา อนุ อภาวํ คเมตฺวา. สมุจฺเฉทปฺปหาเนน ยถา สมุจฺฉินฺนา โหติ, ตถา กริตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. เอส นโย กามจฺฉนฺทนีวรณาทีสุ.

กาโมฆนฺติอาทีสุ ปฺจกามคุณิกราโค อวสีทนฏฺเน ‘‘กาโมโฆ’’ติ วุจฺจติ. ภโวโฆติ รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค ฌานนิกนฺติ จ. ทิฏฺโโฆติ สสฺสตทิฏฺาทิสหคตา ภเว ปตฺถนาเยว, ทิฏฺโโฆ ภโวเฆ เอว สโมธานํ คจฺฉติ. อวิชฺโชโฆ จตูสุ สจฺเจสุ อฺาณํ. ตตฺถ กามคุเณ อสฺสาทโต มนสิ กโรโต อนุปฺปนฺโน จ กาโมโฆ อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน จ กาโมโฆ สํวฑฺฒติ. มหคฺคตธมฺเม อสฺสาทโต มนสิ กโรโต อนุปฺปนฺโน จ ภโวโฆ อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน จ สํวฑฺฒติ. เตภูมกธมฺเมสุ จตุวิปลฺลาสปทฏฺานภาเวน อนุปฺปนฺโน จ อวิชฺโชโฆ อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน จ สํวฑฺฒตีติ เวทิตพฺโพ. วุตฺตนยปจฺจนีกโต สุกฺกปกฺโข วิตฺถาเรตพฺโพ.

อปฺปณิหิตวิโมกฺขํ ปฏิปนฺโน กาโมฆํ, อนิมิตฺตวิโมกฺขํ ปฏิปนฺโน ภโวฆํ, สุฺตวิโมกฺขํ ปฏิปนฺโน อวิชฺโชฆฺจ ตเรยฺย. ปมมคฺควเสน ตเรยฺย, ทุติยมคฺควเสน อุตฺตเรยฺย, ตติยมคฺควเสน ปตเรยฺย, จตุตฺถมคฺควเสน สมติกฺกเมยฺย, ผลวเสน วีติวตฺเตยฺยาติ. อถ วา ‘‘กาโมฆวเสน ตเรยฺย, ภโวฆวเสน อุตฺตเรยฺย, ทิฏฺโฆวเสน ปตเรยฺย, อวิชฺโชฆวเสน สมติกฺกเมยฺย, สพฺโพฆวเสน วีติวตฺเตยฺยา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.

ครุกนฺติ น สลฺลหุกํ. ภาริกนฺติ ภารภณฺฑํ เอตฺถ ปยนฺตีติ ภาริกํ. อุทกํ สิตฺวาติ อุทกํ สิฺจิตฺวา. โอสิฺจิตฺวาติ อติเรกํ สิฺจิตฺวา. ฉฑฺเฑตฺวาติ ปาเตตฺวา. ลหุกายาติ สลฺลหุกาย. ขิปฺปนฺติ สีฆํ. ลหุนฺติ ตํขณํ. อปฺปกสิเรเนวาติ นิทุกฺเขเนว. ปารํ วุจฺจติ อมตํ นิพฺพานนฺติ สกฺกายโอรโต ปารภูตํ ปารํ. ตณฺหาวานโต นิกฺขนฺตํ นิพฺพานํ กถียติ. โยโสติ โย เอโส. สพฺพสงฺขารสมโถติอาทิ สพฺพํ นิพฺพานเมว. ยสฺมา หิ ตํ อาคมฺม สพฺพสงฺขารวิปฺผนฺทิตานิ สมนฺติ วูปสมนฺติ, ตสฺมา ‘‘สพฺพสงฺขารสมโถ’’ติ วุจฺจติ. ยสฺมา เจตํ อาคมฺม สพฺเพ อุปธโย ปฏินิสฺสฏฺา โหนฺติ, สพฺพา ตณฺหา ขียนฺติ, สพฺเพ กิเลสรชฺชา วิรชฺชนฺติ, สพฺพํ ทุกฺขํ นิรุชฺฌติ, ตสฺมา ‘‘สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค, ตณฺหกฺขโย, วิราโค, นิโรโธ’’ติ วุจฺจติ. ยา ปเนสา ตณฺหา ภเวน ภวํ, ผเลน วา สทฺธึ กมฺมํ วินติ สํสิพฺพตีติ กตฺวา วานนฺติ วุจฺจติ, ตโต นิกฺขนฺตํ วานโตติ นิพฺพานํ. ปารํ คจฺเฉยฺย นิมิตฺตวเสน เอกโต วุฏฺานโคตฺรภุาเณน นิพฺพานปารํ ปาปุเณยฺย. อธิคจฺเฉยฺย นิมิตฺตปวตฺเตหิ อุภโตวุฏฺานมคฺคาเณน นิพฺพานปารํ วิเสเสน ปาปุเณยฺย. ผุเสยฺย นิพฺพานารมฺมณผลจิตฺตวเสน นิพฺพานปารํ ผุเสยฺย. สจฺฉิกเรยฺย คุณวเสน ผุสิตฺวา ปจฺจเวกฺขณาเณน นิพฺพานปารํ ปจฺจกฺขํ กเรยฺย. อถ วา ‘‘ปมมคฺเคน ปารํ คจฺเฉยฺย, ทุติเยน อธิคจฺเฉยฺย, ตติเยน ผุเสยฺย, จตุตฺเถน สจฺฉิ กเรยฺยา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. โยปิ ปารํ คนฺตุกาโมติ โย โกจิ วิปสฺสนาาเณ ิโต ปุคฺคโล นิพฺพานปารํ คนฺตุกาโม, โสปิ อวสฺสํ ตตฺถ คมิสฺสตีติ ปารคู. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘โอติณฺโณมฺหิ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหี’’ติอาทิ. ปุพฺพภาเค อชฺฌาสยวเสน วิปสฺสนาโยเคน จ, โสปิ ปารคู นาม. โยปิ ปารํ คจฺฉตีติ โยปิ มคฺคสมงฺคี นิพฺพานปารํ คจฺฉติ, โสปิ ปารคู นาม. โยปิ ปารํ คโตติ โยปิ มคฺเคน กิจฺจํ นิฏฺาเปตฺวา ผเล ิโต นิพฺพานปารงฺคโต, โสปิ ปารคู นาม.

ตํ ชินวจเนน ทสฺเสตุํ ‘‘วุตฺตมฺปิ เหตํ ภควตา – ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ’’ติอาทิมาห. อภิฺาปารคูติ อธิคเตน าเณน าตปริฺาย นิพฺพานปารํ คนฺตุกาโม คจฺฉติ, คโตติ ปารคู. ปริฺาปารคูติ สพฺพธมฺมานํ ตีรณปริฺาย สมติกฺกมิตฺวา วุตฺตนเยน ปารคู. ปหานปารคูติ สมุทยปกฺขิกานํ กิเลสานํ ปหานปริฺาย สมติกฺกมิตฺวา วุตฺตนเยน ปารคู. โย หิ สพฺพธมฺมํ ปริชานาติ, โส ตีหิ ปริฺาหิ ปริชานาติ าตปริฺาย ตีรณปริฺาย ปหานปริฺายาติ. ตตฺถ กตมา าตปริฺา? สพฺพธมฺมํ ชานาติ ‘‘อิเม อชฺฌตฺติกา, อิเม พาหิรา, อิทมสฺส ลกฺขณํ, อิมานิ รสปจฺจุปฏฺานปทฏฺานานี’’ติ, อยํ าตปริฺา. กตมา ตีรณปริฺา? เอวํ าตํ กตฺวา ลพฺภมานวเสน สพฺพธมฺมํ ตีเรติ ‘‘อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๓.๑๒๒), อยํ ตีรณปริฺา. กตมา ปหานปริฺา? เอวํ ตีรยิตฺวา อคฺคมคฺเคน ธมฺเมสุ ฉนฺทราคํ ปชหติ, อยํ ปหานปริฺาติ. อิมา ปริฺาโย สนฺธาย ‘‘โส อภิฺาปารคู ปริฺาปารคู ปหานปารคู’’ติ อาห.

ภาวนาปารคูติ ภาวนาย โกฏึ ปตฺวา มคฺควเสน นิพฺพานปารํ คโต. สจฺฉิกิริยาปารคูติ ผลนิพฺพานวเสน สจฺฉิ กิริยาผลนิพฺพานปารํ คโต. สมาปตฺติปารคูติ อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ ปารํ ปตฺโต. สพฺพธมฺมานนฺติ ปฺจกฺขนฺธาทิสพฺพธมฺมานํ. สพฺพทุกฺขานนฺติ ชาติทุกฺขาทิสพฺพทุกฺขานํ. สพฺพกิเลสานนฺติ กายทุจฺจริตาทิสพฺพกิเลสานํ. อริยมคฺคานนฺติ โสตาปตฺติมคฺคาทิจตุนฺนํ อริยมคฺคานํ. นิโรธสฺสาติ นิพฺพานสฺส. สพฺพสมาปตฺตีนนฺติ สพฺพาสมฺปิ อฏฺนฺนํ รูปารูปสมาปตฺตีนํ. โสติ โส อริโย. วสิปฺปตฺโตติ วสีภาวปฺปตฺโต. อถ วา กนฺตภาวํ อิสฺสริยภาวํ นิปฺผนฺนภาวํ ปตฺโต. ปารมิปฺปตฺโตติ ปารมีติ อวสานํ นิฏฺานํ, อุตฺตมภาวํ วา ตํ ปตฺโต. กตฺถ ปตฺโตติ อาห ‘‘อริยสฺมึ สีลสฺมิ’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อริยสฺมึ สีลสฺมินฺติ นิทฺโทเส สีลสฺมึ. อริยสฺมึ สมาธิสฺมินฺติ นิทฺโทเส สมาธิสฺมึ. อริยาย ปฺายาติ นิทฺโทสาย ปฺาย. อริยาย วิมุตฺติยาติ นิทฺโทสาย ผลวิมุตฺติยา. ปุริเมน วาจากมฺมนฺตาชีวา คหิตา, ทุติเยน วายามสติสมาธโย คหิตา, ตติเยน วิตกฺกสมฺมาทิฏฺิโย คหิตา, จตุตฺเถน ตํสมฺปยุตฺตา เสสธมฺมา คหิตาติ เวทิตพฺพา.

อนฺตคโตติ มคฺเคน สงฺขารโลกนฺตํ คโต. อนฺตปฺปตฺโตติ ตเมว โลกนฺตํ ผเลน ปตฺโต. โกฏิคโตติ มคฺเคน สงฺขารโกฏึ คโต. โกฏิปฺปตฺโตติ ตเมว โกฏึ ผเลน ปตฺโต. ปริยนฺตคโตติ มคฺเคน ขนฺธายตนาทิโลกปริยนฺตํ ปริจฺเฉทํ ปริวฏุมํ กตฺวา คโต. ปริยนฺตปฺปตฺโตติ ตเมว โลกํ ผเลน ปริยนฺตํ กตฺวา ปตฺโต. โวสานคโตติ มคฺเคน อวสานํ คโต. โวสานปฺปตฺโตติ ผเลน อวสานํ ปตฺโต. ตาณคโตติ มคฺเคน ตายนํ คโต. ตาณปฺปตฺโตติ ผเลน ตายนํ ปตฺโต. เลณคโตติ มคฺเคน นิลียนํ คโต. เลณปฺปตฺโตติ ตํ ผเลน นิลียนํ ปตฺโต. สรณคโตติ มคฺเคน ปติฏฺํ คโต. สรณปฺปตฺโตติ ผเลน สรณํ ปตฺโต. อภยคโตติ มคฺเคน นิพฺภยํ คโต. อภยปฺปตฺโตติ ผเลน นิพฺภยํ นิพฺพานํ ปตฺโต. อจฺจุตคโตติ จุติวิรหิตํ นิพฺพานํ มคฺเคน คโต. อจฺจุตปฺปตฺโตติ ตํ ผเลน ปตฺโต. อมตคโตติ มรณรหิตํ นิพฺพานํ มคฺเคน คโต. อมตปฺปตฺโตติ ตํ ผเลน ปตฺโต. นิพฺพานคโตติ ตณฺหาวานโต นิกฺขนฺตํ นิพฺพานํ มคฺเคน คโต. นิพฺพานปฺปตฺโตติ ตเมว ผเลน ปตฺโต. โส วุฏฺวาโสติ โส อรหา ทสสุ อริยวาเสสุ วสิ ปริวสิ วุฏฺโ วุฏฺาติ จ วุฏฺวาโส. จิณฺณจรโณติ สีเลน สห อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ จิณฺณวสีติ จิณฺณจรโณ. คตทฺโธติ สํสารทฺธานํ อติกฺกนฺโต. คตทิโสติ สุปินนฺเตนปิ อคตปุพฺพํ นิพฺพานทิสํ คโต. คตโกฏิโกติ อนุปาทิเสสนิพฺพานโกฏึ คโต หุตฺวา ิโต. ปาลิตพฺรหฺมจริโยติ รกฺขิตพฺรหฺมจริโย. อุตฺตมทิฏฺิปฺปตฺโตติ อุตฺตมํ สมฺมาทิฏฺึ ปตฺโต. ปฏิวิทฺธากุปฺโปติ อกุปฺปํ อจลนํ อรหตฺตผลํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิโต. สจฺฉิกตนิโรโธติ นิโรธํ นิพฺพานํ สจฺฉิกตฺวา ิโต.

ทุกฺขํ ตสฺส ปริฺาตนฺติ ติวิธํ ทุกฺขํ เตน สมติกฺกมิตฺวา ปริจฺฉินฺนํ. อภิฺเยฺยนฺติ สภาวลกฺขณาวโพธวเสน โสภเนน อากาเรน ชานิตพฺพํ. อภิฺาตนฺติ อธิเกน าเณน าตํ. ปริฺเยฺยนฺติ สามฺลกฺขณาวโพธวเสน กิจฺจสมาปนฺนวเสน จ พฺยาปิตฺวา ปริชานิตพฺพํ. ปริฺาตนฺติ สมนฺตโต าตํ. ภาเวตพฺพนฺติ วฑฺเฒตพฺพํ. สจฺฉิกาตพฺพนฺติ ปจฺจกฺขํ กาตพฺพํ. ทุวิธา หิ สจฺฉิกิริยา ปฏิลาภสจฺฉิกิริยา อารมฺมณสจฺฉิกิริยา จาติ.

อุกฺขิตฺตปลิโฆติ เอตฺถ ปลิโฆติ วฏฺฏมูลิกา อวิชฺชา. อยฺหิ ทุกฺขิปนฏฺเน ‘‘ปลิโฆ’’ติ วุจฺจติ. เตเนส ตสฺสา อุกฺขิตฺตตฺตา ‘‘อุกฺขิตฺตปลิโฆ’’ติ วุตฺโต. สํกิณฺณปริโขติ ปริขา วุจฺจติ ปุนพฺภวทายโก ภเวสุ ชายนวเสน เจว สํสรณวเสน จ ‘‘ชาติสํสาโร’’ติ ลทฺธนามานํ ปุนพฺภวกฺขนฺธานํ ปจฺจโย กมฺมาภิสงฺขาโร. โส หิ ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติกรณวเสน ปริกฺขิปิตฺวา ิตตฺตา ‘‘ปริขา’’ติ วุจฺจติ. เตเนส ตสฺสา สํกิณฺณตฺตา วิกิณฺณตฺตา ‘‘สํกิณฺณปริโข’’ติ วุตฺโต. อพฺพูฬฺเหสิโกติ เอสิกาติ วฏฺฏมูลิกา ตณฺหา. อยฺหิ คมฺภีรานุคตฏฺเน ‘‘เอสิกา’’ติ วุจฺจติ. เตเนส ตสฺสา อพฺพูฬฺหตฺตา ลุฺจิตฺวา ฉฑฺฑิตตฺตา ‘‘อพฺพูฬฺเหสิโก’’ติ วุจฺจติ. นิรคฺคโฬติ อคฺคฬํ วุจฺจนฺติ โอรมฺภาคชนกานิ กามภเว อุปฺปตฺติปจฺจยานิ โอรมฺภาคิยานิ. เอตานิ หิ มหากวาฏํ วิย นครทฺวารํ จิตฺตํ ปิทหิตฺวา ิตตฺตา ‘‘อคฺคฬ’’นฺติ วุจฺจนฺติ. เตเนส เตสํ นิรคฺคฬตฺตา ภินฺนตฺตา ‘‘นิรคฺคโฬ’’ติ วุตฺโต. อริโยติ นิกฺกิเลโส ปริสุทฺโธ. ปนฺนทฺธโชติ ปาติตมานทฺธโช. ปนฺนภาโรติ ขนฺธภารกิเลสภารอภิสงฺขารภารปฺจกามคุณภารา ปนฺนา โอโรปิตา อสฺสาติ ปนฺนภาโร. อปิ จ อิธ มานภารสฺเสว โอโรปิตตฺตา ‘‘ปนฺนภาโร’’ติ อธิปฺเปโต. วิสํยุตฺโตติ จตูหิ โยเคหิ สพฺพกิเลเสหิ จ วิสํยุตฺโต. อิธ ปน มานโยเคเนว วิสํยุตฺตตฺตา ‘‘วิสํยุตฺโต’’ติ อธิปฺเปโต.

เอตฺตาวตา เถเรน มคฺเคน กิเลเส เขเปตฺวา นิโรธสยนวรคตสฺส ขีณาสวสฺส นิพฺพานารมฺมณํ ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา วิหรณกาโล ทสฺสิโต. ยถา หิ ทฺเว นครานิ เอกํ โจรนครํ, เอกํ เขมนครํ. อถ เอกสฺส มหาโยธสฺส เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย ‘‘ยาวิมํ โจรนครํ ติฏฺติ, ตาว เขมนครํ ภยโต น มุจฺจติ. โจรนครํ อนครํ กริสฺสามี’’ติ สนฺนาหํ กตฺวา ขคฺคํ คเหตฺวา โจรนครํ อุปสงฺกมิตฺวา นครทฺวาเร อุสฺสาปิเต เอสิกตฺถมฺเภ ขคฺเคน ฉินฺทิตฺวา สทฺธึ ทฺวารพาหาหิ กวาฏํ ภินฺทิตฺวา ปลิฆํ อุกฺขิปิตฺวา ปาการํ ภินฺทนฺโต ปริขํ สํกิริตฺวา นครโสภนตฺถาย อุสฺสาปิเต ธเช ปาเตตฺวา นครํ อคฺคินา ฌาเปตฺวา เขมนครํ ปวิสิตฺวา อุปริปาสาทมารุยฺห าติคณปริวุโต สุรสโภชนํ ภุฺเชยฺย. เอวํ โจรนครํ วิย สกฺกาโย, เขมนครํ วิย นิพฺพานํ, มหาโยโธ วิย โยคาวจโร. ตสฺเสวํ โหติ ‘‘ยาว สกฺกายวฏฺฏํ วฏฺฏติ, ตาว ทฺวตฺตึสกมฺมการเณหิ อฏฺนวุติโรเคหิ ปฺจวีสติมหพฺภเยหิ จ ปริมุจฺจนํ นตฺถี’’ติ. โส มหาโยโธ วิย สนฺนาหํ สีลสนฺนาหํ กตฺวา ปฺาติณฺหขคฺคํ คเหตฺวา ขคฺเคน เอสิกตฺถมฺเภ วิย อรหตฺตมคฺเคน ตณฺเหสิกํ ฉินฺทิตฺวา, โส โยโธ สทฺวารพาหกํ นครกวาฏํ วิย ปฺโจรมฺภาคิยสํโยชนคฺคฬํ อุคฺโฆเฏตฺวา, โส โยโธ ปลิฆํ วิย อวิชฺชาปลิฆํ อุกฺขิปิตฺวา, โส โยโธ ปาการํ ภินฺทนฺโต ปริขํ วิย กมฺมาภิสงฺขารปาการํ ภินฺทนฺโต ชาติสํสารปริขํ สํกิริตฺวา, โส โยโธ นครโสภนตฺถาย อุสฺสาปิเต ธเช วิย มานทฺธเช ปาเตตฺวา สกฺกายนครํ ฌาเปตฺวา, โส โยโธ เขมนครํ ปวิสิตฺวา อุปริปาสาเท สุรสโภชนํ ภุฺชนฺโต วิย นิพฺพานนครํ ปวิสิตฺวา อมตนิโรธารมฺมณํ ผลสมาปตฺติสุขํ อนุภวมาโน กาลํ วีตินาเมติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา (อ. นิ. ๕.๗๑) –

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุกฺขิตฺตปลิโฆ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อวิชฺชา ปหีนา โหติ อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุกฺขิตฺตปลิโฆ โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สํกิณฺณปริโข โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน โปโนภวิโก ชาติสํสาโร ปหีโน โหติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สํกิณฺณปริโข โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อพฺพูฬฺเหสิโก โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตณฺหา ปหีนา โหติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อพฺพูฬฺเหสิโก โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ นิรคฺคโฬ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ โหนฺติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ นิรคฺคโฬ โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อริโย ปนฺนทฺธโช ปนฺนภาโร วิสํยุตฺโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อสฺมิมาโน ปหีโน โหติ อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อริโย ปนฺนทฺธโช ปนฺนภาโร วิสํยุตฺโต โหติ (อ. นิ. ๕.๗๑).

‘‘เอวํ วิมุตฺตจิตฺตํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุํ สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา สปชาปติกา อนฺเวสํ นาธิคจฺฉนฺติ ‘อิทํนิสฺสิตํ ตถาคตสฺส วิฺาณ’’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๔๖).

ปฺจงฺควิปฺปหีโนติ กามจฺฉนฺทาทิปฺจงฺคานิ วิวิเธหิ อุปาเยหิ ปชหิตฺวา ิโต. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน กามจฺฉนฺโท ปหีโน โหติ, พฺยาปาโท ปหีโน โหติ, ถินมิทฺธํ ปหีนํ โหติ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหีนํ โหติ, วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติ. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๔๘, ๓๖๐).

ฉฬงฺคสมนฺนาคโตติ ฉนฺนํ องฺคานํ ปูเรตฺวา ฉสุ ทฺวาเรสุ รูปาทิอารมฺมเณ ปฏิฆานุนยํ วชฺเชตฺวา อุเปกฺขาวเสน สโต สมฺปชาโน หุตฺวา วิหรณวเสน ฉฬงฺคานิ ปูเรตฺวา ปริปุณฺณํ กตฺวา ิตตฺตา ‘‘ฉฬงฺคสมนฺนาคโต’’ติ วุตฺโต. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา, ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา, กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา, มนสา ธมฺมํ วิฺาย เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๔๘, ๓๖๐).

เอการกฺโขติ สติอารกฺเขน เอโก อุตฺตโม อารกฺโข อสฺสาติ เอการกฺโข. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ เอการกฺโข โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สตารกฺเขน เจตสา สมนฺนาคโต วิหรติ. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ เอการกฺโข โหตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๔๘, ๓๖๐).

จตุราปสฺเสโนติ ปฺาย ปฏิเสวนปริวชฺชนวิโนทนปชหนานํ วเสน จตุนฺนํ อปสฺสยานํ อิโต จิโต จ อปริวตฺตมานานํ วเสน จตุราปสฺเสโน, เตสํ ปาปุณิตฺวา ิโต. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ จตุราปสฺเสโน โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สงฺขาเยกํ ปฏิเสวติ, สงฺขาเยกํ ปริวชฺเชติ. สงฺขาเยกํ วิโนเทติ, สงฺขาเยกํ ปชหตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๓๔๘, ๓๖๐) นเยน วิตฺถาเรตพฺพํ.

ปณุนฺนปจฺเจกสจฺโจติ ‘‘อิทเมว ทสฺสนํ สจฺจํ, อิทเมว สจฺจ’’นฺติ เอวํ ปาฏิเอกฺกํ คหิตตฺตา ปจฺเจกสงฺขาตานิ ทิฏฺิสจฺจานิ ปณุนฺนานิ นิหฏานิ ปหีนานิ อสฺสาติ ปณุนฺนปจฺเจกสจฺโจ.

สมวยสฏฺเสโนติ เอตฺถ อวยาติ อนูนา. สฏฺาติ วิสฺสฏฺา. สมฺมา อวยา สฏฺา เอสนา อสฺสาติ สมวยสฏฺเสโน. สมฺมา วิสฺสฏฺสพฺพเอสโนติ อตฺโถ. เกวลีติ ปริปุณฺโณ. วุสิตวาติ วุสิตพฺรหฺมจริโย, ครุสํวาเส อริยมคฺเคปิ ทสสุ อริยวาเสสุปิ วุสิตวนฺโต. อุตฺตมปุริโสติ ขีณกิเลสตฺตา วิเสสปุริโส อาชฺปุริโส. ปรมปุริโสติ อุตฺตมปุริโส, ปรมํ วา ปฏิลาภํ ปตฺตตฺตา อุตฺตมํ ปตฺตพฺพํ อรหตฺตปฏิลาภํ ปตฺโต อนุตฺตรปุฺกฺเขตฺตภูโต อุตฺตมปุริโส, เตเนวตฺเถน ปรมปุริโส. อนุตฺตรํ สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตุํ อมตํ ปฏิลาภํ ปตฺตตฺตา ปรมปตฺติปฺปตฺโต. อถ วา ‘‘ฆราวาเส อาทีนวํ สฺชานิตฺวา สาสนปวิสนวเสน อุตฺตมปุริโส. อตฺตภาเว อาทีนวํ สฺชานิตฺวา วิปสฺสนาปวิสนวเสน ปรมปุริโส. กิเลเส อาทีนวํ สฺชานิตฺวา อริยภูมนฺตรํ ปวิฏฺโ ปรมปตฺติปฺปตฺโตติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.

เนวาจินตีติ กุสลากุสลานํ ปหีนตฺตา เตสํ วิปากํ น วฑฺเฒติ. นาปจินตีติ ผเล ิตตฺตา น วิทฺธํเสติ. อปจินิตฺวา ิโตติ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปหาเน ิตตฺตา กิเลเส วิทฺธํเสตฺวา ิโต. อิโต ปรํ ตีหิปิ ปเทหิ มคฺคผลวเสเนว โยเชตพฺพํ. เนว ปชหตีติ ปหาตพฺพาภาเวน กิเลเส น ปชหติ. น อุปาทิยตีติ ตณฺหามานทิฏฺีหิ คเหตพฺพาภาวโต เตหิ น คณฺหาติ. ปชหิตฺวา ิโตติ จชิตฺวา ิโต. เนว สํสิพฺพตีติ ตณฺหาวเสน เนว สํสิพฺพติ. น อุสฺสิเนตีติ มานวเสน น อุกฺกํสติ. วิสินิตฺวา ิโตติ ตณฺหาสํสีวนํ อกตฺวา ิโตติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. เนว วิธูเปตีติ กิเลสคฺคึ น นิพฺพาเปติ. น สนฺธูเปตีติ กิเลสคฺคึ น ชาลาเปติ. วิธูเปตฺวา ิโตติ ตํ นิพฺพาเปตฺวา ิโต.

อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธนาติ สิกฺขิตพฺพาภาเวน อเสกฺเขน วาจากมฺมนฺตาชีวสีลกฺขนฺเธน สีลราสินา สมนฺนาคตตฺตา ิโต, อปริหีนภาเวน ิโต. สมาธิกฺขนฺเธนาติ วายามสตีหิ สมฺปยุตฺเตน สมาธินา. วิมุตฺติกฺขนฺเธนาติ ผลวิมุตฺติสมฺปยุตฺตกฺขนฺเธน. วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธนาติ ปจฺจเวกฺขณาเณน. สจฺจํ สมฺปฏิปาทิยิตฺวาติ จตุอริยสจฺจํ สภาววเสน สกสนฺตาเน สมฺปาทิยิตฺวา ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิโต. เอชํ สมติกฺกมิตฺวาติ กมฺปนตณฺหํ อติกฺกมิตฺวา. กิเลสคฺคินฺติ ราคาทิกิเลสคฺคึ. ปริยาทิยิตฺวาติ เขเปตฺวา นิพฺพาเปตฺวา. อปริคมนตายาติ สํสาเร อคมนภาเวน ปุนาคมนาภาเวนาติ อตฺโถ. กฏํ สมาทายาติ ชยคฺคาหํ คเหตฺวา. มุตฺติปฏิเสวนตายาติ สพฺพกิเลเสหิ มุจฺจิตฺวา รูปาทิอารมฺมณเสวนวเสน. อถ วา สพฺพกิเลเสหิ มุตฺตผลสมาปตฺติเสวนวเสน. เมตฺตาย ปาริสุทฺธิยาติ อุปกฺกิเลสมุตฺตาย ปริสุทฺธภาเว ิตาย เมตฺตาย ิโต. กรุณาทีสุปิ เอเสว นโย.

อจฺจนฺตปาริสุทฺธิยาติ อติกฺกนฺตปริสุทฺธภาเวน ปริสุทฺธิยา อนฺตํ ปาปุณิตฺวา ิโต. อตมฺมยตายาติ ตณฺหาทิฏฺิมานา ‘‘ตมฺมยา’’ติ วุจฺจนฺติ. เตสํ อภาโว อตมฺมยตา, ตาย ตณฺหาทิฏฺิมานวิรหิตตาย ิโต. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘โส ตาทิโส โลกวิทู สุเมโธ, สพฺเพสุ ธมฺเมสุ อตมฺมโย มุนี’’ติ (อ. นิ. ๓.๔๐). เอตฺถาปิ ตณฺหามานทิฏฺิวิรหิโตติ อตฺโถ. วิมุตฺตตฺตาติ สพฺพกิเลเสหิ มุตฺตภาเวน. สนฺตุสฺสิตตฺตาติ ยถาลาภยถาพลยถาสารุปฺปสนฺโตสวเสน สนฺตุฏฺภาเวน ิโต.

ขนฺธปริยนฺเตติ เอกจตุปฺจกฺขนฺธานํ ตีหิ ปริฺคฺคีหิ ฌาเปตฺวา อนฺเต อวสาเน ิโต, นตฺถิ เอตสฺส อนฺโตติ วา ปริยนฺตํ, ตสฺมึ ปริยนฺเต. ธาตุปริยนฺตาทีสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – ธาตุปริยนฺเตติ อฏฺารสนฺนํ ธาตูนํ ปริยนฺเต. อายตนปริยนฺเตติ ทฺวาทสนฺนํ อายตนานํ. คติปริยนฺเตติ นิรยาทิปฺจนฺนํ คตีนํ. อุปปตฺติปริยนฺเตติ สุคติทุคฺคตีสุ นิพฺพตฺติยา. ปฏิสนฺธิปริยนฺเตติ กามรูปารูปภเวสุ ปฏิสนฺธิยา. ภวปริยนฺเตติ เอกโวการจตุปฺจสฺาอสฺาเนวสฺานาสฺากามรูปอรูปภวานํ. สํสารปริยนฺเตติ ขนฺธธาตุอายตนานํ อพฺโพจฺฉินฺนปวตฺติยา. วฏฺฏปริยนฺเตติ กมฺมวิปากกิเลสวฏฺฏานํ ปริยนฺเต. อนฺติเม ภเวติ อวสาเน อุปปตฺติภเว. อนฺติเม สมุสฺสเย ิโตติ อวสาเน สมุสฺสเย สรีเร ิโต. อนฺติมเทหธโรติ อนฺติมํ อวสานเทหํ สรีรํ ธาเรตีติ อนฺติมเทหธโร. อรหาติ อารกตฺตา อรีนํ, อรานฺจ หตตฺตา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวา อรหา.

ตสฺสายํ ปจฺฉิมโกติ ตสฺส ขีณาสวสฺส อยํ สมุสฺสโย อตฺตภาโว อวสาโน. จริโมติ อปฺโป มนฺโท จริโม อาโลโป, จริมํ กพฬํ วิย. ปุน ปฏิสนฺธิยา นตฺถิภาวํ สนฺธาย ‘‘ชาติมรณสํสาโร, นตฺถิ ตสฺส ปุนพฺภโว’’ติ อาห. ชนนํ ชาติ, มรนฺติ เตนาติ มรณํ, ขนฺธาทีนํ อพฺโพจฺฉินฺนา สํสารปวตฺติ จ ตสฺส ขีณาสวสฺส ปุน นตฺถีติ วุตฺตํ คาถํ นิคเมนฺโต อาห เตนาห ภควา

‘‘ตสฺมา ชนฺตุ…เป… นาวํ สิตฺวาว ปารคู’’ติ.

อิมสฺมึ สุตฺเต ยํ อนฺตรนฺตรา น วุตฺตํ, ตํ ปาานุสาเรน คเหตพฺพํ.

สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย

กามสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. คุหฏฺกสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา

. ทุติเย สตฺโตติ ลคฺโค. คุหายนฺติ กาเย. กาโย หิ ราคาทีนํ วาฬานํ วสโนกาสโต ‘‘คุหา’’ติ วุจฺจติ. พหุนาภิฉนฺโนติ พหุนา ราคาทิกิเลสชาเตน อภิจฺฉนฺโน. เอเตน อชฺฌตฺตพนฺธนํ วุตฺตํ. ติฏฺนฺติ ราคาทิวเสน ติฏฺนฺโต. โมหนสฺมึ ปคาฬฺโหติ โมหนํ วุจฺจติ กามคุโณ. เอตฺถ หิ เทวมนุสฺสา มุยฺหนฺติ เตสุ อชฺโฌคาฬฺหา หุตฺวา; เอเตน พาหิรพนฺธนํ วุตฺตํ. ทูเร วิเวกา หิ ตถาวิโธ โสติ โส ตถารูโป นโร ติวิธาปิ กายวิเวกาทิวิเวกา ทูเร, อนาสนฺเน. กึการณา? กามา หิ โลเก น หิ สุปฺปหายาติ ยสฺมา โลเก กามา สุปฺปหายา น โหนฺติ, ตสฺมาติ วุตฺตํ โหติ.

สตฺโตติ หิ โข วุตฺตนฺติ ‘‘สตฺโต, นโร, มานโว’’ติ เอวมาทินา นเยน กถิโตเยว. คุหา ตาว วตฺตพฺพาติ คุหา ตาว กเถตพฺพา. กาโยติ วาติอาทีสุ อยํ ตาว ปทโยชนา – กาโย อิติ วา คุหา อิติ วา…เป… กุมฺโภ อิติ วาติ. ตตฺถ กาโยติ ‘‘กุจฺฉิตานํ อาโยติ กาโย’’ติอาทินา เหฏฺา สติปฏฺานกถายํ วุตฺโตเยว. ราคาทิวาฬานํ วสโนกาสฏฺเน คุหา, ‘‘ปฏิจฺฉาทนฏฺเนา’’ติปิ เอเก. ‘‘ทูรงฺคมํ เอกจรํ, อสรีรํ คุหาสย’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๓๗) วิย. ราคาทีหิ ฌาปนฏฺเน เทโห ‘‘เต หิตฺวา มานุสํ เทห’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๓๒ โถกํ วิสทิสํ) วิย. ปมตฺตกรณฏฺเน สนฺเทโห ‘‘ภิชฺชติ ปูติสนฺเทโห, มรณนฺตฺหิ ชีวิต’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๔๘) วิย. สํสาเร สฺจรณฏฺเน นาวา ‘‘สิฺจ ภิกฺขุ อิมํ นาวํ, สิตฺตา เต ลหุเมสฺสตี’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๓๖๙) วิย. อิริยาปถสฺส อตฺถิภาวฏฺเน รโถ ‘‘รโถ สีลปริกฺขาโร, ฌานกฺโข จกฺกวีริโย’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๔) วิย. อจฺจุคฺคตฏฺเน ธโช ‘‘ธโช รถสฺส ปฺาณ’’นฺติอาทีสุ (ชา. ๒.๒๒.๑๘๔๑) วิย.

กิมิกุลานํ อาวาสภาเวน วมฺมิโก ‘‘วมฺมิโกติ โข, ภิกฺขุ, อิมสฺเสตํ จาตุมหาภูติกสฺส กายสฺส อธิวจน’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๕๑) วิย. ยเถว หิ พาหิรโก วมฺมิโก, วมติ วนฺตโก วนฺตุสฺสโย วนฺตสิเนหสมฺพทฺโธติ จตูหิ การเณหิ ‘‘วมฺมิโก’’ติ วุจฺจติ. โส หิ อหินกุลอุนฺทูรฆรโคฬิกาทโย นานปฺปกาเร ปาณเก วมตีติ วมฺมิโก. อุปจิกาหิ วนฺตโกติ วมฺมิโก. อุปจิกาหิ วมิตฺวา มุขตุณฺฑเกหิ อุกฺขิตฺตปํสุจุณฺเณน กฏิปฺปมาเณนปิ โปริสปฺปมาเณนปิ อุสฺสิโตติ วมฺมิโก. อุปจิกาหิ วนฺตเขฬสิเนเหน อาพทฺธตาย สตฺตสตฺตาหํ เทเว วสฺสนฺเตปิ น วิปฺปกิรียติ, นิทาเฆปิ ตโต ปํสุมุฏฺึ คเหตฺวา ตสฺมึ มุฏฺินา ปีฬิยมาเน สิเนโห นิกฺขมติ, เอวํ วนฺตสิเนเหน สมฺพทฺโธติ วมฺมิโก. เอวมยํ กาโยปิ ‘‘อกฺขิมฺหา อคฺคิคูถโก’’ติอาทินา นเยน นานปฺปการํ อสุจิกลิมลํ วมตีติ วมฺมิโก. พุทฺธปจฺเจกพุทฺธขีณาสวา อิมสฺมึ อตฺตภาเว นิกนฺติปริยาทาเนน อตฺตภาวํ ฉฑฺเฑตฺวา คตาติ อริเยหิ วนฺตโกติปิ วมฺมิโก. เยหิ จายํ ตีหิ อฏฺิสเตหิ อุสฺสิโต นหารุสมฺพทฺโธ มํสาวเลปโน อลฺลจมฺมปริโยนทฺโธ ฉวิรฺชิโต สตฺเต วฺเจติ, ตํ สพฺพํ อริเยหิ วนฺตเมวาติ วนฺตุสฺสโยติปิ วมฺมิโก. ‘‘ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ, จิตฺตมสฺส วิธาวตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๕๕-๕๗) เอวํ ตณฺหาย ชนิตตฺตา อริเยหิ วนฺเตเนว ตณฺหาสิเนเหน สมฺพทฺโธ อยนฺติ วนฺตสิเนเหน สมฺพทฺโธติปิ วมฺมิโก. ยถา จ วมฺมิกสฺส อนฺโต นานปฺปการา ปาณกา ตตฺเถว ชายนฺติ, อุจฺจารปสฺสาวํ กโรนฺติ, คิลานา สยนฺติ, มตา นิปตนฺติ. อิติ โส เตสํ สูติฆรํ วจฺจกุฏิ คิลานสาลา สุสานฺจ โหติ. เอวํ ขตฺติยมหาสาลาทีนมฺปิ กาโย ‘‘อยํ โคปิตรกฺขิโต มณฺฑิตปสาทิโต มหานุภาวานํ กาโย’’ติ อจินฺเตตฺวา ฉวินิสฺสิตา ปาณา จมฺมนิสฺสิตา ปาณา มํสนิสฺสิตา ปาณา นหารุนิสฺสิตา ปาณา อฏฺินิสฺสิตา ปาณา อฏฺิมิฺชนิสฺสิตา ปาณาติ เอวํ กุลคณนาย อสีติมตฺตานิ กิมิกุลสหสฺสานิ อนฺโตกายสฺมึเยว ชายนฺติ, อุจฺจารปสฺสาวํ กโรนฺติ, เคลฺเน อาตุริตานิ สยนฺติ, มตามตา นิปตนฺติ. อิติ อยมฺปิ เตสํ ปาณานํ สูติฆรํ วจฺจกุฏิ คิลานสาลา สุสานฺจ โหตีติ ‘‘วมฺมิโก’’ติ สงฺขํ คโต.

มนาปามนาปปตนฏฺเน นครํ ‘‘สกฺกายนคร’’นฺติอาทีสุ วิย. โรคาทีนํ นีฬภาเวน กุลาวกภาเวน นีฬํ ‘‘โรคนีฬํ ปภงฺคุร’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๔๘) วิย. ปฏิสนฺธิยา นิวาสเคหฏฺเน กุฏิ ‘‘ปฺจทฺวารายํ กุฏิกายํ ปสกฺกิยา’’ติอาทีสุ (เถรคา. ๑๒๕) วิย. ปูติภาเวน คณฺโฑ ‘‘โรโคติ ภิกฺขเว, คณฺโฑติ ภิกฺขเว, สลฺโลติ ภิกฺขเว, กายสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๙.๑๕) วิย. ภิชฺชนฏฺเน กุมฺโภ ‘‘กุมฺภูปมํ กายมิมํ วิทิตฺวา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๔๐) วิย. กายสฺเสตํ อธิวจนนฺติ เอตํ วุตฺตปฺปการํ จตุมหาภูตมยสฺส กุจฺฉิตธมฺมานํ อายสฺส อธิวจนํ, กถนนฺติ อตฺโถ. คุหายนฺติ สรีรสฺมึ. สตฺโตติ อลฺลีโน. วิสตฺโตติ วณฺณราคาทิวเสน วิวิโธ อลฺลีโน. สณฺานราควเสน อาสตฺโต. ตตฺเถว ‘‘สุภํ สุข’’นฺติ คหณวเสน ลคฺโค. อตฺตคฺคหณวเสน ลคฺคิโต. ปลิพุทฺโธติ ผสฺสราควเสน อมุฺจิตฺวา ิโต. ภิตฺติขิเลติ ภิตฺติยํ อาโกฏิตขาณุเก. นาคทนฺเตติ ตเถว หตฺถิทนฺตสทิเส วงฺกทณฺฑเก. สตฺตนฺติ ภิตฺติขิเล ลคฺคํ. วิสตฺตนฺติ นาคทนฺเต ลคฺคํ. อาสตฺตนฺติ จีวรวํเส ลคฺคํ. ลคฺคนฺติ จีวรรชฺชุยา ลคฺคํ. ลคฺคิตนฺติ ปีปาเท ลคฺคํ. ปลิพุทฺธนฺติ มฺจปาเท ลคฺคนฺติ เอวมาทินา นเยน โยเชตพฺพํ.

ลคฺคนาธิวจนนฺติ วิเสเสน อลฺลียนกถนํ. ฉนฺโนติ วุตฺตปฺปกาเรหิ กิเลเสหิ ฉาทิโต. ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติวเสน อุปรูปริ ฉนฺโนติ อุจฺฉนฺโน. อาวุโตติ อาวริโต. นิวุโตติ วาริโต. โอผุโตติ อวตฺถริตฺวา ฉาทิโต. ปิหิโตติ ภาชเนน อุกฺขลิมุขํ วิย ปลิคุณฺิโต. ปฏิจฺฉนฺโนติ อาวโฏ. ปฏิกุชฺชิโตติ อโธมุขํ ปิโต. ตตฺถ ติณปณฺณาทีหิ ฉาทิตํ วิย ฉนฺโน. อุจฺฉนฺโน นทึ อาวรณเสตุ วิย. อาวุโต ชนสฺจรณมคฺคาวรณํ วิย.

วินิพทฺโธ มานวเสนาติ นานาวิเธน มานาติมานวเสน นานาวิเธ อารมฺมเณ พทฺโธ หุตฺวา ติฏฺติ. ปรามฏฺโ ทิฏฺิวเสนาติ ทฺวาสฏฺิทิฏฺีนํ วเสน ปรามฏฺโ อามสิตฺวา คหิโต. วิกฺเขปคโต อุทฺธจฺจวเสนาติ อารมฺมเณ อสนฺติฏฺนวเสน จิตฺตวิกฺเขปํ ปตฺโต อุปคโต. อนิฏฺงฺคโต วิจิกิจฺฉาวเสนาติ รตนตฺตยาทีสุ กงฺขาสงฺขาตาย วิจิกิจฺฉาย วเสน สนฺนิฏฺานํ อปฺปตฺโต. ถามคโต อนุสยวเสนาติ ทุนฺนีหรณอปฺปหีนานุสยวเสน ถิรภาวํ ปตฺโต อุปคโต หุตฺวา ติฏฺติ.

รูปูปยนฺติ ตณฺหาทิฏฺูปยวเสน รูปํ อุปคนฺตฺวา อารมฺมณํ กตฺวา. วิฺาณํ ติฏฺมานํ ติฏฺตีติ ตสฺมึ อารมฺมเณ รูปารมฺมณํ วิฺาณํ ติฏฺนฺตํ ติฏฺติ. รูปารมฺมณํ รูปปติฏฺนฺติ รูปเมว อารมฺมณํ อาลมฺพิตฺวา รูปเมว ปติฏฺํ กตฺวา. นนฺทูปเสจนนฺติ สปฺปีติกตณฺโหทเกน อาสิตฺตํ วิฺาณํ. วุทฺธินฺติ วุทฺธิภาวํ. วิรูฬฺหินฺติ ชวนวเสน อุปริโต วิรูฬฺหิภาวํ. เวปุลฺลนฺติ ตทารมฺมณวเสน เวปุลฺลํ.

อตฺถิ ราโคติอาทีนิ โลภสฺเสว นามานิ. โส หิ รฺชนวเสน ราโค, นนฺทนวเสน นนฺที, ตณฺหายนวเสน ตณฺหาติ วุจฺจติ. ปติฏฺิตํ ตตฺถ วิฺาณํ วิรูฬฺหนฺติ กมฺมํ ชวาเปตฺวา ปฏิสนฺธิอากฑฺฒนสมตฺถตาย ปติฏฺิตฺเจว วิรูฬฺหฺจ. ยตฺถาติ เตภูมกวฏฺเฏ ภุมฺมํ. สพฺพตฺถ วา ปุริมปเท เอตํ ภุมฺมํ. อตฺถิ ตตฺถ สงฺขารานํ วุทฺธีติ อิทํ อิมสฺมึ วิปากวฏฺเฏ ิตสฺส อายตึ วฏฺฏเหตุเก สงฺขาเร สนฺธาย วุตฺตํ. ยตฺถ อตฺถิ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺตีติ ยสฺมึ าเน อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ อตฺถิ. ตตฺถ ปุริมสุตฺตํ รูปาทิอารมฺมณลคฺคนวเสน วุตฺตํ, ทุติยสุตฺตํ ตเทวารมฺมณํ อภินนฺทนวเสน วุตฺตํ, ตติยํ วิฺาณปติฏฺานวเสน วุตฺตํ, จตุตฺถํ จตุพฺพิธอาหารวเสน, กุสลากุสลวิฺาณปติฏฺานวเสน วุตฺตนฺติ าตพฺพํ.

เยภุยฺเยนาติ ปาเยน. มุยฺหนฺตีติ โมหํ อาปชฺชนฺติ. สมฺมุยฺหนฺตีติ วิเสเสน มุยฺหนฺติ. สมฺปมุยฺหนฺตีติ สพฺพากาเรน มุยฺหนฺติ. อถ วา รูปารมฺมณํ ปฏิจฺจ มุยฺหนฺติ, สทฺทารมฺมณํ ปฏิจฺจ สมฺมุยฺหนฺติ, มุตารมฺมณํ ปฏิจฺจ สมฺปมุยฺหนฺติ. อวิชฺชาย อนฺธีกตาติ อฏฺสุ าเนสุ อฺาณาย อวิชฺชาย อนฺธีกตา. ‘‘คตา’’ติ วา ปาโ, อนฺธภาวํ อุปคตาติ อตฺโถ. ปคาฬฺโหติ ปวิฏฺโ. โอคาฬฺโหติ เหฏฺาภาคํ ปวิฏฺโ. อชฺโฌคาฬฺโหติ อธิโอคาหิตฺวา อวตฺถริตฺวา วิเสเสน ปวิฏฺโ นิมุคฺโคติ อโธมุขํ หุตฺวา ปวิฏฺโ. อถ วา ทสฺสนสํสคฺเคน โอคาฬฺโห. สวนสํสคฺเคน อชฺโฌคาฬฺโห. วจนสํสคฺเคน นิมุคฺโค. สปฺปุริสสํสคฺควิรหิโต วา โอคาฬฺโห. สทฺธมฺมเสวนวิรหิโต วา อชฺโฌคาฬฺโห. ธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺติวิรหิโต วา นิมุคฺโค.

วิเวกาติ วิวิตฺติ, วิวิจฺจนํ วา วิเวโก. ตโยติ คณนปริจฺเฉโท. กายวิเวโกติ กาเยน วิวิตฺติ, วินา อปสกฺกนํ. จิตฺตวิเวกาทีสุปิ เอเสว นโย. อิธ ภิกฺขูติ อิมสฺมึ สาสเน. สํสาเร ภยํ อิกฺขนโต ภิกฺขุ. วิวิตฺตนฺติ สุฺํ, อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสนฺติ อตฺโถ. เอตเทว หิ สนฺธาย วิภงฺเค ‘‘วิวิตฺตนฺติ สนฺติเก เจปิ เสนาสนํ โหติ, ตฺจ อนากิณฺณํ คหฏฺเหิ ปพฺพชิเตหิ, เตน ตํ วิวิตฺต’’นฺติ (วิภ. ๕๒๖) วุตฺตํ. เสติ เจว อาสติ จ เอตฺถาติ เสนาสนํ, มฺจปีาทีนเมตมธิวจนํ. เตนาห –

‘‘เสนาสนนฺติ มฺโจปิ เสนาสนํ, ปีมฺปิ… ภิสิปิ… พิพฺโพหนมฺปิ… วิหาโรปิ… อฑฺฒโยโคปิ… ปาสาโทปิ… อฏฺโฏปิ… มาโฬปิ… เลณมฺปิ… คุหาปิ… รุกฺขมูลมฺปิ… เวฬุคุมฺโพปิ… ยตฺถ วา ปน ภิกฺขู ปฏิกฺกมนฺติ, สพฺพเมตํ เสนาสน’’นฺติ (วิภ. ๕๒๗).

อปิ จ วิหาโร อฑฺฒโยโค ปาสาโท หมฺมิยํ คุหาติ อิทํ วิหารเสนาสนํ นาม. มฺโจ ปีํ ภิสิ พิพฺโพหนนฺติ อิทํ มฺจปีเสนาสนํ นาม. จิมิลิกา จมฺมขณฺโฑ ติณสนฺถาโร ปณฺณสนฺถาโรติ อิทํ สนฺถตเสนาสนํ นาม. ยตฺถ วา ปน ภิกฺขู ปฏิกฺกมนฺติ, อิทํ โอกาสเสนาสนํ นามาติ เอวํ จตุพฺพิธํ เสนาสนํ โหติ. ตํ สพฺพมฺปิ เสนาสนคฺคหเณน คหิตเมว.

อิธ ปนสฺส สกุณสทิสสฺส จาตุทฺทิสสฺส ภิกฺขุโน อนุจฺฉวิกเสนาสนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อรฺํ รุกฺขมูล’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อรฺนฺติ ‘‘นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ (วิภ. ๕๒๙) อิทํ ภิกฺขุนีนํ วเสน อาคตํ. ‘‘อารฺกํ นาม เสนาสนํ ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปารา. ๖๕๔) อิทํ ปน อิมสฺส ภิกฺขุโน อนุรูปํ. ตสฺส ลกฺขณํ วิสุทฺธิมคฺเค ธุตงฺคนิทฺเทเส (วิสุทฺธิ. ๑.๓๑) วุตฺตํ. รุกฺขมูลนฺติ ยํกิฺจิ สนฺตจฺฉายํ วิวิตฺตํ รุกฺขมูลํ. ปพฺพตนฺติ เสลํ. ตตฺถ หิ อุทกโสณฺฑีสุ อุทกกิจฺจํ กตฺวา สีตาย รุกฺขจฺฉายาย นิสินฺนสฺส นานาทิสาสุ ขายมานาสุ สีเตน วาเตน พีชิยมานสฺส จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. กนฺทรนฺติ กํ วุจฺจติ อุทกํ, เตน ทาริตํ, อุทเกน ภินฺนํ ปพฺพตปเทสํ. ยํ ‘‘นทีตุมฺพ’’นฺติปิ ‘‘นทีกุฺช’’นฺติปิ วทนฺติ. ตตฺถ หิ รชตปฏฺฏสทิสา วาลุกา โหติ, มตฺถเก มณิวิตานํ วิย วนคหนํ, มณิขนฺธสทิสํ อุทกํ สนฺทติ. เอวรูปํ กนฺทรํ โอรุยฺห ปานียํ ปิวิตฺวา คตฺตานิ สีตานิ กตฺวา วาลุกํ อุสฺสาเปตฺวา ปํสุกูลจีวรํ ปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส สมณธมฺมํ กโรโต จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. คิริคุหนฺติ ทฺวินฺนํ ปพฺพตานํ อนฺตรํ, เอกสฺมึเยว วา อุมงฺคสทิสํ มหาวิวรํ. สุสานลกฺขณํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๓๔) วุตฺตํ.

วนปตฺถนฺติ คามนฺตํ อติกฺกมิตฺวา มนุสฺสานํ อนุปจารฏฺานํ ยตฺถ น กสนฺติ น วปนฺติ. เตเนวาห ‘‘วนปตฺถนฺติ ทูรานเมตํ เสนาสนานํ อธิวจน’’นฺติอาทิ (วิภ. ๕๓๑). อพฺโภกาสนฺติ อจฺฉนฺนํ. อากงฺขมาโน ปเนตฺถ จีวรกุฏึ กตฺวา วสติ. ปลาลปุฺชนฺติ ปลาลราสึ. มหาปลาลปุฺชโต หิ ปลาลํ นิกฺกฑฺฒิตฺวา ปพฺภารเลณสทิเส อาลเย กโรนฺติ, คจฺฉคุมฺพาทีนมฺปิ อุปริ ปลาลํ ปกฺขิปิตฺวา เหฏฺา นิสินฺนา สมณธมฺมํ กโรนฺติ. สพฺพเมตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘กาเยน วิวิตฺโต วิหรตี’’ติอาทิ. เอโก จงฺกมํ อธิฏฺาติ ปวตฺตยตีติ วุตฺตํ โหติ. อิริยตีติ อิริยาปถํ วตฺตยติ. วตฺตตีติ อิริยาปถวุตฺตึ อุปฺปาเทติ. ปาเลตีติ อิริยาปถํ รกฺขติ. ยเปตีติ ยปยติ. ยาเปตีติ ยาปยติ.

ปมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺสาติ กุสลชฺฌานสมงฺคิสฺส. นีวรเณหิ จิตฺตํ วิวิตฺตนฺติ อุปจาเรน นีวรเณหิ วิวิตฺตมฺปิ สมานํ อนฺโตอปฺปนายํ สุฏฺุ วิวิตฺตํ นาม โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส นีวรเณหิ จิตฺตํ วิวิตฺตํ โหตี’’ติ วุตฺตํ. เอเสว นโย วิตกฺกวิจารปีติสุขทุกฺเขหิ ทุติยตติยจตุตฺถชฺฌานานิ สมาปนฺนานนฺติ. รูปสฺายาติ กุสลวิปากกิริยวเสน ปฺจทสนฺนํ รูปาวจรชฺฌานานํ สฺาย. ปฏิฆสฺายาติ จกฺขุรูปาทิสงฺฆฏฺฏเนน อุปฺปนฺนาย กุสลากุสลวิปากวเสน ทฺวิปฺจวิฺาณสงฺขาตาย ปฏิฆสฺาย จ. นานตฺตสฺายาติ นานารมฺมเณ ปวตฺตาย จตุจตฺตาลีสกามาวจรสฺาย จ จิตฺตํ วิวิตฺตํ โหติ สุฺํ โหติ.

อากาสานฺจายตนํ สมาปนฺนสฺสาติ เอตฺถ นาสฺส อนฺโตติ อนนฺตํ, อากาสํ อนนฺตํ อากาสานนฺตํ, อากาสานนฺตเมว อากาสานฺจํ, ตํ อากาสานฺจํ อธิฏฺานฏฺเน อายตนมสฺส สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ฌานสฺส เทวานํ เทวายตนมิวาติ อากาสานฺจายตนํ, กสิณุคฺฆาฏิมากาสารมฺมณฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. ตํ อากาสานฺจายตนํ สมาปนฺนสฺส กุสลกิริยฌานํ สมาปนฺนสฺส. รูปสฺายาติ สฺาสีเสน รูปาวจรชฺฌานโต เจว ตทารมฺมณโต จ. รูปาวจรชฺฌานมฺปิ หิ ‘‘รูป’’นฺติ วุจฺจติ ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙), ตสฺส อารมฺมณมฺปิ ‘‘พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติอาทีสุปิ (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙). ตสฺมา อิธ รูเป สฺา รูปสฺาติ เอวํ สฺาสีเสน รูปาวจรชฺฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. รูเป สฺา อสฺสาติ รูปสฺํ, รูปมสฺส นามนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ ปถวีกสิณาทิเภทสฺส ตทารมฺมณสฺส เจตํ อธิวจนนฺติ เวทิตพฺพํ. เอตาย กุสลวิปากกิริยาวเสน ปฺจทสวิธาย ฌานสงฺขาตาย รูปสฺาย. เอตาย จ ปถวีกสิณาทิวเสน อฏฺวิธาย อารมฺมณสงฺขาตาย รูปสฺาย.

ปฏิฆสฺายาติ จกฺขาทีนํ วตฺถูนํ รูปาทีนํ อารมฺมณานฺจ ปฏิฆาเตน สมุปฺปนฺนา สฺา ปฏิฆสฺา, รูปสฺาทีนํ เอตํ อธิวจนํ. ยถาห – ‘‘ตตฺถ กตมา ปฏิฆสฺา? รูปสฺา สทฺทสฺา คนฺธสฺา รสสฺา โผฏฺพฺพสฺา, อิมา วุจฺจนฺติ ปฏิฆสฺาโย’’ติ (วิภ. ๖๐๓). ตา กุสลวิปากา ปฺจ อกุสลวิปากา ปฺจาติ เอตาย ปฏิฆสฺาย.

นานตฺตสฺายาติ นานตฺเต โคจเร ปวตฺตาย สฺาย, นานตฺตาย วา สฺาย. ยถาห – ‘‘ตตฺถ กตมา นานตฺตสฺา? อสมาปนฺนสฺส มโนธาตุสมงฺคิสฺส วา มโนวิฺาณธาตุสมงฺคิสฺส วา สฺา สฺชานนา สฺชานิตตฺตํ, อิมา วุจฺจนฺติ นานตฺตสฺาโย’’ติ (วิภ. ๖๐๔) เอวํ วิภงฺเค วิภชิตฺวา วุตฺตา. ตา อิธ อธิปฺเปตา. อสมาปนฺนสฺส มโนธาตุมโนวิฺาณธาตุสงฺคหิตา สฺา รูปสทฺทาทิเภเท นานตฺเต นานาสภาเว โคจเร ปวตฺตนฺติ. ยสฺมา เจสา อฏฺ กามาวจรกุสลสฺา, ทฺวาทส อกุสลสฺา, เอกาทส กามาวจรกุสลวิปากสฺา, ทฺเว อกุสลวิปากสฺา, เอกาทส กามาวจรกิริยสฺาติ เอวํ จตุจตฺตาลีสมฺปิ สฺา นานตฺตา นานาสภาวา อฺมฺํ อสทิสา, ตสฺมา ‘‘นานตฺตสฺา’’ติ วุตฺตา, ตาย นานตฺตสฺาย.

จิตฺตํ วิวิตฺตํ โหตีติ อากาสานฺจายตนํ สมาปนฺนสฺส รูปสฺาปฏิฆสฺานานตฺตสฺาสงฺขาตาหิ สฺาหิ ฌานจิตฺตํ วิวิตฺตํ โหติ วินา โหติ อปสกฺกนํ โหติ. วิฺาณฺจายตนนฺติ เอตเทว วิฺาณํ อธิฏฺานฏฺเน อายตนมสฺสาติ วิฺาณฺจายตนํ, อากาเส ปวตฺตวิฺาณารมฺมณสฺส ฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. ตํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส วุตฺตปฺปการาย อากาสานฺจายตนสฺาย จิตฺตํ วิวิตฺตํ โหติ.

อากิฺจฺายตนนฺติ เอตฺถ ปน นาสฺส กิฺจนนฺติ อกิฺจนํ, อนฺตมโส ภงฺคมตฺตมฺปิ อสฺส อวสิฏฺํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. อกิฺจนสฺส ภาโว อากิฺจฺํ, อากาสานฺจายตนวิฺาณาปคมสฺเสตํ อธิวจนํ. ตํ อากิฺจฺํ อธิฏฺานฏฺเน อายตนมสฺสาติ อากิฺจฺายตนํ, อากาเส ปวตฺติตวิฺาณาปคมารมฺมณฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. ตํ อากิฺจฺายตนํ สมาปนฺนสฺส ตาย วิฺาณฺจายตนสฺาย จิตฺตํ วิวิตฺตํ.

เนวสฺานาสฺายตนนฺติ เอตฺถ ปน ยาย สฺาย ภาวโต ตํ ‘‘เนวสฺานาสฺายตน’’นฺติ วุจฺจติ, ยถาปฏิปนฺนสฺส สา สฺา โหติ, ตํ ตาว ทสฺเสตุํ วิภงฺเค (วิภ. ๖๒๐) ‘‘เนวสฺีนาสฺี’’ติ อุทฺธริตฺวา ตฺเว ‘‘อากิฺจฺายตนํ สนฺตโต มนสิ กโรติ, สงฺขาราวเสสสมาปตฺตึ ภาเวติ, เตน วุจฺจติ เนวสฺีนาสฺี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ สนฺตโต มนสิ กโรตีติ ‘‘สนฺโตวตายํ สมาปตฺติ, ยตฺร หิ นาม นตฺถิภาวมฺปิ อารมฺมณํ กริตฺวา วสตี’’ติ เอวํ สนฺตารมฺมณตาย นํ ‘‘สนฺตา’’ติ มนสิ กโรติ. ตํ เนวสฺานาสฺายตนํ อปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส ตาย อากิฺจฺายตนสฺาย ฌานจิตฺตํ สุฺํ โหติ.

โสตาปนฺนสฺสาติ โสตาปตฺติผลํ ปตฺตสฺส. สกฺกายทิฏฺิยาติ วีสติวตฺถุกาย สกฺกายทิฏฺิยา. วิจิกิจฺฉายาติ อฏฺสุ าเนสุ กงฺขาย. สีลพฺพตปรามาสาติ ‘‘สีเลน สุทฺธิ, วเตน สุทฺธี’’ติ ปรามสิตฺวา อุปฺปชฺชนกทิฏฺิ. ทิฏฺานุสยาติ อปฺปหีนฏฺเน สนฺตาเน อนุสยกา ทิฏฺานุสยา. ตถา วิจิกิจฺฉานุสยา. ตเทกฏฺเหิ จาติ เตหิ สกฺกายทิฏฺิอาทีหิ เอกโต ิเตหิ จ. อุปตาเปนฺติ วิพาเธนฺติ จาติ กิเลสา, เตหิ สกฺกายทิฏฺิยาทิกิเลเสหิ จิตฺตํ วิวิตฺตํ สุฺํ โหติ. เอตฺถ ‘‘ตเทกฏฺ’’นฺติ ทุวิธํ เอกฏฺํ ปหาเนกฏฺํ สหเชกฏฺฺจ. อปายคมนียา หิ กิเลสา ยาว โสตาปตฺติมคฺเคน น ปหียนฺติ, ตาว ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาหิ สห เอกสฺมึ ปุคฺคเล ิตาติ ปหาเนกฏฺา. ทสสุ หิ กิเลเสสุ อิธ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉา เอว อาคตา. อนุสเยสุ ทิฏฺานุสยวิจิกิจฺฉานุสยา อาคตา. เสสา ปน อปายคมนีโย โลโภ โทโส โมโห มาโน ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อฏฺ กิเลสา ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาหิ สห ปหาเนกฏฺา หุตฺวา ทฺวีหิ อนุสเยหิ สทฺธึ โสตาปตฺติมคฺเคน ปหียนฺติ. ราคโทสโมหปมุเขสุ วา ทิยฑฺเฒสุ กิเลสสหสฺเสสุ โสตาปตฺติมคฺเคน ทิฏฺิยา ปหียมานาย ทิฏฺิยา สห วิจิกิจฺฉา ปหีนา, ทิฏฺานุสยวิจิกิจฺฉานุสเยหิ สห อปายคมนียา สพฺพกิเลสา ปหาเนกฏฺวเสน ปหียนฺติ. สหเชกฏฺา ปน ทิฏฺิยา สห วิจิกิจฺฉาย จ สห เอเกกสฺมึ จิตฺเต ิตา อวเสสกิเลสา.

โสตาปตฺติมคฺเคน หิ จตฺตาริ ทิฏฺิสหคตานิ วิจิกิจฺฉาสหคตฺจาติ ปฺจ จิตฺตานิ ปหียนฺติ. ตตฺถ ทฺวีสุ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตอสงฺขาริกจิตฺเตสุ ปหียมาเนสุ เตหิ สหชาโต โลโภ โมโห อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อิเม กิเลสา สหเชกฏฺวเสน ปหียนฺติ, ทฺวีสุ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตสสงฺขาริกจิตฺเตสุ ปหียมาเนสุ เตหิ สหชาโต โลโภ โมโห ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อิเม กิเลสา สหเชกฏฺวเสน ปหียนฺติ, วิจิกิจฺฉาสหคตจิตฺเต ปหียมาเน เตน สหชาโต โมโห อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อิเม กิเลสา สหเชกฏฺวเสน ปหียนฺติ. เตหิ ทุวิเธกฏฺเหิ กิเลเสหิ จิตฺตํ วิวิตฺตํ โหตีติ มคฺคจิตฺตํ วิวิจฺจติ, ผลจิตฺตํ วิวิตฺตํ วิยุตฺตํ อปสกฺกิตํ สุฺํ โหตีติ อตฺโถ.

สกทาคามิสฺส โอฬาริกา กามราคสฺโชนาติ โอฬาริกภูตา กายทฺวาเร วีติกฺกมสฺส ปจฺจยภาเวน ถูลภูตา เมถุนราคสงฺขาตา สฺโชนา. โส หิ กามภเว สฺโเชตีติ ‘‘สฺโชน’’นฺติ วุจฺจติ. ปฏิฆสฺโชนาติ พฺยาปาทสฺโชนา. โส หิ อารมฺมเณ ปฏิหฺตีติ ‘‘ปฏิฆ’’นฺติ วุจฺจติ. เต เอว ถามคตฏฺเน สนฺตาเน อนุเสนฺตีติ อนุสยา. อณุสหคตาติ สุขุมภูตา กามราคสฺโชนา ปฏิฆสฺโชนา อณุสหคตา กามราคานุสยา ปฏิฆานุสยาติ อปฺปหีนฏฺเน สนฺตาเน อนุสยนวเสน สุขุมภูตา กามราคปฏิฆานุสยา. ตเทกฏฺเหิ จาติ วุตฺตตฺเถหิ ทุวิเธกฏฺเหิ กิเลเสหิ จิตฺตํ วิวิตฺตํ สุฺํ โหติ.

อรหโตติ กิเลสารีนํ หตตฺตา ‘‘อรหา’’ติ ลทฺธนามสฺส. รูปราคาติ รูปภเว ฉนฺทราคา. อรูปราคาติ อรูปภเว ฉนฺทราคา. มานาติ อรหตฺตมคฺควชฺฌา มานา เอว. ตถา อุทฺธจฺจอวิชฺชามานานุสยาทโย อรหตฺตมคฺควชฺฌา. เอเตสุ อุณฺณติลกฺขโณ มาโน. อวูปสมลกฺขณํ อุทฺธจฺจํ. อนฺธภาวลกฺขณา อวิชฺชา. รูปราคอรูปราควเสน ปวตฺตา ภวราคานุสยา. ตเทกฏฺเหิ จาติ เตหิ เอกโต ิเตหิ จ กิเลเสหิ. พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตหีติ อชฺฌตฺตจิตฺตสนฺตาเน อกุสลกฺขนฺเธ อุปาทาย ‘‘พหิทฺธา’’ติ สงฺขํ คเตหิ อชฺฌตฺตํ มุฺจิตฺวา พหิทฺธา ปวตฺเตหิ สพฺพสงฺขารนิมิตฺเตหิ มคฺคจิตฺตํ วิวิจฺจติ วินา โหติ อปสกฺกติ, ผลจิตฺตํ วิวิตฺตํ วิยุตฺตํ อปสกฺกิตํ โหติ.

ตตฺถ กิเลสปฏิปาฏิยา มคฺคปฏิปาฏิยา จาติ ทฺวิธา อนุสยานํ อภาโว เวทิตพฺโพ. กิเลสปฏิปาฏิยา หิ กามราคานุสยปฏิฆานุสยานํ ตติยมคฺเคน อภาโว โหติ, มานานุสยสฺส จตุตฺถมคฺเคน, ทิฏฺานุสยวิจิกิจฺฉานุสยานํ ปมมคฺเคน, ภวราคานุสยาวิชฺชานุสยานํ จตุตฺถมคฺเคเนว. มคฺคปฏิปาฏิยา ปน ปมมคฺเคน ทิฏฺานุสยวิจิกิจฺฉานุสยานํ อภาโว โหติ, ทุติยมคฺเคน กามราคานุสยปฏิฆานุสยานํ ตนุภาโว, ตติยมคฺเคน สพฺพโส อภาโว, จตุตฺถมคฺเคน มานานุสยภวราคานุสยาวิชฺชานุสยานํ อภาโว โหติ. จิตฺตวิเวโกติ มหคฺคตโลกุตฺตรจิตฺตานํ กิเลเสหิ สุฺภาโว, ตุจฺฉภาโวติ อตฺโถ.

อุปธิวิเวโกติ กิเลสกฺขนฺธอภิสงฺขารสงฺขาตานํ อุปธีนํ สุฺภาโว. อุปธึ ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘อุปธิ วุจฺจนฺติ กิเลสา จา’’ติอาทิมาห. ราคาทโย ยสฺส อุปฺปชฺชนฺติ, ตํ อุปตาเปนฺติ วิพาเธนฺตีติ กิเลสา จ. อุปาทานโคจรา รูปาทโย ปฺจกฺขนฺธา จ. อุปาทานสมฺภูตา ปุฺาปุฺอาเนฺชาภิสงฺขารา จ. อมตนฺติ นตฺถิ เอตสฺส มรณสงฺขาตํ มตนฺติ อมตํ, กิเลสวิสปฏิปกฺขตฺตา อคทนฺติปิ อมตํ. สํสารโยนิคติอุปปตฺติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาเสสุ สํสิพฺพติ วินตีติ ตณฺหา ‘‘วาน’’นฺติ วุจฺจติ, ตํ ตตฺถ นตฺถีติ นิพฺพานํ. วิเวกฏฺกายานนฺติ คณสงฺคณิกาย อปคตสรีรานํ. เนกฺขมฺมาภิรตานนฺติ เนกฺขมฺเม กามาทิโต นิกฺขนฺเต ปมชฺฌานาทิเก อภิรตานํ ตนฺนินฺนานํ. ปรมโวทานปฺปตฺตานนฺติ อุตฺตมปริสุทฺธภาวผลํ ปาปุณิตฺวา ิตานํ. ‘‘อุปกฺกิเลสาภาเวน ปริสุทฺธจิตฺตานํ, กิเลเสหิ มุตฺตภาเวน ปรมโวทานปฺปตฺตานํ. วิกฺขมฺภนปฺปหาเนน ปริสุทฺธจิตฺตานํ, สมุจฺเฉทปฺปหาเนน ปรมโวทานปฺปตฺตาน’’นฺติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. นิรูปธีนนฺติ วิคตูปธีนํ. วิสงฺขารคตานนฺติ สงฺขารารมฺมณํ จชิตฺวา วิคตสงฺขารํ นิพฺพานํ อารมฺมณวเสน อุปคตานํ. วิสงฺขารคตํ จิตฺตนฺติ เอตฺถปิ หิ นิพฺพานเมว ‘‘วิสงฺขาร’’นฺติ วุตฺตํ.

วิทูเรติ วิวิเธ ทูเร. สุวิทูเรติ สุฏฺุ วิทูเร. น สนฺติเกติ น สมีเป. น สามนฺตาติ น เอกปสฺเส. อนาสนฺเนติ อนจฺจนฺตสมีเป. วิเวกฏฺเติ อติทูเร, วิคเตติ อตฺโถ. ตาทิโสติ ตํสทิโส. ตสฺสณฺิโตติ เตน อากาเรน ิโต. ตปฺปกาโรติ เตน ปกาเรน ิโต. ตปฺปฏิภาโคติ ตํโกฏฺาสิโก. อถ วา ‘‘อตฺตภาวคุหาย ลคฺคภาเวน ตาทิโส. กิเลเสหิ ฉนฺนภาเวน ตสฺสณฺิโต. โมหนสฺมึ ปคาฬฺหภาเวน ตปฺปกาโร. ตีหิ วิเวเกหิ ทูรภาเวน ตปฺปฏิภาโคติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.

ทุปฺปหายาติ สุเขน ปหาตพฺพา น โหนฺติ. ทุจฺจชฺชาติ สุเขน ชหิตุํ น สกฺกา. ทุปฺปริจฺจชฺชาติ สพฺพากาเรน ชหิตุํ น สกฺกา. ทุนฺนิมฺมทยาติ นิมฺมทํ อมทํ กาตุํ น สกฺกา. ทุพฺพินิเวยาติ วินิเวนํ โมจนํ กาตุํ น สกฺกา. ทุตฺตราติ อุตฺตริตฺวา อติกฺกนฺตุํ น สกฺกา. ทุปฺปตราติ วิเสเสตฺวา ตริตุํ น สกฺกา. ทุสฺสมติกฺกมาติ ทุกฺเขน อติกฺกมิตพฺพา. ทุพฺพินิวตฺตาติ นิวตฺเตตุํ ทุกฺขา. อถ วา ‘‘ปกติวเสน ทุปฺปริจฺจชฺชา. โคณปตาสํ วิย ทุนฺนิมฺมทยา. นาคปาสํ วิย ทุพฺพินิเวยา. คิมฺหสมเย มรุกนฺตารํ วิย ทุตฺตรา ทุปฺปตรา. พฺยคฺฆปริคฺคหิตา อฏวี วิย ทุสฺสมติกฺกมา. สมุทฺทวีจิ วิย ทุพฺพินิวตฺตาติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.

. เอวํ ปมคาถาย ‘‘ทูเร วิเวกา หิ ตถาวิโธ’’ติ สาเธตฺวา ปุน ตถาวิธานํ สตฺตานํ ธมฺมตํ อาวิ กโรนฺโต ‘‘อิจฺฉานิทานา’’ติอาทิคาถมาห. ตตฺถ อิจฺฉานิทานาติ ตณฺหาเหตุกา. ภวสาตพทฺธาติ สุขเวทนาทิมฺหิ ภวสาเตน พทฺธา. เต ทุปฺปมุฺจาติ เต ภวสาตวตฺถุภูตา ธมฺมา. เต วา ตตฺถ พทฺธา อิจฺฉานิทานา สตฺตา ทุปฺปโมจยา. น หิ อฺโมกฺขาติ อฺเ จ โมเจตุํ น สกฺโกนฺติ. การณวจนํ วา เอตํ. เต สตฺตา ทุปฺปมุฺจา. กสฺมา? ยสฺมา อฺเน โมเจตพฺพา น โหนฺติ. ยทิ สตฺตา มุฺเจยฺยุํ, สเกน ถาเมน มุฺเจยฺยุนฺติ อยมสฺส อตฺโถ. ปจฺฉา ปุเร วาปิ อเปกฺขมานาติ อนาคเต อตีเต วา กาเม อเปกฺขมานา. อิเม ว กาเม ปุริเม ว ชปฺปนฺติ อิเม วา ปจฺจุปฺปนฺเน กาเม ปุริเม วา ทุวิเธปิ อตีตานาคเต พลวตณฺหาย ปตฺถยมานา. อิเมสฺจ ทฺวินฺนํ ปทานํ ‘‘เต ทุปฺปมุฺจา น หิ อฺโมกฺขา’’ติ อิมินาว สห สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อิตรถา อเปกฺขมานา ชปฺปํ กึ กโรนฺติ, กึ วา กตาติ น ปฺาเยยฺยุํ.

ภวสาตพทฺธาติ ภเว สาตํ ภวสาตํ, เตน ภวสาเตน สุขสฺสาเทน พทฺธา หุตฺวา ิตา. ตํ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เอกํ ภวสาตํ – สุขา เวทนา’’ติอาทิมาห. โยพฺพนภาโว โยพฺพฺํ. อโรคภาโว อาโรคฺยํ. ชีวิตินฺทฺริยสฺส ปวตฺตภาโว ชีวิตํ. ลาโภติ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ ลาโภ. ยโสติ ปริวาโร. ปสํสาติ กิตฺติ. สุขนฺติ กายิกเจตสิกํ สุขํ. มนาปิกา รูปาติ มนวฑฺฒนกา รูปา. เสเสสุปิ เอเสว นโย.

จกฺขุสมฺปทาติ จกฺขุสฺส สมฺปทา. ‘‘มยฺหํ จกฺขุ สมฺปนฺนํ มณิวิมาเน อุคฺฆาฏิตสีหปฺชรํ วิย ขายตี’’ติ อุปฺปนฺนํ สุขสฺสาทํ สนฺธาย ‘‘จกฺขุสมฺปทา’’ติ วุตฺตํ. โสตสมฺปทาทีสุปิ เอเสว นโย. สุขาย เวทนาย สาตพทฺธา…เป… วิพทฺธาติ วิวิธากาเรน พทฺธา. อาพทฺธาติ วิเสเสน อาทิโต พทฺธา. ลคฺคาติ อารมฺมเณน สทฺธึ อปฺปิตา. ลคฺคิตาติ นาคทนฺเต ผาณิตวารโก วิย ลคฺคิตา. ยเมตฺถ จ อวุตฺตํ, ตํ สตฺโต วิสตฺโตติอาทิมฺหิ วุตฺตนเยน คเหตพฺพํ.

น หิ อฺโมกฺขาติ น ปเรหิ โมกฺขา. เต วา ภวสาตวตฺถู ทุปฺปมุฺจาติ ภเว สุขสฺสาทวตฺถุภูตา ธมฺมา เต มุฺจิตุํ ทุกฺขา. สตฺตา วา เอตฺโต ทุมฺโมจยาติ สตฺตา เอว วา เอตสฺมา ภวสาตวตฺถุโต โมเจตุํ ทุกฺขา.

ทุรุทฺธราติ อุทฺธริตุํ ทุกฺขา. ทุสฺสมุทฺธราติ สมนฺตโต ฉินฺนตเฏ นรกาวาเฏ ปติโต วิย อุทฺธํ กตฺวา อุทฺธริตุํ ทุกฺขา. ทุพฺพุฏฺาปยาติ อุฏฺาเปตุํ ทุกฺขา. ทุสฺสมุฏฺาปยาติ สุขุมอตฺตภาวํ ปถวิยํ ปติฏฺาปนํ วิย อุสฺสาเปตุํ อติวิย ทุกฺขา.

เต อตฺตนา ปลิปปลิปนฺนาติ คมฺภีรกทฺทเม ยาว สีสโต นิมุคฺคา น สกฺโกนฺติ. ปรํ ปลิปปลิปนฺนํ อุทฺธริตุนฺติ อปรํ ตเถว นิมุคฺคํ หตฺเถ วา สีเส วา คเหตฺวา อุทฺธริตฺวา ถเล ปติฏฺาเปตุํ น สกฺโกนฺติ. โส วต จุนฺทาติ โสติ วตฺตพฺพาการปุคฺคลนิทฺเทโส. ตสฺส ‘‘โย’’ติ อิมํ อุทฺเทสวจนํ อาหริตฺวา โย อตฺตนา ปลิปปลิปนฺโน, โส วต, จุนฺท, ปรํ ปลิปปลิปนฺนํ อุทฺธริสฺสตีติ. เอวํ เสสปเทสุ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ปลิปปลิปนฺโนติ คมฺภีรกทฺทเม นิมุคฺโค วุจฺจติ. ยถา, จุนฺท, โกจิ ปุริโส ยาว สีสโต คมฺภีรกทฺทเม นิมุคฺโค, ปรมฺปิ ตเถว นิมุคฺคํ หตฺเถ วา สีเส วา คเหตฺวา อุทฺธริสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. น หิ ตํ การณมตฺถิ, เยน โส ตํ อุทฺธริตฺวา ถเล ปติฏฺาเปยฺยาติ. อทนฺโต อวินีโต อปรินิพฺพุโตติ เอตฺถ ปน อนิพฺพิเสวนตาย อทนฺโต. อสิกฺขิตวินยตาย อวินีโต. อนิพฺพุตกิเลสตาย อปรินิพฺพุโตติ เวทิตพฺโพ. โส ตาทิโส ปรํ ทเมสฺสติ นิพฺพิเสวนํ กริสฺสติ, วิเนสฺสติ ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขาเปสฺสติ. ปรินิพฺพาเปสฺสติ ตสฺส กิเลเส นิพฺพาเปสฺสติ.

นตฺถฺโ โกจีติ อฺโ โกจิ ปุคฺคโล โมเจตุํ สมตฺโถ นตฺถิ. สเกน ถาเมนาติ อตฺตโน าณถาเมน. พเลนาติ าณพเลน. วีริเยนาติ าณสมฺปยุตฺตเจตสิกวีริเยน. ปุริสปรกฺกเมนาติ ปรํ ปรํ านํ อกฺกมเนน มหนฺตวีริเยน.

นาหํ สหิสฺสามีติ อหํ น สหิสฺสามิ น สกฺโกมิ, น วายมิสฺสามีติ วุตฺตํ โหติ. ปโมจนายาติ ปโมเจตุํ. กถํกถินฺติ สกงฺขํ. โธตกาติ อาลปนํ. ตเรสีติ ตเรยฺยาสิ.

‘‘อตฺตนา หิ กตํ ปาปํ, อตฺตนา สํกิลิสฺสติ;

อตฺตนา อกตํ ปาปํ, อตฺตนาว วิสุชฺฌติ;

สุทฺธี อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ, นาฺโ อฺํ วิโสธเย’’ติ. (ธ. ป. ๑๖๕; กถา. ๗๔๓) –

เอตฺถายมตฺโถ – เยน อตฺตนา อกุสลํ กมฺมํ กตํ โหติ, โส จตูสุ อปาเยสุ ทุกฺขํ อนุภวนฺโต อตฺตนาว สํกิลิสฺสติ. เยน ปน อตฺตนา อกตํ ปาปํ, โส สุคติฺเจว อคติฺจ คจฺฉนฺโต อตฺตนาว วิสุชฺฌติ. กุสลกมฺมสงฺขาตา สุทฺธิ อกุสลกมฺมสงฺขาตา จ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ การกสตฺตานํ อตฺตนิเยว วิปจฺจติ. อฺโ ปุคฺคโล อฺํ ปุคฺคลํ น วิโสธเย เนว วิโสเธติ, น กิเลเสตีติ วุตฺตํ โหติ.

ติฏฺเตว นิพฺพานนฺติ อมตมหานิพฺพานํ ติฏฺติเยว. นิพฺพานคามิมคฺโคติ ปุพฺพภาควิปสฺสนาโต ปฏฺาย อริยมคฺโค. ติฏฺามหํ สมาทเปตาติ อหํ คณฺหาเปตา ปติฏฺาเปตา ติฏฺามิ. เอวํ โอวทิยมานา เอวํ อนุสาสิยมานาติ มยา เอวํ โอวทิยมานา เอวํ อนุสาสิยมานา. เอตฺถ อุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมึ วทนฺโต โอวทติ นาม, อนุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมึ อนุสาสนฺโต ‘‘อยโสปิ เต ภวิสฺสตี’’ติอาทิวเสน อนาคตํ ทสฺเสนฺโต อนุสาสติ นาม. สมฺมุขา วทนฺโตปิ โอวทติ นาม, ปรมฺมุขา ทูตสาสนํ วา เปเสนฺโต อนุสาสติ นาม. สกึ วทนฺโตปิ โอวทติ นาม, ปุนปฺปุนํ วทนฺโต อนุสาสติ นาม. โอวทนฺโต เอว วา อนุสาสติ นาม. อปฺเปกจฺเจติ อปิ เอกจฺเจ, เอเกติ อตฺโถ. อจฺจนฺตนิฏฺํ นิพฺพานํ อาราเธนฺตีติ ขยวยสงฺขาตํ อนฺตํ อตีตนฺติ อจฺจนฺตํ, อจฺจนฺตฺจ ตํ สพฺพสงฺขารานํ อปฺปวตฺติฏฺานตฺตา นิฏฺฺจาติ อจฺจนฺตนิฏฺํ, เอกนฺตนิฏฺํ, สตตนิฏฺนฺติ อตฺโถ. ตํ อจฺจนฺตนิพฺพานํ อาราเธนฺติ สมฺปาเทนฺติ. นาราเธนฺตีติ น สมฺปาเทนฺติ, น ปฏิลภนฺตีติ อตฺโถ. เอตฺถ กฺยาหนฺติ เอเตสุ กึ อหํ, กึ กโรมีติ อตฺโถ. มคฺคกฺขายีติ ปฏิปทามคฺคกฺขายี. อาจิกฺขติ กเถติ. อตฺตนา ปฏิปชฺชมานา มุฺเจยฺยุนฺติ ปฏิปชฺชนฺตา มยํ มุฺเจยฺยุํ.

อตีตํ อุปาทายาติ อตีตํ ปฏิจฺจ. กถํ ปุเร อเปกฺขํ กโรตีติ เกน ปกาเรน อิกฺขํ โอโลกนํ กโรติ. เอวํรูโป อโหสินฺติ ทีฆรสฺสอณุกถูลาทิวเสน เอวํชาติโก เอวรูโป อภวึ. ตตฺถ นนฺทึ สมนฺนาเนตีติ ตสฺมึ รูปารมฺมเณ ตณฺหํ สมฺมา อานยติ อุปเนติ. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย.

‘‘อิติ เม จกฺขู’’ติอาทโย วตฺถุอารมฺมณวเสน ตณฺหุปฺปตฺตึ ทสฺเสนฺโต อาห. อิติ รูปาตีติ เอวํ รูปา อิติ. ตตฺถ ฉนฺทราคปฏิพทฺธนฺติ เตสุ จกฺขุรูเปสุ ทุพฺพลสงฺขาโต ฉนฺโท จ พลวสงฺขาโต ราโค จ, เตน ฉนฺทราเคน ปฏิพทฺธํ อลฺลีนํ. วิฺาณนฺติ ชวนจิตฺตํ. ฉนฺทราคปฏิพทฺธตฺตา วิฺาณสฺสาติ ตสฺส ชวนวิฺาณสฺส ฉนฺทราเคน พทฺธภาวา. ตทภินนฺทตีติ ตํ อารมฺมณํ ตณฺหาวเสน อภินนฺทติ.

ยานิสฺส ตานีติ ยานิ อสฺส ตานิ. ปุพฺเพติ อตีเต. สทฺธินฺติ เอกโต. หสิตลปิตกีฬิตานีติ ทนฺตวิทํสาทิหสิตานิ จ, วจีเภทํ กตฺวา ลปิตานิ จ, กายขิฑฺฑาทิกีฬิตานิ จ. ตทสฺสาเทตีติ ตํ อสฺสาทยติ อสฺสาทํ วินฺทติ สาทิยติ. ตํ นิกาเมตีติ ตํ นิกามยติ ปจฺจาสีสติ. วิตฺตึ อาปชฺชตีติ ตุฏฺึ ปาปุณาติ.

สิยนฺติ ภเวยฺยํ. อปฺปฏิลทฺธสฺส ปฏิลาภายาติ อปฺปตฺตสฺส ปาปุณนตฺถาย. จิตฺตํ ปณิทหตีติ จิตฺตํ เปติ. เจตโส ปณิธานปจฺจยาติ จิตฺตสฺส ปนการณา.

สีเลน วาติ ปฺจสีลาทิสีเลน วา. วเตน วาติ ธุตงฺคสมาทาเนน วา. ตเปน วาติ วีริยสมาทาเนน วา. พฺรหฺมจริเยน วาติ เมถุนวิรติยา วา. เทโว วาติ มหานุภาโว เทวราชา วา. เทวฺตโร วาติ เตสํ อฺตโร วา.

ชปฺปนฺตาติ คุณวเสน กเถนฺตา. ปชปฺปนฺตาติ ปกาเรน กเถนฺตา. อภิชปฺปนฺตาติ วิเสเสน กเถนฺตา, อุปสคฺควเสน วา วฑฺฒิตํ.

. เอวํ ปมคาถาย ‘‘ทูเร วิเวกา หิ ตถาวิโธ’’ติ สาเธตฺวา ทุติยคาถาย จ ตถาวิธานํ ธมฺมตํ อาวิ กตฺวา อิทานิ เตสํ ปาปกรณํ อาวิ กโรนฺโต ‘‘กาเมสุ คิทฺธา’’ติ คาถมาห.

ตสฺสตฺโถ – เต สตฺตา กาเมสุ ปริโภคตณฺหาย คิทฺธา, ปริเยสนาทิมนุยุตฺตตฺตา ปสุตา, สมฺโมหมาปนฺนตฺตา ปมูฬฺหา, อวคมนตาย มจฺฉริยตาย พุทฺธาทีนํ วจนํ อนาทิยตาย จ อวทานิยา, กายวิสมาทิมฺหิ วิสเม นิวิฏฺา, อนฺตกาเล มรณทุกฺขูปนีตา, ‘‘กึสุ ภวิสฺสาม อิโต จุตาเส’’ติ ปริเทวยนฺตีติ.

คิทฺธาติ กามราเคน คิทฺธา. คธิตาติ สงฺกปฺปราเคน ปจฺจาสีสมานา หุตฺวา คธิตา. มุจฺฉิตาติ กามตณฺหาย มุจฺฉาปเรตา. อชฺโฌสนฺนาติ กามนนฺทิยา อธิโอสนฺนา อชฺโฌตฺถฏา. ลคฺคาติ กามสิเนเหน อลฺลีนา. ลคฺคิตาติ กามปริฬาเหน เอกีภูตา. ปลิพุทฺธาติ กามสฺาย อาวฏฺฏิตา. อถ วา ‘‘ทิฏฺิทสฺสเน คิทฺธา. อภิณฺหทสฺสเน คธิตา. สํสคฺคกิริยสฺมึ มุจฺฉิตา. วิสฺสาสกิริยสฺมึ อชฺโฌสนฺนา. สิเนหวฬฺชสฺมึ ลคฺคา. ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติมฺหิ ลคฺคิตา. อปราปรํ อมุฺจมานา หุตฺวา ปลิพุทฺธา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.

เอสนฺตีติ ปจฺจาสีสนฺติ. คเวสนฺตีติ มคฺคยนฺติ. ปริเยสนฺตีติ สพฺพากาเรน อิจฺฉนฺติ ปตฺเถนฺติ. อถ วา ทิฏฺารมฺมเณ สุภาสุภํ อตฺถิ, นตฺถีติ เอสนฺติ. สุภาสุภารมฺมเณ ปจฺจกฺขํ กตฺวา วฬฺชนตฺถาย ปิยํ กโรนฺตา คเวสนฺติ. จิตฺตวเสน เอสนฺติ. ปโยควเสน คเวสนฺติ. กรณวเสน ปริเยสนฺติ. เต ทุวิเธ กาเม ปฏิจฺจ โอตริตฺวา จรนฺตีติ ตจฺจริตา. เต จ กาเม พหุลํ เยภุยฺเยน วฑฺเฒนฺติ ปวตฺตยนฺตีติ ตพฺพหุลา. เต จ กาเม ครุํ กตฺวา รหนฺตีติ ตคฺครุกา. เตสุ กาเมสุ นินฺนา นมิตา หุตฺวา วสนฺตีติ ตนฺนินฺนา. เตสุ กาเมสุ สนฺนินฺนา หุตฺวา วสนฺตีติ ตปฺโปณา. เตสุ กาเมสุ อวลมฺพิตา หุตฺวา เตสุเยว นมิตา วสนฺตีติ ตปฺปพฺภารา. เตสุ กาเมสุ อวตฺถริตฺวา มุจฺฉาปเรตปฺปสงฺคา หุตฺวา วทนฺตีติ ตทธิมุตฺตา. เต จ กาเม อธิปตึ เชฏฺกํ กตฺวา วสนฺตีติ ตทธิปเตยฺยา. อถ วา ‘‘อารมฺมณสฺส อิฏฺภาเวน ตจฺจริตา. อารมฺมณสฺส กนฺตภาเวน ตพฺพหุลา. อารมฺมณสฺส มนาปภาเวน ตคฺครุกา. อารมฺมณสฺส ปิยภาเวน ตนฺนินฺนา. อารมฺมณสฺส กามุปสํหิตภาเวน ตปฺโปณา. อารมฺมณสฺส รชนียภาเวน ตปฺปพฺภารา. อารมฺมณสฺส มุจฺฉนียภาเวน ตทธิมุตฺตา. อารมฺมณสฺส พนฺธนียภาเวน ตทธิปเตยฺยา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.

รูเป ปริเยสนฺตีติอาทีสุ ปริเยสนฺตีติ อลทฺธสฺส ลาภาย เอสนวเสน. ปฏิลภนฺตีติ หตฺถคตวเสน. ปริภุฺชนฺตีติ วฬฺชนวเสน วุตฺตนฺติ าตพฺพํ. กลหํ วิวาทํ กโรตีติ กลหการโก. ตสฺมึ นิยุตฺโตติ กลหปสุโต. กมฺมการกาทีสุปิ เอเสว นโย. โคจเร จรนฺโตติ เวสิยาทิโคจเร, สติปฏฺานาทิโคจเร วา จรมาโน. เตสุ นิยุตฺโต โคจรปสุโต. อารมฺมณูปนิชฺฌานวเสน ฌานํ อสฺส อตฺถีติ ฌายี. ตสฺมึ นิยุตฺโต ฌานปสุโต.

อวคจฺฉนฺตีติ อปายํ คจฺฉนฺติ. มจฺฉริโนติ สกสมฺปตฺตึ นิคุหนฺตา. วจนนฺติ กถนํ. พฺยปถนฺติ วากฺยปถํ. เทสนนฺติ วิสฺสชฺชนโอวาทํ. อนุสิฏฺินฺติ อนุสาสนึ. นาทิยนฺตีติ น คณฺหนฺติ น ครุํ กโรนฺติ. ‘‘น ปฏิสฺสนฺตี’’ติ วา ปาโ, โสเยว อตฺโถ. วตฺถุโต มจฺฉริยทสฺสนตฺถํ ‘‘ปฺจ มจฺฉริยานิ อาวาสมจฺฉริย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาวาเส มจฺฉริยํ อาวาสมจฺฉริยํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.

อาวาโส นาม สกลาราโมปิ ปริเวณมฺปิ เอโกวรโกปิ รตฺติฏฺานาทีนิปิ. เตสุ วสนฺตา สุขํ วสนฺติ, ปจฺจเย ลภนฺติ. เอโก ภิกฺขุ วตฺตสมฺปนฺนสฺเสว เปสลสฺส ภิกฺขุโน ตตฺถ อาคมนํ น อิจฺฉติ, อาคโตปิ ‘‘ขิปฺปํ คจฺฉตู’’ติ จินฺเตสิ, อิทํ อาวาสมจฺฉริยํ นาม. ภณฺฑนการกาทีนํ ปน ตตฺถ วาสํ อนิจฺฉโต อาวาสมจฺฉริยํ นาม น โหติ.

กุลนฺติ อุปฏฺากกุลมฺปิ าติกุลมฺปิ. ตตฺถ อฺสฺส อุปสงฺกมนํ อนิจฺฉโต กุลมจฺฉริยํ โหติ. ปาปปุคฺคลสฺส ปน อุปสงฺกมนํ อนิจฺฉโตปิ มจฺฉริยํ นาม น โหติ. โส หิ เตสํ ปสาทเภทาย ปฏิปชฺชติ. ปสาทํ รกฺขิตุํ สมตฺถสฺเสว ปน ภิกฺขุโน ตตฺถ อุปสงฺกมนํ อนิจฺฉโต มจฺฉริยํ นาม โหติ.

ลาโภติ จตุปจฺจยลาโภว. ตํ อฺสฺมึ สีลวนฺเตเยว ลภนฺเต ‘‘มา ลภตู’’ติ จินฺเตนฺตสฺส ลาภมจฺฉริยํ โหติ. โย ปน สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตติ, อปริโภคทุปฺปริโภคาทิวเสน วินาเสติ, ปูติภาวํ คจฺฉนฺตมฺปิ อฺสฺส น เทติ, ตํ ทิสฺวา ‘‘สเจ อิมํ เอส น ลเภยฺย, อฺโ สีลวา ลเภยฺย, ปริโภคํ คจฺเฉยฺยา’’ติ จินฺเตนฺตสฺส มจฺฉริยํ นาม นตฺถิ.

วณฺโณ นาม สรีรวณฺโณปิ คุณวณฺโณปิ. ตตฺถ สรีรวณฺเณ มจฺฉรี ‘‘ปโร ปาสาทิโก รูปวา’’ติ วุตฺเต ตํ น กเถตุกาโม โหติ. คุณวณฺณมจฺฉรี ปรสฺส สีเลน ธุตงฺเคน ปฏิปทาย อาจาเรน วณฺณํ น กเถตุกาโม โหติ.

ธมฺโมติ ปริยตฺติธมฺโม จ ปฏิเวธธมฺโม จ. ตตฺถ อริยสาวกา ปฏิเวธธมฺมํ น มจฺฉรายนฺติ, อตฺตนา ปฏิวิทฺธธมฺเม สเทวกสฺส โลกสฺส ปฏิเวธํ อิจฺฉนฺติ. ตํ ปน ปฏิเวธํ ‘‘ปเร ชานนฺตู’’ติ อิจฺฉนฺติ, ตนฺติธมฺเมเยว ปน ธมฺมมจฺฉริยํ นาม โหติ. เตน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ยํ คุฬฺหํ คนฺถํ วา กถามคฺคํ วา ชานาติ, ตํ อฺเ น ชานาเปตุกาโม โหติ. โย ปน ปุคฺคลํ อุปปริกฺขิตฺวา ธมฺมานุคฺคเหน ธมฺมํ วา อุปปริกฺขิตฺวา ปุคฺคลานุคฺคเหน น เทติ, อยํ ธมฺมมจฺฉรี นาม น โหติ. ตตฺถ เอกจฺโจ ปุคฺคโล โลโล โหติ, กาเลน สมโณ โหติ, กาเลน พฺราหฺมโณ, กาเลน นิคณฺโ. โย หิ ภิกฺขุ ‘‘อยํ ปุคฺคโล ปเวณิอาคตํ ตนฺตึ สณฺหํ สุขุมํ ธมฺมนฺตรํ ภินฺทิตฺวา อาลุเฬสฺสตี’’ติ น เทติ, อยํ ปุคฺคลํ อุปปริกฺขิตฺวา ธมฺมานุคฺคเหน น เทติ นาม. โย ปน ‘‘อยํ ธมฺโม สณฺโห สุขุโม, สจายํ ปุคฺคโล คณฺหิสฺสติ, อฺํ พฺยากริตฺวา อตฺตานํ อาวิ กตฺวา นสฺสิสฺสตี’’ติ น เทติ, อยํ ธมฺมํ อุปปริกฺขิตฺวา ปุคฺคลานุคฺคเหน น เทติ นาม. โย ปน ‘‘สจายํ อิมํ ธมฺมํ คณฺหิสฺสติ, อมฺหากํ สมยํ ภินฺทิตุํ สมตฺโถ ภวิสฺสตี’’ติ น เทติ, อยํ ธมฺมมจฺฉรี นาม โหติ.

อิเมสุ ปฺจสุ มจฺฉริเยสุ อาวาสมจฺฉริเยน ตาว ยกฺโข วา เปโต วา หุตฺวา ตสฺเสว อาวาสสฺส สงฺการํ สีเสน อุกฺขิปิตฺวา วิจรติ. กุลมจฺฉริเยน ตสฺมึ กุเล อฺเสํ ทานมานนาทีนิ กโรนฺเต ทิสฺวา ‘‘ภินฺนํ วติทํ กุลํ มมา’’ติ จินฺตยโต โลหิตมฺปิ มุขโต อุคฺคจฺฉติ, กุจฺฉิวิเรจนมฺปิ โหติ, อนฺตานิปิ ขณฺฑาขณฺฑานิ หุตฺวา นิกฺขมนฺติ. ลาภมจฺฉริเยน สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา สนฺตเก ลาเภ มจฺฉรายิตฺวา ปุคฺคลิกปริโภคํ วิย ปริภุฺชิตฺวา ยกฺโข วา เปโต วา มหาอชคโร วา หุตฺวา นิพฺพตฺตติ. สรีรวณฺณคุณวณฺณมจฺฉเรน ปน ปริยตฺติธมฺมมจฺฉริเยน จ อตฺตโนว วณฺณํ วณฺเณติ, ปเรสํ วณฺเณ ‘‘กึ วณฺโณ เอโส’’ติ ตํ ตํ โทสํ วทนฺโต ปริยตฺติธมฺมฺจ กสฺสจิ กิฺจิ อเทนฺโต ทุพฺพณฺโณ เจว เอฬมูโค จ โหติ.

อปิ จ อาวาสมจฺฉริเยน โลหเคเห ปจฺจติ, กุลมจฺฉริเยน อปฺปลาโภ โหติ, ลาภมจฺฉริเยน คูถนิรเย นิพฺพตฺตติ, วณฺณมจฺฉริเยน ภเว ภเว นิพฺพตฺตสฺส วณฺโณ นาม น โหติ, ธมฺมมจฺฉริเยน กุกฺกุฬนิรเย นิพฺพตฺตตีติ.

มจฺฉรายนวเสน มจฺฉริยํ. มจฺฉรายนากาโร มจฺฉรายนา. มจฺฉเรน อยิตสฺส มจฺเฉรสมงฺคิโน ภาโว มจฺฉรายิตตฺตํ. ‘‘มยฺหเมว โหนฺตุ, มา อฺสฺสา’’ติ สพฺพาปิ อตฺตโน สมฺปตฺติโย พฺยาเปตุํ น อิจฺฉตีติ วิวิจฺโฉ, วิวิจฺฉสฺส ภาโว เววิจฺฉํ, มุทุมจฺฉริยสฺเสตํ นามํ. กทริโย วุจฺจติ อนาทโร, ตสฺส ภาโว กทริยํ, ถทฺธมจฺฉริยสฺเสตํ นามํ. เตน หิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ปรมฺปิ ปเรสํ ททมานํ นิวาเรติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘กทริโย ปาปสงฺกปฺโป, มิจฺฉาทิฏฺิอนาทโร;

ททมานํ นิวาเรติ, ยาจมานาน โภชน’’นฺติ. (สํ. นิ. ๑.๑๓๒);

ยาจเก ทิสฺวา กฏุกภาเวน จิตฺตํ อฺจติ สงฺโกเจตีติ กฏุกฺจุโก, ตสฺส ภาโว กฏุกฺจุกตา. อปโร นโย – กฏุกฺจุกตา วุจฺจติ กฏจฺฉุคฺคาโห. สมติตฺติกปุณฺณาย หิ อุกฺขลิยา ภตฺตํ คณฺหนฺโต สพฺพโตภาเคน สงฺกุฏิเตน อคฺคกฏจฺฉุนา คณฺหาติ ปูเรตฺวา คเหตุํ น สกฺโกติ, เอวํ มจฺฉริปุคฺคลสฺส จิตฺตํ สงฺกุจติ, ตสฺมึ สงฺกุจิเต กาโยปิ ตเถว สงฺกุจติ ปฏิกุฏติ ปฏินิวฏฺฏติ น สมฺปสารียตีติ มจฺเฉรํ ‘‘กฏุกฺจุกตา’’ติ วุตฺตํ.

อคฺคหิตตฺตํ จิตฺตสฺสาติ ปเรสํ อุปการกรเณ ทานาทินา อากาเรน ยถา น สมฺปสารียติ, เอวํ อาวริตฺวา คหิตภาโว จิตฺตสฺส. ยสฺมา ปน มจฺฉริปุคฺคโล อตฺตโน สนฺตกํ ปเรสํ อทาตุกาโม โหติ, ปรสนฺตกํ คณฺหิตุกาโม. ตสฺมา ‘‘อิทํ อจฺฉริยํ มยฺหเมว โหตุ, มา อฺสฺสา’’ติ ปวตฺติวเสนสฺส อตฺตสมฺปตฺตินิคูหนลกฺขณตา ปรสมฺปตฺติคฺคหณลกฺขณตา จ เวทิตพฺพา.

ขนฺธมจฺฉริยมฺปิ มจฺฉริยนฺติ อตฺตโน ปฺจกฺขนฺธสงฺขาตํ อุปปตฺติภวํ อฺเหิ อสาธารณํ ‘‘อจฺฉริยํ มยฺหเมว โหตุ, มา อฺสฺสา’’ติ ปวตฺตํ มจฺฉริยํ ขนฺธมจฺฉริยํ นาม. ธาตุอายตนมจฺฉริเยสุปิ เอเสว นโย. คาโหติ คาหนิจฺฉยวเสน คหณํ. อวทฺุตายาติ สพฺพฺุพุทฺธานมฺปิ กถิตํ อชานนภาเวน. ยาจกานํ อททมาโน หิ เตหิ กถิตํ น ชานาติ นาม. ชนา ปมตฺตาติ สติวิปฺปวาสา ชนา. วจนนฺติ สงฺเขปวจนํ. พฺยปฺปถนฺติ วิตฺถารวจนํ. เทสนนฺติ อุปมํ ทสฺเสตฺวา อตฺถสนฺทสฺสนวจนํ. อนุสิฏฺินฺติ ปุนปฺปุนํ สํลกฺขาปนวจนํ. อถ วา ทสฺเสตฺวา กถนํ วจนํ นาม. คณฺหาเปตฺวา กถนํ พฺยปฺปถํ นาม. โตเสตฺวา กถนํ เทสนํ นาม. ปทสฺเสตฺวา กถนํ อนุสิฏฺิ นาม. อถ วา ปริตาปทุกฺขํ นาเสตฺวา กถนํ วจนํ นาม. ปริฬาหทุกฺขํ นาเสตฺวา กถนํ พฺยปฺปถํ นาม. อปายทุกฺขํ นาเสตฺวา กถนํ เทสนํ นาม. ภวทุกฺขํ นาเสตฺวา กถนํ อนุสิฏฺิ นาม. อถ วา ทุกฺขสจฺจปริฺาปฏิเวธยุตฺตํ วจนํ. สมุทยสจฺจปหานปฏิเวธยุตฺตํ พฺยปฺปถํ. นิโรธสจฺจสจฺฉิกิริยปฏิเวธยุตฺตํ เทสนํ. มคฺคสจฺจภาวนาปฏิเวธยุตฺตํ อนุสิฏฺีติ เอวมาทินา นเยน เอเก วณฺณยนฺติ.

สุสฺสุสนฺตีติ น สุณนฺติ. น โสตํ โอทหนฺตีติ สวนตฺถํ กณฺณโสตํ น เปนฺติ. น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺตีติ ชานนตฺถํ จิตฺตํ น ปติฏฺเปนฺติ. อนสฺสวาติ โอวาทํ อสุณมานา. อวจนกราติ สุณมานาปิ วจนํ น กโรนฺตีติ อวจนกรา. ปฏิโลมวุตฺติโนติ ปฏาณี หุตฺวา ปวตฺตนกา. อฺเเนว มุขํ กโรนฺตีติ กโรนฺตาปิ มุขํ น เทนฺตีติ อตฺโถ.

วิสเมติ กายสุจริตาทิสมฺมตสฺส สมสฺส ปฏิปกฺขตฺตา วิสมํ, ตสฺมึ วิสเม. นิวิฏฺาติ ปวิฏฺา ทุนฺนีหรา. กายกมฺเมติ กายโต ปวตฺเต, กาเยน วา ปวตฺเต กายกมฺเม. วจีกมฺมาทีสุปิ เอเสว นโย.

ตตฺถ กายกมฺมวจีกมฺมมโนกมฺมานิ ทุจฺจริตวเสน วิภตฺตานิ, ปาณาติปาตาทโย ทสอกุสลกมฺมปถวเสน วิภตฺตาติ าตพฺพํ. อยํ ตาเวตฺถ สาธารณปทวณฺณนา, อสาธารเณสุ ปน ปาณสฺส อติปาโต ปาณาติปาโต, ปาณวโธ ปาณฆาโตติ วุตฺตํ โหติ. ปาโณติ เจตฺถ โวหารโต สตฺโต, ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ. ตสฺมึ ปน ปาเณ ปาณสฺิโน ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทกอุปกฺกมสมุฏฺาปิตา กายวจีทฺวารานํ อฺตรทฺวารปวตฺตา วธกเจตนา ปาณาติปาโต. โส คุณวิรหิเตสุ ติรจฺฉานคตาทีสุ ปาเณสุ ขุทฺทเก ปาเณ อปฺปสาวชฺโช, มหาสรีเร มหาสาวชฺโช. กสฺมา? ปโยคมหนฺตตาย, ปโยคสมตฺเตปิ วตฺถุมหนฺตตาย. คุณวนฺเตสุ มนุสฺสาทีสุ อปฺปคุเณ ปาเณ อปฺปสาวชฺโช, มหาคุเณ มหาสาวชฺโช. สรีรคุณานํ ปน สมภาเว สติ กิเลสานํ อุปกฺกมานฺจ มุทุตาย อปฺปสาวชฺโช, ติพฺพตาย มหาสาวชฺโชติ เวทิตพฺโพ.

ตสฺส ปฺจ สมฺภารา โหนฺติ – ปาโณ ปาณสฺิตา วธกจิตฺตํ อุปกฺกโม เตน มรณนฺติ. ฉปฺปโยคา – สาหตฺถิโก อาณตฺติโก นิสฺสคฺคิโย ถาวโร วิชฺชามโย อิทฺธิมโยติ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ วิตฺถาริยมาเน อติปปฺโจ โหติ, ตสฺมา นํ น วิตฺถารยิสฺสาม. อฺฺจ เอวรูปํ, อตฺถิเกหิ ปน สมนฺตปาสาทิกํ วินยฏฺกถํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๒) โอโลเกตฺวา คเหตพฺพํ.

อทินฺนสฺส อาทานํ อทินฺนาทานํ, ปรสฺส หรณํ เถยฺยํ โจริกาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ อทินฺนนฺติ ปรปริคฺคหิตํ, ยตฺถ ปโร ยถากามการิตํ อาปชฺชนฺโต อทณฺฑารโห อนุปวชฺโช จ โหติ, ตสฺมึ ปน ปรปริคฺคหิเต ปรปริคฺคหิตสฺิโน ตทาทายกอุปกฺกมสมุฏฺาปิกา เถยฺยเจตนา อทินฺนาทานํ. ตํ หีเน ปรสนฺตเก วตฺถุสฺมึ อปฺปสาวชฺชํ, ปณีเต มหาสาวชฺชํ. กสฺมา? วตฺถุปณีตตาย, วตฺถุสมตฺเต สติ คุณาธิกานํ สนฺตเก วตฺถุสฺมึ มหาสาวชฺชํ. ตํ ตํ คุณาธิกํ อุปาทาย ตโต ตโต หีนคุณสฺส สนฺตเก วตฺถุสฺมึ อปฺปสาวชฺชํ.

ตสฺส ปฺจ สมฺภารา โหนฺติ – ปรปริคฺคหิตํ ปรปริคฺคหิตสฺิตา เถยฺยจิตฺตํ อุปกฺกโม เตน หรณนฺติ. ฉปฺปโยคา สาหตฺถิกาทโยว. เต จ โข ยถานุรูปํ เถยฺยาวหาโร ปสยฺหาวหาโร ปฏิจฺฉนฺนาวหาโร ปริกปฺปาวหาโร กุสาวหาโรติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ อวหารานํ วเสน ปวตฺตนฺติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺโต.

กาเมสุมิจฺฉาจาโรติ เอตฺถ ปน กาเมสูติ เมถุนสมาจาเรสุ. มิจฺฉาจาโรติ เอกนฺตนินฺทิโต ลามกาจาโร. ลกฺขณโต ปน อสทฺธมฺมเสวนาธิปฺปาเยน กายทฺวารปฺปวตฺตา อคมนียฏฺานวีติกฺกมเจตนา กาเมสุมิจฺฉาจาโร.

ตตฺถ อคมนียฏฺานํ นาม ปุริสานํ ตาว มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา าติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา สารกฺขา สปริทณฺฑาติ มาตุรกฺขิตาทโย ทส, ธนกฺกีตา ฉนฺทวาสินี โภควาสินี ปฏวาสินี โอทปตฺตกินี โอภตจุมฺพฏกา ทาสี จ ภริยา กมฺมการี จ ภริยา ธชาหฏา มุหุตฺติกาติ เอตา ธนกฺกีตาทโย ทสาติ วีสติ อิตฺถิโย. อิตฺถีสุ ปน ทฺวีนฺนํ สารกฺขสปริทณฺฑานํ ทสนฺนฺจ ธนกฺกีตาทีนนฺติ ทฺวาทสนฺนํ อิตฺถีนํ อฺเ ปุริสา, อิทํ อคมนียฏฺานํ นาม.

โส ปเนส มิจฺฉาจาโร สีลาทิคุณรหิเต อคมนียฏฺาเน อปฺปสาวชฺโช, สีลาทิคุณสมฺปนฺเน มหาสาวชฺโช. ตสฺส จตฺตาโร สมฺภารา – อคมนียวตฺถุ ตสฺมึ เสวนจิตฺตํ เสวนปโยโค มคฺเคน มคฺคปฏิปตฺติอธิวาสนนฺติ. เอโก ปโยโค สาหตฺถิโก เอว.

มุสาติ วิสํวาทนปุเรกฺขารสฺส อตฺถภฺชนโก วจีปโยโค กายปโยโค วา. วิสํวาทนาธิปฺปาเยน ปนสฺส ปรวิสํวาทกกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา มุสาวาโท. อปโร นโย – มุสาติ อภูตํ อตจฺฉํ วตฺถุ. วาโทติ ตสฺส ภูตโต ตจฺฉโต วิฺาปนํ. ลกฺขณโต ปน อตถํ วตฺถุํ ตถโต ปรํ วิฺาเปตุกามสฺส ตถาวิฺตฺติสมุฏฺาปิกา เจตนา มุสาวาโท. โส ยมตฺถํ ภฺชติ, ตสฺส อปฺปตาย อปฺปสาวชฺโช, มหนฺตตาย มหาสาวชฺโช. อปิ จ คหฏฺานํ อตฺตโน สนฺตกํ อทาตุกามตาย ‘‘นตฺถี’’ติอาทินยปฺปวตฺโต อปฺปสาวชฺโช, สกฺขินา หุตฺวา อตฺถภฺชนตฺถํ วุตฺโต มหาสาวชฺโช. ปพฺพชิตานํ อปฺปกมฺปิ เตลํ วา สปฺปึ วา ลภิตฺวา หสาธิปฺปาเยน ‘‘อชฺช คาเม เตลํ นที มฺเ สนฺทตี’’ติ ปูรณกถานเยน ปวตฺโต อปฺปสาวชฺโช, อทิฏฺํเยว ปน ทิฏฺนฺติอาทินา นเยน วทนฺตานํ มหาสาวชฺโช.

ตสฺส จตฺตาโร สมฺภารา โหนฺติ – อตถํ วตฺถุ วิสํวาทนจิตฺตํ ตชฺโช วายาโม ปรสฺส ตทตฺถวิชานนนฺติ. เอโก ปโยโค สาหตฺถิโกว. โส จ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา วาจาย วา ปรวิสํวาทกกิริยากรเณ ทฏฺพฺโพ. ตาย เจ กิริยาย ปโร ตมตฺถํ ชานาติ, อยํ กิริยสมุฏฺาปิกา เจตนากฺขเณเยว มุสาวาทกมฺมุนา พชฺฌติ.

ปิสุณวาจาติอาทีสุ ยาย วาจาย ยสฺส ตํ วาจํ ภาสติ, ตสฺส หทเย อตฺตโน ปิยภาวํ ปรสฺส จ สุฺภาวํ กโรติ, สา ปิสุณวาจา. ยาย ปน อตฺตานมฺปิ ปรมฺปิ ผรุสํ กโรติ, ยา วาจา สยมฺปิ ผรุสา เนว กณฺณสุขา น หทยงฺคมา, อยํ ผรุสวาจา. เยน สมฺผํ ปลปติ นิรตฺถกํ, โส สมฺผปฺปลาโป. เตสํ มูลภูตาปิ เจตนา ปิสุณวาจาทินามเมว ลภติ, สา เอว อิธ อธิปฺเปตาติ.

ตตฺถ สํกิลิฏฺจิตฺตสฺส ปเรสํ วา เภทาย อตฺตโน ปิยกมฺยตาย วา กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา ปิสุณวาจา. สา ยสฺส เภทํ กโรติ, ตสฺส อปฺปคุณาย อปฺปสาวชฺชา, มหาคุณตาย มหาสาวชฺชา.

ตสฺสา จตฺตาโร สมฺภารา โหนฺติ – ภินฺทิตพฺโพ ปโร ‘‘อิติ อิเม นานา ภวิสฺสนฺติ วินา ภวิสฺสนฺตี’’ติ เภทปุเรกฺขารตา วา, ‘‘อิติ อหํ ปิโย ภวิสฺสามิ วิสฺสาสิโก’’ติ วิยกมฺยตา วา, ตชฺโช วายาโม, ตสฺส ตทตฺถวิชานนนฺติ.

ปรสฺส มมฺมจฺเฉทกกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เอกนฺตผรุสเจตนา ผรุสวาจา. มมฺมจฺเฉทโกปิ ปโยโค จิตฺตสณฺหตาย ผรุสวาจา น โหติ. มาตาปิตโร หิ กทาจิ ปุตฺตเก เอวมฺปิ วทนฺติ ‘‘โจรา โว ขณฺฑาขณฺฑิกํ กโรนฺตู’’ติ, อุปฺปลปตฺตมฺปิ จ เนสํ อุปริ ปตนฺตํ น อิจฺฉนฺติ. อาจริยุปชฺฌายา จ กทาจิ นิสฺสิตเก เอวํ วทนฺติ ‘‘กึ อิเม อหิริกา อโนตฺตปฺปิโน จรนฺติ, นิทฺธมถ เน’’ติ. อถ จ เนสํ อาคมาธิคมสมฺปตฺตึ อิจฺฉนฺติ. ยถา จ จิตฺตสณฺหตาย ผรุสวาจา น โหติ, เอวํ วจนสณฺหตาย อผรุสวาจาปิ น โหติ. น หิ มาราเปตุกามสฺส ‘‘อิมํ สุขํ สยาเปถา’’ติ วจนํ อผรุสวาจา โหติ, จิตฺตผรุสตาย ปเนสา ผรุสวาจาว, สา ยํ สนฺธาย ปวตฺติตา. ตสฺส อปฺปคุณตาย อปฺปสาวชฺชา, มหาคุณตาย มหาสาวชฺชา. ตสฺสา ตโย สมฺภารา – อกฺโกสิตพฺโพ ปโร กุปิตจิตฺตํ อกฺโกสนนฺติ.

อนตฺถวิฺาปิกา กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา อกุสลเจตนา สมฺผปฺปลาโป. โส อาเสวนมนฺทตาย อปฺปสาวชฺโช, อาเสวนมหนฺตตาย มหาสาวชฺโช. ตสฺส ทฺเว สมฺภารา โหนฺติ – ภารตยุทฺธสีตาหรณาทินิรตฺถกกถาปุเรกฺขารตา ตถารูปีกถากถนฺจาติ.

อภิชฺฌายตีติ อภิชฺฌา, ปรภณฺฑาภิมุขี หุตฺวา ตนฺนินฺนตาย ปวตฺตตีติ อตฺโถ. สา ‘‘อโห วต อิทํ มมาสฺสา’’ติ เอวํ ปรภณฺฑาภิชฺฌายนลกฺขณา. อทินฺนาทานํ วิย อปฺปสาวชฺชา มหาสาวชฺชา จ. ตสฺสา ทฺเว สมฺภารา โหนฺติ – ปรภณฺฑํ อตฺตโน ปริณามนฺจาติ. ปรภณฺฑวตฺถุเก หิ โลเภ อุปฺปนฺเนปิ น ตาว กมฺมปถเภโท โหติ, ยาว ‘‘อโห วติทํ มมาสฺสา’’ติ อตฺตโน น ปริณาเมติ.

หิตสุขํ พฺยาปาทยตีติ พฺยาปาโท, โส ปรวินาสาย มโนปโทสลกฺขโณ. ผรุสวาจา วิย อปฺปสาวชฺโช มหาสาวชฺโช จ. ตสฺส ทฺเว สมฺภารา โหนฺติ – ปรสตฺโต จ ตสฺส จ วินาสจินฺตาติ. ปรสตฺตวตฺถุเก หิ โกเธ อุปฺปนฺเนปิ น ตาว กมฺมปถเภโท โหติ, ยาว ‘‘อโห วตายํ อุจฺฉิชฺเชยฺย วินสฺเสยฺยา’’ติ ตสฺส วินาสํ น จินฺเตสิ.

ยถาภุจฺจคหณาภาเวน มิจฺฉา ปสฺสตีติ มิจฺฉาทิฏฺิ. สา ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินา นเยน วิปรีตทสฺสนลกฺขณา. สมฺผปฺปลาโป วิย อปฺปสาวชฺชา มหาสาวชฺชา จ.

สฺี, อสฺี, เนวสฺีนาสฺี ภวิสฺสามาติ รูปาทิวเสน กงฺขนฺติ. ภวิสฺสาม นุ โข มยนฺติอาทินา อตฺตานํ กงฺขนฺติ. ตตฺถ ภวิสฺสาม นุ โข. น นุ โข ภวิสฺสามาติ ตสฺส สสฺสตาการฺจ อุจฺเฉทาการฺจ นิสฺสาย อนาคเต อตฺตานํ วิชฺชมานตฺจ อวิชฺชมานตฺจ กงฺขนฺติ. กึ นุ โข ภวิสฺสามาติ ชาติลิงฺคุปปตฺติโย นิสฺสาย ‘‘ขตฺติยา นุ โข ภวิสฺสาม, พฺราหฺมณเวสฺสสุทฺทคหฏฺปพฺพชิตเทวมนุสฺสานํ อฺตรา’’ติ กงฺขนฺติ. กถํ นุ โข ภวิสฺสามาติ สณฺานาการํ นิสฺสาย ‘‘ทีฆา นุ โข ภวิสฺสาม, รสฺสโอทาตกณฺหปมาณิกอปฺปมาณิกาทีนํ อฺตรา’’ติ กงฺขนฺติ. เกจิ ปน ‘‘อิสฺสรนิมฺมานาทีนิ นิสฺสาย ‘เกน นุ โข การเณน ภวิสฺสามา’ติ เหตุโต กงฺขนฺตี’’ติ วทนฺติ. กึ หุตฺวา กึ ภวิสฺสาม นุ โข มยนฺติ ชาติอาทีนิ นิสฺสาย ‘‘ขตฺติยา หุตฺวา นุ โข พฺราหฺมณา ภวิสฺสาม…เป… เทวา หุตฺวา มนุสฺสา’’ติ อตฺตโน ปรมฺปรํ กงฺขนฺติ. สพฺพตฺเถว ปน อทฺธานนฺติ กาลาธิวจนเมตํ.

๑๐. ยสฺมา เอตเทว ตสฺมา หิ สิกฺเขถ…เป… อาหุ ธีราติ. ตตฺถ สิกฺเขถาติ ติสฺโส สิกฺขา อาวชฺเชยฺย. อิเธวาติ อิมสฺมึเยว สาสเน. ตตฺถ สิกฺขิตพฺพาติ สิกฺขา. ติสฺโสติ คณนปริจฺเฉโท. อธิสีลสิกฺขาติ อธิกํ อุตฺตมํ สีลนฺติ อธิสีลํ, อธิสีลฺจ ตํ สิกฺขิตพฺพฏฺเน สิกฺขา จาติ อธิสีลสิกฺขา. เอส นโย อธิจิตฺตอธิปฺาสิกฺขาสุ.

กตมํ ปเนตฺถ สีลํ, กตมํ อธิสีลํ, กตมํ จิตฺตํ, กตมํ อธิจิตฺตํ, กตมา ปฺา, กตมา อธิปฺาติ? วุจฺจเต – ปฺจงฺคทสงฺคสีลํ ตาว สีลเมว. ตฺหิ พุทฺเธ อุปฺปนฺเนปิ อนุปฺปนฺเนปิ โลเก ปวตฺตติ. อุปฺปนฺเน พุทฺเธ ตสฺมึ สีเล พุทฺธาปิ สาวกาปิ มหาชนํ สมาทเปนฺติ, อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ ปจฺเจกพุทฺธา จ กมฺมวาทิโน จ ธมฺมิกา สมณพฺราหฺมณา จ จกฺกวตฺตี จ มหาราชาโน มหาโพธิสตฺตา จ สมาทเปนฺติ, สามมฺปิ ปณฺฑิตา สมณพฺราหฺมณา สมาทิยนฺติ. เต ตํ กุสลํ ธมฺมํ ปริปูเรตฺวา เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ สมฺปตฺตึ อนุโภนฺติ.

ปาติโมกฺขสํวรสีลํ ปน ‘‘อธิสีล’’นฺติ วุจฺจติ. ตฺหิ สูริโย วิย ปชฺโชตานํ สิเนรุ วิย ปพฺพตานํ สพฺพโลกิยสีลานํ อธิกฺเจว อุตฺตมฺจ, พุทฺธุปฺปาเทเยว จ ปวตฺตติ, น วินา พุทฺธุปฺปาทา. น หิ ตํ ปฺตฺตึ อุทฺธริตฺวา อฺโ สตฺโต เปตุํ สกฺโกติ. พุทฺธาเยว ปน สพฺพโส กายวจีทฺวารอชฺฌาจารโสตํ ฉินฺทิตฺวา ตสฺส ตสฺส วีติกฺกมสฺส อนุจฺฉวิกํ ตํ สีลสํวรํ ปฺเปนฺติ. ปาติโมกฺขสํวรโตปิ จ มคฺคผลสมฺปยุตฺตเมว สีลํ อธิสีลํ.

กามาวจรานิ ปน อฏฺ กุสลจิตฺตานิ โลกิยอฏฺสมาปตฺติจิตฺตานิ จ เอกชฺฌํ กตฺวา จิตฺตเมวาติ เวทิตพฺพานิ. พุทฺธุปฺปาทานุปฺปาเท จสฺส ปวตฺติ, สมาทปนํ สมาทานฺจ สีเล วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

วิปสฺสนาปาทกํ อฏฺสมาปตฺติจิตฺตํ ปน ‘‘อธิจิตฺต’’นฺติ วุจฺจติ. ตฺหิ อธิสีลํ วิย สีลานํ, สพฺพโลกิยจิตฺตานํ อธิกฺเจว อุตฺตมฺจ, พุทฺธุปฺปาเทเยว จ โหติ, น วินา พุทฺธุปฺปาทา. ตโตปิ จ มคฺคผลจิตฺตเมว อธิจิตฺตํ.

‘‘อตฺถิ ทินฺนํ อตฺถิ ยิฏฺ’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตํ (ม. นิ. ๒.๙๔) ปน กมฺมสฺสกตาาณํ ปฺา. สา หิ พุทฺเธ อุปฺปนฺเนปิ อนุปฺปนฺเนปิ โลเก ปวตฺตติ. อุปฺปนฺเน พุทฺเธ ตสฺสา ปฺาย พุทฺธาปิ สาวกาปิ มหาชนํ สมาทเปนฺติ, อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ ปจฺเจกพุทฺธา จ กมฺมวาทิโน จ ธมฺมิกา สมณพฺราหฺมณา จ จกฺกวตฺตี จ มหาราชาโน มหาโพธิสตฺตา จ สมาทเปนฺติ, สามมฺปิ ปณฺฑิตา สตฺตา สมาทิยนฺติ. ตถา หิ องฺกุโร ทสวสฺสสหสฺสานิ มหาทานํ อทาสิ. เวลาโม เวสฺสนฺตโร อฺเ จ พหู ปณฺฑิตมนุสฺสา มหาทานานิ อทํสุ. เต ตํ กุสลํ ธมฺมํ ปริปูเรตฺวา เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ สมฺปตฺตึ อนุภวึสุ.

ติลกฺขณาการปริจฺเฉทกํ ปน วิปสฺสนาาณํ ‘‘อธิปฺา’’ติ วุจฺจติ. สา หิ อธิสีลอธิจิตฺตานิ วิย สีลจิตฺตานํ, สพฺพโลกิยปฺานํ อธิกา เจว อุตฺตมา จ, น จ วินา พุทฺธุปฺปาทา โลเก ปวตฺตติ. ตโตปิ จ มคฺคผลปฺาว อธิปฺา.

อิทานิ เอเกกํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กตมา อธิสีลสิกฺขา – อิธ ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรตี’’ติอาทิมาห. อิธาติ วจนํ ปุพฺพภาคกรณียสมฺปทาย สมฺปนฺนสฺส สพฺพปการสีลปริปูรกสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิสฺสยภูตสาสนปริทีปนํ, อฺสาสนสฺส จ ตถาภาวปฏิเสธนํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ…เป… สุฺา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อฺเหี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙-๑๔๐). ภิกฺขูติ ตสฺส สีลสฺส ปริปูรกสฺส ปุคฺคลสฺส ปริทีปนํ. ปาติโมกฺขสํวรสํวุโตติ อิทมสฺส ปาติโมกฺขสํวเร ปติฏฺิตภาวปริทีปนํ. วิหรตีติ อิทมสฺส ตทนุรูปวิหารสมงฺคีภาวปริทีปนํ. อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ อิทมสฺส ปาติโมกฺขสํวรสฺส อุปการกธมฺมปริทีปนํ. อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวีติ อิทมสฺส ปาติโมกฺขโต อจวนธมฺมตาปริทีปนํ. สมาทายาติ อิทมสฺส สิกฺขาปทานํ อนวเสสโต อาทานปริทีปนํ. สิกฺขตีติ อิทมสฺส สิกฺขาย สมงฺคีภาวปริทีปนํ. สิกฺขาปเทสูติ อิทมสฺส สิกฺขิตพฺพธมฺมปริทีปนํ.

ตตฺถ ภิกฺขูติ สํสาเร ภยํ อิกฺขตีติ ภิกฺขุ. สีลมสฺส อตฺถีติ สีลวาติ เอตฺถ สีลนฺติ สีลนฏฺเน สีลํ. กิมิทํ สีลนํ นาม? สมาธานํ วา, กายกมฺมาทีนํ สุสีลฺยวเสน อวิปฺปกิณฺณตาติ อตฺโถ. อุปธารณํ วา, กุสลานํ ธมฺมานํ ปติฏฺาวเสน อาธารภาโวติ อตฺโถ. เอตเทว หิ เอตฺถ อตฺถทฺวยํ สทฺทลกฺขณวิทู อนุชานนฺติ. อฺเ ปน ‘‘อธิเสวนฏฺเน อาจารฏฺเน สีลนฏฺเน สิรฏฺเน สีตลฏฺเน สิวฏฺเน สีล’’นฺติ วณฺณยนฺติ.

สีลนํ ลกฺขณํ ตสฺส, ภินฺนสฺสาปิ อเนกธา;

สนิทสฺสนตฺตํ รูปสฺส, ยถา ภินฺนสฺสเนกธา.

ยถา หิ นีลปีตาทิเภเทนเนกธา ภินฺนสฺสาปิ รูปายตนสฺส สนิทสฺสนตฺตํ ลกฺขณํ นีลาทิเภเทน ภินฺนสฺสาปิ สนิทสฺสนภาวานติกฺกมนโต. ตถา สีลสฺส เจตนาทิเภเทน อเนกธา ภินฺนสฺสาปิ ยเทตํ กายกมฺมาทีนํ สมาธานวเสน, กุสลานฺจ ธมฺมานํ ปติฏฺาวเสน วุตฺตํ สีลนํ, ตเทว ลกฺขณํ เจตนาทิเภเทน ภินฺนสฺสาปิ สมาธานปติฏฺาภาวานติกฺกมนโต. เอวํ ลกฺขณสฺส ปนสฺส –

ทุสฺสีลฺยวิทฺธํสนตา, อนวชฺชคุโณ ตถา;

กิจฺจสมฺปตฺติอตฺเถน, รโส นาม ปวุจฺจติ.

ตสฺมา อิทํ สีลํ นาม กิจฺจฏฺเน รเสน ทุสฺสีลฺยวิทฺธํสนรสํ, สมฺปตฺติอตฺเถน รเสน อนวชฺชรสนฺติ เวทิตพฺพํ.

โสเจยฺยปจฺจุปฏฺานํ, ตยิทํ ตสฺส วิฺุภิ;

โอตฺตปฺปฺจ หิรี เจว, ปทฏฺานนฺติ วณฺณิตํ.

ตฺหิทํ สีลํ ‘‘กายโสเจยฺยํ วจีโสเจยฺยํ มโนโสเจยฺย’’นฺติ เอวํ วุตฺตโสเจยฺยปจฺจุปฏฺานํ, โสเจยฺยภาเวน ปจฺจุปฏฺาติ คหณภาวํ คจฺฉติ. หิโรตฺตปฺปฺจ ปน ตสฺส วิฺูหิ ปทฏฺานนฺติ วณฺณิตํ, อาสนฺนการณนฺติ อตฺโถ. หิโรตฺตปฺเป หิ สติ สีลํ อุปฺปชฺชติ เจว ติฏฺติ จ, อสติ เนว อุปฺปชฺชติ เจว น ติฏฺติ จาติ เอวํวิเธน สีเลน สีลวา โหติ. เอตํ สีลํ นาม ปาณาติปาตาทีหิ วา วิรมนฺตสฺส, วตฺตปฏิปตฺตึ วา ปูเรนฺตสฺส เจตนาทโย ธมฺมา เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ปฏิสมฺภิทายํ ‘‘กึ สีลนฺติ? เจตนา สีลํ, เจตสิกํ สีลํ, สํวโร สีลํ, อวีติกฺกโม สีล’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๓๙).

ตตฺถ เจตนา สีลํ นาม ปาณาติปาตาทีหิ วา วิรมนฺตสฺส วตฺตปฏิปตฺตึ วา ปูเรนฺตสฺส เจตนา. เจตสิกํ สีลํ นาม ปาณาติปาตาทีหิ วิรมนฺตสฺส วิรติ. อปิ จ เจตนา สีลํ นาม ปาณาติปาตาทีนิ ปชหนฺตสฺส สตฺตกมฺมปถเจตนา. เจตสิกํ สีลํ นาม ‘‘อภิชฺฌํ ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๑๗) นเยน สํยุตฺตมหาวคฺเค วุตฺตา อนภิชฺฌาพฺยาปาทสมฺมาทิฏฺิธมฺมา. สํวโร สีลนฺติ เอตฺถ ปฺจวิเธน สํวโร เวทิตพฺโพ – ปาติโมกฺขสํวโร สติสํวโร าณสํวโร ขนฺติสํวโร วีริยสํวโร. ตสฺส นานากรณํ อุปริ อาวิ ภวิสฺสติ. อวีติกฺกโม สีลนฺติ สมาทินฺนสีลสฺส กายิกวาจสิโก อวีติกฺกโม. เอตฺถ จ สํวรสีลํ, อวีติกฺกมสีลนฺติ อิทเมว นิปฺปริยายโต สีลํ. เจตนาสีลํ, เจตสิกํ สีลนฺติ ปริยายโต สีลนฺติ เวทิตพฺพํ.

ปาติโมกฺขนฺติ สิกฺขาปทสีลํ. ตฺหิ โย นํ ปาติ รกฺขติ, ตํ โมกฺเขติ โมเจติ อาปายิกาทีหิ ทุกฺเขหิ, ตสฺมา ‘‘ปาติโมกฺข’’นฺติ วุตฺตํ. ปาติโมกฺขสํวรสํวุโตติ ปาติโมกฺขสํวรสีเลน สมนฺนาคโต. อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ อาจาเรน เจว โคจเรน จ สมฺปนฺโน. อณุมตฺเตสูติ อปฺปมตฺตเกสุ. วชฺเชสูติ อกุสลธมฺเมสุ. ภยทสฺสาวีติ ภยทสฺสี. สมาทายาติ สมฺมา อาทิยิตฺวา. สิกฺขติ สิกฺขาปเทสูติ ตํ ตํ สิกฺขาปทํ สมาทิยิตฺวา สิกฺขติ. อปิ จ สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสูติ ยํกิฺจิ สิกฺขาปเทสุ สิกฺขาโกฏฺาเสสุ สิกฺขิตพฺพํ กายิกํ วา เจตสิกํ วา, ตํ สพฺพํ สมาทาย สิกฺขติ.

ขุทฺทโก สีลกฺขนฺโธติ สงฺฆาทิเสสาทิสาวเสโส สีลกฺขนฺโธ. มหนฺโตติ ปาราชิกาทินิรวเสโส. ยสฺมา ปน ปาติโมกฺขสีเลน ภิกฺขุ สาสเน ปติฏฺาติ นาม, ตสฺมา ตํ ‘‘ปติฏฺา’’ติ วุตฺตํ. ปติฏฺหติ วา เอตฺถ ภิกฺขุ, กุสลา ธมฺมา เอว วา เอตฺถ ปติฏฺหนฺตีติ ปติฏฺา. อยมตฺโถ ‘‘สีเล ปติฏฺาย นโร สปฺโ’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๓, ๑๙๒) จ, ‘‘ปติฏฺานลกฺขณํ, มหาราช, สีลํ สพฺเพสํ กุสลานํ ธมฺมาน’’นฺติ (มิ. ป. ๒.๑.๙) จ, ‘‘สีเล ปติฏฺิโต โข, มหาราช…เป… สพฺเพ กุสลา ธมฺมา น ปริหายนฺตี’’ติ (มิ. ป. ๒.๑.๙) จ อาทิสุตฺตวเสน เวทิตพฺโพ.

ตเทตํ ปุพฺพุปฺปตฺติอตฺเถน อาทิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ อุตฺติย อาทิเมว วิโสเธหิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ. โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ, สีลฺจ สุวิสุทฺธํ ทิฏฺิ จ อุชุกา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๘๒). ยถา หิ นครวฑฺฒกี นครํ มาเปตุกาโม ปมํ นครฏฺานํ โสเธติ, ตโต อปรภาเค วีถิจตุกฺกสิงฺฆาฏกาทิปริจฺเฉเทน วิภชิตฺวาว นครํ มาเปติ. เอวเมว โยคาวจโร อาทิโต สีลํ วิโสเธติ, ตโต อปรภาเค สมาธิวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพานานิ สจฺฉิกโรติ. ยถา วา ปน รชโก ปมํ ตีหิ ขาเรหิ วตฺถํ โธวิตฺวา ปริสุทฺเธ วตฺเถ ยทิจฺฉกํ รงฺคชาตํ อุปเนติ, ยถา วา ปน เฉโก จิตฺตกาโร รูปํ ลิขิตุกาโม อาทิโตว ภิตฺติปริกมฺมํ กโรติ, ตโต อปรภาเค รูปํ สมุฏฺาเปติ. เอวเมว โยคาวจโร อาทิโตว สีลํ วิโสเธตฺวา อปรภาเค สมถวิปสฺสนาทโย ธมฺเม สจฺฉิกโรติ. ตสฺมา สีลํ ‘‘อาที’’ติ วุตฺตํ.

ตเทตํ จรณสริกฺขตาย จรณํ. จรณาติ หิ ปาทา วุจฺจนฺติ. ยถา หิ ฉินฺนจรณสฺส ปุริสสฺส ทิสํ คมนาภิสงฺขาโร น ชายติ, ปริปุณฺณปาทสฺเสว ชายติ, เอวเมว ยสฺส สีลํ ภินฺนํ โหติ ขณฺฑํ อปริปุณฺณํ, ตสฺส นิพฺพานคมนาย าณคมนํ น สมฺปชฺชติ. ยสฺส ปน ตํ อภินฺนํ โหติ อขณฺฑํ ปริปุณฺณํ, ตสฺส นิพฺพานคมนาย าณคมนํ สมฺปชฺชติ. ตสฺมา สีลํ ‘‘จรณ’’นฺติ วุตฺตํ.

ตเทตํ สํยมนวเสน สํยโม. สํวรณวเสน สํวโรติ อุภเยนาปิ สีลสํยโม เจว สีลสํวโร จ กถิโต. วจนตฺโถ ปเนตฺถ สํยเมติ วีติกฺกมวิปฺผนฺทนํ, ปุคฺคลํ วา สํยเมติ วีติกฺกมวเสน ตสฺส วิปฺผนฺทิตุํ น เทตีติ สํยโม. วีติกฺกมสฺส ปเวสนทฺวารํ สํวรติ ปิทหตีติ สํวโร.

โมกฺขนฺติ อุตฺตมํ มุขภูตํ วา. ยถา หิ สตฺตานํ จตุพฺพิโธ อาหาโร มุเขน ปวิสิตฺวา องฺคมงฺคานิ ผรติ, เอวํ โยคิโนปิ จตุภูมกกุสลํ สีลมุเขน ปวิสิตฺวา อตฺถสิทฺธึ สมฺปาเทติ. เตน ‘‘โมกฺข’’นฺติ. ปมุเข สาธูติ ปาโมกฺขํ, ปุพฺพงฺคมํ เสฏฺํ ปธานนฺติ อตฺโถ. กุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยาติ จตุภูมกกุสลานํ ปฏิลาภตฺถาย ปาโมกฺขํ ปุพฺพงฺคมํ เสฏฺํ ปธานนฺติ เวทิตพฺพํ.

วิวิจฺเจว กาเมหีติ กาเมหิ วิวิจฺจ วินา หุตฺวา อปกฺกมิตฺวา. โย ปนายเมตฺถ เอวกาโร, โส นิยมตฺโถติ เวทิตพฺโพ. ยสฺมา จ นิยมตฺโถ, ตสฺมา ตสฺมึ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรณสมเย อวิชฺชมานานมฺปิ กามานํ ตสฺส ปมชฺฌานสฺส ปฏิปกฺขภาวํ กามปริจฺจาเคเนว จสฺส อธิคมํ ทีเปติ. กถํ? ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติ เอวฺหิ นิยเม กริยมาเน อิทํ ปฺายติ, นูนิมสฺส ฌานสฺส กามา ปฏิปกฺขภูตา, เยสุ สติ อิทํ น ปวตฺตติ อนฺธกาเร สติ ปทีโปภาโส วิย, เตสํ ปริจฺจาเคเนว จสฺส อธิคโม โหติ โอริมตีรปริจฺจาเคน ปาริมตีรสฺเสว. ตสฺมา นิยมํ กโรตีติ.

ตตฺถ สิยา ‘‘กสฺมา ปเนส ปุพฺพปเทเยว วุตฺโต น อุตฺตรปเท, กึ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อวิวิจฺจาปิ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยา’’ติ? น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ. ตํนิสฺสรณโต หิ ปุพฺพปเท เอว เอส วุตฺโต. กามธาตุสมติกฺกมนโต หิ กามราคปฏิปกฺขโต จ อิทํ ฌานํ กามานเมว นิสฺสรณํ. ยถาห – ‘‘กามานเมตํ นิสฺสรณํ ยทิทํ เนกฺขมฺม’’นฺติ (อิติวุ. ๗๒). อุตฺตรปเทปิ ปน ยถา ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙) เอตฺถ เอวกาโร อาเนตฺวา วุจฺจติ, เอวํ วตฺตพฺโพ. น หิ สกฺกา อิโต อฺเหิปิ นีวรณสงฺขาเตหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อวิวิจฺจ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. ตสฺมา วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺเจว อกุสเลหิ ธมฺเมหีติ เอวํ ปททฺวเยปิ เอส ทฏฺพฺโพ. ปททฺวเยปิ จ กิฺจาปิ วิวิจฺจาติ อิมินา สาธารณวจเนน ตทงฺควิเวกาทโย กายวิเวกาทโย จ สพฺเพปิ วิเวกา สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, ตถาปิ ปุพฺพภาเค กายวิเวกจิตฺตวิเวกวิกฺขมฺภนวิเวกา ทฏฺพฺพา. โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ กายวิเวกจิตฺตวิเวกสมุจฺเฉทวิเวกนิสฺสรณวิเวกา.

กาเมหีติ อิมินา ปน ปเทน เย จ อิธ ‘‘กตเม วตฺถุกามา มนาปิกา รูปา’’ติอาทินา นเยน วตฺถุกามา วุตฺตา, เย จ อิเธว วิภงฺเค ‘‘ฉนฺโท กาโม ราโค กาโม ฉนฺทราโค กาโม สงฺกปฺโป กาโม ราโค กาโม สงฺกปฺปราโค กาโม’’ติ เอวํ กิเลสกามา วุตฺตา, เต สพฺเพปิ สงฺคหิตา อิจฺเจว ทฏฺพฺพา. เอวฺหิ สติ วิวิจฺเจว กาเมหีติ วตฺถุกาเมหิปิ วิวิจฺเจวาติ อตฺโถ ยุชฺชติ. เตน กายวิเวโก วุตฺโต โหติ.

วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหีติ กิเลสกาเมหิ สพฺพากุสเลหิ วา วิวิจฺจาติ อตฺโถ ยุชฺชติ. เตน จิตฺตวิเวโก วุตฺโต โหติ. ปุริเมน เจตฺถ วตฺถุกาเมหิ วิเวกวจนโต เอว กามสุขปริจฺจาโค, ทุติเยน กิเลสกาเมหิ วิเวกวจนโต เนกฺขมฺมสุขปริคฺคโห วิภาวิโต โหติ. เอวํ วตฺถุกามกิเลสกามวิเวกวจนโตเยว จ เอเตสํ ปเมน สํกิเลสวตฺถุปฺปหานํ, ทุติเยน สํกิเลสปฺปหานํ. ปเมน โลลภาวสฺส เหตุปริจฺจาโค, ทุติเยน พาลภาวสฺส. ปเมน จ ปโยคสุทฺธิ, ทุติเยน อาสยโปสนํ วิภาวิตํ โหตีติ าตพฺพํ. เอส ตาว นโย ‘‘กาเมหี’’ติ เอตฺถ วุตฺตกาเมสุ วตฺถุกามปกฺเข.

กิเลสกามปกฺเข ปน ฉนฺโทติ จ ราโคติ จ เอวมาทีหิ อเนกเภโท กามจฺฉนฺโทว ‘‘กาโม’’ติ อธิปฺเปโต. โส จ อกุสลปริยาปนฺโนปิ สมาโน ‘‘ตตฺถ กตโม กามจฺฉนฺโท, กาโม’’ติอาทินา นเยน วิภงฺเค ฌานปฏิปกฺขโต วิสุํ วุตฺโต. กิเลสกามตฺตา วา ปุริมปเท วุตฺโต, อกุสลปริยาปนฺนตฺตา ทุติยปเท. อเนกเภทโต จสฺส กามโตติ อวตฺวา กาเมหีติ วุตฺตํ. อฺเสมฺปิ จ ธมฺมานํ อกุสลภาเว วิชฺชมาเน ‘‘ตตฺถ กตเม อกุสลา ธมฺมา, กามจฺฉนฺโท’’ติอาทินา นเยน วิภงฺเค (วิภ. ๕๖๔) อุปริฌานงฺคานํ ปจฺจนีกปฏิปกฺขภาวทสฺสนโต นีวรณาเนว วุตฺตานิ. นีวรณานิ หิ ฌานงฺคปจฺจนีกานิ เตสํ ฌานงฺคาเนว ปฏิปกฺขานิ, วิทฺธํสกานิ วิฆาตกานีติ วุตฺตํ โหติ. ตถา หิ ‘‘สมาธิ กามจฺฉนฺทสฺส ปฏิปกฺโข, ปีติ พฺยาปาทสฺส, วิตกฺโก ถินมิทฺธสฺส, สุขํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส, วิจาโร วิจิกิจฺฉายา’’ติ เปฏเก วุตฺตํ.

เอวเมตฺถ วิวิจฺเจว กาเมหีติ อิมินา กามจฺฉนฺทสฺส วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต โหติ, วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหีติ อิมินา ปฺจนฺนมฺปิ นีวรณานํ. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน ปเมน กามจฺฉนฺทสฺส, ทุติเยน เสสนีวรณานํ. ตถา ปเมน ตีสุ อกุสลมูเลสุ ปฺจกามคุณเภทวิสยสฺส โลภสฺส, ทุติเยน อาฆาตวตฺถุเภทาทิวิสยานํ โทสโมหานํ. โอฆาทีสุ วา ธมฺเมสุ ปเมน กาโมฆกามโยคกามาสวกามุปาทานอภิชฺฌากายคนฺถกามราคสํโยชนานํ, ทุติเยน อวเสสโอฆโยคาสวอุปาทานคนฺถสํโยชนานํ. ปเมน จ ตณฺหาย ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ, ทุติเยน อวิชฺชาย ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ. อปิ จ ปเมน โลภสมฺปยุตฺตอฏฺจิตฺตุปฺปาทานํ, ทุติเยน เสสานํ จตุนฺนํ อกุสลจิตฺตุปฺปาทานํ วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต โหตีติ เวทิตพฺโพ.

เอตฺตาวตา จ ปมสฺส ฌานสฺส ปหานงฺคํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สมฺปโยคงฺคํ ทสฺเสตุํ ‘‘สวิตกฺกํ สวิจาร’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อภินิโรปนลกฺขโณ วิตกฺโก, อารมฺมณานุมชฺชนลกฺขโณ วิจาโร. สนฺเตปิ จ เนสํ กตฺถจิ อวิโยเค โอฬาริกฏฺเน ปุพฺพงฺคมฏฺเน จ ฆณฺฑาภิฆาโต วิย เจตโส ปมาภินิปาโต วิตกฺโก, สุขุมฏฺเน อนุมชฺชนสภาเวน จ ฆณฺฑานุรโว วิย อนุปพนฺโธ วิจาโร. วิปฺผารวา เจตฺถ วิตกฺโก ปมุปฺปตฺติกาเล ปริปฺผนฺทนภูโต จิตฺตสฺส, อากาเส อุปฺปติตุกามสฺส ปกฺขิโน ปกฺขวิกฺเขโป วิย, ปทุมาภิมุขปาโต วิย จ คนฺธานุพนฺธเจตโส ภมรสฺส. สนฺตวุตฺติ วิจาโร นาติปริปฺผนฺทนภาโว จิตฺตสฺส, อากาเส อุปฺปติตสฺส ปกฺขิโน ปกฺขปฺปสารณํ วิย, ปริพฺภมนํ วิย จ ปทุมาภิมุขปติตสฺส ภมรสฺส ปทุมสฺส อุปริภาเค.

ทุกนิปาตฏฺกถายํ ปน ‘‘อากาเส คจฺฉโต มหาสกุณสฺส อุโภหิ ปกฺเขหิ วาตํ คเหตฺวา ปกฺเข สนฺนิสีทาเปตฺวา คมนํ วิย อารมฺมเณ เจตโส อภินิโรปนภาเวน ปวตฺโต วิตกฺโก, วาตคฺคหณตฺถํ ปกฺเข ผนฺทาปยมานสฺส คมนํ วิย อนุมชฺชนภาเวน ปวตฺโต วิจาโร’’ติ วุตฺตํ. ตํ อนุปฺปพนฺเธน ปวตฺติยํ ยุชฺชติ. โส ปน เนสํ วิเสโส ปมทุติยชฺฌาเนสุ ปากโฏ โหติ. อปิ จ มลคฺคหิตํ กํสภาชนํ เอเกน หตฺเถน ทฬฺหํ คเหตฺวา อิตเรน หตฺเถน จุณฺณเตลวาลณฺฑุปเกน ปริมชฺชนฺตสฺส ทฬฺหคฺคหณหตฺโถ วิย วิตกฺโก. ปริมชฺชนหตฺโถ วิย วิจาโร. ตถา กุมฺภการสฺส ทณฺฑปฺปหาเรน จกฺกํ ภมยิตฺวา ภาชนํ กโรนฺตสฺส อุปฺปีฬนหตฺโถ วิย วิตกฺโก. อิโต จิโต จ สฺจรณหตฺโถ วิย วิจาโร. ตถา มณฺฑลํ กโรนฺตสฺส มชฺเฌ สนฺนิรุมฺภิตฺวา ิตกณฺฏโก วิย อภินิโรปโน วิตกฺโก. พหิ ปริพฺภมนกณฺฏโก วิย อนุมชฺชมาโน วิจาโร. อิติ อิมินา จ วิตกฺเกน อิมินา จ วิจาเรน สห วตฺตติ รุกฺโข วิย ปุปฺเผน จ ผเลน จาติ อิทํ ฌานํ ‘‘สวิตกฺกํ สวิจาร’’นฺติ วุจฺจติ.

วิเวกชนฺติ เอตฺถ วิวิตฺติ วิเวโก, นีวรณวิคโมติ อตฺโถ. วิวิตฺโตติ วา วิเวโก, นีวรณวิวิตฺโต ฌานสมฺปยุตฺตธมฺมราสีติ อตฺโถ. ตสฺมา วิเวกา, ตสฺมึ วา วิเวเก ชาตนฺติ วิเวกชํ. ปีติสุขนฺติ เอตฺถ ปิณยตีติ ปีติ, สา สมฺปิยายนลกฺขณา. สา ปเนสา ขุทฺทิกาปีติ, ขณิกาปีติ, โอกฺกนฺติกาปีติ, อุพฺเพคาปีติ, ผรณาปีตีติ ปฺจวิธา โหติ.

ตตฺถ ขุทฺทิกาปีติ สรีเร โลมหํสมตฺตเมว กาตุํ สกฺโกติ. ขณิกาปีติ ขเณ ขเณ วิชฺชุปฺปาทสทิสา โหติ. โอกฺกนฺติกาปีติ สมุทฺทตีรํ วีจิ วิย, กายํ โอกฺกมิตฺวา โอกฺกมิตฺวา ภิชฺชติ. อุพฺเพคาปีติ พลวตี โหติ, กายํ อุทฺธคฺคํ กตฺวา อากาเส ลงฺฆาปนปฺปมาณปตฺตา.

ผรณาปีติ อติพลวตี โหติ. ตาย หิ อุปฺปนฺนาย สกลสรีรํ ธมิตฺวา ปูริตวตฺถิ วิย มหตา อุทโกเฆน ปกฺขนฺทปพฺพตกุจฺฉิ วิย จ อนุปริปฺผุฏํ โหติ. สา ปเนสา ปฺจวิธา ปีติ คพฺภํ คณฺหนฺตี ปริปากํ คจฺฉนฺตี ทุวิธํ ปสฺสทฺธึ ปริปูเรติ กายปสฺสทฺธิฺจ จิตฺตปสฺสทฺธิฺจ, ปสฺสทฺธิ คพฺภํ คณฺหนฺตี ปริปากํ คจฺฉนฺตี ทุวิธมฺปิ สุขํ ปริปูเรติ กายิกํ เจตสิกฺจ, สุขํ คพฺภํ คณฺหนฺตํ ปริปากํ คจฺฉนฺตํ ติวิธํ สมาธึ ปริปูเรติ ขณิกสมาธึ อุปจารสมาธึ อปฺปนาสมาธิฺจาติ. ตาสุ ยา อปฺปนาสมาธิสฺส มูลํ หุตฺวา วฑฺฒมานา สมาธิสมฺปโยคงฺคตา ผรณาปีติ, อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปตา ปีตีติ.

อิตรํ ปน สุขยตีติ สุขํ, ยสฺส อุปฺปชฺชติ, ตํ สุขิตํ กโรตีติ อตฺโถ. สุขนํ วา สุขํ, สุฏฺุ วา ขาทติ ขณติ จ กายจิตฺตาพาธนฺติ สุขํ, โสมนสฺสเวทนาเยตํ นามํ. ตํ สาตลกฺขณํ. สนฺเตปิ จ เนสํ กตฺถจิ อวิปฺปโยเค อิฏฺารมฺมณปฏิลาภตุฏฺิ ปีติ, ปฏิลทฺธรสานุภวนํ สุขํ. ยตฺถ ปีติ, ตตฺถ สุขํ, ยตฺถ สุขํ, ตตฺถ น นิยมโต ปีติ. สงฺขารกฺขนฺธสงฺคหิตา ปีติ, เวทนากฺขนฺธสงฺคหิตํ สุขํ. กนฺตารขินฺนสฺส วนนฺโตทกทสฺสนสวเนสุ วิย ปีติ, วนจฺฉายปฺปเวสนอุทกปริโภเคสุ วิย สุขํ. ตสฺมึ ตสฺมึ สมเย ปากฏภาวโต เจตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิติ อยฺจ ปีติ อิทฺจ สุขํ อสฺส ฌานสฺส, อสฺมึ วา ฌาเน อตฺถีติ อิทํ ฌานํ ‘‘ปีติสุข’’นฺติ วุจฺจติ.

อถ วา ปีติ จ สุขฺจ ปีติสุขํ ธมฺมวินยาทโย วิย. วิเวกชํ ปีติสุขํ อสฺส ฌานสฺส, อสฺมึ วา ฌาเน อตฺถีติ เอวมฺปิ วิเวกชํปีติสุขํ. ยเถว หิ ฌานํ, เอวํ ปีติสุขมฺเปตฺถ วิเวกชเมว โหติ, ตฺจสฺส อตฺถิ, ตสฺมา อโลปสมาสํ กตฺวา เอกปเทเนว ‘‘วิเวกชํปีติสุข’’นฺติปิ วตฺตุํ ยุชฺชติ.

ปมนฺติ คณนานุปุพฺพตา ปมํ, อิทํ ปมํ อุปฺปนฺนนฺติปิ ปมํ. ฌานนฺติ ทุวิธํ ฌานํ อารมฺมณูปนิชฺฌานํ ลกฺขณูปนิชฺฌานฺจาติ. ตตฺถ อฏฺ สมาปตฺติโย ปถวีกสิณาทิอารมฺมณํ อุปนิชฺฌายนฺตีติ อารมฺมณูปนิชฺฌานนฺติ สงฺขฺยํ คตา. วิปสฺสนามคฺคผลานิ ปน ลกฺขณูปนิชฺฌานํ นาม. ตตฺถ วิปสฺสนา อนิจฺจาทิลกฺขณสฺส อุปนิชฺฌานโต ลกฺขณูปนิชฺฌานํ. วิปสฺสนาย กตกิจฺจสฺส มคฺเคน อิชฺฌนโต มคฺโค ลกฺขณูปนิชฺฌานํ, ผลํ ปน นิโรธสจฺจํ ตถลกฺขณํ อุปนิชฺฌายตีติ ลกฺขณูปนิชฺฌานํ. เตสุ อิธ ปุพฺพภาเค อารมฺมณูปนิชฺฌานํ, โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ลกฺขณูปนิชฺฌานํ อธิปฺเปตํ. ตสฺมา อารมฺมณูปนิชฺฌานโต จ ลกฺขณูปนิชฺฌานโต จ ปจฺจนีกฌาปนโต จ ฌานนฺติ เวทิตพฺพํ.

อุปสมฺปชฺชาติ อุปคนฺตฺวา, ปาปุณิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อุปสมฺปาทยิตฺวา วา, นิปฺผาเทตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. วิหรตีติ ตทนุรูเปน อิริยาปถวิหาเรน อิริยติ, วุตฺตปฺปการฌานสมงฺคี หุตฺวา อตฺตภาวสฺส อิริยนํ วุตฺตึ อภินิปฺผาเทติ.

ตํ ปเนตํ ปมชฺฌานํ ปฺจงฺควิปฺปหีนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ ติวิธกลฺยาณํ, ทสลกฺขณสมฺปนฺนํ. ตตฺถ กามจฺฉนฺโท พฺยาปาโท ถินมิทฺธํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ วิจิกิจฺฉาติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ นีวรณานํ ปหานวเสน ปฺจงฺควิปฺปหีนตา เวทิตพฺพา. น หิ เอเตสุ อปฺปหีเนสุ ฌานํ อุปฺปชฺชติ. เตนสฺเสตานิ ปหานงฺคานีติ วุจฺจนฺติ. กิฺจาปิ หิ ฌานกฺขเณ อฺเปิ อกุสลา ธมฺมา ปหียนฺติ, ตถาปิ เอตาเนว วิเสเสน ฌานนฺตรายกรานิ. กามจฺฉนฺเทน หิ นานาวิสยปฺปโลภิตํ จิตฺตํ น เอกตฺตารมฺมเณ สมาธิยติ, กามจฺฉนฺทาภิภูตํ วา, ตํ น กามธาตุปฺปหานาย ปฏิปทํ ปฏิปชฺชติ. พฺยาปาเทน วา อารมฺมเณ ปฏิหฺมานํ น นิรนฺตรํ ปวตฺตติ. ถินมิทฺธาภิภูตํ อกมฺมฺํ โหติ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปเรตํ อวูปสนฺตเมว หุตฺวา ปริพฺภมติ. วิจิกิจฺฉาย อุปหตํ ฌานาธิคมสาธิกํ ปฏิปทํ นาโรหติ. อิติ วิเสเสน ฌานนฺตรายกรตฺตา เอตาเนว ปหานงฺคานีติ วุตฺตานิ.

ยสฺมา ปน วิตกฺโก อารมฺมเณ จิตฺตํ อภินิโรเปติ, วิจาโร อนุปพนฺธติ, เตหิ อวิกฺเขปาย สมฺปาทิตปโยคสฺส เจตโส ปโยคสมฺปตฺติสมฺภวา ปีติ ปีณนํ สุขฺจ อุปพฺรูหนํ กโรติ. อถสฺส เสสสมฺปยุตฺตธมฺมา เอเตหิ อภินิโรปนานุพนฺธนปีณนุปพฺรูหเนหิ อนุคฺคหิตา เอกคฺคตา เอกตฺตารมฺมเณ สมํ สมฺมา จ อาธิยติ. ตสฺมา วิตกฺโก วิจาโร ปีติ สุขํ จิตฺเตกคฺคตาติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ อุปฺปตฺติวเสน ปฺจงฺคสมนฺนาคตตา เวทิตพฺพา. อุปฺปนฺเนสุ หิ เอเตสุ ปฺจสุ ฌานํ อุปฺปนฺนํ นาม โหติ. เตนสฺส เอตานิ ปฺจงฺคสมนฺนาคตานีติ วุจฺจนฺติ. ตสฺมา น เอเตหิ สมนฺนาคตํ อฺเทว ฌานํ นาม อตฺถีติ คเหตพฺพํ. ยถา ปน องฺคมตฺตวเสเนว จตุรงฺคินี เสนา, ปฺจงฺคิกํ ตูริยํ, อฏฺงฺคิโก จ มคฺโคติ วุจฺจติ, เอวมิทมฺปิ องฺคมตฺตวเสเนว ปฺจงฺคิกนฺติ วา ปฺจงฺคสมนฺนาคตนฺติ วา วุจฺจตีติ เวทิตพฺพํ.

เอตานิ จ ปฺจงฺคานิ กิฺจาปิ อุปจารกฺขเณปิ อตฺถิ, อถ โข อุปจาเร ปกติจิตฺตโต พลวตรานิ. อิธ ปน อุปจารโตปิ พลวตรานิ รูปาวจรลกฺขณปฺปตฺตานิ นิปฺผนฺนานิ. เอตฺถ หิ วิตกฺโก สุวิสเทน อากาเรน อารมฺมเณ จิตฺตํ อภินิโรปยมาโน อุปฺปชฺชติ. วิจาโร อติวิย อารมฺมณํ อนุมชฺชมาโน. ปีติสุขํ สพฺพาวนฺตมฺปิ กายํ ผรมานํ. เตเนวาห – ‘‘นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส วิเวกเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๒๖). จิตฺเตกคฺคตาปิ เหฏฺิมมฺหิ สมุคฺคปฏเล อุปริมํ สมุคฺคปฏลํ วิย อารมฺมเณสุ ผุสิตา หุตฺวา อุปฺปชฺชติ, อยเมเตสํ อิตเรหิ วิเสโส. ตตฺถ จิตฺเตกคฺคตา กิฺจาปิ ‘‘สวิตกฺกํ สวิจาร’’นฺติ อิมสฺมึ ปาเ น นิทฺทิฏฺา, ตถาปิ วิภงฺเค (วิภ. ๕๖๕) ‘‘ฌานนฺติ วิตกฺโก วิจาโร ปีติ สุขํ จิตฺเตกคฺคตา’’ติ เอวํ วุตฺตตฺตา องฺคเมว. เยน หิ อธิปฺปาเยน ภควตา อุทฺเทโส กโต, โสเยว เตน วิภงฺเค ปกาสิโตติ.

ติวิธกลฺยาณํ

ติวิธกลฺยาณํ ทสลกฺขณสมฺปนฺนนฺติ เอตฺถ ปน อาทิมชฺฌปริโยสานวเสนติวิธกลฺยาณตา. เตสํเยว จ อาทิมชฺฌปริโยสานานํ ลกฺขณวเสน ทสลกฺขณสมฺปนฺนตา เวทิตพฺพา. ตตฺรายํ ปาฬิ –

‘‘ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ, อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ, สมฺปหํสนา ปริโยสานํ, ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ. อาทิสฺส กติ ลกฺขณานิ? อาทิสฺส ตีณิ ลกฺขณานิ – โย ตสฺส ปริปนฺโถ, ตโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ, วิสุทฺธตฺตา จิตฺตํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ, ปฏิปนฺนตฺตา ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. ยฺจ ปริปนฺถโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ, ยฺจ วิสุทฺธตฺตา จิตฺตํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ, ยฺจ ปฏิปนฺนตฺตา ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ, อาทิสฺส อิมานิ ตีณิ ลกฺขณานิ. เตน วุจฺจติ – ‘ปมํ ฌานํ อาทิกลฺยาณฺเจว โหติ ติลกฺขณสมฺปนฺนฺจา’ติ.

‘‘ปมสฺส ฌานสฺส อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ. มชฺฌสฺส กติ ลกฺขณานิ? มชฺฌสฺส ตีณิ ลกฺขณานิ – วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ, สมถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ, เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ. ยฺจ วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ, ยฺจ สมถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ, ยฺจ เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ. ปมสฺส ฌานสฺส อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ, มชฺฌสฺส อิมานิ ตีณิ ลกฺขณานิ. เตน วุจฺจติ – ‘ปมํ ฌานํ มชฺเฌกลฺยาณฺเจว โหติ ติลกฺขณสมฺปนฺนฺจา’ติ.

‘‘ปมสฺส ฌานสฺส สมฺปหํสนา ปริโยสานํ. ปริโยสานสฺส กติ ลกฺขณานิ? ปริโยสานสฺส จตฺตาริ ลกฺขณานิ – ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนฏฺเน สมฺปหํสนา, อินฺทฺริยานํ เอกราสฏฺเน สมฺปหํสนา, ตทุปควีริยวาหนฏฺเน สมฺปหํสนา, อาเสวนฏฺเน สมฺปหํสนา. ปมสฺส ฌานสฺส สมฺปหํสนา ปริโยสานํ, ปริโยสานสฺส อิมานิ จตฺตาริ ลกฺขณานิ. เตน วุจฺจติ ‘ปมํ ฌานํ ปริโยสานกลฺยาณฺเจว โหติ จตุลกฺขณสมฺปนฺนฺจา’’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๘).

‘‘ตตฺร ปฏิปทาวิสุทฺธิ นาม สสมฺภาริโก อุปจาโร. อุเปกฺขานุพฺรูหนา นาม อปฺปนา. สมฺปหํสนา นาม ปจฺจเวกฺขณา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. ยสฺมา ปน ‘‘เอกตฺตคตํ จิตฺตํ ปฏิปทาวิสุทฺธิปกฺขนฺทฺเจว โหติ อุเปกฺขานุพฺรูหิตฺจ าเณน จ สมฺปหํสิต’’นฺติ ปาฬิยํ วุตฺตํ, ตสฺมา อนฺโตอปฺปนายเมว อาคมนวเสน ปฏิปทาวิสุทฺธิ, ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจวเสน อุเปกฺขานุพฺรูหนา, ธมฺมานํ อนติวตฺตนาทิภาวสาธเนน ปริโยทาปกสฺส าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน สมฺปหํสนา จ เวทิตพฺพา.

กถํ? ยสฺมิฺหิ วาเร อปฺปนา อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ โย นีวรณสงฺขาโต กิเลสคโณ ตสฺส ฌานสฺส ปริปนฺโถ, ตโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ. วิสุทฺธตฺตา อาวรณวิรหิตํ หุตฺวา มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ. มชฺฌิมสมถนิมิตฺตํ นาม สมปฺปวตฺโต อปฺปนาสมาธิเยว. ตทนนฺตรํ ปน ปุริมจิตฺตํ เอกสนฺตติปริณามนเยน ตถตฺตํ อุปคจฺฉมานํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ นาม, เอวํ ปฏิปนฺนตฺตา ตถตฺตุปคมเนน ตตฺถ ปกฺขนฺทติ นาม. เอวํ ตาว ปุริมจิตฺเต วิชฺชมานาการนิปฺผาทิกา ปมสฺส ฌานสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว อาคมนวเสน ปฏิปทาวิสุทฺธิ เวทิตพฺพา.

เอวํ วิสุทฺธสฺส ปน ตสฺส ปุน วิโสเธตพฺพาภาวโต วิโสธเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. สมถภาวูปคมเนน สมถปฏิปนฺนสฺส ปุน สมาธาเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต สมถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. สมถปฏิปนฺนภาวโต เอว จสฺส กิเลสสํสคฺคํ ปหาย เอกตฺเตน อุปฏฺิตสฺส ปุน เอกตฺตุปฏฺาเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. เอวํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจวเสน อุเปกฺขานุพฺรูหนา เวทิตพฺพา.

เย ปเนเต เอวํ อุเปกฺขานุพฺรูหิเต ตตฺถ ชาตา สมาธิปฺาสงฺขาตา ยุคนทฺธธมฺมา อฺมฺํ อนติวตฺตมานา หุตฺวา ปวตฺตา, ยานิ จ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ นานากิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติรเสน เอกรสานิ หุตฺวา ปวตฺตานิ, ยฺเจส ตทุปคํ เตสํ อนติวตฺตนเอกรสภาวานํ อนุจฺฉวิกํ วีริยํ วาหยติ, ยา จสฺส ตสฺมึ ขเณ ปวตฺตา อาเสวนา, สพฺเพปิ เต อาการา ยสฺมา าเณน สํกิเลสโวทาเนสุ ตํ ตํ อาทีนวฺจ อานิสํสฺจ ทิสฺวา ตถา ตถา สมฺปหํสิตตฺตา วิโสธิตตฺตา ปริโยทาปิตตฺตา นิปฺผนฺนาว, ตสฺมา ‘‘ธมฺมานํ อนติวตฺตนาทิภาวสาธเนน ปริโยทาปกสฺส าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน สมฺปหํสนา เวทิตพฺพา’’ติ วุตฺตํ.

วิตกฺกวิจารานํ วูปสมาติ วิตกฺกสฺส จ วิจารสฺส จาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ วูปสมา สมติกฺกมา, ทุติยชฺฌานกฺขเณ อปาตุภาวาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ กิฺจาปิ ทุติยชฺฌาเน สพฺเพปิ ปมชฺฌานธมฺมา น สนฺติ, อฺเเยว หิ ปมชฺฌาเน ผสฺสาทโย, อฺเ อิธ. โอฬาริกสฺส ปน โอฬาริกสฺส องฺคสฺส สมติกฺกมา ปมชฺฌานโต ปเรสํ ทุติยชฺฌานาทีนํ อธิคโม โหตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’’ติ เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อชฺฌตฺตนฺติ อิธ นิยกชฺฌตฺตํ อธิปฺเปตํ, วิภงฺเค ปน ‘‘อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺต’’นฺติ (วิภ. ๕๗๓) เอตฺตกเมว วุตฺตํ. ยสฺมา นิยกชฺฌตฺตํ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา อตฺตนิ ชาตํ, อตฺตโน สนฺตาเน นิพฺพตฺตนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ.

สมฺปสาทนนฺติ สมฺปสาทนํ วุจฺจติ สทฺธา. สมฺปสาทนโยคโต ฌานมฺปิ สมฺปสาทนํ, นีลวณฺณโยคโต นีลวตฺถํ วิย. ยสฺมา วา ตํ ฌานํ สมฺปสาทนสมนฺนาคตตฺตา วิตกฺกวิจารกฺโขภวูปสมเนน จ เจโต สมฺปสาทยติ, ตสฺมาปิ ‘‘สมฺปสาทน’’นฺติ วุตฺตํ. อิมสฺมิฺจ อตฺถวิกปฺเป สมฺปสาทนํ เจตโสติ เอวํ ปทสมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ปุริมสฺมึ ปน อตฺถวิกปฺเป เจตโสติ เอตํ เอโกทิภาเวน สทฺธึ โยเชตพฺพํ.

ตตฺรายํ อตฺถโยชนา – เอโก อุเทตีติ เอโกทิ, วิตกฺกวิจาเรหิ อนชฺฌารูฬฺหตฺตา อคฺโค เสฏฺโ หุตฺวา อุเทตีติ อตฺโถ. เสฏฺโปิ หิ โลเก เอโกติ วุจฺจติ. วิตกฺกวิจารวิรหิโต วา เอโก อสหาโย หุตฺวาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อถ วา สมฺปยุตฺตธมฺเม อุทายตีติ อุทิ, อุฏฺาเปตีติ อตฺโถ. เสฏฺฏฺเน เอโก จ โส อุทิ จาติ เอโกทิ, สมาธิสฺเสตํ อธิวจนํ. อิติ อิมํ เอโกทึ ภาเวติ วฑฺเฒตีติ อิทํ ทุติยชฺฌานํ เอโกทิภาวํ. โส ปนายํ เอโกทิ ยสฺมา เจตโส, น สตฺตสฺส, น ชีวสฺส. ตสฺมา เอตํ ‘‘เจตโส เอโกทิภาว’’นฺติ วุตฺตํ.

นนุ จายํ สทฺธา ปมชฺฌาเนปิ อตฺถิ, อยฺจ เอโกทินามโก สมาธิ, อถ กสฺมา อิทเมว ‘‘สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาว’’นฺติ วุตฺตนฺติ? วุจฺจเต – อทุฺหิ ปมชฺฌานํ วิตกฺกวิจารกฺโขเภน วีจิตรงฺคสมากุลมิว ชลํ น สุปฺปสนฺนํ โหติ, ตสฺมา สติยาปิ สทฺธาย สมฺปสาทนนฺติ น วุตฺตํ. น สุปฺปสนฺนตฺตาเยว เจตฺถ สมาธิปิ น สุฏฺุ ปากโฏ, ตสฺมา เอโกทิภาวนฺติปิ น วุตฺตํ. อิมสฺมึ ปน ฌาเน วิตกฺกวิจารปลิโพธาภาเวน ลทฺโธกาสา พลวตี สทฺธา, พลวสทฺธาสหายปฏิลาเภเนว จ สมาธิปิ ปากโฏ. ตสฺมา อิทเมว เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อวิตกฺกํ อวิจารนฺติ ภาวนาย ปหีนตฺตา เอตสฺมึ, เอตสฺส วา วิตกฺโก นตฺถีติ อวิตกฺกํ. อิมินาว นเยน อวิจารํ. เอตฺถาห ‘‘นนุ จ ‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’ติ อิมินาปิ อยมตฺโถ สิทฺโธ. อถ กสฺมา ปุน วุตฺตํ ‘อวิตกฺกํ อวิจาร’’’นฺติ? วุจฺจเต – เอวเมตํ, สิทฺโธวายมตฺโถ. น ปเนตํ ตทตฺถทีปกํ, นนุ อโวจุมฺห ‘‘โอฬาริกสฺส ปน โอฬาริกสฺส องฺคสฺส สมติกฺกมา ปมชฺฌานโต ปเรสํ ทุติยชฺฌานาทีนํ สมธิคโม โหตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’ติ เอวํ วุตฺต’’นฺติ.

อปิ จ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อิทํ สมฺปสาทนํ, น กิเลสกาลุสฺสิยสฺส. วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมา เอโกทิภาวํ, น อุปจารชฺฌานมิว นีวรณปฺปหานา, น ปมชฺฌานมิว จ องฺคปาตุภาวาติ เอวํ สมฺปสาทนเอโกทิภาวานํ เหตุปริทีปกมิทํ วจนํ. ตถา วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อิทํ อวิตกฺกํ อวิจารํ, น ตติยจตุตฺถชฺฌานานิ วิย จกฺขุวิฺาณาทีนิ วิย จ อภาวาติ, เอวํ อวิตกฺกอวิจารภาวสฺส เหตุปริทีปกฺจ, น วิตกฺกวิจาราภาวมตฺตปริทีปกํ. วิตกฺกวิจาราภาวมตฺตปริทีปกเมว ปน ‘‘อวิตกฺกํ อวิจาร’’นฺติ อิทํ วจนํ. ตสฺมา ปุริมํ วตฺวาปิ ปุน วตฺตพฺพเมวาติ.

สมาธิชนฺติ ปมชฺฌานสมาธิโต สมฺปยุตฺตสมาธิโต วา ชาตนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ กิฺจาปิ ปมมฺปิ สมฺปยุตฺตสมาธิโต ชาตํ, อถ โข อยเมว สมาธิ ‘‘สมาธี’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหติ, วิตกฺกวิจารกฺโขภวิรเหน อติวิย อจลตฺตา สุปฺปสนฺนตฺตา จ. ตสฺมา อิมสฺส วณฺณภณนตฺถํ อิทเมว ‘‘สมาธิช’’นฺติ วุตฺตํ. ปีติสุขนฺติ อิทํ วุตฺตนยเมว.

ทุติยนฺติ คณนานุปุพฺพตา ทุติยํ. อิทํ ทุติยํ อุปฺปนฺนนฺติปิ ทุติยํ.

ปีติยา จ วิราคาติ วิราโค นาม วุตฺตปฺปการาย ปีติยา ชิคุจฺฉนํ วา สมติกฺกโม วา. อุภินฺนํ ปน อนฺตรา -สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ, โส วูปสมํ วา สมฺปิณฺเฑติ วิตกฺกวิจารวูปสมํ วา. ตตฺถ ยทา วูปสมเมว สมฺปิณฺเฑติ, ตทา ปีติยา วิราคา จ, กิฺจ ภิยฺโย วูปสมา จาติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. อิมิสฺสา จ โยชนาย วิราโค ชิคุจฺฉนตฺโถ โหติ, ตสฺมา ปีติยา ชิคุจฺฉนา จ สมติกฺกมา จาติ อยมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยทา ปน วิตกฺกวิจารวูปสมํ สมฺปิณฺเฑติ, ตทา ปีติยา จ วิราคา, กิฺจ ภิยฺโย วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมาติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. อิมิสฺสา จ โยชนาย วิราโค สมติกฺกมนตฺโถ โหติ, ตสฺมา ปีติยา จ สมติกฺกมา วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมาติ อยมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

กามฺเจเต วิตกฺกวิจารา ทุติยชฺฌาเนเยว วูปสนฺตา, อิมสฺส ปน ฌานสฺส มคฺคปริทีปนตฺถํ วณฺณภณนตฺถฺเจตํ วุตฺตํ. ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’’ติ หิ วุตฺเต อิทํ ปฺายติ ‘‘นูน วิตกฺกวิจารวูปสโม มคฺโค อิมสฺส ฌานสฺสา’’ติ. ยถา จ ตติเย อริยมคฺเค อปฺปหีนานมฺปิ สกฺกายทิฏฺาทีนํ ‘‘ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปหานา’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๓๒-๑๓๓) เอวํ ปหานํ วุจฺจมานํ วณฺณภณนํ โหติ, ตทธิคมาย อุสฺสุกฺกานํ อุสฺสาหชนกํ, เอวเมว อิธ อวูปสนฺตานมฺปิ วิตกฺกวิจารานํ วูปสโม วุจฺจมาโน วณฺณภณนํ โหติ, เตนายมตฺโถ วุตฺโต ‘‘ปีติยา จ สมติกฺกมา วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมา’’ติ.

อุเปกฺขโก จ วิหรตีติ เอตฺถ อุปปตฺติโต อิกฺขตีติ อุเปกฺขา, สมํ ปสฺสติ, อปกฺขปติตา หุตฺวา ปสฺสตีติ อตฺโถ. ตาย วิสทาย วิปุลาย ถามคตาย สมนฺนาคตตฺตา ตติยชฺฌานสมงฺคี ‘‘อุเปกฺขโก’’ติ วุจฺจติ.

อุเปกฺขา ปน ทสวิธา โหติ – ฉฬงฺคุเปกฺขา พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา โพชฺฌงฺคุเปกฺขา วีริยุเปกฺขา สงฺขารุเปกฺขา เวทนุเปกฺขา วิปสฺสนุเปกฺขา ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา ฌานุเปกฺขา ปาริสุทฺธุเปกฺขาติ.

ตตฺถ ยา ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน’’ติ (ม. นิ. ๖.๑) เอวมาคตา ขีณาสวสฺส ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺานิฏฺฉฬารมฺมณาปาเถ ปริสุทฺธปกติภาวาวิชหนาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ ฉฬงฺคุเปกฺขา นาม.

ยา ปน ‘‘อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๕๕๖; ม. นิ. ๑.๗๗) เอวมาคตา สตฺเตสุ มชฺฌตฺตาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา นาม.

ยา ปน ‘‘อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิต’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๒๔๗) เอวมาคตา สหชาตานํ ธมฺมานํ มชฺฌตฺตาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ โพชฺฌงฺคุเปกฺขา นาม.

ยา ปน ‘‘กาเลน กาลํ อุเปกฺขานิมิตฺตํ มนสิ กโรตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๐๓) เอวมาคตา อนจฺจารทฺธนาติสิถิลวีริยสงฺขาตา อุเปกฺขา, อยํ วีริยุเปกฺขา นาม.

ยา ปน ‘‘กติ สงฺขารุเปกฺขา สมถวเสน อุปฺปชฺชนฺติ, กติ สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺติ? อฏฺ สงฺขารุเปกฺขา สมถวเสน อุปฺปชฺชนฺติ, ทส สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๗) เอวมาคตา นีวรณาทิปฏิสงฺขาสนฺติฏฺนาคหเณ มชฺฌตฺตภูตา อุเปกฺขา, อยํ สงฺขารุเปกฺขา นาม.

ยา ปน ‘‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ อุเปกฺขาสหคต’’นฺติ (ธ. ส. ๑๕๐) เอวมาคตา อทุกฺขมสุขสงฺขาตา อุเปกฺขา, อยํ เวทนุเปกฺขา นาม.

ยา ปน ‘‘ยทตฺถิ ยํ ภูตํ, ตํ ปชหติ, อุเปกฺขํ ปฏิลภตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๗๑-๗๒; อ. นิ. ๗.๕๕) เอวมาคตา วิจินเน มชฺฌตฺตภูตา อุเปกฺขา, อยํ วิปสฺสนุเปกฺขา นาม.

ยา ปน ฉนฺทาทีสุ เยวาปนเกสุ อาคตา สหชาตานํ สมวาหิตภูตา อุเปกฺขา, อยํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา นาม.

ยา ปน ‘‘อุเปกฺขโก จ วิหรตี’’ติ เอวมาคตา อคฺคสุเขปิ ตสฺมึ อปกฺขปาตชนนี อุเปกฺขา, อยํ ฌานุเปกฺขา นาม.

ยา ปน ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌาน’’นฺติ (ธ. ส. ๑๖๕; ที. นิ. ๑.๒๓๒) เอวมาคตา สพฺพปจฺจนีกปริสุทฺธา ปจฺจนีกวูปสมเนปิ อพฺยาปารภูตา อุเปกฺขา, อยํ ปาริสุทฺธุเปกฺขา นาม.

ตตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขา จ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา จ โพชฺฌงฺคุเปกฺขา จ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา จ ฌานุเปกฺขา จ ปาริสุทฺธุเปกฺขา จ อตฺถโต เอกา, ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาว โหติ. เตน เตน อวตฺถาเภเทน ปนสฺสา อยํ เภโท. เอกสฺสาปิ สโต สตฺตสฺส กุมารยุวเถรเสนาปติราชาทิวเสน เภโท วิย, ตสฺมา ตาสุ ยตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขา, น ตตฺถ โพชฺฌงฺคุเปกฺขาทโย. ยตฺถ วา ปน โพชฺฌงฺคุเปกฺขา, น ตตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขาทโย โหนฺตีติ เวทิตพฺพา.

ยถา เจตาสํ อตฺถโต เอกีภาโว, เอวํ สงฺขารุเปกฺขาวิปสฺสนุเปกฺขานมฺปิ. ปฺา เอว หิ เอสา, กิจฺจวเสน ทฺวิธา ภินฺนา, ยถา หิ ปุริสสฺส สายํ เคหํ ปวิฏฺํ สปฺปํ อชปททณฺฑํ คเหตฺวา ปริเยสมานสฺส ตํ ถุสโกฏฺเก นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘สปฺโป นุ โข โน’’ติ อวโลเกนฺตสฺส โสวตฺถิกตฺตยํ ทิสฺวา นิพฺเพมติกสฺส ‘‘สปฺโป น สปฺโป’’ติ วิจินเน มชฺฌตฺตตา อุปฺปชฺชติ, เอวเมว ยา อารทฺธวิปสฺสกสฺส วิปสฺสนาาเณน ลกฺขณตฺตเย ทิฏฺเ สงฺขารานํ อนิจฺจภาวาทิวิจินเน มชฺฌตฺตตา อุปฺปชฺชติ, อยํ วิปสฺสนุเปกฺขา. ยถา ปน ตสฺส ปุริสสฺส อชปททณฺฑเกน คาฬฺหํ สปฺปํ คเหตฺวา ‘‘กินฺตาหํ อิมํ สปฺปํ อวิเหเนฺโต อตฺตานฺจ อิมินา อฑํสาเปนฺโต มุฺเจยฺย’’นฺติ มุฺจนาการเมว ปริเยสโต คหเณ มชฺฌตฺตตา โหติ, เอวเมว ยา ลกฺขณตฺตยสฺส ทิฏฺตฺตา อาทิตฺเต วิย ตโย ภเว ปสฺสโต สงฺขารคฺคหเณ มชฺฌตฺตตา, อยํ สงฺขารุเปกฺขา. อิติ วิปสฺสนุเปกฺขาย สิทฺธาย สงฺขารุเปกฺขาปิ สิทฺธาว โหติ. อิมินา ปเนสา วิจินนคฺคหเณสุ มชฺฌตฺตตาสงฺขาเตน กิจฺเจน ทฺวิธา ภินฺนาติ. วีริยุเปกฺขา ปน เวทนุเปกฺขา จ อฺมฺฺจ อวเสสาหิ จ อตฺถโต ภินฺนาเยวาติ. อาห เจตฺถ –

‘‘มชฺฌตฺตพฺรหฺมโพชฺฌงฺคฉฬงฺคฌานสุทฺธิโย;

วิปสฺสนา จ สงฺขารเวทนาวีริยํ อิติ.

‘‘วิตฺถารโต ทโสเปกฺขา-ฉมชฺฌตฺตาทิโต ตโต;

ทุเว ปฺา ตโต ทฺวีหิ, จตสฺโสว ภวนฺติมา’’ติ.

อิติ อิมาสุ อุเปกฺขาสุ ฌานุเปกฺขา อิธ อธิปฺเปตา. สา มชฺฌตฺตลกฺขณา, อนาโภครสา, อพฺยาปารปจฺจุปฏฺานา, ปีติวิราคปทฏฺานาติ. เอตฺถาห – ‘‘นนุ จายํ อตฺถโต ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาว โหติ, สา จ ปมทุติยชฺฌาเนสุปิ อตฺถิ. ตสฺมา ตตฺราปิ ‘อุเปกฺขโก จ วิหรตี’ติ เอวมยํ วตฺตพฺพา สิยา, สา กสฺมา น วุตฺตา’’ติ? อปริพฺยตฺตกิจฺจโต. อปริพฺยตฺตฺหิ ตสฺสา ตตฺถ กิจฺจํ, วิตกฺกาทีหิ อภิภูตตฺตา. อิธ ปนายํ วิตกฺกวิจารปีตีหิ อนภิภูตตฺตา อุกฺขิตฺตสิรา วิย หุตฺวา ปริพฺยตฺตกิจฺจา ชาตา, ตสฺมา วุตฺตาติ.

สโต จ สมฺปชาโนติ เอตฺถ สรตีติ สโต. สมฺปชานาตีติ สมฺปชาโน. อิติ ปุคฺคเลน สติ จ สมฺปชฺฺจ วุตฺตํ. ตตฺถ สรณลกฺขณา สติ, อสมฺมุสฺสนรสา อารกฺขปจฺจุปฏฺานา. อสมฺโมหลกฺขณํ สมฺปชฺํ, ตีรณรสํ, ปวิจยปจฺจุปฏฺานํ.

ตตฺถ กิฺจาปิ อิทํ สติสมฺปชฺํ ปุริมชฺฌาเนสุปิ อตฺถิ, มุฏฺสฺสติสฺส หิ อสมฺปชานสฺส อุปจารมตฺตมฺปิ น สมฺปชฺชติ, ปเคว อปฺปนา. โอฬาริกตฺตา ปน เตสํ ฌานานํ ภูมิยํ วิย ปุริสสฺส จิตฺตสฺส คติ สุขา โหติ, อพฺยตฺตํ ตตฺถ สติสมฺปชฺกิจฺจํ. โอฬาริกงฺคปฺปหาเนน ปน สุขุมตฺตา อิมสฺส ฌานสฺส ปุริสสฺส ขุรธารายํ วิย สติสมฺปชฺกิจฺจปริคฺคหิตา เอว จิตฺตสฺส คติ อิจฺฉิตพฺพาติ อิเธว วุตฺตํ. กิฺจ ภิยฺโย – ยถา เธนุปโค วจฺโฉ เธนุโต อปนีโต อรกฺขิยมาโน ปุนเทว เธนุํ อุปคจฺฉติ, เอวมิทํ ตติยชฺฌานสุขํ ปีติโต อปนีตมฺปิ สติสมฺปชฺารกฺเขน อรกฺขิยมานํ ปุนเทว ปีตึ อุปคจฺเฉยฺย, ปีติสมฺปยุตฺตเมว สิยา, สุเข วาปิ สตฺตา สารชฺชนฺติ. อิทฺจ อติมธุรสุขํ, ตโต ปรํ สุขาภาวา. สติสมฺปชฺานุภาเวน ปเนตฺถ สุเข อสารชฺชนา โหติ, โน อฺถาติ อิมมฺปิ อตฺถวิเสสํ ทสฺเสตุํ อิทมิเธว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อิทานิ สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตีติ เอตฺถ กิฺจาปิ ตติยชฺฌานสมงฺคิโน สุขปฏิสํเวทนาโภโค นตฺถิ, เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา ตสฺส นามกาเยน สมฺปยุตฺตํ สุขํ. ยํ วา ตํ นามกายสมฺปยุตฺตํ สุขํ, ตํสมุฏฺาเนนสฺส ยสฺมา อติปณีเตน รูเปน รูปกาโย ผุโฏ, ยสฺส ผุฏตฺตา ฌานา วุฏฺิโตปิ สุขํ ปฏิสํเวเทยฺย, ตสฺมา เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตี’’ติ อาห.

อิทานิ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารีติ เอตฺถ ยํฌานเหตุ ยํฌานการณา ตํ ตติยชฺฌานสมงฺคีปุคฺคลํ พุทฺธาทโย อริยา อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺติ ปฺเปนฺติ ปฏฺเปนฺติ วิวรนฺติ วิภชนฺติ อุตฺตานีกโรนฺติ ปกาเสนฺติ, ปสํสนฺตีติ อธิปฺปาโย. กินฺติ? อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารีติ. ตํ ตติยชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา.

กสฺมา ปน ตํ เต เอวํ ปสํสนฺตีติ? ปสํสารหโต. อยฺหิ ยสฺมา อติมธุรสุเข สุขปารมิปฺปตฺเตปิ ตติยชฺฌาเน อุเปกฺขโก, น ตตฺถ สุขาภิสงฺเคน อากฑฺฒียติ. ยถา จ ปีติ น อุปฺปชฺชติ, เอวํ อุปฏฺิตสติตาย สติมา. ยสฺมา จ อริยกนฺตํ อริยชนเสวิตเมว จ อสํกิลิฏฺํ สุขํ นามกาเยน ปฏิสํเวเทติ, ตสฺมา ปสํสารโห. อิติ ปสํสารหโต นํ อริยา เต เอวํ ปสํสาเหตุภูเต คุเณ ปกาเสนฺโต ‘‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’’ติ เอวํ ปสํสนฺตีติ เวทิตพฺพํ. ตติยนฺติ คณนานุปุพฺพตา ตติยํ, อิทํ ตติยํ อุปฺปนฺนนฺติปิ ตติยํ.

สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานาติ กายิกสุขสฺส จ กายิกทุกฺขสฺส จ ปหานา. ปุพฺเพวาติ ตฺจ โข ปุพฺเพว, น จตุตฺถชฺฌานกฺขเณ. โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาติ เจตสิกสุขสฺส จ เจตสิกทุกฺขสฺส จาติ อิเมสมฺปิ ทฺวินฺนํ ปุพฺเพว อตฺถงฺคมา, ปหานา อิจฺเจว วุตฺตํ โหติ.

กทา ปน เนสํ ปหานํ โหติ? จตุนฺนํ ฌานานํ อุปจารกฺขเณ. โสมนสฺสฺหิ จตุตฺถชฺฌานสฺส อุปจารกฺขเณเยว ปหียติ, ทุกฺขโทมนสฺสสุขานิ ปมทุติยตติยชฺฌานานํ อุปจารกฺขเณสุ. เอวเมเตสํ ปหานกฺกเมน อวุตฺตานํ, อินฺทฺริยวิภงฺเค ปน อินฺทฺริยานํ อุทฺเทสกฺกเมเนว อิธาปิ วุตฺตานํ สุขทุกฺขโสมนสฺสโทมนสฺสานํ ปหานํ เวทิตพฺพํ.

ยทิ ปเนตานิ ตสฺส ตสฺส ฌานสฺส อุปจารกฺขเณเยว ปหียนฺติ, อถ กสฺมา ‘‘กตฺถ จุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, เอตฺถ จุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ. กตฺถ จุปฺปนฺนํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ… สุขินฺทฺริยํ… โสมนสฺสินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ, สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺถ จุปฺปนฺนํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๕๑๐) เอวํ ฌาเนสฺเวว นิโรโธ วุตฺโตติ. อติสยนิโรธตฺตา. อติสยนิโรโธ หิ เนสํ ปมชฺฌานาทีสุ, น นิโรโธเยว. นิโรโธเยว ปน อุปจารกฺขเณ นาติสยนิโรโธ.

ตถา หิ นานาวชฺชเน ปมชฺฌานูปจาเร นิรุทฺธสฺสาปิ ทุกฺขินฺทฺริยสฺส ฑํสมกสาทิสมฺผสฺเสน วา วิสมาสนุปตาเปน วา สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว อนฺโตอปฺปนายํ. อุปจาเร วา นิรุทฺธมฺเปตํ น สุฏฺุ นิรุทฺธํ โหติ, ปฏิปกฺเขน อวิหตตฺตา. อนฺโตอปฺปนายํ ปน ปีติผรเณน สพฺโพ กาโย สุโขกฺกนฺโต โหติ, สุโขกฺกนฺตกายสฺส จ สุฏฺุ นิรุทฺธํ โหติ ทุกฺขินฺทฺริยํ, ปฏิปกฺเขน วิหตตฺตา. นานาวชฺชเนเยว จ ทุติยชฺฌานูปจาเร ปหีนสฺสาปิ โทมนสฺสินฺทฺริยสฺส ยสฺมา เอตํ วิตกฺกวิจารปจฺจเยปิ กายกิลมเถ จิตฺตุปฆาเต จ สติ อุปฺปชฺชติ, วิตกฺกวิจาราภาเว เนว อุปฺปชฺชติ. ยตฺถ ปน อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ วิตกฺกวิจารภาเว. อปฺปหีนาเยว จ ทุติยชฺฌานูปจาเร วิตกฺกวิจาราติ ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว ทุติยชฺฌาเน, ปหีนปฺปจฺจยตฺตา. ตถา ตติยชฺฌานูปจาเร ปหีนสฺสาปิ สุขินฺทฺริยสฺส ปีติสมุฏฺานปณีตรูปผุฏกายสฺส สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว ตติยชฺฌาเน. ตติยชฺฌาเน หิ สุขสฺส ปจฺจยภูตา ปีติ สพฺพโส นิรุทฺธาติ. ตถา จตุตฺถชฺฌานูปจาเร ปหีนสฺสาปิ โสมนสฺสินฺทฺริยสฺส อาสนฺนตฺตา, อปฺปนาปตฺตาย อุเปกฺขาย อภาเวน สมฺมา อนติกฺกนฺตตฺตา จ สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว จตุตฺถชฺฌาเน. ตสฺมา เอว จ ‘‘เอตฺถุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตี’’ติ ตตฺถ ตตฺถ อปริเสสคฺคหณํ กตนฺติ.

เอตฺถาห – ‘‘อเถวํ ตสฺส ตสฺส ฌานสฺสุปจาเร ปหีนาปิ เอตา เวทนา อิธ กสฺมา สมาหฏา’’ติ? สุขคฺคหณตฺถํ. ยา หิ อยํ อทุกฺขมสุขนฺติ เอตฺถ อทุกฺขมสุขา เวทนา วุตฺตา, สา สุขุมา ทุพฺพิฺเยฺยา, น สกฺกา สุเขน คเหตุํ, ตสฺมา ยถา นาม ทุฏฺสฺส ยถา วา ตถา วา อุปสงฺกมิตฺวา คเหตุํ อสกฺกุเณยฺยสฺส โคณสฺส สุขคหณตฺถํ โคโป เอกสฺมึ วเช สพฺพา คาโว สมาหรติ, อเถเกกํ นีหรนฺโต ปฏิปาฏิยา อาคตํ ‘‘อยํ โส คณฺหถ น’’นฺติ ตมฺปิ คาหาเปติ, เอวเมว ภควา สุขคฺคหณตฺถํ สพฺพา เอตา สมาหรีติ. เอวฺหิ สมาหฏา เอตา ทสฺเสตฺวา ‘‘ยํ เนว สุขํ, น ทุกฺขํ, น โสมนสฺสํ, น โทมนสฺสํ, อยํ อทุกฺขมสุขา เวทนา’’ติ สกฺกา โหติ เอสา คาหยิตุํ.

อปิ จ อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา ปจฺจยทสฺสนตฺถฺจาปิ เอตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. ทุกฺขปฺปหานาทโย หิ ตสฺสา ปจฺจยา. ยถาห – ‘‘จตฺตาโร โข, อาวุโส, ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา. อิธาวุโส, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา …เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเม โข, อาวุโส, จตฺตาโร ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๘). ยถา วา อฺตฺถ ปหีนาปิ สกฺกายทิฏฺิอาทโย ตติยมคฺคสฺส วณฺณภณนตฺถํ ‘‘ตตฺถ ปหีนา’’ติ วุตฺตา, เอวํ วณฺณภณนตฺถมฺเปตสฺส ฌานสฺเสตา อิธ วุตฺตาติปิ เวทิตพฺพา. ปจฺจยฆาเตน วา เอตฺถ ราคโทสานํ อติทูรภาวํ ทสฺเสตุมฺเปตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. เอตาสุ หิ สุขํ โสมนสฺสสฺส ปจฺจโย, โสมนสฺสํ ราคสฺส, ทุกฺขํ โทมนสฺสสฺส, โทมนสฺสํ โทสสฺส. สุขาทิฆาเตน จ เต สปฺปจฺจยา ราคโทสา หตาติ อติทูเร โหนฺตีติ.

อทุกฺขมสุขนฺติ ทุกฺขาภาเวน อทุกฺขํ, สุขาภาเวน อสุขํ. เอเตเนตฺถ สุขทุกฺขปฏิปกฺขภูตํ ตติยเวทนํ ทีเปติ, น ทุกฺขสุขาภาวมตฺตํ. ตติยเวทนา นาม อทุกฺขมสุขา, อุเปกฺขาติปิ วุจฺจติ. สา อิฏฺานิฏฺวิปรีตานุภวนลกฺขณา, มชฺฌตฺตรสา, อวิภูตปจฺจุปฏฺานา, สุขนิโรธปทฏฺานาติ เวทิตพฺพา.

อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธินฺติ อุเปกฺขาย ชนิตสติปาริสุทฺธึ. อิมสฺมิฺหิ ฌาเน สุปริสุทฺธา สติ, ยา จ ตสฺสา สติยา ปาริสุทฺธิ, สา อุเปกฺขาย กตา, น อฺเน. ตสฺมา เอตํ ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิ’’นฺติ วุจฺจติ. ยาย จ อุเปกฺขาย เอตฺถ สติ ปาริสุทฺธิ โหติ, สา อตฺถโต ตตฺรมชฺฌตฺตตาติ เวทิตพฺพา. น เกวลฺเจตฺถ ตาย สติเยว ปริสุทฺธา, อปิ จ โข สพฺเพปิ สมฺปยุตฺตธมฺมา, สติสีเสน ปน เทสนา วุตฺตา.

ตตฺถ กิฺจาปิ อยํ อุเปกฺขา เหฏฺาปิ ตีสุ ฌาเนสุ วิชฺชติ, ยถา ปน ทิวา สูริยปฺปภาภิภวา โสมฺมภาเวน จ อตฺตโน อุปการกตฺเตน วา สภาคาย รตฺติยา อลาภา ทิวา วิชฺชมานาปิ จนฺทเลขา อปริสุทฺธา โหติ อปริโยทาตา, เอวมยมฺปิ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาจนฺทเลขา วิตกฺกาทิปจฺจนีกธมฺมเตชาภิภวา สภาคาย จ อุเปกฺขาเวทนารตฺติยา อปฏิลาภา วิชฺชมานาปิ ปมชฺฌานาทิเภเทสุ อปริสุทฺธา โหติ. ตสฺสา จ อปริสุทฺธาย ทิวา อปริสุทฺธจนฺทเลขาย ปภา วิย สหชาตาปิ สติอาทโย อปริสุทฺธาว โหนฺติ. ตสฺมา เตสุ เอกมฺปิ ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิ’’นฺติ น วุตฺตํ. อิธ ปน วิตกฺกาทิปจฺจนีกธมฺมเตชาภิภวาภาวา สภาคาย จ อุเปกฺขาเวทนารตฺติยา ปฏิลาภา อยํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาจนฺทเลขา อติวิย ปริสุทฺธา, ตสฺสา ปริสุทฺธตฺตา ปริสุทฺธจนฺทเลขาย ปภา วิย สหชาตาปิ สติอาทโย ปริสุทฺธา โหนฺติ ปริโยทาตา. ตสฺมา อิทเมว ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิ’’นฺติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. จตุตฺถนฺติ คณนานุปุพฺพตา จตุตฺถํ. อิทํ จตุตฺถํ อุปฺปนฺนนฺติปิ จตุตฺถํ.

ปฺวา โหตีติ ปฺา อสฺส อตฺถีติ ปฺวา. อุทยตฺถคามินิยาติ อุทยคามินิยา เจว อตฺถคามินิยา จ. สมนฺนาคโตติ ปริปุณฺโณ. อริยายาติ นิทฺโทสาย. นิพฺเพธิกายาติ นิพฺเพธปกฺขิกาย. ทุกฺขกฺขยคามินิยาติ นิพฺพานคามินิยา. โส อิทํ ทุกฺขนฺติ เอวมาทีสุ ‘‘เอตฺตกํ ทุกฺขํ น อิโต ภิยฺโย’’ติ สพฺพมฺปิ ทุกฺขสจฺจํ สรสลกฺขณปฏิเวเธน ยถาภูตํ ปชานาติ ปฏิวิชฺฌติ. ตสฺส จ ทุกฺขสฺส นิพฺพตฺติกํ ตณฺหํ ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ. ตทุภยมฺปิ ยํ านํ ปตฺวา นิรุชฺฌติ, ตํ เตสํ อปฺปวตฺตึ นิพฺพานํ ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ. ตสฺส จ สมฺปาปกํ อริยมคฺคํ ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ สรสลกฺขณปฏิเวเธน ยถาภูตํ ปชานาติ ปฏิวิชฺฌตีติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เอวํ สรูปโต สจฺจานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ กิเลสวเสน ปริยายโต ทสฺเสนฺโต ‘‘อิเม อาสวา’’ติอาทิมาห. เต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เอวํ ติสฺโส สิกฺขาโย ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตาสํ ปาริปูริกฺกมํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิมา ติสฺโส สิกฺขาโย อาวชฺชนฺโต สิกฺเขยฺยา’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – ปจฺเจกํ ปริปูเรตุํ อาวชฺชนฺโตปิ สิกฺเขยฺย, อาวชฺชิตฺวาปิ ‘‘อยํ นาม สิกฺขา’’ติ ชานนฺโตปิ สิกฺเขยฺย, ชานิตฺวา ปุนปฺปุนํ ปสฺสนฺโตปิ สิกฺเขยฺย, ปสฺสิตฺวา ยถาทิฏฺํ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ สิกฺเขยฺย, ปจฺจเวกฺขิตฺวา ตตฺเถว จิตฺตํ อจลํ กตฺวา ปติฏฺเปนฺโตปิ สิกฺเขยฺย, ตํตํสิกฺขาสมฺปยุตฺตสทฺธาวีริยสติสมาธิปฺาหิ สกสกกิจฺจํ กโรนฺโตปิ สิกฺเขยฺย, อภิฺเยฺยาภิชานนกาเลปิ ตํ ตํ กิจฺจํ กโรนฺโตปิ ติสฺโส สิกฺขาโย สิกฺเขยฺย, อธิสีลํ อาจเรยฺย, อธิจิตฺตํ สมฺมา จเรยฺย, อธิปฺํ สมาทาย วตฺเตยฺย.

อิธาติ มูลปทํ. อิมิสฺสา ทิฏฺิยาติอาทีหิ ทสหิ ปเทหิ สิกฺขตฺตยสงฺขาตํ สพฺพฺุพุทฺธสาสนเมว กถิตํ. ตฺหิ พุทฺเธน ภควตา ทิฏฺตฺตา ทิฏฺีติ วุจฺจติ. ตสฺเสว ขมนวเสน ขนฺติ, รุจฺจนวเสน รุจิ, คหณวเสน อาทาโย, สภาวฏฺเน ธมฺโม, สิกฺขิตพฺพฏฺเน วินโย, ตทุภเยนปิ ธมฺมวินโย, ปวุตฺตวเสน ปาวจนํ, เสฏฺจริยฏฺเน พฺรหฺมจริยํ, อนุสิฏฺิทานวเสน สตฺถุสาสนนฺติ วุจฺจติ. ตสฺมา ‘‘อิมิสฺสา ทิฏฺิยา’’ติอาทีสุ อิมิสฺสา พุทฺธทิฏฺิยา อิมิสฺสา พุทฺธขนฺติยา อิมิสฺสา พุทฺธรุจิยา อิมสฺมึ พุทฺธอาทาเย อิมสฺมึ พุทฺธธมฺเม อิมสฺมึ พุทฺธวินเย.

‘‘เย โข ตฺวํ, โคตมิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ ‘อิเม ธมฺมา สราคาย สํวตฺตนฺติ, โน วิราคาย, สฺโคาย สํวตฺตนฺติ, โน วิสฺโคาย, อาจยาย สํวตฺตนฺติ, โน อปจยาย, มหิจฺฉตาย สํวตฺตนฺติ, โน อปฺปิจฺฉตาย, อสนฺตุฏฺิยา สํวตฺตนฺติ, โน สนฺตุฏฺิยา, สงฺคณิกาย สํวตฺตนฺติ, โน ปวิเวกาย, โกสชฺชาย สํวตฺตนฺติ, โน วีริยารมฺภาย, ทุพฺภรตาย สํวตฺตนฺติ, โน สุภรตายา’ติ. เอกํเสน, โคตมิ, ธาเรยฺยาสิ ‘เนโส ธมฺโม, เนโส วินโย, เนตํ สตฺถุสาสน’นฺติ.

‘‘เย จ โข ตฺวํ, โคตมิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ ‘อิเม ธมฺมา วิราคาย สํวตฺตนฺติ, โน สราคาย…เป… สุภรตาย สํวตฺตนฺติ, โน ทุพฺภรตายา’ติ. เอกํเสน, โคตมิ, ธาเรยฺยาสิ ‘เอโส ธมฺโม, เอโส วินโย, เอตํ สตฺถุสาสน’’’นฺติ (อ. นิ. ๘.๕๓; จูฬว. ๔๐๖) –

เอวํ วุตฺเต อิมสฺมึ พุทฺธธมฺมวินเย อิมสฺมึ พุทฺธปาวจเน อิมสฺมึ พุทฺธพฺรหฺมจริเย อิมสฺมึ พุทฺธสาสเนติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อปิ เจตํ สิกฺขตฺตยสงฺขาตํ สกลํ สาสนํ ภควตา ทิฏฺตฺตา สมฺมาทิฏฺิปจฺจยตฺตา สมฺมาทิฏฺิปุพฺพงฺคมตฺตา จ ทิฏฺิ. ภควโต ขมนวเสน ขนฺติ. รุจฺจนวเสน รุจิ. คหณวเสน อาทาโย. อตฺตโน การกํ อปาเยสุ อปตมานํ กตฺวา ธาเรตีติ ธมฺโม. โสว สํกิเลสปกฺขํ วิเนตีติ วินโย. ธมฺโม จ โส วินโย จาติ ธมฺมวินโย. กุสลธมฺเมหิ วา อกุสลธมฺมานํ เอส วินโยติ ธมฺมวินโย. เตเนว วุตฺตํ –

‘‘เย จ โข ตฺวํ, โคตมิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ ‘อิเม ธมฺมา วิราคาย สํวตฺตนฺติ, โน สราคาย…เป… เอกํเสน โคตมิ ธาเรยฺยาสิ ‘เอโส ธมฺโม, เอโส วินโย, เอตํ สตฺถุสาสน’’’นฺติ (อ. นิ. ๘.๕๓; จูฬว. ๔๐๖).

ธมฺเมน วา วินโย, น ทณฺฑาทีหีติ ธมฺมวินโย. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ทณฺเฑเนเก ทมยนฺติ, องฺกุเสหิ กสาหิ จ;

อทณฺเฑน อสตฺเถน, นาโค ทนฺโต มเหสินา’’ติ. (จูฬว. ๓๔๒; ม. นิ. ๒.๓๕๒);

ตถา

‘‘ธมฺเมน นียมานานํ, กา อุสูยา วิชานต’’นฺติ. (มหาว. ๖๓);

ธมฺมาย วา วินโย ธมฺมวินโย. อนวชฺชธมฺมตฺถฺเหส วินโย, น ภวโภคามิสตฺถํ. เตนาห ภควา ‘‘นยิทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ชนกุหนตฺถ’’นฺติ (อ. นิ. ๔.๒๕) วิตฺถาโร. ปุณฺณตฺเถโรปิ อาห ‘‘อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถํ โข, อาวุโส, ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๕๙). วิสิฏฺํ วา นยตีติ วินโย. ธมฺมโต วินโย ธมฺมวินโย. สํสารธมฺมโต หิ โสกาทิธมฺมโต วา เอส วิสิฏฺํ นิพฺพานํ นยติ. ธมฺมสฺส วา วินโย, น ติตฺถกรานนฺติ ธมฺมวินโย. ธมฺมภูโต หิ ภควา, ตสฺเสว วินโย.

ยสฺมา วา ธมฺมา เอว อภิฺเยฺยา ปริฺเยฺยา ปหาตพฺพา ภาเวตพฺพา สจฺฉิกาตพฺพา จ, ตสฺมา เอส ธมฺเมสุ วินโย, น สตฺเตสุ น ชีเวสุ จาติ ธมฺมวินโย. สาตฺถสพฺยฺชนตาทีหิ อฺเสํ วจนโต ปธานํ วจนนฺติ ปวจนํ, ปวจนเมว ปาวจนํ. สพฺพจริยาหิ วิสิฏฺจริยภาเวน พฺรหฺมจริยํ. เทวมนุสฺสานํ สตฺถุภูตสฺส ภควโต สาสนนฺติ สตฺถุสาสนํ. สตฺถุภูตํ วา สาสนนฺติปิ สตฺถุสาสนํ. ‘‘โส โว มมจฺจเยน สตฺถาติ (ที. นิ. ๒.๒๑๖) หิ ธมฺมวินโยว สตฺถา’’ติ วุตฺโตติ เอวเมเตสํ ปทานํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ยสฺมา ปน อิมสฺมึเยว สาสเน สพฺพปฺปการชฺฌานนิพฺพตฺตโก ภิกฺขุ ทิสฺสติ, น อฺตฺร, ตสฺมา ตตฺถ ตตฺถ ‘‘อิมิสฺสา’’ติ จ ‘‘อิมสฺมิ’’นฺติ จ อยํ นิยโม กโตติ เวทิตพฺโพ.

ชีวนฺติ เตน ตํสมฺปยุตฺตกา ธมฺมาติ ชีวิตํ. อนุปาลนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. ชีวิตเมว อินฺทฺริยํ ชีวิตินฺทฺริยํ. ตํ ปวตฺตสนฺตตาธิปเตยฺยํ โหติ. ลกฺขณาทีหิ ปน อตฺตนา อวินิภุตฺตานํ ธมฺมานํ อนุปาลนลกฺขณํ ชีวิตินฺทฺริยํ, เตสํ ปวตฺตนรสํ, เตสํเยว ปนปจฺจุปฏฺานํ, ยาปยิตพฺพธมฺมปทฏฺานํ. สนฺเตปิ จ อนุปาลนลกฺขณาทิมฺหิ วิธาเน อตฺถิกฺขเณเยว ตํ เต ธมฺเม อนุปาเลติ, อุทกํ วิย อุปฺปลาทีนิ. ยถาสกํ ปจฺจเยหิ อุปฺปนฺเนปิ จ ธมฺเม ปาเลติ, ธาติ วิย กุมารํ, สยํปวตฺติตธมฺมสมฺพนฺเธเนว จ ปวตฺตติ, นิยามโก วิย นาวํ. น ภงฺคโต อุทฺธํ ปวตฺตยติ, อตฺตโน จ ปวตฺตยิตพฺพานฺจ อภาวา. น ภงฺคกฺขเณ เปติ, สยํ ภิชฺชมานตฺตา, ขียมาโน วิย วฏฺฏิสิเนโห ปทีปสิขํ, น จ อนุปาลนปวตฺตนฏฺปนานุภาววิรหิตํ, ยถาวุตฺตกฺขเณ ตสฺส ตสฺส สาธนโตติ ทฏฺพฺพํ. ิติปริตฺตตาย วาติ ิติกฺขณสฺส มนฺทตาย โถกตาย. อปฺปกนฺติ มนฺทํ ลามกํ. สรสปริตฺตตาย วาติ อตฺตโน ปจฺจยภูตานํ กิจฺจานํ สมฺปตฺตีนํ วา อปฺปตาย ทุพฺพลตาย.

เตสํ ทฺวินฺนํ การณํ วิภาคโต ทสฺเสตุํ ‘‘กถํ ิติปริตฺตตายา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘อตีเต จิตฺตกฺขเณ ชีวิตฺถาติ เอวมาทิ ปฺจโวการภเว ปวตฺติยํ จิตฺตสฺส นิรุชฺฌนกาเล สพฺพสฺมึ รูปารูปธมฺเม อนิรุชฺฌนฺเตปิ รูปโต อรูปสฺส ปฏฺานภาเวน อรูปชีวิตํ สนฺธาย, จุติจิตฺเตน วา สทฺธึ สพฺเพสํ รูปารูปานํ นิรุชฺฌนภาเวน ปฺจโวการภเว จุติจิตฺตํ สนฺธาย, จตุโวการภเว รูปสฺส อภาเวน จตุโวการภวํ สนฺธาย กถิต’’นฺติ เวทิตพฺพํ. อตีเต จิตฺตกฺขเณติ อตีตจิตฺตสฺส ภงฺคกฺขณสมงฺคีกาเล ตํสมงฺคีปุคฺคโล ‘‘ชีวิตฺถ’’ อิติ วตฺตุํ ลพฺภติ. น ชีวตีติ ‘‘ชีวตี’’ติปิ วตฺตุํ น ลพฺภติ. น ชีวิสฺสตีติ ‘‘ชีวิสฺสตี’’ติปิ วตฺตุํ น ลพฺภติ. อนาคเต จิตฺตกฺขเณ ชีวิสฺสตีติ อนาคตจิตฺตสฺส อนุปฺปชฺชนกฺขณสมงฺคีกาเล ‘‘ชีวิสฺสตี’’ติ วตฺตุํ ลพฺภติ. น ชีวตีติ ‘‘ชีวตี’’ติ วตฺตุํ น ลพฺภติ. น ชีวิตฺถาติ ‘‘ชีวิตฺถ’’อิติปิ วตฺตุํ น ลพฺภติ. ปจฺจุปฺปนฺเน จิตฺตกฺขเณติ ปจฺจุปฺปนฺนจิตฺตกฺขณสมงฺคีกาเล. ชีวตีติ ‘‘อิทานิ ชีวตี’’ติ วตฺตุํ ลพฺภติ. น ชีวิตฺถาติ ‘‘ชีวิตฺถ’’อิติ วตฺตุํ น ลพฺภติ. น ชีวิสฺสตีติ ‘‘ชีวิสฺสตี’’ติปิ วตฺตุํ น ลพฺภติ.

ชีวิตํ อตฺตภาโว จ สุขทุกฺขา จาติ อยํ คาถา ปฺจโวการภวํ อมุฺจิตฺวา ลพฺภมานาย ทุกฺขาย เวทนาย คหิตตฺตา ปฺจโวการภวเมว สนฺธาย วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. กถํ? ชีวิตนฺติ ชีวิตสีเสน สงฺขารกฺขนฺโธ. อตฺตภาโวติ รูปกฺขนฺโธ. ‘‘อุเปกฺขา ปน สนฺตตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๓๒) วุตฺตตฺตา อุเปกฺขาเวทนา อนฺโตกริตฺวา สุขทุกฺขา จาติ เวทนากฺขนฺโธ, จิตฺตํ อิติ วิฺาณกฺขนฺโธ วุตฺโต. อิเมสํ จตุนฺนํ ขนฺธานํ กถิตตฺตาเยว ขนฺธลกฺขเณน เอกลกฺขณภาเวน ลกฺขณาการวเสน สฺากฺขนฺโธปิ กถิโตติ เวทิตพฺโพ. เอวํ วุตฺเตสุ ปฺจสุ ขนฺเธสุ อรูปธมฺมํ มุฺจิตฺวา กมฺมสมุฏฺานาทิรูปสฺส อปฺปวตฺตนภาเวน เอกจิตฺตสมายุตฺตาติ อรูปปธานภาโว กถิโต โหติ. กถํ? อสฺสตฺเต รูปมฺปิ อิธุปจิตกมฺมพลํ อมุฺจิตฺวาว ปวตฺตติ, นิโรธสมาปนฺนานํ รูปมฺปิ ปมสมาปนฺนสมาปตฺติพลํ อมุฺจิตฺวาว ปวตฺตติ. เอวํ อตฺตโน อปฺปวตฺติฏฺาเนปิ รูปปวตฺตึ อตฺตโน สนฺตกเมว กตฺวา ปวตฺตนสภาวสฺส อรูปธมฺมสฺส อตฺตโน ปวตฺติฏฺาเน รูปปวตฺติยา ปธานการณภาเวน เอกจิตฺตสมายุตฺตาติ จิตฺตปธานภาโว กถิโตติ เวทิตพฺโพ.

เอวํ ปฺจโวการภเว ปวตฺติยํ รูปปวตฺติยา ปธานภูตจิตฺตนิโรเธน รูเป ธรมาเนเยว ปวตฺตานํ นิโรโธ นาม โหตีติ อรูปธมฺมวเสน เอว ‘‘ลหุโส วตฺตเต ขโณ’’ติ วุตฺตํ. อถ วา ปฺจโวการภเว จุติจิตฺตํ สนฺธาย กถิตาติ เวทิตพฺพา. เอวํ กถิยมาเน สุขทุกฺขา จาติ กายิกเจตสิกสุขเวทนา จ กายิกเจตสิกทุกฺขเวทนา จ จุติจิตฺตกฺขเณ อโหนฺตีปิ เอกสนฺตติวเสน จุติจิตฺเตน สทฺธึ นิรุชฺฌตีติ กถิตา. จตุโวการภวํ วา สนฺธาย กถิตาติปิ เวทิตพฺพา. กถํ? อฺสฺมึ าเน อตฺตภาโวติ สฺากฺขนฺธสฺส วุตฺตภาเวน อตฺตภาโวติ สฺากฺขนฺโธว คหิโต. พฺรหฺมโลเก กายิกสุขทุกฺขโทมนสฺสํ อโหนฺตมฺปิ สุขทุกฺขา จาติ เวทนาสามฺโต ลพฺภมาโน เวทนากฺขนฺโธ คหิโตติ เวทิตพฺพํ. เสสํ วุตฺตสทิสเมว. อิเมสุ จ ตีสุ วิกปฺเปสุ เกวลาติ ธุวสุขสุภอตฺตา นตฺถิ, เกวลํ เตหิ อโวมิสฺสา. ลหุโส วตฺตติ ขโณติ วุตฺตนเยน เอกจิตฺตกฺขณิกตาย ลหุโก อติปริตฺโต ชีวิตาทีนํ ขโณ วตฺตติ.

เอกโต ทฺวินฺนํ จิตฺตานํ อปฺปวตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘จุลฺลาสีติสหสฺสานี’’ติ คาถมาห. จุลฺลาสีติสหสฺสานิ, กปฺปา ติฏฺนฺติ เย มรูติ เย เทวคณา จตุราสีติ กปฺปสหสฺสานิ อายุํ คเหตฺวา เนวสฺานาสฺายตเน ติฏฺนฺติ. ‘‘เย นรา’’ติปิ ปาฬิ. น ตฺเวว เตปิ ชีวนฺติ, ทฺวีหิ จิตฺตสโมหิตาติ เตปิ เทวา ทฺวีหิ จิตฺเตหิ สโมหิตา เอกโต หุตฺวา ยุคนทฺเธน จิตฺเตน น ตุ เอว ชีวนฺติ, เอเกเนเกน จิตฺเตน ชีวนฺตีติ อตฺโถ.

อิทานิ มรณกาลํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เย นิรุทฺธา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ เย นิรุทฺธาติ เย ขนฺธา นิรุทฺธา อตฺถงฺคตา. มรนฺตสฺสาติ มตสฺส. ติฏฺมานสฺส วาติ ธรมานสฺส วา. สพฺเพปิ สทิสา ขนฺธาติ จุติโต อุทฺธํ นิรุทฺธกฺขนฺธา วา ปวตฺเต นิรุทฺธกฺขนฺธา วา ปุน ฆเฏตุํ อสกฺกุเณยฺยฏฺเน สพฺเพปิ ขนฺธา สทิสา. คตา อปฺปฏิสนฺธิกาติ นิรุทฺธกฺขนฺธานํ ปุน อาคนฺตฺวา ปฏิสนฺธานาภาเวน คตา อปฺปฏิสนฺธิกาติ วุจฺจนฺติ.

อิทานิ ตีสุ กาเลสุ นิรุทฺธกฺขนฺธานํ นานตฺตํ นตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อนนฺตรา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อนนฺตรา จ เย ภคฺคา, เย จ ภคฺคา อนาคตาติ เย ขนฺธา อนนฺตราตีตา หุตฺวา ภินฺนา นิรุทฺธา, เย จ อนาคตา ขนฺธา ภิชฺชิสฺสนฺติ. ตทนฺตเรติ เตสํ อนฺตเร นิรุทฺธานํ ปจฺจุปฺปนฺนขนฺธานํ. เวสมํ นตฺถิ ลกฺขเณติ วิสมสฺส ภาโว เวสมํ, ตํ เวสมํ นตฺถิ, เตหิ นานตฺตํ นตฺถีติ อตฺโถ. ลกฺขียตีติ ลกฺขณํ, ตสฺมึ ลกฺขเณ.

อิทานิ อนาคตกฺขนฺธานํ วตฺตมานกฺขนฺเธหิ อสมฺมิสฺสภาวํ กเถนฺโต ‘‘อนิพฺพตฺเตน น ชาโต’’ติ คาถมาห. อนิพฺพตฺเตน น ชาโตติ อชาเตน อปาตุภูเตน อนาคตกฺขนฺเธน น ชาโต น นิพฺพตฺโต. เอเตน อนาคตกฺขนฺธสฺส วตฺตมานกฺขนฺเธน อสมฺมิสฺสภาวํ กเถสิ. ปจฺจุปฺปนฺเนน ชีวตีติ ขณปจฺจุปฺปนฺเนน วตฺตมานกฺขนฺเธน ชีวติ. เอเตน เอกกฺขเณ ทฺวีหิ จิตฺเตหิ น ชีวตีติ กถิตํ. จิตฺตภคฺคา มโตติ ทฺวีหิ จิตฺเตหิ เอกกฺขเณ อชีวนภาเวน จิตฺตภงฺเคน มโต. ‘‘อุปริโต จิตฺตภงฺคา’’ติปิ ปาฬิ, ตํ อุชุกเมว. ปฺตฺติ ปรมตฺถิยาติ ‘‘รูปํ ชีรติ มจฺจานํ, นามโคตฺตํ น ชีรตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๗๖) วจนกฺกเมน ปณฺณตฺติมตฺตํ น ชีรณสภาเวน ปรมา ิติ เอติสฺสาติ ปรมตฺถิยา, สภาวฏฺิติกาติ อตฺโถ. ‘‘ทตฺโต มโต, มิตฺโต มโต’’ติ ปณฺณตฺติมตฺตเมว หิ ติฏฺติ. อถ วา ปรมตฺถิยาติ ปรมตฺถิกา. ปรโม อตฺโถ เอติสฺสาติ ปรมตฺถิกา. อชฏากาโสติ ปฺตฺติยา นตฺถิธมฺมํ ปฏิจฺจ กถนํ วิย มโตติ ปฺตฺติ นตฺถิธมฺมํ ปฏิจฺจ น กถิยติ, ชีวิตินฺทฺริยภงฺคสงฺขาตํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กถิยติ.

อนิธานคตา ภคฺคาติ เย ขนฺธา ภินฺนา, เต นิธานํ นิหิตํ นิจยํ น คจฺฉนฺตีติ อนิธานคตา. ปุฺโช นตฺถิ อนาคเตติ อนาคเตปิ เนสํ ปุฺชภาโว ราสิภาโว นตฺถิ. นิพฺพตฺตาเยว ติฏฺนฺตีติ ปจฺจุปฺปนฺนวเสน อุปฺปนฺนา ิติกฺขเณ วยธมฺมาว หุตฺวา ติฏฺนฺติ. กิมิว? อารคฺเค สาสปูปมาติ สูจิมุเข สาสโป วิย.

อิทานิ ขนฺธานํ ทสฺสนภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นิพฺพตฺตาน’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ นิพฺพตฺตานํ ธมฺมานนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนานํ ขนฺธานํ. ภงฺโค เนสํ ปุรกฺขโตติ เอเตสํ เภโท ปุรโต กตฺวา ปิโต. ปโลกธมฺมาติ นสฺสนสภาวา. ปุราเณหิ อธิสฺสิตาติ ปุเร อุปฺปนฺเนหิ ขนฺเธหิ น มิสฺสิตา น สํสคฺคา.

อิทานิ ขนฺธานํ อทสฺสนภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อทสฺสนโต อายนฺตี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อทสฺสนโต อายนฺตีติ อทิสฺสมานาเยว อาคจฺฉนฺติ อุปฺปชฺชนฺติ. ภงฺคา คจฺฉนฺติทสฺสนนฺติ เภทา ภงฺคโต อุทฺธํ อทสฺสนภาวํ คจฺฉนฺติ. วิชฺชุปฺปาโทว อากาเสติ วิวฏากาเส วิชฺชุลตานิจฺฉรณํ วิย. อุปฺปชฺชนฺติ วยนฺติ จาติ ปุพฺพนฺตโต อุทฺธํ อุปฺปชฺชนฺติ จ ภิชฺชนฺติ จ, นสฺสนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘อุเทติ อาปูรติ เวติ จนฺโท’’ติ (ชา. ๑.๕.๓) เอวมาทีสุ วิย.

เอวํ ิติปริตฺตตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สรสปริตฺตตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กถํ สรสปริตฺตตายา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อสฺสาสูปนิพนฺธํ ชีวิตนฺติ อพฺภนฺตรปวิสนนาสิกวาตปฏิพทฺธํ ชีวิตินฺทฺริยํ. ปสฺสาโสติ พหินิกฺขมนนาสิกวาโต. อสฺสาสปสฺสาโสติ ตทุภยํ. มหาภูตูปนิพนฺธนฺติ จตุสมุฏฺานิกานํ ปถวีอาปเตชวายานํ มหาภูตานํ ปฏิพทฺธํ ชีวิตํ. กพฬีการาหารูปนิพนฺธนฺติ อสิตปีตาทิกพฬีการอาหาเรน อุปนิพนฺธํ. อุสฺมูปนิพนฺธนฺติ กมฺมชเตโชธาตูปนิพนฺธํ. วิฺาณูปนิพนฺธนฺติ ภวงฺควิฺาณูปนิพนฺธํ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อายุ อุสฺมา จ วิฺาณํ, ยทา กายํ ชหนฺติม’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๙๕).

อิทานิ เนสํ ทุพฺพลการณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มูลมฺปิ อิเมสํ ทุพฺพล’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ มูลมฺปีติ ปติฏฺฏฺเน มูลภูตมฺปิ. อสฺสาสปสฺสาสานฺหิ กรชกาโย มูลํ. มหาภูตาทีนํ อวิชฺชากมฺมตณฺหาหารา. อิเมสนฺติ วุตฺตปฺปการานํ อสฺสาสาทีนํ ชีวิตินฺทฺริยปวตฺติการณวเสน วุตฺตานํ. เอเตสุ หิ เอเกกสฺมึ อสติ ชีวิตินฺทฺริยํ น ติฏฺติ. ทุพฺพลนฺติ อปฺปถามํ. ปุพฺพเหตูปีติ อตีตชาติยํ อิมสฺส วิปากวฏฺฏสฺส เหตุภูตา การณสงฺขาตา อวิชฺชาสงฺขารตณฺหุปาทานภวาปิ. อิเมสํ ทุพฺพลา เย ปจฺจยา เตปิ ทุพฺพลาติ เย อารมฺมณาทิสาธารณปจฺจยา. ปภาวิกาติ ปธานํ หุตฺวา อุปฺปาทิกา ภวตณฺหา. สหภูมีติ สหภวิกาปิ รูปารูปธมฺมา. สมฺปโยคาปีติ เอกโต ยุตฺตาปิ อรูปธมฺมา. สหชาปีติ สทฺธึ เอกจิตฺเต อุปฺปนฺนาปิ. ยาปิ ปโยชิกาติ จุติปฏิสนฺธิวเสน โยเชตุํ นิยุตฺตาติ ปโยชิกา, วฏฺฏมูลกา ตณฺหา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ตณฺหาทุติโย ปุริโส’’ติ (อิติวุ. ๑๕, ๑๐๕). นิจฺจทุพฺพลาติ นิรนฺตเรน ทุพฺพลา. อนวฏฺิตาติ น อวฏฺิตา, โอตริตฺวา น ิตา. ปริปาตยนฺติ อิเมติ อิเม อฺมฺํ ปาตยนฺติ เขปยนฺติ. อฺมฺสฺสาติ อฺโ อฺสฺส, เอโก เอกสฺสาติ อตฺโถ. หิ-อิติ การณตฺเถ นิปาโต. นตฺถิ ตายิตาติ ตายโน รกฺขโก นตฺถิ. น จาปิ เปนฺติ อฺมฺนฺติ อฺเ อฺํ เปตุํ น สกฺโกนฺติ. โยปิ นิพฺพตฺตโก โส น วิชฺชตีติ โยปิ อิเมสํ อุปฺปาทโก ธมฺโม, โส อิทานิ นตฺถิ.

น จ เกนจิ โกจิ หายตีติ โกจิ เอโกปิ กสฺสจิ วเสน น ปริหายติ. คนฺธพฺพา จ อิเม หิ สพฺพโสติ สพฺเพ หิ อิเม ขนฺธา สพฺพากาเรน ภงฺคํ ปาปุณิตุํ ยุตฺตา. ปุริเมหิ ปภาวิตา อิเมติ ปุพฺพเหตุปจฺจเยหิ อิเม วตฺตมานกา อุปฺปาทิกา. เยปิ ปภาวิกาติ เยปิ อิเม วตฺตมานกา อุปฺปาทกา ปุพฺพเหตุปจฺจยา. เต ปุเร มตาติ เต วุตฺตปฺปการปจฺจยา วตฺตมานํ อปาปุณิตฺวา ปมเมว มรณํ ปตฺตา. ปุริมาปิ จ ปจฺฉิมาปิ จาติ ปุริมา ปุพฺพเหตุปจฺจยาปิ จ ปจฺฉิมา วตฺตมาเน ปจฺจยสมุปฺปนฺนา จ. อฺมฺํ น กทาจิ มทฺทสํสูติ อฺมฺํ กิสฺมิฺจิ กาเล น ทิฏฺปุพฺพา. -กาโร ปทสนฺธิวเสน วุตฺโต.

จาตุมหาราชิกานํ เทวานนฺติ ธตรฏฺวิรูฬฺหกวิรูปกฺขกุเวรสงฺขาตา จตุมหาราชา อิสฺสรา เอเตสนฺติ จาตุมหาราชิกา. รูปาทีหิ ทิพฺพนฺติ กีฬนฺตีติ เทวา. เต สิเนรุปพฺพตสฺส เวมชฺเฌ โหนฺติ. เตสุ อตฺถิ ปพฺพตฏฺกาปิ, อตฺถิ อากาสฏฺกาปิ. เตสํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ ปตฺตา. ขิฑฺฑาปโทสิกา มโนปโทสิกา สีตวลาหกา อุณฺหวลาหกา จนฺทิมา เทวปุตฺโต สูริโย เทวปุตฺโตติ เอเต สพฺเพปิ จาตุมหาราชิกเทวโลกฏฺา เอว เตสํ จาตุมหาราชิกานํ ชีวิตํ. อุปาทายาติ ปฏิจฺจ. ปริตฺตกนฺติ วุทฺธิปฏิเสโธ. โถกนฺติ มนฺทกาลํ, ทีฆทิวสปฏิเสโธ. ขณิกนฺติ มนฺทกาลํ, กาลนฺตรปฏิเสโธ. ลหุกนฺติ สลฺลหุกํ, อลสปฏิเสโธ. อิตรนฺติ สีฆพลวปฏิเสโธ. อนทฺธนียนฺติ กาลวเสน น อทฺธานกฺขมํ. นจิรฏฺิติกนฺติ ทิวเสน จิรํ น ติฏฺตีติ นจิรฏฺิติกํ, ทิวสปฏิเสโธ.

ตาวตึสานนฺติ เตตฺตึสชนา ตตฺถ อุปปนฺนาติ ตาวตึสา. อปิ จ ตาวตึสาติ เตสํ เทวานํ นามเมวาติปิ วุตฺตํ. เตปิ อตฺถิ ปพฺพตฏฺกา, อตฺถิ อากาสฏฺกา, เตสํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ ปตฺตา. ตถา ยามาทีนํ. เอกเทวโลเกปิ หิ เทวานํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ อปฺปตฺตา นาม นตฺถิ. ทิพฺพสุขํ ยาตา ปยาตา สมฺปตฺตาติ ยามา. ตุฏฺา ปหฏฺาติ ตุสิตา. ปกติปฏิยตฺตารมฺมณโต อติเรเกน นิมฺมิตุกามกาเล ยถารุจิเต โภเค นิมฺมินิตฺวา รมนฺตีติ นิมฺมานรตี. จิตฺตาจารํ ตฺวา ปเรหิ นิมฺมิเตสุ โภเคสุ วสํ วตฺเตนฺตีติ ปรนิมฺมิตวสวตฺตี. พฺรหฺมกาเย พฺรหฺมฆฏาย นิยุตฺตาติ พฺรหฺมกายิกา. สพฺเพปิ ปฺจโวการพฺรหฺมาโน คหิตา.

คมนิโยติ คนฺธพฺโพ. สมฺปราโยติ ปรโลโก. โย ภิกฺขเว จิรํ ชีวติ, โส วสฺสสตนฺติ โย จิรํ ติฏฺมาโน, โส วสฺสสตมตฺตํ ติฏฺติ. อปฺปํ วา ภิยฺโยติ วสฺสสตโต อุปริ ติฏฺมาโน ทฺเว วสฺสสตานิ ติฏฺมาโน นาม นตฺถิ. หีเฬยฺย นนฺติ นํ ชีวิตํ อวฺาตํ กเรยฺย, ลามกโต จินฺเตยฺย. ‘‘หีเฬยฺยาน’’นฺติ จ ปนฺติ. อจฺจยนฺตีติ อติกฺกมนฺติ. อโหรตฺตาติ รตฺตินฺทิวปริจฺเฉทา. อุปรุชฺฌตีติ ชีวิตินฺทฺริยํ นิรุชฺฌติ, อภาวํ อุปคจฺฉติ. อายุ ขิยฺยติ มจฺจานนฺติ สตฺตานํ อายุสงฺขาโร ขยํ ยาติ. กุนฺนทีนํว โอทกนฺติ ยถา อุทกจฺฉินฺนาย กุนฺนทิยา อุทกํ, เอวํ มจฺจานํ อายุ ขิยฺยติ. ปรมตฺถโต หิ อติปริตฺโต สตฺตานํ ชีวิตกฺขโณ เอกจิตฺตกฺขณิกมตฺโตเยว. ยถา นาม รถจกฺกํ ปวตฺตมานมฺปิ เอเกเนว เนมิปเทเสน ปวตฺตติ, ติฏฺมานมฺปิ เอเกเนว ติฏฺติ, เอวเมว เอกจิตฺตกฺขณิกํ สตฺตานํ ชีวิตํ ตสฺมึ จิตฺเต นิรุทฺธมตฺเต สตฺโต นิรุทฺโธติ วุจฺจติ.

ธีราติ ธีรา อิติ. ปุน ธีราติ ปณฺฑิตา. ธิติมาติ ธิติ อสฺส อตฺถีติ ธิติมา. ธิติสมฺปนฺนาติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคตา. ธีกตปาปาติ ครหิตปาปา. ตํเยว ปริยายํ ทสฺเสตุํ ‘‘ธี วุจฺจติ ปฺา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปชานาตีติ ปฺา. กึ ปชานาติ? ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติอาทินา นเยน อริยสจฺจานิ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘ปฺาปนวเสน ปฺา’’ติ วุตฺตา. กินฺติ ปฺาเปติ? ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’’ติ ปฺาเปติ. สาว อวิชฺชาย อภิภวนโต อธิปติยฏฺเน อินฺทฺริยํ, ทสฺสนลกฺขเณ วา อินฺทฏฺํ กาเรตีติปิ อินฺทฺริยํ, ปฺาว อินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ. สา ปเนสา โอภาสนลกฺขณา, ปชานนลกฺขณา จ; ยถา หิ จตุภิตฺติเก เคเห รตฺติภาเค ทีเป ชลิเต อนฺธการํ นิรุชฺฌติ, อาโลโก ปาตุภวติ, เอวเมว โอภาสนลกฺขณา ปฺา. ปฺโภาสสโม โอภาโส นาม นตฺถิ. ปฺวโต หิ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺนสฺส ทสสหสฺสิโลกธาตุ เอกาโลกา โหติ. เตนาห เถโร –

‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส อนฺธกาเร เคเห เตลปฺปทีปํ ปเวเสยฺย, ปวิฏฺโ ปทีโป อนฺธการํ วิทฺธํเสติ, โอภาสํ ชเนติ, อาโลกํ วิทํเสติ, ปากฏานิ จ รูปานิ กโรติ; เอวเมว โข, มหาราช, ปฺา อุปฺปชฺชมานา อวิชฺชนฺธการํ วิทฺธํเสติ, วิชฺโชภาสํ ชเนติ, าณาโลกํ วิทํเสติ, ปากฏานิ อริยสจฺจานิ กโรติ. เอวํ โข, มหาราช, โอภาสนลกฺขณา ปฺา’’ติ (มิ. ป. ๒.๑.๑๕).

ยถา ปน เฉโก ภิสกฺโก อาตุรานํ สปฺปายาสปฺปายานิ โภชนาทีนิ ชานาติ, เอวํ ปฺา อุปฺปชฺชมานา กุสลากุสเล เสวิตพฺพาเสวิตพฺเพ หีนปฺปณีตกณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคอปฺปฏิภาเค ธมฺเม ปชานาติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ธมฺมเสนาปตินา ‘‘ปชานาติ ปชานาตีติ โข, อาวุโส, ตสฺมา ปฺวาติ วุจฺจติ. กิฺจ ปชานาติ? อิทํ ทุกฺขนฺติ ปชานาตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๔๙) วิตฺถาเรตพฺพํ. เอวมสฺสา ปชานนลกฺขณตา เวทิตพฺพา.

อปโร นโย – ยถาสภาวปฏิเวธลกฺขณา ปฺา, อกฺขลิตปฏิเวธลกฺขณา วา, กุสลิสฺสาสขิตฺตอุสุปฏิเวโธ วิย. วิสโยภาสรสา, ปทีโป วิย. อสมฺโมหปจฺจุปฏฺานา, อรฺคตสุเทสโก วิย.

ขนฺธธีราติ ปฺจสุ ขนฺเธสุาณํ ปวตฺเตนฺตีติ ขนฺธธีรา. อฏฺารสสุ ธาตูสุ าณํ ปวตฺเตนฺตีติ ธาตุธีรา. เสเสสุปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เนตพฺโพ. เต ธีรา เอวมาหํสูติ เอเต ปณฺฑิตา เอวํ กถยึสุ. กเถนฺตีติ ‘‘อปฺปกํ ปริตฺตก’’นฺติ กถยนฺติ. ภณนฺตีติ ‘‘โถกํ ขณิก’’นฺติ ภาสนฺติ. ทีปยนฺตีติ ‘‘ลหุกํ อิตฺตร’’นฺติ ปติฏฺเปนฺติ. โวหรนฺตีติ ‘‘อนทฺธนิกํ นจิรฏฺิติก’’นฺติ นานาวิเธน พฺยวหรนฺติ.

๑๑. อิทานิ เย ตถา น กโรนฺติ, เตสํ พฺยสนุปฺปตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปสฺสามี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ ปสฺสามีติ มํสจกฺขุอาทีหิ เปกฺขามิ. โลเกติ อปายาทิมฺหิ. ปริผนฺทมานนฺติ อิโต จิโต จ ผนฺทมานํ. ปชํ อิมนฺติ อิมํ สตฺตกายํ. ตณฺหาคตนฺติ ตณฺหาย คตํ อภิภูตํ นิปาติตนฺติ อธิปฺปาโย. ภเวสูติ กามภวาทีสุ. หีนา นราติ หีนกมฺมนฺตา นรา. มจฺจุมุเข ลปนฺตีติ อนฺตกาเล สมฺปตฺเต มรณมุเข ปริเทวนฺติ. อวีตตณฺหาเสติ อวิคตตณฺหา. ภวาติ กามภวาทิกา. ภเวสูติ กามภวาทิเกสุ. อถ วา ภวาภเวสูติ ภวภเวสุ, ปุนปฺปุนภเวสูติ วุตฺตํ โหติ.

ปสฺสามีติ มํสจกฺขุนาปิ ปสฺสามีติ ทุวิธํ มํสจกฺขุ – สสมฺภารจกฺขุ ปสาทจกฺขูติ. ตตฺถ โยยํ อกฺขิกูปเก ปติฏฺิโต เหฏฺา อกฺขิกูปกฏฺิเกน อุปริ ภมุกฏฺิเกน อุภโต อกฺขิกูเฏหิ พหิทฺธา อกฺขิโลเมหิ ปริจฺฉินฺโน อกฺขิกูปกมชฺฌา นิกฺขนฺเตน นฺหารุสุตฺตเกน มตฺถลุงฺเค อาพทฺโธ เสตกณฺหมณฺฑลวิจิตฺโต มํสปิณฺโฑ, อิทํ สสมฺภารจกฺขุ นาม. โย ปน เอตฺถ สิโต เอตฺถ ปฏิพทฺโธ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโท, อิทํ ปสาทจกฺขุ นาม. อิทมธิปฺเปตํ. ตเทตํ ตสฺส สสมฺภารจกฺขุโน เสตมณฺฑลปริกฺขิตฺตสฺส กณฺหมณฺฑลสฺส มชฺเฌ อภิมุเข ิตานํ สรีรสณฺานุปฺปตฺติปเทเส ทิฏฺมณฺฑเล สตฺตสุ ปิจุปฏเลสุ อาสิตฺตเตลํ ปิจุปฏลานิ วิย สตฺตกฺขิปฏลานิ พฺยาเปตฺวา ปมาณโต อูกาสิรมตฺตํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฏฺติ.

ตํ จกฺขตีติ จกฺขุ, เตน มํสจกฺขุนา ปสฺสามิ. ทิพฺพจกฺขุนาติ ‘‘อทฺทสํ โข อหํ, ภิกฺขเว, ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธนา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๔) เอวํวิเธน ทิพฺพจกฺขุนา. ปฺาจกฺขุนาติ ‘‘วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาที’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๙๕; มหาว. ๑๖) เอวํ อาคเตน ปฺาจกฺขุนา. พุทฺธจกฺขุนาติ ‘‘อทฺทสํ โข อหํ, ภิกฺขเว, พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๓) เอวมาคเตน พุทฺธจกฺขุนา. สมนฺตจกฺขุนาติ ‘‘สมนฺตจกฺขุ วุจฺจติ สพฺพฺุตฺาณ’’นฺติ (จูฬนิ. โธตกมาณวปุจฺฉาอิทฺเทส ๓๒; โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕) เอวมาคเตน สมนฺตจกฺขุนา. ปสฺสามีติ มํสจกฺขุนา หตฺถตเล ปิตามลกํ วิย รูปคตํ มํสจกฺขุนา. ทกฺขามีติ สฺชานามิ ทิพฺเพน จกฺขุนา จุตูปปาตํ. โอโลเกมีติ อวโลเกมิ ปฺาจกฺขุนา จตุสจฺจํ. นิชฺฌายามีติ จินฺเตมิ พุทฺธจกฺขุนา สทฺธาปฺจมกานิ อินฺทฺริยานิ. อุปปริกฺขามีติ สมนฺตโต อิกฺขามิ ปริเยสามิ สมนฺตจกฺขุนา ปฺจ เนยฺยปเถ.

ตณฺหาผนฺทนาย ผนฺทมานนฺติ ตณฺหาจลนาย จลมานํ. อิโต ปรํ ทิฏฺิผนฺทนาทิทิฏฺิพฺยสเนน ทุกฺเขน ผนฺทมานปริโยสานํ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมว. สมฺผนฺทมานนฺติ ปุนปฺปุนํ ผนฺทมานํ. วิปฺผนฺทมานนฺติ นานาวิเธน จลมานํ. เวธมานนฺติ กมฺปมานํ. ปเวธมานนฺติ ปธาเนน กมฺปมานํ. สมฺปเวธมานนฺติ ปุนปฺปุนํ กมฺปมานํ. อุปสคฺเคน วา ปทํ วฑฺฒิตํ.

ตณฺหานุคตนฺติ ตณฺหาย อนุปวิฏฺํ. ตณฺหายานุสฏนฺติ ตณฺหาย อนุปตฺถฏํ. ตณฺหายาสนฺนนฺติ ตณฺหาย นิมุคฺคํ. ตณฺหาย ปาติตนฺติ ตณฺหาย ขิตฺตํ. ‘‘ปริปาติต’’นฺติ วา ปาโ. อภิภูตนฺติ ตณฺหาย มทฺทิตํ อชฺโฌตฺถฏํ. ปริยาทินฺนจิตฺตนฺติ เขเปตฺวา คหิตจิตฺตํ. อถ วา โอเฆน คตํ วิย ตณฺหาคตํ. อุปาทิณฺณกรูปปจฺจเยหิ ปติตฺวา คตํ วิย ตณฺหานุคตํ. อุทกปิฏฺึ ฉาเทตฺวา ปตฺถฏนีลิกา อุทกปิฏฺิ วิย ตณฺหานุสฏํ. วจฺจกูเป นิมุคฺคํ วิย ตณฺหายาสนฺนํ. รุกฺขคฺคโต ปติตฺวา นรเก ปติตํ วิย ตณฺหาปาติตํ. อุปาทิณฺณกรูปํ สํโยคํ วิย ตณฺหาย อภิภูตํ. อุปาทิณฺณกรูปปริคฺคาหกสฺส อุปฺปนฺนวิปสฺสนํ วิย ตณฺหาย ปริยาทินฺนจิตฺตํ. อถ วา กามจฺฉนฺเทน ตณฺหาคตํ. กามปิปาสาย ตณฺหานุคตํ. กามาสเวน ตณฺหานุสฏํ. กามปริฬาเหน ตณฺหายาสนฺนํ. กามชฺโฌสาเนน ตณฺหาย ปาติตํ. กาโมเฆน ตณฺหาย อภิภูตํ. กามุปาทาเนน ตณฺหาย ปริยาทินฺนจิตฺตนฺติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. กามภเวติ กามาวจเร. รูปภเวติ รูปาวจเร. อรูปภเวติ อรูปาวจเร. เตสํ นานตฺตํ เหฏฺา ปกาสิตํเยว.

ภวาภเวสูติ ภวาภเวติ ภโวติ กามธาตุ. อภโวติ รูปารูปธาตุ. อถ วา ภโวติ กามธาตุ รูปธาตุ. อภโวติ อรูปธาตุ. เตสุ ภวาภเวสุ. กมฺมภเวติ กมฺมวฏฺเฏ. ปุนพฺภเวติ โปโนภวิเก วิปากวฏฺเฏ. กามภเวติ กามธาตุยา. กมฺมภเวติ กมฺมวฏฺเฏ. ตตฺถ กมฺมภโว ภาวยตีติ ภโว. กามภเว ปุนพฺภเวติ กามธาตุยา อุปปตฺติภเว วิปากวฏฺเฏ. วิปากภโว ภวตีติ ภโว. รูปภวาทีสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ ‘‘กามภเว รูปภเว อรูปภเว’’ติ โอกาสภวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตีสุปิ ‘‘กมฺมภเว’’ติ กมฺมภวํ, ตถา ‘‘ปุนพฺภเว’’ติ อุปปตฺติภวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปุนปฺปุนพฺภเวติ อปราปรํ อุปฺปตฺติยํ. คติยาติ ปฺจคติยา อฺตราย. อตฺตภาวาภินิพฺพตฺติยาติ อตฺตภาวานํ อภินิพฺพตฺติยา. อวีตตณฺหาติ มูลปทํ. อวิคตตณฺหาติ ขณิกสมาธิ วิย ขณิกปฺปหานาภาเวน น วิคตา ตณฺหา เอเตสนฺติ อวิคตตณฺหา. อจตฺตตณฺหาติ ตทงฺคปฺปหานาภาเวน อปริจฺจตฺตตณฺหา. อวนฺตตณฺหาติ วิกฺขมฺภนปฺปหานาภาเวน น วนฺตตณฺหาติ อวนฺตตณฺหา. อมุตฺตตณฺหาติ อจฺจนฺตสมุจฺเฉทปฺปหานาภาเวน น มุตฺตตณฺหา. อปฺปหีนตณฺหาติ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานาภาเวน น ปหีนตณฺหา. อปฺปฏินิสฺสฏฺตณฺหาติ นิสฺสรณปฺปหานาภาเวน ภเว ปติฏฺิตํ อนุสยกิเลสํ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา ิตตฺตา อปฺปฏินิสฺสฏฺตณฺหา.

๑๒. อิทานิ ยสฺมา อวิคตตณฺหา เอวํ ผนฺทนฺติ จ ลปนฺติ จ, ตสฺมา ตณฺหาวินเย สมาทเปนฺโต ‘‘มมายิเต’’ติ คาถมาห. ตตฺถ มมายิเตติ ตณฺหาทิฏฺิมมตฺเตหิ ‘‘มม’’นฺติ ปริคฺคหิเต วตฺถุสฺมึ. ปสฺสถาติ โสตาเร อาลปนฺโต อาห. เอตมฺปีติ เอตมฺปิ อาทีนวํ. เสสํ ปากฏเมว.

ทฺเว มมตฺตาติ ทฺเว อาลยา. ยาวตาติ ปริจฺเฉทนิยมตฺเถ นิปาโต. ตณฺหาสงฺขาเตนาติ ตณฺหาโกฏฺาเสน, สงฺขา สงฺขาตนฺติ อตฺถโต เอกํ ‘‘สฺานิทานา หิ ปปฺจสงฺขา’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๘๘๐) วิย. สีมกตนฺติ อปริจฺเฉทโทสวิรหิตํ มริยาทกตํ ‘‘ติโยชนปรมํ สีมํ สมฺมนฺนิตุ’’นฺติ อาทีสุ (มหาว. ๑๔๐) วิย. โอธิกตนฺติ วจนปริจฺเฉทโทสวิรหิตํ ปริจฺเฉทกตํ สีมนฺตริกรุกฺโข วิย. ปริยนฺตกตนฺติ ปริจฺเฉทกตํ. สีมนฺตริกรุกฺโข ปน ทฺวินฺนํ สาธารณํ, อยํ ปน เอกาพทฺธตาลปนฺติ วิย กตนฺติ ปริยนฺตกตํ. ปริคฺคหิตนฺติ กาลนฺตเรปิ ปรายตฺตํ มุฺจิตฺวา สพฺพากาเรน คหิตํ. มมายิตนฺติ อาลยกตํ วสฺสูปคตํ เสนาสนํ วิย. อิทํ มมนฺติ สมีเป ิตํ. เอตํ มมนฺติ ทูเร ิตํ. เอตฺตกนฺติ ปริกฺขารนิยมนํ ‘‘เอตฺตกมฺปิ นปฺปฏิภาเสยฺยา’’ติ วิย. เอตฺตาวตาติ ปริจฺเฉทตฺเถปิ นิปาตนิยมนํ ‘‘เอตฺตาวตา โข มหานามา’’ติ วิย. เกวลมฺปิ มหาปถวินฺติ สกลมฺปิ มหาปถวึ.

อฏฺสตํ ตณฺหาวิจริตนฺติ อฏฺุตฺตรสตํ ตณฺหาคมนวิตฺถารํ. อฏฺุตฺตรสตํ กถํ โหตีติ เจ? รูปตณฺหา…เป… ธมฺมตณฺหาติ เอวํ จกฺขุทฺวาราทีสุ ชวนวีถิยา ปวตฺตา ตณฺหา ‘‘เสฏฺิปุตฺโต, พฺราหฺมณปุตฺโต’’ติ เอวมาทีสุ ปิติโต ลทฺธนามา วิย ปิตุสทิสารมฺมเณ ภูตา. เอตฺถ จ รูปารมฺมณา รูเป ตณฺหาติ รูปตณฺหา. สา กามราคภาเวน รูปํ อสฺสาเทนฺตี ปวตฺตมานา กามตณฺหา. สสฺสตทิฏฺิสหคตราคภาเวน ‘‘รูปํ นิจฺจํ ธุวํ สสฺสต’’นฺติ เอวํ อสฺสาเทนฺตี ปวตฺตมานา ภวตณฺหา. อุจฺเฉททิฏฺิสหคตราคภาเวน ‘‘รูปํ อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ ปจฺเฉทํ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ อสฺสาเทนฺตี ปวตฺตมานา วิภวตณฺหาติ เอวํ ติวิธา โหติ. ยถา จ รูปตณฺหา, ตถา สทฺทตณฺหาทโยปีติ เอตานิ อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานิ โหนฺติ. ตานิ อชฺฌตฺตรูปาทีสุ อฏฺารส, พหิทฺธารูปาทีสุ อฏฺารสาติ ฉตฺตึส, อิติ อตีตานิ ฉตฺตึส, อนาคตานิ ฉตฺตึส, ปจฺจุปฺปนฺนานิ ฉตฺตึสาติ อฏฺสตํ. อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทาย ‘‘อสฺมี’’ติ โหติ, ‘‘อิตฺถสฺมี’’ติ โหตีติ วา เอวมาทีนิ อชฺฌตฺติกรูปาทินิสฺสิตานิ อฏฺารส, พาหิรสฺสุปาทาย อิมินา ‘‘อสฺมี’’ติ โหติ, อิมินา ‘‘อิตฺถสฺมี’’ติ โหตีติ พาหิรรูปาทินิสฺสิตานิ อฏฺารสาติ ฉตฺตึส. อิติ อตีตานิ ฉตฺตึส, อนาคตานิ ฉตฺตึส, ปจฺจุปฺปนฺนานิ ฉตฺตึสาติ เอวมฺปิ อฏฺสตตณฺหาวิจริตานิ โหนฺติ.

วีสติวตฺถุกา สกฺกายทิฏฺีติ รูปาทีนํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ เอเกกมฺปิ ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๑๓๐-๑๓๑) นเยน จตุธา คาหวเสน ปวตฺตานิ วตฺถูนิ กตฺวา อุปฺปนฺนา วิชฺชมานฏฺเน สติ ขนฺธปฺจกสงฺขาเต กาเย ทิฏฺีติ สกฺกายทิฏฺิ. ทสวตฺถุกา มิจฺฉาทิฏฺีติ ‘‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺ’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตา มิจฺฉาทิฏฺิ, อยาถาวทิฏฺิ วิรชฺฌิตฺวา คหณโต วา วิตถา ทิฏฺิ มิจฺฉาทิฏฺิ, อนตฺถาวหตฺตา ปณฺฑิเตหิ กุจฺฉิตา ทิฏฺีติปิ มิจฺฉาทิฏฺิ. สา อโยนิโส อภินิเวสลกฺขณา, ปรามาสรสา, มิจฺฉาภินิเวสปจฺจุปฏฺานา, อริยานมทสฺสนกามตาทิปทฏฺานา, ปรมวชฺชาติ ทฏฺพฺพา. ทสวตฺถุกา อนฺตคฺคาหิกา ทิฏฺีติ สสฺสโต โลโก, อสสฺสโต โลโก, อนฺตวา โลโก’’ติ อาทินยปฺปวตฺตา เอเกกํ โกฏฺาสํ ปติฏฺํ กตฺวา คหณวเสน เอวํ ปวตฺตา ทิฏฺิ ทสวตฺถุกา อนฺตคฺคาหิกา ทิฏฺิ. ยา เอวรูปา ทิฏฺีติ ยา เอวํชาติกา ทิฏฺิ. ทิฏฺิคตนฺติ ทิฏฺีสุ คตํ. อิทํ ทสฺสนํ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิอนฺโตคธตฺตาติ ทิฏฺิคตํ, ทิฏฺิเยว ทุรติกฺกมนฏฺเน คหนํ ทิฏฺิคหนํ ติณคหนวนคหนปพฺพตคหนานิ วิย. สาสงฺกสปฺปฏิภยฏฺเน ทิฏฺิกนฺตารํ โจรกนฺตารวาฬกนฺตารนิรุทกกนฺตารทุพฺภิกฺขกนฺตารา วิย. สมฺมาทิฏฺิยา วินิวิชฺฌนฏฺเน วิโลมนฏฺเน จ ทิฏฺิวิสูกายิกํ. มิจฺฉาทสฺสนฺหิ อุปฺปชฺชมานํ สมฺมาทสฺสนํ วินิวิชฺฌติ เจว วิโลเมติ จ. กทาจิ สสฺสตสฺส, กทาจิ อุจฺเฉทสฺส คหณโต ทิฏฺิยา วิรูปํ ผนฺทิตนฺติ ทิฏฺิวิปฺผนฺทิตํ. ทิฏฺิคติโก หิ เอกสฺมึ ปติฏฺาตุํ น สกฺโกติ. กทาจิ สสฺสตํ อนุสฺสรติ, กทาจิ อุจฺเฉทํ. ทิฏฺิเยว พนฺธนฏฺเน สํโยชนนฺติ ทิฏฺิสํโยชนํ. สุสุมาราทโย วิย ปุริสํ อารมฺมณํ ทฬฺหํ คณฺหาตีติ คาโห. ปติฏฺหนโต ปติฏฺาโห. อยฺหิ พลวปวตฺติภาเวน ปติฏฺหิตฺวา คณฺหาติ. นิจฺจาทิวเสน อภินิวิสตีติ อภินิเวโส. ธมฺมสภาวํ อติกฺกมิตฺวา นิจฺจาทิวเสน ปรโต อามสตีติ ปรามาโส. อนตฺถาวหตฺตา กุจฺฉิโต มคฺโค, กุจฺฉิตานํ วา อปายานํ มคฺโคติ กุมฺมคฺโค. อยาถาวปถโต มิจฺฉาปโถ. ยถา หิ ทิสามูฬฺเหน ‘‘อยํ อสุกคามสฺส นาม ปโถ’’ติ คหิโตปิ ตํ คามํ น สมฺปาเปติ, เอวํ ทิฏฺิคติเกน ‘‘สุคติปโถ’’ติ คหิตาปิ ทิฏฺิ สุคตึ น ปาเปตีติ อยาถาวปถโต มิจฺฉาปโถ. มิจฺฉาสภาวโต มิจฺฉตฺตํ. ตตฺเถว ปริพฺภมนโต ตรนฺติ เอตฺถ พาลาติ ติตฺถํ, ติตฺถฺจ ตํ อนตฺถานฺจ อายตนนฺติ ติตฺถายตนํ, ติตฺถิยานํ วา สฺชาติเทสฏฺเน นิวาสฏฺานฏฺเน จ อายตนนฺติปิ ติตฺถายตนํ. วิปริเยสภูโต คาโห, วิปริเยสโต วา คาโหติ วิปริเยสคฺคาโห. อสภาวคาโหติ วิปรีตคฺคาโห. ‘‘อนิจฺเจ นิจฺจ’’นฺติ อาทินยปฺปวตฺตวเสน ปริวตฺเตตฺวา คาโห วิปลฺลาสคฺคาโห. อนุปายคาโห มิจฺฉาคาโห. อยาถาวกสฺมึ วตฺถุสฺมึ น สภาวสฺมึ วตฺถุสฺมึ ตถํ ยาถาวกํ สภาวนฺติ คาโห ‘‘อยาถาวกสฺมึ ยาถาวก’’นฺติ คาโห. ยาวตาติ ยตฺตกา. ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตานีติ พฺรหฺมชาเล (ที. นิ. ๑.๒๙ อาทโย) อาคตานิ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตานิ.

อจฺเฉทสํกิโนปิ ผนฺทนฺตีติ อจฺฉินฺทิตฺวา ปสยฺห พลกฺกาเรน คณฺหิสฺสนฺตีติ อุปฺปนฺนสํกิโนปิ จลนฺติ. อจฺฉินฺทนฺเตปีติ วุตฺตนเยน อจฺฉิชฺชนฺเตปิ. อจฺฉินฺเนปีติ วุตฺตนเยน อจฺฉินฺทิตฺวา คหิเตปิ. วิปริณามสํกิโนปีติ ปริวตฺเตตฺวา อฺถาภาเวน อาสํกิโนปิ. วิปริณามนฺเตปีติ วิปริวตฺตนกาเลปิ. วิปริณเตปีติ วิปริวตฺติเตปิ. ผนฺทนฺตีติ จลนฺติ. สมฺผนฺทนฺตีติ สพฺพากาเรน จลนฺติ. วิปฺผนฺทนฺตีติ วิวิธากาเรน ผนฺทนฺติ. เวธนฺตีติ ภยํ ทิสฺวา กมฺปนฺติ. ปเวธนฺตีติ ฉมฺภิตตฺตา ภเยน วิเสเสน กมฺปนฺติ. สมฺปเวธนฺตีติ โลมหํสนภเยน สพฺพากาเรน กมฺปนฺติ. ผนฺทมาเนติ อุปโยคพหุวจนํ. อปฺโปทเกติ มนฺโททเก. ปริตฺโตทเกติ ลุฬิโตทเก. อุทกปริยาทาเนติ ขีโณทเก. พลากาหิ วาติ วุตฺตาวเสสาหิ ปกฺขิชาตีหิ. ปริปาติยมานาติ วิหึสิยมานา ฆฏฺฏิยมานา. อุกฺขิปิยมานาติ กทฺทมนฺตรโต นีหริยมานา คิลิยมานา วา. ขชฺชมานาติ ขาทิยมานา. ผนฺทนฺติ กาเกหิ. สมฺผนฺทนฺติ กุลเลหิ. วิปฺผนฺทนฺติ พลากาหิ. เวธนฺติ ตุณฺเฑน คหิตกาเล มรณวเสน. ปเวธนฺติ วิชฺฌนกาเล. สมฺปเวธนฺติ มรณสมีเป.

ปสฺสิตฺวาติ อคุณํ ปสฺสิตฺวา. ตุลยิตฺวาติ คุณาคุณํ ตุลยิตฺวา. ตีรยิตฺวาติ คุณาคุณํ วิตฺถาเรตฺวา. วิภาวยิตฺวาติ วตฺถุหานภาคึ มุฺจิตฺวา วชฺเชตฺวา. วิภูตํ กตฺวาติ นิปฺผตฺตึ ปาเปตฺวา อาเวณิกํ กตฺวา. อถ วา สํกิณฺณโทสํ โมเจตฺวา วตฺถุวิภาคกรเณน ปสฺสิตฺวา. อปริจฺเฉทโทสํ โมเจตฺวา ปมาณกรณวเสน ตุลยิตฺวา. วตฺถุโทสํ โมเจตฺวา วิภาคกรณวเสน ตีรยิตฺวา. สมฺโมหโทสํ โมจยิตฺวา อคฺควิภาคกรณวเสน วิภาวยิตฺวา. ฆนโทสํ โมเจตฺวา ปกติวิภาคกรเณน วิภูตํ กตฺวา. ปหายาติ ปชหิตฺวา. ปฏินิสฺสชฺชิตฺวาติ นิสฺสชฺชิตฺวา. อมมายนฺโตติ ตณฺหาทิฏฺีหิ อาลยํ อกโรนฺโต. อคณฺหนฺโตติ ทิฏฺิยา ปุพฺพภาเค ปฺาย ตํ น คณฺหนฺโต. อปรามสนฺโตติ วิตกฺเกน อูหนํ อกโรนฺโต. อนภินิเวสนฺโตติ นิยาโมกฺกนฺติทิฏฺิวเสน นปฺปวิสนฺโต.

อกุพฺพมาโนติ ปริคฺคาหตณฺหาวเสน อกโรนฺโต. อชนยมาโนติ โปโนภวิกตณฺหาวเสน อชนยมาโน. อสฺชนยมาโนติ วิเสเสน อสฺชนยมาโน. อนิพฺพตฺตยมาโนติ ปตฺถนาตณฺหาวเสน น นิพฺพตฺตยมาโน. อนภินิพฺพตฺตยมาโนติ สพฺพากาเรน น อภินิพฺพตฺตยมาโน. อุปสคฺควเสน วา เอตานิ ปทานิ วฑฺฒิตานิ. เอวเมตฺถ ปมคาถาย อสฺสาทํ.

๑๓. ตโต ปราหิ จตูหิ คาถาหิ อาทีนวฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สอุปายํ นิสฺสรณํ นิสฺสรณานิสํสฺจ ทสฺเสตุํ, สพฺพาหิ วา เอตาหิ กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุโภสุ อนฺเตสู’’ติ คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ อุโภสุ อนฺเตสูติ ผสฺสผสฺสสมุทยาทีสุ ทฺวีสุ, ทฺวีสุ ปริจฺเฉเทสุ. วิเนยฺย ฉนฺทนฺติ ฉนฺทราคํ วิเนตฺวา. ผสฺสํ ปริฺายาติ จกฺขุสมฺผสฺสาทิผสฺสํ, ผสฺสานุสาเรน วา ตํสมฺปยุตฺเต สพฺเพปิ อรูปธมฺเม, เตสํ วตฺถุทฺวารารมฺมณวเสน รูปธมฺเม จาติ สกลมฺปิ นามรูปํ ตีหิ ปริฺาหิ ปริชานิตฺวา. อนานุคิทฺโธติ รูปาทีสุ สพฺพธมฺเมสุ อคิทฺโธ. ยทตฺตครหี ตทกุพฺพมาโนติ ยํ อตฺตนา ครหติ, ตํ อกุรุมาโน. น ลิมฺปตี ทิฏฺสุเตสุ ธีโรติ โส เอวรูโป ธิติสมฺปนฺโน ธีโร ทิฏฺเสุ จ สุเตสุ จ ธมฺเมสุ ทฺวินฺนํ เลปานํ เอเกนาปิ เลเปน น ลิมฺปติ, อากาสมิว นิรุปลิตฺโต อจฺจนฺตโวทานปฺปตฺโต โหติ.

ผสฺโส เอโก อนฺโตติ ผสฺโส เอกปริจฺเฉโท. ผุสตีติ ผสฺโส. สฺวายํ ผุสนลกฺขโณ, สงฺฆฏฺฏนรโส, สนฺนิปาตปจฺจุปฏฺาโน, อาปาถคตวิสยปทฏฺาโน. อยฺหิ อรูปธมฺโมปิ สมาโน อารมฺมเณ ผุสนากาเรเนว ปวตฺตตีติ ผุสนลกฺขโณ. เอกเทเสเนว อนลฺลียมาโนปิ รูปํ วิย จกฺขุํ, สทฺโท วิย จ โสตํ จิตฺตํ อารมฺมณฺจ สงฺฆฏฺเฏตีติ สงฺฆฏฺฏนรโส, วตฺถารมฺมณสงฺฆฏฺฏนโต วา อุปฺปนฺนตฺตา สมฺปตฺติอตฺเถนปิ รเสน ‘‘สงฺฆฏฺฏนรโส’’ติ เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ

‘‘จตุภูมกผสฺโส โน ผุสนลกฺขโณ นาม นตฺถิ, สงฺฆฏฺฏนรโส ปน ปฺจทฺวาริโกว โหติ. ปฺจทฺวาริกสฺส หิ ผุสนลกฺขโณติปิ สงฺฆฏฺฏนรโสติปิ นามํ. มโนทฺวาริกสฺส ผุสนลกฺขโณตฺเวว นามํ, น สงฺฆฏฺฏนรโส’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑, กามาวจรกุสล, ธมฺมุทฺเทสกถา).

อิทฺจ วตฺวา อิทํ สุตฺตํ (มิ. ป. ๒.๓.๘) อาภตํ –

‘‘ยถา, มหาราช, ทฺเว เมณฺฑา ยุชฺเฌยฺยุํ, ยถา เอโก เมณฺโฑ, เอวํ จกฺขุ ทฏฺพฺพํ. ยถา ทุติโย เมณฺโฑ, เอวํ รูปํ ทฏฺพฺพํ. ยถา เตสํ สนฺนิปาโต, เอวํ ผสฺโส ทฏฺพฺโพ. เอวํ ผุสนลกฺขโณ จ ผสฺโส สงฺฆฏฺฏนรโส จ. ยถา, มหาราช, ทฺเว สมฺมา วชฺเชยฺยุํ, ทฺเว ปาณี วชฺเชยฺยุํ. ยถา เอโก ปาณิ, เอวํ จกฺขุ ทฏฺพฺพํ. ยถา ทุติโย ปาณิ, เอวํ รูปํ ทฏฺพฺพํ. ยถา เตสํ สนฺนิปาโต, เอวํ ผสฺโส ทฏฺพฺโพ. เอวํ ผุสนลกฺขโณ จ ผสฺโส สงฺฆฏฺฏนรโส จา’’ติ วิตฺถาโร.

ยถา วา ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๓๕๒, ๑๓๕๔) จกฺขุวิฺาณาทีนิ จกฺขุอาทินาเมน วุตฺตานิ, เอวมิธาปิ ตานิ จกฺขุอาทินาเมเนว วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. ตสฺมา ‘‘เอวํ จกฺขุ ทฏฺพฺพ’’นฺติอาทีสุ เอวํ จกฺขุวิฺาณํ ทฏฺพฺพนฺติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวํ สนฺเต จิตฺตารมฺมณสงฺฆฏฺฏนโต อิมสฺมิมฺปิ สุตฺเต กิจฺจฏฺเเนว รเสน ‘‘สงฺฆฏฺฏนรโส’’ติ สิทฺโธ โหติ. ติณฺณํ สนฺนิปาตสงฺขาตสฺส ปน อตฺตโน การณสฺส วเสน ปเวทิตตฺตา สนฺนิปาตปจฺจุปฏฺาโน. อยฺหิ ตตฺถ ตตฺถ ‘‘ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส’’ติ เอวํ การณสฺเสว วเสน ปเวทิโตติ. อิมสฺส จ สุตฺตปทสฺส ติณฺณํ สงฺคติยา ผสฺโสติ อยมตฺโถ, น สงฺคติมตฺตเมว ผสฺโส.

เอวํ ปเวทิตตฺตา ปน เตเนวากาเรน ปจฺจุปฏฺาตีติ ‘‘สนฺนิปาตปจฺจุปฏฺาโน’’ติ วุตฺโต. ผลฏฺเน ปน ปจฺจุปฏฺาเนเนส เวทนาปจฺจุปฏฺาโน นาม โหติ. เวทนํ เหส ปจฺจุปฏฺาเปติ, อุปฺปาเทตีติ อตฺโถ. อุปฺปาทยมาโน จ ยถา พหิทฺธา อุณฺหปจฺจยาปิ สมานา ลาขาสงฺขาตธาตุนิสฺสิตา อุสฺมา อตฺตโน นิสฺสเย มุทุภาวการี โหติ, น อตฺตโน ปจฺจยภูเตปิ พหิทฺธา วีตจฺจิตงฺคารสงฺขาเต อุณฺหภาเว. เอวํ วตฺถารมฺมณสงฺขาตอฺปจฺจโยปิ สมาโน จิตฺตนิสฺสิตตฺตา อตฺตโน นิสฺสยภูเต จิตฺเต เอว เอส เวทนุปฺปาทโก โหติ, น อตฺตโน ปจฺจยภูเตปิ วตฺถุมฺหิ อารมฺมเณวาติ เวทิตพฺโพ. ตชฺเชน สมนฺนาหาเรน ปน อินฺทฺริเยน จ ปริกฺขเต วิสเย อนนฺตราเยน อุปฺปชฺชนโต เอส ‘‘อาปาถคตวิสยปทฏฺาโน’’ติ วุจฺจติ.

ผสฺโส ยโต สมุเทติ อุปฺปชฺชติ, โส ‘‘ผสฺสสมุทโย’’ติ วุจฺจติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส’’ติ (มหาว. ๑; วิภ. ๒๒๕). อตีตทุโก กาลวเสน วุตฺโต. เวทนาทุโก ‘‘อุเปกฺขา ปน สนฺตตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๓๒) วุตฺตตฺตา อุเปกฺขาเวทนํ สุขเมว กตฺวา สุขทุกฺขวเสน, นามรูปทุโก รูปารูปวเสน, อายตนทุโก สํสารปวตฺติวเสน, สกฺกายทุโก ปฺจกฺขนฺธวเสน วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ สุขยตีติ สุขา. เวทยตีติ เวทนา. ทุกฺขยตีติ ทุกฺขา. นมนลกฺขณํ นามํ. รุปฺปนลกฺขณํ รูปํ. จกฺขายตนาทีนิ ฉ อชฺฌตฺติกานิ. รูปายตนาทีนิ ฉ พาหิรานิ. รูปกฺขนฺธาทโย ปฺจกฺขนฺธา วิชฺชมานฏฺเน สกฺกาโย. อวิชฺชากมฺมตณฺหาอาหารผสฺสนามรูปา สกฺกายสมุทโย.

จกฺขุสมฺผสฺโสติ จกฺขตีติ จกฺขุ, รูปํ อสฺสาเทติ วิภาเวติ จาติ อตฺโถ. จกฺขุโต ปวตฺโต สมฺผสฺโส จกฺขุสมฺผสฺโส. โส ปน อตฺตนา สมฺปยุตฺตาย เวทนาย สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากอาหารสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน อฏฺธา ปจฺจโย โหติ. สุณาตีติ โสตํ. ตํ สสมฺภารโสตพิลสฺส อนฺโต ตนุตมฺพโลมาจิเต องฺคุลิเวกสณฺาเน ปเทเส โสตวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฏฺติ. โสตโต ปวตฺโต สมฺผสฺโส โสตสมฺผสฺโส. ฆานสมฺผสฺสาทีสุปิ เอเสว นโย. ฆายตีติ ฆานํ. ตํ สสมฺภารพิลสฺส อนฺโต อชปทสณฺาเน ปเทเส ฆานวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฏฺติ. ชีวิตมวฺหายตีติ ชิวฺหา, สายนฏฺเน วา ชิวฺหา. สา สสมฺภารชิวฺหาย อติอคฺคมูลปสฺสานิ วชฺเชตฺวา อุปริมตลมชฺเฌ ภินฺนอุปฺปลทลคฺคสณฺาเน ปเทเส ชิวฺหาวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานา ติฏฺติ. กุจฺฉิตานํ สาสวธมฺมานํ อาโยติ กาโย. อาโยติ อุปฺปตฺติเทโส. ยาวตา อิมสฺมึ กาเย อุปาทิณฺณปวตฺติ นาม อตฺถิ, ตตฺถ เยภุยฺเยน กายปฺปสาโท กายวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมาโน ติฏฺติ. มุนาตีติ มโน, วิชานาตีติ อตฺโถ. มโนติ สหาวชฺชนภวงฺคํ; มนโต ปวตฺโต สมฺผสฺโส มโนสมฺผสฺโส.

ฉพฺพิธมฺปิ ผสฺสํ ทุวิธเมว โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อธิวจนสมฺผสฺโส ปฏิฆสมฺผสฺโส’’ติ อาห. มโนทฺวาริโก อธิวจนสมฺผสฺโส. ปฺจทฺวาริโก วตฺถารมฺมณาทิปฏิเฆน อุปฺปชฺชนโต ปฏิฆสมฺผสฺโส.

สุขเวทนาย อารมฺมเณ สุขเวทนีโย. ทุกฺขเวทนาย อารมฺมเณ ทุกฺขเวทนีโย. อทุกฺขมสุขเวทนาย อารมฺมเณ อทุกฺขมสุขเวทนีโย. ตตฺถ สุขยตีติ สุขํ, ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ สุขิตํ กโรตีติ อตฺโถ. สุฏฺุ วา ขนติ, ขาทติ จ กายจิตฺตาพาธนฺติ สุขํ. ทุกฺขยตีติ ทุกฺขํ, ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ ทุกฺขิตํ กโรตีติ อตฺโถ. น ทุกฺขํ น สุขนฺติ อทุกฺขมสุขํ, -กาโร ปทสนฺธิวเสน วุตฺโต.

กุสโลติอาทโย ชาติวเสน วุตฺตา. ตตฺถ กุสโลติ เอกวีสติกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺโต. อกุสโลติ ทฺวาทสากุสลจิตฺตสมฺปยุตฺโต. อพฺยากโตติ อวเสสวิปากกิริยาพฺยากตจิตฺตสมฺปยุตฺโต.

ปุน ภวปฺปเภทวเสน นิทฺทิสนฺโต ‘‘กามาวจโร’’ติอาทิมาห. จตุปฺาสกามาวจรจิตฺตสมฺปยุตฺโต กามาวจโร. กามํ ปหาย รูเป อวจรตีติ รูปาวจโร, กุสลาพฺยากตวเสน ปฺจทสรูปาวจรจิตฺตสมฺปยุตฺโต. กามฺจ รูปฺจ ปหาย อรูเป อวจรตีติ อรูปาวจโร, กุสลาพฺยากตวเสน ทฺวาทสารูปาวจรจิตฺตสมฺปยุตฺโต.

อิทานิ อภินิเวสวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘สุฺโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุฺโตติ ราคโทสโมเหหิ สุฺตฺตา สุฺโต. ราคโทสโมหนิมิตฺเตหิ อนิมิตฺตตฺตา อนิมิตฺโต. ราคโทสโมหปณิธีนํ อภาวโต อปฺปณิหิโตติ วุจฺจติ.

อิทานิ วฏฺฏปริยาปนฺนอปริยาปนฺนวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘โลกิโย’’ติอาทิมาห. โลโก วุจฺจติ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน วฏฺฏํ, ตสฺมึ ปริยาปนฺนภาเวน โลเก นิยุตฺโตติ โลกิโย. อุตฺติณฺโณติ อุตฺตโร, โลเก อปริยาปนฺนภาเวน โลกโต อุตฺตโรติ โลกุตฺตโร. ผุสนาติ ผุสนากาโร. สมฺผุสนา สมฺผุสิตตฺตนฺติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ.

เอวํ าตํ กตฺวาติ เอวํ ปากฏํ กตฺวา ชานนฺโต ตีเรติ ตีรยติ, อุปริ วตฺตพฺพากาเรน จินฺเตติ. อนิจฺจนฺติกตาย อาทิอนฺตวนฺตตาย จ อนิจฺจโต ตีเรติ. อุปฺปาทวยปฏิปีฬนตาย ทุกฺขวตฺถุตาย จ ทุกฺขโต. ปจฺจยยาปนียตาย โรคมูลตาย จ โรคโต. ทุกฺขตาสูลโยคิตาย กิเลสาสุจิปคฺฆรตาย อุปฺปาทชราภงฺเคหิ อุทฺธุมาตปริปกฺกปภินฺนตาย จ คณฺฑโต. ปีฬาชนกตาย อนฺโตตุทนตาย ทุนฺนีหรณียตาย จ สลฺลโต. วิครหณียตาย อวฑฺฒิอาวหนตาย อฆวตฺถุตาย จ อฆโต. อเสริภาวชนกตาย อาพาธปทฏฺานตาย จ อาพาธโต. อวสตาย อวิเธยฺยตาย จ ปรโต. พฺยาธิชรามรเณหิ ลุชฺชนปลุชฺชนตาย ปโลกโต. อเนกพฺยสนาวหนตาย อีติโต. อวิทิตานํเยว วิปุลานํ อนตฺถานํ อาวหนโต สพฺพูปทฺทววตฺถุตาย จ อุปทฺทวโต. สพฺพภยานํ อากรตาย จ ทุกฺขวูปสมสงฺขาตสฺส ปรมสฺสาสสฺส ปฏิปกฺขภูตตาย จ ภยโต. อเนเกหิ อนตฺเถหิ อนุพทฺธตาย โทสูปสฏฺตาย, อุปสคฺโค วิย อนธิวาสนารหตาย จ อุปสคฺคโต. พฺยาธิชรามรเณหิ เจว ลาภาทีหิ จ โลกธมฺเมหิ ปจลิตตาย จลโต. อุปกฺกเมน เจว สรเสน จ ปภงฺคุปคมนสีลตาย ปภงฺคุโต. สพฺพาวตฺถาวินิปาติตาย, ถิรภาวสฺส จ อภาวตาย อธุวโต. อตายนตาย เจว อลพฺภเนยฺยเขมตาย จ อตาณโต. อลฺลียิตุํ อนรหตาย, อลฺลีนานมฺปิ จ เลณกิจฺจาการิตาย อเลณโต. นิสฺสิตานํ ภยสารกตฺตาภาเวน อสรณโต. ยถาปริกปฺปิเตหิ ธุวสุภสุขตฺตภาเวหิ ริตฺตตาย ริตฺตโต. ริตฺตตาเยว ตุจฺฉโต, อปฺปกตฺตา วา. อปฺปกมฺปิ หิ โลเก ‘‘ตุจฺฉ’’นฺติ วุจฺจติ. สามินิวาสิเวทก การกาธิฏฺายกวิรหิตตาย สุฺโต.

สยฺจ อสามิกภาวาทิตาย อนตฺตโต. ปวตฺติทุกฺขตาย, ทุกฺขสฺส จ อาทีนวตาย อาทีนวโต. อถ วา อาทีนํ วาติ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ อาทีนโว, กปณมนุสฺสสฺเสตํ อธิวจนํ. ขนฺธาปิ จ กปณาเยวาติ อาทีนวสทิสตาย อาทีนวโต. ชราย เจว มรเณน จาติ ทฺเวธา ปริณามปกติตาย วิปริณามธมฺมโต. ทุพฺพลตาย, เผคฺคุ วิย สุขภฺชนียตาย จ อสารกโต. อฆเหตุตาย อฆมูลโต. มิตฺตมุขสปตฺโต วิย วิสฺสาสฆาติตาย วธกโต. วิคตภวตาย วิภวสมฺภูตตาย จ วิภวโต. อาสวปทฏฺานตาย สาสวโต. เหตุปจฺจเยหิ อภิสงฺขตตาย สงฺขตโต. มจฺจุมารกิเลสมารานํ อามิสภูตตาย มารามิสโต. ชาติชราพฺยาธิมรณปกติตาย ชาติชราพฺยาธิมรณธมฺมโต. โสกปริเทวอุปายาสเหตุตาย โสกปริเทวอุปายาสธมฺมโต. ตณฺหาทิฏฺิทุจฺจริตสํกิเลสานํ วิสยธมฺมตาย สํกิเลสธมฺมโต. อวิชฺชากมฺมตณฺหาสฬายตนวเสน อุปฺปตฺติโต สมุทยโต. เตสํ อภาเวน อตฺถงฺคมโต. ผสฺเส ฉนฺทราควเสน มธุรสฺสาเทน อสฺสาทโต. ผสฺสสฺส วิปริณาเมน อาทีนวโต. อุภินฺนํ นิสฺสรเณน นิสฺสรณโต ตีเรตีติ สพฺเพสุ จ อิเมสุ ‘‘ตีเรตี’’ติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ.

ปชหตีติ สกสนฺตานโต นีหรติ. วิโนเทตีติ ตุทติ. พฺยนฺตึ กโรตีติ วิคตนฺตํ กโรติ. อนภาวํ คเมตีติ อนุ อนุ อภาวํ คเมติ. อริยมคฺคสตฺเถน อุจฺฉินฺนํ ตณฺหาอวิชฺชามยํ มูลเมเตสนฺติ อุจฺฉินฺนมูลา. ตาลวตฺถุ วิย เนสํ วตฺถุ กตนฺติ ตาลาวตฺถุกตา. ยถา หิ ตาลรุกฺขํ สมูลํ อุทฺธริตฺวา ตสฺส วตฺถุมตฺเต ตสฺมึ ปเทเส กเต น ปุน ตสฺส ตาลสฺส อุปฺปตฺติ ปฺายติ, เอวํ อริยมคฺคสตฺเถน สมูเล รูปาทิรเส อุทฺธริตฺวา เตสํ ปุพฺเพ อุปฺปนฺนปุพฺพภาเวน วตฺถุมตฺเต จิตฺตสนฺตาเน กเต สพฺเพปิ เต ‘‘ตาลาวตฺถุกตา’’ติ วุจฺจนฺติ. ยสฺเสโสติ ยสฺส ปุคฺคลสฺส เอโส เคโธ. สมุจฺฉินฺโนติ อุจฺฉินฺโน. วูปสนฺโตติ ผเลน วูปสนฺโต. ปฏิปสฺสทฺโธติ ปฏิปสฺสทฺธิปฺปหาเนน ปฏิปสฺสมฺภิโต. อุปสคฺเคน วา ปทํ วฑฺฒิตํ. อภพฺพุปฺปตฺติโกติ ปุน อุปฺปชฺชิตุํ อภพฺโพ. าณคฺคินา ทฑฺโฒติ มคฺคาณคฺคินา ฌาปิโต. อถ วา วิสนิกฺขิตฺตํ ภาชเนน สห ฉฑฺฑิตํ วิย วตฺถุนา สห ปหีโน. มูลจฺฉินฺนวิสวลฺลิ วิย สมูลจฺฉินฺโนติ สมุจฺฉินฺโน. อุทฺธเน อุทกํ สิฺจิตฺวา นิพฺพาปิตองฺคารํ วิย วูปสนฺโต. นิพฺพาปิตองฺคาเร ปติตอุทกผุสิตํ วิย ปฏิปสฺสทฺโธ. องฺกุรุปฺปตฺติยา เหตุจฺฉินฺนพีชํ วิย อภพฺพุปฺปตฺติโก. อสนิปาตวิสรุกฺโข วิย าณคฺคินา ทฑฺโฒติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.

วีตเคโธติ อิทํ สกภาวปริจฺจชนวเสน วุตฺตํ. วิคตเคโธติ อิทํ อารมฺมเณ สาลยภาวปริจฺจชนวเสน. จตฺตเคโธติ อิทํ ปุน อนาทิยนภาวทสฺสนวเสน. มุตฺตเคโธติ อิทํ สนฺตติโต วินิโมจนวเสน. ปหีนเคโธติ อิทํ มุตฺตสฺสาปิ กฺวจิ อนวฏฺานทสฺสนวเสน. ปฏินิสฺสฏฺเคโธติ อิทํ อาทินฺนปุพฺพสฺส นิสฺสคฺคทสฺสนวเสน วุตฺตํ. วีตราโค วิคตราโค จตฺตราโคติ วุตฺตนเยน โยเชตพฺพํ. ตตฺถ คิชฺฌนวเสน เคโธ. รฺชนวเสน ราโค. นิจฺฉาโตติ นิตฺตณฺโห. ‘‘นิจฺฉโท’’ติปิ ปาโ, ตณฺหาฉทนวิรหิโตติ อตฺโถ. นิพฺพุโตติ นิพฺพุตสภาโว. สีติภูโตติ สีตสภาโว. สุขปฏิสํเวทีติ กายิกเจตสิกสุขํ อนุภวนสภาโว. พฺรหฺมภูเตนาติ อุตฺตมสภาเวน. อตฺตนาติ จิตฺเตน.

กตตฺตา จาติ ปาปกมฺมานํ กตภาเวน จ. อกตตฺตา จาติ กุสลานํ อกตภาเวน จ. กตํ เม กายทุจฺจริตํ, อกตํ เม กายสุจริตนฺติอาทโย ทฺวารวเสน อวิรติวิรติวเสน กมฺมปถวเสน จ วุตฺตา. สีเลสุมฺหิ น ปริปูรการีติอาทโย จตุปาริสุทฺธิสีลวเสน. ชาคริยมนนุยุตฺโตติ ปฺจชาครณวเสน. สติสมฺปชฺเนาติ สาตฺถกาทิสมฺปชฺวเสน. จตฺตาโร สติปฏฺานาติอาทโย โพธิปกฺขิยธมฺมา โลกิยโลกุตฺตรวเสน. ทุกฺขํ เม อปริฺาตนฺติอาทโย จตฺตาโร อริยสจฺจวเสน วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. เต อตฺถโต ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนยตฺตา ปากฏาเยว.

ธีโร ปณฺฑิโตติ สตฺต ปทา วุตฺตตฺถาเยว. อปิ จ ทุกฺเข อกมฺปิยฏฺเน ธีโร. สุเข อนุปฺปิลวฏฺเน ปณฺฑิโต. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกตฺเถ กตปริจยฏฺเน ปฺวา. อตฺตตฺถปรตฺเถ นิจฺจลฏฺเน พุทฺธิมา. คมฺภีรอุตฺตานตฺเถ อปจฺโจสกฺกนฏฺเน าณี. คุฬฺหปฏิจฺฉนฺนตฺเถ โอภาสนฏฺเน วิภาวี. นิกฺกิเลสพฺยวทานฏฺเน ตุลาสทิโสติ เมธาวี. น ลิมฺปตีติ สชาติยา น ลิมฺปติ อากาเส เลขา วิย. น ปลิมฺปตีติ วิเสเสน น ลิมฺปติ. น อุปลิมฺปตีติ สฺโโค หุตฺวาปิ น ลิมฺปติ หตฺถตเล เลขา วิย. อลิตฺโตติ สฺโโค หุตฺวาปิ น กิลิสฺสติ กาสิกวตฺเถ ปิตมณิรตนํ วิย. อปลิตฺโตติ วิเสเสน น กิลิสฺสติ มณิรตเน ปลิเวิตกาสิกวตฺถํ วิย. อนุปลิตฺโตติ อุปคนฺตฺวาปิ น อลฺลียติ โปกฺขรปตฺเต อุทกพินฺทุ วิย. นิกฺขนฺโตติ พหิ นิกฺขนฺโต พนฺธนาคารโต ปลาโต วิย. นิสฺสโฏติ ปาปปหีโน อมิตฺตสฺส ปฏิจฺฉาปิตกิลิฏฺวตฺถุ วิย. วิปฺปมุตฺโตติ สุฏฺุ มุตฺโต คยฺหูปเค วตฺถุมฺหิ รตึ นาเสตฺวา ปุน นาคมนํ วิย. วิสฺุตฺโตติ กิเลเสหิ เอกโต น ยุตฺโต พฺยาธินา มุตฺตคิลาโน วิย. วิมริยาทิกเตน เจตสาติ วิคตมริยาทกเตน จิตฺเตน, สพฺพภเวน สพฺพารมฺมเณน สพฺพกิเลเสหิ มุตฺตจิตฺเตนาติ อตฺโถ.

๑๔. สฺํ ปริฺาติ คาถาย ปน อยํ สงฺเขปตฺโถ – น เกวลฺจ ผสฺสเมว, อปิ จ โข ปน กามสฺาทิเภทํ สฺํ, สฺานุสาเรน วา ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว นามรูปํ ตีหิ ปริฺาหิ ปริชานิตฺวา อิมาย ปฏิปทาย จตุพฺพิธมฺปิ วิตเรยฺย โอฆํ, ตโต โส ติณฺโณโฆ ตณฺหาทิฏฺิปริคฺคเหสุ ตณฺหาทิฏฺิกิเลสปฺปหาเนน อนุปลิตฺโต ขีณาสวมุนิ ราคาทิสลฺลานํ อพฺพูฬฺหตฺตา อพฺพูฬฺหสลฺโล, สติเวปุลฺลปฺปตฺติยา อปฺปมตฺโต จรํ, ปุพฺพภาเค วา อปฺปมตฺโต จรนฺโต เตน อปฺปมาทจาเรน อพฺพูฬฺหสลฺโล หุตฺวา สกปรตฺตภาวาทิเภทํ นาสีสติ โลกมิมํ ปรฺจ, อฺทตฺถุ จริมจิตฺตนิโรธา นิรุปาทาโนว ชาตเวโท ปรินิพฺพาตีติ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ, ธมฺมเนตฺติปนเมว กโรนฺโต; น ตุ อิมาย เทสนาย มคฺคํ วา ผลํ วา อุปฺปาเทสิ, ขีณาสวสฺส เทสิตตฺตาติ.

นีลาทิเภทํ อารมฺมณํ สฺชานาตีติ สฺา. สา สฺชานนลกฺขณา ปจฺจาภิฺาณรสา. จตุภูมิกสฺา หิ โนสฺชานนลกฺขณา นาม นตฺถิ, สพฺพา สฺชานนลกฺขณาว. ยา ปเนตฺถ อภิฺาเณน สฺชานาติ, สา ปจฺจาภิฺาณรสา นาม โหติ. ตสฺสา วฑฺฒกิสฺส ทารุมฺหิ อภิฺาณํ กตฺวา ปุน เตน อภิฺาเณน ตํ ปจฺจาภิชานนกาเล, ปุริสสฺส กาฬติลกาทิอภิฺาณํ สลฺลกฺเขตฺวา ปุน เตน อภิฺาเณน ‘‘อสุโก นาม เอโส’’ติ ตสฺส ปจฺจาภิชานนกาเล, รฺโ ปิฬนฺธนโคปกภณฺฑาคาริกสฺส ตสฺมึ ตสฺมึ ปิฬนฺธเน นามปณฺณกํ พนฺธิตฺวา ‘‘อสุกํ ปิฬนฺธนํ นาม อาหรา’’ติ วุตฺเต ทีปํ ชาเลตฺวา สารคพฺภํ ปวิสิตฺวา ปณฺณํ วาเจตฺวา ตสฺส ตสฺเสว ปิฬนฺธนสฺส อาหรณกาเล จ ปวตฺติ เวทิตพฺพา.

อปโร นโย – สพฺพสงฺคาหิกวเสน หิ สฺชานนลกฺขณา สฺา, ปุนสฺชานนปจฺจยนิมิตฺตกรณรสา ทารุอาทีสุ ตจฺฉกาทโย วิย, ยถาคหิตนิมิตฺตวเสน อภินิเวสกรณปจฺจุปฏฺานา หตฺถิทสฺสกอนฺโธ วิย, อารมฺมเณ อโนคาฬฺหวุตฺติตาย อจิรฏฺานปจฺจุปฏฺานา วา วิชฺชุ วิย, ยถาอุปฏฺิตวิสยปทฏฺานา ติณปุริสเกสุ มิคโปตกานํ ปุริสาติ อุปฺปนฺนสฺา วิย. ยา ปเนตฺถ าณสมฺปยุตฺตา โหติ, สา าณเมว อนุวตฺตติ, สสมฺภารปถวีอาทีสุ เสสธมฺมา ปถวีอาทีนิ วิยาติ เวทิตพฺพา.

กามปฏิสฺุตฺตา สฺา กามสฺา. พฺยาปาทปฏิสฺุตฺตา สฺา พฺยาปาทสฺา. วิหึสาปฏิสฺุตฺตา สฺา วิหึสาสฺา. เตสุ ทฺเว สตฺเตสุปิ สงฺขาเรสุปิ อุปฺปชฺชนฺติ. กามสฺา หิ ปิเย มนาเป สตฺเต วา สงฺขาเร วา วิตกฺเกนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ. พฺยาปาทสฺา อปฺปิเย อมนาเป สตฺเต วา สงฺขาเร วา กุชฺฌิตฺวา โอโลกนกาลโต ปฏฺาย ยาว วินาสนา อุปฺปชฺชติ. วิหึสาสฺา สงฺขาเรสุ น อุปฺปชฺชติ. สงฺขาโร หิ ทุกฺขาเปตพฺโพ นาม นตฺถิ. ‘‘อิเม สตฺตา หฺนฺตุ วา, อุจฺฉิชฺชนฺตุ วา, วินสฺสนฺตุ วา, มา วา อเหสุ’’นฺติ จินฺตนกาเล ปน สตฺเตสุ อุปฺปชฺชติ. เนกฺขมฺมปฏิสฺุตฺตา สฺา เนกฺขมฺมสฺา, สา อสุภปุพฺพภาเค กามาวจรา โหติ, อสุภฌาเน รูปาวจรา, ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปนฺนมคฺคผลกาเล โลกุตฺตรา. อพฺยาปาทปฏิสฺุตฺตา สฺา อพฺยาปาทสฺา, สา เมตฺตาปุพฺพภาเค กามาวจรา โหติ, เมตฺตาฌาเน รูปาวจรา, ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปนฺนมคฺคผลกาเล โลกุตฺตรา. อวิหึสาปฏิสฺุตฺตา สฺา อวิหึสาสฺา, สา กรุณาปุพฺพภาเค กามาวจรา, กรุณาฌาเน รูปาวจรา, ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปนฺนมคฺคผลกาเล โลกุตฺตรา. ยทา อโลโภ สีสํ โหติ, ตทา อิตเร ทฺเว ตทนฺวายิกา ภวนฺติ. ยทา เมตฺตา สีสํ โหติ, ตทา อิตเร ทฺเว ตทนฺวายิกา ภวนฺติ. ยทา กรุณา สีสํ โหติ, ตทา อิตเร ทฺเว ตทนฺวายิกา ภวนฺติ. รูปารมฺมณํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา สฺา รูปสฺา. สทฺทสฺาทีสุปิ เอเสว นโย. อิทํ ตสฺสาเยว อารมฺมณโต นามํ. อารมฺมณานํ วุตฺตตฺตา จกฺขุสมฺผสฺสชาทิวตฺถูนิปิ วุตฺตาเนว โหนฺติ.

ยา เอวรูปา สฺาติ อฺาปิ ‘‘ปฏิฆสมฺผสฺสชา สฺา อธิวจนสมฺผสฺสชา สฺา’’ติ เอวมาทิกา เวทิตพฺพา. ตตฺถ อธิวจนสมฺผสฺสชา สฺาติปิ ปริยาเยน ฉทฺวาริกาเยว. ตโย หิ อรูปิโน ขนฺธา สยํ ปิฏฺิวฏฺฏกา หุตฺวา อตฺตนา สหชาตสฺาย ‘‘อธิวจนสมฺผสฺสชา สฺา’’ติ นามํ กโรนฺติ, นิปฺปริยาเยน ปน ปฏิฆสมฺผสฺสชา สฺา นาม ปฺจทฺวาริกา สฺา, อธิวจนสมฺผสฺสชา สฺา นาม มโนทฺวาริกา สฺา. เอตา อติเรกสฺา ปริคฺคหิตาติ เวทิตพฺพา.

สฺาติ สภาวนามํ. สฺชานนาติ สฺชานนากาโร. สฺชานิตตฺตนฺติ สฺชานิตภาโว.

อวิชฺโชฆนฺติ ปูเรตุํ อยุตฺตฏฺเน กายทุจฺจริตาทิ อวินฺทิยํ นาม, อลทฺธพฺพนฺติ อตฺโถ. ตํ อวินฺทิยํ วินฺทตีติ อวิชฺชา. ตพฺพิปรีตโต กายสุจริตาทิ วินฺทิยํ นาม, ตํ วินฺทิยํ น วินฺทตีติ อวิชฺชา. ขนฺธานํ ราสฏฺํ, อายตนานํ อายตนฏฺํ, ธาตูนํ สุฺฏฺํ, อินฺทฺริยานํ อธิปติยฏฺํ, สจฺจานํ ตถฏฺํ อวิทิตํ กโรตีติปิ อวิชฺชา. ทุกฺขาทีนํ ปีฬนาทิวเสน วุตฺตํ จตุพฺพิธํ อตฺถํ อวิทิตํ กโรตีติปิ อวิชฺชา. อนฺตวิรหิเต สํสาเร โยนิคติภววิฺาณฏฺิติสตฺตาวาเสสุ สตฺเต ชวาเปตีติ อวิชฺชา. ปรมตฺถโต อวิชฺชมาเนสุ อิตฺถิปุริสาทีสุ ชวติ, วิชฺชมาเนสุ ขนฺธาทีสุ น ชวตีติ อวิชฺชา. อปิ จ จกฺขุวิฺาณาทีนํ วตฺถารมฺมณานํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฏิจฺจสมุปฺปนฺนานฺจ ธมฺมานํ ฉาทนโตปิ อวิชฺชา, ตํ อวิชฺโชฆํ. กาโมฆวเสน อุตฺตเรยฺย. ภโวฆวเสน ปตเรยฺย. ทิฏฺโฆวเสน สมติกฺกเมยฺย. อวิชฺโชฆวเสน วีติวตฺเตยฺย. อถ วา โสตาปตฺติมคฺเคน ปหานวเสน อุตฺตเรยฺย. สกทาคามิมคฺเคน ปหานวเสน ปตเรยฺย. อนาคามิมคฺเคน ปหานวเสน สมติกฺกเมยฺย. อรหตฺตมคฺเคน ปหานวเสน วีติวตฺเตยฺย. อถ วา ‘‘ตเรยฺยาทิปฺจปทํ ตทงฺคาทิปฺจปหาเนน โยเชตพฺพ’’นฺติ เกจิ วทนฺติ.

‘‘โมนํ วุจฺจติ าณ’’นฺติ วตฺวา ตํ ปเภทโต ทสฺเสตุํ ‘‘ยา ปฺา ปชานนา’’ติอาทิมาห. ตํ วุตฺตนยเมว เปตฺวา ‘‘อโมโห ธมฺมวิจโย’’ติ ปทํ. อโมโห กุสเลสุ ธมฺเมสุ อภาวนาย ปฏิปกฺโข ภาวนาเหตุ. อโมเหน อวิปรีตํ คณฺหาติ มูฬฺหสฺส วิปรีตคฺคหณโต. อโมเหน ยาถาวํ ยาถาวโต ธาเรนฺโต ยถาสภาเว ปวตฺตติ. มูฬฺโห หิ ‘‘ตจฺฉํ อตจฺฉํ, อตจฺฉฺจ ตจฺฉ’’นฺติ คณฺหาติ; ตถา อิจฺฉิตาลาภทุกฺขํ น โหติ. อมูฬฺหสฺส ‘‘ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’’ติ เอวมาทิปจฺจเวกฺขณสมฺภวโต มรณทุกฺขํ น โหติ. สมฺโมหมรณฺหิ ทุกฺขํ, น จ ตํ อมูฬฺหสฺส โหติ. ปพฺพชิตานํ สุขสํวาโส โหติ, ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺติ น โหติ. โมเหน หิ นิจฺจสมฺมูฬฺหา ติรจฺฉานโยนึ อุปปชฺชนฺติ. โมหปฏิปกฺโข จ อโมโห โมหวเสน อมชฺฌตฺตภาวสฺส อภาวกโร. อโมเหน อวิหึสาสฺา ธาตุสฺา มชฺฌิมาย ปฏิปตฺติยา ปฏิปชฺชนํ, ปจฺฉิมคนฺถทฺวยสฺส ปเภทนฺจ โหติ. ปจฺฉิมานิ ทฺเว สติปฏฺานานิ ตสฺเสว อานุภาเวน อิชฺฌนฺติ. อโมโห ทีฆายุกตาย ปจฺจโย โหติ. อมูฬฺโห หิ หิตาหิตํ ตฺวา อหิตํ ปริวชฺเชนฺโต หิตฺจ ปฏิเสวมาโน ทีฆายุโก โหติ, อตฺตสมฺปตฺติยา อปริหีโน โหติ. อมูฬฺโห หิ อตฺตโน หิตเมว กโรนฺโต อตฺตานํ สมฺปาเทติ. อริยวิหารสฺส ปจฺจโย โหติ, อุทาสินปกฺเขสุ นิพฺพุโต โหติ อมูฬฺหสฺส สพฺพาภิสงฺคตาย อภาวโต. อโมเหน อนตฺตทสฺสนํ โหติ. อสมฺมูฬฺโห หิ ยาถาวคหณกุสโล อปริณายกํ ขนฺธปฺจกํ อปริณายกโต พุชฺฌติ. ยถา จ เอเตน อนตฺตทสฺสนํ, เอวํ อตฺตทสฺสนํ โมเหน. โก หิ นาม อตฺตสุฺตํ พุชฺฌิตฺวา ปุน สมฺโมหํ อาปชฺเชยฺยาติ.

เตน าเณน สมนฺนาคโตติ เอเตน วุตฺตปฺปกาเรน าเณน สมงฺคีภูโต เสกฺขาทโย มุนิ. โมนปฺปตฺโตติ ปฏิลทฺธาโณ มุนิภาวํ ปตฺโต. ตีณีติ คณนปริจฺเฉโท. โมเนยฺยานีติ มุนิภาวกรา โมเนยฺยกรา ปฏิปทา ธมฺมา. กายโมเนยฺยนฺติอาทีสุ วิฺตฺติกายรูปกายวเสน ปฺาเปตพฺพํ กายโมเนยฺยํ. วิฺตฺติวาจาสทฺทวาจาวเสน ปฺาเปตพฺพํ วจีโมเนยฺยํ. มโนทฺวาริกจิตฺตาทิวเสน ปฺาเปตพฺพํ มโนโมเนยฺยํ. ติวิธกายทุจฺจริตานํ ปหานนฺติ ปาณาติปาตาทิวิธานํ กายโต ปวตฺตานํ ทุฏฺุ จริตานํ ปชหนํ. กายสุจริตนฺติ กายโต ปวตฺตํ สุฏฺุ จริตํ. กายารมฺมเณ าณนฺติ กายํ อารมฺมณํ กตฺวา อนิจฺจาทิวเสน ปวตฺตํ กายารมฺมเณ าณํ. กายปริฺาติ กายํ าตตีรณปฺปหานปริฺาหิ ชานนวเสน ปวตฺตํ าณํ. ปริฺาสหคโต มคฺโคติ อชฺฌตฺติกํ กายํ สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิตมคฺโค ปริฺาสหคโต. กาเย ฉนฺทราคสฺส ปหานนฺติ กาเย ตณฺหาฉนฺทราคสฺส ปชหนํ. กายสงฺขารนิโรโธติ อสฺสาสปสฺสาสานํ นิโรโธ อาวรโณ, จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติสมาปชฺชนํ. วจีสงฺขารนิโรโธติ วิตกฺกวิจารานํ นิโรโธ อาวรโณ, ทุติยชฺฌานสมาปตฺติสมาปชฺชนํ. จิตฺตสงฺขารนิโรโธติ สฺาเวทนานํ นิโรโธ อาวรโณ, สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติสมาปชฺชนํ.

ปมคาถาย กายมุนินฺติอาทีสุ กายทุจฺจริตปฺปหานวเสน กายมุนิ. วจีทุจฺจริตปฺปหานวเสน วาจามุนิ. มโนทุจฺจริตปฺปหานวเสน มโนมุนิ. สพฺพากุสลปฺปหานวเสน อนาสวมุนิ. โมเนยฺยสมฺปนฺนนฺติ ชานิตพฺพํ ชานิตฺวา ผเล ิตตฺตา โมเนยฺยสมฺปนฺนํ. อาหุ สพฺพปฺปหายินนฺติ สพฺพกิเลเส ปชหิตฺวา ิตตฺตา สพฺพปฺปหายินํ กถยนฺติ.

ทุติยคาถาย นินฺหาตปาปกนฺติ โย อชฺฌตฺตพหิทฺธสงฺขาเต สพฺพสฺมิมฺปิ อายตเน อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณวเสน อุปฺปตฺติรหานิ สพฺพปาปกานิ มคฺคาเณน นินฺหาย โธวิตฺวา ิตตฺตา นินฺหาตปาปกํ อาหูติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อคารมชฺเฌ วสนฺตา อคารมุนิโน. ปพฺพชฺชุปคตา อนคารมุนิโน. ตตฺถ เสกฺขา เสกฺขมุนิโน. อรหนฺโต อเสกฺขมุนิโน. ปจฺเจกพุทฺธา ปจฺเจกมุนิโน. สมฺมาสมฺพุทฺธา มุนิมุนิโน.

ปุน กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาวเสน ‘‘กตเม อคารมุนิโน’’ติ อาห. อคาริกาติ กสิโครกฺขาทิอคาริกกมฺเม นิยุตฺตา. ทิฏฺปทาติ ทิฏฺนิพฺพานา. วิฺาตสาสนาติ วิฺาตํ สิกฺขตฺตยสาสนํ เอเตสนฺติ วิฺาตสาสนา. อนคาราติ กสิโครกฺขาทิอคาริยกมฺมํ เอเตสํ นตฺถีติ ปพฺพชิตา ‘‘อนคารา’’ติ วุจฺจนฺติ. สตฺต เสกฺขาติ โสตาปนฺนาทโย สตฺต. ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขนฺตีติ เสกฺขา. อรหนฺโต น สิกฺขนฺตีติ อเสกฺขา. ตํ ตํ การณํ ปฏิจฺจ เอกกาว อนาจริยกาว จตุสจฺจํ พุชฺฌิตวนฺโตติ ปจฺเจกพุทฺธา ปจฺเจกมุนิโน.

มุนิมุนิโน วุจฺจนฺติ ตถาคตาติ เอตฺถ อฏฺหิ การเณหิ ภควา ตถาคโต – ตถา อาคโตติ ตถาคโต, ตถา คโตติ ตถาคโต, ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต, ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต, ตถทสฺสิตาย ตถาคโต, ตถวาทิตาย ตถาคโต, ตถาการิตาย ตถาคโต, อภิภวนฏฺเน ตถาคโตติ.

กถํ ภควา ตถา อาคโตติ ตถาคโต? ยถา สพฺพโลกหิตาย อุสฺสุกฺกมาปนฺนา ปุริมกา สมฺมาสมฺพุทฺธา อาคตา. กึ วุตฺตํ โหติ? เยนาภินีหาเรน ปุริมกา ภควนฺโต อาคตา, เตเนว อมฺหากมฺปิ ภควา อาคโต. อถ วา ยถา ปุริมกา ภควนฺโต ทานสีลเนกฺขมฺมปฺาวีริยขนฺติสจฺจาธิฏฺานเมตฺตุเปกฺขาสงฺขาตา ทส ปารมิโย ทส อุปปารมิโย ทส ปรมตฺถปารมิโยติ สมตึสปารมิโย ปูเรตฺวา องฺคปริจฺจาคํ นยนธนรชฺชปุตฺตทารปริจฺจาคนฺติ อิเม ปฺจ มหาปริจฺจาเค ปริจฺจชิตฺวา ปุพฺพโยคปุพฺพจริยธมฺมกฺขานาตตฺถจริยาทโย ปูเรตฺวา พุทฺธิจริยาย โกฏึ ปตฺวา อาคตา, ตถา อมฺหากมฺปิ ภควา อาคโต. ยถา จ ปุริมกา ภควนฺโต จตฺตาโร สติปฏฺาเน, จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเน, จตฺตาโร อิทฺธิปาเท, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺเค, อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวตฺวา ปูเรตฺวา อาคตา, ตถา อมฺหากมฺปิ ภควา อาคโต. เอวํ ตถา อาคโตติ ตถาคโต.

‘‘ยถา จ ทีปงฺกรพุทฺธอาทโย, สพฺพฺุภาวํ มุนโย อิธาคตา;

ตถา อยํ สกฺยมุนีปิ อาคโต, ตถาคโต วุจฺจติ เตน จกฺขุมา’’ติ.

กถํ ตถา คโตติ ตถาคโต? ยถา สมฺปติชาตา ปุริมกา ภควนฺโต คตา. กถฺจ เต คตา? เต หิ สมฺปติชาตา สเมหิ ปาเทหิ ปถวิยํ ปติฏฺาย อุตฺตราภิมุขา สตฺตปทวีติหาเรน คตา. ยถาห –

‘‘สมฺปติชาโต, อานนฺท, โพธิสตฺโต สเมหิ ปาเทหิ ปถวิยํ ปติฏฺหิตฺวา อุตฺตราภิมุโข สตฺตปทวีติหาเรน คจฺฉติ, เสตมฺหิ ฉตฺเต อนุธาริยมาเน สพฺพา จ ทิสา อนุวิโลเกติ, อาสภิฺจ วาจํ ภาสติ – ‘อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส, เชฏฺโหมสฺมิ โลกสฺส, เสฏฺโหมสฺมิ โลกสฺส, อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๑; ม. นิ. ๓.๒๐๗).

ตฺจสฺส คมนํ ตถํ อโหสิ อวิตถํ อเนเกสํ วิเสสาธิคมานํ ปุพฺพนิมิตฺตภาเวน. ยฺหิ โส สมฺปติชาโต สเมหิ ปาเทหิ ปติฏฺาติ, อิทมสฺส จตุริทฺธิปาทปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. อุตฺตรมุขภาโว ปนสฺส สพฺพโลกุตฺตรภาวสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. สตฺตปทวีติหาโร สตฺตโพชฺฌงฺครตนปฏิลาภสฺส. ‘‘สุวณฺณทณฺฑา วีติปตนฺติ จามรา’’ติ (สุ. นิ. ๖๙๓) เอตฺถ วุตฺตจามรุกฺเขโป ปน สพฺพติตฺถิยนิมฺมทนสฺส. เสตจฺฉตฺตธารณํ อรหตฺตวิมุตฺติวรวิมลเสตจฺฉตฺตปฏิลาภสฺส. สพฺพทิสานุวิโลกนํ สพฺพฺุตานาวรณาณปฏิลาภสฺส. อาสภิวาจาภาสนํ ปน อปฺปฏิวตฺติยวรธมฺมจกฺกปวตฺตนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ตถา อยํ ภควาปิ คโต. ตฺจสฺส คมนํ ตถํ อโหสิ อวิตถํ เตสํเยว วิเสสาธิคมานํ ปุพฺพนิมิตฺตภาเวน. เตนาหุ โปราณา –

‘‘มุหุตฺตชาโตว ควมฺปตี ยถา, สเมหิ ปาเทหิ ผุสี วสุนฺธรํ;

โส วิกฺกมี สตฺต ปทานิ โคตโม, เสตฺจ ฉตฺตํ อนุธารยุํ มรู.

‘‘คนฺตฺวาน โส สตฺต ปทานิ โคตโม, ทิสา วิโลเกสิ สมา สมนฺตโต;

อฏฺงฺคุเปตํ คิรมพฺภุทีรยิ, สีโห ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺิโต’’ติ. (ปฏิ. ม. อฏฺ. ๑.๑.๓๗; อิติวุ. อฏฺ. ๓๘);

เอวํ ตถา คโตติ ตถาคโต.

อถ วา ยถา ปุริมกา ภควนฺโต, อยมฺปิ ภควา ตเถว เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺทํ…เป… ปมชฺฌาเนน นีวรเณ…เป… อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจสฺํ…เป… อรหตฺตมคฺเคน สพฺพกิเลเส ปหาย คโต, เอวมฺปิ ตถา คโตติ ตถาคโต.

กถํ ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต? ปถวีธาตุยา กกฺขฬตฺตลกฺขณํ ตถํ อวิตถํ, อาโปธาตุยา ปคฺฆรณลกฺขณํ, เตโชธาตุยา อุณฺหตฺตลกฺขณํ, วาโยธาตุยา วิตฺถมฺภนลกฺขณํ, อากาสธาตุยา อสมฺผุฏฺลกฺขณํ, วิฺาณธาตุยา วิชานนลกฺขณํ.

รูปสฺส รุปฺปนลกฺขณํ, เวทนาย เวทยิตลกฺขณํ, สฺาย สฺชานนลกฺขณํ, สงฺขารานํ อภิสงฺขรณลกฺขณํ, วิฺาณสฺส วิชานนลกฺขณํ.

วิตกฺกสฺส อภินิโรปนลกฺขณํ, วิจารสฺส อนุมชฺชนลกฺขณํ, ปีติยา ผรณลกฺขณํ, สุขสฺส สาตลกฺขณํ, จิตฺเตกคฺคตาย อวิกฺเขปลกฺขณํ, ผสฺสสฺส ผุสนลกฺขณํ.

สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิโมกฺขลกฺขณํ, วีริยินฺทฺริยสฺส ปคฺคหลกฺขณํ, สตินฺทฺริยสฺส อุปฏฺานลกฺขณํ, สมาธินฺทฺริยสฺส อวิกฺเขปลกฺขณํ, ปฺินฺทฺริยสฺส ปชานนลกฺขณํ.

สทฺธาพลสฺส อสฺสทฺธิเย อกมฺปิยลกฺขณํ, วีริยพลสฺส โกสชฺเช, สติพลสฺส มุฏฺสฺสจฺเจ, สมาธิพลสฺส อุทฺธจฺเจ, ปฺาพลสฺส อวิชฺชาย อกมฺปิยลกฺขณํ.

สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฏฺานลกฺขณํ, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ปวิจยลกฺขณํ, วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ปคฺคหลกฺขณํ, ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ผรณลกฺขณํ, ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปสมลกฺขณํ, สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อวิกฺเขปลกฺขณํ, อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ปฏิสงฺขานลกฺขณํ.

สมฺมาทิฏฺิยา ทสฺสนลกฺขณํ, สมฺมาสงฺกปฺปสฺส อภินิโรปนลกฺขณํ, สมฺมาวาจาย ปริคฺคหลกฺขณํ, สมฺมากมฺมนฺตสฺส สมุฏฺานลกฺขณํ, สมฺมาอาชีวสฺส โวทานลกฺขณํ, สมฺมาวายามสฺส ปคฺคหลกฺขณํ, สมฺมาสติยา อุปฏฺานลกฺขณํ, สมฺมาสมาธิสฺส อวิกฺเขปลกฺขณํ.

อวิชฺชาย อฺาณลกฺขณํ, สงฺขารานํ เจตนาลกฺขณํ, วิฺาณสฺส วิชานนลกฺขณํ, นามสฺส นมนลกฺขณํ, รูปสฺส รุปฺปนลกฺขณํ, สฬายตนสฺส อายตนลกฺขณํ, ผสฺสสฺส ผุสนลกฺขณํ, เวทนาย เวทยิตลกฺขณํ, ตณฺหาย เหตุลกฺขณํ, อุปาทานสฺส คหณลกฺขณํ, ภวสฺส อายูหนลกฺขณํ, ชาติยา นิพฺพตฺติลกฺขณํ, ชราย ชีรณลกฺขณํ, มรณสฺส จุติลกฺขณํ.

ธาตูนํ สุฺตลกฺขณํ, อายตนานํ อายตนลกฺขณํ, สติปฏฺานานํ อุปฏฺานลกฺขณํ, สมฺมปฺปธานานํ ปทหนลกฺขณํ, อิทฺธิปาทานํ อิชฺฌนลกฺขณํ, อินฺทฺริยานํ อธิปติลกฺขณํ, พลานํ อกมฺปิยลกฺขณํ, โพชฺฌงฺคานํ นิยฺยานลกฺขณํ, มคฺคสฺส เหตุลกฺขณํ.

สจฺจานํ ตถลกฺขณํ, สมถสฺส อวิกฺเขปลกฺขณํ, วิปสฺสนาย อนุปสฺสนาลกฺขณํ, สมถวิปสฺสนานํ เอกรสลกฺขณํ, ยุคนทฺธานํ อนติวตฺตนลกฺขณํ.

สีลวิสุทฺธิยา สํวรณลกฺขณํ, จิตฺตวิสุทฺธิยา อวิกฺเขปลกฺขณํ, ทิฏฺิวิสุทฺธิยา ทสฺสนลกฺขณํ, ขเย าณสฺส สมุจฺเฉทลกฺขณํ, อนุปฺปาเท าณสฺส ปสฺสทฺธิลกฺขณํ, ฉนฺทสฺส มูลลกฺขณํ.

มนสิการสฺส สมุฏฺานลกฺขณํ, ผสฺสสฺส สโมธานลกฺขณํ, เวทนาย สโมสรณลกฺขณํ, สมาธิสฺส ปมุขลกฺขณํ, สติยา อาธิปเตยฺยลกฺขณํ, ปฺาย ตตุตฺตริยลกฺขณํ, วิมุตฺติยา สารลกฺขณํ, อมโตคธสฺส นิพฺพานสฺส ปริโยสานลกฺขณํ ตถํ อวิตถํ, เอตํ ตถลกฺขณํ าณคติยา อาคโต อวิรชฺฌิตฺวา ปตฺโต อนุปฺปตฺโตติ ตถาคโต. เอวํ ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต.

กถํ ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต? ตถธมฺมา นาม จตฺตาริ อริยสจฺจานิ. ยถาห –

‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ตถานิ อวิตถานิ อนฺถานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ, ภิกฺขเว, ตถเมตํ อวิตถเมตํ อนฺถเมต’’นฺติ วิตฺถาโร (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๐).

ตานิ จ ภควา อภิสมฺพุทฺโธติ ตถานํ อภิสมฺพุทฺธตฺตา ตถาคโตติ วุจฺจติ. อภิสมฺพุทฺธตฺโถ หิ เอตฺถ คตสทฺโท.

อปิ จ ชรามรณสฺส ชาติปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตฏฺโ ตโถ อวิตโถ อนฺโถ…เป… สงฺขารานํ อวิชฺชาปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตฏฺโ ตโถ อวิตโถ อนฺโถ. ตถา อวิชฺชาย สงฺขารานํ ปจฺจยฏฺโ…เป… ชาติยา ชรามรณสฺส ปจฺจยฏฺโ ตโถ อวิตโถ อนฺโถ. ตํ สพฺพํ ภควา อภิสมฺพุทฺโธ, ตสฺสาปิ ตถานํ อภิสมฺพุทฺธตฺตา ตถาคโต. เอวํ ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต.

กถํ ตถทสฺสิตาย ตถาคโต? ภควา ยํ สเทวเก โลเก…เป… สเทวมนุสฺสาย ปชาย อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อปริมาณานํ สตฺตานํ จกฺขุทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉนฺตํ รูปารมฺมณํ นาม อตฺถิ, ตํ สพฺพากาเรน ชานาติ ปสฺสติ. เอวํ ชานตา ปสฺสตา จ เตน ตํ อิฏฺานิฏฺาทิวเสน วา ทิฏฺสุตมุตวิฺาเตสุ ลพฺภมานกปทวเสน วา ‘‘กตมํ ตํ รูปํ รูปายตนํ? ยํ รูปํ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย วณฺณนิภา สนิทสฺสนํ สปฺปฏิฆํ นีลํ ปีตก’’นฺติอาทินา (ธ. ส. ๖๑๖) นเยน อเนเกหิ นาเมหิ เตรสหิ วาเรหิ ทฺวิปฺาสาย นเยหิ วิภชฺชมานํ ตถเมว โหติ, วิตถํ นตฺถิ. เอส นโย โสตทฺวาราทีสุปิ อาปาถมาคจฺฉนฺเตสุ สทฺทาทีสุ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา –

‘‘ยํ, ภิกฺขเว, สเทวกสฺส โลกสฺส…เป… สเทวมนุสฺสาย ปชาย ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมหํ ชานามิ…เป… ตมหํ อพฺภฺาสึ. ตํ ตถาคตสฺส วิทิตํ, ตํ ตถาคโต น อุปฏฺาสี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔).

เอวํ ตถทสฺสิตาย ตถาคโต. ตตฺถ ตถทสฺสีอตฺเถ ตถาคโตติ ปทสมฺภโว เวทิตพฺโพ.

กถํ ตถวาทิตาย ตถาคโต? ยํ รตฺตึ ภควา โพธิมณฺเฑ อปราชิตปลฺลงฺเก นิสินฺโน จตุนฺนํ มารานํ มตฺถกํ มทฺทิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ, ยฺจ รตฺตึ ยมกสาลานมนฺตเร อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิ, เอตฺถนฺตเร ปฺจจตฺตาลีสวสฺสปริมาเณ กาเล ปมโพธิยมฺปิ มชฺฌิมโพธิยมฺปิ ปจฺฉิมโพธิยมฺปิ ยํ ภควตา ภาสิตํ สุตฺตํ เคยฺยํ…เป… เวทลฺลํ. สพฺพํ ตํ อตฺถโต พฺยฺชนโต จ อนุปวชฺชํ อนูนมนธิกํ สพฺพาการปริปุณฺณํ ราคมทนิมฺมทนํ โทสโมหมทนิมฺมทนํ, นตฺถิ ตตฺถ วาลคฺคมตฺตมฺปิ ปกฺขลิตํ, สพฺพํ ตํ เอกมุทฺทิกาย ลฺฉิตํ วิย, เอกนาฬิยา มิตํ วิย, เอกตุลาย ตุลิตํ วิย จ ตถเมว โหติ อวิตถํ อนฺถํ. ยถาห –

‘‘ยฺจ, จุนฺท, รตฺตึ ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌติ, ยฺจ รตฺตึ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ, ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร ภาสติ ลปติ นิทฺทิสติ, สพฺพํ ตํ ตเถว โหติ โน อฺถา, ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๘๘).

คทอตฺโถ หิ เอตฺถ คตสทฺโท. เอวํ ตถวาทิตาย ตถาคโต.

อปิ จ อาคทนํ อาคโท, วจนนฺติ อตฺโถ. ตโถ อวิปรีโต อาคโท อสฺสาติ ทการสฺส ตการํ กตฺวา ตถาคโตติ เอวเมตสฺมึ อตฺเถ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา.

กถํ ตถาการิตาย ตถาคโต? ภควโต หิ วาจาย กาโย อนุโลเมติ, กายสฺสาปิ วาจา. ตสฺมา ยถาวาที ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที จ โหติ. เอวํภูตสฺส จสฺส ยถา วาจา, กาโยปิ ตถา คโต ปวตฺโตติ อตฺโถ. ยถา จ กาโย, วาจาปิ ตถา คตา ปวตฺตาติ ตถาคโต. เตเนวาห – ‘‘ยถาวาที, ภิกฺขเว, ตถาคโต ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที. อิติ ยถาวาที ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที. ‘ตสฺมา ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓). เอวํ ตถาการิตาย ตถาคโต.

กถํ อภิภวนฏฺเน ตถาคโต? อุปริ ภวคฺคํ เหฏฺา อวีจึ ปริยนฺตํ กตฺวา ติริยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ สพฺพสตฺเต อภิภวติ สีเลน สมาธินา ปฺาย วิมุตฺติยา วิมุตฺติาณทสฺสเนน, น ตสฺส ตุลา วา ปมาณํ วา อตฺถิ, อถ โข อตุโล อปฺปเมยฺโย อนุตฺตโร ราชาติราชา เทวานํ อติเทโว สกฺกานํ อติสกฺโก พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมา. เตนาห –

‘‘สเทวเก, ภิกฺขเว, โลเก…เป… สเทวมนุสฺสาย ปชาย ตถาคโต อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี, ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓).

ตตฺเถวํ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา – อคโท วิย อคโท. โก ปเนส? เทสนาวิลาโส เจว ปุฺุสฺสโย จ. เตน เหส มหานุภาโว ภิสกฺโก ทิพฺพาคเทน สปฺเป วิย สพฺพปรปฺปวาทิโน สเทวกฺจ โลกํ อภิภวติ. อิติ สพฺพโลกาภิภวเน ตโถ อวิปรีโต เทสนาวิลาสมโย เจว ปุฺมโย จ อคโท อสฺสาติ ทการสฺส ตการํ กตฺวา ตถาคโตติ เวทิตพฺโพ. เอวํ อภิภวนฏฺเน ตถาคโต.

อปิ จ ตถาย คโตติปิ ตถาคโต, ตถํ คโตติปิ ตถาคโต. คโตติ อวคโต, อตีโต ปตฺโต ปฏิปนฺโนติ อตฺโถ. ตตฺถ สกลํ โลกํ ตีรณปริฺาย ตถาย คโต อวคโตติ ตถาคโต, โลกสมุทยํ ปหานปริฺาย ตถาย คโต อตีโตติ ตถาคโต, โลกนิโรธํ สจฺฉิกิริยาย ตถาย คโต ปตฺโตติ ตถาคโต, โลกนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ตถํ คโต ปฏิปนฺโนติ ตถาคโต. เตน ยํ วุตฺตํ ภควตา –

‘‘โลโก, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ, โลกสฺมา ตถาคโต วิสํยุตฺโต. โลกสมุทโย, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ, โลกสมุทโย ตถาคตสฺส ปหีโน. โลกนิโรโธ, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ, โลกนิโรโธ ตถาคตสฺส สจฺฉิกโต. โลกนิโรธคามินี ปฏิปทา, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา, โลกนิโรธคามินี ปฏิปทา ตถาคตสฺส ภาวิตา. ยํ, ภิกฺขเว, สเทวกสฺส โลกสฺส…เป… อนุวิจริตํ มนสา, สพฺพํ ตํ ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธํ. ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓).

ตสฺส เอวมฺปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิทมฺปิ จ ตถาคตสฺส ตถาคตภาวทีเปน มุขมตฺตเมว. สพฺพากาเรน ปน ตถาคโตว ตถาคตสฺส ตถาคตภาวํ วณฺเณยฺย. ยสฺมา ปน สพฺพพุทฺธา ตถาคตคุเณนาปิ สมสมา, ตสฺมา สพฺเพสํ วเสน ‘‘ตถาคตา’’ติ อาห.

อรหนฺโตติ กิเลเสหิ อารกตฺตา, อรีนํ อรานฺจ หตตฺตา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวา ตถาคโต อรหํ. อารกา หิ โส สพฺพกิเลเสหิ สุวิทูรวิทูเร ิโต มคฺเคน สวาสนานํ กิเลสานํ วิทฺธํสิตตฺตาติ อารกตฺตา อรหํ.

‘‘โส ตโต อารกา นาม, ยสฺส เยนาสมงฺคิตา;

อสมงฺคี จ โทเสหิ, นาโถ เตนารหํ มโต’’.

เต จาเนน กิเลสารโย มคฺเคน หตาติ อรีนํ หตตฺตาปิ อรหํ.

‘‘ยสฺมา ราคาทิสงฺขาตา, สพฺเพปิ อรโย หตา;

ปฺาสตฺเถน นาเถน, ตสฺมาปิ อรหํ มโต’’.

ยฺเจตํ อวิชฺชาภวตณฺหามยนาภึ ปุฺาทิอภิสงฺขารานํ ชรามรณเนมึ อาสวสมุทยมเยน อกฺเขน วิชฺฌิตฺวา ติภวรเถ สมาโยชิตํ อนาทิกาลปฺปวตฺตํ สํสารจกฺกํ, ตสฺสาเนน โพธิมณฺเฑ วีริยปาเทหิ สีลปถวิยํ ปติฏฺาย สทฺธาหตฺเถน กมฺมกฺขยกรํ าณผรสุํ คเหตฺวา สพฺเพ อรา หตาติ อรหํ.

‘‘อรา สํสารจกฺกสฺส, หตา าณาสินา ยโต;

โลกนาเถน เตเนส, ‘อรห’นฺติ ปวุจฺจติ’’.

อคฺคทกฺขิเณยฺยตฺตา จ จีวราทิปจฺจเย อรหติ ปูชาวิเสสฺจ, เตเนว จ อุปฺปนฺเน ตถาคเต เย เกจิ มเหสกฺขา เทวมนุสฺสา, น เต อฺตฺถ ปูชํ กโรนฺติ. ตถา หิ พฺรหฺมา สหมฺปติ สิเนรุมตฺเตน รตนทาเมน ตถาคตํ ปูเชสิ, ยถาพลฺจ อฺเ เทวา จ มนุสฺสา จ พิมฺพิสารโกสลราชาทโย. ปรินิพฺพุตมฺปิ จ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส ฉนฺนวุติโกฏิธนํ วิสฺสชฺเชตฺวา อโสกมหาราชา สกลชมฺพุทีเป จตุราสีติวิหารสหสฺสานิ ปติฏฺาเปสิ. โก ปน วาโท อฺเสํ ปูชาวิเสสานนฺติ ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตาปิ อรหํ.

‘‘ปูชาวิเสสํ สห ปจฺจเยหิ, ยสฺมา อยํ อรหติ โลกนาโถ;

อตฺถานุรูปํ อรหนฺติ โลเก, ตสฺมา ชิโน อรหติ นามเมตํ’’.

ยถา จ โลเก เย เกจิ ปณฺฑิตมานิโน พาลา อสิโลกภเยน รโห ปาปํ กโรนฺติ, เอวเมส น กทาจิ ปาปํ กโรตีติ ปาปกรเณ รหาภาวโตปิ อรหํ.

‘‘ยสฺมา นตฺถิ รโห นาม, ปาปกมฺเมสุ ตาทิโน;

รหาภาเวน เตเนส, อรหํ อิติ วิสฺสุโต’’.

เอวํ สพฺพถาปิ –

‘‘อารกตฺตา หตตฺตา จ, กิเลสารีน โส มุนิ;

หตสํสารจกฺกาโร, ปจฺจยาทีน จารโห;

น รโห กโรติ ปาปานิ, อรหํ เตน วุจฺจตี’’ติ.

ยสฺมา ปน สพฺเพ พุทฺธา อรหตฺตคุเณนาปิ สมสมา, ตสฺมา สพฺเพสมฺปิ วเสน ‘‘อรหนฺโต’’ติ อาห. สมฺมาสมฺพุทฺธาติ สมฺมา สามฺจ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺโธ. ตถา เหส สพฺพธมฺเม สมฺมาสมฺพุทฺโธ, อภิฺเยฺเย ธมฺเม อภิฺเยฺยโต, ปริฺเยฺเย ธมฺเม ปริฺเยฺยโต, ปหาตพฺเพ ธมฺเม ปหาตพฺพโต, สจฺฉิกาตพฺเพ ธมฺเม สจฺฉิกาตพฺพโต, ภาเวตพฺเพ ธมฺเม ภาเวตพฺพโต. เตเนวาห –

‘‘อภิฺเยฺยํ อภิฺาตํ, ภาเวตพฺพฺจ ภาวิตํ;

ปหาตพฺพํ ปหีนํ เม, ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ พฺราหฺมณา’’ติ. (สุ. นิ. ๕๖๓; ม. นิ. ๒.๓๙๙);

อถ วา จกฺขุ ทุกฺขสจฺจํ, ตสฺส มูลการณภาเวน สมุฏฺาปิกา ปุริมตณฺหา สมุทยสจฺจํ, อุภินฺนํ อปฺปวตฺติ นิโรธสจฺจํ, นิโรธปชานนา ปฏิปทา มคฺคสจฺจนฺติ เอวํ เอเกกปทุทฺธาเรนาปิ สพฺพธมฺเม สมฺมา สามฺจ พุทฺโธ. เอส นโย โสตฆานชิวฺหากายมเนสุ. เอเตเนว จ นเยน รูปาทีนิ ฉ อายตนานิ, จกฺขุวิฺาณาทโย ฉ วิฺาณกายา, จกฺขุสมฺผสฺสาทโย ฉ ผสฺสา, จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนาทโย ฉ เวทนา, รูปสฺาทโย ฉ สฺา, รูปสฺเจตนาทโย ฉ เจตนา, รูปตณฺหาทโย ฉ ตณฺหากายา, รูปวิตกฺกาทโย ฉ วิตกฺกา, รูปวิจาราทโย ฉ วิจารา, รูปกฺขนฺธาทโย ปฺจกฺขนฺธา, ทส กสิณานิ, ทส อนุสฺสติโย, อุทฺธุมาตกสฺาทิวเสน ทส สฺา, เกสาทโย ทฺวตฺตึสาการา, ทฺวาทสายตนานิ, อฏฺารส ธาตุโย, กามภวาทโย นว ภวา, ปมาทีนิ จตฺตาริ ฌานานิ, เมตฺตาภาวนาทโย จตสฺโส อปฺปมฺาโย, จตสฺโส อรูปสมาปตฺติโย, ปฏิโลมโต ชรามรณาทีนิ, อนุโลมโต อวิชฺชาทีนิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานิ จ โยเชตพฺพานิ.

ตตฺรายํ เอกปทโยชนา – ชรามรณํ ทุกฺขสจฺจํ, ชาติ สมุทยสจฺจํ, อุภินฺนํ นิสฺสรณํ นิโรธสจฺจํ, นิโรธปชานนา ปฏิปทา มคฺคสจฺจนฺติ เอวํ เอเกกปทุทฺธาเรน สพฺพธมฺเม สมฺมา สามฺจ พุทฺโธ อนุพุทฺโธ ปฏิวิทฺโธ. ยํ วา ปน กิฺจิ อตฺถิ เนยฺยํ นาม, สพฺพสฺส สมฺมา สมฺพุทฺธตฺตา วิโมกฺขนฺติกาณวเสน สมฺมาสมฺพุทฺโธ. เตสํ ปน วิภาโค อุปริ อาวิ ภวิสฺสติ. ยสฺมา ปน สพฺพพุทฺธา สมฺมาสมฺพุทฺธคุเณนาปิ สมสมา, ตสฺมา สพฺเพสมฺปิ วเสน ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธา’’ติ อาห.

โมเนนาติ กามฺหิ โมเนยฺยปฏิปทาสงฺขาเตน มคฺคาณโมเนน มุนิ นาม โหติ, อิธ ปน ตุณฺหีภาวํ สนฺธาย ‘‘น โมเนนา’’ติ วุตฺตํ. มูฬฺหรูโปติ ตุจฺฉรูโป. อวิทฺทสูติ อวิฺู. เอวรูโป หิ ตุณฺหีภูโตปิ มุนิ นาม น โหติ. อถ วา โมเนยฺยมุนิ นาม น โหติ, ตุจฺฉภาโว จ ปน อฺาณี จ โหตีติ อตฺโถ. โย จ ตุลํว ปคฺคยฺหาติ ยถา หิ ตุลํ คเหตฺวา ิโต อติเรกํ เจ โหติ, หรติ, อูนํ เจ โหติ, ปกฺขิปติ; เอวเมว โส อติเรกํ หรนฺโต วิย ปาปํ หรติ ปริวชฺเชติ, อูนเก ปกฺขิปนฺโต วิย กุสลํ ปริปูเรติ. เอวฺจ ปน กโรนฺโต สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนสงฺขาตํ วรํ อุตฺตมเมว อาทาย ปาปานิ อกุสลกมฺมานิ ปริวชฺเชติ ส มุนิ นามาติ อตฺโถ. เตน โส มุนีติ กสฺมา ปน โส มุนีติ เจ? ยํ เหฏฺา วุตฺตการณํ, เตน โส มุนีติ อตฺโถ. โย มุนาติ อุโภ โลเกติ โย ปุคฺคโล อิมสฺมึ ขนฺธาทิโลเก ตุลํ อาโรเปตฺวา มินนฺโต วิย ‘‘อิเม อชฺฌตฺติกา ขนฺธา, อิเม พาหิรา’’ติอาทินา นเยน อิเม อุโภ อตฺเถ มุนาติ. มุนิ เตน ปวุจฺจตีติ เตน ปน การเณน ‘‘มุนี’’ติ วุจฺจติเยวาติ อตฺโถ.

อสตฺจาติ คาถาย อยํ สงฺเขปตฺโถ – ยฺวายํ อกุสลกุสลปฺปเภโท, อสตฺจ สตฺจ ธมฺโม, ตํ ‘‘อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา’’ติ อิมสฺมึ สพฺพโลเก ปวิจยาเณน อสตฺจ สตฺจ ตฺวา ธมฺมํ. ตสฺส าตตฺตา เอว, ราคาทิเภทโต สตฺตวิธํ สงฺคํ ตณฺหาทิฏฺิเภทโต ทุวิธํ ชาลฺจ อติจฺจ อติกฺกมิตฺวา ิโต, โส เตน โมนสงฺขาเตน ปวิจยาเณน สมนฺนาคตตฺตา มุนิ. เทวมนุสฺเสหิ ปูชิโตติ อิทํ ปนสฺส ถุติวจนํ. โส หิ ขีณาสวมุนิตฺตา เทวมนุสฺสานํ ปูชารโห โหติ, ตสฺมา เอวํ วุตฺโตติ.

สลฺลนฺติ มูลปทํ. สตฺต สลฺลานีติ คณนปริจฺเฉโท. ราคสลฺลนฺติ รฺชนฏฺเน ราโค จ ปีฬาชนกตาย อนฺโตตุทนตาย ทุนฺนีหรณตาย สลฺลฺจาติ ราคสลฺลํ. โทสสลฺลาทีสุปิ เอเสว นโย. อพฺพูฬฺหสลฺโลติ มูลปทํ. อพฺพหิตสลฺโลติ นีหฏสลฺโล. อุทฺธตสลฺโลติ อุทฺธํ หฏสลฺโล อุทฺธริตสลฺโล. สมุทฺธตสลฺโลติ อุปสคฺควเสน วุตฺโต. อุปฺปาฏิตสลฺโลติ ลุฺจิตสลฺโล. สมุปฺปาฏิตสลฺโลติ อุปสคฺควเสเนว.

สกฺกจฺจการีติ ทานาทีนํ กุสลธมฺมานํ ภาวนาย ปุคฺคลสฺส วา เทยฺยธมฺมสฺส วา สกฺกจฺจกรณวเสน สกฺกจฺจการี. สตตภาวกรเณน สาตจฺจการี. อฏฺิตกรเณน อฏฺิตการี. ยถา นาม กกณฺฏโก โถกํ คนฺตฺวา โถกํ ติฏฺติ, น นิรนฺตรํ คจฺฉติ; เอวเมว โย ปุคฺคโล เอกทิวสํ ทานํ ทตฺวา ปูชํ วา กตฺวา ธมฺมํ วา สุตฺวา สมณธมฺมํ วา กตฺวา ปุน จิรสฺสํ กโรติ, ตํ น นิรนฺตรํ ปวตฺเตติ. โส ‘‘อสาตจฺจการี, อนฏฺิตการี’’ติ วุจฺจติ. อยํ เอวํ น กโรตีติ อฏฺิตการี. อโนลีนวุตฺติโกติ นิรนฺตรกรณสงฺขาตสฺส วิปฺผารสฺส ภาเวน น ลีนวุตฺติโกติ อโนลีนวุตฺติโก. อนิกฺขิตฺตจฺฉนฺโทติ กุสลกรเณ วีริยจฺฉนฺทสฺส อนิกฺขิตฺตภาเวน อนิกฺขิตฺตจฺฉนฺโท. อนิกฺขิตฺตธุโรติ วีริยธุรสฺส อโนโรปเนน อนิกฺขิตฺตธุโร, อโนสกฺกิตมานโสติ อตฺโถ. โย ตตฺถ ฉนฺโท จ วายาโม จาติ โย เตสุ กุสลธมฺเมสุ กตฺตุกมฺยตาธมฺมจฺฉนฺโท จ ปยตฺตสงฺขาโต วายาโม จ. อุสฺสหนวเสน อุสฺสาโห จ. อธิมตฺตุสฺสหนวเสน อุสฺโสฬฺหี จ. วายาโม เจโส ปารํ คมนฏฺเน. อุสฺสาโห เจโส ปุพฺพงฺคมนฏฺเน. อุสฺโสฬฺหี เจโส อธิมตฺตฏฺเน. อปฺปฏิวานิ จาติ อนิวตฺตนา จ. สติ จ สมฺปชฺนฺติ สรตีติ สติ. สมฺปชานาตีติ สมฺปชฺํ, สมนฺตโต ปกาเรหิ ชานาตีติ อตฺโถ. สาตฺถกสมฺปชฺํ สปฺปายสมฺปชฺํ โคจรสมฺปชฺํ อสมฺโมหสมฺปชฺนฺติ อิมสฺส สมฺปชานสฺส วเสน เภโท เวทิตพฺโพ. อาตปฺปนฺติ กิเลสตาปนวีริยํ. ปธานนฺติ อุตฺตมวีริยํ. อธิฏฺานนฺติ กุสลกรเณ ปติฏฺาภาโว. อนุโยโคติ อนุยุฺชนํ. อปฺปมาโทติ นปฺปมชฺชนํ, สติยา อวิปฺปวาโส.

อิมํ โลกํ นาสีสตีติ มูลปทํ. สกตฺตภาวนฺติ อตฺตโน อตฺตภาวํ. ปรตฺตภาวนฺติ ปรโลเก อตฺตภาวํ. สกรูปเวทนาทโย อตฺตโน ปฺจกฺขนฺเธ, ปรรูปเวทนาทโย จ ปรโลเก ปฺจกฺขนฺเธ. กามธาตุนฺติ กามภวํ. รูปธาตุนฺติ รูปภวํ. อรูปธาตุนฺติ อรูปภวํ. ปุน รูปารูปวเสน ทุกํ ทสฺเสตุํ กามธาตุํ รูปธาตุํ เอกํ กตฺวา, อรูปธาตุํ เอกํ กตฺวา วุตฺตํ. คตึ วาติ ปติฏฺานวเสน ปฺจคติ วุตฺตา. อุปปตฺตึ วาติ นิพฺพตฺติวเสน จตุโยนิ วุตฺตา. ปฏิสนฺธึ วาติ ติณฺณํ ภวานํ ฆฏนวเสน ปฏิสนฺธิ วุตฺตา. ภวํ วาติ กมฺมภววเสน. สํสารํ วาติ ขนฺธาทีนํ อพฺโพจฺฉินฺนวเสน. วฏฺฏํ วาติ เตภูมกวฏฺฏํ นาสีสตีติ.

สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย

คุหฏฺกสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ทุฏฺฏฺกสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา

๑๕. ทุฏฺฏฺเก ปมคาถายํ ตาว ตตฺถ วทนฺตีติ ภควนฺตํ ภิกฺขุสงฺฆฺจ อุปวทนฺติ. ทุฏฺมนาปิ เอเก, อโถปิ เว สจฺจมนาติ เอกจฺเจ ทุฏฺจิตฺตา, เอกจฺเจ ตถสฺิโนปิ หุตฺวา ติตฺถิยา ตุฏฺจิตฺตา, เย เตสํ สุตฺวา สทฺทหึสุ, เต สจฺจมนาติ อธิปฺปาโย. วาทฺจ ชาตนฺติ เอตํ อกฺโกสวาทํ อุปฺปนฺนํ. มุนิ โน อุเปตีติ อการกตาย จ อกุปฺปนตาย จ พุทฺธมุนิ น อุเปติ. ตสฺมา มุนี นตฺถิ ขิโล กุหิฺจีติ เตน การเณน อยํ มุนิ, ราคาทิขิเลหิ นตฺถิ ขิโล กุหิฺจีติ เวทิตพฺโพ.

ทุฏฺมนาติ อุปฺปนฺเนหิ โทเสหิ ทูสิตจิตฺตา. วิรุทฺธมนาติ เตหิ กิเลเสหิ กุสลสฺส ทฺวารํ อทตฺวา อาวริตจิตฺตา. ปฏิวิรุทฺธมนาติ อุปสคฺควเสน ปทํ วฑฺฒิตํ. อาหตมนาติ ปฏิเฆน อาหตํ จิตฺตํ เอเตสนฺติ อาหตมนา. ปจฺจาหตมนาติ อุปสคฺควเสเนว. อาฆาติตมนาติ วิหึสาวเสน อาฆาติตํ มนํ เอเตสนฺติ อาฆาติตมนา. ปจฺจาฆาติตมนาติ อุปสคฺควเสเนว. อถ วา ‘‘โกธวเสน ทุฏฺมนา, อุปนาหวเสน ปทุฏฺมนา, มกฺขวเสน วิรุทฺธมนา, ปฬาสวเสน ปฏิวิรุทฺธมนา, โทสวเสน อาหตปจฺจาหตมนา, พฺยาปาทวเสน อาฆาติตปจฺจาฆาติตมนา. ปจฺจยานํ อลาเภน ทุฏฺมนา ปทุฏฺมนา, อยเสน วิรุทฺธมนา ปฏิวิรุทฺธมนา, ครเหน อาหตปจฺจาหตมนา, ทุกฺขเวทนาสมงฺคีภาเวน อาฆาติตปจฺจาฆาติตมนา’’ติ เอวมาทินา นเยน เอเก วณฺณยนฺติ. อุปวทนฺตีติ ครหํ อุปฺปาเทนฺติ. อภูเตนาติ อสํวิชฺชมาเนน.

สทฺทหนฺตาติ ปสาทวเสน สทฺธํ อุปฺปาเทนฺตา. โอกปฺเปนฺตาติ คุณวเสน โอตริตฺวา อวกปฺปยนฺตา. อธิมุจฺจนฺตาติ สมฺปสาทนวเสน สนฺนิฏฺานํ กตฺวา เตสํ กถํ อธิวาเสนฺตา. สจฺจมนาติ ตจฺฉมนา. สจฺจสฺิโนติ ตจฺฉสฺิโน. ตถมนาติ อวิปรีตมนา. ภูตมนาติ ภูตตฺถมนา. ยาถาวมนาติ นิจฺจลมนา. อวิปรีตมนาติ นิจฺฉยมนา. ตตฺถ ‘‘สจฺจมนา สจฺจสฺิโน’’ติ สจฺจวาทิคุณํ, ‘‘ตถมนา ตถสฺิโน’’ติ สจฺจสทฺธาคุณํ, ‘‘ภูตมนา ภูตสฺิโน’’ติ ิตคุณํ, ‘‘ยาถาวมนา ยาถาวสฺิโน’’ติ ปจฺจยิกคุณํ, ‘‘อวิปรีตมนา อวิปรีตสฺิโน’’ติ อวิสํวาทคุณํ กถิตนฺติ าตพฺพํ.

ปรโตโฆโสติ อฺเสํ สนฺติกา อุปฺปนฺนสทฺโท. อกฺโกโสติ ชาติอาทีสุ ทสสุ อกฺโกเสสุ อฺตโร. โย วาทํ อุเปตีติ โย ปุคฺคโล อุปวาทํ อุปคจฺฉติ. การโก วาติ กตโทโส วา. การกตายาติ โทสสฺส กตภาเวน วุจฺจมาโนติ กถิยมาโน. อุปวทิยมาโนติ โทสํ อุปวชฺชมาโน. กุปฺปตีติ โกปํ กโรติ.

ขีลชาตตาปิ นตฺถีติ จิตฺตพนฺธภาวจิตฺตกจวรภาวสงฺขาตํ ปฏิฆขิลํ ชาตํ อสฺสาติ ขิลชาโต, ตสฺส ภาโว ขิลชาตตา, ตาปิ นตฺถิ น สนฺติ. ปฺจปิ เจโตขิลาติ กาเม อวีตราโค, กาเย อวีตราโค, รูเป อวีตราโค, ยาวทตฺถํ อุทราวเทหกํ ภุฺชิตฺวา เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุตฺโต วิหรติ, อฺตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยํ จรติ ‘‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ, เทวฺตโร วา’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๘๖) เอวรูปา ปฺจปิ จิตฺตสฺส พนฺธภาวกจวรภาวสงฺขาตา เจโตขิลา นตฺถิ.

๑๖. อิมฺจ คาถํ วตฺวา ภควา อานนฺทตฺเถรํ ปุจฺฉิ – ‘‘เอวํ ขุํเสตฺวา วมฺเภตฺวา วุจฺจมานา ภิกฺขู, อานนฺท, กึ วทนฺตี’’ติ, ‘‘น กิฺจิ ภควา’’ติ. ‘‘น, อานนฺท, ‘อหํ สีลวา’ติ สพฺพตฺถ ตุณฺหี ภวิตพฺพํ. โลเก หิ นาภาสมานํ ชานนฺติ, มิสฺสํ พาเลหิ ปณฺฑิต’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๒๔๑) วตฺวา ‘‘ภิกฺขู, อานนฺท, เต มนุสฺเส เอวํ ปฏิโจเทนฺตู’’ติ ธมฺมเทสนตฺถาย ‘‘อภูตวาที นิรยํ อุเปตี’’ติ (ธ. ป. ๓๐๖; อุทา. ๓๘; อิติวุ. ๔๘; สุ. นิ. ๖๖๖) อิมํ คาถํ อภาสิ. เถโร ตํ อุคฺคเหตฺวา ภิกฺขู อาห – ‘‘มนุสฺสา ตุมฺเหหิ อิมาย คาถาย ปฏิโจเทตพฺพา’’ติ. ภิกฺขู ตถา อกํสุ. ปณฺฑิตมนุสฺสา ตุณฺหี อเหสุํ. ราชาปิ ราชปุริเส สพฺพตฺถ เปเสตฺวา เยสํ ธุตฺตานํ ลฺชํ ทตฺวา ติตฺถิยา ตํ มาราเปสุํ, เต คเหตฺวา นิคฺคยฺห ตํ ปวตฺตึ ตฺวา ติตฺถิเย ปริภาสิ. มนุสฺสาปิ ติตฺถิเย ทิสฺวา เลฑฺฑุนา หนนฺติ, ปํสุนา โอกิรนฺติ ‘‘ภควโต อยสํ อุปฺปาเทสุ’’นฺติ. อานนฺทตฺเถโร ตํ ทิสฺวา ภควโต อาโรเจสิ, ภควา เถรสฺส อิมํ คาถมภาสิ ‘‘สกฺหิ ทิฏฺึ…เป… วเทยฺยา’’ติ.

ตสฺส อตฺโถ – ยายํ ทิฏฺิ ติตฺถิยชนสฺส ‘‘สุนฺทรึ มาเรตฺวา สมณานํ สกฺยปุตฺติยานํ อวณฺณํ ปกาเสตฺวา เอเตนุปาเยน ลทฺธํ สกฺการํ สาทิยิสฺสามา’’ติ โส ตํ ทิฏฺึ กถํ อติกฺกเมยฺย? อถ โข โส อยโส ตเมว ติตฺถิยชนํ ปจฺจาคโต ตํ ทิฏฺึ อจฺเจตุํ อสกฺโกนฺตํ. โย วา สสฺสตาทิวาที, โสปิ สกํ ทิฏฺึ กถมจฺจเยยฺย, เตน ทิฏฺิฉนฺเทน อนุนีโต ตาย จ ทิฏฺิรุจิยา นิวิฏฺโ, อปิ จ โข ปน สยํ สมตฺตานิ ปกุพฺพมาโน อตฺตนาว ปริปุณฺณานิ ตานิ ทิฏฺิคตานิ กโรนฺโต ยถา ชาเนยฺย, ตเถว วเทยฺยาติ.

อวณฺณํ ปกาสยิตฺวาติ อคุณํ ปากฏํ กตฺวา. สกฺการนฺติ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ สกฺกจฺจกรณํ. สมฺมานนฺติ จิตฺเตน พหุมานนํ. ปจฺจาหริสฺสามาติ เอตํ ลาภาทึ นิพฺพตฺเตสฺสาม. เอวํทิฏฺิกาติ เอวํลทฺธิกา. ยถา ตํ ‘‘ลาภาทึ นิพฺพตฺเตสฺสามา’’ติ เอวํ อยํ ลทฺธิ เตสํ อตฺถิ, ตถา ‘‘อตฺถิ เม วุตฺตปฺปกาโร ธมฺโม’’ติ เอเตสํ ขมติ เจว รุจฺจติ จ, เอวํสภาวเมว วา เตสํ จิตฺตํ ‘‘อตฺถิ เม จิตฺต’’นฺติ. ตทา เตสํ ทิฏฺิ วา, ทิฏฺิยา สห ขนฺติ วา, ทิฏฺิขนฺตีหิ สทฺธึ รุจิ วา, ทิฏฺิขนฺติรุจีหิ สทฺธึ ลทฺธิ วา, ทิฏฺิขนฺติรุจิลทฺธีหิ สทฺธึ อชฺฌาสโย วา, ทิฏฺิขนฺติรุจิลทฺธิอชฺฌาสเยหิ สทฺธึ อธิปฺปาโย วา โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอวํทิฏฺิกา…เป… เอวํอธิปฺปายา’’ติ อาห. สกํ ทิฏฺินฺติ อตฺตโน ทสฺสนํ. สกํ ขนฺตินฺติ อตฺตโน สหนํ. สกํ รุจินฺติ อตฺตโน รุจึ. สกํ ลทฺธินฺติ อตฺตโน ลทฺธึ. สกํ อชฺฌาสยนฺติ อตฺตโน อชฺฌาสยํ. สกํ อธิปฺปายนฺติ อตฺตโน ภาวํ. อติกฺกมิตุนฺติ สมติกฺกมิตุํ. อถ โข สฺเวว อยโสติ โส เอว อยโส เอกํเสน. เต ปจฺจาคโตติ เตสํ ปติอาคโต. เตติ สามิอตฺเถ อุปโยควจนํ.

อถ วาติ อตฺถนฺตรทสฺสนํ. สสฺสโตติ นิจฺโจ ธุโว. โลโกติ อตฺตภาโว. อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺนฺติ อิทํ เอว ตจฺฉํ ตถํ, อฺํ ตุจฺฉํ. สมตฺตาติ สมฺปุณฺณา. สมาทินฺนาติ สมฺมา อาทินฺนา. คหิตาติ อุปคนฺตฺวา คหิตา.

ปรามฏฺาติ สพฺพากาเรน ปรามสิตฺวา คหิตา. อภินิวิฏฺาติ วิเสเสน ลทฺธปฺปติฏฺา. อสสฺสโตติ วุตฺตวิปริยาเยน เวทิตพฺโพ.

อนฺตวาติ สอนฺโต. อนนฺตวาติ วุทฺธิอนนฺตวา. ตํ ชีวนฺติ โส ชีโว, ลิงฺควิปลฺลาโส กโต. ชีโวติ จ อตฺตาเยว. ตถาคโตติ สตฺโต, ‘‘อรห’’นฺติ เอเก. ปรํ มรณาติ มรณโต อุทฺธํ, ปรโลเกติ อตฺโถ. น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ มรณโต อุทฺธํ น โหติ. โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ มรณโต อุทฺธํ โหติ จ น โหติ จ. เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ อุจฺเฉทวเสน เนว โหติ, ตกฺกิกวเสน น น โหติ.

สกาย ทิฏฺิยาติอาทโย กรณวจนํ. อลฺลีโนติ เอกีภูโต.

สยํ สมตฺตํ กโรตีติ อตฺตนา อูนภาวํ โมเจตฺวา สมฺมา อตฺตํ สมตฺตํ กโรติ. ปริปุณฺณนฺติ อติเรกโทสํ โมเจตฺวา สมฺปุณฺณํ. อโนมนฺติ หีนโทสํ โมเจตฺวา อลามกํ. อคฺคนฺติ อาทึ. เสฏฺนฺติ ปธานํ นิทฺโทสํ. วิเสสนฺติ เชฏฺกํ. ปาโมกฺขนฺติ อธิกํ. อุตฺตมนฺติ วิเสสํ น เหฏฺิมํ. ปวรํ กโรตีติ อติเรเกน อุตฺตมํ กโรติ. อถ วา ‘‘อาสยโทสโมจเนน อคฺคํ, สํกิเลสโทสโมจเนน เสฏฺํ, อุปกฺกิเลสโทสโมจเนน วิเสสํ, ปมตฺตโทสโมจเนน ปาโมกฺขํ, มชฺฌิมโทสโมจเนน อุตฺตมํ, อุตฺตมมชฺฌิมโทสโมจเนน ปวรํ กโรตี’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. อยํ สตฺถา สพฺพฺูติ อยํ อมฺหากํ สตฺถา สพฺพชานนวเสน สพฺพฺู. อยํ ธมฺโม สฺวากฺขาโตติ อยํ อมฺหากํ ธมฺโม สุฏฺุ อกฺขาโต. อยํ คโณ สุปฺปฏิปนฺโนติ อยํ อมฺหากํ คโณ สุฏฺุ ปฏิปนฺโน. อยํ ทิฏฺิ ภทฺทิกาติ อยํ อมฺหากํ ลทฺธิ สุนฺทรา. อยํ ปฏิปทา สุปฺตฺตาติ อยํ อมฺหากํ ปุพฺพภาคา อตฺตนฺต ปาทิปฏิปทา สุฏฺุ ปฺตฺตา. อยํ มคฺโค นิยฺยานิโกติ อยํ อมฺหากํ นิยฺยาโมกฺกนฺติโก มคฺโค นิยฺยานิโกติ สยํ สมตฺตํ กโรติ.

กเถยฺย ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติ. ภเณยฺย ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. ทีเปยฺย ‘‘อนฺตวา โลโก’’ติ. โวหเรยฺย นานาวิเธน คณฺหาเปยฺย ‘‘โหติ จ น จ โหตี’’ติ.

๑๗. อถ ราชา สตฺตาหจฺจเยน ตํ กุณปํ ฉฑฺฑาเปตฺวา สายนฺหสมยํ วิหารํ คนฺตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา อาห – ‘‘นนุ, ภนฺเต, อีทิเส อยเส อุปฺปนฺเน มยฺหมฺปิ อาโรเจตพฺพํ สิยา’’ติ? เอวํ วุตฺเต ภควา ‘‘น, มหาราช, ‘อหํ สีลวา คุณสมฺปนฺโน’ติ ปเรสํ อาโรเจตุํ อริยานํ ปฏิรูป’’นฺติ วตฺวา ตสฺสา อฏฺุปฺปตฺติยา ‘‘โย อตฺตโน สีลวตานีติ อวเสสคาถาโย อภาสิ.

ตตฺถ สีลวตานีติ ปาติโมกฺขาทีนิ สีลานิ, อารฺิกาทีนิ ธุตงฺควตานิ จ. อนานุปุฏฺโติ อปุจฺฉิโต. ปาวาติ วทติ. อนริยธมฺมํ กุสลา ตมาหุ, โย อาตุมานํ สยเมว ปาวาติ โย เอวํ อตฺตานํ สยเมว วทติ, ตสฺส ตํ วาทํ ‘‘อนริยธมฺโม เอโส’’ติ กุสลา เอวํ กเถนฺติ.

อตฺถิ สีลฺเจว วตฺจาติ สีลนฏฺเน สีลฺเจว อตฺถิ, สมาทานฏฺเน วตฺจ อตฺถิ, วตํ น สีลนฺติ วุตฺตตฺเถน วตํ อตฺถิ, ตํ น สีลํ. กตมนฺติ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. อิธ ภิกฺขุ สีลวาติอาทโย วุตฺตนยา เอว. สํวรฏฺเนาติ สํวรณฏฺเน, วีติกฺกมทฺวารํ ปิทหนฏฺเน. สมาทานฏฺเนาติ ตํ ตํ สิกฺขาปทํ สมฺมา อาทานฏฺเน. อารฺิกงฺคนฺติ อรฺเ นิวาโส สีลํ อสฺสาติ อารฺิโก, ตสฺส องฺคํ อารฺิกงฺคํ. ปิณฺฑปาติกงฺคนฺติ ภิกฺขาสงฺขาตานํ ปรอามิสปิณฺฑานํ ปาโต ปิณฺฑปาโต, ปเรหิ ทินฺนานํ ปิณฺฑานํ ปตฺเต นิปตนนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตํ ปิณฺฑปาตํ อุฺฉติ ตํ ตํ กุลํ อุปสงฺกมนฺโต คเวสตีติ ปิณฺฑปาติโก, ปิณฺฑาย วา ปติตุํ วตเมตสฺสาติ ปิณฺฑปาตี. ปติตุนฺติ จริตุํ. ปิณฺฑปาตี เอว ปิณฺฑปาติโก, ตสฺส องฺคํ ปิณฺฑปาติกงฺคํ. องฺคนฺติ การณํ วุจฺจติ. ตสฺมา เยน สมาทาเนน โส ปิณฺฑปาติโก โหติ, ตสฺเสตํ อธิวจนนฺติ เวทิตพฺพํ. เอเตเนว นเยน รถิกาสุสานสงฺการกูฏาทีนํ ยตฺถ กตฺถจิ ปํสูนํ อุปริ ิตตฺตา อพฺภุคฺคตฏฺเน เตสุ ปํสุกูลมิวาติ ปํสุกูลํ. อถ วา ปํสุ วิย กุจฺฉิตภาวํ อุลตีติ ปํสุกูลํ, กุจฺฉิตภาวํ คจฺฉตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ ลทฺธนิพฺพจนสฺส ปํสุกูลสฺส ธารณํ ปํสุกูลํ, ปํสุกูลํ สีลมสฺสาติ ปํสุกูลิโก, ปํสุกูลิกสฺส องฺคํ ปํสุกูลิกงฺคํ. สงฺฆาฏิอุตฺตราสงฺคอนฺตรวาสกสงฺขาตํ ติจีวรํ สีลมสฺสาติ เตจีวริโก, เตจีวริกสฺส องฺคํ เตจีวริกงฺคํ. สปทานจาริกงฺคนฺติ ทานํ วุจฺจติ อวขณฺฑนํ, อเปตํ ทานโต อปทานํ, อนวขณฺฑนนฺติ อตฺโถ. สห อปทาเนน สปทานํ, อวขณฺฑนวิรหิตํ, อนุฆรนฺติ วุตฺตํ โหติ. สปทานํ จริตุํ อิทมสฺส สีลนฺติ สปทานจารี, สปทานจารีเยว สปทานจาริโก, ตสฺส องฺคํ สปทานจาริกงฺคํ. ขลุปจฺฉาภตฺติกงฺคนฺติ ขลูติ ปฏิเสธนตฺเถ นิปาโต. ปวาริเตน สตา ปจฺฉา ลทฺธํ ภตฺตํ ปจฺฉาภตฺตํ นาม, ตสฺส ปจฺฉาภตฺตสฺส โภชนํ ปจฺฉาภตฺตโภชนํ, ตสฺมึ ปจฺฉาภตฺตโภชเน ปจฺฉาภตฺตสฺํ กตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ สีลมสฺสาติ ปจฺฉาภตฺติโก, น ปจฺฉาภตฺติโก ขลุปจฺฉาภตฺติโก, สมาทานวเสน ปฏิกฺขิตฺตาติริตฺตโภชนสฺเสตํ นามํ, ตสฺส องฺคํ ขลุปจฺฉาภตฺติกงฺคํ. เนสชฺชิกงฺคนฺติ สยนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา นิสชฺชาย วิหริตุํ สีลมสฺสาติ เนสชฺชิโก, ตสฺส องฺคํ เนสชฺชิกงฺคํ. ยถาสนฺถติกงฺคนฺติ ยเทว สนฺถตํ ยถาสนฺถตํ, ‘‘อิทํ ตุยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ เอวํ ปมํ อุทฺทิฏฺเสนาสนสฺเสตํ อธิวจนํ. ตสฺมึ ยถาสนฺถเต วิหริตุํ สีลมสฺสาติ ยถาสนฺถติโก, ตสฺส องฺคํ ยถาสนฺถติกงฺคํ. สพฺพาเนว ปเนตานิ เตน เตน สมาทาเนน ธุตกิเลสตฺตา ธุตสฺส ภิกฺขุโน องฺคานิ, กิเลสธุนนโต วา ธุตนฺติ ลทฺธโวหารํ าณํ องฺคํ เอเตสนฺติ ธุตงฺคานิ. อถ วา ธุตานิ จ ตานิ ปฏิปกฺขานํ ธุนนโต องฺคานิ จ ปฏิปตฺติยาติปิ ธุตงฺคานิ. เอวํ ตาเวตฺถ อตฺถโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย. สพฺพาเนว เจตานิ สมาทานเจตนาลกฺขณานิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘โย สมาทิยติ, โส ปุคฺคโล. เยน สมาทิยติ, จิตฺตเจตสิกา เอเต ธมฺมา. ยา สมาทานเจตนา, ตํ ธุตงฺคํ. ยํ ปฏิกฺขิปติ, ตํ วตฺถุ’’นฺติ (วิสุทฺธิ. ๑.๒๓).

สพฺพาเนว จ โลลุปฺปวิทฺธํสนรสานิ, นิลฺโลลุปฺปภาวปจฺจุปฏฺานานิ, อปฺปิจฺฉตาทิอริยธมฺมปทฏฺานานิ. เอวเมตฺถ ลกฺขณาทีหิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

วีริยสมาทานมฺปีติ วีริยคฺคหณมฺปิ. กามนฺติ เอกํสตฺเถ นิปาโต. ตโจ จ นฺหารุ จาติ ฉวิ จ นฺหารุวลฺลิโย จ. อฏฺิ จาติ สพฺพา อฏฺิโย จ. อวสิสฺสตูติ ติฏฺตุ. อุปสุสฺสตุ มํสโลหิตนฺติ สพฺพํ มํสฺจ โลหิตฺจ สุกฺขตุ. ‘‘ตโจ’’ติ เอกํ องฺคํ, ‘‘นฺหารู’’ติ เอกํ, ‘‘อฏฺี’’ติ เอกํ, ‘‘อุปสุสฺสตุ มํสโลหิต’’นฺติ เอกํ องฺคํ. ยํ ตนฺติ อุปริ วตฺตพฺพปเทน สมฺพนฺโธ. ปุริสถาเมนาติ ปุริสสฺส กายิเกน พเลน, พเลนาติ าณพเลน. วีริเยนาติ เจตสิกาณวีริยเตเชน. ปรกฺกเมนาติ ปรํ ปรํ านํ อกฺกมเนน อุสฺสาหปฺปตฺตวีริเยน. ปตฺตพฺพนฺติ ยํ ตํ ปาปุณิตพฺพํ. น ตํ อปาปุณิตฺวาติ ตํ ปตฺตพฺพํ อปฺปตฺวา. วีริยสฺส สณฺานํ ภวิสฺสตีติ วุตฺตปฺปการสฺส วีริยสฺส สิถิลตฺตํ โอสีทนํ น ภวิสฺสติ. ‘‘ปฏฺาน’’นฺติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ. จิตฺตํ ปคฺคณฺหาตีติ จิตฺตํ อุสฺสาหํ คณฺหาเปติ. ปทหตีติ ปติฏฺาเปติ.

นาสิสฺสนฺติ น ขาทิสฺสามิ น ภุฺชิสฺสามิ. น ปิวิสฺสามีติ ยาคุปานาทีนิ น ปิวิสฺสามิ. วิหารโต น นิกฺขเมติ เสนาสนโต พหิ น นิกฺขเมยฺยํ. นปิ ปสฺสํ นิปาเตสฺสนฺติ ปสฺสํ มฺเจ วา ปีเ วา ภูมิยํ วา กฏสนฺถรเก วา ปาตนํ ปนํ น กริสฺสามิ. ตณฺหาสลฺเล อนูหเตติ ตณฺหาสงฺขาเต กณฺเฑ อนุทฺธเฏ, อวิคเตติ อตฺโถ.

อิมํ ปลฺลงฺกนฺติ สมนฺตโต อาภุชิตํ อูรุพทฺธาสนํ. น ภินฺทิสฺสามีติ น วิชหิสฺสามิ. ยาว เม น อนุปาทายาติ จตูหิ อุปาทาเนหิ คหณํ อคฺคเหตฺวา. อาสเวหีติ กามาสวาทีหิ จตูหิ อาสเวหิ. วิมุจฺจิสฺสตีติ สมุจฺเฉทวิมุตฺติยา น มุจฺจิสฺสติ. น ตาวาหํ อิมมฺหา อาสนา วุฏฺหิสฺสามีติ อาทึ กตฺวา ยาว รุกฺขมูลา นิกฺขมิสฺสามีติ โอกาสวเสน วุตฺตา. อิมสฺมิฺเว ปุพฺพณฺหสมยํ อริยธมฺมํ อาหริสฺสามีติ อาทึ กตฺวา ยาว คิมฺเหติ กาลวเสน วุตฺตา. ปุริเม วโยขนฺเธติอาทโย วยวเสน วุตฺตา. ตตฺถ อาสนา น วุฏฺหิสฺสามีติ นิสินฺนาสนา น อุฏฺหิสฺสามิ. อฑฺฒโยคาติ นิกุณฺฑเคหา. ปาสาทาติ ทีฆปาสาทา. หมฺมิยาติ มุณฺฑจฺฉทนเคหา. คุหายาติ ปํสุคุหาย. เลณาติ มริยาทฉินฺนจฺฉิทฺทา ปพฺพตเลณา. กุฏิยาติ อุลฺลิตฺตาทิกุฏิยา. กูฏาคาราติ กณฺณิกํ อาโรเปตฺวา กตเคหโต. อฏฺฏาติ ทฺวารฏฺฏาลกา. มาฬาติ วฏฺฏเคหา. อุทฺทณฺโฑ นาม เอโก ปติสฺสยวิเสโส. ‘‘ติฉทนเคโห’’ติปิ เอเก. อุปฏฺานสาลาติ สนฺนิปาตสาลา โภชนสาลา วา. มณฺฑปาทโย ปากฏาเยว. อริยธมฺมนฺติ อนวชฺชธมฺมํ, อริยานํ วา พุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกานํ ธมฺมํ. อาหริสฺสามีติ มม จิตฺตสมีปํ อานยิสฺสามิ สีเลน. สมาหริสฺสามีติ วิเสเสน อานยิสฺสามิ สมาธินา. อธิคจฺฉิสฺสามีติ ปฏิลาภวเสน คมิสฺสามิ ตทงฺเคน. ผสฺสยิสฺสามีติ ผุสิสฺสามิ มคฺเคน. สจฺฉิกริสฺสามีติ ปจฺจกฺขํ กริสฺสามิ ผเลน. อถ วา โสตาปตฺติมคฺเคน อาหริสฺสามิ. สกทาคามิมคฺเคน สมาหริสฺสามิ, อนาคามิมคฺเคน อธิคจฺฉิสฺสามิ, อรหตฺตมคฺเคน ผสฺสยิสฺสามิ, ปจฺจเวกฺขเณน สจฺฉิกริสฺสามิ. ทฺวีสุปิ นเยสุ ผสฺสยิสฺสามีติ นามกาเยน นิพฺพานํ ผุสิสฺสามีติ อตฺโถ.

อปุฏฺโติ มูลปทํ, ตสฺส อปุจฺฉิโตติ อตฺโถ. อปุจฺฉิโตติ อชานาปิโต. อยาจิโตติ อนายาจิโต. อนชฺเฌสิโตติ อนาณาปิโต, ‘‘น อิจฺฉิโต’’ติ เอเก. อปสาทิโตติ น ปสาทาปิโต. ปาวทตีติ กถยติ. อหมสฺมีติ อหํ อสฺมิ ภวามิ. ชาติยา วาติ ขตฺติยพฺราหฺมณชาติยา วา. โคตฺเตน วาติ โคตมาทิโคตฺเตน วา. โกลปุตฺติเยน วาติ กุลปุตฺตภาเวน วา. วณฺณโปกฺขรตาย วาติ สรีรสุนฺทรตาย วา. ธเนน วาติ ธนสมฺปตฺติยา วา. อชฺเฌเนน วาติ อชฺฌายกรเณน วา. กมฺมายตเนน วาติ กมฺมเมว กมฺมายตนํ, เตน กมฺมายตเนน, กสิโครกฺขกมฺมาทินา วา. สิปฺปายตเนน วาติ ธนุสิปฺปาทินา วา. วิชฺชาฏฺาเนน วาติ อฏฺารสวิชฺชาฏฺาเนน วา. สุเตน วาติ พหุสฺสุตคุเณน วา. ปฏิภาเนน วาติ การณาการณปฏิภานสงฺขาตาเณน วา. อฺตรฺตเรน วา วตฺถุนาติ ชาติอาทีนํ เอเกเกน วตฺถุนา วา.

อุจฺจา กุลาติ ขตฺติยพฺราหฺมณกุลา, เอเตน ชาติโคตฺตมหตฺตํ ทีเปติ. มหาโภคกุลาติ คหปติมหาสาลกุลา, เอเตน อฑฺฒมหตฺตํ ทีเปติ. อุฬารโภคกุลาติ อวเสสเวสฺสาทิกุลา, เอเตน ปหูตชาตรูปรชตาทึ ทีเปติ. จณฺฑาลาปิ หิ อุฬารโภคา โหนฺติ. าโตติ ปากโฏ. ยสฺสสฺสีติ ปริวารสมฺปนฺโน. สุตฺตนฺติโกติ สุตฺตนฺเต นิยุตฺโต. วินยธโรติ วินยปิฏกธโร. ธมฺมกถิโกติ อาภิธมฺมิโก. อารฺิโกติอาทโย ธุตงฺคปุพฺพงฺคมปฏิปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตา. ปมสฺส ฌานสฺส ลาภีติอาทโย รูปารูปอฏฺสมาปตฺติโย ทสฺเสตฺวา ปฏิเวธทสฺสนวเสน วุตฺตา. ปาวทตีติ มูลปทํ. กเถตีติ ‘‘ปิฏกาจริโยสฺมี’’ติ กถยติ. ภณตีติ ‘‘ธุตงฺคิโกมฺหี’’ติ ปากฏํ กโรติ. ทีปยตีติ ‘‘รูปชฺฌานํ ลาภีมฺหี’’ติ ปริทีปยติ. โวหรตีติ ‘‘อรูปชฺฌานํ ลาภีมฺหี’’ติ วากฺยเภทํ กโรติ.

ขนฺธกุสลาติ ปฺจสุ ขนฺเธสุ สลกฺขณสามฺลกฺขเณสุ เฉกา, าตตีรณปหานวเสน กุสลาติ อตฺโถ. ธาตุอายตนปฏิจฺจสมุปฺปาทาทีสุปิ เอเสว นโย. นิพฺพานกุสลาติ นิพฺพาเน เฉกา. อนริยานนฺติ น อริยานํ. เอโส ธมฺโมติ เอโส สภาโว. พาลานนฺติ อปณฺฑิตานํ. อสปฺปุริสานนฺติ น โสภนปุริสานํ. อตฺตาติ อตฺตานํ.

๑๘. สนฺโตติ ราคาทิกิเลสูปสเมน สนฺโต. ตถา อภินิพฺพุตตฺโต. อิติ’หนฺติ สีเลสุ อกตฺถมาโนติ ‘‘อหมสฺมิ สีลสมฺปนฺโน’’ติอาทินา นเยน อิติ สีเลสุ อกตฺถมาโน, สีลนิมิตฺตํ อตฺตุปนายิกํ วาจํ อภาสมาโนติ วุตฺตํ โหติ. ตมริยธมฺมํ กุสลา วทนฺตีติ ตสฺส ตํ อกตฺถนํ ‘‘อริยธมฺโม เอโส’’ติ พุทฺธาทโย ขนฺธาทิกุสลา วทนฺติ. ยสฺสุสฺสทา นตฺถิ กุหิฺจิ โลเกติ ยสฺส ขีณาสวสฺส ราคาทโย สตฺตุสฺสทา กุหิฺจิ โลเก นตฺถิ. ตสฺส ตํ อกตฺถนํ ‘‘อริยธมฺโม เอโส’’ติ เอวํ กุสลา วทนฺตีติ สมฺพนฺโธ.

สนฺโตติ มูลปทํ. ราคสฺส สมิตตฺตาติ รฺชนลกฺขณสฺส ราคสฺส สมิตภาเวน. โทสาทีสุปิ เอเสว นโย. วิชฺฌาตตฺตาติ สพฺพปริฬาหานํ ฌาปิตตฺตา. นิพฺพุตตฺตาติ สพฺพสนฺตาปานํ นิพฺพาปิตภาเวน. วิคตตฺตาติ สพฺพากุสลาภิสงฺขารานํ วิคตภาเวน ทูรภาเวน. ปฏิปสฺสทฺธตฺตาติ สพฺพากาเรน อภพฺพุปฺปตฺติกภาเวน. สตฺตนฺนํ ธมฺมานํ ภินฺนตฺตา ภิกฺขูติ อุปริ วตฺตพฺพานํ สตฺตธมฺมานํ ภินฺทิตฺวา ิตภาเวน ภิกฺขุ. สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาโสติ อิเม ตโย กิเลสา โสตาปตฺติมคฺเคน ภินฺนา, ราโค โทโสติ อิเม ทฺเว กิเลสา โอฬาริกา สกทาคามิมคฺเคน ภินฺนา, เต เอว อณุสหคตา อนาคามิมคฺเคน ภินฺนา, โมโห มาโนติ อิเม ทฺเว กิเลสา อรหตฺตมคฺเคน ภินฺนา. อวเสเส กิเลเส ทสฺเสตุํ ‘‘ภินฺนาสฺส โหนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา’’ติ อาห. สํกิเลสิกาติ กิเลสปจฺจยา. โปโนภวิกาติ ปุนพฺภวทายิกา. สทราติ กิเลสทรถา เอตฺถ สนฺตีติ สทรา. ‘‘สทฺทรา’’ติปิ ปาโ, สหทรถาติ อตฺโถ. ทุกฺขวิปากาติ ผลกาเล ทุกฺขทายิกา. อายตึ ชาติชรามรณิยาติ อนาคเต ชาติชรามรณสฺส ปจฺจยา.

ปชฺเชน กเตน อตฺตนาติ คาถาย อยํ ปิณฺฑตฺโถ – โย อตฺตนา ภาวิเตน มคฺเคน ปรินิพฺพานํ คโต, กิเลสปรินิพฺพานํ ปตฺโต, ปรินิพฺพานคตตฺตา เอว จ วิติณฺณกงฺโข, วิปตฺติสมฺปตฺติหานิวุทฺธิอุจฺเฉทสสฺสตอปุฺปุฺปฺปเภทํ ภวฺจ วิภวฺจ วิปฺปหาย มคฺควาสํ วุสิตวา ขีณปุนพฺภโวติ เอเตสํ ถุติวจนานํ อรโห โส ภิกฺขูติ.

อิติหนฺติ, อิทหนฺตีติ ทุวิโธ ปาโ. อิตีติ ปทสนฺธิอาทโย สนฺธาย ‘‘อิทห’’นฺติ ปาํ น โรเจนฺติ. ตตฺถ อิตีติ ยํ วุตฺตํ. ปทสนฺธีติ ปทานํ สนฺธิ ปทสนฺธิ, ปทฆฏนนฺติ อตฺโถ. ปทสํสคฺโคติ ปทานํ เอกีภาโว. ปทปาริปูรีติ ปทานํ ปริปูรณํ ทฺวินฺนํ ปทานํ เอกีภาโว. อกฺขรสมวาโยติ เอกีภูโตปิ อปริปุณฺโณปิ โหติ, อยํ น เอวํ. อกฺขรานํ สมวาโย สนฺนิปาโต โหตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อกฺขรสมวาโย’’ติ อาห. พฺยฺชนสิลิฏฺตาติ พฺยฺชนสมุจฺจโย ปทมีติ วุตฺตานํ พฺยฺชนานํ อตฺถพฺยฺชนานํ อตฺถพฺยตฺติการณานํ วา มธุรภาวตฺตา ปาสฺส มุทุภาโว. ปทานุปุพฺพตา เมตนฺติ ปทานํ อนุปุพฺพภาโว ปทานุปุพฺพตา, ปทปฏิปาฏิภาโวติ อตฺโถ. เมตนฺติ เอตํ. กตมนฺติ เจ? อิตีติ อิทํ. เมตนฺติ เอตฺถ ม-กาโร ปทสนฺธิวเสน วุตฺโต. กตฺถี โหตีติ ‘‘อหมสฺมิ สีลสมฺปนฺโน’’ติ อตฺตานํ อุกฺกํเสตฺวา กถนสีโล โหติ. กตฺถตีติ วุตฺตนเยน กถยติ. วิกตฺถตีติ วิวิธา กถยติ. กตฺถนาติ กถนา. อารโตติ ทูรโต รโต. วิรโตติ านสงฺกนฺติวเสน วิคตภาเวน รโต. ปฏิวิรโตติ ตโต นิวตฺติตฺวา สพฺพากาเรน วิยุตฺโต หุตฺวา รโต. ตตฺถ ปิสาจํ วิย ทิสฺวา ปลาโต อารโต. หตฺถิมฺหิ มทฺทนฺเต วิย ปริธาวิตฺวา คโต วิรโต. โยธสมฺปหารํ วิย โปเถตฺวา มทฺเทตฺวา คโต ปฏิวิรโต.

ขีณาสวสฺสาติ ขีณกิเลสาสวสฺส. กมฺมุสฺสโทติ ปุฺาภิสงฺขารอปุฺาภิสงฺขารอาเนฺชาภิสงฺขารสงฺขาตานํ กมฺมานํ อุสฺสโท อุสฺสนฺนตา. ยสฺสิเมติ ยสฺส ขีณาสวสฺส อิเม อุสฺสทา.

๑๙. เอวํ ขีณาสวปฏิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ทิฏฺิคติกานํ ติตฺถิยานํ ปฏิปตฺติฺจ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ปกปฺปิตา สงฺขตา’’ติ. ตตฺถ ปกปฺปิตาติ ปริกปฺปิตา. สงฺขตาติ ปจฺจยาภิสงฺขตา. ยสฺสาติ ยสฺส กสฺสจิ ทิฏฺิคติกสฺส. ธมฺมาติ ทิฏฺิโย. ปุรกฺขตาติ ปุรโต กตา. สนฺตีติ สํวิชฺชนฺติ. อวีวทาตาติ อโวทาตา. ยทตฺตนิ ปสฺสติ อานิสํสํ, ตํ นิสฺสิโต กุปฺปปฏิจฺจสนฺตินฺติ ยสฺเสเต ทิฏฺิธมฺมา ‘ปุรกฺขตา อโวทาตา สนฺติ, โส เอวํวิโธ ยสฺมา อตฺตนิ ตสฺสา ทิฏฺิยา ทิฏฺธมฺมิกฺจ สกฺการาทึ, สมฺปรายิกฺจ คติวิเสสาทึ อานิสํสํ สมฺปสฺสติ, ตสฺมา ตฺจ อานิสํสํ, ตฺจ กุปฺปตาย จ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนตาย จ สมฺมุติสนฺติตาย จ กุปฺปปฏิจฺจสนฺติสงฺขาตํ ทิฏฺึ นิสฺสิโต จ โหติ. โส ตํ นิสฺสิตตฺตา อตฺตานํ วา อุกฺกํเสยฺย, ปเร วา วมฺเภยฺย อภูเตหิปิ คุณโทเสหิ.

สงฺขตาติ มูลปทํ. สงฺขตาติ ปจฺจเยหิ สมาคนฺตฺวา กตา. อุปสคฺควเสน ปทํ วฑฺฒิตํ. อภิสงฺขตาติ ปจฺจเยหิ อภิกตา. สณฺปิตาติ ปจฺจยวเสเนว สมฺมา ปิตา. อนิจฺจาติ หุตฺวา อภาเวน. ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนาติ วตฺถารมฺมณํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนา. ขยธมฺมาติ กเมน ขยสภาวา. วยธมฺมาติ ปวตฺติวเสน ปริหายนสภาวา. วิราคธมฺมาติ อนิวตฺตี หุตฺวา วิคจฺฉนสภาวา. นิโรธธมฺมาติ นิรุชฺฌนสภาวา, อนุปฺปตฺติธมฺมา หุตฺวา นิรุชฺฌนสภาวาติ อตฺโถ. ทิฏฺิคติกสฺสาติ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิโย คเหตฺวา ิตปุคฺคลสฺส.

ปุเรกฺขาราติ ปุเร กตา. ตณฺหาธโชติ อุสฺสาปิตฏฺเน ตณฺหาธโช, ตณฺหาปฏากา อสฺส อตฺถีติ ตณฺหาธโช. ปุเรจาริกฏฺเน ตณฺหา เอว เกตุ อสฺสาติ ตณฺหาเกตุ. ตณฺหาธิปเตยฺโยติ ฉนฺทาธิปติวเสน, ตณฺหา อธิปติโต อาคตาติ วา ตณฺหาธิปเตยฺโย, ตณฺหาธิปติ วา เอตสฺส อตฺถีติ ตณฺหาธิปเตยฺโย. ทิฏฺิธชาทีสุปิ เอเสว นโย. อโวทาตาติ อปริสุทฺธา. สํกิลิฏฺาติ สยํ กิลิฏฺา. สํกิเลสิกาติ ตปนียา.

ทฺเว อานิสํเส ปสฺสตีติ ทฺเว คุเณ ทกฺขติ. ทิฏฺธมฺมิกฺจ อานิสํสนฺติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ปจฺจกฺขธมฺมานิสํสฺจ. สมฺปรายิกนฺติ ปรโลเก ปตฺตพฺพํ อานิสํสฺจ. ยํทิฏฺิโก สตฺถา โหตีติ สตฺถา ยถาลทฺธิโก ภวติ. ตํทิฏฺิกา สาวกา โหนฺตีติ ตสฺส วจนํ สุณนฺตา สาวกาปิ ตถาลทฺธิกา โหนฺติ. สกฺกโรนฺตีติ สกฺการปฺปตฺตํ กโรนฺติ. ครุํ กโรนฺตีติ ครุการปฺปตฺตํ กโรนฺติ. มาเนนฺตีติ มนสา ปิยายนฺติ. ปูเชนฺตีติ จตุปจฺจยาภิหารปูชาย ปูเชนฺติ. อปจิตึ กโรนฺตีติ อปจิติปฺปตฺตํ กโรนฺติ. ตตฺถ ยสฺส จตฺตาโร ปจฺจเย สกฺกริตฺวา สุอภิสงฺขเต ปณีเต กตฺวา เทนฺติ, โส สกฺกโต. ยสฺมึ ครุภาวํ ปฏฺเปตฺวา เทนฺติ, โส ครุกโต. ยํ มนสา ปิยายนฺติ, โส มานิโต. ยสฺส สพฺพมฺเปตํ กโรนฺติ, โส ปูชิโต. ยสฺส อภิวาทนปจฺจุปฏฺานอฺชลิกมฺมาทิวเสน ปรมนิปจฺจการํ กโรนฺติ, โส อปจิโต. เกจิ ‘‘สกฺกโรนฺติ กาเยน, ครุํ กโรนฺติ วาจาย, มาเนนฺติ จิตฺเตน, ปูเชนฺติ ลาเภนา’’ติ วณฺณยนฺติ. อลํ นาคตฺตาย วาติ นาคภาวาย นาคราชภาวาย วา อลํ ปริยตฺตํ. สุปณฺณตฺตาย วาติ สุปณฺณราชภาวาย. ยกฺขตฺตาย วาติ ยกฺขเสนาปติภาวาย. อสุรตฺตาย วาติ อสุรภาวาย. คนฺธพฺพตฺตาย วาติ คนฺธพฺพเทวฆเฏ นิพฺพตฺตภาวาย. มหาราชตฺตาย วาติ จตุนฺนํ มหาราชานํ อฺตรภาวาย. อินฺทตฺตาย วาติ สกฺกภาวาย. พฺรหฺมตฺตาย วาติ พฺรหฺมกายิกาทีนํ อฺตรภาวาย. เทวตฺตาย วาติ สมฺมุติเทวาทีนํ อฺตรภาวาย. สุทฺธิยาติ ปริสุทฺธภาวาย อลํ ปริยตฺตํ. วิสุทฺธิยาติ สพฺพมลรหิตอจฺจนฺตปริสุทฺธภาวาย. ปริสุทฺธิยาติ สพฺพากาเรน ปริสุทฺธภาวาย.

ตตฺถ ติรจฺฉานโยนิยํ อธิปจฺจตฺตํ สุทฺธิยา. เทวโลเก อธิปจฺจตฺตํ วิสุทฺธิยา. พฺรหฺมโลเก อธิปจฺจตฺตํ ปริสุทฺธิยา. จตุราสีติกปฺปสหสฺสานิ อติกฺกมิตฺวา มุจฺจนตฺถํ มุตฺติยา. อนฺตรายาภาเวน มุจฺจนตฺถํ วิมุตฺติยา. สพฺพากาเรน มุตฺติยา ปริมุตฺติยา. สุชฺฌนฺตีติ ตสฺมึ สมเย ปพฺพชิตภาเวน สุทฺธึ ปาปุณนฺติ. วิสุชฺฌนฺตีติ ปพฺพชฺชํ คเหตฺวา ปฏิปตฺติยา ยุตฺตภาเวน วิวิเธน สุชฺฌนฺติ. ปริสุชฺฌนฺตีติ นิปฺผตฺตึ ปาเปตฺวา สพฺพากาเรน สุชฺฌนฺติ. มุจฺจนฺติ เตสํ สมยนฺตรธมฺเมน. วิมุจฺจนฺติ เอตสฺส สตฺถุโน โอวาเทน. ปริมุจฺจนฺติ เอตสฺส สตฺถุโน อนุสาสเนน. สุชฺฌิสฺสามีติอาทโย อนาคตวเสน วุตฺตา. อายตึ ผลปาฏิกงฺขีติ อนาคเต วิปากผลมากงฺขมาโน. อิทํ ทิฏฺิคติกานํ อิจฺฉามตฺตํ. ทิฏฺิคตฺหิ อิชฺฌมานํ นิรยํ วา ติรจฺฉานโยนึ วา นิปฺผาเทติ.

อจฺจนฺตสนฺตีติ อติอนฺตนิสฺสรณสนฺติ. ตทงฺคสนฺตีติ ปมชฺฌานาทิคุณงฺเคน นีวรณาทิอคุณงฺคํ สเมตีติ ฌานํ ตทงฺคสนฺติ. สมฺมุติสนฺตีติ สมาหารวเสน ทิฏฺิสนฺติ. ตา วิภาคโต ทสฺเสตุํ ‘‘กตมา อจฺจนฺตสนฺตี’’ติอาทิมาห. อมตํ นิพฺพานนฺติ เอวมาทโย เหฏฺา วุตฺตตฺถาเยว. ปมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส นีวรณา สนฺตา โหนฺตีติ เอวมาทโย อนฺโต อปฺปนายํ อติสยวเสน วุตฺตา. อปิ จ สมฺมุติสนฺติ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปตา, สนฺตีติ อิตเร ทฺเว สนฺติโย ปฏิกฺขิปิตฺวา สมฺมุติสนฺติเมว ทีเปติ. กุปฺปสนฺตินฺติ วิปากชนกวเสน ปริวตฺตนวเสน จลสนฺตึ. ปกุปฺปสนฺตินฺติ วิเสเสน จลสนฺตึ. เอริตสนฺตินฺติ กมฺปนสนฺตึ. สเมริตสนฺตินฺติ วิเสเสน กมฺปิตสนฺตึ. จลิตสนฺตินฺติ ตสฺเสว เววจนํ. ฆฏฺฏิตสนฺตินฺติ ปีฬิตสนฺตึ. สนฺตึ นิสฺสิโตติ ทิฏฺิสงฺขาตํ สนฺตึ นิสฺสิโต. อสฺสิโตติ อาสิโต วิเสเสน นิสฺสิโต. อลฺลีโนติ เอกีภูโต.

๒๐. เอวํ นิสฺสิเต ตาว ‘‘ทิฏฺีนิเวสา…เป… อาทิยตี จ ธมฺม’’นฺติ ตตฺถ ทิฏฺีนิเวสาติ อิทํสจฺจาภินิเวสสงฺขาตานิ ทิฏฺินิเวสนานิ. น หิ สฺวาติวตฺตาติ สุเขน อติวตฺติตพฺพา น โหนฺติ. ธมฺเมสุ นิจฺเฉยฺย สมุคฺคหีตนฺติ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคเตสุ ตํ ตํ สมุคฺคหิตํ อภินิวิฏฺธมฺมํ นิจฺฉินิตฺวา ปวตฺตา ทิฏฺินิเวสา น หิ สฺวาติวตฺตาติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมา นโร เตสุ นิเวสเนสุ, นิรสฺสตี อาทิยตี จ ธมฺมนฺติ ยสฺมา น หิ สฺวาติวตฺตา, ตสฺมา นโร เตสุเยว ทิฏฺินิเวสเนสุ อชสีลโคสีลกุกฺกุรสีลปฺจาตปมรุปฺปปาตอุกฺกุฏิกปฺปธานกณฺฏกาปสฺสยาทิเภทํ สตฺถารํ ธมฺมกฺขานํ คณาทิเภทฺจ ตํ ตํ ธมฺมํ นิรสฺสติ จ อาทิยติ จ ชหติ จ คณฺหาติ จ วนมกฺกโฏ วิย ตํ ตํ สาขนฺติ วุตฺตํ โหติ.

เอวํ นิรสฺสนฺโต จ อาทิยนฺโต จ อนวฏฺิตจิตฺตตฺตา อสนฺเตหิปิ คุณโทเสหิ อตฺตโน วา ปรสฺส วา ยสายสํ อุปฺปาเทยฺย. ทุรติวตฺตาติ อติกฺกมิตุํ ทุกฺขา. ทุตฺตราติ ทุอุตฺตรา. ทุปฺปตรา ทุสฺสมติกฺกมา ทุพฺพินิวตฺตาติ อุปสคฺเคน วฑฺฒิตา.

นิจฺฉินิตฺวาติ สสฺสตวเสน นิจฺฉยํ กตฺวา. วินิจฺฉินิตฺวาติ อตฺตวเสน นานาวิเธน วินิจฺฉยํ กตฺวา. วิจินิตฺวาติ ปริเยสิตฺวา. ปวิจินิตฺวาติ อตฺตนิยวเสน สพฺพากาเรน ปริเยสิตฺวา. ‘‘นิจินิตฺวา วิจฺจินิตฺวา’’ติปิ ปาโ. โอธิคฺคาโหติ อวธิยิตฺวา คาโห. พิลคฺคาโหติ โกฏฺาสวเสน คาโห ‘‘พิลโส วิภชิตฺวา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๗๘; ม. นิ. ๑.๑๑๑) วิย. วรคฺคาโหติ อุตฺตมคาโห. โกฏฺาสคฺคาโหติ อวยววเสน คาโห. อุจฺจยคฺคาโหติ ราสิวเสน คาโห. สมุจฺจยคฺคาโหติ โกฏฺาสวเสน ราสิวเสน จ คาโห. อิทํ สจฺจนฺติ อิทเมว สภาวํ. ตจฺฉนฺติ ตถภาวํ อวิปรีตสภาวํ. ตถนฺติ วิปริณามรหิตํ. ภูตนฺติ วิชฺชมานํ. ยาถาวนฺติ ยถาสภาวํ. อวิปรีตนฺติ น วิปรีตํ.

นิรสฺสตีติ นิอสฺสติ วิกฺขิปติ. ปรวิจฺฉินฺทนาย วาติ ปเรหิ วิสฺสชฺชาปเนน. อนภิสมฺภุณนฺโต วาติ อสมฺปาปุณนฺโต วา อสกฺโกนฺโต วา วิสฺสชฺเชติ. ปโร วิจฺฉินฺเทตีติ อฺโ วิโยคํ กโรติ. นตฺเถตฺถาติ นตฺถิ เอตฺถ. สีลํ อนภิสมฺภุณนฺโตติ สีลํ อสมฺปาเทนฺโต. สีลํ นิรสฺสตีติ สีลํ วิสฺสชฺเชติ. อิโต ปเรสุปิ เอเสว นโย.

๒๑. โย ปนายํ สพฺพทิฏฺิคตาทิโทสธุนนาย ปฺาย สมนฺนาคตตฺตา โธโน, ตสฺส โธนสฺส หิ…เป… อนูปโย โส. กึ วุตฺตํ โหติ? โธนธมฺมสมนฺนาคมา โธนสฺส ธุตสพฺพปาปสฺส อรหโต กตฺถจิ โลเก เตสุ เตสุ ภเวสุ สํกปฺปนา ทิฏฺิ นตฺถิ. โส ตสฺสา ทิฏฺิยา อภาวา, ยาย จ อตฺตนา กตํ ปาปกมฺมํ ปฏิจฺฉาเทนฺตา ติตฺถิยา มายาย วา มาเนน วา เอวํ อคตึ คจฺฉนฺติ, ตมฺปิ มายฺจ มานฺจ ปหาย โธโน ราคาทีนํ โทสานํ เกน คจฺเฉยฺย, ทิฏฺธมฺเม สมฺปราเย วา นิรยาทีสุ คติวิเสเสสุ เกน สงฺขํ คจฺเฉยฺย, อนูปโย โส, โส หิ ตณฺหาทิฏฺิอุปยานํ ทฺวินฺนํ อภาเวน อนูปโยติ.

กึ การณาติ เกน การเณน. โธนา วุจฺจติ ปฺาติ โธนา อิติ กึการณา ปฺา กถียติ. ตาย ปฺาย กายทุจฺจริตนฺติ ตาย วุตฺตปฺปการาย ปฺาย กายโต ปวตฺตํ ทุฏฺุ กิเลสปูติกตฺตา วา จริตนฺติ กายทุจฺจริตํ. ธูตฺจ โธตฺจาติ กมฺปิตฺจ โธวิตฺจ. สนฺโธตฺจาติ สมฺมา โธวิตฺจ. นิทฺโธตฺจาติ วิเสเสน สุฏฺุ นิทฺโธตฺจ. ราโค ธุโต จาติอาทโย จตุนฺนํ มคฺคานํ วเสน โยเชตพฺพา.

สมฺมาทิฏฺิยา มิจฺฉาทิฏฺิ ธุตา จาติ มคฺคสมฺปยุตฺตาย สมฺมาทิฏฺิยา มิจฺฉาทิฏฺิ กมฺปิตา จลิตา โธวิตา. สมฺมาสงฺกปฺปาทีสุปิ เอเสว นโย. วุตฺตฺเหตํ ‘‘สมฺมาทิฏฺิกสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฏฺิ นิชฺชิณฺณา โหตี’’ติ สุตฺตํ (อ. นิ. ๑๐.๑๐๖; ที. นิ. ๓.๓๖๐) วิตฺถาเรตพฺพํ. สมฺมาาเณนาติ มคฺคสมฺปยุตฺตาเณน, ปจฺจเวกฺขณาเณน วา. มิจฺฉาาณนฺติ วิปรีตาณํ อยาถาวาณํ, ปาปกิริยาสุ อุปจินฺตาวเสน ปาปํ กตฺวา ‘‘สุกตํ มยา’’ติ ปจฺจเวกฺขณากาเรน จ อุปฺปนฺโน โมโห. สมฺมาวิมุตฺติยา มิจฺฉาวิมุตฺตีติ สมุจฺเฉทวิมุตฺติยา วิปรีตา อยาถาววิมุตฺติเยว เจโตวิมุตฺติสฺิตา.

อรหา อิเมหิ โธเนยฺเยหิ ธมฺเมหีติ ราคาทีหิ กิเลเสหิ ทูเร ิโต อรหา อิเมหิ วุตฺตปฺปกาเรหิ กิเลสโธวเนหิ ธมฺเมหิ อุเปโต โหติ. โธโนติ โธโน ปุคฺคโล, เตเนว ‘‘โส ธุตราโค’’ติอาทโย อาห.

มายา วุจฺจติ วฺจนิกาจริยาติ วฺจนกิริยํ วฺจนกรณํ อสฺสา อตฺถีติ วฺจนิกาจริยา. ตสฺส ปฏิจฺฉาทนเหตูติ เตสํ ทุจฺจริตานํ อปฺปกาสนการณา. ปาปิกํ อิจฺฉํ ปณิทหตีติ ลามกํ ปตฺถนํ ปติฏฺาเปติ. ‘‘มา มํ ชฺา’’ติ อิจฺฉตีติ ‘‘มยฺหํ กตํ ปาปํ ปเร มา ชานึสู’’ติ ปจฺจาสีสติ. สงฺกปฺเปตีติ วิตกฺกํ อุปฺปาเทติ. วาจํ ภาสตีติ ชานํเยว ปณฺณตฺตึ วีติกฺกมนฺโต ภิกฺขุ ภาริยํ กโรติ. ‘‘อมฺหากํ วีติกฺกมฏฺานํ นาม นตฺถี’’ติ อุปสนฺโต วิย ภาสติ. กาเยน ปรกฺกมตีติ ‘‘มยา กตํ อิทํ ปาปกมฺมํ มา เกจิ ชานึสู’’ติ กาเยน วตฺตํ กโรติ. วิชฺชมานโทสปฏิจฺฉาทนโต จกฺขุโมหนมายา อสฺสาติ มายาวี, มายาวิโน ภาโว มายาวิตา. กตฺวา ปาปํ ปุน ปฏิจฺฉาทนโต อติจฺจ อสฺสรติ เอตาย สตฺโตติ อจฺจสรา. กายวาจากิริยาหิ อฺถา ทสฺสนโต วฺเจตีติ วฺจนา. เอตาย สตฺตา นิกโรนฺตีติ นิกติ, มิจฺฉา กโรนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘นาหํ เอวํ กโรมี’’ติ ปาปานํ วิกฺขิปนโต นิกิรณา. ‘‘นาหํ เอวํ กโรมี’’ติ ปริวชฺชนโต ปริหรณา. กายาทีหิ สํหรณโต คูหนา. สมภาเคน คูหนา ปริคูหนา. ติณปณฺเณหิ วิย คูถํ กายวจีกมฺเมหิ ปาปํ ฉาเทตีติ ฉาทนา. สพฺพโต ภาเคน ฉาทนา ปริจฺฉาทนา. น อุตฺตานึ กตฺวา ทสฺเสตีติ อนุตฺตานิกมฺมํ. น ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสตีติ อนาวิกมฺมํ. สุฏฺุ ฉาทนา โวจฺฉาทนา. กตปฏิจฺฉาทนวเสน ปุนปิ ปาปสฺส กรณโต ปาปกิริยา. อยํ วุจฺจตีติ อยํ กตปฏิจฺฉาทนลกฺขณา มายา นาม วุจฺจติ, ยาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ภสฺมปฏิจฺฉนฺโน วิย องฺคาโร, อุทกปฏิจฺฉนฺโน วิย ขาณุ, ปิโลติกปลิเวิตํ วิย จ สตฺถํ โหติ.

เอกวิเธน มาโนติ เอกปริจฺเฉเทน เอกโกฏฺาเสน มาโน. ยา จิตฺตสฺส อุนฺนตีติ ยา จิตฺตสฺส อพฺภุสฺสาปนา, อยํ มาโนติ อตฺโถ. เอตฺถ ปุคฺคลํ อนามสิตฺวา นิพฺพตฺติตมาโนว วุตฺโต.

อตฺตุกฺกํสนมาโนติ อตฺตานํ อุปริ ปนมาโน. ปรวมฺภนมาโนติ ปเร ลามกกรณมาโน. อิเม ทฺเว มานา เยภุยฺเยน ตถา ปวตฺตาการวเสน วุตฺตา.

‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มาโนติ ชาติอาทีนิ นิสฺสาย ‘‘อหมสฺมิ เสยฺโย’’ติ อุปฺปนฺโน มาโน. สทิสมานาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวมิเมปิ ตโย มานา ปุคฺคลวิเสสํ อนิสฺสาย ตถา ปวตฺตาการวเสน วุตฺตา. เตสุ เอเกโก ติณฺณมฺปิ เสยฺยสทิสหีนานํ อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มาโน เสยฺยสฺเสว ยาถาวมาโน, เสสานํ อยาถาวมาโน. ‘‘สทิโสหมสฺมี’’ติ มาโน สทิสสฺเสว ยาถาวมาโน, เสสานํ อยาถาวมาโน. ‘‘หีโนหมสฺมี’’ติ มาโน หีนสฺเสว ยาถาวมาโน, เสสานํ อยาถาวมาโน.

จตุพฺพิเธน มาโน โลกธมฺมวเสน วุตฺโต. ปฺจวิเธน มาโน ปฺจกามคุณวเสน วุตฺโต. ฉพฺพิเธน มาโน จกฺขาทิสมฺปตฺติวเสน วุตฺโต. ตตฺถ มานํ ชเนตีติ มานํ อุปฺปาเทติ.

สตฺตวิเธน มานนิทฺเทเส มาโนติ อุนฺนโม. อติมาโนติ ‘‘ชาติอาทีหิ มยา สทิโส นตฺถี’’ติ อติกฺกมิตฺวา มฺนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน. มานาติมาโนติ ‘‘อยํ ปุพฺเพ มยา สทิโส, อิทานิ อหํ เสฏฺโ, อยํ หีนตโร’’ติ อุปฺปนฺโน มาโน. อยํ ภาราติภาโร วิย ปุริมํ สทิสมานํ อุปาทาย มานาติมาโน นามาติ ทสฺเสตุํ ‘‘มานาติมาโน’’ติ อาห. โอมาโนติ หีนมาโน. โย ‘‘หีโนหมสฺมี’’ติ มาโน นาม วุตฺโต, อยํ โอมาโน นาม. อปิ เจตฺถ ‘‘ตฺวํ ชาติมา, กากชาติ วิย เต ชาติ. ตฺวํ โคตฺตวา, จณฺฑาลโคตฺตํ วิย เต โคตฺตํ. ตุยฺหํ สโร อตฺถิ, กากสโร วิย เต สโร’’ติ เอวํ อตฺตานํ เหฏฺา กตฺวา ปวตฺตนวเสน อยํ ‘‘โอมาโน’’ติ เวทิตพฺโพ.

อธิมาโนติ จตฺตาริ สจฺจานิ อปฺปตฺวา ปตฺตสฺิสฺส, จตูหิ มคฺเคหิ กตฺตพฺเพ กิจฺเจ อกเตเยว กตสฺิสฺส, จตุสจฺจธมฺเม อนธิคเต อธิคตสฺิสฺส, อรหตฺเต อสจฺฉิกเต สจฺฉิกตสฺิสฺส อุปฺปนฺโน อธิคตมาโน อธิมาโน นาม. อยํ ปน กสฺส อุปฺปชฺชติ, กสฺส น อุปฺปชฺชตีติ? อริยสาวกสฺส ตาว น อุปฺปชฺชติ. โส หิ มคฺคผลนิพฺพานปหีนกิเลสาวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขเณน สฺชาตโสมนสฺโส อริยคุณปฏิเวเธ นิกฺกงฺโข, ตสฺมา โสตาปนฺนาทีนํ ‘‘อหํ สกทาคามี’’ติอาทิวเสน มาโน น อุปฺปชฺชติ, ทุสฺสีลสฺส จ น อุปฺปชฺชติ. โส หิ อริยคุณาธิคเม นิราโสว. สีลวโตปิ ปริจฺจตฺตกมฺมฏฺานสฺส นิทฺทารามตาทิมนุยุตฺตสฺส น อุปฺปชฺชติ, ปริสุทฺธสีลสฺส ปน กมฺมฏฺาเน อปฺปมตฺตสฺส นามรูปํ ววตฺถเปตฺวา ปจฺจยปริคฺคเหน วิติณฺณกงฺขสฺส ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺตสฺส อารทฺธวิปสฺสกสฺส อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺเน จ สุทฺธสมถลาภี สุทฺธวิปสฺสนาลาภี วา อนฺตรา เปติ. โส หิ ทสปิ วสฺสานิ วีสมฺปิ วสฺสานิ ตึสมฺปิ วสฺสานิ อสีติปิ วสฺสานิ กิเลสสมุทาจารํ อปสฺสนฺโต ‘‘อหํ โสตาปนฺโน’’ติ วา ‘‘สกทาคามี’’ติ วา ‘‘อนาคามี’’ติ วา มฺติ, สมถวิปสฺสนาลาภี ปน อรหตฺเตเยว เปติ. ตสฺส หิ สมาธิพเลน กิเลสา วิกฺขมฺภิตา, วิปสฺสนาพเลน สงฺขารา สุปริคฺคหิตา, ตสฺมา สฏฺิปิ วสฺสานิ อสีติปิ วสฺสานิ วสฺสสตมฺปิ กิเลสา น สมุทาจรนฺติ, ขีณาสวสฺเสว จิตฺตาจาโร โหติ. โส เอวํ ทีฆรตฺตํ กิเลสสมุทาจารํ อปสฺสนฺโต อนฺตรา อฏฺตฺวาว ‘‘อรหา อห’’นฺติ มฺติ.

อสฺมิมาโนติ รูเป อสฺมีติอาทินา นเยน ปฺจสุ ขนฺเธสุ ‘‘อหํ รูปาทโย’’ติ อุปฺปนฺโน มาโน. มิจฺฉามาโนติ ปาปเกหิ กมฺมายตนสิปฺปายตนวิชฺชาฏฺานสุตปฏิภานสีลพฺพเตหิ, ปาปิกาย จ ทิฏฺิยา อุปฺปนฺโน มาโน. ตตฺถ ปาปกํ กมฺมายตนํ นาม เกวฏฺฏมจฺฉพนฺธเนสาทานํ กมฺมํ. ปาปกํ สิปฺปายตนํ นาม มจฺฉชาลขิปกุมีนกรเณสุ เจว ปาสโอฑฺฑนสูลาโรปนาทีสุ จ เฉกตา. ปาปกํ วิชฺชาฏฺานํ นาม ยา กาจิ ปรูปฆาตวิชฺชา. ปาปกํ สุตํ นาม ภารตยุทฺธสีตาหรณาทิปฏิสํยุตฺตํ. ปาปกํ ปฏิภานํ นาม ทุพฺภาสิตยุตฺตํ กปฺปนาฏกวิลปฺปนาทิปฏิภานํ. ปาปกํ สีลํ นาม อชสีลํ โคสีลํ. วตมฺปิ อชวตโควตเมว. ปาปิกา ทิฏฺิ ปน ทฺวาสฏฺิยา ทิฏฺิคเตสุ ยากาจิ ทิฏฺิ. อฏฺวิธมาโน อุตฺตานตฺโถเยว.

นววิเธน มานนิทฺเทเส เสยฺยสฺส ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทโย นว มานา ปุคฺคลํ นิสฺสาย วุตฺตา. เอตฺถ ปน เสยฺยสฺส ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มาโน ราชานฺเจว ปพฺพชิตานฺจ อุปฺปชฺชติ. ราชา หิ ‘‘รฏฺเน วา ธนวาหเนหิ วา โก มยา สทิโส อตฺถี’’ติ เอตํ มานํ กโรติ. ปพฺพชิโตปิ ‘‘สีลธุตงฺคาทีหิ โก มยา สทิโส อตฺถี’’ติ เอตํ มานํ กโรติ.

เสยฺยสฺส ‘‘สทิโสหมสฺมี’’ติ มาโนปิ เอเตสํเยว อุปฺปชฺชติ. ราชา หิ ‘‘รฏฺเน วา ธนวาหเนหิ วา อฺราชูหิ สทฺธึ มยฺหํ กึ นานากรณ’’นฺติ เอตํ มานํ กโรติ. ปพฺพชิโตปิ ‘‘สีลธุตงฺคาทีหิ อฺเน ภิกฺขุนา มยฺหํ กึ นานากรณ’’นฺติ เอตํ มานํ กโรติ.

เสยฺยสฺส ‘‘หีโนหมสฺมี’’ติ มาโนปิ เอเตสํเยว อุปฺปชฺชติ. ยสฺส หิ รฺโ รฏฺํ วา ธนวาหนาทีนิ วา นาติสมฺปนฺนานิ โหนฺติ, โส ‘‘มยฺหํ ราชาติ โวหารสุขมตฺตกเมว, กึ ราชา นาม อห’’นฺติ เอตํ มานํ กโรติ. ปพฺพชิโตปิ อปฺปลาภสกฺกาโร ‘‘อหํ ธมฺมกถิโก, พหุสฺสุโต, มหาเถโรติ กถามตฺตเมว, กึ ธมฺมกถิโก นามาหํ, กึ พหุสฺสุโต นามาหํ, กึ มหาเถโร นามาหํ, ยสฺส เม ลาภสกฺกาโร นตฺถี’’ติ เอตํ มานํ กโรติ.

สทิสสฺส ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มานาทโย อมจฺจาทีนํ อุปฺปชฺชนฺติ. อมจฺโจ วา หิ รฏฺิโย วา ‘‘โภคยานวาหนาทีหิ โก มยา สทิโส อฺโ ราชปุริโส อตฺถี’’ติ วา, ‘‘มยฺหํ อฺเหิ สทฺธึ กึ นานากรณ’’นฺติ วา, ‘‘อมจฺโจติ นามเมว มยฺหํ, ฆาสจฺฉาทนมตฺตมฺปิ เม นตฺถิ, กึ อมจฺโจ นามาห’’นฺติ วา เอเต มาเน กโรติ.

หีนสฺส ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มานาทโย ทาสาทีนํ อุปฺปชฺชนฺติ. ทาโส หิ ‘‘มาติโต วา ปิติโต วา โก มยา สทิโส อฺโ ทาโส นาม อตฺถิ, อฺเ ชีวิตุํ อสกฺโกนฺตา กุจฺฉิเหตุ ทาสา นาม ชาตา, อหํ ปน ปเวณีอาคตตฺตา เสยฺโย’’ติ วา, ‘‘ปเวณีอาคตภาเวน อุภโตสุทฺธิกทาสตฺเตน อสุกทาเสน นาม สทฺธึ กิ มยฺหํ นานากรณ’’นฺติ วา, ‘‘กุจฺฉิวเสนาหํ ทาสพฺยํ อุปคโต, มาตาปิตุโกฏิยา ปน เม ทาสฏฺานํ นตฺถิ, กึ ทาโส นาม อห’’นฺติ วา เอเต มาเน กโรติ. ยถา จ ทาโส, เอวํ ปุกฺกุสจณฺฑาลาทโยปิ เอเต มาเน กโรนฺติเยว.

เอตฺถ จ เสยฺยสฺส ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ อุปฺปนฺนมาโนว ยาถาวมาโน, อิตเร ทฺเว อยาถาวมานา. ตถา สทิสสฺส ‘‘สทิโสหมสฺมี’’ติ, หีนสฺส ‘‘หีโนหมสฺมี’’ติ อุปฺปนฺนมาโนว ยาถาวมาโน, อิตเร ทฺเว อยาถาวมานา. ตตฺถ ยาถาวมานา อรหตฺตมคฺควชฺฌา, อยาถาวมานา โสตาปตฺติมคฺควชฺฌา.

เอตฺถ จ เสยฺยสฺส ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มาโน อุตฺตมสฺส อุตฺตมฏฺเน ‘‘อหํ เสยฺโย’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนมาโน, เสยฺยสฺส ‘‘สทิโสหมสฺมี’’ติ มาโน อุตฺตมสฺส สมฏฺเน ‘‘อหํ สทิโส’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนมาโน. เสยฺยสฺส ‘‘หีโนหมสฺมี’’ติ มาโน อุตฺตมสฺส ลามกฏฺเน ‘‘อหํ หีโน’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนมาโน. เอวํ เสยฺยมาโน สทิสมาโน หีนมาโนติ อิเม ตโย มานา เสยฺยสฺส อุปฺปชฺชนฺติ. สทิสสฺสาปิ อหํ เสยฺโย, สทิโส, หีโนติ ตโย มานา อุปฺปชฺชนฺติ. หีนสฺสาปิ อหํ หีโน, สทิโส, เสยฺโยติ ตโย มานา อุปฺปชฺชนฺติ.

ทสวิธมานนิทฺเทเส อิเธกจฺโจ มานํ ชเนตีติ เอกจฺโจ ปุคฺคโล มานํ ชนยติ. ชาติยา วาติ ขตฺติยภาวาทิชาติสมฺปตฺติยา วา. โคตฺเตน วาติ โคตมโคตฺตาทินา อุกฺกฏฺโคตฺเตน วา. โกลปุตฺติเยน วาติ มหากุลภาเวน วา. วณฺณโปกฺขรตาย วาติ วณฺณสมฺปนฺนสรีรตาย วา. สรีรฺหิ ‘‘โปกฺขร’’นฺติ วุจฺจติ, ตสฺส วณฺณสมฺปตฺติยา อภิรูปภาเวนาติ อตฺโถ. ธเนน วาติ ธนสมฺปนฺนภาเวน วา, มยฺหํ นิธานคตสฺส ธนสฺส ปมาณํ นตฺถีติ อตฺโถ. อชฺเฌเนน วาติ อชฺฌายนวเสน วา. กมฺมายตเนน วาติ ‘‘อวเสสา สตฺตา ฉินฺนปกฺขกากสทิสา, อหํ ปน มหิทฺธิโก มหานุภาโว’’ติ วา, ‘‘อหํ ยํ ยํ กมฺมํ กโรมิ, ตํ ตํ สมิชฺฌตี’’ติ วา เอวมาทินยปฺปวตฺเตน กมฺมายตเนน วา. สิปฺปายตเนน วาติ ‘‘อวเสสา สตฺตา นิสิปฺปา, อหํ สิปฺปวา’’ติ เอวมาทินยปฺปวตฺเตน สิปฺปายตเนน วา. วิชฺชาฏฺาเนน วาติ อิทํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. สุเตน วาติ ‘‘อวเสสา สตฺตา อปฺปสฺสุตา, อหํ ปน พหุสฺสุโต’’ติ เอวมาทิสุเตน วา. ปฏิภาเนน วาติ ‘‘อวเสสา สตฺตา อปฺปฏิภานา, มยฺหํ ปน ปฏิภานปฺปมาณํ นตฺถี’’ติ เอวมาทิปฏิภาเนน วา. อฺตรฺตเรน วา วตฺถุนาติ อวุตฺเตน อฺเน วตฺถุนา วา. โย เอวรูโป มาโนติ มานกรณวเสน มาโน. มฺนา มฺิตตฺตนฺติ อาการภาวนิทฺเทโส. อุสฺสิตฏฺเน อุนฺนติ. ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ ปุคฺคลํ อุนฺนาเมติ อุกฺขิปิตฺวา เปตีติ อุนฺนาโม. สมุสฺสิตฏฺเน ธโช. อุกฺขิปนฏฺเน จิตฺตํ สมฺปคฺคณฺหาตีติ สมฺปคฺคาโห. เกตุ วุจฺจติ พหูสุ ธเชสุ อจฺจุคฺคตธโช. มาโนปิ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชมาโน อปราปเร อุปาทาย อจฺจุคฺคตฏฺเน เกตุ วิยาติ เกตุ, ตํ เกตุํ อิจฺฉตีติ เกตุกมฺยํ, ตสฺส ภาโว เกตุกมฺยตา. สา ปน จิตฺตสฺส, น อตฺตโน. เตน วุตฺตํ ‘‘เกตุกมฺยตา จิตฺตสฺสา’’ติ. มานสมฺปยุตฺตฺหิ จิตฺตํ เกตุํ อิจฺฉติ, ตสฺส ภาโว, เกตุสงฺขาโต มาโนติ. โธโน มายฺจ มานฺจ ปหาย ปชหิตฺวา โย โส โธโน อรหา เหฏฺา วุตฺตนเยน วิโนทนพฺยนฺติกรณาทิวเสน กิเลเส ปชหิตฺวา ิโต, โส เตน ราคาทินา กิเลเสน คจฺเฉยฺย.

เนรยิโกติ วาติ นิรเย นิพฺพตฺตกสตฺโตติ วา. ติรจฺฉานโยนิกาทีสุปิ เอเสว นโย. โส เหตุ นตฺถีติ เยน ชนกเหตุนา คติยาทีสุ นิพฺพตฺเตยฺย, โส เหตุ นตฺถิ. ปจฺจโยติ ตสฺเสว เววจนํ. การณนฺติ านํ. การณฺหิ ตทายตฺตวุตฺติตาย อตฺตโน ผลสฺส านนฺติ วุจฺจติ. ตสฺมา เยน เหตุนา เยน ปจฺจเยน คติยาทีสุ นิพฺพตฺเตยฺย, ตํ การณํ นตฺถิ.

๒๒. โย ปน เนสํ ทฺวินฺนํ อุปยานํ ภาเวน อุปโย โหติ, โส อุปโย หิ…เป… ทิฏฺิมิเธว สพฺพนฺติ. ตตฺถ อุปโยติ ตณฺหาทิฏฺินิสฺสิโต. ธมฺเมสุ อุเปติ วาทนฺติ ‘‘รตฺโต’’ติ วา ‘‘ทุฏฺโ’’ติ วา เอวํ เตสุ เตสุ ธมฺเมสุ อุเปติ วาทํ. อนูปยํ เกน กถํ วเทยฺยาติ ตณฺหาทิฏฺิปฺปหาเนน ปน อนูปยํ ขีณาสวํ เกน ราเคน วา โทเสน วา กถํ ‘‘รตฺโต’’ติ วา ‘‘ทุฏฺโ’’ติ วา วเทยฺย. เอวํ อนุปวชฺโช จ โส กึ ติตฺถิยา วิย กตปฏิจฺฉาทโก ภวิสฺสตีติ อธิปฺปาโย. อตฺตา นิรตฺตา น หิ ตสฺส อตฺถีติ ตสฺส หิ อตฺตทิฏฺิ วา อุจฺเฉททิฏฺิ วา นตฺถิ, คหณมุฺจนํ วาปิ อตฺตนิรตฺตสฺิตํ นตฺถิ. กึ การณา นตฺถีติ เจ? อโธสิ โส ทิฏฺิมิเธว สพฺพนฺติ. ยสฺมา โส อิเธว อตฺตภาเว าณมฺพุนา สพฺพทิฏฺิคตํ อโธสิ ปชหิ วิโนเทสีติ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ. ตํ สุตฺวา ราชา อตฺตมโน ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปกฺกามีติ.

รตฺโตติ วาติ ราเคน รตฺโตติ วา. ทุฏฺโติ วาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เต อภิสงฺขารา อปฺปหีนาติ เย ปุฺาปุฺอาเนฺชาภิสงฺขารา, เต อปฺปหีนา. อภิสงฺขารานํ อปฺปหีนตฺตาติ เตสํ วุตฺตปฺปการานํ กมฺมาภิสงฺขารานํ น ปหีนภาเวน. คติยา วาทํ อุเปตีติ ปฺจนฺนํ คตีนํ อฺตราย กถนํ อุปคจฺฉติ. เตเนวาห – ‘‘เนรยิโกติ วา…เป… วาทํ อุเปติ อุปคจฺฉตี’’ติ. วเทยฺยาติ กเถยฺย. คหิตํ นตฺถีติ คเหตพฺพํ นตฺถิ. มุฺจิตพฺพํ นตฺถีติ มุฺจิตฺวา ิตตฺตา โมเจตพฺพํ นตฺถิ.

ยสฺสตฺถิ คหิตนฺติ ยสฺส ปุคฺคลสฺส ‘‘อหํ มมา’’ติ คหิตํ อตฺถิ. ตสฺสตฺถิ มุฺจิตพฺพนฺติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส โมเจตพฺพํ อตฺถิ. อุปริ ปทานิ ปริวตฺเตตฺวา โยเชตพฺพานิ. คหณํ มุฺจนา สมติกฺกนฺโตติ คหณโมจนา อรหา อติกฺกนฺโต. พุทฺธิปริหานิวีติวตฺโตติ วฑฺฒิฺจ ปริหานิฺจ อติกฺกมิตฺวา ปวตฺโต. โส วุฏฺวาโสติอาทึ กตฺวา าณคฺคินา ทฑฺฒานีติ ปริโยสานํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. อโธสีติ กนฺเตสิ. ธุนิ สนฺธุนิ นิทฺธุนีติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ.

สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย

ทุฏฺฏฺกสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สุทฺธฏฺกสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา

๒๓. จตุตฺเถ สุทฺธฏฺเก ปมคาถาย ตาวตฺโถ – น, ภิกฺขเว, เอวรูเปน ทสฺสเนน สุทฺธิ โหติ, อปิ จ โข กิเลสมลีนตฺตา อสุทฺธํ, กิเลสโรคานํ อธิคมา สโรคเมว จนฺทาภํ พฺราหฺมณํ, อฺํ วา เอวรูปํ ทิสฺวา ทิฏฺิคติโก พาโล อภิชานาติ ‘‘ปสฺสามิ สุทฺธํ ปรมํ อโรคํ, เตน จ ทิฏฺิสงฺขาเตน ทสฺสเนน สํสุทฺธิ นรสฺส โหตี’’ติ, โส เอวํ อภิชานนฺโต ตํ ทสฺสนํ ‘‘ปรม’’นฺติ ตฺวา ตสฺมึ ทสฺสเน สุทฺธานุปสฺสี สมาโน ตํ ทสฺสนํ ‘‘มคฺคาณ’’นฺติ ปจฺเจติ. ตํ ปน มคฺคาณํ น โหติ.

ปรมํ อาโรคฺยปฺปตฺตนฺติ อุตฺตมํ นิพฺยาธึ ปาปุณิตฺวา ิตํ. ตาณปฺปตฺตนฺติ ตถา ปาลนปฺปตฺตํ. เลณปฺปตฺตนฺติ นิลียนปฺปตฺตํ.สรณปฺปตฺตนฺติ ปติฏฺาปตฺตํ, ทุกฺขนาสนํ วา ปตฺตํ. อภยปฺปตฺตนฺติ นิพฺภยภาวปฺปตฺตํ. อจฺจุตปฺปตฺตนฺติ นิจฺจลภาวํ ปตฺตํ. อมตปฺปตฺตนฺติ อมตํ มหานิพฺพานํ ปตฺตํ. นิพฺพานปฺปตฺตนฺติ วานวิรหิตํ ปตฺตํ.

อภิชานนฺโตติ วิเสเสน ชานนฺโต. อาชานนฺโตติ อาชานมาโน. วิชานนฺโตติ อเนกวิเธน ชานมาโน. ปฏิวิชานนฺโตติ ตํ ตํ ปฏิจฺจ วิชานมาโน. ปฏิวิชฺฌนฺโตติ หทเย กุรุมาโน.

จกฺขุวิฺาณํ รูปทสฺสเนนาติ จกฺขุวิฺาเณน รูปทสฺสนํ. าณนฺติ ปจฺเจตีติ ปฺา อิติ สทฺทหติ. มคฺโคติ ปจฺเจตีติ ‘‘อุปาโย’’ติ สทฺทหติ. ปโถติ สฺจาโร. นียานนฺติ คเหตฺวา ยาตีติ นียานํ. ‘‘นิยฺยาน’’นฺติ วา ปาโ.

๒๔. ‘‘ทิฏฺเน เจ สุทฺธี’’ติ ทุติยคาถา. ตสฺสตฺโถ – เตน รูปทสฺสนสงฺขาเตน ทิฏฺเน ยทิ กิเลสสุทฺธิ นรสฺส โหติ, เตน วา าเณน โส ยทิ ชาติอาทิทุกฺขํ ปชหาติ, เอวํ สนฺเต อริยมคฺคโต อฺเน อสุทฺธิมคฺเคเนว โส สุชฺฌติ, ราคาทีหิ อุปธีหิ สอุปธิโก เอว สมาโน สุชฺฌตีติ วตฺตพฺพตํ อาปนฺโน โหติ, น จ เอวํวิโธ สุชฺฌติ. ตสฺมา ทิฏฺี หิ นํ ปาว ตถา วทานํ, สา นํ ทิฏฺิเยว ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิโก อย’’นฺติ กเถติ, ทิฏฺิอนุรูปํ ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติอาทินา นเยน ตถา ตถา วทตีติ.

ราเคน สห วตฺตตีติ สราโค, ราควาติ อตฺโถ. สโทโสติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

๒๕. น พฺราหฺมโณติ ตติยคาถา. ตสฺสตฺโถ – โย ปน พาหิตปาปตฺตา พฺราหฺมโณ โหติ, โส มคฺเคน อธิคตาสวกฺขโย ขีณาสวพฺราหฺมโณ อริยมคฺคาณโต อฺเน อภิมงฺคลสมฺมตรูปสงฺขาเต ทิฏฺเ, ตถาวิธสทฺทสงฺขาเต สุเต, อวีติกฺกมสงฺขาเต สีเล, หตฺถิวตาทิเภเท วเต, ปถวิอาทิเภเท มุเต จ อุปฺปนฺเนน มิจฺฉาาเณน สุทฺธึ น อาหาติ. เสสมสฺส พฺราหฺมณสฺส วณฺณภณนาย วุตฺตํ. โส หิ เตธาตุกปุฺเ สพฺพสฺมิฺจ ปาเป อนูปลิตฺโต, กสฺมา? ตสฺส ปหีนตฺตา ตสฺส อตฺตทิฏฺิยา, ยสฺส กสฺสจิ วา คหณสฺส ปหีนตฺตา อตฺตฺชโห, ปุฺาภิสงฺขาราทีนํ อกรณโต ‘‘นยิธ ปกุพฺพมาโน’’ติ วุจฺจติ. ตสฺมา นํ เอวํ ปสํสนฺโต อาห. สพฺพสฺเสว จสฺส ปุริมปาเทน สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ – ปุฺเ จ ปาเป จ อนูปลิตฺโต อตฺตฺชโห นยิธ ปกุพฺพมาโน น พฺราหฺมโณ อฺโต สุทฺธิมาหาติ. นาติ ปฏิกฺเขโปติ น อิติ ปฏิเสโธ.

พาหิตฺวา สพฺพปาปกานีติ คาถายตฺโถ – โย จตุตฺถมคฺเคน พาหิตฺวา สพฺพปาปกานิ ิตตฺโต ิโตอิจฺเจว วุตฺตํ โหติ. พาหิตปาปตฺตา เอว จ วิมโล วิมลภาวํ พฺรหฺมภาวํ เสฏฺภาวํ ปตฺโต, ปฏินิสฺสฏฺสมาธิวิกฺเขปกรกิเลสมเลน อคฺคมคฺคผลสมาธินา สาธุสมาหิโต, สํสารเหตุสมติกฺกเมน สํสารมติจฺจ ปรินิฏฺิตกิจฺจตาย เกวลีติ จ, ตณฺหาทิฏฺีหิ อนิสฺสิตตฺตา อนิสฺสิโตติ จ, โลกธมฺเมหิ นิพฺพิการตฺตา ตาทีติ จ ปวุจฺจติ. เอวํ ถุติรโห ส พฺรหฺมา โส พฺราหฺมโณติ.

อฺตฺร สติปฏฺาเนหีติ จตฺตาโร สติปฏฺาเน มุฺจิตฺวา. สมฺมปฺปธานาทีสุปิ เอเสว นโย.

สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณาติ เอกจฺเจ โลกสงฺเกเตน ‘‘สมณพฺราหฺมณา’’ติ ลทฺธโวหารา สํวิชฺชนฺติ. ทิฏฺสุทฺธิกาติ ทิฏฺเน สุทฺธึ อิจฺฉมานา. เต เอกจฺจานํ รูปานํ ทสฺสนนฺติ เอเต ทิฏฺสุทฺธิกา เอเตสํ รูปารมฺมณานํ โอโลกนํ. มงฺคลํ ปจฺเจนฺตีติ อิทฺธิการณํ พุทฺธิการณํ สพฺพสมฺปตฺติการณํ ปติฏฺาเปนฺติ. อมงฺคลํ ปจฺเจนฺตีติ อนิทฺธิการณํ น พุทฺธิการณํ น สมฺปตฺติการณํ ปติฏฺาเปนฺติ. เต กาลโต วุฏฺหิตฺวาติ เอเต ทิฏฺาทิมงฺคลิกา ปุเรตรเมว อุฏฺหิตฺวา. อภิมงฺคลคตานีติ วิเสเสน วุฑฺฒิการณคตานิ. รูปานิ ปสฺสนฺตีติ นานาวิธานิ รูปารมฺมณานิ ทกฺขนฺติ. จาฏกสกุณนฺติ เอวํนามกํ. ผุสฺสเวฬุวลฏฺินฺติ ผุสฺสนกฺขตฺเตน อุปฺปนฺนํ ตรุณเพฬุวลฏฺึ. คพฺภินิตฺถินฺติ สคพฺภํ อิตฺถึ. กุมารกํ ขนฺเธ อาโรเปตฺวา คจฺฉนฺตนฺติ ตรุณทารกํ อํเส อุสฺสาเปตฺวา คจฺฉมานํ. ปุณฺณฆฏนฺติ อุทกปุณฺณฆฏํ. โรหิตมจฺฉนฺติ รตฺตโรหิตมจฺฉํ. อาชฺรถนฺติ สินฺธวยุตฺตรถํ. อุสภนฺติ มงฺคลอุสภํ. โคกปิลนฺติ กปิลคาวึ.

ปลาลปุฺชนฺติ ถุสราสึ. ตกฺกฆฏนฺติ โคตกฺกาทิปูริตจาฏึ. ริตฺตฆฏนฺติ ตุจฺฉฆฏํ. นฏนฺติ นฏกาทึ. ‘‘ธุตฺตกิริย’’นฺติ เอเก. นคฺคสมณกนฺติ นิจฺโจฬสมณํ. ขรนฺติ คทฺรภํ. ขรยานนฺติ คทฺรภยุตฺตํ วยฺหาทิกํ. เอกยุตฺตยานนฺติ เอเกน วาหเนน สํยุตฺตํ ยานํ. กาณนฺติ เอกกฺขิอุภยกฺขิกาณํ. กุณินฺติ หตฺถกุณึ. ขฺชนฺติ ขฺชปาทํ ติริยคตปาทํ. ปกฺขหตนฺติ ปีสปฺปึ. ชิณฺณกนฺติ ชราชิณฺณํ. พฺยาธิกนฺติ พฺยาธิปีฬิตํ. มตนฺติ กาลงฺกตํ.

สุตสุทฺธิกาติ โสตวิฺาเณน สุเตน สุทฺธึ อิจฺฉมานา. สทฺทานํ สวนนฺติ สทฺทารมฺมณานํ สวนํ. วฑฺฒาติ วาติอาทโย โลเก ปวตฺตสทฺทมตฺตานิ คเหตฺวา วุตฺตา. อมงฺคลํ ปน ‘‘กาโณ’’ติอาทินา เตน เตน นาเมน วุตฺตสทฺทาเยว. ‘‘ฉินฺท’’นฺติ วาติ หตฺถปาทาทิจฺฉินฺนนฺติ วา. ‘‘ภินฺท’’นฺติ วาติ สีสาทิภินฺนนฺติ วา. ‘‘ทฑฺฒ’’นฺติ วาติ อคฺคินา ฌาปิตนฺติ วา. ‘‘นฏฺ’’นฺติ วาติ โจราทีหิ วินาสิตนฺติ วา. ‘‘นตฺถี’’ติ วาติ น วิชฺชตีติ วา.

สีลสุทฺธิกาติ สีเลน วิสุทฺธึ อิจฺฉนกา. สีลมตฺเตนาติ สํวรณมตฺเตน. สํยมมตฺเตนาติ อุปรมมตฺเตน. สํวรมตฺเตนาติ ทฺวารถกนมตฺเตน. อวีติกฺกมมตฺเตนาติ น อติกฺกมิตมตฺเตน. สมโณ มุณฺฑิกาปุตฺโตติ มาติโต ลทฺธนามํ. สมฺปนฺนกุสลนฺติ ปริปุณฺณกุสลํ. ปรมกุสลนฺติ อุตฺตมกุสลํ. อุตฺตมปตฺติปฺปตฺตนฺติ อุตฺตมํ อรหตฺตํ ปาปุณิตพฺพตํ ปตฺวา ิตํ. อโยชฺชนฺติ ปราเชตุํ อสกฺกุเณยฺยํ สมณํ.

วตสุทฺธิกาติ สมาทาเนน วเตน สุทฺธึ อิจฺฉนกา. หตฺถิวติกา วาติ สมาทินฺนํ หตฺถิวตํ เอเตสํ อตฺถีติ หตฺถิวติกา, สพฺพหตฺถิกิริยํ กโรนฺตีติ อตฺโถ. กถํ? ‘‘อชฺช ปฏฺาย หตฺถีหิ กาตพฺพํ กริสฺสามี’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนจิตฺตา หตฺถีนํ คมนาการํ ติฏฺนาการํ นิสีทนาการํ สยนาการํ อุจฺจารปสฺสาวกรณาการํ, อฺเ หตฺถี ทิสฺวา โสณฺฑํ อุสฺสาเปตฺวา คมนาการฺจ สพฺพํ กโรนฺตีติ หตฺถิวติกา. อสฺสวติกาทีสุปิ ลพฺภมานวเสน ยถาโยคํ โยเชตพฺพํ. เตสุ อวสาเน ทิสาวติกา วาติ ปุรตฺถิมาทิทิสานํ นมสฺสนวเสน สมาทินฺนทิสาวติกา, เอเตสํ วุตฺตปฺปการานํ สมณพฺราหฺมณานํ วตสมาทานํ สมฺปชฺชมานํ หตฺถิอาทีนํ สหพฺยตํ อุปเนติ. สเจ โข ปนสฺส มิจฺฉาทิฏฺิ โหติ ‘‘อิมินาหํ สีลวตสมาทานพฺรหฺมจริเยน เทโว วา เทวฺตโร วา โหมี’’ติ จินฺตยนฺตสฺส นิรยติรจฺฉานโยนีนํ อฺตโร โหตีติ าตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา (ม. นิ. ๒.๗๙) –

‘‘อิธ, ปุณฺณ, เอกจฺโจ กุกฺกุรวตํ ภาเวติ ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ, กุกฺกุรสีลํ ภาเวติ ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ, กุกฺกุรจิตฺตํ ภาเวติ ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ, กุกฺกุรากปฺปํ ภาเวติ ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ. โส กุกฺกุรวตํ ภาเวตฺวา ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ, กุกฺกุรสีลํ ภาเวตฺวา ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ, กุกฺกุรจิตฺตํ ภาเวตฺวา ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ, กุกฺกุรากปฺปํ ภาเวตฺวา ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา กุกฺกุรานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. สเจ โข ปนสฺส เอวํทิฏฺิ โหติ ‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร วา’ติ, สาสฺส โหติ มิจฺฉาทิฏฺิ. มิจฺฉาทิฏฺิสฺส โข อหํ, ปุณฺณ, ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรํ คตึ วทามิ นิรยํ วา ติรจฺฉานโยนึ วา. อิติ โข, ปุณฺณ, สมฺปชฺชมานํ กุกฺกุรวตํ กุกฺกุรานํ สหพฺยตํ อุปเนติ, วิปชฺชมานํ นิรย’’นฺติ.

คนฺธพฺพวติกาทโย คนฺธพฺพาทีนํ สหพฺยตํ อุปคจฺฉนฺตีติ อตฺโถ น คเหตพฺโพ, มิจฺฉาทิฏฺิยา คหิตตฺตา นิรยติรจฺฉานโยนิเมว อุปคจฺฉนฺตีติ คเหตพฺโพ.

มุตสุทฺธิกาติ ผุสิเตน สุทฺธิกา. ปถวึ อามสนฺตีติ สสมฺภาริกํ มหาปถวึ กาเยน ผุสนฺติ. หริตนฺติ อลฺลนีลสทฺทลํ. โคมยนฺติ ควาทิโคมยํ. กจฺฉปนฺติ อฏฺิกจฺฉปาทิอเนกวิธํ. ผาลํ อกฺกมนฺตีติ อยผาลํ มทฺทนฺติ. ติลวาหนฺติ ติลสกฏํ ติลราสึ วา. ผุสฺสติลํ ขาทนฺตีติ มงฺคลปฏิสํยุตฺตํ ติลํ ขาทนฺติ. ผุสฺสเตลํ มกฺเขนฺตีติ ตถารูปํ ติลเตลํ สรีรพฺภฺชนํ กโรนฺติ. ทนฺตกฏฺนฺติ ทนฺตโปณํ. มตฺติกาย นฺหายนฺตีติ กุงฺกุฏฺาทิกาย สณฺหมตฺติกาย สรีรํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา นฺหายนฺติ. สาฏกํ นิวาเสนฺตีติ มงฺคลปฏิสํยุตฺตํ วตฺถํ ปริทหนฺติ. เวนํ เวเนฺตีติ สีสเวนํ ปตฺตุณฺณาทิปฏํ สีเส เปนฺติ ปฏิมุจฺจนฺติ.

เตธาตุกํ กุสลาภิสงฺขารนฺติ กามธาตุรูปธาตุอรูปธาตูสุ ปฏิสนฺธิทายกํ โกสลฺลสมฺภูตํ ปจฺจยาภิสงฺขารํ. สพฺพํ อกุสลนฺติ ทฺวาทสวิธํ อโกสลฺลสมฺภูตํ อกุสลํ. ยโตติ ยทา. เต ทสวิโธ ปุฺาภิสงฺขาโร จ, ทฺวาทสวิโธ อปุฺาภิสงฺขาโร จ, จตุพฺพิโธ อาเนฺชาภิสงฺขาโร จ ยถานุรูปํ สมุจฺเฉทปฺปหาเนน ปหีนา โหนฺติ. อตฺตทิฏฺิชโหติ ‘‘เอโส เม อตฺตา’’ติ คหิตทิฏฺึ ชโห. คาหํ ชโหติ ‘‘เอโสหมสฺมี’’ติ มานสมฺปยุตฺตคหณํ ชโห. ปุน อตฺตฺชโหติ ‘‘เอตํ มมา’’ติ ตณฺหาคหณวเสน จ ทิฏฺิคหณวเสน จ ปรามสิตฺวา คหิตํ, ปรโต อามฏฺฺจ, ตสฺมึ อภินิวิฏฺฺจ, พลวตณฺหาวเสน คิลิตฺวา อชฺโฌสิตฺจ, พลวมุจฺฉิตฺจ. สพฺพํ ตํ จตฺตํ โหตีติอาทโย วุตฺตนยาเยว.

๒๖. เอวํ ‘‘น พฺราหฺมโณ อฺโต สุทฺธิมาหา’’ติ วตฺวา อิทานิ เย ทิฏฺิคติกา อฺโต สุทฺธึ พฺรุวนฺติ, เตสํ ตสฺสา ทิฏฺิยา อนิพฺพาหกภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปุริมํ ปหายา’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – เตหิ อฺโต สุทฺธิวาทา สมานาปิ ยสฺสา ทิฏฺิยา อปฺปหีนตฺตา คหณมุฺจนํ โหติ, ตาย ปุริมํ สตฺถาราทึ ปหาย อปรํ นิสฺสิตา, เอชาสงฺขาตาย ตณฺหาย อนุคตา อภิภูตา ราคาทิเภทํ น ตรนฺติ สงฺคํ, ตฺจ อตรนฺตา ตํ ตํ ธมฺมํ อุคฺคณฺหนฺติ จ นิรสฺสชนฺติ จ มกฺกโฏว สาขนฺติ.

ปุริมํ สตฺถารํ ปหายาติ ปุริมคหิตํ สตฺถุปฏิฺํ วชฺเชตฺวา. ปรํ สตฺถารํ นิสฺสิตาติ อฺํ สตฺถุปฏิฺํ นิสฺสิตา อลฺลีนา. ปุริมํ ธมฺมกฺขานํ ปหายาติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

เอชานุคาติ ตณฺหาย อนุคา. เอชานุคตาติ ตณฺหาย อนุคตา. เอชานุสฏาติ ตณฺหาย อนุสฏา ปกฺขนฺทา วา. เอชาย ปนฺนา ปติตาติ ตณฺหาย นิมุคฺคา จ นิกฺขิปิตา จ.

มกฺกโฏติ วานโร. อรฺเติ วิปิเน. ปวเนติ มหาวเน. จรมาโนติ คจฺฉมาโน. เอวเมวาติ โอปมฺมสํสนฺทนํ. ปุถูติ นานา. ปุถุทิฏฺิคตานีติ นานาวิธานิ ทิฏฺิคตานิ. คณฺหนฺติ จ มุฺจนฺติ จาติ คหณวเสน คณฺหนฺติ จ จชนวเสน มุฺจนฺติ จ. อาทิยนฺติ จ นิรสฺสชนฺติ จาติ ปลิโพธํ กโรนฺติ จ วิสฺสชฺเชนฺติ จ ขิปนฺติ จ.

๒๗. ปฺจมคาถาย จ สมฺพนฺโธ – โย จ โส ‘‘ทิฏฺี หิ นํ ปาว ตถา วทาน’’นฺติ วุตฺโต, โส สยํ สมาทายาติ. ตตฺถ สยนฺติ สามํ. สมาทายาติ คเหตฺวา. วตานีติ หตฺถิวตาทีนิ. อุจฺจาวจนฺติ อปราปรํ, หีนปณีตํ วา สตฺถารโต สตฺถาราทึ. สฺสตฺโตติ กามสฺาทีสุ ลคฺโค. วิทฺวา จ เวเทหิ สเมจฺจ ธมฺมนฺติ ปรมตฺถวิทฺวา จ อรหา จตูหิ มคฺคาณเวเทหิ จตุสจฺจธมฺมํ อภิสเมจฺจาติ. เสสํ ปากฏเมว.

สามํ สมาทายาติ สยเมว คเหตฺวา. อาทายาติ อาทิยิตฺวา คณฺหิตฺวา. สมาทายาติ สมฺมา อาทาย. อาทิยิตฺวาติ ปลิโพธํ กตฺวา. สมาทิยิตฺวาติ สมฺมา ปลิโพธํ กตฺวา. คณฺหิตฺวาติ อวิสฺสชฺเชตฺวา. ปรามสิตฺวาติ ทสฺสิตฺวา. อภินิวิสิตฺวาติ ปติฏฺหิตฺวา. กามสฺาทโย วุตฺตนยา เอว.

วิทฺวาติ เมธาวี. วิชฺชาคโตติ วิชานนภาวํ คโต. าณีติ ปฺาสมฺปนฺโน. วิภาวีติ าเณน วีมํสโก. เมธาวีติ อนิจฺจาทีหิ ตุลิตาโณ. ปฺาติอาทโย เหฏฺา วุตฺตนยาเยว. จตุสจฺจธมฺมํ วิจินาตีติ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค. โพชฺฌงฺคตฺโถ เหฏฺา วุตฺโตว. วีมํสาติ จตุสจฺจธมฺมวิจินนา ปฺาว. ‘‘วีมํสา ธมฺมจินฺตนา’’ติ หิ วุตฺตา. วิปสฺสนาติ มคฺคสมฺปยุตฺตา วิวิธากาเรน ปสฺสนา ปฺาว. สมฺมาทิฏฺีติ โสภนา ปสฏฺา สุนฺทรา มคฺคสมฺปยุตฺตา สมฺมาทิฏฺิ. เตหิ เวเทหีติ เอเตเหว จตูหิ มคฺคาเณหิ. อนฺตคโตติ ชาติชรามรณสฺส ปริโยสานํ คโต. โกฏิคโตติอาทโย เหฏฺา วุตฺตนยาว. เวทานํ วา อนฺตคโตติ ชานิตพฺพานํ อวสานปฺปตฺโต. เวเทหิ วา อนฺตคโตติ จตูหิ มคฺคาณเวเทหิ วฏฺฏทุกฺขสฺส ปริยนฺตภาเวน อนฺตสงฺขาตํ นิพฺพานํ คโต. วิทิตตฺตาติ วิทิตภาเวน ชานิตภาเวน.

เวทานิ วิเจยฺย เกวลานีติ คาถาย อยมตฺโถ – โย จตูหิ มคฺคาณเวเทหิ กิเลสกฺขยํ กโรนฺโต คโต, โส ปรมตฺถโต เวทคู นาม โหติ. โสว สพฺพสมณพฺราหฺมณานํ สตฺถสฺิตานิ เวทานิ ตาเยว มคฺคภาวนาย กิจฺจโต อนิจฺจาทิวเสน วิเจยฺย. ตตฺถ ฉนฺทราคปฺปหาเนน ตเมว สพฺพํ เวทมติจฺจ ยาปิ เวทปจฺจยา, อฺถา วา อุปฺปชฺชนฺติ เวทนา, ตาสุ สพฺพเวทนาสุ วีตราโค โหติ. ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กึ ปตฺตินมาหุ เวทคุ’’นฺติ (สุ. นิ. ๕๓๓) ปุฏฺโ ‘‘อิทํ ปตฺติน’’นฺติ อวตฺวา ‘‘เวทานิ วิเจยฺย…เป… เวทคู โส’’ติ อาห. ยสฺมา วา โย ปวิจยปฺาย เวทานิ วิเจยฺย, ตตฺถ ฉนฺทราคปฺปหาเนน สพฺพํ เวทมติจฺจ วตฺตติ. โส สตฺถสฺิตานิ เวทานิ คโต าโต อติกฺกนฺโตว โหติ. โย เวทนาสุ วีตราโค, โสปิ เวทนาสฺิตานิ เวทานิ คโต อติกฺกนฺโต, อติเวทนํ คโตติปิ เวทคู. ตสฺมา ตมฺปิ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทํ ปตฺติน’’นฺติ อวตฺวา ‘‘เวทานิ วิเจยฺย…เป… เวทคู โส’’ติ อาห.

สเมจฺจาติ าเณน สมาคนฺตฺวา. อภิสเมจฺจาติ าเณน ปฏิวิชฺฌิตฺวา. ธมฺมนฺติ จตุสจฺจธมฺมํ. สพฺเพ สงฺขาราติ สพฺเพ สปฺปจฺจยา ธมฺมา. เต หิ สงฺขตสงฺขารา นาม. ปจฺจเยหิ สงฺคมฺม กรียนฺตีติ สงฺขารา, เต เอวํ ปจฺจเยหิ สงฺคมฺม กตตฺตา ‘‘สงฺขตา’’ติ วิเสเสตฺวา วุตฺตา. ‘‘กมฺมนิพฺพตฺตา เตภูมกรูปารูปธมฺมา อภิสงฺขตสงฺขารา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๕๘๗) อฏฺกถาสุ วุตฺตา. เตปิ ‘‘อนิจฺจา วต สงฺขารา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๒๒๑, ๒๗๒; สํ. นิ. ๑.๑๘๖) สงฺขตสงฺขาเรสุ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ‘‘อวิชฺชาคโตยํ, ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคโล ปุฺฺเจ สงฺขารํ อภิสงฺขโรตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๕๑) อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราว อาคตา. เตภูมิกกุสลากุสลเจตนา อภิสงฺขรณกสงฺขารา นาม. ‘‘ยาวติกา อภิสงฺขารสฺส คติ, ตาวติกํ คนฺตฺวา อกฺขาหตํ มฺเ อฏฺาสี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๑๕) อาคตํ กายิกเจตสิกวีริยํ ปโยคาภิสงฺขาโร นาม. ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺนสฺส โข, อาวุโส วิสาข, ภิกฺขุโน ปมํ นิรุชฺฌติ วจีสงฺขาโร, ตโต กายสงฺขาโร, ตโต จิตฺตสงฺขาโร’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๔๖๔) อาคตา วิตกฺกวิจารา วาจํ สงฺขโรนฺตีติ วจีสงฺขารา, อสฺสาสปสฺสาสา กาเยน สงฺขรียนฺตีติ กายสงฺขารา, สฺา จ เวทนา จ จิตฺเตน สงฺขรียนฺตีติ จิตฺตสงฺขารา. อิธ ปน สงฺขตสงฺขารา อธิปฺเปตา. อนิจฺจา หุตฺวา อภาวฏฺเน. ทุกฺขา ปฏิปีฬนฏฺเน. สพฺเพ ธมฺมาติ นิพฺพานมฺปิ อนฺโตกตฺวา วุตฺตา. อนตฺตา อวสวตฺตนฏฺเน. อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ เอตฺถ ยํ ปฏิจฺจ ผลเมติ, โส ปจฺจโย. ปฏิจฺจาติ น วินา, อปจฺจกฺขิตฺวาติ อตฺโถ. เอตีติ อุปฺปชฺชติ เจว ปวตฺตติ จาติ อตฺโถ. อปิจ อุปการกฏฺโ ปจฺจยฏฺโ. อวิชฺชา จ สา ปจฺจโย จาติ อวิชฺชาปจฺจโย, ตสฺมา อวิชฺชาปจฺจยา. สงฺขารา สมฺภวนฺตีติ นิพฺพตฺตนฺติ, เอวํ สมฺภวนฺติสทฺทสฺส เสสปเทหิปิ โยชนา กาตพฺพา.

ตตฺถ กตมา อวิชฺชา? ทุกฺเข อฺาณํ, ทุกฺขสมุทเย อฺาณํ, ทุกฺขนิโรเธ อฺาณํ, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย อฺาณํ, ปุพฺพนฺเต อฺาณํ, อปรนฺเต อฺาณํ, ปุพฺพนฺตาปรนฺเต อฺาณํ, อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ อฺาณํ. กตเม สงฺขารา? ปุฺาภิสงฺขาโร อปุฺาภิสงฺขาโร อาเนฺชาภิสงฺขาโร, กายสงฺขาโร วจีสงฺขาโร จิตฺตสงฺขาโร, อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา, ปฺจ รูปาวจรกุสลเจตนา ปุฺาภิสงฺขาโร, ทฺวาทส อกุสลเจตนา อปุฺาภิสงฺขาโร, จตสฺโส อรูปาวจรกุสลเจตนา อาเนฺชาภิสงฺขาโร, กายสฺเจตนา กายสงฺขาโร, วจีสฺเจตนา วจีสงฺขาโร, มโนสฺเจตนา จิตฺตสงฺขาโร.

ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘อิเม สงฺขารา อวิชฺชาปจฺจยา โหนฺตี’’ติ? อวิชฺชาภาเว ภาวโต. ยสฺส หิ ทุกฺขาทีสุ อวิชฺชาสงฺขาตํ อฺาณํ อปฺปหีนํ โหติ, โส ทุกฺเข ตาว ปุพฺพนฺตาทีสุ จ อฺาเณน สํสารทุกฺขํ สุขสฺาย คเหตฺวา ตสฺเสว เหตุภูเต ติวิเธปิ สงฺขาเร อารภติ. สมุทเย อฺาเณน ทุกฺขเหตุภูเตปิ ตณฺหาปริกฺขาเร สงฺขาเร สุขเหตุโต มฺมาโน อารภติ. นิโรเธ ปน มคฺเค จ อฺาเณน ทุกฺขสฺส อนิโรธภูเตปิ คติวิเสเส ทุกฺขนิโรธสฺี หุตฺวา นิโรธสฺส จ อมคฺคภูเตสุปิ ยฺามรตปาทีสุ นิโรธมคฺคสฺี หุตฺวา ทุกฺขนิโรธํ ปตฺถยมาโน ยฺามรตปาทิมุเขน ติวิเธปิ สงฺขาเร อารภติ.

อปิ จ โส ตาย จตูสุ สจฺเจสุ อปฺปหีนาวิชฺชตาย วิเสสโต ชาติชราโรคมรณาทิอเนกาทีนวโวกิณฺณมฺปิ ปุฺผลสงฺขาตํ ทุกฺขํ ทุกฺขโต อชานนฺโต ตสฺส อธิคมาย กายวจีจิตฺตสงฺขารเภทํ ปุฺาภิสงฺขารํ อารภติ เทวจฺฉรกามโก วิย มรุปฺปปาตํ. สุขสมฺมตสฺสาปิ จ ตสฺส ปุฺผลสฺส อนฺเต มหาปริฬาหชนิกํ วิปริณามทุกฺขตํ อปฺปสฺสาทตฺจ อปสฺสนฺโตปิ ตปฺปจฺจยํ วุตฺตปฺปการเมว ปุฺาภิสงฺขารํ อารภติ สลโภ วิย ทีปสิขาภินิปาตํ, มธุพินฺทุคิทฺโธ วิย จ มธุลิตฺตสตฺถธาราเลหนํ.

กามุปเสวนาทีสุ จ สวิปาเกสุ อาทีนวํ อปสฺสนฺโต สุขสฺาย เจว กิเลสาภิภูตตาย จ ทฺวารตฺตยปฺปวตฺตมฺปิ อปุฺาภิสงฺขารํ อารภติ พาโล วิย คูถกีฬนํ, มริตุกาโม วิย จ วิสขาทนํ. อารุปฺปวิปาเกสุ จาปิ สงฺขารวิปริณามทุกฺขตํ อนวพุชฺฌมาโน สสฺสตาทิวิปลฺลาเสน จิตฺตสงฺขารภูตํ อาเนฺชาภิสงฺขารํ อารภติ ทิสามูฬฺโห วิย ปิสาจนคราภิมุขมคฺคคมนํ. เอวํ ยสฺมา อวิชฺชาภาวโตว สงฺขารภาโว, น อภาวโต. ตสฺมา ชานิตพฺพเมตํ ‘‘อิเม สงฺขารา อวิชฺชาปจฺจยา โหนฺตี’’ติ.

เอตฺถาห – คณฺหาม ตาว เอตํ ‘‘อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโย’’ติ, กึ ปนายเมกาว อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโย, อุทาหุ อฺเปิ ปจฺจยา สนฺตีติ? กึ ปเนตฺถ ยทิ ตาว เอกาว, เอกการณวาโท อาปชฺชติ. อถ อฺเปิ สนฺติ, ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ เอกการณนิทฺเทโส นุปปชฺชตีติ? น นุปปชฺชติ. กสฺมา? ยสฺมา –

‘‘เอกํ น เอกโต อิธ, นาเนกมเนกโตปิ โน เอกํ;

ผลมตฺถิ อตฺถิ ปน เอก-เหตุผลทีปเน อตฺโถ’’. (วิภ. อฏฺ. ๒๒๖, สงฺขารปทนิทฺเทส; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๑.๑.๑๐๕; วิสุทฺธิ. ๒.๖๑๗);

ภควา หิ กตฺถจิ ปธานตฺตา, กตฺถจิ ปากฏตฺตา, กตฺถจิ อสาธารณตฺตา เทสนาวิลาสสฺส จ เวเนยฺยานฺจ อนุรูปโต เอกเมว เหตุํ วา ผลํ วา ทีเปติ. ตสฺมา อยมิธ อวิชฺชา วิชฺชมาเนสุปิ อฺเสุ วตฺถารมฺมณสหชาตธมฺมาทีสุ สงฺขารการเณสุ ‘‘อสฺสาทานุปสฺสิโน ตณฺหา ปวฑฺฒตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๕๒) จ, ‘‘อวิชฺชาสมุทยา อาสวสมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๔) จ วจนโต อฺเสมฺปิ ตณฺหาทีนํ สงฺขารเหตูนํ เหตูติ ปธานตฺตา, ‘‘อวิทฺวา, ภิกฺขเว, อวิชฺชาคโต ปุฺาภิสงฺขารมฺปิ อภิสงฺขโรตี’’ติ ปากฏตฺตา, อสาธารณตฺตา จ สงฺขารานํ เหตุภาเวน ทีปิตาติ เวทิตพฺพา. เอเตเนว จ เอเกกเหตุผลทีปนปริหารวจเนน สพฺพตฺถ เอเกกเหตุผลทีปเน ปโยชนํ เวทิตพฺพนฺติ.

เอตฺถาห – เอวํ สนฺเตปิ เอกนฺตานิฏฺผลาย สาวชฺชาย อวิชฺชาย กถํ ปุฺาเนฺชาภิสงฺขารปจฺจยตฺตํ ยุชฺชติ? น หิ นิมฺพพีชโต อุจฺฉุ อุปฺปชฺชตีติ. กถํ น ยุชฺชิสฺสติ? โลกสฺมิฺหิ –

‘‘วิรุทฺโธ จา วิรุทฺโธ จ, สทิสาสทิโส ตถา;

ธมฺมานํ ปจฺจโย สิทฺโธ, วิปากา เอว เต จ น’’.

อิติ อยํ อวิชฺชา วิปากวเสน เอกนฺตานิฏฺผลา, สภาววเสน จ สาวชฺชาปิ สมานา สพฺเพสมฺปิ เอเตสํ ปุฺาภิสงฺขาราทีนํ ยถานุรูปํ านกิจฺจสภาววิรุทฺธาวิรุทฺธปจฺจยวเสน, สทิสาสทิสปจฺจยวเสน จ ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพา. อปิ จ อยํ อฺโปิ ปริยาโย –

‘‘จุตูปปาเต สํสาเร, สงฺขารานฺจ ลกฺขเณ;

โย ปฏิจฺจสมุปฺปนฺน-ธมฺเมสุ จ วิมุยฺหติ.

‘‘อภิสงฺขโรติ โส เอเต, สงฺขาเร ติวิเธ ยโต;

อวิชฺชา ปจฺจโย เตสํ, ติวิธานมฺปยํ ตโต.

‘‘ยถาปิ นาม ชจฺจนฺโธ, นโร อปริณายโก;

เอกทา ยาติ มคฺเคน, อุมฺมคฺเคนาปิ เอกทา.

‘‘สํสาเร สํสรํ พาโล, ตถา อปริณายโก;

กโรติ เอกทา ปุฺํ, อปุฺมปิ เอกทา.

‘‘ยทา จ ตฺวา โส ธมฺมํ, สจฺจานิ อภิสเมสฺสติ;

ตทา อวิชฺชูปสมา, อุปสนฺโต จริสฺสตี’’ติ.

สงฺขารปจฺจยา วิฺาณนฺติ ฉวิฺาณกายา จกฺขุวิฺาณํ โสตวิฺาณํ ฆานวิฺาณํ ชิวฺหาวิฺาณํ กายวิฺาณํ มโนวิฺาณํ. ตตฺถ จกฺขุวิฺาณํ กุสลวิปากํ อกุสลวิปากนฺติ ทุวิธํ. ตถา โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณานิ. มโนวิฺาณํ ปน ทฺเว วิปากมโนธาตุโย, ติสฺโส อเหตุกวิปากมโนวิฺาณธาตุโย, อฏฺ สเหตุกวิปากจิตฺตานิ, ปฺจ รูปาวจรวิปากจิตฺตานิ, จตฺตาริ อรูปาวจรวิปากจิตฺตานีติ พาวีสติวิธํ. อิติ สพฺพานิ พาตฺตึสโลกิยวิปากวิฺาณานิ.

ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘อิทํ วุตฺตปฺปการํ วิฺาณํ สงฺขารปจฺจยา โหตี’’ติ? อุปจิตกมฺมาภาเว วิปากาภาวโต. วิปากฺเหตํ, วิปากฺจ น อุปจิตกมฺมาภาเว อุปฺปชฺชติ, ยทิ อุปฺปชฺเชยฺย, สพฺเพสํ สพฺพวิปากานิ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, น จ อุปฺปชฺชนฺตีติ ชานิตพฺพเมตํ ‘‘สงฺขารปจฺจยา อิทํ วิฺาณํ โหตี’’ติ. สพฺพเมว หิ อิทํ ปวตฺติปฏิสนฺธิวเสน ทฺเวธา ปวตฺตติ. ตตฺถ ทฺเว ปฺจวิฺาณานิ, ทฺเว มโนธาตุโย, โสมนสฺสสหคตา อเหตุกมโนวิฺาณธาตูติ อิมานิ เตรส ปฺจโวการภเว ปวตฺติยํเยว ปวตฺตนฺติ. เสสานิ เอกูนวีสติ ตีสุ ภเวสุ ยถานุรูปํ ปวตฺติยมฺปิ ปฏิสนฺธิยมฺปิ ปวตฺตนฺติ.

‘‘ลทฺธปฺปจฺจยมิติ ธมฺม-มตฺตเมตํ ภวนฺตรมุเปติ;

นาสฺส ตโต สงฺกนฺติ, น ตโต เหตุํ วินา โหติ’’.

อิติ เหตํ ลทฺธปฺปจฺจยํ รูปารูปธมฺมมตฺตํ อุปฺปชฺชมานํ ‘‘ภวนฺตรมุเปตี’’ติ วุจฺจติ, น สตฺโต น ชีโว. ตสฺส จ นาปิ อตีตภวโต อิธ สงฺกนฺติ อตฺถิ, นาปิ ตโต เหตุํ วินา อิธ ปาตุภาโว. เอตฺถ จ ปุริมํ จวนโต จุติ, ปจฺฉิมํ ภวนฺตราทิปฏิสนฺธานโต ปฏิสนฺธีติ วุจฺจติ.

เอตฺถาห – นนุ เอวํ อสงฺกนฺติปาตุภาเว สติ เย อิมสฺมึ มนุสฺสตฺตภาเว ขนฺธา, เตสํ นิรุทฺธตฺตา, ผลปจฺจยสฺส จ กมฺมสฺส ตตฺถ อคมนโต, อฺสฺส อฺโต จ ตํ ผลํ สิยา, อุปภุฺชเก จ อสติ กสฺส ตํ ผลํ สิยา, ตสฺมา น สุนฺทรมิทํ วิธานนฺติ? ตตฺริทํ วุจฺจติ –

‘‘สนฺตาเน ยํ ผลํ เอตํ, นาฺสฺส น จ อฺโต;

พีชานํ อภิสงฺขาโร, เอตสฺสตฺถสฺส สาธโก.

‘‘ผลสฺสุปฺปตฺติยา เอว, สิทฺธา ภุฺชกสมฺมุติ;

ผลุปฺปาเทน รุกฺขสฺส, ยถา ผลติ สมฺมุตี’’ติ.

โยปิ วเทยฺย ‘‘เอวํ สนฺเตปิ เอเต สงฺขารา วิชฺชมานา วา ผลสฺส ปจฺจยา สิยุํ, อวิชฺชมานา วา. ยทิ จ วิชฺชมานา, ปวตฺติกฺขเณเยว เนสํ วิปาเกน ภวิตพฺพํ. อถ อวิชฺชมานา, ปวตฺติโต ปุพฺเพ ปจฺฉา จ นิจฺจํ ผลาวหา สิยุ’’นฺติ. โส เอวํ วตฺตพฺโพ –

‘‘กตตฺตา ปจฺจยา เอเต, น จ นิจฺจํ ผลาวหา;

ปาฏิโภคาทิกํ ตตฺถ, เวทิตพฺพํ นิทสฺสน’’นฺติ.

วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ อิธ เวทนาสฺาสงฺขารกฺขนฺธา นามํ, จตฺตาริ มหาภูตานิ จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูปํ รูปํ. อภาวกคพฺภเสยฺยกานํ อณฺฑชานฺจ ปฏิสนฺธิกฺขเณ วตฺถุทสกํ กายทสกนฺติ วีสติ รูปรูปานิ, ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ เอเต เตวีสติ ธมฺมา ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ เวทิตพฺพา. สภาวกานํ ภาวทสกํ ปกฺขิปิตฺวา เตตฺตึส, โอปปาติกสตฺเตสุ พฺรหฺมกายิกาทีนํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ จกฺขุโสตวตฺถุทสกานิ ชีวิตินฺทฺริยนวกฺจาติ เอกูนจตฺตาลีส รูปรูปานิ, ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ เอเต พาจตฺตาลีส ธมฺมา ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ เวทิตพฺพา. กามภเว ปน เสสโอปปาติกานํ, สํเสทชานํ วา สภาวกปริปุณฺณายตนานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายวตฺถุภาวทสกานีติ สตฺตติ รูปรูปานิ, ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ เอเต เตสตฺตติ ธมฺมา ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ เวทิตพฺพา. เอส อุกฺกํโส, อวกํเสน ปน ตํตํทสกวิกลานํ ตสฺส ตสฺส วเสน หาเปตฺวา หาเปตฺวา ปฏิสนฺธิยํ วิฺาณปจฺจยา นามรูปสงฺขา เวทิตพฺพา. อรูปีนํ ปน ตโยว อรูปิโน ขนฺธา. อสฺีนํ รูปโต ชีวิตินฺทฺริยนวกเมวาติ. เอส ตาว ปฏิสนฺธิยํ นโย.

ปวตฺเต ปน สพฺพตฺถ รูปปวตฺติเทเส ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส ิติกฺขเณ ปฏิสนฺธิจิตฺเตน สห ปวตฺตอุตุโต อุตุสมุฏฺานํ สุทฺธฏฺกํ ปาตุภวติ. ปมภวงฺคโต ปภุติ จิตฺตสมุฏฺานํ สุทฺธฏฺกํ, สทฺทปาตุภาวกาเล อุตุโต เจว จิตฺตโต จ สทฺทนวกํ, กพฬีการาหารูปชีวีนํ อาหารสมุฏฺานํ สุทฺธฏฺกนฺติ เอวํ อาหารสมุฏฺานสฺส, สุทฺธฏฺกสฺส, อุตุจิตฺตสมุฏฺานานฺจ ทฺวินฺนํ นวกานํ วเสน ฉพฺพีสติวิธํ, เอเกกจิตฺเต ติกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชมานํ วุตฺตกมฺมสมุฏฺานฺจ สตฺตติวิธนฺติ ฉนฺนวุติวิธํ รูปํ, ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ นวนวุติธมฺมา ยถาสมฺภวํ ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ เวทิตพฺพา.

ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘ปฏิสนฺธินามรูปํ วิฺาณปจฺจยา โหตี’’ติ? สุตฺตโต ยุตฺติโต จ. สุตฺเต หิ ‘‘จิตฺตานุปริวตฺติโน ธมฺมา’’ติอาทินา (ธ. ส. ทุกมาติกา ๖๒) นเยน พหุธา เวทนาทีนํ วิฺาณปจฺจยตา สิทฺธา. ยุตฺติโต ปน –

‘‘จิตฺตเชน หิ รูเปน, อิธ ทิฏฺเน สิชฺฌติ;

อทิฏฺสฺสาปิ รูปสฺส, วิฺาณํ ปจฺจโย อิตี’’ติ.

นามรูปปจฺจยา สฬายตนนฺติ นามํ วุตฺตเมว. อิธ ปน รูปํ นิยมโต จตฺตาริ มหาภูตานิ, ฉ วตฺถูนิ, ชีวิตินฺทฺริยนฺติ เอกาทสวิธํ. สฬายตนํ ปน จกฺขายตนํ โสตฆานชิวฺหากายมนายตนํ.

ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘นามรูปํ สฬายตนสฺส ปจฺจโย’’ติ? นามรูปภาเว ภาวโต. ตสฺส ตสฺส หิ นามสฺส รูปสฺส จ ภาเว ตํ ตํ อายตนํ โหติ, น อฺถาติ.

สฬายตนปจฺจยา ผสฺโสติ –

‘‘ฉเฬว ผสฺสา สงฺเขปา, จกฺขุสมฺผสฺสอาทโย;

วิฺาณมิว พาตฺตึส, วิตฺถาเรน ภวนฺติ เต’’.

ผสฺสปจฺจยา เวทนาติ –

‘‘ทฺวารโต เวทนา วุตฺตา, จกฺขุสมฺผสฺสชาทิกา;

ฉเฬว ตา ปเภเทน, อิธ พาตฺตึส เวทนา’’.

เวทนาปจฺจยา ตณฺหาติ –

‘‘รูปตณฺหาทิเภเทน, ฉ ตณฺหา อิธ ทีปิตา;

เอเกกา ติวิธา ตตฺถ, ปวตฺตาการโต มตา.

‘‘ทุกฺขี สุขํ ปตฺถยติ, สุขี ภิยฺโยปิ อิจฺฉติ;

อุเปกฺขา ปน สนฺตตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตา.

‘‘ตณฺหาย ปจฺจยา ตสฺมา, โหนฺติ ติสฺโสปิ เวทนา;

เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, อิติ วุตฺตา มเหสินา’’ติ.

ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานนฺติ จตฺตาริ อุปาทานานิ กามุปาทานํ ทิฏฺุปาทานํ สีลพฺพตุปาทานํ อตฺตวาทุปาทานํ. อุปาทานปจฺจยา ภโวติ อิธ กมฺมภโว อธิปฺเปโต, อุปปตฺติภโว ปน ปทุทฺธารวเสน วุตฺโต. ภวปจฺจยา ชาตีติ กมฺมภวปจฺจยา ชาติ ปฏิสนฺธิขนฺธานํ ปาตุภโว.

ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘ภโว ชาติยา ปจฺจโย’’ติ เจ? พาหิรปจฺจยสมตฺเตปิ หีนปณีตตาทิวิเสสทสฺสนโต. พาหิรานฺหิ ชนกชนนิสุกฺกโสณิตาหาราทีนํ ปจฺจยานํ สมตฺเตปิ สตฺตานํ ยมกานมฺปิ สตํ หีนปณีตตาทิวิเสโส ทิสฺสติ. โส จ น อเหตุโก สพฺพทา จ สพฺเพสฺจ อภาวโต, น กมฺมภวโต อฺเหตุโก ตทภินิพฺพตฺตกสตฺตานํ อชฺฌตฺตสนฺตาเน อฺสฺส การณสฺส อภาวโตติ กมฺมภวเหตุโกว. กมฺมฺหิ สตฺตานํ หีนปณีตตาทิวิเสสสฺส เหตุ. เตนาห ภควา – ‘‘กมฺมํ สตฺเต วิภชติ ยทิทํ หีนปณีตตายา’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๘๙). ตสฺมา ชานิตพฺพเมตํ ‘‘ภโว ชาติยา ปจฺจโย’’ติ.

ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติอาทีสุ ยสฺมา อสติ ชาติยา ชรามรณฺเจว โสกาทโย จ ธมฺมา น โหนฺติ, ชาติยา ปน สติ ชรามรณฺเจว ชรามรณสงฺขาตทุกฺขธมฺมผุฏฺสฺส พาลสฺส ชรามรณาทิสมฺพนฺธา วา เตน เตน ทุกฺขธมฺเมน ผุฏฺสฺส อนภิสมฺพนฺธา วา โสกาทโย จ ธมฺมา โหนฺติ. ตสฺมา ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ. สเมจฺจ อภิสเมจฺจ ธมฺมนฺติ าเณน สมาคนฺตฺวา จตุสจฺจธมฺมํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา.

เอวํ ทฺวาทสปทิกํ ปจฺจยาการปฺปวตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิวฏฺฏวเสน อวิชฺชาทีนํ นิโรธทสฺสนตฺถํ ‘‘อวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธติ สเมจฺจ อภิสเมจฺจ ธมฺม’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อวิชฺชานิโรธาติ อวิชฺชาย อนุปฺปาทนิโรธา ปุน อปฺปวตฺตินิโรเธน. สงฺขารนิโรโธติ สงฺขารานํ อนุปฺปาทนิโรโธ โหติ. เอวํ เสสปเทสุปิ. อิทํ ทุกฺขนฺติอาทโย ปุพฺเพ วุตฺตนยา เอว. อิเม ธมฺมา อภิฺเยฺยาติ อิเม เตภูมกา ธมฺมา สภาวลกฺขณาวโพธวเสน โสภนากาเรน, อธิเกน าเณน วา สภาวโต ชานิตพฺพา. ปริฺเยฺยาติ สามฺลกฺขณาวโพธวเสน, กิจฺจสมาปนวเสน จ พฺยาปิตฺวา ชานิตพฺพา. อิเม ธมฺมา ปหาตพฺพาติ อิเม สมุทยปกฺขิกา ธมฺมา เตน เตน คุณงฺเคน ปหาตพฺพา. ภาเวตพฺพาติ วฑฺเฒตพฺพา. สจฺฉิกาตพฺพาติ ปจฺจกฺขํ กาตพฺพา. ทุวิธา สจฺฉิกิริยา ปฏิลาภสจฺฉิกิริยา จ อารมฺมณสจฺฉิกิริยา จ. ฉนฺนํ ผสฺสายตนานนฺติ จกฺขาทีนํ ฉนฺนํ อายตนานํ. สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจาติ อุปฺปาทฺจ นิโรธฺจ.

ภูริปฺโติ ภูริ วิยาติ ภูริ, ตาย ภูริปฺาย สมนฺนาคโต ภูริปฺโ. มหาปฺโติอาทีสุ มหาปฺาทีหิ สมนฺนาคโตติ อตฺโถ.

ตตฺริทํ มหาปฺาทีนํ นานตฺตํ – กตมา มหาปฺา? มหนฺเต อตฺเถ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา. มหนฺเต ธมฺเม…เป… มหนฺตา นิรุตฺติโย… มหนฺตานิ ปฏิภานานิ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา. มหนฺเต สีลกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา. มหนฺเต สมาธิกฺขนฺเธ…เป… ปฺากฺขนฺเธ… วิมุตฺติกฺขนฺเธ… วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา. มหนฺตานิ านาานานิ…เป… มหาวิหารสมาปตฺติโย… มหนฺตานิ อริยสจฺจานิ… มหนฺเต สติปฏฺาเน… สมฺมปฺปธาเน… อิทฺธิปาเท… มหนฺตานิ อินฺทฺริยานิ … พลานิ… โพชฺฌงฺคานิ… มหนฺเต อริยมคฺเค… มหนฺตานิ สามฺผลานิ… มหาอภิฺาโย… มหนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา.

กตมา ปุถุปฺา? ปุถุนานาขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา. ปุถุนานาธาตูสุ…เป… ปุถุนานาอายตเนสุ… ปุถุนานาปฏิจฺจสมุปฺปาเทสุ… ปุถุนานาสุฺตมนุปลพฺเภสุ… ปุถุนานาอตฺเถสุ… ธมฺเมสุ… นิรุตฺตีสุ… ปฏิภาเนสุ… ปุถุนานาสีลกฺขนฺเธสุ… ปุถุนานาสมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธสุ… ปุถุนานาานาาเนสุ… ปุถุนานาวิหารสมาปตฺตีสุ… ปุถุนานาอริยสจฺเจสุ… ปุถุนานาสติปฏฺาเนสุ… สมฺมปฺปธาเนสุ… อิทฺธิปาเทสุ… อินฺทฺริเยสุ… พเลสุ… โพชฺฌงฺเคสุ… ปุถุนานาอริยมคฺเคสุ… สามฺผเลสุ… อภิฺาสุ… ปุถุนานาชนสาธารเณ ธมฺเม สมติกฺกมฺม ปรมตฺเถ นิพฺพาเน าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา.

กตมา หาสปฺา? อิเธกจฺโจ หาสพหุโล เวทพหุโล ตุฏฺิพหุโล ปาโมชฺชพหุโล สีลํ ปริปูเรติ. อินฺทฺริยสํวรํ ปริปูเรติ. โภชเน มตฺตฺุตํ…เป… ชาคริยานุโยคํ… สีลกฺขนฺธํ… สมาธิกฺขนฺธํ… ปฺากฺขนฺธํ… วิมุตฺติกฺขนฺธํ… วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺธํ ปริปูเรตีติ หาสปฺา. หาสพหุโล…เป… ปาโมชฺชพหุโล านาานํ ปฏิวิชฺฌตีติ หาสปฺา. หาสพหุโล วิหารสมาปตฺติโย ปริปูเรตีติ หาสปฺา. หาสพหุโล อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌตีติ หาสปฺา. สติปฏฺาเน ภาเวติ สมฺมปฺปธาเน… อิทฺธิปาเท… อินฺทฺริยานิ… พลานิ… โพชฺฌงฺเค… อริยมคฺคํ ภาเวตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล สามฺผลานิ สจฺฉิกโรตีติ หาสปฺา, อภิฺาโย ปฏิวิชฺฌตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตีติ หาสปฺา.

กตมา ชวนปฺา? ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ รูปํ อนิจฺจโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. ทุกฺขโต, อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. ยา กาจิ เวทนา…เป… ยา กาจิ สฺา… เย เกจิ สงฺขารา… ยํ กิฺจิ วิฺาณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ…เป… ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ วิฺาณํ อนิจฺจโต… ทุกฺขโต… อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. จกฺขุํ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจโต… ทุกฺขโต… อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา.

รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ ขยฏฺเน, ทุกฺขํ ภยฏฺเน, อนตฺตา อสารกฏฺเนาติ ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา รูปนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. เวทนา… สฺา… สงฺขารา… วิฺาณํ… จกฺขุํ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ ขยฏฺเน, ทุกฺขํ ภยฏฺเน, อนตฺตา อสารกฏฺเนาติ ตุลยิตฺวา…เป… วิภูตํ กตฺวา ชรามรณนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา.

รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมนฺติ ตุลยิตฺวา…เป… วิภูตํ กตฺวา รูปนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. เวทนา…เป… สฺา… สงฺขารา… วิฺาณํ… จกฺขุํ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ…เป… นิโรธธมฺมนฺติ ตุลยิตฺวา…เป… วิภูตํ กตฺวา ชรามรณนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา.

กตมา ติกฺขปฺา? ขิปฺปํ กิเลเส ฉินฺทตีติ ติกฺขปฺา. อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ. อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ… อุปฺปนฺนํ วิหึสาวิตกฺกํ… อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม… อุปฺปนฺนํ ราคํ… อุปฺปนฺนํ โทสํ… โมหํ… โกธํ… อุปนาหํ… มกฺขํ… ปฬาสํ… อิสฺสํ… มจฺฉริยํ… มายํ… สาเยฺยํ… ถมฺภํ… สารมฺภํ… มานํ… อติมานํ… มทํ… ปมาทํ… สพฺเพ กิเลเส… สพฺเพ ทุจฺจริเต… สพฺเพ อภิสงฺขาเร… สพฺเพ ภวคามิกมฺเม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมตีติ ติกฺขปฺา. เอกมฺหิ อาสเน จตฺตาโร อริยมคฺคา, จตฺตาริ จ สามฺผลานิ, จตสฺโส จ ปฏิสมฺภิทาโย, ฉ อภิฺาโย อธิคตา โหนฺติ สจฺฉิกตา ผสฺสิตา ปฺายาติ ติกฺขปฺา.

กตมา นิพฺเพธิกปฺา? อิเธกจฺโจ สพฺพสงฺขาเรสุ อุพฺเพคพหุโล โหติ อุตฺตาสพหุโล อุกฺกณฺนพหุโล อรติพหุโล อนภิรติพหุโล พหิมุโข น รมติ สพฺพสงฺขาเรสุ, อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปทาลิตปุพฺพํ โลภกฺขนฺธํ นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกปฺา. อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปทาลิตปุพฺพํ โทสกฺขนฺธํ…เป… โมหกฺขนฺธํ… โกธํ… อุปนาหํ…เป… สพฺเพ ภวคามิกมฺเม นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกปฺา.

๒๘. ส สพฺพธมฺเมสุ วิเสนิภูโต, ยํ กิฺจิ ทิฏฺํ ว สุตํ มุตํ วาติ โส ภูริปฺโ ขีณาสโว ยํ กิฺจิ ทิฏฺํ วา สุตํ วา มุตํ วา เตสุ สพฺพธมฺเมสุ มารเสนํ วินาเสตฺวา ิตภาเวน วิเสนิภูโต. ตเมว ทสฺสินฺติ ตํ เอว วิสุทฺธทสฺสึ. วิวฏํ จรนฺตนฺติ ตณฺหาฉทนาทิวิคเมน วิวฏํ หุตฺวา จรนฺตํ. เกนีธ โลกสฺมิ วิกปฺปเยยฺยาติ เกน อิธ โลเก ตณฺหากปฺเปน วา ทิฏฺิกปฺเปน วา โกจิ วิกปฺเปยฺย, เตสํ วา ปหีนตฺตา ราคาทินา ปุพฺเพ วุตฺเตนาติ.

กามา เต ปมา เสนาติอาทีสุ จตูสุ คาถาสุ อยมตฺโถ – ยสฺมา อาทิโตว อคาริยภูเต สตฺเต วตฺถุกาเมสุ กิเลสกามา โมหยนฺติ, เต อภิภุยฺย อนคาริยภาวํ อุปคตานํ ปนฺเตสุ วา เสนาสเนสุ, อฺตรฺตเรสุ วา อธิกุสเลสุ ธมฺเมสุ อรติ อุปฺปชฺชติ. วุตฺตฺเจตํ – ‘‘ปพฺพชิเตน โข, อาวุโส, อภิรติ ทุกฺกรา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๓๑). ตโต เต ปรปฏิพทฺธชีวิกตฺตา ขุปฺปิปาสา พาเธติ, ตาย พาธิตานํ ปริเยสนตณฺหา จิตฺตํ กิลมยติ, อถ เนสํ กิลนฺตจิตฺตานํ ถินมิทฺธํ โอกฺกมติ ตโต วิเสสมนธิคจฺฉนฺตานํ ทุรภิสมฺภเวสุ อรฺวนปตฺเถสุ เสนาสเนสุ วิหรตํ อุตฺราสสฺิตา ภีรุ ชายติ, เตสํ อุสฺสงฺกิตปริสงฺกิตานํ ทีฆรตฺตํ วิเวกรสมนสฺสาทยมานานํ วิหรตํ ‘‘น สิยา นุ โข เอส มคฺโค’’ติ ปฏิปตฺติยํ วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชติ, ตํ วิโนเทตฺวา วิหรตํ อปฺปมตฺตเกน วิเสสาธิคเมน มานมกฺขถมฺภา ชายนฺติ, เตปิ วิโนเทตฺวา วิหรตํ ตโต อธิกตรํ วิเสสาธิคมํ นิสฺสาย ลาภสกฺการสิโลกา อุปฺปชฺชนฺติ, ลาภาทิมุจฺฉิตา ธมฺมปฏิรูปกานิ ปกาเสนฺตา มิจฺฉายสํ อธิคนฺตฺวา ตตฺถ ิตา ชาติอาทีหิ อตฺตานํ อุกฺกํเสนฺติ, ปรํ วมฺเภนฺติ. ตสฺมา กามาทีนํ ปมเสนาทิภาโว เวทิตพฺโพ.

เอวเมตํ ทสวิธํ เสนํ อุทฺทิสิตฺวา ยสฺมา สา กณฺหธมฺมสมนฺนาคตตฺตา กณฺหสฺส นมุจิโน อุปการาย สํวตฺตติ, ตสฺมา นํ ‘‘ตว เสนา’’ติ นิทฺทิสนฺโต อาห – ‘‘เอสา นมุจิ เต เสนา, กณฺหสฺสาภิปฺปหารินี’’ติ. ตตฺถ อภิปฺปหารินีติ สมณพฺราหฺมณานํ ฆาตินี นิปฺโปถินี, อนฺตรายกรีติ อตฺโถ. น นํ อสูโร ชินาติ, เชตฺวาว ลภเต สุขนฺติ เอวํ ตว เสนํ อสูโร กาเย จ ชีวิเต จ สาเปกฺโข ปุริโส น ชินาติ, สูโร ปน ชินาติ, เชตฺวาว มคฺคสุขํ ผลสุขฺจ อธิคจฺฉติ.

ยโต จตูหิ อริยมคฺเคหีติ ยทา จตูหิ นิทฺโทสนิพฺพานมคฺคนสงฺขาเตหิ มคฺเคหิ. มารเสนาติ มารสฺส เสนา วจนกรา กิเลสา. ปฏิเสนิกราติ ปฏิปกฺขกรา. ชิตา จาติ ปราชยมานา หนิตา จ. ปราชิตา จาติ นิคฺคหิตา จ. ภคฺคาติ ภินฺนา. วิปฺปลุคฺคาติ จุณฺณวิจุณฺณา. ปรมฺมุขาติ วิมุขภาวํ ปาปิตา. วิเสนิภูโตติ นิกฺกิเลโส หุตฺวา ิโต.

โวทาตทสฺสินฺติ พฺยวทาตทสฺสึ. ตานิ ฉทนานีติ เอตานิ ตณฺหาทิกิเลสฉทนานิ. วิวฏานีติ ปากฏีกตานิ. วิทฺธํสิตานีติ ิตฏฺานโต อปหตานิ. อุคฺฆาฏิตานีติ อุปฺปาฏิตานิ. สมุคฺฆาฏิตานีติ วิเสเสน อุปฺปาฏิตานิ.

๒๙. น กปฺปยนฺตีติ คาถาย สมฺพนฺโธ อตฺโถ จ – กิฺจ ภิยฺโย? เต หิ ตาทิสา สนฺโต ทฺวินฺนํ กปฺปานํ ปุเรกฺขารานฺจ เกนจิ น กปฺปยนฺติ, น ปุเรกฺขโรนฺติ. ปรมตฺถํ อจฺจนฺตสุทฺธึ อธิคตตฺตา อนจฺจนฺตสุทฺธึเยว อกิริยสสฺสตทิฏฺึ ‘‘อจฺจนฺตสุทฺธี’’ติ น เต วทนฺติ. อาทานคนฺถํ คติตํ วิสชฺชาติ จตุพฺพิธมฺปิ รูปาทีนํ อาทายกตฺตา อาทานคนฺถํ อตฺตโน จิตฺตสนฺตาเน คถิตํ พทฺธํ อริยมคฺคสตฺเถน วิสฺสชฺช ฉินฺทิตฺวา. เสสํ ปากฏเมว.

อจฺจนฺตสุทฺธินฺติ อจฺจนฺตํ ปรมตฺถํ สุทฺธึ. สํสารสุทฺธินฺติ สํสารโต สุทฺธึ. อกิริยทิฏฺินฺติ กโรโต น กรียติ ปาปนฺติ อกิริยทิฏฺึ. สสฺสตวาทนฺติ ‘‘นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต’’ติ วจนํ. น วทนฺติ น กเถนฺติ.

คนฺถาติ นามกายํ คนฺเถนฺติ, จุติปฏิสนฺธิวเสน วฏฺฏสฺมึ ฆเฏนฺตีติ คนฺถา. อภิชฺฌา จ สา นามกายฆฏนวเสน คนฺโถ จาติ อภิชฺฌากายคนฺโถ. หิตสุขํ พฺยาปาทยตีติ พฺยาปาโท. พฺยาปาโท จ โส วุตฺตนเยน คนฺโถ จาติ พฺยาปาโท กายคนฺโถ. สีลพฺพตปรามาโสติ ‘‘อิโต พหิทฺธา สมณพฺราหฺมณานํ สีเลน สุทฺธิ วเตน สุทฺธี’’ติ (ธ. ส. ๑๑๔๓, ๑๒๒๒) ปรโต อามาโส. อิทํสจฺจาภินิเวโสติ สพฺพฺุภาสิตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’’นฺติ (ธ. ส. ๑๑๔๔) อิมินา อากาเรน อภินิเวโส อิทํสจฺจาภินิเวโส. อตฺตโน ทิฏฺิยา ราโคติ อตฺตนา อภินิวิสิตฺวา คหิตาย ทิฏฺิยา ฉนฺทราโค. ปรวาเทสุ อาฆาโตติ ปรสฺส วจเนสุ โกโป. อปฺปจฺจโยติ อตุฏฺากาโร. อตฺตโน สีลํ วาติ อตฺตนา สมาทินฺนํ โคสีลาทิสีลํ วา. อตฺตโน ทิฏฺีติ อตฺตนา คหิตา ปรามฏฺา ทิฏฺิ. เตหิ คนฺเถหีติ เอเตหิ วุตฺเตหิ นามกายฆฏเนหิ. รูปํ อาทิยนฺตีติ จตุสมุฏฺานิกํ รูปารมฺมณํ อาทิยนฺติ คณฺหนฺติ. อุปาทิยนฺตีติ อุปคนฺตฺวา คณฺหนฺติ ตณฺหาคหเณน. ปรามสนฺติ ทิฏฺิคหเณน. อภินิวิสนฺติ มานคหเณน. วฏฺฏนฺติ เตภูมกวฏฺฏํ. คนฺเถติ พนฺธเน.

โวสชฺชิตฺวา วาติ สมฺมา วิสฺสชฺชิตฺวา วา. คถิเตติ พนฺธเน. คนฺถิเตติ คนฺถเนน คนฺถิเต. วิพนฺเธติ วิเสเสน พนฺเธ. อาพนฺเธติ อเนกวิเธน พนฺเธ. ปลิพุทฺเธติ อมุฺจิเต. พนฺธเน โปฏยิตฺวาติ ตณฺหามานทิฏฺิพนฺธนานิ ปปฺโปฏยิตฺวา. วิสชฺชาติ จชิตฺวา.

อิเม ปน จตฺตาโร คนฺเถ กิเลสปฏิปาฏิยาปิ อาหริตุํ วฏฺฏติ, มคฺคปฏิปาฏิยาปิ – กิเลสปฏิปาฏิยา อภิชฺฌากายคนฺโถ อรหตฺตมคฺเคน ปหียติ, พฺยาปาโท กายคนฺโถ อนาคามิมคฺเคน, สีลพฺพตปรามาโส กายคนฺโถ อิทํสจฺจาภินิเวโส กายคนฺโถ โสตาปตฺติมคฺเคน. มคฺคปฏิปาฏิยา สีลพฺพตปรามาโส กายคนฺโถ อิทํสจฺจาภินิเวโส กายคนฺโถ โสตาปตฺติมคฺเคน, พฺยาปาโท กายคนฺโถ อนาคามิมคฺเคน, อภิชฺฌากายคนฺโถ อรหตฺตมคฺเคนาติ. เอเต จตฺตาโร คนฺถา ยสฺส สํวิชฺชนฺติ, ตํ จุติปฏิสนฺธิวเสน วฏฺฏสฺมึ คนฺเถนฺติ ฆเฏนฺตีติ คนฺถา. เต จตุปฺปเภทา อภิชฺฌายนฺติ เอตาย, สยํ วา อภิชฺฌายติ, อภิชฺฌายนมตฺตเมว วา เอสาติ อภิชฺฌา. โลโภเยว นามกายํ คนฺเถติ จุติปฏิสนฺธิวเสน วฏฺฏสฺมึ ฆเฏตีติ กายคนฺโถ. พฺยาปชฺชติ เตน จิตฺตํ ปูติภาวํ คจฺฉติ, พฺยาปาทยติ วา วินยาจารรูปสมฺปตฺติหิตสุขาทีนีติ พฺยาปาโท. ‘‘อิโต พหิทฺธา สมณพฺราหฺมณานํ สีเลน สุทฺธิ วเตน สุทฺธี’’ติ ปรามสนํ สีลพฺพตปรามาโส, สพฺพฺุภาสิตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’’นฺติอาทินา อากาเรน อภินิวิสตีติ อิทํสจฺจาภินิเวโส. ยถา วยฺหํ วาติอาทึ วยฺหาทิวิสงฺขรณํ คนฺถานํ วิโยคกรเณ อุปมํ ทสฺเสนฺโต อาห.

น ชเนนฺตีติ น อุปฺปาเทนฺติ. น สฺชเนนฺตีติ น นิพฺพตฺเตนฺติ. นาภินิพฺพตฺเตนฺตีติ อุปสคฺควเสน ปทํ วฑฺฒิตํ. น สฺชเนนฺตีติ อุปฺปาทกฺขณํ. น นิพฺพตฺเตนฺติ นาภินิพฺพตฺเตนฺตีติ ปวตฺติกฺขณํ สนฺธาย วุตฺตํ.

๓๐. สีมาติโคติ คาถา เอกปุคฺคลาธิฏฺานาย เทสนาย วุตฺตา. ปุพฺพสทิโส เอว ปนสฺสา สมฺพนฺโธ, โส เอวํ อตฺถวณฺณนาย สทฺธึ เวทิตพฺโพ – กิฺจ ภิยฺโย? โส อีทิโส ภูริปฺโ จตุนฺนํ กิเลสสีมานํ อตีตตฺตา สีมาติโค, พาหิตปาปตฺตา จ พฺราหฺมโณ, อิตฺถมฺภูตสฺส จ ตสฺส นตฺถิ, ปรจิตฺตปุพฺเพนิวาสาเณหิ ตฺวา วา มํสทิพฺพจกฺขูหิ ทิสฺวา วา กิฺจิ สมุคฺคหีตํ, อภินิวิฏฺนฺติ วุตฺตํ โหติ. โส จ กามราคาภาวโต น ราคราคี รูปารูปราคาภาวโต น วิราครตฺโต, ยโต เอวํวิธสฺส ตสฺส ‘‘อิทํ ปรม’’นฺติ กิฺจิ อิธ อุคฺคหีตํ นตฺถีติ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ.

จตสฺโส สีมาโยติ จตฺตาโร ปริจฺเฉทา. ทิฏฺานุสโยติ ทิฏฺิ จ สา อปฺปหีนฏฺเน อนุสโย จาติ ทิฏฺานุสโย. วิจิกิจฺฉานุสยาทีสุปิ เอเสว นโย. เกนฏฺเน อนุสยา? อนุสยนฏฺเน. โก เอส อนุสยฏฺโ นามาติ? อปฺปหีนฏฺโ. เอเต หิ อปฺปหีนฏฺเน ตสฺส ตสฺส สนฺตาเน อนุเสนฺติ นาม, ตสฺมา ‘‘อนุสยา’’ติ วุจฺจนฺติ. อนุเสนฺตีติ อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. อถาปิ สิยา – อนุสยฏฺโ นาม อปฺปหีนากาโร, อปฺปหีนากาโร จ ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ วตฺตุํ น ยุชฺชติ, ตสฺมา น อนุสยา อุปฺปชฺชนฺตีติ. ตตฺริทํ ปฏิวจนํ – อปฺปหีนากาโร อนุสโย, อนุสโยติ ปน อปฺปหีนฏฺเน ถามคตา กิเลสา วุจฺจนฺติ. โส จิตฺตสมฺปยุตฺโต สารมฺมโณ สปฺปจฺจยฏฺเน สเหตุโก เอกนฺตากุสโล อตีโตปิ โหติ อนาคโตปิ ปจฺจุปฺปนฺโนปิ, ตสฺมา ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ วตฺตุํ ยุชฺชติ.

ตตฺริทํ ปมาณํ – ปฏิสมฺภิทายํ ตาว อภิสมยกถายํ (ปฏิ. ม. ๓.๒๑) ‘‘ปจฺจุปฺปนฺเน กิเลเส ปชหตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา อนุสยานํ ปจฺจุปฺปนฺนภาวสฺส อตฺถิตาย ‘‘ถามคโต อนุสยํ ปชหตี’’ติ วุตฺตํ. ธมฺมสงฺคณิยํ โมหสฺส ปทภาชเน (ธ. ส. ๓๙๐) ‘‘อวิชฺชานุสโย อวิชฺชาปริยุฏฺานํ, อวิชฺชาลงฺคี โมโห อกุสลมูลํ, อยํ ตสฺมึ สมเย โมโห โหตี’’ติ อกุสลจิตฺเตน สทฺธึ อวิชฺชานุสยสฺส อุปฺปนฺนภาโว วุตฺโต. กถาวตฺถุสฺมึ ‘‘อนุสยา อพฺยากตา อนุสยา อเหตุกา อนุสยา จิตฺตวิปฺปยุตฺตา’’ติ (กถา. ๖๐๕) สพฺเพ วาทา ปฏิเสธิตา. อนุสยยมเก สตฺตนฺนํ มหาวารานํ อฺตรสฺมึ อุปฺปชฺชนวาเร ‘‘ยสฺส กามราคานุสโย อุปฺปชฺชติ ตสฺส ปฏิฆานุสโย อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘อนุเสนฺตีติ อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ ยํ วุตฺตํ, ตํ อิมินา ตนฺติปฺปมาเณน สุว