📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ขุทฺทกนิกาเย
จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถา
ปารายนวคฺคนิทฺเทโส
๑. อชิตมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
ปารายนวคฺคสฺส ¶ ¶ ¶ ปเม อชิตสุตฺตนิทฺเทเส –
‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก, (อิจฺจายสฺมา อชิโต,)
เกนสฺสุ นปฺปกาสติ;
กิสฺสาภิเลปนํ พฺรูสิ, กึสุ ตสฺส มหพฺภย’’นฺติ. –
อชิตมาณวสฺส ปุจฺฉิเต ปมปฺเห จ อุปรูปริปฺเห จ นิทฺเทเสสุ จ วุตฺตฺจ อุตฺตานฺจ วชฺเชตฺวา วิเสสเมว วกฺขาม. ตตฺถ นิวุโตติ ปฏิจฺฉาทิโต. กิสฺสาภิเลปนํ พฺรูสีติ กึ อสฺส โลกสฺส อภิเลปนํ วเทสิ?
อาวุโตติ ¶ อาวริโต. นิวุโตติ ปฏิจฺฉาทิโต. โอวุโตติ เหฏฺา ปฏิจฺฉาทิโต. ปิหิโตติ อุปริภาเคน ฉาทิโต. ปฏิจฺฉนฺโนติ อวิวโฏ. ปฏิกุชฺชิโตติ อโธมุขํ ฉาทิโต.
นปฺปกาสตีติ นปฺปกาโส โหติ. นปฺปภาสตีติ าณปฺปภาสํ น กโรติ. น ตปตีติ าณตปํ น กโรติ. น วิโรจตีติ าณวิโรจนํ น กโรติ. น ายตีติ น ชานียติ. น ปฺายตีติ นปฺปฺายเต.
เกน ¶ ลิตฺโตติ เกน ลิมฺปิโต. สํลิตฺโต อุปลิตฺโตติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ. อาจิกฺขสิ นิทฺเทสวเสน. เทเสสิ ปฏินิทฺเทสวเสน ¶ . ปฺเปสิ เตน เตน ปกาเรน. อตฺถํ โพเธนฺโต ปฏฺเปสิ. ตสฺสตฺถสฺส การณํ ทสฺเสนฺโต วิวรสิ. พฺยฺชนภาวํ ทสฺเสนฺโต วิภชสิ. นิกุชฺชิตภาวํ คมฺภีรภาวฺจ หริตฺวา โสตูนํ าณสฺส ปติฏฺํ ชนยนฺโต อุตฺตานีกโรสิ. สพฺเพหิปิ อิเมหิ อากาเรหิ โสตูนํ อฺาณนฺธการํ วิธเมนฺโต ปกาเสสีติ เอวํ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
๒. เววิจฺฉา ปมาทา นปฺปกาสตีติ มจฺฉริยเหตุ จ ปมาทเหตุ จ นปฺปกาสติ. มจฺฉริยํ หิสฺส ทานาทีหิ คุเณหิ ปกาสิตุํ น เทติ, ปมาโท สีลาทีหิ. ชปฺปาภิเลปนนฺติ ตณฺหา อสฺส โลกสฺส มกฺกฏเลโป วิย มกฺกฏสฺส อภิเลปนํ. ทุกฺขนฺติ ชาติอาทิกํ ทุกฺขํ.
เยสํ ธมฺมานนฺติ เยสํ รูปาทิธมฺมานํ. อาทิโต สมุทาคมนํ ปฺายตีติ ปมโต อุปฺปาโท ปฺายติ. อตฺถงฺคมโต นิโรโธ ปฺายตีติ ภงฺคโต นิรุชฺฌนํ ปฺายติ. กมฺมสนฺนิสฺสิโต วิปาโกติ กุสลากุสลวิปาโก กมฺมํ อมฺุจิตฺวา ปวตฺตนโต กมฺมสนฺนิสฺสิโต วิปาโกติ วุจฺจติ. วิปากสนฺนิสฺสิตํ กมฺมนฺติ กุสลากุสลํ กมฺมํ วิปากสฺส โอกาสํ กตฺวา ิตตฺตา วิปากสนฺนิสฺสิตํ กมฺมนฺติ วุจฺจติ. นามสนฺนิสฺสิตํ รูปนฺติ ปฺจโวกาเร รูปํ นามํ อมฺุจิตฺวา ปวตฺตนโต นามสนฺนิสฺสิตํ รูปนฺติ วุจฺจติ. รูปสนฺนิสฺสิตํ นามนฺติ ปฺจโวกาเร นามํ รูปํ อมฺุจิตฺวา ปวตฺตนโต รูปสนฺนิสฺสิตํ นามนฺติ วุจฺจติ.
๓. สวนฺติ สพฺพธิ โสตาติ สพฺเพสุ รูปาทิอายตเนสุ ตณฺหาทิกา โสตา สนฺทนฺติ. กึ นิวารณนฺติ เตสํ กึ อาวรณํ กา รกฺขา. สํวรํ พฺรูหีติ ตํ เตสํ นิวารณสงฺขาตํ สํวรํ พฺรูหิ. เอเตน สาวเสสปฺปหานํ ปุจฺฉติ. เกน โสตา ปิธียเรติ เกน ธมฺเมน เอเต โสตา ปิธียนฺติ ปจฺฉิชฺชนฺติ. เอเตน อนวเสสปฺปหานํ ปุจฺฉติ.
สวนฺตีติ ¶ อุปฺปชฺชนฺติ. อาสวนฺตีติ อโธคามิโน หุตฺวา สวนฺติ. สนฺทนฺตีติ นิรนฺตรคามิโน หุตฺวา สนฺทมานา ปวตฺตนฺติ. ปวตฺตนฺตีติ ปุนปฺปุนํ วตฺตนฺติ.
๔. สติ ¶ เตสํ นิวารณนฺติ วิปสฺสนายุตฺตา กุสลากุสลธมฺมานํ คติโย สมนฺเวสมานา สติ เตสํ โสตานํ นิวารณํ ¶ . โสตานํ สํวรํ พฺรูมีติ ตเมวาหํ สตึ โสตานํ สํวรํ พฺรูมีติ อธิปฺปาโย. ปฺาเยเต ปิธียเรติ รูปาทีสุ ปน อนิจฺจตาทิปฏิเวธสาธิกาย มคฺคปฺาย เอเต โสตา สพฺพโส ปิธียนฺติ.
ปจฺฉิชฺชนฺตีติ อุจฺฉิชฺชนฺติ. สมุทยฺจาติ ปจฺจยฺจ. อตฺถงฺคมฺจาติ อุปฺปนฺนานํ อภาวคมนฺจ, อนุปฺปนฺนานํ อนุปฺปาทํ วา. อสฺสาทฺจาติ อานิสํสฺจ. อาทีนวฺจาติ โทสฺจ. นิสฺสรณฺจาติ นิกฺขมนฺจ.
๕. ปฺา เจวาติ ปฺหาคาถาย ยา จายํ ตยา วุตฺตา ปฺา, ยา จ สติ, ยฺจ ตทวเสสํ นามรูปํ, เอตํ สพฺพมฺปิ กตฺถ นิรุชฺฌติ. เอตํ เม ปฺหํ ปุฏฺโ ปพฺรูหีติ เอวํ สงฺเขปตฺโถ เวทิตพฺโพ.
กตฺเถตํ อุปรุชฺฌตีติ เอตํ นามรูปํ กตฺถ น ภวติ. วูปสมฺมตีติ นิพฺพาติ. อตฺถํ คจฺฉตีติ อภาวํ คจฺฉติ. ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ สนฺนิสีทติ.
๖. วิสฺสชฺชนคาถาย ปนสฺส ยสฺมา ปฺาสติโย นาเมเนว สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, ตสฺมา ตา วิสุํ น วุตฺตา. อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ยํ มํ ตฺวํ, อชิต, เอตํ ปฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘กตฺเถตํ อุปรุชฺฌตี’’ติ, ตเทตํ ยตฺถ นามฺจ รูปฺจ อเสสํ อุปรุชฺฌติ, ตํ เต วทามิ. ตสฺส ตสฺส หิ วิฺาณสฺส นิโรเธน สเหว อปุพฺพํ อจริมํ เอตฺเถตํ อุปรุชฺฌติ, เอตฺเถว วิฺาณนิโรเธน นิรุชฺฌติ เอตํ, วิฺาณนิโรธา ตสฺส ตสฺส นิโรโธ โหติ, ตํ นาติวตฺตตีติ วุตฺตํ โหติ.
โสตาปตฺติมคฺคาเณน อภิสงฺขารวิฺาณสฺส นิโรเธนาติ โสตาปตฺติมคฺคสมฺปยุตฺตปฺาย กุสลากุสลเจตนาสมฺปยุตฺตจิตฺตสฺส อภพฺพุปฺปตฺติกวเสน นิรุชฺฌเนน. ตตฺถ ทุวิโธ นิโรโธ อนุปาทินฺนกนิโรโธ อุปาทินฺนกนิโรโธติ. โสตาปตฺติมคฺเคน หิ จตฺตาริ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตานิ วิจิกิจฺฉาสหคตนฺติ ปฺจ จิตฺตานิ นิรุชฺฌนฺติ, ตานิ รูปํ สมุฏฺาเปนฺติ ¶ . ตํ อนุปาทินฺนกรูปกฺขนฺโธ ¶ , ตานิ จิตฺตานิ วิฺาณกฺขนฺโธ, ตํสมฺปยุตฺตา เวทนา สฺา สงฺขารา ตโย อรูปกฺขนฺธา. ตตฺถ สเจ โสตาปนฺนสฺส โสตาปตฺติมคฺโค อภาวิโต อภวิสฺสา, ตานิ ปฺจ ¶ จิตฺตานิ ฉสุ อารมฺมเณสุ ปริยุฏฺานํ ปาปุเณยฺยุํ. โสตาปตฺติมคฺโค ปน เนสํ ปริยุฏฺานุปฺปตฺตึ วารยมาโน เสตุสมุคฺฆาตํ อภพฺพุปฺปตฺติกภาวํ กุรุมาโน อนุปาทินฺนกํ นิโรเธติ นาม. สกทาคามิมคฺเคน จตฺตาริ ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตานิ ทฺเว โทมนสฺสสหคตานีติ โอฬาริกกามราคพฺยาปาทวเสน ฉ จิตฺตานิ นิรุชฺฌนฺติ. อนาคามิมคฺเคน อณุสหคตกามราคพฺยาปาทวเสน ตานิ เอว ฉ จิตฺตานิ นิรุชฺฌนฺติ. อรหตฺตมคฺเคน จตฺตาริ ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตานิ อุทฺธจฺจสหคตฺจาติ ปฺจ อกุสลจิตฺตานิ นิรุชฺฌนฺติ. ตตฺถ สเจ เตสํ อริยานํ เต มคฺคา อภาวิตา อสฺสุ, ตานิ จิตฺตานิ ฉสุ อารมฺมเณสุ ปริยุฏฺานํ ปาปุเณยฺยุํ. เต ปน เตสํ มคฺคา ปริยุฏฺานุปฺปตฺตึ วารยมานา เสตุสมุคฺฆาตํ อภพฺพุปฺปตฺติกภาวํ กุรุมานา อนุปาทินฺนกํ นิโรเธนฺติ นาม. เอวํ อนุปาทินฺนกนิโรโธ เวทิตพฺโพ.
สเจ ปน โสตาปนฺนสฺส โสตาปตฺติมคฺโค อภาวิโต อภวิสฺสา, เปตฺวา สตฺต ภเว อนมตคฺเค สํสารวฏฺเฏ อุปาทินฺนกกฺขนฺธปฺปวตฺตํ ปวตฺเตยฺย. กสฺมา? ตสฺส ปวตฺติยา เหตูนํ อตฺถิตาย. ตีณิ สํโยชนานิ ทิฏฺานุสโย วิจิกิจฺฉานุสโยติ อิเม ปน ปฺจ กิเลเส โส มคฺโค อุปฺปชฺชมาโนว สมุคฺฆาเตติ. อิทานิ กุโต โสตาปนฺนสฺส สตฺต ภเว เปตฺวา อนมตคฺเค สํสารวฏฺเฏ อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ ปวตฺติสฺสติ. เอวํ โสตาปตฺติมคฺโค อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ อปฺปวตฺตํ กุรุมาโน อุปาทินฺนกํ นิโรเธติ นาม.
สเจ สกทาคามิสฺส สกทาคามิมคฺโค อภาวิโต อภวิสฺสา, เปตฺวา ทฺเว ภเว ปฺจสุ ภเวสุ อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ ปวตฺเตยฺย. กสฺมา? ตสฺส ปวตฺติยา เหตูนํ อตฺถิตาย. โอฬาริกานิ กามราคปฏิฆสํโยชนานิ โอฬาริโก กามราคานุสโย ปฏิฆานุสโยติ อิเม ปน จตฺตาโร กิเลเส โส มคฺโค อุปฺปชฺชมาโนว สมุคฺฆาเตติ. อิทานิ กุโต สกทาคามิสฺส ทฺเว ภเว เปตฺวา ปฺจสุ ภเวสุ อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ ปวตฺติสฺสติ ¶ . เอวํ สกทาคามิมคฺโค อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ อปฺปวตฺตํ กุรุมาโน อุปาทินฺนกํ นิโรเธติ นาม.
สเจ อนาคามิสฺส อนาคามิมคฺโค อภาวิโต อภวิสฺสา, เปตฺวา เอกํ ภวํ ทุติยภเว อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ ปวตฺเตยฺย. กสฺมา? ตสฺส ¶ ปวตฺติยา เหตูนํ อตฺถิตาย. อณุสหคตานิ กามราคปฏิฆสฺโชนานิ อณุสหคโต กามราคานุสโย ปฏิฆานุสโยติ อิเม ปน จตฺตาโร กิเลเส โส มคฺโค อุปฺปชฺชมาโนว สมุคฺฆาเตติ. อิทานิ กุโต อนาคามิสฺส เอกํ ¶ ภวํ เปตฺวา ทุติยภเว อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ ปวตฺติสฺสติ. เอวํ อนาคามิมคฺโค อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ อปฺปวตฺตํ กุรุมาโน อุปาทินฺนกํ นิโรเธติ นาม.
สเจ อรหโต อรหตฺตมคฺโค อภาวิโต อภวิสฺสา, รูปารูปภเวสุ อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ ปวตฺเตยฺย. กสฺมา? ตสฺส ปวตฺติยา เหตูนํ อตฺถิตาย. รูปราโค อรูปราโค มาโน อุทฺธจฺจํ อวิชฺชา มานานุสโย ภวราคานุสโย อวิชฺชานุสโยติ อิเม ปน อฏฺ กิเลเส โส มคฺโค อุปฺปชฺชมาโนว สมุคฺฆาเตติ. อิทานิ กุโต ขีณาสวสฺส ปุนพฺภเว อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ ปวตฺติสฺสติ? เอวํ อรหตฺตมคฺโค อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ อปฺปวตฺตํ กุรุมาโน อุปาทินฺนกํ นิโรเธติ นาม.
โสตาปตฺติมคฺโค เจตฺถ อปายภวํ นิโรเธติ. สกทาคามิมคฺโค สุคติกามภเวกเทสํ. อนาคามิมคฺโค กามภวํ. อรหตฺตมคฺโค รูปารูปภวํ, สพฺพภเวปิ นิโรเธติ เอวาติ วทนฺติ. เอวํ อุปาทินฺนกนิโรโธ เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ‘‘อภิสงฺขารวิฺาณสฺส นิโรเธนา’’ติ เอเตน อนุปาทินฺนกนิโรธํ ทสฺเสติ. ‘‘เย อุปฺปชฺเชยฺยุํ นามฺจ รูปฺจ, เอตฺเถเต นิรุชฺฌนฺตี’’ติ อิมินา ปน อุปาทินฺนกนิโรธํ ทสฺเสติ.
ตตฺถ สตฺต ภเว เปตฺวาติ กามภวโต กามภวํ สํสรนฺตสฺส สตฺต ภเว วชฺเชตฺวา. อนมตคฺเค สํสาเรติ –
‘‘ขนฺธานฺจ ปฏิปาฏิ, ธาตุอายตนาน จ;
อพฺโพจฺฉินฺนํ วตฺตมานา, ‘สํสาโร’ติ ปวุจฺจตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๒.๖๑๙; ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๔.๑๙๙; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๑๗; อิติวุ. อฏฺ. ๑๔, ๕๘; อุทา. อฏฺ. ๓๙) –
เอวํ ¶ วณฺณิเต สํสารวฏฺเฏ. เย อุปฺปชฺเชยฺยุํ นามฺจ รูปฺจาติ นมนลกฺขณํ จตุกฺขนฺธสงฺขาตํ นามฺจ รุปฺปนลกฺขณํ ภูโตปาทายสงฺขาตํ รูปฺจ เอเต ธมฺมา อุปฺปชฺเชยฺยุํ. เอตฺเถเต นิรุชฺฌนฺตีติ เอตสฺมึ โสตาปตฺติมคฺเค เอเต ¶ นามรูปธมฺมา อภพฺพุปฺปตฺติกวเสน นิโรธํ คจฺฉนฺติ. สกทาคามิมคฺคาเณนาติ เอตฺถ ปฏิสนฺธิวเสน สกึเยว อิมํ โลกํ อาคจฺฉตีติ สกทาคามี ¶ , ตสฺส มคฺโค สกทาคามิมคฺโค. เตน มคฺเคน สมฺปยุตฺตาเณน. ทฺเว ภเว เปตฺวาติ กามธาตุยาเยว ปฏิสนฺธิวเสน ทฺเว ภเว วชฺเชตฺวา. ปฺจสุ ภเวสูติ ตทวสิฏฺเสุ ปฺจสุ ภเวสุ. เอตฺเถเต นิรุชฺฌนฺตีติ เอตฺถ สกทาคามิมคฺเค เอเต ธมฺมา วุตฺตนเยน นิรุชฺฌนฺติ. เอกํ ภวํ เปตฺวาติ อุกฺกฏฺวเสน รูปธาตุยา วา อรูปธาตุยา วา เอกํ ภวํ วชฺเชตฺวา. รูปธาตุยา วา อรูปธาตุยา วาติ ทุติยกภเว รูปธาตุยา เจว อรูปธาตุยา จ. นามฺจ รูปฺจาติ เอตฺถ รูปภเว นามรูปํ, อรูปภเว นามเมว. เอตฺเถเต นิรุชฺฌนฺตีติ เอตฺถ อนาคามิมคฺเค เอเต นามรูปธมฺมา วุตฺตนเยน นิรุชฺฌนฺติ.
อรหโตติ กิเลเสหิ อารกตฺตา ‘‘อรหา’’ติ ลทฺธนามสฺส ขีณาสวสฺส. อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยาติ ทุวิธา หิ นิพฺพานธาตุ สอุปาทิเสสา จ อนุปาทิเสสา จ. ตตฺถ อุปาทียติ ‘‘อหํ มมา’’ติ ภุสํ คณฺหียตีติ อุปาทิ, ขนฺธปฺจกสฺเสตํ อธิวจนํ. อุปาทิเยว เสโส อวสิฏฺโ อุปาทิเสโส, สห อุปาทิเสเสน วตฺตตีติ สอุปาทิเสสา. นตฺเถตฺถ อุปาทิเสโสติ อนุปาทิเสสา. ตาย อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา. ปรินิพฺพายนฺตสฺสาติ นิรินฺธนสฺส วิย ชาตเวทสฺส นิพฺพายนฺตสฺส อปฺปวตฺตํ ปวิสนฺตสฺส. จริมวิฺาณสฺส นิโรเธนาติ เอตฺถ อสฺสาสปสฺสาสานํ นิโรธวเสน. ตโย จริมา ภวจริโม ฌานจริโม จุติจริโมติ. ภเวสุ หิ กามภเว อสฺสาสปสฺสาสา ปวตฺตนฺติ, รูปารูปภเวสุ นปฺปวตฺตนฺติ. ตสฺมา โส ภวจริโม. ฌาเนสุ ปุริมฌานตฺตเยว ปวตฺตนฺติ, จตุตฺเถ นปฺปวตฺตนฺติ. ตสฺมา โส ฌานจริโม. เย ปน จุติจิตฺตสฺส ปุรโต โสฬสเมน จิตฺเตน สหุปฺปนฺนา, เต จุติจิตฺเตน สห นิรุชฺฌนฺติ. โส จุติจริโม นาม. อยํ อิธ จริโมติ อธิปฺเปโต. เย หิ เกจิ ¶ พุทฺธา วา ปจฺเจกพุทฺธา วา อริยสาวกา วา อนฺตมโส กุนฺถกิปิลฺลิกํ อุปาทาย สพฺเพ ภวงฺคจิตฺเตเนว อพฺยากเตน ทุกฺขสจฺเจน กาลํ กโรนฺติ. ตสฺมา จริมวิฺาณสฺส นิโรเธนาติ จุติจิตฺตสฺส นิโรเธนาติ อตฺโถ.
ปฺา ¶ จ สติ จ นามฺจาติ เอเตหิ จตุนฺนํ อรูปกฺขนฺธานํ คหณํ ปจฺเจตพฺพํ. รูปฺจาติ เอเตน จตุนฺนํ มหาภูตานํ จตุวีสติอุปาทารูปานฺจ คหณํ ปจฺเจตพฺพํ. อิทานิ ตสฺส นิรุชฺฌนูปายํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิฺาณสฺส นิโรเธน, เอตฺเถตํ อุปรุชฺฌตี’’ติ อาห. ตตฺถ วิฺาณนฺติ จริมวิฺาณมฺปิ อภิสงฺขารวิฺาณมฺปิ. อภิสงฺขารวิฺาณสฺส ปหีนนิโรเธน เอตฺเถตํ อุปรุชฺฌติ นิรุชฺฌติ ทีปสิขา วิย อปณฺณตฺติกภาวํ ยาติ, จริมวิฺาณสฺส อนุปฺปาทปจฺจยตฺตา อนุปฺปาทนิโรเธน อนุปฺปาทวเสเนว อุปรุชฺฌตีติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๔๙๙).
๗. เอตฺตาวตา ¶ จ ‘‘ทุกฺขมสฺส มหพฺภย’’นฺติ อิมินา ปกาสิตํ ทุกฺขสจฺจํ, ‘‘ยานิ โสตานี’’ติ อิมินา สมุทยสจฺจํ, ‘‘ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ อิมินา มคฺคสจฺจํ, ‘‘อเสสํ อุปรุชฺฌตี’’ติ อิมินา นิโรธสจฺจนฺติ เอวํ จตฺตาริ สจฺจานิ สุตฺวาปิ อริยภูมึ อนธิคโต ปุน เสกฺขาเสกฺขปฏิปทํ ปุจฺฉนฺโต ‘‘เย จ สงฺขาตธมฺมาเส’’ติ คาถมาห. ตตฺถ สงฺขาตธมฺมาติ อนิจฺจาทิวเสน ปริวีมํสิตธมฺมา, อรหนฺตานเมตํ อธิวจนํ. เสกฺขาติ สีลาทีนิ สิกฺขมานา อวเสสา อริยปุคฺคลา. ปุถูติ พหู สตฺตชนา. เตสํ เม นิปโก อิริยํ ปุฏฺโ ปพฺรูหีติ เตสํ เม เสกฺขาเสกฺขานํ นิปโก ปณฺฑิโต ตฺวํ ปุฏฺโ ปฏิปตฺตึ พฺรูหีติ.
เตสํ ขนฺธา สงฺขาตาติ เตสํ ปฺจกฺขนฺธา อปฺปฏิสนฺธิกํ กตฺวา เทสิตา, สงฺเขปํ กตฺวา ปิตา วา. ธาตุอาทีสุปิ เอเสว นโย. อิริยนฺติ ปโยคํ. จริยนฺติ กิริยํ. วุตฺตินฺติ ปวตฺตึ. อาจรนฺติ จรณํ. โคจรนฺติ ปจฺจยํ. วิหารนฺติ อิริยาปถปวตฺตนํ. ปฏิปทนฺติ วิปสฺสนํ.
๘. อถสฺส ภควา ยสฺมา เสกฺเขน กามจฺฉนฺทนีวรณํ อาทึ กตฺวา สพฺพกิเลสา ปหาตพฺพา เอว, ตสฺมา ‘‘กาเมสูติ ¶ อุปฑฺฒคาถาย เสกฺขปฏิปทํ ทสฺเสติ. ตสฺสตฺโถ – วตฺถุกาเมสุ กิเลสกาเมน นาภิคิชฺเฌยฺย, กายทุจฺจริตาทโย จ มนโส อาวิลภาวกเร ธมฺเม ปชหนฺโต มนสานาวิโล สิยาติ. ยสฺมา ปน อเสกฺโข อนิจฺจาทิวเสน สพฺพสงฺขาราทีนํ ปริตุลิตตฺตา กุสโล สพฺพธมฺเมสุ กายานุปสฺสนาสติอาทีหิ จ สโต สกฺกายทิฏฺิอาทีนํ ภินฺนตฺตา ภิกฺขุภาวํ ปตฺโต หุตฺวา สพฺพอิริยาปเถสุ ปริพฺพชติ, ตสฺมา ‘‘กุสโล’’ติ อุปฑฺฒคาถาย อเสกฺขปฏิปทํ ทสฺเสติ.
นาภิคิชฺเฌยฺยาติ ¶ เคธํ นาปชฺเชยฺย. น ปลิคิชฺเฌยฺยาติ โลภํ นาปชฺเชยฺย. น ปลิพุนฺเธยฺยาติ โลภวเสน น อลฺลีเยยฺย.
อาวิลกเร กิเลเส ชเหยฺยาติ จิตฺตาลุฬกเร อุปตาปสงฺขาเต กิเลเส ชเหยฺย.
สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตาติ นิพฺพานํ อนฺโตกริตฺวา วุตฺตํ. ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมนฺติ ยํ กิฺจิ สปฺปจฺจยสภาวํ.
สห คาถาปริโยสานาติ คาถาวสาเนเนว สทฺธึ. เยเต พฺราหฺมเณน สทฺธึ เอกจฺฉนฺทาติ เย เอเต ¶ อชิตมาณเวน กลฺยาณฉนฺเทน เอกชฺฌาสยา. เอกปฺปโยคาติ กายวจีมโนปโยเคหิ เอกปฺปโยคา. เอกาธิปฺปายาติ เอโก อธิปฺปาโย รุจิ เอเตสนฺติ เอกาธิปฺปายา, เอกรุจิกาติ อตฺโถ. เอกวาสนวาสิตาติ อตีตพุทฺธสาสเน เตน สทฺธึ ภาวิตภาวนา. อเนกปาณสหสฺสานนฺติ อเนเกสํ เทวมนุสฺสสงฺขาตานํ ปาณสหสฺสานํ. วิรชํ วีตมลนฺติ ราคาทิรชวิรหิตํ ราคาทิมลวิรหิตฺจ.
ธมฺมจกฺขุนฺติ อิธ โสตาปตฺติมคฺโค อธิปฺเปโต. อฺตฺถ เหฏฺามคฺคตฺตยํ. ตสฺส อุปฺปตฺติการณทสฺสนตฺถํ ‘‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ อาห. ตฺหิ นิโรธํ อารมฺมณํ กตฺวา กิจฺจวเสน เอวํ สพฺพสงฺขตํ ปฏิวิชฺฌนฺตํ อุปฺปชฺชติ. ตสฺส พฺราหฺมณสฺส อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจีติ ตสฺส จ อชิตพฺราหฺมณสฺส อนฺเตวาสิกสหสฺสานฺจ ตณฺหาทีหิ อคฺคเหตฺวา กามาสวาทีหิ มคฺคกฺขเณ จิตฺตํ วิมุจฺจมานํ ผลกฺขเณ วิมุจฺจิ. สห อรหตฺตปฺปตฺตาติ อรหตฺตปฺปตฺติยา จ สเหว อายสฺมโต อชิตสฺส จ อนฺเตวาสิกสหสฺสสฺส จ อชินชฏาวากจีรติทณฺฑกมณฺฑลุอาทโย ¶ อนฺตรธายึสุ. สพฺเพว อิทฺธิมยปตฺตจีวรธรา ทฺวงฺคุลเกสา เอหิภิกฺขู หุตฺวา ภควนฺตํ นมสฺสมานา ปฺชลิกา นิสีทึสุ. ปาฬิยํ ปน อชิตตฺเถโรว ปฺายติ. ตตฺถ อนฺวตฺถปฏิปตฺติยาติ สยํ ปจฺจาสีสิตลทฺธปฏิปตฺติยา, นิพฺพานลทฺธภาเวนาติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว. เอวํ ภควา อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสีติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถาย
อชิตมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ติสฺสเมตฺเตยฺยมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๙. ทุติเย ¶ ¶ ติสฺสเมตฺเตยฺยสุตฺตนิทฺเทเส – โกธ สนฺตุสิโตติ นิฏฺิเต ปน อชิตสุตฺเต ‘‘กถํ โลกํ อเวกฺขนฺตํ, มจฺจุราชา น ปสฺสตี’’ติ (สุ. นิ. ๑๑๒๔; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉา ๑๔๓) เอวํ โมฆราชา ปุจฺฉิตุํ อารภิ. ‘‘น ตาวสฺส อินฺทฺริยานิ ปริปากํ คตานี’’ติ ตฺวา ภควา ‘‘ติฏฺ ตฺวํ, โมฆราช, อฺโ ปุจฺฉตู’’ติ ปฏิกฺขิปิ. ตโต ติสฺสเมตฺเตยฺโย อตฺตโน สํสยํ ปุจฺฉนฺโต ‘‘โกธาติ คาถมาห. ตตฺถ โกธ สนฺตุสิโตติ โก อิธ สตฺโต ตุฏฺโ. อิฺชิตาติ ตณฺหาทิฏฺิวิปฺผนฺทิตานิ. อุภนฺตมภิฺายาติ อุโภ อนฺเต อภิชานิตฺวา. มนฺตา น ลิปฺปตีติ ปฺาย น ลิปฺปติ.
ปริปุณฺณสงฺกปฺโปติ ¶ เนกฺขมฺมาทิวิตกฺเกหิ ปริปุณฺณสงฺกปฺปตฺตา ปริปุณฺณมโนรโถ.
ตณฺหิฺชิตนฺติ ตณฺหาย จลิตํ. ทิฏฺิฺชิตาทีสุปิ เอเสว นโย. กามิฺชิตนฺติ กิเลสกาเมหิ อิฺชิตํ ผนฺทิตํ. ‘‘กมฺมิฺชิต’’นฺติปิ ปาโ, ตํ น สุนฺทรํ.
มหนฺโต ปุริโสติ มหาปุริโส. อุตฺตโม ปุริโสติ อคฺคปุริโส. ปธาโน ปุริโสติ เสฏฺปุริโส. อลามโก ปุริโสติ วิสิฏฺปุริโส. เชฏฺโก ปุริโสติ ปาโมกฺขปุริโส. น เหฏฺิมโก ปุริโสติ อุตฺตมปุริโส. ปุริสานํ โกฏิปฺปตฺโต ปุริโสติ ปธานปุริโส. สพฺเพสํ อิจฺฉิโต ปุริโสติ ปวรปุริโส.
สิพฺพินิมจฺจคาติ ตณฺหํ อติอคา, อติกฺกมิตฺวา ิโต. อุปจฺจคาติ ภุสํ อติอคา.
๑๐. ตสฺเสตมตฺถํ ภควา พฺยากโรนฺโต ‘‘กาเมสู’’ติ คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ กาเมสุ พฺรหฺมจริยวาติ กามนิมิตฺตํ พฺรหฺมจริยวา, กาเมสุ อาทีนวํ ทิสฺวา มคฺคพฺรหฺมจริเยน สมนฺนาคโตติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺตาวตา สนฺตุสิตตํ ทสฺเสติ. ‘‘วีตตณฺโห’’ติอาทีหิ อนิฺชิตตํ. ตตฺถ สงฺขาย นิพฺพุโตติ อนิจฺจาทิวเสน ธมฺเม วีมํสิตฺวา ราคาทินิพฺพาเนน นิพฺพุโต.
อสทฺธมฺมสมาปตฺติยาติ ¶ ¶ นีจธมฺมสมาโยคโต. อารตีติ อารกา รมนํ. วิรตีติ ตาย วินา รมนํ. ปฏิวิรตีติ ปฏินิวตฺติตฺวา ตาย วินา รมนํ. เวรมณีติ เวรวินาสนํ. อกิริยาติ กิริยาปจฺฉินฺทนํ. อกรณนฺติ กรณปริจฺฉินฺทนํ. อนชฺฌาปตฺตีติ อนาปชฺชนตา. เวลาอนติกฺกโมติ สีมาอนติกฺกโม. เสสํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนยตฺตา ปากฏเมว.
เอวํ ภควา อิทมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน อยมฺปิ พฺราหฺมโณ อรหตฺเต ปติฏฺาสิ สทฺธึ อนฺเตวาสิกสหสฺเสน, อฺเสฺจ อเนกสหสฺสานํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ. เสสํ ปุพฺพสทิสเมว.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถาย
ติสฺสเมตฺเตยฺยมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปุณฺณกมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๑๒. ตติเย ¶ ¶ ปุณฺณกสุตฺตนิทฺเทเส – อเนชนฺติ อิทมฺปิ ปุริมนเยเนว โมฆราชานํ ปฏิกฺขิปิตฺวา วุตฺตํ. ตตฺถ มูลทสฺสาวินฺติ อกุสลมูลาทิทสฺสาวึ. อิสโยติ อิสินามกา ชฏิลา. ยฺนฺติ เทยฺยธมฺมํ. อกปฺปยึสูติ ปริเยสึสุ.
เหตุทสฺสาวีติอาทีนิ สพฺพานิ การณเววจนาเนว. การณฺหิ ยสฺมา อตฺตโน ผลตฺถาย หิโนติ ปวตฺตติ, ตสฺมา เหตูติ วุจฺจติ. ยสฺมา ตํ ผลํ นิเทติ ‘หนฺท, คณฺหถ น’นฺติ อปฺเปติ วิย, ตสฺมา นิทานนฺติ วุจฺจติ. สมฺภวทสฺสาวีติอาทีนิ ปฺจ ปทานิ เหฏฺา ทสฺสิตนยานิ เอว. ยสฺมา ตํ ปฏิจฺจ เอติ ปวตฺตติ, ตฺจ ผลํ ตโต สมุเทติ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ปจฺจโยติ จ สมุทโยติ จ วุจฺจติ.
ยา วา ปนฺาปิ กาจิ สุคติโยติ จตุอปายวินิมุตฺตกา อุตฺตรมาตาทโย อปฺเปสกฺขา กปณมนุสฺสา จ ทุลฺลภฆาสจฺฉาทนา ทุกฺขปีฬิตา เวทิตพฺพา. ยา วา ปนฺาปิ กาจิ ทุคฺคติโยติ ยมราชนาคสุปณฺณเปตมหิทฺธิกาทโย ปจฺเจตพฺพา. อตฺตภาวาภินิพฺพตฺติยาติ ตีสุ าเนสุ ¶ ปฏิสนฺธิวเสน อตฺตภาวปฏิลาภตฺถาย. ชานาตีติ สพฺพฺุตฺาเณน ชานาติ. ปสฺสตีติ สมนฺตจกฺขุนา ปสฺสติ.
อกุสลาติ อโกสลฺลสมฺภูตา. อกุสลํ ภชนฺตีติ อกุสลภาคิยา. อกุสลปกฺเข ภวาติ อกุสลปกฺขิกา. สพฺเพ เต อวิชฺชา มูลํ การณํ เอเตสนฺติ อวิชฺชามูลกา. อวิชฺชาย สโมสรนฺติ สมฺมา โอสรนฺติ คจฺฉนฺตีติ อวิชฺชาสโมสรณา. อวิชฺชาสมุคฺฆาตาติ อรหตฺตมคฺเคน อวิชฺชาย หตาย. สพฺเพ เต สมุคฺฆาตํ คจฺฉนฺตีติ วุตฺตปฺปการา อกุสลธมฺมา, เต สพฺเพ หตภาวํ ปาปุณนฺติ.
อปฺปมาทมูลกาติ สติอวิปฺปวาโส อปฺปมาโท มูลํ การณํ เอเตสนฺติ อปฺปมาทมูลกา. อปฺปมาเทสุ สมฺมา โอสรนฺติ คจฺฉนฺตีติ อปฺปมาทสโมสรณา. อปฺปมาโท เตสํ ¶ ธมฺมานํ อคฺคมกฺขายตีติ สยํ กามาวจโรปิ สมาโน จตุภูมกธมฺมานํ ปติฏฺาภาเวน อคฺโค นาม ชาโต.
อลมตฺโตติ สมตฺถจิตฺโต. มยา ปุจฺฉิตนฺติ มยา ปุฏฺํ. วหสฺเสตํ ภารนฺติ เอตํ อาภตภารํ ¶ วหสฺสุ. เย เกจิ อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตา. ‘‘อิสิปพฺพชฺชา ปพฺพชิตา’’ติปิ ปาโ.
อาชีวกสาวกานํ อาชีวกา เทวตาติ เย อาชีวกวจนํ สุณนฺติ สุสฺสุสนฺติ, เต อาชีวกสาวกา, เตสํ อาชีวกสาวกานํ. อาชีวกา จ เตสํ เทยฺยธมฺมํ ปฏิคฺคณฺหนฺติ, เต เอว อาชีวกา เทวตา. เอวํ สพฺพตฺถ. เย เยสํ ทกฺขิเณยฺยาติ เย อาชีวกาทโย ทิสาปริโยสานา เยสํ ขตฺติยาทีนํ เทยฺยธมฺมานุจฺฉวิกา. เต เตสํ เทวตาติ เต อาชีวกาทโย เตสํ ขตฺติยาทีนํ เทวตา.
เยปิ ยฺํ เอสนฺตีติ เทยฺยธมฺมํ อิจฺฉนฺติ. คเวสนฺตีติ โอโลเกนฺติ. ปริเยสนฺตีติ อุปฺปาเทนฺติ. ยฺา วา เอเต ปุถูติ ยฺา เอว วา เอเต ปุถุกา. ยฺยาชกา วา เอเต ปุถูติ เทยฺยธมฺมสฺส ยาชนกา เอว วา เอเต ปุถุกา. ทกฺขิเณยฺยา วา เอเต ปุถูติ เทยฺยธมฺมานุจฺฉวิกา เอว วา เอเต ปุถุกา. เต วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘กถํ ยฺา วา เอเต ปุถู’’ติอาทินา นเยน วิตฺถาเรน ทสฺเสติ.
๑๓. อาสีสมานาติ ¶ รูปาทีนิ ปตฺถยมานา. อิตฺถตฺตนฺติ อิตฺถภาวฺจ ปตฺถยมานา, มนุสฺสาทิภาวํ อิจฺฉนฺตาติ วุตฺตํ โหติ. ชรํ สิตาติ ชรํ นิสฺสิตา. ชรามุเขน เจตฺถ สพฺพํ วฏฺฏทุกฺขํ วุตฺตํ. เตน วฏฺฏทุกฺขนิสฺสิตา ตโต อปริมุจฺจมานาเยว กปฺปยึสูติ ทีเปติ.
รูปปฏิลาภํ อาสีสมานาติ วณฺณายตนสมฺปตฺติลาภํ ปตฺถยมานา. สทฺทาทีสุปิ เอเสว นโย. ขตฺติยมหาสาลกุเล อตฺตภาวปฏิลาภนฺติ สารปฺปตฺเต ขตฺติยานํ มหาสาลกุเล อตฺตภาวลาภํ ปฏิสนฺธึ ปตฺถยมานา. พฺราหฺมณมหาสาลกุลาทีสุปิ เอเสว นโย. พฺรหฺมกายิเกสุ เทเวสูติ เอตฺถ ปุพฺพภวํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอตฺถาติ ขตฺติยกุลาทีสุ.
ชรานิสฺสิตาติ ชรํ อสฺสิตา. พฺยาธินิสฺสิตาติอาทีสุปิ ¶ เอเสว นโย. เอเตหิ สพฺพํ วฏฺฏทุกฺขํ ปริยาทิยิตฺวา ทสฺสิตํ โหติ.
๑๔. กจฺจิสุ เต ภควา ยฺปเถ อปฺปมตฺตา, อตารุ ชาติฺจ ชรฺจ มาริสาติ เอตฺถ ยฺโ เอว ยฺปโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กจฺจิ เต ยฺเ อปฺปมตฺตา หุตฺวา ยฺํ กปฺปยนฺตา วฏฺฏทุกฺขมุตฺตรึสูติ.
เยปิ ¶ ยฺํ เทนฺติ ยชนฺตีติ เทยฺยธมฺมทานวเสน ยชนฺติ. ปริจฺจชนฺตีติ วิสฺสชฺเชนฺติ.
๑๕. อาสีสนฺตีติ รูปปฏิลาภาทโย ปตฺเถนฺติ. โถมยนฺตีติ ‘‘สุจึ ทินฺน’’นฺติอาทินา นเยน ยฺาทีนิ ปสํสนฺติ. อภิชปฺปนฺตีติ รูปาทิปฏิลาภาย วาจํ คีรนฺติ. ชุหนฺตีติ เทนฺติ. กามาภิชปฺปนฺติ ปฏิจฺจ ลาภนฺติ รูปาทิลาภํ ปฏิจฺจ ปุนปฺปุนํ กาเม เอว อภิชปฺปนฺติ, ‘‘อโห วต อมฺหากมฺปิ สิยฺยุ’’นฺติ วทนฺติ, ตณฺหฺจ ตตฺถ วฑฺเฒนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ยาชโยคาติ ยาคาธิมุตฺตา. ภวราครตฺตาติ เอวมิเมหิ อาสีสนาทีหิ ภวราเคเนว รตฺตา, ภวราครตฺตา วา หุตฺวา เอตานิ อาสีสนาทีนิ กโรนฺตา นาตรึสุ ชาติอาทิวฏฺฏทุกฺขํ น อุตฺตรึสุ.
ยฺํ วา โถเมนฺตีติ ทานํ วา วณฺเณนฺติ. ผลํ วาติ รูปาทิปฏิลาภํ. ทกฺขิเณยฺเย วาติ ชาติสมฺปนฺนาทีสุ. สุจึ ทินฺนนฺติ สุจึ กตฺวา ทินฺนํ. มนาปนฺติ มนวฑฺฒนกํ. ปณีตนฺติ โอชวนฺตํ. กาเลนาติ ตตฺถ ตตฺถ สมฺปตฺตกาเล ¶ . กปฺปิยนฺติ อกปฺปิยํ วชฺเชตฺวา ทินฺนํ. อนวชฺชนฺติ นิทฺโทสํ. อภิณฺหนฺติ ปุนปฺปุนํ. ททํ จิตฺตํ ปสาทิตนฺติ ททโต มฺุจนจิตฺตํ ปสาทิตนฺติ. โถเมนฺติ กิตฺเตนฺตีติ คุณํ ปากฏํ กโรนฺติ. วณฺเณนฺตีติ วณฺณํ ภณนฺติ. ปสํสนฺตีติ ปสาทํ ปาเปนฺติ.
อิโต นิทานนฺติ อิโต มนุสฺสโลกโต ทินฺนการณา. อชฺฌายกาติ มนฺเต ปริวตฺเตนฺตา. มนฺตธราติ มนฺเต ธาเรนฺตา. ติณฺณํ เวทานนฺติ อิรุเวทยชุเวทสามเวทานํ. โอฏฺปหฏกรณวเสน ปารํ คตาติ ปารคู. สห นิฆณฺฑุนา จ เกฏุเภน จ สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ. นิฆณฺฑูติ นิฆณฺฑุรุกฺขาทีนํ เววจนปฺปกาสกํ สตฺถํ. เกฏุภนฺติ กิริยากปฺปวิกปฺโป กวีนํ อุปการาวหํ สตฺถํ ¶ . สห อกฺขรปฺปเภเทน สากฺขรปฺปเภทานํ. อกฺขรปฺปเภโทติ สิกฺขา จ นิรุตฺติ จ. อิติหาสปฺจมานนฺติ อาถพฺพณเวทํ จตุตฺถํ กตฺวา ‘‘อิติห อาส, อิติห อาสา’’ติ อีทิสวจนปฏิสํยุตฺตปุราณกถาสงฺขาโต อิติหาโส ปฺจโม เอเตสนฺติ อิติหาสปฺจมา, เตสํ อิติหาสปฺจมานํ เวทานํ.
ปทํ ตทวเสสฺจ พฺยากรณํ อธิยนฺติ, เวเทนฺติ วาติ ปทกา เวยฺยากรณา. โลกายตํ วุจฺจติ วิตณฺฑวาทสตฺถํ. มหาปุริสลกฺขณนฺติ มหาปุริสานํ พุทฺธาทีนํ ลกฺขณทีปกํ ทฺวาทสสหสฺสคนฺถปฺปมาณํ สตฺถํ. ยตฺถ โสฬสสหสฺสคาถาปทปริมาณา พุทฺธมนฺตา นาม อเหสุํ. เยสํ วเสน ‘‘อิมินา ลกฺขเณน สมนฺนาคตา พุทฺธา นาม โหนฺติ, อิมินา ปจฺเจกพุทฺธา, อคฺคสาวกา ¶ , อสีติมหาสาวกา (เถรคา. อฏฺ. ๒.๑๒๘๘), พุทฺธมาตา, พุทฺธปิตา, อคฺคุปฏฺาโก, อคฺคุปฏฺายิกา, ราชา จกฺกวตฺตี’’ติ อยํ วิเสโส ายติ. อนวยาติ อิเมสุ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนูนา ปริปูรการิโน, อวยา น โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อวยา นาม เย ตานิ อตฺถโต จ คนฺถโต จ สนฺธาเรตุํ น สกฺโกนฺติ. วีตราคาติ ปหีนราคา. เอเตน อรหตฺตผลฏฺา วุตฺตา. ราควินยาย วา ปฏิปนฺนาติ เอเตน อรหตฺตมคฺคฏฺา. วีตโทสาติ อนาคามิผลฏฺา. โทสวินยาย วา ปฏิปนฺนาติ เอเตน อนาคามิมคฺคฏฺา. วีตโมหาติ อรหตฺตผลฏฺา. โมหวินยาย วา ปฏิปนฺนาติ อรหตฺตมคฺคฏฺา. สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติสมฺปนฺนาติ ¶ เอเตหิ จตูหิ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสเกหิ สีลาทีหิ สมฺปนฺนา. วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺนาติ เอเตน ปจฺจเวกฺขณาณสมฺปนฺนา วุตฺตาติ าตพฺพํ, ตฺจ โข โลกิยเมว. อภิชปฺปนฺตีติ ปตฺเถนฺติ. ชปฺปนฺตีติ ปจฺจาสีสนฺติ. ปชปฺปนฺตีติ อตีว ปจฺจาสีสนฺติ. ยาชโยเคสุ ยุตฺตาติ อนุโยเค เทยฺยธมฺเม ทิยฺยมาเน อภิโยควเสน ยุตฺตา.
๑๖. อถ โก จรหีติ อถ อิทานิ โก อฺโ อตาริ.
๑๗. สงฺขายาติ าเณน วีมํสิตฺวา. ปโรปรานีติ ปรานิ จ โอปรานิ จ, ปรตฺตภาวสกตฺตภาวาทีนิ ปรานิ จ โอปรานิ จาติ วุตฺตํ โหติ. วิธูโมติ กายทุจฺจริตาทิธูมวิรหิโต ¶ . อนีโฆติ ราคาทิอีฆวิรหิโต. อตาริ โสติ โส เอวรูโป อรหา ชาติชรํ อตาริ.
สกรูปาติ อตฺตโน รูปา. ปรรูปาติ ปเรสํ รูปา. กายทุจฺจริตํ วิธูมิตนฺติ ติวิธกายทุจฺจริตํ วิธูมํ กตํ. วิธมิตนฺติ นาสิตํ.
มาโน หิ เต, พฺราหฺมณ, ขาริภาโรติ ยถา ขาริภาโร ขนฺเธน วยฺหมาโน อุปริฏฺิโตปิ อกฺกนฺตกฺกนฺตฏฺานํ ปถวิยา สทฺธึ ผสฺเสติ วิย, เอวํ ชาติโคตฺตกุลาทีนิ มานวตฺถูนิ นิสฺสาย อุสฺสาปิโต มาโน, ตตฺถ ตตฺถ อิสฺสํ อุปฺปาเทนฺโต จตูสุ อปาเยสุ สํสีทาเปติ. เตนาห – ‘‘มาโน หิ เต, พฺราหฺมณ, ขาริภาโร’’ติ. โกโธ ธูโมติ ตว าณคฺคิสฺส อุปกฺกิเลสฏฺเน โกโธ ธูโม. เตน หิ เต อุปกฺกิลิฏฺโ าณคฺคิ น วิโรจติ. ภสฺมนิ โมสวชฺชนฺติ นิโรชฏฺเน มุสาวาโท ฉาริกา นาม. ยถา หิ ฉาริกาย ปฏิจฺฉนฺโน อคฺคิ น โชตติ, เอวํ เต มุสาวาเทน ปฏิจฺฉนฺนํ าณนฺติ ทสฺเสติ. ชิวฺหา สุชาติ ยถา ตุยฺหํ สุวณฺณรชตโลหกฏฺมตฺติกาสุ อฺตรมยา ยาคยชนตฺถาย สุชา โหติ, เอวํ มยฺหํ ธมฺมยาคยชนตฺถาย ¶ ปหุตชิวฺหา สุชาติ วทติ. ยถา ตุยฺหํ นทีตีเร ยชนฏฺานํ, เอวํ ธมฺมยาคยชนฏฺานฏฺเน หทยํ โชติฏฺานํ. อตฺตาติ จิตฺตํ.
ชาตีติ ชายนกวเสน ชาติ. อิทเมตฺถ สภาวปจฺจตฺตํ. สฺชายนวเสน สฺชาติ, อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ. โอกฺกมนวเสน โอกฺกนฺติ. ชายนฏฺเน ¶ วา ชาติ. สา อปริปุณฺณายตนวเสน ยุตฺตา. สฺชายนฏฺเน สฺชาติ. สา ปริปุณฺณายตนวเสน ยุตฺตา. โอกฺกมนฏฺเน โอกฺกนฺติ. สา อณฺฑชชลาพุชวเสน ยุตฺตา. เต หิ อณฺฑโกสฺจ วตฺถิโกสฺจ โอกฺกมนฺติ ปวิสนฺติ โอกฺกมนฺตา ปวิสนฺตา วิย ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺติ. อภินิพฺพตฺตนฏฺเน อภินิพฺพตฺติ. สา สํเสทชโอปปาติกวเสน ยุตฺตา. เต หิ ปากฏา เอว หุตฺวา นิพฺพตฺตนฺติ. อยํ ตาว สมฺมุติกถา.
อิทานิ ปรมตฺถกถา โหติ. ขนฺธา เอว หิ ปรมตฺถโต ปาตุภวนฺติ, น สตฺตา. ตตฺถ จ ขนฺธานนฺติ เอกโวการภเว เอกสฺส, จตุโวการภเว จตุนฺนํ, ปฺจโวการภเว ¶ ปฺจนฺนมฺปิ คหณํ เวทิตพฺพํ. ปาตุภาโวติ อุปฺปตฺติ. อายตนานนฺติ เอตฺถ ตตฺร ตตฺร อุปปชฺชมานายตนานํ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. ปฏิลาโภติ สนฺตติยา ปาตุภาโวเยว. ปาตุภวนฺตาเนว หิ ตานิ ปฏิลทฺธานิ นาม โหนฺติ. สา ปเนสา ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปมาภินิพฺพตฺติลกฺขณา ชาติ, นิยฺยาตนรสา, อตีตภวโต อิธ อุมฺมุชฺชนปจฺจุปฏฺานา, ผลวเสน ทุกฺขวิจิตฺตตาปจฺจุปฏฺานา วา.
ชราติ สภาวปจฺจตฺตํ. ชีรณตาติ อาการภาวนิทฺเทโส. ขณฺฑิจฺจนฺติอาทโย ตโย กาลาติกฺกเม กิจฺจนิทฺเทสา, ปจฺฉิมา ทฺเว ปกตินิทฺเทสา. อยฺหิ ชราติ อิมินา ปเทน สภาวโต ทีปิตา. เตนสฺสา อิทํ สภาวปจฺจตฺตํ. ชีรณตาติ อิมินา อาการโต, เตนสฺสายํ อาการนิทฺเทโส. ขณฺฑิจฺจนฺติ อิมินา กาลาติกฺกเม ทนฺตนขานํ ขณฺฑิตภาวกรณกิจฺจโต. ปาลิจฺจนฺติ อิมินา เกสโลมานํ ปลิตภาวกรณกิจฺจโต. วลิตฺตจตาติ อิมินา มํสํ มิลาเปตฺวา ตเจ วลิภาวกรณกิจฺจโต. เตนสฺสา อิเม ขณฺฑิจฺจนฺติอาทโย ตโย กาลาติกฺกเม กิจฺจนิทฺเทสา. เตหิ อิเมสํ วิการานํ ทสฺสนวเสน ปากฏีภูตา ปากฏชรา ทสฺสิตา. ยเถว หิ อุทกสฺส วา วาตสฺส วา อคฺคิโน วา ติณรุกฺขาทีนํ สํภคฺคปลิภคฺคตาย วา ฌามตาย วา คตมคฺโค ปากโฏ โหติ, น จ โส คตมคฺโค ตาเนว อุทกาทีนิ, เอวเมว ชราย ทนฺตาทีนํ ขณฺฑิจฺจาทิวเสน คตมคฺโค ปากโฏ, จกฺขุํ อุมฺมีเลตฺวาปิ คยฺหติ, น จ ขณฺฑิจฺจาทีเนว ชรา. น หิ ชรา จกฺขุวิฺเยฺยา โหติ.
อายุโน ¶ ¶ สํหานิ อินฺทฺริยานํ ปริปาโกติ อิเมหิ ปน ปเทหิ กาลาติกฺกเมเยว อภิพฺยตฺตาย อายุกฺขยจกฺขาทิอินฺทฺริยปริปากสงฺขาตาย ปกติยา ทีปิตา, เตนสฺสิเม ปจฺฉิมา ทฺเว ปกตินิทฺเทสาติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ ยสฺมา ชรํ ปตฺตสฺส อายุ หายติ, ตสฺมา ชรา ‘‘อายุโน สํหานี’’ติ ผลูปจาเรน วุตฺตา. ยสฺมา จ ทหรกาเล สุปฺปสนฺนานิ สุขุมมฺปิ อตฺตโน วิสยํ สุเขเนว คณฺหนสมตฺถานิ จกฺขาทีนิ อินฺทฺริยานิ ชรํ ปตฺตสฺส ปริปกฺกานิ อาลุฬิตานิ อวิสทานิ, โอฬาริกมฺปิ อตฺตโน วิสยํ คเหตุํ อสมตฺถานิ โหนฺติ. ตสฺมา ‘‘อินฺทฺริยานํ ปริปาโก’’ติ ผลูปจาเรเนว วุตฺตา.
สา ปเนสา เอวํ นิทฺทิฏฺา สพฺพาปิ ชรา ปากฏา ปฏิจฺฉนฺนาติ ¶ ทุวิธา โหติ. ตตฺถ ทนฺตาทีสุ ขณฺฑาทิภาวทสฺสนโต รูปธมฺเมสุ ชรา ปากฏชรา นาม. อรูปธมฺเมสุ ปน ชรา ตาทิสสฺส วิการสฺส อทสฺสนโต ปฏิจฺฉนฺนชรา นาม. ตตฺถ ยฺวายํ ขณฺฑาทิภาโว ทิสฺสติ, โส ตาทิสานํ ทนฺตาทีนํ สุวิฺเยฺยตฺตา วณฺโณเยว. ตฺจ จกฺขุนา ทิสฺวา มโนทฺวาเรน จินฺเตตฺวา ‘‘อิเม ทนฺตา ชราย ปหฏา’’ติ ชรํ ชานาติ. อุทกฏฺาเน พทฺธานิ โคสิงฺคาทีนิ โอโลเกตฺวา เหฏฺา อุทกสฺส อตฺถิภาวชานนํ วิย.
ปุน อวีจิ สวีจีติ เอวมฺปิ อยํ ชรา ทุวิธา โหติ. ตตฺถ มณิกนกรชตปวาฬจนฺทสูริยาทีนํ มนฺททสกาทีสุ ปาณีนํ วิย จ ปุปฺผผลปลฺลวาทีสุ อปาณีนํ วิย จ อนฺตรนฺตรา วณฺณวิเสสาทีนํ ทุพฺพิฺเยฺยตฺตา ชรา อวีจิชรา นาม, นิรนฺตรชราติ อตฺโถ. ตโต อฺเสุ ปน ยถาวุตฺเตสุ อนฺตรนฺตรา วณฺณวิเสสาทีนํ สุวิฺเยฺยตฺตา ชรา สวีจิชรา นาม.
ตตฺถ สวีจิชรา อุปาทินฺนกอนุปาทินฺนกวเสน เอวํ ทีเปตพฺพา – ทหรกุมารกานฺหิ ปมเมว ขีรทนฺตา นาม อุฏฺหนฺติ, น เต ถิรา. เตสุ ปน ปติเตสุ ปุน ทนฺตา อุฏฺหนฺติ, เต ปมเมว เสตา โหนฺติ, ชราวาเตน ปน ปหฏกาเล กาฬกา โหนฺติ. เกสา ปน ปมเมว ตมฺพาปิ โหนฺติ กาฬกาปิ เสตกาปิ. ฉวิ ปน สโลหิตกา โหติ. วฑฺฒนฺตานํ วฑฺฒนฺตานํ โอทาตานํ โอทาตภาโว, กาฬกานํ กาฬกภาโว ปฺายติ. ชราวาเตน ปหฏกาเล จ วลึ คณฺหาติ. สพฺพมฺปิ สสฺสํ วปิตกาเล เสตํ โหติ, ปจฺฉา นีลํ. ชราวาเตน ปน ปหฏกาเล ปณฺฑรํ ¶ โหติ. อมฺพงฺกุเรนาปิ ทีเปตุํ วฏฺฏติ เอว. สา ปเนสา ขนฺธปริปากลกฺขณา ชรา, มรณูปนยนรสา, โยพฺพนวินาสปจฺจุปฏฺานา. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว. เอวํ ภควา อิทมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ, เทสนาปริโยสาเน อยมฺปิ พฺราหฺมโณ ¶ อรหตฺเต ปติฏฺาสิ สทฺธึ อนฺเตวาสิกสหสฺเสน. อฺเสฺจ อเนกสหสฺสานํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ. เสสํ วุตฺตสทิสเมว.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถาย
ปุณฺณกมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. เมตฺตคูมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๑๘. จตุตฺเถ ¶ เมตฺตคูสุตฺเต – มฺามิ ตํ เวทคู ภาวิตตฺตนฺติ ‘‘อยํ เวทคู’’ติ จ ‘‘ภาวิตตฺโต’’ติ จ เอวํ ตํ มฺามิ.
อปริตฺโตติ น อปฺโป. มหนฺโตติ น ขุทฺทโก. คมฺภีโรติ น อุตฺตาโน. อปฺปเมยฺโยติ มินิตุํ น สกฺกุเณยฺโย. ทุปฺปริโยคาฬฺโหติ อวคาหิตุํ โอตริตุํ ทุกฺโข. พหุรตโน สาครูปโมติ พหูนํ ธมฺมรตนานํ อากรตฺตา อเนกวิธรตนสมฺปนฺโน มหาสมุทฺโท วิย พหุรตโน สาครสทิโส.
น มงฺกุ โหตีติ น วิกุณิตมุโข โหติ. อปฺปติฏฺิตจิตฺโตติ โทสวเสน น ฆนีภูตจิตฺโต. อลีนมนโสติ น สงฺกุจิตจิตฺโต. อพฺยาปนฺนเจตโสติ น ปูติจิตฺโต.
ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺโตติ จกฺขุวิสเย รูปารมฺมเณ ทิฏฺมตฺโตเยว ตํ อารมฺมณํ ภวิสฺสติ, กตฺตา วา กาเรตา วา นตฺถิ. ยํ จกฺขุนา ทิฏฺํ วณฺณายตนเมว. สุตาทีสุปิ เอเสว นโย. อปิ จ ทิฏฺเติ ทสฺสนโยเคน วณฺณายตนํ, สวนโยเคน สทฺทายตนํ, มุตโยเคน ฆานชิวฺหากายายตนานิ ทสฺเสติ. ฆานสฺส คนฺธายตนํ, ชิวฺหาย รสายตนํ, กายสฺส ปถวี เตโช วายูติ โผฏฺพฺพายตนํ, วิฺาตโยเคน ธมฺมายตนํ ทสฺเสติ. ทิฏฺเ อนูปโยติ จกฺขุวิฺาเณน ทิฏฺเ ราคูปยวิรหิโต. อนปาโยติ โกธวิรหิโต อปฺปฏิโฆ ¶ . อนิสฺสิโตติ ตณฺหาย อนลฺลีโน. อปฺปฏิพทฺโธติ มาเนน น พทฺโธ. วิปฺปมุตฺโตติ สพฺพารมฺมณโต มุตฺโต. วิสฺุตฺโตติ กิเลเสหิ วิยุตฺโต หุตฺวา ิโต.
สํวิชฺชติ ภควโต จกฺขูติ พุทฺธสฺส ภควโต ปกติมํสจกฺขุ ¶ อุปลพฺภติ. ปสฺสตีติ ¶ ทกฺขติ โอโลเกติ. จกฺขุนา รูปนฺติ จกฺขุวิฺาเณน รูปารมฺมณํ. ฉนฺทราโคติ ตณฺหาฉนฺโท.
ทนฺตํ นยนฺติ สมิตินฺติ อุยฺยานกีฬามณฺฑลาทีสุ หิ มหาชนมชฺฌํ คจฺฉนฺตา ทนฺตเมว โคณํ วา ทนฺตํ อสฺสาชานียํ วา ยาเน โยเชตฺวา นยนฺติ. ราชาติ ตถารูปาเนว านานิ คจฺฉนฺโต ราชาปิ ทนฺตเมว อภิรุหติ. มนุสฺเสสูติ มนุสฺเสสุปิ จตูหิ อริยมคฺเคหิ ทนฺโต นิพฺพิเสวโนว เสฏฺโ. โยติวากฺยนฺติ เอวรูปํ อติกฺกมฺมวจนํ ปุนปฺปุนํ วุจฺจมานมฺปิ ติติกฺขติ นปฺปติปฺผรติ น วิหฺติ, เอวรูโป ทนฺโต เสฏฺโติ อตฺโถ.
อสฺสตราติ วฬวาย คทฺรเภน ชาตา. อาชานียาติ ยํ อสฺสทมฺมสารถิ การณํ กาเรติ, ตสฺส ขิปฺปํ ชานนสมตฺถา. สินฺธวาติ สินฺธวรฏฺเ ชาตา อสฺสา. มหานาคาติ กฺุชรสงฺขาตา มหาหตฺถิโน. อตฺตทนฺโตติ เอเต อสฺสตรา วา สินฺธวา วา กฺุชรา วา ทนฺตาว, น อทนฺตา. โย ปน จตุมคฺคสงฺขาเตน อตฺตโน ทนฺตตาย อตฺตทนฺโต นิพฺพิเสวโน, อยํ ตโตปิ วรํ, สพฺเพหิปิ เอเตหิ อุตฺตริตโรติ อตฺโถ.
น หิ เอเตหิ ยาเนหีติ ยานิ เอตานิ หตฺถิยานาทีนิ อุตฺตมยานานิ, เอเตหิ ยาเนหิ โกจิ ปุคฺคโล สุปินนฺเตนปิ อคตปุพฺพตฺตา ‘‘อคต’’นฺติ สงฺขาตํ นิพฺพานทิสํ ตถา น คจฺเฉยฺย. ยถา ปุพฺพภาเค อินฺทฺริยทเมน ทนฺเตน, อปรภาเค อริยมคฺคภาวนาย สุทนฺเตน ทนฺโต นิพฺพิเสวโน สปฺปฺโ ปุคฺคโล ตํ อคตปุพฺพํ ทิสํ คจฺฉติ, ทนฺตภูมึ ปาปุณาติ, ตสฺมา อตฺตทมนเมว วรตรนฺติ อตฺโถ (ธ. ป. อฏฺ. ๒.๓๒๒; มหานิ. อฏฺ. ๙๐).
วิธาสุ น วิกมฺปนฺตีติ นววิธมานโกฏฺาเสสุ น จลนฺติ น เวเธนฺติ. วิปฺปมุตฺตา ปุนพฺภวาติ กมฺมกิเลสโต สมุจฺเฉทวิมุตฺติยา สุฏฺุ มุตฺตา. ทนฺตภูมึ อนุปฺปตฺตาติ ¶ อรหตฺตผลํ ปาปุณิตฺวา ิตา. เต โลเก วิชิตาวิโนติ ¶ เต วุตฺตปฺปการา ขีณาสวา สตฺตโลเก วิชิตวิชยา นาม (สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๓.๗๖; มหานิ. อฏฺ. ๙๐).
ยสฺสินฺทฺริยานิ ภาวิตานีติ ยสฺส ขีณาสวสฺส สทฺธาทิปฺจินฺทฺริยานิ อรหตฺตผลํ ปาเปตฺวา วฑฺฒิตานิ. อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จาติ จกฺขาทิอชฺฌตฺตายตนานิ จ รูปาทิพหิทฺธายตนานิ จ นิพฺพิเสวนานิ กตานิ. สพฺพโลเกติ สกลเตธาตุเก โลเก จ. นิพฺพิชฺฌ อิมํ ปรฺจ โลกนฺติ อิมฺจ อตฺตภาวํ ปรโลเก จ อตฺตภาวํ อติกฺกมิตฺวา ิโต ขีณาสโว ¶ . กาลํ กงฺขติ ภาวิโต ส ทนฺโตติ โส ขีณาสโว จกฺขาทิโต ทนฺโต วฑฺฒิตจิตฺโต มรณกาลํ ปตฺเถติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๒.๕๒๒; มหานิ. อฏฺ. ๙๐).
เยสํ ธมฺมานํ อาทิโต สมุทาคมนํ ปฺายตีติ เยสํ ขนฺธาทิธมฺมานํ อุปฺปตฺติ ปฺายติ. อตฺถงฺคมโต นิโรโธติ อตฺถงฺคมนวเสน เตสํเยว อภาโว ปฺายติ. กมฺมสนฺนิสฺสิโต วิปาโกติ กุสลากุสลกมฺมนิสฺสิโต วิปาโก กมฺมํ อมฺุจิตฺวา ปวตฺตนโต วิปาโกปิ กมฺมสนฺนิสฺสิโตว นาม. นามสนฺนิสฺสิตํ รูปนฺติ สพฺพรูปํ นามํ คเหตฺวา ปวตฺตนโต นามสนฺนิสฺสิตํ นาม ชาตํ. ชาติยา อนุคตนฺติ สพฺพํ กมฺมาทิกํ ชาติยา อนุปวิฏฺํ. ชราย อนุสฏนฺติ ชราย ปตฺถฏํ. พฺยาธินา อภิภูตนฺติ พฺยาธิทุกฺเขน อภิมทฺทิตํ. มรเณน อพฺภาหตนฺติ มจฺจุนา อภิหฏํ ปหฏํ. อตาณนฺติ ปุตฺตาทีหิปิ ตายนสฺส อภาวโต อตายนํ อนารกฺขํ อลพฺภเณยฺยํ เขมํ วา. อเลณนฺติ อลฺลียิตุํ นิสฺสยิตุํ อนรหํ, อลฺลีนานมฺปิ น เลณกิจฺจกรณํ. อสรณนฺติ นิสฺสิตานํ น ภยหารกํ, น ภยวินาสกํ. อสรณีภูตนฺติ ปุเร อุปฺปตฺติยา อตฺตโน อภาเวเนว อสรณํ, อุปฺปตฺติสมกาลเมว อสรณภูตนฺติ อตฺโถ.
๑๙. อปุจฺฉสีติ เอตฺถ อ-อิติ ปทปูรณมตฺเต นิปาโต, ปุจฺฉสิตฺเวว อตฺโถ. ปวกฺขามิ ยถา ปชานนฺติ ยถา ปชานนฺโต อาจิกฺขติ, เอวํ อาจิกฺขิสฺสามิ. อุปธินิทานา ปภวนฺติ ทุกฺขาติ ตณฺหาทิอุปธินิทานา ชาติอาทิทุกฺขวิเสสา ปภวนฺติ.
ตณฺหูปธีติ ¶ ¶ ตณฺหา เอว ตณฺหูปธิ. สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิ เอว ทิฏฺูปธิ. ราคาทิกิเลสา เอว กิเลสูปธิ. ปฺุาทิกมฺมานิ เอว กมฺมูปธิ. ติวิธทุจฺจริตานิเยว ทุจฺจริตูปธิ. กพฬีการาทโย อาหารา เอว อาหารูปธิ. โทสปฏิโฆ เอว ปฏิฆูปธิ. กมฺมสมุฏฺานา กมฺเมเนว คหิตา ปถวาทโย จตสฺโส ธาตุโยว จตสฺโส อุปาทินฺนธาตุโย อุปธี. จกฺขาทิฉอชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ เอว ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ อุปธี. จกฺขุวิฺาณาทิฉวิฺาณกายาว ฉ วิฺาณกายา อุปธี. สพฺพมฺปิ ทุกฺขํ ทุกฺขมนฏฺเนาติ สพฺพเตภูมกํ ทุกฺขํ ทุสฺสหนฏฺเน อุปธิ.
๒๐. เอวํ อุปธินิทานโต ปภวนฺเตสุ ทุกฺเขสุ – โย เว อวิทฺวาติ คาถา. ตตฺถ ปชานนฺติ สงฺขาเร อนิจฺจาทิวเสน ชานนฺโต. ทุกฺขสฺส ชาติปฺปภวานุปสฺสีติ วฏฺฏทุกฺขสฺส ชาติการณํ ‘‘อุปธี’’ติ อนุปสฺสนฺโต. อิมิสฺสา คาถาย นิทฺเทเส วตฺตพฺพํ นตฺถิ.
๒๑. โสกปริทฺทวฺจาติ ¶ โสกฺจ ปริเทวฺจ. ตถา หิ เต วิทิโต เอส ธมฺโมติ ยถา ยถา สตฺตา ชานนฺติ, ตถา ตถา าปนวเสน วิทิโต เอส ตยา ธมฺโมติ.
ตตฺถ ตรนฺตีติ ปมมคฺเคน ทิฏฺโฆํ ตรนฺติ. อุตฺตรนฺตีติ ทุติยมคฺเคน กาโมฆํ ตนุกรณวเสน อุคฺคนฺตฺวา ตรนฺติ. ปตรนฺตีติ ตเมว นิรวเสสปฺปหานวเสน ตติยมคฺเคน วิเสเสน ตรนฺติ. สมติกฺกมนฺตีติ ภโวฆอวิชฺโชฆปฺปหานวเสน จตุตฺถมคฺเคน สมฺมา อติกฺกมนฺติ. วีติวตฺตนฺตีติ ผลํ ปาปุณิตฺวา ติฏฺนฺติ.
๒๒. กิตฺตยิสฺสามิ เต ธมฺมนฺติ นิพฺพานธมฺมํ นิพฺพานคามินิปฏิปทาธมฺมฺจ เต เทสยิสฺสามิ. ทิฏฺเ ธมฺเมติ ทิฏฺเว ทุกฺขาทิธมฺเม, อิมสฺมึเยว วา อตฺตภาเว. อนีติหนฺติ อตฺตปจฺจกฺขํ. ยํ วิทิตฺวาติ ยํ ธมฺมํ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติอาทินา (ธ. ป. ๒๗๗; เถรคา. ๖๗๖; กถา. ๗๕๓) นเยน สมฺมสนฺโต วิทิตฺวา.
ตตฺถ อาทิกลฺยาณนฺติ หิตฺวาปิ อนุตฺตรํ วิเวกสุขํ ธมฺมํ ตว กิตฺตยิสฺสามิ, ตฺจ โข อปฺปํ วา พหุํ วา กิตฺตยนฺโต อาทิกลฺยาณาทิปฺปการเมว กิตฺตยิสฺสามิ. อาทิมฺหิ กลฺยาณํ ภทฺทกํ อนวชฺชเมว กตฺวา กิตฺตยิสฺสามิ ¶ . มชฺเฌปิ. ปริโยสาเนปิ ภทฺทกํ อนวชฺชเมว กตฺวา กิตฺตยิสฺสามีติ ¶ วุตฺตํ โหติ. ยสฺมิฺหิ ภควา เอกคาถมฺปิ เทเสสิ, สา สมนฺตภทฺทกตฺตา ธมฺมสฺส ปมปาเทน อาทิกลฺยาณา, ทุติยตติยปาเทหิ มชฺเฌกลฺยาณา, ปจฺฉิมปาเทน ปริโยสานกลฺยาณา. เอกานุสนฺธิกํ สุตฺตํ นิทาเนน อาทิกลฺยาณํ, นิคมเนน ปริโยสานกลฺยาณํ, เสเสน มชฺเฌกลฺยาณํ. นานานุสนฺธิกํ สุตฺตํ ปมานุสนฺธินา อาทิกลฺยาณํ, ปจฺฉิเมน ปริโยสานกลฺยาณํ, เสเสหิ มชฺเฌกลฺยาณํ.
อปิ จ สนิทานอุปฺปตฺติตฺตา อาทิกลฺยาณํ, เวเนยฺยานํ อนุรูปโต อตฺถสฺส อวิปรีตตาย จ เหตุทาหรณยุตฺตโต จ มชฺเฌกลฺยาณํ, โสตูนํ สทฺธาปฏิลาภชนเนน นิคมเนน จ ปริโยสานกลฺยาณํ.
สกโล หิ สาสนธมฺโม อตฺตโน อตฺถภูเตน สีเลน อาทิกลฺยาโณ, สมถวิปสฺสนามคฺคผเลหิ มชฺเฌกลฺยาโณ, นิพฺพาเนน ปริโยสานกลฺยาโณ. สีลสมาธีหิ วา อาทิกลฺยาโณ, วิปสฺสนามคฺเคหิ มชฺเฌกลฺยาโณ, ผลนิพฺพาเนหิ ปริโยสานกลฺยาโณ. พุทฺธสุโพธิตาย วา อาทิกลฺยาโณ, ธมฺมสุธมฺมตาย มชฺเฌกลฺยาโณ, สงฺฆสุปฺปฏิปตฺติยา ปริโยสานกลฺยาโณ ¶ . ตํ สุตฺวา ตถตฺตาย ปฏิปนฺเนน อธิคนฺตพฺพาย อภิสมฺโพธิยา วา อาทิกลฺยาโณ, ปจฺเจกโพธิยา มชฺเฌกลฺยาโณ, สาวกโพธิยา ปริโยสานกลฺยาโณ.
สุยฺยมาโน เจส นีวรณวิกฺขมฺภนโต ภวเนนปิ กลฺยาณเมว อาวหตีติ อาทิกลฺยาโณ, ปฏิปชฺชิยมาโน สมถวิปสฺสนาสุขาวหนโต ปฏิปตฺติยาปิ กลฺยาณเมว อาวหตีติ มชฺเฌกลฺยาโณ, ตถาปฏิปนฺโน (ปารา. อฏฺ. ๑.๑) จ ปฏิปตฺติผเล นิฏฺิเต ตาทิภาวาวหนโต ปฏิปตฺติผเลนปิ กลฺยาณเมว อาวหตีติ ปริโยสานกลฺยาโณติ.
ยํ ปเนส ภควา ธมฺมํ เทเสนฺโต สาสนพฺรหฺมจริยํ มคฺคพฺรหฺมจริยฺจ ปกาเสติ, นานานเยหิ ทีเปติ. ตํ ยถานุรูปํ อตฺถสมฺปตฺติยา สาตฺถํ. พฺยฺชนสมฺปตฺติยา สพฺยฺชนํ. สงฺกาสนปกาสนวิวรณวิภชนอุตฺตานีกรณปฺตฺติอตฺถปทสมาโยคโต สาตฺถํ. อกฺขรปทพฺยฺชนาการนิรุตฺตินิทฺเทสสมฺปตฺติยา สพฺยฺชนํ. อตฺถคมฺภีรตาปฏิเวธคมฺภีรตาหิ สาตฺถํ ¶ . ธมฺมคมฺภีรตาเทสนาคมฺภีรตาหิ สพฺยฺชนํ. อตฺถปฏิภานปฏิสมฺภิทาวิสยโต สาตฺถํ. ธมฺมนิรุตฺติปฏิสมฺภิทาวิสยโต ¶ สพฺยฺชนํ. ปณฺฑิตเวทนียโต สริกฺขกชนปฺปสาทกนฺติ สาตฺถํ. สทฺเธยฺยโต โลกิยชนปฺปสาทกนฺติ สพฺยฺชนํ. คมฺภีราธิปฺปายโต สาตฺถํ. อุตฺตานปทโต สพฺยฺชนํ. อุปเนตพฺพสฺส อภาวโต สกลปริปุณฺณภาเวน เกวลปริปุณฺณํ. อปเนตพฺพสฺส อภาวโต นิทฺโทสภาเวน ปริสุทฺธํ.
อปิ จ – ปฏิปตฺติยา อธิคมพฺยตฺติโต สาตฺถํ. ปริยตฺติยา อาคมพฺยตฺติโต สพฺยฺชนํ. สีลาทิปฺจธมฺมกฺขนฺธยุตฺตโต เกวลปริปุณฺณํ. นิรุปกฺกิเลสโต นิตฺถรณตฺถาย ปวตฺติโต โลกามิสนิรเปกฺขโต จ ปริสุทฺธํ. สิกฺขตฺตยปริคฺคหิตตฺตา พฺรหฺมภูเตหิ เสฏฺเหิ จริตพฺพโต, เตสฺจ จริยภาวโต พฺรหฺมจริยํ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑).
เอวํ ปริยตฺติธมฺมํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ โลกุตฺตรธมฺมํ ทสฺเสตุํ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺาเน’’ติ อาห. สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺเม ทสฺเสตฺวา นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรํ ทสฺเสตุํ ‘‘นิพฺพานฺจา’’ติ อาห. นิพฺพานคามินิฺจ ปฏิปทนฺติ ปุพฺพภาคสีลสมาธิวิปสฺสนาธมฺมฺจ กิตฺตยิสฺสามิ.
ทุกฺเข ทิฏฺเติ ทุกฺขสจฺเจ สรสลกฺขเณน ทิฏฺเ ทุกฺขสจฺจํ ปกาเสสฺสามิ. สมุทยาทีสุปิ เอเสว นโย.
๒๓. ตฺจาหํ ¶ อภินนฺทามีติ ตํ วุตฺตปฺปการธมฺมโชตกํ ตว วจนํ อหํ ปตฺถยามิ. ธมฺมมุตฺตมนฺติ ตฺจ ธมฺมมุตฺตมํ อภินนฺทามิ.
ตตฺถ มหโต ตโมกายสฺส ปทาลนนฺติ มหโต อวิชฺชาราสิสฺส เฉทนํ. อนิจฺจลกฺขณวเสน เอสี. ทุกฺขลกฺขณวเสน คเวสี. อนตฺตลกฺขณวเสน สมนฺตโต ปริเยสี. มหโต วิปลฺลาสสฺส ปเภทนนฺติ มหนฺตสฺส อสุเภ สุภนฺติอาทิทฺวาทสวิธสฺส วิปลฺลาสสฺส เภทนํ. มหโต ตณฺหาสลฺลสฺส อพฺพหนนฺติ มหนฺตสฺส อนฺโตตุทนฏฺเน ตณฺหากณฺฏกสฺส ลฺุจนํ. ทิฏฺิสงฺฆาฏสฺส วินิเวนนฺติ ทิฏฺิเยว อพฺโพจฺฉินฺนปฺปวตฺติโต สงฺฆฏิตฏฺเน สงฺฆาโฏ, ตสฺส ทิฏฺิสงฺฆาฏสฺส นิวตฺตนํ. มานธชสฺส ปาตนนฺติ อุสฺสิตฏฺเน อุนฺนติลกฺขณสฺส มานทฺธชสฺส ปาตนํ. อภิสงฺขารสฺส วูปสมนฺติ ปฺุาทิอภิสงฺขารสฺส ¶ อุปสมนํ. โอฆสฺส นิตฺถรณนฺติ วฏฺเฏ โอสีทาปนสฺส กาโมฆาทิโอฆสฺส ¶ นิตฺถรณํ นิกฺขมนํ. ภารสฺส นิกฺเขปนนฺติ รูปาทิปฺจกฺขนฺธภารสฺส ขิปนํ ฉฑฺฑนํ. สํสารวฏฺฏสฺส อุปจฺเฉทนฺติ ขนฺธาทิปฏิปาฏิสํสารวฏฺฏสฺส เหตุนสฺสเนน อุจฺฉิชฺชนํ. สนฺตาปสฺส นิพฺพาปนนฺติ กิเลสสนฺตาปสฺส นิพฺพุตึ. ปริฬาหสฺส ปฏิปสฺสทฺธนฺติ กิเลสปริฬาหสฺส วูปสมํ ปฏิปสฺสมฺภนํ. ธมฺมธชสฺส อุสฺสาปนนฺติ นววิธโลกุตฺตรธมฺมสฺส อุสฺสาเปตฺวา ปนํ. ปรมตฺถํ อมตํ นิพฺพานนฺติ อุตฺตมฏฺเน ปรมตฺถํ. นตฺถิ เอตสฺส มรณสงฺขาตํ มตนฺติ อมตํ. กิเลสวิสปฏิปกฺขตฺตา อคทนฺติปิ อมตํ. สํสารทุกฺขปฏิปกฺขภูตตฺตา นิพฺพุตนฺติ นิพฺพานํ. นตฺเถตฺถ ตณฺหาสงฺขาตํ วานนฺติปิ นิพฺพานํ.
มเหสกฺเขหิ สตฺเตหีติ มหานุภาเวหิ สกฺกาทีหิ สตฺเตหิ. ปริเยสิโตติ ปริยิฏฺโ. กหํ เทวเทโวติ เทวานํ อติเทโว กุหึ. กหํ นราสโภติ อุตฺตมปุริโส.
๒๔. อุทฺธํ อโธ ติริยฺจาปิ มชฺเฌติ เอตฺถ อุทฺธนฺติ อนาคตทฺธา วุจฺจติ. อโธติ อตีตทฺธา. ติริยฺจาปิ มชฺเฌติ ปจฺจุปฺปนฺนทฺธา. เอเตสุ นนฺทิฺจ นิเวสนฺจ, ปนุชฺช วิฺาณนฺติ เอเตสุ อุทฺธาทีสุ ตณฺหฺจ ทิฏฺินิเวสนฺจ อภิสงฺขารวิฺาณฺจ ปนุเทหิ. ปนุทิตฺวา จ ภเว น ติฏฺเติ เอวํ สนฺเต ทุวิเธปิ ภเว น ติฏฺเยฺย. เอวํ ตาว ปนุชฺชสทฺทสฺส ปนุเทหีติ อิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป สมฺพนฺโธ. ปนุทิตฺวาติ เอตสฺมึ ปน อตฺถวิกปฺเป ภเว น ติฏฺเติ อยเมว สมฺพนฺโธ. เอตานิ นนฺทีนิเวสนวิฺาณานิ ปนุทิตฺวา ทุวิเธปิ ภเว น ติฏฺเยฺยาติ.
สโหกาสวเสน เทวโลโก อุทฺธํ. อปายโลโก อโธ. มนุสฺสโลโก มชฺเฌ. ตตฺถ กุสลา ธมฺมาติ อปายํ มฺุจิตฺวา อุปริ ปฏิสนฺธิทานโต กุสลา ธมฺมา อุทฺธนฺติ วุจฺจนฺติ. อกุสลา ¶ ธมฺมา อปาเยสุ ปฏิสนฺธิทานโต อโธติ. ตทุภยวิมุตฺตตฺตา อพฺยากตา ธมฺมา ติริยฺจาปิ มชฺเฌติ วุจฺจนฺติ. สพฺโพปริวเสน อรูปธาตุ อุทฺธํ. สพฺพอโธวเสน กามธาตุ อโธ. ตทุภยนฺตรวเสน รูปธาตุ มชฺเฌ. กายจิตฺตาพาธขนนวเสน สุขา เวทนา อุทฺธํ ¶ . ทุกฺขมนวเสน ทุกฺขา เวทนา อโธ. อทุกฺขมสุขา เวทนา มชฺเฌ. อตฺตภาววเสน ปริจฺเฉทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุทฺธนฺติ อุทฺธํ ปาทตลา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อุทฺธํ ปาทตลาติ ปาทตลโต อุปริ. อโธ เกสมตฺถกาติ เกสมตฺถกโต อโธ. มชฺเฌติ ทฺวินฺนํ อนฺตรํ.
ปฺุาภิสงฺขารสหคตํ ¶ วิฺาณนฺติ เตรสวิธปฺุาภิสงฺขารสมฺปยุตฺตํ กมฺมวิฺาณํ. อปฺุาภิสงฺขารสหคตํ วิฺาณนฺติ ทฺวาทสวิธอปฺุาภิสงฺขารสมฺปยุตฺตํ กมฺมวิฺาณํ. อาเนฺชาภิสงฺขารสหคตํ วิฺาณนฺติ จตุพฺพิธํ อาเนฺชาภิสงฺขารสหคตํ กมฺมวิฺาณํ. นุชฺชาติ ขิป. ปนุชฺชาติ อตีว ขิป. นุทาติ ลฺุจ. ปนุทาติ อตีว ลฺุจ. ปชหาติ ฉฑฺเฑหิ. วิโนเทหีติ ทูรํ กโรหิ.
กมฺมภวฺจาติ ปฺุาภิสงฺขารเจตนาว. ปฏิสนฺธิกฺจ ปุนพฺภวนฺติ ปฏิสนฺธิยา รูปาทิปุนพฺภวฺจ. ปชหนฺโต ปมมคฺเคน, วิโนเทนฺโต ทุติยมคฺเคน, พฺยนฺตี กโรนฺโต ตติยมคฺเคน, อนภาวํ คเมนฺโต จตุตฺถมคฺเคน. กมฺมภเว น ติฏฺเยฺยาติ ปฺุาทิอภิสงฺขาเร น ติฏฺเยฺย.
๒๕. เอตานิ วิโนเทตฺวา ภเว อติฏฺนฺโต เอโส – เอวํ วิหารีติ คาถา. ตตฺถ อิเธวาติ อิมสฺมึเยว สาสเน, อิมสฺมึเยว วา อตฺตภาเว. อิมิสฺสา คาถาย นิทฺเทโส อุตฺตานตฺโถว.
๒๖. สุกิตฺติตํ โคตมนูปธีกนฺติ เอตฺถ อนูปธีกนฺติ นิพฺพานํ, ตํ สนฺธาย ภควนฺตํ อาลปนฺโต อาห – ‘‘สุกิตฺติตํ โคตมนูปธีก’’นฺติ.
นิทฺเทเส กิเลสา จาติ อุปตาปนฏฺเน ราคาทโย กิเลสา จ ราสฏฺเน วิปากภูตา ปฺจกฺขนฺธา จ กุสลาทิอภิสงฺขารา เจตนา จ ‘‘อุปธี’’ติ วุจฺจนฺติ กถียนฺติ. อุปธิปฺปหานํ ตทงฺคปฺปหาเนน, อุปธิวูปสมํ วิกฺขมฺภนปฺปหาเนน, อุปธิปฏินิสฺสคฺคํ สมุจฺเฉทปฺปหาเนน อุปธิปฏิปสฺสทฺธํ ผเลนาติ.
๒๗. น เกวลํ ทุกฺขเมว ปหาสิ – เต จาปีติ คาถา. ตตฺถ อฏฺิตนฺติ สกฺกจฺจํ, สทา ¶ วา. ตํ ตํ นมสฺสามีติ ตสฺมา ¶ ตํ นมสฺสามิ. สเมจฺจาติ อุปคนฺตฺวา. นาคาติ ภควนฺตํ อาลปนฺโต อาห.
นิทฺเทเส สเมจฺจาติ ชานิตฺวา, เอกโต หุตฺวา วา. อภิสเมจฺจาติ ปฏิวิชฺฌิตฺวา. สมาคนฺตฺวาติ สมฺมุขา หุตฺวา. อภิสมาคนฺตฺวาติ สมีปํ คนฺตฺวา. สมฺมุขาติ สมฺมุเข. อาคุํ น กโรตีติ ปาปํ น กโรติ.
๒๘. อิทานิ นํ ภควา ‘‘อทฺธา หิ ภควา ปหาสิ ทุกฺข’’นฺติ เอวํ เตน พฺราหฺมเณน วิทิโตปิ อตฺตานํ อนุปเนตฺวาว ปหีนทุกฺเขน ปุคฺคเลน โอวทนฺโต ¶ ‘‘ยํ พฺราหฺมณ’’นฺติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ยํ ตํ อภิชานนฺโต ‘‘อยํ พาหิตปาปตฺตา พฺราหฺมโณ, เวเทหิ คตตฺตา เวทคู, กิฺจนาภาวา อกิฺจโน, กาเมสุ จ ภเวสุ จ อสตฺตตฺตา กามภเว อสตฺโต’’ติ ชฺา ชาเนยฺยาสิ. อทฺธา หิ โส โอฆมิมํ อตาริ, ติณฺโณ จ ปารํ อขิโล อกงฺโข.
นิทฺเทเส ราคกิฺจนนฺติ ราคปลิโพธํ. โทสกิฺจนนฺติอาทิปิ เอเสว นโย. กาโมฆํ ติณฺโณ อนาคามิมคฺเคน. ภโวฆํ ติณฺโณ อรหตฺตมคฺเคน. ทิฏฺโฆํ ติณฺโณ โสตาปตฺติมคฺเคน. อวิชฺโชฆํ ติณฺโณ อรหตฺตมคฺเคน. สํสารปถํ ติณฺโณ กุสลากุสลกมฺมปฺปเภเทนาติ. อุตฺติณฺโณ ปมมคฺเคน. นิตฺติณฺโณ ทุติยมคฺเคน. อติกฺกนฺโต ตติยมคฺเคน. สมติกฺกนฺโต จตุตฺถมคฺเคน.วีติวตฺโต ผเลน.
๒๙. กิฺจ ภิยฺโย – วิทฺวา จ โยติ คาถา. ตตฺถ อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน, อตฺตภาเว วา. วิสชฺชาติ โวสชฺชิตฺวา.
นิทฺเทเส สชฺชนฺติ มฺุจนํ. วิสชฺชนฺติ โวสชฺชนํ. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว. เอวํ ภควา อิทมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน จ วุตฺตสทิโส เอว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถาย
เมตฺตคูมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. โธตกมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๓๐. ปฺจเม ¶ ¶ โธตกสุตฺเต – วาจาภิกงฺขามีติ วาจํ อภิกงฺขามิ. สิกฺเข นิพฺพานมตฺตโนติ อตฺตโน ราคาทีนํ นิพฺพานตฺถาย อธิสีลาทีนิ สิกฺเขยฺย. นิทฺเทเส อปุพฺพํ นตฺถิ.
อิโตติ มม มุขโต.
นิทฺเทเส อาตปฺปนฺติ กิเลสตาปนํ. อุสฺสาหนฺติ อสงฺโกจํ. อุสฺโสฬฺหีนฺติ พลววีริยํ. ถามนฺติ อสิถิลํ. ธิตินฺติ ธารณํ. วีริยํ กโรหีติ ปรกฺกมํ กโรหิ. ฉนฺทํ ชเนหีติ รุจึ อุปฺปาเทหิ.
๓๒. เอวํ ¶ วุตฺเต อตฺตมโน โธตโก ภควนฺตํ อภิตฺถวมาโน กถํกถาปโมกฺขํ ยาจนฺโต ‘‘ปสฺสามห’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ ปสฺสามหํ เทวมนุสฺสโลเกติ ปสฺสามิ อหํ เทวมนุสฺสโลเก. ตํ ตํ นมสฺสามีติ ตํ เอวรูปํ ตํ นมสฺสามิ. ปมฺุจาติ ปโมเจหิ.
นิทฺเทเส ปจฺเจกพุทฺธาติ ตํ ตํ อารมฺมณํ ปาฏิเยกฺกํ จตุสจฺจํ สยเมว พุทฺธา ปฏิเวธปฺปตฺตาติ ปจฺเจกพุทฺธา. สีหสีโหติ อฉมฺภิตฏฺเน สีหานํ อติสีโห. นาคนาโคติ นิกฺกิเลสฏฺเน, มหนฺตฏฺเน วา นาคานํ อตินาโค. คณิคณีติ คณวนฺตานํ อตีว คณวา. มุนิมุนีติ าณวนฺตานํ อตีว าณวา. ราชราชาติ อุตฺตมราชา. มฺุจ มนฺติ โมเจหิ มํ. ปมฺุจ มนฺติ นานาวิเธน มฺุเจหิ มํ. โมเจหิ มนฺติ สิถิลํ กโรหิ มํ. ปโมเจหิ มนฺติ อตีว สิถิลํ กโรหิ มํ. อุทฺธร มนฺติ มํ สํสารปงฺกา อุทฺธริตฺวา ถเล ปติฏฺาเปหิ. สมุทฺธร มนฺติ สมฺมา อุทฺธริตฺวา ถเล ปติฏฺาเปหิ มํ. วุฏฺาเปหีติ วิจิกิจฺฉาสลฺลโต อปเนตฺวา วิสุํ กรณวเสน อุฏฺาเปหิ.
๓๓. อถสฺส ภควา อตฺตาธีนเมว กถํกถาปโมกฺขํ โอฆตรณมุเขน ทสฺเสนฺโต ‘‘นาห’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ ¶ นาหํ สหิสฺสามีติ อหํ น สหิสฺสามิ น สกฺโกมิ. น วายมิสฺสามีติ วุตฺตํ โหติ. ปโมจนายาติ ปโมเจตุํ. กถํกถินฺติ สกงฺขํ. ตเรสีติ ตเรยฺยาสิ.
นิทฺเทเส ¶ น อีหามีติ ปโยคํ น กโรมิ. น สมีหามีติ อตีว ปโยคํ น กโรมิ. อสฺสทฺเธ ปุคฺคเลติ รตนตฺตเย สทฺธาวิรหิเต ปุคฺคเล. อจฺฉนฺทิเกติ มคฺคผลตฺถํ รุจิวิรหิเต. กุสีเตติ สมาธิวิรหิเต. หีนวีริเยติ นิพฺพีริเย. อปฺปฏิปชฺชมาเนติ ปฏิปตฺติยา น ปฏิปชฺชมาเน.
๓๔. เอวํ วุตฺเต อตฺตมนตโร โธตโก ภควนฺตํ อภิตฺถวมาโน อนุสาสนึ ยาจนฺโต ‘‘อนุสาส พฺรหฺเม’’ติ คาถมาห. ตตฺถ พฺรหฺเมติ เสฏฺวจนเมตํ. เตน ภควนฺตํ อามนฺตยมาโน อาห ‘‘อนุสาส พฺรหฺเม’’ติ. วิเวกธมฺมนฺติ สพฺพสงฺขารวิเวกํ นิพฺพานธมฺมํ. อพฺยาปชฺชมาโนติ นานปฺปการกํ อนาปชฺชมาโน. อิเธว สนฺโตติ อิเธว สมาโน. อสิโตติ อนิสฺสิโต.
๓๕-๗. อิโต ¶ ปรา ทฺเว คาถา เมตฺตคูสุตฺเต วุตฺตนยา เอว. เกวลฺหิ ตตฺถ ธมฺมํ, อิธ สนฺตินฺติ อยํ วิเสโส. ตติยคาถายปิ ปุพฺพฑฺฒํ ตตฺถ วุตฺตนยเมว. อปรฑฺเฒ สงฺโคติ สชฺชนฏฺานํ, ลคฺคนนฺติ วุตฺตํ โหติ. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.
เอวํ ภควา อิทมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ, เทสนาปริโยสาเน จ วุตฺตสทิโส เอว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถาย
โธตกมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อุปสีวมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๓๘. ฉฏฺเ ¶ อุปสีวสุตฺเต – มหนฺตโมฆนฺติ มหนฺตํ โอฆํ. อนิสฺสิโตติ ปุคฺคลํ วา ธมฺมํ วา อนลฺลีโน. โน วิสหามีติ น สกฺโกมิ. อารมฺมณนฺติ นิสฺสยํ. ยํ นิสฺสิโตติ ยํ ธมฺมํ วา ปุคฺคลํ วา นิสฺสิโต.
นิทฺเทเส กาโมฆนฺติ อนาคามิมคฺเคน กาโมฆํ. อรหตฺตมคฺเคน ภโวฆํ. โสตาปตฺติมคฺเคน ทิฏฺโฆํ. อรหตฺตมคฺเคน อวิชฺโชฆํ ตเรยฺยํ. สกฺยกุลา ปพฺพชิโตติ ภควโต อุจฺจากุลปริทีปนวเสน วุตฺตํ. อาลมฺพณนฺติ อวตฺถริตฺวา านํ. นิสฺสยนฺติ อลฺลียนํ. อุปนิสฺสยนฺติ อปสฺสยนํ.
๓๙. อิทานิ ¶ ยสฺมา พฺราหฺมโณ อากิฺจฺายตนลาภี ตฺจ สนฺตมฺปิ นิสฺสยํ น ชานาติ. เตนสฺส ภควา ตฺจ นิสฺสยํ อุตฺตริฺจ นิยฺยานปถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อากิฺจฺ’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ เปกฺขมาโนติ ตํ อากิฺจฺายตนสมาปตฺตึ สโต สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺหิตฺวา จ อนิจฺจาทิวเสน ปสฺสมาโน. นตฺถีติ นิสฺสายาติ ตํ ‘‘นตฺถิ กิฺจี’’ติ ปวตฺตํ สมาปตฺตึ อารมฺมณํ กตฺวา. ตรสฺสุ โอฆนฺติ ตโต ปภุติ ปวตฺตาย วิปสฺสนาย ยถานุรูปํ จตุพฺพิธมฺปิ โอฆํ ตรสฺสุ. กถาหีติ กถํกถาหิ. ตณฺหกฺขยํ นตฺตมหาภิปสฺสาติ รตฺตินฺทิวํ นิพฺพานํ วิภูตํ กตฺวา ปสฺส. เอเตนสฺส ทิฏฺธมฺมสุขวิหารํ กเถสิ.
นิทฺเทเส ¶ ตฺเว วิฺาณํ อภาเวตีติ อากาสาลมฺพณํ กตฺวา ปวตฺตมหคฺคตวิฺาณํ อภาเวติ อภาวํ คเมติ. วิภาเวตีติ วิวิธา อภาวํ คเมติ. อนฺตรธาเปตีติ อทสฺสนํ คเมติ. นตฺถิ กิฺจีติ ปสฺสตีติ อนฺตมโส ภงฺคมตฺตมฺปิสฺส นตฺถีติ ปสฺสติ.
๔๐. อิทานิ ‘‘กาเม ปหายา’’ติ สุตฺวา วิกฺขมฺภนวเสน อตฺตนา ปหีเน กาเม สมฺปสฺสมาโน ‘‘สพฺเพสู’’ติ คาถมาห. ตตฺถ หิตฺวา ¶ มฺนฺติ อฺํ ตโต เหฏฺา ฉพฺพิธมฺปิ สมาปตฺตึ หิตฺวา. สฺาวิโมกฺเข ปรเมติ สตฺตสุ สฺาวิโมกฺเขสุ อุตฺตเม อากิฺจฺายตเน. ติฏฺเ นุ โส ตตฺถ อนานุยายีติ โส ปุคฺคโล ตตฺถ อากิฺจฺายตนพฺรหฺมโลเก อวิคจฺฉมาโน ติฏฺเยฺย นูติ ปุจฺฉติ.
นิทฺเทเส อวิจฺจมาโนติ อวิยุชฺชมาโน. อวิคจฺฉมาโนติ วิโยคํ อนาปชฺชมาโน. อนนฺตรธายมาโนติ อนฺตรธานํ อนาปชฺชมาโน. อปริหายมาโนติ อนนฺตรา ปริหานํ อนาปชฺชมาโน.
๔๑-๒. อถสฺส ภควา สฏฺิกปฺปสหสฺสมตฺตกํเยว านํ อนุชานนฺโต จตุตฺถํ คาถมาห. เอวํ ตสฺส ตตฺถ านํ สุตฺวา อิทานิสฺส สสฺสตุจฺเฉทภาวํ ปุจฺฉนฺโต ‘‘ติฏฺเ เจ’’ติ คาถมาห. ตตฺถ ปูคมฺปิ วสฺสานนฺติ อเนกสงฺขฺยมฺปิ วสฺสานํ, คณนราสินฺติ อตฺโถ. ‘‘ปูคมฺปิ วสฺสานี’’ติปิ ปาโ. ตตฺถ วิภตฺติพฺยตฺตเยน สามิวจนสฺส ปจฺจตฺตวจนํ กาตพฺพํ, ปูคนฺติ วา เอตสฺส พหูนีติ อตฺโถ วตฺตพฺโพ. ‘‘ปูคานี’’ติ วาปิ ปนฺติ, ปุริมปาโเยว สพฺพสุนฺทโร. ตตฺเถว โส สีติ สิยา วิมุตฺโตติ โส ปุคฺคโล ตตฺเถวากิฺจฺายตเน นานาทุกฺเขหิ วิมุตฺโต สีติภาวปฺปตฺโต ภเวยฺย, นิพฺพานปฺปตฺโต สสฺสโต หุตฺวา ติฏฺเยฺยาติ อธิปฺปาโย. จเวถ วิฺาณํ ตถาวิธสฺสาติ ‘‘อุทาหุ ตถาวิธสฺส วิฺาณํ อนุปาทาย ปรินิพฺพาเยยฺยา’’ติ ¶ อุจฺเฉทํ ปุจฺฉติ, ‘‘ปฏิสนฺธิคฺคหณตฺถํ วาปิ ภเวยฺยา’’ติ ปฏิสนฺธิมฺปิ ตสฺส ปุจฺฉติ.
ตสฺส วิฺาณํ จเวยฺยาติ ตสฺส อากิฺจฺายตเน อุปฺปนฺนสฺส วิฺาณํ จุตึ ปาปุเณยฺย. อุจฺฉิชฺเชยฺยาติ อุจฺเฉทํ ภเวยฺย. วินสฺเสยฺยาติ วินาสํ ปาปุเณยฺย. น ภเวยฺยาติ อภาวํ คเมยฺย. อุปปนฺนสฺสาติ ปฏิสนฺธิวเสน อุปปนฺนสฺส.
๔๓. อถสฺส ¶ ภควา อุจฺเฉทสสฺสตํ อนุปคมฺม ตตฺถุปปนฺนสฺส อริยสาวกสฺส อนุปาทาย ปรินิพฺพานํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อจฺจี ยถา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อตฺถํ ปเลตีติ อตฺถํ คจฺฉติ. น อุเปติ สงฺขนฺติ ‘‘อสุกํ นาม ทิสํ คโต’’ติ ¶ โวหารํ น คจฺฉติ. เอวํ มุนี นามกายา วิมุตฺโตติ เอวํ ตตฺถ อุปฺปนฺโน เสกฺขมุนิ ปกติยา ปุพฺเพว รูปกายา วิมุตฺโต, ตตฺถ จตุตฺถมคฺคํ นิพฺพตฺเตตฺวา ธมฺมกายสฺส ปริฺาตตฺตา ปุน นามกายาปิ วิมุตฺโต อุภโตภาควิมุตฺโต ขีณาสโว หุตฺวา อนุปาทานิพฺพานสงฺขาตํ อตฺถํ ปเลติ น อุเปติ สงฺขํ ‘‘ขตฺติโย วา พฺราหฺมโณ วา’’ติ เอวมาทิกํ.
นิทฺเทเส ขิตฺตาติ จลิตา. อุกฺขิตฺตาติ อติจลิตา. นุนฺนาติ ปปฺโผฏิยา. ปณุนฺนาติ ทูรีกตา. ขมฺภิตาติ ปฏิกฺกมาปิตา. วิกฺขมฺภิตาติ น สนฺติเก กตา.
๔๔. อิทานิ ‘‘อตฺถํ ปเลตี’’ติ สุตฺวา ตสฺส โยนิโส อตฺถมสลฺลกฺเขนฺโต ‘‘อตฺถงฺคโต โส’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – โส อตฺถงฺคโต อุทาหุ นตฺถิ, อุทาหุ เว สสฺสติยา สสฺสตภาเวน อโรโค อวิปริณามธมฺโม โสติ เอวํ ตํ เม มุนี สาธุ พฺยากโรหิ. กึการณา? ตถา หิ เต วิทิโต เอส ธมฺโมติ.
นิทฺเทเส นิรุทฺโธติ นิโรธํ ปตฺโต. อุจฺฉินฺโนติ อุจฺฉินฺนสนฺตาโน. วินฏฺโติ วินาสํ ปตฺโต.
๔๕. อถสฺส ภควา ตถา อวตฺตพฺพตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺถงฺคตสฺสา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อตฺถงฺคตสฺสาติ อนุปาทาปรินิพฺพุตสฺส. น ปมาณมตฺถีติ รูปาทิปมาณํ นตฺถิ. เยน นํ วชฺชุนฺติ เยน ราคาทินา นํ วเทยฺยุํ. สพฺเพสุ ธมฺเมสูติ สพฺเพสุ ขนฺธาทิธมฺเมสุ.
นิทฺเทเส ¶ อธิวจนานิ จาติ สิริวฑฺฒโก ธนวฑฺฒโกติอาทโย หิ วจนมตฺตํเยว อธิการํ กตฺวา ปวตฺตา อธิวจนา นาม. อธิวจนานํ ปถา อธิวจนปถา นาม. ‘‘อภิสงฺขโรนฺตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา สงฺขารา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๗๙) เอวํ นิทฺธาริตฺวา สเหตุกํ กตฺวา วุจฺจมานา อภิลาปา นิรุตฺติ นาม. นิรุตฺตีนํ ปถา นิรุตฺติปถา นาม. ‘‘ตกฺโก วิตกฺโก สงฺกปฺโป’’ติ ¶ (ธ. ส. ๗) เอวํ เตน เตน ปกาเรน ปฺาปนโต ปฺตฺติ นาม. ปฺตฺตีนํ ปถา ปฺตฺติปถา (ธ. ส. อฏฺ. ๑๐๑-๑๐๘) นาม. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.
เอวํ ภควา อิทมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ, เทสนาปริโยสาเน จ วุตฺตสทิโสว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถาย
อุปสีวมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. นนฺทมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๔๖. สตฺตเม ¶ นนฺทสุตฺเต – ปมคาถายตฺโถ – โลเก ขตฺติยาทโยชนา อาชีวกนิคณฺาทิเก สนฺธาย ‘‘สนฺติ โลเก มุนโย’’ติ วทนฺติ. ตยิทํ กถํสูติ กึ นุ โข เต สมาปตฺติาณาทินา าเณน อุปปนฺนตฺตา าณูปปนฺนํ มุนิ โน วทนฺติ, เอวํวิธํ นุ วทนฺติ, อุทาหุ เว นานปฺปการเกน ลูขชีวิตสงฺขาเตน ชีวิเตนูปปนฺนนฺติ.
นิทฺเทเส อฏฺสมาปตฺติาเณน วาติ ปมชฺฌานาทิอฏฺสมาปตฺติสมฺปยุตฺตาเณน วา. ปฺจาภิฺาาเณน วาติ ปุพฺเพนิวาสาทิชานนาเณน วา.
๔๗. อถสฺส ภควา ตทุภยมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา มุนึ ทสฺเสนฺโต ‘‘น ทิฏฺิยา’’ติ คาถมาห.
๔๘. อิทานิ ‘‘ทิฏฺาทีหิ สุทฺธี’’ติ วทนฺตานํ วาเท กงฺขาปหานตฺถํ ‘‘เย เกจิเม’’ติ ปุจฺฉติ. ตตฺถ อเนกรูเปนาติ โกตูหลมงฺคลาทินาปิ. ตตฺถ ยตา จรนฺตาติ ตตฺถ สกฺกายทิฏฺิยา คุตฺตา วิหรนฺตา.
๔๙. อถสฺส ¶ ตถา สุทฺธิอภาวํ ทีเปนฺโต ภควา จตุตฺถํ คาถมาห.
๕๐. เอวํ ‘‘นาตรึสู’’ติ สุตฺวา อิทานิ โย อตริ, ตํ โสตุกาโม ‘‘เย เกจิเม’’ติ ปุจฺฉติ. อถสฺส ภควา โอฆติณฺณมุเขน ชาติชราติณฺเณ ทสฺเสนฺโต ฉฏฺํ คาถมาห.
๕๑. ตตฺถ ¶ นิวุตาติ โอวุฏา ปริโยนทฺธา. เย สีธาติ เย สุ อิธ, เอตฺถ จ สุ-อิติ นิปาตมตฺตํ. ตณฺหํ ปริฺายาติ ตีหิ ปริฺาหิ ตณฺหํ ปริชานิตฺวา. เสสํ สพฺพตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตา ปากฏเมว.
๕๒. เอวํ ภควา อรหตฺตนิกูเฏเนว เทสนํ นิฏฺาเปสิ, เทสนาปริโยสาเน ปน นนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทมาโน เอตาภินนฺทามีติ คาถมาห. อิธาปิ จ ปุพฺเพ วุตฺตสทิโส เอว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถาย
นนฺทมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. เหมกมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๕๓. อฏฺเม ¶ เหมกสุตฺเต – เย เม ปุพฺเพ วิยากํสูติ เย พาวริอาทโย ปุพฺเพ มยฺหํ สกํ ลทฺธึ วิยากํสุ. หุรํ โคตมสาสนาติ โคตมสาสนโต ปุพฺพตรํ. สพฺพํ ตํ ตกฺกวฑฺฒนนฺติ สพฺพํ ตํ กามวิตกฺกาทิวฑฺฒนํ.
เย จฺเ ตสฺส อาจริยาติ เย จ อฺเ ตสฺส พาวริยสฺส อาจาเร สิกฺขาปกา อาจริยา. เต สกํ ทิฏฺินฺติ เต อาจริยา อตฺตโน ทิฏฺึ. สกํ ขนฺตินฺติ อตฺตโน ขมนํ. สกํ รุจินฺติ อตฺตโน โรจนํ. วิตกฺกวฑฺฒนนฺติ กามวิตกฺกาทิวิตกฺกานํ อุปฺปาทนํ ปุนปฺปุนํ ปวตฺตนํ. สงฺกปฺปวฑฺฒนนฺติ กามสงฺกปฺปาทีนํ วฑฺฒนํ. อิมานิ ทฺเว ปทานิ สพฺพสงฺคาหิกวเสน วุตฺตานิ. อิทานิ กามวิตกฺกาทิเก สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘กามวิตกฺกวฑฺฒน’’นฺติอาทินา นเยน นววิตกฺเก ทสฺเสสิ.
๕๔. ตณฺหานิคฺฆาตนนฺติ ¶ ตณฺหาวินาสนํ.
๕๕-๖. อถสฺส ภควา ตํ ธมฺมํ อาจิกฺขนฺโต ‘‘อิธา’’ติ คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ เอตทฺาย เย สตาติ เอตํ นิพฺพานํ ปทมจฺจุตํ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติอาทินา (ธ. ป. ๒๗๗; เถรคา. ๖๗๖; กถา. ๗๕๓) นเยน วิปสฺสนฺตา อนุปุพฺเพน ชานิตฺวา เย กายานุปสฺสนาสติอาทีหิ ¶ สตา. ทิฏฺธมฺมาภินิพฺพุตาติ วิทิตธมฺมตฺตา ทิฏฺธมฺมา จ ราคาทินิพฺพาเนน จ อภินิพฺพุตา. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.
เอวํ ภควา อิทมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ, เทสนาปริโยสาเน จ ปุพฺพสทิโส เอว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถาย
เหมกมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. โตเทยฺยมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๕๗. นวเม ¶ โตเทยฺยสุตฺเต – วิโมกฺโข ตสฺส กีทิโสติ ตสฺส กีทิโส วิโมกฺโข อิจฺฉิตพฺโพติ ปุจฺฉติ.
๕๘. อิทานิสฺส อฺวิโมกฺขาภาวํ ทสฺเสนฺโต ภควา ทุติยํ คาถมาห. ตตฺถ วิโมกฺโข ตสฺส นาปโรติ ตสฺส อฺโ วิโมกฺโข นตฺถิ.
๕๙. เอวํ ‘‘ตณฺหกฺขโย เอว วิโมกฺโข’’ติ วุตฺเตปิ ตมตฺถํ อสลฺลกฺเขนฺโต ‘‘นิราสโส โส อุท อาสสาโน’’ติ ปุน ปุจฺฉติ. ตตฺถ อุท ปฺกปฺปีติ อุทาหุ สมาปตฺติาณาทินา าเณน ตณฺหากปฺปํ วา ทิฏฺิกปฺปํ วา กปฺปยติ.
๖๐. อถสฺส ภควา ตํ อาจิกฺขนฺโต จตุตฺถํ คาถมาห. ตตฺถ กามภเวติ กาเม จ ภเว จ.
รูเป นาสีสตีติ จตุสมุฏฺานิเก รูปารมฺมเณ ฉนฺทราควเสน น ปตฺเถติ. สทฺธาทีสุปิ เอเสว ¶ นโย. ปลิโพธฏฺเน ราโค เอว กิฺจนํ ราคกิฺจนํ มทนฏฺเน วา. โทสกิฺจนาทีสุปิ เอเสว นโย. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.
เอวํ ภควา อิทมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ, เทสนาปริโยสาเน จ ปุพฺพสทิโส เอว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถาย
โตเทยฺยมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. กปฺปมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๖๑. ทสเม ¶ ¶ กปฺปสุตฺตนิทฺเทเส – มชฺเฌ สรสฺมินฺติ ปุริมปจฺฉิมโกฏิปฺาณาภาวโต มชฺฌภูเต สํสาเรติ วุตฺตํ โหติ. ติฏฺตนฺติ ติฏฺมานานํ. ยถายิทํ นาปรํ สิยาติ ยถา อิทํ ทุกฺขํ ปุน น ภเวยฺย.
อาคมนนฺติ ปุพฺพนฺตโต อิธาคมนํ. คมนนฺติ อิโต ปรโลกคมนํ. คมนาคมนนฺติ ตทุภยวเสน วุตฺตํ. กาลนฺติ มรณกาลํ. คตีติ นิพฺพตฺติ. ภวาภโวติ ภวโต ภโว. จุติ จาติ ภวโต จวนฺจ. อุปปตฺติ จาติ จุตสฺส อุปปตฺติ จ. นิพฺพตฺติ จาติ ปาตุภาโว จ. เภโท จาติ ขนฺธเภโท จ. ชาติ จาติ ชนนฺจ. ชรา จาติ หานิ จ. มรณฺจาติ ชีวิตินฺทฺริยสฺส จาโค จ. ปุริมาปิ โกฏิ น ปฺายตีติ ปุพฺพาปิ โกฏิ นตฺถิ น สํวิชฺชติ. ตถา ปจฺฉิมาปิ โกฏิ.
เอตฺตกา ชาติโยติ เอตปรมา ชาติโย. วฏฺฏํ วตฺตีติ สํสารปวตฺติ. ตโต ปรํ น วตฺตตีติ ตโต อุทฺธํ นปฺปวตฺตติ. เหวํ นตฺถีติ เอวํ นตฺถิ น สํวิชฺชติ. หิ-อิติ นิปาโต. อนมตคฺโคยนฺติ อยํ สํสาโร อวิทิตคฺโค.
อวิชฺชานีวรณานนฺติ อวิชฺชาย อาวริตานํ. ตณฺหาสํโยชนานนฺติ กามราคสงฺขาตตณฺหาพนฺธนพทฺธานํ. สนฺธาวตนฺติ กามธาตุยา ปุนปฺปุนํ ธาวนฺตานํ. สํสรตนฺติ รูปารูปธาตุยา สํสรนฺตานํ. ทุกฺขํ ปจฺจนุภูตนฺติ กายิกเจตสิกทุกฺขํ อนุภูตํ วินฺทิตํ. ติพฺพนฺติ พหลํ. พฺยสนนฺติ อวฑฺฒิ วินาโส. กฏสี วฑฺฒิตาติ สุสานวฑฺฒิตํ. อลเมวาติ ยุตฺตเมว ¶ . สพฺพสงฺขาเรสูติ เตภูมกสงฺขาเรสุ. นิพฺพินฺทิตุนฺติ อุกฺกณฺิตุํ. วิรชฺชิตุนฺติ วิราคํ อุปฺปาเทตุํ. วิมุจฺจิตุนฺติ โมเจตุํ. วฏฺฏํ วตฺติสฺสตีติ สํสารปวตฺตํ เตภูมกวฏฺฏํ อนาคเต ปวตฺติสฺสติ. ตโต ปรํ น วตฺติสฺสตีติ ตโต อุทฺธํ อนาคเต สํสารปวตฺตํ นปฺปวตฺติสฺสติ. ชาติภเยติ ชาตึ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกภเย. ชราภยาทีสุปิ เอเสว นโย.
๖๒-๓. อถสฺส ¶ ภควา ตมตฺถํ พฺยากโรนฺโต อุปรูปริคาถาโย อภาสิ. ทุติยคาถา วุตฺตตฺถาเยว. ตติยคาถาย อกิฺจนนฺติ กิฺจนปฏิปกฺขํ. อนาทานนฺติ อาทานปฏิปกฺขํ, กิฺจนาทานวูปสมนฺติ วุตฺตํ โหติ. อนาปรนฺติ อปรปฏิภาคทีปวิรหิตํ, เสฏฺนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๖๔. จตุตฺถคาถาย ¶ น เต มารสฺส ปทฺธคูติ เต มารสฺส ปทฺธจรา ปริจาริกา สิสฺสา น โหนฺติ.
มหาชนํ ปาเส นิโยเชตฺวา มาเรตีติ มาโร. อกุสลกมฺเม นิยุตฺตตฺตา กณฺโห. ฉสุ เทวโลเกสุ อธิปติตฺตา อธิปติ. อกุสลานํ ธมฺมานํ อนฺตํ คตตฺตา อนฺตคู. ปาปชนํ น มฺุจตีติ นมุจิ. สติวิปฺปวาสปฺปมตฺตปุคฺคลานํ าตโกติ ปมตฺตพนฺธุ. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.
เอวํ ภควา อิทมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ, เทสนาปริโยสาเน จ ปุพฺพสทิโสว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถาย
กปฺปมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. ชตุกณฺณิมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๖๕. เอกาทสเม ¶ ชตุกณฺณิสุตฺเต – สุตฺวานหํ วีร อกามกามินฺติ อหํ ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินา (ปารา. ๑; ที. นิ. ๑.๑๕๗, ๒๕๕, ๓๐๑; อ. นิ. ๖.๑๐; สํ. นิ. ๕.๙๙๗) นเยน วีร กามานํ อกามนโต อกามกามึ พุทฺธํ สุตฺวา. อกามมาคมนฺติ นิกฺกามํ ภควนฺตํ ปุจฺฉิตุํ อาคโตมฺหิ. สหชเนตฺตาติ สหชาตสพฺพฺุตฺาณจกฺขุ ¶ . ยถาตจฺฉนฺติ ยถาตถํ. พฺรูหิ เมติ ปุน ยาจนฺโต ภณติ. ยาจนฺโต หิ สหสฺสกฺขตฺตุมฺปิ ภเณยฺย, โก ปน วาโท ทฺวิกฺขตฺตุํ.
อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธติ อิเมสํ ปทานํ อตฺโถ เหฏฺา วุตฺโตว. วิชฺชาหิ ปน จรเณน จ สมฺปนฺนตฺตา วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน. ตตฺถ วิชฺชาติ ติสฺโสปิ วิชฺชา อฏฺปิ วิชฺชา. ติสฺโส วิชฺชา ภยเภรวสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๓๔ อาทโย) วุตฺตนเยน เวทิตพฺพา, อฏฺ อมฺพฏฺสุตฺเต (ที. นิ. ๑.๒๕๔ อาทโย). ตตฺถ หิ วิปสฺสนาาเณน มโนมยิทฺธิยา จ สห ฉ อภิฺา ปริคฺคเหตฺวา อฏฺ วิชฺชา วุตฺตา. จรณนฺติ สีลสํวโร อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา โภชเน มตฺตฺุตา ชาคริยานุโยโค สตฺต สทฺธมฺมา จตฺตาริ รูปาวจรชฺฌานานีติ อิเม ปนฺนรส ธมฺมา เวทิตพฺพา. อิเมเยว หิ ปนฺนรส ธมฺมา ยสฺมา เอเตหิ ¶ จรติ อริยสาวโก คจฺฉติ อมตํ ทิสํ, ตสฺมา ‘‘จรณ’’นฺติ วุตฺตา. ยถาห – ‘‘อิธ, มหานาม, อริยสาวโก สีลวา โหตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๔) สพฺพํ มชฺฌิมปณฺณาสเก วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. ภควา อิมาหิ วิชฺชาหิ อิมินา จ จรเณน สมนฺนาคโต, เตน วุจฺจติ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโนติ. ตตฺถ วิชฺชาสมฺปทา ภควโต สพฺพฺุตํ ปูเรตฺวา ิตา, จรณสมฺปทา มหาการุณิกตํ. โส สพฺพฺุตาย สพฺพสตฺตานํ อตฺถานตฺถํ ตฺวา มหาการุณิกตาย อนตฺถํ ปริวชฺเชตฺวา อตฺเถ นิโยเชติ, ยถา ตํ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน. เตนสฺส ¶ สาวกา สุปฺปฏิปนฺนา โหนฺติ, โน ทุปฺปฏิปนฺนา, วิชฺชาจรณวิปนฺนานฺหิ สาวกา อตฺตนฺตปาทโย วิย (ปารา. อฏฺ. ๑.๑).
โสภนคมนตฺตา สุนฺทรํ านํ คตตฺตา สมฺมา คตตฺตา สมฺมา จ คทตฺตา สุคโต. คมนมฺปิ หิ คตนฺติ วุจฺจติ. ตฺจ ภควโต โสภนํ ปริสุทฺธมนวชฺชํ. กึ ปน ตนฺติ? อริยมคฺโค. เตน เหส คมเนน เขมํ ทิสํ อสชฺชมาโน คโตติ โสภนคมนตฺตา สุคโต. สุนฺทรฺเจส านํ คโต อมตํ นิพฺพานนฺติ สุนฺทรํ านํ คตตฺตาปิ สุคโต. สมฺมา จ คโต เตน เตน มคฺเคน ปหีเน กิเลเส ปุน อปจฺจาคจฺฉนฺโต. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘โสตาปตฺติมคฺเคน เย กิเลสา ปหีนา, เต กิเลเส น ปุเนติ น ปจฺเจติ น ปจฺจาคจฺฉตีติ สุคโต…เป… อรหตฺตมคฺเคน เย กิเลสา ปหีนา, เต กิเลเส น ปุเนติ น ปจฺเจติ น ปจฺจาคจฺฉตีติ สุคโต’’ติ (มหานิ. ๓๘; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๒๗).
สมฺมา วา คโต ทีปงฺกรปาทมูลโต ปภุติ ยาว โพธิมณฺฑา ตาว สมตึสปารมีปูริกาย ¶ สมฺมา ปฏิปตฺติยา สพฺพโลกสฺส หิตสุขเมว กโรนฺโต สสฺสตํ อุจฺเฉทํ กามสุขํ อตฺตกิลมถนฺติ อิเม จ อนฺเต อนุปคจฺฉนฺโต คโตติ สมฺมา คตตฺตาปิ สุคโต. สมฺมา เจส คทติ ยุตฺตฏฺาเนสุ ยุตฺตเมว วาจํ ภาสตีติ สมฺมา คทตฺตาปิ สุคโต.
ตตฺริทํ สาธกสุตฺตํ –
‘‘ยํ ตถาคโต วาจํ ชานาติ อภูตํ อตจฺฉํ อนตฺถสํหิตํ, สา จ ปเรสํ อปฺปิยา อมนาปา, น ตํ ตถาคโต วาจํ ภาสติ. ยมฺปิ ตถาคโต วาจํ ชานาติ ภูตํ ตจฺฉํ ¶ อนตฺถสํหิตํ, สา จ ปเรสํ อปฺปิยา อมนาปา, ตมฺปิ ตถาคโต วาจํ น ภาสติ. ยฺจ โข ตถาคโต วาจํ ชานาติ ภูตํ ตจฺฉํ อตฺถสํหิตํ, สา จ ปเรสํ อปฺปิยา อมนาปา, ตตฺร กาลฺู ตถาคโต โหติ ตสฺสา วาจาย เวยฺยากรณาย. ยํ ตถาคโต วาจํ ชานาติ อภูตํ อตจฺฉํ อนตฺถสํหิตํ. สา จ ปเรสํ ปิยา มนาปา, น ตํ ตถาคโต วาจํ ภาสติ. ยมฺปิ ตถาคโต วาจํ ชานาติ ภูตํ ตจฺฉํ อนตฺถสํหิตํ, สา จ ปเรสํ ปิยา มนาปา, ตมฺปิ ตถาคโต วาจํ น ภาสติ. ยฺจ โข ตถาคโต วาจํ ชานาติ ภูตํ ตจฺฉํ อตฺถสํหิตํ, สา จ ปเรสํ ปิยา มนาปา, ตตฺร กาลฺู ¶ ตถาคโต โหติ ตสฺสา วาจาย เวยฺยากรณายา’’ติ (ม. นิ. ๒.๘๖).
เอวํ สมฺมา คทตฺตาปิ สุคโตติ เวทิตพฺโพ.
สพฺพถา วิทิตโลกตฺตา ปน โลกวิทู. โส หิ ภควา สภาวโต สมุทยโต นิโรธโต นิโรธูปายโตติ สพฺพถา โลกํ อเวทิ อฺาสิ ปฏิวิชฺฌิ. ยถาห –
‘‘ยตฺถ โข, อาวุโส, น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ, นาหํ ตํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ าเตยฺยํ ทฏฺเยฺยํ ปตฺเตยฺยนฺติ วทามิ. น จาหํ, อาวุโส, อปฺปตฺวาว โลกสฺส อนฺตํ ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยํ วทามิ. อปิ จาหํ, อาวุโส, อิมสฺมึเยว พฺยามมตฺเต กเฬวเร สสฺิมฺหิ สมนเก โลกฺจ ปฺเปมิ โลกสมุทยฺจ โลกนิโรธฺจ โลกนิโรธคามินิฺจ ปฏิปทํ (สํ. นิ. ๑.๑๐๗; อ. นิ. ๔.๔๕).
‘‘คมเนน ¶ น ปตฺตพฺโพ, โลกสฺสนฺโต กุทาจนํ;
น จ อปฺปตฺวา โลกนฺตํ, ทุกฺขา อตฺถิ ปโมจนํ.
‘‘ตสฺมา หเว โลกวิทู สุเมโธ, โลกนฺตคู วุสิตพฺรหฺมจริโย;
โลกสฺส อนฺตํ สมิตาวิ ตฺวา, นาสีสตี โลกมิมํ ปรฺจา’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๐๗; อ. นิ. ๔.๔๕);
อปิ ¶ จ – ตโย โลกา สงฺขารโลโก สตฺตโลโก โอกาสโลโกติ. ตตฺถ ‘‘เอโก โลโก สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๒) อาคตฏฺาเน สงฺขารโลโก เวทิตพฺโพ. ‘‘สสฺสโต โลโกติ วา อสสฺสโต โลโกติ วา’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๒๑; ม. นิ. ๑.๒๖๙; สํ. นิ. ๔.๔๑๖; วิภ. ๙๓๗) อาคตฏฺาเน สตฺตโลโก.
‘‘ยาวตา จนฺทิมสูริยา ปริหรนฺติ, ทิสา ภนฺติ วิโรจมานา;
ตาว สหสฺสธา โลโก, เอตฺถ เต วตฺตตี วโส’’ติ. (ม. นิ. ๑.๕๐๓) –
อาคตฏฺาเน โอกาสโลโก. ตมฺปิ ภควา สพฺพถา อเวทิ. ตถา หิสฺส ‘‘เอโก โลโก สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา. ทฺเว โลกา นามฺจ รูปฺจ. ตโย โลกา ติสฺโส เวทนา. จตฺตาโร โลกา จตฺตาโร อาหารา. ปฺจ โลกา ปฺจุปาทานกฺขนฺธา. ฉ ¶ โลกา ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ. สตฺต โลกา สตฺต วิฺาณฏฺิติโย. อฏฺ โลกา อฏฺ โลกธมฺมา. นว โลกา นว สตฺตาวาสา. ทส โลกา ทสายตนานิ. ทฺวาทส โลกา ทฺวาทสายตนานิ. อฏฺารสโลกา อฏฺารส ธาตุโย’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๒) อยํ สงฺขารโลโกปิ สพฺพถา วิทิโต.
ยสฺมา ปเนส สพฺเพสมฺปิ สตฺตานํ อาสยํ ชานาติ, อนุสยํ ชานาติ, จริตํ ชานาติ, อธิมุตฺตึ ชานาติ, อปฺปรชกฺเข มหารชกฺเข ติกฺขินฺทฺริเย มุทินฺทฺริเย, สฺวากาเร ทฺวากาเร, สุวิฺาปเย ทุวิฺาปเย, ภพฺเพ อภพฺเพ สตฺเต ชานาติ. ตสฺมาสฺส สตฺตโลโกปิ สพฺพถา วิทิโต. ยถา จ สตฺตโลโก, เอวํ โอกาสโลโกปิ. ตถา เหส เอกํ จกฺกวาฬํ อายามโต จ วิตฺถารโต จ โยชนานํ ทฺวาทส สตสหสฺสานิ จตุตึส สตานิ จ ปฺาสฺจ โยชนานิ. ปริกฺเขปโต –
สพฺพํ ¶ สตสหสฺสานิ, ฉตฺตึส ปริมณฺฑลํ;
ทส เจว สหสฺสานิ, อฑฺฒุฑฺฒานิ สตานิ จ.
ตตฺถ ¶ –
ทุเว สตสหสฺสานิ, จตฺตาริ นหุตานิ จ;
เอตฺตกํ พหลตฺเตน, สงฺขาตายํ วสุนฺธรา.
ตสฺสาเยว สนฺธารกํ –
จตฺตาริ สตสหสฺสานิ, อฏฺเว นหุตานิ จ;
เอตฺตกํ พหลตฺเตน, ชลํ วาเต ปติฏฺิตํ.
ตสฺสาปิ สนฺธารโก –
นว สตสหสฺสานิ, มาลุโต นภมุคฺคโต;
สฏฺิ เจว สหสฺสานิ, เอสา โลกสฺส สณฺิติ.
เอวํ ¶ สณฺิเต เจตฺถ โยชนานํ –
จตุราสีติ สหสฺสานิ, อชฺโฌคาฬฺโห มหณฺณเว;
อจฺจุคฺคโต ตาวเทว, สิเนรุ ปพฺพตุตฺตโม.
ตโต อุปฑฺฒุปฑฺเฒน, ปมาเณน ยถากฺกมํ;
อชฺโฌคาฬฺหุคฺคตา ทิพฺพา, นานารตนจิตฺติตา.
ยุคนฺธโร อีสธโร, กรวีโก สุทสฺสโน;
เนมินฺธโร วินตโก, อสฺสกณฺโณ คิริ พฺรหา.
เอเต ¶ สตฺต มหาเสลา, สิเนรุสฺส สมนฺตโต;
มหาราชานมาวาสา, เทวยกฺขนิเสวิตา.
โยชนานํ สตานุจฺโจ, หิมวา ปฺจ ปพฺพโต;
โยชนานํ สหสฺสานิ, ตีณิ อายตวิตฺถโต.
จตุราสีติสหสฺเสหิ, กูเฏหิ ปฏิมณฺฑิโต;
ติปฺจโยชนกฺขนฺธ-ปริกฺเขปา นควฺหยา.
ปฺาสโยชนกฺขนฺธ-สาขายามา สมนฺตโต;
สตโยชนวิตฺถิณฺณา, ตาวเทว จ อุคฺคตา;
ชมฺพู ยสฺสานุภาเวน, ชมฺพุทีโป ปกาสิโต. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๓๗; ธ. ส. อฏฺ. ๕๘๔);
ยฺเจตํ ¶ ชมฺพุยา ปมาณํ, เอตเทว อสุรานํ จิตฺตปาฏลิยา, ครุฬานํ สิมฺพลิรุกฺขสฺส, อปรโคยาเน กทมฺพสฺส, อุตฺตรกุรูสุ กปฺปรุกฺขสฺส, ปุพฺพวิเทเห สิรีสสฺส, ตาวตึเสสุ ปาริจฺฉตฺตกสฺสาติ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ปาฏลี ¶ สิมฺพลี ชมฺพู, เทวานํ ปาริจฺฉตฺตโก;
กทมฺโพ กปฺปรุกฺโข จ, สิรีเสน ภวติ สตฺตมํ.
‘‘ทฺเว อสีติ สหสฺสานิ, อชฺโฌคาฬฺโห มหณฺณเว;
อจฺจุคฺคโต ตาวเทว, จกฺกวาฬสิลุจฺจโย;
ปริกฺขิปิตฺวา ตํ สพฺพํ, โลกธาตุมยํ ิโต’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๓๗; ธ. ส. อฏฺ. ๕๘๔);
ตตฺถ จนฺทมณฺฑลํ เอกูนปฺาสโยชนํ, สูริยมณฺฑลํ ปฺาสโยชนํ, ตาวตึสภวนํ ทสสหสฺสโยชนํ, ตถา อสุรภวนํ อวีจิมหานิรโย ชมฺพุทีโป จ. อปรโคยานํ สตฺตสหสฺสโยชนํ. ตถา ปุพฺพวิเทโห. อุตฺตรกุรุ อฏฺสหสฺสโยชโน. เอกเมโก เจตฺถ มหาทีโป ปฺจสตปฺจสตปริตฺตทีปปริวาโร. ตํ สพฺพมฺปิ เอกํ จกฺกวาฬํ เอกา โลกธาตุ. ตทนฺตเรสุ โลกนฺตริกนิรยา ¶ . เอวํ อนนฺตานิ จกฺกวาฬานิ อนนฺตา โลกธาตุโย ภควา อนนฺเตน พุทฺธาเณน อเวทิ อฺาสิ ปฏิวิชฺฌิ. เอวมสฺส โอกาสโลโกปิ สพฺพถา วิทิโต. เอวมฺปิ สพฺพถา วิทิตโลกตฺตา โลกวิทู.
อตฺตโน ปน คุเณหิ วิสิฏฺตรสฺส กสฺสจิ อภาวโต นตฺถิ เอตสฺส อุตฺตโรติ อนุตฺตโร. ตถา เหส สีลคุเณนปิ สพฺพํ โลกํ อภิภวติ สมาธิ…เป… ปฺา… วิมุตฺติ… วิมุตฺติาณทสฺสนคุเณนปิ. สีลคุเณนปิ อสโม อสมสโม อปฺปฏิโม อปฺปฏิภาโค อปฺปฏิปุคฺคโล…เป… วิมุตฺติาณทสฺสนคุเณนปิ. ยถาห – ‘‘น โข ปนาหํ ปสฺสามิ สเทวเก โลเก…เป… สเทวมนุสฺสาย อตฺตนา สีลสมฺปนฺนตร’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๑๗๓; อ. นิ. ๔.๒๑) วิตฺถาโร.
เอวํ อคฺคปสาทสุตฺตาทีนิ (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐) ‘‘น เม อาจริโย อตฺถี’’ติอาทิกา (ม. นิ. ๑.๒๘๕; มหาว. ๑๑; กถา. ๔๐๕; มิ. ป. ๔.๕.๑๑) คาถาโย จ วิตฺถาเรตพฺพา.
ปุริสทมฺเม ¶ สาเรตีติ ปุริสทมฺมสารถิ, ทเมติ วิเนตีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ ปุริสทมฺมาติ อทนฺตา ทเมตุํ ยุตฺตา ติรจฺฉานปุริสาปิ มนุสฺสปุริสาปิ อมนุสฺสปุริสาปิ ¶ . ตถา หิ ภควตา ติรจฺฉานปุริสาปิ อปลาโล นาคราชา จูโฬทโร มโหทโร อคฺคิสิโข ธูมสิโข อรวาโฬ นาคราชา ธนปาลโก หตฺถีติ เอวมาทโย ทมิตา นิพฺพิสา กตา, สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺาปิตา. มนุสฺสปุริสาปิ สจฺจกนิคณฺปุตฺตอมฺพฏฺมาณวโปกฺขรสาติโสณทนฺตกูฏทนฺตาทโย. อมนุสฺสปุริสาปิ อาฬวกสูจิโลมขรโลมยกฺขสกฺกเทวราชาทโย ทมิตา วินีตา วิจิตฺเรหิ วินยนูปาเยหิ. ‘‘อหํ โข เกสิ ปุริสทมฺเม สณฺเหนปิ วิเนมิ, ผรุเสนปิ วิเนมิ, สณฺหผรุเสนปิ วิเนมี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๑๑) อิทฺเจตฺถ สุตฺตํ วิตฺถาเรตพฺพํ. อปิ จ ภควา วิสุทฺธสีลาทีนํ ปมชฺฌานาทีนิ โสตาปนฺนาทีนฺจ อุตฺตริมคฺคปฏิปทํ อาจิกฺขนฺโต ทนฺเตปิ ทเมติเยว.
อถ วา อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถีติ เอกเมวิทํ อตฺถปทํ. ภควา หิ ตถา ปุริสทมฺเม สาเรติ, ยถา เอกปลฺลงฺเกเนว นิสินฺนา อฏฺ ทิสา อสชฺชมานา ธาวนฺติ. ตสฺมา ‘‘อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถี’’ติ วุจฺจติ. ‘‘หตฺถิทมเกน, ภิกฺขเว, หตฺถิ ทมฺโม สาริโต เอกํเยว ทิสํ ธาวตี’’ติ อิทฺเจตฺถ สุตฺตํ (ม. นิ. ๓.๓๑๒) วิตฺถาเรตพฺพํ.
วีริยวาติ ¶ อริยมคฺเคน สพฺพปาปเกหิ วิรโต. ปหูติ ปภู. วิสวีติ ปรสนฺตาเน วีริยุปฺปาทโก. อลมตฺโตติ สมตฺถจิตฺโต.
วิรโตติ อริยมคฺเคน วิรตตฺตา อายตึ อปฺปฏิสนฺธิโก. สพฺพปาปเกหิ นิรยทุกฺขํ อติจฺจาติ อายตึ อปฺปฏิสนฺธิตาย นิรยทุกฺขํ อติจฺจ ิโต. วีริยวาโสติ วีริยนิเกโต. โส วีริยวาติ โส ขีณาสโว ‘‘วีริยวา’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหติ. ปธานวา วีโร ตาทีติ อิมานิ ปนสฺส ถุติวจนานิ. โส หิ ปธานวา มคฺคชฺฌานปธาเนน, วีโร กิเลสาริวิทฺธํสนสมตฺถตาย, ตาทิ นิพฺพิการตาย ปวุจฺจเต ตถตฺตาติ ตถารูโป ‘‘วีริยวา’’ติ ปวุจฺจติ.
เต กามกามิโนติ เอเต รูปาทิวตฺถุกาเม อิจฺฉนฺตา. ราคราคิโนติ ราเคน รฺชิตา. สฺาสฺิโนติ ราคสฺาย สฺิโน. น ¶ กาเม กาเมตีติ รูปาทิวตฺถุกาเม น ปตฺเถติ. อกาโมติ กาเมหิ วิรหิโต. นิกฺกาโมติ นิกฺกนฺตกาโม.
สพฺพฺุตฺาณนฺติ ¶ ติยทฺธคตํ สพฺพเนยฺยปถํ ชานาตีติ สพฺพฺู, ตสฺส ภาโว สพฺพฺุตา, สพฺพฺุตา เอว าณํ สพฺพฺุตฺาณํ, สพฺพฺุตฺาณสงฺขาตํ เนตฺตฺจ วาสนาย สห กิเลเส ปราเชตฺวา ชิตตฺตา ชินภาโว จ อปุพฺพํ อจริมํ อปุเร อปจฺฉา เอกสฺมึ ขเณ เอกสฺมึ กาเล อุปฺปนฺโน ปุพฺพนฺตโต อุทฺธํ ปนฺโนติ อุปฺปนฺโน.
๖๖. เตชี เตชสาติ เตเชน สมนฺนาคโต เตชสา อภิภุยฺย. ยมหํ วิชฺํ ชาติชราย อิธ วิปฺปหานนฺติ ยํ อหํ ชาติชราย ปหานภูตํ ธมฺมํ อิเธว ชาเนยฺยํ.
ชคตีติ ปถวี. สพฺพํ อากาสคตนฺติ สกลํ อากาเส ปวตฺตํ ปตฺถฏํ. ตมคตนฺติ ตมเมว ตมคตํ อนฺธการํ ยถา คูถคตํ มุตฺตคตนฺติ. อภิวิหจฺจาติ นาเสตฺวา. อนฺธการํ วิธมิตฺวาติ จกฺขุวิฺาณุปฺปตฺตินิวารกํ อนฺธการํ ปลาเปตฺวา. อาโลกํ ทสฺสยิตฺวาติ สูริยาโลกํ ทสฺสยิตฺวา. อากาเสติ อชฏากาเส. อนฺตลิกฺเขติ อนฺตรธาตุสมตฺถตุจฺโฉกาเส. คคนปเถติ เทวตานํ คมนมคฺเค คจฺฉติ. สพฺพํ อภิสงฺขารสมุทยนฺติ สกลํ กมฺมํ สมุทยํ อุปฺปาทํ, ตณฺหนฺติ อตฺโถ. กิเลสตมํ อวิชฺชนฺธการํ วิธมิตฺวาติ กิเลสตมสงฺขาตํ อฺาณํ อวิชฺชนฺธการํ นีหริตฺวา นาเสตฺวา. าณาโลกํ ปฺาโลกํ ทสฺสยิตฺวา. วตฺถุกาเม ปริชานิตฺวาติ ¶ รูปาทิวตฺถุกาเม าตตีรณปริฺาย ชานิตฺวา. กิเลสกาเม ปหายาติ อุปตาปนสงฺขาเต กิเลสกาเม ปหานปริฺาย ปชหิตฺวา.
๖๗. อถสฺส ภควา ตํ ธมฺมํ อาจิกฺขนฺโต อุปรูปริคาถาโย อภาสิ. ตตฺถ เนกฺขมฺมํ ทฏฺุ เขมโตติ นิพฺพานฺจ นิพฺพานคามินิฺจ ปฏิปทํ ‘‘เขม’’นฺติ ทิสฺวา. อุคฺคหิตนฺติ ตณฺหาวเสน ทิฏฺิวเสน คหิตํ. นิรตฺตํ วาติ นิรสฺสิตพฺพํ วา, มฺุจิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. มา เต วิชฺชิตฺถาติ มา เต อโหสิ. กิฺจนนฺติ ราคาทิกิฺจนํ, ตมฺปิ เต มา วิชฺชิตฺถ.
มฺุจิตพฺพนฺติ มฺุจิตฺวา น ปุน คเหตพฺพํ. วิชหิตพฺพนฺติ จชิตพฺพํ. วิโนเทตพฺพนฺติ ขิปิตพฺพํ. พฺยนฺตีกาตพฺพนฺติ วิคตนฺตํ กาตพฺพํ ¶ . อนภาวํ คเมตพฺพนฺติ อนุ อนุ อภาวํ คเมตพฺพํ.
๖๘-๙. ปุพฺเพติ ¶ อตีเต สงฺขาเร อารพฺภ อุปฺปนฺนกิเลสา. พฺราหฺมณาติ ภควา ชตุกณฺณึ อาลปติ. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.
เอวํ ภควา อิทมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ, เทสนาปริโยสาเน จ ปุพฺพสทิโส เอว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถาย
ชตุกณฺณิมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. ภทฺราวุธมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๗๐. ทฺวาทสเม ¶ ภทฺราวุธสุตฺเต – โอกฺชหนฺติ อาลยํ ชหํ. ตณฺหจฺฉิทนฺติ ตณฺหากายจฺฉิทํ. อเนชนฺติ โลกธมฺเมสุ นิกฺกมฺปํ. นนฺทิฺชหนฺติ อนาคตรูปาทิปตฺถนาชหํ. เอกา เอว หิ สา ตณฺหา, ถุติวเสน อิธ นานปฺปการโต วุตฺตา. กปฺปฺชหนฺติ ทุวิธํ กปฺปชหํ. อภิยาเจติ อติวิย ยาจามิ. สุตฺวาน นาคสฺส อปนมิสฺสนฺติ อิโตติ นาคสฺส ตว ภควโต วจนํ สุตฺวา อิโต ปาสาณกเจติยโต พหุชนา ปกฺกมิสฺสนฺตีติ อธิปฺปาโย.
เย ¶ อุปยุปาทานาติ ตณฺหาทิฏฺีหิ อุปคนฺตฺวา คหิตา. เจตโส อธิฏฺานาติ จิตฺเต ปติฏฺิตา. อภินิเวสานุสยาติ ปติฏฺหิตฺวา อาคนฺตฺวา สยิตา.
๗๑. ชนปเทหิ สงฺคตาติ องฺคาทีหิ ชนปเทหิ อิธ สมาคตา. วิยากโรหีติ ธมฺมํ เทเสหิ.
สงฺคตาติ เอเต ขตฺติยาทโย เอกีภูตา. สมาคตาติ วุตฺตปฺปกาเรหิ ชนปเทหิ อาคตา. สโมหิตาติ ราสีภูตา. สนฺนิปติตาติ อธิโยคา.
๗๒. อถสฺส อาสยานุโลเมน ธมฺมํ เทเสนฺโต ภควา อุปรูปริคาถาโย อภาสิ. ตตฺถ อาทานตณฺหนฺติ รูปาทีนํ อาทายิกํ คหณตณฺหํ, ตณฺหุปาทานนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยํ ยฺหิ โลกสฺมิมุปาทิยนฺตีติ เอเตสุ อุทฺธาทิเภเทสุ ยํ ยํ คณฺหนฺติ. เตเนว มาโร อนฺเวติ ชนฺตุนฺติ ¶ เตเนว อุปาทานปจฺจยนิพฺพตฺตกมฺมาภิสงฺขารนิพฺพตฺตวเสน ปฏิสนฺธิกฺขนฺธมาโร ตํ สตฺตํ อนุคจฺฉติ.
๗๓. ตสฺมา ปชานนฺติ ตสฺมา เอตมาทีนวํ อนิจฺจาทิวเสน วา สงฺขาเร ปชานนฺโต. อาทานสตฺเต อิติ เปกฺขมาโน, ปชํ อิมํ มจฺจุเธยฺเย วิสตฺตนฺติ อาทาตพฺพฏฺเน อาทาเนสุ รูปาทีสุ สตฺเต สพฺพโลเก อิมํ ปชํ มจฺจุเธยฺเย ลคฺคํ เปกฺขมาโน ¶ , อาทานสตฺเต วา อาทานาภินิวิฏฺเ ปุคฺคเล อาทานสงฺคเหตฺุจ อิมํ ปชํ มจฺจุเธยฺเย ลคฺคํ ตโต วีติกฺกมิตุํ อสมตฺถํ อิติ เปกฺขมาโน กิฺจนํ สพฺพโลเก น อุปาทิเยถาติ. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.
เอวํ ภควา อิทมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ, เทสนาปริโยสาเน จ ปุพฺพสทิโส เอว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถาย
ภทฺราวุธสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. อุทยมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๗๔. เตรสเม ¶ ¶ อุทยสุตฺเต – อฺาวิโมกฺขนฺติ ปฺานุภาวนิชฺฌานํ ตํ วิโมกฺขํ ปุจฺฉติ.
ปเมนปิ ฌาเนน ฌายีติ วิตกฺกวิจารปีติสุขจิตฺเตกคฺคตาสมฺปยุตฺเตน ปฺจงฺคิเกน ปมชฺฌาเนน ฌายตีติ ฌายี. ทุติเยนาติ ปีติสุขจิตฺเตกคฺคตาสมฺปยุตฺเตน. ตติเยนาติ สุขจิตฺเตกคฺคตาสมฺปยุตฺเตน. จตุตฺเถนาติ อุเปกฺขาจิตฺเตกคฺคตาสมฺปยุตฺเตน. สวิตกฺกสวิจาเรนปิ ฌาเนน ฌายีติ จตุกฺกนยปฺจกนเยสุ ปมชฺฌาเนน สวิตกฺกสวิจาเรนปิ ฌาเนน ฌายตีติ ฌายี. อวิตกฺกวิจารมตฺเตนาติ ปฺจกนเย ทุติเยน ฌาเนน. อวิตกฺกอวิจาเรนาติ ทุติยตติยาทิอวเสสฌาเนน. สปฺปีติเกนาติ ปีติสมฺปยุตฺเตน ทุกติกฌาเนน. นิปฺปีติเกนาติ ปีติวิรหิเตน ตทวเสสฌาเนน. สาตสหคเตนาติ สุขสหคเตน ติกจตุกฺกฌาเนน. อุเปกฺขาสหคเตนาติ จตุกฺกปฺจเกน. สฺุเตนปีติ สฺุตวิโมกฺขสมฺปยุตฺเตน. อนิมิตฺเตนปีติ อนิจฺจนิมิตฺตํ ธุวนิมิตฺตํ อนิมิตฺตฺจ อุคฺฆาเฏตฺวา ปฏิลทฺเธน ¶ อนิมิตฺเตนปิ ฌาเนน ฌายตีติ ฌายี. อปฺปณิหิเตนปีติ มคฺคาคมนวเสน ปณิธึ โสเธตฺวา ปริยาทิยิตฺวา ผลสมาปตฺติวเสน อปฺปณิหิเตนปิ. โลกิเยนปีติ โลกิเยน ปมทุติยตติยจตุตฺเถน.
โลกุตฺตเรนปีติ เตเนว โลกุตฺตรสมฺปยุตฺเตน. ฌานรโตติ ฌาเนสุ อภิรโต. เอกตฺตมนุยุตฺโตติ เอกตฺตํ เอกีภาวํ อนุยุตฺโต ปยุตฺโต. สทตฺถครุโกติ สกตฺถครุโก, ก-การสฺสายํ ท-กาโร กโต. สทตฺโถติ จ อรหตฺตํ เวทิตพฺพํ. ตฺหิ อตฺตูปนิพทฺธฏฺเน อตฺตานํ อวิชหนฏฺเน อตฺตโน ปรมตฺถฏฺเน จ อตฺตโน อตฺถตฺตา สกตฺโถติ วุจฺจติ. ผลสมาปตฺติสมาปชฺชนวเสน สกตฺถครุโก, ‘‘นิพฺพานครุโก’’ติ เอเก. อรโชติ นิกฺกิเลโส. วิรโชติ วิคตกิเลโส. นิรโชติ อปนีตกิเลโส ¶ , ‘‘วิตรโช’’ติปิ ปาโ, โสเยวตฺโถ. รชาปคโตติ กิเลเสหิ ทูรีภูโต. รชวิปฺปหีโนติ กิเลสปฺปหีโน. รชวิปฺปยุตฺโตติ กิเลเสหิ มุตฺโต.
ปาสาณเก เจติเยติ ปาสาณปิฏฺเ ปารายนสุตฺตนฺตเทสิตฏฺาเน. สพฺโพสฺสุกฺกปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตาติ สพฺเพสํ กิเลสอุสฺสุกฺกานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา, นาสิตตฺตา อาสีโน.
กิจฺจากิจฺจนฺติ ¶ ‘‘อิทํ กตฺตพฺพํ, อิทํ น กตฺตพฺพ’’นฺติ เอวํ มนสา จินฺเตตพฺพํ. กรณียากรณียนฺติ กายทฺวาเรน อวสฺสํ อิทํ กรณียํ, อิทํ น กรณียนฺติ เอวํ กรณียากรณียํ. ปหีนนฺติ วิสฺสฏฺํ. วสิปฺปตฺโตติ ปคุณภาวปฺปตฺโต.
๗๕. อถ ภควา ยสฺมา อุทโย จตุตฺถชฺฌานลาภี, ตสฺมาสฺส ปฏิลทฺธฌานวเสน นานปฺปการโต อฺาวิโมกฺขํ ทสฺเสนฺโต อุปรูปริคาถมาห. ตตฺถ ปหานํ กามจฺฉนฺทานนฺติ ยทิทํ ปมํ ฌานํ นิพฺพตฺเตนฺตสฺส กามจฺฉนฺทปหานํ, ตมฺปิ อฺาวิโมกฺขนฺติ ปพฺรูมิ. เอวํ สพฺพปทานิ โยเชตพฺพานิ.
ยา จิตฺตสฺส อกลฺยตาติ จิตฺตสฺส คิลานภาโว. คิลาโน หิ อกลฺลโกติ วุจฺจติ. วินเยปิ วุตฺตํ – ‘‘นาหํ, ภนฺเต, อกลฺลโก’’ติ (ปารา. ๑๕๑). อกมฺมฺตาติ ¶ จิตฺตเคลฺสงฺขาโตว อกมฺมฺตากาโร. โอลียนาติ โอลียนากาโร. อิริยาปถิกจิตฺตฺหิ อิริยาปถํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตํ รุกฺเข วคฺคุลิ วิย ขีเล ลคฺคิตผาณิตวารโก วิย จ โอลียติ, ตสฺส ตํ อาการํ สนฺธาย ‘‘โอลียนา’’ติ วุตฺตํ. ทุติยปทํ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตํ. ลีนาติ อวิปฺผาริกตาย ปฏิกุฏิตํ. อิตเร ทฺเว อาการภาวนิทฺเทสา. ถินนฺติ สปฺปิปิณฺโฑ วิย อวิปฺผาริกตาย ฆนภาเวน ิตํ. ถิยนาติ อาการนิทฺเทโส. ถิยิตภาโว ถิยิตตฺตํ, อวิปฺผารวเสเนว ถทฺธตาติ อตฺโถ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๑๖๒).
๗๖. อุเปกฺขาสติสํสุทฺธนฺติ จตุตฺถชฺฌานอุเปกฺขาสตีหิ สํสุทฺธํ. ธมฺมตกฺกปุเรชวนฺติ อิมินา ตสฺมึ จตุตฺถชฺฌานวิโมกฺเข ตฺวา ฌานงฺคานิ วิปสฺสิตฺวา อธิคตํ ¶ อรหตฺตวิโมกฺขํ วทติ. อรหตฺตวิโมกฺขสฺส หิ มคฺคสมฺปยุตฺตสมฺมาสงฺกปฺปาทิเภโท ธมฺมตกฺโก ปุเรชโว โหติ. เตนาห ‘‘ธมฺมตกฺกปุเรชว’’นฺติ. อวิชฺชาย ปเภทนนฺติ เอตเมว จ อฺาวิโมกฺขํ อวิชฺชาปเภทนสงฺขาตํ นิพฺพานํ นิสฺสาย ชาตตฺตา การโณปจาเรน ‘‘อวิชฺชาย ปเภทน’’นฺติ พฺรูมีติ.
ยา จตุตฺเถ ฌาเน อุเปกฺขาติ เอตฺถ อุปปตฺติโต อิกฺขตีติ อุเปกฺขา, สมํ ปสฺสติ อปกฺขปติตา หุตฺวา ปสฺสตีติ อตฺโถ. อุเปกฺขนาติ อาการนิทฺเทโส. อชฺฌุเปกฺขนาติ อุปสคฺควเสน ปทํ วฑฺฒิตํ. จิตฺตสมตาติ จิตฺตสฺเสกคฺคภาโว. จิตฺตปฺปสฺสทฺธตาติ จิตฺตสฺส อูนาติริตฺตวชฺชิตภาโว. มชฺฌตฺตตาติ จิตฺตสฺส มชฺเฌ ิตภาโว.
๗๗. เอวํ ¶ อวิชฺชาปเภทวจเนน วุตฺตํ นิพฺพานํ สุตฺวา ‘‘ตํ กิสฺส วิปฺปหาเนน วุจฺจตี’’ติ ปุจฺฉนฺโต ‘‘กึสุ สํโยชโน’’ติ คาถมาห. ตตฺถ กึสุ สํโยชโนติ กึสํโยชโน. วิจารณนฺติ วิจารณการณํ. กิสฺสสฺส วิปฺปหาเนนาติ กึนามกสฺส อสฺส ธมฺมสฺส วิปฺปหาเนน.
๗๘. อถสฺส ภควา ตมตฺถํ พฺยากโรนฺโต ‘‘นนฺทิสํโยชโน’’ติ คาถมาห. ตตฺถ วิตกฺกสฺสาติ กามวิตกฺกาทิโก วิตกฺโก อสฺส.
๗๙. อิทานิ ¶ ตสฺส นิพฺพานสฺส มคฺคํ ปุจฺฉนฺโต ‘‘กถํ สตสฺสา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ วิฺาณนฺติ อภิสงฺขารวิฺาณํ.
อถสฺส มคฺคํ กเถนฺโต ภควา ‘‘อชฺฌตฺตฺจา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ เอวํ สตสฺสาติ เอวํ สตสฺส สมฺปชานสฺส. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.
เอวํ ภควา อิทมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ, เทสนาปริโยสาเน จ ปุพฺพสทิโสว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถาย
อุทยมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๔. โปสาลมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๘๑. จุทฺทสเม ¶ โปสาลสุตฺเต – โย อตีตํ อาทิสตีติ โย ภควา อตฺตโน จ ปเรสฺจ ‘‘เอกมฺปิ ชาติ’’นฺติอาทิเภทํ อตีตํ อาทิสติ.
เอกมฺปิ ชาตินฺติ เอกมฺปิ ปฏิสนฺธิมูลกํ จุติปริโยสานํ เอกภวปริยาปนฺนํ ขนฺธสนฺตานํ. เอส นโย ทฺเวปิ ชาติโยติอาทีสุ. อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเปติอาทีสุ ปน ปริหายมาโน กปฺโป สํวฏฺฏกปฺโป, ตทา สพฺเพสํ พฺรหฺมโลเก สนฺนิปตนโต. วฑฺฒมาโน กปฺโป วิวฏฺฏกปฺโป, ตทา พฺรหฺมโลกโต สตฺตานํ วิวฏฺฏนโต. ตตฺถ สํวฏฺเฏน สํวฏฺฏฏฺายี คหิโต โหติ ตํมูลกตฺตา, วิวฏฺเฏน จ วิวฏฺฏฏฺายี. เอวฺหิ สติ ยานิ ตานิ ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, กปฺปสฺส ¶ อสงฺขฺเยยฺยานิ. กตมานิ จตฺตาริ? สํวฏฺโฏ สํวฏฺฏฏฺายี วิวฏฺโฏ วิวฏฺฏฏฺายี’’ติ วุตฺตานิ (อ. นิ. ๔.๑๕๖), ตานิ ปริคฺคหิตานิ โหนฺติ. สํวฏฺฏกปฺเป วิวฏฺฏกปฺเปติ จ กปฺปสฺส อทฺธํ คเหตฺวา วุตฺตํ. สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเปติ สกลํ กปฺปํ คเหตฺวา วุตฺตํ. กถํ อนุสฺสรตีติ เจ? อมุตฺราสินฺติอาทินา นเยน. ตตฺถ อมุตฺราสินฺติ อมุมฺหิ สํวฏฺฏกปฺเป อหํ อมุมฺหิ ภเว วา โยนิยา วา คติยา วา วิฺาณฏฺิติยา วา สตฺตาวาเส วา สตฺตนิกาเย วา อาสึ. เอวํนาโมติ ติสฺโส วา ผุสฺโส วา. เอวํโคตฺโตติ กจฺจาโน วา กสฺสโป วา ¶ . อิทมสฺส อตีตภเว อตฺตโน นามโคตฺตานุสฺสรณวเสน วุตฺตํ. สเจ ปน ตสฺมึ กาเล อตฺตโน วณฺณสมฺปตฺตึ วา ลูขปณีตชีวิตภาวํ วา สุขทุกฺขพหุลตํ วา อปฺปายุกทีฆายุกภาวํ วา อนุสฺสริตุกาโม, ตมฺปิ อนุสฺสรติเยว. เตนาห – ‘‘เอวํวณฺโณ เอวมายุปริยนฺโต’’ติ. ตตฺถ เอวํวณฺโณติ โอทาโต วา สาโม วา. เอวมาหาโรติ สาลิมํโสทนาหาโร วา ปวตฺตผลโภชโน วา. เอวํ สุขทุกฺขปฏิสํเวทีติ ¶ อเนกปฺปกาเรน กายิกเจตสิกานํ สามิสนิรามิสาทิปฺปเภทานํ วา สุขทุกฺขานํ ปฏิสํเวที. เอวมายุปริยนฺโตติ เอวํ วสฺสสตปรมายุปริยนฺโต วา จตุราสีติ กปฺปสหสฺสปรมายุปริยนฺโต วา.
โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทินฺติ โส อหํ ตโต ภวโต โยนิโต คติโต วิฺาณฏฺิติโต สตฺตาวาสโต สตฺตนิกายโต วา จุโต ปุน อมุกสฺมึ นาม ภเว โยนิยา คติยา วิฺาณฏฺิติยา สตฺตาวาเส สตฺตนิกาเย วา อุทปาทึ. ตตฺราปาสินฺติ อถ ตตฺราปิ ภเว โยนิยา คติยา วิฺาณฏฺิติยา สตฺตาวาเส สตฺตนิกาเย วา ปุน อโหสึ. เอวํนาโมติอาทิวุตฺตนยเมว.
อปิ จ – ยสฺมา อมุตฺราสินฺติ อิทํ อนุปุพฺเพน อาโรหนฺตสฺส ยาวทิจฺฉกํ อนุสฺสรณํ. โส ตโต จุโตติ ปฏินิวตฺตนฺตสฺส ปจฺจเวกฺขณํ. ตสฺมา อิธูปปนฺโนติ อิมิสฺสา อิธูปปตฺติยา อนนฺตรเมวสฺส อุปปตฺติฏฺานํ สนฺธาย อมุตฺร อุทปาทินฺติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺราปาสินฺติ เอวมาทิ ปนสฺส ตตฺรา อิมิสฺสา อุปปตฺติยา อนฺตเร อุปปตฺติฏฺาเน นามโคตฺตาทีนํ อนุสฺสรณทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโนติ สฺวาหํ ตโต อนนฺตรูปปตฺติฏฺานโต จุโต อิธ อสุกสฺมึ นาม ขตฺติยกุเล วา พฺราหฺมณกุเล วา นิพฺพตฺโต.
อิติติ เอวํ. สาการํ สอุทฺเทสนฺติ นามโคตฺตวเสน สอุทฺเทสํ, วณฺณาทิวเสน สาการํ. นามโคตฺเตน หิ สตฺโต ‘‘ติสฺโส กสฺสโป’’ติ อุทฺทิสิยติ, วณฺณาทีหิ ‘‘โอทาโต สาโม’’ติ นานตฺตโต ปฺายติ. ตสฺมา นามโคตฺตํ อุทฺเทโส, อิตเร อาการาติ. ปุพฺเพนิวาสนฺติ ¶ ปุพฺเพ อตีตชาตีสุ ¶ นิวุฏฺกฺขนฺธา ปุพฺเพนิวาโส. นิวุฏฺาติ อชฺฌาวุฏฺา อนุภูตา อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธา, นิวุฏฺธมฺมา วา. นิวุฏฺาติ โคจรนิวาเสน นิวุฏฺา, อตฺตโน วิฺาเณน วิฺาตา ปริจฺฉินฺนา, ปรวิฺาเณน วิฺาตาปิ วา ฉินฺนวฏุมกานุสฺสรณาทีสุ. เต พุทฺธานํเยว ลพฺภนฺติ. ตํ ปุพฺเพนิวาสํ อาทิสติ กเถติ. ปเรสํ อตีตนฺติ อฺเสํ ปรปุคฺคลานํ ปุพฺเพนิวาสํ เอกมฺปิ ชาตินฺติอาทินา นเยน อาทิสติ.
มหาปทานิยสุตฺตนฺตนฺติ ¶ มหาปุริสานํ อปทานนิยุตฺตํ มหาปทานสุตฺตํ (ที. นิ. ๒.๑ อาทโย). มหาสุทสฺสนิยสุตฺตนฺตนฺติ มหาสุทสฺสนสฺส สมฺปตฺติยุตฺตํ มหาสุทสฺสนสุตฺตํ (ที. นิ. ๒.๒๔๑ อาทโย). มหาโควินฺทิยสุตฺตนฺตนฺติ มหาโควินฺทพฺราหฺมณสฺส อปทานนิยุตฺตํ มหาโควินฺทสุตฺตํ (ที. นิ. ๒.๒๙๓ อาทโย). มาฆเทวิยสุตฺตนฺตนฺติ มฆเทวรฺโ อปทานนิยุตฺตํ มฆเทวสุตฺตํ (ม. นิ. ๒.๓๐๘ อาทโย). สตานุสาริฺาณํ โหตีติ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติสมฺปยุตฺตาณํ โหติ.
ยาวตกํ อากงฺขตีติ ยตฺตกํ าตุํ อิจฺฉติ, ตตฺตกํ ชานิสฺสามีติ าณํ เปเสติ. อถสฺส ทุพฺพลปตฺตปุเฏ ปกฺขนฺทนาราโธ วิย อปฺปฏิหตํ อนิวาริตํ าณํ คจฺฉติ. เตน ยาวตกํ อากงฺขติ, ตาวตกํ อนุสฺสรติ. โพธิชนฺติ โพธิยา มูเล ชาตํ. าณํ อุปฺปชฺชตีติ จตุมคฺคาณํ อุปฺปชฺชติ. อยมนฺติมา ชาตีติ เตน าเณน ชาติมูลสฺส ปหีนตฺตา ปุน ‘‘อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิทานิ ปุนพฺภโว’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๑) อปรมฺปิ าณํ อุปฺปชฺชติ. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณนฺติ เอตฺถ อุปริ ‘‘สตฺตาน’’นฺติ ปทํ อิเธว อาหริตฺวา สตฺตานํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณนฺติ โยเชตพฺพํ. ปรานิ จ อปรานิ จ ‘‘ปราปรานี’’ติ วตฺตพฺเพ สนฺธิวเสน โร-การํ กตฺวา ‘‘ปโรปรานี’’ติ วุจฺจติ. ปโรปรานํ ภาโว ปโรปริยํ, ปโรปริยเมว ปโรปริยตฺตํ, เวเนยฺยสตฺตานํ สทฺธาทีนํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ ปโรปริยตฺตํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตํ, อินฺทฺริยปโรปริยตฺตสฺส าณํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณํ, อินฺทฺริยานํ อุตฺตมานุตฺตมภาวาณนฺติ อตฺโถ. ‘‘อินฺทฺริยวโรวริยตฺตาณ’’นฺติปิ ปาโ, วรานิ จ อวรานิ จ วโรวริยานิ, วโรวริยานํ ภาโว วโรวริยตฺตนฺติ โยเชตพฺพํ. อวริยานีติ จ อุตฺตมานีติ อตฺโถ. อถ วา – ปรานิ จ โอปรานิ ¶ จ ปโรปรานิ, เตสํ ภาโว ปโรปริยตฺตนฺติ โยเชตพฺพํ. โอปรานีติ จ โอรานีติ วุตฺตํ โหติ, ลามกานีติ อตฺโถ ‘‘ปโรปรายสฺส สเมจฺจ ธมฺมา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๕; สุ. นิ. ๔๗๙) วิย. ‘‘อินฺทฺริยปโรปริยตฺเต าณ’’นฺติ ภุมฺมวจเนนปิ ปาโ (ปฏิ. ม. อฏฺ. ๑.๑.๖๘).
ตถาคตสฺสาติ ¶ ¶ ยถา วิปสฺสิอาทโย ปุพฺพกา อิสโย อาคตา, ตถา อาคตสฺส. ยถา จ เต คตา, ตถา คตสฺส. ตถาคตพลนฺติ อฺเหิ อสาธารณํ ตถาคตสฺเสว พลํ. ยถา วา ปุพฺพพุทฺธานํ พลํ ปฺุุสฺสยสมฺปตฺติยา อาคตํ, ตถา อาคตพลนฺติปิ อตฺโถ. ตตฺถ ทุวิธํ ตถาคตสฺส พลํ กายพลฺจ าณพลฺจ. เตสุ กายพลํ หตฺถิกุลานุสาเรน เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ โปราเณหิ –
‘‘กาฬาวกฺจ คงฺเคยฺยํ, ปณฺฑรํ ตมฺพปิงฺคลํ;
คนฺธมงฺคลเหมฺจ, อุโปสถฉทฺทนฺติเม ทสา’’ติ. (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๔๘; สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๒๒; อ. นิ. อฏฺ. ๓.๑๐.๒๑; วิภ. อฏฺ. ๗๖๐; อุทา. อฏฺ. ๗๕; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๒.๔๔);
ยเทตํ ปกติหตฺถิคฺคณนาย หตฺถีนํ โกฏิสหสฺสสฺส, ปุริสคณนาย ทสนฺนํ ปุริสโกฏิสหสฺสานํ พลํ โหติ, อิทํ ตาว ตถาคตสฺส กายพลํ. าณพลํ ปน มหาสีหนาเท (ม. นิ. ๑.๑๔๖ อาทโย) อาคตํ ทสพลาณํ จตุเวสารชฺชาณํ อฏฺสุ ปริสาสุ อกมฺปนาณํ จตุโยนิปริจฺเฉทกาณํ ปฺจคติปริจฺเฉทกาณํ สํยุตฺตเก (สํ. นิ. ๒.๓๓-๓๔) อาคตานิ เตสตฺตติ าณานิ สตฺตสตฺตติ าณานีติ เอวํ อฺานิปิ อเนกานิ าณสหสฺสานิ, เอตํ าณพลํ นาม. อิธาปิ าณพลเมว อธิปฺเปตํ, าณฺหิ อกมฺปิยฏฺเน อุปถมฺภกฏฺเน จ พลนฺติ (ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๒.๔๔) วุตฺตํ.
สตฺตานํ อาสยานุสเย าณนฺติ เอตฺถ รูปาทีสุ ขนฺเธสุ ฉนฺทราเคน สตฺตา วิสตฺตาติ สตฺตา. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –
‘‘รูเป โข, ราธ, โย ฉนฺโท โย ราโค ยา นนฺที ยา ตณฺหา, ตตฺร สตฺโต ตตฺร วิสตฺโต, ตสฺมา ‘สตฺโต’ติ วุจฺจติ ¶ . เวทนาย… สฺาย… สงฺขาเรสุ… วิฺาเณ โย ฉนฺโท โย ราโค ยา นนฺที ยา ตณฺหา, ตตฺร สตฺโต ตตฺร วิสตฺโต, ตสฺมา ‘สตฺโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๖๑; มหานิ. ๗).
อกฺขรจินฺตกา ปน อตฺถํ อวิจาเรตฺวา ‘‘นามมตฺตเมต’’นฺติ อิจฺฉนฺติ. เยปิ อตฺถํ วิจาเรนฺติ, เต สตฺวโยเคน สตฺตาติ อิจฺฉนฺติ. เตสํ สตฺตานํ อาสยนฺติ นิสฺสยนฺติ เอตฺถาติ อาสโย ¶ , มิจฺฉาทิฏฺิยา สมฺมาทิฏฺิยา วา กามาทีหิ เนกฺขมฺมาทีหิ วา ปริภาวิตสฺส จิตฺตสนฺตานสฺเสตํ อธิวจนํ. สตฺตสนฺตาเน อนุเสนฺติ อนุปวตฺตนฺตีติ อนุสยา, ถามคตานํ กามราคาทีนํ เอตํ อธิวจนํ. อาสโย จ อนุสโย ¶ จ อาสยานุสโย. ชาติคฺคหเณน จ ทฺวนฺทสมาสวเสน จ เอกวจนํ เวทิตพฺพํ. ยสฺมา จริตาธิมุตฺติโย อาสยานุสยสงฺคหิตา, ตสฺมา อุทฺเทเส จริตาธิมุตฺตีสุ าณานิ อาสยานุสยาเณเนว สงฺคเหตฺวา ‘‘อาสยานุสเย าณ’’นฺติ วุตฺตํ.
ยมกปาฏิหีเร าณนฺติ เอตฺถ อคฺคิกฺขนฺธอุทกธาราทีนํ อปุพฺพํ อจริมํ สกึเยว ปวตฺติโต ยมกํ, อสฺสทฺธิยาทีนํ ปฏิปกฺขธมฺมานํ หรณโต ปาฏิหีรํ, ยมกฺจ ตํ ปาฏิหีรฺจาติ ยมกปาฏิหีรํ.
มหากรุณาสมาปตฺติยา าณนฺติ เอตฺถ ปรทุกฺเข สติ สาธูนํ หทยกมฺปนํ กโรตีติ กรุณา, กินาติ วา ปรทุกฺขํ หึสติ วินาเสตีติ กรุณา, กิรียติ วา ทุกฺขิเตสุ ผรณวเสน ปสารียตีติ กรุณา, ผรณกมฺมวเสน กมฺมคุณวเสน จ มหตี กรุณา มหากรุณา, สมาปชฺชนฺติ เอตํ มหาการุณิกาติ สมาปตฺติ, มหากรุณา จ สา สมาปตฺติ จาติ มหากรุณาสมาปตฺติ, ตสฺสํ มหากรุณาสมาปตฺติยํ. ตํ สมฺปยุตฺตํ วา าณํ.
สพฺพฺุตฺาณํ อนาวรณาณนฺติ เอตฺถ ปฺจเนยฺยปถปฺปเภทํ สพฺพํ อฺาสีติ สพฺพฺู, สพฺพฺุสฺส ภาโว สพฺพฺุตา, สพฺพฺุตา เอว าณํ สพฺพฺุตาาณนฺติ วตฺตพฺเพ สพฺพฺุตฺาณนฺติ วุตฺตํ. สงฺขตาสงฺขตาทิเภทา สพฺพธมฺมา หิ สงฺขาโร วิกาโร ลกฺขณํ นิพฺพานํ ปฺตฺตีติ ปฺเจว เนยฺยปถา โหนฺติ. อาวชฺชนปฏิพทฺธตฺตา เอว หิ นตฺถิ ตสฺส อาวรณนฺติ ตเทว อนาวรณาณนฺติ วุจฺจติ (ปฏิ. ม. อฏฺ. ๑.๑.๖๘).
สพฺพตฺถ ¶ อสงฺคมปฺปฏิหตมนาวรณาณนฺติ เอตฺถ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุ อสงฺคํ สงฺควิรหิตํ อปฺปฏิหตํ ปฏิปกฺขวิรหิตํ หุตฺวา ปวตฺตํ อาวรณวิรหิตํ าณํ.
อนาคตมฺปิ อาทิสตีติ –
‘‘อิมสฺมึ ภทฺทเก กปฺเป, ตโย อาสึสุ นายกา;
อหเมตรหิ สมฺพุทฺโธ, เมตฺเตยฺโย จาปิ เหสฺสตี’’ติ. จ –
‘‘อสีติวสฺสสหสฺสายุเกสุ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, มนุสฺเสสุ เมตฺเตยฺโย นาม ภควา โลเก อุปฺปชฺชิสฺสติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน’’ติ จ (ที. นิ. ๓.๑๐๗) –
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, สงฺโข นาม ราชา โย โส ยูโป รฺา มหาปนาเทน การาปิโต, ตํ ยูปํ อุสฺสาเปตฺวา อชฺฌาวสิตฺวา ตํ ทตฺวา วิสฺสชฺชิตฺวา สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกวณิพฺพกยาจกานํ ทานํ ทตฺวา เมตฺเตยฺยสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสตี’’ติ จ (ที. นิ. ๓.๑๐๘) –
‘‘อนาคเต อฏฺิสฺสโร นาม ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ (มิ. ป. ๔.๑.๓) จ, ‘‘สุมนิสฺสโร นาม ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ จ –
อาทินา นเยน เทวทตฺตาทีนํ อนาคตํ อาจิกฺขติ. ปจฺจุปฺปนฺนมฺปิ อาทิสตีติ อิทํ ปากฏเมว.
๘๒. วิภูตรูปสฺิสฺสาติ สมติกฺกนฺตรูปสฺิสฺส. สพฺพกายปฺปหายิโนติ ตทงฺควิกฺขมฺภนวเสน สพฺพรูปกายปหายิโน, ปหีนรูปภวปฏิสนฺธิกสฺสาติ อธิปฺปาโย. นตฺถิ กิฺจีติ ปสฺสโตติ วิฺาณาภาวทสฺสเนน ‘‘นตฺถิ กิฺจี’’ติ ปสฺสโต, อากิฺจฺายตนลาภิโนติ วุตฺตํ โหติ. าณํ สกฺกานุปุจฺฉามีติ สกฺกาติ ภควนฺตํ อาลปนฺโต อาห. ตสฺส ปุคฺคลสฺส าณํ ปุจฺฉามิ, กีทิสํ อิจฺฉิตพฺพนฺติ. กถํ เนยฺยาติ กถฺจ โส เนตพฺโพ, กถมสฺส อุตฺตริาณํ อุปฺปาเทตพฺพนฺติ.
กตมา ¶ รูปสฺาติ เอตฺถ รูปสฺาติ สฺาสีเสน วุตฺตรูปาวจรฌานฺเจว ตทารมฺมณฺจ. รูปาวจรฌานมฺปิ หิ รูปนฺติ วุจฺจติ ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๒๔๘; ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙). ตสฺส อารมฺมณมฺปิ ‘‘พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๒๒๓). ตสฺมา อิธ รูเป สฺา รูปสฺาติ เอวํ สฺาสีเสน รูปาวจรฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. รูปํ สฺา อสฺสาติ รูปสฺา, รูปมสฺส นามนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ ปถวีกสิณาทิเภทสฺส ตทารมฺมณสฺส เจตํ อธิวจนนฺติ เวทิตพฺพํ. อิธ ปน กุสลวิปากกิริยวเสน ปฺจทสฌานสงฺขาตา รูปสฺา เอว อธิปฺเปตา ¶ . รูปาวจรสมาปตฺตึ ¶ สมาปนฺนสฺส วาติ รูปาวจรกุสลชฺฌานสมาปตฺตึ สมาปนฺนสฺส. อุปปนฺนสฺส วาติ วิปากชฺฌานวเสน ตสฺมึ ภเว อุปปนฺนสฺส. ทิฏฺธมฺมสุขวิหาริสฺส วาติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว กิริยาฌานํ สมาปชฺชิตฺวา สุขํ อุปฺปาเทตฺวา วิหรนฺตสฺส. อรูปสมาปตฺติโยติ อากาสานฺจายตนาทีนิ. ปฏิลทฺธสฺสาติ อุปฺปาเทตฺวา ิตสฺส. รูปสฺา วิภูตา โหนฺตีติ รูปสฺา อปคตา โหนฺติ. วิคตาติ วินาสิตา. ‘‘อภาวิตา’’ติปิ ปาโ, สุนฺทโร.
ตทงฺคสมติกฺกมาติ ตทงฺคปฺปหานวเสน อติกฺกเมน. วิกฺขมฺภนปฺปหาเนน ปหีโนติ อรูปชฺฌานปฏิลาเภน วิกฺขมฺภเนน ปหีโน. ตสฺส รูปกาโยติ ตสฺส อรูปสมาปตฺติปฏิลาภิโน อรูปปุคฺคลสฺส รูปาวจรกาโย.
อากิฺจฺายตนนฺติ เอตฺถ นาสฺส กิฺจนนฺติ อกิฺจนํ, อนฺตมโส สงฺคมตฺตมฺปิ อสฺส อวสิฏฺํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. อกิฺจนสฺส ภาโว อากิฺจฺํ, อากาสานฺจายตนวิฺาณาปคมสฺเสตํ อธิวจนํ, ตํ อากิฺจฺํ อธิฏฺานฏฺเน อิมิสฺสา สฺาย อายตนนฺติ อากิฺจฺายตนํ, อากาเส ปวตฺติตวิฺาณาปคมารมฺมณสฺส ฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. วิฺาณฺจายตนสมาปตฺตึ สโต สมาปชฺชิตฺวาติ ตํ วิฺาณฺจายตนํ สโตการี หุตฺวา สมาปชฺชิตฺวา. ตโต วุฏฺหิตฺวาติ สโตการี หุตฺวา ตาย สมาปตฺติยา วุฏฺาย. ตฺเว วิฺาณนฺติ ตํ อากาเส ปวตฺติตํ มหคฺคตวิฺาณํ. อภาเวตีติ วินาเสติ. วิภาเวตีติ วิวิธา นาเสติ. อนฺตรธาเปตีติ อทสฺสนํ คเมติ.
กถํ ¶ โส เนตพฺโพติ โส ปุคฺคโล เกนปฺปกาเรน ชานิตพฺโพ. วิเนตพฺโพติ นานาวิเธน ชานิตพฺโพ. อนุเนตพฺโพติ ปุนปฺปุนํ จิตฺเตน กถํ คมยิตพฺโพ.
อถสฺส ภควา ตาทิเส ปุคฺคเล อตฺตโน อปฺปฏิหตาณตํ ปกาเสตฺวา ตํ าณํ พฺยากาตุํ คาถมาห. ตตฺถ วิฺาณฏฺิติโย สพฺพา, อภิชานํ ตถาคโตติ อภิสงฺขารวเสน จตสฺโส ปฏิสนฺธิวเสน สตฺตาติ เอวํ สพฺพา วิฺาณฏฺิติโย อภิชานนฺโต ตถาคโต. ติฏฺนฺตเมนํ ชานาตีติ กมฺมาภิสงฺขารวเสน ติฏฺเมตํ ปุคฺคลํ ชานาติ ¶ – ‘‘อายตึ อยํ เอวํคติโก ภวิสฺสตี’’ติ. ธิมุตฺตนฺติ อากิฺจฺายตนาทีสุ อธิมุตฺตํ. ตปฺปรายณนฺติ ตมฺมยํ.
วิฺาณฏฺิติโยติ ¶ ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส านานิ สวิฺาณกา ขนฺธา เอว. ตตฺถ เสยฺยถาปีติ นิทสฺสนตฺเถ นิปาโต ยถา มนุสฺสาติ อตฺโถ. อปริมาเณสุปิ หิ จกฺกวาเฬสุ อปริมาณานํ มนุสฺสานํ วณฺณสณฺานาทิวเสน ทฺเวปิ เอกสทิสา นตฺถิ. เยปิ หิ กตฺถจิ ยมกภาตโร วณฺเณน วา สณฺาเนน วา สทิสา โหนฺติ. เตปิ อาโลกิตวิโลกิตาทีหิ วิสทิสาว โหนฺติ. ตสฺมา ‘‘นานตฺตกายา’’ติ วุตฺตา. ปฏิสนฺธิสฺา ปน เนสํ ติเหตุกาปิ ทุเหตุกาปิ อเหตุกาปิ โหติ. ตสฺมา ‘‘นานตฺตสฺิโน’’ติ วุตฺตา. เอกจฺเจ จ เทวาติ ฉ กามาวจรเทวา. เตสุ หิ เกสฺจิ กาโย นีโล โหติ, เกสฺจิ ปีตกาทิวณฺโณ. สฺา ปน เนสํ ติเหตุกาปิ ทุเหตุกาปิ โหติ, อเหตุกา น โหติ. เอกจฺเจ จ วินิปาติกาติ จตุอปายวินิมุตฺตา ปุนพฺพสุมาตา ยกฺขินี ปิยงฺกรมาตา ผุสฺสมิตฺตา ธมฺมคุตฺตาติ เอวมาทโย อฺเ จ เวมานิกา เปตา. เอเตสฺหิ โอทาตกาฬมงฺคุรจฺฉวิสามวณฺณาทิวเสน เจว กิสถูลรสฺสทีฆวเสน จ กาโย นานา โหติ, มนุสฺสานํ วิย ติเหตุกทุเหตุกาเหตุกวเสน สฺาปิ. เต ปน เทวา วิย น มเหสกฺขา, กปณมนุสฺสา วิย อปฺเปสกฺขา ทุลฺลภฆาสจฺฉาทนา ทุกฺขปีฬิตา วิหรนฺติ. เอกจฺเจ กาฬปกฺเข ทุกฺขิตา ชุณฺหปกฺเข สุขิตา โหนฺติ, ตสฺมา สุขสมุสฺสยโต วินิปติตตฺตา วินิปาติกาติ วุตฺตา. เย ปเนตฺถ ติเหตุกา, เตสํ ธมฺมาภิสมโยปิ โหติ ปิยงฺกรมาตาทีนํ วิย.
พฺรหฺมกายิกาติ ¶ พฺรหฺมปาริสชฺชพฺรหฺมปุโรหิตมหาพฺรหฺมาโน. ปมาภินิพฺพตฺตาติ เต สพฺเพปิ ปมชฺฌาเนน นิพฺพตฺตา. พฺรหฺมปาริสชฺชา ปน ปริตฺเตน, พฺรหฺมปุโรหิตา มชฺฌิเมน, กาโยว เนสํ วิปฺผาริกตโร โหติ. มหาพฺรหฺมาโน ปณีเตน, กาโย ปน เนสํ อติวิปฺผาริกตโร โหติ. อิติ เต กายสฺส นานตฺตา, ปมชฺฌานวเสน สฺาย เอกตฺตา นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโนติ วุตฺตา. ยถา จ เต, เอวํ จตูสุ อปาเยสุ สตฺตา. นิรเยสุ หิ เกสฺจิ คาวุตํ, เกสฺจิ อฑฺฒโยชนํ, เกสฺจิ ติคาวุตํ อตฺตภาโว โหติ, เทวทตฺตสฺส ¶ ปน โยชนสติโก ชาโต. ติรจฺฉาเนสุปิ เกจิ ขุทฺทกา โหนฺติ, เกจิ มหนฺตา. เปตฺติวิสเยสุปิ เกจิ สฏฺิหตฺถา, เกจิ อสีติหตฺถา โหนฺติ, เกจิ สุวณฺณา, เกจิ ทุพฺพณฺณา. ตถา กาลกฺจิกา อสุรา. อปิ เจตฺถ ทีฆปิฏฺิกเปตา นาม สฏฺิโยชนิกาปิ โหนฺติ. สฺา ปน สพฺเพสมฺปิ อกุสลวิปากาเหตุกาว โหติ. อิติ อาปายิกาปิ นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโนติ สงฺขํ คจฺฉนฺติ.
อาภสฺสราติ ทณฺฑอุกฺกาย อจฺจิ วิย เอเตสํ สรีรโต อาภา ฉิชฺชิตฺวา ฉิชฺชิตฺวา ปตนฺตี วิย สรติ วิสรตีติ อาภสฺสรา. เตสุ ปฺจกนเย ทุติยตติยชฺฌานทฺวยํ ปริตฺตํ ภาเวตฺวา ¶ อุปปนฺนา ปริตฺตาภา นาม โหนฺติ. มชฺฌิมํ ภาเวตฺวา อุปปนฺนา อปฺปมาณาภา นาม โหนฺติ. ปณีตํ ภาเวตฺวา อุปปนฺนา อาภสฺสรา นาม โหนฺติ. อิธ ปน อุกฺกฏฺปริจฺเฉทวเสน สพฺเพ คหิตา. สพฺเพสฺหิ เตสํ กาโย เอกวิปฺผาโรว โหติ, สฺา ปน อวิตกฺกวิจารมตฺตา จ อวิตกฺกอวิจารา จาติ นานา.
สุภกิณฺหาติ สุเภน โวกิณฺณา, สุเภน สรีรปฺปภาวณฺเณน เอกคฺฆนาติ อตฺโถ. เอเตสฺหิ น อาภสฺสรานํ วิย ฉิชฺชิตฺวา ฉิชฺชิตฺวา ปภา คจฺฉตีติ. จตุกฺกนเย ตติยสฺส ปฺจกนเย จตุกฺกสฺส ปริตฺตมชฺฌิมปณีตสฺส ฌานสฺส วเสน ปริตฺตสุภอปฺปมาณสุภสุภกิณฺหา นาม หุตฺวา นิพฺพตฺตนฺติ. อิติ สพฺเพปิ เต เอกตฺตกายา เจว จตุตฺถชฺฌานสฺาย เอกตฺตสฺิโน จาติ เวทิตพฺพา. เวหปฺผลาปิ จตุตฺถวิฺาณฏฺิติเมว ภชนฺติ. อสฺสตฺตา วิฺาณาภาวา เอตฺถ สงฺคหํ น คจฺฉนฺติ, สตฺตาวาเสสุ คจฺฉนฺติ.
สุทฺธาวาสา ¶ วิวฏฺฏปกฺเข ิตา, น สพฺพกาลิกา, กปฺปสตสหสฺสมฺปิ อสงฺขฺเยยฺยมฺปิ พุทฺธสฺุเ โลเก น อุปฺปชฺชนฺติ. โสฬสกปฺปสหสฺสพฺภนฺตเร พุทฺเธสุ อุปฺปนฺเนสุเยว อุปฺปชฺชนฺติ. ธมฺมจกฺกปวตฺติสฺส (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๓; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) ภควโต ขนฺธาวารสทิสา โหนฺติ. ตสฺมา เนว วิฺาณฏฺิตึ, น จ สตฺตาวาสํ ภชนฺติ. มหาสีวตฺเถโร ปน ‘‘น โข ปน โส, สาริปุตฺต, อาวาโส สุลภรูโป, โย มยา อนาวุฏฺปุพฺโพ อิมินา ทีเฆน อทฺธุนา อฺตฺร สุทฺธาวาเสหิ เทเวหีติ อิมินา ¶ สุตฺเตน (ม. นิ. ๑.๑๖๐) สุทฺธาวาสาปิ จตุตฺถวิฺาณฏฺิตึ จตุตฺถสตฺตาวาสฺจ ภชนฺตี’’ติ วทติ, ตํ อปฺปฏิพาหิตตฺตา สุตฺตสฺส อนฺุาตํ (อ. นิ. อฏฺ. ๓.๗.๔๔-๔๕; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๑.๑.๒๑).
สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมาติ เอตฺถ สพฺพโสติ สพฺพากาเรน, สพฺพาสํ วา อนวเสสานนฺติ อตฺโถ. รูปสฺานนฺติ สฺาสีเสน วุตฺตรูปาวจรชฺฌานานฺเจว ตทารมฺมณานฺจ. รูปาวจรชฺฌานมฺปิ หิ รูปนฺติ วุจฺจติ ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๒๔๘; ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙), ตสฺส อารมฺมณมฺปิ ‘‘พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๒๒๓). ตสฺมา อิธ ‘‘รูเป สฺา รูปสฺา’’ติ เอวํ สฺาสีเสน วุตฺตรูปาวจรชฺฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. รูปํ สฺา อสฺสาติ รูปสฺา, รูปมสฺส นามนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ ปถวีกสิณาทิเภทสฺส ตทารมฺมณสฺส เจตํ อธิวจนนฺติ เวทิตพฺพํ.
สมติกฺกมาติ ¶ วิราคา นิโรธา จ. กึ วุตฺตํ โหติ? เอตาสํ กุสลวิปากกิริยวเสน ปฺจทสนฺนํ ฌานสงฺขาตานํ รูปสฺานํ เอเตสฺจ ปถวีกสิณาทิวเสน อฏฺนฺนํ อารมฺมณสงฺขาตานํ รูปสฺานํ สพฺพากาเรน อนวเสสานํ วา วิราคา จ นิโรธา จ วิราคเหตุ เจว นิโรธเหตุ จ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. น หิ สกฺกา สพฺพโส อนติกฺกนฺตรูปสฺเน เอตํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุนฺติ. ตตฺถ ยสฺมา อารมฺมเณ อวิรตฺตสฺส สฺาสมติกฺกโม น โหติ, สมติกฺกนฺตาสุ จ สฺาสุ อารมฺมณํ สมติกฺกนฺตเมว โหติ. ตสฺมา อารมฺมณสมติกฺกมํ อวตฺวา –
‘‘ตตฺถ กตมา รูปสฺา? รูปาวจรสมาปตฺตึ สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา ทิฏฺธมฺมสุขวิหาริสฺส วา สฺา สฺชานนา สฺชานิตตฺตํ, ¶ อิมา วุจฺจนฺติ รูปสฺาโย. อิมา รูปสฺาโย อติกฺกนฺโต โหติ วีติกฺกนฺโต สมติกฺกนฺโต, เตน วุจฺจติ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา’’ติ –
เอวํ วิภงฺเค (วิภ. ๖๐๒) สฺานํเยว สมติกฺกโม วุตฺโต. ยสฺมา ปน อารมฺมณสมติกฺกเมน ปตฺตพฺพา เอตา สมาปตฺติโย, น เอกสฺมึเยว อารมฺมเณ ปมชฺฌานาทีนิ วิย, ตสฺมา อยํ อารมฺมณสมติกฺกมวเสนาปิ อตฺถวณฺณนา กตาติ เวทิตพฺพา.
ปฏิฆสฺานํ ¶ อตฺถงฺคมาติ จกฺขาทีนํ วตฺถูนํ รูปาทีนํ อารมฺมณานฺจ ปฏิฆาเตน อุปฺปนฺนา สฺา ปฏิฆสฺา, รูปสฺาทีนํ เอตํ อธิวจนํ. ยถาห – ‘‘ตตฺถ กตมา ปฏิฆสฺา? รูปสฺา สทฺทสฺา คนฺธสฺา รสสฺา โผฏฺพฺพสฺา, อิมา วุจฺจนฺติ ปฏิฆสฺาโย’’ติ (วิภ. ๖๐๓). ตาสํ กุสลวิปากานํ ปฺจนฺนํ อกุสลวิปากานํ ปฺจนฺนนฺติ สพฺพโส ทสนฺนํ ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา ปหานา อสมุปฺปาทา, อปฺปวตฺตึ กตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.
กามฺเจตา ปมชฺฌานาทีนิ สมาปนฺนสฺสาปิ น สนฺติ, น หิ ตสฺมึ สมเย ปฺจทฺวารวเสน จิตฺตํ ปวตฺตติ, เอวํ สนฺเตปิ อฺตฺถ ปหีนานํ สุขทุกฺขานํ จตุตฺถชฺฌาเน วิย สกฺกายทิฏฺาทีนํ ตติยมคฺเค วิย จ อิมสฺมึเยว ฌาเน อุสฺสาหชนนตฺถํ อิมสฺส ฌานสฺส ปสํสาวเสน เอตาสํ เอตฺถ วจนํ เวทิตพฺพํ. อถ วา – กิฺจาปิ ตา รูปาวจรํ สมาปนฺนสฺส น สนฺติ, อถ โข น ปหีนตฺตา น สนฺติ, น หิ รูปวิราคาย รูปาวจรภาวนา สํวตฺตติ, รูปายตฺตา จ เอตาสํ ปวตฺติ, อยํ ปน ภาวนา รูปวิราคาย สํวตฺตติ ¶ . ตสฺมา ตา เอตฺถ ‘‘ปหีนา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. น เกวลฺจ วตฺตุํ, เอกํเสเนว เอวํ ธาเรตุมฺปิ วฏฺฏติ. ตาสฺหิ อิโต ปุพฺเพ อปฺปหีนตฺตาเยว ‘‘ปมชฺฌานํ สมาปนฺนสฺส สทฺโท กณฺฏโก’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๗๒) วุตฺโต ภควตา. อิธ จ ปหีนตฺตาเยว อรูปสมาปตฺตีนํ อาเนฺชตา สนฺตวิโมกฺขตา จ วุตฺตา – ‘‘อาฬาโร จ กาลาโม อรูปํ สมาปนฺโน ปฺจมตฺตานิ สกฏสตานิ นิสฺสาย นิสฺสาย อติกฺกนฺตานิ เนว อทฺทส, น ปน สทฺทํ อสฺโสสี’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๙๒).
นานตฺตสฺานํ อมนสิการาติ นานตฺเต โคจเร ปวตฺตานํ สฺานํ, นานตฺตานํ วา สฺานํ. ยสฺมา หิ เอตา –
‘‘ตตฺถ ¶ กตมา นานตฺตสฺา? อสมาปนฺนสฺส มโนธาตุสมงฺคิสฺส วา มโนวิฺาณธาตุสมงฺคิสฺส วา สฺา สฺชานนา สฺชานิตตฺตํ, อิมา วุจฺจนฺติ นานตฺตสฺาโย’’ติ (วิภ. ๖๐๔) –
เอวํ วิภงฺเค วิภชิตฺวา วุตฺตาว อิธ อธิปฺเปตา อสมาปนฺนสฺส มโนธาตุมโนวิฺาณธาตุสงฺคหิตา สฺา รูปสทฺทาทิเภเท นานตฺเต นานาสภาเว โคจเร ปวตฺตนฺติ. ยสฺมา เจตา อฏฺ กามาวจรกุสลสฺา ทฺวาทส อกุสลสฺา เอกาทส ¶ กามาวจรกุสลวิปากสฺา ทฺเว อกุสลวิปากสฺา เอกาทส กามาวจรกิริยสฺาติ เอวํ จตุจตฺตาลีสมฺปิ สฺา นานตฺตา นานาสภาวา อฺมฺํ อสทิสา, ตสฺมา ‘‘นานตฺตสฺา’’ติ วุตฺตา. ตาสํ สพฺพโส นานตฺตสฺานํ อมนสิการา อนาวชฺชนา อสมนฺนาหารา อปจฺจเวกฺขณา. ยสฺมา ตา นาวชฺชติ น มนสิกโรติ น ปจฺจเวกฺขติ, ตสฺมาติ วุตฺตํ โหติ.
ยสฺมา เจตฺถ ปุริมา รูปสฺา ปฏิฆสฺา จ อิมินา ฌาเนน นิพฺพตฺเต ภเวปิ น วิชฺชนฺติ, ปเคว ตสฺมึ ภเว อิมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรณกาเล, ตสฺมา ตาสํ ‘‘สมติกฺกมา อตฺถงฺคมา’’ติ ทฺเวธาปิ อภาโวเยว วุตฺโต. นานตฺตสฺาสุ ปน ยสฺมา อฏฺ กามาวจรกุสลสฺา นว กิริยสฺา ทส อกุสลสฺาติ, อิมา สตฺตวีสติ สฺา อิมินา ฌาเนน นิพฺพตฺเต ภเว วิชฺชนฺติ, ตสฺมา ตาสํ ‘‘อมนสิการา’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺราปิ หิ อิมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรนฺโต ตาสํ อมนสิการาเยว อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ตา ปน มนสิกโรนฺโต อสมาปนฺโน โหตีติ. สงฺเขปโต เจตฺถ ‘‘รูปสฺานํ สมติกฺกมา’’ติ อิมินา สพฺพรูปาวจรธมฺมานํ ปหานํ วุตฺตํ. ‘‘ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา’’ติ ¶ อิมินา สพฺเพสํ กามาวจรจิตฺตเจตสิกานฺจ ปหานํ อมนสิกาโร จ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ (ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๒๑๓).
อิติ ภควา ปนฺนรสนฺนํ รูปสฺานํ สมติกฺกเมน ทสนฺนํ ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคเมน จตุจตฺตาลีสาย นานตฺตสฺานํ อมนสิกาเรนาติ ตีหิ ปเทหิ อากาสานฺจายตนสมาปตฺติยา วณฺณํ กเถสิ. กึ การณาติ เจ? โสตูนํ อุสฺสาหชนนตฺถฺเจว ปโลภนตฺถฺจ. สเจ หิ เกจิ ¶ อปณฺฑิตา วเทยฺยุํ – ‘‘สตฺถา อากาสานฺจายตนสมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตถาติ วทติ, โก นุ โข เอตาย นิพฺพตฺติตาย อตฺโถ, โก อานิสํโส’’ติ. ‘‘เต เอวํ วตฺตุํ มา ลภนฺตู’’ติ อิเมหิ อากาเรหิ สมาปตฺติยา วณฺณํ กเถสิ. ตฺหิ เนสํ สุตฺวา เอวํ ภวิสฺสติ – ‘‘เอวํ สนฺตา กิร อยํ สมาปตฺติ เอวํ ปณีตา, นิพฺพตฺเตสฺสาม น’’นฺติ, อถสฺสา นิพฺพตฺตนตฺถาย อุสฺสาหํ กริสฺสนฺตีติ.
ปโลภนตฺถฺจาปิ เตสํ เอติสฺสา วณฺณํ กเถสิ วิสกณฺฏกวาณิโชวิย, วิสกณฺฏกวาณิโช นาม คุฬวาณิโช วุจฺจติ. โส กิร คุฬผาณิตขณฺฑสกฺกราทีนิ ¶ สกเฏน อาทาย ปจฺจนฺตคามํ คนฺตฺวา ‘‘วิสกณฺฏกํ คณฺหถ, วิสกณฺฏกํ คณฺหถา’’ติ อุคฺโฆเสสิ. ตํ สุตฺวา คามิกา ‘‘วิสํ นาม กกฺขฬํ, โย นํ ขาทติ, โส มรติ, กณฺฏโกปิ วิชฺฌิตฺวา มาเรติ, อุโภเปเต กกฺขฬา, โก เอตฺถ อานิสํโส’’ติ เคหทฺวารานิ ถเกสุํ, ทารเก จ ปลาเปสุํ. ตํ ทิสฺวา วาณิโช ‘‘อโวหารกุสลา อิเม คามิกา, หนฺท เน อุปาเยน คณฺหาเปมี’’ติ ‘‘อติมธุรํ คณฺหถ, อติสาทุํ คณฺหถ, คุฬํ ผาณิตํ สกฺกรํ สมคฺฆํ ลพฺภติ, กูฏมาสกกูฏกหาปณาทีหิปิ ลพฺภตี’’ติ อุคฺโฆเสสิ. ตํ สุตฺวา คามิกา หฏฺปหฏฺา นิกฺขนฺตา พหุมฺปิ มูลํ ทตฺวา คเหสุํ.
ตตฺถ วาณิชสฺส ‘‘วิสกณฺฏกํ คณฺหถา’’ติ อุคฺโฆสนํ วิย ภควโต ‘‘อากาสานฺจายตนสมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตถา’’ติ วจนํ. ‘‘อุโภเปเต กกฺขฬา, โก เอตฺถ อานิสํโส’’ติ คามิกานํ จินฺตนํ วิย ‘‘ภควา ‘อากาสานฺจายตนํ นิพฺพตฺเตถา’ติ อาห, โก นุ โข เอตฺถ อานิสํโส, นาสฺส คุณํ ชานามา’’ติ โสตูนํ จินฺตนํ. อถสฺส วาณิชสฺส ‘‘อติมธุรํ คณฺหถา’’ติอาทิวจนํ วิย ภควโต รูปสฺาสมติกฺกมนาทิกํ อานิสํสปฺปกาสนํ. อิทฺหิ สุตฺวา เต พหุมฺปิ มูลํ ทตฺวา คามิกา วิย คุฬํ ‘‘อิมินา อานิสํเสน ปโลภิตจิตฺตา มหนฺตมฺปิ อุสฺสาหํ กตฺวา อิมํ สมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตสฺสนฺตี’’ติ อุสฺสาหชนนตฺถํ ปโลภนตฺถฺจ กเถสิ.
อากาสานฺจายตนูปคาติ ¶ ¶ เอตฺถ นาสฺส อนฺโตติ อนนฺตํ, อากาสํ อนนฺตํ อากาสานนฺตํ, อากาสานนฺตํ เอว อากาสานฺจํ, ตํ อากาสานฺจํ อธิฏฺานฏฺเน อายตนมสฺส สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ฌานสฺส เทวานํ เทวายตนมิวาติ อากาสานฺจายตนํ. กสิณุคฺฆาฏิมากาสสฺเสตํ อธิวจนํ. ตตฺถ ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ปฏิสนฺธิวเสน อากาสานฺจายตนภวํ อุปคตา อากาสานฺจายตนูปคา. อิโต ปเรสุ วิเสสมตฺตเมว วณฺณยิสฺสาม (ธ. ส. อฏฺ. ๒๖๕, ๑๔๓๖-๗).
อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺมาติ เอตฺถ ตาว ปุพฺเพ วุตฺตนเยน อากาสานฺจํ อายตนมสฺส อธิฏฺานฏฺเนาติ ฌานมฺปิ อากาสานฺจายตนํ, วุตฺตนเยเนว อารมฺมณมฺปิ. เอวเมตํ ฌานฺจ อารมฺมณฺจาติ อุภยมฺปิ ¶ อปฺปวตฺติกรเณน จ อมนสิกรเณน จ สมติกฺกมิตฺวาว ยสฺมา อิทํ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหริตพฺพํ, ตสฺมา อุภยมฺเปตํ เอกชฺฌํ กตฺวา ‘‘อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺมา’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
วิฺาณฺจายตนูปคาติ เอตฺถ ปน ‘‘อนนฺต’’นฺติ มนสิกาตพฺพวเสน นาสฺส อนฺโตติ อนนฺตํ, อนนฺตเมว อานฺจํ, วิฺาณํ อานฺจํ ‘‘วิฺาณานฺจ’’นฺติ อวตฺวา ‘‘วิฺาณฺจ’’นฺติ วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ รุฬฺหีสทฺโท. ตเทว วิฺาณฺจํ อธิฏฺานฏฺเน อายตนนฺติ วิฺาณฺจายตนํ. ตตฺถ ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา วิฺาณฺจายตนภวํ อุปคตา วิฺาณฺจายตนูปคา.
วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺมาติ เอตฺถปิ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว วิฺาณฺจํ อายตนมสฺส อธิฏฺานฏฺเนาติ ฌานมฺปิ วิฺาณฺจายตนํ, วุตฺตนเยเนว จ อารมฺมณมฺปิ. เอวเมตํ ฌานฺจ อารมฺมณฺจาติ อุภยมฺปิ อปฺปวตฺติกรเณน จ อมนสิกรเณน จ สมติกฺกมิตฺวาว ยสฺมา อิทํ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหริตพฺพํ, ตสฺมา อุภยมฺเปตํ เอกชฺฌํ กตฺวา ‘‘วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺมา’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อากิฺจฺายตนูปคาติ เอตฺถ ปน นาสฺส กิฺจนนฺติ อกิฺจนํ, อนฺตมโส ภงฺคมตฺตมฺปิ อสฺส อวสิฏฺํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. อกิฺจนสฺส ภาโว อากิฺจฺํ, อากาสานฺจายตนวิฺาณาปคมสฺเสตํ อธิวจนํ. ตํ อากิฺจฺํ อธิฏฺานฏฺเน อายตนนฺติ อากิฺจฺายตนํ. ตตฺถ ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา อากิฺจฺายตนภวํ อุปคตา อากิฺจฺายตนูปคา. อยํ สตฺตมวิฺาณฏฺิตีติ ¶ อิมํ สตฺตมํ ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส านํ ชานาติ ¶ . เนวสฺานาสฺายตนํ ยเถว สฺาย, เอวํ วิฺาณสฺสาปิ สุขุมตฺตา เนว วิฺาณํ นาวิฺาณํ, ตสฺมา วิฺาณฏฺิตีสุ น วุตฺตํ.
อภูตนฺติ อภูตตฺถํ ‘‘รูปํ อตฺตา’’ติอาทิวจนํ. ตํ วิปลฺลาสภาวโต อตจฺฉํ. ทิฏฺินิสฺสยโต อนตฺถสฺหิตํ. อถ วา อภูตนฺติ อสนฺตํ อวิชฺชมานํ. อโจรสฺเสว ‘‘อิทํ เต โจริกาย อาภตํ, น อิทํ ตุยฺหํ ฆเร ธน’’นฺติอาทิวจนํ. อตจฺฉนฺติ อตถาการํ อฺถา สนฺตํ. อนตฺถสฺหิตนฺติ น อิธโลกตฺถํ วา ปรโลกตฺถํ ¶ วา นิสฺสิตํ. น ตํ ตถาคโต พฺยากโรตีติ ตํ อนิยฺยานิกกถํ ตถาคโต น กเถติ. ภูตํ ตจฺฉํ อนตฺถสฺหิตนฺติ ราชกถาทิติรจฺฉานกถํ. ภูตํ ตจฺฉํ อตฺถสฺหิตนฺติ อริยสจฺจสนฺนิสฺสิตํ. ตตฺร กาลฺู ตถาคโต โหตีติ ตสฺมึ ตติยพฺยากรเณ ตสฺส ปฺหสฺส พฺยากรณตฺถาย ตถาคโต กาลฺู โหติ. มหาชนสฺส อาทานกาลํ คหณกาลํ ชานิตฺวา สเหตุกํ สการณํ กตฺวา ยุตฺตปตฺตกาเลเยว พฺยากโรตีติ อตฺโถ.
ยุตฺตปตฺตกาเล วทตีติ กาลวาที. ภูตํ สภาวํ วทตีติ ภูตวาที. ปรมตฺถํ นิพฺพานํ วทตีติ อตฺถวาที. มคฺคผลธมฺมํ วทตีติ ธมฺมวาที. สํวราทิวินยํ วทตีติ วินยวาที. ตตฺถ ทิฏฺนฺติ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อปริมาณานํ สตฺตานํ จกฺขุทฺวาเรสุ อาปาถํ อาคจฺฉนฺตํ รูปารมฺมณํ นาม อตฺถิ, ตํ สพฺพาการโต ชานาติ ปสฺสติ. เอวํ ชานตา ปสฺสตา จ เตน ตํ อิฏฺานิฏฺาทิวเสน วา ทิฏฺสุตมุตวิฺาเตสุ ลพฺภมานกปทวเสน วา ‘‘กตมํ ตํ รูปํ รูปายตนํ? ยํ รูปํ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย วณฺณนิภา สนิทสฺสนํ สปฺปฏิฆํ นีลํ ปีตก’’นฺติอาทินา (ธ. ส. ๖๑๗-๖๑๘) นเยน อเนเกหิ นาเมหิ เตรสหิ วาเรหิ ทฺวิปฺาสาย นเยหิ วิภชฺชมานํ ตถเมว โหติ วิตถํ นตฺถิ. เอส นโย โสตทฺวาราทีสุปิ. อาปาถมาคจฺฉนฺเตสุ สทฺทาทีสุ เตสํ วิวิธํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทิฏฺํ สุต’’นฺติ อาห. ตตฺถ ทิฏฺนฺติ รูปายตนํ. สุตนฺติ สทฺทายตนํ. มุตนฺติ ปตฺวา คเหตพฺพโต คนฺธายตนํ รสายตนํ โผฏฺพฺพายตนํ. วิฺาตนฺติ สุขทุกฺขาทิธมฺมารมฺมณํ. ปตฺตนฺติ ปริเยสิตฺวา วา อปริเยสิตฺวา วา ปตฺตํ. ปริเยสิตนฺติ ¶ ปตฺตํ วา อปตฺตํ วา ปริเยสิตํ. อนุวิจริตํ มนสาติ จิตฺเตน อนุสฺจริตํ.
ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธนฺติ อิมินา เอตํ ทสฺเสติ – ยฺหิ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อิมสฺส สเทวกสฺส โลกสฺส นีลํ ปีตกนฺติอาทิ รูปารมฺมณํ จกฺขุทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, ‘‘อยํ สตฺโต อิมสฺมึ ขเณ อิมํ นาม รูปารมฺมณํ ทิสฺวา สุมโน ¶ วา ทุมฺมโน วา มชฺฌตฺโต วา ¶ ชาโต’’ติ สพฺพํ ตํ ตถาคตสฺส เอวํ อภิสมฺพุทฺธํ. ตถา ยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อิมสฺส สเทวกสฺส โลกสฺส เภริสทฺโท มุทิงฺคสทฺโทติอาทิ สทฺทารมฺมณํ โสตทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, มูลคนฺโธ ตจคนฺโธติอาทิ คนฺธารมฺมณํ ฆานทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, มูลรโส ขนฺธรโสติอาทิ รสารมฺมณํ ชิวฺหาทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, กกฺขฬํ มุทุกนฺติอาทิ ปถวีธาตุเตโชธาตุวาโยธาตุเภทํ โผฏฺพฺพารมฺมณํ กายทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, ‘‘อยํ สตฺโต อิมสฺมึ ขเณ อิมํ นาม โผฏฺพฺพารมฺมณํ ผุสิตฺวา สุมโน วา ทุมฺมโน วา มชฺฌตฺโต วา ชาโต’’ติ สพฺพํ ตํ ตถาคตสฺส เอวํ อภิสมฺพุทฺธํ. ตถา ยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อิมสฺส สเทวกสฺส โลกสฺส สุขทุกฺขาทิเภทํ ธมฺมารมฺมณํ มโนทฺวารสฺส อาปาถํ อาคจฺฉติ, ‘‘อยํ สตฺโต อิมสฺมึ ขเณ อิมํ นาม ธมฺมารมฺมณํ วิชานิตฺวา สุมโน วา ทุมฺมโน วา มชฺฌตฺโต วา ชาโต’’ติ สพฺพํ ตํ ตถาคตสฺส เอวํ อภิสมฺพุทฺธํ.
ยฺหิ, จุนฺท, อิเมสํ สตฺตานํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ, ตตฺถ ตถาคเตน อทิฏฺํ วา อสุตํ วา อมุตํ วา อวิฺาตํ วา นตฺถิ, อิมสฺส ปน มหาชนสฺส ปริเยสิตฺวา อปตฺตมฺปิ อตฺถิ, อปริเยสิตฺวา อปตฺตมฺปิ อตฺถิ, ปริเยสิตฺวา ปตฺตมฺปิ อตฺถิ, อปริเยสิตฺวา ปตฺตมฺปิ อตฺถิ, สพฺพมฺปิ ตถาคตสฺส อสมฺปตฺตํ นาม นตฺถิ าเณน อสจฺฉิกตํ. ตสฺมา ตถาคโตติ วุจฺจตีติ ยํ ตถา โลเกน คตํ, ตสฺส ตเถว คตตฺตา ตถาคโตติ วุจฺจตีติ. ปาฬิยํ ปน ‘‘อภิสมฺพุทฺธ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ คตสทฺเทน เอกตฺถํ. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ ตถาคโตติ นิคมสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๑๘๘; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๔.๒๓).
‘‘ยฺจ, จุนฺท, รตฺตึ ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌติ, ยฺจ รตฺตึ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ, ยํ ¶ เอตสฺมึ อนฺตเร ภาสติ ลปติ นิทฺทิสติ, สพฺพํ ตํ ตเถว โหติ, โน อฺถา, ตสฺมา ตถาคโตติ วุจฺจตี’’ติ –
เอตฺถ ยํ รตฺตึ ภควา โพธิมณฺเฑ อปฺปราชิตปลฺลงฺเก นิสินฺโน ติณฺณํ ¶ มารานํ มตฺถกํ มทฺทิตฺวา อนุตฺตรสมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ, ยฺจ รตฺตึ ยมกสาลานมนฺตเร อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิ, เอตฺถนฺตเร ปฺจจตฺตาลีสวสฺสปริมาเณ กาเล ปมโพธิยาปิ มชฺฌิมโพธิยาปิ ปจฺฉิมโพธิยาปิ ยํ ภควตา ภาสิตํ สุตฺตํ เคยฺยํ…เป… เวทลฺลํ, ตํ สพฺพํ อตฺถโต จ พฺยฺชนโต จ อนุปวชฺชํ อนูนมนธิกํ สพฺพาการปริปุณฺณํ ราคมทนิมฺมทนํ โทสโมหมทนิมฺมทนํ นตฺถิ, ตตฺถ วาฬคฺคมตฺตมฺปิ อวกฺขลิตํ, สพฺพํ ตํ เอกมุทฺทิกาย ลฺฉิตํ วิย, เอกนาฬิยา มิตํ วิย, เอกตุลาย ตุลิตํ วิย จ ตถเมว โหติ ¶ วิตถํ นตฺถิ. เตนาห – ‘‘ยฺจ, จุนฺท, รตฺตึ ตถาคโต…เป… สพฺพํ ตํ ตถเมว โหติ, โน อฺถา ตสฺมา ตถาคโตติ วุจฺจตี’’ติ. คทอตฺโถ หิ เอตฺถ คตสทฺโท.
อปิ จ – อาคทนํ อาคโท, วจนนฺติ อตฺโถ. ตโถ อวิปรีโต อาคโท อสฺสาติ ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา คโตติ เอวเมตสฺมึ อตฺเถ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา.
‘‘ยถาวาที, จุนฺท…เป… วุจฺจตี’’ติ เอตฺถ ภควโต วาจาย กาโย อนุโลเมติ กายสฺสปิ วาจา, ตสฺมา ภควา ยถาวาที ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที จ โหติ, เอวํภูตสฺส จสฺส ยถา วาจา, กาโยปิ ตถา คโต ปวตฺโตติ อตฺโถ. ยถา จ กาโย, วาจาปิ ตถา คตา ปวตฺตาติ ตถาคโตติ เอวเมตฺถ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา.
อภิภู อนภิภูโตติ อุปริ ภวคฺคํ เหฏฺา อวีจิปริยนฺตํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ สพฺพสตฺเต อภิภวติ สีเลนปิ สมาธินาปิ ปฺายปิ วิมุตฺติยาปิ น ตสฺส ตุลา วา ปมาณํ วา อตฺถิ. อตุโล อปฺปเมยฺโย อนุตฺตโร ราชราชา เทวเทโว สกฺกานํ อติสกฺโก พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมา. อฺทตฺถูติ เอกํสตฺเถ นิปาโต. ทกฺขตีติ ทโส. วสํ วตฺเตตีติ วสวตฺตี.
ตตฺรายํ ¶ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา – อคโท วิย อคโท, โก ปเนส? เทสนาวิลาโส เจว ปฺุุสฺสโย จ. เตน เหส มหานุภาโว ภิสกฺโก ทิพฺพาคเทน สปฺเป วิย สพฺพปรปฺปวาทิโน ¶ สเทวกฺจ โลกํ อภิภวติ. อิติ สพฺพโลกาภิภวเน ตโถ อวิปรีโต เทสนาวิลาสมโย เจว ปฺุุสฺสโย จ อคโท อสฺสาติ ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา ตถาคโตติ เวทิตพฺโพ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๗).
อิธตฺถฺเว ชานาติ กมฺมาภิสงฺขารวเสนาติ อปฺุาภิสงฺขารวเสน อิธตฺถฺเว ชานาติ. กายสฺส เภทา ปรํ มรณาติ อุปาทินฺนขนฺธเภทา มรณโต ปรํ. อปายนฺติอาทีสุ วุฑฺฒิสงฺขาตสุขสาตโต อยา อเปตตฺตา อปาโย. ทุกฺขสฺส คติ ปฏิสรณนฺติ ทุคฺคติ. ทุกฺกรการิโน เอตฺถ วินิปตนฺตีติ วินิปาโต. นิรติอฏฺเน นิรสฺสาทฏฺเน นิรโย. ตํ อปายํ…เป… นิรยํ. อุปปชฺชิสฺสตีติ ปฏิสนฺธิวเสน อุปฺปชฺชิสฺสติ. ติรจฺฉานโยนินฺติ ติริยํ อฺจนฺตีติ ติรจฺฉานา, เตสํ โยนิ ติรจฺฉานโยนิ, ตํ ติรจฺฉานโยนึ. เปตฺติวิสยนฺติ ปจฺจภาวํ ปตฺตานํ วิสโยติ เปตฺติวิสโย, ตํ เปตฺติวิสยํ. มนโส อุสฺสนฺนตาย มนุสฺสา ¶ , เตสุ มนุสฺเสสุ. อิโต ปรํ กมฺมาภิสงฺขารวเสนาติ เอตฺถ ปฺุาภิสงฺขารวเสน อตฺโถ คเหตพฺโพ.
อาสวานํ ขยาติ อาสวานํ วินาเสน. อนาสวํ เจโตวิมุตฺตินฺติ อาสววิรหิตํ อรหตฺตผลสมาธึ. ปฺาวิมุตฺตินฺติ อรหตฺตผลปฺํ. อรหตฺตผลสมาธิ ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ, อรหตฺตผลปฺา อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺตีติ เวทิตพฺพา. ตณฺหาจริเตน วา อปฺปนาฌานพเลน กิเลเส วิกฺขมฺเภตฺวา อธิคตํ อรหตฺตผลํ ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ, ทิฏฺิจริเตน อุปจารชฺฌานมตฺตํ นิพฺพตฺเตตฺวา วิปสฺสิตฺวา อธิคตํ อรหตฺตผลํ อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺติ. อนาคามิผลํ วา กามราคํ สนฺธาย ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ, อรหตฺตผลํ สพฺพปฺปการโต อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺติ.
อากิฺจฺายตนํ ธิมุตฺตนฺติ วิโมกฺเขนาติ เกนฏฺเน วิโมกฺโข เวทิตพฺโพติ? อธิมุจฺจนฏฺเน. โก อยํ อธิมุจฺจนฏฺโ ¶ นาม? ปจฺจนีกธมฺเมหิ จ สุฏฺุ วิมุจฺจนฏฺโ, อารมฺมเณ จ อภิรติวเสน สุฏฺุ วิมุจฺจนฏฺโ, ปิตุ ¶ องฺเก วิสฺสฏฺองฺคปจฺจงฺคสฺส ทารกสฺส สยนํ วิย อนิคฺคหิตภาเวน นิราสงฺกตาย อารมฺมเณ ปวตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวรูเปน วิโมกฺเขน ธิมุตฺตนฺติ. วิฺาณฺจายตนํ มฺุจิตฺวา อากิฺจฺายตเน นิราสงฺกวเสน ธิมุตฺตํ อลฺลีนํ. ตตฺราธิมุตฺตนฺติ ตสฺมึ สมาธิมฺหิ อลฺลีนํ. ตทธิมุตฺตนฺติ ตสฺมึ ฌาเน อธิมุตฺตํ. ตทาธิปเตยฺยนฺติ ตํ ฌานํ เชฏฺกํ. รูปาธิมุตฺโตติอาทีนิ ปฺจ กามคุณครุกวเสน วุตฺตานิ. กุลาธิมุตฺโตติอาทีนิ ตีณิ ขตฺติยาทิกุลครุกวเสน วุตฺตานิ. ลาภาธิมุตฺโตติอาทีนิ อฏฺ โลกธมฺมวเสน วุตฺตานิ. ธีวราธิมุตฺโตติอาทีนิ จตฺตาริ ปจฺจยวเสน วุตฺตานิ. สุตฺตนฺตาธิมุตฺโตติอาทีนิ ปิฏกตฺตยวเสน วุตฺตานิ. อารฺกงฺคาธิมุตฺโตติอาทีนิ ธุตงฺคสมาทานวเสน วุตฺตานิ. ปมชฺฌานาธิมุตฺโตติอาทีนิ ปฏิลาภวเสน วุตฺตานิ.
กมฺมปรายณนฺติ อภิสงฺขารวเสน. วิปากปรายณนฺติ ปวตฺติวเสน. กมฺมครุกนฺติ เจตนาครุกํ. ปฏิสนฺธิครุกนฺติ อุปปตฺติครุกํ.
๘๔. อากิฺจฺาสมฺภวํ ตฺวาติ อากิฺจฺายตนสมาปตฺติโต วุฏฺหิตฺวา อากิฺจฺายตนชนกกมฺมาภิสงฺขารํ ตฺวา ‘‘กินฺติ ปลิโพโธ อย’’นฺติ. นนฺทิสํโยชนํ อิตีติ ยา จตุตฺถอรูปราคสงฺขาตา นนฺที ตฺจ สํโยชนํ ตฺวา. ตโต ตตฺถ วิปสฺสตีติ อถ ¶ ตตฺถ อากิฺจฺายตนสมาปตฺติโต วุฏฺหิตฺวา ตํ สมาปตฺตึ อนิจฺจาทิวเสน วิปสฺสติ. เอตํ าณํ ตถํ ตสฺสาติ เอตํ ตสฺส ปุคฺคลสฺส เอวํ วิปสฺสโต อนุกฺกเมน อุปฺปนฺนํ อรหตฺตาณํ อวิปรีตํ. วุสีมโตติ วุสิตวนฺตสฺส. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.
เอวํ ภควา อิทมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ, เทสนาปริโยสาเน จ ปุพฺพสทิโส เอว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถาย
โปสาลมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๕. โมฆราชมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๘๕. ปนฺนรสเม ¶ ¶ โมฆราชสุตฺเต – ทฺวาหนฺติ ทฺเว วาเร อหํ. โส หิ ปุพฺเพ อชิตสุตฺตสฺส (สุ. นิ. ๑๐๓๘ อาทโย) จ ติสฺสเมตฺเตยฺยสุตฺตสฺส (สุ. นิ. ๑๐๔๖ อาทโย) จ อวสาเน ทฺวิกฺขตฺตุํ ภควนฺตํ ปุจฺฉิ, ภควา ปนสฺส อินฺทฺริยปริปากํ อาคมยมาโน น พฺยากาสิ. เตนาห – ‘‘ทฺวาหํ สกฺกํ อปุจฺฉิสฺส’’นฺติ. ยาวตติยฺจ เทวีสิ, พฺยากโรตีติ เม สุตนฺติ ยาวตติยฺจ สหธมฺมิกํ ปุฏฺโ วิสุทฺธิเทวภูโต อิสิ ภควา สมฺมาสมฺพุทฺโธ พฺยากโรตีติ เอวํ เม สุตํ. โคธาวรีตีเรเยว กิร โส เอวมสฺโสสิ. เตนาห – ‘‘พฺยากโรตีติ เม สุต’’นฺติ. อิมิสฺสา คาถาย นิทฺเทเส ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยํ เอว.
๘๖. อยํ โลโกติ มนุสฺสโลโก. ปโร โลโกติ ตํ เปตฺวา อวเสโส. สเทวโกติ พฺรหฺมโลกํ เปตฺวา อวเสโส อุปปตฺติเทวสมฺมุติเทวยุตฺโต. ‘‘พฺรหฺมโลโก สเทวโก’’ติ เอตํ วา ‘‘สเทวโก โลโก’’ติอาทินยนิทสฺสนมตฺตํ. เตน สพฺโพปิ ตถาวุตฺตปฺปการโลโก เวทิตพฺโพ.
๘๗. เอวํ อภิกฺกนฺตทสฺสาวินฺติ เอวํ อคฺคทสฺสาวึ, สเทวกสฺส โลกสฺส อชฺฌาสยาธิมุตฺติคติปรายณาทีนิ ปสฺสิตุํ สมตฺถนฺติ ทสฺเสติ.
๘๘. สฺุโต โลกํ อเวกฺขสฺสูติ อวสิยปวตฺตสลฺลกฺขณวเสน วา ตุจฺฉสงฺขารสมนุปสฺสนาวเสน ¶ วาติ ทฺวีหากาเรหิ สฺุโต โลกํ ปสฺส. อตฺตานุทิฏฺึ อูหจฺจาติ สกฺกายทิฏฺึ อุทฺธริตฺวา.
ลุชฺชตีติ ภิชฺชติ. จกฺขตีติ จกฺขุ. ตเทตํ สสมฺภารจกฺขุโน เสตมณฺฑลปริกฺขิตฺตสฺส กณฺหมณฺฑลสฺส มชฺเฌ อภิมุเข ิตานํ สรีรสณฺานุปฺปตฺติเทสภูเต ทิฏฺมณฺฑเล จกฺขุวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฏฺติ. รูปยนฺตีติ รูปา, วณฺณวิการมาปชฺชนฺตา หทยงฺคตภาวํ ปกาเสนฺตีติ อตฺโถ. จกฺขุโต ปวตฺตํ วิฺาณํ ¶ , จกฺขุสฺส วา จกฺขุสนฺนิสฺสิตํ วา วิฺาณํ จกฺขุวิฺาณํ. จกฺขุโต ปวตฺโต สมฺผสฺโส จกฺขุสมฺผสฺโส. จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยาติ จกฺขุวิฺาณสมฺปยุตฺตผสฺสปจฺจยา. เวทยิตนฺติ ¶ วินฺทนํ, เวทนาติ อตฺโถ. ตเทว สุขยตีติ สุขํ, ยสฺส อุปฺปชฺชติ, ตํ สุขิตํ กโรตีติ อตฺโถ. สุฏฺุ วา ขาทติ, ขนติ จ กายจิตฺตาพาธนฺติ สุขํ. ทุกฺขยตีติ ทุกฺขํ. ยสฺส อุปฺปชฺชติ, ตํ ทุกฺขิตํ กโรตีติ อตฺโถ. น ทุกฺขํ น สุขนฺติ อทุกฺขมสุขํ. ม-กาโร สนฺธิปทวเสน วุตฺโต. โส ปน จกฺขุสมฺผสฺเส อตฺตนา สมฺปยุตฺตาย เวทนาย สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากอาหารสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน อฏฺธา ปจฺจโย โหติ, สมฺปฏิจฺฉนสมฺปยุตฺตาย อนนฺตรสมนนฺตรูปนิสฺสยนตฺถิวิคตวเสน ปฺจธา, สนฺตีรณาทิสมฺปยุตฺตานํ อุปนิสฺสยวเสเนว ปจฺจโย โหติ.
สุณาตีติ โสตํ, ตํ สสมฺภารโสตพิลสฺส อนฺโต ตนุตมฺพโลมาจิเต องฺคุลิเวธกสณฺาเน ปเทเส โสตวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฏฺติ. สทฺทียนฺตีติ สทฺทา, อุทาหรียนฺตีติ อตฺโถ. ฆายตีติ ฆานํ, ตํ สสมฺภารฆานพิลสฺส อนฺโต อชปทสณฺาเน ปเทเส ฆานวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฏฺติ. คนฺธิยนฺตีติ คนฺธา, อตฺตโน วตฺถุํ สูจิยนฺตีติ อตฺโถ. ชีวิตํ อวฺหายตีติ ชิวฺหา, สายนฏฺเน วา ชิวฺหา. สา สสมฺภารชิวฺหาย อติอคฺคมูลปสฺสานิ วชฺเชตฺวา อุปริมตลมชฺเฌ ภินฺนอุปฺปลทลคฺคสณฺาเน ปเทเส ชิวฺหาวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานา ติฏฺติ. รสนฺติ เต สตฺตาติ รสา, อสฺสาเทนฺตีติ อตฺโถ.
กุจฺฉิตานํ อาสวธมฺมานํ อาโยติ กาโย. อาโยติ อุปฺปตฺติเทโส. โส ยาวตา อิมสฺมึ กาเย อุปาทินฺนปวตฺติ นาม อตฺถิ, ตตฺถ เยภุยฺเยน กายปฺปสาโท กายวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมาโน ติฏฺติ. ผุสิยนฺตีติ โผฏฺพฺพา. มนตีติ มโน, วิชานาตีติ อตฺโถ. อตฺตโน ลกฺขณํ ธาเรนฺตีติ ธมฺมา. มโนติ สหาวชฺชนภวงฺคํ. ธมฺมาติ นิพฺพานํ มฺุจิตฺวา ¶ อวเสสา ธมฺมารมฺมณธมฺมา. มโนวิฺาณนฺติ ¶ ชวนมโนวิฺาณํ. มโนสมฺผสฺโสติ ตํสมฺปยุตฺโต ผสฺโส, โส สมฺปยุตฺตาย เวทนาย วิปากปจฺจยวชฺเชหิ เสเสหิ สตฺตหิ ปจฺจเยหิ ปจฺจโย โหติ. อนนฺตราย เตเหว เสสานํ อุปนิสฺสเยเนว ปจฺจโย โหติ.
อวสิยปวตฺตสลฺลกฺขณวเสน วาติ อวโส หุตฺวา ปวตฺตสงฺขาเร ปสฺสนวเสน โอโลกนวเสนาติ อตฺโถ. รูเป วโส น ลพฺภตีติ รูปสฺมึ ¶ วสวตฺติภาโว อิสฺสรภาโว น ลพฺภติ. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย.
นายํ, ภิกฺขเว, กาโย ตุมฺหากนฺติ อตฺตนิ สติ อตฺตนิยํ นาม โหติ, อตฺตาเยว จ นตฺถิ. ตสฺมา ‘‘นายํ, ภิกฺขเว, กาโย ตุมฺหาก’’นฺติ อาห. นาปิ อฺเสนฺติ อฺโ นาม ปเรสํ อตฺตา. ตสฺมึ สติ อฺเสํ นาม สิยา, โสปิ นตฺถิ. ตสฺมา ‘‘นาปิ อฺเส’’นฺติ อาห. ปุราณมิทํ, ภิกฺขเว, กมฺมนฺติ นยิทํ ปุราณกมฺมเมว, ปุราณกมฺมนิพฺพตฺโต ปเนส กาโย. ตสฺมา ปจฺจยโวหาเรน เอวํ วุตฺโต. อภิสงฺขตนฺติอาทิ กมฺมโวหารสฺเสว วเสน ปุริมลิงฺคสภาวตาย วุตฺตํ. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – อภิสงฺขตนฺติ ปจฺจเยหิ กโตติ ทฏฺพฺโพ. อภิสฺเจตยิตนฺติ เจตนาวตฺถุโก, เจตนามูลโกติ ทฏฺพฺโพ. เวทนิยนฺติ เวทนาย วตฺถูติ ทฏฺพฺโพ.
รูเป สาโร น ลพฺภตีติ รูปสฺมึ นิจฺจาทิสาโร น ลพฺภติ. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย. รูปํ อสฺสารํ นิสฺสารนฺติ รูปํ อสฺสารํ สารวิรหิตฺจ. สาราปคตนฺติ สารโต อปคตํ. นิจฺจสารสาเรน วาติ ภงฺคํ อติกฺกมิตฺวา ปวตฺตมาเนน นิจฺจสาเรน วา. กสฺสจิ นิจฺจสารสฺส อภาวโต นิจฺจสาเรน สาโร นตฺถิ. สุขสารสาเรน วาติ ิติสุขํ อติกฺกมิตฺวา ปวตฺตมานสฺส กสฺสจิ สุขสารสฺส อภาวโต สุขสารสาเรน วา. อตฺตสารสาเรน วาติ อตฺตตฺตนิยสารสาเรน วา. นิจฺเจน วาติ ภงฺคํ อติกฺกมิตฺวา ปวตฺตมานสฺส กสฺสจิ นิจฺจสฺส อภาวโต นิจฺเจน วา. ธุเวน วาติ วิชฺชมานกาเลปิ ปจฺจยายตฺตวุตฺติตาย ถิรสฺส กสฺสจิ อภาวโต ธุเวน วา. สสฺสเตน วาติ อพฺโพจฺฉินฺนสฺส สพฺพกาเล วิชฺชมานสฺส กสฺสจิ อภาวโต สสฺสเตน วา. อวิปริณามธมฺเมน วาติ ชราภงฺควเสน อวิปริณามปกติกสฺส กสฺสจิ อภาวโต อวิปริณามธมฺเมน วา.
จกฺขุ ¶ สฺุํ อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วาติ ‘‘การโก เวทโก สยํวสี’’ติ เอวํ ปริกปฺปิเกน อตฺตนา วา อตฺตาภาวโตเยว อตฺตโน สนฺตเกน ปริกฺขาเรน จ สฺุํ. สพฺพํ จกฺขาทิโลกิยธมฺมชาตํ ¶ ยสฺมา อตฺตา จ เอตฺถ นตฺถิ, อตฺตนิยฺจ เอตฺถ นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘สฺุ’’นฺติ วุจฺจตีติ อตฺโถ ¶ . โลกุตฺตราปิ ธมฺมา อตฺตตฺตนิเยหิ สฺุาเยว, สฺุาตีตธมฺมา นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมึ ธมฺเม อตฺตตฺตนิยสารสฺส นตฺถิภาโว วุตฺโต โหติ. โลเก จ ‘‘สฺุํ ฆรํ สฺุโ ฆโฏ’’ติ วุตฺโต ฆรสฺส ฆฏสฺส จ นตฺถิภาโว น โหติ, ตสฺมึ ฆเฏ จ อฺสฺส นตฺถิภาโว วุตฺโต โหติ. ภควตา จ อิติ ยมฺปิ โกจิ ตตฺถ น โหติ, เตน ตํ สฺุํ. ยํ ปน ตตฺถ อวสิฏฺํ โหติ, ตํ สนฺตํ อิทมตฺถีติ ปชานาตีติ อยเมวตฺโถ วุตฺโต. ตถา ายคนฺเถ สทฺทคนฺเถ จ อยเมวตฺโถ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺเต อนตฺตลกฺขณเมว กถิตํ. อนิสฺสริยโตติ อตฺตโน อิสฺสริเย อวสวตฺตนโต. อกามการิยโตติ อตฺตโน อกามํ อรุจิกรณวเสน. อปาปุณิยโตติ าตุํ ปติฏฺาภาวโต. อวสวตฺตนโตติ อตฺตโน วเส อวตฺตนโต. ปรโตติ อนิจฺจโต ปจฺจยายตฺตวุตฺติโต. วิวิตฺตโตติ นิสฺสรโต.
สุทฺธนฺติ เกวลํ อิสฺสรกาลปกตีหิ วินา เกวลํ ปจฺจยายตฺตปวตฺติวเสน ปวตฺตมานํ สุทฺธํ นาม. อตฺตนิยวิรหิโต สุทฺธธมฺมปฺุโชติ จ. สุทฺธํ ธมฺมสมุปฺปาทํ, สุทฺธํ สงฺขารสนฺตตินฺติ สุทฺธํ ปสฺสนฺตสฺส ชานนฺตสฺส สงฺขารานํ สนฺตตึ อพฺโพจฺฉินฺนสงฺขารสนฺตตึ. ตเถว สุทฺธํ ปสฺสนฺตสฺส สงฺขาราทีนิ, เอกฏฺานิ อาทเรน ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ วุตฺตานิ. เอวํ ปสฺสนฺตสฺส มรณมุเข ภยํ น โหติ. คามณีติ อาลปนํ. ติณกฏฺสมํ โลกนฺติ อิมํ อุปาทินฺนกฺขนฺธสงฺขาตํ โลกํ. ยทา ติณกฏฺสมํ ปฺาย ปสฺสติ. ยถา อรฺเ ติณกฏฺาทีสุ คณฺหนฺเตสุ อตฺตานํ วา อตฺตนิยํ วา คณฺหาตีติ น โหติ, เตสุ วา ติณกฏฺาทีสุ สยเมว นสฺสนฺเตสุปิ ¶ วินสฺสนฺเตสุปิ อตฺตา นสฺสติ, อตฺตนิโย นสฺสตีติ น โหติ. เอวํ อิมสฺมึ กาเยปิ นสฺสนฺเต วา วินสฺสนฺเต วา อตฺตา วา อตฺตนิยํ วา ภิชฺชตีติ อปสฺสนฺโต ปฺาย ติณกฏฺสมํ ปสฺสตีติ วุจฺจติ. นาฺํ ปตฺถยเต กิฺจิ, อฺตฺรปฺปฏิสนฺธิยาติ ปฏิสนฺธิวิรหิตํ นิพฺพานํ เปตฺวา อฺํ ภวํ วา อตฺตภาวํ วา น ปตฺเถติ.
รูปํ สมนฺเนสตีติ รูปสฺส สารํ ปริเยสติ. อหนฺติ วาติ ทิฏฺิวเสน. มมนฺติ วาติ ตณฺหาวเสน. อสฺมีติ วาติ มานวเสน. ตมฺปิ ตสฺส น โหตีติ ตํ ติวิธมฺปิ ตสฺส ปุคฺคลสฺส น โหติ.
อิธาติ ¶ เทสาปเทเส นิปาโต, สฺวายํ กตฺถจิ โลกํ อุปาทาย วุจฺจติ. ยถาห – ‘‘อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๗๘; อ. นิ. ๔.๓๓). กตฺถจิ สาสนํ ¶ . ยถาห – ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙; ที. นิ. ๒.๒๑๔). กตฺถจิ โอกาสํ. ยถาห –
‘‘อิเธว ติฏฺมานสฺส, เทวภูตสฺส เม สโต;
ปุนรายุ จ เม ลทฺโธ, เอวํ ชานาหิ มาริสา’’ติ. (ที. นิ. ๒.๓๖๙);
กตฺถจิ ปทปูรณมตฺตเมว. ยถาห – ‘‘อิธาหํ, ภิกฺขเว, ภุตฺตาวี อสฺสํ ปวาริโต’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๐). อิธ ปน โลกํ อุปาทาย วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. อสฺสุตวา ปุถุชฺชโนติ เอตฺถ ปน อาคมาธิคมาภาวา เยฺโย ‘‘อสฺสุตวา’’อิติ. ยสฺส หิ ขนฺธธาตุอายตนปจฺจยาการสติปฏฺานาทีสุ อุคฺคหปริปุจฺฉาวินิจฺฉยรหิตตฺตา ทิฏฺิปฏิเสธโก เนว อาคโม, ปฏิปตฺติยา อธิคนฺตพฺพสฺส อนธิคตตฺตา เนว อธิคโม อตฺถิ, โส อาคมาธิคมาภาวา เยฺโย ‘‘อสฺสุตวา’’ อิติ. สฺวายํ –
ปุถูนํ ชนนาทีหิ, การเณหิ ปุถุชฺชโน;
ปุถุชฺชนนฺโตคธตฺตา, ปุถุวายํ ชโน อิติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๗; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๕๑; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๓๐);
โส หิ ปุถูนํ นานปฺปการานํ กิเลสาทีนํ ชนนาทีหิปิ การเณหิ ปุถุชฺชโน. ยถาห – ปุถุ กิเลเส ชเนนฺตีติ ปุถุชฺชนา ¶ , ปุถุ อวิหตสกฺกายทิฏฺิกาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ สตฺถารานํ มุขุลฺโลกิกาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ สพฺพคตีหิ อวุฏฺิตาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ นานาภิสงฺขาเร อภิสงฺขโรนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ นานาโอเฆหิ วุยฺหนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ นานาสนฺตาเปหิ สนฺตปฺเปนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ นานาปริฬาเหหิ ปริฑยฺหนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ ปฺจสุ กามคุเณสุ รตฺตา คิทฺธา คธิตา มฺุฉิตา อชฺโฌสนฺนา ลคฺคา ลคฺคิตา ปลิพุทฺธาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ ปฺจหิ นีวรเณหิ อาวุฏา นิวุฏา โอวุฏา ปิหิตา ปฏิจฺฉนฺนา ปฏิกุชฺชิตาติ ปุถุชฺชนา (มหานิ. ๕๑, ๙๔), ปุถูนํ วา คณนปถมตีตานํ อริยธมฺมปรมฺมุขานํ นีจธมฺมสมาจารานํ ชนานํ อนฺโตคธตฺตาปิ ปุถุชฺชนา, ปุถุว อยํ วิสุํเยว สงฺขฺยํ คโต, วิสํสฏฺโ ¶ สีลสุตาทิคุณยุตฺเตหิ อริเยหิ ชโนติปิ ปุถุชฺชโน. เอวเมเตหิ ‘‘อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน’’ติ ทฺวีหิ ปเทหิ เย เต –
‘‘ทุเว ¶ ปุถุชฺชนา วุตฺตา, พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา;
อนฺโธ ปุถุชฺชโน เอโก, กลฺยาเณโก ปุถุชฺชโน’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๗; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒; สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๖๑; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๕๑; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๓๐; ธ. ส. อฏฺ. ๑๐๐๗) –
ทฺเว ปุถุชฺชนา วุตฺตา, เตสุ อนฺธปุถุชฺชโน วุตฺโต โหตีติ เวทิตพฺโพ.
อริยานํ อทสฺสาวีติอาทีสุ อริยาติ อารกตฺตา กิเลเสหิ, อนเย น อิริยนโต, อเย อิริยนโต, สเทวเกน จ โลเกน อรณียโต พุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ พุทฺธสาวกา จ วุจฺจนฺติ, พุทฺธา เอว วา อิธ อริยา. ยถาห – ‘‘สเทวเก, ภิกฺขเว, โลเก…เป… ตถาคโต อริโยติ วุจฺจตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๘).
สปฺปุริสาติ เอตฺถ ปน ปจฺเจกพุทฺธา ตถาคตสาวกา จ ‘‘สปฺปุริสา’’ติ เวทิตพฺพา. เต หิ โลกุตฺตรคุณโยเคน โสภนา ปุริสาติ สปฺปุริสา. สพฺเพว วา เอเต ทฺวิธาปิ วุตฺตา. พุทฺธาปิ หิ อริยา จ สปฺปุริสา จ ปจฺเจกพุทฺธาปิ พุทฺธสาวกาปิ. ยถาห –
‘‘โย เว กตฺู กตเวทิ ธีโร, กลฺยาณมิตฺโต ทฬฺหภตฺติ จ โหติ;
ทุขิตสฺส สกฺกจฺจ กโรติ กิจฺจํ, ตถาวิธํ สปฺปุริสํ วทนฺตี’’ติ. (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๓๐; ธ. ส. อฏฺ. ๑๐๐๗);
‘‘กลฺยาณมิตฺโต ¶ ทฬฺหภตฺติ จ โหตี’’ติ เอตฺตาวตา หิ พุทฺธสาวโก วุตฺโต. กตฺุตาทีหิ ปจฺเจกพุทฺธา พุทฺธาติ, โย อิเมสํ อริยานํ อทสฺสนสีโล, น จ ทสฺสเน สาธุการี, โส อริยานํ อทสฺสาวีติ เวทิตพฺโพ. โส จกฺขุนา อทสฺสาวี, าเณน อทสฺสาวีติ ทุวิโธ, เตสุ าเณน อทสฺสาวี อิธ อธิปฺเปโต. มํสจกฺขุนา หิ ทิพฺพจกฺขุนา วา อริยา ทิฏฺาปิ อทิฏฺาว โหนฺติ เตสํ จกฺขุนา วณฺณมตฺตคหณโต, น อริยภาวโคจรโต. โสณสิงฺคาลาทโยปิ จกฺขุนา อริเย ปสฺสนฺติ, น จ เต อริยานํ ทสฺสาวิโน.
ตตฺริทํ ¶ วตฺถุ – จิตฺตลปพฺพตวาสิโน กิร ขีณาสวตฺเถรสฺส อุปฏฺาโก วุฑฺฒปพฺพชิโต เอกทิวสํ ¶ เถเรน สทฺธึ ปิณฺฑาย จริตฺวา เถรสฺส ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา ปิฏฺิโต อาคจฺฉนฺโต เถรํ ปุจฺฉิ – ‘‘อริยา นาม, ภนฺเต, กีทิสา’’ติ? เถโร อาห – ‘‘อิเธกจฺโจ มหลฺลโก อริยานํ ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา วตฺตปฏิปตฺตึ กตฺวา สห จรนฺโตปิ เนว อริเย ชานาติ, เอวํ ทุชฺชานา, อาวุโส, อริยา’’ติ. เอวํ วุตฺเตปิ โส เนว อฺาสิ. ตสฺมา จกฺขุนา ทสฺสนํ น ทสฺสนํ, าเณน ทสฺสนเมว ทสฺสนํ. ยถาห – ‘‘อลํ เต, วกฺกลิ, กึ เต อิมินา ปูติกาเยน ทิฏฺเน, โย โข, วกฺกลิ, ธมฺมํ ปสฺสติ, โส มํ ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๘๗). ตสฺมา จกฺขุนา ปสฺสนฺโตปิ าเณน อริเยหิ ทิฏฺํ อนิจฺจาทิลกฺขณํ อปสฺสนฺโต, อริยานํ อธิคตฺจ ธมฺมํ อนธิคจฺฉนฺโต, อริยกรธมฺมานํ อริยภาวสฺส จ อทิฏฺตฺตา ‘‘อริยานํ อทสฺสาวี’’ติ เวทิตพฺโพ.
อริยธมฺมสฺส อโกวิโทติ สติปฏฺานาทิเภเท อริยธมฺเม อกุสโล. อริยธมฺเม อวินีโตติ เอตฺถ ปน –
ทุวิโธ วินโย นาม, เอกเมเกตฺถ ปฺจธา;
อภาวโต ตสฺส อยํ, ‘‘อวินีโต’’ติ วุจฺจติ. (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒; สุ. นิ. อฏฺ. ๑.อุรคสุตฺตวณฺณนา; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๓๐; ธ. ส. อฏฺ. ๑๐๐๗);
อยฺหิ ¶ สํวรวินโย ปหานวินโยติ ทุวิโธ วินโย. เอตฺถ จ ทุวิเธปิ วินเย เอกเมโกปิ วินโย ปฺจธา ภิชฺชติ. สํวรวินโยปิ หิ สีลสํวโร สติสํวโร าณสํวโร ขนฺติสํวโร วีริยสํวโรติ ปฺจวิโธ. ปหานวินโยปิ ตทงฺคปฺปหานํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ สมุจฺเฉทปฺปหานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ นิสฺสรณปฺปหานนฺติ ปฺจวิโธ.
ตตฺถ ‘‘อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต โหติ สมุเปโต’’ติ (วิภ. ๕๑๑) อยํ สีลสํวโร. ‘‘รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๙๕; สํ. นิ. ๔.๒๓๙; อ. นิ. ๓.๑๖) อยํ สติสํวโร.
‘‘ยานิ ¶ โสตานิ โลกสฺมึ, (อชิตาติ ภควา,)
สติ เตสํ นิวารณํ;
โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ, ปฺาเยเต ปิธิยฺยเร’’ติ. (สุ. นิ. ๑๐๔๑; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๔; เนตฺติ. ๑๑, ๔๕; ธ. ส. อฏฺ. ๑๐๐๗) –
อยํ ¶ าณสํวโร. ‘‘ขโม โหติ สีตสฺส อุณฺหสฺสา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔; อ. นิ. ๔.๑๑๔; ๖.๕๘) อยํ ขนฺติสํวโร. ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๖; อ. นิ. ๔.๑๑๔; ๖.๕๘) อยํ วีริยสํวโร. สพฺโพปิ จายํ สํวโร ยถาสกํ สํวริตพฺพานํ วิเนตพฺพานฺจ กายทุจฺจริตาทีนํ สํวรณโต ‘‘สํวโร’’, วินยนโต ‘‘วินโย’’ติ วุจฺจติ. เอวํ ตาว สํวรวินโย ปฺจธา ภิชฺชตีติ เวทิตพฺโพ.
ตถา ยํ นามรูปปริจฺเฉทาทีสุ วิปสฺสนาาเณสุ ปฏิปกฺขภาวโต ทีปาโลเกเนว ตมสฺส, เตน เตน วิปสฺสนาาเณน ตสฺส ตสฺส อนตฺถสฺส ปหานํ. เสยฺยถิทํ – นามรูปววตฺถาเนน สกฺกายทิฏฺิยา, ปจฺจยปริคฺคเหน อเหตุวิสมเหตุทิฏฺีนํ, ตสฺเสว อปรภาเคน กงฺขาวิตรเณน กถํกถีภาวสฺส, กลาปสมฺมสเนน ‘‘อหํ มมา’’ติ คาหสฺส, มคฺคามคฺคววตฺถาเนน อมคฺเค มคฺคสฺาย, อุทยทสฺสเนน อุจฺเฉททิฏฺิยา, วยทสฺสเนน สสฺสตทิฏฺิยา, ภยทสฺสเนน สภเย อภยสฺาย, อาทีนวทสฺสเนน อสฺสาทสฺาย, นิพฺพิทานุปสฺสนาย อภิรติสฺาย ¶ , มฺุจิตุกมฺยตาาเณน อมฺุจิตุกามตาย, อุเปกฺขาาเณน อนุเปกฺขาย, อนุโลเมน ธมฺมฏฺิติยํ นิพฺพาเน จ ปฏิโลมภาวสฺส, โคตฺรภุนา สงฺขารนิมิตฺตคฺคาหสฺส ปหานํ. เอตํ ตทงฺคปฺปหานํ นาม.
ยํ ปน อุปจารปฺปนาเภเทน สมาธินา ปวตฺติภาวนิวารณโต ฆฏปฺปหาเรเนว อุทกปิฏฺเ เสวาลสฺส เตสํ เตสํ นีวรณาทิธมฺมานํ ปหานํ, เอตํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ นาม. ยํ จตุนฺนํ อริยมคฺคานํ ภาวิตตฺตา ตํตํมคฺควโต อตฺตโน อตฺตโน สนฺตาเน ‘‘ทิฏฺิคตานํ ปหานายา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๒๗๗; วิภ. ๖๒๘) นเยน วุตฺตสฺส สมุทยปกฺขิยสฺส กิเลสคณสฺส อจฺจนฺตอปฺปวตฺติภาเวน ปหานํ, อิทํ สมุจฺเฉทปฺปหานํ นาม. ยํ ปน ผลกฺขเณ ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตํ กิเลสานํ, เอตํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ นาม. ยํ สพฺพสงฺขตนิสฺสฏตฺตา ¶ ปหีนสพฺพสงฺขตํ นิพฺพานํ, เอตํ นิสฺสรณปฺปหานํ นาม. สพฺพมฺปิ เจตํ ปหานํ ยสฺมา จาคฏฺเน ปหานํ, วินยนฏฺเน วินโย, ตสฺมา ‘‘ปหานวินโย’’ติ วุจฺจติ. ตํ ตํ ปหานวโต วา ตสฺส ตสฺส วินยสฺส สมฺภวโตเปตํ ‘‘ปหานวินโย’’ติ วุจฺจติ. เอวํ ปหานวินโยปิ ปฺจธา ภิชฺชตีติ เวทิตพฺโพ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒; สุ. นิ. อฏฺ. ๑.อุรคสุตฺตวณฺณนา; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๓๐).
เอวมยํ ¶ สงฺเขปโต ทุวิโธ เภทโต จ ทสวิโธ วินโย ภินฺนสํวรตฺตา, ปหาตพฺพสฺส จ อปฺปหีนตฺตา ยสฺมา เอตสฺส อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส นตฺถิ, ตสฺมา อภาวโต ตสฺส อยํ ‘‘อวินีโต’’ติ วุจฺจตีติ. เอเสว นโย สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส อโกวิโท, สปฺปุริสธมฺเม อวินีโตติ เอตฺถปิ. นินฺนานากรณฺหิ เอตมตฺถโต. ยถาห – ‘‘เยว เต อริยา, เตว เต สปฺปุริสา. เยว เต สปฺปุริสา, เตว เต อริยา. โย เอว โส อริยานํ ธมฺโม, โส เอว โส สปฺปุริสานํ ธมฺโม. โย เอว โส สปฺปุริสานํ ธมฺโม, โส เอว โส อริยานํ ธมฺโม. เยว เต อริยวินยา, เตว เต สปฺปุริสวินยา. เยว เต สปฺปุริสวินยา, เตว เต อริยวินยา. อริเยติ วา, สปฺปุริเสติ วา, อริยธมฺเมติ ¶ วา, สปฺปุริสธมฺเมติ วา, อริยวินเยติ วา, สปฺปุริสวินเยติ วา เอเสเส เอเก เอกฏฺเ สเม สมภาเค ตชฺชาเต ตฺเวาติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๐๐๗; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๓๐).
รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ อิเธกจฺโจ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, ‘‘ยํ รูปํ, โส อหํ, โย อหํ, ตํ รูป’’นฺติ รูปฺจ อตฺตานฺจ อทฺวยํ สมนุปสฺสติ. เสยฺยถาปิ เตลปฺปทีปสฺส ฌายโต ‘‘ยา อจฺจิ, โส วณฺโณ. โย วณฺโณ, สา อจฺจี’’ติ อจฺจิฺจ วณฺณฺจ อทฺวยํ สมนุปสฺสติ, เอวเมว อิเธกจฺโจ รูปํ อตฺตโต…เป… สมนุปสฺสตีติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๓๐-๑๓๑) เอวํ รูปํ ‘‘อตฺตา’’ติ ทิฏฺิปสฺสนาย ปสฺสติ. รูปวนฺตํ วา อตฺตานนฺติ อรูปํ ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวา ฉายาวนฺตํ รุกฺขํ วิย ตํ รูปวนฺตํ ‘‘อตฺตา’’ติ สมนุปสฺสติ. อตฺตนิ วา รูปนฺติ อรูปเมว ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวา ปุปฺผสฺมึ คนฺธํ วิย อตฺตนิ รูปํ สมนุปสฺสติ. รูปสฺมึ วา อตฺตานนฺติ อรูปเมว ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวา กรณฺฑเก มณึ วิย ตํ อตฺตานํ รูปสฺมึ สมนุปสฺสติ. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ ¶ ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติ สุทฺธรูปํเยว ‘‘อตฺตา’’ติ กถิตํ. ‘‘รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมึ วา อตฺตานํ. เวทนํ อตฺตโต… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๓๑) อิเมสุ สตฺตสุ าเนสุ อรูปํ ‘‘อตฺตา’’ติ กถิตํ, ‘‘เวทนาวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา เวทนา, เวทนาย วา อตฺตาน’’นฺติ เอวํ จตูสุ ขนฺเธสุ ติณฺณํ ติณฺณํ วเสน ทฺวาทสสุ าเนสุ รูปารูปมิสฺสโก อตฺตา กถิโต. ตตฺถ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ. เวทนํ… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ ปฺจสุ าเนสุ อุจฺเฉททิฏฺิ กถิตา. อวเสเสสุ สสฺสตทิฏฺิ. เอวเมตฺถ ปนฺนรส ภวทิฏฺิโย ปฺจ วิภวทิฏฺิโย โหนฺติ. ตา สพฺพาปิ มคฺคาวรณา, น สคฺคาวรณา, ปมมคฺควชฺฌาติ เวทิตพฺพา.
อารฺิโกติ ¶ อรฺเ นิวาสํ. ปวเนติ มหนฺเต คมฺภีรวเน. จรมาโนติ ตหึ ตหึ วิจรมาโน. วิสฺสตฺโถ คจฺฉตีติ นิพฺภโย นิราสงฺโก จรติ. อนาปาถคโต ลุทฺทสฺสาติ ¶ มิคลุทฺทสฺส ปรมฺมุขคโต. อนฺตมกาสิ มารนฺติ กิเลสมารํ วา เทวปุตฺตมารํ วา อนฺตํ อกาสิ. อปทํ วธิตฺวาติ กิเลสปทํ หนฺตฺวา นาเสตฺวา. มารจกฺขุํ อทสฺสนํ คโตติ มารสฺส อทสฺสนวิสยํ ปตฺโต. อนาปาถคโตติ มารสฺส ปรมฺมุขํ ปตฺโต. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.
เอวํ ภควา อิทมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ, เทสนาปริโยสาเน จ วุตฺตสทิโสเยว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถาย
โมฆราชมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๖. ปิงฺคิยมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๘๙. โสฬสเม ¶ ปิงฺคิยสุตฺตนิทฺเทเส – ชิณฺโณหมสฺมิ อพโล วีตวณฺโณติ โส กิร พฺราหฺมโณ ชราภิภูโต วีสวสฺสสติโก ชาติยา, ทุพฺพโล จ ‘‘อิธ ปาทํ กริสฺสามี’’ติ อฺตฺเรว กโรติ, วินฏฺปุริมฉวิวณฺโณ จ. เตนาห – ‘‘ชิณฺโณหมสฺมิ อพโล วีตวณฺโณ’’ติ. มาหํ ¶ นสฺสํ โมมุโห อนฺตราวาติ มาหํ ตุยฺหํ ธมฺมํ อสจฺฉิกตฺวา อนฺตรา เอว อวิทฺวา หุตฺวา อนสฺสึ. ชาติชราย อิธ วิปฺปหานนฺติ อิเธว ตว ปาทมูเล ปาสาณเก เจติเย วา ชาติชราย วิปฺปหานํ นิพฺพานํ ธมฺมรสํ อหํ วิชฺํ, ตํ เม อาจิกฺข.
อพโลติ พลวิรหิโต. ทุพฺพโลติ ทุพฺพลพโล. อปฺปพโลติ ปริตฺตพโล. อปฺปถาโมติ ปริตฺตวีริโย. วีตวณฺโณติ ปริวตฺติตฉวิวณฺโณ. วิคตวณฺโณติ อปคตฉวิวณฺโณ. วิคจฺฉิตวณฺโณติ ทูรีภูตฉวิวณฺโณ. ยา สา ปุริมา สุภา วณฺณนิภาติ ยา สา สุภา สุนฺทรา ปุริมกาเล สติ, สา วณฺณนิภา เอตรหิ อนฺตรหิตา วิคตา. อาทีนโว ปาตุภูโตติ อุปทฺทโว ปาตุรโหสิ. ‘‘ยา สา ปุริมา สุภา วณฺณนิภา’’ติ ปาํ เปตฺวา ‘‘ยา สุภา อสฺสา’’ติ เอเก วณฺณยนฺติ.
อสุทฺธาติ ปฏลาทีหิ อสุทฺธา. อวิสุทฺธาติ ติมิราทีหิ อวิสุทฺธา. อปริสุทฺธาติ สมนฺตโต โผฏปฏลาทีหิ ปริโยนทฺธตฺตา อปริสุทฺธา. อโวทาตาติ นปฺปสนฺนา ปสนฺนสทิสา. โน ตถา จกฺขุนา รูเป ปสฺสามีติ ยถา โปราณจกฺขุนา รูปารมฺมณํ ปสฺสามิ โอโลเกมิ, ตถา ¶ เตน ปกาเรน อิทานิ น ปสฺสามิ. โสตํ อสุทฺธนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. มาหํ นสฺสนฺติ อหํ มา วินสฺสํ.
๙๐. อิทานิ ยสฺมา ปิงฺคิโย กาเย สาเปกฺขตาย ‘‘ชิณฺโณหมสฺมี’’ติอาทิมาห ¶ . เตนสฺส ภควา กาเย สิเนหปฺปหานตฺถํ ‘‘ทิสฺวาน รูเปสุ วิหฺมาเน’’ติ คาถมาห. ตตฺถ รูเปสูติ รูปเหตุ รูปปจฺจยา. วิหฺมาเนติ กมฺมการณาทีหิ อุปหฺมาเน. รุปฺปนฺติ รูเปสูติ จกฺขุโรคาทีหิ จ รูปเหตุเยว ชนา รุปฺปนฺติ พาธิยนฺติ.
หฺนฺตีติ ฆฏียนฺติ. วิหฺนฺตีติ วิเหสิยนฺติ. อุปวิหฺนฺตีติ หตฺถปาทจฺเฉทาทึ ลภนฺติ. อุปฆาติยนฺตีติ มรณํ ลภนฺติ. กุปฺปนฺตีติ ปริวตฺตนฺติ. ปีฬยนฺตีติ วิฆาตํ อาปชฺชนฺติ. ฆฏฺฏยนฺตีติ ฆฏฺฏนํ ปาปุณนฺติ. พฺยาธิตาติ ภีตา. โทมนสฺสิตาติ จิตฺตวิฆาตํ ปตฺตา. เวมาเนติ นสฺสมาเน.
๙๑. เอวํ ¶ ภควตา ยาว อรหตฺตํ, ตาว กถิตํ ปฏิปตฺตึ สุตฺวา ปิงฺคิโย ชราทุพฺพลตาย วิเสสํ อนธิคนฺตฺวา จ ปุน ‘‘ทิสา จตสฺโส’’ติ อิมาย คาถาย ภควนฺตํ โถเมนฺโต เทสนํ ยาจติ.
๙๒. อถสฺส ภควา ปุนปิ ยาว อรหตฺตํ, ตาว ปฏิปทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตณฺหาธิปนฺเน’’ติ คาถมาห.
ตณฺหาธิปนฺเนติ ตณฺหาย วิมุจฺจิตฺวา ิเต. ตณฺหานุเคติ ตณฺหาย สห คจฺฉนฺเต. ตณฺหานุคเตติ ตณฺหาย อนุพนฺธนฺเต. ตณฺหานุสเฏติ ตณฺหาย สห ธาวนฺเต. ตณฺหาย ปนฺเนติ ตณฺหาย นิมุคฺเค. ปฏิปนฺเนติ ตณฺหาย อวตฺถเฏ. อภิภูเตติ มทฺทิเต. ปริยาทินฺนจิตฺเตติ ปริยาทิยิตฺวา คหิตกุสลจิตฺเต.
สนฺตาปชาเตติ สฺชาตจิตฺตสนฺตาเป. อีติชาเตติ โรคุปฺปนฺเน. อุปทฺทวชาเตติ อาทีนวชาเต. อุปสคฺคชาเตติ อุปฺปนฺนทุกฺขชาเต.
วิรชํ วีตมลนฺติ เอตฺถ วิรชนฺติ วิคตราคาทิรชํ. วีตมลนฺติ วีตราคาทิมลํ. ราคาทโย หิ อชฺโฌตฺถรณฏฺเน รโช นาม, ทูสฏฺเน มลํ นาม. ธมฺมจกฺขุนฺติ กตฺถจิ ปมมคฺคาณํ ¶ , กตฺถจิ อาทีนิ ตีณิ มคฺคาณานิ, กตฺถจิ จตุตฺถมคฺคาณมฺปิ. อิธ ปน ชฏิลสหสฺสสฺส จตุตฺถมคฺคาณํ. ปิงฺคิยสฺส ตติยมคฺคาณเมว. ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺมนฺติ วิปสฺสนาวเสน เอวํ ปวตฺตสฺส ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทีติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.
เอวํ ¶ อิทมฺปิ สุตฺตํ ภควา อรหตฺตนิกูเฏเนว เทเสสิ, เทสนาปริโยสาเน จ ปิงฺคิโย อนาคามิผเล ปติฏฺาสิ. โส กิร อนฺตรนฺตรา จินฺเตสิ – ‘‘เอวํ วิจิตฺรปฏิภานํ นาม เทสนํ น ลภติ มยฺหํ มาตุโล พาวรี สวนายา’’ติ. เตน สิเนหวิกฺเขเปน อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ นาสกฺขิ. อนฺเตวาสิกา ปนสฺส สหสฺสชฏิลา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. สพฺเพว อิทฺธิมยปตฺตจีวรธรา เอหิภิกฺขุโน อเหสุนฺติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถาย
ปิงฺคิยมาณวสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๗. ปารายนตฺถุติคาถานิทฺเทสวณฺณนา
๙๓. อิโต ¶ ¶ ปรํ สงฺคีติการา เทสนํ โถเมนฺตา ‘‘อิทมโวจ ภควา’’ติอาทิมาหํสุ. ตตฺถ อิทมโวจาติ อิทํ ปารายนํ อโวจ. ปริจารกโสฬสานนฺติ พาวริสฺส ปริจารเกน ปิงฺคิเยน สห โสฬสานํ, พุทฺธสฺส วา ภควโต ปริจารกานํ โสฬสานนฺติ ปริจารกโสฬสานํ. เต เอว จ พฺราหฺมณา ตตฺถ โสฬสสุ ทิสาสุ ปุรโต จ ปจฺฉโต จ วามปสฺสโต จ ทกฺขิณปสฺสโต จ ฉ ฉ โยชนา นิสินฺนา อุชุเกน ทฺวาทสโยชนิกา อโหสิ. อชฺฌิฏฺโติ ยาจิโต.
๙๔-๙๗. อตฺถมฺายาติ ปาฬิอตฺถมฺาย. ธมฺมมฺายาติ ปาฬิมฺาย. ปารายนนฺติ เอวํ อิมสฺส ธมฺมปริยายสฺส อธิวจนํ อาโรเปตฺวา เตสํ พฺราหฺมณานํ นามานิ กิตฺตยนฺโต ‘‘อชิโต…เป… พุทฺธเสฏฺมุปาคมุ’’นฺติ อาหํสุ. ตตฺถ สมฺปนฺนจรณนฺติ นิพฺพานปทฏฺานภูเตน ปาติโมกฺขสีลาทินา สมฺปนฺนํ. อิสินฺติ มเหสึ.
นิทฺเทเส อุปาคมึสูติ สมีปํ คมึสุ. อุปสงฺกมึสูติ อวิทูรฏฺานํ คมึสุ. ปยิรุปาสึสูติ ¶ สมีเป นิสีทึสุ. ปริปุจฺฉึสูติ ปริปุจฺฉํ อาหรึสุ. ปริคณฺหึสูติ ตุลยึสุ. ‘‘โจทยึสู’’ติ เกจิ.
สีลาจารนิพฺพตฺตีติ อุตฺตมสีลาจารนิพฺพตฺติ, มคฺเคน นิปฺผนฺนสีลนฺติ อตฺโถ.
คมฺภีเรติ อุตฺตานภาวปฏิกฺเขปวจนํ. ทุทฺทเสติ คมฺภีรตฺตา ทุทฺทเส, ทุกฺเขน ทฏฺพฺเพ, น สกฺกา สุเขน ทฏฺุํ. ทุทฺทสตฺตาว ทุรนุโพเธ, ทุกฺเขน อวพุชฺฌิตพฺเพ, น สกฺกา สุเขน อวพุชฺฌิตุํ. สนฺเตติ นิพฺพุเต. ปณีเตติ อตปฺปเก. อิทํ ทฺวยํ โลกุตฺตรเมว สนฺธาย วุตฺตํ. อตกฺกาวจเรติ ตกฺเกน น อวจริตพฺเพ ¶ น โอคาหิตพฺเพ าเณเนว อวจริตพฺเพ. นิปุเณติ สณฺเห. ปณฺฑิตเวทนีเยติ สมฺมา ปฏิปนฺเนหิ ปณฺฑิเตหิ เวทิตพฺเพ.
๙๘. โตเสสีติ ตุฏฺึ อาปาเทสิ. วิโตเสสีติ วิวิธา เตสํ โสมนสฺสํ อุปฺปาเทสิ. ปสาเทสีติ เตสํ จิตฺตปฺปสาทํ อกาสิ ¶ . อาราเธสีติ อาราธยิ สิทฺธึ ปาเปสิ. อตฺตมเน อกาสีติ โสมนสฺสวเสน สกมเน อกาสิ.
๙๙. ตโต ปรํ พฺรหฺมจริยมจรึสูติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ อจรึสุ.
๑๐๑. ตสฺมา ปารายนนฺติ ตสฺส ปารภูตสฺส นิพฺพานสฺส อายตนนฺติ วุตฺตํ โหติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถาย
ปารายนตฺถุติคาถานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๘. ปารายนานุคีติคาถานิทฺเทสวณฺณนา
๑๐๒. ปารายนมนุคายิสฺสนฺติ อสฺส อยํ สมฺพนฺโธ – ภควตา หิ ปารายเน เทสิเต โสฬสสหสฺสชฏิลา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ, อวเสสานฺจ จุทฺทสโกฏิสงฺขานํ เทวมนุสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ. วุตฺตฺเหตํ โปราเณหิ –
‘‘ตโต ¶ ปาสาณเก รมฺเม, ปารายนสมาคเม;
อมตํ ปาปยี พุทฺโธ, จุทฺทส ปาณโกฏิโย’’ติ. (สุ. นิ. อฏฺ. ๒.๑๑๓๘);
นิฏฺิตาย ปน ธมฺมเทสนาย ตโต ตโต อาคตา มนุสฺสา ภควโต อานุภาเวน อตฺตโน อตฺตโน คามนิคมาทีสฺเวว ปาตุรเหสุํ. ภควาปิ สาวตฺถิเมว อคมาสิ ปริจารกโสฬสาทีหิ อเนเกหิ ภิกฺขุสหสฺเสหิ ปริวุโต. ตตฺถ ปิงฺคิโย ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา อาห – ‘‘คจฺฉามหํ, ภนฺเต, พาวริสฺส พุทฺธุปฺปาทํ อาโรเจตุํ, ปฏิสฺสุตฺหิ ตสฺเสว มยา’’ติ. อถ ภควตา อนฺุาโต าณคมเนเนว โคธาวรีตีรํ คนฺตฺวา ปาทคมเนน อสฺสมาภิมุโข อคมาสิ. ตเมนํ พาวรี พฺราหฺมโณ มคฺคํ โอโลเกนฺโต นิสินฺโน ทูรโตว ตํ ขาริชฏาทิวิรหิตํ ภิกฺขุเวเสนาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘พุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน’’ติ นิฏฺมคมาสิ. สมฺปตฺตฺจาปิ นํ ปุจฺฉิ – ‘‘กึ, ปิงฺคิย, พุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน’’ติ? ‘‘อาม, พฺราหฺมณ, อุปฺปนฺโน, ปาสาณเก เจติเย นิสินฺโน อมฺหากํ ธมฺมํ เทเสสิ, ตมหํ ตุยฺหํ เทเสสฺสามี’’ติ. ตโต พาวรี มหตา ¶ สกฺกาเรน ¶ สปริโส ตํ ปูเชตฺวา อาสนํ ปฺาเปสิ. ตตฺถ นิสีทิตฺวา ปิงฺคิโย ‘‘ปารายนมนุคายิสฺส’’นฺติอาทิมาห.
ตตฺถ อนุคายิสฺสนฺติ ภควโต คีตํ อนุคายิสฺสํ. ยถาทฺทกฺขีติ ยถา สามํ สจฺจาภิสมฺโพเธน อสาธารณาเณน จ อทฺทกฺขิ. นิกฺกาโมติ ปหีนกาโม. ‘‘นิกฺกโม’’ติปิ ปาโ, วีริยวาติ อตฺโถ. นิกฺขนฺโต วา อกุสลปกฺขา. นิพฺพโนติ กิเลสวนวิรหิโต, ตณฺหาวิรหิโต เอว วา. กิสฺส เหตุ มุสา ภเณติ เยหิ กิเลเสหิ มุสา ภเณยฺย, เอเต ตสฺส ปหีนาติ ทสฺเสติ. เอเตน พฺราหฺมณสฺส สวเน อุสฺสาหํ ชเนติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๒.๑๑๓๘).
อมโลติ กิเลสมลวิรหิโต. วิมโลติ วิคตกิเลสมโล. นิมฺมโลติ กิเลสมลสุทฺโธ. มลาปคโตติ กิเลสมลา ทูรีภูโต หุตฺวา จรติ. มลวิปฺปหีโนติ กิเลสมลปฺปหีโน. มลวิมุตฺโตติ กิเลเสหิ วิมุตฺโต. สพฺพมลวีติวตฺโตติ วาสนาทิสพฺพกิเลสมลํ อติกฺกนฺโต. เต วนาติ เอเต วุตฺตปฺปการา กิเลสา.
๑๐๓. วณฺณูปสํหิตนฺติ คุณูปสํหิตํ.
๑๐๔. สจฺจวฺหโยติ ¶ พุทฺโธ หิ สจฺเจเนว อวฺหาเนน นาเมน ยุตฺโต. พฺรหฺเมติ ตํ พฺราหฺมณํ อาลปติ.
ตตฺถ โลโกติ ลุชฺชนฏฺเน โลโก. เอโก โลโก ภวโลโกติ เตภูมกวิปาโก. โส หิ ภวตีติ ภโว, ภโว เอว โลโก ภวโลโก. ภวโลโก จ สมฺภวโลโก จาติ เอตฺถ เอเกโก ทฺเว ทฺเว โหติ. ภวโลโก หิ สมฺปตฺติภววิปตฺติภววเสน ทุวิโธ. สมฺภวโลโกปิ สมฺปตฺติสมฺภววิปตฺติสมฺภววเสน ทุวิโธ. ตตฺถ สมฺปตฺติภวโลโกติ สุคติโลโก. โส หิ อิฏฺผลตฺตา สุนฺทโร โลโกติ สมฺปตฺติ, ภวตีติ ภโว, สมฺปตฺติ เอว ภโว สมฺปตฺติภโว, โส เอว โลโก สมฺปตฺติภวโลโก. สมฺปตฺติสมฺภวโลโกติ สุคตูปคํ กมฺมํ. ตฺหิ สมฺภวติ ¶ เอตสฺมา ผลนฺติ สมฺภโว, สมฺปตฺติยา สมฺภโว สมฺปตฺติสมฺภโว, สมฺปตฺติสมฺภโว เอว โลโก สมฺปตฺติสมฺภวโลโกติ.
วิปตฺติภวโลโกติ อปายโลโก. โส หิ อนิฏฺผลตฺตา วิรูโป โลโกติ วิปตฺติ, ภวตีติ ภโว, วิปตฺติ เอว ภโว วิปตฺติภโว, วิปตฺติภโว เอว โลโก ¶ วิปตฺติภวโลโก. วิปตฺติสมฺภวโลโกติ อปายูปคํ กมฺมํ. ตฺหิ สมฺภวติ เอตสฺมา ผลนฺติ สมฺภโว, วิปตฺติยา สมฺภโว วิปตฺติสมฺภโว, วิปตฺติสมฺภโว เอว โลโก วิปตฺติสมฺภวโลโกติ. ติสฺโส เวทนาติ สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนา โลกิยา เอว. อาหาราติ ปจฺจยา. ปจฺจยา หิ อตฺตโน ผลํ อาหรนฺตีติ อาหารา. กพฬีการาหาโร ผสฺสาหาโร มโนสฺเจตนาหาโร วิฺาณาหาโรติ จตฺตาโร. วตฺถุวเสน กพฬีกตฺตพฺพตฺตา กพฬีกาโร, อชฺโฌหริตพฺพตฺตา อาหาโร, โอทนกุมฺมาสาทิวตฺถุกาย โอชาเยตํ นามํ. สา หิ โอชฏฺมกรูปานิ อาหรตีติ อาหาโร. จกฺขุสมฺผสฺสาทิโก ฉพฺพิโธ ผสฺโส ติสฺโส เวทนา อาหรตีติ อาหาโร. มนโส สฺเจตนา น สตฺตสฺสาติ มโนสฺเจตนา ยถา จิตฺเตกคฺคตา, มนสา วา สมฺปยุตฺตา สฺเจตนา มโนสฺเจตนา ยถา อาชฺรโถ, เตภูมกกุสลากุสลเจตนา. สา หิ ตโย ภเว อาหรตีติ อาหาโร. วิฺาณนฺติ เอกูนวีสติเภทํ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ. ตฺหิ ปฏิสนฺธินามรูปํ อาหรตีติ อาหาโร.
อุปาทานกฺขนฺธาติ อุปาทานโคจรา ขนฺธา อุปาทานกฺขนฺธา, มชฺเฌ ปทโลโป ทฏฺพฺโพ. อุปาทานสมฺภูตา วา ขนฺธา อุปาทานกฺขนฺธา ยถา ติณคฺคิ, ถุสคฺคิ. อุปาทานวิเธยฺยา วา ขนฺธา อุปาทานกฺขนฺธา ยถา ราชปุริโส. อุปาทานปฺปภวา วา ขนฺธา อุปาทานกฺขนฺธา ยถา ปุปฺผรุกฺโข, ผลรุกฺโข. อุปาทานานิ ปน กามุปาทานํ ทิฏฺุปาทานํ สีลพฺพตุปาทานํ อตฺตวาทุปาทานนฺติ ¶ จตฺตาริ. อตฺถโต ปน ภุสํ อาทานนฺติ อุปาทานํ. รูปุปาทานกฺขนฺโธ, เวทนุปาทานกฺขนฺโธ, สฺุปาทานกฺขนฺโธ, สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ, วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธติ ปฺจ. ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานีติ จกฺขายตนํ, โสตายตนํ, ฆานายตนํ, ชิวฺหายตนํ, กายายตนํ, มนายตนํ. สตฺต วิฺาณฏฺิติโย วุตฺตนยา เอว. ตถา อฏฺ ¶ โลกธมฺมา. อปิ จ – ลาโภ, อลาโภ, ยโส, อยโส, นินฺทา, ปสํสา, สุขํ, ทุกฺขนฺติ อิเม อฏฺ โลกปฺปวตฺติยา สติ อนุปริวตฺตนธมฺมกตฺตา ¶ โลกสฺส ธมฺมาติ โลกธมฺมา. เอเตหิ มุตฺโต สตฺโต นาม นตฺถิ, พุทฺธานมฺปิ โหนฺติเยว. ยถาห –
‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, โลกธมฺมา โลกํ อนุปริวตฺตนฺติ, โลโก จ อฏฺ โลกธมฺเม อนุปริวตฺตติ. กตเม อฏฺ? ลาโภ จ อลาโภ จ…เป… สุขฺจ ทุกฺขฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ โลกธมฺมา โลกํ อนุปริวตฺตนฺติ, โลโก จ อิเม อฏฺ โลกธมฺเม อนุปริวตฺตตี’’ติ (อ. นิ. ๘.๖).
ตตฺถ อนุปริวตฺตนฺตีติ อนุพนฺธนฺติ นปฺปชหนฺติ, โลกโต น นิวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. ลาโภติ ปพฺพชิตสฺส จีวราทิ, คหฏฺสฺส ธนธฺาทิลาโภ. โสเยว อลพฺภมาโน ลาโภ อลาโภ น ลาโภ อลาโภติ วุจฺจติ, โน จ อตฺตาภาวปฺปตฺติโต ปริฺเยฺโย สิยา. ยโสติ ปริวาโร. โสเยว อลพฺภมาโน ยโส อยโส. นินฺทาติ อวณฺณภณนํ. ปสํสาติ วณฺณภณนํ. สุขนฺติ กามาวจรกายิกเจตสิกํ. ทุกฺขนฺติ ปุถุชฺชนโสตาปนฺนสกทาคามีนํ กายิกเจตสิกํ, อนาคามิอรหนฺตานํ กายิกเมว. สตฺตาวาสาติ สตฺตานํ อาวาสา, วสนฏฺานานีติ อตฺโถ. ตานิ ปน ตถา ปกาสิตา ขนฺธา เอว. สตฺตสุ วิฺาณฏฺิตีสุ อสฺสตฺเตน จ เนวสฺานาสฺายตเนน จ สทฺธึ นว สตฺตาวาสา. ทสายตนานีติ จกฺขายตนํ, รูปายตนํ, โสตายตนํ, สทฺทายตนํ, ฆานายตนํ, คนฺธายตนํ, ชิวฺหายตนํ, รสายตนํ, กายายตนํ, โผฏฺพฺพายตนนฺติ เอวํ ทส. ทฺวาทสายตนานีติ มนายตนธมฺมายตเนหิ สทฺธึ เอวํ ทฺวาทส. อฏฺารส ธาตุโยติ จกฺขุธาตุ, รูปธาตุ, จกฺขุวิฺาณธาตุ…เป… มโนธาตุ, ธมฺมธาตุ, มโนวิฺาณธาตูติ เอเกกสฺมึ ตีณิ ตีณิ กตฺวา อฏฺารส ธาตุโย.
สทิสนาโมติ เตสํ สทิสนาโม เอกคุณวณฺณนาโม. สทิสวฺหโยติ เอกคุณวณฺณนาเมน อวฺหายโน. สจฺจสทิสวฺหโยติ อวิตถเอกคุณวณฺณนาเมน อวิปรีเตน อวฺหายโน.
อาสิโตติ ¶ ¶ อุปสงฺกมิโต. อุปาสิโตติ อุปคนฺตฺวา เสวิโต. ปยิรุปาสิโตติ ภตฺติวเสน อตีว เสวิโต.
๑๐๕. กุพฺพนกนฺติ ¶ ปริตฺตวนํ. พหุปฺผลํ กานนมาวเสยฺยาติ อเนกผลาทิวิกติภริตกานนํ อาคมฺม วเสยฺย. อปฺปทสฺเสติ พาวริปฺปภุติเก ปริตฺตปฺเ. มโหทธินฺติ อโนตตฺตาทึ มหนฺตํ อุทกราสึ.
อปฺปทสฺสาติ มนฺททสฺสิโน. ปริตฺตทสฺสาติ อติมนฺททสฺสิโน. โถกทสฺสาติ ปริตฺตโตปิ อติปริตฺตทสฺสิโน. โอมกทสฺสาติ เหฏฺิมทสฺสิโน. ลามกทสฺสาติ อปฺปธานทสฺสิโน. ฉตุกฺกทสฺสาติ น อุตฺตมทสฺสิโน. อปฺปมาณทสฺสนฺติ ปมาณํ อติกฺกมิตฺวา อปฺปมาณํ นิพฺพานทสฺสํ. อคฺคทสฺสนฺติ ‘‘อคฺคโต เว ปสนฺนาน’’นฺติอาทินา (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐) นเยน อคฺคธมฺมทสฺสํ. เสฏฺทสฺสนฺติ สมฺพุทฺโธ ทฺวิปทเสฏฺโติ เสฏฺทสฺสํ. วิเสฏฺทสฺสนฺติอาทีนิ จตฺตาริ อุปสคฺเคน วฑฺฒิตานิ. อสมนฺติ น สมํ อสมํ สพฺพฺุํ. อสมสมนฺติ อสเมหิ อตีตพุทฺเธหิ สมํ อสมสมํ. อปฺปฏิสมนฺติ อตฺตโน สทิสวิรหิตํ. อปฺปฏิภาคนฺติ อตฺตโน ปฏิพิมฺพวิรหิตํ. อปฺปฏิปุคฺคลนฺติ ปฏิมลฺลปุคฺคลวิรหิตํ. เทวาติเทวนฺติ วิสุทฺธิเทวานมฺปิ อติเทวํ. อภิมงฺคลสมฺมตฏฺเน อุสภํ. อฉมฺภิตฏฺเน ปุริสสีหํ. นิทฺโทสฏฺเน ปุริสนาคํ. อุตฺตมฏฺเน ปุริสาชฺํ. อฏฺปริสปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา สเทวเก โลเก เกนจิ ปจฺจตฺถิเกน ปจฺจามิตฺเตน อกมฺปิเย อจลฏฺาเน ติฏฺนฏฺเน ปุริสนิสภํ. ธมฺมเทสนาธุรวหนฏฺเน ปุริสโธรยฺหํ.
มานสกํ วา สรนฺติ มนสา จินฺเตตฺวา กตํ ปลฺลํ วา นามเมว วา. อโนตตฺตํ วา ทหนฺติ จนฺทิมสูริยา ทกฺขิเณน วา อุตฺตเรน วา คจฺฉนฺตา ปพฺพตนฺตเรน ตํ โอภาเสนฺติ, อุชุํ คจฺฉนฺตา น โอภาเสนฺติ, เตเนวสฺส ‘‘อโนตตฺต’’นฺติ สงฺขา อุทปาทิ. เอวรูปํ อโนตตฺตํ วา ทหํ. อกฺโขภํ อมิโตทกนฺติ จาเลตุํ อสกฺกุเณยฺยํ อปริมิตํ ¶ อุทกชลราสึ. เอวเมวาติ โอปมฺมสํสนฺทนํ, พุทฺธํ ภควนฺตํ อกฺโขภํ อาสภํ านฏฺาเนน จาเลตุํ อสกฺกุเณยฺยํ. อมิตเตชนฺติ อปริมิตาณเตชํ. ปภินฺนาณนฺติ ทสพลาณาทิวเสน ปเภทคตาณํ. วิวฏจกฺขุนฺติ สมนฺตจกฺขุํ.
ปฺาปเภทกุสลนฺติ ¶ ¶ ‘‘ยา ปฺา ปชานนา วิจโย ปวิจโย’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๖; วิภ. ๕๒๕) นเยน ปฺาย ปเภทชานเน เฉกํ. อธิคตปฏิสมฺภิทนฺติ ปฏิลทฺธจตุปฏิสมฺภิทํ. จตุเวสารชฺชปฺปตฺตนฺติ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต ปฏิชานโต อิเม ธมฺมา อนภิสมฺพุทฺธา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๑๕๐; อ. นิ. ๔.๘) นเยน วุตฺเตสุ จตูสุ าเนสุ วิสารทภาวปฺปตฺตํ. สทฺธาธิมุตฺตนฺติ ปริสุทฺเธ ผลสมาปตฺติจิตฺเต อธิมุตฺตํ, ตตฺถ ปวิฏฺํ. เสตปจฺจตฺตนฺติ วาสนาย วิปฺปหีนตฺตา ปริสุทฺธํ อาเวณิกอตฺตภาวํ. อทฺวยภาณินฺติ ปริจฺฉินฺนวจนตฺตา ทฺวิวจนวิรหิตํ. ตาทินฺติ ตาทิสํ, อิฏฺานิฏฺเสุ อกมฺปนํ วา. ตถา ปฏิฺา อสฺสาติ ตถาปฏิฺโ, ตํ. อปริตฺตนฺติ น ขุทฺทกํ. มหนฺตนฺติ เตธาตุํ อติกฺกมิตฺวา มหนฺตปฺปตฺตํ.
คมฺภีรนฺติ อฺเสํ ทุปฺปเวสํ. อปฺปเมยฺยนฺติ อตุลฏฺเน อปฺปเมยฺยํ. ทุปฺปริโยคาหนฺติ ปริโยคาหิตุํ ทุกฺขปฺปเวสํ. ปหูตรตนนฺติ สทฺธาทิรตเนหิ ปหูตรตนํ. สาครสมนฺติ รตนากรโต สมุทฺทสทิสํ. ฉฬงฺคุเปกฺขาย สมนฺนาคตนฺติ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน’’ติ (อ. นิ. ๖.๑) วุตฺตนเยน ฉฬงฺคุเปกฺขาย ปริปุณฺณํ. อตุลนฺติ ตุลวิรหิตํ, ตุลยิตุํ อสกฺกุเณยฺยํ. วิปุลนฺติ อติมหนฺตํ. อปฺปเมยฺยนฺติ ปเมตุํ อสกฺกุเณยฺยํ. ตํ ตาทิสนฺติ ตํ ภควนฺตํ ตาทิคุณสมฺปนฺนํ. ปวทตํ มคฺควาทินนฺติ ปวทนฺตานํ กเถนฺตานํ อุตฺตมํ กถยนฺตํ วทนฺตํ อธิคจฺฉินฺติ สมฺพนฺโธ. เมรุมิว นคานนฺติ ปพฺพตานํ อนฺตเร สิเนรุํ วิย. ครุฬมิว ทิชานนฺติ ¶ ปกฺขิชาตานํ อนฺตเร สุปณฺณํ วิย. สีหมิว มิคานนฺติ จตุปฺปทานมนฺตเร สีหํ วิย. อุทธิมิว อณฺณวานนฺติ วิตฺถิณฺณอณฺณวานํ อนฺตเร สมุทฺทํ วิย อธิคจฺฉึ. ชินปวรนฺติ พุทฺธุตฺตมํ.
๑๐๖. เยเม ปุพฺเพติ เย อิเม ปุพฺเพ.
๑๐๗. ตโมนุทาสีโนติ ตโมนุโท อาสีโน. ภูริปฺาโณติ าณทฺธโช. ภูริเมธโสติ วิปุลปฺโ.
นิทฺเทเส ปภงฺกโรติ เตชํกโร. อาโลกกโรติ อนนฺธการกโร. โอภาสกโรติ โอภาสํ โชตึ กโรตีติ โอภาสกโร. ทีปสทิสํ อาโลกํ กโรตีติ ทีปงฺกโร. ปทีปสทิสํ อาโลกํ กโรตีติ ¶ ปทีปกโร. อุชฺโชตกโรติ ปตาปกโร. ปชฺโชตกโรติ ทิสาวิทิสา ปตาปกโร.
ภูริปฺาโณติ ¶ ปุถุลาโณ. าณปฺาโณติ าเณน ปากโฏ. ปฺาธโชติ อุสฺสิตฏฺเน ปฺาว ธโช อสฺสาติ ปฺาธโช, ธโช รถสฺส ปฺาณนฺติอาทีสุ (ชา. ๒.๒๒.๑๘๔๑; จูฬนิ. ปารายนานุคีติคาถานิทฺเทส ๑๐๗) วิย. วิภูตวิหารีติ ปากฏวิหาโร.
๑๐๘. สนฺทิฏฺิกมกาลิกนฺติ สามํ ปสฺสิตพฺพํ ผลํ, น จ กาลนฺตเร ปตฺตพฺพผลํ. อนีติกนฺติ กิเลสาทิอีติวิรหิตํ.
สนฺทิฏฺิกนฺติ โลกุตฺตรธมฺโม เยน อธิคโต โหติ, เตน ปรสทฺธาย คนฺตพฺพตํ หิตฺวา ปจฺจเวกฺขณาเณน สยํ ทฏฺพฺโพติ สนฺทิฏฺิโก, ตํ สนฺทิฏฺิกํ. อตฺตโน ผลํทานํ สนฺธาย นาสฺส กาโลติ อกาโล, อกาโลเยว อกาลิโก. โย เอตฺถ อริยมคฺคธมฺโม, โส อตฺตโน สมนนฺตรเมว ผลํ เทตีติ อตฺโถ, ตํ อกาลิกํ. เอหิ ปสฺส อิมํ ธมฺมนฺติ เอวํ ปวตฺตํ เอหิปสฺสวิธึ อรหตีติ เอหิปสฺสิโก, ตํ เอหิปสฺสิกํ. อาทิตฺตํ เจลํ วา สีสํ วา อชฺฌุเปกฺขิตฺวาปิ อตฺตโน จิตฺเต อุปนยํ อรหตีติ โอปเนยฺยิโก, ตํ โอปเนยฺยิกํ. สพฺเพหิปิ อุคฺฆฏิตฺูอาทีหิ ‘‘ภาวิโต เม มคฺโค, อธิคตํ ผลํ, สจฺฉิกโต นิโรโธ’’ติ อตฺตนิ อตฺตนิ เวทิตพฺพนฺติ ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพํ วิฺูหิ.
๑๐๙. อถ นํ พาวรี อาห ‘‘กึ นุ ตมฺหา’’ติ ทฺเว คาถา.
มุหุตฺตมฺปีติ ¶ โถกมฺปิ. ขณมฺปีติ น พหุกมฺปิ. ลยมฺปีติ มนมฺปิ. วยมฺปีติ โกฏฺาสมฺปิ. อทฺธมฺปีติ ทิวสมฺปิ.
๑๑๑-๑๑๓. ตโต ปิงฺคิโย ภควโต สนฺติกา อวิปฺปวาสเมว ทีเปนฺโต ‘‘นาหํ ตมฺหา’’ติอาทิมาห. นาหํ โย เม…เป… ปสฺสามิ นํ มนสา จกฺขุนาวาติ ตํ พุทฺธํ มํสจกฺขุนา วิย มนสา ปสฺสามิ. นมสฺสมาโน วิวเสมิ รตฺตินฺติ นมสฺสมาโนว รตฺตึ อตินาเมมิ.
๑๑๔. เตน ¶ เตเนว นโตติ เยน เยน ทิสาภาเคน พุทฺโธ, เตน เตเนวาหมฺปิ นโต, ตนฺนินฺโน ตปฺโปโณติ ทสฺเสติ.
๑๑๕. ทุพฺพลถามกสฺสาติ อปฺปถามกสฺส. อถ วา ทุพฺพลสฺส ทุตฺถามกสฺส จ, พลวีริยหีนสฺสาปีติ ¶ วุตฺตํ โหติ. เตเนว กาโย น ปเลตีติ เตเนว ทุพฺพลตฺถามกตฺเตน กาโย น คจฺฉติ, เยน พุทฺโธ, น เตน คจฺฉติ. ‘‘น ปเรตี’’ติปิ ปาโ, โส เอวตฺโถ. ตตฺถาติ พุทฺธสฺส สนฺติเก. สงฺกปฺปยนฺตายาติ สงฺกปฺปคมเนน. เตน ยุตฺโตติ เยน พุทฺโธ, เตน ยุตฺโต ปยุตฺโต อนุยุตฺโตติ ทสฺเสติ.
เยน พุทฺโธติ เยน ทิสาภาเคน พุทฺโธ อุปสงฺกมิตพฺโพ, เตน ทิสาภาเคน น ปเลติ. อถ วา ภุมฺมตฺเถ กรณวจนํ. ยตฺถ พุทฺโธ ตตฺถ น ปเลติ น คจฺฉติ. น วชตีติ ปุรโต น ยาติ. น คจฺฉตีติ นิวตฺตติ. นาติกฺกมตีติ น อุปสงฺกมติ.
๑๑๖. ปงฺเก สยาโนติ กามกทฺทเม สยมาโน. ทีปา ทีปํ อุปลฺลวินฺติ สตฺถาราทิโต สตฺถาราทึ อธิคจฺฉึ. อถทฺทสาสึ สมฺพุทฺธนฺติ โสหํ เอวํ ทุทิฏฺึ คเหตฺวา อนฺวาหิณฺฑนฺโต อถ ปาสาณกเจติเย พุทฺธมทฺทกฺขึ.
ตตฺถ เสมาโนติ นิสชฺชมาโน. สยมาโนติ เสยฺยํ กปฺปยมาโน. อาวสมาโนติ วสมาโน. ปริวสมาโนติ นิจฺจํ วสมาโน.
ปลฺลวินฺติ อุคฺคมึ. อุปลฺลวินฺติ อุตฺตรึ ¶ , สมฺปลฺลวินฺติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ. อทฺทสนฺติ นิทฺเทสสฺส อุทฺเทสปทํ. อทฺทสนฺติ ปสฺสึ. อทฺทกฺขินฺติ โอโลเกสึ. อปสฺสินฺติ เอสึ. ปฏิวิชฺฌินฺติ วินิวิชฺฌึ.
๑๑๗. อิมิสฺสา คาถาย อวสาเน ปิงฺคิยสฺส จ พาวริสฺส จ อินฺทฺริยปริปากํ วิทิตฺวา ภควา สาวตฺถิยํ ิโตเยว สุวณฺโณภาสํ มฺุจิ. ปิงฺคิโย พาวริสฺส พุทฺธคุเณ วณฺณยนฺโต นิสินฺโน เอว ตํ โอภาสํ ทิสฺวา ‘‘กึ อิท’’นฺติ โอโลเกนฺโต ภควนฺตํ อตฺตโน ปุรโต ิตํ วิย ทิสฺวา พาวริพฺราหฺมณสฺส ‘‘พุทฺโธ อาคโต’’ติ อาโรเจสิ. พฺราหฺมโณ อุฏฺายาสนา ¶ อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา อฏฺาสิ. ภควาปิ โอภาสํ ผริตฺวา พฺราหฺมณสฺส อตฺตานํ ทสฺเสนฺโต อุภินฺนมฺปิ สปฺปายํ วิทิตฺวา ปิงฺคิยเมว อาลปมาโน ‘‘ยถา อหู, วกฺกลี’’ติ อิมํ คาถมภาสิ.
ตสฺสตฺโถ – ยถา วกฺกลิตฺเถโร สทฺธาธิมุตฺโต อโหสิ, สทฺธาธุเรเนว อรหตฺตํ ปาปุณิ, ยถา จ โสฬสนฺนํ เอโก ภทฺราวุโธ นาม, ยถา จ อาฬวิโคตโม จ. เอวเมว ตฺวมฺปิ ปมฺุจสฺสุ สทฺธํ ¶ , ตโต สทฺธาย อธิมุจฺจนฺโต ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติอาทินา (ธ. ป. ๒๗๗; เถรคา. ๖๗๖; ปฏิ. ม. ๑.๓๑; กถา. ๗๕๓) นเยน วิปสฺสนํ อารภิตฺวา มจฺจุเธยฺยสฺส ปารํ นิพฺพานํ คมิสฺสสีติ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ, เทสนาปริโยสาเน ปิงฺคิโย อรหตฺเต, พาวรี อนาคามิผเล ปติฏฺหิ, พาวริพฺราหฺมณสฺส สิสฺสา ปน ปฺจสตา โสตาปนฺนา อเหสุํ.
ตตฺถ มฺุจสฺสูติ โมจสฺสุ. ปมฺุจสฺสูติ โมเจหิ. อธิมฺุจสฺสูติ ตตฺถ อธิโมกฺขํ กรสฺสุ. โอกปฺเปหีติ พหุมานํ อุปฺปาเทหีติ. สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจาติ หุตฺวา อภาวฏฺเน. สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขาติ ทุกฺขมฏฺเน. สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตาติ อวสวตฺตนฏฺเน.
๑๑๘. อิทานิ ปิงฺคิโย อตฺตโน ปสาทํ นิเวเทนฺโต ‘‘เอส ภิยฺโยติอาทิมาห. ตตฺถ ปฏิภานวาติ ปฏิภานปฺปฏิสมฺภิทาย อุเปโต.
ภิยฺโย ภิยฺโยติ อุปรูปริ.
๑๑๙. อธิเทเว อภิฺายาติ อธิเทวกเร ธมฺเม ตฺวา. ปโรปรนฺติ หีนปณีตํ, อตฺตโน จ ปรสฺส จ อธิเทวตฺตกรํ สพฺพธมฺมชาตํ อเวทีติ วุตฺตํ โหติ. กงฺขีนํ ปฏิชานตนฺติ ¶ กงฺขีนํเยว สตํ ‘‘นิกฺกงฺขมฺหา’’ติ ปฏิชานนฺตานํ.
นิทฺเทเส ปารายนิกปฺหานนฺติ ปารายนิกพฺราหฺมณานํ ปุจฺฉานํ. อวสานํ กโรตีติ อนฺตกโร. โกฏึ กโรตีติ ปริยนฺตกโร. สีมํ มริยาทํ กโรตีติ ปริจฺเฉทกโร. นิคมํ กโรตีติ ปริวฏุมกโร. สภิยปฺหานนฺติ น เกวลํ ปารายนิกพฺราหฺมณานํ ปฺหานํ เอว, อถ โข สภิยปริพฺพาชกาทีนมฺปิ ปฺหานํ อนฺตํ กโรตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สภิยปฺหาน’’นฺติอาทิมาห.
๑๒๐. อสํหีรนฺติ ¶ ราคาทีหิ อสํหาริยํ. อสงฺกุปฺปนฺติ อสงฺกุปฺปํ อวิปริณามธมฺมํ. ทฺวีหิปิ ปเทหิ นิพฺพานํ ภณติ. อทฺธา คมิสฺสามีติ เอกํเสเนว ตํ อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุํ คมิสฺสามิ. น เมตฺถ กงฺขาติ นตฺถิ เม เอตฺถ นิพฺพาเน กงฺขา. เอวํ มํ ธาเรหิ อธิมุตฺตจิตฺตนฺติ ปิงฺคิโย ‘‘เอวเมว ตฺวมฺปิ ปมฺุจสฺสุ สทฺธ’’นฺติ อิมินา ภควโต โอวาเทน อตฺตนิ สทฺธํ อุปฺปาเทตฺวา สทฺธาธุเรเนว จ วิมฺุจิตฺวา ตํ สทฺธาธิมุตฺตึ ปกาเสนฺโต ภควนฺตํ อาห – ‘‘เอวํ มํ ¶ ธาเรหิ อธิมุตฺตจิตฺต’’นฺติ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย ‘‘ยถา มํ ตฺวํ อวจ, เอวเมว มํ อธิมุตฺตจิตฺตํ ธาเรหี’’ติ.
น สํหริยตีติ คเหตฺวา สํหริตุํ น สกฺกา. นิโยควจนนฺติ ยุตฺตวจนํ. อวตฺถาปนวจนนฺติ สนฺนิฏฺานวจนํ. อิมสฺมึ ปารายนวคฺเค ยํ อนฺตรนฺตรา น วุตฺตํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนเยน คเหตพฺพํ. เสสํ สพฺพตฺถ ปากฏเมว.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถาย
ปารายนานุคีติคาถานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปารายนวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทโส
ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๑. ปมวคฺควณฺณนา
๑๒๑. อิโต ¶ ¶ ¶ ปรํ ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนาย โอกาโส อนุปฺปตฺโต. ตตฺถ ‘‘สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑ’’นฺติ อิโต ปรํ อติเรกปทมตฺตเมว วณฺณยิสฺสาม. ตตฺถ สพฺเพสูติ อนวเสเสสุ. ภูเตสูติ สตฺเตสุ. เอตฺถ ภูเตสูติ กิฺจาปิ ภูตสทฺโท ‘‘ภูตสฺมึ ปาจิตฺติย’’นฺติ เอวมาทีสุ (ปาจิ. ๖๙) วิชฺชมาเน, ‘‘ภูตมิทํ, สาริปุตฺต, สมนุปสฺสสี’’ติ เอวมาทีสุ ขนฺธปฺจเก, ‘‘จตฺตาโร โข, ภิกฺขุ, มหาภูตา เหตู’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๓.๘๖) จตุพฺพิเธ ปถวีธาตฺวาทิรูเป, ‘‘โย จ กาลฆโส ภูโต’’ติ เอวมาทีสุ (ชา. ๑.๒.๑๙๐) ขีณาสเว, ‘‘สพฺเพว นิกฺขิปิสฺสนฺติ, ภูตา โลเก สมุสฺสย’’นฺติ เอวมาทีสุ (ที. นิ. ๒.๒๒๐) สพฺพสตฺเต, ‘‘ภูตคามปาตพฺยตายา’’ติ เอวมาทีสุ (ปาจิ. ๙๐) รุกฺขาทิเก, ‘‘ภูตํ ภูตโต ปชานาตี’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓) จาตุมหาราชิกานํ เหฏฺา สตฺตนิกายํ อุปาทาย วตฺตติ. อิธ ปน อวิเสสโต ปถวีปพฺพตาทีสุ ชาตา สตฺตา ภูตาติ เวทิตพฺพา. เตสุ ภูเตสุ. นิธายาติ นิกฺขิปิตฺวา.
ทณฺฑนฺติ กายวจีมโนทณฺฑํ, กายทุจฺจริตาทีนเมตํ อธิวจนํ. กายทุจฺจริตฺหิ ทณฺฑยตีติ ทณฺโฑ, พาเธติ อนยพฺยสนํ ปาเปตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ วจีทุจฺจริตฺจ มโนทุจฺจริตฺจ. ปหรณทณฺโฑ เอว วา ทณฺโฑ, ตํ นิธายาติปิ วุตฺตํ โหติ. อวิเหยนฺติ อวิเหยนฺโต. อฺตรมฺปีติ ยํ กิฺจิ เอกมฺปิ. เตสมฺปีติ เตสํ สพฺพภูตานํ. น ปุตฺตมิจฺเฉยฺยาติ อตฺรโช เขตฺตโช ทินฺนโก อนฺเตวาสิโกติ อิเมสุ จตูสุ ปุตฺเตสุ ยํ กิฺจิ ปุตฺตํ น อิจฺเฉยฺย. กุโต สหายนฺติ สหายํ ปน อิจฺเฉยฺยาติ กุโต เอว เอตํ.
เอโกติ ปพฺพชฺชาสงฺขาเตน เอโก, อทุติยฏฺเน เอโก, ตณฺหาปหานฏฺเน ¶ เอโก, เอกนฺตวิคตกิเลโสติ เอโก, เอโก ปจฺเจกสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ เอโก. สมณสหสฺสสฺสปิ หิ ¶ มชฺเฌ วตฺตมาโน คิหิสฺโชนสฺส ฉินฺนตฺตา เอโก, เอวํ ปพฺพชฺชาสงฺขาเตน เอโก ¶ . เอโก ติฏฺติ, เอโก คจฺฉติ, เอโก นิสีทติ, เอโก เสยฺยํ กปฺเปติ, เอโก อิริยติ วตฺตตีติ เอโก. เอวํ อทุติยฏฺเน เอโก.
‘‘ตณฺหาทุติโย ปุริโส, ทีฆมทฺธาน สํสรํ;
อิตฺถภาวฺถาภาวํ, สํสารํ นาติวตฺตติ.
‘‘เอวมาทีนวํ ตฺวา, ตณฺหํ ทุกฺขสฺส สมฺภวํ;
วีตตณฺโห อนาทาโน, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ. (อิติวุ. ๑๕, ๑๐๕; มหานิ. ๑๙๑; จูฬนิ. ปารายนานุคีติคาถานิทฺเทส ๑๐๗) –
เอวํ ตณฺหาปหานฏฺเน เอโก. สพฺพกิเลสาสฺส ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมาติ เอวํ เอกนฺตวิคตกิเลโสติ เอโก. อนาจริยโก หุตฺวา สยมฺภู สามฺเว ปจฺเจกสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ เอวํ เอโก ปจฺเจกสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ เอโก.
จเรติ ยา อิมา อฏฺ จริยาโย. เสยฺยถิทํ – ยา ปณิธิสมฺปนฺนานํ จตูสุ อิริยาปเถสุ อิริยาปถจริยา, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารานํ อชฺฌตฺติกายตเนสุ อายตนจริยา, อปฺปมาทวิหารีนํ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สติจริยา, อธิจิตฺตมนุยุตฺตานํ จตูสุ ฌาเนสุ สมาธิจริยา, พุทฺธิสมฺปนฺนานํ จตูสุ อริยสจฺเจสุ าณจริยา, สมฺมา ปฏิปนฺนานํ จตูสุ อริยมคฺเคสุ มคฺคจริยา, อธิคตผลานํ จตูสุ สามฺผเลสุ ปฏิปตฺติจริยา, ติณฺณํ พุทฺธานํ สพฺพสตฺเตสุ โลกตฺถจริยา, ตตฺถ ปเทสโต ปจฺเจกพุทฺธสาวกานนฺติ. ยถาห – ‘‘จริยาติ อฏฺ จริยาโย ยา อิริยาปถจริยา’’ติ (จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๒๑; ปฏิ. ม. ๑.๑๙๗; ๓.๒๘) วิตฺถาโร. ตาหิ จริยาหิ สมนฺนาคโต ภเวยฺยาติ อตฺโถ. อถ วา ยา อิมา ‘‘อธิมุจฺจนฺโต สทฺธาย จรติ, ปคฺคณฺหนฺโต วีริเยน จรติ, อุปฏฺหนฺโต สติยา จรติ, อวิกฺขิตฺโต สมาธินา ¶ จรติ, ปชานนฺโต ปฺาย จรติ, วิชานนฺโต วิฺาเณน จรติ, เอวํ ปฏิปนฺนสฺส กุสลา ธมฺมา อายาเปนฺตีติ อายตนจริยาย จรติ, เอวํ ปฏิปนฺโน วิเสสมธิคจฺฉตีติ วิเสสจริยาย จรตี’’ติ (จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๒๑; ปฏิ. ม. ๑.๑๙๗; ๓.๒๙) เอวํ อปราปิ อฏฺ จริยา วุตฺตา. ตาหิ สมนฺนาคโต ภเวยฺยาติ อตฺโถ. ขคฺควิสาณกปฺโปติ ขคฺควิสาโณ นาม ขคฺคมิคสิงฺคํ.
กปฺป ¶ ¶ -สทฺโท ปนายํ อภิสทฺทหนโวหารกาลปฺตฺติจฺเฉทวิกปฺปเลสสมนฺตภาวสทิสาทิอเนกตฺโถ. ตถา หิสฺส ‘‘โอกปฺปนียเมตํ โภโต โคตมสฺส. ยถา ตํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) อภิสทฺทหนตฺโถ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ ผลํ ปริภฺุชิตุ’’นฺติ เอวมาทีสุ (จูฬว. ๒๕๐) โวหาโร. ‘‘เยน สุทํ นิจฺจกปฺปํ วิหรามี’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) กาโล. ‘‘อิจฺจายสฺมา กปฺโป’’ติ เอวมาทีสุ (สุ. นิ. ๑๐๙๘; จูฬนิ. กปฺปมาณวปุจฺฉา ๑๑๗, กปฺปมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๖๑) ปฺตฺติ. ‘‘อลงฺกโต กปฺปิตเกสมสฺสู’’ติ เอวมาทีสุ (ชา. ๒.๒๒.๑๓๖๘) เฉทนํ. ‘‘กปฺปติ ทฺวงฺคุลกปฺโป’’ติ เอวมาทีสุ (จูฬว. ๔๔๖) วิกปฺโป. ‘‘อตฺถิ กปฺโป นิปชฺชิตุ’’นฺติ เอวมาทีสุ (อ. นิ. ๘.๘๐) เลโส. ‘‘เกวลกปฺปํ เวฬุวนํ โอภาเสตฺวา’’ติ เอวมาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๙๔) สมนฺตภาโว. ‘‘สตฺถุกปฺเปน วต กิร, โภ, สาวเกน สทฺธึ มนฺตยมานา น ชานิมฺหา’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๖๐) สทิโส, ปฏิภาโคติ อตฺโถ. อิธ ปนสฺส สทิโส ปฏิภาโคติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ, ขคฺควิสาณสทิโสติ วุตฺตํ โหติ. อยํ ตาเวตฺถ ปทโต อตฺถวณฺณนา.
อธิปฺปายานุสนฺธิโต ปน เอวํ เวทิตพฺโพ – ยฺวายํ วุตฺตปฺปกาโร ทณฺโฑ ภูเตสุ ปวตฺติยมาโน อหิโต โหติ, ตํ เตสุ อปฺปวตฺติยมาเนสุ ตปฺปฏิปกฺขภูตาย เมตฺตาย หิตูปสํหาเรน จ สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ, นิหิตทณฺฑตฺตา เอว จ ยถา อนิหิตทณฺฑา สตฺตา ภูตานิ ทณฺเฑน วา ¶ สตฺเถน วา ปาณินา วา เลฑฺฑุนา วา วิเหเนฺติ, ตถา อวิเหยํ, อฺตรมฺปิ เตสํ อิมํ เมตฺตากมฺมฏฺานมาคมฺม ยเทว ตตฺถ เวทนาคตํ สฺาสงฺขารวิฺาณคตํ ตฺจ ตทนุสาเรเนว ตทฺฺจ สงฺขารคตํ วิปสฺสิตฺวา อิมํ ปจฺเจกโพธึ อธิคโตมฺหี’’ติ อยํ ตาว อธิปฺปาโย.
อยํ ปน อนุสนฺธิ – เอวํ วุตฺเต เต อมจฺจา อาหํสุ – ‘‘อิทานิ, ภนฺเต, กุหึ คจฺฉถา’’ติ? ตโต เตน ‘‘ปุพฺพปจฺเจกสมฺพุทฺธา กตฺถ วสนฺตี’’ติ อาวชฺเชตฺวา ตฺวา ‘‘คนฺธมาทนปพฺพเต’’ติ วุตฺเต ปุนาหํสุ – ‘‘อมฺเห ทานิ, ภนฺเต, ปชหถ, น อิจฺฉถา’’ติ. อถ ปจฺเจกพุทฺโธ อาห – ‘‘น ปุตฺตมิจฺเฉยฺยา’’ติ สพฺพํ. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – อหํ อิทานิ อตฺรชาทีสุ ยํ ¶ กิฺจิ ปุตฺตมฺปิ น อิจฺเฉยฺยํ, กุโต ปน ตุมฺหาทิสํ สหายํ. ตสฺมา ตุมฺเหสุปิ โย มยา สทฺธึ คนฺตุกาโม มาทิโส วา โหตุํ อิจฺฉติ, โส เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป. อถ วา เตหิ ‘‘อมฺเห ทานิ, ภนฺเต, ปชหถ, น อิจฺฉถา’’ติ วุตฺเต โส ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ ‘‘น ปุตฺตมิจฺเฉยฺย, กุโต สหาย’’นฺติ วตฺวา อตฺตโน ยถาวุตฺเตนฏฺเน เอกจริยาย ¶ คุณํ ทิสฺวา ปมุทิโต ปีติโสมนสฺสชาโต อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๓๕).
ตตฺถ ตสาติ วิปาสกิริยา. ถาวราติ ขีณาสวา. ภยเภรวาติ ขุทฺทานุขุทฺทกา จิตฺตุตฺราสา. นิธายาติ ฉฑฺเฑตฺวา. นิทหิตฺวาติ เปตฺวา. โอโรปยิตฺวาติ อโธกริตฺวา. สโมโรปยิตฺวาติ อโธคตํ วิสฺสชฺเชตฺวา. นิกฺขิปิตฺวาติ ตโต อปเนตฺวา. ปฏิปฺปสฺสมฺภิตฺวาติ สนฺนิสีทาเปตฺวา.
อาลปนนฺติ อาทิโต ลปนํ. สลฺลปนนฺติ สมฺมา ลปนํ. อุลฺลปนนฺติ อุทฺธํ กตฺวา ลปนํ. สมุลฺลปนนฺติ ปุนปฺปุนํ อุทฺธํ กตฺวา ลปนํ.
อิริยาปถจริยาติ อิริยาปถานํ จริยา, ปวตฺตนนฺติ อตฺโถ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อายตนจริยา ปน อายตเนสุ สติสมฺปชฺานํ จริยา. ปตฺตีติ ผลานิ. ตานิ หิ ปาปุณียนฺตีติ ‘‘ปตฺตี’’ติ วุตฺตานิ. สตฺตโลกสฺส ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกา อตฺถา โลกตฺถาติ อยํ วิเสโส.
อิทานิ ตาสํ จริยานํ ภูมึ ทสฺเสนฺโต ‘‘จตูสุ อิริยาปเถสู’’ติอาทิมาห ¶ . สติปฏฺาเนสูติ อารมฺมณสติปฏฺาเนสุปิ วุจฺจมาเนสุ สติโต อนฺานิ, โวหารวเสน ปน อฺานิ วิย กตฺวา วุตฺตํ. อริยสจฺเจสูติ ปุพฺพภาเค โลกิยสจฺจาเณน วิสุํ วิสุํ สจฺจปริคฺคหวเสน วุตฺตํ. อริยมคฺเคสุ สามฺผเลสูติ จ โวหารวเสเนว วุตฺตํ. ปเทสโตติ โลกตฺถจริยาย เอกเทเส. นิปฺปเทสโต หิ โลกตฺถจริยํ พุทฺธา เอว กโรนฺติ. ปุน ตา เอว จริยาโย การกปุคฺคลวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘ปณิธิสมฺปนฺนาน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปณิธิสมฺปนฺนา นาม อิริยาปถานํ สนฺตตฺตา อิริยาปถาว ิติยา สมฺปนฺนา อกมฺปิตอิริยาปถา ภิกฺขุภาวานุรูเปน สนฺเตน อิริยาปเถน สมฺปนฺนา.
อินฺทฺริเยสุ ¶ คุตฺตทฺวารานนฺติ จกฺขาทีสุ ฉสุ อินฺทฺริเยสุ อตฺตโน อตฺตโน วิสเย ปวตฺตํ เอเกกทฺวารวเสน คุตฺตํ ทฺวารํ เอเตสนฺติ คุตฺตทฺวารา, เตสํ คุตฺตทฺวารานํ. ทฺวารนฺติ เจตฺถ อุปฺปตฺติทฺวารวเสน จกฺขาทโย เอว. อปฺปมาทวิหารีนนฺติ สีลาทีสุ อปฺปมาทวิหารวตํ. อธิจิตฺตมนุยุตฺตานนฺติ วิปสฺสนาย ปาทกภาเวน อธิจิตฺตสงฺขาตํ สมาธึ อนุยุตฺตานํ. พุทฺธิสมฺปนฺนานนฺติ นามรูปววตฺถานํ อาทึ กตฺวา ยาว โคตฺรภุ, ตาว ปวตฺเตน าเณน สมฺปนฺนานํ ¶ . สมฺมา ปฏิปนฺนานนฺติ จตุมคฺคกฺขเณ. อธิคตผลานนฺติ จตุผลกฺขเณ. ตถาคตานนฺติ ตถา อาคตานํ. อรหนฺตานนฺติ ทูรกิเลสานํ. สมฺมาสมฺพุทฺธานนฺติ สมฺมา สามฺจ สพฺพธมฺมพุทฺธานํ. อิเมสํ ปทานํ อตฺโถ เหฏฺา ปกาสิโต เอว.
ปเทสโต ปจฺเจกพุทฺธานนฺติ ปจฺเจกสมฺพุทฺธานํ เอกเทสโต. สาวกานนฺติ สาวกานมฺปิ เอกเทสโต. อธิมุจฺจนฺโตติ อธิโมกฺขํ กโรนฺโต. สทฺธาย จรตีติ สทฺธาวเสน ปวตฺตติ. ปคฺคณฺหนฺโตติ จตุสมฺมปฺปธานวีริเยน ปทหนฺโต. อุปฏฺเปนฺโตติ สติยา อารมฺมณํ อุปฏฺเปนฺโต. อวิกฺเขปํ กโรนฺโตติ สมาธิวเสน วิกฺเขปํ อกโรนฺโต. ปชานนฺโตติ จตุสจฺจชานนปฺาย ปกาเรน ชานนฺโต. วิชานนฺโตติ อินฺทฺริยสมฺปยุตฺตชวนปุพฺพงฺคเมน ¶ อาวชฺชนวิฺาเณน อารมฺมณํ วิชานนฺโต. วิฺาณจริยายาติ อาวชฺชนวิฺาณจริยาวเสน. เอวํ ปฏิปนฺนสฺสาติ สหาวชฺชนาย อินฺทฺริยจริยาย ปฏิปนฺนสฺส. กุสลา ธมฺมา อายาเปนฺตีติ สมถวิปสฺสนาวเสน ปวตฺตา กุสลา ธมฺมา ภุสํ ยาเปนฺติ, ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. อายตนจริยายาติ กุสลานํ ธมฺมานํ ภุสํ ยตนจริยาย, ปวตฺตนจริยายาติ วุตฺตํ โหติ. วิเสสมธิคจฺฉตีติ วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธิวเสน วิเสสํ อธิคจฺฉติ.
ทสฺสนจริยา จ สมฺมาทิฏฺิยาติอาทีสุ สมฺมา ปสฺสติ, สมฺมา วา ตาย ปสฺสนฺติ, ปสฏฺา สุนฺทรา วา ทิฏฺีติ สมฺมาทิฏฺิ, ตสฺสา สมฺมาทิฏฺิยา นิพฺพานปจฺจกฺขกรเณน ทสฺสนจริยา. สมฺมา สงฺกปฺเปติ, สมฺมา วา เตน สงฺกปฺเปนฺติ, ปสฏฺโ สุนฺทโร วา สงฺกปฺโปติ สมฺมาสงฺกปฺโป. ตสฺส อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อภินิโรปนจริยา. สมฺมา วทติ, สมฺมา วา ตาย วทนฺติ, ปสฏฺา สุนฺทรา วา วาจาติ สมฺมาวาจา, มิจฺฉาวาจาวิรติยา เอตํ นามํ. ตสฺสา จตุพฺพิธวจีสํวรปริคฺคหจริยา. สมฺมา กโรติ, สมฺมา วา เตน ¶ กโรนฺติ, ปสฏฺํ สุนฺทรํ วา กมฺมนฺติ สมฺมากมฺมํ, สมฺมากมฺมเมว สมฺมากมฺมนฺโต, มิจฺฉากมฺมนฺตวิรติยา เอตํ นามํ. ตสฺส ติวิธกายสํวรสมุฏฺานจริยา. สมฺมา อาชีวติ, สมฺมา วา เตน อาชีวนฺติ, ปสฏฺโ สุนฺทโร วา อาชีโวติ สมฺมาอาชีโว, มิจฺฉาอาชีววิรติยา เอตํ นามํ. ตสฺส โวทานจริยา ปริสุทฺธจริยา. สมฺมา วายมติ, สมฺมา วา เตน วายมนฺติ, ปสฏฺโ สุนฺทโร วา วายาโมติ สมฺมาวายาโม, ตสฺส ปคฺคหจริยา. สมฺมา สรติ, สมฺมา วา ตาย สรนฺติ, ปสฏฺา สุนฺทรา วา สตีติ สมฺมาสติ, ตสฺสา อุปฏฺานจริยา. สมฺมา สมาธิยติ, สมฺมา วา เตน สมาธิยนฺติ, ปสฏฺโ สุนฺทโร วา สมาธีติ สมฺมาสมาธิ, ตสฺส อวิกฺเขปจริยา.
ตกฺกปฺโปติ เตน กปฺโป, เอวรูโปติ อตฺโถ. ตสฺสทิโสติ เตน สทิโส, ‘‘ตสฺสทิโก’’ติ ¶ วา ปาโ. ตปฺปฏิภาโคติ เตน ปฏิภาโค ตปฺปฏิภาโค, เอทิโสติ อตฺโถ. สาทุรสํ อติกฺกนฺตํ โลณํ อติโลณํ. โลณกปฺโปติ โลณสทิโสติ วุจฺจติ. อติติตฺตกนฺติ ¶ อติกฺกนฺตติตฺตกํ, ปุจิมนฺทาทิกปฺโป ติตฺตกสทิโสติ วุจฺจติ. อติมธุรนฺติ ขีรปายาสาทิกํ. หิมกปฺโปติ หิโมทกสทิโส. สตฺถุกปฺโปติ สตฺถุนา พุทฺเธน สทิโส. เอวเมวาติ โอปมฺมสมฺปฏิปาทนํ.
ตตฺรายํ เอตสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส สงฺเขเปน วิปสฺสนาอาจิกฺขนวิธึ ทสฺเสตฺวา คมิสฺสาม. ตตฺถ นามรูปปริคฺคหํ กาตุกาโม ปจฺเจกโพธิสตฺโต รูปารูปอฏฺสมาปตฺตีสุ ยํ กิฺจิ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย วิตกฺกาทีนิ ฌานงฺคานิ จ ตํสมฺปยุตฺเต จ ผสฺสาทโย ธมฺเม ลกฺขณรสปจฺจุปฏฺานปทฏฺานวเสน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘สพฺพมฺเปตํ อารมฺมณาภิมุขํ นมนโต นมนฏฺเน นาม’’นฺติ ววตฺถเปติ. ตโต ตสฺส ปจฺจยํ ปริเยสนฺโต ‘‘หทยวตฺถุํ นิสฺสาย ปวตฺตตี’’ติ ปสฺสติ. ปุน วตฺถุสฺส ปจฺจยภูตานิ จ อุปาทารูปานิ จ ปสฺสิตฺวา ‘‘อิทํ สพฺพํ รุปฺปนโต รูป’’นฺติ ปริคฺคณฺหาติ. ปุน ตทุภยํ ‘‘นมนลกฺขณํ นามํ, รุปฺปนลกฺขณํ รูป’’นฺติ เอวํ สงฺเขปโต นามรูปํ ววตฺถเปติ. สมถยานิกวเสเนตํ วุตฺตํ. วิปสฺสนายานิโก ปน จตุธาตุววตฺถานมุเขน ภูตุปาทายรูปานิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘สพฺพมฺเปตํ รุปฺปนโต รูป’’นฺติ ปสฺสติ. ตโต เอวํ ปริจฺฉินฺนรูปสฺส จกฺขาทีนิ นิสฺสาย ปวตฺตมานา อรูปธมฺมา อาปาถมาคจฺฉนฺติ. ตโต สพฺเพปิ เต อรูปธมฺเม นมนลกฺขเณน เอกโต กตฺวา ‘‘อิทํ นาม’’นฺติ ปสฺสติ, โส ¶ ‘‘อิทํ นามํ, อิทํ รูป’’นฺติ ทฺเวธา ววตฺถเปติ. เอวํ ววตฺถเปตฺวา ‘‘นามรูปโต อุทฺธํ อฺโ สตฺโต วา ปุคฺคโล วา เทโว วา พฺรหฺมา วา นตฺถี’’ติ ปสฺสติ.
ยถา หิ องฺคสมฺภารา, โหติ สทฺโท รโถ อิติ;
เอวํ ขนฺเธสุ สนฺเตสุ, โหติ ‘‘สตฺโต’’ติ สมฺมุติ. (สํ. นิ. ๑.๑๗๑; มิ. ป. ๒.๑.๑; กถา. ๒๓๓);
เอวเมว ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ สนฺเตสุ ‘‘สตฺโต ปุคฺคโล’’ติ โวหารมตฺตํ โหตีติ เอวมาทินา นเยน นามรูปานํ ยาถาวทสฺสนสงฺขาเตน ทิฏฺิวิสุทฺธิภูเตน าเณน ¶ นามรูปํ ปริคฺคเหตฺวา ปุน ตสฺส ปจฺจยมฺปิ ปริคฺคณฺหนฺโต วุตฺตนเยน นามรูปํ ปริคฺคเหตฺวา ‘‘โก นุ โข อิมสฺส เหตู’’ติ ปริเยสนฺโต อเหตุวาทวิสมเหตุวาเทสุ โทสํ ทิสฺวา โรคํ ทิสฺวา ตสฺส นิทานํ สมุฏฺานมฺปิ ปริเยสนฺโต เวชฺโช วิย ตสฺส เหตฺุจ ปจฺจยฺจ ปริเยสนฺโต อวิชฺชา ตณฺหา อุปาทานํ กมฺมนฺติ อิเม จตฺตาโร ธมฺเม นามรูปสฺส อุปฺปาทปจฺจยตฺตา ‘‘เหตู’’ติ ¶ . อาหารํ อุปตฺถมฺภนปจฺจยตฺตา ‘‘ปจฺจโย’’ติ จ ปสฺสติ. อิมสฺส หิ กายสฺส อวิชฺชาทโย ตโย ธมฺมา มาตา วิย ทารกสฺส อุปนิสฺสยา โหนฺติ, กมฺมํ ปิตา วิย ปุตฺตสฺส ชนกํ, อาหาโร ธาติ วิย ทารกสฺส สนฺธารโกติ. เอวํ รูปกายสฺส ปจฺจยปริคฺคหํ กตฺวา ปุน ‘‘จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณ’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๔.๖๐; กถา. ๔๖๕) นเยน นามกายสฺสปิ ปจฺจยํ ปริคฺคณฺหาติ, เอวํ ปริคฺคณฺหนฺโต ‘‘อตีตานาคตาปิ ธมฺมา เอวเมว วตฺตนฺตี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กโรติ.
ตสฺส ยา สา ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ ‘‘อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธานํ, น นุ โข อโหสึ, กึ นุ โข, กถํ นุ โข, กึ หุตฺวา กึ อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธาน’’นฺติ ปฺจวิธา วิจิกิจฺฉา วุตฺตา.
ยาปิ อปรนฺตํ อารพฺภ ‘‘ภวิสฺสามิ นุ โข อหํ อนาคตมทฺธานํ, น นุ โข ภวิสฺสามิ, กึ นุ โข ภวิสฺสามิ, กถํ นุ โข ภวิสฺสามิ, กึ หุตฺวา กึ ภวิสฺสามิ นุ โข อหํ อนาคตมทฺธาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐) ปฺจวิธา วิจิกิจฺฉา วุตฺตา.
ยาปิ ¶ เอตรหิ วา ปน ปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธานํ อารพฺภ กถํกถี โหติ ‘‘อหํ นุ โขสฺมิ, โน นุ โขสฺมิ, กึ นุ โขสฺมิ, กถํ นุ โขสฺมิ, อยํ นุ โข สตฺโต กุโต อาคโต, โส กุหึ คามี ภวิสฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐) ฉพฺพิธา วิจิกิจฺฉา วุตฺตา, สา สพฺพาปิ ปหิยฺยติ. เอวํ ปจฺจยปริคฺคหเณน ตีสุ อทฺธาสุ กงฺขํ วิตริตฺวา ิตํ าณํ ‘‘กงฺขาวิตรณวิสุทฺธี’’ติปิ ‘‘ธมฺมฏฺิติาณ’’นฺติปิ ‘‘ยถาภูตาณ’’นฺติปิ ‘‘สมฺมาทสฺสน’’นฺติปิ วุจฺจติ.
เอตฺถ ปน ติสฺโส หิ โลกิยปริฺา าตปริฺา ตีรณปริฺา ปหานปริฺาติ. ตตฺถ ‘‘รุปฺปนลกฺขณํ รูปํ, เวทยิตลกฺขณา เวทนา’’ติ เอวํ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ ปจฺจตฺตลกฺขณสลฺลกฺขณวเสน ¶ ปวตฺตา ปฺา าตปริฺา นาม. ‘‘รูปํ อนิจฺจํ, เวทนา อนิจฺจา’’ติอาทินา ปน นเยน เตสํเยว ธมฺมานํ สามฺลกฺขณํ อาโรเปตฺวา ปวตฺตา ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาปฺา ตีรณปริฺา นาม. เตสุ เอว ปน ธมฺเมสุ นิจฺจสฺาทิปชหนวเสน ปวตฺตา ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาว ปฺา ปหานปริฺา นาม.
ตตฺถ ¶ สงฺขารปริจฺเฉทโต ปฏฺาย ยาว ปจฺจยปริคฺคหา าตปริฺาย ภูมิ. เอตสฺมิฺหิ อนฺตเร ธมฺมานํ ปจฺจตฺตลกฺขณปฏิเวธสฺเสว อาธิปจฺจํ โหติ. กลาปสมฺมสนโต ปฏฺาย ยาว อุทยพฺพยานุปสฺสนา ตีรณปริฺาย ภูมิ. เอตสฺมิฺหิ อนฺตเร สามฺลกฺขณปฏิเวธสฺเสว อาธิปจฺจํ โหติ. ภงฺคานุปสฺสนโต ปฏฺาย อุปริ ปหานปริฺาย ภูมิ. ตโต จ ปฏฺาย หิ อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต นิจฺจสฺํ ปชหติ, ทุกฺขโต อนุปสฺสนฺโต สุขสฺํ, อนตฺตโต อนุปสฺสนฺโต อตฺตสฺํ, นิพฺพินฺทนฺโต นนฺทึ, วิรชฺชนฺโต ราคํ, นิโรเธนฺโต สมุทยํ, ปฏินิสฺสชฺชนฺโต อาทานํ ปชหตีติ เอวํ นิจฺจสฺาทิปหานสาธิกานํ สตฺตนฺนํ อนุปสฺสนานํ อาธิปจฺจํ. อิติ อิมาสุ ตีสุ ปริฺาสุ สงฺขารปริจฺเฉทสฺส เจว ปจฺจยปริคฺคหสฺส จ สาธิตตฺตา อิมินา โยคินา าตปริฺาว อธิคตา.
ปุน ‘‘ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา…เป… ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ รูปํ หุตฺวา อภาวโต อนิจฺจํ, อุทยพฺพยปฏิปีฬิตตฺตา ทุกฺขํ, อวสวตฺติตฺตา อนตฺตา. ยา กาจิ เวทนา… สฺา… เย เกจิ สงฺขารา ¶ … ยํ กิฺจิ วิฺาณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ วิฺาณํ หุตฺวา อภาวโต อนิจฺจํ, อุทยพฺพยปฏิปีฬิตตฺตา ทุกฺขํ, อวสวตฺติตฺตา อนตฺตา’’ติ เอวมาทินา (สํ. นิ. ๓.๔๘; ปฏิ. ม. ๑.๔๘) นเยน กลาปสมฺมสนํ กโรติ. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา’’ติ.
เอวํ สงฺขาเร อนิจฺจทุกฺขานตฺตวเสน กลาปสมฺมสนํ กตฺวา ปุน สงฺขารานํ อุทยพฺพยเมว ปสฺสติ. กถํ ¶ ? ‘‘อวิชฺชาสมุทยา รูปสมุทโย, ตณฺหากมฺมอาหารสมุทยา รูปสมุทโย’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๐). เอวํ รูปกฺขนฺธสฺส ปจฺจยายตฺตตาทสฺสเนน รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ, นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ. เอวํ ปฺจหากาเรหิ รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ. ‘‘อวิชฺชานิโรธา รูปนิโรโธ, ตณฺหากมฺมอาหารนิโรธา รูปนิโรโธ’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๐) ปจฺจยนิโรธทสฺสเนน รูปกฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสติ, วิปริณามลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ รูปกฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสตีติ เอวํ ปฺจหากาเรหิ รูปกฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสติ.
ตถา ‘‘อวิชฺชาสมุทยา เวทนาสมุทโย, ตณฺหากมฺมผสฺสสมุทยา เวทนาสมุทโย’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๐) ปจฺจยายตฺตตาทสฺสเนน เวทนากฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ, นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ ¶ เวทนากฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ. ‘‘อวิชฺชานิโรธา เวทนานิโรโธ, ตณฺหากมฺมผสฺสนิโรธา เวทนานิโรโธ’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๐) ปจฺจยนิโรธทสฺสเนน เวทนากฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสติ, วิปริณามลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ เวทนากฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสติ. เอวํ สฺากฺขนฺธาทีสุปิ.
อยํ ปน วิเสโส – วิฺาณกฺขนฺธสฺส ผสฺสฏฺาเน ‘‘นามรูปสมุทยา, นามรูปนิโรธา’’ติ โยเชตพฺพํ. เอวํ เอเกกสฺมึ ขนฺเธ ปจฺจยสมุทยวเสน จ นิพฺพตฺติลกฺขณวเสน จ ปจฺจยนิโรธวเสน จ วิปริณามลกฺขณวเสน จ อุทยพฺพยทสฺสเนน จ ทส ทส กตฺวา ปฺาส ลกฺขณานิ วุตฺตานิ. เตสํ วเสน ‘‘เอวมฺปิ รูปสฺส อุทโย, เอวมฺปิ รูปสฺส วโย’’ติ ปจฺจยโต เจว ขณโต จ วิตฺถาเรน มนสิการํ กโรติ.
ตสฺเสวํ กโรโต ‘‘อิติ กิร อิเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’’ติ าณํ วิสทํ โหติ. ‘‘เอวํ กิร อิเม ธมฺมา อนุปฺปนฺนา ¶ อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา นิรุชฺฌนฺตี’’ติ นิจฺจนวา หุตฺวา สงฺขารา อุปฏฺหนฺติ. น เกวลฺจ นิจฺจนวา, สูริยุคฺคมเน อุสฺสาวพินฺทุ วิย อุทกพุพฺพุโฬ วิย อุทเก ทณฺฑราชิ วิย อารคฺเค สาสโป วิย วิชฺชุปฺปาโท วิย จ ปริตฺตฏฺายิโน, มายามรีจิสุปินาลาตจกฺกคนฺธพฺพนครเผณกทลิอาทโย วิย อสารา นิสฺสารา วิย หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. เอตฺตาวตา จ ปน อเนน ‘‘วยธมฺมเมว อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนฺจ วยํ อุเปตี’’ติ อิมินา อากาเรน สมฺมสนปฺาย ลกฺขณานิ ¶ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิตํ อุทยพฺพยานุปสฺสนํ นาม ปมํ ตรุณวิปสฺสนาาณํ อธิคตํ โหติ. ยสฺสาธิคมา ‘‘อารทฺธวิปสฺสโก’’ติ สงฺขํ คจฺฉติ.
อถสฺส อารทฺธวิปสฺสกสฺส กุลปุตฺตสฺส โอภาโส าณํ ปีติ ปสฺสทฺธิ สุขํ อธิโมกฺโข ปคฺคโห อุปฏฺานํ อุเปกฺขา นิกนฺตีติ ทส วิปสฺสนุปกฺกิเลสา อุปฺปชฺชนฺติ. เอตฺถ โอภาโส นาม วิปสฺสนกฺขเณ าณสฺส พลวตฺตา โลหิตํ สนฺนิสีทติ, เตน จ จิตฺโตภาโส นิพฺพตฺตติ. ตํ ทิสฺวา อกุสโล โยคี ‘‘มคฺโค เม ปตฺโต’’ติ ตเมว โอภาสํ อสฺสาเทติ. าณมฺปิ วิปสฺสนาาณเมว. ตํ สงฺขาเร สมฺมสนฺตสฺส สุทฺธํ ปสนฺนํ หุตฺวา ปวตฺตติ. ตํ ทิสฺวา ปุพฺเพ วิย ‘‘มคฺโค’’ติ อสฺสาเทติ. ปีติปิ วิปสฺสนาปีติ เอว. ตสฺส หิ ตสฺมึ ขเณ ปฺจวิธา ปีติ อุปฺปชฺชติ. ปสฺสทฺธีติ วิปสฺสนาปสฺสทฺธิ. ตสฺมึ สมเย เนว กายจิตฺตานํ ทรโถ, น คารวํ, น กกฺขฬตา, น อกมฺมฺตา, น เคลฺตา, น ¶ วงฺกตา โหติ. สุขมฺปิ วิปสฺสนาสุขเมว. ตสฺส กิร ตสฺมึ สมเย สกลสรีรํ อภิสนฺทยมานํ อติปณีตํ สุขํ อุปฺปชฺชติ.
อธิโมกฺโข นาม วิปสฺสนกฺขเณ ปวตฺตา สทฺธา. ตสฺมิฺหิ ขเณ จิตฺตเจตสิกานํ อติวิย ปสาทภูตา พลวตี สทฺธา อุปฺปชฺชติ. ปคฺคโห นาม วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตํ วีริยํ. ตสฺมิฺหิ ขเณ อสิถิลํ อนจฺจารทฺธํ สุปคฺคหิตํ วีริยํ อุปฺปชฺชติ. อุปฏฺานนฺติ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สติ. ตสฺมิฺหิ ขเณ สุปฏฺิตา สติ อุปฺปชฺชติ. อุเปกฺขา ทุวิธา วิปสฺสนาวชฺชนวเสน. ตสฺมิฺหิ ขเณ สพฺพสงฺขารคหเณ มชฺฌตฺตภูตํ วิปสฺสนุเปกฺขาสงฺขาตํ าณํ พลวนฺตํ หุตฺวา อุปฺปชฺชติ มโนทฺวาราวชฺชนุเปกฺขา จ. สา จ ตํ ตํ ¶ านํ อาวชฺชนฺตสฺส สูรา ติขิณา หุตฺวา วหติ. นิกนฺตีติ ¶ วิปสฺสนานิกนฺติ. โอภาสาทีสุ หิ อาลยํ กุรุมานา สุขุมา สนฺตาการา นิกนฺติ อุปฺปชฺชติ. เอตฺถ โอภาสาทโย กิเลสวตฺถุตาย ‘‘อุปกฺกิเลสา’’ติ วุตฺตา น อกุสลตฺตา. นิกนฺติ ปน อุปกฺกิเลโส เจว กิเลสวตฺถุ จ.
ปณฺฑิโต ปน ภิกฺขุ โอภาสาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ วิกฺเขปํ อคจฺฉนฺโต ‘‘โอภาสาทโย ธมฺมา น มคฺโค, อุปกฺกิเลสวิมุตฺตํ ปน วีถิปฏิปนฺนํ วิปสฺสนาาณํ มคฺโค’’ติ มคฺคฺจ อมคฺคฺจ ววตฺถเปติ. ตสฺเสวํ ‘‘อยํ มคฺโค, อยํ น มคฺโค’’ติ ตฺวา ิตํ าณํ มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธีติ วุจฺจติ. อิโต ปฏฺาย อฏฺนฺนํ วิปสฺสนาาณานํ วเสน สิขาปตฺตวิปสฺสนาาณํ นวมฺจ สจฺจานุโลมิกํ าณนฺติ อยํ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิ นาม โหติ. อุทยพฺพยานุปสฺสนาาณํ ภงฺคานุปสฺสนาาณํ ภยตุปฏฺานาณํ อาทีนวานุปสฺสนาาณํ นิพฺพิทานุปสฺสนาาณํ มฺุจิตุกมฺยตาาณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาณํ สงฺขารุเปกฺขาาณนฺติ อิมานิ อฏฺ าณานิ นาม. นวมํ สจฺจานุโลมิกํ าณนฺติ อนุโลมสฺเสตํ นามํ.
ตสฺมา ตํ สมฺปาเทตุกาเมน อุปกฺกิเลสวิมุตฺตํ อุทยพฺพยาณํ อาทึกตฺวา เอเตสุ าเณสุ โยโค กรณีโย. อุทยพฺพยํ ปสฺสนฺตสฺส หิ อนิจฺจลกฺขณํ ยถาภูตํ อุปฏฺาติ, อุทยพฺพยปฏิปีฬนํ ปสฺสโต ทุกฺขลกฺขณฺจ, ‘‘ทุกฺขเมว หิ สมฺโภติ, ทุกฺขํ ติฏฺติ เวติ จา’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๗๑; กถา. ๒๓๓) ปสฺสโต อนตฺตลกฺขณฺจ.
เอตฺถ จ อนิจฺจํ อนิจฺจลกฺขณํ ทุกฺขํ ทุกฺขลกฺขณํ อนตฺตา อนตฺตลกฺขณนฺติ อยํ ¶ วิภาโค เวทิตพฺโพ. ตตฺถ อนิจฺจนฺติ ขนฺธปฺจกํ. กสฺมา? อุปฺปาทวยฺถตฺตภาวา, หุตฺวา อภาวโต วา. อฺถตฺตํ นาม ชรา. อุปฺปาทวยฺถตฺตํ อนิจฺจลกฺขณํ, หุตฺวา อภาวสงฺขาโต วา อาการวิกาโร. ‘‘ยทนิจฺจํ, ตํ ทุกฺข’’นฺติ วจนโต ตเทว ขนฺธปฺจกํ ทุกฺขํ. กสฺมา? อภิณฺหํ ปฏิปีฬนโต. อภิณฺหํ ปฏิปีฬนากาโร ทุกฺขลกฺขณํ. ‘‘ยํ ทุกฺขํ, ตทนตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๕-๑๖) วจนโต ตเทว ขนฺธปฺจกํ อนตฺตา. กสฺมา? อวสวตฺตนโต ¶ . อวสวตฺตนากาโร อนตฺตลกฺขณํ. อิมานิ ตีณิปิ ลกฺขณานิ อุทยพฺพยํ ปสฺสนฺตสฺเสว อารมฺมณานิ โหนฺติ.
ปุนปิ ¶ โส รูปารูปธมฺเม ‘‘เอวํ อนิจฺจา’’ติอาทินา วิปสฺสติ, ตสฺส สงฺขารา ลหุํ ลหุํ อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, ตโต อุปฺปาทํ วา ิตึ วา ปวตฺตํ วา นิมิตฺตํ วา อารมฺมณํ อกตฺวา เตสํ ขยวยนิโรเธ เอว สติ สนฺติฏฺติ, อิทํ ภงฺคาณํ นาม. อิมสฺส อุปฺปาทโต ปฏฺาย อยํ โยคี ‘‘ยถา อิเม สงฺขารา ภิชฺชนฺติ นิรุชฺฌนฺติ, เอวํ อตีเตปิ สงฺขารคตํ ภิชฺชิ, อนาคเตปิ ภิชฺชิสฺสตี’’ติ นิโรธเมว ปสฺสนฺโต ติฏฺติ. ตสฺส ภงฺคานุปสฺสนาาณํ อาเสวนฺตสฺส พหุลีกโรนฺตสฺส สพฺพภวโยนิ คติฏฺิติ สตฺตาวาเสสุ ปเภทกา สงฺขารา ชลิตองฺคารกาสุอาทโย วิย มหาภยํ หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. เอตํ ภยตุปฏฺานาณํ นาม.
ตสฺส ตํ ภยตุปฏฺานาณํ อาเสวนฺตสฺส สพฺเพ ภวาทโย อาทิตฺตองฺคารํ วิย สมุสฺสิตขคฺโค วิย ปจฺจตฺถิโก อปฺปฏิสรณา สาทีนวา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. อิทํ อาทีนวานุปสฺสนาาณํ นาม. ตสฺส เอวํ สงฺขาเร อาทีนวโต ปสฺสนฺตสฺส ภวาทีสุปิ สงฺขารานํ อาทีนวตฺตา สงฺขาเรสุ อุกฺกณฺนา อนภิรติ อุปฺปชฺชติ, อิทํ นิพฺพิทานุปสฺสนาาณํ นาม.
สพฺพสงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทนฺตสฺส อุกฺกณฺนฺตสฺส ตสฺมา สงฺขารคตา มฺุจิตุกามตา นิสฺสริตุกามตา โหติ. อิทํ มฺุจิตุกมฺยตาาณํ นาม. ปุน ตสฺมา สงฺขารคตา มฺุจิตุํ ปน เต เอว สงฺขาเร ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาเณน ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา ตีรณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาณํ นาม.
โส เอวํ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา สงฺขาเร ปริคฺคณฺหนฺโต เตสุ อนตฺตลกฺขณสฺส สุทิฏฺตฺตา ‘‘อตฺตา’’ติ วา ‘‘อตฺตนิย’’นฺติ วา อคณฺหนฺโต สงฺขาเรสุ ภยฺจ นนฺทิฺจ ปหาย สงฺขาเรสุ อุทาสีโน โหติ มชฺฌตฺโต, ‘‘อห’’นฺติ วา ‘‘มม’’นฺติ วา น คณฺหาติ, ตีสุ ภเวสุ อุเปกฺขโก, อิทํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ นาม.
ตํ ¶ ปเนส เจ สนฺติปทํ นิพฺพานํ สนฺตโต ปสฺสติ, สพฺพสงฺขารปวตฺตํ วิสฺสชฺเชตฺวา นิพฺพานนินฺนํ ปกฺขนฺทํ โหติ. โน เจ นิพฺพานํ สนฺตโต ปสฺสติ, ปุนปฺปุนํ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ วา ‘‘ทุกฺข’’นฺติ วา ‘‘อนตฺตา’’ติ วา ติวิธานุปสฺสนาวเสน ¶ สงฺขารารมฺมณเมว หุตฺวา ปวตฺตติ. เอวํ ติฏฺมานฺจ เอตํ ติวิธวิโมกฺขมุขภาวํ อาปชฺชิตฺวา ติฏฺติ. ติสฺโส หิ อนุปสฺสนา ‘‘ตีณิ วิโมกฺขมุขานี’’ติ วุจฺจนฺติ. เอวํ อนิจฺจโต มนสิกโรนฺโต อธิโมกฺขพหุโล อนิมิตฺตํ วิโมกฺขํ ปฏิลภติ, ทุกฺขโต มนสิกโรนฺโต ปสฺสทฺธิพหุโล ¶ อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขํ ปฏิลภติ, อนตฺตโต มนสิกโรนฺโต เวทพหุโล สฺุตํ วิโมกฺขํ ปฏิลภติ.
เอตฺถ จ อนิมิตฺโต วิโมกฺโขติ อนิมิตฺตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อริยมคฺโค. โส หิ อนิมิตฺตาย ธาตุยา อุปฺปนฺนตฺตา อนิมิตฺโต, กิเลเสหิ จ วิมุตฺตตฺตา วิโมกฺโข. เอเตเนว นเยน อปฺปณิหิตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อปฺปณิหิโต, สฺุตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต สฺุโตติ เวทิตพฺโพ.
เอวํ อธิคตสงฺขารุเปกฺขสฺส กุลปุตฺตสฺส วิปสฺสนา สิขาปฺปตฺตา โหติ. วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาติ เอตเทว. อสฺส ตํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ อาเสวนฺตสฺส ติกฺขตรา สงฺขารุเปกฺขา อุปฺปชฺชติ. ตสฺส ‘‘อิทานิ มคฺโค อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ สงฺขาเร ‘‘อนิจฺจา’’ติ วา ‘‘ทุกฺขา’’ติ วา ‘‘อนตฺตา’’ติ วา สมฺมสิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ, ภวงฺคานนฺตรํ สงฺขารุเปกฺขาย กถิตนเยเนว อนิจฺจาทิอากาเรน มนสิกริตฺวา อุปฺปชฺชติ มโนทฺวาราวชฺชนํ, ตเถว มนสิกโรโต ปมํ ชวนจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ยํ ปริกมฺมนฺติ วุจฺจติ, ตทนนฺตรํ ตเทว ทุติยชวนจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ยํ อุปจารนฺติ วุจฺจติ, ตทนนฺตรมฺปิ ตเทว อุปฺปชฺชติ ตติยํ ชวนจิตฺตํ. ยํ อนุโลมนฺติ วุจฺจติ, อิทํ เตสํ ปาฏิเอกฺกํ นาม.
อวิเสเสน ปน ติวิธมฺเปตํ ‘‘อาเสวน’’นฺติปิ ‘‘ปริกมฺม’’นฺติปิ ‘‘อุปจาร’’นฺติปิ ‘‘อนุโลม’’นฺติปิ วุจฺจติ. อิทํ ปน อนุโลมาณํ สงฺขารารมฺมณาย วุฏฺานคามินิยา วิปสฺสนาย ปริโยสานํ โหติ, นิปฺปริยาเยน ปน โคตฺรภุาณเมว วิปสฺสนาย ปริโยสานนฺติ วุจฺจติ. ตโต ปรํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กุรุมานํ ปุถุชฺชนโคตฺตํ อติกฺกมมานํ อริยโคตฺตํ โอกฺกมมานํ นิพฺพานารมฺมเณ ปมสมนฺนาหารภูตํ อปุนราวฏฺฏกํ ¶ โคตฺรภุาณํ อุปฺปชฺชติ. อิทํ ปน าณํ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิฺจ าณทสฺสนวิสุทฺธิฺจ น ภชติ. อนฺตรา อพฺโพหาริกเมว โหติ. วิปสฺสนาโสเต ปติตตฺตา ‘‘ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธี’’ติ วา ‘‘วิปสฺสนา’’ติ วา สงฺขํ คจฺฉติ. นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา โคตฺรภุาเณ นิรุทฺเธ เตน ทินฺนสฺาย นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ทิฏฺิสํโยชนํ ¶ ¶ สีลพฺพตปรามาสสํโยชนํ วิจิกิจฺฉาสํโยชนนฺติ ตีณิ สํโยชนานิ วิทฺธํเสนฺโต โสตาปตฺติมคฺโค อุปฺปชฺชติ, ตทนนฺตรํ ตสฺเสว วิปากภูตานิ ทฺเว ตีณิ วา ผลจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ อนนฺตรวิปากตฺตา โลกุตฺตรกุสลานํ, ผลปริโยสาเน ปนสฺส อุปฺปนฺนภวงฺคํ วิจฺฉินฺทิตฺวา ปจฺจเวกฺขณตฺถาย มโนทฺวาราวชฺชนํ อุปฺปชฺชติ. โส หิ ‘‘อิมินา วตาหํ มคฺเคน อาคโต’’ติ มคฺคํ ปจฺจเวกฺขติ. ตโต ‘‘เม อยํ อานิสํโส ลทฺโธ’’ติ ผลํ ปจฺจเวกฺขติ. ตโต ‘‘อิเม นาม กิเลสา ปหีนา’’ติ ปหีนกิเลเส ปจฺจเวกฺขติ. ตโต ‘‘อิเม นาม กิเลสา อวสิฏฺา’’ติ อุปริมคฺคตฺตยวชฺฌกิเลเส ปจฺจเวกฺขติ. อวสาเน จ ‘‘อยํ ธมฺโม มยา ปฏิวิทฺโธ’’ติ อมตํ นิพฺพานํ ปจฺจเวกฺขติ. อิติ โสตาปนฺนสฺส อริยสาวกสฺส ปฺจ ปจฺจเวกฺขณานิ โหนฺติ. ตถา สกทาคามิอนาคามิผลาวสาเน. อรหตฺตผลาวสาเน อวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขณํ นาม นตฺถิ. เอวํ สพฺพานิปิ เอกูนวีสติปจฺจเวกฺขณานิ โหนฺติ.
เอวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา โส โยคาวจโร ตสฺมึเยว อาสเน นิสินฺโน วุตฺตนเยน วิปสฺสิตฺวา กามราคพฺยาปาทานํ ตนุภาวํ กโรนฺโต ทุติยมคฺคํ ปาปุณาติ, ตทนนฺตรํ วุตฺตนเยเนว ผลฺจ. ตโต วุตฺตนเยน วิปสฺสิตฺวา กามราคพฺยาปาทานํ อนวเสสปฺปหานํ กโรนฺโต ตติยมคฺคํ ปาปุณาติ, วุตฺตนเยน ผลฺจ. ตโต ตสฺมึเยวาสเน วุตฺตนเยน วิปสฺสิตฺวา รูปราคารูปราคมานุทฺธจฺจาวิชฺชานํ อนวเสสปฺปหานํ กโรนฺโต จตุตฺถมคฺคํ ปาปุณาติ, วุตฺตนเยน ผลฺจ. เอตฺตาวตา เจส โหติ อรหา มหาขีณาสโว ปจฺเจกพุทฺโธ. อิติ อิเมสุ จตูสุ มคฺเคสุ าณํ าณทสฺสนวิสุทฺธิ นาม.
เอตฺตาวตา ‘‘สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ อวิเหยํ อฺตรมฺปิ ¶ เตส’’นฺติ เอเตน ปาติโมกฺขสํวราทิสีลสฺส วุตฺตตฺตา สีลวิสุทฺธิ. ‘‘น ปุตฺตมิจฺเฉยฺย กุโต สหาย’’นฺติ เอเตน ปฏิฆานุนยวิวชฺชนวเสน เมตฺตาทีนํ วุตฺตตฺตา จิตฺตวิสุทฺธิ. ‘‘เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป’’ติ อิมินา ปน นามรูปปริคฺคหาทีนํ วุตฺตตฺตา ทิฏฺิวิสุทฺธิ กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิ มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธิ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิ าณทสฺสนวิสุทฺธีติ สตฺต วิสุทฺธิโย วุตฺตา โหนฺติ. อยเมตฺถ มุขมตฺตนิทสฺสนํ, วิตฺถารํ ปน อิจฺฉนฺเตน ¶ วิสุทฺธิมคฺคํ (วิสุทฺธิ. ๒.๖๖๒, ๖๗๘, ๖๙๒, ๗๓๗, ๘๐๖ อาทโย) โอโลเกตฺวา คเหตพฺพํ. เอตฺตาวตา เจโส ปจฺเจกพุทฺโธ –
‘‘จาตุทฺทิโส ¶ อปฺปฏิโฆ จ โหติ, สนฺตุสฺสมาโน อิตรีตเรน;
ปริสฺสยานํ สหิตา อฉมฺภี, เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป’’ติ. (สุ. นิ. ๔๒; จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๒๘) –
ปสํสิยาทิภาวํ อาปชฺชิตฺวา คนฺธมาทนปพฺพตํ อุปโสภยมาโน วิหาสินฺติ เอวํ สพฺพตฺถ.
ปมคาถานิทฺเทสวณฺณนา.
๑๒๒. ทุติเย สํสคฺคชาตสฺสาติ ชาตสํสคฺคสฺส. ตตฺถ ทสฺสนสวนกายสมุลฺลปนสมฺโภควเสน ปฺจวิโธ สํสคฺโค. ตตฺถ อฺมฺํ ทิสฺวา จกฺขุวิฺาณวีถิวเสน อุปฺปนฺนราโค ทสฺสนสํสคฺโค นาม. ตตฺถ สีหฬทีเป กาฬทีฆวาปีคาเม ปิณฺฑาย จรนฺตํ กลฺยาณวิหารวาสึ ทหรภิกฺขุํ ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺตา เกนจิ อุปาเยน ตํ อลภิตฺวา กาลกตา กุฏุมฺพิยธีตา ตสฺสา นิวาสนโจฬกฺขณฺฑํ ทิสฺวา ‘‘เอวรูปาย วตฺถธารินิยา นาม สทฺธึ สํวาสํ นาลตฺถ’’นฺติ หทยํ ผาเลตฺวา กาลกโต โส เอว จ ทหโร นิทสฺสนํ.
ปเรหิ ปน กถิยมานํ รูปาทิสมฺปตฺตึ อตฺตนา วา หสิตลปิตคีตสทฺทํ ¶ สุตฺวา โสตวิฺาณวีถิวเสน อุปฺปนฺโน ราโค สวนสํสคฺโค นาม. ตตฺราปิ คิริคามวาสีกมฺมารธีตาย ปฺจหิ กุมารีหิ สทฺธึ ปทุมสฺสรํ คนฺตฺวา นฺหายิตฺวา มาลํ สีเส อาโรเปตฺวา อุจฺจาสทฺเทน คายนฺติยา อากาเสน คจฺฉนฺโต สทฺทํ สุตฺวา กามราเคน ฌานา ปริหายิตฺวา อนยพฺยสนํ ปตฺโต ปฺจคฺคฬเลณวาสี ติสฺสทหโร นิทสฺสนํ.
อฺมฺํ องฺคปรามสเนน อุปฺปนฺนราโค กายสํสคฺโค นาม. ธมฺมคายนทหรภิกฺขุ เจตฺถ นิทสฺสนํ. มหาวิหาเร กิร ทหรภิกฺขุ ธมฺมํ ภาสติ, ตตฺถ มหาชเน อาคเต ราชาปิ อคมาสิ สทฺธึ อนฺเตปุเรน. ตโต ราชธีตาย ตสฺส รูปฺจ สทฺทฺจ อาคมฺม พลวราโค อุปฺปนฺโน ตสฺส จ ทหรสฺสาปิ. ตํ ทิสฺวา ราชา สลฺลกฺเขตฺวา สาณิปากาเรน ปริกฺขิปาเปสิ, ¶ เต อฺมฺํ ปรามสิตฺวา อาลิงฺคิสุ. ปุน สาณิปาการํ อปเนตฺวา ปสฺสนฺตา ทฺเวปิ กาลกเตเยว อทฺทสํสูติ.
อฺมฺํ อาลปนสมุลฺลปเน อุปฺปนฺนราโค ปน สมุลฺลปนสํสคฺโค นาม. ภิกฺขุภิกฺขุนีหิ สทฺธึ ปริโภคกรเณ อุปฺปนฺนราโค สมฺโภคสํสคฺโค นาม. ทฺวีสุปิ จ เอเตสุ มริจวฏฺฏิวิหาเร ¶ ภิกฺขุ จ ภิกฺขุนี จ นิทสฺสนํ. มริจวฏฺฏิมหาวิหารมเห กิร ทุฏฺคามณิ อภยมหาราชา มหาทานํ ปฏิยาเทตฺวา อุภโตสงฺฆํ ปริวิสติ. ตตฺถ อุณฺหยาคุยา ทินฺนาย สงฺฆนวกสามเณรี อนาธารกสฺส สตฺตวสฺสิกสงฺฆนวกสามเณรสฺส ทนฺตวลยํ ทตฺวา สมุลฺลาปํ อกาสิ, เต อุโภปิ อุปสมฺปชฺชิตฺวา สฏฺิวสฺสา หุตฺวา ปรตีรํ คตา อฺมฺํ สมุลฺลาเปน ปุพฺพสฺํ ปฏิลภิตฺวา ตาวเทว ชาตสิเนหา สิกฺขาปทานิ วีติกฺกมิตฺวา ปาราชิกา อเหสุนฺติ.
เอวํ ปฺจวิเธ สํสคฺเค เยน เกนจิ สํสคฺเคน ชาตสํสคฺคสฺส ภวนฺติ สฺเนหา, ปุริมราคปจฺจยา พลวราโค อุปฺปชฺชติ. ตโต สฺเนหนฺวยํ ทุกฺขมิทํ ปโหตีติ ตเมว สฺเนหํ อนุคจฺฉนฺตํ สนฺทิฏฺิกสมฺปรายิกโสกปริเทวาทินานปฺปการกํ ทุกฺขมิทํ ปโหติ นิพฺพตฺตติ ภวติ ¶ ชายติ. อปเร ปน ‘‘อารมฺมเณ จิตฺตโวสคฺโค สํสคฺโค’’ติ ภณนฺติ. ตโต สฺเนโห สฺเนหทุกฺขนฺติ.
เอวมตฺถปฺปเภทํ อิมํ อฑฺฒคาถํ วตฺวา โส ปจฺเจกพุทฺโธ อาห – ‘‘สฺวาหํ ยมิทํ สฺเนหนฺวยํ โสกาทิทุกฺขํ ปโหติ, ตสฺส ทุกฺขสฺส มูลํ ขนนฺโต ปจฺเจกสมฺโพธึ อธิคโต’’ติ. เอวํ วุตฺเต เต อมจฺจา อาหํสุ – ‘‘อมฺเหหิ ทานิ, ภนฺเต, กึ กตฺตพฺพ’’นฺติ? ตโต โส อาห – ‘‘ตุมฺเห วา อฺเ วา โย อิมมฺหา ทุกฺขา มุจฺจิตุกาโม, โส สพฺโพปิ อาทีนวํ สฺเนหชํ เปกฺขมาโน, เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโปติ. เอตฺถ จ ยํ ตํ ‘‘สฺเนหนฺวยํ ทุกฺขมิทํ ปโหตี’’ติ วุตฺตํ, ตเทว สนฺธาย ‘‘อาทีนวํ สฺเนหชํ เปกฺขมาโน’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อถ วา ยถาวุตฺเตน สํสคฺเคน สํสคฺคชาตสฺส ภวนฺติ สฺเนหา, สฺเนหนฺวยํ ทุกฺขมิทํ ปโหติ, เอวํ ยถาภูตํ อาทีนวํ สฺเนหชํ เปกฺขมาโน อหํ อธิคโตติ เอวมฺปิ อภิสมฺพนฺธิตฺวา จตุตฺถปาโท ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว อุทานวเสน วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. ตโต ปรํ สพฺพํ ปุริมคาถาย วุตฺตสทิสเมวาติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๓๖).
นิทฺเทเส ¶ อนุปฺปาเทตีติ รูปสฺมึ อนุพฺยฺชนํ ทิสฺวา อลฺลียติ. อนุพนฺธตีติ รูปสฺมึ สฺเนหวเสน พนฺธติ. ภวนฺตีติ โหนฺติ. ชายนฺตีติ อุปฺปชฺชนฺติ. นิพฺพตฺตนฺตีติ วตฺตนฺติ. ปาตุภวนฺตีติ ปากฏา โหนฺติ. สมฺภวนฺติ สฺชายนฺติ อภินิพฺพตฺตนฺตีติ ตีณิ อุปสคฺเคน วฑฺฒิตานิ. อิโต ปรํ อฏฺกวคฺเค (มหานิ. ๑ อาทโย) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
ทุติยคาถานิทฺเทสวณฺณนา.
๑๒๓. ตติเย ¶ เมตฺตายนวเสน มิตฺตา. สุหทภาเวน สุหชฺชา. เกจิ หิ เอกนฺตหิตกามตาย มิตฺตาว โหนฺติ, น สุหชฺชา. เกจิ คมนาคมนฏฺานนิสชฺชาสมุลฺลาปาทีสุ หทยสุขชนเนน สุหชฺชาว โหนฺติ, น มิตฺตา. เกจิ ตทุภยวเสน สุหชฺชา เจว มิตฺตา จ. เต ทุวิธา โหนฺติ อคาริยา จ อนคาริยา จ. ตตฺถ อคาริยา ติวิธา โหนฺติ อุปการา สมานสุขทุกฺขา อนุกมฺปกาติ. อนคาริยา วิเสเสน อตฺถกฺขายิโน ¶ . เอวํ เต จตูหิ จตูหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตา โหนฺติ.
ยถาห –
‘‘จตูหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ อุปกาโร มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ. ปมตฺตํ รกฺขติ, ปมตฺตสฺส สาปเตยฺยํ รกฺขติ, ภีตสฺส สรณํ โหติ, อุปฺปนฺเนสุ กิจฺจกรณีเยสุ ตทฺทิคุณํ โภคํ อนุปฺปเทติ (ที. นิ. ๓.๒๖๑).
ตถา –
‘‘จตูหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ สมานสุขทุกฺโข มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ. คุยฺหมสฺส อาจิกฺขติ, คุยฺหมสฺส ปริคูหติ, อาปทาสุ น วิชหติ, ชีวิตมฺปิสฺส อตฺถาย ปริจฺจตฺตํ โหติ (ที. นิ. ๓.๒๖๒).
ตถา –
‘‘จตูหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ อนุกมฺปโก มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ. อภเวนสฺส น นนฺทติ, ภเวนสฺส นนฺทติ, อวณฺณํ ภณมานํ นิวาเรติ, วณฺณํ ภณมานํ ปสํสติ (ที. นิ. ๓.๒๖๔).
ตถา ¶ –
‘‘จตูหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ อตฺถกฺขายี มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ. ปาปา นิวาเรติ, กลฺยาเณ นิเวเสติ, อสฺสุตํ สาเวติ, สคฺคสฺส มคฺคํ อาจิกฺขตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๒๖๓).
เตสุ อิธ อคาริยา อธิปฺเปตา, อตฺถโต ปน สพฺเพปิ ยุชฺชนฺติ. เต มิตฺเต สุหชฺเช. อนุกมฺปมาโนติ อนุทยมาโน, เตสํ สุขํ อุปสํหริตุกาโม ทุกฺขํ อปหริตุกาโม.
หาเปติ ¶ อตฺถนฺติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺถวเสน ติวิธํ, ตถา อตฺตตฺถปรตฺถอุภยตฺถวเสนาปิ ติวิธํ อตฺถํ ลทฺธวินาสเนน อลทฺธานุปฺปาทเนนาติ ทฺวิธาปิ หาเปติ วินาเสติ. ปฏิพทฺธจิตฺโตติ ‘‘อหํ อิมํ วินา น ชีวามิ, เอโส เม คติ, เอโส เม ปรายณ’’นฺติ เอวํ อตฺตานํ นีเจ าเน เปนฺโตปิ ปฏิพทฺธจิตฺโต โหติ. ‘‘อิเม มํ วินา น ชีวนฺติ, อหํ เตสํ คติ, อหํ เตสํ ปรายณ’’นฺติ เอวํ อตฺตานํ อุจฺเจ าเน เปนฺโตปิ ปฏิพทฺธจิตฺโต โหติ. อิธ ปน เอวํ ปฏิพทฺธจิตฺโต อธิปฺเปโต.
เอตํ ภยนฺติ เอตํ อตฺถหาปนภยํ, อตฺตโน สมาปตฺติหานึ สนฺธาย ภณติ. สนฺถเวติ ติวิโธ สนฺถโว ตณฺหาทิฏฺิมิตฺตสนฺถววเสน. ตตฺถ อฏฺสตปฺปเภทาปิ ตณฺหา ตณฺหาสนฺถโว, ทฺวาสฏฺิปฺปเภทาปิ ทิฏฺิ ทิฏฺิสนฺถโว, ปฏิพทฺธจิตฺตตาย มิตฺตานุกมฺปนา มิตฺตสนฺถโว. โส อิธ อธิปฺเปโต ¶ . เตน หิสฺส สมาปตฺติ ปริหีนา. เตนาห – ‘‘เอตํ ภยํ สนฺถเว เปกฺขมาโน’’ติ. เสสํ ปุพฺพสทิสเมวาติ เวทิตพฺพํ. นิทฺเทเส วตฺตพฺพํ นตฺถิ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๓๗; อป. อฏฺ. ๑.๑.๙๓-๙๔).
ตติยคาถานิทฺเทสวณฺณนา.
๑๒๔. จตุตฺเถ วํโสติ เวฬุ. วิสาโลติ วิตฺถิณฺโณ. ว-กาโร อวธารณตฺโถ, เอวกาโร วา อยํ. สนฺธิวเสเนตฺถ เอ-กาโร นฏฺโ. ตสฺส ปรปเทน สมฺพนฺโธ, ตํ ปจฺฉา โยเชสฺสาม. ยถาติ ปฏิภาเค. วิสตฺโตติ ลคฺโค ชฏิโต สํสิพฺพิโต. ปุตฺเตสุ ทาเรสุ จาติ ปุตฺตธีตุภริยาสุ. ยา อเปกฺขาติ ยา ตณฺหา โย สฺเนโห ¶ . วํสกฺกฬีโรว อสชฺชมาโนติ วํสกฬีโร วิย อลคฺคมาโน. กึ วุตฺตํ โหติ? ยถา วํโส วิสาโล วิสตฺโต เอว โหติ, ปุตฺเตสุ จ ทาเรสุ จ ยา อเปกฺขา, สาปิ เอวํ ตานิ วตฺถูนิ สํสิพฺพิตฺวา ิตตฺตา วิสตฺตา เอว. สฺวาหํ ตาย อเปกฺขาย อเปกฺขวา วิสาโล วํโส วิย วิสตฺโตติ เอวํ อเปกฺขาย อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ อเปกฺขํ มคฺคาเณน ฉินฺทนฺโต อยํ วํสกฬีโรว รูปาทีสุ วา ทิฏฺาทีสุ วา ลาภาทีสุ วา กามภวาทีสุ วา ตณฺหามานทิฏฺิวเสน อสชฺชมาโน ปจฺเจกสมฺโพธึ อธิคโตติ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิมายปิ นิทฺเทเส อติเรกํ นตฺถิ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๓๘).
จตุตฺถคาถานิทฺเทสวณฺณนา.
๑๒๕. ปฺจเม มิโคติ สพฺเพสํ อารฺิกจตุปฺปทานํ เอว เอตํ อธิวจนํ. อิธ ปน ปสทมิโค ¶ อธิปฺเปโต. อรฺมฺหีติ คามฺจ คามูปจารฺจ เปตฺวา อวเสสํ อรฺํ, อิธ ปน อุยฺยานํ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา ‘‘อุยฺยานมฺหี’’ติ วุตฺตํ โหติ. ยถาติ ปฏิภาเค. อพทฺโธติ รชฺชุพนฺธนาทีสุ เยน เกนจิ อพทฺโธ. เอเตน วิสฺสฏฺจริยํ ทีเปติ. เยนิจฺฉกํ คจฺฉติ โคจรายาติ เยน ทิสาภาเคน คนฺตุํ อิจฺฉติ, เตน โคจรตฺถํ คจฺฉติ. ตสฺมา ตตฺถ ยตฺตกํ อิจฺฉติ คนฺตุํ, ตตฺตกํ คจฺฉติ. ยํ อิจฺฉติ ขาทิตุํ, ตํ ขาทตีติ ทีเปติ. วิฺู นโรติ ปณฺฑิตปุริโส. เสริตนฺติ ¶ สจฺฉนฺทวุตฺติตํ อปรายตฺตภาวํ. เปกฺขมาโนติ ปฺาจกฺขุนา โอโลกยมาโน. อถ วา ธมฺมเสริตํ ปุคฺคลเสริตฺจ. โลกุตฺตรธมฺมา หิ กิเลสวสํ อคมนโต เสริโน เตหิ สมนฺนาคตา ปุคฺคลา จ, เตสํ ภาวนิทฺเทโส เสริตํ เปกฺขมาโนติ. กึ วุตฺตํ โหติ? มิโค อรฺมฺหิ ยถา อพทฺโธ, เยนิจฺฉกํ คจฺฉติ โคจราย. กทา นุ โข อหมฺปิ ตณฺหาพนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา เอวํ คจฺเฉยฺยนฺติ อิติ เม ตุมฺเหหิ อิโต จิโต จ ปริวาเรตฺวา ิเตหิ พทฺธสฺส เยนิจฺฉกํ คนฺตุํ อลภนฺตสฺส ตสฺมึ เยนิจฺฉกคมนาภาเว อาทีนวํ เยนิจฺฉกคมเน อานิสํสํ ทิสฺวา อนุกฺกเมน สมถวิปสฺสนาปาริปูรึ อคมึ. ตโต ปจฺเจกโพธึ อธิคโตมฺหิ. ตสฺมา อฺโปิ วิฺู นโร เสริตํ เปกฺขมาโน, เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโปติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๓๙ อาทโย).
ปฺจมคาถานิทฺเทสวณฺณนา.
๑๒๖. ฉฏฺเ ¶ อยํ ปิณฺฑตฺโถ – สหายมชฺเฌ ิตสฺส ทิวาเสยฺยสงฺขาเต วาเส จ มหาอุปฏฺานสงฺขาเต าเน จ อุยฺยานคมนสงฺขาเต คมเน จ ชนปทจาริกสงฺขาตาย จาริกาย จ ‘‘อิทํ เม สุณ, อิทํ เม เทหี’’ติอาทินา นเยน ตถา ตถา อามนฺตนา โหติ, ตสฺมา อหํ ตตฺถ ตตฺถ นิพฺพิชฺชิตฺวา ยายํ อริยชนเสวิตา อเนกานิสํสา เอกนฺตสุขา, เอวํ สนฺเตปิ โลภาภิภูเตหิ สพฺพกาปุริเสหิ อนภิชฺฌิตา อปตฺถิตา ปพฺพชฺชา, ตํ อนภิชฺฌิตํ ปเรสํ อวสวตฺตเนน ภพฺพปุคฺคลวเสเนว จ เสริตํ เปกฺขมาโน วิปสฺสนํ อารภิตฺวา อนุกฺกเมน ปจฺเจกสมฺโพธึ อธิคโตติ. เสสํ วุตฺตนยเมว (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๓๙-๔๒).
ฉฏฺคาถานิทฺเทสวณฺณนา.
๑๒๗. สตฺตเม ขิฑฺฑาติ กีฬนา. สา ทุวิธา โหติ กายิกา จ วาจสิกา จ. ตตฺถ ¶ กายิกา นาม หตฺถีหิปิ กีฬนฺติ, อสฺเสหิปิ รเถหิปิ ธนูหิปิ ถรูหิปีติ เอวมาทิ. วาจสิกา นาม คีตํ สิโลกภณนํ ¶ มุขเภริกนฺติ เอวมาทิ. รตีติ ปฺจกามคุณรติ. วิปุลนฺติ ยาว อฏฺิมิฺชํ อาหจฺจ าเนน สกลตฺตภาวพฺยาปกํ. เสสํ ปากฏเมว. อนุสนฺธิโยชนาปิ เจตฺถ สํสคฺคคาถาย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๔๑).
สตฺตมคาถานิทฺเทสวณฺณนา.
๑๒๘. อฏฺเม จาตุทฺทิโสติ จตูสุ ทิสาสุ ยถาสุขวิหารี, ‘‘เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๕๕๖; ๓.๓๐๘; อ. นิ. ๔.๑๒๕; วิภ. ๖๔๓; จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๒๘) วา นเยน พฺรหฺมวิหารภาวนาผริตา จตสฺโส ทิสา อสฺส สนฺตีติปิ จาตุทฺทิโส. ตาสุ ทิสาสุ กตฺถจิ สตฺเต วา สงฺขาเร วา ภเยน น ปฏิหฺตีติ อปฺปฏิโฆ. สนฺตุสฺสมาโนติ ทฺวาทสวิธสฺส สนฺโตสสฺส วเสน สนฺตุสฺสโก. อิตรีตเรนาติ อุจฺจาวเจน ปจฺจเยน. ปริสฺสยานํ สหิตา อฉมฺภีติ เอตฺถ ปริสฺสยนฺติ กายจิตฺตานิ, ปริหาเปนฺติ วา เตสํ สมฺปตฺตึ, ตานิ วา ปฏิจฺจ สยนฺตีติ ปริสฺสยา, พาหิรานํ สีหพฺยคฺฆาทีนํ อพฺภนฺตรานฺจ กามจฺฉนฺทาทีนํ กายจิตฺตุปทฺทวานํ เอตํ อธิวจนํ. เต ปริสฺสเย อธิวาสนขนฺติยา จ วีริยาทีหิ จ ธมฺเมหิ สหตีติ ปริสฺสยานํ สหิตา. ถทฺธภาวกรภยาภาเวน ¶ อฉมฺภี. กึ วุตฺตํ โหติ? ยถา เต จตฺตาโร สมณา, เอวํ อิตรีตเรน ปจฺจเยน สนฺตุสฺสมาโน เอตฺถ ปฏิปตฺติปทฏฺาเน สนฺโตเส ิโต จตูสุ ทิสาสุ เมตฺตาทิภาวนาย จาตุทฺทิโส, สตฺตสงฺขาเรสุ ปฏิหนนกรภยาภาเวน อปฺปฏิโฆ จ โหติ. โส จาตุทฺทิสตฺตา วุตฺตปฺปการานํ ปริสฺสยานํ สหิตา, อปฺปฏิฆตฺตา อฉมฺภี จ โหตีติ เอตํ ปฏิปตฺติคุณํ ทิสฺวา โยนิโส ปฏิปชฺชิตฺวา ปจฺเจกสมฺโพธึ อธิคโตมฺหีติ.
อถ วา เต สมณา วิย สนฺตุสฺสมาโน อิตรีตเรน วุตฺตนเยเนว จาตุทฺทิโส โหตีติ ตฺวา เอวํ จาตุทฺทิสภาวํ ปตฺถยนฺโต โยนิโส ปฏิปชฺชิตฺวา อธิคโตมฺหิ. ตสฺมา อฺโปิ อีทิสํ านํ ปตฺถยมาโน จาตุทฺทิสตาย ปริสฺสยานํ สหิตา อปฺปฏิฆตาย จ อฉมฺภี หุตฺวา เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโปติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๔๒).
นิทฺเทเส เมตฺตาติ อตฺถโต ตาว มิชฺชตีติ เมตฺตา, สิเนหตีติ อตฺโถ. มิตฺเต วา ภวา, มิตฺตสฺส วา เอสา ปวตฺตีติปิ เมตฺตา. เมตฺตาสหคเตนาติ ¶ เมตฺตาย สมนฺนาคเตน. เจตสาติ จิตฺเตน. เอกํ ทิสนฺติ เอกิสฺสา ทิสาย ปมปริคฺคหิตํ สตฺตํ อุปาทาย เอกํ ทิสํ ปริยาปนฺนสตฺตผรณวเสน ¶ วุตฺตํ. ผริตฺวาติ ผุสิตฺวา อารมฺมณํ กตฺวา. วิหรตีติ พฺรหฺมวิหาราธิฏฺิตํ อิริยาปถวิหารํ ปวตฺเตติ. ตถา ทุติยนฺติ ยถา ปุรตฺถิมาทีสุ ทิสาสุ ยํ กิฺจิ เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตเถว ตทนนฺตรํ ทุติยํ ตติยํ จตุตฺถฺจาติ อตฺโถ.
อิติ อุทฺธนฺติ เอเตเนว จ นเยน อุปริมํ ทิสนฺติ วุตฺตํ โหติ. อโธ ติริยนฺติ อโธทิสมฺปิ ติริยํ ทิสมฺปิ เอวเมว. ตตฺถ จ อโธติ เหฏฺา. ติริยนฺติ อนุทิสา. เอวํ สพฺพทิสาสุ อสฺสมณฺฑเล อสฺสมิว เมตฺตาสหคตํ จิตฺตํ สาเรติปิ ปจฺจาสาเรติปีติ. เอตฺตาวตา เอกเมกํ ทิสํ ปริคฺคเหตฺวา โอธิโส เมตฺตาผรณํ ทสฺสิตํ. สพฺพธีติอาทิ ปน อโนธิโส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ สพฺพธีติ สพฺพตฺถ. สพฺพตฺตตายาติ สพฺเพสุ หีนมชฺฌิมอุกฺกฏฺมิตฺตสปตฺตมชฺฌตฺตานิปฺปเภเทสุ อตฺตตาย, ‘‘อยํ ปรสตฺโต’’ติ วิภาคํ อกตฺวา อตฺตสมตายาติ วุตฺตํ โหติ.
อถ ¶ วา สพฺพตฺตตายาติ สพฺเพน จิตฺตภาเวน, อีสกมฺปิ พหิ อวิกฺขิปมาโนติ วุตฺตํ โหติ. สพฺพาวนฺตนฺติ สพฺพสตฺตวนฺตํ, สพฺพสตฺตยุตฺตนฺติ อตฺโถ. โลกนฺติ สตฺตโลกํ. วิปุเลนาติ เอวมาทิปริยายทสฺสนโต ปเนตฺถ ปุน ‘‘เมตฺตาสหคเตนา’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา วา เอตฺถ โอธิโส ผรเณ วิย ปุน ตถา-สทฺโท อิติ-สทฺโท วา น วุตฺโต, ตสฺมา ปุน ‘‘เมตฺตาสหคเตน เจตสา’’ติ วุตฺตํ. นิคมนวเสน วา เอตํ วุตฺตํ. วิปุเลนาติ เอตฺถ จ ผรณวเสน วิปุลตา ทฏฺพฺพา. ภูมิวเสน ปน ตํ มหคฺคตํ. ปคุณวเสน อปฺปมาณสตฺตารมฺมณวเสน จ อปฺปมาณํ. พฺยาปาทปจฺจตฺถิกปฺปหาเนน อเวรํ. โทมนสฺสปฺปหาเนน อพฺยาปชฺชํ. นิทฺทุกฺขนฺติ วุตฺตํ โหติ (วิสุทฺธิ. ๑.๒๕๔). กรุณา เหฏฺา วุตฺตตฺถาเยว. โมทนฺติ ตาย ตํสมงฺคิโน, สยํ วา โมทติ, โมทนมตฺตเมว วา สาติ มุทิตา. ‘‘อเวรา โหนฺตู’’ติอาทิพฺยาปาทปฺปหาเนน มชฺฌตฺตภาวูปคมเนน จ อุเปกฺขตีติ อุเปกฺขา.
ลกฺขณาทิโต ปเนตฺถ หิตาการปฺปวตฺติลกฺขณา เมตฺตา, หิตูปสํหารรสา ¶ , อาฆาตวินยปจฺจุปฏฺานา, สตฺตานํ มนาปภาวทสฺสนปทฏฺานา. พฺยาปาทูปสโม เอติสฺสา สมฺปตฺติ, สิเนหสมฺภโว วิปตฺติ. ทุกฺขาปนยนาการปฺปวตฺติลกฺขณา กรุณา, ปรทุกฺขาสหนรสา, อวิหึสาปจฺจุปฏฺานา, ทุกฺขาภิภูตานํ อนาถภาวทสฺสนปทฏฺานา. วิหึสูปสโม ตสฺสา สมฺปตฺติ, โสกสมฺภโว วิปตฺติ. ปโมทลกฺขณา มุทิตา, อนิสฺสายนรสา, อรติวิฆาตปจฺจุปฏฺานา, สตฺตานํ สมฺปตฺติทสฺสนปทฏฺานา. อรติวูปสโม ตสฺสา สมฺปตฺติ, ปหานสมฺภโว วิปตฺติ. สตฺเตสุ มชฺฌตฺตาการปฺปวตฺติลกฺขณา อุเปกฺขา, สตฺเตสุ สมภาวทสฺสนรสา, ปฏิฆานุนยวูปสมปจฺจุปฏฺานา ¶ , ‘‘กมฺมสฺสกา สตฺตา, เต กสฺส รุจิยา สุขิตา วา ภวิสฺสนฺติ, ทุกฺขโต วา มุจฺจิสฺสนฺติ, ปตฺตสมฺปตฺติโต วา น ปริหายิสฺสนฺตี’’ติ เอวํ ปวตฺตกมฺมสฺสกตาทสฺสนปทฏฺานา. ปฏิฆานุนยวูปสโม ตสฺสา สมฺปตฺติ, เคหสฺสิตาย อฺาณุเปกฺขาย สมฺภโว วิปตฺติ.
ตตฺถ สนฺตุฏฺโ โหตีติ ปจฺจยสนฺโตสวเสน สนฺตุฏฺโ โหติ. อิตรีตเรน จีวเรนาติ น ถูลสุขุมลูขปณีตถิรชิณฺณานํ เยน ¶ เกนจิ จีวเรน, อถ โข ยถาลทฺธานํ อิตรีตเรน เยน เกนจิ สนฺตุฏฺโ โหตีติ อตฺโถ. จีวรสฺมิฺหิ ตโย สนฺโตสา – ยถาลาภสนฺโตโส, ยถาพลสนฺโตโส, ยถาสารุปฺปสนฺโตโสติ. ปิณฺฑปาตาทีสุปิ เอเสว นโย. อิติ อิเม ตโย สนฺโตเส สนฺธาย ‘‘สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตเรน จีวเรน. ยถาลทฺธาทีสุ เยน เกนจิ จีวเรน สนฺตุฏฺโ โหตี’’ติ วุตฺตํ.
เอตฺถ จ จีวรํ ชานิตพฺพํ, จีวรเขตฺตํ ชานิตพฺพํ, ปํสุกูลํ ชานิตพฺพํ, จีวรสนฺโตโส ชานิตพฺโพ, จีวรปฏิสํยุตฺตานิ ธุตงฺคานิ ชานิตพฺพานิ. ตตฺถ จีวรํ ชานิตพฺพนฺติ โขมาทีนิ ฉ จีวรานิ ทุกูลาทีนิ ฉ อนุโลมจีวรานิปิ ชานิตพฺพานิ. อิมานิ ทฺวาทส กปฺปิยจีวรานิ. กุสจีรํ วากจีรํ ผลกจีรํ เกสกมฺพลํ วาฬกมฺพลํ โปตฺถโก จมฺมํ อุลูกปกฺขํ รุกฺขทุสฺสํ ลตาทุสฺสํ เอรกทุสฺสํ กทลิทุสฺสํ เวฬุทุสฺสนฺติ เอวมาทีนิ ปน อกปฺปิยจีวรานิ.
จีวรเขตฺตนฺติ ¶ ‘‘สงฺฆโต วา คณโต วา าติโต วา มิตฺตโต วา อตฺตโน วา ธเนน ปํสุกูลํ วา’’ติ เอวํ อุปฺปชฺชนโต ฉ เขตฺตานิ, อฏฺนฺนฺจ มาติกานํ วเสน อฏฺ เขตฺตานิ ชานิตพฺพานิ.
ปํสุกูลนฺติ โสสานิกํ ปาปณิกํ รถิยํ สงฺการกูฏํ โสตฺถิยํ สินานํ ติตฺถํ คตปจฺจาคตํ อคฺคิฑฑฺฒํ โคขายิตํ อุปจิกาขายิตํ อุนฺทูรขายิตํ อนฺตจฺฉินฺนํ ทสจฺฉินฺนํ ธชาหฏํ ถูปํ สมณจีวรํ สามุทฺทิยํ อาภิเสกิยํ ปนฺถิกํ วาตาหฏํ อิทฺธิมยํ เทวทตฺติยนฺติ เตวีสติ ปํสุกูลานิ เวทิตพฺพานิ. เอตฺถ จ โสตฺถิยนฺติ คพฺภมลหรณํ. คตปจฺจาคตนฺติ มตกสรีรํ ปารุปิตฺวา สุสานํ เนตฺวา อานีตจีวรํ. ธชาหฏนฺติ ธชํ อุสฺสาเปตฺวา ตโต อานีตํ. ถูปนฺติ วมฺมิเก ปูชิตจีวรํ. สามุทฺทิยนฺติ สมุทฺทวีจีหิ ถลํ ปาปิตํ. ปนฺถิกนฺติ ปนฺถํ คจฺฉนฺเตหิ โจรภเยน ปาสาเณหิ โกฏฺเฏตฺวา ปารุตจีวรํ. อิทฺธิมยนฺติ เอหิภิกฺขุจีวรํ. เสสํ ปากฏเมว.
จีวรสนฺโตโสติ ¶ วีสติ จีวรสนฺโตสา – จีวเร วิตกฺกสนฺโตโส คมนสนฺโตโส ปริเยสนสนฺโตโส ปฏิลาภสนฺโตโส มตฺตปฏิคฺคหณสนฺโตโส โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส ยถาลาภสนฺโตโส ¶ ยถาพลสนฺโตโส ยถาสารุปฺปสนฺโตโส อุทกสนฺโตโส โธวนสนฺโตโส กรณสนฺโตโส ปริมาณสนฺโตโส สุตฺตสนฺโตโส สิพฺพนสนฺโตโส รชนสนฺโตโส กปฺปสนฺโตโส ปริโภคสนฺโตโส สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส วิสฺสชฺชนสนฺโตโสติ. ตตฺถ สาทกภิกฺขุโน เตมาสํ นิพทฺธวาสํ วสิตฺวา เอกมาสมตฺตํ วิตกฺกิตุํ วฏฺฏติ. โส หิ ปวาเรตฺวา จีวรมาเส จีวรํ กโรติ. ปํสุกูลิโก อทฺธมาเสเนว กโรติ. อิทํ มาสทฺธมาสมตฺตํ วิตกฺกนํ วิตกฺกสนฺโตโส. จีวรตฺถาย คจฺฉนฺตสฺส ปน ‘‘กตฺถ ลภิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา กมฺมฏฺานสีเสเนว คมนํ คมนสนฺโตโส นาม. ปริเยสนฺตสฺส ปน เยน วา เตน วา สทฺธึ อปริเยสิตฺวา ลชฺชึ เปสลภิกฺขุํ คเหตฺวา ปริเยสนํ ปริเยสนสนฺโตโส นาม. เอวํ ปริเยสนฺตสฺส อาหริยมานํ จีวรํ ทูรโตว ทิสฺวา ‘‘เอตํ มนาปํ ภวิสฺสติ, เอตํ อมนาป’’นฺติ เอวํ อวิตกฺเกตฺวา ¶ ถูลสุขุมาทีสุ ยถาลทฺเธเนว สนฺตุสฺสนํ ปฏิลาภสนฺโตโส นาม. เอวํ ลทฺธํ คณฺหนฺตสฺสาปิ ‘‘เอตฺตกํ ทุปฏฺฏสฺส ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ เอกปฏฺฏสฺสา’’ติ อตฺตโน ปโหนกมตฺเตเนว สนฺตุสฺสนํ มตฺตปฏิคฺคหณสนฺโตโส นาม. จีวรํ ปริเยสนฺตสฺส ปน ‘‘อสุกสฺส ฆรทฺวาเร มนาปํ ลภิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา ทฺวารปฏิปาฏิยา จรณํ โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส นาม.
ลูขปณีเตสุ เยน เกนจิ ยาเปตุํ สกฺโกนฺตสฺส ยถาลทฺเธเนว ยาปนํ ยถาลาภสนฺโตโส นาม. อตฺตโน ถามํ ชานิตฺวา เยน ยาเปตุํ สกฺโกติ, เตน ยาปนํ ยถาพลสนฺโตโส นาม. มนาปํ อฺสฺส ทตฺวา อตฺตนา เยน เกนจิ ยาปนํ ยถาสารุปฺปสนฺโตโส นาม. ‘‘กตฺถ อุทกํ มนาปํ, กตฺถ อมนาป’’นฺติ อวิจาเรตฺวา เยน เกนจิ โธวนุปเคน อุทเกน โธวนํ อุทกสนฺโตโส นาม. ตถา ปณฺฑุมตฺติกเครุกปูติปณฺณรสกิลิฏฺานิ ปน อุทกานิ วชฺเชตุํ วฏฺฏติ. โธวนฺตสฺส ปน มุคฺคราทีหิ อปหริตฺวา หตฺเถหิ มทฺทิตฺวา โธวนํ โธวนสนฺโตโส นาม. ตถา อสุชฺฌนฺตํ ปณฺณานิ ปกฺขิปิตฺวา ตาปิตอุทเกนาปิ โธวิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ โธวิตฺวา กโรนฺตสฺส ‘‘อิทํ ถูลํ, อิทํ สุขุม’’นฺติ อโกเปตฺวา ปโหนกนีหาเรเนว กรณํ กรณสนฺโตโส นาม. ติมณฺฑลปฏิจฺฉาทนมตฺตสฺเสว กรณํ ปริมาณสนฺโตโส ¶ นาม. จีวรกรณตฺถาย ปน ‘‘มนาปํ สุตฺตํ ปริเยสิสฺสามี’’ติ อวิจาเรตฺวา รถิกาทีสุ วา เทวฏฺาเน วา อาหริตฺวา ปาทมูเล วา ปิตํ ยํ กิฺจิเทว สุตฺตํ คเหตฺวา กรณํ สุตฺตสนฺโตโส นาม.
กุสิพนฺธนกาเล ปน องฺคุลิมตฺเต สตฺตวาเร น วิชฺฌิตพฺพํ. เอวํ กโรนฺตสฺส หิ โย ภิกฺขุ สหาโย น โหติ, ตสฺส วตฺตเภโทปิ นตฺถิ. ติวงฺคุลมตฺเต ปน สตฺตวาเร วิชฺฌิตพฺพํ. เอวํ ¶ กโรนฺตสฺส มคฺคปฏิปนฺเนนาปิ สหาเยน ภวิตพฺพํ. โย น โหติ, ตสฺส วตฺตเภโท. อยํ สิพฺพนสนฺโตโส นาม. รชนฺเตน ปน กาฬกจฺฉกาทีนิ ปริเยสนฺเตน น รชิตพฺพํ, โสมวกฺกลาทีสุ ยํ ลภติ, เตน รชิตพฺพํ. อลภนฺเตน ¶ ปน มนุสฺเสหิ อรฺเ วากํ คเหตฺวา ฉฑฺฑิตรชนํ วา ภิกฺขูหิ ปจิตฺวา ฉฑฺฑิตกสฏํ วา คเหตฺวา รชิตพฺพํ. อยํ รชนสนฺโตโส นาม. นีลกทฺทมกาฬสาเมสุ ยํ กิฺจิ คเหตฺวา หตฺถิปิฏฺเ นิสินฺนสฺส ปฺายมานกปฺปกรณํ กปฺปสนฺโตโส นาม.
หิริโกปีนปฏิจฺฉาทนมตฺตวเสน ปริภฺุชนํ ปริโภคสนฺโตโส นาม. ทุสฺสํ ปน ลภิตฺวา สุตฺตํ วา สูจึ วา การกํ วา อลภนฺเตน เปตุํ วฏฺฏติ, ลภนฺเตน น วฏฺฏติ. กตมฺปิ เจ อนฺเตวาสิกาทีนํ ทาตุกาโม โหติ, เต จ อสนฺนิหิตา, ยาว อาคมนา เปตุํ วฏฺฏติ, อาคตมตฺเตสุ เตสุ ทาตพฺพํ. ทาตุํ อสกฺโกนฺเตน อธิฏฺาตพฺพํ. อฺสฺมึ จีวเร สติ ปจฺจตฺถรณมฺปิ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติ. อนธิฏฺิตเมว หิ สนฺนิธิ โหติ. อธิฏฺิตํ น โหตีติ มหาสีวตฺเถโร อาห. อยํ สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส นาม. วิสฺสชฺเชนฺเตน ปน มุขํ โอโลเกตฺวา น ทาตพฺพํ, สารณียธมฺเม ตฺวาว วิสฺสชฺเชตพฺพนฺติ อยํ วิสฺสชฺชนสนฺโตโส นาม.
จีวรปฏิสํยุตฺตานิ ธุตงฺคานิ นาม ปํสุกูลิกงฺคฺเจว เตจีวริกงฺคฺจ. อิติ จีวรสนฺโตสมหาอริยวํสํ ปูรยมาโน ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ อิมานิ ทฺเว ธุตงฺคานิ โคเปติ, อิมานิ โคเปนฺโต จีวรสนฺโตสมหาอริยวํสวเสน สนฺตุฏฺโ โหติ.
วณฺณวาทีติ เอโก สนฺตุฏฺโ โหติ, สนฺโตสสฺส วณฺณํ น กเถติ. เอโก น สนฺตุฏฺโ โหติ, สนฺโตสสฺส วณฺณํ กเถติ ¶ . เอโก เนว สนฺตุฏฺโ โหติ, น สนฺโตสสฺส วณฺณํ กเถติ. เอโก สนฺตุฏฺโ จ โหติ, สนฺโตสสฺส จ วณฺณํ กเถติ. ตถารูโป โส ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที’’ติ วุตฺตํ.
อเนสนนฺติ ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคปฺปเภทํ นานปฺปการํ อเนสนํ. อปฺปติรูปนฺติ อยุตฺตํ. อลทฺธา จาติ อลภิตฺวา. ยถา เอกจฺโจ ‘‘กถํ นุ โข จีวรํ ลภิสฺสามี’’ติ ปฺุวนฺเตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ เอกโต หุตฺวา โกหฺํ กโรนฺโต อุตฺตสติ ปริตสฺสติ, ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ เอวํ อลทฺธา จ จีวรํ น ปริตสฺสติ. ลทฺธา ¶ จาติ ธมฺเมน สเมน ลภิตฺวา. อธิคโตติ วิคตโลภคิทฺโธ. อมุจฺฉิโตติ อธิมตฺตตณฺหาย มุจฺฉนํ อนาปนฺโน. อนชฺฌาปนฺโนติ ¶ ตณฺหาย อโนตฺถโฏ อปริโยนทฺโธ. อาทีนวทสฺสาวีติ อเนสนาปตฺติยฺจ คธิตปริโภเค จ อาทีนวํ ปสฺสมาโน. นิสฺสรณปฺโติ ‘‘ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตายา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๓; อ. นิ. ๖.๕๘) วุตฺตํ นิสฺสรณเมว ปชานนฺโต.
อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยาติ เยน เกนจิ จีวเรน สนฺตุฏฺิยา. เนวตฺตานุกฺกํเสตีติ ยถา ปนิเธกจฺโจ ‘‘อหํ ปํสุกูลิโก, มยา อุปสมฺปทมาเฬเยว ปํสุกูลิกงฺคํ คหิตํ, โก มยา สทิโส อตฺถี’’ติ อตฺตุกฺกํสนํ กโรติ. เอวํ โส อตฺตุกฺกํสนํ น กโรติ. น ปรํ วมฺเภตีติ ‘‘อิเม ปนฺเ ภิกฺขู น ปํสุกูลิกาติ วา ปํสุกูลิกมตฺตมฺปิ เอเตสํ นตฺถี’’ติ วา เอวํ ปรํ น วมฺเภติ. โย หิ ตตฺถ ทกฺโขติ โย ตสฺมึ จีวรสนฺโตเส วณฺณวาที. ตาสุ วา ทกฺโข เฉโก พฺยตฺโต. อนลโสติ สาตจฺจกิริยาย อาลสิยวิรหิโต. สมฺปชาโน ปติสฺสโตติ สมฺปชานปฺาย เจว สติยา จ ยุตฺโต. อริยวํเส ิโตติ อริยวํเส ปติฏฺิโต.
อิตรีตเรน ปิณฺฑปาเตนาติ เยน เกนจิ ปิณฺฑปาเตน. เอตฺถปิ ปิณฺฑปาโต ชานิตพฺโพ, ปิณฺฑปาตเขตฺตํ ชานิตพฺพํ, ปิณฺฑปาตสนฺโตโส ชานิตพฺโพ, ปิณฺฑปาตปฏิสํยุตฺตํ ธุตงฺคํ ชานิตพฺพํ. ตตฺถ ปิณฺฑปาโตติ โอทโน กุมฺมาโส สตฺตุ มจฺโฉ มํสํ ขีรํ ทธิ สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํ ยาคุ ขาทนียํ สายนียํ เลหนียนฺติ โสฬส ปิณฺฑปาตา.
ปิณฺฑปาตเขตฺตนฺติ ¶ สงฺฆภตฺตํ อุทฺเทสภตฺตํ นิมนฺตนํ สลากภตฺตํ ปกฺขิกํ อุโปสถิกํ ปาฏิปทิกํ อาคนฺตุกภตฺตํ คมิกภตฺตํ คิลานภตฺตํ คิลานุปฏฺากภตฺตํ ธุรภตฺตํ กุฏิภตฺตํ วารภตฺตํ วิหารภตฺตนฺติ ปนฺนรส ปิณฺฑปาตเขตฺตานิ.
ปิณฺฑปาตสนฺโตโสติ ปิณฺฑปาเต วิตกฺกสนฺโตโส คมนสนฺโตโส ปริเยสนสนฺโตโส ปฏิลาภสนฺโตโส ปฏิคฺคหณสนฺโตโส มตฺตปฏิคฺคหณสนฺโตโส โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส ยถาลาภสนฺโตโส ยถาพลสนฺโตโส ยถาสารุปฺปสนฺโตโส อุปการสนฺโตโส ปริมาณสนฺโตโส ปริโภคสนฺโตโส สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส ¶ วิสฺสชฺชนสนฺโตโสติ ปนฺนรส สนฺโตสา. ตตฺถ สาทโก ภิกฺขุ มุขํ โธวิตฺวา วิตกฺเกติ. ปิณฺฑปาติเกน ปน คเณน สทฺธึ จรตา สายํ เถรุปฏฺานกาเล ‘‘สฺเว กตฺถ ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติ ‘‘อสุกคาเม, ภนฺเต’’ติ เอตฺตกํ จินฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย น วิตกฺเกตพฺพํ. เอกจาริเกน วิตกฺกมาฬเก ตฺวา วิตกฺเกตพฺพํ. ตโต ปฏฺาย วิตกฺเกนฺโต ปน อริยวํสา จุโต โหติ ปริพาหิโร. อยํ วิตกฺกสนฺโตโส นาม. ปิณฺฑาย ¶ ปวิสนฺเตน ปน ‘‘กุหึ ลภิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา กมฺมฏฺานสีเสน คนฺตพฺพํ. อยํ คมนสนฺโตโส นาม. ปริเยสนฺเตน ยํ วา ตํ วา อคฺคเหตฺวา ลชฺชึ เปสลเมว คเหตฺวา ปริเยสิตพฺพํ. อยํ ปริเยสนสนฺโตโส นาม. ทูรโตว อาหริยมานํ ทิสฺวา ‘‘เอตํ มนาปํ, เอตํ อมนาป’’นฺติ จิตฺตํ น อุปฺปาเทตพฺพํ. อยํ ปฏิลาภสนฺโตโส นาม. ‘‘อิทํ มนาปํ คณฺหิสฺสามิ, อิทํ อมนาปํ น คณฺหิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา ยํ กิฺจิ ยาปนมตฺตํ คเหตพฺพเมว. อยํ ปฏิคฺคหณสนฺโตโส นาม.
เอตฺถ ปน เทยฺยธมฺโม พหุ, ทายโก อปฺปํ ทาตุกาโม, อปฺปํ คเหตพฺพํ. เทยฺยธมฺโม พหุ, ทายโกปิ พหุทาตุกาโม, ปมาเณเนว คเหตพฺพํ. เทยฺยธมฺโมปิ น พหุ, ทายโกปิ อปฺปํ ทาตุกาโม, อปฺปํ คเหตพฺพํ. เทยฺยธมฺโม น พหุ, ทายโก ปน พหุทาตุกาโม, ปมาเณน คเหตพฺพํ. ปฏิคฺคหณสฺมิฺหิ มตฺตํ อชานนฺโต มนุสฺสานํ ปสาทํ มกฺเขติ, สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตติ, สาสนํ น กโรติ. วิชาตมาตุยาปิสฺส จิตฺตํ คเหตุํ น สกฺโกติ. อิติ มตฺตํ ชานิตฺวาว ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ อยํ มตฺตปฏิคฺคหณสนฺโตโส นาม. อฑฺฒกุลานิเยว อคนฺตฺวา ทฺวารปฏิปาฏิยา ¶ คนฺตพฺพํ. อยํ โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส นาม. ยถาลาภสนฺโตสาทโย จีวเร วุตฺตนยา เอว.
ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิตฺวา ‘‘สมณธมฺมํ อนุปาเลสฺสามี’’ติ เอวํ อุปการํ ตฺวา ปริภฺุชนํ อุปการสนฺโตโส นาม. ปตฺตํ ปูเรตฺวา อานีตํ น ปฏิคฺคเหตพฺพํ. อนุปสมฺปนฺเน สติ เตน คาหาเปตพฺพํ, อสติ อาหราเปตฺวา ปฏิคฺคหณปริมาณมตฺตํ คเหตพฺพํ. อยํ ปริมาณสนฺโตโส นาม. ชิฆจฺฉาย ปฏิวิโนทนํ ‘‘น อิทเมตฺถ นิสฺสรณ’’นฺติ ¶ เอวํ ปริภฺุชนํ ปริโภคสนฺโตโส นาม. นิทหิตฺวา น ปริภฺุชิตพฺพํ. อยํ สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส นาม. มุขํ อโนโลเกตฺวา สารณียธมฺเม ิเตน วิสฺสชฺเชตพฺพํ. อยํ วิสฺสชฺชนสนฺโตโส นาม.
ปิณฺฑปาตปฏิสํยุตฺตานิ ปน ปฺจ ธุตงฺคานิ ปิณฺฑปาติกงฺคํ สปทานจาริกงฺคํ เอกาสนิกงฺคํ ปตฺตปิณฺฑิกงฺคํ ขลุปจฺฉาภตฺติกงฺคนฺติ. อิติ ปิณฺฑปาตสนฺโตสมหาอริยวํสํ ปูรยมาโน ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ อิมานิ ปฺจ ธุตงฺคานิ โคเปติ, อิมานิ โคเปนฺโต ปิณฺฑปาตสนฺโตสมหาอริยวํสวเสน สนฺตุฏฺโ โหติ. วณฺณวาทีติอาทีนิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.
เสนาสนานีติ อิธ เสนาสนํ ชานิตพฺพํ, เสนาสนเขตฺตํ ชานิตพฺพํ, เสนาสนสนฺโตโส ชานิตพฺโพ, เสนาสนปฏิสํยุตฺตธุตงฺคํ ชานิตพฺพํ. ตตฺถ เสนาสนนฺติ มฺโจ ปีํ ภิสิ พิมฺโพหนํ ¶ วิหาโร อฑฺฒโยโค ปาสาโท หมฺมิยํ คุหา เลณํ อฏฺโฏ มาโฬ เวฬุคุมฺโพ รุกฺขมูลํ ยตฺถ วา ปน ภิกฺขู ปฏิกฺกมนฺตีติ อิมานิ ปนฺนรส เสนาสนานิ.
เสนาสนเขตฺตนฺติ สงฺฆโต วา คณโต วา าติโต วา มิตฺตโต วา อตฺตโน วา ธเนน ปํสุกูลํ วาติ ฉ เขตฺตานิ.
เสนาสนสนฺโตโสติ เสนาสเน วิตกฺกสนฺโตสาทโย ปนฺนรส สนฺโตสา. เต ปิณฺฑปาเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เสนาสนปฏิสํยุตฺตานิ ปน ปฺจ ธุตงฺคานิ อารฺิกงฺคํ รุกฺขมูลิกงฺคํ อพฺโภกาสิกงฺคํ โสสานิกงฺคํ ยถาสนฺถติกงฺคนฺติ. อิติ เสนาสนสนฺโตสํ มหาอริยวํสํ ปูรยมาโน ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ อิมานิ ปฺจ ธุตงฺคานิ โคเปติ, อิมานิ โคเปนฺโต เสนาสนสนฺโตสมหาอริยวํสวเสน สนฺตุฏฺโ โหติ.
อิติ ¶ อายสฺมา ธมฺมเสนาปติ สาริปุตฺตตฺเถโร ปถวึ ปตฺถรมาโน วิย สาครกุจฺฉึ ปูรยมาโน วิย อากาสํ วิตฺถารยมาโน วิย จ ปมํ จีวรสนฺโตสํ อริยวํสํ กเถตฺวา จนฺทํ อุฏฺาเปนฺโต วิย สูริยํ อุลฺลงฺเฆนฺโต วิย จ ทุติยปิณฺฑปาตสนฺโตสํ กเถตฺวา สิเนรุํ อุกฺขิเปนฺโต วิย ตติยํ เสนาสนสนฺโตสํ อริยวํสํ กเถตฺวา ¶ อิทานิ คิลานปจฺจยสนฺโตสํ อริยวํสํ กเถตุํ ‘‘สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตเรน คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรนา’’ติอาทิมาห. ตํ ปิณฺฑปาตคติกเมว. ตตฺถ ยถาลาภยถาพลยถาสารุปฺปสนฺโตเสเนว สนฺตุสฺสิตพฺพํ. ภาวนารามอริยวํโส ปน อิธ อนาคโต, เนสชฺชิกงฺคํ ภาวนารามอริยวํสํ ภชติ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๐๙; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๔.๒๘). วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ปฺจ เสนาสเน วุตฺตา, ปฺจ อาหารนิสฺสิตา;
เอโก วีริยสํยุตฺโต, ทฺเว จ จีวรนิสฺสิตา’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๐๙; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๔.๒๘);
โปราเณ อคฺคฺเ อริยวํเส ิโตติ เอตฺถ โปราเณติ น อธุนุปฺปตฺติเก. อคฺคฺเติ อคฺเคหิ ชานิตพฺเพ. อริยวํเสติ อริยานํ วํเส. ยถา หิ ขตฺติยวํโส พฺราหฺมณวํโส เวสฺสวํโส สุทฺทวํโส สมณวํโส กุลวํโส ราชวํโส, เอวมยมฺปิ อฏฺโม อริยวํโส, อริยตนฺติ อริยปเวณิ นาม โหติ. โส โข ปนายํ วํโส อิเมสํ วํสานํ มูลคนฺธาทีนํ กาลานุสาริคนฺธาทโย วิย อคฺคมกฺขายติ. เก ปน เต อริยา, เยสํ เอโส วํโสติ? อริยา ¶ วุจฺจนฺติ พุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ ตถาคตสาวกา จ, เอเตสํ อริยานํ วํโสติ อริยวํโส. อิโต ปุพฺเพ หิ สตสหสฺสกปฺปาธิกานํ จตุนฺนํ อสงฺขฺเยยฺยานํ มตฺถเก ตณฺหงฺกโร เมธงฺกโร สรณงฺกโร ทีปงฺกโรติ จตฺตาโร พุทฺธา อุปฺปนฺนา, เต อริยา, เตสํ อริยานํ วํโสติ อริยวํโส. เตสํ พุทฺธานํ ปรินิพฺพานโต อปรภาเค อสงฺขฺเยยฺยํ อติกฺกมิตฺวา โกณฺฑฺโ นาม พุทฺโธ อุปฺปนฺโน…เป… อิมสฺมึ กปฺเป กกุสนฺโธ โกณาคมโน กสฺสโป อมฺหากํ ภควา โคตโมติ จตฺตาโร พุทฺธา อุปฺปนฺนา, เตสํ อริยานํ วํโสติ อริยวํโส. อปิ จ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ สพฺพพุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกานํ อริยานํ วํโสติ อริยวํโส, ตสฺมึ อริยวํเส (อ. นิ. อฏฺ. ๒.๔.๒๘). ิโตติ ปติฏฺิโต. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อฏฺมคาถานิทฺเทสวณฺณนา.
๑๒๙. นวเม ¶ ¶ อยํ โยชนา – ทุสฺสงฺคหา ปพฺพชิตาปิ เอเก, เย อสนฺโตสาภิภูตา, ตถาวิธา เอว จ อโถ คหฏฺา ฆรมาวสนฺตา. เอตมหํ ทุสฺสงฺคหภาวํ ชิคุจฺฉนฺโต วิปสฺสนํ อารภิตฺวา ปจฺเจกโพธึ อธิคโตมฺหีติ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.
นิทฺเทเส อนสฺสวาติ วจนํ อสฺสวนกา. อวจนกราติ ทุพฺพจา. ปฏิโลมวุตฺติโนติ ปจฺจนีกํ กถนสีลา, ปฏิมลฺลา หุตฺวา ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. อฺเเนว มุขํ กโรนฺตีติ โอวาททายเก ทิสฺวา มุขํ ปริวตฺเตตฺวา อฺํ ทิสาภาคํ โอโลเกนฺติ. อพฺยาวโฏ หุตฺวาติ อวาวโฏ หุตฺวา. อนเปกฺโข หุตฺวาติ อนลฺลีโน หุตฺวา.
นวมคาถานิทฺเทสวณฺณนา.
๑๓๐. ทสเม โอโรปยิตฺวาติ อปเนตฺวา. คิหิพฺยฺชนานีติ เกสมสฺสุโอทาตวตฺถาลงฺการมาลาคนฺธวิเลปนอิตฺถิปุตฺตทาสิทาสาทีนิ. เอตานิ คิหิภาวํ พฺยฺชยนฺติ, ตสฺมา ‘‘คิหิพฺยฺชนานี’’ติ วุจฺจนฺติ. สฺฉินฺนปตฺโตติ ปติตปตฺโต. เฉตฺวานาติ มคฺคาเณน ฉินฺทิตฺวา. วีโรติ มคฺควีริยสมนฺนาคโต. คิหิพนฺธนานีติ กามพนฺธนานิ. กามา หิ คิหีนํ พนฺธนานิ. อยํ ตาว ปทตฺโถ.
อยํ ปน อธิปฺปาโย – ‘‘อโห วตาหมฺปิ โอโรปยิตฺวา คิหิพฺยฺชนานิ สฺฉินฺนปตฺโต ยถา ¶ โกวิฬาโร ภเวยฺย’’นฺติ เอวฺหิ จินฺตยมาโน วิปสฺสนํ อารภิตฺวา ปจฺเจกโพธึ อธิคโตมฺหีติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๔๔). เสสํ ปุริมนเยเนว ชานิตพฺพํ.
นิทฺเทเส สาราสนฺจาติ สารํ อาสนํ. ฉินฺนานีติ คฬิตานิ. สฺฉินฺนานีติ นิปณฺณานิ. ปติตานีติ วณฺฏโต มุตฺตานิ. ปริปติตานีติ ภูมิยํ ปติตานิ.
ทสมคาถานิทฺเทสวณฺณนา.
ปมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุติยวคฺควณฺณนา
๑๓๑-๒. ทุติยวคฺคสฺส ¶ ¶ ปมทฺวเย นิปกนฺติ ปกตินิปุณํ ปณฺฑิตํ กสิณปริกมฺมาทีสุ กุสลํ. สาธุวิหารินฺติ อปฺปนาวิหาเรน วา อุปจาเรน วา สมนฺนาคตํ. ธีรนฺติ ธิติสมฺปนฺนํ. ตตฺถ นิปกตฺเตน ธิติสมฺปทา วุตฺตา. อิธ ปน ธิติสมฺปนฺนเมวาติ อตฺโถ. ธิติ นาม อสิถิลปรกฺกมตา, ‘‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ จา’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๘๔; อ. นิ. ๒.๕; มหานิ. ๑๙๖) เอวํ ปวตฺตวีริยสฺเสตํ อธิวจนํ. อปิ จ ธิกฺกตปาโปติปิ ธีโร. ราชาว รฏฺํ วิชิตํ ปหายาติ ยถา ปฏิราชา ‘‘วิชิตํ รฏฺํ อนตฺถาวห’’นฺติ ตฺวา รชฺชํ ปหาย เอโก จรติ เอวํ พาลสหายํ ปหาย เอโก จเร. อถ วา ราชาว รฏฺนฺติ ยถา สุตโสโม ราชา วิชิตํ รฏฺํ ปหาย เอโก จริ, ยถา จ มหาชนโก เอวํ เอโกว จเรติ อยมฺปิ เอตสฺสตฺโถ. เสสํ วุตฺตานุสาเรน สกฺกา ชานิตุนฺติ น วิตฺถาริตํ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๔๕-๔๖). นิทฺเทเส วตฺตพฺพํ นตฺถิ.
ปมทฺวยํ.
๑๓๓. ตติยคาถา ปทตฺถโต อุตฺตานา เอว. เกวลฺจ ปน สหายสมฺปทนฺติ เอตฺถ อเสกฺเขหิ สีลาทิกฺขนฺเธหิ สมฺปนฺนา สหายา เอว ‘‘สหายสมฺปทา’’ติ เวทิตพฺพา. อยํ ปเนตฺถ โยชนา – ยา อยํ วุตฺตา สหายสมฺปทา, ตํ สหายสมฺปทํ อทฺธา ปสํสาม, เอกํเสเนว โถเมมาติ วุตฺตํ โหติ. กถํ? เสฏฺา สมาเสวิตพฺพา สหายาติ. กสฺมา? อตฺตโน สีลาทีหิ เสฏฺเ เสวมานสฺส สีลาทโย ธมฺมา อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ ปาปุณนฺติ. สเม เสวมานสฺส อฺมฺสมธารเณน กุกฺกุจฺจวิโนทเนน จ ลทฺธา น ปริหายนฺติ ¶ . เอเต ปน สหายเก เสฏฺเ จ สเม จ อลทฺธา กุหนาทิมิจฺฉาชีวํ วชฺเชตฺวา ธมฺเมน สเมน อุปฺปนฺนํ โภชนํ ภฺุชนฺโต ตตฺถ จ ปฏิฆานุนยํ ¶ อนุปฺปาเทนฺโต อนวชฺชโภชี หุตฺวา อตฺถกาโม กุลปุตฺโต เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป. อหมฺปิ หิ เอวํ จรนฺโต อิมํ สมฺปตฺตึ อธิคโตมฺหีติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๔๗). นิทฺเทโส วุตฺตนโย เอว.
ตติยํ.
๑๓๔. จตุตฺเถ ¶ ทิสฺวาติ โอโลเกตฺวา. สุวณฺณสฺสาติ กฺจนสฺส. ‘‘วลยานี’’ติ ปาเสโส. สาวเสสปาโ หิ อยํ อตฺโถ. ปภสฺสรานีติ ปภาสนสีลานิ, ชุติมนฺตานีติ วุตฺตํ โหติ. เสสํ อุตฺตานปทตฺถเมว. อยํ ปน โยชนา – ทิสฺวา ภุชสฺมึ สุวณฺณสฺส วลยานิ ‘‘คณวาเส สติ สงฺฆฏฺฏนา, เอกวาเส สติ อฆฏฺฏนา’’ติ เอวํ จินฺเตนฺโต วิปสฺสนํ อารภิตฺวา ปจฺเจกโพธึ อธิคโตมฺหีติ. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๔๘). นูปุรานีติ วลยานิ. ‘‘นิยุรา’’ติ เกจิ วทนฺติ. ฆฏฺเฏนฺตีติ อฺมฺํ หนนฺติ.
จตุตฺถํ.
๑๓๕. ปฺจมคาถา ปทตฺถโต อุตฺตานา เอว. อยํ ปน เอตฺถ อธิปฺปาโย – ยฺวายํ เอเตน ทุตีเยน กุมาเรน สีตุณฺหาทีนิ นิเวเทนฺเตน สหวาเสน ตํ สฺาเปนฺตสฺส มม วาจาภิลาโป, ตสฺมึ สิเนหวเสน อภิสชฺชนา วา ชาตา. สเจ อหํ อิมํ น ปริจฺจชามิ, ตโต อายติมฺปิ ตเถว เหสฺสติ. ยถา อิทานิ, เอวํ ทุตีเยน สห มมสฺส, วาจาภิลาโป อภิสชฺชนา วา. อุภยมฺปิ เจตํ อนฺตรายกรํ วิเสสาธิคมสฺสาติ เอตํ ภยํ อายตึ เปกฺขมาโน ตํ ฉฑฺเฑตฺวา โยนิโส ปฏิปชฺชิตฺวา ปจฺเจกโพธึ อธิคโตมฺหีติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๔๙). เสสํ วุตฺตนยเมว.
ปฺจมํ.
๑๓๖. ฉฏฺเ กามาติ ทฺเว กามา วตฺถุกามา จ กิเลสกามา จ. ตตฺถ วตฺถุกามา มนาปิยา รูปาทโย ธมฺมา, กิเลสกามา ฉนฺทาทโย สพฺเพปิ ราคปฺปเภทา. อิธ ปน วตฺถุกามา อธิปฺเปตา ¶ . รูปาทิอเนกปฺปกาเรน จิตฺรา. โลกสฺสาทวเสน มธุรา. พาลปุถุชฺชนานํ มนํ รเมนฺตีติ มโนรมา. วิรูปรูเปนาติ วิรูเปน รูเปน, อเนกวิเธน สภาเวนาติ วุตฺตํ โหติ. เต ¶ หิ รูปาทิวเสน จิตฺรา, รูปาทีสุปิ นีลาทิวเสน วิวิธรูปา. เอวํ เตน วิรูปรูเปน ตถา ตถา อสฺสาทํ ทสฺเสตฺวา มเถนฺติ จิตฺตํ, ปพฺพชฺชาย อภิรมิตุํ น เทนฺตีติ. เสสเมตฺถ ปากฏเมว. นิคมนมฺปิ ทฺวีหิ ตีหิ วา ปเทหิ โยเชตฺวา ปุริมคาถาสุ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๕๐).
กามคุณาติ ¶ กามยิตพฺพฏฺเน กามา. พนฺธนฏฺเน คุณา. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อหตานํ วตฺถานํ ทิคุณํ สงฺฆาฏิ’’นฺติ (มหาว. ๓๔๘) เอตฺถ ปฏลฏฺโ คุณฏฺโ. ‘‘อจฺเจนฺติ กาลา ตรยนฺติ รตฺติโย, วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๔) เอตฺถ ราสฏฺโ คุณฏฺโ. ‘‘สตคุณา ทกฺขิณา ปาฏิกงฺขิตพฺพา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๗๙) เอตฺถ อานิสํสฏฺโ คุณฏฺโ. ‘‘อนฺตํ อนฺตคุณํ (ที. นิ. ๒.๓๗๗; ม. นิ. ๑.๑๑๐; ขุ. ปา. ๓.ทฺวตฺตึสาการ), กยิรา มาลาคุเณ พหู’’ติ เอตฺถ พนฺธนฏฺโ คุณฏฺโ. อิธาปิ เอเสว อธิปฺเปโต, เตน วุตฺตํ – ‘‘พนฺธนฏฺเน คุณา’’ติ. จกฺขุวิฺเยฺยาติ จกฺขุวิฺาเณน ปสฺสิตพฺพา. เอเตนุปาเยน โสตวิฺเยฺยาทีสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิฏฺาติ ปริยิฏฺา วา โหนฺตุ, มา วา, อิฏฺารมฺมณภูตาติ อตฺโถ. กนฺตาติ กามนียา. มนาปาติ มนวฑฺฒนกา. ปิยรูปาติ ปิยชาติกา. กามูปสํหิตาติ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชมาเนน กาเมน อุปสํหิตา. รชนียาติ รชฺชนิยา, ราคุปฺปตฺติการณภูตาติ อตฺโถ.
ยทิ มุทฺทายาติอาทีสุ มุทฺทาติ องฺคุลิปพฺเพสุ สฺํ เปตฺวา หตฺถมุทฺทา. คณนาติ อจฺฉิทฺทคณนา. สงฺขานนฺติ ปิณฺฑคณนา. ยาย เขตฺตํ โอโลเกตฺวา ‘‘อิธ เอตฺตกา วีหี ภวิสฺสนฺติ’’, รุกฺขํ โอโลเกตฺวา ‘‘อิธ เอตฺตกานิ ผลานิ ภวิสฺสนฺติ’’, อากาสํ โอโลเกตฺวา ‘‘อิเม อากาเส สกุณา เอตฺตกา นาม ภวิสฺสนฺตี’’ติ ชานนฺติ. กสีติ กสิกมฺมํ. วณิชฺชาติ ชงฺฆวณิชฺชถลวณิชฺชาทิวณิปฺปโถ. โครกฺขนฺติ อตฺตโน วา ปเรสํ วา คาโว รกฺขิตฺวา ปฺจโครสวิกฺกเยน ชีวนกมฺมํ. อิสฺสตฺโถ วุจฺจติ อาวุธํ ¶ คเหตฺวา อุปฏฺานกมฺมํ. ราชโปริสนฺติ วินา อาวุเธน ราชกมฺมํ กตฺวา ราชุปฏฺานํ. สิปฺปฺตรนฺติ คหิตาวเสสหตฺถิอสฺสสิปฺปาทิ.
สีตสฺส ปุรกฺขโตติ ลกฺขํ วิย สรสฺส สีตสฺส ปุรโต ิโต, สีเตน พาธิยมาโนติ อตฺโถ. อุณฺเหปิ เอเสว นโย. ฑํสาทีสุ ฑํสาติ ปิงฺคลมกฺขิกา. มกสาติ สพฺพมกฺขิกา. สรีสปาติ เย เกจิ สริตฺวา คจฺฉนฺติ. ริสฺสมาโนติ ปีฬิยมาโน รุปฺปมาโน ฆฏฺฏิยมาโน. มียมาโนติ มรมาโน. อยํ, ภิกฺขเวติ ภิกฺขเว, อยํ มุทฺทาทีหิ ชีวิกกปฺปนํ อาคมฺม สีตาทิปจฺจโย ¶ อาพาโธ. กามานํ อาทีนโวติ กาเมสุ ¶ อุปทฺทโว, อุปสคฺโคติ อตฺโถ. สนฺทิฏฺิโกติ ปจฺจกฺโข สามํ ปสฺสิตพฺโพ. ทุกฺขกฺขนฺโธติ ทุกฺขราสิ. กามเหตูติอาทีสุ ปจฺจยฏฺเน กามา อสฺส เหตูติ กามเหตุ. มูลฏฺเน กามา นิทานมสฺสาติ กามนิทาโน. ลิงฺควิปลฺลาเสน ปน ‘‘กามนิทาน’’นฺติ วุตฺโต. การณฏฺเน กามา อธิกรณํ อสฺสาติ กามาธิกรโณ. ลิงฺควิปลฺลาเสเนว ปน ‘‘กามาธิกรณ’’นฺติ วุตฺโต. กามานเมว เหตูติ อิทํ นิยมวจนํ กามปจฺจยา อุปฺปชฺชติเยวาติ อตฺโถ.
อุฏฺหโตติ อาชีวสมุฏฺาปกวีริเยน อุฏฺหนฺตสฺส. ฆฏโตติ ตํ วีริยํ ปุพฺเพนาปรํ ฆเฏนฺตสฺส. วายมโตติ วายามํ ปรกฺกมํ ปโยคํ กโรนฺตสฺส. นาภินิปฺผชฺชนฺตีติ น นิปฺผชฺชนฺติ, หตฺถํ นาภิรุหนฺติ. โสจตีติ จิตฺเต อุปฺปนฺนพลวโสเกน โสจติ. กิลมตีติ กาเย อุปฺปนฺนทุกฺเขน กิลมติ. ปริเทวตีติ วาจาย ปริเทวติ. อุรตฺตาฬินฺติ อุรํ ตาเฬตฺวา. กนฺทตีติ โรทติ. สมฺโมหํ อาปชฺชตีติ วิสฺี วิย สมฺมูฬฺโห โหติ. โมฆนฺติ ตุจฺฉํ. อผโลติ นิปฺผโล.
อารกฺขาธิกรณนฺติ อารกฺขการณา. กินฺติ เมติ เกน นุ โข เม อุปาเยน. ยมฺปิ เมติ ยมฺปิ มยฺหํ กสิกมฺมาทีนิ กตฺวา อุปฺปาทิตํ ธนํ อโหสิ. ตมฺปิ โน นตฺถีติ ตมฺปิ อมฺหากํ อิทานิ นตฺถิ.
ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, กามเหตูติอาทินาปิ การณํ ทสฺเสตฺวาว อาทีนวํ ทีเปติ. ตตฺถ กามเหตูติ กามปจฺจยา ราชาโนปิ ราชูหิ วิวทนฺตีติ อตฺโถ. กามนิทานนฺติ ภาวนปุํสกํ, กาเม นิทานํ กตฺวา วิวทนฺตีติ อตฺโถ. กามาธิกรณนฺติปิ ¶ ภาวนปุํสกเมว, กาเม อธิกรณํ กตฺวา วิวทนฺตีติ อตฺโถ. กามานเมว เหตูติ คามนิคมเสนาปติปุโรหิตฏฺานนฺตราทีนํ กามานํเยว เหตุ วิวทนฺตีติ อตฺโถ. อุปกฺกมนฺตีติ ปหรนฺติ.
อสิจมฺมนฺติ อสิฺเจว เขฏกผลกาทีนิ จ.
ธนุกลาปํ สนฺนยฺหิตฺวาติ ธนุํ คเหตฺวา สรกลาปํ สนฺนยฺหิตฺวา. อุภโตพฺยูฬฺหนฺติ อุภโตราสิภูตํ. ปกฺขนฺทนฺตีติ ปวิสนฺติ. อุสูสูติ กณฺเฑสุ. วิชฺโชตลนฺเตสูติ ปริวตฺตมาเนสุ. เต ตตฺถาติ เต ตสฺมึ สงฺคาเม.
อทฺทาวเลปนา ¶ ¶ อุปการิโยติ เจตฺถ มนุสฺสา ปาการปาทํ อสฺสขุรสณฺาเนน อิฏฺกาหิ จินิตฺวา อุปริ สุธาย ลิมฺปนฺติ. เอวํ กตปาการปาทา ‘‘อุปการิโย’’ติ วุจฺจนฺติ. ตา ตินฺเตน กลเลน สิตฺตา อทฺทาวเลปนา นาม โหนฺติ. ปกฺขนฺทนฺตีติ ตาสํ เหฏฺา ติขิณอยสูลรุกฺขสูลาทีหิ วิชฺฌิยมานา ปาการสฺส ปิจฺฉิลฺลภาเวน อาโรหิตุํ อสกฺโกนฺตาปิ อุปธาวนฺติเยว. ฉกณกายาติ กุถิตโคมเยน. อภิวคฺเคนาติ สตทนฺเตน. ตํ อฏฺทนฺตากาเรน กตฺวา ‘‘นครทฺวารํ ภินฺทิตฺวา ปวิสิสฺสามา’’ติ อาคเต อุปริทฺวาเร ิตา ตสฺส พนฺธนโยตฺตานิ ฉินฺทิตฺวา เตน อภิวคฺเคน โอมทฺทนฺติ.
สนฺธิมฺปิ ฉินฺทนฺตีติ ฆรสนฺธิมฺปิ. นิลฺโลปนฺติ คาเม ปหริตฺวา มหาวิโลปํ กโรนฺติ. เอกาคาริกนฺติ ปณฺณาสมตฺตาปิ สฏฺิมตฺตาปิ ปริวาเรตฺวา ชีวคฺคาหํ คเหตฺวา ธนํ อาหราเปนฺติ. ปริปนฺเถปิ ติฏฺนฺตีติ ปนฺถทูหนกมฺมํ กโรนฺติ. อฑฺฒทณฺฑเกหีติ มุคฺคเรหิ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๖๙). เสสํ วุตฺตตฺถเมว.
ฉฏฺํ.
๑๓๗. สตฺตเม เอตีติ อีติ, อาคนฺตุกานํ อกุสลภาคิยานํ พฺยสนเหตูนํ เอตํ อธิวจนํ. ตสฺมา กามคุณาปิ เอเต อเนกพฺยสนาวหฏฺเน ทฬฺหสนฺนิปาตฏฺเน จ อีติ. คณฺโฑปิ อสุจึ ปคฺฆรติ, อุทฺธุมาตปริปกฺกปริภินฺโน โหติ. ตสฺมา ¶ เอเต กิเลสา อสุจิปคฺฆรณโต อุปฺปาทชราภงฺเคหิ อุทฺธุมาตปริปกฺกปริภินฺนภาวโต จ คณฺโฑ. อุปทฺทวตีติ อุปทฺทโว, อนตฺถํ ชเนนฺโต อภิภวติ อชฺโฌตฺถรตีติ อตฺโถ, ราคคณฺฑาทีนเมตํ อธิวจนํ. ตสฺมา กามคุณาเปเต อวิทิตนิพฺพานตฺถาวหเหตุตาย สพฺพุปทฺทววตฺถุตาย จ อุปทฺทโว. ยสฺมา ปเนเต กิเลสาตุรภาวํ ชเนนฺตา สีลสงฺขาตมาโรคฺยํ โลลุปฺปํ วา อุปฺปาเทนฺตา ปากติกเมว อาโรคฺยํ วิลุมฺปนฺติ, ตสฺมา อิมินา อาโรคฺยวิลุมฺปนฏฺเน โรโค. อพฺภนฺตรมนุปวิฏฺฏฺเน ปน อนฺโตตุทนฏฺเน ทุนฺนีหรณียฏฺเน จ สลฺลํ. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกภยาวหนโต ภยํ. เมตนฺติ เอตํ เสสเมตฺถ ปากฏเมว. นิคมนมฺปิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๕๑).
กามราครตฺตายนฺติ ¶ กามราเคน รตฺโต อยํ. ฉนฺทราควินิพทฺโธติ ฉนฺทราเคน สฺเนเหน พทฺโธ. ทิฏฺธมฺมิกาปิ คพฺภาติ อิมสฺมึ อตฺตภาเว วตฺตมานสฬายตนคพฺภา. สมฺปรายิกาปิ คพฺภาติ ปรโลเกปิ สฬายตนคพฺภา. น ปริมุจฺจตีติ ปริมุจฺจิตุํ น สกฺโกติ. โอติณฺโณ สาตรูเปนาติ ¶ มธุรสภาเวน ราเคน โอติณฺโณ โอคาหิโต. ปลิปถนฺติ กามกลลมคฺคํ. ทุคฺคนฺติ ทุคฺคมํ.
สตฺตมํ.
๑๓๘. อฏฺเม สีตํ ทุพฺพิธํ อพฺภนฺตรธาตุกฺโขภปจฺจยฺจ พาหิรธาตุกฺโขภปจฺจยฺจ. ตถา อุณฺหํ. ตตฺถ ฑํสาติ ปิงฺคลมกฺขิกา. สรีสเปติ เย เกจิ ทีฆชาติกา สริตฺวา คจฺฉนฺติ. เสสํ ปากฏเมว. นิคมนมฺปิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อฏฺมํ.
๑๓๙. นวมคาถา ปทตฺถโต ปากฏา เอว. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปายโยชนา – สา จ โข ยุตฺติวเสน, น อนุสฺสววเสน. ยถา อยํ หตฺถี มนุสฺสกนฺเตสุ สีเลสุ ทนฺตตฺตา อทนฺตภูมึ นาคจฺฉตีติ วา, สรีรมหนฺตตาย วา นาโค. เอวํ กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ อริยกนฺเตสุ สีเลสุ ทนฺตตฺตา ¶ อทนฺตภูมึ นาคมเนน, อาคุํ อกรเณน, ปุน อิตฺถตฺตํ อนาคมเนน จ คุณสรีรมหนฺตตาย วา นาโค ภเวยฺยํ. ยถา เจส ยูถานิ วิวชฺชยิตฺวา เอกจริยสุเขน ยถาภิรนฺตํ วิหเร อรฺเ, เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป, กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ เอวํ คณํ วิวชฺชยิตฺวา เอกตฺตาภิรติสุเขน ฌานสุเขน ยถาภิรนฺตํ อรฺเ อตฺตโน ยถา ยถา สุขํ, ตถา ตถา ยตฺตกํ วา อิจฺฉามิ, ตตฺตกํ อรฺเ นิวาสํ เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป เอโก จเรยฺยนฺติ อตฺโถ. ยถา เจส สุสณฺิตกฺขนฺธมหนฺตตาย สฺชาตกฺขนฺโธ, กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ เอวํ อเสกฺขสีลกฺขนฺธมหนฺตตาย สฺชาตกฺขนฺโธ ภเวยฺยํ. ยถา เจส ปทุมสทิสคตฺตตาย วา, ปทุมกุเล อุปฺปนฺนตาย วา ปทุมี, กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ เอวํ ปทุมสทิสโพชฺฌงฺคมหนฺตตาย วา, อริยชาติปทุเม อุปฺปนฺนตาย วา ปทุมี ภเวยฺยํ. ยถา เจส ถามพลชวาทีหิ อุฬาโร, กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ เอวํ ปริสุทฺธกายสมาจารตาทีหิ สีลสมาธินิพฺเพธิกปฺาทีหิ ¶ วา อุฬาโร ภเวยฺยนฺติ เอวํ จินฺเตนฺโต วิปสฺสนํ อารภิตฺวา ปจฺเจกโพธึ อธิคโตมฺหีติ.
นวมํ.
๑๔๐. ทสเม อฏฺานตนฺติ อฏฺานํ ตํ, อการณํ ตนฺติ วุตฺตํ โหติ. อนุนาสิกสฺส โลโป ¶ กโต ‘‘อริยสจฺจาน ทสฺสน’’นฺติอาทีสุ (ขุ. ปา. ๕.๑๑; สุ. นิ. ๒๗๐) วิย. สงฺคณิการตสฺสาติ คณาภิรตสฺส. ยนฺติ การณวจนเมตํ ‘‘ยํ หิรียติ หิรียิตพฺเพนา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๓๐) วิย. ผสฺสเยติ อธิคจฺเฉ. สามยิกํ วิมุตฺตินฺติ โลกิยสมาปตฺตึ. สา หิ อปฺปิตปฺปิตสมเย เอว ปจฺจนีเกหิ วิมุจฺจนโต ‘‘สามยิกา วิมุตฺตี’’ติ วุจฺจติ. ตํ สามยิกํ วิมุตฺตึ. ‘‘อฏฺานํ ตํ, น ตํ การณํ วิชฺชติ สงฺคณิการตสฺส, เยน การเณน ผสฺสเย อิติ เอตํ อาทิจฺจพนฺธุสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส วโจ นิสมฺม สงฺคณิการตึ ปหาย โยนิโส ปฏิปชฺชนฺโต อธิคโตมฺหี’’ติ อาห. เสสํ วุตฺตนยเมว (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๕๔; อป. อฏฺ. ๑.๑.๑๑๐).
นิทฺเทเส ¶ เนกฺขมฺมสุขนฺติ ปพฺพชฺชาสุขํ. ปวิเวกสุขนฺติ กายจิตฺตอุปธิวิเวเก สุขํ. อุปสมสุขนฺติ กิเลสุปสมํ ผลสมาปตฺติสุขํ. สมฺโพธิสุขนฺติ มคฺคสุขํ. นิกามลาภีติ อตฺตโน รุจิวเสน ยถากามลาภี. อกิจฺฉลาภีติ อทุกฺขลาภี. อกสิรลาภีติ วิปุลลาภี. อสามยิกนฺติ โลกุตฺตรํ. อกุปฺปนฺติ กุปฺปวิรหิตํ อจลิตํ โลกุตฺตรมคฺคํ.
ทสมํ.
ทุติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ตติยวคฺควณฺณนา
๑๔๑. ตติยวคฺคสฺส ¶ ปเม ทิฏฺีวิสูกานีติ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตานิ. ตานิ หิ มคฺคสมฺมาทิฏฺิยา วิสูกฏฺเน วิชฺฌนฏฺเน วิโลมฏฺเน จ วิสูกานิ. เอวํ ทิฏฺิยา วิสูกานีติ ทิฏฺิวิสูกานิ, ทิฏฺิโย เอว วา วิสูกานิ ทิฏฺิวิสูกานิ. อุปาติวตฺโตติ ¶ ทสฺสนมคฺเคน อติกฺกนฺโต. ปตฺโต นิยามนฺติ อวินิปาตธมฺมตาย สมฺโพธิปรายนตาย จ นิยตภาวํ อธิคโต, สมฺมตฺตนิยามสงฺขาตํ วา ปมมคฺคนฺติ. เอตฺตาวตา ปมมคฺคกิจฺจนิปฺผตฺติ จ ตสฺส ปฏิลาโภ จ วุตฺโต. อิทานิ ปฏิลทฺธมคฺโคติ อิมินา เสสมคฺคปฏิลาภํ ทสฺเสติ. อุปฺปนฺนาโณมฺหีติ อุปฺปนฺนปจฺเจกโพธิาโณ อมฺหิ. เอเตน ผลํ ทสฺเสติ. อนฺเนยฺโยติ อฺเหิ ‘‘อิทํ สจฺจํ อิทํ สจฺจ’’นฺติ นเนตพฺโพ. เอเตน สยมฺภุตํ ทีเปติ. ปตฺเต วา ปจฺเจกโพธิาเณ อฺเนยฺยตาย อภาวา สยํวสิตํ. สมถวิปสฺสนาย วา ทิฏฺิวิสูกานิ อุปาติวตฺโต, อาทิมคฺเคน ปตฺโต นิยามํ, เสเสหิ ปฏิลทฺธมคฺโค, ผลาเณน ¶ อุปฺปนฺนาโณ, ตํ สพฺพํ อตฺตนาว อธิคโตติ อนฺเนยฺโย. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๕๔; อป. อฏฺ. ๑.๑.๑๑๑).
น ปรเนยฺโยติ น อฺเหิ เนตพฺโพ. น ปรปฺปตฺติโยติ ปจฺจกฺขธมฺมตฺตา น อฺเหิ สทฺทหาเปตพฺโพ. น ปรปฺปจฺจโยติ น อสฺส ปโร ปจฺจโย, น ปรสฺส สทฺธาย วตฺตตีติ น ปรปฺปจฺจโย. น ปรปฏิพทฺธคูติ น อฺเสํ ปฏิพทฺธาณคมโน.
ปมํ.
๑๔๒. ทุติเย นิลฺโลลุโปติ อโลลุโป. โย หิ รสตณฺหาภิภูโต โหติ, โส ภุสํ ลุปฺปติ ปุนปฺปุนฺจ ลุปฺปติ, เตน ‘‘โลลุโป’’ติ วุจฺจติ. ตสฺมา เอส ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต อาห ‘‘นิลฺโลลุโป’’ติ. นิกฺกุโหติ เอตฺถ กิฺจาปิ ยสฺส ติวิธกุหนวตฺถุ นตฺถิ, โส ‘‘นิกฺกุโห’’ติ วุจฺจติ, อิมิสฺสา ปน คาถาย มนฺุโภชนาทีสุ ¶ วิมฺหยมนาปชฺชนโต นิกฺกุโหติ อยมธิปฺปาโย. นิปฺปิปาโสติ เอตฺถ ปาตุมิจฺฉา ปิปาสา, ตสฺสา อภาเวน นิปฺปิปาโส, สาทุรสโลเภน โภตฺตุกมฺยตาวิรหิโตติ อตฺโถ. นิมฺมกฺโขติ เอตฺถ ปรคุณวินาสนลกฺขโณ มกฺโข, ตสฺส อภาเวน นิมฺมกฺโข. อตฺตโน คหฏฺกาเล สูทสฺส คุณมกฺขนาภาวํ สนฺธาย อาห. นิทฺธนฺตกสาวโมโหติ เอตฺถ ราคาทโย ตโย กายทุจฺจริตาทีนิ จ ตีณีติ ฉ ธมฺมา ยถาสมฺภวํ ¶ อปฺปสนฺนฏฺเน สกภาวํ วิชหาเปตฺวา ปรภาวํ คณฺหาปนฏฺเน กสฏฏฺเน จ ‘‘กสาวา’’ติ เวทิตพฺพา. ยถาห –
‘‘ตตฺถ กตเม ตโย กสาวา? ราคกสาโว โทสกสาโว โมหกสาโว, อิเม ตโย กสาวา. ตตฺถ กตเม อปเรปิ ตโย กสาวา? กายกสาโว วจีกสาโว มโนกสาโว’’ติ (วิภ. ๙๒๔).
เตสุ โมหํ เปตฺวา ปฺจนฺนํ กสาวานํ เตสฺจ สพฺเพสํ มูลภูตสฺส โมหสฺส นิทฺธนฺตตฺตา นิทฺธนฺตกสาวโมโห, ติณฺณํ เอว วา กายวจีมโนกสาวานํ โมหสฺส จ นิทฺธนฺตตฺตา นิทฺธนฺตกสาวโมโห. อิตเรสุ นิลฺโลลุปตาทีหิ ราคกสาวสฺส, นิมฺมกฺขตาย โทสกสาวสฺส นิทฺธนฺตภาโว สิทฺโธ เอว. นิราสโสติ นิตฺตณฺโห. สพฺพโลเกติ สกลโลเก, ตีสุ ภเวสุ ทฺวาทสสุ วา อายตเนสุ ภววิภวตณฺหาวิรหิโต หุตฺวาติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ ¶ . อถ วา ตโยปิ ปาเท วตฺวา เอโก จเรติ เอโก จริตุํ สกฺกุเณยฺยาติ เอวมฺปิ เอตฺถ สมฺพนฺโธ กาตพฺโพ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๙๖).
ทุติยํ.
๑๔๓. ตติเย อยํ สงฺเขปตฺโถ – ยฺวายํ ทสวตฺถุกาย ปาปทิฏฺิยา สมนฺนาคตตฺตา ปาโป. ปเรสมฺปิ อนตฺถํ ทสฺเสตีติ อนตฺถทสฺสี. กายทุจฺจริตาทิมฺหิ จ วิสเม นิวิฏฺโ. ตํ อตฺถกาโม กุลปุตฺโต ปาปํ สหายํ ปริวชฺชเยถ, อนตฺถทสฺสึ วิสเม นิวิฏฺํ. สยํ น เสเวติ อตฺตโน วเสน ตํ น เสเวยฺย. ยทิ ปน ปรวโส โหติ, กึ สกฺกา กาตุนฺติ วุตฺตํ ¶ โหติ. ปสุตนฺติ ปสฏํ, ทิฏฺิวเสน ตตฺถ ตตฺถ ลคฺคนฺติ อตฺโถ. ปมตฺตนฺติ กามคุเณสุ โวสฺสฏฺจิตฺตํ, กุสลภาวนารหิตํ วา. ตํ เอวรูปํ น เสเว น ภเช น ปยิรุปาเส, อฺทตฺถุ เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโปติ.
นิทฺเทเส สยํ น เสเวยฺยาติ สามํ น อุปสงฺกเมยฺย. สามํ น เสเวยฺยาติ จิตฺเตนปิ น อุปสงฺกเมยฺย. น เสเวยฺยาติ น ภเชยฺย. น ¶ นิเสเวยฺยาติ สมีปมฺปิ น คจฺเฉยฺย. น สํเสเวยฺยาติ ทูเร ภเวยฺย. น ปริสํเสเวยฺยาติ ปฏิกฺกเมยฺย.
ตติยํ.
๑๔๔. จตุตฺเถ อยํ สงฺเขปตฺโถ – พหุสฺสุตนฺติ ทุวิโธ พหุสฺสุโต ตีสุ ปิฏเกสุ อตฺถโต นิขิโล ปริยตฺติพหุสฺสุโต จ มคฺคผลวิชฺชาภิฺานํ ปฏิวิทฺธตฺตา ปฏิเวธพหุสฺสุโต จ. อาคตาคโม ธมฺมธโร. อุฬาเรหิ ปน กายวจีมโนกมฺเมหิ สมนฺนาคโต อุฬาโร. ยุตฺตปฏิภาโน จ มุตฺตปฏิภาโน จ ยุตฺตมุตฺตปฏิภาโน จ ปฏิภานวา. ปริยตฺติปริปุจฺฉาธิคมวเสน วา ติธา ปฏิภานวา เวทิตพฺโพ. ยสฺส หิ ปริยตฺติ ปฏิภาติ, โส ปริยตฺติปฏิภานวา. ยสฺส อตฺถฺจ ายฺจ ลกฺขณฺจ านาฏฺานฺจ ปริปุจฺฉนฺตสฺส ปริปุจฺฉา ปฏิภาติ, โส ปริปุจฺฉาปฏิภานวา. เยน มคฺคาทโย ปฏิวิทฺธา โหนฺติ, โส อธิคมปฏิภานวา. ตํ เอวรูปํ พหุสฺสุตํ ธมฺมธรํ ภเชถ, มิตฺตํ อุฬารํ ปฏิภานวนฺตํ. ตโต ตสฺสานุภาเวน อตฺตตฺถปรตฺถอุภยตฺถเภทโต วา ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺถเภทโต วา อเนกปฺปการานิ อฺาย อตฺถานิ, ตโต ‘‘อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธาน’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐; มหานิ. ๑๗๔) กงฺขาฏฺาเนสุ ¶ วิเนยฺย กงฺขํ วิจิกิจฺฉํ วิเนตฺวา วินาเสตฺวา เอวํ กตสพฺพกิจฺโจ เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโปติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๕๘).
จตุตฺถํ.
๑๔๕. ปฺจเม ¶ ขิฑฺฑา จ รติ จ ปุพฺเพ วุตฺตาว. กามสุขนฺติ วตฺถุกามสุขํ. วตฺถุกามาปิ หิ สุขสฺส วิสยาทิภาเวน สุขนฺติ วุจฺจนฺติ. ยถาห – ‘‘อตฺถิ รูปํ สุขํ สุขานุปติต’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๖๐). เอวเมตํ ขิฑฺฑํ รตึ กามสุขฺจ อิมสฺมึ โอกาสโลเก อนลงฺกริตฺวา อลนฺติ อกตฺวา ‘‘เอตํ ตปฺปก’’นฺติ วา ‘‘สารภูต’’นฺติ วา เอวํ อคฺคเหตฺวา. อนเปกฺขมาโนติ เตน อนลงฺกรเณน อนเปกฺขนสีโล อปิหาลุโก นิตฺตณฺโห. วิภูสฏฺานาวิรโต สจฺจวาที เอโก จเรติ. ตตฺถ วิภูสา ทุวิธา อคาริกวิภูสา จ อนคาริกวิภูสา จ. ตตฺถ อคาริกวิภูสา สากฏเวนมาลาคนฺธาทิ, ¶ อนคาริกวิภูสา จ ปตฺตมณฺฑนาทิ. วิภูสา เอว วิภูสฏฺานํ, ตสฺมา วิภูสฏฺานา ติวิธายปิ วิรติยา วิรโต. อวิตถวจนโต สจฺจวาทีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๕๙).
ปฺจมํ.
๑๔๖. ฉฏฺเ ธนานีติ มุตฺตามณิเวฬุริยสงฺขสิลาปวาฬรชตชาตรูปาทีนิ รตนานิ. ธฺานีติ สาลิวีหิยวโคธุมกงฺกุวรกกุทฺรูสกปฺปเภทานิ สตฺต เสสาปรณฺณานิ จ. พนฺธวานีติ าติพนฺธุ, โคตฺตพนฺธุ, มิตฺตพนฺธุ, สิปฺปพนฺธุวเสน จตุพฺพิธพนฺธเว. ยโถธิกานีติ สกสกโอธิวเสน ิตานิเยว. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๖๐).
ฉฏฺํ.
๑๔๗. สตฺตเม สงฺโค เอโสติ อตฺตโน อุปโภคํ นิทฺทิสติ. โส หิ สชฺชนฺติ ตตฺถ ปาณิโน กทฺทเม ปวิฏฺโ หตฺถี วิยาติ สงฺโค. ปริตฺตเมตฺถ โสขฺยนฺติ เอตฺถ ปฺจกามคุณูปโภคกาเล วิปรีตสฺาย อุปฺปาเทตพฺพโต กามาวจรธมฺมปริยาปนฺนโต วา ลามกฏฺเน โสขฺยํ ปริตฺตํ, วิชฺชุปฺปภาย โอภาสิตนจฺจทสฺสนสุขํ วิย อิตฺตรํ, ตาวกาลิกนฺติ วุตฺตํ โหติ. อปฺปสฺสาโท ทุกฺขเมตฺถ ภิยฺโยติ เอตฺถ จ ยฺวายํ ‘‘ยํ โข, ภิกฺขเว, อิเม ปฺจ กามคุเณ ปฏิจฺจ ¶ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อยํ กามานํ อสฺสาโท’’ติ ¶ วุตฺโต, โส ยมิทํ ‘‘โก จ, ภิกฺขเว, กามานํ อาทีนโว, อิธ, ภิกฺขเว, กุลปุตฺโต เยน สิปฺปฏฺาเนน ชีวิกํ กปฺเปติ ยทิ มุทฺทาย ยทิ คณนายา’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๖๒) เอวมาทินา นเยเนตฺถ ทุกฺขํ วุตฺตํ, ตํ อุปนิธาย อปฺโปทกพินฺทุมตฺโต โหติ, อถ โข ทุกฺขเมว ภิยฺโย พหุ, จตูสุ สมุทฺเทสุ อุทกสทิโส โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อปฺปสฺสาโท ทุกฺขเมตฺถ ภิยฺโย’’ติ. คโฬ เอโสติ อสฺสาทํ ทสฺเสตฺวา อากฑฺฒนวเสน พฬิโส วิย เอโส, ยทิทํ ปฺจ กามคุณา. อิติ ตฺวา มติมาติ เอวํ ตฺวา พุทฺธิมา ปณฺฑิโต ปุริโส สพฺพมฺเปตํ ปหาย เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโปติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๖๑).
สตฺตมํ.
๑๔๘. อฏฺมคาถาย ¶ ทุติยปาเท ชาลนฺติ สุตฺตมยํ วุจฺจติ. อมฺพูติ อุทกํ, ตตฺถ จรตีติ อมฺพุจารี, มจฺฉสฺเสตํ อธิวจนํ. สลิเล อมฺพุจารี สลิลมฺพุจารี. ตสฺมึ นทีสลิเล ชาลํ เภตฺวา คตอมฺพุจารีวาติ วุตฺตํ โหติ. ตติยปาเท ทฑฺฒนฺติ ทฑฺฒฏฺานํ วุจฺจติ. ยถา อคฺคิ ทฑฺฒฏฺานํ ปุน น นิวตฺตติ, น ตตฺถ ภิยฺโย อาคจฺฉติ, เอวํ มคฺคาณคฺคินา ทฑฺฒํ กามคุณฏฺานํ อนิวตฺตมาโน, ตตฺถ ภิยฺโย อนาคจฺฉนฺโตติ วุตฺตํ โหติ. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ.
สํโยชนานีติ ยสฺส สํวิชฺชนฺติ, ตํ ปุคฺคลํ วฏฺฏสฺมึ สํโยเชนฺติ พนฺธนฺตีติ สํโยชนานิ. อิมานิ ปน สํโยชนานิ กิเลสปฏิปาฏิยาปิ อาหริตุํ วฏฺฏติ มคฺคปฏิปาฏิยาปิ. กามราคปฏิฆสํโยชนานิ อนาคามิมคฺเคน ปหียนฺติ, มานสํโยชนํ อรหตฺตมคฺเคน, ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสา โสตาปตฺติมคฺเคน, ภวราคสํโยชนํ อรหตฺตมคฺเคน, อิสฺสามจฺฉริยานิ โสตาปตฺติมคฺเคน, อวิชฺชา อรหตฺตมคฺเคน. มคฺคปฏิปาฏิยา ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสอิสฺสามจฺฉริยา โสตาปตฺติมคฺเคน ปหียนฺติ, กามราคปฏิฆา อนาคามิมคฺเคน, มานภวราคอวิชฺชา อรหตฺตมคฺเคนาติ. ภินฺทิตฺวาติ เภทํ ปาเปตฺวา. ปภินฺทิตฺวาติ ¶ ฉินฺทํ กตฺวา. ทาลยิตฺวาติ ผาเลตฺวา. ปทาลยิตฺวาติ หีเรตฺวา. สมฺปทาลยิตฺวาติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ.
อฏฺมํ.
๑๔๙. นวเม โอกฺขิตฺตจกฺขูติ เหฏฺาขิตฺตจกฺขุ, สตฺต คีวฏฺีนิ ปฏิปาฏิยา เปตฺวา ปริวชฺชนปหาตพฺพทสฺสนตฺถํ ¶ ยุคมตฺตํ เปกฺขมาโนติ วุตฺตํ โหติ. น ตุ หนุกฏฺินา หทยฏฺึ สงฺฆฏฺเฏนฺโต. เอวฺหิ โอกฺขิตฺตจกฺขุตา น สมณสารูปฺปา โหติ. น จ ปาทโลโลติ เอกสฺส ทุติโย ทฺวินฺนํ ตติโยติ เอวํ คณมชฺฌํ, ปวิสิตุกามตาย กณฺฑูยมานปาโท วิย อภวนฺโต, ทีฆจาริกอนวฏฺิตจาริกวิรโต วา. คุตฺตินฺทฺริโยติ ฉสุ อินฺทฺริเยสุ อิธ มนินฺทฺริยสฺส วิสุํ วุตฺตตฺตา วุตฺตาวเสสวเสน โคปิตินฺทฺริโย. รกฺขิตมานสาโนติ มานสํเยว มานสานํ, ตํ รกฺขิตมสฺสาติ รกฺขิตมานสาโน. ยถา กิเลเสติ น ¶ วิลุปฺปติ, เอวํ รกฺขิตจิตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. อนวสฺสุโตติ อิมาย ปฏิปตฺติยา เตสุ เตสุ อารมฺมเณสุ กิเลสอนฺวาสฺสววิรหิโต. อปริฑยฺหมาโนติ เอวํ อนฺวาสฺสววิรหิตา เอว กิเลสคฺคีหิ อปริฑยฺหมาโน, พหิทฺธา วา อนวสฺสุโต, อชฺฌตฺตํ อปริฑยฺหมาโน. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๖๓).
จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ การณวเสน ‘‘จกฺขู’’ติ ลทฺธโวหาเรน รูปทสฺสนสมตฺเถน จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ทิสฺวา. โปราณา ปนาหุ –
‘‘จกฺขุ รูปํ น ปสฺสติ อจิตฺตกตฺตา, จิตฺตํ น ปสฺสติ อจกฺขุกตฺตา, ทฺวารารมฺมณสงฺฆฏฺฏเน ปน ปสาทวตฺถุเกน จิตฺเตน ปสฺสติ. อีทิสี ปเนสา ‘ธนุนา วิชฺฌตี’ติอาทีสุ วิย สสมฺภารกถา นาม โหติ, ตสฺมา จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ทิสฺวาติ อยเมเวตฺถ อตฺโถ’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๕; ธ. ส. อฏฺ. ๑๓๕๒).
นิมิตฺตคฺคาหีติ อิตฺถิปุริสนิมิตฺตํ วา สุภนิมิตฺตาทิกํ วา กิเลสวตฺถุภูตํ นิมิตฺตํ ฉนฺทราควเสน คณฺหาติ, ทิฏฺมตฺตวเสน น สณฺาติ. อนุพฺยฺชนคฺคาหีติ กิเลสานํ อนุพฺยฺชนโต ปากฏภาวกรณโต ‘‘อนุพฺยฺชน’’นฺติ ลทฺธโวหารํ หตฺถปาทหสิตลปิตวิโลกิตาทิเภทํ อาการํ คณฺหาติ.
ยตฺวาธิกรณเมนนฺติอาทิมฺหิ ¶ ยํการณา ยสฺส จกฺขุนฺทฺริยาสํวรสฺส เหตุ. เอตํ ปุคฺคลํ สติกวาเฏน จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ อปิหิตจกฺขุทฺวารํ หุตฺวา วิหรนฺตํ เอเต อภิชฺฌาทโย ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ. ตสฺส สํวราย น ปฏิปชฺชตีติ ตสฺส จกฺขุนฺทฺริยสฺส สติกวาเฏน ปิทหนตฺถาย น ปฏิปชฺชติ. เอวํภูโตเยว จ ‘‘น รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ. น จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชตี’’ติปิ วุจฺจติ.
ตตฺถ ¶ กิฺจาปิ จกฺขุนฺทฺริเย สํวโร วา อสํวโร วา นตฺถิ. น หิ จกฺขุปสาทํ นิสฺสาย สติ วา มุฏฺสฺสจฺจํ วา อุปฺปชฺชติ, อปิ จ ยทา รูปารมฺมณํ จกฺขุสฺส อาปาถํ อาคจฺฉติ, ตทา ภวงฺเค ทฺวิกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธ กิริยมโนธาตุ อาวชฺชนกิจฺจํ สาธยมานา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ, ตโต จกฺขุวิฺาณํ ทสฺสนกิจฺจํ ตโต วิปากมโนธาตุ สมฺปฏิจฺฉนกิจฺจํ ตโต วิปากาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ สนฺตีรณกิจฺจํ ตโต กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ ¶ โวฏฺปนกิจฺจํ สาธยมานา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ, ตทนนฺตรํ ชวนํ ชวติ. ตตฺราปิ เนว ภวงฺคสมเย, น อาวชฺชนาทีนํ อฺตรสมเย สํวโร วา อสํวโร วา อตฺถิ, ชวนกฺขเณ ปน สเจ ทุสฺสีลฺยํ วา มุฏฺสฺสจฺจํ วา อฺาณํ วา อกฺขนฺติ วา โกสชฺชํ วา อุปฺปชฺชติ, อสํวโร โหติ. เอวํ โหนฺโต ปน โส จกฺขุนฺทฺริเย อสํวโรติ วุจฺจติ. กสฺมา? ยสฺมา ตสฺมึ สติ ทฺวารมฺปิ อคุตฺตํ โหติ ภวงฺคมฺปิ อาวชฺชนาทีนิ วีถิจิตฺตานิปิ. ยถา กึ? ยถา นคเร จตูสุ ทฺวาเรสุ อสํวุเตสุ กิฺจาปิ อนฺโตฆรทฺวารโกฏฺกคพฺภาทโย สุสํวุตา, ตถาปิ อนฺโตนคเร สพฺพํ ภณฺฑํ อรกฺขิตํ อโคปิตเมว โหติ. นครทฺวาเรน หิ ปวิสิตฺวา โจรา ยทิจฺฉนฺติ, ตํ หเรยฺยุํ. เอวเมว ชวเน ทุสฺสีลฺยาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ตสฺมึ อสํวเร สติ ทฺวารมฺปิ อคุตฺตํ โหติ ภวงฺคมฺปิ อาวชฺชนาทีนิ วีถิจิตฺตานิปีติ.
จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหตีติอาทีสุ น นิมิตฺตคฺคาหี โหตีติ ฉนฺทราควเสน วุตฺตปฺปการํ นิมิตฺตํ น คณฺหาติ. เอวํ เสสปทานิปิ วุตฺตปฏิกฺเขเปน เวทิตพฺพานิ. ยถา จ เหฏฺา ‘‘ชวเน ทุสฺสีลฺยาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ตสฺมึ อสํวเร สติ ทฺวารมฺปิ อคุตฺตํ โหติ ภวงฺคมฺปิ อาวชฺชนาทีนิ วีถิจิตฺตานิปี’’ติ วุตฺตํ, เอวมิธ ตสฺมึ สีลาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ทฺวารมฺปิ คุตฺตํ ¶ โหติ ภวงฺคมฺปิ อาวชฺชนาทีนิ วีถิจิตฺตานิปิ. ยถา กึ? ยถา นครทฺวาเรสุ สํวุเตสุ กิฺจาปิ อนฺโตฆราทโย อสํวุตา โหนฺติ. ตถาปิ อนฺโตนคเร สพฺพํ ภณฺฑํ สุรกฺขิตํ สุโคปิตเมว โหติ. นครทฺวาเรสุ ปิหิเตสุ โจรานํ ปเวโส นตฺถิ. เอวเมว ชวเน สีลาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ทฺวารมฺปิ คุตฺตํ โหติ ภวงฺคมฺปิ อาวชฺชนาทีนิ วีถิจิตฺตานิปิ. ตสฺมา ชวนกฺขเณ อุปฺปชฺชมาโนปิ จกฺขุนฺทฺริเย สํวโรติ วุตฺโต (ธ. ส. อฏฺ. ๑๓๕๒; วิสุทฺธิ. ๑.๑๕).
อวสฺสุตปริยายฺจาติ กิเลเสหิ ตินฺตการณฺจ. อนวสฺสุตปริยายฺจาติ กิเลเสหิ อตินฺตการณฺจ.
ปิยรูเป ¶ รูเปติ อิฏฺชาติเก รูปารมฺมเณ. อปฺปิยรูเป รูเปติ อนิฏฺสภาเว รูปารมฺมเณ. พฺยาปชฺชตีติ โทสวเสน ปูติภาวมาปชฺชติ. โอตารนฺติ ฉิทฺทํ อนฺตรํ. อารมฺมณนฺติ ปจฺจยํ.
อธิภํสูติ ¶ มทฺทํสุ. น อธิโภสีติ น มทฺทิ. พหลมตฺติกาติ ปุนปฺปุนํ ทานวเสน อุทฺธมายิกา พหลมตฺติกา. อทฺทาวเลปนาติ อสุกฺขมตฺติกทานา. เสสเมตฺถ อุตฺตานํ.
นวมํ.
๑๕๐. ทสเม กาสายวตฺโถ อภินิกฺขมิตฺวาติ อิมสฺส ปาทสฺส เคหา อภินิกฺขมิตฺวา กาสายวตฺโถ หุตฺวาติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. เสสํ วุตฺตนเยเนว สกฺกา ชานิตุนฺติ น วิตฺถาริตนฺติ.
ทสมํ.
ตติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. จตุตฺถวคฺควณฺณนา
๑๕๑. จตุตฺถวคฺคสฺส ¶ ปเม รเสสูติ อมฺพิลมธุรติตฺตกกฏุกโลณิกขาริกกสาวาทิเภเทสุ สายนีเยสุ. เคธํ อกรนฺติ คิทฺธึ อกโรนฺโต, ตณฺหํ อนุปฺปาเทนฺโตติ วุตฺตํ โหติ. อโลโลติ ‘‘อิทํ สายิสฺสามิ, อิทํ สายิสฺสามี’’ติ เอวํ รสวิเสเสสุ อนากุโล. อนฺโปสีติ โปเสตพฺพกสทฺธิวิหาริกาทิวิรหิโต, กายสนฺธารณมตฺเตน สนฺตุฏฺโติ วุตฺตํ โหติ. ยถา วา ปุพฺเพ อุยฺยาเน รเสสุ เคธกรณโลโล หุตฺวา อฺโปสี อาสึ, เอวํ อหุตฺวา ยาย ตณฺหาย โลโล หุตฺวา รเสสุ เคธํ กโรติ, ตํ ตณฺหํ หิตฺวา อายตึ ตณฺหามูลกสฺส อฺสฺส อตฺตภาวสฺส อนิพฺพตฺตเนน อนฺโปสีติ ทสฺเสติ. อถ วา อตฺถภฺชนกฏฺเน กิเลสา ‘‘อฺเ’’ติ วุจฺจนฺติ, เตสํ อโปสเนน อนฺโปสีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. สปทานจารีติ อโวกฺกมฺมจารี อนุปุพฺพจารี, ฆรปฏิปาฏึ อฉฑฺเฑตฺวา อฑฺฒกุลฺจ ทลิทฺทกุลฺจ นิรนฺตรํ ปิณฺฑาย ปวิสมาโนติ อตฺโถ. กุเล กุเล อปฺปฏิพทฺธจิตฺโตติ ขตฺติยกุลาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ กิเลสวเสน อลคฺคจิตฺโต, จนฺทูปโม นิจฺจนวโก หุตฺวาติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๖๕; อป. อฏฺ. ๑.๑.๑๒๑).
ปมํ.
๑๕๒. ทุติเย ¶ ¶ อาวรณานีติ นีวรณาเนว, ตานิ อตฺถโต อุรคสุตฺเต (สุ. นิ. ๑ อาทโย) วุตฺตานิ. ตานิ ปน ยสฺมา อพฺภาทโย วิย จนฺทํ สูริยํ วา เจโต อาวรนฺติ, ตสฺมา ‘‘อาวรณานิ เจตโส’’ติ วุตฺตานิ. ตานิ อุปจาเรน วา อปฺปนาย วา ปหาย. อุปกฺกิเลเสติ อุปคมฺม จิตฺตํ วิพาเธนฺเต อกุสเล ธมฺเม, วตฺโถปมาทีสุ (ม. นิ. ๑.๗๐ อาทโย) วุตฺเต อภิชฺฌาทโย วา. พฺยปนุชฺชาติ ปนุทิตฺวา วินาเสตฺวา, วิปสฺสนามคฺเคน ปชหิตฺวาติ อตฺโถ ¶ . สพฺเพติ อนวเสเส. เอวํ สมถวิปสฺสนาสมฺปนฺโน ปมมคฺเคน ทิฏฺินิสฺสยสฺส ปหีนตฺตา อนิสฺสิโต. เสสมคฺเคหิ เฉตฺวา เตธาตุกคตํ สิเนหโทสํ, ตณฺหาราคนฺติ วุตฺตํ โหติ. สิเนโห เอว หิ คุณปฏิปกฺขโต สิเนหโทโสติ วุตฺโต. เสสํ วุตฺตนยเมว (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๖๖).
ทุติยํ.
๑๕๓. ตติเย วิปิฏฺิกตฺวานาติ ปิฏฺิโต กตฺวา, ฉฑฺเฑตฺวา ชหิตฺวาติ อตฺโถ. สุขํ ทุขฺจาติ กายิกํ สาตาสาตํ. โสมนสฺสโทมนสฺสนฺติ เจตสิกํ สาตาสาตํ. อุเปกฺขนฺติ จตุตฺถชฺฌานุเปกฺขํ. สมถนฺติ จตุตฺถชฺฌานสมถเมว. วิสุทฺธนฺติ ปฺจนีวรณวิตกฺกวิจารปีติสุขสงฺขาเตหิ นวหิ ปจฺจนีกธมฺเมหิ วิมุตฺตตฺตา อติสุทฺธํ, นิทฺธนฺตสุวณฺณมิว วิคตูปกฺกิเลสนฺติ อตฺโถ.
อยํ ปน โยชนา – วิปิฏฺิกตฺวาน สุขํ ทุกฺขฺจ ปุพฺเพว, ปมชฺฌานูปจารภูมิยํเยว ทุกฺขํ, ตติยชฺฌานูปจารภูมิยฺจ สุขนฺติ อธิปฺปาโย. ปุน อาทิโต วุตฺตํ จ-การํ ปรโต เนตฺวา ‘‘โสมนสฺสํ โทมนสฺสฺจ วิปิฏฺิกตฺวาน ปุพฺเพวา’’ติ อธิกาโร. เตน โสมนสฺสํ จตุตฺถชฺฌานูปจาเร, โทมนสฺสฺจ ทุติยชฺฌานูปจาเรเยวาติ ทีเปติ. เอตานิ หิ เอเตสํ ปริยายโต ปหานฏฺานานิ. นิปฺปริยายโต ปน ทุกฺขสฺส ปมชฺฌานํ, โทมนสฺสสฺส ทุติยชฺฌานํ, สุขสฺส ตติยชฺฌานํ, โสมนสฺสสฺส จตุตฺถชฺฌานํ ปหานฏฺานํ. ยถาห – ‘‘ปมชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ เอตฺถุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๕.๕๑๐). ตํ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยน คเหตพฺพํ. ปรโต ปุพฺเพวาติ ตีสุ ปมชฺฌานทีสุ ทุกฺขโทมนสฺสสุขานิ ¶ วิปิฏฺิกตฺวา เอตฺเถว จ จตุตฺถชฺฌาเน โสมนสฺสํ วิปิฏฺิกตฺวา อิมาย ปฏิปทาย ลทฺธานุเปกฺขํ สมถํ วิสุทฺธํ เอโก จเร อิติ. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๖๗; อป. อฏฺ. ๑.๑.๑๒๓).
ตติยํ.
๑๕๔. จตุตฺเถ ¶ ¶ อารทฺธํ วีริยํ อสฺสาติ อารทฺธวิริโย. เอเตน อตฺตโน วีริยารมฺภํ อาทิวีริยํ ทสฺเสติ. ปรมตฺโถ วุจฺจติ นิพฺพานํ, ตตฺถ ปตฺติยา ปรมตฺถปตฺติยา. เอเตน วีริยารมฺเภน ปตฺตพฺพผลํ ทสฺเสติ. อลีนจิตฺโตติ เอเตน วีริยุปตฺถมฺภานํ จิตฺตเจตสิกานํ อลีนตํ ทสฺเสติ. อกุสีตวุตฺตีติ เอเตน านาสนจงฺกมาทีสุ กายสฺส อนวสีทนํ. ทฬฺหนิกฺกโมติ เอเตน ‘‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ จา’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๘๔; สํ. นิ. ๒.๒๒; อ. นิ. ๒.๕; มหานิ. ๑๙๖) เอวํ ปวตฺตํ ปทหนวีริยํ ทสฺเสติ. ยํ ตํ อนุปุพฺพสิกฺขาทีสุ ปทหนฺโต ‘‘กาเยน เจว ปรมตฺถสจฺจํ สจฺฉิกโรติ, ปฺาย จ นํ อติวิชฺฌ ปสฺสตี’’ติ วุจฺจติ. อถ วา เอเตน มคฺคสมฺปยุตฺตวีริยํ ทสฺเสติ. ตฺหิ ทฬฺหฺจ ภาวนาปาริปูริคตตฺตา, นิกฺกโม จ สพฺพโส ปฏิปกฺขา นิกฺขนฺตตฺตา, ตสฺมา ตํสมงฺคีปุคฺคโลปิ ทฬฺโห นิกฺกโม อสฺสาติ ‘‘ทฬฺหนิกฺกโม’’ติ วุจฺจติ. ถามพลูปปนฺโนติ มคฺคกฺขเณ กายถาเมน าณพเลน จ อุปปนฺโน. อถ วา ถามภูเตน พเลน อุปปนฺโนติ ถามพลูปปนฺโน, ถิราณพลูปปนฺโนติ วุตฺตํ โหติ. เอเตน ตสฺส วีริยสฺส วิปสฺสนาาณสมฺปโยคํ ทีเปนฺโต โยนิโส ปทหนภาวํ สาเธติ. ปุพฺพภาคมชฺฌิมอุกฺกฏฺวีริยวเสน วา ตโยปิ ปาทา โยเชตพฺพา. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๖๘).
จตุตฺถํ.
๑๕๕. ปฺจเม ปฏิสลฺลานนฺติ เตหิ เตหิ สตฺตสงฺขาเรหิ ปฏินิวตฺติตฺวา สลฺลีนํ, เอกตฺตเสวิตา เอกีภาโว กายวิเวโกติ อตฺโถ. ฌานนฺติ ปจฺจนีกฌาปนโต อารมฺมณลกฺขณูปนิชฺฌานโต จ จิตฺตวิเวโก วุจฺจติ. ตตฺถ อฏฺ สมาปตฺติโย นีวรณาทิปจฺจนีกฌาปนโต กสิณาทิอารมฺมณูปนิชฺฌานโต จ ‘‘ฌาน’’นฺติ วุจฺจติ. วิปสฺสนามคฺคผลานิ ¶ สตฺตสฺาทิปจฺจนีกฌาปนโต ลกฺขณูปนิชฺฌานโต จ ‘‘ฌาน’’นฺติ วุจฺจติ. อิธ ปน อารมฺมณูปนิชฺฌานเมว อธิปฺเปตํ ¶ . เอวเมตํ ปฏิสลฺลานฺจ ฌานฺจ อริฺจมาโนติ อชหมาโน อนิสฺสชฺชมาโน. ธมฺเมสูติ วิปสฺสนุปเคสุ ปฺจกฺขนฺธาทิธมฺเมสุ. นิจฺจนฺติ สตตํ สมิตํ อพฺโพกิณฺณํ. อนุธมฺมจารีติ เต ธมฺเม อารพฺภ ปวตฺตมาเนน อนุคตํ วิปสฺสนาธมฺมํ จรมาโน. อถ วา ธมฺเมสูติ เอตฺถ ธมฺมาติ นว โลกุตฺตรธมฺมา, เตสํ ธมฺมานํ อนุโลโม ธมฺโมติ อนุธมฺโม, วิปสฺสนาเยตํ อธิวจนํ. ตตฺถ ‘‘ธมฺมานํ นิจฺจํ อนุธมฺมจารี’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธสุขตฺถํ วิภตฺติพฺยตฺตเยน ‘‘ธมฺเมสู’’ติ วุตฺตํ สิยา. อาทีนวํ สมฺมสิตา ภเวสูติ ตาย อนุธมฺมจาริตาสงฺขาตาย วิปสฺสนาย อนิจฺจาการาทิโทสํ ตีสุ ภเวสุ สมนุปสฺสนฺโต เอวํ อิมาย กายวิเวกจิตฺตวิเวกํ อริฺจมาโน สิขาปฺปตฺตวิปสฺสนาสงฺขาตาย ¶ ปฏิปทาย อธิคโตติ วตฺตพฺโพ เอโก จเรติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๖๙; อป. อฏฺ. ๑.๑.๑๒๕).
ปฺจมํ.
๑๕๖. ฉฏฺเ ตณฺหกฺขยนฺติ นิพฺพานํ, เอวํ ทิฏฺาทีนวาย ตณฺหาย เอว อปฺปวตฺตึ. อปฺปมตฺโตติ สาตจฺจการี. อเนฬมูโคติ อลาลามุโข. อถ วา อเนโฬ จ อมูโค จ, ปณฺฑิโต พฺยตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. หิตสุขสมฺปาปกํ สุตมสฺส อตฺถีติ สุตวา, อาคมสมฺปนฺโนติ วุตฺตํ โหติ. สตีมาติ จิรกตาทีนํ อนุสฺสริตา. สงฺขาตธมฺโมติ ธมฺมูปปริกฺขาย ปริฺาตธมฺโม. นิยโตติ อริยมคฺเคน นิยามํ ปตฺโต. ปธานวาติ สมฺมปฺปธานวีริยสมฺปนฺโน. อุปฺปฏิปาฏิยา เอส ปาโ โยเชตพฺโพ. เอวเมเตหิ อปฺปมาทาทีหิ สมนฺนาคโต นิยามสมฺปาปเกน ปธาเนน ปธานวา, เตน ปธาเนน ปตฺตนิยามตฺตา นิยโต, ตโต อรหตฺตปฺปตฺติยา สงฺขาตธมฺโม. อรหา หิ ปุน สงฺขาตพฺพาภาวโต ‘‘สงฺขาตธมฺโม’’ติ วุจฺจติ. ยถาห – ‘‘เย จ สงฺขาตธมฺมาเส, เย จ เสกฺขา ปุถู อิธา’’ติ (สํ. นิ. ๒.๓๑; สุ. นิ. ๑๐๔๔; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉา ๖๓, อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๗; เนตฺติ. ๑๔; เปฏโก. ๔๕). เสสํ วุตฺตนยเมวาติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๗๐).
ฉฏฺํ.
๑๕๗. สตฺตเม ¶ ¶ สีโหติ จตฺตาโร สีหา – ติณสีโห, ปณฺฑุสีโห, กาฬสีโห, เกสรสีโหติ. เตสํ เกสรสีโห อคฺคมกฺขายติ, เอโส อิธ อธิปฺเปโต. วาโต ปุรตฺถิมาทิวเสน อเนกวิโธ. ปทุมํ รตฺตเสตาทิวเสน. เตสุ โย โกจิ วาโต ยํ กิฺจิ ปทุมํ วฏฺฏติเยว. ตตฺถ ยสฺมา สนฺตาโส อตฺตสิเนเหน โหติ, อตฺตสิเนโห จ ตณฺหาเลโป, โสปิ ทิฏฺิสมฺปยุตฺเตน วา ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเตน วา โลเภน โหติ, โสปิ จ ตณฺหาเยว. สชฺชนํ ปน ตตฺถ อุปปริกฺขาวิรหิตสฺส โมเหน โหติ, โมโห จ อวิชฺชา. ตตฺถ สมเถน ตณฺหาย ปหานํ โหติ, วิปสฺสนาย อวิชฺชาย. ตสฺมา สมเถน อตฺตสิเนหํ ปหาย สีโห วิย สทฺเทสุ อนิจฺจทุกฺขาทีสุอสนฺตสนฺโต, วิปสฺสนาย โมหํ ปหาย วาโตว ชาลมฺหิ ขนฺธายตนาทีสุ อสชฺชมาโน, สมเถเนว โลภํ, โลภสมฺปยุตฺตํ เอว ทิฏฺิฺจ ปหาย, ปทุมํว โตเยน สพฺพภวโภคโลเภน อลิปฺปมาโน.
เอตฺถ ¶ จ สมถสฺส สีลํ ปทฏฺานํ, สมโถ สมาธิ, วิปสฺสนา ปฺาติ เอวํ เตสุ ทฺวีสุ ธมฺเมสุ สิทฺเธสุ ตโยปิ ขนฺธา สิทฺธา โหนฺติ. ตตฺถ สีลกฺขนฺเธน สุรโต โหติ, โส สีโหว สทฺเธสุ อาฆาตวตฺถูสุ อกุชฺฌิตุกามตาย น สนฺตสติ, ปฺากฺขนฺเธน ปฏิวิทฺธสภาโว วาโตว ชาลมฺหิ ขนฺธาทิธมฺมเภเท น สชฺชติ, สมาธิกฺขนฺเธน วีตราโค ปทุมํว โตเยน ราเคน น ลิปฺปติ. เอวํ สมถวิปสฺสนาหิ สีลสมาธิปฺากฺขนฺเธหิ จ ยถาสมฺภวํ อวิชฺชาตณฺหานํ, ติณฺณฺจ อกุสลมูลานํ ปหานวเสน อสนฺตสนฺโต อสชฺชมาโน อลิปฺปมาโน จ เวทิตพฺโพ. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๗๑; อป. อฏฺ. ๑.๑.๑๒๗).
สตฺตมํ.
๑๕๘. อฏฺเม สหนา จ หนนา จ สีฆชวตฺตา จ สีโห. เกสรสีโหว อิธ อธิปฺเปโต. ทาา พลมสฺส อตฺถีติ ทาพลี. ปสยฺห อภิภุยฺยาติ อุภยํ จารีสทฺเทน สห โยเชตพฺพํ ปสยฺหจารี อภิภุยฺยจารีติ. ตตฺถ ปสยฺห นิคฺคยฺห ปวาเหตฺวา จรเณน ปสยฺหจารี ¶ . อภิภวิตฺวา ¶ สนฺตาเสตฺวา วสีกตฺวา จรเณน อภิภุยฺหจารี. สฺวายํ กายพเลน ปสยฺหจารี, เตชสา อภิภุยฺยจารี. ตตฺถ สเจ โกจิ วเทยฺย ‘‘กึ ปสยฺห อภิภุยฺยจารี’’ติ. ตโต มิคานนฺติ สามิวจนํ อุปโยคตฺเถ กตฺวา ‘‘มิเค ปสยฺห อภิภุยฺยจารี’’ติ ปฏิวตฺตพฺพํ. ปนฺตานีติ ทูรานิ. เสนาสนานีติ วสนฏฺานานิ. เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว สกฺกา ชานิตุนฺติ น วิตฺถาริตํ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๗๒).
อฏฺมํ.
๑๕๙. นวเม ‘‘สพฺเพ สตฺตา สุขิตา ภวนฺตู’’ติอาทินา นเยน หิตสุขูปนยนกามตา เมตฺตา. ‘‘อโห วต อิมมฺหา ทุกฺขา วิมุจฺเจยฺยุ’’นฺติอาทินา นเยน อหิตทุกฺขาปนยนกามตา กรุณา. ‘‘โมทนฺติ วต โภนฺโต สตฺตา, โมทนฺติ สาธุ สุฏฺู’’ติอาทินา นเยน หิตสุขาวิปฺปโยคกามตา มุทิตา. ‘‘ปฺายิสฺสนฺติ สเกน กมฺเมนา’’ติ สุขทุกฺเขสุ อชฺฌุเปกฺขนตา อุเปกฺขา. คาถาพนฺธสุขตฺถํ ปน อุปฺปฏิปาฏิยา เมตฺตํ วตฺวา อุเปกฺขา วุตฺตา, มุทิตา จ ปจฺฉา. วิมุตฺตินฺติ จตสฺโสปิ หิ วิมุตฺตี. เอตา อตฺตโน ปจฺจนีกธมฺเมหิ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติโย. เตน วุตฺตํ – ‘‘เมตฺตํ อุเปกฺขํ กรุณํ วิมุตฺตึ, อาเสวมาโน มุทิตฺจ กาเล’’ติ.
ตตฺถ ¶ อาเสวมาโนติ ติสฺโส ติกจตุกฺกชฺฌานวเสน ภาวยมาโน, อุเปกฺขํ จตุตฺถชฺฌานวเสน ภาวยมาโน. กาเลติ เมตฺตํ อาเสวิตฺวา ตโต วุฏฺาย กรุณํ, ตโต วุฏฺาย มุทิตํ, ตโต อิตรโต วา นิปฺปีติกชฺฌานโต วุฏฺาย อุเปกฺขํ อาเสวมาโนว ‘‘กาเล อาเสวมาโน’’ติ วุจฺจติ, อาเสวิตุํ ผาสุกาเล วา. สพฺเพน โลเกน อวิรุชฺฌมาโนติ ทสสุ ทิสาสุ สพฺเพน สตฺตโลเกน อวิรุชฺฌมาโน. เมตฺตาทีนฺหิ ภาวิตตฺตา สตฺตา อปฺปฏิกฺกูลา โหนฺติ, สตฺเตสุปิ วิโรธภูโต ปฏิโฆ วูปสมฺมติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สพฺเพน โลเกน อวิรุชฺฌมาโน’’ติ. เสสํ วุตฺตสทิสเมวาติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๗๓).
นวมํ.
๑๖๐. ทสเม ¶ สํโยชนานีติ ทส สํโยชนานิ, ตานิ จ เตน เตน มคฺเคน สนฺทาลยิตฺวาน. อสนฺตสํ ชีวิตสงฺขยมฺหีติ ชีวิตสงฺขโย วุจฺจติ ¶ จุติจิตฺตสฺส ปริเภโท, ตสฺมิฺจ ชีวิตสงฺขเย ชีวิตนิกนฺติยา ปหีนตฺตา อสนฺตสนฺติ. เอตฺตาวตา สอุปาทิเสสนิพฺพานธาตุํ อตฺตโน ทสฺเสตฺวา คาถาปริโยสาเน อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายีติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๗๔).
ทสมํ.
๑๖๑. เอกาทสเม ภชนฺตีติ สรีเรน อลฺลียิตฺวา ปยิรุปาสนฺติ. เสวนฺตีติ อฺชลิกมฺมาทีหิ กึการปฏิสฺสาวิตาย จ ปริจรนฺติ. การณํ อตฺโถ เอเตสนฺติ การณตฺถา, ภชนาย เสวนาย จ นาฺํ การณมตฺถิ, อตฺโถ เอว เตสํ การณํ, อตฺถเหตุ เสวนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. นิกฺการณา ทุลฺลภา อชฺช มิตฺตาติ ‘‘อิโต กิฺจิ ลจฺฉามา’’ติ เอวํ อตฺตปฏิลาภการเณน นิกฺการณา, เกวลํ –
‘‘อุปกาโร จ โย มิตฺโต, สุเข ทุกฺเข จ โย สขา;
อตฺถกฺขายี จ โย มิตฺโต, โย จ มิตฺตานุกมฺปโก’’ติ. (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๗๕; อป. อฏฺ. ๑.๑.๑๓๑; ที. นิ. ๓.๒๖๕) –
เอวํ วุตฺเตน อริเยน มิตฺตภาเวน สมนฺนาคตา ทุลฺลภา อชฺช มิตฺตา. อตฺตนิ ิตา เอเตสํ ปฺา, อตฺตานํเยว โอโลเกนฺติ, น อฺนฺติ อตฺตฏฺปฺา. ‘‘ทิฏฺตฺถปฺา’’ติ อยมฺปิ กิร โปราณปาโ ¶ . สมฺปติ ทิฏฺเเยว อตฺเถ เอเตสํ ปฺา, อายตึ น เปกฺขนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อสุจีติ อสุจินา อนริเยน กายวจีมโนกมฺเมน สมนฺนาคตาติ. เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ยํ อนฺตรนฺตรา อติวิตฺถารภเยน น วุตฺตํ, ตํ สพฺพํ ปาานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๗๕; อป. อฏฺ. ๑.๑.๑๓๑). เอกาทสมํ.
จตุตฺถวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถาย
ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิคมนกถา
โย ¶ ¶ ¶ โส สุคตปุตฺตานํ, อธิปติภูเตน หิตรตินา;
เถเรน ถิรคุณวตา, สุวิภตฺโต มหานิทฺเทโส.
ตสฺสตฺถวณฺณนา ยา, ปุพฺพฏฺกถานยํ ตถา;
ยุตฺตึ นิสฺสาย มยารทฺธา, นิฏฺานมุปคตา เอสา.
ยํ ปุรํ ปุรุตฺตมํ, อนุราธปุรวฺหยํ;
โย ตสฺส ทกฺขิเณ ภาเค, มหาวิหาโร ปติฏฺิโต.
โย ตสฺส ติลโก ภูโต, มหาถูโป สิลุจฺจโย;
ยํ ตสฺส ปจฺฉิเม ภาเค, เลโข กถิกสฺิโต.
กิตฺติเสโนติ นาเมน, สชีโว ราชสมฺมโต;
สุจิจาริตฺตสมฺปนฺโน, เลโข กุสลกมฺมิโก.
สีตจฺฉายตรุเปตํ, สลิลาสยสมฺปทํ;
จารุปาการสฺจิตํ, ปริเวณมการยิ.
อุปเสโน มหาเถโร, มหาปริเวณวาสิโย;
ตสฺสาทาสิ ปริเวณํ, เลโข กุสลกมฺมิโก.
วสนฺเตเนตฺถ เถเรน, ถิรสีเลน ตาทินา;
อุปเสนวฺหเยน สา, กตา สทฺธมฺมโชติกา.
รฺโ ¶ ¶ สิรินิวาสสฺส, สิริสงฺฆสฺส โพธิโน;
ฉพฺพีสติมฺหิ วสฺสมฺหิ, นิฏฺิตา นิทฺเทสวณฺณนา.
สมยํ อนุโลเมนฺตี, เถรานํ เถรวํสทีปานํ;
นิฏฺํ คตา ยถายํ, อฏฺกถา โลกหิตชนนี.
สทฺธมฺมํ อนุโลเมนฺตา, อตฺตหิตํ ปรหิตฺจ สาเธนฺตา;
นิฏฺํ คจฺฉนฺตุ ตถา, มโนรถา สพฺพสตฺตานํ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย, ¶ อฏฺกถาเยตฺถ คณิตกุสเลหิ;
คณิตา ตุ ภาณวารา, เยฺยาติเรกจตฺตาริสา.
อานุฏฺุเภน อสฺสา, ฉนฺโท พทฺเธน คณิยมานา ตุ;
อติเรกทสสหสฺส-สงฺขา คาถาติ วิฺเยฺยา.
สาสนจิรฏฺิตตฺถํ, โลกหิตตฺถฺจ สาทเรน มยา;
ปฺุํ อิมํ รจยตา, ยํ ปตฺตมนปฺปกํ วิปุลํ.
ปฺุเน เตน โลโก, สทฺธมฺมรสายนํ ทสพลสฺส;
อุปภฺุชิตฺวา วิมลํ, ปปฺโปตุ สุขํ สุเขเนวาติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกา นาม
จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถา นิฏฺิตา.