📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ขุทฺทกนิกาเย
ปฏิสมฺภิทามคฺค-อฏฺกถา
(ปโม ภาโค)
คนฺถารมฺภกถา
ยุตฺเตหิ สพฺเพหิ คุเณหิ ยุตฺโต;
โทเสหิ สพฺเพหิ สวาสเนหิ,
มุตฺโต วิมุตฺตึ ปรมฺจ ทาตา.
นิจฺจํ ทยาจนฺทนสีตจิตฺโต,
ปฺารวิชฺโชติตสพฺพเนยฺโย;
สพฺเพสุ ภูเตสุ ตมคฺคภูตํ,
ภูตตฺถนาถํ สิรสา นมิตฺวา.
โย ¶ สพฺพภูเตสุ มุนีว อคฺโค, อนนฺตสงฺเขสุ ชินตฺตเชสุ;
อหู ทยาาณคุเณหิ สตฺถุลีลานุการี ชนตาหิเตสุ.
ตํ สาริปุตฺตํ มุนิราชปุตฺตํ, เถรํ ถิราเนกคุณาภิรามํ;
ปฺาปภาวุคฺคตจารุกิตฺตึ, สุสนฺตวุตฺติฺจ อโถ นมิตฺวา.
สทฺธมฺมจกฺกานุปวตฺตเกน ¶ , สทฺธมฺมเสนาปติสาวเกน;
สุตฺเตสุ วุตฺเตสุ ตถาคเตน, ภูตตฺถเวทิตฺตมุปาคเตน.
โย ¶ ภาสิโต ภาสิตโกวิเทน, ธมฺมปฺปทีปุชฺชลนายเกน;
ปาโ วิสิฏฺโ ปฏิสมฺภิทานํ, มคฺโคติ ตนฺนามวิเสสิโต จ.
วิจิตฺตนานตฺตนโยปคูฬฺโห, คมฺภีรปฺเหิ สทาวคาฬฺโห;
อตฺตตฺถโลกตฺถปรายเณหิ, สํเสวนีโย สุชเนหิ นิจฺจํ.
าณปฺปเภทาวหนสฺส ตสฺส, โยคีหิเนเกหิ นิเสวิตสฺส;
อตฺถํ อปุพฺพํ อนุวณฺณยนฺโต, สุตฺตฺจ ยุตฺติฺจ อนุกฺกมนฺโต.
อโวกฺกมนฺโต สมยา สกา จ, อนามสนฺโต สมยํ ปรฺจ;
ปุพฺโพปเทสฏฺกถานยฺจ, ยถานุรูปํ อุปสํหรนฺโต.
วกฺขามหํ อฏฺกถํ ชนสฺส, หิตาย สทฺธมฺมจิรฏฺิตตฺถํ;
สกฺกจฺจ สทฺธมฺมปกาสินึ ตํ, สุณาถ ธาเรถ จ สาธุ สนฺโตติ.
ตตฺถ ปฏิสมฺภิทานํ มคฺโคติ ตนฺนามวิเสสิโต จาติ วุตฺตตฺตา ปฏิสมฺภิทามคฺคสฺส ปฏิสมฺภิทามคฺคตา ตาว วตฺตพฺพา. จตสฺโส หิ ปฏิสมฺภิทา – อตฺถปฏิสมฺภิทา, ธมฺมปฏิสมฺภิทา, นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา, ปฏิภานปฏิสมฺภิทาติ. ตาสํ ปฏิสมฺภิทานํ มคฺโค อธิคมูปาโยติ ปฏิสมฺภิทามคฺโค, ปฏิสมฺภิทาปฏิลาภเหตูติ วุตฺตํ โหติ. กถมยํ ตาสํ มคฺโค โหตีติ เจ? ปเภทโต เทสิตาย เทสนาย ปฏิสมฺภิทาาณาวหตฺตา. นานาเภทภินฺนานฺหิ ¶ ¶ ธมฺมานํ นานาเภทภินฺนา เทสนา โสตูนํ อริยปุคฺคลานํ ปฏิสมฺภิทาาณปฺปเภทฺจ ¶ สฺชเนติ, ปุถุชฺชนานํ อายตึ ปฏิสมฺภิทาาณปฺปเภทาย จ ปจฺจโย โหติ. วุตฺตฺจ – ‘‘ปเภทโต หิ เทสนา ฆนวินิพฺโภคปฏิสมฺภิทาาณาวหา โหตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑.กามาวจรกุสลปทภาชนีย). อยฺจ นานาเภทภินฺนา เทสนา, เตนสฺสา ปฏิสมฺภิทานํ มคฺคตฺตสิทฺธิ.
ตตฺถ จตสฺโสติ คณนปริจฺเฉโท. ปฏิสมฺภิทาติ ปเภทา. ‘‘อตฺเถ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา, ธมฺเม าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา, ตตฺร ธมฺมนิรุตฺตาภิลาเป าณํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา, าเณสุ าณํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๑๘) วุตฺตตฺตา น อฺสฺส กสฺสจิ ปเภทา, าณสฺเสว ปเภทา. ตสฺมา ‘‘จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา’’ติ จตฺตาโร าณปฺปเภทาติ อตฺโถ. อตฺถปฺปเภทสฺส สลฺลกฺขณวิภาวนววตฺถานกรณสมตฺถํ อตฺเถ ปเภทคตํ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา. ธมฺมปฺปเภทสฺส สลฺลกฺขณวิภาวนววตฺถานกรณสมตฺถํ ธมฺเม ปเภทคตํ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา. นิรุตฺติปฺปเภทสฺส สลฺลกฺขณวิภาวนววตฺถานกรณสมตฺถํ นิรุตฺตาภิลาเป ปเภทคตํ าณํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา. ปฏิภานปฺปเภทสฺส สลฺลกฺขณวิภาวนววตฺถานกรณสมตฺถํ ปฏิภาเน ปเภทคตํ าณํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทา.
ตตฺถ อตฺโถติ สงฺเขปโต เหตุผลํ. ตฺหิ ยสฺมา เหตุอนุสาเรน อรียติ อธิคมียติ ปาปุณียติ, ตสฺมา อตฺโถติ วุจฺจติ. ปเภทโต ปน ยํกิฺจิ ปจฺจยสมุปฺปนฺนํ, นิพฺพานํ, ภาสิตตฺโถ, วิปาโก, กิริยาติ อิเม ปฺจ ธมฺมา อตฺโถติ เวทิตพฺพา. ตํ อตฺถํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ตสฺมึ อตฺเถ ปเภทคตํ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา.
ธมฺโมติ สงฺเขปโต ปจฺจโย. โส หิ ยสฺมา ตํ ตํ วิทหติ ปวตฺเตติ เจว ปาเปติ จ, ตสฺมา ธมฺโมติ วุจฺจติ. ปเภทโต ปน โย โกจิ ผลนิพฺพตฺตโก เหตุ, อริยมคฺโค, ภาสิตํ, กุสลํ, อกุสลนฺติ อิเม ปฺจ ธมฺมา ธมฺโมติ ¶ เวทิตพฺพา. ตํ ธมฺมํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ตสฺมึ ธมฺเม ปเภทคตํ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา. อยเมว หิ อตฺโถ อภิธมฺเม (วิภ. ๗๑๙-๗๒๕) –
‘‘ทุกฺเข าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา, ทุกฺขสมุทเย าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา, ทุกฺขนิโรเธ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย าณํ ¶ ธมฺมปฏิสมฺภิทา. เหตุมฺหิ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา, เหตุผเล าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา.
‘‘เย ¶ ธมฺมา ชาตา ภูตา สฺชาตา นิพฺพตฺตา อภินิพฺพตฺตา ปาตุภูตา, อิเมสุ ธมฺเมสุ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา, ยมฺหา ธมฺมา เต ธมฺมา ชาตา ภูตา สฺชาตา นิพฺพตฺตา อภินิพฺพตฺตา ปาตุภูตา, เตสุ ธมฺเมสุ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา.
‘‘ชรามรเณ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา, ชรามรณสมุทเย าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา, ชรามรณนิโรเธ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา, ชรามรณนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา.
‘‘ชาติยา าณํ…เป… ภเว าณํ…เป… อุปาทาเน าณํ…เป… ตณฺหาย าณํ…เป… เวทนาย าณํ…เป… ผสฺเส าณํ….เป… สฬายตเน าณํ….เป… นามรูเป าณํ…เป… วิฺาเณ าณํ…เป… สงฺขาเรสุ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา, สงฺขารสมุทเย าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา, สงฺขารนิโรเธ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา, สงฺขารนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา.
‘‘อิธ ภิกฺขุ ธมฺมํ ชานาติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ. อยํ วุจฺจติ ธมฺมปฏิสมฺภิทา. โส ตสฺส ตสฺเสว ภาสิตสฺส อตฺถํ ชานาติ ‘อยํ อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ, อยํ อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ’ติ. อยํ วุจฺจติ อตฺถปฏิสมฺภิทา.
‘‘กตเม ธมฺมา กุสลา? ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ โสมนสฺสสหคตํ าณสมฺปยุตฺตํ รูปารมฺมณํ วา…เป… ธมฺมารมฺมณํ วา ยํ ยํ วา ปนารพฺภ ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหติ…เป… อวิกฺเขโป โหติ. อิเม ธมฺมา กุสลา. อิเมสุ ¶ ธมฺเมสุ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา, เตสํ วิปาเก าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติอาทินา นเยน วิภชิตฺวา วิภชิตฺวา ทสฺสิโต.
ตตฺร ธมฺมนิรุตฺตาภิลาเป าณนฺติ ตสฺมึ อตฺเถ จ ธมฺเม จ ยา สภาวนิรุตฺติ อพฺยภิจาริโวหาโร, ตสฺส อภิลาเป ภาสเน อุทีรเณ ¶ ตํ ลปิตํ ภาสิตํ อุทีริตํ สภาวนิรุตฺติสทฺทํ อารมฺมณํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ตสฺมึ สภาวนิรุตฺตาภิลาเป ‘‘อยํ สภาวนิรุตฺติ, อยํ น สภาวนิรุตฺตี’’ติ เอวํ ตสฺสา ธมฺมนิรุตฺติสฺิตาย สภาวนิรุตฺติยา มาคธิกาย สพฺพสตฺตานํ มูลภาสาย ปเภทคตํ าณํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา. เอวมยํ ¶ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา สทฺทารมฺมณา นาม ชาตา, น ปฺตฺติอารมฺมณา. กสฺมา? ยสฺมา สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อยํ สภาวนิรุตฺติ, อยํ น สภาวนิรุตฺตี’’ติ ชานาติ. ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺโต หิ ‘‘ผสฺโส’’ติ วุตฺเต ‘‘อยํ สภาวนิรุตฺตี’’ติ ชานาติ, ‘‘ผสฺสา’’ติ วา ‘‘ผสฺส’’นฺติ วา วุตฺเต ปน ‘‘อยํ น สภาวนิรุตฺตี’’ติ ชานาติ. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย. อฺํ ปเนส นามาขฺยาตอุปสคฺคนิปาตพฺยฺชนสทฺทํ ชานาติ น ชานาตีติ? ยทคฺเคน สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อยํ สภาวนิรุตฺติ, อยํ น สภาวนิรุตฺตี’’ติ ชานาติ, ตทคฺเคน ตมฺปิ ชานิสฺสติ. ตํ ปน นยิทํ ปฏิสมฺภิทากิจฺจนฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘ภาสํ นาม สตฺตา อุคฺคณฺหนฺตี’’ติ วตฺวา อิทํ กถิตํ – มาตาปิตโร หิ ทหรกาเล กุมารเก มฺเจ วา ปีเ วา นิปชฺชาเปตฺวา ตํ ตํ กถยมานา ตานิ ตานิ กิจฺจานิ กโรนฺติ, ทารกา เตสํ ตํ ตํ ภาสํ ววตฺถาเปนฺติ ‘‘อิมินา อิทํ วุตฺตํ, อิมินา อิทํ วุตฺต’’นฺติ. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล สพฺพมฺปิ ภาสํ ชานนฺติ. มาตา ทมิฬี, ปิตา อนฺธโก. เตสํ ชาตทารโก สเจ มาตุ กถํ ปมํ สุณาติ ¶ , ทมิฬภาสํ ภาสิสฺสติ. สเจ ปิตุ กถํ ปมํ สุณาติ, อนฺธกภาสํ ภาสิสฺสติ. อุภินฺนมฺปิ ปน กถํ อสุณนฺโต มาคธิกภาสํ ภาสิสฺสติ.
โยปิ อคามเก มหาอรฺเ นิพฺพตฺโต, ตตฺถ อฺโ กเถนฺโต นาม นตฺถิ, โสปิ อตฺตโน ธมฺมตาย วจนํ สมุฏฺาเปนฺโต มาคธิกภาสเมว ภาสิสฺสติ. นิรเย ติรจฺฉานโยนิยํ เปตฺติวิสเย มนุสฺสโลเก เทวโลเกติ สพฺพตฺถ มาคธิกภาสาว อุสฺสนฺนา. ตตฺถ เสสา โอฏฺฏกิราตอนฺธกโยนกทมิฬภาสาทิกา ภาสา ปริวตฺตนฺติ. อยเมเวกา ยถาภุจฺจพฺรหฺมโวหารอริยโวหารสงฺขาตา มาคธิกภาสา น ปริวตฺตติ. สมฺมาสมฺพุทฺโธปิ เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ ตนฺตึ อาโรเปนฺโต มาคธิกภาสาย เอว อาโรเปสิ. กสฺมา? เอวฺหิ อตฺถํ อาหริตุํ สุขํ โหติ. มาคธิกภาสาย หิ ตนฺตึ อารุฬฺหสฺส พุทฺธวจนสฺส ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺตานํ โสตปถาคมนเมว ปปฺโจ ¶ . โสเต ปน สงฺฆฏฺฏิตมตฺเตเยว นยสเตน นยสหสฺเสน อตฺโถ อุปฏฺาติ. อฺาย ปน ภาสาย ตนฺตึ อารุฬฺหกํ โปเถตฺวา โปเถตฺวา อุคฺคเหตพฺพํ โหติ. พหุมฺปิ อุคฺคเหตฺวา ปน ปุถุชฺชนสฺส ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺติ นาม นตฺถิ, อริยสาวโก โน ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺโต นาม นตฺถิ.
าเณสุ าณนฺติ สพฺพตฺถกาณมารมฺมณํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ตสฺมึ าเณ ปเภทคตํ าณํ, ยถาวุตฺเตสุ วา เตสุ ตีสุ าเณสุ โคจรกิจฺจาทิวเสน วิตฺถารคตํ าณํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทา.
อิมา ปน จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา ทฺวีสุ าเนสุ ปเภทํ คจฺฉนฺติ, ปฺจหิ การเณหิ วิสทา ¶ โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. กตเมสุ ทฺวีสุ าเนสุ ปเภทํ คจฺฉนฺติ? เสกฺขภูมิยฺจ อเสกฺขภูมิยฺจ. ตตฺถ สาริปุตฺตตฺเถรสฺส มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส มหากสฺสปตฺเถรสฺส มหากจฺจายนตฺเถรสฺส มหาโกฏฺิตตฺเถรสฺสาติ เอวมาทีนํ อสีติยาปิ มหาเถรานํ ปฏิสมฺภิทา อเสกฺขภูมิยํ ปเภทํ คตา, อานนฺทตฺเถรสฺส, จิตฺตสฺส คหปติโน, ธมฺมิกสฺส อุปาสกสฺส, อุปาลิสฺส คหปติโน, ขุชฺชุตฺตราย อุปาสิกายาติเอวมาทีนํ ¶ ปฏิสมฺภิทา เสกฺขภูมิยํ ปเภทํ คตาติ อิมาสุ ทฺวีสุ ภูมีสุ ปเภทํ คจฺฉนฺติ.
กตเมหิ ปฺจหิ การเณหิ วิสทา โหนฺติ? อธิคเมน, ปริยตฺติยา, สวเนน, ปริปุจฺฉาย, ปุพฺพโยเคน. ตตฺถ อธิคโม นาม อรหตฺตปฺปตฺติ. อรหตฺตฺหิ ปตฺตสฺส ปฏิสมฺภิทา วิสทา โหนฺติ. ปริยตฺติ นาม พุทฺธวจนํ. ตฺหิ อุคฺคณฺหนฺตสฺส ปฏิสมฺภิทา วิสทา โหนฺติ. สวนํ นาม สทฺธมฺมสฺสวนํ. สกฺกจฺจํ อฏฺึ กตฺวา ธมฺมํ สุณนฺตสฺส หิ ปฏิสมฺภิทา วิสทา โหนฺติ. ปริปุจฺฉา นาม ปาฬิอฏฺกถาทีสุ คณฺิปทอตฺถปทวินิจฺฉยกถา. อุคฺคหิตปาฬิอาทีสุ หิ อตฺถํ ปริปุจฺฉนฺตสฺส ปฏิสมฺภิทา วิสทา โหนฺติ. ปุพฺพโยโค นาม ปุพฺพพุทฺธานํ สาสเน โยคาวจรตา คตปจฺจาคติกภาเวน ยาว อนุโลมโคตฺรภุสมีปํ ปตฺตวิปสฺสนานุโยโค. ปุพฺพโยคาวจรสฺส หิ ปฏิสมฺภิทา วิสทา โหนฺติ. อิเมหิ ปฺจหิ การเณหิ วิสทา โหนฺตีติ.
เอเตสุ ปน การเณสุ ปริยตฺติ สวนํ ปริปุจฺฉาติ อิมานิ ตีณิ ปเภทสฺเสว พลวการณานิ. ปุพฺพโยโค อธิคมสฺส พลวปจฺจโย, ปเภทสฺส ¶ โหติ น โหตีติ? โหติ, น ปน ตถา. ปริยตฺติสวนปริปุจฺฉา หิ ปุพฺเพ โหนฺตุ วา มา วา, ปุพฺพโยเคน ปน ปุพฺเพ เจว เอตรหิ จ สงฺขารสมฺมสนํ วินา ปฏิสมฺภิทา นาม นตฺถิ. อิเม ปน ทฺเวปิ เอกโต หุตฺวา ปฏิสมฺภิทา อุปตฺถมฺเภตฺวา วิสทา กโรนฺตีติ. อปเร อาหุ –
‘‘ปุพฺพโยโค พาหุสจฺจํ, เทสภาสา จ อาคโม;
ปริปุจฺฉา อธิคโม, ครุสนฺนิสฺสโย ตถา;
มิตฺตสมฺปตฺติ เจวาติ, ปฏิสมฺภิทปจฺจยา’’ติ.
ตตฺถ ปุพฺพโยโค วุตฺตนโยว. พาหุสจฺจํ นาม เตสุ เตสุ สตฺเถสุ จ สิปฺปายตเนสุ จ กุสลตา. เทสภาสา นาม ¶ เอกสตโวหารกุสลตา, วิเสเสน ปน มาคธิเก โกสลฺลํ. อาคโม นาม อนฺตมโส โอปมฺมวคฺคมตฺตสฺสปิ พุทฺธวจนสฺส ปริยาปุณนํ. ปริปุจฺฉา นาม เอกคาถายปิ ¶ อตฺถวินิจฺฉยปุจฺฉนํ. อธิคโม นาม โสตาปนฺนตา วา สกทาคามิตา วา อนาคามิตา วา อรหตฺตํ วา. ครุสนฺนิสฺสโย นาม สุตปฏิภานพหุลานํ ครูนํ สนฺติเก วาโส. มิตฺตสมฺปตฺติ นาม ตถารูปานํเยว มิตฺตานํ ปฏิลาโภติ.
ตตฺถ พุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ ปุพฺพโยคฺเจว อธิคมฺจ นิสฺสาย ปฏิสมฺภิทา ปาปุณนฺติ, สาวกา สพฺพานิปิ เอตานิ การณานิ. ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺติยา จ ปาฏิเยกฺโก กมฺมฏฺานภาวนานุโยโค นาม นตฺถิ, เสกฺขานํ ปน เสกฺขผลวิโมกฺขนฺติกา, อเสกฺขานํ อเสกฺขผลวิโมกฺขนฺติกา จ ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺติ โหติ. ตถาคตานฺหิ ทส พลานิ วิย อริยานํ อริยผเลเหว ปฏิสมฺภิทา อิชฺฌนฺตีติ. อิมาสํ จตสฺสนฺนํ ปฏิสมฺภิทานํ มคฺโคติ ปฏิสมฺภิทามคฺโค, ปฏิสมฺภิทามคฺโค เอว ปกรณํ ปฏิสมฺภิทามคฺคปฺปกรณํ, ปกาเรน กรียนฺเต วุจฺจนฺเต เอตฺถ นานาเภทภินฺนา คมฺภีรา อตฺถา อิติ ปกรณํ.
ตเทตํ ปฏิสมฺภิทามคฺคปฺปกรณํ อตฺถสมฺปนฺนํ พฺยฺชนสมฺปนฺนํ คมฺภีรํ คมฺภีรตฺถํ โลกุตฺตรปฺปกาสนํ สฺุตาปฏิสฺุตฺตํ ปฏิปตฺติผลวิเสสสาธนํ ปฏิปตฺติปฏิปกฺขปฏิเสธนํ ¶ โยคาวจรานํ าณวรรตนากรภูตํ ธมฺมกถิกานํ ธมฺมกถาวิลาสวิเสสเหตุภูตํ สํสารภีรุกานํ ทุกฺขนิสฺสรณํ ตทุปายทสฺสเนน อสฺสาสชนนตฺถํ ตปฺปฏิปกฺขนาสนตฺถฺจ คมฺภีรตฺถานฺจ อเนเกสํ สุตฺตนฺตปทานํ อตฺถวิวรเณน ¶ สุชนหทยปริโตสชนนตฺถํ ตถาคเตน อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตสพฺพฺุตฺาณมหาปทีปาวภาเสน สกลชนวิตฺถตมหากรุณาสิเนหสินิทฺธหทเยน เวเนยฺยชนหทยคตกิเลสนฺธการวิธมนตฺถมุชฺชลิตสฺส สทฺธมฺมมหาปทีปสฺส ตทธิปฺปายวิกาสนสิเนหปริเสเกน ปฺจวสฺสสหสฺสมวิรตมุชฺชลนมิจฺฉตา โลกานุกมฺปเกน สตฺถุกปฺเปน ธมฺมราชสฺส ธมฺมเสนาปตินา อายสฺมตา สาริปุตฺตตฺเถเรน ภาสิตํ สุตฺวา อายสฺมตา อานนฺเทน ปมมหาสงฺคีติกาเล ยถาสุตเมว สงฺคีตึ อาโรปิตํ.
ตเทตํ วินยปิฏกํ สุตฺตนฺตปิฏกํ อภิธมฺมปิฏกนฺติ ตีสุ ปิฏเกสุ สุตฺตนฺตปิฏกปริยาปนฺนํ. ทีฆนิกาโย มชฺฌิมนิกาโย สํยุตฺตนิกาโย องฺคุตฺตรนิกาโย ขุทฺทกนิกาโยติ ปฺจสุ มหานิกาเยสุ ขุทฺทกมหานิกายปริยาปนฺนํ. สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถา อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลนฺติ นวสุ สตฺถุ สาสนงฺเคสุ ยถาสมฺภวํ เคยฺยเวยฺยากรณงฺคทฺวยสงฺคหิตํ.
‘‘ทฺวาสีติ ¶ พุทฺธโต คณฺหึ, ทฺเว สหสฺสานิ ภิกฺขุโต;
จตุราสีติ สหสฺสานิ, เย เม ธมฺมา ปวตฺติโน’’ติ. (เถรคา. ๑๐๒๗) –
ธมฺมภณฺฑาคาริกตฺเถเรน ปน ปฺจสุ าเนสุ เอตทคฺคํ อาโรปิเตน ปฏิฺาตานํ จตุราสีติยา ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานํ ภิกฺขุโต คหิเตสุ ทฺวีสุ ธมฺมกฺขนฺธสหสฺเสสุ อเนกสตธมฺมกฺขนฺธสงฺคหิตํ. ตสฺส ตโย วคฺคา – มหาวคฺโค, มชฺฌิมวคฺโค, จูฬวคฺโคติ. เอเกกสฺมึ วคฺคสฺมึ ทสทสกํ กตฺวา าณกถาทิกา มาติกากถาปริโยสานา สมตึส กถา. เอวมเนกธา ววตฺถาปิตสฺส อิมสฺส ปฏิสมฺภิทามคฺคปฺปกรณสฺส อนุปุพฺพํ อปุพฺพปทตฺถวณฺณนํ ¶ กริสฺสาม. อิมฺหิ ปกรณํ ปาโต อตฺถโต อุทฺทิสนฺเตน จ นิทฺทิสนฺเตน จ สกฺกจฺจํ อุทฺทิสิตพฺพํ นิทฺทิสิตพฺพฺจ, อุคฺคณฺหนฺเตนาปิ สกฺกจฺจํ ¶ อุคฺคเหตพฺพํ ธาเรตพฺพฺจ. ตํ กิสฺสเหตุ? คมฺภีรตฺตา อิมสฺส ปกรณสฺส โลกหิตาย โลเก จิรฏฺิตตฺถํ.
ตตฺถ สมตึสาย กถาสุ าณกถา กสฺมา อาทิโต กถิตาติ เจ? าณสฺส ปฏิปตฺติมลวิโสธกตฺเตน ปฏิปตฺติยา อาทิภูตตฺตา. วุตฺตฺหิ ภควตา –
‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ ภิกฺขุ, อาทิเมว วิโสเธหิ กุสลานํ ธมฺมานํ. โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ, สีลฺจ สุวิสุทฺธํ ทิฏฺิ จ อุชุกา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๖๙)?
อุชุกา ทิฏฺีติ หิ สมฺมาทิฏฺิสงฺขาตํ าณํ วุตฺตํ. ตสฺมาปิ าณกถา อาทิโต กถิตา.
อปรมฺปิ วุตฺตํ –
‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ ปุพฺพงฺคมา โหติ. กถฺจ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ ปุพฺพงฺคมา โหติ? สมฺมาทิฏฺึ ‘สมฺมาทิฏฺี’ติ ปชานาติ, มิจฺฉาทิฏฺึ ‘มิจฺฉาทิฏฺี’ติ ปชานาติ. สาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺิ. สมฺมาสงฺกปฺปํ ‘สมฺมาสงฺกปฺโป’ติ ¶ ปชานาติ, มิจฺฉาสงฺกปฺปํ ‘มิจฺฉาสงฺกปฺโป’ติ ปชานาติ. สมฺมาวาจํ ‘สมฺมาวาจา’ติ ปชานาติ, มิจฺฉาวาจํ ‘มิจฺฉาวาจา’ติ ปชานาติ. สมฺมากมฺมนฺตํ ‘สมฺมากมฺมนฺโต’ติ ปชานาติ, มิจฺฉากมฺมนฺตํ ‘มิจฺฉากมฺมนฺโต’ติ ปชานาติ. สมฺมาอาชีวํ ‘สมฺมาอาชีโว’ติ ปชานาติ, มิจฺฉาอาชีวํ ‘มิจฺฉาอาชีโว’ติ ปชานาติ. สมฺมาวายามํ ‘สมฺมาวายาโม’ติ ปชานาติ, มิจฺฉาวายามํ ‘มิจฺฉาวายาโม’ติ ปชานาติ. สมฺมาสตึ ‘สมฺมาสตี’ติ ปชานาติ, มิจฺฉาสตึ ‘มิจฺฉาสตี’ติ ปชานาติ. สมฺมาสมาธึ ‘สมฺมาสมาธี’ติ ปชานาติ, มิจฺฉาสมาธึ ‘มิจฺฉาสมาธี’ติ ปชานาติ. สาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๓๖ อาทโย).
ปุพฺพงฺคมภูตาย หิ สมฺมาทิฏฺิยา สิทฺธาย มิจฺฉาทิฏฺีนมฺปิ มิจฺฉาทิฏฺิภาวํ ชานิสฺสตีติ สมฺมาทิฏฺิสงฺขาตํ าณํ ตาว โสเธตุํ าณกถา อาทิโต กถิตา.
‘‘อปิจุทายิ ¶ , ติฏฺตุ ปุพฺพนฺโต, ติฏฺตุ อปรนฺโต, ธมฺมํ ¶ เต เทเสสฺสามิ – อิมสฺมึ สติ อิทํ โหติ, อิมสฺสุปฺปาทา อิทํ อุปฺปชฺชติ, อิมสฺมึ อสติ อิทํ น โหติ, อิมสฺส นิโรธา อิทํ นิรุชฺฌตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๗๑) จ –
ปุพฺพนฺตาปรนฺตทิฏฺิโย เปตฺวา าณสฺเสว วุตฺตตฺตา าณกถา อาทิโต กถิตา.
‘‘อลํ, สุภทฺท, ติฏฺเตตํ ‘สพฺเพ เต สกาย ปฏิฺาย อพฺภฺึสุ, สพฺเพว น อพฺภฺึสุ, อุทาหุ เอกจฺเจ อพฺภฺึสุ, เอกจฺเจ น อพฺภฺึสู’ติ. ธมฺมํ เต, สุภทฺท, เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาหิ สาธุกํ มนสิกโรหิ, ภาสิสฺสามี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๓) จ –
ปุถุสมณพฺราหฺมณปรปฺปวาทานํ วาเท เปตฺวา อริยสฺส อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺส เทสิตตฺตา, อฏฺงฺคิเก จ มคฺเค สมฺมาทิฏฺิสงฺขาตสฺส าณสฺส ปธานตฺตา าณกถา อาทิโต กถิตา.
‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, โสตาปตฺติยงฺคานิ สปฺปุริสสํเสโว, สทฺธมฺมสฺสวนํ, โยนิโส มนสิกาโร, ธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๔๖; ที. นิ. ๓.๓๑๑) จ –
‘‘สทฺธาชาโต อุปสงฺกมติ, อุปสงฺกมนฺโต ปยิรุปาสติ, ปยิรุปาสนฺโต โสตํ โอทหติ, โอหิตโสโต ธมฺมํ สุณาติ, สุตฺวา ธมฺมํ ธาเรติ, ธาตานํ ธมฺมานํ ปฺาย อตฺถํ อุปปริกฺขติ, อตฺถํ อุปปริกฺขโต ธมฺมา นิชฺฌานํ ขมนฺติ, ธมฺมนิชฺฌานกฺขนฺติยา ฉนฺโท ชายติ, ฉนฺทชาโต อุสฺสหติ, อุสฺสหิตฺวา ตุเลติ, ตุลยิตฺวา ¶ ปทหติ, ปหิตตฺโต กาเยน เจว ปรมตฺถสจฺจํ สจฺฉิกโรติ, ปฺาย จ นํ ปฏิวิชฺฌ ปสฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๘๓, ๔๓๒) จ –
‘‘อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ…เป… โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณ’’นฺติ อาทีนิ (ที. นิ. ๑.๑๙๐) จ –
อเนกานิ สุตฺตนฺตปทานิ อนุโลเมนฺเตน สุตมเย าณํ อาทึ กตฺวา ยถากฺกเมน าณกถา อาทิโต กถิตา.
สา ¶ ¶ ปนายํ าณกถา อุทฺเทสนิทฺเทสวเสน ทฺวิธา ิตา. อุทฺเทเส ‘‘โสตาวธาเน ปฺา สุตมเย าณ’’นฺติอาทินา นเยน เตสตฺตติ าณานิ มาติกาวเสน อุทฺทิฏฺานิ. นิทฺเทเส ‘‘กถํ โสตาวธาเน ปฺา สุตมเย าณํ. ‘อิเม ธมฺมา อภิฺเยฺยา’ติ โสตาวธานํ, ตํปชานนา ปฺา สุตมเย าณ’’นฺติอาทินา นเยน ตานิเยว เตสตฺตติ าณานิ วิตฺถารวเสน นิทฺทิฏฺานีติ.
คนฺถารมฺภกถา นิฏฺิตา.
(๑) มหาวคฺโค
๑. าณกถา
มาติกาวณฺณนา
๑. ตตฺถ ¶ ¶ อุทฺเทเส ตาว โสตาวธาเน ปฺา สุตมเย าณนฺติ เอตฺถ โสตสทฺโท อเนกตฺถปฺปเภโท. ตถา เหส –
มํสวิฺาณาเณสุ, ตณฺหาทีสุ จ ทิสฺสติ;
ธารายํ อริยมคฺเค, จิตฺตสนฺตติยมฺปิ จ.
‘‘โสตายตนํ โสตธาตุ โสตินฺทฺริย’’นฺติอาทีสุ (วิภ. ๑๕๗) หิ อยํ โสตสทฺโท มํสโสเต ทิสฺสติ. ‘‘โสเตน สทฺทํ สุตฺวา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๙๕) โสตวิฺาเณ. ‘‘ทิพฺพาย โสตธาตุยา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๕๖) าณโสเต. ‘‘ยานิ โสตานิ โลกสฺมินฺติ ยานิ เอตานิ โสตานิ มยา กิตฺติตานิ ปกิตฺติตานิ อาจิกฺขิตานิ เทสิตานิ ปฺปิตานิ ปฏฺปิตานิ วิวริตานิ วิภตฺตานิ อุตฺตานีกตานิ ปกาสิตานิ. เสยฺยถิทํ – ตณฺหาโสโต ทิฏฺิโสโต กิเลสโสโต ทุจฺจริตโสโต อวิชฺชาโสโต’’ติอาทีสุ (จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๔) ตณฺหาทีสุ ปฺจสุ ธมฺเมสุ. ‘‘อทฺทสา โข ภควา มหนฺตํ ทารุกฺขนฺธํ คงฺคาย นทิยา โสเตน วุยฺหมาน’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๒๔๑) อุทกธารายํ. ‘‘อริยสฺเสตํ, อาวุโส, อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺส อธิวจนํ, ยทิทํ โสโต’’ติอาทีสุ อริยมคฺเค. ‘‘ปุริสสฺส จ วิฺาณโสตํ ปชานาติ อุภยโต อพฺโพจฺฉินฺนํ อิธ โลเก ปติฏฺิตฺจ ปรโลเก ปติฏฺิตฺจา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๑๔๙) จิตฺตสนฺตติยํ ¶ . อิธ ปนายํ มํสโสเต ทฏฺพฺโพ. เตน โสเตน เหตุภูเตน, กรณภูเตน วา อวธียติ อวตฺถาปียติ อปฺปียตีติ โสตาวธานํ. กึ ตํ? สุตํ. สุตฺจ นาม ‘‘พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๓๙) วิย โสตทฺวารานุสาเรน ¶ วิฺาตํ อวธาริตํ ธมฺมชาตํ, ตํ อิธ โสตาวธานนฺติ วุตฺตํ. ตสฺมึ โสตาวธานสงฺขาเต สุเต ปวตฺตา ปฺา โสตาวธาเน ปฺา. ปฺาติ จ ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส ปากฏกรณสงฺขาเตน ปฺาปนฏฺเน ปฺา, เตน เตน วา อนิจฺจาทินา ปกาเรน ธมฺเม ชานาตีติปิ ปฺา.
สุตมเย ¶ าณนฺติ เอตฺถ สุตสทฺโท ตาว สอุปสคฺโค อนุปสคฺโค จ –
คมเน วิสฺสุเต ตินฺเตนุโยโคปจิเตปิ จ;
สทฺเท จ โสตทฺวารานุสาราเต จ ทิสฺสติ.
ตถา หิสฺส ‘‘เสนาย ปสุโต’’ติอาทีสุ คจฺฉนฺโตติ อตฺโถ. ‘‘สุตธมฺมสฺส ปสฺสโต’’ติอาทีสุ (อุทา. ๑๑; มหาว. ๕) วิสฺสุตธมฺมสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘อวสฺสุตา อวสฺสุตสฺส ปุริสปุคฺคลสฺสา’’ติอาทีสุ (ปาจิ. ๖๕๗) ตินฺตา ตินฺตสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘เย ฌานปสุตา ธีรา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๘๑) อนุยุตฺตาติ อตฺโถ. ‘‘ตุมฺเหหิ ปฺุํ ปสุตํ อนปฺปก’’นฺติอาทีสุ (ขุ. ปา. ๗.๑๒; เป. ว. ๒๕) อุปจิตนฺติ อตฺโถ. ‘‘ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาต’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๔๑) สทฺโทติ อตฺโถ. ‘‘พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๓๙) โสตทฺวารานุสารวิฺาตธโรติ อตฺโถ. อิธ ปนสฺส โสตทฺวารานุสาเรน วิฺาตํ อุปธาริตนฺติ อตฺโถ. สุตมเย าณนฺติ ยา เอสา เอตํ สุตํ วิฺาตํ อวธาริตํ สทฺธมฺมํ อารพฺภ อารมฺมณํ กตฺวา สพฺพปมฺจ อปราปรฺจ ปวตฺตา ปฺา, ตํ ‘‘สุตมเย าณ’’นฺติ วุตฺตํ โหติ, สุตมยํ าณนฺติ อตฺโถ. สุตมเยติ จ ปจฺจตฺตวจนเมตํ, ยถา ‘‘น เหวํ วตฺตพฺเพ’’ (กถา. ๑, ๑๕-๑๘). ‘‘วนปฺปคุมฺเพ ยถา ผุสฺสิตคฺเค’’ (ขุ. ปา. ๖.๑๓; สุ. นิ. ๒๓๖). ‘‘นตฺถิ อตฺตกาเร นตฺถิ ปรกาเร นตฺถิ ปุริสกาเร’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๑๖๘) ปจฺจตฺตวจนํ, เอวมิธาปิ ทฏฺพฺพํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สุตมยํ าณนฺติ อตฺโถ’’ติ.
อถ วา สุเตน ปกโต ¶ ผสฺสาทิโก ธมฺมปฺุโช สุตมโย, ตสฺมึ สุตมเย ธมฺมปฺุเช ปวตฺตํ ตํสมฺปยุตฺตํ าณํ สุตมเย าณํ. สภาวสามฺลกฺขณวเสน ธมฺเม ชานาตีติ าณํ. ตํเยว าณํ ปริยายวจเนน อธิปฺปายปกาสนตฺถํ อนิยเมน ‘‘ปฺา’’ติ วตฺวา ปจฺฉา อธิปฺเปตํ ‘‘าณ’’นฺติ นิยเมตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. าณฺจ นาม สภาวปฏิเวธลกฺขณํ, อกฺขลิตปฏิเวธลกฺขณํ วา กุสลิสฺสาสขิตฺตอุสุปฏิเวโธ วิย, วิสโยภาสนรสํ ปทีโป วิย, อสมฺโมหปจฺจุปฏฺานํ อรฺคตสุเทสโก วิย. ‘‘สมาหิโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๗๑) วจนโต สมาธิปทฏฺานํ. ลกฺขณาทีสุ หิ สภาโว วา สามฺํ วา ลกฺขณํ ¶ ¶ นาม, กิจฺจํ วา สมฺปตฺติ วา รโส นาม, อุปฏฺานากาโร วา ผลํ วา ปจฺจุปฏฺานํ นาม, อาสนฺนการณํ ปทฏฺานํ นามาติ เวทิตพฺพํ.
ปาติโมกฺโข สตี เจว, าณํ ขนฺติ ตเถว จ;
วีริยํ ปฺจิเม ธมฺมา, สํวราติ ปกาสิตา.
‘‘อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต โหติ สมุเปโต อุปาคโต สมุปาคโต อุปปนฺโน สมฺปนฺโน สมนฺนาคโต’’ติ (วิภ. ๕๑๑) อาคโต ปาติโมกฺขสํวโร. ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๑๓; ม. นิ. ๑.๒๙๕; สํ. นิ. ๔.๒๓๙; อ. นิ. ๓.๑๖) นเยน อาคโต สติสํวโร.
‘‘ยานิ โสตานิ โลกสฺมึ (อชิตาติ ภควา),
สติ เตสํ นิวารณํ;
โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ, ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ ¶ . (จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉา ๖๐; สุ. นิ. ๑๐๔๑) –
อาคโต าณสํวโร. ‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, อาสวา ปฏิเสวนา ปหาตพฺพา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฏิสงฺขา โยนิโส จีวรํ ปฏิเสวตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๓; อ. นิ. ๖.๕๘) นเยน ¶ อาคโต ปจฺจยปฏิเสวนาสํวโร, โสปิ าณสํวเรเนว สงฺคหิโต. ‘‘ขโม โหติ สีตสฺส อุณฺหสฺส ชิฆจฺฉาย ปิปาสาย ฑํสมกสวาตาตปสริสปสมฺผสฺสานํ ทุรุตฺตานํ ทุราคตานํ วจนปถานํ อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ ขรานํ กฏุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อธิวาสกชาติโก โหตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔; อ. นิ. ๔.๑๑๔; ๖.๕๘) อาคโต ขนฺติสํวโร. ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๖; อ. นิ. ๔.๑๑๔; ๖.๕๘) นเยน อาคโต วีริยสํวโร. ‘‘อิธ อริยสาวโก มิจฺฉาอาชีวํ ปหาย ¶ สมฺมาอาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๘) อาคโต อาชีวปาริสุทฺธิสํวโร, โสปิ วีริยสํวเรเนว สงฺคหิโต. เตสุ สตฺตสุ สํวเรสุ ปาติโมกฺขสํวรอินฺทฺริยสํวรอาชีวปาริสุทฺธิปจฺจยปฏิเสวนสงฺขาตา จตฺตาโร สํวรา อิธาธิปฺเปตา, เตสุ จ วิเสเสน ปาติโมกฺขสํวโร. สพฺโพปิ จายํ สํวโร ยถาสกํ สํวริตพฺพานํ กายทุจฺจริตาทีนํ สํวรณโต สํวโรติ วุจฺจติ. สุตมยาเณ วุตฺตํ ธมฺมํ สุตฺวา สํวรนฺตสฺส สํวรํ กโรนฺตสฺส ตสฺมึ สํวเร ปวตฺตา ตํสมฺปยุตฺตา ปฺา ‘‘สุตฺวาน สํวเร ปฺา’’ติ วุตฺตา. อถ วา เหตุอตฺเถ สุตฺวาติ วจนสฺส สมฺภวโต สุตเหตุนา สํวเร ปฺาติปิ อตฺโถ.
สีลมเย าณนฺติ เอตฺถ สีลนฺติ สีลนฏฺเน สีลํ. กิมิทํ สีลนํ นาม? สมาธานํ วา, กายกมฺมาทีนํ สุสีลฺยวเสน อวิปฺปกิณฺณตาติ อตฺโถ. อุปธารณํ วา, กุสลานํ ธมฺมานํ ปติฏฺาวเสน อาธารภาโวติ อตฺโถ. เอตเทว หิ เอตฺถ อตฺถทฺวยํ สทฺทลกฺขณวิทู อนุชานนฺติ. อฺเ ปน ‘‘อธิเสวนฏฺเน อาจารฏฺเน ตสฺสีลฏฺเน สิรฏฺเน สีตลฏฺเน สิวฏฺเน สีล’’นฺติ วณฺณยนฺติ.
สีลนํ ¶ ลกฺขณํ ตสฺส, ภินฺนสฺสาปิ อเนกธา;
สนิทสฺสนตฺตํ รูปสฺส, ยถา ภินฺนสฺส เนกธา.
ยถา หิ นีลปีตาทิเภเทน อเนกธา ภินฺนสฺสาปิ รูปายตนสฺส สนิทสฺสนตฺตํ ลกฺขณํ นีลาทิเภเทน ภินฺนสฺสาปิ สนิทสฺสนภาวานติกฺกมนโต, ตถา สีลสฺส เจตนาทิเภเทน อเนกธา ภินฺนสฺสาปิ ยเทตํ กายกมฺมาทีนํ สมาธานวเสน กุสลานฺจ ธมฺมานํ ปติฏฺานวเสน วุตฺตํ สีลนํ, ตเทว ลกฺขณํ เจตนาทิเภเทน ภินฺนสฺสาปิ สมาธานปติฏฺานภาวานติกฺกมนโต. เอวํลกฺขณสฺส ปนสฺส –
‘‘ทุสฺสีลฺยวิทฺธํสนตา, อนวชฺชคุโณ ตถา;
กิจฺจสมฺปตฺติ อตฺเถน, รโส นาม ปวุจฺจติ’’.
ตสฺมา อิทํ สีลํ นาม กิจฺจฏฺเน รเสน ทุสฺสีลฺยวิทฺธํสนรสํ, สมฺปตฺติอตฺเถน รเสน อนวชฺชรสนฺติ เวทิตพฺพํ.
โสเจยฺยปจฺจุปฏฺานํ ¶ ¶ , ตยิทํ ตสฺส วิฺุหิ;
โอตฺตปฺปฺจ หิรี เจว, ปทฏฺานนฺติ วณฺณิตํ. –
ตยิทํ สีลํ ‘‘กายโสเจยฺยํ วจีโสเจยฺยํ มโนโสเจยฺย’’นฺติ (อิติวุ. ๖๖) เอวํ วุตฺตโสเจยฺยปจฺจุปฏฺานํ, สุจิภาเวน ปจฺจุปฏฺาติ คหณภาวํ คจฺฉติ. หิโรตฺตปฺปฺจ ปน ตสฺส วิฺูหิ ปทฏฺานนฺติ วณฺณิตํ, อาสนฺนการณนฺติ อตฺโถ. หิโรตฺตปฺเป หิ สติ สีลํ อุปฺปชฺชติ เจว ติฏฺติ จ, อสติ เนว อุปฺปชฺชติ น ติฏฺตีติ เอวํวิเธน สีเลน สหคตํ ตํสมฺปยุตฺตํ าณํ สีลมเย าณํ. อถ วา สีลเมว ปกตํ สีลมยํ, ตสฺมึ สีลมเย ตํสมฺปยุตฺตํ าณํ. อสํวเร อาทีนวปจฺจเวกฺขณา จ, สํวเร อานิสํสปจฺจเวกฺขณา ¶ จ, สํวรปาริสุทฺธิปจฺจเวกฺขณา จ, สํวรสํกิเลสโวทานปจฺจเวกฺขณา จ สีลมยาเณเนว สงฺคหิตา.
๓. สํวริตฺวา สมาทหเน ปฺาติ สีลมยาเณ วุตฺตสีลสํวเรน สํวริตฺวา สํวรํ กตฺวา สีเล ปติฏฺาย สมาทหนฺตสฺส อุปจารปฺปนาวเสน จิตฺเตกคฺคตํ กโรนฺตสฺส ตสฺมึ สมาทหเน ปวตฺตา ตํสมฺปยุตฺตา ปฺา. สมํ สมฺมา จ อาทหนํ ปนนฺติ จ สมาทหนํ, สมาธิสฺเสเวตํ ปริยายวจนํ.
สมาธิภาวนามเย าณนฺติ เอตฺถ กุสลจิตฺเตกคฺคตา สมาธิ. เกนฏฺเน สมาธิ? สมาธานฏฺเน สมาธิ. กิมิทํ สมาธานํ นาม? เอการมฺมเณ จิตฺตเจตสิกานํ สมํ สมฺมา จ อาธานํ, ปนนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมา ยสฺส ธมฺมสฺสานุภาเวน เอการมฺมเณ จิตฺตเจตสิกา สมํ สมฺมา จ อวิกฺขิปมานา อวิปฺปกิณฺณา จ หุตฺวา ติฏฺนฺติ, อิทํ สมาธานนฺติ เวทิตพฺพํ. ตสฺส โข ปน สมาธิสฺส –
ลกฺขณํ ตุ อวิกฺเขโป, วิกฺเขปวิทฺธํสนํ รโส;
อกมฺปนมุปฏฺานํ, ปทฏฺานํ สุขํ ปน.
ภาวียติ วฑฺฒียตีติ ภาวนา, สมาธิ เอว ภาวนา สมาธิภาวนา, สมาธิสฺส วา ภาวนา วฑฺฒนา สมาธิภาวนา. สมาธิภาวนาวจเนน อฺํ ภาวนํ ปฏิกฺขิปติ. ปุพฺเพ วิย อุปจารปฺปนาวเสน สมาธิภาวนามเย าณํ.
๔. ปจฺจยปริคฺคเห ¶ ปฺาติ เอตฺถ ปฏิจฺจ ผลเมตีติ ปจฺจโย. ปฏิจฺจาติ น วินา ¶ เตน, อปจฺจกฺขิตฺวาติ อตฺโถ. เอตีติ อุปฺปชฺชติ เจว ปวตฺตติ จาติ อตฺโถ. อปิจ อุปการกตฺโถ ปจฺจยตฺโถ, ตสฺส ปจฺจยสฺส พหุวิธตฺตา ปจฺจยานํ ปริคฺคเห ววตฺถาปเน จ ปฺา ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา.
ธมฺมฏฺิติาณนฺติ ¶ เอตฺถ ธมฺมสทฺโท ตาว สภาวปฺาปฺุปฺตฺติอาปตฺติปริยตฺตินิสฺสตฺตตาวิการคุณปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนาทีสุ ทิสฺสติ. อยฺหิ ‘‘กุสลา ธมฺมา อกุสลา ธมฺมา อพฺยากตา ธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ติกมาติกา ๑) สภาเว ทิสฺสติ.
‘‘ยสฺเสเต จตุโร ธมฺมา, สทฺธสฺส ฆรเมสิโน;
สจฺจํ ธมฺโม ธิติ จาโค, ส เว เปจฺจ น โสจตี’’ติ. (สุ. นิ. ๑๙๐) –
อาทีสุ ปฺายํ.
‘‘น หิ ธมฺโม อธมฺโม จ, อุโภ สมวิปากิโน;
อธมฺโม นิรยํ เนติ, ธมฺโม ปาเปติ สุคฺคติ’’นฺติ. (เถรคา. ๓๐๔) –
อาทีสุ ปฺุเ. ‘‘ปฺตฺติธมฺมา นิรุตฺติธมฺมา อธิวจนธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๑๐๖-๑๐๘) ปฺตฺติยํ. ‘‘ปาราชิกา ธมฺมา สงฺฆาทิเสสา ธมฺมา’’ติอาทีสุ (ปารา. ๒๓๓-๒๓๔) อาปตฺติยํ. ‘‘อิธ ภิกฺขุ ธมฺมํ ชานาติ สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณ’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๕.๗๓) ปริยตฺติยํ. ‘‘ตสฺมึ โข ปน สมเย ธมฺมา โหนฺติ (ธ. ส. ๑๒๑). ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรตี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๗๓; ม. นิ. ๑.๑๑๕) นิสฺสตฺตตายํ. ‘‘ชาติธมฺมา ชราธมฺมา มรณธมฺมา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๑๐.๑๐๗) วิกาเร. ‘‘ฉนฺนํ พุทฺธธมฺมาน’’นฺติอาทีสุ (มหานิ. ๕๐) คุเณ. ‘‘เหตุมฺหิ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๗๒๐) ปจฺจเย. ‘‘ิตาว สา ธาตุ ธมฺมฏฺิตตา ธมฺมนิยามตา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๒๐; อ. นิ. ๓.๑๓๗) ปจฺจยุปฺปนฺเน. สฺวายมิธาปิ ปจฺจยุปฺปนฺเน ทฏฺพฺโพ. อตฺถโต ปน อตฺตโน สภาวํ ธาเรนฺตีติ วา, ปจฺจเยหิ ธารียนฺตีติ วา, อตฺตโน ผลํ ธาเรนฺตีติ วา, อตฺตโน ปริปูรกํ อปาเยสุ อปตมานํ ธาเรนฺตีติ วา, สกสกลกฺขเณ ธาเรนฺตีติ วา, จิตฺเตน อวธารียนฺตีติ วา ยถาโยคํ ธมฺมาติ วุจฺจนฺติ. อิธ ปน อตฺตโน ปจฺจเยหิ ¶ ธารียนฺตีติ ธมฺมา, ปจฺจยสมุปฺปนฺนา ธมฺมา ติฏฺนฺติ อุปฺปชฺชนฺติ ¶ เจว ปวตฺตนฺติ จ เอตายาติ ธมฺมฏฺิติ, ปจฺจยธมฺมานเมตํ อธิวจนํ ¶ . ตสฺสํ ธมฺมฏฺิติยํ าณํ ธมฺมฏฺิติาณํ. อิทฺหิ สมาธิภาวนามยาเณ วุตฺตสมาธินา สมาหิเตน จิตฺเตน ยถาภูตาณทสฺสนตฺถาย โยคมารภิตฺวา ววตฺถาปิตนามรูปสฺส เตสํ นามรูปานํ ปจฺจยปริคฺคหปริยายํ ธมฺมฏฺิติาณํ อุปฺปชฺชติ. ‘‘นามรูปววตฺถาเน าณ’’นฺติ อวตฺวา เอว กสฺมา ‘‘ธมฺมฏฺิติาณ’’นฺติ วุตฺตนฺติ เจ? ปจฺจยปริคฺคเหเนว ปจฺจยสมุปฺปนฺนปริคฺคหสฺส สิทฺธตฺตา. ปจฺจยสมุปฺปนฺเน หิ อปริคฺคหิเต ปจฺจยปริคฺคโห น สกฺกา โหติ กาตุํ. ตสฺมา ธมฺมฏฺิติาณคหเณเนว ตสฺส เหตุภูตํ ปุพฺเพ สิทฺธํ นามรูปววตฺถานาณํ วุตฺตเมว โหตีติ เวทิตพฺพํ. กสฺมา ทุติยตติยาณํ วิย ‘‘สมาทหิตฺวา ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา’’ติ น วุตฺตนฺติ เจ? สมถวิปสฺสนานํ ยุคนทฺธตฺตา.
‘‘สมาทหิตฺวา ยถา เจ วิปสฺสติ, วิปสฺสมาโน ตถา เจ สมาทเห;
วิปสฺสนา จ สมโถ ตทา อหุ, สมานภาคา ยุคนทฺธา วตฺตเร’’ติ. –
หิ วุตฺตํ. ตสฺมา สมาธึ อวิสฺสชฺเชตฺวา สมาธิฺจ าณฺจ ยุคนทฺธํ กตฺวา ยาว อริยมคฺโค, ตาว อุสฺสุกฺกาเปตพฺพนฺติ าปนตฺถํ ‘‘ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา ธมฺมฏฺิติาณ’’มิจฺเจว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๕. อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ ธมฺมานํ สงฺขิปิตฺวา ววตฺถาเน ปฺาติ เอตฺถ อตฺตโน สภาวํ, อุปฺปาทาทิกฺขณํ วา ปตฺวา อติ อิตา อติกฺกนฺตาติ อตีตา, ตทุภยมฺปิ น อาคตา น สมฺปตฺตาติ อนาคตา, ตํ ตํ การณํ ปฏิจฺจ อุปฺปาทาทิอุทฺธํ ปนฺนา คตา ปวตฺตาติ ปจฺจุปฺปนฺนา. อทฺธา สนฺตติขณปจฺจุปฺปนฺเนสุ สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ อิธาธิปฺเปตํ. เตสํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ ปฺจกฺขนฺธธมฺมานํ เอเกกกฺขนฺธลกฺขเณ สงฺขิปิตฺวา กลาปวเสน ราสึ กตฺวา ววตฺถาเน นิจฺฉยเน สนฺนิฏฺาปเน ปฺา.
สมฺมสเน ¶ าณนฺติ สมฺมา อามสเน อนุมชฺชเน เปกฺขเณ าณํ, กลาปสมฺมสนาณนฺติ อตฺโถ. อิทฺหิ นามรูปววตฺถานาณานนฺตรํ นามรูปปจฺจยปริคฺคเห ¶ ธมฺมฏฺิติาเณ ิตสฺส ‘‘ยํกิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ ตํ รูปํ อนิจฺจโต ววตฺถเปติ, เอกํ สมฺมสนํ, ทุกฺขโต ววตฺถเปติ, เอกํ สมฺมสนํ, อนตฺตโต ววตฺถเปติ, เอกํ สมฺมสน’’นฺติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๔๘) นเยน วุตฺตสมฺมสนวเสน ปุพฺเพ ววตฺถาปิเต ¶ เอเกกสฺมึ ขนฺเธ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต วิปสฺสนฺตสฺส กลาปสมฺมสนาณํ อุปฺปชฺชติ.
๖. ปจฺจุปฺปนฺนานํ ธมฺมานํ วิปริณามานุปสฺสเน ปฺาติ สนฺตติวเสน ปจฺจุปฺปนฺนานํ อชฺฌตฺตํ ปฺจกฺขนฺธธมฺมานํ วิปริณามทสฺสเน ภงฺคทสฺสเน ปฺา. ยสฺมา ‘‘อิเม ธมฺมา อุปฺปชฺชิตฺวา ภิชฺชนฺตี’’ติ อุทยํ คเหตฺวาปิ เภเทเยว จิตฺตํ เปติ, ตสฺมา อวุตฺโตปิ อุทโย วุตฺโตเยว โหตีติ เวทิตพฺโพ. ปจฺจุปฺปนฺนานํ ธมฺมานํ ทสฺสเนน วา อุทยทสฺสนสฺส สิทฺธตฺตา อุทโย วุตฺโตเยว โหติ. น หิ อุทยํ วินา ธมฺมานํ อุปฺปนฺนตฺตํ สิชฺฌติ, ตสฺมา ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทวิปริณามานุปสฺสเน ปฺา’’ติ อวุตฺเตปิ วุตฺตเมว โหตีติ เวทิตพฺพํ. ‘‘อุทยพฺพยานุปสฺสเน าณ’’นฺติ นิยมิตตฺตา จ อุทยทสฺสนํ สิทฺธเมว โหตีติ อนนฺตรํ วุตฺตสฺส สมฺมสนาณสฺส ปารํ คนฺตฺวา ตํสมฺมสเนเยว ปากฏีภูเต อุทยพฺพเย ปริคฺคณฺหิตฺวา สงฺขารานํ ปริจฺเฉทกรณตฺถํ อุทยพฺพยานุปสฺสนํ อารภนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ อุทยพฺพยานุปสฺสนาาณํ. ตฺหิ อุทยพฺพเย อนุปสฺสนโต อุทยพฺพยานุปสฺสนาติ วุจฺจติ.
๗. อารมฺมณํ ปฏิสงฺขาติ รูปกฺขนฺธาทิอารมฺมณํ ภงฺคโต ปฏิสงฺขาย ชานิตฺวา ปสฺสิตฺวา. ภงฺคานุปสฺสเน ปฺา วิปสฺสเน าณนฺติ ตสฺส อารมฺมณํ ภงฺคโต ปฏิสงฺขาย อุปฺปนฺนสฺส าณสฺส ภงฺคํ อนุปสฺสเน ยา ปฺา, ตํ ‘‘วิปสฺสเน าณ’’นฺติ วุตฺตํ โหติ. วิปสฺสนาติ จ วิวิธา ปสฺสนา วิปสฺสนา. อารมฺมณปฏิสงฺขาติปิ ปาโ. ตสฺสตฺโถ ¶ – อารมฺมณสฺส ปฏิสงฺขา ชานนา ปสฺสนาติ วุตฺตนเยเนว อารมฺมณปฏิสงฺขา ‘‘ภงฺคานุปสฺสเน ปฺา วิปสฺสเน าณ’’นฺติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺมา ปน ภงฺคานุปสฺสนาย เอว วิปสฺสนา สิขํ ปาปุณาติ, ตสฺมา วิเสเสตฺวา อิทเมว ‘‘วิปสฺสเน ¶ าณ’’นฺติ วุตฺตํ. ยสฺมา อุทยพฺพยานุปสฺสนาย ิตสฺส มคฺคามคฺคาณทสฺสนํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ตสฺสา สิทฺธาย ตํ สิทฺธเมว โหตีติ ตํ อวตฺวาว ภงฺคานุปสฺสนาย เอว วิปสฺสนาสิขํ าณํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อุทยพฺพยานุปสฺสนาย สุปริทิฏฺอุทยพฺพยสฺส สุปริจฺฉินฺเนสุ สงฺขาเรสุ ลหุํ ลหุํ อุปฏฺหนฺเตสุ าเณ ติกฺเข วหนฺเต อุทยํ ปหาย ภงฺเค เอว สติ สนฺติฏฺติ, ตสฺส ‘‘เอวํ อุปฺปชฺชิตฺวา เอวํ นาม สงฺขารา ภิชฺชนฺตี’’ติ ปสฺสโต เอตสฺมึ าเน ภงฺคานุปสฺสนาาณํ อุปฺปชฺชติ.
๘. ภยตุปฏฺาเน ปฺาติ อุปฺปาทปวตฺตนิมิตฺตอายูหนาปฏิสนฺธีนํ ภยโต อุปฏฺาเน ปีฬาโยคโต สปฺปฏิภยวเสน คหณูปคมเน ปฺาติ อตฺโถ. ภยโต อุปฏฺาตีติ ภยตุปฏฺานํ อารมฺมณํ ¶ , ตสฺมึ ภยตุปฏฺาเน. อถ วา ภยโต อุปติฏฺตีติ ภยตุปฏฺานํ, ปฺา, ตํ ‘‘ภยตุปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ โหติ.
อาทีนเว าณนฺติ ภุมฺมวจนเมว. ‘‘ยา จ ภยตุปฏฺาเน ปฺา, ยฺจ อาทีนเว าณํ, ยา จ นิพฺพิทา, อิเม ธมฺมา เอกฏฺา, พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๒๗) วุตฺตตฺตา เอกมิว วุจฺจมานมฺปิ อวตฺถาเภเทน มฺุจิตุกมฺยตาทิ วิย ติวิธเมว โหติ. ตสฺมา ภยตุปฏฺานอาทีนวานุปสฺสนาสุ สิทฺธาสุ นิพฺพิทานุปสฺสนา สิทฺธา โหตีติ กตฺวา อวุตฺตาปิ วุตฺตาว โหตีติ เวทิตพฺพา.
สพฺพสงฺขารานํ ภงฺคารมฺมณํ ภงฺคานุปสฺสนํ อาเสวนฺตสฺส ภาเวนฺตสฺส พหุลีกโรนฺตสฺส ติภวจตุโยนิปฺจคติสตฺตวิฺาณฏฺิตินวสตฺตาวาเสสุ ปเภทกา สงฺขารา สุเขน ชีวิตุกามสฺส ภีรุกปุริสสฺส สีหพฺยคฺฆทีปิอจฺฉตรจฺฉยกฺขรกฺขสจณฺฑโคณจณฺฑกุกฺกุรปภินฺน- มทจณฺฑหตฺถิโฆรอาสิวิสอสนิวิจกฺกสุสานรณภูมิชลิตองฺคารกาสุอาทโย วิย มหาภยํ หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ, ตสฺส ‘‘อตีตา สงฺขารา นิรุทฺธา, ปจฺจุปฺปนฺนา นิรุชฺฌนฺติ, อนาคตาปิ เอวเมว นิรุชฺฌิสฺสนฺตี’’ติ ปสฺสโต เอตสฺมึ าเน ภยตุปฏฺานํ าณํ ¶ อุปฺปชฺชติ. ตสฺส ตํ ภยตุปฏฺานาณํ อาเสวนฺตสฺส ภาเวนฺตสฺส พหุลีกโรนฺตสฺส สพฺพภวโยนิคติิติสตฺตาวาเสสุ เนว ตาณํ น เลณํ น คติ น ปฏิสรณํ ปฺายติ, สพฺพภวโยนิคติิตินิวาสคเตสุ สงฺขาเรสุ เอกสงฺขาเรปิ ปตฺถนา วา ปรามาโส ¶ วา น โหติ, ตโย ภวา วีตจฺจิตงฺคารปุณฺณา องฺคารกาสุโย วิย, จตฺตาโร มหาภูตา โฆรวิสา อาสิวิสา วิย, ปฺจกฺขนฺธา อุกฺขิตฺตาสิกา วธกา วิย, ฉ อชฺฌตฺติกายตนานิ สฺุคาโม วิย, ฉ พาหิรายตนานิ คามฆาตกโจรา วิย, สตฺตวิฺาณฏฺิติโย นว จ สตฺตาวาสา เอกาทสหิ อคฺคีหิ อาทิตฺตา สมฺปชฺชลิตา สโชติภูตา วิย จ, สพฺเพ สงฺขารา คณฺฑภูตา โรคภูตา สลฺลภูตา อฆภูตา อาพาธภูตา วิย จ นิรสฺสาทา นิรสา มหาอาทีนวราสิภูตา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ, สุเขน ชีวิตุกามสฺส ภีรุกปุริสสฺส รมณียาการสณฺิตมฺปิ สวาฬกมิว วนคหนํ, สสทฺทูลา วิย คุหา, สคาหรกฺขสํ วิย อุทกํ, สมุสฺสิตขคฺคา วิย ปจฺจตฺถิกา, สวิสํ วิย โภชนํ, สโจโร วิย มคฺโค, อาทิตฺตมิว อคารํ, อุยฺยุตฺตเสนา วิย รณภูมิ. ยถา หิ โส ปุริโส เอตานิ สวาฬกวนคหนาทีนิ อาคมฺม ภีโต สํวิคฺโค โลมหฏฺชาโต สมนฺตโต อาทีนวเมว ปสฺสติ, เอวเมว โส โยคาวจโร ภงฺคานุปสฺสนาวเสน สพฺพสงฺขาเรสุ ภยโต อุปฏฺิเตสุ สมนฺตโต นิรสํ นิรสฺสาทํ อาทีนวเมว ปสฺสติ. ตสฺเสวํ ปสฺสโต อาทีนวานุปสฺสนาาณํ อุปฺปชฺชติ.
โส ¶ เอวํ สพฺพสงฺขาเร อาทีนวโต สมฺปสฺสนฺโต สพฺพภวโยนิคติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาสคเต สเภทเก สงฺขารคเต นิพฺพินฺทติ อุกฺกณฺติ นาภิรมติ. เสยฺยถาปิ นาม จิตฺตกูฏปพฺพตปาทาภิรโต สุวณฺณราชหํโส อสุจิมฺหิ จณฺฑาลคามทฺวารอาวาเฏ นาภิรมติ, สตฺตสุ มหาสเรสุเยว อภิรมติ, เอวเมว อยํ โยคีราชหํโส สุปริทิฏฺาทีนเว สเภทเก สงฺขารคเต นาภิรมติ, ภาวนารามตาย ปน ภาวนารติยา สมนฺนาคตตฺตา สตฺตสุ อนุปสฺสนาสุเยว อภิรมติ. ยถา จ สุวณฺณปฺชเรปิ ปกฺขิตฺโต สีโห มิคราชา นาภิรมติ, ติโยชนสหสฺสวิตฺถเต ปน หิมวนฺเตเยว ¶ รมติ, เอวมยมฺปิ โยคีสีโห ติวิเธ สุคติภเวปิ นาภิรมติ, ตีสุ อนุปสฺสนาสุเยว รมติ. ยถา จ สพฺพเสโต สตฺตปฺปติฏฺโ อิทฺธิมา เวหาสงฺคโม ฉทฺทนฺโต นาคราชา นครมชฺเฌ นาภิรมติ, หิมวติ ฉทฺทนฺตรหเทเยว รมติ, เอวมยํ โยคีวรวารโณ สพฺพสฺมิมฺปิ สงฺขารคเต นาภิรมติ, ‘‘อนุปฺปาโท ¶ เขม’’นฺติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๕๓) นเยน นิทฺทิฏฺเ สนฺติปเทเยว รมติ, ตนฺนินฺนตปฺโปณตปฺปพฺภารมานโส โหติ. เอตฺตาวตา ตสฺส นิพฺพิทานุปสฺสนาาณํ อุปฺปนฺนํ โหตีติ.
๙. มฺุจิตุกมฺยตาปฏิสงฺขาสนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณนฺติ มฺุจิตุํ จชิตุํ กาเมติ อิจฺฉตีติ มฺุจิตุกาโม, มฺุจิตุกามสฺส ภาโว มฺุจิตุกมฺยตา. ปฏิสงฺขาติ อุปปริกฺขตีติ ปฏิสงฺขา, ปฏิสงฺขานํ วา ปฏิสงฺขา. สนฺติฏฺติ อชฺฌุเปกฺขตีติ สนฺติฏฺนา, สนฺติฏฺนํ วา สนฺติฏฺนา. มฺุจิตุกมฺยตา จ สา ปฏิสงฺขา จ สนฺติฏฺนา จาติ มฺุจิตุกมฺยตาปฏิสงฺขาสนฺติฏฺนา. อิติ ปุพฺพภาเค นิพฺพิทาาเณน นิพฺพินฺนสฺส อุปฺปาทาทีนิ ปริจฺจชิตุกามตา มฺุจิตุกมฺยตา. มฺุจนสฺส อุปายกรณตฺถํ มชฺเฌ ปฏิสงฺขานํ ปฏิสงฺขา. มฺุจิตฺวา อวสาเน อชฺฌุเปกฺขนํ สนฺติฏฺนา. เอวํ อวตฺถาเภเทน ติปฺปการา ปฺา สงฺขารานํ อชฺฌุเปกฺขนาสุ าณํ, มฺุจิตุกมฺยตาปฏิสงฺขาสนฺติฏฺนาสงฺขาตานํ อวตฺถาเภเทน ภินฺนานํ ติสฺสนฺนมฺปิ ปฺานํ สงฺขารุเปกฺขตํ อิจฺฉนฺเตน ปน ‘‘ปฺา’’ติ จ ‘‘สงฺขารุเปกฺขาสู’’ติ จ พหุวจนํ กตํ, อวตฺถาเภเทน ภินฺนสฺสาปิ เอกตฺตา ‘‘าณ’’นฺติ เอกวจนํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺจ – ‘‘ยา จ มฺุจิตุกมฺยตา ยา จ ปฏิสงฺขานุปสฺสนา ยา จ สงฺขารุเปกฺขา, อิเม ธมฺมา เอกฏฺา, พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๒๗). เกจิ ปน ‘‘สงฺขารุเปกฺขาสูติ พหุวจนํ สมถวิปสฺสนาวเสน สงฺขารุเปกฺขานํ พหุตฺตา’’ติปิ วทนฺติ. สงฺขารุเปกฺขาสูติ จ กิริยาเปกฺขนฺติ ¶ เวทิตพฺพํ. อวตฺถาเภเทน ปน เตน นิพฺพิทาาเณน นิพฺพินฺทนฺตสฺส อุกฺกณฺนฺตสฺส สพฺพภวโยนิคติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาสคเตสุ สเภทเกสุ สงฺขาเรสุ จิตฺตํ น สชฺชติ น ลคฺคติ น พชฺฌติ, สพฺพสงฺขารคตํ มฺุจิตุกามํ ฉฑฺเฑตุกามํ โหติ.
อถ ¶ วา ยถา ชาลพฺภนฺตรคโต มจฺโฉ, สปฺปมุขคโต มณฺฑูโก, ปฺชรปกฺขิตฺโต วนกุกฺกุโฏ, ทฬฺหปาสวสํคโต มิโค, อหิตุณฺฑิกหตฺถคโต สปฺโป, มหาปงฺกปกฺขนฺโท กฺุชโร, สุปณฺณมุขคโต นาคราชา, ราหุมุขปวิฏฺโ จนฺโท, สปตฺตปริกฺขิตฺโต ปุริโสติเอวมาทโย ตโต ตโต มุจฺจิตุกามา นิสฺสริตุกามาว โหนฺติ, เอวํ ตสฺส โยคิโน จิตฺตํ สพฺพสฺมา สงฺขารคตา มุจฺจิตุกามํ นิสฺสริตุกามํ โหติ. เอวฺหิ วุจฺจมาเน ‘‘มุจฺจิตุกามสฺส มุจฺจิตุกมฺยตา’’ติ ปาโ ยุชฺชติ. เอวฺจ สติ ‘‘อุปฺปาทํ ¶ มฺุจิตุกมฺยตา’’ติอาทีสุ ‘‘อุปฺปาทา มุจฺจิตุกมฺยตา’’ติอาทิ วตฺตพฺพํ โหติ, ตสฺมา ปุริโม เอว อตฺโถ สุนฺทรตโร. อถสฺส สพฺพสงฺขาเรสุ วิคตาลยสฺส สพฺพสงฺขารคตํ มฺุจิตุกามสฺส มฺุจิตุกมฺยตาาณํ อุปฺปชฺชติ. โส เอวํ สพฺพภวโยนิคติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาสคเต สเภทเก สงฺขาเร มฺุจิตุกาโม มฺุจนสฺส อุปายสมฺปาทนตฺถํ ปุน เต เอว สงฺขาเร ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาเณน ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา วิปสฺสติ. เอวฺหิ วิปสฺสโต จสฺส อนิจฺจวเสน นิมิตฺตํ ปฏิสงฺขาาณํ อุปฺปชฺชติ, ทุกฺขวเสน ปวตฺตํ ปฏิสงฺขาาณํ อุปฺปชฺชติ, อนตฺตวเสน นิมิตฺตฺจ ปวตฺตฺจ ปฏิสงฺขาาณํ อุปฺปชฺชติ. โส ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาเณน ‘‘สพฺเพ สงฺขารา สฺุา’’ติ ทิสฺวา ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา สงฺขาเร ปริคฺคณฺหนฺโต ภยฺจ นนฺทิฺจ วิปฺปหาย ภริยาย โทสํ ทิสฺวา วิสฺสฏฺภริโย วิย ปุริโส ตสฺสา ภริยาย สงฺขาเรสุ อุทาสีโน โหติ มชฺฌตฺโต, ‘‘อห’’นฺติ วา ‘‘มม’’นฺติ วา น คณฺหาติ. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต ตีสุ ภเวสุ จิตฺตํ ปติลียติ ปฏิกุฏติ ปฏิวตฺตติ น สมฺปสาริยติ. เสยฺยถาปิ นาม ปทุมปลาเส ¶ อีสกํ โปเณ อุทกผุสิตานิ ปติลียนฺติ ปฏิกุฏนฺติ ปฏิวตฺตนฺติ น สมฺปสาริยนฺติ. เสยฺยถาปิ วา ปน กุกฺกุฏปตฺตํ วา นฺหารุททฺทุลํ วา อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตํ ปติลียติ ปฏิกุฏติ ปฏิวตฺตติ น สมฺปสาริยติ, เอวํ ตสฺส ตีสุ ภเวสุ จิตฺตํ ปติลียติ ปฏิกุฏติ ปฏิวตฺตติ น สมฺปสาริยติ, อุเปกฺขา สณฺาติ. เอวมสฺส สงฺขารุเปกฺขาาณํ อุปฺปนฺนํ โหติ. อิมินา สงฺขารุเปกฺขาาเณน สทฺธึ อุปริ โคตฺรภุาณสฺส สาธกํ อนุโลมาณํ ปุพฺพาปราเณหิ อวุตฺตมฺปิ วุตฺตเมว โหตีติ เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺหิ ภควตา –
‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กฺจิ สงฺขารํ นิจฺจโต สมนุปสฺสนฺโต อนุโลมิกาย ขนฺติยา สมนฺนาคโต ภวิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ, อนุโลมิกาย ขนฺติยา อสมนฺนาคโต สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ, สมฺมตฺตนิยามํ อโนกฺกมมาโน โสตาปตฺติผลํ วา สกทาคามิผลํ วา อนาคามิผลํ วา ¶ อรหตฺตผลํ วา สจฺฉิกริสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๖.๙๘; ปฏิ. ม. ๓.๓๖).
วุตฺตฺจ ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘กติหากาเรหิ อนุโลมิกํ ขนฺตึ ปฏิลภติ? กติหากาเรหิ สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมติ? จตฺตาลีสาย อากาเรหิ อนุโลมิกํ ¶ ขนฺตึ ปฏิลภติ, จตฺตาลีสาย อากาเรหิ สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมตี’’ติอาทิ (ปฏิ. ม. ๓.๓๗).
ปฏฺาเน เจตํ วุตฺตํ ภควตา –
‘‘อนุโลมํ โคตฺรภุสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย. อนุโลมํ โวทานสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทิ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๗).
ตสฺส หิ ตํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ อาเสวนฺตสฺส ภาเวนฺตสฺส พหุลีกโรนฺตสฺส อธิโมกฺขสทฺธา พลวตรา โหติ, วีริยํ สุปคฺคหิตํ, สติ สูปฏฺิตา, จิตฺตํ สุสมาหิตํ, สงฺขารุเปกฺขาาณํ ติกฺขตรํ ปวตฺตติ. ตสฺส อิทานิ มคฺโค อุปฺปชฺชิสฺสตีติ สงฺขารุเปกฺขาย สงฺขาเร ‘‘อนิจฺจา’’ติ วา ‘‘ทุกฺขา’’ติ วา ‘‘อนตฺตา’’ติ วา สมฺมสิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. ภวงฺคานนฺตรํ สงฺขารุเปกฺขาย กตนเยเนว สงฺขาเร ‘‘อนิจฺจา’’ติ วา ‘‘ทุกฺขา’’ติ วา ‘‘อนตฺตา’’ติ วา อารมฺมณํ กุรุมานํ อุปฺปชฺชติ มโนทฺวาราวชฺชนํ. ตทนนฺตรํ ตเถว สงฺขาเร อารมฺมณํ กตฺวา ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ วา ชวนจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. ตํสมฺปยุตฺตํ ¶ าณํ อนุโลมาณํ. ตฺหิ ปุริมานฺจ อฏฺนฺนํ วิปสฺสนาาณานํ ตถกิจฺจตาย อนุโลเมติ, อุปริ จ ปตฺตพฺพานํ สตฺตตึสาย โพธิปกฺขิยธมฺมานํ อนุโลเมติ. ยถา หิ ธมฺมิโก ราชา วินิจฺฉยฏฺาเน นิสินฺโน อฏฺนฺนํ โวหาริกมหามตฺตานํ วินิจฺฉยํ สุตฺวา อคติคมนํ ปหาย มชฺฌตฺโต หุตฺวา ‘‘เอวํ โหตู’’ติ อนุโมทมาโน เตสฺจ วินิจฺฉยสฺส อนุโลเมติ, โปราณสฺส จ ราชธมฺมสฺส. ตตฺถ ราชา วิย อนุโลมาณํ, อฏฺ โวหาริกมหามตฺตา วิย อฏฺ วิปสฺสนาาณานิ, โปราณราชธมฺโม วิย สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา, ยถา ราชา ‘‘เอวํ โหตู’’ติ อนุโมทมาโน โวหาริกานฺจ วินิจฺฉยสฺส ราชธมฺมสฺส จ อนุโลเมติ, เอวมิทํ อนิจฺจาทิวเสน สงฺขาเร อารพฺภ อุปฺปชฺชมานานํ อฏฺนฺนฺจ วิปสฺสนาาณานํ ตถกิจฺจตาย อนุโลเมติ, อุปริ จ ปตฺตพฺพานํ สตฺตตึสาย โพธิปกฺขิยธมฺมานํ. ตสฺมา อนุโลมาณนฺติ วุจฺจติ.
๑๐. พหิทฺธา ¶ วุฏฺานวิวฏฺฏเน ปฺา โคตฺรภุาณนฺติ เอตฺถ พหิทฺธาติ สงฺขารนิมิตฺตํ. ตฺหิ อชฺฌตฺตจิตฺตสนฺตาเน อกุสลกฺขนฺเธ อุปาทาย พหิทฺธาติ วุตฺตํ. ตสฺมา พหิทฺธา สงฺขารนิมิตฺตมฺหา วุฏฺาติ วิคตํ หุตฺวา อุทฺธํ ¶ ติฏฺตีติ วุฏฺานํ, วิวฏฺฏติ ปราวฏฺฏติ ปรมฺมุขํ โหตีติ วิวฏฺฏนํ, วุฏฺานฺจ ตํ วิวฏฺฏนฺจาติ วุฏฺานวิวฏฺฏนํ. เตเนวาห –
‘‘โคตฺรภุาณํ สมุทยสฺส อสมุจฺฉินฺทนโต ปวตฺตา น วุฏฺาติ, นิพฺพานารมฺมณโต ปน นิมิตฺตา วุฏฺาตีติ เอกโต วุฏฺานํ โหตี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๘๒๗).
ปุถุชฺชนโคตฺตาภิภวนโต อริยโคตฺตภาวนโต โคตฺรภุ. อิทฺหิ อนุโลมาเณหิ ปทุมปลาสโต อุทกมิว สพฺพสงฺขารโต ปติลียมานจิตฺตสฺส อนุโลมาณสฺส อาเสวนนฺเต อนิมิตฺตํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กุรุมานํ ปุถุชฺชนโคตฺตํ ปุถุชฺชนสงฺขํ ปุถุชฺชนภูมึ อติกฺกมมานํ อริยโคตฺตํ อริยสงฺขํ อริยภูมึ โอกฺกมมานํ นิพฺพานารมฺมเณ ปมาวตฺตนปมาโภคปมสมนฺนาหารภูตํ มคฺคสฺส อนนฺตรสมนนฺตราเสวนอุปนิสฺสยนตฺถิวิคตวเสน ฉหิ อากาเรหิ ปจฺจยภาวํ ¶ สาธยมานํ สิขาปฺปตฺตํ วิปสฺสนาย มุทฺธภูตํ อปุนราวตฺตกํ อุปฺปชฺชติ.
๑๑. ทุภโต วุฏฺานวิวฏฺฏเน ปฺา มคฺเค าณนฺติ เอตฺถ ทุภโตติ อุภโต, ทฺวยโตติ วา วุตฺตํ โหติ. กิเลสานํ สมุจฺฉินฺทนโต กิเลเสหิ จ ตทนุวตฺตกกฺขนฺเธหิ จ นิพฺพานารมฺมณกรณโต พหิทฺธา สพฺพสงฺขารนิมิตฺเตหิ จ วุฏฺาติ วิวฏฺฏตีติ ทุภโต วุฏฺานวิวฏฺฏเน ปฺา. เตเนวาห –
‘‘จตฺตาริปิ มคฺคาณานิ อนิมิตฺตารมฺมณตฺตา นิมิตฺตโต วุฏฺหนฺติ, สมุทยสฺส สมุจฺฉินฺทนโต ปวตฺตา วุฏฺหนฺตีติ ทุภโต วุฏฺานานิ โหนฺตี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๘๒๗).
มคฺเค าณนฺติ นิพฺพานํ มคฺคติ เปกฺขติ, นิพฺพานตฺถิเกหิ วา มคฺคียติ อนฺเวสียติ, กิเลเส วา มาเรนฺโต คจฺฉติ ปวตฺตตีติ มคฺโค, ตสฺมึ มคฺเค าณํ. ชาติคฺคหเณน เอกวจนํ กตํ. ตฺหิ โคตฺรภุาณสฺส อนนฺตรํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กุรุมานํ สยํวชฺเฌ กิเลเส นิรวเสสํ สมุจฺฉินฺทมานํ อนมตคฺคสํสารวฏฺฏทุกฺขสมุทฺทํ โสสยมานํ สพฺพาปายทฺวารานิ ปิทหมานํ สตฺตอริยธนสมฺมุขีภาวํ กุรุมานํ อฏฺงฺคิกํ มิจฺฉามคฺคํ ปชหมานํ สพฺพเวรภยานิ ¶ ¶ วูปสมยมานํ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส โอรสปุตฺตภาวมุปนยมานํ อฺานิ จ อเนกานิ อานิสํสสตานิ ปฏิลาภยมานํ มคฺคาณํ อุปฺปชฺชติ.
าตุํ อิจฺฉํ ปุริโส, ลงฺฆิตฺวา มาติกาย ปรตีเร;
เวเคนาคมฺม ยถา, คณฺหิตฺวา โอริมติรตรุพทฺธํ.
รชฺชุํ วา ทณฺฑํ วา, อุลฺลงฺฆิตฺวาน ปารนินฺนตนุ;
ปาราปนฺโน ปน ตํ, มฺุจิย เวธํ ปติฏฺหติ ปาเร.
เอวํ โยคาวจโร, สกฺกายมยมฺหิ โอริเม ตีเร;
ทิฏฺภโย อภเย ปน, าตุํ อิจฺฉํ อมตปาเร.
อุทยพฺพยานุปสฺส ¶ , ปภุติกเวเคน อาคโต รชฺชุํ;
รูปาวฺหํ ทณฺฑํ วา, ตทิตรขนฺธาวฺหยํ สมฺมา.
คณฺหิตฺวา อาวชฺชน, จิตฺเตน หิ ปุพฺพวุตฺตนยโตว;
อนุโลเมหุลฺลงฺฆิย, นิพฺพุตินินฺโน ตทาสโนปคโต.
ตํ มฺุจิย โคตฺรภุนา, อลทฺธอาเสวเนน ตุ ปเวธํ;
ปติโต สงฺขตปาเร, ตโต ปติฏฺาติ มคฺคาเณน.
ปสฺสิตุกาโม จนฺทํ, จนฺเท ฉนฺนมฺหิ อพฺภปฏเลหิ;
ถุลกสุขุมสุขุเมสุ, อพฺเภสุ หเฏสุ วายุนา กมโต.
จนฺทํ ปสฺเสยฺย นโร, ยถา ตเถวานุโลมาเณหิ กมา;
สจฺจจฺฉาทกโมเห, วินาสิเต เปกฺขเต หิ โคตฺรภุ อมตํ.
วาตา วิย เต จนฺทํ, อมตํ น หิ เปกฺขเรนุโลมานิ;
ปุริโส อพฺภานิ ยถา, โคตฺรภุ น ตมํ วิโนเทติ.
ภมิตมฺหิ ¶ จกฺกยนฺเต, ิโต นโร อฺทินฺนสฺาย;
อุสุปาเต ผลกสตํ, อเปกฺขมาโน ยถา วิชฺเฌ.
เอวมิธ มคฺคาณํ, โคตฺรภุนา ทินฺนสฺมวิหาย;
นิพฺพาเน วตฺตนฺตํ, โลภกฺขนฺธาทิเก ปทาเลติ.
สํสารทุกฺขชลธึ ¶ ¶ , โสสยติ ปิทหติ ทุคฺคติทฺวารํ;
กุรุเต จ อริยธนินํ, มิจฺฉามคฺคฺจ ปชหาติ.
เวรภยานิ สมยเต, กโรติ นาถสฺส โอรสสุตตฺตํ;
อฺเ จ อเนกสเต, อานีสํเส ททาติ าณมิทนฺติ.
๑๒. ปโยคปฺปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺา ผเล าณนฺติ เอตฺถ ปโยโคติ ภุโส โยโค, ผลสจฺฉิกิริยาย มคฺคภาวนาย อุภโต วุฏฺานปโยโค, ตสฺส ปโยคสฺส ปฏิปฺปสฺสมฺภนํ นิฏฺานํ ปโยคปฏิปฺปสฺสทฺธิ. กึ ตํ? จตุมคฺคกิจฺจปริโยสานํ. ตสฺสา ปโยคปฏิปฺปสฺสทฺธิยา เหตุภูตาย ปวตฺตา ผเล ปฺา ปโยคปฺปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺา. ผลติ วิปจฺจตีติ ผลํ, ตสฺมึ ผเล ตํสมฺปยุตฺตํ าณํ. เอเกกสฺส หิ มคฺคาณสฺส อนนฺตรา ตสฺส ตสฺเสว วิปากภูตานิ นิพฺพานารมฺมณานิ ตีณิ วา ทฺเว วา เอกํ วา ผลจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อนนฺตรวิปากตฺตาเยว โลกุตฺตรกุสลานํ ‘‘สมาธิมานนฺตริกฺมาหู’’ติ (ขุ. ปา. ๖.๕; สุ. นิ. ๒๒๘) จ, ‘‘ทนฺธํ อานนฺตริกํ ปาปุณาติ อาสวานํ ขยายา’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๖๒) จ อาทิ วุตฺตํ. ยสฺส ทฺเว อนุโลมานิ, ตสฺส ตติยํ โคตฺรภุ, จตุตฺถํ มคฺคจิตฺตํ, ตีณิ ผลจิตฺตานิ โหนฺติ. ยสฺส ตีณิ อนุโลมานิ, ตสฺส จตุตฺถํ โคตฺรภุ, ปฺจมํ มคฺคจิตฺตํ, ทฺเว ผลจิตฺตานิ โหนฺติ. ยสฺส จตฺตาริ อนุโลมานิ, ตสฺส ปฺจมํ โคตฺรภุ, ฉฏฺํ มคฺคจิตฺตํ, เอกํ ผลจิตฺตํ โหติ. อิทํ มคฺควีถิยํ ผลํ. กาลนฺตรผลํ ปน สมาปตฺติวเสน อุปฺปชฺชมานํ นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส อุปฺปชฺชมานฺจ เอเตเนว สงฺคหิตํ.
๑๓. ฉินฺนวฏุมานุปสฺสเน ปฺาติ เตน เตน อริยมคฺเคน สมุจฺฉินฺนํ ตํ ตํ อุปกฺกิเลสํ ปจฺฉา ปสฺสเน ปฺา. วิมุตฺติาณนฺติ วิมุตฺติยา าณํ. วิมุตฺตีติ จ อุปกฺกิเลเสหิ วิมุตฺตํ ปริสุทฺธํ จิตฺตํ, วิมุตฺตภาโว วา. ตสฺสา วิมุตฺติยา ¶ ชานนํ าณํ วิมุตฺติาณํ. กิเลเสหิ วิมุตฺตํ จิตฺตสนฺตติมฺปิ กิเลเสหิ วิมุตฺตภาวมฺปิ ปจฺจเวกฺขนฺโต กิเลเสหิ ¶ น วินา ปจฺจเวกฺขตีติ เอเตน ปหีนกิเลสปจฺจเวกฺขณํ วุตฺตํ โหติ. ‘‘วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหตี’’ติ (มหาว. ๒๓; ที. นิ. ๑.๒๔๘) หิ อิทเมว สนฺธาย วุตฺตํ. อวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขณํ ปน อวุตฺตมฺปิ อิมินาว วุตฺตํ โหตีติ คเหตพฺพํ. วุตฺตฺจ –
‘‘วุตฺตมฺหิ ¶ เอกธมฺเม, เย ธมฺมา เอกลกฺขณา เตน;
วุตฺตา ภวนฺติ สพฺเพ, อิติ วุตฺโต ลกฺขโณ หาโร’’ติ. (เนตฺติ. ๔.๕ นิทฺเทสวาร);
อถ วา อรหโต อวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขณาภาวา จตุนฺนํ อริยานํ ลพฺภมานํ ปหีนกิเลสปจฺจเวกฺขณเมว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๑๔. ตทา สมุทาคเต ธมฺเม ปสฺสเน ปฺาติ ตทา มคฺคกฺขเณ ผลกฺขเณ จ สมุทาคเต ปฏิลาภวเสน จ ปฏิเวธวเสน จ สมาคเต สมฺปตฺเต สมงฺคิภูเต มคฺคผลธมฺเม จตุสจฺจธมฺเม จ ปสฺสนา เปกฺขณา ปชานนา ปฺา. ปจฺจเวกฺขเณ าณนฺติ นิวตฺติตฺวา ภุสํ ปสฺสนํ ชานนํ าณํ. อิมินา จ าณทฺวเยน ปจฺจเวกฺขณาณานิ วุตฺตานิ โหนฺติ. โสตาปนฺนสฺส หิ มคฺควีถิยํ โสตาปตฺติผลปริโยสาเน จิตฺตํ ภวงฺคํ โอตรติ, ตโต ภวงฺคํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา มคฺคปจฺจเวกฺขณตฺถาย มโนทฺวาราวชฺชนํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ นิรุทฺเธ ปฏิปาฏิยา สตฺต มคฺคปจฺจเวกฺขณชวนานีติ. ปุน ภวงฺคํ โอตริตฺวา เตเนว นเยน ผลาทีนํ ปจฺจเวกฺขณตฺถาย อาวชฺชนาทีนิ อุปฺปชฺชนฺติ. เยสํ อุปฺปตฺติยา เอส มคฺคํ ปจฺจเวกฺขติ, ผลํ ปจฺจเวกฺขติ, ปหีนกิเลเส ปจฺจเวกฺขติ, อวสิฏฺกิเลเส ปจฺจเวกฺขติ, นิพฺพานํ ปจฺจเวกฺขติ. โส หิ ‘‘อิมินา วตาหํ มคฺเคน อาคโต’’ติ มคฺคํ ปจฺจเวกฺขติ, ตโต ‘‘อยํ เม อานิสํโส ลทฺโธ’’ติ ผลํ ปจฺจเวกฺขติ, ตโต ‘‘อิเม นาม เม กิเลสา ปหีนา’’ติ ปหีนกิเลเส ปจฺจเวกฺขติ, ตโต ‘‘อิเม นาม เม กิเลสา อวสิฏฺา’’ติ อุปริมคฺควชฺเฌ ¶ กิเลเส ปจฺจเวกฺขติ, อวสาเน ‘‘อยํ เม ธมฺโม อารมฺมณโต ปฏิลทฺโธ’’ติ อมตํ นิพฺพานํ ปจฺจเวกฺขติ. อิติ โสตาปนฺนสฺส อริยสาวกสฺส ปฺจ ปจฺจเวกฺขณานิ โหนฺติ. ยถา จ โสตาปนฺนสฺส, เอวํ สกทาคามิอนาคามีนมฺปิ. อรหโต ปน อวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขณํ นาม นตฺถีติ จตฺตาริเยว ปจฺจเวกฺขณานิ. เอวํ สพฺพานิ เอกูนวีสติ ปจฺจเวกฺขณาณานิ. อุกฺกฏฺปริจฺเฉโทเยว เจโส. ปหีนาวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขณํ เสกฺขานํ โหติ วา น วา. ตสฺส หิ อภาวโตเยว มหานาโม สกฺโก ภควนฺตํ ¶ ปุจฺฉิ ‘‘โกสุ นาม เม ธมฺโม อชฺฌตฺตํ อปฺปหีโน, เยน เม เอกทา โลภธมฺมาปิ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺตี’’ติอาทิ (ม. นิ. ๑.๑๗๕).
เอตฺถ ¶ ธมฺมฏฺิติาณาทีนํ เอกาทสนฺนํ าณานํ วิภาวนตฺถาย อยํ อุปมา เวทิตพฺพา – ยถา ปุริโส ‘‘มจฺเฉ คเหสฺสามี’’ติ มจฺฉขิปฺปํ คเหตฺวา ตทนุรูเป อุทเก โอสาเรตฺวา ขิปฺปมุเขน หตฺถํ โอตาเรตฺวา อนฺโตอุทเก กณฺหสปฺปํ มจฺฉสฺาย คีวาย ทฬฺหํ คเหตฺวา ‘‘มหา วต มยา มจฺโฉ ลทฺโธ’’ติ ตุฏฺโ อุกฺขิปิตฺวา ปสฺสนฺโต โสวตฺถิกตฺตยทสฺสเนน ‘‘สปฺโป’’ติ สฺชานิตฺวา ภีโต อาทีนวํ ทิสฺวา คหเณ นิพฺพินฺโน มฺุจิตุกาโม หุตฺวา มฺุจนสฺส อุปายํ กโรนฺโต อคฺคนงฺคุฏฺโต ปฏฺาย หตฺถํ นิพฺเพเตฺวา พาหํ อุกฺขิปิตฺวา อุปริสีเส ทฺเว ตโย วาเร ปริพฺภเมตฺวา สปฺปํ ทุพฺพลํ กตฺวา ‘‘คจฺฉ เร ทุฏฺสปฺปา’’ติ นิสฺสชฺชิตฺวา เวเคน ถลํ อารุยฺห ิโตว ‘‘มหนฺตสฺส วต โภ สปฺปสฺส มุขโต มุตฺโตมฺหี’’ติ หฏฺโ อาคตมคฺคํ โอโลเกยฺย.
ตตฺถ ตสฺส ปุริสสฺส มจฺฉสฺาย กณฺหสปฺปํ ทฬฺหํ คเหตฺวา ตุสฺสนํ วิย อิมสฺส โยคิโน อาทิโต พาลปุถุชฺชนสฺส อนิจฺจตาทิวเสน ภยานกํ ขนฺธปฺจกํ นิจฺจาทิสฺาย ‘‘อหํ มมา’’ติ ทิฏฺิตณฺหาหิ ทฬฺหํ คเหตฺวา ตุสฺสนํ, ตสฺส ขิปฺปมุขโต สปฺปํ นีหริตฺวา โสวตฺถิกตฺตยํ ทิสฺวา ‘‘สปฺโป’’ติ สฺชานนํ วิย สปฺปจฺจยนามรูปปริคฺคเหน ฆนวินิพฺโภคํ กตฺวา กลาปสมฺมสนาทีหิ าเณหิ ขนฺธปฺจกสฺส อนิจฺจตาทิลกฺขณตฺตยํ ทิสฺวา ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา’’ติ ตสฺส ววตฺถาปนํ ¶ , ตสฺส ภายนํ วิย อิมสฺส ภยตุปฏฺานาณํ, สปฺเป อาทีนวทสฺสนํ วิย อาทีนวานุปสฺสนาาณํ, สปฺปคหเณ นิพฺพินฺทนํ วิย นิพฺพิทานุปสฺสนาาณํ, สปฺปํ มฺุจิตุกามตา วิย มฺุจิตุกมฺยตาาณํ, มฺุจนสฺส อุปายกรณํ วิย ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาณํ, สปฺปํ ปริพฺภเมตฺวา ทุพฺพลํ กตฺวา นิวตฺติตฺวา ฑํสิตุํ อสมตฺถภาวปาปนํ วิย ติลกฺขณาโรปเนน สงฺขารุเปกฺขานุโลมาเณหิ สงฺขาเร ปริพฺภเมตฺวา ทุพฺพลํ กตฺวา ปุน นิจฺจสุขตฺตากาเรน อุปฏฺาตุํ อสมตฺถตาปาปนํ, สปฺปวิสฺสชฺชนํ วิย โคตฺรภุาณํ, สปฺปํ วิสฺสชฺเชตฺวา ถลํ อารุยฺห านํ วิย นิพฺพานถลํ อารุยฺห ิตํ มคฺคผลาณํ, หฏฺสฺส อาคตมคฺโคโลกนํ วิย มคฺคาทิปจฺจเวกฺขณาณนฺติ.
อิเมสฺจ สุตมยาณาทีนํ จุทฺทสนฺนํ าณานํ อุปฺปตฺติกฺกเมน ปฏิปตฺติกฺกเมน จ เทสนกฺกมสฺส กตตฺตา ปจฺจเวกฺขเณสุ ปมํ กิเลสปจฺจเวกฺขณํ โหติ, ตโต มคฺคผลนิพฺพานปจฺจเวกฺขณานีติ เวทิตพฺพํ.
‘‘โลกุตฺตรํ ¶ ¶ ฌานํ ภาเวติ นิยฺยานิกํ อปจยคามึ ทิฏฺิคตานํ ปหานาย, กามราคพฺยาปาทานํ ตนุภาวาย, กามราคพฺยาปาทานํ อนวเสสปฺปหานาย, รูปราคอรูปราคมานอุทฺธจฺจอวิชฺชานํ อนวเสสปฺปหานายา’’ติ (ธ. ส. ๒๗๗, ๓๖๑-๓๖๓) จ กิเลสปฺปหานํเยว อธิกํ กตฺวา มคฺคปฏิปตฺติยา วุตฺตตฺตา ปฏิปตฺตานุรูเปเนว กิเลสปจฺจเวกฺขณสฺส อาทิภาโว ยุชฺชติ, อฏฺกถายํ วุตฺตกฺกโม ปน ทสฺสิโตเยว. โส ปน กโม ปฺจวิโธ อุปฺปตฺติกฺกโม ปหานกฺกโม ปฏิปตฺติกฺกโม ภูมิกฺกโม เทสนกฺกโมติ.
‘‘ปมํ กลลํ โหติ, กลลา โหติ อพฺพุทํ;
อพฺพุทา ชายเต เปสิ, เปสิ นิพฺพตฺตตี ฆโน’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๓๕) –
เอวมาทิ อุปฺปตฺติกฺกโม. ‘‘ทสฺสเนน ปหาตพฺพา ธมฺมา, ภาวนาย ปหาตพฺพา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ติกมาติกา ๘) เอวมาทิ ปหานกฺกโม. ‘‘สีลวิสุทฺธิ จิตฺตวิสุทฺธิ ทิฏฺิวิสุทฺธิ กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิ มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธิ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิ ¶ าณทสฺสนวิสุทฺธี’’ติ เอวมาทิ ปฏิปตฺติกฺกโม. ‘‘กามาวจรา ธมฺมา, รูปาวจรา ธมฺมา, อรูปาวจรา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๙๓-๙๕) เอวมาทิ ภูมิกฺกโม. ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ปฺจินฺทฺริยานิ ปฺจ พลานิ สตฺต โพชฺฌงฺคา อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๓; มหานิ. ๑๙๑; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๒๒) วา, ‘‘อนุปุพฺพิกถํ กเถสิ. เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสี’’ติ (มหาว. ๓๑; ที. นิ. ๑.๒๙๘; ๒.๘๓) วา เอวมาทิ เทสนกฺกโม. อิธ ปน จุทฺทสนฺนํ าณานํ อุปฺปตฺติกฺกโม ปฏิปตฺติกฺกโม จ ตทุภยวเสน ปฏิปาฏิยา เทสิตตฺตา เทสนกฺกโม จาติ ตโย กมา เวทิตพฺพา.
๑๕. อิทานิ ยสฺมา เหฏฺา สรูเปน นามรูปววตฺถานาณํ น วุตฺตํ, ตสฺมา ปฺจธา นามรูปปฺปเภทํ ทสฺเสตุํ อชฺฌตฺตววตฺถาเน ปฺา วตฺถุนานตฺเต าณนฺติอาทีนิ ปฺจ าณานิ อุทฺทิฏฺานิ. สกเล หิ นามรูเป วุตฺเต ยํ ปริคฺคเหตุํ สกฺกา, ยฺจ ปริคฺคเหตพฺพํ, ตํ ปริคฺคเหสฺสติ. โลกุตฺตรนามฺหิ ปริคฺคเหตฺุจ น สกฺกา อนธิคตตฺตา, น จ ปริคฺคเหตพฺพํ อวิปสฺสนูปคตฺตา. ตตฺถ อชฺฌตฺตววตฺถาเนติ ‘‘เอวํ ปวตฺตมานา มยํ อตฺตาติ ¶ คหณํ คมิสฺสามา’’ติ อิมินา วิย อธิปฺปาเยน อตฺตานํ อธิการํ กตฺวา ปวตฺตาติ อชฺฌตฺตา. อชฺฌตฺตสทฺโท ปนายํ โคจรชฺฌตฺเต นิยกชฺฌตฺเต อชฺฌตฺตชฺฌตฺเต วิสยชฺฌตฺเตติ จตูสุ อตฺเถสุ ทิสฺสติ ¶ . ‘‘เตน, อานนฺท, ภิกฺขุนา ตสฺมึเยว ปุริมสฺมึ สมาธินิมิตฺเต อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สณฺเปตพฺพํ, อชฺฌตฺตรโต สมาหิโต’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๓๖๒) หิ อยํ โคจรชฺฌตฺเต ทิสฺสติ. ‘‘อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ (ที. นิ. ๑.๒๒๘; ธ. ส. ๑๖๑), อชฺฌตฺตํ วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรตี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๗๓) นิยกชฺฌตฺเต. ‘‘ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ, อชฺฌตฺติกา ธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ติกมาติกา ๒๐) อชฺฌตฺตชฺฌตฺเต. ‘‘อยํ โข, ปนานนฺท, วิหาโร ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ ยทิทํ สพฺพนิมิตฺตานํ อมนสิการา อชฺฌตฺตํ สฺุตํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๘๗) วิสยชฺฌตฺเต, อิสฺสริยฏฺาเนติ ¶ อตฺโถ. ผลสมาปตฺติ หิ พุทฺธานํ อิสฺสริยฏฺานํ นาม. อิธ ปน อชฺฌตฺตชฺฌตฺเต ทฏฺพฺโพ. เตสํ อชฺฌตฺตานํ ววตฺถาเน อชฺฌตฺตววตฺถาเน. วตฺถุนานตฺเตติ วตฺถูนํ นานาภาเว, นานาวตฺถูสูติ อตฺโถ. เอตฺถ ชวนมโนวิฺาณสฺส ปจฺจยภูโต ภวงฺคมโนปิ จกฺขาทิปฺจกํ วิย อุปฺปตฺติฏฺานตฺตา วตฺถูติ วุตฺโต. อาวชฺชนมฺปิ ตนฺนิสฺสิตเมว กาตพฺพํ.
พหิทฺธาติ ฉหิ อชฺฌตฺตชฺฌตฺเตหิ พหิภูเตสุ เตสํ วิสเยสุ. โคจรนานตฺเตติ วิสยนานตฺเต.
๑๗. จริยาววตฺถาเนติ วิฺาณจริยาอฺาณจริยาาณจริยาวเสน จริยานํ ววตฺถาเน. ‘‘จริยววตฺถาเน’’ติ รสฺสํ กตฺวาปิ ปนฺติ.
๑๘. จตุธมฺมววตฺถาเนติ กามาวจรภูมิอาทีนํ จุทฺทสนฺนํ จตุกฺกานํ วเสน จตุนฺนํ จตุนฺนํ ธมฺมานํ ววตฺถาเน. ภูมีติ จ ‘‘ภูมิคตฺจ เวหาสฏฺฺจา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๓๖) ปถวิยํ วตฺตติ. ‘‘อภูมึ ตาต, มา เสวา’’ติอาทีสุ (ชา. ๑.๖.๓๔) วิสเย. ‘‘สุขภูมิยํ กามาวจเร’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๙๘๘) อุปฺปชฺชนฏฺาเน. อิธ ปน โกฏฺาเส วตฺตติ. ปริจฺเฉเทติปิ วทนฺติ.
๑๙. นวธมฺมววตฺถาเนติ ¶ กามาวจรกุสลาทิวเสน ปาโมชฺชมูลกวเสน โยนิโส มนสิการมูลกวเสน จ นวนฺนํ นวนฺนํ ธมฺมานํ ววตฺถาเน. อิเมสุ จ ปฺจสุ าเณสุ ปมํ อชฺฌตฺตธมฺมา ววตฺถาเปตพฺพาติ วตฺถุนานตฺเต าณํ ปมํ วุตฺตํ, ตโต เตสํ วิสยา ววตฺถาเปตพฺพาติ ตทนนฺตรํ โคจรนานตฺเต าณํ วุตฺตํ, ตโต ปรานิ ตีณิ าณานิ ติณฺณํ จตุนฺนํ นวนฺนํ วเสน คณนานุโลเมน วุตฺตานิ.
๒๐. อิทานิ ¶ ยสฺมา นามรูปสฺเสว ปเภทโต ววตฺถาปนาณํ าตปริฺา, ตทนนฺตรํ ตีรณปริฺา, ตทนนฺตรํ ปหานปริฺาติ ติสฺโส ปริฺา. ตํสมฺพนฺธา จ ภาวนาสจฺฉิกิริยา โหนฺติ, ตสฺมา ธมฺมนานตฺตาณานนฺตรํ าตฏฺเ ¶ าณาทีนิ ปฺจ าณานิ อุทฺทิฏฺานิ. ติสฺโส หิ ปริฺา าตปริฺา ตีรณปริฺา ปหานปริฺา จ. ตตฺถ ‘‘รุปฺปนลกฺขณํ รูปํ, เวทยิตลกฺขณา เวทนา’’ติ เอวํ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ ปจฺจตฺตลกฺขณสลฺลกฺขณวเสน ปวตฺตา ปฺา าตปริฺา นาม. ‘‘รูปํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา, เวทนา อนิจฺจา ทุกฺขา อนตฺตา’’ติอาทินา นเยน เตสํ เตสํ ธมฺมานํ สามฺลกฺขณํ อาโรเปตฺวา ปวตฺตา ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาปฺา ตีรณปริฺา นาม. เตสุเยว ปน ธมฺเมสุ นิจฺจสฺาทิปชหนวเสน ปวตฺตา ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาว ปหานปริฺา นาม.
ตตฺถ สงฺขารปริจฺเฉทโต ปฏฺาย ยาว ปจฺจยปริคฺคหา าตปริฺาย ภูมิ. เอตสฺมิฺหิ อนฺตเร ธมฺมานํ ปจฺจตฺตลกฺขณปฏิเวธสฺเสว อาธิปจฺจํ โหติ. กลาปสมฺมสนโต ปฏฺาย ยาว อุทยพฺพยานุปสฺสนา ตีรณปริฺาย ภูมิ. เอตสฺมิฺหิ อนฺตเร สามฺลกฺขณปฏิเวธสฺเสว อาธิปจฺจํ โหติ. ภงฺคานุปสฺสนํ อาทึ กตฺวา อุปริ ปหานปริฺาย ภูมิ. ตโต ปฏฺาย หิ ‘‘อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต นิจฺจสฺํ ปชหติ, ทุกฺขโต อนุปสฺสนฺโต สุขสฺํ ปชหติ, อนตฺตโต อนุปสฺสนฺโต อตฺตสฺํ ปชหติ, นิพฺพินฺทนฺโต นนฺทึ ปชหติ, วิรชฺชนฺโต ราคํ ปชหติ, นิโรเธนฺโต สมุทยํ ปชหติ, ปฏินิสฺสชฺชนฺโต อาทานํ ปชหตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๒) เอวํ นิจฺจสฺาทิปหานสาธิกานํ สตฺตนฺนํ อนุปสฺสนานํ อาธิปจฺจํ โหติ.
ตตฺถ ¶ อภิฺาปฺาติ ธมฺมานํ รุปฺปนาทิสภาเวน ชานนปฺา. สา หิ โสภนฏฺเน อภิสทฺเทน ‘‘เตสํ เตสํ ธมฺมานํ สภาวชานนวเสน โสภนํ ชานน’’นฺติ กตฺวา อภิฺาติ วุจฺจติ. าตฏฺเ าณนฺติ ชานนสภาวํ าณํ.
๒๑. ปริฺาปฺาติ ชานนปฺา. สา หิ พฺยาปนฏฺเน ปริสทฺเทน ‘‘อนิจฺจาทิสามฺลกฺขณวเสน สกิจฺจสมาปนวเสน วา พฺยาปิตํ ชานน’’นฺติ กตฺวา ปริฺาติ วุจฺจติ. ตีรณฏฺเ าณนฺติ อุปปริกฺขณสภาวํ, สมฺมสนสภาวํ วา าณํ.
๒๒. ปหาเน ¶ ปฺาติ นิจฺจสฺาทีนํ ปชหนา ปฺา, ปชหตีติ วา, ปชหนฺติ เอเตนาติ วา ปหานํ. ปริจฺจาคฏฺเ ¶ าณนฺติ ปริจฺจชนสภาวํ าณํ.
๒๓. ภาวนาปฺาติ วฑฺฒนปฺา. เอกรสฏฺเ าณนฺติ เอกกิจฺจสภาวํ าณํ, วิมุตฺติรเสน วา เอกรสสภาวํ าณํ.
๒๔. สจฺฉิกิริยาปฺาติ ปฏิเวธวเสน ปฏิลาภวเสน วา ปจฺจกฺขกรณปฺา. ผสฺสนฏฺเ าณนฺติ ตทุภยวเสเนว วินฺทนสภาวํ าณํ.
๒๕-๒๘. อิทานิ ยสฺมา ปหานภาวนาสจฺฉิกิริยาณานิ อริยมคฺคผลสมฺปยุตฺตานิปิ โหนฺติ, ตสฺมา ตทนนฺตรํ อริยปุคฺคลานํเยว ลพฺภมานานิ จตฺตาริ ปฏิสมฺภิทาาณานิ อุทฺทิฏฺานิ. ตตฺถาปิ ปจฺจยุปฺปนฺโน อตฺโถ ทุกฺขสจฺจํ วิย ปากโฏ สุวิฺเยฺโย จาติ ปมํ อตฺถปฏิสมฺภิทาาณํ อุทฺทิฏฺํ, ตสฺส อตฺถสฺส เหตุธมฺมวิสยตฺตา ตทนนฺตรํ ธมฺมปฏิสมฺภิทาาณํ, ตทุภยสฺส นิรุตฺติวิสยตฺตา ตทนนฺตรํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาาณํ, เตสุ ตีสุปิ าเณสุ ปวตฺตนโต ตทนนฺตรํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทาาณํ. ป-การํ ทีฆํ กตฺวา จ ปนฺติ.
๒๙-๓๑. อิโต ปรานิ วิหารฏฺเ าณาทีนิ ตีณิ าณานิ อริยานํเยว สมฺภวโต ปฏิสมฺภิทาปเภทโต จ ปฏิสมฺภิทาาณานนฺตรํ อุทฺทิฏฺานิ. วิหารฏฺเ าณฺหิ ธมฺมปฏิสมฺภิทา โหติ, สมาปตฺตฏฺเ าณํ ¶ อตฺถปฏิสมฺภิทา. ธมฺมสภาเว าณฺหิ ปฏิสมฺภิทากถายํ (ปฏิ. ม. ๒.๓๐) ธมฺมปฏิสมฺภิทาติ วุตฺตํ. นิพฺพาเน าณํ ปน อตฺถปฏิสมฺภิทา เอว. ตตฺถ วิหารนานตฺเตติ อนิจฺจานุปสฺสนาทิวเสน นานาวิปสฺสนาวิหาเร. วิหารฏฺเติ วิปสฺสนาวิหารสภาเว. วิหาโรติ จ สสมฺปยุตฺตา วิปสฺสนา เอว. สมาปตฺตินานตฺเตติ อนิมิตฺตาทิวเสน นานาผลสมาปตฺติยํ. สมาปตฺตีติ จ โลกุตฺตรผลภูตา จิตฺตเจตสิกธมฺมา. วิหารสมาปตฺตินานตฺเตติ อุภยวเสน วุตฺตํ.
๓๒. ตโต วิหารสมาปตฺติาณสาธกสฺส ‘‘ทุภโต วุฏฺานวิวฏฺฏเน ปฺา’’ติ ปุพฺเพ วุตฺตสฺสาปิ มคฺคาณสฺส อาสวสมุจฺเฉทสมตฺถตํ อนนฺตรผลทายกตฺตฺจ การเณน วิเสเสตฺวา อปเรนากาเรน วตฺตุกาเมน ตเทว ‘‘อานนฺตริกสมาธิมฺหิ าณ’’นฺติ อุทฺทิฏฺํ. ตตฺถ ¶ อวิกฺเขปปริสุทฺธตฺตาติ วิกฺขิปติ เตน จิตฺตนฺติ วิกฺเขโป, อุทฺธจฺจสฺเสตํ นามํ. น วิกฺเขโป อวิกฺเขโป, อุทฺธจฺจปฏิปกฺขสฺส สมาธิสฺเสตํ นามํ. ปริสุทฺธสฺส ภาโว ปริสุทฺธตฺตํ, อวิกฺเขปสฺส ¶ ปริสุทฺธตฺตํ อวิกฺเขปปริสุทฺธตฺตํ, ตสฺมา อวิกฺเขปปริสุทฺธตฺตา สมาธิสฺส ปริสุทฺธภาเวนาติ อตฺโถ. อิทฺหิ อาสวสมุจฺเฉทสฺส อนนฺตรผลทายกตฺตสฺส จ การณวจนํ. อาสวสมุจฺเฉเทติ เอตฺถ อาสวนฺตีติ อาสวา, จกฺขุโตปิ…เป… มนโตปิ สนฺทนฺติ ปวตฺตนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺมโต ยาว โคตฺรภุํ, โอกาสโต ยาว ภวคฺคํ สวนฺตีติ วา อาสวา, เอตํ ธมฺมํ เอตฺจ โอกาสํ อนฺโตกริตฺวา ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. อนฺโตกรณตฺโถ หิ อยํ อา-กาโร. จิรปาริวาสิกฏฺเน มทิราทโย อาสวา วิยาติปิ อาสวา. โลกสฺมิฺหิ จิรปาริวาสิกา มทิราทโย อาสวาติ วุจฺจนฺติ. ยทิ จ จิรปาริวาสิกฏฺเน อาสวา, เอเตเยว ภวิตุมรหนฺติ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ อวิชฺชาย, อิโต ปุพฺเพ อวิชฺชา นาโหสิ, อถ ปจฺฉา สมภวี’’ติอาทิ.
อายตํ วา สํสารทุกฺขํ สวนฺติ ปสวนฺตีติปิ อาสวา, สมุจฺฉิชฺชติ เอเตนาติ สมุจฺเฉโท. ปฺาติ กามาสวาทีนํ จตุนฺนํ อาสวานํ สมุจฺเฉเท ปฺา.
อานนฺตริกสมาธิมฺหิ ¶ าณนฺติ อตฺตโน ปวตฺติสมนนฺตรํ นิยเมเนว ผลปฺปทานโต อานนฺตริโกติ ลทฺธนาโม มคฺคสมาธิ. น หิ มคฺคสมาธิมฺหิ อุปฺปนฺเน ตสฺส ผลุปฺปตฺตินิเสธโก โกจิ อนฺตราโย อตฺถิ. ยถาห –
‘‘อยฺจ ปุคฺคโล โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน อสฺส, กปฺปสฺส จ อุฑฺฑยฺหนเวลา อสฺส, เนว ตาว กปฺโป อุฑฺฑยฺเหยฺย, ยาวายํ ปุคฺคโล น โสตาปตฺติผลํ สจฺฉิกโรติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ิตกปฺปี. สพฺเพปิ มคฺคสมงฺคิโน ปุคฺคลา ิตกปฺปิโน’’ติ (ปุ. ป. ๑๗).
อิทํ เตน อานนฺตริกสมาธินา สมฺปยุตฺตํ าณํ.
๓๓. อิมินา มคฺคาเณน ผลปฺปตฺตานํ อริยานํเยว สมฺภวโต อิมสฺส าณสฺส อนนฺตรํ อรณวิหาราณาทีนิ จตฺตาริ าณานิ อุทฺทิฏฺานิ. ตตฺราปิ จ อรหโตเยว สตตเมว ¶ จ สมฺภวโต อรณวิหาเร าณํ ปมํ อุทฺทิฏฺํ, ตทนนฺตรํ นิโรธสฺส อนาคามิอรหนฺตานํ สมฺภเวปิ พหุสมฺภารตฺตา วิเสเสน จ นิโรธสฺส นิพฺพานสมฺมตตฺตา จ นิโรธสมาปตฺติยา ¶ าณํ อุทฺทิฏฺํ, ตทนนฺตรํ ปรินิพฺพานสฺส กาลนฺตเร ปรินิพฺพานกาลํ อาหจฺจ ิตตฺตา ทีฆกาลิกนฺติ ปรินิพฺพาเน าณํ อุทฺทิฏฺํ, ตทนนฺตรํ สมสีสฏฺสฺส สพฺพกิเลสขยานนฺตรํ ปรินิพฺพานกาลํ อาหจฺจ ิตตฺตา รสฺสกาลิกนฺติ สมสีสฏฺเ าณํ อุทฺทิฏฺํ. ตตฺถ สนฺโต จาติ จ-กาโร ทสฺสนาธิปเตยฺยฺจ สนฺโต วิหาราธิคโม จ ปณีตาธิมุตฺตตา จาติ ตีหิปิ ปเทหิ สมฺพนฺธิตพฺโพ. ทสฺสนนฺติ วิปสฺสนาาณํ, อธิปติเยว อาธิปเตยฺยํ, อธิปติโต วา อาคตตฺตา อาธิปเตยฺยํ, ทสฺสนฺจ ตํ อาธิปเตยฺยฺจาติ ทสฺสนาธิปเตยฺยํ. วิหรตีติ วิหาโร, วิหรนฺติ เตน วาติ วิหาโร, อธิคมฺมติ ปาปุณียตีติ อธิคโม, วิหาโร เอว อธิคโม วิหาราธิคโม. โส จ กิเลสปริฬาหวิรหิตตฺตา นิพฺพุโตติ สนฺโต. โส จ อรหตฺตผลสมาปตฺติปฺา. อุตฺตมฏฺเน อตปฺปกฏฺเน จ ปณีโต, ปธานภาวํ นีโตติ วา ปณีโต, ปณีเต อธิมุตฺโต วิสฏฺจิตฺโต ตปฺปรโม ปณีตาธิมุตฺโต, ตสฺส ภาโว ปณีตาธิมุตฺตตา. สา จ ผลสมาปตฺตาธิมุตฺตา ปุพฺพภาคปฺา เอว.
อรณวิหาเรติ ¶ นิกฺกิเลสวิหาเร. ราคาทโย หิ รณนฺติ สตฺเต จุณฺเณนฺติ ปีเฬนฺตีติ รณา, รณนฺติ เอเตหิ สตฺตา กนฺทนฺติ ปริเทวนฺตีติ วา รณา. วุตฺโต ติวิโธปิ วิหาโร. นตฺถิ เอตสฺส รณาติ อรโณ. วิวิเธ ปจฺจนีกธมฺเม หรนฺติ เอเตนาติ วิหาโร. ตสฺมึ อรเณ วิหาเร. นิทฺเทสวาเร (ปฏิ. ม. ๑.๘๒) วุตฺตปมชฺฌานาทีนิ จ ปณีตาธิมุตฺตตาย เอว สงฺคหิตานิ. ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตุกามตาย หิ ปมชฺฌานาทึ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตธมฺเม วิปสฺสติ, ยา จ อรณวิภงฺคสุตฺตนฺเต (ม. นิ. ๓.๓๒๓ อาทโย) ภควตา เทสิตา อรณปฏิปทา, สาปิ อิมินาว สงฺคหิตาติ เวทิตพฺพา ¶ . วุตฺตฺหิ ตตฺถ ภควตา –
‘‘อรณวิภงฺคํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ…เป… น กามสุขํ อนุยฺุเชยฺย หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, น จ อตฺตกิลมถานุโยคํ อนุยฺุเชยฺย ทุกฺขํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ. เอเต โข, ภิกฺขเว, อุโภ อนฺเต อนุปคมฺม มชฺฌิมา ปฏิปทา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา จกฺขุกรณี าณกรณี อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ. อุสฺสาทนฺจ ชฺา, อปสาทนฺจ ชฺา, อุสฺสาทนฺจ ตฺวา อปสาทนฺจ ตฺวา เนวุสฺสาเทยฺย น อปสาเทยฺย, ธมฺมเมว เทเสยฺย. สุขวินิจฺฉยํ ชฺา, สุขวินิจฺฉยํ ตฺวา อชฺฌตฺตํ สุขมนุยฺุเชยฺย, รโหวาทํ น ภาเสยฺย, สมฺมุขา น ขีณํ ภเณ, อตรมาโนว ภาเสยฺย โน ตรมาโน, ชนปทนิรุตฺตึ นาภินิเวเสยฺย, สมฺํ นาติธาเวยฺยาติ. อยมุทฺเทโส อรณวิภงฺคสฺส ¶ …เป… ตตฺร, ภิกฺขเว, โย กามปฏิสนฺธิสุขิโน โสมนสฺสานุโยคํ อนนุโยโค หีนํ…เป… อนตฺถสํหิตํ, อทุกฺโข เอโส ธมฺโม อวิฆาโต อนุปายาโส อปริฬาโห สมฺมาปฏิปทา. ตสฺมา เอโส ธมฺโม อรโณ…เป… ตตฺร, ภิกฺขเว, โย อตฺตกิลมถานุโยคํ อนนุโยโค ทุกฺขํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ. อทุกฺโข เอโส ธมฺโม ¶ …เป… ตสฺมา เอโส ธมฺโม อรโณ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ยายํ มชฺฌิมา ปฏิปทา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา…เป… อทุกฺโข เอโส ธมฺโม…เป… ตสฺมา เอโส ธมฺโม อรโณ…เป… ตตฺร, ภิกฺขเว, ยายํ เนวุสฺสาทนา น อปสาทนา ธมฺมเทสนา จ, อทุกฺโข เอโส ธมฺโม…เป… ตสฺมา เอโส ธมฺโม อรโณ…เป… ตตฺร, ภิกฺขเว, ยทิทํ เนกฺขมฺมสุขํ ปวิเวกสุขํ อุปสมสุขํ สมฺโพธิสุขํ, อทุกฺโข เอโส ธมฺโม…เป… ตสฺมา เอโส ธมฺโม อรโณ…เป… ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ รโหวาโท ภูโต ตจฺโฉ อตฺถสํหิโต, อทุกฺโข เอโส ธมฺโม…เป… ตสฺมา เอโส ธมฺโม อรโณ ¶ …เป… ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ สมฺมุขา ขีณวาโท ภูโต ตจฺโฉ อตฺถสํหิโต, อทุกฺโข เอโส ธมฺโม…เป… ตสฺมา เอโส ธมฺโม อรโณ…เป… ตตฺร, ภิกฺขเว, ยทิทํ อตรมานสฺส ภาสิตํ, อทุกฺโข เอโส ธมฺโม…เป… ตสฺมา เอโส ธมฺโม อรโณ…เป… ตตฺร, ภิกฺขเว, ยฺวายํ ชนปทนิรุตฺติยา จ อนภินิเวโส สมฺาย จ อนติสาโร, อทุกฺโข เอโส ธมฺโม…เป… ตสฺมา เอโส ธมฺโม อรโณติ. ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, สรณฺจ ธมฺมํ ชานิสฺสาม, อรณฺจ ธมฺมํ ชานิสฺสาม. สรณฺจ ธมฺมํ ตฺวา อรณฺจ ธมฺมํ ตฺวา อรณํ ปฏิปทํ ปฏิปชฺชิสฺสามาติ เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพํ. สุภูติ จ ปน, ภิกฺขเว, กุลปุตฺโต อรณปฏิปทํ ปฏิปนฺโน’’ติ.
ตตฺถ มชฺฌิมา ปฏิปทา ทสฺสนาธิปเตยฺเยน จ สนฺเตน วิหาราธิคเมน จ สงฺคหิตา. กามสุขํ อตฺตกิลมถํ อนนุโยโค มชฺฌิมา ปฏิปทา เอว. อรหโต หิ วิปสฺสนาปุพฺพภาคมชฺฌิมา ปฏิปทา โหติ, อรหตฺตผลสมาปตฺติ อฏฺงฺคมคฺควเสน มชฺฌิมา ปฏิปทา จ. เสสา ปน ปณีตาธิมุตฺตตาย เอว สงฺคหิตาติ เวทิตพฺพา. กิฺจาปิ สพฺเพปิ อรหนฺโต อรณวิหาริโน, อฺเ อรหนฺโต ธมฺมํ เทเสนฺตา ‘‘สมฺมาปฏิปนฺเน สมฺมาปฏิปนฺนา’’ติ ‘‘มิจฺฉาปฏิปนฺเน มิจฺฉาปฏิปนฺนา’’ติ ปุคฺคลวเสนาปิ อุสฺสาทนาปสาทนานิ กตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺติ. สุภูติตฺเถโร ปน ‘‘อยํ มิจฺฉาปฏิปทา, อยํ สมฺมาปฏิปทา’’ติ ธมฺมวเสเนว ธมฺมํ เทเสสิ. เตเนว ภควา ตํเยว อรณปฏิปทํ ปฏิปนฺโนติ จ วณฺเณสิ, ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม ¶ สาวกานํ ภิกฺขูนํ อรณวิหารีนํ ยทิทํ สุภูตี’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๙๘, ๒๐๑) จ อรณวิหารีนํ อคฺคฏฺาเน เปสีติ.
๓๔. ทฺวีหิ พเลหีติ สมถพลวิปสฺสนาพเลหิ. สมนฺนาคตตฺตาติ ยุตฺตตฺตา ปริปุณฺณตฺตา วา. ตโย จาติ วิภตฺติวิปลฺลาโส, ติณฺณฺจาติ วุตฺตํ ¶ โหติ. สงฺขารานนฺติ วจีสงฺขารกายสงฺขารจิตฺตสงฺขารานํ. ปฏิปฺปสฺสทฺธิยาติ ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺถํ นิโรธตฺถํ, อปฺปวตฺตตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. โสฬสหีติ อนิจฺจานุปสฺสนาทีนิ อฏฺ, มคฺคผลานิ ¶ อฏฺาติ โสฬสหิ. าณจริยาหีติ าณปฺปวตฺตีหิ. นวหีติ รูปารูปาวจรสมาธิ ตทุปจาโร จาติ นวหิ. วสิภาวตา ปฺาติ ลหุตา, ยถาสุขวตฺตนํ อิสฺสริยํ วโส, โส อสฺส อตฺถีติ วสี, วสิโน ภาโว วสิภาโว, วสิภาโว เอว วสิภาวตา, ยถา ปาฏิกุลฺยเมว ปาฏิกุลฺยตา. เอวํวิธา ปฺา วสิภาวตาย ปฺาติ วา อตฺโถ. สิ-การํ ทีฆํ กตฺวา จ ปนฺติ. สมนฺนาคตตฺตา จ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา จ าณจริยาหิ จ สมาธิจริยาหิ จาติ จ-กาโร สมฺพนฺธิตพฺโพ.
นิโรธสมาปตฺติยา าณนฺติ อนาคามิอรหนฺตานํ นิโรธสมาปตฺตินิมิตฺตํ าณํ, ยถา อชินมฺหิ หฺเต ทีปีติ. นิโรธสมาปตฺตีติ จ เนวสฺานาสฺายตนสฺส อภาวมตฺตํ, น โกจิ ธมฺโม, ปฺตฺติมตฺตํ อภาวมตฺตตฺตา นิโรโธติ จ. สมาปชฺชนฺเตน สมาปชฺชียติ นามาติ สมาปตฺตีติ จ วุจฺจติ.
๓๕. สมฺปชานสฺสาติ สมฺมา ปกาเรหิ ชานาตีติ สมฺปชาโน. ตสฺส สมฺปชานสฺส. ปวตฺตปริยาทาเนติ ปวตฺตนํ ปวตฺตํ, สมุทาจาโรติ อตฺโถ. กิเลสปวตฺตํ ขนฺธปวตฺตฺจ. ตสฺส ปวตฺตสฺส ปริยาทานํ ปริกฺขโย อปฺปวตฺติ ปวตฺตปริยาทานํ. ตสฺมึ ปวตฺตปริยาทาเน. ปรินิพฺพาเน าณนฺติ อรหโต กามจฺฉนฺทาทีนํ ปรินิพฺพานํ อปฺปวตฺตํ อนุปาทิเสสปรินิพฺพานฺจ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ตสฺมึ กิเลสปรินิพฺพาเน ขนฺธปรินิพฺพาเน จ ปวตฺตํ าณํ.
๓๖. สพฺพธมฺมานนฺติ สพฺเพสํ เตภูมกธมฺมานํ. สมฺมา สมุจฺเฉเทติ สนฺตติสมุจฺเฉทวเสน สุฏฺุ นิโรเธ. นิโรเธ จ อนุปฏฺานตาติ นิโรเธ คเต ปุน น อุปฏฺานตาย, ปุน อนุปฺปตฺติยนฺติ อตฺโถ. สมฺมาสมุจฺเฉเท จ นิโรเธ จ อนุปฏฺานตา จาติ จ-กาโร สมฺพนฺธิตพฺโพ.
สมสีสฏฺเ าณนฺติ เนกฺขมฺมาทีนิ สตฺตตึส สมานิ, ตณฺหาทีนิ เตรส สีสานิ. ปจฺจนีกธมฺมานํ สมิตตฺตา สมานิ, ยถาโยคํ ปธานตฺตา จ โกฏิตฺตา จ สีสานิ. เอกสฺมึ อิริยาปเถ วา เอกสฺมึ ¶ ¶ โรเค วา สภาคสนฺตติวเสน เอกสฺมึ ชีวิตินฺทฺริเย วา เนกฺขมฺมาทีนิ สมานิ จ สทฺธาทีนิ สีสานิ จ อสฺส สนฺตีติ สมสีสี, สมสีสิสฺส ¶ อตฺโถ สมสีสฏฺโ. ตสฺมึ สมสีสฏฺเ, สมสีสิภาเวติ อตฺโถ. เอกสฺมึ อิริยาปเถ โรเค วา สภาคสนฺตติวเสน ชีวิเต วา วิปสฺสนํ อารภิตฺวา ตสฺมึเยว อิริยาปเถ โรเค สภาคชีวิเต วา จตฺตาริ มคฺคผลานิ ปตฺวา, ตสฺมึเยว ปรินิพฺพายนฺตสฺส อรหโตเยว สมสีสิภาโว โหตีติ ตสฺมึ สมสีสิภาเว าณนฺติ วุตฺตํ โหติ. วุตฺตฺจ ปุคฺคลปฺตฺติยํ (ปุ. ป. ๑๖), ตสฺสา จ อฏฺกถายํ (ปุ. ป. อฏฺ. ๑๖) –
‘‘กตโม จ ปุคฺคโล สมสีสี? ยสฺส ปุคฺคลสฺส อปุพฺพํ อจริมํ อาสวปริยาทานฺจ โหติ ชีวิตปริยาทานฺจ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สมสีสี’’ติ (ปุ. ป. ๑๖).
‘‘สมสีสินิทฺเทเส อปุพฺพํ อจริมนฺติ อปุเร อปจฺฉา, สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนวเสน เอกวารํเยว, เอกกาลํเยวาติ อตฺโถ. ปริยาทานนฺติ ปริกฺขโย. อยนฺติ อยํ ปุคฺคโล สมสีสี นาม วุจฺจติ. โส ปเนส ติวิโธ โหติ อิริยาปถสมสีสี โรคสมสีสี ชีวิตสมสีสีติ. ตตฺถ โย จงฺกมนฺโตว วิปสฺสนํ อารภิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา จงฺกมนฺโตว ปรินิพฺพาติ, โย ิตโกว วิปสฺสนํ อารภิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา ิตโกว ปรินิพฺพาติ, โย นิสินฺโนว วิปสฺสนํ อารภิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา นิสินฺโนว ปรินิพฺพาติ, โย นิปนฺโนว วิปสฺสนํ อารภิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา นิปนฺโนว ปรินิพฺพาติ, อยํ อิริยาปถสมสีสี นาม. โย ปน เอกํ โรคํ ปตฺวา อนฺโตโรเคเยว วิปสฺสนํ อารภิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา เตเนว โรเคน ปรินิพฺพาติ, อยํ โรคสมสีสี นาม. กตโร ชีวิตสมสีสี? เตรส สีสานิ. ตตฺถ กิเลสสีสํ อวิชฺชํ อรหตฺตมคฺโค ปริยาทิยติ, ปวตฺตสีสํ ชีวิตินฺทฺริยํ จุติจิตฺตํ ปริยาทิยติ, อวิชฺชาปริยาทายกํ จิตฺตํ ชีวิตินฺทฺริยํ ปริยาทาตุํ น สกฺโกติ, ชีวิตินฺทฺริยปริยาทายกํ จิตฺตํ อวิชฺชํ ปริยาทาตุํ น สกฺโกติ. อวิชฺชาปริยาทายกํ จิตฺตํ อฺํ, ชีวิตินฺทฺริยปริยาทายกํ จิตฺตํ อฺํ. ยสฺส เจตํ สีสทฺวยํ สมํ ปริยาทานํ คจฺฉติ, โส ชีวิตสมสีสี นาม. กถมิทํ สมํ โหตีติ? วารสมตาย. ยสฺมิฺหิ วาเร ¶ มคฺควุฏฺานํ โหติ. โสตาปตฺติมคฺเค ปฺจ ปจฺจเวกฺขณานิ, สกทาคามิมคฺเค ปฺจ, อนาคามิมคฺเค ปฺจ, อรหตฺตมคฺเค จตฺตารีติ เอกูนวีสติเม ปจฺจเวกฺขณาเณ ปติฏฺาย ภวงฺคํ โอตริตฺวา ปรินิพฺพายติ. อิมาย วารสมตาย เอว อุภยสีสปริยาทานมฺปิ ¶ สมํ โหติ นาม. เตนายํ ปุคฺคโล ‘ชีวิตสมสีสี’ติ วุจฺจติ. อยเมว จ อิธ อธิปฺเปโต’’ติ.
๓๗. อิทานิ ¶ ยสฺมา สุตมยสีลมยภาวนามยาณานิ วฏฺฏปาทกานิ สลฺเลขา นาม น โหนฺติ, โลกุตฺตรปาทกาเนว เอตานิ จ อฺานิ จ าณานิ สลฺเลขาติ วุจฺจนฺติ, ตสฺมา ปจฺจนีกสลฺเลขนากาเรน ปวตฺตานิ าณานิ ทสฺเสตุํ สมสีสฏฺเ าณานนฺตรํ สลฺเลขฏฺเ าณํ อุทฺทิฏฺํ. ตตฺถ ปุถุนานตฺตเตชปริยาทาเน ปฺาติ โลกุตฺตเรหิ อสมฺมิสฺสฏฺเน ปุถูนํ ราคาทีนฺจ นานตฺตานํ นานาสภาวานํ กามจฺฉนฺทาทีนฺจ สนฺตาปนฏฺเน ‘‘เตชา’’ติ ลทฺธนามานํ ทุสฺสีลฺยาทีนฺจ ปริยาทาเน เขปเน ปฺา, เนกฺขมฺมาทิมฺหิ สตฺตตึสเภเท ธมฺเม ปฺาติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ปุถุภูตา นานตฺตภูตา จ เตชา เอว เตสํ ปุถุภูตานํ นานตฺตภูตานํ ทุสฺสีลฺยาทีนํ ปฺจนฺนํ เตชานํ ปริยาทาเน ปฺาติ อตฺโถ. เตเชหิเยว ปุถูนํ นานตฺตานฺจ สงฺคหํ นิทฺเทสวาเร ปกาสยิสฺสาม.
สลฺเลขฏฺเ าณนฺติ ปจฺจนีกธมฺเม สลฺเลขติ สมุจฺฉินฺทตีติ สลฺเลโข, ตสฺมึ เนกฺขมฺมาทิเก สตฺตตึสปฺปเภเท สลฺเลขสภาเว าณํ. ‘‘ปเร วิหึสกา ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ อวิหึสกา ภวิสฺสามาติ สลฺเลโข กรณีโย’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๘๓) นเยน ภควตา สลฺเลขสุตฺตนฺเต วุตฺโต จตุจตฺตาลีสเภโทปิ สลฺเลโข อิมินา สงฺคหิโตเยวาติ เวทิตพฺโพ.
๓๘. อิทานิ สลฺเลเข ิเตน กตฺตพฺพํ สมฺมปฺปธานวีริยํ ทสฺเสตุํ ตทนนฺตรํ วีริยารมฺเภ าณํ อุทฺทิฏฺํ. ตตฺถ อสลฺลีนตฺตปหิตตฺตปคฺคหฏฺเติ โกสชฺชวเสน อสลฺลีโน อสงฺกุจิโต อตฺตา อสฺสาติ อสลฺลีนตฺโต. อตฺตาติ จิตฺตํ. ยถาห –
‘‘อุทกฺหิ นยนฺติ เนตฺติกา, อุสุการา นมยนฺติ เตชนํ;
ทารุํ นมยนฺติ ตจฺฉกา, อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา’’ติ. อาทิ (ธ. ป. ๘๐-๘๒) –
กาเย ¶ จ ชีวิเต จ อนเปกฺขตาย ปหิโต เปสิโต วิสฺสฏฺโ อตฺตา เอเตนาติ ปหิตตฺโต. อตฺตาติ อตฺตภาโว. ยถาห – ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อตฺตานํ วธิตฺวา วธิตฺวา โรเทยฺยา’’ติอาทิ (ปาจิ. ๘๘๐) ¶ . อสลฺลีนตฺโต จ โส ปหิตตฺโต จาติ อสลฺลีนตฺตปหิตตฺโต. สหชาตธมฺเม ปคฺคณฺหาติ อุปตฺถมฺเภตีติ ปคฺคโห, ปคฺคโห เอว อตฺโถ ปคฺคหฏฺโ, ปคฺคหสภาโวติ อตฺโถ. อสลฺลีนตฺตปหิตตฺตสฺส ปคฺคหฏฺโ อสลฺลีนตฺตปหิตตฺตปคฺคหฏฺโ. ตสฺมึ อสลฺลีนตฺตปหิตตฺตปคฺคหฏฺเ. ‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ตุมฺเหปิ อปฺปฏิวานํ ปทเหยฺยาถ. กามํ ตโจ จ นฺหารุ ¶ จ อฏฺิ จ อวสิสฺสตุ, อุปสุสฺสตุ สรีเร มํสโลหิตํ. ยํ ตํ ปุริสถาเมน ปุริสวีริเยน ปุริสปรกฺกเมน ปตฺตพฺพํ, น ตํ อปาปุณิตฺวา วีริยสฺส สณฺานํ ภวิสฺสตี’’ติ (อ. นิ. ๒.๕) วุตฺตตฺตา อสลฺลีนตฺตปหิตตฺตวจเนน ปธานสฺมึ อปฺปฏิวานิตา อนิวตฺตนตา วุตฺตา. ปคฺคหฏฺวจเนน ปน โกสชฺชุทฺธจฺจวิมุตฺตํ สมปฺปวตฺตํ วีริยํ วุตฺตํ.
วีริยารมฺเภ าณนฺติ วีรภาโว วีริยํ, วีรานํ วา กมฺมํ, วิธินา วา นเยน อุปาเยน อีรยิตพฺพํ ปวตฺตยิตพฺพนฺติ วีริยํ. ตเทตํ อุสฺสาหลกฺขณํ, สหชาตานํ ธมฺมานํ อุปตฺถมฺภนรสํ, อสํสีทนภาวปจฺจุปฏฺานํ, ‘‘สํวิคฺโค โยนิโส ปทหตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๑๓) วจนโต สํเวคปทฏฺานํ, วีริยารมฺภวตฺถุปทฏฺานํ วา. สมฺมา อารทฺธํ สพฺพสมฺปตฺตีนํ มูลํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ. วีริยสงฺขาโต อารมฺโภ วีริยารมฺโภ. อิมินา เสสารมฺเภ ปฏิกฺขิปติ. อยฺหิ อารมฺภสทฺโท กมฺเม อาปตฺติยํ กิริยายํ วีริเย หึสายํ วิโกปเนติ อเนเกสุ อตฺเถสุ อาคโต.
‘‘ยํกิฺจิ ทุกฺขํ สมฺโภติ, สพฺพํ อารมฺภปจฺจยา;
อารมฺภานํ นิโรเธน, นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโว’’ติ. (สุ. นิ. ๗๔๙) –
เอตฺถ หิ กมฺมํ อารมฺโภติ อาคตํ. ‘‘อารมฺภติ จ วิปฺปฏิสารี จ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๔๒; ปุ. ป. ๑๙๑) เอตฺถ อาปตฺติ. ‘‘มหายฺา มหารมฺภา, น เต โหนฺติ มหปฺผลา’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๙; สํ. นิ. ๑.๑๒๐) เอตฺถ ยูปุสฺสาปนาทิกิริยา. ‘‘อารมฺภถ นิกฺกมถ, ยฺุชถ พุทฺธสาสเน’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๘๕) เอตฺถ วีริยํ. ‘‘สมณํ โคตมํ อุทฺทิสฺส ปาณํ อารมฺภนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๕๑-๕๒) เอตฺถ หึสา. ‘‘พีชคามภูตคามสมารมฺภา ¶ ปฏิวิรโต โหตี’’ติ ¶ (ที. นิ. ๑.๑๐; ม. นิ. ๑.๒๙๓) เอตฺถ เฉทนภฺชนาทิกํ วิโกปนํ. อิธ ปน วีริยเมว อธิปฺเปตํ. เตน วุตฺตํ ‘‘วีริยสงฺขาโต อารมฺโภ วีริยารมฺโภ’’ติ. วีริยฺหิ อารภนกวเสน อารมฺโภติ วุจฺจติ. ตสฺมึ วีริยารมฺเภ าณํ. อสลฺลีนตฺตา ปหิตตฺตาติปิ ปนฺติ, อสลฺลีนภาเวน ปหิตภาเวนาติ อตฺโถ. ปุริมปาโเยว สุนฺทโร. เกจิ ปน ‘‘สติธมฺมวิจยวีริยปีติสมฺโพชฺฌงฺคานํ สมตา อสลฺลีนตฺตตา, สติสมาธิปสฺสทฺธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคานํ สมตา ปหิตตฺตตา, สตฺตนฺนํ สมฺโพชฺฌงฺคานํ สมตา ปคฺคหฏฺโ’’ติ วณฺณยนฺติ.
๓๙. อิทานิ สมฺมาวายามสิทฺธํ มคฺคผลํ ปตฺเตน โลกหิตตฺถํ ธมฺมเทสนา กาตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ¶ ตทนนฺตรํ อตฺถสนฺทสฺสเน าณํ อุทฺทิฏฺํ. ตตฺถ นานาธมฺมปฺปกาสนตาติ สพฺพสงฺขตาสงฺขตวเสน นานาธมฺมานํ ปกาสนตา ทีปนตา เทสนตา. ปกาสนตาติ จ ปกาสนา เอว. อตฺถสนฺทสฺสเนติ นานาอตฺถานํ ปเรสํ สนฺทสฺสเน. ธมฺมา จ อตฺถา จ เต เอว.
๔๐. อิทานิ ปเรสํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสนฺตสฺส ตสฺส อริยปุคฺคลสฺส ยถาสภาวธมฺมเทสนาการณํ ทสฺสนวิสุทฺธึ ทสฺเสตุํ ตทนนฺตรํ ทสฺสนวิสุทฺธิาณํ อุทฺทิฏฺํ. ตตฺถ สพฺพธมฺมานํ เอกสงฺคหตา นานตฺเตกตฺตปฏิเวเธติ สพฺเพสํ สงฺขตาสงฺขตธมฺมานํ เอกสงฺคหตาย จ กามจฺฉนฺทาทีนํ นานตฺตสฺส จ เนกฺขมฺมาทีนํ เอกตฺตสฺส จ ปฏิเวโธ, อภิสมโยติ อตฺโถ. โส ปน มคฺคปฺา ผลปฺา จ. มคฺคปฺา สจฺจาภิสมยกฺขเณ สจฺจาภิสมยวเสน ปฏิวิชฺฌตีติ ปฏิเวโธ, ผลปฺา ปฏิวิทฺธตฺตา ปฏิเวโธ. เอกสงฺคหตาติ เอตฺถ ชาติสงฺคโห, สฺชาติสงฺคโห, กิริยาสงฺคโห, คณนสงฺคโหติ จตุพฺพิโธ สงฺคโห. ตตฺถ ‘‘สพฺเพ ขตฺติยา อาคจฺฉนฺตุ, สพฺเพ พฺราหฺมณา, สพฺเพ เวสฺสา, สพฺเพ สุทฺทา อาคจฺฉนฺตุ’’, ‘‘ยา, จาวุโส วิสาข, สมฺมาวาจา, โย จ สมฺมากมฺมนฺโต, โย จ สมฺมาอาชีโว, อิเม ธมฺมา สีลกฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒) อยํ ชาติสงฺคโห นาม. ‘‘เอกชาติกา อาคจฺฉนฺตู’’ติ ¶ วุตฺตฏฺาเน วิย หิ อิธ สพฺเพ ชาติยา เอกสงฺคหิตา. ‘‘สพฺเพ โกสลกา อาคจฺฉนฺตุ, สพฺเพ ¶ มาคธิกา, สพฺเพ ภารุกจฺฉกา อาคจฺฉนฺตุ’’, ‘‘โย, จาวุโส วิสาข, สมฺมาวายาโม, ยา จ สมฺมาสติ, โย จ สมฺมาสมาธิ, อิเม ธมฺมา สมาธิกฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒) อยํ สฺชาติสงฺคโห นาม. ‘‘เอกฏฺาเน ชาตา สํวฑฺฒา อาคจฺฉนฺตู’’ติ วุตฺตฏฺาเน วิย หิ อิธ สพฺเพ ชาติฏฺาเนน นิวุตฺโถกาเสน เอกสงฺคหิตา. ‘‘สพฺเพ หตฺถาโรหา อาคจฺฉนฺตุ, สพฺเพ อสฺสาโรหา อาคจฺฉนฺตุ, สพฺเพ รถิกา อาคจฺฉนฺตุ’’, ‘‘ยา, จาวุโส วิสาข, สมฺมาทิฏฺิ, โย จ สมฺมาสงฺกปฺโป, อิเม ธมฺมา ปฺากฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒) อยํ กิริยาสงฺคโห นาม. สพฺเพว หิ เต อตฺตโน กิริยากรเณน เอกสงฺคหิตา. ‘‘จกฺขายตนํ กตมํ ขนฺธคณนํ คจฺฉติ, จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺธคณนํ คจฺฉติ. หฺจิ จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺธคณนํ คจฺฉติ, เตน วต เร วตฺตพฺเพ จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺเธน สงฺคหิต’’นฺติ (กถา. ๔๗๑) อยํ คณนสงฺคโห นาม. อยมิธ อธิปฺเปโต. ตถฏฺาทีสุ ทฺวาทสสุ อากาเรสุ วิสุํ วิสุํ เอเกน สงฺคโห คณนปริจฺเฉโท เอเตสนฺติ เอกสงฺคหา, เอกสงฺคหานํ ภาโว เอกสงฺคหตา.
ทสฺสนวิสุทฺธิาณนฺติ มคฺคผลาณํ ทสฺสนํ. ทสฺสนเมว วิสุทฺธิ ทสฺสนวิสุทฺธิ, ทสฺสนวิสุทฺธิ ¶ เอว าณํ ทสฺสนวิสุทฺธิาณํ. มคฺคาณํ วิสุชฺฌตีติ ทสฺสนวิสุทฺธิ, ผลาณํ วิสุทฺธตฺตา ทสฺสนวิสุทฺธิ.
๔๑. อิทานิ ทสฺสนวิสุทฺธิสาธกานิ วิปสฺสนาาณานิ ทฺวิธา ทสฺเสตุํ ตทนนฺตรํ ขนฺติาณปริโยคาหณาณานิ อุทฺทิฏฺานิ. ตตฺถ วิทิตตฺตา ปฺาติ รูปกฺขนฺธาทีนํ อนิจฺจาทิโต วิทิตตฺตา ปวตฺตา ปฺา. ขนฺติาณนฺติ วิทิตเมว ขมตีติ ขนฺติ, ขนฺติ เอว าณํ ขนฺติาณํ. เอเตน อธิวาสนขนฺตึ ปฏิกฺขิปติ. เอตํ กลาปสมฺมสนาทิวเสน ปวตฺตํ ตรุณวิปสฺสนาาณํ.
๔๒. ผุฏฺตฺตา ปฺาติ รูปกฺขนฺธาทีนํ อนิจฺจาทิวเสน าณผสฺเสน ผุฏฺตฺตา ปวตฺตา ปฺา. ปริโยคาหเณ าณนฺติ ผุฏฺเมว ปริโยคาหติ ปวิสตีติ ปริโยคาหณํ าณํ. คา-การํ ¶ รสฺสํ กตฺวาปิ ปนฺติ. เอตํ ภงฺคานุปสฺสนาทิวเสน ปวตฺตํ ติกฺขวิปสฺสนาาณํ. เกจิ ปน ‘‘วิปสฺสนาาณเมว สทฺธาวาหิสฺส ขนฺติาณํ, ปฺาวาหิสฺส ปริโยคาหณาณ’’นฺติ วทนฺติ. เอวํ สนฺเต เอตานิ ทฺเว าณานิ เอกสฺส น สมฺภวนฺติ ¶ , ตทสมฺภเว เอกสฺส สาวกสฺส สตฺตสฏฺิ สาวกสาธารณาณานิ น สมฺภวนฺติ, ตสฺมา ตํ น ยุชฺชติ.
๔๓. อิทานิ ยสฺมา ปุถุชฺชนา เสกฺขา จ วิปสฺสนูปเค ขนฺธาทโย ธมฺเม สกเล เอว สมฺมสนฺติ, น เตสํ เอกเทสํ, ตสฺมา เตสํ ปเทสวิหาโร น ลพฺภติ, อรหโตเยว ยถารุจิ ปเทสวิหาโร ลพฺภตีติ ทสฺสนวิสุทฺธิสาธกานิ าณานิ วตฺวา ตทนนฺตรํ อรหโต ทสฺสนวิสุทฺธิสิทฺธํ ปเทสวิหาราณํ อุทฺทิฏฺํ. ตตฺถ สโมทหเน ปฺาติ ขนฺธาทีนํ เอกเทสสฺส เวทนาธมฺมสฺส สโมทหนปฺา, สมฺปิณฺฑนปฺา ราสิกรณปฺา. สโมธาเน ปฺาติปิ ปาโ, โสเยว อตฺโถ.
ปเทสวิหาเร าณนฺติ ขนฺธาทีนํ ปเทเสน เอกเทเสน อวยเวน วิหาโร ปเทสวิหาโร, ตสฺมึ ปเทสวิหาเร าณํ. ตตฺถ ปเทโส นาม ขนฺธปเทโส อายตนธาตุสจฺจอินฺทฺริยปจฺจยาการสติปฏฺานฌานนามรูปธมฺมปเทโสติ นานาวิโธ. เอวํ นานาวิโธ เจส เวทนา เอว. กถํ? ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ เวทนากฺขนฺธวเสน ขนฺเธกเทโส, ทฺวาทสนฺนํ อายตนานํ เวทนาวเสน ธมฺมายตเนกเทโส, อฏฺารสนฺนํ ธาตูนํ เวทนาวเสน ธมฺมธาเตกเทโส, จตุนฺนํ สจฺจานํ เวทนาวเสน ทุกฺขสจฺเจกเทโส, พาวีสติยา อินฺทฺริยานํ ปฺจเวทนินฺทฺริยวเสน อินฺทฺริเยกเทโส, ทฺวาทสนฺนํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานํ ผสฺสปจฺจยา เวทนาวเสน ปจฺจยากาเรกเทโส, จตุนฺนํ สติปฏฺานานํ เวทนานุปสฺสนาวเสน ¶ สติปฏฺาเนกเทโส, จตุนฺนํ ฌานานํ สุขอุเปกฺขาวเสน ฌาเนกเทโส, นามรูปานํ เวทนาวเสน นามรูเปกเทโส, กุสลาทีนํ สพฺพธมฺมานํ เวทนาวเสน ธมฺเมกเทโสติ เอวํ เวทนา เอว ขนฺธาทีนํ ปเทโส, ตสฺสา เวทนาย เอว ปจฺจเวกฺขณวเสน ปเทสวิหาโร.
๔๔. อิทานิ ¶ ยสฺมา สมาธิภาวนามยาณาทีนิ ภาเวนฺตา ปุถุชฺชนา เสกฺขา จ เต เต ภาเวตพฺพภาวนาธมฺเม อธิปตี เชฏฺเก กตฺวา เตน เตน ปหาตพฺเพ ตปฺปจฺจนีเก นานาสภาเว ธมฺเม อเนกาทีนเว อาทีนวโต ปจฺจเวกฺขิตฺวา ตสฺส ตสฺส ภาวนาธมฺมสฺส วเสน จิตฺตํ ปติฏฺเปตฺวา เต เต ปจฺจนีกธมฺเม ปชหนฺติ. ปชหนฺตา ¶ วิปสฺสนากาเล สพฺพสงฺขาเร สฺุโต ทิสฺวา ปจฺฉา สมุจฺเฉเทน ปชหนฺติ, ตถา ปชหนฺตา จ เอกาภิสมยวเสน สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌนฺตา ปชหนฺติ. ยถาวุตฺเตเหว อากาเรหิ สพฺเพปิ อริยา ยถาโยคํ ปฏิปชฺชนฺติ, ตสฺมา ปเทสวิหาราณานนฺตรํ สฺาวิวฏฺฏาณาทีนิ ฉ าณานิ ยถากฺกเมน อุทฺทิฏฺานิ. ตตฺถ อธิปตตฺตา ปฺาติ เนกฺขมฺมาทีนํ อธิปติภาเวน เนกฺขมฺมาทีนิ อธิกานิ กตฺวา ตทธิกภาเวน ปวตฺตา ปฺาติ อตฺโถ. สฺาวิวฏฺเฏ าณนฺติ สฺาย วิวฏฺฏนํ ปราวฏฺฏนํ ปรมฺมุขภาโวติ สฺาวิวฏฺโฏ, ยาย สฺาย เต เต ภาวนาธมฺเม อธิปตึ กโรติ, ตาย สฺาย เหตุภูตาย, กรณภูตาย วา ตโต ตโต กามจฺฉนฺทาทิโต วิวฏฺฏเน าณนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺโต วิวฏฺโฏติ อวุตฺเตปิ ยโต วิวฏฺฏติ, ตโต เอว วิวฏฺโฏติ คยฺหติ ยถา วิวฏฺฏนานุปสฺสนาย. สา ปน สฺา สฺชานนลกฺขณา, ตเทเวตนฺติ ปุน สฺชานนปจฺจยนิมิตฺตกรณรสา ทารุอาทีสุ ตจฺฉกาทโย วิย, ยถาคหิตนิมิตฺตวเสน อภินิเวสกรณปจฺจุปฏฺานา หตฺถิทสฺสกอนฺธา วิย, อารมฺมเณ อโนคาฬฺหวุตฺติตาย อจิรฏฺานปจฺจุปฏฺานา วา วิชฺชุ วิย, ยถาอุปฏฺิตวิสยปทฏฺานา ติณปุริสเกสุ มิคโปตกานํ ปุริสาติ อุปฺปนฺนสฺา วิย.
๔๕. นานตฺเต ปฺาติ นานาสภาเว ภาเวตพฺพโต อฺสภาเว กามจฺฉนฺทาทิเก อาทีนวทสฺสเนน ปวตฺตา ปฺา. นานตฺเตติ จ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมวจนํ. นานตฺตปฺปหานํ วา นานตฺตํ, นานตฺตปฺปหานนิมิตฺตํ นานตฺตปฺปหานเหตุ เนกฺขมฺมาทีสุ ปฺาติ อธิปฺปาโย. เจโตวิวฏฺเฏ าณนฺติ เจตโส กามจฺฉนฺทาทิโต วิวฏฺฏนํ เนกฺขมฺมาทีสุ าณํ. เจโตติ เจตฺถ เจตนา อธิปฺเปตา. สา เจตนาภาวลกฺขณา, อภิสนฺทหนลกฺขณา วา, อายูหนรสา, สํวิทหนปจฺจุปฏฺานา สกิจฺจปรกิจฺจสาธกา เชฏฺสิสฺสมหาวฑฺฒกิอาทโย ¶ วิย. อจฺจายิกกมฺมานุสฺสรณาทีสุ จ ปนายํ สมฺปยุตฺตานํ อุสฺสาหนภาเวน ปากฏา โหติ.
๔๖. อธิฏฺาเน ¶ ปฺาติ เนกฺขมฺมาทิวเสน จิตฺตสฺส ปติฏฺาปเน ปฺา. จิตฺตวิวฏฺเฏ าณนฺติ กามจฺฉนฺทาทิปหานวเสน จิตฺตสฺส วิวฏฺฏเน าณํ ¶ . จิตฺตฺเจตฺถ วิชานนลกฺขณํ, ปุพฺพงฺคมรสํ, สนฺธานปจฺจุปฏฺานํ, นามรูปปทฏฺานํ.
๔๗. สฺุเต ปฺาติ อตฺตตฺตนิยสฺุตาย อนตฺตานตฺตนิเย ปวตฺตา อนตฺตานุปสฺสนา ปฺา. าณวิวฏฺเฏ าณนฺติ าณเมว อภินิเวสโต วิวฏฺฏตีติ วิวฏฺโฏ, ตํ าณวิวฏฺฏภูตํ าณํ.
๔๘. โวสคฺเค ปฺาติ เอตฺถ โวสชฺชตีติ โวสคฺโค, กามจฺฉนฺทาทีนํ โวสคฺโค เนกฺขมฺมาทิมฺหิ ปฺา. วิโมกฺขวิวฏฺเฏ าณนฺติ กามจฺฉนฺทาทิเกหิ วิมุจฺจตีติ วิโมกฺโข, วิโมกฺโข เอว วิวฏฺโฏ วิโมกฺขวิวฏฺโฏ, โส เอว าณํ.
๔๙. ตถฏฺเ ปฺาติ เอเกกสฺส สจฺจสฺส จตุพฺพิเธ จตุพฺพิเธ อวิปรีตสภาเว กิจฺจวเสน อสมฺโมหโต ปวตฺตา ปฺา. สจฺจวิวฏฺเฏ าณนฺติ จตูสุ สจฺเจสุ ทุภโต วุฏฺานวเสน วิวฏฺฏตีติ สจฺจวิวฏฺโฏ, โส เอว าณํ. เอกเมว าณํ อธิปติกตธมฺมวเสน สฺาวิวฏฺโฏติ, ปหาตพฺพธมฺมวเสน เจโตวิวฏฺโฏติ, จิตฺตปติฏฺาปนวเสน จิตฺตวิวฏฺโฏติ, ปจฺจนีกปหานวเสน วิโมกฺขวิวฏฺโฏติ เอวํ จตุธา วุตฺตํ. อนตฺตานุปสฺสนาว สฺุตาการวเสน ‘‘าณวิวฏฺเฏ าณ’’นฺติ วุตฺตา. มคฺคาณเมว เหฏฺา ‘‘มคฺเค าณ’’นฺติ จ, ‘‘อานนฺตริกสมาธิมฺหิ าณ’’นฺติ จ ทฺวิธา วุตฺตํ, วิวฏฺฏนาการวเสน ‘‘สจฺจวิวฏฺเฏ าณ’’นฺติ วุตฺตํ.
๕๐. อิทานิ ตสฺส สจฺจวิวฏฺฏาณวเสน ปวตฺตสฺส อาสวานํ ขเย าณสฺส วเสน ปวตฺตานิ กมโต ฉ อภิฺาาณานิ อุทฺทิฏฺานิ. ตตฺถาปิ โลกปากฏานุภาวตฺตา อติวิมฺหาปนนฺติ ปมํ อิทฺธิวิธาณํ อุทฺทิฏฺํ, เจโตปริยาณสฺส วิสยโต ทิพฺพโสตาณํ โอฬาริกวิสยนฺติ ทุติยํ ¶ ทิพฺพโสตาณํ อุทฺทิฏฺํ, สุขุมวิสยตฺตา ตติยํ เจโตปริยาณํ อุทฺทิฏฺํ. ตีสุ วิชฺชาสุ ปุพฺเพนิวาสจฺฉาทกาตีตตมวิโนทกตฺตา ปมํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ อุทฺทิฏฺํ, ปจฺจุปฺปนฺนานาคตตมวิโนทกตฺตา ทุติยํ ทิพฺพจกฺขุาณํ อุทฺทิฏฺํ, สพฺพตมสมุจฺเฉทกตฺตา ตติยํ อาสวานํ ขเย าณํ อุทฺทิฏฺํ. ตตฺถ กายมฺปีติ รูปกายมฺปิ. จิตฺตมฺปีติ ปาทกชฺฌานจิตฺตมฺปิ. เอกววตฺถานตาติ ¶ ปริกมฺมจิตฺเตน เอกโต ปนตาย จ ทิสฺสมานกาเยน, อทิสฺสมานกาเยน วา คนฺตุกามกาเล ยถาโยคํ กายสฺสปิ จิตฺตสฺสปิ มิสฺสีกรณตาย จาติ วุตฺตํ ¶ โหติ. กาโยติ เจตฺถ สรีรํ. สรีรฺหิ อสุจิสฺจยโต กุจฺฉิตานํ เกสาทีนฺเจว จกฺขุโรคาทีนํ โรคสตานฺจ อายภูตโต กาโยติ วุจฺจติ. สุขสฺฺจ ลหุสฺฺจาติ เอตฺถ จตุตฺถชฺฌานสมฺปยุตฺตํ เอกํเยว สฺํ อาการนานตฺตโต ทฺวิธา กตฺวา สมุจฺจยตฺโถ จ-สทฺโท ปยุตฺโต. จตุตฺถชฺฌานสฺมิฺหิ อุเปกฺขา สนฺตตฺตา สุขนฺติ วุตฺตา, ตํสมฺปยุตฺตา สฺา สุขสฺา. สาเยว นีวรเณหิ เจว วิตกฺกาทิปจฺจนีเกหิ จ วิมุตฺตตฺตา ลหุสฺา. อธิฏฺานวเสนาติ อธิกํ กตฺวา านวเสน, ปวิสนวเสนาติ อธิปฺปาโย. อธิฏฺานวเสน จาติ จ-สทฺโท สมฺพนฺธิตพฺโพ. เอตฺตาวตา สพฺพปฺปการสฺส อิทฺธิวิธสฺส ยถาโยคํ การณํ วุตฺตํ.
อิชฺฌนฏฺเ ปฺาติ อิชฺฌนสภาเว ปฺา. อิทฺธิวิเธ าณนฺติ อิชฺฌนฏฺเน อิทฺธิ, นิปฺผตฺติอตฺเถน ปฏิลาภฏฺเน จาติ วุตฺตํ โหติ. ยฺหิ นิปฺผชฺชติ ปฏิลพฺภติ จ, ตํ อิชฺฌตีติ วุจฺจติ. ยถาห – ‘‘กามํ กามยมานสฺส, ตสฺส เจตํ สมิชฺฌตี’’ติ (สุ. นิ. ๗๗๒). ตถา ‘‘เนกฺขมฺมํ อิชฺฌตีติ อิทฺธิ, ปฏิหรตีติ ปาฏิหาริยํ, อรหตฺตมคฺโค อิชฺฌตีติ อิทฺธิ, ปฏิหรตีติ ปาฏิหาริย’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๓.๓๒). อปโร นโย – อิชฺฌนฏฺเน อิทฺธิ, อุปายสมฺปทาเยตํ อธิวจนํ. อุปายสมฺปทา หิ อิชฺฌติ อธิปฺเปตผลปฺปสวนโต. ยถาห – ‘‘อยํ โข จิตฺโต คหปติ สีลวา กลฺยาณธมฺโม, สเจ ปณิทหิสฺสติ, อนาคตมทฺธานํ ราชา อสฺสํ จกฺกวตฺตีติ. อิชฺฌิสฺสติ หิ สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๕๒). อปโร นโย ¶ – เอตาย สตฺตา อิชฺฌนฺตีติ อิทฺธิ, อิชฺฌนฺตีติ อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อิทฺธิ เอว วิธํ อิทฺธิวิธํ, อิทฺธิโกฏฺาโส อิทฺธิวิกปฺโปติ อตฺโถ. ตํ อิทฺธิวิธํ าณนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๕๑. วิตกฺกวิปฺผารวเสนาติ ทิพฺพโสตธาตุอุปฺปาทนตฺถํ ปริกมฺมกรณกาเล สทฺทนิมิตฺเตสุ อตฺตโน วิตกฺกวิปฺผารวเสน วิตกฺกเวควเสน. วิตกฺโกติ เจตฺถ วิตกฺเกตีติ วิตกฺโก, วิตกฺกนํ วา วิตกฺโก, อูหนนฺติ วุตฺตํ โหติ. สฺวายํ อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อภินิโรปนลกฺขโณ, อาหนนปริยาหนนรโส ¶ . ตถา หิ เตน โยคาวจโร อารมฺมณํ วิตกฺกาหตํ วิตกฺกปริยาหตํ กโรตีติ วุจฺจติ. อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อานยนปจฺจุปฏฺาโน, ตชฺชาสมนฺนาหาเรน ปน อินฺทฺริเยน จ ปริกฺขิตฺเต วิสเย อนนฺตราเยน อุปฺปชฺชนโต อาปาถคตวิสยปทฏฺาโนติ วุจฺจติ. นานตฺเตกตฺตสทฺทนิมิตฺตานนฺติ นานาสภาวานํ เอกสภาวานฺจ สทฺทนิมิตฺตานํ. สทฺทา เอว เจตฺถ วิตกฺกุปฺปตฺติการณตฺตา สงฺขารนิมิตฺตตฺตา จ นิมิตฺตานิ. เภริสทฺทาทิวเสน เอกคฺฆนีภูตา, อเนกา วา สทฺทา, นานาทิสาสุ วา สทฺทา, นานาสตฺตานํ วา สทฺทา นานตฺตสทฺทา, เอกทิสาย สทฺทา, เอกสตฺตสฺส วา สทฺทา, เภริสทฺทาทิวเสน เอเกกสทฺทา ¶ วา เอกตฺตสทฺทา. สทฺโทติ เจตฺถ สปฺปตีติ สทฺโท, กถียตีติ อตฺโถ. ปริโยคาหเณ ปฺาติ ปวิสนปฺา, ปชานนปฺาติ อตฺโถ. โสตธาตุวิสุทฺธิาณนฺติ สวนฏฺเน จ นิชฺชีวฏฺเน จ โสตธาตุ, โสตธาตุกิจฺจกรณวเสน จ โสตธาตุ วิยาติปิ โสตธาตุ, ปริสุทฺธตฺตา นิรุปกฺกิเลสตฺตา วิสุทฺธิ, โสตธาตุ เอว วิสุทฺธิ โสตธาตุวิสุทฺธิ, โสตธาตุวิสุทฺธิ เอว าณํ โสตธาตุวิสุทฺธิาณํ.
๕๒. ติณฺณนฺนํ จิตฺตานนฺติ โสมนสฺสสหคตโทมนสฺสสหคตอุเปกฺขาสหคตวเสน ติณฺณนฺนํ จิตฺตานํ. วิปฺผารตฺตาติ วิปฺผารภาเวน เวเคนาติ อตฺโถ. เหตุอตฺเถ นิสฺสกฺกวจนํ, เจโตปริยาณุปฺปาทนตฺถํ ปริกมฺมกรณกาเล ปเรสํ ติณฺณนฺนํ จิตฺตานํ วิปฺผารเหตุนา. อินฺทฺริยานํ ปสาทวเสนาติ ¶ จกฺขาทีนํ ฉนฺนํ อินฺทฺริยานํ ปสาทวเสน, อินฺทฺริยานํ ปติฏฺิโตกาสา เจตฺถ ผลูปจาเรน อินฺทฺริยานนฺติ วุตฺตา ยถา ‘‘วิปฺปสนฺนานิ โข เต, อาวุโส, อินฺทฺริยานิ ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต’’ติ (มหาว. ๖๐). อินฺทฺริยปติฏฺิโตกาเสสุปิ หทยวตฺถุ เอว อิธาธิปฺเปตํ. ปสาทวเสนาติ จ อนาวิลภาววเสน. ‘‘ปสาทปฺปสาทวเสนา’’ติ วตฺตพฺเพ อปฺปสาทสทฺทสฺส โลโป กโตติ เวทิตพฺพํ. อถ วา อิทมปฺปสนฺนนฺติ คหณสฺส ปสาทมเปกฺขิตฺวา เอว สมฺภวโต ‘‘ปสาทวเสนา’’ติ วจเนเนว อปฺปสาโทปิ วุตฺโตว โหตีติ เวทิตพฺพํ. นานตฺเตกตฺตวิฺาณจริยา ปริโยคาหเณ ปฺาติ ยถาสมฺภวํ นานาสภาวเอกสภาวเอกูนนวุติวิฺาณปวตฺติวิชานนปฺา. เอตฺถ อสมาหิตสฺส วิฺาณจริยา นานตฺตา, สมาหิตสฺส วิฺาณจริยา เอกตฺตา. สราคาทิจิตฺตํ ¶ วา นานตฺตํ, วีตราคาทิจิตฺตํ เอกตฺตํ. เจโตปริยาณนฺติ เอตฺถ ปริยาตีติ ปริยํ, ปริจฺฉินฺทตีติ อตฺโถ. เจตโส ปริยํ เจโตปริยํ, เจโตปริยฺจ ตํ าณฺจาติ เจโตปริยาณํ. วิปฺผารตาติปิ ปาโ, วิปฺผารตายาติ อตฺโถ.
๕๓. ปจฺจยปฺปวตฺตานํ ธมฺมานนฺติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทวเสน ปจฺจยโต ปวตฺตานํ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมานํ. นานตฺเตกตฺตกมฺมวิปฺผารวเสนาติ เอตฺถ อกุสลํ กมฺมํ นานตฺตํ, กุสลํ กมฺมํ เอกตฺตํ. กามาวจรํ วา กมฺมํ นานตฺตํ, รูปาวจรารูปาวจรํ กมฺมํ เอกตฺตํ. นานตฺเตกตฺตกมฺมวิปฺผารวเสน ปจฺจยปวตฺตานํ ธมฺมานํ ปริโยคาหเณ ปฺาติ สมฺพนฺโธ. ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณนฺติ ปุพฺเพ อตีตชาตีสุ นิวุตฺถขนฺธา ปุพฺเพนิวาโส. นิวุตฺถาติ อชฺฌาวุตฺถา อนุภูตา อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธา. ปุพฺเพ อตีตชาตีสุ นิวุตฺถธมฺมา วา ปุพฺเพนิวาโส. นิวุตฺถาติ โคจรนิวาเสน นิวุตฺถา อตฺตโน วิฺาเณน วิฺาตา ปริจฺฉินฺนา, ปรวิฺาเณน วิฺาตาปิ วา. ฉินฺนวฏุมกานุสฺสรณาทีสุ เต พุทฺธานํเยว ลพฺภนฺติ ¶ . ปุพฺเพนิวาสานุสฺสตีติ ยาย สติยา ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, สา ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติ, าณนฺติ ตาย สติยา สมฺปยุตฺตํ าณํ.
๕๔. โอภาสวเสนาติ ทิพฺเพน จกฺขุนา รูปทสฺสนตฺถํ ปสาริตสฺส เตโชกสิณโอทาตกสิณอาโลกกสิณานํ อฺตรสฺส ¶ จตุตฺถชฺฌานารมฺมณสฺส กสิโณภาสสฺส วเสน. นานตฺเตกตฺตรูปนิมิตฺตานนฺติ นานาสตฺตานํ รูปานิ, นานตฺตกายํ อุปปนฺนานํ วา สตฺตานํ รูปานิ, นานาทิสาสุ วา รูปานิ, อสมฺมิสฺสานิ วา รูปานิ นานตฺตรูปานิ, เอกสตฺตสฺส รูปานิ, เอกตฺตกายํ อุปปนฺนสฺส วา รูปานิ, เอกทิสาย วา รูปานิ, นานาทิสาทีนํ สมฺมิสฺสีภูตานิ วา รูปานิ เอกตฺตรูปานิ. รูปนฺติ เจตฺถ วณฺณายตนเมว. ตฺหิ รูปยตีติ รูปํ, วณฺณวิการํ อาปชฺชมานํ หทยงฺคตภาวํ ปกาเสตีติ อตฺโถ. รูปเมว รูปนิมิตฺตํ. เตสํ นานตฺเตกตฺตรูปนิมิตฺตานํ. ทสฺสนฏฺเ ปฺาติ ทสฺสนสภาเว ปฺา.
ทิพฺพจกฺขุาณนฺติ ทิพฺพสทิสตฺตา ทิพฺพํ. เทวานฺหิ สุจริตกมฺมนิพฺพตฺตํ ปิตฺตเสมฺหรุหิราทีหิ อปลิพุทฺธํ อุปกฺกิเลสวิมุตฺตตาย ทูเรปิ อารมฺมณสมฺปฏิจฺฉนสมตฺถํ ทิพฺพํ ปสาทจกฺขุ โหติ. อิทฺจาปิ วีริยภาวนาพลนิพฺพตฺตํ าณจกฺขุ ตาทิสเมวาติ ทิพฺพสทิสตฺตา ทิพฺพํ, ทิพฺพวิหารวเสน ปฏิลทฺธตฺตา ¶ อตฺตนา ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสิตตฺตาปิ ทิพฺพํ, อาโลกปริคฺคเหน มหาชุติกตฺตาปิ ทิพฺพํ, ติโรกุฏฺฏาทิคตรูปทสฺสเนน มหาคติกตฺตาปิ ทิพฺพํ. ตํ สพฺพํ สทฺทสตฺถานุสาเรน เวทิตพฺพํ. ทสฺสนฏฺเน จกฺขุ, จกฺขุกิจฺจกรเณน จกฺขุมิวาติปิ จกฺขุ, ทิพฺพฺจ ตํ จกฺขุ จาติ ทิพฺพจกฺขุ, ทิพฺพจกฺขุ จ ตํ าณฺจาติ ทิพฺพจกฺขุาณํ.
๕๕. จตุสฏฺิยา อากาเรหีติ อฏฺสุ มคฺคผเลสุ เอเกกสฺมึ อฏฺนฺนํ อฏฺนฺนํ อินฺทฺริยานํ วเสน จตุสฏฺิยา อากาเรหิ. ติณฺณนฺนํ อินฺทฺริยานนฺติ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ อฺินฺทฺริยํ อฺาตาวินฺทฺริยนฺติ, อิเมสํ ติณฺณนฺนํ อินฺทฺริยานํ. วสิภาวตา ปฺาติ วสิภาวตาย ปวตฺตา ปฺา, อรหตฺตผเล อฏฺนฺนํ อินฺทฺริยานํ วเสน อฏฺหิ อากาเรหิ อฺาตาวินฺทฺริยสฺเสว วสิภาวตาย อรหตฺตมคฺคกฺขเณ อภาเวปิ การณสิทฺธิวเสน ตทตฺถสาธนตาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อาสวานํ ขเย าณนฺติ อตฺตนา วชฺฌานํ อาสวานํ ขยกรํ อรหตฺตมคฺคาณํ.
๕๖-๕๙. อิทานิ อาสวานํ ขยาณสงฺขาตอรหตฺตมคฺคาณสมฺพนฺเธ ¶ จตุนฺนมฺปิ มคฺคาณานํ เอเกกสฺส มคฺคาณสฺส เอกาภิสมยตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปริฺฏฺเ ปฺา’’ติอาทีนิ จตฺตาริ ¶ าณานิ อุทฺทิฏฺานิ. ตตฺถาปิ โอฬาริกตฺตา สพฺพสตฺตสาธารณตฺตา จ สุวิฺเยฺยนฺติ ทุกฺขสจฺจํ ปมํ วุตฺตํ, ตสฺเสว เหตุทสฺสนตฺถํ ตทนนฺตรํ สมุทยสจฺจํ, เหตุนิโรธา ผลนิโรโธติ าปนตฺถํ ตทนนฺตรํ นิโรธสจฺจํ, ตทธิคมูปายทสฺสนตฺถํ อนฺเต มคฺคสจฺจํ. ภวสุขสฺสาทคธิตานํ วา สตฺตานํ สํเวคชนนตฺถํ ปมํ ทุกฺขมาห, ตํ เนว อกตํ อาคจฺฉติ, น อิสฺสรนิมฺมานาทิโต โหติ, อิโต ปน โหตีติ าปนตฺถํ ตทนนฺตรํ สมุทยสจฺจํ, ตโต สเหตุเกน ทุกฺเขน อภิภูตตฺตา สํวิคฺคมานสานํ ทุกฺขนิสฺสรณคเวสีนํ นิสฺสรณทสฺสเนน อสฺสาสชนนตฺถํ นิโรธํ, ตโต นิโรธาธิคมตฺถํ นิโรธสมฺปาปกํ มคฺคนฺติ. อิทานิ ตพฺพิสยานิ าณานิ เตเนว กเมน อุทฺทิฏฺานิ. ตตฺถ ปริฺฏฺเติ ทุกฺขสฺส ปีฬนฏฺาทิเก จตุพฺพิเธ ปริชานิตพฺพสภาเว. ปหานฏฺเติ สมุทยสฺส อายูหนฏฺาทิเก จตุพฺพิเธ ปหาตพฺพสภาเว. สจฺฉิกิริยฏฺเติ นิโรธสฺส นิสฺสรณฏฺาทิเก จตุพฺพิเธ สจฺฉิกาตพฺพสภาเว. ภาวนฏฺเติ มคฺคสฺส นิยฺยานฏฺาทิเก จตุพฺพิเธ ภาเวตพฺพสภาเว.
๖๐-๖๓. อิทานิ ¶ ภาวิตมคฺคสฺส ปจฺจเวกฺขณวเสน วา อภาวิตมคฺคสฺส อนุสฺสววเสน วา วิสุํ วิสุํ สจฺจาณานิ ทสฺเสตุํ ทุกฺเข าณาทีนิ จตฺตาริ าณานิ อุทฺทิฏฺานิ. ตตฺถ ทุกฺเขติ เอตฺถ ทุ-อิติ อยํ สทฺโท กุจฺฉิเต ทิสฺสติ. กุจฺฉิตฺหิ ปุตฺตํ ทุปุตฺโตติ วทนฺติ. ขํ-สทฺโท ปน ตุจฺเฉ. ตุจฺฉฺหิ อากาสํ ‘ข’นฺติ วุจฺจติ. อิทฺจ ปมสจฺจํ กุจฺฉิตํ อเนกุปทฺทวาธิฏฺานโต, ตุจฺฉํ พาลชนปริกปฺปิตธุวสุภสุขตฺตภาววิรหิตโต. ตสฺมา กุจฺฉิตตฺตา ตุจฺฉตฺตา จ ‘‘ทุกฺข’’นฺติ วุจฺจติ.
ทุกฺขสมุทเยติ เอตฺถ สํ-อิติ อยํ สทฺโท ‘‘สมาคโม สเมต’’นฺติอาทีสุ (วิภ. ๑๙๙; ที. นิ. ๒.๓๙๖) วิย สํโยคํ ทีเปติ. อุ-อิติ อยํ สทฺโท ‘‘อุปฺปนฺนํ ¶ อุทิต’’นฺติอาทีสุ (ปารา. ๑๗๒; จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๔๑) วิย อุปฺปตฺตึ. อย-สทฺโท ปน การณํ ทีเปติ. อิทฺจาปิ ทุติยสจฺจํ อวเสสปจฺจยสมาโยเค สติ ทุกฺขสฺส อุปฺปตฺติการณํ. อิติ ทุกฺขสฺส สํโยเค อุปฺปตฺติการณตฺตา ‘‘ทุกฺขสมุทย’’นฺติ วุจฺจติ.
ทุกฺขนิโรเธติ เอตฺถ นิ-สทฺโท อภาวํ, โรธ-สทฺโท จ จารกํ ทีเปติ. ตสฺมา อภาโว เอตฺถ สํสารจารกสงฺขาตสฺส ทุกฺขโรธสฺส สพฺพคติสฺุตฺตา, สมธิคเต วา ตสฺมึ สํสารจารกสฺส ทุกฺขโรธสฺส อภาโว โหติ ตปฺปฏิปกฺขตฺตาติปิ ‘‘ทุกฺขนิโรธ’’นฺติ วุจฺจติ. ทุกฺขสฺส วา อนุปฺปตฺตินิโรธปจฺจยตฺตา ทุกฺขนิโรธนฺติ วุจฺจติ.
ทุกฺขนิโรธคามินิยา ¶ ปฏิปทายาติ เอตฺถ ยสฺมา อยํ เอตํ ทุกฺขนิโรธํ คจฺฉติ อารมฺมณกรณวเสน ตทภิมุขีภูตตฺตา, ปฏิปทา จ โหติ ทุกฺขนิโรธปฺปตฺติยา, ตสฺมา ทุกฺขนิโรธคามินิปฏิปทาติ วุจฺจติ. จตฺตาริ มคฺคาณาเนว เหฏฺา วุฏฺานาการทีปนวเสน ‘‘มคฺเค าณ’’นฺติ วุตฺตานิ, อนนฺตรผลทายกตฺตสฺส การณปริทีปนวเสน ‘‘อานนฺตริกสมาธิมฺหิ าณ’’นฺติ วุตฺตานิ, วิวฏฺฏนาการทีปนวเสน ‘‘สจฺจวิวฏฺเฏ าณ’’นฺติ วุตฺตานิ, มคฺคปฏิปาฏิกฺกเมเนว อรหตฺตมคฺคาณุปฺปตฺตึ, ตสฺส จ าณสฺส อภิฺาภาวํ ทีเปตุํ อรหตฺตมคฺคาณเมว ‘‘อาสวานํ ขเย าณ’’นฺติ วุตฺตํ. ปุน จตุนฺนมฺปิ มคฺคาณานํ เอกาภิสมยตํ ทีเปตุํ ‘‘ปริฺฏฺเ ปฺา ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทีนิ จตฺตาริ าณานิ วุตฺตานิ. ปุน เอเกกสฺมึ สจฺเจ วิสุํ วิสุํ อุปฺปตฺติทีปนวเสน ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทีนิ จตฺตาริ าณานิ อุทฺทิฏฺานีติ เอวํ ปุพฺพาปรวิเสโส เวทิตพฺโพติ.
๖๔-๖๗. อิทานิ ¶ สพฺเพสํ อริยปุคฺคลานํ อริยมคฺคานุภาเวเนว ปฏิสมฺภิทาาณานิ สิทฺธานีติ ทสฺเสตุํ อตฺถปฏิสมฺภิเท าณนฺติอาทีนิ ปุน จตฺตาริ ปฏิสมฺภิทาาณานิ อุทฺทิฏฺานิ. อิมานิ หิ ปฏิสมฺภิทาปเภทาภาเวปิ สพฺพอริยปุคฺคลสาธารณานิ สุทฺธิกปฏิสมฺภิทาาณานิ, เหฏฺา อุทฺทิฏฺานิ ปน ปภินฺนปฏิสมฺภิทานํ ปเภทปฺปตฺตานิ ปฏิสมฺภิทาาณานีติ เวทิตพฺพานีติ อยเมเตสํ อุภยตฺถวจเน วิเสโส. ยสฺมา วา อนนฺตรํ อุทฺทิฏฺํ ทุกฺขารมฺมณํ ¶ นิโรธารมฺมณฺจ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา โหติ, สมุทยารมฺมณํ มคฺคารมฺมณฺจ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา, ตทภิลาเป าณํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา, เตสุ าเณสุ าณํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทา, ตสฺมา ตมฺปิ อตฺถวิเสสํ ทสฺเสตุํ สุทฺธิกปฏิสมฺภิทาาณานิ อุทฺทิฏฺานีติ เวทิตพฺพานิ. ตสฺมาเยว จ เหฏฺา นานตฺตสทฺเทน วิเสเสตฺวา วุตฺตานิ. อิธ ตถา อวิเสเสตฺวา วุตฺตานีติ.
๖๘. เอวํ ปฏิปาฏิยา สตฺตสฏฺิ สาวกสาธารณาณานิ อุทฺทิสิตฺวา อิทานิ สาวเกหิ อสาธารณานิ ตถาคตานํเยว อาเวณิกานิ าณานิ ทสฺเสตุํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณาทีนิ ฉ อสาธารณาณานิ อุทฺทิฏฺานิ. ตตฺถปิ ยสฺมา ตถาคตา สตฺตานํ ธมฺมเทสนาย ภาชนาภาชนตฺตํ โอโลเกนฺตา พุทฺธจกฺขุนา โอโลเกนฺติ. พุทฺธจกฺขุ นาม อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาสยานุสยาณทฺวยเมว. ยถาห –
‘‘อทฺทสา โข ภควา พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต สตฺเต อปฺปรชกฺเข มหารชกฺเข ¶ ติกฺขินฺทฺริเย มุทินฺทฺริเย’’ติอาทิ (มหาว. ๙; ม. นิ. ๑.๒๘๓; ๒.๓๓๙).
สตฺตสนฺตาเน จ โอโลเกนฺตา ปมํ อินฺทฺริยปริปากาปริปากํ โอโลเกนฺติ, อินฺทฺริยปริปากฺจ ตฺวา อาสยาทีนํ อนุรูเปน ธมฺมเทสนตฺถํ ตโต อาสยานุสยจริตานิ โอโลเกนฺติ, ตสฺมาปิ ปมํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณํ อุทฺทิฏฺํ, ตทนนฺตรํ อาสยานุสยาณํ. ธมฺมํ เทเสนฺตา จ ยสฺมา ปาฏิหาริเยน วิเนตพฺพานํ ปาฏิหาริยํ กโรนฺติ, ตสฺมา อาสยานุสยาณานนฺตรํ ยมกปาฏิหาริเย าณํ อุทฺทิฏฺํ. อิเมสํ ติณฺณํ าณานํ เหตุปริทีปนตฺถํ ตทนนฺตรํ มหากรุณาาณํ อุทฺทิฏฺํ. มหากรุณาาณสฺส ปริสุทฺธภาวปริทีปนตฺถํ ตทนนฺตรํ สพฺพฺุตฺาณํ อุทฺทิฏฺํ. สพฺพฺุสฺสาปิ สพฺพธมฺมานํ อาวชฺชนปฏิพทฺธภาวปริทีปนตฺถํ สพฺพฺุตฺาณสฺส ¶ อนาวริยภาวปริทีปนตฺถฺจ ตทนนฺตรํ อนาวรณาณํ อุทฺทิฏฺนฺติ เวทิตพฺพํ.
อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณนฺติ เอตฺถ อุปริ ‘‘สตฺตาน’’นฺติ ปทํ อิเธว อาหริตฺวา ‘‘สตฺตานํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณ’’นฺติ โยเชตพฺพํ. ปรานิ จ อปรานิ จ ปราปรานีติ วตฺตพฺเพ สนฺธิวเสน โร-การํ กตฺวา ปโรปรานีติ วุจฺจติ. ปโรปรานํ ¶ ภาโว ปโรปริยํ, ปโรปริยเมว ปโรปริยตฺตํ, เวเนยฺยสตฺตานํ สทฺธาทีนํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ ปโรปริยตฺตํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตํ, อินฺทฺริยปโรปริยตฺตสฺส าณํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณํ, อินฺทฺริยานํ อุตฺตมานุตฺตมภาวาณนฺติ อตฺโถ. ‘‘อินฺทฺริยวโรวริยตฺตาณ’’นฺติปิ ปาโ. วรานิ จ อวริยานิ จ วโรวริยานิ, วโรวริยานํ ภาโว วโรวริยตฺตนฺติ โยเชตพฺพํ. อวริยานีติ จ น อุตฺตมานีติ อตฺโถ. อถ วา ปรานิ จ โอปรานิ จ ปโรปรานิ, เตสํ ภาโว ปโรปริยตฺตนฺติ โยเชตพฺพํ. โอปรานีติ จ โอรานีติ วุตฺตํ โหติ, ลามกานีติ อตฺโถ, ‘‘ปโรปรา ยสฺส สเมจฺจ ธมฺมา’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๔๗๙) วิย. ‘‘อินฺทฺริยปโรปริยตฺเต าณ’’นฺติ ภุมฺมวจเนนาปิ ปาโ.
๖๙. สตฺตานํ อาสยานุสเย าณนฺติ เอตฺถ รูปาทีสุ ขนฺเธสุ ฉนฺทราเคน สตฺตา วิสตฺตาติ สตฺตา. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –
‘‘รูเป โข, ราธ, โย ฉนฺโท โย ราโค ยา นนฺที ยา ตณฺหา, ตตฺร สตฺโต ตตฺร วิสตฺโต, ตสฺมา ‘สตฺโต’ติ วุจฺจติ. เวทนาย สฺาย สงฺขาเรสุ วิฺาเณ โย ฉนฺโท โย ¶ ราโค ยา นนฺที ยา ตณฺหา, ตตฺร สตฺโต ตตฺร วิสตฺโต, ตสฺมา ‘สตฺโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๖๑).
อกฺขรจินฺตกา ปน อตฺถํ อวิจาเรตฺวา ‘‘นามมตฺตเมต’’นฺติ อิจฺฉนฺติ. เยปิ อตฺถํ วิจาเรนฺติ, เต สตฺวโยเคน สตฺตาติ อิจฺฉนฺติ, เตสํ สตฺตานํ. อาสยนฺติ นิสฺสยนฺติ เอตํ อิติ อาสโย, มิจฺฉาทิฏฺิยา, สมฺมาทิฏฺิยา วา กามาทีหิ, เนกฺขมฺมาทีหิ วา ปริภาวิตสฺส สนฺตานสฺเสตํ อธิวจนํ. สตฺตสนฺตาเน อนุเสนฺติ อนุปวตฺตนฺตีติ อนุสยา, ถามคตานํ กามราคาทีนํ เอตํ อธิวจนํ. อาสโย จ อนุสโย จ อาสยานุสโย. ชาติคฺคหเณน จ ทฺวนฺทสมาสวเสน จ เอกวจนํ เวทิตพฺพํ. ยสฺมา ¶ จริตาธิมุตฺติโย อาสยานุสยสงฺคหิตา, ตสฺมา อุทฺเทเส จริตาธิมุตฺตีสุ าณานิ อาสยานุสยาเณเนว สงฺคเหตฺวา ‘‘อาสยานุสเย าณ’’นฺติ วุตฺตํ. เยเนว หิ อธิปฺปาเยน อุทฺเทโส กโต, เตเนว อธิปฺปาเยน นิทฺเทโส กโตติ.
๗๐. ยมกปาฏิหีเร าณนฺติ เอตฺถ อคฺคิกฺขนฺธอุทกธาราทีนํ อปุพฺพํ อจริมํ สกึเยว ปวตฺติโต ยมกํ, อสฺสทฺธิยาทีนํ ¶ ปฏิปกฺขธมฺมานํ หรณโต ปาฏิหีรํ, ยมกฺจ ตํ ปาฏิหีรฺจาติ ยมกปาฏิหีรํ.
๗๑. มหากรุณาสมาปตฺติยา าณนฺติ เอตฺถ ปรทุกฺเข สติ สาธูนํ หทยกมฺปนํ กโรตีติ กรุณา, กินาติ วา ปรทุกฺขํ หึสติ วินาเสตีติ กรุณา, กิรียติ วา ทุกฺขิเตสุ ผรณวเสน ปสารียตีติ กรุณา, ผรณกมฺมวเสน กมฺมคุณวเสน จ มหตี กรุณา มหากรุณา, สมาปชฺชนฺติ เอตํ มหาการุณิกาติ สมาปตฺติ, มหากรุณา จ สา สมาปตฺติ จาติ มหากรุณาสมาปตฺติ. ตสฺสํ มหากรุณาสมาปตฺติยํ, ตํสมฺปยุตฺตํ าณํ.
๗๒-๗๓. สพฺพฺุตฺาณํ อนาวรณาณนฺติ เอตฺถ ปฺจเนยฺยปถปฺปเภทํ สพฺพํ อฺาสีติ สพฺพฺู, สพฺพฺุสฺส ภาโว สพฺพฺุตา, สา เอว าณํ ‘‘สพฺพฺุตาาณ’’นฺติ วตฺตพฺเพ ‘‘สพฺพฺุตฺาณ’’นฺติ วุตฺตํ. สงฺขตาสงฺขตาทิเภทา สพฺพธมฺมา หิ สงฺขาโร วิกาโร ลกฺขณํ นิพฺพานํ ปฺตฺตีติ ปฺเจว เนยฺยปถา โหนฺติ. สพฺพฺูติ จ กมสพฺพฺู, สกึสพฺพฺู, สตตสพฺพฺู, สตฺติสพฺพฺู, าตสพฺพฺูติ ปฺจวิธา สพฺพฺุโน สิยุํ. กเมน สพฺพชานนกาลาสมฺภวโต กมสพฺพฺุตา น โหติ, สกึ สพฺพารมฺมณคหณาภาวโต สกึสพฺพฺุตา น โหติ, จกฺขุวิฺาณาทีนํ ยถารมฺมณจิตฺตสมฺภวโต ภวงฺคจิตฺตวิโรธโต ยุตฺติอภาวโต จ สตตสพฺพฺุตา น โหติ, ปริเสสโต สพฺพชานนสมตฺถตฺตา สตฺติสพฺพฺุตา วา ¶ สิยา, วิทิตสพฺพธมฺมตฺตา าตสพฺพฺุตา วา สิยา. สตฺติสพฺพฺุโน สพฺพชานนตฺตํ นตฺถีติ ตมฺปิ น ยุชฺชติ.
‘‘น ¶ ตสฺส อทฺทิฏฺมิธตฺถิ กิฺจิ, อโถ อวิฺาตมชานิตพฺพํ;
สพฺพํ อภิฺาสิ ยทตฺถิ เนยฺยํ, ตถาคโต เตน สมนฺตจกฺขู’’ติ. (มหานิ. ๑๕๖; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕; ปฏิ. ม. ๑.๒๐๘) –
วุตฺตตฺตา าตสพฺพฺุตฺตเมว ยุชฺชติ. เอวฺหิ สติ กิจฺจโต อสมฺโมหโต การณสิทฺธิโต อาวชฺชนปฏิพทฺธโต สพฺพฺุตฺตเมว โหตีติ. อาวชฺชนปฏิพทฺธตฺตา เอว หิ นตฺถิ ¶ เอตสฺส อาวรณนฺติ อนาวรณํ, ตเทว อนาวรณาณนฺติ วุจฺจตีติ.
อิมานิ เตสตฺตติ าณานีติ สาวเกหิ สาธารณาสาธารณวเสน อุทฺทิฏฺานิ อิมานิ เตสตฺตติ าณานิ. อิเมสํ เตสตฺตติยา าณานนฺติ อาทิโต ปฏฺาย วุตฺตานํ อิเมสํ เตสตฺตติาณานํ. อุพฺพาหนตฺเถ เจตํ สามิวจนํ. เตสตฺตตีนนฺติปิ ปาโ. ‘‘เตสตฺตติยา’’ติ วตฺตพฺเพ เอกสฺมึ พหุวจนํ เวทิตพฺพํ. สตฺตสฏฺิ าณานีติอาทิโต ปฏฺาย สตฺตสฏฺิ าณานิ. สาวกสาธารณานีติ สวนนฺเต อริยาย ชาติยา ชาตตฺตา สาวกา, สมานํ ธารณเมเตสนฺติ สาธารณานิ, ตถาคตานํ สาวเกหิ สาธารณานิ สาวกสาธารณานิ. ฉ าณานีติ อนฺเต อุทฺทิฏฺานิ ฉ าณานิ. อสาธารณานิ สาวเกหีติ สาวเกหิ อสาธารณานิ ตถาคตานํเยว าณานีติ.
สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฏิสมฺภิทามคฺค-อฏฺกถาย
าณกถามาติกุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑. สุตมยาณนิทฺเทสวณฺณนา
วิสฺสชฺชนุทฺเทสวณฺณนา
๑. อิทานิ ¶ ¶ ยถานิกฺขิตฺเตน อุทฺเทเสน สงฺคหิเต ธมฺเม ปเภทโต ทสฺเสตุํ กถํ โสตาวธาเน ปฺา สุตมเย าณนฺติอาทิ นิทฺเทสวาโร อารทฺโธ. ตตฺถ ยํ วุตฺตํ, ‘‘โสตาวธาเน ปฺา สุตมเย าณ’’นฺติ ¶ , ตํ กถํ โหตีติ? อยํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. ปฺจวิธา หิ ปุจฺฉา – อทิฏฺโชตนาปุจฺฉา, ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา, วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉา, อนุมติปุจฺฉา, กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาติ. ตาสํ อิทํ นานตฺตํ –
กตมา อทิฏฺโชตนาปุจฺฉา? (มหานิ. ๑๕๐; จูฬนิ. ปุณฺณกมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑๒) ปกติยา ลกฺขณํ อฺาตํ โหติ อทิฏฺํ อตุลิตํ อตีริตํ อวิภูตํ อวิภาวิตํ, ตสฺส าณาย ทสฺสนาย ตุลนาย ตีรณาย วิภูตาย วิภาวนตฺถาย ปฺหํ ปุจฺฉติ, อยํ อทิฏฺโชตนาปุจฺฉา.
กตมา ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา? (มหานิ. ๑๕๐; จูฬนิ. ปุณฺณกมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑๒) ปกติยา ลกฺขณํ าตํ โหติ ทิฏฺํ ตุลิตํ ตีริตํ วิภูตํ วิภาวิตํ, โส อฺเหิ ปณฺฑิเตหิ สทฺธึ สํสนฺทนตฺถาย ปฺหํ ปุจฺฉติ, อยํ ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา.
กตมา วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉา? (มหานิ. ๑๕๐; จูฬนิ. ปุณฺณกมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑๒) ปกติยา สํสยปกฺขนฺโท โหติ วิมติปกฺขนฺโท ทฺเวฬฺหกชาโต ‘‘เอวํ นุ โข, นนุ โข, กึ นุ โข, กถํ นุ โข’’ติ? โส วิมติจฺเฉทนตฺถาย ปฺหํ ปุจฺฉติ, อยํ วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉา.
กตมา อนุมติปุจฺฉา? ภควา ภิกฺขูนํ อนุมติยา ปฺหํ ปุจฺฉติ – ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ, ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วา’’ติ? ‘‘ทุกฺขํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ ¶ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’ติ (มหาว. ๒๑), อยํ อนุมติปุจฺฉา.
กตมา กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา? ภควา ภิกฺขูนํ กเถตุกมฺยตาย ปฺหํ ปุจฺฉติ – ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, สติปฏฺานา. กตเม จตฺตาโร’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๙๐)? อยํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาติ. ตาสุ อยํ เถรสฺส กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาติ เวทิตพฺพา.
อิทานิ สมาติกุทฺเทสาย กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาย ‘‘อิเม ธมฺมา อภิฺเยฺยาติ โสตาวธานํ, ตํปชานนา ปฺา สุตมเย าณ’’นฺติอาทโย โสฬส วิสฺสชฺชนุทฺเทสา. ตตฺถ อิเม ธมฺมา อภิฺเยฺยาติ ‘‘เทสยนฺตสฺสา’’ติ ปาเสโส. อิเม ธมฺมา อภิชานิตพฺพาติ สตฺถุโน, อฺตรสฺส วา ครุฏฺานิยสฺส สพฺรหฺมจาริสฺส ธมฺมํ เทสยนฺตสฺส ปุพฺเพ วุตฺตนเยน โสตาวธานํ สุตํ โสตาวธานํ นาม. ตํปชานนา ปฺา ¶ ตสฺส สุตสฺส ปชานนา ปริยายปริจฺฉินฺทกปฺา สุตมเย าณํ นามาติ อตฺโถ. ตสฺส ปชานนา ตํปชานนาติ สามิวจนสมาโส. ตํ ปชานนาติ วิภตฺติวิปลฺลาสวเสน อุปโยควจนํ วา. อภิฺเยฺยาติ จ สภาวลกฺขณาวโพธวเสน โสภเนนากาเรน ชานิตพฺพา. ปริฺเยฺยาติ สามฺลกฺขณาวโพธวเสน กิจฺจสมาปนวเสน จ พฺยาปิตฺวา ชานิตพฺพา. ภาเวตพฺพาติ วฑฺเฒตพฺพา. สจฺฉิกาตพฺพาติ ปจฺจกฺขํ กาตพฺพา. ทุวิธา หิ สจฺฉิกิริยา ปฏิลาภสจฺฉิกิริยา อารมฺมณสจฺฉิกิริยา จ. ปจฺจนีกสมุทาจารวเสน ปริหานิยสงฺขาตํ หานํ ภชนฺตีติ หานภาคิยา. ตทนุธมฺมตาย สติยา สณฺานวเสน านสงฺขาตํ ิตึ ภชนฺตีติ ิติภาคิยา. อุปริวิเสสาธิคมวเสน วิเสสํ ภชนฺตีติ วิเสสภาคิยา. อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปฺปทาลิตปุพฺพํ โลภกฺขนฺธํ โทสกฺขนฺธํ โมหกฺขนฺธํ นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ อริยมคฺโค นิพฺเพโธ นาม, นิพฺพิทาสหคตานํ สฺามนสิการานํ สมุทาจารวเสน ตํ นิพฺเพธํ ภชนฺตีติ นิพฺเพธภาคิยา.
สพฺเพ สงฺขาราติ สพฺเพ สปฺปจฺจยา ธมฺมา. เต หิ สงฺขตสงฺขารา นาม. ปจฺจเยหิ สงฺคมฺม กรียนฺตีติ สงฺขารา, เต เอว ปจฺจเยหิ สงฺคมฺม กตตฺตา สงฺขตาติ วิเสเสตฺวา วุตฺตา. กมฺมนิพฺพตฺตา เตภูมกรูปารูปธมฺมา อภิสงฺขตสงฺขาราติ อฏฺกถาสุ (วิสุทฺธิ. ๒.๕๘๗; วิภ. อฏฺ. ๒๒๖ สงฺขารปทนิทฺเทส) วุตฺตา. เตปิ ‘‘อนิจฺจา ว ¶ สงฺขารา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๘๖; ๒.๑๔๓; ที. นิ. ๒.๒๒๑, ๒๗๒) สงฺขตสงฺขาเรสุ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ‘‘อวิชฺชาคโต อยํ, ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคโล ปฺฺุเจว สงฺขารํ อภิสงฺขโรตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๕๑) อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราว อาคตา เตภูมิกกุสลากุสลเจตนา ¶ อภิสงฺขรณกสงฺขารา นาม. ‘‘ยาวติกา อภิสงฺขารสฺส คติ, ตาวติกํ คนฺตฺวา อกฺขาหตํ มฺเ อฏฺาสี’’ติอาทีสุ อาคตํ กายิกํ เจตสิกํ วีริยํ ปโยคาภิสงฺขาโร นาม. ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺนสฺส โข, อาวุโส วิสาข, ภิกฺขุโน ปมํ นิรุชฺฌติ วจีสงฺขาโร, ตโต กายสงฺขาโร, ตโต จิตฺตสงฺขาโร’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๔๖๔) อาคตา วิตกฺกวิจารา. วาจํ สงฺขโรนฺตีติ วจีสงฺขารา. อสฺสาสปสฺสาสา กาเยน สงฺขรียนฺตีติ ¶ กายสงฺขารา. สฺา จ เวทนา จ จิตฺเตน สงฺขรียนฺตีติ จิตฺตสงฺขารา. อิธ ปน สงฺขตสงฺขารา อธิปฺเปตา.
อนิจฺจาติ หุตฺวา อภาวฏฺเน. ทุกฺขาติ ปีฬนฏฺเน. สพฺเพ ธมฺมาติ นิพฺพานมฺปิ อนฺโตกตฺวา วุตฺตา. อนตฺตาติ อวสวตฺตนฏฺเน. อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติอาทีสุ ‘‘ทุกฺขสมุทโย ทุกฺขนิโรโธ’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ทุกฺขสมุทยํ ทุกฺขนิโรธ’’นฺติ ลิงฺควิปลฺลาโส กโต. ยสฺมา ปน พุทฺธาทโย อริยา ปฏิวิชฺฌนฺติ, ตสฺมา อริยสจฺจานีติ วุจฺจนฺติ. ยถาห ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อริยสจฺจานิ…เป… อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อริยสจฺจานิ. อริยา อิมานิ ปฏิวิชฺฌนฺติ, ตสฺมา อริยสจฺจานีติ วุจฺจนฺตี’’ติ. อริยสฺส สจฺจานีติปิ อริยสจฺจานิ. ยถาห ‘‘สเทวเก โลเก…เป… สเทวมนุสฺสาย ตถาคโต อริโย, ตสฺมา อริยสจฺจานีติ วุจฺจนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๘). เอเตสํ อภิสมฺพุทฺธตฺตา อริยภาวสิทฺธิโตปิ อริยสจฺจานิ. ยถาห ‘‘อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ยถาภูตํ อภิสมฺพุทฺธตฺตา ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อริโยติ วุจฺจตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๓). อริยานิ สจฺจานีติปิ อริยสจฺจานิ. อริยานีติ อวิตถานิ, อวิสํวาทกานีติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อริยสจฺจานิ ตถานิ อวิตถานิ อนฺถานิ, ตสฺมา อริยสจฺจานีติ วุจฺจนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๗). สจฺจานีติ โก สจฺจฏฺโติ เจ? โย ปฺาจกฺขุนา อุปปริกฺขมานานํ ¶ มายาว วิปรีโต, มรีจีว วิสํวาทโก, ติตฺถิยานํ ปริกปฺปิตอตฺตาว อนุปลพฺภสภาโว จ น โหติ, อถ โข พาธนปภวสนฺตินิยฺยานปฺปกาเรน ตจฺฉาวิปรีตภูตภาเวน อริยาณสฺส โคจโร โหติเยว. เอส อคฺคิลกฺขณํ วิย โลกปกติ วิย จ ตจฺฉาวิปรีตภูตภาโว สจฺจฏฺโติ เวทิตพฺโพ. ยถาห ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ, ภิกฺขเว, ตถเมตํ อวิตถเมตํ อนฺถเมต’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๐) วิตฺถาโร. อปิจ –
นาพาธกํ ยโต ทุกฺขํ, ทุกฺขา อฺํ น พาธกํ;
พาธกตฺตนิยาเมน, ตโต สจฺจมิทํ มตํ.
ตํ ¶ วินา นาฺโต ทุกฺขํ, น โหติ น จ ตํ ตโต;
ทุกฺขเหตุ นิยาเมน, อิติ สจฺจํ วิสตฺติกา.
นาฺา ¶ นิพฺพานโต สนฺติ, สนฺตํ น จ น ตํ ยโต;
สนฺตภาวนิยาเมน, ตโต สจฺจมิทํ มตํ.
มคฺคา อฺํ น นิยฺยานํ, อนิยฺยาโน น จาปิ โส;
ตจฺฉนิยฺยานภาเวน, อิติ โส สจฺจสมฺมโต.
อิติ ตจฺฉาวิปลฺลาส-ภูตภาวํ จตูสฺวปิ;
ทุกฺขาทีสฺววิเสเสน, สจฺจฏฺํ อาหุ ปณฺฑิตาติ.
โส ปนายํ สจฺจสทฺโท อเนเกสุ อตฺเถสุ ทิสฺสติ. เสยฺยถิทํ – ‘‘สจฺจํ ภเณ น กุชฺเฌยฺยา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๒๒๔) วาจาสจฺเจ. ‘‘สจฺเจ ิตา สมณพฺราหฺมณา จา’’ติอาทีสุ (ชา. ๒.๒๑.๔๓๓) วิรติสจฺเจ. ‘‘กสฺมา นุ สจฺจานิ วทนฺติ นานา, ปวาทิยาเส กุสลาวทานา’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๘๙๑) ทิฏฺิสจฺเจ. ‘‘เอกฺหิ ¶ สจฺจํ น ทุตียมตฺถิ, ยสฺมึ ปชา โน วิวเท ปชาน’’นฺติอาทีสุ (สุ. นิ. ๘๙๐; มหานิ. ๑๑๙) ปรมตฺถสจฺเจ นิพฺพาเน เจว มคฺเค จ. ‘‘จตุนฺนํ สจฺจานํ กติ กุสลา กติ อกุสลา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๒๑๖) อริยสจฺเจ. สฺวายมิธาปิ อริยสจฺเจ ปวตฺตตีติ.
นิทฺเทสวารสงฺคหิตสฺส วิสฺสชฺชนุทฺเทสสฺส
อตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.
อภิฺเยฺยนิทฺเทสวณฺณนา
๒. อิทานิ ¶ วิสฺสชฺชนุทฺเทสสงฺคหิเต ธมฺเม ปเภทโต ทสฺเสตุํ กถํ อิเม ธมฺมา อภิฺเยฺยาติอาทิ นิทฺเทสวาโร อารทฺโธ. ตตฺถ อภิฺเยฺยนิทฺเทสาทีสุ ปฺจสุ อาทิโต เอกกาทิวเสน ทส ทส วิสฺสชฺชนานิ ทสุตฺตรปริยาเยน สํสนฺเทตฺวา อุทฺทิฏฺานิ. เตสุ อภิฺเยฺยนิทฺเทเส ¶ ตาว สพฺเพ สตฺตาติ กามภวาทีสุ สฺาภวาทีสุ เอกโวการภวาทีสุ จ สพฺพภเวสุ สพฺเพ สตฺตา. อาหารฏฺิติกาติ อาหารโต ิติ เอเตสนฺติ อาหารฏฺิติกา. ิตีติ เจตฺถ สกกฺขเณ อตฺถิตา อธิปฺเปตา. อิติ สพฺพสตฺตานํ ิติเหตุ อาหาโร นา ¶ เอโก ธมฺโม อธิเกน าเณน ชานิตพฺโพ. ปจฺจเย หิ อภิฺาเต ปจฺจยุปฺปนฺนาปิ อภิฺาตา โหนฺติ อุภินฺนมฺปิ อฺมฺาเปกฺขตฺตา. เอเตน าตปริฺา วุตฺตา โหติ. นนุ จ เอวํ สนฺเต ยํ วุตฺตํ ‘‘อสฺสตฺตา เทวา อเหตุกา อนาหารา อผสฺสกา’’ติอาทิ (วิภ. ๑๐๑๗), ตํ วิรุชฺฌตีติ. ตฺจ น วิรุชฺฌติ. เตสฺหิ ฌานํ อาหาโรติ. เอวํ สนฺเตปิ ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อาหารา ภูตานํ วา สตฺตานํ ิติยา, สมฺภเวสีนํ วา อนุคฺคหาย. กตเม จตฺตาโร? กพฬีกาโร อาหาโร โอฬาริโก วา สุขุโม วา, ผสฺโส ทุติโย, มโนสฺเจตนา ตติยา, วิฺาณํ จตุตฺถ’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๑) อิทํ วิรุชฺฌตีติ. อิทมฺปิ น วิรุชฺฌติ. เอตสฺมิฺหิ สุตฺเต นิปฺปริยาเยน อาหารลกฺขณาว ธมฺมา อาหาราติ วุตฺตา. อิธ ปน ปริยาเยน ปจฺจโย อาหาโรติ วุตฺโต. สพฺพสงฺขตธมฺมานฺหิ ปจฺจโย ลทฺธุํ วฏฺฏติ, โส จ ยํ ยํ ผลํ ชเนติ, ตํ ตํ อาหรติ นาม. ตสฺมา อาหาโรติ วุจฺจติ. เตเนวาห –
‘‘อวิชฺชมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จ, ภิกฺขเว, อวิชฺชาย อาหาโร? ‘ปฺจ นีวรณา’ติสฺส วจนียํ. ปฺจ นีวรเณปาหํ, ภิกฺขเว, สาหาเร วทามิ, โน อนาหาเร. โก จ, ภิกฺขเว, ปฺจนฺนํ นีวรณานํ อาหาโร. ‘อโยนิโส มนสิกาโร’ติสฺส ¶ วจนีย’’นฺติอาทิ (อ. นิ. ๑๐.๖๑). อยํ อิธ อธิปฺเปโต.
เอตสฺมิฺหิ ปจฺจยาหาเร คหิเต ปริยายาหาโรปิ นิปฺปริยายาหาโรปิ สพฺโพ คหิโตว โหติ.
ตตฺถ อสฺภเว ปจฺจยาหาโร ลพฺภติ. อนุปฺปนฺเน หิ พุทฺเธ ติตฺถายตเน ปพฺพชิตฺวา วาโยกสิเณ ปริกมฺมํ กตฺวา จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตโต วุฏฺาย ‘‘ธี จิตฺตํ, ธี จิตฺตํ, จิตฺตสฺส นาม อภาโวเยว สาธุ. จิตฺตฺหิ นิสฺสาย วธพนฺธนาทิปจฺจยํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, จิตฺเต อสติ นตฺเถต’’นฺติ ขนฺตึ รุจึ อุปฺปาเทตฺวา อปริหีนชฺฌานา กาลํกตฺวา อสฺภเว นิพฺพตฺตนฺติ. โย ยสฺส อิริยาปโถ มนุสฺสโลเก ปณิหิโต อโหสิ, โส เตน อิริยาปเถน นิพฺพตฺติตฺวา ปฺจ กปฺปสตานิ ติฏฺติ. เอตฺตกํ อทฺธานํ นิปนฺโน วิย นิสินฺโน วิย ิโต วิย โหติ. เอวรูปานฺจ สตฺตานํ ปจฺจยาหาโร ลพฺภติ. เต หิ ยํ ฌานํ ภาเวตฺวา นิพฺพตฺตา ¶ , ตเท ¶ เนสํ ปจฺจโย โหติ. ยถา ชิยาเวเคน ขิตฺตสโร ยาว ชิยาเวโค อตฺถิ, ตาว คจฺฉติ, เอวํ ยาว ฌานปจฺจโย อตฺถิ, ตาว ติฏฺนฺติ. ตสฺมึ นิฏฺิเต ขีณเวโค สโร วิย ปตนฺติ.
เย ปน เต เนรยิกา ‘‘เนวุฏฺานผลูปชีวิโน น ปฺุผลูปชีวิโน’’ติ วุตฺตา, เตสํ โก อาหาโรติ? เตสํ กมฺมเมว อาหาโรติ. กึ ปฺจ อาหารา อตฺถีติ? ‘‘ปฺจ, น ปฺจา’’ติ อิทํ น วตฺตพฺพํ. นนุ ‘‘ปจฺจโย อาหาโร’’ติ วุตฺโต, ตสฺมา เยน กมฺเมน เต นิรเย นิพฺพตฺตา, ตเทว เตสํ ิติปจฺจยตฺตา อาหาโร. ยํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ ‘‘น ตาว กาลํ กโรติ, ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตี โหตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๓๖; ม. นิ. ๓.๒๕๐). ตสฺมา อาหารฏฺิติกาติ ปจฺจยฏฺิติกาติ อตฺโถ. กพฬีการํ อาหารํ อารพฺภาติ เจตฺถ วิวาโท น กาตพฺโพ. มุเข อุปฺปนฺนเขโฬปิ หิ เตสํ อาหารกิจฺจํ สาเธติ. เขโฬ หิ นิรเย ทุกฺขเวทนีโย หุตฺวา ปจฺจโย โหติ, สคฺเค สุขเวทนีโย. อิติ กามภเว นิปฺปริยาเยน จตฺตาโร อาหารา, รูปารูปภเวสุ เปตฺวา อสฺภวํ เสสานํ ตโย ¶ , อสฺานฺเจว อวเสสานฺจ ปจฺจยาหาโรติ อิมินา อาหาเรน สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา.
สพฺเพ สตฺตาติ จ ปุคฺคลาธิฏฺานา ธมฺมเทสนา, สพฺเพ สงฺขาราติ อธิปฺปาโย. ภควโตปิ หิ ธมฺมปุคฺคลานํ วเสน จตุพฺพิธา เทสนา – ธมฺมาธิฏฺานา ธมฺมเทสนา, ธมฺมาธิฏฺานา ปุคฺคลเทสนา, ปุคฺคลาธิฏฺานา ปุคฺคลเทสนา, ปุคฺคลาธิฏฺานา ธมฺมเทสนาติ. ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกธมฺมมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํ ภาวิตํ กมฺมนิยํ โหติ, ยถยิทํ จิตฺตํ. จิตฺตํ, ภิกฺขเว, ภาวิตํ กมฺมนิยํ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๒) เอวรูปี ธมฺมาธิฏฺานา ธมฺมเทสนา. ‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส ยํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล กฺจิ สงฺขารํ นิจฺจโต อุปคจฺเฉยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๖๘) เอวรูปี ธมฺมาธิฏฺานา ปุคฺคลเทสนา. ‘‘เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว, โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๑๗๐, ๓๐๙), เอวรูปี ปุคฺคลาธิฏฺานา ปุคฺคลเทสนา. ‘‘เอกปุคฺคลสฺส ภิกฺขเว, ปาตุภาวา มหโต จกฺขุสฺส ปาตุภาโว โหตี’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๗๕-๑๘๖) เอวรูปี ปุคฺคลาธิฏฺานา ธมฺมเทสนา. ตาสุ อิธ ปุคฺคลาธิฏฺานา ธมฺมเทสนา ¶ . อุปริ ยาว ทสกา ธมฺมานํเยว คหิตตฺตา สตฺตคฺคหเณน ธมฺมคฺคหณํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ, วิเสเสน วา สตฺตสนฺตานปริยาปนฺนธมฺมานํเยว อธิเกน าเณน สภาวโต อุปปริกฺขิตพฺพตฺตา สตฺตคฺคหณํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ, สงฺขาเร อุปาทาย สตฺโตติ ปฺตฺติมตฺตสมฺภวโต วา ผโลปจาเรน สงฺขารา ‘‘สตฺตา’’ติ ¶ วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. น หิ โกจิ สตฺโต ปจฺจยฏฺิติโก อตฺถิ อฺตฺร สงฺขาเรหิ, โวหารวเสน ปน เอวํ วุจฺจติ. เอวเมเตน าตปริฺา วุตฺตา โหติ.
ทฺเว ธาตุโยติ สงฺขตา จ ธาตุ อสงฺขตา จ ธาตุ. ตตฺถ อเนเกหิ ปจฺจเยหิ สงฺคมฺม กตา ปฺจกฺขนฺธา สงฺขตา ธาตุ, เกหิจิ ปจฺจเยหิ อกตํ นิพฺพานํ อสงฺขตา ธาตุ.
ติสฺโส ธาตุโยติ กามธาตุ รูปธาตุ อรูปธาตุ (วิภ. ๑๘๑-๑๘๒). ตตฺถ กตมา กามธาตุ? เหฏฺโต อวีจินิรยํ ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต ปรนิมฺมิตวสวตฺตี เทเว อนฺโตกริตฺวา ¶ ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร เอตฺถาวจรา เอตฺถ ปริยาปนฺนา ขนฺธา ธาตู อายตนา รูปา เวทนา สฺา สงฺขารา วิฺาณํ. อยํ วุจฺจติ กามธาตุ (วิภ. ๑๘๒; ธ. ส. ๑๒๘๗). ตตฺถ กตมา รูปธาตุ? เหฏฺโต พฺรหฺมโลกํ ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต อกนิฏฺเ เทเว อนฺโตกริตฺวา ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร เอตฺถาวจรา เอตฺถ ปริยาปนฺนา สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา ทิฏฺธมฺมสุขวิหาริสฺส วา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา. อยํ วุจฺจติ รูปธาตุ. ตตฺถ กตมา อรูปธาตุ? เหฏฺโต อากาสานฺจายตนูปเค เทเว ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต เนวสฺานาสฺายตนูปเค เทเว อนฺโตกริตฺวา ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร เอตฺถาวจรา เอตฺถ ปริยาปนฺนา สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา ทิฏฺธมฺมสุขวิหาริสฺส วา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา. อยํ วุจฺจติ อรูปธาตุ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘กามธาตูติ กามภโว ปฺจกฺขนฺธา ลพฺภนฺติ, รูปธาตูติ รูปภโว ปฺจกฺขนฺธา ลพฺภนฺติ. อรูปธาตูติ อรูปภโว จตฺตาโร ขนฺธา ลพฺภนฺตี’’ติ วุตฺตํ. อยํ ทสุตฺตรปริยาเยน โยชนา.
สงฺคีติปริยาเยน ปน ‘‘ติสฺโส กุสลธาตุโย – เนกฺขมฺมธาตุ อพฺยาปาทธาตุ อวิหึสาธาตุ. อปราปิ ติสฺโส ธาตุโย – รูปธาตุ อรูปธาตุ นิโรธธาตุ. อปราปิ ติสฺโส ธาตุโย – หีนา ธาตุ มชฺฌิมา ธาตุ ¶ ปณีตา ธาตู’’ติ (ที. นิ. ๑.๓.๓๐๕) วุตฺตา ธาตุโยปิ เอตฺถ ยุชฺชนฺติ (วิภ. ๑๘๑-๑๘๒). เนกฺขมฺมปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก วิตกฺโก…เป… สมฺมาสงฺกปฺโป. อยํ วุจฺจติ เนกฺขมฺมธาตุ. สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา เนกฺขมฺมธาตุ. อพฺยาปาทปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก วิตกฺโก…เป… สมฺมาสงฺกปฺโป อพฺยาปาทธาตุ. ยา สตฺเตสุ เมตฺติ เมตฺตายนา เมตฺตายิตตฺตํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ. อยํ วุจฺจติ อพฺยาปาทธาตุ. อวิหึสาปฏิสํยุตฺโต ตกฺโก วิตกฺโก…เป… สมฺมาสงฺกปฺโป อวิหึสาธาตุ. ยา สตฺเตสุ กรุณา กรุณายนา กรุณายิตตฺตํ กรุณาเจโตวิมุตฺติ. อยํ วุจฺจติ อวิหึสาธาตุ (วิภ. ๑๘๒). รูปารูปธาตุโย วุตฺตาเยว. นิโรธธาตุ นิพฺพานํ. หีนา ธาตุ ทฺวาทสากุสลจิตฺตุปฺปาทา, มชฺฌิมา ¶ ธาตุ อวเสสา เตภูมกธมฺมา. ปณีตา ธาตุ นว โลกุตฺตรธมฺมา. สพฺพาปิ จ นิชฺชีวฏฺเน ธาตุ.
จตฺตาริ อริยสจฺจานีติ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ, ทุกฺขสมุทยํ อริยสจฺจํ, ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ, ทุกฺขนิโรธคามินี ¶ ปฏิปทา อริยสจฺจํ. อิเมสํ วณฺณนา สจฺจวิสฺสชฺชเนสุเยว ภวิสฺสติ.
ปฺจ วิมุตฺตายตนานีติ อตฺตโน หิตตฺถาย ปเรหิ ปวตฺติตธมฺมเทสนาสวนํ, ปเรสํ หิตตฺถาย อตฺตโน ยถาสุตธมฺมเทสนา, ยถาสุตสฺส ธมฺมสฺส สชฺฌายกรณํ, ยถาสุตสฺส ธมฺมสฺส เจตสา อนุวิตกฺกนํ, กสิณาสุภาทีสุ อนุกูลํ อารมฺมณนฺติ, อิมานิ ปฺจ วิมุจฺจนการณานิ. ยถาห –
‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อฺตโร วา ครุฏฺานิโย สพฺรหฺมจารี, ยถา ยถา โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อฺตโร วา ครุฏฺานิโย สพฺรหฺมจารี, ตถา ตถา โส ตสฺมึ ธมฺเม อตฺถปฏิสํเวที จ โหติ ธมฺมปฏิสํเวที จ, ตสฺส อตฺถปฏิสํเวทิโน ธมฺมปฏิสํเวทิโน ปาโมชฺชํ ชายติ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ, อิทํ ปมํ วิมุตฺตายตนํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน น เหว โข สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อฺตโร วา ครุฏฺานิโย สพฺรหฺมจารี, อปิ จ โข ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ. ยถา ยถา โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน…เป… สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อิทํ ทุติยํ วิมุตฺตายตนํ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน นเหว โข สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อฺตโร วา ครุฏฺานิโย สพฺรหฺมจารี, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ, อปิ จ โข ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรติ. ยถา ยถา โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน…เป… สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อิทํ ตติยํ วิมุตฺตายตนํ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน นเหว โข สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อฺตโร วา ครุฏฺานิโย ¶ สพฺรหฺมจารี, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรติ, อปิ จ โข ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตกฺเกติ อนุวิจาเรติ มนสานุเปกฺขติ. ยถา ยถา โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน…เป… สุขิโน จิตฺตํ ¶ สมาธิยติ. อิทํ จตุตฺถํ วิมุตฺตายตนํ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน นเหว โข สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อฺตโร วา ครุฏฺานิโย สพฺรหฺมจารี, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรติ, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตกฺเกติ อนุวิจาเรติ มนสานุเปกฺขติ, อปิ จ ขฺวสฺส อฺตรํ สมาธินิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ โหติ สุมนสิกตํ สูปธาริตํ สุปฺปฏิวิทฺธํ ปฺาย, ยถา ยถา โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อฺตรํ สมาธินิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ โหติ สุมนสิกตํ สูปธาริตํ สุปฺปฏิวิทฺธํ ปฺาย ตถา ตถา โส ตสฺมึ ธมฺเม อตฺถปฏิสํเวที จ โหติ ธมฺมปฏิสํเวที จ. ตสฺส อตฺถปฏิสํเวทิโน ธมฺมปฏิสํเวทิโน ปาโมชฺชํ ชายติ ¶ , ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ. อิทํ ปฺจมํ วิมุตฺตายตน’’นฺติ (อ. นิ. ๕.๒๖; ที. นิ. ๓.๓๒๒).
ฉ อนุตฺตริยานีติ เอตฺถ นตฺถิ เอเตสํ อุตฺตรนฺติ อนุตฺตรานิ, อนุตฺตรานิ เอว อนุตฺตริยานิ, เชฏฺกานีติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –
‘‘ฉยิมานิ (อ. นิ. ๖.๘, ๓๐), ภิกฺขเว, อนุตฺตริยานิ. กตมานิ ฉ? ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ, สิกฺขานุตฺตริยํ, ปาริจริยานุตฺตริยํ, อนุสฺสตานุตฺตริยนฺติ.
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, ทสฺสนานุตฺตริยํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ หตฺถิรตนมฺปิ ทสฺสนาย คจฺฉติ, อสฺสรตนมฺปิ ทสฺสนาย คจฺฉติ, มณิรตนมฺปิ ทสฺสนาย คจฺฉติ, อุจฺจาวจํ วา ปน ทสฺสนาย คจฺฉติ, สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา มิจฺฉาทิฏฺิกํ มิจฺฉาปฏิปนฺนํ ทสฺสนาย คจฺฉติ. อตฺเถตํ, ภิกฺขเว, ทสฺสนํ, เนตํ นตฺถีติ วทามิ. ตฺจ โข เอตํ, ภิกฺขเว, ทสฺสนํ หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ น นิพฺพิทาย ¶ น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา ทสฺสนาย คจฺฉติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, ทสฺสนานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ ¶ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา ทสฺสนาย คจฺฉติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทสฺสนานุตฺตริยํ. อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ.
‘‘สวนานุตฺตริยฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ เภริสทฺทมฺปิ สวนาย คจฺฉติ, วีณาสทฺทมฺปิ สวนาย คจฺฉติ, คีตสทฺทมฺปิ สวนาย คจฺฉติ, อุจฺจาวจํ วา ปน สวนาย คจฺฉติ, สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส มิจฺฉาปฏิปนฺนสฺส ธมฺมสฺสวนาย คจฺฉติ. อตฺเถตํ, ภิกฺขเว, สวนํ, เนตํ นตฺถีติ วทามิ ¶ . ตฺจ โข เอตํ, ภิกฺขเว, สวนํ หีนํ…เป… น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส วา ตถาคตสาวกสฺส วา ธมฺมสฺสวนาย คจฺฉติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, สวนานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา…เป… นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตสฺส วา ตถาคตสาวกสฺส วา ธมฺมสฺสวนาย คจฺฉติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สวนานุตฺตริยํ. อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ.
‘‘ลาภานุตฺตริยฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุตฺตลาภมฺปิ ลภติ, ทารลาภมฺปิ ลภติ, ธนลาภมฺปิ ลภติ, อุจฺจาวจํ วา ปน ลาภมฺปิ ลภติ. สมเณ วา พฺราหฺมเณ วา มิจฺฉาทิฏฺิเก มิจฺฉาปฏิปนฺเน สทฺธํ ปฏิลภติ. อตฺเถโส, ภิกฺขเว, ลาโภ, เนโส นตฺถีติ วทามิ. โส จ โข เอโส, ภิกฺขเว, ลาโภ หีโน…เป… น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคเต วา ตถาคตสาวเก วา สทฺธํ ปฏิลภติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, ลาภานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา…เป… นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคเต วา ตถาคตสาวเก วา สทฺธํ ปฏิลภติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ลาภานุตฺตริยํ ¶ . อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ.
‘‘สิกฺขานุตฺตริยฺจ ¶ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ หตฺถิสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, อสฺสสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, รถสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, ธนุสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, ถรุสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, อุจฺจาวจํ วา ปน สิกฺขติ, สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส มิจฺฉาปฏิปนฺนสฺส สิกฺขติ. อตฺเถสา, ภิกฺขเว, สิกฺขา, เนสา นตฺถีติ วทามิ. สา จ โข เอสา, ภิกฺขเว, สิกฺขา หีนา…เป… น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อธิสีลมฺปิ สิกฺขติ, อธิจิตฺตมฺปิ สิกฺขติ, อธิปฺมฺปิ สิกฺขติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว ¶ , สิกฺขานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา…เป… นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อธิสีลมฺปิ สิกฺขติ, อธิจิตฺตมฺปิ สิกฺขติ, อธิปฺมฺปิ สิกฺขติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สิกฺขานุตฺตริยํ. อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ, สิกฺขานุตฺตริยํ.
‘‘ปาริจริยานุตฺตริยฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ขตฺติยมฺปิ ปริจรติ, พฺราหฺมณมฺปิ ปริจรติ, คหปติมฺปิ ปริจรติ, อุจฺจาวจํ วา ปน ปริจรติ, สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา มิจฺฉาทิฏฺิกํ มิจฺฉาปฏิปนฺนํ ปริจรติ. อตฺเถสา, ภิกฺขเว, ปาริจริยา, เนสา นตฺถีติ วทามิ. สา จ โข เอสา, ภิกฺขเว, ปาริจริยา หีนา…เป… น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา ปริจรติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, ปาริจริยานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา…เป… นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา ปริจรติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปาริจริยานุตฺตริยํ. อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ, สิกฺขานุตฺตริยํ, ปาริจริยานุตฺตริยํ.
‘‘อนุสฺสตานุตฺตริยฺจ ¶ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุตฺตลาภมฺปิ อนุสฺสรติ, ทารลาภมฺปิ อนุสฺสรติ, ธนลาภมฺปิ อนุสฺสรติ, อุจฺจาวจํ วา ปน อนุสฺสรติ, สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา มิจฺฉาทิฏฺิกํ มิจฺฉาปฏิปนฺนํ อนุสฺสรติ. อตฺเถสา, ภิกฺขเว, อนุสฺสติ, เนสา นตฺถีติ วทามิ. สา จ โข เอสา, ภิกฺขเว, อนุสฺสติ หีนา…เป… น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตํ วา ¶ ตถาคตสาวกํ วา อนุสฺสรติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, อนุสฺสตีนํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา…เป… นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา อนุสฺสรติ นิวิฏฺสทฺโธ นิวิฏฺเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสนฺโน. อิทํ ¶ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนุสฺสตานุตฺตริยํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ฉ อนุตฺตริยานี’’ติ (อ. นิ. ๖.๓๐).
สตฺต นิทฺทสวตฺถูนีติ เอตฺถ นตฺถิ เอตสฺส ทสาติ นิทฺทโส. นิทฺทสสฺส นิทฺทสภาวสฺส วตฺถูนิ การณานิ นิทฺทสวตฺถูนิ. ขีณาสโว หิ ทสวสฺสกาเล ปรินิพฺพุโต ปุน ปฏิสนฺธิยา อภาวา ปุน ทสวสฺโส น โหตีติ นิทฺทโสติ วุจฺจติ. น เกวลฺจ ทสวสฺโสว น โหติ, นววสฺโสปิ…เป… เอกมุหุตฺติโกปิ น โหติเยว. น เกวลฺจ ทสวสฺสกาเล ปรินิพฺพุโต, สตฺตวสฺสิกกาเล ปรินิพฺพุโตปิ นิสฺสตฺโต นิทฺทโส นิมุหุตฺโต โหติเยว. ติตฺถิยสมเย อุปฺปนฺนโวหารํ ปน สาสเน ขีณาสวสฺส อาโรเปตฺวา ตตฺถ ตาทิสสฺส อภาวํ, อิธ จ สพฺภาวํ ทสฺเสนฺโต ภควา ตาทิสสภาวสฺส การณานิ ‘‘สตฺต นิทฺทสวตฺถูนี’’ติ อาห. ยถาห –
‘‘สตฺติมานิ, ภิกฺขเว, นิทฺทสวตฺถูนิ. กตมานิ สตฺต? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สิกฺขาสมาทาเน ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ, อายติฺจ สิกฺขาสมาทาเน อวิคตเปโม. ธมฺมนิสนฺติยา ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ, อายติฺจ ธมฺมนิสนฺติยา อวิคตเปโม. อิจฺฉาวินเย ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ, อายติฺจ อิจฺฉาวินเย อวิคตเปโม. ปฏิสลฺลาเน ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ, อายติฺจ ปฏิสลฺลาเน อวิคตเปโม. วีริยารมฺเภ ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ, อายติฺจ วีริยารมฺเภ อวิคตเปโม ¶ . สติเนปกฺเก ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ, อายติฺจ สติเนปกฺเก อวิคตเปโม. ทิฏฺิปฏิเวเธ ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ, อายติฺจ ทิฏฺิปฏิเวเธ อวิคตเปโม. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, สตฺต นิทฺทสวตฺถูนี’’ติ (อ. นิ. ๗.๒๐).
เถโรปิ ตเถว เทสนํ อุทฺธริตฺวา ‘‘สตฺต นิทฺทสวตฺถูนี’’ติ อาห.
อฏฺ อภิภายตนานีติ เอตฺถ อภิภุยฺยมานานิ อายตนานิ เอเตสํ ฌานานนฺติ อภิภายตนานิ, ฌานานิ. อายตนานีติ อธิฏฺานฏฺเน อายตนสงฺขาตานิ กสิณารมฺมณานิ. าณุตฺตริโก หิ ปุคฺคโล วิสทาโณ ¶ ‘‘กึ เอตฺถ อารมฺมเณ สมาปชฺชิตพฺพํ. น มยฺหํ จิตฺเตกคฺคตากรเณ ภาโร อตฺถี’’ติ, ตานิ อารมฺมณานิ อภิภวิตฺวา สมาปชฺชติ, สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนเวตฺถ ¶ อปฺปนํ นิพฺพตฺเตตีติ อตฺโถ. เอวํ อุปฺปาทิตานิ ฌานานิ ‘‘อภิภายตนานี’’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘กตมานิ (อ. นิ. ๘.๖๕) อฏฺ? อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ ปมํ อภิภายตนํ.
‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ ทุติยํ อภิภายตนํ.
‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ ตติยํ อภิภายตนํ.
‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ จตุตฺถํ อภิภายตนํ.
‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ นีลานิ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม อุมาปุปฺผํ นีลํ นีลวณฺณํ นีลนิทสฺสนํ นีลนิภาสํ, เสยฺยถาปิ วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ นีลํ นีลวณฺณํ นีลนิทสฺสนํ นีลนิภาสํ, เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ นีลานิ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ ปฺจมํ อภิภายตนํ.
‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปีตานิ ปีตวณฺณานิ ปีตนิทสฺสนานิ ปีตนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม กณิการปุปฺผํ ปีตํ ปีตวณฺณํ ปีตนิทสฺสนํ ¶ ปีตนิภาสํ, เสยฺยถาปิ วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ ¶ ปีตํ ¶ ปีตวณฺณํ ปีตนิทสฺสนํ ปีตนิภาสํ, เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปีตานิ ปีตวณฺณานิ ปีตนิทสฺสนานิ ปีตนิภาสานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ ฉฏฺํ อภิภายตนํ.
‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โลหิตกานิ โลหิตกวณฺณานิ โลหิตกนิทสฺสนานิ โลหิตกนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม พนฺธุชีวกปุปฺผํ โลหิตกํ โลหิตกวณฺณํ โลหิตกนิทสฺสนํ โลหิตกนิภาสํ, เสยฺยถาปิ วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ โลหิตกํ โลหิตกวณฺณํ โลหิตกนิทสฺสนํ โลหิตกนิภาสํ, เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โลหิตกานิ โลหิตกวณฺณานิ โลหิตกนิทสฺสนานิ โลหิตกนิภาสานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ สตฺตมํ อภิภายตนํ.
‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม โอสธิตารกา โอทาตา โอทาตวณฺณา โอทาตนิทสฺสนา โอทาตนิภาสา, เสยฺยถาปิ วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ โอทาตํ โอทาตวณฺณํ โอทาตนิทสฺสนํ โอทาตนิภาสํ, เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิ, ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ อฏฺมํ อภิภายตนํ. อิมานิ อฏฺ อภิภายตนานิ (อ. นิ. ๘.๖๕; ที. นิ. ๓.๓๕๘).
นว อนุปุพฺพวิหาราติ ปุพฺพํ ปุพฺพํ อนุ อนุปุพฺพํ, อนุปุพฺพํ วิหริตพฺพโต สมาปชฺชิตพฺพโต วิหารา อนุปุพฺพวิหารา, อนุปฏิปาฏิยา สมาปชฺชิตพฺพวิหาราติ อตฺโถ.
‘‘กตเม ¶ นว? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ปีติยา จ ¶ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน, สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ, ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ ¶ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (อ. นิ. ๙.๓๓; ที. นิ. ๓.๓๔๓, ๓๕๙) วุตฺตา นว อนุปุพฺพวิหาราว.
ทส นิชฺชรวตฺถูนีติ มิจฺฉาทิฏฺาทีนิ นิชฺชรยนฺติ นาสยนฺตีติ นิชฺชรานิ. วตฺถูนีติ การณานิ. นิชฺชรานิ จ ตานิ วตฺถูนิ จาติ นิชฺชรวตฺถูนิ. สมฺมาทิฏฺาทีนํ เอตํ อธิวจนํ.
‘‘กตมานิ (อ. นิ. ๑๐.๑๐๖; ที. นิ. ๓.๓๖๐) ทส? สมฺมาทิฏฺิกสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฏฺิ นิชฺชิณฺณา โหติ. เย จ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ, สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.
‘‘สมฺมาสงฺกปฺปสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสงฺกปฺโป นิชฺชิณฺโณ โหติ. เย จ มิจฺฉาสงฺกปฺปปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ ¶ , เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ, สมฺมาสงฺกปฺปปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.
‘‘สมฺมาวาจสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวาจา นิชฺชิณฺณา โหติ. เย จ มิจฺฉาวาจาปจฺจยา ¶ อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ, สมฺมาวาจาปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.
‘‘สมฺมากมฺมนฺตสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉากมฺมนฺโต นิชฺชิณฺโณ โหติ. เย จ มิจฺฉากมฺมนฺตปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ, สมฺมากมฺมนฺตปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.
‘‘สมฺมาอาชีวสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาอาชีโว นิชฺชิณฺโณ โหติ. เย จ มิจฺฉาอาชีวปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต ¶ จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ, สมฺมาอาชีวปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.
‘‘สมฺมาวายามสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวายาโม นิชฺชิณฺโณ โหติ. เย จ มิจฺฉาวายามปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ, สมฺมาวายามปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.
‘‘สมฺมาสติสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสติ นิชฺชิณฺณา โหติ. เย จ มิจฺฉาสติปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ, สมฺมาสติปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.
‘‘สมฺมาสมาธิสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสมาธิ นิชฺชิณฺโณ โหติ. เย จ มิจฺฉาสมาธิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ, สมฺมาสมาธิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.
‘‘สมฺมาาณิสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาาณํ นิชฺชิณฺณํ โหติ. เย จ มิจฺฉาาณปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ, สมฺมาาณปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.
‘‘สมฺมาวิมุตฺติสฺส ¶ , ภิกฺขเว, มิจฺฉาวิมุตฺติ นิชฺชิณฺณา โหติ. เย จ มิจฺฉาวิมุตฺติปจฺจยา ¶ อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ, สมฺมาวิมุตฺติปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑๐๖; ที. นิ. ๓.๓๖๐) วุตฺตานิ ทส นิชฺชรวตฺถูนิ.
๓. สพฺพํ, ภิกฺขเว, อภิฺเยฺยนฺติอาทิ ภควตา วุตฺตํ อิธ อาหริตฺวา ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. กิฺจ-อิติ จ-กาโร ปทปูรณมตฺเต นิปาโต. จกฺขาทีนิ ตึส วิสฺสชฺชนานิ ฉสุ ทฺวาเรสุ เอเกกสฺมึ ปฺจ ปฺจ กตฺวา ทฺวารารมฺมณปวตฺติกฺกเมน นิทฺทิฏฺานิ. ตตฺถ ทุวิธํ จกฺขุ – มํสจกฺขุ ปฺาจกฺขุ จ. เตสุ พุทฺธจกฺขุ สมนฺตจกฺขุ าณจกฺขุ ทิพฺพจกฺขุ ธมฺมจกฺขูติ ปฺจวิธํ ปฺาจกฺขุ. ‘‘อทฺทสํ โข อหํ, ภิกฺขเว, พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๓; ๒.๓๓๙; มหาว. ๙) อิทํ พุทฺธจกฺขุ นาม. ‘‘สมนฺตจกฺขุ วุจฺจติ สพฺพฺุตฺาณ’’นฺติ (จูฬนิ. โธตกมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๓๒; โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕) อิทํ สมนฺตจกฺขุ นาม. ‘‘จกฺขุํ อุทปาทิ าณํ อุทปาที’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๕) อิทํ าณจกฺขุ นาม. ‘‘อทฺทสํ โข อหํ, ภิกฺขเว, ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธนา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๕) อิทํ ทิพฺพจกฺขุ นาม. ‘‘วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาที’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๙๕) อิทํ เหฏฺิมมคฺคตฺตยสงฺขาตํ าณํ ธมฺมจกฺขุ นาม.
มํสจกฺขุปิ สสมฺภารจกฺขุ ¶ , ปสาทจกฺขูติ ทุวิธํ โหติ. ยฺวายํ อกฺขิกูปเก ปติฏฺิโต เหฏฺา อกฺขิกูปกฏฺิเกน อุปริ ภมุกฏฺิเกน อุภโต อกฺขิกูเฏหิ พหิทฺธา อกฺขิปขุเมหิ ปริจฺฉินฺโน อกฺขิกูปกมชฺฌา นิกฺขนฺเตน นฺหารุสุตฺตเกน มตฺถลุงฺเค อาพทฺโธ เสตกณฺหาติกณฺหมณฺฑลวิจิตฺโต มํสปิณฺโฑ, อิทํ สสมฺภารจกฺขุ นาม. โย ปน เอตฺถ สิโต เอตฺถ ปฏิพทฺโธ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโท, อิทํ ปสาทจกฺขุ นาม. อิทมิธาธิปฺเปตํ. ตเทตํ ตสฺส สสมฺภารจกฺขุโน เสตมณฺฑลปริกฺขิตฺตสฺส กณฺหมณฺฑลสฺส มชฺเฌ อภิมุเข ิตานํ สรีรสณฺานุปฺปตฺติเทเส ทิฏฺิมณฺฑเล สตฺตสุ ปิจุปฏเลสุ อาสิตฺตเตลํ ปิจุปฏลานิ วิย สตฺต อกฺขิปฏลานิ พฺยาเปตฺวา ปมาณโต มุคฺควิทลมตฺตํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ ¶ สาธยมานํ ติฏฺติ. ตํ จกฺขตีติ จกฺขุ, รูปํ อสฺสาเทติ วิภาเวติ จาติ อตฺโถ. รูปยนฺตีติ รูปา, วณฺณวิการํ อาปชฺชมานา หทยงฺคตภาวํ ปกาเสนฺตีติ อตฺโถ. จกฺขุโต ปวตฺตํ วิฺาณํ, จกฺขุสฺส วา วิฺาณํ จกฺขุวิฺาณํ. ผุสตีติ ผสฺโส. อุปสคฺเคน ปทํ มณฺเฑตฺวา สมฺผสฺโสติ วุตฺตํ. จกฺขุโต ปวตฺโต สมฺผสฺโส จกฺขุสมฺผสฺโส. จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยาติ ¶ จกฺขุวิฺาณสมฺปยุตฺตผสฺสปจฺจยา. เวทยิตนฺติ วินฺทนํ, เวทนาติ อตฺโถ. ตเทว สุขยตีติ สุขํ, ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ สุขิตํ กโรตีติ อตฺโถ. สุฏฺุ วา ขาทติ, ขนติ จ กายจิตฺตาพาธนฺติ สุขํ. ทุกฺขยตีติ ทุกฺขํ, ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ ทุกฺขิตํ กโรตีติ อตฺโถ. น ทุกฺขํ น สุขนฺติ อทุกฺขมสุขํ. ม-กาโร ปทสนฺธิวเสน วุตฺโต. โส ปน จกฺขุสมฺผสฺโส อตฺตนา สมฺปยุตฺตาย เวทนาย สหชาต อฺมฺนิสฺสย วิปากอาหารสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน อฏฺธา ปจฺจโย โหติ, สมฺปฏิจฺฉนสมฺปยุตฺตาย อนนฺตรสมนนฺตรอนนฺตรูปนิสฺสยนตฺถิวิคตวเสนปฺจธา, สนฺตีรณาทิสมฺปยุตฺตานํ อุปนิสฺสยวเสเนว ปจฺจโย โหติ.
สุณาตีติ ¶ โสตํ. ตํ สสมฺภารโสตพิลสฺส อนฺโต ตนุตมฺพโลมาจิเต องฺคุลิเวธกสณฺาเน ปเทเส โสตวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฏฺติ. สปฺปนฺตีติ สทฺทา, อุทาหรียนฺตีติ อตฺโถ. ฆายตีติ ฆานํ. ตํ สสมฺภารฆานพิลสฺส อนฺโต อชปทสณฺาเน ปเทเส ฆานวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฏฺติ. คนฺธยนฺตีติ คนฺธา, อตฺตโน วตฺถุํ สูเจนฺตีติ อตฺโถ. ชีวิตมวฺหายตีติ ชิวฺหา, สายนฏฺเน วา ชิวฺหา. สา สสมฺภารชิวฺหาย อติอคฺคมูลปสฺสานิ วชฺเชตฺวา อุปริมตลมชฺเฌ ภินฺนอุปฺปลทลคฺคสณฺาเน ปเทเส ชิวฺหาวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานา ติฏฺติ. รสนฺติ เต สตฺตาติ รสา, อสฺสาเทนฺตีติ อตฺโถ. กุจฺฉิตานํ สาสวธมฺมานํ อาโยติ กาโย. อาโยติ อุปฺปตฺติเทโส. โส ยาวตา อิมสฺมึ กาเย อุปาทิณฺณปฺปวตฺติ นาม อตฺถิ, ตตฺถ เยภุยฺเยน กายปสาโท กายวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมาโน ติฏฺติ. ผุสียนฺตีติ โผฏฺพฺพา. มุนาตีติ มโน, วิชานาตีติ อตฺโถ. อตฺตโน ลกฺขณํ ธาเรนฺตีติ ธมฺมา ¶ . มโนติ สหาวชฺชนํ ภวงฺคํ. ธมฺมาติ ทฺวาทสปเภทา ธมฺมารมฺมณา ธมฺมา. มโนวิฺาณนฺติ ชวนมโนวิฺาณํ. มโนสมฺผสฺโสติ ตํสมฺปยุตฺโต ผสฺโส. โส สมฺปยุตฺตาย เวทนาย วิปากปจฺจยวชฺเชหิ เสเสหิ สตฺตหิ ปจฺจโย โหติ, อนนฺตราย เตเหว, เสสานํ อุปนิสฺสยวเสเนว ปจฺจโย โหติ.
รูปาทีนิ ปฺจ วิสฺสชฺชนานิ ขนฺธวเสน นิทฺทิฏฺานิ. สีตาทีหิ รุปฺปติ ปีฬียตีติ รูปํ. เวทยตีติ เวทนา. สฺชานาตีติ สฺา. สงฺขโรนฺตีติ สงฺขารา. วิชานาตีติ วิฺาณํ. จกฺขาทีนิ ธมฺมวิจารปริยนฺตานิ ทส ฉกฺกวเสน, สฏฺิ วิสฺสชฺชนานิ ปิยรูปสาตรูปวเสน นิทฺทิฏฺานิ. จกฺขุสมฺผสฺสชาทิกา เวทนา ตํตํสมฺปยุตฺตาว. รูเปสุ สฺา รูปสฺา. สฺเจตยตีติ สฺเจตนา, อภิสนฺทหตีติ อตฺโถ. ตสตีติ ตณฺหา, ปิปาสตีติ ¶ อตฺโถ. วิตกฺเกตีติ วิตกฺโก, วิตกฺกนํ วา วิตกฺโก, อูหนนฺติ วุตฺตํ โหติ. อารมฺมเณ เตน จิตฺตํ วิจรตีติ ¶ วิจาโร, วิจรณํ วา วิจาโร, อนุสฺจรณนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๔. ปถวีธาตาทีนิ ฉ วิสฺสชฺชนานิ สํขิตฺเตน นามรูปววตฺถานวเสน นิทฺทิฏฺานิ. ปตฺถฏตฺตา ปถวี. อปฺเปติ, อาปียติ, อปฺปายตีติ วา อาโป. เตชยตีติ เตโช. วายตีติ วาโย. น กสฺสติ น นิกสฺสติ, กสิตุํ ฉินฺทิตุํ ภินฺทิตุํ วา น สกฺกาติ อากาโส. นิสฺสตฺตฏฺเน ธาตุ.
ปถวีกสิณาทีนิ ทส วิสฺสชฺชนานิ กสิณภาวนาวเสน นิทฺทิฏฺานิ. กสิณนฺติ สกลผรณวเสน กสิณมณฺฑลมฺปิ ตสฺมึ อุปฏฺิตนิมิตฺตมฺปิ ตทารมฺมณํ ฌานมฺปิ วุจฺจติ. อิธ ปน ฌานํ อธิปฺเปตํ. อาทิมฺหิ จตฺตาริ มหาภูตกสิณารมฺมณานิ ฌานานิ, ตโต ปรานิ จตฺตาริ วณฺณกสิณารมฺมณานิ. อากาสกสิณนฺติ ปริจฺเฉทากาโส, ตทารมฺมณฺจ ฌานํ, กสิณุคฺฆาฏิมากาโส, ตทารมฺมณฺจ อากาสานฺจายตนํ. วิฺาณกสิณนฺติ อากาสานฺจายตนวิฺาณํ, ตทารมฺมณฺจ วิฺาณฺจายตนํ.
เกสาทีนิ ทฺวตฺตึส วิสฺสชฺชนานิ ทฺวตฺตึสาการกมฺมฏฺานวเสน นิทฺทิฏฺานิ. เตสุ ปน เกสาทีสุ ปฏิกูลโต อุปฏฺิเตสุ กายคตาสติวเสน อสุภกมฺมฏฺานํ ¶ โหติ, วณฺณโต อุปฏฺิเตสุ กสิณกมฺมฏฺานํ โหติ, ธาตุโต อุปฏฺิเตสุ จตุธาตุววตฺถานกมฺมฏฺานํ โหติ, เกสาติอาทีนิ จ ปฏิกูลโต วณฺณโต วา อุปฏฺิตานํ ตทารมฺมณานิ ฌานานิ, ธาตุโต อุปฏฺิตสฺส เต จ โกฏฺาสา ตทารมฺมณา จ ธาตุภาวนา เวทิตพฺพา.
เกสา อุโภสุ ปสฺเสสุ กณฺณจูฬิกาหิ ปุรโต นลาฏนฺเตน, ปจฺฉโต จ คลวาฏเกน ปริจฺฉินฺนา สีสกฏาหเวนจมฺเม วีหคฺคมตฺตํ ปวิสิตฺวา ิตา อเนกสตสหสฺสสงฺขา.
โลมา เปตฺวา เกสาทีนํ ปติฏฺิโตกาสํ หตฺถตลปาทตลานิ จ เยภุยฺเยน สรีรจมฺเม นวนวุติยา โลมกูปสหสฺเสสุ ลิกฺขามตฺตํ ปวิสิตฺวา ิตา.
นขา องฺคุลีนํ อคฺคปิฏฺเสุ ิตา วีสติ.
ทนฺตา ทฺวีสุ หณุกฏฺิเกสุ ิตา เยภุยฺเยน ทฺวตฺตึส.
ตโจ ¶ สกลสรีรํ ปริโยนนฺธิตฺวา ปากฏกิโลมกสฺส อุปริ ฉวิยา เหฏฺา ิตํ จมฺมํ.
มํสํ สาธิกานิ ¶ ตีณิ อฏฺิสตานิ อนุลิมฺปิตฺวา ิตานิ นวมํสเปสิสตานิ.
นฺหารู สกลสรีเร อฏฺีนิ อาพนฺธิตฺวา ิตานิ นว นฺหารุสตานิ.
อฏฺี สกลสรีเร เหฏฺา อฏฺีนํ อุปริ ิตานิ สาธิกานิ ตีณิ อฏฺิสตานิ.
อฏฺิมิฺชา เตสํ เตสํ อฏฺีนํ อพฺภนฺตเร ิตา มิฺชา.
วกฺกํ คลวาฏกา นิกฺขนฺเตน เอกมูเลน โถกํ คนฺตฺวา ทฺวิธา ภินฺเนน ถูลนฺหารุนา วินิพทฺธา หุตฺวา หทยมํสํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตา ทฺเว มํสปิณฺฑิกา.
หทยํ สรีรพฺภนฺตเร ทฺวินฺนํ ถนานํ มชฺเฌ ิตํ อนฺโต จิตฺตสนฺนิสฺสยํ อฑฺฒปสตมตฺตโลหิตปุณฺณํ ปุนฺนาคฏฺิปติฏฺานมตฺตาวาฏกํ หทยมํสํ.
ยกนํ ทฺวินฺนํ ถนานํ อพฺภนฺตเร ทกฺขิณปสฺสํ นิสฺสาย ิตํ ยมกมํสปฏลํ.
กิโลมกํ หทยวกฺกานิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ิตํ ปฏิจฺฉนฺนกิโลมกสงฺขาตฺจ สกลสรีเร จมฺมสฺส เหฏฺโต มํสํ ปริโยนนฺธิตฺวา ิตํ อปฺปฏิจฺฉนฺนกิโลมกสงฺขาตฺจาติ ทุวิธํ ปริโยนหนมํสํ.
ปิหกํ หทยสฺส วามปสฺเส อุทรปฏลสฺส มตฺถกปสฺสํ นิสฺสาย ิตํ อุทรชิวฺหามํสํ.
ปปฺผาสํ สรีรพฺภนฺตเร ทฺวินฺนํ ถนานํ อนฺตเร หทยยกนานํ อุปริ ฉาเทตฺวา โอลมฺพนฺตํ ิตํ ทฺวตฺตึสมํสขณฺฑปฺปเภทํ ปปฺผาสมํสํ.
อนฺตํ ¶ อุปริ คลวาฏเก เหฏฺา กรีสมคฺเค วินิพนฺธตฺตา คลวาฏกกรีสมคฺคปริยนฺเต สรีรพฺภนฺตเร ิตา ปุริสสฺส ทฺวตฺตึสหตฺถา อิตฺถิยา อฏฺวีสติหตฺถา เอกวีสติยา าเนสุ โอภคฺคา อนฺตวฏฺฏิ.
อนฺตคุณํ ¶ อนฺตโภเค เอกโต อคลนฺเต อาพนฺธิตฺวา เอกวีสติยา อนฺตโภคานํ อนฺตรา ิตํ พนฺธนํ.
อุทริยํ ทนฺตมุสลสฺจุณฺณิตํ ชิวฺหาหตฺถปริวตฺติตํ เขฬลาลาปลิพุทฺธํ ตํขณวิคตวณฺณคนฺธรสาทิสมฺปทํ ตนฺตวายขลิสุวานวมถุสทิสํ นิปติตฺวา ปิตฺตเสมฺหวาตปลิเวิตํ ¶ หุตฺวา อุทรคฺคิสนฺตาปเวคกุถิตํ กิมิกุลากุลํ อุปรูปริ เผณพุพฺพุฬกานิ มฺุจนฺตํ ปรมกสมฺพุกทุคฺคนฺธเชคุจฺฉภาวํ อาปชฺชิตฺวา อามาสยสงฺขาเต อุปรินาภิอนฺตปฏเล ิตํ นานปฺปการกํ อสิตปีตขายิตสายิตํ.
กรีสํ ปกฺกาสยสงฺขาเต เหฏฺา นาภิปิฏฺิกณฺฏกมูลานํ อนฺตเร อุพฺเพเธน อฏฺงฺคุลมตฺเต อนฺตาวสาเน ิตํ วจฺจํ.
ปิตฺตํ หทยมํสปปฺผาสานํ อนฺตเร ยกนมํสํ นิสฺสาย ิตํ มหาโกสาตกีโกสกสทิเส ปิตฺตโกสเก ิตํ พทฺธปิตฺตสงฺขาตฺจ, เกสโลมนขทนฺตานํ มํสวินิมุตฺตฏฺานฺเจว ถทฺธสุกฺขจมฺมฺจ เปตฺวา อวเสสํ สรีรํ พฺยาเปตฺวา ิตํ อพทฺธปิตฺตสงฺขาตฺจาติ ทุวิธํ ปิตฺตํ.
เสมฺหํ อุทรปฏเล ิตํ เอกปตฺถปูรปฺปมาณํ เสมฺหํ.
ปุพฺโพ ขาณุกณฺฏกปหรณคฺคิชาลาทีหิ อภิหเต วา สรีรปฺปเทเส อพฺภนฺตรธาตุกฺโขภวเสน วา อุปฺปนฺเนสุ คณฺฑปีฬกาทีสุ ปริปกฺกโลหิตปริณาโม. โลหิตํ ยกนสฺส เหฏฺาภาคํ ปูเรตฺวา หทยวกฺกปปฺผาสานํ อุปริ โถกํ โถกํ ปคฺฆรนฺตํ วกฺกหทยยกนปปฺผาเส เตมยมานํ ิตํ เอกปตฺถปูรมตฺตํ สนฺนิจิตโลหิตสงฺขาตฺจ, เกสโลมนขทนฺตานํ มํสวินิมุตฺตฏฺานฺเจว ถทฺธสุกฺขจมฺมฺจ เปตฺวา ธมนิชาลานุสาเรน สพฺพํ อุปาทิณฺณสรีรํ ผริตฺวา ิตํ สํสรณโลหิตสงฺขาตฺจาติ ทุวิธํ โลหิตํ.
เสโท อคฺคิสนฺตาปสูริยสนฺตาปอุตุวิการาทีหิ สนฺตตฺเต สรีเร สพฺพเกสโลมกูปวิวเรหิ ปคฺฆรณกอาโปธาตุ.
เมโท ถูลสฺส สกลสรีเร จมฺมมํสนฺตเร กิสสฺส ชงฺฆมํสาทีนิ นิสฺสาย ิโต ถินสิเนโห.
อสฺสุ ¶ โสมนสฺสโทมนสฺสวิสภาคาหารอุตูหิ สมุฏฺหิตฺวา อกฺขิกูปเก ปูเรตฺวา ติฏฺนฺตี วา ปคฺฆรนฺตี วา อาโปธาตุ.
วสา ¶ อคฺคิสนฺตาปสูริยสนฺตาปอุตุวิสภาเคหิ อุสฺมาชาเตสุ เยภุยฺเยน หตฺถตลหตฺถปิฏฺิปาทตลปาทปิฏฺินาสาปุฏนลาฏอํสกูเฏสุ ิโต วิลีนสิเนโห.
เขโฬ ¶ ตถารูปํ อาหารํ ปสฺสนฺตสฺส วา สรนฺตสฺส วา มุเข วา เปนฺตสฺส หทยํ วา อากิลายนฺตสฺส กิสฺมิฺจิเทว วา ชิคุจฺฉํ อุปฺปาเทนฺตสฺส ภิยฺโย อุปฺปชฺชิตฺวา อุโภหิ กโปลปสฺเสหิ โอรุยฺห ชิวฺหาย ติฏฺมานา เผณมิสฺสา อาโปธาตุ.
สิงฺฆาณิกา วิสภาคาหารอุตุวเสน สฺชาตธาตุกฺโขภสฺส วา โรทนฺตสฺส วา อนฺโตสีเส มตฺถลุงฺคโต คลิตฺวา ตาลุมตฺถกวิวเรน โอตริตฺวา นาสาปุเฏ ปูเรตฺวา ติฏฺนฺตํ วา ปคฺฆรนฺตํ วา ปูติ อสุจิ ปิจฺฉิลํ.
ลสิกา อฏฺิสนฺธีนํ อพฺภฺชนกิจฺจํ สาธยมานํ อสีติสตสนฺธีนํ อพฺภนฺตเร ิตํ ปิจฺฉิลกุณปํ.
มุตฺตํ อาหารอุตุวเสน วตฺถิปุฏพฺภนฺตเร ิตา อาโปธาตุ.
มตฺถลุงฺคํ สีสกฏาหพฺภนฺตเร จตฺตาโร สิพฺพินิมคฺเค นิสฺสาย ิโต จตุปิณฺฑสโมธาโน มิฺชราสิ.
จกฺขายตนาทีนิ ทฺวาทส วิสฺสชฺชนานิ ทฺวาทสายตนวเสน นิทฺทิฏฺานิ. อายตนโต, อายานํ ตนนโต, อายตสฺส จ นยนโต อายตนํ. จกฺขุรูปาทีสุ หิ ตํตํทฺวารารมฺมณา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา เสน เสน อนุภวนาทินา กิจฺเจน อายตนฺติ อุฏฺหนฺติ ฆฏนฺติ, วายมนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. เต จ ปน อายภูเต ธมฺเม เอตานิ ตโนนฺติ, วิตฺถาเรนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อิทฺจ อนมตคฺเค สํสาเร ปวตฺตํ อตีว อายตํ สํสารทุกฺขํ ยาว น นิวตฺตติ, ตาว นยนฺติ, ปวตฺตยนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
อปิจ นิวาสฏฺานฏฺเน อากรฏฺเน สโมสรณฏฺานฏฺเน สฺชาติเทสฏฺเน การณฏฺเน จ อายตนํ ¶ . ตถา หิ โลเก ‘‘อิสฺสรายตนํ วาสุเทวายตน’’นฺติอาทีสุ นิวาสฏฺานํ ‘‘อายตน’’นฺติ วุจฺจติ. ‘‘สุวณฺณายตนํ รชตายตน’’นฺติอาทีสุ อากโร. สาสเน ปน ‘‘มโนรเม อายตเน, เสวนฺติ นํ วิหงฺคมา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๕.๓๘) สโมสรณฏฺานํ. ‘‘ทกฺขิณาปโถ คุนฺนํ อายตน’’นฺติอาทีสุ สฺชาติเทโส. ‘‘ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติอายตเน’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๑๐๒; ๕.๒๓) การณํ. จกฺขุอาทีสุ จาปิ เต เต จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา นิวสนฺติ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ จกฺขาทโย เนสํ นิวาสฏฺานํ ¶ , จกฺขาทีสุ จ เต อากิณฺณา ตนฺนิสฺสยตฺตา ตทารมฺมณตฺตา จาติ จกฺขาทโย จ เนสํ อากโร, ตตฺถ ตตฺถ ¶ วตฺถุทฺวารารมฺมณวเสน สโมสรณโต จกฺขาทโย จ เนสํ สโมสรณฏฺานํ, ตํนิสฺสยารมฺมณภาเวน ตตฺเถว อุปฺปตฺติโต จกฺขาทโย จ เนสํ สฺชาติเทโส, จกฺขาทีนํ อภาเว อภาวโต จกฺขาทโย จ เนสํ การณนฺติ ยถาวุตฺเตนตฺเถน จกฺขุ จ ตํ อายตนฺจาติ จกฺขายตนํ. เอวํ เสสานิปิ.
จกฺขุธาตาทีนิ อฏฺารส วิสฺสชฺชนานิ อฏฺารสธาตุวเสน นิทฺทิฏฺานิ. จกฺขาทีสุ เอเกโก ธมฺโม ยถาสมฺภวํ วิทหติ, ธียเต, วิธานํ วิธียเต, เอตาย, เอตฺถ วา ธียตีติ ธาตุ. โลกิยา หิ ธาตุโย การณภาเวน ววตฺถิตา หุตฺวา สุวณฺณรชตาทิธาตุโย วิย สุวณฺณรชตาทึ, อเนกปฺปการํ สํสารทุกฺขํ วิทหนฺติ. ภารหาเรหิ จ ภาโร วิย สตฺเตหิ ธียนฺเต, ธารียนฺตีติ อตฺโถ. ทุกฺขวิธานมตฺตเมว เจตา อวสวตฺตนโต. เอตาหิ จ กรณภูตาหิ สํสารทุกฺขํ สตฺเตหิ อนุวิธียติ. ตถาวิหิตฺเจตํ เอตาสฺเวว ธียติ, ปียตีติ อตฺโถ. อปิจ ยถา ติตฺถิยานํ อตฺตา นาม สภาวโต นตฺถิ, น เอวเมตา. เอตา ปน อตฺตโน สภาวํ ธาเรนฺตีติ ธาตุโย. ยถา จ โลเก วิจิตฺตา หริตาลมโนสิลาทโย เสลาวยวา ธาตุโยติ วุจฺจนฺติ, เอวเมตาปิ ธาตุโย วิยาติ ธาตุโย. วิจิตฺตา เหตา าณเนยฺยาวยวาติ. ยถา วา สรีรสงฺขาตสฺส สมุทายสฺส อวยวภูเตสุ รสโสณิตาทีสุ อฺมฺวิสภาคลกฺขณปริจฺฉินฺเนสุ ธาตุสมฺา, เอวเมเวเตสุปิ ปฺจกฺขนฺธสงฺขาตสฺส อตฺตภาวสฺส อวยเวสุ ธาตุสมฺา เวทิตพฺพา. อฺมฺวิสภาคลกฺขณปริจฺฉินฺนา เหเต จกฺขาทโยติ. อปิจ ธาตูติ นิชฺชีวมตฺตสฺเสตํ อธิวจนํ. ตถา หิ ภควา ‘‘ฉธาตุโร อยํ ภิกฺขุ ปุริโส’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๓๔๓-๓๔๔) ชีวสฺาสมูหนนตฺถํ ธาตุเทสนํ อกาสีติ. ยถาวุตฺเตนตฺเถน จกฺขุ จ ตํ ธาตุ จาติ จกฺขุธาตุ. เอวํ เสสาปิ. มโนธาตูติ จ ติสฺโส มโนธาตุโย. ธมฺมธาตูติ เวทนาสฺาสงฺขารกฺขนฺธา โสฬส สุขุมรูปานิ นิพฺพานฺจ. มโนวิฺาณธาตูติ ฉสตฺตติ มโนวิฺาณธาตุโย.
จกฺขุนฺทฺริยาทีนิ ¶ ¶ พาวีสติ วิสฺสชฺชนานิ พาวีสตินฺทฺริยวเสน นิทฺทิฏฺานิ. จกฺขุเมว ทสฺสนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ ¶ กาเรตีติ จกฺขุนฺทฺริยํ. โสตเมว สวนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ โสตินฺทฺริยํ. ฆานเมว ฆายนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ ฆานินฺทฺริยํ. ชิวฺหา เอว สายนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ ชิวฺหินฺทฺริยํ. กาโย เอว ผุสนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ กายินฺทฺริยํ. มนเต อิติ มโน, วิชานาตีติ อตฺโถ. อฏฺกถาจริยา ปนาหุ – นาลิยา มินมาโน วิย มหาตุลาย ธารยมาโน วิย จ อารมฺมณํ มนติ ชานาตีติ มโน, ตเทว มนนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ มนินฺทฺริยํ.
ชีวนฺติ เตน ตํสหชาตา ธมฺมาติ ชีวิตํ, ตเทว อนุปาลนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ ชีวิตินฺทฺริยํ. ตํ รูปชีวิตินฺทฺริยํ อรูปชีวิตินฺทฺริยนฺติ ทุวิธํ. สพฺพกมฺมชรูปสหชํ สหชรูปานุปาลนํ รูปชีวิตินฺทฺริยํ, สพฺพจิตฺตสหชํ สหชอรูปานุปาลนํ อรูปชีวิตินฺทฺริยํ.
ถียติ สงฺฆาตํ คจฺฉติ เอติสฺสา คพฺโภติ อิตฺถี, อิตฺถิลิงฺคาทีสุ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, นิยมโต อิตฺถิยา เอว อินฺทฺริยํ อิตฺถินฺทฺริยํ.
ปุํ-วุจฺจติ นิรโย, ปุํ สงฺขาเต นิรเย ริสียติ หึสียตีติ ปุริโส, ปุริสลิงฺคาทีสุ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, นิยมโต ปุริสสฺเสว อินฺทฺริยํ ปุริสินฺทฺริยํ. ทฺวีสุเปเตสุ เอเกกํ สภาวกสฺส เอเกกสฺส กมฺมชรูปสหชํ โหติ.
กุสลวิปากกายวิฺาณสมฺปยุตฺตํ สุขํ, กายิกสาตลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, สุขเมว อินฺทฺริยํ สุขินฺทฺริยํ.
อกุสลวิปากกายวิฺาณสมฺปยุตฺตํ ทุกฺขํ, กายิกอสาตลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, ทุกฺขเมว อินฺทฺริยํ ทุกฺขินฺทฺริยํ.
ปีติโสมนสฺสโยคโต โสภนํ มโน อสฺสาติ สุมโน, สุมนสฺส ภาโว โสมนสฺสํ, เจตสิกสาตลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, โสมนสฺสเมว อินฺทฺริยํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ.
โทมนสฺสโยคโต ทุฏฺุ มโน อสฺสาติ, หีนเวทนตฺตา วา กุจฺฉิตํ มโน อสฺสาติ ทุมฺมโน, ทุมฺมนสฺส ภาโว โทมนสฺสํ, เจตสิกอสาตลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, โทมนสฺสเมว ¶ อินฺทฺริยํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ. สุขทุกฺขาการปวตฺตึ อุเปกฺขติ มชฺฌตฺตาการสณฺิตตฺตา เตนากาเรน ปวตฺตตีติ อุเปกฺขา, มชฺฌตฺตลกฺขเณ ¶ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, อุเปกฺขา เอว อินฺทฺริยํ อุเปกฺขินฺทฺริยํ.
สทฺทหนฺติ ¶ เอตาย, สยํ วา สทฺทหติ, สทฺทหนมตฺตเมว วา เอสาติ สทฺธา, อสฺสทฺธิยสฺส อภิภวนโต อธิปติอตฺเถน อินฺทฺริยํ, อธิโมกฺขลกฺขเณ วา อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, สทฺธาเยว อินฺทฺริยํ สทฺธินฺทฺริยํ.
วีรภาโว วีริยํ, วีรานํ วา กมฺมํ, วิธินา วา นเยน อีรยิตพฺพํ ปวตฺตยิตพฺพนฺติ วีริยํ, โกสชฺชสฺส อภิภวนโต อธิปติอตฺเถน อินฺทฺริยํ, ปคฺคหณลกฺขเณ วา อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, วีริยเมว อินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ.
สรนฺติ ตาย, สยํ วา สรติ, สรณมตฺตเมว วา เอสาติ สติ, มุฏฺสจฺจสฺส อภิภวนโต อธิปติอตฺเถน อินฺทฺริยํ, อุปฏฺานลกฺขเณ วา อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, สติ เอว อินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ.
อารมฺมเณ จิตฺตํ สมฺมา อาธิยติ เปตีติ สมาธิ, วิกฺเขปสฺส อภิภวนโต อธิปติอตฺเถน อินฺทฺริยํ, อวิกฺเขปลกฺขเณ วา อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, สมาธิ เอว อินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ.
‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติอาทินา นเยน อริยสจฺจานิ ปชานาตีติ ปฺา. อฏฺกถายํ ปน ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตาติ ปฺาปนวเสน ปฺา’’ติ วุตฺตํ. อวิชฺชาย อภิภวนโต อธิปติอตฺเถน อินฺทฺริยํ, ทสฺสนลกฺขเณ วา อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, ปฺา เอว อินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ.
อนมตคฺเค สํสารวฏฺเฏ อนฺาตํ อมตํ ปทํ จตุสจฺจธมฺมเมว วา ชานิสฺสามีติ ปฏิปนฺนสฺส อุปฺปชฺชนโต อินฺทฺริยฏฺสมฺภวโต จ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ. โสตาปตฺติมคฺคาณสฺเสตํ นามํ.
ปมมคฺเคน าตํ มริยาทํ อนติกฺกมิตฺวา เตสํเยว เตน มคฺเคน าตานํ จตุสจฺจธมฺมานเมว ¶ ชานนโต อินฺทฺริยฏฺสมฺภวโต จ อาชานนกํ อินฺทฺริยํ อฺินฺทฺริยํ. โสตาปตฺติผลาทีสุ ฉสุ าเนสุ าณสฺเสตํ นามํ.
อฺาตาวิโน จตุสจฺเจสุ นิฏฺิตาณกิจฺจสฺส ขีณาสวสฺส อุปฺปชฺชนโต อินฺทฺริยฏฺสมฺภวโต จ อฺาตาวินฺทฺริยํ, อฺาตาวีนํ วา จตูสุ สจฺเจสุ นิฏฺิตกิจฺจานํ จตฺตาริ สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิตานํ ธมฺมานํ อพฺภนฺตเร อินฺทฏฺสาธเนน อฺาตาวินฺทฺริยํ. อรหตฺตผลาณสฺเสตํ นามํ. สพฺพานิเปตานิ ¶ ยถาโยคํ อินฺทลิงฺคฏฺเน อินฺทเทสิตฏฺเน อินฺททิฏฺฏฺเน อินฺทสิฏฺฏฺเน อินฺทชุฏฺฏฺเน จ อินฺทฺริยานิ. ภควา หิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปรมิสฺสริยภาวโต อินฺโท, กุสลากุสลฺจ กมฺมํ กมฺเมสุ กสฺสจิ อิสฺสริยาภาวโต. เตเนเวตฺถ กมฺมชนิตานิ อินฺทฺริยานิ กุสลากุสลกมฺมํ อุลฺลิงฺเคนฺติ ¶ , เตน จ สิฏฺานีติ อินฺทลิงฺคฏฺเน อินฺทสิฏฺฏฺเน จ อินฺทฺริยานิ. สพฺพาเนว ปเนตานิ ภควตา มุนินฺเทน ยถาภูตโต ปกาสิตานิ อภิสมฺพุทฺธานิ จาติ อินฺทเทสิตฏฺเน อินฺททิฏฺฏฺเน จ อินฺทฺริยานิ. เตเนว จ ภควตา มุนินฺเทน กานิจิ โคจราเสวนาย, กานิจิ ภาวนาเสวนาย เสวิตานีติ อินฺทชุฏฺฏฺเนปิ อินฺทฺริยานิ. อปิ จ อาธิปจฺจสงฺขาเตน อิสฺสริยฏฺเนปิ เอตานิ อินฺทฺริยานิ. จกฺขุวิฺาณาทิปวตฺติยฺหิ จกฺขาทีนํ สิทฺธมาธิปจฺจํ ตสฺมึ ติกฺเข ติกฺขตฺตา มนฺเท จ มนฺทตฺตาติ.
กามธาตุอาทีนิ ทฺวาทส วิสฺสชฺชนานิ ภวปฺปเภทวเสน นิทฺทิฏฺานิ. กามราคสงฺขาเตน กาเมน ยุตฺตา ธาตุ กามธาตุ, กามสงฺขาตา วา ธาตุ กามธาตุ.
กามํ ปหาย รูเปน ยุตฺตา ธาตุ รูปธาตุ, รูปสงฺขาตา วา ธาตุ รูปธาตุ.
กามฺจ รูปฺจ ปหาย อรูเปน ยุตฺตา ธาตุ อรูปธาตุ, อรูปสงฺขาตา วา ธาตุ อรูปธาตุ.
ตา เอว ธาตุโย ปุน ภวปริยาเยน วุตฺตา. ภวตีติ หิ ภโวติ วุจฺจติ. สฺาย ยุตฺโต ภโว สฺาภโว, สฺาสหคโต วา ภโว สฺาภโว, สฺา วา เอตฺถ ภเว อตฺถีติ สฺาภโว. โส กามภโว จ อสฺาภวมุตฺโต รูปภโว จ เนวสฺานาสฺาภวมุตฺโต อรูปภโว จ โหติ.
น สฺาภโว อสฺาภโว, โส รูปภเวกเทโส.
โอฬาริกตฺตาภาวโต ¶ เนวสฺา, สุขุมตฺเตน สมฺภวโต นาสฺาติ เนวสฺานาสฺา, ตาย ยุตฺโต ภโว เนวสฺานาสฺาภโว. อถ วา โอฬาริกาย สฺาย อภาวา, สุขุมาย จ ภาวา เนวสฺานาสฺา อสฺมึ ภเวติ เนวสฺานาสฺาภโว, โส อรูปภเวกเทโส.
เอเกน รูปกฺขนฺเธน โวกิณฺโณ ภโว เอเกน โวกาโร อสฺส ภวสฺสาติ เอกโวการภโว, โส อสฺภโวว.
จตูหิ อรูปกฺขนฺเธหิ โวกิณฺโณ ภโว จตูหิ โวกาโร อสฺส ภวสฺสาติ จตุโวการภโว ¶ , โส อรูปภโว เอว.
ปฺจหิ ขนฺเธหิ โวกิณฺโณ ภโว ปฺจหิ โวกาโร อสฺส ภวสฺสาติ ปฺจโวการภโว, โส กามภโว จ รูปภเวกเทโส จ โหติ.
๖. ปมชฺฌานาทีนิ ทฺวาทส วิสฺสชฺชนานิ ฌานสมาปตฺติวเสน นิทฺทิฏฺานิ. ฌานนฺติ อิธ พฺรหฺมวิหารมตฺตํ อธิปฺเปตํ. วิตกฺกวิจารปีติสุขจิตฺเตกคฺคตาสมฺปยุตฺตํ ปมํ ฌานํ. ปีติสุขจิตฺเตกคฺคตาสมฺปยุตฺตํ ทุติยํ ฌานํ. สุขจิตฺเตกคฺคตาสมฺปยุตฺตํ ¶ ตติยํ ฌานํ. อุเปกฺขาจิตฺเตกคฺคตาสมฺปยุตฺตํ จตุตฺถํ ฌานํ.
เมทติ เมชฺชตีติ เมตฺตา, สินิยฺหตีติ อตฺโถ. มิตฺเต วา ภวา, มิตฺตสฺส วา เอสา ปวตฺตีติ เมตฺตา, ปจฺจนีกธมฺเมหิ มุตฺตตฺตา อารมฺมเณ จาธิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติ, เจตโส วิมุตฺติ เจโตวิมุตฺติ, เมตฺตา เอว เจโตวิมุตฺติ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ.
กรุณา วุตฺตตฺถา เอว.
โมทนฺติ ตาย ตํสมงฺคิโน, สยํ วา โมทติ, โมทนมตฺตเมว วา ตนฺติ มุทิตา. ‘‘อเวรา โหนฺตู’’ติอาทิพฺยาปารปฺปหาเนน มชฺฌตฺตภาวูปคมเนน จ อุเปกฺขตีติ อุเปกฺขา. เมตฺตาทโย ตโย พฺรหฺมวิหารา ปมาทีหิ ตีหิ ฌาเนหิ ยุตฺตา. อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหาโร จตุตฺถชฺฌาเนน ยุตฺโต.
ผรณวเสน นตฺถิ เอตสฺส อนฺโตติ อนนฺโต. อากาโส อนนฺโต อากาสานนฺโต, กสิณุคฺฆาฏิมากาโส ¶ . อากาสานนฺโตเยว อากาสานฺจํ, ตํ อากาสานฺจํ อธิฏฺานฏฺเน อายตนมสฺส สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ฌานสฺส ‘‘เทวานํ เทวายตนมิวา’’ติ อากาสานฺจายตนํ. อากาสานฺจายตนเมว สมาปตฺติ อากาสานฺจายตนสมาปตฺติ. ผรณวเสน จ นตฺถิ เอตสฺส อนฺโตติ อนนฺตํ, ตํ อากาสารมฺมณํ วิฺาณํ. อนนฺตเมว อานฺจํ, วิฺาณํ อานฺจํ ‘‘วิฺาณานฺจ’’นฺติ อวตฺวา ‘‘วิฺาณฺจ’’นฺติ วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ รุฬฺหิสทฺโท. ตํ วิฺาณฺจํ อธิฏฺานฏฺเน อายตนมสฺส สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ฌานสฺส ‘‘เทวานํ เทวายตนมิวา’’ติ วิฺาณฺจายตนํ. นตฺถิ เอตสฺส กิฺจนนฺติ อกิฺจนํ, อนฺตมโส ภงฺคมตฺตมฺปิ อสฺส อวสิฏฺํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. อกิฺจนสฺส ภาโว อากิฺจฺํ. อากาสานฺจายตนวิฺาณาภาวสฺเสตํ อธิวจนํ. ตํ อากิฺจฺํ. อธิฏฺานฏฺเน อายตนมสฺส สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ¶ ฌานสฺส ‘‘เทวานํ เทวายตนมิวา’’ติ อากิฺจฺายตนํ. โอฬาริกาย สฺาย อภาวโต, สุขุมาย จ ภาวโต เนวสฺส สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ฌานสฺส สฺา นาสฺาติ เนวสฺานาสฺํ. เนวสฺานาสฺฺจ ตํ มนายตนธมฺมายตนปริยาปนฺนตฺตา อายตนฺจาติ เนวสฺานาสฺายตนํ. อถ วา ยายเมตฺถ สฺา สา ปฏุสฺากิจฺจํ กาตุํ อสมตฺถตาย เนวสฺา, สงฺขาราวเสสสุขุมภาเวน วิชฺชมานตฺตา นาสฺาติ เนวสฺานาสฺา, เนวสฺานาสฺา จ สา เสสธมฺมานํ อธิฏฺานฏฺเน อายตนฺจาติ เนวสฺานาสฺายตนํ. อากิฺจฺายตนารมฺมณาย สมาปตฺติยา เอตํ อธิวจนํ. น เกวลํ เอตฺถ สฺา ¶ เอทิสี, อถ โข เวทนาปิ เนวเวทนา นาเวทนา. จิตฺตมฺปิ เนวจิตฺตํ นาจิตฺตํ. ผสฺโสปิ เนวผสฺโส นาผสฺโส. เอส นโย เสสสมฺปยุตฺตธมฺเมสุ. สฺาสีเสน ปนายํ เทสนา กตาติ.
อวิชฺชาทีนิ ทฺวาทส วิสฺสชฺชนานิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺควเสน นิทฺทิฏฺานิ. ปูเรตุํ อยุตฺตฏฺเน กายทุจฺจริตาทิ อวินฺทิยํ นาม, อลทฺธพฺพนฺติ อตฺโถ. ตํ อวินฺทิยํ วินฺทตีติ อวิชฺชา. ตพฺพิปรีตโต กายสุจริตาทิ วินฺทิยํ นาม, ตํ วินฺทิยํ น วินฺทตีติ อวิชฺชา. ขนฺธานํ ราสฏฺํ, อายตนานํ อายตนฏฺํ, ธาตูนํ สฺุฏฺํ, อินฺทฺริยานํ อธิปติยฏฺํ, สจฺจานํ ตถฏฺํ อวิทิตํ กโรตีติ อวิชฺชา. ทุกฺขาทีนํ ปีฬนาทิวเสน วุตฺตํ จตุพฺพิธํ จตุพฺพิธํ อตฺถํ อวิทิตํ กโรตีติปิ อวิชฺชา, อนฺตวิรหิเต สํสาเร สพฺพโยนิคติภววิฺาณฏฺิติสตฺตาวาเสสุ สตฺเต ชวาเปตีติ อวิชฺชา, ปรมตฺถโต อวิชฺชมาเนสุ อิตฺถิปุริสาทีสุ ชวติ, วิชฺชมาเนสุปิ ขนฺธาทีสุ น ชวตีติ อวิชฺชา, อปิ จ จกฺขุวิฺาณาทีนํ วตฺถารมฺมณานํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฏิจฺจสมุปฺปนฺนานฺจ ธมฺมานํ ฉาทนโตปิ อวิชฺชา. สงฺขตมภิสงฺขโรนฺตีติ สงฺขารา. วิชานาตีติ วิฺาณํ. นมตีติ นามํ, นามยตีติ วา นามํ. รุปฺปตีติ รูปํ. อาเย ตโนติ ¶ , อายตฺจ นยตีติ อายตนํ. ผุสตีติ ผสฺโส. เวทยตีติ เวทนา. ปริตสฺสตีติ ตณฺหา. อุปาทิยติ ภุสํ คณฺหาตีติ อุปาทานํ. ภวติ, ภาวยตีติ วา ภโว. ชนนํ ชาติ. ชีรณํ ¶ ชรา. มรนฺติ เอเตนาติ มรณํ.
๗. ทุกฺขาทีนิ อฏฺสตานิ อฏฺ จ วิสฺสชฺชนานิ จตุสจฺจโยชนาวเสน นิทฺทิฏฺานิ. ‘‘ทุกฺขํ อภิฺเยฺย’’นฺติอาทีสุ หิ ฉนฺนํ จตุกฺกานํ วเสน จตุวีสติ วิสฺสชฺชนานิ ‘‘จกฺขุ ชรามรณ’’นฺติ เปยฺยาเล ‘‘จกฺขุ อภิฺเยฺยํ โสตํ อภิฺเยฺย’’นฺติอาทินา ‘‘ชาติ อภิฺเยฺยา’’ติ ปริโยสาเนน ปฺจนวุตาธิเกน วิสฺสชฺชนสเตน โยเชตฺวา วุตฺตานิ. ปฺจนวุตาธิกํ จตุกฺกสตํ โหติ, เตสํ จตุกฺกานํ วเสน อสีติอธิกานิ สตฺต วิสฺสชฺชนสตานิ. ‘‘ชรามรณํ อภิฺเยฺย’’นฺติอาทิเก จตุกฺเก ‘‘จตฺตาริ วิสฺสชฺชนานี’’ติ เอวํ สพฺพานิ อฏฺ จ สตานิ อฏฺ จ วิสฺสชฺชนานิ โหนฺติ. เอตฺถ จ ตสฺส ตสฺส ธมฺมสฺส ปธานภูโต ปจฺจโย สมุทโยติ เวทิตพฺโพ. สพฺพสงฺขาเรหิ สฺุํ นิพฺพานํ นิโรโธติ เวทิตพฺพํ. อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยาทีนํ ติณฺณมฺปิ หิ โลกุตฺตรินฺทฺริยานํ เอตฺถ อภาวํ สนฺธาย อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยนิโรโธติอาทิ ยุชฺชติ ¶ . นิโรธคามินิปฏิปทาติ จ สพฺพตฺถ อริยมคฺโค เอว. เอวฺหิ วุจฺจมาเน ผเลปิ มคฺคโวหารสมฺภวโต อฺินฺทฺริยอฺาตาวินฺทฺริยานมฺปิ ยุชฺชติ. ปุน ทุกฺขาทีนํ ปริฺฏฺาทิวเสน อฏฺสตานิ อฏฺ จ วิสฺสชฺชนานิ นิทฺทิฏฺานิ, ปุน ทุกฺขาทีนํ ปริฺาปฏิเวธฏฺาทิวเสน อฏฺสตานิ อฏฺ จ วิสฺสชฺชนานิ นิทฺทิฏฺานิ. ปริฺา จ สา ปฏิวิชฺฌิตพฺพฏฺเน ปฏิเวโธ จาติ ปริฺาปฏิเวโธ. ปริฺาปฏิเวโธว อตฺโถ ปริฺาปฏิเวธฏฺโ.
๘. ปุน ตาเนว ทุกฺขาทีนิ ชรามรณปริยนฺตานิ ทฺวิอธิกานิ ทฺเว ปทสตานิ สมุทยาทีหิ สตฺตหิ สตฺตหิ ปเทหิ โยเชตฺวา ทฺวิอธิกานํ ทฺวินฺนํ อฏฺกสตานํ วเสน สหสฺสฺจ ฉ จ สตานิ โสฬส จ วิสฺสชฺชนานิ นิทฺทิฏฺานิ. ตตฺถ ปธานภูโต ปจฺจโย สมุทโย, ตสฺส นิโรโธ สมุทยนิโรโธ. ฉนฺโท เอว ราโค ฉนฺทราโค, ทุกฺเข สุขสฺาย ทุกฺขสฺส ฉนฺทราโค, ตสฺส นิโรโธ ฉนฺทราคนิโรโธ. ทุกฺขํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชมานํ สุขํ โสมนสฺสํ ทุกฺขสฺส อสฺสาโท. ทุกฺขสฺส อนิจฺจตา ทุกฺขสฺส วิปริณามธมฺมตา ทุกฺขสฺส อาทีนโว. ทุกฺเข ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานํ ทุกฺขสฺส นิสฺสรณํ. ‘‘ยํ โข ปน กิฺจิ ภูตํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ นิโรโธ ตสฺส นิสฺสรณ’’นฺติ ¶ (ปฏิ. ม. ๑.๒๔) วจนโต นิพฺพานเมว ทุกฺขสฺส นิสฺสรณํ. ‘‘ทุกฺขนิโรโธ สมุทยนิโรโธ ฉนฺทราคนิโรโธ ทุกฺขสฺส นิสฺสรณ’’นฺติ นานาสงฺขตปฏิปกฺขวเสน นานาปริยายวจเนหิ จตูสุ าเนสุ นิพฺพานเมว วุตฺตนฺติ ¶ เวทิตพฺพํ. เกจิ ปน ‘‘อาหารสมุทยา ทุกฺขสมุทโย อาหารนิโรธา ทุกฺขนิโรโธ สรสวเสน สมุทยนิโรโธ, อถ วา อุทยพฺพยทสฺสเนน สมุทยนิโรโธ สห วิปสฺสนาย มคฺโค ฉนฺทราคนิโรโธ’’ติ วทนฺติ. เอวฺจ วุจฺจมาเน โลกุตฺตรินฺทฺริยานํ อวิปสฺสนูปคตฺตา น สพฺพสาธารณํ โหตีติ ปมํ วุตฺตนโยว คเหตพฺโพ. โลกุตฺตรินฺทฺริเยสุ หิ ฉนฺทราคาภาวโตเยว ฉนฺทราคนิโรโธติ ยุชฺชติ. สรีเร ฉนฺทราเคเนว สรีเรกเทเสสุ เกสาทีสุปิ ฉนฺทราโค กโตว โหติ, ชรามรณวนฺเตสุ ฉนฺทราเคเนว ชรามรเณสุปิ ฉนฺทราโค กโตว โหติ. เอวํ อสฺสาทาทีนวาปิ โยเชตพฺพา. ปุน ทุกฺขาทีนิ ชรามรณปริยนฺตานิ ทฺวิอธิกานิ ทฺเว ปทสตานิ สมุทยาทีหิ ฉหิ ฉหิ ¶ ปเทหิ โยเชตฺวา ทฺวิอธิกานํ ทฺวินฺนํ สตฺตกสตานํ วเสน นยสหสฺสฺจ จตฺตาริ จ สตานิ จุทฺทส จ วิสฺสชฺชนานิ นิทฺทิฏฺานิ.
๙. อิทานิ รูปาทีนิ ชรามรณปริยนฺตานิ เอกาธิกานิ ทฺเว ปทสตานิ สตฺตหิ อนุปสฺสนาหิ โยเชตฺวา นิทฺทิสิตุํ ปมํ ตาว อนิจฺจานุปสฺสนาทโย สตฺต อนุปสฺสนา นิทฺทิฏฺา. ตานิ สพฺพานิ สตฺตหิ สุทฺธิกอนุปสฺสนาวิสฺสชฺชเนหิ สทฺธึ สหสฺสฺจ จตฺตาริ จ สตานิ จุทฺทส จ วิสฺสชฺชนานิ โหนฺติ. อนิจฺจนฺติ อนุปสฺสนา อนิจฺจานุปสฺสนา. สา นิจฺจสฺาปฏิปกฺขา. ทุกฺขนฺติ อนุปสฺสนา ทุกฺขานุปสฺสนา. สา สุขสฺาปฏิปกฺขา. อนตฺตาติ อนุปสฺสนา อนตฺตานุปสฺสนา. สา อตฺตสฺาปฏิปกฺขา. ติสฺสนฺนํ อนุปสฺสนานํ ปริปูรตฺตา นิพฺพินฺทตีติ นิพฺพิทา, นิพฺพิทา จ สา อนุปสฺสนา จาติ นิพฺพิทานุปสฺสนา. สา นนฺทิปฏิปกฺขา. จตสฺสนฺนํ อนุปสฺสนานํ ปริปูรตฺตา วิรชฺชตีติ วิราโค, วิราโค จ โส อนุปสฺสนา จาติ วิราคานุปสฺสนา. สา ราคปฏิปกฺขา. ปฺจนฺนํ อนุปสฺสนานํ ปริปูรตฺตา ราคํ นิโรเธตีติ นิโรโธ, นิโรโธ จ โส อนุปสฺสนา จาติ นิโรธานุปสฺสนา. สา สมุทยปฏิปกฺขา. ฉนฺนํ อนุปสฺสนานํ ปริปูรตฺตา ปฏินิสฺสชฺชตีติ ¶ ปฏินิสฺสคฺโค, ปฏินิสฺสคฺโค จ โส อนุปสฺสนา จาติ ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนา. สา อาทานปฏิปกฺขา. โลกุตฺตรินฺทฺริยานํ อสติปิ วิปสฺสนูปคตฺเต ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา, สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา, สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา’’ติ (ธ. ป. ๒๗๗-๒๗๙; ปฏิ. ม. ๑.๓๑) วจนโต เตสมฺปิ อนิจฺจทุกฺขานตฺตตฺตา ตตฺถ นิจฺจสุขตฺตสฺานํ นนฺทิยา ราคสฺส จ อภาวา นิโรธวนฺตานีติ อนุปสฺสนโต ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺคปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺคสมฺภวโต จ เตหิปิ สตฺต อนุปสฺสนา โยชิตาติ เวทิตพฺพา. ชรามรณวนฺเตสุ อนิจฺจาทิโต ทิฏฺเสุ ชรามรณมฺปิ อนิจฺจาทิโต ทิฏฺํ นาม โหติ, ชรามรณวนฺเตสุ นิพฺพินฺทนฺโต วิรชฺชนฺโต ชรามรเณ นิพฺพินฺโน จ วิรตฺโต จ โหติ, ชรามรณวนฺเตสุ นิโรธโต ทิฏฺเสุ ชรามรณมฺปิ นิโรธโต ทิฏฺํ ¶ นาม โหติ, ชรามรณวนฺเตสุ ปฏินิสฺสชฺชนฺโต ชรามรณํ ปฏินิสฺสชฺชนฺโตว โหตีติ ชรามรเณหิ สตฺต อนุปสฺสนา โยชิตาติ เวทิตพฺพา.
๑๐. อิทานิ อาทีนวาณสฺส วตฺถุภูตานํ อุปฺปาทาทีนํ ปฺจนฺนํ อารมฺมณานํ วเสน อุปฺปาทาทีนิ เตสํ เววจนานิ ปฺจทส วิสฺสชฺชนานิ นิทฺทิฏฺานิ, สนฺติปทาณสฺส ¶ ตปฺปฏิปกฺขารมฺมณวเสน อนุปฺปาทาทีนิ ปฺจทส วิสฺสชฺชนานิ นิทฺทิฏฺานิ, ปุน ตาเนว อุปฺปาทานุปฺปาทาทีนิ ปทานิ ยุคฬกวเสน โยเชตฺวา ตึส วิสฺสชฺชนานิ นิทฺทิฏฺานิ. เอวํ อิมสฺมึ นเยว สฏฺิ วิสฺสชฺชนานิ โหนฺติ. ตตฺถ อุปฺปาโทติ ปุริมกมฺมปจฺจยา อิธ อุปฺปตฺติ. ปวตฺตนฺติ ตถาอุปฺปนฺนสฺส ปวตฺติ. นิมิตฺตนฺติ สพฺพมฺปิ สงฺขารนิมิตฺตํ. โยคาวจรสฺส หิ สงฺขารา สสณฺานา วิย อุปฏฺหนฺติ, ตสฺมา นิมิตฺตนฺติ วุจฺจนฺติ. อายูหนาติ อายตึ ปฏิสนฺธิเหตุภูตํ กมฺมํ. ตฺหิ อภิสงฺขรณฏฺเน อายูหนาติ วุจฺจติ.
ปฏิสนฺธีติ อายตึ อุปฺปตฺติ. สา หิ ภวนฺตรปฏิสนฺธานโต ปฏิสนฺธีติ วุจฺจติ. คตีติ ยาย คติยา สา ปฏิสนฺธิ โหติ. สา หิ คนฺตพฺพโต คตีติ วุจฺจติ. นิพฺพตฺตีติ ขนฺธานํ นิพฺพตฺตนํ. อุปปตฺตีติ ‘‘สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๗๒) เอวํ วุตฺตา วิปากปวตฺติ. ชาตีติ ชนนํ. ตตฺถ ตตฺถ นิพฺพตฺตมานานํ สตฺตานํ เย เย ขนฺธา ปาตุภวนฺติ, เตสํ เตสํ ปมํ ¶ ปาตุภาโว. ชราติ ชีรณํ. สา ทุวิธา ิตฺถตฺตลกฺขณสงฺขาตํ สงฺขตลกฺขณฺจ ขณฺฑิจฺจาทิสมฺมโต สนฺตติยํ เอกภวปริยาปนฺนขนฺธานํ ปุราณภาโว จ. สา อิธ อธิปฺเปตา. พฺยาธีติ ธาตุกฺโขภปจฺจยสมุฏฺิโต ปิตฺตเสมฺหวาตสนฺนิปาตอุตุวิปริณามวิสมปริหารอุปกฺกมกมฺมวิปากวเสน อฏฺวิโธ อาพาโธ. วิวิธํ ทุกฺขํ อาทหติ วิทหตีติ พฺยาธิ, พฺยาธยติ ตาเปติ, กมฺปยตีติ วา พฺยาธิ. มรณนฺติ มรนฺติ เอเตนาติ มรณํ. ตํ ทุวิธํ วยลกฺขณสงฺขาตํ สงฺขตลกฺขณฺจ เอกภวปริยาปนฺนชีวิตินฺทฺริยปฺปพนฺธวิจฺเฉโท จ. ตํ อิธ อธิปฺเปตํ.
โสโกติ โสจนํ. าติโภคโรคสีลทิฏฺิพฺยสเนหิ ผุฏฺสฺส จิตฺตสนฺตาโป. ปริเทโวติ ปริเทวนํ. าติพฺยสนาทีหิเยว ผุฏฺสฺส วจีปลาโป. อุปายาโสติ ภุโส อายาโส. าติพฺยสนาทีหิเยว ผุฏฺสฺส อธิมตฺตเจโตทุกฺขปฺปภาวิโต โทโสเยว. เอตฺถ จ อุปฺปาทาทโย ปฺเจว อาทีนวาณสฺส วตฺถุวเสน วุตฺตา, เสสา เตสํ เววจนวเสน. ‘‘นิพฺพตฺตี’’ติ หิ อุปฺปาทสฺส, ‘‘ชาตี’’ติ ปฏิสนฺธิยา เววจนํ, ‘‘คติ อุปปตฺตี’’ติ อิทํ ทฺวยํ ปวตฺตสฺส, ชราทโย นิมิตฺตสฺสาติ. อนุปฺปาทาทิวจเนหิ ปน นิพฺพานเมว วุตฺตํ.
ปุน ¶ ตาเนว อุปฺปาทานุปฺปาทาทีนิ สฏฺิ ปทานิ ทุกฺขสุขปเทหิ โยเชตฺวา สฏฺิ วิสฺสชฺชนานิ, ภยเขมปเทหิ โยเชตฺวา สฏฺิ วิสฺสชฺชนานิ, สามิสนิรามิสปเทหิ ¶ โยเชตฺวา สฏฺิ วิสฺสชฺชนานิ, สงฺขารนิพฺพานปเทหิ โยเชตฺวา สฏฺิ วิสฺสชฺชนานิ นิทฺทิฏฺานิ. ตตฺถ ทุกฺขนฺติ อนิจฺจตฺตา ทุกฺขํ. ทุกฺขปฏิปกฺขโต สุขํ. ยํ ทุกฺขํ, ตํ ภยํ. ภยปฏิปกฺขโต เขมํ. ยํ ภยํ, ตํ วฏฺฏามิสโลกามิเสหิ อวิปฺปมุตฺตตฺตา สามิสํ. สามิสปฏิปกฺขโต นิรามิสํ. ยํ สามิสํ, ตํ สงฺขารมตฺตเมว. สงฺขารปฏิปกฺขโต สนฺตตฺตา นิพฺพานํ. สงฺขารา หิ อาทิตฺตา, นิพฺพานํ สนฺตนฺติ. ทุกฺขากาเรน ภยากาเรน สามิสากาเรน สงฺขารากาเรนาติ เอวํ เตน เตน อากาเรน ปวตฺตึ สนฺธาย ตถา ตถา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพนฺติ.
๑๑. ปริคฺคหฏฺาทีนิ เอกตึส วิสฺสชฺชนานิ อริยมคฺคกฺขณวเสน นิทฺทิฏฺานิ. อริยมคฺคสมฺปยุตฺตา หิ ธมฺมา ¶ อาทิโต ปภุติ อุปฺปาทนตฺถํ ปริคฺคยฺหนฺเต อิติ ปริคฺคหา, เตสํ สภาโว ปริคฺคหฏฺโ. เตสํเยว อฺมฺปริวารภาเวน ปริวารฏฺโ. ภาวนาปาริปูริวเสน ปริปูรฏฺโ. เตสํเยว สมาธิวเสน เอการมฺมณปริคฺคหมเปกฺขิตฺวา เอกคฺคฏฺโ. นานารมฺมณวิกฺเขปาภาวมเปกฺขิตฺวา อวิกฺเขปฏฺโ. วีริยวเสน ปคฺคหฏฺโ. สมาธิวเสน อุทเกน นฺหานียจุณฺณานํ วิย อวิปฺปกิณฺณตา อวิสารฏฺโ. สมาธิโยเคน อลุลิตตฺตา อนาวิลฏฺโ. อวิกมฺปิตตฺตา อนิฺชนฏฺโ. เอกตฺตุปฏฺานวเสนาติ สมาธิโยเคน จ เอการมฺมเณ ภุสํ ปติฏฺานวเสน จ. ิตฏฺโติ อารมฺมเณ นิจฺจลภาเวน ปติฏฺิตฏฺโ. ตสฺส นิพฺพานารมฺมณสฺส อาลมฺพนภาเวน อารมฺมณฏฺโ. ตตฺเถว นิกามจารภาเวน โคจรฏฺโ. นิสฺสรณปหานภาเวน นิพฺพานสฺส ปหานฏฺโ. กิเลสปริจฺจาควเสน อริยมคฺคสฺส ปริจฺจาคฏฺโ. ทุภโต วุฏฺานวเสน วุฏฺานฏฺโ. นิมิตฺตปวตฺเตหิ นิวตฺตนวเสน นิวตฺตนฏฺโ. นิพฺพุตตฺตา สนฺตฏฺโ. อตปฺปกตฺตา อุตฺตมตฺตา จ ปณีตฏฺโ. กิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา, อารมฺมเณ จ อธิมุตฺตตฺตา วิมุตฺตฏฺโ. อาสวานํ อวิสยภาเวน ปริสุทฺธตฺตา อนาสวฏฺโ. กิเลสกนฺตารสํสารกนฺตาราติกฺกมเนน ตรณฏฺโ. สงฺขารนิมิตฺตาภาเวน อนิมิตฺตฏฺโ. ตณฺหาปณิธิอภาเวน อปฺปณิหิตฏฺโ. อตฺตสาราภาเวน สฺุตฏฺโ. วิมุตฺติรเสน เอกรสตาย, สมถวิปสฺสนานํ เอกรสตาย วา เอกรสฏฺโ. สมถวิปสฺสนานํ อฺมฺํ อนติวตฺตนฏฺโ. เตสํเยว ยุคนทฺธฏฺโ. อริยมคฺคสฺส สงฺขารโต นิคฺคมเน ¶ นิยฺยานฏฺโ. นิพฺพานสมฺปาปเนน เหตุฏฺโ. นิพฺพานปจฺจกฺขกรเณน ทสฺสนฏฺโ. อธิปติภาเวน อาธิปเตยฺยฏฺโติ.
๑๒. สมถาทีนิ จตฺตาริ วิสฺสชฺชนานิ สมถวิปสฺสนาวเสน นิทฺทิฏฺานิ. อนิจฺจาทิวเสน อนุ อนุ ปสฺสนโต อนุปสฺสนฏฺโ. ยุคนทฺธสฺส สมถวิปสฺสนาทฺวยสฺส เอกรสภาเวน ¶ อนติวตฺตนฏฺโ. สิกฺขาทีนิ นว วิสฺสชฺชนานิ อริยมคฺคสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานวเสน นิทฺทิฏฺานิ. สิกฺขิตพฺพตฺตา สิกฺขา ¶ . ตสฺสา สมาทาตพฺพโต สมาทานฏฺโ. สีเล ปติฏฺาย กมฺมฏฺานวเสน คหิตสฺส อารมฺมณสฺส ภาวนาปวตฺติฏฺานตฺตา โคจรฏฺานตฺตา จ โคจรฏฺโ. สมถกาเล วิปสฺสนากาเล วา โกสชฺชวเสน ลีนสฺส จิตฺตสฺส ธมฺมวิจยวีริยปีติสมฺโพชฺฌงฺคภาวนาวเสน อุสฺสาหนฏฺโ ปคฺคหฏฺโ. อุทฺธจฺจวเสน อุทฺธตสฺส จิตฺตสฺส ปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคภาวนาวเสน สนฺนิสีทาปนฏฺโ นิคฺคหฏฺโ. อุโภ วิสุทฺธานนฺติ อุภโต วิสุทฺธานํ, ลีนุทฺธตปกฺขโต นิวาเรตฺวา วิสุทฺธานํ จิตฺตานนฺติ อตฺโถ. มชฺฌิมภาเว ิตานํ สนฺตติวเสน ปวตฺตมานานํ จิตฺตานํ วเสน พหุวจนํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. อุสฺสาหนสนฺนิสีทาปเนสุ สพฺยาปาราภาโว อชฺฌุเปกฺขนฏฺโ. สมปฺปวตฺตสฺส จิตฺตสฺส วเสน ภาวนา วิเสสาธิคมฏฺโ. อริยมคฺคปาตุภาววเสน อุตฺตริปฏิเวธฏฺโ. อริยมคฺคสิทฺธจตุสจฺจปฏิเวธวเสน สจฺจาภิสมยฏฺโ. ผลสมาปตฺติวเสน นิโรเธ ปติฏฺาปกฏฺโ. สา หิ ตํสมงฺคิปุคฺคลํ นิโรธสงฺขาเต นิพฺพาเน ปติฏฺาเปติ.
สทฺธินฺทฺริยาทีนิ ปฺจ วิสฺสชฺชนานิ อินฺทฺริยฏฺวเสน วุตฺตานิ. อธิโมกฺขฏฺโติ อธิมุจฺจนฏฺโ. อุปฏฺานฏฺโติ อารมฺมณํ อุเปจฺจ ปติฏฺานฏฺโ. ทสฺสนฏฺโติ สภาวเปกฺขนฏฺโ. สทฺธาพลาทีนิ ปฺจ วิสฺสชฺชนานิ พลฏฺวเสน นิทฺทิฏฺานิ. อกมฺปิยฏฺเน สทฺธาว พลนฺติ สทฺธาพลํ. อสฺสทฺธิเยติ อสฺสทฺธิเยน. อสฺสทฺธิยนฺติ จ สทฺธาปฏิปกฺขภูโต จิตฺตุปฺปาโท. อกมฺปิยฏฺโติ อกมฺเปตพฺพฏฺโ, กมฺเปตุํ น สกฺกาติ อตฺโถ. โกสชฺเชติ กุสีตภาวสงฺขาเตน ถินมิทฺเธน. ปมาเทติ สติปฏิปกฺเขน จิตฺตุปฺปาเทน. อุทฺธจฺเจติ อวูปสมสงฺขาเตน อุทฺธจฺเจน. อวิชฺชายาติ โมเหน. สติสมฺโพชฺฌงฺคาทีนิ สตฺต วิสฺสชฺชนานิ โพชฺฌงฺคฏฺวเสน นิทฺทิฏฺานิ. พุชฺฌนกสฺส องฺโค ¶ โพชฺฌงฺโค. ปสตฺโถ สุนฺทโร จ โพชฺฌงฺโค สมฺโพชฺฌงฺโค, สติเยว สมฺโพชฺฌงฺโค สติสมฺโพชฺฌงฺโค. ธมฺเม วิจินาตีติ ธมฺมวิจโย. ปฺาเยตํ นามํ. ปวิจยฏฺโติ วิจารฏฺโ. ปีนยตีติ ปีติ. ผรณฏฺโติ วิสรณฏฺโ. ปสฺสมฺภนํ ปสฺสทฺธิ ¶ . อุปสมฏฺโติ นิทฺทรถฏฺโ. อุปปตฺติโต อิกฺขตีติ อุเปกฺขา, สมํ เปกฺขติ อปกฺขปติตาว หุตฺวา เปกฺขตีติ อตฺโถ. สา อิธ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา, โพชฺฌงฺคุเปกฺขาติปิ ตสฺสา นามํ. สมวาหิตลกฺขณตฺตา ปฏิสงฺขานฏฺโ.
สมฺมาทิฏฺาทีนิ อฏฺ วิสฺสชฺชนานิ มคฺควเสน นิทฺทิฏฺานิ. สมฺมา ปสฺสติ, สมฺมา วา ตาย ปสฺสนฺติ, ปสตฺถา สุนฺทรา วา ทิฏฺีติ สมฺมาทิฏฺิ. ตสฺสา สมฺมาทิฏฺิยา. สมฺมา สงฺกปฺเปติ, สมฺมา วา เตน สงฺกปฺเปนฺติ, ปสตฺโถ สุนฺทโร วา สงฺกปฺโปติ สมฺมาสงฺกปฺโป. อภิโรปนฏฺโติ จิตฺตสฺส อารมฺมณาโรปนฏฺโ. อารมฺมณาภินิโรปนฏฺโติปิ ปาโ. สมฺมา วทติ ¶ , สมฺมา วา ตาย วทนฺติ, ปสตฺถา สุนฺทรา วา วาจาติ สมฺมาวาจา. มิจฺฉาวาจาวิรติยา เอตํ นามํ. ปริคฺคหฏฺโติ จตุพฺพิธวจีสํวรปริคฺคหฏฺโ. สมฺมา กโรติ, สมฺมา วา เตน กโรนฺติ, ปสตฺถํ สุนฺทรํ วา กมฺมนฺติ สมฺมากมฺมํ, สมฺมากมฺมเมว สมฺมากมฺมนฺโต. มิจฺฉากมฺมนฺตวิรติยา เอตํ นามํ. สมุฏฺานฏฺโติ ติวิธกายสํวรสมุฏฺานฏฺโ. สมฺมา อาชีวติ, สมฺมา วา เตน อาชีวนฺติ, ปสตฺโถ สุนฺทโร วา อาชีโวติ สมฺมาอาชีโว. มิจฺฉาชีววิรติยา เอตํ นามํ. โวทานฏฺโติ ปริสุทฺธฏฺโ. สมฺมา วายมติ, สมฺมา วา เตน วายมนฺติ, ปสตฺโถ สุนฺทโร วา วายาโมติ สมฺมาวายาโม. สมฺมา สรติ, สมฺมา วา ตาย สรนฺติ, ปสตฺถา สุนฺทรา วา สตีติ สมฺมาสติ. สมฺมา สมาธิยติ, สมฺมา วา เตน สมาธิยนฺติ, ปสตฺโถ สุนฺทโร วา สมาธีติ สมฺมาสมาธิ.
๑๓. อินฺทฺริยาทีนิ ทส วิสฺสชฺชนานิ ราสิกตฺวา อนุปุพฺพปฏิปาฏิวเสน นิทฺทิฏฺานิ. อาธิปเตยฺยฏฺโติ อินฺทฏฺกรณวเสน อธิปติอตฺโถ. อกมฺปิยฏฺโติ ปฏิปกฺเขหิ กมฺเปตุํ อสกฺกุเณยฺยฏฺโ. นิยฺยานฏฺโติ โลกิยโลกุตฺตรานมฺปิ ปฏิปกฺขโต นิคฺคมนฏฺโ. เหตุฏฺโติ มิจฺฉาทิฏฺาทีนํ ปหานาย สมฺมาทิฏฺาทโย เหตูติ วา สพฺเพปิ สมฺมาทิฏฺาทโย นิพฺพานสมฺปาปกเหตูติ วา เหตุฏฺโ. สติปฏฺาเนสุ อารมฺมเณสุ ¶ โอกฺขนฺทิตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา อุปฏฺานโต อุปฏฺานํ, สติเยว อุปฏฺานํ สติปฏฺานํ. กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ ปนสฺสา อสุภทุกฺขานิจฺจานตฺตาการคหณวเส ¶ สุภสุขนิจฺจตฺตสฺาปหานกิจฺจสาธนวเสน จ ปวตฺติโต จตุธา เภโท โหติ. เอตานิ ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลพฺภนฺติ, มคฺคกฺขเณ ปน เอกาเยว สติ จตฺตาริ นามานิ ลภติ.
สมฺมปฺปธาเนสุ ปทหนฺติ เอเตนาติ ปธานํ, โสภนํ ปธานํ สมฺมปฺปธานํ. สมฺมา วา ปทหนฺติ เอเตนาติ สมฺมปฺปธานํ, โสภนํ วา ตํ กิเลสวิรูปตฺตวิรหโต ปธานฺจ หิตสุขนิปฺผาทกตฺเตน เสฏฺภาวาวหนโต ปธานภาวกรณโต วา สมฺมปฺปธานํ. วีริยสฺเสตํ อธิวจนํ. อุปฺปนฺนานุปฺปนฺนานํ อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานฺจ อกุสลกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานานุปฺปตฺติอุปฺปาทฏฺิติกิจฺจสาธนวเสน ปวตฺติโต ปนสฺส จตุธา เภโท โหติ. เอตานิปิ ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลพฺภนฺติ, มคฺคกฺขเณ ปน เอกเมว วีริยํ จตฺตาริ นามานิ ลภติ. ปทหนฏฺโติ อุสฺสาหนฏฺโ. ปธานฏฺโติปิ ปาโ, โสเยวตฺโถ.
อิทฺธิปาทานนฺติ เอตฺถ ฉนฺทวีริยจิตฺตวีมํสาสุ เอเกโก อิชฺฌตีติ อิทฺธิ, สมิชฺฌติ นิปฺผชฺชตีติ อตฺโถ. อิชฺฌนฺติ วา เอตาย สตฺตา อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติ อิทฺธิ, ปเมนตฺเถน ¶ อิทฺธิ เอว ปาโท อิทฺธิปาโท, อิทฺธิโกฏฺาโสติ อตฺโถ. ทุติเยนตฺเถน อิทฺธิยา ปาโทติ อิทฺธิปาโท. ปาโทติ ปติฏฺา, อธิคมูปาโยติ อตฺโถ. เตน หิ ยสฺมา อุปรูปริ วิเสสสงฺขาตํ อิทฺธึ ปชฺชนฺติ ปาปุณนฺติ, ตสฺมา ปาโทติ วุจฺจติ. เอเต ฉนฺทาทโย ปุพฺพภาเค อธิปติวเสน นานาจิตฺเตสุ ลพฺภนฺติ, มคฺคกฺขเณ ปน สเหว ลพฺภนฺติ. อิชฺฌนฏฺโติ นิปฺผชฺชนฏฺโ ปติฏฺานฏฺโ วา. สจฺจานนฺติ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ. ตถฏฺโติ ยถาสภาวฏฺโ. อิมานิ อฏฺ วิสฺสชฺชนานิ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกานิ. ปโยคานนฺติ จตุนฺนํ อริยมคฺคปโยคานํ. ปฏิปฺปสฺสทฺธฏฺโติ จตุนฺนํ อริยผลานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธฏฺโ. มคฺคปโยโค หิ ผลกฺขเณ ปฏิปฺปสฺสทฺโธ โหติ นิฏฺิตกิจฺจตฺตา. มคฺคปโยคานํ ผโลทเยน ปฏิปฺปสฺสทฺธภาโว วา. ผลานํ สจฺฉิกิริยฏฺโติ อริยผลานํ ปจฺจเวกฺขณวเสน ปจฺจกฺขกรณฏฺโ. อารมฺมณสจฺฉิกิริยา ¶ วุตฺตา โหติ, ผลกฺขเณ ปฏิลาภสจฺฉิกิริยา วา. วิตกฺกาทีนิ ปฺจ วิสฺสชฺชนานิ ฌานงฺควเสน นิทฺทิฏฺานิ. วิตกฺกนํ วิตกฺโก, อูหนนฺติ ¶ วุตฺตํ โหติ. วิจรณํ วิจาโร, อนุสฺจรณนฺติ วุตฺตํ โหติ. อุปวิจารฏฺโติ อนุมชฺชนฏฺโ. อภิสนฺทนฏฺโติ เตมนฏฺโ สมาธิวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคฏฺโ.
อาวชฺชนาทีนิ ปฺจทส วิสฺสชฺชนานิ ปกิณฺณกวเสน นิทฺทิฏฺานิ. ปฺจทฺวารมโนทฺวาเรสุ ภวงฺคารมฺมณโต อฺารมฺมเณ จิตฺตสนฺตานํ นเมนฺตานํ ทฺวินฺนํ จิตฺตานํ อาวชฺชนฏฺโ. วิฺาณสฺส วิชานนฏฺโ. ปฺาย ปชานนฏฺโ. สฺาย สฺชานนฏฺโ. สมาธิสฺส เอโกทฏฺโ. ทุติยชฺฌานสฺมิฺหิ สมาธิ เอโก อุเทตีติ เอโกทีติ วุจฺจติ, วิตกฺกวิจาเรหิ อนชฺฌารุฬฺหตฺตา อคฺโค เสฏฺโ หุตฺวา อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. เสฏฺโปิ หิ โลเก เอโกติ วุจฺจติ. วิตกฺกวิจารวิรหิโต วา เอโก อสหาโย หุตฺวา อุเทตีติปิ วฏฺฏติ. สพฺโพปิ วา กุสลสมาธิ นีวรณาทีนํ อุทฺธจฺจสฺเสว วา ปฏิปกฺขตฺตา เตหิ อนชฺฌารุฬฺโหติ อคฺโค หุตฺวา อุเทตีติ วา เตหิ วิรหิโตติ อสหาโย หุตฺวา อุเทตีติ วา เอโกทีติ ยุชฺชติ. อภิฺาย าตฏฺโติ าตปริฺาย สภาวชานนฏฺโ. ปริฺาย ตีรณฏฺโติ ตีรณปริฺาย อนิจฺจาทิโต อุปปริกฺขณฏฺโ. ปหานสฺส ปริจฺจาคฏฺโติ ปหานปริฺาย ปฏิปกฺขปชหนฏฺโ. สมปฺปวตฺตาย ภาวนาย เอกรสฏฺโ. ผสฺสนฏฺโติ ผุสนฏฺโ วินฺทนฏฺโ. ปีฬาภารวหนาทินา ขนฺธฏฺโ. สฺุาทินา ธาตุฏฺโ. สกสกมริยาทายตนาทินา อายตนฏฺโ. ปจฺจเยหิ สงฺคมฺม กตวเสน สงฺขตฏฺโ. ตพฺพิปรีเตน อสงฺขตฏฺโ.
๑๔. จิตฺตฏฺาทีนิ ปฺจทส วิสฺสชฺชนานิ จิตฺตสมฺพนฺเธน นิทฺทิฏฺานิ. จิตฺตฏฺโติ เอตฺถ อารมฺมณํ จินฺเตตีติ จิตฺตํ, วิชานาตีติ อตฺโถ. ยํ ปเนตฺถ ชวนํ โหติ, ตํ ชวนวีถิวเสน ¶ อตฺตโน สนฺตานํ จิโนตีติปิ จิตฺตํ, ยํ วิปากํ โหติ, ตํ กมฺมกิเลเสหิ จิตนฺติปิ จิตฺตํ, สพฺพมฺปิ ยถานุรูปํ จิตฺตตาย จิตฺตํ, จิตฺตกรณตาย จิตฺตํ, ยํ วฏฺฏสฺส ปจฺจโย โหติ, ตํ สํสารทุกฺขํ จิโนตีติปิ จิตฺตํ. เอวํ อารมฺมเณ ¶ จิตฺตตาทิโต จิตฺตฏฺโ. จิตฺตุปฺปาทเน ผลุปฺปาทเน วา นาสฺส อนฺตรมตฺถีติ อนนฺตรํ, อนนฺตรสฺส ภาโว อานนฺตริยํ, จิตฺตสฺส อานนฺตริยํ จิตฺตานนฺตริยํ, โส จิตฺตานนฺตริยฏฺโ. อรหโต จุติจิตฺตํ วชฺเชตฺวา ยสฺส กสฺสจิ สมนนฺตรนิรุทฺธสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรจิตฺตุปฺปาทเน สมตฺถภาโว มคฺคจิตฺตสฺส อนนฺตรํ ผลุปฺปาทเน สมตฺถภาโวติ อธิปฺปาโย. จิตฺตสฺส วุฏฺานฏฺโติ โคตฺรภุจิตฺตสฺส ¶ นิมิตฺตโต, มคฺคจิตฺตสฺส นิมิตฺตปวตฺตโต วุฏฺานฏฺโ. จิตฺตสฺส วิวฏฺฏนฏฺโติ ตสฺเสว จิตฺตทฺวยสฺส ยถาวุตฺตโต วุฏฺิตสฺส นิพฺพาเน วิวฏฺฏนฏฺโ. จิตฺตสฺส เหตุฏฺโติ จิตฺตสฺส เหตุปจฺจยภูตานํ นวนฺนํ เหตูนํ เหตุฏฺโ. จิตฺตสฺส ปจฺจยฏฺโติ จิตฺตสฺส วตฺถารมฺมณาทีนํ อเนเกสํ ปจฺจยานํ ปจฺจยฏฺโ. จิตฺตสฺส วตฺถุฏฺโติ จิตฺตสฺส วตฺถุภูตานํ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายหทยวตฺถูนํ วตฺถุฏฺโ. จิตฺตสฺส ภูมฏฺโติ จิตฺตสฺส อุปฺปตฺติเทสวเสน กามาวจราทิภูมิอตฺโถ. จิตฺตสฺส อารมฺมณฏฺโติ รูปาทิอารมฺมณฏฺโ. ปริจิตสฺสารมฺมณสฺส สฺจรณฏฺานฏฺเน โคจรฏฺโ. อุปริ วุตฺตวิฺาณจริยาวเสน จริยฏฺโ. อถ วา ปโยคสมุทาจารฏฺโ จริยฏฺโ. จิตฺตสฺส คมนาภาเวปิ ทูรสนฺติการมฺมณคหณวเสน คตฏฺโ. อภินีหารฏฺโติ คหิตารมฺมณโต อฺารมฺมณมนสิการตฺถํ จิตฺตสฺส อภินีหรณฏฺโ. จิตฺตสฺส นิยฺยานฏฺโติ มคฺคจิตฺตสฺส วฏฺฏโต นิยฺยานฏฺโ. ‘‘เนกฺขมฺมํ ปฏิลทฺธสฺส กามจฺฉนฺทโต จิตฺตํ นิสฺสฏํ โหตี’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๒๔, ๑๙๑ โถกํ วิสทิสํ) นเยน จิตฺตสฺส นิสฺสรณฏฺโ.
๑๕. เอกตฺตาทีนิ ทฺวาจตฺตาลีส วิสฺสชฺชนานิ เอกตฺตสมฺพนฺเธน นิทฺทิฏฺานิ. เอกตฺเตติ อารมฺมเณกตฺเต, เอการมฺมเณติ อตฺโถ. ปมชฺฌานวเสน ปกฺขนฺทนฏฺโ. ทุติยชฺฌานวเสน ปสีทนฏฺโ. ตติยชฺฌานวเสน สนฺติฏฺนฏฺโ. จตุตฺถชฺฌานวเสน มุจฺจนฏฺโ. ปจฺจเวกฺขณวเสน เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสนฏฺโ. ยานีกตฏฺาทโย ปฺจ สมาธิสฺส วสีภาววิเสสา. ยานีกตฏฺโติ ยุตฺตยานสทิสกตฏฺโ. วตฺถุกตฏฺโติ ปติฏฺฏฺเน วตฺถุ วิย กตฏฺโ. อนุฏฺิตฏฺโติ ปจฺจุปฏฺิตฏฺโ. ปริจิตฏฺโติ สมนฺตโต จิตฏฺโ. สุสมารทฺธฏฺโติ สุฏฺุ สมารทฺธฏฺโ ¶ , สุกตฏฺโติ อตฺโถ. อาวชฺชนสมาปชฺชนอธิฏฺานวุฏฺานปจฺจเวกฺขณวสิตาวเสน วา ปฏิปาฏิยา ปฺจ ปทานิ โยเชตพฺพานิ. กสิณาทิอารมฺมณภาวนาย สิขาปฺปตฺตกาเล จิตฺตเจตสิกานํ ปริคฺคหปริวารปริปูรฏฺโ. เตสํเยว สมฺมา สมาหิตตฺตา เอการมฺมเณ สโมสรเณน สโมธานฏฺโ. เตสํเยว พลปฺปตฺติยา อารมฺมณํ อภิภวิตฺวา ปติฏฺานวเสน อธิฏฺานฏฺโ. สมถสฺส วิปสฺสนาย วา อาทิโต, อาทเรน วา เสวนวเสน อาเสวนฏฺโ. วฑฺฒนวเสน ภาวนฏฺโ ¶ . ปุนปฺปุนํ ¶ กรณวเสน พหุลีกมฺมฏฺโ. พหุลีกตสฺส สุฏฺุ สมุฏฺิตวเสน สุสมุคฺคตฏฺโ. สุสมุคฺคตสฺส ปจฺจนีเกหิ สุฏฺุ วิมุตฺติวเสน อารมฺมเณ จ สุฏฺุ อธิมุตฺติวเสน สุวิมุตฺตฏฺโ.
พุชฺฌนฏฺาทีนิ จตฺตาริ ปทานิ โพชฺฌงฺควเสน วุตฺตานิ. โสตาปตฺติมคฺคโพชฺฌงฺคานํ พุชฺฌนฏฺโ. สกทาคามิมคฺคโพชฺฌงฺคานํ อนุพุชฺฌนฏฺโ. อนาคามิมคฺคโพชฺฌงฺคานํ ปฏิพุชฺฌนฏฺโ. อรหตฺตมคฺคโพชฺฌงฺคานํ สมฺพุชฺฌนฏฺโ. วิปสฺสนาโพชฺฌงฺคานํ วา พุชฺฌนฏฺโ. ทสฺสนมคฺคโพชฺฌงฺคานํ อนุพุชฺฌนฏฺโ. ภาวนามคฺคโพชฺฌงฺคานํ ปฏิพุชฺฌนฏฺโ. ผลโพชฺฌงฺคานํ สมฺพุชฺฌนฏฺโ. ยถาวุตฺตนเยเนว โพชฺฌงฺคานํ ตสฺส ตสฺส ปุคฺคลสฺส โพธนาทิกรเณน โพธนฏฺาทโย จตฺตาโร อตฺถา เวทิตพฺพา. ยถาวุตฺตานํเยว โพชฺฌงฺคานํ พุชฺฌนฏฺเน ‘‘โพโธ’’ติ ลทฺธนามสฺส ปุคฺคลสฺส ปกฺเข ภวตฺตา โพธิปกฺขิยา นาม. เตสํ ยถาวุตฺตานํเยว โพธิปกฺขิยฏฺาทโย จตฺตาโร อตฺถา เวทิตพฺพา. วิปสฺสนาปฺาวเสน โชตนฏฺโ. กมโต จตุมคฺคปฺาวเสน อุชฺโชตนานุชฺโชตนปฏิชฺโชตนสฺโชตนฏฺโ. กมโต จตุมคฺคปฺาวเสน วา โชตนฏฺาทโย, ผลปฺาวเสน สฺโชตนฏฺโ เวทิตพฺโพ.
๑๖. ปตาปนฏฺาทีนิ อฏฺารส วิสฺสชฺชนานิ อริยมคฺควเสน นิทฺทิฏฺานิ. อริยมคฺโค หิ ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ ปตาเปติ ปภาเสติ วิโรจาเปตีติ ปตาปโน, ตสฺส ปตาปนฏฺโ. ตสฺเสว อติปภสฺสรภาเวน สยํ วิโรจนฏฺโ. กิเลสานํ วิโสสเนน สนฺตาปนฏฺโ. อมลนิพฺพานารมฺมณตฺตา อมลฏฺโ. สมฺปยุตฺตมลาภาเวน วิมลฏฺโ. อารมฺมณกรณมลาภาเว ¶ นิมฺมลฏฺโ. อถ วา โสตาปตฺติมคฺคสฺส อมลฏฺโ. สกทาคามิอนาคามิมคฺคานํ วิมลฏฺโ. อรหตฺตมคฺคสฺส นิมฺมลฏฺโ. อถ วา สาวกมคฺคสฺส อมลฏฺโ. ปจฺเจกพุทฺธมคฺคสฺส วิมลฏฺโ. สมฺมาสมฺพุทฺธมคฺคสฺส นิมฺมลฏฺโ. กิเลสวิสมาภาเวน สมฏฺโ. ‘‘สมฺมา มานาภิสมยา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๘; อ. นิ. ๓.๓๓; ๕.๒๐๐) วิย กิเลสปฺปหานฏฺเน สมยฏฺโ. วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณสงฺขาเตสุ ปฺจสุ วิเวเกสุ สมุจฺเฉทวิเวกตฺตา วิเวกฏฺโ, วินาภาวฏฺโ. นิสฺสรณวิเวเก นิพฺพาเน จรณโต วิเวกจริยฏฺโ. ปฺจสุ วิราเคสุ สมุจฺเฉทวิราคตฺตา ¶ วิราคฏฺโ, วิรชฺชนฏฺโ. นิสฺสรณวิราเค นิพฺพาเน จรณโต วิราคจริยฏฺโ. ปฺจสุ นิโรเธสุ สมุจฺเฉทนิโรธตฺตา นิโรธฏฺโ. ทุกฺขนิโรเธ นิพฺพาเน จรณโต นิโรธจริยฏฺโ. ปริจฺจาคปกฺขนฺทนโวสคฺคตฺตา โวสคฺคฏฺโ. อริยมคฺโค หิ สมุจฺเฉทวเสน กิเลสปฺปหานโต ปริจฺจาคโวสคฺโค, อารมฺมณกรเณน นิพฺพานปกฺขนฺทนโต ปกฺขนฺทนโวสคฺโค จ. วิปสฺสนา ปน ตทงฺควเสน กิเลสปฺปหานโต ปริจฺจาคโวสคฺโค, ตนฺนินฺนภาเวน นิพฺพานปกฺขนฺทนโต ปกฺขนฺทนโวสคฺโค. น โส อิธ อธิปฺเปโต. โวสคฺคภาเวน จรณโต ¶ โวสคฺคจริยฏฺโ. ปฺจสุ วิมุตฺตีสุ สมุจฺเฉทวิมุตฺติตฺตา วิมุตฺตฏฺโ. นิสฺสรณวิมุตฺติยํ จรณโต วิมุตฺติจริยฏฺโ.
ฉนฺทวีริยจิตฺตวีมํสาสงฺขาเตสุ จตูสุ อิทฺธิปาเทสุ เอเกกอิทฺธิปาทวเสน ทส ทส กตฺวา จตุริทฺธิปาทวเสน ฉนฺทฏฺาทีนิ จตฺตาลีส วิสฺสชฺชนานิ นิทฺทิฏฺานิ. กตฺตุกมฺยตฏฺโ ฉนฺทฏฺโ. ฉนฺทํ สีสํ กตฺวา ภาวนารมฺภกาเล มูลฏฺโ. สหชาตานํ ปติฏฺาภาเวน ปาทฏฺโ. ปทฏฺโติ วา ปาโ. อิทฺธิปาทตฺตา อธิปติภาเวน ปธานฏฺโ. ปโยคกาเล อิชฺฌนฏฺโ. สทฺธาสมฺปโยเคน อธิโมกฺขฏฺโ. วีริยสมฺปโยเคน ปคฺคหฏฺโ. สติสมฺปโยเคน อุปฏฺานฏฺโ. สมาธิสมฺปโยเคน อวิกฺเขปฏฺโ. ปฺาสมฺปโยเคน ทสฺสนฏฺโ. ปคฺคหฏฺโ วีริยฏฺโ. วีริยํ สีสํ กตฺวา ภาวนารมฺภกาเล มูลฏฺโ. สยํ ¶ วีริยตฺตา ปคฺคหฏฺโ. จินฺตนฏฺาทิโก จิตฺตฏฺโ. จิตฺตํ สีสํ กตฺวา ภาวนารมฺภกาเล มูลฏฺโ. อุปปริกฺขนฏฺโ วีมํสฏฺโ. วีมํสํ สีสํ กตฺวา ภาวนารมฺภกาเล มูลฏฺโ. สยํ วีมํสตฺตา ทสฺสนฏฺโ.
๑๗. ทุกฺขสฺส ปีฬนฏฺโติอาทีนิ โสฬส วิสฺสชฺชนานิ สจฺจานํ ตถลกฺขณวเสน นิทฺทิฏฺานิ. ทุกฺขทสฺสเนเนว ปีฬนฏฺโ. ทุกฺขายูหนสมุทยทสฺสเนน สงฺขตฏฺโ. สพฺพกิเลสสนฺตาปหรสุสีตลมคฺคทสฺสเนน สนฺตาปฏฺโ. อวิปริณามธมฺมนิโรธทสฺสเนน วิปริณามฏฺโ. สมุทยทสฺสเนเนว อายูหนฏฺโ. สมุทยายูหิตทุกฺขทสฺสเนน นิทานฏฺโ. วิสฺโคภูตนิโรธทสฺสเนน สฺโคฏฺโ. นิยฺยานภูตมคฺคทสฺสเนน ปลิโพธฏฺโ. นิโรธทสฺสเนเนว นิสฺสรณฏฺโ. อวิเวกภูตสมุทยทสฺสเนน วิเวกฏฺโ. สงฺขตภูตมคฺคทสฺสเนน อสงฺขตฏฺโ. วิสภูตทุกฺขทสฺสเนน อมตฏฺโ. มคฺคทสฺสเนเนว ¶ นิยฺยานฏฺโ. นิพฺพานสมฺปตฺติยา อเหตุภูตสมุทยทสฺสเนน เหตุฏฺโ. สุทุทฺทสนิโรธทสฺสเนน ทสฺสนฏฺโ. กปณชนสทิสทุกฺขทสฺสเนน อุฬารกุลสทิโส อาธิปเตยฺยฏฺโ ปาตุภวตีติ. เอวํ ตํตํสจฺจทสฺสเนน ตทฺสจฺจทสฺสเนน จ เอเกกสฺส สจฺจสฺส จตฺตาโร จตฺตาโร ลกฺขณฏฺา วุตฺตา.
ตถฏฺาทีนิ ทฺวาทส วิสฺสชฺชนานิ สพฺพธมฺมสงฺคาหกทฺวาทสปทวเสน นิทฺทิฏฺานิ. ตถฏฺโติ ยถาสภาวฏฺโ. อนตฺตฏฺโติ อตฺตวิรหิตฏฺโ. สจฺจฏฺโติ อวิสํวาทนฏฺโ. ปฏิเวธฏฺโติ ปฏิวิชฺฌิตพฺพฏฺโ. อภิชานนฏฺโติ อภิชานิตพฺพฏฺโ. ปริชานนฏฺโติ าตตีรณปริฺาย ปริชานิตพฺพฏฺโ. ธมฺมฏฺโติ สภาวธารณาทิอตฺโถ. ธาตุฏฺโติ สฺุาทิอตฺโถ. าตฏฺโติ ชานิตุํ สกฺกุเณยฺยฏฺโ. สจฺฉิกิริยฏฺโติ สจฺฉิกาตพฺพฏฺโ. ผสฺสนฏฺโติ าเณน ผุสิตพฺพฏฺโ. อภิสมยฏฺโติ ปจฺจเวกฺขณาเณน อภิสมฺมาคนฺตพฺพฏฺโ, าเณน ปฏิลภิตพฺพฏฺโ วา. ปฏิลาโภปิ ¶ หิ ‘‘อตฺถาภิสมยา ธีโร’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๓๐) วิย อภิสมโยติ วุจฺจติ.
๑๘. เนกฺขมฺมาทีนิ ¶ สตฺต วิสฺสชฺชนานิ อุปจารชฺฌานวเสน นิทฺทิฏฺานิ. เนกฺขมฺมนฺติ กามจฺฉนฺทสฺส ปฏิปกฺโข อโลโภ. อาโลกสฺาติ ถินมิทฺธสฺส ปฏิปกฺเข อาโลกนิมิตฺเต สฺา. อวิกฺเขโปติ อุทฺธจฺจสฺส ปฏิปกฺโข สมาธิ. ธมฺมววตฺถานนฺติ วิจิกิจฺฉาย ปฏิปกฺขํ าณํ. าณนฺติ อวิชฺชาย ปฏิปกฺขํ าณํ. ปาโมชฺชนฺติ อรติปฏิปกฺขา ปีติ. ปมชฺฌานาทีนิ อฏฺ วิสฺสชฺชนานิ รูปารูปสมาปตฺติวเสน นิทฺทิฏฺานิ. เหฏฺา ปน รูปสมาปตฺติอนนฺตรํ รูปชฺฌานสมฺพนฺเธน จตฺตาโร พฺรหฺมวิหารา นิทฺทิฏฺา.
อนิจฺจานุปสฺสนาทีนิ โลกุตฺตรมคฺคสฺส ปุพฺพภาเค อฏฺารสมหาวิปสฺสนาวเสน นิทฺทิฏฺานิ. เหฏฺา ปน รูปาทีหิ โยชนูปคา สตฺต อนุปสฺสนา เอว วุตฺตา, อิธ ปน สพฺพาปิ วุตฺตา. กลาปสมฺมสนอุทยพฺพยานุปสฺสนา กสฺมา น วุตฺตาติ เจ? ตาสํ ทฺวินฺนํ วเสน อนิจฺจานุปสฺสนาทีนํ สิชฺฌนโต อิมาสุ วุตฺตาสุ ตา ทฺเวปิ วุตฺตาว โหนฺติ, อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ วา วินา ตาสํ ทฺวินฺนํ อปฺปวตฺติโต อิมาสุ วุตฺตาสุ ตา ทฺเวปิ วุตฺตาว โหนฺติ. ขยานุปสฺสนาติ ปจฺจุปฺปนฺนานํ รูปกฺขนฺธาทีนํ ภงฺคทสฺสนาณฺจ ¶ ตํตํขนฺธภงฺคทสฺสนานนฺตรํ ตทารมฺมณจิตฺตเจตสิกภงฺคทสฺสนาณฺจ. วยานุปสฺสนาติ ปจฺจุปฺปนฺนานํ ขนฺธานํ ภงฺคทสฺสนานนฺตรํ ตทนฺวเยเนว อตีตานาคตขนฺธานํ ภงฺคทสฺสนาณํ. วิปริณามานุปสฺสนาติ ตสฺมึ ภงฺคสงฺขาเต นิโรเธ อธิมุตฺตตฺตา, อถ สพฺเพปิ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา ขนฺธา วิปริณามวนฺโตติ สพฺเพสํ วิปริณามทสฺสนาณํ. อนิมิตฺตานุปสฺสนาติ เอวํ สพฺพสงฺขารานํ วิปริณามํ ทิสฺวา อนิจฺจโต วิปสฺสนฺตสฺส อนิจฺจานุปสฺสนาว นิจฺจนิมิตฺตปชหนวเสน นิจฺจนิมิตฺตาภาวา อนิมิตฺตานุปสฺสนา นาม โหติ. อปฺปณิหิตานุปสฺสนาติ อนิจฺจานุปสฺสนานนฺตรํ ปวตฺตา ทุกฺขานุปสฺสนาว สุขปตฺถนาปชหนวเสน ปณิธิอภาวา อปฺปณิหิตานุปสฺสนา นาม โหติ.
สฺุตานุปสฺสนาติ ทุกฺขานุปสฺสนานนฺตรํ ปวตฺตา อนตฺตานุปสฺสนาว อตฺตาภินิเวสปชหนวเสน อตฺตสฺุตาทสฺสนโต สฺุตานุปสฺสนา นาม โหติ. อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาติ เอวํ สงฺขารานํ ภงฺคํ ปสฺสิตฺวา ¶ ปสฺสิตฺวา อนิจฺจาทิโต วิปสฺสนฺตสฺส สงฺขาราว ภิชฺชนฺติ, สงฺขารานํ มรณํ น อฺโ โกจิ อตฺถีติ ภงฺควเสน สฺุตํ คเหตฺวา ปวตฺตา วิปสฺสนา. สา หิ อธิปฺา จ ธมฺเมสุ จ วิปสฺสนาติ กตฺวา อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาติ วุจฺจติ. ยถาภูตาณทสฺสนนฺติ ¶ ภงฺคํ ทิสฺวา ทิสฺวา ‘‘สภยา สงฺขารา’’ติ ปวตฺตํ ภยตุปฏฺานาณํ. อาทีนวานุปสฺสนาติ ภยตุปฏฺานวเสน อุปฺปนฺนํ สพฺพภวาทีสุ อาทีนวทสฺสนาณํ. ‘‘ยา จ ภยตุปฏฺาเน ปฺา ยฺจ อาทีนเว าณํ ยา จ นิพฺพิทา, อิเม ธมฺมา เอกตฺถา, พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๒๗) วจนโต ภยตุปฏฺานาทีนวานุปสฺสนาสุ วุตฺตาสุ นิพฺพิทานุปสฺสนา อิธาปิ วุตฺตาว โหติ. อาทิโต จตุตฺถํ กตฺวา วุตฺตตฺตา ปนิธ น วุตฺตา. ปฏิสงฺขานุปสฺสนาติ มฺุจิตุกมฺยตาาณวเสน อุปฺปนฺนํ มฺุจนสฺส อุปายกรณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนาสฺิตํ อนิจฺจทุกฺขานตฺตานุปสฺสนาาณํ. ‘‘ยา จ มฺุจิตุกมฺยตา ยา จ ปฏิสงฺขานุปสฺสนา ยา จ สงฺขารุเปกฺขา, อิเม ธมฺมา เอกตฺถา, พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๒๗) วจนโต ปฏิสงฺขานุปสฺสนาย วุตฺตาย มฺุจิตุกมฺยตาสงฺขารุเปกฺขาาณานิ วุตฺตาเนว โหนฺติ. วิวฏฺฏนานุปสฺสนาติ อนุโลมาณวเสน อุปฺปนฺนํ โคตฺรภุาณํ. อนุโลมาเณน โคตฺรภุาณสฺส สิชฺฌนโต โคตฺรภุาเณ วุตฺเต อนุโลมาณํ วุตฺตเมว โหติ. เอวฺหิ อฏฺารสนฺนํ ¶ มหาวิปสฺสนานํ ปฏิปาฏิ วุจฺจมานา ปาฬิยา สเมติ. วุตฺตฺหิ อินฺทฺริยกถายํ –
‘‘ปุพฺพภาเค ปฺจหินฺทฺริเยหิ ปมชฺฌานวเสน ปฺจินฺทฺริยานิ นิสฺสฏานิ โหนฺติ, ปเม ฌาเน ปฺจหินฺทฺริเยหิ ทุติยชฺฌานวเสน ปฺจินฺทฺริยานิ นิสฺสฏานิ โหนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๙๒) –
อาทินา นเยน ยาว อรหตฺตผลา อุตฺตรุตฺตริปฏิปาฏิยา อินฺทฺริยานิ วุตฺตานิ. ตสฺมา อฏฺารส มหาวิปสฺสนา ยถาวุตฺตกฺกเมน ปาฬิยา ยุชฺชนฺติ. วิสุทฺธิมคฺเค ปน –
‘‘ขยานุปสฺสนาติ ฆนวินิพฺโภคํ กตฺวา อนิจฺจํ ขยฏฺเนาติ เอวํ ขยํ ปสฺสโต าณํ. วิปริณามานุปสฺสนาติ รูปสตฺตกอรูปสตฺตกาทิวเสน ตํ ตํ ปริจฺเฉทํ อติกฺกมฺม อฺถา ปวตฺติทสฺสนํ. อุปฺปนฺนสฺส วา ชราย เจว มรเณน จ ทฺวีหากาเรหิ ¶ วิปริณามทสฺสนํ. ยถาภูตาณทสฺสนนฺติ สปจฺจยนามรูปปริคฺคโห’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๘๕๐) –
วุตฺตํ. ตํ ตาย ปาฬิยา วิรุทฺธํ วิย ทิสฺสติ. วิวฏฺฏนานุปสฺสนาติ สงฺขารุเปกฺขา เจว อนุโลมฺจาติ วุตฺตํ. ตฺจ ปาฬิยา วิรุทฺธํ วิย ทิสฺสติ. จริยากถายฺหิ –
‘‘อนิจฺจานุปสฺสนตฺถาย อาวชฺชนกิริยาพฺยากตา วิฺาณจริยา. อนิจฺจานุปสฺสนา ¶ าณจริยา…เป… ปฏิสงฺขานุปสฺสนตฺถาย อาวชฺชนกิริยาพฺยากตา วิฺาณจริยา. ปฏิสงฺขานุปสฺสนา าณจริยา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๗๑) –
ยสฺส ยสฺส าณสฺส วิสุํ วิสุํ อาวชฺชนํ ลพฺภติ, ตสฺส ตสฺส วิสุํ วิสุํ อาวชฺชนํ วุตฺตํ. วิวฏฺฏนานุปสฺสนาย ปน อาวชฺชนํ อวตฺวาว ‘‘วิวฏฺฏนานุปสฺสนา าณจริยา’’ติ วุตฺตํ. ยทิ สงฺขารุเปกฺขานุโลมาณานิ วิวฏฺฏนานุปสฺสนา นาม สิยุํ, ตทาวชฺชนสมฺภวา ตทตฺถาย จ อาวชฺชนํ วเทยฺย, น จ ตทตฺถาย อาวชฺชนํ วุตฺตํ. โคตฺรภุาณสฺส ปน วิสุํ อาวชฺชนํ ¶ นตฺถิ อนุโลมาวชฺชนวีถิยํเยว อุปฺปตฺติโต. ตสฺมา วิวฏฺฏนานุปสฺสนตฺถาย อาวชฺชนสฺส อวุตฺตตฺตา โคตฺรภุาณเมว ‘‘วิวฏฺฏนานุปสฺสนา’’ติ ยุชฺชติ.
๑๙. โสตาปตฺติมคฺคาทีนิ อฏฺ วิสฺสชฺชนานิ โลกุตฺตรมคฺคผลวเสน นิทฺทิฏฺานิ. โสตสฺส อาปชฺชนํ โสตาปตฺติ, โสตาปตฺติ เอว มคฺโค โสตาปตฺติมคฺโค. โสตาปตฺติยา ผลํ โสตาปตฺติผลํ, สมาปชฺชียตีติ สมาปตฺติ, โสตาปตฺติผลเมว สมาปตฺติ โสตาปตฺติผลสมาปตฺติ. ปฏิสนฺธิวเสน สกึเยว อิมํ โลกํ อาคจฺฉตีติ สกทาคามี, ตสฺส มคฺโค สกทาคามิมคฺโค. สกทาคามิสฺส ผลํ สกทาคามิผลํ. ปฏิสนฺธิวเสเนว กามภวํ น อาคจฺฉตีติ อนาคามี, ตสฺส มคฺโค อนาคามิมคฺโค. อนาคามิสฺส ผลํ อนาคามิผลํ. กิเลเสหิ อารกตฺตา, กิเลสารีนํ หตตฺตา, สํสารจกฺกสฺส อรานํ หตตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา อรหํ, อรหโต ภาโว อรหตฺตํ. กึ ตํ? อรหตฺตผลํ. อรหตฺตสฺส มคฺโค อรหตฺตมคฺโค. อรหตฺตเมว ผลํ อรหตฺตผลํ.
‘‘อธิโมกฺขฏฺเน สทฺธินฺทฺริย’’นฺติอาทีนิ ‘‘ตถฏฺเน ¶ สจฺจา’’ติปริยนฺตานิ เตตฺตึส วิสฺสชฺชนานิ นิทฺทิฏฺานิ. เหฏฺา ‘‘สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิโมกฺขฏฺโ’’ติอาทีหิ เตตฺตึสาย วิสฺสชฺชเนหิ สมานานิ. เกวลฺหิ ตตฺถ ธมฺเมหิ อตฺถา นิทฺทิฏฺา, อิธ อตฺเถหิ ธมฺมา นิทฺทิฏฺาติ อยํ วิเสโส. ‘‘อวิกฺเขปฏฺเน สมโถ’’ติอาทีนฺจ จตุนฺนํ วิสฺสชฺชนานํ เหฏฺา ‘‘สมถสฺส อวิกฺเขปฏฺโ’’ติอาทีนฺจ จตุนฺนํ วิสฺสชฺชนานํ วิเสโส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
สํวรฏฺเนาติอาทีนิ อฏฺ วิสฺสชฺชนานิ สีลาทิพลปริโยสานธมฺมวเสน นิทฺทิฏฺานิ. สีลวิสุทฺธีติ สุปริสุทฺธปาติโมกฺขสํวราทิจตุพฺพิธํ สีลํ ทุสฺสีลฺยมลวิโสธนโต. จิตฺตวิสุทฺธีติ สอุปจารา อฏฺ สมาปตฺติโย. จิตฺตสีเสน เหตฺถ สมาธิ วุตฺโต. โส จิตฺตมลวิโสธนโต จิตฺตวิสุทฺธิ. ทิฏฺิวิสุทฺธีติ นามรูปานํ ยถาสภาวทสฺสนํ สตฺตทิฏฺิมลวิโสธนโต ¶ ทิฏฺิวิสุทฺธิ. มุตฺตฏฺเนาติ ตทงฺควเสน อุปกฺกิเลสโต วิมุตฺตฏฺเน อารมฺมเณ จ อธิมุตฺตฏฺเน. วิโมกฺโขติ ตทงฺควิโมกฺโข. ปฏิเวธฏฺเน วิชฺชาติ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ ปุริมภวปฏิเวธฏฺเน วิชฺชา, ทิพฺพจกฺขุาณํ ¶ สตฺตานํ จุตูปปาตปฏิเวธฏฺเน วิชฺชา, อาสวานํ ขเย าณํ สจฺจปฏิเวธฏฺเน วิชฺชา. ปฏิเวธฏฺเนาติ ชานนฏฺเน. ปริจฺจาคฏฺเน วิมุตฺตีติ ยํ ยํ ปริจฺจตฺตํ, ตโต ตโต วิมุตฺตตฺตา ผลวิมุตฺติ. สมุจฺเฉทฏฺเน ขเย าณนฺติ กิเลสสมุจฺฉินฺทนตฺเถน กิเลสกฺขยกเร อริยมคฺเค าณํ. ปฏิปฺปสฺสทฺธฏฺเน อนุปฺปาเท าณนฺติ มคฺคกิจฺจสงฺขาตปโยคปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา ปฏิสนฺธิวเสน อนุปฺปาทภูเต ตํตํมคฺควชฺฌกิเลสานํ อนุปฺปาทปริโยสาเน อุปฺปนฺเน อริยผเล าณํ.
๒๐. ฉนฺโท มูลฏฺเนาติอาทีนิ นว วิสฺสชฺชนานิ อริยมคฺคสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานวเสน นิทฺทิฏฺานิ. ฉนฺโท มูลฏฺเนาติ กุสลานํ ธมฺมานํ กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท ปฏิปตฺติยา จ นิปฺผตฺติยา จ มูลตฺตา มูลฏฺเน. มนสิกาโร สมุฏฺานฏฺเนาติ โยนิโสมนสิกาโร สพฺพกุสลธมฺเม สมุฏฺาเปตีติ สมุฏฺานฏฺเน. ผสฺโส สโมธานฏฺเนาติ ¶ ยสฺมา ตณฺหาย วิเสเสน เวทนา ปธานการณํ, ตณฺหา จ ปหียมานา วิเสเสน เวทนาย ปริฺาตาย ปหียติ, ตสฺสา จ เวทนาย ผสฺโสว ปธานการณํ, ตสฺมึ ปริฺาเต เวทนา ปริฺาตา โหติ, ตสฺมา สตฺตสุ อภิฺเยฺยวตฺถูสุ ผสฺโส ปมํ วุตฺโต. โส จ ติกสนฺนิปาตสงฺขาตสฺส อตฺตโน การณสฺส วเสน ปเวทิตตฺตา ‘‘ติกสนฺนิปาตปจฺจุปฏฺาโน’’ติ วุตฺตตฺตา สโมธานฏฺเน อภิฺเยฺโย. เกจิ ปน ‘‘าณผสฺโส ผสฺโส’’ติ วทนฺติ.
ยสฺมา ปน เวทนา จิตฺตเจตสิเก อตฺตโน วเส วตฺตาปยมานา ตตฺถ สโมสรติ ปวิสติ, จิตฺตสนฺตานเมว วา ปวิสติ, ตสฺมา สโมสรณฏฺเน อภิฺเยฺยาติ วุตฺตา. เกจิ ปน ‘‘สพฺพานิปิ ปริฺเยฺยานิ เวทนาสุ สโมสรนฺติ, เวทนาสุ ปริฺาตาสุ สพฺพํ ตณฺหาวตฺถุ ปริฺาตํ โหติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เวทนาปจฺจยา หิ สพฺพาปิ ตณฺหา. ตสฺมา เวทนา สโมสรณฏฺเน อภิฺเยฺยา’’ติ วทนฺติ. ยสฺมา สพฺพโคปานสีนํ อาพนฺธนโต กูฏาคารกณฺณิกา วิย จิตฺตเจตสิกานํ สมฺปิณฺฑนโต สมาธิ กุสลานํ ธมฺมานํ ปมุโข โหติ เชฏฺโก, ตสฺมา สมาธิ ปมุขฏฺเนาติ วุตฺตํ. ปามุขฏฺเนาติปิ ปาโ. ยสฺมา สมถวิปสฺสนํ ภาเวนฺตสฺส อารมฺมณูปฏฺานาธิปติ โหติ สติ, สติยา ¶ อุปฏฺิเต อารมฺมเณ สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา สกํ สกํ กิจฺจํ สาเธนฺติ, ตสฺมา สติ อาธิปเตยฺยฏฺเนาติ วุตฺตํ. ปฺา ตทุตฺตรฏฺเนาติ อริยมคฺคปฺา เตสํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุตฺตรฏฺเน เสฏฺฏฺเน อภิฺเยฺยา. อถ วา ตโต กิเลเสหิ, สํสารวฏฺฏโต วา อุตฺตรติ สมติกฺกมตีติ ตทุตฺตรา, ตสฺสา อตฺโถ ตทุตฺตรฏฺโ. เตน ¶ ตทุตฺตรฏฺเน. ตตุตฺตรฏฺเนาติปิ ปาโ, ตโต อุตฺตรฏฺเนาติ อตฺโถ. วิมุตฺติ สารฏฺเนาติ ผลวิมุตฺติ อปริหานิวเสน ถิรตฺตา สาโร, ตํ อติกฺกมิตฺวา อฺสฺส ปริเยสิตพฺพสฺส อภาวโตปิ สาโร. สา วิมุตฺติ เตน สารฏฺเน อภิฺเยฺยา. อมโตคธํ นิพฺพานนฺติ นตฺถิ เอตสฺส มรณสงฺขาตํ มตนฺติ อมตํ, กิเลสวิสปฏิปกฺขตฺตา อคทนฺติปิ อมตํ ¶ , สจฺฉิกิริยาย สตฺตานํ ปติฏฺาภูตนฺติ โอคธํ, สํสารทุกฺขสนฺติภูตตฺตา นิพฺพุตนฺติ นิพฺพานํ, นตฺเถตฺถ ตณฺหาสงฺขาตํ วานนฺติปิ นิพฺพานํ. ตํ สาสนสฺส นิฏฺาภูตตฺตา ปริโยสานฏฺเน อภิฺเยฺยํ. เอวํ อิมสฺมึ อภิฺเยฺยนิทฺเทเส สตฺตสหสฺสานิ สตฺตสตานิ จตฺตาลีสฺจ วิสฺสชฺชนานิ โหนฺติ.
อิทานิ เตสํ เอวํ นิทฺทิฏฺานํ ธมฺมานํ ‘‘เย เย ธมฺมา อภิฺาตา, เต เต ธมฺมา าตา โหนฺตี’’ติ นิคมนํ กโรติ, ตสฺส อภิมุขํ กตฺวา าตา โหนฺตีติ อธิปฺปาโย. ตําตฏฺเน าณนฺติ เตสํ วุตฺตปฺปการานํ ธมฺมานํ ชานนฏฺเน าณํ. ปชานนฏฺเน ปฺาติ ปการโต ชานนฏฺเน ปฺา. เตน วุจฺจตีติอาทิโต ปุจฺฉิตปุจฺฉา นิคเมตฺวา ทสฺสิตา. เตน การเณน ‘‘อิเม ธมฺมา อภิฺเยฺยาติ โสตาวธานํ, ตํปชานนา ปฺา สุตมเย าณ’’นฺติ วุจฺจตีติ อตฺโถติ.
สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฏิสมฺภิทามคฺคฏฺกถาย
อภิฺเยฺยนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปริฺเยฺยนิทฺเทสวณฺณนา
๒๑. ปริฺเยฺยนิทฺเทเส ¶ กิฺจาปิ ปริฺาสทฺเทน าตปริฺา, ตีรณปริฺา, ปหานปริฺาติ ติสฺโส ปริฺา สงฺคหิตา. เหฏฺา ‘‘อภิฺเยฺยา’’ติ าตปริฺาย วุตฺตตฺตา อุปริ ‘‘ปหาตพฺพา’’ติ ปหานปริฺาย วุตฺตตฺตา ตีรณปริฺาว อิธ อธิปฺเปตา. ผสฺโส สาสโว อุปาทานิโยติ ¶ อาสวานฺเจว อุปาทานานฺจ ปจฺจยภูโต เตภูมกผสฺโส. โสปิ หิ อตฺตานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตมาเนหิ สห อาสเวหีติ สาสโว, อารมฺมณภาวํ อุปคนฺตฺวา อุปาทานสมฺพนฺธเนน อุปาทานานํ หิโตติ อุปาทานิโย. ยสฺมา ผสฺเส ตีรณปริฺาย ปริฺาเต ผสฺสมุเขน เสสาปิ อรูปธมฺมา ตทนุสาเรน จ รูปธมฺมา ปริฺายนฺติ, ตสฺมา เอโกว ผสฺโส วุตฺโต. เอวํ เสเสสุปิ ยถาโยคํ โยเชตพฺพํ.
นามนฺติ ¶ จตฺตาโร ขนฺธา อรูปิโน นิพฺพานฺจ. รูปนฺติ จตฺตาริ จ มหาภูตานิ จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูปานิ จตุวีสติ. จตฺตาโร ขนฺธา นมนฏฺเน นามํ. เต หิ อารมฺมณาภิมุขา นมนฺติ. สพฺพมฺปิ นามนฏฺเน นามํ. จตฺตาโร หิ ขนฺธา อารมฺมเณ อฺมฺํ นาเมนฺติ, นิพฺพานํ อารมฺมณาธิปติปจฺจยตาย อตฺตนิ อนวชฺชธมฺเม นาเมติ. สนฺตติวเสน สีตาทีหิ รุปฺปนฏฺเน รูปํ. รุปฺปนฏฺเนาติ กุปฺปนฏฺเน. สนฺตติวิปริณามวเสน หิ สีตาทีหิ ฆฏฺฏนียํ ธมฺมชาตํ รูปนฺติ วุจฺจติ. อิธ ปน นามนฺติ โลกิกเมว อธิปฺเปตํ, รูปํ ปน เอกนฺเตน โลกิกเมว.
ติสฺโส เวทนาติ สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนา. ตา โลกิกา เอว. อาหาราติ ปจฺจยา. ปจฺจยา หิ อตฺตโน ผลํ อาหรนฺตีติ อาหารา. กพฬีกาโร อาหาโร ผสฺสาหาโร มโนสฺเจตนาหาโร วิฺาณาหาโรติ จตฺตาโร. วตฺถุวเสน กพฬีกาตพฺพตฺตา กพฬีกาโร ¶ , อชฺโฌหริตพฺพตฺตา อาหาโร. โอทนกุมฺมาสาทิวตฺถุกาย โอชาเยตํ นามํ. สา หิ โอชฏฺมกรูปานิ อาหรตีติ อาหาโร. จกฺขุสมฺผสฺสาทิโก ฉพฺพิโธ ผสฺโส ติสฺโส เวทนา อาหรตีติ อาหาโร. มนโส สฺเจตนา, น สตฺตสฺสาติ มโนสฺเจตนา ยถา จิตฺเตกคฺคตา. มนสา วา สมฺปยุตฺตา สฺเจตนา มโนสฺเจตนา ยถา อาชฺรโถ. เตภูมกกุสลากุสลเจตนา. สา หิ ตโย ภเว อาหรตีติ อาหาโร. วิฺาณนฺติ เอกูนวีสติเภทํ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ. ตฺหิ ปฏิสนฺธินามรูปํ อาหรตีติ อาหาโร. อุปาทานกฺขนฺธาติ อุปาทานโคจรา ขนฺธา, มชฺฌปทโลโป ทฏฺพฺโพ. อุปาทานสมฺภูตา วา ขนฺธา อุปาทานกฺขนฺธา ยถา ติณคฺคิ ¶ ถุสคฺคิ. อุปาทานวิเธยฺยา วา ขนฺธา อุปาทานกฺขนฺธา ยถา ราชปุริโส. อุปาทานปฺปภวา วา ขนฺธา อุปาทานกฺขนฺธา ยถา ปุปฺผรุกฺโข ผลรุกฺโข. อุปาทานานิ ปน กามุปาทานํ ทิฏฺุปาทานํ สีลพฺพตุปาทานํ อตฺตวาทุปาทานนฺติ จตฺตาริ. อตฺถโต ปน ภุสํ อาทานนฺติ อุปาทานํ. รูปุปาทานกฺขนฺโธ, เวทนุปาทานกฺขนฺโธ, สฺุปาทานกฺขนฺโธ, สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ, วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธติ ปฺจ.
ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานีติ จกฺขายตนํ, โสตายตนํ, ฆานายตนํ, ชิวฺหายตนํ, กายายตนํ, มนายตนํ.
สตฺต วิฺาณฏฺิติโยติ กตมา สตฺต? วุตฺตฺเหตํ ภควตา –
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว (อ. นิ. ๗.๔๔; ที. นิ. ๓.๓๓๒), สตฺตา นานตฺตกายา ¶ นานตฺตสฺิโน. เสยฺยถาปิ มนุสฺสา เอกจฺเจ จ เทวา เอกจฺเจ จ วินิปาติกา. อยํ ปมา วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน. เสยฺยถาปิ เทวา พฺรหฺมกายิกา ปมาภินิพฺพตฺตา. อยํ ทุติยา วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา เอกตฺตกายา นานตฺตสฺิโน. เสยฺยถาปิ เทวา อาภสฺสรา. อยํ ตติยา วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา เอกตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน. เสยฺยถาปิ เทวา สุภกิณฺหา. อยํ จตุตฺถา วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนูปคา. อยํ ปฺจมี วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนูปคา. อยํ ¶ ฉฏฺา วิฺาณฏฺิติ.
‘‘สนฺติ ¶ , ภิกฺขเว, สตฺตา สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนูปคา. อยํ สตฺตมี วิฺาณฏฺิติ. อิมา โข, ภิกฺขเว, สตฺต วิฺาณฏฺิติโย’’ติ (อ. นิ. ๗.๔๔; ที. นิ. ๓.๓๓๒).
วิฺาณฏฺิติโยติ ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส านานิ สวิฺาณกา ขนฺธา เอว. ตตฺถ เสยฺยถาปีติ นิทสฺสนตฺเถ นิปาโต. มนุสฺสาติ อปริมาเณสุปิ จกฺกวาเฬสุ อปริมาณานํ มนุสฺสานํ วณฺณสณฺานาทิวเสน ทฺเวปิ เอกสทิสา นตฺถิ. เยปิ วณฺเณน วา สณฺาเนน วา สทิสา โหนฺติ, เตปิ อาโลกิตวิโลกิตาทีหิ วิสทิสาว โหนฺติ, ตสฺมา นานตฺตกายาติ วุตฺตา. ปฏิสนฺธิสฺา ปน เนสํ ติเหตุกาปิ ทุเหตุกาปิ อเหตุกาปิ โหติ, ตสฺมา นานตฺตสฺิโนติ วุตฺตา. เอกจฺเจ จ เทวาติ ฉ กามาวจรเทวา. เตสุ หิ เกสฺจิ กาโย นีโล โหติ, เกสฺจิ ปีตกาทิวณฺโณ, สฺา ปน เนสํ ติเหตุกาปิ ทุเหตุกาปิ โหติ, อเหตุกา น โหติ. เอกจฺเจ จ วินิปาติกาติ ¶ จตุอปายวินิมุตฺตา ปุนพฺพสุมาตา ยกฺขินี, ปิยงฺกรมาตา, ผุสฺสมิตฺตา, ธมฺมคุตฺตาติ เอวมาทโย อฺเ จ เวมานิกา เปตา. เอเตสฺหิ โอทาตกาฬมงฺคุรจฺฉวิสามวณฺณาทิวเสน เจว กิสถูลรสฺสทีฆวเสน จ กาโย นานา โหติ, มนุสฺสานํ วิย ติเหตุกทฺวิเหตุกาเหตุกวเสน สฺาปิ. เต ปน เทวา วิย น มเหสกฺขา, กปณมนุสฺสา วิย อปฺเปสกฺขา ทุลฺลภฆาสจฺฉาทนา ทุกฺขปีฬิตา วิหรนฺติ. เอกจฺเจ กาฬปกฺเข ทุกฺขิตา ชุณฺหปกฺเข สุขิตา โหนฺติ, ตสฺมา สุขสมุสฺสยโต วินิปติตตฺตา วินิปาติกาติ วุตฺตา. เย ปเนตฺถ ติเหตุกา, เตสํ ธมฺมาภิสมโยปิ โหติ ปิยงฺกรมาตาทีนํ วิย.
พฺรหฺมกายิกาติ พฺรหฺมปาริสชฺชพฺรหฺมปุโรหิตมหาพฺรหฺมาโน. ปมาภินิพฺพตฺตาติ เต สพฺเพปิ ปมชฺฌาเนน นิพฺพตฺตา. พฺรหฺมปาริสชฺชา ปน ปริตฺเตน, พฺรหฺมปุโรหิตา มชฺฌิเมน, กาโย จ เตสํ วิปฺผาริกตโร โหติ. มหาพฺรหฺมาโน ปณีเตน, กาโย ปน เนสํ อติวิปฺผาริกตโร โหติ. อิติ เต กายสฺส นานตฺตา, ปมชฺฌานวเสน สฺาย เอกตฺตา นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโนติ ¶ วุตฺตา. ยถา จ เต, เอวํ จตูสุ อปาเยสุ สตฺตา. นิรเยสุ หิ เกสฺจิ คาวุตํ, เกสฺจิ อฑฺฒโยชนํ ¶ , เกสฺจิ ติคาวุตํ อตฺตภาโว โหติ, เทวทตฺตสฺส ปน โยชนสติโก ชาโต. ติรจฺฉาเนสุปิ เกจิ ขุทฺทกา โหนฺติ, เกจิ มหนฺตา. เปตฺติวิสเยสุปิ เกจิ สฏฺิหตฺถา เกจิ อสีติหตฺถา โหนฺติ เกจิ สุวณฺณา เกจิ ทุพฺพณฺณา. ตถา กาลกฺจิกา อสุรา. อปิเจตฺถ ทีฆปิฏฺิกา เปตา นาม สฏฺิโยชนิกาปิ โหนฺติ, สฺา ปน สพฺเพสมฺปิ อกุสลวิปากาเหตุกาว โหติ. อิติ อปายิกาปิ ‘‘นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน’’ติ สงฺขํ คจฺฉนฺติ.
อาภสฺสราติ ทณฺฑอุกฺกาย อจฺจิ วิย เอเตสํ สรีรโต อาภา ฉิชฺชิตฺวา ฉิชฺชิตฺวา ปตนฺตี วิย สรติ วิสรตีติ อาภสฺสรา. เตสุ ปฺจกนเย ทุติยตติยชฺฌานทฺวยํ ปริตฺตํ ภาเวตฺวา อุปฺปนฺนา ปริตฺตาภา นาม โหนฺติ, มชฺฌิมํ ภาเวตฺวา อุปฺปนฺนา อปฺปมาณาภา นาม โหนฺติ, ปณีตํ ภาเวตฺวา อุปฺปนฺนา อาภสฺสรา นาม โหนฺติ. อิธ ปน อุกฺกฏฺปริจฺเฉทวเสน สพฺเพว เต คหิตา. สพฺเพสฺหิ เตสํ กาโย เอกวิปฺผาโรว โหติ, สฺา ปน อวิตกฺกวิจารมตฺตา จ อวิตกฺกอวิจารา จาติ นานา.
สุภกิณฺหาติ สุเภน โวกิณฺณา วิกิณฺณา, สุเภน สรีรปฺปภาวณฺเณน เอกคฺฆนาติ อตฺโถ. เอเตสฺหิ น อาภสฺสรานํ วิย ฉิชฺชิตฺวา ฉิชฺชิตฺวา ปภา คจฺฉตีติ. จตุกฺกนเย ตติยสฺส, ปฺจกนเย จตุตฺถสฺส ปริตฺตมชฺฌิมปณีตสฺส ฌานสฺสวเสน ปริตฺตสุภอปฺปมาณสุภสุภกิณฺหา นาม หุตฺวา นิพฺพตฺตนฺติ. อิติ สพฺเพปิ เต เอกตฺตกายา เจว จตุตฺถชฺฌานสฺาย ¶ เอกตฺตสฺิโน จาติ เวทิตพฺพา. เวหปฺผลาปิ จตุตฺถวิฺาณฏฺิติเมว ภชนฺติ. อสฺสตฺตา วิฺาณาภาวา เอตฺถ สงฺคหํ น คจฺฉนฺติ, สตฺตาวาเสสุ คจฺฉนฺติ.
สุทฺธาวาสา วิวฏฺฏปกฺเข ิตา น สพฺพกาลิกา, กปฺปสตสหสฺสมฺปิ อสงฺขฺเยยมฺปิ พุทฺธสฺุเ โลเก น อุปฺปชฺชนฺติ, โสฬสกปฺปสหสฺสพฺภนฺตเร พุทฺเธสุ อุปฺปนฺเนสุเยว อุปฺปชฺชนฺติ, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตสฺส ภควโต ขนฺธาวารสทิสา โหนฺติ, ตสฺมา เนว วิฺาณฏฺิตึ, น จ สตฺตาวาสํ ภชนฺติ. มหาสีวตฺเถโร ปน – ‘‘น โข ปน โส, สาริปุตฺต, สตฺตาวาโส สุลภรูโป, โย มยา อนาวุตฺถปุพฺโพ อิมินา ทีเฆน อทฺธุนา อฺตฺร สุทฺธาวาเสหิ เทเวหี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๖๐) อิมินา สุตฺเตน สุทฺธาวาสาปิ จตุตฺถํ ¶ ¶ วิฺาณฏฺิตึ จตุตฺถํ สตฺตาวาสฺจ ภชนฺตีติ วทติ, ตํ อปฺปฏิพาหิตตฺตา สุตฺตสฺส อนฺุาตํ.
เนวสฺานาสฺายตนํ ยเถว สฺาย, เอวํ วิฺาณสฺสาปิ สุขุมตฺตา เนววิฺาณํ นาวิฺาณํ, ตสฺมา วิฺาณฏฺิตีสุ น วุตฺตํ.
อฏฺ โลกธมฺมาติ ลาโภ, อลาโภ, ยโส, อยโส, นินฺทา, ปสํสา, สุขํ, ทุกฺขนฺติ อิเม อฏฺ โลกปฺปวตฺติยา สติ อนุปรมธมฺมกตฺตา โลกสฺส ธมฺมาติ โลกธมฺมา. เอเตหิ มุตฺโต สตฺโต นาม นตฺถิ, พุทฺธานมฺปิ โหนฺติเยว. ยถาห –
‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, โลกธมฺมา โลกํ อนุปริวตฺตนฺติ, โลโก จ อฏฺ โลกธมฺเม อนุปริวตฺตติ. กตเม อฏฺ? ลาโภ จ อลาโภ จ ยโส จ อยโส จ นินฺทา จ ปสํสา จ สุขฺจ ทุกฺขฺจ. อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ โลกธมฺมา โลกํ อนุปริวตฺตนฺติ, โลโก จ อิเม อฏฺ โลกธมฺเม อนุปริวตฺตตี’’ติ (อ. นิ. ๘.๖).
ตตฺถ อนุปริวตฺตนฺตีติ อนุพนฺธนฺติ นปฺปชหนฺติ, โลกโต น นิวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. ลาโภติ ปพฺพชิตสฺส จีวราทิ, คหฏฺสฺส ธนธฺาทิ ลาโภ. โสเยว อลพฺภมาโน ลาโภ อลาโภ. น ลาโภ อลาโภติ วุจฺจมาเน อตฺถาภาวาปตฺติโต ปริฺเยฺโย น สิยา. ยโสติ ปริวาโร. โสเยว อลพฺภมานา ยโส อยโส. นินฺทาติ อวณฺณภณนํ. ปสํสาติ วณฺณภณนํ. สุขนฺติ กามาวจรานํ กายิกเจตสิกํ. ทุกฺขนฺติ ปุถุชฺชนโสตาปนฺนสกทาคามีนํ กายิกเจตสิกํ, อนาคามิอรหนฺตานํ กายิกเมว.
นว ¶ สตฺตาวาสาติ สตฺตานํ อาวาสา, วสนฏฺานานีติ อตฺโถ. ตานิ ปน ตถาปกาสิตา ขนฺธา เอว. กตเม นว? วุตฺตฺเหตํ ภควตา –
‘‘นวยิเม, ภิกฺขเว (อ. นิ. ๙.๒๔; ที. นิ. ๓.๓๔๑), สตฺตาวาสา. กตเม นว? สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ มนุสฺสา เอกจฺเจ ¶ จ เทวา เอกจฺเจ จ วินิปาติกา. อยํ ปโม สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา พฺรหฺมกายิกา ปมาภินิพฺพตฺตา. อยํ ทุติโย สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา เอกตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา อาภสฺสรา. อยํ ตติโย สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา เอกตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เสยฺยถาปิ เทวา ¶ สุภกิณฺหา. อยํ จตุตฺโถ สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา อสฺิโน อปฺปฏิสํเวทิโน, เสยฺยถาปิ เทวา อสฺสตฺตา. อยํ ปฺจโม สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนูปคา. อยํ ฉฏฺโ สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนูปคา. อยํ สตฺตโม สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนูปคา. อยํ อฏฺโม สตฺตาวาโส.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนูปคา ¶ . อยํ นวโม สตฺตาวาโส. อิเม โข, ภิกฺขเว, นว สตฺตาวาสา’’ติ (อ. นิ. ๙.๒๔; ที. นิ. ๓.๓๔๑).
ทสายตนานีติ จกฺขายตนํ รูปายตนํ โสตายตนํ สทฺทายตนํ ฆานายตนํ คนฺธายตนํ ชิวฺหายตนํ รสายตนํ กายายตนํ โผฏฺพฺพายตนนฺติ เอวํ ทส. มนายตนธมฺมายตนานิ ปน โลกุตฺตรมิสฺสกตฺตา น คหิตานิ. อิเมสุ ทสสุ วิสฺสชฺชเนสุ วิปสฺสนาวเสน ตีรณปริฺา ¶ วุตฺตา, ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, ปริฺเยฺย’’นฺติอาทีสุ ปน อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยาทีนํ ติณฺณํ, นิโรธปฏิปทานํ สจฺฉิกิริยาภาวนฏฺานํ เตสํเยว ปฏิเวธฏฺานํ ทุกฺขาทีนํ นิสฺสรณสฺส อนุปฺปาทาทีนํ ปฺจทสนฺนํ, ปริคฺคหฏฺาทีนํ เอกตึสาย, อุตฺตริปฏิเวธฏฺาทีนํ ติณฺณํ, มคฺคงฺคานํ อฏฺนฺนํ, ‘‘ปโยคานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธฏฺโ’’ติอาทีนํ ทฺวินฺนํ, อสงฺขตฏฺสฺส วุฏฺานฏฺาทีนํ ทฺวินฺนํ, นิยฺยานฏฺสฺส อนุพุชฺฌนฏฺาทีนํ ติณฺณํ, อนุโพธนฏฺาทีนํ ติณฺณํ, อนุโพธปกฺขิยาทีนํ ติณฺณํ, อุชฺโชตนฏฺาทีนํ จตุนฺนํ, ปตาปนฏฺาทีนํ อฏฺารสนฺนํ, วิวฏฺฏนานุปสฺสนาทีนํ นวนฺนํ, ขเยาณอนุปฺปาเทาณานํ ปฺาวิมุตฺตินิพฺพานานนฺติ อิเมสํ ธมฺมานํ ปฏิลาภวเสน ตีรณปริฺา วุตฺตา, เสสานํ ยถาโยคํ ¶ วิปสฺสนาวเสน จ ปฏิลาภวเสน จ ตีรณปริฺา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
เยสํ เยสํ ธมฺมานํ ปฏิลาภตฺถาย วายมนฺตสฺส, เต เต ธมฺมา ปฏิลทฺธา โหนฺติ. เอวํ เต ธมฺมา ปริฺาตา เจว โหนฺติ ตีริตา จาติ หิ กิจฺจสมาปนฏฺเน ตีรณปริฺา วุตฺตา. กิจฺเจ หิ สมาปิเต เต ธมฺมา ปฏิลทฺธา โหนฺตีติ. เกจิ ปน ‘‘อวิปสฺสนูปคานํ าตปริฺา’’ติ วทนฺติ. อภิฺเยฺเยน าตปริฺาย วุตฺตตฺตา ตํ น สุนฺทรํ. ปริฺาตา เจว โหนฺติ ตีริตา จาติ เต ปฏิลทฺธา เอว ธมฺมา ปริฺาตา จ นาม โหนฺติ, ตีริตา จ นามาติ อตฺโถ. เอวํ กิจฺจสมาปนตฺถวเสน ปริฺาตตฺโถ วุตฺโต โหติ.
๒๒. อิทานิ ตเมวตฺถํ เอเกกธมฺเม ปฏิลาภวเสน โยเชตฺวา อนฺเต จ นิคเมตฺวา ทสฺเสตุํ เนกฺขมฺมนฺติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ ปุพฺเพ วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพนฺติ.
ปริฺเยฺยนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปหาตพฺพนิทฺเทสวณฺณนา
๒๓. ปหาตพฺพนิทฺเทเส ¶ ¶ อสฺมิมาโนติ รูปาทีสุ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อสฺมีติ มาโน. ตสฺมิฺหิ ปหีเน อรหตฺตํ ปตฺตํ โหติ. รูปราคาทีสุ ¶ วิชฺชมาเนสุปิ เสสานิ อวตฺวา อสฺมิมานสฺเสว วจนํ ทิฏฺิปติรูปกตฺเตน ตสฺส โอฬาริกตฺตาติ เวทิตพฺพํ. อวิชฺชาติ สุตฺตนฺตปริยาเยน ทุกฺขาทีสุ จตูสุ าเนสุ อฺาณํ, อภิธมฺมปริยาเยน ปุพฺพนฺตาทีหิ สทฺธึ อฏฺสุ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘ตตฺถ กตมา อวิชฺชา? ทุกฺเข อฺาณํ, ทุกฺขสมุทเย อฺาณํ, ทุกฺขนิโรเธ อฺาณํ, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย อฺาณํ, ปุพฺพนฺเต อฺาณํ, อปรนฺเต อฺาณํ, ปุพฺพนฺตาปรนฺเต อฺาณํ, อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ อฺาณ’’นฺติ (ธ. ส. ๑๑๐๖; วิภ. ๒๒๖).
ภวตณฺหาติ กามภวาทีสุ ภเวสุ ปตฺถนา. ยถาห –
‘‘ตตฺถ กตมา ภวตณฺหา? โย ภเวสุ ภวจฺฉนฺโท ภวราโค ภวนนฺที ภวตณฺหา ภวสิเนโห ภวปริฬาโห ภวมุจฺฉา ภวชฺโฌสาน’’นฺติ (วิภ. ๘๙๕).
ติสฺโส ตณฺหาติ กามตณฺหา, ภวตณฺหา, วิภวตณฺหา. ตาสํ อภิธมฺเม เอวํ นิทฺเทโส กโต – ตตฺถ กตมา ภวตณฺหา? ภวทิฏฺิสหคโต ราโค…เป… จิตฺตสฺส สาราโค, อยํ วุจฺจติ ภวตณฺหา. ตตฺถ กตมา วิภวตณฺหา? อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต ราโค…เป… จิตฺตสฺส สาราโค, อยํ วุจฺจติ วิภวตณฺหา. อวเสสา ตณฺหา กามตณฺหา. ตตฺถ กตมา กามตณฺหา? กามธาตุปฏิสํยุตฺโต ราโค…เป… จิตฺตสฺส สาราโค, อยํ วุจฺจติ กามตณฺหา. ตตฺถ กตมา ภวตณฺหา? รูปธาตุอรูปธาตุปฏิสํยุตฺโต ราโค…เป… ตตฺถ กตมา วิภวตณฺหา? อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต ราโค…เป… (วิภ. ๙๑๖).
อฏฺกถายํ ปน ‘‘ปฺจกามคุณิโก ราโค กามตณฺหา, รูปารูปภเวสุ ราโค ฌานนิกนฺติสสฺสตทิฏฺิสหคโต ราโค ¶ ภววเสน ปตฺถนา ภวตณฺหา, อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต ราโค วิภวตณฺหา’’ติ วุตฺตํ. อยํ ทสุตฺตรสุตฺตปริยาเยน โยชนา. สงฺคีติปริยาเยน ปน อภิธมฺมปริยาเยน จ ‘‘อปราปิ ติสฺโส ¶ ตณฺหา กามตณฺหา รูปตณฺหา อรูปตณฺหา. อปราปิ ติสฺโส ตณฺหา รูปตณฺหา อรูปตณฺหา นิโรธตณฺหา’’ติ ¶ (ที. นิ. ๓.๓๐๕; วิภ. ๙๑๗-๙๑๘) วุตฺตา ตณฺหาปิ เอตฺถ ยุชฺชนฺติ. ตาสุ ปฺจ กามธาตุรูปธาตุอรูปธาตุปฏิสํยุตฺตา, อนฺติมา อุจฺเฉททิฏฺิสหคตา.
จตฺตาโร โอฆาติ กาโมโฆ, ภโวโฆ, ทิฏฺโโฆ, อวิชฺโชโฆ. ยสฺส สํวิชฺชนฺติ, ตํ วฏฺฏสฺมึ โอหนนฺติ โอสีทาเปนฺตีติ โอฆา. พลวกิเลสา เอเต. กามคุณสงฺขาเต กาเม โอโฆ กาโมโฆ. กามตณฺหาเยตํ นามํ. รูปารูปสงฺขาเต กมฺมโต จ อุปปตฺติโต จ ทุวิเธปิ ภเว โอโฆ ภโวโฆ. ภวตณฺหาเยตํ นามํ. ทิฏฺิ เอว โอโฆ ทิฏฺโโฆ. ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติอาทิกาย ทิฏฺิยา เอตํ นามํ. อวิชฺชา เอว โอโฆ อวิชฺโชโฆ, ทุกฺขาทีสุ อฺาณสฺเสตํ นามํ.
ปฺจ นีวรณานีติ กามจฺฉนฺทนีวรณํ พฺยาปาทนีวรณํ ถินมิทฺธนีวรณํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจนีวรณํ วิจิกิจฺฉานีวรณํ. จิตฺตํ นีวรนฺติ ปริโยนนฺธนฺตีติ นีวรณานิ. กามียนฺตีติ กามา. ปฺจ กามคุณา. กาเมสุ ฉนฺโท กามจฺฉนฺโท. กามยตีติ วา กาโม, กาโม เอว ฉนฺโท, น กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท น ธมฺมจฺฉนฺโทติ กามจฺฉนฺโท. กามตณฺหาเยตํ นามํ. พฺยาปชฺชติ เตน จิตฺตํ ปูติภาวํ คจฺฉติ, พฺยาปาทยติ วา วินยาจารรูปสมฺปตฺติหิตสุขานีติ พฺยาปาโท. โทสสฺเสตํ นามํ. ถินนตา ถินํ, มิทฺธนตา มิทฺธํ, อนุสฺสาหสํหนนตา อสตฺติวิฆาโต จาติ อตฺโถ. จิตฺตสฺส อนุสฺสาโห ถินํ, เจตสิกานํ อกมฺมฺตา มิทฺธํ, ถินฺจ มิทฺธฺจ ถินมิทฺธํ. อุทฺธตสฺส ภาโว อุทฺธจฺจํ, อวูปสโมติ อตฺโถ. วิกฺเขปสฺเสตํ นามํ. กุจฺฉิตํ กตํ กุกตํ, กุกตสฺส ภาโว กุกฺกุจฺจํ, ครหิตกิริยภาโวติ อตฺโถ. ปจฺฉานุตาปสฺเสตํ นามํ. วิคตา จิกิจฺฉาติ วิจิกิจฺฉา, วิคตปฺาติ อตฺโถ. สภาวํ วา วิจินนฺโต เอตาย กิจฺฉติ กิลมตีติ วิจิกิจฺฉา. พุทฺธาทีสุ สํสยสฺเสตํ ¶ นามํ. กามจฺฉนฺโท เอว นีวรณํ กามจฺฉนฺทนีวรณํ. เอวํ เสเสสุปิ.
ฉ ธมฺมา, ฉทฺธมฺมาติ วา ปาโ. ฉ ตณฺหากายาติ รูปตณฺหา สทฺทตณฺหา คนฺธตณฺหา รสตณฺหา โผฏฺพฺพตณฺหา ธมฺมตณฺหา. รูเป ตณฺหา รูปตณฺหา. สา เอว กามตณฺหาทิเภเทน อเนกเภทตฺตา ราสฏฺเน กาโยติ วุตฺตา. เอวํ เสเสสุปิ.
สตฺตานุสยาติ ¶ ¶ กามราคานุสโย ปฏิฆานุสโย มานานุสโย ทิฏฺานุสโย วิจิกิจฺฉานุสโย ภวราคานุสโย อวิชฺชานุสโย. อปฺปหีนฏฺเน อนุเสนฺตีติ อนุสยา. กาเมสุ ราโค กามราโค, กาโม เอว วา ราโคติ กามราโค. อารมฺมณสฺมึ ปฏิหฺตีติ ปฏิฆํ. อยาถาวทสฺสนฏฺเน ทิฏฺิ. เสยฺยาทิวเสน มฺตีติ มาโน. ภเวสุ ราโค ภวราโค. ถามคโต กามราโค กามราคานุสโย. เอวํ เสเสสุปิ.
อฏฺ มิจฺฉตฺตาติ มิจฺฉาทิฏฺิ มิจฺฉาสงฺกปฺโป มิจฺฉาวาจา มิจฺฉากมฺมนฺโต มิจฺฉาอาชีโว มิจฺฉาวายาโม มิจฺฉาสติ มิจฺฉาสมาธิ. ‘‘หิตสุขาวหา เม ภวิสฺสนฺตี’’ติ เอวํ อาสีสิตาปิ ตถาอภาวโต อสุภาทีสุเยว สุภนฺติอาทิวิปรีตปฺปวตฺติโต จ มิจฺฉาสภาวาติ มิจฺฉตฺตา. มิจฺฉา ปสฺสติ, มิจฺฉา วา เอตาย ปสฺสนฺตีติ มิจฺฉาทิฏฺิ. อถ วา วิปรีตา ทิฏฺีติ มิจฺฉาทิฏฺิ, อยาถาวทิฏฺีติ วา มิจฺฉาทิฏฺิ, วิรชฺฌิตฺวา คหณโต วา วิตถา ทิฏฺีติ มิจฺฉาทิฏฺิ, อนตฺตาวหตฺตา ปณฺฑิเตหิ กุจฺฉิตา ทิฏฺีติ วามิจฺฉาทิฏฺิ. มิจฺฉาสงฺกปฺปาทีสุปิ เอเสว นโย. มิจฺฉาทิฏฺีติ สสฺสตุจฺเฉทาภินิเวโส. มิจฺฉาสงฺกปฺโปติ กามวิตกฺกาทิติวิโธ วิตกฺโก. มิจฺฉาวาจาติ มุสาวาทาทิจตุพฺพิธา เจตนา. มิจฺฉากมฺมนฺโตติ ปาณาติปาตาทิติวิธา เจตนา. มิจฺฉาอาชีโวติ มิจฺฉาชีวปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา. มิจฺฉาวายาโมติ อกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตํ วีริยํ. มิจฺฉาสตีติ สติปฏิปกฺขภูโต อกุสลจิตฺตุปฺปาโท. มิจฺฉาสมาธีติ อกุสลสมาธิ.
นว ตณฺหามูลกาติ (ที. นิ. ๒.๑๐๓; ๓.๓๕๙) ตณฺหํ ปฏิจฺจ ปริเยสนา, ปริเยสนํ ¶ ปฏิจฺจ ลาโภ, ลาภํ ปฏิจฺจ วินิจฺฉโย, วินิจฺฉยํ ปฏิจฺจ ฉนฺทราโค, ฉนฺทราคํ ปฏิจฺจ อชฺโฌสานํ, อชฺโฌสานํ ปฏิจฺจ ปริคฺคโห, ปริคฺคหํ ปฏิจฺจ มจฺฉริยํ, มจฺฉริยํ ปฏิจฺจ อารกฺโข, อารกฺขาธิกรณํ ทณฺฑาทานสตฺถาทานกลหวิคฺคหวิวาทตุวํตุวํเปสฺุมุสาวาทา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ (ที. นิ. ๒.๑๐๔; ๓.๓๕๙). อิเม นว ตณฺหามูลกา ธมฺมา. ตณฺหา มูลํ เอเตสนฺติ ตณฺหามูลกา. ปริเยสนาทโย อกุสลา เอว. ตณฺหํ, ปฏิจฺจาติ ตณฺหํ นิสฺสาย. ปริเยสนาติ รูปาทิอารมฺมณปริเยสนา. สา ¶ หิ ตณฺหาย สติ โหติ. ลาโภติ รูปาทิอารมฺมณปฏิลาโภ, โส หิ ปริเยสนาย สติ โหติ. วินิจฺฉโย ปน าณตณฺหาทิฏฺิวิตกฺกวเสน จตุพฺพิโธ. ตตฺถ ‘‘สุขวินิจฺฉยํ ชฺา, สุขวินิจฺฉยํ ตฺวา อชฺฌตฺตํ สุขมนุยฺุเชยฺยา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๒๓) อยํ าณวินิจฺฉโย. ‘‘วินิจฺฉโยติ ทฺเว วินิจฺฉยา ตณฺหาวินิจฺฉโย จ ทิฏฺิวินิจฺฉโย จา’’ติ (มหานิ. ๑๐๒) เอวํ อาคตานิ อฏฺสตตณฺหาวิจริตานิ ตณฺหาวินิจฺฉโย ¶ . ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย ทิฏฺิวินิจฺฉโย. ‘‘ฉนฺโท โข, เทวานมินฺท, วิตกฺกนิทาโน’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๕๘) อิมสฺมึ ปน สุตฺเต อิธ วินิจฺฉโยติ วุตฺโต วิตกฺโกเยว อาคโต. ลาภํ ลภิตฺวา หิ อิฏฺานิฏฺํ สุนฺทราสุนฺทรฺจ วิตกฺเกเนว วินิจฺฉินาติ ‘‘เอตฺตกํ เม รูปารมฺมณตฺถาย ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ สทฺทาทิอารมฺมณตฺถาย, เอตฺตกํ มยฺหํ ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ ปรสฺส, เอตฺตกํ ปริภฺุชิสฺสามิ, เอตฺตกํ นิทหิสฺสามี’’ติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ลาภํ ปฏิจฺจ วินิจฺฉโย’’ติ. ฉนฺทราโคติ เอวํ อกุสลวิตกฺเกน วิตกฺกิเต วตฺถุสฺมึ ทุพฺพลราโค จ พลวราโค จ อุปฺปชฺชติ. ฉนฺโทติ เอตฺถ ทุพฺพลราคสฺสาธิวจนํ, ราโคติ พลวราคสฺส. อชฺโฌสานนฺติ อหํ มมาติ พลวสนฺนิฏฺานํ. ปริคฺคโหติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน ปริคฺคหกรณํ. มจฺฉริยนฺติ ปเรหิ สาธารณภาวสฺส อสหนตา. เตเนวสฺส โปราณา เอวํ วจนตฺถํ วทนฺติ ‘‘อิทํ อจฺฉริยํ มยฺหเมว โหตุ, มา อฺสฺส อจฺฉริยํ โหตูติ ปวตฺตตฺตา มจฺฉริยนฺติ วุจฺจตี’’ติ. อารกฺโขติ ทฺวารปิทหนมฺชูสโคปนาทิวเสน สุฏฺุ รกฺขณํ. อธิกโรตีติ อธิกรณํ. การณสฺเสตํ ¶ นามํ. อารกฺขาธิกรณนฺติ ภาวนปุํสกํ, อารกฺขเหตูติ อตฺโถ. ทณฺฑาทานาทีสุ ปรนิเสธนตฺถํ ทณฺฑสฺส อาทานํ ทณฺฑาทานํ. เอกโตธาราทินา สตฺถสฺส อาทานํ สตฺถาทานํ. กายกลโหปิ วาจากลโหปิ กลโห. ปุริโม ปุริโม วิโรโธ วิคฺคโห. ปจฺฉิโม ปจฺฉิโม วิวาโท. ตุวํตุวนฺติ อคารววเสน ตุวํตุวํวจนํ.
ทส มิจฺฉตฺตาติ มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… มิจฺฉาสมาธิ มิจฺฉาาณํ มิจฺฉาวิมุตฺติ. ตตฺถ มิจฺฉาาณนฺติ ปาปกิริยาสุ อุปายจินฺตาวเสน ปาปํ กตฺวา สุกตํ มยาติ ปจฺจเวกฺขณากาเรน จ อุปฺปนฺโน โมโห. มิจฺฉาวิมุตฺตีติ อวิมุตฺตสฺเสว สโต วิมุตฺติสฺิตา.
อิทานิ ¶ อเนกเภเทน ปหาเนน ปหาตพฺเพ ทสฺเสตุํ ทฺเว ปหานานีติอาทิ อารทฺธํ. ปหาเนสุ หิ วิฺาเตสุ เตน เตน ปหาตพฺพา ธมฺมา สุวิฺเยฺยา โหนฺติ. ปฺจสุ ปหาเนสุ โลกิกานิ จ ทฺเว ปหานานิ อปฺปโยคํ นิสฺสรณปฺปหานฺจ เปตฺวา อปฺปโยคาเนว ทฺเว โลกุตฺตรปหานานิ ปมํ วุตฺตานิ. สมฺมา อุจฺฉิชฺชนฺติ เอเตน กิเลสาติ สมุจฺเฉโท, ปหียนฺติ เอเตน กิเลสาติ ปหานํ. สมุจฺเฉทสงฺขาตํ ปหานํ, น เสสปฺปหานนฺติ สมุจฺเฉทปฺปหานํ. กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา ปฏิปฺปสฺสทฺธิ, ปหีนตฺตา ปหานํ, ปฏิปฺปสฺสทฺธิสงฺขาตํ ปหานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ. โลกํ อุตฺตรตีติ โลกุตฺตโร. นิพฺพานสงฺขาตํ ขยํ คจฺฉตีติ ขยคามี, ขยคามี จ โส มคฺโค จาติ ขยคามิมคฺโค, ตํ ภาวยโต โส มคฺโค สมุจฺเฉทปฺปหานนฺติ อตฺโถ. ตถา ผลกฺขเณ โลกุตฺตรผลเมว ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ.
กามานเมตํ ¶ นิสฺสรณนฺติอาทีสุ กามโต รูปโต สงฺขตโต นิสฺสรนฺติ เอเตนาติ นิสฺสรณํ, เตหิ วา นิสฺสฏตฺตา นิสฺสรณํ. อสุภชฺฌานํ. กาเมหิ นิกฺขนฺตตฺตา เนกฺขมฺมํ. อนาคามิมคฺโค วา. อสุภชฺฌานฺหิ วิกฺขมฺภนโต กามานํ นิสฺสรณํ, ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปาทิตอนาคามิมคฺโค ปน สมุจฺเฉทโต สพฺพโส กามานํ อจฺจนฺตนิสฺสรณํ. รุปฺปตีติ รูปํ, น รูปํ อรูปํ มิตฺตปฏิปกฺขา อมิตฺตา วิย, โลภาทิปฏิปกฺขา อโลภาทโย ¶ วิย จ รูปปฏิปกฺโขติ อตฺโถ. ผลวเสน วา นตฺเถตฺถ รูปนฺติ อรูปํ, อรูปเมว อารุปฺปํ. อรูปชฺฌานานิ. ตานิ รูปานํ นิสฺสรณํ นาม. อรูเปหิปิ อรหตฺตมคฺโค ปุน อุปฺปตฺตินิวารณโต สพฺพโส รูปานํ นิสฺสรณํ นาม. ภูตนฺติ ชาตํ. สงฺขตนฺติ ปจฺจเยหิ สงฺคมฺม กตํ. ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนนฺติ เต เต ปจฺจเย ปฏิจฺจ สมฺมา สห จ อุปฺปนฺนํ. ปเมน สฺชาตตฺตทีปเนน อนิจฺจตา, ทุติเยน อนิจฺจสฺสาปิ สโต ปจฺจยานุภาวทีปเนน ปรายตฺตตา, ตติเยน ปรายตฺตสฺสาปิ สโต ปจฺจยานํ อพฺยาปารตฺตทีปเนน เอวํธมฺมตา ทีปิตา โหติ. นิโรโธติ นิพฺพานํ. นิพฺพานฺหิ อาคมฺม ทุกฺขํ นิรุชฺฌตีติ นิโรโธติ วุจฺจติ. โส เอว จ สพฺพสงฺขตโต นิสฺสฏตฺตา ตสฺส สงฺขตสฺส นิสฺสรณํ นาม. อฏฺกถายํ ปน –
‘‘นิโรโธ ¶ ตสฺส นิสฺสรณนฺติ อิธ อรหตฺตผลํ นิโรโธติ อธิปฺเปตํ. อรหตฺตผเลน หิ นิพฺพาเน ทิฏฺเ ปุน อายตึ สพฺพสงฺขารา น โหนฺตีติ อรหตฺตสงฺขาตสฺส นิโรธสฺส ปจฺจยตฺตา นิโรโธติ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ.
เนกฺขมฺมํ ปฏิลทฺธสฺสาติอาทีสุ อสุภชฺฌานสฺส นิสฺสรณตฺเต วิกฺขมฺภนปฺปหาเนน, อนาคามิมคฺคสฺส นิสฺสรณตฺเต สมุจฺเฉทปฺปหาเนน กามา ปหีนา เจว โหนฺติ ปริจฺจตฺตา จ. อรูปชฺฌานานํ นิสฺสรณตฺเต จ อรหตฺตมคฺคสฺส นิสฺสรณตฺเต จ เอวเมว รูปา โยเชตพฺพา. รูเปสุ หิ ฉนฺทราคปฺปหาเนน รูปานํ สมุจฺเฉโท โหติ. รูปาติ เจตฺถ ลิงฺควิปลฺลาโส กโต. นิพฺพานสฺส นิสฺสรณตฺเต นิสฺสรณปฺปหาเนน, อรหตฺตผลสฺส นิสฺสรณตฺเต ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหาเนน สงฺขารา ปหีนา เจว โหนฺติ ปริจฺจตฺตา จ. นิพฺพานสฺส จ นิสฺสรณตฺเต อารมฺมณกรณวเสน ปฏิลาโภ เวทิตพฺโพ.
ทุกฺขสจฺจนฺติอาทีสุ ปริฺาปฏิเวธนฺติอาทิ ภาวนปุํสกวจนํ. ปริฺาย ปฏิเวโธ ปริฺาปฏิเวโธ. ตํ ปริฺาปฏิเวธํ. เอส นโย เสเสสุปิ. ปชหาตีติ ตถา ตถา ปฏิวิชฺฌนฺโต ปหาตพฺเพ กิเลเส ปชหตีติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. โลกิยโลกุตฺตเรสุปิ ฉนฺทราคปฺปหาเนน วา ตานิ ปชหตีติ อตฺโถ. ปชหตีติปิ ปาโ. ยถา นาวา อปุพฺพํ อจริมํ เอกกฺขเณ ¶ จตฺตาริ กิจฺจานิ กโรติ, โอริมํ ตีรํ ¶ ปชหติ, โสตํ ฉินฺทติ, ภณฺฑํ วหติ, ปาริมํ ตีรํ อปฺเปติ, เอวเมวํ มคฺคาณํ อปุพฺพํ อจริมํ เอกกฺขเณ จตฺตาริ สจฺจานิ อภิสเมติ, ทุกฺขํ ปริฺาภิสมเยน อภิสเมติ, สมุทยํ ปหานาภิสมเยน อภิสเมติ, มคฺคํ ภาวนาภิสมเยน อภิสเมติ, นิโรธํ สจฺฉิกิริยาภิสมเยน อภิสเมติ. กึ วุตฺตํ โหติ? ‘‘นิโรธํ อารมฺมณํ กตฺวา จตฺตาริ สจฺจานิ ปาปุณาติ ปสฺสติ ปฏิวิชฺฌตี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๘๓๙) วุตฺตตฺตา เอกกฺขเณปิ วิสุํ วิสุํ วิย ปหานานิ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ.
ปฺจสุ ปหาเนสุ ยํ สเสวาเล อุทเก ปกฺขิตฺเตน ฆเฏน เสวาลสฺส วิย เตน เตน โลกิยสมาธินา นีวรณาทีนํ ปจฺจนีกธมฺมานํ วิกฺขมฺภนํ ทูรีกรณํ, อิทํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ นาม. วิกฺขมฺภนปฺปหานฺจ นีวรณานํ ปมํ ¶ ฌานํ ภาวยโตติ นีวรณานํเยว ปหานํ ปากฏตฺตา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. นีวรณานิ หิ ฌานสฺส ปุพฺพภาเคปิ ปจฺฉาภาเคปิ น สหสา จิตฺตํ อชฺโฌตฺถรนฺติ, อชฺโฌตฺถเฏสุ จ เตสุ ฌานํ ปริหายติ, วิตกฺกาทโย ปน ทุติยชฺฌานาทิโต ปุพฺเพ ปจฺฉา จ อปฺปฏิปกฺขา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ. ตสฺมา นีวรณานํ วิกฺขมฺภนํ ปากฏํ. ยํ ปน รตฺติภาเค สมุชฺชลิเตน ปทีเปน อนฺธการสฺส วิย เตน เตน วิปสฺสนาย อวยวภูเตน ฌานงฺเคน ปฏิปกฺขวเสเนว ตสฺส ตสฺส จ ปหาตพฺพธมฺมสฺส ปหานํ, อิทํ ตทงฺคปฺปหานํ นาม. ตทงฺคปฺปหานฺจ ทิฏฺิคตานํ นิพฺเพธภาคิยํ สมาธึ ภาวยโตติ ทิฏฺิคตานํเยว ปหานํ โอฬาริกวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ทิฏฺิคตฺหิ โอฬาริกํ, นิจฺจสฺาทโย สุขุมา. ตตฺถ ทิฏฺิคตานนฺติ ทิฏฺิเยว ทิฏฺิคตํ ‘‘คูถคตํ มุตฺตคต’’นฺติอาทีนิ (อ. นิ. ๙.๑๑) วิย. คนฺตพฺพาภาวโต จ ทิฏฺิยา คตมตฺตเมเวตนฺติปิ ทิฏฺิคตํ, ทฺวาสฏฺิทิฏฺีสุ อนฺโตคธตฺตา ทิฏฺีสุ คตนฺติปิ ทิฏฺิคตํ. พหุวจเนน เตสํ ทิฏฺิคตานํ. นิพฺเพธภาคิยํ สมาธินฺติ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตํ สมาธึ. ยํ ปน อสนิวิจกฺกาภิหตสฺส (วิสุทฺธิ. ๒.๘๕๑) รุกฺขสฺส วิย อริยมคฺคาเณน ¶ สํโยชนานํ ธมฺมานํ ยถา น ปุน ปวตฺตติ, เอวํ ปหานํ, อิทํ สมุจฺเฉทปฺปหานํ นาม. นิโรโธ นิพฺพานนฺติ นิโรธสงฺขาตํ นิพฺพานํ.
เอวํ ปหานวเสน ปหาตพฺเพ ธมฺเม ทสฺเสตฺวา อิทานิ สรูเปเนว ปุน ปหาตพฺเพ ธมฺเม ทสฺเสตุํ สพฺพํ, ภิกฺขเว, ปหาตพฺพนฺติอาทิมาห. ตตฺถ จกฺขาทีนิ ฉนฺทราคปฺปหาเนน ปหาตพฺพานิ. รูปํ ปสฺสนฺโต ปชหาตีติอาทีสุ รูปํ อนิจฺจาทิโต ปสฺสนฺโต ปหาตพฺเพ กิเลเส ปชหาติ. จกฺขุํ…เป… ชรามรณํ…เป… อมโตคธํ นิพฺพานนฺติ เปยฺยาลทฺวเย อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ ¶ ‘‘ปสฺสนฺโต ปชหาตี’’ติอาทีสุ เตสุ โลกุตฺตเรสุ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ ปสฺสนฺโต อุทิกฺขนฺโต อเปกฺขมาโน อิจฺฉมาโน วิปสฺสนากฺขเณสุ ปหาตพฺเพ กิเลเส ปชหาตีติ ตํตํธมฺมานุรูเปน โยเชตพฺพํ.
ปหาตพฺพนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภาเวตพฺพนิทฺเทสวณฺณนา
๒๕. ภาเวตพฺพนิทฺเทเส ¶ ¶ กายคตาสตีติ กายคตาสติสุตฺตนฺเต (ม. นิ. ๓.๑๕๓ อาทโย) วุตฺตา อานาปานจตุอิริยาปถขุทฺทกอิริยาปถทฺวตฺตึสาการจตุธาตุนวสิวถิกาปฏิกูล- ววตฺถาปกมนสิการสมฺปยุตฺตา ยถานุรูปํ รูปชฺฌานสมฺปยุตฺตา จ สติ. สา หิ เตสุ กาเยสุ คตา ปวตฺตาติ กายคตาติ วุจฺจติ. สาตสหคตาติ มธุรสุขเวทยิตสงฺขาเตน สาเตน สห เอกุปฺปาทาทิภาวํ คตา. ตพฺภาเว โวกิณฺเณ อารมฺมเณ นิสฺสเย สํสฏฺเ ทิสฺสติ สหคตสทฺโท ปฺจสุ อตฺเถสุ ชินวจเน. ‘‘ยายํ ตณฺหา โปโนพฺภวิกา นนฺทิราคสหคตา’’ติ (วิภ. ๒๐๓) เอตฺถ ตพฺภาเว, นนฺทิราคภูตาติ อตฺโถ. ‘‘ยา, ภิกฺขเว, วีมํสา โกสชฺชสหคตา โกสชฺชสมฺปยุตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๘๓๒) เอตฺถ โวกิณฺเณ, อนฺตรนฺตรา อุปฺปชฺชมาเนน โกสชฺเชน โวกิณฺณาติ อตฺโถ. ‘‘ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํ อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีน’’นฺติ (ปุ. ป. ๓-๘) เอตฺถ อารมฺมเณ, รูปารูปารมฺมณานนฺติ อตฺโถ. ‘‘อฏฺิกสฺาสหคตํ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๘) เอตฺถ นิสฺสเย, อฏฺิกสฺานิสฺสยํ อฏฺิกสฺํ ภาเวตฺวา ปฏิลทฺธนฺติ อตฺโถ. ‘‘อิทํ สุขํ อิมาย ปีติยา สหคตํ โหติ สหชาตํ สมฺปยุตฺต’’นฺติ (วิภ. ๕๗๘) เอตฺถ สํสฏฺเ, สมฺมิสฺสนฺติ อตฺโถ. อิมสฺมิมฺปิ ปเท สํสฏฺโ อธิปฺเปโต. สาตสํสฏฺา หิ สาตสหคตาติ วุตฺตา. สา หิ เปตฺวา จตุตฺถํ ฌานํ เสเสสุ สาตสหคตา โหติ, สติปิ จ อุเปกฺขาสหคตตฺเต เยภุยฺยวเสน สาตสหคตาติ วุตฺตา, ปุริมชฺฌานมูลกตฺตา วา จตุตฺถชฺฌานสฺส สาตสหคตาย อุเปกฺขาสหคตาปิ วุตฺตาว โหติ ¶ , อุเปกฺขาย ปน สนฺเต สุเข วุตฺตตฺตา ภควตา สาตสหคตาติ จตุตฺถชฺฌานสมฺปยุตฺตาปิ วุตฺตาว โหติ.
สมโถ จ วิปสฺสนา จาติ กามจฺฉนฺทาทโย ปจฺจนีกธมฺเม สเมติ วินาเสตีติ สมโถ. สมาธิสฺเสตํ นามํ. อนิจฺจตาทิวเสน วิวิเธหิ อากาเรหิ ธมฺเม ปสฺสตีติ วิปสฺสนา. ปฺาเยตํ นามํ. อิเม ปน ทฺเว ทสุตฺตรปริยาเย ปุพฺพภาคาติ วุตฺตา, สงฺคีติปริยาเย จ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกาติ. ตโย สมาธีติ สวิตกฺโก สวิจาโร สมาธิ ¶ , อวิตกฺโก วิจารมตฺโต ¶ สมาธิ, อวิตกฺโก อวิจาโร สมาธิ. สมฺปโยควเสน วตฺตมาเนน สห วิตกฺเกน สวิตกฺโก, สห วิจาเรน สวิจาโร. โส ขณิกสมาธิ, วิปสฺสนาสมาธิ, อุปจารสมาธิ, ปมชฺฌานสมาธิ. นตฺถิ เอตสฺส วิตกฺโกติ อวิตกฺโก. วิตกฺกวิจาเรสุ วิจาโร มตฺตา ปรมา ปมาณํ เอตสฺสาติ วิจารมตฺโต, วิจารโต อุตฺตริ วิตกฺเกน สมฺปโยคํ น คจฺฉตีติ อตฺโถ. โส ปฺจกนเย ทุติยชฺฌานสมาธิ, ตทุภยวิรหิโต อวิตกฺโก อวิจาโร สมาธิ. โส จตุกฺกนเย ทุติยชฺฌานาทิ, ปฺจกนเย ตติยชฺฌานาทิ รูปาวจรสมาธิ. อิเม ตโยปิ โลกิยา เอว. สงฺคีติปริยาเย อปเรปิ ตโย สมาธี วุตฺตา – ‘‘สฺุโต สมาธิ, อนิมิตฺโต สมาธิ, อปฺปณิหิโต สมาธี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๐๕). น เต อิธ อธิปฺเปตา.
จตฺตาโร สติปฏฺานาติ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, เวทนานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, จิตฺตานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, ธมฺมานุปสฺสนาสติปฏฺานํ. ปุพฺพภาเค จุทฺทสวิเธน กายํ ปริคฺคณฺหโต กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, นววิเธน เวทนํ ปริคฺคณฺหโต เวทนานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, โสฬสวิเธน จิตฺตํ ปริคฺคณฺหโต จิตฺตานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, ปฺจวิเธน ธมฺเม ปริคฺคณฺหโต ธมฺมานุปสฺสนาสติปฏฺานํ เวทิตพฺพํ. โลกุตฺตรํ ปน อิธ น อธิปฺเปตํ. ปฺจงฺคิโก สมาธีติ ปฺจ องฺคานิ อสฺส สนฺตีติ ปฺจงฺคิโก, จตุตฺถชฺฌานสมาธิ. ปีติผรณตา, สุขผรณตา, เจโตผรณตา, อาโลกผรณตา, ปจฺจเวกฺขณนิมิตฺตนฺติ ¶ ปฺจ องฺคานิ. ปีตึ ผรมานา อุปฺปชฺชตีติ ทฺวีสุ ฌาเนสุ ปฺา ปีติผรณตา นาม. สุขํ ผรมานา อุปฺปชฺชตีติ ตีสุ ฌาเนสุ ปฺา สุขผรณตา นาม. ปเรสํ เจโต ผรมานา อุปฺปชฺชตีติ เจโตปริยปฺา เจโตผรณตา นาม. อาโลกํ ผรมานา อุปฺปชฺชตีติ ทิพฺพจกฺขุปฺา อาโลกผรณตา นาม. ปจฺจเวกฺขณาณํ ปจฺจเวกฺขณนิมิตฺตํ นาม. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ทฺวีสุ ฌาเนสุ ปฺา ปีติผรณตา, ตีสุ ฌาเนสุ ปฺา สุขผรณตา, ปรจิตฺตปฺา เจโตผรณตา, ทิพฺพจกฺขุปฺา อาโลกผรณตา, ตมฺหา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺิตสฺส ปจฺจเวกฺขณาณํ ปจฺจเวกฺขณนิมิตฺต’’นฺติ (วิภ. ๘๐๔).
ตฺหิ ¶ วุฏฺิตสมาธิสฺส ปวตฺตาการคหณโต นิมิตฺตนฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ จ ปีติผรณตา สุขผรณตา ทฺเว ปาทา วิย, เจโตผรณตา อาโลกผรณตา ทฺเว หตฺถา วิย, อภิฺาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานํ มชฺฌิมกาโย วิย, ปจฺจเวกฺขณนิมิตฺตํ สีสํ วิย. อิติ อายสฺมา ธมฺมเสนาปติ ¶ สาริปุตฺตตฺเถโร ปฺจงฺคิกํ สมฺมาสมาธึ องฺคปจฺจงฺคสมฺปนฺนํ ปุริสํ วิย กตฺวา ทสฺเสสิ.
ฉ อนุสฺสติฏฺานานีติ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต สติโย เอว อนุสฺสติโย, ปวตฺติตพฺพฏฺานสฺมึเยว ปวตฺตตฺตา สทฺธาปพฺพชิตสฺส กุลปุตฺตสฺส อนุรูปา สติโยติปิ อนุสฺสติโย, อนุสฺสติโย เอว ปีติอาทีนํ านตฺตา อนุสฺสติฏฺานานิ. กตมานิ ฉ? พุทฺธานุสฺสติ ธมฺมานุสฺสติ สงฺฆานุสฺสติ สีลานุสฺสติ จาคานุสฺสติ เทวตานุสฺสติ (ที. นิ. ๓.๓๒๗). โพชฺฌงฺคาติ โพธิยา, โพธิสฺส วา องฺคา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยา เอสา ธมฺมสามคฺคี ยาย โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ อุปฺปชฺชมานาย ลีนุทฺธจฺจปติฏฺานายูหนกามสุขตฺตกิลมถานุโยคอุจฺเฉทสสฺสตาภินิเวสาทีนํ อเนเกสํ อุปทฺทวานํ ปฏิปกฺขภูตาย สติธมฺมวิจยวีริยปีติปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสงฺขาตาย ธมฺมสามคฺคิยา อริยสาวโก พุชฺฌตีติ กตฺวา โพธีติ วุจฺจติ. พุชฺฌตีติ กิเลสสนฺตานนิทฺทาย วุฏฺหติ, จตฺตาริ วา อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ, นิพฺพานเมว วา สจฺฉิกโรติ, ตสฺสา ธมฺมสามคฺคิสงฺขาตาย โพธิยา องฺคาติปิ โพชฺฌงฺคา ฌานงฺคมคฺคงฺคาทโย ¶ วิย. โย ปเนส ยถาวุตฺตปฺปการาย เอตาย ธมฺมสามคฺคิยา พุชฺฌตีติ กตฺวา อริยสาวโก โพธีติ วุจฺจติ, ตสฺส โพธิสฺส องฺคาติปิ โพชฺฌงฺคา เสนงฺครถงฺคาทโย วิย. เตนาหุ อฏฺกถาจริยา ‘‘พุชฺฌนกสฺส ปุคฺคลสฺส องฺคาติ วา โพชฺฌงฺคา’’ติ. อปิจ ‘‘โพชฺฌงฺคาติ เกนฏฺเน โพชฺฌงฺคา, โพธาย สํวตฺตนฺตีติ โพชฺฌงฺคา’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๒.๑๗) นเยน โพชฺฌงฺคฏฺโ เวทิตพฺโพ. อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโคติ ตํตํมคฺควชฺฌกิเลเสหิ อารกตฺตา อริยภาวกรตฺตา อริยผลปฏิลาภกรตฺตา จ อริโย. อฏฺ องฺคานิ อสฺสาติ อฏฺงฺคิโก. โสยํ จตุรงฺคิกา วิย เสนา, ปฺจงฺคิกํ วิย จ ตูริยํ องฺคมตฺตเมว โหติ, องฺควินิมุตฺโต นตฺถิ. โพชฺฌงฺคมคฺคงฺคา โลกุตฺตรา, ทสุตฺตรปริยาเยน ปุพฺพภาคาปิ ลพฺภนฺติ.
นว ¶ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคานีติ สีลวิสุทฺธิ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ, จิตฺตวิสุทฺธิ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ, ทิฏฺิวิสุทฺธิ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ, กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ, มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธิ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ, ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ, าณทสฺสนวิสุทฺธิ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ, ปฺา ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ, วิมุตฺติ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคํ (ที. นิ. ๓.๓๕๙). สีลวิสุทฺธีติ วิสุทฺธึ ปาเปตุํ สมตฺถํ จตุปาริสุทฺธิสีลํ. ตฺหิ ทุสฺสีลฺยมลํ วิโสเธติ. ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคนฺติ ปริสุทฺธภาวสฺส ปธานํ อุตฺตมํ องฺคํ. จิตฺตวิสุทฺธีติ วิปสฺสนาย ปทฏฺานภูตา ปคุณา ¶ อฏฺ สมาปตฺติโย. ตา หิ กามจฺฉนฺทาทิจิตฺตมลํ วิโสเธนฺติ. ทิฏฺิวิสุทฺธีติ สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสนํ. ตฺหิ สตฺตทิฏฺิมลํ วิโสเธติ. กงฺขาวิตรณวิสุทฺธีติ ปจฺจยาการาณํ. เตน หิ ตีสุ อทฺธาสุ ปจฺจยวเสน ธมฺมา ปวตฺตนฺตีติ ปสฺสนฺโต ตีสุปิ อทฺธาสุ สตฺตกงฺขามลํ วิตรนฺโต วิสุชฺฌติ. มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธีติ อุทยพฺพยานุปสฺสนกฺขเณ อุปฺปนฺนา โอภาสาณปีติปสฺสทฺธิสุขอธิโมกฺขปคฺคหอุปฏฺานอุเปกฺขานิกนฺตีติ ¶ ทส วิปสฺสนุปกฺกิเลสา, น มคฺโค, วีถิปฏิปนฺนํ อุทยพฺพยาณํ มคฺโคติ เอวํ มคฺคามคฺเค าณํ นาม. เตน หิ อมคฺคมลํ วิโสเธติ. ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธีติ วีถิปฏิปนฺนํ อุทยพฺพยานุปสฺสนาาณํ ภงฺคานุปสฺสนาาณํ ภยตุปฏฺานานุปสฺสนาาณํ อาทีนวานุปสฺสนาาณํ นิพฺพิทานุปสฺสนาาณํ มฺุจิตุกมฺยตาาณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาณํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ อนุโลมาณนฺติ อิมานิ นว วิปสฺสนาาณานิ. ตานิ หิ นิจฺจสฺาทิมลํ วิโสเธนฺติ. าณทสฺสนวิสุทฺธีติ จตุอริยมคฺคปฺา. สา หิ สมุจฺเฉทโต สกสกมคฺควชฺฌกิเลสมลํ วิโสเธติ. ปฺาติ อรหตฺตผลปฺา. วิมุตฺตีติ อรหตฺตผลวิมุตฺติ.
ทส กสิณายตนานีติ ‘‘ปถวีกสิณเมโก สฺชานาติ อุทฺธํ อโธ ติริยํ อทฺวยํ อปฺปมาณํ, อาโปกสิณเมโก สฺชานาติ…เป… เตโชกสิณเมโก สฺชานาติ…เป… วาโยกสิณเมโก สฺชานาติ…เป… นีลกสิณเมโก สฺชานาติ…เป… ปีตกสิณเมโก สฺชานาติ…เป… โลหิตกสิณเมโก สฺชานาติ…เป… โอทาตกสิณเมโก สฺชานาติ…เป… อากาสกสิณเมโก สฺชานาติ…เป… วิฺาณกสิณเมโก สฺชานาติ อุทฺธํ อโธ ติริยํ อทฺวยํ อปฺปมาณ’’นฺติ (อ. นิ. ๑๐.๒๕; ที. นิ. ๓.๓๖๐) เอวํ วุตฺตานิ ทส. เอตานิ ¶ หิ สกลผรณฏฺเน กสิณานิ, ตทารมฺมณานํ ธมฺมานํ เขตฺตฏฺเน อธิฏฺานฏฺเน วา อายตนานิ. อุทฺธนฺติ อุปริคคนตลาภิมุขํ. อโธติ เหฏฺาภูมิตลาภิมุขํ. ติริยนฺติ เขตฺตมณฺฑลมิว สมนฺตา ปริจฺฉินฺนํ. เอกจฺโจ หิ อุทฺธเมว กสิณํ วฑฺเฒติ เอกจฺโจ อโธ, เอกจฺโจ สมนฺตโต. เอโกปิ เตน เตน วา การเณน เอวํ ปสาเรติ อาโลกมิว รูปทสฺสนกาโม. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปถวีกสิณเมโก สฺชานาติ อุทฺธํ อโธ ติริย’’นฺติ (อ. นิ. ๑๐.๒๕; ที. นิ. ๓.๓๖๐). อทฺวยนฺติ อิทํ ปน เอกสฺส อฺภาวานุปคมนตฺถํ วุตฺตํ. ยถา หิ อุทกํ ปวิฏฺสฺส สพฺพทิสาสุ อุทกเมว โหติ น อฺํ, เอวเมว ปถวีกสิณํ ปถวีกสิณเมว โหติ, นตฺถิ ตสฺส อฺกสิณสมฺเภโทติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อปฺปมาณนฺติ อิทํ ตสฺส ตสฺส ผรณอปฺปมาณวเสน ¶ วุตฺตํ. ตฺหิ มนสา ผรนฺโต สกลเมว ผรติ, น ‘‘อยมสฺส อาทิ อิทํ มชฺฌ’’นฺติ ปมาณํ คณฺหาตีติ. อากาสกสิณนฺติ กสิณุคฺฆาฏิมากาโส ปริจฺเฉทากาสกสิณฺจ. วิฺาณกสิณนฺติ กสิณุคฺฆาฏิมากาเส ¶ ปวตฺตวิฺาณํ. ตตฺถ กสิณวเสน กสิณุคฺฆาฏิมากาเส, กสิณุคฺฆาฏิมากาสวเสน ตตฺถ ปวตฺตวิฺาเณ อุทฺธํอโธติริยตา เวทิตพฺพา, ปริจฺเฉทากาสกสิณสฺสปิ วฑฺฒนียตฺตา ตสฺส วเสนปีติ.
๒๖. อิทานิ ภาวนาปเภทํ ทสฺเสนฺโต ทฺเว ภาวนาติอาทิมาห. ตตฺถ โลกิยาติอาทีสุ โลโก วุจฺจติ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน วฏฺฏํ, ตสฺมึ ปริยาปนฺนภาเวน โลเก นิยุตฺตาติ โลกิยา, โลกิยานํ ธมฺมานํ ภาวนา โลกิยา. กิฺจาปิ ธมฺมานํ ภาวนาติ โวหารวเสน วุจฺจติ, เตหิ ปน วิสุํ ภาวนา นตฺถิ. เต เอว หิ ธมฺมา ภาวิยมานา ภาวนาติ วุจฺจนฺติ. อุตฺติณฺณาติ อุตฺตรา, โลเก อปริยาปนฺนภาเวน โลกโต อุตฺตราติ โลกุตฺตรา.
รูปภวสงฺขาเต รูเป อวจรนฺตีติ รูปาวจรา. กุสลสทฺโท ปเนตฺถ อาโรคฺยอนวชฺชเฉกสุขวิปาเกสุ ทิสฺสติ. ‘‘กจฺจิ นุ โภโต กุสลํ? กจฺจิ โภโต อนามย’’นฺติอาทีสุ (ชา. ๑.๑๕.๑๔๖; ๒.๒๐.๑๒๙) อาโรคฺเย. ‘‘กตโม ปน, ภนฺเต, กายสมาจาโร กุสโล? โย โข, มหาราช, กายสมาจาโร อนวชฺโช’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๖๑) จ ‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริยํ, ยถา ภควา ธมฺมํ เทเสติ กุสเลสุ ธมฺเมสู’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๔๕) จ เอวมาทีสุ อนวชฺเช. ‘‘ตํ ¶ กึ มฺสิ, ราชกุมาร, กุสโล ตฺวํ รถสฺส องฺคปจฺจงฺคาน’’นฺติ? (ม. นิ. ๒.๘๗) ‘‘กุสลา นจฺจคีตสฺส สิกฺขิตา จาตุริตฺถิโย’’ติ (ชา. ๒.๒๒.๙๔) จ อาทีสุ เฉเก. ‘‘กุสลานํ ธมฺมานํ สมาทานเหตุ เอวมิทํ ปฺุํ ปวฑฺฒตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๘๐) ‘‘กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา’’ติ (ธ. ส. ๔๓๑) จ อาทีสุ สุขวิปาเก. สฺวายมิธ อาโรคฺเยปิ อนวชฺเชปิ สุขวิปาเกปิ วฏฺฏติ. วจนตฺโถ ปเนตฺถ กุจฺฉิเต ปาปเก ธมฺเม สลยนฺติ จลยนฺติ กมฺเปนฺติ วิทฺธํเสนฺตีติ กุสลา, กุจฺฉิเตน วา อากาเรน สยนฺติ ¶ ปวตฺตนฺตีติ กุสา, เต อกุสลสงฺขาเต กุเส ลุนนฺติ ฉินฺทนฺตีติ กุสลา, กุจฺฉิตานํ วา สานโต ตนุกรณโต กุสํ, าณํ. เตน กุเสน ลาตพฺพา คเหตพฺพา ปวตฺเตตพฺพาติ กุสลา, ยถา วา กุสา อุภยภาคคตํ หตฺถปฺปเทสํ ลุนนฺติ, เอวมิเมปิ อุปฺปนฺนานุปฺปนฺนภาเวน อุภยภาคคตํ สํกิเลสปกฺขํ ลุนนฺติ, ตสฺมา กุสา วิย ลุนนฺตีติ กุสลา. เตสํ รูปาวจรกุสลานํ ภาวนา. อรูปภวสงฺขาเต อรูเป อวจรนฺตีติ อรูปาวจรา. เตภูมกวฏฺเฏ ปริยาปนฺนา อนฺโตคธาติ ปริยาปนฺนา, ตสฺมึ น ปริยาปนฺนาติ อปริยาปนฺนา, โลกุตฺตรา.
กามาวจรกุสลานํ ¶ ธมฺมานํ ภาวนา กสฺมา น วุตฺตาติ เจ? อปฺปนาปฺปตฺตาย เอว ภาวนาย อภิธมฺเม ภาวนาติ อธิปฺเปตตฺตา. วุตฺตฺหิ ตตฺถ –
‘‘โยควิหิเตสุ วา กมฺมายตเนสุ โยควิหิเตสุ วา สิปฺปายตเนสุ โยควิหิเตสุ วา วิชฺชาฏฺาเนสุ กมฺมสฺสกตํ วา สจฺจานุโลมิกํ วา รูปํ อนิจฺจนฺติ วา, เวทนา อนิจฺจาติ วา, สฺา อนิจฺจาติ วา, สงฺขารา อนิจฺจาติ วา, วิฺาณํ อนิจฺจนฺติ วา ยํ เอวรูปํ อนุโลมิกํ ขนฺตึ ทิฏฺึ รุจึ มุทึ เปกฺขํ ธมฺมนิชฺฌานกฺขนฺตึ ปรโต อสุตฺวา ปฏิลภติ, อยํ วุจฺจติ จินฺตามยา ปฺา. โยควิหิเตสุ วา กมฺมายตเนสุ…เป… ธมฺมนิชฺฌานกฺขนฺตึ ปรโต สุตฺวา ปฏิลภติ, อยํ วุจฺจติ สุตมยา ปฺา. สพฺพาปิ สมาปนฺนสฺส ปฺา ภาวนามยา ปฺา’’ติ (วิภ. ๗๖๘).
สา ¶ ปน กามาวจรภาวนา อาวชฺชนภวงฺคปาเตหิ อนฺตริตตฺตา ภาวนาติ น วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. สพฺเพสํ ปน ปฺุานํ ติวิธปฺุกิริยวตฺถูนํ อนฺโตคธตฺตา อุปจารสมาธิวิปสฺสนาสมาธีนํ ภาวนามยปฺุตา สิทฺธา. อิธ ปน โลกิยภาวนาย เอว สงฺคหิตา. รูปารูปาวจรานํ ติวิธภาเว หีนาติ ลามกา. หีนุตฺตมานํ มชฺเฌ ภวา มชฺฌา, มชฺฌิมาติปิ ปาโ. ปธานภาวํ นีตาติ ปณีตา, อุตฺตมาติ อตฺโถ. อายูหนวเสน อยํ หีนมชฺฌิมปณีตตา เวทิตพฺพา. ยสฺสา หิ อายูหนกฺขเณ ¶ ฉนฺโท วา หีโน โหติ วีริยํ วา จิตฺตํ วา วีมํสา วา, สา หีนา นาม. ยสฺสา เต ธมฺมา มชฺฌิมา, สา มชฺฌิมา นาม. ยสฺสา เต ธมฺมา ปณีตา, สา ปณีตา นาม. มุทุเกหิ วา อินฺทฺริเยหิ สมฺปยุตฺตา หีนา นาม, มชฺฌิเมหิ อินฺทฺริเยหิ สมฺปยุตฺตา มชฺฌิมา, อธิมตฺเตหิ อินฺทฺริเยหิ สมฺปยุตฺตา ปณีตา นาม. อปริยาปนฺนาย หีนมชฺฌิมตฺตาภาวา ปณีตตา เอว วุตฺตา. สา หิ อุตฺตมฏฺเน อตปฺปกฏฺเน จ ปณีตา.
๒๗. ปมภาวนาจตุกฺเก ภาเวตีติ เอกสฺมึเยว ขเณ ตถา ตถา ปฏิวิชฺฌนฺโต อริยมคฺคํ ภาเวติ. ทุติยภาวนาจตุกฺเก เอสนาภาวนาติ อปฺปนาปุพฺพภาเค ภาวนา. สา หิ อปฺปนํ เอสนฺติ เอตายาติ เอสนาติ วุตฺตา. ปฏิลาภภาวนาติ อปฺปนาภาวนา. สา หิ ตาย เอสนาย ปฏิลพฺภตีติ ปฏิลาโภติ วุตฺตา. เอกรสาภาวนาติ ปฏิลาเภ วสีภาวํ ปตฺตุกามสฺส ปโยคกาเล ภาวนา. สา หิ เตน เตน ปหาเนน เตหิ เตหิ กิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติรเสน เอกรสาติ กตฺวา เอกรสาติ วุตฺตา. อาเสวนาภาวนาติ ปฏิลาเภ วสิปฺปตฺตสฺส ยถารุจิ ¶ ปริโภคกาเล ภาวนา. สา หิ ภุสํ เสวียตีติ อาเสวนาติ วุตฺตา. เกจิ ปน ‘‘อาเสวนาภาวนา วสีกมฺมํ, เอกรสาภาวนา สพฺพตฺถิกา’’ติ วณฺณยนฺติ. จตุกฺกวิภาเค สมาธึ สมาปชฺชนฺตานนฺติ วตฺตมานสมีเป วตฺตมานวจนํ. ตตฺถ ชาตาติ ตสฺมึ ปุพฺพภาเค ชาตา. เอกรสา โหนฺตีติ อปฺปนุปฺปาทเน สมานกิจฺจา โหนฺติ. สมาธึ สมาปนฺนานนฺติ อปฺปิตปฺปนานํ. ตตฺถ ชาตาติ ตสฺสา อปฺปนาย ชาตา. อฺมฺํ นาติวตฺตนฺตีติ สมปฺปวตฺติยา อฺมฺํ นาติกฺกมนฺติ. อธิโมกฺขฏฺเน สทฺธินฺทฺริยํ ¶ ภาวยโตติอาทีสุ เอกกฺขเณปิ เอเกกสฺส อินฺทฺริยสฺส สกสกกิจฺจกรเณ ตํตํนิสฺสยวเสน สกสกกิจฺจการกานิ เสสานิปิ อินฺทฺริยานิ วิมุตฺติรเสน เอกรสา โหนฺตีติ วิมุตฺติรเสเนว เอกรสฏฺเน ภาวนา. พลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺเคสุปิ เอเสว นโย. เอกรสาติ จ ลิงฺควิปลฺลาโส กโต.
อิธ ภิกฺขูติ อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขุ. สํสาเร ภยํ อิกฺขตีติ ภิกฺขุ. ปุพฺพณฺหสมยนฺติอาทีสุ อจฺจนฺตสํโยคตฺเถ อุปโยควจนํ, อตฺถโต ปน ภุมฺมเมว ¶ , ทิวสสฺส ปุพฺพกาเลติ อตฺโถ. อาเสวตีติ วสิปฺปตฺตํ สมาธึ ภุสํ เสวติ. มชฺฌนฺหิกสมยนฺติ ทิวสสฺส มชฺฌกาเล. สายนฺหสมยนฺติ ทิวสสฺส สายนฺหกาเล. ปุเรภตฺตนฺติ ทิวาภตฺตโต ปุเรกาเล. ปจฺฉาภตฺตนฺติ ทิวาภตฺตโต ปจฺฉากาเล. ปุริเมปิ ยาเมติ รตฺติยา ปเม โกฏฺาเส. กาเฬติ กาฬปกฺเข. ชุณฺเหติ สุกฺกปกฺเข. ปุริเมปิ วโยขนฺเธติ ปเม วโยโกฏฺาเส, ปมวเยติ อตฺโถ. ตีสุ จ วเยสุ วสฺสสตายุกสฺส ปุริสสฺส เอเกกสฺมึ วเย จตุมาสาธิกานิ เตตฺตึส วสฺสานิ โหนฺติ.
๒๘. ตติยภาวนาจตุกฺเก ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนฏฺเนาติ ตตฺถ เนกฺขมฺมาทีสุ ภาวนาวิเสเสสุ ชาตานํ สมาธิปฺาสงฺขาตานํ ยุคนทฺธธมฺมานํ อฺมฺํ อนติกฺกมนภาเวน. อินฺทฺริยานํ เอกรสฏฺเนาติ ตตฺเถว สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ นานากิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติรเสน เอกรสภาเวน. ตทุปควีริยวาหนฏฺเนาติ เตสํ อนติวตฺตนเอกรสภาวานํ อนุจฺฉวิกสฺส วีริยสฺส วาหนภาเวน. อาเสวนฏฺเนาติ ยา ตสฺส ตสฺมึ สมเย ปวตฺตา อาเสวนา. ตสฺสา อาเสวนาย อาเสวนภาเวน.
รูปสฺนฺติ กุสลวิปากกิริยวเสน ปฺจทสวิธํ รูปาวจรชฺฌานสงฺขาตํ รูปสฺํ. รูปาวจรชฺฌานมฺปิ หิ รูปนฺติ วุจฺจติ ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๑๗๔; อ. นิ. ๘.๖๖; ธ. ส. ๒๔๘), ตสฺส ฌานสฺส อารมฺมณมฺปิ ‘‘พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๑๗๓; อ. นิ. ๘.๖๕-๖๖; ธ. ส. ๒๔๗, ๒๔๙). รูปาวจรชฺฌานฺหิ ¶ สฺาสีเสน รูเป สฺาติ กตฺวา รูปสฺาติ วุจฺจติ. ปฏิฆสฺนฺติ กุสลวิปากา ปฺจ, อกุสลวิปากา ปฺจาติ เอวํ ทสวิธํ ปฏิฆสฺํ. ทฺวิปฺจวิฺาณสมฺปยุตฺตา หิ สฺา ¶ จกฺขาทีนํ วตฺถูนํ รูปาทีนํ อารมฺมณานฺจ ปฏิฆาเตน อุปฺปนฺนตฺตา ปฏิฆสฺาติ วุจฺจติ. รูปสฺา สทฺทสฺา คนฺธสฺา รสสฺา โผฏฺพฺพสฺาติปิ เอติสฺสา เอว นามํ. นานตฺตสฺนฺติ อฏฺ กามาวจรกุสลสฺา, ทฺวาทส อกุสลสฺา ¶ , เอกาทส กามาวจรกุสลวิปากสฺา, ทฺเว อกุสลวิปากสฺา, เอกาทส กามาวจรกิริยสฺาติ เอวํ จตุจตฺตาลีสวิธํ นานตฺตสฺํ. สา หิ นานตฺเต นานาสภาเว รูปสทฺทาทิเภเท โคจเร ปวตฺตา สฺาติ นานตฺตสฺา, จตุจตฺตาลีสเภทโต นานตฺตา นานาสภาวา อฺมฺํ อสทิสา สฺาติ วา นานตฺตสฺาติ วุจฺจติ. สฺาพหุกตฺเตปิ ชาติคฺคหเณน เอกวจนํ กตํ.
นิจฺจสฺนฺติ นิจฺจนฺติ สฺํ นิจฺจสฺํ. เอวํ สุขสฺํ อตฺตสฺํ. นนฺทินฺติ สปฺปีติกํ ตณฺหํ. ราคนฺติ นิปฺปีติกํ ตณฺหํ. สมุทยนฺติ ราคสฺส สมุทยํ. อถ วา ภงฺคานุปสฺสนาย ภงฺคสฺเสว ทสฺสนโต สงฺขารานํ อุทยํ. อาทานนฺติ นิพฺพตฺตนวเสน กิเลสานํ, อโทสทสฺสาวิตาย สงฺขตารมฺมณสฺส วา อาทานํ. ฆนสฺนฺติ สนฺตติวเสน ฆนนฺติ สฺํ. อายูหนนฺติ สงฺขารานํ อตฺถาย ปโยคกรณํ. ธุวสฺนฺติ ถิรนฺติ สฺํ. นิมิตฺตนฺติ นิจฺจนิมิตฺตํ. ปณิธินฺติ สุขปตฺถนํ. อภินิเวสนฺติ อตฺถิ อตฺตาติ อภินิเวสํ. สาราทานาภินิเวสนฺติ นิจฺจสารตฺตสารคหณาภินิเวสํ. สมฺโมหาภินิเวสนฺติ ‘‘อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธาน’’นฺติอาทิวเสน (สํ. นิ. ๒.๒๐) ‘‘อิสฺสรโต โลโก สมฺโภตี’’ติอาทิวเสน จ สมฺโมหาภินิเวสํ. อาลยาภินิเวสนฺติ อาทีนวาทสฺสเนน อลฺลียิตพฺพมิทนฺติ อภินิเวสํ. อปฺปฏิสงฺขนฺติ อนุปายคหณํ. สฺโคาภินิเวสนฺติ กามโยคาทิกํ กิเลสปฺปวตฺตึ.
ทิฏฺเกฏฺเติ ทิฏฺีหิ สห เอกสฺมึ ิตาติ ทิฏฺเกฏฺา. เต ทิฏฺเกฏฺเ. กิเลเสนฺติ อุปตาเปนฺติ, วิพาเธนฺติ วาติ กิเลสา. เต กิเลเส. ทุวิธฺหิ เอกฏฺํ ปหาเนกฏฺํ สหเชกฏฺฺจ. ปหาเนกฏฺํ สกฺกายทิฏฺิปมุขาหิ เตสฏฺิยา ทิฏฺีหิ สห (ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๑๘) ยาว โสตาปตฺติมคฺเคน ปหานา, ตาว เอกสฺมึ ปุคฺคเล ิตาติ อตฺโถ. อิทมิธาธิปฺเปตํ. ทสสุ หิ กิเลเสสุ อิธ ทิฏฺิกิเลโสเยว อาคโต. เสเสสุ ปน อปายคมนีโย โลโภ โทโส โมโห มาโน วิจิกิจฺฉา ถินํ ¶ อุทฺธจฺจํ ¶ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ นว กิเลสา ทิฏฺิยา สห ปหาเนกฏฺา หุตฺวา โสตาปตฺติมคฺเคน ปหียนฺติ, ราคโทสโมหปมุเขสุ ¶ วา ทิยฑฺเฒสุ กิเลสสหสฺเสสุ โสตาปตฺติมคฺเคน ทิฏฺิยา ปหียมานาย ทิฏฺิยา สห อปายคมนียา สพฺพกิเลสา ปหาเนกฏฺวเสน ปหียนฺติ, สหเชกฏฺเ ทิฏฺิยา สห เอกสฺมึ จิตฺเต ิตาติ อตฺโถ. โสตาปตฺติมคฺเคน หิ ทฺวีสุ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตอสงฺขาริกจิตฺเตสุ ปหียมาเนสุ เตหิ สหชาโต โลโภ โมโห อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อิเม กิเลสา สหเชกฏฺวเสน ปหียนฺติ, ทฺวีสุ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตสสงฺขาริกจิตฺเตสุ ปหียมาเนสุ เตหิ สหชาโต โลโภ โมโห ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อิเม กิเลสา สหเชกฏฺวเสน ปหียนฺติ. โอฬาริเก กิเลเสติ โอฬาริกภูเต กามราคพฺยาปาเท. อนุสหคเต กิเลเสติ สุขุมภูเต กามราคพฺยาปาเท. สพฺพกิเลเสติ มคฺคตฺตเยน ปหีนาวเสเส.
วีริยํ วาเหตีติ โยคาวจโร วีริยํ ปวตฺเตติ. เหฏฺา เอสนาปฏิลาภเอกรสอาเสวนวจนานิ ภาวนานํ วิเสสทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ ‘‘เอวํภูตา จ ภาวนา’’ติ. อิธ ‘‘ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนฏฺเน อินฺทฺริยานํ เอกรสฏฺเน ตทุปควีริยวาหนฏฺเน อาเสวนฏฺเนา’’ติ วจนานิ ภาวนาเหตุทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ ‘‘อิมินา จ อิมินา จ เหตุนา ภาวนา’’ติ. เหฏฺา อาเสวนาภาวนาติ นานากฺขณวเสน วุตฺตา, อิธ อาเสวนฏฺเน ภาวนาติ เอกกฺขณวเสนาติ วิเสโส. รูปํ ปสฺสนฺโต ภาเวตีติอาทีสุ รูปาทีนิ ปสฺสิตพฺพากาเรน ปสฺสนฺโต ภาเวตพฺพํ ภาวนํ ภาเวตีติ อตฺโถ. เอกรสา โหนฺตีติ วิมุตฺติรเสน, กิจฺจรเสน วา เอกรสา โหนฺติ. วิมุตฺติรโสติ สมฺปตฺติรโส. กิจฺจสมฺปตฺติอตฺเถน รโส นาม ปวุจฺจตีติ หิ วุตฺตนฺติ.
ภาเวตพฺพนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
สจฺฉิกาตพฺพนิทฺเทสวณฺณนา
๒๙. สจฺฉิกาตพฺพนิทฺเทเส ¶ ทส เอกุตฺตรวิสฺสชฺชนานิ ปฏิลาภสจฺฉิกิริยาวเสน วุตฺตานิ. ตตฺถ อกุปฺปา เจโตวิมุตฺตีติ อรหตฺตผลวิมุตฺติ. สา หิ น กุปฺปติ น จลติ น ปริหายตีติ อกุปฺปา, สพฺพกิเลเสหิ จิตฺตสฺส ¶ วิมุตฺตตฺตา เจโตวิมุตฺตีติ วุจฺจติ. วิชฺชาติ ติสฺโส วิชฺชา. วิมุตฺตีติ ทสุตฺตรปริยาเยน อรหตฺตผลํ วุตฺตํ, สงฺคีติปริยาเยน ปน ‘‘วิมุตฺตีติ ทฺเว วิมุตฺติโย จิตฺตสฺส จ อธิมุตฺติ นิพฺพานฺจา’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๐๔) วุตฺตํ. เอตฺถ จ อฏฺ สมาปตฺติโย นีวรณาทีหิ สุฏฺุ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติ นาม, นิพฺพานํ ¶ สพฺพสงฺขตโต วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติ นาม. ติสฺโส วิชฺชาติ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ วิชฺชา สตฺตานํ จุตูปปาเต าณํ วิชฺชา อาสวานํ ขเย าณํ วิชฺชา. ตมวิชฺฌนฏฺเน วิชฺชา, วิทิตกรณฏฺเนาปิ วิชฺชา. ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณฺหิ อุปฺปชฺชมานํ ปุพฺเพนิวาสํ ฉาเทตฺวา ิตํ ตมํ วิชฺฌติ, ปุพฺเพนิวาสฺจ วิทิตํ กโรตีติ วิชฺชา. จุตูปปาเต าณํ จุติปฏิสนฺธิจฺฉาทกํ ตมํ วิชฺฌติ, จุตูปปาตฺจ วิทิตํ กโรตีติ วิชฺชา. อาสวานํ ขเย าณํ จตุสจฺจจฺฉาทกํ ตมํ วิชฺฌติ, จตุสจฺจธมฺเม จ วิทิตํ กโรตีติ วิชฺชา. จตฺตาริ สามฺผลานีติ โสตาปตฺติผลํ, สกทาคามิผลํ, อนาคามิผลํ, อรหตฺตผลํ. ปาปธมฺเม สเมติ วินาเสตีติ สมโณ, สมณสฺส ภาโว สามฺํ. จตุนฺนํ อริยมคฺคานเมตํ นามํ. สามฺสฺส ผลานิ สามฺผลานิ.
ปฺจ ธมฺมกฺขนฺธาติ สีลกฺขนฺโธ, สมาธิกฺขนฺโธ, ปฺากฺขนฺโธ, วิมุตฺติกฺขนฺโธ, วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺโธ. ธมฺมกฺขนฺธาติ ธมฺมวิภาคา ธมฺมโกฏฺาสา. สีลกฺขนฺธาทีสุปิ เอเสว นโย. โลกิยโลกุตฺตรา สีลสมาธิปฺา เอว สีลสมาธิปฺากฺขนฺธา ¶ . สมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณวิมุตฺติโย เอว วิมุตฺติกฺขนฺโธ. ติวิธา วิมุตฺติปจฺจเวกฺขณา เอว วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺโธ. โส โลกิโย เอว. ชานนฏฺเน าณเมว ทสฺสนฏฺเน ทสฺสนนฺติ าณทสฺสนํ, วิมุตฺตีนํ าณทสฺสนํ วิมุตฺติาณทสฺสนนฺติ วุจฺจติ. วิกฺขมฺภนตทงฺควิมุตฺติโย ปน สมาธิปฺากฺขนฺเธเหว สงฺคหิตา. อิเม ปฺจ ธมฺมกฺขนฺธา เสกฺขานํ เสกฺขา, อเสกฺขานํ อเสกฺขาติ วุตฺตา. เอเตสุ หิ โลกิยา จ นิสฺสรณวิมุตฺติ จ เนวเสกฺขานาเสกฺขา. เสกฺขา โหนฺตาปิ เสกฺขานํ อิเม อิติ เสกฺขา, อเสกฺขานํ อิเม อิติ อเสกฺขาติ วุจฺจนฺติ. ‘‘เสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหตี’’ติ เอตฺถ ปน นิสฺสรณวิมุตฺติยา อารมฺมณกรณวเสน สมนฺนาคโตติ เวทิตพฺโพ. ฉ อภิฺาติ ฉ อธิกานิ าณานิ. กตมา ฉ? อิทฺธิวิธาณํ ¶ , ทิพฺพโสตธาตุาณํ, ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ, เจโตปริยาณํ, ทิพฺพจกฺขุาณํ, อาสวานํ ขเย าณนฺติ อิมา ฉ.
สตฺต ขีณาสวพลานีติ ขีณา อาสวา อสฺสาติ ขีณาสโว, ขีณาสวสฺส พลานิ ขีณาสวพลานิ. กตมานิ สตฺต? วุตฺตานิ ภควตา –
‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อนิจฺจโต สพฺเพ สงฺขารา ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อนิจฺจโต สพฺเพ สงฺขารา ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ, อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน ¶ พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ ‘ขีณา เม อาสวา’ติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน องฺคารกาสูปมา กามาติ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว…เป… อิทมฺปิ ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ…เป….
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน วิเวกนินฺนํ จิตฺตํ โหติ วิเวกโปณํ วิเวกปพฺภารํ วิเวกฏฺํ เนกฺขมฺมาภิรตํ พฺยนฺตีภูตํ สพฺพโส อาสวฏฺานิเยหิ ธมฺเมหิ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว…เป… อิทมฺปิ ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ…เป….
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา โหนฺติ สุภาวิตา. ปฺจินฺทฺริยานิ ภาวิตานิ โหนฺติ ¶ สุภาวิตานิ. สตฺต โพชฺฌงฺคา ภาวิตา โหนฺติ สุภาวิตา. อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวิโต โหติ สุภาวิโต. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวิโต โหติ สุภาวิโต, อิทมฺปิ ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๙๐; ที. นิ. ๓.๓๕๗; ปฏิ. ม. ๒.๔๔).
ตตฺถ ¶ ปเมน พเลน ทุกฺขสจฺจปฏิเวโธ, ทุติเยน สมุทยสจฺจปฏิเวโธ, ตติเยน นิโรธสจฺจปฏิเวโธ, จตูหิ มคฺคสจฺจปฏิเวโธ ปกาสิโต โหติ.
อฏฺ วิโมกฺขาติ อารมฺมเณ อธิมุจฺจนฏฺเน ปจฺจนีกธมฺเมหิ จ สุฏฺุ มุจฺจนฏฺเน วิโมกฺขา. ‘‘กตเม อฏฺ? รูปี รูปานิ ปสฺสติ, อยํ ปโม วิโมกฺโข. อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ, อยํ ทุติโย วิโมกฺโข. ‘สุภ’นฺเตว อธิมุตฺโต โหติ, อยํ ตติโย วิโมกฺโข. สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ จตุตฺโถ วิโมกฺโข. สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ ปฺจโม วิโมกฺโข. สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ ¶ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ ฉฏฺโ วิโมกฺโข. สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ สตฺตโม วิโมกฺโข. สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ อฏฺโม วิโมกฺโข’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๗๔; ๓.๓๕๘; อ. นิ. ๘.๖๖).
นว อนุปุพฺพนิโรธาติ นว อนุปฏิปาฏิยา นิโรธา. ‘‘กตเม นว? ปมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส กามสฺา นิรุทฺธา โหติ, ทุติยํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส วิตกฺกวิจารา นิรุทฺธา โหนฺติ, ตติยํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส ปีติ นิรุทฺธา โหติ, จตุตฺถํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส อสฺสาสปสฺสาสา นิรุทฺธา โหนฺติ, อากาสานฺจายตนํ สมาปนฺนสฺส รูปสฺา นิรุทฺธา โหติ, วิฺาณฺจายตนํ สมาปนฺนสฺส อากาสานฺจายตนสฺา นิรุทฺธา โหติ, อากิฺจฺายตนํ สมาปนฺนสฺส วิฺาณฺจายตนสฺา นิรุทฺธา โหติ, เนวสฺานาสฺายตนํ ¶ สมาปนฺนสฺส อากิฺจฺายตนสฺา นิรุทฺธา โหติ, สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺนสฺส สฺา จ เวทนา จ นิรุทฺธา โหนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๙.๓๑; ที. นิ. ๓.๓๔๔, ๓๕๙).
ทส อเสกฺขา ธมฺมาติ อุปริ สิกฺขิตพฺพาภาวโต น สิกฺขนฺตีติ อเสกฺขา. อถ วา ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขนฺตีติ เสกฺขา, วุทฺธิปฺปตฺตา เสกฺขาติ ¶ อเสกฺขา, อรหนฺโต. อเสกฺขานํ อิเม อิติ อเสกฺขา. ‘‘กตเม ทส? อเสกฺขา สมฺมาทิฏฺิ, อเสกฺโข สมฺมาสงฺกปฺโป, อเสกฺขา สมฺมาวาจา, อเสกฺโข สมฺมากมฺมนฺโต, อเสกฺโข สมฺมาอาชีโว, อเสกฺโข สมฺมาวายาโม, อเสกฺขา สมฺมาสติ, อเสกฺโข สมฺมาสมาธิ, อเสกฺขํ สมฺมาาณํ, อเสกฺขา สมฺมาวิมุตฺตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๔๘, ๓๖๐). อเสกฺขํ สมฺมาาณนฺติ อรหตฺตผลปฺํ เปตฺวา เสสโลกิยปฺา. สมฺมาวิมุตฺตีติ อรหตฺตผลวิมุตฺติ. อฏฺกถายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๔๘) ปน วุตฺตํ –
‘‘อเสกฺขา สมฺมาทิฏฺีติอาทโย สพฺเพปิ ผลสมฺปยุตฺตธมฺมา เอว. เอตฺถ จ สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาาณนฺติ ทฺวีสุ าเนสุ ปฺาว กถิตา. สมฺมาวิมุตฺตีติ อิมินา ปน ปเทน วุตฺตาวเสสา ผลสมาปตฺติธมฺมา สงฺคหิตา’’ติ.
สพฺพํ, ภิกฺขเว, สจฺฉิกาตพฺพนฺติอาทีสุ อารมฺมณสจฺฉิกิริยา เวทิตพฺพา. รูปํ ปสฺสนฺโต สจฺฉิกโรตีติอาทีสุ รูปาทีนิ โลกิยานิ ปสฺสิตพฺพากาเรน ปสฺสนฺโต ตาเนว รูปาทีนิ ¶ อารมฺมณสจฺฉิกิริยาย สจฺฉิกโรติ, รูปาทีนิ วา ปสฺสิตพฺพากาเรน ปสฺสนฺโต เตน เหตุนา สจฺฉิกาตพฺพํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ. ปสฺสนฺโตติ หิ ปทํ เหตุอตฺเถปิ อกฺขรจินฺตกา อิจฺฉนฺติ. อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยาทีนิ ปน โลกุตฺตรานิ ปจฺจเวกฺขณวเสน ปสฺสนฺโต ตาเนว อารมฺมณสจฺฉิกิริยาย สจฺฉิกโรติ. ‘‘อมโตคธํ นิพฺพานํ ปริโยสานฏฺเน สจฺฉิกโรตี’’ติ อิทํ ปริฺเยฺยปหาตพฺพสจฺฉิกาตพฺพภาเวตพฺเพสุ สจฺฉิกาตพฺพตฺตา อุชุกเมว. เย เย ธมฺมา สจฺฉิกตา โหนฺติ, เต เต ธมฺมา ผสฺสิตา โหนฺตีติ อารมฺมณสจฺฉิกิริยาย สจฺฉิกตา อารมฺมณผสฺเสน ผุฏฺา โหนฺติ, ปฏิลาภสจฺฉิกิริยาย สจฺฉิกตา ปฏิลาภผสฺเสน ผุฏฺา โหนฺตีติ.
สจฺฉิกาตพฺพนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
หานภาคิยจตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๓๐. อิทานิ ¶ ยสฺมา หานภาคิยาทิตา เอเกกสฺเสว สมาธิสฺส อวตฺถาเภเทน โหติ, ตสฺมา หานภาคิยจตุกฺกํ เอกโตเยว นิทฺทิฏฺํ. ตตฺถ ปมสฺส ฌานสฺส ลาภินฺติ ปมสฺส ฌานสฺส ลาภิโน ¶ . สามิอตฺเถ อุปโยควจนํ. ลาโภ สจฺฉิกิริยา อสฺส อตฺถีติ ลาภีติ วุจฺจติ. กามสหคตาติ เอตฺถ สหคตสทฺทสฺส อารมฺมณตฺโถ อธิปฺเปโต, วตฺถุกามกิเลสกามารมฺมณาติ อตฺโถ. สฺามนสิการาติ ชวนสฺา จ ตทาวชฺชนมนสิกาโร จ, สฺาสมฺปยุตฺตมนสิกาโรปิ วฏฺฏติ. สมุทาจรนฺตีติ ปวตฺตนฺติ. ธมฺโมติ ปมชฺฌานธมฺโม. ฌานา ปริหายนฺโต ตีหิ การเณหิ ปริหายติ กิเลสสมุทาจาเรน วา อสปฺปายกิริยาย วา อนนุโยเคน วา. กิเลสสมุทาจาเรน ปริหายนฺโต สีฆํ ปริหายติ, กมฺมารามตาภสฺสารามตานิทฺทารามตาสงฺคณิการามตานุโยควเสน อสปฺปายกิริยาย ปริหายนฺโต ทนฺธํ ปริหายติ, เคลฺปจฺจยเวกลฺลาทินา ปลิโพเธน อภิกฺขณํ อสมาปชฺชนฺโต อนนุโยเคน ปริหายนฺโตปิ ทนฺธํ ปริหายติ. อิธ ปน พลวการณเมว ทสฺเสนฺโต กิเลสสมุทาจารเมวาห. ทุติยชฺฌานาทีหิ ปน ปริหายนฺโต เหฏฺิมเหฏฺิมชฺฌานนิกนฺติสมุทาจาเรนปิ ปริหายติ. กิตฺตาวตา ปริหีโน โหตีติ? ยทา น สกฺโกติ สมาปชฺชิตุํ, เอตฺตาวตา ปริหีโน โหตีติ. ตทนุธมฺมตาติ อนุปวตฺโต ธมฺโม อนุธมฺโม, ฌานํ อธิกํ กตฺวา ปวตฺตสฺส นิกนฺติธมฺมสฺเสตํ อธิวจนํ. อนุธมฺโม เอว อนุธมฺมตา, ตสฺส ฌานสฺส อนุธมฺมตา ตทนุธมฺมตา. สตีติ นิกนฺติ. สนฺติฏฺตีติ ปติฏฺาติ ¶ . ตํ ปมชฺฌานํ อนุวตฺตมานา นิกนฺติ ¶ ปวตฺตตีติ วุตฺตํ โหติ. อวิตกฺกสหคตาติ ทุติยชฺฌานารมฺมณา. ตฺหิ นตฺเถตฺถ วิตกฺโกติ อวิตกฺกนฺติ วุจฺจติ. นิพฺพิทาสหคตาติ วิปสฺสนารมฺมณา. สา หิ สงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทนโต นิพฺพิทาติ วุจฺจติ. ‘‘นิพฺพินฺทํ วิรชฺชตี’’ติ (มหาว. ๒๓; สํ. นิ. ๓.๖๑) หิ วุตฺตํ. วิราคูปสํหิตาติ อริยมคฺคปฏิสฺุตฺตา วิปสฺสนา. วิปสฺสนา หิ สิขาปฺปตฺตา มคฺควุฏฺานํ ปาเปติ. ตสฺมา วิปสฺสนารมฺมณา สฺามนสิการา ‘‘วิราคูปสํหิตา’’ติ วุจฺจนฺติ, ‘‘วิราคา วิมุจฺจตี’’ติ หิ วุตฺตํ.
วิตกฺกสหคตาติ วิตกฺกวเสน ปมชฺฌานารมฺมณา. อุเปกฺขาสุขสหคตาติ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย จ สุขเวทนาย จ วเสน ตติยชฺฌานารมฺมณา. ปีติสุขสหคตาติ ปีติยา จ สุขเวทนาย จ วเสน ทุติยชฺฌานารมฺมณา. อทุกฺขมสุขสหคตาติ อุเปกฺขาเวทนาวเสน จตุตฺถชฺฌานารมฺมณา. สา หิ เวทนา น ทุกฺขา น สุขาติ อทุกฺขมสุขาติ วุจฺจติ ¶ , ม-กาโร ปเนตฺถ ปทสนฺธิวเสน วุตฺโต. รูปสหคตาติ รูปชฺฌานารมฺมณา. เนวสฺานาสฺายตเน ิตสฺส หานภาคิยิติภาคิยนิพฺเพธภาคิยตฺเตสุ วิชฺชมาเนสุปิ วิเสสภาคิยตฺตาภาวา เนวสฺานาสฺายตนํ น นิทฺทิฏฺํ. สพฺโพปิ เจส โลกิโย สมาธิ ปมาทวิหาริสฺส มุทินฺทฺริยสฺส หานภาคิโย โหติ, อปฺปมาทวิหาริสฺส มุทินฺทฺริยสฺส ิติภาคิโย โหติ, ตณฺหาจริตสฺส ติกฺขินฺทฺริยสฺส วิเสสภาคิโย โหติ, ทิฏฺิจริตสฺส ติกฺขินฺทฺริยสฺส นิพฺเพธภาคิโย โหตีติ วุจฺจติ.
หานภาคิยจตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ลกฺขณตฺติกนิทฺเทสวณฺณนา
๓๑. อิทานิ ¶ ยสฺมา เอเกโกปิ โลกิยธมฺโม ติลกฺขณพฺภาหโต, ตสฺมา ลกฺขณตฺติกํ เอกโต นิทฺทิฏฺํ. ตตฺถ อนิจฺจํ ขยฏฺเนาติ ตตฺถ ตตฺเถว ขียนภาเวน อนิจฺจํ. ‘‘ขยธมฺมตฺตา, วยธมฺมตฺตา, วิราคธมฺมตฺตา, นิโรธธมฺมตฺตา อนิจฺจ’’นฺติ เอเก. ทุกฺขํ ภยฏฺเนาติ สปฺปฏิภยตาย ทุกฺขํ. ยฺหิ อนิจฺจํ, ตํ ภยาวหํ โหติ สีโหปมสุตฺเต (สํ. นิ. ๓.๗๘) เทวานํ วิย. ‘‘ชาติชราพฺยาธิมรณภยฏฺเน ทุกฺข’’นฺติ เอเก. อนตฺตา อสารกฏฺเนาติ ‘‘อตฺตา นิวาสี การโก เวทโก สยํวสี’’ติ เอวํ ปริกปฺปิตสฺส อตฺตสารสฺส อภาเวน อนตฺตา. ยฺหิ อนิจฺจํ ทุกฺขํ, ตํ อตฺตโนปิ อนิจฺจตํ วา อุทยพฺพยปีฬนํ ¶ วา ธาเรตุํ น สกฺโกติ, กุโต ตสฺส การกาทิภาโว. วุตฺตฺจ ‘‘รูปฺจ หิทํ, ภิกฺขเว, อตฺตา อภวิสฺส, นยิทํ รูปํ อาพาธาย สํวตฺเตยฺยา’’ติอาทิ (มหาว. ๒๐). ‘‘อตฺตสารนิจฺจสารวิรหิตตฺตา อนตฺตา’’ติ เอเก.
ลกฺขณตฺติกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุกฺขสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา
อริยสจฺจจตุกฺกมฺปิ ¶ ตถฏฺเน สจฺจานํ เอกสมฺพนฺธตฺตา เอกโต เอว นิทฺทิฏฺํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ จตูสุ อริยสจฺเจสุ. กตมนฺติ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา ¶ . ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติ ปุจฺฉิตธมฺมนิทสฺสนํ. ตตฺถ ชาติปิ ทุกฺขาติอาทีสุ ชาติสทฺทสฺส ตาว อเนเก อตฺถา ปเวทิตา. ยถาห –
‘‘ภโว กุลํ นิกาโย จ, สีลํ ปฺตฺติ ลกฺขณํ;
ปสูติ สนฺธิ เจวาติ, ชาติอตฺถา ปเวทิตา’’.
ตถา หิสฺส ‘‘เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย’’ติอาทีสุ (ปารา. ๑๒) ภโว อตฺโถ. ‘‘อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทนา’’ติ (ที. นิ. ๑.๓๓๑) เอตฺถ กุลํ. ‘‘อตฺถิ, วิสาเข, นิคณฺา นาม สมณชาตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๗๑) เอตฺถ นิกาโย. ‘‘ยโตหํ, ภคินิ, อริยาย ชาติยา ชาโต นาภิชานามี’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๕๑) เอตฺถ อริยสีลํ. ‘‘ติริยา นาม ติณชาติ นาภิยา อุคฺคนฺตฺวา นภํ อาหจฺจ ิตา อโหสี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๙๖) เอตฺถ ปฺตฺติ. ‘‘ชาติ ทฺวีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิตา’’ติ (ธาตุ. ๗๑) เอตฺถ สงฺขตลกฺขณํ. ‘‘สมฺปติชาโต, อานนฺท, โพธิสตฺโต’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๐๗) เอตฺถ ปสูติ. ‘‘ภวปจฺจยา ชาตี’’ติ (วิภ. ๓๕๔) จ ‘‘ชาติปิ ทุกฺขา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๓๓; วิภ. ๑๙๐) จ เอตฺถ ปริยายโต ปฏิสนฺธิขนฺธา. นิปฺปริยายโต ปน ตตฺถ ตตฺถ นิพฺพตฺตมานานํ สตฺตานํ เย เย ขนฺธา ปาตุภวนฺติ, เตสํ เตสํ ปมํ ปาตุภาโว.
กสฺมา ปเนสา ชาติ ทุกฺขาติ เจ? อเนเกสํ ทุกฺขานํ วตฺถุภาวโต. อเนกานิ หิ ทุกฺขานิ. เสยฺยถิทํ – ทุกฺขทุกฺขํ, วิปริณามทุกฺขํ, สงฺขารทุกฺขํ, ปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ, อปฺปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ ¶ , ปริยายทุกฺขํ, นิปฺปริยายทุกฺขนฺติ. เอตฺถ กายิกเจตสิกา ทุกฺขา เวทนาสภาวโต จ นามโต จ ทุกฺขตฺตา ทุกฺขทุกฺขนฺติ ¶ วุจฺจติ. สุขา เวทนา วิปริณาเมน ทุกฺขุปฺปตฺติเหตุโต วิปริณามทุกฺขํ. อุเปกฺขาเวทนา เจว อวเสสา จ เตภูมกสงฺขารา อุทยพฺพยปฏิปีฬิตตฺตา สงฺขารทุกฺขํ. กณฺณสูลทนฺตสูลราคชปริฬาหโทสชปริฬาหาทิ กายิกเจตสิโก อาพาโธ ปุจฺฉิตฺวา ชานิตพฺพโต อุปกฺกมสฺส จ อปากฏภาวโต ปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ. ทฺวตฺตึสกมฺมการณาทิสมุฏฺาโน อาพาโธ อปุจฺฉิตฺวาว ชานิตพฺพโต อุปกฺกมสฺส จ ปากฏภาวโต อปฺปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ. เปตฺวา ทุกฺขทุกฺขํ เสสํ ทุกฺขสจฺจวิภงฺเค ¶ (วิภ. ๑๙๐ อาทโย) อาคตํ ชาติอาทิ สพฺพมฺปิ ตสฺส ตสฺส ทุกฺขสฺส วตฺถุภาวโต ปริยายทุกฺขํ. ทุกฺขทุกฺขํ ปน นิปฺปริยายทุกฺขนฺติ วุจฺจติ.
ตตฺรายํ ชาติ ยํ ตํ พาลปณฺฑิตสุตฺตาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๔๖ อาทโย) ภควตาปิ อุปมาวเสน ปกาสิตํ อาปายิกํ ทุกฺขํ, ยฺจ สุคติยมฺปิ มนุสฺสโลเก คพฺโภกฺกนฺติมูลกาทิเภทํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส วตฺถุภาวโต ทุกฺขา. ตตฺริทํ คพฺโภกฺกนฺติมูลกาทิเภทํ ทุกฺขํ – อยฺหิ สตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตมาโน น อุปฺปลปทุมปุณฺฑรีกาทีสุ นิพฺพตฺตติ, อถ โข เหฏฺา อามาสยสฺส อุปริ ปกฺกาสยสฺส อุทรปฏลปิฏฺิกณฺฏกานํ เวมชฺเฌ ปรมสมฺพาเธ ติพฺพนฺธกาเร นานากุณปคนฺธปริภาวิตปรมทุคฺคนฺธปวนวิจริเต อธิมตฺตเชคุจฺเฉ กุจฺฉิปฺปเทเส ปูติมจฺฉปูติกุมฺมาสจนฺทนิกาทีสุ กิมิ วิย นิพฺพตฺตติ. โส ตตฺถ นิพฺพตฺโต ทส มาเส มาตุกุจฺฉิสมฺภเวน อุสฺมนา ปุฏปากํ วิย ปจฺจมาโน ปิฏฺปิณฺฑิ วิย เสทิยมาโน สมิฺชนปสารณาทิวิรหิโต อธิมตฺตํ ทุกฺขํ ปจฺจนุโภตีติ. อิทํ ตาว คพฺโภกฺกนฺติมูลกํ ทุกฺขํ.
ยํ ปน โส มาตุ สหสา อุปกฺขลนคมนนิสีทนอุฏฺานปริวตฺตนาทีสุ สุราธุตฺตหตฺถคโต เอฬโก วิย อหิตุณฺฑิกหตฺถคโต สปฺปโปตโก วิย จ อากฑฺฒนปริกฑฺฒนโอธุนนนิทฺธุนนาทินา อุปกฺกเมน อธิมตฺตํ ทุกฺขมนุโภติ, ยฺจ มาตุ สีตุทกปานกาเล สีตนรกูปปนฺโน ¶ วิย อุณฺหยาคุภตฺตาทิอชฺโฌหรณกาเล องฺคารวุฏฺิสมฺปริกิณฺโณ วิย โลณมฺพิลาทิอชฺโฌหรณกาเล ขาราปตจฺฉิกาทิกมฺมการณปฺปตฺโต วิย อธิมตฺตํ ทุกฺขมนุโภติ. อิทํ คพฺภปริหรณมูลกํ ทุกฺขํ.
ยํ ปนสฺส มูฬฺหคพฺภาย มาตุยา มิตฺตามจฺจสุหชฺชาทีหิปิ อทสฺสนารเห ทุกฺขุปฺปตฺติฏฺาเน เฉทนผาลนาทีหิ ทุกฺขมนุภวติ. อิทํ คพฺภวิปตฺติมูลกํ ทุกฺขํ.
ยํ ¶ วิชายมานาย มาตุยา กมฺมเชหิ วาเตหิ ปริวตฺเตตฺวา นรกปฺปปาตํ วิย อติภยานกํ โยนิมคฺคํ ปฏิปาทิยมานสฺส ปรมสมฺพาเธน จ โยนิมุเขน ตาฬจฺฉิคฺคเฬน วิย นิกฑฺฒิยมานสฺส มหานาคสฺส นรกสตฺตสฺส วิย จ สงฺฆาตปพฺพเตหิ วิจุณฺณิยมานสฺส ทุกฺขมุปฺปชฺชติ. อิทํ วิชายนมูลกํ ทุกฺขํ.
ยํ ¶ ปน ชาตสฺส ตรุณวณสทิสสฺส สุกุมารสรีรสฺส หตฺถคหณนฺหาปนโธวนโจฬปริมชฺชนาทิกาเล สูจิมุขขุรธาราวิชฺฌนผาลนสทิสํ ทุกฺขมุปฺปชฺชติ. อิทํ มาตุกุจฺฉิโต พหิ นิกฺขมนมูลกํ ทุกฺขํ.
ยํ ตโต ปรํ ปวตฺติยํ อตฺตนาว อตฺตานํ วเธนฺตสฺส อเจลกวตาทิวเสน อาตาปนปริตาปนานุโยคมนุยุตฺตสฺส โกธวเสน อภฺุชนฺตสฺส อุพฺพนฺธนฺตสฺส จ ทุกฺขํ โหติ. อิทํ อตฺตุปกฺกมมูลกํ ทุกฺขํ.
ยํ ปน ปรโต วธพนฺธนาทีนิ อนุภวนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ. อิทํ ปรูปกฺกมมูลกํทุกฺขนฺติ. อิติ อิมสฺส สพฺพสฺสาปิ ทุกฺขสฺส อยํ ชาติ วตฺถุเมว โหติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ชาเยถ โน เจ นรเกสุ สตฺโต, ตตฺถคฺคิทาหาทิกมปฺปสยฺหํ;
ลเภถ ทุกฺขํ นุ กุหึ ปติฏฺํ, อิจฺจาห ทุกฺขาติ มุนีธ ชาตึ.
‘‘ทุกฺขํ ติรจฺเฉสุ กสาปโตท-
ทณฺฑาภิฆาตาทิภวํ อเนกํ;
ยํ ตํ กถํ ตตฺถ ภเวยฺย ชาตึ,
วินา ตหึ ชาติ ตโตปิ ทุกฺขา.
‘‘เปเตสุ ¶ ทุกฺขํ ปน ขุปฺปิปาสา-
วาตาตปาทิปฺปภวํ วิจิตฺตํ;
ยสฺมา อชาตสฺส น ตตฺถ อตฺถิ,
ตสฺมาปิ ทุกฺขํ มุนิ ชาติมาห.
‘‘ติพฺพนฺธกาเร ¶ จ อสยฺหสีเต,
โลกนฺตเร ยํ อสุเรสุ ทุกฺขํ;
น ตํ ภเว ตตฺถ น จสฺส ชาติ,
ยโต อยํ ชาติ ตโตปิ ทุกฺขา.
‘‘ยฺจาปิ ¶ คูถนรเก วิย มาตุคพฺเภ,
สตฺโต วสํ จิรมโต พหิ นิกฺขมฺจ;
ปปฺโปติ ทุกฺขมติโฆรมิทมฺปิ นตฺถิ,
ชาตึ วินา อิติปิ ชาติ อยฺหิ ทุกฺขา.
‘‘กึ ภาสิเตน พหุนา นนุ ยํ กุหิฺจิ,
อตฺถีธ กิฺจิทปิ ทุกฺขมิทํ กทาจิ;
เนวตฺถิ ชาติวิรเห ยทโต มเหสี,
ทุกฺขาติ สพฺพปมํ อิมมาห ชาติ’’นฺติ.
ชราปิ ทุกฺขาติ เอตฺถ ทุวิธา ชรา สงฺขตลกฺขณฺจ, ขณฺฑิจฺจาทิสมฺมโต สนฺตติยํ เอกภวปริยาปนฺนขนฺธปุราณภาโว จ. สา อิธ อธิปฺเปตา. สา ปเนสา ทุกฺขา สงฺขารทุกฺขภาวโต เจว ทุกฺขวตฺถุโต จ. ยํ หิทํ องฺคปจฺจงฺคสิถิลีภาวอินฺทฺริยวิการวิรูปตา โยพฺพนวินาสพลูปฆาตสติมติวิปฺปวาสปรปริภวาทิอเนกปฺปจฺจยํ กายิกเจตสิกํ ทุกฺขมุปฺปชฺชติ, ชรา ตสฺส วตฺถุ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘องฺคานํ สิถิลีภาวา, อินฺทฺริยานํ วิการโต;
โยพฺพนสฺส วินาเสน, พลสฺส อุปฆาตโต.
‘‘วิปฺปวาสา สตาทีนํ, ปุตฺตทาเรหิ อตฺตโน;
อปฺปสาทนียโต เจว, ภิยฺโย พาลตฺตปตฺติยา.
‘‘ปปฺโปติ ¶ ทุกฺขํ ยํ มจฺโจ, กายิกํ มานสํ ตถา;
สพฺพเมตํ ชราเหตุ, ยสฺมา ตสฺมา ชรา ทุขา’’ติ.
ชราทุกฺขานนฺตรํ ¶ พฺยาธิทุกฺเข วตฺตพฺเพปิ กายิกทุกฺขคหเณเนว พฺยาธิทุกฺขํ คหิตํ โหตีติ น วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
มรณมฺปิ ทุกฺขนฺติ เอตฺถาปิ ทุวิธํ มรณํ – สงฺขตลกฺขณฺจ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ชรามรณํ ทฺวีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิต’’นฺติ (ธาตุ. ๗๑). เอกภวปริยาปนฺนชีวิตินฺทฺริยปฺปพนฺธวิจฺเฉโท จ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘นิจฺจํ มรณโต ภย’’นฺติ (สุ. นิ. ๕๘๑). ตํ อิธ อธิปฺเปตํ. ชาติปจฺจยมรณํ อุปกฺกมมรณํ สรสมรณํ อายุกฺขยมรณํ ปฺุกฺขยมรณนฺติปิ ตสฺเสว นามํ. ปุน ขณิกมรณํ สมฺมุติมรณํ สมุจฺเฉทมรณนฺติ อยมฺเปตฺถ เภโท เวทิตพฺโพ. ปวตฺเต รูปารูปธมฺมานํ เภโท ¶ ขณิกมรณํ นาม. ‘‘ติสฺโส มโต, ผุสฺโส มโต’’ติ อิทํ ปรมตฺถโต สตฺตสฺส อภาวา, ‘‘สสฺสํ มตํ, รุกฺโข มโต’’ติ อิทํ ชีวิตินฺทฺริยสฺส อภาวา สมฺมุติมรณํ นาม. ขีณาสวสฺส อปฺปฏิสนฺธิกา กาลกิริยา สมุจฺเฉทมรณํ นาม. พาหิรกํ สมฺมุติมรณํ เปตฺวา อิตรํ สมฺมุติมรณฺจ สมุจฺเฉทมรณฺจ ยถาวุตฺตปพนฺธวิจฺเฉเทเนว สงฺคหิตํ. ทุกฺขสฺส ปน วตฺถุภาวโต ทุกฺขํ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ปาปสฺส ปาปกมฺมาทินิมิตฺตมนุปสฺสโต;
ภทฺทสฺสาปสหนฺตสฺส, วิโยคํ ปิยวตฺถุกํ;
มียมานสฺส ยํ ทุกฺขํ, มานสํ อวิเสสโต.
‘‘สพฺเพสฺจาปิ ยํ สนฺธิพนฺธนจฺเฉทนาทิกํ;
วิตุชฺชมานมมฺมานํ ¶ , โหติ ทุกฺขํ สรีรชํ.
‘‘อสยฺหมปฺปฏิการํ, ทุกฺขสฺเสตสฺสิทํ ยโต;
มรณํ วตฺถุ เตเนตํ, ทุกฺขมิจฺเจว ภาสิต’’นฺติ.
โสกาทีสุ โสโก นาม าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺสฺส อนฺโตนิชฺฌานลกฺขโณ จิตฺตสนฺตาโป. ทุกฺโข ปน ทุกฺขทุกฺขโต ทุกฺขวตฺถุโต จ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘สตฺตานํ หทยํ โสโก, วิสสลฺลํว ตุชฺชติ;
อคฺคิตตฺโตว นาราโจ, ภุสํว ทหเต ปุน.
‘‘สมาวหติ ¶ พฺยาธิฺจ, ชรามรณเภทนํ;
ทุกฺขมฺปิ วิวิธํ ยสฺมา, ตสฺมา ทุกฺโขติ วุจฺจตี’’ติ.
ปริเทโว นาม าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺสฺส วจีปลาโป. ทุกฺโข ปน สงฺขารทุกฺขภาวโต ทุกฺขวตฺถุโต จ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ยํ โสกสลฺลวิหโต ปริเทวมาโน, กณฺโฏฺตาลุตลโสสชมปฺปสยฺหํ;
ภิยฺโยธิมตฺตมธิคจฺฉติเยว ทุกฺขํ, ทุกฺโขติ เตน ภควา ปริเทวมาหา’’ติ.
ทุกฺขํ นาม กายปีฬนลกฺขณํ กายิกทุกฺขํ. ทุกฺขํ ปน ทุกฺขทุกฺขโต มานสทุกฺขาวหนโต จ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ปีเฬติ ¶ กายิกมิทํ, ทุกฺขํ ทุกฺขฺจ มานสํ ภิยฺโย;
ชนยติ ยสฺมา ตสฺมา, ทุกฺขนฺติ วิเสสโต วุตฺต’’นฺติ.
โทมนสฺสํ นาม จิตฺตปีฬนลกฺขณํ มานสํ ทุกฺขํ. ทุกฺขํ ปน ทุกฺขทุกฺขโต กายิกทุกฺขาวหนโต จ. เจโตทุกฺขสมปฺปิตา ¶ หิ เกเส ปกิริย กนฺทนฺติ, อุรานิ ปฏิปิสนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ, วิวฏฺฏนฺติ, อุทฺธํปาทํ ปปตนฺติ, สตฺถํ อาหรนฺติ, วิสํ ขาทนฺติ, รชฺชุยา อุพฺพนฺธนฺติ, อคฺคึ ปวิสนฺตีติ นานปฺปการกํ ทุกฺขมนุภวนฺติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ปีเฬติ ยโต จิตฺตํ, กายสฺส จ ปีฬนํ สมาวหติ;
ทุกฺขนฺติ โทมนสฺสํ, วิโทมนสฺสา ตโต อาหู’’ติ.
อุปายาโส นาม าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺสฺส อธิมตฺตเจโตทุกฺขปฺปภาวิโต โทโสเยว. ‘‘สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺโน เอโก ธมฺโม’’ติ เอเก. ทุกฺโข ปน สงฺขารทุกฺขภาวโต จิตฺตปริทหนโต กายวิสาทนโต จ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘จิตฺตสฺส จ ปริทหนา, กายสฺส วิสาทนา จ อธิมตฺตํ;
ยํ ทุกฺขมุปายาโส, ชเนติ ทุกฺโข ตโต วุตฺโต’’ติ.
เอตฺถ ¶ จ มนฺทคฺคินา อนฺโตภาชเน ปาโก วิย โสโก, ติกฺขคฺคินา ปจฺจมานสฺส ภาชนโต พหินิกฺขมนํ วิย ปริเทโว, พหินิกฺขนฺตาวเสสสฺส นิกฺขมิตุมฺปิ อปฺปโหนฺตสฺส อนฺโตภาชเนเยว ยาว ปริกฺขยา ปาโก วิย อุปายาโส ทฏฺพฺโพ.
อปฺปิยสมฺปโยโค นาม อปฺปิเยหิ สตฺตสงฺขาเรหิ สโมธานํ. ทุกฺโข ปน ทุกฺขวตฺถุโต. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ทิสฺวาว อปฺปิเย ทุกฺขํ, ปมํ โหติ เจตสิ;
ตทุปกฺกมสมฺภูตมถ กาเย ยโต อิธ.
‘‘ตโต ¶ ทุกฺขทฺวยสฺสาปิ, วตฺถุโต โส มเหสินา;
ทุกฺโข วุตฺโตติ วิฺเยฺโย, อปฺปิเยหิ สมาคโม’’ติ.
ปิยวิปฺปโยโค นาม ปิเยหิ สตฺตสงฺขาเรหิ วินาภาโว. ทุกฺโข ปน ทุกฺขวตฺถุโต. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘าติธนาทิวิโยคา ¶ , โสกสรสมปฺปิตา วิตุชฺชนฺติ;
พาลา ยโต ตโตยํ, ทุกฺโขติ มโต ปิยวิโยโค’’ติ.
อิจฺฉิตาลาเภ อลพฺภเนยฺยวตฺถูสุ อิจฺฉาว ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ, ตมฺปิ ทุกฺขนฺติ วุตฺตา. เยนปิ ธมฺเมน อลพฺภเนยฺยํ วตฺถุํ อิจฺฉนฺโต น ลภติ, ตมฺปิ อลพฺภเนยฺยวตฺถุมฺหิ อิจฺฉนํ ทุกฺขนฺติ อตฺโถ. ทุกฺขํ ปน ทุกฺขวตฺถุโต. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ตํ ตํ ปตฺถยมานานํ, ตสฺส ตสฺส อลาภโต;
ยํ วิฆาตมยํ ทุกฺขํ, สตฺตานํ อิธ ชายติ.
‘‘อลพฺภเนยฺยวตฺถูนํ, ปตฺถนา ตสฺส การณํ;
ยสฺมา ตสฺมา ชิโน ทุกฺขํ, อิจฺฉิตาลาภมพฺรวี’’ติ.
สงฺขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธาติ เอตฺถ ปน สงฺขิตฺเตนาติ เทสนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทุกฺขฺหิ เอตฺตกานิ ¶ ทุกฺขสตานีติ วา เอตฺตกานิ ทุกฺขสหสฺสานีติ วา สงฺขิปิตุํ น สกฺกา, เทสนา ปน สกฺกา. ตสฺมา ‘‘ทุกฺขํ นาม น อฺํ กิฺจิ, สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา’’ติ เทสนํ สงฺขิปนฺโต เอวมาห. ปฺจาติ คณนปริจฺเฉโท. อุปาทานกฺขนฺธาติ อุปาทานโคจรา ขนฺธา.
ชาติปฺปภุติกํ ¶ ทุกฺขํ, ยํ วุตฺตมิธ ตาทินา;
อวุตฺตํ ยฺจ ตํ สพฺพํ, วินา เอเตน วิชฺชติ.
ยสฺมา ตสฺมา อุปาทานกฺขนฺธา สงฺเขปโต อิเม;
ทุกฺขาติ วุตฺตา ทุกฺขนฺต-เทสเกน มเหสินา.
ตถา หิ อินฺธนมิว ปาวโก, ลกฺขมิว ปหรณานิ, โครูปํ วิย ฑํสมกสาทโย, เขตฺตมิว ลายกา, คามํ วิย คามฆาตกา, อุปาทานกฺขนฺธปฺจกเมว ชาติอาทโย นานปฺปกาเรหิ วิพาเธนฺตา ติณลตาทีนิ วิย ภูมิยํ, ปุปฺผผลปลฺลวานิ วิย รุกฺเขสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุเยว นิพฺพตฺตนฺติ. อุปาทานกฺขนฺธานฺจ อาทิทุกฺขํ ชาติ, มชฺเฌทุกฺขํ ชรา, ปริโยสานทุกฺขํ มรณํ, มารณนฺติกทุกฺขาภิฆาเตน ปริฑยฺหนทุกฺขํ โสโก ¶ , ตทสหนโต ลาลปฺปนทุกฺขํ ปริเทโว, ตโต ธาตุกฺโขภสงฺขาตอนิฏฺโผฏฺพฺพสมาโยคโต กายสฺส อาพาธนทุกฺขํ ทุกฺขํ, เตน อาพาธิยมานานํ ปุถุชฺชนานํ ตตฺถ ปฏิฆุปฺปตฺติโต เจโตพาธนทุกฺขํ โทมนสฺสํ, โสกาทิวุทฺธิยา ชนิตวิสาทานํ อนุตฺถุนนทุกฺขํ อุปายาโส, มโนรถวิฆาตปฺปตฺตานํ อิจฺฉาวิฆาตทุกฺขํ อิจฺฉิตาลาโภติ เอวํ นานปฺปการโต อุปปริกฺขิยมานา อุปาทานกฺขนฺธาว ทุกฺขาติ ยเทตํ เอกเมกํ ทสฺเสตฺวา วุจฺจมานํ อเนเกหิปิ กปฺเปหิ น สกฺกา อนวเสสโต วตฺตุํ, ตํ สพฺพมฺปิ ทุกฺขํ เอกชลพินฺทุมฺหิ สกลสมุทฺทชลรสํ วิย เยสุ เกสุจิ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ สงฺขิปิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา’’ติ ภควตา วุตฺตเมว เถโร อโวจาติ.
ตตฺถ กตมา ชาตีติอาทีสุ ปทภาชนีเยสุ ตตฺถาติ ทุกฺขสจฺจนิทฺเทเส วุตฺเตสุ ชาติอาทีสุ. ยา เตสํ เตสํ สตฺตานนฺติ สงฺเขปโต อเนเกสํ สตฺตานํ สาธารณนิทฺเทโส. ยา เทวทตฺตสฺส ชาติ, ยา โสมทตฺตสฺส ชาตีติ เอวฺหิ ทิวสมฺปิ กถิยมาเน เนว สตฺตา ปริยาทานํ คจฺฉนฺติ, น สพฺพํ อปรตฺถทีปนํ สิชฺฌติ, อิเมหิ ปน ทฺวีหิ ปเทหิ ¶ น โกจิ สตฺโต อปริยาทินฺโน โหติ, น กิฺจิ อปรตฺถทีปนํ น สิชฺฌติ. ตมฺหิ ตมฺหีติ อยํ คติชาติวเสน ¶ อเนเกสํ สตฺตนิกายานํ สาธารณนิทฺเทโส. สตฺตนิกาเยติ สตฺตานํ นิกาเย, สตฺตฆฏายํ สตฺตสมูเหติ อตฺโถ. ชาตีติ ชายนวเสน. อิทเมตฺถ สภาวปจฺจตฺตํ. สฺชาตีติ สฺชายนวเสน. อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ. โอกฺกนฺตีติ โอกฺกมนวเสน. ชายนฏฺเน วา ชาติ, สา อปริปุณฺณายตนวเสน วุตฺตา. สฺชายนฏฺเน สฺชาติ, สา ปริปุณฺณายตนวเสน วุตฺตา. โอกฺกมนฏฺเน โอกฺกนฺติ, สา อณฺฑชชลาพุชวเสน วุตฺตา. เต หิ อณฺฑโกสํ วตฺถิโกสฺจ โอกฺกมนฺติ, โอกฺกมนฺตา ปวิสนฺตา วิย ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺติ. อภินิพฺพตฺตนฏฺเน อภินิพฺพตฺติ, สา สํเสทชโอปปาติกวเสน วุตฺตา. เต หิ ปากฏา เอว หุตฺวา นิพฺพตฺตนฺติ, อยํ ตาว สมฺมุติกถา.
อิทานิ ขนฺธานํ ปาตุภาโว, อายตนานํ ปฏิลาโภติ ปรมตฺถกถา โหติ. ขนฺธา เอว หิ ปรมตฺถโต ปาตุภวนฺติ, น สตฺตา. เอตฺถ จ ขนฺธานนฺติ เอกโวการภเว เอกสฺส, จตุโวการภเว จตุนฺนํ, ปฺจโวการภเว ปฺจนฺนมฺปิ คหณํ เวทิตพฺพํ. ปาตุภาโวติ อุปฺปตฺติ. อายตนานนฺติ ¶ ตตฺร ตตฺร อุปฺปชฺชมานายตนวเสน สงฺคโห เวทิตพฺโพ. ปฏิลาโภติ สนฺตติยํ ปาตุภาโวเยว. ปาตุภวนฺตาเนว หิ ตานิ ปฏิลทฺธานิ นาม โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ชาตีติ อยํ ชาติ นาม กถียติ.
ชรานิทฺเทเส ชราติ สภาวปจฺจตฺตํ. ชีรณตาติ อาการนิทฺเทโส. ขณฺฑิจฺจนฺติอาทโย ตโย กาลาติกฺกเม กิจฺจนิทฺเทสา, ปจฺฉิมา ทฺเว ปกตินิทฺเทสา. อยฺหิ ชราติ อิมินา ปเทน สภาวโต ทีปิตา, เตนสฺสา อิทํ สภาวปจฺจตฺตํ. ชีรณตาติ อิมินา อาการโต, เตนสฺสายํ อาการนิทฺเทโส. ขณฺฑิจฺจนฺติ อิมินา กาลาติกฺกเม ทนฺตนขานํ ขณฺฑิตภาวกรณกิจฺจโต. ปาลิจฺจนฺติ อิมินา เกสโลมานํ ปลิตภาวกรณกิจฺจโต. วลิตฺตจตาติ อิมินา มํสํ มิลาเปตฺวา ตเจ วลิภาวกรณกิจฺจโต ทีปิตา. เตนสฺสา อิเม ตโย กาลาติกฺกเม กิจฺจนิทฺเทสา. เตหิ อิเมสํ วิการานํ ทสฺสนวเสน ปากฏีภูตา ปากฏชรา ทสฺสิตา. ยเถว หิ อุทกสฺส ¶ วา วาตสฺส วา อคฺคิโน วา ติณรุกฺขาทีนํ สมฺภคฺคปลิภคฺคตาย วา ฌามตาย วา คตมคฺโค ปากโฏ โหติ, น จ โส คตมคฺโค ตาเนว อุทกาทีนิ, เอวเมว ชราย ทนฺตาทีสุ ขณฺฑิจฺจาทิวเสน คตมคฺโค ปากโฏ จกฺขุํ อุมฺมีเลตฺวาปิ คยฺหติ, น จ ขณฺฑิจฺจาทีเนว ชรา. น หิ ชรา จกฺขุวิฺเยฺยา โหติ.
อายุโน สํหานิ อินฺทฺริยานํ ปริปาโกติ อิเมหิ ปน ปเทหิ กาลาติกฺกเมเยว อภิพฺยตฺตาย อายุกฺขยจกฺขาทิอินฺทฺริยปริปากสงฺขาตาย ปกติยา ทีปิตา, เตนสฺสิเม ทฺเว ปกตินิทฺเทสาติ ¶ เวทิตพฺพา. ตตฺถ ยสฺมา ชรํ ปตฺตสฺส อายุ หายติ, ตสฺมา ชรา ‘‘อายุโน สํหานี’’ติ ผลูปจาเรน วุตฺตา. ยสฺมา จ ทหรกาเล สุปฺปสนฺนานิ สุขุมมฺปิ อตฺตโน วิสยํ สุเขเนว คณฺหนสมตฺถานิ จกฺขาทีนิ อินฺทฺริยานิ ชรํ ปตฺตสฺส ปริปกฺกานิ อาลุฬิตานิ อวิสทานิ โอฬาริกมฺปิ อตฺตโน วิสยํ คเหตุํ อสมตฺถานิ โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘อินฺทฺริยานํ ปริปาโก’’ติ ผลูปจาเรเนว วุตฺตา.
สา ปเนสา เอวํ นิทฺทิฏฺา สพฺพาปิ ชรา ปากฏา ปฏิจฺฉนฺนาติ ทุวิธา โหติ. ตตฺถ ทนฺตาทีสุ ขณฺฑาทิภาวทสฺสนโต รูปธมฺเมสุ ชรา ปากฏชรา นาม. อรูปธมฺเมสุ ปน ชรา ตาทิสสฺส วิการสฺส อทสฺสนโต ¶ ปฏิจฺฉนฺนชรา นาม. ตตฺร ยฺวายํ ขณฺฑาทิภาโว ทิสฺสติ, โส ตาทิสานํ ทนฺตาทีนํ วณฺโณเยว. ตํ จกฺขุนา ทิสฺวา มโนทฺวาเรน จินฺเตตฺวา ‘‘อิเม ทนฺตา ชราย ปหฏา’’ติ ชรํ ชานาติ, อุทกฏฺาเน พทฺธานิ โคสิงฺคาทีนิ โอโลเกตฺวา เหฏฺา อุทกสฺส อตฺถิภาวชานนํ วิย. ปุน อยํ ชรา สวีจิ อวีจีติ เอวมฺปิ ทุวิธา โหติ. ตตฺถ มณิกนกรชตปวาฬจนฺทสูริยาทีนํ มนฺททสกาทีสุ ปาณีนํ วิย, ปุปฺผผลปลฺลวาทีสุ อปาณีนํ วิย จ อนฺตรนฺตรา วณฺณวิเสสาทีนํ ทุพฺพิฺเยฺยตฺตา ชรา อวีจิชรา นาม, นิรนฺตรชราติ อตฺโถ. ตโต อฺเสุ ปน ยถาวุตฺเตสุ อนฺตรนฺตรา วณฺณวิเสสาทีนํ สุวิฺเยฺยตฺตา ชรา สวีจิชรา นาม.
ตตฺถ สวีจิชรา อุปาทิณฺณกอนุปาทิณฺณกวเสน เอวํ เวทิตพฺพา – ทหรกุมารกานฺหิ ปมเมว ขีรทนฺตา นาม อุฏฺหนฺติ, น เต ถิรา. เตสุ ปน ปติเตสุ ปุน ¶ ทนฺตา อุฏฺหนฺติ. เต ปมเมว เสตา โหนฺติ, ชราวาเตน ปหฏกาเล กาฬกา โหนฺติ. เกสา ปมเมว ตมฺพา โหนฺติ, ตโต กาฬกา, ตโต เสตา. ฉวิ ปน สโลหิติกา โหติ. วฑฺฒนฺตานํ วฑฺฒนฺตานํ โอทาตานํ โอทาตภาโว, กาฬกานํ กาฬกภาโว ปฺายติ. ชราวาเตน ปน ปหฏกาเล วลึ คณฺหาติ. สพฺพมฺปิ สสฺสํ วปิตกาเล เสตํ โหติ, ปจฺฉา นีลํ. ชราวาเตน ปน ปหฏกาเล ปณฺฑุกํ โหติ. อมฺพงฺกุเรนาปิ ทีเปตุํ วฏฺฏติ.
มรณนิทฺเทเส จุตีติ จวนวเสน วุตฺตํ. เอกจตุปฺจกฺขนฺธานํ สามฺวจนเมตํ. จวนตาติ ภาววจเนน ลกฺขณนิทสฺสนํ. เภโทติ จุติขนฺธานํ ภงฺคุปฺปตฺติปริทีปนํ. อนฺตรธานนฺติ ฆฏสฺส วิย ภินฺนสฺส ภินฺนานํ จุติขนฺธานํ เยน เกนจิ ปริยาเยน านาภาวปริทีปนํ. มจฺจุ มรณนฺติ มจฺจุสงฺขาตํ มรณํ, น ขณิกมรณํ. กาโล นาม อนฺตโก, ตสฺส กิริยาติ กาลกิริยา. เอตฺตาวตา จ สมฺมุติยา มรณํ ทีปิตํ.
อิทานิ ¶ ปรมตฺเถน ทีเปตุํ ขนฺธานํ เภโทติอาทิมาห. ปรมตฺเถน หิ ขนฺธาเยว ภิชฺชนฺติ, น สตฺโต นาม โกจิ มรติ. ขนฺเธสุ ปน ภิชฺชมาเนสุ สตฺโต มรติ, ภินฺเนสุ มโตติ โวหาโร โหติ. เอตฺถ จ จตุโวการปฺจโวการวเสน ขนฺธานํ เภโท, เอกโวการวเสน กเฬวรสฺส นิกฺเขโป, จตุโวการวเสน วา ขนฺธานํ เภโท, เสสทฺวยวเสน กเฬวรสฺส นิกฺเขโป เวทิตพฺโพ. กสฺมา? ภวทฺวเยปิ รูปกายสงฺขาตสฺส ¶ กเฬวรสฺส สมฺภวโต. ยสฺมา วา จาตุมหาราชิกาทีสุปิ ขนฺธา ภิชฺชนฺเตว, น กิฺจิ นิกฺขิปติ, ตสฺมา เตสํ วเสน ขนฺธานํ เภโท, มนุสฺสาทีสุ กเฬวรสฺส นิกฺเขโป. เอตฺถ จ กเฬวรสฺส นิกฺเขปกรณโต มรณํ ‘‘กเฬวรสฺส นิกฺเขโป’’ติ วุตฺตํ.
ชีวิตินฺทฺริยสฺสุปจฺเฉโทติ อิมินา อินฺทฺริยพทฺธสฺเสว มรณํ นาม โหติ, อนินฺทฺริยพทฺธสฺส มรณํ นาม นตฺถีติ ทสฺเสติ. ‘‘สสฺสํ มตํ, รุกฺโข มโต’’ติ อิทํ ปน โวหารมตฺตเมว, อตฺถโต ปน เอวรูปานิ วจนานิ สสฺสาทีนํ ขยวยภาวเมว ทีเปนฺติ.
อปิจ ¶ อิมานิ ชาติชรามรณานิ นาม อิเมสํ สตฺตานํ วธกปจฺจามิตฺตา วิย โอตารํ คเวสนฺตานิ วิจรนฺติ. ยถา หิ ปุริสสฺส ตีสุ ปจฺจามิตฺเตสุ โอตาราเปกฺเขสุ วิจรนฺเตสุ เอโก วเทยฺย ‘‘อหํ อสุกอรฺสฺส นาม วณฺณํ กเถตฺวา เอตํ อาทาย ตตฺถ คมิสฺสามิ, เอตฺถ มยฺหํ ทุกฺกรํ นตฺถี’’ติ. ทุติโย วเทยฺย ‘‘อหํ ตว เอตํ คเหตฺวา คตกาเล โปเถตฺวา ทุพฺพลํ กริสฺสามิ, เอตฺถ มยฺหํ ทุกฺกรํ นตฺถี’’ติ. ตติโย วเทยฺย ‘‘ตยา เอตสฺมึ โปเถตฺวา ทุพฺพเล กเต ติณฺเหน อสินา สีสจฺเฉทนํ นาม มยฺหํ ภาโร โหตู’’ติ เต เอวํ วตฺวา ตถา กเรยฺยุํ. ตตฺถ ปมปจฺจามิตฺตสฺส อรฺวณฺณํ กเถตฺวา ตํ อาทาย ตตฺถ คตกาโล วิย สุหชฺชาติมณฺฑลโต นิกฺกฑฺฒิตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ นิพฺพตฺตาปนํ นาม ชาติยา กิจฺจํ, ทุติยสฺส โปเถตฺวา ทุพฺพลกรณํ วิย นิพฺพตฺตกฺขนฺเธสุ นิปติตฺวา ปราธีนมฺจปรายณภาวกรณํ ชราย กิจฺจํ, ตติยสฺส ติณฺเหน อสินา สีสจฺเฉทนํ วิย ชีวิตกฺขยปาปนํ มรณสฺส กิจฺจนฺติ เวทิตพฺพํ.
อปิเจตฺถ ชาติทุกฺขํ สาทีนวมหากนฺตารปฺปเวโส วิย ทฏฺพฺพํ, ชราทุกฺขํ ตตฺถ อนฺนปานรหิตสฺส ทุพฺพลํ วิย, มรณทุกฺขํ ทุพฺพลสฺส อิริยาปถปวตฺตเน วิหตปรกฺกมสฺส วาฬาทีหิ อนยพฺยสนาปาทนํ วิย ทฏฺพฺพนฺติ.
โสกนิทฺเทเส วิยสตีติ พฺยสนํ, หิตสุขํ ขิปติ วิทฺธํเสตีติ อตฺโถ. าตีนํ พฺยสนํ ¶ าติพฺยสนํ, โจรโรคภยาทีหิ าติกฺขโย าติวินาโสติ ¶ อตฺโถ. เตน าติพฺยสเนน. ผุฏฺสฺสาติ อชฺโฌตฺถฏสฺส อภิภูตสฺส, สมนฺนาคตสฺสาติ อตฺโถ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – โภคานํ พฺยสนํ โภคพฺยสนํ, ราชโจราทิวเสน โภคกฺขโย โภควินาโสติ อตฺโถ. โรโคเยว พฺยสนํ โรคพฺยสนํ. โรโค หิ อาโรคฺยํ วิยสติ วินาเสตีติ พฺยสนํ. สีลสฺส พฺยสนํ สีลพฺยสนํ. ทุสฺสีลฺยสฺเสตํ นามํ. สมฺมาทิฏฺึ วินาสยมานา อุปฺปนฺนา ทิฏฺิ เอว พฺยสนํ ทิฏฺิพฺยสนํ. เอตฺถ จ ปุริมานิ ทฺเว อนิปฺผนฺนานิ, ปจฺฉิมานิ ตีณิ นิปฺผนฺนานิ ติลกฺขณพฺภาหตานิ. ปุริมานิ จ ตีณิ เนว กุสลานิ น อกุสลานิ, สีลทิฏฺิพฺยสนทฺวยํ ¶ อกุสลํ.
อฺตรฺตเรนาติ คหิเตสุ วา เยน เกนจิ อคฺคหิเตสุ วา มิตฺตามจฺจพฺยสนาทีสุ เยน เกนจิ. สมนฺนาคตสฺสาติ สมนุพนฺธสฺส อปริมุจฺจมานสฺส. อฺตรฺตเรน ทุกฺขธมฺเมนาติ เยน เกนจิ โสกทุกฺขสฺส อุปฺปตฺติเหตุนา. โสโกติ โสจนกวเสน โสโก. อิทํ เตหิ การเณหิ อุปฺปชฺชนกโสกสฺส สภาวปจฺจตฺตํ. โสจนาติ โสจนากาโร. โสจิตตฺตนฺติ โสจิตภาโว. อนฺโตโสโกติ อพฺภนฺตรโสโก. ทุติยปทํ อุปสคฺเคน วฑฺฒิตํ. โส หิ อพฺภนฺตรํ สุกฺขาเปนฺโต วิย ปริสุกฺขาเปนฺโต วิย อุปฺปชฺชตีติ ‘‘อนฺโตโสโก อนฺโตปริโสโก’’ติ วุจฺจติ. เจตโส ปริชฺฌายนาติ จิตฺตสฺส ปริชฺฌายนากาโร. โสโก หิ อุปฺปชฺชมาโน อคฺคิ วิย จิตฺตํ ฌาเปติ ทหติ, ‘‘จิตฺตํ เม ฌามํ, น เม กิฺจิ ปฏิภาตี’’ติ วทาเปติ. ทุกฺขิโต มโน ทุมฺมโน, ตสฺส ภาโว โทมนสฺสํ. อนุปวิฏฺฏฺเน โสโกว สลฺลนฺติ โสกสลฺลํ.
ปริเทวนิทฺเทเส ‘‘มยฺหํ ธีตา, มยฺหํ ปุตฺโต’’ติ เอวํ อาทิสฺส อาทิสฺส เทวนฺติ โรทนฺติ เอเตนาติ อาเทโว. ตํ ตํ วณฺณํ ปริกิตฺเตตฺวา ปริกิตฺเตตฺวา เทวนฺติ เอเตนาติ ปริเทโว. ตโต ปรานิ ทฺเว ทฺเว ปทานิ ปุริมทฺวยสฺเสว อาการภาวนิทฺเทสวเสน วุตฺตานิ. วาจาติ วจนํ. ปลาโปติ ตุจฺฉํ นิรตฺถกวจนํ. อุปฑฺฒภณิตอฺภณิตาทิวเสน วิรูโป ปลาโปติ วิปฺปลาโป. ลาลปฺโปติ ปุนปฺปุนํ ลปนํ. ลาลปฺปนากาโร ลาลปฺปนา. ลาลปฺปิตสฺส ภาโว ลาลปฺปิตตฺตํ.
ทุกฺขนิทฺเทเส ¶ กายนิสฺสิตตฺตา กายิกํ. อมธุรฏฺเน อสาตํ. กายิกปเทน เจตสิกอสาตํ ปฏิกฺขิปติ, อสาตปเทน กายิกสาตํ. ตเทว ทุกฺขยตีติ ทุกฺขํ, ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ ทุกฺขิตํ กโรตีติ อตฺโถ. ทุกฺขมตฺตา วา ทุกฺขํ. กายสมฺผสฺสชนฺติ กายสมฺผสฺเส ¶ ชาตํ. อสาตํ ทุกฺขํ เวทยิตนฺติ อสาตํ เวทยิตํ น สาตํ, ทุกฺขํ เวทยิตํ น สุขํ. ปรโต ตีณิ ปทานิ อิตฺถิลิงฺควเสน วุตฺตานิ. อสาตา เวทนา น สาตา, ทุกฺขา เวทนา น สุขาติ อยเมว ปเนตฺถ อตฺโถ. ยํ กายิกํ อสาตํ ทุกฺขํ เวทยิตํ, ยา กายสมฺผสฺสชา อสาตา ทุกฺขา เวทนา, อิทํ วุจฺจติ ทุกฺขนฺติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา.
โทมนสฺสนิทฺเทเส ทุฏฺุ มโนติ ทุมฺมโน, หีนเวทนตฺตา ¶ วา กุจฺฉิตํ มโนติ ทุมฺมโน, ทุมฺมนสฺส ภาโว โทมนสฺสํ. จิตฺตนิสฺสิตตฺตา เจตสิกํ. เจโตสมฺผสฺสชนฺติ จิตฺตสมฺผสฺเส ชาตํ.
อุปายาสนิทฺเทเส อายาสนฏฺเน อายาโส. สํสีทนวิสีทนาการปฺปวตฺตสฺส จิตฺตกิลมถสฺเสตํ นามํ. พลวอายาโส อุปายาโส. อายาสิตภาโว อายาสิตตฺตํ. อุปายาสิตภาโว อุปายาสิตตฺตํ.
อปฺปิยสมฺปโยคนิทฺเทเส อิธาติ อิมสฺมึ โลเก. ยสฺสาติ เย อสฺส. อนิฏฺาติ อปริเยสิตา. ปริเยสิตา วา โหนฺตุ อปริเยสิตา วา, นามเมเวตํ อมนาปารมฺมณานํ. มนสฺมึ น กมนฺติ น ปวิสนฺตีติ อกนฺตา. มนสฺมึ น อปฺปิยนฺติ, น วา มนํ วฑฺเฒนฺตีติ อมนาปา. รูปาติอาทิ เตสํ สภาวนิทสฺสนํ. อนตฺถํ กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ อนตฺถกามา. อหิตํ กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ อหิตกามา. อผาสุํ ทุกฺขวิหารํ กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ อผาสุกามา. จตูหิ โยเคหิ เขมํ นิพฺภยํ วิวฏฺฏํ น กาเมนฺติ, สภยํ วฏฺฏเมว เนสํ กาเมนฺติ อิจฺฉนฺตีติ อโยคกฺเขมกามา. อปิจ สทฺธาทีนํ วุทฺธิสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส อกามนโต, เตสํเยว หานิสงฺขาตสฺส อนตฺถสฺส จ กามนโต อนตฺถกามา. สทฺธาทีนํเยว อุปายภูตสฺส หิตสฺส อกามนโต, สทฺธาหานิอาทีนํ อุปายภูตสฺส อหิตสฺส จ กามนโต อหิตกามา. ผาสุวิหารสฺส ¶ อกามนโต, อผาสุวิหารสฺส จ กามนโต อผาสุกามา. ยสฺส กสฺสจิ นิพฺภยสฺส อกามนโต, ภยสฺส จ กามนโต อโยคกฺเขมกามาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
สงฺคตีติ คนฺตฺวา สํโยโค. สมาคโมติ อาคเตหิ สํโยโค. สโมธานนฺติ านนิสชฺชาทีสุ สหภาโว. มิสฺสีภาโวติ สพฺพกิจฺจานํ สหกรณํ. อยํ สตฺตวเสน โยชนา. สงฺขารวเสน ปน ยํ ลพฺภติ, ตํ คเหตพฺพํ. โส ปน อปฺปิยสมฺปโยโค อตฺถโต เอโก ธมฺโม นาม นตฺถิ, เกวลํ อปฺปิยสมฺปยุตฺตานํ ทุวิธสฺสาปิ ทุกฺขสฺส วตฺถุภาวโต ทุกฺโขติ วุตฺโต.
ปิยวิปฺปโยคนิทฺเทโส ¶ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺโพ. มาตา วาติอาทิ ปเนตฺถ อตฺถกาเม สรูเปน ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ มมายตีติ มาตา, ปิยายตีติ ปิตา. ภชตีติ ¶ ภาตา, ตถา ภคินี. เมตฺตายนฺตีติ มิตฺตา, มินนฺติ วา สพฺพคุยฺเหสุ อนฺโต ปกฺขิปนฺตีติ มิตฺตา. กิจฺจกรณีเยสุ สหภาวฏฺเน อมา โหนฺตีติ อมจฺจา. ‘‘อยํ อมฺหากํ อชฺฌตฺติโก’’ติ เอวํ ชานนฺติ, ายนฺตีติ วา าตี. โลหิเตน สมฺพนฺธาติ สาโลหิตา. ปิตุปกฺขิกา าตี, มาตุปกฺขิกา สาโลหิตา. มาตาปิตุปกฺขิกา วา าตี, สสฺสุสสุรปกฺขิกา สาโลหิตา. อยมฺปิ ปิยวิปฺปโยโค อตฺถโต เอโก ธมฺโม นาม นตฺถิ, เกวลํ ปิยวิปฺปยุตฺตานํ ทุวิธสฺสาปิ ทุกฺขสฺส วตฺถุภาวโต ทุกฺโขติ วุตฺโต. อิทเมตฺถ สพฺพอฏฺกถาวจนํ. สจฺจานํ ปน ตถลกฺขณตฺตา สมฺปโยควิปฺปโยควจเนหิ อปฺปิยปิยวตฺถูนิเยว วิเสสิตานีติ วตฺตุํ ยุชฺชตีติ.
อิจฺฉิตาลาภนิทฺเทเส ชาติธมฺมานนฺติ ชาติสภาวานํ ชาติปกติกานํ. อิจฺฉา อุปฺปชฺชตีติ ตณฺหา อุปฺปชฺชติ. อโห วตาติ ปตฺถนา. อสฺสามาติ ภเวยฺยาม. น โข ปเนตํ อิจฺฉาย ปตฺตพฺพนฺติ ยํ เอตํ ‘‘อโห วต มยํ น ชาติธมฺมา อสฺสาม, น จ วต โน ชาติ อาคจฺเฉยฺยา’’ติ เอวํ ปหีนสมุทเยสุ สาธูสุ วิชฺชมานํ อชาติธมฺมตฺตํ ปรินิพฺพุเตสุ จ วิชฺชมานํ ชาติยา อนาคมนํ อิจฺฉิตํ, ตํ อิจฺฉนฺตสฺสาปิ มคฺคภาวนาย วินา อปฺปตฺตพฺพโต, อนิจฺฉนฺตสฺสาปิ จ ภาวนาย ปตฺตพฺพโต น อิจฺฉาย ปตฺตพฺพํ นาม โหติ. อิทมฺปีติ เอตมฺปิ. อุปริ เสสานิ อุปาทาย อปิสทฺโท.
อุปาทานกฺขนฺธนิทฺเทเส ¶ เสยฺยถิทนฺติ นิปาโต, ตสฺส เต กตเม อิติ เจติ อตฺโถ. รูปเมว อุปาทานกฺขนฺโธติ รูปุปาทานกฺขนฺโธ. เอเสว นโย เสเสสุปิ.
ทุกฺขสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมุทยสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา
๓๔. สมุทยสจฺจนิทฺเทเส ¶ ¶ ยายํ ตณฺหาติ ยา อยํ ตณฺหา. โปโนภวิกาติ ปุนพฺภวกรณํ ปุโนภโว, ปุโนภโว สีลมสฺสาติ โปโนภวิกา. อปิจ ปุนพฺภวํ เทติ, ปุนพฺภวาย สํวตฺตติ, ปุนปฺปุนํ ภเว นิพฺพตฺเตตีติ โปโนภวิกา. สา ปเนสา ปุนพฺภวสฺส ทายิกาปิ อตฺถิ อทายิกาปิ, ปุนพฺภวาย สํวตฺตนิกาปิ อตฺถิ อสํวตฺตนิกาปิ, ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา อุปธิเวปกฺกมตฺตาปิ. สา ติปฺปการาปิ โปโนภวิกาติ นามํ ลภติ. โปนพฺภวิกาติปิ ปาโ, โสเยวตฺโถ. อภินนฺทนสงฺขาเตน นนฺทิราเคน สห คตาติ นนฺทิราคสหคตา. นนฺทิราเคน สทฺธึ อตฺถโต เอกตฺตเมว คตาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺร ตตฺราภินนฺทินีติ ยตฺร ยตฺร อตฺตภาโว นิพฺพตฺตติ, ตตฺร ตตฺร อภินนฺทินี. รูปาทีสุ วา อารมฺมเณสุ ตตฺร ตตฺราภินนฺทินี, รูปาภินนฺทินี สทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพธมฺมาภินนฺทินีติ อตฺโถ. ตตฺร ตตฺราภินนฺทีติปิ ปาโ, ตตฺร ตตฺร อภินนฺทยตีติ อตฺโถ. เสยฺยถิทนฺติ นิปาโต, ตสฺส สา กตมา อิติ เจติ อตฺโถ. กามตณฺหาติ กาเม ตณฺหา, ปฺจกามคุณิกราคสฺเสตํ อธิวจนํ. ภวตณฺหาติ ภเว ตณฺหา. ภวปตฺถนาวเสน อุปฺปนฺนสฺส สสฺสตทิฏฺิสหคตสฺส ราคสฺส รูปารูปภวราคสฺส จ ฌานนิกนฺติยา จ เอตํ อธิวจนํ. วิภวตณฺหาติ วิภเว ตณฺหา. อุจฺเฉททิฏฺิสหคตราคสฺเสตํ อธิวจนํ.
อิทานิ ตสฺสา ตณฺหาย วตฺถุํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ สา โข ปเนสาติอาทิมาห. ตตฺถ อุปฺปชฺชตีติ ชายติ. นิวิสตีติ ปุนปฺปุนํ ปวตฺติวเสน ปติฏฺาติ. อุปฺปชฺชมานา กตฺถ อุปฺปชฺชติ, นิวิสมานา กตฺถ นิวิสตีติ ¶ สมฺพนฺโธ. ยํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปนฺติ ยํ โลกสฺมึ ปิยสภาวฺเจว ¶ มธุรสภาวฺจ. จกฺขุ โลเกติอาทีสุ โลกสฺมิฺหิ จกฺขุอาทีสุ มมตฺเตน อภินิวิฏฺา สตฺตา สมฺปตฺติยํ ปติฏฺิตา อตฺตโน จกฺขุํ อาทาสาทีสุ นิมิตฺตคฺคหณานุสาเรน วิปฺปสนฺนํ ปฺจปสาทํ สุวณฺณวิมาเน อุคฺฆาฏิตมณิสีหปฺชรํ วิย มฺนฺติ, โสตํ รชตปนาฬิกํ วิย ปามงฺคสุตฺตกํ วิย จ มฺนฺติ, ตุงฺคนาสาติ ลทฺธโวหารํ ฆานํ วฏฺเฏตฺวา ปิตหริตาลวฏฺฏึ วิย มฺนฺติ, ชิวฺหํ รตฺตกมฺพลปฏลํ วิย มุทุสินิทฺธมธุรรสทํ มฺนฺติ, กายํ สาลลฏฺึ วิย สุวณฺณโตรณํ วิย จ มฺนฺติ, มนํ อฺเสํ มเนน อสทิสํ อุฬารํ มฺนฺติ, รูปํ สุวณฺณกณิการปุปฺผาทิวณฺณํ วิย, สทฺทํ มตฺตกรวีกโกกิลมนฺทธมิตมณิวํสนิคฺโฆสํ วิย, อตฺตนา ปฏิลทฺธานิ จตุสมุฏฺานิกคนฺธารมฺมณาทีนิ ‘‘กสฺสฺสฺส เอวรูปานิ อตฺถี’’ติ มฺนฺติ, เตสํ เอวํ มฺมานานํ ตานิ จกฺขาทีนิ ปิยรูปานิ เจว สาตรูปานิ จ โหนฺติ. อถ เนสํ ตตฺถ อนุปฺปนฺนา เจว ตณฺหา อุปฺปชฺชติ ¶ , อุปฺปนฺนา จ ปุนปฺปุนํ ปวตฺติวเสน นิวิสติ. ตสฺมา เถโร ‘‘จกฺขุ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อุปฺปชฺชมานาติ ยทา อุปฺปชฺชติ, ตทา เอตฺถ อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ.
สมุทยสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิโรธสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา
นิโรธสจฺจนิทฺเทเส ¶ โย ตสฺสาเยว ตณฺหายาติ เอตฺถ ‘‘โย ตสฺเสว ทุกฺขสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ ยสฺมา สมุทยนิโรเธเนว ทุกฺขํ นิรุชฺฌติ, โน อฺถา. ยถาห –
‘‘ยถาปิ มูเล อนุปทฺทเว ทฬฺเห, ฉินฺโนปิ รุกฺโข ปุนเรว รูหติ;
เอวมฺปิ ตณฺหานุสเย อนูหเต, นิพฺพตฺตตี ทุกฺขมิทํ ปุนปฺปุน’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๓๘);
ตสฺมา ตํ ทุกฺขนิโรธํ ทสฺเสนฺโต สมุทยนิโรเธน ทสฺเสตุํ เอวมาห. สีหสมานวุตฺติโน หิ ตถาคตา, เต ทุกฺขํ นิโรเธนฺตา ทุกฺขนิโรธฺจ ทสฺเสนฺตา เหตุมฺหิ ปฏิปชฺชนฺติ, น ผเล. สุวานวุตฺติโน ปน อฺติตฺถิยา ¶ , เต ทุกฺขํ นิโรเธนฺตา ทุกฺขนิโรธฺจ ทสฺเสนฺตา อตฺตกิลมถานุโยเคน เจว ตสฺเสว จ เทสนาย ผเล ปฏิปชฺชนฺติ, น เหตุมฺหีติ. สีหสมานวุตฺติตาย สตฺถา เหตุมฺหิ ปฏิปชฺชนฺโต ‘‘โย ตสฺสาเยวา’’ติอาทิมาห. ธมฺมเสนาปติปิ สตฺถารา วุตฺตกฺกเมเนวาห.
ตตฺถ ตสฺสาเยว ตณฺหายาติ ยา สา ตณฺหา ‘‘โปโนภวิกา’’ติ วตฺวา กามตณฺหาทิวเสน วิภตฺตา อุปฺปตฺตินิเวสนวเสน จ เหฏฺา ปกาสิตา, ตสฺสาเยว ตณฺหาย. อเสสวิราคนิโรโธติ วิราโค วุจฺจติ มคฺโค, ‘‘วิราคา วิมุจฺจตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔๕; สํ. นิ. ๓.๑๒; มหาว. ๒๓) หิ วุตฺตํ. วิราเคน นิโรโธ วิราคนิโรโธ, อนุสยสมุคฺฆาตโต อเสโส วิราคนิโรโธ อเสสวิราคนิโรโธ. อถ วา วิราโคติ หิ ปหานํ วุจฺจติ, ตสฺมา อเสโส วิราโค อเสโส นิโรโธติ เอวมฺเปตฺถ โยชนา ทฏฺพฺพา. อตฺถโต ปน สพฺพาเนว ปเนตานิ อเสสวิราคนิโรโธติอาทีนิ นิพฺพานสฺเสว เววจนานิ. ปรมตฺถโต หิ ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจนฺติ ¶ นิพฺพานํ วุจฺจติ. ยสฺมา ปน ตํ อาคมฺม ตณฺหา อเสสา วิรชฺชติ นิรุชฺฌติ, ตสฺมา ตํ ‘‘ตสฺสาเยว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ’’ติ วุจฺจติ. นิพฺพานฺจ อาคมฺม ตณฺหา จชียติ ปฏินิสฺสชฺชียติ ¶ มุจฺจติ น อลฺลียติ, กามคุณาลเยสุ เจตฺถ เอโกปิ อาลโย นตฺถิ, ตสฺมา นิพฺพานํ จาโค ปฏินิสฺสคฺโค มุตฺติ อนาลโยติ วุจฺจติ. เอกเมว หิ นิพฺพานํ, นามานิ ปนสฺส สพฺพสงฺขตานํ นามปฏิปกฺขวเสน อเนกานิ โหนฺติ. เสยฺยถิทํ – อเสสวิราโค อเสสนิโรโธ จาโค ปฏินิสฺสคฺโค มุตฺติ อนาลโย ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย ตณฺหากฺขโย อนุปฺปาโท อปฺปวตฺตํ อนิมิตฺตํ อปฺปณิหิตํ อนายูหนํ อปฺปฏิสนฺธิ อนุปปตฺติ อคติ อชาตํ อชรํ อพฺยาธิ อมตํ อโสกํ อปริเทวํ อนุปายาสํ อสํกิลิฏฺนฺติอาทีนิ.
อิทานิ มคฺเคน ฉินฺนาย นิพฺพานํ อาคมฺม อปฺปวตฺติปฺปตฺตายปิ จ ตณฺหาย เยสุ วตฺถูสุ ตสฺสา อุปฺปตฺติ ทสฺสิตา, ตตฺเถว อภาวํ ทสฺเสตุํ สา โข ปเนสาติอาทิมาห. ตตฺถ ยถา ปุริโส เขตฺเต ชาตํ ติตฺตกาลาพุวลฺลึ ทิสฺวา อคฺคโต ปฏฺาย มูลํ ปริเยสิตฺวา ฉินฺเทยฺย, สา อนุปุพฺเพน มิลายิตฺวา อปฺปฺตฺตึ คจฺเฉยฺย, ตโต ตสฺมึ เขตฺเต ติตฺตกาลาพุ นิรุทฺธา ปหีนาติ วุจฺเจยฺย, เอวเมว เขตฺเต ติตฺตกาลาพุ ¶ วิย จกฺขาทีสุ ตณฺหา. สา อริยมคฺเคน มูลจฺฉินฺนา นิพฺพานํ อาคมฺม อปฺปวตฺตึ คจฺฉติ. เอวํ คตา ปน เตสุ วตฺถูสุ เขตฺเต ติตฺตกาลาพุ วิย น ปฺายติ. ยถา จ อฏวิโต โจเร อาเนตฺวา นครสฺส ทกฺขิณทฺวาเร ฆาเตยฺยุํ, ตโต อฏวิยํ โจรา มตาติ วา มาริตาติ วา วุจฺเจยฺยุํ, เอวเมว อฏวิยํ โจรา วิย ยา จกฺขาทีสุ ตณฺหา, สา ทกฺขิณทฺวาเร โจรา วิย นิพฺพานํ อาคมฺม นิรุทฺธตฺตา นิพฺพาเน นิรุทฺธา. เอวํ นิรุทฺธา ปน เตสุ วตฺถูสุ อฏวิยํ โจรา วิย น ปฺายติ. เตนสฺสา ตตฺเถว นิโรธํ ทสฺเสนฺโต ‘‘จกฺขุ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียตี’’ติอาทิมาห. อถ วา ตณฺหุปฺปาทวตฺถุสฺส ปริฺาตตฺตา ปริฺาตวตฺถุสฺมึ ปุน น อุปฺปชฺชนโต อนุปฺปาทนิโรธวเสน ตณฺหุปฺปาทวตฺถุสฺมึเยว นิรุชฺฌตีติ วุจฺจติ. เอตฺถ จ อุปฺปชฺชนปฏิปกฺขวเสน ปหียตีติ วุตฺตํ, นิวิสนปฏิปกฺขวเสน นิรุชฺฌตีติ.
นิโรธสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
มคฺคสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา
มคฺคสจฺจนิทฺเทเส ¶ ¶ อยเมวาติ อฺมคฺคปฏิกฺเขปนตฺถํ นิยมนํ (วิภ. อฏฺ. ๒๐๕). อริโยติ ตํตํมคฺควชฺฌกิเลเสหิ อารกตฺตา, อริยภาวกรตฺตา, อริยผลปฏิลาภกรตฺตา จ อริโย. อฏฺ องฺคานิ อสฺสาติ อฏฺงฺคิโก. สฺวายํ จตุรงฺคิกา วิย เสนา, ปฺจงฺคิกํ วิย ตูริยํ องฺคมตฺตเมว โหติ, องฺควินิมุตฺโต นตฺถิ.
อิทานิ องฺคมตฺตเมว มคฺโค องฺควินิมุตฺโต นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธีติอาทิมาห. ตตฺถ สมฺมา ทสฺสนลกฺขณา สมฺมาทิฏฺิ. สมฺมา อภินิโรปนลกฺขโณ สมฺมาสงฺกปฺโป. สมฺมา ปริคฺคหลกฺขณา สมฺมาวาจา. สมฺมา สมุฏฺาปนลกฺขโณ สมฺมากมฺมนฺโต. สมฺมา โวทาปนลกฺขโณ สมฺมาอาชีโว. สมฺมา ปคฺคหลกฺขโณ สมฺมาวายาโม. สมฺมา อุปฏฺานลกฺขณา สมฺมาสติ. สมฺมา สมาธานลกฺขโณ สมฺมาสมาธิ. เตสุ เอเกกสฺส ตีณิ ตีณิ กิจฺจานิ โหนฺติ. เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ ¶ ตาว อฺเหิปิ อตฺตโน ปจฺจนีกกิเลเสหิ สทฺธึ มิจฺฉาทิฏฺึ ปชหติ, นิโรธฺจ อารมฺมณํ กโรติ, สมฺปยุตฺตธมฺเม จ ปสฺสติ ตปฺปฏิจฺฉาทกโมหวิธมนวเสน อสมฺโมหโต. สมฺมาสงฺกปฺปาทโยปิ ตเถว มิจฺฉาสงฺกปฺปาทีนิ จ ปชหนฺติ, นิพฺพานฺจ อารมฺมณํ กโรนฺติ. วิเสสโต ปเนตฺถ สมฺมาสงฺกปฺโป สหชาตธมฺเม สมฺมา อภินิโรเปติ, สมฺมาวาจา สมฺมา ปริคฺคณฺหาติ, สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมา สมุฏฺาเปติ, สมฺมาอาชีโว สมฺมา โวทาเปติ, สมฺมาวายาโม สมฺมา ปคฺคณฺหาติ, สมฺมาสติ สมฺมา อุปฏฺาเปติ, สมฺมาสมาธิ สมฺมา สมาทหติ.
อปิเจสา สมฺมาทิฏฺิ นาม ปุพฺพภาเค นานากฺขณา นานารมฺมณา โหติ, มคฺคกาเล เอกกฺขณา เอการมฺมณา. กิจฺจโต ปน ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทีนิ จตฺตาริ นามานิ ลภติ ¶ . สมฺมาสงฺกปฺปาทโยปิ ปุพฺพภาเค นานากฺขณา นานารมฺมณา โหนฺติ, มคฺคกาเล เอกกฺขณา เอการมฺมณา. เตสุ สมฺมาสงฺกปฺโป กิจฺจโต เนกฺขมฺมสงฺกปฺโปติอาทีนิ ตีณิ นามานิ ลภติ. สมฺมาวาจาทโย ตโย ปุพฺพภาเค วิรติโยปิ โหนฺติ เจตนาโยปิ, มคฺคกฺขเณ ปน วิรติโยเยว. สมฺมาวายาโม สมฺมาสตีติ อิทมฺปิ ทฺวยํ กิจฺจโต สมฺมปฺปธานสติปฏฺานวเสน จตฺตาริ นามานิ ลภติ. สมฺมาสมาธิ ปน ปุพฺพภาเคปิ มคฺคกฺขเณปิ สมฺมาสมาธิเยว.
อิติ อิเมสุ อฏฺสุ ธมฺเมสุ ภควตา นิพฺพานาธิคมาย ปฏิปนฺนสฺส โยคิโน พหูปการตฺตา ปมํ ¶ สมฺมาทิฏฺิ เทสิตา. อยฺหิ ‘‘ปฺาปชฺโชโต ปฺาสตฺถ’’นฺติ (ธ. ส. ๑๖, ๒๐, ๒๙) จ วุตฺตา. ตสฺมา เอตาย ปุพฺพภาเค วิปสฺสนาาณสงฺขาตาย สมฺมาทิฏฺิยา อวิชฺชนฺธการํ วิธมิตฺวา กิเลสโจเร ฆาเตนฺโต เขเมน โยคาวจโร นิพฺพานํ ปาปุณาติ. ตสฺมา ปมํ สมฺมาทิฏฺิ เทสิตา.
สมฺมาสงฺกปฺโป ปน ตสฺสา พหูปกาโร. ตสฺมา ตทนนฺตรํ วุตฺโต. ยถา หิ เหรฺิโก หตฺเถน ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา จกฺขุนา กหาปณํ โอโลเกนฺโต ‘‘อยํ กูโฏ อยํ เฉโก’’ติ ชานาติ, เอวํ โยคาวจโรปิ ปุพฺพภาเค วิตกฺเกน วิตกฺเกตฺวา วิตกฺเกตฺวา วิปสฺสนาปฺาย โอโลกยมาโน ‘‘อิเม ธมฺมา กามาวจรา, อิเม รูปาวจราทโย’’ติ ชานาติ. ยถา วา ปน ปุริเสน โกฏิยํ คเหตฺวา ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา ทินฺนํ มหารุกฺขํ ตจฺฉโก วาสิยา ตจฺเฉตฺวา กมฺเม ¶ อุปเนติ, เอวํ วิตกฺเกน วิตกฺเกตฺวา วิตกฺเกตฺวา ทินฺนธมฺเม โยคาวจโร ปฺาย ‘‘อิเม ธมฺมา กามาวจรา, อิเม รูปาวจรา’’ติอาทินา นเยน ปริจฺฉินฺทิตฺวา กมฺเม อุปเนติ. ตสฺมา สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาทิฏฺานนฺตรํ วุตฺโต.
สฺวายํ ยถา สมฺมาทิฏฺิยา, เอวํ สมฺมาวาจายปิ อุปการโก. ยถาห – ‘‘ปุพฺเพ โข, คหปติ, วิตกฺเกตฺวา วิจาเรตฺวา ปจฺฉา วาจํ ภินฺทตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๓). ตสฺมา ตทนนฺตรํ สมฺมาวาจา วุตฺตา.
ยสฺมา ปน ‘‘อิทฺจิทฺจ กริสฺสามา’’ติ ปมํ วาจาย สํวิทหิตฺวา โลเก กมฺมนฺเต ปโยเชนฺติ, ตสฺมา วาจา กายกมฺมสฺส อุปการิกาติ สมฺมาวาจาย อนนฺตรํ สมฺมากมฺมนฺโต วุตฺโต.
จตุพฺพิธํ ปน วจีทุจฺจริตํ, ติวิธํ กายทุจฺจริตํ ปหาย อุภยํ สุจริตํ ปูเรนฺตสฺเสว ยสฺมา อาชีวฏฺมกสีลํ ปูรติ, น อิตรสฺส ¶ , ตสฺมา ตทุภยานนฺตรํ สมฺมาอาชีโว วุตฺโต.
เอวํ วิสุทฺธาชีเวน ปน ‘‘ปริสุทฺโธ เม อาชีโว’’ติ เอตฺตาวตา ปริโตสํ กตฺวา สุตฺตปฺปมตฺเตน วิหริตุํ น ยุตฺตํ, อถ โข สพฺพอิริยาปเถสุ อิทํ วีริยมารภิตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ตทนนฺตรํ สมฺมาวายาโม วุตฺโต.
ตโต ¶ อารทฺธวีริเยนาปิ กายาทีสุ จตูสุ วตฺถูสุ สติ สูปฏฺิตา กาตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ตทนนฺตรํ สมฺมาสติ วุตฺตา.
ยสฺมา ปน เอวํ สูปฏฺิตาย สติยา สมาธิสฺส อุปการานุปการานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเวสิตฺวา ปโหติ เอกตฺตารมฺมเณ จิตฺตํ สมาธาตุํ, ตสฺมา สมฺมาสติอนนฺตรํ สมฺมาสมาธิ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพติ.
สมฺมาทิฏฺินิทฺเทเส ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทินา จตุสจฺจกมฺมฏฺานํ ทสฺสิตํ. ตตฺถ ปุริมานิ ทฺเว สจฺจานิ วฏฺฏํ, ปจฺฉิมานิ ทฺเว วิวฏฺฏํ. เตสุ ภิกฺขุโน วฏฺเฏ กมฺมฏฺานาภินิเวโส โหติ, วิวฏฺเฏ นตฺถิ อภินิเวโส. ปุริมานิ หิ ทฺเว สจฺจานิ ‘‘ปฺจกฺขนฺธา ทุกฺขํ, ตณฺหา สมุทโย’’ติ เอวํ สงฺเขเปน จ, ‘‘กตเม ¶ ปฺจกฺขนฺธา? รูปกฺขนฺโธ’’ติอาทินา นเยน วิตฺถาเรน จ อาจริยสนฺติเก อุคฺคณฺหิตฺวา วาจาย ปุนปฺปุนํ ปริวตฺเตนฺโต โยคาวจโร กมฺมํ กโรติ. อิตเรสุ ปน ทฺวีสุ สจฺเจสุ ‘‘นิโรธสจฺจํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาปํ, มคฺคสจฺจํ อิฏฺํ กนฺตํ มนาป’’นฺติ เอวํ สวเนเนว กมฺมํ กโรติ. โส เอวํ กมฺมํ กโรนฺโต จตฺตาริ สจฺจานิ เอกปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ, เอกาภิสมเยน อภิสเมติ. ทุกฺขํ ปริฺาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ, สมุทยํ ปหานปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ. นิโรธํ สจฺฉิกิริยาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ, มคฺคํ ภาวนาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ. ทุกฺขํ ปริฺาภิสมเยน…เป… มคฺคํ ภาวนาภิสมเยน อภิสเมติ.
เอวมสฺส ปุพฺพภาเค ทฺวีสุ สจฺเจสุ อุคฺคหปริปุจฺฉาสวนธารณสมฺมสนปฏิเวโธ โหติ, ทฺวีสุ สวนปฏิเวโธเยว. อปรภาเค ตีสุ กิจฺจโต ปฏิเวโธ โหติ นิโรเธ อารมฺมณปฏิเวโธ. ตตฺถ สพฺพมฺปิ ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตรํ, สวนธารณสมฺมสนาณํ โลกิยํ กามาวจรํ. ปจฺจเวกฺขณา ปน ปตฺตสจฺจสฺส โหติ, อยฺจ อาทิกมฺมิโก. ตสฺมา สา อิธ น วุตฺตา. อิมสฺส จ ¶ ภิกฺขุโน ปุพฺเพ ปริคฺคหโต ‘‘ทุกฺขํ ปริชานามิ, สมุทยํ ปชหามิ, นิโรธํ สจฺฉิกโรมิ, มคฺคํ ภาเวมี’’ติ อาโภคสมนฺนาหารมนสิการปจฺจเวกฺขณา นตฺถิ, ปริคฺคหโต ปฏฺาย โหติ. อปรภาเค ปน ทุกฺขํ ปริฺาตเมว โหติ…เป… มคฺโค ภาวิโตว โหติ.
ตตฺถ ทฺเว สจฺจานิ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรานิ, ทฺเว คมฺภีรตฺตา ทุทฺทสานิ. ทุกฺขสจฺจฺหิ อุปฺปตฺติโต ปากฏํ, ขาณุกณฺฏกปฺปหาราทีสุ ‘‘อโห ทุกฺข’’นฺติ วตฺตพฺพตมฺปิ อาปชฺชติ. สมุทยสจฺจํ ขาทิตุกามตาภฺุชิตุกามตาทิวเสน อุปฺปตฺติโต ปากฏํ. ลกฺขณปฏิเวธโต ปน อุภยมฺปิ ¶ คมฺภีรํ. อิติ ตานิ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีรานิ. อิตเรสํ ปน ทฺวินฺนํ ทสฺสนตฺถาย ปโยโค ภวคฺคคฺคหณตฺถํ หตฺถปสารณํ วิย, อวีจิผุสนตฺถํ ปาทปสารณํ วิย, สตธา ภินฺนสฺส วาลสฺส โกฏิยา โกฏิปฏิปาทนํ วิย จ โหติ. อิติ ตานิ คมฺภีรตฺตา ทุทฺทสานิ. เอวํ ทุทฺทสตฺตา คมฺภีเรสุ คมฺภีรตฺตา จ ทุทฺทเสสุ จตูสุ สจฺเจสุ อุคฺคหาทิวเสน ปุพฺพภาคาณุปฺปตฺตึ สนฺธาย อิทํ ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ปฏิเวธกฺขเณ ปน เอกเมว ตํ าณํ โหติ.
อปเร ¶ ปนาหุ – จตุพฺพิธํ สจฺเจสุ าณํ สุตมยาณํ ววตฺถานาณํ สมฺมสนาณํ อภิสมยาณนฺติ. ตตฺถ กตมํ สุตมยาณํ? สํขิตฺเตน วา วิตฺถาเรน วา จตฺตาริ สจฺจานิ สุตฺวา ชานาติ ‘‘อิทํ ทุกฺขํ, อยํ สมุทโย, อยํ นิโรโธ, อยํ มคฺโค’’ติ. อิทํ สุตมยาณํ. กตมํ ววตฺถานาณํ? โส สุตานํ อตฺถํ อุปปริกฺขติ ธมฺมโต จ ลกฺขณโต จ, ‘‘อิเม ธมฺมา อิมสฺมึ สจฺเจ ปริยาปนฺนา, อิมสฺส สจฺจสฺส อิทํ ลกฺขณ’’นฺติ สนฺนิฏฺานํ กโรติ. อิทํ ววตฺถานาณํ. กตมํ สมฺมสนาณํ? โส เอวํ ยถานุปุพฺพํ จตฺตาริ สจฺจานิ ววตฺถเปตฺวา อถ ทุกฺขเมว คเหตฺวา ยาว โคตฺรภุาณํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต สมฺมสติ. อิทํ สมฺมสนาณํ. กตมํ อภิสมยาณํ? โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ เอเกน าเณน จตฺตาริ สจฺจานิ อปุพฺพํ อจริมํ อภิสเมติ ‘‘ทุกฺขํ ปริฺาภิสมเยน, สมุทยํ ปหานาภิสมเยน, นิโรธํ สจฺฉิกิริยาภิสมเยน ¶ มคฺคํ ภาวนาภิสมเยน อภิสเมตี’’ติ. อิทํ อภิสมยาณนฺติ.
สมฺมาสงฺกปฺปนิทฺเทเส กามโต นิสฺสโฏติ เนกฺขมฺมสงฺกปฺโป. พฺยาปาทโต นิสฺสโฏติ อพฺยาปาทสงฺกปฺโป. วิหึสาย นิสฺสโฏติ อวิหึสาสงฺกปฺโป. ตตฺถ เนกฺขมฺมวิตกฺโก กามวิตกฺกสฺส ปทฆาตํ ปทจฺเฉทํ กโรนฺโต อุปฺปชฺชติ, อพฺยาปาทวิตกฺโก พฺยาปาทวิตกฺกสฺส, อวิหึสาวิตกฺโก วิหึสาวิตกฺกสฺส. ตถา เนกฺขมฺมอพฺยาปาทอวิหึสาวิตกฺกา กามพฺยาปาทวิหึสาวิตกฺกานํ ปจฺจนีกา หุตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ.
ตตฺถ โยคาวจโร กามวิตกฺกสฺส ปทฆาตนตฺถํ กามวิตกฺกํ วา สมฺมสติ อฺํ วา ปน กิฺจิ สงฺขารํ. อถสฺส วิปสฺสนากฺขเณ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺโต สงฺกปฺโป ตทงฺควเสน กามวิตกฺกสฺส ปทฆาตํ ปทจฺเฉทํ กโรนฺโต อุปฺปชฺชติ, วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคํ ปาเปติ. อถสฺส มคฺคกฺขเณ มคฺคสมฺปยุตฺโต สงฺกปฺโป สมุจฺเฉทวเสน กามวิตกฺกสฺส ปทฆาตํ ปทจฺเฉทํ กโรนฺโต อุปฺปชฺชติ. พฺยาปาทวิตกฺกสฺสปิ ปทฆาตนตฺถํ พฺยาปาทวิตกฺกํ วา อฺํ วา ¶ สงฺขารํ, วิหึสาวิตกฺกสฺส ปทฆาตนตฺถํ วิหึสาวิตกฺกํ วา อฺํ วา สงฺขารํ สมฺมสติ. อถสฺส วิปสฺสนากฺขเณติ สพฺพํ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
กามวิตกฺกาทีนํ ¶ ปน ติณฺณมฺปิ ปาฬิยํ วิภตฺเตสุ อฏฺตึสารมฺมเณสุ เอกกมฺมฏฺานมฺปิ อปจฺจนีกํ นาม นตฺถิ. เอกนฺตโต ปน กามวิตกฺกสฺส ตาว อสุเภสุ ปมชฺฌานเมว ปจฺจนีกํ, พฺยาปาทวิตกฺกสฺส เมตฺตาย ติกจตุกฺกชฺฌานานิ, วิหึสอาวิตกฺกสฺส กรุณาย ติกจตุกฺกชฺฌานานิ. ตสฺมา อสุภปริกมฺมํ กตฺวา ฌานํ สมาปนฺนสฺส สมาปตฺติกฺขเณ ฌานสมฺปยุตฺโต วิตกฺโก วิกฺขมฺภนวเสน กามวิตกฺกสฺส ปจฺจนีโก หุตฺวา อุปฺปชฺชติ, ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปนฺตสฺส วิปสฺสนากฺขเณ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺโต สงฺกปฺโป ตทงฺควเสน กามวิตกฺกสฺส ปจฺจนีโก หุตฺวา อุปฺปชฺชติ, วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคํ ปาเปนฺตสฺส มคฺคกฺขเณ มคฺคสมฺปยุตฺโต สงฺกปฺโป สมุจฺเฉทวเสน กามวิตกฺกสฺส ปจฺจนีโก หุตฺวา อุปฺปชฺชติ. เอวํ อุปฺปนฺโน เนกฺขมฺมสงฺกปฺโปติ วุจฺจตีติ เวทิตพฺโพ.
เมตฺตาย ¶ ปน ปริกมฺมํ กตฺวา, กรุณาย ปริกมฺมํ กตฺวา ฌานํ สมาปนฺนสฺสาติ สพฺพํ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ. เอวํ อุปฺปนฺโน อพฺยาปาทสงฺกปฺโปติ วุจฺจติ, อวิหึสาสงฺกปฺโปติ วุจฺจตีติ เวทิตพฺโพ. เอวเมเต เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทโย วิปสฺสนาฌานวเสน อุปฺปตฺตีนํ นานตฺตา ปุพฺพภาเค นานา, มคฺคกฺขเณ ปน อิเมสุ ตีสุ าเนสุ อุปฺปนฺนสฺส อกุสลสงฺกปฺปสฺส ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมาโน เอโกว กุสลสงฺกปฺโป อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมาสงฺกปฺโป นาม.
สมฺมาวาจานิทฺเทเสปิ ยสฺมา อฺเเนว จิตฺเตน มุสาวาทา วิรมติ, อฺเน อฺเน ปิสุณาวาจาทีหิ, ตสฺมา จตสฺโสเปตา เวรมณิโย ปุพฺพภาเค นานา, มคฺคกฺขเณ ปน มิจฺฉาวาจาสงฺขาตาย จตุพฺพิธาย อกุสลทุสฺสีลฺยเจตนาย ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว สมฺมาวาจาสงฺขาตา กุสลเวรมณิ อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมาวาจา นาม.
สมฺมากมฺมนฺตนิทฺเทเสปิ ยสฺมา อฺเเนว จิตฺเตน ปาณาติปาตา วิรมติ, อฺเน อทินฺนาทานา, อฺเน มิจฺฉาจารา, ตสฺมา ติสฺโสเปตา เวรมณิโย ปุพฺพภาเค นานา, มคฺคกฺขเณ ปน มิจฺฉากมฺมนฺตสงฺขาตาย ติวิธาย อกุสลทุสฺสีลฺยเจตนาย ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว สมฺมากมฺมนฺตสงฺขาตา กุสลเวรมณิ อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมากมฺมนฺโต นาม.
สมฺมาอาชีวนิทฺเทเส ¶ ¶ อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. อริยสาวโกติ อริยสฺส พุทฺธสฺส สาวโก. มิจฺฉาอาชีวํ ปหายาติ ปาปกํ อาชีวํ ปชหิตฺวา. สมฺมาอาชีเวนาติ พุทฺธปฺปสตฺเถน กุสลอาชีเวน. ชีวิกํ กปฺเปตีติ ชีวิตปฺปวตฺตึ ปวตฺเตติ. อิธาปิ ยสฺมา อฺเเนว จิตฺเตน กายทฺวารวีติกฺกมา วิรมติ, อฺเเนว วจีทฺวารวีติกฺกมา, ตสฺมา ปุพฺพภาเค นานากฺขเณสุ อุปฺปชฺชติ, มคฺคกฺขเณ ปน ทฺวีสุ ทฺวาเรสุ สตฺตนฺนํ กมฺมปถานํ วเสน อุปฺปนฺนาย มิจฺฉาอาชีวทุสฺสีลฺยเจตนาย ปทจฺเฉทโต อนุปฺปตฺติสาธนวเสน มคฺคงฺคํ ปูรยมานา เอกาว สมฺมาอาชีวสงฺขาตา กุสลเวรมณิ อุปฺปชฺชติ. อยํ สมฺมาอาชีโว นาม.
สมฺมาวายามนิทฺเทเส อิธ ภิกฺขูติ อิมสฺมึ สาสเน ปฏิปนฺนโก ¶ ภิกฺขุ. อนุปฺปนฺนานนฺติ อนิพฺพตฺตานํ. ปาปกานนฺติ ลามกานํ. อกุสลานํ ธมฺมานนฺติ อโกสลฺลสมฺภูตานํ ธมฺมานํ. อนุปฺปาทายาติ น อุปฺปาทนตฺถาย. ฉนฺทํ ชเนตีติ กตฺตุกมฺยตาสงฺขาตํ กุสลจฺฉนฺทํ ชเนติ อุปฺปาเทติ. วายมตีติ ปโยคํ ชเนติ ปรกฺกมํ กโรติ. วีริยํ อารภตีติ กายิกํ เจตสิกํ วีริยํ กโรติ. จิตฺตํ ปคฺคณฺหาตีติ เตเนว สหชาตวีริเยน จิตฺตํ อุกฺขิปติ. ปทหตีติ ปธานวีริยํ กโรติ. ปฏิปาฏิยา ปเนตานิ จตฺตาริปิ ปทานิ อาเสวนาภาวนาพหุลีกมฺมสาตจฺจกิริยาหิ โยเชตพฺพานิ.
อุปฺปนฺนานนฺติ อนุปฺปนฺนานนฺติ อวตฺตพฺพตํ อาปนฺนานํ. ปหานายาติ ปชหนตฺถาย. อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานนฺติ อนิพฺพตฺตานํ โกสลฺลสมฺภูตานํ ธมฺมานํ. อุปฺปาทายาติ อุปฺปาทนตฺถาย. อุปฺปนฺนานนฺติ นิพฺพตฺตานํ. ิติยาติ ิตตฺถาย. อสมฺโมสายาติ อนสฺสนตฺถํ. ภิยฺโยภาวายาติ ปุนปฺปุนํ ภาวาย. เวปุลฺลายาติ วิปุลภาวาย. ภาวนายาติ วฑฺฒิยา. ปาริปูริยาติ ปริปูรณตฺถาย.
เอเต ปน สมฺมาวายามสงฺขาตา จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา ปุพฺพภาเค โลกิยา, มคฺคกฺขเณ โลกุตฺตรา. มคฺคกฺขเณ ปน เอกเมว วีริยํ จตุกิจฺจสาธนวเสน จตฺตาริ นามานิ ลภติ. ตตฺถ โลกิยา กสฺสปสํยุตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. วุตฺตฺหิ ตตฺถ –
‘‘จตฺตาโรเม ¶ , อาวุโส, สมฺมปฺปธานา; กตเม จตฺตาโร? อิธาวุโส, ภิกฺขุ ‘อนุปฺปนฺนา เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชมานา อนตฺถาย ¶ สํวตฺเตยฺยุ’นฺติ อาตปฺปํ กโรติ, ‘อุปฺปนฺนา เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปฺปหียมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยุ’นฺติ อาตปฺปํ กโรติ, ‘อนุปฺปนฺนา เม กุสลา ธมฺมา อนุปฺปชฺชมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยุ’นฺติ อาตปฺปํ กโรติ, ‘อุปฺปนฺนา เม กุสลา ธมฺมา นิรุชฺฌมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยุ’นฺติ อาตปฺปํ กโรตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๔๕);
ตตฺถ จ อนุปฺปนฺนาติ อสมุทาจารวเสน วา อนนุภูตารมฺมณวเสน วา อนุปฺปนฺนา. อฺถา หิ อนมตคฺเค สํสาเร อนุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา นาม นตฺถิ, อนุปฺปนฺนา ปน อุปฺปชฺชมานาปิ เอเตเยว อุปฺปชฺชนฺติ, ปหียมานาปิ เอเตเยว ปหียนฺติ.
ตตฺถ เอกจฺจสฺส วตฺตคนฺถธุตงฺคสมาธิวิปสฺสนานวกมฺมภวานํ ¶ อฺตรวเสน กิเลสา น สมุทาจรนฺติ. กถํ? เอกจฺโจ หิ วตฺตสมฺปนฺโน โหติ, อสีติ ขนฺธกวตฺตานิ จุทฺทส มหาวตฺตานิ เจติยงฺคณโพธิยงฺคณปานียมาฬกอุโปสถาคารอาคนฺตุกคมิกวตฺตานิ จ กโรนฺตสฺเสว กิเลสา โอกาสํ น ลภนฺติ. อปรภาเค ปนสฺส วตฺตานิ วิสฺสชฺเชตฺวา ภินฺนวตฺตสฺส จรโต อโยนิโสมนสิการํ สติโวสฺสคฺคฺจ อาคมฺม อุปฺปชฺชนฺติ. เอวมฺปิ อสมุทาจารวเสน อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺติ นาม.
เอกจฺโจ คนฺถยุตฺโต โหติ, เอกมฺปิ นิกายํ คณฺหาติ ทฺเวปิ ตโยปิ จตฺตาโรปิ ปฺจปิ. ตสฺส เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ อตฺถวเสน ปาฬิวเสน อนุสนฺธิวเสน ปุพฺพาปรวเสน คณฺหนฺตสฺส สชฺฌายนฺตสฺส จินฺเตนฺตสฺส วาเจนฺตสฺส เทเสนฺตสฺส ปกาเสนฺตสฺส กิเลสา โอกาสํ น ลภนฺติ. อปรภาเค ปนสฺส คนฺถกมฺมํ ปหาย กุสีตสฺส จรโต อโยนิโสมนสิการสติโวสฺสคฺเค อาคมฺม อุปฺปชฺชนฺติ. เอวมฺปิ อสมุทาจารวเสน อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺติ นาม.
เอกจฺโจ ปน ธุตงฺคธโร โหติ, เตรส ธุตงฺคคุเณ สมาทาย วตฺตติ, ตสฺส ธุตงฺคคุเณ ปริหรนฺตสฺส กิเลสา โอกาสํ น ลภนฺติ. อปรภาเค ¶ ปนสฺส ธุตงฺคานิ วิสฺสชฺเชตฺวา พาหุลฺลาย อาวตฺตสฺส จรโต อโยนิโสมนสิการสติโวสฺสคฺเค อาคมฺม อุปฺปชฺชนฺติ. เอวมฺปิ อสมุทาจารวเสน อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺติ นาม.
เอกจฺโจ อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ จิณฺณวสี โหติ, ตสฺส ปมชฺฌานาทีสุ อาวชฺชนวสีอาทีนํ วเสน วิหรนฺตสฺส กิเลสา โอกาสํ น ลภนฺติ. อปรภาเค ปนสฺส ปริหีนชฺฌานสฺส วา วิสฺสฏฺชฺฌานสฺส วา ภสฺสาทีสุ อนุยุตฺตสฺส วิหรโต อโยนิโสมนสิการสติโวสฺสคฺเค อาคมฺม อุปฺปชฺชนฺติ. เอวมฺปิ อสมุทาจารวเสน อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺติ นาม.
เอกจฺโจ ¶ ปน วิปสฺสโก โหติ, สตฺตสุ วา อนุปสฺสนาสุ (ปฏิ. ม. ๓.๓๕) อฏฺารสสุ วา มหาวิปสฺสนาสุ (ปฏิ. ม. ๑.๒๒) กมฺมํ กโรนฺโต วิหรติ, ตสฺส เอวํ วิหรโต กิเลสา โอกาสํ น ลภนฺติ. อปรภาเค ปนสฺส วิปสฺสนากมฺมํ ปหาย กายทฬฺหีพหุลสฺส วิหรโต อโยนิโสมนสิการสติโวสฺสคฺเค อาคมฺม อุปฺปชฺชนฺติ. เอวมฺปิ อสมุทาจารวเสน อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺติ นาม.
เอกจฺโจ นวกมฺมิโก โหติ, อุโปสถาคารโภชนสาลาทีนิ กโรติ ¶ , ตสฺส เตสํ อุปกรณานิ จินฺเตนฺตสฺส กิเลสา โอกาสํ น ลภนฺติ. อปรภาเค ปนสฺส นวกมฺเม นิฏฺิเต วา วิสฺสฏฺเ วา อโยนิโสมนสิการสติโวสฺสคฺเค อาคมฺม อุปฺปชฺชนฺติ. เอวมฺปิ อสมุทาจารวเสน อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺติ นาม.
เอกจฺโจ ปน พฺรหฺมโลกโต อาคโต สุทฺธสตฺโต โหติ, ตสฺส อนาเสวนาย กิเลสา โอกาสํ น ลภนฺติ. อปรภาเค ปนสฺส ลทฺธาเสวนสฺส อโยนิโสมนสิการสติโวสฺสคฺเค อาคมฺม อุปฺปชฺชนฺติ. เอวมฺปิ อสมุทาจารวเสน อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺติ นาม. เอวํ ตาว อสมุทาจารวเสน อนุปฺปนฺนตา เวทิตพฺพา.
กถํ อนนุภูตารมฺมณวเสน? อิเธกจฺโจ อนนุภูตปุพฺพํ มนาปิกาทิเภทํ อารมฺมณํ ลภติ, ตสฺส ตตฺถ อโยนิโสมนสิการสติโวสฺสคฺเค อาคมฺม ราคาทโย กิเลสา อุปฺปชฺชนฺติ. เอวํ อนนุภูตารมฺมณวเสน อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺติ นาม. เอวํ อนุปฺปนฺนานํ อกุสลานํ อุปฺปาเท สติ อตฺตโน ¶ อนตฺถํ ปสฺสิตฺวา เตสํ อนุปฺปาทาย สติปฏฺานภาวนานุโยเคน ปมํ สมฺมปฺปธานํ ภาเวติ, อุปฺปนฺเนสุ ปน เตสุ เตสํ อปฺปหานโต อตฺตโน อนตฺถํ ปสฺสิตฺวา เตสํ ปหานาย ทุติยํ ตเถว สมฺมปฺปธานํ ภาเวติ.
อนุปฺปนฺนา กุสลา ธมฺมาติ สมถวิปสฺสนา เจว มคฺโค จ. เตสํ อนุปฺปาเท อตฺตโน อนตฺถํ ปสฺสิตฺวา เตสํ อุปฺปาทนตฺถาย ตเถว ตติยํ สมฺมปฺปธานํ ภาเวติ. อุปฺปนฺนา กุสลา ธมฺมาติ สมถวิปสฺสนาว. มคฺโค ปน สกึ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌมาโน อนตฺถาย สํวตฺตนโก นาม นตฺถิ. โส หิ ผลสฺส ปจฺจยํ ทตฺวาว นิรุชฺฌติ. ตาสํ สมถวิปสฺสนานํ นิโรธโต อตฺตโน อนตฺถํ ปสฺสิตฺวา ตาสํ ิติยา ตเถว จตุตฺถํ สมฺมปฺปธานํ ภาเวติ. โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ปน เอกเมว วีริยํ.
เย ¶ เอวํ อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เต ยถา เนว อุปฺปชฺชนฺติ, เอวํ เตสํ อนุปฺปนฺนานํ อนุปฺปาทกิจฺจํ, อุปฺปนฺนานฺจ ปหานกิจฺจํ สาเธติ. อุปฺปนฺนาติ เจตฺถ จตุพฺพิธํ อุปฺปนฺนํ วตฺตมานุปฺปนฺนํ ภูตาปคตุปฺปนฺนํ โอกาสกตุปฺปนฺนํ ภูมิลทฺธุปฺปนฺนนฺติ. ตตฺถ สพฺพมฺปิ อุปฺปาทชราภงฺคสมงฺคิสงฺขาตํ ¶ วตฺตมานุปฺปนฺนํ นาม. อารมฺมณรสํ อนุภวิตฺวา นิรุทฺธํ อนุภูตาปคตสงฺขาตํ กุสลากุสลํ อุปฺปาทาทิตฺตยมนุปฺปตฺวา นิรุทฺธํ ภุตฺวาปคตสงฺขาตํ เสสสงฺขตฺจ ภูตาปคตุปฺปนฺนํ นาม. ‘‘ยานิสฺส ตานิ ปุพฺเพ กตานิ กมฺมานี’’ติ เอวมาทินา (ม. นิ. ๓.๒๔๘) นเยน วุตฺตํ กมฺมํ อตีตมฺปิ สมานํ อฺํ วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กตฺวา ิตตฺตา ตถา กโตกาสฺจ วิปากํ อนุปฺปนฺนมฺปิ สมานํ เอวํ กเต โอกาเส เอกนฺเตน อุปฺปชฺชนโต โอกาสกตุปฺปนฺนํ นาม. ตาสุ ตาสุ ภูมีสุ อสมูหตํ อกุสลํ ภูมิลทฺธุปฺปนฺนํ นาม.
เอตฺถ จ ภูมิยา ภูมิลทฺธสฺส จ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ – ภูมีติ หิ วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา เตภูมกา ปฺจกฺขนฺธา. ภูมิลทฺธํ นาม เตสุ ขนฺเธสุ อุปฺปตฺติรหํ กิเลสชาตํ. เตน หิ สา ภูมิลทฺธา นาม โหตีติ ตสฺมา ภูมิลทฺธนฺติ วุจฺจติ. สา จ โข น อารมฺมณวเสน. อารมฺมณวเสน หิ สพฺเพปิ อตีตานาคเต ปริฺาเตปิ จ ขีณาสวานํ ขนฺเธ อารพฺภ กิเลสา อุปฺปชฺชนฺติ. ยทิ จ ตํ ภูมิลทฺธํ นาม สิยา, ตสฺส อปฺปเหยฺยโต น โกจิ ภวมูลํ ปชเหยฺย. วตฺถุวเสน ปน ภูมิลทฺธํ เวทิตพฺพํ. ยตฺถ ยตฺถ ¶ หิ วิปสฺสนาย อปริฺาตา ขนฺธา อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ ตตฺถ อุปฺปาทโต ปภุติ เตสุ วฏฺฏมูลํ กิเลสชาตํ อนุเสติ. ตํ อปฺปหีนฏฺเน ภูมิลทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ จ ยสฺส เยสุ ขนฺเธสุ อปฺปหีนฏฺเน อนุสยิตา กิเลสา, ตสฺส เต เอว ขนฺธา เตสํ กิเลสานํ วตฺถุ, น อฺเสํ สนฺตกา ขนฺธา. อตีตกฺขนฺเธสุ จ อปฺปหีนานุสยิตานํ กิเลสานํ อตีตกฺขนฺธาว วตฺถุ, น อิตเร. เอส นโย อนาคตาทีสุ. ตถา กามาวจรกฺขนฺเธสุ อปฺปหีนานุสยิตานํ กิเลสานํ กามาวจรกฺขนฺธา เอว วตฺถุ, น อิตเร. เอส นโย รูปารูปาวจเรสุ. โสตาปนฺนาทีสุ ปน ยสฺส ยสฺส อริยปุคฺคลสฺส ขนฺเธสุ ตํ ตํ วฏฺฏมูลํ กิเลสชาตํ เตน เตน มคฺเคน ปหีนํ, ตสฺส ตสฺส ¶ เต เต ขนฺธา ปหีนานํ เตสํ เตสํ วฏฺฏมูลกานํ กิเลสานํ อวตฺถุโต ภูมีติ สงฺขํ น ลภนฺติ. ปุถุชฺชนสฺส สพฺพโส วฏฺฏมูลกิเลสานํ อปฺปหีนตฺตา ยํกิฺจิ กริยมานํ กมฺมํ กุสลมกุสลํ วา โหติ, อิจฺจสฺส กมฺมกิเลสปจฺจยาว วฏฺฏํ วฏฺฏติ, ตสฺส ตสฺเสว ตํ วฏฺฏมูลํ รูปกฺขนฺเธเยว, น เวทนาทีสุ. วิฺาณกฺขนฺเธเยว วา, น รูปกฺขนฺธาทีสูติ น วตฺตพฺพํ. กสฺมา? อวิเสเสน ปฺจสุปิ ขนฺเธสุ ¶ อนุสยิตตฺตา. กถํ? ปถวีรสาทิ วิย รุกฺเข. ยถา หิ มหารุกฺเข ปถวีตลํ อธิฏฺาย ปถวีรสฺจ อาโปรสฺจ นิสฺสาย ตปฺปจฺจยา มูลขนฺธสาขาปสาขาปลฺลวปลาสปุปฺผผเลหิ วฑฺฒิตฺวา นภํ ปูเรตฺวา ยาว กปฺปาวสานา พีชปรมฺปราย รุกฺขปเวณึ สนฺตานยมาเน ิเต ตํ ปถวีรสาทิมูเลเยว, น ขนฺธาทีสุ. ผเลเยว วา, น มูลาทีสูติ น วตฺตพฺพํ. กสฺมา? อวิเสเสน สพฺเพสุ มูลาทีสุ อนุคตตฺตาติ. ยถา ปน ตสฺเสว รุกฺขสฺส ปุปฺผผลาทีสุ นิพฺพินฺโน โกจิ ปุริโส จตูสุ ทิสาสุ มณฺฑูกกณฺฏกํ นาม วิสกณฺฏกํ อาโกเฏยฺย, อถ โส รุกฺโข เตน วิสสมฺผสฺเสน ผุฏฺโ ปถวีรสอาโปรสานํ ปริยาทินฺนตฺตา อปฺปสวธมฺมตํ อาคมฺม ปุน สนฺตานํ นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺกุเณยฺย, เอวเมว ขนฺธปฺปวตฺติยํ นิพฺพินฺโน กุลปุตฺโต ตสฺส ปุริสสฺส จตูสุ ทิสาสุ รุกฺเข วิสโยชนํ วิย อตฺตโน สนฺตาเน จตุมคฺคภาวนํ อารภติ. อถสฺส โส ขนฺธสนฺตาโน เตน จตุมคฺควิสสมฺผสฺเสน สพฺพโส วฏฺฏมูลกิเลสานํ ปริยาทินฺนตฺตา กิริยสภาวมตฺตํ ¶ อุปคตกายกมฺมาทิสพฺพกมฺมปฺปเภโท หุตฺวา อายตึ ปุนพฺภวานภินิพฺพตฺตนธมฺมตํ อาคมฺม ภวนฺตรสนฺตานํ นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺโกติ, เกวลํ จริมวิฺาณนิโรเธน นิรินฺธโน วิย ชาตเวโท อนุปาทาโน ปรินิพฺพายติ. เอวํ ภูมิยา ภูมิลทฺธสฺส จ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
อปรมฺปิ จตุพฺพิธํ อุปฺปนฺนํ สมุทาจารุปฺปนฺนํ อารมฺมณาธิคฺคหิตุปฺปนฺนํ ¶ อวิกฺขมฺภิตุปฺปนฺนํ อสมูหตุปฺปนฺนนฺติ. ตตฺถ วตฺตมานุปฺปนฺนเมว สมุทาจารุปฺปนฺนํ. จกฺขาทีนํ ปน อาปาถคเต อารมฺมเณ ปุพฺพภาเค อนุปฺปชฺชมานมฺปิ กิเลสชาตํ อารมฺมณสฺส อธิคฺคหิตตฺตา เอว อปรภาเค เอกนฺเตน อุปฺปตฺติโต อารมฺมณาธิคฺคหิตุปฺปนฺนนฺติ วุจฺจติ. สมถวิปสฺสนานํ อฺตรวเสน อวิกฺขมฺภิตํ กิเลสชาตํ จิตฺตสนฺตติมนารูฬฺหมฺปิ อุปฺปตฺตินิวารกสฺส เหตุโน อภาวา อวิกฺขมฺภิตุปฺปนฺนํ นาม. สมถวิปสฺสนาวเสน ปน วิกฺขมฺภิตมฺปิ อริยมคฺเคน อสมูหตตฺตา อุปฺปตฺติธมฺมตํ อนตีตตฺตา อสมูหตุปฺปนฺนนฺติ วุจฺจติ. ติวิธมฺปิ เจตํ อารมฺมณาธิคฺคหิตาวิกฺขมฺภิตาสมูหตุปฺปนฺนํ ภูมิลทฺเธเนว สงฺคหํ คจฺฉตีติ เวทิตพฺพํ.
อิจฺเจตสฺมึ วุตฺตปฺปเภเท อุปฺปนฺเน ยเทตํ วตฺตมานภูตาปคโตกาสกตสมุทาจารสงฺขาตํ อุปฺปนฺนํ, ตํ อมคฺควชฺฌตฺตา เกนจิ มคฺคาเณน ปหาตพฺพํ น โหติ. ยํ ปเนตํ ภูมิลทฺธารมฺมณาธิคฺคหิตาวิกฺขมฺภิตาสมูหตสงฺขาตํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนภาวํ นาสยมานํ ยสฺมา ตํ ตํ โลกิยโลกุตฺตราณํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ตํ สพฺพมฺปิ ปหาตพฺพํ โหตีติ. เอวํ เย มคฺโค กิเลเส ปชหติ, เต สนฺธาย ‘‘อุปฺปนฺนาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
อถ ¶ มคฺคกฺขเณ กถํ อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ อุปฺปาทาย ภาวนา โหติ, กถฺจ อุปฺปนฺนานํ ิติยาติ? มคฺคปฺปวตฺติยา เอว. มคฺโค หิ ปวตฺตมาโน ปุพฺเพ อนุปฺปนฺนปุพฺพตฺตา อนุปฺปนฺโน นาม วุจฺจติ. อนาคตปุพฺพฺหิ านํ อาคนฺตฺวา อนนุภูตปุพฺพํ วา อารมฺมณํ อนุภวิตฺวา วตฺตาโร ภวนฺติ ‘‘อนาคตฏฺานํ อาคตมฺห, อนนุภูตํ อารมฺมณํ อนุภวามา’’ติ. ยาวสฺส ปวตฺติ, อยเมว ิติ นามาติ ิติยา ภาเวตีติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอวเมตสฺส ภิกฺขุโน อิทํ โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ เอกเมว วีริยํ ‘‘อนุปฺปนฺนานํ ¶ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทายา’’ติอาทีนิ จตฺตาริ นามานิ ลภติ. อยํ โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ สมฺมปฺปธานกถา. เอวเมตฺถ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา สมฺมปฺปธานา นิทฺทิฏฺาติ.
สมฺมาสตินิทฺเทเส ¶ กาเยติ รูปกาเย. รูปกาโย หิ อิธ องฺคปจฺจงฺคานํ เกสาทีนฺจ ธมฺมานํ สมูหฏฺเน หตฺถิกายรถกายาทโย วิย กาโยติ อธิปฺเปโต. ยถา จ สมูหฏฺเน, เอวํ กุจฺฉิตานํ อายฏฺเน. กุจฺฉิตานฺหิ ปรมเชคุจฺฉานํ โส อาโยติปิ กาโย. อาโยติ อุปฺปตฺติเทโส. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – อายนฺติ ตโตติ อาโย. เก อายนฺติ? กุจฺฉิตา เกสาทโย. อิติ กุจฺฉิตานํ อาโยติ กาโย.
กายานุปสฺสีติ กายํ อนุปสฺสนสีโล, กายํ วา อนุปสฺสมาโน. กาเยติ จ วตฺวาปิ ปุน กายานุปสฺสีติ ทุติยํ กายคฺคหณํ อสมฺมิสฺสโต ววตฺถานฆนวินิพฺโภคาทิทสฺสนตฺถํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. เตน น กาเย เวทนานุปสฺสี จิตฺตธมฺมานุปสฺสี วา, อถ โข กายานุปสฺสีเยวาติ กายสงฺขาเต วตฺถุสฺมึ กายานุปสฺสนาการสฺเสว ทสฺสเนน อสมฺมิสฺสโต ววตฺถานํ ทสฺสิตํ โหติ. ตถา น กาเย องฺคปจฺจงฺควินิมุตฺตเอกธมฺมานุปสฺสี, นาปิ เกสโลมาทิวินิมุตฺตอิตฺถิปุริสานุปสฺสี. โยปิ เจตฺถ เกสโลมาทิโก ภูตุปาทายสมูหสงฺขาโต กาโย, ตตฺถาปิ น ภูตุปาทายวินิมุตฺตเอกธมฺมานุปสฺสี, อถ โข รถสมฺภารานุปสฺสโก วิย องฺคปจฺจงฺคสมูหานุปสฺสี, นคราวยวานุปสฺสโก วิย เกสโลมาทิสมูหานุปสฺสี, กทลิกฺขนฺธปตฺตวฏฺฏิวินิภุชฺชโก วิย ริตฺตมุฏฺิวินิเวโก วิย จ ภูตุปาทายสมูหานุปสฺสีเยวาติ สมูหวเสเนว กายสงฺขาตสฺส วตฺถุโน นานปฺปการโต ทสฺสเนน ฆนวินิพฺโภโค ทสฺสิโต โหติ. น เหตฺถ ยถาวุตฺตสมูหวินิมุตฺโต กาโย วา อิตฺถี วา ปุริโส วา อฺโ วา โกจิ ธมฺโม ทิสฺสติ, ยถาวุตฺตธมฺมสมูหมตฺเตเยว ปน ตถา ตถา สตฺตา มิจฺฉาภินิเวสํ กโรนฺติ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ยํ ¶ ปสฺสติ น ตํ ทิฏฺํ, ยํ ทิฏฺํ ตํ น ปสฺสติ;
อปสฺสํ พชฺฌเต มูฬฺโห, พชฺฌมาโน น มุจฺจตี’’ติ.
ฆนวินิพฺโภคาทิทสฺสนตฺถนฺติ ¶ วุตฺตํ. อาทิสทฺเทน เจตฺถ อยมฺปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ – อยฺหิ เอตสฺมึ กาเย กายานุปสฺสีเยว, น อฺธมฺมานุปสฺสี. กึ วุตฺตํ โหติ? ยถา อนุทกภูตายปิ มรีจิยา อุทกานุปสฺสิโน โหนฺติ, น เอวํ อนิจฺจทุกฺขานตฺตาสุภภูเตเยว อิมสฺมึ กาเย นิจฺจสุขตฺตสุภภาวานุปสฺสี, อถ โข กายานุปสฺสี ¶
อนิจฺจทุกฺขานตฺตาสุภาการสมูหานุปสฺสีเยวาติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ยฺวายํ มหาสติปฏฺาเน ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา…เป… โส สโตว อสฺสสตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๓๗๔; ม. นิ. ๑.๑๐๗) นเยน อสฺสาสปสฺสาสาทิ จุณฺณกชาตอฏฺิกปริโยสาโน กาโย วุตฺโต, โย จ ปรโต สติปฏฺานกถายํ ‘‘อิเธกจฺโจ ปถวีกายํ อนิจฺจโต อนุปสฺสติ, อาโปกายํ, เตโชกายํ, วาโยกายํ, เกสกายํ, โลมกายํ, ฉวิกายํ, จมฺมกายํ, มํสกายํ, รุหิรกายํ, นฺหารุกายํ, อฏฺิกายํ, อฏฺิมิฺชกาย’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๓.๓๕) กาโย วุตฺโต, ตสฺส สพฺพสฺส อิมสฺมึเยว กาเย อนุปสฺสนโต กาเย กายานุปสฺสีติ เอวมฺปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
อถ วา กาเย อหนฺติ วา มมนฺติ วา เอวํ คเหตพฺพสฺส กสฺสจิ อนนุปสฺสนโต ตสฺส ตสฺเสว ปน เกสโลมาทิกสฺส นานาธมฺมสมูหสฺส อนุปสฺสนโต กาเย เกสาทิธมฺมสมูหสงฺขาตกายานุปสฺสีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อปิจ ‘‘อิมสฺมึ กาเย อนิจฺจโต อนุปสฺสติ, โน นิจฺจโต’’ติอาทินา อนุกฺกเมน ปรโต อาคตนยสฺส สพฺพสฺเสว อนิจฺจลกฺขณาทิโน อาการสมูหสงฺขาตสฺส กายสฺส อนุปสฺสนโตปิ กาเย กายานุปสฺสีติ เอวมฺปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อยํ ปน จตุสติปฏฺานสาธารโณ อตฺโถ.
กาเย กายานุปสฺสีติ อสฺสาสปสฺสาสกายาทิเก พหุธา วุตฺเต กาเย เอเกกกายานุปสฺสี. วิหรตีติ จตูสุ อิริยาปถวิหาเรสุ อฺตรวิหารสมาโยคปริทีปนเมตํ, เอกํ อิริยาปถพาธนํ อฺเน อิริยาปเถน วิจฺฉินฺทิตฺวา อปตมานํ อตฺตานํ หรติ ปวตฺเตตีติ อตฺโถ. อาตาปีติ กายปริคฺคาหกวีริยสมาโยคปริทีปนเมตํ. โส หิ ยสฺมา ตสฺมึ สมเย ยํ ตํ วีริยํ ตีสุ ภเวสุ กิเลสานํ อาตาปนโต อาตาโปติ วุจฺจติ, เตน สมนฺนาคโต โหติ ¶ , ตสฺมา ‘‘อาตาปี’’ติ วุจฺจติ. สมฺปชาโนติ กายปริคฺคาหเกน สมฺปชฺสงฺขาเตน าเณน สมนฺนาคโต. สติมาติ กายปริคฺคาหิกาย สติยา สมนฺนาคโต. อยํ ปน ยสฺมา สติยา อารมฺมณํ ปริคฺคเหตฺวา ¶ ปฺาย อนุปสฺสติ ¶ . น หิ สติวิรหิตสฺส อนุปสฺสนา นาม อตฺถิ. เตเนวาห – ‘‘สติฺจ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, สพฺพตฺถิกํ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔). ตสฺมา เอตฺถ ‘‘กาเย กายานุปสฺสี วิหรตี’’ติ เอตฺตาวตา กายานุปสฺสนาสติปฏฺานกมฺมฏฺานํ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ยสฺมา อนาตาปิโน อนฺโตสงฺเขโป อนฺตรายกโร โหติ, อสมฺปชาโน อุปายปริคฺคเห อนุปายปริวชฺชเน จ สมฺมุยฺหติ, มุฏฺสฺสติ อุปายาปริจฺจาเค อนุปายาปริคฺคเห จ อสมตฺโถ โหติ, เตนสฺส ตํ กมฺมฏฺานํ น สมฺปชฺชติ, ตสฺมา เยสํ ธมฺมานํ อานุภาเวน ตํ สมฺปชฺชติ, เตสํ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อาตาปี สมฺปชาโน สติมา’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อิติ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ สมฺปโยคงฺคฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปหานงฺคํ ทสฺเสตุํ วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสนฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ วิเนยฺยาติ ตทงฺควินเยน วา วิกฺขมฺภนวินเยน วา วินยิตฺวา. โลเกติ ยฺวายํ กาโย ปุพฺเพ ปริคฺคหิโต, สฺเวว อิธ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโก นาม. ตสฺมึ โลเก อภิชฺฌํ โทมนสฺสฺจ ปชหิตฺวาติ อตฺโถ. ยสฺมา ปนสฺส น กายมตฺเตเยว อภิชฺฌาโทมนสฺสํ ปหียติ, เวทนาทีสุปิ ปหียติเยว, ตสฺมา ‘‘ปฺจปิ อุปาทานกฺขนฺธา โลโก’’ติ (วิภ. ๓๖๒) วิภงฺเค วุตฺตํ. โลกสงฺขาตตฺตาเยว เตสํ ธมฺมานํ อตฺถุทฺธารวเสเนตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยํ ปนาห – ‘‘ตตฺถ กตโม โลโก (วิภ. ๕๓๘), สฺเวว กาโย โลโก’’ติ อยเมเวตฺถ อตฺโถ. อภิชฺฌาโทมนสฺสนฺติ จ สมาเสตฺวา วุตฺตํ. สํยุตฺตงฺคุตฺตรปานฺตเรสุ ปน วิสุํ กตฺวา ปนฺติ. สา ปน อภิชฺฌายนฺติ ปตฺถยนฺติ เอตาย, สยํ วา อภิชฺฌายติ, อภิชฺฌายนมตฺตเมว วา เอสาติ อภิชฺฌา. ยสฺมา ปเนตฺถ อภิชฺฌาคหเณน กามจฺฉนฺโท, โทมนสฺสคหเณน พฺยาปาโท สงฺคหํ คจฺฉติ, ตสฺมา นีวรณปริยาปนฺนพลวธมฺมทฺวยทสฺสเนน นีวรณปฺปหานํ วุตฺตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.
วิเสเสน ¶ ปเนตฺถ อภิชฺฌาวินเยน กายสมฺปตฺติมูลกสฺส อนุโรธสฺส, โทมนสฺสวินเยน กายวิปตฺติมูลกสฺส วิโรธสฺส, อภิชฺฌาวินเยน จ กาเย อภิรติยา, โทมนสฺสวินเยน กายภาวนาย ¶ อนภิรติยา, อภิชฺฌาวินเยน กาเย อภูตานํ สุภสุขภาวาทีนํ ปกฺเขปสฺส, โทมนสฺสวินเยน กาเย ภูตานํ อสุภาสุขภาวาทีนํ อปนยนสฺส ปหานํ วุตฺตํ. เตน โยคาวจรสฺส โยคานุภาโว โยคสมตฺถตา จ ทีปิตา โหติ. โยคานุภาโว หิ เอส, ยทยํ อนุโรธวิโรธวิปฺปมุตฺโต อรติรติสโห อภูตปกฺเขปภูตาปนยนวิรหิโต จ โหติ. อนุโรธวิโรธวิปฺปมุตฺโต เจส อรติรติสโห อภูตํ อปกฺขิปนฺโต ภูตฺจ อนปเนนฺโต โยคสมตฺโถ โหตีติ.
อปโร ¶ นโย – ‘‘กาเย กายานุปสฺสี’’ติ เอตฺถ อนุปสฺสนาย กมฺมฏฺานํ วุตฺตํ. ‘‘วิหรตี’’ติ เอตฺถ วุตฺตวิหาเรน กมฺมฏฺานิกสฺส กายปริหรณํ. ‘‘อาตาปี’’ติอาทีสุ อาตาเปน สมฺมปฺปธานํ, สติสมฺปชฺเน สพฺพตฺถกกมฺมฏฺานํ, กมฺมฏฺานปริหรณูปาโย วา. สติยา วา กายานุปสฺสนาวเสน ปฏิลทฺธสมโถ, สมฺปชฺเน วิปสฺสนา, อภิชฺฌาโทมนสฺสวินเยน ภาวนาผลํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
เวทนาสุ เวทนานุปสฺสีติอาทีสุ จ เวทนาทีนํ ปุน วจเน ปโยชนํ กายานุปสฺสนายํ วุตฺตนเยเนว ยถาโยคํ โยเชตฺวา เวทิตพฺพํ. อยํ ปน อสาธารณตฺโถ – สุขาทีสุ อเนกปฺปเภทาสุ เวทนาสุ วิสุํ วิสุํ อนิจฺจาทิโต เอเกกเวทนานุปสฺสีติ, สราคาทิเก โสฬสปฺปเภเท จิตฺเต วิสุํ วิสุํ อนิจฺจาทิโต เอเกกจิตฺตานุปสฺสีติ, กายเวทนาจิตฺตานิ เปตฺวา เสสเตภูมกธมฺเมสุ วิสุํ วิสุํ อนิจฺจาทิโต เอเกกธมฺมานุปสฺสีติ, สติปฏฺานสุตฺตนฺเต (ที. นิ. ๒.๓๘๒; ม. นิ. ๑.๑๑๕) วุตฺตนเยน นีวรณาทิธมฺมานุปสฺสีติ วา. เอตฺถ จ ‘‘กาเย’’ติ เอกวจนํ สรีรสฺส เอกตฺตา, ‘‘จิตฺเต’’ติ เอกวจนํ จิตฺตสฺส สภาวเภทาภาวโต ชาติคฺคหเณน กตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยถา จ เวทนาทโย อนุปสฺสิตพฺพา, ตถา อนุปสฺสนฺโต เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี, จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี, ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสีติ เวทิตพฺโพ. กถํ ตาว เวทนา อนุปสฺสิตพฺพา? สุขา ¶ ตาว เวทนา ทุกฺขโต, ทุกฺขา เวทนา สลฺลโต, อทุกฺขมสุขา เวทนา อนิจฺจโต อนุปสฺสิตพฺพา. ยถาห –
‘‘โย ¶ สุขํ ทุกฺขโต อทฺท, ทุกฺขมทฺทกฺขิ สลฺลโต;
อทุกฺขมสุขํ สนฺตํ, อทฺทกฺขิ นํ อนิจฺจโต;
ส เว สมฺมทฺทโส ภิกฺขุ, ปริชานาติ เวทนา’’ติ. (สํ. นิ. ๔.๒๕๓);
สพฺพา เอว เจตา ทุกฺขโตปิ อนุปสฺสิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ยํกิฺจิ เวทยิตํ, สพฺพํ ตํ ทุกฺขสฺมินฺติ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๕๙). สุขทุกฺขโตปิ จ อนุปสฺสิตพฺพา. ยถาห – ‘‘สุขา เวทนา ิติสุขา วิปริณามทุกฺขา. ทุกฺขา เวทนา ิติทุกฺขา วิปริณามสุขา. อทุกฺขมสุขา เวทนา าณสุขา อฺาณทุกฺขา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕). อปิจ อนิจฺจาทิสตฺตอนุปสฺสนาวเสนาปิ อนุปสฺสิตพฺพา.
จิตฺตธมฺเมสุปิ จิตฺตํ ตาว อารมฺมณาธิปติสหชาตภูมิกมฺมวิปากกิริยาทินานตฺตเภทานํ อนิจฺจาทิสตฺตอนุปสฺสนานํ ¶ สราคาทิโสฬสเภทานฺจ วเสน อนุปสฺสิตพฺพํ, ธมฺมา สลกฺขณสามฺลกฺขณานํ สฺุตาธมฺมสฺส อนิจฺจาทิสตฺตอนุปสฺสนานํ สนฺตาสนฺตาทีนฺจ วเสน อนุปสฺสิตพฺพา. กามฺเจตฺถ ยสฺส กายสงฺขาเต โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ ปหีนํ, ตสฺส เวทนาทิโลเกสุปิ ตํ ปหีนเมว, นานาปุคฺคลวเสน ปน นานากฺขณิกสติปฏฺานภาวนาวเสน จ สพฺพตฺถ วุตฺตํ. ยโต วา เอกตฺถ ปหีนํ, เสเสสุปิ ปหีนํ โหติ. เตเนวสฺส ตตฺถ ปหานทสฺสนตฺถมฺปิ เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อิติ อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลพฺภนฺติ. อฺเเนว หิ จิตฺเตน กายํ ปริคฺคณฺหาติ, อฺเน เวทนํ, อฺเน จิตฺตํ, อฺเน ธมฺเม ปริคฺคณฺหาติ. โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺเตเยว ลพฺภนฺติ. อาทิโต หิ กายํ ปริคฺคณฺหิตฺวา อาคตสฺส วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สติ กายานุปสฺสนา นาม, ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล กายานุปสฺสี นาม. วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อริยมคฺคํ ปตฺตสฺส มคฺคกฺขเณ มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ กายานุปสฺสนา นาม, ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล กายานุปสฺสี นาม. เวทนํ ปริคฺคณฺหิตฺวา จิตฺตํ ปริคฺคณฺหิตฺวา ธมฺเม ปริคฺคณฺหิตฺวา อาคตสฺส วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สติ ¶ ธมฺมานุปสฺสนา ¶ นาม, ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ธมฺมานุปสฺสี นาม. วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อริยมคฺคํ ปตฺตสฺส มคฺคกฺขเณ มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ ธมฺมานุปสฺสนา นาม, ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ธมฺมานุปสฺสี นาม. เอวํ ตาว เทสนา ปุคฺคเล ติฏฺติ. กาเย ปน ‘‘สุภ’’นฺติ วิปลฺลาสปฺปหานา กายปริคฺคาหิกา สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ กายานุปสฺสนา นาม. เวทนาย ‘‘สุขา’’ติ วิปลฺลาสปฺปหานา เวทนาปริคฺคาหิกา สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ เวทนานุปสฺสนา นาม. จิตฺเต ‘‘นิจฺจ’’นฺติ วิปลฺลาสปฺปหานา จิตฺตปริคฺคาหิกา สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ จิตฺตานุปสฺสนา นาม. ธมฺเมสุ ‘‘อตฺตา’’ติ วิปลฺลาสปฺปหานา ธมฺมปริคฺคาหิกา สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ ธมฺมานุปสฺสนา นาม. อิติ เอกาว มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ จตุกิจฺจสาธกตฺเตน จตฺตาริ นามานิ ลภติ. เตน วุตฺตํ ‘‘โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺเตเยว ลพฺภนฺตี’’ติ.
สมฺมาสมาธินิทฺเทเส วิวิจฺเจว กาเมหีติ กาเมหิ วิวิจฺจิตฺวา วินา หุตฺวา อปกฺกมิตฺวา. โย ปนายเมตฺถ เอวกาโร, โส นิยมตฺโถติ เวทิตพฺโพ. ยสฺมา จ นิยมตฺโถ, ตสฺมา ปมชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรณสมเย อวิชฺชมานานมฺปิ กามานํ ตสฺส ปมชฺฌานสฺส ปฏิปกฺขภาวํ กามปริจฺจาเคเนว จสฺส อธิคมํ ทีเปติ. กถํ? ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติ เอวฺหิ นิยเม กยิรมาเน อิทํ ปฺายติ – นูนิมสฺส ฌานสฺส กามา ปฏิปกฺขภูตา, เยสุ สติ ¶ อิทํ น ปวตฺตติ, อนฺธกาเร สติ ปทีโปภาโส วิย, เตสํ ปริจฺจาเคเนว จสฺส อธิคโม โหติ โอริมตีรปริจฺจาเคน ปาริมตีรสฺส วิย. ตสฺมา นิยมํ กโรตีติ.
ตตฺถ สิยา, กสฺมา ปเนส ปุพฺพปเทเยว วุตฺโต, น อุตฺตรปเท, กึ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อวิวิจฺจาปิ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยาติ? น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ. ตํนิสฺสรณโต หิ ปุพฺพปเท เอส วุตฺโต. กามธาตุสมติกฺกมนโต หิ กามราคปฏิปกฺขโต จ อิทํ ฌานํ กามานเมว นิสฺสรณํ. ยถาห – ‘‘กามานเมตํ นิสฺสรณํ ยทิทํ เนกฺขมฺม’’นฺติ ¶ (อิติวุ. ๗๒). อุตฺตรปเทปิ ปน ยถา ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙; อ. นิ. ๔.๒๔๑) เอตฺถ เอวกาโร อาเนตฺวา วุจฺจติ, เอวํ วตฺตพฺโพ. น หิ สกฺกา อิโต อฺเหิปิ นีวรณสงฺขาเตหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อวิวิจฺจ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. ตสฺมา ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺเจว อกุสเลหิ ¶ ธมฺเมหี’’ติ เอวํ ปททฺวเยปิ เอส ทฏฺพฺโพ. ปททฺวเยปิ จ กิฺจาปิ วิวิจฺจาติ อิมินา สาธารณวจเนน ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณวิเวกา จิตฺตกายอุปธิวิเวกา จ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, ตถาปิ ปุพฺพภาเค กายวิเวกจิตฺตวิเวกวิกฺขมฺภนวิเวกา ทฏฺพฺพา, โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ กายวิเวกจิตฺตวิเวกสมุจฺเฉทวิเวกปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวกนิสฺสรณวิเวกา.
กาเมหีติ อิมินา ปน ปเทน เย จ มหานิทฺเทเส ‘‘กตเม วตฺถุกามา มนาปิกา รูปา’’ติอาทินา (มหานิ. ๑) นเยน วตฺถุกามา วุตฺตา, เย จ ตตฺเถว วิภงฺเค จ ‘‘ฉนฺโท กาโม, ราโค กาโม, ฉนฺทราโค กาโม, สงฺกปฺโป กาโม, ราโค กาโม, สงฺกปฺปราโค กาโม’’ติ (มหานิ. ๑; วิภ. ๕๖๔) เอวํ กิเลสกามา วุตฺตา, เต สพฺเพปิ สงฺคหิตา อิจฺเจว ทฏฺพฺพา. เอวฺหิ สติ วิวิจฺเจว กาเมหีติ วตฺถุกาเมหิปิ วิวิจฺเจวาติ อตฺโถ ยุชฺชติ. เตน กายวิเวโก วุตฺโต โหติ.
วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหีติ กิเลสกาเมหิ สพฺพากุสเลหิ วา วิวิจฺจาติ อตฺโถ ยุชฺชติ. เตน จิตฺตวิเวโก วุตฺโต โหติ. ปุริเมน เจตฺถ วตฺถุกาเมหิ วิเวกวจนโต เอว กามสุขปริจฺจาโค, ทุติเยน กิเลสกาเมหิ วิเวกวจนโต เนกฺขมฺมสุขปริคฺคโห วิภาวิโต โหติ. เอวํ วตฺถุกามกิเลสกามวิเวกวจนโตเยว จ เอเตสํ ปเมน สํกิเลสวตฺถุปฺปหานํ, ทุติเยน สํกิเลสปฺปหานํ. ปเมน โลลภาวสฺส เหตุปริจฺจาโค, ทุติเยน พาลภาวสฺส. ปเมน จ ปโยคสุทฺธิ, ทุติเยน อาสยโปสนํ วิภาวิตํ โหตีติ วิฺาตพฺพํ. เอส ตาว นโย กาเมหีติ เอตฺถ วุตฺตกาเมสุ วตฺถุกามปกฺเข.
กิเลสกามปกฺเข ¶ ปน ฉนฺโทติ จ ราโคติ จ เอวมาทีหิ อเนกเภโท กามจฺฉนฺโทว กาโมติ อธิปฺเปโต. โส จ อกุสลปริยาปนฺโนปิ สมาโน ‘‘ตตฺถ กตเม กามา, ฉนฺโท กาโม’’ติอาทินา (วิภ. ๕๖๔) นเยน วิภงฺเค อุปริ ฌานงฺคปฏิปกฺขโต ¶ วิสุํ วุตฺโต, กิเลสกามตฺตา วา ปุริมปเท วุตฺโต, อกุสลปริยาปนฺนตฺตา ทุติยปเท. อเนกเภทโต จสฺส กามโตติ อวตฺวา กาเมหีติ วุตฺตํ. อฺเสมฺปิ ¶ จ ธมฺมานํ อกุสลภาเว วิชฺชมาเน ‘‘ตตฺถ กตเม อกุสลา ธมฺมา, กามจฺฉนฺโท’’ติอาทินา (วิภ. ๕๖๔) นเยน วิภงฺเค อุปริ ฌานงฺคปจฺจนีกปฏิปกฺขภาวทสฺสนโต นีวรณาเนว วุตฺตานิ. นีวรณานิ หิ ฌานงฺคปจฺจนีกานิ, เตสํ ฌานงฺคาเนว ปฏิปกฺขานิ วิทฺธํสกานิ วินาสกานีติ วุตฺตํ โหติ. ตถา หิ ‘‘สมาธิ กามจฺฉนฺทสฺส ปฏิปกฺโข, ปีติ พฺยาปาทสฺส, วิตกฺโก ถินมิทฺธสฺส, สุขํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส, วิจาโร วิจิกิจฺฉายา’’ติ เปฏเก วุตฺตํ.
เอวเมตฺถ ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติ อิมินา กามจฺฉนฺทสฺส วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต โหติ. ‘‘วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’’ติ อิมินา ปฺจนฺนมฺปิ นีวรณานํ. อคหิตคฺคหเณน ปน ปเมน กามจฺฉนฺทสฺส, ทุติเยน เสสนีวรณานํ. ตถา ปเมน ตีสุ อกุสลมูเลสุ ปฺจกามคุณเภทวิสยสฺส โลภสฺส, ทุติเยน อาฆาตวตฺถุเภทาทิวิสยานํ โทสโมหานํ. โอฆาทีสุ วา ธมฺเมสุ ปเมน กาโมฆกามโยคกามาสวกามุปาทานอภิชฺฌากายคนฺถ กามราคสฺโชนานํ, ทุติเยน อวเสสโอฆโยคาสวอุปาทานคนฺถสํโยชนานํ. ปเมน ตณฺหาย ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ, ทุติเยน อวิชฺชาย ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ. อปิจ ปเมน โลภสมฺปยุตฺตอฏฺจิตฺตุปฺปาทานํ, ทุติเยน เสสานํ จตุนฺนํ อกุสลจิตฺตุปฺปาทานํ วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต โหตีติ เวทิตพฺโพ.
เอตฺตาวตา จ ปมสฺส ฌานสฺส ปหานงฺคํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สมฺปโยคงฺคํ ทสฺเสตุํ สวิตกฺกํ สวิจารนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อภินิโรปนลกฺขโณ วิตกฺโก. อารมฺมณานุมชฺชนลกฺขโณ วิจาโร. สนฺเตปิ จ เนสํ กตฺถจิ อวิปฺปโยเค โอฬาริกฏฺเน ปุพฺพงฺคมฏฺเน จ ฆณฺฑาภิฆาโต วิย เจตโส ปมาภินิปาโต วิตกฺโก, สุขุมฏฺเน อนุมชฺชนสภาเวน จ ฆณฺฑานุรโว วิย อนุปฺปพนฺโธ วิจาโร. วิปฺผารวา เจตฺถ วิตกฺโก ปมุปฺปตฺติกาเล ปริปฺผนฺทนภูโต จิตฺตสฺส, อากาเส อุปฺปติตุกามสฺส ปกฺขิโน ปกฺขวิกฺเขโป วิย, ปทุมาภิมุขปาโต วิย จ คนฺธานุพนฺธเจตโส ภมรสฺส. สนฺตวุตฺติ วิจาโร ¶ นาติปริปฺผนฺทนภูโต จิตฺตสฺส, อากาเส อุปฺปติตสฺส ปกฺขิโน ปกฺขปฺปสารณํ วิย, ปริพฺภมนํ วิย จ ปทุมาภิมุขปติตสฺส ภมรสฺส ปทุมสฺส อุปริภาเค.
ทุกนิปาตฏฺกถายํ ¶ ¶ ปน ‘‘อากาเส คจฺฉโต มหาสกุณสฺส อุโภหิ ปกฺเขหิ วาตํ คเหตฺวา ปกฺเข สนฺนิสีทาเปตฺวา คมนํ วิย อารมฺมเณ เจตโส อภินิโรปนภาเวน ปวตฺโต วิตกฺโก, วาตคฺคหณตฺถํ ปกฺเข ผนฺทาปยมานสฺส คมนํ วิย อนุมชฺชนภาเวน ปวตฺโต วิจาโร’’ติ วุตฺตํ. ตํ อนุปฺปพนฺเธน ปวตฺติยํ ยุชฺชติ. โส ปน เตสํ วิเสโส ปมทุติยชฺฌาเนสุ ปากโฏ โหติ. อปิจ มลคฺคหิตํ กํสภาชนํ เอเกน หตฺเถน ทฬฺหํ คเหตฺวา อิตเรน หตฺเถน จุณฺณเตลวาลณฺฑุปเกน ปริมชฺชนฺตสฺส ทฬฺหคฺคหณหตฺโถ วิย วิตกฺโก, ปริมชฺชนหตฺโถ วิย วิจาโร. ตถา กุมฺภการสฺส ทณฺฑปฺปหาเรน จกฺกํ ภมยิตฺวา ภาชนํ กโรนฺตสฺส อุปฺปีฬนหตฺโถ วิย วิตกฺโก, อิโต จิโต จ สํสรณหตฺโถ วิย วิจาโร. ตถา มณฺฑลํ กโรนฺตสฺส มชฺเฌ สนฺนิรุชฺฌิตฺวา ิตกณฺฏโก วิย อภินิโรปโน วิตกฺโก, พหิ ปริพฺภมนกณฺฏโก วิย อนุมชฺชโน วิจาโร. อิติ อิมินา จ วิตกฺเกน อิมินา จ วิจาเรน สห วตฺตติ รุกฺโข วิย ปุปฺเผน ผเลน จาติ อิทํ ฌานํ ‘‘สวิตกฺกํ สวิจาร’’นฺติ วุจฺจติ.
วิเวกชนฺติ เอตฺถ วิวิตฺติ วิเวโก, นีวรณวิคโมติ อตฺโถ. วิวิตฺโตติ วา วิเวโก, นีวรณวิวิตฺโต ฌานสมฺปยุตฺตธมฺมราสีติ อตฺโถ. ตสฺมา วิเวกา, ตสฺมึ วา วิเวเก ชาตนฺติ วิเวกชํ. ปีติสุขนฺติ เอตฺถ ปีณยตีติ ปีติ, สา สมฺปิยายนลกฺขณา. สา ปเนสา ขุทฺทิกา ปีติ, ขณิกา ปีติ, โอกฺกนฺติกา ปีติ, อุพฺเพคา ปีติ, ผรณา ปีตีติ ปฺจวิธา โหติ.
ตตฺถ ขุทฺทิกา ปีติ สรีเร โลมหํสนมตฺตเมว กาตุํ สกฺโกติ. ขณิกา ปีติ ขเณ ขเณ วิชฺชุปฺปาทสทิสา โหติ. โอกฺกนฺติกา ปีติ สมุทฺทตีรํ วีจิ วิย กายํ โอกฺกมิตฺวา โอกฺกมิตฺวา ภิชฺชติ. อุพฺเพคา ปีติ พลวตี โหติ กายํ อุทฺธคฺคํ กตฺวา อากาเส ลงฺฆาปนปฺปมาณปฺปตฺตา. ผรณา ปีติ อติพลวตี โหติ. ตาย หิ อุปฺปนฺนาย สกลสรีรํ ธมิตฺวา ปูริตวตฺถิ วิย ¶ มหตา อุทโกเฆน ปกฺขนฺทปพฺพตกุจฺฉิ วิย จ อนุปริผุฏํ โหติ. สา ปเนสา ปฺจวิธา ปีติ คพฺภํ คณฺหนฺตี ปริปากํ คจฺฉนฺตี ทุวิธํ ปสฺสทฺธึ ปริปูเรติ กายปสฺสทฺธิฺจ จิตฺตปสฺสทฺธิฺจ. ปสฺสทฺธิ คพฺภํ คณฺหนฺตี ปริปากํ คจฺฉนฺตี ทุวิธมฺปิ สุขํ ปริปูเรติ กายิกฺจ เจตสิกฺจ. สุขํ ¶ คพฺภํ คณฺหนฺตํ ปริปากํ คจฺฉนฺตํ ติวิธํ สมาธึ ปริปูเรติ – ขณิกสมาธึ, อุปจารสมาธึ, อปฺปนาสมาธิฺจาติ. ตาสุ จ ยา อปฺปนาสมาธิสฺส มูลํ หุตฺวา วฑฺฒมานา สมาธิสมฺปโยคํ คตา ผรณา ปีติ, อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปตา ปีตีติ.
อิตรํ ¶ ปน สุขยตีติ สุขํ, ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ สุขิตํ กโรตีติ อตฺโถ. สุขนํ วา สุขํ, สุฏฺุ วา ขาทติ, ขณติ จ กายจิตฺตาพาธนฺติ สุขํ, โสมนสฺสเวทนาเยตํ นามํ. ตํ สาตลกฺขณํ. สนฺเตปิ จ เนสํ กตฺถจิ อวิปฺปโยเค อิฏฺารมฺมณปฏิลาภตุฏฺิ ปีติ, ปฏิลทฺธรสานุภวนํ สุขํ. ยตฺถ ปีติ, ตตฺถ สุขํ. ยตฺถ สุขํ, ตตฺถ น นิยมโต ปีติ. สงฺขารกฺขนฺธสงฺคหิตา ปีติ, เวทนากฺขนฺธสงฺคหิตํ สุขํ. กนฺตารขินฺนสฺส วนนฺตุทกทสฺสนสวเนสุ วิย ปีติ, วนจฺฉายาปเวสนอุทกปริโภเคสุ วิย สุขํ. ตสฺมึ ตสฺมึ สมเย ปากฏภาวโต เจตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิติ อยฺจ ปีติ อิทฺจ สุขํ อสฺส ฌานสฺส, อสฺมึ วา ฌาเน อตฺถีติ อิทํ ฌานํ ‘‘ปีติสุข’’นฺติ วุจฺจติ. อถ วา ปีติ จ สุขฺจ ปีติสุขํ ธมฺมวินยาทโย วิย. วิเวกชํ ปีติสุขํ อสฺส ฌานสฺส, อสฺมึ วา ฌาเน อตฺถีติ เอวมฺปิ วิเวกชํ ปีติสุขํ. ยเถว หิ ฌานํ, เอวํ ปีติสุขมฺเปตฺถ วิเวกชเมว โหติ. ตฺจสฺส อตฺถีติ ตสฺมา อโลปสมาสํ กตฺวา เอกปเทเนว ‘‘วิเวกชํปีติสุข’’นฺติปิ วตฺตุํ ยุชฺชติ.
ปมนฺติ คณนานุปุพฺพตา ปมํ, ปมํ อุปฺปนฺนนฺติปิ ปมํ. ฌานนฺติ ทุวิธํ ฌานํ อารมฺมณูปนิชฺฌานฺจ ลกฺขณูปนิชฺฌานฺจ. ตตฺถ อฏฺ สมาปตฺติโย ปถวีกสิณาทิอารมฺมณํ อุปนิชฺฌายนฺตีติ ‘‘อารมฺมณูปนิชฺฌาน’’นฺติ สงฺขฺยํ คตา. วิปสฺสนามคฺคผลานิ ปน ลกฺขณูปนิชฺฌานํ ¶ นาม. ตตฺถ วิปสฺสนา อนิจฺจาทิลกฺขณสฺส อุปนิชฺฌานโต ลกฺขณูปนิชฺฌานํ, วิปสฺสนาย กตกิจฺจสฺส มคฺเคน อิชฺฌนโต มคฺโค ลกฺขณูปนิชฺฌานํ, ผลํ ปน นิโรธสจฺจํ ตถลกฺขณํ อุปนิชฺฌายตีติ ลกฺขณูปนิชฺฌานํ. เตสุ อิธ ปุพฺพภาเค อารมฺมณูปนิชฺฌานํ, โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ลกฺขณูปนิชฺฌานํ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา อารมฺมณูปนิชฺฌานโต ลกฺขณูปนิชฺฌานโต ปจฺจนีกชฺฌาปนโต จ ‘‘ฌาน’’นฺติ เวทิตพฺพํ. อุปสมฺปชฺชาติ อุปคนฺตฺวา, ปาปุณิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อุปสมฺปาทยิตฺวา วา, นิปฺผาเทตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. วิหรตีติ ตทนุรูเปน อิริยาปถวิหาเรน อิริยติ, วุตฺตปฺปการฌานสมงฺคี หุตฺวา อตฺตภาวสฺส วุตฺตึ อภินิปฺผาเทติ.
วิตกฺกวิจารานํ ¶ วูปสมาติ เอตฺถ วิตกฺกสฺส จ วิจารสฺส จาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ วูปสมา สมติกฺกมา, ทุติยชฺฌานกฺขเณ อปาตุภาวาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ กิฺจาปิ ทุติยชฺฌาเน สพฺเพปิ ปมชฺฌานธมฺมา น สนฺติ, อฺเเยว หิ ปมชฺฌาเน ผสฺสาทโย, อฺเ อิธาติ. โอฬาริกสฺส ปน โอฬาริกสฺส องฺคสฺส สมติกฺกมา ปมชฺฌานโต ปเรสํ ทุติยชฺฌานาทีนํ อธิคโม โหตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’’ติ เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ ¶ . อชฺฌตฺตนฺติ อิธ นิยกชฺฌตฺตํ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา อตฺตนิ ชาตํ, อตฺตสนฺตาเน นิพฺพตฺตนฺติ อตฺโถ.
สมฺปสาทนนฺติ สมฺปสาทนํ วุจฺจติ สทฺธา. สมฺปสาทนโยคโต ฌานมฺปิ สมฺปสาทนํ นีลวณฺณโยคโต นีลวตฺถํ วิย. ยสฺมา วา ตํ ฌานํ สมฺปสาทนสมนฺนาคตตฺตา วิตกฺกวิจารกฺโขภวูปสมเนน จ เจโต สมฺปสาทยติ, ตสฺมาปิ สมฺปสาทนนฺติ วุตฺตํ. อิมสฺมิฺจ อตฺถวิกปฺเป สมฺปสาทนํ เจตโสติ เอวํ ปทสมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ, ปุริมสฺมึ ปน อตฺถวิกปฺเป เจตโสติ เอตํ เอโกทิภาเวน สทฺธึ โยเชตพฺพํ.
ตตฺรายํ อตฺถโยชนา – เอโก อุเทตีติ เอโกทิ, วิตกฺกวิจาเรหิ อนชฺฌารูฬฺหตฺตา อคฺโค เสฏฺโ หุตฺวา อุเทตีติ อตฺโถ. เสฏฺโปิ หิ โลเก เอโกติ วุจฺจติ. วิตกฺกวิจารวิรหิโต วา เอโก อสหาโย หุตฺวา อิติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อถ วา สมฺปยุตฺตธมฺเม อุทายตีติ อุทิ, อุฏฺเปตีติ อตฺโถ. เสฏฺฏฺเน เอโก จ โส ¶ อุทิ จาติ เอโกทิ. สมาธิสฺเสตํ อธิวจนํ. อิติ อิมํ เอโกทึ ภาเวติ วฑฺเฒตีติ อิทํ ทุติยํ ฌานํ เอโกทิภาวํ. โส ปนายํ เอโกทิ ยสฺมา เจตโส, น สตฺตสฺส น ชีวสฺส. ตสฺมา เอตํ ‘‘เจตโส เอโกทิภาว’’นฺติ วุตฺตํ.
นนุ จายํ สทฺธา ปมชฺฌาเนปิ อตฺถิ, อยฺจ เอโกทินามโก สมาธิ. อถ กสฺมา อิทเมว ‘‘สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาว’’นฺติ จ วุตฺตนฺติ? วุจฺจเต – อทฺุหิ ปมชฺฌานํ วิตกฺกวิจารกฺโขเภน วีจิตรงฺคสมากุลมิว ชลํ น สุปฺปสนฺนํ โหติ, ตสฺมา สติยาปิ สทฺธาย ‘‘สมฺปสาทน’’นฺติ น วุตฺตํ. น สุปฺปสนฺนตฺตาเยว เจตฺถ สมาธิปิ น สุฏฺุ ปากโฏ. ตสฺมา ‘‘เอโกทิภาว’’นฺติปิ น วุตฺตํ. อิมสฺมึ ปน ฌาเน วิตกฺกวิจารปลิโพธาภาเวน ลทฺโธกาสา พลวตี สทฺธา, พลวสทฺธาสหายปฏิลาเภเนว จ สมาธิปิ ปากโฏ, ตสฺมา อิทเมว เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อวิตกฺกํ ¶ อวิจารนฺติ ภาวนาย ปหีนตฺตา เอตสฺมึ, เอตสฺส วา วิตกฺโก นตฺถีติ อวิตกฺกํ. อิมินาว นเยน อวิจารํ. เอตฺถาห – ‘‘นนุ จ ‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’ติ อิมินาปิ อยมตฺโถ สิทฺโธ. อถ กสฺมา ปุน วุตฺตํ ‘อวิตกฺกํ อวิจาร’นฺติ’’? วุจฺจเต – เอวเมตํ, สิทฺโธวายมตฺโถ, น ปเนตํ ตทตฺถทีปกํ, นนุ อโวจุมฺห ‘‘โอฬาริกสฺส ¶ ปน โอฬาริกสฺส องฺคสฺส สมติกฺกมา ปมชฺฌานโต ปเรสํ ทุติยชฺฌานาทีนํ สมธิคโม โหตีติ ทสฺสนตฺถํ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมาติ เอวํ วุตฺต’’นฺติ.
อปิจ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อิทํ สมฺปสาทนํ, น กิเลสกาลุสฺสิยสฺส. วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมา เอโกทิภาวํ, น อุปจารชฺฌานมิว นีวรณปฺปหานา, น ปมชฺฌานมิว จ องฺคปาตุภาวาติ เอวํ สมฺปสาทนเอโกทิภาวานํ เหตุปริทีปกมิทํ วจนํ. ตถา วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อิทํ อวิตกฺกอวิจารํ, น ตติยจตุตฺถชฺฌานานิ วิย จกฺขุวิฺาณาทีนิ วิย จ อภาวาติ เอวํ อวิตกฺกอวิจารภาวสฺส เหตุปริทีปกฺจ. น วิตกฺกวิจาราภาวมตฺตปริทีปกํ, วิตกฺกวิจาราภาวมตฺตปริทีปกเมว ¶ ปน ‘‘อวิตกฺกํ อวิจาร’’นฺติ อิทํ วจนํ. ตสฺมา ปุริมํ วตฺวาปิ ปุน วตฺตพฺพเมวาติ.
สมาธิชนฺติ ปมชฺฌานสมาธิโต, สมฺปยุตฺตสมาธิโต วา ชาตนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ กิฺจาปิ ปมชฺฌานมฺปิ สมฺปยุตฺตสมาธิโต ชาตํ, อถ โข อยเมว สมาธิ ‘‘สมาธี’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหติ วิตกฺกวิจารกฺโขภวิรเหน อติวิย อจลตฺตา สุปฺปสนฺนตฺตา จ. ตสฺมา อิมสฺส วณฺณภณนตฺถํ อิทเมว ‘‘สมาธิช’’นฺติ วุตฺตํ. ปีติสุขนฺติ อิทํ วุตฺตนยเมว. ทุติยนฺติ คณนานุปุพฺพตา ทุติยํ, อิทํ ทุติยํ อุปฺปนฺนนฺติปิ ทุติยํ.
ปีติยา จ วิราคาติ วิราโค นาม วุตฺตปฺปการาย ปีติยา ชิคุจฺฉนํ วา สมติกฺกโม วา, อุภินฺนํ ปน อนฺตรา จสทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ, โส วูปสมํ วา สมฺปิณฺเฑติ วิตกฺกวิจารวูปสมํ วา. ตตฺถ ยทา วูปสมเมว สมฺปิณฺเฑติ, ตทา ปีติยา วิราคา จ, กิฺจ ภิยฺโย วูปสมา จาติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. อิมิสฺสา จ โยชนาย วิราโค ชิคุจฺฉนตฺโถ โหติ, ตสฺมา ปีติยา ชิคุจฺฉนา จ สมติกฺกมา จาติ อยมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยทา ปน วิตกฺกวิจารวูปสมํ สมฺปิณฺเฑติ, ตทา ปีติยา จ วิราคา, กิฺจ ภิยฺโย วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมาติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. อิมิสฺสา จ โยชนาย วิราโค สมติกฺกมนตฺโถ โหติ, ตสฺมา ปีติยา จ สมติกฺกมา, วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมาติ อยมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
กามฺเจเต ¶ วิตกฺกวิจารา ทุติยชฺฌาเนเยว วูปสนฺตา, อิมสฺส ปน ฌานสฺส มคฺคปริทีปนตฺถํ วณฺณภณนตฺถฺเจตํ วุตฺตํ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมาติ หิ วุตฺเต อิทํ ปฺายติ ‘‘นูน วิตกฺกวิจารวูปสโม มคฺโค อิมสฺส ฌานสฺสา’’ติ. ยถา จ ตติเย อริยมคฺเค ¶ อปฺปหีนานมฺปิ สกฺกายทิฏฺาทีนํ ‘‘ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปหานา’’ติ (ที. นิ. ๑.๓๗๓; ม. นิ. ๒.๑๓๓; สํ. นิ. ๕.๑๘๔; อ. นิ. ๓.๘๘) เอวํ ปหานํ วุจฺจมานํ วณฺณภณนํ โหติ, ตทธิคมาย อุสฺสุกฺกานํ อุสฺสาหชนกํ, เอวเมว อิธ อวูปสนฺตานมฺปิ วิตกฺกวิจารานํ วูปสโม วุจฺจมาโน วณฺณภณนํ โหติ. เตนายมตฺโถ วุตฺโต ‘‘ปีติยา จ สมติกฺกมา วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมา’’ติ.
อุเปกฺขโก จ วิหรตีติ เอตฺถ อุปปตฺติโต อิกฺขตีติ อุเปกฺขา ¶ , สมํ ปสฺสติ อปกฺขปติตา หุตฺวา ปสฺสตีติ อตฺโถ. ตาย วิสทาย วิปุลาย ถามคตาย สมนฺนาคตตฺตา ตติยชฺฌานสมงฺคี ‘‘อุเปกฺขโก’’ติ วุจฺจติ.
อุเปกฺขา ปน ทสวิธา โหติ ฉฬงฺคุเปกฺขา พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา โพชฺฌงฺคุเปกฺขา วีริยุเปกฺขา สงฺขารุเปกฺขา เวทนุเปกฺขา วิปสฺสนุเปกฺขา ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา ฌานุเปกฺขา ปาริสุทฺธุเปกฺขาติ.
ตตฺถ ยา ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ขีณาสโว ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน’’ติ (อ. นิ. ๖.๑) เอวมาคตา ขีณาสวสฺส ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺานิฏฺฉฬารมฺมณาปาเถ ปริสุทฺธปกติภาวาวิชหนาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ ฉฬงฺคุเปกฺขา นาม.
ยา ปน ‘‘อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๕๕๖; ม. นิ. ๑.๗๗) เอวมาคตา สตฺเตสุ มชฺฌตฺตาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา นาม.
ยา ปน ‘‘อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิต’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๒๔๗) เอวมาคตา สหชาตธมฺมานํ มชฺฌตฺตาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ โพชฺฌงฺคุเปกฺขา นาม.
ยา ¶ ปน ‘‘กาเลน กาลํ อุเปกฺขานิมิตฺตํ มนสิกโรตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๐๓) เอวมาคตา อนจฺจารทฺธนาติสิถิลวีริยสงฺขาตา อุเปกฺขา, อยํ วีริยุเปกฺขา นาม.
ยา ปน ‘‘กติ สงฺขารุเปกฺขา สมถวเสน อุปฺปชฺชนฺติ, กติ สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนาวเสน ¶ อุปฺปชฺชนฺติ? อฏฺ สงฺขารุเปกฺขา สมถวเสน อุปฺปชฺชนฺติ, ทส สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๗) เอวมาคตา นีวรณาทิปฏิสงฺขาสนฺติฏฺนาคหเณ มชฺฌตฺตภูตา อุเปกฺขา, อยํ สงฺขารุเปกฺขา นาม.
ยา ปน ‘‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ อุเปกฺขาสหคต’’นฺติ (ธ. ส. ๑๕๐) เอวมาคตา อทุกฺขมสุขสฺิตา อุเปกฺขา, อยํ เวทนุเปกฺขา นาม.
ยา ‘‘ยทตฺถิ ยํ ภูตํ, ตํ ปชหติ, อุเปกฺขํ ปฏิลภตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๗๑; อ. นิ. ๗.๕๕) เอวมาคตา วิจินเน มชฺฌตฺตภูตา อุเปกฺขา, อยํ วิปสฺสนุเปกฺขา นาม.
ยา ปน ฉนฺทาทีสุ เยวาปนเกสุ อาคตา สหชาตานํ สมวาหิตภูตา อุเปกฺขา, อยํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา นาม.
ยา ปน ‘‘อุเปกฺขโก จ วิหรตี’’ติ (ธ. ส. ๑๖๓; ที. นิ. ๑.๒๓๐) เอวมาคตา อคฺคสุเขปิ ตสฺมึ อปกฺขปาตชนนี อุเปกฺขา, อยํ ฌานุเปกฺขา นาม.
ยา ปน ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌาน’’นฺติ (ธ. ส. ๑๖๕; ที. นิ. ๑.๒๓๒) เอวมาคตา สพฺพปจฺจนีกปริสุทฺธา ปจฺจนีกวูปสมเนปิ อพฺยาปารภูตา อุเปกฺขา, อยํ ปาริสุทฺธุเปกฺขา นาม.
ตตฺถ ¶ ฉฬงฺคุเปกฺขา จ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา จ โพชฺฌงฺคุเปกฺขา จ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา จ ฌานุเปกฺขา จ ปาริสุทฺธุเปกฺขา จ อตฺถโต เอกา, ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาว โหติ. เตน เตน อวตฺถาเภเทน ปนสฺสายํ เภโท. เอกสฺสาปิ สโต สตฺตสฺส กุมารยุวตฺเถรเสนาปติราชาทิวเสน เภโท วิย, ตสฺมา ตาสุ ยตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขา, น ตตฺถ โพชฺฌงฺคุเปกฺขาทโย. ยตฺถ วา ปน โพชฺฌงฺคุเปกฺขา, น ตตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขาทโย โหนฺตีติ เวทิตพฺพา.
ยถา ¶ เจตาสํ อตฺถโต เอกีภาโว, เอวํ สงฺขารุเปกฺขาวิปสฺสนุเปกฺขานมฺปิ. ปฺา เอว หิ สา, กิจฺจวเสน ทฺวิธา ภินฺนา. ยถา หิ ปุริสสฺส สายํ เคหํ ปวิฏฺํ สปฺปํ อชปททณฺฑํ คเหตฺวา ปริเยสมานสฺส ตํ ถุสโกฏฺเก นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘สปฺโป นุ โข, โน’’ติ อวโลเกนฺตสฺส โสวตฺถิกตฺตยํ ¶ ทิสฺวา นิพฺเพมติกสฺส ‘‘สปฺโป, น สปฺโป’’ติ วิจินเน มชฺฌตฺตตา อุปฺปชฺชติ, เอวเมว ยา อารทฺธวิปสฺสกสฺส วิปสฺสนาาเณน ลกฺขณตฺตเย ทิฏฺเ สงฺขารานํ อนิจฺจภาวาทิวิจินเน มชฺฌตฺตตา อุปฺปชฺชติ, อยํ วิปสฺสนุเปกฺขา. ยถา ปน ตสฺส ปุริสสฺส อชปททณฺเฑน คาฬฺหํ สปฺปํ คเหตฺวา ‘‘กินฺตาหํ อิมํ สปฺปํ อวิเหเนฺโต อตฺตานฺจ อิมินา อฑํสาเปนฺโต มฺุเจยฺย’’นฺติ มฺุจนาการเมว ปริเยสโต คหเณ มชฺฌตฺตตา โหติ, เอวเมว ยา ลกฺขณตฺตยสฺส ทิฏฺตฺตา อาทิตฺเต วิย ตโย ภเว ปสฺสโต สงฺขารคหเณ มชฺฌตฺตตา, อยํ สงฺขารุเปกฺขา. อิติ วิปสฺสนุเปกฺขาย สิทฺธาย สงฺขารุเปกฺขาปิ สิทฺธาว โหติ. อิมินา ปเนสา วิจินนคหเณสุ มชฺฌตฺตสงฺขาเตน กิจฺเจน ทฺวิธา ภินฺนาติ. วีริยุเปกฺขา ปน เวทนุเปกฺขา จ อฺมฺฺจ อวเสสาหิ จ อตฺถโต ภินฺนา เอวาติ. อาห เจตฺถ –
‘‘มชฺฌตฺตพฺรหฺมโพชฺฌงฺคฉฬงฺคฌานสุทฺธิโย;
วิปสฺสนา จ สงฺขารเวทนา วีริยํ อิติ.
วิตฺถารโต ทโสเปกฺขา, ฉ มชฺฌตฺตาทิโต ตโต;
ทุเว ปฺา ตโต ทฺวีหิ, จตสฺโสว ภวนฺติมา’’ติ.
อิติ ¶ อิมาสุ อุเปกฺขาสุ ฌานุเปกฺขา อิธ อธิปฺเปตา. สา มชฺฌตฺตลกฺขณา. เอตฺถาห – ‘‘นนุ จายํ อตฺถโต ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาว โหติ, สา จ ปมทุติยชฺฌาเนสุปิ อตฺถิ, ตสฺมา ตตฺรปิ ‘อุเปกฺขโก จ วิหรตี’ติ เอวมยํ วตฺตพฺพา สิยา, สา กสฺมา น วุตฺตา’’ติ? อปริพฺยตฺตกิจฺจโต. อปริพฺยตฺตฺหิ ตสฺส ตตฺถ กิจฺจํ วิตกฺกาทีหิ อภิภูตตฺตา, อิธ ปนายํ วิตกฺกวิจารปีตีหิ อนภิภูตตฺตา อุกฺขิตฺตสิรา วิย หุตฺวา ปริพฺยตฺตกิจฺจา ชาตา, ตสฺมา วุตฺตาติ.
อิทานิ สโต จ สมฺปชาโนติ เอตฺถ สรตีติ สโต. สมฺปชานาตีติ สมฺปชาโน. อิติ ปุคฺคเลน สติ จ สมฺปชฺฺจ วุตฺตํ. ตตฺถ สรณลกฺขณา ¶ สติ. อสมฺโมหลกฺขณํ สมฺปชฺํ. ตตฺถ กิฺจาปิ อิทํ สติสมฺปชฺํ ปุริมชฺฌาเนสุปิ อตฺถิ, มุฏฺสฺสติสฺส หิ อสมฺปชานสฺส อุปจารมตฺตมฺปิ น สมฺปชฺชติ, ปเคว อปฺปนา. โอฬาริกตฺตา ปน เตสํ ฌานานํ ภูมิยํ วิย ปุริสสฺส จิตฺตสฺส คติ สุขา โหติ, อพฺยตฺตํ ตตฺถ สติสมฺปชฺกิจฺจํ. โอฬาริกงฺคปฺปหาเนน ปน สุขุมตฺตา อิมสฺส ฌานสฺส ปุริสสฺส ขุรธารายํ วิย สติสมฺปชฺกิจฺจปริคฺคหิตา ¶ เอว จิตฺตสฺส คติ อิจฺฉิตพฺพาติ อิเธว วุตฺตํ. กิฺจ ภิยฺโย – ยถา เธนุปโค วจฺโฉ เธนุโต อปนีโต อรกฺขิยมาโน ปุนเทว เธนุํ อุปคจฺฉติ, เอวมิทํ ตติยชฺฌานสุขํ ปีติโต อปนีตมฺปิ สติสมฺปชฺารกฺเขน อรกฺขิยมานํ ปุนเทว ปีตึ อุปคจฺเฉยฺย, ปีติสมฺปยุตฺตเมว สิยา. สุเข วาปิ สตฺตา สารชฺชนฺติ, อิทฺจ อติมธุรํ สุขํ ตโต ปรํ สุขาภาวา. สติสมฺปชฺานุภาเวน ปเนตฺถ สุเข อสารชฺชนา โหติ, โน อฺถาติ อิมมฺปิ อตฺถวิเสสํ ทสฺเสตุํ อิทํ อิเธว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อิทานิ สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตีติ เอตฺถ กิฺจาปิ ตติยชฺฌานสมงฺคิโน สุขปฏิสํเวทนาโภโค นตฺถิ, เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา ตสฺส นามกาเยน สมฺปยุตฺตํ สุขํ, ยํ วา ตํ นามกายสมฺปยุตฺตํ สุขํ, ตํสมุฏฺาเนนสฺส ยสฺมา อติปณีเตน รูเปน รูปกาโย ผุฏฺโ, ยสฺส ผุฏฺตฺตา ¶ ฌานา วุฏฺิโตปิ สุขํ ปฏิสํเวเทยฺย, ตสฺมา เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทหี’’ติ อาห.
อิทานิ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารีติ เอตฺถ ยํฌานเหตุ ยํฌานการณา ตํ ตติยชฺฌานสมงฺคิปุคฺคลํ พุทฺธาทโย อริยา อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺติ ปฺเปนฺติ ปฏฺเปนฺติ วิวรนฺติ วิภชนฺติ อุตฺตานีกโรนฺติ ปกาเสนฺติ, ปสํสนฺตีติ อธิปฺปาโย. กินฺติ? อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารีติ. ตํ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา.
กสฺมา ปน ตํ เต เอวํ ปสํสนฺตีติ? ปสํสารหโต. อยฺหิ ยสฺมา อติมธุรสุเข สุขปารมิปฺปตฺเตปิ ตติยชฺฌาเน อุเปกฺขโก, น ตตฺถ สุขาภิสงฺเคน อากฑฺฒียติ. ยถา จ ปีติ น อุปฺปชฺชติ, เอวํ อุปฏฺิตสฺสติตาย ¶ สติมา. ยสฺมา จ อริยกนฺตํ อริยชนเสวิตเมว จ อสํกิลิฏฺํ สุขํ นามกาเยน ปฏิสํเวเทติ, ตสฺมา ปสํสารโห โหติ. อิติ ปสํสารหโต นํ อริยา เต เอวํ ปสํสารหเหตุภูเต คุเณ ปกาเสนฺตา ‘‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’’ติ เอวํ ปสํสนฺตีติ เวทิตพฺพํ. ตติยนฺติ คณนานุปุพฺพตา ตติยํ, ตติยํ อุปฺปนฺนนฺติปิ ตติยํ.
สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานาติ กายิกสุขสฺส จ กายิกทุกฺขสฺส จ ปหานา. ปุพฺเพวาติ ตฺจ โข ปุพฺเพว, น จตุตฺถชฺฌานกฺขเณ. โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาติ เจตสิกสุขสฺส เจตสิกทุกฺขสฺส จาติ อิเมสมฺปิ ทฺวินฺนํ ปุพฺเพว อตฺถงฺคมา, ปหานา ¶ อิจฺเจว วุตฺตํ โหติ. กทา ปน เนสํ ปหานํ โหติ? จตุนฺนํ ฌานานํ อุปจารกฺขเณ. โสมนสฺสฺหิ จตุตฺถสฺส ฌานสฺส อุปจารกฺขเณเยว ปหียติ, ทุกฺขโทมนสฺสสุขานิ ปมทุติยตติยานํ อุปจารกฺขเณสุ. เอวเมเตสํ ปหานกฺกเมน อวุตฺตานํ อินฺทฺริยวิภงฺเค (วิภ. ๒๑๙ อาทโย) ปน อินฺทฺริยานํ อุทฺเทสกฺกเมเนว อิธาปิ วุตฺตานํ สุขทุกฺขโสมนสฺสโทมนสฺสานํ ปหานํ เวทิตพฺพํ.
ยทิ ปเนตานิ ตสฺส ตสฺส ฌานสฺส อุปจารกฺขเณเยว ปหียนฺติ ¶ , อถ กสฺมา ‘‘กตฺถ จุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺถ จุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ. กตฺถ จุปฺปนฺนํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ, สุขินฺทฺริยํ, โสมนสฺสินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺถ จุปฺปนฺนํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๕๑๐) เอวํ ฌาเนสฺเวว นิโรโธ วุตฺโตติ? อติสยนิโรธตฺตา. อติสยนิโรโธ หิ เตสํ ปมชฺฌานาทีสุ, น นิโรโธเยว. นิโรโธเยว ปน อุปจารกฺขเณ, นาติสยนิโรโธ. ตถา หิ นานาวชฺชเน ปมชฺฌานูปจาเร นิรุทฺธสฺสาปิ ทุกฺขินฺทฺริยสฺส ฑํสมกสาทิสมฺผสฺเสน วา วิสมาสนูปตาเปน วา สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว อนฺโตอปฺปนายํ. อุปจาเร วา นิรุทฺธมฺเปตํ น สุฏฺุ ¶ นิรุทฺธํ โหติ ปฏิปกฺเขน อวิหตตฺตา. อนฺโตอปฺปนายํ ปน ปีติผรเณน สพฺโพ กาโย สุโขกฺกนฺโต โหติ, สุโขกฺกนฺตกายสฺส จ สุฏฺุ นิรุทฺธํ โหติ ทุกฺขินฺทฺริยํ ปฏิปกฺเขน วิหตตฺตา. นานาวชฺชเนเยว จ ทุติยชฺฌานูปจาเร ปหีนสฺสาปิ โทมนสฺสินฺทฺริยสฺส, ยสฺมา เอตํ วิตกฺกวิจารปจฺจเยปิ กายกิลมเถ จิตฺตูปฆาเต จ สติ อุปฺปชฺชติ, วิตกฺกวิจาราภาเว เนว อุปฺปชฺชติ. ยตฺถ ปน อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ วิตกฺกวิจารภาเว. อปฺปหีนาเยว จ ทุติยชฺฌานูปจาเร วิตกฺกวิจาราติ ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺติ, นตฺเวว ทุติยชฺฌาเน ปหีนปจฺจยตฺตา. ตถา ตติยชฺฌานูปจาเร ปหีนสฺสาปิ สุขินฺทฺริยสฺส ปีติสมุฏฺานปณีตรูปผุฏฺกายสฺส สิยา อุปฺปตฺติ, นตฺเวว ตติยชฺฌาเน. ตติยชฺฌาเน หิ สุขสฺส ปจฺจยภูตา ปีติ สพฺพโส นิรุทฺธา โหติ. ตถา จตุตฺถชฺฌานูปจาเร ปหีนสฺสาปิ โสมนสฺสินฺทฺริยสฺส อาสนฺนตฺตา, อปฺปนาปฺปตฺตาย อุเปกฺขาย อภาเวน สมฺมา อนติกฺกนฺตตฺตา จ สิยา อุปฺปตฺติ, นตฺเวว จตุตฺถชฺฌาเน. ตสฺมา เอว จ ‘‘เอตฺถุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตี’’ติ ตตฺถ ตตฺถ อปริเสสคฺคหณํ กตนฺติ.
เอตฺถาห – ‘‘อเถวํ ตสฺส ตสฺส ฌานสฺสูปจาเร ปหีนาปิ เอตา เวทนา อิธ กสฺมา สมาหรี’’ติ ¶ ? สุขคฺคหณตฺถํ ¶ . ยา หิ อยํ ‘‘อทุกฺขมสุข’’นฺติ เอตฺถ อทุกฺขมสุขา เวทนา วุตฺตา, สา สุขุมา ทุพฺพิฺเยฺยา น สกฺกา สุเขน คเหตุํ, ตสฺมา ยถา นาม ทุฏฺสฺส ยถา ตถา วา อุปสงฺกมิตฺวา คเหตุํ อสกฺกุเณยฺยสฺส โคณสฺส คหณตฺถํ โคโป เอกสฺมึ วเช สพฺพา คาโว สมาหรติ, อเถเกกํ นีหรนฺโต ปฏิปาฏิยา อาคตํ ‘‘อยํ โส คณฺหถ น’’นฺติ ตมฺปิ คาหาเปติ, เอวเมวํ สุขคฺคหณตฺถํ สพฺพาปิ เอตา สมาหริ. เอวฺหิ สมาหฏา เอตา ทสฺเสตฺวา ‘‘ยํ เนว สุขํ, น ทุกฺขํ, น โสมนสฺสํ, น โทมนสฺสํ, อยํ อทุกฺขมสุขาเวทนา’’ติ สกฺกา โหติ เอสา คาหยิตุํ.
อปิจ อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา ปจฺจยทสฺสนตฺถฺจาปิ เอตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. สุขทุกฺขปฺปหานาทโย หิ ตสฺสา ปจฺจยา. ยถาห – ‘‘จตฺตาโร โข, อาวุโส, ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา. อิธาวุโส, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเม โข อาวุโส, จตฺตาโร ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๘). ยถา วา อฺตฺถ ปหีนาปิ สกฺกายทิฏฺิอาทโย ตติยมคฺคสฺส วณฺณภณนตฺถํ ตตฺถ ปหีนาติ วุตฺตา ¶ , เอวํ วณฺณภณนตฺถมฺเปตสฺส ฌานสฺเสตา อิธ วุตฺตาติปิ เวทิตพฺพา. ปจฺจยฆาเตน วา เอตฺถ ราคโทสานํ อติทูรภาวํ ทสฺเสตุมฺเปตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. เอตาสุ หิ สุขํ โสมนสฺสสฺส ปจฺจโย, โสมนสฺสํ ราคสฺส, ทุกฺขํ โทมนสฺสสฺส, โทมนสฺสํ โทสสฺส. สุขาทิฆาเตน จ สปฺปจฺจยา ราคโทสา หตาติ อติทูเร โหนฺตีติ.
อทุกฺขมสุขนฺติ ทุกฺขาภาเวน อทุกฺขํ. สุขาภาเวน อสุขํ. เอเตเนตฺถ ทุกฺขสุขปฏิปกฺขภูตํ ตติยเวทนํ ทีเปติ, น ทุกฺขสุขาภาวมตฺตํ. ตติยเวทนา นาม อทุกฺขมสุขา, อุเปกฺขาติปิ วุจฺจติ. สา อิฏฺานิฏฺวิปรีตานุภวนลกฺขณา. อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธินฺติ อุเปกฺขาย ชนิตสติปาริสุทฺธึ. อิมสฺมิฺหิ ฌาเน สุปริสุทฺธา สติ, ยา จ ตสฺสา สติยา ปาริสุทฺธิ, สา อุเปกฺขาย กตา, น อฺเน. ตสฺมา เอตํ ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิ’’นฺติ วุจฺจติ. ยาย จ อุเปกฺขาย เอตฺถ ¶ สติยา ปาริสุทฺธิ โหติ, สา อตฺถโต ตตฺรมชฺฌตฺตตาติ เวทิตพฺพา. น เกวลฺเจตฺถ ตาย สติเยว ปริสุทฺธา, อปิจ โข สพฺเพปิ สมฺปยุตฺตธมฺมา, สติสีเสน ปน เทสนา วุตฺตา.
ตตฺถ กิฺจาปิ อยํ อุเปกฺขา เหฏฺาปิ ตีสุ ฌาเนสุ วิชฺชติ, ยถา ปน ทิวา สูริยปฺปภาภิภวา โสมฺมภาเวน จ อตฺตโน อุปการกตฺเตน วา สภาคาย รตฺติยา อลาภา ทิวา ¶ วิชฺชมานาปิ จนฺทเลขา อปริสุทฺธา โหติ อปริโยทาตา, เอวมยมฺปิ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาจนฺทเลขา วิตกฺกาทิปจฺจนีกธมฺมเตชาภิภวา สภาคาย จ อุเปกฺขาเวทนารตฺติยา อลาภา วิชฺชมานาปิ ปมชฺฌานาทิเภเท อปริสุทฺธา โหติ. ตสฺสา จ อปริสุทฺธาย ทิวา อปริสุทฺธจนฺทเลขาย ปภา วิย สหชาตาปิ สติอาทโย อปริสุทฺธาว โหนฺติ. ตสฺมา เตสุ เอกมฺปิ ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิ’’นฺติ น วุตฺตํ. อิธ ปน วิตกฺกาทิปจฺจนีกเตชาภิภวาภาวา สภาคาย จ อุเปกฺขาเวทนารตฺติยา ปฏิลาภา อยํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาจนฺทเลขา อติวิย ปริสุทฺธา. ตสฺสา ปริสุทฺธตฺตา ปริสุทฺธจนฺทเลขาย ปภา วิย สหชาตาปิ สติอาทโย ปริสุทฺธา โหนฺติ ปริโยทาตา. ตสฺมา อิทเมว ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิ’’นฺติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. จตุตฺถนฺติ คณนานุปุพฺพตา จตุตฺถํ, จตุตฺถํ อุปฺปนฺนนฺติปิ จตุตฺถํ.
อิมานิ จตฺตาริ ฌานานิ ปุพฺพภาเคปิ นานา, มคฺคกฺขเณปิ. ปุพฺพภาเค สมาปตฺติวเสน นานา, มคฺคกฺขเณ นานามคฺควเสน. เอกสฺส หิ ปมมคฺโค ปมชฺฌานิโก ¶ โหติ, ทุติยมคฺคาทโยปิ ปมชฺฌานิกา วา ทุติยาทีสุ อฺตรชฺฌานิกา วา. เอกสฺส ปมมคฺโค ทุติยาทีนํ อฺตรชฺฌานิโก โหติ, ทุติยาทโยปิ ทุติยาทีนํ อฺตรชฺฌานิกา วา ปมชฺฌานิกา วา. เอวํ จตฺตาโรปิ มคฺคา ฌานวเสน สทิสา วา อสทิสา วา เอกจฺจสทิสา วา โหนฺติ. อยํ ปนสฺส วิเสโส ปาทกชฺฌานนิยเมน โหติ. ปมชฺฌานลาภิโน หิ ปมชฺฌานา วุฏฺาย วิปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺนมคฺโค ปมชฺฌานิโก โหติ, มคฺคงฺคโพชฺฌงฺคานิ ปเนตฺถ ปริปุณฺณาเนว โหนฺติ. ทุติยชฺฌานโต วุฏฺาย วิปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺโน ทุติยชฺฌานิโก โหติ, มคฺคงฺคานิ ¶ ปเนตฺถ สตฺต โหนฺติ. ตติยชฺฌานโต วุฏฺาย วิปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺโน ตติยชฺฌานิโก, มคฺคงฺคานิ ปเนตฺถ สตฺต, โพชฺฌงฺคานิ ฉ โหนฺติ. เอส นโย จตุตฺถชฺฌานโต ปฏฺาย ยาว เนวสฺานาสฺายตนา. อารุปฺเป จตุกฺกปฺจกชฺฌานํ อุปฺปชฺชติ, ตฺจ โข โลกุตฺตรํ, น โลกิยนฺติ วุตฺตํ. เอตฺถ กถนฺติ? เอตฺถปิ ปมชฺฌานาทีสุ ยโต วุฏฺาย โสตาปตฺติมคฺคํ ปฏิลภิตฺวา อรูปสมาปตฺตึ ภาเวตฺวา โย อารุปฺเป อุปฺปนฺโน, ตํฌานิกาว ตสฺส ตตฺถ ตโย มคฺคา อุปฺปชฺชนฺติ. เอวํ ปาทกชฺฌานเมว นิยเมติ. เกจิ ปน เถรา ‘‘วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ขนฺธา นิยเมนฺตี’’ติ วทนฺติ. เกจิ ‘‘ปุคฺคลชฺฌาสโย นิยเมตี’’ติ วทนฺติ. เกจิ ‘‘วุฏฺานคามินี วิปสฺสนา นิยเมตี’’ติ วทนฺติ.
ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – วิปสฺสนานิยเมน หิ สุกฺขวิปสฺสกสฺส อุปฺปนฺนมคฺโคปิ, สมาปตฺติลาภิโน ฌานํ ปาทกํ อกตฺวา อุปฺปนฺนมคฺโคปิ, ปมชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา ปกิณฺณกสงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิตมคฺโคปิ ปมชฺฌานิโกว โหติ, สพฺเพสุ สตฺต โพชฺฌงฺคานิ ¶ อฏฺ มคฺคงฺคานิ ปฺจ ฌานงฺคานิ โหนฺติ. เตสฺหิ ปุพฺพภาควิปสฺสนา โสมนสฺสสหคตาปิ อุเปกฺขาสหคตาปิ หุตฺวา วุฏฺานกาเล สงฺขารุเปกฺขาภาวํ ปตฺตา โสมนสฺสสหคตาว โหติ.
ปฺจกนเย ทุติยตติยจตุตฺถชฺฌานานิ ปาทกานิ กตฺวา อุปฺปาทิตมคฺเคสุ ยถากฺกเมเนว ฌานํ จตุรงฺคิกํ ติวงฺคิกํ ทุวงฺคิกฺจ โหติ, สพฺเพสุ ปน สตฺต มคฺคงฺคานิ โหนฺติ, จตุตฺเถ ฉ โพชฺฌงฺคานิ. อยํ วิเสโส ปาทกชฺฌานนิยเมน เจว วิปสฺสนานิยเมน จ โหติ. เตสมฺปิ ¶ หิ ปุพฺพภาควิปสฺสนา โสมนสฺสสหคตาปิ อุเปกฺขาสหคตาปิ โหติ, วุฏฺานคามินี โสมนสฺสสหคตาว.
ปฺจมชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา นิพฺพตฺติตมคฺเค ปน อุเปกฺขาจิตฺเตกคฺคตาวเสน ทฺเว ฌานงฺคานิ, โพชฺฌงฺคมคฺคงฺคานิ ฉ สตฺต เจว. อยมฺปิ วิเสโส อุภยนิยมวเสน โหติ. อิมสฺมิฺหิ นเย ปุพฺพภาควิปสฺสนา โสมนสฺสสหคตา วา อุเปกฺขาสหคตา วา โหติ, วุฏฺานคามินี อุเปกฺขาสหคตาว โหติ. อรูปชฺฌานานิ ¶ ปาทกานิ กตฺวา อุปฺปาทิตมคฺเคปิ เอเสว นโย. อิธ ปน จตุกฺกนเย อวิตกฺกวิจารมตฺตสฺส ทุติยชฺฌานสฺส อภาวา ตํ อปเนตฺวา เสสานํ วเสน โยเชตพฺพํ. เอวํ ปาทกชฺฌานโต วุฏฺาย เย เกจิ สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา นิพฺพตฺติตมคฺคสฺส อาสนฺนปเทเส วุฏฺิตสมาปตฺติ อตฺตนา สทิสภาวํ กโรติ ภูมิวณฺโณ วิย โคธาวณฺณสฺส.
ทุติยตฺเถรวาเท ปน ยโต ยโต สมาปตฺติโต วุฏฺาย เย เย สมาปตฺติธมฺเม สมฺมสิตฺวา มคฺโค นิพฺพตฺติโต โหติ, ตํตํสมาปตฺติสทิโสว โหติ. ตตฺราปิ จ วิปสฺสนานิยโม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
ตติยตฺเถรวาเท อตฺตโน อชฺฌาสยานุรูเปน ยํ ยํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา เย เย ฌานธมฺเม สมฺมสิตฺวา มคฺโค นิพฺพตฺติโต, ตํตํฌานสทิโสว โหติ. ปาทกชฺฌานํ ปน สมฺมสิตชฺฌานํ วา วินา อชฺฌาสยมตฺเตเนว ตํ น อิชฺฌติ. เอตฺถาปิ จ วิปสฺสนานิยโม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
อยํ วุจฺจติ สมฺมาสมาธีติ ยา อิเมสุ จตูสุ ฌาเนสุ เอกคฺคตา, อยํ ปุพฺพภาเค โลกิโย, อปรภาเค โลกุตฺตโร สมฺมาสมาธิ นาม วุจฺจติ. เอวํ โลกิยโลกุตฺตรวเสน ธมฺมเสนาปติ ¶ มคฺคสจฺจํ เทเสติ. ตตฺถ โลกิยมคฺเค สพฺพาเนว มคฺคงฺคานิ ยถานุรูปํ ฉสุ อารมฺมเณสุ อฺตรารมฺมณานิ โหนฺติ. โลกุตฺตรมคฺเค ปน จตุสจฺจปฺปฏิเวธาย ปวตฺตสฺส อริยสาวกสฺส นิพฺพานารมฺมณํ อวิชฺชานุสยสมุคฺฆาตกํ ปฺาจกฺขุ สมฺมาทิฏฺิ, ตถา สมฺปนฺนทิฏฺิสฺส ตํสมฺปยุตฺโต ติวิธมิจฺฉาสงฺกปฺปสมุคฺฆาตโก เจตโส นิพฺพานปทาภินิโรปโน สมฺมาสงฺกปฺโป, ตถา ปสฺสนฺตสฺส วิตกฺเกนฺตสฺส จ ตํสมฺปยุตฺตาว จตุพฺพิธวจีทุจฺจริตสมุคฺฆาติกา มิจฺฉาวาจาย วิรติ สมฺมาวาจา, ตถา วิรมนฺตสฺส ตํสมฺปยุตฺตาว ติวิธมิจฺฉากมฺมนฺตสมุจฺเฉทิกา มิจฺฉากมฺมนฺตา วิรติ ¶ สมฺมากมฺมนฺโต, เตสํเยว จสฺส วาจากมฺมนฺตานํ โวทานภูตา ตํสมฺปยุตฺตาว กุหนาทิสมุจฺเฉทิกา มิจฺฉาอาชีวา วิรติ สมฺมาอาชีโว, ตสฺสาเยวสฺส สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวสงฺขาตาย สีลภูมิยํ ปติฏฺมานสฺส ตทนุรูโป ตํสมฺปยุตฺโตว โกสชฺชสมุจฺเฉทโก, อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ อกุสลกุสลานํ ¶ อนุปฺปาทปฺปหานุปฺปาทฏฺิติสาธโก จ วีริยารมฺโภ สมฺมาวายาโม, เอวํ วายมนฺตสฺส ตํสมฺปยุตฺโตว มิจฺฉาสติวินิทฺธุนโก, กายาทีสุ กายานุปสฺสนาทิสาธโก จ เจตโส อสมฺโมโส สมฺมาสติ. เอวํ อนุตฺตราย สติยา สุวิหิตจิตฺตารกฺขสฺส ตํสมฺปยุตฺตาว มิจฺฉาสมาธิวิทฺธํสิกา จิตฺเตกคฺคตา สมฺมาสมาธิ. เอส โลกุตฺตโร อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค.
โย สห โลกิเยน มคฺเคน ทุกฺขนิโรธคามินิปฏิปทาติ สงฺขฺยํ คโต, โส โข ปเนส มคฺโค สมฺมาทิฏฺิสงฺกปฺปานํ วิชฺชาย เสสธมฺมานํ จรเณน สงฺคหิตตฺตา วิชฺชา เจว จรณฺจ. ตถา เตสํ ทฺวินฺนํ วิปสฺสนายาเนน อิตเรสํ สมถยาเนน สงฺคหิตตฺตา สมโถ เจว วิปสฺสนา จ. เตสํ ทฺวินฺนํ ปฺากฺขนฺเธน ตทนนฺตรานํ ติณฺณํ สีลกฺขนฺเธน อวเสสานํ ติณฺณํ สมาธิกฺขนฺเธน อธิปฺาอธิสีลอธิจิตฺตสิกฺขาหิ จ สงฺคหิตตฺตา ขนฺธตฺตยฺเจว สิกฺขตฺตยฺจ โหติ. เยน สมนฺนาคโต อริยสาวโก ทสฺสนสมตฺเถหิ จกฺขูหิ คมนสมตฺเถหิ จ ปาเทหิ สมนฺนาคโต อทฺธิโก วิย วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน หุตฺวา วิปสฺสนายาเนน กามสุขลฺลิกานุโยคํ สมถยาเนน อตฺตกิลมถานุโยคนฺติ อนฺตทฺวยํ ปริวชฺเชตฺวา มชฺฌิมปฏิปทํ ปฏิปนฺโน ปฺากฺขนฺเธน โมหกฺขนฺธํ, สีลกฺขนฺเธน โทสกฺขนฺธํ, สมาธิกฺขนฺเธน จ โลภกฺขนฺธํ ปทาเลนฺโต อธิปฺาสิกฺขาย ปฺาสมฺปทํ, อธิสีลสิกฺขาย สีลสมฺปทํ, อธิจิตฺตสิกฺขาย สมาธิสมฺปทนฺติ ติสฺโส สมฺปตฺติโย ปตฺวา อมตํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ. อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณํ สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺมรตนวิจิตฺตํ สมฺมตฺตนิยามสงฺขาตํ อริยภูมึ โอกฺกนฺโต โหตีติ.
มคฺคสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
สจฺจปกิณฺณกวณฺณนา
จตูสุ ¶ ¶ ¶ ปน สจฺเจสุ พาธนลกฺขณํ ทุกฺขสจฺจํ, ปภวลกฺขณํ สมุทยสจฺจํ, สนฺติลกฺขณํ นิโรธสจฺจํ, นิยฺยานลกฺขณํ มคฺคสจฺจํ, อปิจ ปวตฺติปวตฺตกนิวตฺตินิวตฺตกลกฺขณานิ ปฏิปาฏิยา. ตถา สงฺขตตณฺหาอสงฺขตทสฺสนลกฺขณานิ จ.
กสฺมา ปน จตฺตาเรว อริยสจฺจานิ วุตฺตานิ อนูนานิ อนธิกานีติ เจ? อฺสฺส อสมฺภวโต อฺตรสฺส จ อนปเนยฺยภาวโต. น หิ เอเตหิ อฺํ อธิกํ วา, เอเตสํ วา เอกมฺปิ อปเนตพฺพํ สมฺโภติ. ยถาห –
‘‘อิธ, ภิกฺขเว, อาคจฺเฉยฺย สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ‘เนตํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ, อฺํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ. ยํ สมเณน โคตเมน เทสิตํ, อหเมตํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ เปตฺวา อฺํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ปฺเปสฺสามี’ติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติอาทิ.
ยถา จาห –
‘‘โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํ วเทยฺย ‘เนตํ ทุกฺขํ ปมํ อริยสจฺจํ, ยํ สมเณน โคตเมน เทสิตํ, อหเมตํ ทุกฺขํ ปมํ อริยสจฺจํ ปจฺจกฺขาย อฺํ ทุกฺขํ ปมํ อริยสจฺจํ ปฺเปสฺสามี’ติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๖).
อปิจ ปวตฺติมาจิกฺขนฺโต ภควา สเหตุกํ อาจิกฺขิ, นิวตฺติฺจ สอุปายํ. อิติ ปวตฺตินิวตฺติตทุภยเหตูนํ เอตปฺปรมโต จตฺตาเรว วุตฺตานิ. ตถา ปริฺเยฺยปหาตพฺพสจฺฉิกาตพฺพภาเวตพฺพานํ, ตณฺหาวตฺถุตณฺหาตณฺหานิโรธตณฺหานิโรธูปายานํ, อาลยอาลยรามตาอาลยสมุคฺฆาตอาลยสมุคฺฆาตูปายานฺจ วเสนาปิ จตฺตาเรว วุตฺตานีติ.
เอตฺถ จ โอฬาริกตฺตา สพฺพสตฺตสาธารณตฺตา จ สุวิฺเยฺยนฺติ ทุกฺขสจฺจํ ปมํ วุตฺตํ. ตสฺเสว เหตุทสฺสนตฺถํ ตทนนฺตรํ สมุทยสจฺจํ, เหตุนิโรธา ¶ ผลนิโรโธติ ¶ าปนตฺถํ ตโต นิโรธสจฺจํ, ตทธิคมูปายทสฺสนตฺถํ อนฺเต มคฺคสจฺจํ. ภวสุขสฺสาทคธิตานํ วา สตฺตานํ สํเวคชนนตฺถํ ¶ ปมํ ทุกฺขมาห. ตํ เนว อกตํ อาคจฺฉติ, น อิสฺสรนิมฺมานาทิโต โหติ, อิโต ปน โหตีติ าปนตฺถํ ตทนนฺตรํ สมุทยํ. ตโต สเหตุเกน ทุกฺเขน อภิภูตตฺตา สํวิคฺคมานสานํ ทุกฺขนิสฺสรณคเวสีนํ นิสฺสรณทสฺสเนน อสฺสาสชนนตฺถํ นิโรธํ. ตโต นิโรธาธิคมนตฺถํ นิโรธสมฺปาปกํ มคฺคนฺติ อยเมเตสํ กโม.
เอเตสุ ปน ภาโร วิย ทุกฺขสจฺจํ ทฏฺพฺพํ, ภาราทานมิว สมุทยสจฺจํ, ภารนิกฺเขปนมิว นิโรธสจฺจํ, ภารนิกฺเขปนูปาโย วิย มคฺคสจฺจํ. โรโค วิย วา ทุกฺขสจฺจํ, โรคนิทานมิว สมุทยสจฺจํ, โรควูปสโม วิย นิโรธสจฺจํ, เภสชฺชมิว มคฺคสจฺจํ. ทุพฺภิกฺขมิว วา ทุกฺขสจฺจํ, ทุพฺพุฏฺิ วิย สมุทยสจฺจํ, สุภิกฺขมิว นิโรธสจฺจํ, สุวุฏฺิ วิย มคฺคสจฺจํ. อปิจ เวรีเวรมูลเวรสมุคฺฆาตเวรสมุคฺฆาตูปาเยหิ, วิสรุกฺขรุกฺขมูลมูลูปจฺเฉทตทุปจฺเฉทูปาเยหิ, ภยภยมูลนิพฺภยตทธิคมูปาเยหิ, โอริมตีรมโหฆปาริมตีรตํสมฺปาปกวายาเมหิ จ โยเชตฺวาเปตานิ อุปมาโต เวทิตพฺพานีติ.
สพฺพาเนว ปเนตานิ สจฺจานิ ปรมตฺเถน เวทกการกนิพฺพุตคมกาภาวโต สฺุานีติ เวทิตพฺพานิ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ทุกฺขเมว หิ น โกจิ ทุกฺขิโต, การโก น กิริยาว วิชฺชติ;
อตฺถิ นิพฺพุติ น นิพฺพุโต ปุมา, มคฺคมตฺถิ คมโก น วิชฺชตี’’ติ.
อถ วา –
ธุวสุภสุขตฺตสฺุํ, ปุริมทฺวยมตฺตสฺุมมตปทํ;
ธุวสุขอตฺตวิรหิโต, มคฺโค อิติ สฺุตา เตสุ.
นิโรธสฺุานิ ¶ วา ตีณิ, นิโรโธ จ เสสตฺตยสฺุโ. ผลสฺุโ วา เอตฺถ เหตุ สมุทเย ทุกฺขสฺส อภาวโต, มคฺเค จ นิโรธสฺส, น ผเลน สคพฺโภ ปกติวาทีนํ ปกติ วิย. เหตุสฺฺุจ ผลํ ทุกฺขสมุทยานํ นิโรธมคฺคานฺจ อสมวายา, น เหตุสมเวตํ เหตุผลํ สมวายวาทีนํ ทฺวิอณุกาทิ วิย. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ตยมิธ ¶ ¶ นิโรธสฺุํ, ตเยน เตนาปิ นิพฺพุตี สฺุา;
สฺุโ ผเลน เหตุ, ผลมฺปิ ตํเหตุนา สฺุ’’นฺติ.
สพฺพาเนว สจฺจานิ อฺมฺสภาคานิ อวิตถโต อตฺตสฺุโต ทุกฺกรปฏิเวธโต จ. ยถาห –
‘‘ตํ กึ มฺสิ, อานนฺท, กตมํ นุ โข ทุกฺกรตรํ วา ทุรภิสมฺภวตรํ วา, โย ทูรโตว สุขุเมน ตาฬจฺฉิคฺคเฬน อสนํ อติปาเตยฺย โปงฺขานุโปงฺขํ อวิราธิตํ, โย วา สตฺตธา ภินฺนสฺส วาลสฺส โกฏิยา โกฏึ ปฏิวิชฺเฌยฺยาติ? เอตเทว, ภนฺเต, ทุกฺกรตรฺเจว ทุรภิสมฺภวตรฺจ; โย วา สตฺตธา ภินฺนสฺส วาลสฺส โกฏิยา โกฏึ ปฏิวิชฺเฌยฺยาติ; อถ โข เต, อานนฺท, ทุปฺปฏิวิชฺฌตรํ ปฏิวิชฺฌนฺติ, เย ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปฏิวิชฺฌนฺติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปฏิวิชฺฌนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๑๑๕);
วิสภาคานิ สลกฺขณววตฺถานโต. ปุริมานิ จ ทฺเว สภาคานิ ทุรวคาหตฺเถน คมฺภีรตฺตา โลกิยตฺตา สาสวตฺตา จ, วิสภาคานิ ผลเหตุเภทโต ปริฺเยฺยปหาตพฺพโต จ. ปจฺฉิมานิปิ ทฺเว สภาคานิ คมฺภีรตฺเตน ทุรวคาหตฺตา โลกุตฺตรตฺตา อนาสวตฺตา จ, วิสภาคานิ วิสยวิสยีเภทโต สจฺฉิกาตพฺพภาเวตพฺพโต จ. ปมตติยานิ จาปิ สภาคานิ ผลาปเทสโต, วิสภาคานิ สงฺขตาสงฺขตโต ¶ . ทุติยจตุตฺถานิ จาปิ สภาคานิ เหตุอปเทสโต, วิสภาคานิ เอกนฺตกุสลากุสลโต. ปมจตุตฺถานิ จาปิ สภาคานิ สงฺขตโต, วิสภาคานิ โลกิยโลกุตฺตรโต. ทุติยตติยานิ จาปิ สภาคานิ เนวเสกฺขนาเสกฺขภาวโต, วิสภาคานิ สารมฺมณานารมฺมณโต.
‘‘อิติ เอวํ ปกาเรหิ, นเยหิ จ วิจกฺขโณ;
วิชฺา อริยสจฺจานํ, สภาควิสภาคต’’นฺติ.
สพฺพเมว ¶ เจตฺถ ทุกฺขํ เอกวิธํ ปวตฺติภาวโต, ทุวิธํ นามรูปโต, ติวิธํ กามรูปารูปูปปตฺติภวเภทโต, จตุพฺพิธํ จตุอาหารเภทโต, ปฺจวิธํ ¶ ปฺจุปาทานกฺขนฺธเภทโต. สมุทโยปิ เอกวิโธ ปวตฺตกภาวโต, ทุวิโธ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตาสมฺปยุตฺตโต, ติวิโธ กามภววิภวตณฺหาเภทโต, จตุพฺพิโธ จตุมคฺคปฺปเหยฺยโต, ปฺจวิโธ รูปาภินนฺทนาทิเภทโต, ฉพฺพิโธ ฉตณฺหากายเภทโต. นิโรโธปิ เอกวิโธ อสงฺขตธาตุภาวโต, ปริยายโต ปน ทุวิโธ สอุปาทิเสสอนุปาทิเสสโต, ติวิโธ ภวตฺตยวูปสมโต, จตุพฺพิโธ จตุมคฺคาธิคมนียโต, ปฺจวิโธ ปฺจาภินนฺทนวูปสมโต, ฉพฺพิโธ ฉตณฺหากายกฺขยเภทโต. มคฺโคปิ เอกวิโธ ภาเวตพฺพโต, ทุวิโธ สมถวิปสฺสนาเภทโต, ทสฺสนภาวนาเภทโต วา, ติวิโธ ขนฺธตฺตยเภทโต. อยฺหิ สปฺปเทสตฺตา นครํ วิย รชฺเชน นิปฺปเทเสหิ ตีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิโต. ยถาห –
‘‘น โข, อาวุโส วิสาข, อริเยน อฏฺงฺคิเกน มคฺเคน ตโย ขนฺธา สงฺคหิตา, ตีหิ จ โข, อาวุโส วิสาข, ขนฺเธหิ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค สงฺคหิโต. ยา, จาวุโส วิสาข, สมฺมาวาจา โย จ สมฺมากมฺมนฺโต โย จ สมฺมาอาชีโว, อิเม ธมฺมา สีลกฺขนฺเธ สงฺคหิตา. โย จ สมฺมาวายาโม ยา จ สมฺมาสติ โย จ สมฺมาสมาธิ, อิเม ธมฺมา สมาธิกฺขนฺเธ สงฺคหิตา. ยา จ สมฺมาทิฏฺิ โย จ สมฺมาสงฺกปฺโป, อิเม ธมฺมา ปฺากฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒).
จตุพฺพิโธ โสตาปตฺติมคฺคาทิวเสน.
อปิจ สพฺพาเนว สจฺจานิ เอกวิธานิ อวิตถตฺตา, อภิฺเยฺยตฺตา วา. ทุวิธานิ โลกิยโลกุตฺตรโต, สงฺขตาสงฺขตโต ¶ วา. ติวิธานิ ทสฺสนภาวนาหิ ปหาตพฺพโต อปฺปหาตพฺพโต เนวปหาตพฺพนาปหาตพฺพโต จ. จตุพฺพิธานิ ปริฺเยฺยปหาตพฺพสจฺฉิกาตพฺพภาเวตพฺพโตติ.
‘‘เอวํ อริยสจฺจานํ, ทุพฺโพธานํ พุโธ วิธึ;
อเนกเภทโต ชฺา, หิตาย จ สุขาย จา’’ติ.
สจฺจปกิณฺณกวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิทานิ ¶ ¶ ธมฺมเสนาปติ ภควตา เทสิตกฺกเมเนว อนฺเต สจฺจจตุกฺกํ นิทฺทิสิตฺวา ‘‘ตํ าตฏฺเน ¶ าณ’’นฺติอาทินา สจฺจจตุกฺกวเสน สุตมเย าณํ นิคเมตฺวา ทสฺเสติ. เอวํ ‘‘โสตาวธาเน ปฺา สุตมเย าณ’’นฺติ ปุพฺเพ วุตฺตํ สพฺพํ นิคเมตฺวา ทสฺเสตีติ.
สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฏิสมฺภิทามคฺคฏฺกถาย
สุตมยาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สีลมยาณนิทฺเทสวณฺณนา
๓๗. สีลมยาณนิทฺเทเส ¶ ปฺจาติ คณนปริจฺเฉโท. สีลานีติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ. ปริยนฺตปาริสุทฺธิสีลนฺติอาทิ ปฺจนฺนํ สรูปโต ทสฺสนํ. ปริยนฺตปาริสุทฺธีติอาทีสุ ยถา นีลวณฺณโยคโต วตฺถมฺปิ นีลมสฺส อตฺถีติ นีลนฺติ วุจฺจติ, เอวํ คณนวเสน ปริยนฺโต ปริจฺเฉโท อสฺสา อตฺถีติ ปริยนฺตา, อุปสมฺปนฺนสีเล ปตฺโต อนุปสมฺปนฺนสีลสฺส อวสานสพฺภาวโต วา ปริยนฺโต อวสานํ อสฺสา อตฺถีติ ปริยนฺตา. สปริยนฺตาติ วา วตฺตพฺเพ สการโลโป กโตติ เวทิตพฺโพ ‘‘ทกํ ทกาสยา ปวิสนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๗๘; อ. นิ. ๔.๓๓) เอตฺถ อุการโลโป วิย. ปริสุทฺธภาโว ปาริสุทฺธิ, ปริยนฺตา จ สา ปาริสุทฺธิ จาติ ปริยนฺตปาริสุทฺธิ, ปริยนฺตปาริสุทฺธิสงฺขาตํ สีลํ ปริยนฺตปาริสุทฺธิสีลํ. วุตฺตปฏิปกฺเขน น ปริยนฺตาติ อปริยนฺตา, นตฺถิ เอติสฺสา ปริยนฺโตติปิ อปริยนฺตา, วุทฺโธ เอติสฺสา ปริยนฺโตติปิ อปริยนฺตา. สมาทานโต ปภุติ อขณฺฑิตตฺตา ขณฺฑิตาปิ กตปฏิกมฺมตฺตา จิตฺตุปฺปาทมตฺตเกนาปิ มเลน วิรหิตตฺตา จ ปริสุทฺธชาติมณิ วิย สุธนฺตสุปริกมฺมกตสุวณฺณํ วิย จ ปริสุทฺธตฺตา อริยมคฺคสฺส ปทฏฺานภูตา อนูนฏฺเน ปริปูณฺณา. ทิฏฺิยา ปหีนตฺตา ทิฏฺิปรามาเสน อคฺคหิตตฺตา อปรามฏฺา.อยํ เต สีเล โทโสติ เกนจิ โจทเกน ปรามสิตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา วา อปรามฏฺา. อรหตฺตผลกฺขเณ สพฺพทรถปฏิปฺปสฺสทฺธิยา ปฏิปฺปสฺสทฺธิ. อนุปสมฺปนฺนานนฺติ อนวเสสสมาทานวเสน สีลสมฺปทาย ภุสํ สมฺปนฺนาติ อุปสมฺปนฺนา, น อุปสมฺปนฺนา อนุปสมฺปนฺนา. เตสํ อนุปสมฺปนฺนานํ.
ปริยนฺตสิกฺขาปทานนฺติ ¶ เอตฺถ สิกฺขิตพฺพฏฺเน สิกฺขา, โกฏฺาสฏฺเน ปทานิ, สิกฺขิตพฺพโกฏฺาสานีติ อตฺโถ. อปิจ สีเล ปติฏฺิเตน อุปริปตฺตพฺพตฺตา สพฺเพ กุสลา ธมฺมา ¶ สิกฺขา, สีลานิ ตาสํ สิกฺขานํ ปติฏฺฏฺเน ปทานีติ สิกฺขานํ ปทตฺตา สิกฺขาปทานิ ¶ , ปริยนฺตานิ สิกฺขาปทานิ เอเตสนฺติ ปริยนฺตสิกฺขาปทา. เตสํ ปริยนฺตสิกฺขาปทานํ. เอตฺถ จ ทฺเว ปริยนฺตา สิกฺขาปทปริยนฺโต จ กาลปริยนฺโต จ. กตโม สิกฺขาปทปริยนฺโต? อุปาสโกปาสิกานํ ยถาสมาทานวเสน เอกํ วา ทฺเว วา ตีณิ วา จตฺตาริ วา ปฺจ วา อฏฺ วา ทส วา สิกฺขาปทานิ โหนฺติ, สิกฺขมานสามเณรสามเณรีนํ ทส สิกฺขาปทานิ. อยํ สิกฺขาปทปริยนฺโต. กตโม กาลปริยนฺโต? อุปาสโกปาสิกา ทานํ ททมานา ปริเวสนปริยนฺตํ สีลํ สมาทิยนฺติ, วิหารคตา วิหารปริยนฺตํ สีลํ สมาทิยนฺติ, เอกํ วา ทฺเว วา ตโย วา ภิยฺโย วา รตฺตินฺทิวานิ ปริจฺเฉทํ กตฺวา สีลํ สมาทิยนฺติ. อยํ กาลปริยนฺโต. อิเมสุ ทฺวีสุ ปริยนฺเตสุ สิกฺขาปทํ ปริยนฺตํ กตฺวา สมาทินฺนํ สีลํ วีติกฺกมเนน วา มรเณน วา ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, กาลํ ปริยนฺตํ กตฺวา สมาทินฺนํ ตํตํกาลาติกฺกเมน ปฏิปฺปสฺสมฺภติ.
อปริยนฺตสิกฺขาปทานนฺติ –
‘‘นว โกฏิสหสฺสานิ, อสีติ สตโกฏิโย;
ปฺาส สตสหสฺสานิ, ฉตฺตึส จ ปุนาปเร.
‘‘เอเต สํวรวินยา, สมฺพุทฺเธน ปกาสิตา;
เปยฺยาลมุเขน นิทฺทิฏฺา, สิกฺขา วินยสํวเร’’ติ. –
เอวํ คณนวเสน ปริยนฺตานมฺปิ สิกฺขาปทานํ อนวเสสสมาทานภาววเสน ลาภยสาติองฺคชีวิตเหตุ อทิฏฺปริยนฺตภาววเสน อุปริ รกฺขิตพฺพสีลปริจฺเฉทาภาววเสน จ นตฺถิ เอเตสํ ปริยนฺโตติ อปริยนฺตานิ. อปริยนฺตานิ สิกฺขาปทานิ เอเตสนฺติ อปริยนฺตสิกฺขาปทา. เตสํ อปริยนฺตสิกฺขาปทานํ, วุทฺธปริยนฺตสิกฺขาปทานนฺติ วา อตฺโถ.
ปุถุชฺชนกลฺยาณกานนฺติอาทีสุ ¶ –
‘‘ปุถูนํ ชนนาทีหิ, การเณหิ ปุถุชฺชโน;
ปุถุชฺชนนฺโตคธตฺตา, ปุถุวายํ ชโน อิติ’’. –
วุตฺตปุถุชฺชนลกฺขณานติกฺกเมปิ –
‘‘ทุเว ¶ ¶ ปุถุชฺชนา วุตฺตา, พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา;
อนฺโธ ปุถุชฺชโน เอโก, กลฺยาเณโก ปุถุชฺชโน’’ติ. –
วุตฺตปุถุชฺชนทฺวเย กลฺยาณธมฺมสมาคเมน อนฺธปุถุชฺชนภาวํ อติกฺกมฺม กลฺยาณปุถุชฺชนภาเว ิตานํ ปุถุชฺชนกลฺยาณกานํ กลฺยาณปุถุชฺชนานนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปุถุชฺชเนสุ วา กลฺยาณกานํ ปุถุชฺชนกลฺยาณกานํ.
กุสลธมฺเม ยุตฺตานนฺติ เอตฺถ กุสลสทฺโท ตาว อาโรคฺยานวชฺชเฉกสุขวิปาเกสุ ทิสฺสติ. อยฺหิ ‘‘กจฺจิ นุ โภโต กุสลํ, กจฺจิ โภโต อนามย’’นฺติอาทีสุ (ชา. ๑.๑๕.๑๔๖; ๒.๒๐.๑๒๙) อาโรคฺเย ทิสฺสติ. ‘‘กตโม ปน, ภนฺเต, กายสมาจาโร กุสโล? โย โข, มหาราช, กายสมาจาโร อนวชฺโช’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๖๑) จ ‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริยํ ยถา ภควา ธมฺมํ เทเสติ กุสเลสุ ธมฺเมสู’’ติ จ (ที. นิ. ๓.๑๔๕) เอวมาทีสุ อนวชฺเช. ‘‘กุสโล ตฺวํ รถสฺส องฺคปจฺจงฺคานํ (ม. นิ. ๒.๘๗), กุสลา นจฺจคีตสฺส สิกฺขิตา จาตุริตฺถิโย’’ติอาทีสุ (ชา. ๒.๒๒.๙๔) เฉเก. ‘‘กุสลานํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ สมาทานเหตุ (ที. นิ. ๓.๘๐). กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๔๓๑) สุขวิปาเก. สฺวายมิธ อาโรคฺเยปิ อนวชฺเชปิ สุขวิปาเกปิ วฏฺฏติ.
วจนตฺโถ ปเนตฺถ กุจฺฉิเต ปาปเก ธมฺเม สลยนฺติ จลยนฺติ กมฺเปนฺติ วิทฺธํเสนฺตีติ กุสลา. กุจฺฉิเตน วา อากาเรน สยนฺติ ปวตฺตนฺตีติ กุสา, เต กุเส ลุนนฺติ ฉินฺทนฺตีติ กุสลา. กุจฺฉิตานํ วา สานโต ตนุกรณโต กุสํ าณํ. เตน กุเสน ลาตพฺพา คเหตพฺพา ¶ ปวตฺเตตพฺพาติ กุสลา, ยถา วา กุสา อุภยภาคคตํ หตฺถปฺปเทสํ ลุนนฺติ, เอวมิเมปิ อุปฺปนฺนานุปฺปนฺนภาเวน อุภยภาคคตํ สํกิเลสปกฺขํ ลุนนฺติ, ตสฺมา กุสา วิย ลุนนฺตีติ กุสลา. อปิจ อาโรคฺยฏฺเน อนวชฺชฏฺเน โกสลฺลสมฺภูตฏฺเน วา กุสลา. อิธ ปน ยสฺมา วิปสฺสนากุสลเมว อธิปฺเปตํ, ตสฺมา เสเส วิหาย ตสฺเสว ทสฺสนตฺถํ ‘‘กุสลธมฺเม’’ติ เอกวจนํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. วิปสฺสนากุสลธมฺเม สาตจฺจกิริยตาย สกฺกจฺจการิตาย จ ยุตฺตานนฺติ อตฺโถ.
เสกฺขปริยนฺเต ปริปูรการีนนฺติ เอตฺถ ตีสุ สิกฺขาสุ ชาตาติปิ เสกฺขา, สตฺตนฺนํ เสกฺขานํ เอเตติปิ เสกฺขา, สยเมว สิกฺขนฺตีติปิ เสกฺขา ¶ . โสตาปตฺติมคฺคผลสกทาคามิมคฺคผลอนาคามิมคฺคผลอรหตฺตมคฺคธมฺมา ¶ . เต เสกฺขา ธมฺมา ปริยนฺเต อวสาเน เอตสฺส, เต วา เสกฺขา ธมฺมา ปริยนฺโต ปริจฺเฉโท เอตสฺสาติ เสกฺขปริยนฺโต. ตสฺมึ เสกฺขปริยนฺเต ธมฺเมติ สมฺพนฺโธ. ปริปูรํ ปริปุณฺณตํ กโรนฺตีติ ปริปูรการิโน, ปริปูรกาโร ปริปูรกิริยา เอเตสํ อตฺถีติ วา ปริปูรการิโน. เตสํ โสตาปตฺติมคฺคสฺส ปุพฺพภาคภูเต เสกฺขปริยนฺเต ปฏิปทาธมฺเม วิปสฺสนาปาริปูริยา ปริปูรการีนํ. กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺขานนฺติ เอตฺถ กาเยติ สรีเร. สรีรฺหิ อสุจิสฺจยโต กุจฺฉิตานฺจ เกสาทีนํ จกฺขุโรคาทีนฺจ โรคสตานํ อายภูตตฺตา กาโยติ วุจฺจติ. ชีวิเตติ ชีวิตินฺทฺริเย. ตฺหิ ชีวนฺติ เตนาติ ชีวิตนฺติ วุจฺจติ. นตฺถิ เอเตสํ อเปกฺขาติ อนเปกฺขา, นิสฺสิเนหาติ อตฺโถ. เตสํ ตสฺมึ กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺขานํ.
อิทานิ เตสํ เตสุ อนเปกฺขตฺตสฺส การณํ ทสฺเสนฺโต ปริจฺจตฺตชีวิตานนฺติ อาห. ภควโต อาจริยสฺส วา สกชีวิตปริจฺจาเคเนว หิ เต กิลมมาเนปิ กาเย วินสฺสมาเนปิ ชีวิเต อนเปกฺขา โหนฺตีติ. สตฺตนฺนํ เสกฺขานนฺติ สิกฺขนฺตีติ เสกฺขาติ ลทฺธนามานํ โสตาปตฺติมคฺคฏฺาทีนํ สตฺตนฺนํ อริยปุคฺคลานํ. ตถาคตสาวกานนฺติ ตถาคตสฺส สาวกานํ. อฏฺปิ หิ อริยปุคฺคลา สวนนฺเต อริยาย ชาติยา ชาตตฺตา ภควโต เทสนํ อนุสิฏฺึ อเวจฺจปฺปสาทโยเคน สกฺกจฺจํ สุณนฺตีติ สาวกา. เตสุปิ อรหตฺตผลฏฺเเยว วิเสเสตฺวา ¶ ทสฺเสนฺโต ขีณาสวานนฺติ อาห, อรหตฺตมคฺคาเณน ปริกฺขีณสพฺพาสวานนฺติ อตฺโถ. ปจฺเจกพุทฺธานนฺติ ตํ ตํ การณํ ปฏิจฺจ เอโกว อนาจริยโก จตุสจฺจํ พุชฺฌิตวาติ ปจฺเจกพุทฺโธ. ตาทิสานํ ปจฺเจกพุทฺธานํ.
ตถาคตานนฺติ เอตฺถ อฏฺหิ การเณหิ ภควา ตถาคโต – ตถา อาคโตติ ตถาคโต, ตถา คโตติ ตถาคโต, ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต, ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต, ตถทสฺสิตาย ตถาคโต, ตถวาทิตาย ตถาคโต, ตถา การิตาย ตถาคโต, อภิภวนฏฺเน ตถาคโต.
กถํ ¶ ภควา ตถา อาคโตติ ตถาคโต? ยถา สพฺพโลกหิตาย อุสฺสุกฺกมาปนฺนา ปุริมกา สมฺมาสมฺพุทฺธา อาคตา. กึ วุตฺตํ โหติ? เยนาภินีหาเรน ปุริมกา ภควนฺโต อาคตา, เตเนว อมฺหากมฺปิ ภควา อาคโต. อถ วา ยถา ปุริมกา ภควนฺโต ทานสีลเนกฺขมฺมปฺาวีริยขนฺติสจฺจาธิฏฺานเมตฺตุเปกฺขาสงฺขาตา ทส ปารมิโย, ทส อุปปารมิโย, ทส ปรมตฺถปารมิโยติ สมตึส ปารมิโย ปูเรตฺวา องฺคปริจฺจาคํ นยนธนรชฺชปุตฺตทารปริจฺจาคนฺติ ¶ อิเม ปฺจ มหาปริจฺจาเค ปริจฺจชิตฺวา, ปุพฺพโยคปุพฺพจริยธมฺมกฺขานาตตฺถจริยาทโย ปูเรตฺวา พุทฺธิจริยาย โกฏึ ปตฺวา อาคตา, ตถา อมฺหากมฺปิ ภควา อาคโต. ยถา จ ปุริมกา ภควนฺโต จตฺตาโร สติปฏฺาเน จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเน จตฺตาโร อิทฺธิปาเท ปฺจินฺทฺริยานิ ปฺจ พลานิ สตฺต โพชฺฌงฺเค อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวตฺวา พฺรูเหตฺวา อาคตา, ตถา อมฺหากมฺปิ ภควา อาคโตติ ตถาคโต.
‘‘ยเถว ทีปงฺกรพุทฺธอาทโย, สพฺพฺุภาวํ มุนโย อิธาคตา;
ตถา อยํ สกฺยมุนีปิ อาคโต, ตถาคโต วุจฺจติ เตน จกฺขุมา’’ติ.
กถํ ตถา คโตติ ตถาคโต? ยถา สมฺปติชาตา ปุริมกา ภควนฺโต คตา. กถฺจ เต คตา? เต หิ สมฺปติชาตา สเมหิ ปาเทหิ ปถวิยํ ปติฏฺาย อุตฺตเรนมุขา สตฺตปทวีติหาเรน คตา. ยถาห ‘‘สมฺปติชาโต, อานนฺท, โพธิสตฺโต สเมหิ ปาเทหิ ปถวิยํ ปติฏฺหิตฺวา ¶ อุตฺตราภิมุโข สตฺตปทวีติหาเรน คจฺฉติ เสตมฺหิ ฉตฺเต อนุธารยมาเน, สพฺพา จ ทิสา อนุวิโลเกติ, อาสภิฺจ วาจํ ภาสติ ‘อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส, เชฏฺโหมสฺมิ โลกสฺส, เสฏฺโหมสฺมิ โลกสฺส, อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๐๗; ที. นิ. ๒.๓๑). ตฺจสฺส คมนํ ตถํ อโหสิ อวิตถํ อเนเกสํ วิเสสาธิคมานํ ปุพฺพนิมิตฺตภาเวน. ยฺหิ โส สมฺปติชาโต สเมหิ ปาเทหิ ปติฏฺหิ, อิทมสฺส จตุริทฺธิปาทปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, อุตฺตรมุขภาโว ปนสฺส สพฺพโลกุตฺตรภาวสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, สตฺตปทวีติหาโร สตฺตโพชฺฌงฺครตนปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ‘‘สุวณฺณทณฺฑา วีติปตนฺติ จามรา’’ติ (สุ. นิ. ๖๙๓) เอตฺถ ¶ วุตฺตจามรุกฺเขโป ปน สพฺพติตฺถิยนิมฺมถนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, เสตจฺฉตฺตธารณํ อรหตฺตผลวิมุตฺติวรวิมลเสตจฺฉตฺตปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, สพฺพาทิสานุวิโลกนํ สพฺพฺุตานาวรณาณปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, อาสภิวาจาภาสนํ ปน อปฺปฏิวตฺติยวรธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ตถายํ ภควาปิ คโต. ตฺจสฺส คมนํ ตถํ อโหสิ อวิตถํ เตสํเยว วิเสสาธิคมานํ ปุพฺพนิมิตฺตภาเวน. เตนาหุ โปราณา –
‘‘มุหุตฺตชาโตว ควํปตี ยถา, สเมหิ ปาเทหิ ผุสี วสุนฺธรํ;
โส วิกฺกมี สตฺต ปทานิ โคตโม, เสตฺจ ฉตฺตํ อนุธารยุํ มรู.
‘‘คนฺตฺวาน ¶ โส สตฺต ปทานิ โคตโม, ทิสา วิโลเกสิ สมา สมนฺตโต;
อฏฺงฺคุเปตํ คิรมพฺภุทีรยิ, สีโห ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺิโต’’ติ.
เอวํ ตถา คโตติ ตถาคโต.
อถ วา ยถา ปุริมกา ภควนฺโต, อยมฺปิ ภควา ตเถว เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺทํ…เป… ปมชฺฌาเนน นีวรเณ…เป… อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจสฺํ…เป… อรหตฺตมคฺเคน สพฺพกิเลเส ปหาย คโต. เอวมฺปิ ตถา คโตติ ตถาคโต.
กถํ ¶ ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต? ปถวีธาตุยา กกฺขฬตฺตลกฺขณํ ตถํ อวิตถํ, อาโปธาตุยา ปคฺฆรณลกฺขณํ, เตโชธาตุยา อุณฺหตฺตลกฺขณํ, วาโยธาตุยา วิตฺถมฺภนลกฺขณํ, อากาสธาตุยา อสมฺผุฏฺลกฺขณํ, วิฺาณธาตุยา วิชานนลกฺขณํ.
รูปสฺส รุปฺปนลกฺขณํ, เวทนาย เวทยิตลกฺขณํ, สฺาย สฺชานนลกฺขณํ, สงฺขารานํ อภิสงฺขรณลกฺขณํ, วิฺาณสฺส วิชานนลกฺขณํ.
วิตกฺกสฺส อภินิโรปนลกฺขณํ, วิจารสฺส อนุมชฺชนลกฺขณํ, ปีติยา ผรณลกฺขณํ, สุขสฺส สาตลกฺขณํ, จิตฺเตกคฺคตาย อวิกฺเขปลกฺขณํ, ผสฺสสฺส ผุสนลกฺขณํ.
สทฺธินฺทฺริยสฺส ¶ อธิโมกฺขลกฺขณํ, วีริยินฺทฺริยสฺส ปคฺคหลกฺขณํ, สตินฺทฺริยสฺส อุปฏฺานลกฺขณํ, สมาธินฺทฺริยสฺส อวิกฺเขปลกฺขณํ, ปฺินฺทฺริยสฺส ปชานนลกฺขณํ.
สทฺธาพลสฺส อสฺสทฺธิเย อกมฺปิยลกฺขณํ, วีริยพลสฺส โกสชฺเช, สติพลสฺส มุฏฺสฺสจฺเจ, สมาธิพลสฺส อุทฺธจฺเจ, ปฺาพลสฺส อวิชฺชาย อกมฺปิยลกฺขณํ.
สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฏฺานลกฺขณํ, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ปวิจยลกฺขณํ, วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ปคฺคหลกฺขณํ, ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ผรณลกฺขณํ, ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปสมลกฺขณํ, สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อวิกฺเขปลกฺขณํ, อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ปฏิสงฺขานลกฺขณํ.
สมฺมาทิฏฺิยา ¶ ทสฺสนลกฺขณํ, สมฺมาสงฺกปฺปสฺส อภินิโรปนลกฺขณํ, สมฺมาวาจาย ปริคฺคหลกฺขณํ, สมฺมากมฺมนฺตสฺส สมุฏฺานลกฺขณํ, สมฺมาอาชีวสฺส โวทานลกฺขณํ, สมฺมาวายามสฺส ปคฺคหลกฺขณํ, สมฺมาสติยา อุปฏฺานลกฺขณํ, สมฺมาสมาธิสฺส อวิกฺเขปลกฺขณํ.
อวิชฺชาย อฺาณลกฺขณํ, สงฺขารานํ เจตนาลกฺขณํ, วิฺาณสฺส วิชานนลกฺขณํ, นามสฺส นมนลกฺขณํ, รูปสฺส รุปฺปนลกฺขณํ, สฬายตนสฺส อายตนลกฺขณํ, ผสฺสสฺส ผุสนลกฺขณํ, เวทนาย เวทยิตลกฺขณํ, ตณฺหาย เหตุลกฺขณํ, อุปาทานสฺส ¶ คหณลกฺขณํ, ภวสฺส อายูหนลกฺขณํ, ชาติยา นิพฺพตฺติลกฺขณํ, ชราย ชีรณลกฺขณํ, มรณสฺส จุติลกฺขณํ.
ธาตูนํ สฺุตาลกฺขณํ, อายตนานํ อายตนลกฺขณํ, สติปฏฺานานํ อุปฏฺานลกฺขณํ, สมฺมปฺปธานานํ ปทหนลกฺขณํ, อิทฺธิปาทานํ อิชฺฌนลกฺขณํ, อินฺทฺริยานํ อธิปติลกฺขณํ, พลานํ อกมฺปิยลกฺขณํ, โพชฺฌงฺคานํ นิยฺยานลกฺขณํ, มคฺคสฺส เหตุลกฺขณํ.
สจฺจานํ ตถลกฺขณํ, สมถสฺส อวิกฺเขปลกฺขณํ, วิปสฺสนาย อนุปสฺสนาลกฺขณํ, สมถวิปสฺสนานํ เอกรสลกฺขณํ, ยุคนทฺธานํ อนติวตฺตนลกฺขณํ.
สีลวิสุทฺธิยา สํวรลกฺขณํ, จิตฺตวิสุทฺธิยา อวิกฺเขปลกฺขณํ, ทิฏฺิวิสุทฺธิยา ทสฺสนลกฺขณํ.
ขเย ¶ าณสฺส สมุจฺเฉทลกฺขณํ, อนุปฺปาเท าณสฺส ปสฺสทฺธิลกฺขณํ.
ฉนฺทสฺส มูลลกฺขณํ, มนสิการสฺส สมุฏฺานลกฺขณํ, ผสฺสสฺส สโมธานลกฺขณํ, เวทนาย สโมสรณลกฺขณํ, สมาธิสฺส ปมุขลกฺขณํ, สติยา อาธิปเตยฺยลกฺขณํ, ปฺาย ตตุตฺตริลกฺขณํ, วิมุตฺติยา สารลกฺขณํ, อมโตคธสฺส นิพฺพานสฺส ปริโยสานลกฺขณํ ตถํ อวิตถํ. เอตํ ตถลกฺขณํ าณคติยา อาคโต อวิรชฺฌิตฺวา ปตฺโต อนุปฺปตฺโตติ ตถาคโต. เอวํ ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต.
กถํ ¶ ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต? ตถธมฺมา นาม จตฺตาริ อริยสจฺจานิ. ยถาห – ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ตถานิ อวิตถานิ อนฺถานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ, ภิกฺขเว, ตถเมตํ อวิตถเมตํ อนฺถเมต’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๐) วิตฺถาโร. ตานิ จ ภควา อภิสมฺพุทฺโธติ ตถานํ อภิสมฺพุทฺธตฺตา ตถาคโตติ วุจฺจติ. อภิสมฺโพธตฺโถ หิ เอตฺถ คตสทฺโท.
อปิจ ชรามรณสฺส ชาติปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตฏฺโ ตโถ อวิตโถ อนฺโถ…เป… สงฺขารานํ อวิชฺชาปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตฏฺโ ตโถ อวิตโถ อนฺโถ. ตถา อวิชฺชาย สงฺขารานํ ปจฺจยฏฺโ ตโถ อวิตโถ อนฺโถ…เป… ชาติยา ชรามรณสฺส ¶ ปจฺจยฏฺโ ตโถ อวิตโถ อนฺโถ. ตํ สพฺพํ ภควา อภิสมฺพุทฺโธ. ตสฺมาปิ ตถานํ อภิสมฺพุทฺธตฺตา ตถาคโต. เอวํ ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต.
กถํ ตถทสฺสิตาย ตถาคโต? ภควา ยํ สเทวเก โลเก…เป… สเทวมนุสฺสาย อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อปริมาณานํ สตฺตานํ จกฺขุทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉนฺตํ รูปารมฺมณํ นาม อตฺถิ, ตํ สพฺพากาเรน ชานาติ ปสฺสติ. เอวํ ชานตา ปสฺสตา จ เตน ตํ อิฏฺานิฏฺาทิวเสน วา ทิฏฺสุตมุตวิฺาเตสุ ลพฺภมานกปทวเสน วา ‘‘กตมํ ตํ รูปํ รูปายตนํ? ยํ รูปํ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย วณฺณนิภา สนิทสฺสนํ สปฺปฏิฆํ นีลํ ปีตก’’นฺติอาทินา (ธ. ส. ๖๑๖) นเยน อเนเกหิ นาเมหิ เตรสหิ วาเรหิ ทฺวิปฺาสาย นเยหิ วิภชฺชมานํ ตถเมว โหติ, วิตถํ นตฺถิ ¶ . เอส นโย โสตทฺวาราทีสุปิ อาปาถมาคจฺฉนฺเตสุ สทฺทาทีสุ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, สเทวกสฺส โลกสฺส…เป… สเทวมนุสฺสาย ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมหํ ชานามิ, ตมหํ อพฺภฺาสึ, ตํ ตถาคตสฺส วิทิตํ, ตํ ตถาคโต น อุปฏฺาสี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔). เอวํ ตถทสฺสิตาย ตถาคโต. ตตฺถ ตถทสฺสีอตฺเถ ตถาคโตติ ปทสมฺภโว เวทิตพฺโพ.
กถํ ตถวาทิตาย ตถาคโต? ยํ รตฺตึ ภควา โพธิมณฺเฑ อปราชิตปลฺลงฺเก นิสินฺโน จตุนฺนํ มารานํ มตฺถกํ มทฺทิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ, ยฺจ รตฺตึ ยมกสาลานมนฺตเร อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิ, เอตฺถนฺตเร ปฺจจตฺตาลีสวสฺสปริมาเณ กาเล ปมโพธิยาปิ มชฺฌิมโพธิยาปิ ปจฺฉิมโพธิยาปิ ยํ ภควตา ภาสิตํ สุตฺตํ เคยฺยํ…เป… เวทลฺลํ, ตํ สพฺพํ อตฺถโต จ พฺยฺชนโต จ อนวชฺชํ อนุปวชฺชํ ¶ อนูนมนธิกํ สพฺพาการปริปุณฺณํ ราคมทนิมฺมทนํ โทสโมหมทนิมฺมทนํ, นตฺถิ ตตฺถ วาลคฺคมตฺตมฺปิ ปกฺขลิตํ, สพฺพํ ตํ เอกมุทฺทิกาย ลฺฉิตํ วิย, เอกนาฬิกาย ¶ มิตํ วิย, เอกตุลาย ตุลิตํ วิย, จ ตถเมว โหติ. ยถาห ‘‘ยฺจ, จุนฺท, รตฺตึ ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌติ, ยฺจ รตฺตึ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ, ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร ภาสติ ลปติ นิทฺทิสติ, สพฺพํ ตํ ตถเมว โหติ, โน อฺถา. ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๘๘). คทอตฺโถ หิ เอตฺถ คตสทฺโท. เอวํ ตถวาทิตาย ตถาคโต.
อปิจ อาคทนํ อาคโท, วจนนฺติ อตฺโถ. ตโถ อวิปรีโต อาคโท อสฺสาติ ทการสฺส ตการํ กตฺวา ตถาคโตติ เอวเมตสฺมึ อตฺเถ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา.
กถํ ตถาการิตาย ตถาคโต? ภควโต หิ วาจาย กาโย อนุโลเมติ, กายสฺสาปิ วาจา, ตสฺมา ยถาวาที ตถาการี ยถาการี ตถาวาที จ โหติ. เอวํภูตสฺส จสฺส ยถา วาจา, กาโยปิ ตถา คโต ปวตฺโตติ อตฺโถ. ยถา จ กาโย, วาจาปิ ตถา ¶ คตา ปวตฺตาติ ตถาคโต. เตเนวาห – ‘‘ยถาวาที, ภิกฺขเว, ตถาคโต ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที. อิติ ยถาวาที ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที. ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ. เอวํ ตถาการิตาย ตถาคโต.
กถํ อภิภวนฏฺเน ตถาคโต? อุปริ ภวคฺคํ เหฏฺา อวีจึ ปริยนฺตํ กตฺวา ติริยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ สพฺพสตฺเต อภิภวติ สีเลน สมาธินา ปฺาย วิมุตฺติยา วิมุตฺติาณทสฺสเนน, น ตสฺส ตุลา วา ปมาณํ วา อตฺถิ, อตุโล อปฺปเมยฺโย อนุตฺตโร ราชาธิราชา เทวานํ อติเทโว สกฺกานํ อติสกฺโก พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมา. เตนาห – ‘‘สเทวเก, ภิกฺขเว, โลเก…เป… สเทวมนุสฺสาย ตถาคโต อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุ ทโส วสวตฺตี. ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓).
ตตฺเถวํ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา – อคโท วิย อคโท. โก ปเนส? เทสนาวิลาโส เจว ปฺุุสฺสโย จ. เตน เหส มหานุภาโว ภิสกฺโก ทิพฺพาคเทน สปฺเป วิย สพฺพปรปฺปวาทิโน สเทวกฺจ โลกํ อภิภวติ. อิติ สพฺพโลกาภิภวเน ตโถ อวิปรีโต เทสนาวิลาสมโย เจว ปฺุมโย จ อคโท อสฺสาติ ทการสฺส ตการํ กตฺวา ตถาคโตติ เวทิตพฺโพ. เอวํ อภิภวนฏฺเน ตถาคโต.
อปิจ ¶ ตถาย คโตติปิ ตถาคโต, ตถํ คโตติปิ ตถาคโตติ. คโตติ อวคโต อตีโต ปตฺโต ปฏิปนฺโนติ อตฺโถ ¶ . ตตฺถ สกลํ โลกํ ตีรณปริฺาย ตถาย คโต อวคโตติ ตถาคโต, โลกสมุทยํ ปหานปริฺาย ตถาย คโต อตีโตติ ตถาคโต, โลกนิโรธํ สจฺฉิกิริยาย ตถาย คโต ปตฺโตติ ตถาคโต, โลกนิโรธคามินิปฏิปทํ ตถํ คโต ปฏิปนฺโนติ ตถาคโต. เตน ยํ วุตฺตํ ภควตา – ‘‘โลโก, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ, โลกสฺมา ตถาคโต วิสํยุตฺโต. โลกสมุทโย, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ, โลกสมุทโย ตถาคตสฺส ปหีโน. โลกนิโรโธ, ภิกฺขเว ¶ , ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ โลกนิโรโธ ตถาคตสฺส สจฺฉิกโต. โลกนิโรธคามินี ปฏิปทา, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา, โลกนิโรธคามินีปฏิปทา ตถาคตสฺส ภาวิตา. ยํ, ภิกฺขเว, สเทวกสฺส โลกสฺส…เป… อนุวิจริตํ มนสา, สพฺพํ ตํ ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธํ. ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓). ตสฺส เอวมฺปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิทมฺปิ จ ตถาคตสฺส ตถาคตภาวทีปเน มุขมตฺตเมว. สพฺพากาเรน ปน ตถาคโตว ตถาคตสฺส ตถาคตภาวํ วณฺเณยฺย. ยสฺมา ปน สพฺพพุทฺธา ตถาคตคุเณนาปิ สมสมา, ตสฺมา สพฺเพสํ วเสน ตถาคตานนฺติ อาห.
อรหนฺตานนฺติ กิเลเสหิ อารกตฺตา, อรีนํ อรานฺจ หตตฺตา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวา ตถาคโต อรหํ. อารกา หิ โส สพฺพกิเลเสหิ สุวิทูรวิทูเร ิโต มคฺเคน สวาสนานํ กิเลสานํ ปหีนตฺตาติ อรหํ.
โส ตโต อารกา นาม, ยสฺส เยนาสมงฺคิตา;
อสมงฺคี จ โทเสหิ, นาโถ เตนารหํ มโต.
เต จาเนน กิเลสารโย มคฺเคน หตาติ อรีนํ หตตฺตาปิ อรหํ.
ยสฺมา ราคาทิสงฺขาตา, สพฺเพปิ อรโย หตา;
ปฺาสตฺเถน นาเถน, ตสฺมาปิ อรหํ มโต.
ยฺเจตํ ¶ อวิชฺชาภวตณฺหามยนาภิปฺุาทิอภิสงฺขารานํ ชรามรณเนมิ อาสวสมุทยมเยน อกฺเขน วิชฺฌิตฺวา ¶ ติภวรเถ สมาโยชิตํ อนาทิกาลปฺปวตฺตํ สํสารจกฺกํ, ตสฺสาเนน โพธิมณฺเฑ วีริยปาเทหิ สีลปถวิยํ ปติฏฺาย สทฺธาหตฺเถน กมฺมกฺขยกรํ าณผรสุํ คเหตฺวา สพฺเพ อรา หตาติ อรานํ หตตฺตาปิ อรหํ.
อรา สํสารจกฺกสฺส, หตา าณาสินา ยโต;
โลกนาเถน เตเนส, อรหนฺติ ปวุจฺจติ.
อคฺคทกฺขิเณยฺยตฺตา จ จีวราทิปจฺจเย อรหติ ปูชาวิเสสฺจ. เตเนว จ อุปฺปนฺเน ตถาคเต เย เกจิ มเหสกฺขา เทวมนุสฺสา, น เต ¶ อฺตฺถ ปูชํ กโรนฺติ. ตถา หิ พฺรหฺมา สหมฺปติ สิเนรุมตฺเตน รตนทาเมน ตถาคตํ ปูเชสิ, ยถาพลฺจ อฺเ เทวา มนุสฺสา จ พิมฺพิสารโกสลราชาทโย. ปรินิพฺพุตมฺปิ จ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส ฉนฺนวุติโกฏิธนํ วิสฺสชฺเชตฺวา อโสกมหาราชา สกลชมฺพุทีเป จตุราสีติ วิหารสหสฺสานิ ปติฏฺาเปสิ, โก ปน วาโท อฺเสํ ปูชาวิเสสานนฺติ ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตาปิ อรหํ.
ปูชาวิเสสํ สห ปจฺจเยหิ, ยสฺมา อยํ อรหติ โลกนาโถ;
อตฺถานุรูปํ อรหนฺติ โลเก, ตสฺมา ชิโน อรหติ นามเมตํ.
ยถา จ โลเก เย เกจิ ปณฺฑิตมานิโน พาลา อสิโลกภเยน รโห ปาปํ กโรนฺติ, เอวเมส น กทาจิ กโรตีติ ปาปกรเณ รหาภาวโตปิ อรหํ.
ยสฺมา นตฺถิ รโห นาม, ปาปกมฺเมสุ ตาทิโน;
รหาภาเวน เตเนส, อรหํ อิติ วิสฺสุโต.
เอวํ สพฺพถาปิ –
อารกตฺตา หตตฺตา จ, กิเลสารีน โส มุนิ;
หตสํสารจกฺกาโร, ปจฺจยาทีน จารโห;
น รโห กโรติ ปาปานิ, อรหํ เตน วุจฺจตีติ.
ยสฺมา ¶ ¶ ปน สพฺพพุทฺธา อรหตฺตคุเณนาปิ สมสมา, ตสฺมา สพฺเพสํ วเสน ‘‘อรหนฺตาน’’นฺติ อาห.
สมฺมาสมฺพุทฺธานนฺติ สมฺมา สามฺจ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺโธ. ตถา เหส สพฺพธมฺเม สมฺมา สมฺพุทฺโธ, อภิฺเยฺเย ธมฺเม อภิฺเยฺยโต พุทฺโธ, ปริฺเยฺเย ธมฺเม ปริฺเยฺยโต, ปหาตพฺเพ ธมฺเม ปหาตพฺพโต, สจฺฉิกาตพฺเพ ธมฺเม สจฺฉิกาตพฺพโต, ภาเวตพฺเพ ธมฺเม ภาเวตพฺพโต. เตเนวาห –
‘‘อภิฺเยฺยํ อภิฺาตํ, ภาเวตพฺพฺจ ภาวิตํ;
ปหาตพฺพํ ปหีนํ เม, ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ พฺราหฺมณา’’ติ. (ม. นิ. ๒.๓๙๙; สุ. นิ. ๕๖๓);
อถ ¶ วา จกฺขุ ทุกฺขสจฺจํ, ตสฺส มูลการณภาเวน สมุฏฺาปิกา ปุริมตณฺหา สมุทยสจฺจํ, อุภินฺนํ อปฺปวตฺติ นิโรธสจฺจํ, นิโรธปฺปชานนา ปฏิปทา มคฺคสจฺจนฺติ เอวํ เอเกกปทุทฺธาเรนาปิ สพฺพธมฺเม สมฺมา สามฺจ พุทฺโธ. เอส นโย โสตฆานชิวฺหากายมเนสุ. เอเตเนว นเยน รูปาทีนิ ฉ อายตนานิ, จกฺขุวิฺาณาทโย ฉ วิฺาณกายา, จกฺขุสมฺผสฺสาทโย ฉ ผสฺสา, จกฺขุสมฺผสฺสชาทโย ฉ เวทนา, รูปสฺาทโย ฉ สฺา, รูปสฺเจตนาทโย ฉ เจตนา, รูปตณฺหาทโย ฉ ตณฺหากายา, รูปวิตกฺกาทโย ฉ วิตกฺกา, รูปวิจาราทโย ฉ วิจารา, รูปกฺขนฺธาทโย ปฺจกฺขนฺธา, ทส กสิณานิ, ทส อนุสฺสติโย, อุทฺธุมาตกสฺาทิวเสน ทส สฺา, เกสาทโย ทฺวตฺตึสาการา, ทฺวาทสายตนานิ, อฏฺารส ธาตุโย, กามภวาทโย นว ภวา, ปมาทีนิ จตฺตาริ ฌานานิ, เมตฺตาภาวนาทโย จตสฺโส อปฺปมฺา, จตสฺโส อรูปสมาปตฺติโย, ปฏิโลมโต ชรามรณาทีนิ, อนุโลมโต อวิชฺชาทีนิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานิ จ โยเชตพฺพานิ. ตตฺรายํ เอกปทโยชนา – ชรามรณํ ทุกฺขสจฺจํ, ชาติ สมุทยสจฺจํ, อุภินฺนํ นิสฺสรณํ นิโรธสจฺจํ, นิโรธปฺปชานนา ปฏิปทา มคฺคสจฺจนฺติ เอวํ เอเกกปทุทฺธาเรน สพฺพธมฺเม สมฺมา สามฺจ พุทฺโธ อนุพุทฺโธ ปฏิวิทฺโธ. ยํ วา ปน กิฺจิ อตฺถิ เนยฺยํ นาม, สพฺพสฺส สมฺมา สมฺพุทฺธตฺตา วิโมกฺขนฺติกาณวเสน สมฺมาสมฺพุทฺโธ. ตสฺส ปน วิภาโค อุปริ อาวิ ภวิสฺสตีติ. ยสฺมา ปน สพฺพพุทฺธา สมฺมาสมฺพุทฺธคุเณนาปิ สมสมา, ตสฺมา สพฺเพสํ วเสน ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธาน’’นฺติ อาห.
๓๘. อิทานิ ¶ ¶ ปริยนฺตปาริสุทฺธิอปริยนฺตปาริสุทฺธิสีลทฺวเย เอเกกเมว สีลํ ปฺจธา ภินฺทิตฺวา ทสฺเสตุํ อตฺถิ สีลํ ปริยนฺตํ, อตฺถิ สีลํ อปริยนฺตนฺติอาทิมาห. อิตเรสุ ปน ตีสุ สีเลสุ ตถาวิโธ เภโท นตฺถีติ. ตตฺถ ลาภปริยนฺตนฺติ ลาเภน ปริยนฺโต เภโท เอตสฺสาติ ลาภปริยนฺตํ. เอวํ เสสานิปิ. ยโสติ ปเนตฺถ ปริวาโร. อิธาติ อิมสฺมึ โลเก. เอกจฺโจติ เอโก. ลาภเหตูติ ลาโภเยว เหตุ ลาภเหตุ, ตสฺมา ลาภเหตุโตติ วุตฺตํ โหติ. เหตฺวตฺเถ นิสฺสกฺกวจนํ. ‘‘ลาภปจฺจยา ลาภการณา’’ติ ตสฺเสว เววจนํ. เหตุเมว หิ ปฏิจฺจ เอตํ ผลเมตีติ ปจฺจโยติ จ, ผลุปฺปตฺตึ การยตีติ การณนฺติ จ วุจฺจติ.
ยถาสมาทินฺนนฺติ ¶ ยํ ยํ สมาทินฺนํ คหิตํ. วีติกฺกมตีติ อชฺฌาจรติ. เอวรูปานีติ เอวํสภาวานิ, วุตฺตปฺปการานีติ อธิปฺปาโย. สีลานีติ คหฏฺสีลานิ วา โหนฺตุ ปพฺพชิตสีลานิ วา, เยสํ อาทิมฺหิ วา อนฺเต วา เอกํ ภินฺนํ, ตานิ ปริยนฺเต ฉินฺนสาฏโก วิย ขณฺฑานิ. เยสํ เวมชฺเฌ เอกํ ภินฺนํ, ตานิ มชฺเฌ วินิวิทฺธสาฏโก วิย ฉิทฺทานิ. เยสํ ปฏิปาฏิยา ทฺเว วา ตีณิ วา ภินฺนานิ, ตานิ ปิฏฺิยา วา กุจฺฉิยา วา อุฏฺิเตน ทีฆวฏฺฏาทิสณฺาเนน วิสภาควณฺเณน กาฬรตฺตาทีนํ อฺตรสรีรวณฺณา คาวี วิย สพลานิ. เยสํ อนฺตรนฺตรา เอเกกานิ ภินฺนานิ, ตานิ อนฺตรนฺตรา วิสภาควณฺณพินฺทุวิจิตฺรา คาวี วิย กมฺมาสานิ. อวิเสเสน วา สพฺพานิปิ สตฺตวิเธน เมถุนสํโยเคน โกธูปนาหาทีหิ จ ปาปธมฺเมหิ อุปหตตฺตา ขณฺฑานิ ฉิทฺทานิ สพลานิ กมฺมาสานีติ. ตานิเยว ตณฺหาทาสพฺยโต โมเจตฺวา ภุชิสฺสภาวากรเณน น ภุชิสฺสานิ. พุทฺธาทีหิ วิฺูหิ น ปสตฺถตฺตา น วิฺุปฺปสตฺถานิ. ตณฺหาทิฏฺีหิ ปรามฏฺตฺตา, เกนจิ วา ‘‘อยํ เต สีเลสุ โทโส’’ติ ปรามฏฺุํ สกฺกุเณยฺยตาย ปรามฏฺานิ. อุปจารสมาธึ อปฺปนาสมาธึ วา, อถ วา มคฺคสมาธึ ผลสมาธึ วา น สํวตฺตยนฺตีติ อสมาธิสํวตฺตนิกานิ. น สมาธิสํวตฺตนิกานีติปิ ปาโ.
เกจิ ปน ‘‘ขณฺฑานีติ กุสลานํ ธมฺมานํ อปฺปติฏฺาภูตตฺตา, ฉิทฺทานีติปิ เอวํ. สพลานีติ วิวณฺณกรณตฺตา, กมฺมาสานีติปิ ¶ เอวํ. น ภุชิสฺสานีติ ตณฺหาทาสพฺยํ คตตฺตา. น วิฺุปฺปสตฺถานีติ กุสเลหิ ครหิตตฺตา. ปรามฏฺานีติ ตณฺหาย คหิตตฺตา. อสมาธิสํวตฺตนิกานีติ วิปฺปฏิสารวตฺถุภูตตฺตา’’ติ เอวมตฺถํ วณฺณยนฺติ.
น อวิปฺปฏิสารวตฺถุกานีติ วิปฺปฏิสาราวหตฺตา อวิปฺปฏิสารสฺส ปติฏฺา น โหนฺตีติ อตฺโถ. น ปาโมชฺชวตฺถุกานีติ อวิปฺปฏิสารชาย ทุพฺพลปีติยา น วตฺถุภูตานิ ตสฺสา อนาวหตฺตา ¶ . เอวํ เสเสสุปิ โยชนา กาตพฺพา. น ปีติวตฺถุกานีติ ทุพฺพลปีติชาย พลวปีติยา น วตฺถุภูตานิ. น ปสฺสทฺธิวตฺถุกานีติ พลวปีติชาย กายจิตฺตปสฺสทฺธิยา น วตฺถุภูตานิ. น สุขวตฺถุกานีติ ปสฺสทฺธิชสฺส กายิกเจตสิกสุขสฺส น วตฺถุภูตานิ. น สมาธิวตฺถุกานีติ สุขชสฺส สมาธิสฺส ¶ น วตฺถุภูตานิ. น ยถาภูตาณทสฺสนวตฺถุกานีติ สมาธิปทฏฺานสฺส ยถาภูตาณทสฺสนสฺส น วตฺถุภูตานิ.
น เอกนฺตนิพฺพิทายาติอาทีสุ น-การเมว อาหริตฺวา ‘‘น วิราคายา’’ติอาทินา นเยน เสสปเทหิปิ โยเชตพฺพํ. น วิราคายาติอาทีสุ สนกาโร วา ปาโ. ตตฺถ เอกนฺตนิพฺพิทายาติ เอกนฺเตน วฏฺเฏ นิพฺพินฺทนตฺถาย น สํวตฺตนฺตีติ สมฺพนฺโธ. เอวํ เสเสสุปิ โยเชตพฺพํ. วิราคายาติ วฏฺเฏ วิรชฺชนตฺถาย. นิโรธายาติ วฏฺฏสฺส นิโรธนตฺถาย. อุปสมายาติ นิโรธิตสฺส ปุน อนุปฺปตฺติวเสน วฏฺฏสฺส อุปสมนตฺถาย. อภิฺายาติ วฏฺฏสฺส อภิชานนตฺถาย. สมฺโพธายาติ กิเลสนิทฺทาวิคเมน วฏฺฏโต ปพุชฺฌนตฺถาย. นิพฺพานายาติ อมตนิพฺพานตฺถาย.
ยถาสมาทินฺนํ สิกฺขาปทํ วีติกฺกมายาติ ยถาสมาทินฺนสฺส สิกฺขาปทสฺส วีติกฺกมนตฺถาย. วิภตฺติวิปลฺลาสวเสน ปเนตฺถ อุปโยควจนํ กตํ. จิตฺตมฺปิ น อุปฺปาเทตีติ จิตฺตุปฺปาทสุทฺธิยา สีลสฺส อติวิสุทฺธภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น ปน จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน สีลํ ภิชฺชติ. กึ โส วีติกฺกมิสฺสตีติ กิมตฺถํ วีติกฺกมํ กริสฺสติ, เนว วีติกฺกมํ กริสฺสตีติ อตฺโถ. อขณฺฑานีติอาทีนิ เหฏฺา วุตฺตปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺพานิ. น ขณฺฑานีติปิ ปาโ. ‘‘เอกนฺตนิพฺพิทายา’’ติอาทีสุ เอกนฺเตน วฏฺเฏ นิพฺพินฺทนตฺถายาติอาทินา นเยน โยเชตพฺพํ ¶ . เอตฺถ ปน นิพฺพิทายาติ วิปสฺสนา. วิราคายาติ มคฺโค. นิโรธาย อุปสมายาติ นิพฺพานํ. อภิฺาย สมฺโพธายาติ มคฺโค. นิพฺพานายาติ นิพฺพานเมว. เอกสฺมึ าเน วิปสฺสนา, ทฺวีสุ มคฺโค, ตีสุ นิพฺพานํ วุตฺตนฺติ เอวํ อวตฺถานกถา เวทิตพฺพา. ปริยาเยน ปน สพฺพานิเปตานิ มคฺคเววจนานิปิ นิพฺพานเววจนานิปิ โหนฺติเยว.
๓๙. อิทานิ ปริยนฺตาปริยนฺตวเสน วิชฺชมานปเภทํ ทสฺเสตฺวา ปุน ธมฺมวเสน ชาติวเสน ปจฺจยวเสน สมฺปยุตฺตวเสน สีลสฺส ปเภทํ ทสฺเสตุํ กึ สีลนฺติอาทิมาห. ตตฺถ สมุฏฺาติ เอเตนาติ สมุฏฺานํ. ปจฺจยสฺเสตํ นามํ. กึ สมุฏฺานมสฺสาติ กึสมุฏฺานํ. กตินํ ธมฺมานํ สโมธานํ สมวาโย อสฺสาติ กติธมฺมสโมธานํ.
เจตนา ¶ สีลนฺติ ปาณาติปาตาทีหิ วิรมนฺตสฺส, วตฺตปฏิปตฺตึ วา ปูเรนฺตสฺส เจตนา. เจตสิกํ สีลนฺติ ปาณาติปาตาทีหิ วิรมนฺตสฺส วิรติ. อปิจ เจตนา สีลํ นาม ปาณาติปาตาทีนิ ปชหนฺตสฺส สตฺตกมฺมปถเจตนา ¶ . เจตสิกํ สีลํ นาม ‘‘อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๑๗) นเยน วุตฺตา อนภิชฺฌาอพฺยาปาทสมฺมาทิฏฺิธมฺมา. สํวโร สีลนฺติ เอตฺถ ปฺจวิโธ สํวโร เวทิตพฺโพ – ปาติโมกฺขสํวโร, สติสํวโร, าณสํวโร, ขนฺติสํวโร, วีริยสํวโรติ. ตตฺถ ‘‘อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต โหติ สมุเปโต’’ติ (วิภ. ๕๑๑) อยํ ปาติโมกฺขสํวโร. ‘‘รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๑๓; ม. นิ. ๑.๒๙๕; สํ. นิ. ๔.๒๓๙; อ. นิ. ๓.๑๖) อยํ สติสํวโร.
‘‘ยานิ โสตานิ โลกสฺมึ, (อชิตาติ ภควา;)
สติ เตสํ นิวารณํ;
โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ, ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ. (สุ. นิ. ๑๐๔๑) –
อยํ าณสํวโร. ปจฺจยปฏิเสวนมฺปิ เอตฺเถว สโมธานํ คจฺฉติ. โย ปนายํ ‘‘ขโม โหติ สีตสฺส อุณฺหสฺสา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๔; อ. นิ. ๔.๑๑๔; ๖.๕๘) นเยน อาคโต, อยํ ขนฺติสํวโร นาม. โย จายํ ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๖; อ. นิ. ๔.๑๑๔; ๖.๕๘) นเยน อาคโต, อยํ วีริยสํวโร นาม. อาชีวปาริสุทฺธิปิ ¶ เอตฺเถว สโมธานํ คจฺฉติ. อิติ อยํ ปฺจวิโธปิ สํวโร, ยา จ ปาปภีรุกานํ กุลปุตฺตานํ สมฺปตฺตวตฺถุโต วิรติ, สพฺพเมตํ สํวรสีลนฺติ เวทิตพฺพํ. อวีติกฺกโม สีลนฺติ สมาทินฺนสีลสฺส กายิกวาจสิโก อวีติกฺกโม. อิทํ ตาว กึ สีลนฺติ ปฺหสฺส วิสฺสชฺชนํ.
กติ สีลานีติ ปฺหสฺส วิสฺสชฺชเน กุสลสีลํ อกุสลสีลํ อพฺยากตสีลนฺติ เอตฺถ ยสฺมา โลเก เตสํ เตสํ สตฺตานํ ปกติ สีลนฺติ วุจฺจติ, ยํ สนฺธาย ‘‘อยํ สุขสีโล, อยํ ทุกฺขสีโล, อยํ กลหสีโล, อยํ มณฺฑนสีโล’’ติ ภณนฺติ. ตสฺมา เตน ปริยาเยน อตฺถุทฺธารวเสน อกุสลสีลมปิ สีลนฺติ วุตฺตํ. ตํ ปน ‘‘สุตฺวาน สํวเร ปฺา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๓๗) วจนโต อิธาธิปฺเปตสีลํ น โหตีติ.
ยสฺมา ¶ ¶ ปน เจตนาทิเภทสฺส สีลสฺส สมฺปยุตฺตจิตฺตํ สมุฏฺานํ, ตสฺมา กุสลจิตฺตสมุฏฺานํ กุสลสีลนฺติอาทิมาห.
สํวรสโมธานํ สีลนฺติ สํวรสมฺปยุตฺตขนฺธา. เต หิ สํวเรน สมาคตา มิสฺสีภูตาติ สํวรสโมธานนฺติ วุตฺตา. เอวํ อวีติกฺกมสโมธานํ สีลมฺปิ เวทิตพฺพํ. ตถาภาเว ชาตเจตนา สโมธานํ สีลนฺติ สํวรภาเว อวีติกฺกมภาเว ชาตเจตนาสมฺปยุตฺตา ขนฺธา. ยสฺมา จ ตีสุปิ เจเตสุ ตํสมฺปยุตฺตา ธมฺมา อธิปฺเปตา, ตสฺมา เจตนาสโมธาเนน เจตสิกานมฺปิ สงฺคหิตตฺตา เจตสิกสโมธานสีลํ วิสุํ น นิทฺทิฏฺนฺติ เวทิตพฺพํ. เหฏฺา เจตนาทโย ธมฺมา ‘‘สีล’’นฺติ วุตฺตา. น เกวลํ เต เอว สีลํ, ตํสมฺปยุตฺตา ธมฺมาปิ สีลเมวาติ ทสฺสนตฺถํ อยํ ติโก วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
๔๐. อิทานิ ยสฺมา เจตนาเจตสิกา สํวราวีติกฺกมาเยว โหนฺติ น วิสุํ, ตสฺมา สํวราวีติกฺกเมเยว ยาว อรหตฺตมคฺคา สาธารณกฺกเมน โยเชนฺโต ปาณาติปาตํ สํวรฏฺเน สีลํ, อวีติกฺกมฏฺเน สีลนฺติอาทิมาห. ปาณาติปาตา เวรมณิอาทโย หิ ยสฺมา อตฺตโน อตฺตโน ปจฺจนีกํ สํวรนฺติ, ตํ น วีติกฺกมนฺติ จ, ตสฺมา สํวรณโต อวีติกฺกมนโต จ สํวรฏฺเน สีลํ อวีติกฺกมฏฺเน สีลํ นาม โหติ. ตตฺถ ปาณาติปาตํ สํวรฏฺเนาติ ปาณาติปาตสฺส ปิทหนฏฺเน สีลํ. กึ ตํ? ปาณาติปาตา เวรมณี. สา จ ตํ สํวรนฺตีเยว ตํ น วีติกฺกมตีติ อวีติกฺกมฏฺเน สีลํ. เอวเมว อทินฺนาทานา เวรมณิอาทโย อนภิชฺฌาอพฺยาปาทสมฺมาทิฏฺิโย โยเชตพฺพา.
ปาณาติปาตนฺติอาทีสุ ¶ ปน ทสสุ อกุสลกมฺมปเถสุ ปาณสฺส อติปาโต ปาณาติปาโต. ปาณวโธ ปาณฆาโตติ วุตฺตํ โหติ. ปาโณติ เจตฺถ โวหารโต สตฺโต, ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ. ตสฺมึ ปน ปาเณ ปาณสฺิโน ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทกอุปกฺกมสมุฏฺาปิกา กายวจีทฺวารานํ อฺตรทฺวารปฺปวตฺตา วธกเจตนา ปาณาติปาโต. โส คุณวิรหิเตสุ ติรจฺฉานคตาทีสุ ปาเณสุ ขุทฺทเก ปาเณ อปฺปสาวชฺโช, มหาสรีเร มหาสาวชฺโช. กสฺมา? ปโยคมหนฺตตาย. ปโยคสมตฺเตปิ วตฺถุมหนฺตตาย. คุณวนฺเตสุ มนุสฺสาทีสุ อปฺปคุเณ ปาเณ อปฺปสาวชฺโช, มหาคุเณ มหาสาวชฺโช. สรีรคุณานํ ¶ ปน สมภาเว สติ กิเลสานํ อุปกฺกมานฺจ มุทุตาย อปฺปสาวชฺโช, ติพฺพตาย มหาสาวชฺโชติ เวทิตพฺโพ. ตสฺส ปฺจ สมฺภารา – ปาโณ, ปาณสฺิตา, วธกจิตฺตํ, อุปกฺกโม, เตน มรณนฺติ.
อทินฺนสฺส ¶ อาทานํ อทินฺนาทานํ, ปรสํหรณํ, เถยฺยํ, โจริกาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ อทินฺนนฺติ ปรปริคฺคหิตํ, ยตฺถ ปโร ยถากามการิตํ อาปชฺชนฺโต อทณฺฑารโห อนุปวชฺโช จ โหติ, ตสฺมึ ปรปริคฺคหิเต ปรปริคฺคหิตสฺิโน ตทาทายกอุปกฺกมสมุฏฺาปิกา กายวจีทฺวารานํ อฺตรทฺวารปฺปวตฺตา เถยฺยเจตนา อทินฺนาทานํ. ตํ หีเน ปรสนฺตเก อปฺปสาวชฺชํ, ปณีเต มหาสาวชฺชํ. กสฺมา? วตฺถุปณีตตาย. วตฺถุสมตฺเต สติ คุณาธิกานํ สนฺตเก วตฺถุสฺมึ มหาสาวชฺชํ, ตํ ตํ คุณาธิกํ อุปาทาย ตโต ตโต หีนคุณสฺส สนฺตเก วตฺถุสฺมึ อปฺปสาวชฺชํ. ตสฺส ปฺจ สมฺภารา – ปรปริคฺคหิตํ, ปรปริคฺคหิตสฺิตา เถยฺยจิตฺตํ, อุปกฺกโม, เตน หรณนฺติ.
กาเมสูติ เมถุนสมาจาเรสุ. มิจฺฉาจาโรติ เอกนฺตนินฺทิโต ลามกาจาโร. ลกฺขณโต ปน อสทฺธมฺมาธิปฺปาเยน กายทฺวารปฺปวตฺตา อคมนียฏฺานวีติกฺกมเจตนา กาเมสุ มิจฺฉาจาโร.
ตตฺถ อคมนียฏฺานํ นาม ปุริสานํ ตาว มาตุรกฺขิตา, ปิตุรกฺขิตา, มาตาปิตุรกฺขิตา, ภาตุรกฺขิตา, ภคินิรกฺขิตา, าติรกฺขิตา, โคตฺตรกฺขิตา, ธมฺมรกฺขิตา, สารกฺขา, สปริทณฺฑาติ มาตุรกฺขิตาทโย ทส, ธนกฺกีตา, ฉนฺทวาสินี, โภควาสินี, ปฏวาสินี, โอทปตฺตกินี, โอภตจุมฺพฏา, ทาสี จ, ภริยา จ, กมฺมการี จ ภริยา จ, ธชาหฏา มุหุตฺติกาติ ธนกฺกีตาทโย ทสาติ ¶ วีสติ อิตฺถิโย. อิตฺถีสุ ปน ทฺวินฺนํ สารกฺขสปริทณฺฑานํ ทสนฺนฺจ ธนกฺกีตาทีนนฺติ ทฺวาทสนฺนํ อิตฺถีนํ อฺเ ปุริสา, อิทํ อคมนียฏฺานํ นาม.
โส ปเนส มิจฺฉาจาโร สีลาทิคุณรหิเต อคมนียฏฺาเน อปฺปสาวชฺโช, สีลาทิคุณสมฺปนฺเน มหาสาวชฺโช. ตสฺส จตฺตาโร สมฺภารา – อคมนียวตฺถุ, ตสฺมึ เสวนจิตฺตํ, เสวนปโยโค, มคฺเคนมคฺคปฏิปตฺติอธิวาสนนฺติ.
มุสาติ ¶ วิสํวาทนปุเรกฺขารสฺส อตฺถภฺชโก วจีปโยโค, กายปโยโค วา. วิสํวาทนาธิปฺปาเยน ปนสฺส ปรวิสํวาทกกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา มุสาวาโท. อปโร นโย – มุสาติ อภูตํ อตจฺฉํ วตฺถุ. วาโทติ ตสฺส ภูตโต ตจฺฉโต วิฺาปนํ. ลกฺขณโต ปน อตถํ วตฺถุํ ตถโต ปรํ วิฺาเปตุกามสฺส ตถาวิฺตฺติสมุฏฺาปิกา เจตนา มุสาวาโท. โส ยมตฺถํ ภฺชติ, ตสฺส อปฺปตาย อปฺปสาวชฺโช, มหนฺตตาย มหาสาวชฺโช. อปิจ คหฏฺานํ อตฺตโน สนฺตกํ อทาตุกามตาย นตฺถีติอาทินยปฺปวตฺโต อปฺปสาวชฺโช, สกฺขินา ¶ หุตฺวา อตฺถภฺชนตฺถํ วุตฺโต มหาสาวชฺโช. ปพฺพชิตานํ อปฺปกมฺปิ เตลํ วา สปฺปึ วา ลภิตฺวา หสาธิปฺปาเยน ‘‘อชฺช คาเม เตลํ นที มฺเ สนฺทตี’’ติ ปูรณกถานเยน ปวตฺโต อปฺปสาวชฺโช, อทิฏฺํเยว ปน ทิฏฺนฺติอาทินา นเยน วทนฺตานํ มหาสาวชฺโช. ตสฺส จตฺตาโร สมฺภารา – อตถํ วตฺถุ, วิสํวาทนจิตฺตํ, ตชฺโช วายาโม, ปรสฺส ตทตฺถวิชานนนฺติ.
ยาย วาจาย ยสฺส ตํ วาจํ ภาสติ, ตสฺส หทเย อตฺตโน ปิยภาวํ, ปรสฺส จ สฺุภาวํ กโรติ, สา ปิสุณา วาจา. ยาย ปน อตฺตานมฺปิ ปรมฺปิ ผรุสํ กโรติ, ยา วาจา สยมฺปิ ผรุสา เนว กณฺณสุขา น หทยสุขา วา, อยํ ผรุสา วาจา. เยน สมฺผํ ปลปติ นิรตฺถกํ, โส สมฺผปฺปลาโป. เตสํ มูลภูตา เจตนาปิ ปิสุณาวาจาทินามเมว ลภติ. สา เอว จ อิธ อธิปฺเปตาติ.
ตตฺถ สํกิลิฏฺจิตฺตสฺส ปเรสํ วา เภทาย อตฺตโน ปิยกมฺยตาย วา กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา ปิสุณา วาจา. สา ยสฺส เภทํ กโรติ, ตสฺส อปฺปคุณตาย อปฺปสาวชฺชา, มหาคุณตาย มหาสาวชฺชา. ตสฺสา จตฺตาโร สมฺภารา ¶ – ภินฺทิตพฺโพ ปโร, ‘‘อิติ อิเม นานา ภวิสฺสนฺตี’’ติ เภทปุเรกฺขารตา วา ‘‘อิติ อหํ ปิโย ภวิสฺสามิ วิสฺสาสิโก’’ติ ปิยกมฺยตา วา, ตชฺโช วายาโม, ตสฺส ตทตฺถวิชานนนฺติ. ปเร ปน อภินฺเน กมฺมปถเภโท นตฺถิ, ภินฺเนเยว โหติ.
ปรสฺส มมฺมจฺเฉทกกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เอกนฺตผรุสเจตนา ผรุสา วาจา. มมฺมจฺเฉทโกปิ ปน ปโยโค จิตฺตสณฺหตาย ผรุสา วาจา น โหติ. มาตาปิตโร หิ กทาจิ ปุตฺตเก เอวมฺปิ วทนฺติ ‘‘โจรา โว ขณฺฑาขณฺฑิกํ กโรนฺตู’’ติ. อุปฺปลปตฺตมฺปิ จ เนสํ อุปริ ปตนฺตํ ¶ น อิจฺฉนฺติ. อาจริยุปชฺฌายา จ กทาจิ นิสฺสิตเก เอวํ วทนฺติ ‘‘กึ อิเม อหิริกา อโนตฺตปฺปิโน, นิทฺธมถ เน’’ติ. อถ จ เนสํ อาคมาธิคมสมฺปตฺตึ อิจฺฉนฺติ. ยถา จ จิตฺตสณฺหตาย ผรุสา วาจา น โหติ, เอวํ วจนสณฺหตาย อผรุสา วาจาปิ น โหติ. น หิ มาราเปตุกามสฺส ‘‘อิมํ สุขํ สยาเปถา’’ติ วจนํ อผรุสา วาจา โหติ, จิตฺตผรุสตาย ปเนสา ผรุสา วาจาว. สา ยํ สนฺธาย ปวตฺติตา, ตสฺส อปฺปคุณตาย อปฺปสาวชฺชา, มหาคุณตาย มหาสาวชฺชา. ตสฺสา ตโย สมฺภารา – อกฺโกสิตพฺโพ ปโร, กุปิตจิตฺตํ, อกฺโกสนาติ.
อนตฺถวิฺาปิกา ¶ กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา อกุสลเจตนา สมฺผปฺปลาโป. โส อาเสวนมนฺทตาย อปฺปสาวชฺโช, อาเสวนมหนฺตตาย มหาสาวชฺโช. ตสฺส ทฺเว สมฺภารา – ภารตยุทฺธสีตาหรณาทินิรตฺถกกถาปุเรกฺขารตา, ตถารูปิกถากถนฺจาติ. ปเร ปน ตํ กถํ อคณฺหนฺเต กมฺมปถเภโท นตฺถิ, ปเรน สมฺผปฺปลาเป คหิเตเยว โหติ.
อภิชฺฌายตีติ อภิชฺฌา, ปรภณฺฑาภิมุขี หุตฺวา ตนฺนินฺนตาย ปวตฺตตีติ อตฺโถ. สา ‘‘อโห วต อิทํ มมสฺสา’’ติ เอวํ ปรภณฺฑาภิชฺฌายนลกฺขณา, อทินฺนาทานํ วิย อปฺปสาวชฺชา มหาสาวชฺชา จ. ตสฺส ทฺเว สมฺภารา – ปรภณฺฑํ, อตฺตโน ปริณามนฺจาติ. ปรภณฺฑวตฺถุเก หิ โลเภ อุปฺปนฺเนปิ น ตาว กมฺมปถเภโท โหติ, ยาว ‘‘อโห วต อิทํ มมสฺสา’’ติ อตฺตโน น ปริณาเมติ.
หิตสุขํ พฺยาปาทยตีติ พฺยาปาโท. โส ปรวินาสาย มโนปโทสลกฺขโณ, ผรุสา วาจา วิย อปฺปสาวชฺโช มหาสาวชฺโช จ. ตสฺส ทฺเว สมฺภารา – ปรสตฺโต จ, ตสฺส จ วินาสจินฺตาติ. ปรสตฺตวตฺถุเก หิ โกเธ อุปฺปนฺเนปิ น ตาว ¶ กมฺมปถเภโท โหติ, ยาว ‘‘อโห วตายํ อุจฺฉิชฺเชยฺย วินสฺเสยฺยา’’ติ ตสฺส วินาสํ น จินฺเตติ.
ยถาภุจฺจคหณาภาเวน ¶ มิจฺฉา ปสฺสตีติ มิจฺฉาทิฏฺิ. สา ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินา นเยน วิปรีตทสฺสนลกฺขณา, สมฺผปฺปลาโป วิย อปฺปสาวชฺชา, มหาสาวชฺชา จ. อปิจ อนิยตา อปฺปสาวชฺชา, นิยตา มหาสาวชฺชา. ตสฺสา ทฺเว สมฺภารา – วตฺถุโน จ คหิตาการวิปรีตตา, ยถา จ ตํ คณฺหาติ, ตถาภาเวน ตสฺสูปฏฺานนฺติ. ตตฺถ นตฺถิกาเหตุกอกิริยทิฏฺีหิ เอว กมฺมปถเภโท โหติ, น อฺทิฏฺีหิ.
อิเมสํ ปน ทสนฺนํ อกุสลกมฺมปถานํ ธมฺมโต, โกฏฺาสโต, อารมฺมณโต, เวทนาโต, มูลโตติ ปฺจหากาเรหิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ธมฺมโตติ เอเตสุ หิ สตฺต ปฏิปาฏิยา เจตนาธมฺมาว โหนฺติ, อภิชฺฌาทโย ตโย เจตนาสมฺปยุตฺตา.
โกฏฺาสโตติ ปฏิปาฏิยา สตฺต, มิจฺฉาทิฏฺิ จาติ อิเม อฏฺ กมฺมปถา เอว โหนฺติ, โน ¶ มูลานิ. อภิชฺฌาพฺยาปาทา กมฺมปถา เจว มูลานิ จ. อภิชฺฌา หิ มูลํ ปตฺวา โลโภ อกุสลมูลํ โหติ, พฺยาปาโท โทโส อกุสลมูลํ.
อารมฺมณโตติ ปาณาติปาโต ชีวิตินฺทฺริยารมฺมณโต สงฺขารารมฺมโณ. อทินฺนาทานํ สตฺตารมฺมณํ วา สงฺขารารมฺมณํ วา. มิจฺฉาจาโร โผฏฺพฺพวเสน สงฺขารารมฺมโณ, สตฺตารมฺมโณติปิ เอเก. มุสาวาโท สตฺตารมฺมโณ วา สงฺขารารมฺมโณ วา. ตถา ปิสุณา วาจา. ผรุสา วาจา สตฺตารมฺมณาว สมฺผปฺปลาโป ทิฏฺสุตมุตวิฺาตวเสน สตฺตารมฺมโณ วา สงฺขารารมฺมโณ วา. ตถา อภิชฺฌา. พฺยาปาโท สตฺตารมฺมโณว. มิจฺฉาทิฏฺิ เตภูมกธมฺมวเสน สงฺขารารมฺมณาว.
เวทนาโตติ ปาณาติปาโต ทุกฺขเวทโน โหติ. กิฺจาปิ หิ ราชาโน โจรํ ทิสฺวา หสมานาปิ ‘‘คจฺฉถ ภเณ, มาเรถ น’’นฺติ วทนฺติ, สนฺนิฏฺาปกเจตนา ปน เนสํ ทุกฺขสมฺปยุตฺตาว โหติ. อทินฺนาทานํ ติเวทนํ. ตฺหิ ปรภณฺฑํ ทิสฺวา หฏฺตุฏฺสฺส คณฺหโต สุขเวทนํ โหติ, ภีตตสิตสฺส คณฺหโต ทุกฺขเวทนํ, ตถา วิปากนิสฺสนฺทผลานิ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส. คหณกาเล มชฺฌตฺตภาเว ิตสฺส ¶ ปน คณฺหโต อทุกฺขมสุขเวทนํ โหติ. มิจฺฉาจาโร สุขมชฺฌตฺตวเสน ทฺวิเวทโน, สนฺนิฏฺาปกจิตฺเต ¶ ปน มชฺฌตฺตเวทโน น โหติ. มุสาวาโท อทินฺนาทาเน วุตฺตนเยเนว ติเวทโน, ตถา ปิสุณา วาจา. ผรุสา วาจา ทุกฺขเวทนา. สมฺผปฺปลาโป ติเวทโน. ปเรสุ หิ สาธุการํ เทนฺเตสุ เจลาทีนิ อุกฺขิปนฺเตสุ หฏฺตุฏฺสฺส สีตาหรณภารตยุทฺธาทีนิ กถนกาเล โส สุขเวทโน โหติ, ปมํ ทินฺนเวตเนน เอเกน ปจฺฉา อาคนฺตฺวา ‘‘อาทิโต ปฏฺาย กเถหี’’ติ วุตฺเต ‘‘นิรวเสสํ ยถานุสนฺธิกํ ปกิณฺณกกถํ กเถสฺสามิ นุ โข, โน’’ติ โทมนสฺสิตสฺส กถนกาเล ทุกฺขเวทโน โหติ, มชฺฌตฺตสฺส กถยโต อทุกฺขมสุขเวทโน โหติ. อภิชฺฌา สุขมชฺฌตฺตวเสน ทฺวิเวทนา, ตถา มิจฺฉาทิฏฺิ. พฺยาปาโท ทุกฺขเวทโน.
มูลโตติ ปาณาติปาโต โทสโมหวเสน ทฺวิมูลโก โหติ, อทินฺนาทานํ โทสโมหวเสน วา โลภโมหวเสน วา, มิจฺฉาจาโร โลภโมหวเสน, มุสาวาโท โทสโมหวเสน วา โลภโมหวเสน วา. ตถา ปิสุณา วาจา สมฺผปฺปลาโป จ. ผรุสา วาจา โทสโมหวเสน, อภิชฺฌา โมหวเสน เอกมูลา, ตถา พฺยาปาโท. มิจฺฉาทิฏฺิ โลภโมหวเสน ทฺวิมูลาติ.
อกุสลกมฺมปถกถา นิฏฺิตา.
ปาณาติปาตาทีหิ ¶ ปน วิรติโย, อนภิชฺฌาอพฺยาปาทสมฺมาทิฏฺิโย จาติ อิเม ทส กุสลกมฺมปถา นาม. ปาณาติปาตาทีหิ เอตาย วิรมนฺติ, สยํ วา วิรมติ, วิรมณมตฺตเมว วา เอตนฺติ วิรติ. ยา ปาณาติปาตาทีหิ วิรมนฺตสฺส กุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตา วิรติ, สา ปเภทโต ติวิธา โหติ สมฺปตฺตวิรติ สมาทานวิรติ สมุจฺเฉทวิรตีติ. ตตฺถ อสมาทินฺนสิกฺขาปทานํ อตฺตโน ชาติวยพาหุสจฺจาทีนิ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ‘‘อยุตฺตํ อมฺหากํ เอวรูปํ ปาปํ กาตุ’’นฺติ สมฺปตฺตวตฺถุํ อวีติกฺกมนฺตานํ อุปฺปชฺชมานา วิรติ สมฺปตฺตวิรติ นาม. สมาทินฺนสิกฺขาปทานํ ปน สิกฺขาปทสมาทาเน จ ตตุตฺตริ จ อตฺตโน ชีวิตมฺปิ ¶ ปริจฺจชิตฺวา วตฺถุํ อวีติกฺกมนฺตานํ อุปฺปชฺชมานา วิรติ สมาทานวิรติ นาม. อริยมคฺคสมฺปยุตฺตา ปน วิรติ สมุจฺเฉทวิรติ นาม, ยสฺสา อุปฺปตฺติโต ปภุติ อริยปุคฺคลานํ ‘‘ปาณํ ฆาเตสฺสามา’’ติอาทิจิตฺตมฺปิ น อุปฺปชฺชตีติ.
อิทานิ ¶ อกุสลกมฺมปถานํ วิย อิเมสํ กุสลกมฺมปถานํ ธมฺมโต, โกฏฺาสโต, อารมฺมณโต, เวทนาโต, มูลโตติ ปฺจหากาเรหิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ธมฺมโตติ เอเตสุปิ ปฏิปาฏิยา สตฺต เจตนาปิ วฏฺฏนฺติ วิรติโยปิ, อนฺเต ตโย เจตนาสมฺปยุตฺตาว.
โกฏฺาสโตติ ปฏิปาฏิยา สตฺต กมฺมปถา เอว, โน มูลานิ, อนฺเต ตโย กมฺมปถา เจว มูลานิ จ. อนภิชฺฌา หิ มูลํ ปตฺวา อโลโภ กุสลมูลํ โหติ, อพฺยาปาโท อโทโส กุสลมูลํ, สมฺมาทิฏฺิ อโมโห กุสลมูลํ.
อารมฺมณโตติ ปาณาติปาตาทีนํ อารมฺมณาเนว เอเตสํ อารมฺมณานิ. วีติกฺกมิตพฺพโตเยว หิ เวรมณี นาม โหติ. ยถา ปน นิพฺพานารมฺมโณ อริยมคฺโค กิเลเส ปชหติ, เอวํ ชีวิตินฺทฺริยาทิอารมฺมณาเปเต กมฺมปถา ปาณาติปาตาทีนิ ทุสฺสีลฺยานิ ปชหนฺตีติ.
เวทนาโตติ สพฺเพ สุขเวทนา วา โหนฺติ มชฺฌตฺตเวทนา วา. กุสลํ ปตฺวา หิ ทุกฺขา เวทนา นาม นตฺถิ.
มูลโตติ ปฏิปาฏิยา สตฺต าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน วิรมนฺตสฺส อโลภอโทสอโมหวเสน ติมูลา ¶ โหนฺติ. าณวิปฺปยุตฺตจิตฺเตน วิรมนฺตสฺส อโลภาโทสวเสน ทฺวิมูลา. อนภิชฺฌา าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน วิรมนฺตสฺส อโทสอโมหวเสน ทฺวิมูลา. าณวิปฺปยุตฺตจิตฺเตน วิรมนฺตสฺส อโทสวเสน เอกมูลา. อโลโภ ปน อตฺตนาว อตฺตโน มูลํ น โหติ. อพฺยาปาเทปิ เอเสว นโย. สมฺมาทิฏฺิ อโลภาโทสวเสน ทฺวิมูลาวาติ.
กุสลกมฺมปถกถา นิฏฺิตา.
เอวํ ทสกุสลกมฺมปถวเสน สีลํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เนกฺขมฺมาทีนํ อรหตฺตมคฺคปริโยสานานํ สตฺตตึสธมฺมานํ วเสน ทสฺเสตุํ เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺทํ สํวรฏฺเน สีลํ, อวีติกฺกมฏฺเน สีลนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺทํ สํวรติ น วีติกฺกมติ, ตสฺมา เนกฺขมฺมํ สีลนฺติ อธิปฺปาโย. ปจฺจตฺตตฺเถ วา กรณวจนํ, เนกฺขมฺมนฺติ อตฺโถ. เอส ¶ นโย ¶ เสเสสุ. ปาฬิยํ ปน เนกฺขมฺมอพฺยาปาเท ทสฺเสตฺวา เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา เสสํ สงฺขิปิตฺวา อนฺเต อรหตฺตมคฺโคเยว ทสฺสิโต.
เอวํ สํวรอวีติกฺกมวเสน สีลํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตสํเยว ทฺวินฺนํ ปเภททสฺสนตฺถํ ปฺจ สีลานิ ปาณาติปาตสฺส ปหานํ สีลนฺติอาทิมาห. เอตฺถ จ ปาณาติปาตสฺส ปหานํ สีลํ, ปาณาติปาตา เวรมณี สีลํ, ปาณาติปาตสฺส ปฏิปกฺขเจตนา สีลํ, ปาณาติปาตสฺส สํวโร สีลํ, ปาณาติปาตสฺส อวีติกฺกโม สีลนฺติ โยชนา กาตพฺพา. ปหานนฺติ จ โกจิ ธมฺโม นาม นตฺถิ อฺตฺร วุตฺตปฺปการานํ ปาณาติปาตาทีนํ อนุปฺปาทมตฺตโต. ยสฺมา ปน ตํ ตํ ปหานํ ตสฺส ตสฺส กุสลสฺส ธมฺมสฺส ปติฏฺานฏฺเน อุปธารณํ โหติ, วิปฺปกิณฺณสภาวากรเณน จ สโมธานํ, ตสฺมา ปุพฺเพ วุตฺเตเนว อุปธารณสโมธานสงฺขาเตน สีลนฏฺเน สีลนฺติ วุตฺตํ. อิตเร จตฺตาโร ธมฺมา ตโต ตโต เวรมณิวเสน ตสฺส ตสฺส สํวรวเสน ตทุภยสมฺปยุตฺตเจตนาวเสน ตํ ตํ อวีติกฺกมนฺตสฺส อวีติกฺกมวเสน จ เจตโส ปวตฺติสภาวํ สนฺธาย วุตฺตา.
อถ วา ปหานมฺปิ ธมฺมโต อตฺถิเยว. กถํ? ปหียเต อเนน ปาณาติปาตาทิปฏิปกฺโข, ปชหติ วา ตํ ปฏิปกฺขนฺติ ปหานํ. กึ ตํ? สพฺเพปิ กุสลา ขนฺธา. อฺเ ปน อาจริยา ‘‘เนกฺขมฺมาทีสุปิ ‘เวรมณี สีล’นฺติ วจนมตฺตํ คเหตฺวา สพฺพกุสเลสุปิ นิยตเยวาปนกภูตา วิรติ นาม อตฺถี’’ติ วทนฺติ, น ตถา อิธาติ. เอวมิเมหิ ปหานาทีหิ ปฺจหิ ปเทหิ วิเสเสตฺวา ปริยนฺตาปริยนฺตสีลทฺวเย อปริยนฺตสีลเมว ¶ วุตฺตํ. ตสฺมา เอว หิ เอวรูปานิ สีลานิ จิตฺตสฺส อวิปฺปฏิสาราย สํวตฺตนฺติ…เป… สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกโรนฺโต สิกฺขตีติ วุตฺตํ.
ตตฺถ อวิปฺปฏิสาราย สํวตฺตนฺตีติ ‘‘สํวโร อวิปฺปฏิสารตฺถายา’’ติ (ปริ. ๓๖๖) จ ‘‘อวิปฺปฏิสารตฺถานิ โข, อานนฺท, กุสลานิ สีลานิ อวิปฺปฏิสารานิสํสานี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑; ๑๑.๑) จ วจนโต อวิปฺปฏิสารตฺถาย สํวตฺตนฺติ. ‘‘อวิปฺปฏิสาโร ปาโมชฺชตฺถายา’’ติ (ปริ. ๓๖๖) จ ‘‘โยนิโส มนสิกโรโต ปาโมชฺชํ ชายตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๗๔) จ วจนโต ปาโมชฺชาย สํวตฺตนฺติ. ‘‘ปาโมชฺชํ ปีตตฺถายา’’ติ ¶ (ปริ. ๓๖๖) จ ‘‘ปมุทิตสฺส ปีติ ชายตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๒๖; สํ. นิ. ๕.๓๗๖; ที. นิ. ๓.๓๒๒) จ วจนโต ปีติยา ¶ สํวตฺตนฺติ. ‘‘ปีติ ปสฺสทฺธตฺถายา’’ติ (ปริ. ๓๖๖) จ ‘‘ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๒๖; สํ. นิ. ๕.๓๗๖; ที. นิ. ๓.๓๒๒) จ วจนโต ปสฺสทฺธิยา สํวตฺตนฺติ. ‘‘ปสฺสทฺธิ สุขตฺถายา’’ติ (ปริ. ๓๖๖) จ ‘‘ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๒๖; สํ. นิ. ๕.๓๗๖; ที. นิ. ๓.๓๒๒) จ วจนโต โสมนสฺสาย สํวตฺตนฺติ. เจตสิกํ สุขฺหิ โสมนสฺสนฺติ วุจฺจติ. อาเสวนายาติ ภุสา เสวนา อาเสวนา. กสฺส อาเสวนา? อนนฺตรํ โสมนสฺสวจเนน สุขสฺส วุตฺตตฺตา สุขํ สิทฺธํ. ‘‘สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๒๖; สํ. นิ. ๕.๓๗๖; ที. นิ. ๓.๓๒๒) จ วจนโต เตน สุเขน สมาธิ สิทฺโธ โหติ. เอวํ สิทฺธสฺส สมาธิสฺส อาเสวนา. ตสฺส สมาธิสฺส อาเสวนาย สํวตฺตนฺติ, ปคุณพลวภาวาย สํวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. ภาวนายาติ ตสฺเสว สมาธิสฺส วุทฺธิยา. พหุลีกมฺมายาติ ตสฺเสว สมาธิสฺส ปุนปฺปุนํ กิริยาย. อวิปฺปฏิสาราทิปวตฺติยา มูลการณํ หุตฺวา สมาธิสฺส สทฺธินฺทฺริยาทิอลงฺการสาธเนน อลงฺการาย สํวตฺตนฺติ. อวิปฺปฏิสาราทิกสฺส สมาธิสมฺภารสฺส สาธเนน ปริกฺขาราย สํวตฺตนฺติ. ‘‘เย จ โข อิเม ปพฺพชิเตน ชีวิตปริกฺขารา สมุทาเนตพฺพา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๙๒) วิย หิ เอตฺถ สมฺภารตฺโถ ปริกฺขารสทฺโท. ‘‘รโถ สีลปริกฺขาโร, ฌานกฺโข จกฺกวีริโย’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๕๔) ปน อลงฺการตฺโถ. ‘‘สตฺตหิ นครปริกฺขาเรหิ สุปริกฺขตํ โหตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๗.๖๗) ปริวารตฺโถ. อิธ ปน อลงฺการปริวารานํ วิสุํ อาคตตฺตา สมฺภารตฺโถติ วุตฺตํ. สมฺภารตฺโถ จ ปจฺจยตฺโถติ. มูลการณภาเวเนว สมาธิสมฺปยุตฺตผสฺสาทิธมฺมสมฺปตฺติสาธเนน ปริวาราย สํวตฺตนฺติ. สมาธิสฺส วิปสฺสนาย จ ปทฏฺานภาวปาปเนน วสีภาวปาปเนน จ ปริปุณฺณภาวสาธนโต ปาริปูริยา สํวตฺตนฺติ.
เอวํ ¶ สีลูปนิสฺสเยน สพฺพาการปริปูรํ สมาธึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘สมาหิเต จิตฺเต ยถาภูตํ ชานาติ ปสฺสติ, ยถาภูตํ ชานํ ปสฺสํ นิพฺพินฺทติ, นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ, วิราคา วิมุจฺจตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๗๓; ที. นิ. ๓.๓๕๙) วจนโต สีลมูลกานิ สมาธิปทฏฺานานิ ยถาภูตาณทสฺสนาทีนิ ทสฺเสนฺโต เอกนฺตนิพฺพิทายาติอาทิมาห. นิพฺพิทาย หิ ทสฺสิตาย ตสฺสา ปทฏฺานภูตํ ¶ ยถาภูตาณทสฺสนํ ¶ ทสฺสิตเมว โหติ. ตสฺมิฺหิ อสิทฺเธ นิพฺพิทา น สิชฺฌตีติ. ตานิ ปน วุตฺตตฺถาเนว. ยถาภูตาณทสฺสนํ ปเนตฺถ สปฺปจฺจยนามรูปปริคฺคโห.
เอวํ อมตมหานิพฺพานปริโยสานํ สีลปฺปโยชนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตสฺส สีลสฺส อธิสีลสิกฺขาภาวํ ตมฺมูลกา จ อธิจิตฺตอธิปฺาสิกฺขา ทสฺเสตุกาโม เอวรูปานํ สีลานํ สํวรปาริสุทฺธิ อธิสีลนฺติอาทิมาห. ตตฺถ สํวโรเยว ปาริสุทฺธิ สํวรปาริสุทฺธิ. เอวรูปานํ อปริยนฺตภูตานํ วิวฏฺฏนิสฺสิตานํ สีลานํ สํวรปาริสุทฺธิ วิวฏฺฏนิสฺสิตตฺตา เสสสีลโต อธิกํ สีลนฺติ อธิสีลนฺติ วุจฺจติ. สํวรปาริสุทฺธิยา ิตํ จิตฺตนฺติ เอทิสาย สีลสํวรปาริสุทฺธิยา ปติฏฺิตํ จิตฺตํ สุฏฺุ อวิปฺปฏิสาราทีนํ อาวหนโต น วิกฺเขปํ คจฺฉติ, สมาธิสฺมึ ปติฏฺาตีติ อตฺโถ. อวิกฺเขโปเยว ปาริสุทฺธิ อวิกฺเขปปาริสุทฺธิ. โส สพฺพมลวิรหิโต นิพฺเพธภาคิโย สมาธิ เสสสมาธิโต อธิกตฺตา อธิจิตฺตนฺติ วุจฺจติ. จิตฺตสีเสน เหตฺถ สมาธิ นิทฺทิฏฺโ. สํวรปาริสุทฺธึ สมฺมา ปสฺสตีติ ปริสุทฺธํ สีลสํวรํ าตปริฺาวเสน ตีรณปริฺาวเสน จ สมฺมา ปสฺสติ, เอวเมว อวิกฺเขปปาริสุทฺธิสงฺขาตํ ปริสุทฺธํ สมาธึ สมฺมา ปสฺสติ. เอวํ ปสฺสโต จสฺส ทสฺสนสงฺขาตา ปาริสุทฺธิ ทสฺสนปาริสุทฺธิ. สาเยว เสสปฺาย อธิกตฺตา อธิปฺาติ วุจฺจติ. โย ตตฺถาติ โย ตตฺถ สํวรอวิกฺเขปทสฺสเนสุ. สํวรฏฺโติ สํวรภาโว. เอวเมว อวิกฺเขปฏฺทสฺสนฏฺา จ เวทิตพฺพา. อธิสีลเมว สิกฺขา อธิสีลสิกฺขา. เอวํ อิตราปิ เวทิตพฺพา.
เอวํ ติสฺโส สิกฺขาโย ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตาสํ ปาริปูริกฺกมํ ทสฺเสตุํ อิมา ติสฺโส สิกฺขาโย อาวชฺชนฺโต สิกฺขตีติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – ปจฺเจกํ ปริปูเรตุํ อาวชฺชนฺโตปิ สิกฺขติ นาม, อาวชฺเชตฺวา ‘‘อยํ นาม สิกฺขา’’ติ ชานนฺโตปิ สิกฺขติ นาม, ชานิตฺวา ปุนปฺปุนํ ปสฺสนฺโตปิ สิกฺขติ นาม, ปสฺสิตฺวา ยถาทิฏฺํ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ สิกฺขติ นาม, ปจฺจเวกฺขิตฺวา ตตฺเถว จิตฺตํ อจลํ กตฺวา ปติฏฺเปนฺโตปิ สิกฺขติ นาม, ตํตํสิกฺขาสมฺปยุตฺตสทฺธาวีริยสติสมาธิปฺาหิ สกสกกิจฺจํ กโรนฺโตปิ สิกฺขติ นาม, อภิฺเยฺยาภิชานนาทิกาเลปิ ตํ ตํ กิจฺจํ กโรนฺโต ติสฺโสปิ สิกฺขาโย สิกฺขติ นามาติ ¶ . ปุน ¶ ปฺจ สีลานีติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. อรหตฺตมคฺเคน สพฺพกิเลสานนฺติอาทีสุ ปน ¶ อรหนฺตานํ สุฏฺุ วิปฺปฏิสาราทิอภาวโต อาเสวนาทิภาวโต จ ตานิ ปทานิ ยุชฺชนฺเตว. เอกนฺตนิพฺพิทายาติอาทีนิ ปน สติปฏฺานสมฺมปฺปธานานิ วิย มคฺคกฺขเณเยว โยเชตพฺพานิ.
สํวรปาริสุทฺธึ สมฺมา ปสฺสติ, อวิกฺเขปปาริสุทฺธึ สมฺมา ปสฺสตีติ อิทํ ปน วจนทฺวยํ ผลสมาปตฺตตฺถาย วิปสฺสนาวเสน โยเชตพฺพํ, ทุติยวจนํ ปน นิโรธสมาปตฺตตฺถาย วิปสฺสนาวเสนาปิ ยุชฺชติ. อาวชฺชนฺโต สิกฺขตีติอาทีสุ ปฺจสุ วจเนสุ อรหโต สิกฺขิตพฺพาภาเวปิ อเสกฺขสีลกฺขนฺธาทิสภาวโต ‘‘สิกฺขตี’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สทฺธาย อธิมุจฺจนฺโต สิกฺขตีติอาทีนิ ปน มคฺคกฺขณฺเว สนฺธาย วุตฺตานิ. อฺานิปิ อุปจารปฺปนาวิปสฺสนามคฺควเสน วุตฺตานิ วจนานิ ยถาโยคํ โยเชตพฺพานีติ.
สีลมยาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สมาธิภาวนามยาณนิทฺเทสวณฺณนา
๔๓. สมาธิภาวนามยาณนิทฺเทเส ¶ อาทิโต ตาว เอกกโต ปฏฺาย ยาว ทสกา สมาธิปฺปเภทํ ทสฺเสนฺโต เอโก สมาธีติอาทิมาห. ตตฺถ จิตฺตสฺส เอกคฺคตาติ นานารมฺมณวิกฺเขปาภาวโต เอกํ อารมฺมณํ อคฺคํ อุตฺตมํ อสฺสาติ เอกคฺโค, เอกคฺคสฺส ภาโว เอกคฺคตา. สา ปน เอกคฺคตา จิตฺตสฺส, น สตฺตสฺสาติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘จิตฺตสฺสา’’ติ วุตฺตํ. ทุเก โลกิโยติ โลโก วุจฺจติ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน วฏฺฏํ, ตสฺมึ ปริยาปนฺนภาเวน โลเก นิยุตฺโตติ โลกิโย. โลกุตฺตโรติ อุตฺติณฺโณติ อุตฺตโร, โลเก อปริยาปนฺนภาเวน โลกโต อุตฺตโรติ โลกุตฺตโร. ติเก สวิตกฺโก จ โส สวิจาโร จาติ สวิตกฺกสวิจาโร. เอวํ อวิตกฺกอวิจาโร. วิตกฺกวิจาเรสุ วิจาโรว มตฺตา ปมาณํ เอตสฺสาติ วิจารมตฺโต, วิจารโต อุตฺถริ วิตกฺเกน สทฺธึ สมฺปโยคํ น คจฺฉตีติ อตฺโถ. อวิตกฺโก จ โส วิจารมตฺโต จาติ อวิตกฺกวิจารมตฺโต. ตีสุปิ วิจฺเฉทํ กตฺวาปิ ปนฺติ. จตุกฺกปฺจกา วุตฺตตฺถา ¶ . ฉกฺเก ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต สติเยว อนุสฺสติ, ปวตฺติตพฺพฏฺานมฺหิเยว วา ปวตฺตตฺตา สทฺธาปพฺพชิตสฺส กุลปุตฺตสฺส อนุรูปา สตีติปิ อนุสฺสติ, พุทฺธํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ พอุทฺธานุสฺสติ. อรหตาทิพุทฺธคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. ตสฺสา พุทฺธานุสฺสติยา ¶ วเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตาเยว อุทฺธจฺจสงฺขาตสฺส วิกฺเขปสฺส ปฏิปกฺขภาวโต น วิกฺเขโปติ อวิกฺเขโป. ธมฺมํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ ธมฺมานุสฺสติ. สฺวากฺขาตตาทิธมฺมคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. สงฺฆํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ สงฺฆานุสฺสติ. สุปฺปฏิปนฺนตาทิสงฺฆคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ ¶ . สีลํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ สีลานุสฺสติ. อตฺตโน อขณฺฑตาทิสีลคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. จาคํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ จาคานุสฺสติ. อตฺตโน มุตฺตจาคตาทิจาคคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. เทวตา อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ เทวตานุสฺสติ. เทวตา สกฺขิฏฺาเน เปตฺวา อตฺตโน สทฺธาทิคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ.
สตฺตเก สมาธิกุสลตาติ เอกวิธาทิเภเทน อเนกเภเท สมาธิมฺหิ ‘‘อยเมวํวิโธ สมาธิ, อยเมวํวิโธ สมาธี’’ติ เฉกภาโว. สมาธิปริจฺเฉทกปฺาเยตํ อธิวจนํ. สมาธิอุปฺปาทนวิธาเนปิ เฉกภาโว สมาธิกุสลตา.
สมาธิสฺส สมาปตฺติกุสลตาติ อุปฺปาทิตสฺส สมาธิสฺส สมาปชฺชเน เฉกภาโว. เอเตน สมาปชฺชนวสิตา วุตฺตา โหติ.
สมาธิสฺส ิติกุสลตาติ สมาปนฺนสฺส สมาธิสฺส สนฺตติวเสน ยถารุจิ ปเน เฉกภาโว. เอเตน อธิฏฺานวสิตา วุตฺตา โหติ. อถ วา นิมิตฺตคฺคหเณน จสฺส ปุน เต อากาเร สมฺปาทยโต อปฺปนามตฺตเมว อิชฺฌติ, น จิรฏฺานํ. จิรฏฺานํ ปน สมาธิปริปนฺถานํ ธมฺมานํ สุวิโสธิตตฺตา โหติ. โย หิ ภิกฺขุ กามาทีนวปจฺจเวกฺขณาทีหิ กามจฺฉนฺทํ น สุฏฺุ วิกฺขมฺเภตฺวา, กายปสฺสทฺธิวเสน กายทุฏฺุลฺลํ น สุปฺปฏิปฺปสฺสทฺธํ กตฺวา, อารมฺภธาตุมนสิการาทิวเสน ถินมิทฺธํ น สุฏฺุ ปฏิวิโนเทตฺวา, สมถนิมิตฺตมนสิการาทิวเสน อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ น สุฏฺุ สมูหตํ กตฺวา, อฺเปิ สมาธิปริปนฺเถ ธมฺเม น สุฏฺุ วิโสเธตฺวา ฌานํ สมาปชฺชติ, โส อวิโสธิตํ อาสยํ ปวิฏฺภมโร วิย, อสุทฺธํ อุยฺยานํ ปวิฏฺราชา วิย จ ขิปฺปเมว นิกฺขมติ. โย ปน สมาธิปริปนฺเถ ¶ ธมฺเม สุฏฺุ วิโสเธตฺวา ฌานํ สมาปชฺชติ, โส สุวิโสธิตํ อาสยํ ปวิฏฺภมโร วิย, สุปริสุทฺธํ อุยฺยานํ ปวิฏฺราชา วิย จ สกลมฺปิ ทิวสภาคํ อนฺโตสมาปตฺติยํเยว โหติ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘กาเมสุ ฉนฺทํ ปฏิฆํ วิโนทเย, อุทฺธจฺจถีนํ วิจิกิจฺฉปฺจมํ;
วิเวกปาโมชฺชกเรน เจตสา, ราชาว สุทฺธนฺตคโต ตหึ รเม’’ติ ¶ .
ตสฺมา ¶ ‘‘จิรฏฺิติกาเมน ปาริปนฺถิกธมฺเม โสเธตฺวา ฌานํ สมาปชฺชิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ตํ วิธึ สมฺปาเทตฺวา สมาธิสฺส จิรฏฺิติกรเณ เฉกภาโวติ วุตฺตํ โหติ.
สมาธิสฺส วุฏฺานกุสลตาติ สนฺตติวเสน ยถารุจิ ปวตฺตสฺส สมาธิสฺส ยถาปริจฺฉินฺนกาเลเยว วุฏฺาเนน สมาธิสฺส วุฏฺาเน เฉกภาโว. ‘‘ยสฺส หิ ธมฺมํ ปุริโส วิชฺา’’ติอาทีสุ (ชา. ๑.๑๐.๑๕๒) วิย นิสฺสกฺกตฺเถ วา สามิวจนํ กตนฺติ เวทิตพฺพนฺติ. เอเตน วุฏฺานวสิตา วุตฺตา โหติ.
สมาธิสฺส กลฺลตากุสลตาติ อคิลานภาโว อโรคภาโว กลฺลตา. คิลาโน หิ อกลฺลโกติ วุจฺจติ. วินเยปิ วุตฺตํ ‘‘นาหํ, ภนฺเต, อกลฺลโก’’ติ (ปารา. ๑๕๑). อนงฺคณสุตฺตวตฺถสุตฺเตสุ (ม. นิ. ๑.๕๗ อาทโย, ๗๐ อาทโย) วุตฺตานํ ฌานปฏิลาภปจฺจนีกานํ ปาปกานํ อิจฺฉาวจรานํ อภาเวน จ อภิชฺฌาทีนํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสานํ วิคเมน จ สมาธิสฺส อคิลานภาวกรเณ เฉกภาโว สมาธิสฺส กลฺลตากุสลตา, กิเลสเคลฺรหิตภาเว กุสลตาติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา กลฺลตาติ กมฺมฺตา กมฺมฺตาปริยายตฺตา กลฺลวจนสฺส. ‘‘ยา จิตฺตสฺส อกลฺลตา อกมฺมฺตา’’ติ (ธ. ส. ๑๑๖๒) หิ วุตฺตํ ‘‘กลฺลจิตฺตํ มุทุจิตฺตํ วินีวรณจิตฺต’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๒๙๘; ม. นิ. ๒.๓๙๕; มหาว. ๒๖) จ. เอตฺถ กลฺลสทฺโท กมฺมฺตฺโถ. ตสฺมา กสิณานุโลมโต กสิณปฏิโลมโต กสิณานุโลมปฏิโลมโต ฌานานุโลมโต ฌานปฏิโลมโต ¶ ฌานานุโลมปฏิโลมโต ฌานุกฺกนฺติกโต กสิณุกฺกนฺติกโต ฌานกสิณุกฺกนฺติกโต องฺคสงฺกนฺติโต อารมฺมณสงฺกนฺติโต องฺคารมฺมณสงฺกนฺติโต องฺคววตฺถานโต อารมฺมณววตฺถานโตติ อิเมหิ จุทฺทสหิ อากาเรหิ, องฺคารมฺมณววตฺถานโตติ อิมินา สห ปฺจทสหิ วา อากาเรหิ จิตฺตปริทมเนน สมาธิสฺส กมฺมฺภาวกรเณ กุสลภาโวติ วุตฺตํ โหติ.
สมาธิสฺส โคจรกุสลตาติ สมาธิสฺส โคจเรสุ กสิณาทีสุ อารมฺมเณสุ ตํ ตํ ฌานํ สมาปชฺชิตุกามตาย ยถารุจิ อาวชฺชนกรณวเสน เตสุ อารมฺมเณสุ เฉกภาโว. เอเตน กสิณาวชฺชนวเสน อาวชฺชนวสิตา วุตฺตา โหติ. อถ วา ตสฺมึ ตสฺมึ ทิสาภาเค กสิณผรณวเสน เอวํ ¶ ผุฏฺสฺส กสิณสฺส จิรฏฺานวเสน จ สมาธิสฺส โคจเรสุ เฉกภาโว.
สมาธิสฺส อภินีหารกุสลตาติ เอกตฺตนเยน เหฏฺาเหฏฺาสมาธึ อุปรูปริสมาธิภาวูปนยเนน ¶ อภินีหรเณ อภินินฺนามเน เฉกภาโว. อุปจารชฺฌานฺหิ วสิปฺปตฺตํ ปมชฺฌานตฺถาย วิปสฺสนตฺถาย วา อภินีหรติ, เอวํ ปมชฺฌานาทีนิ ทุติยชฺฌานาทิอตฺถาย วิปสฺสนตฺถาย วา, จตุตฺถชฺฌานํ อรูปสมาปตฺตตฺถาย อภิฺตฺถาย วิปสฺสนตฺถาย วา, อากาสานฺจายตนาทโย วิฺาณฺจายตนาทิอตฺถาย วิปสฺสนตฺถาย วา อภินีหรตีติ เอวํ สมาธิสฺส ตตฺถ ตตฺถ อภินีหารกุสลตา. ยสฺมา ปน กุสลตา นาม ปฺา, สา สมาธิ น โหติ, ตสฺมา สมาธิปริณายกปฺาวเสน สตฺตวิโธ สมาธิ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
เกจิ ปน อาจริยา ‘‘สมาธิกุสลตาติ เยน มนสิกาเรน จิตฺตํ น วิกฺขิปติ, ตตฺถ กุสลตา. สมาปตฺติกุสลตาติ เยน มนสิกาเรน สมาปชฺชนฺตสฺส ฌานงฺคานิ ปาตุภวนฺติ, ตตฺถ กุสลตา. ิติกุสลตาติ เยน มนสิกาเรน อปฺปิโต สมาธิ น วิกฺขิปติ, ตตฺถ กุสลตา. วุฏฺานกุสลตาติ นีวรณวุฏฺานํ ชานาติ ปมชฺฌาเน, องฺควุฏฺานํ ชานาติ ตีสุ ฌาเนสุ, อารมฺมณวุฏฺานํ ชานาติ อรูปสมาปตฺตีสุ, วิกฺเขปวุฏฺานํ ชานาติ วิสยาธิมตฺเตสุ, สจฺฉนฺทวุฏฺานํ ชานาติ ปริยนฺตกาเล จ อวสานกรณียกาเล จ. กลฺลตากุสลตาติ จิตฺตผาสุตาย ¶ สรีรผาสุตาย อาหารผาสุตาย เสนาสนผาสุตาย ปุคฺคลผาสุตาย จ สมาธิสฺส กลฺลตา โหตีติ ชานาติ. โคจรกุสลตาติ อารมฺมณสฺส ปริจฺเฉทํ กาตุํ ชานาติ, ทิสาผรณํ กาตุํ ชานาติ, วฑฺเฒตุํ ชานาติ. อภินีหารกุสลตาติ ตตฺถ ตตฺถ สมฺมา มนสิกาเรน จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ, อุปจาเร วสิปฺปตฺเต ปมชฺฌาเน อภินีหรติ, เอวํ อุปรูปริฌาเนสุ อภิฺาสุ อรูปสมาปตฺตีสุ วิปสฺสนาสุ จ อภินีหรติ. เอวํ ตตฺถ ตตฺถ อภินีหารกุสลตา’’ติ เอวเมเตสํ ปทานํ อตฺถํ วณฺณยนฺติ.
อฏฺกํ วุตฺตตฺถเมว. นวเก รูปาวจโรติ ‘‘กตเม ธมฺมา รูปาวจรา? เหฏฺโต ¶ พฺรหฺมปาริสชฺชํ ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต อกนิฏฺเ เทเว อนฺโตกริตฺวา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๒๘๙) นเยน วุตฺเตสุ รูปาวจรธมฺเมสุ ปริยาปนฺโน. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – รูปกฺขนฺธสงฺขาตํ รูปํ เอตฺถ อวจรติ, น กาโมติ รูปาวจโร. รูปกฺขนฺโธปิ หิ รูปนฺติ วุจฺจติ ‘‘รูปกฺขนฺโธ รูป’’นฺติอาทีสุ (ยม. ๑.ขนฺธยมก.๒) วิย. โส ปน พฺรหฺมปาริสชฺชพฺรหฺมปุโรหิตมหาพฺรหฺมานํ ปริตฺตาภอปฺปมาณาภอาภสฺสรานํ ปริตฺตสุภอปฺปมาณสุภสุภกิณฺหานํ อสฺสตฺตเวหปฺผลานํ อวิหาตปฺปสุทสฺสสุทสฺสีอกนิฏฺานฺจ วเสน โสฬสวิโธ ปเทโส. โส รูปาวจรสงฺขาโต ปเทโส อุตฺตรปทโลปํ กตฺวา ‘‘รูป’’นฺติ วุจฺจติ, ตสฺมึ รูเป อวจรตีติ รูปาวจโร. รูปภโว วา รูปํ, ตสฺมึ อวจรตีติ รูปาวจรํ. กิฺจาปิ หิ เอโส สมาธิ กามภเวปิ อวจรติ, ยถา ปน สงฺคาเม อวจรณโต สงฺคามาวจโรติ ลทฺธนาโม นาโค นคเร จรนฺโตปิ ¶ สงฺคามาวจโรติ วุจฺจติ, ถลจรา ชลจรา จ ปาณิโน อถเล อชเล จ ิตาปิ ถลจรา ชลจราติ วุจฺจนฺติ, เอวมยํ อฺตฺถ อวจรนฺโตปิ รูปาวจโรติ วุตฺโต. อปิจ รูปภวสงฺขาเต รูเป ปฏิสนฺธึ อวจาเรตีติปิ รูปาวจโร. หีโนติ ลามโก. หีนุตฺตมานํ มชฺเฌ ภโว มชฺโฌ. มชฺฌิโมติปิ ปาโ, โสเยวตฺโถ. ปธานภาวํ นีโต ปณีโต, อุตฺตโมติ อตฺโถ. เอเต ปน อายูหนวเสน เวทิตพฺพา. ยสฺส หิ อายูหนกฺขเณ ฉนฺโท วา หีโน โหติ วีริยํ วา จิตฺตํ วา วีมํสา วา, โส หีโน นาม. ยสฺส เต ธมฺมา มชฺฌิมา, โส มชฺฌิโม. ยสฺส ¶ ปณีตา, โส ปณีโต. อุปฺปาทิตมตฺโต วา หีโน, นาติสุภาวิโต มชฺฌิโม, อติสุภาวิโต วสิปฺปตฺโต ปณีโต. อรูปาวจโร รูปาวจเร วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺโพ.
สฺุโต สมาธีติอาทีสุ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา ทุกฺขา อนตฺตา’’ติ วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา วิปสฺสนฺตสฺส อนตฺตานุปสฺสนาย มคฺควุฏฺาเน ชาเต ยสฺมา สา วิปสฺสนา อตฺตวิรหิเตสุ สงฺขาเรสุ สฺุโต ปวตฺตา, ตสฺมา สฺุตา นาม โหติ. ตาย สิทฺโธ อริยมคฺคสมาธิ สฺุโต สมาธิ นาม โหติ, สฺุตวเสน ปวตฺตสมาธีติ อตฺโถ. วิปสฺสนาย ปวตฺตากาเรน หิ โส ปวตฺตติ. อนิจฺจานุปสฺสนาย มคฺควุฏฺาเน ชาเต ยสฺมา สา วิปสฺสนา นิจฺจนิมิตฺตปฏิปกฺขวเสน ¶ ปวตฺตา, ตสฺมา อนิมิตฺตา นาม โหติ. ตาย สิทฺโธ อริยมคฺคสมาธิ อนิมิตฺโต สมาธิ นาม โหติ, นิจฺจนิมิตฺตวิรหิโต สมาธีติ อตฺโถ. วิปสฺสนาย ปวตฺตากาเรน หิ โส ปวตฺตติ. ทุกฺขานุปสฺสนาย มคฺควุฏฺาเน ชาเต ยสฺมา สา วิปสฺสนา ปณิธิปฏิปกฺขวเสน ปวตฺตา, ตสฺมา อปฺปณิหิตา นาม โหติ. ตาย สิทฺโธ อริยมคฺคสมาธิ อปฺปณิหิโต สมาธิ นาม โหติ, ปณิธิวิรหิโต สมาธีติ อตฺโถ. วิปสฺสนาย ปวตฺตากาเรน หิ โส ปวตฺตติ. ตาทิสา เอว ตโย ผลสมาธโยปิ เอเตหิเยว ตีหิ สมาธีหิ คหิตา โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. โลกุตฺตรสมาธีนํ ปน ปณีตตฺตา หีนาทิเภโท น อุทฺธโฏ.
ทสเก อุทฺธุมาตกสฺาวเสนาติอาทีสุ ภสฺตา วิย วายุนา อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา ยถานุกฺกมํ สมุคฺคเตน สูนภาเวน อุทฺธุมาตตฺตา อุทฺธุมาตํ, อุทฺธุมาตเมว อุทฺธุมาตกํ, ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ อุทฺธุมาตนฺติ อุทฺธุมาตกํ. ตถารูปสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. วินีลํ วุจฺจติ วิปริภินฺนวณฺณํ, วินีลเมว วินีลกํ, ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วินีลนฺติ วินีลกํ. มํสุสฺสทฏฺาเนสุ รตฺตวณฺณสฺส, ปุพฺพสนฺนิจยฏฺาเนสุ เสตวณฺณสฺส, เยภุยฺเยน จ นีลวณฺณสฺส นีลฏฺาเน นีลสาฏกปารุตสฺเสว ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. ปริภินฺนฏฺาเนสุ วิสฺสนฺทมานปุพฺพํ ¶ วิปุพฺพํ, วิปุพฺพเมว วิปุพฺพกํ, ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วิปุพฺพนฺติ วิปุพฺพกํ. ตถารูปสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. วิจฺฉิทฺทํ วุจฺจติ ทฺวิธา ฉินฺทเนน อปธาริตํ, วิจฺฉิทฺทเมว วิจฺฉิทฺทกํ, ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วิจฺฉิทฺทนฺติ ¶ วิจฺฉิทฺทกํ. เวมชฺเฌ ฉินฺนสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. อิโต จ เอตฺโต จ วิวิธากาเรน โสณสิงฺคาลาทีหิ ขายิตนฺติ วิกฺขายิตํ, วิขายิตนฺติ วตฺตพฺเพ วิกฺขายิตนฺติ วุตฺตํ. วิกฺขายิตเมว วิกฺขายิตกํ, ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วิกฺขายิตนฺติ วิกฺขายิตกํ. ตถารูปสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. วิวิธํ ขิตฺตํ วิกฺขิตฺตํ, วิกฺขิตฺตเมว วิกฺขิตฺตกํ, ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วิกฺขิตฺตนฺติ วิกฺขิตฺตกํ. อฺเน หตฺถํ อฺเน ปาทํ อฺเน สีสนฺติ เอวํ ตโต ตโต ขิตฺตสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. หตฺจ ตํ ปุริมนเยเนว ¶ วิกฺขิตฺตกฺจาติ หตวิกฺขิตฺตกํ. กากปทากาเรน องฺคปจฺจงฺเคสุ สตฺเถน หนิตฺวา วุตฺตนเยน วิกฺขิตฺตสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. โลหิตํ กิรติ วิกฺขิปติ อิโต จิโต จ ปคฺฆรตีติ โลหิตกํ. ปคฺฆริตโลหิตมกฺขิตสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. ปุฬวา วุจฺจนฺติ กิมโย, ปุฬเว กิรตีติ ปุฬวกํ. กิมิปริปุณฺณสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ. อฏฺิเยว อฏฺิกํ, ปฏิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ อฏฺีติ อฏฺิกํ. อฏฺิสงฺขลิกายปิ เอกฏฺิกสฺสปิ เอตํ อธิวจนํ. อิมานิ จ ปน อุทฺธุมาตกาทีนิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนนิมิตฺตานมฺปิ นิมิตฺเตสุ ปฏิลทฺธชฺฌานานมฺปิ เอตาเนว นามานิ. อิธ ปน อุทฺธุมาตกนิมิตฺเต ปฏิกูลาการคาหิกา อปฺปนาวเสน อุปฺปนฺนา สฺา อุทฺธุมาตกสฺา, ตสฺสา อุทฺธุมาตกสฺาย วเสน อุทฺธุมาตกสฺาวเสน. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ปฺจปฺาส สมาธีติ เอกกาทิวเสน วุตฺตา.
๔๔. เอวํ เอกกาทิวเสน สมาธิปฺปเภทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อฺเนปิ ปริยาเยน สมาธึ ทสฺเสตุกาโม อปิจาติ อฺํ ปริยายารมฺภํ ทสฺเสตฺวา ปฺจวีสตีติอาทิมาห. ตตฺถ สมาธิสฺส สมาธิฏฺาติ สมาธิสฺส สมาธิภาเว สภาวา, เยหิ สภาเวหิ โส สมาธิ โหติ, เต ตสฺมึ อตฺถา นาม. ปริคฺคหฏฺเน สมาธีติ สทฺธาทีหิ อินฺทฺริเยหิ ปริคฺคหิตตฺตา ตสฺมา ปริคฺคหิตสภาเวน สมาธิ. ตาเนว จ อินฺทฺริยานิ อฺมฺปริวารานิ โหนฺติ, ภาวนาปาริปูริยา ปริปุณฺณานิ จ โหนฺติ. ตสฺมา ปริวารฏฺเน ปริปูรฏฺเน สมาธิ. เตสํเยว สมาธิวเสน เอการมฺมณมเปกฺขิตฺวา เอกคฺคฏฺเน, นานารมฺมณวิกฺเขปาภาวมเปกฺขิตฺวา อวิกฺเขปฏฺเน, โลกุตฺตรสฺเสว มหตา วีริยพลปคฺคเหน ¶ ปตฺตพฺพตฺตา โลกุตฺตรมคฺคสฺเสว จ ปริหานิวเสน วิสาราภาวโต เหฏฺา คหิตปคฺคหฏฺอวิสารฏฺา อิธ น คหิตาติ เวทิตพฺพา. กิเลสกาลุสฺสิยสฺสาภาเวน อนาวิลฏฺเน สมาธิ. อวิกมฺปตฺตา อนิฺชนฏฺเน สมาธิ. วิกฺขมฺภนวเสน สมุจฺเฉทวเสน วา กิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา อารมฺมเณ จ อธิมุตฺตตฺตา วิมุตฺตฏฺเน สมาธิ.
เอกตฺตุปฏฺานวเสน ¶ จิตฺตสฺส ิตตฺตาติ สมาธิโยเคเนว เอการมฺมเณ ภุสํ ปติฏฺานวเสน จิตฺตสฺส อารมฺมเณ นิจฺจลภาเวน ปติฏฺิตตฺตา. อฏฺสุ ¶ ยุคเลสุ เอสติ เนสติ, อาทิยติ นาทิยติ, ปฏิปชฺชติ น ปฏิปชฺชตีติ อิมานิ ตีณิ ยุคลานิ อปฺปนาวีถิโต ปุพฺพภาเค อุปจารสฺส มุทุมชฺฌาธิมตฺตตาวเสน วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ, ฌายติ ฌาเปตีติ อิทํ อปฺปนาวีถิยํ อุปจารวเสน เวทิตพฺพํ. เอสิตตฺตา เนสิตตฺตา, อาทินฺนตฺตา อนาทินฺนตฺตา, ปฏิปนฺนตฺตา นปฺปฏิปนฺนตฺตา, ฌาตตฺตา น ฌาปิตตฺตาติ อิมานิ จตฺตาริ ยุคลานิ อปฺปนาวเสน วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ.
ตตฺถ สมํ เอสตีติ สมาธีติอาทีสุ สมนฺติ อปฺปนํ. สา หิ ปจฺจนีกธมฺเม สเมติ นาเสตีติ สมา, ปจฺจนีกวิสมาภาวโต วา สมภูตาติ สมา. ตํ สมํ เอสติ อชฺฌาสยวเสน คเวสติ. อิติสทฺโท การณตฺโถ, ยสฺมา สมํ เอสติ, ตสฺมา สมาธีติ อตฺโถ. วิสมํ เนสตีติ ตํ ตํ ฌานปจฺจนีกสงฺขาตํ วิสมํ น เอสติ. มุทุภูโต หิ ปุพฺพภาคสมาธิ อาทิภูตตฺตา สมํ เอสติ, วิสมํ เนสติ นาม. มชฺฌิมภูโต ถิรภูตตฺตา สมํ อาทิยติ, วิสมํ นาทิยติ นาม. อธิมตฺตภูโต อปฺปนาวีถิยา อาสนฺนภูตตฺตา สมํ ปฏิปชฺชติ, วิสมํ นปฺปฏิปชฺชติ นาม. สมํ ฌายตีติ ภาวนปุํสกวจนํ, สมํ หุตฺวา ฌายติ, สเมน วา อากาเรน ฌายตีติ อตฺโถ. อปฺปนาวีถิยฺหิ สมาธิ ปจฺจนีกธมฺมวิคเมน สนฺตตฺตา, สนฺตาย อปฺปนาย อนุกูลภาเวน จ ิตตฺตา สเมนากาเรน ปวตฺตติ. ฌายตีติ จ ปชฺชลตีติ อตฺโถ ‘‘เอเต มณฺฑลมาเฬ ทีปา ฌายนฺติ (ที. นิ. ๑.๑๕๙) สพฺพรตฺตึ, สพฺพรตฺติโย จ เตลปฺปทีโป ฌายติ, เตลปฺปทีโป เจตฺถ ฌาเยยฺยา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๒๕๕-๒๕๖) วิย. สมํ ชายตีติปิ ปาโ ¶ , สเมนากาเรน อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. ฌายติ ฌาเปตีติ ยุคลตฺตา ปน ปุริมปาโว สุนฺทรตโร. ฌาเปตีติ จ ทหตีติ อตฺโถ. โส หิ สมาธิปจฺจนีกธมฺเม ทูรตรกรเณน ทหติ นาม. เอสนาเนสนาทีนํ ปน อปฺปนาย สิทฺธตฺตา ‘‘เอสิตตฺตา เนสิตตฺตา’’ติอาทีหิ อปฺปนาสมาธิ วุตฺโต. สมํ ฌาตตฺตาติ สมํ ชลิตตฺตา. สมํ ชาตตฺตาติปิ ปาโ. อิติ อิเมสํ อฏฺนฺนํ ยุคลานํ วเสน โสฬส, ปุริมา จ นวาติ อิเม ปฺจวีสติ สมาธิสฺส สมาธิฏฺา.
สโม ¶ จ หิโต จ สุโข จาติ สมาธีติ อิทํ ปน ปฺจวีสติยา อากาเรหิ สาธิตสฺส สมาธิสฺส อตฺถสาธนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ สโมติ สมสทฺทสฺส, สํสทฺทสฺส วา อตฺโถ. โส หิ ปจฺจนีกกฺโขภวิสมวิรหิตตฺตา สโม. หิโตติ อาธิสทฺทสฺส อตฺโถ, อารมฺมเณ อาหิโต นิจฺจลภาวกรเณน ปติฏฺาปิโตติ อธิปฺปาโย. อุภเยน สโม จ อาหิโต จาติ สมาธีติ ¶ วุตฺตํ โหติ. สุโขติ สนฺตฏฺเน สุโข. ‘‘ยายํ, ภนฺเต, อทุกฺขมสุขา เวทนา, สนฺตสฺมึ เอสา ปณีเต สุเข วุตฺตา ภควตา’’ติ (ม. นิ. ๒.๘๘) จ ‘‘อุเปกฺขา ปน สนฺตตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตา’’ติ จ วุตฺตตฺตา เตน สนฺตตฺเถน สุขสทฺเทน อุเปกฺขาสหคตสมาธิปิ คหิโต โหติ. อนิยาเมน หิ สพฺพสมาธโย อิธ วุจฺจนฺติ. เตน จ สุขสทฺเทน อาหิตภาวสฺส การณํ วุตฺตํ โหติ. ยสฺมา สนฺโต, ตสฺมา เอการมฺมเณ อาหิโตติ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพติ.
สมาธิภาวนามยาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ธมฺมฏฺิติาณนิทฺเทสวณฺณนา
๔๕. ธมฺมฏฺิติาณนิทฺเทเส ¶ อวิชฺชาสงฺขารานํ อุปฺปาทฏฺิตีติอาทีสุ ติฏฺนฺติ เอตาย สงฺขาราติ ิติ. กา สา? อวิชฺชา. สา หิ สงฺขารานํ อุปฺปาทาย นิพฺพตฺติยา ิติ การณนฺติ อุปฺปาทฏฺิติ. อุปฺปนฺนานํ ปวตฺติยาปิ การณนฺติ ปวตฺตฏฺิติ. กิฺจาปิ หิ ชนกปจฺจยสฺส ชนนกฺขเณเยว กิจฺจานุภาโว โหติ, เตน ปน ชนิตานํเยว ปวตฺตตฺตา สกกฺขเณ ปวตฺติยาปิ การณํ นาม โหติ, สนฺตติวเสน วา ปวตฺติยา การณนฺติ อตฺโถ ¶ . ปวตฺตนฺติ จ นปุํสเก ภาววจนเมตํ, ตสฺมา ปวตฺตํ ปวตฺตีติ อตฺถโต เอกํ. ปวตฺติสทฺทสฺส ปน ปากฏตฺตา เตน โยเชตฺวา อตฺโถ วุตฺโต. ภาเวปิ ิติสทฺทสฺส สิชฺฌนโต น อิธ ภาเว ิติสทฺโท, การเณ ิติสทฺโทติ ทสฺสนตฺตํ นิมิตฺตฏฺิตีติ วุตฺตํ, นิมิตฺตภูตา ิตีติ อตฺโถ, การณภูตาติ วุตฺตํ โหติ. น เกวลํ นิมิตฺตมตฺตํ โหติ, อถ โข สงฺขารชนเน สพฺยาปารา วิย หุตฺวา อายูหติ วายมตีติ ปจฺจยสมตฺถตํ ทสฺเสนฺโต อายูหนฏฺิตีติ อาห, อายูหนภูตา ิตีติ อตฺโถ. ยสฺมา อวิชฺชา สงฺขาเร อุปฺปาทยมานา อุปฺปาเท สํโยเชติ นาม, ฆเฏตีติ อตฺโถ. สงฺขาเร ปวตฺตยมานา ปวตฺติยํ ปลิพุนฺธติ นาม, พนฺธตีติ อตฺโถ. ตสฺมา สฺโคฏฺิติ ปลิโพธฏฺิตีติ วุตฺตา. สฺโคภูตา ิติ, ปลิโพธภูตา ิตีติ อตฺโถ. ยสฺมา อวิชฺชาว สงฺขาเร อุปฺปาทยมานา อุปฺปาทาย ปวตฺติยา จ มูลการณฏฺเน สมุทโย นาม, สมุทยภูตา ิตีติ สมุทยฏฺิติ, มูลการณภูตา ิตีติ อตฺโถ. อวิชฺชาว สงฺขารานํ อุปฺปาเท ชนกปจฺจยตฺตา, ปวตฺติยํ อุปตฺถมฺภกปจฺจยตฺตา เหตุฏฺิติ ปจฺจยฏฺิตีติ วุตฺตา, เหตุภูตา ิติ, ปจฺจยภูตา ิตีติ อตฺโถ. ชนกปจฺจโย หิ ¶ เหตูติ, อุปตฺถมฺภโก ปจฺจโยติ วุจฺจติ. เอวํ เสเสสุปิ โยเชตพฺพํ.
ภโว ¶ ชาติยา, ชาติ ชรามรณสฺสาติ เอตฺถ ปน อุปฺปาทฏฺิติ สฺโคฏฺิติ เหตุฏฺิตีติ อุปฺปาทวเสน โยชิตานิ ปทานิ ชาติชรามรณวนฺตานํ ขนฺธานํ วเสน ปริยาเยน วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. เกจิ ปน ‘‘อุปฺปาทาย ิติ อุปฺปาทฏฺิตี’’ติ เอวมาทินา นเยเนตฺถ อตฺถํ วณฺณยนฺติ. อวิชฺชา ปจฺจโยติ อวิชฺชาย สงฺขารานํ ปจฺจยภาวํ อเปกฺขิตฺวา วุตฺตํ. อวิชฺชายปิ ปจฺจยสมฺภูตตฺตา ตสฺสา อปิ ปจฺจยปริคฺคหณทสฺสนตฺถํ อุโภเปเต ธมฺมา ปจฺจยสมุปฺปนฺนาติ ปจฺจยปริคฺคเห ปฺาติ วุตฺตํ. เอวํ เสเสสุปิ โยเชตพฺพํ. ชาติ ปจฺจโย, ชรามรณํ ปจฺจยสมุปฺปนฺนนฺติ ปน ปริยาเยน วุตฺตํ. อตีตมฺปิ อทฺธานนฺติ อติกฺกนฺตมฺปิ กาลํ. อนาคตมฺปิ อทฺธานนฺติ อปฺปตฺตมฺปิ กาลํ. อุภยตฺถาปิ อจฺจนฺตสํโยคตฺเถ อุปโยควจนํ.
๔๖. อิทานิ นวาการวารานนฺตรํ เต นวากาเร วิหาย เหตุปฏิจฺจปจฺจยปเทเหว โยเชตฺวา อวิชฺชา เหตุ, สงฺขารา เหตุสมุปฺปนฺนาติอาทโย ¶ ตโย วารา นิทฺทิฏฺา. นวาการวาเร ชนกอุปตฺถมฺภกวเสน ปจฺจโย วุตฺโต. อิธ ปน เหตุวารสฺส ปจฺจยวารสฺส จ วิสุํ อาคตตฺตา เหตูติ ชนกปจฺจยตฺตํ, ปจฺจโยติ อุปตฺถมฺภกปจฺจยตฺตํ เวทิตพฺพํ เอเกกสฺสาปิ อวิชฺชาทิกสฺส ปจฺจยสฺส อุภยถา สมฺภวโต. ปฏิจฺจวาเร อวิชฺชา ปฏิจฺจาติ อตฺตโน อุปฺปาเท สงฺขารานํ อวิชฺชาเปกฺขตฺตา สงฺขาเรหิ อวิชฺชา ปฏิมุขํ เอตพฺพา คนฺตพฺพาติ ปฏิจฺจา. เอเตน อวิชฺชาย สงฺขารุปฺปาทนสมตฺถตา วุตฺตา โหติ. สงฺขารา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนาติ สงฺขารา อวิชฺชํ ปฏิจฺจ ตทภิมุขํ ปวตฺตนโต ปฏิมุขํ กตฺวา น วิหาย สมํ อุปฺปนฺนา. เอวํ เสเสสุปิ ลิงฺคานุรูเปน โยเชตพฺพํ. อวิชฺชา ปฏิจฺจาติ อุสฺสุกฺกวเสน วา ปาโ, อตฺโถ ปเนตฺถ อวิชฺชา อตฺตโน ปจฺจเย ปฏิจฺจ ปวตฺตาติ ปาเสสวเสน โยเชตพฺโพ. เอวํ เสเสสุปิ. จตูสุปิ จ เอเตสุ วาเรสุ ทฺวาทสนฺนํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานํ ปจฺจยสฺเสว วเสน ธมฺมฏฺิติาณสฺส นิทฺทิสิตพฺพตฺตา อวิชฺชาทีนํ เอกาทสนฺนํเยว องฺคานํ วเสน ธมฺมฏฺิติาณํ นิทฺทิฏฺํ, ชรามรณสฺส ปน อนฺเต ¶ ิตตฺตา ตสฺส วเสน น นิทฺทิฏฺํ. ชรามรณสฺสาปิ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสานํ ปจฺจยตฺตา ชรามรณํ เตสํ ปจฺจยํ กตฺวา อุปปริกฺขมานสฺส ตสฺสาปิ ชรามรณสฺส วเสน ธมฺมฏฺิติาณํ ยุชฺชเตว.
๔๗. อิทานิ ตาเนว ทฺวาทส ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานิ วีสติอาการวเสน วิภชิตฺวา จตุสงฺเขปติยทฺธติสนฺธิโย ทสฺเสตฺวา ธมฺมฏฺิติาณํ นิทฺทิสิตุกาโม ปุริมกมฺมภวสฺมินฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปุริมกมฺมภวสฺมินฺติ ปุริเม กมฺมภเว, อตีตชาติยํ กมฺมภเว กริยมาเนติ อตฺโถ. โมโห อวิชฺชาติ โย ตทา ทุกฺขาทีสุ โมโห, เยน มูฬฺโห กมฺมํ กโรติ, สา อวิชฺชา. อายูหนา สงฺขาราติ ตํ กมฺมํ กโรนฺตสฺส ปุริมเจตนาโย, ยถา ‘‘ทานํ ทสฺสามี’’ติ จิตฺตํ ¶ อุปฺปาเทตฺวา มาสมฺปิ สํวจฺฉรมฺปิ ทานูปกรณานิ สชฺเชนฺตสฺส อุปฺปนฺนา ปุริมเจตนาโย. ปฏิคฺคาหกานํ ปน หตฺเถ ทกฺขิณํ ปติฏฺาปยโต เจตนา ภโวติ วุจฺจติ. เอกาวชฺชเนสุ วา ฉสุ ชวเนสุ เจตนา อายูหนา สงฺขารา นาม, สตฺตมชวเน เจตนา ภโว. ยา กาจิ วา ปน เจตนา ภโว, ตํสมฺปยุตฺตา อายูหนา สงฺขารา นาม.
นิกนฺติ ตณฺหาติ ยา กมฺมํ กโรนฺตสฺส ตสฺส ผเล อุปปตฺติภเว นิกามนา ปตฺถนา, สา ตณฺหา นาม. อุปคมนํ อุปาทานนฺติ ยํ กมฺมภวสฺส ปจฺจยภูตํ ‘‘อิมสฺมึ นาม กมฺเม กเต กามา ¶ สมฺปชฺชนฺตี’’ติ วา ‘‘อิทํ กตฺวา อสุกสฺมึ นาม าเน กาเม เสวิสฺสามี’’ติ วา ‘‘อตฺตา อุจฺฉินฺโน สุอุจฺฉินฺโน โหตี’’ติ วา ‘‘สุขี โหตึ วิคตปริฬาโห’’ติ วา ‘‘สีลพฺพตํ สุเขน ปริปูรตี’’ติ วา ปวตฺตํ อุปคมนํ ทฬฺหคหณํ, อิทํ อุปาทานํ นาม. เจตนา ภโวติ อายูหนาวสาเน วุตฺตา เจตนา ภโว นาม. ปุริมกมฺมภวสฺมินฺติ อตีตชาติยา กมฺมภเว กริยมาเน ปวตฺตา. อิธ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยาติ ปจฺจุปฺปนฺนปฏิสนฺธิยา ปจฺจยภูตา.
อิธ ปฏิสนฺธิ วิฺาณนฺติ ยํ ปจฺจุปฺปนฺนภวสฺส ภวนฺตรปฏิสนฺธานวเสน อุปฺปนฺนตฺตา ปฏิสนฺธีติ วุจฺจติ, ตํ วิฺาณํ. โอกฺกนฺติ นามรูปนฺติ ยา คพฺเภ รูปารูปธมฺมานํ โอกฺกนฺติ อาคนฺตฺวา ปวิสนํ วิย, อิทํ นามรูปํ. ปสาโท อายตนนฺติ โย ปสนฺนภาโว, อิทํ อายตนํ. ชาติคฺคหเณน ¶ เอกวจนํ กตํ. เอเตน จกฺขาทีนิ ปฺจายตนานิ วุตฺตานิ. ‘‘ปภสฺสรมิทํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตฺจ โข อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺ’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๔๙) เอตฺถ ภวงฺคจิตฺตํ อธิปฺเปตนฺติ วจนโต อิธาปิ มนายตนสฺส วิปากภูตตฺตา, ตสฺส จ กิเลสกาลุสฺสิยาภาเวน ปสนฺนตฺตา ปสาทวจเนน มนายตนมฺปิ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ผุฏฺโ ผสฺโสติ โย อารมฺมณํ ผุฏฺโ ผุสนฺโต อุปฺปนฺโน, อยํ ผสฺโส. เวทยิตํ เวทนาติ ยํ ปฏิสนฺธิวิฺาเณน วา สฬายตนปจฺจเยน วา ผสฺเสน สห อุปฺปนฺนํ วิปากเวทยิตํ, อยํ เวทนา. อิธุปปตฺติภวสฺมึ ปุเรกตสฺส กมฺมสฺส ปจฺจยาติ ปจฺจุปฺปนฺเน วิปากภเว อตีตชาติยํ กตสฺส กมฺมสฺส ปจฺจเยน ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ.
อิธ ปริปกฺกตฺตา อายตนานนฺติ ปริปกฺกายตนสฺส กมฺมกรณกาเล โมหาทโย ทสฺสิตา. อายตึ ปฏิสนฺธิยาติ อนาคเต ปฏิสนฺธิยา. อายตึ ปฏิสนฺธิ วิฺาณนฺติอาทีนิ วุตฺตตฺถานิ.
กถํ ปน ทฺวาทสหิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺเคหิ อิเม วีสติ อาการา คหิตา โหนฺตีติ? อวิชฺชา ¶ สงฺขาราติ อิเม ทฺเว อตีตเหตุโย สรูปโต วุตฺตา. ยสฺมา ปน อวิทฺวา ปริตสฺสติ, ปริตสฺสิโต อุปาทิยติ, ตสฺสุปาทานปจฺจยา ภโว, ตสฺมา เตหิ ทฺวีหิ คหิเตหิ ตณฺหุปาทานภวาปิ คหิตาว โหนฺติ. ปจฺจุปฺปนฺเน วิฺาณนามรูปสฬายตนผสฺสเวทนา สรูปโต วุตฺตาเยว. ตณฺหุปาทานภวา ปจฺจุปฺปนฺนเหตุโย สรูปโต วุตฺตา ¶ . ภเว ปน คหิเต ตสฺส ปุพฺพภาคา ตํสมฺปยุตฺตา วา สงฺขารา คหิตาว โหนฺติ, ตณฺหุปาทานคฺคหเณน จ ตํสมฺปยุตฺตา. ยาย วา มูฬฺโห กมฺมํ กโรติ, สา อวิชฺชา คหิตาว โหติ. อนาคเต ชาติ ชรามรณนฺติ ทฺเว สรูเปน วุตฺตานิ, ชาติชรามรณคฺคหเณเนว ปน วิฺาณาทีนิ ปฺจ อนาคตผลานิ คหิตาเนว โหนฺติ. เตสํเยว หิ ชาติชรามรณานีติ เอวํ ทฺวาทสหิ องฺเคหิ วีสติ อาการา คหิตา โหนฺติ.
‘‘อตีเต เหตโว ปฺจ, อิทานิ ผลปฺจกํ;
อิทานิ เหตโว ปฺจ, อายตึ ผลปฺจก’’นฺติ. –
คาถาย อยเมวตฺโถ วุตฺโต. อิติเมติ ¶ อิติ อิเม. อิติ อิเมติ วา ปาโ.
จตุสงฺเขเปติ จตุโร ราสี. อตีเต ปฺจ เหตุธมฺมา เอโก เหตุสงฺเขโป, ปจฺจุปฺปนฺเน ปฺจ ผลธมฺมา เอโก ผลสงฺเขโป, ปจฺจุปฺปนฺเน ปฺจ เหตุธมฺมา เอโก เหตุสงฺเขโป, อนาคเต ปฺจ ผลธมฺมา เอโก ผลสงฺเขโป.
ตโย อทฺเธติ ตโย กาเล. ปมปฺจกวเสน อตีตกาโล, ทุติยตติยปฺจกวเสน ปจฺจุปฺปนฺนกาโล, จตุตฺถปฺจกวเสน อนาคตกาโล เวทิตพฺโพ.
ติสนฺธินฺติ ตโย สนฺธโย อสฺสาติ ติสนฺธิ, ตํ ติสนฺธึ. อตีตเหตุปจฺจุปฺปนฺนผลานมนฺตรา เอโก เหตุผลสนฺธิ, ปจฺจุปฺปนฺนผลอนาคตเหตูนมนฺตรา เอโก ผลเหตุสนฺธิ, ปจฺจุปฺปนฺนเหตุอนาคตผลานมนฺตรา เอโก เหตุผลสนฺธิ.
ปฏิจฺจสมุปฺปาทปาฬิยํ สรูปโต อาคตวเสน ปน อวิชฺชาสงฺขารา เอโก สงฺเขโป, วิฺาณนามรูปสฬายตนผสฺสเวทนา ทุติโย, ตณฺหุปาทานภวา ตติโย, ชาติชรามรณํ จตุตฺโถ. อวิชฺชาสงฺขาราติ ทฺเว องฺคานิ อตีตกาลานิ, วิฺาณาทีนิ ภวาวสานานิ อฏฺ ปจฺจุปฺปนฺนกาลานิ ¶ , ชาติชรามรณนฺติ ทฺเว อนาคตกาลานิ. สงฺขารวิฺาณานํ อนฺตรา เอโก เหตุผลสนฺธิ, เวทนาตณฺหานมนฺตรา เอโก ผลเหตุสนฺธิ, ภวชาตีนมนฺตรา เอโก เหตุผลสนฺธิ.
วีสติยา ¶ อากาเรหีติ วีสติยา โกฏฺาเสหิ. จตุสงฺเขเป จ ตโย อทฺเธ จ ติสนฺธึ ปฏิจฺจสมุปฺปาทฺจ วีสติยา อากาเรหิ ชานาตีติ สมฺพนฺโธ.
ชานาตีติ สุตานุสาเรน ภาวนารมฺภาเณน ชานาติ. ปสฺสตีติ าตเมว จกฺขุนา ทิฏฺํ วิย หตฺถตเล อามลกํ วิย จ ผุฏํ กตฺวา าเณเนว ปสฺสติ. อฺาตีติ ทิฏฺมริยาเทเนว อาเสวนํ กโรนฺโต าเณเนว ชานาติ. มริยาทตฺโถ หิ เอตฺถ อากาโร. ปฏิวิชฺฌตีติ ภาวนาปาริปูริยา นิฏฺํ ปาเปนฺโต าเณเนว ปฏิเวธํ กโรติ. สลกฺขณวเสน วา ชานาติ, สรสวเสน ปสฺสติ, ปจฺจุปฏฺานวเสน อฺาติ, ปทฏฺานวเสน ปฏิวิชฺฌติ.
ตตฺถ ปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ ปจฺจยธมฺมา เวทิตพฺพา. ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ธมฺมาติ เตหิ เตหิ ปจฺจเยหิ นิพฺพตฺตธมฺมา. กถมิทํ ชานิตพฺพนฺติ เจ? ภควโต วจเนน. ภควตา หิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺมเทสนาสุตฺเต ¶ –
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจสมุปฺปาโท, ชาติปจฺจยา, ภิกฺขเว, ชรามรณํ, อุปฺปาทา วา ตถาคตานํ อนุปฺปาทา วา ตถาคตานํ ิตาว สา ธาตุ ธมฺมฏฺิตตา ธมฺมนิยามตา อิทปฺปจฺจยตา, ตํ ตถาคโต อภิสมฺพุชฺฌติ อภิสเมติ, อภิสมฺพุชฺฌิตฺวา อภิสเมตฺวา อาจิกฺขติ เทเสติ ปฺาเปติ ปฏฺเปติ วิวรติ วิภชติ อุตฺตานีกโรติ ‘ปสฺสถา’ติ จาห. ชาติปจฺจยา, ภิกฺขเว, ชรามรณํ, ภวปจฺจยา, ภิกฺขเว, ชาติ…เป… อวิชฺชาปจฺจยา, ภิกฺขเว, สงฺขารา. อุปฺปาทา วา ตถาคตานํ…เป… อุตฺตานีกโรติ ‘ปสฺสถา’ติ จาห. อวิชฺชาปจฺจยา, ภิกฺขเว, สงฺขารา. อิติ โข, ภิกฺขเว, ยา ตตฺรต ถตา อวิตถตา อนฺถตา อิทปฺปจฺจยตา. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจสมุปฺปาโท’’ติ (สํ. นิ. ๒.๒๐) –
เอวํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ เทเสนฺเตน ตถตาทีหิ เววจเนหิ ปจฺจยธมฺมาว ปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ วุตฺตา. ตสฺมา ชรามรณาทีนํ ปจฺจยลกฺขโณ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท, ทุกฺขานุพนฺธนรโส กุมฺมคฺคปจฺจุปฏฺาโน, อยมฺปิ สปจฺจยตฺตา อตฺตโน วิเสสปจฺจยปทฏฺาโน.
อุปฺปาทา ¶ ¶ วา อนุปฺปาทา วาติ อุปฺปาเท วา อนุปฺปาเท วา, ตถาคเตสุ อุปฺปนฺเนสุปิ อนุปฺปนฺเนสุปีติ อตฺโถ. ิตาว สา ธาตูติ ิโตว โส ปจฺจยสภาโว, น กทาจิ ชาติชรามรณสฺส ปจฺจโย น โหตีติ อตฺโถ. ธมฺมฏฺิตตา ธมฺมนิยามตา อิทปฺปจฺจยตาติ ชาติปจฺจโยเยว. ชาติปจฺจเยน หิ ชรามรณสงฺขาโต ปจฺจยสมุปฺปนฺนธมฺโม ตทายตฺตตาย ติฏฺติ, ชาติปจฺจโยว ชรามรณธมฺมํ นิยเมติ, ตสฺมา ชาติ ‘‘ธมฺมฏฺิตตา ธมฺมนิยามตา’’ติ วุจฺจติ. ชาติเยว อิมสฺส ชรามรณสฺส ปจฺจโยติ อิทปฺปจฺจโย, อิทปฺปจฺจโยว อิทปฺปจฺจยตา. ตนฺติ ตํ ปจฺจยํ. อภิสมฺพุชฺฌตีติ าเณน อภิสมฺพุชฺฌติ. อภิสเมตีติ าเณน อภิสมาคจฺฉติ. อาจิกฺขตีติ กเถติ. เทเสตีติ ทสฺเสติ. ปฺาเปตีติ ชานาเปติ. ปฏฺเปตีติ าณมุเข เปติ. วิวรตีติ วิวริตฺวา ทสฺเสติ. วิภชตีติ วิภาคโต ทสฺเสติ. อุตฺตานีกโรตีติ ปากฏํ กโรติ. อิติ โขติ เอวํ โข. ยา ตตฺราติ ยา เตสุ ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติอาทีสุ ¶ . โส ปนายํ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท เตหิ เตหิ ปจฺจเยหิ อนูนาธิเกเหว ตสฺส ตสฺส ธมฺมสฺส สมฺภวโต ตถตาติ, สามคฺคึ อุปคเตสุ ปจฺจเยสุ มุหุตฺตมฺปิ ตโต นิพฺพตฺตนธมฺมานํ อสมฺภวาภาวโต อวิตถตาติ, อฺธมฺมปจฺจเยหิ อฺธมฺมานุปฺปตฺติโต อนฺถตาติ, ยถาวุตฺตานํ เอเตสํ ชรามรณาทีนํ ปจฺจยโต วา ปจฺจยสมูหโต วา อิทปฺปจฺจยตาติ วุตฺโต. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – อิเมสํ ปจฺจยา อิทปฺปจฺจยา, อิทปฺปจฺจยา เอว อิทปฺปจฺจยตา, อิทปฺปจฺจยานํ วา สมูโห อิทปฺปจฺจยตา. ลกฺขณํ ปเนตฺถ สทฺทสตฺถโต เวทิตพฺพนฺติ.
ธมฺมฏฺิติาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สมฺมสนาณนิทฺเทสวณฺณนา
๔๘. สมฺมสนาณนิทฺเทเส ¶ ยํ กิฺจีติ อนวเสสปริยาทานํ. รูปนฺติ อติปฺปสงฺคนิยมนํ. เอวํ ปททฺวเยนาปิ รูปสฺส อเสสปริคฺคโห กโต โหติ. อถสฺส อตีตาทินา วิภาคํ อารภติ. ตฺหิ กิฺจิ อตีตํ กิฺจิ อนาคตาทิเภทนฺติ. เอส นโย เวทนาทีสุปิ. ตตฺถ รูปํ ตาว อทฺธาสนฺตติสมยขณวเสน จตุธา อตีตํ นาม โหติ, ตถา อนาคตปจฺจุปฺปนฺนํ. ตตฺถ อทฺธาวเสน ตาว เอกสฺส เอกสฺมึ ¶ ภเว ปฏิสนฺธิโต ปุพฺเพ อตีตํ, จุติโต อุทฺธํ อนาคตํ, อุภินฺนมนฺตเร ปจฺจุปฺปนฺนํ. สนฺตติวเสน สภาคเอกอุตุสมุฏฺานํ ¶ เอกาหารสมุฏฺานฺจ ปุพฺพาปริยภาเวน วตฺตมานมฺปิ ปจฺจุปฺปนฺนํ, ตโต ปุพฺเพ วิสภาคอุตุอาหารสมุฏฺานํ อตีตํ, ปจฺฉา อนาคตํ. จิตฺตชํ เอกวีถิเอกชวนเอกสมาปตฺติสมุฏฺานํ ปจฺจุปฺปนฺนํ, ตโต ปุพฺเพ อตีตํ, ปจฺฉา อนาคตํ, กมฺมสมุฏฺานสฺส ปาฏิเยกฺกํ สนฺตติวเสน อตีตาทิเภโท นตฺถิ, เตสฺเว ปน อุตุอาหารจิตฺตสมุฏฺานานํ อุปตฺถมฺภนวเสน ตสฺส อตีตาทิภาโว เวทิตพฺโพ. สมยวเสน เอกมุหุตฺตปุพฺพณฺหสายนฺหรตฺตินฺทิวาทีสุ สมเยสุ สนฺตานวเสน ปวตฺตมานํ ตํ ตํ สมยํ ปจฺจุปฺปนฺนํ นาม, ตโต ปุพฺเพ อตีตํ, ปจฺฉา อนาคตํ. ขณวเสน อุปฺปาทาทิขณตฺตยปริยาปนฺนํ ปจฺจุปฺปนฺนํ, ตโต ปุพฺเพ อนาคตํ, ปจฺฉา อตีตํ. อปิจ อติกฺกนฺตเหตุปจฺจยกิจฺจํ อตีตํ, นิฏฺิตเหตุกิจฺจมนิฏฺิตปจฺจยกิจฺจํ ปจฺจุปฺปนฺนํ, อุภยกิจฺจมสมฺปตฺตํ อนาคตํ. สกิจฺจกฺขเณ วา ปจฺจุปฺปนฺนํ, ตโต ปุพฺเพ อนาคตํ, ปจฺฉา อตีตํ. เอตฺถ จ ขณาทิกถาว นิปฺปริยายา เสสา สปริยายา.
อชฺฌตฺตนฺติ ปฺจสุปิ ขนฺเธสุ อิธ นิยกชฺฌตฺตํ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา อตฺตโน สนฺตาเน ปวตฺตํ ปาฏิปุคฺคลิกํ รูปํ อชฺฌตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตโต พหิภูตํ ปน ¶ อินฺทฺริยพทฺธํ วา อนินฺทฺริยพทฺธํ วา รูปํ พหิทฺธา นาม. โอฬาริกนฺติ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายรูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพสงฺขาตา ปถวีเตโชวาโย จาติ ทฺวาทสวิธํ รูปํ ฆฏฺฏนวเสน คเหตพฺพโต โอฬาริกํ. เสสํ ปน อาโปธาตุ อิตฺถินฺทฺริยํ ปุริสินฺทฺริยํ ชีวิตินฺทฺริยํ หทยวตฺถุ โอชา อากาสธาตุ กายวิฺตฺติ วจีวิฺตฺติ รูปสฺส ลหุตา มุทุตา กมฺมฺตา อุปจโย สนฺตติ ชรตา อนิจฺจตาติ โสฬสวิธํ รูปํ ฆฏฺฏนวเสน อคเหตพฺพโต สุขุมํ. หีนํ วา ปณีตํ วาติ เอตฺถ หีนปณีตภาโว ปริยายโต นิปฺปริยายโต จ. ตตฺถ อกนิฏฺานํ รูปโต สุทสฺสีนํ รูปํ หีนํ, ตเทว สุทสฺสานํ รูปโต ปณีตํ. เอวํ ยาว นรกสตฺตานํ รูปํ, ตาว ปริยายโต หีนปณีตตา เวทิตพฺพา. นิปฺปริยายโต ปน ยตฺถ อกุสลวิปากํ อุปฺปชฺชติ, ตํ หีนํ. ยตฺถ กุสลวิปากํ, ตํ ปณีตํ. ยํ ทูเร สนฺติเก วาติ เอตฺถ ยํ สุขุมํ, ตเทว ทุปฺปฏิวิชฺฌสภาวตฺตา ทูเร. ยํ โอฬาริกํ, ตเทว สุปฺปฏิวิชฺฌสภาวตฺตา สนฺติเก.
สพฺพํ ¶ รูปํ อนิจฺจโต ววตฺเถติ เอกํ สมฺมสนํ, ทุกฺขโต ววตฺเถติ เอกํ สมฺมสนํ, อนตฺตโต ววตฺเถติ เอกํ สมฺมสนนฺติ เอตฺถ อยํ ภิกฺขุ ‘‘ยํ กิฺจิ รูป’’นฺติ เอวํ อนิยมนิทฺทิฏฺํ สพฺพมฺปิ รูปํ อตีตตฺติเกน เจว จตูหิ อชฺฌตฺตาทิทุเกหิ จาติ เอกาทสหิ โอกาเสหิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา สพฺพํ รูปํ อนิจฺจโต ววตฺเถติ อนิจฺจนฺติ สมฺมสติ. กถํ? ปรโต วุตฺตนเยน. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ ขยฏฺเนา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๘). ตสฺมา ¶ เอส ยํ อตีตํ รูปํ, ตํ ยสฺมา อตีเตเยว ขีณํ, นยิมํ ภวํ สมฺปตฺตนฺติ อนิจฺจํ ขยฏฺเน, ยํ อนาคตํ รูปํ อนนฺตรภเว นิพฺพตฺติสฺสติ, ตมฺปิ ตตฺเถว ขียิสฺสติ, น ตโต ปรํ ภวํ คมิสฺสตีติ อนิจฺจํ ขยฏฺเน, ยํ ปจฺจุปฺปนฺนํ รูปํ, ตํ อิเธว ขียติ, น อิโต คจฺฉตีติ อนิจฺจํ ขยฏฺเน, ยํ อชฺฌตฺตํ รูปํ, ตมฺปิ อชฺฌตฺตเมว ขียติ, น พหิทฺธาภาวํ คจฺฉตีติ อนิจฺจํ ขยฏฺเน, ยํ พหิทฺธา โอฬาริกํ สุขุมํ หีนํ ปณีตํ ทูเร สนฺติเก, ตมฺปิ เอตฺเถว ขียติ, น ทูรภาวํ ¶ คจฺฉตีติ อนิจฺจํ ขยฏฺเนาติ สมฺมสติ. อิทํ สพฺพมฺปิ ‘‘อนิจฺจํ ขยฏฺเนา’’ติ เอตสฺส วเสน เอกํ สมฺมสนํ, ปเภทโต ปน เอกาทสวิธํ โหติ.
สพฺพเมว เจตํ ทุกฺขํ ภยฏฺเนาติ สมฺมสติ. ภยฏฺเนาติ สปฺปฏิภยตาย. ยฺหิ อนิจฺจํ, ตํ ภยาวหํ โหติ สีโหปมสุตฺเต (อ. นิ. ๔.๓๓; สํ. นิ. ๓.๗๘) เทวานํ วิย. อิติ อิทมฺปิ ‘‘ทุกฺขํ ภยฏฺเนา’’ติ เอตสฺส วเสน เอกํ สมฺมสนํ, ปเภทโต ปน เอกาทสวิธํ โหติ.
ยถา จ ทุกฺขํ, เอวํ สพฺพมฺปิ ตํ อนตฺตา อสารกฏฺเนาติ สมฺมสติ. อสารกฏฺเนาติ ‘‘อตฺตา นิวาสี การโก เวทโก สยํวสี’’ติ เอวํ ปริกปฺปิตสฺส อตฺตสารสฺส อภาเวน. ยฺหิ อนิจฺจํ ทุกฺขํ, อตฺตโนปิ อนิจฺจตํ วา อุทยพฺพยปีฬนํ วา วาเรตุํ น สกฺโกติ, กุโต ตสฺส การกาทิภาโว. เตนาห – ‘‘รูปฺจ หิทํ, ภิกฺขเว, อตฺตา อภวิสฺส, นยิทํ รูปํ อาพาธาย สํวตฺเตยฺยา’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๓.๕๙). อิติ อิทํ ‘‘อนตฺตา อสารกฏฺเนา’’ติ เอตสฺส วเสน เอกํ สมฺมสนํ, ปเภทโต ปน เอกาทสวิธํ โหติ. เอเสว นโย เวทนาทีสุ. อิติ เอเกกสฺมึ ขนฺเธ เอกาทส เอกาทส กตฺวา ปฺจสุ ขนฺเธสุ ปฺจปฺาส สมฺมสนานิ โหนฺติ, อนิจฺจโต ปฺจปฺาส ¶ , ทุกฺขโต ปฺจปฺาส, อนตฺตโต ปฺจปฺาสาติ ติวิธานุปสฺสนาวเสน สพฺพานิ ปฺจสฏฺิสตสมฺมสนานิ โหนฺติ.
เกจิ ปน ‘‘สพฺพํ รูปํ, สพฺพํ เวทนํ, สพฺพํ สฺํ, สพฺเพ สงฺขาเร, สพฺพํ วิฺาณนฺติ ปทมฺปิ ปกฺขิปิตฺวา เอเกกสฺมึ ขนฺเธ ทฺวาทส ทฺวาทส กตฺวา ปฺจสุ สฏฺิ, อนุปสฺสนาโต อสีติสตสมฺมสนานี’’ติ วทนฺติ.
อตีตาทิวิภาเค ¶ ปเนตฺถ สนฺตติวเสน ขณาทิวเสน จ เวทนาย อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนภาโว เวทิตพฺโพ. ตตฺถ สนฺตติวเสน เอกวีถิเอกชวนเอกสมาปตฺติปริยาปนฺนา เอกวิธวิสยสมาโยคปฺปวตฺตา จ ปจฺจุปฺปนฺนา, ตโต ปุพฺเพ อตีตา, ปจฺฉา อนาคตา. ขณาทิวเสน ขณตฺตยปริยาปนฺนา ปุพฺพนฺตาปรนฺตมชฺฌคตา สกิจฺจฺจ กุรุมานา เวทนา ปจฺจุปฺปนฺนา, ตโต ปุพฺเพ อตีตา, ปจฺฉา อนาคตา. อชฺฌตฺตพหิทฺธาเภโท นิยกชฺฌตฺตวเสเนว เวทิตพฺโพ.
โอฬาริกสุขุมภาโว ‘‘อกุสลา เวทนา โอฬาริกา, กุสลาพฺยากตา เวทนา สุขุมา’’ติอาทินา (วิภ. ๔) นเยน วิภงฺเค วุตฺเตน ชาติสภาวปุคฺคลโลกิยโลกุตฺตรวเสน เวทิตพฺโพ. ชาติวเสน ¶ ตาว อกุสลา เวทนา สาวชฺชกิริยเหตุโต, กิเลสสนฺตาปภาวโต จ อวูปสนฺตวุตฺตีติ กุสลเวทนาย โอฬาริกา, สพฺยาปารโต สอุสฺสาหโต สวิปากโต กิเลสสนฺตาปภาวโต สาวชฺชโต จ วิปากาพฺยากตาย โอฬาริกา, สวิปากโต กิเลสสนฺตาปภาวโต สพฺยาพชฺฌโต สาวชฺชโต จ กิริยาพฺยากตาย โอฬาริกา. กุสลาพฺยากตา ปน วุตฺตวิปริยายโต อกุสลาย เวทนาย สุขุมา. ทฺเวปิ กุสลากุสลา เวทนา สพฺยาปารโต สอุสฺสาหโต สวิปากโต จ ยถาโยคํ ทุวิธายปิ อพฺยากตาย โอฬาริกา, วุตฺตวิปริยาเยน ทุวิธาปิ อพฺยากตา ตาหิ สุขุมา. เอวํ ตาว ชาติวเสน โอฬาริกสุขุมตา เวทิตพฺพา.
สภาววเสน ปน ทุกฺขา เวทนา นิรสฺสาทโต สวิปฺผารโต โขภกรณโต อุพฺเพชนียโต อภิภวนโต จ อิตราหิ ทฺวีหิ โอฬาริกา, อิตรา ปน ทฺเว สาตโต สนฺตโต ปณีตโต มนาปโต ¶ มชฺฌตฺตโต จ ยถาโยคํ ทุกฺขาย สุขุมา. อุโภ ปน สุขทุกฺขา สวิปฺผารโต อุพฺเพชนียโต โขภกรณโต ปากฏโต จ อทุกฺขมสุขาย โอฬาริกา, สา วุตฺตวิปริยาเยน ตทุภยโต สุขุมา. เอวํ สภาววเสน โอฬาริกสุขุมตา เวทิตพฺพา.
ปุคฺคลวเสน ปน อสมาปนฺนสฺส เวทนา นานารมฺมเณ วิกฺขิตฺตภาวโต สมาปนฺนสฺส เวทนาย โอฬาริกา, วิปริยาเยน อิตรา สุขุมา. เอวํ ปุคฺคลวเสน โอฬาริกสุขุมตา เวทิตพฺพา.
โลกิยโลกุตฺตรวเสน ปน สาสวา เวทนา โลกิยา, สา อาสวุปฺปตฺติเหตุโต โอฆนิยโต โยคนิยโต คนฺถนิยโต นีวรณิยโต อุปาทานิยโต สํกิเลสิกโต ปุถุชฺชนสาธารณโต จ อนาสวาย ¶ โอฬาริกา, อนาสวา จ วิปริยาเยน สาสวาย สุขุมา. เอวํ โลกิยโลกุตฺตรวเสน โอฬาริกสุขุมตา เวทิตพฺพา.
ตตฺถ ชาติอาทิวเสน สมฺเภโท ปริหริตพฺโพ. อกุสลวิปากกายวิฺาณสมฺปยุตฺตา หิ เวทนา ชาติวเสน อพฺยากตตฺตา สุขุมาปิ สมานา สภาวาทิวเสน โอฬาริกา โหติ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘อพฺยากตา เวทนา สุขุมา, ทุกฺขา เวทนา โอฬาริกา. สมาปนฺนสฺส เวทนา สุขุมา, อสมาปนฺนสฺส เวทนา โอฬาริกา. อนาสวา เวทนา สุขุมา, สาสวา เวทนา โอฬาริกา’’ติ (วิภ. ๑๑).
ยถา จ ทุกฺขา เวทนา, เอวํ สุขาทโยปิ. ตาปิ หิ ชาติวเสน โอฬาริกา, สภาวาทิวเสน สุขุมา โหนฺติ. ตสฺมา ยถา ชาติอาทิวเสน สมฺเภโท น โหติ, ตถา เวทนานํ ¶ โอฬาริกสุขุมตา เวทิตพฺพา. เสยฺยถิทํ, อพฺยากตา ชาติวเสน กุสลากุสลาหิ สุขุมา. ตตฺถ กตมา อพฺยากตา? กึ ทุกฺขา? กึ สุขา? กึ สมาปนฺนสฺส? กึ อสมาปนฺนสฺส? กึ สาสวา? กึ อนาสวาติ? เอวํ สภาวาทิเภโท น ปรามสิตพฺโพ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
อปิจ ‘‘ตํ ตํ วา ปน เวทนํ อุปาทายุปาทาย เวทนา โอฬาริกา สุขุมา ทฏฺพฺพา’’ติ วจนโต อกุสลาทีสุปิ โลภสหคตาย โทสสหคตา ¶ เวทนา อคฺคิ วิย นิสฺสยทหนโต โอฬาริกา, โลภสหคตา สุขุมา. โทสสหคตาปิ นิยตา โอฬาริกา, อนิยตา สุขุมา. นิยตาปิ กปฺปฏฺิติกา โอฬาริกา, อิตรา สุขุมา. กปฺปฏฺิติกาสุปิ อสงฺขาริกา โอฬาริกา, อิตรา สุขุมา. โลภสหคตา ปน ทิฏฺิสมฺปยุตฺตา โอฬาริกา, อิตรา สุขุมา. สาปิ นิยตา กปฺปฏฺิติกา อสงฺขาริกา โอฬาริกา, อิตรา สุขุมา. อวิเสเสน จ อกุสลา พหุวิปากา โอฬาริกา, อปฺปวิปากา สุขุมา. กุสลา ปน อปฺปวิปากา โอฬาริกา, พหุวิปากา สุขุมา.
อปิจ กามาวจรกุสลา โอฬาริกา, รูปาวจรา สุขุมา, ตโต อรูปาวจรา, ตโต โลกุตฺตรา. กามาวจรา จ ทานมยา โอฬาริกา, สีลมยา สุขุมา. สีลมยาปิ โอฬาริกา, ตโต ภาวนามยา สุขุมา. ภาวนามยาปิ ทุเหตุกา โอฬาริกา, ติเหตุกา สุขุมา. ติเหตุกาปิ สสงฺขาริกา โอฬาริกา, อสงฺขาริกา สุขุมา ¶ . รูปาวจรา จ ปมชฺฌานิกา โอฬาริกา…เป… ปฺจมชฺฌานิกา สุขุมาว. อรูปาวจรา จ อากาสานฺจายตนสมฺปยุตฺตา โอฬาริกา…เป… เนวสฺานาสฺายตนสมฺปยุตฺตา สุขุมาว. โลกุตฺตรา จ โสตาปตฺติมคฺคสมฺปยุตฺตา โอฬาริกา…เป… อรหตฺตมคฺคสมฺปยุตฺตา สุขุมาว. เอส นโย ตํตํภูมิวิปากกิริยาเวทนาสุ ทุกฺขาทิอสมาปนฺนาทิสาสวาทิวเสน วุตฺตเวทนาสุ จ. โอกาสวเสน วาปิ นิรเย ทุกฺขา โอฬาริกา, ติรจฺฉานโยนิยํ สุขุมา…เป… ปรนิมฺมิตวสวตฺตีสุ สุขุมาว. ยถา จ ทุกฺขา, เอวํ สุขาปิ สพฺพตฺถ ยถานุรูปํ โยเชตพฺพา. วตฺถุวเสน จาปิ หีนวตฺถุกา ยา กาจิ เวทนา โอฬาริกา, ปณีตวตฺถุกา สุขุมา. หีนปณีตเภเท ยา โอฬาริกา, สา หีนา. ยา จ สุขุมา, สา ปณีตาติ ทฏฺพฺพา.
ทูรสนฺติกปเท ปน ¶ ‘‘อกุสลา เวทนา กุสลาพฺยากตาหิ เวทนาหิ ทูเร, อกุสลา เวทนา อกุสลาย เวทนาย สนฺติเก’’ติอาทินา (วิภ. ๑๓) นเยน วิภงฺเค วิภตฺตา. ตสฺมา อกุสลา เวทนา วิสภาคโต อสํสฏฺโต อสริกฺขโต จ กุสลาพฺยากตาหิ ทูเร, ตถา กุสลาพฺยากตา อกุสลาย. เอส นโย สพฺพวาเรสุ. อกุสลา ¶ ปน เวทนา สภาคโต สํสฏฺโต สริกฺขโต จ อกุสลาย สนฺติเกติ อิทํ เวทนาย อตีตาทิวิภาเค วิตฺถารกถามุขํ. ตํตํเวทนาสมฺปยุตฺตานํ ปน สฺาทีนมฺปิ เอตํ เอวเมว เวทิตพฺพํ.
เย ปเนตฺถ เวทนาทีสุ จกฺขุ…เป… ชรามรณนฺติ เปยฺยาเลน สํขิตฺเตสุ จ ธมฺเมสุ โลกุตฺตรธมฺมา อาคตา, เต อสมฺมสนูปคตฺตา อิมสฺมึ อธิกาเร น คเหตพฺพา. เต ปน เกวลํ เตน เตน ปเทน สงฺคหิตธมฺมทสฺสนวเสน จ อภิฺเยฺยนิทฺเทเส อาคตนเยน จ วุตฺตา. เยปิ จ สมฺมสนูปคา, เตสุ เย ยสฺส ปากฏา โหนฺติ, สุเขน ปริคฺคหํ คจฺฉนฺติ, เตสุ เตน สมฺมสนํ อารภิตพฺพํ. ชาติชรามรณวเสน วิสุํ สมฺมสนาภาเวปิ ชาติชรามรณวนฺเตสุเยว ปน สมฺมสิเตสุ ตานิปิ สมฺมสิตานิ โหนฺตีติ ปริยาเยน เตสมฺปิ วเสน สมฺมสนํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจโต ววตฺเถตีติอาทินา นเยน อตีตตฺติกสฺเสว จ วเสน สมฺมสนสฺส วุตฺตตฺตา อชฺฌตฺตาทิเภทํ อนามสิตฺวาปิ อตีตตฺติกสฺเสว วเสน ปริจฺฉินฺทิตฺวาปิ อนิจฺจาทิโต สมฺมสนํ กาตพฺพเมว.
ยํ ปน อนิจฺจํ, ตํ ยสฺมา นิยมโต สงฺขตาทิเภทํ โหติ, เตนสฺส ปริยายทสฺสนตฺถํ, นานากาเรหิ วา มนสิการปฺปวตฺติทสฺสนตฺถํ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ สงฺขตนฺติอาทิมาห ¶ . ตฺหิ หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจํ, อนิจฺจนฺติกตาย อาทิอนฺตวนฺตตาย วา อนิจฺจํ. ปจฺจเยหิ สมาคนฺตฺวา กตตฺตา สงฺขตํ. ปจฺจเย ปฏิจฺจ นิสฺสาย สมํ, สห วา อุปฺปนฺนตฺตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ. เอเตน ปจฺจเยหิ กเตปิ ปจฺจยานํ อพฺยาปารตํ ทสฺเสติ. ขยธมฺมนฺติ ขียนธมฺมํ ขียนปกติกํ. วยธมฺมนฺติ นสฺสนธมฺมํ. นยิทํ มนฺทีภาวกฺขยวเสน ¶ ขยธมฺมํ, เกวลํ วิคมนปกติกํ. ปหูตสฺส มนฺทีภาโวปิ หิ โลเก ขโยติ วุจฺจติ. วิราคธมฺมนฺติ นยิทํ กุหิฺจิ คมนวเสน วยธมฺมํ, เกวลํ สภาวาติกฺกมนปกติกํ. ‘‘วิราโค นาม ชิคุจฺฉนํ วา สมติกฺกโม วา’’ติ หิ วุตฺตํ. นิโรธธมฺมนฺติ นยิทํ สภาวาติกฺกเมน ปุนราวตฺติธมฺมํ, เกวลํ อปุนราวตฺตินิโรเธน นิรุชฺฌนปกติกนฺติ ปุริมปุริมปทสฺส อตฺถวิวรณวเสน ปจฺฉิมปจฺฉิมปทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อถ ¶ วา เอกภวปริยาปนฺนรูปภงฺควเสน ขยธมฺมํ, เอกสนฺตติปริยาปนฺนรูปกฺขยวเสน วยธมฺมํ, รูปสฺส ขณภงฺควเสน วิราคธมฺมํ, ติณฺณมฺปิ อปุนปฺปวตฺติวเสน นิโรธธมฺมนฺติปิ โยเชตพฺพํ.
ชรามรณํ อนิจฺจนฺติอาทีสุ ชรามรณํ น อนิจฺจํ, อนิจฺจสภาวานํ ปน ขนฺธานํ ชรามรณตฺตา อนิจฺจํ นาม ชาตํ. สงฺขตาทีสุปิ เอเสว นโย. อนฺตรเปยฺยาเล ชาติยาปิ อนิจฺจาทิตาย เอเสว นโย.
ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติอาทิ น วิปสฺสนาวเสน วุตฺตํ, เกวลํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส เอเกกองฺควเสน สงฺขิปิตฺวา ววตฺถานโต สมฺมสนาณํ นาม โหตีติ ปริยาเยน วุตฺตํ. น ปเนตํ กลาปสมฺมสนาณํ ธมฺมฏฺิติาณเมว ตํ โหตีติ. อสติ ชาติยาติ ลิงฺควิปลฺลาโส กโต, อสติยา ชาติยาติ วุตฺตํ โหติ. อสติ สงฺขาเรสูติ วจนวิปลฺลาโส กโต, อสนฺเตสุ สงฺขาเรสูติ วุตฺตํ โหติ. ภวปจฺจยา ชาติ, อสตีติอาทิ ‘‘ภวปจฺจยา ชาติ, อสติ ภเว นตฺถิ ชาตี’’ติอาทินา นเยน โยเชตพฺพํ.
สมฺมสนาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อุทยพฺพยาณนิทฺเทสวณฺณนา
๔๙. อิทานิ ¶ ¶ อนนฺตรํ วุตฺตสฺส สมฺมสนาณสฺส นานานเยหิ ภาวนาถิรกรเณน ปารํ คนฺตฺวา ิเตน อนิจฺจาทิโต ทิฏฺเ สงฺขาเร อุทยพฺพเยน ปริจฺฉินฺทิตฺวา อนิจฺจาทิโต วิปสฺสนตฺถํ วุตฺตสฺส อุทยพฺพยานุปสฺสนาาณสฺส นิทฺเทเส ชาตํ รูปนฺติอาทีสุ สนฺตติวเสน ยถาสกํ ปจฺจเยหิ นิพฺพตฺตํ รูปํ. ตสฺส ชาตสฺส รูปสฺส นิพฺพตฺติลกฺขณํ ชาตึ อุปฺปาทํ อภินวาการํ อุทโยติ, วิปริณามลกฺขณํ ขยํ ภงฺคํ วโยติ, อนุปสฺสนา ปุนปฺปุนํ นิสามนา, อุทยพฺพย อนุปสฺสนาาณนฺติ อตฺโถ. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย. ชาติชรามรณวนฺตานํเยว อุทยพฺพยสฺส ปริคฺคเหตพฺพตฺตา ชาติชรามรณานํ อุทยพฺพยาภาวโต ชาติชรามรณํ อนามสิตฺวา ชาตํ จกฺขุ…เป… ชาโต ภโวติ เปยฺยาลํ กตํ. โส เอวํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ ¶ ปสฺสนฺโต เอวํ ชานาติ ‘‘อิเมสํ ขนฺธานํ อุปฺปตฺติโต ปุพฺเพ อนุปฺปนฺนานํ ราสิ วา นิจโย วา นตฺถิ, อุปฺปชฺชมานานมฺปิ ราสิโต วา นิจยโต วา อาคมนํ นาม นตฺถิ, นิรุชฺฌมานานมฺปิ ทิสาวิทิสาคมนํ นาม นตฺถิ, นิรุทฺธานมฺปิ เอกสฺมึ าเน ราสิโต นิจยโต นิธานโต อวฏฺานํ นาม นตฺถิ. ยถา ปน วีณาย วาทิยมานาย อุปฺปนฺนสฺส สทฺทสฺส เนว อุปฺปตฺติโต ปุพฺเพ สนฺนิจโย อตฺถิ, น อุปฺปชฺชมาโน สนฺนิจยโต อาคโต, น นิรุชฺฌมานสฺส ทิสาวิทิสาคมนํ อตฺถิ, น นิรุทฺโธ กตฺถจิ สนฺนิจิโต ติฏฺติ, อถ โข วีณฺจ อุปวีณฺจ ปุริสสฺส จ ตชฺชํ วายามํ ปฏิจฺจ อหุตฺวา สมฺโภติ, หุตฺวา ปฏิเวติ, เอวํ สพฺเพปิ รูปารูปิโน ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’’ติ.
๕๐. เอวํ สงฺเขปโต อุทยพฺพยทสฺสนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุทยํ ปสฺสนฺโต กติ ลกฺขณานิ ปสฺสตีติอาทีหิ ราสิโต คณนํ ปุจฺฉิตฺวา, ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุทยํ ปสฺสนฺโต ปฺจวีสติ ลกฺขณานิ ปสฺสตีติอาทีหิ ¶ ราสิโตว คณนํ วิสฺสชฺเชตฺวา, ปุน รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสนฺโต กติ ลกฺขณานิ ปสฺสตีติอาทีหิ วิภาคโต คณนํ ปุจฺฉิตฺวา รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสนฺโต ปฺจ ลกฺขณานิ ปสฺสตีติอาทีหิ วิภาคโต คณนํ วิสฺสชฺเชตฺวา, ปุน รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสนฺโต กตมานิ ปฺจ ลกฺขณานิ ปสฺสตีติอาทีหิ ลกฺขณวิภาคํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ กตํ.
ตตฺถ อวิชฺชาสมุทยา รูปสมุทโยติ ‘‘ปุริมกมฺมภวสฺมึ โมโห อวิชฺชา’’ติ วุตฺตาย อวิชฺชาย สติ อิมสฺมึ ภเว รูปสฺส อุปฺปาโท โหตีติ อตฺโถ. ปจฺจยสมุทยฏฺเนาติ ปจฺจยสฺส อุปฺปนฺนภาเวนาติ อตฺโถ. อวิชฺชาตณฺหากมฺมานิ เจตฺถ อิธ ปฏิสนฺธิเหตุภูตา อตีตปจฺจยา ¶ . อิเมสุ จ ตีสุ คหิเตสุ สงฺขารุปาทานานิ คหิตาเนว โหนฺติ. อาหารสมุทยาติ ปวตฺติปจฺจเยสุ กพฬีการาหารสฺส พลวตฺตา โสเยว คหิโต. ตสฺมึ ปน คหิเต ปวตฺติเหตุภูตานิ อุตุจิตฺตานิปิ คหิตาเนว โหนฺติ. นิพฺพตฺติลกฺขณนฺติ อทฺธาสนฺตติขณวเสน รูปสฺส อุปฺปาทํ, อุปฺปาโทเยว สงฺขตลกฺขณตฺตา ลกฺขณนฺติ จ วุตฺโต. ปฺจ ลกฺขณานีติ อวิชฺชา ตณฺหา กมฺมาหารา นิพฺพตฺติ จาติ อิมานิ ปฺจ ¶ ลกฺขณานิ. อวิชฺชาทโยปิ หิ รูปสฺส อุทโย ลกฺขียติ เอเตหีติ ลกฺขณานิ. นิพฺพตฺติ ปน สงฺขตลกฺขณเมว, ตมฺปิ สงฺขตนฺติ ลกฺขียติ เอเตนาติ ลกฺขณํ.
อวิชฺชานิโรธา รูปนิโรโธติ อนาคตภวสฺส ปจฺจยภูตาย อิมสฺมึ ภเว อวิชฺชาย อรหตฺตมคฺคาเณน นิโรเธ กเต ปจฺจยาภาวา อนาคตสฺส รูปสฺส อนุปฺปาโท นิโรโธ โหตีติ อตฺโถ. ปจฺจยนิโรธฏฺเนาติ ปจฺจยสฺส นิรุทฺธภาเวนาติ อตฺโถ. นิโรโธ เจตฺถ อนาคตปฏิสนฺธิปจฺจยานํ อิธ อวิชฺชาตณฺหากมฺมานํเยว นิโรโธ. อาหารนิโรธา รูปนิโรโธติ ปวตฺติปจฺจยสฺส กพฬีการาหารสฺส อภาเว ตํสมุฏฺานรูปาภาโว โหติ. วิปริณามลกฺขณนฺติ อทฺธาสนฺตติขณวเสน รูปสฺส ภงฺคํ, ภงฺโคเยว สงฺขตลกฺขณตฺตา ลกฺขณนฺติ วุตฺโต. อิธ ปฺจ ลกฺขณานีติ อวิชฺชาตณฺหากมฺมาหารานํ อภาวนิโรธา จตฺตาริ, วิปริณาโม เอกนฺติ ปฺจ. เอส นโย เวทนากฺขนฺถาทีสุ. อยํ ปน วิเสโส – อรูปกฺขนฺธานํ อุทยพฺพยทสฺสนํ อทฺธาสนฺตติวเสน, น ขณวเสน. ผสฺโส เวทนาสฺาสงฺขารกฺขนฺธานํ ปวตฺติปจฺจโย, ตํนิโรธา จ เตสํ นิโรโธ. นามรูปํ ¶ วิฺาณกฺขนฺธสฺส ปวตฺติปจฺจโย, ตํนิโรธา จ ตสฺส นิโรโธติ.
เกจิ ปนาหุ – ‘‘จตุธา ปจฺจยโต อุทยพฺพยทสฺสเน อตีตาทิวิภาคํ อนามสิตฺวาว สพฺพสามฺวเสน อวิชฺชาทีหิ อุเทตีติ อุปฺปชฺชมานภาวมตฺตํ คณฺหาติ, น อุปฺปาทํ. อวิชฺชาทินิโรธา นิรุชฺชตีติ อนุปฺปชฺชมานภาวมตฺตํ คณฺหาติ, น ภงฺคํ. ขณโต อุทยพฺพยทสฺสเน ปจฺจุปฺปนฺนานํ อุปฺปาทํ ภงฺคํ คณฺหาตี’’ติ.
วิปสฺสมาโน ปน วิปสฺสโก ปมํ ปจฺจยโต อุทยพฺพยํ มนสิกริตฺวา วิปสฺสนากาเล อวิชฺชาทิเก จตุโร ธมฺเม วิสฺสชฺเชตฺวา อุทยพฺพยวนฺเตเยว ขนฺเธ คเหตฺวา เตสํ อุทยพฺพยํ ปสฺสติ, เอวฺจ ตสฺส วิปสฺสกสฺส ‘‘เอวํ รูปาทีนํ อุทโย, เอวํ วโย, เอวํ รูปาทโย อุเทนฺติ, เอวํ เวนฺตี’’ติ ปจฺจยโต จ ขณโต จ วิตฺถาเรน อุทยพฺพยํ ปสฺสโต ‘‘อิติ กิร อิเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’’ติ าณํ วิสทตรํ โหติ, สจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทนยลกฺขณเภทา ปากฏา โหนฺติ ¶ . ยฺหิ โส อวิชฺชาทิสมุทยา ขนฺธานํ สมุทยํ อวิชฺชาทินิโรธา ¶ จ ขนฺธานํ นิโรธํ ปสฺสติ, อิทมสฺส ปจฺจยโต อุทยพฺพยทสฺสนํ. ยํ ปน นิพฺพตฺติลกฺขณวิปริณามลกฺขณานิ ปสฺสนฺโต ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ ปสฺสติ, อิทมสฺส ขณโต อุทยพฺพยทสฺสนํ. อุปฺปตฺติกฺขเณเยว หิ นิพฺพตฺติลกฺขณํ, ภงฺคกฺขเณ จ วิปริณามลกฺขณํ.
อิจฺจสฺเสวํ ปจฺจยโต เจว ขณโต จ ทฺเวธา อุทยพฺพยํ ปสฺสโต ปจฺจยโต อุทยทสฺสเนน สมุทยสจฺจํ ปากฏํ โหติ ชนกาวโพธโต. ขณโต อุทยทสฺสเนน ทุกฺขสจฺจํ ปากฏํ โหติ ชาติทุกฺขาวโพธโต. ปจฺจยโต วยทสฺสเนน นิโรธสจฺจํ ปากฏํ โหติ ปจฺจยานุปฺปาเทน ปจฺจยวตํ อนุปฺปาทาวโพธโต. ขณโต วยทสฺสเนน ทุกฺขสจฺจเมว ปากฏํ โหติ มรณทุกฺขาวโพธโต. ยฺจสฺส อุทยพฺพยทสฺสนํ, มคฺโควายํ โลกิโกติ มคฺคสจฺจํ ปากฏํ โหติ ตตฺร สมฺโมหวิฆาตโต.
ปจฺจยโต จสฺส อุทยทสฺสเนน อนุโลโม ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ปากโฏ โหติ ‘‘อิมสฺมึ สติ อิทํ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๐๔; สํ. นิ. ๒.๒๑; อุทา. ๑) อวโพธโต. ปจฺจยโต วยทสฺสเนน ปฏิโลโม ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ปากโฏ โหติ ‘‘อิมสฺส นิโรธา อิทํ นิรุชฺฌตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๐๖; สํ. นิ. ๒.๒๑; อุทา. ๒) อวโพธโต. ขณโต ปน อุทยพฺพยทสฺสเนน ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ธมฺมา ปากฏา โหนฺติ ¶ สงฺขตลกฺขณาวโพธโต. อุทยพฺพยวนฺโต หิ สงฺขตา, เต จ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนาติ.
ปจฺจยโต จสฺส อุทยทสฺสเนน เอกตฺตนโย ปากโฏ โหติ เหตุผลสมฺพนฺเธน สนฺตานสฺส อนุปจฺเฉทาวโพธโต. อถ สุฏฺุตรํ อุจฺเฉททิฏฺึ ปชหติ. ขณโต อุทยทสฺสเนน นานตฺตนโย ปากโฏ โหติ นวนวานํ อุปฺปาทาวโพธโต. อถ สุฏฺุตรํ สสฺสตทิฏฺึ ปชหติ. ปจฺจยโต จสฺส อุทยพฺพยทสฺสเนน อพฺยาปารนโย ปากโฏ โหติ ธมฺมานํ อวสวตฺติภาวาวโพธโต. อถ สุฏฺุตรํ อตฺตทิฏฺึ ปชหติ. ปจฺจยโต ปน อุทยทสฺสเนน เอวํธมฺมตานโย ปากโฏ โหติ ปจฺจยานุรูเปน ผลสฺสุปฺปาทาวโพธโต. อถ สุฏฺุตรํ อกิริยทิฏฺึ ปชหติ.
ปจฺจยโต ¶ จสฺส อุทยทสฺสเนน อนตฺตลกฺขณํ ปากฏํ โหติ ธมฺมานํ นิรีหกตฺตปจฺจยปฏิพทฺธวุตฺติตาวโพธโต. ขณโต อุทยพฺพยทสฺสเนน อนิจฺจลกฺขณํ ปากฏํ โหติ หุตฺวา อภาวาวโพธโต, ปุพฺพนฺตาปรนฺตวิเวกาวโพธโต จ. ทุกฺขลกฺขณมฺปิ ปากฏํ โหติ อุทยพฺพเยหิ ปฏิปีฬนาวโพธโต. สภาวลกฺขณมฺปิ ปากฏํ โหติ อุทยพฺพยปริจฺฉินฺนาวโพธโต ¶ . สภาวลกฺขเณ สงฺขตลกฺขณสฺส ตาวกาลิกตฺตมฺปิ ปากฏํ โหติ, อุทยกฺขเณ วยสฺส, วยกฺขเณ จ อุทยสฺส อภาวาวโพธโตติ.
ตสฺเสวํ ปากฏีภูตสจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทนยลกฺขณเภทสฺส ‘‘เอวํ กิร นามิเม ธมฺมา อนุปฺปนฺนปุพฺพา อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา นิรุชฺฌนฺตี’’ติ นิจฺจนวาว หุตฺวา สงฺขารา อุปฏฺหนฺติ. น เกวลฺจ นิจฺจนวาว, สูริยุคฺคมเน อุสฺสาวพินฺทุ วิย อุทกปุพฺพุโฬ วิย อุทเก ทณฺฑราชิ วิย อารคฺเค สาสโป วิย วิชฺชุปฺปาโท วิย จ ปริตฺตฏฺายิโน มายามรีจิสุปินนฺตอลาตจกฺกคนฺธพฺพนครเผณกทลิอาทโย วิย อสารา นิสฺสาราติ จาปิ อุปฏฺหนฺติ. เอตฺตาวตา เตน ‘‘วยธมฺมเมว อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนฺจ วยํ อุเปตี’’ติ อิมินา อากาเรน สมปฺาส ลกฺขณานิ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิตํ อุทยพฺพยานุปสฺสนา นาม ปมํ ตรุณวิปสฺสนาาณํ อธิคตํ โหติ, ยสฺสาธิคมา ‘‘อารทฺธวิปสฺสโก’’ติ สงฺขํ คจฺฉติ. อิมสฺมึ าเณ ิตสฺส โอภาสาทโย ¶ ทส วิปสฺสนูปกฺกิเลสา อุปฺปชฺชนฺติ, เยสํ อุปฺปตฺติยา อกุสโล โยคาวจโร เตสุ มคฺคาณสฺี หุตฺวา อมคฺคเมว ‘‘มคฺโค’’ติ คณฺหาติ, อุปกฺกิเลสชฏาชฏิโต จ โหติ. กุสโล ปน โยคาวจโร เตสุ วิปสฺสนํ อาโรเปนฺโต อุปกฺกิเลสชฏํ วิชเฏตฺวา ‘‘เอเต ธมฺมา น มคฺโค, อุปกฺกิเลสวิมุตฺตํ ปน วีถิปฏิปนฺนํ วิปสฺสนาาณํ มคฺโค’’ติ มคฺคฺจ อมคฺคฺจ ววตฺถเปติ. ตสฺเสวํ มคฺคฺจ อมคฺคฺจ ตฺวา ิตํ าณํ มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธิ นาม.
เอตฺตาวตา จ ปน เตน จตุนฺนํ สจฺจานํ ววตฺถานํ กตํ โหติ. กถํ? นามรูปปริคฺคเห สติ ปจฺจยปริคฺคหสมฺภวโต ธมฺมฏฺิติาณวจเนเนว วุตฺเตน ทิฏฺิวิสุทฺธิสงฺขาเตน นามรูปววตฺถาปเนน ทุกฺขสจฺจสฺส ววตฺถานํ กตํ โหติ, กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิสงฺขาเตน ปจฺจยปริคฺคหเณน สมุทยสจฺจสฺส ววตฺถานํ, อุทยพฺพยานุปสฺสเนน จ ขณโต อุทยพฺพยทสฺสเนน ทุกฺขสจฺจสฺส ¶ ววตฺถานํ กตํ, ปจฺจยโต อุทยทสฺสเนน สมุทยสจฺจสฺส ววตฺถานํ, ปจฺจยโต วยทสฺสเนน นิโรธสจฺจสฺส ววตฺถานํ, ยฺจสฺส อุทยพฺพยทสฺสนํ, มคฺโควายํ โลกิโกติ ตตฺร สมฺโมหวิฆาตโต อิมิสฺสฺจ มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธิยํ วิปสฺสโต สมฺมา มคฺคสฺส อวธารเณน มคฺคสจฺจสฺส ววตฺถานํ กตํ. เอวํ โลกิเยน ตาว าเณน จตุนฺนํ สจฺจานํ ววตฺถานํ กตํ โหตีติ.
อุทยพฺพยาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ภงฺคานุปสฺสนาาณนิทฺเทสวณฺณนา
๕๑. โส ¶ ¶ อุทยพฺพยานุปสฺสนายํ ิโต โยคาวจโร มคฺคามคฺคววตฺถาปเนน อุปกฺกิเลสวิมุตฺตํ วีถิปฏิปนฺนํ อุทยพฺพยานุปสฺสนาาณํ ‘‘มคฺโค’’ติ ตฺวา ติลกฺขณสลฺลกฺขเณน ตสฺเสว มคฺคสฺส สุวิสทกรณตฺถํ ปุน อุทยพฺพยานุปสฺสนํ อารภิตฺวา อุทยพฺพเยน ปริจฺฉินฺเน สงฺขาเร อนิจฺจาทิโต วิปสฺสติ. เอวํ ตสฺส ตํ าณํ ติกฺขํ หุตฺวา วหติ, สงฺขารา ลหุํ อุปฏฺหนฺติ, าเณ ติกฺเข วหนฺเต สงฺขาเรสุ ลหุํ อุปฏฺหนฺเตสุ อุปฺปาทํ อติกฺกมิตฺวา ภงฺเค เอว สติ สนฺติฏฺติ. นิโรธาธิมุตฺตตฺตา วา อุทยํ ปหาย ภงฺเคเยว สตึ อุปฏฺเปติ. เอตสฺมึ าเน ภงฺคานุปสฺสนาาณํ อุปฺปชฺชติ. อิทานิ ตสฺส าณสฺส นิทฺเทเส รูปารมฺมณตา จิตฺตํ อุปฺปชฺชิตฺวา ภิชฺชตีติ รูปารมฺมณํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชิตฺวา ภิชฺชติ. อถ วา รูปารมฺมณภาเว จิตฺตํ อุปฺปชฺชิตฺวา ภิชฺชตีติ อตฺโถ. ตํ อารมฺมณํ ปฏิสงฺขาติ ตํ รูปารมฺมณํ ปฏิสงฺขาย ชานิตฺวา, ขยโต วยโต ทิสฺวาติ อตฺโถ. ตสฺส จิตฺตสฺส ภงฺคํ อนุปสฺสตีติ เยน จิตฺเตน ตํ รูปารมฺมณํ ขยโต วยโต ทิฏฺํ, ตสฺส จิตฺตสฺส อปเรน จิตฺเตน ภงฺคํ อนุปสฺสตีติ อตฺโถ. เตนาหุ โปราณา – ‘‘าตฺจ าณฺจ อุโภ วิปสฺสตี’’ติ. จิตฺตนฺติ เจตฺถ สสมฺปยุตฺตจิตฺตํ อธิปฺเปตํ.
อนุปสฺสตีติ อนุ อนุ ปสฺสติ, อเนเกหิ อากาเรหิ ปุนปฺปุนํ ปสฺสตีติ อตฺโถ. เตนาห อนุปสฺสตีติ กถํ อนุปสฺสติ, อนิจฺจโต อนุปสฺสตีติอาทิ ¶ . ตตฺถ ยสฺมา ภงฺโค นาม อนิจฺจตาย ปรมา โกฏิ, ตสฺมา ภงฺคานุปสฺสโก โยคาวจโร สพฺพํ รูปคตํ อนิจฺจโต อนุปสฺสติ, โน นิจฺจโต. ตโต อนิจฺจสฺส ทุกฺขตฺตา, ทุกฺขสฺส จ อนตฺตตฺตา, ตเทว ทุกฺขโต อนุปสฺสติ, โน สุขโต. อนตฺตโต อนุปสฺสติ, โน อตฺตโต ¶ . ยสฺมา ปน ยํ อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา, น ตํ อภินนฺทิตพฺพํ. ยฺจ น อภินนฺทิตพฺพํ, น ตตฺถ รชฺชิตพฺพํ. ตสฺมา เอส ตสฺมึ ภงฺคานุปสฺสนานุสาเรน ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา’’ติ ทิฏฺเ รูปคเต นิพฺพินฺทติ, โน นนฺทติ. วิรชฺชติ, โน รชฺชติ. โส เอวํ วิรชฺชนฺโต โลกิเกเนว ตาว าเณน ราคํ นิโรเธติ, โน สมุเทติ, สมุทยํ น กโรตีติ อตฺโถ. อถ วา โส เอวํ วิรตฺโต ยถา ทิฏฺํ รูปคตํ, ตถา อทิฏฺมฺปิ อนฺวยาณวเสน นิโรเธติ, โน สมุเทติ. นิโรธโตว มนสิ กโรติ, นิโรธเมวสฺส ปสฺสติ, โน สมุทยนฺติ อตฺโถ. โส เอวํ ปฏิปนฺโน ปฏินิสฺสชฺชติ, โน อาทิยติ. กึ วุตฺตํ โหติ? อยมฺปิ หิ อนิจฺจาทิอนุปสฺสนา ตทงฺควเสน สทฺธึ ขนฺธาภิสงฺขาเรหิ กิเลสานํ ปริจฺจชนโต, สงฺขตโทสทสฺสเนน จ ตพฺพิปรีเต นิพฺพาเน ตนฺนินฺนตาย ปกฺขนฺทนโต ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค เจว ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโค ¶ จาติ วุจฺจติ. ตสฺมา ตาย สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ยถาวุตฺเตน นเยน กิเลเส จ ปริจฺจชติ, นิพฺพาเน จ ปกฺขนฺทติ. นาปิ นิพฺพตฺตนวเสน กิเลเส อาทิยติ, น อโทสทสฺสิตาวเสน สงฺขตารมฺมณํ. เตน วุจฺจติ ปฏินิสฺสชฺชติ, โน อาทิยตีติ.
๕๒. อิทานิสฺส เตหิ าเณหิ เยสํ ธมฺมานํ ปหานํ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต นิจฺจสฺํ ปชหตีติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นนฺทินฺติ สปฺปีติกํ ตณฺหํ. ราคนฺติ เสสํ ตณฺหํ. สมุทยนฺติ ราคสฺส อุปฺปตฺตึ. อถ วา รูปคตสฺส อุทยํ. อาทานนฺติ นิพฺพตฺตนวเสน กิเลสานํ อาทานํ. เวทนารมฺมณตาติอาทีนิ อิธ จ เหฏฺา จ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.
คาถาสุ ปน วตฺถุสงฺกมนาติ รูปาทีสุ เอเกกสฺส ภงฺคํ ทิสฺวา ปุน เยน จิตฺเตน ภงฺโค ทิฏฺโ, ตสฺสาปิ ภงฺคทสฺสนวเสน ปุริมวตฺถุโต อฺวตฺถุสงฺกมนา. ปฺาย จ วิวฏฺฏนาติ อุทยํ ปหาย วเย สนฺติฏฺนา. อาวชฺชนา พลฺเจวาติ รูปาทีสุ เอเกกสฺส ภงฺคํ ทิสฺวา ปุน ภงฺคารมฺมณสฺส จิตฺตสฺส ภงฺคทสฺสนตฺถํ อนนฺตรเมว อาวชฺชนสมตฺถตา. ปฏิสงฺขา วิปสฺสนาติ ¶ เอสา อารมฺมณปฏิสงฺขา ภงฺคานุปสฺสนา นาม. อารมฺมณอนฺวเยน ¶ อุโภ เอกววตฺถนาติ ปจฺจกฺขโต ทิฏฺสฺส อารมฺมณสฺส อนฺวเยน อนุคมเนน ยถา อิทํ, ตถา อตีเตปิ สงฺขารคตํ ภิชฺชิ, อนาคเตปิ ภิชฺชิสฺสตีติ เอวํ อุภินฺนํ เอกสภาเวเนว ววตฺถาปนนฺติ อตฺโถ. วุตฺตมฺปิ เจตํ โปราเณหิ –
‘‘สํวิชฺชมานมฺหิ วิสุทฺธทสฺสโน, ตทนฺวยํ เนติ อตีตนาคเต;
สพฺเพปิ สงฺขารคตา ปโลกิโน, อุสฺสาวพินฺทู สูริเยว อุคฺคเต’’ติ.
นิโรเธ อธิมุตฺตตาติ เอวํ อุภินฺนํ ภงฺควเสน เอกววตฺถานํ กตฺวา ตสฺมึเยว ภงฺคสงฺขาเต นิโรเธ อธิมุตฺตตา ตคฺครุตา ตนฺนินฺนตา ตปฺโปณตา ตปฺปพฺภารตาติ อตฺโถ. วยลกฺขณวิปสฺสนาติ เอสา วยลกฺขณวิปสฺสนา นามาติ วุตฺตํ โหติ. อารมฺมณฺจ ปฏิสงฺขาติ ปุริมฺจ รูปาทิอารมฺมณํ ชานิตฺวา. ภงฺคฺจ อนุปสฺสตีติ ตสฺสารมฺมณสฺส ภงฺคํ ทิสฺวา ตทารมฺมณสฺส จิตฺตสฺส จ ภงฺคํ อนุปสฺสติ. สฺุโต จ อุปฏฺานนฺติ ตสฺเสวํ ภงฺคมนุปสฺสโต ‘‘สงฺขาราว ภิชฺชนฺติ, เตสํ เภโท มรณํ, น อฺโ โกจิ อตฺถี’’ติ สฺุโต อุปฏฺานํ อิชฺฌติ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ขนฺธา ¶ นิรุชฺฌนฺติ น จตฺถิ อฺโ, ขนฺธาน เภโท มรณนฺติ วุจฺจติ;
เตสํ ขยํ ปสฺสติ อปฺปมตฺโต, มณึว วิชฺฌํ วชิเรน โยนิโส’’ติ.
อธิปฺา วิปสฺสนาติ ยา จ อารมฺมณปฏิสงฺขา, ยา จ ภงฺคานุปสฺสนา, ยฺจ สฺุโต อุปฏฺานํ, อยํ อธิปฺา วิปสฺสนา นามาติ วุตฺตํ โหติ. กุสโล ตีสุ อนุปสฺสนาสูติ อนิจฺจานุปสฺสนาทีสุ ตีสุ เฉโก ภิกฺขุ. จตสฺโส จ วิปสฺสนาสูติ นิพฺพิทาทีสุ จ จตูสุ วิปสฺสนาสุ. ตโย อุปฏฺาเน กุสลตาติ ขยโต วยโต สฺุโตติ อิมสฺมิฺจ ติวิเธ อุปฏฺาเน กุสลตาย. นานาทิฏฺีสุ น กมฺปตีติ สสฺสตทิฏฺิอาทีสุ ¶ นานปฺปการาสุ ทิฏฺีสุ น เวธติ. โส เอวํ อเวธมาโน ‘‘อนิรุทฺธเมว นิรุชฺฌติ, อภินฺนเมว ภิชฺชตี’’ติ ปวตฺตมนสิกาโร ทุพฺพลภาชนสฺส ¶ วิย ภิชฺชมานสฺส, สุขุมรชสฺเสว วิปฺปกิริยมานสฺส, ติลานํ วิย ภชฺชิยมานานํ สพฺพสงฺขารานํ อุปฺปาทฏฺิติปวตฺตนิมิตฺตํ วิสฺสชฺเชตฺวา เภทเมว ปสฺสติ. โส ยถา นาม จกฺขุมา ปุริโส โปกฺขรณีตีเร วา นทีตีเร วา ิโต ถูลผุสิตเก เทเว วสฺสนฺเต อุทกปิฏฺเ มหนฺตมหนฺตานิ อุทกปุพฺพุฬานิ อุปฺปชฺชิตฺวา อุปฺปชฺชิตฺวา สีฆํ สีฆํ ภิชฺชมานานิ ปสฺเสยฺย, เอวเมว สพฺเพ สงฺขารา ภิชฺชนฺติ ภิชฺชนฺตีติ ปสฺสติ. เอวรูปฺหิ โยคาวจรํ สนฺธาย วุตฺตํ ภควตา –
‘‘ยถา ปุพฺพุฬกํ ปสฺเส, ยถา ปสฺเส มรีจิกํ;
เอวํ โลกํ อเวกฺขนฺตํ, มจฺจุราชา น ปสฺสตี’’ติ. (ธ. ป. ๑๗๐);
ตสฺเสวํ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา ภิชฺชนฺติ ภิชฺชนฺตี’’ติ อภิณฺหํ ปสฺสโต อฏฺานิสํสปริวารํ ภงฺคานุปสฺสนาาณํ พลปฺปตฺตํ โหติ. ตตฺริเม อฏฺานิสํสา – ภวทิฏฺิปฺปหานํ, ชีวิตนิกนฺติปริจฺจาโค, สทายุตฺตปยุตฺตตา, วิสุทฺธาชีวิตา, อุสฺสุกฺกปฺปหานํ, วิคตภยตา, ขนฺติโสรจฺจปฏิลาโภ, อรติรติสหนตาติ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘อิมานิ อฏฺคฺคุณมุตฺตมานิ, ทิสฺวา ตหึ สมฺมสตี ปุนปฺปุนํ;
อาทิตฺตเจลสฺสิรสูปโม มุนิ, ภงฺคานุปสฺสี อมตสฺส ปตฺติยา’’ติ.
ภงฺคานุปสฺสนาาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อาทีนวาณนิทฺเทสวณฺณนา
๕๓. อาทีนวาณนิทฺเทเส ¶ ¶ อุปฺปาโทติ ปุริมกมฺมปจฺจยา อิธ อุปฺปตฺติ. ปวตฺตนฺติ ตถาอุปฺปนฺนสฺส ปวตฺติ. นิมิตฺตนฺติ สพฺพมฺปิ สงฺขารนิมิตฺตํ. อายูหนาติ อายตึ ปฏิสนฺธิเหตุภูตํ กมฺมํ. ปฏิสนฺธีติ อายตึ อุปฺปตฺติ. คตีติ ยาย คติยา สา ปฏิสนฺธิ โหติ. นิพฺพตฺตีติ ขนฺธานํ นิพฺพตฺตนํ. อุปปตฺตีติ ‘‘สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา’’ติ (ธ. ส. ๑๒๘๙) เอวํ วุตฺตา วิปากปฺปวตฺติ ¶ . ชาตีติ ชราทีนํ ปจฺจยภูตา ภวปจฺจยา ชาติ. นิปฺปริยายโต ตตฺถ ตตฺถ นิพฺพตฺตมานานํ สตฺตานํ เย เย ขนฺธา ปาตุภวนฺติ, เตสํ ปมปาตุภาโว ชาติ. ชราติ ขณฺฑิจฺจาทิสมฺมโต สนฺตติยํ เอกภวปริยาปนฺนขนฺธสนฺตานสฺส ปุราณภาโว. โสโกติ าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺสฺส จิตฺตสนฺตาโป. ปริเทโวติ าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺสฺส วจีปลาโป. อุปายาโสติ ภุโส อายาโส, าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺสฺส อธิมตฺตเจโตทุกฺขปฺปภาวิโต โทโสเยว. เอตฺถ จ อุปฺปาทาทโย ปฺเจว อาทีนวาณสฺส วตฺถุวเสน วุตฺตา, เสสา เตสํ เววจนวเสน. ‘‘นิพฺพตฺติ ชาตี’’ติ อิทฺหิ ทฺวยํ อุปฺปาทสฺส เจว ปฏิสนฺธิยา จ เววจนํ, ‘‘คติ อุปปตฺตี’’ติ อิทํ ทฺวยํ ปวตฺตสฺส, ชราทโย นิมิตฺตสฺสาติ. เตนาห –
‘‘อุปฺปาทฺจ ปวตฺตฺจ, นิมิตฺตํ ทุกฺขนฺติ ปสฺสติ;
อายูหนํ ปฏิสนฺธึ, าณํ อาทีนเว อิท’’นฺติ. จ
‘‘อิทํ อาทีนเว าณํ, ปฺจาเนสุ ชายตี’’ติ. จ
สพฺพปเทสุ จ ภยนฺติ อิจฺเจตสฺส วจนสฺส ภยํ อิตีติ ปทจฺเฉโท ¶ . ภยนฺติ ปีฬาโยคโต สปฺปฏิภยตาย ภยํ. อิตีติ ภยตุปฏฺานสฺส การณนิทฺเทโส.
อนุปฺปาโท เขมนฺติ สนฺติปเท าณนฺติอาทิ ปน อาทีนวาณสฺส ปฏิปกฺขาณทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ภยตุปฏฺาเนน วา อาทีนวํ ทิสฺวา อุพฺพิคฺคหทยานํ อภยมฺปิ อตฺถิ เขมํ นิราทีนวนฺติ อสฺสาสชนนตฺถมฺปิ เอตํ วุตฺตํ. ยสฺมา วา ยสฺส อุปฺปาทาทโย ภยโต สูปฏฺิตา โหนฺติ, ตสฺส ตปฺปฏิปกฺขนินฺนํ จิตฺตํ โหติ, ตสฺมา ภยตุปฏฺานวเสน สิทฺธสฺส อาทีนวาณสฺส อานิสํสทสฺสนตฺถมฺเปตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อนุปฺปาโท อปฺปวตฺตนฺติอาทิ นิพฺพานเมว. สนฺติปเทติ สนฺติโกฏฺาเส, นิพฺพาเนติ อตฺโถ. อนุสฺสววเสนาปิ หิ สนฺติปทนฺติ นามมตฺตํ คเหตฺวา อุปฺปนฺนํ าณมฺปิ ‘‘สนฺติปเท าณ’’นฺติ วุตฺตํ.
อุปฺปาโท ¶ ภยํ, อนุปฺปาโท เขมนฺติอาทิ วิปกฺขปฏิปกฺขวเสน อุภยํ สมาเสตฺวา อุปฺปชฺชมานํ าณํ คเหตฺวา วุตฺตํ. เอตฺถ จ ยํ ภยํ, ตํ ยสฺมา นิยมโต ทุกฺขํ. ยฺจ ทุกฺขํ, ตํ วฏฺฏามิสโลกามิสกิเลสามิเสหิ อวิปฺปมุตฺตตฺตา สามิสเมว. ยฺจ สามิสํ, ตํ สงฺขารมตฺตเมว. ตสฺมา ¶ อุปฺปาโท ทุกฺขนฺติ ภยตุปฏฺาเน ปฺา อาทีนเว าณนฺติอาทิ วุตฺตํ. เอวํ สนฺเตปิ ภยากาเรน ทุกฺขากาเรน สามิสากาเรน สงฺขารากาเรนาติ เอวํ อาการนานตฺตโต ปวตฺติวเสเนตฺถ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ. อุปฺปาโท ภยํ, ทุกฺขํ, สามิสํ, สงฺขารา จาติ อุปฺปาทาทิลิงฺคมนเปกฺขิตฺวา ‘‘เนตํ โข สรณํ เขมํ, เนตํ สรณมุตฺตม’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๘๙) วิย อตฺตโน ลิงฺคาเปกฺขเมว วุตฺตํ. สงฺขาราติ จ เอกตฺตมนเปกฺขิตฺวา ‘‘อปฺปจฺจยา ธมฺมา, อสงฺขตา ธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๗-๘) วิย พหุวจนํ กตํ, อุปฺปาทาทีนํ วา สงฺขาเรกเทสตฺตา ‘‘อุตฺตเร ปฺจาลา, ทกฺขิเณ ปฺจาลา’’ติอาทีสุ วิย พหุนฺนํ เอกเทเสปิ พหุวจนํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. เขมํ สุขํ นิรามิสํ นิพฺพานนฺติ นิพฺพานเมว วุตฺตาการานํ ปฏิปกฺขวเสน จตุธา วุตฺตํ. ทส าเณ ปชานาตีติ อาทีนเว าณํ ปชานนฺโต อุปฺปาทาทิวตฺถุกานิ ¶ ปฺจ, อนุปฺปาทาทิวตฺถุกานิ ปฺจาติ ทส าเณ ปชานาติ ปฏิวิชฺฌติ สจฺฉิกโรติ. ทฺวินฺนํ าณานํ กุสลตาติ อาทีนวาณสฺส เจว สนฺติปทาณสฺส จาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ าณานํ กุสลตาย. นานาทิฏฺีสุ น กมฺปตีติ ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานาทิวเสน ปวตฺตาสุ ทิฏฺีสุ น เวธตีติ.
อาทีนวาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. สงฺขารุเปกฺขาาณนิทฺเทสวณฺณนา
๕๔. สงฺขารุเปกฺขาาณนิทฺเทเส ¶ อุปฺปาทาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. ทุกฺขนฺติ ภยนฺติ สามิสนฺติ สงฺขาราติ อุปฺปาทาทิมฺุจนาณสฺส การณวจนานิ. เอวฺจ ลกฺขณโต สงฺขารุเปกฺขํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺถโต ทสฺเสตุํ อุปฺปาโท สงฺขารา, เต สงฺขาเร อชฺฌุเปกฺขตีติ สงฺขารุเปกฺขาติอาทิมาห. ตตฺถ สงฺขาเร อชฺฌุเปกฺขตีติ ตสฺส อารทฺธวิปสฺสกสฺส วิปสฺสนาาเณน ลกฺขณตฺตยสฺส ทิฏฺตฺตา ลกฺขณวิจินเน ปหีนพฺยาปารสฺส อาทิตฺเต วิย ตโย ภเว ปสฺสโต สงฺขารคฺคหเณ มชฺฌตฺตสฺส ตํ วิปสฺสนาาณํ เต สงฺขาเร วิเสเสน จ อิกฺขติ, คหเณน วชฺชิตฺจ หุตฺวา อิกฺขติ โอโลเกตีติ สงฺขารุเปกฺขา นามาติ อตฺโถ. ยถา โลเก วิเสเสน ชยนฺโต อธิชยตีติ, อนฺเนน วชฺชิโต วสนฺโต อุปวสตีติ วุจฺจติ. ปุน ¶ สงฺขาเร อนิจฺจาทิโต วิปสฺสิตฺวา คหเณ มชฺฌตฺตภาวสณฺิตํ ¶ สงฺขารุเปกฺขมฺปิ อนิจฺจาทิโต วิปสฺสิตฺวา ตสฺสาปิ สงฺขารุเปกฺขาย คหเณ มชฺฌตฺตาการสณฺิตาย สงฺขารุเปกฺขาย สพฺภาวโต เย จ สงฺขารา ยา จ อุเปกฺขาติอาทิ วุตฺตํ.
๕๕. อิทานิ สงฺขารุเปกฺขาย จิตฺตาภินีหารเภทํ ทสฺเสตุํ กติหากาเรหีติอาทิมาห. ตตฺถ สงฺขารุเปกฺขายาติ ภุมฺมวจนํ. จิตฺตสฺส อภินีหาโรติ สงฺขารุเปกฺขาลาภิโน ตโต อฺสฺส จิตฺตสฺส สงฺขารุเปกฺขาภิมุขํ กตฺวา ภุสํ หรณํ. อภิมุขตฺโถ หิ เอตฺถ อภิสทฺโท, ภุสตฺโถ นีสทฺโท. กติหากาเรหีติ ปุจฺฉิตํ ปุจฺฉํ อฏฺหากาเรหีติ วิสฺสชฺเชตฺวา ทุติยปุจฺฉาวิสฺสชฺชเนเนว เต อฏฺากาเร ทสฺเสตุกาโม เต อทสฺเสตฺวาว ปุถุชฺชนสฺส กติหากาเรหีติอาทิ ¶ ปุจฺฉํ อกาสิ. ปุถุชฺชนสฺสาติ เอตฺถ ปน –
ทุเว ปุถุชฺชนา วุตฺตา, พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา;
อนฺโธ ปุถุชฺชโน เอโก, กลฺยาเณโก ปุถุชฺชโนติ.
ตตฺถ ยสฺส ขนฺธธาตุอายตนาทีสุ อุคฺคหปริปุจฺฉาสวนธารณปจฺจเวกฺขณาทีนิ นตฺถิ, อยํ อนฺธปุถุชฺชโน. ยสฺส ตานิ อตฺถิ, โส กลฺยาณปุถุชฺชโน. ทุวิโธปิ ปเนส –
ปุถูนํ ชนนาทีหิ, การเณหิ ปุถุชฺชโน;
ปุถุชฺชนนฺโตคธตฺตา, ปุถุวายํ ชโน อิติ.
โส หิ ปุถูนํ นานปฺปการานํ กิเลสาทีนํ ชนนาทีหิ การเณหิ ปุถุชฺชโน. ยถาห – ‘‘ปุถุ กิเลเส ชเนนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ อวิหตสกฺกายทิฏฺิกาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ สตฺถารานํ มุขุลฺโลกิกาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ สพฺพคตีหิ อวุฏฺิตาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ นานาภิสงฺขาเร อภิสงฺขโรนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ นานาโอเฆหิ วุยฺหนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ นานาสนฺตาเปหิ สนฺตปฺเปนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ นานาปริฬาเหหิ ปริฑยฺหนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ ปฺจสุ กามคุเณสุ รตฺตา คิทฺธา คธิตา มุจฺฉิตา อชฺโฌสนฺนา ลคฺคา ลคฺคิตา ปลิพุทฺธาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ ปฺจหิ นีวรเณหิ อาวุตา นิวุตา โอวุตา ปิหิตา ปฏิจฺฉนฺนา ปฏิกุชฺชิตาติ ปุถุชฺชนา’’ติ ¶ (มหานิ. ๙๔). ปุถูนํ วา คณนปถาตีตานํ อริยธมฺมปรมฺมุขานํ นีจธมฺมสมาจารานํ ชนานํ อนฺโตคธตฺตาปิ ปุถุชฺชนา, ปุถุ วา อยํ วิสุํเยว สงฺขํ คโต, วิสํสฏฺโ ¶ สีลสุตาทิคุณยุตฺเตหิ อริเยหิ ชโนติปิ ปุถุชฺชโน. เตสุ กลฺยาณปุถุชฺชโน อิธาธิปฺเปโต อิตรสฺส ภาวนาย เอว อภาวา.
เสกฺขสฺสาติ เอตฺถ สตฺต เสกฺขา โสตาปตฺติมคฺคผลสกทาคามิมคฺคผลอนาคามิมคฺคผลอรหตฺตมคฺคฏฺา. เต หิ ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขนฺตีติ เสกฺขา. เตสุ โสตาปตฺติสกทาคามิอนาคามิผลฏฺา ¶ ตโย อิธาธิปฺเปตา มคฺคฏฺานํ สงฺขารุเปกฺขาย จิตฺตาภินีหาราภาวา.
วีตราคสฺสาติ เอตฺถ สมุจฺเฉทวิคเมน วิคโต ราโค อสฺสาติ วีตราโค. อรหโต เอตํ อธิวจนํ. ตีสุปิ ปเทสุ ชาติคฺคหเณน เอกวจนํ กตํ.
สงฺขารุเปกฺขํ อภินนฺทตีติ ตสฺมึ อุเปกฺขาวิหาเร ผาสุวิหารสฺํ ปฏิลภิตฺวา ผาสุวิหารนิกนฺติยา สงฺขารุเปกฺขาภิมุโข หุตฺวา นนฺทติ, สปฺปีติกํ ตณฺหํ อุปฺปาเทตีติ อตฺโถ. วิปสฺสตีติ โสตาปตฺติมคฺคปฏิลาภตฺถํ อนิจฺจาทิวเสน วิวิธา ปสฺสติ, เสกฺโข อุปริมคฺคตฺถํ, วีตราโค ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถํ วิปสฺสติ. ปฏิสงฺขายาติ อนิจฺจาทิวเสเนว อุปปริกฺขิตฺวา. ยสฺมา ปน โสตาปนฺนาทโย อริยา สกํ สกํ ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชมานา อุทยพฺพยาณาทีหิ นวหิ วิปสฺสนาาเณหิ อวิปสฺสิตฺวา สมาปชฺชิตุํ น สกฺโกนฺติ, ตสฺมา ปฏิสงฺขาย วา ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชตีติ วุตฺตํ.
ผลสมาปตฺติยา ปวตฺติทสฺสนตฺถํ ปน เตสํ อิทํ ปฺหกมฺมํ – กา ผลสมาปตฺติ? เก ตํ สมาปชฺชนฺติ? เก น สมาปชฺชนฺติ? กสฺมา สมาปชฺชนฺติ? กถฺจสฺสา สมาปชฺชนํ โหติ? กถํ านํ? กถํ วุฏฺานํ? กึ ผลสฺส อนนฺตรํ? กสฺส จ ผลํ อนนฺตรนฺติ?
ตตฺถ กา ผลสมาปตฺตีติ? ยา อริยผลสฺส นิโรเธ อปฺปนา.
เก ตํ สมาปชฺชนฺติ? เก น สมาปชฺชนฺตีติ? สพฺเพปิ ปุถุชฺชนา น สมาปชฺชนฺติ. กสฺมา? อนธิคตตฺตา. อริยา ปน สพฺเพปิ สมาปชฺชนฺติ. กสฺมา ¶ ? อธิคตตฺตา. อุปริมา ปน เหฏฺิมํ น สมาปชฺชนฺติ ปุคฺคลนฺตรภาวูปคมเนน ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา, เหฏฺิมา จ อุปริมํ อนธิคตตฺตา. อตฺตโน อตฺตโนเยว ปน ผลํ สพฺเพปิ สมาปชฺชนฺตีติ อิทเมตฺถ สนฺนิฏฺานํ.
เกจิ ¶ ปน ‘‘โสตาปนฺนสกทาคามิโนปิ น สมาปชฺชนฺติ, อุปริมา ทฺเวเยว สมาปชฺชนฺตี’’ติ วทนฺติ. อิทฺจ เนสํ การณํ – เอเต หิ สมาธิสฺมึ ปริปูรการิโนติ. ตํ ปุถุชฺชนสฺสาปิ อตฺตนา ปฏิลทฺธํ โลกิยสมาธึ สมาปชฺชนโต อการณเมว. กิฺเจตฺถ การณาการณจินฺตาย. นนุ อิเธว ปาฬิยํ ‘‘กตเม ทส สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนาวเสน ¶ อุปฺปชฺชนฺติ, กตเม ทส โคตฺรภุธมฺมา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๖๐) อิเมสํ ปฺหานํ วิสฺสชฺชเน ‘‘โสตาปตฺติผลสมาปตฺตตฺถาย สกทาคามิผลสมาปตฺตตฺถายา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๖๐) วิสุํ วิสุํ วุตฺตา. ตสฺมา สพฺเพปิ อริยา อตฺตโน อตฺตโน ผลํ สมาปชฺชนฺตีติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.
กสฺมา สมาปชฺชนฺตีติ? ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถํ. ยถา หิ ราชาโน รชฺชสุขํ, เทวตา ทิพฺพสุขมนุภวนฺติ, เอวํ อริยา ‘‘โลกุตฺตรสุขํ อนุภวิสฺสามา’’ติ อทฺธานปริจฺเฉทํ กตฺวา อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชนฺติ.
กถฺจสฺสา สมาปชฺชนํ โหติ, กถํ านํ, กถํ วุฏฺานนฺติ? ทฺวีหิ ตาว อากาเรหิ อสฺสา สมาปชฺชนํ โหติ นิพฺพานโต อฺสฺส อารมฺมณสฺส อมนสิการา, นิพฺพานสฺส จ มนสิการา. ยถาห – ‘‘ทฺเว โข, อาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา สพฺพนิมิตฺตานฺจ อมนสิกาโร, อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา มนสิกาโร’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๘). อยํ ปเนตฺถ สมาปชฺชนกฺกโม – ผลสมาปตฺตตฺถิเกน หิ อริยสาวเกน รโหคเตน ปฏิสลฺลีเนน อุทยพฺพยาทิวเสน สงฺขารา วิปสฺสิตพฺพา. ตสฺส ปวตฺตานุปุพฺพวิปสฺสนสฺส สงฺขารารมฺมณโคตฺรภุาณานนฺตรํ ผลสมาปตฺติวเสน นิโรเธ จิตฺตํ อปฺเปติ. ผลสมาปตฺตินินฺนตาย เจตฺถ เสกฺขสฺสาปิ ผลเมว อุปฺปชฺชติ, น มคฺโค. เย ปน วทนฺติ ‘‘โสตาปนฺโน ‘ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิสฺสามี’ติ วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา สกทาคามี โหติ, สกทาคามี จ อนาคามี’’ติ. เต วตฺตพฺพา ‘‘เอวํ สติ อนาคามี อรหา ภวิสฺสติ, อรหา ปจฺเจกพุทฺโธ, ปจฺเจกพุทฺโธ จ พุทฺโธ’’ติ.
ตสฺมา ¶ น กิฺจิ เอตํ, ปาฬิวเสเนว จ ปฏิกฺขิตฺตนฺติปิ น คเหตพฺพํ. อิทเมว ปน คเหตพฺพํ. เสกฺขสฺสาปิ ผลเมว อุปฺปชฺชติ, น มคฺโค. ผลฺจสฺส สเจ อเนน ปมชฺฌานิโก มคฺโค อธิคโต โหติ, ปมชฺฌานิกเมว อุปฺปชฺชติ, สเจ ทุติยาทีสุ อฺตรชฺฌานิโก, ทุติยาทีสุ อฺตรชฺฌานิกเมวาติ เอวํ ตาวสฺสา สมาปชฺชนํ โหติ.
‘‘ตโย ¶ โข, อาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา ิติยา ¶ สพฺพนิมิตฺตานฺจ อมนสิกาโร, อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา มนสิกาโร, ปุพฺเพ จ อภิสงฺขาโร’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๘) วจนโต ปนสฺสา ตีหากาเรหิ านํ โหติ. ตตฺถ ปุพฺเพ จ อภิสงฺขาโรติ สมาปตฺติโต ปุพฺเพ กาลปริจฺเฉโท. ‘‘อสุกสฺมึ นาม กาเล วุฏฺหิสฺสามี’’ติ ปริจฺฉินฺนตฺตา หิสฺสา ยาว โส กาโล นาคจฺฉติ, ตาว านํ โหติ. เอวมสฺส านํ โหติ.
‘‘ทฺเว โข, อาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา วุฏฺานาย สพฺพนิมิตฺตานฺจ มนสิกาโร, อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา อมนสิกาโร’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๘) วจนโต ปนสฺสา ทฺวีหากาเรหิ วุฏฺานํ โหติ. ตตฺถ สพฺพนิมิตฺตานนฺติ รูปนิมิตฺตเวทนาสฺาสงฺขารวิฺาณนิมิตฺตานํ. กามฺจ น สพฺพาเนเวตานิ เอกโต มนสิ กโรติ, สพฺพสงฺคาหิกวเสน ปเนตํ วุตฺตํ. ตสฺมา ยํ ภวงฺคสฺส อารมฺมณํ โหติ, ตํ มนสิกโรโต ผลสมาปตฺติโต วุฏฺานํ โหตีติ เอวมสฺสา วุฏฺานํ เวทิตพฺพํ.
กึ ผลสฺส อนนฺตรํ, กสฺส จ ผลํ อนนฺตรนฺติ? ผลสฺส ตาว ผลเมว วา อนนฺตรํ โหติ ภวงฺคํ วา. ผลํ ปน อตฺถิ มคฺคานนฺตรํ, อตฺถิ ผลานนฺตรํ, อตฺถิ โคตฺรภุอนนฺตรํ, อตฺถิ เนวสฺานาสฺายตนานนฺตรนฺติ. ตตฺถ มคฺควีถิยํ มคฺคานนฺตรํ, ปุริมสฺส ปุริมสฺส ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ ผลานนฺตรํ, ผลสมาปตฺตีสุ ปุริมํ ปุริมํ โคตฺรภุอนนฺตรํ. โคตฺรภูติ เจตฺถ อนุโลมํ เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ ปฏฺาเน ‘‘อรหโต อนุโลมํ ผลสมาปตฺติยา อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย. เสกฺขานํ อนุโลมํ ผลสมาปตฺติยา อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๗). เยน ผเลน นิโรธา วุฏฺานํ โหติ, ตํ เนวสฺานาสฺายตนานนฺตรนฺติ. ตตฺถ เปตฺวา มคฺควีถิยํ อุปฺปนฺนผลํ อวเสสํ ¶ สพฺพํ ผลสมาปตฺติวเสน ปวตฺตํ นาม. เอวเมตํ มคฺควีถิยํ วา ผลสมาปตฺติยํ วา อุปฺปชฺชนวเสน –
‘‘ปฏิปฺปสฺสทฺธทรถํ, อมตารมฺมณํ สุภํ;
วนฺตโลกามิสํ สนฺตํ, สามฺผลมุตฺตม’’นฺติ.
อยเมตฺถ ผลสมาปตฺติกถา.
ตทชฺฌุเปกฺขิตฺวาติ ¶ ¶ ตํ สงฺขารุเปกฺขํ อฺเน ตาทิเสเนว วิปสฺสนาาเณน อชฺฌุเปกฺขิตฺวา. สฺุตวิหาเรน วาติอาทีสุ ผลสมาปตฺตึ วินา วิปสฺสนาวิหาเรเนว วิหริตุกามสฺส อรหโต อตฺตาภินิเวสํ ภยโต ทิสฺวา สฺุตาธิมุตฺตสฺส สงฺขารุเปกฺขาย วยํ ปสฺสนฺตสฺส วิปสฺสนตฺตยวิหาโร สฺุตวิหาโร นาม, สงฺขารนิมิตฺตํ ภยโต ทิสฺวา อนิมิตฺตาธิมุตฺตสฺส สงฺขารุเปกฺขาย วยํ ปสฺสนฺตสฺส วิปสฺสนตฺตยวิหาโร อนิมิตฺตวิหาโร นาม, ตณฺหาปณิธึ ภยโต ทิสฺวา อปฺปณิหิตาธิมุตฺตสฺส สงฺขารุเปกฺขาย วยํ ปสฺสนฺตสฺส วิปสฺสนตฺตยวิหาโร อปฺปณิหิตวิหาโร นาม. ตถา หิ ปรโต วุตฺตํ –
‘‘อภินิเวสํ ภยโต สมฺปสฺสมาโน สฺุเต อธิมุตฺตตฺตา ผุสฺส ผุสฺส วยํ ปสฺสติ, สฺุโต วิหาโร. นิมิตฺตํ ภยโต สมฺปสฺสมาโน อนิมิตฺเต อธิมุตฺตตฺตา ผุสฺส ผุสฺส วยํ ปสฺสติ, อนิมิตฺโต วิหาโร. ปณิธึ ภยโต สมฺปสฺสมาโน อปฺปณิหิเต อธิมุตฺตตฺตา ผุสฺส ผุสฺส วยํ ปสฺสติ, อปฺปณิหิโต วิหาโร’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๗๘).
ฉฬงฺคุเปกฺขาสพฺภาเวน จ ปฏิกูเล อปฺปฏิกูลสฺาทิวิหารสพฺภาเวน จ อรหโตเยว สพฺพากาเรน จิตฺตํ วเส วตฺตติ, ตโต อยํ วิปสฺสนาวิหาโร อรหโตเยว อิชฺฌตีติ วุตฺตํ โหติ. วีตราโค สงฺขารุเปกฺขํ วิปสฺสติ วาติ เอตฺถ ปน ติธา จ ภยํ, ติธา จ อธิมุตฺตึ อนาปชฺชิตฺวา เกวลํ วิปสฺสนาติ เวทิตพฺพา. เอวฺหิ สติ ปุพฺพาปรวิเสโส โหติ.
๕๖. อิทานิ ทฺวินฺนํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ วเสน สงฺขารุเปกฺขาย เอกตฺตนานตฺตเภทํ ทสฺเสตุกาโม กถํ ปุถุชฺชนสฺส จ เสกฺขสฺส จาติอาทิมาห. ตตฺถ ¶ จิตฺตสฺส อภินีหาโร เอกตฺตํ โหตีติ เอโก โหติ, สกตฺเถ ภาววจนนฺติ เวทิตพฺพํ. ยถา อิทปฺปจฺจยา เอว อิทปฺปจฺจยตาติ วุตฺตํ, ตถา เอโกว เอกตฺตํ. อภินีหาโรติ สามิอตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ วา, อภินีหารสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘โส เทโส สมฺมชฺชิตฺวา’’ติอาทีสุ (มหาว. ๑๖๘) วิย วิภตฺติวิปลฺลาโส กโตติ เวทิตพฺโพ. จิตฺตํ กิลิสฺสตีติ วิปสฺสนานิกนฺติสงฺขาเตน โลภกิเลเสน จิตฺตํ กิลิสฺสติ, ตาปียติ พาธียตีติ อตฺโถ. ภาวนาย ปริปนฺโถ โหตีติ ปฏิลทฺธาย วิปสฺสนาภาวนาย ¶ อุปฆาโต โหติ. ปฏิเวธสฺส อนฺตราโย โหตีติ วิปสฺสนาภาวนาย ปฏิลภิตพฺพสฺส สจฺจปฺปฏิเวธสฺส ปฏิลาภนฺตราโย โหติ. อายตึ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจโย โหตีติ สงฺขารุเปกฺขาสมฺปยุตฺตกมฺมสฺส พลวตฺตา เตเนว สุคติปฏิสนฺธิยา ทียมานาย อตินนฺทนสงฺขาโต โลภกิเลโส อนาคเต กามาวจรสุคติปฏิสนฺธิยา ปจฺจโย โหติ ¶ . ยสฺมา กิเลสสหายํ กมฺมํ วิปากํ ชเนติ, ตสฺมา กมฺมํ ชนกปจฺจโย โหติ, กิเลโส อุปตฺถมฺภกปจฺจโย. เสกฺขสฺส ปน อุตฺตริปฏิเวธสฺสาติ สกทาคามิมคฺคาทิวเสน สจฺจปฺปฏิเวธสฺส. อายตึ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจโย โหตีติ เสกฺเขสุ โสตาปนฺนสกทาคามีนํ อนธิคตชฺฌานานํ สงฺขารุเปกฺขากมฺเมน ทียมานาย กามาวจรสุคติปฏิสนฺธิยา อภินนฺทนกิเลโส ปจฺจโย โหติ, ฌานลาภีนํ ปน อนาคามิสฺส จ พฺรหฺมโลเกเยว ปฏิสนฺธานโต ปจฺจโย น โหติ, อนุโลมโคตฺรภูหิ จ ทียมานาย ปฏิสนฺธิยา อยเมว กิเลโส ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺโพ.
อนิจฺจโตติ หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจนฺติกตาย อาทิอนฺตวนฺตตาย จ อนิจฺจโต. ทุกฺขโตติ อภิณฺหํ ปฏิปีฬนฏฺเน อุปฺปาทวยปฏิปีฬนตาย ทุกฺขวตฺถุตาย จ ทุกฺขโต. อนตฺตโตติ อวสวตฺตนฏฺเน ปจฺจยายตฺตวุตฺติตาย สามินิวาสีการกเวทกาภาเวน จ อนตฺตโต. อนุปสฺสนฏฺเนาติ อนุ อนุ อนิจฺจาทิโต ปสฺสนฏฺเน. อภินีหาโร นานตฺตํ โหตีติ อภินีหาโร นานา โหตีติ วา อภินีหารสฺส นานาภาโว โหตีติ วา เวทิตพฺพํ.
กุสลาติ อาโรคฺยฏฺเน อนวชฺชฏฺเน โกสลฺลสมฺภูตฏฺเน จ. อพฺยากตาติ กุสลากุสลภาเวน น พฺยากตา. กิฺจิกาเล สุวิทิตาติ ¶ วิปสฺสนากาเล สุฏฺุ วิทิตา. กิฺจิกาเล น สุวิทิตาติ อภินนฺทนกาเล น สุฏฺุ วิทิตา. อจฺจนฺตํ สุวิทิตาติ อภินนฺทนาย ปหีนตฺตา เอกนฺเตน สุวิทิตา. วิทิตฏฺเน จ อวิทิตฏฺเน จาติ เอตฺถ ปุถุชฺชนเสกฺขานํ สุวิทิตฏฺโปิ วีตราคสฺส อจฺจนฺตสุวิทิตฏฺโปิ วิทิตฏฺโว โหติ, ทฺวินฺนมฺปิ น สุวิทิตฏฺโ อวิทิตฏฺโว.
อติตฺตตฺตาติ วิปสฺสนาย กรณียสฺส อปริโยสิตตฺตา อปฺปณีตภาเวน. ตพฺพิปรีเตน ติตฺตตฺตา. ติณฺณํ สฺโชนานํ ปหานายาติ สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสานํ ¶ ปหานตฺถํ. ปจฺฉิมภวิกาปิ โพธิสตฺตา เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. อปจฺฉิมภวิกา ปน วิปสฺสนํ สงฺขารุเปกฺขํ ปาเปตฺวา เปนฺติ. โสตาปตฺติมคฺคํ ปฏิลาภตฺถายาติ อสมาเสตฺวา ปนฺติ, สมาเสตฺวา ปาโ สุนฺทรตโร. เสกฺโข ติณฺณํ สฺโชนานํ ปหีนตฺตาติ โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามีนํ สามฺเน วุตฺตํ. สกทาคามิอนาคามีนมฺปิ หิ ตานิ ปหีนาเนว. อุตฺตริปฏิลาภตฺถายาติ อุปรูปริมคฺคปฏิลาภตฺถํ. ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถายาติ ทิฏฺเว ธมฺเม ปจฺจกฺเข อตฺตภาเว โย สุโข วิหาโร, ตทตฺถาย. วิหารสมาปตฺตฏฺเนาติ เสกฺขสฺส ผลสมาปตฺตฏฺเน, วีตราคสฺส วิปสฺสนาวิหารผลสมาปตฺตฏฺเน.
๕๗. อิทานิ ¶ สงฺขารุเปกฺขานํ คณนปริจฺเฉทํ ทสฺเสตุํ กติ สงฺขารุเปกฺขาติอาทิมาห. ตตฺถ สมถวเสนาติ สมาธิวเสน. อยเมว วา ปาโ. นีวรเณ ปฏิสงฺขาติ ปฺจ นีวรณานิ ปหาตพฺพภาเวน ปริคฺคเหตฺวา. สนฺติฏฺนาติ นีวรณานํ ปหานาภิมุขีภูตตฺตา เตสํ ปหาเนปิ อพฺยาปารภาวูปคมเนน มชฺฌตฺตตาย สนฺติฏฺนา. สงฺขารุเปกฺขาสูติ นีวรณปฺปหาเน พฺยาปารากรเณน นีวรณสงฺขาตานํ สงฺขารานํ อุเปกฺขนาสุ. เอส นโย วิตกฺกวิจาราทีสุ จ. สมเถ สงฺขารุเปกฺขา นาม อปฺปนาวีถิยา อาสนฺนปุพฺพภาเค พลปฺปตฺตภาวนามยาณํ. โสตาปตฺติมคฺคํ ปฏิลาภตฺถายาติอาทีสุ จตูสุ มคฺควาเรสุ สฺุตานิมิตฺตอปฺปณิหิตมคฺคานํ อฺตรฺตโร มคฺโค ลพฺภติ. โสตาปตฺติผลสมาปตฺตตฺถายาติอาทีสุ จตูสุ ผลวาเรสุ ปน อปฺปณิหิตา ผลสมาปตฺติ เวทิตพฺพา. กสฺมา? ‘‘สฺุตวิหารสมาปตฺตตฺถาย อนิมิตฺตวิหารสมาปตฺตตฺถายา’’ติ ¶ อิตราสํ ทฺวินฺนํ ผลสมาปตฺตีนํ วิสุํ วุตฺตตฺตา. อนิจฺจานุปสฺสนาวุฏฺานวเสน หิ อนิมิตฺตมคฺโค, ตเถว ผลสมาปตฺติกาเล อนิมิตฺตผลสมาปตฺติ, ทุกฺขานุปสฺสนาวุฏฺานวเสน อปฺปณิหิตมคฺคผลสมาปตฺติโย, อนตฺตานุปสฺสนาวุฏฺานวเสน สฺุตมคฺคผลสมาปตฺติโย สุตฺตนฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.
เอตฺถ จ จตูสุ มคฺควาเรสุ อุปฺปาทนฺติอาทีนิ ปฺจ ¶ มูลปทานิ, คตินฺติอาทีนิ ทส เววจนปทานีติ ปนฺนรส ปทานิ วุตฺตานิ. ฉสุ ปน ผลสมาปตฺติวาเรสุ ปฺจ มูลปทาเนว วุตฺตานิ. ตํ กสฺมา อิติ เจ? สงฺขารุเปกฺขาย ติกฺขภาเว สติ กิเลสปฺปหาเน สมตฺถสฺส มคฺคสฺส สมฺภวโต ตสฺสา ติกฺขภาวทสฺสนตฺถํ เววจนปเทหิ สห ทฬฺหํ กตฺวา มูลปทานิ วุตฺตานิ. ผลสฺส นิรุสฺสาหภาเวน สนฺตสภาวตฺตา มคฺคายตฺตตฺตา จ มนฺทภูตาปิ สงฺขารุเปกฺขา ผลสฺส ปจฺจโย โหตีติ ทสฺสนตฺถํ มูลปทาเนว วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ.
๕๘. อิทานิ ชาติวเสน ปุจฺฉิตฺวา ลพฺภมานวเสน วิสฺสชฺเชตุํ กติ สงฺขารุเปกฺขา กุสลาติอาทิมาห. ตตฺถ ปนฺนรส สงฺขารุเปกฺขาติ สมถวเสน อฏฺ, จตุนฺนํ มคฺคานํ ติณฺณํ ผลานํ วเสน สตฺตาติ ปนฺนรส. สมถวเสน อฏฺ สงฺขารุเปกฺขา อรหโต นีวรณปฏิสงฺขาอภาวโต, วิตกฺกวิจาราทีนํ ปหานพฺยาปารํ วินา สุเขน ปหานโต จ สงฺขารุเปกฺขานามสฺส อนนุรูปาติ กตฺวา ตาสํ อพฺยากตตา น วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อรหตา ปน ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชนฺเตน สงฺขารุเปกฺขํ วินา สมาปชฺชิตุํ น สกฺกาติ ติสฺโส สงฺขารุเปกฺขา อพฺยากตาติ วุตฺตา. อปฺปณิหิตสฺุตานิมิตฺตวเสน หิ อรหโต ติสฺโส สงฺขารุเปกฺขา.
อิทานิ สงฺขารุเปกฺขานํ สํวณฺณนาวเสน วุตฺตาสุ ตีสุ คาถาสุ ปฏิสงฺขาสนฺติฏฺนา ปฺาติ สงฺขารุเปกฺขา ¶ . อฏฺ จิตฺตสฺส โคจราติ สมถวเสน วุตฺตา อฏฺ สงฺขารุเปกฺขา สมาธิสฺส วิสยา, ภูมิโยติ อตฺโถ. ‘‘จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวย’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๒๓, ๑๙๒) วิย จิตฺตสีเสน สมาธิ นิทฺทิฏฺโ, ‘‘โคจเร, ภิกฺขเว, จรถ สเก เปตฺติเก วิสเย’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๓๗๒) วิย โคจรสทฺเทน วิสโย. ยฺหิ ยทายตฺตํ, ตสฺเสโส วิสโยติ วุจฺจติ. ปุถุชฺชนสฺส ทฺเวติ สมถวเสน วิปสฺสนาวเสน จ. ตโย เสกฺขสฺสาติ ¶ สมถวิปสฺสนาสมาปตฺติวเสน. ตโย จ วีตราคสฺสาติ อปฺปณิหิตสฺุตานิมิตฺตผลสมาปตฺติวเสน. ‘‘ติสฺโส’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ตโย’’ติ จ ลิงฺควิปลฺลาโส กโต. ตโย สงฺขารุเปกฺขา ธมฺมาติ วา โยเชตพฺพํ. เยหิ จิตฺตํ วิวฏฺฏตีติ เยหิ สงฺขารุเปกฺขาธมฺเมหิ วิตกฺกวิจาราทิโต, อุปฺปาทาทิโต วา จิตฺตํ อปคจฺฉติ. วีตราคสฺสาปิ หิ สงฺขารุเปกฺขาสพฺภาวโต ¶ จ สงฺขารโต จิตฺตํ วิวฏฺฏิตฺวา นิพฺพานํ ปกฺขนฺทตีติ วุตฺตํ โหติ. อฏฺ สมาธิสฺส ปจฺจยาติ สมถวเสน วุตฺตา อฏฺ อปฺปนาสมฺปาปกตฺตา อปฺปนาสมาธิสฺส ปจฺจยา. ทส าณสฺส โคจราติ วิปสฺสนาวเสน วุตฺตา ทส มคฺคาณสฺส ผลาณสฺส จ ภูมิโย. ติณฺณํ วิโมกฺขาน ปจฺจยาติ สฺุตานิมิตฺตอปฺปณิหิตวิโมกฺขานํ อุปนิสฺสยปจฺจยา. นานาทิฏฺีสุ น กมฺปตีติ ภงฺคํ อวิสฺสชฺชิตฺวาว สงฺขาเร อนิจฺจาทิวเสน วิปสฺสนฺโต สสฺสตทิฏฺิอาทีสุ นานปฺปการาสุ ทิฏฺีสุ น เวธตีติ.
สงฺขารุเปกฺขาาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. โคตฺรภุาณนิทฺเทสวณฺณนา
๕๙. โคตฺรภุาณนิทฺเทเส ¶ อภิภุยฺยตีติ อภิภวติ อติกฺกมติ. พหิทฺธา สงฺขารนิมิตฺตนฺติ สกสนฺตานปฺปวตฺตอกุสลกฺขนฺธโต พหิทฺธาภูตํ สงฺขารนิมิตฺตํ. โลกิกสงฺขารา หิ กิเลสานํ นิมิตฺตตฺตา, นิมิตฺตากาเรน อุปฏฺานโต วา นิมิตฺตนฺติ วุจฺจนฺติ. อภิภุยฺยตีติ โคตฺรภูติ จ ปุถุชฺชนโคตฺตาภิภวนโต ¶ โคตฺรภุภาโว วุตฺโต. ปกฺขนฺทตีติ โคตฺรภูติ อริยโคตฺตภาวนโต โคตฺรภุภาโว วุตฺโต. อภิภุยฺยิตฺวา ปกฺขนฺทตีติ โคตฺรภูติ อุโภ อตฺเถ สมาเสตฺวา วุตฺตํ. วุฏฺาตีติ โคตฺรภูติ จ วิวฏฺฏตีติ โคตฺรภูติ จ มาติกาย วุฏฺานวิวฏฺฏนปทานุรูเปน ปุถุชฺชนโคตฺตาภิภวนตฺโถเยว วุตฺโต. สมถวเสน วุตฺตโคตฺรภูนํ ปน นีวรณาทิโคตฺตาภิภวนโต โคตฺรภูติ, ‘‘โสตาปตฺติผลสมาปตฺตตฺถายา’’ติอาทีสุ ฉสุ สมาปตฺติวาเรสุ อุปฺปาทาทิโคตฺตาภิภวนโต โคตฺรภูติ, ‘‘สกทาคามิมคฺคํ ปฏิลาภตฺถายา’’ติอาทีสุ ตีสุ มคฺควาเรสุ โสตาปนฺนาทิโคตฺตาภิภวนโต โคตฺรภูติ ¶ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. โคตฺตตฺโถ เจตฺถ พีชตฺโถ. วตฺตนิปกรเณ กิร วุตฺตํ – โคตฺตํ วุจฺจติ นิพฺพานํ สพฺพปริปนฺเถหิ คุตฺตตฺตา, ตํ ปฏิปชฺชตีติ โคตฺรภูติ, อฏฺ สมาปตฺติโยปิ โคตฺตํ โคตฺรภุปริปนฺเถหิ คุตฺตตฺตา, ตํ โคตฺตํ ปฏิปชฺชตีติ โคตฺรภูติ วุตฺตํ. ‘‘จตุนฺนํ มคฺคานํเยว โคตฺรภุ นิพฺพานารมฺมณํ, จตสฺสนฺนํ ผลสมาปตฺตีนํ โคตฺรภุ สงฺขารารมฺมณํ ผลสมาปตฺตินินฺนตฺตา’’ติ วทนฺติ. วุตฺตฺเหตํ วิสุทฺธิมคฺเค – ‘‘ตสฺส ปวตฺตานุปุพฺพวิปสฺสนสฺส สงฺขารารมฺมณโคตฺรภุาณานนฺตรํ ¶ ผลสมาปตฺติวเสน นิโรเธ จิตฺตํ อปฺเปตี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๘๖๓). เตเนเวตฺถ มคฺควาเรสุ โสฬสมํ กตฺวา คหิตสฺส พหิทฺธาสงฺขารนิมิตฺตปทสฺส สมาปตฺติวาเรสุ ฉฏฺํ กตฺวา คหณํ น กตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิตรถา หิ มูลปทคหเณน คเหตพฺพํ ภเวยฺย.
อฺเ ปน ‘‘โย นิพฺพาเน ปมาโภโค ปมสมนฺนาหาโร, อยํ วุจฺจติ โคตฺรภู’’ติ วทนฺติ. ตํ ผลํ สนฺธาย น ยุชฺชติ. ปนฺนรส โคตฺรภุธมฺมา กุสลาติ เอตฺถ อรหโต อภิภวิตพฺพนีวรณาภาวโต วิตกฺกวิจาราทีนํ สุเขเนว ปหาตพฺพภาวโต จ อภิภวนฏฺเน โคตฺรภุนามํ นารหนฺตีติ กตฺวา โคตฺรภูนํ อพฺยากตตา น วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อรหตา ปน ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชนฺเตน สงฺขาเร อนภิภุยฺย สมาปชฺชิตุํ น สกฺกาติ ‘‘ตโย โคตฺรภุธมฺมา อพฺยากตา’’ติ วุตฺตา. เกจิ ปน ‘‘อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺเพธภาคิยา เอว อิธ นิทฺทิฏฺา, ตสฺมา อฏฺ สมาปตฺติโคตฺรภู กุสลา โหนฺตี’’ติ วทนฺติ. ตถา สงฺขารุเปกฺขายปิ เวทิตพฺพํ.
๖๐. สามิสฺจาติอาทีสุ วฏฺฏามิสโลกามิสกิเลสามิสานํ กิเลสามิเสน สามิสํ สนิกนฺติกตฺตา. กึ ตํ? อฏฺวิธํ สมถโคตฺรภุาณํ. วฏฺฏามิสนฺติ เจตฺถ เตภูมกวฏฺฏเมว. โลกามิสนฺติ ปฺจ กามคุณา. กิเลสามิสนฺติ กิเลสา เอว. นิรามิสนฺติ ทสวิธํ วิปสฺสนาโคตฺรภุาณํ อนิกนฺติกตฺตา. น หิ อริยา โคตฺรภุสฺมึ นิกนฺตึ กโรนฺติ. โปตฺถเก ‘‘สามิสฺเจ’’ติ ลิขนฺติ, ตํ น สุนฺทรตรํ. เอวเมว ปณิหิตฺจ อปฺปณิหิตํ สฺุตฺตฺจ วิสฺุตฺตํ วุฏฺิตฺจ อวุฏฺิตํ เวทิตพฺพํ. นิกนฺติปณิธิยา หิ ปณิหิตํ ปตฺถิตนฺติ อตฺโถ. ตทภาเวน อปฺปณิหิตํ ¶ . นิกนฺติสฺโเคเนว สฺุตฺตํ. ตทภาเวน วิสฺุตฺตํ. วุฏฺิตนฺติ วิปสฺสนาโคตฺรภุาณเมว. ตฺหิ นิกนฺติจฺเฉทกตฺตา วุฏฺิตํ นาม. อิตรํ อวุฏฺิตํ. พหิทฺธา วุฏฺานตฺตา วา วุฏฺิตํ. ผลโคตฺรภุปิ หิ นิพฺพานชฺฌาสยวเสน นิพฺพานาภิมุขีภูตตฺตา ¶ พหิทฺธาสงฺขารนิมิตฺตา วุฏฺิตํ นามาติ เวทิตพฺพํ. เหฏฺาภิภวนวุฏฺานวิวฏฺฏนวาเรสุปิ ผลโคตฺรภุ ¶ อชฺฌาสยวเสน นิพฺพานาภิมุขีภูตตฺตา อภิภุยฺยติ วุฏฺาติ วิวฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. ติณฺณํ วิโมกฺขาน ปจฺจยาติ ติณฺณํ โลกุตฺตรวิโมกฺขานํ สมถโคตฺรภุ ปกตูปนิสฺสยปจฺจยา โหนฺติ, วิปสฺสนาโคตฺรภุ อนนฺตรสมนนฺตรูปนิสฺสยปจฺจยา โหนฺติ. ปฺา ยสฺส ปริจฺจิตาติ ปุพฺพภาคปฺา ยสฺส ปริจิตา ปริจิณฺณา. กุสโล วิวฏฺเฏ วุฏฺาเนติ อสมฺโมหวเสเนว วิวฏฺฏสงฺขาเต โคตฺรภุาเณ กุสโล เฉโก, ปุพฺพภาคาเณน วา กุสโล. นานาทิฏฺีสุ น กมฺปตีติ สมุจฺเฉเทน ปหีนาสุ นานปฺปการาสุ ทิฏฺีสุ น เวธตีติ.
โคตฺรภุาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. มคฺคาณนิทฺเทสวณฺณนา
๖๑. มคฺคาณนิทฺเทเส ¶ มิจฺฉาทิฏฺิยา วุฏฺาตีติ ทิฏฺานุสยปฺปหาเนน สมุจฺเฉทวเสน ทฺวาสฏฺิเภทโต มิจฺฉาทิฏฺิโต วุฏฺาติ. ตทนุวตฺตกกิเลเสหีติ มิจฺฉาทิฏฺิสมฺปโยควเสน จ มิจฺฉาทิฏฺิอุปนิสฺสเยน จ อุปฺปชฺชมาเนหิ มิจฺฉาทิฏฺิอนุวตฺตมาเนหิ นานาวิเธหิ กิเลเสหิ. เตน ตเทกฏฺกิเลสปฺปหานํ วุตฺตํ โหติ. ทุวิธฺหิ เอกฏฺํ สหเชกฏฺํ ปหาเนกฏฺฺจ. ตาย ทิฏฺิยา สห เอกสฺมึ จิตฺเต, เอกสฺมึ ปุคฺคเล วา ยาว ปหานา ิตาติ ตเทกฏฺา. ทิฏฺิยา หิ ปหียมานาย ทิฏฺิสมฺปยุตฺเตสุ ทฺวีสุ อสงฺขาริกจิตฺเตสุ ตาย ทิฏฺิยา สหชาตา โลโภ โมโห อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อิเม กิเลสา, ทฺวีสุ สสงฺขาริกจิตฺเตสุ ตาย ทิฏฺิยา สหชาตา โลโภ โมโห ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อิเม กิเลสา สหเชกฏฺวเสน ปหียนฺติ. ทิฏฺิกิเลเสเยว ปหียมาเน เตน สห เอกสฺมึ ปุคฺคเล ิตา อปายคมนียา โลโภ โทโส โมโห มาโน วิจิกิจฺฉา ถินํ ¶ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อิเม กิเลสา ปหาเนกฏฺวเสน ปหียนฺติ. ขนฺเธหีติ ตทนุวตฺตเกเหว ขนฺเธหิ, ตํ ทิฏฺึ อนุวตฺตมาเนหิ สหเชกฏฺเหิ จ ปหาเนกฏฺเหิ จ จตูหิ อรูปกฺขนฺเธหิ, ตํสมุฏฺานรูเปหิ วา สห ปฺจหิ ขนฺเธหิ มิจฺฉาทิฏฺิอาทิกิเลสปจฺจยา อนาคเต อุปฺปชฺชิตพฺเพหิ วิปากกฺขนฺเธหิ. พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตหีติ ยถาวุตฺตกิเลสกฺขนฺธโต พหิภูเตหิ สพฺพสงฺขารนิมิตฺเตหิ. มิจฺฉาสงฺกปฺปา วุฏฺาตีติ โสตาปตฺติมคฺเคน ปหาตพฺเพสุ จตูสุ ทิฏฺิสมฺปยุตฺเตสุ, วิจิกิจฺฉาสหคเต จาติ ปฺจสุ จิตฺเตสุ อปายคมนียเสสากุสลจิตฺเตสุ จ มิจฺฉาสงฺกปฺปา วุฏฺาติ.
มิจฺฉาวาจาย วุฏฺาตีติ มุสาวาทโต เจว อปายคมนียปิสุณผรุสสมฺผปฺปลาเปหิ จ วุฏฺาติ ¶ . มิจฺฉากมฺมนฺตา วุฏฺาตีติ ปาณาติปาตาทินฺนาทานมิจฺฉาจาเรหิ วุฏฺาติ. มิจฺฉาอาชีวา ¶ วุฏฺาตีติ กุหนา ลปนา เนมิตฺติกตา นิปฺเปสิกตา ลาเภนลาภํนิชิคีสนตา, อาชีวเหตุเกหิ วา สตฺตหิปิ กายวจีกมฺเมหิ วุฏฺาติ. มิจฺฉาวายามมิจฺฉาสติมิจฺฉาสมาธีหิ วุฏฺานํ มิจฺฉาสงฺกปฺปวุฏฺาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. มิจฺฉาสตีติ จ สติยา ปฏิปกฺขากาเรน อุปฺปชฺชมานา อกุสลจิตฺตุปฺปาทมตฺตเมว. อุปริมคฺคตฺตเย ‘‘ทสฺสนฏฺเน สมฺมาทิฏฺี’’ติอาทีนิ อฏฺ มคฺคงฺคานิ ยถา ปมชฺฌานิเก ปมมคฺเค ลพฺภนฺติ, ตเถว ลพฺภนฺติ. ตตฺถ ปมมคฺเค สมฺมาทิฏฺิ มิจฺฉาทิฏฺึ ปชหตีติ สมฺมาทิฏฺิ. สมฺมาสงฺกปฺปาทโยปิ มิจฺฉาสงฺกปฺปาทีนํ ปชหนฏฺเเนว เวทิตพฺพา. เอวํ สนฺเต ปมมคฺเคเนว ทฺวาสฏฺิยา ทิฏฺิคตานํ ปหีนตฺตา อุปริมคฺคตฺตเยน ปหาตพฺพา ทิฏฺิ นาม นตฺถิ.
ตตฺถ สมฺมาทิฏฺีติ นามํ กถํ โหตีติ? ยถา วิสํ อตฺถิ วา โหตุ มา วา, อคโท อคโทตฺเวว วุจฺจติ, เอวํ มิจฺฉาทิฏฺิ อตฺถิ วา โหตุ มา วา, อยํ สมฺมาทิฏฺิ เอว นาม. ยทิ เอวํ นามมตฺตเมเวตํ โหติ, อุปริมคฺคตฺตเย ปน สมฺมาทิฏฺิยา กิจฺจาภาโว อาปชฺชติ, มคฺคงฺคานิ น ปริปูเรนฺติ. ตสฺมา สมฺมาทิฏฺิ สกิจฺจกา กาตพฺพา, มคฺคงฺคานิ ปริปูเรตพฺพานีติ. สกิจฺจกา เจตฺถ สมฺมาทิฏฺิ ยถาลาภนิยเมน ทีเปตพฺพา. อุปริมคฺคตฺตยวชฺโฌ หิ เอโก มาโน อตฺถิ, โส ทิฏฺิฏฺาเน ติฏฺติ, สา ตํ มานํ ปชหตีติ สมฺมาทิฏฺิ. โสตาปตฺติมคฺคสฺมิฺหิ สมฺมาทิฏฺิ มิจฺฉาทิฏฺึ ¶ ปชหติ. โสตาปนฺนสฺส ปน สกทาคามิมคฺควชฺโฌ มาโน อตฺถิ, ตํ มานํ ปชหตีติ สมฺมาทิฏฺิ. ตสฺเสว สตฺตอกุสลจิตฺตสหชาโต สงฺกปฺโป อตฺถิ, เตเหว จิตฺเตหิ วาจงฺคโจปนํ อตฺถิ, กายงฺคโจปนํ อตฺถิ, ปจฺจยปริโภโค อตฺถิ, สหชาตวายาโม อตฺถิ, อสฺสติยภาโว อตฺถิ, สหชาตจิตฺเตกคฺคตา อตฺถิ, เอเต มิจฺฉาสงฺกปฺปาทโย นาม. สกทาคามิมคฺเค สมฺมาสงฺกปฺปาทโย เตสํ ปหาเนน สมฺมาสงฺกปฺปาทโยติ เวทิตพฺพา. เอวํ สกทาคามิมคฺเค ¶ อฏฺงฺคานิ สกิจฺจกานิ โหนฺติ. สกทาคามิสฺส อนาคามิมคฺควชฺโฌ มาโน อตฺถิ, โส ทิฏฺิฏฺาเน ติฏฺติ. ตสฺเสว สตฺตหิ จิตฺเตหิ สหชาตา สงฺกปฺปาทโย อตฺถิ. เตสํ ปหาเนน อนาคามิมคฺเค อฏฺนฺนํ องฺคานํ สกิจฺจกตา เวทิตพฺพา. อนาคามิสฺส อรหตฺตมคฺควชฺโฌ มาโน อตฺถิ, โส ทิฏฺิฏฺาเน ติฏฺติ. ยานิ ปนสฺส ปฺจ อกุสลจิตฺตานิ, เตหิ สหชาตา สงฺกปฺปาทโย อตฺถิ. เตสํ ปหาเนน อรหตฺตมคฺเค อฏฺนฺนํ องฺคานํ สกิจฺจกตา เวทิตพฺพา.
โอฬาริกาติ กายวจีทฺวาเร วีติกฺกมสฺส ปจฺจยภาเวน ถูลภูตมฺหา. กามราคสฺโชนาติ เมถุนราคสงฺขาตา สฺโชนา. โส หิ กามภเว สฺโเชตีติ สฺโชนนฺติ ¶ วุจฺจติ. ปฏิฆสฺโชนาติ พฺยาปาทสฺโชนา. โส หิ อารมฺมเณ ปฏิหฺตีติ ปฏิฆนฺติ วุจฺจติ. เต เอว ถามคตฏฺเน สนฺตาเน อนุเสนฺตีติ อนุสยา. อณุสหคตาติ อณุภูตา, สุขุมภูตาติ อตฺโถ. ตพฺภาเว หิ เอตฺถ สหคตสทฺโท. สกทาคามิสฺส หิ กามราคพฺยาปาทา ทฺวีหิ การเณหิ อณุภูตา อธิจฺจุปฺปตฺติยา จ ปริยุฏฺานมนฺทตาย จ. ตสฺส หิ พาลปุถุชฺชนสฺส วิย กิเลสา อภิณฺหํ น อุปฺปชฺชนฺติ, กทาจิ กรหจิ อุปฺปชฺชนฺติ. อุปฺปชฺชมานา จ พาลปุถุชฺชนสฺส วิย มทฺทนฺตา ผรนฺตา ฉาเทนฺตา อนฺธอนฺธํ กโรนฺตา น อุปฺปชฺชนฺติ, ทฺวีหิ ปน มคฺเคหิ ปหีนตฺตา มนฺทมนฺทา ตนุกาการา หุตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ, วีติกฺกมํ ปาเปตุํ สมตฺถา น โหนฺติ. เอวํ ตนุภูตา อนาคามิมคฺเคน ปหียนฺติ รูปราคาติ รูปภเว ฉนฺทราคา. อรูปราคาติ อรูปภเว ฉนฺทราคา. มานาติ อุนฺนติลกฺขณา. อุทฺธจฺจาติ อวูปสมลกฺขณา. อวิชฺชายาติ อนฺธลกฺขณาย. ภวราคานุสยาติ รูปราคารูปราควเสน ปวตฺตภวราคานุสยา.
๖๒. อิทานิ มคฺคาณสํวณฺณนํ กโรนฺโต อชาตํ ฌาเปตีติอาทิมาห. ตตฺถ จ อชาตํ ฌาเปติ ชาเตน, ฌานํ เตน ปวุจฺจตีติ อตฺตโน ¶ สนฺตาเน ปาตุภูเตน เตน เตน โลกุตฺตรชฺฌาเนน ตํสมงฺคีปุคฺคโล อชาตเมว ตํ ตํ กิเลสํ ฌาเปติ ทหติ สมุจฺฉินฺทติ, เตน การเณน ตํ โลกุตฺตรํ ฌานนฺติ ปวุจฺจตีติ อตฺโถ. ฌานวิโมกฺเข กุสลตาติ ¶ ตสฺมึ อริยมคฺคสมฺปยุตฺเต วิตกฺกาทิเก ฌาเน จ วิโมกฺขสงฺขาเต อริยมคฺเค จ อสมฺโมหวเสน กุสลตาย ปมมคฺเคเนว ปหีนาสุ นานาทิฏฺีสุ น กมฺปติ. ฌานํ นาม ทุวิธํ อารมฺมณูปนิชฺฌานฺจ ลกฺขณูปนิชฺฌานฺจ. โลกิยปมชฺฌานาทิกํ กสิณาทิอารมฺมณูปนิชฺฌานฏฺเน ฌานํ, วิปสฺสนาสงฺขารานํ สภาวสามฺลกฺขณูปนิชฺฌานฏฺเน ฌานํ, โลกุตฺตรํ นิพฺพาเน ตถลกฺขณูปนิชฺฌานฏฺเน ฌานํ. อิธ ปน โคตฺรภุนาปิ สาธารณํ ลกฺขณูปนิชฺฌานฏฺํ อนามสิตฺวา อสาธารเณน กิเลสฌาปนฏฺเน ฌานํ วุตฺตํ. วิโมกฺขฏฺโ ปเนตฺถ นิพฺพานารมฺมเณ สุฏฺุ อธิมุจฺจนฏฺโ กิเลเสหิ จ สุฏฺุ มุจฺจนฏฺโ.
สมาทหิตฺวา ยถา เจ วิปสฺสตีติ อปฺปนูปจารขณิกสมาธีนํ อฺตเรน สมาธินา ปมํ จิตฺตสมาธานํ กตฺวา ปจฺฉา ยถา วิปสฺสติ จ. สมุจฺจยตฺโถ เจ-สทฺโท วิปสฺสนํ สมุจฺจิโนติ. วิปสฺสมาโน ตถา เจ สมาทเหติ วิปสฺสนา นาเมสา ลูขภูตา นิรสฺสาทา, สมโถ จ นาม สินิทฺธภูโต สอสฺสาโท. ตสฺมา ตาย ลูขภูตํ จิตฺตํ สิเนเหตุํ วิปสฺสมาโน ตถา จ สมาทเห. วิปสฺสมาโน ปุน สมาธึ ปวิสิตฺวา จิตฺตสมาธานฺจ ตเถว กเรยฺย, ยเถว วิปสฺสนนฺติ อตฺโถ. อิธ เจ-สทฺโท สมาทหนํ สมุจฺจิโนติ. อุภยตฺถาปิ คาถาพนฺธานุวตฺตเนน ¶ เจ-กาโร กโต, อตฺโถ ปน จ-การตฺโถ เอว. วิปสฺสนา จ สมโถ ตทา อหูติ ยสฺมา สมถวิปสฺสนานํ ยุคนทฺธภาเว สติ อริยมคฺคปาตุภาโว โหติ, ตสฺมา อริยมคฺคชนนสมตฺถตฺตา ยทา ตทุภยสมาโยโค โหติ, ตทา วิปสฺสนา จ สมโถ จ อหุ, สมถวิปสฺสนา ภูตา นาม โหตีติ อตฺโถ. ตา จ สมถวิปสฺสนา อริยมคฺคาภิมุขีกาเล จ มคฺคกฺขเณ จ สมานภาคา ยุคนทฺธา วตฺตเร สมาโน สโม ภาโค โกฏฺาโส เอเตสนฺติ สมานภาคา, ยุเค นทฺธา วิยาติ ยุคนทฺธา, อฺมฺํ อนติวตฺตนฏฺเน สมธุรา สมพลาติ อตฺโถ. วิตฺถาโร ปนสฺส ยุคนทฺธกถายํ อาวิภวิสฺสติ.
ทุกฺขา สงฺขารา สุโข, นิโรโธ อิติ ทสฺสนํ. ทุภโต วุฏฺิตา ¶ ปฺา, ผสฺเสติ อมตํ ปทนฺติ ทุกฺขา สงฺขารา, สุโข นิโรโธ นิพฺพานนฺติ ปฏิปนฺนสฺส ¶ ตโต นิพฺพานทสฺสนํ อริยมคฺคาณํ ทุภโต วุฏฺิตา ปฺา นาม. สา เอว จ ปฺา อมตํ ปทํ นิพฺพานํ อารมฺมณผุสเนน ผุสติ, ปฏิลภตีติ อตฺโถ. นิพฺพานฺหิ อตปฺปกฏฺเน อมตสทิสนฺติ อมตํ, นาสฺส มตํ มรณํ วโย อตฺถีติปิ อมตํ, ปุพฺพภาคโต ปฏฺาย มหตา อุสฺสาเหน มหติยา ปฏิปทาย ปชฺชติ ปฏิปชฺชียตีติ ปทนฺติ วุจฺจติ.
วิโมกฺขจริยํ ชานาตีติ วิโมกฺขปวตฺตึ อสมฺโมหวเสน ชานาติ, ปจฺจเวกฺขณวเสน ชานาติ. ‘‘ทุภโต วุฏฺาโน วิโมกฺโข, ทุภโต วุฏฺานา จตฺตาโร วิโมกฺขา, ทุภโต วุฏฺานานํ อนุโลมา จตฺตาโร วิโมกฺขา, ทุภโต วุฏฺานปฏิปฺปสฺสทฺธิ จตฺตาโร วิโมกฺขา’’ติ หิ อุปริ วิโมกฺขกถายํเยว (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙ อาทโย) อาคตา วิโมกฺขจริยา เวทิตพฺพา. เตสํ วิตฺถาโร ตตฺเถว อาคโต. นานตฺเตกตฺตโกวิโทติ เตสํ วิโมกฺขานํ นานาภาเว เอกภาเว จ กุสโล. ทุภโต วุฏฺานวิโมกฺขวเสน หิ เตสํ เอกตฺตํ, จตุอริยมคฺควเสน นานตฺตํ, เอเกกสฺสาปิ วา อริยมคฺคสฺส อนุปสฺสนาเภเทน นานตฺตํ, อริยมคฺคภาเวน เอกตฺตํ เวทิตพฺพํ. ทฺวินฺนํ าณานํ กุสลตาติ ทสฺสนสงฺขาตสฺส จ ภาวนาสงฺขาตสฺส จาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ าณานํ กุสลตาย. ทสฺสนนฺติ หิ โสตาปตฺติมคฺโค. โส หิ ปมํ นิพฺพานทสฺสนโต ทสฺสนนฺติ วุตฺโต. โคตฺรภุ ปน กิฺจาปิ ปมตรํ นิพฺพานํ ปสฺสติ, ยถา ปน รฺโ สนฺติกํ เกนจิเทว กรณีเยน อาคโต ปุริโส ทูรโตว รถิกาย จรนฺตํ หตฺถิกฺขนฺธคตํ ราชานํ ทิสฺวาปิ ‘‘ทิฏฺโ เต ราชา’’ติ ปุฏฺโ ทิสฺวา กตฺตพฺพกิจฺจสฺส อกตตฺตา ‘‘น ปสฺสามี’’ติ อาห, เอวเมว นิพฺพานํ ทิสฺวา กตฺตพฺพสฺส กิเลสปฺปหานสฺสาภาวา น ‘‘ทสฺสน’’นฺติ วุจฺจติ. ตฺหิ าณํ มคฺคสฺส อาวชฺชนฏฺาเน ติฏฺติ. ภาวนาติ เสสมคฺคตฺตยํ. ตฺหิ ปมมคฺเคน ทิฏฺสฺมึเยว ธมฺเม ภาวนาวเสน อุปฺปชฺชติ, น อทิฏฺปุพฺพํ กิฺจิ ¶ ปสฺสติ, ตสฺมา ‘‘ภาวนา’’ติ วุจฺจติ. เหฏฺา ปน ภาวนามคฺคสฺส ¶ อปรินิฏฺิตตฺตา ‘‘ทฺวินฺนํ าณาน’’นฺติ อวตฺวา โสตาปตฺติสกทาคามิอนาคามิมคฺคลาภิโน สนฺธาย ‘‘ฌานวิโมกฺเข กุสลตา’’ติ วุตฺตํ, อรหตฺตมคฺคลาภิโน ปน ภาวนามคฺคสฺส ปรินิฏฺิตตฺตา ‘‘ทฺวินฺนํ าณานํ กุสลตา’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
มคฺคาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. ผลาณนิทฺเทสวณฺณนา
๖๓. ผลาณนิทฺเทเส ¶ ¶ ตํปโยคปฺปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตาติ ตสฺส อชฺฌตฺตพหิทฺธา วุฏฺานปโยคสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา. มคฺโค หิ สกกฺขเณ กิเลสปฺปหาเนน อุภโต วุฏฺานปโยคํ กโรติ นาม, ผลกฺขเณ กิเลสานํ ปหีนตฺตา มคฺคสฺส อุภโต วุฏฺานปโยโค ปฏิปฺปสฺสทฺโธ วูปสนฺโต นาม โหติ. อุปฺปชฺชตีติ มคฺคานนฺตรํ สกึ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา อุปฺปชฺชติ, ผลสมาปตฺติกาเล ปน พหุกฺขตฺตุํ, นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส ทฺวิกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชติ, สพฺพมฺปิ หิ ตํ ปโยคปฺปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา อุปฺปชฺชติ. มคฺคสฺเสตํ ผลนฺติ ผลํ อเปกฺขิตฺวา นปุํสกวจนํ กตํ. สกทาคามิมคฺคกฺขณาทีสุปิ เอเกกมคฺคงฺควเสเนว วุฏฺานโยชนา เวทิตพฺพา.
ผลาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. วิมุตฺติาณนิทฺเทสวณฺณนา
๖๔. วิมุตฺติาณนิทฺเทเส ¶ สกฺกายทิฏฺีติ วิชฺชมานฏฺเน สติ ขนฺธปฺจกสงฺขาเต กาเย, สยํ วา สตี ตสฺมึ กาเย ทิฏฺีติ สกฺกายทิฏฺิ. วิจิกิจฺฉาติ วิคตา จิกิจฺฉา, สภาวํ วา วิจินนฺโต เอตาย กิจฺฉติ กิลมตีติ วิจิกิจฺฉา. สีลพฺพตปรามาโสติ สีเลน สุทฺธิ วเตน สุทฺธิ สีลพฺพเตน สุทฺธีติ คหิตอภินิเวโส. โส หิ สภาวํ อติกฺกมิตฺวา ปรโต อามสตีติ สีลพฺพตปรามาโส. อุภินฺนํ สมาเนปิ ทิฏฺิภาเว ตกฺกฺจ ปรูปเทสฺจ วินา ปกติยา เอว สกฺกายทิฏฺิคหณโต ปกติภูตาย วีสติวตฺถุกาย สกฺกายทิฏฺิยา ปหาเนเนว สพฺพทิฏฺิปฺปหานทสฺสนตฺถํ สกฺกายทิฏฺิ วุตฺตา. สีลพฺพตปรามาโส ปน ¶ ‘‘สุทฺธิปฏิปทํ ปฏิปชฺชามา’’ติ ปฏิปนฺนานํ ปฏิปทาย มิจฺฉาภาวทสฺสนตฺถํ วิสุํ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. ติณฺณมฺปิ อนุสยปฺปหาเนเนว ปหานํ ทสฺเสตุํ ทิฏฺานุสโย วิจิกิจฺฉานุสโยติ วุตฺตํ, น วิสุํ กิเลสตฺตา. อุปกฺกิเลสาติ กิเลเสนฺติ อุปตาเปนฺติ วิพาเธนฺตีติ กิเลสา, ถามคตฏฺเน ภุสา กิเลสาติ อุปกฺกิเลสา. สมฺมา สมุจฺฉินฺนา โหนฺตีติ สมุจฺเฉทปฺปหาเนน อนุปฺปาทนิโรเธน สมฺมา สมุจฺฉินฺนา โหนฺติ. สปริยุฏฺาเนหีติ จิตฺตํ ปริโยนนฺธนฺตานิ ¶ อุฏฺเนฺติ อุปฺปชฺชนฺตีติ ปริยุฏฺานานิ, สมุทาจารปฺปตฺตานํ กิเลสานเมตํ อธิวจนํ. สห ปริยุฏฺาเนหีติ สปริยุฏฺานานิ. เตหิ สปริยุฏฺาเนหิ อนุสยิตอุปกฺกิเลเสหิ. จิตฺตํ วิมุตฺตํ โหตีติ เตสํ อภพฺพุปฺปตฺติกภูตตฺตา สนฺตติวเสน ปวตฺตมานํ จิตฺตํ ตโต วิมุตฺตํ นาม โหติ. ตเทว สุฏฺุ วิมุตฺตตฺตา สุวิมุตฺตํ. ตํวิมุตฺติาตฏฺเนาติ ตสฺสา วิมุตฺติยา ชานนฏฺเน.
วิมุตฺติาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๔. ปจฺจเวกฺขณาณนิทฺเทสวณฺณนา
๖๕. ปจฺจเวกฺขณาณนิทฺเทเส ¶ มคฺคกฺขเณเยว เหตุฏฺเน ปมํ มคฺคงฺคานิ วิสุํ วิสุํ วตฺวา ปุน มคฺคงฺคภูเต จ อมคฺคงฺคภูเต จ ธมฺเม ‘‘พุชฺฌนฏฺเน โพธี’’ติ ลทฺธนามสฺส อริยสฺส องฺคภาเวน โพชฺฌงฺเค วิสุํ ทสฺเสสิ. สติธมฺมวิจยวีริยสมาธิสมฺโพชฺฌงฺคา หิ มคฺคงฺคาเนว, ปีติปสฺสทฺธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคา อมคฺคงฺคานิ. ปุน พลวเสน อินฺทฺริยวเสน จ วิสุํ นิทฺทิฏฺเสุ สทฺธา เอว อมคฺคงฺคภูตา. ปุน มคฺคกฺขเณ ชาเตเยว ธมฺเม ราสิวเสน ทสฺเสนฺโต อาธิปเตยฺยฏฺเนาติอาทิมาห. ตตฺถ อุปฏฺานฏฺเน สติปฏฺานาติ เอกาว นิพฺพานารมฺมณา สติ กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ สุภสุขนิจฺจอตฺตสฺาปหานกิจฺจสาธนวเสน จตฺตาโร สติปฏฺานา นาม. นิพฺพานารมฺมณํ เอกเมว วีริยํ อุปฺปนฺนานุปฺปนฺนานํ อกุสลานํ ปหานานุปฺปตฺติกิจฺจสฺส, อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ อุปฺปาทฏฺิติกิจฺจสฺส สาธนวเสน จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา นาม.
ตถฏฺเน สจฺจาติ ทุกฺขภาวาทีสุ อวิสํวาทกฏฺเน จตฺตาริ อริยสจฺจานิ. เอตาเนว เจตฺถ ปฏิเวธฏฺเน ตทา สมุทาคตานิ, ‘‘อมโตคธํ นิพฺพาน’’นฺติ วิสุํ วุตฺตํ นิพฺพานฺจ, เสสา ปน ธมฺมา ปฏิลาภฏฺเน ตทา สมุทาคตา. ‘‘ตถฏฺเน สจฺจา ตทา สมุทาคตา’’ติ วจนโต มคฺคผลปริโยสาเน อวสฺสํ จตฺตาริ สจฺจานิ ปจฺจเวกฺขตีติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. ‘‘กตํ กรณียํ นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๔๘) วจนโต จ ‘‘ทุกฺขํ เม ปริฺาตํ, สมุทโย เม ปหีโน, นิโรโธ ¶ เม สจฺฉิกโต, มคฺโค ¶ จ เม ภาวิโต’’ติ ปจฺจเวกฺขณํ วุตฺตเมว โหติ. ตถา ปจฺจเวกฺขณํ ยุชฺชติ จ. สมุทโยติ เจตฺถ ตํตํมคฺควชฺโฌเยว เวทิตพฺโพ. เอตฺถ วุตฺตสมุทยปจฺจเวกฺขณวเสเนว อฏฺกถายํ ¶ ทุวิธํ กิเลสปจฺจเวกฺขณํ มคฺคผลนิพฺพานปจฺจเวกฺขณานิ อิธ สรูเปเนว อาคตานีติ วุตฺตานิ. เกวลํ ทุกฺขปจฺจเวกฺขณเมว น วุตฺตํ. กิฺจาปิ น วุตฺตํ, อถ โข ปาสพฺภาวโต ยุตฺติสพฺภาวโต จ คเหตพฺพเมว. สจฺจปฏิเวธตฺถฺหิ ปฏิปนฺนสฺส นิฏฺิเต สจฺจปฏิเวเธ สยํ กตกิจฺจปจฺจเวกฺขณํ ยุตฺตเมวาติ. อวิกฺเขปฏฺเน สมโถติอาทิ มคฺคสมฺปยุตฺเต เอว สมถวิปสฺสนาธมฺเม เอกรสฏฺเน อนติวตฺตนฏฺเน จ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. สํวรฏฺเน สีลวิสุทฺธีติ สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวา เอว. อวิกฺเขปฏฺเน จิตฺตวิสุทฺธีติ สมฺมาสมาธิ เอว. ทสฺสนฏฺเน ทิฏฺิวิสุทฺธีติ สมฺมาทิฏฺิเยว. วิมุตฺตฏฺเนาติ สมุจฺเฉทวเสน มคฺควชฺฌกิเลเสหิ มุจฺจนฏฺเน, นิพฺพานารมฺมเณ วา อธิมุจฺจนฏฺเน. วิโมกฺโขติ สมุจฺเฉทวิโมกฺโข, อริยมคฺโคเยว. ปฏิเวธฏฺเน วิชฺชาติ สจฺจปฏิเวธฏฺเน วิชฺชา, สมฺมาทิฏฺิเยว. ปริจฺจาคฏฺเน วิมุตฺตีติ มคฺควชฺฌกิเลสานํ ปชหนฏฺเน ตโต มุจฺจนโต วิมุตฺติ, อริยมคฺโคเยว. สมุจฺเฉทฏฺเน ขเย าณนฺติ กิเลสสมุจฺฉินฺทนฏฺเน กิเลสกฺขยกเร อริยมคฺเค าณํ, สมฺมาทิฏฺิเยว.
ฉนฺทาทโย เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เกวลฺเหตฺถ มคฺคกฺขเณเยว มคฺคสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานากาเรน ทสฺสิตา. วิมุตฺตีติ เจตฺถ มคฺควิมุตฺติเยว. ‘‘ตถฏฺเน สจฺจา’’ติ เอตฺถ คหิตมฺปิ จ นิพฺพานํ อิธ ปริโยสานภาวทสฺสนตฺถํ ปุน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ผลกฺขเณปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน เหตุฏฺเน มคฺโคติ ผลมคฺคภาเวเนว. สมฺมปฺปธานาติ มคฺคกฺขเณ จตุกิจฺจสาธกสฺส วีริยกิจฺจสฺส ผลสฺส อุปฺปาทกฺขเณ สิทฺธตฺตา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อฺถา หิ ผลกฺขเณ สมฺมปฺปธานา เอว น ลพฺภนฺติ. วุตฺตฺหิ มคฺคกฺขเณ สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺเม อุทฺธรนฺเตน เถเรน ‘‘ผลกฺขเณ เปตฺวา จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเน อวเสสา เตตฺตึส ธมฺมา ลพฺภนฺตี’’ติ. เอวเมว ¶ ปฏิเวธกิจฺจาทิสิทฺธิวเสน สจฺจาทีนิปิ ยถาโยคํ เวทิตพฺพานิ. วิโมกฺโขติ จ ผลวิโมกฺโข. วิมุตฺตีติ ผลวิมุตฺติ. ปฏิปฺปสฺสทฺธฏฺเน อนุปฺปาเท าณํ วุตฺตตฺถเมว. วุฏฺหิตฺวาติ อนฺตรา วุฏฺานาภาวา ผลาวสาเนน เอวํ วุตฺตํ. อิเม ธมฺมา ตทา สมุทาคตาติ อิเม วุตฺตปฺปการา ¶ ธมฺมา มคฺคกฺขเณ ผลกฺขเณ จ สมุทาคตาติ ปจฺจเวกฺขตีติ อิติ-สทฺทํ ปาเสสํ กตฺวา สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ.
ปจฺจเวกฺขณาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๕. วตฺถุนานตฺตาณนิทฺเทสวณฺณนา
๖๖. วตฺถุนานตฺตาณนิทฺเทเส ¶ ¶ จกฺขุํ อชฺฌตฺตํ ววตฺเถตีติ อชฺฌตฺตภูตํ จกฺขุํ ววตฺถเปติ. ยถา โส จกฺขุํ ววตฺถเปติ, ตถา วตฺตุกาโม กถํ จกฺขุํ อชฺฌตฺตํ ววตฺเถตีติ ปุจฺฉิตฺวา ปุน จกฺขุ อวิชฺชาสมฺภูตนฺติ ววตฺเถตีติอาทินา ววตฺถาปนาการํ ทสฺเสติ. ตตฺถ อวิชฺชาตณฺหา อตีตา อุปตฺถมฺภกเหตุโย, กมฺมํ อตีตํ ชนกเหตุ, อาหาโร อิทานิ อุปตฺถมฺภกเหตุ. เอเตน จกฺขูปตฺถมฺภกานิ อุตุจิตฺตานิ คหิตาเนว โหนฺติ. จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทายาติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ, จตฺตาริ มหาภูตานิ อุปาทิยิตฺวา ปวตฺตนฺติ อตฺโถ. เอเตน ปสาทจกฺขุภาโว ทสฺสิโต โหติ, สสมฺภารภาโว ปฏิกฺขิตฺโต. อุปฺปนฺนนฺติ อทฺธาวเสน, สนฺตติขณวเสน วา ปจฺจุปฺปนฺนํ. สมุทาคตนฺติ เหตุโต สมุฏฺิตํ. เอตฺตาวตา วิปสฺสนาปุพฺพภาเค จกฺขุววตฺถานํ ทสฺสิตํ. อหุตฺวา สมฺภูตนฺติอาทีหิ อนิจฺจานุปสฺสนา. ปุพฺเพ อุทยา อวิชฺชมานโต อหุตฺวา สมฺภูตํ, อุทฺธํ วยา อภาวโต หุตฺวา น ภวิสฺสติ. อนฺตวนฺตโตติ อนฺโต อสฺส อตฺถีติ อนฺตวา, อนฺตวา เอว อนฺตวนฺโต ยถา ‘‘สติมนฺโต, คติมนฺโต, ธิติมนฺโต จ โย อิสี’’ติ (เถรคา. ๑๐๕๒). ตโต อนฺตวนฺตโต, ภงฺควิชฺชมานโตติ อตฺโถ. อทฺธุวนฺติ สพฺพาวตฺถานิปาติตาย, ถิรภาวสฺส จ อภาวตาย น ถิรํ. อสสฺสตนฺติ น นิจฺจํ. วิปริณามธมฺมนฺติ ชราย เจว มรเณน จาติ ทฺเวธา วิปริณามปกติกํ. จกฺขุ อนิจฺจนฺติอาทีนิ จกฺขุํ อนิจฺจโตติอาทีนิ จ วุตฺตตฺถานิ. มโนติ อิธ ภวงฺคมนสฺส อธิปฺเปตตฺตา อวิชฺชาสมฺภูโตติอาทิ ยุชฺชติเยว. อาหารสมฺภูโตติ เอตฺถ สมฺปยุตฺตผสฺสาหารมโนสฺเจตนาหารวเสน เวทิตพฺพํ. อุปฺปนฺโนติ จ อทฺธาสนฺตติวเสน.
วตฺถุนานตฺตาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๖. โคจรนานตฺตาณนิทฺเทสวณฺณนา
๖๗. โคจรนานตฺตาณนิทฺเทเส ¶ ¶ รูเป พหิทฺธา ววตฺเถตีติ อชฺฌตฺตโต พหิทฺธาภูเต รูปายตนธมฺเม ววตฺถเปตีติ อตฺโถ. อวิชฺชาสมฺภูตาติอาทิ อตฺตภาวปริยาปนฺนกมฺมชรูปตฺตา วุตฺตํ. อาหาโรปิ หิ กมฺมชรูปสฺส อุปตฺถมฺภกปจฺจโย โหติ. สทฺทสฺส ปน อุตุจิตฺตสมุฏฺานตฺตา อวิชฺชาสมฺภูตาทิจตุกฺกํ น วุตฺตํ. โผฏฺพฺพานํ สยํ มหาภูตตฺตา ‘‘จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทายา’’ติ น วุตฺตํ. ธมฺมาติ เจตฺถ ภวงฺคมโนสมฺปยุตฺตา ตโย อรูปิโน ขนฺธา, ธมฺมายตนปริยาปนฺนานิ ¶ สุขุมรูปานิ จ กมฺมสมุฏฺานานิ, สพฺพานิปิ รูปาทีนิ จ. อปิจ ยานิ ยานิ เยน เยน สมุฏฺหนฺติ, ตานิ ตานิ เตน เตน เวทิตพฺพานิ. อิตรถา หิ สกสนฺตานปริยาปนฺนาปิ รูปาทโย ธมฺมา สพฺเพ น สงฺคณฺเหยฺยุํ. ยสฺมา อนินฺทฺริยพทฺธรูปาทโยปิ วิปสฺสนูปคา, ตสฺมา เตสํ กมฺมสมฺภูตปเทน สงฺคโห เวทิตพฺโพ. เตปิ หิ สพฺพสตฺตสาธารณกมฺมปจฺจยอุตุสมุฏฺานา. อฺเ ปน ‘‘อนินฺทฺริยพทฺธา รูปาทโย อวิปสฺสนูปคา’’ติ วทนฺติ. ตํ ปน –
‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจาติ, ยทา ปฺาย ปสฺสติ;
อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข, เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา’’ติ. (ธ. ป. ๒๗๗) –
อาทิกาย ปาฬิยา วิรุชฺฌติ. วุตฺตฺจ วิสุทฺธิมคฺเค – ‘‘อิเธกจฺโจ อาทิโตว อชฺฌตฺตสงฺขาเร อภินิวิสิตฺวา วิปสฺสติ, ยสฺมา ปน น สุทฺธอชฺฌตฺตทสฺสนมตฺเตเนว มคฺควุฏฺานํ โหติ, พหิทฺธาปิ ทฏฺพฺพเมว, ตสฺมา ปรสฺส ¶ ขนฺเธปิ อนุปาทินฺนสงฺขาเรปิ อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตาติ วิปสฺสตี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๗๘๔). ตสฺมา ปเรสํ จกฺขาทิววตฺถานมฺปิ อนินฺทฺริยพทฺธรูปาทิววตฺถานมฺปิ อิจฺฉิตพฺพเมว, ตสฺมา เตภูมกสงฺขารา อวิปสฺสนูปคา นาม นตฺถิ.
โคจรนานตฺตาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๗. จริยานานตฺตาณนิทฺเทสวณฺณนา
๖๘. จริยานานตฺตาณนิทฺเทเส ¶ วิฺาณจริยาติอาทีสุ อารมฺมเณ จรตีติ จริยา, วิฺาณเมว จริยา วิฺาณจริยา. อฺาเณน จรณํ ¶ , อฺาเณน วา จรติ, อฺาเต วา จรติ, อฺาณสฺส วา จรณนฺติ อฺาณจริยา. าณเมว จริยา, าเณน วา จริยา, าเณน วา จรติ, าเต วา จรติ, าณสฺส วา จรณนฺติ าณจริยา. ทสฺสนตฺถายาติ รูปทสฺสนตฺถาย ปวตฺตา. อาวชฺชนกิริยาพฺยากตาติ ภวงฺคสนฺตานโต อปเนตฺวา รูปารมฺมเณ จิตฺตสนฺตานํ อาวชฺเชติ นาเมตีติ อาวชฺชนํ, วิปากาภาวโต กรณมตฺตนฺติ กิริยา, กุสลากุสลวเสน น พฺยากตาติ อพฺยากตา. ทสฺสนฏฺโติ ปสฺสนฺติ เตน, สยํ วา ปสฺสติ, ทสฺสนมตฺตเมว วา ตนฺติ ทสฺสนํ, ทสฺสนเมว อตฺโถ ทสฺสนฏฺโ. จกฺขุวิฺาณนฺติ กุสลวิปากํ ¶ วา อกุสลวิปากํ วา. ทิฏฺตฺตาติ อทิฏฺเ สมฺปฏิจฺฉนสฺส อภาวโต จกฺขุวิฺาเณน รูปารมฺมณสฺส ทิฏฺตฺตา. อภินิโรปนา วิปากมโนธาตูติ ทิฏฺารมฺมณเมว อาโรหตีติ อตินิโรปนา, อุภยวิปากา สมฺปฏิจฺฉนมโนธาตุ. อภินิโรปิตตฺตาติ รูปารมฺมณํ อภิรุฬฺหตฺตา. วิปากมโนวิฺาณธาตูติ อุภยวิปากา สนฺตีรณมโนวิฺาณธาตุ. เอส นโย โสตทฺวาราทีสุปิ. สนฺตีรณานนฺตรํ โวฏฺพฺพเน อวุตฺเตปิ อฏฺกถาจริเยหิ วุตฺตตฺตา ลพฺภตีติ คเหตพฺพํ. วิชานนตฺถายาติ ธมฺมารมฺมณสฺส เจว รูปาทิอารมฺมณสฺส จ วิชานนตฺถาย. อาวชฺชนกิริยาพฺยากตาติ มโนทฺวาราวชฺชนจิตฺตํ. วิชานนฏฺโติ ตทนนฺตรชวนวเสน อารมฺมณสฺส วิชานนเมว อตฺโถ, น อฺโ. อุปริ อกุสลชวนานํ วิปสฺสนามคฺคผลชวนานฺจ วิสุํ วุตฺตตฺตา เสสชวนานิ อิธ คเหตพฺพานิ สิยุํ. ‘‘กุสเลหิ กมฺเมหิ วิปฺปยุตฺตา จรตีติ วิฺาณจริยา’’ติอาทิวจนโต (ปฏิ. ม. ๑.๗๐) ปน หสิตุปฺปาทจิตฺตชวนเมว คเหตพฺพํ. ฉสุ ทฺวาเรสุ อเหตุกานํเยว ¶ จิตฺตานํ วุตฺตตฺตา ทฺเว อาวชฺชนานิ ทฺเว ปฺจวิฺาณานิ ทฺเว สมฺปฏิจฺฉนานิ ตีณิ สนฺตีรณานิ เอกํ หสิตุปฺปาทจิตฺตนฺติ อฏฺารส อเหตุกจิตฺตานิเยว วิฺาณจริยาติ เวทิตพฺพานิ.
๖๙. อิทานิ วิสยวิชานนมตฺตฏฺเน วิฺาณจริยาติ ทสฺเสตุํ นีราคา จรตีติอาทิมาห, วิฺาณฺหิ ราคาทิสมฺปโยเค สทฺธาทิสมฺปโยเค จ อวตฺถนฺตรํ ปาปุณาติ, เตสุ อสติ สกาวตฺถายเมว ติฏฺติ. ตสฺมา นีราคาทิวจเนน เตสํ วุตฺตวิฺาณานํ วิฺาณกิจฺจมตฺตํ ทสฺเสติ. นตฺถิ เอติสฺสา ราโคติ นีราคา. นิราคาติ รสฺสํ กตฺวาปิ ปนฺติ ¶ . โส ปน รชฺชนวเสน ราโค. อิตเรสุ ทุสฺสนวเสน โทโส. มุยฺหนวเสน โมโห. มฺนวเสน มาโน. วิปรีตทสฺสนวเสน ทิฏฺิ. อุทฺธตภาโว, อวูปสนฺตภาโว วา อุทฺธจฺจํ. วิจิกิจฺฉา วุตฺตตฺถา. อนุเสนฺตีติ อนุสยา. ‘‘นิรนุสยา’’ติ วตฺตพฺเพ นานุสยาติ วุตฺตํ, โสเยวตฺโถ. ปริยุฏฺานปฺปตฺตานเมเวตฺถ อภาโว เวทิตพฺโพ. น หิ วิฺาณจริยา ปหีนานุสยานํเยว วุตฺตา. ยา จ นีราคาทินามา, สา ราคาทีหิ วิปฺปยุตฺตาว นาม โหตีติ ปริยายนฺตรทสฺสนตฺถํ ราควิปฺปยุตฺตาติอาทิมาห. ปุน อฺเหิ จ วิปฺปยุตฺตตํ ทสฺเสตุํ กุสเลหิ กมฺเมหีติอาทิมาห. กุสลานิเยว ราคาทิวชฺชาภาวา อนวชฺชานิ. ปริสุทฺธภาวกเรหิ หิริโอตฺตปฺเปหิ ยุตฺตตฺตา สุกฺกานิ. ปวตฺติสุขตฺตา สุโข อุทโย อุปฺปตฺติ เอเตสนฺติ สุขุทฺรยานิ, สุขวิปากตฺตา วา สุโข อุทโย วฑฺฒิ เอเตสนฺติ สุขุทฺรยานิ. วุตฺตวิปกฺเขน อกุสลานิ โยเชตพฺพานิ. วิฺาเต จรตีติ วิฺาเณน วิฺายมานํ อารมฺมณํ วิฺาตํ นาม, ตสฺมึ วิฺาเต อารมฺมเณ. กึ วุตฺตํ โหติ? นีลวณฺณโยคโต นีลวตฺถํ วิย วิฺาณโยคโต วิฺาตํ วิฺาณํ นาม โหติ, ตสฺมึ วิฺาเณ จรตีติ วิฺาณจริยาติ วุตฺตํ โหติ. วิฺาณสฺส ¶ เอวรูปา จริยา โหตีติ วุตฺตปฺปการสฺส วิฺาณสฺส วุตฺตปฺปการา จริยา โหตีติ อตฺโถ. ‘‘วิฺาณสฺส จริยา’’ติ จ โวหารวเสน วุจฺจติ, วิฺาณโต ปน วิสุํ จริยา นตฺถิ. ปกติปริสุทฺธมิทํ จิตฺตํ นิกฺกิเลสฏฺเนาติ อิทํ วุตฺตปฺปการํ จิตฺตํ ราคาทิกิเลสาภาเวน ¶ ปกติยา เอว ปริสุทฺธํ. ตสฺมา วิชานนมตฺตเมว จริยาติ วิฺาณจริยาติ วุตฺตํ โหติ. นิกฺเลสฏฺเนาติปิ ปาโ.
อฺาณจริยาย มนาปิเยสูติ มนสิ อปฺเปนฺติ ปสีทนฺติ, มนํ วา อปฺปายนฺติ วฑฺเฒนฺตีติ มนาปานิ, มนาปานิเยว มนาปิยานิ. เตสุ มนาปิเยสุ. ตานิ ปน อิฏฺานิ วา โหนฺตุ อนิฏฺานิ วา, คหณวเสน มนาปิยานิ. น หิ อิฏฺสฺมึเยว ราโค อนิฏฺสฺมึเยว โทโส อุปฺปชฺชติ. ราคสฺส ชวนตฺถายาติ สนฺตติวเสน ราคสฺส ชวนตฺถาย ปวตฺตา. อาวชฺชนกิริยาพฺยากตาติ จกฺขุทฺวาเร อโยนิโส มนสิการภูตา อาวชฺชนกิริยาพฺยากตา มโนธาตุ. ราคสฺส ชวนาติ เยภุยฺเยน สตฺตกฺขตฺตุํ ¶ ราคสฺส ปวตฺติ, ปุนปฺปุนํ ปวตฺโต ราโคเยว. อฺาณจริยาติ อฺาเณน ราคสฺส สมฺภวโต อฺาเณน ราคสฺส จริยาติ วุตฺตํ โหติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ตทุภเยน อสมเปกฺขนสฺมึ วตฺถุสฺมินฺติ ราคโทสวเสน สมเปกฺขนวิรหิเต รูปารมฺมณสงฺขาเต วตฺถุสฺมึ. โมหสฺส ชวนตฺถายาติ วิจิกิจฺฉาอุทฺธจฺจวเสน โมหสฺส ชวนตฺถาย. อฺาณจริยาติ อฺาณสฺเสว จริยา, น อฺสฺส. วินิพนฺธสฺสาติอาทีนิ มานาทีนํ สภาววจนานิ. ตตฺถ วินิพนฺธสฺสาติ อุนฺนติวเสน วินิพนฺธิตฺวา ิตสฺส. ปรามฏฺายาติ รูปสฺส อนิจฺจภาวาทึ อติกฺกมิตฺวา ปรโต นิจฺจภาวาทึ อามฏฺาย คหิตาย. วิกฺเขปคตสฺสาติ รูปารมฺมเณ วิกฺขิตฺตภาวํ คตสฺส. อนิฏฺงฺคตายาติ อสนฺนิฏฺานภาวํ คตาย. ถามคตสฺสาติ พลปฺปตฺตสฺส. ธมฺเมสูติ รูปาทีสุ วา ธมฺมารมฺมณภูเตสุ วา ธมฺเมสุ.
๗๐. ยสฺมา ราคาทโย อฺาเณน โหนฺติ, ตสฺมา ราคาทิสมฺปโยเคน อฺาณํ วิเสเสนฺโต สราคา จรตีติอาทิมาห. ตตฺถ สราคา จรตีติ โมหมานทิฏฺิมานานุสยทิฏฺานุสยอวิชฺชานุสยชวนวเสน จริยา เวทิตพฺพา. สโทสา จรตีติ โมหอวิชฺชานุสยชวนวเสน. สโมหา จรตีติ ราคโทสมานทิฏฺิอุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉานุสยชวนวเสน. สมานา จรตีติ ราคโมหกามราคภวราคาวิชฺชานุสยชวนวเสน. สทิฏฺิ จรตีติ ราคโมหกามราคาวิชฺชานุสยชวนวเสน. สอุทฺธจฺจา จรติ สวิจิกิจฺฉา จรตีติ ¶ โมหอวิชฺชานุสยชวนวเสน. สานุสยา จรตีติ เอตฺถาปิ วุตฺตนเยเนว เอเกกํ อนุสยํ มูลํ กตฺวา ตสฺมึ จิตฺเต ลพฺภมานกเสสานุสยวเสน สานุสยตา โยเชตพฺพา. ราคสมฺปยุตฺตาติอาทิ สราคาทิเววจนเมว. สา เอว ¶ หิ จริยา สมฺปโยควเสน สห ราคาทีหิ วตฺตตีติ สราคาทิอาทีนิ นามานิ ลภติ. ราคาทีหิ สมํ เอกุปฺปาเทกนิโรเธกวตฺเถการมฺมณาทีหิ ปกาเรหิ ยุตฺตาติ ราคสมฺปยุตฺตานีติอาทีนิ นามานิ ลภติ. สาเยว จ ยสฺมา กุสลาทีหิ กมฺเมหิ วิปฺปยุตฺตา, อกุสลาทีหิ กมฺเมหิ สมฺปยุตฺตา, ตสฺมาปิ อฺาณจริยาติ ทสฺเสตุํ กุสเลหิ กมฺเมหีติอาทิมาห. ตตฺถ อฺาเตติ โมหสฺส อฺาณลกฺขณตฺตา ยถาสภาเวน อฺาเต อารมฺมเณ. เสสํ วุตฺตตฺถเมว.
๗๑. าณจริยายํ ¶ ยสฺมา วิวฏฺฏนานุปสฺสนาทีนํ อนนฺตรปจฺจยภูตา อาวชฺชนกิริยาพฺยากตา นตฺถิ, ตสฺมา เตสํ อตฺถาย อาวชฺชนกิริยาพฺยากตํ อวตฺวา วิวฏฺฏนานุปสฺสนาทโยว วุตฺตา. อนุโลมาณตฺถาย เอว หิ อาวชฺชนา โหติ, ตโต วิวฏฺฏนานุปสฺสนามคฺคผลานิ. ผลสมาปตฺตีติ เจตฺถ มคฺคานนฺตรชา วา โหตุ กาลนฺตรชา วา, อุโภปิ อธิปฺเปตา. นีราคา จรตีติอาทีสุ ราคาทีนํ ปฏิปกฺขวเสน นีราคาทิตา เวทิตพฺพา, วิฺาณจริยายํ ราคาทีนํ อภาวมตฺตฏฺเน. าเตติ ยถาสภาวโต าเต. อฺา วิฺาณจริยาติอาทีหิ ติสฺสนฺนํ จริยานํ อฺมฺมสมฺมิสฺสตํ ทสฺเสติ. วิฺาณกิจฺจมตฺตวเสน หิ อเหตุกจิตฺตุปฺปาทา วิฺาณจริยา, อฺาณกิจฺจวตํ ทฺวาทสนฺนํ อกุสลจิตฺตุปฺปาทานํ วเสเนว อฺาณจริยา, วิเสเสน าณกิจฺจการีนํ วิปสฺสนามคฺคผลานํ วเสน าณจริยา. เอวมิมา อฺมฺมสมฺมิสฺสา จ, วิปสฺสนํ เปตฺวา สเหตุกกามาวจรกิริยากุสลา จ, สเหตุกกามาวจรวิปากา จ, รูปาวจรารูปาวจรกุสลาพฺยากตา จ ตีหิ จริยาหิ วินิมุตฺตาติ เวทิตพฺพา. นิพฺพานารมฺมณาย วิวฏฺฏนานุปสฺสนาย าณจริยาย นิทฺทิฏฺตฺตา นิพฺพานมคฺคผลปจฺจเวกฺขณภูตานิ เสกฺขาเสกฺขานํ ปจฺจเวกฺขณาณานิ าณจริยาย สงฺคหิตานีติ เวทิตพฺพานิ. ตานิปิ หิ วิเสเสน าณกิจฺจกราเนวาติ.
จริยานานตฺตาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๘. ภูมินานตฺตาณนิทฺเทสวณฺณนา
๗๒. ภูมินานตฺตาณนิทฺเทเส ¶ ภูมิโยติ ภาคา ปริจฺเฉทา วา. กามาวจราติ เอตฺถ ทุวิโธ กาโม กิเลสกาโม วตฺถุกาโม จ. กิเลสกาโม ฉนฺทราโค, วตฺถุกาโม เตภูมกวฏฺฏํ. กิเลสกาโม กาเมตีติ กาโม, วตฺถุกาโม กามียตีติ กาโม. โส ทุวิโธ กาโม ปวตฺติวเสน ¶ ยสฺมึ ปเทเส อวจรติ, โส ปเทโส กาโม เอตฺถ อวจรตีติ กามาวจโร. โส ปน ปเทโส จตุนฺนํ อปายานํ, มนุสฺสโลกสฺส, ฉนฺนฺจ เทวโลกานํ วเสน เอกาทสวิโธ ¶ . ยถา หิ ยสฺมึ ปเทเส สสตฺถา ปุริสา อวจรนฺติ, โส วิชฺชมาเนสุปิ อฺเสุ ทฺวิปทจตุปฺปเทสุ อวจรนฺเตสุ เตสํ อภิลกฺขิตตฺตา ‘‘สสตฺถาวจโร’’ติ วุจฺจติ, เอวํ วิชฺชมาเนสุปิ อฺเสุ รูปาวจราทีสุ ตตฺถ อวจรนฺเตสุ เตสํ อภิลกฺขิตตฺตา อยํ ปเทโส ‘‘กามาวจโร’’ตฺเวว วุจฺจติ. สฺวายํ ยถา รูปภโว รูปํ, เอวํ อุตฺตรปทโลปํ กตฺวา ‘‘กาโม’’ตฺเวว วุจฺจติ. ตปฺปฏิพทฺโธ เอเกโก ธมฺโม อิมสฺมึ เอกาทสวิธปเทสสงฺขาเต กาเม อวจรตีติ กามาวจโร. กิฺจาปิ หิ เอตฺถ เกจิ ธมฺมา รูปารูปภเวสุปิ อวจรนฺติ, ยถา ปน สงฺคาเม อวจรณโต ‘‘สงฺคามาวจโร’’ติ ลทฺธนาโม นาโค นคเร จรนฺโตปิ ‘‘สงฺคามาวจโร’’ตฺเวว วุจฺจติ, ถลชลจรา จ ปาณิโน อถเล อชเล จ ิตาปิ ‘‘ถลจรา ชลจรา’’ตฺเวว วุจฺจนฺติ, เอวํ เต อฺตฺถ อวจรนฺตาปิ กามาวจราเยวาติ เวทิตพฺพา. อารมฺมณกรณวเสน วา เอเตสุ วุตฺตปฺปกาเรสุ ธมฺเมสุ กาโม อวจรตีติ กามาวจรา. กามฺเจส รูปารูปาวจรธมฺเมสุปิ อวจรติ, ยถา ปน ‘‘วทตีติ วจฺโฉ, มหิยํ เสตีติ มหึโส’’ติ วุตฺเต น ยตฺตกา วทนฺติ, มหิยํ วา เสนฺติ, สพฺเพสํ ตํ นามํ โหติ. เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ สพฺเพ เต ธมฺเม เอกราสึ กตฺวา วุตฺตภูมิสทฺทมเปกฺขิตฺวา กามาวจราติ อิตฺถิลิงฺควจนํ กตํ. รูปาวจราติอาทีสุ รูปภโว รูปํ, ตสฺมึ รูเป อวจรนฺตีติ รูปาวจรา. อรูปภโว อรูปํ, ตสฺมึ อรูเป ¶ อวจรนฺตีติ อรูปาวจรา. เตภูมกวฏฺเฏ ปริยาปนฺนา อนฺโตคธาติ ปริยาปนฺนา, ตสฺมึ น ปริยาปนฺนาติ อปริยาปนฺนา.
กามาวจราทิภูมินิทฺเทเสสุ เหฏฺโตติ เหฏฺาภาเคน. อวีจินิรยนฺติ ชาลานํ วา สตฺตานํ วา เวทนานํ วา วีจิ อนฺตรํ ฉิทฺทํ เอตฺถ นตฺถีติ อวีจิ. สุขสงฺขาโต อโย เอตฺถ นตฺถีติ นิรโย, นิรติอตฺเถนปิ นิรโย. ปริยนฺตํ กริตฺวาติ ตํ อวีจิสงฺขาตํ นิรยํ อนฺตํ กตฺวา. อุปริโตติ อุปริภาเคน. ปรนิมฺมิตวสวตฺตี เทเวติ ปรนิมฺมิเตสุ กาเมสุ วสํ วตฺตนโต เอวํลทฺธโวหาเร เทเว. อนฺโต กริตฺวาติ อนฺโต ปกฺขิปิตฺวา. ยํ เอตสฺมึ อนฺตเรติ เย เอตสฺมึ โอกาเส. ยนฺติ จ ลิงฺควจนวิปลฺลาโส กโต. เอตฺถาวจราติ อิมินา ยสฺมา ตสฺมึ อนฺตเร อฺเปิ จรนฺติ กทาจิ กตฺถจิ สมฺภวโต, ตสฺมา เตสํ อสงฺคณฺหนตฺถํ อวจราติ วุตฺตํ. เตน เย เอกสฺมึ อนฺตเร โอคาฬฺหา หุตฺวา จรนฺติ, สพฺพตฺถ สทา ¶ จ สมฺภวโต, อโธภาเค จ จรนฺติ อวีจินิรยสฺส เหฏฺา ภูตูปาทาย ปวตฺติภาเวน, เตสํ สงฺคโห กโต โหติ. เต หิ โอคาฬฺหา จรนฺติ, อโธภาเค จ จรนฺตีติ อวจรา. เอตฺถ ปริยาปนฺนาติ อิมินา ปน ยสฺมา ¶ เอเต เอตฺถาวจรา อฺตฺถาปิ อวจรนฺติ, น ปน ตตฺถ ปริยาปนฺนา โหนฺติ, ตสฺมา เตสํ อฺตฺถาปิ อวจรนฺตานํ ปริคฺคโห กโต โหติ.
อิทานิ เต เอตฺถ ปริยาปนฺเน ธมฺเม ราสิสฺุตาปจฺจยภาวโต เจว สภาวโต จ ทสฺเสนฺโต ขนฺธธาตุอายตนาติอาทิมาห. พฺรหฺมโลกนฺติ ปมชฺฌานภูมิสงฺขาตํ พฺรหฺมฏฺานํ. อกนิฏฺเติ อุตฺตมฏฺเน น กนิฏฺเ. สมาปนฺนสฺสาติ สมาปตฺตึ สมาปนฺนสฺส. เอเตน กุสลชฺฌานํ วุตฺตํ. อุปปนฺนสฺสาติ วิปากวเสน พฺรหฺมโลเก อุปปนฺนสฺส. เอเตน วิปากชฺฌานํ วุตฺตํ. ทิฏฺธมฺมสุขวิหาริสฺสาติ ทิฏฺเว ธมฺเม ปจฺจกฺเข อตฺตภาเว สุโข วิหาโร ทิฏฺธมฺมสุขวิหาโร, โส อสฺส อตฺถีติ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารี, อรหา. ตสฺส ทิฏฺธมฺมสุขวิหาริสฺส. เอเตน กิริยชฺฌานํ วุตฺตํ. เจตสิกาติ เจตสิ ภวา เจตสิกา, จิตฺตสมฺปยุตฺตาติ อตฺโถ. อากาสานฺจายตนูปเคติ อากาสานฺจายตนสงฺขาตํ ภวํ อุปคเต. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. มคฺคาติ ¶ จตฺตาโร อริยมคฺคา. มคฺคผลานีติ จตฺตาริ อริยมคฺคผลานิ. อสงฺขตา จ ธาตูติ ปจฺจเยหิ อกตา นิพฺพานธาตุ.
อปราปิ จตสฺโส ภูมิโยติ เอเกกจตุกฺกวเสน เวทิตพฺพา. จตฺตาโร สติปฏฺานาติ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ เวทนานุปสฺสนาสติปฏฺานํ จิตฺตานุปสฺสนาสติปฏฺานํ ธมฺมานุปสฺสนาสติปฏฺานํ. ตสฺสตฺโถ – ปติฏฺาตีติ ปฏฺานํ, อุปฏฺาติ โอกฺกนฺทิตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา ปวตฺตตีติ อตฺโถ. สติเยว ปฏฺานํ สติปฏฺานํ. อถ วา สรณฏฺเน สติ, อุปฏฺานฏฺเน ปฏฺานํ, สติ จ สา ปฏฺานฺจาติปิ สติปฏฺานํ. อารมฺมณวเสน พหุกา ตา สติโยติ สติปฏฺานา. จตฺตาโร สมฺมปฺปธานาติ อนุปฺปนฺนานํ อกุสลานํ อนุปฺปาทาย สมฺมปฺปธานํ, อุปฺปนฺนานํ อกุสลานํ ปหานาย สมฺมปฺปธานํ, อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ อุปฺปาทาย สมฺมปฺปธานํ, อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ิติยา สมฺมปฺปธานํ. ปทหนฺติ วายมนฺติ เอเตนาติ ปธานํ, วีริยสฺเสตํ นามํ ¶ . สมฺมปฺปธานนฺติ อวิปรีตปฺปธานํ การณปฺปธานํ อุปายปฺปธานํ โยนิโสปธานํ. เอกเมว วีริยํ กิจฺจวเสน จตุธา กตฺวา สมฺมปฺปธานาติ วุตฺตํ. จตฺตาโร อิทฺธิปาทาติ ฉนฺทิทฺธิปาโท, จิตฺติทฺธิปาโท, วีริยิทฺธิปาโท, วีมํสิทฺธิปาโท. ตสฺสตฺโถ วุตฺโตเยว. จตฺตาริ ฌานานีติ วิตกฺกวิจารปีติสุขจิตฺเตกคฺคตาวเสน ปฺจงฺคิกํ ปมชฺฌานํ. ปีติสุขจิตฺเตกคฺคตาวเสน ติวงฺคิกํ ทุติยชฺฌานํ, สุขจิตฺตกคฺคตาวเสน ทุวงฺคิกํ ตติยชฺฌานํ, อุเปกฺขาจิตฺเตกคฺคตาวเสน ทุวงฺคิกํ จตุตฺถชฺฌานํ. อิมานิ หิ องฺคานิ อารมฺมณูปนิชฺฌานฏฺเน ฌานนฺติ วุจฺจนฺติ. จตสฺโส อปฺปมฺาโยติ เมตฺตา, กรุณา, มุทิตา, อุเปกฺขา. ผรณอปฺปมาณวเสน อปฺปมฺาโย. เอตาโย หิ อารมฺมณวเสน อปฺปมาเณ วา สตฺเต ผรนฺติ, เอกํ สตฺตมฺปิ วา อนวเสสผรณวเสน ¶ ผรนฺตีติ ผรณอปฺปมาณวเสน อปฺปมฺาโยติ วุจฺจนฺติ. จตสฺโส อรูปสมาปตฺติโยติ อากาสานฺจายตนสมาปตฺติ, วิฺาณฺจายตนสมาปตฺติ, อากิฺจฺายตนสมาปตฺติ, เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติ. จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา วุตฺตตฺถา เอว.
จตสฺโส ¶ ปฏิปทาติ ‘‘ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, ทุกฺขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๑๑) วุตฺตา จตสฺโส ปฏิปทา. จตฺตาริ อารมฺมณานีติ ปริตฺตํ ปริตฺตารมฺมณํ, ปริตฺตํ อปฺปมาณารมฺมณํ, อปฺปมาณํ ปริตฺตารมฺมณํ, อปฺปมาณํ อปฺปมาณารมฺมณนฺติ (ธ. ส. ๑๘๑ อาทโย) วุตฺตานิ จตฺตาริ อารมฺมณานิ. กสิณาทิอารมฺมณานํ อววตฺถาเปตพฺพโต อารมฺมณวนฺตานิ ฌานานิ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. จตฺตาโร อริยวํสาติ อริยา วุจฺจนฺติ พุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ ตถาคตสาวกา จ, เตสํ อริยานํ วํสา ตนฺติโย ปเวณิโยติ อริยวํสา. เก ปน เต? จีวรสนฺโตโส ปิณฺฑปาตสนฺโตโส เสนาสนสนฺโตโส ภาวนารามตาติ อิเม จตฺตาโร. คิลานปจฺจยสนฺโตโส ปิณฺฑปาตสนฺโตเส วุตฺเต วุตฺโตเยว โหติ. โย หิ ปิณฺฑปาเต สนฺตุฏฺโ, โส กถํ คิลานปจฺจเย อสนฺตุฏฺโ ภวิสฺสติ.
จตฺตาริ สงฺคหวตฺถูนีติ จตฺตาริ ชนสงฺคณฺหนการณานิ – ทานฺจ เปยฺยวชฺชฺจ อตฺถจริยา จ สมานตฺตตา จาติ อิมานิ จตฺตาริ. ทานนฺติ ยถารหํ ทานํ. เปยฺยวชฺชนฺติ ยถารหํ ปิยวจนํ. อตฺถจริยาติ ตตฺถ ตตฺถ กตฺตพฺพสฺส กรณวเสน กตฺตพฺพากตฺตพฺพานุสาสนวเสน จ วุทฺธิกิริยา. สมานตฺตตาติ ¶ สห มาเนน สมาโน, สปริมาโณ สปริคณโนติ อตฺโถ. สมาโน ปรสฺส อตฺตา เอเตนาติ สมานตฺโต, สมานตฺตสฺส ภาโว สมานตฺตตา, ‘‘อยํ มยา หีโน, อยํ มยา สทิโส, อยํ มยา อธิโก’’ติ ปริคเณตฺวา ตทนุรูเปน อุปจรณํ กรณนฺติ อตฺโถ. ‘‘สมานสุขทุกฺขตา สมานตฺตตา’’ติ จ วทนฺติ.
จตฺตาริ จกฺกานีติ เอตฺถ จกฺกํ นาม ทารุจกฺกํ, รตนจกฺกํ, ธมฺมจกฺกํ, อิริยาปถจกฺกํ, สมฺปตฺติจกฺกนฺติ ปฺจวิธํ. ตตฺถ ‘‘ยํ ปน ตํ, เทว, จกฺกํ ฉหิ มาเสหิ นิฏฺิตํ ฉารตฺตูเนหี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๕) อิทํ ทารุจกฺกํ. ‘‘จกฺกํ วตฺตยโต ปริคฺคเหตฺวา’’ติ (ชา. ๑.๑๓.๖๘) อิทํ รตนจกฺกํ. ‘‘มยา ปวตฺติตํ จกฺก’’นฺติ (สุ. นิ. ๕๖๒) อิทํ ธมฺมจกฺกํ. ‘‘จตุจกฺกํ นวทฺวาร’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๙) อิทํ อิริยาปถจกฺกํ. ‘‘จตฺตาริมานิ ¶ , ภิกฺขเว, จกฺกานิ, เยหิ สมนฺนาคตานํ เทวมนุสฺสานํ จตุจกฺกํ วตฺตติ. กตมานิ จตฺตาริ? ปติรูปเทสวาโส, สปฺปุริสาวสฺสโย, อตฺตสมฺมาปณิธิ, ปุพฺเพ จ กตปฺุตา’’ติ ¶ (อ. นิ. ๔.๓๑) อิทํ สมฺปตฺติจกฺกํ. อิธาปิ เอตเทว อธิปฺเปตํ. ตตฺถ ปติรูปเทสวาโสติ ยตฺถ จตสฺโส ปริสา สนฺทิสฺสนฺติ, เอวรูเป อนุจฺฉวิเก เทเส วาโส. สปฺปุริสาวสฺสโยติ พุทฺธาทีนํ สปฺปุริสานํ อวสฺสยนํ เสวนํ ภชนํ. อตฺตสมฺมาปณิธีติ อตฺตโน สมฺมา ปติฏฺาปนํ. สเจ ปุพฺเพ อสฺสทฺธาทีหิ สมนฺนาคโต โหติ, ตานิ ปหาย สทฺธาทีสุ ปติฏฺาปนํ. ปุพฺเพ จ กตปฺุตาติ ปุพฺเพ อุปจิตกุสลตา. อิทเมว เจตฺถ ปมาณํ. เยน หิ าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน กุสลกมฺมํ กตํ โหติ, ตเทว กุสลํ ตํ ปุริสํ ปติรูปเทเส อุปเนติ, สปฺปุริเส ภชาเปติ, โส เอว ปุคฺคโล อตฺตานํ สมฺมา เปตีติ.
จตฺตาริ ธมฺมปทานีติ จตฺตาโร ธมฺมโกฏฺาสา. กตมานิ จตฺตาริ? อนภิชฺฌา ธมฺมปทํ, อพฺยาปาโท ธมฺมปทํ, สมฺมาสติ ธมฺมปทํ, สมฺมาสมาธิ ธมฺมปทํ. อนภิชฺฌา ธมฺมปทํ นาม อโลโภ วา อนภิชฺฌาวเสน อธิคตชฺฌานวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพานานิ วา. อพฺยาปาโท ธมฺมปทํ นาม อโกโป วา เมตฺตาสีเสน อธิคตชฺฌานาทีนิ วา. สมฺมาสติ ธมฺมปทํ นาม สูปฏฺิตสฺสติ วา สติสีเสน อธิคตชฺฌานาทีนิ วา. สมฺมาสมาธิ ธมฺมปทํ นาม อฏฺสมาปตฺติ วา อฏฺสมาปตฺติสีเสน อธิคตชฺฌานาทีนิ วา. ทสอสุภวเสน วา อธิคตชฺฌานาทีนิ อนภิชฺฌา ธมฺมปทํ, จตุพฺรหฺมวิหารวเสน อธิคตานิ ¶ อพฺยาปาโท ธมฺมปทํ, ทสานุสฺสติอาหาเรปฏิกูลสฺาวเสน อธิคตานิ สมฺมาสติ ธมฺมปทํ, ทสกสิณอานาปานวเสน อธิคตานิ สมฺมาสมาธิ ธมฺมปทนฺติ. อิมา จตสฺโส ภูมิโยติ เอเกกํ จตุกฺกวเสเนว โยเชตพฺพํ.
ภูมินานตฺตาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๙. ธมฺมนานตฺตาณนิทฺเทสวณฺณนา
๗๓. ธมฺมนานตฺตาณนิทฺเทเส ¶ กมฺมปเถติ กมฺมานิ จ ตานิ ปถา จ อปายคมนายาติ กมฺมปถา, เต กมฺมปเถ. ทส กุสลกมฺมปถา นาม ปาณาติปาตา อทินฺนาทานา กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณีติ ตีณิ กายสุจริตานิ, มุสาวาทา ปิสุณาย วาจาย ผรุสาย วาจาย สมฺผปฺปลาปา เวรมณีติ จตฺตาริ วจีสุจริตานิ, อนภิชฺฌา อพฺยาปาโท สมฺมาทิฏฺีติ ตีณิ มโนสุจริตานิ. ทส อกุสลกมฺมปถา นาม ปาณาติปาโต อทินฺนาทานํ กาเมสุมิจฺฉาจาโรติ ตีณิ กายทุจฺจริตานิ, มุสาวาโท ปิสุณา วาจา ผรุสา วาจา ¶ สมฺผปฺปลาโปติ จตฺตาริ วจีทุจฺจริตานิ, อภิชฺฌา พฺยาปาโท มิจฺฉาทิฏฺีติ ตีณิ มโนทุจฺจริตานิ. กุสลากุสลาปิ จ ปฏิสนฺธิชนกาเยว กมฺมปถาติ วุตฺตา, วุตฺตาวเสสา ปฏิสนฺธิชนเน อเนกนฺติ กตฺตา กมฺมปถาติ น วุตฺตา. โอฬาริกกุสลากุสลคหเณเนว เสสกุสลากุสลาปิ คหิตาติ เวทิตพฺพา. รูปนฺติ ภูโตปาทายเภทโต อฏฺวีสติวิธํ รูปํ. วิปากนฺติ กามาวจรกุสลวิปากานํ โสฬสนฺนํ, อกุสลวิปากานํ สตฺตนฺนฺจ วเสน เตวีสติวิธํ วิปากํ. กิริยนฺติ ติณฺณมเหตุกกิริยานํ, อฏฺนฺนํ สเหตุกกิริยานฺจ วเสน เอกาทสวิธํ กามาวจรกิริยํ. วิปากาภาวโต กิริยามตฺตาติ กิริยา. เอตฺตาวตา กามาวจรเมว รูปาพฺยากตวิปากาพฺยากตกิริยาพฺยากตวเสน วุตฺตํ.
อิธฏฺสฺสาติ อิมสฺมึ โลเก ิตสฺส. เยภุยฺเยน มนุสฺสโลเก ฌานภาวนาสพฺภาวโต มนุสฺสโลกวเสน วุตฺตํ, ฌานานิ ปน กทาจิ กรหจิ เทวโลเกปิ ลพฺภนฺติ, รูปีพฺรหฺมโลเกปิ ตตฺรูปปตฺติกเหฏฺูปปตฺติกอุปรูปปตฺติกานํ วเสน ลพฺภนฺติ. สุทฺธาวาเส ปน อรูปาวจเร จ เหฏฺูปปตฺติกา ¶ นตฺถิ. รูปารูปาวจเรสุ อภาวิตชฺฌานา ¶ เหฏฺา นิพฺพตฺตมานา กามาวจรสุคติยํเยว นิพฺพตฺตนฺติ, น ทุคฺคติยํ. ตตฺรูปปนฺนสฺสาติ วิปากวเสน พฺรหฺมโลเก อุปปนฺนสฺส ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติวเสน วตฺตมานานิ จตฺตาริ วิปากชฺฌานานิ. รูปารูปาวจรชฺฌานสมาปตฺตีสุ กิริยาพฺยากตานิ น วุตฺตานิ. กิฺจาปิ น วุตฺตานิ, อถ โข กุสเลหิ สมานปวตฺติตฺตา กุสเลสุ วุตฺเตสุ วุตฺตาเนว โหนฺตีติ เวทิตพฺพานิ. ยถา ปฏฺาเน ‘‘กุสลากุสเล นิรุทฺเธ วิปาโก ตทารมฺมณตา อุปฺปชฺชตี’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๐๖, ๔๐๙) กุสลชวนคฺคหเณเนว กิริยชวนํ สงฺคหิตํ, เอวมิธาปิ ทฏฺพฺพํ. สามฺผลานีติ จตฺตาริ สามฺผลานิ. เอเตน โลกุตฺตรวิปากาพฺยากตํ วุตฺตํ. นิพฺพานนฺติ นิพฺพานาพฺยากตํ.
ปาโมชฺชมูลกาติ ปาโมชฺชํ มูลํ อาทิ เอเตสนฺติ ปาโมชฺชมูลกา, ปาโมชฺชาทิกาติ อตฺโถ. ปาโมชฺเชน หิ สมาคตาเนว โหนฺติ. อนิจฺจโต มนสิกโรโต ปาโมชฺชํ ชายตีติ เอตฺถ โยนิโสมนสิกโรโตเยว ปาโมชฺชํ ชายติ, น อโยนิโสมนสิกโรโต. อโยนิโสมนสิกโรโต กุสลุปฺปตฺติเยว นตฺถิ, ปเคว วิปสฺสนา. กสฺมา สรูเปน วุตฺตนฺติ เจ? ปาโมชฺชสฺส พลวภาวทสฺสนตฺถํ. ปาโมชฺเช หิ อสติ ปนฺเตสุ จ เสนาสเนสุ อธิกุสเลสุ จ ธมฺเมสุ อรติ อุกฺกณฺิตา อุปฺปชฺชติ. เอวํ สติ ภาวนาเยว อุกฺกมติ. ปาโมชฺเช ปน สติ อรติอภาวโต ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ. โยนิโสมนสิการสฺส ปน มูลภาเวน ภาวนาย พหูปการตฺตํ ทสฺเสตุํ อุปริ นวกํ วกฺขติ.
‘‘ยโต ¶ ยโต สมฺมสติ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;
ลภตี ปีติปาโมชฺชํ, อมตํ ตํ วิชานต’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๗๔) –
วจนโต วิปสฺสกสฺส วิปสฺสนาปจฺจยา ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ. อิธ ปน กลาปสมฺมสนปจฺจยา ปาโมชฺชํ คเหตพฺพํ. ปมุทิตสฺส ภาโว ปาโมชฺชํ, ทุพฺพลา ปีติ. อาทิกมฺมตฺเถ ป-กาโร ทฏฺพฺโพ. ปมุทิตสฺสาติ เตน ปาโมชฺเชน ปมุทิตสฺส ตุฏฺสฺส. ปโมทิตสฺสาติปิ ปาโ. โสเยวตฺโถ. ปีตีติ พลวปีติ. ปีติมนสฺสาติ ปีติยุตฺตมนสฺส. ยุตฺตสทฺทสฺส โลโป ทฏฺพฺโพ ยถา อสฺสรโถติ ¶ . กาโยติ นามกาโย, รูปกาเยน สห วา. ปสฺสมฺภตีติ วูปสนฺตทรโถ โหติ. ปสฺสทฺธกาโยติ ¶ อุภยปสฺสทฺธิโยเคน นิพฺพุตกาโย. สุขํ เวเทตีติ เจตสิกํ สุขํ วินฺทติ, กายิกสุเขน สห วา. สุขิโนติ สุขสมงฺคิสฺส. จิตฺตํ สมาธิยตีติ จิตฺตํ สมํ อาธิยติ, เอกคฺคํ โหติ. สมาหิเต จิตฺเตติ ภาเวนภาวลกฺขณตฺเถ ภุมฺมวจนํ. จิตฺตสมาหิตภาเวน หิ ยถาภูตชานนํ ลกฺขียติ. ยถาภูตํ ปชานาตีติ อุทยพฺพยาณาทิวเสน สงฺขารํ ยถาสภาวํ ชานาติ. ปสฺสตีติ ตํเยว จกฺขุนา ทิฏฺํ วิย ผุฏํ กตฺวา ปฺาจกฺขุนา ปสฺสติ. นิพฺพินฺทตีติ นววิธวิปสฺสนาาณโยเคน สงฺขาเรสุ อุกฺกณฺติ. นิพฺพินฺทํ วิรชฺชตีติ ตํ วิปสฺสนํ สิขํ ปาเปนฺโต มคฺคาณโยเคน สงฺขาเรหิ วิรตฺโต โหติ. วิราคา วิมุจฺจตีติ วิราคสงฺขาตมคฺคเหตุ ผลวิมุตฺติยา นิพฺพาเน อธิโมกฺเขน วิมุจฺจติ. เกสุจิ ปน โปตฺถเกสุ อิมสฺมึ วาเร ‘‘สมาหิเตน จิตฺเตน อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติอาทิ สจฺจนโย ลิขิโต, โสปิ จ เกสุจิ โปตฺถเกสุ ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ โยนิโส มนสิ กโรตี’’ติอาทินา นเยน ลิขิโต. วารทฺวเยปิ พฺยฺชนโตเยว วิเสโส, น อตฺถโต. ‘‘นิพฺพินฺทํ วิรชฺชตี’’ติ หิ มคฺคาณสฺส วุตฺตตฺตา มคฺคาเณ จ สิทฺเธ จตุสจฺจาภิสมยกิจฺจํ สิทฺธเมว โหติ. ตสฺมา จตุสจฺจนเยน วุตฺตวาโรปิ อิมินา วาเรน อตฺถโต อวิสิฏฺโเยว.
๗๔. อิทานิ อนิจฺจโตติอาทีหิ อารมฺมณสฺส อวิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา อารมฺมณํ วิเสเสนฺโต รูปํ อนิจฺจโต มนสิ กโรตีติอาทิมาห. โยนิโสมนสิการมูลกาติ โยนิโสมนสิกาโร มูลํ ปติฏฺา เอเตสนฺติ โยนิโสมนสิการมูลกา. โยนิโสมนสิการํ มฺุจิตฺวาเยว หิ ปาโมชฺชาทโย นว น โหนฺติ. สมาหิเตน จิตฺเตนาติ การณภูเตน จิตฺเตน. ยถาภูตํ ปชานาตีติ ปฺาย ปชานาติ. ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ โยนิโส มนสิ กโรตี’’ติ วุจฺจมาเน อนุสฺสววเสน ปุพฺพภาคสจฺจานุโพโธปิ สงฺคยฺหติ. โยนิโสมนสิกาโรติ จ อุปาเยน มนสิกาโร.
ธาตุนานตฺตํ ¶ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ ผสฺสนานตฺตนฺติ จกฺขาทิธาตุนานตฺตํ ปฏิจฺจ จกฺขุสมฺผสฺสาทินานตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. ผสฺสนานตฺตํ ปฏิจฺจาติ จกฺขุสมฺผสฺสาทินานตฺตํ ปฏิจฺจ. เวทนานานตฺตนฺติ จกฺขุสมฺผสฺสชาทิเวทนานานตฺตํ ¶ . สฺานานตฺตนฺติ กามสฺาทินานตฺตํ. สงฺกปฺปนานตฺตนฺติ กามสงฺกปฺปาทินานตฺตํ. ฉนฺทนานตฺตนฺติ สงฺกปฺปนานตฺตตาย รูเป ฉนฺโท สทฺเท ฉนฺโทติ เอวํ ¶ ฉนฺทนานตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ปริฬาหนานตฺตนฺติ ฉนฺทนานตฺตตาย รูปปริฬาโห สทฺทปริฬาโหติ เอวํ ปริฬาหนานตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ปริเยสนานานตฺตนฺติ ปริฬาหนานตฺตตาย รูปปริเยสนาทินานตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ลาภนานตฺตนฺติ ปริเยสนานานตฺตตาย รูปปฏิลาภาทินานตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ.
ธมฺมนานตฺตาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๐-๒๔. าณปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา
๗๕. าณปฺจกนิทฺเทเส ¶ เตสํ ปฺจนฺนํ าณานํ อนุปุพฺพสมฺพนฺธสพฺภาวโต เอกโตว ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานิ กตานิ. อภิฺาตา โหนฺตีติ ธมฺมสภาวลกฺขณชานนวเสน สุฏฺุ าตา โหนฺติ. าตา โหนฺตีติ าตปริฺาวเสน สภาวโต าตตฺตา าตา นาม โหนฺติ. เยน าเณน เต ธมฺมา าตา โหนฺติ, ตํ าตฏฺเน าณํ, ปชานนฏฺเน ปฺาติ สมฺพนฺโธ. อิมินาว นเยน เสสาณานิปิ โยเชตพฺพานิ. ปริฺาตา โหนฺตีติ สามฺลกฺขณวเสน สมนฺตโต าตา โหนฺติ. ตีริตา โหนฺตีติ ตีรณปริฺาวเสน อนิจฺจาทิโต อุปปริกฺขิตา สมาปิตา นาม โหนฺติ. ปหีนา โหนฺตีติ อนิจฺจานุปสฺสนาทินา าเณน นิจฺจสฺาทโย ภงฺคานุปสฺสนโต ปฏฺาย ปหีนา โหนฺติ. ปริจฺจตฺตา โหนฺตีติ ปหานวเสเนว ฉฑฺฑิตา นาม โหนฺติ. ภาวิตา โหนฺตีติ วฑฺฒิตา ปริภาวิตา จ โหนฺติ. เอกรสา โหนฺตีติ สกิจฺจสาธนปฏิปกฺขปหาเนน เอกกิจฺจา โหนฺติ, ปจฺจนีกโต วา วิมุตฺติวเสน วิมุตฺติรเสน เอกรสา โหนฺติ. สจฺฉิกตา โหนฺตีติ ปฏิลาภวเสน ผลธมฺโม ปฏิเวธวเสน นิพฺพานธมฺโมติ ปจฺจกฺขกตา โหนฺติ. ผสฺสิตา โหนฺตีติ ปฏิลาภผุสเนน ปฏิเวธผุสเนน จ ผสฺสิตา อนุภูตา โหนฺติ. อิมานิ ปฺจ าณานิ เหฏฺา สุตมยาณวเสน วุตฺตานิ, อิธ สกิจฺจสาธนวเสน.
าณปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๕-๒๘. ปฏิสมฺภิทาาณนิทฺเทสวณฺณนา
๗๖. ปฏิสมฺภิทาาณนิทฺเทเส ¶ ¶ ยสฺมา ธมฺเม อวุตฺเต ตสฺส กิจฺจํ น สกฺกา วตฺตุํ, ตสฺมา อุทฺทิฏฺานํ ปฏิปาฏึ อนาทิยิตฺวา ปมํ ธมฺมา นิทฺทิฏฺา. ธมฺมาทีนํ ¶ อตฺถา วุตฺตาเยว. สทฺธินฺทฺริยํ ธมฺโมติอาทีหิ ธมฺมสทฺทปริยาปนฺเน ธมฺเม วตฺวา นานตฺตสทฺทสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อฺโ สทฺธินฺทฺริยํ ธมฺโมติอาทิมาห. ‘‘อฺโ ธมฺโม’’ติ หิ วุตฺเต ธมฺมานํ นานตฺตํ ทสฺสิตํ โหติ. ปฏิวิทิตาติ อภิมุขภาเวน วิทิตา ปากฏา นาม โหนฺติ. เตน ปฏิสมฺภิทาปทสฺส อตฺโถ วุตฺโต. อธิโมกฺขฏฺโ อตฺโถติอาทีหิ เตสํ สทฺธาทีนํ อธิมุจฺจนาทิกิจฺจํ อตฺโถ นามาติ ทสฺเสติ. สนฺทสฺเสตุนฺติ ปรํ าเปตุกามสฺส ปรํ สนฺทสฺเสตุํ. ปรสฺส ปน วจนํ สุณนฺตสฺสาปิ ลพฺภติเยว. พฺยฺชนนิรุตฺตาภิลาปาติ นามพฺยฺชนํ นามนิรุตฺติ นามาภิลาโป. นามฺหิ อตฺถํ พฺยฺชยตีติ พฺยฺชนํ, ‘‘สงฺขตมภิสงฺขโรนฺตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา สงฺขาราติ วุจฺจนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๗๙) เอวํ นิทฺธาเรตฺวา สเหตุกํ กตฺวา วุจฺจมานตฺตา นิรุตฺติ, อภิลปียติ เอเตน อตฺโถติ อภิลาโปติ วุจฺจติ.
นามฺจ นาเมตํ จตุพฺพิธํ – สามฺนามํ, คุณนามํ, กิตฺติมนามํ, โอปปาติกนามนฺติ. ตตฺถ ปมกปฺปิเกสุ มหาชเนน สมฺมนฺนิตฺวา ปิตตฺตา ‘‘มหาสมฺมโต’’ติ รฺโ นามํ สามฺนามํ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘มหาชนสมฺมโตติ โข, วาเสฏฺ, ‘มหาสมฺมโต มหาสมฺมโต’ตฺเวว ปมํ อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺต’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๑๓๑). ‘‘ธมฺมกถิโก ปํสุกูลิโก วินยธโร ติปิฏกธโร สทฺโธ สโต’’ติ เอวรูปํ คุณโต อาคตนามํ คุณนามํ. ‘‘ภควา ¶ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติอาทีนิปิ ตถาคตสฺส อเนกานิ นามสตานิ คุณนามาเนว. เตน วุตฺตํ –
‘‘อสงฺขฺเยยฺยานิ นามานิ, สคุเณน มเหสิโน;
คุเณหิ นามมุทฺเธยฺยํ, อปิ นามสหสฺสโต’’ติ.
ยํ ปน ชาตสฺส กุมารกสฺส นามคฺคหณทิวเส ทกฺขิเณยฺยานํ สกฺการํ กตฺวา สมีเป ิตา าตกา กปฺเปตฺวา ปกปฺเปตฺวา ‘‘อยํ อสุโก นามา’’ติ นามํ กโรนฺติ, อิทํ กิตฺติมนามํ. ยา ปน ปุริมปฺตฺติ อปรปฺตฺติยํ ปตติ, ปุริมโวหาโร ปจฺฉิมโวหาเร ปตติ. เสยฺยถิทํ, ปุริมกปฺเปปิ จนฺโท จนฺโทเยว นาม, เอตรหิปิ จนฺโทเยว. อตีเต สูริโย, สมุทฺโท, ปถวี, ปพฺพโต ปพฺพโตเยว นาม, เอตรหิปิ ปพฺพโตเยวาติ, อิทํ โอปปาติกนามํ. อิทํ จตุพฺพิธมฺปิ นามํ เอกํ นามเมว ¶ โหติ ¶ , ตํ โลกสงฺเกตมตฺตสิทฺธํ ปรมตฺถโต อวิชฺชมานํ. อฺเ ปน ‘‘นามํ นาม อตฺถโชตโก สทฺโท’’ติ วทนฺติ. พลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคานํ วุตฺตนยานุสาเรเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ปฏิสมฺภิทาาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๙-๓๑. าณตฺตยนิทฺเทสวณฺณนา
๗๘. าณตฺตยนิทฺเทเส ¶ นิมิตฺตนฺติ สงฺขารนิมิตฺตํ. อนิมิตฺเตติ สงฺขารนิมิตฺตปฏิปกฺเข นิพฺพาเน. อธิมุตฺตตฺตาติ ตนฺนินฺนภาเวน จิตฺตสฺส วิสฺสฏฺตฺตา. ผุสฺส ผุสฺส วยํ ปสฺสตีติ สงฺขารนิมิตฺตํ าเณน ผุสิตฺวา ผุสิตฺวา ตสฺส ภงฺคํ วิปสฺสนาาเณเนว ปสฺสติ. เอเตน ภงฺคานุปสฺสนา สิทฺธา. สา อนิจฺจานุปสฺสนํ สาเธติ, อนิจฺจสฺส ทุกฺขตฺตา สา ทุกฺขานุปสฺสนํ, ทุกฺขสฺส อนตฺตตฺตา สา อนตฺตานุปสฺสนนฺติ เอวเมตฺถ ติสฺโส อนุปสฺสนา วุตฺตา โหนฺติ. อนิมิตฺโต วิหาโรติ นิมิตฺตํ ภยโต ทิฏฺตฺตา โส วิปสฺสนตฺตยวิหาโร อนิมิตฺตวิหาโร นาม โหติ. ปณิธินฺติ ตณฺหํ. อปฺปณิหิเตติ ตณฺหาปฏิปกฺเข นิพฺพาเน. อภินิเวสนฺติ อตฺตาภินิเวสํ. สฺุเตติ อตฺตวิรหิเต นิพฺพาเน. สฺุโตติ สฺุํเยว สฺุโต. ปวตฺตํ อชฺฌุเปกฺขิตฺวาติ วิปากปฺปวตฺตํ สงฺขารุเปกฺขาย อชฺฌุเปกฺขิตฺวา. สุคติสงฺขาตวิปากปฺปวตฺตาภินนฺทิโน หิ สตฺตา. อยํ ปน ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตุกาโม ตํ ปวตฺตํ, สพฺพฺจ สงฺขารคตํ อนิจฺจาทิโต ปสฺสิตฺวา อชฺฌุเปกฺขติเยว. เอวฺหิ ทิฏฺเ ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตุํ สกฺโกติ, น อฺถา. อาวชฺชิตฺวาติ อาวชฺชเนน อาวชฺชิตฺวา. สมาปชฺชตีติ ผลสมาปตฺตึ ปฏิปชฺชติ. อนิมิตฺตา สมาปตฺตีติ นิมิตฺตํ ภยโต ทิสฺวา สมาปนฺนตฺตา อนิมิตฺตา สมาปตฺติ นาม. อนิมิตฺตวิหารสมาปตฺตีติ วิปสฺสนาวิหารวเสน จ ผลสมาปตฺติวเสน จ ตทุภยํ นาม โหติ.
๗๙. อิทานิ สงฺขารนิมิตฺตเมว วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต รูปนิมิตฺตนฺติอาทิมาห. ชรามรณคฺคหเณ วตฺตพฺพํ ปุพฺเพ วุตฺตเมว. ‘‘อฺโ อนิมิตฺตวิหาโร’’ติอาทีหิ วุตฺเตเยว นิคเมตฺวา ทสฺเสติ. สงฺเขเปน วิหารฏฺเ าณํ นาม ผลสมาปตฺติยา ปุพฺพภาเค สงฺขารุเปกฺขาาเณ ิตสฺส วิปสฺสนาวิหารนานตฺเต าณํ ¶ สมาปตฺตฏฺเ าณํ นาม ผลสมาปตฺตินานตฺเต าณํ. วิหารสมาปตฺตฏฺเ าณํ นาม ตทุภยนานตฺเต าณํ. วิปสฺสนาวิหาเรเนว ¶ วีตินาเมตุกาโม วิปสฺสนาวิหารเมว ปวตฺเตติ, ผลสมาปตฺติวิหาเรเนว วีตินาเมตุกาโม วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา อุสฺสกฺกิตฺวา ¶ ผลสมาปตฺติวิหารเมว ปวตฺเตติ, ตทุภเยน วีตินาเมตุกาโม ตทุภยํ ปวตฺเตติ. เอวํ ปุคฺคลาธิปฺปายวเสน ติวิธํ ชาตํ. เสสเมตฺถ วตฺตพฺพํ สงฺขารุเปกฺขาาณวณฺณนายํ วุตฺตเมว.
าณตฺตยนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓๒. อานนฺตริกสมาธิาณนิทฺเทสวณฺณนา
๘๐. อานนฺตริกสมาธิาณนิทฺเทเส ¶ เนกฺขมฺมวเสนาติอาทีสุ เนกฺขมฺมอพฺยาปาทอาโลกสฺาอวิกฺเขปธมฺมววตฺถานาณปาโมชฺชานิ สุกฺขวิปสฺสกสฺส อุปจารชฺฌานสมฺปยุตฺตา ตสฺส ตสฺส กิเลสสฺส วิปกฺขภูตา สตฺต ธมฺมา เอกจิตฺตสมฺปยุตฺตา เอว. จิตฺตสฺส เอกคฺคตา อวิกฺเขโปติ เอกคฺคสฺส ภาโว เอกคฺคตา, นานารมฺมเณ น วิกฺขิปติ เตน จิตฺตนฺติ อวิกฺเขโป, จิตฺตสฺส เอกคฺคตาสงฺขาโต อวิกฺเขโปติ อตฺโถ. สมาธีติ เอการมฺมเณ สมํ อาธียติ เตน จิตฺตนฺติ สมาธิ นามาติ อตฺโถ. ตสฺส สมาธิสฺส วเสนาติ อุปจารสมาธินาปิ สมาหิตจิตฺตสฺส ยถาภูตาวโพธโต วุตฺตปฺปการสฺส สมาธิสฺส วเสน. อุปฺปชฺชติ าณนฺติ มคฺคาณํ ยถากฺกเมน อุปฺปชฺชติ. ขียนฺตีติ สมุจฺเฉทวเสน ขียนฺติ. อิตีติ วุตฺตปฺปการสฺส อตฺถสฺส นิคมนํ. ปมํ สมโถติ ปุพฺพภาเค สมาธิ โหติ. ปจฺฉา าณนฺติ อปรภาเค มคฺคกฺขเณ าณํ โหติ.
กามาสโวติ ปฺจกามคุณิกราโค. ภวาสโวติ รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค ฌานนิกนฺติ สสฺสตทิฏฺิสหชาโต ราโค ภววเสน ปตฺถนา. ทิฏฺาสโวติ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย. อวิชฺชาสโวติ ทุกฺขาทีสุ อฏฺสุ าเนสุ อฺาณํ. ภุมฺมวจเนน โอกาสปุจฺฉํ กตฺวา ‘‘โสตาปตฺติมคฺเคนา’’ติอาทินา อาสวกฺขยกเรน มคฺเคน อาสวกฺขยํ ทสฺเสตฺวา ‘‘เอตฺถา’’ติ โอกาสวิสฺสชฺชนํ กตํ, มคฺคกฺขเณติ วุตฺตํ โหติ. อนวเสโสติ นตฺถิ เอตสฺส อวเสโสติ อนวเสโส. อปายคมนีโยติ นิรยติรจฺฉานโยนิเปตฺติวิสยาสุรกายา จตฺตาโร สุขสงฺขาตา อยา อเปตตฺตา อปายา, ยสฺส สํวิชฺชติ ¶ , ตํ ปุคฺคลํ อปาเย คเมตีติ อปายคมนีโย. อาสวกฺขยกถา ทุภโตวุฏฺานกถายํ วุตฺตา.
อวิกฺเขปวเสนาติ ปวตฺตมานสฺส สมาธิสฺส ¶ อุปนิสฺสยภูตสมาธิวเสน. ปถวีกสิณวเสนาติอาทีสุ ทส กสิณานิ ตทารมฺมณิกอปฺปนาสมาธิวเสน วุตฺตานิ, พุทฺธานุสฺสติอาทโย ¶ มรณสฺสติ อุปสมานุสฺสติ จ อุปจารชฺฌานวเสน วุตฺตา, อานาปานสฺสติ กายคตาสติ จ อปฺปนาสมาธิวเสน วุตฺตา, ทส อสุภา ปมชฺฌานวเสน วุตฺตา.
พุทฺธํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ พุทฺธานุสฺสติ. ‘‘อิติปิ โส ภควา อรห’’นฺติอาทิพุทฺธคุณารมฺมณาย (ม. นิ. ๑.๗๔; อ. นิ. ๓.๗๑; ๙.๒๗) สติยา เอตํ อธิวจนํ, ตสฺสา พุทฺธานุสฺสติยา วเสน. ตถา ธมฺมํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ ธมฺมานุสฺสติ. ‘‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม’’ติอาทิธมฺมคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. สงฺฆํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ สงฺฆานุสฺสติ. ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ’’ติอาทิสงฺฆคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. สีลํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ สีลานุสฺสติ. อตฺตโน อขณฺฑตาทิสีลคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. จาคํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ จาคานุสฺสติ. อตฺตโน มุตฺตจาคตาทิจาคคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. เทวตา อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ เทวตานุสฺสติ. เทวตา สกฺขิฏฺาเน เปตฺวา อตฺตโน สทฺธาทิคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. อานาปาเน อารพฺภ อุปฺปนฺนา สติ อานาปานสฺสติ. อานาปานนิมิตฺตารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. มรณํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา สติ มรณสฺสติ. เอกภวปริยาปนฺนชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทสงฺขาตมรณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. กุจฺฉิตานํ เกสาทีนํ ปฏิกูลานํ อายตฺตา อากรตฺตา กาโยติสงฺขาเต สรีเร คตา ปวตฺตา, ตาทิสํ วา กายํ คตา สติ กายคตาสติ. ‘‘กายคตสตี’’ติ วตฺตพฺเพ รสฺสํ อกตฺวา ‘‘กายคตาสตี’’ติ วุตฺตา. ตเถว อิธาปิ กายคตาสติวเสนาติ วุตฺตํ. เกสาทิเกสุ กายโกฏฺาเสสุ ปฏิกูลนิมิตฺตารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. อุปสมํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ อุปสมานุสฺสติ. สพฺพทุกฺขูปสมารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. ทส อสุภา เหฏฺา วุตฺตตฺถา.
๘๑. ทีฆํ ¶ อสฺสาสวเสนาติอาทีนิ อปฺปนูปจารสมาธิเภทํเยว ทสฺเสตุํ วุตฺตานิ. ทีฆํ อสฺสาสวเสนาติ ทีฆนฺติ วุตฺตอสฺสาสวเสน. ‘‘ทีฆํ วา อสฺสสนฺโต ทีฆํ อสฺสสามีติ ปชานาตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๗๔; ม. นิ. ๑.๑๐๗; ๓.๑๔๘) หิ วุตฺตํ. เอส นโย เสเสสุปิ. สพฺพกายปฏิสํเวทีติ สพฺพสฺส อสฺสาสปสฺสาสกายสฺส ¶ ปฏิสํเวที. ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารนฺติ โอฬาริกํ อสฺสาสปสฺสาสงฺขาตํ กายสงฺขารํ ปสฺสมฺเภนฺโต วูปสเมนฺโต. ‘‘ทีฆํ รสฺสํ สพฺพกายปฏิสํเวที ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขาร’’นฺติ อิมินาว จตุกฺเกน อปฺปนาสมาธิ วุตฺโต. ปีติปฏิสํเวทีติ ปีตึ ปากฏํ กโรนฺโต. จิตฺตสงฺขารปฏิสํเวทีติ สฺาเวทนาสงฺขาตํ จิตฺตสงฺขารํ ปากฏํ กโรนฺโต. อภิปฺปโมทยํ จิตฺตนฺติ จิตฺตํ โมเทนฺโต. สมาทหํ จิตฺตนฺติ อารมฺมเณ ¶ จิตฺตํ สมํ เปนฺโต. วิโมจยํ จิตฺตนฺติ จิตฺตํ นีวรณาทีหิ วิโมเจนฺโต. ปีติปฏิสํเวที สุขปฏิสํเวที จิตฺตสงฺขารปฏิสํเวที ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารนฺติ จตุกฺกฺจ จิตฺตปฏิสํเวที อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ สมาทหํ จิตฺตํ วิโมจยํ จิตฺตนฺติ จตุกฺกฺจ อปฺปนาสมาธิวเสน วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตสมาธิวเสน จ วุตฺตานิ. อนิจฺจานุปสฺสีติ อนิจฺจานุปสฺสนาวเสน. วิราคานุปสฺสีติ นิพฺพิทานุปสนาวเสน. นิโรธานุปสฺสีติ ภงฺคานุปสฺสนาวเสน. ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสีติ วุฏฺานคามินีวิปสฺสนาวเสน. สา หิ ตทงฺควเสน สทฺธึ ขนฺธาภิสงฺขาเรหิ กิเลเส ปริจฺจชติ. สงฺขตโทสทสฺสเนน จ ตพฺพิปรีเต นิพฺพาเน ตนฺนินฺนตาย ปกฺขนฺทติ. อิทํ จตุกฺกํ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตสมาธิวเสเนว วุตฺตํ. อสฺสาสวเสน ปสฺสาสวเสนาติ เจตฺถ อสฺสาสปสฺสาสปวตฺติมตฺตํ คเหตฺวา วุตฺตํ, น ตทารมฺมณกรณวเสน. วิตฺถาโร ปเนตฺถ อานาปานกถายํ อาวิภวิสฺสติ.
อานนฺตริกสมาธิาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓๓. อรณวิหาราณนิทฺเทสวณฺณนา
๘๒. อรณวิหาราณนิทฺเทเส ¶ อนิจฺจานุปสฺสนาทโย วุตฺตตฺถา. สฺุโต วิหาโรติ อนตฺตานุปสฺสนาย วุฏฺิตสฺส สฺุตากาเรเนว ปวตฺตา อรหตฺตผลสมาปตฺติ. อนิมิตฺโต วิหาโรติ อนิจฺจานุปสฺสนาย วุฏฺิตสฺส อนิมิตฺตากาเรน ปวตฺตา อรหตฺตผลสมาปตฺติ. อปฺปณิหิโต ¶ วิหาโรติ ทุกฺขานุปสฺสนาย วุฏฺิตสฺส อปฺปณิหิตากาเรน ปวตฺตา อรหตฺตผลสมาปตฺติ. สฺุเต อธิมุตฺตตาติ สฺุเต ผลสมาปตฺติยา ปุพฺพภาคปฺาวเสน อธิมุตฺตตา. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. ปมํ ฌานนฺติอาทีหิ อรหตฺตผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตุกามสฺส วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ฌานสมาปตฺติโย วุตฺตา. อรหโตเยว หิ วิปสฺสนาผลสมาปตฺติปณีตาธิมุตฺติฌานสมาปตฺติโย สพฺพกิเลสานํ ปหีนตฺตา ‘‘อรณวิหาโร’’ติ วตฺตุํ อรหนฺติ.
ปเมน ฌาเนน นีวรเณ หรตีติ อรณวิหาโรติ ปมชฺฌานสมงฺคี ปเมน ฌาเนน นีวรเณ หรตีติ ตํ ปมํ ฌานํ อรณวิหาโรติ อตฺโถ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อรหโต นีวรณาภาเวปิ นีวรณวิปกฺขตฺตา ปมสฺส ฌานสฺส นีวรเณ หรตีติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. วิปสฺสนาผลสมาปตฺติปณีตาธิมุตฺติวเสน ติธา อรณวิหาราณํ อุทฺทิสิตฺวา กสฺมา ฌานสมาปตฺติโยว ¶ อรณวิหาโรติ นิทฺทิฏฺาติ เจ? อุทฺเทสวเสเนว ตาสํ ติสฺสนฺนํ อรณวิหารตาย สิทฺธตฺตา. ผลสมาปตฺติวิปสฺสนาย ปน ภูมิภูตานํ ฌานสมาปตฺตีนํ อรณวิหารตา อวุตฺเต น สิชฺฌติ, ตสฺมา อสิทฺธเมว สาเธตุํ ‘‘ปมํ ฌานํ อรณวิหาโร’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตาสฺหิ อรณวิหารตา อุทฺเทสวเสน อสิทฺธาปิ นิทฺเทเส วุตฺตตฺตา สิทฺธาติ. เตสํ วา โยชิตนเยเนว ¶ ‘‘อนิจฺจานุปสฺสนา นิจฺจสฺํ หรตีติ อรณวิหาโร, ทุกฺขานุปสฺสนา สุขสฺํ หรตีติ อรณวิหาโร, อนตฺตานุปสฺสนา อตฺตสฺํ หรตีติ อรณวิหาโร, สฺุโต วิหาโร อสฺุตํ หรตีติ อรณวิหาโร, อนิมิตฺโต วิหาโร นิมิตฺตํ หรตีติ อรณวิหาโร, อปฺปณิหิโต วิหาโร ปณิธึ หรตีติ อรณวิหาโร, สฺุตาธิมุตฺตตา อสฺุตาธิมุตฺตึ หรตีติ อรณวิหาโร, อนิมิตฺตาธิมุตฺตตา นิมิตฺตาธิมุตฺตึ หรตีติ อรณวิหาโร, อปฺปณิหิตาธิมุตฺตตา ปณิหิตาธิมุตฺตึ หรตีติ อรณวิหาโร’’ติ โยเชตฺวา คเหตพฺพํ.
อรณวิหาราณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓๔. นิโรธสมาปตฺติาณนิทฺเทสวณฺณนา
๘๓. นิโรธสมาปตฺติาณนิทฺเทเส ¶ ¶ สมถพลนฺติ กามจฺฉนฺทาทโย ปจฺจนีกธมฺเม สเมตีติ สมโถ, โสเยว อกมฺปนียฏฺเน พลํ. อนาคามิอรหนฺตานํเยว สมาธิปฏิปกฺขสฺส กามจฺฉนฺทสฺส ปหาเนน สมาธิสฺมึ ปริปูรการิภาวปฺปตฺตตฺตา เตสํเยว สมาธิ พลปฺปตฺโตติ กตฺวา ‘‘สมถพล’’นฺติ วุจฺจติ, น อฺเสํ. สมาธิพลนฺติปิ ปาโ. วิปสฺสนาพลนฺติ อนิจฺจาทิวเสน วิวิเธหิ อากาเรหิ ธมฺเม ปสฺสตีติ วิปสฺสนา, สาเยว อกมฺปนียฏฺเน พลํ. เตสํเยว อุภินฺนํ พลปฺปตฺตํ วิปสฺสนาาณํ. ตตฺถ สมถพลํ อนุปุพฺเพน จิตฺตสนฺตานวูปสมนตฺถํ นิโรเธ จ ปฏิปาทนตฺถํ, วิปสฺสนาพลํ ปวตฺเต อาทีนวทสฺสนตฺถํ นิโรเธ จ อานิสํสทสฺสนตฺถํ.
นีวรเณติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมวจนํ, นีวรณนิมิตฺตํ นีวรณปจฺจยาติ อตฺโถ. กรณตฺเถ วา ภุมฺมวจนํ, นีวรเณนาติ อตฺโถ. น กมฺปตีติ ฌานสมงฺคีปุคฺคโล. อถ วา ฌานนฺติ ฌานงฺคานํ อธิปฺเปตตฺตา ปเมน ฌาเนน ตํสมฺปยุตฺตสมาธิ นีวรเณ น กมฺปติ. อยเมว เจตฺถ โยชนา คเหตพฺพา. อุทฺธจฺเจ จาติ อุทฺธจฺจสหคตจิตฺตุปฺปาเท อุทฺธจฺเจ จ. อุทฺธจฺจนฺติ จ อุทฺธตภาโว ¶ , ตํ อวูปสมลกฺขณํ. อุทฺธจฺจสหคตกิเลเส จาติ อุทฺธจฺเจน สหคเต เอกุปฺปาทาทิภาวํ คเต อุทฺธจฺจสมฺปยุตฺเต โมหอหิริกอโนตฺตปฺปกิเลเส จ. ขนฺเธ จาติ อุทฺธจฺจสมฺปยุตฺตจตุกฺขนฺเธ จ. น กมฺปติ น จลติ น เวธตีติ อฺมฺเววจนานิ. อุทฺธจฺเจ น กมฺปติ, อุทฺธจฺจสหคตกิเลเส น จลติ, อุทฺธจฺจสหคตกฺขนฺเธ น เวธตีติ โยเชตพฺพํ. วิปสฺสนาพลํ สตฺตนฺนํเยว อนุปสฺสนานํ วุตฺตตฺตา ¶ ตาสํเยว วเสน วิปสฺสนาพลํ ปริปุณฺณํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. อวิชฺชาย จาติ ทฺวาทสสุปิ อกุสลจิตฺตุปฺปาเทสุ อวิชฺชาย จ. อวิชฺชาสหคตกิเลเส จาติ ยถาโยคํ อวิชฺชาย สมฺปยุตฺตโลภโทสมานทิฏฺิวิจิกิจฺฉาถินอุทฺธจฺจอหิริกอโนตฺตปฺปกิเลเส จ.
วจีสงฺขาราติ วิตกฺกวิจารา. ‘‘ปุพฺเพ โข, อาวุโส วิสาข, วิตกฺเกตฺวา วิจาเรตฺวา ปจฺฉา วาจํ ภินฺทติ, ตสฺมา วิตกฺกวิจารา วจีสงฺขาโร’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๓) วจนโต ¶ วาจํ สงฺขโรนฺติ อุปฺปาเทนฺตีติ วจีสงฺขารา. กายสงฺขาราติ อสฺสาสปสฺสาสา. ‘‘อสฺสาสปสฺสาสา โข, อาวุโส วิสาข, กายิกา เอเต ธมฺมา กายปฏิพทฺธา, ตสฺมา อสฺสาสปสฺสาสา กายสงฺขาโร’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๓) วจนโต กาเยน สงฺขรียนฺตีติ กายสงฺขารา. สฺาเวทยิตนิโรธนฺติ สฺาย เวทนาย จ นิโรธํ. จิตฺตสงฺขาราติ สฺา จ เวทนา จ. ‘‘เจตสิกา เอเต ธมฺมา จิตฺตปฏิพทฺธา, ตสฺมา สฺา จ เวทนา จ จิตฺตสงฺขาโร’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๓) วจนโต จิตฺเตน สงฺขรียนฺตีติ จิตฺตสงฺขารา.
๘๔. าณจริยาสุ อนุปสฺสนาวสาเน, วิวฏฺฏนานุปสฺสนาคหเณน วา ตสฺสา อาทิภูตา จริยากถาย าณจริยาติ วุตฺตา เสสานุปสฺสนาปิ คหิตา โหนฺตีติ เวทิตพฺพํ. โสฬสหิ าณจริยาหีติ จ อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท, อนาคามิสฺส ปน อรหตฺตมคฺคผลวชฺชาหิ จุทฺทสหิปิ โหติ ปริปุณฺณพลตฺตา.
๘๕. นวหิ สมาธิจริยาหีติ เอตฺถ ปมชฺฌานาทีหิ อฏฺ, ปมชฺฌานาทีนํ ปฏิลาภตฺถาย สพฺพตฺถ อุปจารชฺฌานวเสน เอกาติ นว สมาธิจริยา. พลจริยานํ กึ นานตฺตํ? สมถพเลนปิ หิ ‘‘เนกฺขมฺมวเสนา’’ติอาทีหิ สตฺตหิ ปริยาเยหิ อุปจารสมาธิ วุตฺโต, เปยฺยาลวิตฺถารโต ‘‘ปมชฺฌานวเสนา’’ติอาทีหิ สมสตฺตติยา วาเรหิ ยถาโยคํ อปฺปนูปจารสมาธิ วุตฺโต, สมาธิจริยายปิ ‘‘ปมํ ฌาน’’นฺติอาทีหิ อฏฺหิ ปริยาเยหิ อปฺปนาสมาธิ วุตฺโต. ปมํ ฌานํ ปฏิลาภตฺถายาติอาทีหิ อฏฺหิ ปริยาเยหิ อุปจารสมาธิ วุตฺโตติ อุภยตฺถาปิ อปฺปนูปจารสมาธิเยว วุตฺโต. เอวํ สนฺเตปิ อกมฺปิยฏฺเน พลานิ วสีภาวฏฺเน ¶ จริยาติ เวทิตพฺพา. วิปสฺสนาพเล ปน สตฺต อนุปสฺสนาว ‘‘วิปสฺสนาพล’’นฺติ วุตฺตา, าณจริยาย สตฺต จ อนุปสฺสนา วุตฺตา, วิวฏฺฏนานุปสฺสนาทโย นว จ วิเสเสตฺวา ¶ วุตฺตา. อิทํ เนสํ นานตฺตํ. สตฺต อนุปสฺสนา ปน อกมฺปิยฏฺเน พลานิ วสีภาวฏฺเน จริยาติ เวทิตพฺพา.
‘‘วสีภาวตา ปฺา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๓๔ มาติกา) เอตฺถ วุตฺตวสิโย วิสฺสชฺเชตุํ วสีติ ปฺจ วสิโยติ อิตฺถิลิงฺคโวหาเรน วุตฺตํ. วโส เอว วสีติ วุตฺตํ โหติ. ปุน ¶ ปุคฺคลาธิฏฺานาย เทสนาย ตา วสิโย วิสฺสชฺเชนฺโต อาวชฺชนวสีติอาทิมาห. อาวชฺชนาย วโส อาวชฺชนวโส, โส อสฺส อตฺถีติ อาวชฺชนวสี. เอเสว นโย เสเสสุ. ปมํ ฌานํ ยตฺถิจฺฉกนฺติ ยตฺถ ยตฺถ ปเทเส อิจฺฉติ คาเม วา อรฺเ วา, ตตฺถ ตตฺถ อาวชฺชติ. ยทิจฺฉกนฺติ ยทา ยทา กาเล สีตกาเล วา อุณฺหกาเล วา, ตทา ตทา อาวชฺชติ. อถ วา ยํ ยํ ปมํ ฌานํ อิจฺฉติ ปถวีกสิณารมฺมณํ วา เสสารมฺมณํ วา, ตํ ตํ อาวชฺชติ. เอเกกกสิณารมฺมณสฺสาปิ ฌานสฺส วสิตานํ วุตฺตตฺตา ปุริมโยชนาเยว สุนฺทรตรา. ยาวติจฺฉกนฺติ ยาวตกํ กาลํ อิจฺฉติ อจฺฉราสงฺฆาตมตฺตํ สตฺตาหํ วา, ตาวตกํ กาลํ อาวชฺชติ. อาวชฺชนายาติ มโนทฺวาราวชฺชนาย. ทนฺธายิตตฺตนฺติ อวสวตฺติภาโว, อลสภาโว วา. สมาปชฺชตีติ ปฏิปชฺชติ, อปฺเปตีติ อตฺโถ. อธิฏฺาตีติ อนฺโตสมาปตฺติยํ อธิกํ กตฺวา ติฏฺติ. วุฏฺานวสิยํปมํ ฌานนฺติ นิสฺสกฺกตฺเถ อุปโยควจนํ, ปมชฺฌานาติ อตฺโถ. ปจฺจเวกฺขตีติ ปจฺจเวกฺขณชวเนหิ นิวตฺติตฺวา ปสฺสติ. อยเมตฺถ ปาฬิวณฺณนา.
อยํ ปน อตฺถปฺปกาสนา – ปมชฺฌานโต วุฏฺาย วิตกฺกํ อาวชฺชยโต ภวงฺคํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา ปวตฺตาวชฺชนานนฺตรํ วิตกฺการมฺมณาเนว จตฺตาริ ปฺจ วา ชวนานิ ชวนฺติ, ตโต ทฺเว ภวงฺคานิ, ตโต ปุน วิจารารมฺมณํ อาวชฺชนํ วุตฺตนเยเนว ชวนานีติ เอวํ ปฺจสุ ฌานงฺเคสุ ยทา นิรนฺตรํ จิตฺตํ เปเสตุํ สกฺโกติ, อถสฺส อาวชฺชนวสี สิทฺธาว โหติ. อยํ ปน มตฺถกปฺปตฺตา วสี ภควโต ยมกปาฏิหาริเยว ลพฺภติ. อิโต ปรํ สีฆตรา อาวชฺชนวสี นาม นตฺถิ. อฺเสํ ปน อนฺตรนฺตรา ภวงฺควาเร คณนา นตฺถิ. มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส นนฺโทปนนฺททมเน วิย สีฆํ สมาปตฺติสมาปชฺชนสมตฺถตา สมาปชฺชนวสี นาม. อจฺฉรามตฺตํ วา ทสจฺฉรามตฺตํ วา ขณํ สมาปตฺตึ เปตุํ สมตฺถตา อธิฏฺานวสี ¶ นาม. ตเถว ตโต ลหุํ วุฏฺานสมตฺถตา วุฏฺานวสี นาม. ปจฺจเวกฺขณวสี ปน อาวชฺชนวสิยา เอว วุตฺตา. ปจฺจเวกฺขณชวนาเนว หิ ตตฺถ อาวชฺชนานนฺตรานีติ. อิติ ¶ อาวชฺชนวสิยา สิทฺธาย ปจฺจเวกฺขณวสี สิทฺธา โหติ, อธิฏฺานวสิยา จ สิทฺธาย วุฏฺานวสี สิทฺธา โหติ. เอวํ สนฺเตปิ ‘‘อยํ ปน มตฺถกปฺปตฺตา วสี ภควโต ยมกปาฏิหาริเยว ลพฺภตี’’ติ วุตฺตตฺตา ปาฏิหาริยกาเล ฌานงฺคปจฺจเวกฺขณานํ อภาวโต ¶ นานาวิธวณฺณาทินิมฺมานสฺส นานากสิณวเสน อิชฺฌนโต ตํตํกสิณารมฺมณํ ฌานํ สมาปชฺชิตุกามสฺส ยถารุจิ ลหุํ ตสฺมึ กสิเณ วุตฺตนเยน อาวชฺชนปวตฺตนสมตฺถตา อาวชฺชนวสี, ตทาวชฺชนวีถิยํเยว ตสฺส ฌานสฺส อปฺปนาสมตฺถตาสมาปชฺชนสมตฺถตา สมาปชฺชนวสี. เอวฺหิ วุจฺจมาเน ยุตฺติ จ น วิรุชฺฌติ, วสีปฏิปาฏิ จ ยถากฺกเมเนว ยุชฺชติ. ฌานงฺคปจฺจเวกฺขณายํ ปน ‘‘มตฺถกปฺปตฺตาเยว ปฺจ ชวนานี’’ติ วุตฺตตฺตา วุตฺตนเยน สตฺตสุปิ ชวเนสุ ชวนฺเตสุ ปจฺจเวกฺขณวสีเยว โหติ. เอวํ สนฺเต ‘‘ปมชฺฌานํ อาวชฺชตี’’ติ วจนํ น ยุชฺชตีติ เจ? ยถา กสิเณ ปวตฺตํ ฌานํ การโณปจาเรน กสิณนฺติ วุตฺตํ, ตถา ฌานปจฺจยํ กสิณํ ‘‘สุโข พุทฺธานมุปฺปาโท’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๙๔) วิย ผโลปจาเรน ฌานนฺติ วุตฺตํ. ยถาปริจฺฉินฺเน กาเล ตฺวา วุฏฺิตสฺส นิทฺทาย ปพุทฺธสฺส ปุน นิทฺโทกฺกมเน วิย ปุน ฌาโนกฺกมเน สติปิ อธิฏฺานวสีเยว นาม, ยถาปริจฺเฉเทน วุฏฺิตสฺส ปน วุฏฺาเนเยว อธิฏฺาเน สติปิ วุฏฺานวสี นาม โหตีติ อยํ เตสํ วิเสโส.
นิโรธสมาปตฺติยา วิภาวนตฺถํ ปน อิทํ ปฺหกมฺมํ – กา นิโรธสมาปตฺติ, เก ตํ สมาปชฺชนฺติ, เก น สมาปชฺชนฺติ, กตฺถ สมาปชฺชนฺติ, กสฺมา สมาปชฺชนฺติ, กถฺจสฺสา สมาปชฺชนํ โหติ, กถํ านํ, กถํ วุฏฺานํ, วุฏฺิตสฺส กินฺนินฺนํ จิตฺตํ โหติ, มตสฺส จ สมาปนฺนสฺส จ โก วิเสโส, นิโรธสมาปตฺติ ¶ กึ สงฺขตา อสงฺขตา โลกิยา โลกุตฺตรา นิปฺผนฺนา อนิปฺผนฺนาติ?
ตตฺถ กา นิโรธสมาปตฺตีติ? ยา อนุปุพฺพนิโรธวเสน จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ อปฺปวตฺติ.
เก ตํ สมาปชฺชนฺติ, เก น สมาปชฺชนฺตีติ? สพฺเพปิ ปุถุชฺชนา โสตาปนฺนา สกทาคามิโน สุกฺขวิปสฺสกา จ อนาคามี อรหนฺโต น สมาปชฺชนฺติ, อฏฺสมาปตฺติลาภิโน ปน อนาคามิโน จ ขีณาสวา จ สมาปชฺชนฺติ.
กตฺถ ¶ ¶ สมาปชฺชนฺตีติ? ปฺจโวการภเว. กสฺมา? อนุปุพฺพสมาปตฺติสพฺภาวโต. จตุโวการภเว ปน ปมชฺฌานาทีนํ อุปฺปตฺติเยว นตฺถิ, ตสฺมา น สกฺกา ตตฺถ สมาปชฺชิตุํ.
กสฺมา สมาปชฺชนฺตีติ? สงฺขารานํ ปวตฺติเภเท อุกฺกณฺิตฺวา ทิฏฺเว ธมฺเม อจิตฺตกา หุตฺวา ‘‘นิโรธํ นิพฺพานํ ปตฺวา สุขํ วิหริสฺสามา’’ติ สมาปชฺชนฺติ.
กถํ จสฺสา สมาปชฺชนํ โหตีติ? สมถวิปสฺสนาวเสน อุสฺสกฺกิตฺวา กตปุพฺพกิจฺจสฺส เนวสฺานาสฺายตนํ นิโรธยโต เอวมสฺสา สมาปชฺชนํ โหติ. โย หิ สมถวเสเนว อุสฺสกฺกติ, โส เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ ปตฺวา ติฏฺติ. โย วิปสฺสนาวเสเนว อุสฺสกฺกติ, โส ผลสมาปตฺตึ ปตฺวา ติฏฺติ. โย ปน อุภยวเสน อุสฺสกฺกิตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ นิโรเธติ, โส ตํ สมาปชฺชตีติ อยเมตฺถ สงฺเขโป.
อยํ ปน วิตฺถาโร – อิธ ภิกฺขุ นิโรธํ สมาปชฺชิตุกาโม กตภตฺตกิจฺโจ สุโธตหตฺถปาโท วิวิตฺเต โอกาเส สุปฺตฺเต อาสเน นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. โส ปมชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ตตฺถ สงฺขาเร อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต วิปสฺสติ. วิปสฺสนา ปเนสา ติวิธา โหติ – สงฺขารปริคฺคณฺหนกวิปสฺสนา, ผลสมาปตฺติวิปสฺสนา, นิโรธสมาปตฺติวิปสฺสนาติ. ตตฺถ สงฺขารปริคฺคณฺหนกวิปสฺสนา มนฺทา วา โหตุ ติกฺขา วา, มคฺคสฺส ปทฏฺานํ โหติเยว. ผลสมาปตฺติวิปสฺสนา ติกฺขาว วฏฺฏติ มคฺคภาวนาสทิสา. นิโรธสมาปตฺติวิปสฺสนา ปน นาติมนฺทา นาติติกฺขา วฏฺฏติ. ตสฺมา เอส นาติมนฺทาย นาติติกฺขาย วิปสฺสนาย เต สงฺขาเร วิปสฺสติ. ตโต ทุติยชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ¶ วุฏฺาย ตตฺถ สงฺขาเร ตเถว วิปสฺสติ. ตโต ตติยชฺฌานํ…เป… ตโต วิฺาณฺจายตนํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ตตฺถ สงฺขาเร ตเถว วิปสฺสติ. อถ อากิฺจฺายตนํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย จตุพฺพิธํ ปุพฺพกิจฺจํ กโรติ – นานาพทฺธอวิโกปนํ, สงฺฆปฏิมานนํ, สตฺถุปกฺโกสนํ, อทฺธานปริจฺเฉทนฺติ.
ตตฺถ นานาพทฺธอวิโกปนนฺติ ยํ อิมินา ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกาพทฺธํ น โหติ, นานาพทฺธํ หุตฺวา ิตํ ปตฺตจีวรํ วา มฺจปีํ วา นิวาสเคหํ วา อฺํ ¶ วา ปน กิฺจิ ปริกฺขารชาตํ, ตํ ยถา น วิกุปฺปติ, อคฺคิอุทกวาตโจรอุนฺทูราทีนํ วเสน น วินสฺสติ, เอวํ อธิฏฺาตพฺพํ. ตตฺริทํ อธิฏฺานวิธานํ – ‘‘อิทฺจิทฺจ อิมสฺมึ สตฺตาหพฺภนฺตเร มา อคฺคินา ฌายตุ, มา อุทเกน วุยฺหตุ, มา วาเตน วิทฺธํสตุ, มา โจเรหิ หรียตุ, มา อุนฺทูราทีหิ ¶ ขชฺชตู’’ติ. เอวํ อธิฏฺิเต ตํ สตฺตาหํ ตสฺส น โกจิ ปริสฺสโย โหติ, อนธิฏฺหโต ปน อคฺคิอาทีหิ วินสฺสติ. อิทํ นานาพทฺธอวิโกปนํ นาม. ยํ ปน เอกาพทฺธํ โหติ นิวาสนปารุปนํ วา นิสินฺนาสนํ วา, ตตฺถ วิสุํ อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ, สมาปตฺติเยว นํ รกฺขติ.
สงฺฆปฏิมานนนฺติ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปฏิมานนํ อุทิกฺขนํ. ยาว เอโส ภิกฺขุ อาคจฺฉติ, ตาว สงฺฆกมฺมสฺส อกรณนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ น ปฏิมานนํ เอตสฺส ปุพฺพกิจฺจํ, ปฏิมานนาวชฺชนํ ปน ปุพฺพกิจฺจํ. ตสฺมา เอวํ อาวชฺชิตพฺพํ – ‘‘สเจ มยิ สตฺตาหํ นิโรธํ สมาปชฺชิตฺวา นิสินฺเน สงฺโฆ อปโลกนกมฺมาทีสุ กิฺจิเทว กมฺมํ กตฺตุกาโม โหติ, ยาว มํ โกจิ ภิกฺขุ อาคนฺตฺวา น ปกฺโกสติ, ตาวเทว วุฏฺหิสฺสามี’’ติ. เอวํ กตฺวา สมาปนฺโน หิ ตสฺมึ สมเย วุฏฺาติเยว. โย ปน เอวํ น กโรติ, สงฺโฆ จ สนฺนิปติตฺวา ตํ อปสฺสนฺโต ‘‘อสุโก ภิกฺขุ กุหิ’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘นิโรธํ สมาปนฺโน’’ติ วุตฺเต กฺจิ ภิกฺขุํ เปเสติ ‘‘คจฺฉ ตํ สงฺฆสฺส วจเนน ปกฺโกสา’’ติ. อถสฺส เตน ภิกฺขุนา สวนูปจาเร ตฺวา ‘‘สงฺโฆ ตํ อาวุโส ปฏิมาเนตี’’ติ วุตฺตมตฺเตเยว วุฏฺานํ โหติ. เอวํครุกา หิ สงฺฆสฺส อาณา ¶ นาม. ตสฺมา ตํ อาวชฺชิตฺวา ยถา สยเมว วุฏฺาติ, เอวํ สมาปชฺชิตพฺพํ.
สตฺถุปกฺโกสนนฺติ อิธาปิ สตฺถุปกฺโกสนาวชฺชนเมว อิมสฺส ปุพฺพกิจฺจํ. ตสฺมา ตมฺปิ เอวํ อาวชฺชิตพฺพํ – ‘‘สเจ มยิ สตฺตาหํ นิโรธํ สมาปชฺชิตฺวา นิสินฺเน สตฺถา โอติณฺเณ วตฺถุสฺมึ สิกฺขาปทํ วา ปฺเปติ, ตถารูปาย วา อฏฺุปฺปตฺติยา ธมฺมํ เทเสติ. ยาว มํ โกจิ อาคนฺตฺวา น ปกฺโกสติ, ตาวเทว วุฏฺหิสฺสามี’’ติ. เอวํ กตฺวา นิสินฺโน หิ ตสฺมึ สมเย วุฏฺาติเยว. โย ปน เอวํ น กโรติ, สตฺถา จ สงฺเฆ สนฺนิปติเต ตํ อปสฺสนฺโต ‘‘อสุโก ภิกฺขุ กุหิ’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘นิโรธํ สมาปนฺโน’’ติ วุตฺเต กฺจิ ภิกฺขุํ เปเสติ ‘‘คจฺฉ ตํ มม วจเนน ปกฺโกสา’’ติ. อถสฺส ¶ เตน ภิกฺขุนา สวนูปจาเร ตฺวา สตฺถา อายสฺมนฺตํ อามนฺเตตี’’ติ วุตฺตมตฺเตเยว วุฏฺานํ โหติ. เอวํครุกฺหิ สตฺถุปกฺโกสนํ. ตสฺมา ตํ อาวชฺชิตฺวา ยถา สยเมว วุฏฺาติ, เอวํ สมาปชฺชิตพฺพํ.
อทฺธานปริจฺเฉโทติ ชีวิตทฺธานสฺส ปริจฺเฉโท. อิมินา หิ ภิกฺขุนา อทฺธานปริจฺเฉเท กุสเลน ภวิตพฺพํ. ‘‘อตฺตโน อายุสงฺขารา สตฺตาหํ ปวตฺติสฺสนฺติ, น ปวตฺติสฺสนฺตี’’ติ อาวชฺชิตฺวาว สมาปชฺชิตพฺพํ. สเจ หิ สตฺตาหพฺภนฺตเร นิรุชฺฌนเก อายุสงฺขาเร อนาวชฺชิตฺวาว ¶ สมาปชฺชติ, ตสฺส นิโรธสมาปตฺติ มรณํ ปฏิพาหิตุํ น สกฺโกติ. อนฺโตนิโรเธ มรณสฺส นตฺถิตาย อนฺตราว สมาปตฺติโต วุฏฺาติ, ตสฺมา เอตํ อาวชฺชิตฺวาว สมาปชฺชิตพฺพํ. อวเสสฺหิ อนาวชฺชิตุมฺปิ วฏฺฏติ, อิทํ ปน อาวชฺชิตพฺพเมวาติ วุตฺตํ. โส เอวํ อากิฺจฺายตนํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อิมํ ปุพฺพกิจฺจํ กตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปชฺชติ. อเถกํ วา ทฺเว วา จิตฺตวาเร อติกฺกมิตฺวา อจิตฺตโก โหติ, นิโรธํ ผุสติ. กสฺมา ปนสฺส ทฺวินฺนํ จิตฺตานํ อุปริ จิตฺตานิ นปฺปวตฺตนฺตีติ? นิโรธสฺส ปโยคตฺตา. อิทฺหิ อิมสฺส ภิกฺขุโน ทฺเว สมถวิปสฺสนาธมฺเม ยุคนทฺเธ กตฺวา อฏฺสมาปตฺติอาโรหนํ อนุปุพฺพนิโรธสฺส ปโยโค, น เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยาติ ¶ นิโรธสฺส ปโยคตฺตา ทฺวินฺนํ จิตฺตานํ อุปริ นปฺปวตฺตนฺติ.
กถํ านนฺติ? เอวํ สมาปนฺนาย ปนสฺสา กาลปริจฺเฉทวเสน เจว อนฺตรา อายุกฺขยสงฺฆปฏิมานนสตฺถุปกฺโกสนาภาเวน จ านํ โหติ.
กถํ วุฏฺานนฺติ? อนาคามิสฺส อนาคามิผลสมาปตฺติยา อรหโต อรหตฺตผลสมาปตฺติยาติ เอวํ ทฺเวธา วุฏฺานํ โหติ.
วุฏฺิตสฺส กินฺนินฺนํ จิตฺตํ โหตีติ? นิพฺพานนินฺนํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺิตสฺส โข, อาวุโส วิสาข, ภิกฺขุโน วิเวกนินฺนํ จิตฺตํ โหติ วิเวกโปณํ วิเวกปพฺภาร’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๔๖๔).
มตสฺส จ สมาปนฺนสฺส จ โก วิเสโสติ? อยมฺปิ อตฺโถ สุตฺเต วุตฺโตเยว. ยถาห – ‘‘โย จายํ, อาวุโส, มโต กาลงฺกโต, ตสฺส ¶ กายสงฺขารา นิรุทฺธา ปฏิปฺปสฺสทฺธา, วจีสงฺขารา, จิตฺตสงฺขารา นิรุทฺธา ปฏิปฺปสฺสทฺธา, อายุ ปริกฺขีโณ, อุสฺมา วูปสนฺตา, อินฺทฺริยานิ ปริภินฺนานิ. ยฺวายํ ภิกฺขุ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโน, ตสฺสปิ กายสงฺขารา นิรุทฺธา ปฏิปฺปสฺสทฺธา, วจีสงฺขารา, จิตฺตสงฺขารา นิรุทฺธา ปฏิปฺปสฺสทฺธา, อายุ อปริกฺขีโณ, อุสฺมา อวูปสนฺตา, อินฺทฺริยานิ อปริภินฺนานี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๗).
นิโรธสมาปตฺติ กึ สงฺขตาติอาทิปุจฺฉายํ ปน ‘‘สงฺขตา’’ติปิ ‘‘อสงฺขตา’’ติปิ ‘‘โลกิยา’’ติปิ ‘‘โลกุตฺตรา’’ติปิ น วตฺตพฺพา. กสฺมา? สภาวโต นตฺถิตาย. ยสฺมา ปน สมาปชฺชนฺตสฺส ¶ วเสน สมาปนฺโน นาม โหติ, ตสฺมา นิปฺผนฺนาติ วตฺตุํ วฏฺฏติ, โน อนิปฺผนฺนาติ.
‘‘อิติ สนฺตา สมาปตฺติ, อยํ อริยนิเสวิตา;
ทิฏฺเว ธมฺเม นิพฺพานมิติ สงฺขมุปาคตา’’ติ.
นิโรธสมาปตฺติาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓๕. ปรินิพฺพานาณนิทฺเทสวณฺณนา
๘๖. ปรินิพฺพานาณนิทฺเทเส ¶ อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. สมฺปชาโนติ สาตฺถกสมฺปชฺํ, สปฺปายสมฺปชฺํ, โคจรสมฺปชฺํ, อสมฺโมหสมฺปชฺนฺติ อิเมหิ จตูหิ สมฺปชฺเหิ สมฺปชาโน. ปวตฺตนฺติ สพฺพตฺถ ยถานุรูปํ ปริยุฏฺานปวตฺตฺจ อนุสยปฺปวตฺตฺจ. ปริยาทิยตีติ อุปจารปฺปนาวเสน วุตฺเตสุ วิกฺขมฺภนวเสน, วิปสฺสนาวเสน วุตฺเตสุ ตทงฺควเสน, มคฺควเสน วุตฺเตสุ สมุจฺเฉทวเสน เขเปติ อปฺปวตฺตํ กโรติ. เปยฺยาลมุเขน หิ ทุติยาทิฌานสมาปตฺติมหาวิปสฺสนามคฺคา สํขิตฺตา. ยสฺมา เอตํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ปวตฺตํ าณํ ปรินิพฺพาเน าณํ นาม โหติ, ตสฺมา วิกฺขมฺภนปรินิพฺพานํ ตทงฺคปรินิพฺพานํ สมุจฺเฉทปรินิพฺพานนฺติปิ วุตฺตเมว โหติ. เอเตหิ กิเลสปรินิพฺพานปจฺจเวกฺขณาณํ วุตฺตํ. อถ วา ปนาติอาทีหิ ขนฺธปรินิพฺพานปจฺจเวกฺขณาณํ นิทฺทิสติ. อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยาติ ทุวิธา หิ นิพฺพานธาตุ สอุปาทิเสสา จ อนุปาทิเสสา จ. ตตฺถ อุปาทียเต ‘‘อหํ มมา’’ติ ภุสํ คณฺหียตีติ อุปาทิ, ขนฺธปฺจกสฺเสตํ ¶ อธิวจนํ. อุปาทิเยว เสโส อวสิฏฺโติ อุปาทิเสโส, สห อุปาทิเสเสน วตฺตตีติ สอุปาทิเสสา. นตฺเถตฺถ อุปาทิเสโสติ อนุปาทิเสสา. สอุปาทิเสสา ปมํ วุตฺตา. อยํ ปน อนุปาทิเสสา. ตาย อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา. จกฺขุปวตฺตนฺติ จกฺขุปวตฺติ จกฺขุสมุทาจาโร. ปริยาทิยตีติ เขปียติ มทฺทียตีติ. เอส นโย เสเสสุ.
ปรินิพฺพานาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓๖. สมสีสฏฺาณนิทฺเทสวณฺณนา
๘๗. สมสีสฏฺาณนิทฺเทเส ¶ ¶ ปฺจกฺขนฺธาติอาทีหิ ทสหิ ราสีหิ สพฺพธมฺมสงฺคโห เวทิตพฺโพ. น หิ เอเกกสฺส วเสน อายตนธาตุราสิวชฺเชหิ เสเสหิ อฏฺหิ ราสีหิ วิสุํ วิสุํ สพฺพธมฺโม สงฺคยฺหตีติ. ยสฺมา ปน โลกุตฺตรธมฺมา เหตุสมุจฺเฉเทน สมุจฺฉินฺทิตพฺพา น โหนฺติ, ตสฺมา สพฺพธมฺมสทฺเทน สงฺคหิตาปิ โลกุตฺตรธมฺมา สมุจฺเฉทวเสน สมฺภวโต อิธ น คเหตพฺพา, เหตุสมุจฺเฉเทน สมุจฺฉินฺทิตพฺพา เอว เตภูมกธมฺมา คเหตพฺพา. สมฺมา สมุจฺฉินฺทตีติ ยถาโยคํ วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุจฺเฉทปหานวเสน ปริยุฏฺานํ อนุสยฺจ นิโรเธนฺโต สมฺมา สมุจฺฉินฺทติ. เอวํ ปุคฺคลาธิฏฺานาย เทสนาย สมฺมา สมุจฺเฉโท นิทฺทิฏฺโ. นิโรเธตีติ อนุปฺปาทนิโรเธน นิโรเธติ. อิมินา สมุจฺเฉทตฺโถ วุตฺโต. น อุปฏฺาตีติ เอวํ นิโรเธ กเต โส โส ธมฺโม ปุน น อุปติฏฺติ, น อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. อิมินา นิโรธตฺโถ วุตฺโต. เอวํ อนุปฏฺหนธมฺมวเสน อนุปฏฺานภาโว นิทฺทิฏฺโ. สมนฺติ กามจฺฉนฺทาทีนํ สมิตตฺตา สมํ. ตานิ ปน เนกฺขมฺมาทีนิ สตฺต, รูปารูปชฺฌานานิ อฏฺ, มหาวิปสฺสนา อฏฺารส, อริยมคฺคา จตฺตาโรติ สตฺตตึส โหนฺติ.
เตรส สีสานิ สีสภูตานํ สพฺเพสํ สงฺคหวเสน วุตฺตานิ. อิธ ปน สทฺธาทีนิ อฏฺเว สีสานิ ยุชฺชนฺติ. น หิ อรหโต ตณฺหาทีนิ ปฺจ สีสานิ สนฺติ. ปลิโพธสีสนฺติ ปลิพุนฺธนํ ปลิโพโธ, นิพฺพานมคฺคาวรณนฺติ อตฺโถ. สีสนฺติ ปธานํ, อธิกนฺติ อตฺโถ. ปลิโพโธเยว สีสํ, ตํสมฺปยุตฺตาทิสพฺพปลิโพเธสุ ¶ ¶ วา สีสนฺติ ปลิโพธสีสํ. เอส นโย เสเสสุ. วิเสสโต ปน วินิพนฺธนนฺติ อุนฺนติวเสน สํสาเร พนฺธนํ. ปรามาโสติ อภินิเวโส. วิกฺเขโปติ วิปฺปกิณฺณตา. กิเลโสติ กิลิสฺสนํ. อธิโมกฺโขติ อธิมุจฺจนํ. ปคฺคโหติ อุสฺสาหนํ. อุปฏฺานนฺติ อปิลาปนํ. อวิกฺเขโปติ อวิปฺปกิณฺณตา. ทสฺสนนฺติ ยถาสภาวปฏิเวโธ. ปวตฺตนฺติ อุปาทินฺนกฺขนฺธปวตฺตํ. โคจโรติ อารมฺมณํ. อิเมสุ ทฺวาทสสุปิ วาเรสุ ปธานฏฺโ สีสฏฺโ. วิโมกฺโขติ วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณวิมุตฺตีสุ ปฺจสุ นิสฺสรณวิมุตฺติ นิพฺพานํ. สงฺขารสีสนฺติ สพฺพสงฺขตสงฺขารานํ สีสํ, โกฏิ อวสานนฺติ อตฺโถ. เอเตน อนุปาทิเสสปรินิพฺพานํ วุตฺตํ. สงฺขาราภาวมตฺตวเสน วา ขนฺธปรินิพฺพานเมว วุตฺตํ โหติ. เนกฺขมฺมาทิกํ สมฺจ สทฺธาทิกํ สีสฺจ, สมสีสํ วา อสฺส อตฺถีติ สมสีสีติ. อถ วา เตรสนฺนํ สีสานํ ตณฺหาทีนิ ปฺจ สีสานิ สมุทยสจฺจํ, สทฺธาทีนิ ปฺจ มคฺคสจฺจํ, ปวตฺตสีสํ ชีวิตินฺทฺริยํ ทุกฺขสจฺจํ, โคจรสีสฺจ สงฺขารสีสฺจ นิโรธสจฺจนฺติ อิเมสํ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ เอกสฺมึ โรเค วา เอกสฺมึ ¶ อิริยาปเถ วา เอกสฺมึ สภาคชีวิตินฺทฺริเย วา อภิสมโย จ อนุปาทิเสสปรินิพฺพานฺจ ยสฺส โหติ, โส ปุพฺเพ วุตฺตสมานฺจ อิเมสฺจ สีสานํ อตฺถิตาย สมสีสีติ วุจฺจติ.
สมสีสฏฺาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓๗. สลฺเลขฏฺาณนิทฺเทสวณฺณนา
๘๘. สลฺเลขฏฺาณนิทฺเทเส ¶ ราโค ปุถูติ ราโค วิสุํ, โลกุตฺตเรหิ อสมฺมิสฺโสติ อตฺโถ. เอส นโย เสเสสุ. ราโคติ รฺชนฏฺเน. โทโสติ ทุสฺสนฏฺเน. โมโหติ มุยฺหนฏฺเน. รฺชนลกฺขโณ ราโค, ทุสฺสนลกฺขโณ โทโส, มุยฺหนลกฺขโณ โมโหติ อิเม ตโย สีสกิเลเส วตฺวา อิทานิ ปเภทโต ทสฺเสนฺโต โกโธติอาทิมาห. ตตฺถ กุชฺฌนลกฺขโณ โกโธติ อิธ สตฺตวตฺถุโก อธิปฺเปโต. อุปนนฺธนลกฺขโณ อุปนาโห, ทฬฺหภาวปฺปตฺโต โกโธเยว. ปรคุณมกฺขนลกฺขโณ มกฺโข, ปรคุณปฺุฉนนฺติ อตฺโถ. ยุคคฺคาหลกฺขโณ ปฬาโส, ยุคคฺคาหวเสน ปรคุณทสฺสนนฺติ อตฺโถ. ปรสมฺปตฺติขียนลกฺขณา อิสฺสา, อุสูยนาติ อตฺโถ ¶ . อตฺตสมฺปตฺตินิคูหนลกฺขณํ มจฺฉริยํ, ‘‘มยฺหํ อจฺฉริยํ มา ปรสฺส โหตู’’ติ อตฺโถ. อตฺตนา กตปาปปฏิจฺฉาทนลกฺขณา มายา, ปฏิจฺฉาทนฏฺเน มายา วิยาติ อตฺโถ. อตฺตโน อวิชฺชมานคุณปฺปกาสนลกฺขณํ สาเยฺยํ, สภาโวติ อตฺโถ. จิตฺตสฺส อุทฺธุมาตภาวลกฺขโณ ถมฺโภ, ถทฺธภาโวติ อตฺโถ. กรณุตฺตริยลกฺขโณ สารมฺโภ. อุนฺนติลกฺขโณ มาโน. อพฺภุนฺนติลกฺขโณ อติมาโน. มตฺตภาวลกฺขโณ มโท. ปฺจสุ กามคุเณสุ จิตฺตโวสคฺคลกฺขโณ ปมาโท.
เอวํ วิสุํ วิสุํ กิเลสวเสน ปุถู ทสฺเสตฺวา วุตฺตกิเลเส จ อวุตฺเต จ อฺเ สพฺพสงฺคาหิกวเสน ทสฺเสตุํ สพฺเพ กิเลสาติอาทิมาห. ตตฺถ ทิฏฺธมฺมสมฺปราเยสุ สตฺเต กิเลเสนฺติ อุปตาเปนฺติ วิพาเธนฺตีติ กิเลสา. อกุสลกมฺมปถสงฺคหิตา จ อสงฺคหิตา จ. ทุฏฺุ จริตา, ทุฏฺา วา จริตาติ ทุจฺจริตา. เต ปน กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ มโนทุจฺจริตนฺติ ติปฺปการา. วิปากํ อภิสงฺขโรนฺตีติ อภิสงฺขารา. เตปิ ปฺุาภิสงฺขาโร อปฺุาภิสงฺขาโร ¶ อาเนฺชาภิสงฺขาโรติ ติปฺปการา. วิปากวเสน ภวํ คจฺฉนฺตีติภวคามิโน ¶ , ภวคามิโน กมฺมา ภวคามิกมฺมา. อิมินา อภิสงฺขารภาเวปิ สติ อเวทนียานิ กมฺมานิ ปฏิกฺขิตฺตานิ โหนฺตีติ อยํ วิเสโส. ‘‘ทุจฺจริตา’’ติ จ ‘‘กมฺมา’’ติ จ ลิงฺควิปลฺลาโส กโต. นานตฺเตกตฺตนฺติ เอตฺถ อุทฺเทเส เอกตฺตสทฺทสฺส อภาเวปิ นานตฺเตกตฺตานํ อฺมฺาเปกฺขตฺตา เอกตฺตมฺปิ นิทฺทิสิตุกาเมน ‘‘นานตฺเตกตฺต’’นฺติ อุทฺเทโส กโต. นานตฺตสลฺเลขเก เอกตฺเต ทสฺสิเต สลฺเลขาณํ สุเขน ทสฺสียตีติ. นานตฺตนฺติ อนวฏฺิตตฺตา สปริปฺผนฺทตฺตา จ นานาสภาโว. เอกตฺตนฺติ อวฏฺิตตฺตา อปริปฺผนฺทตฺตา จ เอกสภาโว.
จรณเตโชติ จรนฺติ เตน อคตํ ทิสํ นิพฺพานํ คจฺฉนฺตีติ จรณํ. กึ ตํ? สีลํ. ตเทว ปฏิปกฺขตาปนฏฺเน เตโช. คุณเตโชติ สีเลน ลทฺธปติฏฺโ สมาธิเตโช. ปฺาเตโชติ สมาธินา ลทฺธปติฏฺโ วิปสฺสนาเตโช. ปฺุเตโชติ วิปสฺสนาหิ ลทฺธปติฏฺโ อริยมคฺคกุสลเตโช. ธมฺมเตโชติ จตุนฺนํ เตชานํ ปติฏฺาภูโต พุทฺธวจนเตโช. จรณเตเชน เตชิตตฺตาติ สีลเตเชน ติขิณีกตตฺตา. ทุสฺสีลฺยเตชนฺติ ทุสฺสีลภาวสงฺขาตํ เตชํ. ตมฺปิ หิ สนฺตานํ ตาปนโต เตโช นาม. ปริยาทิยตีติ เขเปติ. อคุณเตชนฺติ สมาธิสฺส ¶ ปฏิปกฺขํ วิกฺเขปเตชํ. ทุปฺปฺเตชนฺติ วิปสฺสนาาณปฏิปกฺขํ โมหเตชํ. อปฺุเตชนฺติ ตํตํมคฺควชฺฌกิเลสปฺปหาเนน กิเลสสหายํ อกุสลกมฺมเตชํ. น เกวลฺเหตํ อปฺุเมว เขเปติ, ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓๓; ที. นิ. ๓.๓๑๒; ม. นิ. ๒.๑๘) วจนโต กุสลกมฺมมฺปิ เขเปติเยว. ปฺุเตชปฏิปกฺขวเสน อปฺุเตชเมว วุตฺตํ. อธมฺมเตชนฺติ นานาติตฺถิยานํ สมยวจนเตชํ. อิมสฺส าณสฺส อุทฺเทสวณฺณนายํ วุตฺเต ทุติเย อตฺถวิกปฺเป ราคาทโย เอกูนวีสติ ปุถุ ทุสฺสีลฺยเตชา โหนฺติ. ‘‘อภิสงฺขารา, ภวคามิกมฺมา’’ติ เอตฺถ อปฺุาภิสงฺขารา อกุสลกมฺมฺจ อปฺุเตชา โหนฺติ, อาเนฺชาภิสงฺขารานิ ¶ โลกิยกุสลกมฺมานิ ปฺุเตเชเนว เขปนียโต อปฺุเตชปกฺขิกาว โหนฺติ. กามจฺฉนฺทาทโย ปฺจทส นานตฺตา อคุณเตชา โหนฺติ, นิจฺจสฺาทโย อฏฺารส นานตฺตา ทุปฺปฺเตชา โหนฺติ, จตุมคฺควชฺฌา จตฺตาโร นานตฺตา อปฺุเตชา โหนฺติ. โสตาปตฺติมคฺควชฺฌนานตฺเตน อธมฺมเตโช สงฺคเหตพฺโพ.
นิทฺเทเส สลฺเลขปฏิปกฺเขน อสลฺเลเขน สลฺเลขํ ทสฺเสตุกาเมน อสลฺเลขปุพฺพโก สลฺเลโข นิทฺทิฏฺโ. เนกฺขมฺมาทโย สตฺตตึส เอกตฺตธมฺมาว ปจฺจนีกานํ สลฺลิขนโต ‘‘สลฺเลโข’’ติ ¶ วุตฺตา. ตสฺมึ เนกฺขมฺมาทิเก สตฺตตึสปเภเท สลฺเลเข าณํ สลฺเลขฏฺเ าณนฺติ.
สลฺเลขฏฺาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓๘. วีริยารมฺภาณนิทฺเทสวณฺณนา
๘๙. วีริยารมฺภาณนิทฺเทเส ¶ อนุปฺปนฺนานนฺติ เอกสฺมึ อตฺตภาเว, เอกสฺมึ วา อารมฺมเณ อนิพฺพตฺตานํ. อนมตคฺเค หิ สํสาเร อนุปฺปนฺนา อกุสลา นาม นตฺถิ, กุสลา ปน อตฺถิ. ปาปกานนฺติ ลามกานํ. อกุสลานํ ธมฺมานนฺติ อโกสลฺลสมฺภูตานํ ธมฺมานํ. อนุปฺปาทายาติ น อุปฺปาทนตฺถาย. อุปฺปนฺนานนฺติ อิมสฺมึ อตฺตภาเว นิพฺพตฺตานํ. ปหานายาติ ปชหนตฺถาย. อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานนฺติ อิมสฺมึ อตฺตภาเว อนิพฺพตฺตปุพฺพานํ ¶ โกสลฺลสมฺภูตานํ ธมฺมานํ. อุปฺปาทายาติ อุปฺปาทนตฺถาย. อุปฺปนฺนานนฺติ อิมสฺมึ อตฺตภาเว นิพฺพตฺตานํ. ิติยาติ ิตตฺถาย. อสมฺโมสายาติ อวินาสตฺถาย. ภิยฺโยภาวายาติ ปุนปฺปุนภาวาย. เวปุลฺลายาติ วิปุลภาวาย. ภาวนายาติ วฑฺฒิยา. ปาริปูริยาติ ปริปูรณตฺถาย.
อิทานิ อกุสเลสุ กามจฺฉนฺทํ, กุสเลสุ เนกฺขมฺมํ วิเสเสตฺวา ทสฺเสตุํ อนุปฺปนฺนสฺส กามจฺฉนฺทสฺสาติอาทิมาห. ตตฺถ กามจฺฉนฺโทติ สมาธิปฏิปกฺโข กามราโค. เนกฺขมฺมนฺติ ปมชฺฌานสมาธิ, ปมชฺฌานํ วา, สพฺเพ เอว วา กุสลา ธมฺมา เนกฺขมฺมํ.
อิทานิ สพฺพกิเลสานํ สพฺพกิเลสปฏิปกฺขสฺส อรหตฺตมคฺคสฺส จ วเสน โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ อนุปฺปนฺนานํ สพฺพกิเลสานนฺติอาทิมาห. ตตฺถ อุปฺปนฺนสฺส อรหตฺตมคฺคสฺส ิติยาติอาทีสุ อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปนฺนสฺส อรหตฺตมคฺคสฺส ิติกฺขณภงฺคกฺขณวเสน ‘‘ิติยา’’ติอาทิโยชนา เวทิตพฺพา. วิภงฺคฏฺกถายมฺปิ ‘‘ยา จสฺส ปวตฺติ, อยเมว ิติ นามา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๔๐๖) วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘อรหตฺตมคฺคสฺส ปุพฺพภาคมคฺโค ทฏฺพฺโพ’’ติ วทนฺติ.
วีริยารมฺภาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓๙. อตฺถสนฺทสฺสนาณนิทฺเทสวณฺณนา
๙๐. อตฺถสนฺทสฺสนาณนิทฺเทเส ¶ ¶ ปฺจกฺขนฺธาติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. ปกาเสตีติ ปากฏํ กโรติ, โสตูนํ าณจกฺขุนา ทสฺสนํ สมฺปาเทตีติ อตฺโถ. นานาธมฺมาติ โลกิยโลกุตฺตรา สพฺพธมฺมา วุตฺตา. กสฺมา ปกาสนานิทฺเทเส โลกิยา เอว วุตฺตาติ เจ? อนิจฺจาทิวเสน ปกาสนาย อารทฺธตฺตา. โลกุตฺตรานฺจ อสมฺมสนูปคตฺตา โลกุตฺตรา น วุตฺตา. นานาธมฺมนิทฺเทเสน ปน อตฺถสนฺทสฺสนนิทฺเทเสน จ เตสํ สงฺคหิตตฺตา ยถา เต ปกาเสตพฺพา, ตถา ปกาสนา ปกาสนาเยว. ปชหนฺโตติ โสตารํ ปชหาเปนฺโตติ อตฺโถ. สนฺทสฺเสตีติ โสตูนํ สมฺมา ทสฺเสติ. เกจิ ปน ‘‘กามจฺฉนฺทสฺส ปหีนตฺตา เนกฺขมฺมตฺถํ ¶ สนฺทสฺเสตี’’ติอาทินา นเยน ปนฺติ. เตสํ อุชุกเมว โสตูนํ โทสปฺปหาเน คุณปฏิลาเภ จ กเต สิขาปฺปตฺตํ เทสนาาณํ โหตีติ ทสฺสนตฺถํ อยํ นโย วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
อตฺถสนฺทสฺสนาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔๐. ทสฺสนวิสุทฺธิาณนิทฺเทสวณฺณนา
๙๑. ทสฺสนวิสุทฺธิาณนิทฺเทเส ¶ สพฺเพ ธมฺมา เอกสงฺคหิตาติ สพฺเพ สงฺขตาสงฺขตา ธมฺมา เอเกน สงฺคหิตา ปริจฺฉินฺนา. ตถฏฺเนาติ ภูตฏฺเน, อตฺตโน อตฺตโน สภาววเสน วิชฺชมานตฺเถนาติ อตฺโถ. อนตฺตฏฺเนาติ การกเวทกสงฺขาเตน อตฺตนา รหิตฏฺเน. สจฺจฏฺเนาติ อวิสํวาทกฏฺเน, อตฺตโน สภาวฺถตฺตาภาเวนาติ อตฺโถ. ปฏิเวธฏฺเนาติ สภาวโต าเณน ปฏิวิชฺฌิตพฺพฏฺเน. อิธ โลกุตฺตราเณน อสมฺโมหโต อารมฺมณโต จ ปฏิเวโธ เวทิตพฺโพ. อภิชานนฏฺเนาติ โลกิเกน าเณน อารมฺมณโต, โลกุตฺตเรน าเณน อสมฺโมหโต อารมฺมณโต จ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ สภาวโต อภิชานิตพฺพฏฺเน. ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อภิฺเยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๔๖) หิ วุตฺตํ. ปริชานนฏฺเนาติ วุตฺตนเยเนว โลกิยโลกุตฺตเรหิ าเณหิ สภาวโต อภิฺาตานํ ธมฺมานํ อนิจฺจาทิโต นิยฺยานาทิโต จ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ชานิตพฺพฏฺเน. ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, ปริฺเยฺย’’นฺติ หิ วุตฺตํ. ธมฺมฏฺเนาติ สภาวธารณาทินา ธมฺมฏฺเน. ธาตุฏฺเนาติ นิชฺชีวตาทินา ธาตุฏฺเน. าตฏฺเนาติ โลกิยโลกุตฺตเรหิ าเณหิ าตุํ สกฺกุเณยฺยฏฺเน. ยถา ทฏฺุํ สกฺกุเณยฺยาทินา อตฺเถน ‘‘ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ รูป’’นฺติ วุตฺตํ, เอวมิธาปิ าตุํ สกฺกุเณยฺยฏฺโ าตฏฺโติ เวทิตพฺโพ. สจฺฉิกิริยฏฺเนาติ ¶ อารมฺมณโต ปจฺจกฺขกาตพฺพฏฺเน. ผุสนฏฺเนาติ ปจฺจกฺขกตสฺส อารมฺมณโต ปุนปฺปุนํ ผุสิตพฺพฏฺเน. อภิสมยฏฺเนาติ โลกิเกน าเณน อภิสมาคนฺตพฺพฏฺเน. กิฺจาปิ หิ ‘‘ตถฏฺเ ปฺา สจฺจวิวฏฺเฏ าณํ, อภิฺาปฺา าตฏฺเ าณํ, สจฺฉิกิริยาปฺา ผสฺสนฏฺเ าณ’’นฺติ เอเกกเมว าณํ วุตฺตํ. อฏฺกถายฺจ –
‘‘สมวาเย ¶ ขเณ กาเล, สมูเห เหตุทิฏฺิสุ;
ปฏิลาเภ ปหาเน จ, ปฏิเวเธ จ ทิสฺสตี’’ติ ¶ . –
คาถาวณฺณนายํ อภิสมยสทฺทสฺส ปฏิเวธตฺโถ วุตฺโต, อิธ ปน ยถาวุตฺเตน อตฺเถน เตสํ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ. อฏฺกถายเมว หิ โส โลกิยาณวเสน ธมฺมาภิสมโย วุตฺโตติ.
กามจฺฉนฺโท นานตฺตนฺติ วิกฺเขปสพฺภาวโต นานารมฺมณตฺตา จ นานาสภาโวติ อตฺโถ. เอวํ สพฺพกิเลสา เวทิตพฺพา. เนกฺขมฺมํ เอกตฺตนฺติ จิตฺเตกคฺคตาสพฺภาวโต นานารมฺมณวิกฺเขปาภาวโต จ เอกสภาวนฺติ อตฺโถ. เอวํ สพฺพกุสลา เวทิตพฺพา. อิธ เปยฺยาเลน สํขิตฺตานํ พฺยาปาทาทีนํ อกุสลานํ ยถาวุตฺเตน อตฺเถน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ. วิตกฺกวิจาราทีนํ ปน เหฏฺิมานํ เหฏฺิมานํ อุปริมโต อุปริมโต โอฬาริกฏฺเน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ. ยสฺมา เอกสงฺคหิตนานตฺเตกตฺตานํ ปฏิเวโธ มคฺคกฺขเณ สจฺจปฏิเวเธน สิชฺฌติ, ตสฺมา ‘‘ปฏิเวโธ’’ติ ปทํ อุทฺธริตฺวา สจฺจาภิสมยํ ทสฺเสสิ.
ปริฺา ปฏิเวธํ ปฏิวิชฺฌตีติ ปริฺาภิสมเยน อภิสเมติ. เอส นโย เสเสสุ. สจฺจาภิสมยกาลสฺมิฺหิ มคฺคาณสฺส เอกกฺขเณ ปริฺา, ปหานํ, สจฺฉิกิริยา, ภาวนาติ จตฺตาริ กิจฺจานิ โหนฺติ. ยถา นาวา อปุพฺพํ อจริมํ เอกกฺขเณ จตฺตาริ กิจฺจานิ กโรติ, โอริมํ ตีรํ ปชหติ, โสตํ ฉินฺทติ, ภณฺฑํ วหติ, ปาริมํ ตีรํ อปฺเปติ, เอวเมว มคฺคาณํ อปุพฺพํ อจริมํ เอกกฺขเณ จตฺตาริ สจฺจานิ อภิสเมติ, ทุกฺขํ ปริฺาภิสมเยน อภิสเมติ, สมุทยํ ปหานาภิสมเยน อภิสเมติ, มคฺคํ ภาวนาภิสมเยน อภิสเมติ, นิโรธํ สจฺฉิกิริยาภิสมเยน อภิสเมติ. กึ วุตฺตํ โหติ? นิโรธํ อารมฺมณํ กตฺวา กิจฺจวเสน จตฺตาริปิ สจฺจานิ ปาปุณาติ ปสฺสติ ปฏิวิชฺฌตีติ. ยถา โอริมํ ตีรํ ปชหติ, เอวํ มคฺคาณํ ทุกฺขํ ปริชานาติ. ยถา โสตํ ฉินฺทติ, เอวํ สมุทยํ ปชหติ. ยถา ภณฺฑํ วหติ, เอวํ สหชาตาทิปจฺจยตาย มคฺคํ ภาเวติ. ยถา ปาริมํ ตีรํ อปฺเปติ, เอวํ ปาริมตีรภูตํ นิโรธํ สจฺฉิกโรตีติ เอวํ อุปมาสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ.
ทสฺสนํ ¶ วิสุชฺฌตีติ ตํตํมคฺควชฺฌกิเลสตมปฺปหาเนน าณทสฺสนํ วิสุทฺธิภาวํ ปาปุณาติ. ทสฺสนํ วิสุทฺธนฺติ ตสฺส ตสฺส ผลสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ¶ ตสฺส ตสฺส ¶ มคฺคาณสฺส กิจฺจสิทฺธิปฺปตฺติโต าณทสฺสนํ วิสุทฺธิภาวํ ปตฺตํ โหติ. สพฺพธมฺมานํ เอกสงฺคหิตาย นานตฺเตกตฺตปฏิเวธปฺาย มคฺคผลาเณหิ สิทฺธิโต อนฺเต มคฺคผลาณานิ วุตฺตานิ.
ทสฺสนวิสุทฺธิาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔๑-๔๒. ขนฺติาณปริโยคาหณาณนิทฺเทสวณฺณนา
๙๒-๙๓. ขนฺติาณปริโยคาหณาณนิทฺเทเสสุ ¶ รูปํ อนิจฺจโต วิทิตนฺติ อนิจฺจานุปสฺสนาย อนิจฺจนฺติ าตํ. รูปํ ทุกฺขโต วิทิตนฺติ ทุกฺขานุปสฺสนาย ทุกฺขนฺติ าตํ. รูปํ อนตฺตโต วิทิตนฺติ อนตฺตานุปสฺสนาย อนตฺตาติ าตํ. ยํ ยํ วิทิตํ, ตํ ตํ ขมตีติ ยํ ยํ รูปํ อนิจฺจาทิโต วิทิตํ, ตํ ตํ รูปํ อนิจฺจาทิโต ขมติ รุจฺจติ. ‘‘รูปํ อนิจฺจโต วิทิตํ, ยํ ยํ วิทิตํ, ตํ ตํ ขมตี’’ติ วิสุํ วิสฺุจ กตฺวา เกสุจิ โปตฺถเกสุ ลิขิตํ. ‘‘เวทนา สฺา สงฺขารา อนิจฺจโต วิทิตา’’ติอาทินา ลิงฺควจนานิ ปริวตฺเตตฺวา โยเชตพฺพานิ. ผุสตีติ วิปสฺสนาาณผุสเนน ผุสติ ผรติ. ปริโยคหตีติ วิปสฺสนาาเณน ปวิสติ. ปริโยคาหตีติปิ ปาโ.
ขนฺติาณปริโยคาหณาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔๓. ปเทสวิหาราณนิทฺเทสวณฺณนา
๙๔. ปเทสวิหาราณนิทฺเทเส ¶ เยนากาเรน มาติกาย อุทฺทิฏฺโ ปเทโส ปจฺจเวกฺขิตพฺโพ, ตํ ทสฺเสนฺโต มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยาปิ เวทยิตนฺติอาทิมาห. ตตฺถ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยาติ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตเวทนาปิ วฏฺฏติ ทิฏฺึ อุปนิสฺสยํ กตฺวา อุปฺปนฺนา กุสลากุสลเวทนาปิ วิปากเวทนาปิ. ตตฺถ มิจฺฉาทิฏฺิสมฺปยุตฺตา อกุสลาว โหติ, ทิฏฺึ ปน อุปนิสฺสาย กุสลาปิ อุปฺปชฺชนฺติ อกุสลาปิ. มิจฺฉาทิฏฺิกา หิ ทิฏฺึ อุปนิสฺสาย ปกฺขทิวเสสุ ยาคุภตฺตาทีนิ ¶ เทนฺติ, อนฺธกุฏฺิอาทีนํ วตฺตํ ปฏฺเปนฺติ, จตุมหาปเถ สาลํ กโรนฺติ, โปกฺขรณึ ขณาเปนฺติ, ปุปฺผารามํ ผลารามํ โรเปนฺติ, นทีวิทุคฺเคสุ เสตุํ อตฺถรนฺติ, วิสมํ สมํ กโรนฺติ. อิติ เตสํ กุสลา เวทนา ¶ อุปฺปชฺชติ. มิจฺฉาทิฏฺึ ปน นิสฺสาย สมฺมาทิฏฺิเก อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ วธพนฺธาทีนิ กโรนฺติ, ปาณํ วธิตฺวา เทวตานํ อุปหรนฺติ. อิติ เนสํ อกุสลา เวทนา อุปฺปชฺชติ. วิปากเวทนา ปน ภวนฺตรคตานํ โหติ. สา ปน มิจฺฉาทิฏฺิ สหชาตาย เวทนาย สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ ปจฺจโย โหติ, สมนนฺตรนิรุทฺธา มิจฺฉาทิฏฺิ ปจฺจุปฺปนฺนมิจฺฉาทิฏฺิสมฺปยุตฺตาย เวทนาย อนนฺตรสมนนฺตรูปนิสฺสยอาเสวนนตฺถิวิคตปจฺจเยหิ ปจฺจโย โหติ, มิจฺฉาทิฏฺึ ครุํ กตฺวา อภินนฺทนฺตสฺส โลภสหคตเวทนาย อารมฺมณอารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสยปจฺจเยหิ ปจฺจโย โหติ, สพฺพากุสเลหิ มิจฺฉาทิฏฺึ อารมฺมณมตฺตํ กโรนฺตสฺส สพฺพากุสลเวทนาย มิจฺฉาทิฏฺึ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส วิปสฺสนฺตสฺส กุสลาพฺยากตเวทนาย อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ, มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจเยน อุปฺปชฺชมานานํ กุสลากุสลเวทนานํ ภวนฺตเร วิปากเวทนานฺจ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ.
มิจฺฉาทิฏฺิวูปสมปจฺจยาติ ¶ มิจฺฉาทิฏฺิวูปสโม นาม สมฺมาทิฏฺิ, ตสฺมา ยํ สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา เวทยิตํ วุตฺตํ, ตเทว ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิวูปสมปจฺจยา’’ติ เวทิตพฺพํ. เกจิ ปน ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิวูปสโม นาม วิปสฺสนากฺขเณ โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ จา’’ติ วทนฺติ.
สมฺมาทิฏฺิปจฺจยาปิ เวทยิตนฺติ เอตฺถาปิ สมฺมาทิฏฺิสมฺปยุตฺตเวทนาปิ วฏฺฏติ สมฺมาทิฏฺึ อุปนิสฺสยํ กตฺวา อุปฺปนฺนา กุสลากุสลเวทนาปิ วิปากเวทนาปิ. ตตฺถ สมฺมาทิฏฺิสมฺปยุตฺตา กุสลาว โหติ, สมฺมาทิฏฺึ ปน อุปนิสฺสาย พุทฺธปูชา ทีปมาลาโรปนํ มหาธมฺมสฺสวนํ อปฺปติฏฺิเต ทิสาภาเค เจติยปติฏฺาปนนฺติ เอวมาทีนิ ปฺุานิ กโรนฺติ. อิติ เนสํ กุสลา เวทนา อุปฺปชฺชติ. สมฺมาทิฏฺิเมว นิสฺสาย มิจฺฉาทิฏฺิเก อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ, อตฺตานํ อุกฺกํสนฺติ, ปรํ วมฺเภนฺติ. อิติ เนสํ อกุสลา เวทนา อุปฺปชฺชติ. วิปากเวทนา ปน ภวนฺตรคตานํเยว โหติ. สา ปน สมฺมาทิฏฺิ สหชาตาย สมนนฺตรนิรุทฺธาย ปจฺจุปฺปนฺนาย เวทนาย มิจฺฉาทิฏฺิยา วุตฺตปจฺจเยเหว ปจฺจโย โหติ, โลกิกสมฺมาทิฏฺิ ปจฺจเวกฺขณสมฺปยุตฺตาย วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตาย นิกนฺติสมฺปยุตฺตาย จ เวทนาย อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ, มิจฺฉาทิฏฺิยา วุตฺตนเยเนว อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ, มคฺคผลสมฺมาทิฏฺิ ปจฺจเวกฺขณสมฺปยุตฺตาย ¶ เวทนาย อารมฺมณอารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสยปจฺจยวเสน ปจฺจโย โหติ.
สมฺมาทิฏฺิวูปสมปจฺจยาปิ ¶ เวทยิตนฺติ สมฺมาทิฏฺิวูปสโม นาม มิจฺฉาทิฏฺิ, ตสฺมา ยํ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา เวทยิตํ วุตฺตํ, ตเทว ‘‘สมฺมาทิฏฺิวูปสมปจฺจยา’’ติ เวทิตพฺพํ. มิจฺฉาสงฺกปฺปปจฺจยา มิจฺฉาสงฺกปฺปวูปสมปจฺจยาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ยสฺส ยสฺส หิ ‘‘วูปสมปจฺจยา’’ติ วุจฺจติ, ตสฺส ตสฺส ปฏิปกฺขธมฺมปจฺจยาว ตํ ตํ เวทยิตํ อธิปฺเปตํ. มิจฺฉาาณาทีสุ ปน มิจฺฉาาณํ นาม ปาปกิริยาสุ อุปายจินฺตา. อถ วา มิจฺฉาาณํ มิจฺฉาปจฺจเวกฺขณาณํ. สมฺมาาณํ นาม วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺึ ¶ โลกุตฺตรสมฺมาทิฏฺิฺจ เปตฺวา อวเสสกุสลาพฺยากตํ าณํ. มิจฺฉาวิมุตฺติ นาม ปาปาธิมุตฺติตา. อถ วา อยาถาววิมุตฺติ อนิยฺยานิกวิมุตฺติ อวิมุตฺตสฺเสว สโต วิมุตฺติสฺีติ. สมฺมาวิมุตฺติ นาม กลฺยาณาธิมุตฺติตา ผลวิมุตฺติ จ. สมฺมาทิฏฺิอาทโย เหฏฺา วุตฺตตฺถาเยว.
ฉนฺทปจฺจยาปีติอาทีสุ ปน ฉนฺโท นาม โลโภ, ฉนฺทปจฺจยา อฏฺโลภสหคตจิตฺตสมฺปยุตฺตเวทนา เวทิตพฺพา. ฉนฺทวูปสมปจฺจยา ปมชฺฌานเวทนาว. วิตกฺกปจฺจยา ปมชฺฌานเวทนา. วิตกฺกวูปสมปจฺจยา ทุติยชฺฌานเวทนา. สฺาปจฺจยา เปตฺวา ปมชฺฌานํ เสสา ฉ สมาปตฺติเวทนา. สฺาวูปสมปจฺจยา เนวสฺานาสฺายตนเวทนา.
ฉนฺโท จ อวูปสนฺโต โหตีติอาทีสุ สเจ ฉนฺทวิตกฺกสฺา อวูปสนฺตา โหนฺตีติ อตฺโถ. ตปฺปจฺจยาติ โส ฉนฺทวิตกฺกสฺานํ อวูปสโม เอว ปจฺจโย ตปฺปจฺจโย, ตสฺมา ตปฺปจฺจยา. ฉนฺทวิตกฺกสฺาอวูปสมปจฺจยา เวทนา โหตีติ อตฺโถ. สา อฏฺโลภสหคตจิตฺตสมฺปยุตฺตเวทนา โหติ. สเจ ฉนฺโท วูปสนฺโต วิตกฺกสฺา อวูปสนฺตา. ตปฺปจฺจยาติ โส ฉนฺทสฺส วูปสโม วิตกฺกสฺานํ อวูปสโม เอว ปจฺจโย ตปฺปจฺจโย, ตสฺมา ตปฺปจฺจยา. สา ปมชฺฌานเวทนาว. สเจ ฉนฺทวิตกฺกา วูปสนฺตา สฺา อวูปสนฺตา. ตปฺปจฺจยาติ โส ฉนฺทวิตกฺกานํ วูปสโม สฺาย อวูปสโม เอว ปจฺจโย ตปฺปจฺจโย, ตสฺมา ตปฺปจฺจยา. สา ทุติยชฺฌานเวทนาว. สเจ ฉนฺทวิตกฺกสฺา วูปสนฺตา. ตปฺปจฺจยาติ โส ฉนฺทวิตกฺกสฺานํ วูปสโม เอว ปจฺจโย ตปฺปจฺจโย, ตสฺมา ตปฺปจฺจยา. สา เนวสฺานาสฺายตนเวทนาว. เกจิ ปน ‘‘ฉนฺโท นาม อปฺปนํ ปาปุณิสฺสามีติ ปุพฺพภาเค ¶ ธมฺมจฺฉนฺโท, อปฺปนาปฺปตฺตสฺส โส ฉนฺโท วูปสนฺโต โหติ. ปมชฺฌาเน วิตกฺโก โหติ, ทุติยชฺฌานปฺปตฺตสฺส วิตกฺโก วูปสนฺโต โหติ. สตฺตสุ สมาปตฺตีสุ สฺา โหติ, เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปนฺนสฺส จ นิโรธํ สมาปนฺนสฺส จ สฺา วูปสนฺตา โหตี’’ติ เอวํ วณฺณยนฺติ. อิธ ปน นิโรธสมาปตฺติ น ยุชฺชติ. อปฺปตฺตสฺส ¶ ปตฺติยาติ อรหตฺตผลสฺส ปตฺตตฺถาย. อตฺถิ อายวนฺติ อตฺถิ วีริยํ. อายาวนฺติปิ ปาโ. ตสฺมิมฺปิ าเน อนุปฺปตฺเตติ ตสฺส วีริยารมฺภสฺส วเสน ตสฺมึ อรหตฺตผลสฺส การเณ อริยมคฺเค อนุปฺปตฺเต ¶ . ตปฺปจฺจยาปิ เวทยิตนฺติ อรหตฺตสฺส านปจฺจยา เวทยิตํ. เอเตน จตุมคฺคสหชาตา นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรเวทนา คหิตา. เกจิ ปน ‘‘อายวนฺติ ปฏิปตฺติ. ตสฺมิมฺปิ าเน อนุปฺปตฺเตติ ตสฺสา ภูมิยา ปตฺติยา’’ติ วณฺณยนฺติ.
ปเทสวิหาราณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔๔-๔๙. วิวฏฺฏาณฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๕. วิวฏฺฏาณฉกฺกนิทฺเทเส ¶ เนกฺขมฺมาธิปตตฺตา ปฺาติ เนกฺขมฺมํ อธิกํ กตฺวา เนกฺขมฺมาธิกภาเวน ปวตฺตา ปฺา. กามจฺฉนฺทโต สฺาย วิวฏฺฏตีติ เนกฺขมฺมาธิปติกตปฺาสมฺปยุตฺตสฺาย เหตุภูตาย, กรณภูตาย วา กามจฺฉนฺทโต วิวฏฺฏติ ปราวตฺตติ, ปรมฺมุขี โหตีติ อตฺโถ. เอส นโย เสเสสุ.
๙๖. กามจฺฉนฺโท นานตฺตนฺติ กามจฺฉนฺโท สนฺตวุตฺติตาย อภาวโต น เอกสภาโว. เนกฺขมฺมํ เอกตฺตนฺติ เนกฺขมฺมํ สนฺตวุตฺติภาวโต เอกสภาโว. เนกฺขมฺเมกตฺตํ เจตยโตติ กามจฺฉนฺเท อาทีนวทสฺสเนน เนกฺขมฺมํ ปวตฺตยโต. กามจฺฉนฺทโต จิตฺตํ วิวฏฺฏตีติ ทิฏฺาทีนวโต กามจฺฉนฺทโต เนกฺขมฺมกฺขเณ จิตฺตํ วิวฏฺฏติ. เอส นโย เสเสสุ.
๙๗. กามจฺฉนฺทํ ปชหนฺโตติ เนกฺขมฺมปวตฺติกฺขเณ กามจฺฉนฺทํ วิกฺขมฺภนปฺปหาเนน ปชหนฺโต. เนกฺขมฺมวเสน จิตฺตํ อธิฏฺาตีติ ปฏิลทฺธสฺส เนกฺขมฺมสฺส ¶ วเสน ตํสมฺปยุตฺตจิตฺตํ อธิติฏฺติ อธิกํ กโรนฺโต ติฏฺติ, ปวตฺเตตีติ อตฺโถ. เอส นโย เสเสสุ.
๙๘. จกฺขุ สฺุํ อตฺเตน วาติ พาลชนปริกปฺปิตสฺส การกเวทกสงฺขาตสฺส อตฺตโน อภาวา จกฺขุ อตฺเตน จ สฺุํ. ยฺหิ ยตฺถ น โหติ, เตน ตํ สฺุํ นาม โหติ. อตฺตนิเยน วาติ อตฺตโน อภาเวเนว อตฺตโน สนฺตกสฺสปิ อภาวา อตฺตโน สนฺตเกน จ สฺุํ. โลกสฺส อตฺตาติ จ อตฺตนิยนฺติ จ อุภยถา คาหสมฺภวโต ตทุภยคาหปฏิเสธนตฺถํ อตฺตาภาโว จ อตฺตนิยาภาโว จ วุตฺโต. นิจฺเจน วาติ ภงฺคํ อติกฺกมิตฺวา ติฏฺนฺตสฺส กสฺสจิ อภาวโต นิจฺเจน จ สฺุํ. ธุเวน วาติ ปวตฺติกฺขเณปิ ถิรสฺส กสฺสจิ อภาวโต ธุเวน จ สฺุํ. สสฺสเตน วาติ สพฺพกาเลปิ วิชฺชมานสฺส กสฺสจิ อภาวโต สสฺสเตน ¶ ¶ จ สฺุํ. อวิปริณามธมฺเมน วาติ ชราภงฺควเสน ทฺวิธา อปริวตฺตมานปกติกสฺส กสฺสจิ อภาวโต อวิปริณามธมฺเมน จ สฺุํ. อถ วา นิจฺจภาเวน จ ธุวภาเวน จ สสฺสตภาเวน จ อวิปริณามธมฺมภาเวน จ สฺุนฺติ อตฺโถ. สมุจฺจยตฺโถ วา-สทฺโท. ยถาภูตํ ชานโต ปสฺสโตติ อิจฺเจวํ อนตฺตานุปสฺสนาาเณน ยถาสภาเวน ชานนฺตสฺส จกฺขุนา วิย จ ปสฺสนฺตสฺส. จกฺขาภินิเวสโต าณํ วิวฏฺฏตีติ จกฺขุ อตฺตาติ วา อตฺตนิยนฺติ วา ปวตฺตมานโต ทิฏฺาภินิเวสโต ตทงฺคปฺปหานวเสน าณํ วิวฏฺฏติ. เอส นโย เสเสสุ.
๙๙. เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺทํ โวสชฺชตีติ เนกฺขมฺมลาภี ปุคฺคโล เนกฺขมฺเมน ตปฺปฏิปกฺขํ กามจฺฉนฺทํ ปริจฺจชติ. โวสคฺเค ปฺาติ กามจฺฉนฺทสฺส โวสคฺคภูเต เนกฺขมฺเม ตํสมฺปยุตฺตา ปฺา. เอส นโย เสเสสุ. ปีฬนฏฺาทโย เหฏฺา วุตฺตตฺถา เอว. ปริชานนฺโต วิวฏฺฏตีติ ปุคฺคลาธิฏฺานา เทสนา, มคฺคสมงฺคีปุคฺคโล ทุกฺขสฺส จตุพฺพิธํ อตฺถํ กิจฺจวเสน ปริชานนฺโต ทุภโต วุฏฺานวเสน วิวฏฺฏติ, าณวิวฏฺฏเนปิ าณสมงฺคี วิวฏฺฏตีติ วุตฺโต.
๑๐๐. ตถฏฺเ ¶ ปฺาติ เอตสฺส ปุคฺคลสฺเสว ตถฏฺเ วิวฏฺฏนา ปฺา. เอส นโย เสเสสุ. อิทานิ มคฺคกฺขเณ เอว กิจฺจวเสน อาการนานตฺตโต ฉ วิวฏฺฏาณานิ ทสฺเสตุํ สฺาวิวฏฺโฏติอาทิมาติกํ เปตฺวา ตํ อตฺถโต วิภชนฺโต สฺชานนฺโต วิวฏฺฏตีติอาทิมาห. ตตฺถ สฺชานนฺโต วิวฏฺฏตีติ สฺาวิวฏฺโฏติ ยสฺมา ปุพฺพภาเค เนกฺขมฺมาทึ อธิปติโต สฺชานนฺโต โยคี ปจฺฉา เนกฺขมฺมสมฺปยุตฺตาเณน กามจฺฉนฺทาทิโต วิวฏฺฏติ, ตสฺมา ตํ าณํ สฺาวิวฏฺโฏ นามาติ อตฺโถ. เจตยนฺโต วิวฏฺฏตีติ เจโตวิวฏฺโฏติ ยสฺมา โยคี เนกฺขมฺเมกตฺตาทีนิ เจตยนฺโต สมฺปยุตฺตาเณน กามจฺฉนฺทาทิโต วิวฏฺฏติ, ตสฺมา ตํ าณํ เจโตวิวฏฺโฏ นามาติ อตฺโถ. วิชานนฺโต วิวฏฺฏตีติ จิตฺตวิวฏฺโฏติ ยสฺมา โยคี เนกฺขมฺมาทิวเสน จิตฺตาธิฏฺาเนน วิชานนฺโต ตํสมฺปยุตฺตาเณน กามจฺฉนฺทาทิโต วิวฏฺฏติ, ตสฺมา ตํ าณํ จิตฺตวิวฏฺโฏ นามาติ อตฺโถ. าณํ กโรนฺโต วิวฏฺฏตีติ าณวิวฏฺโฏติ ยสฺมา โยคี ฉพฺพิธํ อชฺฌตฺติกายตนํ อนตฺตานุปสฺสนาาเณน สฺุโต วิทิตํ ¶ กโรนฺโต เตเนว าเณน ทิฏฺาภินิเวสโต วิวฏฺฏติ, ตสฺมา ตํ าณํ าณวิวฏฺโฏ นามาติ อตฺโถ. โวสชฺชนฺโต วิวฏฺฏตีติ วิโมกฺขวิวฏฺโฏติ ยสฺมา โยคี เนกฺขมฺมาทีหิ กามจฺฉนฺทาทีนิ โวสชฺชนฺโต ตํสมฺปยุตฺตาเณน กามจฺฉนฺทาทิโต วิวฏฺฏติ, ตสฺมา ตํ าณํ วิโมกฺขวิวฏฺโฏ นามาติ อตฺโถ. ตถฏฺเ วิวฏฺฏตีติ สจฺจวิวฏฺโฏติ ยสฺมา โยคี จตุพฺพิเธ ตถฏฺเ ทุภโต วุฏฺานวเสน วิวฏฺฏติ, ตสฺมา มคฺคาณํ สจฺจวิวฏฺโฏ นามาติ อตฺโถ. มคฺคาณเมว วา ตถฏฺเ ทุภโต วุฏฺานภาเวน วิวฏฺฏตีติ สจฺจวิวฏฺโฏติ อตฺโถ.
ยตฺถ ¶ สฺาวิวฏฺโฏติอาทิ สจฺจวิวฏฺฏาณนิทฺเทเส วุตฺตตฺตา สจฺจวิวฏฺฏาณกฺขณเมว สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. มคฺคกฺขเณเยว หิ สพฺพานิ ยุชฺชนฺติ. กถํ? าณวิวฏฺเฏ าณฺหิ วชฺเชตฺวา เสเสสุ อริยมคฺโค สรูเปเนว อาคโต. วิปสฺสนากิจฺจสฺส ปน มคฺเคเนว สิชฺฌนโต วิปสฺสนากิจฺจสิทฺธิวเสน าณวิวฏฺฏาณมฺปิ มคฺคกฺขเณ ยุชฺชติ. มคฺคาเณเนว วา ‘‘จกฺขุ สฺุ’’นฺติอาทิ กิจฺจวเสน ปฏิวิทฺธเมว โหตีติ มคฺคกฺขเณ ตํ าณํ วตฺตุํ ยุชฺชติเยว. อตฺถโยชนา ปเนตฺถ ‘‘ยตฺถ มคฺคกฺขเณ สฺาวิวฏฺโฏ, ตตฺถ เจโตวิวฏฺโฏ. ยตฺถ มคฺคกฺขเณ เจโตวิวฏฺโฏ ¶ , ตตฺถ สฺาวิวฏฺโฏ’’ติ เอวมาทินา นเยน สพฺพสํสนฺทเนสุ โยชนา กาตพฺพา. อถ วา สฺาวิวฏฺฏเจโตวิวฏฺฏจิตฺตวิวฏฺฏวิโมกฺขวิวฏฺเฏสุ จตุนฺนํ อริยมคฺคานํ อาคตตฺตา สจฺจวิวฏฺโฏ อาคโตเยว โหติ. าณวิวฏฺโฏ จ สจฺจวิวฏฺเฏเนว กิจฺจวเสน สิทฺโธ โหติ. สฺาเจโตจิตฺตวิโมกฺขวิวฏฺเฏสฺเวว จ เปยฺยาเล วิตฺถาริยมาเน ‘‘อนตฺตานุปสฺสนาธิปตตฺตา ปฺา อภินิเวสโต สฺาย วิวฏฺฏตีติ อธิปตตฺตา ปฺา สฺาวิวฏฺเฏ าณ’’นฺติ จ, ‘‘อภินิเวโส นานตฺตํ, อนตฺตานุปสฺสนา เอกตฺตํ. อนตฺตานุปสฺสเนกตฺตํ เจตยโต อภินิเวสโต จิตฺตํ วิวฏฺฏตีติ นานตฺเต ปฺา เจโตวิวฏฺเฏ าณ’’นฺติ จ, ‘‘อภินิเวสํ ปชหนฺโต อนตฺตานุปสฺสนาวเสน จิตฺตํ อธิฏฺาตีติ อธิฏฺาเน ปฺา จิตฺตวิวฏฺเฏ าณ’’นฺติ จ, ‘‘อนตฺตานุปสฺสนาย อภินิเวสํ โวสชฺชตีติ โวสคฺเค ปฺา วิโมกฺขวิวฏฺเฏ าณ’’นฺติ จ ปาสมฺภวโต าณวิวฏฺเฏ าณมฺปิ เตสุ ¶ อาคตเมว โหติ. าณวิวฏฺเฏ จ อนตฺตานุปสฺสนาย วุฏฺาย อริยมคฺคํ ปฏิลทฺธสฺส กิจฺจวเสน ‘‘จกฺขุ สฺุํ อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วา’’ติอาทิยุชฺชนโต สจฺจวิวฏฺโฏ ลพฺภติ, ตสฺมา เอเกกสฺมึ วิวฏฺเฏ เสสา ปฺจ ปฺจ วิวฏฺฏา ลพฺภนฺติ. ตสฺมา เอวํ ‘‘ยตฺถ สฺาวิวฏฺโฏ, ตตฺถ เจโตวิวฏฺโฏ’’ติอาทิกานิ สํสนฺทนานิ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพํ.
วิวฏฺฏาณฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕๐. อิทฺธิวิธาณนิทฺเทสวณฺณนา
๑๐๑. อิทฺธิวิธาณนิทฺเทสํ ¶ อิธ ภิกฺขูติ อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขุ. ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตนฺติ เอตฺถ ฉนฺทเหตุโก สมาธิ, ฉนฺทาธิโก วา สมาธิ ฉนฺทสมาธิ, กตฺตุกมฺยตาฉนฺทํ อธิปตึ กริตฺวา ปฏิลทฺธสมาธิสฺเสตํ อธิวจนํ. ปธานภูตา สงฺขารา ปธานสงฺขารา, จตุกิจฺจสาธกสฺส สมฺมปฺปธานวีริยสฺเสตํ อธิวจนํ. จตุกิจฺจสาธนวเสน ¶ พหุวจนํ กตํ. สมนฺนาคตนฺติ ฉนฺทสมาธินา จ ปธานสงฺขาเรหิ จ อุเปตํ. อิทฺธิปาทนฺติ นิปฺผตฺติปริยาเยน วา อิชฺฌนฏฺเน, อิชฺฌนฺติ เอตาย สตฺตา อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติ อิมินา วา ปริยาเยน อิทฺธีติ ¶ สงฺขํ คตานํ อุปจารชฺฌานาทิกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตานํ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารานํ อธิฏฺานฏฺเน ปาทภูตํ เสสจิตฺตเจตสิกราสินฺติ อตฺโถ. วุตฺตฺหิ อิทฺธิปาทวิภงฺเค สุตฺตนฺตภาชนีเย ‘‘อิทฺธิปาโทติ ตถาภูตสฺส เวทนากฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ (วิภ. ๔๓๔). อภิธมฺมภาชนีเย จ ‘‘อิทฺธิปาโทติ ตถาภูตสฺส ผสฺโส เวทนา…เป… ปคฺคาโห อวิกฺเขโป’’ติ (วิภ. ๔๔๗) วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘เสสจิตฺตเจตสิกราสิ’’นฺติ เอตฺถ? ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขาเรสุ เอเกกํ อิทฺธึ กตฺวา ทฺวีหิ ทฺวีหิ สห เสสวจนํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวฺหิ จตฺตาโร ขนฺธา สพฺเพ จ ผสฺสาทโย ธมฺมา สงฺคหิตา โหนฺติ. อิมินา นเยน เสเสสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยเถว หิ ฉนฺทํ อธิปตึ กริตฺวา ปฏิลทฺธสมาธิ ฉนฺทสมาธีติ วุตฺโต, เอวํ วีริยํ จิตฺตํ วีมํสํ อธิปตึ กริตฺวา ปฏิลทฺธสมาธิ วีมํสาสมาธีติ วุจฺจติ. เอวเมเกกสฺมึ อิทฺธิปาเท ฉนฺทาทโย วีริยาทโย จิตฺตาทโย วีมํสาทโยติ ตโย ตโย ธมฺมา อิทฺธีปิ โหนฺติ อิทฺธิปาทาปิ, เสสา ปน สมฺปยุตฺตกา จตฺตาโร ขนฺธา อิทฺธิปาทาเยว ¶ . ยสฺมา วา อิเม ตโย ตโย ธมฺมา สมฺปยุตฺตเกหิ จตูหิ ขนฺเธหิ สทฺธึเยว อิชฺฌนฺติ, น วินา เตหิ, ตสฺมา เตน ปริยาเยน สพฺเพ จตฺตาโรปิ ขนฺธา อิชฺฌนฏฺเน อิทฺธิ นาม โหนฺติ, ปติฏฺฏฺเน ปาทา นามาติปิ เวทิตพฺพํ.
วีริยสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตนฺติ เอตฺถ ปน วีริยนฺติ จ ปธานสงฺขาโรติ จ เอโกเยว. กสฺมา ทฺวิธา วุตฺตนฺติ เจ? วีริยสฺส อธิปติภาวทสฺสนวเสเนตฺถ ปมํ วีริยคฺคหณํ กตํ, ตสฺเสว จตุกิจฺจสาธกตฺตทสฺสนตฺถํ ปธานสงฺขารวจนํ กตํ. เอวํ ทฺวิธา วุตฺตตฺตา เอว เจตฺถาปิ ตโย ตโย ธมฺมาติ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘วิภงฺเค ‘อิทฺธีติ ยา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ อิทฺธิ สมิทฺธิ อิชฺฌนา สมิชฺฌนา’ติ (วิภ. ๔๓๔) วุตฺตตฺตา อิทฺธิ นาม อนิปฺผนฺนา, อิทฺธิปาโท นิปฺผนฺโน’’ติ วทนฺติ. อิธ ปน อิทฺธิปิ อิทฺธิปาโทปิ นิปฺผนฺโน ลกฺขณพฺภาหโตติ สนฺนิฏฺานํ กตํ. อิทฺธิ สมิทฺธีติอาทีหิ อิชฺฌนากาเรน ธมฺมา เอว วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ.
ภาเวตีติ อาเสวติ. สุตฺตนฺตภาชนีเย (วิภ. ๔๓๑ อาทโย) วิย อิธาปิ อิทฺธิปาทภาวนา โลกิยา เอว. ตสฺมา อิทฺธิวิธํ ตาว สมฺปาเทตุกาโม โลกิยํ ¶ อิทฺธิปาทํ ภาเวนฺโต ปถวีกสิณาทีสุ อฏฺสุ กสิเณสุ อธิกตวสิปฺปตฺตอฏฺสมาปตฺติโก กสิณานุโลมโต ¶ กสิณปฏิโลมโต กสิณานุโลมปฏิโลมโต ฌานานุโลมโต ฌานปฏิโลมโต ฌานานุโลมปฏิโลมโต ฌานุกฺกนฺติกโต กสิณุกฺกนฺติกโต ฌานกสิณุกฺกนฺติกโต องฺคสงฺกนฺติกโต อารมฺมณสงฺกนฺติกโต องฺคารมฺมณสงฺกนฺติกโต องฺคววตฺถานโต อารมฺมณววตฺถานโตติ อิเมหิ จุทฺทสหิ อากาเรหิ จิตฺตํ ปริทเมตฺวา ฉนฺทสีสวีริยสีสจิตฺตสีสวีมํสาสีสวเสน ปุนปฺปุนํ ฌานํ สมาปชฺชติ. องฺคารมฺมณววตฺถานมฺปิ เกจิ อิจฺฉนฺติ. ปุพฺพเหตุสมฺปนฺเนน ปน กสิเณสุ จตุกฺกชฺฌานมตฺเต จิณฺณวสินาปิ กาตุํ วฏฺฏตีติ ตํ ตํ อิทฺธิปาทํ สมาธึ ภาเวนฺโต ‘‘อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทายา’’ติอาทิกํ (วิภ. ๔๓๒) จตุปฺปการํ วีริยํ อธิฏฺาติ, ตสฺส จ หานิวุทฺธิโย ตฺวา วีริยสมตํ อธิฏฺาติ. โส เอวํ จตูสุ อิทฺธิปาเทสุ จิตฺตํ ปริภาเวตฺวา อิทฺธิวิธํ สมฺปาเทติ.
โส ¶ อิเมสุ จตูสุ อิทฺธิปาเทสูติอาทีสุ โสติ โส ภาวิตจตุริทฺธิปาโท ภิกฺขุ. จตูสุ อิทฺธิปาเทสุ จิตฺตํ ปริภาเวตีติ ปุนปฺปุนํ ฉนฺทาทีสุ เอเกกํ อธิปตึ กตฺวา ฌานสมาปชฺชนวเสน เตสุ จิตฺตํ ปริภาเวติ นาม, ฉนฺทาทิวาสนํ คาหาเปตีติ อตฺโถ. ปริทเมตีติ นิพฺพิเสวนํ กโรติ. ปุริมํ ปจฺฉิมสฺส การณวจนํ. ปริภาวิตฺหิ จิตฺตํ ปริทมิตํ โหตีติ. มุทุํ กโรตีติ ตถา ทนฺตํ จิตฺตํ วสิปฺปตฺตํ กโรติ. วเส วตฺตมานฺหิ จิตฺตํ ‘‘มุทู’’ติ วุจฺจติ. กมฺมนิยนฺติ กมฺมกฺขมํ กมฺมโยคฺคํ กโรติ. มุทุ หิ จิตฺตํ กมฺมนิยํ โหติ สุธนฺตมิว สุวณฺณํ, อิธ ปน อิทฺธิวิธกมฺมกฺขมํ. โสติ โส ปริภาวิตจิตฺโต ภิกฺขุ. กายมฺปิ จิตฺเต สโมทหตีติอาทิ อิทฺธิกรณกาเล ยถาสุขํ จิตฺตจารสฺส อิชฺฌนตฺถํ โยควิธานํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ กายมฺปิ จิตฺเต สโมทหตีติ อตฺตโน กรชกายมฺปิ ปาทกชฺฌานจิตฺเต สโมทหติ ปเวเสติ อาโรเปติ, กายํ จิตฺตานุคติกํ กโรตีติ อตฺโถ. เอวํ กรณํ อทิสฺสมาเนน กาเยน คมนสฺส อุปการาย โหติ. จิตฺตมฺปิ กาเย สโมทหตีติ ปาทกชฺฌานจิตฺตํ อตฺตโน กรชกาเย สโมทหติ อาโรเปติ ¶ , จิตฺตมฺปิ กายานุคติกํ กโรตีติ อตฺโถ. เอวํ กรณํ ทิสฺสมาเนน กาเยน คมนสฺส อุปการาย โหติ. สมาทหตีติปิ ปาโ, ปติฏฺาเปตีติ อตฺโถ. กายวเสน จิตฺตํ ปริณาเมตีติ ปาทกชฺฌานจิตฺตํ คเหตฺวา กรชกาเย อาโรเปติ กายานุคติกํ กโรติ, อิทํ จิตฺตํ กาเย สโมทหนสฺส เววจนํ. จิตฺตวเสน กายํ ปริณาเมตีติ กรชกายํ คเหตฺวา ปาทกชฺฌานจิตฺเต อาโรเปติ, จิตฺตานุคติกํ กโรติ, อิทํ กายํ จิตฺเต สโมทหนสฺส เววจนํ. อธิฏฺาตีติ ‘‘เอวํ โหตู’’ติ อธิฏฺาติ. สโมทหนสฺส อตฺถวิวรณตฺถํ ปริณาโม วุตฺโต, ปริณามสฺส อตฺถวิวรณตฺถํ อธิฏฺานํ วุตฺตํ. ยสฺมา สโมทหตีติ มูลปทํ, ปริณาเมติ อธิฏฺาตีติ ตสฺส อตฺถนิทฺเทสปทานิ ¶ , ตสฺมา เตสํ ทฺวินฺนํเยว ปทานํ วเสน ปริณาเมตฺวาติ อธิฏฺหิตฺวาติ วุตฺตํ, น วุตฺตํ สโมทหิตฺวาติ.
สุขสฺฺจ ลหุสฺฺจ กาเย โอกฺกมิตฺวา วิหรตีติ จตุตฺถชฺฌาเนน สหชาตสุขสฺฺจ ลหุสฺฺจ สมาปชฺชนวเสน ¶ กรชกาเย โอกฺกมิตฺวา ปเวเสตฺวา วิหรติ. ตาย สฺาย โอกฺกนฺตกายสฺส ปนสฺส กรชกาโยปิ ตูลปิจุ วิย ลหุโก โหติ. โสติ โส กตโยควิธาโน ภิกฺขุ. ตถาภาวิเตน จิตฺเตนาติ อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ กรณวจนํ, เหตุอตฺเถ วา, ตถาภาวิเตน จิตฺเตน เหตุภูเตนาติ อตฺโถ. ปริสุทฺเธนาติ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิภาวโต ปริสุทฺเธน. ปริสุทฺธตฺตาเยว ปริโยทาเตน, ปภสฺสเรนาติ อตฺโถ. อิทฺธิวิธาณายาติ อิทฺธิโกฏฺาเส, อิทฺธิวิกปฺเป วา าณตฺถาย. จิตฺตํ อภินีหรตีติ โส ภิกฺขุ วุตฺตปฺปการวเสน ตสฺมึ จิตฺเต อภิฺาปาทเก ชาเต อิทฺธิวิธาณาธิคมตฺถาย ปริกมฺมจิตฺตํ อภินีหรติ, กสิณารมฺมณโต อปเนตฺวา อิทฺธิวิธาภิมุขํ เปเสติ. อภินินฺนาเมตีติ อธิคนฺตพฺพอิทฺธิโปณํ อิทฺธิปพฺภารํ กโรติ. โสติ โส เอวํ กตจิตฺตาภินีหาโร ภิกฺขุ. อเนกวิหิตนฺติ อเนกวิธํ นานปฺปการกํ. อิทฺธิวิธนฺติ อิทฺธิโกฏฺาสํ, อิทฺธิวิกปฺปํ วา. ปจฺจนุโภตีติ ปจฺจนุภวติ, ผสฺเสติ สจฺฉิกโรติ ปาปุณาตีติ อตฺโถ.
๑๐๒. อิทานิสฺส อเนกวิหิตภาวํ ทสฺเสนฺโต เอโกปิ หุตฺวาติอาทิมาห. ตตฺถ เอโกปิ หุตฺวาติ อิทฺธิกรณโต ปุพฺเพ ปกติยา เอโกปิ หุตฺวา. พหุธา โหตีติ พหุนฺนํ สนฺติเก จงฺกมิตุกาโม วา, สชฺฌายํ ¶ วา กตฺตุกาโม, ปฺหํ วา ปุจฺฉิตุกาโม หุตฺวา สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ โหติ. กถํ ปนายเมวํ โหติ? อิทฺธิยา ภูมิปาทปทมูลภูเต ธมฺเม สมฺปาเทตฺวา อภิฺาปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย สเจ สตํ อิจฺฉติ, ‘‘สตํ โหมิ สตํ โหมี’’ติ ปริกมฺมํ กตฺวา ปุน ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อธิฏฺาติ. อธิฏฺานจิตฺเตน สเหว สตํ โหติ. สหสฺสาทีสุปิ เอเสว นโย. สเจ เอวํ น อิชฺฌติ, ปุน ปริกมฺมํ กตฺวา ทุติยมฺปิ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อธิฏฺาตพฺพํ. สํยุตฺตฏฺกถายฺหิ ‘‘เอกวารํ ทฺเววารํ สมาปชฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ปาทกชฺฌานจิตฺตํ นิมิตฺตารมฺมณํ, ปริกมฺมจิตฺตานิ สตารมฺมณานิ วา สหสฺสารมฺมณานิ วา. ตานิ จ โข วณฺณวเสเนว, โน ปณฺณตฺติวเสน. อธิฏฺานจิตฺตมฺปิ ตเถว สตารมฺมณํ วา สหสฺสารมฺมณํ วา, ตํ ปมปฺปนาจิตฺตมิว โคตฺรภุอนนฺตรํ เอกเมว อุปฺปชฺชติ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานิกํ ¶ . ตตฺถ เย เต พหู นิมฺมิตา, เต อนิยเมตฺวา นิมฺมิตตฺตา อิทฺธิมตา สทิสาว โหนฺติ. านนิสชฺชาทีสุ วา ภาสิตตุณฺหีภาวาทีสุ วา ยํ ยํ อิทฺธิมา กโรติ, ตํตเทว กโรนฺติ. สเจ ปน นานาวณฺเณ กาตุกาโม ¶ โหติ, เกจิ ปมวเย เกจิ มชฺฌิมวเย เกจิ ปจฺฉิมวเย, ตถา ทีฆเกเส อุปฑฺฒมุณฺฑมุณฺเฑ มิสฺสกเกเส อุปฑฺฒรตฺตจีวเร ปณฺฑุกจีวเร ปทภาณธมฺมกถาสรภฺปฺหปุจฺฉนปฺหวิสฺสชฺชนรชนปจนจีวรสิพฺพนโธวนาทีนิ กโรนฺเต, อปเรปิ วา นานปฺปการเก กาตุกาโม โหติ, เตน ปาทกชฺฌานโต วุฏฺาย ‘‘เอตฺตกา ภิกฺขู ปมวยา โหนฺตู’’ติอาทินา นเยน ปริกมฺมํ กตฺวา ปุน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อธิฏฺาตพฺพํ. อธิฏฺานจิตฺเตน สทฺธึ อิจฺฉิตปฺปการาเยว โหนฺตีติ. เอส นโย ‘‘พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหตี’’ติอาทีสุ. อยํ ปน วิเสโส – อิมินา หิ ภิกฺขุนา เอวํ พหุภาวํ นิมฺมินิตฺวา ปุน ‘‘เอโกว หุตฺวา จงฺกมิสฺสามิ, สชฺฌายํ กริสฺสามิ, ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา วา ‘‘อยํ วิหาโร อปฺปภิกฺขุโก, สเจ เกจิ อาคมิสฺสนฺติ, กุโต อิเม เอตฺตกา เอกสทิสา ภิกฺขู อทฺธา เถรสฺส เอสานุภาโวติ มํ ชานิสฺสนฺตี’’ติ อปฺปิจฺฉตาย วา อนฺตราว ‘‘เอโก โหมี’’ติ อิจฺฉนฺเตน ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘เอโก โหมี’’ติ ปริกมฺมํ กตฺวา ปุน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘เอโก โหมี’’ติ อธิฏฺาตพฺพํ ¶ . อธิฏฺานจิตฺเตน สทฺธึเยว เอโก โหติ. เอวํ อกโรนฺโต ปน ยถาปริจฺฉินฺนกาลวเสน สยเมว เอโก โหติ.
อาวิภาวนฺติ ปากฏภาวํ กโรตีติ อตฺโถ. ติโรภาวนฺติ ปฏิจฺฉนฺนภาวํ กโรตีติ อตฺโถ. อาวิภาวํ ปจฺจนุโภติ, ติโรภาวํ ปจฺจนุโภตีติ ปุริเมน วา สมฺพนฺโธ. ตตฺรายํ อิทฺธิมา อาวิภาวํ กตฺตุกาโม อนฺธการํ วา อาโลกํ กโรติ, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวฏํ กโรติ, อนาปาถํ วา อาปาถํ กโรติ. กถํ? อยฺหิ ยถา ปฏิจฺฉนฺโนปิ ทูเร ิโตปิ วา ทิสฺสติ, เอวํ อตฺตานํ วา ปรํ วา กตฺตุกาโม ปาทกชฺฌานโต วุฏฺาย ‘‘อิทํ อนฺธการํ อาโลกชาตํ โหตู’’ติ วา, ‘‘อิทํ ปฏิจฺฉนฺนํ วิวฏํ โหตู’’ติ วา, ‘‘อิทํ อนาปาถํ อาปาถํ โหตู’’ติ วา อาวชฺชิตฺวา ปริกมฺมํ กตฺวา วุตฺตนเยเนว อธิฏฺาติ. สห อธิฏฺานา ¶ ยถาธิฏฺิตเมว โหติ. ปเร ทูเร ิตาปิ ปสฺสนฺติ, สยมฺปิ ปสฺสิตุกาโม ปสฺสติ. ติโรภาวํ กตฺตุกาโม ปน อาโลกํ วา อนฺธการํ กโรติ, อปฺปฏิจฺฉนฺนํ วา ปฏิจฺฉนฺนํ, อาปาถํ วา อนาปาถํ กโรติ. กถํ? อยฺหิ ยถา อปฺปฏิจฺฉนฺโนปิ สมีเป ิโตปิ วา น ทิสฺสติ, เอวํ อตฺตานํ วา ปรํ วา กตฺตุกาโม ปาทกชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา ‘‘อิทํ อาโลกฏฺานํ อนฺธการํ โหตู’’ติ วา, ‘‘อิทํ อปฺปฏิจฺฉนฺนํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหตู’’ติ วา, ‘‘อิทํ อาปาถํ อนาปาถํ โหตู’’ติ วา อาวชฺชิตฺวา ปริกมฺมํ กตฺวา วุตฺตนเยเนว อธิฏฺาติ. สห อธิฏฺานา ยถาธิฏฺิตเมว โหติ. ปเร สมีเป ิตาปิ น ปสฺสนฺติ, สยมฺปิ อปสฺสิตุกาโม น ปสฺสติ. อปิจ สพฺพมฺปิ ปากฏปาฏิหาริยํ อาวิภาโว นาม, อปากฏปาฏิหาริยํ ติโรภาโว นาม. ตตฺถ ปากฏปาฏิหาริเย อิทฺธิปิ ปฺายติ อิทฺธิมาปิ. ตํ ยมกปาฏิหาริเยน ทีเปตพฺพํ. อปากฏปาฏิหาริเย ¶ อิทฺธิเยว ปฺายติ, น อิทฺธิมา. ตํ มหกสุตฺเตน (สํ. นิ. ๔.๓๔๖) จ พฺรหฺมนิมนฺตนิกสุตฺเตน (ม. นิ. ๑.๕๐๑ อาทโย) จ ทีเปตพฺพํ.
ติโรกุฏฺฏนฺติ ปรกุฏฺฏํ, กุฏฺฏสฺส ปรภาคนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอส นโย ติโรปาการติโรปพฺพเตสุ. กุฏฺโฏติ จ เคหภิตฺติ. ปากาโรติ เคหวิหารคามาทีนํ ปริกฺเขปปากาโร. ปพฺพโตติ ปํสุปพฺพโต วา ปาสาณปพฺพโต วา. อสชฺชมาโนติ อลคฺคมาโน. เสยฺยถาปิ อากาเสติ ¶ อากาเส วิย. เอวํ คนฺตุกาเมน ปน อากาสกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย กุฏฺฏํ วา ปาการํ วา ปพฺพตํ วา อาวชฺชิตฺวา กตปริกมฺเมน ‘‘อากาโส โหตู’’ติ อธิฏฺาตพฺโพ, อากาโสว โหติ. อโธ โอตริตุกามสฺส, อุทฺธํ วา อาโรหิตุกามสฺส สุสิโร โหติ, วินิวิชฺฌิตฺวา คนฺตุกามสฺส ฉิทฺโท. โส ตตฺถ อสชฺชมาโน คจฺฉติ. สเจ ปนสฺส ภิกฺขุโน อธิฏฺหิตฺวา คจฺฉนฺตสฺส อนฺตรา ปพฺพโต วา รุกฺโข วา อุฏฺเติ, กึ ปุน สมาปชฺชิตฺวา อธิฏฺาตพฺพนฺติ? โทโส นตฺถิ. ปุน สมาปชฺชิตฺวา อธิฏฺานฺหิ อุปชฺฌายสฺส สนฺติเก นิสฺสยคฺคหณสทิสํ โหติ. อิมินา ปน ภิกฺขุนา ‘‘อากาโส โหตู’’ติ อธิฏฺิตตฺตา อากาโส โหติเยว. ปุริมาธิฏฺานพเลเนว จสฺส อนฺตรา อฺโ ปพฺพโต วา รุกฺโข วา อุตุมโย อุฏฺหิสฺสตีติ อฏฺานเมตํ. อฺเน อิทฺธิมตา ¶ นิมฺมิเต ปน ปมํ นิมฺมานํ พลวํ โหติ. อิตเรน ตสฺส อุทฺธํ วา อโธ วา คนฺตพฺพํ.
ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชนฺติ เอตฺถ อุมฺมุชฺชนฺติ อุฏฺานํ, นิมุชฺชนฺติ สํสีทนํ, อุมฺมุชฺชฺจ นิมุชฺชฺจ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ. เอวํ กตฺตุกาเมน ปน อาโปกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา อุฏฺาย ‘‘เอตฺตเก าเน ปถวี อุทกํ โหตู’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปริกมฺมํ กตฺวา วุตฺตนเยเนว อธิฏฺาตพฺพํ. สห อธิฏฺานา ยถาปริจฺฉินฺเน าเน ปถวี อุทกเมว โหติ. โส ตตฺถ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรติ เสยฺยถาปิ อุทเก. น เกวลฺจ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชเมว, นฺหานปานมุขโธวนภณฺฑกโธวนาทีสุ ยํ ยํ อิจฺฉติ, ตํ ตํ กโรติ. น เกวลฺจ อุทกเมว กโรติ, สปฺปิเตลมธุผาณิตาทีสุปิ ยํ ยํ อิจฺฉติ, ตํ ตํ ‘‘อิทฺจิทฺจ เอตฺตกํ โหตู’’ติ อาวชฺชิตฺวา ปริกมฺมํ กตฺวา อธิฏฺหนฺตสฺส ยถาธิฏฺิตเมว โหติ. อุทฺธริตฺวา ภาชนคตํ กโรนฺตสฺส สปฺปิ สปฺปิเยว โหติ, เตลาทีนิ เตลาทีนิเยว, อุทกํ อุทกเมว. โส ตตฺถ เตมิตุกาโมว เตเมติ, น เตมิตุกาโม น เตเมติ. ตสฺเสว จ สา ปถวี อุทกํ โหติ, เสสชนสฺส ปถวีเยว. ตตฺถ มนุสฺสา ปตฺติกาปิ คจฺฉนฺติ, ยานาทีหิปิ คจฺฉนฺติ, กสิกมฺมาทีนิปิ กโรนฺติเยว. สเจ ปนายํ ‘‘เตสมฺปิ อุทกํ โหตู’’ติ อิจฺฉติ, โหติเยว. ปริจฺฉินฺนกาลํ ¶ ปน อติกฺกมิตฺวา ยํ ปกติยา ฆฏตฬากาทีสุ อุทกํ, ตํ เปตฺวา อวเสสํ ปริจฺฉินฺนฏฺานํ ปถวีเยว โหติ.
อุทเกปิ อภิชฺชมาเน คจฺฉตีติ เอตฺถ ยํ อุทกํ อกฺกมิตฺวา สํสีทติ, ตํ ภิชฺชมานนฺติ วุจฺจติ, วิปรีตํ อภิชฺชมานํ. เอวํ คนฺตุกาเมน ปน ปถวีกสิณํ ¶ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘เอตฺตเก าเน อุทกํ ปถวี โหตู’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปริกมฺมํ กตฺวา วุตฺตนเยเนว อธิฏฺาตพฺพํ. สห อธิฏฺานา ยถาปริจฺฉินฺนฏฺาเน อุทกํ ปถวีเยว โหติ. โส ตตฺถ คจฺฉติ เสยฺยถาปิ ปถวิยํ. น เกวลฺจ คจฺฉติ, ยํ ยํ อิริยาปถํ อิจฺฉติ, ตํ ตํ กปฺเปติ. น เกวลฺจ ปถวิเมว กโรติ, มณิสุวณฺณปพฺพตรุกฺขาทีสุปิ ยํ ยํ อิจฺฉติ, ตํ ตํ วุตฺตนเยเนว อาวชฺชิตฺวา อธิฏฺาติ, ยถาธิฏฺิตเมว โหติ. ตสฺเสว จ ตํ อุทกํ ปถวี โหติ, เสสชนสฺส อุทกเมว ¶ . มจฺฉกจฺฉปา จ อุทกกากาทโย จ ยถารุจิ วิจรนฺติ. สเจ ปนายํ อฺเสมฺปิ มนุสฺสานํ ตํ ปถวึ กาตุํ อิจฺฉติ, กโรติเยว. ยถาปริจฺฉินฺนกาลาติกฺกเมน ปน อุทกเมว โหติ.
อากาเสปิ ปลฺลงฺเกน กมตีติ อนฺตลิกฺเข สมนฺตโต อูรุพทฺธาสเนน คจฺฉติ. ปกฺขี สกุโณติ ปกฺเขหิ ยุตฺโต สกุโณ, น อปริปุณฺณปกฺโข ลูนปกฺโข วา. ตาทิโส หิ อากาเส คนฺตุํ น สกฺโกติ. เอวมากาเส คนฺตุกาเมน ปน ปถวีกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย สเจ นิสินฺโน คนฺตุมิจฺฉติ, ปลฺลงฺกปฺปมาณํ านํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปริกมฺมํ กตฺวา วุตฺตนเยเนว อธิฏฺาตพฺพํ. สเจ นิปนฺโน คนฺตุกาโม โหติ, มฺจปฺปมาณํ, สเจ ปทสา คนฺตุกาโม โหติ, มคฺคปฺปมาณนฺติ เอวํ ยถานุรูปํ านํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วุตฺตนเยเนว ‘‘ปถวี โหตู’’ติ อธิฏฺาตพฺพํ. สห อธิฏฺานา ปถวีเยว โหติ. อากาเส คนฺตุกาเมน จ ภิกฺขุนา ทิพฺพจกฺขุลาภินาปิ ภวิตพฺพํ. กสฺมา? ยสฺมา อนฺตรา อุตุสมุฏฺานา วา ปพฺพตรุกฺขาทโย โหนฺติ, นาคสุปณฺณาทโย วา อุสูยนฺตา มาเปนฺติ, เตสํ ทสฺสนตฺถํ. เต ปน ทิสฺวา กึ กาตพฺพนฺติ? ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘อากาโส โหตู’’ติ ปริกมฺมํ กตฺวา อธิฏฺาตพฺพํ. อปิจ โอกาเส โอโรหณตฺถมฺปิ อิมินา ทิพฺพจกฺขุลาภินา ภวิตพฺพํ. อยฺหิ สเจ อโนกาเส นฺหานติตฺเถ วา คามทฺวาเร วา โอโรหติ, มหาชนสฺส ปากโฏ โหติ, ตสฺมา ทิพฺพจกฺขุนา ปสฺสิตฺวา อโนกาสํ วชฺเชตฺวา โอกาเส โอตรตีติ.
อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเวติ เอตฺถ จนฺทิมสูริยานํ ทฺวาจตฺตาลีสโยชนสหสฺโสปริจรเณน มหิทฺธิกตา, ตีสุ ทีเปสุ เอกกฺขเณ อาโลกกรเณน มหานุภาวตา ¶ เวทิตพฺพา, เอวํ อุปริจรณอาโลกผรเณหิ วา มหิทฺธิเก, เตเนว มหิทฺธิกตฺเตน มหานุภาเว ¶ . ปรามสตีติ ปริคฺคณฺหาติ, เอกเทเส วา ผุสติ. ปริมชฺชตีติ สมนฺตโต อาทาสตลํ วิย ปริมชฺชติ. อยํ ปนสฺส อิทฺธิ อภิฺาปาทกชฺฌานวเสเนว อิชฺฌติ, นตฺเถตฺถ กสิณสมาปตฺตินิยโม. สฺวายํ ยทิ อิจฺฉติ คนฺตฺวา ปรามสิตุํ, คนฺตฺวา ปรามสติ. สเจ ปน อิเธว นิสินฺนโก วา นิปนฺนโก วา ปรามสิตุกาโม โหติ, ‘‘หตฺถปาเส โหตู’’ติ อธิฏฺาติ. อธิฏฺานพเลน วณฺฏา มุตฺตตาลผลํ วิย อาคนฺตฺวา ¶ หตฺถปาเส ิเต วา ปรามสติ, หตฺถํ วา วฑฺเฒตฺวา ปรามสติ. หตฺถํ วฑฺเฒนฺตสฺส ปน กึ อุปาทินฺนกํ วฑฺฒติ อนุปาทินฺนกํ วาติ? อุปาทินฺนกํ นิสฺสาย อนุปาทินฺนกํ วฑฺฒติ. โย เอวํ กตฺวา น เกวลํ จนฺทิมสูริเย ปรามสติ, สเจ อิจฺฉติ, ปาทกถลิกํ กตฺวา ปาเท เปติ, ปีํ กตฺวา นิสีทติ, มฺจํ กตฺวา นิปชฺชติ, อปสฺเสนผลกํ กตฺวา อปสฺสยติ. ยถา เอโก, เอวํ อปโรปิ. อเนเกสุปิ หิ ภิกฺขุสตสหสฺเสสุ เอวํ กโรนฺเตสุ เตสฺจ เอกเมกสฺส ตเถว อิชฺฌติ. จนฺทิมสูริยานฺจ คมนมฺปิ อาโลกกรณมฺปิ ตเถว โหติ. ยถา หิ ปาติสหสฺเสสุ อุทกปูเรสุ สพฺพปาตีสุ จนฺทมณฺฑลานิ ทิสฺสนฺติ, ปากติกเมว จนฺทสฺส คมนํ อาโลกกรณฺจ โหติ, ตถูปมเมตํ ปาฏิหาริยํ. ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตตีติ พฺรหฺมโลกํ ปริจฺเฉทํ กตฺวา เอตฺถนฺตเร อเนกวิธํ อภิฺํ กโรนฺโต อตฺตโน กาเยน วสํ อิสฺสริยํ วตฺเตติ. วิตฺถาโร ปเนตฺถ อิทฺธิกถายํ อาวิภวิสฺสตีติ.
อิทฺธิวิธาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕๑. โสตธาตุวิสุทฺธิาณนิทฺเทสวณฺณนา
๑๐๓. โสตธาตุวิสุทฺธิาณนิทฺเทเส ¶ ทูเรปิ สทฺทานนฺติอาทิ ทิพฺพโสตํ อุปฺปาเทตุกามสฺส อาทิกมฺมิกสฺส ภิกฺขุโน อุปายสนฺทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ ทูเรปิ สทฺทานํ สทฺทนิมิตฺตนฺติ ทูเร สทฺทานํ อนฺตเร สทฺทํ. สทฺโทเยว หิ นิมิตฺตกรณวเสน สทฺทนิมิตฺตํ. ‘‘ทูเร’’ติ วุตฺเตปิ ปกติโสตสฺส อาปาถฏฺาเนเยว. โอฬาริกานนฺติ ถูลานํ. สุขุมานนฺติ อณูนํ. สณฺหสณฺหานนฺติ สณฺหโตปิ สณฺหานํ, อติสณฺหานนฺติ อตฺโถ. เอเตน ปรมสุขุมา สทฺทา วุตฺตา โหนฺติ. อิมํ าณํ อุปฺปาเทตุกาเมน อาทิกมฺมิเกน ฌายินา อภิฺาปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ปริกมฺมสมาธิจิตฺเตน ¶ ปมตรํ ปกติโสตปเถ ทูเร โอฬาริโก อรฺเ สีหาทีนํ สทฺโท อาวชฺชิตพฺโพ. วิหาเร ฆณฺฑิสทฺโท เภริสทฺโท สงฺขสทฺโท สามเณรทหรภิกฺขูนํ สพฺพถาเมน สชฺฌายนฺตานํ ¶ สชฺฌายนสทฺโท ปกติกถํ กเถนฺตานํ ‘‘กึ, ภนฺเต, กึ, อาวุโส’’ติอาทิสทฺโท สกุณสทฺโท วาตสทฺโท ปทสทฺโท ปกฺกุถิตอุทกสฺส จิจฺจิฏายนสทฺโท อาตเป สุสฺสมานตาลปณฺณสทฺโท กุนฺถกิปิลฺลิกาทิสทฺโทติ เอวํ สพฺโพฬาริกโต ปภุติ ยถากฺกเมน สุขุมสุขุมสทฺทา อาวชฺชิตพฺพา.
เอวํ กโรนฺเตน จ ปุรตฺถิมาทีสุ ทสสุ ทิสาสุ กเมน เอเกกิสฺสา ทิสาย สทฺทนิมิตฺตํ วุตฺตนเยน มนสิ กาตพฺพํ. มนสิ กโรนฺเตน จ เย สทฺทา ปกติโสตสฺส สุยฺยนฺติ, เตสุ ปกติโสตโมธาย มโนทฺวาริเกน จิตฺเตน มนสิ กาตพฺพํ. ตสฺส เต สทฺทา ปกติจิตฺตสฺสาปิ ปากฏา โหนฺติ, ปริกมฺมสมาธิจิตฺตสฺส ปน อติวิย ปากฏา โหนฺติ. ตสฺเสวํ สทฺทนิมิตฺตํ มนสิกโรโต อิทานิ ทิพฺพโสตธาตุ อุปฺปชฺชิสฺสตีติ เตสุ สทฺเทสุ อฺตรํ อารมฺมณํ กตฺวา มโนทฺวาราวชฺชนํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ นิรุทฺเธ จตฺตาริ ปฺจ วา ชวนานิ ชวนฺติ. เยสํ ปุริมานิ ตีณิ จตฺตาริ วา ปริกมฺโมปจารานุโลมโคตฺรภุนามกานิ กามาวจรานิ, จตุตฺถํ ปฺจมํ ¶ วา อปฺปนาจิตฺตํ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานิกํ. ตตฺถ ยํ เตน อปฺปนาจิตฺเตน สทฺธึ อุปฺปนฺนํ าณํ, อยํ ทิพฺพโสตธาตุ. ตํ ถามคตํ กโรนฺเตน ‘‘เอตฺถนฺตเร สทฺทํ สุณามี’’ติ เอกงฺคุลมตฺตํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วฑฺเฒตพฺพํ, ตโต ทฺวงฺคุลจตุรงฺคุลอฏฺงฺคุลวิทตฺถิรตนอนฺโตคพฺภปมุข- ปาสาทปริเวณสงฺฆารามโคจรคามชนปทาทิวเสน ยาว จกฺกวาฬํ, ตโต วา ภิยฺโยปิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปริจฺฉินฺทิตฺวา วฑฺเฒตพฺพํ. เอวํ อธิคตาภิฺโ เอส ปาทกชฺฌานารมฺมเณน ผุฏฺโกาสพฺภนฺตรคเต สทฺเท ปุน ปาทกชฺฌานํ อสมาปชฺชิตฺวาปิ อภิฺาาเณน สุณาติเยว. เอวํ สุณนฺโต จ สเจปิ ยาวพฺรหฺมโลกา สงฺขเภริปณวาทิสทฺเทหิ เอกโกลาหลํ โหติ, ปาฏิเยกฺกํ ววตฺถาเปตุกามตาย สติ ‘‘อยํ สงฺขสทฺโท, อยํ เภริสทฺโท’’ติ ววตฺถาเปตุํ สกฺโกติเยว. อภิฺาาเณน สุเต สาตฺถเก สทฺเท ปจฺฉา กามาวจรจิตฺเตน อตฺถํ ชานาติ. ทิพฺพโสตํ ¶ ปกติโสตวโตเยว อุปฺปชฺชติ, โน พธิรสฺส. ปจฺฉา ปกติโสเต วินฏฺเปิ ทิพฺพโสตํ น วินสฺสตีติ วทนฺติ.
โส ทิพฺพาย โสตธาตุยาติ เอตฺถ ทิพฺพสทิสตฺตา ทิพฺพา. เทวานฺหิ สุจริตกมฺมาภินิพฺพตฺตา ปิตฺตเสมฺหรุธิราทีหิ อปลิพุทฺธา อุปกฺกิเลสวิมุตฺตตาย ทูเรปิ อารมฺมณสมฺปฏิจฺฉนสมตฺถา ทิพฺพา ปสาทโสตธาตุ โหติ. อยฺจาปิ อิมสฺส ภิกฺขุโน วีริยภาวนาพลนิพฺพตฺตา าณโสตธาตุ ตาทิสาเยวาติ ทิพฺพสทิสตฺตา ทิพฺพา. อปิจ ทิพฺพวิหารวเสน ปฏิลทฺธตฺตา, อตฺตนา จ ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสิตตฺตาปิ ทิพฺพา, สวนฏฺเน นิชฺชีวฏฺเน จ โสตธาตุ, โสตธาตุกิจฺจกรเณน จ โสตธาตุ วิยาติปิ โสตธาตุ. ตาย ทิพฺพาย ¶ โสตธาตุยา. วิสุทฺธายาติ ปริสุทฺธาย นิรุปกฺกิเลสาย. อติกฺกนฺตมานุสิกายาติ มนุสฺสูปจารํ อติกฺกมิตฺวา สทฺทสวเนน มานุสิกํ มํสโสตธาตุํ อติกฺกนฺตาย วีติวตฺติตฺวา ิตาย. อุโภ สทฺเท สุณาตีติ ทฺเว สทฺเท สุณาติ. กตเม ทฺเว? ทิพฺเพ จ มานุเส จ, เทวานฺจ มนุสฺสานฺจ สทฺเทติ วุตฺตํ โหติ. เอเตน ปเทสปริยาทานํ เวทิตพฺพํ. เย ทูเร สนฺติเก จาติ เย สทฺทา ทูเร ปรจกฺกวาเฬปิ, เย จ สนฺติเก อนฺตมโส สเทหสนฺนิสฺสิตปาณกสทฺทาปิ, เต สุณาตีติ วุตฺตํ โหติ. เอเตน นิปฺปเทสปริยาทานํ เวทิตพฺพนฺติ.
โสตธาตุวิสุทฺธิาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕๒. เจโตปริยาณนิทฺเทสวณฺณนา
๑๐๔. เจโตปริยาณนิทฺเทเส ¶ โส เอวํ ปชานาตีติ อิทานิ วตฺตพฺพํ วิธานํ อุปทิสติ. อิทํ รูปํ โสมนสฺสินฺทฺริยสมุฏฺิตนฺติอาทิ อาทิกมฺมิเกน ฌายินา ปฏิปชฺชิตพฺพํ วิธานํ. กถํ? เอตฺหิ าณํ อุปฺปาเทตุกาเมน ฌายินา ปมํ ตาว ทิพฺพจกฺขุาณํ อุปฺปาเทตพฺพํ. เอตฺหิ ทิพฺพจกฺขุวเสน อิชฺฌติ, ตํ เอตสฺส ปริกมฺมํ. ตสฺมา เตน ภิกฺขุนา อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา ทิพฺเพน จกฺขุนา ปรสฺส หทยรูปํ นิสฺสาย วตฺตมานสฺส โลหิตสฺส วณฺณํ ปสฺสิตฺวา ปสฺสิตฺวา จิตฺตํ ปริเยสิตพฺพํ. ตฺหิ โลหิตํ กุสลโสมนสฺเส วตฺตมาเน รตฺตํ โหติ นิคฺโรธปกฺกวณฺณํ, อกุสลโสมนสฺเส วตฺตมาเน ตเทว ลุฬิตํ โหติ, โทมนสฺเส วตฺตมาเน กาฬกํ ¶ โหติ ชมฺพุปกฺกวณฺณํ ลุฬิตํ. กุสลูเปกฺขาย วตฺตมานาย ปสนฺนํ โหติ ติลเตลวณฺณํ. อกุสลูเปกฺขาย วตฺตมานาย ตเทว ลุฬิตํ โหติ. ตสฺมา เตน ‘‘อิทํ รูปํ โสมนสฺสินฺทฺริยสมุฏฺิตํ, อิทํ รูปํ โทมนสฺสินฺทฺริยสมุฏฺิตํ, อิทํ รูปํ อุเปกฺขินฺทฺริยสมุฏฺิต’’นฺติ ปรสฺส หทยโลหิตวณฺณํ ปสฺสิตฺวา ปสฺสิตฺวา จิตฺตํ ปริเยสนฺเตน เจโตปริยาณํ ถามคตํ กาตพฺพํ. เอวํ ถามคเต หิ ตสฺมึ อนุกฺกเมน สพฺพมฺปิ กามาวจราทิเภทํ จิตฺตํ ปชานาติ จิตฺตา จิตฺตเมว สงฺกมนฺโต วินา หทยรูปทสฺสเนน. วุตฺตมฺปิ เจตํ อฏฺกถายํ –
‘‘อารุปฺเป ปรสฺส จิตฺตํ ชานิตุกาโม กสฺส หทยรูปํ ปสฺสติ, กสฺสินฺทฺริยวิการํ โอโลเกตีติ? น กสฺสจิ. อิทฺธิมโต วิสโย เอส, ยทิทํ ยตฺถ กตฺถจิ จิตฺตํ อาวชฺชนฺโต โสฬสปฺปเภทํ จิตฺตํ ชานาติ. อกตาภินิเวสสฺส ปน วเสน อยํ กถา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๔๐๑).
ปรสตฺตานนฺติ ¶ อตฺตานํ เปตฺวา เสสสตฺตานํ. ปรปุคฺคลานนฺติ อิทมฺปิ อิมินา เอกตฺถเมว, เวเนยฺยวเสน ปน ¶ เทสนาวิลาเสน จ พฺยฺชเนน นานตฺตํ กตํ. เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาตีติ อตฺตโน จิตฺเตน เตสํ จิตฺตํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา สราคาทิวเสน นานปฺปการโต ชานาติ. สราคํ วาติอาทีสุ วา-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. ตตฺถ อฏฺวิธํ โลภสหคตจิตฺตํ สราคํ จิตฺตํ นาม, อวเสสํ จตุภูมกกุสลาพฺยากตจิตฺตํ วีตราคํ นาม. ทฺเว โทมนสฺสจิตฺตานิ, ทฺเว วิจิกิจฺฉาอุทฺธจฺจจิตฺตานีติ อิมานิ ปน จตฺตาริ จิตฺตานิ อิมสฺมึ ทุเก สงฺคหํ น คจฺฉนฺติ. เกจิ ปน เถรา ตานิปิ วีตราคปเทน สงฺคณฺหนฺติ. ทุวิธํ ปน โทมนสฺสสหคตํ จิตฺตํ สโทสํ จิตฺตํ นาม, สพฺพมฺปิ จตุภูมกํ กุสลาพฺยากตํ วีตโทสํ นาม. เสสานิ ทส อกุสลจิตฺตานิ อิมสฺมึ ทุเก สงฺคหํ น คจฺฉนฺติ. เกจิ ปน เถรา ตานิปิ วีตโทสปเทน สงฺคณฺหนฺติ. สโมหํ วีตโมหนฺติ เอตฺถ ปน โมเหกเหตุกวเสน วิจิกิจฺฉาอุทฺธจฺจสหคตทฺวยเมว สโมหํ. โมหสฺส ปน สพฺพากุสเลสุ สมฺภวโต ทฺวาทสวิธมฺปิ อกุสลํ จิตฺตํ ‘‘สโมห’’นฺติ เวทิตพฺพํ. อวเสสํ กุสลาพฺยากตํ วีตโมหํ. ถินมิทฺธานุคตํ ปน สํขิตฺตํ, อุทฺธจฺจานุคตํ วิกฺขิตฺตํ. รูปาวจรารูปาวจรํ มหคฺคตํ, อวเสสํ อมหคฺคตํ. สพฺพมฺปิ เตภูมกํ สอุตฺตรํ, โลกุตฺตรํ ¶ อนุตฺตรํ. อุปจารปฺปตฺตํ อปฺปนาปฺปตฺตฺจ สมาหิตํ, ตทุภยมสมฺปตฺตํ อสมาหิตํ. ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณวิมุตฺติปฺปตฺตํ วิมุตฺตํ, ปฺจวิธมฺปิ เอตํ วิมุตฺติมปฺปตฺตํ อวิมุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิติ เจโตปริยาณลาภี ภิกฺขุ โสฬสปฺปเภทมฺปิ จิตฺตํ ปชานาติ. ปุถุชฺชนา ปน อริยานํ มคฺคผลจิตฺตํ น ชานนฺติ, อริยาปิ จ เหฏฺิมา เหฏฺิมา อุปริมานํ อุปริมานํ มคฺคผลจิตฺตํ น ชานนฺติ, อุปริมา อุปริมา ปน เหฏฺิมานํ เหฏฺิมานํ จิตฺตํ ชานนฺตีติ.
เจโตปริยาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕๓. ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณนิทฺเทสวณฺณนา
๑๐๕. ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณนิทฺเทเส ¶ เอวํ ปชานาตีติอาทิ จตูสุ อิทฺธิปาเทสุ ปริภาวิตจิตฺตสฺส ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ อุปฺปาเทตุกามสฺส ตทุปฺปาทนวิธานทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. กมโต หิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ ปสฺสิตฺวา วิฺาณนามรูปสฬายตนผสฺสเวทนาสงฺขาตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ ผลสงฺเขปํ ปสฺสติ, ตสฺส ปจฺจยํ ปุริมภเว กมฺมกิเลสสงฺขาตํ เหตุสงฺเขปํ ปสฺสติ, ตสฺส ปจฺจยํ ปุริมภเวเยว ผลสงฺเขปํ ปสฺสติ, ตสฺส ปจฺจยํ ตติยภเว เหตุสงฺเขปํ ปสฺสติ. เอวํ ปฏิจฺจสมุปฺปาททสฺสเนน ชาติปรมฺปรํ ปสฺสติ. เอวํ พหูปกาโร ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส ปฏิจฺจสมุปฺปาทมนสิกาโร ¶ . ตตฺถ ‘‘อิมสฺมึ สติ อิทํ โหติ, อิมสฺสุปฺปาทา อิทํ อุปฺปชฺชตี’’ติ อิทํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทนิทฺเทสสฺส อุทฺเทสวจนํ. เอวํ เตสํ อฺตรวจเนเนว อตฺเถ สิทฺเธ ทฺวิธา วจนํ กสฺมาติ เจ? อตฺถนานตฺตสพฺภาวโต. กถํ? อิมสฺมึ สตีติ อิมสฺมึ ปจฺจเย วิชฺชมาเน. อิทํ สพฺพปจฺจยานํ สาธารณวจนํ. อิทํ โหตีติ อิทํ ปจฺจยุปฺปนฺนํ ภวติ. อิทํ สพฺพปจฺจยุปฺปนฺนานํ สาธารณวจนํ. อิมินา สกเลน วจเนน อเหตุกวาโท ปฏิสิทฺโธ โหติ. เย หิ ธมฺมา ปจฺจยสมฺภวา โหนฺติ, น ปจฺจยาภาวา, เต อเหตุกา นาม น โหนฺตีติ. อิมสฺสุปฺปาทาติ อิมสฺส ปจฺจยสฺส อุปฺปาทเหตุ. อิทํ สพฺพปจฺจยานํ อุปฺปาทวนฺตตาทีปนวจนํ. อิทํ อุปฺปชฺชตีติ อิทํ ปจฺจยุปฺปนฺนํ อุปฺปชฺชติ. อิทํ สพฺพปจฺจยุปฺปนฺนานํ ตโต อุปฺปชฺชมานตาทีปนวจนํ. อิมินา สกเลน วจเนน สสฺสตาเหตุกวาโท ปฏิสิทฺโธ โหติ. เย หิ อุปฺปาทวนฺโต ธมฺมา, เต อนิจฺจา. ตสฺมา สติปิ สเหตุกตฺเต อนิจฺจเหตุกา เอเต ธมฺมา น ¶ โลเก นิจฺจสมฺมตปกติปุริสาทิเหตุกาติ วุตฺตํ โหติ.
ยทิทนฺติ ¶ นิทฺทิสิตพฺพตฺถสนฺทสฺสนํ. อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ เอตฺถ ยํ ปฏิจฺจ ผลเมติ, โส ปจฺจโย. ปฏิจฺจาติ น วินา, อปจฺจกฺขิตฺวาติ อตฺโถ. เอตีติ อุปฺปชฺชติ เจว ปวตฺตติ จาติ อตฺโถ. อปิจ อุปการกฏฺโ ปจฺจยฏฺโ, อวิชฺชา จ สา ปจฺจโย จาติ อวิชฺชาปจฺจโย. ตสฺมา อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา สมฺภวนฺตีติ โยชนา. เอวํ สมฺภวนฺติ-สทฺทสฺส เสสปเทหิปิ โยชนา กาตพฺพา. โสกาทีสุ จ โสจนํ โสโก. ปริเทวนํ ปริเทโว. ทุกฺขตีติ ทุกฺขํ. อุปฺปาทฏฺิติวเสน วา ทฺเวธา ขนตีติปิ ทุกฺขํ. ทุมฺมนสฺส ภาโว โทมนสฺสํ. ภุโส อายาโส อุปายาโส. สมฺภวนฺตีติ นิพฺพตฺตนฺติ. เอวนฺติ นิทฺทิฏฺนยนิทสฺสนํ. เตน อวิชฺชาทีเหว การเณหิ, น อิสฺสรนิมฺมานาทีหีติ ทสฺเสติ. เอตสฺสาติ ยถาวุตฺตสฺส. เกวลสฺสาติ อสมฺมิสฺสสฺส, สกลสฺส วา. ทุกฺขกฺขนฺธสฺสาติ ทุกฺขสมูหสฺส, น สตฺตสฺส น สุขสุภาทีนํ. สมุทโยติ นิพฺพตฺติ. โหตีติ สมฺภวติ.
ตตฺถ กตมา อวิชฺชา? ทุกฺเข อฺาณํ, ทุกฺขสมุทเย อฺาณํ, ทุกฺขนิโรเธ อฺาณํ, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย อฺาณํ, ปุพฺพนฺเต อฺาณํ, อปรนฺเต อฺาณํ, ปุพฺพนฺตาปรนฺเต อฺาณํ, อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ อฺาณํ. กตเม สงฺขารา? ปฺุาภิสงฺขาโร, อปฺุาภิสงฺขาโร, อาเนฺชาภิสงฺขาโร, กายสงฺขาโร, วจีสงฺขาโร, จิตฺตสงฺขาโร. อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา ปฺจ รูปาวจรกุสลเจตนา ปฺุาภิสงฺขาโร, ทฺวาทส อกุสลเจตนา อปฺุาภิสงฺขาโร, จตสฺโส อรูปาวจรกุสลเจตนา อาเนฺชาภิสงฺขาโร. กายสฺเจตนา กายสงฺขาโร, วจีสฺเจตนา วจีสงฺขาโร, มโนสฺเจตนา จิตฺตสงฺขาโร.
ตตฺถ ¶ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘อิเม สงฺขารา อวิชฺชาปจฺจยา โหนฺตี’’ติ? อวิชฺชาภาเว ภาวโต. ยสฺส หิ ทุกฺขาทีสุ อวิชฺชาสงฺขาตํ อฺาณํ อปฺปหีนํ โหติ. โส ทุกฺเข ตาว ปุพฺพนฺตาทีสุ จ อฺาเณน สํสารทุกฺขํ สุขสฺาย คเหตฺวา ตสฺเสว เหตุภูเต ติวิเธปิ สงฺขาเร อารภติ. สมุทเย อฺาเณน ทุกฺขเหตุภูเตปิ ตณฺหาปริกฺขาเร สงฺขาเร สุขเหตุโต มฺมาโน อารภติ. นิโรเธ ¶ ปน มคฺเค จ อฺาเณน ทุกฺขสฺส อนิโรธภูเตปิ คติวิเสเส ทุกฺขนิโรธสฺี หุตฺวา นิโรธสฺส จ อมคฺคภูเตสุปิ ยฺามรตปาทีสุ นิโรธมคฺคสฺี ¶ หุตฺวา ทุกฺขนิโรธํ ปตฺถยมาโน ยฺามรตปาทิมุเขน ติวิเธปิ สงฺขาเร อารภติ.
อปิจ โส ตาย จตูสุ สจฺเจสุ อปฺปหีนาวิชฺชตาย วิเสสโต ชาติชราโรคมรณาทิอเนกาทีนวโวกิณฺณมฺปิ ปฺุผลสงฺขาตํ ทุกฺขํ ทุกฺขโต อชานนฺโต ตสฺส อธิคมาย กายวจีจิตฺตสงฺขารเภทํ ปฺุาภิสงฺขารํ อารภติ เทวจฺฉรกามโก วิย มรุปปาตํ. สุขสมฺมตสฺสาปิ จ ตสฺส ปฺุผลสฺส อนฺเต มหาปริฬาหชนิกํ วิปริณามทุกฺขตํ อปฺปสฺสาทตฺจ อปสฺสนฺโตปิ ตปฺปจฺจยํ วุตฺตปฺปการเมว ปฺุาภิสงฺขารํ อารภติ สลโภ วิย ทีปสิขาภินิปาตํ, มธุพินฺทุคิทฺโธ วิย จ มธุลิตฺตสตฺถธาราเลหนํ. กามูปเสวนาทีสุ จ สวิปาเกสุ อาทีนวํ อปสฺสนฺโต สุขสฺาย เจว กิเลสาภิภูตตาย จ ทฺวารตฺตยปฺปวตฺตมฺปิ อปฺุาภิสงฺขารํ อารภติ พาโล วิย คูถกีฬนํ, มริตุกาโม วิย จ วิสขาทนํ. อารุปฺปวิปาเกสุ จาปิ สงฺขารวิปริณามทุกฺขตํ อนวพุชฺฌมาโน สสฺสตาทิวิปลฺลาเสน จิตฺตสงฺขารภูตํ อาเนฺชาภิสงฺขารํ อารภติ ทิสามูฬฺโห วิย ปิสาจนคราภิมุขมคฺคคมนํ. เอวํ ยสฺมา อวิชฺชาภาวโตว สงฺขารภาโว, น อภาวโต, ตสฺมา ชานิตพฺพเมตํ ‘‘อิเม สงฺขารา อวิชฺชาปจฺจยา โหนฺตี’’ติ.
เอตฺถาห – คณฺหาม ตาว เอตํ ‘‘อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโย’’ติ. กึ ปนายเมกาว อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโย, อุทาหุ อฺเปิ ปจฺจยา สนฺตีติ? กึ ปเนตฺถ ยทิ ตาว เอกาว, เอกการณวาโท อาปชฺชติ. อถ อฺเปิ สนฺติ, ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ เอกการณนิทฺเทโส นุปปชฺชตีติ? น นุปปชฺชติ. กสฺมา? ยสฺมา –
‘‘เอกํ ¶ น เอกโต อิธ, นาเนกมเนกโตปิ โน เอกํ;
ผลมตฺถิ อตฺถิ ปน เอก-เหตุผลทีปเน อตฺโถ’’.
ภควา ¶ หิ กตฺถจิ ปธานตฺตา กตฺถจิ ปากฏตฺตา กตฺถจิ อสาธารณตฺตา เทสนาวิลาสสฺส จ เวเนยฺยานฺจ อนุรูปโต เอกเมว เหตฺุจ ผลฺจ ทีเปติ. ตสฺมา อยมิธ อวิชฺชา วิชฺชมาเนสุปิ อฺเสุ วตฺถารมฺมณสหชาตธมฺมาทีสุ สงฺขารการเณสุ ‘‘อสฺสาทานุปสฺสิโน ตณฺหา ¶ ปวฑฺฒตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๕๒) จ, ‘‘อวิชฺชาสมุทยา อาสวสมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๔) จ วจนโต อฺเสมฺปิ ตณฺหาทีนํ สงฺขารเหตูนํ เหตูติ ปธานตฺตา, ‘‘อวิทฺวา, ภิกฺขเว, อวิชฺชาคโต ปฺุาภิสงฺขารมฺปิ อภิสงฺขโรตี’’ติ ปากฏตฺตา, อสาธารณตฺตา จ สงฺขารานํ เหตุภาเวน ทีปิตาติ เวทิตพฺพา. เอเตเนว จ เอเกกเหตุผลทีปนปริหารวจเนน สพฺพตฺถ เอเกกเหตุผลทีปเน ปโยชนํ เวทิตพฺพนฺติ.
เอตฺถาห – เอวํ สนฺเตปิ เอกนฺตานิฏฺผลาย สาวชฺชาย อวิชฺชาย กถํ ปฺุาเนฺชาภิสงฺขารปจฺจยตฺตํ ยุชฺชติ? น หิ นิมฺพพีชโต อุจฺฉุ อุปฺปชฺชตีติ. กถํ น ยุชฺชิสฺสติ? โลกสฺมิฺหิ –
‘‘วิรุทฺโธ จาวิรุทฺโธ จ, สทิสาสทิโส ตถา;
ธมฺมานํ ปจฺจโย สิทฺโธ, วิปากา เอว เต จ น’’.
อิติ อยํ อวิชฺชา วิปากวเสน เอกนฺตานิฏฺผลา, สภาววเสน จ สาวชฺชาปิ สมานา สพฺเพสมฺปิ เอเตสํ ปฺุาภิสงฺขาราทีนํ ยถานุรูปํ านกิจฺจสภาววิรุทฺธาวิรุทฺธปจฺจยวเสน สทิสาสทิสปจฺจยวเสน จ ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพา.
อปิจ –
‘‘จุตูปปาเต สํสาเร, สงฺขารานฺจ ลกฺขเณ;
โย ปฏิจฺจสมุปฺปนฺน-ธมฺเมสุ จ วิมุยฺหติ.
‘‘อภิสงฺขโรติ โส เอเต, สงฺขาเร ติวิเธ ยโต;
อวิชฺชา ปจฺจโย เตสํ, ติวิธานํ อยํ ตโต.
‘‘ยถาปิ ¶ นาม ชจฺจนฺโธ, นโร อปริณายโก;
เอกทา ยาติ มคฺเคน, อุมฺมคฺเคนาปิ เอกทา.
‘‘สํสาเร ¶ สํสรํ พาโล, ตถา อปริณายโก;
กโรติ เอกทา ปฺุํ, อปฺุมปิ เอกทา.
‘‘ยทา จ ตฺวา โส ธมฺมํ, สจฺจานิ อภิสเมสฺสติ;
ตทา อวิชฺชูปสมา, อุปสนฺโต จริสฺสตี’’ติ.
สงฺขารปจฺจยา ¶ วิฺาณนฺติ ฉ วิฺาณกายา จกฺขุวิฺาณํ โสตวิฺาณํ ฆานวิฺาณํ ชิวฺหาวิฺาณํ กายวิฺาณํ มโนวิฺาณํ. ตตฺถ จกฺขุวิฺาณํ กุสลวิปากํ อกุสลวิปากนฺติ ทุวิธํ. ตถา โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณานิ. มโนวิฺาณํ ทฺเว วิปากมโนธาตุโย, ติสฺโส อเหตุกมโนวิฺาณธาตุโย, อฏฺ สเหตุกวิปากจิตฺตานิ, ปฺจ รูปาวจรานิ, จตฺตาริ อรูปาวจรานีติ พาวีสติวิธํ. อิติ สพฺพานิ พาตฺตึส โลกิยวิปากวิฺาณานิ.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘อิทํ วุตฺตปฺปการํ วิฺาณํ สงฺขารปจฺจยา โหตี’’ติ? อุปจิตกมฺมาภาเว วิปากาภาวโต. วิปากฺเหตํ, วิปากฺจ น อุปจิตกมฺมาภาเว อุปฺปชฺชติ. ยทิ อุปฺปชฺเชยฺย, สพฺเพสํ สพฺพวิปากานิ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, น จ อุปฺปชฺชนฺตีติ ชานิตพฺพเมตํ ‘‘สงฺขารปจฺจยา อิทํ วิฺาณํ โหตี’’ติ. สพฺพเมว หิ อิทํ ปวตฺติปฏิสนฺธิวเสน ทฺเวธา ปวตฺตติ. ตตฺถ ทฺเว ปฺจวิฺาณานิ ทฺเว มโนธาตุโย โสมนสฺสสหคตาเหตุกมโนวิฺาณธาตูติ อิมานิ เตรส ปฺจโวการภเว ปวตฺติยํเยว ปวตฺตนฺติ, เสสานิ เอกูนวีสติ ตีสุ ภเวสุ ยถานุรูปํ ปวตฺติยมฺปิ ปฏิสนฺธิยมฺปิ ปวตฺตนฺติ.
‘‘ลทฺธปฺปจฺจยมิติ ¶ ธมฺมมตฺตเมตํ ภวนฺตรมุเปติ;
นาสฺส ตโต สงฺกนฺติ, น ตโต เหตุํ วินา โหติ’’.
อิติ เหตํ ลทฺธปฺปจฺจยํ รูปารูปธมฺมมตฺตํ อุปฺปชฺชมานํ ภวนฺตรมุเปตีติ วุจฺจติ, น สตฺโต, น ชีโว. ตสฺส จ นาปิ อตีตภวโต อิธ สงฺกนฺติ อตฺถิ, นาปิ ตโต เหตุํ วินา อิธ ปาตุภาโว. เอตฺถ จ ปุริมํ จวนโต จุติ, ปจฺฉิมํ ภวนฺตราทิปฏิสนฺธานโต ปฏิสนฺธีติ วุจฺจติ.
เอตฺถาห – นนุ เอวํ อสงฺกนฺติปาตุภาเว สติ เย อิมสฺมึ มนุสฺสตฺตภาเว ขนฺธา, เตสํ นิรุทฺธตฺตา, ผลปฺปจฺจยสฺส จ กมฺมสฺส ตตฺถ อคมนโต, อฺสฺส อฺโต จ ตํ ผลํ สิยา ¶ . อุปภฺุชเก จ อสติ กสฺส ตํ ผลํ สิยา. ตสฺมา น สุนฺทรมิทํ วิธานนฺติ. ตตฺริทํ วุจฺจติ –
‘‘สนฺตาเน ยํ ผลํ เอตํ, นาฺสฺส น จ อฺโต;
พีชานํ อภิสงฺขาโร, เอตสฺสตฺถสฺส สาธโก.
‘‘ผลสฺสุปฺปตฺติยา เอว, สิทฺธา ภฺุชกสมฺมุติ;
ผลุปฺปาเทน รุกฺขสฺส, ยถา ผลติ สมฺมุตี’’ติ.
โยปิ ¶ วเทยฺย ‘‘เอวํ สนฺเตปิ เอเต สงฺขารา วิชฺชมานา วา ผลสฺส ปจฺจยา สิยุํ อวิชฺชมานา วา. ยทิ จ วิชฺชมานา, ปวตฺติกฺขเณเยว เนสํ วิปาเกน ภวิตพฺพํ. อถาปิ อวิชฺชมานา, ปวตฺติโต ปุพฺเพ ปจฺฉา จ นิจฺจํ ผลาวหา สิยุ’’นฺติ. โส เอวํ วตฺตพฺโพ –
‘‘กตตฺตา ปจฺจยา เอเต, น จ นิจฺจํ ผลาวหา;
ปาฏิโภคาทิกํ ตตฺถ, เวทิตพฺพํ นิทสฺสน’’นฺติ.
วิฺาณปจฺจยา ¶ นามรูปนฺติ อิธ เวทนา สฺา สงฺขารกฺขนฺธา นามํ, จตฺตาริ จ มหาภูตานิ จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูปํ รูปํ. อภาวกคพฺภเสยฺยกานํ อณฺฑชานฺจ ปฏิสนฺธิกฺขเณ วตฺถุทสกํ กายทสกนฺติ วีสติ รูปานิ, ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ เอเต เตวีสติ ธมฺมา วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ เวทิตพฺพา. สภาวกานํ ภาวทสกํ ปกฺขิปิตฺวา เตตฺตึส, โอปปาติกสตฺเตสุ พฺรหฺมกายิกาทีนํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ จกฺขุโสตวตฺถุทสกานิ ชีวิตินฺทฺริยนวกฺจาติ เอกูนจตฺตาลีส รูปานิ, ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ เอเต ทฺวาจตฺตาลีส ธมฺมา วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ. กามภเว ปน เสสโอปปาติกานํ สํเสทชานํ วา สภาวกปริปุณฺณายตนานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายวตฺถุภาวทสกานีติ สตฺตติ รูปานิ, ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ เอเต เตสตฺตติ ธมฺมา วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ. เอส อุกฺกํโส. อวกํเสน ปน ตํตํทสกวิกลานํ ตสฺส ตสฺส วเสน หาเปตฺวา หาเปตฺวา ปฏิสนฺธิยํ วิฺาณปจฺจยา นามรูปสงฺขา เวทิตพฺพา. อรูปีนํ ปน ตโยว อรูปิโน ขนฺธา, อสฺานํ รูปโต ชีวิตินฺทฺริยนวกเมวาติ. เอส ตาว ปฏิสนฺธิยํ นโย.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘ปฏิสนฺธินามรูปํ วิฺาณปจฺจยา โหตี’’ติ? สุตฺตโต ¶ ยุตฺติโต จ. สุตฺเต หิ ‘‘จิตฺตานุปริวตฺติโน ธมฺมา’’ติอาทินา (ธ. ส. ทุกมาติกา ๖๒) นเยน พหุธา เวทนาทีนํ วิฺาณปจฺจยตา สิทฺธา. ยุตฺติโต ปน –
จิตฺตเชน หิ รูเปน, อิธ ทิฏฺเน สิชฺฌติ;
อทิฏฺสฺสาปิ รูปสฺส, วิฺาณํ ปจฺจโย อิติ.
นามรูปปจฺจยา ¶ สฬายตนนฺติ นามํ วุตฺตเมว. อิธ ปน รูปํ นิยมโต จตฺตาริ ภูตานิ ฉ วตฺถูนิ ชีวิตินฺทฺริยนฺติ เอกาทสวิธํ. สฬายตนํ – จกฺขายตนํ, โสตายตนํ, ฆานายตนํ, ชิวฺหายตนํ, กายายตนํ, มนายตนํ.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘นามรูปํ สฬายตนสฺส ปจฺจโย’’ติ? นามรูปภาเว ¶ ภาวโต. ตสฺส ตสฺส หิ นามสฺส รูปสฺส จ ภาเว ตํ ตํ อายตนํ โหติ, น อฺถาติ.
สฬายตนปจฺจยา ผสฺโสติ –
‘‘ฉเฬว ผสฺสา สงฺเขปา, จกฺขุสมฺผสฺสอาทโย;
วิฺาณมิว พาตฺตึส, วิตฺถาเรน ภวนฺติ เต’’.
ผสฺสปจฺจยา เวทนาติ –
‘‘ทฺวารโต เวทนา วุตฺตา, จกฺขุสมฺผสฺสชาทิกา;
ฉเฬว ตา ปเภเทน, อิธ พาตฺตึส เวทนา’’.
เวทนาปจฺจยา ตณฺหาติ –
‘‘รูปตณฺหาทิเภเทน, ฉ ตณฺหา อิธ ทีปิตา;
เอเกกา ติวิธา ตตฺถ, ปวตฺตาการโต มตา.
‘‘ทุกฺขี ¶ สุขํ ปตฺถยติ, สุขี ภิยฺโยปิ อิจฺฉติ;
อุเปกฺขา ปน สนฺตตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตา.
‘‘ตณฺหาย ปจฺจยา ตสฺมา, โหนฺติ ติสฺโสปิ เวทนา;
เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, อิติ วุตฺตา มเหสินา’’.
ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานนฺติ จตฺตาริ อุปาทานานิ – กามุปาทานํ, ทิฏฺุปาทานํ, สีลพฺพตุปาทานํ, อตฺตวาทุปาทานํ. อุปาทานปจฺจยา ภโวติ อิธ กมฺมภโว อธิปฺเปโต. อุปปตฺติภโว ปน ปทุทฺธารวเสน วุตฺโต. ภวปจฺจยา ชาตีติ กมฺมภวปจฺจยา ปฏิสนฺธิขนฺธานํ ปาตุภาโว.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘ภโว ชาติยา ปจฺจโย’’ติ เจ? พาหิรปจฺจยสมตฺเตปิ หีนปณีตาทิวิเสสทสฺสนโต. พาหิรานฺหิ ชนกชนนิสุกฺกโสณิตาหาราทีนํ ¶ ปจฺจยานํ สมตฺเตปิ สตฺตานํ ยมกานมฺปิ สตํ หีนปฺปณีตตาทิวิเสโส ทิสฺสติ. โส จ น อเหตุโก สพฺพทา ¶ จ สพฺเพสฺจ อภาวโต, น กมฺมภวโต อฺเหตุโก ตทภินิพฺพตฺตกสตฺตานํ อชฺฌตฺตสนฺตาเน อฺสฺส การณสฺส อภาวโตติ กมฺมภวเหตุโกเยว. กมฺมฺหิ สตฺตานํ หีนปฺปณีตตาทิวิเสสสฺส เหตุ. เตนาห ภควา – ‘‘กมฺมํ สตฺเต วิภชติ, ยทิทํ หีนปฺปณีตตายา’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๘๙).
ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติอาทีสุ ยสฺมา อสติ ชาติยา ชรามรณํ นาม โสกาทโย วา ธมฺมา น โหนฺติ, ชาติยา ปน สติ ชรามรณฺเจว ชรามรณสงฺขาตทุกฺขธมฺมผุฏฺสฺส จ พาลสฺส ชรามรณาภิสมฺพนฺธา วา เตน เตน ทุกฺขธมฺเมน ผุฏฺสฺส อนภิสมฺพนฺธา วา โสกาทโย จ ธมฺมา โหนฺติ, ตสฺมา อยํ ชาติ ชรามรณสฺส เจว โสกาทีนฺจ ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพา.
โส ตถาภาวิเตน จิตฺเตนาติอาทีสุ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณายาติ เอตสฺส าณสฺส อธิคมาย, ปตฺติยาติ วุตฺตํ โหติ. อเนกวิหิตนฺติ อเนกวิธํ นานปฺปการํ, อเนเกหิ วา ปกาเรหิ ปวตฺติตํ, สํวณฺณิตนฺติ อตฺโถ. ปุพฺเพนิวาสนฺติ สมนนฺตราตีตํ ภวํ อาทึ กตฺวา ตตฺถ ตตฺถ นิวุตฺถสนฺตานํ. อนุสฺสรตีติ ขนฺธปฏิปาฏิวเสน จุติปฏิสนฺธิวเสน วา อนุคนฺตฺวา อนุคนฺตฺวา สรติ. อิมฺหิ ปุพฺเพนิวาสํ ฉ ชนา อนุสฺสรนฺติ ติตฺถิยา ปกติสาวกา มหาสาวกา อคฺคสาวกา ปจฺเจกพุทฺธา พุทฺธาติ. ตตฺถ ติตฺถิยา จตฺตาลีสํเยว กปฺเป อนุสฺสรนฺติ ¶ , น ตโต ปรํ. กสฺมา? ทุพฺพลปฺตฺตา. เตสฺหิ นามรูปปริจฺเฉทวิรหิตตฺตา ทุพฺพลา ปฺา โหติ. ปกติสาวกา กปฺปสตมฺปิ กปฺปสหสฺสมฺปิ อนุสฺสรนฺติเยว พลวปฺตฺตา. อสีติ มหาสาวกา สตสหสฺสกปฺเป อนุสฺสรนฺติ. ทฺเว อคฺคสาวกา เอกมสงฺเขยฺยํ กปฺปสตสหสฺสฺจ. ปจฺเจกพุทฺธา ทฺเว อสงฺเขยฺยานิ สตสหสฺสฺจ. เอตฺตโก หิ เตสํ อภินีหาโร. พุทฺธานํ ปน ปริจฺเฉโท นาม นตฺถิ. ติตฺถิยา จ ขนฺธปฏิปาฏิเมว สรนฺติ, ปฏิปาฏึ มฺุจิตฺวา จุติปฏิสนฺธิวเสน สริตุํ น สกฺโกนฺติ. ยถา อนฺธา ยฏฺึ อมฺุจิตฺวาว คจฺฉนฺติ, เอวํ เต ขนฺธปฏิปาฏึ อมฺุจิตฺวาว สรนฺติ. ปกติสาวกา ขนฺธปฏิปาฏิยาปิ ¶ อนุสฺสรนฺติ, จุติปฏิสนฺธิวเสนาปิ สงฺกมนฺติ, ตถา อสีติ มหาสาวกา. ทฺวินฺนํ ปน อคฺคสาวกานํ ขนฺธปฏิปาฏิกิจฺจํ นตฺถิ. เอกสฺส อตฺตภาวสฺส จุตึ ทิสฺวา ปฏิสนฺธึ ปสฺสนฺติ, ปุน อปรสฺส จุตึ ¶ ทิสฺวา ปฏิสนฺธินฺติ เอวํ จุติปฏิสนฺธิวเสเนว สงฺกมนฺตา คจฺฉนฺติ, ตถา ปจฺเจกพุทฺธา. พุทฺธานํ ปน เนว ขนฺธปฏิปาฏิกิจฺจํ, น จุติปฏิสนฺธิวเสน สงฺกมนกิจฺจํ อตฺถิ. เตสฺหิ อเนกาสุ กปฺปโกฏีสุ เหฏฺา วา อุปริ วา ยํ ยํ านํ อิจฺฉนฺติ, ตํ ตํ ปากฏเมว โหติ. ตสฺมา อเนกาปิ กปฺปโกฏิโย สงฺขิปิตฺวา ยํ ยํ อิจฺฉนฺติ, ตตฺถ ตตฺเถว โอกฺกมนฺตา สีโหกฺกนฺตวเสน คจฺฉนฺติ. เอวํ คจฺฉนฺตานฺจ เนสํ าณํ อนฺตรนฺตราสุ ชาตีสุ อสชฺชมานํ อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺานเมว คณฺหาติ.
อิเมสุ ปน ฉสุ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺเตสุ ติตฺถิยานํ ปุพฺเพนิวาสทสฺสนํ ขชฺโชปนกปฺปภาสทิสํ หุตฺวา อุปฏฺาติ, ปกติสาวกานํ ทีปปฺปภาสทิสํ, มหาสาวกานํ อุกฺกาปภาสทิสํ, อคฺคสาวกานํ โอสธิตารกาปภาสทิสํ, ปจฺเจกพุทฺธานํ จนฺทปฺปภาสทิสํ. พุทฺธานํ รสฺมิสหสฺสปฏิมณฺฑิตสรทสูริยมณฺฑลสทิสํ หุตฺวา อุปฏฺาติ. ติตฺถิยานํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสรณํ อนฺธานํ ยฏฺิโกฏิคมนํ วิย โหติ. ปกติสาวกานํ ทณฺฑกเสตุคมนํ วิย, มหาสาวกานํ ชงฺฆเสตุคมนํ วิย, อคฺคสาวกานํ สกฏเสตุคมนํ วิย, ปจฺเจกพุทฺธานํ ชงฺฆมคฺคคมนํ วิย, พุทฺธานํ มหาสกฏมคฺคคมนํ วิย โหติ. อิมสฺมึ ปน อธิกาเร สาวกานํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสรณํ อธิปฺเปตํ.
ตสฺมา เอวํ อนุสฺสริตุกาเมน อาทิกมฺมิเกน ภิกฺขุนา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺเตน รโหคเตน ปฏิสลฺลีเนน ปฏิปาฏิยา จตฺตาริ ฌานานิ สมาปชฺชิตฺวา อภิฺาปาทกชฺฌานโต วุฏฺาย วุตฺตนเยน ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา สพฺพปจฺฉิมา นิสชฺชา อาวชฺชิตพฺพา. ตโต อาสนปฺาปนํ เสนาสนปฺปเวสนํ ปตฺตจีวรปฏิสามนํ โภชนกาโล ¶ คามโต อาคมนกาโล คาเม ปิณฺฑาย จริตกาโล คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺกาโล วิหารโต นิกฺขมนกาโล เจติยโพธิวนฺทนกาโล ปตฺตโธวนกาโล ปตฺตปฏิคฺคหณกาโล ปตฺตปฏิคฺคหณโต ยาว มุขโธวนา กตกิจฺจํ ¶ ปจฺจูสกาเล กตกิจฺจํ, มชฺฌิมยาเม ปมยาเม กตกิจฺจนฺติ เอวํ ปฏิโลมกฺกเมน สกลํ รตฺตินฺทิวํ กตกิจฺจํ อาวชฺชิตพฺพํ. เอตฺตกํ ปน ปกติจิตฺตสฺสปิ ปากฏํ โหติ, ปริกมฺมสมาธิจิตฺตสฺส ปน อติปากฏเมว. สเจ ปเนตฺถ กิฺจิ น ปากฏํ โหติ, ปุน ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อาวชฺชิตพฺพํ. เอตฺตเกน ทีเป ชลิเต วิย ปากฏํ โหติ ¶ . เอวํ ปฏิโลมกฺกเมเนว ทุติยทิวเสปิ ตติยจตุตฺถปฺจมทิวเสสุปิ ทสาเหปิ อทฺธมาเสปิ มาเสปิ สํวจฺฉเรปิ กตกิจฺจํ อาวชฺชิตพฺพํ. เอเตเนว อุปาเยน ทส วสฺสานิ วีสติ วสฺสานีติ ยาว อิมสฺมึ ภเว อตฺตโน ปฏิสนฺธิ, ตาว อาวชฺชนฺเตน ปุริมภเว จุติกฺขเณ ปวตฺตํ นามรูปํ อาวชฺชิตพฺพํ. ปโหติ หิ ปณฺฑิโต ภิกฺขุ ปมวาเรเนว ปฏิสนฺธึ อุคฺฆาเฏตฺวา จุติกฺขเณ นามรูปํ อารมฺมณํ กาตุํ. ยสฺมา ปน ปุริมภเว นามรูปํ อเสสํ นิรุทฺธํ, อิธ อฺํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺมา ตํ านํ อาหุนฺทริกํ อนฺธตมมิว โหติ สุทุทฺทสํ ทุปฺปฺเน. เตนาปิ ‘‘น สกฺโกมหํ ปฏิสนฺธึ อุคฺฆาเฏตฺวา จุติกฺขเณ นามรูปารมฺมณํ กาตุ’’นฺติ ธุรนิกฺเขโป น กาตพฺโพ. ตเทว ปน ปาทกชฺฌานํ ปุนปฺปุนํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย วุฏฺาย ตํ านํ อาวชฺชิตพฺพํ.
เอวํ กโรนฺโต หิ เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส กูฏาคารกณฺณิกตฺถาย มหารุกฺขํ ฉินฺทนฺโต สาขาปลาสจฺเฉทนมตฺเตเนว ผรสุธาราย วิปนฺนาย มหารุกฺขํ ฉินฺทิตุํ อสกฺโกนฺโตปิ ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวาว กมฺมารสาลํ คนฺตฺวา ติขิณํ ผรสุํ การาเปตฺวา ปุน อาคนฺตฺวา ฉินฺเทยฺย, ปุน วิปนฺนาย จ ปุนปิ ตเถว กาเรตฺวา ฉินฺเทยฺย, โส เอวํ ฉินฺทนฺโต ฉินฺนสฺส ฉินฺนสฺส ปุน เฉตฺตพฺพาภาวโต อฉินฺนสฺส จ เฉทนโต นจิรสฺเสว มหารุกฺขํ ปาเตยฺย, เอวเมว ปาทกชฺฌานา วุฏฺาย ปุพฺเพ อาวชฺชิตํ อนาวชฺชิตฺวา ปฏิสนฺธิเมว อาวชฺชนฺโต ตํ นจิรสฺเสว ปฏิสนฺธึ อุคฺฆาเฏตฺวา จุติกฺขเณ นามรูปํ อารมฺมณํ กเรยฺยาติ. ตตฺถ ปจฺฉิมนิสชฺชโต ปภุติ ยาว ปฏิสนฺธิโต อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตํ าณํ ปุพฺเพนิวาสาณํ นาม น โหติ, ตํ ปน ปริกมฺมสมาธิาณํ นาม โหติ. ‘‘อตีตํสาณ’’นฺติ เปตํ เอเก วทนฺติ ¶ . ตํ อตีตํสาณสฺส รูปาวจรตฺตา รูปาวจรํ สนฺธาย วจนํ น ยุชฺชติ. ยทา ปนสฺส ภิกฺขุโน ปฏิสนฺธึ อติกฺกมฺม จุติกฺขเณ ปวตฺตํ นามรูปํ อารมฺมณํ กตฺวา มโนทฺวาราวชฺชนํ อุปฺปชฺชิตฺวา ปุพฺเพ วุตฺตนเยน อปฺปนาจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตทาสฺส เตน จิตฺเตน สมฺปยุตฺตํ าณํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ นาม. เตน าเณน สมฺปยุตฺตาย สติยา ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.
ตตฺถ ¶ เสยฺยถิทนฺติ อารทฺธปฺปการทสฺสนตฺเถ นิปาโต. เตเนว ยฺวายํ ปุพฺเพนิวาโส อารทฺโธ, ตสฺส ปการปฺปเภทํ ทสฺเสนฺโต เอกมฺปิ ชาตินฺติอาทิมาห. ตตฺถ เอกมฺปิ ชาตินฺติ เอกมฺปิ ปฏิสนฺธิมูลํ จุติปริโยสานํ ¶ เอกภวปริยาปนฺนํ ขนฺธสนฺตานํ. เอส นโย ทฺเวปิ ชาติโยติอาทีสุ. อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเปติอาทีสุ ปน ปริหายมาโน กปฺโป สํวฏฺฏกปฺโป ตทา สพฺเพสํ พฺรหฺมโลเก สนฺนิปตนโต. วฑฺฒมาโน กปฺโป วิวฏฺฏกปฺโป ตทา พฺรหฺมโลกโต สตฺตานํ วิวฏฺฏนโต. ตตฺถ สํวฏฺเฏน สํวฏฺฏฏฺายี คหิโต โหติ ตํมูลกตฺตา. วิวฏฺเฏน จ วิวฏฺฏฏฺายี. เอวฺหิ สติ ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, กปฺปสฺส อสงฺขฺเยยฺยานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ยทา, ภิกฺขเว, กปฺโป สํวฏฺฏติ, ตํ น สุกรํ สงฺขาตุํ. ยทา, ภิกฺขเว, กปฺโป สํวฏฺโฏ ติฏฺติ…เป… ยทา, ภิกฺขเว, กปฺโป วิวฏฺฏติ…เป… ยทา, ภิกฺขเว, กปฺโป วิวฏฺโฏ ติฏฺติ, ตํ น สุกรํ สงฺขาตุ’’นฺติ (อ. นิ. ๔.๑๕๖) วุตฺตานิ จตฺตาริ อสงฺเขยฺยานิ ปริคฺคหิตานิ โหนฺติ.
ตตฺถ ตโย สํวฏฺฏา – เตโชสํวฏฺโฏ, อาโปสํวฏฺโฏ, วาโยสํวฏฺโฏติ. ติสฺโส สํวฏฺฏสีมา – อาภสฺสรา, สุภกิณฺหา, เวหปฺผลาติ. ยทา กปฺโป เตเชน สํวฏฺฏติ, อาภสฺสรโต เหฏฺา อคฺคินา ฑยฺหติ. ยทา อาเปน สํวฏฺฏติ, สุภกิณฺหโต เหฏฺา อุทเกน วิลียติ. ยทา วายุนา สํวฏฺฏติ, เวหปฺผลโต เหฏฺา วาเตน วิทฺธํสียติ. วิตฺถารโต ปน สทาปิ เอกํ พุทฺธกฺเขตฺตํ วินสฺสติ. พุทฺธกฺเขตฺตํ นาม ติวิธํ โหติ – ชาติกฺเขตฺตํ, อาณากฺเขตฺตํ, วิสยกฺเขตฺตฺจ. ตตฺถ ชาติกฺเขตฺตํ ทสสหสฺสจกฺกวาฬปริยนฺตํ โหติ, ยํ ตถาคตสฺส ปฏิสนฺธิคหณาทีสุ กมฺปติ. อาณากฺเขตฺตํ โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬปริยนฺตํ, ยตฺถ รตนปริตฺตํ, ขนฺธปริตฺตํ, ธชคฺคปริตฺตํ, อาฏานาฏิยปริตฺตํ ¶ , โมรปริตฺตนฺติ อิเมสํ ปริตฺตานํ อานุภาโว วตฺตติ. วิสยกฺเขตฺตํ อนนฺตมปริมาณํ, ยํ ‘‘ยาวตา วา ปน อากงฺเขยฺยา’’ติ (อ. นิ. ๓.๘๑) วุตฺตํ. ตตฺถ ยํ ยํ ตถาคโต อากงฺขติ, ตํ ตํ ชานาติ. เอวเมเตสุ ตีสุ พุทฺธกฺเขตฺเตสุ เอกํ อาณากฺเขตฺตํ วินสฺสติ, ตสฺมึ ปน วินสฺสนฺเต ชาติกฺเขตฺตํ วินฏฺเมว โหติ, วินสฺสนฺตฺจ เอกโตว วินสฺสติ, สณฺหนฺตฺจ เอกโตว สณฺหติ.
ตสฺเสวํ วินาโส จ สณฺหนฺจ เวทิตพฺพํ – ยสฺมึ สมเย กปฺโป อคฺคินา นสฺสติ, อาทิโตว กปฺปวินาสกมหาเมโฆ วุฏฺหิตฺวา โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาเฬ เอกํ มหาวสฺสํ วสฺสติ. มนุสฺสา ตุฏฺา สพฺพพีชานิ นีหริตฺวา วปนฺติ. สสฺเสสุ ปน โคขายิตกมตฺเตสุ ชาเตสุ คทฺรภรวํ ¶ รวนฺโต เอกพินฺทุมตฺตมฺปิ น วสฺสติ, ตทา ปจฺฉินฺนํ ปจฺฉินฺนเมว วสฺสํ โหติ. วสฺสูปชีวิโน สตฺตา กเมน พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตนฺติ, ปุปฺผผลูปชีวินิโย จ เทวตา. เอวํ ¶ ทีเฆ อทฺธาเน วีติวตฺเต ตตฺถ ตตฺถ อุทกํ ปริกฺขยํ คจฺฉติ. อถานุกฺกเมน มจฺฉกจฺฉปาปิ กาลํ กตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตนฺติ, เนรยิกสตฺตาปิ. ตตฺถ ‘‘เนรยิกา สตฺตมสูริยปาตุภาเว วินสฺสนฺตี’’ติ เอเก. ฌานํ วินา นตฺถิ พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ, เอเตสฺจ เกจิ ทุพฺภิกฺขปีฬิตา, เกจิ อภพฺพา ฌานาธิคมาย, เต กถํ ตตฺถ นิพฺพตฺตนฺตีติ? เทวโลเก ปฏิลทฺธชฺฌานวเสน. ตทา หิ ‘‘วสฺสสตสหสฺสสฺส อจฺจเยน กปฺปวุฏฺานํ ภวิสฺสตี’’ติ โลกพฺยูหา นาม กามาวจรเทวา มุตฺตสิรา วิกิณฺณเกสา รุทมุขา อสฺสูนิ หตฺเถหิ ปฺุฉมานา รตฺตวตฺถนิวตฺถา อติวิย วิรูปเวสธาริโน หุตฺวา มนุสฺสปเถ วิจรนฺตา เอวํ อาโรเจนฺติ – ‘‘มาริสา, มาริสา, อิโต วสฺสสตสหสฺสสฺส อจฺจเยน กปฺปวุฏฺานํ ภวิสฺสติ, อยํ โลโก วินสฺสิสฺสติ, มหาสมุทฺโทปิ อุสฺสุสฺสิสฺสติ, อยฺจ มหาปถวี สิเนรุ จ ปพฺพตราชา อุทฺทยฺหิสฺสนฺติ วินสฺสิสฺสนฺติ, ยาว พฺรหฺมโลกา โลกวินาโส ภวิสฺสติ. เมตฺตํ, มาริสา, ภาเวถ. กรุณํ… มุทิตํ… อุเปกฺขํ, มาริสา, ภาเวถ. มาตรํ อุปฏฺหถ, ปิตรํ อุปฏฺหถ, กุเล เชฏฺาปจายิโน โหถา’’ติ. เตสํ วจนํ สุตฺวา เยภุยฺเยน มนุสฺสา จ ภุมฺมา เทวา จ สํเวคชาตา อฺมฺํ มุทุจิตฺตา หุตฺวา เมตฺตาทีนิ ปฺุานิ ¶ กริตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺตนฺติ. ตตฺถ ทิพฺพสุธาโภชนํ ภฺุชิตฺวา วาโยกสิเณ ปริกมฺมํ กตฺวา ฌานํ ปฏิลภนฺติ. ตทฺเ ปน อปรปริยเวทนีเยน กมฺเมน เทวโลเก นิพฺพตฺตนฺติ. อปรปริยเวทนียกมฺมรหิโต หิ สํสาเร สํสรนฺโต นาม สตฺโต นตฺถิ. เตปิ ตตฺถ ตเถว ฌานํ ปฏิลภนฺติ. เอวํ เทวโลเก ปฏิลทฺธชฺฌานวเสน สพฺเพปิ พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตนฺตีติ.
วสฺสูปจฺเฉทโต ปน อุทฺธํ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน ทุติโย สูริโย ปาตุภวติ, ตสฺมึ ปาตุภูเต เนว รตฺติปริจฺเฉโท, น ทิวาปริจฺเฉโท ปฺายติ. เอโก สูริโย อุเทติ, เอโก อตฺถํ คจฺฉติ, อวิจฺฉินฺนสูริยสนฺตาโปว โลโก โหติ. ยถา จ ปกติสูริเย สูริยเทวปุตฺโต ¶ โหติ, เอวํ กปฺปวินาสกสูริเย นตฺถิ. ตตฺถ ปกติสูริเย วตฺตมาเน อากาเส วลาหกาปิ ธูมสิขาปิ จรนฺติ. กปฺปวินาสกสูริเย วตฺตมาเน วิคตธูมวลาหกํ อาทาสมณฺฑลํ วิย นิมฺมลํ นภํ โหติ. เปตฺวา ปฺจ มหานทิโย เสสกุนฺนทีอาทีสุ อุทกํ สุสฺสติ.
ตโตปิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน ตติโย สูริโย ปาตุภวติ, ยสฺส ปาตุภาวา มหานทิโยปิ สุสฺสนฺติ.
ตโตปิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน จตุตฺโถ สูริโย ปาตุภวติ, ยสฺส ปาตุภาวา หิมวติ ¶ มหานทีนํ ปภวา – ‘‘สีหปปาตโน, หํสปาตโน, กณฺณมุณฺฑโก, รถการทโห, อโนตตฺตทโห, ฉทฺทนฺตทโห, กุณาลทโห’’ติ อิเม สตฺต มหาสรา สุสฺสนฺติ.
ตโตปิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน ปฺจโม สูริโย ปาตุภวติ, ยสฺส ปาตุภาวา อนุปุพฺเพน มหาสมุทฺเท องฺคุลิปพฺพเตมนมตฺตมฺปิ อุทกํ น สณฺาติ.
ตโตปิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน ฉฏฺโ สูริโย ปาตุภวติ, ยสฺส ปาตุภาวา สกลจกฺกวาฬํ เอกธูมํ โหติ ปริยาทินฺนสิเนหํ ธูเมน. ยถา จิทํ, เอวํ โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬานิปิ.
ตโตปิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน สตฺตโม สูริโย ปาตุภวติ, ยสฺส ปาตุภาวา สกลจกฺกวาฬํ เอกชาลํ โหติ สทฺธึ โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาเฬหิ. โยชนสติกาทิเภทานิ สิเนรุกูฏานิปิ ปลุชฺชิตฺวา อากาเสเยว อนฺตรธายนฺติ. สา อคฺคิชาลา อุฏฺหิตฺวา จาตุมหาราชิเก คณฺหาติ. ตตฺถ กนกวิมานรตนวิมานมณิวิมานานิ ฌาเปตฺวา ตาวตึสภวนํ คณฺหาติ. เอเตเนว อุปาเยน ยาว ปมชฺฌานภูมึ ¶ คณฺหาติ. ตตฺถ ตโยปิ. พฺรหฺมโลเก ฌาเปตฺวา อาภสฺสเร อาหจฺจ ติฏฺติ. สา ยาว อณุมตฺตมฺปิ สงฺขารคตํ อตฺถิ, ตาว น นิพฺพายติ. สพฺพสงฺขารปริกฺขยา ปน สปฺปิเตลฌาปนคฺคิสิขา วิย ฉาริกมฺปิ อนวเสเสตฺวา นิพฺพายติ. เหฏฺาอากาเสน สห อุปริอากาโส เอโก โหติ มหนฺธกาโร.
อถ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน มหาเมโฆ อุฏฺหิตฺวา ปมํ สุขุมํ สุขุมํ วสฺสติ. อนุปุพฺเพน กุมุทนาฬยฏฺิมุสลตาลกฺขนฺธาทิปฺปมาณาหิ ธาราหิ ¶ วสฺสนฺโต โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาเฬสุ สพฺพํ ทฑฺฒฏฺานํ ปูเรตฺวา อนฺตรธายติ. ตํ อุทกํ เหฏฺา จ ติริยฺจ วาโต สมุฏฺหิตฺวา ฆนํ กโรติ ปริวฏุมํ ปทุมินิปตฺเต อุทกพินฺทุสทิสํ. กถํ ตาว มหนฺตํ อุทกราสึ ฆนํ กโรตีติ เจ? วิวรสมฺปทานโต. ตํ หิสฺส ตหึ ตหึ วิวรํ เทติ. ตํ เอวํ วาเตน สมฺปิณฺฑิยมานํ ฆนํ กริยมานํ ปริกฺขยมานํ อนุปุพฺเพน เหฏฺา โอตรติ. โอติณฺเณ โอติณฺเณ อุทเก พฺรหฺมโลกฏฺาเน พฺรหฺมโลกา, อุปริ จตุกามาวจรเทวโลกฏฺาเน จ เทวโลกา ปาตุภวนฺติ. ปุริมปถวิฏฺานํ โอติณฺเณ ปน พลววาตา อุปฺปชฺชนฺติ. เต ตํ ปิหิตทฺวาเร ธมกรเณ ิตอุทกมิว นิรุสฺสาสํ กตฺวา รุมฺภนฺติ. มธุโรทกํ ปริกฺขยํ คจฺฉมานํ อุปริ รสปถวึ สมุฏฺาเปติ. สา วณฺณสมฺปนฺนา เจว โหติ คนฺธรสสมฺปนฺนา จ นิรุทกปายาสสฺส อุปริ ปฏลํ วิย. ตทา จ อาภสฺสรพฺรหฺมโลเก ปมตราภินิพฺพตฺตา ¶ สตฺตา อายุกฺขยา วา ปฺุกฺขยา วา ตโต จวิตฺวา อิธูปปชฺชนฺติ. เต โหนฺติ สยํปภา อนฺตลิกฺขจรา. เต อคฺคฺสุตฺเต (ที. นิ. ๓.๑๒๐) วุตฺตนเยน ตํ รสปถวึ สายิตฺวา ตณฺหาภิภูตา อาลุปฺปการกํ ปริภฺุชิตุํ อุปกฺกมนฺติ.
อถ เตสํ สยํปภา อนฺตรธายติ, อนฺธกาโร โหติ. เต อนฺธการํ ทิสฺวา ภายนฺติ. ตโต เนสํ ภยํ นาเสตฺวา สูรภาวํ ชนยนฺตํ ปริปุณฺณปฺาสโยชนํ สูริยมณฺฑลํ ปาตุภวติ. เต ตํ ทิสฺวา ‘‘อาโลกํ ปฏิลภิมฺหา’’ติ หฏฺตุฏฺา หุตฺวา ‘‘อมฺหากํ ภีตานํ ภยํ นาเสตฺวา สูรภาวํ ชนยนฺโต อุฏฺิโต, ตสฺมา สูริโย โหตู’’ติ สูริโยตฺเววสฺส ¶ นามํ กโรนฺติ. อถ สูริเย ทิวสํ อาโลกํ กตฺวา อตฺถงฺคเต ‘‘ยมฺปิ อาโลกํ ลภิมฺห, โสปิ โน นฏฺโ’’ติ ปุน ภีตา โหนฺติ, เตสํ เอวํ โหติ ‘‘สาธุ วตสฺส สเจ อฺํ อาโลกํ ลเภยฺยามา’’ติ. เตสํ จิตฺตํ ตฺวา วิย เอกูนปฺาสโยชนํ จนฺทมณฺฑลํ ปาตุภวติ. เต ตํ ทิสฺวา ภิยฺโยโสมตฺตาย หฏฺตุฏฺา หุตฺวา ‘‘อมฺหากํ ฉนฺทํ ตฺวา วิย อุฏฺิโต, ตสฺมา จนฺโท โหตู’’ติ จนฺโทตฺเววสฺส นามํ กโรนฺติ.
เอวํ จนฺทิมสูริเยสุ ปาตุภูเตสุ นกฺขตฺตานิ ตารกรูปานิ ปาตุภวนฺติ. ตโต ปภุติ รตฺตินฺทิวา ปฺายนฺติ อนุกฺกเมน จ มาสทฺธมาสอุตุสํวจฺฉรา. จนฺทิมสูริยานํ ปน ปาตุภูตทิวเสเยว สิเนรุจกฺกวาฬหิมวนฺตปพฺพตา ปาตุภวนฺติ ¶ . เต จ โข อปุพฺพํ อจริมํ ผคฺคุณปุณฺณมทิวเสเยว ปาตุภวนฺติ. กถํ? ยถา นาม กงฺคุภตฺเต ปจฺจมาเน เอกปฺปหาเรเนว ปุพฺพุฬกา อุฏฺหนฺติ, เอเก ปเทสา ถูปถูปา โหนฺติ, เอเก นินฺนนินฺนา เอเก สมสมา, เอวเมวํ ถูปถูปฏฺาเน ปพฺพตา โหนฺติ นินฺนนินฺนฏฺาเน สมุทฺทา สมสมฏฺาเน ทีปาติ.
อถ เตสํ สตฺตานํ รสปถวึ ปริภฺุชนฺตานํ กเมน เอกจฺเจ วณฺณวนฺโต, เอกจฺเจ ทุพฺพณฺณา โหนฺติ. ตตฺถ วณฺณวนฺโต ทุพฺพณฺเณ อติมฺนฺติ. เตสํ อติมานปจฺจยา สา รสปถวี อนฺตรธายติ, ภูมิปปฺปฏโก ปาตุภวติ. อถ เตสํ เตเนว นเยน โสปิ อนฺตรธายติ, ปทาลตา ปาตุภวติ. เตเนว นเยน สาปิ อนฺตรธายติ, อกฏฺปาโก สาลิ ปาตุภวติ อกโณ อถุโส สุทฺโธ สุคนฺธา ตณฺฑุลปฺผโล. ตโต เนสํ ภาชนานิ อุปฺปชฺชนฺติ. เต สาลึ ภาชเน เปตฺวา ปาสาณปิฏฺิยํ เปนฺติ. สยเมว ชาลาสิขา อุฏฺหิตฺวา ตํ ปจติ. โส โหติ โอทโน สุมนชาติปุปฺผสทิโส. น ตสฺส สูเปน วา พฺยฺชเนน วา กรณียํ อตฺถิ, ยํ ยํ รสํ ภฺุชิตุกามา โหนฺติ, ตํ ตํ รโสว โหติ. เตสํ ตํ โอฬาริกํ อาหารํ อาหรยตํ ตโต ปภุติ มุตฺตกรีสํ สฺชายติ. อถ เนสํ ตสฺส นิกฺขมนตฺถาย วณมุขานิ ปภิชฺชนฺติ ¶ . ปุริสสฺส ปุริสภาโว, อิตฺถิยา อิตฺถิภาโว ปาตุภวติ. ตตฺร สุทํ อิตฺถี ปุริสํ, ปุริโส จ อิตฺถึ อติเวลํ อุปนิชฺฌายติ. เตสํ อติเวลํ อุปนิชฺฌายนปจฺจยา กามปริฬาโห อุปฺปชฺชติ. ตโต เมถุนํ ธมฺมํ ¶ ปฏิเสวนฺติ. เต อสทฺธมฺมปฏิเสวนปจฺจยา วิฺูหิ ครหิยมานา วิเหิยมานา ตสฺส อสทฺธมฺมสฺส ปฏิจฺฉาทนเหตุ อคารานิ กโรนฺติ. เต อคารํ อชฺฌาวสมานา อนุกฺกเมน อฺตรสฺส อลสชาติกสฺส สตฺตสฺส ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺตา สนฺนิธึ กโรนฺติ. ตโต ปภุติ กโณปิ ถุโสปิ ตณฺฑุลํ ปริโยนนฺธติ, ลายิตฏฺานมฺปิ น ปฏิวิรูหติ. เต สนฺนิปติตฺวา อนุตฺถุนนฺติ ‘‘ปาปกา วต โภ ธมฺมา สตฺเตสุ ปาตุภูตา, มยฺหิ ปุพฺเพ มโนมยา อหุมฺหา’’ติ อคฺคฺสุตฺเต (ที. นิ. ๓.๑๒๘) วุตฺตนเยน วิตฺถาเรตพฺพํ. ตโต มริยาทํ เปนฺติ.
อถ อฺตโร สตฺโต อฺสฺส ภาคํ อทินฺนํ อาทิยติ. ตํ ทฺวิกฺขตฺตุํ ปริภาสิตฺวา ตติยวาเร ปาณิเลฑฺฑุทณฺเฑหิ ปหรนฺติ. เต เอวํ อทินฺนาทานครหมุสาวาททณฺฑาทาเนสุ ¶ อุปฺปนฺเนสุ สนฺนิปติตฺวา จินฺตยนฺติ ‘‘ยํนูน มยํ เอกํ สตฺตํ สมฺมนฺเนยฺยาม, โย โน สมฺมา ขียิตพฺพํ ขีเยยฺย, ครหิตพฺพํ ครเหยฺย, ปพฺพาเชตพฺพํ ปพฺพาเชยฺย. มยํ ปนสฺส สาลีนํ ภาคํ อนุปทสฺสามา’’ติ. เอวํ กตสนฺนิฏฺาเนสุ ปน สตฺเตสุ อิมสฺมึ ตาว กปฺเป อยเมว ภควา โพธิสตฺตภูโต เตน สมเยน เตสุ สตฺเตสุ อภิรูปตโร จ ทสฺสนียตโร จ มเหสกฺขตโร จ พุทฺธิสมฺปนฺโน ปฏิพโล นิคฺคหปคฺคหํ กาตุํ. เต ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ยาจิตฺวา สมฺมนฺนึสุ. โส ‘‘เตน มหาชเนน สมฺมโตติ มหาสมฺมโต, เขตฺตานํ อธิปตีติ ขตฺติโย, ธมฺเมน สเมน ปเร รฺเชตีติ ราชา’’ติ ตีหิ นาเมหิ ปฺายิตฺถ. ยฺหิ โลเก อจฺฉริยฏฺานํ, โพธิสตฺโตว ตตฺถ อาทิปุริโสติ. เอวํ โพธิสตฺตํ อาทึ กตฺวา ขตฺติยมณฺฑเล สณฺิเต อนุปุพฺเพน พฺราหฺมณาทโยปิ วณฺณา สณฺหึสุ. ตตฺถ กปฺปวินาสกมหาเมฆโต ยาว ชาลูปจฺเฉโท, อิทเมกมสงฺเขยฺยํ สํวฏฺโฏติ วุจฺจติ. กปฺปวินาสกชาลูปจฺเฉทโต ยาว โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬปริปูรโก สมฺปตฺติมหาเมโฆ, อิทํ ทุติยมสงฺเขยฺยํ สํวฏฺฏฏฺายีติ วุจฺจติ. สมฺปตฺติมหาเมฆโต ยาว จนฺทิมสูริยปาตุภาโว, อิทํ ตติยมสงฺเขยฺยํ วิวฏฺโฏติ วุจฺจติ. จนฺทิมสูริยปาตุภาวโต ยาว ปุน กปฺปวินาสกมหาเมโฆ, อิทํ จตุตฺถมสงฺเขยฺยํ วิวฏฺฏฏฺายีติ ¶ วุจฺจติ. อิมานิ จตฺตาริ อสงฺเขยฺยานิ เอโก มหากปฺโป โหติ. เอวํ ตาว อคฺคินา วินาโส จ สณฺหนฺจ เวทิตพฺพํ.
ยสฺมึ ปน สมเย กปฺโป อุทเกน นสฺสติ, อาทิโตว กปฺปวินาสกมหาเมโฆ อุฏฺหิตฺวาติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – ยถา ตตฺถ ทุติโย สูริโย, เอวมิธ ¶ กปฺปวินาสโก ขารูทกมหาเมโฆ อุฏฺาติ. โส อาทิโต สุขุมํ สุขุมํ วสฺสนฺโต อนุกฺกเมน มหาธาราหิ โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬานํ ปูเรนฺโต วสฺสติ. ขารูทเกน ผุฏฺผุฏฺา ปถวีปพฺพตาทโย วิลียนฺติ. อุทกํ สมนฺตโต วาเตหิ ธารียติ. ปถวิโต ยาว ทุติยชฺฌานภูมึ อุทกํ คณฺหาติ, ตตฺถ ตโยปิ พฺรหฺมโลเก วิลียาเปตฺวา สุภกิณฺเห อาหจฺจ ติฏฺติ. ตํ ยาว อณุมตฺตมฺปิ สงฺขารคตํ อตฺถิ, ตาว น วูปสมฺมติ.
อุทกานุคตํ ¶ ปน สพฺพสงฺขารคตํ อภิภวิตฺวา สหสา วูปสมฺมติ, อนฺตรธานํ คจฺฉติ. เหฏฺาอากาเสน สห อุปริอากาโส เอโก โหติ มหนฺธกาโรติ สพฺพํ วุตฺตสทิสํ. เกวลํ ปนิธ อาภสฺสรพฺรหฺมโลกํ อาทึ กตฺวา โลโก ปาตุภวติ. สุภกิณฺหโต จ จวิตฺวา อาภสฺสรฏฺานาทีสุ สตฺตา นิพฺพตฺตนฺติ. ตตฺถ กปฺปวินาสกมหาเมฆโต ยาว กปฺปวินาสกขารูทกูปจฺเฉโท, อิทเมกํ อสงฺเขยฺยํ. อุทกูปจฺเฉทโต ยาว สมฺปตฺติมหาเมโฆ, อิทํ ทุติยมสงฺเขยฺยํ. สมฺปตฺติมหาเมฆโต…เป… อิมานิ จตฺตาริ อสงฺเขยฺยานิ เอโก มหากปฺโป โหติ. เอวํ อุทเกน วินาโส จ สณฺหนฺจ เวทิตพฺพํ.
ยสฺมึ ปน สมเย กปฺโป วาเตน วินสฺสติ, อาทิโตว กปฺปวินาสกมหาเมโฆ วุฏฺหิตฺวาติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – ยถา ตตฺถ ทุติยสูริโย, เอวมิธ กปฺปวินาสนตฺถํ วาโต สมุฏฺาติ. โส ปมํ ถูลรชํ อุฏฺาเปติ, ตโต สณฺหรชํ สุขุมวาลิกํ ถูลวาลิกํ สกฺขรปาสาณาทโยติ ยาว กูฏาคารมตฺเต ปาสาเณ วิสมฏฺาเน ิตมหารุกฺเข จ อุฏฺาเปติ. เต ปถวิโต นภมุคฺคตา น ปุน ปตนฺติ, ตตฺเถว จุณฺณวิจุณฺณา หุตฺวา อภาวํ คจฺฉนฺติ. อถานุกฺกเมน เหฏฺามหาปถวิยา วาโต สมุฏฺหิตฺวา ปถวึ ปริวตฺเตตฺวา อุทฺธํ มูลํ กตฺวา อากาเส ขิปติ. โยชนสตปฺปมาณา ¶ ปถวิปฺปเทสา ทฺวิโยชนติโยชนจตุโยชนปฺจโยชนสตปฺปมาณาปิ ภิชฺชิตฺวา วาตเวคุกฺขิตฺตา อากาเสเยว จุณฺณวิจุณฺณา หุตฺวา อภาวํ คจฺฉนฺติ. จกฺกวาฬปพฺพตมฺปิ สิเนรุปพฺพตมฺปิ วาโต อุกฺขิปิตฺวา อากาเส ขิปติ. เต อฺมฺํ อภิหนฺตฺวา จุณฺณวิจุณฺณา หุตฺวา วินสฺสนฺติ. เอเตเนว อุปาเยน ภูมฏฺกวิมานานิ จ อากาสฏฺกวิมานานิ จ วินาเสนฺโต ฉ กามาวจรเทวโลเก วินาเสตฺวา โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬานิ วินาเสติ. ตตฺถ จกฺกวาฬา จกฺกวาเฬหิ, หิมวนฺตา หิมวนฺเตหิ, สิเนรู สิเนรูหิ อฺมฺํ สมาคนฺตฺวา จุณฺณวิจุณฺณา หุตฺวา วินสฺสนฺติ. ปถวิโต ยาว ตติยชฺฌานภูมึ วาโต คณฺหาติ, ตตฺถ ตโย พฺรหฺมโลเก วินาเสตฺวา เวหปฺผเล อาหจฺจ ติฏฺติ. เอวํ สพฺพสงฺขารคตํ วินาเสตฺวา สยมฺปิ วินสฺสติ. เหฏฺาอากาเสน สห อุปริอากาโส เอโก โหติ มหนฺธกาโรติ สพฺพํ วุตฺตสทิสํ. อิธ ปน ¶ สุภกิณฺหพฺรหฺมโลกํ อาทึ ¶ กตฺวา โลโก ปาตุภวติ. เวหปฺผลโต จ จวิตฺวา สุภกิณฺหฏฺานาทีสุ สตฺตา นิพฺพตฺตนฺติ. ตตฺถ กปฺปวินาสกมหาเมฆโต ยาว กปฺปวินาสกวาตูปจฺเฉโท, อิทเมกํ อสงฺเขยฺยํ. วาตูปจฺเฉทโต ยาว สมฺปตฺติมหาเมโฆ, อิทํ ทุติยมสงฺเขยฺยํ…เป… อิมานิ จตฺตาริ อสงฺเขยฺยานิ เอโก มหากปฺโป โหติ. เอวํ วาเตน วินาโส จ สณฺหนฺจ เวทิตพฺพํ.
กึ การณา เอวํ โลโก วินสฺสติ? อกุสลมูลการณา. อกุสลมูเลสุ หิ อุสฺสนฺเนสุ เอวํ โลโก วินสฺสติ. โส จ โข ราเค อุสฺสนฺนตเร อคฺคินา วินสฺสติ, โทเส อุสฺสนฺนตเร อุทเกน วินสฺสติ. เกจิ ปน ‘‘โทเส อุสฺสนฺนตเร อคฺคินา, ราเค อุทเกนา’’ติ วทนฺติ. โมเห อุสฺสนฺนตเร วาเตน วินสฺสติ. เอวํ วินสฺสนฺโตปิ จ นิรนฺตรเมว สตฺต วาเร อคฺคินา นสฺสติ, อฏฺเม วาเร อุทเกน. ปุน สตฺต วาเร อคฺคินา, อฏฺเม วาเร อุทเกนาติ เอวํ อฏฺเม อฏฺเม วาเร วินสฺสนฺโต สตฺตกฺขตฺตุํ อุทเกน วินสฺสิตฺวา ปุน สตฺต วาเร อคฺคินา นสฺสติ. เอตฺตาวตา เตสฏฺิ กปฺปา อตีตา โหนฺติ. เอตฺถนฺตเร อุทเกน นสฺสนวารํ สมฺปตฺตมฺปิ ปฏิพาหิตฺวา ลทฺโธกาโส วาโต ปริปุณฺณจตุสฏฺิกปฺปายุเก สุภกิณฺเห วิทฺธํเสนฺโต โลกํ วินาเสติ.
ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺโตปิ จ กปฺปานุสฺสรณโก ภิกฺขุ เอเตสุ กปฺเปสุ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ ¶ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป อนุสฺสรติ. สํวฏฺฏกปฺเป วิวฏฺฏกปฺเปติ จ กปฺปสฺส อฑฺฒํ คเหตฺวา วุตฺตํ. สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเปติ สกลกปฺปํ คเหตฺวา วุตฺตํ. กถํ อนุสฺสรตีติ เจ? อมุตฺราสินฺติอาทินา นเยน. ตตฺถ อมุตฺราสินฺติ อมุมฺหิ สํวฏฺฏกปฺเป อหํ อมุมฺหิ ภเว วา โยนิยา วา คติยา วา วิฺาณฏฺิติยา วา สตฺตาวาเส วา สตฺตนิกาเย วา อาสึ. เอวํนาโมติ ติสฺโส วา ผุสฺโส วา. เอวํโคตฺโตติ กจฺจาโน วา กสฺสโป วา. อิทมสฺส อตีตภเว อตฺตโน นามโคตฺตานุสฺสรณวเสน วุตฺตํ. สเจ ปน ตสฺมึ กาเล อตฺตโน วณฺณสมฺปตฺตึ วา ลูขปณีตชีวิกภาวํ วา สุขทุกฺขพหุลตํ วา อปฺปายุกทีฆายุกภาวํ วา อนุสฺสริตุกาโม โหติ, ตมฺปิ อนุสฺสรติเยว. เตนาห ‘‘เอวํวณฺโณ…เป… เอวมายุปริยนฺโต’’ติ. ตตฺถ เอวํวณฺโณติ โอทาโต วา สาโม วา. เอวมาหาโรติ สาลิมํโสทนาหาโร วา ปวตฺตผลโภชโน วา. เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวทีติ อเนกปฺปกาเรน ¶ กายิกเจตสิกานํ สามิสนิรามิสาทิปฺปเภทานํ วา สุขทุกฺขานํ ปฏิสํเวที. เอวมายุปริยนฺโตติ เอวํ วสฺสสตปริมาณายุปริยนฺโต วา จตุราสีติกปฺปสตสหสฺสายุปริยนฺโต วา.
โส ¶ ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทินฺติ โส อหํ ตโต ภวโต โยนิโต คติโต วิฺาณฏฺิติโต สตฺตาวาสโต สตฺตนิกายโต วา จุโต ปุน อมุกสฺมึ นาม ภเว โยนิยา คติยา วิฺาณฏฺิติยา สตฺตาวาเส สตฺตนิกาเย วา อุทปาทึ. ตตฺราปาสินฺติ อถ ตตฺราปิ ภเว โยนิยา คติยา วิฺาณฏฺิติยา สตฺตาวาเส สตฺตนิกาเย วา ปุน อโหสึ. เอวํนาโมติอาทิ วุตฺตนยเมว. อปิจ ยสฺมา อมุตฺราสินฺติ อิทํ อนุปุพฺเพน อาโรหนฺตสฺส ยาวติจฺฉกํ (วิสุทฺธิ. ๒.๔๑๐) อนุสฺสรณํ, โส ตโต จุโตติ ปฏินิวตฺตนฺตสฺส ปจฺจเวกฺขณํ, ตสฺมา อิธูปปนฺโนติ อิมิสฺสา อิธูปปตฺติยา อนนฺตรเมวสฺส อุปปตฺติฏฺานํ สนฺธาย อมุตฺร อุทปาทินฺติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺราปาสินฺติ เอวมาทิ ปนสฺส ตตฺร อิมิสฺสา อุปปตฺติยา อนนฺตเร อุปปตฺติฏฺาเน นามโคตฺตาทีนํ อนุสฺสรณทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโนติ สฺวาหํ ตโต อนนฺตรูปปตฺติฏฺานโต จุโต อิธ อมุกสฺมึ นาม ขตฺติยกุเล วา พฺราหฺมณกุเล วา นิพฺพตฺโตติ. อิตีติ ¶ เอวํ. สาการํ สอุทฺเทสนฺติ นามโคตฺตวเสน สอุทฺเทสํ, วณฺณาทิวเสน สาการํ. นามโคตฺเตน หิ สตฺโต ติสฺโส ผุสฺโส กสฺสโปติ อุทฺทิสียติ, วณฺณาทีหิ สาโม โอทาโตติ นานตฺตโต ปฺายติ. ตสฺมา นามโคตฺตํ อุทฺเทโส, อิตเร อาการาติ.
ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕๔. ทิพฺพจกฺขุาณนิทฺเทสวณฺณนา
๑๐๖. ทิพฺพจกฺขุาณนิทฺเทเส ¶ อาโลกสฺํ มนสิ กโรตีติ ทิวา วา รตฺตึ วา สูริยโชติจนฺทมณิอาโลกํ อาโลโกติ มนสิ กโรติ. เอวํ มนสิกโรนฺโต จ อาโลโกติ สฺํ มนสิ ปวตฺตนโต ‘‘อาโลกสฺํ มนสิ กโรตี’’ติ วุจฺจติ. ทิวาสฺํ อธิฏฺาตีติ เอวํ อาโลกสฺํ มนสิกริตฺวา ทิวาติ สฺํ เปติ. ยถา ¶ ทิวา ตถา รตฺตินฺติ ยถา ทิวา อาโลโก ทิฏฺโ, ตเถว รตฺติมฺปิ มนสิ กโรติ. ยถา รตฺตึ ตถา ทิวาติ ยถา รตฺตึ อาโลโก ทิฏฺโ, ตเถว ทิวาปิ มนสิ กโรติ. อิติ วิวเฏน เจตสาติ เอวํ อปิหิเตน จิตฺเตน. อปริโยนทฺเธนาติ สมนฺตโต อนทฺเธน. สปฺปภาสํ จิตฺตํ ภาเวตีติ สโอภาสํ จิตฺตํ วฑฺเฒติ. เอเตน ทิพฺพจกฺขุสฺส ปริกมฺมาโลการมฺมณํ จิตฺตํ กถิตํ. อาโลกกสิณารมฺมณํ จตุตฺถชฺฌานเมว วา สนฺธาย วุตฺตํ. ตสฺเสวํ ภาวยโต โอภาสชาตํ จิตฺตํ โหติ วิคตนฺธการาวรณํ. เตน หิ ทิพฺพจกฺขุํ อุปฺปาเทตุกาเมน อาทิกมฺมิเกน กุลปุตฺเตน อิมิสฺสาเยว ปาฬิยา อนุสาเรน กสิณารมฺมณํ อภิฺาปาทกชฺฌานํ สพฺพากาเรน อภินีหารกฺขมํ ¶ กตฺวา ‘‘เตโชกสิณํ โอทาตกสิณํ อาโลกกสิณ’’นฺติ อิเมสุ ตีสุ กสิเณสุ อฺตรํ อาสนฺนํ กาตพฺพํ, อุปจารชฺฌานโคจรํ กตฺวา วฑฺเฒตฺวา เปตพฺพํ, น ตตฺถ อปฺปนา อุปฺปาเทตพฺพาติ อธิปฺปาโย. สเจ หิ อุปฺปาเทติ, ปาทกชฺฌานนิสฺสยํ โหติ, น ปริกมฺมนิสฺสยํ. อิเมสุ จ ปน ตีสุ อาโลกกสิณํเยว เสฏฺตรํ, ตทนุโลเมน ปน อิตรํ กสิณทฺวยมฺปิ วุตฺตํ. ตสฺมา อาโลกกสิณํ อิตเรสํ วา อฺตรํ อารมฺมณํ กตฺวา จตฺตาริ ฌานานิ อุปฺปาเทตฺวา ปุน อุปจารภูมิยํเยว ตฺวา กสิณํ วฑฺเฒตพฺพํ. วฑฺฒิตวฑฺฒิตฏฺานสฺส อนฺโตเยว รูปคตํ ปสฺสิตพฺพํ. รูปคตํ ปสฺสโต ปนสฺส เตน พฺยาปาเรน ปริกมฺมจิตฺเตน อาโลกผรณํ อกุพฺพโต ¶ ปริกมฺมสฺส วาโร อติกฺกมติ, ตโต อาโลโก อนฺตรธายติ, ตสฺมึ อนฺตรหิเต รูปคตมฺปิ น ทิสฺสติ. อถาเนน ปุนปฺปุนํ ปาทกชฺฌานเมว ปวิสิตฺวา ตโต วุฏฺาย อาโลโก ผริตพฺโพ. เอวํ อนุกฺกเมน อาโลโก ถามคโต โหตีติ. ‘‘เอตฺถ อาโลโก โหตู’’ติ ยตฺตกํ านํ ปริจฺฉินฺทติ, ตตฺถ อาโลโก ติฏฺติเยว. ทิวสมฺปิ นิสีทิตฺวา ปสฺสโต รูปทสฺสนํ โหติ. ตตฺถ ยทา ตสฺส ภิกฺขุโน มํสจกฺขุสฺส อนาปาถคตํ อนฺโตกุจฺฉิคตํ หทยวตฺถุนิสฺสิตํ เหฏฺาปถวีตลนิสฺสิตํ ติโรกุฏฺฏปพฺพตปาการคตํ ปรจกฺกวาฬคตนฺติ อิทํ รูปํ าณจกฺขุสฺส อาปาถํ อาคจฺฉติ, มํสจกฺขุนา ทิสฺสมานํ วิย โหติ, ตทา ทิพฺพจกฺขุ อุปฺปนฺนํ โหติ. ตเทว เจตฺถ รูปทสฺสนสมตฺถํ, น ปุพฺพภาคจิตฺตานิ.
ตตฺรายํ ¶ ทิพฺพจกฺขุโน อุปฺปตฺติกฺกโม – วุตฺตปฺปการเมตํ รูปมารมฺมณํ กตฺวา มโนทฺวาราวชฺชเน อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธ ตเทว รูปมารมฺมณํ กตฺวา จตฺตาริ ปฺจ วา ชวนานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิทํ ปน าณํ ‘‘สตฺตานํ จุตูปปาเต าณ’’นฺติปิ ‘‘ทิพฺพจกฺขุาณ’’นฺติปิ วุจฺจติ. ตํ ปเนตํ ปุถุชฺชนสฺส ปริปนฺโถ โหติ. โส หิ ‘‘ยตฺถ ยตฺถ อาโลโก โหตู’’ติ อธิฏฺาติ, ตํ ตํ ปถวีสมุทฺทปพฺพเต วินิวิชฺฌิตฺวาปิ เอกาโลกํ โหติ. อถสฺส ตตฺถ ภยานกานิ ยกฺขรกฺขสาทิรูปานิ ปสฺสโต ภยํ อุปฺปชฺชติ. เตน จิตฺตวิกฺเขปํ ปตฺวา ฌานวิพฺภนฺตโก โหติ. ตสฺมา รูปทสฺสเน อปฺปมตฺเตน ภวิตพฺพํ.
สตฺตานํ จุตูปปาตาณายาติ สตฺตานํ จุติยา จ อุปปาเต จ าณาย. เยน าเณน สตฺตานํ จุติ จ อุปปาโต จ ายติ, ตทตฺถํ ทิพฺพจกฺขุาณตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. ทิพฺเพน จกฺขุนาติ วุตฺตตฺถเมว. วิสุทฺเธนาติ จุตูปปาตทสฺสเนน ทิฏฺิวิสุทฺธิเหตุตฺตา วิสุทฺธํ. โย หิ จุติมตฺตเมว ปสฺสติ, น อุปปาตํ, โส อุจฺเฉททิฏฺึ คณฺหาติ. โย อุปปาตเมว ปสฺสติ, น จุตึ, โส นวสตฺตปาตุภาวทิฏฺึ คณฺหาติ. โย ปน ตทุภยํ ปสฺสติ, โส ยสฺมา ทุวิธมฺปิ ตํ ทิฏฺิคตมติวตฺตติ, ตสฺมาสฺส ตํ ทสฺสนํ ทิฏฺิวิสุทฺธิเหตุ โหติ. อุภยฺเจตํ พุทฺธปุตฺตา ปสฺสนฺติ ¶ . เตน วุตฺตํ – ‘‘จุตูปปาตทสฺสเนน ทิฏฺิวิสุทฺธิเหตุตฺตา ¶ วิสุทฺธ’’นฺติ. มนุสฺสูปจารํ อติกฺกมิตฺวา รูปทสฺสเนน อติกฺกนฺตมานุสกํ, มานุสกํ วา มํสจกฺขุํ อติกฺกนฺตตฺตา อติกฺกนฺตมานุสกํ. เตน ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน.
สตฺเต ปสฺสตีติ มนุสฺสานํ มํสจกฺขุนา วิย สตฺเต โอโลเกติ. จวมาเน อุปปชฺชมาเนติ เอตฺถ จุติกฺขเณ อุปปตฺติกฺขเณ วา ทิพฺพจกฺขุนา ทฏฺุํ น สกฺกา, เย ปน อาสนฺนจุติกา อิทานิ จวิสฺสนฺติ. เต จวมานา. เย จ คหิตปฏิสนฺธิกา สมฺปตินิพฺพตฺตา วา, เต อุปปชฺชมานาติ อธิปฺเปตา. เต เอวรูเป จวมาเน จ อุปปชฺชมาเน จ ปสฺสตีติ ทสฺเสติ. หีเนติ โมหนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา หีนานํ ชาติกุลโภคาทีนํ วเสน หีฬิเต โอหีฬิเต โอฺาเต อวฺาเต. ปณีเตติ อโมหนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา ตพฺพิปรีเต. สุวณฺเณติ อโทสนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา อิฏฺกนฺตมนาปวณฺณยุตฺเต. ทุพฺพณฺเณติ โทสนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา อนิฏฺากนฺตามนาปวณฺณยุตฺเต, อนภิรูเป ¶ วิรูเปติปิ อตฺโถ. สุคเตติ สุคติคเต, อโลภนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา วา อฑฺเฒ มหทฺธเน. ทุคฺคเตติ ทุคฺคติคเต, โลภนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา วา ทลิทฺเท อปฺปนฺนปาเน. ยถากมฺมูปเคติ ยํ ยํ กมฺมํ อุปจิตํ, เตน เตน อุปคเต. ตตฺถ ปุริเมหิ ‘‘จวมาเน’’ติอาทีหิ ทิพฺพจกฺขุกิจฺจํ วุตฺตํ, อิมินา ปน ปเทน ยถากมฺมูปคาณกิจฺจํ.
ตสฺส จ าณสฺส อยมุปฺปตฺติกฺกโม – อิธ ภิกฺขุ เหฏฺานิรยาภิมุขํ อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา เนรยิเก สตฺเต ปสฺสติ มหาทุกฺขมนุภวมาเน, ตํ ทสฺสนํ ทิพฺพจกฺขุกิจฺจเมว. โส เอวํ มนสิ กโรติ ‘‘กึ นุ โข กมฺมํ กตฺวา อิเม สตฺตา เอตํ ทุกฺขมนุภวนฺตี’’ติ. อถสฺส ‘‘อิทํ นาม กตฺวา’’ติ ตํกมฺมารมฺมณํ าณมุปฺปชฺชติ. ตถา อุปริเทวโลกาภิมุขํ อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา นนฺทนวนมิสฺสกวนผารุสกวนาทีสุ สตฺเต ปสฺสติ มหาสมฺปตฺตึ อนุภวมาเน, ตมฺปิ ทสฺสนํ ทิพฺพจกฺขุกิจฺจเมว. โส เอวํ มนสิ กโรติ ‘‘กึ นุ โข กมฺมํ กตฺวา อิเม สตฺตา เอตํ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺตี’’ติ. อถสฺส ‘‘อิทํ นาม กตฺวา’’ติ ตํกมฺมารมฺมณํ าณมุปฺปชฺชติ. อิทํ ยถากมฺมูปคาณํ นาม. อิมสฺส วิสุํ ปริกมฺมํ นาม นตฺถิ. ยถา จิมสฺส, เอวํ อนาคตํสาณสฺสาปิ. ทิพฺพจกฺขุปาทกาเนว ¶ หิ อิมานิ ทิพฺพจกฺขุนา สเหว อิชฺฌนฺติ.
อิเม วต โภนฺโตติอาทีสุ อิเมติ ทิพฺพจกฺขุนา ทิฏฺานํ นิทสฺสนวจนํ. วตาติ อนุโลมวจนตฺเถ นิปาโต. โภนฺโตติ ภวนฺโต. ทุฏฺุ จริตํ, ทุฏฺํ วา จริตํ กิเลสปูติกตฺตาติ ทุจฺจริตํ, กาเยน ทุจฺจริตํ, กายโต วา อุปฺปนฺนํ ทุจฺจริตนฺติ กายทุจฺจริตํ ¶ . อิตเรสุปิ เอเสว นโย. สมนฺนาคตาติ สมงฺคีภูตา. อริยานํ อุปวาทกาติ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวกานํ อริยานํ อนฺตมโส คิหิโสตาปนฺนานมฺปิ อนตฺถกามา หุตฺวา อนฺติมวตฺถุนา วา คุณปริธํสเนน วา อุปวาทกา, อกฺโกสกา ครหกาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ ‘‘นตฺถิ อิเมสํ สมณธมฺโม, อสฺสมณา เอเต’’ติ วทนฺโต อนฺติมวตฺถุนา อุปวทติ, ‘‘นตฺถิ อิเมสํ ฌานํ วา วิโมกฺโข วา มคฺโค วา ผลํ วา’’ติอาทีนิ วทนฺโต คุณปริธํสเนน อุปวทตีติ เวทิตพฺโพ. โส จ ชานํ วา อุปวเทยฺย อชานํ วา, อุภยถาปิ อริยูปวาโทว โหติ. ภาริยํ กมฺมํ อานนฺตริยสทิสํ สคฺคาวรณํ มคฺคาวรณฺจ, สเตกิจฺฉํ ปน โหติ. ตสฺมา โย อริยํ อุปวทติ, เตน คนฺตฺวา สเจ อตฺตนา วุฑฺฒตโร โหติ, อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา ‘‘อหํ อายสฺมนฺตํ ¶ อิทฺจิทฺจ อวจํ, ตํ เม ขมาหี’’ติ ขมาเปตพฺโพ. สเจ นวกตโร โหติ, วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺเห อิทฺจิทฺจ อวจํ, ตํ เม ขมถา’’ติ ขมาเปตพฺโพ. สเจ ทิสาปกฺกนฺโต โหติ, สยํ วา คนฺตฺวา สทฺธิวิหาริกาทิเก วา เปเสตฺวา ขมาเปตพฺโพ. สเจ นาปิ คนฺตุํ น เปเสตุํ สกฺกา โหติ, เย ตสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู วสนฺติ, เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา สเจ นวกตรา โหนฺติ, อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา, สเจ วุฑฺฒตรา, วุฑฺเฒ วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, อสุกํ นาม อายสฺมนฺตํ อิทฺจิทฺจ อวจํ, ขมตุ เม โส อายสฺมา’’ติ วตฺวา ขมาเปตพฺโพ. สมฺมุขา อกฺขมนฺเตปิ เอตเทว กาตพฺพํ. สเจ เอกจาริกภิกฺขุ โหติ, เนว ตสฺส วสนฏฺานํ, น คตฏฺานํ ปฺายติ, เอกสฺส ปณฺฑิตสฺส ภิกฺขุโน สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, อสุกํ นาม อายสฺมนฺตํ อิทฺจิทฺจ อวจํ, ตํ เม อนุสฺสรโต วิปฺปฏิสาโร โหติ, กึ กโรมี’’ติ ¶ วตฺตพฺพํ. โส วกฺขติ ‘‘ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถ, เถโร ตุมฺหากํ ขมติ, จิตฺตํ วูปสเมถา’’ติ. เตนาปิ อริยสฺส คตทิสาภิมุเขน อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘ขมถา’’ติ วตฺตพฺพํ. ยทิ โส ปรินิพฺพุโต โหติ, ปรินิพฺพุตมฺจฏฺานํ คนฺตฺวา ยาว สิวถิกํ คนฺตฺวาปิ ขมาเปตพฺพํ. เอวํ กเต เนว สคฺคาวรณํ, น มคฺคาวรณํ โหติ, ปากติกเมว โหตีติ.
มิจฺฉาทิฏฺิกาติ วิปรีตทสฺสนา. มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานาติ มิจฺฉาทิฏฺิวเสน สมาทินฺนนานาวิธกมฺมา, เย จ มิจฺฉาทิฏฺิมูลเกสุ กายกมฺมาทีสุ อฺเปิ สมาทเปนฺติ. เอตฺถ จ วจีทุจฺจริตคฺคหเณเนว อริยูปวาเท, มโนทุจฺจริตคฺคหเณน จ มิจฺฉาทิฏฺิยา สงฺคหิตายปิ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปุน วจนํ มหาสาวชฺชภาวทสฺสนตฺถนฺติ เวทิตพฺพํ. มหาสาวชฺโช หิ อริยูปวาโท อานนฺตริยสทิสตฺตา. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘เสยฺยถาปิ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน สมาธิสมฺปนฺโน ปฺาสมฺปนฺโน ทิฏฺเว ธมฺเม อฺํ อาราเธยฺย, เอวํสมฺปทมิทํ สาริปุตฺต วทามิ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา ยถาภตํ ¶ นิกฺขิตฺโต, เอวํ นิรเย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๔๙). มิจฺฉาทิฏฺิโต จ มหาสาวชฺชตรํ นาม อฺํ นตฺถิ. ยถาห – ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกธมฺมมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํ มหาสาวชฺชํ, ยถยิทํ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฏฺิ, มิจฺฉาทิฏฺิปรมานิ, ภิกฺขเว, วชฺชานี’’ติ (อ. นิ. ๑.๓๑๐).
กายสฺส ¶ เภทาติ อุปาทินฺนกฺขนฺธปริจฺจาคา. ปรํ มรณาติ ตทนนฺตรํ อภินิพฺพตฺติกฺขนฺธคฺคหเณ. อถ วา กายสฺส เภทาติ ชีวิตินฺทฺริยสฺสุปจฺเฉทา. ปรํ มรณาติ จุติจิตฺตโต อุทฺธํ. อปายนฺติ เอวมาทิ สพฺพํ นิรยเววจนเมว. นิรโย หิ สคฺคโมกฺขเหตุภูตา ปฺุสมฺมตา อยา อเปตตฺตา, สุขานํ วา อายสฺส อภาวา อปาโย. ทุกฺขสฺส คติ ปฏิสรณนฺติ ทุคฺคติ, โทสพหุลตาย วา ทุฏฺเน กมฺมุนา นิพฺพตฺตา คติ ทุคฺคติ. วิวสา นิปตนฺติ ตตฺถ ทุกฺกฏการิโนติ วินิปาโต, วินสฺสนฺตา วา เอตฺถ ปตนฺติ สมฺภิชฺชมานงฺคปจฺจงฺคาติปิ วินิปาโต. นตฺถิ เอตฺถ อสฺสาทสฺิโต อโยติ นิรโย.
อถ วา อปายคฺคหเณน ¶ ติรจฺฉานโยนึ ทีเปติ. ติรจฺฉานโยนิ หิ อปาโย สุคติโต อเปตตฺตา, น ทุคฺคติ มเหสกฺขานํ นาคราชาทีนํ สมฺภวโต. ทุคฺคติคฺคหเณน เปตฺติวิสยํ. โส หิ อปาโย เจว ทุคฺคติ จ สุคติโต อเปตตฺตา ทุกฺขสฺส จ คติภูตตฺตา, น ตุ วินิปาโต อสุรสทิสํ อวินิปติตตฺตา. วินิปาตคฺคหเณน อสุรกายํ. โส หิ ยถาวุตฺเตน อตฺเถน อปาโย เจว ทุคฺคติ จ สพฺพสมุสฺสเยหิ จ วินิปติตตฺตา วินิปาโตติ วุจฺจติ. นิรยคฺคหเณน อวีจิอาทิมเนกปฺปการํ นิรยเมวาติ. อุปปนฺนาติ อุปคตา, ตตฺถ อภินิพฺพตฺตาติ อธิปฺปาโย. วุตฺตวิปริยาเยน สุกฺกปกฺโข เวทิตพฺโพ.
อยํ ปน วิเสโส – ตตฺถ สุคติคฺคหเณน มนุสฺสคติปิ สงฺคยฺหติ, สคฺคคฺคหเณน เทวคติเยว. ตตฺถ สุนฺทรา คตีติ สุคติ. รูปาทีหิ วิสเยหิ สุฏฺุ อคฺโคติ สคฺโค. โส สพฺโพปิ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโกติ อยํ วจนตฺโถ. อิติ ‘‘ทิพฺเพน จกฺขุนา’’ติอาทิ สพฺพํ นิคมนวจนํ. เอวํ ทิพฺเพน จกฺขุนา ปสฺสตีติ อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถติ.
ทิพฺพจกฺขุาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจาณปกิณฺณกํ
อิเมสุ ¶ ¶ ปฺจสุ าเณสุ อิทฺธิวิธาณํ ปริตฺตมหคฺคตอตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนอชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณวเสน สตฺตสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ. โสตธาตุวิสุทฺธิาณํ ปริตฺตปจฺจุปฺปนฺนอชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณวเสน จตูสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ. เจโตปริยาณํ ปริตฺตมหคฺคตอปฺปมาณมคฺคอตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนพหิทฺธารมฺมณวเสน อฏฺสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ. ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ ¶
ปริตฺตมหคฺคตอปฺปมาณมคฺคอตีตอชฺฌตฺตพหิทฺธานวตฺตพฺพารมฺมณวเสน อฏฺสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ. ทิพฺพจกฺขุาณํ ปริตฺตปจฺจุปฺปนฺนอชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณวเสน จตูสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ. ยถากมฺมูปคาณํ ปริตฺตมหคฺคตอตีตอชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณวเสน ปฺจสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ. อนาคตํสาณํ ปริตฺตมหคฺคตอปฺปมาณมคฺคอนาคตอชฺฌตฺตพหิทฺธานวตฺตพฺพารมฺมณวเสน อฏฺสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตตีติ.
ปฺจาณปกิณฺณกํ นิฏฺิตํ.
๕๕. อาสวกฺขยาณนิทฺเทสวณฺณนา
๑๐๗. อาสวกฺขยาณนิทฺเทเส ¶ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยาทีนิ วุตฺตตฺถานิ. กติ านานิ คจฺฉตีติ เอเกกสฺส อุปฺปตฺติฏฺานนิยมนตฺถํ ปุจฺฉา. เอกํ านํ คจฺฉตีติ เอกสฺมึ าเน อุปฺปชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ. อุปฺปตฺติโอกาสฏฺานฺหิ ติฏฺติ เอตฺถาติ านนฺติ วุจฺจติ. ฉ านานีติ ฉ มคฺคผลกฺขเณ. อินฺทฺริยานํ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยาทีสุ ตีสุ เอเกกเมว อธิกํ โหตีติ ทสฺสนตฺถํ สทฺธินฺทฺริยํ อธิโมกฺขปริวารํ โหตีติอาทิ วุตฺตํ. ยถา ‘‘สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิโมกฺขฏฺโ’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๑๒) อธิโมกฺขาทโย สทฺธินฺทฺริยาทีนํ กิจฺจวเสน วุตฺตา, เอวมิธาปิ ‘‘อธิโมกฺขปริวารํ โหตี’’ติ สทฺธินฺทฺริยํ อธิโมกฺขตฺเถน ปริวารํ โหตีติ วุตฺตํ โหติ. เอส นโย เสเสสุปิ. ปริวารนฺติ จ ลิงฺควิปลฺลาโส กโต. ปฺินฺทฺริยนฺติ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยเมว ปชานนสภาวทสฺสนตฺถํ วิสุํ กตฺวา วุตฺตํ. อภิธมฺเมปิ (วิภ. ๒๑๙) หิ ปฺาย กิจฺจวิเสสทสฺสนตฺถํ มคฺคกฺขเณ จ ผลกฺขเณ จ เอกาว ปฺา อฏฺธา วิภตฺตา. อภิสนฺทนปริวารนฺติ นฺหานิยจุณฺณานํ อุทกํ วิย จิตฺตเจตสิกานํ สิเนหนกิจฺเจน ปริวารํ โหติ. อิทํ โสมนสฺสสมฺปยุตฺตมคฺควเสเนว วุตฺตํ. อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตมคฺเค ปน โสมนสฺสินฺทฺริยฏฺาเน อุเปกฺขินฺทฺริยํ ¶ ทฏฺพฺพํ. ตํ ปน สมฺปยุตฺตานํ นาติอุปพฺรูหนปริวารนฺติ คเหตพฺพํ. ปวตฺตสนฺตตาธิปเตยฺยปริวารนฺติ ปวตฺตา สนฺตติ ปวตฺตสนฺตติ, วตฺตมานสนฺตานนฺติ อตฺโถ. อธิปติภาโว อาธิปเตยฺยํ, ปวตฺตสนฺตติยา อาธิปเตยฺยํ ปวตฺตสนฺตตาธิปเตยฺยํ. วตฺตมานชีวิตินฺทฺริยสฺส อุปริปวตฺติยา จ ปจฺจยตฺตา ปุพฺพาปรวเสน ปวตฺตสนฺตติยา ¶ อธิปติภาเวน อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยสฺส ปริวารํ โหติ.
โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ ¶ ชาตา ธมฺมาติอาทิ สพฺเพสํ มคฺคสมฺปยุตฺตกานํ วณฺณภณนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ มคฺคกฺขเณ ชาตาติ มคฺคสมุฏฺิตา เอว, น อฺเ. ยสฺมา ปน มคฺคสมุฏฺิตมฺปิ รูปํ กุสลาทินามํ น ลภติ, ตสฺมา ตํ อปเนนฺโต เปตฺวา จิตฺตสมุฏฺานํ รูปนฺติ อาห. สพฺเพว หิ เต ธมฺมา กุจฺฉิตานํ สลนาทีหิ อตฺเถหิ กุสลา. เต อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตมานา นตฺถิ เอเตสํ อาสวาติ อนาสวา. วฏฺฏมูลํ ฉินฺทนฺตา นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา วฏฺฏโต นิยฺยนฺตีติ นิยฺยานิกา. กุสลากุสลสงฺขาตา จยา อเปตตฺตา อปจยสงฺขาตํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตนโต อปจยํ คจฺฉนฺตีติ อปจยคามิโน, ปวตฺตํ อปจินนฺตา วิทฺธํเสนฺตา คจฺฉนฺตีติปิ อปจยคามิโน. โลเก อปริยาปนฺนภาเวน โลกโต อุตฺตรา อุตฺติณฺณาติ โลกุตฺตรา. นิพฺพานํ อารมฺมณํ เอเตสนฺติ นิพฺพานารมฺมณา.
อิมานิ อฏฺินฺทฺริยานีติอาทิ ปุพฺเพ วุตฺตปริวารภาวสฺส จ เตน สหคตาทิภาวสฺส จ อาทิวุตฺตอาการานฺจ ทีปนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ อฏฺินฺทฺริยานีติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ปฺินฺทฺริเยน สห อฏฺ. สหชาตปริวาราติ อฏฺสุ เอเกเกน สห อิตเร อิตเร สตฺต สหชาตา หุตฺวา ตสฺส สหชาตปริวารา โหนฺติ. ตเถว อฺํ อฺสฺส อฺํ อฺสฺสาติ เอวํ อฺมฺปริวารา โหนฺติ. ตเถว อฺมฺํ นิสฺสยปริวารา สมฺปยุตฺตปริวารา จ โหนฺติ. สหคตาติ เตน อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริเยน สห เอกุปฺปาทาทิภาวํ คตา. สหชาตาติ เตเนว สห ชาตา. สํสฏฺาติ เตเนว สห มิสฺสิตา. สมฺปยุตฺตาติ เตเนว สมํ เอกุปฺปาทาทิปกาเรหิ ยุตฺตา. เตวาติ เต เอว อฏฺ อินฺทฺริยธมฺมา. ตสฺสาติ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยสฺส. อาการาติ ปริวารโกฏฺาสา.
ผลกฺขเณ ชาตา ธมฺมา สพฺเพว อพฺยากตา โหนฺตีติ รูปสฺสปิ อพฺยากตตฺตา จิตฺตสมุฏฺานรูเปน สห วุตฺตา. มคฺคสฺเสว กุสลตฺตา นิยฺยานิกตฺตา อปจยคามิตฺตา จ ผลกฺขเณ ‘‘กุสลา’’ติ จ ‘‘นิยฺยานิกา’’ติ จ ‘‘อปจยคามิโน’’ติ จ น วุตฺตํ. อิตีติอาทิ วุตฺตปฺปการนิคมนํ. ตตฺถ อฏฺฏฺกานีติ ¶ อฏฺสุ มคฺคผเลสุ เอเกกสฺส อฏฺกสฺส วเสน อฏฺ อินฺทฺริยอฏฺกานิ. จตุสฏฺิ โหนฺตีติ จตุสฏฺิ อาการา โหนฺติ. อาสวาติอาทิ เหฏฺา วุตฺตตฺถเมว ¶ . อิธ อรหตฺตมคฺควชฺเฌเยว ¶ อาสเว อวตฺวา เสสมคฺคตฺตยวชฺฌานมฺปิ วจนํ อาสวกฺขยวจนสามฺมตฺเตน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อรหตฺตมคฺคาณเมว หิ เกจิ อาสเว อเสเสตฺวา อาสวานํ เขปนโต ‘‘ขเย าณ’’นฺติ วุจฺจติ. ตสฺมาเยว จ อรหาเยว ขีณาสโวติ วุจฺจตีติ.
อาสวกฺขยาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕๖-๖๓. สจฺจาณจตุกฺกทฺวยนิทฺเทสวณฺณนา
๑๐๘-๙. สจฺจาณจตุกฺกทฺวยนิทฺเทเส ¶ ทุกฺขสฺส ปีฬนฏฺโติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. มคฺคสมงฺคิสฺส าณํ ทุกฺเขเปตํ าณนฺติอาทิ อนนฺตรจตุกฺเก วิย เอกาภิสมยวเสน วุตฺตํ. ทุวิธฺหิ สจฺจาณํ โลกิยํ โลกุตฺตรฺจ. โลกิกํ ทุวิธํ อนุโพธาณํ ปจฺจเวกฺขณาณฺจ. อนุโพธาณํ อาทิกมฺมิกสฺส อนุสฺสวาทิวเสน นิโรเธ มคฺเค จ ปวตฺตติ, ทุกฺเข สมุทเย จ อารมฺมณกรณวเสน. ปจฺจเวกฺขณาณํ ปฏิวิทฺธสจฺจสฺส จตูสุปิ สจฺเจสุ อารมฺมณกรณวเสน. โลกุตฺตรํ ปฏิเวธาณํ นิโรธมารมฺมณํ กตฺวา กิจฺจโต จตฺตาริ สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ. ยถาห – ‘‘โย, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ ปสฺสติ, ทุกฺขสมุทยมฺปิ โส ปสฺสติ, ทุกฺขนิโรธมฺปิ ปสฺสติ, ทุกฺขนิโรธคามินึ ปฏิปทมฺปิ ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๑๐๐) สพฺพํ วตฺตพฺพํ. อิธาปิ อิมินา วาเรน อิทเมว วุตฺตํ. ตํ ปน โลกุตฺตรมฺปิ ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทีนิ นามานิ ลภตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อิธ ปน โลกิกาณเมว อธิปฺเปตํ. ตสฺมาเยว จ ตตฺถ กตมํ ทุกฺเข าณนฺติอาทิมาห.
ตตฺถ ทุกฺขํ อารพฺภาติ ทุกฺขสจฺจํ อาลมฺพิตฺวา, อารมฺมณํ กตฺวาติ อตฺโถ. ปฺาติอาทีสุ ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส ปากฏกรณสงฺขาเตน ปฺาปนฏฺเน ปฺา, เตน เตน วา อนิจฺจาทินา ปกาเรน ธมฺเม ชานาตีติปิ ปฺา. อิทมสฺสา สภาวปทํ. ปชานนากาโร ปชานนา. อนิจฺจาทีนิ วิจินาตีติ วิจโย. ปวิจโยติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ, ปกาเรน วิจโยติ อตฺโถ. จตุสจฺจธมฺมํ วิจินาตีติ ธมฺมวิจโย. อนิจฺจาทีนํ สมฺมา ¶ ลกฺขณวเสน สลฺลกฺขณา. สา เอว อุปสคฺคนานตฺเตน อุปลกฺขณา ¶ ปจฺจุปลกฺขณาติ วุตฺตา. ภุสํ ลกฺขณา เต เต อนิจฺจาทิธมฺเม ปฏิจฺจ อุปลกฺขณาติ อตฺโถ. ปณฺฑิตภาโว ปณฺฑิจฺจํ. กุสลภาโว โกสลฺลํ. นิปุณภาโว เนปฺุํ. อนิจฺจาทีนํ วิภาวนวเสน เวภพฺยา. อนิจฺจาทีนํ จินฺตนกวเสน จินฺตา, ยสฺส อุปฺปชฺชติ, ตํ อนิจฺจาทีนิ จินฺตาเปตีติปิ จินฺตา. อนิจฺจาทีนิ อุปปริกฺขตีติ ¶ อุปปริกฺขา. ภูรีติ ปถวี. อยมฺปิ สณฺหฏฺเน วิตฺถตฏฺเน จ ภูรี วิยาติ ภูรี. อถ วา ปฺาเยว ภูเต อตฺเถ รมตีติ ภูรีติ วุจฺจติ. อสนิ วิย สิลุจฺจเย กิเลเส เมธติ หึสตีติ เมธา, ขิปฺปํ คหณธารณฏฺเน วา เมธา. ยสฺส อุปฺปชฺชติ, ตํ อตฺตหิตปฏิปตฺติยํ สมฺปยุตฺตธมฺเม จ ยาถาวลกฺขณปฏิเวเธ ปริเนตีติ ปริณายิกา. ธมฺเม อนิจฺจาทิวเสน วิวิธา ปสฺสตีติ วิปสฺสนา. สมฺมา ปกาเรหิ อนิจฺจาทีนิ ชานาตีติ สมฺปชาโน, ตสฺส ภาโว สมฺปชฺํ. อุปฺปถปฏิปนฺเน สินฺธเว วีถิอาโรปนตฺถํ ปโตโท วิย อุปฺปเถ ธาวนกํ กูฏจิตฺตํ วีถิอาโรปนตฺถํ วิชฺฌตีติ ปโตโท วิย ปโตโท.
ทสฺสนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กโรตีติ อินฺทฺริยํ, ปฺาสงฺขาตํ อินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ. กึ วุตฺตํ โหติ? นยิทํ ‘‘ปุริสสฺส อินฺทฺริยํ ปุริสินฺทฺริย’’นฺติอาทิ วิย ปฺาย อินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ. อถ โข ปฺา เอว อินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยนฺติ วุตฺตํ โหติ. อวิชฺชาย น กมฺปตีติ ปฺาพลํ. กิเลสจฺเฉทนฏฺเน ปฺาว สตฺถํ ปฺาสตฺถํ. อจฺจุคฺคตฏฺเน ปฺาว ปาสาโท ปฺาปาสาโท. อาโลกนฏฺเน ปฺาว อาโลโก ปฺาอาโลโก. โอภาสนฏฺเน ปฺาว โอภาโส ปฺาโอภาโส. ปชฺโชตนฏฺเน ปฺาว ปชฺโชโต ปฺาปชฺโชโต. ปฺวโต หิ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺนสฺส ทสสหสฺสิโลกธาตุ เอกาโลกา เอโกภาสา เอกปชฺโชตา โหติ. เตเนตํ วุตฺตํ. อิเมสุ ปน ตีสุ ปเทสุ เอกปเทนาปิ เอตสฺมึ อตฺเถ สิทฺเธ ยานิ ปเนตานิ ภควตา ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อาโลกา. กตเม จตฺตาโร? จนฺทาโลโก, สูริยาโลโก, อคฺคาโลโก, ปฺาโลโก. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อาโลกา. เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ จตุนฺนํ อาโลกานํ ยทิทํ ปฺาโลโก’’. ตถา ¶ ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, โอภาสา. จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปชฺโชตา’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๔๔-๑๔๕) สตฺตานํ อชฺฌาสยวเสน สุตฺตานิ เทสิตานิ. ตทนุรูเปเนว อิธาปิ เถเรน เทสนา กตา. อตฺโถ หิ อเนเกหิ อากาเรหิ วิภชฺชมาโน สุวิภตฺโต โหติ, อฺถา จ อฺโ พุชฺฌติ, อฺถา อฺโติ. รติกรณฏฺเน ปน รติทายกฏฺเน รติชนกฏฺเน จิตฺตีกตฏฺเน ทุลฺลภปาตุภาวฏฺเน อตุลฏฺเน อโนมสตฺตปริโภคฏฺเน จ ปฺาว รตนํ ปฺารตนํ.
น เตน สตฺตา มุยฺหนฺติ, สยํ วา อารมฺมเณ น มุยฺหตีติ อโมโห. ธมฺมวิจยปทํ วุตฺตตฺถเมว. กสฺมา ปเนตํ ปุน วุตฺตนฺติ? อโมหสฺส โมหปฏิปกฺขภาวทีปนตฺถํ. เตเนตํ ทีเปติ ‘‘ยฺวายํ อโมโห, โส น เกวลํ โมหโต อฺโ ธมฺโม, โมหสฺส ปน ปฏิปกฺโข ธมฺมวิจยสงฺขาโต อโมโห นาม อิธ อธิปฺเปโต’’ติ. สมฺมาทิฏฺีติ ยาถาวนิยฺยานิกกุสลทิฏฺิ ¶ . ‘‘ตตฺถ กตมํ ทุกฺขสมุทเย าณํ, ตตฺถ กตมํ ทุกฺขนิโรเธ าณํ, ตตฺถ กตมํ ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย าณ’’นฺติ ปุจฺฉาวจนานิ สงฺเขปวเสน วุตฺตานีติ.
สจฺจาณจตุกฺกทฺวยนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖๔-๖๗. สุทฺธิกปฏิสมฺภิทาาณนิทฺเทสวณฺณนา
๑๑๐. สุทฺธิกปฏิสมฺภิทาาณนิทฺเทเส ¶ อิเมสํ าณานํ ปเภทาภาวโตเยว เหฏฺา วิย ปเภทํ อทสฺเสตฺวาเยว อตฺเถสุ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทาติอาทิ วุตฺตํ. ปฺาปเภทาภาเวปิ อตฺตนา ปฏิวิทฺธจตุสจฺจธมฺมมตฺตวเสน นานตฺตสพฺภาวโต อตฺถนานตฺเต ปฺา อตฺถปฏิสมฺภิเท าณนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นานตฺเตติ อตฺถาทีนํ อเนกภาเว. ววตฺถาเนติ อตฺถาทีนํ นิจฺฉยเน. สลฺลกฺขเณติ อตฺถาทีนํ สมฺมาทสฺสเน. อุปลกฺขเณติ อตฺถาทีนํ ภุสํทสฺสเน. ปเภเทติ อตฺถาทีนํ นานาเภเท. ปภาวเนติ อตฺถาทีนํ ปากฏีกรเณน อุปฺปาทเน. โชตเนติ อตฺถาทีนํ ทีปเน. วิโรจเนติ อตฺถาทีนํ วิวิธา ทีปเน. ปกาสเนติ อตฺถาทีนํ ปภาสเน ¶ . ‘‘นานตฺเต’’ติ มูลปทํ กตฺวา สพฺพสาธารณวเสน วุตฺตํ. ‘‘ววตฺถาเน’’ติ โสตาปนฺนสฺส วเสน, ‘‘สลฺลกฺขเณ อุปลกฺขเณ’’ติ สกทาคามิสฺส วเสน, ‘‘ปเภเท ปภาวเน’’ติ อนาคามิสฺส วเสน, ‘‘โชตเน วิโรจเน ปกาสเน’’ติ อรหโต วเสน วุตฺตนฺติ เอวมฺเปตฺถ โยชนา กาตพฺพาติ.
สุทฺธิกปฏิสมฺภิทาาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฏิสมฺภิทามคฺค-อฏฺกถาย
ปโม ภาโค นิฏฺิโต.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ขุทฺทกนิกาเย
ปฏิสมฺภิทามคฺค-อฏฺกถา
(ทุติโย ภาโค)
๖๘. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณนิทฺเทสวณฺณนา
๑๑๑. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณนิทฺเทเส ¶ ¶ ¶ ตถาคตสฺสาติ วจเน อุทฺเทเส สรูปโต อวิชฺชมาเนปิ ‘‘ฉ าณานิ อสาธารณานิ สาวเกหี’’ติ (ปฏิ. ม. มาติกา ๑.๗๓) วุตฺตตฺตา ‘‘ตถาคตสฺสา’’ติ วุตฺตเมว โหติ. ตสฺมา อุทฺเทเส อตฺถโต สิทฺธสฺส ตถาคตวจนสฺส นิทฺเทเส คหณํ กตํ. สตฺเต ปสฺสตีติ รูปาทีสุ ฉนฺทราเคน สตฺตตาย ลคฺคตาย สตฺตา, เต สตฺเต อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาเณน จกฺขุนา ปสฺสติ โอโลเกติ. อปฺปรชกฺเขติ ปฺามเย อกฺขิมฺหิ อปฺปํ ราคาทิรโช เอเตสนฺติ อปฺปรชกฺขา, อปฺปํ ราคาทิรโช เอเตสนฺติ วา อปฺปรชกฺขา. เต อปฺปรชกฺเข. มหารชกฺเขติ ปฺามเย อกฺขิมฺหิ มหนฺตํ ราคาทิรโช เอเตสนฺติ มหารชกฺขา, มหนฺตํ ราคาทิรโช เอเตสนฺติ วา มหารชกฺขา. ติกฺขินฺทฺริเย มุทินฺทฺริเยติ ติกฺขานิ ¶ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ เอเตสนฺติ ติกฺขินฺทฺริยา, มุทูนิ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ เอเตสนฺติ มุทินฺทฺริยา. สฺวากาเร ทฺวากาเรติ สุนฺทรา สทฺธาทโย อาการา โกฏฺาสา เอเตสนฺติ สฺวาการา, กุจฺฉิตา ครหิตา สทฺธาทโย อาการา โกฏฺาสา เอเตสนฺติ ทฺวาการา. สุวิฺาปเย ทุวิฺาปเยติ เย กถิตํ การณํ สลฺลกฺเขนฺติ สุเขน สกฺกา โหนฺติ วิฺาเปตุํ, เต สุวิฺาปยา, ตพฺพิปรีตา ทุวิฺาปยา. อปฺเปกจฺเจ ¶ ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิโนติ อปิ เอเก ปรโลกฺเจว ราคาทิวชฺชฺจ ภยโต ปสฺสนฺเต, อิมสฺส ปน ปทสฺส นิทฺเทเส ปรโลกสฺเสว น วุตฺตตฺตา ขนฺธาทิโลเก จ ราคาทิวชฺเช จ ปรํ พาฬฺหํ ภยํ ปสฺสนสีลาติ ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิโน. เต ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิเนติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. อปฺเปกจฺเจ น ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิโนติ ตพฺพิปรีเต. โลโกติ จ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน. วชฺชนฺติ จ วชฺชนียฏฺเน. เอตฺตาวตา อุทฺเทสสฺส นิทฺเทโส กโต โหติ.
ปุน ¶ นิทฺเทสสฺส ปฏินิทฺเทสํ กโรนฺโต อปฺปรชกฺเข มหารชกฺเขติอาทิมาห. ตตฺถ ตีสุ รตเนสุ โอกปฺปนสงฺขาตา สทฺธา อสฺส อตฺถีติ สทฺโธ. โส สทฺธาสมฺปนฺโน ปุคฺคโล อสฺสทฺธิยรชสฺส เจว อสฺสทฺธิยมูลกสฺส เสสากุสลรชสฺส จ อปฺปกตฺตา อปฺปรชกฺโข. นตฺถิ เอตสฺส สทฺธาติ อสฺสทฺโธ. โส วุตฺตปฺปการสฺส รชสฺส มหนฺตตฺตา มหารชกฺโข. อารทฺธํ วีริยมเนนาติ อารทฺธวีริโย. โส โกสชฺชรชสฺส เจว โกสชฺชมูลกสฺส เสสากุสลรชสฺส จ อปฺปกตฺตา อปฺปรชกฺโข. หีนวีริยตฺตา กุจฺฉิเตน อากาเรน สีทตีติ กุสีโท, กุสีโท เอว กุสีโต. โส วุตฺตปฺปการสฺส รชสฺส มหนฺตตฺตา มหารชกฺโข. อารมฺมณํ อุเปจฺจ ิตา สติ อสฺสาติ อุปฏฺิตสฺสติ. โส มุฏฺสฺสจฺจรชสฺส เจว มุฏฺสฺสจฺจมูลกสฺส เสสากุสลรชสฺส จ อปฺปกตฺตา อปฺปรชกฺโข. มุฏฺา นฏฺา สติ อสฺสาติ มุฏฺสฺสติ. โส วุตฺตปฺปการสฺส รชสฺส มหนฺตตฺตา มหารชกฺโข. อปฺปนาสมาธินา อุปจารสมาธินา วา อารมฺมเณ สมํ, สมฺมา วา อาหิโต ิโตติ สมาหิโต, สมาหิตจิตฺโตติ วา สมาหิโต. โส อุทฺธจฺจรชสฺส เจว อุทฺธจฺจมูลกสฺส เสสากุสลรชสฺส จ อปฺปกตฺตา อปฺปรชกฺโข. น สมาหิโต อสมาหิโต. โส วุตฺตปฺปการสฺส รชสฺส มหนฺตตฺตา มหารชกฺโข. อุทยตฺถคามินี ปฺา อสฺส อตฺถีติ ปฺวา. โส โมหรชสฺส เจว โมหมูลกสฺส เสสากุสลรชสฺส จ อปฺปกตฺตา อปฺปรชกฺโข. โมหมูฬฺหตฺตา ทุฏฺา ปฺา อสฺสาติ ทุปฺปฺโ. โส วุตฺตปฺปการสฺส รชสฺส มหนฺตตฺตา มหารชกฺโข. สทฺโธ ปุคฺคโล ติกฺขินฺทฺริโยติ พหุลํ อุปฺปชฺชมานาย พลวติยา สทฺธาย สทฺโธ, เตเนว สทฺธินฺทฺริเยน ติกฺขินฺทฺริโย. อสฺสทฺโธ ปุคฺคโล มุทินฺทฺริโยติ พหุลํ อุปฺปชฺชมาเนน ¶ อสฺสทฺธิเยน อสฺสทฺโธ, อนฺตรนฺตรา อุปฺปชฺชมาเนน ทุพฺพเลน สทฺธินฺทฺริเยน มุทินฺทฺริโย. เอส นโย เสเสสุปิ. สทฺโธ ปุคฺคโล สฺวากาโรติ ตาย เอว สทฺธาย โสภนากาโร. อสฺสทฺโธ ปุคฺคโล ทฺวากาโรติ ¶ เตเนว อสฺสทฺธิเยน วิรูปากาโร. เอส นโย เสเสสุปิ. สุวิฺาปโยติ ¶ สุเขน วิฺาเปตุํ สกฺกุเณยฺโย. ทุวิฺาปโยติ ทุกฺเขน วิฺาเปตุํ สกฺกุเณยฺโย. ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวีติ เอตฺถ ยสฺมา ปฺาสมฺปนฺนสฺเสว สทฺธาทีนิ สุปริสุทฺธานิ โหนฺติ, ตสฺมา สุปริสุทฺธสทฺธาทิสมฺปนฺโน ตํสมฺปยุตฺตาย, สุปริสุทฺธสทฺธาทิสมฺปนฺโนปิ วา ตปฺปจฺจยาย ปฺาย ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวี โหติ. ตสฺมา เอว หิ สทฺธาทโยปิ จตฺตาโร ‘‘ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวี’’ติ วุตฺตา.
๑๑๒. อิทานิ ‘‘ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวี’’ติ เอตฺถ วุตฺตํ โลกฺจ วชฺชฺจ ทสฺเสตุํ โลโกติอาทิมาห. เอตฺถ ขนฺธา เอว ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโกติ ขนฺธโลโก. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. วิปตฺติภวโลโกติ อปายโลโก. โส หิ อนิฏฺผลตฺตา วิรูโป ลาโภติ วิปตฺติ, ภวตีติ ภโว, วิปตฺติ เอว ภโว วิปตฺติภโว, วิปตฺติภโว เอว โลโก วิปตฺติภวโลโก. วิปตฺติสมฺภวโลโกติ อปายูปคํ กมฺมํ. ตฺหิ สมฺภวติ เอตสฺมา ผลนฺติ สมฺภโว, วิปตฺติยา สมฺภโว วิปตฺติสมฺภโว, วิปตฺติสมฺภโว เอว โลโก วิปตฺติสมฺภวโลโก. สมฺปตฺติภวโลโกติ สุคติโลโก. โส หิ อิฏฺผลตฺตา สุนฺทโร ลาโภติ สมฺปตฺติ, ภวตีติ ภโว, สมฺปตฺติ เอว ภโว สมฺปตฺติภโว, สมฺปตฺติภโว เอว โลโก สมฺปตฺติภวโลโก. สมฺปตฺติสมฺภวโลโกติ สุคตูปคํ กมฺมํ. ตฺหิ สมฺภวติ เอตสฺมา ผลนฺติ สมฺภโว, สมฺปตฺติยา สมฺภโว สมฺปตฺติสมฺภโว, สมฺปตฺติสมฺภโว เอว โลโก สมฺปตฺติสมฺภวโลโก. เอโก โลโกติอาทีนิ เหฏฺา วุตฺตตฺถาเนว.
วชฺชนฺติ นปุํสกวจนํ อสุโกติ อนิทฺทิฏฺตฺตา กตํ. กิเลสาติ ราคาทโย. ทุจฺจริตาติ ปาณาติปาตาทโย. อภิสงฺขาราติ ปฺุาภิสงฺขาราทโย. ภวคามิกมฺมาติ อตฺตโน วิปากทานวเสน ภวํ คจฺฉนฺตีติ ภวคามิโน, อภิสงฺขาเรสุปิ วิปากชนกาเนว กมฺมานิ วุตฺตานิ. อิตีติ วุตฺตปฺปการนิทสฺสนํ. อิมสฺมิฺจ โลเก อิมสฺมิฺจ วชฺเชติ วุตฺตปฺปกาเร ¶ โลเก จ วชฺเช จ. ติพฺพา ภยสฺาติ ¶ พลวตี ภยสฺา. ติพฺพาติ ปรสทฺทสฺส อตฺโถ วุตฺโต, ภยสฺาติ ภยสทฺทสฺส, โลกวชฺชทฺวยมฺปิ หิ ภยวตฺถุตฺตา สยฺจ สภยตฺตา ภยํ, ภยมิติ สฺา ภยสฺา. ปจฺจุปฏฺิตา โหตีติ ตํ ตํ ปฏิจฺจ อุเปจฺจ ิตา โหติ. เสยฺยถาปิ อุกฺขิตฺตาสิเก วธเกติ ยถา นาม ปหริตุํ อุจฺจาริตขคฺเค ปจฺจามิตฺเต ติพฺพา ภยสฺา ปจฺจุปฏฺิตา โหติ, เอวเมว โลเก จ วชฺเช จ ติพฺพา ภยสฺา ปจฺจุปฏฺิตา โหติ. อิเมหิ ปฺาสาย อากาเรหีติ อปฺปรชกฺขปฺจกาทีสุ ทสสุ ปฺจเกสุ เอเกกสฺมึ ปฺจนฺนํ ปฺจนฺนํ อาการานํ วเสน ปฺาสาย อากาเรหิ. อิมานิ ปฺจินฺทฺริยานีติ สทฺธินฺทฺริยาทีนิ ปฺจินฺทฺริยานิ ¶ . ชานาตีติ ตถาคโต ปฺาย ปชานาติ. ปสฺสตีติ ทิพฺพจกฺขุนา ทิฏฺํ วิย กโรติ. อฺาตีติ สพฺพาการมริยาทาหิ ชานาติ. ปฏิวิชฺฌตีติ เอกเทสํ อเสเสตฺวา นิรวเสสทสฺสนวเสน ปฺาย ปทาเลตีติ.
อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖๙. อาสยานุสยาณนิทฺเทสวณฺณนา
๑๑๓. อาสยานุสยาณนิทฺเทเส ¶ อิธ ตถาคโตติอาทิ ปฺจธา ปิโต นิทฺเทโส. ตตฺถ อาสยานุสยา วุตฺตตฺถา เอว. จริตนฺติ ปุพฺเพ กตํ กุสลากุสลํ กมฺมํ. อธิมุตฺตินฺติ สมฺปติ กุสเล อกุสเล วา จิตฺตโวสคฺโค. ภพฺพาภพฺเพติ ภพฺเพ จ อภพฺเพ จ. อริยาย ชาติยา สมฺภวนฺติ ชายนฺตีติ ภพฺพา. วตฺตมานสมีเป วตฺตมานวจนํ. ภวิสฺสนฺติ ชายิสฺสนฺตีติ วา ภพฺพา, ภาชนภูตาติ อตฺโถ. เย อริยมคฺคปฏิเวธสฺส อนุจฺฉวิกา อุปนิสฺสยสมฺปนฺนา, เต ภพฺพา. วุตฺตปฏิปกฺขา อภพฺพา.
กตโม สตฺตานํ อาสโยติอาทิ นิทฺเทสสฺส ปฏินิทฺเทโส. ตตฺถ สสฺสโตติ นิจฺโจ. โลโกติ อตฺตา. อิธ สรีรํเยว นสฺสติ, อตฺตา ปน อิธ ปรตฺถ จ โสเยวาติ มฺนฺติ. โส หิ สยํเยว อาโลเกตีติ กตฺวา ‘‘โลโก’’ติ มฺนฺติ. อสสฺสโตติ อนิจฺโจ. อตฺตา สรีเรเนว สห นสฺสตีติ มฺนฺติ. อนฺตวาติ ปริตฺเต กสิเณ ฌานํ อุปฺปาเทตฺวา ตํปริตฺตกสิณารมฺมณํ จิตฺตํ สปริยนฺโต ¶ อตฺตาติ มฺนฺติ. อนนฺตวาติ น อนฺตวา อปฺปมาเณ กสิเณ ฌานํ อุปฺปาเทตฺวา ตํอปฺปมาณกสิณารมฺมณํ จิตฺตํ อปริยนฺโต อตฺตาติ มฺนฺติ. ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ ชีโว จ สรีรฺจ ตํเยว. ชีโวติ อตฺตา, ลิงฺควิปลฺลาเสน นปุํสกวจนํ กตํ. สรีรนฺติ ราสฏฺเน ขนฺธปฺจกํ. อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรนฺติ อฺโ ชีโว อฺํ ขนฺธปฺจกํ. โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ ขนฺธา อิเธว วินสฺสนฺติ, สตฺโต มรณโต ปรํ โหติ วิชฺชติ น นสฺสติ. ‘‘ตถาคโต’’ติ เจตฺถ สตฺตาธิวจนนฺติ วทนฺติ. เกจิ ปน ‘‘ตถาคโตติ อรหา’’ติ วทนฺติ. อิเม ‘‘น โหตี’’ติ ปกฺเข โทสํ ทิสฺวา เอวํ คณฺหนฺติ. น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ ขนฺธาปิ อิเธว นสฺสนฺติ, ตถาคโต จ มรณโต ปรํ น โหติ อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ. อิเม ‘‘โหตี’’ติ ปกฺเข โทสํ ทิสฺวา เอวํ ¶ คณฺหนฺติ. โหติ จ น จ โหตีติ อิเม เอเกกปกฺขปริคฺคเห โทสํ ทิสฺวา อุภยปกฺขํ ¶ คณฺหนฺติ. เนว โหติ น น โหตีติ อิเม อุภยปกฺขปริคฺคเห อุภยโทสาปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘โหตีติ จ น โหติ, เนว โหตีติ จ น โหตี’’ติ อมราวิกฺเขปปกฺขํ คณฺหนฺติ.
อยํ ปเนตฺถ อฏฺกถานโย – ‘‘สสฺสโต โลโกติ วา’’ติอาทีหิ ทสหากาเรหิ ทิฏฺิปเภโทว วุตฺโต. ตตฺถ สสฺสโต โลโกติ จ ขนฺธปฺจกํ โลโกติ คเหตฺวา ‘‘อยํ โลโก นิจฺโจ ธุโว สพฺพกาลิโก’’ติ คณฺหนฺตสฺส สสฺสตนฺติ คหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. อสสฺสโตติ ตเมว โลกํ ‘‘อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสตี’’ติ คณฺหนฺตสฺส อุจฺเฉทคฺคหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. อนฺตวาติ ปริตฺตกสิณลาภิโน สุปฺปมตฺเต วา สราวมตฺเต วา กสิเณ สมาปนฺนสฺส อนฺโตสมาปตฺติยํ ปวตฺติตรูปารูปธมฺเม ‘‘โลโก’’ติ จ กสิณปริจฺเฉทนฺเตน ‘‘อนฺตวา’’ติ จ คณฺหนฺตสฺส ‘‘อนฺตวา โลโก’’ติ คหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. สา สสฺสตทิฏฺิปิ โหติ อุจฺเฉททิฏฺิปิ. วิปุลกสิณลาภิโน ปน ตสฺมึ กสิเณ สมาปนฺนสฺส อนฺโตสมาปตฺติยํ ปวตฺติตรูปารูปธมฺเม ‘‘โลโก’’ติ จ กสิณปริจฺเฉทนฺเตน ‘‘น อนฺตวา’’ติ จ คณฺหนฺตสฺส ‘‘อนนฺตวา โลโก’’ติ คหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. สา สสฺสตทิฏฺิปิ โหติ อุจฺเฉททิฏฺิปิ. ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ เภทนธมฺมสฺส สรีรสฺเสว ‘‘ชีว’’นฺติ คหิตตฺตา ‘‘สรีเร อุจฺฉิชฺชมาเน ชีวมฺปิ อุจฺฉิชฺชตี’’ติ อุจฺเฉทคฺคหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. ทุติยปเท สรีรโต อฺสฺส ชีวสฺส คหิตตฺตา ‘‘สรีเร อุจฺฉิชฺชมาเนปิ ¶ ชีวํ น อุจฺฉิชฺชตี’’ติ สสฺสตคฺคหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. โหติ ตถาคโตติอาทีสุ ‘‘สตฺโต ตถาคโต นาม, โส ปรํ มรณา โหตี’’ติ คณฺหโต ปมา สสฺสตทิฏฺิ. ‘‘น โหตี’’ติ คณฺหโต ทุติยา อุจฺเฉททิฏฺิ. ‘‘โหติ จ น จ โหตี’’ติ คณฺหโต ตติยา เอกจฺจสสฺสตทิฏฺิ. ‘‘เนว โหติ น น โหตี’’ติ คณฺหโต จตุตฺถา อมราวิกฺเขปทิฏฺีติ.
อิตีติ วุตฺตปฺปการทิฏฺินิสฺสยนิทสฺสนํ. ภวทิฏฺิสนฺนิสฺสิตา วา สตฺตา โหนฺติ วิภวทิฏฺิสนฺนิสฺสิตา วาติ ภโว วุจฺจติ สสฺสโต, สสฺสตวเสน อุปฺปชฺชมานทิฏฺิ ภวทิฏฺิ, ภโวติ ทิฏฺีติ วุตฺตํ โหติ. วิภโว วุจฺจติ อุจฺเฉโท ¶ , อุจฺเฉทวเสน อุปฺปชฺชมานทิฏฺิ วิภวทิฏฺิ, วิภโวติ ทิฏฺีติ วุตฺตํ โหติ. วุตฺตปฺปการา ทสวิธา ทิฏฺิ ภวทิฏฺิ จ วิภวทิฏฺิ จาติ ทฺวิธาว โหติ. ตาสุ ทฺวีสุ เอเกกํ สนฺนิสฺสิตา อปสฺสิตา อลฺลีนา สตฺตา โหนฺติ.
เอเต วา ปน อุโภ อนฺเต อนุปคมฺมาติ เอตฺถ ‘‘อคฺคิโต วา อุทกโต วา มิถุเภทา วา’’ติอาทีสุ ¶ (ที. นิ. ๒.๑๕๒) วิย วา-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. เอเต วุตฺตปฺปกาเร สสฺสตุจฺเฉทวเสน ทฺเว ปกฺเข จ น อุปคนฺตฺวา อนลฺลียิตฺวา ปหายาติ อตฺโถ. ‘‘อนุโลมิกา วา ขนฺตี’’ติ วิกปฺปตฺโถว. อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสูติ อิเมสํ ชรามรณาทีนํ ปจฺจยา อิทปฺปจฺจยา, อิทปฺปจฺจยา เอว อิทปฺปจฺจยตา, อิทปฺปจฺจยานํ วา สมูโห อิทปฺปจฺจยตา. ลกฺขณํ ปเนตฺถ สทฺทสตฺถโต ปริเยสิตพฺพํ. เต เต ปจฺจเย ปฏิจฺจ สห สมฺมา จ อุปฺปนฺนา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา. ตสฺสา อิทปฺปจฺจยตาย จ เตสุ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ จ ธมฺเมสุ. อนุโลมิกาติ โลกุตฺตรธมฺมานํ อนุโลมโต อนุโลมิกา. ขนฺตีติ าณํ. าณฺหิ ขมนโต ขนฺติ. ปฏิลทฺธา โหตีติ สตฺเตหิ อธิคตา โหติ. อิทปฺปจฺจยตาย ขนฺติยา อุจฺเฉทตฺตานุปคโม โหติ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมานํ ปจฺจยสามคฺคิยํ อายตฺตวุตฺติตฺตา ปจฺจยานุปรมทสฺสเนน ผลานุปรมทสฺสนโต. ปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ ขนฺติยา สสฺสตตฺตานุปคโม โหติ ปจฺจยสามคฺคิยํ นวนวานํ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมานํ อุปฺปาททสฺสนโต. เอวเมเต อุโภ อนฺเต อนุปคมฺม ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺมทสฺสเนน น อุจฺเฉโท น สสฺสโตติ ปวตฺตํ สมฺมาทสฺสนํ ‘‘อนุโลมิกา ขนฺตี’’ติ เวทิตพฺพํ. เอวฺหิ ตทุภยทิฏฺิปฏิปกฺขภูตา ¶ สมฺมาทิฏฺิ วุตฺตา โหติ. ยถาภูตํ วา าณนฺติ ยถาภูตํ ยถาสภาวํ เนยฺยํ. ตตฺถ ปวตฺตาณมฺปิ วิสยโวหาเรน ‘‘ยถาภูตาณ’’นฺติ วุตฺตํ. ตํ ปน สงฺขารุเปกฺขาปริยนฺตํ วิปสฺสนาาณํ อิธาธิปฺเปตํ. เหฏฺา ปน ‘‘ยถาภูตาณทสฺสน’’นฺติ ภยตูปฏฺานาณํ วุตฺตํ. ยถาภูตํ วา าณํ สตฺเตหิ ปฏิลทฺธํ โหตีติ สมฺพนฺโธ.
อิทานิ ¶ ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติอาทีหิ มิจฺฉาทิฏฺิปริภาวิตํ ‘‘เอเต วา ปนา’’ติอาทีหิ สมฺมาทิฏฺิปริภาวิตํ สตฺตสนฺตานํ ทสฺเสตฺวา ‘‘กามํ เสวนฺตฺเวา’’ติอาทีหิ เสสากุสเลหิ เสสกุสเลหิ จ ปริภาวิตํ สตฺตสนฺตานํ ทสฺเสติ. ตตฺถ กามํ เสวนฺตํเยว ปุคฺคลํ ตถาคโต ชานาตีติ โยชนา กาตพฺพา. เสวนฺตนฺติ จ อภิณฺหสมุทาจารวเสน เสวมานํ. ปุพฺเพ อาเสวิตวเสน กิเลสกาโม ครุ อสฺสาติ กามครุโก. ตเถว กาโม อาสเย สนฺตาเน อสฺสาติ กามาสโย. สนฺตานวเสเนว กาเม อธิมุตฺโต ลคฺโคติ กามาธิมุตฺโต. เสเสสุปิ เอเสว นโย. เนกฺขมฺมาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. กามาทีหิ จ ตีหิ เสสากุสลา, เนกฺขมฺมาทีหิ ตีหิ เสสกุสลา คหิตาว โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. ‘‘อยํ สตฺตานํ อาสโย’’ติ ติธา วุตฺตํ สนฺตานเมว ทสฺเสติ.
อยํ ¶ ปเนตฺถ อฏฺกถานโย – ‘‘อิติ ภวทิฏฺิสนฺนิสฺสิตา วา’’ติ เอวํ สสฺสตทิฏฺึ วา สนฺนิสฺสิตา. สสฺสตทิฏฺิ หิ เอตฺถ ภวทิฏฺีติ วุตฺตา, อุจฺเฉททิฏฺิ จ วิภวทิฏฺีติ. สพฺพทิฏฺีนฺหิ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺีหิ สงฺคหิตตฺตา สพฺเพปิเม ทิฏฺิคติกา สตฺตา อิมาว ทฺเว ทิฏฺิโย สนฺนิสฺสิตา โหนฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ทฺวยนิสฺสิโต ขฺวายํ, กจฺจาน, โลโก เยภุยฺเยน อตฺถิตฺเจว นตฺถิตฺจา’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๕). เอตฺถ หิ อตฺถิตาติ สสฺสตํ. นตฺถิตาติ อุจฺเฉโท. อยํ ตาว วฏฺฏนิสฺสิตานํ ปุถุชฺชนานํ สตฺตานํ อาสโย. อิทานิ วิวฏฺฏนิสฺสิตานํ สุทฺธสตฺตานํ อาสยํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอเต วา ปน อุโภ อนฺเต อนุปคมฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘เอเต วา ปนา’’ติ เอเตเยว. ‘‘อุโภ อนฺเต’’ติ สสฺสตุจฺเฉทสงฺขาเต ทฺเว อนฺเต. ‘‘อนุปคมฺมา’’ติ น อลฺลียิตฺวา. ‘‘อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสู’’ติ อิทปฺปจฺจยตาย เจว ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺเมสุ จ. ‘‘อนุโลมิกา ขนฺตี’’ติ วิปสฺสนาาณํ. ‘‘ยถาภูตํ าณ’’นฺติ มคฺคาณํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยา ปฏิจฺจสมุปฺปาเท เจว ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺเมสุ ¶ จ เอเต อุโภ สสฺสตุจฺเฉทอนฺเต อนุปคนฺตฺวา วิปสฺสนา ปฏิลทฺธา, ยฺจ ตโต อุตฺตริ มคฺคาณํ, อยํ สตฺตานํ อาสโย. อยํ วฏฺฏนิสฺสิตานฺจ วิวฏฺฏนิสฺสิตานฺจ สพฺเพสมฺปิ สตฺตานํ อาสโย อิทํ วสนฏฺานนฺติ. อยํ อาจริยานํ สมานฏฺกถา.
วิตณฺฑวาที ¶ ปนาห ‘‘มคฺโค นาม วาสํ วิทฺธํเสนฺโต คจฺฉติ, ตฺวํ มคฺโค วาโสติ วเทสี’’ติ? โส วตฺตพฺโพ ‘‘ตฺวํ อริยวาสภาณโก โหสิ น โหสี’’ติ? สเจ ‘‘น โหมี’’ติ วทติ, ‘‘ตฺวํ อภาณกตาย น ชานาสี’’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ ‘‘ภาณโกสฺมี’’ติ วทติ, ‘‘สุตฺตํ อาหรา’’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ อาหรติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ อาหรติ, สยํ อาหริตพฺพํ ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, อริยาวาสา, ยทริยา อาวสึสุ วา อาวสนฺติ วา อาวสิสฺสนฺติ วา’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑๙). เอตฺหิ สุตฺตํ มคฺคสฺส วาสภาวํ ทีเปติ. ตสฺมา สุกถิตเมเวตนฺติ. อิมํ ปน ภควา สตฺตานํ อาสยํ ชานนฺโต อิเมสฺจ ทิฏฺิคตานํ อิเมสฺจ วิปสฺสนาาณมคฺคาณานํ อปฺปวตฺติกฺขเณปิ ชานาติ เอว. ตสฺมาเยว จ ‘‘กามํ เสวนฺตํเยว ชานาตี’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ.
อนุสยนิทฺเทเส อนุสยาติ เกนฏฺเน อนุสยา? อนุสยนฏฺเน. โก เอส อนุสยนฏฺโ นามาติ? อปฺปหีนฏฺโ. เอเต หิ อปฺปหีนฏฺเน ตสฺส ตสฺส สนฺตาเน อนุเสนฺติ นาม. ตสฺมา ‘‘อนุสยา’’ติ วุจฺจนฺติ. อนุเสนฺตีติ อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. อถาปิ สิยา – อนุสยนฏฺโ นาม อปฺปหีนากาโร, โส จ อุปฺปชฺชตีติ วตฺตุํ น ยุชฺชติ, ตสฺมา ¶ น อนุสยา อุปฺปชฺชนฺตีติ. ตตฺริทํ ปฏิวจนํ – น อปฺปหีนากาโร, อนุสโยติ ปน อปฺปหีนฏฺเน ถามคตกิเลโส วุจฺจติ. โส จิตฺตสมฺปยุตฺโต สารมฺมโณ สปฺปจฺจยฏฺเน สเหตุโก เอกนฺตากุสโล อตีโตปิ โหติ อนาคโตปิ ปจฺจุปฺปนฺโนปิ, ตสฺมา อุปฺปชฺชตีติ วตฺตุํ ยุชฺชตีติ. ตตฺริทํ ปมาณํ – อิเธว ตาว อภิสมยกถาย (ปฏิ. ม. ๓.๒๑) ‘‘ปจฺจุปฺปนฺเน กิเลเส ปชหตี’’ติ ปุจฺฉํ กตฺวา อนุสยานํ ปจฺจุปฺปนฺนภาวสฺส อตฺถิตาย ‘‘ถามคโต อนุสยํ ปชหตี’’ติ วุตฺตํ. ธมฺมสงฺคณิยํ โมหสฺส ปทภาชเน ‘‘อวิชฺชานุสโย อวิชฺชาปริยุฏฺานํ ¶ อวิชฺชาลงฺคี โมโห อกุสลมูลํ, อยํ ตสฺมึ สมเย โมโห โหตี’’ติ (ธ. ส. ๓๙๐) อกุสลจิตฺเตน สทฺธึ โมหสฺส อุปฺปนฺนภาโว วุตฺโต ¶ . กถาวตฺถุสฺมึ ‘‘อนุสยา อพฺยากตา อนุสยา อเหตุกา อนุสยา จิตฺตวิปฺปยุตฺตา’’ติ สพฺเพ วาทา ปฏิเสธิตา. อนุสยยมเก สตฺตนฺนํ มหาวารานํ อฺตรสฺมึ อุปฺปชฺชนวาเร ‘‘ยสฺส กามราคานุสโย อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ปฏิฆานุสโย อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิ (ยม. ๒.อนุสยยมก.๓๐๐) วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘อนุเสนฺตีติ อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ ยํ วุตฺตํ, ตํ อิมินา ตนฺติปฺปมาเณน ยุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยมฺปิ ‘‘จิตฺตสมฺปยุตฺโต สารมฺมโณ’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตมฺปิ สุวุตฺตเมว. อนุสโย หิ นาเมส ปรินิปฺผนฺโน จิตฺตสมฺปยุตฺโต อกุสลธมฺโมติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.
กามราคานุสโยติอาทีสุ กามราโค จ โส อปฺปหีนฏฺเน อนุสโย จาติ กามราคานุสโย. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. กามราคานุสโย เจตฺถ โลภสหคตจิตฺเตสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จ มนาเปสุ อวเสสกามาวจรธมฺเมสุ อารมฺมณวเสเนว อุปฺปชฺชมาโน โลโภ. ปฏิฆานุสโย จ โทมนสฺสสหคตจิตฺเตสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จ อมนาเปสุ อวเสสกามาวจรธมฺเมสุ อารมฺมณวเสเนว อุปฺปชฺชมาโน โทโส. มานานุสโย ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺตโลภสหคตจิตฺเตสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จ ทุกฺขเวทนาวชฺเชสุ อวเสสกามาวจรธมฺเมสุ รูปารูปาวจรธมฺเมสุ จ อารมฺมณวเสเนว อุปฺปชฺชมาโน มาโน. ทิฏฺานุสโย จตูสุ ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺเตสุ. วิจิกิจฺฉานุสโย วิจิกิจฺฉาสหคเต. อวิชฺชานุสโย ทฺวาทสสุ อกุสลจิตฺเตสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จ. ตโยปิ อวเสสเตภูมกธมฺเมสุ อารมฺมณวเสเนว อุปฺปชฺชมานา ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาโมหา. ภวราคานุสโย จตูสุ ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺเตสุ อุปฺปชฺชมาโนปิ สหชาตวเสน น วุตฺโต, อารมฺมณวเสเนว ปน รูปารูปาวจรธมฺเมสุ อุปฺปชฺชมาโน โลโภ วุตฺโต.
๑๑๔. อิทานิ ยถาวุตฺตานํ อนุสยานํ อนุสยนฏฺานํ ทสฺเสนฺโต ยํ โลเกติอาทิมาห. ตตฺถ ยํ โลเก ปิยรูปนฺติ ¶ ยํ อิมสฺมึ โลเก ปิยชาติกํ ปิยสภาวํ. สาตรูปนฺติ สาตชาติกํ ¶ อสฺสาทปทฏฺานํ อิฏฺารมฺมณํ. เอตฺถ สตฺตานํ กามราคานุสโย อนุเสตีติ เอตสฺมึ ¶ อิฏฺารมฺมเณ สตฺตานํ อปฺปหีนฏฺเน กามราคานุสโย อนุเสติ. ‘‘ปิยรูปํ สาตรูป’’นฺติ จ อิธ กามาวจรธมฺโมเยว อธิปฺเปโต. ยถา นาม อุทเก นิมุคฺคสฺส เหฏฺา จ อุปริ จ สมนฺตา จ อุทกเมว โหติ, เอวเมว อิฏฺารมฺมเณ ราคุปฺปตฺติ นาม สตฺตานํ อาจิณฺณสมาจิณฺณา. ตถา อนิฏฺารมฺมเณ ปฏิฆุปฺปตฺติ. อิติ อิเมสุ ทฺวีสุ ธมฺเมสูติ เอวํ อิเมสุ ทฺวีสุ อิฏฺานิฏฺารมฺมณธมฺเมสุ. อวิชฺชานุปติตาติ กามราคปฏิฆสมฺปยุตฺตา หุตฺวา อารมฺมณกรณวเสน อวิชฺชา อนุปติตา อนุคตา. วิจฺเฉทํ กตฺวาปิ ปาโ. ตเทกฏฺโติ ตาย อวิชฺชาย สหเชกฏฺวเสน เอกโต ิโต. มาโน จ ทิฏฺิ จ วิจิกิจฺฉา จาติ นววิธมาโน, ทฺวาสฏฺิวิธา ทิฏฺิ, อฏฺวตฺถุกา วิจิกิจฺฉา, ตเทกฏฺโ มาโน จ ตเทกฏฺา ทิฏฺิ จ ตเทกฏฺา วิจิกิจฺฉา จาติ โยชนา. ทฏฺพฺพาติ ปสฺสิตพฺพา อวคนฺตพฺพา. ตโย เอกโต กตฺวา พหุวจนํ กตํ. ภวราคานุสโย ปเนตฺถ กามราคานุสเยเนว สงฺคหิโตติ เวทิตพฺโพ.
จริตนิทฺเทเส เตรส เจตนา ปฺุาภิสงฺขาโร. ทฺวาทส อปฺุาภิสงฺขาโร. จตสฺโส อาเนฺชาภิสงฺขาโร. ตตฺถ กามาวจโร ปริตฺตภูมโก. อิตโร มหาภูมโก. ตีสุปิ วา เอเตสุ โย โกจิ อปฺปวิปาโก ปริตฺตภูมโก, มหาวิปาโก มหาภูมโกติ เวทิตพฺโพ.
๑๑๕. อธิมุตฺตินิทฺเทเส สนฺตีติ สํวิชฺชนฺติ. หีนาธิมุตฺติกาติ ลามกชฺฌาสยา. ปณีตาธิมุตฺติกาติ กลฺยาณชฺฌาสยา. เสวนฺตีติ นิสฺสยนฺติ อลฺลียนฺติ. ภชนฺตีติ อุปสงฺกมนฺติ. ปยิรุปาสนฺตีติ ปุนปฺปุนํ อุปสงฺกมนฺติ. สเจ หิ อาจริยุปชฺฌายา น สีลวนฺโต โหนฺติ, อนฺเตวาสิกสทฺธิวิหาริกา สีลวนฺโต, เต อตฺตโน อาจริยุปชฺฌาเยปิ น อุปสงฺกมนฺติ, อตฺตโน สทิเส สารุปฺเป ภิกฺขูเยว อุปสงฺกมนฺติ. สเจปิ อาจริยุปชฺฌายา สารุปฺปา ภิกฺขู, อิตเร อสารุปฺปา, เตปิ น อาจริยุปชฺฌาเย อุปสงฺกมนฺติ, อตฺตโน สทิเส ¶ หีนาธิมุตฺติเกเยว อุปสงฺกมนฺติ. เอวํ อุปสงฺกมนํ ปน น เกวลํ เอตรหิเยว, อตีตานาคเตปีติ ทสฺเสตุํ อตีตมฺปิ อทฺธานนฺติอาทิมาห. ตตฺถ อตีตมฺปิ อทฺธานนฺติ อตีตสฺมึ กาเล, อจฺจนฺตสํโยคตฺเถ วา อุปโยควจนํ. เสสํ ¶ อุตฺตานตฺถเมว. อิทํ ปน ทุสฺสีลานํ ทุสฺสีลเสวนเมว, สีลวนฺตานํ สีลวนฺตเสวนเมว, ทุปฺปฺานํ ทุปฺปฺเสวนเมว, ปฺวนฺตานํ ปฺวนฺตเสวนเมว โก นิยเมตีติ? อชฺฌาสยธาตุ นิยเมตีติ.
ภพฺพาภพฺพนิทฺเทเส ฉฑฺเฑตพฺเพ ปมํ นิทฺทิสิตฺวา คเหตพฺเพ ปจฺฉา นิทฺทิสิตุํ อุทฺเทสสฺส อุปฺปฏิปาฏิยา ปมํ อภพฺพา นิทฺทิฏฺา. อุทฺเทเส ปน ทฺวนฺทสมาเส อจฺจิตสฺส จ มนฺทกฺขรสฺส จ ¶ ปทสฺส ปุพฺพนิปาตลกฺขณวเสน ภพฺพสทฺโท ปุพฺพํ ปยุตฺโต. กมฺมาวรเณนาติ ปฺจวิเธน อานนฺตริยกมฺเมน. สมนฺนาคตาติ สมงฺคีภูตา. กิเลสาวรเณนาติ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิยา. อิมานิ ทฺเว สคฺคมคฺคานํ อาวรณโต อาวรณานิ. ภิกฺขุนีทูสกาทีนิ กมฺมานิปิ กมฺมาวรเณเนว สงฺคหิตานิ. วิปากาวรเณนาติ อเหตุกปฏิสนฺธิยา. ยสฺมา ปน ทุเหตุกานมฺปิ อริยมคฺคปฏิเวโธ นตฺถิ, ตสฺมา ทุเหตุกา ปฏิสนฺธิปิ วิปากาวรณเมวาติ เวทิตพฺพา, อสฺสทฺธาติ พุทฺธาทีสุ สทฺธารหิตา. อจฺฉนฺทิกาติ กตฺตุกมฺยตากุสลจฺฉนฺทรหิตา. อุตฺตรกุรุกา มนุสฺสา อจฺฉนฺทิกฏฺานํ ปวิฏฺา. ทุปฺปฺาติ ภวงฺคปฺาย ปริหีนา. ภวงฺคปฺาย ปน ปริปุณฺณายปิ ยสฺส ภวงฺคํ โลกุตฺตรสฺส ปาทกํ น โหติ, โสปิ ทุปฺปฺโเยว นาม. อภพฺพา นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตนฺติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตนิยามสงฺขาตํ อริยมคฺคํ โอกฺกมิตุํ อภพฺพา. อริยมคฺโค หิ สมฺมา สภาโวติ สมฺมตฺตํ, โสเยว อนนฺตรผลทาเน, สยเมว วา อจลภาวโต นิยาโม, ตํ โอกฺกมิตุํ ปวิสิตุํ อภพฺพา. น กมฺมาวรเณนาติอาทีนิ วุตฺตวิปริยาเยเนว เวทิตพฺพานีติ.
อาสยานุสยาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗๐. ยมกปาฏิหีราณนิทฺเทสวณฺณนา
๑๑๖. ยมกปาฏิหีราณนิทฺเทเส ¶ อสาธารณํ สาวเกหีติ เสสาสาธารณาณนิทฺเทเส อฺวจเนหิ โอกาสาภาวโต น วุตฺตํ, อิธ ปน อฺวจนาภาวโต วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อุปริมกายโตติ นาภิยา อุทฺธํ สรีรโต. อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตตีติ เตโชกสิณารมฺมณํ ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘อุปริมกายโต อคฺคิชาลา วุฏฺาตู’’ติ อาวชฺชิตฺวา ปริกมฺมํ กตฺวา อนนฺตรํ อภิฺาาเณน ‘‘อุปริมกายโต ¶ อคฺคิชาลา วุฏฺาตู’’ติ อธิฏฺิเต สห อธิฏฺานา อุปริมกายโต อคฺคิชาลา วุฏฺาติ. สา หิ อิธ ราสฏฺเน ขนฺโธติ วุตฺตา. เหฏฺิมกายโตติ นาภิโต เหฏฺา สรีรโต. อุทกธารา ปวตฺตตีติ อาโปกสิณารมฺมณํ ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘เหฏฺิมกายโต อุทกธารา วุฏฺาตู’’ติ อาวชฺชิตฺวา ปริกมฺมํ กตฺวา อนนฺตรํ อภิฺาาเณน ‘‘เหฏฺิมกายโต อุทกธารา วุฏฺาตู’’ติ อธิฏฺิเต สห อธิฏฺานา เหฏฺิมกายโต อุทกธารา วุฏฺาติ. อุภยตฺถาปิ อพฺโพจฺเฉทวเสน ปวตฺตตีติ วุตฺตํ. อธิฏฺานสฺส อาวชฺชนสฺส จ อนฺตเร ทฺเว ภวงฺคจิตฺตานิ วตฺตนฺติ. ตสฺมาเยว ยุคลา หุตฺวา อคฺคิกฺขนฺธอุทกธารา ปวตฺตนฺติ, อนฺตรํ น ปฺายติ. อฺเสํ ปน ภวงฺคปริจฺเฉโท นตฺถิ ¶ . ปุรตฺถิมกายโตติ อภิมุขปสฺสโต. ปจฺฉิมกายโตติ ปิฏฺิปสฺสโต. ทกฺขิณอกฺขิโต วามอกฺขิโตติอาทิ สมาสปาโเยว, น อฺโ. ทกฺขิณนาสิกาโสตโต วามนาสิกาโสตโตติ ปาโ สุนฺทโร. รสฺสํ กตฺวาปิ ปนฺติ. อํสกูฏโตติ เอตฺถ อพฺภุคฺคตฏฺเน กูโฏ วิยาติ กูโฏ, อํโสเยว กูโฏ อํสกูโฏ. องฺคุลงฺคุเลหีติ องฺคุลีหิ องฺคุลีหิ. องฺคุลนฺตริกาหีติ องฺคุลีนํ อนฺตริกาหิ. เอเกกโลมโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, เอเกกโลมโต อุทกธารา ปวตฺตตีติ อุภยตฺถาปิ อาเมฑิตวจเนน สพฺพโลมานํ ปริยาทินฺนตฺตา ¶ เอเกกโลมโตว อคฺคิกฺขนฺธอุทกธารา ยุคลา ยุคลา หุตฺวา ปวตฺตนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. โลมกูปโต โลมกูปโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, โลมกูปโต โลมกูปโต อุทกธารา ปวตฺตตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เกสุจิ โปตฺถเกสุ ‘‘เอเกกโลมโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ. โลมกูปโต โลมกูปโต อุทกธารา ปวตฺตติ, โลมกูปโต โลมกูปโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, เอเกกโลมโต อุทกธารา ปวตฺตตี’’ติ ลิขิตํ. ตมฺปิ ยุชฺชติเยว. ปาฏิหีรสฺส อติสุขุมตฺตทีปนโต ปน ปุริมปาโเยว สุนฺทรตโร.
อิทานิ ฉนฺนํ วณฺณานนฺติ โก สมฺพนฺโธ? เหฏฺา ‘‘อุปริมกายโต’’ติอาทีหิ อเนเกหิ สรีราวยวา วุตฺตา. เตน สรีราวยวสมฺพนฺโธ ปวตฺตตีติ วจนสมฺพนฺเธน จ ยมกปาฏิหีราธิกาเรน จ ฉนฺนํ วณฺณานํ สรีราวยวภูตานํ ¶ รสฺมิโย ยมกา หุตฺวา ปวตฺตนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. สามิวจนสมฺพนฺเธน จ อวสฺสํ ‘‘รสฺมิโย’’ติ ปาเสโส อิจฺฉิตพฺโพเยว. นีลานนฺติ อุมาปุปฺผวณฺณานํ. ปีตกานนฺติ กณิการปุปฺผวณฺณานํ. โลหิตกานนฺติ อินฺทโคปกวณฺณานํ. โอทาตานนฺติ โอสธิตารกวณฺณานํ. มฺชิฏฺานนฺติ มนฺทรตฺตวณฺณานํ. ปภสฺสรานนฺติ ปภาสนปกติกานํ ปภสฺสรวณฺณานํ. ปภสฺสรวณฺเณ วิสุํ อวิชฺชมาเนปิ วุตฺเตสุ ปฺจสุ วณฺเณสุ เย เย ปภา สมุชฺชลา, เต เต ปภสฺสรา. ตถา หิ ตถาคตสฺส ยมกปาฏิหีรํ กโรนฺตสฺส ยมกปาฏิหีราณพเลเนว เกสมสฺสูนฺเจว อกฺขีนฺจ นีลฏฺาเนหิ นีลรสฺมิโย นิกฺขมนฺติ, ยาสํ วเสน คคนตลํ อฺชนจุณฺณสโมกิณฺณํ วิย อุมาปุปฺผนีลุปฺปลทลสฺฉนฺนํ วิย วีติปตนฺตมณิตาลวณฺฏํ วิย ปสาริตเมจกปฏํ วิย จ โหติ. ฉวิโต เจว อกฺขีนฺจ ปีตกฏฺาเนหิ ปีตรสฺมิโย นิกฺขมนฺติ, ยาสํ วเสน ทิสาภาคา สุวณฺณรสนิสิฺจมานา วิย สุวณฺณปฏปสาริตา วิย กุงฺกุมจุณฺณกณิการปุปฺผสมฺปริกิณฺณา วิย จ วิโรจนฺติ. มํสโลหิเตหิ เจว อกฺขีนฺจ รตฺตฏฺาเนหิ โลหิตรสฺมิโย ¶ นิกฺขมนฺติ, ยาสํ วเสน ทิสาภาคา จินปิฏฺจุณฺณรฺชิตา วิย สุปกฺกลาขารสนิสิฺจมานา วิย รตฺตกมฺพลปริกฺขิตฺตา วิย ชยสุมนปาลิภทฺทกพนฺธุชีวกกุสุมสมฺปริกิณฺณา วิย จ วิโรจนฺติ. อฏฺีหิ เจว ทนฺเตหิ จ ¶ อกฺขีนฺจ เสตฏฺาเนหิ โอทาตรสฺมิโย นิกฺขมนฺติ, ยาสํ วเสน ทิสาภาคา รชตกุเฏหิ อาสิฺจมานขีรธาราสมฺปริกิณฺณา วิย ปสาริตรชตปฏฺฏวิตานา วิย วีติปตนฺตรชตตาลวณฺฏา วิย กุนฺทกุมุทสินฺทุวารสุมนมลฺลิกาทิกุสุมสฺฉนฺนา วิย จ วิโรจนฺติ. หตฺถตลปาทตลาทีหิ มนฺทรตฺตฏฺาเนหิ มฺชิฏฺรสฺมิโย นิกฺขมนฺติ, ยาสํ วเสน ทิสาภาคา ปวาฬชาลปริกฺขิตฺตา วิย รตฺตกุรวกกุสุมสโมกิณฺณา วิย จ วิโรจนฺติ. อุณฺณานขาทีหิ ปภสฺสรฏฺาเนหิ ปภสฺสรรสฺมิโย นิกฺขมนฺติ, ยาสํ วเสน ทิสาภาคา โอสธิตารกปฺุชปุณฺณา วิย วิชฺชุปฏลาทิปริปุณฺณา วิย จ วิโรจนฺติ.
ภควา จงฺกมตีติอาทิ ‘‘ภควโต จ นิมฺมิตานฺจ นานาอิริยาปถกรณํ ยมกปาฏิหีเรเนว โหตี’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เตสฺหิ นิมฺมิตานํ อิริยาปถา ยุคลาว หุตฺวา วตฺตนฺติ. ยทิ นิมฺมิตา พหุกา โหนฺติ, ‘‘นิมฺมิโต’’ติอาทิ กสฺมา เอกวจนํ กตนฺติ เจ? นิมฺมิเตสุปิ เอเกกสฺส ¶ นานาอิริยาปถภาวทสฺสนตฺถํ. พหุวจเนน หิ วุตฺเต สพฺเพปิ นิมฺมิตา สกึ เอเกกอิริยาปถิกา วิย โหนฺติ. เอกวจเนน ปน วุตฺเต นิมฺมิเตสุ เอเกโก นานาอิริยาปถิโกติ ายติ. ตสฺมา เอกวจนนิทฺเทโส กโต. จูฬปนฺถกตฺเถโรปิ ตาว นานาอิริยาปถิกภิกฺขูนํ สหสฺสํ มาเปสิ, กึ ปน ภควา ยมกปาฏิหีเร พหู นิมฺมิเต น กริสฺสติ. จูฬปนฺถกตฺเถรํ มฺุจิตฺวา อฺเสํ สาวกานํ เอกาวชฺชเนน นานาอิริยปถิกานํ นานารูปานฺจ นิมฺมานํ น อิชฺฌติ. อนิยเมตฺวา หิ นิมฺมิตา อิทฺธิมตา สทิสาว โหนฺติ. านนิสชฺชาทีสุ วา ภาสิตตุณฺหีภาวาทีสุ วา ยํ ยํ อิทฺธิมา กโรติ, ตํ ตเทว กโรนฺติ, วิสทิสกรณํ ¶ นานากิริยากรณฺจ ‘‘เอตฺตกา อีทิสา โหนฺตุ, เอตฺตกา อิมํ นาม กโรนฺตู’’ติ วิสุํ วิสุํ อาวชฺชิตฺวา อธิฏฺาเนน อิชฺฌติ. ตถาคตสฺส ปน เอกาวชฺชนาธิฏฺาเนเนว นานปฺปการนิมฺมานํ อิชฺฌติ. เอวเมว อคฺคิกฺขนฺธอุทกธารานิมฺมาเน จ นานาวณฺณนิมฺมาเน จ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ภควา จงฺกมตีติ อากาเส วา ปถวิยํ วา จงฺกมติ. นิมฺมิโตติ อิทฺธิยา มาปิตพุทฺธรูปํ. ติฏฺติ วาติอาทีนิปิ อากาเส วา ปถวิยํ วา. กปฺเปตีติ กโรติ. ภควา ติฏฺตีติอาทีสุปิ เอเสว นโยติ.
ยมกปาฏิหีราณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗๑. มหากรุณาาณนิทฺเทสวณฺณนา
๑๑๗. มหากรุณาาณนิทฺเทเส ¶ ¶ พหุเกหิ อากาเรหีติ อิทานิ วุจฺจมาเนหิ เอกูนนวุติยา ปกาเรหิ. ปสฺสนฺตานนฺติ าณจกฺขุนา จ พุทฺธจกฺขุนา จ โอโลเกนฺตานํ. โอกฺกมตีติ โอตรติ ปวิสติ. อาทิตฺโตติ ทุกฺขลกฺขณวเสน ปีฬาโยคโต สนฺตาปนฏฺเน อาทีปิโต. ‘‘ยทนิจฺจํ, ตํ ทุกฺข’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๑๕) วุตฺตตฺตา สพฺพสงฺขตสฺส เจว ทุกฺขลกฺขณวเสน ปีฬิตตฺตา ทุกฺขสฺส จ กรุณาย มูลภูตตฺตา ปมํ ทุกฺขลกฺขณวเสน ‘‘อาทิตฺโต’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ราคาทีหิ อาทิตฺตตํ ปน อุปริ วกฺขติ. อถ วา อาทิตฺโตติ ราคาทีหิเยว อาทิตฺโต. อุปริ ปน ‘‘ตสฺส นตฺถฺโ โกจิ นิพฺพาเปตา’’ติ อตฺถาเปกฺขนวเสน ปุน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ ¶ . โลกสนฺนิวาโสติ ปฺจกฺขนฺธา ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโก, ตณฺหาทิฏฺิวเสน สนฺนิวสนฺติ เอตฺถ สตฺตาติ สนฺนิวาโส, โลโกว สนฺนิวาโส โลกสนฺนิวาโส. ทุกฺขิตํ ขนฺธสนฺตานํ อุปาทาย สตฺตโวหารสพฺภาวโต โลกสนฺนิวาสโยคโต สตฺตสมูโหปิ โลกสนฺนิวาโส. โสปิ จ สหขนฺธโกเยว. อุยฺยุตฺโตติ อเนเกสุ กิจฺเจสุ นิจฺจพฺยาปารตาย กตโยโค กตอุสฺสาโห, สตตกิจฺเจสุ สอุสฺสุกฺโกติ อตฺโถ. ฆฏฺฏนยุตฺโตติ วา อุยฺยุตฺโต. ปยาโตติ ปพฺพเตยฺยา นที วิย อนวฏฺิตคมเนน มรณาย ยาตุํ อารทฺโธ. กุมฺมคฺคปฺปฏิปนฺโนติ ¶ กุจฺฉิตํ มิจฺฉามคฺคํ ปฏิปนฺโน. อุปริ ปน ‘‘วิปถปกฺขนฺโท’’ติ นานาปเทหิ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ.
อุปนียตีติ ชราวเสน มรณาย อุปนียติ หรียติ. ชรา หิ ‘‘อายุโน สํหานี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๒) วุตฺตา. อทฺธุโวติ น ถิโร, สทา ตเถว น โหติ. ยสฺมา อทฺธุโว, ตสฺมา อุปนียตีติ ปุริมสฺส การณวจนเมตํ. เอเตน สการณํ ชราทุกฺขํ วุตฺตํ. ตํ ชราทุกฺขํ ทิสฺวา ชราปาริชฺุรหิตาปิ วิฺู ปพฺพชนฺติ. อตาโณติ ตายิตุํ รกฺขิตุํ สมตฺเถน รหิโต, อนารกฺโขติ วุตฺตํ โหติ. อนภิสฺสโรติ อภิสริตฺวา อภิคนฺตฺวา พฺยาหรเณน อสฺสาเสตุํ สมตฺเถน รหิโต, อสหาโยติ วา อตฺโถ. ยสฺมา อนภิสฺสโร, ตสฺมา อตาโณติ ปุริมสฺส การณวจนเมตํ. เอเตน สการณํ ปิยวิปฺปโยคทุกฺขํ วุตฺตํ. ตํ ปิยวิปฺปโยคทุกฺขํ ทิสฺวา าติปาริชฺุรหิตาปิ วิฺู ปพฺพชนฺติ. อสฺสโกติ สกภณฺฑรหิโต. สพฺพํ ปหาย คมนียนฺติ สกภณฺฑนฺติ สลฺลกฺขิตํ สพฺพํ ปหาย โลเกน คนฺตพฺพํ. ยสฺมา สพฺพํ ปหาย คมนียํ, ตสฺมา อสฺสโกติ ปุริมสฺส การณวจนเมตํ. เอเตน สการณํ มรณทุกฺขํ วุตฺตํ. ตํ ทิสฺวา โภคปาริชฺุรหิตาปิ วิฺู ปพฺพชนฺติ. อฺตฺถ ‘‘กมฺมสฺสกา ¶ มาณวสตฺตา’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๘๙) วุตฺตํ, อิธ จ รฏฺปาลสุตฺเต จ ‘‘อสฺสโก โลโก’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๐๕) วุตฺตํ, ตํ กถํ ยุชฺชตีติ เจ? ปหาย คมนียํ สนฺธาย ‘‘อสฺสโก’’ติ วุตฺตํ, กมฺมํ ปน น ปหาย คมนียํ. ตสฺมา ‘‘กมฺมสฺสกา’’ติ วุตฺตํ. รฏฺปาลสุตฺเตเยว จ เอวเมตํ วุตฺตํ ‘‘ตฺวํ ปน ยถากมฺมํ คมิสฺสสี’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๐๖). อูโนติ ปาริปูริรหิโต. อติตฺโตติ ภิยฺโย ภิยฺโย ปตฺถนายปิ น สุหิโต ¶ . อิทํ อูนภาวสฺส การณวจนํ. ตณฺหาทาโสติ ตณฺหาย วเส วตฺตนโต ตณฺหาย ทาสภูโต. อิทํ อติตฺตภาวสฺส การณวจนํ. เอเตน อิจฺฉาโรคาปเทเสน ¶ สการณํ พฺยาธิทุกฺขํ วุตฺตํ. ตํ พฺยาธิทุกฺขํ ทิสฺวา พฺยาธิปาริชฺุรหิตาปิ วิฺู ปพฺพชนฺติ. อตายโนติ ปุตฺตาทีหิปิ ตายนสฺส อภาวโต อตายโน อนารกฺโข, อลพฺภเนยฺยเขโม วา. อเลโณติ อลฺลียิตุํ นิสฺสิตุํ อนรโห อลฺลีนานมฺปิ จ เลณกิจฺจาการโก. อสรโณติ นิสฺสิตานํ น ภยสารโก น ภยวินาสโก. อสรณีภูโตติ ปุเร อุปฺปตฺติยา อตฺตโน อภาเวเนว อสรโณ, อุปฺปตฺติสมกาลเมว อสรณีภูโตติ อตฺโถ.
อุทฺธโตติ สพฺพากุสเลสุ อุทฺธจฺจสฺส อุปฺปชฺชนโต สตฺตสนฺตาเน จ อกุสลุปฺปตฺติพาหุลฺลโต อกุสลสมงฺคีโลโก เตน อุทฺธจฺเจน อุทฺธโต. อวูปสนฺโตติ อวูปสมนลกฺขณสฺส อุทฺธจฺจสฺเสว โยเคน อวูปสนฺโต ภนฺตมิคปฏิภาโค. ‘‘อุปนียติ โลโก’’ติอาทีสุ จตูสุ จ ‘‘อุทฺธโต โลโก’’ติ จ ปฺจสุ าเนสุ โลโกติ อาคตํ, เสเสสุ โลกสนฺนิวาโสติ. อุภยถาปิ โลโกเยว. สสลฺโลติ ปีฬาชนกตาย อนฺโตตุทนตาย ทุนฺนีหรณียตาย จ สลฺลาติ สงฺขํ คเตหิ ราคาทีหิ สลฺเลหิ สหวตฺตนโก. วิทฺโธติ มิคาทโย กทาจิ ปเรหิ วิทฺธา โหนฺติ, อยํ ปน โลโก นิจฺจํ อตฺตนาว วิทฺโธ. ปุถุสลฺเลหีติ ‘‘สตฺต สลฺลานิ – ราคสลฺลํ, โทสสลฺลํ, โมหสลฺลํ, มานสลฺลํ, ทิฏฺิสลฺลํ, กิเลสสลฺลํ, ทุจฺจริตสลฺล’’นฺติ (มหานิ. ๑๗๔) วุตฺเตหิ สตฺตหิ สลฺเลหิ. ตสฺสาติ ตสฺส โลกสนฺนิวาสสฺส. สลฺลานํ อุทฺธตาติ เตสํ สลฺลานํ สตฺตสนฺตานโต อุทฺธริตา ปุคฺคโล. อฺตฺร มยาติ มํ เปตฺวา. เยปิ ภควโต สาวกา สลฺลานิ อุทฺธรนฺติ, เตสํ ภควโต วจเนเนว อุทฺธรณโต ภควาว อุทฺธรติ นาม. อวิชฺชนฺธการาวรโณติ อวิชฺชา เอว สภาวทสฺสนจฺฉาทเนน อนฺธํ วิย กโรตีติ อวิชฺชนฺธกาโร, โสว สภาวาวคมนนิวารเณน อาวรณํ เอตสฺสาติ อวิชฺชนฺธการาวรโณ. กิเลสปฺชรปกฺขิตฺโตติ กิเลสา เอว กุสลคมนสนฺนิรุชฺฌนฏฺเน ปฺชโรติ กิเลสปฺชโร, อวิชฺชาปภเว ¶ กิเลสปฺชเร ปกฺขิตฺโต ปาติโต. อาโลกํ ทสฺเสตาติ ปฺาโลกํ ¶ ทสฺสนสีโล, ปฺาโลกสฺส ทสฺเสตาติ วา อตฺโถ. อวิชฺชาคโตติ อวิชฺชํ คโต ปวิฏฺโ. น เกวลํ อวิชฺชาย อาวรณมตฺตเมว, อถ โข คหนคโต วิย อวิชฺชาโกสสฺส อนฺโต ปวิฏฺโติ ¶ ปุริมโต วิเสโส. อณฺฑภูโตติอาทโย จ วิเสสาเยว. อณฺฑภูโตติ อณฺเฑ ภูโต นิพฺพตฺโต. ยถา หิ อณฺเฑ นิพฺพตฺตา เอกจฺเจ สตฺตา ‘‘อณฺฑภูตา’’ติ วุจฺจนฺติ, เอวมยํ โลโก อวิชฺชณฺฑโกเส นิพฺพตฺตตฺตา ‘‘อณฺฑภูโต’’ติ วุจฺจติ. ปริโยนทฺโธติ เตน อวิชฺชณฺฑโกเสน สมนฺตโต โอนทฺโธ พทฺโธ เวิโต.
ตนฺตากุลกชาโตติ ตนฺตํ วิย อากุลภูโต. ยถา นาม ทุนฺนิกฺขิตฺตํ มูสิกจฺฉินฺนํ เปสการานํ ตนฺตํ ตหึ ตหึ อากุลํ โหติ, อิทํ อคฺคํ อิทํ มูลนฺติ อคฺเคน วา อคฺคํ, มูเลน วา มูลํ สมาเนตุํ ทุกฺกรํ โหติ, เอวเมว สตฺตา ปจฺจยากาเร ขลิตา อากุลา พฺยากุลา โหนฺติ, น สกฺโกนฺติ ปจฺจยาการํ อุชุํ กาตุํ. ตตฺถ ตนฺตํ ปจฺจตฺตปุริสกาเร ตฺวา สกฺกาปิ ภเวยฺย อุชุํ กาตุํ, เปตฺวา ปน ทฺเว โพธิสตฺเต อฺโ สตฺโต อตฺตโน ธมฺมตาย ปจฺจยาการํ อุชุํ กาตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. ยถา ปน อากุลํ ตนฺตํ กฺชิกํ ทตฺวา โกจฺเฉน ปหฏํ ตตฺถ ตตฺถ กุลกชาตํ โหติ คณฺิพทฺธํ, เอวมยํ โลโก ปจฺจเยสุ ปกฺขลิตฺวา ปจฺจเย อุชุํ กาตุํ อสกฺโกนฺโต ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตวเสน กุลกชาโต โหติ คณฺิพทฺโธ. เย หิ เกจิ ทิฏฺิโย นิสฺสิตา, สพฺเพ เต ปจฺจยํ อุชุํ กาตุํ น สกฺโกนฺติเยว. กุลาคณฺิกชาโตติ กุลาคณฺิกํ วิย ภูโต. กุลาคณฺิกํ วุจฺจติ เปสการกฺชิกสุตฺตํ. ‘‘กุลา นาม สกุณิกา, ตสฺสา กุลาวโก’’ติปิ เอเก. ยถา ตทุภยมฺปิ อากุลํ อคฺเคน วา อคฺคํ, มูเลน วา มูลํ สมาเนตุํ ทุกฺกรนฺติ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ. มฺุชปพฺพชภูโตติ มฺุชติณํ วิย ปพฺพชติณํ วิย จ ภูโต มฺุชติณปพฺพชติณสทิโส ชาโต. ยถา ตานิ ติณานิ โกฏฺเฏตฺวา โกฏฺเฏตฺวา กตรชฺชุ ชิณฺณกาเล กตฺถจิ ปติตํ คเหตฺวา เตสํ ติณานํ ‘‘อิทํ อคฺคํ อิทํ มูล’’นฺติ อคฺเคน วา อคฺคํ, มูเลน วา มูลํ สมาเนตุํ ทุกฺกรํ, ตมฺปิ ปจฺจตฺตปุริสกาเร ¶ ตฺวา สกฺกา ภเวยฺย อุชุํ ¶ กาตุํ, เปตฺวา ปน ทฺเว โพธิสตฺเต อฺโ สตฺโต อตฺตโน ธมฺมตาย ปจฺจยาการํ อุชุํ กาตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. เอวมยํ โลโก ปจฺจยาการํ อุชุํ กาตุํ อสกฺโกนฺโต ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตวเสน คณฺิชาโต หุตฺวา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ สํสารํ นาติวตฺตติ.
ตตฺถ อปาโยติ นิรโย ติรจฺฉานโยนิ เปตฺติวิสโย อสุรกาโย. สพฺเพปิ หิ เต วฑฺฒิสงฺขาตสฺส อายสฺส อภาวโต ‘‘อปาโย’’ติ วุจฺจนฺติ. ตถา ทุกฺขสฺส คติภาวโต ทุคฺคติ. สุขสมุสฺสยโต วินิปติตตฺตา วินิปาโต. อิตโร ปน –
‘‘ขนฺธานฺจ ¶ ปฏิปาฏิ, ธาตุอายตนาน จ;
อพฺโพจฺฉินฺนํ วตฺตมานา, สํสาโรติ ปวุจฺจติ’’.
ตํ สพฺพมฺปิ นาติวตฺตติ นาติกฺกมติ. อถ โข จุติโต ปฏิสนฺธึ, ปฏิสนฺธิโต จุตินฺติ เอวํ ปุนปฺปุนํ จุติปฏิสนฺธิโย คณฺหมาโน ตีสุ ภเวสุ จตูสุ โยนีสุ ปฺจสุ คตีสุ สตฺตสุ วิฺาณฏฺิตีสุ นวสุ สตฺตาวาเสสุ มหาสมุทฺเท วาตุกฺขิตฺตนาวา วิย ยนฺตโคโณ วิย จ ปริพฺภมติเยว. อวิชฺชาวิสโทสสลฺลิตฺโตติ อวิชฺชาเยว อกุสลุปฺปาทเนน กุสลชีวิตนาสนโต วิสนฺติ อวิชฺชาวิสํ, ตเทว สนฺตานทูสนโต อวิชฺชาวิสโทโส, เตน อนุสยปริยุฏฺานทุจฺจริตภูเตน ภุสํ ลิตฺโต มกฺขิโตติ อวิชฺชาวิสโทสสลฺลิตฺโต. กิเลสกลลีภูโตติ อวิชฺชาทิมูลกา กิเลสา เอว โอสีทนฏฺเน กลลํ กทฺทโมติ กิเลสกลลํ, ตทสฺส อตฺถีติ กิเลสกลลี, เอวํภูโต. ราคโทสโมหชฏาชฏิโตติ โลภปฏิฆาวิชฺชาสงฺขาตา ราคโทสโมหา เอว รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ เหฏฺุปริยวเสน ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต สํสิพฺพนฏฺเน เวฬุคุมฺพาทีนํ สาขาชาลสงฺขาตา ชฏา วิยาติ ชฏา, ตาย ราคโทสโมหชฏาย ชฏิโต. ยถา นาม เวฬุชฏาทีหิ เวฬุอาทโย, เอวํ ตาย ชฏาย อยํ โลโก ชฏิโต วินทฺโธ สํสิพฺพิโตติ อตฺโถ. ชฏํ วิชเฏตาติ อิมํ เอวํ เตธาตุกํ ¶ โลกํ ชเฏตฺวา ิตํ ชฏํ วิชเฏตา สํฉินฺทิตา สมฺปทาลยิตา.
ตณฺหาสงฺฆาฏปฏิมุกฺโกติ ตณฺหา เอว อพฺโพจฺฉินฺนํ ปวตฺติโต สงฺฆฏิตฏฺเน สงฺฆาโฏติ ตณฺหาสงฺฆาโฏ, ตสฺมึ ตณฺหาสงฺฆาเฏ ปฏิมุกฺโก อนุปวิฏฺโ อนฺโตคโตติ ตณฺหาสงฺฆาฏปฏิมุกฺโก. ตณฺหาชาเลน โอตฺถโฏติ ¶ ตณฺหา เอว ปุพฺเพ วุตฺตนเยน สํสิพฺพนฏฺเน ชาลนฺติ ตณฺหาชาลํ, เตน ตณฺหาชาเลน โอตฺถโฏ สมนฺตโต ฉาทิโต ปลิเวิโต. ตณฺหาโสเตน วุยฺหตีติ ตณฺหา เอว สํสาเร อากฑฺฒนฏฺเน โสโตติ ตณฺหาโสโต, เตน ตณฺหาโสเตน วุยฺหติ อากฑฺฒียติ. ตณฺหาสฺโชเนน สฺุตฺโตติ ตณฺหา เอว โลกํ วฏฺฏสฺมึ สํโยชนโต พนฺธนโต สํโยชนนฺติ ตณฺหาสํโยชนํ, เตน ตณฺหาสํโยชเนน สฺุตฺโต พทฺโธ. ตณฺหานุสเยน อนุสโฏติ ตณฺหา เอว อนุสยนฏฺเน อนุสโยติ ตณฺหานุสโย, เตน ตณฺหานุสเยน อนุสโฏ อนุคโต ถามคโต. ตณฺหาสนฺตาเปน สนฺตปฺปตีติ ตณฺหา เอว ปวตฺติกาเล ผลกาเล จ โลกํ สนฺตาเปตีติ สนฺตาโป, เตน ตณฺหาสนฺตาเปน สนฺตปฺปติ สนฺตาปียติ. ตณฺหาปริฬาเหน ปริฑยฺหตีติ ตณฺหา เอว พลวภูตา ปวตฺติกาเล ผลกาเล จ สมนฺตโต ทหนฏฺเน มหาปริฬาโหติ ตณฺหาปริฬาโห, เตน ตณฺหาปริฬาเหน ปริฑยฺหติ สมนฺตโต ฑหียติ. ทิฏฺิสงฺฆาฏาทโย อิมินาว นเยน โยเชตพฺพา.
อนุคโตติ ¶ อนุปวิฏฺโ. อนุสโฏติ อนุธาวิโต. อภิภูโตติ ปีฬิโต. อพฺภาหโตติ อภิอาหโต อภิมุขํ ภุสํ ปหโต. ทุกฺเข ปติฏฺิโตติ ทุกฺเข ขนฺธปฺจเก สุขวิปลฺลาเสน ปติฏฺิโต อภินิวิฏฺโ.
ตณฺหาย อุฑฺฑิโตติ ตณฺหาย อุลฺลงฺฆิโต. จกฺขุ หิ ตณฺหารชฺชุนา อาวุนิตฺวา รูปนาคทนฺเต อุฑฺฑิตํ, โสตาทีนิ ตณฺหารชฺชุนา อาวุนิตฺวา สทฺทาทินาคทนฺเตสุ อุฑฺฑิตานิ. ตํสมงฺคีโลโกปิ อุฑฺฑิโตเยว นาม. ชราปาการปริกฺขิตฺโตติ อนติกฺกมนียฏฺเน ปาการภูตาย ชราย ปริวาริโต. มจฺจุปาเสน ปริกฺขิตฺโตติ ทุมฺโมจนียฏฺเน ปาสภูเตน มรเณน พทฺโธ. มหาพนฺธนพทฺโธติ ทฬฺหตฺตา ทุจฺเฉทตฺตา จ มหนฺเตหิ พนฺธเนหิ พทฺโธ. ราคพนฺธเนนาติ ราโค เอว พนฺธติ สํสารโต จลิตุํ น เทตีติ ราคพนฺธนํ. เตน ราคพนฺธเนน. เสเสสุปิ เอเสว นโย. กิเลสพนฺธเนนาติ วุตฺตาวเสเสน ¶ กิเลสพนฺธเนน. ทุจฺจริตพนฺธเนนาติ ติวิเธน. สุจริตํ ปน พนฺธนโมกฺขสฺส เหตุภูตํ พนฺธนโมกฺขภูตฺจ อตฺถิ. ตสฺมา ตํ น คเหตพฺพํ.
พนฺธนํ ¶ โมเจตาติ ตสฺส พนฺธนํ โมเจตา. พนฺธนา โมเจตาติปิ ปาโ, พนฺธนโต ตํ โมเจตาติ อตฺโถ. มหาสมฺพาธปฺปฏิปนฺโนติ กุสลสฺจารปีฬเนน มหาสมฺพาธสงฺขาตํ ราคโทสโมหมานทิฏฺิกิเลสทุจฺจริตคหนํ ปฏิปนฺโน. โอกาสํ ทสฺเสตาติ โลกิยโลกุตฺตรสมาธิปฺาโอกาสํ ทสฺเสตา. มหาปลิโพเธน ปลิพุทฺโธติ มหานิวารเณน นิวุโต. มหาเลเปน วา ลิตฺโต. ปลิโพโธติ จ ราคาทิสตฺตวิโธ เอว. ‘‘ตณฺหาทิฏฺิปลิโพโธ’’ติ เอเก. ปลิโพธํ เฉตาติ ตํ ปลิโพธํ ฉินฺทิตา. มหาปปาเตติ ปฺจคติปปาเต, ชาติชรามรณปปาเต วา. ตํ สพฺพมฺปิ ทุรุตฺตรณฏฺเน ปปาโต. ปปาตา อุทฺธตาติ ตมฺหา ปปาตโต อุทฺธริตา. มหากนฺตารปฺปฏิปนฺโนติ ชาติชราพฺยาธิมรณโสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสกนฺตารํ ปฏิปนฺโน. สพฺพมฺปิ ตํ ทุรติกฺกมนฏฺเน กนฺตาโร, ตํ กนฺตารํ ตาเรตา. กนฺตารา ตาเรตาติ วา ปาโ. มหาสํสารปฺปฏิปนฺโนติ อพฺโพจฺฉินฺนํ ขนฺธสนฺตานํ ปฏิปนฺโน. สํสารา โมเจตาติ สํสารโต โมเจตา. สํสารํ โมเจตาติ วา ปาโ. มหาวิทุคฺเคติ สํสารวิทุคฺเค. สํสาโรเยว หิ ทุคฺคมนฏฺเน วิทุคฺโค. สมฺปริวตฺตตีติ ภุสํ นิวตฺติตฺวา จรติ. มหาปลิเปติ มหนฺเต กามกทฺทเม. กาโม หิ โอสีทนฏฺเน ปลิโป. ปลิปนฺโนติ ลคฺโค. มหาปลิปปลิปนฺโนติปิ ปาโ.
อพฺภาหโตติ สพฺโพปทฺทเวหิ อพฺภาหโต. ราคคฺคินาติ ราคาทโยเยว อนุทหนฏฺเน อคฺคิ, เตน ราคคฺคินา. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อุนฺนีตโกติ อุคฺคเหตฺวา นีโต, ชาติยา อุคฺคเหตฺวา ชราทิอุปทฺทวาย นีโตติ อตฺโถ. ก-กาโร ปเนตฺถ อนุกมฺปาย ทฏฺพฺโพ. หฺติ นิจฺจมตาโณติ ¶ ปริตฺตายเกน รหิโต สตตํ ปีฬียติ. ปตฺตทณฺโฑติ ราชาทีหิ ลทฺธอาโณ. ตกฺกโรติ โจโร. วชฺชพนฺธนพทฺโธติ ¶ ราคาทิวชฺชพนฺธเนหิ พทฺโธ. อาฆาตนปจฺจุปฏฺิโตติ มรณธมฺมคณฺิกฏฺานํ อุเปจฺจ ิโต. โกจิ พนฺธนา โมเจตา. โกจิ พนฺธนํ โมเจตาติปิ ปาโ. อนาโถติ นตฺถิ เอตสฺส นาโถ อิสฺสโร, สยํ วา น นาโถ น อิสฺสโรติ อนาโถ, อสรโณติ วา อตฺโถ. ปรมกาปฺปฺปตฺโตติ ชราทิปฏิพาหเน อปฺปหุตาย อตีว กปณภาวํ ปตฺโต. ตาเยตาติ รกฺขิตา. ตายิตาติ วา ปาโ สุนฺทโร ¶ . ทุกฺขาภิตุนฺโนติ ชาติทุกฺขาทีหิ อเนเกหิ ทุกฺเขหิ อภิตุนฺโน อติพฺยาธิโต อติกมฺปิโต จ. จิรรตฺตํ ปีฬิโตติ ทุกฺเขเหว ทีฆมทฺธานํ ปีฬิโต ฆฏฺฏิโต. คธิโตติ เคเธน คิทฺโธ, อภิชฺฌากายคนฺเถน วา คนฺถิโต. นิจฺจํ ปิปาสิโตติ ปาตุํ ภฺุชิตุํ อิจฺฉา ปิปาสา, สา ตณฺหา เอว, ตณฺหาปิปาสาย นิรนฺตรํ ปิปาสิโต.
อนฺโธติ ทสฺสนฏฺเน จกฺขูติ สงฺขํ คตาย ปฺาย อภาวโต กาโณ. ปฺา หิ ธมฺมสภาวํ ปสฺสติ. อจกฺขุโกติ ตํ ปน อนฺธตฺตํ น ปจฺฉา สมฺภูตํ, ปกติยา เอว อวิชฺชมานจกฺขุโกติ ตเมว อนฺธตฺตํ วิเสเสติ. หตเนตฺโตติ นยนฏฺเน เนตฺตนฺติ สงฺขํ คตาย ปฺาย อภาวโตเยว วินฏฺเนตฺตโก. สมวิสมํ ทสฺเสนฺตํ อตฺตภาวํ เนตีติ เนตฺตนฺติ หิ วุตฺตํ. ปฺาย สุคติฺจ อคติฺจ นยติ. หตเนตฺตตฺตาเยวสฺส เนตุอภาวํ ทสฺเสนฺโต อปริณายโกติ อาห, อวิชฺชมานเนตฺตโกติ อตฺโถ. อฺโปิสฺส เนตา น วิชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ. วิปถปกฺขนฺโทติ วิปรีโต, วิสโม วา ปโถ วิปโถ, ตํ วิปถํ ปกฺขนฺโท ปวิฏฺโ ปฏิปนฺโนติ วิปถปกฺขนฺโท, มิจฺฉาปถสงฺขาตํ มิจฺฉาทิฏฺึ ปฏิปนฺโนติ อตฺโถ. อฺชสาปรทฺโธติ อฺชเส อุชุมคฺคสฺมึ มชฺฌิมปฏิปทาย อปรทฺโธ วิรทฺโธ. อริยปถํ อาเนตาติ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ อุปเนตา ปฏิปาทยิตา. มโหฆปกฺขนฺโทติ ยสฺส สํวิชฺชนฺติ, ตํ วฏฺฏสฺมึ โอหนนฺติ โอสีทาเปนฺตีติ โอฆา, ปกติโอฆโต มหนฺตา โอฆาติ มโหฆา. เต กาโมโฆ ภโวโฆ ทิฏฺโโฆ อวิชฺโชโฆติ จตุปฺปเภทา. เต มโหเฆ ปกฺขนฺโท ปวิฏฺโติ มโหฆปกฺขนฺโท, สํสารสงฺขาตํ มโหฆํ วา ปกฺขนฺโทติ.
๑๑๘. อิทานิ ¶ เอกุตฺตริกนโย. ตตฺถ ทฺวีหิ ทิฏฺิคเตหีติ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺีหิ. ตตฺถ ทิฏฺิเยว ทิฏฺิคตํ ‘‘คูถคตํ มุตฺตคต’’นฺติอาทีนิ (อ. นิ. ๙.๑๑) วิย. คนฺตพฺพาภาวโต วา ทิฏฺิยา คตมตฺตเมเวตนฺติ ทิฏฺิคตํ, ทิฏฺีสุ คตํ อิทํ ทสฺสนํ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิอนฺโตคธตฺตาติปิ ทิฏฺิคตํ. ทฺวาสฏฺิเตสฏฺิทิฏฺิโยปิ หิ สสฺสตทิฏฺิ อุจฺเฉททิฏฺีติ ทฺเวว ทิฏฺิโย โหนฺติ. ตสฺมา สงฺเขเปน สพฺพา ทิฏฺิโย อนฺโต กโรนฺโต ‘‘ทฺวีหิ ทิฏฺิคเตหี’’ติ วุตฺตํ ¶ . ปริยุฏฺิโตติ ปริยุฏฺานํ ปตฺโต สมุทาจารํ ปตฺโต, อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทาเนน กุสลจารสฺส คหณํ ¶ ปตฺโตติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ทิฏฺิคเตหิ ปริยุฏฺิตา เทวมนุสฺสา โอลียนฺติ เอเก, อติธาวนฺติ เอเก, จกฺขุมนฺโต จ ปสฺสนฺตี’’ติอาทิ (อิติวุ. ๔๙).
ตีหิ ทุจฺจริเตหีติ ติวิธกายทุจฺจริเตน จตุพฺพิธวจีทุจฺจริเตน ติวิธมโนทุจฺจริเตน. วิปฺปฏิปนฺโนติ วิรูปํ ปฏิปนฺโน, มิจฺฉาปฏิปนฺโนติ อตฺโถ. โยเคหิ ยุตฺโตติ วฏฺฏสฺมึ โยเชนฺตีติ โยคา, อีติอตฺเถน วา โยคา, เตหิ โยเคหิ ยุตฺโต สมปฺปิโต. จตุโยคโยชิโตติ กามโยโค, ภวโยโค, ทิฏฺิโยโค, อวิชฺชาโยโคติ อิเมหิ จตูหิ โยเคหิ สกฏสฺมึ โยโค วิย วฏฺฏสฺมึ โยชิโต. ปฺจกามคุณิโก ราโค กามโยโค. รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค, ฌานนิกนฺติ จ, สสฺสตทิฏฺิสหชาโต ราโค ภววเสน ปตฺถนา ภวโยโค. ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย ทิฏฺิโยโค. อฏฺสุ าเนสุ อฺาณํ อวิชฺชาโยโค. เต เอว จตฺตาโร พลวภูตา โอฆา, ทุพฺพลภูตา โยคา.
จตูหิ คนฺเถหีติ ยสฺส สํวิชฺชนฺติ, ตํ จุติปฏิสนฺธิวเสน วฏฺฏสฺมึ คนฺเถนฺติ ฆเฏนฺตีติ คนฺถา. เต อภิชฺฌา กายคนฺโถ, พฺยาปาโท กายคนฺโถ, สีลพฺพตปรามาโส กายคนฺโถ, อิทํสจฺจาภินิเวโส กายคนฺโถติ จตุปฺปเภทา. อภิชฺฌายนฺติ เอตาย, สยํ วา อภิชฺฌายติ, อภิชฺฌายนมตฺตเมว วา เอสาติ อภิชฺฌา, โลโภเยว. นามกายํ คนฺเถติ จุติปฏิสนฺธิวเสน วฏฺฏสฺมึ ฆเฏตีติ กายคนฺโถ. พฺยาปชฺชติ เตน จิตฺตํ ปูติภาวํ คจฺฉติ, พฺยาปาทยติ วา วินยาจารรูปสมฺปตฺติหิตสุขาทีนีติ พฺยาปาโท. อิโต พหิทฺธา สมณพฺราหฺมณานํ สีเลน สุทฺธิ วเตน สุทฺธิ สีลวเตน สุทฺธีติ ปรามสนํ สีลพฺพตปรามาโส. สพฺพฺุภาสิตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘สสฺสโต โลโก ¶ , อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติอาทินา อากาเรน อภินิวิสตีติ อิทํสจฺจาภินิเวโส. เตหิ จตูหิ คนฺเถหิ คนฺถิโต, พทฺโธติ อตฺโถ.
จตูหิ อุปาทาเนหีติ ภุสํ อาทิยนฺติ ทฬฺหคฺคาหํ คณฺหนฺตีติ อุปาทานา. เต กามุปาทานํ ทิฏฺุปาทานํ สีลพฺพตุปาทานํ อตฺตวาทุปาทานนฺติ จตุปฺปเภทา. วตฺถุสงฺขาตํ กามํ อุปาทิยตีติ กามุปาทานํ, กาโม จ โส อุปาทานฺจาติปิ ¶ กามุปาทานํ. ทิฏฺิ จ สา อุปาทานฺจาติ ทิฏฺุปาทานํ, ทิฏฺึ อุปาทิยตีติปิ ทิฏฺุปาทานํ. ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จา’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๑๔๗) หิ ปุริมทิฏฺึ อุตฺตรทิฏฺิ อุปาทิยติ. สีลพฺพตํ อุปาทิยตีติ สีลพฺพตุปาทานํ, สีลพฺพตฺจ ตํ อุปาทานฺจาติปิ สีลพฺพตุปาทานํ. โคสีลโควตาทีนิ ¶ หิ เอวํ วิสุทฺธีติ อภินิเวสโต สยเมว อุปาทานานิ. วทนฺติ เอเตนาติ วาโท, อุปาทิยนฺติ เอเตนาติ อุปาทานํ. กึ วทนฺติ, อุปาทิยนฺติ วา? อตฺตานํ. อตฺตโน วาทุปาทานํ อตฺตวาทุปาทานํ, อตฺตวาทมตฺตเมว วา อตฺตาติ อุปาทิยนฺติ เอเตนาติ อตฺตวาทุปาทานํ. เปตฺวา อิมา ทฺเว ทิฏฺิโย สพฺพาปิ ทิฏฺี ทิฏฺุปาทานํ. เตหิ จตูหิ อุปาทาเนหิ. อุปาทียตีติ ภุสํ คณฺหียติ. อุปาทิยตีติ วา ปาโ, โลโก อุปาทาเนหิ ตํ ตํ อารมฺมณํ ภุสํ คณฺหาตีติ อตฺโถ.
ปฺจคติสมารุฬฺโหติ สุกตทุกฺกฏการเณหิ คมฺมติ อุปสงฺกมียตีติ คติ, สโหกาสกา ขนฺธา. นิรโย ติรจฺฉานโยนิ เปตฺติวิสโย มนุสฺสา เทวาติ อิมา ปฺจ คติโย โวกฺกมนภาเวน ภุสํ อารุฬฺโห. ปฺจหิ กามคุเณหีติ รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพสงฺขาเตหิ ปฺจหิ วตฺถุกามโกฏฺาเสหิ. รชฺชตีติ อโยนิโสมนสิการํ ปฏิจฺจ ราคุปฺปาทเนน เตหิ รฺชียติ, สารตฺโต กรียตีติ อตฺโถ. ปฺจหิ นีวรเณหีติ จิตฺตํ นีวรนฺติ ปริโยนนฺธนฺตีติ นีวรณา. กามจฺฉนฺทพฺยาปาทถินมิทฺธอุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจวิจิกิจฺฉาสงฺขาเตหิ ปฺจหิ นีวรเณหิ. โอตฺถโฏติ อุปริโต ปิหิโต.
ฉหิ วิวาทมูเลหีติ ฉหิ วิวาทสฺส มูเลหิ. ยถาห –
‘‘ฉยิมานิ, ภิกฺขเว, วิวาทมูลานิ. กตมานิ ฉ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โกธโน โหติ อุปนาหี. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โกธโน ¶ โหติ อุปนาหี. โส สตฺถริปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, ธมฺเมปิ, สงฺเฆปิ, สิกฺขายปิ น ปริปูรการี. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, ธมฺเมปิ, สงฺเฆปิ, สิกฺขายปิ น ปริปูรการี, โส สงฺเฆ วิวาทํ ชเนติ. โย โหติ วิวาโท พหุชนาหิตาย พหุชนาสุขาย พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย ¶ อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํ. เอวรูปํ เจ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา สมนุปสฺเสยฺยาถ, ตตฺร ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ตสฺเสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานาย วายเมยฺยาถ. เอวรูปํ เจ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา น สมนุปสฺเสยฺยาถ. ตตฺร ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ตสฺเสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายตึ อนวสฺสวาย ปฏิปชฺเชยฺยาถ. เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานํ โหติ. เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายตึ อนวสฺสโว โหติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มกฺขี โหติ ปฬาสี. อิสฺสุกี โหติ มจฺฉรี. สโ โหติ มายาวี. ปาปิจฺโฉ โหติ มิจฺฉาทิฏฺิ. สนฺทิฏฺิปรามาสี โหติ อาธานคฺคาหี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สนฺทิฏฺิปรามาสี โหติ อาธานคฺคาหี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี, โส สตฺถริปิ…เป… อายตึ อนวสฺสโว โหตี’’ติ (ปริ. ๒๗๒; อ. นิ. ๖.๓๖).
ตตฺถ โกธโนติ กุชฺฌนลกฺขเณน โกเธน สมนฺนาคโต. อุปนาหีติ เวรอปฺปฏินิสฺสชฺชนลกฺขเณน อุปนาเหน สมนฺนาคโต. อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานนฺติ ทฺวินฺนํ ภิกฺขูนํ วิวาโท กถํ เทวมนุสฺสานํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตตีติ? โกสมฺพกกฺขนฺธเก (มหาว. ๔๕๑ อาทโย) วิย ทฺวีสุ ภิกฺขูสุ วิวาทํ อาปนฺเนสุ ตสฺมึ วิหาเร เตสํ อนฺเตวาสิกา วิวทนฺติ, เตสํ โอวาทํ คณฺหนฺโต ภิกฺขุนิสงฺโฆ วิวทติ, ตโต เตสํ อุปฏฺากาปิ วิวทนฺติ. อถ มนุสฺสานํ อารกฺขเทวตา ทฺเว โกฏฺาสา โหนฺติ. ธมฺมวาทีนํ อารกฺขเทวตา ธมฺมวาทินิโย โหนฺติ อธมฺมวาทีนํ อธมฺมวาทินิโย. ตโต อารกฺขเทวตานํ มิตฺตา ภุมฺมฏฺเทวตา ภิชฺชนฺติ. เอวํ ปรมฺปราย ยาว พฺรหฺมโลกา เปตฺวา อริยสาวเก สพฺเพ เทวมนุสฺสา ทฺเว โกฏฺาสา โหนฺติ. ธมฺมวาทีหิ ปน อธมฺมวาทิโนว ¶ พหุตรา โหนฺติ. ตโต ยํ พหุเกหิ คหิตํ, สพฺพํ ตํ สจฺจนฺติ ธมฺมํ วิสฺสชฺเชตฺวา พหุตราว อธมฺมํ คณฺหนฺติ. เต อธมฺมํ ปุรกฺขตฺวา วิหรนฺตา อปาเยสุ นิพฺพตฺตนฺติ. เอวํ ทฺวินฺนํ ภิกฺขูนํ วิวาโท เทวมนุสฺสานํ อหิตาย ทุกฺขาย โหติ. อชฺฌตฺตํ วาติ ¶ ตุมฺหากํ อพฺภนฺตรปริสาย วา. พหิทฺธา วาติ ปเรสํ ปริสาย วา. มกฺขีติ ปเรสํ คุณมกฺขณลกฺขเณน มกฺเขน สมนฺนาคโต. ปฬาสีติ ยุคคฺคาหลกฺขเณน ปฬาเสน สมนฺนาคโต. อิสฺสุกีติ ปเรสํ สกฺการาทิอิสฺสายนลกฺขณาย อิสฺสาย สมนฺนาคโต. มจฺฉรีติ อาวาสมจฺฉริยาทีหิ ปฺจหิ มจฺฉริเยหิ สมนฺนาคโต. สโติ เกราฏิโก. มายาวีติ กตปาปปฏิจฺฉาทโก. ปาปิจฺโฉติ อสนฺตสมฺภาวนิจฺฉโก ทุสฺสีโล. มิจฺฉาทิฏฺีติ นตฺถิกวาที อเหตุกวาที อกิริยวาที. สนฺทิฏฺิปรามาสีติ สยํ ทิฏฺิเมว ปรามสติ. อาธานคฺคาหีติ ทฬฺหคฺคาหี. ทุปฺปฏินิสฺสคฺคีติ น สกฺกา โหติ คหิตํ วิสฺสชฺชาเปตุํ. ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺเค ปน ‘‘ตตฺถ กตมานิ ฉ วิวาทมูลานิ? โกโธ มกฺโข อิสฺสา สาเยฺยํ ปาปิจฺฉตา สนฺทิฏฺิปรามาสิตา, อิมานิ ฉ วิวาทมูลานี’’ติ (วิภ. ๙๔๔) ปธานวเสน เอเกโกเยว ธมฺโม วุตฺโต.
ฉหิ ตณฺหากาเยหีติ ‘‘รูปตณฺหา, สทฺทตณฺหา, คนฺธตณฺหา, รสตณฺหา, โผฏฺพฺพตณฺหา, ธมฺมตณฺหา’’ติ (วิภ. ๙๔๔) วุตฺตาหิ ฉหิ ตณฺหาหิ. ตตฺถ ยสฺมา เอเกกาเยว ตณฺหา อเนกวิสยตฺตา ¶ เอเกกสฺมิมฺปิ วิสเย ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติโต อเนกา โหนฺติ, ตสฺมา สมูหฏฺเน กายสทฺเทน โยเชตฺวา ตณฺหากายาติ วุตฺตํ. ตณฺหากายาติ วุตฺเตปิ ตณฺหา เอว. รชฺชตีติ สยํ อารมฺมเณ รชฺชติ, สารตฺโต โหติ.
ฉหิ ทิฏฺิคเตหีติ สพฺพาสวสุตฺเต วุตฺเตหิ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ –
‘‘ตสฺส เอวํ อโยนิโส มนสิกโรโต ฉนฺนํ ทิฏฺีนํ อฺตรา ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ. ‘อตฺถิ เม อตฺตา’ติ วา อสฺส สจฺจโต เถตโต ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ, ‘นตฺถิ เม อตฺตา’ติ วา อสฺส สจฺจโต เถตโต ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ, ‘อตฺตนาว อตฺตานํ สฺชานามี’ติ วา อสฺส สจฺจโต เถตโต ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ, ‘อตฺตนาว อนตฺตานํ สฺชานามี’ติ วา อสฺส สจฺจโต เถตโต ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ, ‘อนตฺตนาว อตฺตานํ สฺชานามี’ติ วา อสฺส สจฺจโต เถตโต ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ. อถ วา ปนสฺส เอวํ ทิฏฺิ โหติ ‘โย เม อยํ อตฺตา ¶ วโท เวเทยฺโย ¶ ตตฺร ตตฺร กลฺยาณปาปกานํ กมฺมานํ วิปากํ ปฏิสํเวเทติ, โส จ โข ปน เม อยํ อตฺตา นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต อวิปริณามธมฺโม สสฺสติสมํ ตเถว สฺสตี’’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๙).
ตตฺถ อตฺถิ เม อตฺตาติ สสฺสตทิฏฺิ สพฺพกาเลสุ อตฺตโน อตฺถิตํ คณฺหาติ. สจฺจโต เถตโตติ ภูตโต จ ถิรโต จ, ‘‘อิทํ สจฺจ’’นฺติ สุฏฺุ ทฬฺหภาเวนาติ วุตฺตํ โหติ. นตฺถิ เม อตฺตาติ อุจฺเฉททิฏฺิ สโต สตฺตสฺส ตตฺถ ตตฺถ วิภวคฺคหณโต. อถ วา ปุริมาปิ ตีสุ กาเลสุ อตฺถีติ คหณโต สสฺสตทิฏฺิ, ปจฺจุปฺปนฺนเมว อตฺถีติ คณฺหนฺตี อุจฺเฉททิฏฺิ, ปจฺฉิมาปิ อตีตานาคเตสุ นตฺถีติ คหณโต ‘‘ภสฺสนฺตา อาหุติโย’’ติ คหิตทิฏฺิคติกานํ วิย อุจฺเฉททิฏฺิ. อตีเต เอว นตฺถีติ คณฺหนฺตี อธิจฺจสมุปฺปนฺนกสฺส วิย สสฺสตทิฏฺิ. อตฺตนาว อตฺตานํ สฺชานามีติ สฺากฺขนฺธสีเสน ขนฺเธ อตฺตาติ คเหตฺวา สฺาย อวเสสกฺขนฺเธ สฺชานโต อิมินา อตฺตนา อิมํ อตฺตานํ สฺชานามีติ โหติ. อตฺตนาว อนตฺตานนฺติ สฺากฺขนฺธํเยว อตฺตาติ คเหตฺวา, อิตเร จตฺตาโรปิ อนตฺตาติ คเหตฺวา สฺาย เต สฺชานโต เอวํ โหติ. อนตฺตนาว อตฺตานนฺติ สฺากฺขนฺธํ อนตฺตาติ คเหตฺวา, อิตเร จตฺตาโรปิ อตฺตาติ คเหตฺวา สฺาย เต สฺชานโต เอวํ โหติ. สพฺพาปิ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิโยว. วโท เวเทยฺโยติอาทโย ปน สสฺสตทิฏฺิยา เอว อภินิเวสาการา. ตตฺถ วทตีติ วโท, วจีกมฺมสฺส การโกติ วุตฺตํ โหติ. เวทยตีติ เวเทยฺโย, ชานาติ อนุภวติ จาติ วุตฺตํ โหติ. กึ เวเทตีติ? ตตฺร ตตฺร กลฺยาณปาปกานํ กมฺมานํ วิปากํ ปฏิสํเวเทติ ¶ . ตตฺร ตตฺราติ เตสุ เตสุ โยนิคติิตินิวาสนิกาเยสุ อารมฺมเณสุ วา. นิจฺโจติ อุปฺปาทวยรหิโต. ธุโวติ ถิโร สารภูโต. สสฺสโตติ สพฺพกาลิโก. อวิปริณามธมฺโมติ อตฺตโน ปกติภาวํ อวิชหนธมฺโม, กกณฺฏโก วิย นานปฺปการตํ นาปชฺชติ. สสฺสติสมนฺติ จนฺทสูริยสมุทฺทมหาปถวีปพฺพตา โลกโวหาเรน สสฺสติโยติ วุจฺจนฺติ. สสฺสตีหิ สมํ สสฺสติสมํ. ยาว สสฺสติโย ติฏฺนฺติ, ตาว ตเถว สฺสตีติ คณฺหโต เอวํ ทิฏฺิ โหติ.
ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺเค ¶ ¶ ปน ‘‘ตตฺร ตตฺร ทีฆรตฺตํ กลฺยาณปาปกานํ กมฺมานํ วิปากํ ปจฺจนุโภติ, น โส ชาโต นาโหสิ, น โส ชาโต น ภวิสฺสติ, นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต อวิปริณามธมฺโมติ วา ปนสฺส สจฺจโต เถตโต ทิฏฺิ อุปฺปชฺชตี’’ติ (วิภ. ๙๔๘) ฉ ทิฏฺี เอวํ วิเสเสตฺวา วุตฺตา.
ตตฺถ น โส ชาโต นาโหสีติ โส อตฺตา อชาติธมฺมโต น ชาโต นาม, สทา วิชฺชมาโนเยวาติ อตฺโถ. เตเนว อตีเต นาโหสิ, อนาคเต น ภวิสฺสติ. โย หิ ชาโต, โส อโหสิ. โย จ ชายิสฺสติ, โส ภวิสฺสตีติ วุจฺจติ. อถ วา น โส ชาโต นาโหสีติ โส สทา วิชฺชมานตฺตา อตีเตปิ น ชาตุ น อโหสิ, อนาคเตปิ น ชาตุ น ภวิสฺสติ. อนุสยา วุตฺตตฺถา.
สตฺตหิ สฺโชเนหีติ สตฺตกนิปาเต วุตฺเตหิ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ –
‘‘สตฺติมานิ, ภิกฺขเว, สํโยชนานิ. กตมานิ สตฺต? อนุนยสํโยชนํ, ปฏิฆสํโยชนํ, ทิฏฺิสํโยชนํ, วิจิกิจฺฉาสํโยชนํ, มานสํโยชนํ, ภวราคสํโยชนํ, อวิชฺชาสํโยชนํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, สตฺต สํโยชนานี’’ติ (อ. นิ. ๗.๘).
ตตฺถ อนุนยสํโยชนนฺติ กามราคสํโยชนํ. สพฺพาเนเวตานิ พนฺธนฏฺเน สํโยชนานิ.
สตฺตหิ มาเนหีติ ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺเค วุตฺเตหิ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ –
‘‘มาโน ¶ , อติมาโน, มานาติมาโน, โอมาโน, อธิมาโน, อสฺมิมาโน, มิจฺฉามาโน’’ติ (วิภ. ๙๕๐).
ตตฺถ มาโนติ เสยฺยาทิวเสน ปุคฺคลํ อนามสิตฺวา ชาติอาทีสุ วตฺถุวเสเนว อุนฺนติ. อติมาโนติ ชาติอาทีหิ ‘‘มยา สทิโส นตฺถี’’ติ อติกฺกมิตฺวา อุนฺนติ. มานาติมาโนติ ‘‘อยํ ปุพฺเพ มยา สทิโส, อิทานิ อหํ เสฏฺโ, อยํ หีนตโร’’ติ อุปฺปนฺนมาโน. โอมาโนติ ชาติอาทีหิ อตฺตานํ เหฏฺา กตฺวา ปวตฺตมาโน, หีโนหมสฺมีติ มาโนเยว. อธิมาโนติ อนธิคเตเยว จตุสจฺจธมฺเม อธิคโตติ มาโน. อยํ ปน อธิมาโน ปริสุทฺธสีลสฺส กมฺมฏฺาเน อปฺปมตฺตสฺส นามรูปํ ววตฺถเปตฺวา ปจฺจยปริคฺคเหน วิติณฺณกงฺขสฺส ติลกฺขณํ ¶ อาโรเปตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺตสฺส อารทฺธวิปสฺสกสฺส ¶ ปุถุชฺชนสฺส อุปฺปชฺชติ, น อฺเสํ. อสฺมิมาโนติ รูปาทีสุ ขนฺเธสุ อสฺมีติ มาโน, ‘‘อหํ รูป’’นฺติอาทิวเสน อุปฺปนฺนมาโนติ วุตฺตํ โหติ. มิจฺฉามาโนติ ปาปเกน กมฺมายตนาทินา อุปฺปนฺนมาโน.
โลกธมฺมา วุตฺตตฺถา. สมฺปริวตฺตตีติ โลกธมฺเมหิ เหตุภูเตหิ ลาภาทีสุ จตูสุ อนุโรธวเสน, อลาภาทีสุ จตูสุ ปฏิวิโรธวเสน ภุสํ นิวตฺตติ, ปกติภาวํ ชหาตีติ อตฺโถ. มิจฺฉตฺตาปิ วุตฺตตฺถา. นิยฺยาโตติ คโต ปกฺขนฺโท, อภิภูโตติ อตฺโถ.
อฏฺหิ ปุริสโทเสหีติ อฏฺกนิปาเต อุปมาหิ สห, ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺเค อุปมํ วินา วุตฺเตหิ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ –
‘‘กตเม อฏฺ ปุริสโทสา? อิธ ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน ‘น สรามิ น สรามี’ติ อสฺสติยาว นิพฺเพเติ. อยํ ปโม ปุริสโทโส.
‘‘ปุน จปรํ ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน โจทกํเยว ปฏิปฺผรติ ‘กึ นุ โข ตุยฺหํ พาลสฺส อพฺยตฺตสฺส ภณิเตน, ตฺวมฺปิ นาม มํ ภณิตพฺพํ มฺสี’ติ? อยํ ทุติโย ปุริสโทโส.
‘‘ปุน ¶ จปรํ ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน โจทกํเยว ปจฺจาโรเปติ ‘ตฺวมฺปิ โขสิ อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ตฺวํ ตาว ปมํ ปฏิกโรหี’ติ. อยํ ตติโย ปุริสโทโส.
‘‘ปุน จปรํ ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน อฺเนฺํ ปฏิจรติ, พหิทฺธา กถํ อปนาเมติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. อยํ จตุตฺโถ ปุริสโทโส.
‘‘ปุน จปรํ ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน สงฺฆมชฺเฌ พาหาวิกฺเขปกํ ภณติ. อยํ ปฺจโม ปุริสโทโส.
‘‘ปุน ¶ จปรํ ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน อนาทิยิตฺวา สงฺฆํ อนาทิยิตฺวา โจทกํ สาปตฺติโกว เยน กามํ ปกฺกมติ. อยํ ฉฏฺโ ปุริสโทโส.
‘‘ปุน จปรํ ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน ‘เนวาหํ อาปนฺโนมฺหิ, น ปนาหํ อนาปนฺโนมฺหี’ติ โส ตุณฺหีภูโต สงฺฆํ วิเหเสติ. อยํ สตฺตโม ปุริสโทโส.
‘‘ปุน จปรํ ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน เอวมาห – ‘กึ นุ โข ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อติพาฬฺหํ มยิ พฺยาวฏา? อิทานาหํ ¶ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสามี’ติ. โส สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติตฺวา เอวมาห ‘อิทานิ โข ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อตฺตมนา โหถา’ติ. อยํ อฏฺโม ปุริสโทโส. อิเม อฏฺ ปุริสโทสา’’ติ (วิภ. ๙๕๗; อ. นิ. ๘.๑๔).
ตตฺถ ปุริสโทสาติ ปุริสานํ โทสา, เต ปน ปุริสสนฺตานํ ทูเสนฺตีติ โทสา. น สรามิ น สรามีติ ‘‘มยา เอตสฺส กมฺมสฺส กตฏฺานํ นสฺสรามิ น สลฺลกฺเขมี’’ติ เอวํ อสฺสติภาเวน นิพฺเพเติ โมเจติ. โจทกํเยว ปฏิปฺผรตีติ ปฏิวิรุทฺโธ หุตฺวา ผรติ, ปฏิอาณิภาเวน ¶ ติฏฺติ. กึ นุ โข ตุยฺหนฺติ ตุยฺหํ พาลสฺส อพฺยตฺตสฺส ภณิเตน นาม กึ, โย ตฺวํ เนว วตฺถุํ, น อาปตฺตึ, น โจทนํ ชานาสีติ ทีเปติ. ตฺวมฺปิ นาม เอวํ กิฺจิ อชานนฺโต ภณิตพฺพํ มฺสีติ อชฺโฌตฺถรติ. ปจฺจาโรเปตีติ ‘‘ตฺวมฺปิ โขสี’’ติอาทีนิ วทนฺโต ปติอาโรเปติ. ปฏิกโรหีติ เทสนาคามินึ เทเสหิ, วุฏฺานคามินิโต วุฏฺาหิ, ตโต สุทฺธนฺเต ปติฏฺิโต อฺํ โจเทสฺสสีติ ทีเปติ. อฺเนฺํ ปฏิจรตีติ อฺเน การเณน, วจเนน วา อฺํ การณํ, วจนํ วา ปฏิจฺฉาเทติ. ‘‘อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ วุตฺโต ‘‘โก อาปนฺโน, กึ อาปนฺโน, กิสฺมึ อาปนฺโน, กถํ อาปนฺโน, กํ ภณถ, กึ ภณถา’’ติ ภณติ. ‘‘เอวรูปํ กิฺจิ ตยา ทิฏฺ’’นฺติ วุตฺเต ¶ ‘‘น สุณามี’’ติ โสตํ อุปเนติ. พหิทฺธา กถํ อปนาเมตีติ ‘‘อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ ปุฏฺโ ‘‘ปาฏลิปุตฺตํ คโตมฺหี’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘น ตว ปาฏลิปุตฺตคมนํ ปุจฺฉามา’’ติ วุตฺเต ตโต ราชคหํ คโตมฺหีติ. ‘‘ราชคหํ วา ยาหิ พฺราหฺมณเคหํ วา, อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ. ‘‘ตตฺถ เม สูกรมํสํ ลทฺธ’’นฺติอาทีนิ วทนฺโต กถํ พหิทฺธา วิกฺขิปติ. โกปนฺติ กุปิตภาวํ, โทสนฺติ ทุฏฺภาวํ. อุภยมฺเปตํ โกธสฺเสว นามํ. อปฺปจฺจยนฺติ อสนฺตุฏฺาการํ, โทมนสฺสสฺเสตํ นามํ. ปาตุกโรตีติ ทสฺเสติ ปกาเสติ. พาหาวิกฺเขปกํ ภณตีติ พาหํ วิกฺขิปิตฺวา วิกฺขิปิตฺวา อลชฺชิวจนํ วทติ. อนาทิยิตฺวาติ จิตฺตีกาเรน อคฺคเหตฺวา อวชานิตฺวา, อนาทโร หุตฺวาติ อตฺโถ. วิเหเสตีติ ¶ วิเหเติ พาธติ. อติพาฬฺหนฺติ อติทฬฺหํ อติปฺปมาณํ. มยิ พฺยาวฏาติ มยิ พฺยาปารํ อาปนฺนา. หีนายาวตฺติตฺวาติ หีนสฺส คิหิภาวสฺส อตฺถาย อาวตฺติตฺวา, คิหี หุตฺวาติ อตฺโถ. อตฺตมนา โหถาติ ตุฏฺจิตฺตา โหถ, ‘‘มยา ลภิตพฺพํ ลภถ, มยา วสิตพฺพฏฺาเน วสถ, ผาสุวิหาโร โว มยา กโต’’ติ อธิปฺปาเยน วทติ. ทุสฺสตีติ ทุฏฺโ โหติ.
นวหิ อาฆาตวตฺถูหีติ สตฺเตสุ อุปฺปตฺติวเสเนว กถิตานิ. ยถาห –
‘‘นวยิมานิ, ภิกฺขเว, อาฆาตวตฺถูนิ. กตมานิ นว? ‘อนตฺถํ เม อจรี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ, ‘อนตฺถํ เม จรตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ, ‘อนตฺถํ เม จริสฺสตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ, ‘ปิยสฺส เม มนาปสฺส อนตฺถํ อจริ, อนตฺถํ จรติ, อนตฺถํ จริสฺสตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ, ‘อปฺปิยสฺส เม อมนาปสฺส อตฺถํ อจริ, อตฺถํ จรติ, อตฺถํ จริสฺสตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, นว อาฆาตวตฺถูนี’’ติ (อ. นิ. ๙.๒๙).
ตตฺถ ¶ อาฆาตวตฺถูนีติ อาฆาตการณานิ. อาฆาตนฺติ เจตฺถ โกโป, โสเยว อุปรูปริ โกปสฺส วตฺถุตฺตา อาฆาตวตฺถุ. อาฆาตํ พนฺธตีติ โกปํ พนฺธติ กโรติ อุปฺปาเทติ. ‘‘อตฺถํ เม นาจริ, น จรติ, น จริสฺสติ. ปิยสฺส เม มนาปสฺส อตฺถํ นาจริ, น จรติ, น จริสฺสติ. อปฺปิยสฺส เม อมนาปสฺส อนตฺถํ นาจริ, น จรติ, น ¶ จริสฺสตี’’ติ (มหานิ. ๘๕; วิภ. ๙๖๐; ธ. ส. ๑๐๖๖) นิทฺเทเส วุตฺตานิ อปรานิปิ นว อาฆาตวตฺถูนิ อิเมเหว นวหิ สงฺคหิตานิ. อาฆาติโตติ ฆฏฺฏิโต.
นววิธมาเนหีติ กตเม นววิธมานา? เสยฺยสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ มาโน, เสยฺยสฺส สทิโสหมสฺมีติ มาโน, เสยฺยสฺส หีโนหมสฺมีติ มาโน. สทิสสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ มาโน, สทิสสฺส สทิโสหมสฺมีติ มาโน, สทิสสฺส หีโนหมสฺมีติ มาโน. หีนสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ มาโน, หีนสฺส สทิโสหมสฺมีติ มาโน, หีนสฺส หีโนหมสฺมีติ มาโน. อิเม นววิธมานา (วิภ. ๙๖๒).
เอตฺถ ปน เสยฺยสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ มาโน ราชูนฺเจว ปพฺพชิตานฺจ อุปฺปชฺชติ. ราชา หิ ‘‘รฏฺเน วา ธเนน วา วาหเนหิ วา โก มยา สทิโส อตฺถี’’ติ เอตํ มานํ กโรติ, ปพฺพชิโตปิ ‘‘สีลธุตงฺคาทีหิ โก มยา สทิโส อตฺถี’’ติ เอตํ มานํ กโรติ.
เสยฺยสฺส สทิโสหมสฺมีติ มาโนปิ เอเตสํเยว อุปฺปชฺชติ. ราชา หิ ‘‘รฏฺเน ¶ วา ธเนน วา วาหเนหิ วา อฺราชูหิ สทฺธึ มยฺหํ กึ นานากรณ’’นฺติ เอตํ มานํ กโรติ, ปพฺพชิโตปิ ‘‘สีลธุตงฺคาทีหิ อฺเน ภิกฺขุนา มยฺหํ กึ นานากรณ’’นฺติ เอตํ มานํ กโรติ.
เสยฺยสฺส หีโนหมสฺมีติ มาโนปิ เอเตสํเยว อุปฺปชฺชติ. ยสฺส หิ รฺโ รฏฺํ วา ธนํ วา วาหนาทีนิ วา นาติสมฺปนฺนานิ โหนฺติ, โส ‘‘มยฺหํ ราชาติ โวหารสุขมตฺตกเมว, กึ ราชา นาม อห’’นฺติ เอตํ มานํ กโรติ, ปพฺพชิโตปิ อปฺปลาภสกฺกาโร ‘‘อหํ ธมฺมกถิโก พหุสฺสุโต มหาเถโรติ กถามตฺตเมว, กึ ธมฺมกถิโก นามาหํ, กึ พหุสฺสุโต นามาหํ, กึ มหาเถโร นามาหํ, ยสฺส เม ลาภสกฺกาโร นตฺถี’’ติ เอตํ มานํ กโรติ.
สทิสสฺส ¶ เสยฺโยหมสฺมีติ มานาทโย อมจฺจาทีนํ อุปฺปชฺชนฺติ. อมจฺโจ วา หิ รฏฺิโย วา ‘‘โภคยานวาหนาทีหิ โก มยา สทิโส อฺโ ราชปุริโส อตฺถี’’ติ วา, ‘‘มยฺหํ อฺเหิ สทฺธึ กึ นานากรณ’’นฺติ วา, ‘‘อมจฺโจติ นามเมว มยฺหํ, ฆาสจฺฉาทนมตฺตมฺปิ เม นตฺถิ, กึ อมจฺโจ นามาห’’นฺติ วา เอตํ มานํ กโรติ.
หีนสฺส ¶ เสยฺโยหมสฺมีติ มานาทโย ทาสาทีนํ อุปฺปชฺชนฺติ. ทาโส หิ ‘‘มาติโต วา ปิติโต วา โก มยา สทิโส อฺโ ทาโส นาม อตฺถิ, อฺเ ชีวิตุํ อสกฺโกนฺตา กุจฺฉิเหตุ ทาสา นาม ชาตา, อหํ ปน ปเวณิอาคตตฺตา เสยฺโย’’ติ วา, ‘‘ปเวณิอาคตภาเวน อุภโตสุทฺธิกทาสตฺเตน อสุกทาเสน นาม สทฺธึ มยฺหํ กึ นานากรณ’’นฺติ วา, ‘‘กุจฺฉิวเสนาหํ ทาสพฺยํ อุปคโต, มาตาปิตุโกฏิยา ปน เม ทาสฏฺานํ นตฺถิ, กึ ทาโส นาม อห’’นฺติ วา เอตํ มานํ กโรติ. ยถา จ ทาโส, เอวํ ปุกฺกุสจณฺฑาลาทโยปิ เอตํ มานํ กโรนฺติเยว. เอตฺถ จ เสยฺยสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ อุปฺปนฺนมาโนว ยาถาวมาโน, อิตเร ทฺเว อยาถาวมานา. ตถา สทิสสฺส สทิโสหมสฺมีติ หีนสฺส หีโนหมสฺมีติ อุปฺปนฺนมาโนว ยาถาวมาโน, อิตเร ทฺเว อยาถาวมานา. ตตฺถ ยาถาวมานา อรหตฺตมคฺควชฺฌา, อยาถาวมานา โสตาปตฺติมคฺควชฺฌาติ.
ตณฺหามูลกา วุตฺตาเยว. รชฺชตีติ น เกวลํ ราเคเนว รชฺชติ, อถ โข ตณฺหามูลกานํ ปริเยสนาทีนมฺปิ สมฺภวโต ตณฺหามูลเกหิ สพฺเพหิ อกุสลธมฺเมหิ รชฺชติ, ยุชฺชติ พชฺฌตีติ อธิปฺปาโย.
ทสหิ ¶ กิเลสวตฺถูหีติ กตมานิ ทส กิเลสวตฺถูนิ? โลโภ, โทโส, โมโห, มาโน, ทิฏฺิ, วิจิกิจฺฉา, ถินํ, อุทฺธจฺจํ, อหิริกํ, อโนตฺตปฺปนฺติ อิมานิ ทส กิเลสวตฺถูนิ (วิภ. ๙๖๖).
ตตฺถ กิเลสา เอว กิเลสวตฺถูนิ, วสนฺติ วา เอตฺถ อขีณาสวา สตฺตา โลภาทีสุ ปติฏฺิตตฺตาติ วตฺถูนิ, กิเลสา จ เต ตปฺปติฏฺานํ สตฺตานํ วตฺถูนิ จาติ กิเลสวตฺถูนิ. ยสฺมา เจตฺถ อนนฺตรปจฺจยาทิภาเวน อุปฺปชฺชมานาปิ กิเลสา วสนฺติ เอว นาม, ตสฺมา กิเลสานํ วตฺถูนีติปิ กิเลสวตฺถูนิ. ลุพฺภนฺติ เตน, สยํ วา ลุพฺภติ, ลุพฺภนมตฺตเมว วา ตนฺติ โลโภ. ทุสฺสนฺติ เตน, สยํ วา ทุสฺสติ, ทุสฺสนมตฺตเมว วา ตนฺติ โทโส. มุยฺหนฺติ เตน, สยํ วา มุยฺหติ, มุยฺหนมตฺตเมว วา ตนฺติ โมโห. มฺตีติ มาโน. ทิฏฺิอาทโย วุตฺตตฺถาว ¶ . น หิรียตีติ อหิริโก, ตสฺส ภาโว อหิริกํ. น ¶ โอตฺตปฺปตีติ อโนตฺตปฺปี, ตสฺส ภาโว อโนตฺตปฺปํ. เตสุ อหิริกํ กายทุจฺจริตาทีหิ อชิคุจฺฉนลกฺขณํ, อโนตฺตปฺปํ เตเหว อสารชฺชนลกฺขณํ, กิลิสฺสตีติ อุปตาปียติ วิพาธียติ.
ทสหิ อาฆาตวตฺถูหีติ ปุพฺเพ วุตฺเตหิ นวหิ จ ‘‘อฏฺาเน วา ปนาฆาโต ชายตี’’ติ (ธ. ส. ๑๐๖๖) วุตฺเตน จาติ ทสหิ. อนตฺถํ เม อจรีติอาทีนิปิ หิ อวิกปฺเปตฺวา ขาณุกณฺฏกาทิมฺหิปิ อฏฺาเน อาฆาโต อุปฺปชฺชติ.
ทสหิ อกุสลกมฺมปเถหีติ กตเม ทส อกุสลกมฺมปถา (ที. นิ. ๓.๓๖๐)? ปาณาติปาโต, อทินฺนาทานํ, กาเมสุมิจฺฉาจาโร, มุสาวาโท, ปิสุณา วาจา, ผรุสา วาจา, สมฺผปฺปลาโป, อภิชฺฌา, พฺยาปาโท, มิจฺฉาทิฏฺิ. อิเม ทส อกุสลกมฺมปถา. ตตฺถ อกุสลกมฺมานิ จ ตานิ ปถา จ ทุคฺคติยาติ อกุสลกมฺมปถา. สมนฺนาคโตติ สมงฺคีภูโต.
ทสหิ สฺโชเนหีติ กตมานิ ทส สํโยชนานิ (ธ. ส. ๑๑๑๘)? กามราคสํโยชนํ, ปฏิฆสํโยชนํ, มานสํโยชนํ, ทิฏฺิสํโยชนํ, วิจิกิจฺฉาสํโยชนํ, สีลพฺพตปรามาสสํโยชนํ, ภวราคสํโยชนํ, อิสฺสาสํโยชนํ, มจฺฉริยสํโยชนํ, อวิชฺชาสํโยชนํ, อิมานิ ทส สํโยชนานิ. มิจฺฉตฺตา ¶ วุตฺตาเยว.
ทสวตฺถุกาย มิจฺฉาทิฏฺิยาติ กตมา ทสวตฺถุกา มิจฺฉาทิฏฺิ (วิภ. ๙๗๑)? นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ, นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก, นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺติ. อยํ ทสวตฺถุกา มิจฺฉาทิฏฺิ.
ตตฺถ ทสวตฺถุกาติ ทส วตฺถูนิ เอติสฺสาติ ทสวตฺถุกา. นตฺถิ ทินฺนนฺติ ทินฺนํ นาม อตฺถิ, สกฺกา กสฺสจิ กิฺจิ ทาตุนฺติ ชานาติ. ทินฺนสฺส ปน ผลํ วิปาโก นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ ยิฏฺนฺติ ยิฏฺํ วุจฺจติ มหายาโค, ตํ ยชิตุํ สกฺกาติ ชานาติ. ยิฏฺสฺส ปน ผลํ วิปาโก นตฺถีติ คณฺหาติ. หุตนฺติ อาหุนปาหุนมงฺคลกิริยา, ตํ กาตุํ สกฺกาติ ชานาติ. ตสฺส ปน ¶ ผลํ วิปาโก นตฺถีติ คณฺหาติ. สุกตทุกฺกฏานนฺติ เอตฺถ ทส กุสลกมฺมปถา ¶ สุกตกมฺมานิ นาม, ทส อกุสลกมฺมปถา ทุกฺกฏกมฺมานิ นาม. เตสํ อตฺถิภาวํ ชานาติ. ผลํ วิปาโก ปน นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ อยํ โลโกติ ปรโลเก ิโต อิมํ โลกํ นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ ปโร โลโกติ อิธโลเก ิโต ปรโลกํ นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ มาตา นตฺถิ ปิตาติ มาตาปิตูนํ อตฺถิภาวํ ชานาติ. เตสุ กตปฺปจฺจเยน โกจิ ผลํ วิปาโก นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกาติ จวนกอุปปชฺชนกสตฺตา นตฺถีติ คณฺหาติ. สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนาติ อนุโลมปฏิปทํ ปฏิปนฺนา ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณา โลกสฺมึ นตฺถีติ คณฺหาติ. เย อิมฺจ โลกํ…เป… ปเวเทนฺตีติ อิมฺจ ปรฺจ โลกํ อตฺตนาว อภิวิสิฏฺเน าเณน ตฺวา ปเวทนสมตฺโถ สพฺพฺู พุทฺโธ นตฺถีติ คณฺหาติ.
อนฺตคฺคาหิกาย ทิฏฺิยาติ ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติอาทิกํ เอเกกํ อนฺตํ ภาคํ คณฺหาตีติ อนฺตคฺคาหิกา. อถ วา อนฺตสฺส คาโห อนฺตคฺคาโห, อนฺตคฺคาโห อสฺสา อตฺถีติ อนฺตคฺคาหิกา. ตาย อนฺตคฺคาหิกาย. สา ปน วุตฺตาเยว.
อฏฺสตตณฺหาปปฺจสเตหีติ ¶ อฏฺุตฺตรํ สตํ อฏฺสตํ. สํสาเร ปปฺเจติ จิรํ วสาเปตีติ ปปฺโจ, ตณฺหา เอว ปปฺโจ ตณฺหาปปฺโจ, อารมฺมณเภเทน ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติวเสน จ ตณฺหานํ พหุกตฺตา พหุวจนํ กตฺวา ตณฺหาปปฺจานํ สตํ ตณฺหาปปฺจสตํ. เตน ‘‘ตณฺหาปปฺจสเตนา’’ติ วตฺตพฺเพ วจนวิปลฺลาสวเสน ‘‘ตณฺหาปปฺจสเตหี’’ติ พหุวจนนิทฺเทโส กโต. อฏฺสตนฺติ สงฺขาเตน ตณฺหาปปฺจสเตนาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อฏฺ อพฺโพหาริกานิ กตฺวา สตเมว คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺเค ปน ตณฺหาวิจริตานีติ อาคตํ. ยถาห –
‘‘อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานิ อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทาย, อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานิ พาหิรสฺส อุปาทาย, ตเทกชฺฌํ อภิสฺุหิตฺวา อภิสงฺขิปิตฺวา ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานิ โหนฺติ. อิติ อตีตานิ ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานิ, อนาคตานิ ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานิ, ปจฺจุปฺปนฺนานิ ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานิ ตเทกชฺฌํ ¶ อภิสฺุหิตฺวา อภิสงฺขิปิตฺวา อฏฺตณฺหาวิจริตสตํ โหตี’’ติ (วิภ. ๘๔๒).
ตณฺหาปปฺจาเยว ปเนตฺถ ตณฺหาวิจริตานีติ วุตฺตา. ตณฺหาสมุทาจารา ตณฺหาปวตฺติโยติ อตฺโถ. อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทายาติ อชฺฌตฺติกํ ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย. อิทฺหิ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. วิตฺถาโร ปนสฺส ตสฺส นิทฺเทเส (วิภ. ๙๗๓) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อยํ ปน ¶ อปโร นโย – รูปารมฺมณาเยว กามตณฺหา, ภวตณฺหา, วิภวตณฺหาติ ติสฺโส ตณฺหา โหนฺติ, ตถา สทฺทาทิอารมฺมณาติ ฉสุ อารมฺมเณสุ อฏฺารส ตณฺหา โหนฺติ, อชฺฌตฺตารมฺมณา อฏฺารส, พหิทฺธารมฺมณา อฏฺารสาติ ฉตฺตึส โหนฺติ. ตา เอว อตีตารมฺมณา ฉตฺตึส, อนาคตารมฺมณา ฉตฺตึส, ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ฉตฺตึสาติ อฏฺตณฺหาวิจริตสตํ โหติ. ปปฺจิโตติ อารมฺมเณ, สํสาเร วา ปปฺจิโต จิรวาสิโต.
ทฺวาสฏฺิยา ทิฏฺิคเตหีติ ‘‘กตมานิ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ พฺรหฺมชาเล เวยฺยากรเณ วุตฺตานิ ภควตา? จตฺตาโร สสฺสตวาทา, จตฺตาโร เอกจฺจสสฺสตวาทา, จตฺตาโร อนฺตานนฺติกา ¶ , จตฺตาโร อมราวิกฺเขปิกา, ทฺเว อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา, โสฬส สฺีวาทา, อฏฺ อสฺีวาทา, อฏฺ เนวสฺีนาสฺีวาทา, สตฺต อุจฺเฉทวาทา, ปฺจ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทาติ อิมานิ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ พฺรหฺมชาเล เวยฺยากรเณ วุตฺตานิ ภควตา’’ติ (วิภ. ๙๗๗). วิตฺถาโร ปเนตฺถ พฺรหฺมชาลสุตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
อหฺจมฺหิ ติณฺโณติ อหฺจ จตุโรฆํ, สํสารสมุทฺทํ วา ติณฺโณ อมฺหิ ภวามิ. มุตฺโตติ ราคาทิพนฺธเนหิ มุตฺโต. ทนฺโตติ นิพฺพิเสวโน นิปฺปริปฺผนฺโท. สนฺโตติ สีตีภูโต. อสฺสตฺโถติ นิพฺพานทสฺสเน ลทฺธสฺสาโส. ปรินิพฺพุโตติ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต. ปโหมีติ สมตฺโถมฺหิ. โขอิติ เอกํสตฺเถ นิปาโต. ปเร จ ปรินิพฺพาเปตุนฺติ เอตฺถ ปเร จ-สทฺโท ‘‘ปเร จ ตาเรตุ’’นฺติอาทีหิปิ โยเชตพฺโพติ.
มหากรุณาาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗๒-๗๓. สพฺพฺุตฺาณนิทฺเทสวณฺณนา
๑๑๙. สพฺพฺุตฺาณนิทฺเทเส ¶ ¶ กตมํ ตถาคตสฺส สพฺพฺุตฺาณนฺติ ปุจฺฉิตฺวา เตน สมคติกตฺตา เตเนว สห อนาวรณาณํ นิทฺทิฏฺํ. น หิ อนาวรณาณํ ธมฺมโต วิสุํ อตฺถิ, เอกเมว เหตํ าณํ อาการเภทโต ทฺเวธา วุจฺจติ สทฺธินฺทฺริยสทฺธาพลาทีนิ วิย. สพฺพฺุตฺาณเมว หิ นตฺถิ เอตสฺส อาวรณนฺติ, เกนจิ ธมฺเมน, ปุคฺคเลน วา อาวรณํ กาตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อนาวรณนฺติ วุจฺจติ อาวชฺชนปฏิพทฺธตฺตา สพฺพธมฺมานํ. อฺเ ปน อาวชฺชิตฺวาปิ น ชานนฺติ. เกจิ ปนาหุ ‘‘มโนวิฺาณํ วิย สพฺพารมฺมณิกตฺตา สพฺพฺุตฺาณํ ¶ . ตํเยว าณํ อินฺทวชิรํ วิย วิสเยสุ อปฺปฏิหตตฺตา อนาวรณาณํ. อนุปุพฺพสพฺพฺุตาปฏิกฺเขโป สพฺพฺุตฺาณํ, สกึสพฺพฺุตาปฏิกฺเขโป อนาวรณาณํ, ภควา สพฺพฺุตฺาณปฏิลาเภนปิ สพฺพฺูติ วุจฺจติ, น จ อนุปุพฺพสพฺพฺู. อนาวรณาณปฏิลาเภนปิ สพฺพฺูติ วุจฺจติ, น จ สกึสพฺพฺู’’ติ.
สพฺพํ สงฺขตมสงฺขตํ อนวเสสํ ชานาตีติ เอตฺถ สพฺพนฺติ ชาติวเสน สพฺพธมฺมานํ นิสฺเสสปริยาทานํ. อนวเสสนฺติ เอเกกสฺเสว ธมฺมสฺส สพฺพาการวเสน นิสฺเสสปริยาทานํ. สงฺขตมสงฺขตนฺติ ทฺวิธา ปเภททสฺสนํ. สงฺขตฺหิ เอโก ปเภโท, อสงฺขตํ เอโก ปเภโท. ปจฺจเยหิ สงฺคมฺม กตนฺติ สงฺขตํ. ขนฺธปฺจกํ. ตถา น สงฺขตนฺติ อสงฺขตํ. นิพฺพานํ. สงฺขตํ อนิจฺจทุกฺขานตฺตาทีหิ อากาเรหิ อนวเสสํ ชานาติ, อสงฺขตํ สฺุตานิมิตฺตอปฺปณิหิตาทีหิ อากาเรหิ อนวเสสํ ชานาติ. นตฺถิ เอตสฺส สงฺขตสฺส อสงฺขตสฺส จ อวเสโสติ อนวเสสํ. สงฺขตํ อสงฺขตฺจ. อเนกเภทาปิ ปฺตฺติ ปจฺจเยหิ อกตตฺตา อสงฺขตปกฺขํ ภชติ. สพฺพฺุตฺาณฺหิ ¶ สพฺพาปิ ปฺตฺติโย อเนกเภทโต ชานาติ. อถ วา สพฺพนฺติ สพฺพธมฺมคฺคหณํ. อนวเสสนฺติ นิปฺปเทสคฺคหณํ. ตตฺถ อาวรณํ นตฺถีติ ตตฺถ ตสฺมึ อนวเสเส สงฺขตาสงฺขเต นิสฺสงฺคตฺตา สพฺพฺุตฺาณสฺส อาวรณํ นตฺถีติ ตเทว สพฺพฺุตฺาณํ อนาวรณาณํ นามาติ อตฺโถ.
๑๒๐. อิทานิ ¶ อเนกวิสยเภทโต ทสฺเสตุํ อตีตนฺติอาทิมาห. ตตฺถ อตีตํ อนาคตํ ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ กาลเภทโต ทสฺสิตํ, จกฺขุ เจว รูปา จาติอาทิ วตฺถารมฺมณเภทโต. เอวํ ตํ สพฺพนฺติ เตสํ จกฺขุรูปานํ อนวเสสปริยาทานํ. เอวํ เสเสสุ. ยาวตาติ อนวเสสปริยาทานํ. อนิจฺจฏฺนฺติอาทิ สามฺลกฺขณเภทโต ทสฺสิตํ. อนิจฺจฏฺนฺติ จ อนิจฺจาการํ. ปจฺจตฺตตฺเถ วา อุปโยควจนํ. เอส นโย เอทิเสสุ. รูปสฺสาติอาทิ ขนฺธเภทโต ทสฺสิตํ. จกฺขุสฺส…เป… ชรามรณสฺสาติ เหฏฺา วุตฺตเปยฺยาลนเยน โยเชตพฺพํ. อภิฺายาติอาทีสุ เหฏฺา วุตฺตาณาเนว. อภิฺฏฺนฺติ อภิชานนสภาวํ. เอส นโย เอทิเสสุ. ขนฺธานํ ขนฺธฏฺนฺติอาทิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. กุสเล ธมฺเมติอาทิ กุสลตฺติกวเสน เภโท. กามาวจเร ธมฺเมติอาทิ จตุภูมกวเสน. อุภยตฺถาปิ ‘‘สพฺเพ ชานาตี’’ติ พหุวจนปาโ สุนฺทโร. เอกวจนโสเต ปติตตฺตา ปน โปตฺถเกสุ เอกวจเนน ลิขิตํ. ทุกฺขสฺสาติอาทิ จุทฺทสนฺนํ พุทฺธาณานํ วิสยเภโท. อินฺทฺริยปโรปริยตฺเต าณนฺติอาทีนิ จตฺตาริ าณานิ วตฺวา สพฺพฺุตฺาณํ กสฺมา น วุตฺตนฺติ เจ? วุจฺจมานสฺส ¶ สพฺพฺุตฺาณตฺตา. วิสยเภทโต หิ สพฺพฺุตฺาเณ วุจฺจมาเน ตํ าณํ น วตฺตพฺพํ โหติ, สพฺพฺุตฺาณํ ปน สพฺพฺุตฺาณสฺส วิสโย โหติเยว.
ปุน กาฬการามสุตฺตนฺตาทีสุ (อ. นิ. ๔.๒๔) วุตฺตนเยน สพฺพฺุตฺาณภูมึ ทสฺเสนฺโต ยาวตา สเทวกสฺส โลกสฺสาติอาทิมาห. ตตฺถ สห เทเวหิ สเทวกสฺส. สห มาเรน สมารกสฺส ¶ . สห พฺรหฺมุนา สพฺรหฺมกสฺส โลกสฺส. สห สมณพฺราหฺมเณหิ สสฺสมณพฺราหฺมณิยา. สห เทวมนุสฺเสหิ สเทวมนุสฺสาย ปชาย. ปชาตตฺตา ปชาติ สตฺตโลกสฺส ปริยายวจนเมตํ. ตตฺถ สเทวกวจเนน ปฺจกามาวจรเทวคฺคหณํ, สมารกวจเนน ฉฏฺกามาวจรเทวคฺคหณํ, สพฺรหฺมกวจเนน พฺรหฺมกายิกาทิพฺรหฺมคฺคหณํ, สสฺสมณพฺราหฺมณิวจเนน สาสนสฺส ปจฺจตฺถิกปจฺจามิตฺตสมณพฺราหฺมณคฺคหณํ สมิตปาปพาหิตปาปสมณพฺราหฺมณคฺคหณฺจ, ปชาวจเนน สตฺตโลกคฺคหณํ, สเทวมนุสฺสวจเนน สมฺมุติเทวเสสมนุสฺสคฺคหณํ เวทิตพฺพํ. เอวเมตฺถ ตีหิ ปเทหิ โอกาสโลโก, ทฺวีหิ ปชาวเสน สตฺตโลโก คหิโตติ เวทิตพฺโพ.
อปโร ¶ นโย – สเทวกคฺคหเณน อรูปาวจรโลโก คหิโต, สมารกคฺคหเณน ฉกามาวจรเทวโลโก, สพฺรหฺมกคฺคหเณน รูปาวจรพฺรหฺมโลโก, สสฺสมณพฺราหฺมณาทิคฺคหเณน จตุปริสวเสน, สมฺมุติเทเวหิ วา สห มนุสฺสโลโก, อวเสสสตฺตโลโก วา.
อปิเจตฺถ สเทวกวจเนน อุกฺกฏฺปริจฺเฉทโต สพฺพสฺสปิ โลกสฺส ทิฏฺาทิชานนภาวํ สาเธติ. ตโต เยสํ สิยา ‘‘มาโร มหานุภาโว ฉกามาวจริสฺสโร วสวตฺตี, กึ ตสฺสาปิ ทิฏฺาทึ ชานาตี’’ติ, เตสํ วิมตึ วิธมนฺโต ‘‘สมารกสฺสา’’ติ อาห. เยสํ ปน สิยา ‘‘พฺรหฺมา มหานุภาโว เอกงฺคุลิยา เอกสฺมึ จกฺกวาฬสหสฺเส อาโลกํ ผรติ, ทฺวีหิ…เป… ทสหิ องฺคุลีหิ ทสสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ อาโลกํ ผรติ, อนุตฺตรฺจ ฌานสมาปตฺติสุขํ ปฏิสํเวเทติ, กึ ตสฺสาปิ ทิฏฺาทึ ชานาตี’’ติ, เตสํ วิมตึ วิธมนฺโต ‘‘สพฺรหฺมกสฺสา’’ติ อาห. ตโต เยสํ สิยา ‘‘ปุถู สมณพฺราหฺมณา สาสนสฺส ปจฺจตฺถิกา, กึ เตสมฺปิ ทิฏฺาทึ ชานาตี’’ติ, เตสํ วิมตึ วิธมนฺโต ‘‘สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชายา’’ติ อาห. เอวํ อุกฺกฏฺานํ ทิฏฺาทิชานนภาวํ ปกาเสตฺวา อถ สมฺมุติเทเว อวเสสมนุสฺเส จ อุปาทาย อุกฺกฏฺปริจฺเฉทวเสน เสสสตฺตโลกสฺส ทิฏฺาทิชานนภาวํ ปกาเสติ. อยเมตฺถ อนุสนฺธิกฺกโม. โปราณา ปนาหุ – สเทวกสฺสาติ เทวตาหิ สทฺธึ อวเสสโลกสฺส ¶ . สมารกสฺสาติ มาเรน สทฺธึ อวเสสโลกสฺส. สพฺรหฺมกสฺสาติ พฺรหฺเมหิ สทฺธึ อวเสสโลกสฺส. เอวํ สพฺเพปิ ติภวูปเค สตฺเต ตีหากาเรหิ ตีสุ ปเทสุ ปกฺขิปิตฺวา ปุน ทฺวีหากาเรหิ ปริยาทาตุํ ¶ สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสายาติ วุตฺตํ. เอวํ ปฺจหิ ปเทหิ เตน เตน อากาเรน เตธาตุกเมว ปริยาทินฺนํ โหตีติ.
ทิฏฺนฺติ รูปายตนํ. สุตนฺติ สทฺทายตนํ. มุตนฺติ ปตฺวา คเหตพฺพโต คนฺธายตนํ, รสายตนํ, โผฏฺพฺพายตนํ. วิฺาตนฺติ สุขทุกฺขาทิธมฺมารมฺมณํ. ปตฺตนฺติ ปริเยสิตฺวา วา อปริเยสิตฺวา วา ปตฺตํ. ปริเยสิตนฺติ ปตฺตํ วา อปฺปตฺตํ วา ปริเยสิตํ. อนุวิจริตํ มนสาติ จิตฺเตน อนุสฺจริตํ. สพฺพํ ชานาตีติ อิมินา เอตํ ทสฺเสติ – ยํ อปริมานาสุ โลกธาตูสุ อิมสฺส ¶ สเทวกสฺส โลกสฺส ‘‘นีลํ ปีต’’นฺติอาทิ (ธ. ส. ๖๑๙) รูปารมฺมณํ จกฺขุทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, อยํ สตฺโต อิมสฺมึ ขเณ อิมํ นาม รูปารมฺมณํ ทิสฺวา สุมโน วา ทุมฺมโน วา มชฺฌตฺโต วา ชาโตติ ตํ สพฺพํ ตถาคตสฺส สพฺพฺุตฺาณํ ชานาติ. ตถา ยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อิมสฺส สเทวกสฺส โลกสฺส ‘‘เภริสทฺโท, มุทิงฺคสทฺโท’’ติอาทิ สทฺทารมฺมณํ โสตทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, ‘‘มูลคนฺโธ ตจคนฺโธ’’ติอาทิ (ธ. ส. ๖๒๔-๖๒๗) คนฺธารมฺมณํ ฆานทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, ‘‘มูลรโส, ขนฺธรโส’’ติอาทิ (ธ. ส. ๖๒๘-๖๓๑) รสารมฺมณํ ชิวฺหาทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, ‘‘กกฺขฬํ, มุทุก’’นฺติอาทิ (ธ. ส. ๖๔๗-๖๕๐) ปถวีธาตุเตโชธาตุวาโยธาตุเภทํ โผฏฺพฺพารมฺมณํ กายทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, อยํ สตฺโต อิมสฺมึ ขเณ อิมํ นาม โผฏฺพฺพารมฺมณํ ผุสิตฺวา สุมโน วา ทุมฺมโน วา มชฺฌตฺโต วา ชาโตติ ตํ สพฺพํ ตถาคตสฺส สพฺพฺุตฺาณํ ชานาติ. ตถา ยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อิมสฺส สเทวกสฺส โลกสฺส สุขทุกฺขาทิเภทํ ธมฺมารมฺมณํ มโนทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, อยํ สตฺโต อิมสฺมึ ขเณ อิมํ นาม ธมฺมารมฺมณํ วิชานิตฺวา สุมโน วา ทุมฺมโน วา มชฺฌตฺโต วา ชาโตติ ตํ สพฺพํ ตถาคตสฺส สพฺพฺุตฺาณํ ชานาติ. อิมสฺส ปน มหาชนสฺส ปริเยสิตฺวา อปฺปตฺตมฺปิ อตฺถิ, ปริเยสิตฺวา ปตฺตมฺปิ อตฺถิ. อปริเยสิตฺวา อปฺปตฺตมฺปิ อตฺถิ, อปริเยสิตฺวา ¶ ปตฺตมฺปิ อตฺถิ. สพฺพํ ตถาคตสฺส สพฺพฺุตฺาเณน อปฺปตฺตํ นาม นตฺถีติ.
๑๒๑. ปุน อปเรน ปริยาเยน สพฺพฺุตฺาณภาวสาธนตฺถํ น ตสฺสาติ คาถมาห. ตตฺถ น ตสฺส อทฺทิฏฺมิธตฺถิ กิฺจีติ ตสฺส ตถาคตสฺส อิธ อิมสฺมึ เตธาตุเก โลเก, อิมสฺมึ ปจฺจุปฺปนฺนกาเล วา ปฺาจกฺขุนา อทฺทิฏฺํ นาม กิฺจิ อปฺปมตฺตกมฺปิ น อตฺถิ น สํวิชฺชติ. อตฺถีติ อิทํ วตฺตมานกาลิกํ อาขฺยาตปทํ. อิมินา ปจฺจุปฺปนฺนกาลิกสฺส สพฺพธมฺมสฺส าตภาวํ ทสฺเสติ. คาถาพนฺธสุขตฺถํ ปเนตฺถ ท-กาโร สํยุตฺโต. อโถ อวิฺาตนฺติ เอตฺถ อโถอิติ วจโนปาทาเน นิปาโต. อวิฺาตนฺติ อตีตกาลิกํ อวิฺาตํ นาม กิฺจิ ¶ ธมฺมชาตํ. นาโหสีติ ปาเสโส. อพฺยยภูตสฺส อตฺถิสทฺทสฺส คหเณ ปาเสสํ วินาปิ ยุชฺชติเยว. อิมินา อตีตกาลิกสฺส สพฺพธมฺมสฺส าตภาวํ ทสฺเสติ ¶ . อชานิตพฺพนฺติ อนาคตกาลิกํ อชานิตพฺพํ นาม ธมฺมชาตํ น ภวิสฺสติ, นตฺถิ วา. อิมินา อนาคตกาลิกสฺส สพฺพธมฺมสฺส าตภาวํ ทสฺเสติ. ชานนกิริยาวิเสสนมตฺตเมว วา เอตฺถ อ-กาโร. สพฺพํ อภิฺาสิ ยทตฺถิ เนยฺยนฺติ เอตฺถ ยํ เตกาลิกํ วา กาลวิมุตฺตํ วา เนยฺยํ ชานิตพฺพํ กิฺจิ ธมฺมชาตํ อตฺถิ, ตํ สพฺพํ ตถาคโต อภิฺาสิ อธิเกน สพฺพฺุตฺาเณน ชานิ ปฏิวิชฺฌิ. เอตฺถ อตฺถิสทฺเทน เตกาลิกสฺส กาลวิมุตฺตสฺส จ คหณา อตฺถิ-สทฺโท อพฺยยภูโตเยว ทฏฺพฺโพ. ตถาคโต เตน สมนฺตจกฺขูติ กาลวเสน โอกาสวเสน จ นิปฺปเทสตฺตา สมนฺตา สพฺพโต ปวตฺตํ าณจกฺขุ อสฺสาติ สมนฺตจกฺขุ. เตน ยถาวุตฺเตน การเณน ตถาคโต สมนฺตจกฺขุ, สพฺพฺูติ วุตฺตํ โหติ. อิมิสฺสา คาถาย ปุคฺคลาธิฏฺานาย เทสนาย สพฺพฺุตฺาณํ สาธิตํ.
ปุน พุทฺธาณานํ วิสยวเสน สพฺพฺุตฺาณํ ทสฺเสตุกาโม สมนฺตจกฺขูติ เกนฏฺเน สมนฺตจกฺขูติอาทิมาห. ตตฺถ คาถาย สมนฺตจกฺขูติ วุตฺตปเท ยํ ตํ สมนฺตจกฺขุ, ตํ เกนฏฺเน สมนฺตจกฺขูติ อตฺโถ. อตฺโถ ปนสฺส ยาวตา ¶ ทุกฺขสฺส ทุกฺขฏฺโติอาทีหิ วุตฺโตเยว โหติ. สพฺพฺุตฺาณฺหิ สมนฺตจกฺขุ. ยถาห – ‘‘สมนฺตจกฺขุ วุจฺจติ สพฺพฺุตฺาณ’’นฺติ (จูฬนิ. โธตกมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๓๒). ตสฺมึ สพฺพฺุตฺาณฏฺเ วุตฺเต สมนฺตจกฺขุฏฺโ วุตฺโตเยว โหตีติ. พุทฺธสฺเสว าณานีติ พุทฺธาณานิ. ทุกฺเข าณาทีนิปิ หิ สพฺพากาเรน พุทฺธสฺเสว ภควโต ปวตฺตนฺติ, อิตเรสํ ปน เอกเทสมตฺเตเนว ปวตฺตนฺติ. สาวกสาธารณานีติ ปน เอกเทเสนาปิ อตฺถิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. สพฺโพ าโตติ สพฺโพ าเณน าโต. อฺาโต ทุกฺขฏฺโ นตฺถีติ วุตฺตเมว อตฺถํ ปฏิเสเธน วิภาเวติ. สพฺโพ ทิฏฺโติ น เกวลํ าตมตฺโตเยว, อถ โข จกฺขุนา ทิฏฺโ วิย กโต. สพฺโพ วิทิโตติ น เกวลํ ทิฏฺมตฺโตเยว, อถ โข ปากโฏ. สพฺโพ สจฺฉิกโตติ น เกวลํ วิทิโตเยว, อถ โข ตตฺถ าณปฏิลาภวเสน ปจฺจกฺขีกโต. สพฺโพ ผสฺสิโตติ น เกวลํ สจฺฉิกโตเยว, อถ โข ปุนปฺปุนํ ยถารุจิ สมุทาจารวเสน ผุฏฺโติ. อถ วา าโต สภาวลกฺขณวเสน. ทิฏฺโ สามฺลกฺขณวเสน. วิทิโต รสวเสน. สจฺฉิกโต ปจฺจุปฏฺานวเสน ¶ . ผสฺสิโต ปทฏฺานวเสน. อถ วา าโต าณุปฺปาทวเสน. ทิฏฺโ จกฺขุปฺปาทวเสน. วิทิโต ปฺุปฺปาทวเสน. สจฺฉิกโต วิชฺชุปฺปาทวเสน. ผสฺสิโต อาโลกุปฺปาทวเสน. ‘‘ยาวตา ทุกฺขสฺส ทุกฺขฏฺโ, สพฺโพ ทิฏฺโ, อทิฏฺโ ทุกฺขฏฺโ นตฺถี’’ติอาทินา นเยน จ ‘‘ยาวตา สเทวกสฺส โลกสฺส…เป… อนุวิจริตํ มนสา, สพฺพํ าตํ, อฺาตํ นตฺถี’’ติอาทินา นเยน ¶ จ วิตฺถาโร เวทิตพฺโพ. ปมํ วุตฺตคาถา นิคมนวเสน ปุน วุตฺตา. ตํนิคมเนเยว หิ กเต าณนิคมนมฺปิ กตเมว โหตีติ.
สพฺพฺุตฺาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฏิสมฺภิทามคฺค-อฏฺกถาย
าณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทิฏฺิกถา
๑. อสฺสาททิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา
๑๒๒. อิทานิ ¶ ¶ าณกถานนฺตรํ กถิตาย ทิฏฺิกถาย อนุปุพฺพอนุวณฺณนา อนุปฺปตฺตา. อยฺหิ ทิฏฺิกถา าณกถาย กตาณปริจยสฺส สมธิคตสมฺมาทิฏฺิสฺส มิจฺฉาทิฏฺิมลวิโสธนา สุกรา โหติ, สมฺมาทิฏฺิ จ สุปริสุทฺธา โหตีติ าณกถานนฺตรํ กถิตา. ตตฺถ กา ทิฏฺีติอาทิกา ปุจฺฉา. กา ทิฏฺีติ อภินิเวสปรามาโส ทิฏฺีติอาทิกํ ปุจฺฉิตปุจฺฉาย วิสฺสชฺชนํ. กถํ อภินิเวสปรามาโส ทิฏฺีติอาทิโก วิสฺสชฺชิตวิสฺสชฺชนสฺส วิตฺถารนิทฺเทโส, สพฺพาว ตา ทิฏฺิโย อสฺสาททิฏฺิโยติอาทิกา ทิฏฺิสุตฺตสํสนฺทนาติ เอวมิเม จตฺตาโร ปริจฺเฉทา. ตตฺถ ปุจฺฉาปริจฺเฉเท ตาว กา ทิฏฺีติ ธมฺมปุจฺฉา, สภาวปุจฺฉา. กติ ทิฏฺิฏฺานานีติ เหตุปุจฺฉา ปจฺจยปุจฺฉา, กิตฺตกานิ ทิฏฺีนํ การณานีติ อตฺโถ. กติ ทิฏฺิปริยุฏฺานานีติ สมุทาจารปุจฺฉา วิการปุจฺฉา. ทิฏฺิโย เอว หิ สมุทาจารวเสน จิตฺตํ ปริโยนนฺธนฺติโย อุฏฺหนฺตีติ ทิฏฺิปริยุฏฺานานิ ¶ นาม โหนฺติ. กติ ทิฏฺิโยติ ทิฏฺีนํ สงฺขาปุจฺฉา คณนาปุจฺฉา. กติ ทิฏฺาภินิเวสาติ วตฺถุปฺปเภทวเสน อารมฺมณนานตฺตวเสน ทิฏฺิปฺปเภทปุจฺฉา. ทิฏฺิโย เอว หิ ตํ ตํ วตฺถุํ ตํ ตํ อารมฺมณํ อภินิวิสนฺติ ปรามสนฺตีติ ทิฏฺิปรามาสาติ วุจฺจนฺติ. กตโม ทิฏฺิฏฺานสมุคฺฆาโตติ ทิฏฺีนํ ปฏิปกฺขปุจฺฉา ปหานูปายปุจฺฉา. ทิฏฺิการณานิ หิ ขนฺธาทีนิ ทิฏฺิสมุคฺฆาเตน ตาสํ การณานิ น โหนฺตีติ ตานิ จ การณานิ สมุคฺฆาติตานิ นาม โหนฺติ. ตสฺมา ทิฏฺิฏฺานานิ สมฺมา ภุสํ หฺนฺติ เอเตนาติ ทิฏฺิฏฺานสมุคฺฆาโตติ วุจฺจติ.
อิทานิ เอตาสํ ฉนฺนํ ปุจฺฉานํ กา ทิฏฺีติอาทีนิ ฉ วิสฺสชฺชนานิ. ตตฺถ กา ทิฏฺีติ วิสฺสชฺเชตพฺพปุจฺฉา. อภินิเวสปรามาโส ทิฏฺีติ วิสฺสชฺชนํ. สา ปน อนิจฺจาทิเก ¶ วตฺถุสฺมึ นิจฺจาทิวเสน อภินิวิสติ ปติฏฺหติ ทฬฺหํ คณฺหาตีติ อภินิเวโส. อนิจฺจาทิอาการํ อติกฺกมิตฺวา นิจฺจนฺติอาทิวเสน วตฺตมาโน ปรโต อามสติ คณฺหาตีติ ปรามาโส. อถ วา นิจฺจนฺติอาทิกํ ปรํ อุตฺตมํ สจฺจนฺติ อามสติ คณฺหาตีติ ปรามาโส, อภินิเวโส ¶ จ โส ปรามาโส จาติ อภินิเวสปรามาโส. เอวํปกาโร ทิฏฺีติ กิจฺจโต ทิฏฺิสภาวํ วิสฺสชฺเชติ. ตีณิ สตนฺติ ตีณิ สตานิ, วจนวิปลฺลาโส กโต. กตโม ทิฏฺิฏฺานสมุคฺฆาโตติ ปุจฺฉํ อนุทฺธริตฺวาว โสตาปตฺติมคฺโค ทิฏฺิฏฺานสมุคฺฆาโตติ วิสฺสชฺชนํ กตํ.
๑๒๓. อิทานิ กถํ อภินิเวสปรามาโสติอาทิ วิตฺถารนิทฺเทโส. ตตฺถ รูปนฺติ อุปโยควจนํ. รูปํ อภินิเวสปรามาโสติ สมฺพนฺโธ. รูปนฺติ เจตฺถ รูปุปาทานกฺขนฺโธ กสิณรูปฺจ. ‘‘เอตํ มมา’’ติ อภินิเวสปรามาโส ทิฏฺิ, ‘‘เอโสหมสฺมี’’ติ อภินิเวสปรามาโส ทิฏฺิ, ‘‘เอโส เม อตฺตา’’ติ อภินิเวสปรามาโส ทิฏฺีติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. เอตนฺติ สามฺวจนํ. เตเนว ‘‘เวทนํ เอตํ มม, สงฺขาเร เอตํ มมา’’ติ นปุํสกวจนํ เอกวจนฺจ กตํ. เอโสติ ปน วตฺตพฺพมเปกฺขิตฺวา ปุลฺลิงฺเคกวจนํ กตํ. เอตํ มมาติ ตณฺหามฺนามูลิกา ทิฏฺิ. เอโสหมสฺมีติ มานมฺนามูลิกา ทิฏฺิ. เอโส เม อตฺตาติ ทิฏฺิมฺนา เอว. เกจิ ปน ‘‘เอตํ มมาติ มมํการกปฺปนา, เอโสหมสฺมีติ อหํการกปฺปนา, เอโส เม อตฺตาติ ¶ อหํการมมํการกปฺปิโต อตฺตาภินิเวโสติ จ, ตถา ยถากฺกเมเนว ตณฺหามูลนิเวโส มานปคฺคาโห, ตณฺหามูลนิวิฏฺโ มานปคฺคหิโต, อตฺตาภินิเวโสติ จ, สงฺขารานํ ทุกฺขลกฺขณาทสฺสนํ, สงฺขารานํ อนิจฺจลกฺขณาทสฺสนํ, สงฺขารานํ ติลกฺขณาทสฺสนเหตุโก อตฺตาภินิเวโสติ จ, ทุกฺเข อสุเภ จ สุขํ สุภนฺติ วิปลฺลาสคตสฺส, อนิจฺเจ นิจฺจนฺติ วิปลฺลาสคตสฺส, จตุพฺพิธวิปลฺลาสคตสฺส จ อตฺตาภินิเวโสติ จ, ปุพฺเพนิวาสาณสฺส อาการกปฺปนา, ทิพฺพจกฺขุาณสฺส อนาคตปฏิลาภกปฺปนา, ปุพฺพนฺตาปรนฺตอิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ¶ ธมฺเมสุ กปฺปนิสฺสิตสฺส อตฺตาภินิเวโสติ จ, นนฺทิยา อตีตมนฺวาคเมติ, นนฺทิยา อนาคตํ ปฏิกงฺขติ, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ สํหีรติ อตฺตาภินิเวโสติ จ, ปุพฺพนฺเต อฺาณเหตุกา ทิฏฺิ, อปรนฺเต อฺาณเหตุกา ทิฏฺิ, ปุพฺพนฺตาปรนฺเต อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ อฺาณเหตุโก อตฺตาภินิเวโส’’ติ จ เอเตสํ ติณฺณํ วจนานํ อตฺถํ วณฺณยนฺติ.
ทิฏฺิโย ปเนตฺถ ปมํ ปฺจกฺขนฺธวตฺถุกา. ตโต ฉอชฺฌตฺติกพาหิรายตนวิฺาณ- กายสมฺผสฺสกายเวทนากายสฺากายเจตนากายตณฺหากายวิตกฺกวิจารธาตุทสกสิณ- ทฺวตฺตึสาการวตฺถุกา ทิฏฺิโย วุตฺตา. ทฺวตฺตึสากาเรสุ จ ยตฺถ วิสุํ อภินิเวโส น ยุชฺชติ, ตตฺถ สกลสรีราภินิเวสวเสเนว วิสุํ อภินิเวโส วิย กโตติ เวทิตพฺพํ. ตโต ทฺวาทสายตนอฏฺารสธาตุเอกูนวีสติอินฺทฺริยวเสน โยชนา กตา. ตีณิ เอกนฺตโลกุตฺตรินฺทฺริยานิ น ¶ โยชิตานิ. น หิ โลกุตฺตรวตฺถุกา ทิฏฺิโย โหนฺติ. สพฺพตฺถาปิ จ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺเสสุ ธมฺเมสุ โลกุตฺตเร เปตฺวา โลกิยา เอว คเหตพฺพา. อนินฺทฺริยพทฺธรูปฺจ น คเหตพฺพเมว. ตโต เตธาตุกวเสน นววิธภววเสน ฌานพฺรหฺมวิหารสมาปตฺติวเสน ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺควเสน จ โยชนา กตา. ชาติชรามรณานํ วิสุํ คหเณ ปริหาโร วุตฺตนโย เอว. สพฺพานิ เจตานิ รูปาทิกานิ ชรามรณนฺตานิ อฏฺนวุติสตํ ปทานิ ภวนฺติ.
๑๒๔. ทิฏฺิฏฺาเนสุ ขนฺธาปิ ทิฏฺิฏฺานนฺติ วีสติวตฺถุกายปิ สกฺกายทิฏฺิยา ปฺจนฺนํ ขนฺธานํเยว วตฺถุตฺตา ‘‘เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อตฺตานํ สมนุปสฺสมานา สมนุปสฺสนฺติ, สพฺเพ เต ปฺจุปาทานกฺขนฺเธสุเยว ¶ สมนุปสฺสนฺติ, เอเตสํ วา อฺตร’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๔๗) วุตฺตตฺตา จ ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทิฏฺีนํ การณํ. อวิชฺชาปิ ทิฏฺิฏฺานนฺติ อวิชฺชาย อนฺธีกตานํ ทิฏฺิอุปฺปตฺติโต ‘‘ยายํ, ภนฺเต, ทิฏฺิ ‘อสมฺมาสมฺพุทฺเธสุ ¶ สมฺมาสมฺพุทฺธา’ติ, อยํ นุ โข, ภนฺเต, ทิฏฺิ กึ ปฏิจฺจ ปฺายตีติ? มหตี โข เอสา, กจฺจาน, ธาตุ, ยทิทํ อวิชฺชาธาตุ. หีนํ, กจฺจาน, ธาตุํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ หีนา สฺา หีนา ทิฏฺี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๙๗) วจนโต จ อวิชฺชา ทิฏฺีนํ การณํ. ผสฺโสปิ ทิฏฺิฏฺานนฺติ เตน ผสฺเสน ผุฏฺสฺส ทิฏฺิอุปฺปตฺติโต ‘‘เย เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิวุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๒๓) วจนโต จ ผสฺโส ทิฏฺีนํ การณํ. สฺาปิ ทิฏฺิฏฺานนฺติ อาการมตฺตคฺคหเณน อยาถาวสภาวคาหเหตุตฺตา สฺาย –
‘‘ยานิ จ ตีณิ ยานิ จ สฏฺิ, สมณปฺปวาทสิตานิ ภูริปฺ;
สฺกฺขรสฺนิสฺสิตานิ, โอสรณานิ วิเนยฺย โอฆตมคา’’ติ. (สุ. นิ. ๕๔๓) –
วจนโต ‘‘สฺานิทานา หิ ปปฺจสงฺขา’’ติ (สุ. นิ. ๘๘๐; มหานิ. ๑๐๙) วจนโต จ สฺา ทิฏฺีนํ การณํ. วิตกฺโกปิ ทิฏฺิฏฺานนฺติ อาการปริวิตกฺเกน ทิฏฺิอุปฺปตฺติโต –
‘‘นเหว ¶ สจฺจานิ พหูนิ นานา, อฺตฺร สฺาย นิจฺจานิ โลเก;
ตกฺกฺจ ทิฏฺีสุ ปกปฺปยิตฺวา, สจฺจํ มุสาติ ทฺวยธมฺมมาหู’’ติ. (สุ. นิ. ๘๙๒) –
วจนโต จ วิตกฺโก ทิฏฺีนํ การณํ. อโยนิโสมนสิกาโรปิ ทิฏฺิฏฺานนฺติ อโยนิโส มนสิการสฺส อกุสลานํ อสาธารณเหตุตฺตา ‘‘ตสฺเสวํ อโยนิโส มนสิกโรโต ฉนฺนํ ทิฏฺีนํ อฺตรา ทิฏฺิ อุปฺปชฺชตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๙) วจนโต จ อโยนิโส มนสิกาโร ทิฏฺีนํ การณํ ¶ . ปาปมิตฺโตปิ ทิฏฺิฏฺานนฺติ ปาปมิตฺตสฺส ทิฏฺานุคติอาปชฺชเนน ทิฏฺิอุปฺปตฺติโต ‘‘พาหิรํ, ภิกฺขเว, องฺคนฺติ กริตฺวา น อฺํ เอกงฺคมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํ มหโต อนตฺถาย สํวตฺตติ. ยถยิทํ, ภิกฺขเว, ปาปมิตฺตตา’’ติ ¶ (อ. นิ. ๑.๑๑๐) วจนโต จ ปาปมิตฺโต ทิฏฺีนํ การณํ. ปรโตปิ โฆโส ทิฏฺิฏฺานนฺติ ทุรกฺขาตธมฺมสฺสวเนน ทิฏฺิอุปฺปตฺติโต ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, เหตู ทฺเว ปจฺจยา มิจฺฉาทิฏฺิยา อุปฺปาทาย ปรโต จ โฆโส อโยนิโส จ มนสิกาโร’’ติ (อ. นิ. ๒.๑๒๖) วจนโต จ ปรโต โฆโส มิจฺฉาทิฏฺิกโต มิจฺฉาทิฏฺิปฏิสฺุตฺตกถา ทิฏฺีนํ การณํ.
อิทานิ ทิฏฺิฏฺานนฺติ ปทสฺส อตฺถํ วิวรนฺโต ขนฺธา เหตุ ขนฺธา ปจฺจโยติอาทิมาห. ขนฺธา เอว ทิฏฺีนํ อุปาทาย, ชนกเหตุ เจว อุปตฺถมฺภกปจฺจโย จาติ อตฺโถ. สมุฏฺานฏฺเนาติ สมุฏฺหนฺติ อุปฺปชฺชนฺติ เอเตนาติ สมุฏฺานํ, การณนฺติ อตฺโถ. เตน สมุฏฺานฏฺเน, ทิฏฺิการณภาเวนาติ อตฺโถ.
๑๒๕. อิทานิ กิจฺจเภเทน ทิฏฺิเภทํ ทสฺเสนฺโต กตมานิ อฏฺารส ทิฏฺิปริยุฏฺานานีติอาทิมาห. ตตฺถ ยา ทิฏฺีติ อิทานิ วุจฺจมานานํ อฏฺารสนฺนํ ปทานํ สาธารณํ มูลปทํ. ยา ทิฏฺิ, ตเทว ทิฏฺิคตํ, ยา ทิฏฺิ, ตเทว ทิฏฺิคหนนฺติ สพฺเพหิ สมฺพนฺโธ กาตพฺโพ. อยาถาวทสฺสนฏฺเน ทิฏฺิ, ตเทว ทิฏฺีสุ คตํ ทสฺสนํ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิอนฺโตคธตฺตาติ ทิฏฺิคตํ. เหฏฺาปิสฺส อตฺโถ วุตฺโตเยว. ทฺวินฺนํ อนฺตานํ เอกนฺตคตตฺตาปิ ทิฏฺิคตํ. สา เอว ทิฏฺิ ทุรติกฺกมนฏฺเน ทิฏฺิคหนํ ติณคหนวนคหนปพฺพตคหนานิ วิย. สาสงฺกสปฺปฏิภยฏฺเน ทิฏฺิกนฺตารํ โจรกนฺตารวาฬกนฺตารนิรุทกกนฺตารทุพฺภิกฺขกนฺตารา วิย. ธมฺมสงฺคณิยํ ‘‘ทิฏฺิกนฺตาโร’’ติ สกลิงฺเคเนว อาคตํ. สมฺมาทิฏฺิยา วินิวิชฺฌนฏฺเน ปฏิโลมฏฺเน จ ทิฏฺิวิสูกํ. มิจฺฉาทสฺสนฺหิ อุปฺปชฺชมานํ สมฺมาทสฺสนํ วินิวิชฺฌติ เจว วิโลเมติ จ. ธมฺมสงฺคณิยํ (ธ. ส. ๓๙๒, ๑๑๐๕) ‘‘ทิฏฺิวิสูกายิก’’นฺติ ¶ อาคตํ. กทาจิ สสฺสตสฺส, กทาจิ อุจฺเฉทสฺส คหณโต ทิฏฺิยา วิรูปํ ผนฺทิตนฺติ ทิฏฺิวิปฺผนฺทิตํ. ทิฏฺิคติโก หิ เอกสฺมึ ปติฏฺาตุํ น สกฺโกติ, กทาจิ สสฺสตํ อนุสฺสรติ, กทาจิ อุจฺเฉทํ. ทิฏฺิเยว อนตฺเถ สํโยเชตีติ ทิฏฺิสฺโชนํ. ทิฏฺิเยว อนฺโตตุทนฏฺเน ทุนฺนีหรณียฏฺเน จ สลฺลนฺติ ทิฏฺิสลฺลํ ¶ ¶ . ทิฏฺิเยว ปีฬากรณฏฺเน สมฺพาโธติ ทิฏฺิสมฺพาโธ. ทิฏฺิเยว โมกฺขาวรณฏฺเน ปลิโพโธติ ทิฏฺิปลิโพโธ. ทิฏฺิเยว ทุมฺโมจนียฏฺเน พนฺธนนฺติ ทิฏฺิพนฺธนํ. ทิฏฺิเยว ทุรุตฺตรฏฺเน ปปาโตติ ทิฏฺิปปาโต. ทิฏฺิเยว ถามคตฏฺเน อนุสโยติ ทิฏฺานุสโย. ทิฏฺิเยว อตฺตานํ สนฺตาเปตีติ ทิฏฺิสนฺตาโป. ทิฏฺิเยว อตฺตานํ อนุทหตีติ ทิฏฺิปริฬาโห. ทิฏฺิเยว กิเลสกายํ คนฺเถตีติ ทิฏฺิคนฺโถ. ทิฏฺิเยว ภุสํ อาทิยตีติ ทิฏฺุปาทานํ. ทิฏฺิเยว ‘‘สจฺจ’’นฺติอาทิวเสน อภินิวิสตีติ ทิฏฺาภินิเวโส. ทิฏฺิเยว อิทํ ปรนฺติ อามสติ, ปรโต วา อามสตีติ ทิฏฺิปรามาโส.
๑๒๖. อิทานิ ราสิวเสน โสฬส ทิฏฺิโย อุทฺทิสนฺโต กตมา โสฬส ทิฏฺิโยติอาทิมาห. ตตฺถ สุขโสมนสฺสสงฺขาเต อสฺสาเท ทิฏฺิ อสฺสาททิฏฺิ. อตฺตานํ อนุคตา ทิฏฺิ อตฺตานุทิฏฺิ. นตฺถีติ ปวตฺตตฺตา วิปรีตา ทิฏฺิ มิจฺฉาทิฏฺิ. สติ กาเย ทิฏฺิ, สนฺตี วา กาเย ทิฏฺิ สกฺกายทิฏฺิ. กาโยติ เจตฺถ ขนฺธปฺจกํ, ขนฺธปฺจกสงฺขาโต สกฺกาโย วตฺถุ ปติฏฺา เอติสฺสาติ สกฺกายวตฺถุกา. สสฺสตนฺติ ปวตฺตา ทิฏฺิ สสฺสตทิฏฺิ. อุจฺเฉโทติ ปวตฺตา ทิฏฺิ อุจฺเฉททิฏฺิ. สสฺสตาทิอนฺตํ คณฺหาตีติ อนฺตคฺคาหิกา, อนฺตคฺคาโห วา อสฺสา อตฺถีติ อนฺตคฺคาหิกา. อตีตสงฺขาตํ ปุพฺพนฺตํ อนุคตา ทิฏฺิ ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิ. อนาคตสงฺขาตํ อปรนฺตํ อนุคตา ทิฏฺิ อปรนฺตานุทิฏฺิ. อนตฺเถ สํโยเชตีติ สฺโชนิกา. อหงฺการวเสน อหนฺติ อุปฺปนฺเนน มาเนน ทิฏฺิยา มูลภูเตน วินิพนฺธา ฆฏิตา อุปฺปาทิตา ทิฏฺิ อหนฺติ มานวินิพนฺธา ทิฏฺิ. ตถา มมงฺการวเสน มมนฺติ อุปฺปนฺเนน มาเนน วินิพนฺธา ทิฏฺิ มมนฺติ มานวินิพนฺธา ทิฏฺิ. อตฺตโน วทนํ กถนํ อตฺตวาโท, เตน ปฏิสฺุตฺตา พทฺธา ทิฏฺิ อตฺตวาทปฏิสํยุตฺตา ทิฏฺิ. อตฺตานํ โลโกติ วทนํ กถนํ โลกวาโท, เตน ปฏิสฺุตฺตา ทิฏฺิ โลกวาทปฏิสํยุตฺตา ทิฏฺิ. ภโว วุจฺจติ สสฺสตํ, สสฺสตวเสน อุปฺปชฺชนทิฏฺิ ภวทิฏฺิ. วิภโว วุจฺจติ อุจฺเฉโท, อุจฺเฉทวเสน อุปฺปชฺชนทิฏฺิ วิภวทิฏฺิ.
๑๒๗-๑๒๘. อิทานิ ¶ ตีณิ สตํ ทิฏฺาภินิเวเส นิทฺทิสิตุกาโม กตเม ตีณิ สตํ ทิฏฺาภินิเวสาติ ปุจฺฉิตฺวา เต อวิสฺสชฺเชตฺวาว วิสุํ วิสุํ อภินิเวสวิสฺสชฺชเนเนว เต วิสฺสชฺเชตุกาโม อสฺสาททิฏฺิยา, กติหากาเรหิ ¶ อภินิเวโส โหตีติอาทินา นเยน โสฬสนฺนํ ทิฏฺีนํ อภินิเวสาการคณนํ ปุจฺฉิตฺวา ปุน อสฺสาททิฏฺิยา ปฺจตึสาย อากาเรหิ อภินิเวโส โหตีติ ตาสํ โสฬสนฺนํ ทิฏฺีนํ อภินิเวสาการคณนํ วิสฺสชฺเชตฺวา ปุน ตานิ คณนานิ วิสฺสชฺเชนฺโต อสฺสาททิฏฺิยา กตเมหิ ปฺจตึสาย อากาเรหิ อภินิเวโส ¶ โหตีติอาทิมาห. ตตฺถ รูปํ ปฏิจฺจาติ รูปกฺขนฺธํ ปฏิจฺจ. อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสนฺติ ‘‘อยํ เม กาโย อีทิโส’’ติ รูปสมฺปทํ นิสฺสาย เคหสิตํ ราคสมฺปยุตฺตํ สุขํ โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. เหฏฺา วุตฺเตนฏฺเน สุขฺจ โสมนสฺสฺจ. ตํเยว รูปสฺส อสฺสาโทติ รูปนิสฺสโย อสฺสาโท. ตฺหิ สุขํ ตณฺหาวเสน อสฺสาทียติ อุปภฺุชียตีติ อสฺสาโท. อภินิเวสปรามาโส ทิฏฺีติ โส อสฺสาโท สสฺสโตติ วา อุจฺฉิชฺชิสฺสตีติ วา สสฺสตํ วา อุจฺฉิชฺชมานํ วา อตฺตานํ สุขิตํ กโรตีติ วา อภินิเวสปรามาโส โหติ. ตสฺมา ยา จ ทิฏฺิ โย จ อสฺสาโทติ อสฺสาทสฺส ทิฏฺิภาวาภาเวปิ อสฺสาทํ วินา สา ทิฏฺิ น โหตีติ กตฺวา อุภยมฺปิ สมุจฺจิตํ. อสฺสาททิฏฺีติ อสฺสาเท ปวตฺตา ทิฏฺีติ วุตฺตํ โหติ.
อิทานิ นานาสุตฺเตหิ สํสนฺเทตฺวา มิจฺฉาทิฏฺึ มิจฺฉาทิฏฺิกฺจ ครหิตุกาโม อสฺสาททิฏฺิ มิจฺฉาทิฏฺีติอาทิมาห. ตตฺถ ทิฏฺิวิปตฺตีติ สมฺมาทิฏฺิวินาสกมิจฺฉาทิฏฺิสงฺขาตทิฏฺิยา วิปตฺติ. ทิฏฺิวิปนฺโนติ วิปนฺนา วินฏฺา สมฺมาทิฏฺิ อสฺสาติ ทิฏฺิวิปนฺโน, วิปนฺนทิฏฺีติ วุตฺตํ โหติ. มิจฺฉาทิฏฺิยา วา วิปนฺโน วินฏฺโติ ทิฏฺิวิปนฺโน. น เสวิตพฺโพ อุปสงฺกมเนน. น ภชิตพฺโพ จิตฺเตน. น ปยิรุปาสิตพฺโพ อุปสงฺกมิตฺวา นิสีทเนน. ตํ กิสฺส เหตูติ ‘‘ตํ เสวนาทิกํ เกน การเณน น กาตพฺพ’’นฺติ ตสฺส การณปุจฺฉา. ทิฏฺิ หิสฺส ปาปิกาติ การณวิสฺสชฺชนํ. ยสฺมา อสฺส ปุคฺคลสฺส ทิฏฺิ ปาปิกา, ตสฺมา ตํ เสวนาทิกํ น กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. ทิฏฺิยา ราโคติ ‘‘สุนฺทรา เม ทิฏฺี’’ติ ทิฏฺึ อารพฺภ ทิฏฺิยา อุปฺปชฺชนราโค ¶ . ทิฏฺิราครตฺโตติ เตน ทิฏฺิราเคน รงฺเคน รตฺตํ วตฺถํ วิย รตฺโต. น มหปฺผลนฺติ วิปากผเลน. น มหานิสํสนฺติ นิสฺสนฺทผเลน.
ปุริสปุคฺคลสฺสาติ ปุริสสงฺขาตสฺส ปุคฺคลสฺส. โลกิยโวหาเรน หิ ปุริ วุจฺจติ สรีรํ, ตสฺมึ ปุริสฺมึ เสติ ปวตฺตตีติ ปุริโส, ปุํ วุจฺจติ ¶ นิรโย, ตํ ปุํ คลติ คจฺฉตีติ ปุคฺคโล. เยภุยฺเยน หิ สตฺตา สุคติโต จุตา ทุคฺคติยํเยว นิพฺพตฺตนฺติ. ตํ กิสฺส เหตูติ ตํ น มหปฺผลตฺตํ เกน การเณน โหติ. ทิฏฺิ หิสฺส ปาปิกาติ ยสฺมา อสฺส ปุคฺคลสฺส ทิฏฺิ ปาปิกา, ตสฺมา น มหปฺผลํ โหตีติ อตฺโถ. ทฺเวว คติโยติ ปฺจสุ คตีสุ ทฺเวว คติโย. วิปชฺชมานาย ทิฏฺิยา นิรโย. สมฺปชฺชมานาย ติรจฺฉานโยนิ. ยฺเจว กายกมฺมนฺติ สกลิงฺคธารณปฏิปทานุโยคอภิวาทนปจฺจุฏฺานอฺชลิกมฺมาทิ กายกมฺมํ. ยฺจ วจีกมฺมนฺติ สกสมยปริยาปุณนสชฺฌายนเทสนาสมาทปนาทิ วจีกมฺมํ. ยฺจ มโนกมฺมนฺติ อิธโลกจินฺตาปฏิสํยุตฺตฺจ ¶ ปรโลกจินฺตาปฏิสํยุตฺตฺจ กตากตจินฺตาปฏิสํยุตฺตฺจ มโนกมฺมํ. ติณกฏฺธฺพีเชสุ สตฺตทิฏฺิสฺส ทานานุปฺปทานปฏิคฺคหณปริโภเคสุ จ กายวจีมโนกมฺมานิ. ยถาทิฏฺีติ ยา อยํ ทิฏฺิ, ตสฺสานุรูปํ. สมตฺตนฺติ ปริปุณฺณํ. สมาทินฺนนฺติ คหิตํ.
อฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ – ตเทตํ ยถาทิฏฺิยํ ิตกายกมฺมํ, ทิฏฺิสหชาตกายกมฺมํ, ทิฏฺานุโลมิกกายกมฺมนฺติ ติวิธํ โหติ. ตตฺถ ‘‘ปาณํ หนโต อทินฺนํ อาทิยโต มิจฺฉาจรโต นตฺถิ ตโตนิทานํ ปาปํ, นตฺถิ ปาปสฺส อาคโม’’ติ ยํ เอวํ ทิฏฺิกสฺส สโต ปาณาติปาตอทินฺนาทานมิจฺฉาจารสงฺขาตํ กายกมฺมํ, อิทํ ยถาทิฏฺิยํ ิตกายกมฺมํ นาม. ‘‘ปาณํ หนโต อทินฺนํ อาทิยโต มิจฺฉาจรโต นตฺถิ ตโตนิทานํ ปาปํ, นตฺถิ ปาปสฺส อาคโม’’ติ ยํ อิมาย ทิฏฺิยา อิมินา ทสฺสเนน สหชาตํ กายกมฺมํ, อิทํ ทิฏฺิสหชาตกายกมฺมํ นาม. ตเทว ปน สมตฺตํ สมาทินฺนํ คหิตํ ปรามฏฺํ ทิฏฺานุโลมิกกายกมฺมํ นาม. วจีกมฺมมโนกมฺเมสุปิ ¶ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน มุสา ภณโต ปิสุณํ ภณโต ผรุสํ ภณโต สมฺผํ ปลปโต อภิชฺฌาลุโน พฺยาปนฺนจิตฺตสฺส มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส สโต นตฺถิ ตโตนิทานํ ปาปํ, นตฺถิ ปาปสฺส อาคโมติ โยชนา กาตพฺพา. ลิงฺคธารณาทิปริยาปุณนาทิโลกจินฺตาทิวเสน วุตฺตนโย เจตฺถ สุนฺทโร.
เจตนาทีสุ ทิฏฺิสหชาตา เจตนา เจตนา นาม. ทิฏฺิสหชาตา ปตฺถนา ปตฺถนา นาม. เจตนาปตฺถนานํ วเสน จิตฺตฏฺปนา ปณิธิ นาม. เตหิ ปน เจตนาทีหิ สมฺปยุตฺตา ผสฺสาทโย สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนา ธมฺมา ¶ สงฺขารา นาม. อนิฏฺายาติอาทีหิ ทุกฺขเมว วุตฺตํ. ทุกฺขฺหิ สุขกาเมหิ สตฺเตหิ น เอสิตตฺตา อนิฏฺํ. อปฺปิยตฺตา อกนฺตํ. มนสฺส อวฑฺฒนโต, มนสิ อวิสปฺปนโต จ อมนาปํ. อายตึ อภทฺทตาย อหิตํ. ปีฬนโต ทุกฺขนฺติ. ตํ กิสฺส เหตูติ ตํ เอวํ สํวตฺตนํ เกน การเณน โหตีติ อตฺโถ. อิทานิสฺส การณํ ทิฏฺิ หิสฺส ปาปิกาติ. ยสฺมา ตสฺส ปุคฺคลสฺส ทิฏฺิ ปาปิกา ลามกา, ตสฺมา เอวํ สํวตฺตตีติ อตฺโถ. อลฺลาย ปถวิยา นิกฺขิตฺตนฺติ อุทเกน ตินฺตาย ภูมิยา โรปิตํ. ปถวีรสํ อาโปรสนฺติ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน ปถวิยา จ สมฺปทํ อาปสฺส จ สมฺปทํ. พีชนิกฺขิตฺตฏฺาเน หิ น สพฺพา ปถวี น สพฺโพ อาโป จ พีชํ ผลํ คณฺหาเปติ. โย ปน เตสํ ปเทโส พีชํ ผุสติ, โสเยว พีชํ ผลํ คณฺหาเปติ. ตสฺมา พีชโปสนาย ปจฺจยภูโตเยว โส ปเทโส ปถวีรโส อาโปรโสติ เวทิตพฺโพ. รสสทฺทสฺส หิ สมฺปตฺติ จ อตฺโถ. ยถาห ‘‘กิจฺจสมฺปตฺติอตฺเถน รโส นาม ปวุจฺจตี’’ติ. โลเก จ ‘‘สุรโส คนฺธพฺโพ’’ติ วุตฺเต สุสมฺปนฺโน คนฺธพฺโพติ อตฺโถ ายติ. อุปาทิยตีติ คณฺหาติ. โย หิ ปเทโส ปจฺจโย โหติ, ตํ ปจฺจยํ ลภมานํ พีชํ ตํ ¶ คณฺหาติ นาม. สพฺพํ ตนฺติ สพฺพํ ตํ รสชาตํ. ติตฺตกตฺตายาติ โส ปถวีรโส อาโปรโส จ อติตฺตโก สมาโนปิ ติตฺตกํ พีชํ นิสฺสาย ¶ นิมฺพรุกฺขาทีนํ เตสํ ผลานฺจ ติตฺตกภาวาย สํวตฺตติ. กฏุกตฺตายาติ อิทํ ปุริมสฺเสว เววจนํ.
‘‘วณฺณคนฺธรสูเปโต, อมฺโพยํ อหุวา ปุเร;
ตเมว ปูชํ ลภมาโน, เกนมฺโพ กฏุกปฺผโล’’ติ. (ชา. ๑.๒.๗๑) –
อาคตฏฺาเน วิย หิ อิธาปิ ติตฺตกเมว อปฺปิยฏฺเน กฏุกนฺติ เวทิตพฺพํ. อสาตตฺตายาติ อมธุรภาวาย. อสาทุตฺตายาติปิ ปาโ, อสาทุภาวายาติ อตฺโถ. สาทูติ หิ มธุรํ. พีชํ หิสฺสาติ อสฺส นิมฺพาทิกสฺส พีชํ. เอวเมวนฺติ เอวํ เอวํ. ยสฺมา สุขา เวทนา ปรโม อสฺสาโท, ตสฺมา มิจฺฉาทิฏฺิยา ทุกฺขเวทนาวเสน อาทีนโว ทสฺสิโตติ. ปุน อฏฺารสเภเทน ทิฏฺิยา อาทีนวํ ทสฺเสตุํ อสฺสาททิฏฺิ มิจฺฉาทิฏฺีติอาทิมาห. ตํ วุตฺตตฺถเมว. อิเมหิ อฏฺารสหิ อากาเรหิ ปริยุฏฺิตจิตฺตสฺส สฺโโคติ ทิฏฺิยา เอว สํสาเร พนฺธนํ ทสฺเสติ.
๑๒๙. ยสฺมา ¶ ปน ทิฏฺิภูตานิปิ สฺโชนานิ อตฺถิ อทิฏฺิภูตานิปิ, ตสฺมา ตํ ปเภทํ ทสฺเสนฺโต อตฺถิ สฺโชนานิ เจวาติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา กามราคสฺโชนสฺเสว อนุนยสฺโชนนฺติ อาคตฏฺานมฺปิ อตฺถิ, ตสฺมา อนุนยสฺโชนนฺติ วุตฺตํ. กามราคภาวํ อปฺปตฺวา ปวตฺตํ โลภํ สนฺธาย เอตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เสสขนฺธายตนาทิมูลเกสุปิ วาเรสุ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เวทนาปรมตฺตา จ อสฺสาทสฺส เวทนาปริโยสานา เอว เทสนา กตา. สฺาทโย น คหิตา. อิเมหิ ปฺจตึสาย อากาเรหีติ ปฺจกฺขนฺธา อชฺฌตฺติกายตนาทีนิ ปฺจ ฉกฺกานิ จาติ อิมานิ ปฺจตึส วตฺถูนิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนอสฺสาทารมฺมณวเสน ปฺจตึสาย อากาเรหิ.
อสฺสาททิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อตฺตานุทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา
๑๓๐. อตฺตานุทิฏฺิยํ ¶ ¶ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโนติ อาคมาธิคมาภาวา เยฺโย อสฺสุตวา อิติ. ยสฺส หิ ขนฺธธาตุอายตนสจฺจปจฺจยาการสติปฏฺานาทีสุ อุคฺคหปริปุจฺฉาวินิจฺฉยวิรหิตตฺตา อตฺตานุทิฏฺิปฏิเสธกโร เนว อาคโม, ปฏิปตฺติยา อธิคนฺตพฺพสฺส อนธิคตตฺตา น จ อธิคโม อตฺถิ, โส อาคมาธิคมานํ อภาวา เยฺโย อสฺสุตวา อิติ. สุตนฺติ หิ พุทฺธวจนาคโม จ สุตผลตฺตา เหตุโวหารวเสน อธิคโม จ, ตํ สุตํ อสฺส อตฺถีติ สุตวา, น สุตวา อสฺสุตวา. สฺวายํ –
ปุถูนํ ชนนาทีหิ, การเณหิ ปุถุชฺชโน;
ปุถุชฺชนนฺโตคธตฺตา, ปุถุวายํ ชโน อิติ.
โส หิ ปุถูนํ นานปฺปการานํ กิเลสาทีนํ ชนนาทีหิ การเณหิ ปุถุชฺชโน. ยถาห – ‘‘ปุถุ กิเลเส ชเนนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ อวิหตสกฺกายทิฏฺิกาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ สตฺถารานํ มุขุลฺโลกิกาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ สพฺพคตีหิ อวุฏฺิตาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ นานาภิสงฺขาเร อภิสงฺขโรนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ นานาโอเฆหิ วุยฺหนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ ¶ นานาสนฺตาเปหิ สนฺตปฺเปนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ นานาปริฬาเหหิ ปริทยฺหนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ ปฺจสุ กามคุเณสุ รตฺตา คิทฺธา คธิตา มุจฺฉิตา อชฺโฌสนฺนา ลคฺคา ลคฺคิตา ปลิพุทฺธาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ ปฺจหิ นีวรเณหิ อาวุตา นิวุตา โอวุตา ปิหิตา ปฏิจฺฉนฺนา ปฏิกุชฺชิตาติ ปุถุชฺชนา’’ติ (มหานิ. ๙๔). ปุถูนํ วา คณนปถมตีตานํ อริยธมฺมปรมฺมุขานํ นีจธมฺมสมุทาจารานํ ชนานํ อนฺโตคธตฺตาปิ ปุถุชฺชนา, ปุถุ วา อยํ, วิสุํเยว สงฺขํ ¶ คโต วิสํสฏฺโ สีลสุตาทิคุณยุตฺเตหิ อริเยหิ ชโนติปิ ปุถุชฺชโน. เอวเมเตหิ ‘‘อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน’’ติ ทฺวีหิ ปเทหิ เย เต –
‘‘ทุเว ปุถุชฺชนา วุตฺตา, พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา;
อนฺโธ ปุถุชฺชโน เอโก, กลฺยาเณโก ปุถุชฺชโน’’ติ. –
ทฺเว ปุถุชฺชนา วุตฺตา, เตสุ อนฺธปุถุชฺชโน วุตฺโต โหตีติ เวทิตพฺโพ.
อริยานํ ¶ อทสฺสาวีติอาทีสุ อริยาติ อารกตฺตา กิเลเสหิ, อนเย น อิริยนโต, อเย จ อิริยนโต, สเทวเกน จ โลเกน อรณียโต พุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ พุทฺธสาวกา จ วุจฺจนฺติ, พุทฺธา เอว วา อิธ อริยา. ยถาห – ‘‘สเทวเก, ภิกฺขเว, โลเก…เป… ตถาคโต อริโยติ วุจฺจตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๘).
สปฺปุริสาติ เอตฺถ ปน ปจฺเจกพุทฺธา ตถาคตสาวกา จ ‘‘สปฺปุริสา’’ติ เวทิตพฺพา. เต หิ โลกุตฺตรคุณโยเคน โสภนา ปุริสาติ สปฺปุริสา. สพฺเพเยว วา เอเต ทฺเวธาปิ วุตฺตา. พุทฺธาปิ หิ อริยา จ สปฺปุริสา จ ปจฺเจกพุทฺธา พุทฺธสาวกาปิ. ยถาห –
‘‘โย เว กตฺู กตเวทิ ธีโร, กลฺยาณมิตฺโต ทฬฺหภตฺติ จ โหติ;
ทุขิตสฺส สกฺกจฺจ กโรติ กิจฺจํ, ตถาวิธํ สปฺปุริสํ วทนฺตี’’ติ. (ชา. ๒.๑๗.๗๘);
เอตฺถ หิ ‘‘กตฺู กตเวทิ ธีโร’’ติ ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ วุตฺโต, ‘‘กลฺยาณมิตฺโต ทฬฺหภตฺติ จา’’ติ พุทฺธสาวโก, ‘‘ทุขิตสฺส สกฺกจฺจ กโรติ กิจฺจ’’นฺติ สมฺมาสมฺพุทฺโธติ. อิทานิ โย เตสํ อริยานํ อทสฺสนสีโล ¶ , น จ ทสฺสเน สาธุการี, โส ‘‘อริยานํ อทสฺสาวี’’ติ เวทิตพฺโพ. โส จ จกฺขุนา อทสฺสาวี าเณน อทสฺสาวีติ ทุวิโธ. เตสุ าเณน อทสฺสาวี ¶ อิธาธิปฺเปโต. มํสจกฺขุนา หิ ทิพฺพจกฺขุนา วา อริยา ทิฏฺาปิ อทิฏฺาว โหนฺติ เตสํ จกฺขูนํ วณฺณมตฺตคหณโต น อริยภาวโคจรโต. โสณสิงฺคาลาทโยปิ หิ จกฺขุนา อริเย ปสฺสนฺติ, น จ เต อริยานํ ทสฺสาวิโน, ตสฺมา จกฺขุนา ทสฺสนํ น ทสฺสนํ, าเณน ทสฺสนเมว ทสฺสนํ. ยถาห – ‘‘กึ เต, วกฺกลิ, อิมินา ปูติกาเยน ทิฏฺเน, โย โข, วกฺกลิ, ธมฺมํ ปสฺสติ, โส มํ ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๘๗). ตสฺมา จกฺขุนา ปสฺสนฺโตปิ าเณน อริเยหิ ทิฏฺํ อนิจฺจาทิลกฺขณํ อปสฺสนฺโต อริยาธิคตฺจ ธมฺมํ อนธิคจฺฉนฺโต อริยกรธมฺมานํ อริยภาวสฺส จ อทิฏฺตฺตา ‘‘อริยานํ อทสฺสาวี’’ติ เวทิตพฺโพ.
อริยธมฺมสฺส อโกวิโทติ สติปฏฺานาทิเภเท อริยธมฺเม อกุสโล. อริยธมฺเม อวินีโตติ เอตฺถ ปน –
ทุวิโธ ¶ วินโย นาม, เอกเมเกตฺถ ปฺจธา;
อภาวโต ตสฺส อยํ, ‘‘อวินีโต’’ติ วุจฺจติ.
อยฺหิ สํวรวินโย ปหานวินโยติ ทุวิโธ วินโย. เอตฺถ จ ทุวิเธปิ วินเย เอกเมโก วินโย ปฺจธา ภิชฺชติ. สํวรวินโยปิ หิ สีลสํวโร, สติสํวโร, าณสํวโร, ขนฺติสํวโร, วีริยสํวโรติ ปฺจวิโธ. ปหานวินโยปิ ตทงฺคปฺปหานํ, วิกฺขมฺภนปฺปหานํ, สมุจฺเฉทปฺปหานํ, ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ, นิสฺสรณปฺปหานนฺติ ปฺจวิโธ.
ตตฺถ ‘‘อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต โหติ สมุเปโต’’ติ (วิภ. ๕๑๑) อยํ สีลสํวโร. ‘‘รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๑๓; ม. นิ. ๑.๒๙๕; สํ. นิ. ๔.๒๓๙; อ. นิ. ๓.๑๖) อยํ สติสํวโร.
‘‘ยานิ โสตานิ โลกสฺมึ, (อชิตาติ ภควา)
สติ เตสํ นิวารณํ;
โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ, ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ. (สุ. นิ. ๑๐๔๑; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๔) –
อยํ ¶ าณสํวโร. ‘‘ขโม โหติ สีตสฺส อุณฺหสฺสา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔; อ. นิ. ๔.๑๑๔; ๖.๕๘) อยํ ขนฺติสํวโร. ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๖; อ. นิ. ๔.๑๑๔; ๖.๕๘) อยํ วีริยสํวโร. สพฺโพปิ จายํ สํวโร ยถาสกํ สํวริตพฺพานํ วิเนตพฺพานฺจ ¶ กายทุจฺจริตาทีนํ สํวรณโต ‘‘สํวโร’’, วินยนโต ‘‘วินโย’’ติ วุจฺจติ. เอวํ ตาว สํวรวินโย ปฺจธา ภิชฺชตีติ เวทิตพฺโพ.
ตถา ยํ นามรูปปริจฺเฉทาทีสุ วิปสฺสนาาเณสุ ปฏิปกฺขภาวโต ทีปาโลเกน วิย ตมสฺส เตน เตน วิปสฺสนาาเณน ตสฺส ตสฺส อนตฺถสฺส ปหานํ, เสยฺยถิทํ – นามรูปววตฺถาเนน สกฺกายทิฏฺิยา, ปจฺจยปริคฺคเหน อเหตุวิสมเหตุทิฏฺีนํ, กงฺขาวิตรเณน กถํกถีภาวสฺส, กลาปสมฺมสเนน ‘‘อหํ มมา’’ติ คาหสฺส, มคฺคามคฺคววตฺถาเนน อมคฺเค มคฺคสฺาย, อุทยทสฺสเนน อุจฺเฉททิฏฺิยา, วยทสฺสเนน สสฺสตทิฏฺิยา, ภยทสฺสเนน สภเย อภยสฺาย, อาทีนวทสฺสเนน อสฺสาทสฺาย, นิพฺพิทานุปสฺสเนน อภิรติสฺาย, มฺุจิตุกมฺยตาาเณน อมฺุจิตุกมฺยตาย, อุเปกฺขาาเณน อนุเปกฺขาย, อนุโลมาเณน ธมฺมฏฺิติยํ ¶ นิพฺพาเน จ ปฏิโลมภาวสฺส, โคตฺรภุนา สงฺขารนิมิตฺตคาหสฺส ปหานํ, เอตํ ตทงฺคปฺปหานํ นาม.
ยํ ปน อุปจารปฺปนาเภเทน สมาธินา ปวตฺติภาวนิวารณโต ฆฏปฺปหาเรน วิย อุทกปิฏฺเ เสวาลสฺส เตสํ เตสํ นีวรณาทิธมฺมานํ ปหานํ, อิทํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ นาม. ยํ จตุนฺนํ อริยมคฺคานํ ภาวิตตฺตา ตํตํมคฺควโต อตฺตโน สนฺตาเน ‘‘ทิฏฺิคตานํ ปหานายา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๒๗๗; วิภ. ๖๒๘) นเยน วุตฺตสฺส สมุทยปกฺขิกสฺส กิเลสคฺคณสฺส อจฺจนฺตอปฺปวตฺติภาเวน ปหานํ, อิทํ สมุจฺเฉทปฺปหานํ นาม. ยํ ปน ผลกฺขเณ ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตํ กิเลสานํ, อิทํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ นาม. ยํ สพฺพสงฺขตนิสฺสฏตฺตา ปหีนสพฺพสงฺขตํ นิพฺพานํ, อิทํ นิสฺสรณปฺปหานํ นาม. สพฺพมฺปิ เจตํ ปหานํ ยสฺมา จาคฏฺเน ปหานํ, วินยนฏฺเน วินโย, ตสฺมา ‘‘ปหานวินโย’’ติ วุจฺจติ, ตํตํปหานวโต วา ตสฺส ตสฺส วินยสฺส สมฺภวโตเปตํ ‘‘ปหานวินโย’’ติ วุจฺจติ. เอวํ ปหานวินโยปิ ปฺจธา ภิชฺชตีติ เวทิตพฺโพ.
เอวมยํ ¶ ¶ สงฺเขปโต ทุวิโธ, ปเภทโต จ ทสวิโธ วินโย ภินฺนสํวรตฺตา ปหาตพฺพสฺส จ อปฺปหีนตฺตา ยสฺมา เอตสฺส อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส นตฺถิ, ตสฺมา อภาวโต ตสฺส อยํ ‘‘อวินีโต’’ติ วุจฺจตีติ. เอส นโย สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส อโกวิโท สปฺปุริสธมฺเม อวินีโตติ เอตฺถาปิ. นินฺนานาการณฺหิ เอตํ อตฺถโต. ยถาห – ‘‘เยว เต อริยา, เตว เต สปฺปุริสา. เยว เต สปฺปุริสา, เตว เต อริยา. โยว โส อริยานํ ธมฺโม, โสว โส สปฺปุริสานํ ธมฺโม. โยว โส สปฺปุริสานํ ธมฺโม, โสว โส อริยานํ ธมฺโม. เยว เต อริยวินยา, เตว เต สปฺปุริสวินยา. เยว เต สปฺปุริสวินยา, เตว เต อริยวินยา. อริเยติ วา สปฺปุริเสติ วา, อริยธมฺเมติ วา สปฺปุริสธมฺเมติ วา, อริยวินเยติ วา สปฺปุริสวินเยติ วา เอเสเส เอเก เอกฏฺเ สเม สมภาเค ตชฺชาเต ตฺเวา’’ติ.
กสฺมา ปน เถโร อตฺตานุทิฏฺิยา กตเมหิ วีสติยา อากาเรหิ อภินิเวโส โหตีติ ปุจฺฉิตฺวา ตํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว ‘‘อิธ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน’’ติ เอวํ ปุถุชฺชนํ นิทฺทิสีติ? ปุคฺคลาธิฏฺานาย เทสนาย ตํ อตฺถํ อาวิกาตุํ ปมํ ปุถุชฺชนํ นิทฺทิสีติ เวทิตพฺพํ.
๑๓๑. เอวํ ปุถุชฺชนํ นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ อภินิเวสุทฺเทสํ ทสฺเสนฺโต รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติอาทิมาห ¶ . ตตฺถ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ รูปกฺขนฺธํ กสิณรูปฺจ ‘‘อตฺตา’’ติ ทิฏฺิปสฺสนาย สมนุปสฺสติ. นิทฺเทเส ปนสฺส รูปกฺขนฺเธ อภินิเวโส ปฺจกฺขนฺธาธิการตฺตา ปากโฏติ ตํ อวตฺวา กสิณรูปเมว ‘‘รูป’’นฺติ สามฺวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. รูปวนฺตํ วา อตฺตานนฺติ อรูปํ ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวา ตํ อตฺตานํ รูปวนฺตํ สมนุปสฺสติ. อตฺตนิ วา รูปนฺติ อรูปเมว ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวา ตสฺมึ อตฺตนิ รูปํ สมนุปสฺสติ. รูปสฺมึ วา อตฺตานนฺติ อรูปเมว ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวา ตํ อตฺตานํ รูปสฺมึ สมนุปสฺสติ.
ตตฺถ ¶ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ สุทฺธรูปเมว ‘‘อตฺตา’’ติ กถิตํ. รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมึ วา อตฺตานํ, เวทนํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, สฺํ, สงฺขาเร, วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ อิเมสุ สตฺตสุ าเนสุ อรูปํ ‘‘อตฺตา’’ติ กถิตํ. เวทนาวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา เวทนํ, เวทนาย วา อตฺตานนฺติ เอวํ จตูสุ ขนฺเธสุ ติณฺณํ ติณฺณํ ¶ วเสน ทฺวาทสสุ าเนสุ รูปารูปมิสฺสโก อตฺตา กถิโต. ตา ปน วีสติปิ ทิฏฺิโย มคฺคาวรณา, น สคฺคาวรณา, โสตาปตฺติมคฺควชฺฌา.
อิทานิ ตํ นิทฺทิสนฺโต กถํ รูปนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปถวีกสิณนฺติ ปถวีมณฺฑลํ นิสฺสาย อุปฺปาทิตํ ปฏิภาคนิมิตฺตสงฺขาตํ สกลผรณวเสน ปถวีกสิณํ. อหนฺติ อตฺตานเมว สนฺธาย คณฺหาติ. อตฺตนฺติ อตฺตานํ. อทฺวยนฺติ เอกเมว. เตลปฺปทีปสฺสาติ เตลยุตฺตสฺส ปทีปสฺส. ฌายโตติ ชลโต. ยา อจฺจิ, โส วณฺโณติอาทิ อจฺจึ มฺุจิตฺวา วณฺณสฺส อภาวโต วุตฺตํ. ยา จ ทิฏฺิ ยฺจ วตฺถูติ ตทุภยํ เอกโต กตฺวา รูปวตฺถุกา อตฺตานุทิฏฺิ วุจฺจตีติ อตฺโถ.
อาโปกสิณาทีนิ อาปาทีนิ นิสฺสาย อุปฺปาทิตกสิณนิมิตฺตาเนว. ปริจฺฉินฺนากาสกสิณํ ปน รูปชฺฌานสฺส อารมฺมณํ โหนฺตมฺปิ อากาสกสิณนฺติ วุจฺจมาเน อรูปชฺฌานารมฺมเณน กสิณุคฺฆาฏิมากาเสน สํกิณฺณํ โหตีติ น คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. รูปาธิการตฺตา วิฺาณกสิณํ น คเหตพฺพเมวาติ. อิเธกจฺโจ เวทนํ สฺํ สงฺขาเร วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ จตฺตาโร ขนฺเธ อภินฺทิตฺวา เอกโต คหณวเสน วุตฺตํ. โส หิ จิตฺตเจตสิกานํ วิสุํ วิสุํ กรเณ อสมตฺถตฺตา สพฺเพ เอกโต กตฺวา ‘‘อตฺตา’’ติ คณฺหาติ. อิมินา รูเปน รูปวาติ เอตฺถ สรีรรูปมฺปิ กสิณรูปมฺปิ ลพฺภติ. ฉายาสมฺปนฺโนติ ฉายาย สมฺปนฺโน อวิรโฬ. ตเมนาติ เอตฺถ เอน-สทฺโท นิปาตมตฺตํ, ตเมตนฺติ วา อตฺโถ. ฉายาวาติ วิชฺชมานจฺฉาโย ¶ . รูปํ อตฺตาติ ¶ อคฺคหิเตปิ รูปํ อมฺุจิตฺวา ทิฏฺิยา อุปฺปนฺนตฺตา รูปวตฺถุกาติ วุตฺตํ.
อตฺตนิ รูปํ สมนุปสฺสตีติ สรีรรูปสฺส กสิณรูปสฺส จ จิตฺตนิสฺสิตตฺตา ตสฺมึ อรูปสมุทาเย อตฺตนิ ตํ รูปํ สมนุปสฺสติ. อยํ คนฺโธติ ฆายิตคนฺธํ อาห. อิมสฺมึ ปุปฺเผติ ปุปฺผนิสฺสิตตฺตา คนฺธสฺส เอวมาห.
รูปสฺมึ อตฺตานํ สมนุปสฺสตีติ ยตฺถ รูปํ คจฺฉติ, ตตฺถ จิตฺตํ คจฺฉติ. ตสฺมา รูปนิสฺสิตํ จิตฺตํ คเหตฺวา ตํ อรูปสมุทายํ อตฺตานํ ตสฺมึ รูเป สมนุปสฺสติ. โอฬาริกตฺตา รูปสฺส โอฬาริกาธารํ กรณฺฑกมาห.
๑๓๒. อิเธกจฺโจ ¶ จกฺขุสมฺผสฺสชํ เวทนนฺติอาทีสุ วิสุํ วิสุํ เวทนาย ทิฏฺิคหเณ อสติปิ เวทนาติ เอกคฺคหเณน คหิเต สพฺพาสํ เวทนานํ อนฺโตคธตฺตา วิสุํ วิสุํ คหิตา เอว โหนฺตีติ วิสุํ วิสุํ โยชนา กตาติ เวทิตพฺพา. โส หิ อนุภวนวเสน เวทนาย โอฬาริกตฺตา เวทนํเยว ‘‘อตฺตา’’ติ คณฺหาติ. สฺํ สงฺขาเร วิฺาณํ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ สฺาทโย อรูปธมฺเม รูปฺจ เอกโต กตฺวา ‘‘อตฺตา’’ติ สมนุปสฺสติ. อุมฺมตฺตโก วิย หิ ปุถุชฺชโน ยถา ยถา อุปฏฺาติ, ตถา ตถา คณฺหาติ.
๑๓๓. จกฺขุสมฺผสฺสชํ สฺนฺติอาทีสุ สฺชานนวเสน สฺาย ปากฏตฺตา สฺํ ‘‘อตฺตา’ติ คณฺหาติ. เสสํ เวทนาย วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ.
๑๓๔. จกฺขุสมฺผสฺสชํ เจตนนฺติอาทีสุ สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺเนสุ ธมฺเมสุ เจตนาย ปธานตฺตา ปากฏตฺตา จ เจตนา เอว นิทฺทิฏฺา. ตาย อิตเรปิ นิทฺทิฏฺาว โหนฺติ. โส ปน เจตสิกภาววเสน ปากฏตฺตา เจตนํ ‘‘อตฺตา’’ติ คณฺหาติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
๑๓๕. จกฺขุวิฺาณนฺติอาทีสุ วิชานนวเสน จิตฺตสฺส ปากฏตฺตา จิตฺตํ ‘‘อตฺตา’’ติ คณฺหาติ. เสสเมตฺถาปิ วุตฺตนยเมว.
อตฺตานุทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. มิจฺฉาทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา
๑๓๖. มิจฺฉาทิฏฺิ ¶ ¶ เหฏฺา วุตฺตตฺถาเยว. อยํ ปน อปโร นโย – นตฺถิ ทินฺนนฺติ อุจฺเฉททิฏฺิกตฺตา ทานผลํ ปฏิกฺขิปติ. นตฺถิ ยิฏฺนฺติ เอตฺถ ยิฏฺนฺติ ขุทฺทกยฺโ. หุตนฺติ มหายฺโ. ทฺวินฺนมฺปิ ผลํ ปฏิกฺขิปติ. นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโกติ ทานผลสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา สีลาทีนํ ปฺุกมฺมานํ, ปาณาติปาตาทีนํ ปาปกมฺมานํ ผลํ ปฏิกฺขิปติ. นตฺถิ อยํ โลโกติ ปุเร กเตน กมฺมุนา. นตฺถิ ปโร โลโกติ อิธ กเตน กมฺมุนา. นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตาติ เตสุ กตกมฺมานํ ผลํ ปฏิกฺขิปติ. นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกาติ กมฺมเหตุกํ อุปปตฺตึ ปฏิกฺขิปติ. นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา…เป… ปเวเทนฺตีติ อิธโลกปรโลเก ปสฺสิตุํ อภิฺาปฏิลาภาย ปฏิปทํ ปฏิกฺขิปติ. อิธ ปาฬิยํ ปน นตฺถิ ทินฺนนฺติ วตฺถูติ นตฺถิ ทินฺนนฺติ วุจฺจมานํ ทานํ, ตสฺสา ทิฏฺิยา วตฺถูติ อตฺโถ ¶ . เอวํวาโท มิจฺฉาติ เอวํ นตฺถิ ทินฺนนฺติ วาโท วจนํ มิจฺฉา วิปรีโตติ อตฺโถ.
มิจฺฉาทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สกฺกายทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา
๑๓๗. สกฺกายทิฏฺิ ปน อตฺตานุทิฏฺิเยว, อฺตฺถ อาคตปริยายวจนทสฺสนตฺถํ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
สกฺกายทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สสฺสตทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา
๑๓๘. สกฺกายวตฺถุกาย สสฺสตทิฏฺิยาติ กมฺมธารยสมาโส. รูปวนฺตํ วา อตฺตานนฺติอาทีนํ ปนฺนรสนฺนํ วจนานํ อนฺเต สมนุปสฺสตีติ สมฺพนฺโธ กาตพฺโพ, ปาโ วา. อฺถา หิ น ฆฏียตีติ. เอวํ ‘‘รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ สมนุปสฺสตี’’ติ เอกเมว ทสฺเสตฺวา เสสา จุทฺทส สํขิตฺตา.
สสฺสตทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อุจฺเฉททิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา
๑๓๙. สกฺกายวตฺถุกาย ¶ อุจฺเฉททิฏฺิยา เอวํ ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติ เอกเมว ทสฺเสตฺวา เสสา จตสฺโส สํขิตฺตา.
อุจฺเฉททิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อนฺตคฺคาหิกาทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา
๑๔๐. อนฺตคฺคาหิกาย ทิฏฺิยา ปมวาเร อาการปุจฺฉา. ทุติเย อาการคหณํ. ตติเย อาการวิสฺสชฺชนํ. ตตฺถ โลโกติ อตฺตา. โส อนฺโตติ อฺมฺปฏิปกฺเขสุ สสฺสตุจฺเฉทนฺเตสุ ¶ สสฺสตคฺคาเห สสฺสตนฺโต, อสสฺสตคฺคาเห อุจฺเฉทนฺโต. ปริตฺตํ โอกาสนฺติ สุปฺปมตฺตํ วา สราวมตฺตํ วา ขุทฺทกํ านํ. นีลกโต ผรตีติ นีลนฺติ อารมฺมณํ กโรติ. อยํ โลโกติ อตฺตานํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปริวฏุโมติ สมนฺตโต ปริจฺเฉทวา. อนฺตสฺีติ อนฺตวาติสฺี. อนฺโต อสฺส อตฺถีติ อนฺโตติ คเหตพฺพํ. ยํ ผรตีติ ยํ กสิณรูปํ ผรติ. ตํ วตฺถุ เจว โลโก จาติ ตํ กสิณรูปํ อารมฺมณฺเจว อาโลกิยฏฺเน โลโก จ. เยน ผรตีติ เยน จิตฺเตน ผรติ. โส อตฺตา เจว โลโก จาติ อตฺตานมเปกฺขิตฺวา ปุลฺลิงฺคํ กตํ, ตํ จิตฺตํ อตฺตา เจว อาโลกนฏฺเน โลโก จาติ วุตฺตํ โหติ. อนฺตวาติ อนฺโต. โอกาสกโต ผรตีติ อาโลกกสิณวเสน เตโชกสิณวเสน ¶ โอทาตกสิณวเสน วา โอภาโสติ ผรติ. นีลาทีนํ ปฺจนฺนํ ปภสฺสรกสิณานํเยว คหิตตฺตา ปถวีอาโปวาโยกสิณวเสน อตฺตาภินิเวโส น โหตีติ คเหตพฺพํ.
วิปุลํ โอกาสนฺติ ขลมณฺฑลมตฺตาทิวเสน มหนฺตํ านํ. อนนฺตวาติ วุทฺธอนนฺตวา. อปริยนฺโตติ วุทฺธอปริยนฺโต. อนนฺตสฺีติ อนนฺโตติสฺี. ตํ ชีวนฺติ โส ชีโว. ลิงฺควิปลฺลาโส กโต. ชีโวติ จ อตฺตา เอว. รูปาทีนิ ปฺจปิ ปริวฏุมฏฺเน สรีรํ. ชีวํ น สรีรนฺติ อตฺตสงฺขาโต ชีโว รูปสงฺขาตํ สรีรํ น โหติ. เอส นโย เวทนาทีสุ. ตถาคโตติ สตฺโต. อรหนฺติ เอเก. ปรํ มรณาติ มรณโต อุทฺธํ, ปรโลเกติ อตฺโถ. รูปํ อิเธว มรณธมฺมนฺติ อตฺตโน ปากฏกฺขนฺธสีเสน ปฺจกฺขนฺธคฺคหณํ, ตํ อิมสฺมึเยว โลเก นสฺสนปกติกนฺติ อตฺโถ. เสสกฺขนฺเธสุปิ เอเสว นโย. กายสฺส เภทาติ ขนฺธปฺจกสงฺขาตสฺส กายสฺส ¶ เภทโต ปรํ. อิมินา วจเนน ‘‘ปรํ มรณา’’ติ เอตสฺส อุทฺเทสสฺส อตฺโถ วุตฺโต. โหติปีติอาทีสุ โหตีติ มูลปทํ. จตูสุปิ อปิ-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. ติฏฺตีติ สสฺสตตฺตา ติฏฺติ, น จวตีติ อตฺโถ. ‘‘โหตี’’ติ ปทสฺส วา อตฺถวิเสสนตฺถํ ‘‘ติฏฺตี’’ติ ¶ ปทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อุปฺปชฺชตีติ อณฺฑชชลาพุชโยนิปเวสวเสน อุปฺปชฺชติ นาม, นิพฺพตฺตตีติ สํเสทชโอปปาติกโยนิปเวสวเสน นิพฺพตฺตติ นามาติ อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา. อุจฺฉิชฺชตีติ ปพนฺธาภาววเสน. วินสฺสตีติ ภงฺควเสน. น โหติ ปรํ มรณาติ ปุริมปทานํ อตฺถวิวรณํ, จุติโต อุทฺธํ น วิชฺชตีติ อตฺโถ. โหติ จ น จ โหตีติ เอกจฺจสสฺสติกานํ ทิฏฺิ, เอเกน ปริยาเยน โหติ, เอเกน ปริยาเยน น โหตีติ อตฺโถ. ชีวภาเวน โหติ, ปุพฺพชีวสฺส อภาเวน น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. เนว โหติ น น โหตีติ อมราวิกฺเขปิกานํ ทิฏฺิ, โหตีติ จ เนว โหติ, น โหตีติ จ น โหตีติ อตฺโถ. อนุวาทภยา มุสาวาทภยา จ มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา จ ปุพฺพวุตฺตนยสฺส ปฏิกฺเขปมตฺตํ กโรติ. อิเมหิ ปฺาสาย อากาเรหีติ ยถาวุตฺตานํ ทสนฺนํ ปฺจกานํ วเสน ปฺาสาย อากาเรหีติ.
อนฺตคฺคาหิกาทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ปุพฺพนฺตานุทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา
๑๔๑. ปุพฺพนฺตาปรนฺตานุทิฏฺีสุ ¶ สสฺสตํ วทนฺตีติ สสฺสตวาทา. อถ วา วทนฺติ เอเตนาติ วาโท, ทิฏฺิคตสฺเสตํ อธิวจนํ. สสฺสตนฺติ วาโทปิ สสฺสตโยเคน สสฺสโต, สสฺสโต วาโท เอเตสนฺติ สสฺสตวาทา. ตถา เอกจฺจํ สสฺสตนฺติ วาโท เอกจฺจสสฺสโต, โส เอเตสํ อตฺถีติ เอกจฺจสสฺสติกา. ตถา อนฺตวา, อนนฺตวา, อนฺตวา จ อนนฺตวา จ, เนวนฺตวา นานนฺตวาติ ปวตฺโต วาโท อนฺตานนฺโต, โส เอเตสํ อตฺถีติ อนฺตานนฺติกา. น มรตีติ อมรา. กา สา? ‘‘เอวมฺปิ เม โน’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๖๒-๖๓) นเยน ปริยนฺตรหิตสฺส ทิฏฺิคติกสฺส ทิฏฺิ เจว วาจา จ. วิวิโธ เขโป วิกฺเขโป, อมราย ทิฏฺิยา, วาจาย วา วิกฺเขโป อมราวิกฺเขโป, โส เอเตสํ อตฺถีติ อมราวิกฺเขปิกา. อปโร นโย – อมรา นาม มจฺฉชาติ ¶ , สา อุมฺมุชฺชนนิมุชฺชนาทิวเสน อุทเก สนฺธาวมานา คเหตุํ น สกฺกา โหติ, เอวเมวํ อยมฺปิ วาโท อิโต จิโต จ สนฺธาวติ, คาหํ น อุปคจฺฉตีติ อมราวิกฺเขโปติ วุจฺจติ, โส เอเตสํ อตฺถีติ อมราวิกฺเขปิกา. อธิจฺจสมุปฺปนฺโนติ ¶ อการณสมุปฺปนฺโน อตฺตา จ โลโก จาติ ทสฺสนํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ, ตํ เอเตสํ อตฺถีติ อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา.
ปุพฺพนฺตานุทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อปรนฺตานุทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา
๑๔๒. สฺึ วทนฺตีติ สฺีวาทา. อสฺึ วทนฺตีติ อสฺีวาทา. เนวสฺีนาสฺึ วทนฺตีติ เนวสฺีนาสฺีวาทา. อถ วา สฺีติ ปวตฺโต วาโท สฺีวาโท, โส เยสํ อตฺถีติ เต สฺีวาทา, ตถา อสฺีวาทา, เนวสฺีนาสฺีวาทา จ. อุจฺเฉทํ วทนฺตีติ อุจฺเฉทวาทา. ทิฏฺธมฺโมติ ปจฺจกฺขธมฺโม, ตตฺถ ตตฺถ ปฏิลทฺธอตฺตภาวสฺเสตํ อธิวจนํ. ทิฏฺธมฺเม นิพฺพานํ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ, อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ทุกฺขวูปสโมติ อตฺโถ, ตํ วทนฺตีติ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา. อิมสฺมึ ปนตฺเถ วิตฺถาริยมาเน สาฏฺกถํ สกลํ พฺรหฺมชาลสุตฺตํ วตฺตพฺพํ โหติ. เอวฺจ สติ อติปปฺโจ โหตีติ น วิตฺถาริโต. ตทตฺถิเกหิ ตํ อเปกฺขิตฺวา คเหตพฺโพ.
อปรนฺตานุทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐-๑๒. สฺโชนิกาทิทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา
๑๔๓. ยสฺมา ¶ สฺโชนิกา ทิฏฺิ สพฺพทิฏฺิสาธารณา, ตสฺมา ตสฺสา สพฺพทิฏฺิสฺโชนตฺตา สพฺพทิฏฺิสาธารโณ อตฺโถ นิทฺทิฏฺโ. โส เหฏฺา วุตฺตทิฏฺิปริยุฏฺานาเนว.
๑๔๔. มานวินิพนฺธทิฏฺีสุ จกฺขุ อหนฺติ อภินิเวสปรามาโสติ มานปุพฺพโก อภินิเวสปรามาโส. น หิ ทิฏฺิ มานสมฺปยุตฺตา โหติ. เตเนว จ มานวินิพนฺธาติ วุตฺตํ, มานปฏิพนฺธา มานมูลกาติ อตฺโถ.
๑๔๕. จกฺขุ มมนฺติ อภินิเวสปรามาโสติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน ‘‘มมา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘มม’’นฺติ อนุนาสิกาคโม เวทิตพฺโพ. ‘‘อห’’นฺติ มานวินิพนฺธาย ¶ ¶ รูปาทีนิปิ อชฺฌตฺติกาเนว. น หิ กสิณรูปํ วินา พาหิรานิ ‘‘อห’’นฺติ คณฺหาติ. ‘‘มม’’นฺติ มานวินิพนฺธาย ปน พาหิรานิปิ ลพฺภนฺติ. พาหิรานิปิ หิ ‘‘มม’’นฺติ คณฺหาติ. ยสฺมา ปน ทุกฺขา เวทนา อนิฏฺตฺตา มานวตฺถุ น โหติ, ตสฺมา ฉ เวทนา ตาสํ มูลปจฺจยา ฉ ผสฺสา จ น คหิตา. สฺาทโย ปน อิธ ปจฺฉินฺนตฺตา น คหิตาติ เวทิตพฺพา.
สํโยชนิกาทิทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. อตฺตวาทปฏิสํยุตฺตทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา
๑๔๖. อตฺตวาทปฏิสํยุตฺตา ทิฏฺิ อตฺตานุทิฏฺิเยว. อตฺตาติ วาเทน ปฏิสํยุตฺตตฺตา ปุน เอวํ วุตฺตา.
อตฺตวาทปฏิสํยุตฺตทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๔. โลกวาทปฏิสํยุตฺตทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา
๑๔๗. อตฺตา จ โลโก จาติ โส เอว อตฺตา จ อาโลกนฏฺเน โลโก จาติ อตฺโถ. สสฺสโตติ สสฺสตวาทานํ ทิฏฺิ. อสสฺสโตติ อุจฺเฉทวาทานํ. สสฺสโต จ อสสฺสโต จาติ เอกจฺจสสฺสติกานํ. เนว สสฺสโต นาสสฺสโตติ อมราวิกฺเขปิกานํ. อนฺตวาติ ปริตฺตกสิณลาภีนํ ตกฺกิกานฺจ นิคณฺาชีวิกานฺจ. อถ วา อุจฺเฉทวาทิโน ‘‘สตฺโต ชาติยา ปุพฺพนฺตวา, มรเณน อปรนฺตวา’’ติ วทนฺติ. อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา ‘‘สตฺโต ชาติยา ปุพฺพนฺตวา’’ติ วทนฺติ. อนนฺตวาติ อปฺปมาณกสิณลาภีนํ. สสฺสตวาทิโน ปน ‘‘ปุพฺพนฺตาปรนฺตา นตฺถิ, เตน อนนฺตวา’’ติ วทนฺติ. อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา ‘‘อปรนฺเตน อนนฺตวา’’ติ วทนฺติ.
อนฺตวา ¶ จ อนนฺตวา จาติ อุทฺธมโธ อวฑฺฒิตฺวา ติริยํ วฑฺฒิตกสิณานํ. เนว อนฺตวา น อนนฺตวาติ อมราวิกฺเขปิกานํ.
โลกวาทปฏิสํยุตฺตทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๕-๑๖. ภววิภวทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา
๑๔๘. ภววิภวทิฏฺีนํ ¶ ยถาวุตฺตทิฏฺิโต วิสุํ อภินิเวสาภาวโต วิสุํ นิทฺเทสํ อกตฺวา ยถาวุตฺตทิฏฺีนํเยว วเสน ‘‘โอลียนํ อติธาวน’’นฺติ เอเกกํ อาการํ นิทฺทิสิตุํ ปุจฺฉํ อกตฺวา จ โอลียนาภินิเวโส ภวทิฏฺิ, อติธาวนาภินิเวโส วิภวทิฏฺีติ อาห. ตตฺถ ‘‘ภวนิโรธาย ธมฺเม เทสิยมาเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทตี’’ติ (อิติวุ. ๔๙) วุตฺตโอลียนาภินิเวโส, สสฺสตสฺาย นิพฺพานโต สงฺโกจนาภินิเวโสติ อตฺโถ. ‘‘ภเวเนว โข ปเนเก อฏฺฏียมานา หรายมานา ¶ ชิคุจฺฉมานา วิภวํ อภินนฺทนฺตี’’ติ วุตฺตอติธาวนาภินิเวโส, อุจฺเฉทสฺาย นิโรธคามินิปฏิปทาติกฺกมนาภินิเวโสติ อตฺโถ.
อิทานิ ตาว ภววิภวทิฏฺิโย สพฺพทิฏฺีสุ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ อสฺสาททิฏฺิยาติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา อสฺสาททิฏฺิกา สสฺสตํ วา อุจฺเฉทํ วา นิสฺสาย ‘‘นตฺถิ กาเมสุ โทโส’’ติ คณฺหนฺติ, ตสฺมา ปฺจตึสาการาปิ อสฺสาททิฏฺิโย สิยา ภวทิฏฺิโย, สิยา วิภวทิฏฺิโยติ วุตฺตา. ตตฺถ ยสฺมา เอเกกาปิ ทิฏฺิโย สสฺสตคฺคาหวเสน ภวทิฏฺิโย ภเวยฺยุํ, อุจฺเฉทคฺคาหวเสน วิภวทิฏฺิโย ภเวยฺยุนฺติ อตฺโถ. อตฺตานุทิฏฺิยา รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, เวทนํ… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ ปฺจสุ รูปาทิโต อตฺตโน อนฺตฺตา เตสุ อุจฺฉินฺเนสุ อตฺตา อุจฺฉินฺโนติ คหณโต ปฺจ วิภวทิฏฺิโยติ วุตฺตํ. เสเสสุ ปฺจทสสุ าเนสุ รูปาทิโต อตฺตโน อฺตฺตา เตสุ อุจฺฉินฺเนสุปิ ‘‘อตฺตา สสฺสโตติ คหณโต ปนฺนรส ภวทิฏฺิโยติ วุตฺตํ.
มิจฺฉาทิฏฺิยา ‘‘สพฺพาว ตา วิภวทิฏฺิโย’’ติ อุจฺเฉทวเสน ปวตฺตตฺตา อนฺตวานนฺตวาทิฏฺีสุ ปริตฺตารมฺมณอปฺปมาณารมฺมณฌานลาภิโน ทิพฺพจกฺขุนา รูปธาตุยา จวิตฺวา สตฺเต อฺตฺถ อุปปนฺเน ปสฺสิตฺวา ภวทิฏฺึ อปสฺสิตฺวา วิภวทิฏฺึ คณฺหนฺติ. ตสฺมา ตตฺถ สิยา ภวทิฏฺิโย, สิยา วิภวทิฏฺิโยติ ¶ วุตฺตํ. โหติ จ น จ โหตีติ เอตฺถ โหติ จาติ ภวทิฏฺิ, น จ โหตีติ วิภวทิฏฺิ. เนว โหติ น น โหตีติ เอตฺถ เนว โหตีติ วิภวทิฏฺิ, น น โหตีติ ภวทิฏฺิ. ตสฺมา ตตฺถ ‘‘สิยา’’ติ วุตฺตํ.
ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิยา เอกจฺจสสฺสติกา สสฺสตฺจ ปฺเปนฺติ, อสสฺสตฺจ ปฺเปนฺติ. ตสฺมา สา ภวทิฏฺิ จ วิภวทิฏฺิ จ โหติ. จตฺตาโร อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ ¶ . ตสฺมา สา อตฺตานุทิฏฺิสทิสา ภวทิฏฺิ จ วิภวทิฏฺิ จ. จตฺตาโร อมราวิกฺเขปิกา ภวทิฏฺึ วา วิภวทิฏฺึ วา นิสฺสาย วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ, อวเสสา ปน ภวทิฏฺิโยว. ตสฺมา เต เต สนฺธาย ¶ ‘‘สิยา’’ติ วุตฺตํ. อปรนฺตานุทิฏฺิยา สตฺต อุจฺเฉทวาทา วิภวทิฏฺิโย, อวเสสา ภวทิฏฺิโย. ตสฺมา เต เต สนฺธาย ‘‘สิยา’’ติ วุตฺตํ. สฺโชนิกทิฏฺิยา สพฺพทิฏฺีนํ วเสน ‘‘สิยา’’ติ วุตฺตํ. อหนฺติ มานวินิพนฺธาย ทิฏฺิยา จกฺขาทีนํ อหนฺติ คหิตตฺตา เตสํ วินาเส อตฺตา วินฏฺโ โหตีติ สพฺพาว ตา วิภวทิฏฺิโยติ วุตฺตํ. อตฺตานุทิฏฺิโย วิย มมนฺติ มานวินิพนฺธาย ทิฏฺิยา จกฺขาทิโต อตฺตโน อฺตฺตา เตสํ วินาเสปิ อตฺตา น วินสฺสตีติ สพฺพาว ตา ภวทิฏฺิโยติ วุตฺตํ. โลกวาทปฏิสํยุตฺตาย ทิฏฺิยา ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จา’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๑๔๗) นเยน วุตฺตตฺตา ภววิภวทิฏฺิ ปากฏาเยว. เอตฺตาวตา อสฺสาททิฏฺาทิกา วิภวทิฏฺิปริโยสานา โสฬส ทิฏฺิโย ตีณิสตฺจ ทิฏฺาภินิเวสา นิทฺทิฏฺา โหนฺติ. อตฺตานุทิฏฺิ จ สกฺกายทิฏฺิ จ อตฺตวาทปฏิสฺุตฺตา ทิฏฺิ จ อตฺถโต เอกา ปริยาเยน ติวิธา วุตฺตา. สฺโชนิกา ปน ทิฏฺิ อวตฺถาเภเทน สพฺพาปิ ทิฏฺิโย โหนฺติ.
อิทานิ สพฺพาว ตา ทิฏฺิโย อสฺสาททิฏฺิโยติอาทิ อฺเน ปริยาเยน ยถาโยคํ ทิฏฺิสํสนฺทนา. ตตฺถ สพฺพาว ตา ทิฏฺิโยติ ยถาวุตฺตา อนวเสสา ทิฏฺิโย. ทิฏฺิราครตฺตตฺตา ตณฺหาสฺสาทนิสฺสิตตฺตา จ อสฺสาททิฏฺิโย, อตฺตสิเนหานุคตตฺตา อตฺตานุทิฏฺิโย, วิปรีตทสฺสนตฺตา มิจฺฉาทิฏฺิโย, ขนฺธวตฺถุกตฺตา สกฺกายทิฏฺิโย, เอเกกสฺส อนฺตสฺส คหิตตฺตา อนฺตคฺคาหิกา ทิฏฺิโย, อนตฺถสํโยชนิกตฺตา สฺโชนิกา ทิฏฺิโย, อตฺตวาเทน ยุตฺตตฺตา อตฺตวาทปฏิสํยุตฺตา ¶ ทิฏฺิโยติ อิมา สตฺต ทิฏฺิโย สพฺพทิฏฺิสงฺคาหิกา, เสสา ปน นว ทิฏฺิโย น สพฺพทิฏฺิสงฺคาหิกา.
อิทานิ วิตฺถารโต วุตฺตา สพฺพาว ตา ทิฏฺิโย ทฺวีสุเยว ทิฏฺีสุ สงฺขิปิตฺวา สตฺตานํ ทิฏฺิทฺวยนิสฺสยํ ทสฺเสนฺโต ภวฺจ ทิฏฺินฺติคาถมาห. สพฺพาปิ หิ ตา ทิฏฺิโย ภวทิฏฺี ¶ วา โหนฺติ วิภวทิฏฺี วา. ภวฺจ ทิฏฺึ วิภวฺจ ทิฏฺินฺติ เอตฺถ ปน จ-สทฺโท ทิฏฺิเมว สมุจฺจิโนติ, น นิสฺสยํ. น หิ เอโก ภววิภวทิฏฺิทฺวยํ นิสฺสยติ. ยถาห – ‘‘อิติ ภวทิฏฺิสนฺนิสฺสิตา วา สตฺตา โหนฺติ วิภวทิฏฺิสนฺนิสฺสิตา วา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๓). ตกฺกิกาติ ตกฺเกน วทนฺตีติ ตกฺกิกา. เต หิ ทิฏฺิคติกา สภาวปฏิเวธปฺาย อภาวา เกวลํ ตกฺเกน วตฺตนฺติ. เยปิ จ ฌานลาภิโน อภิฺาลาภิโน วา ทิฏฺึ คณฺหนฺติ, เตปิ ตกฺเกตฺวา คหณโต ตกฺกิกา เอว. นิสฺสิตาเสติ นิสฺสิตาติ อตฺโถ. เอกเมว ปทํ, ‘‘เส’’ติ ¶ นิปาตมตฺตํ วา. เตสํ นิโรธมฺหิ น หตฺถิ าณนฺติ ทิฏฺินิสฺสยสฺส การณวจนเมตํ. สกฺกายทิฏฺินิโรเธ นิพฺพาเน ยสฺมา เตสํ าณํ นตฺถิ, ตสฺมา เอตํ ทิฏฺิทฺวยํ นิสฺสิตาติ อตฺโถ. ‘‘น หิ อตฺถิ าณ’’นฺติ เอตฺถ หิ-กาโร การโณปเทเส นิปาโต. ยตฺถายํ โลโก วิปรีตสฺีติ ยตฺถ สุเข นิโรธมฺหิ อยํ สเทวโก โลโก ‘‘ทุกฺข’’มิติ วิปรีตสฺี โหติ, ตสฺมึ นิโรธมฺหิ น หตฺถิ าณนฺติ สมฺพนฺโธ. ทุกฺขมิติ วิปรีตสฺิตาย อิทํ สุตฺตํ –
‘‘รูปา สทฺทา รสา คนฺธา, ผสฺสา ธมฺมา จ เกวลา;
อิฏฺา กนฺตา มนาปา จ, ยาวตตฺถีติ วุจฺจติ.
‘‘สเทวกสฺส โลกสฺส, เอเต โว สุขสมฺมตา;
ยตฺถ เจเต นิรุชฺฌนฺติ, ตํ เนสํ ทุกฺขสมฺมตํ.
‘‘สุขนฺติ ทิฏฺมริเยหิ, สกฺกายสฺสุปโรธนํ;
ปจฺจนีกมิทํ โหติ, สพฺพโลเกน ปสฺสตํ.
‘‘ยํ ¶ ปเร สุขโต อาหุ, ตทริยา อาหุ ทุกฺขโต;
ยํ ปเร ทุกฺขโต อาหุ, ตทริยา สุขโต วิทู.
‘‘ปสฺส ธมฺมํ ทุราชานํ, สมฺปมูฬฺเหตฺถวิทฺทสุ;
นิวุตานํ ตโม โหติ, อนฺธกาโร อปสฺสตํ.
‘‘สตฺจ ¶ วิวฏํ โหติ, อาโลโก ปสฺสตามิว;
สนฺติเก น วิชานนฺติ, มคา ธมฺมสฺสโกวิทา.
‘‘ภวราคปเรเตหิ, ภวโสตานุสาริภิ;
มารเธยฺยานุปนฺเนหิ, นายํ ธมฺโม สุสมฺพุโธ.
‘‘โก ¶ นุ อฺตฺร อริเยภิ, ปทํ สมฺพุทฺธุมรหติ;
ยํ ปทํ สมฺมทฺาย, ปรินิพฺพนฺติ อนาสวา’’ติ. (สุ. นิ. ๗๖๔-๗๗๑);
๑๔๙. อิทานิ สพฺพาสํ ทิฏฺีนํ ทิฏฺิทฺวยภาวํ ทิฏฺิสมุคฺฆาตกฺจ สมฺมาทิฏฺึ สุตฺตโต ทสฺเสตุกาโม, ทฺวีหิ ภิกฺขเวติ สุตฺตํ อาหริ. ตตฺถ เทวาติ พฺรหฺมาโนปิ วุจฺจนฺติ. โอลียนฺตีติ สงฺกุจนฺติ. อติธาวนฺตีติ อติกฺกมิตฺวา คจฺฉนฺติ. จกฺขุมนฺโตติ ปฺวนฺโต. จ-สทฺโท อติเรกตฺโถ. ภวารามาติ ภโว อาราโม อภิรมฏฺานํ เอเตสนฺติ ภวารามา. ภวรตาติ ภเว อภิรตา. ภวสมฺมุทิตาติ ภเวน สนฺตุฏฺา. เทสิยมาเนติ ตถาคเตน วา ตถาคตสาวเกน วา เทสิยมาเน. น ปกฺขนฺทตีติ ธมฺมเทสนํ วา ภวนิโรธํ วา น ปวิสติ. น ปสีทตีติ ตตฺถ ปสาทํ น ปาปุณาติ. น สนฺติฏฺตีติ ¶ ตตฺถ น ปติฏฺาติ. นาธิมุจฺจตีติ ตตฺถ ฆนภาวํ น ปาปุณาติ. เอตฺตาวตา สสฺสตทิฏฺิ วุตฺตา.
อฏฺฏียมานาติ ทุกฺขํ ปาปุณมานา. หรายมานาติ ลชฺชํ ปาปุณมานา. ชิคุจฺฉมานาติ ชิคุจฺฉํ ปาปุณมานา. วิภวํ อภินนฺทนฺตีติ อุจฺเฉทํ ปฏิจฺจ ตุสฺสนฺติ, อุจฺเฉทํ ปตฺถยนฺตีติ วา อตฺโถ. กิราติ อนุสฺสวนตฺเถ นิปาโต. โภติ อาลปนเมตํ. สนฺตนฺติ นิพฺพุตํ. ปณีตนฺติ ทุกฺขาภาวโต ปณีตํ, ปธานภาวํ นีตนฺติ วา ปณีตํ. ยาถาวนฺติ ยถาสภาวํ. เอตฺตาวตา อุจฺเฉททิฏฺิ วุตฺตา.
อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. ภูตนฺติ เหตุโต สฺชาตํ ขนฺธปฺจกสงฺขาตํ ทุกฺขํ. ภูตโต ปสฺสตีติ อิทํ ภูตํ ทุกฺขนฺติ ปสฺสติ. นิพฺพิทายาติ วิปสฺสนตฺถาย. วิราคายาติ อริยมคฺคตฺถาย. นิโรธายาติ นิพฺพานตฺถาย. ปฏิปนฺโน โหตีติ ตทนุรูปํ ปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหติ. เอวํ ปสฺสนฺตีติ อิมินา ปกาเรน ปุพฺพภาเค โลกิยาเณน, ปฏิเวธกาเล โลกุตฺตราเณน ปสฺสนฺติ. เอตฺตาวตา สมฺมาทิฏฺิ วุตฺตา.
อิทานิ ¶ ทฺวีหิ คาถาหิ ตสฺสา สมฺมาทิฏฺิยา อานิสํสํ ทสฺเสติ. ตตฺถ โย ภูตํ ภูตโต ทิสฺวาติ ทุกฺขํ ปริฺาภิสมเยน อภิสเมตฺวาติ อตฺโถ. ภูตสฺส จ อติกฺกมนฺติ นิโรธํ สจฺฉิกิริยาภิสมเยน อภิสเมตฺวาติ อตฺโถ. ยถาภูเตธิมุจฺจตีติ มคฺคภาวนาภิสมยวเสน ยถาสภาเว นิโรเธ ‘‘เอตํ สนฺตํ, เอตํ ปณีต’’นฺติ อธิมุจฺจติ. ภวตณฺหา ปริกฺขยาติ สมุทยสฺส ปหาเนนาติ อตฺโถ. อสติปิ เจตฺถ สจฺจานํ นานาภิสมยตฺเต ‘‘ทิสฺวา’’ติ ปุพฺพกาลิกวจนํ ¶ สทฺธึ ปุพฺพภาคปฏิปทาย โวหารวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. น หิ ปุพฺพํ ปสฺสิตฺวา ปจฺฉา อธิมุจฺจติ. จตุสจฺจาภิสมโย สมานกาลเมว โหติ. สมานกาเลปิ วา ปุพฺพกาลิกานิ ปทานิ ภวนฺตีติ น โทโส. ส ¶ เวติ เอกํเสน โส อรหํ. ภูตปริฺาโตติ ทุกฺขํ ปริฺาตวา. วีตตณฺโหติ วิคตตณฺโห. ภวาภเวติ ขุทฺทเก จ มหนฺเต จ ภเว. วุทฺธิอตฺเถปิ หิ อ-การสฺส สมฺภวโต อภโวติ มหาภโว. โส ปน ขุทฺทกมหนฺตภาโว อุปาทายุปาทาย เวทิตพฺโพ. อถ วา ภเวติ สสฺสเต. อภเวติ อุจฺเฉเท. ตทุภเยปิ ทิฏฺิราคาภาเวน วีตตณฺโห. ภูตสฺส วิภวาติ วฏฺฏทุกฺขสฺส สมุจฺเฉทา. นาคจฺฉติ ปุนพฺภวนฺติ อรหโต ปรินิพฺพานํ วุตฺตํ.
๑๕๐. ตโย ปุคฺคลาติอาทิ มิจฺฉาทิฏฺิกครหณตฺถํ สมฺมาทิฏฺิกปสํสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ วิรูปภาวํ ปนฺนา คตา ทิฏฺิ เอเตสนฺติ วิปนฺนทิฏฺี. สุนฺทรภาวํ ปนฺนา คตา ทิฏฺิ เอเตสนฺติ สมฺปนฺนทิฏฺี. ติตฺถิโยติ ติตฺถํ วุจฺจติ ทิฏฺิ, ตํ ปฏิปนฺนตฺตา ติตฺเถ สาธุ, ติตฺถํ ยสฺส อตฺถีติ วา ติตฺถิโย. อิโต พหิทฺธา ปพฺพชฺชูปคโต. ติตฺถิยสาวโกติ เตสํ ทิฏฺานุคติมาปนฺโน คหฏฺโ. โย จ มิจฺฉาทิฏฺิโกติ ตทุภยภาวํ อนุปคนฺตฺวา ยาย กายจิ ทิฏฺิยา มิจฺฉาทิฏฺิโก.
ตถาคโตติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. ปจฺเจกพุทฺโธปิ เอตฺเถว สงฺคหิโต. ตถาคตสาวโกติ มคฺคปฺปตฺโต ผลปฺปตฺโต จ. โย จ สมฺมาทิฏฺิโกติ ตทุภยวินิมุตฺโต โลกิยสมฺมาทิฏฺิยา สมฺมาทิฏฺิโก.
คาถาสุ โกธโนติ โย อภิณฺหํ กุชฺฌติ, โส. อุปนาหีติ ตเมว โกธํ วฑฺเฒตฺวา อุปนนฺธนสีโล. ปาปมกฺขีติ ลามกภูตมกฺขวา. มายาวีติ กตปาปปฏิจฺฉาทนวา. วสโลติ หีนชจฺโจ. วิสุทฺโธติ าณทสฺสนวิสุทฺธิยา ¶ วิสุทฺโธ. สุทฺธตํ คโตติ มคฺคผลสงฺขาตํ สุทฺธภาวํ คโต. เมธาวีติ ปฺวา. อิมาย คาถาย โลกุตฺตรสมฺมาทิฏฺิสมฺปนฺโน เอว โถมิโต.
วิปนฺนทิฏฺิโย สมฺปนฺนทิฏฺิโยติ ปุคฺคลโวหารํ ปหาย ธมฺมเมว ครหนฺโต โถเมนฺโต จ อาห. เอตํ มมาติ ตณฺหามฺนวเสน ทิฏฺิ. เอโสหมสฺมีติ มานมฺนมูลิกา ¶ ทิฏฺิ. เอโส เม อตฺตาติ ทิฏฺิมฺนเมว.
เอตํ ¶ มมาติ กา ทิฏฺีติอาทีหิ ติสฺสนฺนํ วิปนฺนทิฏฺีนํ วิภาคฺจ คณนฺจ กาลสงฺคหฺจ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ กตํ. ตตฺถ กา ทิฏฺีติ อเนกาสุ ทิฏฺีสุ กตมา ทิฏฺีติ อตฺโถ. กตมนฺตานุคฺคหิตาติ ปุพฺพนฺตาปรนฺตสงฺขาตกาลทฺวเย กตเมน กาเลน อนุคฺคหิตา, อนุพทฺธาติ อตฺโถ. ยสฺมา ‘‘เอตํ มมา’’ติ ปรามสนฺโต ‘‘เอตํ มม อโหสิ, เอวํ มม อโหสิ, เอตฺตกํ มม อโหสี’’ติ อตีตํ วตฺถุํ อปทิสิตฺวา ปรามสติ, ตสฺมา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิ โหติ. ปุพฺพนฺตานุคฺคหิตา จ ตา ทิฏฺิโย โหนฺติ. ยสฺมา ‘‘เอโสหมสฺมี’’ติ ปรามสนฺโต ‘‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เอโสสฺมิ วิสุชฺฌิสฺสามี’’ติ อนาคตผลํ อุปาทาย ปรามสติ, ตสฺมา อปรนฺตานุทิฏฺิ โหติ. อปรนฺตานุคฺคหิตา จ ตา ทิฏฺิโย โหนฺติ. ยสฺมา ‘‘เอโส เม อตฺตา’’ติ ปรามสนฺโต อตีตานาคตํ อุปาทินฺนสนฺตตึ อุปาทาย ‘‘เอโส เม อตฺตา’’ติ ปรามสติ, สกฺกายทิฏฺิวเสน จ ปรามสติ, ตสฺมา สกฺกายทิฏฺิ โหติ. ปุพฺพนฺตาปรนฺตานุคฺคหิตา จ ตา ทิฏฺิโย โหนฺติ. ยสฺมา ปน สกฺกายทิฏฺิปฺปมุขาเยว ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย โหนฺติ, สกฺกายทิฏฺิสมุคฺฆาเตเนว จ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย สมุคฺฆาตํ คจฺฉนฺติ, ตสฺมา สกฺกายทิฏฺิปฺปมุเขน ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานีติ วุตฺตา, สกฺกายทิฏฺิปฺปมุเขน สกฺกายทิฏฺิทฺวาเรน ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ โหนฺตีติ อตฺโถ. สกฺกายทิฏฺิปฺปมุขานีติ ปาโ สุนฺทรตโร. สกฺกายทิฏฺิ ปมุขา อาทิ เอเตสนฺติ สกฺกายทิฏฺิปฺปมุขานิ. กานิ ตานิ? ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ.
‘‘กา ทิฏฺี’’ติ ปุจฺฉาย วีสติวตฺถุกา อตฺตานุทิฏฺิ, วีสติวตฺถุกา สกฺกายทิฏฺีติ วิสฺสชฺชนํ. ‘‘กติ ทิฏฺิโย’’ติ ปุจฺฉาย ¶ สกฺกายทิฏฺิปฺปมุขานิ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานีติ วิสฺสชฺชนํ. สาเยว ปน สกฺกายทิฏฺิ ‘‘เอโส เม อตฺตา’’ติ ¶ วจนสามฺเน อตฺตานุทิฏฺีติ วุตฺตา. ตสฺสา วุตฺตาย อตฺตวาทปฏิสฺุตฺตา ทิฏฺิปิ วุตฺตาเยว โหติ.
๑๕๑. เย เกจิ, ภิกฺขเวติอาทิสุตฺตาหรณํ สมฺปนฺนทิฏฺิปุคฺคลสมฺพนฺเธน สมฺปนฺนทิฏฺิปุคฺคลวิภาคทสฺสนตฺถํ กตํ. ตตฺถ นิฏฺํ คตาติ มคฺคาณวเสน สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควาติ นิจฺฉยํ คตา, นิพฺเพมติกาติ อตฺโถ. นิฏฺาคตาติ ปาโ สมาสปทํ โหติ, อตฺโถ ปน โสเยว. ทิฏฺิสมฺปนฺนาติ ทิฏฺิยา สุนฺทรภาวํ คตา. อิธ นิฏฺาติ อิมิสฺสา กามธาตุยา ปรินิพฺพานํ. อิธ วิหาย นิฏฺาติ อิมํ กามภวํ วิชหิตฺวา สุทฺธาวาสพฺรหฺมโลเก ปรินิพฺพานํ. สตฺตกฺขตฺตุปรมสฺสาติ สตฺตกฺขตฺตุํปรมา สตฺตวารปรมา ภวูปปตฺติ อตฺตภาวคฺคหณํ อสฺส, ตโต ปรํ อฏฺมํ ภวํ นาทิยตีติ สตฺตกฺขตฺตุปรโม. ตสฺส สตฺตกฺขตฺตุปรมสฺส โสตาปนฺนสฺส. โกลํโกลสฺสาติ กุลโต กุลํ คจฺฉตีติ โกลํโกโล. โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยโต หิ ปฏฺาย นีเจ ¶ กุเล อุปปตฺติ นาม นตฺถิ, มหาโภคกุเลสุเยว นิพฺพตฺตตีติ อตฺโถ. ตสฺส โกลํโกลสฺส โสตาปนฺนสฺส. เอกพีชิสฺสาติ ขนฺธพีชํ นาม กถิตํ. ยสฺส หิ โสตาปนฺนสฺส เอกํเยว ขนฺธพีชํ อตฺถิ, เอกํ อตฺตภาวคฺคหณํ, โส เอกพีชี นาม. ตสฺส เอกพีชิสฺส โสตาปนฺนสฺส. ภควตา คหิตนามวเสเนเวตานิ เอเตสํ นามานิ. เอตฺตกฺหิ านํ คโต สตฺตกฺขตฺตุปรโม นาม โหติ, เอตฺตกํ โกลํโกโล, เอตฺตกํ เอกพีชีติ ภควตา เอเตสํ นามํ คหิตํ. ภควา หิ ‘‘อยํ เอตฺตกํ านํ คมิสฺสติ, อยํ เอตฺตกํ านํ คมิสฺสตี’’ติ ตฺวา เตสํ ตานิ ตานิ นามานิ อคฺคเหสิ. มุทุปฺโ หิ โสตาปนฺโน สตฺต ภเว นิพฺพตฺเตนฺโต สตฺตกฺขตฺตุปรโม นาม, มชฺฌิมปฺโ ปรํ ฉฏฺํ ภวํ นิพฺพตฺเตนฺโต โกลํโกโล นาม ¶ , ติกฺขปฺโ เอกํ ภวํ นิพฺพตฺเตนฺโต เอกพีชี นาม. ตํ ปเนตํ เตสํ มุทุมชฺฌิมติกฺขปฺตํ ปุพฺพเหตุ นิยเมติ. อิเม ตโยปิ โสตาปนฺนา กามภววเสน วุตฺตา, รูปารูปภเว ปน พหุกาปิ ปฏิสนฺธิโย คณฺหนฺติ. สกทาคามิสฺสาติ ปฏิสนฺธิวเสน สกึ กามภวํ อาคจฺฉตีติ สกทาคามี. ตสฺส สกทาคามิสฺส. ทิฏฺเว ธมฺเม อรหาติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว อรหา. อรหนฺติปิ ปาโ. อิธ นิฏฺาติ กามภวํ ¶ สํสรนฺเตเยว สนฺธาย วุตฺตํ. รูปารูปภเว อุปฺปนฺนา ปน อริยา กามภเว น อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺเถว ปรินิพฺพายนฺติ.
อนฺตราปรินิพฺพายิสฺสาติ อายุเวมชฺฌสฺส อนฺตราเยว กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายนโต อนฺตราปรินิพฺพายี. โส ปน อุปฺปนฺนสมนนฺตรา ปรินิพฺพายี, อายุเวมชฺฌํ อปฺปตฺวา ปรินิพฺพายี, อายุเวมชฺฌํ ปตฺวา ปรินิพฺพายีติ ติวิโธ โหติ. ตสฺส อนฺตราปรินิพฺพายิสฺส อนาคามิโน. อุปหจฺจปรินิพฺพายิสฺสาติ อายุเวมชฺฌํ อติกฺกมิตฺวา วา กาลกิริยํ อุปคนฺตฺวา วา กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายนฺตสฺส อนาคามิโน. อสงฺขารปรินิพฺพายิสฺสาติ อสงฺขาเรน อปฺปโยเคน อธิมตฺตปฺปโยคํ อกตฺวาว กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายนธมฺมสฺส อนาคามิโน. สสงฺขารปรินิพฺพายิสฺสาติ สสงฺขาเรน ทุกฺเขน กสิเรน อธิมตฺตปฺปโยคํ กตฺวาว กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายนธมฺมสฺส อนาคามิโน. อุทฺธํโสตสฺส อกนิฏฺคามิโนติ อุทฺธํวาหิภาเวน อุทฺธมสฺส ตณฺหาโสตํ วฏฺฏโสตํ วาติ อุทฺธํโสโต, อุทฺธํ วา คนฺตฺวา ปฏิลภิตพฺพโต อุทฺธมสฺส มคฺคโสตนฺติ อุทฺธํโสโต, อกนิฏฺํ คจฺฉตีติ อกนิฏฺคามี. ตสฺส อุทฺธํโสตสฺส อกนิฏฺคามิโน อนาคามิสฺส. อยํ ปน อนาคามี จตุปฺปเภโท – โย อวิหโต ปฏฺาย จตฺตาโร พฺรหฺมโลเก โสเธตฺวา อกนิฏฺํ คนฺตฺวา ปรินิพฺพายติ, อยํ อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี นาม. โย เหฏฺา ตโย พฺรหฺมโลเก โสเธตฺวา สุทสฺสีพฺรหฺมโลเก ตฺวา ปรินิพฺพายติ, อยํ อุทฺธํโสโต น อกนิฏฺคามี นาม. โย อิโต อกนิฏฺเมว คนฺตฺวา ปรินิพฺพายติ, อยํ น อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี นาม. โย เหฏฺา จตูสุ ¶ พฺรหฺมโลเกสุ ตตฺถ ¶ ตตฺเถว ปรินิพฺพายติ, อยํ น อุทฺธํโสโต น อกนิฏฺคามี นามาติ. อิเม ปฺจ อนาคามิโน สุทฺธาวาสํ คเหตฺวา วุตฺตา. อนาคามิโน ปน รูปราคารูปราคานํ อปฺปหีนตฺตา อากงฺขมานา เสสรูปารูปภเวสุปิ นิพฺพตฺตนฺติ. สุทฺธาวาเส นิพฺพตฺตา ปน อฺตฺถ น นิพฺพตฺตนฺติ. อเวจฺจปฺปสนฺนาติ อริยมคฺควเสน ชานิตฺวา พุชฺฌิตฺวา อจลปฺปสาเทน ปสนฺนา. โสตาปนฺนาติ อริยมคฺคโสตํ อาปนฺนา. อิมินา สพฺเพปิ อริยผลฏฺา ปุคฺคลา คหิตาติ.
ภววิภวทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฏิสมฺภิทามคฺคฏฺกถาย
ทิฏฺิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อานาปานสฺสติกถา
๑. คณนวารวณฺณนา
๑๕๒. อิทานิ ¶ ¶ ¶ ทิฏฺิกถานนฺตรํ กถิตาย อานาปานสฺสติกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา อนุปฺปตฺตา. อยฺหิ อานาปานสฺสติกถา ทิฏฺิกถาย สุวิทิตทิฏฺาทีนวสฺส มิจฺฉาทิฏฺิมลวิโสธเนน สุวิสุทฺธจิตฺตสฺส ยถาภูตาวโพธาย สมาธิภาวนา สุกรา โหติ, สพฺพสมาธิภาวนาสุ จ สพฺพสพฺพฺุโพธิสตฺตานํ โพธิมูเล อิมินาว สมาธินา สมาหิตจิตฺตานํ ยถาภูตาวโพธโต อยเมว สมาธิภาวนา ปธานาติ จ ทิฏฺิกถานนฺตรํ กถิตา. ตตฺถ โสฬสวตฺถุกํ อานาปานสฺสติสมาธึ ภาวยโต สมธิกานิ ทฺเว าณสตานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ าณคณนุทฺเทโส, อฏฺ ปริปนฺเถ าณานีติอาทิ าณคณนนิทฺเทโส, กตมานิ อฏฺ ปริปนฺเถ าณานีติอาทิ. อิมานิ เอกวีสติ วิมุตฺติสุเข าณานีติปริยนฺตํ สพฺพาณานํ วิตฺถารนิทฺเทโส, อนฺเต โสฬสวตฺถุกํ อานาปานสฺสติสมาธึ ภาวยโตติอาทิ นิคมนนฺติ เอวํ ตาว ปาฬิววตฺถานํ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ คณนุทฺเทเส คณนวาเร ตาว โสฬสวตฺถุกนฺติ ทีฆํ รสฺสํ สพฺพกายปฏิสํเวที ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารนฺติ กายานุปสฺสนาจตุกฺกํ, ปีติปฏิสํเวที สุขปฏิสํเวที จิตฺตสงฺขารปฏิสํเวที ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารนฺติ เวทนานุปสฺสนาจตุกฺกํ, จิตฺตปฏิสํเวที อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ สมาทหํ จิตฺตํ วิโมจยํ จิตฺตนฺติ จิตฺตานุปสฺสนาจตุกฺกํ, อนิจฺจานุปสฺสี วิราคานุปสฺสี นิโรธานุปสฺสี ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสีติ ธมฺมานุปสฺสนาจตุกฺกนฺติ อิเมสํ จตุนฺนํ จตุกฺกานํ วเสน โสฬส วตฺถูนิ ปติฏฺา อารมฺมณานิ อสฺสาติ โสฬสวตฺถุโก. ตํ โสฬสวตฺถุกํ. สมาสวเสน ปเนตฺถ วิภตฺติโลโป กโต. อานนฺติ อพฺภนฺตรํ ปวิสนวาโต. อปานนฺติ พหินิกฺขมนวาโต. เกจิ ปน วิปริยาเยน วทนฺติ. อปานฺหิ ¶ อเปตํ อานโตติ อปานนฺติ วุจฺจติ, นิทฺเทเส (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๐) ปน นา-การสฺส ทีฆตฺตมชฺฌุเปกฺขิตฺวา อาปานนฺติ. ตสฺมึ อานาปาเน สติ อานาปานสฺสติ, อสฺสาสปสฺสาสปริคฺคาหิกาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. อานาปานสฺสติยา ยุตฺโต ¶ สมาธิ, อานาปานสฺสติยํ วา ¶ สมาธิ อานาปานสฺสติสมาธิ. ภาวยโตติ นิพฺเพธภาคิยํ ภาเวนฺตสฺส. สมธิกานีติ สห อธิเกน วตฺตนฺตีติ สมธิกานิ, สาติเรกานีติ อตฺโถ. ม-กาโร ปเนตฺถ ปทสนฺธิกโร. เกจิ ปน ‘‘สํอธิกานี’’ติ วทนฺติ. เอวํ สติ ทฺเว าณสตานิเยว อธิกานีติ อาปชฺชติ, ตํ น ยุชฺชติ. อิมานิ หิ วีสติอธิกานิ ทฺเว าณสตานิ โหนฺตีติ.
ปริปนฺเถ าณานีติ ปริปนฺถํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตาณานิ. ตถา อุปกาเร อุปกฺกิเลเส าณานิ. โวทาเน าณานีติ โวทายติ, เตน จิตฺตํ ปริสุทฺธํ โหตีติ โวทานํ. กึ ตํ? าณํ. ‘‘โวทานาณานี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุตมเย าณ’’นฺติอาทีสุ (ปฏิ. ม. มาติกา ๑.๑; ปฏิ. ม. ๑.๑) วิย ‘‘โวทาเน าณานี’’ติ วุตฺตํ. สโต สมฺปชาโน หุตฺวา กโรตีติ สโตการี, ตสฺส สโตการิสฺส าณานิ. นิพฺพิทาาณานีติ นิพฺพิทาภูตานิ าณานิ. นิพฺพิทานุโลมาณานีติ นิพฺพิทาย อนุกูลานิ าณานิ. นิพฺพิทานุโลมิาณานีติปิ ปาโ, นิพฺพิทานุโลโม เอเตสํ อตฺถีติ นิพฺพิทานุโลมีติ อตฺโถ. นิพฺพิทาปฏิปฺปสฺสทฺธิาณานีติ นิพฺพิทาย ปฏิปฺปสฺสทฺธิยํ าณานิ. วิมุตฺติสุเข าณานีติ วิมุตฺติสุเขน สมฺปยุตฺตานิ าณานิ.
กตมานิ อฏฺาติอาทีหิ ปริปนฺถอุปการานํ ปฏิปกฺขวิปกฺขยุคลตฺตา เตสุ าณานิ สเหว นิทฺทิฏฺานิ. กามจฺฉนฺทเนกฺขมฺมาทีนิ เหฏฺา วุตฺตตฺถานิ. อุปการนฺติ จ ลิงฺควิปลฺลาสวเสน นปุํสกวจนํ กตํ. สพฺเพปิ อกุสลา ธมฺมาติ วุตฺตาวเสสา เย เกจิ อกุสลา ธมฺมา. ตถา ¶ สพฺเพปิ นิพฺเพธภาคิยา กุสลา ธมฺมา. ‘‘ปริปนฺโถ อุปการ’’นฺติ จ ตํ ตเทว อเปกฺขิตฺวา เอกวจนํ กตํ. เอตฺถ จ ปริปนฺเถ าณานิ จ อุปกาเร าณานิ จ ปุจฺฉิตฺวา เตสํ อารมฺมณาเนว วิสฺสชฺชิตฺวา เตเหว ตานิ วิสฺสชฺชิตานิ โหนฺตีติ ตทารมฺมณานิ าณานิ นิคเมตฺวา ทสฺเสสิ. อุปกฺกิเลเส าณาทีสุปิ เอเสว นโย.
คณนวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. โสฬสาณนิทฺเทสวณฺณนา
๑๕๓. โสฬสหิ ¶ อากาเรหีติ อุภยปกฺขวเสน วุตฺเตหิ โสฬสหิ าณโกฏฺาเสหิ. อุทุจิตํ จิตฺตํ สมุทุจิตนฺติ อุปจารภูมิยํ จิตฺตํ อุทฺธํ อุจิตํ, สมฺมา อุทฺธํ อุจิตํ, อุปรูปริ กตปริจยํ สมฺมา อุปรูปริ กตปริจยนฺติ อตฺโถ. อุทุชิตํ จิตฺตํ สมุทุชิตนฺติปิ ปาโ. อุปริภาวาย ¶ ชิตํ, อุปริภาวกเรหิ วา าเณหิ ชิตํ อุทุชิตํ. สมุทุชิตนฺติ สมา อุปริภาวาย, อุปริภาวกเรหิ วา าเณหิ ชิตํ. สมาติ เจตฺถ วิสมภาวปฏิกฺเขโป. อิมสฺมึ ปาเ อุ, ทุ-อิติ ทฺเว ทฺเว อุปสคฺคา โหนฺติ. อุรูชิตํ จิตฺตํ สมฺมารูชิตนฺติปิ ปาโ. เอตฺถาปิ ชิตตฺโถเยว. อุรู อรูติ อิทํ ปน นิปาตมตฺตเมวาติ วทนฺติ. วีโณปมฏฺกถาย ตชฺชิตํ สุตชฺชิตนฺติ จ อตฺโถ วุตฺโต, โส อิธ น ยุชฺชติ. เอกตฺเต สนฺติฏฺตีติ อุปจารภูมิยํ ตาว นานารมฺมณวิกฺเขปาภาเวน เอกตฺเต ปติฏฺาติ. นิยฺยานาวรณฏฺเน นีวรณาติ เอตฺถ อรติปิ สพฺเพปิ อกุสลา อาวรณฏฺเน นีวรณาติ วุตฺตา. นิยฺยานาวรณฏฺเนาติ นิยฺยานานํ อาคมนมคฺคปิทหนฏฺเน. นิยฺยานวารณฏฺเนาติปิ ปาโ, นิยฺยานานํ ปฏิกฺเขปนฏฺเนาติ อตฺโถ. เนกฺขมฺมํ อริยานํ นิยฺยานนฺติ มคฺคฏฺานํ อริยานํ นิยฺยานสงฺขาตสฺส อริยมคฺคสฺส เหตุตฺตา ผลูปจาเรน อริยานํ นิยฺยานํ. เตน จ เหตุภูเตน มคฺคกฺขเณ อริยา นิยฺยนฺติ นิคจฺฉนฺติ. เกจิ ปน ‘‘นิยฺยานนฺติ มคฺโค’’ติ วทนฺติ. อิธ อุปจารสฺส อธิปฺเปตตฺตา มคฺคกฺขเณ จ อาโลกสฺาย สพฺพกุสลธมฺมานฺจ ¶ อภาวา ตํ น ยุชฺชติ. นิวุตตฺตาติ ปฏิจฺฉนฺนตฺตา. นปฺปชานาตีติ ปุคฺคลวเสน วุตฺตํ.
วิสุทฺธจิตฺตสฺสาติ อุปจารภูมิยํเยว. ขณิกสโมธานาติ จิตฺตกฺขเณ จิตฺตกฺขเณ อุปฺปชฺชนโต ขโณ เอเตสํ อตฺถีติ ขณิกา, อุปกฺกิเลสา, ขณิกานํ สโมธาโน สมาคโม ปพนฺโธ ขณิกสโมธาโน. ตสฺมา ขณิกสโมธานา, อุปฺปชฺชมานา อุปกฺกิเลสา ขณิกปฺปพนฺธวเสน ขณิกปรมฺปราวเสน อุปฺปชฺชนฺติ, น เอกจิตฺตกฺขณวเสนาติ วุตฺตํ โหติ.
โสฬสาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อุปกฺกิเลสาณนิทฺเทสวณฺณนา
ปมจฺฉกฺกํ
๑๕๔. ปมจฺฉกฺเก ¶ อสฺสาสาทิมชฺฌปริโยสานนฺติ อพฺภนฺตรปวิสนวาตสฺส นาสิกคฺคํ วา มุขนิมิตฺตํ วา อาทิ, หทยํ มชฺฌํ, นาภิ ปริโยสานํ. ตํ ตสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ สติยา อนุคจฺฉโต โยคิสฺส านนานตฺตานุคมเนน จิตฺตํ อชฺฌตฺตํ วิกฺเขปํ คจฺฉติ, ตํ อชฺฌตฺตวิกฺเขปคตํ จิตฺตํ เอกตฺเต อสณฺหนโต สมาธิสฺส ปริปนฺโถ. ปสฺสาสาทิมชฺฌปริโยสานนฺติ ¶ พหินิกฺขมนวาตสฺส นาภิ อาทิ, หทยํ มชฺฌํ, นาสิกคฺคํ วา มุขนิมิตฺตํ วา พหิอากาโส วา ปริโยสานํ. โยชนา ปเนตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. อสฺสาสปฏิกงฺขนา นิกนฺติตณฺหาจริยาติ ‘‘นาสิกาวาตายตฺตมิทํ กมฺมฏฺาน’’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา โอฬาริโกฬาริกสฺส อสฺสาสสฺส ปตฺถนาสงฺขาตา นิกามนา เอว ตณฺหาปวตฺติ. ตณฺหาปวตฺติยา สติ เอกตฺเต อสณฺหนโต สมาธิสฺส ปริปนฺโถ. ปสฺสาสปฏิกงฺขนา นิกนฺตีติ ปุน อสฺสาสปุพฺพกสฺส ปสฺสาสสฺส ปตฺถนาสงฺขาตา นิกนฺติ. เสสํ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. อสฺสาเสนาภิตุนฺนสฺสาติ อติทีฆํ อติรสฺสํ วา อสฺสาสํ กโรนฺตสฺส อสฺสาสมูลกสฺส กายจิตฺตกิลมถสฺส สพฺภาวโต เตน อสฺสาเสน วิทฺธสฺส ปีฬิตสฺส. ปสฺสาสปฏิลาเภ มุจฺฉนาติ อสฺสาเสน ปีฬิตตฺตาเยว ปสฺสาเส อสฺสาทสฺิโน ปสฺสาสํ ปตฺถยโต ตสฺมึ ปสฺสาสปฏิลาเภ รชฺชนา. ปสฺสาสมูลเกปิ เอเสว นโย.
วุตฺตสฺเสว ¶ อตฺถสฺส อนุวณฺณนตฺถํ วุตฺเตสุ คาถาพนฺเธสุ อนุคจฺฉนาติ อนุคจฺฉมานา. สตีติ อชฺฌตฺตพหิทฺธาวิกฺเขปเหตุภูตา สติ. วิกฺขิปติ อเนน จิตฺตนฺติ วิกฺเขโป. โก โส? อสฺสาโส. อชฺฌตฺตํ วิกฺเขโป อชฺฌตฺตวิกฺเขโป, ตสฺส อากงฺขนา อชฺฌตฺตวิกฺเขปากงฺขนา, อสมฺมามนสิการวเสน อชฺฌตฺตวิกฺเขปกสฺส อสฺสาสสฺส อากงฺขนาติ วุตฺตํ โหติ. เอเตเนว นเยน พหิทฺธาวิกฺเขปปตฺถนา เวทิตพฺพา. เยหีติ เยหิ อุปกฺกิเลเสหิ. วิกฺขิปฺปมานสฺสาติ วิกฺขิปิยมานสฺส วิกฺเขปํ อาปาทิยมานสฺส. โน จ จิตฺตํ วิมุจฺจตีติ จิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสารมฺมเณ จ นาธิมุจฺจติ, ปจฺจนีกธมฺเมหิ จ น วิมุจฺจติ. จิตฺตํ โน จ วิมุจฺจติ ปรปตฺติยา จ โหนฺตีติ สมฺพนฺโธ. วิโมกฺขํ อปฺปชานนฺตาติ โส วา อฺโ วา อารมฺมณาธิมุตฺติวิโมกฺขฺจ ¶ ปจฺจนีกวิมุตฺติวิโมกฺขฺจ เอวํ อปฺปชานนฺตา. ปรปตฺติยาติ ปรปจฺจยํ ปรสทฺทหนํ อรหนฺติ, น อตฺตปจฺจกฺขํ าณนฺติ ‘‘ปรปจฺจยิกา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ปรปตฺติยา’’ติ วุตฺตํ. อตฺโถ ปน โสเยว.
ทุติยจฺฉกฺกํ
๑๕๕. ทุติยจฺฉกฺเก นิมิตฺตนฺติ อสฺสาสปสฺสาสานํ ผุสนฏฺานํ. อสฺสาสปสฺสาสา หิ ทีฆนาสิกสฺส นาสาปุฏํ ฆฏฺเฏนฺตา ปวตฺตนฺติ, รสฺสนาสิกสฺส อุตฺตโรฏฺํ. ยทิ หิ อยํ โยคี ตํ นิมิตฺตเมว อาวชฺชติ, ตสฺส นิมิตฺตเมว อาวชฺชมานสฺส อสฺสาเส จิตฺตํ วิกมฺปติ, น ปติฏฺาตีติ อตฺโถ. ตสฺส ตสฺมึ จิตฺเต อปฺปติฏฺิเต สมาธิสฺส อภาวโต ตํ วิกมฺปนํ สมาธิสฺส ¶ ปริปนฺโถ. ยทิ อสฺสาสเมว อาวชฺชติ, ตสฺส จิตฺตํ อพฺภนฺตรปเวสนวเสน วิกฺเขปํ อาวหติ, นิมิตฺเต น ปติฏฺาติ, ตสฺมา นิมิตฺเต วิกมฺปติ. อิมินา นเยน เสเสสุปิ โยชนา กาตพฺพา. คาถาสุ วิกฺขิปฺปเตติ วิกฺขิปียติ วิกฺเขปํ อาปาทียติ.
ตติยจฺฉกฺกํ
๑๕๖. ตติยจฺฉกฺเก ¶ อตีตานุธาวนํ จิตฺตนฺติ ผุสนฏฺานํ อติกฺกมิตฺวา คตํ อสฺสาสํ วา ปสฺสาสํ วา อนุคจฺฉมานํ จิตฺตํ. วิกฺเขปานุปติตนฺติ วิกฺเขเปน อนุคตํ, วิกฺเขปํ วา สยํ อนุปติตํ อนุคตํ. อนาคตปฏิกงฺขนํ จิตฺตนฺติ ผุสนฏฺานํ อปฺปตฺตํ อสฺสาสํ วา ปสฺสาสํ วา ปฏิกงฺขมานํ ปจฺจาสีสมานํ จิตฺตํ. วิกมฺปิตนฺติ ตสฺมึ อปฺปติฏฺาเนเนว วิกฺเขเปน วิกมฺปิตํ. ลีนนฺติ อติสิถิลวีริยตาทีหิ สงฺกุจิตํ. โกสชฺชานุปติตนฺติ กุสีตภาวานุคตํ. อติปคฺคหิตนฺติ อจฺจารทฺธวีริยตาทีหิ อติอุสฺสาหิตํ. อุทฺธจฺจานุปติตนฺติ วิกฺเขปานุคตํ. อภินตนฺติ อสฺสาทวตฺถูสุ ภุสํ นตํ อลฺลีนํ. อปนตนฺติ นิรสฺสาทวตฺถูสุ ปติหตํ, ตโต อปคตํ วา, อปคตนตํ วา, น ตโต อปคตนฺติ อตฺโถ. ราคานุปติตนฺติ เอตฺถ อสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตํ มนสิกโรโต อุปฺปนฺนปีติสุเข วา ปุพฺเพ หสิตลปิตกีฬิตวตฺถูสุ วา ราโค อนุปตติ. พฺยาปาทานุปติตนฺติ เอตฺถ มนสิกาเร นิรสฺสาทคตจิตฺตสฺส อุปฺปนฺนโทมนสฺสวเสน วา ปุพฺเพ สมุทาจิณฺเณสุ อาฆาตวตฺถูสุ วา พฺยาปาโท อนุปตติ. คาถาสุ น สมาธิยตีติ น สมาหิตํ โหติ. อธิจิตฺตนฺติ จิตฺตสีเสน นิทฺทิฏฺโ อธิโก สมาธิ.
๑๕๗. เอตฺตาวตา ¶ ตีหิ ฉกฺเกหิ อฏฺารส อุปกฺกิเลเส นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ เตสํ อุปกฺกิเลสานํ สมาธิสฺส ปริปนฺถภาวสาธเนน อาทีนวํ ทสฺเสนฺโต ปุน อสฺสาสาทิมชฺฌปริโยสานนฺติอาทิมาห. ตตฺถ กาโยปิ จิตฺตมฺปิ สารทฺธา จ โหนฺตีติ วิกฺเขปสมุฏฺานรูปานํ วเสน รูปกาโยปิ, วิกฺเขปสนฺตติวเสน จิตฺตมฺปิ มหตา โขเภน ขุภิตา สทรถา จ โหนฺติ. ตโต มนฺทตเรน อิฺชิตา กมฺปิตา, ตโต มนฺทตเรน ผนฺทิตา จลิตา โหนฺติ. พลวาปิ มชฺฌิโมปิ มนฺโทปิ โขโภ โหติเยว, น สกฺกา โขเภน น ภวิตุนฺติ วุตฺตํ โหติ. จิตฺตํ วิกมฺปิตตฺตาติ จิตฺตสฺส วิกมฺปิตตฺตา. คาถาสุ ¶ ปริปุณฺณา อภาวิตาติ ยถา ปริปุณฺณา โหติ, ตถา อภาวิตา. อิฺชิโตติ กมฺปิโต. ผนฺทิโตติ มนฺทกมฺปิโต. เหฏฺา นีวรณานํ อนนฺตรตฺตา ‘‘อิเมหิ จ ปน นีวรเณหี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๓) อจฺจนฺตสมีปนิทสฺสนวจนํ ¶ กตํ. อิธ ปน นิคมเน นีวรณานํ สนฺตรตฺตา เตหิ จ ปน นีวรเณหีติ ปรมฺมุขนิทสฺสนวจนํ กตํ.
อุปกฺกิเลสาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. โวทานาณนิทฺเทสวณฺณนา
๑๕๘. โวทาเน าณานีติ วิสุทฺธาณานิ. ตํ วิวชฺชยิตฺวาติ ยํ ปุพฺเพ วุตฺตํ อตีตานุธาวนํ จิตฺตํ วิกฺเขปานุปติตํ, ตํ วิวชฺชยิตฺวาติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. เอกฏฺาเน สมาทหตีติ อสฺสาสปสฺสาสานํ ผุสนฏฺาเน สมํ อาทหติ ปติฏฺาเปติ. ตตฺเถว อธิโมเจตีติ เอกฏฺาเนติ วุตฺเต อสฺสาสปสฺสาสานํ ผุสนฏฺาเนเยว สนฺนิฏฺเปติ สนฺนิฏฺานํ กโรติ. ปคฺคณฺหิตฺวาติ ธมฺมวิจยปีติสมฺโพชฺฌงฺคภาวนาย ปคฺคเหตฺวา. วินิคฺคณฺหิตฺวาติ ปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคภาวนาย วินิคฺคณฺหิตฺวา. ‘‘สตินฺทฺริยวีริยินฺทฺริเยหิ ปคฺคเหตฺวา, สตินฺทฺริยสมาธินฺทฺริเยหิ วินิคฺคเหตฺวา’’ติปิ วทนฺติ. สมฺปชาโน หุตฺวาติ อสุภภาวนาทีหิ. ปุน สมฺปชาโน หุตฺวาติ เมตฺตาภาวนาทีหิ. เยน ราเคน อนุปติตํ, เยน พฺยาปาเทน อนุปติตํ, ตํ ปชหตีติ สมฺพนฺโธ. ตํ จิตฺตํ อีทิสนฺติ สมฺปชานนฺโต ตปฺปฏิปกฺเขน ราคํ ¶ ปชหติ, พฺยาปาทํ ปชหตีติ วา อตฺโถ. ปริสุทฺธนฺติ นิรุปกฺกิเลสํ. ปริโยทาตนฺติ ปภสฺสรํ. เอกตฺตคตํ โหตีติ ตํ ตํ วิเสสํ ปตฺตสฺส ตํ ตํ เอกตฺตํ คตํ โหติ.
กตเม เต เอกตฺตาติ อิธ ยุชฺชมานายุชฺชมาเนปิ เอกตฺเต เอกโต กตฺวา ปุจฺฉติ. ทานูปสคฺคุปฏฺาเนกตฺตนฺติ ทานวตฺถุสงฺขาตสฺส ทานสฺส อุปสคฺโค โวสชฺชนํ ทานูปสคฺโค, ทานวตฺถุปริจฺจาคเจตนา. ตสฺส อุปฏฺานํ อารมฺมณกรณวเสน อุปคนฺตฺวา านํ ทานูปสคฺคุปฏฺานํ, ตเทว เอกตฺตํ, เตน วา เอกตฺตํ เอกคฺคภาโว ทานูปสคฺคุปฏฺาเนกตฺตํ. ทานโวสคฺคุปฏฺาเนกตฺตนฺติ ปาโ ¶ สุนฺทรตโร, โส เอวตฺโถ. เอเตน ปทุทฺธารวเสน จาคานุสฺสติสมาธิ วุตฺโต. ปทุทฺธารวเสน วุตฺโตปิ เจส อิตเรสํ ติณฺณมฺปิ เอกตฺตานํ อุปนิสฺสยปจฺจโย โหติ, ตสฺมา อิธ นิทฺทิฏฺนฺติ วทนฺติ. วิสาขาปิ หิ มหาอุปาสิกา อาห – ‘‘อิธ, ภนฺเต, ทิสาสุ วสฺสํวุฏฺา ภิกฺขู สาวตฺถึ อาคจฺฉิสฺสนฺติ ภควนฺตํ ทสฺสนาย, เต ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิสฺสนฺติ ‘อิตฺถนฺนาโม, ภนฺเต, ภิกฺขุ กาลงฺกโต, ตสฺส กา คติ, โก อภิสมฺปราโย’ติ? ตํ ภควา พฺยากริสฺสติ โสตาปตฺติผเล วา สกทาคามิผเล วา ¶ อนาคามิผเล วา อรหตฺเต วา. ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิสฺสามิ ‘อาคตปุพฺพา นุ โข, ภนฺเต, เตน อยฺเยน สาวตฺถี’ติ? สเจ เม วกฺขนฺติ ‘อาคตปุพฺพา เตน ภิกฺขุนา สาวตฺถี’ติ. นิฏฺเมตฺถ คจฺฉิสฺสามิ นิสฺสํสยํ ปริภุตฺตํ เตน อยฺเยน วสฺสิกสาฏิกา วา อาคนฺตุกภตฺตํ วา คมิกภตฺตํ วา คิลานภตฺตํ วา คิลานุปฏฺากภตฺตํ วา คิลานเภสชฺชํ วา ธุวยาคุ วาติ. ตสฺสา เม ตทนุสฺสรนฺติยา ปาโมชฺชํ ชายิสฺสติ, ปมุทิตาย ปีติ ชายิสฺสติ, ปีติมนาย กาโย ปสฺสมฺภิสฺสติ, ปสฺสทฺธกายา สุขํ เวทยิสฺสามิ, สุขินิยา จิตฺตํ สมาธิยิสฺสติ, สา เม ภวิสฺสติ อินฺทฺริยภาวนา พลภาวนา โพชฺฌงฺคภาวนา’’ติ (มหาว. ๓๕๑). อถ วา เอกตฺเตสุ ปมํ อุปจารสมาธิวเสน วุตฺตํ, ทุติยํ อปฺปนาสมาธิวเสน, ตติยํ วิปสฺสนาวเสน, จตุตฺถํ มคฺคผลวเสนาติ เวทิตพฺพํ. สมถสฺส นิมิตฺตํ สมถนิมิตฺตํ. วโย ภงฺโค เอว ลกฺขณํ วยลกฺขณํ. นิโรโธ นิพฺพานํ. เสสเมเตสุ ตีสุ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ.
จาคาธิมุตฺตานนฺติ ¶ ทาเน อธิมุตฺตานํ. อธิจิตฺตนฺติ วิปสฺสนาปาทกสมาธิ. วิปสฺสกานนฺติ ภงฺคานุปสฺสนโต ปฏฺาย ตีหิ อนุปสฺสนาหิ สงฺขาเร วิปสฺสนฺตานํ. อริยปุคฺคลานนฺติ อฏฺนฺนํ. ทุติยาทีนิ ตีณิ เอกตฺตานิ อานาปานสฺสติวเสน เสสกมฺมฏฺานวเสน จ ยุชฺชนฺติ. จตูหิ าเนหีติ จตูหิ การเณหิ. สมาธิวิปสฺสนามคฺคผลานํ วเสน ‘‘เอกตฺตคตํ ¶ จิตฺตํ ปฏิปทาวิสุทฺธิปกฺขนฺทฺเจว โหติ อุเปกฺขานุพฺรูหิตฺจ าเณน จ สมฺปหํสิต’’นฺติ อุทฺเทสปทานิ. ‘‘ปมสฺส ฌานสฺส โก อาที’’ติอาทีนิ เตสํ อุทฺเทสปทานํ วิตฺถาเรตุกมฺยตาปุจฺฉาปุพฺพงฺคมานิ นิทฺเทสปทานิ. ตตฺถ ปฏิปทาวิสุทฺธิปกฺขนฺทนฺติ ปฏิปทา เอว นีวรณมลวิโสธนโต วิสุทฺธิ, ตํ ปฏิปทาวิสุทฺธึ ปกฺขนฺทํ ปวิฏฺํ. อุเปกฺขานุพฺรูหิตนฺติ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย พฺรูหิตํ วฑฺฒิตํ. าเณน จ สมฺปหํสิตนฺติ ปริโยทาปเกน าเณน สมฺปหํสิตํ ปริโยทาปิตํ วิโสธิตํ. ปฏิปทาวิสุทฺธิ นาม สสมฺภาริโก อุปจาโร, อุเปกฺขานุพฺรูหนา นาม อปฺปนา, สมฺปหํสนา นาม ปจฺจเวกฺขณาติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. ยสฺมา ปน ‘‘เอกตฺตคตํ จิตฺตํ ปฏิปทาวิสุทฺธิปกฺขนฺทฺเจว โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตสฺมา อนฺโตอปฺปนายเมว อาคมนวเสน ปฏิปทาวิสุทฺธิ, ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจวเสน อุเปกฺขานุพฺรูหนา, ธมฺมานํ อนติวตฺตนาทิภาวสาธเนน ปริโยทาปกสฺส าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน สมฺปหํสนา เวทิตพฺพา. กถํ? ยสฺมิฺหิ วาเร อปฺปนา อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ โย นีวรณสงฺขาโต กิเลสคโณ ตสฺส ฌานสฺส ปริปนฺโถ, ตโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ, วิสุทฺธตฺตา อาวรณวิรหิตํ หุตฺวา มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ. มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ นาม สมปฺปวตฺโต อปฺปนาสมาธิเยว. ตทนนฺตรํ ปน ปุริมจิตฺตํ เอกสนฺตติปริณามนเยน ¶ ตถตฺตํ อุปคจฺฉมานํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ นาม. เอวํ ปฏิปนฺนตฺตา ตถตฺตุปคมเนน ตตฺถ ปกฺขนฺทติ นาม. เอวํ ตาว ปุริมจิตฺเต วิชฺชมานาการนิปฺผาทิกา ปมสฺส ฌานสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว อาคมนวเสน ปฏิปทาวิสุทฺธิ ¶ เวทิตพฺพา. เอวํ วิสุทฺธสฺส ปน ตสฺส ปุน วิโสเธตพฺพาภาวโต วิโสธเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. สมถภาวูปคมเนน สมถปฏิปนฺนสฺส ปุน สมาทาเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต สมถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. สมถปฏิปนฺนภาวโต เอว จสฺส กิเลสสํสคฺคํ ปหาย เอกตฺเตน อุปฏฺิตสฺส ปุน เอกตฺตุปฏฺาเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. เอวํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจวเสน อุเปกฺขานุพฺรูหนา เวทิตพฺพา.
เย ¶ ปเนเต เอวํ อุเปกฺขานุพฺรูหิเต ตตฺถ ชาตา สมาธิปฺาสงฺขาตา ยุคนทฺธธมฺมา อฺมฺํ อนติวตฺตมานา หุตฺวา ปวตฺตา, ยานิ จ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ นานากิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติรเสน เอกรสานิ หุตฺวา ปวตฺตานิ, ยํ เจส ตทุปคํ เตสํ อนติวตฺตนเอกรสภาวานํ อนุจฺฉวิกํ วีริยํ วาหยติ, ยา จสฺส ตสฺมึ ขเณ ปวตฺตา อาเสวนา, สพฺเพปิ เต อาการา ยสฺมา าเณน สํกิเลสโวทาเนสุ ตํ ตํ อาทีนวฺจ อานิสํสฺจ ทิสฺวา ตถา ตถา สมฺปหํสิตตฺตา วิโสธิตตฺตา ปริโยทาปิตตฺตา นิปฺผนฺนา, ตสฺมา ธมฺมานํ อนติวตฺตนาทิภาวสาธเนน ปริโยทาปกสฺส าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน สมฺปหํสนา เวทิตพฺพาติ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺมา อุเปกฺขาวเสน าณํ ปากฏํ โหติ, ยถาห – ‘‘ตถาปคฺคหิตํ จิตฺตํ สาธุกํ อชฺฌุเปกฺขติ, อุเปกฺขาวเสน ปฺาวเสน ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ. อุเปกฺขาวเสน นานตฺตกิเลเสหิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, วิโมกฺขวเสน ปฺาวเสน ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ. วิมุตฺตตฺตา เต ธมฺมา เอกรสา โหนฺติ, เอกรสฏฺเน ภาวนา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๑). ตสฺมา าณกิจฺจภูตา สมฺปหํสนา ปริโยสานนฺติ วุตฺตา.
เอวํ ติวตฺตคตนฺติอาทีนิ ตสฺเสว จิตฺตสฺส โถมนวจนานิ. ตตฺถ เอวํ ติวตฺตคตนฺติ เอวํ ยถาวุตฺเตน วิธินา ปฏิปทาวิสุทฺธิปกฺขนฺทนอุเปกฺขานุพฺรูหนาาณสมฺปหํสนาวเสน ติวิธภาวํ คตํ. วิตกฺกสมฺปนฺนนฺติ ¶ กิเลสกฺโขภวิรหิตตฺตา วิตกฺเกน สุนฺทรภาวํ ปนฺนํ คตํ. จิตฺตสฺส อธิฏฺานสมฺปนฺนนฺติ ตสฺมึเยว อารมฺมเณ จิตฺตสฺส นิรนฺตรปฺปวตฺติสงฺขาเตน อธิฏฺาเนน สมฺปนฺนํ อนูนํ. ยถา อธิฏฺานวสิยํ อธิฏฺานนฺติ ฌานปฺปวตฺติ, ตถา อิธาปิ จิตฺตสฺส อธิฏฺานนฺติ จิตฺเตกคฺคตาปิ ยุชฺชติ. เตน หิ เอกสฺมึเยว อารมฺมเณ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, น เอตฺถ วิกฺขิปตีติ. ‘‘สมาธิสมฺปนฺน’’นฺติ วิสุํ วุตฺตตฺตา ปน วุตฺตนเยเนว คเหตพฺพํ. อถ วา สมาธิสฺเสว ¶ ฌานสงฺคหิตตฺตา จิตฺตสฺส อธิฏฺานสมฺปนฺนนฺติ ฌานงฺคปฺจกวเสน วุตฺตํ. สมาธิสมฺปนฺนนฺติ อินฺทฺริยสงฺคหิตตฺตา อินฺทฺริยปฺจกวเสน, ทุติยชฺฌานาทีสุ ปน อลพฺภมานานิ ปทานิ ปหาย ลพฺภมานกวเสน ปีติสมฺปนฺนนฺติอาทิ วุตฺตํ.
อนิจฺจานุปสฺสนาทีสุ อฏฺารสสุ มหาวิปสฺสนาสุ วิตกฺกาทโย ปริปุณฺณาเยว ตาสํ กามาวจรตฺตา. เอตาสุ จ อปฺปนาย อภาวโต ปฏิปทาวิสุทฺธิอาทโย ขณิกสมาธิวเสน โยเชตพฺพา. จตูสุ มคฺเคสุ ¶ ปมชฺฌานิกวเสน วิตกฺกาทีนํ ลพฺภนโต ลพฺภมานกวเสเนว วิตกฺกาทโย ปริปุณฺณา วุตฺตา. ทุติยชฺฌานิกาทีสุ หิ มคฺเคสุ วิตกฺกาทโย ฌาเนสุ วิย ปริหายนฺตีติ. เอตฺตาวตา เตรส โวทานาณานิ วิตฺถารโต นิทฺทิฏฺานิ โหนฺติ. กถํ? เอกฏฺาเน สมาทหเนน ตตฺเถว อธิมุจฺจเนน โกสชฺชปฺปชหเนน อุทฺธจฺจปฺปชหเนน ราคปฺปชหเนน พฺยาปาทปฺปชหเนน สมฺปยุตฺตานิ ฉ าณานิ, จตูหิ เอกตฺเตหิ สมฺปยุตฺตานิ จตฺตาริ าณานิ, ปฏิปทาวิสุทฺธิอุเปกฺขานุพฺรูหนาสมฺปหํสนาหิ สมฺปยุตฺตานิ ตีณิ าณานีติ เอวํ เตรส าณานิ นิทฺทิฏฺานิ.
๑๕๙. เอวํ สนฺเตปิ อานาปานสฺสติสมาธิภาวนาวเสน เตสํ นิปฺผตฺตึ ทสฺเสตุกาโม ตานิ าณานิ อนิคเมตฺวาว นิมิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสาติอาทินา นเยน โจทนาปุพฺพงฺคมํ อานาปานสฺสติสมาธิภาวนาวิธึ ทสฺเสตฺวา อนฺเต ตานิ าณานิ นิคเมตฺวา ทสฺเสสิ. ตตฺถ นิมิตฺตํ วุตฺตเมว. อนารมฺมณาเมกจิตฺตสฺสาติ อนารมฺมณา เอกจิตฺตสฺส. ม-กาโร ¶ ปเนตฺถ ปทสนฺธิกโร. อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺสาติปิ ปาโ, เอกสฺส จิตฺตสฺส อารมฺมณํ น ภวนฺตีติ อตฺโถ. ตโย ธมฺเมติ นิมิตฺตาทโย ตโย ธมฺเม. ภาวนาติ อานาปานสฺสติสมาธิภาวนา. กถนฺติ ปมํ วุตฺตาย โจทนาคาถาย อนนฺตรํ วุตฺตาย ปริหารคาถาย อตฺถํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. น จิเมติ น จ อิเม. น จเมติปิ ปาโ, โสเยว ปทจฺเฉโท. กถํ น จ อวิทิตา โหนฺติ, กถํ น จ จิตฺตํ วิกฺเขปํ คจฺฉตีติ เอวํ กถํ สทฺโท เสเสหิ ปฺจหิ โยเชตพฺโพ. ปธานฺจ ปฺายตีติ อานาปานสฺสติสมาธิภาวนารมฺภกํ วีริยํ สนฺทิสฺสติ. วีริยฺหิ ปทหนฺติ เตนาติ ปธานนฺติ วุจฺจติ. ปโยคฺจ สาเธตีติ นีวรณวิกฺขมฺภกํ ฌานฺจ โยคี นิปฺผาเทติ. ฌานฺหิ นีวรณวิกฺขมฺภนาย ปยฺุชียตีติ ปโยโคติ วุตฺตํ. วิเสสมธิคจฺฉตีติ สํโยชนปฺปหานกรํ มคฺคฺจ ปฏิลภติ. มคฺโค ¶ หิ สมถวิปสฺสนานํ อานิสํสตฺตา วิเสโสติ วุตฺโต. วิเสสสฺส จ ปมุขภูตตฺตา จ-กาเรน สมุจฺจโย น กโต.
อิทานิ ตํ ปุจฺฉิตมตฺถํ อุปมาย สาเธนฺโต เสยฺยถาปิ รุกฺโขติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – ยถา นาม กกเจน ผาลนตฺถํ วาสิยา ตจฺฉิตฺวา รุกฺโข ผาลนกาเล นิจฺจลภาวตฺถํ สเม ภูมิปเทเส ปโยคกฺขมํ กตฺวา ปิโต. กกเจนาติ หตฺถกกเจน. อาคเตติ รุกฺขํ ¶ ผุสิตฺวา อตฺตโน สมีปภาคํ อาคเต. คเตติ รุกฺขํ ผุสิตฺวา ปรภาคํ คเต. วา-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. น อวิทิตา โหนฺตีติ รุกฺเข กกจทนฺเตหิ ผุฏฺํ ปุริเสน เปกฺขมานํ านํ อปฺปตฺวา เตสํ อาคมนคมนาภาวโต สพฺเพปิ กกจทนฺตา วิทิตาว โหนฺติ. ปธานนฺติ รุกฺขจฺเฉทนวีริยํ. ปโยคนฺติ รุกฺขจฺเฉทนกิริยํ. ‘‘วิเสสมธิคจฺฉตี’’ติ วจนํ อุปมาย นตฺถิ. อุปนิพนฺธนา นิมิตฺตนฺติ อุปนิพนฺธนาย สติยา นิมิตฺตภูตํ การณภูตํ นาสิกคฺคํ วา มุขนิมิตฺตํ วา. อุปนิพนฺธติ เอตาย อารมฺมเณ จิตฺตนฺติ ¶ อุปนิพนฺธนา นาม สติ. นาสิกคฺเค วาติ ทีฆนาสิโก นาสิกคฺเค. มุขนิมิตฺเต วาติ รสฺสนาสิโก อุตฺตโรฏฺเ. อุตฺตโรฏฺโ หิ มุเข สติยา นิมิตฺตนฺติ มุขนิมิตฺตนฺติ วุตฺโต. อาคเตติ ผุฏฺฏฺานโต อพฺภนฺตรํ อาคเต. คเตติ ผุฏฺฏฺานโต พหิทฺธา คเต. น อวิทิตา โหนฺตีติ ผุสนฏฺานํ อปฺปตฺวา อสฺสาสปสฺสาสานํ อาคมนคมนาภาวโต สพฺเพปิ เต วิทิตา เอว โหนฺติ. กมฺมนิยํ โหตีติ เยน วีริเยน กาโยปิ จิตฺตมฺปิ กมฺมนิยํ ภาวนากมฺมกฺขมํ ภาวนากมฺมโยคฺคํ โหติ. อิทํ วีริยํ ปธานํ นามาติ ผเลน การณํ วุตฺตํ โหติ. อุปกฺกิเลสา ปหียนฺตีติ วิกฺขมฺภนวเสน นีวรณานิ ปหียนฺติ. วิตกฺกา วูปสมฺมนฺตีติ นานารมฺมณจาริโน อนวฏฺิตา วิตกฺกา อุปสมํ คจฺฉนฺติ. เยน ฌาเนน อุปกฺกิเลสา ปหียนฺติ, วิตกฺกา วูปสมฺมนฺติ. อยํ ปโยโคติ ปโยคมเปกฺขิตฺวา ปุลฺลิงฺคนิทฺเทโส กโต. สฺโชนา ปหียนฺตีติ ตํตํมคฺควชฺฌา สฺโชนา สมุจฺเฉทปฺปหาเนน ปหียนฺติ. อนุสยา พฺยนฺตีโหนฺตีติ ปหีนานํ ปุน อนุปฺปตฺติธมฺมกตฺตา วิคโต อุปฺปาทนฺโต วา วยนฺโต วา เอเตสนฺติ พฺยนฺตา, ปุพฺเพ อพฺยนฺตา พฺยนฺตา โหนฺตีติ พฺยนฺตีโหนฺติ, วินสฺสนฺตีติ อตฺโถ. สฺโชนปฺปหานํ อนุสยปฺปหาเนน โหติ, น อฺถาติ ทสฺสนตฺถํ อนุสยปฺปหานมาห. เยน มคฺเคน สฺโชนา ปหียนฺติ อนุสยา พฺยนฺตีโหนฺติ, อยํ วิเสโสติ อตฺโถ. จตุตฺถจตุกฺเก อริยมคฺคสฺสาปิ นิทฺทิฏฺตฺตา อิธ อริยมคฺโค วุตฺโต. เอกจิตฺตสฺส อารมฺมณทฺวยาภาวสฺส อวุตฺเตปิ สิทฺธตฺตา ตํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว เอวํ อิเม ตโย ธมฺมา เอกจิตฺตสฺส อารมฺมณา น โหนฺตีติ นิคมนํ กตํ.
๑๖๐. อิทานิ ตํ ภาวนาสิทฺธิสาธกํ โยคาวจรํ ถุนนฺโต อานาปานสฺสติ ยสฺสาติ คาถํ ¶ วตฺวา ตสฺสา นิทฺเทสมาห. ตตฺถ อานาปานสฺสติโย ¶ ยถา พุทฺเธน เทสิตา, ตถา ปริปุณฺณา สุภาวิตา อนุปุพฺพํ ปริจิตา ยสฺส อตฺถิ สํวิชฺชนฺติ. โส อิมํ โลกํ ปภาเสติ. กึ วิย? อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา ยถา อพฺภาทีหิ มุตฺโต จนฺทิมา อิมํ โอกาสโลกํ ปภาเสติ, ตถา โส โยคาวจโร อิมํ ขนฺธาทิโลกํ ปภาเสตีติ ¶ คาถาย สมฺพนฺโธ. ‘‘อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา’’ติ จ ปทสฺส นิทฺเทเส มหิกาทีนมฺปิ วุตฺตตฺตา เอตฺถ อาทิสทฺทโลโป กโตติ เวทิตพฺโพ. คาถานิทฺเทเส โน ปสฺสาโส โน อสฺสาโสติ โส โสเยว อตฺโถ ปฏิเสเธน วิเสเสตฺวา วุตฺโต. อุปฏฺานํ สตีติ อสมฺมุสฺสนตาย ตเมว อสฺสาสํ อุปคนฺตฺวา านํ สติ นามาติ อตฺโถ. ตถา ปสฺสาสํ. เอตฺตาวตา อานาปาเนสุ สติ อานาปานสฺสตีติ อตฺโถ วุตฺโต โหติ.
อิทานิ สติวเสเนว ‘‘ยสฺสา’’ติ วุตฺตํ ปุคฺคลํ นิทฺทิสิตุกาโม โย อสฺสสติ, ตสฺสุปฏฺาติ. โย ปสฺสสติ, ตสฺสุปฏฺาตีติ วุตฺตํ. โย อสฺสสติ, ตสฺส สติ อสฺสาสํ อุปคนฺตฺวา ติฏฺติ. โย ปสฺสสติ, ตสฺส สติ ปสฺสาสํ อุปคนฺตฺวา ติฏฺตีติ อตฺโถ. ปริปุณฺณาติ ฌานวิปสฺสนามคฺคปรมฺปราย อรหตฺตมคฺคปฺปตฺติยา ปริปุณฺณา. เตเยว หิ ฌานวิปสฺสนามคฺคธมฺเม สนฺธาย ปริคฺคหฏฺเนาติอาทิมาห. เต หิ ธมฺมา อิมินา โยคินา ปริคฺคยฺหมานตฺตา ปริคฺคหา, เตน ปริคฺคหฏฺเน ปริปุณฺณา. ตตฺถ สพฺเพสํ จิตฺตเจตสิกานํ อฺมฺปริวารตฺตา ปริวารฏฺเน ปริปุณฺณา. ภาวนาปาริปูริวเสน ปริปูรฏฺเน ปริปุณฺณา. จตสฺโส ภาวนาติอาทีนิ สุภาวิตาติ วุตฺตปทสฺส อตฺถวเสน วุตฺตานิ. จตสฺโส ภาวนา เหฏฺา วุตฺตาเยว. ยานีกตาติ ยุตฺตยานสทิสา กตา. วตฺถุกตาติ ปติฏฺฏฺเน วตฺถุสทิสา กตา. อนุฏฺิตาติ ปจฺจุปฏฺิตา. ปริจิตาติ สมนฺตโต จิตา อุปจิตา. สุสมารทฺธาติ สุฏฺุ สมารทฺธา สุกตา. ยตฺถ ยตฺถ อากงฺขตีติ เยสุ เยสุ ฌาเนสุ ยาสุ ยาสุ วิปสฺสนาสุ สเจ อิจฺฉติ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ เตสุ ฌาเนสุ ตาสุ ตาสุ วิปสฺสนาสุ. วสิปฺปตฺโตติ วสีภาวํ พหุภาวํ ปตฺโต. พลปฺปตฺโตติ สมถวิปสฺสนาพลปฺปตฺโต. เวสารชฺชปฺปตฺโตติ วิสารทภาวํ ปฏุภาวํ ปตฺโต. เต ธมฺมาติ สมถวิปสฺสนา ธมฺมา. อาวชฺชนปฏิพทฺธาติ อาวชฺชนายตฺตา, อาวชฺชิตมตฺเตเยว ตสฺส สนฺตาเนน, าเณน วา สมฺปโยคํ คจฺฉนฺตีติ ¶ อตฺโถ. อากงฺขปฏิพทฺธาติ ¶ รุจิอายตฺตา, โรจิตมตฺเตเยว วุตฺตนเยน สมฺปโยคํ คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. มนสิกาโร ปเนตฺถ อาวชฺชนาย จิตฺตุปฺปาโท. อากงฺขนาย เววจนวเสน อตฺถวิวรณตฺถํ วุตฺโต. เตน วุจฺจติ ยานีกตาติ เอวํ กตตฺตาเยว เต ยุตฺตยานสทิสา กตา โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
ยสฺมึ ยสฺมึ วตฺถุสฺมินฺติ โสฬสสุ วตฺถูสุ เอเกกสฺมึ. สฺวาธิฏฺิตนฺติ สุปฺปติฏฺิตํ. สูปฏฺิตาติ สุฏฺุ อุปฏฺิตา. สมฺปยุตฺตจิตฺตสตีนํ สเหว สกสกกิจฺจกรณโต อนุโลมปฏิโลมวเสน ¶ โยเชตฺวา เต ทฺเว ธมฺมา ทสฺสิตา. เตน วุจฺจติ วตฺถุกตาติ เอวํ ภูตตฺตาเยว กตปติฏฺา โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. เยน เยน จิตฺตํ อภินีหรตีติ ปุพฺพปฺปวตฺติโต อปเนตฺวา ยตฺถ ยตฺถ ภาวนาวิเสเส จิตฺตํ อุปเนติ. เตน เตน สติ อนุปริวตฺตตีติ ตสฺมึ ตสฺมึเยว ภาวนาวิเสเส สติ อนุกูลา หุตฺวา ปุพฺพปฺปวตฺติโต นิวตฺติตฺวา ปวตฺตติ. ‘‘เยน, เตนา’’ติ เจตฺถ ‘‘เยน ภควา เตนุปสงฺกมี’’ติอาทีสุ (ขุ. ปา. ๕.๑; สุ. นิ. มงฺคลสุตฺต) วิย ภุมฺมตฺโถ เวทิตพฺโพ. เตน วุจฺจติ อนุฏฺิตาติ เอวํ กรณโตเยว ตํ ตํ ภาวนํ อนุคนฺตฺวา ิตา โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อานาปานสฺสติยา สติปธานตฺตา วตฺถุกตานุฏฺิตปเทสุ สติยา สห โยชนา กตาติ เวทิตพฺพา.
ยสฺมา ปน ปริปุณฺณาเยว ปริจิตา โหนฺติ วฑฺฒิตา ลทฺธาเสวนา, ตสฺมา ‘‘ปริปุณฺณา’’ติปเท วุตฺตา ตโย อตฺถา ‘‘ปริจิตา’’ติปเทปิ วุตฺตา, จตุตฺโถ วิเสสตฺโถปิ วุตฺโต. ตตฺถ สติยา ปริคฺคณฺหนฺโตติ สมฺปยุตฺตาย, ปุพฺพภาคาย วา สติยา ปริคฺคเหตพฺเพ ปริคฺคณฺหนฺโต โยคี. ชินาติ ปาปเก อกุสเล ธมฺเมติ สมุจฺเฉทวเสน ลามเก กิเลเส ชินาติ อภิภวติ. อยฺจ ปุคฺคลาธิฏฺานา ธมฺมเทสนา. ธมฺเมสุ หิ ชินนฺเตสุ ตํธมฺมสมงฺคีปุคฺคโลปิ ชินาติ นาม. เต จ ธมฺมา สตึ อวิหาย อตฺตโน ปวตฺติกฺขเณ ชินิตุมารทฺธา ชิตาติ วุจฺจนฺติ ยถา ‘‘ภฺุชิตุมารทฺโธ ภุตฺโต’’ติ วุจฺจติ. ลกฺขณํ ปเนตฺถ สทฺทสตฺถโต เวทิตพฺพํ. เอวํ สนฺเตปิ ‘‘ปริชิตา’’ติ วตฺตพฺเพ ช-การสฺส จ-การํ กตฺวา ¶ ‘‘ปริจิตา’’ติ ¶ วุตฺตํ, ยถา สมฺมา คโท อสฺสาติ สุคโตติ อตฺถวิกปฺเป ท-การสฺส ต-กาโร นิรุตฺติลกฺขเณน กโต, เอวมิธาปิ เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป ปริจิตาติ ปทํ กตฺตุสาธนํ, ปุริมานิ ตีณิ กมฺมสาธนานิ.
จตฺตาโร สุสมารทฺธาติ จตฺตาโร สุสมารทฺธตฺถาติ วุตฺตํ โหติ, อตฺถสทฺทสฺส โลโป ทฏฺพฺโพ. สุสมารทฺธาติ ปทสฺส อตฺถาปิ หิ อิธ สุสมารทฺธาติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา, สุสมารทฺธธมฺมา วา. จตุรตฺถเภทโต จตฺตาโรติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา, น ธมฺมเภทโต. ยสฺมา ปน สุภาวิตาเยว สุสมารทฺธา โหนฺติ, น อฺเ, ตสฺมา ตโย ภาวนตฺถา อิธาปิ วุตฺตา. อาเสวนตฺโถปิ ตีสุ วุตฺเตสุ วุตฺโตเยว โหติ, ตสฺมา ตํ อวตฺวา ตปฺปจฺจนีกานํ สุสมูหตตฺโถ วุตฺโต. ปจฺจนีกสมุคฺฆาเตน หิ อารทฺธปริโยสานํ ปฺายติ, เตน สุสมารทฺธสฺส สิขาปฺปตฺโต อตฺโถ วุตฺโต โหติ. ตตฺถ ตปฺปจฺจนีกานนฺติ เตสํ ฌานวิปสฺสนามคฺคานํ ปฏิปกฺขภูตานํ. กิเลสานนฺติ กามจฺฉนฺทาทีนํ นิจฺจสฺาทิสมฺปยุตฺตานํ สกฺกายทิฏฺาทีนฺจ. สุสมูหตตฺตาติ วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุจฺเฉทวเสน ¶ สุฏฺุ สมูหตตฺตา นาสิตตฺตา. โปตฺถเกสุ ปน ‘‘สุสมุคฺฆาตตฺตา’’ติ ลิขนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ.
๑๖๑. ปุน ตสฺเสว ปทสฺส อฺมฺปิ อตฺถวิกปฺปํ ทสฺเสนฺโต สุสมนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ตตฺถ ชาตาติ ตสฺมึ สิขาปฺปตฺตภาวนาวิเสเส ชาตา. อนวชฺชาติ กิเลสานํ อารมฺมณภาวานุปคมเนน กิเลสโทสวิรหิตา. กุสลาติ ชาติวเสน กุสลา. โพธิปกฺขิยาติ พุชฺฌนฏฺเน โพธีติ ลทฺธนามสฺส อริยสฺส ปกฺเข ภวตฺตา โพธิปกฺขิยา. ปกฺเข ภวตฺตาติ หิ อุปการภาเว ิตตฺตา. เต จ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๕; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๒๒; มิ. ป. ๕.๔.๑) สตฺตตึส ธมฺมา. อิทํ สมนฺติ อิทํ มคฺคกฺขเณ ธมฺมชาตํ สมุจฺเฉทวเสน กิเลเส สเมติ วินาเสตีติ สมํ นาม. นิโรโธ ¶ นิพฺพานนฺติ ทุกฺขนิโรธตฺตา นิโรโธ, วานสงฺขาตาย ตณฺหาย อภาวา นิพฺพานํ. อิทํ สุสมนฺติ อิทํ นิพฺพานํ สพฺพสงฺขตวิสมาปคตตฺตา สุฏฺุ สมนฺติ สุสมํ นาม. าตนฺติ โพธิปกฺขิยสงฺขาตํ สมํ อสมฺโมหโต ¶ าเณน าตํ, นิพฺพานสงฺขาตํ สุสมํ อารมฺมณโต าเณน าตํ. ตเทว ทฺวยํ เตเนว จกฺขุนา วิย ทิฏฺํ. วิทิตนฺติ ตเทว ทฺวยํ สนฺตาเน อุปฺปาทเนน อารมฺมณกรเณน จ ปฏิลทฺธํ. าตํ วิย ปฺาย สจฺฉิกตํ ผสฺสิตฺจ. ‘‘อสลฺลีนํ อสมฺมุฏฺา อสารทฺโธ เอกคฺค’’นฺติ ปุริมสฺส ปุริมสฺส ปทสฺส อตฺถปฺปกาสนํ. ตตฺถ อารทฺธนฺติ ปฏฺปิตํ. อสลฺลีนนฺติ อสงฺกุจิตํ. อุปฏฺิตาติ อุปคนฺตฺวา ิตา. อสมฺมุฏฺาติ อวินฏฺา. ปสฺสทฺโธติ นิพฺพุโต. อสารทฺโธติ นิทฺทรโถ. สมาหิตนฺติ สมํ ปิตํ. เอกคฺคนฺติ อวิกฺขิตฺตํ.
‘‘จตฺตาโร สุสมารทฺธา’’ติอาทิ สกลสฺส สุสมารทฺธวจนสฺส มูลตฺโถ. ‘‘อตฺถิ สม’’นฺติอาทิ ปน สุสมวจนสฺส, ‘‘าต’’นฺติอาทิ อารทฺธวจนสฺส วิกปฺปตฺถา. ตตฺถายํ ปทตฺถสํสนฺทนา – ‘‘สมา จ สุสมา จ สมสุสมา’’ติ วตฺตพฺเพ เอกเทสสรูเปกเสสํ กตฺวา ‘‘สุสมา’’ อิจฺเจว วุตฺตา ยถา นามฺจ รูปฺจ นามรูปฺจ นามรูปนฺติ. ‘‘อิทํ สมํ, อิทํ สุสม’’นฺติ ปน อนฺาเปกฺขํ กตฺวา นปุํสกวจนํ กตํ. ยสฺมา ปน าตมฺปิ ทิฏฺนฺติ วุจฺจติ, ทิฏฺฺจ อารทฺธฺจ อตฺถโต เอกํ. วิทิตสจฺฉิกตผสฺสิตานิ ปน าตเววจนานิ, ตสฺมา าตนฺติ อารทฺธตฺโถเยว วุตฺโต โหติ.
อารทฺธํ โหติ วีริยํ อสลฺลีนนฺติ อยํ ปน อารทฺธวจนสฺส อุชุกตฺโถเยว. อุปฏฺิตา สตีติอาทีนิ ¶ ปน สมฺปยุตฺตวีริยสฺส อุปการกธมฺมทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ, น อารทฺธวจนสฺส อตฺถทสฺสนตฺถํ. ปุริเมน อตฺเถน สุฏฺุ สมารทฺธาติ สุสมารทฺธา จ, อิมินา อตฺเถน สุสมา อารทฺธาติ สุสมารทฺธา จ เอกเสเส กเต ‘‘สุสมารทฺธา’’ติ วุจฺจนฺติ. อิมมตฺถํ ปริคฺคเหตฺวา ‘‘เตน วุจฺจติ สุสมารทฺธา’’ติ วุตฺตํ.
อนุปุพฺพนฺติ ¶ ยถานุกฺกเมนาติ อตฺโถ, ปุพฺพํ ปุพฺพํ อนูติ วุตฺตํ โหติ. ทีฆํ อสฺสาสวเสนาติ ทีฆนฺติ วุตฺตอสฺสาสวเสน. ปุริมา ปุริมาติ ปุริมา ปุริมา สติ. เอเตน ปุพฺพนฺติปทสฺส อตฺโถ วุตฺโต โหติ. ปจฺฉิมา ปจฺฉิมาติ สติเยว. เอเตน อนูติปทสฺส อตฺโถ วุตฺโต โหติ. อุภเยน ปุพฺพฺจ อนุ จ ปริจิตาติ อตฺโถ วุตฺโต โหติ. อุปริ โสฬส วตฺถูนิ วิตฺถาเรตฺวา วจนโต อิธ สงฺขิปิตฺวา ‘‘ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี’’ติ อนฺติมเมว ทสฺสิตํ. ยสฺมา สิขาปฺปตฺตภาวนสฺส สพฺพาปิ อานาปานสฺสติโย ¶ ปุนปฺปุนํ ยถารุจิ ปวตฺตนโต อนุปริจิตาปิ โหนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อฺมฺํ ปริจิตา เจว โหนฺติ อนุปริจิตา จา’’ติ.
ยถตฺถาติ ยถาสภาวตฺถา. อตฺตทมถตฺโถติ อรหตฺตมคฺคกฺขเณ อตฺตโน นิพฺพิเสวนตฺโถ. สมถตฺโถติ สีติภาวตฺโถ. ปรินิพฺพาปนตฺโถติ กิเลสปรินิพฺพาเนน. อภิฺตฺโถติ สพฺพธมฺมวเสน. ปริฺตฺถาทโย มคฺคาณกิจฺจวเสน. สจฺจาภิสมยตฺโถ จตุนฺนํ สจฺจานํ เอกปฏิเวธทสฺสนวเสน. นิโรเธ ปติฏฺาปกตฺโถ อารมฺมณกรณวเสน.
พุทฺโธติปทสฺส อภาเวปิ พุทฺเธนาติปเท โย โส พุทฺโธ, ตํ นิทฺทิสิตุกาเมน พุทฺโธติ วุตฺตํ. สยมฺภูติ อุปเทสํ วินา สยเมว ภูโต. อนาจริยโกติ สยมฺภูปทสฺส อตฺถวิวรณํ. โย หิ อาจริยํ วินา สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ, โส สยมฺภู นาม โหติ. ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสูติอาทิ อนาจริยกภาวสฺส อตฺถปฺปกาสนํ. อนนุสฺสุเตสูติ อาจริยํ อนนุสฺสุเตสุ. สามนฺติ สยเมว. อภิสมฺพุชฺฌีติ ภุสํ สมฺมา ปฏิวิชฺฌิ. ตตฺถ จ สพฺพฺุตํ ปาปุณีติ เตสุ จ สจฺเจสุ สพฺพฺุภาวํ ปาปุณิ. ยถา สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌนฺตา สพฺพฺุโน โหนฺติ, ตถา สจฺจานํ ปฏิวิทฺธตฺตา เอวํ วุตฺตํ. สพฺพฺุตํ ปตฺโตติปิ ปาโ. พเลสุ จ วสีภาวนฺติ ทสสุ จ ตถาคตพเลสุ อิสฺสรภาวํ ปาปุณิ. โย โส เอวํ ภูโต, โส พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ สพฺเพสุ ธมฺเมสุ อปฺปฏิหตาณนิมิตฺตานุตฺตรวิโมกฺขาธิคมปริภาวิตํ ขนฺธสนฺตานํ ¶ อุปาทาย ปณฺณตฺติโก, สพฺพฺุตปทฏฺานํ ¶ วา สจฺจาภิสมฺโพธิมุปาทาย ปณฺณตฺติโก สตฺตวิเสโส พุทฺโธ. เอตฺตาวตา อตฺถโต พุทฺธวิภาวนา กตา โหติ.
๑๖๒. อิทานิ พฺยฺชนโต วิภาเวนฺโต พุทฺโธติ เกนฏฺเน พุทฺโธติอาทิมาห. ตตฺถ ยถา โลเก อวคนฺตา อวคโตติ วุจฺจติ, เอวํ พุชฺฌิตา สจฺจานีติ พุทฺโธ. ยถา ปณฺณโสสา วาตา ปณฺณสุสาติ วุจฺจนฺติ, เอวํ โพเธตา ปชายาติ พุทฺโธ. สพฺพฺุตาย พุทฺโธติ สพฺพธมฺมพุชฺฌนสมตฺถาย พุทฺธิยา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. สพฺพทสฺสาวิตาย พุทฺโธติ สพฺพธมฺมานํ าณจกฺขุนา ทิฏฺตฺตา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. อนฺเนยฺยตาย ¶ พุทฺโธติ อฺเน อโพธนียโต สยเมว พุทฺธตฺตา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. วิสวิตาย พุทฺโธติ นานาคุณวิสวนโต ปทุมมิว วิกสนฏฺเน พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. ขีณาสวสงฺขาเตน พุทฺโธติอาทีหิ ฉหิ ปริยาเยหิ จิตฺตสงฺโกจกรธมฺมปฺปหาเนน นิทฺทกฺขยวิพุทฺโธ ปุริโส วิย สพฺพกิเลสนิทฺทกฺขยวิพุทฺธตฺตา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. สงฺขา สงฺขาตนฺติ อตฺถโต เอกตฺตา สงฺขาเตนาติ วจนสฺส โกฏฺาเสนาติ อตฺโถ. ตณฺหาเลปทิฏฺิเลปาภาเวน นิรุปเลปสงฺขาเตน. สวาสนานํ สพฺพกิเลสานํ ปหีนตฺตา เอกนฺตวจเนน วิเสเสตฺวา เอกนฺตวีตราโคติอาทิ วุตฺตํ. เอกนฺตนิกฺกิเลโสติ ราคโทสโมหาวเสเสหิ สพฺพกิเลเสหิ นิกฺกิเลโส. เอกายนมคฺคํ คโตติ พุทฺโธติ คมนตฺถานํ ธาตูนํ พุชฺฌนตฺถตฺตา พุชฺฌนตฺถาปิ ธาตุโย คมนตฺถา โหนฺติ, ตสฺมา เอกายนมคฺคํ คตตฺตา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. เอกายนมคฺโคติ เจตฺถ –
‘‘มคฺโค ปนฺโถ ปโถ ปชฺโช, อฺชสํ วฏุมายนํ;
นาวา อุตฺตรเสตุ จ, กุลฺโล จ ภิสิ สงฺกโม’’ติ ¶ . (จูฬนิ. ปารายนตฺถุติคาถานิทฺเทส ๑๐๑) –
มคฺคสฺส พหูสุ นาเมสุ อยนนาเมน วุตฺโต. ตสฺมา เอกมคฺคภูโต มคฺโค, น ทฺเวธาปถภูโตติ อตฺโถ. อถ วา เอเกน อยิตพฺโพ มคฺโคติ เอกายนมคฺโค. เอเกนาติ คณสงฺคณิกํ ปหาย ปวิเวเกน จิตฺเตน. อยิตพฺโพติ ปฏิปชฺชิตพฺโพ. อยนฺติ วา เอเตนาติ อยโน, สํสารโต นิพฺพานํ คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. เอเกสํ อยโน เอกายโน. เอเกติ เสฏฺา, สพฺพสตฺตเสฏฺา จ สมฺมาสมฺพุทฺธา, ตสฺมา เอกายนมคฺโคติ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ อยนภูโต มคฺโคติ วุตฺตํ โหติ. อยตีติ วา อยโน, คจฺฉติ ปวตฺตตีติ อตฺโถ. เอกสฺมึ อยโน มคฺโคติ เอกายนมคฺโค, เอกสฺมึเยว พุทฺธสาสเน ปวตฺตมาโน มคฺโค, น อฺตฺถาติ วุตฺตํ โหติ. อปิ จ เอกํ อยตีติ เอกายโน, ปุพฺพภาเค นานามุขภาวนานยปฺปวตฺโตปิ อปรภาเค เอกํ นิพฺพานเมว คจฺฉตีติ ¶ วุตฺตํ โหติ, ตสฺมา เอกายนมคฺโคติ เอกนิพฺพานคมนมคฺโคติ อตฺโถ. เอโก อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ พุทฺโธติ น ปเรหิ พุทฺธตฺตา พุทฺโธ, กึ ปน สยเมว อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺธตฺตา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. อพุทฺธิวิหตตฺตา พุทฺธิปฏิลาภา พุทฺโธติ พุทฺธิ พุทฺธํ ¶ โพโธติ ปริยายวจนเมตํ. ตตฺถ ยถา นีลรตฺตคุณโยคา นีโล ปโฏ รตฺโต ปโฏติ วุจฺจติ, เอวํ พุทฺธคุณโยคา พุทฺโธติ าเปตุํ วุตฺตํ.
ตโต ปรํ พุทฺโธติ เนตํ นามนฺติอาทิ ‘‘อตฺถมนุคตา อยํ ปฺตฺตี’’ติ าปนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ มิตฺตา สหายา. อมจฺจา ภจฺจา. าตี ปิตุปกฺขิกา. สาโลหิตา มาตุปกฺขิกา. สมณา ปพฺพชฺชูปคตา. พฺราหฺมณา โภวาทิโน, สมิตปาปพาหิตปาปา วา. เทวตา สกฺกาทโย พฺรหฺมาโน จ. วิโมกฺขนฺติกนฺติ วิโมกฺโข อรหตฺตมคฺโค, วิโมกฺขสฺส อนฺโต อรหตฺตผลํ, ตสฺมึ วิโมกฺขนฺเต ภวํ วิโมกฺขนฺติกํ นาม. สพฺพฺุภาโว หิ อรหตฺตมคฺเคน สิชฺฌติ, อรหตฺตผโลทเย สิทฺโธ โหติ, ตสฺมา สพฺพฺุภาโว วิโมกฺขนฺเต ภโว โหติ. ตํ เนมิตฺติกมฺปิ นามํ วิโมกฺขนฺเต ภวํ นาม โหติ. เตน วุตฺตํ ¶ – ‘‘วิโมกฺขนฺติกเมตํ พุทฺธานํ ภควนฺตาน’’นฺติ. โพธิยา มูเล สห สพฺพฺุตฺาณสฺส ปฏิลาภาติ มหาโพธิรุกฺขมูเล ยถาวุตฺตกฺขเณ สพฺพฺุตฺาณสฺส ปฏิลาเภน สห. สจฺฉิกา ปฺตฺตีติ อรหตฺตผลสจฺฉิกิริยาย, สพฺพธมฺมสจฺฉิกิริยาย วา ชาตา ปฺตฺติ. ยทิทํ พุทฺโธติ ยา อยํ พุทฺโธติ ปฺตฺติ, อยํ พฺยฺชนโต พุทฺธวิภาวนา.
‘‘ยถา พุทฺเธน เทสิตา’’ติคาถาปาทสฺส ปน อิมินา ปทภาชนีเย วุตฺตตฺเถน อยํ สํสนฺทนา – อานาปานสฺสติโย จ ยถา พุทฺเธน เทสิตา, เยน ปกาเรน เทสิตา. ยถาสทฺเทน สงฺคหิตา ทส ยถตฺถา จ ยถา พุทฺเธน เทสิตา, เยน ปกาเรน เทสิตาติ ปการตฺถสฺส จ ยถาสทฺทสฺส, สภาวตฺถสฺส จ ยถาสทฺทสฺส สรูเปกเสสวเสน เอกเสสํ กตฺวา ‘‘ยถา’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปทภาชนีเย ปนสฺส ยถตฺเถสุ เอเกกสฺส โยชนาวเสน ‘‘เทสิโต’’ติ เอกวจนํ กตํ.
‘‘โสติ คหฏฺโ วา โหติ ปพฺพชิโต วา’’ติ วุตฺตตฺตา อาทิปเทปิ ยสฺส คหฏฺสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วาติ วุตฺตเมว โหติ. โลกตฺโถ วุตฺโตเยว. ปภาเสตีติ อตฺตโน าณสฺส ปากฏํ กโรตีติ อตฺโถ ¶ . อภิสมฺพุทฺธตฺตาติ สาวกปารมิาเณนปิ ปฏิวิทฺธภาเวน. โอภาเสตีติ กามาวจรภูตํ โลกํ. ภาเสตีติ รูปาวจรภูตํ โลกํ. ปภาเสตีติ อรูปาวจรภูตํ โลกํ.
อริยาณนฺติ ¶ อรหตฺตมคฺคาณํ. มหิกา มุตฺโตติ มหิกาย มุตฺโต. มหิกาติ นีหาโร วุจฺจติ. มหิยา มุตฺโตติปิ ปาโ. ธูมรชา มุตฺโตติ ธูมโต จ รชโต จ มุตฺโต. ราหุคหณา วิปฺปมุตฺโตติ ราหุโน จนฺทสฺส อาสนฺนุปกฺกิเลสตฺตา ทฺวีหิ อุปสคฺเคหิ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. ภาสเต อิติ สโอภาสฏฺเน. ตปเต อิติ สเตชฏฺเน. วิโรจเต อิติ รุจิรฏฺเน. เอวเมวนฺติ เอวํ เอวํ. ยสฺมา ปน จนฺโทปิ สยํ ภาสนฺโต ตปนฺโต วิโรจนฺโต อิมํ โอกาสโลกํ โอภาเสติ, ภิกฺขุ จ ปฺาย ภาสนฺโต ตปนฺโต วิโรจนฺโต อิมํ ขนฺธาทิโลกํ ปฺาย โอภาเสติ, ตสฺมา อุภยตฺราปิ ‘‘ภาเสตี’’ติ อวตฺวา ‘‘ภาสเต’’ อิจฺเจว วุตฺตํ. เอวฺหิ วุตฺเต เหตุอตฺโถปิ วุตฺโต โหติ. อติวิสทตราภสูริโยปมํ ¶ อคฺคเหตฺวา กสฺมา จนฺโทปมา คหิตาติ เจ? สพฺพกิเลสปริฬาหวูปสเมน สนฺตสฺส ภิกฺขุโน สนฺตคุณยุตฺตจนฺโทปมา อนุจฺฉวิกาติ คหิตาติ เวทิตพฺพํ. เอวํ อานาปานสฺสติภาวนาสิทฺธิสาธกํ โยคาวจรํ ถุนิตฺวา อิมานิ เตรส โวทาเน าณานีติ ตานิ าณานิ นิคเมตฺวา ทสฺเสตีติ.
โวทานาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สโตการิาณนิทฺเทสวณฺณนา
๑๖๓. สโตการิาณนิทฺเทเส มาติกายํ อิธ ภิกฺขูติ อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขุ. อยฺหิ เอตฺถ อิธ-สทฺโท สพฺพปฺปการอานาปานสฺสติสมาธินิพฺพตฺตกสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิสฺสยภูตสาสนปริทีปโน, อฺสาสนสฺส ตถาภาวปฏิเสธโน จ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ…เป… สฺุา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อฺเหี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙; อ. นิ. ๔.๒๔๑).
อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สฺุาคารคโต วาติ อิทมสฺส อานาปานสฺสติสมาธิ ภาวนานุรูปเสนาสนปริคฺคหปริทีปนํ. อิมสฺส ¶ หิ ภิกฺขุโน ทีฆรตฺตํ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ อนุวิสฏํ จิตฺตํ อานาปานสฺสติสมาธิอารมฺมณํ อภิรุหิตุํ น อิจฺฉติ, กูฏโคณยุตฺตรโถ วิย อุปฺปถเมว ธาวติ. ตสฺมา เสยฺยถาปิ นาม โคโป กูฏเธนุยา สพฺพํ ขีรํ ปิวิตฺวา วฑฺฒิตํ กูฏวจฺฉํ ทเมตุกาโม เธนุโต อปเนตฺวา เอกมนฺเต มหนฺตํ ถมฺภํ นิขณิตฺวา ตตฺถ โยตฺเตน พนฺเธยฺย, อถสฺส โส วจฺโฉ อิโต จิโต จ วิปฺผนฺทิตฺวา ปลายิตุํ อสกฺโกนฺโต ตเมว ถมฺภํ อุปนิสีเทยฺย วา อุปนิปชฺเชยฺย วา, เอวเมว อิมินาปิ ภิกฺขุนา ทีฆรตฺตํ รูปารมฺมณาทิรสปานวฑฺฒิตํ ¶ ทุฏฺจิตฺตํ ทเมตุกาเมน รูปาทิอารมฺมณโต อปเนตฺวา อรฺํ วา รุกฺขมูลํ วา สฺุาคารํ วา ปเวเสตฺวา ตตฺถ อสฺสาสปสฺสาสถมฺเภ สติโยตฺเตน พนฺธิตพฺพํ. เอวมสฺส ตํ จิตฺตํ อิโต จิโต จ วิปฺผนฺทิตฺวาปิ ปุพฺเพ อาจิณฺณารมฺมณํ อลภมานํ สติโยตฺตํ ฉินฺทิตฺวา ปลายิตุํ ¶ อสกฺโกนฺตํ ตเมวารมฺมณํ อุปจารปฺปนาวเสน อุปนิสีทติ เจว อุปนิปชฺชติ จ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ยถา ถมฺเภ นิพนฺเธยฺย, วจฺฉํ ทมํ นโร อิธ;
พนฺเธยฺเยวํ สกํ จิตฺตํ, สติยารมฺมเณ ทฬฺห’’นฺติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๑๗; ปารา. อฏฺ. ๒.๑๖๕; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๔; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๗) –
เอวมสฺส ตํ เสนาสนํ ภาวนานุรูปํ โหติ. อถ วา ยสฺมา อิทํ กมฺมฏฺานปฺปเภเท มุทฺธภูตํ สพฺพพุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกานํ วิเสสาธิคมทิฏฺธมฺมสุขวิหารปทฏฺานํ อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ อิตฺถิปุริสหตฺถิอสฺสาทิสทฺทสมากุลํ คามนฺตํ อปริจฺจชิตฺวา น สุกรํ ภาเวตุํ สทฺทกณฺฏกตฺตา ฌานสฺส. อคามเก ปน อรฺเ สุกรํ โยคาวจเรน อิทํ กมฺมฏฺานํ ปริคฺคเหตฺวา อานาปานจตุกฺกชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตเทว ปาทกํ กตฺวา สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อคฺคผลํ อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ. ตสฺมา ตสฺส อนุรูปํ เสนาสนํ อุปทิสนฺโต ภควา ‘‘อรฺคโต วา’’ติอาทิมาห, ตเถว เถโร.
วตฺถุวิชฺชาจริโย วิย หิ ภควา, โส ยถา วตฺถุวิชฺชาจริโย นครภูมึ ปสฺสิตฺวา สุฏฺุ อุปปริกฺขิตฺวา ‘‘เอตฺถ นครํ มาเปถา’’ติ อุปทิสติ, โสตฺถินา จ นคเร นิฏฺิเต ราชกุลโต มหาสกฺการํ ลภติ, เอวเมวํ โยคาวจรสฺส อนุรูปํ เสนาสนํ อุปปริกฺขิตฺวา ‘‘เอตฺถ กมฺมฏฺานํ อนุยฺุชิตพฺพ’’นฺติ อุปทิสติ, ตโต ตตฺถ กมฺมฏฺานมนุยุตฺเตน โยคินา กเมน ¶ อรหตฺเต ปตฺเต ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต โส ภควา’’ติ มหนฺตํ สกฺการํ ลภติ. อยํ ปน ภิกฺขุ ‘‘ทีปิสทิโส’’ติ วุจฺจติ. ยถา หิ มหาทีปิราชา อรฺเ ติณคหนํ วา วนคหนํ วา ปพฺพตคหนํ วา นิสฺสาย นิลียิตฺวา วนมหึสโคกณฺณสูกราทโย มิเค คณฺหาติ, เอวเมวํ อยํ อรฺาทีสุ กมฺมฏฺานมนุยฺุชนฺโต ภิกฺขุ ยถากฺกเมน โสตาปตฺติสกทาคามิอนาคามิอรหตฺตมคฺเค เจว อริยผลานิ จ คณฺหาตีติ เวทิตพฺโพ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ยถาปิ ¶ ¶ ทีปิโก นาม, นิลียิตฺวา คณฺหเต มิเค;
ตเถวายํ พุทฺธปุตฺโต, ยุตฺตโยโค วิปสฺสโก;
อรฺํ ปวิสิตฺวาน, คณฺหาติ ผลมุตฺตม’’นฺติ. (มิ. ป. ๖.๑.๕);
เตนสฺส ปรกฺกมชวโยคฺคภูมึ อรฺเสนาสนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อรฺคโต วา’’ติอาทิมาห.
ตตฺถ อรฺคโตติ อุปริ วุตฺตลกฺขณํ ยํกิฺจิ ปวิเวกสุขํ อรฺํ คโต. รุกฺขมูลคโตติ รุกฺขสมีปํ คโต. สฺุาคารคโตติ สฺุํ วิวิตฺโตกาสํ คโต. เอตฺถ จ เปตฺวา อรฺฺจ รุกฺขมูลฺจ อวเสสสตฺตวิธเสนาสนํ คโตปิ ‘‘สฺุาคารคโต’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. นววิธฺหิ เสนาสนํ. ยถาห – ‘‘โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปฺุช’’นฺติ (วิภ. ๕๐๘). เอวมสฺส อุตุตฺตยานุกูลํ ธาตุจริยานุกูลฺจ อานาปานสฺสติภาวนานุรูปํ เสนาสนํ อุปทิสิตฺวา อลีนานุทฺธจฺจปกฺขิกํ สนฺตมิริยาปถํ อุปทิสนฺโต นิสีทตีติ อาห. อถสฺส นิสชฺชาย ทฬฺหภาวํ อสฺสาสปสฺสาสานํ ปวตฺตนสมตฺถตํ อารมฺมณปริคฺคหูปายฺจ ทสฺเสนฺโต ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวาติอาทิมาห. ตตฺถ ปลฺลงฺกนฺติ สมนฺตโต อูรุพทฺธาสนํ. อาภุชิตฺวาติ พนฺธิตฺวา. อุชุํ กายํ ปณิธายาติ อุปริมสรีรํ อุชุกํ เปตฺวา อฏฺารส ปิฏฺิกณฺฏเก โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาเทตฺวา. เอวฺหิ นิสินฺนสฺส ธมฺมมํสนฺหารูนิ น ปณมนฺติ. อถสฺส ยา เตสํ ปณมนปจฺจยา ขเณ ขเณ เวทนา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ตา น อุปฺปชฺชนฺติ. ตาสุ อนุปฺปชฺชมานาสุ จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, กมฺมฏฺานํ น ปริปตติ, วุทฺธึ ผาตึ อุปคจฺฉติ.
ปริมุขํ ¶ สตึ อุปฏฺเปตฺวาติ กมฺมฏฺานาภิมุขํ สตึ ปยิตฺวา. โส สโตว อสฺสสติ สโต ปสฺสสตีติ โส ภิกฺขุ เอวํ นิสีทิตฺวา เอวฺจ สตึ อุปฏฺเปตฺวา ตํ สตึ อวิชหนฺโต สโต เอว อสฺสสติ สโต ปสฺสสติ, สโตการี โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
อิทานิ ¶ เยหิ ปกาเรหิ สโตการี โหติ, เต ปกาเร ทสฺเสตุํ ทีฆํ วา อสฺสสนฺโตติอาทิมาห. ตตฺถ ทีฆํ วา อสฺสสนฺโตติ ทีฆํ วา อสฺสาสํ ปวตฺตยนฺโต. ตถา รสฺสํ. ยา ปน เนสํ ทีฆรสฺสตา, สา กาลวเสน เวทิตพฺพา. กทาจิ หิ มนุสฺสา หตฺถิอหิอาทโย วิย กาลวเสน ทีฆํ อสฺสสนฺติ จ ปสฺสสนฺติ จ, กทาจิ สุนขสสาทโย วิย รสฺสํ. อฺถา หิ จุณฺณวิจุณฺณา อสฺสาสปสฺสาสา ทีฆรสฺสา นาม น โหนฺติ ¶ . ตสฺมา เต ทีฆํ กาลํ ปวิสนฺตา จ นิกฺขมนฺตา จ ทีฆา, รสฺสํ กาลํ ปวิสนฺตา จ นิกฺขมนฺตา จ รสฺสาติ เวทิตพฺพา. ตตฺรายํ ภิกฺขุ อุปริ วุตฺเตหิ นวหากาเรหิ ทีฆํ อสฺสสนฺโต จ ปสฺสสนฺโต จ ทีฆํ อสฺสสามิ, ปสฺสสามีติ ปชานาติ, ตถา รสฺสํ.
เอวํ ปชานโต จ –
‘‘ทีโฆ รสฺโส จ อสฺสาโส, ปสฺสาโสปิ จ ตาทิโส;
จตฺตาโร วณฺณา วตฺตนฺติ, นาสิกคฺเคว ภิกฺขุโน’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๑๙; ปารา. อฏฺ. ๒.๑๖๕);
นวนฺนฺจสฺส อาการานํ เอเกนากาเรน กายานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนา สมฺปชฺชตีติ เวทิตพฺพา. สพฺพกายปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. สพฺพกายปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตีติ สกลสฺส อสฺสาสกายสฺสาทิมชฺฌปริโยสานํ วิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต อสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. สกลสฺส ปสฺสาสกายสฺสาทิมชฺฌปริโยสานํ วิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. เอวํ วิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน อสฺสสติ เจว ปสฺสสติ จ. ตสฺมา ‘‘อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ ¶ วุจฺจติ. เอกสฺส หิ ภิกฺขุโน จุณฺณวิจุณฺณวิสเฏ (วิสุทฺธิ. ๑.๒๑๙; ปารา. ๒.๑๖๕) อสฺสาสกาเย, ปสฺสาสกาเย วา อาทิ ปากโฏ โหติ, น มชฺฌปริโยสานํ. โส อาทิเมว ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, มชฺฌปริโยสาเน กิลมติ. เอกสฺส มชฺฌํ ปากฏํ โหติ, น อาทิปริโยสานํ. โส มชฺฌเมว ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, อาทิปริโยสาเน กิลมติ. เอกสฺส ปริโยสานํ ปากฏํ โหติ, น อาทิมชฺฌํ. โส ปริโยสานํเยว ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, อาทิมชฺเฌ กิลมติ. เอกสฺส สพฺพํ ปากฏํ โหติ, โส สพฺพมฺปิ ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ ¶ , น กตฺถจิ กิลมติ. ตาทิเสน ภวิตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘สพฺพกายปฏิสํเวที’’ติอาทิ.
ตตฺถ สิกฺขตีติ เอวํ ฆฏติ วายมติ. โย วา ตถาภูตสฺส สํวโร, อยเมตฺถ อธิสีลสิกฺขา. โย ตถาภูตสฺส สมาธิ, อยํ อธิจิตฺตสิกฺขา. ยา ตถาภูตสฺส ปฺา, อยํ อธิปฺาสิกฺขาติ อิมา ติสฺโส สิกฺขาโย ตสฺมึ อารมฺมเณ ตาย สติยา เตน มนสิกาเรน สิกฺขติ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตตฺถ ยสฺมา ปุริมนเยน เกวลํ อสฺสสิตพฺพํ ปสฺสสิตพฺพเมว จ, น อฺํ กิฺจิ กาตพฺพํ, อิโต ¶ ปฏฺาย ปน าณุปฺปาทนาทีสุ โยโค กรณีโย. ตสฺมา ตตฺถ ‘‘อสฺสสามีติ ปชานาติ ปสฺสสามีติ ปชานาติ’’จฺเจว วตฺตมานกาลวเสน ปาฬึ วตฺวา อิโต ปฏฺาย กตฺตพฺพสฺส าณุปฺปาทนาทิโน อา-การสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘สพฺพกายปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’’ติอาทินา นเยน อนาคตกาลวเสน ปาฬิ อาโรปิตาติ เวทิตพฺพา.
ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ…เป… สิกฺขตีติ โอฬาริกํ อสฺสาสปสฺสาสสงฺขาตํ กายสงฺขารํ ปสฺสมฺเภนฺโต ปฏิปฺปสฺสมฺเภนฺโต นิโรเธนฺโต วูปสเมนฺโต อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ.
ตตฺเรวํ โอฬาริกสุขุมตา จ ปสฺสทฺธิ จ เวทิตพฺพา – อิมสฺส หิ ภิกฺขุโน ปุพฺเพ อปริคฺคหิตกาเล กาโย จ จิตฺตฺจ สทรถา โหนฺติ โอฬาริกา. กายจิตฺตานํ โอฬาริกตฺเต อวูปสนฺเต อสฺสาสปสฺสาสาปิ โอฬาริกา โหนฺติ, พลวตรา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ, นาสิกา นปฺปโหติ, มุเขน อสฺสสนฺโตปิ ปสฺสสนฺโตปิ ติฏฺติ. ยทา ปนสฺส กาโยปิ ¶ จิตฺตมฺปิ ปริคฺคหิตา โหนฺติ, ตทา เต สนฺตา โหนฺติ วูปสนฺตา. เตสุ วูปสนฺเตสุ อสฺสาสปสฺสาสา สุขุมา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ, ‘‘อตฺถิ นุ โข, นตฺถี’’ติ วิเจตพฺพาการปฺปตฺตา โหนฺติ. เสยฺยถาปิ ปุริสสฺส ธาวิตฺวา ปพฺพตา วา โอโรหิตฺวา มหาภารํ วา สีสโต โอโรเปตฺวา ิตสฺส โอฬาริกา อสฺสาสปสฺสาสา โหนฺติ, นาสิกา นปฺปโหติ, มุเขน อสฺสสนฺโตปิ ปสฺสสนฺโตปิ ติฏฺติ. ยทา ปเนส ตํ ปริสฺสมํ วิโนเทตฺวา นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ อลฺลสาฏกํ หทเย กตฺวา สีตาย ฉายาย นิปนฺโน โหติ, อถสฺส เต อสฺสาสปสฺสาสา สุขุมา โหนฺติ ‘‘อตฺถิ นุ โข, นตฺถี’’ติ วิเจตพฺพาการปฺปตฺตา, เอวเมวํ อิมสฺส ภิกฺขุโน อปริคฺคหิตกาเลติ ¶ วิตฺถาเรตพฺพํ. ตถา หิสฺส ปุพฺเพ อปริคฺคหิตกาเล ‘‘โอฬาริโกฬาริเก กายสงฺขาเร ปสฺสมฺเภมี’’ติ อาโภคสมนฺนาหารมนสิกาโร นตฺถิ, ปริคฺคหิตกาเล ปน อตฺถิ. เตนสฺส อปริคฺคหิตกาลโต ปริคฺคหิตกาเล กายสงฺขาโร สุขุโม โหติ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘สารทฺเธ กาเย จิตฺเต จ, อธิมตฺตํ ปวตฺตติ;
อสารทฺธมฺหิ กายมฺหิ, สุขุมํ สมฺปวตฺตตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๒๐; ปารา. อฏฺ. ๒.๑๖๕);
ปริคฺคเหปิ โอฬาริโก, ปมชฺฌานูปจาเร สุขุโม. ตสฺมิมฺปิ โอฬาริโก, ปมชฺฌาเน สุขุโม. ปมชฺฌาเน จ ทุติยชฺฌานูปจาเร จ โอฬาริโก, ทุติยชฺฌาเน สุขุโม. ทุติยชฺฌาเน ¶ จ ตติยชฺฌานูปจาเร จ โอฬาริโก, ตติยชฺฌาเน สุขุโม. ตติยชฺฌาเน จ จตุตฺถชฺฌานูปจาเร จ โอฬาริโก, จตุตฺถชฺฌาเน อติสุขุโม อปฺปวตฺติเมว ปาปุณาติ. อิทํ ตาว ทีฆภาณกสํยุตฺตภาณกานํ มตํ.
มชฺฌิมภาณกา ปน ‘‘ปมชฺฌาเน โอฬาริโก, ทุติยชฺฌานูปจาเร สุขุโม’’ติ เอวํ เหฏฺิมเหฏฺิมชฺฌานโต อุปรูปริชฺฌานูปจาเรปิ สุขุมตรํ อิจฺฉนฺติ. สพฺเพสํเยว ปน มเตน อปริคฺคหิตกาเล ปวตฺตกายสงฺขาโร ปริคฺคหิตกาเล ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ปริคฺคหิตกาเล ปวตฺตกายสงฺขาโร ปมชฺฌานูปจาเร…เป… จตุตฺถชฺฌานูปจาเร ปวตฺตกายสงฺขาโร จตุตฺถชฺฌาเน ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อยํ ตาว สมเถ นโย.
วิปสฺสนายํ ¶ ปน อปริคฺคหิตกาเล ปวตฺตกายสงฺขาโร โอฬาริโก, มหาภูตปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, อุปาทารูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, สกลรูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, อรูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, รูปารูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, ปจฺจยปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสเน สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, ลกฺขณารมฺมณิก วิปสฺสนาย สุขุโม. โสปิ ทุพฺพลวิปสฺสนาย โอฬาริโก, พลววิปสฺสนาย สุขุโม. ตตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ปุริมสฺส ปุริมสฺส ปจฺฉิเมน ปจฺฉิเมน ปฏิปฺปสฺสทฺธิ เวทิตพฺพา. เอวเมตฺถ โอฬาริกสุขุมตา ปฏิปฺปสฺสทฺธิ จ ¶ เวทิตพฺพา. อยํ ตาเวตฺถ กายานุปสฺสนาวเสน วุตฺตสฺส ปมจตุกฺกสฺส อนุปุพฺพปทวณฺณนา.
ยสฺมา ปเนตฺถ อิทเมว จตุกฺกํ อาทิกมฺมิกสฺส กมฺมฏฺานวเสน วุตฺตํ, อิตรานิ ปน ตีณิ จตุกฺกานิ เอตฺถ ปตฺตชฺฌานสฺส เวทนาจิตฺตธมฺมานุปสฺสนาวเสน, ตสฺมา อิมํ กมฺมฏฺานํ ภาเวตฺวา อานาปานจตุกฺกชฺฌานปทฏฺานาย วิปสฺสนาย สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิตุกาเมน อาทิกมฺมิเกน กุลปุตฺเตน วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตนเยน สีลปริโสธนาทีนิ สพฺพกิจฺจานิ กตฺวา สตฺตงฺคสมนฺนาคตสฺส อาจริยสฺส สนฺติเก ปฺจสนฺธิกํ กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตพฺพํ. ตตฺริเม ปฺจ สนฺธโย อุคฺคโห ปริปุจฺฉา อุปฏฺานํ อปฺปนา ลกฺขณนฺติ. ตตฺถ อุคฺคโห นาม กมฺมฏฺานสฺส อุคฺคณฺหนํ. ปริปุจฺฉา นาม กมฺมฏฺานสฺส ปริปุจฺฉนํ. อุปฏฺานํ นาม กมฺมฏฺานสฺส อุปฏฺานํ. อปฺปนา นาม กมฺมฏฺานสฺส อปฺปนา. ลกฺขณํ นาม กมฺมฏฺานสฺส ลกฺขณํ, ‘‘เอวํ ลกฺขณมิทํ กมฺมฏฺาน’’นฺติ กมฺมฏฺานสภาวูปธารณนฺติ วุตฺตํ โหติ.
เอวํ ¶ ปฺจสนฺธิกํ กมฺมฏฺานํ อุคฺคณฺหนฺโต อตฺตนาปิ น กิลมติ, อาจริยมฺปิ น วิเหเสติ. ตสฺมา โถกํ อุทฺทิสาเปตฺวา พหุํ กาลํ สชฺฌายิตฺวา เอวํ ปฺจสนฺธิกํ กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตฺวา อาจริยสฺส สนฺติเก วา อฺตฺถ วา อฏฺารส โทสยุตฺเต วิหาเร วชฺเชตฺวา ปฺจงฺคสมนฺนาคเต เสนาสเน วสนฺเตน อุปจฺฉินฺนขุทฺทกปลิโพเธน กตภตฺตกิจฺเจน ภตฺตสมฺมทํ ปฏิวิโนเทตฺวา สุขนิสินฺเนน รตนตฺตยคุณานุสฺสรเณน จิตฺตํ สมฺปหํเสตฺวา อาจริยุคฺคหโต ¶ เอกปทมฺปิ อปริหาเปนฺเตน อิทํ อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ มนสิ กาตพฺพํ. ตตฺรายํ มนสิการวิธิ –
‘‘คณนา อนุพนฺธนา, ผุสนา ปนา สลฺลกฺขณา;
วิวฏฺฏนา ปาริสุทฺธิ, เตสฺจ ปฏิปสฺสนา’’ติ.
ตตฺถ ¶ คณนาติ คณนาเยว. อนุพนฺธนาติ อนุคมนา. ผุสนาติ ผุฏฺฏฺานํ. ปนาติ อปฺปนา. สลฺลกฺขณาติ วิปสฺสนา. วิวฏฺฏนาติ มคฺโค. ปาริสุทฺธีติ ผลํ. เตสฺจ ปฏิปสฺสนาติ ปจฺจเวกฺขณา. ตตฺถ อิมินา อาทิกมฺมิเกน กุลปุตฺเตน ปมํ คณนาย อิทํ กมฺมฏฺานํ มนสิ กาตพฺพํ. คเณนฺเตน ปน ปฺจนฺนํ เหฏฺา น เปตพฺพํ, ทสนฺนํ อุปริ น เนตพฺพํ, อนฺตรา ขณฺฑํ น ทสฺเสตพฺพํ. ปฺจนฺนํ เหฏฺา เปนฺตสฺส หิ สมฺพาเธ โอกาเส จิตฺตุปฺปาโท วิปฺผนฺทติ สมฺพาเธ วเช สนฺนิรุทฺธโคคโณ วิย. ทสนฺนํ อุปริ เนนฺตสฺส คณนนิสฺสิโตว จิตฺตุปฺปาโท โหติ. อนฺตรา ขณฺฑํ ทสฺเสนฺตสฺส ‘‘สิขาปฺปตฺตํ นุ โข เม กมฺมฏฺานํ, โน’’ติ จิตฺตํ วิกมฺปติ, ตสฺมา เอเต โทเส วชฺเชตฺวา คเณตพฺพํ.
คเณนฺเตน จ ปมํ ทนฺธคณนาย ธฺมาปกคณนาย คเณตพฺพํ. ธฺมาปโก หิ นาฬึ ปูเรตฺวา ‘‘เอก’’นฺติ วตฺวา โอกิรติ, ปุน ปูเรนฺโต กิฺจิ กจวรํ ทิสฺวา ฉฑฺเฑนฺโต ‘‘เอกํ เอก’’นฺติ วทติ. เอเสว นโย ทฺเว ทฺเวติอาทีสุ. เอวเมวํ อิมินาปิ อสฺสาสปสฺสาเสสุ โย อุปฏฺาติ, ตํ คเหตฺวา ‘‘เอกํ เอก’’นฺติอาทึ กตฺวา ยาว ‘‘ทส ทสา’’ติ ปวตฺตมานํ ปวตฺตมานํ อุปลกฺเขตฺวาว คเณตพฺพํ. ตสฺส เอวํ คณยโต นิกฺขมนฺตา จ ปวิสนฺตา จ อสฺสาสปสฺสาสา ปากฏา โหนฺติ.
อถาเนน ตํ ทนฺธคณนํ ธฺมาปกคณนํ ปหาย สีฆคณนาย โคปาลกคณนาย คเณตพฺพํ. เฉโก หิ โคปาลโก สกฺขราทโย อุจฺฉงฺเคน คเหตฺวา รชฺชุทณฺฑหตฺโถ ปาโตว วชํ คนฺตฺวา คาโว ปิฏฺิยํ ปหริตฺวา ปลิฆตฺถมฺภมตฺถเก นิสินฺโน ทฺวารํ ปตฺตํ ปตฺตํเยว คาวํ ‘‘เอโก ทฺเว’’ติ ¶ สกฺขรํ ขิปิตฺวา ขิปิตฺวา คเณติ. ติยามรตฺตึ สมฺพาเธ โอกาเส ทุกฺขํ วุตฺถโคคโณ นิกฺขมนฺโต อฺมฺํ อุปนิฆํสนฺโต เวเคน เวเคน ปฺุชปฺุโช หุตฺวา นิกฺขมติ. โส เวเคน เวเคน ‘‘ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ ทสา’’ติ คเณติเยว, เอวมสฺสาปิ ปุริมนเยน คณยโต ¶ อสฺสาสปสฺสาสา ปากฏา หุตฺวา สีฆํ สีฆํ ปุนปฺปุนํ สฺจรนฺติ. ตโต เตน ‘‘ปุนปฺปุนํ สฺจรนฺตี’’ติ ตฺวา อนฺโต จ พหิ จ อคฺคเหตฺวา ทฺวารปฺปตฺตํ ทฺวารปฺปตฺตํเยว คเหตฺวา ‘‘เอโก ¶ ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ, เอโก ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ ฉ, เอโก ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ ฉ สตฺต…เป… อฏฺ นว ทสา’’ติ สีฆํ สีฆํ คเณตพฺพเมว. คณนาปฏิพทฺเธ หิ กมฺมฏฺาเน คณนพเลเนว จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ อริตฺตุปตฺถมฺภนวเสน จณฺฑโสเต นาวาปนมิว.
ตสฺเสวํ สีฆํ สีฆํ คณยโต กมฺมฏฺานํ นิรนฺตรํ ปวตฺตํ วิย หุตฺวา อุปฏฺาติ. อถ ‘‘นิรนฺตรํ ปวตฺตตี’’ติ ตฺวา อนฺโต จ พหิ จ วาตํ อปริคฺคเหตฺวา ปุริมนเยเนว เวเคน เวเคน คเณตพฺพํ. อนฺโตปวิสนวาเตน หิ สทฺธึ จิตฺตํ ปเวสยโต อพฺภนฺตรํ วาตพฺภาหตํ เมทปูริตํ วิย โหติ. พหินิกฺขมนวาเตน สทฺธึ จิตฺตํ นีหรโต พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมเณ จิตฺตํ วิกฺขิปติ. ผุฏฺผุฏฺโกาเส ปน สตึ เปตฺวา ภาเวนฺตสฺเสว ภาวนา สมฺปชฺชติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อนฺโต จ พหิ จ วาตํ อปริคฺคเหตฺวา ปุริมนเยเนว เวเคน เวเคน คเณตพฺพ’’นฺติ.
กีวจิรํ ปเนตํ คเณตพฺพนฺติ? ยาว วินา คณนาย อสฺสาสปสฺสาสารมฺมเณ สติ สนฺติฏฺติ. พหิ วิสฏวิตกฺกวิจฺเฉทํ กตฺวา อสฺสาสปสฺสาสารมฺมเณ สติ สณฺาปนตฺถํเยว หิ คณนาติ.
เอวํ คณนาย มนสิ กตฺวา อนุพนฺธนาย มนสิ กาตพฺพํ. อนุพนฺธนา นาม คณนํ ปฏิสํหริตฺวา สติยา นิรนฺตรํ อสฺสาสปสฺสาสานํ อนุคมนํ. ตฺจ โข น อาทิมชฺฌปริโยสานานุคมนวเสน. อาทิมชฺฌปริโยสานานิ ตสฺสานุคมเน อาทีนวา จ เหฏฺา วุตฺตาเยว.
ตสฺมา อนุพนฺธนาย มนสิกโรนฺเตน น อาทิมชฺฌปริโยสานวเสน มนสิ กาตพฺพํ, อปิจ โข ผุสนาวเสน จ ปนาวเสน จ มนสิ กาตพฺพํ. คณนานุพนฺธนาวเสน วิย หิ ผุสนาปนาวเสน วิสุํ มนสิกาโร นตฺถิ, ผุฏฺผุฏฺฏฺาเนเยว ปน คเณนฺโต คณนาย จ ผุสนาย จ มนสิ กโรติ, ตตฺเถว คณนํ ปฏิสํหริตฺวา เต สติยา อนุพนฺธนฺโต, อปฺปนาวเสน จ จิตฺตํ เปนฺโต ‘‘อนุพนฺธนาย จ ผุสนาย จ ปนาย จ มนสิ ¶ กโรตี’’ติ ¶ วุจฺจติ. สฺวายมตฺโถ อฏฺกถาสุ วุตฺตปงฺคุฬโทวาริโกปมาหิ อิเธว ปาฬิยํ วุตฺตกกจูปมาย จ เวทิตพฺโพ.
ตตฺรายํ ¶ ปงฺคุโฬปมา – เสยฺยถาปิ ปงฺคุโฬ โทลาย กีฬตํ มาตาปุตฺตานํ โทลํ ขิปิตฺวา ตตฺเถว โทลาถมฺภมูเล นิสินฺโน กเมน อาคจฺฉนฺตสฺส จ คจฺฉนฺตสฺส จ โทลาผลกสฺส อุโภ โกฏิโย มชฺฌฺจ ปสฺสติ, น จ อุโภโกฏิมชฺฌานํ ทสฺสนตฺถํ พฺยาวโฏ โหติ, เอวเมว ภิกฺขุ สติวเสน อุปนิพนฺธนตฺถมฺภมูเล ตฺวา อสฺสาสปสฺสาสโทลํ ขิปิตฺวา ตตฺเถว นิมิตฺเต สติยา นิสีทนฺโต กเมน อาคจฺฉนฺตานฺจ คจฺฉนฺตานฺจ ผุฏฺฏฺาเน อสฺสาสปสฺสาสานํ อาทิมชฺฌปริโยสานํ สติยา อนุคจฺฉนฺโต ตตฺเถว (วิสุทฺธิ. ๑.๒๒๕) จิตฺตํ เปตฺวา ปสฺสติ, น จ เตสํ ทสฺสนตฺถํ พฺยาวโฏ โหติ. อยํ ปงฺคุโฬปมา.
อยํ ปน โทวาริโกปมา – เสยฺยถาปิ โทวาริโก นครสฺส อนฺโต จ พหิ จ ปุริเส ‘‘โก ตฺวํ, กุโต วา อาคโต, กุหึ วา คจฺฉสิ, กึ วา เต หตฺเถ’’ติ น วีมํสติ. น หิ ตสฺส เต ภารา, ทฺวารปฺปตฺตํ ทฺวารปฺปตฺตํเยว ปน วีมํสติ, เอวเมว อิมสฺส ภิกฺขุโน อนฺโตปวิฏฺวาตา จ พหินิกฺขนฺตวาตา จ น ภารา โหนฺติ, ทฺวารปฺปตฺตา ทฺวารปฺปตฺตาเยว ภาราติ อยํ โทวาริโกปมา.
กกจูปมา ปน ‘‘นิมิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสา’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๙) นเยน อิธ วุตฺตาเยว. อิธ ปนสฺส อาคตาคตวเสน อมนสิการมตฺตเมว ปโยชนนฺติ เวทิตพฺพํ.
อิทํ กมฺมฏฺานํ มนสิกโรโต กสฺสจิ น จิเรเนว นิมิตฺตฺจ อุปฺปชฺชติ, อวเสสฌานงฺคปฏิมณฺฑิตา อปฺปนาสงฺขาตา ปนา จ สมฺปชฺชติ. กสฺสจิ ปน คณนาวเสเนว มนสิการกาลโต ปภุติ ยถา สารทฺธกายสฺส มฺเจ วา ปีเ วา นิสีทโต มฺจปีํ โอนมติ วิกูชติ, ปจฺจตฺถรณํ วลึ คณฺหาติ, อสารทฺธกายสฺส ปน นิสีทโต เนว มฺจปีํ โอนมติ น วิกูชติ, น ปจฺจตฺถรณํ วลึ คณฺหาติ, ตูลปิจุปูริตํ วิย มฺจปีํ โหติ ¶ . กสฺมา? ยสฺมา อสารทฺโธ กาโย ลหุโก โหติ, เอวเมวํ คณนาวเสน มนสิการกาลโต ปภุติ อนุกฺกมโต โอฬาริกอสฺสาสปสฺสาสนิโรธวเสน กายทรเถ วูปสนฺเต กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ลหุกํ โหติ, สรีรํ อากาเส ลงฺฆนาการปฺปตฺตํ วิย โหติ.
ตสฺส โอฬาริเก อสฺสาสปสฺสาเส นิรุทฺเธ สุขุมอสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตารมฺมณํ ¶ จิตฺตํ ปวตฺตติ ¶ . ตสฺมิมฺปิ นิรุทฺเธ อปราปรํ ตโต สุขุมตรํ สุขุมตรํ อสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตารมฺมณํ ปวตฺตติเยว. สฺวายมตฺโถ อุปริ วุตฺตกํสถาโลปมาย เวทิตพฺโพ.
ยถา หิ อฺานิ กมฺมฏฺานานิ อุปรูปริ วิภูตานิ โหนฺติ, น ตถา อิทํ. อิทํ ปน อุปรูปริ ภาเวนฺตสฺส สุขุมตฺตํ คจฺฉติ, อุปฏฺานมฺปิ น อุปคจฺฉติ. เอวํ อนุปฏฺหนฺเต ปน ตสฺมึ เตน ภิกฺขุนา ‘‘อาจริยํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ วา ‘‘นฏฺํ ทานิ เม กมฺมฏฺาน’’นฺติ วา อุฏฺายาสนา น คนฺตพฺพํ. อิริยาปถํ วิโกเปตฺวา คจฺฉโต หิ กมฺมฏฺานํ นวนวเมว โหติ. ตสฺมา ยถานิสินฺเนเนว เทสโต อาหริตพฺพํ.
ตตฺรายํ อาหรณูปาโย – เตน ภิกฺขุนา กมฺมฏฺานสฺส อนุปฏฺานภาวํ ตฺวา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ ‘‘อิเม อสฺสาสปสฺสาสา นาม กตฺถ อตฺถิ, กตฺถ นตฺถิ. กสฺส วา อตฺถิ, กสฺส วา นตฺถี’’ติ. อเถวํ ปฏิสฺจิกฺขโต ‘‘อิเม อนฺโตมาตุกุจฺฉิยํ นตฺถิ, อุทเก นิมุคฺคานํ นตฺถิ, ตถา อสฺีภูตานํ มตานํ จตุตฺถชฺฌานสมาปนฺนานํ รูปารูปภวสมงฺคีนํ นิโรธสมาปนฺนาน’’นฺติ ตฺวา เอวํ อตฺตนาว อตฺตา ปฏิโจเทตพฺโพ ‘‘นนุ, ตฺวํ ปณฺฑิต, เนว มาตุกุจฺฉิคโต, น อุทเก นิมุคฺโค, น อสฺีภูโต, น มโต, น จตุตฺถชฺฌานสมาปนฺโน, น รูปารูปภวสมงฺคี, น นิโรธสมาปนฺโน. อตฺถิเยว เต อสฺสาสปสฺสาสา, มนฺทปฺตาย ปน ปริคฺคเหตุํ น สกฺโกสี’’ติ. อถาเนน ปกติผุฏฺวเสน จิตฺตํ เปตฺวา มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. อิเม หิ ทีฆนาสิกสฺส นาสาปุฏํ ฆฏฺเฏนฺตา ปวตฺตนฺติ, รสฺสนาสิกสฺส อุตฺตโรฏฺํ. ตสฺมาเนน อิมํ นาม านํ ฆฏฺเฏนฺตีติ นิมิตฺตํ เปตพฺพํ. อิมเมว หิ อตฺถวสํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ ภควตา – ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, มุฏฺสฺสติสฺส อสมฺปชานสฺส อานาปานสฺสติภาวนํ วทามี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๔๙; สํ. นิ. ๕.๙๙๒). กิฺจาปิ หิ ¶ ยํกิฺจิ กมฺมฏฺานํ สตสฺส สมฺปชานสฺเสว สมฺปชฺชติ, อิโต อฺํ ปน มนสิกโรนฺตสฺส ปากฏํ โหติ. อิทํ ปน อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ ¶ ครุกํ ครุกภาวนํ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธปุตฺตานํ มหาปุริสานํเยว มนสิการภูมิภูตํ, น เจว อิตฺตรํ, น จ อิตฺตรสตฺตสมาเสวิตํ. ยถา ยถา มนสิ กรียติ, ตถา ตถา สนฺตฺเจว โหติ สุขุมฺจ. ตสฺมา เอตฺถ พลวตี สติ จ ปฺา จ อิจฺฉิตพฺพา.
ยถา หิ มฏฺสาฏกสฺส ตุนฺนกรณกาเล สูจิปิ สุขุมา อิจฺฉิตพฺพา, สูจิปาสเวธนมฺปิ ตโต สุขุมตรํ, เอวเมวํ มฏฺสาฏกสทิสสฺส อิมสฺส กมฺมฏฺานสฺส ภาวนากาเล สูจิปฏิภาคา สติปิ สูจิปาสเวธนปฏิภาคา ตํสมฺปยุตฺตา ปฺาปิ พลวตี อิจฺฉิตพฺพา. ตาหิ จ ปน สติปฺาหิ ¶ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น เต อสฺสาสปสฺสาสา อฺตฺร ปกติผุฏฺโกาสา ปริเยสิตพฺพา.
ยถา หิ กสฺสโก เขตฺตํ กสิตฺวา พลีพทฺเท มฺุจิตฺวา โคจรมุเข กตฺวา ฉายาย นิสินฺโน วิสฺสเมยฺย, อถสฺส เต พลีพทฺทา เวเคน อฏวึ ปวิเสยฺยุํ. โย โหติ เฉโก กสฺสโก, โส ปุน เต คเหตฺวา โยเชตุกาโม น เตสํ อนุปทํ คนฺตฺวา อฏวึ อาหิณฺฑติ. อถ โข รสฺมิฺจ ปโตทฺจ คเหตฺวา อุชุกเมว เตสํ นิปาตนติตฺถํ คนฺตฺวา นิสีทติ วา นิปชฺชติ วา. อถ เต โคเณ ทิวสภาคํ จริตฺวา นิปาตนติตฺถํ โอตริตฺวา นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปจฺจุตฺตริตฺวา ิเต ทิสฺวา รสฺมิยา พนฺธิตฺวา ปโตเทน วิชฺฌนฺโต อาเนตฺวา โยเชตฺวา ปุน กมฺมํ กโรติ. เอวเมวํ เตน ภิกฺขุนา น เต อสฺสาสปสฺสาสา อฺตฺร ปกติผุฏฺโกาสา ปริเยสิตพฺพา. สติรสฺมึ ปน ปฺาปโตทฺจ คเหตฺวา ปกติผุฏฺโกาเส จิตฺตํ เปตฺวา มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. เอวํ หิสฺส มนสิกโรโต น จิรสฺเสว เต อุปฏฺหนฺติ นิปาตนติตฺเถ วิย โคณา. ตโต เตน สติรสฺมิยา พนฺธิตฺวา ตสฺมึเยว าเน โยเชตฺวา ปฺาปโตเทน วิชฺฌนฺเตน ปุนปฺปุนํ กมฺมฏฺานํ อนุยฺุชิตพฺพํ. ตสฺเสวมนุยฺุชโต น จิรสฺเสว นิมิตฺตํ อุปฏฺาติ. ตํ ปเนตํ น สพฺเพสํ เอกสทิสํ โหติ, อปิจ โข กสฺสจิ สุขสมฺผสฺสํ อุปฺปาทยมาโน ตูลปิจุ วิย กปฺปาสปิจุ วิย วาตธารา วิย จ อุปฏฺาตีติ เอกจฺเจ อาหุ.
อยํ ¶ ¶ ปน อฏฺกถาสุ วินิจฺฉโย – อิทฺหิ กสฺสจิ ตารกรูปํ วิย มณิคุฬิกา วิย มุตฺตาคุฬิกา วิย จ, กสฺสจิ ขรสมฺผสฺสํ หุตฺวา กปฺปาสฏฺิ วิย ทารุสารสูจิ วิย จ, กสฺสจิ ทีฆปามงฺคสุตฺตํ วิย กุสุมทามํ วิย ธูมสิขา วิย จ, กสฺสจิ วิตฺถตํ มกฺกฏกสุตฺตํ วิย วลาหกปฏลํ วิย ปทุมปุปฺผํ วิย รถจกฺกํ วิย จนฺทมณฺฑลํ วิย สูริยมณฺฑลํ วิย จ อุปฏฺาติ, ตฺจ ปเนตํ ยถา สมฺพหุเลสุ ภิกฺขูสุ สุตฺตนฺตํ สชฺฌายิตฺวา นิสินฺเนสุ เอเกน ภิกฺขุนา ‘‘ตุมฺหากํ กีทิสํ หุตฺวา อิทํ สุตฺตํ อุปฏฺาตี’’ติ วุตฺเต เอโก ‘‘มยฺหํ มหตี ปพฺพเตยฺยา นที วิย หุตฺวา อุปฏฺาตี’’ติ อาห. อปโร ‘‘มยฺหํ เอกา วนราชิ วิย’’. อฺโ ‘‘มยฺหํ เอโก สีตจฺฉาโย สาขาสมฺปนฺโน ผลภารภริโต รุกฺโข วิยา’’ติ. เตสฺหิ ตํ เอกเมว สุตฺตํ สฺานานตาย นานโต อุปฏฺาติ. เอวํ เอกเมว กมฺมฏฺานํ สฺานานตาย นานโต อุปฏฺาติ. สฺชฺหิ เอตํ สฺานิทานํ สฺาปภวํ, ตสฺมา สฺานานตาย นานโต อุปฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ.
เอวํ ¶ อุปฏฺิเต ปน นิมิตฺเต เตน ภิกฺขุนา อาจริยสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อาโรเจตพฺพํ ‘‘มยฺหํ, ภนฺเต, เอวรูปํ นาม อุปฏฺาตี’’ติ. อาจริเยน ปน ‘‘นิมิตฺตมิทํ, อาวุโส, กมฺมฏฺานํ ปุนปฺปุนํ มนสิ กโรหิ สปฺปุริสา’’ติ วตฺตพฺโพ. อถาเนน นิมิตฺเตเยว จิตฺตํ เปตพฺพํ. เอวมสฺสายํ อิโต ปภุติ ปนาวเสน ภาวนา โหติ. วุตฺตฺเหตํ โปราเณหิ –
‘‘นิมิตฺเต ปยํ จิตฺตํ, นานาการํ วิภาวยํ;
ธีโร อสฺสาสปสฺสาเส, สกํ จิตฺตํ นิพนฺธตี’’ติ. (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๖๕; วิสุทฺธิ. ๑.๒๓๒);
ตสฺเสวํ นิมิตฺตุปฏฺานโต ปภุติ นีวรณานิ วิกฺขมฺภิตาเนว โหนฺติ, กิเลสา สนฺนิสินฺนาว, จิตฺตํ อุปจารสมาธินา สมาหิตเมว. อถาเนน ตํ นิมิตฺตํ เนว วณฺณโต มนสิ กาตพฺพํ, น ลกฺขณโต ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ, อปิจ โข ขตฺติยมเหสิยา จกฺกวตฺติคพฺโภ วิย กสฺสเกน สาลิยวคพฺโภ วิย จ อาวาสาทีนิ สตฺต อสปฺปายานิ วชฺเชตฺวา ตาเนว สตฺต สปฺปายานิ เสวนฺเตน สาธุกํ รกฺขิตพฺพํ, อถ ¶ นํ เอวํ รกฺขิตฺวา ปุนปฺปุนํ มนสิการวเสน วุทฺธึ วิรูฬฺหึ คมยิตฺวา ทสวิธํ อปฺปนาโกสลฺลํ สมฺปาเทตพฺพํ, วีริยสมตา โยเชตพฺพา. ตสฺเสวํ ฆเฏนฺตสฺส ¶ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตานุกฺกเมน ตสฺมึ นิมิตฺเต จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ นิพฺพตฺตนฺติ. เอวํ นิพฺพตฺตจตุกฺกปฺจกชฺฌาโน ปเนตฺถ ภิกฺขุ สลฺลกฺขณาวิวฏฺฏนาวเสน กมฺมฏฺานํ วฑฺเฒตฺวา ปาริสุทฺธึ ปตฺตุกาโม ตเทว ฌานํ ปฺจหากาเรหิ วสิปฺปตฺตํ ปคุณํ กตฺวา นามรูปํ ววตฺถเปตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปติ. กถํ? โส หิ สมาปตฺติโต วุฏฺาย อสฺสาสปสฺสาสานํ สมุทโย กรชกาโย จ จิตฺตฺจาติ ปสฺสติ. ยถา หิ กมฺมารคคฺคริยา ธมมานาย ภสฺตฺจ ปุริสสฺส จ ตชฺชํ วายามํ ปฏิจฺจ วาโต สฺจรติ, เอวเมวํ กายฺจ จิตฺตฺจ ปฏิจฺจ อสฺสาสปสฺสาสาติ. ตโต อสฺสาสปสฺสาเส จ กายฺจ รูปนฺติ, จิตฺตฺจ ตํสมฺปยุตฺเต จ ธมฺเม อรูปนฺติ ววตฺถเปติ.
เอวํ นามรูปํ ววตฺถเปตฺวา ตสฺส ปจฺจยํ ปริเยสติ, ปริเยสนฺโต จ ตํ ทิสฺวา ตีสุปิ อทฺธาสุ นามรูปสฺส ปวตฺตึ อารพฺภ กงฺขํ วิตรติ, วิติณฺณกงฺโข กลาปสมฺมสนวเสน ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา’’ติ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา อุทยพฺพยานุปสฺสนาย ปุพฺพภาเค อุปฺปนฺเน โอภาสาทโย ทส วิปสฺสนุปกฺกิเลเส ปหาย อุปกฺกิเลสวิมุตฺตํ อุทยพฺพยานุปสฺสนาาณํ ‘‘มคฺโค’’ติ ววตฺถเปตฺวา อุทยํ ปหาย ภงฺคานุปสฺสนํ ปตฺวา นิรนฺตรํ ภงฺคานุปสฺสเนน ภยโต อุปฏฺิเตสุ สพฺพสงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทนฺโต วิรชฺชนฺโต วิมุจฺจนฺโต ยถากฺกเมน จตฺตาโร อริยมคฺเค ปาปุณิตฺวา ¶ อรหตฺตผเล ปติฏฺาย เอกูนวีสติเภทสฺส ปจฺจเวกฺขณาาณสฺส ปริยนฺตํ ปตฺโต สเทวกสฺส โลกสฺส อคฺคทกฺขิเณยฺโย โหติ. เอตฺตาวตา จสฺส คณนํ อาทึ กตฺวา วิปสฺสนาปริโยสานา อานาปานสฺสติสมาธิภาวนา สมตฺตา โหตีติ. อยํ สพฺพาการโต ปมจตุกฺกวณฺณนา.
อิตเรสุ ¶ ปน ตีสุ จตุกฺเกสุ ยสฺมา วิสุํ กมฺมฏฺานภาวนานโย นาม นตฺถิ, ตสฺมา อนุปทวณฺณนานเยเนว เตสํ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปีติปฏิสํเวทีติ ปีตึ ปฏิสํวิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. ตตฺถ ทฺวีหากาเรหิ ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ อารมฺมณโต จ อสมฺโมหโต จ.
กถํ อารมฺมณโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชติ, ตสฺส สมาปตฺติกฺขเณ ฌานปฏิลาเภน อารมฺมณโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ อารมฺมณสฺส ปฏิสํวิทิตตฺตา.
กถํ ¶ อสมฺโมหโต? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตํ ปีตึ ขยโต วยโต สมฺมสติ, ตสฺส วิปสฺสนากฺขเณ ลกฺขณปฏิเวเธน อสมฺโมหโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. เอเตเนว นเยน อวเสสปทานิปิ อตฺถโต เวทิตพฺพานิ. อิทํ ปเนตฺถ วิเสสมตฺตํ – ติณฺณํ ฌานานํ วเสน สุขปฏิสํวิทิตา โหติ. จตุนฺนมฺปิ ฌานานํ วเสน จิตฺตสงฺขารปฏิสํวิทิตา เวทิตพฺพา. จิตฺตสงฺขาโรติ เวทนาสฺากฺขนฺธา. ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารนฺติ โอฬาริกํ โอฬาริกํ จิตฺตสงฺขารํ ปสฺสมฺเภนฺโต, นิโรเธนฺโตติ อตฺโถ. โส วิตฺถารโต กายสงฺขาเร วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. อปิเจตฺถ ปีติปเท ปีติสีเสน เวทนา วุตฺตา, สุขปเท สรูเปเนว เวทนา. ทฺวีสุ จิตฺตสงฺขารปเทสุ ‘‘สฺา จ เวทนา จ เจตสิกา, เอเต ธมฺมา จิตฺตปฏิพทฺธา จิตฺตสงฺขารา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๔; ม. นิ. ๑.๔๖๓) วจนโต สฺาสมฺปยุตฺตา เวทนาติ เอวํ เวทนานุปสฺสนานเยน อิทํ จตุกฺกํ ภาสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ตติยจตุกฺเกปิ จตุนฺนํ ฌานานํ วเสน จิตฺตปฏิสํวิทิตา เวทิตพฺพา. อภิปฺปโมทยํ จิตฺตนฺติ จิตฺตํ โมเทนฺโต ปโมเทนฺโต หาเสนฺโต ปหาเสนฺโต อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. ตตฺถ ทฺวีหากาเรหิ อภิปฺปโมโท โหติ สมาธิวเสน จ วิปสฺสนาวเสน จ.
กถํ สมาธิวเสน? สปฺปีติเก ¶ ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชติ, โส สมาปตฺติกฺขเณ สมฺปยุตฺตาย ¶ ปีติยา จิตฺตํ อาโมเทติ ปโมเทติ. กถํ วิปสฺสนาวเสน? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตํ ปีตึ ขยโต วยโต สมฺมสติ. เอวํ วิปสฺสนากฺขเณ ฌานสมฺปยุตฺตํ ปีตึ อารมฺมณํ กตฺวา จิตฺตํ อาโมเทติ ปโมเทติ. เอวํ ปฏิปนฺโน ‘‘อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ วุจฺจติ.
สมาทหํ จิตฺตนฺติ ปมชฺฌานาทิวเสน อารมฺมเณ จิตฺตํ สมํ อาทหนฺโต สมํ เปนฺโต, ตานิ วา ปน ฌานานิ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ ขยโต วยโต สมฺมสโต วิปสฺสนากฺขเณ ลกฺขณปฏิเวเธน อุปฺปชฺชติ ขณิกจิตฺเตกคฺคตา, เอวํ อุปฺปนฺนาย ขณิกจิตฺเตกคฺคตาย วเสนปิ อารมฺมเณ จิตฺตํ สมํ อาทหนฺโต สมํ เปนฺโต ‘‘สมาทหํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ วุจฺจติ.
วิโมจยํ ¶ จิตฺตนฺติ ปมชฺฌาเนน นีวรเณหิ จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต, ทุติเยน วิตกฺกวิจาเรหิ, ตติเยน ปีติยา, จตุตฺเถน สุขทุกฺเขหิ จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต, ตานิ วา ปน ฌานานิ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ ขยโต วยโต สมฺมสติ. โส วิปสฺสนากฺขเณ อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจสฺาโต จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต, ทุกฺขานุปสฺสนาย สุขสฺาโต, อนตฺตานุปสฺสนาย อตฺตสฺาโต, นิพฺพิทานุปสฺสนาย นนฺทิโต, วิราคานุปสฺสนาย ราคโต, นิโรธานุปสฺสนาย สมุทยโต, ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย อาทานโต จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต อสฺสสติ เจว ปสฺสสติ จ. เตน วุจฺจติ – ‘‘วิโมจยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ. เอวํ จิตฺตานุปสฺสนาวเสน อิทํ จตุกฺกํ ภาสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
จตุตฺถจตุกฺเก ปน อนิจฺจานุปสฺสีติ เอตฺถ ตาว อนิจฺจํ เวทิตพฺพํ, อนิจฺจตา เวทิตพฺพา, อนิจฺจานุปสฺสนา เวทิตพฺพา, อนิจฺจานุปสฺสี เวทิตพฺโพ. ตตฺถ อนิจฺจนฺติ ปฺจกฺขนฺธา. กสฺมา? อุปฺปาทวยฺถตฺตภาวา. อนิจฺจตาติ เตสํเยว อุปฺปาทวยฺถตฺตํ, หุตฺวา อภาโว วา, นิพฺพตฺตานํ เตเนวากาเรน อฏฺตฺวา ขณภงฺเคน เภโทติ ¶ อตฺโถ. อนิจฺจานุปสฺสนาติ ตสฺสา อนิจฺจตาย วเสน รูปาทีสุ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ อนุปสฺสนา. อนิจฺจานุปสฺสีติ ตาย อนุปสฺสนาย สมนฺนาคโต. ตสฺมา เอวํภูโต อสฺสสนฺโต จ ปสฺสสนฺโต จ อิธ ‘‘อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ เวทิตพฺโพ.
วิราคานุปสฺสีติ เอตฺถ ปน ทฺเว วิราคา ขยวิราโค จ อจฺจนฺตวิราโค จ. ตตฺถ ขยวิราโคติ ¶ สงฺขารานํ ขณภงฺโค. อจฺจนฺตวิราโคติ นิพฺพานํ. วิราคานุปสฺสนาติ ตทุภยทสฺสนวเสน ปวตฺตา วิปสฺสนา จ มคฺโค จ. ตาย ทุวิธายปิ อนุปสฺสนาย สมนฺนาคโต หุตฺวา อสฺสสนฺโต จ ปสฺสสนฺโต จ ‘‘วิราคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ เวทิตพฺโพ. นิโรธานุปสฺสีปเทปิ เอเสว นโย.
ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสีติ เอตฺถาปิ ทฺเว ปฏินิสฺสคฺคา ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค จ ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโค จ. ปฏินิสฺสคฺโคเยว อนุปสฺสนา ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนา, วิปสฺสนามคฺคานเมตํ อธิวจนํ. วิปสฺสนาติ ตทงฺควเสน สทฺธึ ขนฺธาภิสงฺขาเรหิ กิเลเส ปริจฺจชติ, สงฺขตโทสทสฺสเนน จ ตพฺพิปรีเต นิพฺพาเน ¶ ตนฺนินฺนตาย ปกฺขนฺทตีติ ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค เจว ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโค จาติ วุจฺจติ. มคฺโค สมุจฺเฉทวเสน สทฺธึ ขนฺธาภิสงฺขาเรหิ กิเลเส ปริจฺจชติ, อารมฺมณกรเณน จ นิพฺพาเน ปกฺขนฺทตีติ ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค เจว ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโค จาติ วุจฺจติ. อุภยมฺปิ ปน ปุริมปุริมาณานํ อนุอนุ ปสฺสนโต อนุปสฺสนาติ วุจฺจติ. ตาย ทุวิธายปิ ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย สมนฺนาคโต หุตฺวา อสฺสสนฺโต จ ปสฺสสนฺโต จ ‘‘ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ เวทิตพฺโพ.
เอตฺถ จ ‘‘อนิจฺจานุปสฺสี’’ติ ตรุณวิปสฺสนาย วเสน วุตฺตํ, ‘‘วิราคานุปสฺสี’’ติ ตโต พลวตราย สงฺขาเรสุ วิรชฺชนสมตฺถาย วิปสฺสนาย วเสน, ‘‘นิโรธานุปสฺสี’’ติ ตโต พลวตราย กิเลสนิโรธนสมตฺถาย วิปสฺสนาย วเสน ¶ , ‘‘ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี’’ติ มคฺคสฺส อาสนฺนภูตาย อติติกฺขาย วิปสฺสนาย วเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยตฺถ ปน มคฺโคปิ ลพฺภติ, โส อภินฺโนเยว. เอวมิทํ จตุกฺกํ สุทฺธวิปสฺสนาวเสน วุตฺตํ, ปุริมานิ ปน ตีณิ สมถวิปสฺสนาวเสนาติ.
อานาปานสฺสติมาติกาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๖๔. อิทานิ ยถานิกฺขิตฺตํ มาติกํ ปฏิปาฏิยา ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ อิธาติ อิมิสฺสา ทิฏฺิยาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อิมิสฺสา ทิฏฺิยาติอาทีหิ ทสหิ ปเทหิ สิกฺขตฺตยสงฺขาตํ สพฺพฺุพุทฺธสาสนเมว กถิตํ. ตฺหิ พุทฺเธน ภควตา ทิฏฺตฺตา ทิฏฺีติ วุจฺจติ, ตสฺเสว ขมนวเสน ขนฺติ, รุจฺจนวเสน รุจิ, คหณวเสน อาทาโย, สภาวฏฺเน ธมฺโม, สิกฺขิตพฺพฏฺเน วินโย, ตทุภเยนปิ ธมฺมวินโย, ปวุตฺตวเสน ปาวจนํ, เสฏฺจริยฏฺเน พฺรหฺมจริยํ ¶ , อนุสิฏฺิทานวเสน สตฺถุสาสนนฺติ วุจฺจติ. ตสฺมา ‘‘อิมิสฺสา ทิฏฺิยา’’ติอาทีสุ อิมิสฺสา พุทฺธทิฏฺิยา, อิมิสฺสา พุทฺธขนฺติยา, อิมิสฺสา พุทฺธรุจิยา, อิมสฺมึ พุทฺธอาทาเย, อิมสฺมึ พุทฺธธมฺเม, อิมสฺมึ พุทฺธวินเย, อิมสฺมึ พุทฺธธมฺมวินเย, อิมสฺมึ พุทฺธปาวจเน, อิมสฺมึ พุทฺธพฺรหฺมจริเย, อิมสฺมึ พุทฺธสตฺถุสาสเนติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อปิเจตํ สิกฺขตฺตยสงฺขาตํ สกลํ ปาวจนํ ภควตา ทิฏฺตฺตา สมฺมาทิฏฺิปจฺจยตฺตา สมฺมาทิฏฺิปุพฺพงฺคมตฺตา จ ทิฏฺิ. ภควโต ขมนวเสน ขนฺติ. รุจฺจนวเสน รุจิ. คหณวเสน อาทาโย ¶ . อตฺตโน การกํ อปาเย อปตมานํ ธาเรตีติ ธมฺโม. โสว สํกิเลสปกฺขํ วิเนตีติ วินโย. ธมฺโม จ โส วินโย จาติ ธมฺมวินโย, กุสลธมฺเมหิ วา อกุสลธมฺมานํ เอส วินโยติ ธมฺมวินโย. เตเนว วุตฺตํ – ‘‘เย จ โข ตฺวํ, โคตมิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ อิเม ธมฺมา วิราคาย สํวตฺตนฺติ, โน สราคาย…เป… เอกํเสน, โคตมิ, ธาเรยฺยาสิ เอโส ธมฺโม เอโส วินโย เอตํ สตฺถุสาสน’’นฺติ (อ. นิ. ๘.๕๓; จูฬว. ๔๐๖). ธมฺเมน วา วินโย, น ทณฺฑาทีหีติ ธมฺมวินโย. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ทณฺเฑเนเก ¶ ทมยนฺติ, องฺกุเสหิ กสาหิ จ;
อทณฺเฑน อสตฺเถน, นาโค ทนฺโต มเหสินา’’ติ. (ม. นิ. ๒.๓๕๒; จูฬว. ๓๔๒);
ตถา ‘‘ธมฺเมน นยมานานํ, กา อุสูยา วิชานต’’นฺติ (มหาว. ๖๓). ธมฺมาย วา วินโย ธมฺมวินโย. อนวชฺชธมฺมตฺถํ เหส วินโย, น ภวโภคามิสตฺถํ. เตนาห ภควา – ‘‘นยิทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ชนกุหนตฺถ’’นฺติ (อิติวุ. ๓๕; อ. นิ. ๔.๒๕) วิตฺถาโร. ปุณฺณตฺเถโรปิ อาห – ‘‘อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถํ โข, อาวุโส, ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๕๙). วิสุทฺธํ วา นยตีติ วินโย, ธมฺมโต วินโย ธมฺมวินโย. สํสารธมฺมโต หิ โสกาทิธมฺมโต วา เอส วิสุทฺธํ นิพฺพานํ นยติ, ธมฺมสฺส วา วินโย, น ติตฺถกรานนฺติ ธมฺมวินโย. ธมฺมภูโต หิ ภควา, ตสฺเสว เอส วินโย. ยสฺมา วา ธมฺมา เอว อภิฺเยฺยา ปริฺเยฺยา ปหาตพฺพา ภาเวตพฺพา สจฺฉิกาตพฺพา จ, ตสฺมา เอส ธมฺเมสุ วินโย, น สตฺเตสุ น ชีเวสุ จาติ ธมฺมวินโย. สาตฺถสพฺยฺชนตาทีหิ อฺเสํ วจนโต ปธานํ วจนนฺติ ปวจนํ, ปวจนเมว ปาวจนํ. สพฺพจริยาหิ วิสิฏฺจริยภาเวน พฺรหฺมจริยํ. เทวมนุสฺสานํ สตฺถุภูตสฺส ภควโต สาสนนฺติ สตฺถุสาสนํ, สตฺถุภูตํ วา สาสนนฺติปิ สตฺถุสาสนํ. ‘‘โย โว, อานนฺท, มยา ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต ปฺตฺโต, โส โว มมจฺจเยน สตฺถา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๖) หิ ธมฺมวินโยว ¶ สตฺถาติ วุตฺโต. เอวเมเตสํ ปทานํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยสฺมา ปน อิมสฺมึเยว สาสเน สพฺพาการอานาปานสฺสติสมาธินิพฺพตฺตโก ภิกฺขุ วิชฺชติ, น อฺตฺร, ตสฺมา ตตฺถ ตตฺถ ‘‘อิมิสฺสา’’ติ จ ‘‘อิมสฺมิ’’นฺติ จ อยํ นิยโม กโตติ เวทิตพฺโพ. อยํ ‘‘อิธา’’ติมาติกาย นิทฺเทสสฺส อตฺโถ.
ปุถุชฺชนกลฺยาณโก ¶ วาติอาทินา จ ภิกฺขุสทฺทสฺส วจนตฺถํ อวตฺวา อิธาธิปฺเปตภิกฺขุเยว ทสฺสิโต. ตตฺถ ¶ ปุถุชฺชโน จ โส กิเลสานํ อสมุจฺฉินฺนตฺตา, กลฺยาโณ จ สีลาทิปฏิปตฺติยุตฺตตฺตาติ ปุถุชฺชนกลฺยาโณ, ปุถุชฺชนกลฺยาโณว ปุถุชฺชนกลฺยาณโก. อธิสีลาทีนิ สิกฺขตีติ เสกฺโข. โสตาปนฺโน วา สกทาคามี วา อนาคามี วา. อกุปฺโป จลยิตุมสกฺกุเณยฺโย อรหตฺตผลธมฺโม อสฺสาติ อกุปฺปธมฺโม. โสปิ หิ อิมํ สมาธึ ภาเวติ.
อรฺนิทฺเทเส วินยปริยาเยน ตาว ‘‘เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ อวเสสํ อรฺ’’นฺติ (ปารา. ๙๒) อาคตํ. สุตฺตนฺตปริยาเยน อารฺกํ ภิกฺขุํ สนฺธาย ‘‘อารฺกํ นาม เสนาสนํ ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปาจิ. ๕๗๓) อาคตํ. วินยสุตฺตนฺตา ปน อุโภปิ ปริยายเทสนา นาม, อภิธมฺโม นิปฺปริยายเทสนาติ อภิธมฺมปริยาเยน (วิภ. ๕๒๙) อรฺํ ทสฺเสตุํ นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลาติ วุตฺตํ, อินฺทขีลโต พหิ นิกฺขมิตฺวาติ อตฺโถ. นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลนฺติปิ ปาโ, อินฺทขีลํ อติกฺกมิตฺวา พหีติ วุตฺตํ โหติ. อินฺทขีโลติ เจตฺถ คามสฺส วา นครสฺส วา อุมฺมาโร.
รุกฺขมูลนิทฺเทเส รุกฺขมูลสฺส ปากฏตฺตา ตํ อวตฺวาว ยตฺถาติอาทิมาห. ตตฺถ ยตฺถาติ ยสฺมึ รุกฺขมูเล. อาสนฺติ นิสีทนฺติ เอตฺถาติ อาสนํ. ปฺตฺตนฺติ ปิตํ. มฺโจ วาติอาทีนิ อาสนสฺส ปเภทวจนานิ. มฺโจปิ หิ นิสชฺชายปิ โอกาสตฺตา อิธ อาสเนสุ วุตฺโต. โส ปน มสารกพุนฺทิกาพทฺธกุฬีรปาทกอาหจฺจปาทกานํ อฺตโร. ปีํ เตสํ อฺตรเมว. ภิสีติ อุณฺณาภิสิโจฬภิสิวากภิสิติณภิสิปณฺณภิสีนํ อฺตรา. ตฏฺฏิกาติ ตาลปณฺณาทีหิ จินิตฺวา กตา. จมฺมขณฺโฑติ นิสชฺชารโห โย โกจิ จมฺมขณฺโฑ. ติณสนฺถราทโย ติณาทีนิ คุมฺเพตฺวา กตา. ตตฺถาติ ตสฺมึ รุกฺขมูเล. จงฺกมติ วาติอาทีหิ รุกฺขมูลสฺส จตุอิริยาปถปวตฺตนโยคฺยตา กถิตา. ‘‘ยตฺถา’’ติอาทีหิ สพฺพปเทหิ รุกฺขมูลสฺส สนฺทจฺฉายตา ชนวิวิตฺตตา จ วุตฺตา โหติ. เกนจีติ เกนจิ สมูเหน. ตํ สมูหํ ภินฺทิตฺวา วิตฺถาเรนฺโต คหฏฺเหิ วา ปพฺพชิเตหิ วาติ อาห. อนากิณฺณนฺติ ¶ อสํกิณฺณํ อสมฺพาธํ. ยสฺส เสนาสนสฺส สมนฺตา คาวุตมฺปิ อฑฺฒโยชนมฺปิ ปพฺพตคหนํ ¶ วนคหนํ นทีคหนํ ¶ โหติ, น โกจิ อเวลาย อุปสงฺกมิตุํ สกฺโกติ, อิทํ สนฺติเกปิ อนากิณฺณํ นาม. ยํ ปน อฑฺฒโยชนิกํ วา โยชนิกํ วา โหติ, อิทํ ทูรตาย เอว อนากิณฺณํ นาม.
วิหาโรติ อฑฺฒโยคาทิมุตฺตโก อวเสสาวาโส. อฑฺฒโยโคติ สุปณฺณวงฺกเคหํ. ปาสาโทติ ทฺเว กณฺณิกา คเหตฺวา กโต ทีฆปาสาโท. หมฺมิยนฺติ อุปริอากาสตเล ปติฏฺิตกูฏาคารปาสาโทเยว. คุหาติ อิฏฺกาคุหา สิลาคุหา ทารุคุหา ปํสุคุหาติ เอวฺหิ ขนฺธกฏฺกถายํ (จูฬว. อฏฺ. ๒๙๔) วุตฺตํ. วิภงฺคฏฺกถายํ ปน วิหาโรติ สมนฺตา ปริหารปถํ อนฺโตเยว รตฺติฏฺานทิวาฏฺานานิ จ ทสฺเสตฺวา กตเสนาสนํ. คุหาติ ภูมิคุหา, ยตฺถ รตฺตินฺทิวํ ทีปํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ. ปพฺพตคุหา วา ภูมิคุหา วาติ อิทํ ทฺวยํ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. มาติกาย สพฺพกาลสาธารณลกฺขณวเสน ‘‘นิสีทตี’’ติ วตฺตมานวจนํ กตํ, อิธ ปน นิสินฺนสฺส ภาวนารมฺภสพฺภาวโต นิสชฺชารมฺภปริโยสานทสฺสนตฺถํ นิสินฺโนติ นิฏฺานวจนํ กตํ. ยสฺมา ปน อุชุํ กายํ ปณิธาย นิสินฺนสฺส กาโย อุชุโก โหติ, ตสฺมา พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวา อธิปฺเปตม เอว ทสฺเสนฺโต อุชุโกติอาทิมาห. ตตฺถ ิโต สุปณิหิโตติ อุชุกํ ปณิหิตตฺตา อุชุโก หุตฺวา ิโต, น สยเมวาติ อตฺโถ. ปริคฺคหฏฺโติ ปริคฺคหิตฏฺโ. กึ ปริคฺคหิตํ? นิยฺยานํ. กึ นิยฺยานํ? อานาปานสฺสติสมาธิเยว ยาว อรหตฺตมคฺคา นิยฺยานํ. เตนาหนิยฺยานฏฺโติ มุขสทฺทสฺส เชฏฺกตฺถวเสน สํสารโต นิยฺยานฏฺโ ¶ วุตฺโต. อุปฏฺานฏฺโติ สภาวฏฺโเยว. สพฺเพหิ ปเนเตหิ ปเทหิ ปริคฺคหิตนิยฺยานํ สตึ กตฺวาติ อตฺโถ วุตฺโต โหติ. เกจิ ปน ‘‘ปริคฺคหฏฺโติ สติยา ปริคฺคหฏฺโ, นิยฺยานฏฺโติ อสฺสาสปสฺสาสานํ ปวิสนนิกฺขมนทฺวารฏฺโ’’ติ วณฺณยนฺติ. ปริคฺคหิตอสฺสาสปสฺสาสนิยฺยานํ สตึ อุปฏฺเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.
๑๖๕. พาตฺตึสาย อากาเรหีติ ตาสุ ตาสุ อวตฺถาสุ ยถากฺกเมน ลพฺภมานานํ อนวเสสปริยาทานวเสน วุตฺตํ. ทีฆํ อสฺสาสวเสนาติ มาติกาย ‘‘ทีฆ’’นฺติวุตฺตอสฺสาสวเสน. เอวํ เสเสสุ. เอกคฺคตนฺติ เอกคฺคภาวํ. อวิกฺเขปนฺติ อวิกฺขิปนํ. เอกคฺคตา เอว ¶ หิ นานารมฺมเณสุ จิตฺตสฺส อวิกฺขิปนโต อวิกฺเขโปติ วุจฺจติ. ปชานโตติ อสมฺโมหวเสน ปชานนฺตสฺส, วินฺทนฺตสฺสาติ วา อตฺโถ. ‘‘อวิกฺเขโป เม ปฏิลทฺโธ’’ติ อารมฺมณกรณวเสน ปชานนฺตสฺส วา. ตาย สติยาติ ตาย อุปฏฺิตาย สติยา. เตน าเณนาติ เตน อวิกฺเขปชานนาเณน. สโต การี โหตีติ เอตฺถ ยสฺมา าณสมฺปยุตฺตา ¶ เอว สติ สตีติ อธิปฺเปตา, ยถาห – ‘‘สติมา โหติ ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคโต’’ติ (วิภ. ๔๖๗). ตสฺมา ‘‘สโต’’ติ วจเนเนว าณมฺปิ คหิตเมว โหติ.
๑๖๖. อทฺธานสงฺขาเตติ ทีฆสงฺขาเต กาเล. ทีโฆ หิ มคฺโค อทฺธาโนติ วุจฺจติ. อยมฺปิ กาโล ทีฆตฺตา อทฺธาโน วิย อทฺธาโนติ วุตฺโต. ‘‘อสฺสสตี’’ติ จ ‘‘ปสฺสสตี’’ติ จ อสฺสาสฺจ ปสฺสาสฺจ วิสุํ วิสุํ วตฺวาปิ ภาวนาย นิรนฺตรปฺปวตฺติทสฺสนตฺถํ ‘‘อสฺสสติปิ ปสฺสสติปี’’ติ ปุน สมาเสตฺวา วุตฺตํ. ฉนฺโท อุปฺปชฺชตีติ ภาวนาภิวุทฺธิยา ภิยฺโยภาวาย ฉนฺโท ชายติ. สุขุมตรนฺติ ปสฺสมฺภนสพฺภาวโต วุตฺตํ. ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชตีติ ภาวนาปาริปูริยา ปีติ ชายติ. อสฺสาสปสฺสาสาปิ จิตฺตํ วิวตฺตตีติ อสฺสาสปสฺสาเส นิสฺสาย ปฏิภาคนิมิตฺเต อุปฺปชฺชนฺเต ปกติอสฺสาสปสฺสาสโต จิตฺตํ นิวตฺตติ. อุเปกฺขา สณฺาตีติ ตสฺมึ ปฏิภาคนิมิตฺเต อุปจารปฺปนาสมาธิปตฺติยา ปุน สมาธาเน พฺยาปาราภาวโต ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา สณฺาติ นาม. นวหากาเรหีติ เอตฺถ ภาวนารมฺภโต ปภุติ ปุเร ฉนฺทุปฺปาทา ‘‘อสฺสสติปิ ปสฺสสติปี’’ติ วุตฺตา ตโย อาการา, ฉนฺทุปฺปาทโต ปภุติ ปุเร ปาโมชฺชุปฺปาทา ตโย, ปาโมชฺชุปฺปาทโต ปภุติ ตโยติ นว อาการา. กาโยติ ¶ จุณฺณวิจุณฺณาปิ อสฺสาสปสฺสาสา สมูหฏฺเน กาโย. ปกติอสฺสาสปกติปสฺสาเส นิสฺสาย อุปฺปนฺนนิมิตฺตมฺปิ อสฺสาสปสฺสาสาติ นามํ ลภติ. อุปฏฺานํ สตีติ ตํ อารมฺมณํ อุเปจฺจ ติฏฺตีติ สติ อุปฏฺานํ นาม. อนุปสฺสนา าณนฺติ สมถวเสน นิมิตฺตกายานุปสฺสนา, วิปสฺสนาวเสน นามกายรูปกายานุปสฺสนา าณนฺติ อตฺโถ. กาโย อุปฏฺานนฺติ โส กาโย อุเปจฺจ ติฏฺติ เอตฺถ สตีติ อุปฏฺานํ นาม. โน สตีติ โส กาโย สติ นาม น โหตีติ อตฺโถ. ตาย สติยาติ อิทานิ วุตฺตาย สติยา. เตน าเณนาติ อิทาเนว ¶ วุตฺเตน าเณน. ตํ กายํ อนุปสฺสตีติ สมถวิปสฺสนาวเสน ยถาวุตฺตํ กายํ อนุคนฺตฺวา ฌานสมฺปยุตฺตาเณน วา วิปสฺสนาาเณน วา ปสฺสติ.
มาติกาย กายาทีนํ ปทานํ อภาเวปิ อิมสฺส จตุกฺกสฺส กายานุปสฺสนาวเสน วุตฺตตฺตา อิทานิ วตฺตพฺพํ ‘‘กาเย กายานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนา’’ติ วจนํ สนฺธาย กายปทนิทฺเทโส กโต. กาเย กายานุปสฺสนาติ พหุวิเธ กาเย ตสฺส ตสฺส กายสฺส อนุปสฺสนา. อถ วา กาเย กายานุปสฺสนา, น อฺธมฺมานุปสฺสนาติ วุตฺตํ โหติ. อนิจฺจทุกฺขานตฺตาสุภภูเต กาเย น นิจฺจสุขตฺตสุภานุปสฺสนา, อถ โข อนิจฺจทุกฺขานตฺตาสุภโต กายสฺเสว อนุปสฺสนา. อถ วา กาเย อหนฺติ วา มมนฺติ วา อิตฺถีติ วา ปุริโสติ วา คเหตพฺพสฺส กสฺสจิ อนนุปสฺสนโต ตสฺเสว กายมตฺตสฺส อนุปสฺสนาติ วุตฺตํ โหติ. อุปริ เวทนาสุ เวทนานุปสฺสนาติอาทีสุ ¶ ตีสุปิ เอเสว นโย. สติเยว อุปฏฺานํ สติปฏฺานํ, กายานุปสฺสนาย สมฺปยุตฺตํ สติปฏฺานํ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, ตสฺส ภาวนา กายานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนา.
๑๖๗. ตํ กายนฺติ อนิทฺทิฏฺเปิ นามรูปกาเย กายสทฺเทน ตสฺสาปิ สงฺคหิตตฺตา นิทฺทิฏฺํ วิย กตฺวา วุตฺตํ. อนิจฺจานุปสฺสนาทโย หิ นามรูปกาเย เอว ลพฺภนฺติ, น นิมิตฺตกาเย. อนุปสฺสนา จ ภาวนา จ วุตฺตตฺถา เอว. ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสวเสนาติอาทิ อานาปานสฺสติภาวนาย อานิสํสํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตสฺสา หิ สติเวปุลฺลตาาณเวปุลฺลตา ¶ จ อานิสํโส. ตตฺถ จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโตติ ปฏิลทฺธชฺฌานสฺส วิปสฺสนากาเล จิตฺเตกคฺคตํ สนฺธาย วุตฺตํ. วิทิตา เวทนาติ สามฺโต อุทยทสฺสเนน วิทิตา เวทนา. วิทิตา อุปฏฺหนฺตีติ ขยโต วยโต สฺุโต วิทิตา อุปฏฺหนฺติ. วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺตีติ สามฺโต วยทสฺสเนน วิทิตา วินาสํ คจฺฉนฺติ, ภิชฺชนฺตีติ อตฺโถ. สฺาวิตกฺเกสุปิ เอเสว นโย. อิเมสุ ปน ตีสุ วุตฺเตสุ เสสา รูปธมฺมาปิ วุตฺตา โหนฺติ. กสฺมา ปน อิเม ตโย เอว วุตฺตาติ เจ? ทุปฺปริคฺคหตฺตา. เวทนาสุ ตาว สุขทุกฺขา ปากฏา, อุเปกฺขา ปน สุขุมา ทุปฺปริคฺคหา, น สุฏฺุ ปากฏา. สาปิ จสฺส ปากฏา โหติ, สฺา อาการมตฺตคฺคาหกตฺตา น ยถาสภาวคฺคาหินี ¶ . สา จ สภาวสามฺลกฺขณคฺคาหเกน วิปสฺสนาาเณน สมฺปยุตฺตา อติ วิย อปากฏา. สาปิ จสฺส ปากฏา โหติ, วิตกฺโก าณปติรูปกตฺตา าณโต วิสุํ กตฺวา ทุปฺปริคฺคโห. าณปติรูปโก หิ วิตกฺโก. ยถาห – ‘‘ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาทิฏฺิ โย จ สมฺมาสงฺกปฺโป, อิเม ธมฺมา ปฺากฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒). โสปิ จสฺส วิตกฺโก ปากโฏ โหตีติ เอวํ ทุปฺปริคฺคเหสุ วุตฺเตสุ เสสา วุตฺตาว โหนฺตีติ. อิเมสํ ปน ปทานํ นิทฺเทเส กถํ วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺตีติ ปุจฺฉิตฺวา ตํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว เวทนุปฺปาทสฺส วิทิตตฺเตเยว วิสฺสชฺชิเต เวทนาย วิทิตตฺตํ วิสฺสชฺชิตํ โหตีติ กถํ เวทนาย อุปฺปาโท วิทิโต โหตีติอาทิมาห. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อวิชฺชาสมุทยา อวิชฺชานิโรธาติอาทโย เหฏฺา วุตฺตตฺถา เอว. อิมินาว นเยน สฺาวิตกฺกาปิ เวทิตพฺพา. วิตกฺกวาเร ปน ‘‘ผสฺสสมุทยา ผสฺสนิโรธา’’ติ อวตฺวา ผสฺสฏฺาเน สฺาสมุทยา สฺานิโรธาติ วุตฺตํ. ตํ กสฺมา อิติ เจ? สฺามูลกตฺตา วิตกฺกสฺส. ‘‘สฺานานตฺตํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สงฺกปฺปนานตฺต’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๓๕๙) หิ วุตฺตํ.
อนิจฺจโต มนสิกโรโตติอาทีสุ จ ‘‘เวทนํ อนิจฺจโต มนสิกโรโต’’ติอาทินา นเยน ตสฺมึ ตสฺมึ วาเร โส โสเยว ธมฺโม โยเชตพฺโพ. ยสฺมา ปน วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา ¶ เวทนา วิปสฺสนากิจฺจกรเณ อสมตฺถตฺตา วิปสฺสนาย อนุปการิกา, ตสฺมาเยว จ โพธิปกฺขิยธมฺเมสุ ¶ นาคตา. วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตาย ปน สฺาย กิจฺจเมว อปริพฺยตฺตํ, ตสฺมา สา วิปสฺสนาย เอกนฺตมนุปการิกา เอว. วิตกฺกํ ปน วินา วิปสฺสนากิจฺจเมว นตฺถิ. วิตกฺกสหายา หิ วิปสฺสนา สกกิจฺจํ กโรติ. ยถาห –
‘‘ปฺา อตฺตโน ธมฺมตาย อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตาติ อารมฺมณํ นิจฺเฉตุํ น สกฺโกติ, วิตกฺเก ปน อาโกเฏตฺวา อาโกเฏตฺวา เทนฺเต สกฺโกติ. กถํ? ยถา หิ เหรฺิโก กหาปณํ หตฺเถ เปตฺวา สพฺพภาเคสุ โอโลเกตุกาโม สมาโนปิ น จกฺขุตเลเนว ปริวตฺเตตุํ สกฺโกติ, องฺคุลิปพฺเพหิ ปน ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา อิโต จิโต จ โอโลเกตุํ สกฺโกติ, เอวเมว น ปฺา อตฺตโน ธมฺมตาย อนิจฺจาทิวเสน ¶ อารมฺมณํ นิจฺเฉตุํ สกฺโกติ, อภินิโรปนลกฺขเณน ปน อาหนนปริยาหนนรเสน วิตกฺเกน อาโกเฏนฺเตน วิย ปริวตฺเตนฺเตน วิย จ อาทายาทาย ทินฺนเมว นิจฺเฉตุํ สกฺโกตี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๕๖๘).
ตสฺมา เวทนาสฺานํ วิปสฺสนาย อนุปการตฺตา ลกฺขณมตฺตวเสเนว ทสฺเสตุํ ‘‘เวทนาย สฺายา’’ติ ตตฺถ ตตฺถ เอกวจเนน นิทฺเทโส กโต. ยตฺตโก ปน วิปสฺสนาย เภโท, ตตฺตโก เอว วิตกฺกสฺสาติ ทสฺเสตุํ ‘‘วิตกฺกาน’’นฺติ ตตฺถ ตตฺถ พหุวจเนน นิทฺเทโส กโตติ วตฺตุํ ยุชฺชติ.
๑๖๘. ปุน ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสวเสนาติอาทิ อานาปานสฺสติภาวนาย สมฺปตฺตึ ภาวนาผลฺจ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ สโมธาเนตีติ อารมฺมณํ เปติ, อารมฺมณํ ปติฏฺาเปตีติ วา อตฺโถ. สโมทหนพฺยาปาราภาเวปิ ภาวนาปาริปูริยา เอว สโมทหติ นาม. โคจรนฺติ วิปสฺสนากฺขเณ สงฺขารารมฺมณํ, มคฺคกฺขเณ ผลกฺขเณ จ นิพฺพานารมฺมณํ. สมตฺถนฺติ สมเมว อตฺโถ, สมสฺส วา อตฺโถติ สมตฺโถ. ตํ สมตฺถํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. มคฺคํ สโมธาเนตีติ มคฺคผลกฺขเณเยว โคจรํ นิพฺพานเมว. อยํ ปุคฺคโลติ อานาปานสฺสติภาวนํ อนุยุตฺโต โยคาวจโรว. อิมสฺมึ อารมฺมเณติ เอตฺถ ปน ‘‘กาเย’’ติปเทน สงฺคหิเต นามรูปกายสงฺขาเต สงฺขตารมฺมเณ เตเนว ¶ กเมน มคฺเค นิพฺพานารมฺมเณ จ. ยํ ตสฺสาติอาทีหิ อารมฺมณโคจรสทฺทานํ เอกตฺถตา วุตฺตา. ตสฺสาติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส. ปชานาตีติ ปุคฺคโล ปชานนา ปฺาติ ปุคฺคโล ปฺาย ปชานาตีติ วุตฺตํ โหติ. อารมฺมณสฺส อุปฏฺานนฺติ วิปสฺสนากฺขเณ สงฺขารารมฺมณสฺส, มคฺคผลกฺขเณ นิพฺพานารมฺมณสฺส อุปฏฺานํ สติ. เอตฺถ จ กมฺมตฺเถ สามิวจนํ ยถา รฺโ อุปฏฺานนฺติ. อวิกฺเขโปติ สมาธิ. อธิฏฺานนฺติ ยถาวุตฺตสงฺขารารมฺมณํ นิพฺพานารมฺมณฺจ ¶ . ตฺหิ อธิฏฺาติ เอตฺถ จิตฺตนฺติ อธิฏฺานํ. โวทานนฺติ าณํ. ตฺหิ โวทายติ วิสุชฺฌติ เตน จิตฺตนฺติ โวทานํ. ลีนปกฺขิโก สมาธิ อลีนภาวปฺปตฺติยา สมภูตตฺตา สมํ, อุทฺธจฺจปกฺขิกํ าณํ อนุทฺธตภาวปฺปตฺติยา สมภูตตฺตา สมํ. เตน วิปสฺสนามคฺคผลกฺขเณสุ สมถวิปสฺสนานํ ¶ ยุคนทฺธตา วุตฺตา โหติ. สติ ปน สพฺพตฺถิกตฺตา ตทุภยสมตาย อุปการิกาติ สมํ, อารมฺมณํ สมตาธิฏฺานตฺตา สมํ. อนวชฺชฏฺโติ วิปสฺสนาย อนวชฺชสภาโว. นิกฺเลสฏฺโติ มคฺคสฺส นิกฺกิเลสสภาโว. นิกฺกิเลสฏฺโติ วา ปาโ. โวทานฏฺโติ ผลสฺส ปริสุทฺธสภาโว. ปรมฏฺโติ นิพฺพานสฺส สพฺพธมฺมุตฺตมสภาโว. ปฏิวิชฺฌตีติ ตํ ตํ สภาวํ อสมฺโมหโต ปฏิวิชฺฌติ. เอตฺถ จ ‘‘อารมฺมณสฺส อุปฏฺาน’’นฺติอาทีหิ สมฺมา ปฏิเวโธ วุตฺโต. เอตฺเถว จ โวทานฏฺปฏิเวธสฺส วุตฺตตฺตา เตน เอกลกฺขณา อนวชฺชฏฺนิกฺกิเลสฏฺปรมฏฺา ลกฺขณหารวเสน วุตฺตาเยว โหนฺติ. ยถาห –
‘‘วุตฺตมฺหิ เอกธมฺเม, เย ธมฺมา เอกลกฺขณา เกจิ;
วุตฺตา ภวนฺติ สพฺเพ, โส หาโร ลกฺขโณ นามา’’ติ. (เนตฺติ. ๔.๕ นิทฺเทสวาร);
อนวชฺชฏฺโ นิกฺกิเลสฏฺโ เจตฺถ อวิกฺเขปสงฺขาตสฺส สมสฺส อตฺโถ ปโยชนนฺติ สมตฺโถ, โวทานฏฺโ วิปสฺสนามคฺคโวทานํ ¶ สนฺธาย สมเมว อตฺโถติ สมตฺโถ, ผลโวทานํ สนฺธาย มคฺคโวทานสงฺขาตสฺส สมสฺส อตฺโถติ สมตฺโถ, ปรมฏฺโ ปน สมเมว อตฺโถติ วา นิพฺพานปโยชนตฺตา สพฺพสฺส สมสฺส อตฺโถติ วา สมตฺโถ, ตํ วุตฺตปฺปการํ สมฺจ สมตฺถฺจ เอกเทสสรูเปกเสสํ กตฺวา สมตฺถฺจ ปฏิวิชฺฌตีติ วุตฺตํ. อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคธมฺมา วิปสฺสนามคฺคผลกฺขเณปิ ลพฺภนฺติ, มคฺโค จ ติสฺโส จ วิสุทฺธิโย มคฺคผลกฺขเณเยว, วิโมกฺโข จ วิชฺชา จ ขเย าณฺจ มคฺคกฺขเณเยว, วิมุตฺติ จ อนุปฺปาเท าณฺจ ผลกฺขเณเยว, เสสา วิปสฺสนากฺขเณปีติ. ธมฺมวาเร อิเม ธมฺเม อิมสฺมึ อารมฺมเณ สโมธาเนตีติ นิพฺพานํ เปตฺวา เสสา ยถาโยคํ เวทิตพฺพา. อิทํ ปน เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ. อวุตฺตตฺถา ปเนตฺถ เหฏฺา วุตฺตา เอว. เอเกกจตุกฺกวเสเนตฺถ นิยฺยาเน ทสฺสิเตปิ จตุกฺกนฺโตคธสฺส เอเกกสฺสาปิ ภาคสฺส นิยฺยานสฺส อุปนิสฺสยตฺตา เอเกกภาควเสน นิยฺยานํ ทสฺสิตํ. น หิ เอเกกํ วินา นิยฺยานํ โหตีติ.
ทีฆํอสฺสาสปสฺสาสนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๖๙. รสฺสนิทฺเทเส ¶ อิตฺตรสงฺขาเตติ ปริตฺตสงฺขาเต กาเล. เสสเมตฺถ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ.
๑๗๐. สพฺพกายปฏิสํเวทินิทฺเทเส ¶ อรูปธมฺเมสุ เวทนาย โอฬาริกตฺตา สุขคฺคหณตฺถํ ปมํ อิฏฺานิฏฺารมฺมณสํเวทิกา เวทนา วุตฺตา, ตโต ยํ เวเทติ, ตํ สฺชานาตีติ เอวํ เวทนาวิสยสฺส อาการคฺคาหิกา สฺา, ตโต สฺาวเสน อภิสงฺขาริกา เจตนา, ตโต ‘‘ผุฏฺโ เวเทติ, ผุฏฺโ สฺชานาติ, ผุฏฺโ เจเตตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๓) วจนโต ผสฺโส, ตโต สพฺเพสํ สาธารณลกฺขโณ มนสิกาโร, เจตนาทีหิ สงฺขารกฺขนฺโธ วุตฺโต. เอวํ ตีสุ ขนฺเธสุ วุตฺเตสุ ตํนิสฺสโย ¶ วิฺาณกฺขนฺโธ วุตฺโตว โหติ. นามฺจาติ วุตฺตปฺปการํ นามฺจ. นามกาโย จาติ อิทํ ปน นาเมน นิพฺพานสฺสปิ สงฺคหิตตฺตา โลกุตฺตรานฺจ อวิปสฺสนุปคตฺตา ตํ อปเนตุํ วุตฺตํ. ‘‘กาโย’’ติ หิ วจเนน นิพฺพานํ อปนีตํ โหติ นิพฺพานสฺส ราสิวินิมุตฺตตฺตา. เย จ วุจฺจนฺติ จิตฺตสงฺขาราติ ‘‘สฺา จ เวทนา จ เจตสิกา เอเต ธมฺมา จิตฺตปฏิพทฺธา จิตฺตสงฺขารา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๔; ม. นิ. ๑.๔๖๓) เอวํ วุจฺจมานาปิ จิตฺตสงฺขารา อิธ นามกาเยเนว สงฺคหิตาติ วุตฺตํ โหติ. มหาภูตาติ มหนฺตปาตุภาวโต มหาภูตสามฺโต มหาปริหารโต มหาวิการโต มหนฺตภูตตฺตา จาติ มหาภูตา. เต ปน – ปถวี อาโป เตโช วาโยติ จตฺตาโร. จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูปนฺติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ, จตฺตาโร มหาภูเต อุปาทาย นิสฺสาย อมฺุจิตฺวา ปวตฺตรูปนฺติ อตฺโถ. ตํ ปน – จกฺขุ โสตํ ฆานํ ชิวฺหา กาโย รูปํ สทฺโท คนฺโธ รโส อิตฺถินฺทฺริยํ ปุริสินฺทฺริยํ ชีวิตินฺทฺริยํ หทยวตฺถุ โอชา กายวิฺตฺติ วจีวิฺตฺติ อากาสธาตุ รูปสฺส ลหุตา มุทุตา กมฺมฺตฺตา อุปจโย สนฺตติ ชรตา อนิจฺจตาติ จตุวีสติวิธํ. อสฺสาโส จ ปสฺสาโส จาติ ปากติโกเยว. อสฺสาสปสฺสาเส นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ ปฏิภาคนิมิตฺตมฺปิ ตเทว นามํ ลภติ ปถวีกสิณาทีนิ วิย. รูปสริกฺขกตฺตา รูปนฺติ จ นามํ ลภติ ‘‘พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๒๐๔; ที. นิ. ๓.๓๓๘) วิย. นิมิตฺตฺจ อุปนิพนฺธนาติ สติอุปนิพนฺธนาย นิมิตฺตภูตํ อสฺสาสปสฺสาสานํ ผุสนฏฺานํ. เย จ วุจฺจนฺติ กายสงฺขาราติ ‘‘อสฺสาสปสฺสาสา กายิกา เอเต ธมฺมา กายปฏิพทฺธา กายสงฺขารา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๑; ม. นิ. ๑.๔๖๓) เอวํ วุจฺจมานาปิ กายสงฺขารา อิธ รูปกาเยเนว สงฺคหิตาติ วุตฺตํ โหติ.
เต ¶ กายา ปฏิวิทิตา โหนฺตีติ ฌานกฺขเณ อสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตกายา วิปสฺสนากฺขเณ อวเสสรูปารูปกายา อารมฺมณโต ปฏิวิทิตา โหนฺติ, มคฺคกฺขเณ อสมฺโมหโต ¶ ปฏิวิทิตา โหนฺติ. อสฺสาสปสฺสาสวเสน ปฏิลทฺธชฺฌานสฺส โยคิสฺส อุปฺปนฺนวิปสฺสนามคฺเคปิ สนฺธาย ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสวเสนาติอาทิ ¶ วุตฺตํ.
อาวชฺชโต ปชานโตติอาทีนิ สีลกถายํ วุตฺตตฺถานิ. เต วุตฺตปฺปกาเร กาเย อนฺโตกริตฺวา ‘‘สพฺพกายปฏิสํเวที’’ติ วุตฺตํ.
สพฺพกายปฏิสํเวที อสฺสาสปสฺสาสานํ สํวรฏฺเนาติอาทีสุ ‘‘สพฺพกายปฏิสํเวที’’ติวุตฺตอสฺสาสปสฺสาสโต อุปฺปนฺนชฺฌานวิปสฺสนามคฺเคสุ สํวโรเยว สํวรฏฺเน สีลวิสุทฺธิ. อวิกฺเขโปเยว อวิกฺเขปฏฺเน จิตฺตวิสุทฺธิ. ปฺาเยว ทสฺสนฏฺเน ทิฏฺิวิสุทฺธิ. ฌานวิปสฺสนาสุ วิรติอภาเวปิ ปาปาภาวมตฺตเมว สํวโร นามาติ เวทิตพฺพํ.
๑๗๑. ปสฺสมฺภยนฺติอาทีนํ นิทฺเทเส กายิกาติ รูปกาเย ภวา. กายปฏิพทฺธาติ กายํ ปฏิพทฺธา กายํ นิสฺสิตา, กาเย สติ โหนฺติ, อสติ น โหนฺติ, ตสฺมาเยว เต กาเยน สงฺขรียนฺตีติ กายสงฺขารา. ปสฺสมฺเภนฺโตติ นิพฺพาเปนฺโต สนฺนิสีทาเปนฺโต. ปสฺสมฺภนวจเนเนว โอฬาริกานํ ปสฺสมฺภนํ สิทฺธํ. นิโรเธนฺโตติ โอฬาริกานํ อนุปฺปาทเนน นิโรเธนฺโต. วูปสเมนฺโตติ โอฬาริเกเยว เอกสนฺตติปริณามนเยน สนฺตภาวํ นยนฺโต. สิกฺขตีติ อธิการวเสน อสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตีติ สมฺพนฺโธ, ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขตีติ วา อตฺโถ.
อิทานิ โอฬาริกปสฺสมฺภนํ ทสฺเสตุํ ยถารูเปหีติอาทิมาห. ตตฺถ ยถารูเปหีติ ยาทิเสหิ. อานมนาติ ปจฺฉโต นมนา. วินมนาติ อุภยปสฺสโต นมนา. สนฺนมนาติ สพฺพโตปิ นมนฺตสฺส สุฏฺุ นมนา. ปณมนาติ ปุรโต นมนา. อิฺชนาติ กมฺปนา. ผนฺทนาติ อีสกํ จลนา. ปกมฺปนาติ ภุสํ กมฺปนา. ยถารูเปหิ กายสงฺขาเรหิ กายสฺส อานมนา…เป… ปกมฺปนา, ตถารูปํ กายสงฺขารํ ปสฺสมฺภยนฺติ จ, ยา กายสฺส อานมนา…เป… ปกมฺปนา, ตฺจ ปสฺสมฺภยนฺติ จ สมฺพนฺโธ กาตพฺโพ. กายสงฺขาเรสุ หิ ปสฺสมฺภิเตสุ กายสฺส อานมนาทโย จ ปสฺสมฺภิตาเยว โหนฺตีติ. ยถารูเปหิ กายสงฺขาเรหิ กายสฺส ¶ น อานมนาทิกา โหติ, ตถารูปํ สนฺตํ สุขุมมฺปิ กายสงฺขารํ ปสฺสมฺภยนฺติ จ, ยา กายสฺส น อานมนาทิกา, ตฺจ สนฺตํ สุขุมํ ปสฺสมฺภยนฺติ จ สมฺพนฺธโต ¶ เวทิตพฺพํ. สนฺตํ สุขุมนฺติ จ ภาวนปุํสกวจนเมตํ. อิติ กิราติ เอตฺถ อิติ เอวมตฺเถ, กิร ยทิอตฺเถ. ยทิ เอวํ สุขุมเกปิ อสฺสาสปสฺสาเส ปสฺสมฺภยํ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตีติ ¶ โจทเกน โจทนา อารทฺธา โหติ. อถ วา กิราติ โจทกวจนตฺตา อสทฺทหนตฺเถ อสหนตฺเถ ปโรกฺขตฺเถ จ ยุชฺชติเยว, เอวํ สุขุมานมฺปิ ปสฺสมฺภนํ สิกฺขตีติ น สทฺทหามิ น สหามิ อปจฺจกฺขํ เมติ วุตฺตํ โหติ.
เอวํ สนฺเตติ เอวํ สุขุมานํ ปสฺสมฺภเน สนฺเต. วาตูปลทฺธิยา จ ปภาวนา น โหตีติ อสฺสาสปสฺสาสวาตสฺส อุปลทฺธิยา. อุปลทฺธีติ วิฺาณํ. อสฺสาสปสฺสาสวาตํ อุปลพฺภมานสฺส ตทารมฺมณสฺส ภาวนาวิฺาณสฺส ปภาวนา อุปฺปาทนา น โหติ, ตสฺส อารมฺมณสฺส ภาวนา น โหตีติ อตฺโถ. อสฺสาสปสฺสาสานฺจ ปภาวนา น โหตีติ ภาวนาย สุขุมกานมฺปิ อสฺสาสปสฺสาสานํ นิโรธนโต เตสฺจ อุปฺปาทนา ปวตฺตนา น โหตีติ อตฺโถ. อานาปานสฺสติยา จ ปภาวนา น โหตีติ อสฺสาสปสฺสาสาภาวโตเยว ตทารมฺมณาย ภาวนาวิฺาณสมฺปยุตฺตาย สติยา จ ปวตฺตนา น โหติ. ตสฺมาเยว ตํสมฺปยุตฺตสฺส อานาปานสฺสติสมาธิสฺส จ ภาวนา น โหติ. น จ นํ ตนฺติ เอตฺถ จ นนฺติ นิปาตมตฺตํ ‘‘ภิกฺขุ จ น’’นฺติอาทีสุ (ปารา. ๒๗๓) วิย. ตํ วุตฺตวิธึ สมาปตฺตึ ปณฺฑิตา น สมาปชฺชนฺติปิ ตโต น วุฏฺหนฺติปีติ สมฺพนฺโธ. โจทนาปกฺขสฺส ปริหารวจเน อิติ กิราติ เอวเมว. เอตฺถ เอวการตฺเถ กิรสทฺโท ทฏฺพฺโพ. เอวํ สนฺเตติ เอวํ ปสฺสมฺภเน สนฺเต เอว.
ยถา กถํ วิยาติ ยถา ตํ วุตฺตวิธานํ โหติ, ตถา ตํ กถํ วิยาติ อุปมํ ปุจฺฉติ. อิทานิ เสยฺยถาปีติ ตํ อุปมํ ทสฺเสติ. กํเสติ กํสมยภาชเน. นิมิตฺตนฺติ เตสํ สทฺทานํ อาการํ. ‘‘นิมิตฺต’’นฺติ จ สามิอตฺเถ อุปโยควจนํ, นิมิตฺตสฺสาติ อตฺโถ. สทฺทนิมิตฺตฺจ สทฺทโต อนฺํ. สุคฺคหิตตฺตาติ สุฏฺุ อุคฺคหิตตฺตา. สุคหิตตฺตาติปิ ปาโ, สุฏฺุ คหิตตฺตาติ ¶ อตฺโถ. สุมนสิกตตฺตาติ สุฏฺุ อาวชฺชิตตฺตา. สูปธาริตตฺตาติ สุฏฺุ จิตฺเต ปิตตฺตา. สุขุมสทฺทนิมิตฺตารมฺมณตาปีติ ¶ ตทา สุขุมานมฺปิ สทฺทานํ นิรุทฺธตฺตา อนุคฺคหิตสทฺทนิมิตฺตสฺส อนารมฺมณมฺปิ สุขุมตรํ สทฺทนิมิตฺตํ อารมฺมณํ กตฺวา สุขุมตรํ สทฺทนิมิตฺตารมฺมณมฺปิ จิตฺตํ ปวตฺตติ, สุขุมตรสทฺทนิมิตฺตารมฺมณภาวโตปีติ วา อตฺโถ. อิมินาว นเยน อปฺปนายมฺปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ปสฺสมฺภยนฺติอาทีสุ ‘‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขาร’’นฺติ วุตฺตา อสฺสาสปสฺสาสา กาโยติ วา ‘‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขาร’’นฺติ เอตฺถ อสฺสาสปสฺสาสา กาโยติ วา โยชนา เวทิตพฺพา. ภาวนาวิสุทฺธิยา กายสงฺขาเร ปสฺสมฺภมาเนปิ โอฬาริกํ กายสงฺขารํ ปสฺสมฺเภมีติ โยคิโน อาโภเค สติ เตนาทเรน อติวิย ปสฺสมฺภติ. อนุปฏฺหนฺตมฺปิ สุขุมํ สุอานยํ โหติ.
อฏฺ ¶ อนุปสฺสนาาณานีติ ‘‘ทีฆํ รสฺสํ สพฺพกายปฏิสํเวที ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขาร’’นฺติ วุตฺเตสุ จตูสุ วตฺถูสุ อสฺสาสวเสน จตสฺโส, ปสฺสาสวเสน จตสฺโสติ อฏฺ อนุปสฺสนาาณานิ. อฏฺ จ อุปฏฺานานุสฺสติโยติ ‘‘ทีฆํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโต สติ อุปฏฺิตา โหตี’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๐) นเยน วุตฺเตสุ จตูสุ วตฺถูสุ อสฺสาสวเสน จตสฺโส, ปสฺสาสวเสน จตสฺโสติ อฏฺ จ อุปฏฺานานุสฺสติโย. อฏฺ จุปฏฺานานุสฺสติโยติปิ ปาโ. จตฺตาริ สุตฺตนฺติกวตฺถูนีติ ภควตา อานาปานสฺสติสุตฺตนฺเต (ม. นิ. ๓.๑๔๔ อาทโย) วุตฺตตฺตา ปมจตุกฺกวเสน จตฺตาริ สุตฺตนฺติกวตฺถูนีติ.
ปมจตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๗๒. ทุติยจตุกฺกสฺส ปีติปฏิสํเวทินิทฺเทเส อุปฺปชฺชติ ปีติ ปาโมชฺชนฺติ เอตฺถ ปีตีติ มูลปทํ. ปาโมชฺชนฺติ ตสฺส อตฺถปทํ, ปมุทิตภาโวติ อตฺโถ. ยา ปีติ ปาโมชฺชนฺติอาทีสุ ¶ ¶ ยา ‘‘ปีตี’’ติ จ ‘‘ปาโมชฺช’’นฺติ จ เอวมาทีนิ นามานิ ลภติ, สา ปีตีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ ปีตีติ สภาวปทํ. ปมุทิตสฺส ภาโว ปาโมชฺชํ. อาโมทนากาโร อาโมทนา. ปโมทนากาโร ปโมทนา. ยถา วา เภสชฺชานํ วา เตลานํ วา อุณฺโหทกสีโตทกานํ วา เอกโตกรณํ โมทนาติ วุจฺจติ, เอวมยมฺปิ ธมฺมานํ เอกโตกรเณน โมทนา, อุปสคฺควเสน ปน ปทํ มณฺเฑตฺวา อาโมทนา ปโมทนาติ วุตฺตํ. หาเสตีติ หาโส, ปหาเสตีติ ปหาโส, หฏฺปหฏฺาการานเมตํ อธิวจนํ. วิตฺตีติ วิตฺตํ, ธนสฺเสตํ นามํ. อยํ ปน โสมนสฺสปจฺจยตฺตา วิตฺติสริกฺขตาย วิตฺติ. ยถา หิ ธนิโน ธนํ ปฏิจฺจ โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, เอวํ ปีติมโตปิ ปีตึ ปฏิจฺจ โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. ตสฺมา ‘‘วิตฺตี’’ติ วุตฺตา. ตุฏฺิสภาวสณฺิตาย หิ ปีติยา เอตํ นามํ. ปีติมา ปน ปุคฺคโล กายจิตฺตานํ อุคฺคตตฺตา อพฺภุคฺคตตฺตา ‘‘อุทคฺโค’’ติ วุจฺจติ, อุทคฺคสฺส ภาโค โอทคฺยํ. อตฺตโน มนตา อตฺตมนตา. อนภิรทฺธสฺส หิ มโน ทุกฺขปทฏฺานตฺตา น อตฺตโน มโน นาม โหติ, อภิรทฺธสฺส สุขปทฏฺานตฺตา อตฺตโน มโน นาม โหติ, อิติ อตฺตโน มนตา อตฺตมนตา, สกมนตา สกมนสฺส ภาโวติ อตฺโถ. สา ปน ยสฺมา น อฺสฺส กสฺสจิ อตฺตโน มนตา, จิตฺตสฺเสว ปเนโส ภาโว เจตสิโก ธมฺโม, ตสฺมา อตฺตมนตา จิตฺตสฺสาติ วุตฺตา. เสสเมตฺถ จ อุปริ จ เหฏฺา วุตฺตนเยน โยเชตฺวา เวทิตพฺพํ.
๑๗๓. สุขปฏิสํเวทินิทฺเทเส ทฺเว สุขานีติ สมถวิปสฺสนาภูมิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. กายิกฺหิ สุขํ วิปสฺสนาย ภูมิ, เจตสิกํ สุขํ สมถสฺส จ วิปสฺสนาย จ ภูมิ. กายิกนฺติ ¶ ปสาทกายํ วินา อนุปฺปตฺติโต กาเย นิยุตฺตนฺติ กายิกํ. เจตสิกนฺติ อวิปฺปโยควเสน เจตสิ นิยุตฺตนฺติ เจตสิกํ. ตตฺถ กายิกปเทน เจตสิกํ สุขํ ปฏิกฺขิปติ, สุขปเทน กายิกํ ทุกฺขํ. ตถา เจตสิกปเทน กายิกํ สุขํ ปฏิกฺขิปติ, สุขปเทน เจตสิกํ ทุกฺขํ. สาตนฺติ มธุรํ สุมธุรํ. สุขนฺติ สุขเมว, น ทุกฺขํ. กายสมฺผสฺสชนฺติ กายสมฺผสฺเส ชาตํ. สาตํ สุขํ ¶ เวทยิตนฺติ สาตํ เวทยิตํ, น อสาตํ เวทยิตํ. สุขํ เวทยิตํ, น ทุกฺขํ เวทยิตํ. ปรโต ตีณิ ปทานิ อิตฺถิลิงฺควเสน วุตฺตานิ. สาตา เวทนา, น อสาตา. สุขา เวทนา, น ทุกฺขาติ อยเมว ปเนตฺถ อตฺโถ.
เจตสิกสุขนิทฺเทโส วุตฺตปฏิปกฺขนเยน โยเชตพฺโพ. เต สุขาติ ลิงฺควิปลฺลาโส กโต, ตานิ สุขานีติ วุตฺตํ โหติ. เสสเมตฺถ ¶ จตุกฺเก เหฏฺา ปมจตุกฺเก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. จตฺตาริ สุตฺตนฺติกวตฺถูนิ ทุติยจตุกฺกวเสน เวทิตพฺพานีติ.
ทุติยจตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๗๖. ตติยจตุกฺกนิทฺเทเส จิตฺตนฺติ มูลปทํ. วิฺาณนฺติ อตฺถปทํ. ยํ จิตฺตนฺติอาทิ ปีติยํ วุตฺตนเยน โยเชตพฺพํ. ตตฺถ จิตฺตนฺติอาทีสุ จิตฺตวิจิตฺตตาย จิตฺตํ. อารมฺมณํ มินมานํ ชานาตีติ มโน. มานสนฺติ มโนเยว. ‘‘อนฺตลิกฺขจโร ปาโส, ยฺวายํ จรติ มานโส’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๕๑; มหาว. ๓๓) หิ เอตฺถ ปน สมฺปยุตฺตกธมฺโม มานโสติ วุตฺโต.
‘‘กถฺหิ ภควา ตุยฺหํ, สาวโก สาสเน รโต;
อปฺปตฺตมานโส เสกฺโข, กาลํ กยิรา ชเน สุตา’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๕๙) –
เอตฺถ อรหตฺตํ มานสนฺติ วุตฺตํ. อิธ ปน มโนว มานสํ. พฺยฺชนวเสน เหตํ ปทํ วฑฺฒิตํ.
หทยนฺติ จิตฺตํ. ‘‘จิตฺตํ วา เต ขิปิสฺสามิ, หทยํ วา เต ผาเลสฺสามี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๓๗; สุ. นิ. อาฬวกสุตฺต) เอตฺถ อุโร หทยนฺติ วุตฺตํ. ‘‘หทยา หทยํ มฺเ อฺาย ตจฺฉตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๖๓) เอตฺถ จิตฺตํ. ‘‘วกฺกํ หทย’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๓๗๗; ม. นิ. ๑.๑๑๐) เอตฺถ หทยวตฺถุ. อิธ ปน จิตฺตเมว อพฺภนฺตรฏฺเน ‘‘หทย’’นฺติ ¶ วุตฺตํ. ตเทว ปริสุทฺธฏฺเน ¶ ปณฺฑรํ. ภวงฺคํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ยถาห – ‘‘ปภสฺสรมิทํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตฺจ โข อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺ’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๔๙). ตโต นิกฺขนฺตตฺตา ปน อกุสลมฺปิ คงฺคาย นิกฺขนฺตา นที คงฺคา วิย, โคธาวริโต นิกฺขนฺตา โคธาวรี วิย จ ‘‘ปณฺฑร’’นฺตฺเวว วุตฺตํ. ยสฺมา ปน อารมฺมณวิชานนลกฺขณํ จิตฺตํ อุปกฺกิเลเสน กิเลโส น โหติ, สภาวโต ปริสุทฺธเมว โหติ, อุปกฺกิเลสโยเค ปน สติ อุปกฺกิลิฏฺํ นาม โหติ, ตสฺมาปิ ‘‘ปณฺฑร’’นฺติ วตฺตุํ ยุชฺชติ.
มโน มนายตนนฺติ อิธ ปน มโนคหณํ มนสฺเสว อายตนภาวทีปนตฺถํ. เตเนตํ ทีเปติ – ‘‘นยิทํ เทวายตนํ วิย มนสฺส อายตนตฺตา มนายตนํ, อถ โข มโน เอว อายตนํ มนายตน’’นฺติ.
อายตนฏฺโ ¶ เหฏฺา วุตฺโตเยว. มนเต อิติ มโน, วิชานาตีติ อตฺโถ. อฏฺกถาจริยา ปนาหุ – นาฬิยา มินมาโน วิย มหาตุลาย ธารยมาโน วิย จ อารมฺมณํ ชานาตีติ มโน, ตเทว มนนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, มโนว อินฺทฺริยํ มนินฺทฺริยํ.
วิชานาตีติ วิฺาณํ. วิฺาณเมว ขนฺโธ วิฺาณกฺขนฺโธ. รุฬฺหิโต ขนฺโธ วุตฺโต. ราสฏฺเน หิ วิฺาณกฺขนฺธสฺส เอกเทโส เอกํ วิฺาณํ. ตสฺมา ยถา รุกฺขสฺส เอกเทสํ ฉินฺทนฺโต รุกฺขํ ฉินฺทตีติ วุจฺจติ, เอวเมว วิฺาณกฺขนฺธสฺส เอกเทสภูตํ เอกมฺปิ วิฺาณํ รุฬฺหิโต ‘‘วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ราสฏฺโเยว ขนฺธฏฺโ น โหติ, โกฏฺาสฏฺโปิ ขนฺธฏฺโเยว, ตสฺมา โกฏฺาสฏฺเน วิฺาณโกฏฺาโสติปิ อตฺโถ. ตชฺชา มโนวิฺาณธาตูติ เตสํ ผสฺสาทีนํ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อนุจฺฉวิกา มโนวิฺาณธาตุ. อิมสฺมิฺหิ ปเท เอกเมว จิตฺตํ มินนฏฺเน มโน, วิชานนฏฺเน วิฺาณํ, สภาวฏฺเน, นิสฺสตฺตฏฺเน วา ธาตูติ ตีหิ นาเมหิ วุตฺตํ.
อภิปฺปโมโทติ อธิกา ตุฏฺิ.
๑๗๘. สมาธินิทฺเทเส อจลภาเวน อารมฺมเณ ติฏฺตีติ ิติ. ปรโต ปททฺวยํ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตํ ¶ . อปิจ สมฺปยุตฺตธมฺเม อารมฺมณมฺหิ สมฺปิณฺเฑตฺวา ติฏฺตีติ สณฺิติ. อารมฺมณํ โอคาเหตฺวา อนุปวิสิตฺวา ติฏฺตีติ อวฏฺิติ. กุสลปกฺขสฺมึ หิ จตฺตาโร ธมฺมา อารมฺมณํ โอคาหนฺติ สทฺธา สติ สมาธิ ปฺาติ. เตเนว สทฺธา ‘‘โอกปฺปนา’’ติ วุตฺตา, สติ ¶ ‘‘อปิลาปนตา’’ติ, สมาธิ ‘‘อวฏฺิตี’’ติ, ปฺา ‘‘ปริโยคาหนา’’ติ. อกุสลปกฺเข ปน ตโย ธมฺมา อารมฺมณํ โอคาหนฺติ ตณฺหา ทิฏฺิ อวิชฺชาติ. เตเนว เต ‘‘โอฆา’’ติ วุตฺตา. อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาวเสน ปวตฺตสฺส วิสาหารสฺส ปฏิปกฺขโต อวิสาหาโร, อวิสาหรณนฺติ อตฺโถ. อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาวเสเนว คจฺฉนฺตํ จิตฺตํ วิกฺขิปติ นาม, อยํ ปน ตถา น โหตีติ อวิกฺเขโป. อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาวเสเนว จิตฺตํ วิสาหฏํ นาม โหติ, อิโต จิโต จ หรียติ, อยํ ปน อวิสาหฏสฺส มานสสฺส ภาโวติ อวิสาหฏมานสตา.
สมโถติ ¶ ติวิโธ สมโถ จิตฺตสมโถ อธิกรณสมโถ สพฺพสงฺขารสมโถติ. ตตฺถ อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ จิตฺเตกคฺคตา จิตฺตสมโถ นาม. ตฺหิ อาคมฺม จิตฺตจลนํ จิตฺตวิปฺผนฺทนํ สมฺมติ วูปสมฺมติ, ตสฺมา โส ‘‘จิตฺตสมโถ’’ติ วุจฺจติ. สมฺมุขาวินยาทิสตฺตวิโธ อธิกรณสมโถ นาม. ตฺหิ อาคมฺม ตานิ ตานิ อธิกรณานิ สมฺมนฺติ วูปสมฺมนฺติ, ตสฺมา โส ‘‘อธิกรณสมโถ’’ติ วุจฺจติ. ยสฺมา ปน สพฺเพ สงฺขารา นิพฺพานํ อาคมฺม สมฺมนฺติ วูปสมฺมนฺติ, ตสฺมา ตํ สพฺพสงฺขารสมโถติ วุจฺจติ. อิมสฺมึ อตฺเถ จิตฺตสมโถ อธิปฺเปโต. สมาธิลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ สมาธินฺทฺริยํ. อุทฺธจฺเจ น กมฺปตีติ สมาธิพลํ. สมฺมาสมาธีติ ยาถาวสมาธิ นิยฺยานิกสมาธิ กุสลสมาธิ.
๑๗๙. ราคโต วิโมจยํ จิตฺตนฺติอาทีหิ ทสหิ กิเลสวตฺถูหิ วิโมจนํ วุตฺตํ. ถินคฺคหเณเนว เจตฺถ มิทฺธคฺคหณํ, อุทฺธจฺจคฺคหเณเนว จ กุกฺกุจฺจคฺคหณํ กตํ โหตีติ อฺเสุ ปาเสุ สหจาริตฺตา กิเลสวตฺถุโต วิโมจนวจเนเนว ปมชฺฌานาทีหิ นีวรณาทิโต วิโมจนํ, อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ นิจฺจสฺาทิโต จ วิโมจนํ วุตฺตเมว ¶ โหตีติ. กถํ ตํ จิตฺตํ อนุปสฺสตีติ เอตฺถ เปยฺยาเล จ อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ นิจฺจสฺาทีนํ ปหานํ วุตฺตเมว. จตฺตาริ สุตฺตนฺติกวตฺถูนิ ตติยจตุกฺกวเสน เวทิตพฺพานีติ.
ตติยจตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๘๐. จตุตฺถจตุกฺกนิทฺเทเส ‘‘อนิทฺทิฏฺเ นปุํสก’’นฺติ วจนโต อสุกนฺติ อนิทฺทิฏฺตฺตา ‘‘อนิจฺจนฺติ กึ อนิจฺจ’’นฺติ นปุํสกวจเนน ปุจฺฉา กตา. อุปฺปาทวยฏฺเนาติ อุปฺปาทวยสงฺขาเตน อตฺเถน, อุปฺปาทวยสภาเวนาติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ปฺจกฺขนฺธา สภาวลกฺขณํ, ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุปฺปาทวยา วิการลกฺขณํ. เอเตน หุตฺวา อภาเวน อนิจฺจาติ วุตฺตํ โหติ. เตเนว ¶ จ อฏฺกถายํ ‘‘สงฺขตลกฺขณวเสน อนิจฺจตาติ เตสํเยว อุปฺปาทวยฺถตฺต’’นฺติ จ วตฺวาปิ ‘‘หุตฺวา อภาโว วา’’ติ วุตฺตํ. เอเตน หุตฺวา อภาวากาโร อนิจฺจลกฺขณนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ ปสฺสนฺโต อิมานิ ปฺาย ลกฺขณานี’’ติ เปยฺยาลํ กตฺวา วุตฺตํ. ธมฺมาติ รูปกฺขนฺธาทโย ยถาวุตฺตธมฺมา.
วิราคานุปสฺสีนิทฺเทเส ¶ รูเป อาทีนวํ ทิสฺวาติ ภงฺคานุปสฺสนโต ปฏฺาย ปรโต วุตฺเตหิ อนิจฺจฏฺาทีหิ รูปกฺขนฺเธ อาทีนวํ ทิสฺวา. รูปวิราเคติ นิพฺพาเน. นิพฺพานฺหิ อาคมฺม รูปํ วิรชฺชติ อปุนรุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปชฺชเนน นิรุชฺฌติ, ตสฺมา นิพฺพานํ ‘‘รูปวิราโค’’ติ วุจฺจติ. ฉนฺทชาโต โหตีติ อนุสฺสววเสน อุปฺปนฺนธมฺมจฺฉนฺโท โหติ. สทฺธาธิมุตฺโตติ ตสฺมึเยว นิพฺพาเน สทฺธาย จ อธิมุตฺโต นิจฺฉิโต. จิตฺตฺจสฺส สฺวาธิฏฺิตนฺติ อสฺส โยคิสฺส จิตฺตํ ขยวิราคสงฺขาเต รูปภงฺเค อารมฺมณวเสน ¶ , อจฺจนฺต วิราคสงฺขาเต รูปวิราเค นิพฺพาเน อนุสฺสววเสน สุฏฺุ อธิฏฺิตํ สุฏฺุ ปติฏฺิตํ โหตีติ สมฺพนฺธโต เวทิตพฺพํ. รูเป วิราคานุปสฺสีติ รูปสฺส ขยวิราโค รูเป วิราโคติ ปกติภุมฺมวจเนน วุตฺโต. รูปสฺส อจฺจนฺตวิราโค รูเป วิราโคติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมวจเนน วุตฺโต. ตํ ทุวิธมฺปิ วิราคํ อารมฺมณโต อชฺฌาสยโต จ อนุปสฺสนสีโล ‘‘รูเป วิราคานุปสฺสี’’ติ วุตฺโต. เอส นโย เวทนาทีสุ. นิโรธานุปสฺสีปทนิทฺเทเสปิ เอเสว นโย.
๑๘๑. กติหากาเรหีติอาทิ ปเนตฺถ วิเสโส – ตตฺถ อวิชฺชาทีนํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานํ อาทีนวนิโรธทสฺสเนเนว รูปาทีนมฺปิ อาทีนวนิโรธา ทสฺสิตา โหนฺติ เตสมฺปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานติวตฺตนโต. อิมินา เอว จ วิเสสวจเนน วิราคานุปสฺสนโต นิโรธานุปสฺสนาย วิสิฏฺภาโว วุตฺโต โหติ. ตตฺถ อนิจฺจฏฺเนาติ ขยฏฺเน, หุตฺวา อภาวฏฺเน วา. ทุกฺขฏฺเนาติ ภยฏฺเน, ปฏิปีฬนฏฺเน วา. อนตฺตฏฺเนาติ อสารกฏฺเน, อวสวตฺตนฏฺเน วา. สนฺตาปฏฺเนาติ กิเลสสนฺตาปนฏฺเน. วิปริณามฏฺเนาติ ชราภงฺควเสน ทฺวิธา ปริณามนฏฺเน. นิทานนิโรเธนาติ มูลปจฺจยาภาเวน. นิรุชฺฌตีติ น ภวติ. สมุทยนิโรเธนาติ อาสนฺนปจฺจยาภาเวน. มูลปจฺจโย หิ พฺยาธิสฺส อสปฺปายโภชนํ วิย นิทานนฺติ วุตฺโต, อาสนฺนปจฺจโย พฺยาธิสฺส วาตปิตฺตเสมฺหา วิย สมุทโยติ วุตฺโต. นิทานฺหิ นิจฺฉเยน ททาติ ผลมิติ นิทานํ, สมุทโย ปน สุฏฺุ อุเทติ เอตสฺมา ผลมิติ สมุทโย. ชาตินิโรเธนาติ มูลปจฺจยสฺส อุปฺปตฺติอภาเวน. ปภวนิโรเธนาติ อาสนฺนปจฺจยสฺส อุปฺปตฺติอภาเวน. ชาติเยว หิ ปภวติ เอตสฺมา ทุกฺขนฺติ ปภโวติ วตฺตุํ ยุชฺชติ. เหตุนิโรเธนาติ ชนกปจฺจยาภาเวน. ปจฺจยนิโรเธนาติ อุปตฺถมฺภกปจฺจยาภาเวน. มูลปจฺจโยปิ หิ ¶ อาสนฺนปจฺจโย จ ชนกปจฺจโย ¶ อุปตฺถมฺภกปจฺจโย จ โหติเยว. เอเตหิ ติกฺขวิปสฺสนากฺขเณ ¶ ตทงฺคนิโรโธ, มคฺคกฺขเณ สมุจฺเฉทนิโรโธ วุตฺโต โหติ. าณุปฺปาเทนาติ ติกฺขวิปสฺสนาาณสฺส วา มคฺคาณสฺส วา อุปฺปาเทน. นิโรธุปฏฺาเนนาติ วิปสฺสนากฺขเณ ปจฺจกฺขโต ขยนิโรธสฺส อนุสฺสววเสน นิโรธสงฺขาตสฺส นิพฺพานสฺส อุปฏฺาเนน, มคฺคกฺขเณ ปจฺจกฺขโต จ นิพฺพานสฺส อุปฏฺาเนน. เอเตหิ วิสยวิสยินิยโมว กโต โหติ, ตทงฺคสมุจฺเฉทนิโรโธ จ วุตฺโต โหติ.
๑๘๒. ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสีปทนิทฺเทเส รูปํ ปริจฺจชตีติ อาทีนวทสฺสเนน นิรเปกฺขตาย รูปกฺขนฺธํ ปริจฺจชติ. ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโคติ ปริจฺจาคฏฺเน ปฏินิสฺสคฺโคติ วุตฺตํ โหติ. เอเตน ปฏินิสฺสคฺคปทสฺส ปริจฺจาคฏฺโ วุตฺโต, ตสฺมา กิเลสานํ ปชหนนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ วุฏฺานคามินี วิปสฺสนา กิเลเส ตทงฺควเสน ปริจฺจชติ, มคฺโค สมุจฺเฉทวเสน. รูปนิโรเธ นิพฺพาเน จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ วุฏฺานคามินี ตํนินฺนตาย ปกฺขนฺทติ, มคฺโค อารมฺมณกรเณน. ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโคติ ปกฺขนฺทนฏฺเน ปฏินิสฺสคฺโคติ วุตฺตํ โหติ. เอเตน ปฏินิสฺสคฺคปทสฺส ปกฺขนฺทนฏฺโ วุตฺโต, ตสฺมา จิตฺตสฺส นิพฺพาเน วิสฺสชฺชนนฺติ อตฺโถ. จตฺตาริ สุตฺตนฺติกวตฺถูนิ จตุตฺถจตุกฺกวเสน เวทิตพฺพานิ. อิมสฺมึ จตุกฺเก ชรามรเณ วตฺตพฺพํเหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. สติปฏฺาเนสุ จ ‘‘กาเย กายานุปสฺสนา, จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสนา’’ติ กายจิตฺตานํ เอกตฺตโวหารวเสน เอกวจนนิทฺเทโส กโต. ‘‘เวทนาสุ เวทนานุปสฺสนา, ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสนา’’ติ เวทนาธมฺมานํ นานตฺตโวหารวเสน พหุวจนนิทฺเทโส กโตติ เวทิตพฺโพติ.
จตุตฺถจตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิตา จ สโตการิาณนิทฺเทสวณฺณนา.
๖. าณราสิฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๑๘๓. อิทานิ ฉหิ ราสีหิ อุทฺทิฏฺาเณสุ จตุวีสติสมาธิาณนิทฺเทเส ตาว กายานุปสฺสนาทีนํ ติณฺณํ จตุกฺกานํ วเสน ทฺวาทสนฺนํ วตฺถูนํ เอเกกสฺมึ อสฺสาสวเสน เอโก ¶ , ปสฺสาสวเสน เอโกติ ทฺเว ¶ ทฺเว สมาธีติ ทฺวาทสสุ วตฺถูสุ จตุวีสติ สมาธโย โหนฺติ. ฌานกฺขเณ เตหิ สมฺปยุตฺตานิ จตุวีสติสมาธิวเสน าณานิ.
ทฺวาสตฺตติวิปสฺสนาาณนิทฺเทเส ¶ ทีฆํ อสฺสาสาติ ‘‘ทีฆ’’นฺติวุตฺตอสฺสาสโต. กึ วุตฺตํ โหติ? ทีฆํ อสฺสาสเหตุ ฌานํ ปฏิลภิตฺวา สมาหิเตน จิตฺเตน วิปสฺสนากฺขเณ อนิจฺจโต อนุปสฺสนฏฺเน วิปสฺสนาติ วุตฺตํ โหติ. เอส นโย อุตฺตรตฺราปิ. เตสํเยว ทฺวาทสนฺนํ วตฺถูนํ เอเกกสฺมึ อสฺสาสวเสน ติสฺโส, ปสฺสาสวเสน ติสฺโสติ ฉ ฉ อนุปสฺสนาติ ทฺวาทสสุ วตฺถูสุ ทฺวาสตฺตติ อนุปสฺสนา โหนฺติ. ตา เอว ทฺวาสตฺตติ อนุปสฺสนา ทฺวาสตฺตติวิปสฺสนาวเสน าณานิ.
นิพฺพิทาาณนิทฺเทเส อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสสนฺติ อนิจฺจานุปสฺสี หุตฺวา อสฺสสนฺโต, อนิจฺจานุปสฺสี หุตฺวา วตฺเตนฺโตติ อตฺโถ. ‘‘อสฺสส’’นฺติ จ อิทํ วจนํ เหตุอตฺเถ ทฏฺพฺพํ. ยถาภูตํ ชานาติ ปสฺสตีติ นิพฺพิทาาณนฺติ กลาปสมฺมสนโต ปฏฺาย ยาว ภงฺคานุปสฺสนา ปวตฺตวิปสฺสนาาเณน สงฺขารานํ ยถาสภาวํ ชานาติ, จกฺขุนา ทิฏฺมิว จ เตเนว าณจกฺขุนา ปสฺสติ. ตสฺมา นิพฺพิทาาณํ นามาติ อตฺโถ, สงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทาณํ นามาติ วุตฺตํ โหติ. อุปริ ภยตูปฏฺานาทีนํ มฺุจิตุกมฺยตาทีนฺจ าณานํ วิสุํ อาคตตฺตา อิธ ยถาวุตฺตาเนว วิปสฺสนาาณานิ นิพฺพิทาาณานีติ เวทิตพฺพานิ.
นิพฺพิทานุโลมาณนิทฺเทเส อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสสนฺติ อนิจฺจานุปสฺสิโน อสฺสสนฺตสฺส. สามิอตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ. ภยตุปฏฺาเน ปฺาติวจเนเนว ภยตุปฏฺานอาทีนวานุปสฺสนานิพฺพิทานุปสฺสนาาณานิ วุตฺตานิ โหนฺติ ติณฺณํ เอกลกฺขณตฺตา. อิมานิ ตีณิ าณานิ อนนฺตรา วุตฺตานํ นิพฺพิทาาณานํ อนุกูลภาเวน อนุโลมโต นิพฺพิทานุโลมาณานีติ วุตฺตานิ.
นิพฺพิทาปฏิปฺปสฺสทฺธิาณนิทฺเทเส อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสสนฺติ อนนฺตรสทิสเมว. ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา ปฺาติวจเนเนว ¶ มฺุจิตุกมฺยตาปฏิสงฺขานุปสฺสนาสงฺขารุเปกฺขาาณานิ วุตฺตานิ โหนฺติ ติณฺณํ เอกลกฺขณตฺตา. ‘‘ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา’’ติวจเนเนว อนุโลมาณมคฺคาณานิปิ คหิตานิ โหนฺติ ¶ . สงฺขารุเปกฺขาาณอนุโลมาณานิปิ หิ นิพฺพิทาย สิขาปฺปตฺตตฺตา นิพฺพิทาชนนพฺยาปารปฺปหาเนน นิพฺพิทาปฏิปฺปสฺสทฺธิาณานิ นาม โหนฺติ. มคฺคาณํ ปน นิพฺพิทาปฏิปฺปสฺสทฺธนฺเต อุปฺปชฺชนโต นิพฺพิทาปฏิปฺปสฺสทฺธิาณํ นาม โหตีติ อติวิย ยุชฺชตีติ. นิพฺพิทานุโลมาเณสุ วิย อาทิภูตํ มฺุจิตุกมฺยตาาณํ อคฺคเหตฺวา ‘‘ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา’’ติ อนฺเต าณทฺวยคฺคหณํ มคฺคาณสงฺคหณตฺถํ. มฺุจิตุกมฺยตาติ หิ วุตฺเต อนุโลมาณํ สงฺคยฺหติ, น มคฺคาณํ. มคฺคาณฺหิ มฺุจิตุกมฺยตา นาม น โหติ, กิจฺจสิทฺธิยํ ¶ สนฺติฏฺนโต ปน สนฺติฏฺนา นาม โหติ. อฏฺกถายมฺปิ จ ‘‘ผุสนาติ อปฺปนา’’ติ วุตฺตํ. อิทฺจ มคฺคาณํ นิพฺพาเน อปฺปนาติ กตฺวา สนฺติฏฺนา นาม โหตีติ ‘‘สนฺติฏฺนา’’ติวจเนน มคฺคาณมฺปิ สงฺคยฺหติ. นิพฺพิทานุโลมาณานิปิ อตฺถโต นิพฺพิทาาณาเนว โหนฺตีติ ตานิปิ นิพฺพิทาาเณหิ สงฺคเหตฺวา นิพฺพิทาปฏิปฺปสฺสทฺธิาณานีติ นิพฺพิทาคหณเมว กตํ, น นิพฺพิทานุโลมคฺคหณํ. ตีสุปิ เจเตสุ าณฏฺกนิทฺเทเสสุ จตุตฺถสฺส ธมฺมานุปสฺสนาจตุกฺกสฺส วเสน วุตฺตานํ จตุนฺนํ วตฺถูนํ เอเกกสฺมึ อสฺสาสวเสน เอกํ, ปสฺสาสวเสน เอกนฺติ ทฺเว ทฺเว าณานีติ จตูสุ วตฺถูสุ อฏฺ าณานิ โหนฺติ.
วิมุตฺติสุขาณนิทฺเทเส ปหีนตฺตาติ ปหานํ ทสฺเสตฺวา ตสฺส ปหานสฺส สมุจฺเฉทปฺปหานตฺตํ ทสฺเสนฺโต สมุจฺฉินฺนตฺตาติ อาห. วิมุตฺติสุเข าณนฺติ ผลวิมุตฺติสุขสมฺปยุตฺตาณฺจ ผลวิมุตฺติสุขารมฺมณปจฺจเวกฺขณาณฺจ. อนุสยวตฺถุสฺส กิเลสสฺส ปหาเนน ปริยุฏฺานทุจฺจริตวตฺถุปฺปหานํ โหตีติ ทสฺสนตฺถํ ปุน อนุสยานํ ปหานํ วุตฺตํ. เอกวีสติผลาณํ สนฺธาย ปหีนกิเลสคณนายปิ าณคณนา กตา โหติ, ปจฺจเวกฺขณาณฺจ ¶ สนฺธาย ปหีนกิเลสปจฺจเวกฺขณคณนาย ผลปจฺจเวกฺขณาณคณนา กตา โหตีติ.
าณราสิฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฏิสมฺภิทามคฺคฏฺกถาย
อานาปานสฺสติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อินฺทฺริยกถา
๑. ปมสุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๑๘๔. อิทานิ ¶ ¶ ¶ อานาปานสฺสติกถานนฺตรํ กถิตาย อินฺทฺริยกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา อนุปฺปตฺตา. อยฺหิ อินฺทฺริยกถา อานาปานสฺสติภาวนาย อุปการกานํ อินฺทฺริยานํ อภาเว อานาปานสฺสติภาวนาย อภาวโต ตทุปการกานํ อินฺทฺริยานํ วิโสธนาทิวิธิทสฺสนตฺถํ อานาปานสฺสติกถานนฺตรํ กถิตาติ ตฺจ กเถตพฺพํ อินฺทฺริยกถํ อตฺตนา ภควโต สมฺมุขา สุตํ วิฺาตาธิปฺปายสุตฺตนฺติกเทสนํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา ตทตฺถปฺปกาสนวเสน กเถตุกาโม ปมํ ตาว เอวํ เม สุตนฺติอาทิมาห.
ตตฺถ เอวนฺติ นิปาตปทํ. เมติอาทีนิ นามปทานิ. วิหรตีติ เอตฺถ วิ-อิติ อุปสคฺคปทํ, หรตีติ อาขฺยาตปทนฺติ อิมินา ตาว นเยน ปทวิภาโค เวทิตพฺโพ.
อตฺถโต ปน อุปมูปเทสครหปสํสนาการวจนคฺคหเณสุ เอวํ-สทฺโท ทิสฺสติ นิทสฺสนตฺเถ จ อวธารณตฺเถ จ. อิธ ปน เอวํสทฺโท อาการตฺเถ นิทสฺสนตฺเถ จ วิฺุชเนน ปวุตฺโต, ตเถว อวธารณตฺเถ จ.
ตตฺถ อาการตฺเถน เอวํสทฺเทน เอตมตฺถํ ทีเปติ – นานานยนิปุณมเนกชฺฌาสยสมุฏฺานํ อตฺถพฺยฺชนสมฺปนฺนํ วิวิธปาฏิหาริยํ ธมฺมตฺถเทสนาปฏิเวธคมฺภีรํ สพฺพสตฺตานํ สกสกภาสานุรูปโต โสตปถมาคจฺฉนฺตํ ตสฺส ภควโต วจนํ สพฺพปฺปกาเรน โก สมตฺโถ วิฺาตุํ, สพฺพถาเมน ปน โสตุกามตํ ชเนตฺวาปิ เอวํ เม สุตํ, มยาปิ เอเกนากาเรน สุตนฺติ.
นิทสฺสนตฺเถน ‘‘นาหํ สยมฺภู, น มยา อิทํ สจฺฉิกต’’นฺติ อตฺตานํ ปริโมเจนฺโต ‘‘เอวํ เม สุตํ, มยาปิ เอวํ สุต’’นฺติ อิทานิ วตฺตพฺพํ สกลํ สุตฺตํ นิทสฺเสติ.
อวธารณตฺเถน ¶ เถโร สาริปุตฺโต ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ มหาปฺานํ ยทิทํ สาริปุตฺโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๘-๑๘๙), ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกปุคฺคลมฺปิ ¶ สมนุปสฺสามิ, โย เอวํ ตถาคเตน อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ สมฺมเทว อนุปฺปวตฺเตติ ยถยิทํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต. สาริปุตฺโต, ภิกฺขเว, ตถาคเตน ¶ อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ สมฺมเทว อนุปฺปวตฺเตตี’’ติเอวมาทินา (อ. นิ. ๑.๑๘๗) นเยน ภควตา ปสตฺถภาวานุรูปํ อตฺตโน ธารณพลํ ทสฺเสนฺโต สตฺตานํ โสตุกามตํ ชเนติ ‘‘เอวํ เม สุตํ, ตฺจ โข อตฺถโต วา พฺยฺชนโต วา อนูนมนธิกํ, เอวเมว, น อฺถา ทฏฺพฺพ’’นฺติ.
เมสทฺโท กรณสมฺปทานสามิอตฺเถสุ ทิสฺสติ. อิธ ปน ‘‘มยา สุตํ, มม สุต’’นฺติ จ อตฺถทฺวเย ยุชฺชติ.
สุตนฺติ อยํสทฺโท สอุปสคฺโค อนุปสคฺโค จ วิสฺสุตคมนกิลินฺนอุปจิตอนุโยคโสตวิฺเยฺเยสุ ทิสฺสติ วิฺาเตปิ จ โสตทฺวารานุสาเรน. อิธ ปนสฺส โสตทฺวารานุสาเรน อุปธาริตนฺติ วา อุปธารณนฺติ วา อตฺโถ. เม-สทฺทสฺส หิ มยาติอตฺเถ สติ ‘‘เอวํ มยา สุตํ โสตทฺวารานุสาเรน อุปธาริต’’นฺติ ยุชฺชติ, มมาติอตฺเถ สติ ‘‘เอวํ มม สุตํ โสตทฺวารานุสาเรน อุปธารณ’’นฺติ ยุชฺชติ.
อปิจ ‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติ อตฺตนา อุปฺปาทิตภาวํ อปฺปฏิชานนฺโต ปุริมสวนํ วิวรนฺโต ‘‘สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตมิทํ มยา ตสฺส ภควโต จตุเวสารชฺชวิสารทสฺส ทสพลธรสฺส อาสภฏฺานฏฺายิโน สีหนาทนาทิโน สพฺพสตฺตุตฺตมสฺส ธมฺมิสฺสรสฺส ธมฺมราชสฺส ธมฺมาธิปติโน ธมฺมทีปสฺส ธมฺมสรณสฺส สทฺธมฺมวรจกฺกวตฺติโน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วจนํ, น เอตฺถ อตฺเถ วา ธมฺเม วา ปเท วา พฺยฺชเน วา กงฺขา วา วิมติ วา กาตพฺพา’’ติ อิมสฺมึ ธมฺเม อสฺสทฺธิยํ วินาเสติ, สทฺธาสมฺปทํ อุปฺปาเทตีติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘วินาสยติ อสฺสทฺธํ, สทฺธํ วฑฺเฒติ สาสเน;
เอวํ เม สุตมิจฺเจวํ, วทํ โคตมสาวโก’’ติ.
เอกนฺติ คณนปริจฺเฉทนิทฺเทโส. สมยนฺติ ปริจฺฉินฺนนิทฺเทโส. เอกํ สมยนฺติ อนิยมิตปริทีปนํ. ตตฺถ สมยสทฺโท –
สมวาเย ¶ ขเณ กาเล, สมูเห เหตุทิฏฺิสุ;
ปฏิลาเภ ปหาเน จ, ปฏิเวเธ จ ทิสฺสติ.
อิธ ¶ ปนสฺส กาโล อตฺโถ. เตน สํวจฺฉรอุตุมาสทฺธมาสรตฺตินฺทิวปุพฺพณฺหมชฺฌนฺหิกสายนฺหปม- มชฺฌิมปจฺฉิมยามมุหุตฺตาทีสุ ¶ กาลปฺปเภทภูเตสุ สมเยสุ เอกํ สมยนฺติ ทีเปติ.
ตตฺถ กิฺจาปิ เอเตสุ สํวจฺฉราทีสุ สมเยสุ ยํ ยํ สุตฺตํ ยมฺหิ ยมฺหิ สํวจฺฉเร อุตุมฺหิ มาเส ปกฺเข รตฺติภาเค ทิวสภาเค วา วุตฺตํ, สพฺพํ ตํ เถรสฺส สุวิทิตํ สุววตฺถาปิตํ ปฺาย. ยสฺมา ปน ‘‘เอวํ เม สุตํ อสุกสํวจฺฉเร อสุกอุตุมฺหิ อสุกมาเส อสุกปกฺเข อสุกรตฺติภาเค อสุกทิวสภาเค วา’’ติ เอวํ วุตฺเต น สกฺกา สุเขน ธาเรตุํ วา อุทฺทิสิตุํ วา อุทฺทิสาเปตุํ วา, พหุ จ วตฺตพฺพํ โหติ, ตสฺมา เอเกเนว ปเทน ตมตฺถํ สโมธาเนตฺวา ‘‘เอกํ สมย’’นฺติ อาห.
เย วา อิเม คพฺโภกฺกนฺติสมโย ชาติสมโย สํเวคสมโย อภินิกฺขมนสมโย ทุกฺกรการิกสมโย มารวิชยสมโย อภิสมฺโพธิสมโย ทิฏฺธมฺมสุขวิหารสมโย เทสนาสมโย ปรินิพฺพานสมโยติเอวมาทโย ภควโต เทวมนุสฺเสสุ อติวิย ปกาสา อเนกกาลปฺปเภทา เอว สมยา, เตสุ สมเยสุ เทสนาสมยสงฺขาตํ เอกํ สมยนฺติ ทีเปติ. โย จายํ าณกรุณากิจฺจสมเยสุ กรุณากิจฺจสมโย, อตฺตหิตปรหิตปฏิปตฺติสมเยสุ ปรหิตปฏิปตฺติสมโย, สนฺนิปติตานํ กรณียทฺวยสมเยสุ ธมฺมิกถาสมโย, เทสนาปฏิปตฺติสมเยสุ เทสนาสมโย, เตสุปิ สมเยสุ อฺตรํ สมยํ สนฺธาย ‘‘เอกํ สมย’’นฺติ อาห.
ยสฺมา ปน ‘‘เอกํ สมย’’นฺติ อจฺจนฺตสํโยคตฺโถ สมฺภวติ. ยฺหิ สมยํ ภควา อิมํ อฺํ วา สุตฺตนฺตํ เทเสสิ, อจฺจนฺตเมว ตํ สมยํ กรุณาวิหาเรน วิหาสิ, ตสฺมา ตทตฺถโชตนตฺถํ อิธ อุปโยควจนนิทฺเทโส กโตติ.
เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ตํ ตํ อตฺถมเปกฺขิตฺวา, ภุมฺเมน กรเณน จ;
อฺตฺร สมโย วุตฺโต, อุปโยเคน โส อิธา’’ติ.
โปราณา ¶ ปน วณฺณยนฺติ – ‘‘ตสฺมึ สมเย’’ติ วา ‘‘เตน สมเยนา’’ติ วา ‘‘ตํ สมย’’นฺติ วา อภิลาปมตฺตเภโท เอส, สพฺพตฺถ ภุมฺมเมวตฺโถติ. ตสฺมา ¶ ‘‘เอกํ สมย’’นฺติ วุตฺเตปิ ‘‘เอกสฺมึ สมเย’’ติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ภควาติ ครุ. ครฺุหิ โลเก ‘‘ภควา’’ติ วทนฺติ. อยฺจ สพฺพคุณวิสิฏฺตาย สพฺพสตฺตานํ ครุ, ตสฺมา ‘‘ภควา’’ติ เวทิตพฺโพ. โปราเณหิปิ วุตฺตํ –
‘‘ภควาติ ¶ วจนํ เสฏฺํ, ภควาติ วจนมุตฺตมํ;
ครุ คารวยุตฺโต โส, ภควา เตน วุจฺจตี’’ติ.
อปิจ –
‘‘ภาคฺยวา ภคฺควา ยุตฺโต, ภเคหิ จ วิภตฺตวา;
ภตฺตวา วนฺตคมโน, ภเวสุ ภควา ตโต’’ติ. –
อิมิสฺสาปิ คาถาย วเสน อสฺส ปทสฺส วิตฺถารโต อตฺโถ เวทิตพฺโพ. โส จ วิสุทฺธิมคฺเค พุทฺธานุสฺสตินิทฺเทเส (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๓ อาทโย) วุตฺโตเยว.
เอตฺตาวตา เจตฺถ เอวนฺติ วจเนน เทสนาสมฺปตฺตึ นิทฺทิสติ, เม สุตนฺติ สาวกสมฺปตฺตึ, เอกํ สมยนฺติ กาลสมฺปตฺตึ, ภควาติ เทสกสมฺปตฺตึ.
สาวตฺถิยนฺติ เอตฺถ จ สวตฺถสฺส อิสิโน นิวาสฏฺานภูตา นครี สาวตฺถี, ยถา กากนฺที มากนฺทีติ เอวํ ตาว อกฺขรจินฺตกา. อฏฺกถาจริยา ปน ภณนฺติ – ยํ กิฺจิ มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภคํ สพฺพเมตฺถ อตฺถีติ สาวตฺถี, สตฺถสมาโยเค จ กึ ภณฺฑมตฺถีติ ปุจฺฉิเต สพฺพมตฺถีติปิ วจนมุปาทาย สาวตฺถี.
‘‘สพฺพทา สพฺพูปกรณํ, สาวตฺถิยํ สโมหิตํ;
ตสฺมา สพฺพมุปาทาย, สาวตฺถีติ ปวุจฺจตี’’ติ. –
ตสฺสํ สาวตฺถิยํ. สมีปตฺเถ ภุมฺมวจนํ. วิหรตีติ อวิเสเสน อิริยาปถทิพฺพพฺรหฺมอริยวิหาเรสุ ¶ อฺตรวิหารสมงฺคิปริทีปนเมตํ, อิธ ปน านคมนาสนสยนปฺปเภเทสุ อิริยาปเถสุ อฺตรอิริยาปถสมาโยคปริทีปนํ. เตน ิโตปิ คจฺฉนฺโตปิ นิสินฺโนปิ สยาโนปิ ภควา ‘‘วิหรติ’’จฺเจว เวทิตพฺโพ. โส หิ ภควา เอกํ อิริยาปถพาธนํ อฺเน อิริยาปเถน วิจฺฉินฺทิตฺวา อปริปตนฺตมตฺตภาวํ หรติ ปวตฺเตติ, ตสฺมา ‘‘วิหรตี’’ติ วุจฺจติ.
เชตวเนติ ¶ เอตฺถ อตฺตโน ปจฺจตฺถิกชนํ ชินาตีติ เชโต, รฺโ วา อตฺตโน ปจฺจตฺถิกชเน ชิเต ชาโตติ เชโต, มงฺคลกมฺยตาย วา ตสฺส ¶ เอวํนามเมว กตนฺติ เชโต, วนยตีติ วนํ, อตฺตสมฺปทาย สตฺตานํ ภตฺตึ กาเรติ, อตฺตนิ สิเนหํ อุปฺปาเทตีติ อตฺโถ. วนุเต อิติ วา วนํ, นานาวิธกุสุมคนฺธสมฺโมทมตฺตโกกิลาทิวิหงฺคาภิรุเตหิ มนฺทมารุตจลิตรุกฺขสาขาวิฏปปลฺลวปลาเสหิ ‘‘เอถ มํ ปริภฺุชถา’’ติ ปาณิโน ยาจติ วิยาติ อตฺโถ. เชตสฺส วนํ เชตวนํ. ตฺหิ เชเตน ราชกุมาเรน โรปิตํ สํวทฺธิตํ ปริปาลิตํ, โส จ ตสฺส สามี อโหสิ, ตสฺมา เชตวนนฺติ วุจฺจติ. ตสฺมึ เชตวเน. วนฺจ นาม โรปิมํ สยํชาตนฺติ ทุวิธํ. อิทฺจ เวฬุวนาทีนิ จ โรปิมานิ, อนฺธวนมหาวนาทีนิ สยํชาตานิ.
อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมติ สุทตฺโต นาม โส คหปติ มาตาปิตูหิ กตนามวเสน. สพฺพกามสมิทฺธตาย ปน วิคตมจฺเฉรตาย กรุณาทิคุณสมงฺคิตาย จ นิจฺจกาลํ อนาถานํ ปิณฺฑมทาสิ, เตน อนาถปิณฺฑิโกติ สงฺขํ คโต. อารมนฺติ เอตฺถ ปาณิโน, วิเสเสน วา ปพฺพชิตาติ อาราโม, ตสฺส ปุปฺผผลาทิโสภาย นาติทูรนจฺจาสนฺนตาทิปฺจวิธเสนาสนงฺคสมฺปตฺติยา จ ตโต ตโต อาคมฺม รมนฺติ อภิรมนฺติ, อนุกฺกณฺิตา หุตฺวา นิวสนฺตีติ อตฺโถ. วุตฺตปฺปการาย วา สมฺปตฺติยา ตตฺถ ตตฺถ คเตปิ อตฺตโน อพฺภนฺตรํ อาเนตฺวา รมาเปตีติ อาราโม. โส หิ อนาถปิณฺฑิเกน คหปตินา เชตสฺส ราชกุมารสฺส หตฺถโต อฏฺารสหิ หิรฺโกฏีหิ โกฏิสนฺถเรน กีณิตฺวา อฏฺารสหิ หิรฺโกฏีหิ เสนาสนานิ การาเปตฺวา อฏฺารสหิ หิรฺโกฏีหิ วิหารมหํ นิฏฺาเปตฺวา เอวํ จตุปฺาสหิรฺโกฏิปริจฺจาเคน พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิยฺยาทิโต, ตสฺมา ‘‘อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราโม’’ติ วุจฺจติ. ตสฺมึ อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม.
เอตฺถ จ ‘‘เชตวเน’’ติวจนํ ปุริมสามิปริกิตฺตนํ, ‘‘อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม’’ติ ปจฺฉิมสามิปริกิตฺตนํ. กิเมเตสํ ปริกิตฺตเน ปโยชนนฺติ? ปฺุกามานํ ทิฏฺานุคติอาปชฺชนํ. ตตฺถ หิ ทฺวารโกฏฺกปาสาทมาปเน ภูมิวิกฺกยลทฺธา อฏฺารส หิรฺโกฏิโย ¶ อเนกโกฏิอคฺฆนกา รุกฺขา จ เชตสฺส ปริจฺจาโค, จตุปฺาส หิรฺโกฏิโย อนาถปิณฺฑิกสฺส ¶ . อิติ เตสํ ปริกิตฺตเนน เอวํ ปฺุกามา ปฺุานิ กโรนฺตีติ ทสฺเสนฺโต อายสฺมา สาริปุตฺโต อฺเปิ ปฺุกาเม เตสํ ทิฏฺานุคติอาปชฺชเน นิโยเชติ.
ตตฺถ สิยา – ยทิ ตาว ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ, ‘‘เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม’’ติ น วตฺตพฺพํ. อถ ตตฺถ วิหรติ, ‘‘สาวตฺถิย’’นฺติ น วตฺตพฺพํ. น หิ สกฺกา อุภยตฺถ เอกํ สมยํ วิหริตุนฺติ. น ¶ โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ, นนุ อโวจุมฺห ‘‘สมีปตฺเถ ภุมฺมวจน’’นฺติ. ตสฺมา ยถา คงฺคายมุนาทีนํ สมีเป โคยูถานิ จรนฺตานิ ‘‘คงฺคาย จรนฺติ, ยมุนาย จรนฺตี’’ติ วุจฺจนฺติ, เอวมิธาปิ ยทิทํ สาวตฺถิยา สมีเป เชตวนํ อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราโม, ตตฺถ วิหรนฺโต วุจฺจติ ‘‘สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม’’ติ. โคจรคามนิทสฺสนตฺถํ หิสฺส สาวตฺถิวจนํ, ปพฺพชิตานุรูปนิวาสฏฺานนิทสฺสนตฺถํ เสสวจนํ.
ตตฺถ สาวตฺถิกิตฺตเนน อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควโต คหฏฺานุคฺคหกรณํ ทสฺเสติ, เชตวนาทิกิตฺตเนน ปพฺพชิตานุคฺคหกรณํ. ตถา ปุริเมน ปจฺจยคฺคหณโต อตฺตกิลมถานุโยควิวชฺชนํ, ปจฺฉิเมน วตฺถุกามปฺปหานโต กามสุขลฺลิกานุโยควิวชฺชนูปายํ. อถ วา ปุริเมน จ ธมฺมเทสนาภิโยคํ, ปจฺฉิเมน วิเวกาธิมุตฺตึ. ปุริเมน กรุณาย อุปคมนํ, ปจฺฉิเมน ปฺาย อปคมนํ. ปุริเมน สตฺตานํ หิตสุขนิปฺผาทนาธิมุตฺตตํ, ปจฺฉิเมน ปรหิตสุขกรเณ นิรุปเลปตํ. ปุริเมน ธมฺมิกสุขาปริจฺจาคนิมิตฺตํ ผาสุวิหารํ, ปจฺฉิเมน อุตฺตริมนุสฺสธมฺมานุโยคนิมิตฺตํ. ปุริเมน มนุสฺสานํ อุปการพหุลตํ, ปจฺฉิเมน เทวานํ. ปุริเมน โลเก ชาตสฺส โลเก สํวทฺธภาวํ, ปจฺฉิเมน โลเกน อนุปลิตฺตตํ. ปุริเมน ‘‘เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว, โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตโม เอกปุคฺคโล? ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๗๐) วจนโต ยทตฺถํ ภควา อุปฺปนฺโน, ตทตฺถปริทีปนํ, ปจฺฉิเมน ยตฺถ อุปฺปนฺโน, ตทนุรูปวิหารปริทีปนํ. ภควา หิ ปมํ ลุมฺพินิวเน, ทุติยํ โพธิมณฺเฑติ โลกิยโลกุตฺตรสฺส อุปฺปตฺติยา วเนเยว อุปฺปนฺโน, เตนสฺส วเนเยว วิหารํ ทสฺเสตีติ เอวมาทินา นเยเนตฺถ อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา.
ตตฺราติ ¶ เทสกาลปริทีปนํ. ตฺหิ ยํ สมยํ วิหรติ, ตตฺร สมเย, ยสฺมิฺจ เชตวเน วิหรติ, ตตฺร เชตวเนติ ทีเปติ. ภาสิตพฺพยุตฺเต วา เทสกาเล ทีเปติ. น หิ ภควา ¶ อยุตฺเต เทเส กาเล วา ธมฺมํ เทเสติ. ‘‘อกาโล โข ตาว พาหิยา’’ติอาทิ (อุทา. ๑๐) เจตฺถ สาธกํ. โขติ ปทปูรณมตฺเต อวธารณตฺเถ อาทิกาลตฺเถ วา นิปาโต. ภควาติ โลกครุทีปนํ. ภิกฺขูติ กถาสวนยุตฺตปุคฺคลวจนํ. อปิเจตฺถ ‘‘ภิกฺขโกติ ภิกฺขุ, ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโตติ ภิกฺขู’’ติอาทินา (วิภ. ๕๑๐; ปารา. ๔๕) นเยน วจนตฺโถ เวทิตพฺโพ. อามนฺเตสีติ อาลปิ อภาสิ สมฺโพเธสิ, อยเมตฺถ อตฺโถ. อฺตฺร ¶ ปน าปเนปิ ปกฺโกสเนปิ. ภิกฺขโวติ อามนฺตนาการทีปนํ. เตน เตสํ ภิกฺขูนํ ภิกฺขนสีลตาภิกฺขนธมฺมตาภิกฺขเนสาธุการิตาทิคุณโยคสิทฺเธน วจเนน หีนาธิกชนเสวิตํ วุตฺตึ ปกาเสนฺโต อุทฺธตทีนภาวนิคฺคหํ กโรติ. ‘‘ภิกฺขโว’’ติ อิมินา จ กรุณาวิปฺผารโสมฺมหทยนยนนิปาตปุพฺพงฺคเมน วจเนน เต อตฺตโน มุขาภิมุเข กโรนฺโต เตเนว กเถตุกมฺยตาทีปเกน วจเนน เนสํ โสตุกมฺยตํ ชเนติ. เตเนว จ สมฺโพธนตฺเถน วจเนน สาธุกสวนมนสิกาเรปิ เต นิโยเชติ. สาธุกสวนมนสิการายตฺตา หิ สาสนสมฺปตฺติ.
อปเรสุ เทวมนุสฺเสสุ วิชฺชมาเนสุ กสฺมา ภิกฺขูเยว อามนฺเตสีติ เจ? เชฏฺเสฏฺาสนฺนสทาสนฺนิหิตภาชนภาวโต. สพฺพปริสสาธารณา หิ ภควโต ธมฺมเทสนา. ปริสาย จ เชฏฺา ภิกฺขู ปมุปฺปนฺนตฺตา, เสฏฺา อนคาริยภาวํ อาทึ กตฺวา สตฺถุ จริยานุวิธายกตฺตา สกลสาสนปฏิคฺคาหกตฺตา จ, อาสนฺนา ตตฺถ นิสินฺเนสุ สตฺถุสนฺนิกตฺตา, สทาสนฺนิหิตา สตฺถุสนฺติกาวจรตฺตา, ธมฺมเทสนาย จ เต เอว ภาชนํ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปตฺติสพฺภาวโต.
ตตฺถ สิยา – กิมตฺถํ ปน ภควา ธมฺมํ เทเสนฺโต ปมํ ภิกฺขู อามนฺเตสิ, น ธมฺมเมว เทเสสีติ? สติชนนตฺถํ. ปริสาย หิ ภิกฺขู อฺํ จินฺเตนฺตาปิ วิกฺขิตฺตจิตฺตาปิ ธมฺมํ ปจฺจเวกฺขนฺตาปิ กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺตาปิ นิสินฺนา โหนฺติ, เต อนามนฺเตตฺวา ธมฺเม เทสิยมาเน ‘‘อยํ เทสนา กึนิทานา กึปจฺจยา กตมาย อตฺถุปฺปตฺติยา เทสิตา’’ติ สลฺลกฺเขตุํ อสกฺโกนฺตา วิกฺเขปํ อาปชฺเชยฺยุํ, ทุคฺคหิตํ วา คณฺเหยฺยุํ ¶ . เตน เตสํ สติชนนตฺถํ ภควา ปมํ อามนฺเตตฺวา ปจฺฉา ธมฺมํ เทเสติ.
ภทนฺเตติ คารววจนเมตํ, สตฺถุโน ปฏิวจนทานํ วา. อปิเจตฺถ ‘‘ภิกฺขโว’’ติ วทมาโน ภควา เต ภิกฺขู อาลปติ, ‘‘ภทนฺเต’’ติ วทมานา เต ภควนฺตํ ปจฺจาลปนฺติ. ตถา ‘‘ภิกฺขโว’’ติ ภควา อาภาสติ, ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ปจฺจาภาสนฺติ. ‘‘ภิกฺขโว’’ติ ปฏิวจนํ ทาเปติ, ภทนฺเตติ ปฏิวจนํ เทนฺติ. เต ภิกฺขูติ เย ภควา อามนฺเตสิ. ภควโต ปจฺจสฺโสสุนฺติ ¶ ภควโต อามนฺตนํ ปฏิอสฺโสสุํ, อภิมุขา หุตฺวา สุณึสุ สมฺปฏิจฺฉึสุ ปฏิคฺคเหสุนฺติ อตฺโถ. ภควา เอตทโวจาติ ภควา เอตํ อิทานิ วตฺตพฺพํ สกลสุตฺตํ อโวจ.
เอตฺตาวตา ¶ จ ยํ อายสฺมตา สาริปุตฺเตน กมลกุวลยุชฺชลวิมลสาทุรสสลิลาย โปกฺขรณิยา สุขาวตรณตฺถํ นิมฺมลสิลาตลรจนวิลาสโสปานํ วิปฺปกิณฺณมุตฺตาชาลสทิสวาลิกากิณฺณปณฺฑรภูมิภาคํ ติตฺถํ วิย, สุวิภตฺตภิตฺติวิจิตฺรเวทิกาปริกฺขิตฺตสฺส นกฺขตฺตปถํ ผุสิตุกามตาย วิย, วิชมฺภิตสมุสฺสยสฺส ปาสาทวรสฺส สุขาโรหณตฺถํ ทนฺตมยสณฺหมุทุผลกกฺจนลตาวินทฺธมณิคณปฺปภาสมุทยุชฺชลโสภํ โสปานํ วิย, สุวณฺณวลยนูปุราทิสงฺฆฏฺฏนสทฺทสมฺมิสฺสิตกถิตหสิตมธุรสฺสรเคหชนวิจริตสฺส อุฬาริสฺสริยวิภวโสภิตสฺส มหาฆรสฺส สุขปฺปเวสนตฺถํ สุวณฺณรชตมณิมุตฺตาปวาฬาทิชุติวิสทวิชฺโชติตสุปฺปติฏฺิตวิสาลทฺวารกวาฏํ มหาทฺวารํ วิย อตฺถพฺยฺชนสมฺปนฺนสฺส พุทฺธานํ เทสนาาณคมฺภีรภาวสํสูจกสฺส อิมสฺส สุตฺตสฺส สุขาวคาหณตฺถํ กาลเทสเทสกปริสาปเทสปฏิมณฺฑิตํ นิทานํ ภาสิตํ, ตสฺส อตฺถวณฺณนา สมตฺตา.
สุตฺตนฺเต ปฺจาติ คณนปริจฺเฉโท. อิมานิ อินฺทฺริยานีติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ. อินฺทฺริยฏฺโ เหฏฺา วุตฺโต.
๑๘๕. อิทานิ อิมํ สุตฺตนฺตํ ทสฺเสตฺวา อิมสฺมึ สุตฺตนฺเต วุตฺตานํ อินฺทฺริยานํ วิสุทฺธิภาวนาวิธานํ ภาวิตตฺตํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิฺจ ทสฺเสตุกาโม อิมานิ ปฺจินฺทฺริยานีติอาทิมาห. ตตฺถ วิสุชฺฌนฺตีติ วิสุทฺธึ ปาปุณนฺติ. อสฺสทฺเธติ ตีสุ รตเนสุ สทฺธาวิรหิเต. สทฺเธติ ตีสุ รตเนสุ สทฺธาสมฺปนฺเน. เสวโตติ ¶ จิตฺเตน เสวนฺตสฺส. ภชโตติ อุปสงฺกมนฺตสฺส. ปยิรุปาสโตติ สกฺกจฺจํ อุปนิสีทนฺตสฺส. ปสาทนีเย สุตฺตนฺเตติ ปสาทชนเก รตนตฺตยคุณปฏิสํยุตฺเต สุตฺตนฺเต. กุสีเตติ กุจฺฉิเตน อากาเรน สีทนฺตีติ กุสีทา, กุสีทา เอว กุสีตา. เต กุสีเต. สมฺมปฺปธาเนติ จตุกิจฺจสาธกวีริยปฏิสํยุตฺตสุตฺตนฺเต. มุฏฺสฺสตีติ นฏฺสฺสติเก. สติปฏฺาเนติ สติปฏฺานาธิการเก สุตฺตนฺเต. ฌานวิโมกฺเขติ จตุตฺถชฺฌานอฏฺวิโมกฺขติวิธวิโมกฺขาธิการเก สุตฺตนฺเต. ทุปฺปฺเติ นิปฺปฺเ, ปฺาภาวโต วา ทุฏฺา ปฺา เอเตสนฺติ ทุปฺปฺา. เต ทุปฺปฺเ. คมฺภีราณจริยนฺติ จตุสจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิปฏิสํยุตฺเต สุตฺตนฺเต, าณกถาสทิเส วา. สุตฺตนฺตกฺขนฺเธติ สุตฺตนฺตโกฏฺาเส. อสฺสทฺธิยนฺติอาทีสุ อสฺสทฺธิยนฺติ อสฺสทฺธภาวํ. อสฺสทฺธิเย อาทีนวทสฺสาวี อสฺสทฺธิยํ ปชหนฺโต สทฺธินฺทฺริยํ ภาเวติ, สทฺธินฺทฺริเย อานิสํสทสฺสาวี สทฺธินฺทฺริยํ ภาเวนฺโต อสฺสทฺธิยํ ¶ ปชหติ. เอส นโย ¶ เสเสสุ. โกสชฺชนฺติ กุสีตภาวํ. ปมาทนฺติ สติวิปฺปวาสํ. อุทฺธจฺจนฺติ อุทฺธตภาวํ, วิกฺเขปนฺติ อตฺโถ. ปหีนตฺตาติ อปฺปนาวเสน ฌานปาริปูริยา ปหีนตฺตา. สุปฺปหีนตฺตาติ วุฏฺานคามินิวเสน วิปสฺสนาปาริปูริยา สุฏฺุ ปหีนตฺตา. ภาวิตํ โหติ สุภาวิตนฺติ วุตฺตกฺกเมเนว โยเชตพฺพํ. วิปสฺสนาย หิ วิปกฺขวเสน ปหีนตฺตา ‘‘สุปฺปหีนตฺตา’’ติ วตฺตุํ ยุชฺชติ. ตสฺมาเยว จ ‘‘สุภาวิต’’นฺติ, น ตถา ฌาเนน. ยสฺมา ปน ปหาตพฺพานํ ปหาเนน ภาวนาสิทฺธิ, ภาวนาสิทฺธิยา จ ปหาตพฺพานํ ปหานสิทฺธิ โหติ, ตสฺมา ยมกํ กตฺวา นิทฺทิฏฺํ.
๑๘๖. ปฏิปฺปสฺสทฺธิวาเร ภาวิตานิ เจว โหนฺติ สุภาวิตานิ จาติ ภาวิตานํเยว สุภาวิตตา. ปฏิปฺปสฺสทฺธานิ จ สุปฺปฏิปฺปสฺสทฺธานิ จาติ ปฏิปฺปสฺสทฺธานํเยว สุปฺปฏิปฺปสฺสทฺธตา วุตฺตา. ผลกฺขเณ มคฺคกิจฺจนิพฺพตฺติวเสน ภาวิตตา ปฏิปฺปสฺสทฺธตา จ เวทิตพฺพา. สมุจฺเฉทวิสุทฺธิโยติ มคฺควิสุทฺธิโยเยว. ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิสุทฺธิโยติ ผลวิสุทฺธิโย เอว.
อิทานิ ตถา วุตฺตวิธานานิ อินฺทฺริยานิ การกปุคฺคลวเสน โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ กตินํ ปุคฺคลานนฺติอาทิมาห. ตตฺถ สวเนน พุทฺโธติ สมฺมาสมฺพุทฺธโต ธมฺมกถาสวเนน จตุสจฺจํ พุทฺธวา, าตวาติ อตฺโถ. อิทํ ¶ ภาวิตินฺทฺริยภาวสฺส การณวจนํ. ภาวนาภิสมยวเสน หิ มคฺคสฺส พุทฺธตฺตา ผลกฺขเณ ภาวิตินฺทฺริโย โหติ. อฏฺนฺนมฺปิ อริยานํ ตถาคตสฺส สาวกตฺตา วิเสเสตฺวา อรหตฺตผลฏฺเมว ทสฺเสนฺโต ขีณาสโวติ อาห. โสเยว หิ สพฺพกิจฺจนิปฺผตฺติยา ภาวิตินฺทฺริโยติ วุตฺโต. อิตเรปิ ปน ตํตํมคฺคกิจฺจนิปฺผตฺติยา ปริยาเยน ภาวิตินฺทฺริยา เอว. ตสฺมา เอว จ จตูสุ ผลกฺขเณสุ ‘‘ปฺจินฺทฺริยานิ ภาวิตานิ เจว โหนฺติ สุภาวิตานิ จา’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน เตสํ อุปริมคฺคตฺถาย อินฺทฺริยภาวนา อตฺถิเยว, ตสฺมา เต น นิปฺปริยาเยน ภาวิตินฺทฺริยา. สยํ ภูตฏฺเนาติ อนาจริโย หุตฺวา สยเมว อริยาย ชาติยา ภูตฏฺเน ชาตฏฺเน ภควา. โสปิ หิ ภาวนาสิทฺธิวเสน ผลกฺขเณ สยมฺภู นาม โหติ. เอวํ สยํ ภูตฏฺเน ภาวิตินฺทฺริโย. อปฺปเมยฺยฏฺเนาติ อนนฺตคุณโยคโต ปมาเณตุํ อสกฺกุเณยฺยฏฺเน. ภควา ผลกฺขเณ ภาวนาสิทฺธิโต อปฺปเมยฺโยติ. ตสฺมาเยว ภาวิตินฺทฺริโย.
ปมสุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุติยสุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๑๘๗. ปุน ¶ อฺํ สุตฺตนฺตํ นิกฺขิปิตฺวา อินฺทฺริยวิธานํ นิทฺทิสิตุกาโม ปฺจิมานิ, ภิกฺขเวติอาทิกํ สุตฺตนฺตํ ทสฺเสติ. ตตฺถ เย ¶ หิ เกจีติ อนวเสสปริยาทานํ, หิ-กาโร ปทปูรณมตฺเต นิปาโต. สมณา วา พฺราหฺมณา วาติ โลกโวหารวเสน วุตฺตํ. สมุทยนฺติ ปจฺจยํ. อตฺถงฺคมนฺติ อุปฺปนฺนานํ อภาวคมนํ, อนุปฺปนฺนานํ อนุปฺปาทํ วา. อสฺสาทนฺติ อานิสํสํ. อาทีนวนฺติ โทสํ. นิสฺสรณนฺติ นิคฺคมนํ. ยถาภูตนฺติ ยถาสภาวํ. สมเณสูติ สมิตปาเปสุ. สมณสมฺมตาติ น มยา สมณาติ สมฺมตา. ‘‘สมฺมตา’’ติ วตฺตมานกาลวเสน วุจฺจมาเน สทฺทลกฺขณวเสน ‘‘เม’’ติ เอตฺถ สามิวจนเมว โหติ. พฺราหฺมเณสูติ พาหิตปาเปสุ. สามฺตฺถนฺติ สมณภาวสฺส อตฺถํ. พฺรหฺมฺตฺถนฺติ พฺราหฺมณภาวสฺส อตฺถํ. ทฺวเยนาปิ อรหตฺตผลเมว วุตฺตํ. อถ วา สามฺตฺถนฺติ เหฏฺา ตีณิ ผลานิ. พฺรหฺมฺตฺถนฺติ อรหตฺตผลํ. สามฺพฺรหฺมฺนฺติ หิ อริยมคฺโคเยว. ทิฏฺเว ธมฺเมติ ปจฺจกฺเขเยว อตฺตภาเว. สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวาติ อตฺตนาเยว อธิเกน าเณน ปจฺจกฺขํ กตฺวา. อุปสมฺปชฺชาติ ปาปุณิตฺวา, นิปฺผาเทตฺวา วา.
๑๘๘. สุตฺตนฺตนิทฺเทเส ¶ ปมํ อินฺทฺริยสมุทยาทีนํ ปเภทคณนํ ปุจฺฉิตฺวา ปุน ปเภทคณนา วิสฺสชฺชิตา. ตตฺถ อสีติสตนฺติ อสีติอุตฺตรํ สตํ. ปณฺฑิเตหิ ‘‘อสีติสต’’นฺติ วุตฺเตหิ อากาเรหีติ โยชนา.
ปุน ปเภทคณนาปุจฺฉาปุพฺพงฺคเม คณนานิทฺเทเส อธิโมกฺขตฺถายาติ อธิมุจฺจนตฺถาย สทฺทหนตฺถาย. อาวชฺชนาย สมุทโยติ มโนทฺวาราวชฺชนจิตฺตสฺส สมุทโย. สทฺธินฺทฺริยสฺส สมุทโยติ สทฺธินฺทฺริยสฺส ปจฺจโย, สทฺธํ อุปฺปาเทสฺสามีติ ปุพฺพภาคาวชฺชนํ สทฺธินฺทฺริยสฺส อุปนิสฺสยปจฺจโย, สทฺธินฺทฺริยชวนสฺส อาวชฺชนํ ปมสฺส ชวนสฺส อนนฺตรปจฺจโย, ทุติยชวนาทีนํ อุปนิสฺสยปจฺจโย. อธิโมกฺขวเสนาติ ฉนฺทสมฺปยุตฺตอธิโมกฺขวเสน. ฉนฺทสฺส สมุทโยติ ปุพฺพภาคาวชฺชนปจฺจยา อุปฺปนฺนสฺส อธิโมกฺขสมฺปยุตฺตสฺส เยวาปนกภูตสฺส ธมฺมจฺฉนฺทสฺส สมุทโย. โส ปน สทฺธินฺทฺริยสฺส สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ปจฺจโย โหติ, ฉนฺทาธิปติกาเล อธิปติปจฺจโย จ โหติ, โสเยว ทุติยสฺส อนนฺตรสมนนฺตรอนนฺตรูปนิสฺสยาเสวนนตฺถิวิคตวเสน ¶ ปจฺจโย โหติ. อิมินาว นเยน มนสิการสฺสปิ โยชนา กาตพฺพา. เกวลฺเหตฺถ มนสิกาโรติ สารณลกฺขโณ เยวาปนกมนสิกาโร. อธิปติปจฺจยตา ปนสฺส น โหติ. สมฺปยุตฺเตสุ อิเมสํ ทฺวินฺนํเยว คหณํ พลวปจฺจยตฺตาติ เวทิตพฺพํ ¶ . สทฺธินฺทฺริยสฺส วเสนาติ ภาวนาภิวุทฺธิยา อินฺทฺริยภาวํ ปตฺตสฺส สทฺธินฺทฺริยสฺส วเสน. เอกตฺตุปฏฺานนฺติ เอการมฺมเณ อจลภาเวน ภุสํ านํ อุปรูปริ สทฺธินฺทฺริยสฺส ปจฺจโย โหติ. สทฺธินฺทฺริเย วุตฺตนเยเนว เสสินฺทฺริยานิปิ เวทิตพฺพานิ. เอวเมเกกสฺส อินฺทฺริยสฺส จตฺตาโร จตฺตาโร สมุทยาติ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ วีสติ สมุทยา โหนฺติ. ปุน จตุนฺนํ สมุทยานํ เอเกกสฺมึ สมุทเย ปฺจ ปฺจ อินฺทฺริยานิ โยเชตฺวา วีสติ สมุทยา วุตฺตา. ปมวีสติ นานามคฺควเสน ทฏฺพฺพา, ทุติยวีสติ เอกมคฺควเสน ทฏฺพฺพาติ วทนฺติ. เอวํ จตฺตาลีส อาการา โหนฺติ. อตฺถงฺคมวาโรปิ อิมินาว นเยน เวทิตพฺโพ. โส ปน อตฺถงฺคโม อินฺทฺริยภาวนํ อนนุยุตฺตสฺส อปฺปฏิลทฺธา ปฏิลาภตฺถงฺคโม, อินฺทฺริยภาวนาย ปริหีนสฺส ปฏิลทฺธปริหานิ อตฺถงฺคโม, ผลปฺปตฺตสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิอตฺถงฺคโม. เอกตฺตอนุปฏฺานนฺติ เอกตฺเต อนุปฏฺานํ.
ก. อสฺสาทนิทฺเทสวณฺณนา
๑๘๙. อสฺสาทนิทฺเทเส ¶ อสฺสทฺธิยสฺส อนุปฏฺานนฺติ อสฺสทฺเธ ปุคฺคเล ปริวชฺชยโต สทฺเธ ปุคฺคเล เสวโต ปสาทนียสุตฺตนฺเต ปจฺจเวกฺขโต ตตฺถ โยนิโสมนสิการํ พหุลีกโรโต จ อสฺสทฺธิยสฺส อนุปฏฺานํ โหติ. อสฺสทฺธิยปริฬาหสฺส อนุปฏฺานนฺติ เอตฺถ อสฺสทฺธสฺส สทฺธากถาย ปวตฺตมานาย ทุกฺขํ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อยํ อสฺสทฺธิยปริฬาโห. อธิโมกฺขจริยาย เวสารชฺชนฺติ สทฺธาวตฺถุวเสน วา ภาวนาย วา วสิปฺปตฺตสฺส สทฺธาปวตฺติยา วิสารทภาโว โหติ. สนฺโต จ วิหาราธิคโมติ สมถสฺส วา วิปสฺสนาย วา ปฏิลาโภ. สุขํ โสมนสฺสนฺติ เอตฺถ เจตสิกสุขภาวทสฺสนตฺถํ โสมนสฺสวจนํ. สทฺธินฺทฺริยสมุฏฺิตปณีตรูปผุฏฺกายสฺส กายิกสุขมฺปิ ลพฺภติเยว. สุขโสมนสฺสสฺส ปธานสฺสาทตฺตา ‘‘อยํ สทฺธินฺทฺริยสฺส อสฺสาโท’’ติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. อิมินาว นเยน เสสินฺทฺริยสฺสาทาปิ โยเชตฺวา เวทิตพฺพา.
ข. อาทีนวนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๐. อาทีนวนิทฺเทเส ¶ อนิจฺจฏฺเนาติ สทฺธินฺทฺริยสฺส อนิจฺจฏฺเน. โส อนิจฺจฏฺโ สทฺธินฺทฺริยสฺส อาทีนโวติ วุตฺตํ โหติ. อิตรทฺวเยปิ เอเสว นโย. อิเม สมุทยตฺถงฺคมสฺสาทาทีนวา โลกิยอินฺทฺริยานเมวาติ เวทิตพฺพา.
ค. นิสฺสรณนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๑. นิสฺสรณนิทฺเทเส อธิโมกฺขฏฺเนาติอาทีสุ เอเกกสฺมึ อินฺทฺริเย ปฺจ ปฺจ กตฺวา ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ ปฺจวีสติ นิสฺสรณานิ มคฺคผลวเสน นิทฺทิฏฺานิ. ตตฺถ ตโต ปณีตตรสทฺธินฺทฺริยสฺส ปฏิลาภาติ ตโต วิปสฺสนากฺขเณ ปวตฺตสทฺธินฺทฺริยโต ¶ มคฺคกฺขเณ ปณีตตรสฺส สทฺธินฺทฺริยสฺส ปฏิลาภวเสน. ปุริมตรสทฺธินฺทฺริยา นิสฺสฏํ โหตีติ ตสฺมึ มคฺคกฺขเณ สทฺธินฺทฺริยํ ปุริมตรโต วิปสฺสนากฺขเณ ปวตฺตสทฺธินฺทฺริยโต นิกฺขนฺตํ โหติ. อิมินาว นเยน ผลกฺขเณ สทฺธินฺทฺริยมฺปิ อุภยตฺถ เสสินฺทฺริยานิปิ โยเชตพฺพานิ.
๑๙๒. ปุพฺพภาเค ¶ ปฺจหิ อินฺทฺริเยหีติ ปมชฺฌานูปจาเร ปฺจหิ อินฺทฺริเยหิ ปมชฺฌานาทิอฏฺสมาปตฺติวเสน อฏฺ นิสฺสรณานิ, อนิจฺจานุปสฺสนาทิอฏฺารสมหาวิปสฺสนาวเสน อฏฺารส นิสฺสรณานิ, โสตาปตฺติมคฺคาทิวเสน อฏฺ โลกุตฺตรนิสฺสรณานิ. เอวํ ฌานสมาปตฺติมหาวิปสฺสนามคฺคผลวเสน จตุตฺตึส นิสฺสรณานิ ปุริมปุริมสมติกฺกมโต นิทฺทิฏฺานิ. เนกฺขมฺเม ปฺจินฺทฺริยานีติอาทีนิ ปน สตฺตตึส นิสฺสรณานิ ปฏิปกฺขปหานวเสน ปฏิปกฺขโต นิทฺทิฏฺานิ. ตตฺถ เนกฺขมฺมาทีสุ สตฺตสุ สตฺต นิสฺสรณานิ อุปจารภูมิวเสน วุตฺตานิ, ผลานิ ปน ปฏิปกฺขปหานาภาวโต น วุตฺตานิ.
๑๙๓. ทิฏฺเกฏฺเหีติ ยาว โสตาปตฺติมคฺคา ทิฏฺิยา สห เอกสฺมึ ปุคฺคเล ิตาติ ทิฏฺเกฏฺา. เตหิ ทิฏฺเกฏฺเหิ. โอฬาริเกหีติ ถูเลหิ กามราคพฺยาปาเทหิ. อณุสหคเตหีติ สุขุมภูเตหิ กามราคพฺยาปาเทหิเยว. สพฺพกิเลเสหีติ รูปราคาทีหิ. เตสุ หิ ปหีเนสุ สพฺพกิเลสา ปหีนา โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘สพฺพกิเลเสหี’’ติ วุตฺตํ. อวุตฺตตฺถานิ ปเนตฺถ ปทานิ เหฏฺา วุตฺตตฺถาเนวาติ. สพฺเพสฺเว ขีณาสวานํ ตตฺถ ตตฺถ ปฺจินฺทฺริยานีติ ‘‘อธิโมกฺขฏฺเนา’’ติอาทีสุ ¶ ปุพฺเพ วุตฺเตสุ าเนสุ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน ปฺจินฺทฺริยานิ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวกานํ ขีณาสวานํ ยถาโยคํ ตโต ตโต นิสฺสฏานิ โหนฺติ. อิมสฺมึ วาเร ปมํ วุตฺตนยา เอว ยถาโยคํ ขีณาสววเสน วุตฺตา.
กถํ ปเนตานิ นิสฺสรณานิ อสีติสตํ โหนฺตีติ? วุจฺจเต – มคฺคผลวเสน วุตฺตานิ ปฺจวีสติ, สมติกฺกมวเสน วุตฺตานิ จตุตฺตึส, ปฏิปกฺขวเสน วุตฺตานิ สตฺตตึสาติ ปมวาเร สพฺพานิ ฉนฺนวุติ นิสฺสรณานิ โหนฺติ, เอตานิเยว ทุติยวาเร ขีณาสวานํ วเสน ทฺวาทสสุ อปนีเตสุ จตุราสีติ โหนฺติ. อิติ ปุริมานิ ฉนฺนวุติ, อิมานิ จ จตุราสีตีติ อสีติสตํ โหนฺติ. กตมานิ ปน ทฺวาทส ขีณาสวานํ อปเนตพฺพานิ? สมติกฺกมโต วุตฺเตสุ มคฺคผลวเสน วุตฺตานิ อฏฺ นิสฺสรณานิ, ปฏิปกฺขโต วุตฺเตสุ มคฺควเสน วุตฺตานิ จตฺตารีติ อิมานิ ทฺวาทส อปเนตพฺพานิ. อรหตฺตผลวเสน ¶ วุตฺตานิ กสฺมา อปเนตพฺพานีติ เจ? สพฺพปมํ วุตฺตานํ ปฺจวีสติยา นิสฺสรณานํ มคฺคผลวเสเนว ลพฺภนโต. อรหตฺตผลวเสน นิสฺสรณานิ วุตฺตาเนว โหนฺติ ¶ . เหฏฺิมํ เหฏฺิมํ ปน ผลสมาปตฺตึ อุปริมา อุปริมา น สมาปชฺชนฺติเยวาติ เหฏฺา ตีณิปิ ผลานิ น ลพฺภนฺติเยว. ฌานสมาปตฺติวิปสฺสนาเนกฺขมฺมาทีนิ จ กิริยาวเสน ลพฺภนฺติ. ปฺจปิ เจตานิ อินฺทฺริยานิ ปุพฺพเมว ปฏิปกฺขานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา ปฏิปกฺขโต นิสฺสฏาเนว โหนฺตีติ.
ทุติยสุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ตติยสุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๔. ปุน อฺํ สุตฺตนฺตํ นิกฺขิปิตฺวา อินฺทฺริยวิธานํ นิทฺทิสิตุกาโม ปฺจิมานิ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ โสตาปตฺติยงฺเคสูติ เอตฺถ โสโต อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, โสตสฺส อาปตฺติ ภุสํ ปาปุณนํ โสตาปตฺติ, โสตาปตฺติยา องฺคานิ สมฺภารานิ โสตาปตฺติองฺคานิ. โสตาปนฺนตาย ปุพฺพภาคปฏิลาภองฺคานิ. สปฺปุริสสํเสโว โสตาปตฺติองฺคํ, สทฺธมฺมสฺสวนํ โสตาปตฺติองฺคํ, โยนิโสมนสิกาโร โสตาปตฺติองฺคํ, ธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺติ โสตาปตฺติองฺคํ, อิมานิ จตฺตาริ โสตาปตฺติองฺคานิ. เสสา เหฏฺา วุตฺตา เอว. อิทฺจ อิเมสํ อินฺทฺริยานํ สกวิสเย เชฏฺกภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ยถา หิ จตฺตาโร เสฏฺิปุตฺตา ราชาติราชปฺจเมสุ สหาเยสุ ‘‘นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสามา’’ติ วีถึ โอติณฺเณสุ เอกสฺส เสฏฺิปุตฺตสฺส เคหํ คตกาเล อิตเร จตฺตาโร ¶ ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว ‘‘อิเมสํ ขาทนียํ โภชนียํ เทถ, อิเมสํ คนฺธมาลาลงฺการาทีนิ เทถา’’ติ เคเห วิจาเรติ, ทุติยสฺส ตติยสฺส จตุตฺถสฺส เคหํ คตกาเล อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว ‘‘อิเมสํ ขาทนียํ โภชนียํ เทถ, อิเมสํ คนฺธมาลาลงฺการาทีนิ เทถา’’ติ เคเห วิจาเรติ, อถ สพฺพปจฺฉา รฺโ เคหํ คตกาเล กิฺจาปิ ราชา สพฺพตฺถ อิสฺสโรว, อิมสฺมึ ปน กาเล อตฺตโน เคเหเยว ‘‘อิเมสํ ขาทนียํ โภชนียํ เทถ, อิเมสํ คนฺธมาลาลงฺการาทีนิ เทถา’’ติ วิจาเรติ, เอวเมว สทฺธาปฺจมเกสุ อินฺทฺริเยสุ เตสุ สหาเยสุ เอกโต วีถึ โอตรนฺเตสุ วิย เอการมฺมเณ อุปฺปชฺชมาเนสุปิ ยถา ปมสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ ¶ , เอวํ โสตาปตฺติองฺคานิ ปตฺวา อธิโมกฺขลกฺขณํ สทฺธินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. ยถา ทุติยสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ สมฺมปฺปธานานิ ปตฺวา ปคฺคหณลกฺขณํ วีริยินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. ยถา ตติยสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ สติปฏฺานานิ ปตฺวา อุปฏฺานลกฺขณํ สตินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. ยถา จตุตฺถสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ ฌานานิ ปตฺวา อวิกฺเขปลกฺขณํ สมาธินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. สพฺพปจฺฉา ¶ รฺโ เคหํ คตกาเล ปน ยถา อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, ราชาว วิจาเรติ, เอวํ อริยสจฺจานิ ปตฺวา ปชานนลกฺขณํ ปฺินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺตีติ.
ก. ปเภทคณนนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๕. สุตฺตนฺตสฺส ปเภทคณนาปุจฺฉาปุพฺพงฺคเมว ปเภทคณนนิทฺเทเส สปฺปุริสสํเสเวติ โสภนานํ ปุริสานํ สมฺมา เสวเน. อธิโมกฺขาธิปเตยฺยฏฺเนาติ อธิโมกฺขสงฺขาเตน เสสินฺทฺริเยสุ อธิปติภาวฏฺเน, เสสินฺทฺริยานํ ปุพฺพงฺคมฏฺเนาติ อตฺโถ. สทฺธมฺมสวเนติ สตํ ธมฺโม, โสภโน วา ธมฺโมติ สทฺธมฺโม. ตสฺส สทฺธมฺมสฺส สวเน. โยนิโสมนสิกาเรติ อุปาเยน มนสิกาเร. ธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺติยาติ เอตฺถ นว โลกุตฺตรธมฺเม อนุคโต ธมฺโม ธมฺมานุธมฺโม, สีลสมาธิปฺาสงฺขาตสฺส ธมฺมานุธมฺมสฺส ปฏิปตฺติ ปฏิปชฺชนํ ธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺติ. สมฺมปฺปธานาทีสุปิ เอเสว นโย.
ข. จริยาวารวณฺณนา
๑๙๖. จริยาวาเรปิ ¶ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เกวลํ ปมวาโร อินฺทฺริยานํ อุปฺปาทนกาลวเสน วุตฺโต, จริยาวาโร อุปฺปนฺนานํ อาเสวนกาลวเสน จ ปาริปูริกาลวเสน จ วุตฺโต. จริยา ปกติ อุสฺสนฺนตาติ หิ อตฺถโต เอกํ.
จารวิหารนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๗. อิทานิ ¶ จริยาสมฺพนฺเธเนว จารวิหารนิทฺเทสวเสน อปเรน ปริยาเยน อินฺทฺริยวิธานํ นิทฺทิสิตุกาโม จาโร จ วิหาโร จาติอาทิกํ อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา ตสฺส นิทฺเทสมาห. ตตฺถ อุทฺเทเส ตาว ยถา จรนฺตํ วิหรนฺตํ วิฺู สพฺรหฺมจารี คมฺภีเรสุ าเนสุ โอกปฺเปยฺยุํ – อทฺธา อยมายสฺมา ปตฺโต วา ปาปุณิสฺสติ วาติ, ตถา อินฺทฺริยสมฺปนฺนสฺส จาโร จ วิหาโร จ วิฺูหิ สพฺรหฺมจารีหิ อนุพุทฺโธ โหติ ปฏิวิทฺโธติ อุทฺเทสสฺส สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อุทฺเทสนิทฺเทเส จริยา จาโรเยว. จาโร จริยาติ หิ อตฺถโต เอกํ. ตสฺมา ‘‘จาโร’’ติปทสฺส นิทฺเทเส ‘‘จริยา’’ติ วุตฺตํ. อิริยาปถจริยาติ อิริยาปถานํ จริยา, ปวตฺตนนฺติ อตฺโถ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อายตนจริยา ปน อายตเนสุ สติสมฺปชฺานํ จริยา. ปตฺตีติ ผลานิ. ตานิ หิ ปาปุณิยนฺตีติ ‘‘ปตฺตี’’ติ วุตฺตา. สตฺตโลกสฺส ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกา อตฺถา โลกตฺถาติ อยํ วิเสโส.
อิทานิ ตาสํ จริยานํ ภูมึ ทสฺเสนฺโต จตูสุ อิริยาปเถสูติอาทิมาห. สติปฏฺาเนสูติ อารมฺมณสติปฏฺาเนสุ. สติปฏฺาเนสุปิ วุจฺจมาเนสุ สติโต อนฺานิ โวหารวเสน อฺานิ วิย กตฺวา วุตฺตํ. อริยสจฺเจสูติ ปุพฺพภาคโลกิยสจฺจาเณน วิสุํ ¶ วิสุํ สจฺจปริคฺคหวเสน วุตฺตํ. อริยมคฺเคสุ สามฺผเลสูติ จ โวหารวเสเนว วุตฺตํ. ปเทเสติ โลกตฺถจริยาย เอกเทเส. นิปฺปเทสโต หิ โลกตฺถจริยํ พุทฺธา เอว กโรนฺติ. ปุน ตา เอว จริยาโย การกปุคฺคลวเสน ทสฺเสนฺโต ปณิธิสมฺปนฺนานนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปณิธิสมฺปนฺนา นาม อิริยาปถานํ สนฺตตฺตา อิริยาปถคุตฺติยา สมฺปนฺนา อกมฺปิตอิริยาปถา ภิกฺขุภาวานุรูเปน สนฺเตน อิริยาปเถน สมฺปนฺนา. อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารานนฺติ จกฺขาทีสุ ฉสุ อินฺทฺริเยสุ อตฺตโน อตฺตโน วิสเย ปวตฺตเอเกกทฺวารวเสน คุตฺตํ ทฺวารํ เอเตสนฺติ คุตฺตทฺวารา. เตสํ คุตฺตทฺวารานํ. ทฺวารนฺติ เจตฺถ อุปฺปตฺติทฺวารวเสน จกฺขาทโย เอว. อปฺปมาทวิหารีนนฺติ สีลาทีสุ อปฺปมาทวิหารวตํ. อธิจิตฺตมนุยุตฺตานนฺติ ¶ วิปสฺสนาย ปาทกภาเวน อธิจิตฺตสงฺขาตํ สมาธิมนุยุตฺตานํ. พุทฺธิสมฺปนฺนานนฺติ นามรูปววตฺถานํ อาทึ กตฺวา ยาว โคตฺรภุ, ตาว ปวตฺเตน าเณน ¶ สมฺปนฺนานํ. สมฺมาปฏิปนฺนานนฺติ จตุมคฺคกฺขเณ. อธิคตผลานนฺติ จตุผลกฺขเณ.
อธิมุจฺจนฺโตติ อธิโมกฺขํ กโรนฺโต. สทฺธาย จรตีติ สทฺธาวเสน ปวตฺตติ. ปคฺคณฺหนฺโตติ จตุสมฺมปฺปธานวีริเยน ปทหนฺโต. อุปฏฺาเปนฺโตติ สติยา อารมฺมณํ อุปฏฺาเปนฺโต. อวิกฺเขปํ กโรนฺโตติ สมาธิวเสน วิกฺเขปํ อกโรนฺโต. ปชานนฺโตติ จตุสจฺจปชานนปฺาย ปกาเรน ชานนฺโต. วิชานนฺโตติ อินฺทฺริยสมฺปยุตฺตชวนปุพฺพงฺคเมน อาวชฺชนวิฺาเณน อารมฺมณํ วิชานนฺโต. วิฺาณจริยายาติ อาวชฺชนวิฺาณจริยวเสน. เอวํ ปฏิปนฺนสฺสาติ สหชวนาย อินฺทฺริยจริยาย ปฏิปนฺนสฺส. กุสลา ธมฺมา อายาเปนฺตีติ สมถวิปสฺสนาวเสน ปวตฺตา กุสลา ธมฺมา ภุสํ ยาเปนฺติ, ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. อายตนจริยายาติ กุสลานํ ธมฺมานํ ภุสํ ยตนจริยาย, ฆฏนจริยาย ปวตฺตนจริยายาติ วุตฺตํ โหติ. วิเสสมธิคจฺฉตีติ วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธิวเสน วิเสสํ อธิคจฺฉติ. ทสฺสนจริยาทโย วุตฺตตฺถาเยว.
สทฺธาย วิหรตีติอาทีสุ สทฺธาทิสมงฺคิสฺส อิริยาปถวิหาโร ทฏฺพฺโพ. อนุพุทฺโธติ อนุมานพุทฺธิยา. ปฏิวิทฺโธติ ปจฺจกฺขพุทฺธิยา. ยสฺมา อธิโมกฺขฏฺาทีสุ อนุพุทฺเธสุ ปฏิวิทฺเธสุ จ จาโร จ วิหาโร จ อนุพุทฺโธ โหติ ปฏิวิทฺโธ, ตสฺมา อนุโพธปฏิเวเธสุ อธิโมกฺขฏฺาทโย จ นิทฺทิฏฺา.
เอวํ สทฺธาย จรนฺตนฺติอาทีสุ เอวนฺติ วุตฺตปฺปการํ นิทฺทิสนฺโต ยถาสทฺทสฺส อตฺถํ นิทฺทิสติ. วิฺูติอาทีสุปิ ยถาสภาวํ ชานนฺตีติ วิฺู. วิฺาตํ สภาวํ วิภาเวนฺติ ปากฏํ กโรนฺตีติ วิภาวี. อสนิ วิย สิลุจฺจเย กิเลเส เมธติ หึสตีติ เมธา, ขิปฺปํ คหณธารณฏฺเน ¶ วา เมธา, เมธา เอเตสํ อตฺถีติ เมธาวี. าณคติยา ปณฺฑนฺติ คจฺฉนฺติ ปวตฺตนฺตีติ ปณฺฑิตา. พุทฺธิสมฺปทาย สมนฺนาคตตฺตา พุทฺธิสมฺปนฺนา. สห พฺรหฺมํ จริยํ อุตฺตมํ ปฏิปทํ จรนฺตีติ สพฺรหฺมจาริโน. อปโลกนกมฺมาทิจตุพฺพิธํ กมฺมํ เอกโต กรณวเสน เอกํ กมฺมํ. ตถา ปฺจวิโธ ปาติโมกฺขุทฺเทโส เอกุทฺเทโส. สมา สิกฺขา เอเตสนฺติ สมสิกฺขา, สมสิกฺขานํ ภาโว สมสิกฺขตา. สมสิกฺขาตาติปิ ปนฺติ. เยสํ เอกํ กมฺมํ เอโก อุทฺเทโส สมสิกฺขตา, เต สพฺรหฺมจารีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ฌานานี’’ติ ¶ วตฺตพฺเพ ฌานาติ ลิงฺควิปลฺลาโส กโต. วิโมกฺขาติ ตโย วา อฏฺ วา วิโมกฺขา. สมาธีติ สวิตกฺกสวิจารอวิตกฺกวิจารมตฺตอวิตกฺกาวิจารา ¶ ตโย สมาธี. สมาปตฺติโยติ สฺุตานิมิตฺตาปฺปณิหิตา. อภิฺาโยติ ฉ อภิฺา.
เอโก อํโส ภาโค, น ทุติโยติ เอกํโส, เอกํสสฺส อตฺถสฺส วจนํ เอกํสวจนํ. เอวํ เสเสสุปิ โยชนา กาตพฺพา. วิเสสโต ปน สมํ, สมนฺตา วา เสติ ปวตฺตตีติ สํสโย, นตฺเถตฺถ สํสโยติ นิสฺสํสโย. เอกสฺมึเยว อนิจฺฉยตา หุตฺวา อิตรมฺปิ กงฺขตีติ กงฺขา, นตฺเถตฺถ กงฺขาติ นิกฺกงฺโข. ทฺวิธา ภาโว ทฺเวชฺฌํ, นตฺเถตฺถ ทฺเวชฺฌนฺติ อทฺเวชฺโฌ. ทฺวิธา เอลยติ กมฺเปตีติ ทฺเวฬฺหกํ, นตฺเถตฺถ ทฺเวฬฺหกนฺติ อทฺเวฬฺหโก. นิโยเคน นิยเมน วจนํ นิโยควจนํ. นิยฺโยควจนนฺติปิ ปนฺติ. อปณฺณกสฺส อวิรทฺธสฺส นิยฺยานิกสฺส อตฺถสฺส วจนํ อปณฺณกวจนํ. อวตฺถาปนวจนนฺติ นิจฺฉยวจนํ. สพฺพมฺปิ เหตํ วิจิกิจฺฉาภาวสฺส เววจนํ. ปิยสฺส อตฺถสฺส สพฺภาวโต วจนํ, ปิยเมวาติ ปิยวจนํ. ตถา ครุวจนํ. สห คารเวน ครุภาเวน สคารวํ. ปติสฺสยนํ ปติสฺสโย ปรํ ครุํ กตฺวา นิสฺสยนํ อปสฺสยนนฺติ อตฺโถ. ปติสฺสวนํ วา ปติสฺสโว, นิวาตวุตฺติตาย ปรวจนสวนนฺติ อตฺโถ. อุภยถาปิ ปรเชฏฺกภาวสฺเสตํ นามํ. สห คารเวน วตฺตตีติ สคารวํ. สห ปติสฺสเยน, ปติสฺสเวน วา วตฺตตีติ สปฺปติสฺสยํ. ‘‘สปฺปติสฺสว’’นฺติ วา วตฺตพฺเพ ย-การํ, ว-การํ วา โลปํ กตฺวา ‘‘สปฺปติสฺส’’นฺติ วุตฺตํ. อธิกํ วิสิฏฺํ วจนํ อธิวจนํ, สคารวฺจ ตํ สปฺปติสฺสฺจาติ สคารวสปฺปติสฺสํ, สคารวสปฺปติสฺสํ อธิวจนํ สคารวสปฺปติสฺสาธิวจนํ. อุภยตฺถาปิ เววจนวิกปฺปนานตฺตวเสน ปุนปฺปุนํ เอตนฺติ วุตฺตํ. ปตฺโต วา ปาปุณิสฺสติ วาติ ฌานาทีนิเยวาติ.
ตติยสุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. จตุตฺถสุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๘. ปุน ¶ ปมสุตฺตเมว นิกฺขิปิตฺวา อปเรน อากาเรน อินฺทฺริยานิ นิทฺทิสติ. ตตฺถ กติหากาเรหิ เกนฏฺเน ทฏฺพฺพานีติ กติหิ อากาเรหิ ¶ ทฏฺพฺพานิ. เกนฏฺเน ทฏฺพฺพานีติ ทฏฺพฺพากาเร จ ทฏฺพฺพฏฺฺจ ปุจฺฉติ. ฉหากาเรหิ เตนฏฺเน ทฏฺพฺพานีติ ฉหิ อากาเรหิ ทฏฺพฺพานิ, เตเนว ฉอาการสงฺขาเตนฏฺเน ทฏฺพฺพานิ. อาธิปเตยฺยฏฺเนาติ อธิปติภาวฏฺเน. อาทิวิโสธนฏฺเนาติ กุสลานํ ธมฺมานํ อาทิภูตสฺส สีลสฺส วิโสธนฏฺเน. อธิมตฺตฏฺเนาติ พลวฏฺเน ¶ . พลวฺหิ อธิกา มตฺตา ปมาณํ อสฺสาติ อธิมตฺตนฺติ วุจฺจติ. อธิฏฺานฏฺเนาติ ปติฏฺานฏฺเน. ปริยาทานฏฺเนาติ เขปนฏฺเน. ปติฏฺาปกฏฺเนาติ ปติฏฺาปนฏฺเน.
ก. อาธิปเตยฺยฏฺนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๙. อาธิปเตยฺยฏฺนิทฺเทเส อสฺสทฺธิยํ ปชหโตติอาทิ เอเกกสฺเสว อินฺทฺริยสฺส ปฏิปกฺขปชหนวจนํ เอกกฺขเณปิ อตฺตโน อตฺตโน ปฏิปกฺขปหานกิจฺจสาธเน อธิปติภาวสาธนตฺถํ วุตฺตํ. เสสานิ จตฺตาริ อินฺทฺริยานิ ตํสมฺปยุตฺตาเนว วุตฺตานิ. นานากฺขเณสุ วา เอเกกํ อินฺทฺริยํ ธุรํ กตฺวา ตสฺส ตสฺส ปฏิปกฺขสฺส ตํ ตํ อินฺทฺริยํ เชฏฺกํ กตฺวา เสสานิ ตทนฺวยานิ กตฺวา วุตฺตนฺติปิ เวทิตพฺพํ. กามจฺฉนฺทํ ปชหโตติอาทิ ปน เอกกฺขณวเสเนว วุตฺตํ.
ข. อาทิวิโสธนฏฺนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๐. อาทิวิโสธนฏฺนิทฺเทเส อสฺสทฺธิยสํวรฏฺเน สีลวิสุทฺธีติ อสฺสทฺธิยสฺส นิวารณฏฺเน วิรติอตฺเถน สีลมลวิโสธนโต สีลวิสุทฺธิ นาม. สทฺธินฺทฺริยสฺส อาทิวิโสธนาติ สทฺธินฺทฺริยสฺส อุปนิสฺสยวเสน อาทิภูตสฺส สีลสฺส วิโสธนา. อิมินาว นเยน เสสานิปิ กามจฺฉนฺทาทิสํวรณมูลกานิ จ อินฺทฺริยานิ เวทิตพฺพานิ.
ค. อธิมตฺตฏฺนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๑. อธิมตฺตฏฺนิทฺเทเส สทฺธินฺทฺริยสฺส ภาวนาย ฉนฺโท อุปฺปชฺชตีติ สทฺธสฺส ปุคฺคลสฺส สทฺธาปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมํ สุตฺวา วา สทฺธินฺทฺริยภาวนาย อสฺสาทํ ทิสฺวา วา สทฺธินฺทฺริเย กุสโล ธมฺมจฺฉนฺโท ชายติ. ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชตีติ ฉนฺทชาตตฺตา ทุพฺพลปีติ อุปฺปชฺชติ. ปีติ อุปฺปชฺชตีติ ¶ ปมุทิตตฺตา พลวปีติ อุปฺปชฺชติ. ปสฺสทฺธิ อุปฺปชฺชตีติ ปีติยา ปีณิตตฺตา กายจิตฺตปสฺสทฺธิ อุปฺปชฺชติ. สุขํ อุปฺปชฺชตีติ ปสฺสทฺธกายจิตฺตตฺตา เจตสิกํ สุขํ อุปฺปชฺชติ ¶ ¶ . โอภาโส อุปฺปชฺชตีติ สุเขน อภิสนฺนตฺตา าโณภาโส อุปฺปชฺชติ. สํเวโค อุปฺปชฺชตีติ าโณภาเสน วิทิตสงฺขาราทีนวตฺตา สงฺขารปวตฺติยํ สํเวโค อุปฺปชฺชติ. สํเวเชตฺวา จิตฺตํ สมาทหตีติ สํเวคํ อุปฺปาเทตฺวา เตเนว สํเวเคน จิตฺตํ สมาหิตํ กโรติ. สาธุกํ ปคฺคณฺหาตีติ ลีนุทฺธตภาวํ โมเจตฺวา สุฏฺุ ปคฺคณฺหาติ. สาธุกํ อชฺฌุเปกฺขตีติ วีริยสฺส สมํ หุตฺวา ปวตฺตตฺตา ปุน วีริยสมตานิโยชเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาวเสน สาธุกํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. อุเปกฺขาวเสนาติ สมวาหิตลกฺขณาย ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย วเสน. นานตฺตกิเลเสหีติ วิปสฺสนาย ปฏิปกฺขภูเตหิ นานาสภาเวหิ กิเลเสหิ. วิโมกฺขวเสนาติ ภงฺคานุปสฺสนโต ปฏฺาย นานตฺตกิเลเสหิ วิมุจฺจนวเสน. วิมุตฺตตฺตาติ นานตฺตกิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา.
เต ธมฺมาติ ฉนฺทาทโย ธมฺมา. เอกรสา โหนฺตีติ วิมุตฺติรเสน เอกรสา โหนฺติ. ภาวนาวเสนาติ เอกรสภาวนาวเสน. ตโต ปณีตตเร วิวฏฺฏนฺตีติ เตน การเณน วิปสฺสนารมฺมณโต ปณีตตเร นิพฺพานารมฺมเณ วิวฏฺฏนานุปสฺสนาสงฺขาเตน โคตฺรภุาเณน ฉนฺทาทโย ธมฺมา นิวตฺตนฺติ, สงฺขารารมฺมณโต อปคนฺตฺวา นิพฺพานารมฺมเณ ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. วิวฏฺฏนาวเสนาติ เอวํ โคตฺรภุขเณ สงฺขารารมฺมณโต วิวฏฺฏนวเสน. วิวฏฺฏิตตฺตา ตโต โวสชฺชตีติ มคฺคสมงฺคิปุคฺคโล มคฺคสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว ทุภโตวุฏฺานวเสน วิวฏฺฏิตตฺตา เตเนว การเณน กิเลเส จ ขนฺเธ จ โวสชฺชติ. โวสชฺชิตตฺตา ตโต นิรุชฺฌนฺตีติ มคฺคสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว กิเลเส จ ขนฺเธ จ โวสชฺชิตตฺตา เตเนว การเณน กิเลสา จ ขนฺธา จ อนุปฺปตฺตินิโรธวเสน นิรุชฺฌนฺติ. โวสชฺชิตตฺตาติ จ อาสํสายํ ภูตวจนํ กตํ. กิเลสนิโรเธ สติ ขนฺธนิโรธสพฺภาวโต จ ขนฺธนิโรโธ วุตฺโต. นิโรธวเสนาติ ยถาวุตฺตนิโรธวเสน. ตสฺเสว มคฺคสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ทฺเว โวสคฺเค ทสฺเสตุกาโม นิโรธวเสน ทฺเว โวสคฺคาติอาทิมาห. ทฺเวปิ เหฏฺา วุตฺตตฺถา เอว. อสฺสทฺธิยสฺส ปหานาย ฉนฺโท อุปฺปชฺชตีติอาทีสุปิ อิมินาว นเยน วิตฺถารโต อตฺโถ เวทิตพฺโพ. วีริยินฺทฺริยาทิมูลเกสุปิ วาเรสุ เอเสว นโย. อิมินาว นเยน อธิฏฺานฏฺนิทฺเทโสปิ วิตฺถารโต เวทิตพฺโพ. เกวลฺเหตฺถ อธิฏฺาตีติ วิเสโส, ปติฏฺาตีติ อตฺโถ.
ฆ-ง. ปริยาทานฏฺปติฏฺาปกฏฺนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๒-๒๐๓. ปริยาทานฏฺนิทฺเทเส ¶ ¶ ¶ ปริยาทิยตีติ เขเปติ. ปติฏฺาปกฏฺนิทฺเทเส สทฺโธ สทฺธินฺทฺริยํ อธิโมกฺเข ปติฏฺาเปตีติ สทฺธาสมฺปนฺโน ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา ทุกฺขา อนตฺตา’’ติ อธิมุจฺจนฺโต สทฺธินฺทฺริยํ อธิโมกฺเข ปติฏฺาเปติ. อิมินา ปุคฺคลวิเสเสน อินฺทฺริยภาวนาวิเสโส นิทฺทิฏฺโ. สทฺธสฺส สทฺธินฺทฺริยํ อธิโมกฺเข ปติฏฺาเปตีติ สทฺธาสมฺปนฺนสฺส ปุคฺคลสฺส สทฺธินฺทฺริยํ ตํเยว สทฺธํ ปติฏฺาเปติ. ตถา อธิมุจฺจนฺตํ อธิโมกฺเข ปติฏฺาเปตีติ. อิมินา อินฺทฺริยภาวนาวิเสเสน ปุคฺคลวิเสโส นิทฺทิฏฺโ. เอวํ จิตฺตํ ปคฺคณฺหนฺโต ปคฺคเห ปติฏฺาเปติ, สตึ อุปฏฺาเปนฺโต อุปฏฺาเน ปติฏฺาเปติ, จิตฺตํ สมาทหนฺโต อวิกฺเขเป ปติฏฺาเปติ, อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ ปสฺสนฺโต ทสฺสเน ปติฏฺาเปตีติ เสเสสุปิ โยชนา เวทิตพฺพา. โยคาวจโรติ สมถโยเค, วิปสฺสนาโยเค วา อวจรตีติ โยคาวจโร. อวจรตีติ ปวิสิตฺวา จรตีติ.
จตุตฺถสุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อินฺทฺริยสโมธานวณฺณนา
๒๐๔. อิทานิ สมาธึ ภาวยโต วิปสฺสนํ ภาวยโต จ อินฺทฺริยสโมธานํ ทสฺเสตุกาโม ปมํ ตาว อุปฏฺานโกสลฺลปฺปเภทํ นิทฺทิสิตุํ ปุถุชฺชโน สมาธึ ภาเวนฺโตติอาทิมาห. ตตฺถ ปุถุชฺชโน สมาธึ ภาเวนฺโตติ นิพฺเพธภาคิยํ สมาธึ ภาเวนฺโต. เสกฺขสฺส วีตราคสฺส จ ปน โลกุตฺตโรปิ สมาธิ ลพฺภติ. อาวชฺชิตตฺตาติ กสิณาทินิมิตฺตสฺส อาวชฺชิตตฺตา, กสิณาทิปริกมฺมํ กตฺวา ตตฺถ อุปฺปาทิตนิมิตฺตตฺตาติ วุตฺตํ โหติ. อารมฺมณูปฏฺานกุสโลติ ตสฺส อุปฺปาทิตสฺส นิมิตฺตสฺเสว อุปฏฺาเน กุสโล. สมถนิมิตฺตูปฏฺานกุสโลติ อจฺจารทฺธวีริยตาทีหิ อุทฺธเต จิตฺเต ปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคภาวนาวเสน จิตฺโตปสมนิมิตฺตสฺส อุปฏฺาเน กุสโล. ปคฺคหนิมิตฺตูปฏฺานกุสโลติ อติสิถิลวีริยตาทีหิ ลีเน จิตฺเต ธมฺมวิจยวีริยปีติสมฺโพชฺฌงฺคภาวนาวเสน จิตฺตปคฺคหนิมิตฺตสฺส อุปฏฺาเน กุสโล. อวิกฺเขปูปฏฺานกุสโลติ ¶ อนุทฺธตาลีนจิตฺตสฺส สมฺปยุตฺตสฺส สมาธิสฺส อุปฏฺาเน กุสโล. โอภาสูปฏฺานกุสโลติ ¶ ปฺาปโยคมนฺทตาย นิรสฺสาเท จิตฺเต อฏฺสํเวควตฺถุปจฺจเวกฺขเณน จิตฺตํ สํเวเชตฺวา าโณภาสสฺส อุปฏฺาเน กุสโล. อฏฺ สํเวควตฺถูนิ นาม ชาติชราพฺยาธิมรณานิ จตฺตาริ, อปายทุกฺขํ ปฺจมํ, อตีเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, อนาคเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, ปจฺจุปฺปนฺเน อาหารปริเยฏฺิมูลกํ ทุกฺขนฺติ. สมฺปหํสนูปฏฺานกุสโลติ อุปสมสุขานธิคเมน นิรสฺสาเท จิตฺเต ¶ พุทฺธธมฺมสงฺฆคุณานุสฺสรเณน จิตฺตํ ปสาเทนฺโต สมฺปหํสนสฺส อุปฏฺาเน กุสโล. อุเปกฺขูปฏฺานกุสโลติ อุทฺธตาทิโทสวิรหิเต จิตฺเต นิคฺคหปคฺคหาทีสุ พฺยาปาราภาวกรเณน อุเปกฺขาย อุปฏฺาเน กุสโล. เสกฺโขติ ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขตีติ เสกฺโข. เอกตฺตูปฏฺานกุสโลติ สกฺกายทิฏฺาทีนํ ปหีนตฺตา เนกฺขมฺมาทิโน เอกตฺตสฺส อุปฏฺาเน กุสโล.
วีตราโคติ สพฺพโส ปหีนราคตฺตา วีตราโค ขีณาสโว. าณูปฏฺานกุสโลติ อรหา ธมฺเมสุ วิคตสมฺโมหตฺตา ตตฺถ ตตฺถ อสมฺโมหาณสฺส อุปฏฺาเน กุสโล. วิมุตฺตูปฏฺานกุสโลติ อรหตฺตผลวิมุตฺติยา อุปฏฺาเน กุสโล. วิมุตฺตีติ หิ สพฺพกิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา อรหตฺตผลวิมุตฺติ อธิปฺเปตา.
๒๐๕. วิปสฺสนาภาวนาย อุปฏฺานานุปฏฺาเนสุ อนิจฺจโตติอาทีนิ นิจฺจโตติอาทีนิ จ สีลกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. ปาโต ปน ‘‘อายูหนานุปฏฺานกุสโล วิปริณามูปฏฺานกุสโล อนิมิตฺตูปฏฺานกุสโล นิมิตฺตานุปฏฺานกุสโล อปฺปณิหิตูปฏฺานกุสโล ปณิธิอนุปฏฺานกุสโล อภินิเวสานุปฏฺานกุสโล’’ติ เอเตสุ สามิวจเนน สมาสปทจฺเฉโท กาตพฺโพ. เสเสสุ ปน นิสฺสกฺกวจเนน ปาโ.
๒๐๖. สฺุตูปฏฺานกุสโลติ ปเนตฺถ สฺุโต อุปฏฺานกุสโลติ วา สฺุตาย อุปฏฺานกุสโลติ วา ปทจฺเฉโท กาตพฺโพ. ยสฺมา ปน นิพฺพิทาวิราคนิโรธปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนา อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนา ยถาภูตาณทสฺสนํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนา วิวฏฺฏนานุปสฺสนาติ อิมา อฏฺ มหาวิปสฺสนา ¶ อตฺตโน สภาววิเสเสน วิเสสิตา, น อารมฺมณวิเสเสน, ตสฺมา อิมาสํ อฏฺนฺนํ ‘‘อนิจฺจโต อุปฏฺานกุสโล โหตี’’ติอาทีนิ วจนานิ วิย ‘‘นิพฺพิทาโต อุปฏฺานกุสโล โหตี’’ติอาทีนิ วจนานิ น ยุชฺชนฺติ. ตสฺมา เอว อิมา อฏฺ น โยชิตา. อาทีนวานุปสฺสนา ปน ‘‘สฺุตูปฏฺานกุสโล โหติ, อภินิเวสานุปฏฺานกุสโล โหตี’’ติ อิมินา ยุคลกวจเนเนว อตฺถโต ‘‘อาทีนวโต อุปฏฺานกุสโล โหติ, อาลยาภินิเวสานุปฏฺานกุสโล โหตี’’ติ โยชิตาว โหตีติ สรูเปน น โยชิตา. อิติ ปุริมา จ อฏฺ, อยฺจ อาทีนวานุปสฺสนาติ ¶ อฏฺารสสุ มหาวิปสฺสนาสุ อิมา นว อโยเชตฺวา อิตรา เอว นว โยชิตาติ เวทิตพฺพา. าณูปฏฺานกุสโลติ เสกฺโข วิปสฺสนูปกฺกิเลสานํ อภาวโต วิปสฺสนาภาวนาย าณสฺส อุปฏฺาเน กุสโล. สมาธิภาวนาย ปน นิกนฺติสพฺภาวโต าณูปฏฺาเน กุสโลติ น วุตฺโต.
วิสฺโคูปฏฺานกุสโลติ ‘‘กามโยควิสฺโโค ภวโยควิสฺโโค ทิฏฺิโยควิสฺโโค อวิชฺชาโยควิสฺโโค’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๑๒) จตุธา วุตฺตสฺส วิสฺโคสฺส อุปฏฺาเน ¶ กุสโล. สฺโคานุปฏฺานกุสโลติ กามโยคภวโยคทิฏฺิโยคาวิชฺชาโยควเสน จตุธา วุตฺตสฺส สฺโคสฺส อนุปฏฺาเน กุสโล. นิโรธูปฏฺานกุสโลติ ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน นิพฺพานนินฺนํ จิตฺตํ โหติ นิพฺพานโปณํ นิพฺพานปพฺภารํ วิเวกฏฺํ เนกฺขมฺมาภิรตํ พฺยนฺตีภูตํ สพฺพโส อาสวฏฺานิเยหิ ธมฺเมหี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๙๐; ปฏิ. ม. ๒.๔๔ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตขีณาสวพลวเสน นิพฺพานนินฺนจิตฺตตฺตา ขีณาสโวว นิโรธสงฺขาตสฺส นิพฺพานสฺส อุปฏฺาเน กุสโล.
อารมฺมณูปฏฺานกุสลวเสนาติอาทีสุ กุสลนฺติ าณํ. าณมฺปิ หิ กุสลปุคฺคลโยคโต กุสลํ ยถา ปณฺฑิตปุคฺคลโยคโต ‘‘ปณฺฑิตา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๑๐๓). ตสฺมา โกสลฺลวเสนาติ อตฺโถ.
๒๐๗. อิทานิ จตุสฏฺิยา อากาเรหีติอาทิ าณกถายํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๐๗) วุตฺตมฺปิ อินฺทฺริยกถาสมฺพนฺเธน อิธาเนตฺวา วุตฺตํ. ตํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๒๐๘. ปุน ¶ สมนฺตจกฺขุสมฺพนฺเธน อินฺทฺริยวิธานํ วตฺตุกาโม น ตสฺส อทฺทิฏฺมิธตฺถิ กิฺจีติอาทิมาห. ตตฺถ สมนฺตจกฺขูติ สพฺพฺุตฺาณํ. ปฺินฺทฺริยสฺส วเสนาติอาทินา ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ อวิโยคิตํ ทสฺเสติ. สทฺทหนฺโต ปคฺคณฺหาตีติอาทีหิ เอเกกินฺทฺริยมูลเกหิ ปฺจหิ จตุกฺเกหิ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ นินฺนปโยคกาเล วา มคฺคกฺขเณ วา เอกรสภาวํ อฺมฺปจฺจยภาวฺจ ทสฺเสติ. สทฺทหิตตฺตา ปคฺคหิตนฺติอาทีหิ เอเกกินฺทฺริยมูลเกหิ ปฺจหิ จตุกฺเกหิ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ นิพฺพตฺติกาเล วา ผลกาเล วา เอกรสภาวํ อฺมฺปจฺจยภาวฺจ ทสฺเสติ. ปุน พุทฺธจกฺขุสมฺพนฺเธน อินฺทฺริยวิธานํ วตฺตุกาโม ยํ พุทฺธจกฺขูติอาทิมาห ¶ . ตตฺถ พุทฺธจกฺขูติ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณํ อาสยานุสยาณฺจ. พุทฺธาณนฺติ จ อิทํ ตเทว ทฺวยํ, เสสํ เหฏฺา วุตฺตตฺถเมวาติ.
อินฺทฺริยสโมธานวณฺณนา นิฏฺิตา.
สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฏิสมฺภิทามคฺค-อฏฺกถาย
อินฺทฺริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. วิโมกฺขกถา
๑. วิโมกฺขุทฺเทสวณฺณนา
๒๐๙. อิทานิ ¶ ¶ อินฺทฺริยกถานนฺตรํ กถิตาย วิโมกฺขกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา อนุปฺปตฺตา. อยฺหิ วิโมกฺขกถา อินฺทฺริยภาวนานุยุตฺตสฺส วิโมกฺขสพฺภาวโต อินฺทฺริยกถานนฺตรํ กถิตา. ตฺจ กเถนฺโต ภควโต สมฺมุขา สุตสุตฺตนฺตเทสนาปุพฺพงฺคมํ กตฺวา กเถสิ. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ตาว สฺุโต วิโมกฺโขติอาทีสุ สฺุตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อริยมคฺโค สฺุโต วิโมกฺโข. โส หิ สฺุตาย ธาตุยา อุปฺปนฺนตฺตา สฺุโต, กิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา วิโมกฺโข. เอเตเนว นเยน อนิมิตฺตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อนิมิตฺโต, อปฺปณิหิตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อปฺปณิหิโตติ เวทิตพฺโพ.
เอโก ¶ หิ อาทิโตว อนิจฺจโต สงฺขาเร สมฺมสติ. ยสฺมา ปน น อนิจฺจโต สมฺมสนมตฺเตเนว มคฺควุฏฺานํ โหติ, ทุกฺขโตปิ อนตฺตโตปิ สมฺมสิตพฺพเมว, ตสฺมา ทุกฺขโตปิ อนตฺตโตปิ สมฺมสติ. ตสฺส เอวํ ปฏิปนฺนสฺส อนิจฺจโต เจ สมฺมสนกาเล มคฺควุฏฺานํ โหติ, อยํ อนิจฺจโต อภินิวิสิตฺวา อนิจฺจโต วุฏฺาติ นาม. สเจ ปนสฺส ทุกฺขโต อนตฺตโต สมฺมสนกาเล มคฺควุฏฺานํ โหติ, อยํ อนิจฺจโต อภินิวิสิตฺวา ทุกฺขโต, อนตฺตโต วุฏฺาติ นาม. เอส นโย ทุกฺขโต อนตฺตโต อภินิวิสิตฺวา วุฏฺาเนสุปิ. เอตฺถ จ โยปิ อนิจฺจโต อภินิวิฏฺโ, โยปิ ทุกฺขโต, โยปิ อนตฺตโต. วุฏฺานกาเล เจ อนิจฺจโต วุฏฺานํ โหติ, ตโยปิ ชนา อธิโมกฺขพหุลา โหนฺติ, สทฺธินฺทฺริยํ ปฏิลภนฺติ, อนิมิตฺตวิโมกฺเขน วิมุจฺจนฺติ, ปมมคฺคกฺขเณ สทฺธานุสาริโน โหนฺติ, สตฺตสุ าเนสุ สทฺธาวิมุตฺตา. สเจ ปน ทุกฺขโต วุฏฺานํ โหติ, ตโยปิ ชนา ปสฺสทฺธิพหุลา โหนฺติ, สมาธินฺทฺริยํ ปฏิลภนฺติ, อปฺปณิหิตวิโมกฺเขน วิมุจฺจนฺติ, สพฺพตฺถ กายสกฺขิโน โหนฺติ. ยสฺส ปเนตฺถ อรูปชฺฌานํ ปาทกํ โหติ, โส อคฺคผเล อุภโตภาควิมุตฺโต โหติ. อถ เนสํ อนตฺตโต วุฏฺานํ โหติ, ตโยปิ ชนา เวทพหุลา โหนฺติ, ปฺินฺทฺริยํ ปฏิลภนฺติ, สฺุตวิโมกฺเขน ¶ วิมุจฺจนฺติ, ปมมคฺคกฺขเณ ธมฺมานุสาริโน โหนฺติ, ฉสุ าเนสุ ทิฏฺิปฺปตฺตา, อคฺคผเล ปฺาวิมุตฺตาติ.
อปิจ มคฺโค นาม ปฺจหิ การเณหิ นามํ ลภติ สรเสน วา ปจฺจนีเกน วา สคุเณน วา อารมฺมเณน วา อาคมเนน วา. สเจ หิ สงฺขารุเปกฺขา อนิจฺจโต สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ, อนิมิตฺตวิโมกฺเขน วิมุจฺจติ. สเจ ทุกฺขโต สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ, อปฺปณิหิตวิโมกฺเขน ¶ วิมุจฺจติ. สเจ อนตฺตโต สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ, สฺุตวิโมกฺเขน วิมุจฺจติ. อิทํ สรสโต นามํ นาม. อนิจฺจานุปสฺสนาย ปน สงฺขารานํ ฆนวินิพฺโภคํ กตฺวา นิจฺจนิมิตฺตธุวนิมิตฺตสสฺสตนิมิตฺตานิ ปหาย อาคตตฺตา อนิมิตฺโต, ทุกฺขานุปสฺสนาย สุขสฺํ ปหาย ปณิธิปตฺถนํ สุกฺขาเปตฺวา อาคตตฺตา อปฺปณิหิโต, อนตฺตานุปสฺสนาย อตฺตสตฺตปุคฺคลสฺํ ปหาย สงฺขาเร สฺุโต ทิฏฺตฺตา สฺุโตติ อิทํ ปจฺจนีกโต นามํ นาม. ราคาทีหิ ปน สฺุตฺตา สฺุโต, รูปนิมิตฺตาทีนํ, ราคนิมิตฺตาทีนํเยว ¶ วา อภาเวน อนิมิตฺโต, ราคปณิธิอาทีนํ อภาวโต อปฺปณิหิโตติ อิทมสฺส สคุณโต นามํ นาม. โสยํ สฺุํ อนิมิตฺตํ อปฺปณิหิตฺจ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรตีติปิ สฺุโต อนิมิตฺโต อปฺปณิหิโตติ วุจฺจติ. อิทมสฺส อารมฺมณโต นามํ นาม. อาคมนํ ปน ทุวิธํ วิปสฺสนาคมนํ มคฺคาคมนฺจ. ตตฺถ มคฺเค วิปสฺสนาคมนํ ลพฺภติ, ผเล มคฺคาคมนํ. อนตฺตานุปสฺสนา หิ สฺุตา นาม, สฺุตวิปสฺสนาย มคฺโค สฺุโต, สฺุตมคฺคสฺส ผลํ สฺุตํ. อนิจฺจานุปสฺสนา อนิมิตฺตา นาม, อนิมิตฺตวิปสฺสนาย มคฺโค อนิมิตฺโต. อิทํ ปน นามํ อภิธมฺมปริยาเย น ลพฺภติ, สุตฺตนฺตปริยาเย ปน ลพฺภติ. ตตฺถ หิ โคตฺรภุาณํ อนิมิตฺตํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา อนิมิตฺตนามกํ หุตฺวา สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา มคฺคสฺส นามํ เทตีติ วทนฺติ. เตน มคฺโค อนิมิตฺโตติ วุตฺโต. มคฺคาคมเนน ผลํ อนิมิตฺตนฺติ ยุชฺชติเยว. ทุกฺขานุปสฺสนา สงฺขาเรสุ ปณิธึ สุกฺขาเปตฺวา อาคตตฺตา อปฺปณิหิตา นาม, อปฺปณิหิตวิปสฺสนาย มคฺโค อปฺปณิหิโต, อปฺปณิหิตมคฺคสฺส ผลํ อปฺปณิหิตนฺติ เอวํ วิปสฺสนา อตฺตโน นามํ มคฺคสฺส เทติ, มคฺโค ผลสฺสาติ อิทํ อาคมนโต นามํ นาม. เอวํ สงฺขารุเปกฺขา วิโมกฺขวิเสสํ นิยเมตีติ.
เอวํ ภควตา เทสิเต ตโย มหาวตฺถุเก วิโมกฺเข อุทฺทิสิตฺวา ตํนิทฺเทสวเสเนว อปเรปิ วิโมกฺเข นิทฺทิสิตุกาโม อปิจ อฏฺสฏฺิ วิโมกฺขาติอาทิมาห. ตตฺถ อปิจาติ อปรปริยายทสฺสนํ. กถํ เต อฏฺสฏฺิ โหนฺติ, นนุ เต ปฺจสตฺตตีติ? สจฺจํ ยถารุตวเสน ปฺจสตฺตติ. ภควตา ปน เทสิเต ตโย วิโมกฺเข เปตฺวา อฺวิโมกฺเข นิทฺทิสนโต อิเมสํ ¶ ตทวโรธโต จ อิเม ตโย น คเณตพฺพา, อชฺฌตฺตวิโมกฺขาทโย ตโยปิ วิโมกฺขา ¶ จตุธา วิตฺถารวจเนเยว อนฺโตคธตฺตา น คเณตพฺพา, ‘‘ปณิหิโต วิโมกฺโข, อปฺปณิหิโต วิโมกฺโข’’ติ เอตฺถ อปฺปณิหิโต วิโมกฺโข ปมํ อุทฺทิฏฺเน เอกนามิกตฺตา น คเณตพฺโพ, เอวํ อิเมสุ สตฺตสุ อปนีเตสุ เสสา อฏฺสฏฺิ วิโมกฺขา โหนฺติ. เอวํ สนฺเต สฺุตวิโมกฺขาทโย ตโย ปุน กสฺมา อุทฺทิฏฺาติ เจ? อุทฺเทเสน สงฺคเหตฺวา เตสมฺปิ นิทฺเทสกรณตฺถํ. อชฺฌตฺตวุฏฺานาทโย ปน ตโย ปเภทํ วินา มูลราสิวเสน ¶ อุทฺทิฏฺา, ปณิหิตวิโมกฺขปฏิปกฺขวเสน ปุน อปฺปณิหิโต วิโมกฺโข อุทฺทิฏฺโติ เวทิตพฺโพ.
อชฺฌตฺตวุฏฺานาทีสุ อชฺฌตฺตโต วุฏฺาตีติ อชฺฌตฺตวุฏฺาโน. อนุโลเมนฺตีติ อนุโลมา. อชฺฌตฺตวุฏฺานานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิ อปคมา อชฺฌตฺตวุฏฺานปฏิปฺปสฺสทฺธิ. รูปีติ อชฺฌตฺตํ เกสาทีสุ อุปฺปาทิตํ รูปชฺฌานํ รูปํ, ตํ รูปมสฺส อตฺถีติ รูปี รูปานิ ปสฺสตีติ พหิทฺธา นีลกสิณาทิรูปานิ ฌานจกฺขุนา ปสฺสติ. อิมินา อชฺฌตฺตพหิทฺธาวตฺถุเกสุ กสิเณสุ ฌานปฏิลาโภ ทสฺสิโต. อชฺฌตฺตํ อรูปสฺีติ อชฺฌตฺตํ น รูปสฺี, อตฺตโน เกสาทีสุ อนุปฺปาทิตรูปาวจรชฺฌาโนติ อตฺโถ. อิมินา พหิทฺธา ปริกมฺมํ กตฺวา พหิทฺธาว ปฏิลทฺธชฺฌานตา ทสฺสิตา. สุภนฺเตว อธิมุตฺโตติ ‘‘สุภ’’มิจฺเจว อารมฺมเณ อธิมุตฺโต. ตตฺถ กิฺจาปิ อนฺโตอปฺปนายํ ‘‘สุภ’’นฺติ อาโภโค นตฺถิ, โย ปน อปฺปฏิกูลากาเรน สตฺตารมฺมณํ ผรนฺโต วิหรติ, โส ยสฺมา ‘‘สุภ’’นฺเตว อธิมุตฺโต โหติ, ตสฺมา เอวํ อุทฺเทโส กโตติ. อปฺปิตปฺปิตสมเย เอว วิกฺขมฺภนวิมุตฺติสพฺภาวโต สมยวิโมกฺโข. โสเยว สกิจฺจกรณวเสน อปฺปิตสมเย เอว นิยุตฺโตติ สามยิโก. สามายิโกติปิ ปาโ. โกเปตุํ ภฺชิตุํ สกฺกุเณยฺยตาย กุปฺโป. โลกํ อนติกฺกมนโต โลเก นิยุตฺโตติ โลกิโก. โลกิโยติปิ ปาโ. โลกํ อุตฺตรติ, อุตฺติณฺโณติ วา โลกุตฺตโร. อารมฺมณกรณวเสน สห อาสเวหีติ สาสโว. อารมฺมณกรณวเสน สมฺปโยควเสน จ นตฺเถตฺถ อาสวาติ อนาสโว. รูปสงฺขาเตน สห อามิเสนาติ สามิโส. สพฺพโส รูปารูปปฺปหานา นิรามิสโตปิ นิรามิสตโรติ นิรามิสา นิรามิสตโร. ปณิหิโตติ ตณฺหาวเสน ปณิหิโต ปตฺถิโต. อารมฺมณกรณวเสน สฺโชเนหิ สํยุตฺตตฺตา สฺุตฺโต. เอกตฺตวิโมกฺโขติ กิเลเสหิ อนชฺฌารุฬฺหตฺตา เอกสภาโว วิโมกฺโข. สฺาวิโมกฺโขติ วิปสฺสนาาณเมว วิปรีตสฺาย วิมุจฺจนโต สฺาวิโมกฺโข. ตเทว วิปสฺสนาาณํ สมฺโมหโต วิมุจฺจนวเสน าณเมว วิโมกฺโขติ าณวิโมกฺโข. สีติสิยาวิโมกฺโขติ วิปสฺสนาาณเมว สีติ ภเวยฺยาติ ¶ ปวตฺโต วิโมกฺโข สีติสิยาวิโมกฺโข ¶ . สีติสิกาวิโมกฺโขติปิ ปาโ, สีติภาวิกาย วิโมกฺโขติ ตสฺส อตฺถํ วณฺณยนฺติ. ฌานวิโมกฺโขติ ¶ อุปจารปฺปนาเภทํ โลกิยโลกุตฺตรเภทฺจ ฌานเมว วิโมกฺโข. อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโขติ อนุปาทิยิตฺวา คหณํ อกตฺวา จิตฺตสฺส วิโมกฺโข. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.
วิโมกฺขุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. วิโมกฺขนิทฺเทสวณฺณนา
๒๑๐. กตโมติอาทิเก อุทฺเทสสฺส นิทฺเทเส อิติ ปฏิสฺจิกฺขตีติ เอวํ อุปปริกฺขติ. สฺุมิทนฺติ อิทํ ขนฺธปฺจกํ สฺุํ. เกน สฺุํ? อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วา. ตตฺถ อตฺเตน วาติ พาลชนปริกปฺปิตสฺส อตฺตโน อภาวา เตน อตฺตนา จ สฺุํ. อตฺตนิเยน วาติ ตสฺส ปริกปฺปิตสฺส อตฺตโน สนฺตเกน จ สฺุํ. อตฺตโน อภาเวเนว อตฺตนิยาภาโว. อตฺตนิยฺจ นาม นิจฺจํ วา สิยา สุขํ วา, ตทุภยมฺปิ นตฺถิ. เตน นิจฺจปฏิกฺเขเปน อนิจฺจานุปสฺสนา, สุขปฏิกฺเขเปน ทุกฺขานุปสฺสนา จ วุตฺตา โหติ. สฺุมิทํ อตฺเตน วาติ อนตฺตานุปสฺสนาเยว วุตฺตา. โสติ โส เอวํ ตีหิ อนุปสฺสนาหิ วิปสฺสมาโน ภิกฺขุ. อภินิเวสํ น กโรตีติ อนตฺตานุปสฺสนาวเสน อตฺตาภินิเวสํ น กโรติ.
นิมิตฺตํ น กโรตีติ อนิจฺจานุปสฺสนาวเสน นิจฺจนิมิตฺตํ น กโรติ. ปณิธึ น กโรตีติ ทุกฺขานุปสฺสนาวเสน ปณิธึ น กโรติ. อิเม ตโย วิโมกฺขา ปริยาเยน วิปสฺสนากฺขเณ ตทงฺควเสนาปิ ลพฺภนฺติ, นิปฺปริยาเยน ปน สมุจฺเฉทวเสน มคฺคกฺขเณเยว. จตฺตาริ ฌานานิ อชฺฌตฺตํ นีวรณาทีหิ วุฏฺานโต อชฺฌตฺตวุฏฺาโน วิโมกฺโข. จตสฺโส อรูปสมาปตฺติโย อารมฺมเณหิ วุฏฺานโต พหิทฺธาวุฏฺาโน วิโมกฺโข. อารมฺมณมฺปิ หิ พาหิรายตนานิ วิย อิธ ‘‘พหิทฺธา’’ติ วุตฺตํ. อิเม ทฺเว วิกฺขมฺภนวิโมกฺขา, ทุภโต วุฏฺาโน ปน สมุจฺเฉทวิโมกฺโข.
นีวรเณหิ วุฏฺาตีติอาทีหิ อชฺฌตฺตวุฏฺานํ สรูปโต วุตฺตํ. รูปสฺายาติอาทีหิ กสิณาทิอารมฺมณสมติกฺกมสฺส ปากฏตฺตา ตํ ¶ อวตฺวา สุตฺตนฺเตสุ วุตฺตรูปสฺาทิสมติกฺกโม ¶ วุตฺโต. สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสาติ สมาสปทํ, สกฺกายทิฏฺิยา วิจิกิจฺฉาย สีลพฺพตปรามาสาติ วิจฺเฉโท. อยเมว วา ปาโ.
๒๑๑. วิตกฺโก จาติอาทีหิ ฌานานํ สมาปตฺตีนฺจ อุปจารภูมิโย วุตฺตา. อนิจฺจานุปสฺสนาติอาทีหิ จตุนฺนํ มคฺคานํ ปุพฺพภาควิปสฺสนา วุตฺตา. ปฏิลาโภ ¶ วาติ ปฺจวิธวสิปฺปตฺติยา พฺยาปิโต ปตฺถโฏ ลาโภติ ปฏิลาโภ. วสิปฺปตฺติยา หิ สพฺโพ ฌานปโยโค จ สมาปตฺติปโยโค จ ปฏิปฺปสฺสทฺโธ โหติ, ตสฺมา ปฏิลาโภ ‘‘ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิโมกฺโข’’ติ วุตฺโต. วิปาโก ปน ฌานสฺส สมาปตฺติยา จ ปฏิปฺปสฺสทฺธิ โหตีติ อุชุกเมว. เกจิ ปน ‘‘อุปจารปโยคสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา ฌานสฺส สมาปตฺติยา จ ปฏิลาโภ โหติ, ตสฺมา ฌานสมาปตฺติปฏิลาโภ ‘ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิโมกฺโข’ติ วุจฺจตี’’ติ วทนฺติ.
๒๑๒. อชฺฌตฺตนฺติ อตฺตานํ อธิกิจฺจ ปวตฺตํ. ปจฺจตฺตนฺติ อตฺตานํ ปฏิจฺจ ปวตฺตํ. อุภเยนาปิ นิยกชฺฌตฺตเมว ทีเปติ นีลนิมิตฺตนฺติ นีลเมว. นีลสฺํ ปฏิลภตีติ ตสฺมึ นีลนิมิตฺเต นีลมิติสฺํ ปฏิลภติ. สุคฺคหิตํ กโรตีติ ปริกมฺมภูมิยํ สุฏฺุ อุคฺคหิตํ กโรติ. สูปธาริตํ อุปธาเรตีติ อุปจารภูมิยํ สุฏฺุ อุปธาริตํ กตฺวา อุปธาเรติ. สฺวาวตฺถิตํ อวตฺถาเปตีติ อปฺปนาภูมิยํ สุฏฺุ นิจฺฉิตํ นิจฺฉินาติ. ววตฺถาเปตีติปิ ปาโ. อชฺฌตฺตฺหิ นีลปริกมฺมํ กโรนฺโต เกเส วา ปิตฺเต วา อกฺขิตารกายํ วา กโรติ. พหิทฺธา นีลนิมิตฺเตติ นีลปุปฺผนีลวตฺถนีลธาตูนํ อฺตเร นีลกสิเณ. จิตฺตํ อุปสํหรตีติ จิตฺตํ อุปเนติ. ปีตาทีสุปิ เอเสว นโย. อาเสวตีติ ตเมว สฺํ อาทิโต เสวติ. ภาเวตีติ วฑฺเฒติ. พหุลีกโรตีติ ปุนปฺปุนํ กโรติ. รูปนฺติ นีลนิมิตฺตํ รูปํ. รูปสฺีติ ตสฺมึ รูเป สฺา รูปสฺา, สา อสฺส อตฺถีติ รูปสฺี. อชฺฌตฺตํ ปีตนิมิตฺตาทีสุ ปีตปริกมฺมํ กโรนฺโต เมเท วา ฉวิยา วา อกฺขีนํ ปีตฏฺาเน วา กโรติ. โลหิตปริกมฺมํ กโรนฺโต มํเส วา โลหิเต วา ชิวฺหาย วา หตฺถตลปาทตเลสุ วา อกฺขีนํ รตฺตฏฺาเน วา กโรติ. โอทาตปริกมฺมํ กโรนฺโต อฏฺิมฺหิ วา ทนฺเต วา นเข วา อกฺขีนํ เสตฏฺาเน วา กโรติ. อชฺฌตฺตํ อรูปนฺติ อชฺฌตฺตํ รูปนิมิตฺตํ นตฺถีติ อตฺโถ.
เมตฺตาสหคเตนาติ ¶ ปมทุติยตติยชฺฌานวเสน เมตฺตาย สมนฺนาคเตน. เจตสาติ จิตฺเตน. เอกํ ทิสนฺติ เอกํ เอกิสฺสา ทิสาย ปมปริคฺคหิตํ สตฺตํ อุปาทาย เอกทิสาปริยาปนฺนสตฺตผรณวเสน วุตฺตํ. ผริตฺวาติ ผุสิตฺวา อารมฺมณํ กตฺวา. วิหรตีติ พฺรหฺมวิหาราธิฏฺิตํ ¶ อิริยาปถวิหารํ ปวตฺเตติ. ตถา ทุติยนฺติ ยถา ปุรตฺถิมาทีสุ ยํกิฺจิ เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตเถว ตทนนฺตรํ ทุติยํ ตติยํ จตุตฺถํ วาติ อตฺโถ. อิติ อุทฺธนฺติ เอเตเนว นเยน อุปริมํ ทิสนฺติ วุตฺตํ โหติ. อโธ ติริยนฺติ อโธทิสมฺปิ ติริยํ ทิสมฺปิ เอวเมว ¶ . ตตฺถ จ อโธติ เหฏฺา. ติริยนฺติ อนุทิสา. เอวํ สพฺพทิสาสุ อสฺสมณฺฑลิกาย อสฺสมิว เมตฺตาสหคตํ จิตฺตํ สาเรติปิ ปจฺจาสาเรติปีติ. เอตฺตาวตา เอกเมกํ ทิสํ ปริคฺคเหตฺวา โอธิโส เมตฺตาผรณํ ทสฺสิตํ. สพฺพธีติอาทิ ปน อโนธิโส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ สพฺพธีติ สพฺพตฺถ. สพฺพตฺตตายาติ สพฺเพสุ หีนมชฺฌิมุกฺกฏฺมิตฺตสปตฺตมชฺฌตฺตาทิปฺปเภเทสุ อตฺตตาย, ‘‘อยํ ปรสตฺโต’’ติ วิภาคํ อกตฺวา อตฺตสมตายาติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา สพฺพตฺตตายาติ สพฺเพน จิตฺตภาเวน, อีสกมฺปิ พหิ อวิกฺขิปมาโนติ วุตฺตํ โหติ. สพฺพาวนฺตนฺติ สพฺพสตฺตวนฺตํ, สพฺพสตฺตยุตฺตนฺติ อตฺโถ. สพฺพวนฺตนฺติปิ ปาโ. โลกนฺติ สตฺตโลกํ.
วิปุเลนาติ เอวมาทิปริยายทสฺสนโต ปเนตฺถ ปุน ‘‘เมตฺตาสหคเตนา’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา วา เอตฺถ โอธิโส ผรเณ วิย ปุน ตถาสทฺโท วา อิติ-สทฺโท วา น วุตฺโต, ตสฺมา ปุน ‘‘เมตฺตาสหคเตน เจตสา’’ติ วุตฺตํ, นิคมนวเสน วา เอตํ วุตฺตํ. วิปุเลนาติ เอตฺถ ผรณวเสน วิปุลตา ทฏฺพฺพา. ภูมิวเสน ปน ตํ มหคฺคตํ. ตฺหิ กิเลสวิกฺขมฺภนสมตฺถตาย วิปุลผลตาย ทีฆสนฺตานตาย จ มหนฺตภาวํ คตํ, มหนฺเตหิ วา อุฬารจฺฉนฺทวีริยจิตฺตปฺเหิ คตํ ปฏิปนฺนนฺติ มหคฺคตํ. ปคุณวเสน อปฺปมาณสตฺตารมฺมณวเสน จ อปฺปมาณํ. พฺยาปาทปจฺจตฺถิกปฺปหาเนน อเวรํ. โทมนสฺสปฺปหานโต อพฺยาปชฺชํ, นิทฺทุกฺขนฺติ วุตฺตํ โหติ. อปฺปฏิกูลา โหนฺตีติ ภิกฺขุโน จิตฺตสฺส อปฺปฏิกูลา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. เสเสสุปิ วุตฺตนเยเนว กรุณามุทิตาอุเปกฺขาวเสน โยเชตพฺพํ. กรุณาย วิเหสาปจฺจตฺถิกปฺปหาเนน อเวรํ, มุทิตาย อรติปจฺจตฺถิกปฺปหาเนน.
อุเปกฺขาสหคเตนาติ ¶ จตุตฺถชฺฌานวเสน อุเปกฺขาย สมนฺนาคเตน. ราคปจฺจตฺถิกปฺปหาเนน อเวรํ, เคหสิตโสมนสฺสปฺปหานโต อพฺยาปชฺชํ. สพฺพมฺปิ หิ อกุสลํ กิเลสปริฬาหโยคโต สพฺยาปชฺชเมวาติ อยเมเตสํ วิเสโส.
๒๑๓. สพฺพโสติ สพฺพากาเรน, สพฺพาสํ วา, อนวเสสานนฺติ อตฺโถ. รูปสฺานนฺติ สฺาสีเสน วุตฺตรูปาวจรชฺฌานานฺเจว ตทารมฺมณานฺจ. รูปาวจรชฺฌานมฺปิ หิ รูปนฺติ วุจฺจติ ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙; ธ. ส. ๒๔๘), ตสฺส อารมฺมณมฺปิ ¶ พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ‘‘สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๒๒๓). ตสฺมา อิธ รูเป สฺา รูปสฺาติ เอวํ สฺาสีเสน วุตฺตรูปาวจรชฺฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. รูปํ สฺา อสฺสาติ รูปสฺํ, รูปมสฺส นามนฺติ ¶ วุตฺตํ โหติ. เอวํ ปถวีกสิณาทิเภทสฺส ตทารมฺมณสฺส เจตํ อธิวจนนฺติ เวทิตพฺพํ. สมติกฺกมาติ วิราคา นิโรธา จ. กึ วุตฺตํ โหติ? เอตาสํ กุสลวิปากกิริยาวเสน ปฺจทสนฺนํ ฌานสงฺขาตานํ รูปสฺานํ, เอเตสฺจ ปถวีกสิณาทิวเสน นวนฺนํ อารมฺมณสงฺขาตานํ รูปสฺานํ สพฺพากาเรน, อนวเสสานํ วา วิราคา จ นิโรธา จ วิราคเหตุ เจว นิโรธเหตุ จ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. น หิ สกฺกา สพฺพโส อนติกฺกนฺตรูปสฺเน เอตํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุนฺติ. ยสฺมา ปน อารมฺมณสมติกฺกเมน ปตฺตพฺพา เอตา สมาปตฺติโย, น เอกสฺมึเยว อารมฺมเณ ปมชฺฌานาทีนิ วิย. อารมฺมเณ อวิรตฺตสฺส จ สฺาสมติกฺกโม น โหติ, ตสฺมา อยํ อารมฺมณสมติกฺกมวเสนาปิ อตฺถวณฺณนา กตาติ เวทิตพฺพา.
ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมาติ จกฺขาทีนํ วตฺถูนํ รูปาทีนํ อารมฺมณานฺจ ปฏิฆาเตน อุปฺปนฺนา สฺา ปฏิฆสฺา, รูปสฺาทีนํ เอตํ อธิวจนํ. ตาสํ กุสลวิปากานํ ปฺจนฺนํ, อกุสลวิปากานํ ปฺจนฺนนฺติ สพฺพโส ทสนฺนมฺปิ ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา ปหานา อสมุปฺปาทา, อปฺปวตฺตึ กตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. กามฺเจตา ปมชฺฌานาทีนิ สมาปนฺนสฺสปิ น สนฺติ, น หิ ตสฺมึ สมเย ปฺจทฺวารวเสน จิตฺตํ ปวตฺตติ, เอวํ สนฺเตปิ อฺตฺถ ปหีนานํ สุขทุกฺขานํ จตุตฺถชฺฌาเน วิย สกฺกายทิฏฺาทีนํ ตติยมคฺเค วิย จ อิมสฺมึ ฌาเน อุสฺสาหชนนตฺถํ อิมสฺส ฌานสฺส ปสํสาวเสน เอตาสํ เอตฺถ ¶ วจนํ เวทิตพฺพํ. อถ วา กิฺจาปิ ตา รูปาวจรํ สมาปนฺนสฺส น สนฺติ, อถ โข น ปหีนตฺตา น สนฺติ. น หิ รูปวิราคาย รูปาวจรภาวนา สํวตฺตติ, รูปายตฺตาเยว จ เอตาสํ ปวตฺติ. อยํ ปน ภาวนา รูปวิราคาย สํวตฺตติ, ตสฺมา ตา เอตฺถ ปหีนาติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. น เกวลฺจ วตฺตุํ, เอกํเสเนว เอวํ ธาเรตุมฺปิ วฏฺฏติ. ตาสฺหิ อิโต ปุพฺเพ อปฺปหีนตฺตาเยว ‘‘ปมชฺฌานํ สมาปนฺนสฺส สทฺโท กณฺฏโก’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๗๒) วุตฺโต ภควตา. อิธ จ ปหีนตฺตาเยว อรูปสมาปตฺตีนํ อาเนฺชตา สนฺตวิโมกฺขตา จ วุตฺตา.
นานตฺตสฺานํ อมนสิการาติ นานตฺเต วา โคจเร ปวตฺตานํ สฺานํ, นานตฺตานํ วา สฺานํ. ยสฺมา เหตา รูปสทฺทาทิเภเท นานตฺเต นานาสภาเว โคจเร ปวตฺตนฺติ, ยสฺมา เจตา อฏฺ กามาวจรกุสลสฺา, ทฺวาทส อกุสลสฺา, เอกาทส กามาวจรกุสลวิปากสฺา, ทฺเว ¶ อกุสลวิปากสฺา, เอกาทส กามาวจรกิริยาสฺาติ เอวํ จตุจตฺตาลีสมฺปิ สฺา นานตฺตา นานาสภาวา อฺมฺวิสทิสา, ตสฺมา ‘‘นานตฺตสฺา’’ติ วุตฺตา. ตาสํ สพฺพโส นานตฺตสฺานํ ¶ อมนสิการา อนาวชฺชนา จิตฺเต จ อนุปฺปาทนา. ยสฺมา ตา นาวชฺชติ จิตฺเต จ น อุปฺปาเทติ น มนสิกโรติ น ปจฺจเวกฺขติ, ตสฺมาติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺมา เจตฺถ ปุริมา รูปสฺา ปฏิฆสฺา จ อิมินา ฌาเนน นิพฺพตฺเต ภเวปิ น วิชฺชนฺติ, ปเคว ตสฺมึ ภเว อิมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรณกาเล, ตสฺมา ตาสํ สมติกฺกมา อตฺถงฺคมาติ ทฺเวธาปิ อภาโวเยว วุตฺโต. นานตฺตสฺาสุ ปน ยสฺมา อฏฺ กามาวจรกุสลสฺา, นว กิริยาสฺา, ทสากุสลสฺาติ อิมา สตฺตวีสติ สฺา อิมินา ฌาเนน นิพฺพตฺเต ภเว วิชฺชนฺติ, ตสฺมา ตาสํ อมนสิการาติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถาปิ หิ อิมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรนฺโต ตาสํ อมนสิการาเยว อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตา ปน มนสิกโรนฺโต อสมาปนฺโน โหตีติ. สงฺเขปโต เจตฺถ ‘‘รูปสฺานํ สมติกฺกมา’’ติอิมินา สพฺพรูปาวจรธมฺมานํ ปหานํ วุตฺตํ. ‘‘ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา’’ติอิมินา สพฺเพสํ กามาวจรจิตฺตเจตสิกานํ ปหานฺจ อมนสิกาโร จ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
อนนฺโต ¶ อากาโสติ เอตฺถ ปฺตฺติมตฺตตฺตา นาสฺส อุปฺปาทนฺโต วา วยนฺโต วา ปฺายตีติ อนนฺโต, อนนฺตผรณวเสนาปิ อนนฺโต. น หิ โส โยคี เอกเทสวเสน ผรติ, สกลวเสเนว ผรติ. อากาโสติ กสิณุคฺฆาฏิมากาโส. อากาสานฺจายตนาทีนิ วุตฺตตฺถานิ. อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ ตํ ปตฺวา นิปฺผาเทตฺวา ตทนุรูเปน อิริยาปเถน วิหรติ. ตเทว สมาปชฺชิตพฺพโต สมาปตฺติ.
อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺมาติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ฌานมฺปิ อากาสานฺจายตนํ อารมฺมณมฺปิ. อารมฺมณมฺปิ หิ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว อากาสานฺจํ จ ตํ ปมสฺส อารุปฺปชฺฌานสฺส อารมฺมณตฺตา เทวานํ เทวายตนํ วิย อธิฏฺานฏฺเน อายตนฺจาติ อากาสานฺจายตนํ, ตถา อากาสานฺจํ จ ตํ ตสฺส ฌานสฺส สฺชาติเหตุตฺตา ‘‘กมฺโพชา อสฺสานํ อายตน’’นฺติอาทีนิ วิย สฺชาติเทสฏฺเน อายตนฺจาติปิ อากาสานฺจายตนํ. เอวเมตํ ฌานฺจ อารมฺมณฺจาติ อุภยมฺปิ อปฺปวตฺติกรเณน จ อมนสิกรเณน จ สมติกฺกมิตฺวาว ยสฺมา อิทํ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหาตพฺพํ, ตสฺมา อุภยมฺเปตเมกชฺฌํ กตฺวา ‘‘อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺมา’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อนนฺตํ วิฺาณนฺติ ตํเยว ‘‘อนนฺโต อากาโส’’ติ ผริตฺวา ปวตฺตํ วิฺาณํ ‘‘อนนฺตํ วิฺาณ’’นฺติ ¶ มนสิกโรนฺโตติ วุตฺตํ โหติ. มนสิการวเสน วา อนนฺตํ. โส หิ ตํ อากาสารมฺมณํ วิฺาณํ อนวเสสโต มนสิกโรนฺโต อนนฺตํ มนสิ กโรติ.
วิฺาณฺจายตนํ ¶ สมติกฺกมฺมาติ เอตฺถาปิ จ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ฌานมฺปิ วิฺาณฺจายตนํ อารมฺมณมฺปิ. อารมฺมณมฺปิ หิ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว วิฺาณฺจํ จ ตํ ทุติยสฺส อารุปฺปชฺฌานสฺส อารมฺมณตฺตา อธิฏฺานฏฺเน อายตนฺจาติ วิฺาณฺจายตนํ, ตถา วิฺาณฺจํ จ ตํ ตสฺเสว ฌานสฺส สฺชาติเหตุตฺตา สฺชาติเทสฏฺเน อายตนฺจาติปิ วิฺาณฺจายตนํ. เอวเมตํ ฌานฺจ อารมฺมณฺจาติ อุภยมฺปิ อปฺปวตฺติกรเณน จ อมนสิกรเณน จ สมติกฺกมิตฺวาว ยสฺมา อิทํ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหาตพฺพํ, ตสฺมา อุภยมฺเปตเมกชฺฌํ กตฺวา ‘‘วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺมา’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. นตฺถิ กิฺจีติ นตฺถิ นตฺถิ, สฺุํ สฺุํ, วิวิตฺตํ วิวิตฺตนฺติ เอวํ มนสิกโรนฺโตติ วุตฺตํ โหติ.
อากิฺจฺายตนํ ¶ สมติกฺกมฺมาติ เอตฺถาปิ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ฌานมฺปิ อากิฺจฺายตนํ อารมฺมณมฺปิ. อารมฺมณมฺปิ หิ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว อากิฺจฺฺจ ตํ ตติยสฺส อารุปฺปชฺฌานสฺส อารมฺมณตฺตา อธิฏฺานฏฺเน อายตนฺจาติ อากิฺจฺายตนํ, ตถา อากิฺจฺฺจ ตํ ตสฺเสว ฌานสฺส สฺชาติเหตุตฺตา สฺชาติเทสฏฺเน อายตนฺจาติปิ อากิฺจฺายตนํ. เอวเมตํ ฌานฺจ อารมฺมณฺจาติ อุภยมฺปิ อปฺปวตฺติกรเณน จ อมนสิกรเณน จ สมติกฺกมิตฺวาว ยสฺมา อิทํ เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหาตพฺพํ, ตสฺมา อุภยมฺเปตเมกชฺฌํ กตฺวา ‘‘อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺมา’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สฺาเวทยิตนิโรธกถา เหฏฺา กถิตาว.
‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทิกา สตฺต วิโมกฺขา ปจฺจนีกธมฺเมหิ สุฏฺุ วิมุจฺจนฏฺเน อารมฺมเณ อภิรติวเสน สุฏฺุ มุจฺจนฏฺเน จ วิโมกฺขา, นิโรธสมาปตฺติ ปน จิตฺตเจตสิเกหิ วิมุตฺตฏฺเน วิโมกฺโข. สมาปตฺติสมาปนฺนสมเย วิมุตฺโต โหติ, วุฏฺิตสมเย อวิมุตฺโต โหตีติ สมยวิโมกฺโข. สมุจฺเฉทวิมุตฺติวเสน อจฺจนฺตวิมุตฺตตฺตา อริยมคฺคา, ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิมุตฺติวเสน อจฺจนฺตวิมุตฺตตฺตา สามฺผลานิ, นิสฺสรณวิมุตฺติวเสน อจฺจนฺตวิมุตฺตตฺตา นิพฺพานํ อสมยวิโมกฺโข. ตถา สามยิกาสามยิกวิโมกฺขา.
ปมาทํ อาคมฺม ปริหายตีติ กุปฺโป. ตถา น ปริหายตีติ อกุปฺโป. โลกาย สํวตฺตตีติ ¶ โลกิโย. อริยมคฺคา โลกํ อุตฺตรนฺตีติ โลกุตฺตรา, สามฺผลานิ นิพฺพานฺจ โลกโต อุตฺติณฺณาติ โลกุตฺตรา. อาทิตฺตํ อโยคุฬํ มกฺขิกา วิย เตชุสฺสทํ โลกุตฺตรํ ธมฺมํ อาสวา นาลมฺพนฺตีติ อนาสโว. รูปปฺปฏิสฺุตฺโตติ ¶ รูปชฺฌานานิ. อรูปปฺปฏิสฺุตฺโตติ อรูปสมาปตฺติโย. ตณฺหาย อาลมฺพิโต ปณิหิโต. อนาลมฺพิโต อปฺปณิหิโต. มคฺคผลานิ เอการมฺมณตฺตา เอกนิฏฺตฺตา จ เอกตฺตวิโมกฺโข, นิพฺพานํ อทุติยตฺตา เอกตฺตวิโมกฺโข, อารมฺมณนานตฺตา วิปากนานตฺตา จ นานตฺตวิโมกฺโข.
๒๑๔. สิยาติ ภเวยฺย, ทส โหนฺตีติ จ เอโก โหตีติ จ ภเวยฺยาติ อตฺโถ. ‘‘สิยา’’ติ จ เอตํ วิธิวจนํ, น ปุจฺฉาวจนํ. วตฺถุวเสนาติ นิจฺจสฺาทิทสวตฺถุวเสน ทส โหนฺติ. ปริยาเยนาติ วิมุจฺจนปริยาเยน ¶ เอโก โหติ. สิยาติ กถฺจ สิยาติ ยํ วา สิยาติ วิหิตํ, ตํ กถํ สิยาติ ปุจฺฉติ. อนิจฺจานุปสฺสนาณนฺติ สมาสปทํ. อนิจฺจานุปสฺสนาาณนฺติ วา ปาโ. ตถา เสเสสุปิ. นิจฺจโต สฺายาติ นิจฺจโต ปวตฺตาย สฺาย, ‘‘นิจฺจ’’นฺติ ปวตฺตาย สฺายาติ อตฺโถ. เอส นโย สุขโต อตฺตโต นิมิตฺตโต สฺายาติ เอตฺถาปิ. นิมิตฺตโตติ จ นิจฺจนิมิตฺตโต. นนฺทิยา สฺายาติ นนฺทิวเสน ปวตฺตาย สฺาย, นนฺทิสมฺปยุตฺตาย สฺายาติ อตฺโถ. เอส นโย ราคโต สมุทยโต อาทานโต ปณิธิโต อภินิเวสโต สฺายาติ เอตฺถาปิ. ยสฺมา ปน ขยวยวิปริณามานุปสฺสนา ติสฺโส อนิจฺจานุปสฺสนาทีนํ พลวภาวาย พลวปจฺจยภูตา ภงฺคานุปสฺสนาวิเสสา. ภงฺคทสฺสเนน หิ อนิจฺจานุปสฺสนา พลวตี โหติ. อนิจฺจานุปสฺสนาย จ พลวติยา ชาตาย ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ, ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๕) ทุกฺขานตฺตานุปสฺสนาปิ พลวติโย โหนฺติ. ตสฺมา อนิจฺจานุปสฺสนาทีสุ วุตฺตาสุ ตาปิ ติสฺโส วุตฺตาว โหนฺติ. ยสฺมา จ สฺุตานุปสฺสนา ‘‘อภินิเวสโต สฺาย มุจฺจตี’’ติ วจเนเนว สาราทานาภินิเวสสมฺโมหาภินิเวสอาลยาภินิเวสสฺโคาภินิเวสโต สฺาย มุจฺจตีติ วุตฺตเมว โหติ, อภินิเวสาภาเวเนว อปฺปฏิสงฺขาโต สฺาย มุจฺจตีติ วุตฺตเมว โหติ, ตสฺมา อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาทโย ปฺจปิ อนุปสฺสนา น วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. เอวํ อฏฺารสสุ มหาวิปสฺสนาสุ เอตา อฏฺ อนุปสฺสนา อวตฺวา ทเสว อนุปสฺสนา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
๒๑๕. อนิจฺจานุปสฺสนา ยถาภูตํ าณนฺติ อนิจฺจานุปสฺสนาเยว ยถาภูตาณํ. อุภยมฺปิ ปจฺจตฺตวจนํ. ยถาภูตาณนฺติ าณตฺโถ วุตฺโต. เอวํ เสเสสุปิ. สมฺโมหา อฺาณาติ สมฺโมหภูตา อฺาณา. มุจฺจตีติ วิโมกฺขตฺโถ วุตฺโต.
๒๑๖. อนิจฺจานุปสฺสนา ¶ อนุตฺตรํ สีติภาวาณนฺติ เอตฺถ สาสเนเยว สพฺภาวโต อุตฺตมฏฺเน อนุตฺตรํ, อนุตฺตรสฺส ปจฺจยตฺตา วา อนุตฺตรํ, สีติภาโว เอว าณํ สีติภาวาณํ. ตํ อนิจฺจานุปสฺสนาสงฺขาตํ ¶ อนุตฺตรํ สีติภาวาณํ. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ ¶ อนุตฺตรํ สีติภาวํ สจฺฉิกาตุ’’นฺติ (อ. นิ. ๖.๘๕) เอตฺถ นิพฺพานํ อนุตฺตโร สีติภาโว นาม. อิธ ปน วิปสฺสนา อนุตฺตโร สีติภาโว. นิจฺจโต สนฺตาปปริฬาหทรถา มุจฺจตีติ เอตฺถาปิ ‘‘นิจฺจ’’นฺติ ปวตฺตกิเลสา เอว อิธ จามุตฺร จ สนฺตาปนฏฺเน สนฺตาโป, ปริทหนฏฺเน ปริฬาโห, อุณฺหฏฺเน ทรโถติ วุจฺจนฺติ.
๒๑๗. เนกฺขมฺมํ ฌายตีติ ฌานนฺติอาทโย เหฏฺา วุตฺตตฺถา. เนกฺขมฺมาทีนิ เจตฺถ อฏฺ สมาปตฺติโย จ นิพฺเพธภาคิยาเนว.
๒๑๘. อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโขติ อิธ วิปสฺสนาเยว. ‘‘เอตทตฺถา กถา, เอตทตฺถา มนฺตนา, ยทิทํ อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโข’’ติ (ปริ. ๓๖๖; อ. นิ. ๓.๖๘) เอตฺถ ปน นิพฺพานํ อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโข. กติหุปาทาเนหีติ กติหิ อุปาทาเนหิ. กตมา เอกุปาทานาติ กตมโต เอกุปาทานโต. อิทํ เอกุปาทานาติ อิโต เอกโต อุปาทานโต. อิทนฺติ ปุพฺพาณาเปกฺขํ วา. อุปาทานโต มุจฺจเนสุ ยสฺมา อาทิโต สงฺขารานํ อุทยพฺพยํ ปสฺสิตฺวา ปสฺสิตฺวา อนิจฺจานุปสฺสนาย วิปสฺสติ, ปจฺฉา สงฺขารานํ ภงฺคเมว ปสฺสิตฺวา อนิมิตฺตานุปสฺสนาย วิปสฺสติ. อนิจฺจานุปสฺสนาวิเสโสเยว หิ อนิมิตฺตานุปสฺสนา. สงฺขารานํ อุทยพฺพยทสฺสเนน จ ภงฺคทสฺสเนน จ อตฺตาภาโว ปากโฏ โหติ. เตน ทิฏฺุปาทานสฺส จ อตฺตวาทุปาทานสฺส จ ปหานํ โหติ. ทิฏฺิปฺปหาเนเนว จ ‘‘สีลพฺพเตน อตฺตา สุชฺฌตี’’ติ ทสฺสนสฺส อภาวโต สีลพฺพตุปาทานสฺส ปหานํ โหติ. ยสฺมา จ อนตฺตานุปสฺสนาย อุชุกเมว อตฺตาภาวํ ปสฺสติ, อนตฺตานุปสฺสนาวิเสโสเยว จ สฺุตานุปสฺสนา, ตสฺมา อิมานิ จตฺตาริ าณานิ ทิฏฺุปาทานาทีหิ ตีหิ อุปาทาเนหิ มุจฺจนฺติ. ทุกฺขานุปสฺสนาทีนํเยว ปน จตสฺสนฺนํ ตณฺหาย อุชุวิปจฺจนีกตฺตา อนิจฺจานุปสฺสนาทีนํ จตสฺสนฺนํ กามุปาทานโต มุจฺจนํ น วุตฺตํ. ยสฺมา อาทิโต ทุกฺขานุปสฺสนาย ‘‘สงฺขารา ทุกฺขา’’ติ ปสฺสโต ปจฺฉา อปฺปณิหิตานุปสฺสนาย จ ‘‘สงฺขารา ทุกฺขา’’ติ ปสฺสโต สงฺขารานํ ปตฺถนา ปหียติ. ทุกฺขานุปสฺสนาวิเสโสเยว หิ อปฺปณิหิตานุปสฺสนา. ยสฺมา จ สงฺขาเรสุ นิพฺพิทานุปสฺสนาย นิพฺพินฺทนฺตสฺส วิราคานุปสฺสนาย ¶ วิรชฺชนฺตสฺส สงฺขารานํ ปตฺถนา ปหียติ, ตสฺมา อิมานิ จตฺตาริ าณานิ กามุปาทานโต มุจฺจนฺติ. ยสฺมา นิโรธานุปสฺสนาย กิเลเส นิโรเธติ, ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย กิเลเส ¶ ปริจฺจชติ, ตสฺมา อิมานิ ทฺเว าณานิ จตูหิ อุปาทาเนหิ มุจฺจนฺตีติ เอวํ สภาวนานตฺเตน จ อาการนานตฺเตน จ อฏฺสฏฺิ วิโมกฺขา นิทฺทิฏฺา.
๒๑๙. อิทานิ ¶ อาทิโต อุทฺทิฏฺานํ ติณฺณํ วิโมกฺขานํ มุขานิ ทสฺเสตฺวา วิโมกฺขมุขปุพฺพงฺคมํ อินฺทฺริยวิเสสํ ปุคฺคลวิเสสฺจ ทสฺเสตุกาโม ตีณิ โข ปนิมานีติอาทิมาห. ตตฺถ วิโมกฺขมุขานีติ ติณฺณํ วิโมกฺขานํ มุขานิ. โลกนิยฺยานาย สํวตฺตนฺตีติ เตธาตุกโลกโต นิยฺยานาย นิคฺคมนาย สํวตฺตนฺติ. สพฺพสงฺขาเร ปริจฺเฉทปริวฏุมโต สมนุปสฺสนตายาติ สพฺเพสํ สงฺขารานํ อุทยพฺพยวเสน ปริจฺเฉทโต เจว ปริวฏุมโต จ สมนุปสฺสนตาย. โลกนิยฺยานํ โหตีติ ปาเสโส. อนิจฺจานุปสฺสนา หิ อุทยโต ปุพฺเพ สงฺขารา นตฺถีติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา เตสํ คตึ สมนฺเนสมานา วยโต ปรํ น คจฺฉนฺติ, เอตฺเถว อนฺตรธายนฺตีติ ปริวฏุมโต ปริยนฺตโต สมนุปสฺสติ. สพฺพสงฺขารา หิ อุทเยน ปุพฺพนฺตปริจฺฉินฺนา, วเยน อปรนฺตปริจฺฉินฺนา. อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา จิตฺตสมฺปกฺขนฺทนตายาติ วิปสฺสนากฺขเณปิ นิพฺพานนินฺนตาย อนิมิตฺตากาเรน อุปฏฺานโต อนิมิตฺตสงฺขาตาย นิพฺพานธาตุยา จิตฺตปวิสนตาย จ โลกนิยฺยานํ โหติ. มโนสมุตฺเตชนตายาติ จิตฺตสํเวชนตาย. ทุกฺขานุปสฺสนาย หิ สงฺขาเรสุ จิตฺตํ สํวิชฺชติ. อปฺปณิหิตาย จ ธาตุยาติ วิปสฺสนากฺขเณปิ นิพฺพานนินฺนตาย อปฺปณิหิตากาเรน อุปฏฺานโต อปฺปณิหิตสงฺขาตาย นิพฺพานธาตุยา. สพฺพธมฺเมติ นิพฺพานสฺส อวิปสฺสนุปคตฺเตปิ อนตฺตสภาวสพฺภาวโต ‘‘สพฺพสงฺขาเร’’ติ อวตฺวา ‘‘สพฺพธมฺเม’’ติ วุตฺตํ. ปรโต สมนุปสฺสนตายาติ ปจฺจยายตฺตตฺตา อวสตาย อวิเธยฺยตาย จ ‘‘นาหํ น มม’’นฺติ เอวํ อนตฺตโต สมนุปสฺสนตาย. สฺุตาย จ ธาตุยาติ วิปสฺสนากฺขเณปิ นิพฺพานนินฺนตาย สฺุตากาเรน อุปฏฺานโต สฺุตาสงฺขาตาย นิพฺพานธาตุยา. อิติ อิมานิ ตีณิ วจนานิ อนิจฺจทุกฺขานตฺตานุปสฺสนานํ วเสน วุตฺตานิ. เตเนว ตทนนฺตรํ อนิจฺจโต มนสิกโรโตติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ขยโตติ ขียนโต. ภยโตติ สภยโต. สฺุโตติ อตฺตรหิตโต.
อธิโมกฺขพหุลนฺติ ¶ อนิจฺจานุปสฺสนาย ‘‘ขณภงฺควเสน สงฺขารา ภิชฺชนฺตี’’ติ สทฺธาย ปฏิปนฺนสฺส ปจฺจกฺขโต ขณภงฺคทสฺสเนน ‘‘สจฺจํ วตาห ภควา’’ติ ภควติ สทฺธาย สทฺธาพหุลํ จิตฺตํ โหติ. อถ วา ปจฺจุปฺปนฺนานํ ปเทสสงฺขารานํ อนิจฺจตํ ปสฺสิตฺวา ‘‘เอวํ อนิจฺจา อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา สพฺเพ สงฺขารา’’ติ อธิมุจฺจนโต อธิโมกฺขพหุลํ จิตฺตํ โหติ. ปสฺสทฺธิพหุลนฺติ ทุกฺขานุปสฺสนาย จิตฺตกฺโขภกราย ปณิธิยา ปชหนโต จิตฺตทรถาภาเวน ปสฺสทฺธิพหุลํ จิตฺตํ โหติ. อถ วา ทุกฺขานุปสฺสนาย สํเวคชนนโต สํวิคฺคสฺส ¶ จ โยนิโส ปทหนโต วิกฺเขปาภาเวน ปสฺสทฺธิพหุลํ ¶ จิตฺตํ โหติ. เวทพหุลนฺติ อนตฺตานุปสฺสนาย พาหิรเกหิ อทิฏฺํ คมฺภีรํ อนตฺตลกฺขณํ ปสฺสโต าณพหุลํ จิตฺตํ โหติ. อถ วา ‘‘สเทวเกน โลเกน อทิฏฺํ อนตฺตลกฺขณํ ทิฏฺ’’นฺติ ตุฏฺสฺส ตุฏฺิพหุลํ จิตฺตํ โหติ.
อธิโมกฺขพหุโล สทฺธินฺทฺริยํ ปฏิลภตีติ ปุพฺพภาเค อธิโมกฺโข พหุลํ ปวตฺตมาโน ภาวนาปาริปูริยา สทฺธินฺทฺริยํ นาม โหติ, ตํ โส ปฏิลภติ นาม. ปสฺสทฺธิพหุโล สมาธินฺทฺริยํ ปฏิลภตีติ ปุพฺพภาเค ปสฺสทฺธิพหุลสฺส ‘‘ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๗๓; อ. นิ. ๕.๒๖) วจนโต ภาวนาปาริปูริยา ปสฺสทฺธิปจฺจยา สมาธินฺทฺริยํ โหติ, ตํ โส ปฏิลภติ นาม. เวทพหุโล ปฺินฺทฺริยํ ปฏิลภตีติ ปุพฺพภาเค เวโท พหุลํ ปวตฺตมาโน ภาวนาปาริปูริยา ปฺินฺทฺริยํ นาม โหติ, ตํ โส ปฏิลภติ นาม.
อาธิปเตยฺยํ โหตีติ ฉนฺทาทิเก อธิปติภูเตปิ สกิจฺจนิปฺผาทนวเสน อธิปติ โหติ ปธาโน โหติ. ภาวนายาติ ภุมฺมวจนํ, อุปรูปริ ภาวนตฺถาย วา. ตทนฺวยา โหนฺตีติ ตํ อนุคามินี ตํ อนุวตฺตินี โหนฺติ. สหชาตปจฺจยา โหนฺตีติ อุปฺปชฺชมานา จ สหอุปฺปาทนภาเวน อุปการกา โหนฺติ ปกาสสฺส ปทีโป วิย. อฺมฺปจฺจยา โหนฺตีติ อฺมฺํ อุปฺปาทนุปตฺถมฺภนภาเวน อุปการกา โหนฺติ อฺมฺูปตฺถมฺภกํ ติทณฺฑํ วิย. นิสฺสยปจฺจยา โหนฺตีติ อธิฏฺานากาเรน นิสฺสยากาเรน จ อุปการกา โหนฺติ ตรุจิตฺตกมฺมานํ ปถวีปฏาทิ วิย. สมฺปยุตฺตปจฺจยา โหนฺตีติ เอกวตฺถุกเอการมฺมณเอกุปฺปาทเอกนิโรธสงฺขาเตน สมฺปยุตฺตภาเวน อุปการกา โหนฺติ.
๒๒๐. ปฏิเวธกาเลติ ¶ มคฺคกฺขเณ สจฺจปฏิเวธกาเล. ปฺินฺทฺริยํ อาธิปเตยฺยํ โหตีติ มคฺคกฺขเณ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา สจฺจทสฺสนกิจฺจกรณวเสน จ กิเลสปฺปหานกิจฺจกรณวเสน จ ปฺินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ. ปฏิเวธายาติ สจฺจปฏิวิชฺฌนตฺถาย. เอกรสาติ วิมุตฺติรเสน. ทสฺสนฏฺเนาติ สจฺจทสฺสนฏฺเน. เอวํ ปฏิวิชฺฌนฺโตปิ ภาเวติ, ภาเวนฺโตปิ ปฏิวิชฺฌตีติ มคฺคกฺขเณ สกึเยว ภาวนาย จ ปฏิเวธสฺส จ สพฺภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อนตฺตานุปสฺสนาย วิปสฺสนากฺขเณปิ ปฺินฺทฺริยสฺเสว อาธิปเตยฺยตฺตา ‘‘ปฏิเวธกาเลปี’’ติ อปิสทฺโท ปยุตฺโต.
๒๒๑. อนิจฺจโต ¶ มนสิกโรโต กตมินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหตีติอาทิ อินฺทฺริยวิเสเสน ปุคฺคลวิเสสํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ อธิมตฺตนฺติ อธิกํ. ตตฺถ สทฺธินฺทฺริยสมาธินฺทฺริยปฺินฺทฺริยานํ อธิมตฺตตา สงฺขารุเปกฺขาย ¶ เวทิตพฺพา. สทฺธาวิมุตฺโตติ เอตฺถ อวิเสเสตฺวา วุตฺเตปิ อุปริ วิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา โสตาปตฺติมคฺคํ เปตฺวา เสเสสุ สตฺตสุ าเนสุ สทฺธาวิมุตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. สทฺธาวิมุตฺโต สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตฺตา โหติ, น สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตฺตา สพฺพตฺถ สทฺธาวิมุตฺโตติปิ วุตฺตํ โหติ. โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตฺตาเยว เสเสสุ สมาธินฺทฺริยปฺินฺทฺริยาธิมตฺตตฺเตปิ สติ สทฺธาวิมุตฺโตเยว นาม โหตีติ วทนฺติ. กายสกฺขี โหตีติ อฏฺสุปิ าเนสุ กายสกฺขี นาม โหติ. ทิฏฺิปฺปตฺโต โหตีติ สทฺธาวิมุตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
สทฺทหนฺโต วิมุตฺโตติ สทฺธาวิมุตฺโตติ สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตฺตา โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ สทฺทหนฺโต จตูสุปิ ผลกฺขเณสุ วิมุตฺโตติ สทฺธาวิมุตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. อุปริมคฺคตฺตยกฺขเณ สทฺธาวิมุตฺตตฺตํ อิทานิ วกฺขติ. โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ ปน สทฺธานุสาริตฺตํ ปจฺฉา วกฺขติ. ผุฏฺตฺตา สจฺฉิกโตติ กายสกฺขีติ สุกฺขวิปสฺสกตฺเต สติ อุปจารชฺฌานผสฺสสฺส รูปารูปชฺฌานลาภิตฺเต สติ รูปารูปชฺฌานผสฺสสฺส ผุฏฺตฺตา นิพฺพานํ สจฺฉิกโตติ กายสกฺขี, นามกาเยน วุตฺตปฺปกาเร ฌานผสฺเส จ นิพฺพาเน จ สกฺขีติ วุตฺตํ โหติ. ทิฏฺตฺตา ปตฺโตติ ทิฏฺิปฺปตฺโตติ โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ สมฺปยุตฺเตน ปฺินฺทฺริเยน ปมํ นิพฺพานสฺส ทิฏฺตฺตา ปจฺฉา โสตาปตฺติผลาทิวเสน นิพฺพานํ ปตฺโตติ ทิฏฺิปฺปตฺโต, ปฺินฺทฺริยสงฺขาตาย ทิฏฺิยา ¶ นิพฺพานํ ปตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ ปน ธมฺมานุสาริตฺตํ ปจฺฉา วกฺขติ. สทฺทหนฺโต วิมุจฺจตีติ สทฺธาวิมุตฺโตติ สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตฺตา สกทาคามิอนาคามิอรหตฺตมคฺคกฺขเณสุ สทฺทหนฺโต วิมุจฺจตีติ สทฺธาวิมุตฺโต. เอตฺถ วิมุจฺจมาโนปิ อาสํสาย ภูตวจนวเสน ‘‘วิมุตฺโต’’ติ วุตฺโต. ฌานผสฺสนฺติ ติวิธํ ฌานผสฺสํ. ‘‘ฌานผสฺส’’นฺติอาทีนิ ‘‘ทุกฺขา สงฺขารา’’ติอาทีนิ จ ปมํ วุตฺตํ ทฺวยเมว วิเสเสตฺวา วุตฺตานิ. าตํ โหตีติอาทีนิ เหฏฺา วุตฺตตฺถานิ. เอตฺถ จ ฌานลาภี ปุคฺคโล สมาธินฺทฺริยสฺส อนุกูลาย ทุกฺขานุปสฺสนาย เอว วุฏฺหิตฺวา มคฺคผลานิ ปาปุณาตีติ อาจริยานํ อธิปฺปาโย.
สิยาติ สิยุํ, ภเวยฺยุนฺติ อตฺโถ. ‘‘สิยา’’ติ เอตํ วิธิวจนเมว. ตโย ปุคฺคลาติ วิปสฺสนานิยเมน อินฺทฺริยนิยเมน จ วุตฺตา ตโย ปุคฺคลา. วตฺถุวเสนาติ ตีสุ อนุปสฺสนาสุ เอเกกอินฺทฺริยวตฺถุวเสน. ปริยาเยนาติ เตเนว ปริยาเยน. อิมินา วาเรน กึ ทสฺสิตํ โหติ ¶ ? เหฏฺา ¶ เอเกกิสฺสา อนุปสฺสนาย เอเกกสฺส อินฺทฺริยสฺส อาธิปจฺจํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตนฺติ จ, กทาจิ ตีสุปิ อนุปสฺสนาสุ เอเกกสฺเสว อินฺทฺริยสฺส อาธิปจฺจํ โหตีติ จ ทสฺสิตํ โหติ. อถ วา ปุพฺพภาควิปสฺสนากฺขเณ ติสฺสนฺนมฺปิ อนุปสฺสนานํ สพฺภาวโต ตาสุ ปุพฺพภาควิปสฺสนาสุ เตสํ เตสํ อินฺทฺริยานํ อาธิปจฺจํ อเปกฺขิตฺวา มคฺคผลกฺขเณสุ สทฺธาวิมุตฺตาทีนิ นามานิ โหนฺตีติ. เอวฺหิ วุจฺจมาเน เหฏฺา วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาย อุปริ จ กโต อินฺทฺริยาธิปจฺจปุคฺคลนิยโม สุกโตเยว นิจฺจโลเยว จ โหติ. อนนฺตรวาเร สิยาติ อฺโเยวาติ เอวํ สิยาติ อตฺโถ. เอตฺถ ปุพฺเพ วุตฺโตเยว นิยโม.
อิทานิ มคฺคผลวเสน ปุคฺคลวิเสสํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ อนิจฺจโต มนสิกโรโต…เป… โสตาปตฺติมคฺคํ ปฏิลภตีติอาทิมาห. ตตฺถ สทฺธํ อนุสฺสรติ อนุคจฺฉติ, สทฺธาย วา นิพฺพานํ อนุสฺสรติ อนุคจฺฉตีติ สทฺธานุสารี. สจฺฉิกตนฺติ ปจฺจกฺขกตํ. อรหตฺตนฺติ อรหตฺตผลํ. ปฺาสงฺขาตํ ธมฺมํ อนุสฺสรติ, เตน วา ธมฺเมน นิพฺพานํ อนุสฺสรตีติ ธมฺมานุสารี.
๒๒๒. ปุน ¶ อปเรหิ ปริยาเยหิ อินฺทฺริยตฺตยวิเสเสน ปุคฺคลวิเสสํ วณฺเณตุกาโม เย หิ เกจีติอาทิมาห. ตตฺถ ภาวิตา วาติ อตีเต ภาวยึสุ วา. ภาเวนฺติ วาติ ปจฺจุปฺปนฺเน. ภาวิสฺสนฺติ วาติ อนาคเต. อธิคตา วาติอาทิ เอเกกนฺติกํ ปุริมสฺส ปุริมสฺส อตฺถวิวรณตฺถํ วุตฺตํ. ผสฺสิตา วาติ าณผุสนาย ผุสึสุ วา. วสิปฺปตฺตาติ อิสฺสรภาวํ ปตฺตา. ปารมิปฺปตฺตาติ โวสานํ ปตฺตา. เวสารชฺชปฺปตฺตาติ วิสารทภาวํ ปตฺตา. สพฺพตฺถ สทฺธาวิมุตฺตาทโย เหฏฺา วุตฺตกฺขเณสุเยว, สติปฏฺานาทโย มคฺคกฺขเณเยว. อฏฺ วิโมกฺเขติ ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทิเก (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙; ธ. ส. ๒๔๘) ปฏิสมฺภิทามคฺคปฺปตฺติยา เอว ปตฺตา.
ติสฺโส สิกฺขาติ อธิสีลสิกฺขา อธิจิตฺตสิกฺขา อธิปฺาสิกฺขา มคฺคปฺปตฺตา เอว สิกฺขมานา. ทุกฺขํ ปริชานนฺตีติอาทีนิ มคฺคกฺขเณเยว. ปริฺาปฏิเวธํ ปฏิวิชฺฌตีติ ปริฺาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ, ปริฺาย ปฏิวิชฺฌิตพฺพนฺติ วา ปริฺาปฏิเวธํ. เอวํ เสเสสุปิ. สพฺพธมฺมาทีหิ วิเสเสตฺวา อภิฺาปฏิเวธาทโย วุตฺตา. สจฺฉิกิริยาปฏิเวโธ ปน มคฺคกฺขเณเยว นิพฺพานปจฺจเวกฺขณาณสิทฺธิวเสน ¶ เวทิตพฺโพติ. เอวมิธ ปฺจ อริยปุคฺคลา นิทฺทิฏฺา โหนฺติ, อุภโตภาควิมุตฺโต จ ปฺาวิมุตฺโต จาติ อิเม ทฺเว อนิทฺทิฏฺา. อฺตฺถ (วิสุทฺธิ. ๒.๗๗๓) ปน ‘‘โย ปน ทุกฺขโต มนสิกโรนฺโต ปสฺสทฺธิพหุโล สมาธินฺทฺริยํ ¶ ปฏิลภติ, โส สพฺพตฺถ กายสกฺขี นาม โหติ, อรูปชฺฌานํ ปน ปตฺวา อคฺคผลํ ปตฺโต อุภโตภาควิมุตฺโต นาม โหติ. โย ปน อนตฺตโต มนสิกโรนฺโต เวทพหุโล ปฺินฺทฺริยํ ปฏิลภติ, โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ ธมฺมานุสารี โหติ, ฉสุ าเนสุ ทิฏฺิปฺปตฺโต, อคฺคผเล ปฺาวิมุตฺโต’’ติ วุตฺตํ. เต อิธ กายสกฺขิทิฏฺิปฺปตฺเตหิเยว สงฺคหิตา. อตฺถโต ปน อรูปชฺฌาเนน เจว อริยมคฺเคน จาติ อุภโตภาเคน วิมุตฺโตติ อุภโตภาควิมุตฺโต. ปชานนฺโต วิมุตฺโตติ ปฺาวิมุตฺโตติ. เอตฺตาวตา อินฺทฺริยปุคฺคลวิเสสา นิทฺทิฏฺา โหนฺติ.
๒๒๓-๒๒๖. อิทานิ วิโมกฺขปุพฺพงฺคมเมว วิโมกฺขวิเสสํ ปุคฺคลวิเสสฺจ ทสฺเสตุกาโม อนิจฺจโต มนสิกโรโตติอาทิมาห. ตตฺถ ทฺเว วิโมกฺขาติ อปฺปณิหิตสฺุตวิโมกฺขา. อนิจฺจานุปสฺสนาคมนวเสน หิ อนิมิตฺตวิโมกฺโขติ ลทฺธนาโม มคฺโค ราคโทสโมหปณิธีนํ อภาวา ¶ สคุณโต จ เตสํเยว ปณิธีนํ อภาวา อปฺปณิหิตนฺติ ลทฺธนามํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรตีติ อารมฺมณโต จ อปฺปณิหิตวิโมกฺโขติ นามมฺปิ ลภติ. ตถา ราคโทสโมเหหิ สฺุตฺตา สคุณโต จ ราคาทีหิเยว สฺุตฺตา สฺุตนฺติ ลทฺธนามํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรตีติ อารมฺมณโต จ สฺุตวิโมกฺโขติ นามมฺปิ ลภติ. ตสฺมา เต ทฺเว วิโมกฺขา อนิมิตฺตวิโมกฺขนฺวยา นาม โหนฺติ. อนิมิตฺตมคฺคโต อนฺเปิ อฏฺนฺนํ มคฺคงฺคานํ เอเกกสฺส มคฺคงฺคสฺส วเสน สหชาตาทิปจฺจยา จ โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. ปุน ทฺเว วิโมกฺขาติ สฺุตานิมิตฺตวิโมกฺขา. ทุกฺขานุปสฺสนาคมนวเสน หิ อปฺปณิหิตวิโมกฺโขติ ลทฺธนาโม มคฺโค รูปนิมิตฺตาทีนํ ราคนิมิตฺตาทีนํ นิจฺจนิมิตฺตาทีนฺจ อภาวา สคุณโต จ เตสํเยว นิมิตฺตานํ อภาวา อนิมิตฺตสงฺขาตํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรตีติ อารมฺมณโต จ อนิมิตฺตวิโมกฺโขติ นามมฺปิ ลภติ. เสสํ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. ปุน ทฺเว วิโมกฺขาติ อนิมิตฺตอปฺปณิหิตวิโมกฺขา. โยชนา ปเนตฺถ วุตฺตนยา เอว.
ปฏิเวธกาเลติ อินฺทฺริยานํ วุตฺตกฺกเมเนว วุตฺตํ. มคฺคกฺขณํ ปน มฺุจิตฺวา วิปสฺสนากฺขเณ วิโมกฺโข นาม นตฺถิ ¶ . ปมํ วุตฺโตเยว ปน มคฺควิโมกฺโข ‘‘ปฏิเวธกาเล’’ติ วจเนน วิเสเสตฺวา ทสฺสิโต. ‘‘โย จายํ ปุคฺคโล สทฺธาวิมุตฺโต’’ติอาทิกา ทฺเว วารา จ ‘‘อนิจฺจโต มนสิกโรนฺโต โสตาปตฺติมคฺคํ ปฏิลภตี’’ติอาทิโก วาโร จ สงฺขิตฺโต, วิโมกฺขวเสน ปน โยเชตฺวา วิตฺถารโต เวทิตพฺโพ. เย หิ เกจิ เนกฺขมฺมนฺติอาทิโก วาโร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ. เอตฺตาวตา วิโมกฺขปุคฺคลวิเสสา นิทฺทิฏฺา โหนฺตีติ.
๒๒๗. ปุน ¶ วิโมกฺขมุขานิ จ วิโมกฺเข จ อเนกธา นิทฺทิสิตุกาโม อนิจฺจโต มนสิกโรนฺโตติอาทิมาห. ตตฺถ ยถาภูตนฺติ ยถาสภาเวน. ชานาตีติ าเณน ชานาติ. ปสฺสตีติ เตเนว าเณน จกฺขุนา วิย ปสฺสติ. ตทนฺวเยนาติ ตทนุคมเนน, ตสฺส ปจฺจกฺขโต าเณน ทิฏฺสฺส อนุคมเนนาติ อตฺโถ. กงฺขา ปหียตีติ อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจานิจฺจกงฺขา, อิตราหิ อิตรกงฺขา. นิมิตฺตนฺติ สนฺตติฆนวินิพฺโภเคน นิจฺจสฺาย ปหีนตฺตา อารมฺมณภูตํ สงฺขารนิมิตฺตํ ยถาภูตํ ชานาติ. เตน วุจฺจติ สมฺมาทสฺสนนฺติ เตน ยถาภูตชานเนน ตํ าณํ ‘‘สมฺมาทสฺสน’’นฺติ ¶ วุจฺจติ. ปวตฺตนฺติ ทุกฺขปฺปตฺตากาเร สุขสฺํ อุคฺฆาเฏตฺวา สุขสฺาย ปหาเนน ปณิธิสงฺขาตาย ตณฺหาย ปหีนตฺตา สุขสมฺมตมฺปิ วิปากปวตฺตํ ยถาภูตํ ชานาติ. นิมิตฺตฺจ ปวตฺตฺจาติ นานาธาตุมนสิการสมฺภเวน สมูหฆนวินิพฺโภเคน อุภยถาปิ อตฺตสฺาย ปหีนตฺตา สงฺขารนิมิตฺตฺจ วิปากปวตฺตฺจ ยถาภูตํ ชานาติ. ยฺจ ยถาภูตํ าณนฺติอาทิตฺตยํ อิทานิ วุตฺตเมว, น อฺํ. ภยโต อุปฏฺาตีติ นิจฺจสุขอตฺตาภาวทสฺสนโต ยถากฺกมํ ตํ ตํ ภยโต อุปฏฺาติ. ยา จ ภยตุปฏฺาเน ปฺาติอาทินา ‘‘อุทยพฺพยานุปสฺสนาาณํ ภงฺคานุปสฺสนาาณํ ภยตุปฏฺานาณํ อาทีนวานุปสฺสนาาณํ นิพฺพิทานุปสฺสนาาณํ มฺุจิตุกมฺยตาาณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาณํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ อนุโลมาณ’’นฺติ วุตฺเตสุ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิสงฺขาเตสุ นวสุ วิปสฺสนาาเณสุ ภยตุปฏฺานสมฺพนฺเธน อวตฺถาเภเทน ภินฺนานิ เอกฏฺานิ ตีณิ าณานิ วุตฺตานิ, น เสสานิ.
ปุน ตีสุ อนุปสฺสนาสุ อนฺเต ิตาย อนนฺตราย อนตฺตานุปสฺสนาย ¶ สมฺพนฺเธน ตาย สห สฺุตานุปสฺสนาย เอกฏฺตํ ทสฺเสตุํ ยา จ อนตฺตานุปสฺสนา ยา จ สฺุตานุปสฺสนาติอาทิมาห. อิมานิ หิ ทฺเว าณานิ อตฺถโต เอกเมว, อวตฺถาเภเทน ปน ภินฺนานิ. ยถา จ อิมานิ, ตถา อนิจฺจานุปสฺสนา จ อนิมิตฺตานุปสฺสนา จ อตฺถโต เอกเมว าณํ, ทุกฺขานุปสฺสนา จ อปฺปณิหิตานุปสฺสนา จ อตฺถโต เอกเมว าณํ, เกวลํ อวตฺถาเภเทเนว ภินฺนานิ. อนตฺตานุปสฺสนาสฺุตานุปสฺสนานฺจ เอกฏฺตาย วุตฺตาย เตสํ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนมฺปิ าณานํ เอกลกฺขณตฺตา เอกฏฺตา วุตฺตาว โหตีติ. นิมิตฺตํ ปฏิสงฺขา าณํ อุปฺปชฺชตีติ ‘‘สงฺขารนิมิตฺตํ อทฺธุวํ ตาวกาลิก’’นฺติ อนิจฺจลกฺขณวเสน ชานิตฺวา าณํ อุปฺปชฺชติ. กามฺจ น ปมํ ชานิตฺวา ปจฺฉา าณํ อุปฺปชฺชติ, โวหารวเสน ปน ‘‘มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณ’’นฺติอาทีนิ (สํ. นิ. ๔.๖๐; ม. นิ. ๑.๔๐๐; ๓.๔๒๑) วิย เอวํ วุจฺจติ. สทฺทสตฺถวิทูปิ จ ‘‘อาทิจฺจํ ปาปุณิตฺวา ตโม วิคจฺฉตี’’ติอาทีสุ วิย สมานกาเลปิ อิมํ ปทํ อิจฺฉนฺติ. เอกตฺตนเยน วา ¶ ปุริมฺจ ปจฺฉิมฺจ เอกํ กตฺวา เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิมินา นเยน อิตรสฺมิมฺปิ ปททฺวเย อตฺโถ เวทิตพฺโพ. มฺุจิตุกมฺยตาทีนํ ติณฺณํ าณานํ เอกฏฺตา เหฏฺา วุตฺตนยา เอว.
นิมิตฺตา ¶ จิตฺตํ วุฏฺาตีติ สงฺขารนิมิตฺเต โทสทสฺสเนน ตตฺถ อนลฺลีนตาย สงฺขารนิมิตฺตา จิตฺตํ วุฏฺาติ นาม. อนิมิตฺเต จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ สงฺขารนิมิตฺตปฏิปกฺเขน อนิมิตฺตสงฺขาเต นิพฺพาเน ตนฺนินฺนตาย จิตฺตํ ปวิสติ. เสสานุปสฺสนาทฺวเยปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. นิโรเธ นิพฺพานธาตุยาติ อิธ วุตฺเตเนว ปมานุปสฺสนาทฺวยมฺปิ วุตฺตเมว โหติ. นิโรเธติปิ ปาโ. พหิทฺธาวุฏฺานวิวฏฺฏเน ปฺาติ วุฏฺานสมฺพนฺเธน โคตฺรภุาณํ วุตฺตํ. โคตฺรภู ธมฺมาติ โคตฺรภุาณเมว. อิตรถา หิ เอกฏฺตา น ยุชฺชติ. ‘‘อสงฺขตา ธมฺมา, อปฺปจฺจยา ธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๗, ๘) วิย วา จตุมคฺควเสน วา พหุวจนํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยสฺมา วิโมกฺโขติ มคฺโค, มคฺโค จ ทุภโตวุฏฺาโน, ตสฺมา เตน สมฺพนฺเธน ยา จ ทุภโตวุฏฺานวิวฏฺฏเน ปฺาติอาทิ วุตฺตํ.
๒๒๘. ปุน วิโมกฺขานํ นานากฺขณานํ เอกกฺขณปริยายํ ทสฺเสตุกาโม กติหากาเรหีติอาทิมาห. ตตฺถ อาธิปเตยฺยฏฺเนาติ เชฏฺกฏฺเน. อธิฏฺานฏฺเนาติ ปติฏฺานฏฺเน. อภินีหารฏฺเนาติ วิปสฺสนาวีถิโต นีหรณฏฺเน. นิยฺยานฏฺเนาติ นิพฺพานุปคมนฏฺเน. อนิจฺจโต มนสิกโรโตติ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนากฺขเณเยว ¶ . อนิมิตฺโต วิโมกฺโขติ มคฺคกฺขเณเยว. เอส นโย เสเสสุ. จิตฺตํ อธิฏฺาตีติ จิตฺตํ อธิกํ กตฺวา าติ, จิตฺตํ ปติฏฺาเปตีติ อธิปฺปาโย. จิตฺตํ อภินีหรตีติ วิปสฺสนาวีถิโต จิตฺตํ นีหรติ. นิโรธํ นิพฺพานํ นิยฺยาตีติ นิโรธสงฺขาตํ นิพฺพานํ อุปคจฺฉตีติ เอวํ อาการนานตฺตโต จตุธา นานากฺขณตา ทสฺสิตา.
เอกกฺขณตาย สโมธานฏฺเนาติ เอกชฺฌํ สโมสรณฏฺเน. อธิคมนฏฺเนาติ วินฺทนฏฺเน. ปฏิลาภฏฺเนาติ ปาปุณนฏฺเน. ปฏิเวธฏฺเนาติ าเณน ปฏิวิชฺฌนฏฺเน. สจฺฉิกิริยฏฺเนาติ ปจฺจกฺขกรณฏฺเน. ผสฺสนฏฺเนาติ าณผุสนาย ผุสนฏฺเน. อภิสมยฏฺเนาติ อภิมุขํ สมาคมนฏฺเน. เอตฺถ ‘‘สโมธานฏฺเนา’’ติ มูลปทํ, เสสานิ อธิคมเววจนานิ. ตสฺมาเยว หิ สพฺเพสํ เอกโต วิสฺสชฺชนํ กตํ. นิมิตฺตา มุจฺจตีติ นิจฺจนิมิตฺตโต มุจฺจติ. อิมินา วิโมกฺขฏฺโ วุตฺโต. ยโต มุจฺจตีติ ยโต นิมิตฺตโต มุจฺจติ. ตตฺถ น ปณิทหตีติ ตสฺมึ นิมิตฺเต ¶ ปตฺถนํ น กโรติ. ยตฺถ น ปณิทหตีติ ยสฺมึ นิมิตฺเต น ปณิทหติ. เตน สฺุโติ ¶ เตน นิมิตฺเตน สฺุโ. เยน สฺุโติ เยน นิมิตฺเตน สฺุโ. เตน นิมิตฺเตน อนิมิตฺโตติ อิมินา อนิมิตฺตฏฺโ วุตฺโต.
ปณิธิยา มุจฺจตีติ ปณิธิโต มุจฺจติ. ‘‘ปณิธิ มุจฺจตี’’ติ ปาโ นิสฺสกฺกตฺโถเยว. อิมินา วิโมกฺขฏฺโ วุตฺโต. ยตฺถ น ปณิทหตีติ ยสฺมึ ทุกฺเข น ปณิทหติ. เตน สฺุโติ เตน ทุกฺเขน สฺุโ. เยน สฺุโติ เยน ทุกฺขนิมิตฺเตน สฺุโ. เยน นิมิตฺเตนาติ เยน ทุกฺขนิมิตฺเตน. ตตฺถ น ปณิทหตีติ อิมินา อปฺปณิหิตฏฺโ วุตฺโต. อภินิเวสา มุจฺจตีติ อิมินา วิโมกฺขฏฺโ วุตฺโต. เยน สฺุโติ เยน อภินิเวสนิมิตฺเตน สฺุโ. เยน นิมิตฺเตนาติ เยน อภินิเวสนิมิตฺเตน. ยตฺถ น ปณิทหติ, เตน สฺุโติ ยสฺมึ อภินิเวสนิมิตฺเต น ปณิทหติ, เตน อภินิเวสนิมิตฺเตน สฺุโ. อิมินา สฺุตฏฺโ วุตฺโต.
๒๒๙. ปุน อฏฺวิโมกฺขาทีนิ นิทฺทิสิตุกาโม อตฺถิ วิโมกฺโขติอาทิมาห. ตตฺถ นิจฺจโต อภินิเวสาติอาทีนิ สฺาวิโมกฺเข วุตฺตนเยน เวทิตพฺพานิ. สพฺพาภินิเวเสหีติ วุตฺตปฺปกาเรหิ อภินิเวเสหิ. อิติ อภินิเวสมุจฺจนวเสน สฺุตวิโมกฺขา นาม ชาตา, เตเยว นิจฺจาทินิมิตฺตมุจฺจนวเสน อนิมิตฺตวิโมกฺขา, นิจฺจนฺติอาทิปณิธีหิ มุจฺจนวเสน อปฺปณิหิตวิโมกฺขา. เอตฺถ จ ปณิธิ มุจฺจตีติ สพฺพตฺถ นิสฺสกฺกตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปณิธิยา ¶ มุจฺจตีติ วา ปาโ. ‘‘สพฺพปณิธีหิ มุจฺจตี’’ติ เจตฺถ สาธกํ. เอวํ ติสฺโส อนุปสฺสนา ตทงฺควิโมกฺขตฺตา จ สมุจฺเฉทวิโมกฺขสฺส ปจฺจยตฺตา จ ปริยาเยน วิโมกฺขาติ วุตฺตา.
๒๓๐. ตตฺถ ชาตาติ อนนฺตเร วิปสฺสนาวิโมกฺเขปิ สติ อิมิสฺสา กถาย มคฺควิโมกฺขาธิการตฺตา ตสฺมึ มคฺควิโมกฺเข ชาตาติ วุตฺตํ โหติ. อนวชฺชกุสลาติ ราคาทิวชฺชวิรหิตา กุสลา. วิจฺเฉทํ กตฺวา วา ปาโ. โพธิปกฺขิยา ธมฺมาติ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา ¶ , อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๕, ๔๓; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๒๒; มิ. ป. ๕.๔.๑) วุตฺตา สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา. อิทํ มุขนฺติ อิทํ วุตฺตปฺปการํ ธมฺมชาตํ อารมฺมณโต นิพฺพานปเวสาย มุขตฺตา มุขํ นามาติ วุตฺตํ โหติ. เตสํ ธมฺมานนฺติ เตสํ โพธิปกฺขิยานํ ธมฺมานํ. อิทํ วิโมกฺขมุขนฺติ นิพฺพานํ วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณวิโมกฺเขสุ นิสฺสรณวิโมกฺโขว, ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว ¶ , ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ ธมฺมานํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อิติวุ. ๙๐; อ. นิ. ๔.๓๔) วุตฺตตฺตา อุตฺตมฏฺเน มุขฺจาติ วิโมกฺขมุขํ. วิโมกฺขฺจ ตํ มุขฺจ วิโมกฺขมุขนฺติ กมฺมธารยสมาสวเสน อยเมว อตฺโถ วุตฺโต. วิโมกฺขฺจาติ เอตฺถ ลิงฺควิปลฺลาโส กโต. ตีณิ อกุสลมูลานีติ โลภโทสโมหา. ตีณิ ทุจฺจริตานีติ กายวจีมโนทุจฺจริตานิ. สพฺเพปิ อกุสลา ธมฺมาติ อกุสลมูเลหิ สมฺปยุตฺตา ทุจฺจริเตหิ สมฺปยุตฺตา จ อสมฺปยุตฺตา จ เสวิตพฺพโทมนสฺสาทีนิ เปตฺวา สพฺเพปิ อกุสลา ธมฺมา. กุสลมูลสุจริตานิ วุตฺตปฏิปกฺเขน เวทิตพฺพานิ. สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมาติ วุตฺตนเยเนว สมฺปยุตฺตา อสมฺปยุตฺตา จ วิโมกฺขสฺส อุปนิสฺสยภูตา สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา. วิวฏฺฏกถา เหฏฺา วุตฺตา. วิโมกฺขวิวฏฺฏสมฺพนฺเธน ปเนตฺถ เสสวิวฏฺฏาปิ วุตฺตา. อาเสวนาติ อาทิโต เสวนา. ภาวนาติ ตสฺเสว วฑฺฒนา. พหุลีกมฺมนฺติ ตสฺเสว วสิปฺปตฺติยา ปุนปฺปุนํ กรณํ. มคฺคสฺส ปน เอกกฺขเณเยว กิจฺจสาธนวเสน อาเสวนาทีนิ เวทิตพฺพานิ. ปฏิลาโภ วา วิปาโก วาติอาทีนิ เหฏฺา วุตฺตตฺถาเนวาติ.
วิโมกฺขนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฏิสมฺภิทามคฺค-อฏฺกถาย
วิโมกฺขกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. คติกถา
คติกถาวณฺณนา
๒๓๑. อิทานิ ¶ ¶ ตสฺสา วิโมกฺขุปฺปตฺติยา เหตุภูตํ เหตุสมฺปตฺตึ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย คติกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ทุเหตุกปฏิสนฺธิกสฺสาปิ หิ ‘‘นตฺถิ ฌานํ อปฺสฺสา’’ติ (ธ. ป. ๓๗๒) วจนโต ฌานมฺปิ น อุปฺปชฺชติ, กึ ¶ ปน วิโมกฺโข. ตตฺถ คติสมฺปตฺติยาติ นิรยติรจฺฉานโยนิเปตฺติวิสยมนุสฺสเทวสงฺขาตาสุ ปฺจสุ คตีสุ มนุสฺสเทวสงฺขาตาย คติสมฺปตฺติยา. เอเตน ปุริมา ติสฺโส คติวิปตฺติโย ปฏิกฺขิปติ. คติยา สมฺปตฺติ คติสมฺปตฺติ, สุคตีติ วุตฺตํ โหติ. คตีติ จ สโหกาสา ขนฺธา. ปฺจสุ จ คตีสุ เปตฺติวิสยคฺคหเณเนว อสุรกาโยปิ คหิโต. เทวาติ ฉ กามาวจรเทวา พฺรหฺมาโน จ. เทวคฺคหเณน อสุราปิ สงฺคหิตา. าณสมฺปยุตฺเตติ าณสมฺปยุตฺตปฏิสนฺธิกฺขเณ. ขโณปิ หิ าณสมฺปยุตฺตโยเคน เตเนว โวหาเรน วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. กตินํ เหตูนนฺติ อโลภาโทสาโมหเหตูสุ กตินํ เหตูนํ. อุปปตฺตีติ อุปปชฺชนํ, นิพฺพตฺตีติ อตฺโถ.
ยสฺมา ปน สุทฺทกุลชาตาปิ ติเหตุกา โหนฺติ, ตสฺมา เต สนฺธาย ปมปุจฺฉา. ยสฺมา จ เยภุยฺเยน มหาปฺุา ตีสุ มหาสาลกุเลสุ ชายนฺติ, ตสฺมา เตสํ ติณฺณํ กุลานํ วเสน ติสฺโส ปุจฺฉา. ปาโ ปน สงฺขิตฺโต. มหตี สาลา เอเตสนฺติ มหาสาลา, มหาฆรา มหาวิภวาติ อตฺโถ. อถ วา มหา สาโร เอเตสนฺติ มหาสาราติ วตฺตพฺเพ ร-การสฺส ล-การํ กตฺวา ‘‘มหาสาลา’’ติ วุตฺตํ. ขตฺติยา มหาสาลา, ขตฺติเยสุ วา มหาสาลาติ ขตฺติยมหาสาลา. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ยสฺส ขตฺติยสฺส เคเห ปจฺฉิมนฺเตน โกฏิสตํ ธนํ นิธานคตํ โหติ, กหาปณานฺจ วีสติ อมฺพณานิ ทิวสํ วลฺเช นิกฺขมนฺติ, อยํ ขตฺติยมหาสาโล นาม. ยสฺส พฺราหฺมณสฺส เคเห ปจฺฉิมนฺเตน อสีติโกฏิธนํ นิธานคตํ โหติ, กหาปณานฺจ ทส อมฺพณานิ ทิวสํ วลฺเช นิกฺขมนฺติ, อยํ พฺราหฺมณมหาสาโล นาม. ยสฺส คหปติสฺส เคเห ปจฺฉิมนฺเตน จตฺตาลีสโกฏิธนํ นิธานคตํ โหติ, กหาปณานฺจ ปฺจ อมฺพณานิ ทิวสํ วลฺเช นิกฺขมนฺติ, อยํ คหปติมหาสาโล นาม.
รูปาวจรานํ ¶ อรูปาวจรานฺจ เอกนฺตติเหตุกตฺตา ‘‘าณสมฺปยุตฺเต’’ติ น วุตฺตํ, มนุสฺเสสุ ปน ทุเหตุกาเหตุกานฺจ สพฺภาวโต, กามาวจเรสุ เทเวสุ ทุเหตุกานฺจ สพฺภาวโต เสเสสุ ‘‘าณสมฺปยุตฺเต’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถ จ กามาวจรเทวา ปฺจกามคุณรติยา ¶ กีฬนฺติ, สรีรชุติยา จ โชตนฺตีติ เทวา, รูปาวจรพฺรหฺมาโน ฌานรติยา กีฬนฺติ ¶ , สรีรชุติยา จ โชตนฺตีติ เทวา, อรูปาวจรพฺรหฺมาโน ฌานรติยา กีฬนฺติ, าณชุติยา จ โชตนฺตีติ เทวา.
๒๓๒. กุสลกมฺมสฺส ชวนกฺขเณติ อตีตชาติยา อิธ ติเหตุกปฏิสนฺธิชนกสฺส ติเหตุกกามาวจรกุสลกมฺมสฺส จ ชวนวีถิยํ ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติวเสน สตฺตวารํ ชวนกฺขเณ, ปวตฺตนกาเลติ อตฺโถ. ตโย เหตู กุสลาติ อโลโภ กุสลเหตุ อโทโส กุสลเหตุ อโมโห กุสลเหตุ. ตสฺมึ ขเณ ชาตเจตนายาติ ตสฺมึ วุตฺตกฺขเณเยว ชาตาย กุสลเจตนาย. สหชาตปจฺจยา โหนฺตีติ อุปฺปชฺชมานา จ สหอุปฺปาทนภาเวน อุปการกา โหนฺติ. เตน วุจฺจตีติ เตน สหชาตปจฺจยภาเวเนว วุจฺจติ. กุสลมูลปจฺจยาปิ สงฺขาราติ เอกจิตฺตกฺขณิกปจฺจยาการนเยน วุตฺตํ. ‘‘สงฺขารา’’ติ จ พหุวจเนน ตตฺถ สงฺขารกฺขนฺธสงฺคหิตา สพฺเพ เจตสิกา คหิตาติ เวทิตพฺพํ. อปิสทฺเทน สงฺขารปจฺจยาปิ กุสลมูลานีติปิ วุตฺตํ โหติ.
นิกนฺติกฺขเณติ อตฺตโน วิปากํ ทาตุํ ปจฺจุปฏฺิตกมฺเม วา ตถา ปจฺจุปฏฺิตกมฺเมน อุปฏฺาปิเต กมฺมนิมิตฺเต วา คตินิมิตฺเต วา อุปฺปชฺชมานานํ นิกนฺติกฺขเณ. นิกนฺตีติ นิกามนา ปตฺถนา. อาสนฺนมรณสฺส หิ โมเหน อากุลจิตฺตตฺตา อวีจิชาลายปิ นิกนฺติ อุปฺปชฺชติ, กึ ปน เสเสสุ นิมิตฺเตสุ. ทฺเว เหตูติ โลโภ อกุสลเหตุ โมโห อกุสลเหตุ. ภวนิกนฺติ ปน ปฏิสนฺธิอนนฺตรํ ปวตฺตภวงฺควีถิโต วุฏฺิตมตฺตสฺเสว อตฺตโน ขนฺธสนฺตานํ อารพฺภ สพฺเพสมฺปิ อุปฺปชฺชติ. ‘‘ยสฺส วา ปน ยตฺถ อกุสลา ธมฺมา น อุปฺปชฺชิตฺถ, ตสฺส ตตฺถ กุสลา ธมฺมา น อุปฺปชฺชิตฺถาติ อามนฺตา’’ติ เอวมาทิ อิทเมว สนฺธาย วุตฺตํ. ตสฺมึ ขเณ ชาตเจตนายาติ อกุสลเจตนาย.
ปฏิสนฺธิกฺขเณติ เตน กมฺเมน คหิตปฏิสนฺธิกฺขเณ. ตโย เหตูติ อโลโภ อพฺยากตเหตุ อโทโส อพฺยากตเหตุ อโมโห อพฺยากตเหตุ. ตสฺมึ ขเณ ชาตเจตนายาติ วิปากาพฺยากตเจตนาย. นามรูปปจฺจยาปิ วิฺาณนฺติ เอตฺถ ตสฺมึ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ตโย วิปากเหตู เสสเจตสิกา จ นามํ, หทยวตฺถุ รูปํ. ตโต ¶ นามรูปปจฺจยโตปิ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ ปวตฺตติ. วิฺาณปจฺจยาปิ นามรูปนฺติ เอตฺถาปิ นามํ วุตฺตปฺปการเมว, รูปํ ปน อิธ สเหตุกมนุสฺสปฏิสนฺธิยา อธิปฺเปตตฺตา คพฺภเสยฺยกานํ วตฺถุทสกํ กายทสกํ ภาวทสกนฺติ ¶ สมตึส รูปานิ, สํเสทชานํ โอปปาติกานฺจ ปริปุณฺณายตนานํ จกฺขุทสกํ โสตทสกํ ฆานทสกํ ชิวฺหาทสกฺจาติ สมสตฺตติ รูปานิ. ตํ วุตฺตปฺปการํ นามรูปํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปฏิสนฺธิวิฺาณปจฺจยา ปวตฺตติ.
ปฺจกฺขนฺธาติ ¶ เอตฺถ ปฏิสนฺธิจิตฺเตน ปฏิสนฺธิกฺขเณ ลพฺภมานานิ รูปานิ รูปกฺขนฺโธ, สหชาตา เวทนา เวทนากฺขนฺโธ, สฺา สฺากฺขนฺโธ, เสสเจตสิกา สงฺขารกฺขนฺโธ, ปฏิสนฺธิจิตฺตํ วิฺาณกฺขนฺโธ. สหชาตปจฺจยา โหนฺตีติ จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธา อฺมฺํ สหชาตปจฺจยา โหนฺติ, รูปกฺขนฺเธ จตฺตาโร มหาภูตา อฺมฺํ สหชาตปจฺจยา โหนฺติ, อรูปิโน ขนฺธา จ หทยรูปฺจ อฺมฺํ สหชาตปจฺจยา โหนฺติ, มหาภูตาปิ อุปาทารูปานํ สหชาตปจฺจยา โหนฺติ. อฺมฺปจฺจยา โหนฺตีติ อฺมฺํ อุปฺปาทนุปตฺถมฺภนภาเวน อุปการกา โหนฺติ, จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธา จ อฺมฺปจฺจยา โหนฺติ, จตฺตาโร มหาภูตา อฺมฺปจฺจยา โหนฺติ. นิสฺสยปจฺจยา โหนฺตีติ อธิฏฺานากาเรน นิสฺสยากาเรน จ อุปการกา โหนฺติ, จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธา จ อฺมฺํ นิสฺสยปจฺจยา โหนฺตีติ สหชาตา วิย วิตฺถาเรตพฺพา. วิปฺปยุตฺตปจฺจยา โหนฺตีติ เอกวตฺถุกาทิภาวานุปคมเนน วิปฺปยุตฺตภาเวน อุปการกา โหนฺติ, อรูปิโน ขนฺธา ปฏิสนฺธิรูปานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจยา โหนฺติ, หทยรูปํ อรูปีนํ ขนฺธานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจโย โหติ. ‘‘ปฺจกฺขนฺธา’’ติ เหตฺถ เอวํ ยถาลาภวเสน วุตฺตํ.
จตฺตาโร มหาภูตาติ เอตฺถ ตโย ปจฺจยา ปมํ วุตฺตาเยว. ตโย ชีวิตสงฺขาราติ อายุ จ อุสฺมา จ วิฺาณฺจ. อายูติ รูปชีวิตินฺทฺริยํ อรูปชีวิตินฺทฺริยฺจ. อุสฺมาติ เตโชธาตุ. วิฺาณนฺติ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ. เอตานิ หิ อุปรูปริ ชีวิตสงฺขารํ สงฺขโรนฺติ ปวตฺเตนฺตีติ ชีวิตสงฺขารา. สหชาตปจฺจยา โหนฺตีติ อรูปชีวิตินฺทฺริยํ ปฏิสนฺธิวิฺาณฺจ สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานฺจ หทยรูปสฺส จ อฺมฺสหชาตปจฺจยา โหนฺติ, เตโชธาตุ ติณฺณํ มหาภูตานํ อฺมฺสหชาตปจฺจโย โหติ, อุปาทารูปานํ สหชาตปจฺจโยว, รูปชีวิตินฺทฺริยํ ¶ สหชาตรูปานํ ปริยาเยน สหชาตปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพํ. อฺมฺปจฺจยา โหนฺติ, นิสฺสยปจฺจยา โหนฺตีติ ทฺวยํ อรูปชีวิตินฺทฺริยํ ปฏิสนฺธิวิฺาณฺจ สมฺปยุตฺตขนฺธานํ อฺมฺปจฺจยา โหนฺติ. อฺมฺนิสฺสยปจฺจยา โหนฺตีติ วุตฺตนเยเนว โยเชตฺวา เวทิตพฺพํ. วิปฺปยุตฺตปจฺจยา โหนฺตีติ อรูปชีวิตินฺทฺริยํ ปฏิสนฺธิวิฺาณฺจ ปฏิสนฺธิรูปานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจยา โหนฺติ. รูปชีวิตินฺทฺริยํ ปน อฺมฺนิสฺสยวิปฺปยุตฺตปจฺจยตฺเต น ยุชฺชติ. ตสฺมา ‘‘ตโย ชีวิตสงฺขารา’’ติ ยถาลาภวเสน ¶ วุตฺตํ. นามฺจ รูปฺจ วุตฺตนเยเนว จตุปจฺจยตฺเต โยเชตพฺพํ. จุทฺทส ¶ ธมฺมาติ ปฺจกฺขนฺธา, จตฺตาโร มหาภูตา, ตโย ชีวิตสงฺขารา, นามฺจ รูปฺจาติ เอวํ คณนาวเสน จุทฺทส ธมฺมา. เตสฺจ อุปริ อฺเสฺจ สหชาตาทิปจฺจยภาโว วุตฺตนโย เอว. สมฺปยุตฺตปจฺจยา โหนฺตีติ ปุน เอกวตฺถุกเอการมฺมณเอกุปฺปาทเอกนิโรธสงฺขาเตน สมฺปยุตฺตภาเวน อุปการกา โหนฺติ.
ปฺจินฺทฺริยานีติ สทฺธินฺทฺริยาทีนิ. นามฺจาติ อิธ เวทนาทโย ตโย ขนฺธา. วิฺาณฺจาติ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ. ปุน จุทฺทส ธมฺมาติ จตฺตาโร ขนฺธา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ตโย เหตู, นามฺจ วิฺาณฺจาติ เอวํ คณนาวเสน จุทฺทส ธมฺมา. อฏฺวีสติ ธมฺมาติ ปุริมา จ จุทฺทส, อิเม จ จุทฺทสาติ อฏฺวีสติ. อิธ รูปสฺสาปิ ปวิฏฺตฺตา สมฺปยุตฺตปจฺจยํ อปเนตฺวา วิปฺปยุตฺตปจฺจโย วุตฺโต.
เอวํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิชฺชมานสฺส ตสฺส ตสฺส ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส ธมฺมสฺส ตํ ตํ ปจฺจยเภทํ ทสฺเสตฺวา ปมํ นิทฺทิฏฺเ เหตู นิคเมตฺวา ทสฺเสนฺโต อิเมสํ อฏฺนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา อุปปตฺติ โหตีติ อาห. กมฺมายูหนกฺขเณ ตโย กุสลเหตู, นิกนฺติกฺขเณ ทฺเว อกุสลเหตู, ปฏิสนฺธิกฺขเณ ตโย อพฺยากตเหตูติ เอวํ อฏฺ เหตู. ตตฺถ ตโย กุสลเหตู, ทฺเว อกุสลเหตู จ อิธ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปวตฺติยา อุปนิสฺสยปจฺจยา โหนฺติ. ตโย อพฺยากตเหตู ยถาโยคํ เหตุปจฺจยสหชาตปจฺจยวเสน ปจฺจยา โหนฺติ. เสสวาเรสุปิ เอเสว นโย.
อรูปาวจรานํ ปน รูปาภาวา นามปจฺจยาปิ วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยาปิ นามนฺติ วุตฺตํ. รูปมิสฺสกจุทฺทสโกปิ จ ปริหีโน. ตสฺส ปริหีนตฺตา ‘‘อฏฺวีสติ ธมฺมา’’ติ วาโร จ น ลพฺภติ.
๒๓๓. อิทานิ ¶ วิโมกฺขสฺส ปจฺจยภูตํ ติเหตุกปฏิสนฺธึ ทสฺเสตฺวา เตเนว สมฺพนฺเธน ทุเหตุกปฏิสนฺธิวิเสสฺจ ทสฺเสตุกาโม คติสมฺปตฺติยา าณวิปฺปยุตฺเตติอาทิมาห. กุสลกมฺมสฺส ชวนกฺขเณติ อตีตชาติยา อิธ ปฏิสนฺธิชนกสฺส ทุเหตุกกุสลกมฺมสฺส วุตฺตนเยเนว ชวนกฺขเณ. ทฺเว เหตูติ าณวิปฺปยุตฺตตฺตา อโลโภ กุสลเหตุ อโทโส กุสลเหตุ. ทฺเว อพฺยากตเหตูปิ อโลภาโทสาเยว.
จตฺตาริ อินฺทฺริยานีติ ปฺินฺทฺริยวชฺชานิ สทฺธินฺทฺริยาทีนิ จตฺตาริ. ทฺวาทส ธมฺมาติ ¶ ปฺินฺทฺริยสฺส ¶ อโมหเหตุสฺส จ ปริหีนตฺตา ทฺวาทส. เตสํ ทฺวินฺนํเยว ปริหีนตฺตา ฉพฺพีสติ. ฉนฺนํ เหตูนนฺติ ทฺวินฺนํ กุสลเหตูนํ, ทฺวินฺนํ อกุสลเหตูนํ, ทฺวินฺนํ วิปากเหตูนนฺติ เอวํ ฉนฺนํ เหตูนํ. รูปารูปาวจรา ปเนตฺถ เอกนฺตติเหตุกตฺตา น คหิตา. เสสํ ปมวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิมสฺมึ วาเร ทุเหตุกปฏิสนฺธิยา ทุเหตุกกมฺมสฺเสว วุตฺตตฺตา ติเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกปฏิสนฺธิ น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมา ยํ ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๙๘) ติปิฏกมหาธมฺมรกฺขิตตฺเถรวาเท ‘‘ติเหตุกกมฺเมน ปฏิสนฺธิ ติเหตุกาว โหติ, ทุเหตุกาเหตุกา น โหติ. ทุเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกาเหตุกา โหติ, ติเหตุกา น โหตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ อิมาย ปาฬิยา สเมติ. ยํ ปน ติปิฏกจูฬนาคตฺเถรสฺส จ โมรวาปิวาสิมหาทตฺตตฺเถรสฺส จ วาเทสุ ‘‘ติเหตุกกมฺเมน ปฏิสนฺธิ ติเหตุกาปิ โหติ ทุเหตุกาปิ, อเหตุกา น โหติ. ทุเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกาปิ โหติ อเหตุกาปิ, ติเหตุกา น โหตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ อิมาย ปาฬิยา วิรุทฺธํ วิย ทิสฺสติ. อิมิสฺสา กถาย เหตุอธิการตฺตา อเหตุกปฏิสนฺธิ น วุตฺตาติ.
คติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. กมฺมกถาวณฺณนา
กมฺมกถาวณฺณนา
๒๓๔. อิทานิ ¶ ตสฺสา เหตุสมฺปตฺติยา ปจฺจยภูตํ กมฺมํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย กมฺมกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ อโหสิ กมฺมํ อโหสิ กมฺมวิปาโกติอาทีสุ อตีตภเวสุ กตสฺส กมฺมสฺส อตีตภเวสุเยว ¶ วิปกฺกวิปากํ คเหตฺวา ‘‘อโหสิ กมฺมํ อโหสิ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตํ. ตสฺเสว อตีตสฺส กมฺมสฺส ทิฏฺธมฺมเวทนียสฺส อุปปชฺชเวทนียสฺส จ ปจฺจยเวกลฺเลน อตีตภเวสุเยว อวิปกฺกวิปากฺจ อตีเตเยว ปรินิพฺพุตสฺส จ ทิฏฺธมฺมเวทนียอุปปชฺชเวทนียอปรปริยายเวทนียสฺส กมฺมสฺส อวิปกฺกวิปากฺจ คเหตฺวา อโหสิ กมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. อตีตสฺเสว กมฺมสฺส อวิปกฺกวิปากสฺส ปจฺจุปฺปนฺนภเว ปจฺจยสมฺปตฺติยา วิปจฺจมานํ วิปากํ คเหตฺวา อโหสิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. อตีตสฺเสว กมฺมสฺส อติกฺกนฺตวิปากกาลสฺส จ ปจฺจุปฺปนฺนภเว ปรินิพฺพายนฺตสฺส จ อวิปจฺจมานํ ¶ วิปากํ คเหตฺวา อโหสิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. อตีตสฺเสว กมฺมสฺส วิปาการหสฺส อวิปกฺกวิปากสฺส อนาคเต ภเว ปจฺจยสมฺปตฺติยา วิปจฺจิตพฺพํ วิปากํ คเหตฺวา อโหสิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. อตีตสฺเสว กมฺมสฺส อติกฺกนฺตวิปากกาลสฺส จ อนาคตภเว ปรินิพฺพายิตพฺพสฺส จ อวิปจฺจิตพฺพํ วิปากํ คเหตฺวา อโหสิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. เอวํ อตีตกมฺมํ อตีตปจฺจุปฺปนฺนานาคตวิปากาวิปากวเสน ฉธา ทสฺสิตํ.
ปจฺจุปฺปนฺนภเว กตสฺส ทิฏฺธมฺมเวทนียสฺส กมฺมสฺส อิเธว วิปจฺจมานํ วิปากํ คเหตฺวา อตฺถิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ตสฺเสว ปจฺจุปฺปนฺนสฺส กมฺมสฺส ปจฺจยเวกลฺเลน อิธ อวิปจฺจมานฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ปรินิพฺพายนฺตสฺส อิธ อวิปจฺจมานฺจ วิปากํ คเหตฺวา อตฺถิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ปจฺจุปฺปนฺนสฺเสว กมฺมสฺส อุปปชฺชเวทนียสฺส จ อปรปริยายเวทนียสฺส จ อนาคตภเว วิปจฺจิตพฺพํ วิปากํ คเหตฺวา อตฺถิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ปจฺจุปฺปนฺนสฺเสว กมฺมสฺส อุปปชฺชเวทนียสฺส ปจฺจยเวกลฺเลน อนาคตภเว ¶ อวิปจฺจิตพฺพฺจ อนาคตภเว ปรินิพฺพายิตพฺพสฺส อปรปริยายเวทนียสฺส อวิปจฺจิตพฺพฺจ วิปากํ คเหตฺวา อตฺถิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. เอวํ ปจฺจุปฺปนฺนกมฺมํ ปจฺจุปฺปนฺนานาคตวิปากาวิปากวเสน จตุธา ทสฺสิตํ.
อนาคตภเว กาตพฺพสฺส กมฺมสฺส อนาคตภเว วิปจฺจิตพฺพํ วิปากํ คเหตฺวา ภวิสฺสติ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ตสฺเสว อนาคตสฺส ¶ กมฺมสฺส ปจฺจยเวกลฺเลน อวิปจฺจิตพฺพฺจ อนาคตภเว ปรินิพฺพายิตพฺพสฺส อวิปจฺจิตพฺพฺจ วิปากํ คเหตฺวา ภวิสฺสติ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. เอวํ อนาคตกมฺมํ อนาคตวิปากาวิปากวเสน ทฺวิธา ทสฺสิตํ. ตํ สพฺพํ เอกโต กตฺวา ทฺวาทสวิเธน กมฺมํ ทสฺสิตํ โหติ.
อิมสฺมึ าเน ตฺวา ตีณิ กมฺมจตุกฺกานิ อาหริตฺวา วุจฺจนฺติ – เตสุ หิ วุตฺเตสุ อยมตฺโถ ปากฏตโร ภวิสฺสตีติ. จตุพฺพิธฺหิ กมฺมํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ อุปปชฺชเวทนียํ อปรปริยายเวทนียํ อโหสิกมฺมนฺติ. เตสุ เอกชวนวีถิยํ สตฺตสุ จิตฺเตสุ กุสลา วา อกุสลา วา ปมชวนเจตนา ทิฏฺธมฺมเวทนียกมฺมํ นาม. ตํ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว วิปากํ เทติ. ตถา อสกฺโกนฺตํ ปน ‘‘อโหสิ กมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโก, น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, นตฺถิ กมฺมวิปาโก’’ติ อิมสฺส ติกสฺส วเสน ¶ อโหสิกมฺมํ นาม โหติ. อตฺถสาธิกา ปน สตฺตมชวนเจตนา อุปปชฺชเวทนียกมฺมํ นาม. ตํ อนนฺตเร อตฺตภาเว วิปากํ เทติ. ตถา อสกฺโกนฺตํ วุตฺตนเยเนว อโหสิกมฺมํ นาม โหติ. อุภินฺนํ อนฺตเร ปน ปฺจชวนเจตนา อปรปริยายเวทนียกมฺมํ นาม. ตํ อนาคเต ยทา โอกาสํ ลภติ, ตทา วิปากํ เทติ. สติ สํสารปฺปวตฺติยา อโหสิกมฺมํ นาม น โหติ.
อปรมฺปิ จตุพฺพิธํ กมฺมํ ยคฺครุกํ ยพฺพหุลํ ยทาสนฺนํ กฏตฺตา วา ปน กมฺมนฺติ. ตตฺถ กุสลํ วา โหตุ อกุสลํ วา, ครุกาครุเกสุ ยํ ครุกํ มาตุฆาตาทิกมฺมํ วา มหคฺคตกมฺมํ วา, ตเทว ปมํ วิปจฺจติ. ตถา พหุลาพหุเลสุปิ ยํ พหุลํ โหติ สุสีลฺยํ วา ทุสฺสีลฺยํ วา, ตเทว ปมํ วิปจฺจติ. ยทาสนฺนํ นาม มรณกาเล อนุสฺสริตกมฺมํ วา กตกมฺมํ วา. ยฺหิ อาสนฺนมรเณ อนุสฺสริตุํ สกฺโกติ กาตุํ วา, เตเนว อุปปชฺชติ. เอเตหิ ปน ตีหิ มุตฺตํ ปุนปฺปุนํ ลทฺธาเสวนํ กฏตฺตา วา ปน กมฺมํ นาม โหติ. เตสํ อภาเว ตํ ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒติ.
อปรํ ¶ วา จตุพฺพิธํ กมฺมํ ชนกํ อุปตฺถมฺภกํ อุปปีฬกํ อุปฆาตกนฺติ. ตตฺถ ชนกํ นาม กุสลมฺปิ โหติ อกุสลมฺปิ. ตํ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเตปิ รูปารูปวิปากํ ¶ ชเนติ. อุปตฺถมฺภกํ ปน ชเนตุํ น สกฺโกติ, อฺเน กมฺเมน ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา ชนิเต วิปาเก อุปฺปชฺชนกสุขทุกฺขํ อุปตฺถมฺเภติ, อทฺธานํ ปวตฺเตติ. อุปปีฬกํ อฺเน กมฺเมน ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา ชนิเต วิปาเก อุปฺปชฺชนกสุขทุกฺขํ ปีเฬติ พาธติ, อทฺธานํ ปวตฺติตุํ น เทติ. อุปฆาตกํ ปน กุสลมฺปิ อกุสลมฺปิ สมานํ อฺํ ทุพฺพลกมฺมํ ฆาเตตฺวา ตสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กโรติ. เอวํ ปน กมฺเมน กเต โอกาเส ตํ วิปากํ อุปฺปนฺนํ นาม วุจฺจติ.
อิติ อิเมสํ ทฺวาทสนฺนํ กมฺมานํ กมฺมนฺตรฺจ วิปากนฺตรฺจ พุทฺธานํ กมฺมวิปากาณสฺเสว ยาถาวสรสโต ปากฏํ โหติ อสาธารณํ สาวเกหิ. วิปสฺสเกน ปน กมฺมนฺตรํ วิปากนฺตรฺจ เอกเทสโต ชานิตพฺพํ. ตสฺมา อยํ มุขมตฺตทสฺสเนน กมฺมวิเสโส ปกาสิโตติ.
๒๓๕. เอวํ สุทฺธิกกมฺมวเสน ปมวารํ วตฺวา ตเทว กมฺมํ ทฺวิธา วิภชิตฺวา กุสลากุสลาทิยุคลวเสน ทสหิ ปริยาเยหิ อปเร ทส วารา วุตฺตา. ตตฺถ อาโรคฺยฏฺเน กุสลํ, อนาโรคฺยฏฺเน อกุสลํ, อิทํ ทุกํ ชาติวเสน วุตฺตํ. อกุสลเมว ¶ ราคาทิโทสสํโยเคน สาวชฺชํ, กุสลํ ตทภาเวน อนวชฺชํ. อกุสลํ อปริสุทฺธตฺตา, กณฺหาภิชาติเหตุตฺตา วา กณฺหํ, กุสลํ ปริสุทฺธตฺตา, สุกฺกาภิชาติเหตุตฺตา วา สุกฺกํ. กุสลํ สุขวุทฺธิมตฺตา สุขุทฺรยํ, อกุสลํ ทุกฺขวุทฺธิมตฺตา ทุกฺขุทฺรยํ. กุสลํ สุขผลวตฺตา สุขวิปากํ, อกุสลํ ทุกฺขผลวตฺตา ทุกฺขวิปากนฺติ เอวเมเตสํ นานากาโร เวทิตพฺโพติ.
กมฺมกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. วิปลฺลาสกถา
วิปลฺลาสกถาวณฺณนา
๒๓๖. อิทานิ ¶ ตสฺส กมฺมสฺส ปจฺจยภูเต วิปลฺลาเส ทสฺเสนฺเตน กถิตาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย วิปลฺลาสกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. สุตฺตนฺเต ตาว สฺาวิปลฺลาสาติ สฺาย วิปลฺลตฺถภาวา วิปรีตภาวา, วิปรีตสฺาติ อตฺโถ. เสสทฺวเยสุปิ เอเสว นโย. จิตฺตกิจฺจสฺส ทุพฺพลฏฺาเน ทิฏฺิวิรหิตาย อกุสลสฺาย สกกิจฺจสฺส พลวกาเล สฺาวิปลฺลาโส. ทิฏฺิวิรหิตสฺเสว อกุสลจิตฺตสฺส สกกิจฺจสฺส ¶ พลวกาเล จิตฺตวิปลฺลาโส. ทิฏฺิสมฺปยุตฺเต จิตฺเต ทิฏฺิวิปลฺลาโส. ตสฺมา สพฺพทุพฺพโล สฺาวิปลฺลาโส, ตโต พลวตโร จิตฺตวิปลฺลาโส, สพฺพพลวตโร ทิฏฺิวิปลฺลาโส. อชาตพุทฺธิทารกสฺส กหาปณทสฺสนํ วิย หิ สฺา อารมฺมณสฺส อุปฏฺานาการมตฺตคฺคหณโต. คามิกปุริสสฺส กหาปณทสฺสนํ วิย จิตฺตํ ลกฺขณปฏิเวธสฺสาปิ สมฺปาปนโต. กมฺมารสฺส มหาสณฺฑาเสน อโยคหณํ วิย ทิฏฺิ อภินิวิสฺส ปรามสนโต. อนิจฺเจ นิจฺจนฺติ สฺาวิปลฺลาโสติ อนิจฺเจ วตฺถุสฺมึ ‘‘นิจฺจํ อิท’’นฺติ เอวํ คเหตฺวา อุปฺปชฺชนกสฺา สฺาวิปลฺลาโส. อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. น สฺาวิปลฺลาโส น จิตฺตวิปลฺลาโส น ทิฏฺิวิปลฺลาโสติ จตูสุ วตฺถูสุ ทฺวาทสนฺนํ วิปลฺลาสคฺคาหานํ อภาวา ยาถาวคฺคหณํ วุตฺตํ.
คาถาสุ อนตฺตนิ จ อตฺตาติ อนตฺตนิ อตฺตาติ เอวํสฺิโนติ อตฺโถ. มิจฺฉาทิฏฺิหตาติ น เกวลํ สฺิโนว, สฺาย วิย อุปฺปชฺชมานาย มิจฺฉาทิฏฺิยาปิ หตา. ขิตฺตจิตฺตาติ สฺาทิฏฺีหิ วิย ¶ อุปฺปชฺชมาเนน ขิตฺเตน วิพฺภนฺเตน จิตฺเตน สมนฺนาคตา. วิสฺิโนติ เทสนามตฺตเมตํ, วิปรีตสฺาจิตฺตทิฏฺิโนติ อตฺโถ. อถ วา สฺาปุพฺพงฺคมตฺตา ทิฏฺิยา ปมํ จตูหิ ปเทหิ สฺาวิปลฺลาโส วุตฺโต, ตโต มิจฺฉาทิฏฺิหตาติ ทิฏฺิวิปลฺลาโส, ขิตฺตจิตฺตาติ จิตฺตวิปลฺลาโส. วิสฺิโนติ ตีหิ วิปลฺลาสคฺคาเหหิ ปกติสฺาวิรหิตา โมหํ คตา ‘‘มุจฺฉิโต วิสเวเคน, วิสฺี สมปชฺชถา’’ติเอตฺถ (ชา. ๒.๒๒.๓๒๘) วิย. เต โยคยุตฺตา มารสฺสาติ เต ชนา สตฺตา มารสฺส ¶ โยเค ยุตฺตา นาม โหนฺติ. อโยคกฺเขมิโนติ จตูหิ โยเคหิ อีตีหิ เขมํ นิพฺพานํ อปฺปตฺตา. สตฺตา คจฺฉนฺติ สํสารนฺติ เตเยว ปุคฺคลา สํสารํ สํสรนฺติ. กสฺมา? ชาติมรณคามิโน หิ เต, ตสฺมา สํสรนฺตีติ อตฺโถ. พุทฺธาติ จตุสจฺจพุทฺธา สพฺพฺุโน. กาลตฺตยสาธารณวเสน พหุวจนํ. โลกสฺมินฺติ โอกาสโลเก. ปภงฺกราติ โลกสฺส ปฺาโลกํ กรา. อิมํ ธมฺมํ ปกาเสนฺตีติ วิปลฺลาสปฺปหานํ ธมฺมํ โชเตนฺติ. ทุกฺขูปสมคามินนฺติ ทุกฺขวูปสมํ นิพฺพานํ คจฺฉนฺตํ. เตสํ สุตฺวานาติ เตสํ พุทฺธานํ ธมฺมํ สุตฺวาน. สปฺปฺาติ ภพฺพภูตา ปฺวนฺโต. สจิตฺตํ ปจฺจลทฺธูติ วิปลฺลาสวชฺชิตํ สกจิตฺตํ ปฏิลภิตฺวา. ปฏิอลทฺธูติ ปทจฺเฉโท. อถ วา ปฏิลภึสุ ปฏิอลทฺธุนฺติ ¶ ปทจฺเฉโท. อนิจฺจโต ทกฺขุนฺติ อนิจฺจวเสเนว อทฺทสํสุ. อนตฺตนิ อนตฺตาติ อนตฺตานํ อนตฺตาติ อทฺทกฺขุํ. อถ วา อนตฺตนิ วตฺถุสฺมึ อตฺตา นตฺถีติ อทฺทกฺขุํ. สมฺมาทิฏฺิสมาทานาติ คหิตสมฺมาทสฺสนา. สพฺพํ ทุกฺขํ อุปจฺจคุนฺติ สกลํ วฏฺฏทุกฺขํ สมติกฺกนฺตา.
ปหีนาปหีนปุจฺฉาย ทิฏฺิสมฺปนฺนสฺสาติ โสตาปนฺนสฺส. ทุกฺเข สุขนฺติ สฺา อุปฺปชฺชติ. จิตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ โมหกาลุสฺสิยสฺส อปฺปหีนตฺตา สฺามตฺตํ วา จิตฺตมตฺตํ วา อุปฺปชฺชติ, อนาคามิสฺสปิ อุปฺปชฺชติ, กึ ปน โสตาปนฺนสฺส. อิเม ทฺเว อรหโตเยว ปหีนา. อสุเภ สุภนฺติ สฺา อุปฺปชฺชติ. จิตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ สกทาคามิสฺสปิ อุปฺปชฺชติ, กึ ปน โสตาปนฺนสฺส. อิเม ทฺเว อนาคามิสฺส ปหีนาติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตสฺมา อิทํ ทฺวยํ โสตาปนฺนสกทาคามิโน สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อนาคามิโน กามราคสฺส ปหีนตฺตา ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ สฺาจิตฺตวิปลฺลาสานฺจ ปหานํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ทฺวีสุ ¶ วตฺถูสูติอาทีหิ ปเทหิ ปหีนาปหีเน นิคเมตฺวา ทสฺเสติ. ตตฺถ ‘‘อนิจฺเจ นิจฺจ’’นฺติ, ‘‘อนตฺตนิ อตฺตา’’ติ อิเมสุ ทฺวีสุ วตฺถูสุ ฉ วิปลฺลาสา ปหีนา. ‘‘ทุกฺเข สุข’’นฺติ, ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ อิเมสุ ทฺวีสุ วตฺถูสุ ทฺเว ทิฏฺิวิปลฺลาสา ปหีนา. เกสุจิ โปตฺถเกสุ ทฺเวติ ปมํ ลิขิตํ, ปจฺฉา ฉาติ. จตูสุ วตฺถูสูติ จตฺตาริ เอกโต กตฺวา วุตฺตํ. อฏฺาติ ทฺวีสุ ฉ, ทฺวีสุ ทฺเวติ อฏฺ. จตฺตาโรติ ทุกฺขาสุภวตฺถูสุ เอเกกสฺมึ ทฺเว ทฺเว สฺาจิตฺตวิปลฺลาสาติ จตฺตาโร. เกสุจิ โปตฺถเกสุ ‘‘ฉ ทฺวีสู’’ติ วุตฺตฏฺาเนสุปิ เอวเมว ลิขิตนฺติ.
วิปลฺลาสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. มคฺคกถา
มคฺคกถาวณฺณนา
๒๓๗. อิทานิ ¶ เตสํ ติณฺณํ วิปลฺลาสานํ ปหานกรํ อริยมคฺคํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย มคฺคกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ มคฺโคติ เกนฏฺเน มคฺโคติ โย พุทฺธสาสเน มคฺโคติ วุจฺจติ, โส เกนฏฺเน มคฺโค นาม โหตีติ อตฺโถ. มิจฺฉาทิฏฺิยา ปหานายาติอาทีสุ ทสสุ ¶ ปริยาเยสุ ปโม ปโม ตสฺส ตสฺส มคฺคงฺคสฺส อุชุวิปจฺจนีกวเสน วุตฺโต. มคฺโค เจว เหตุ จาติ ตสฺส ตสฺส กิจฺจสฺส กรณาย ปฏิปทฏฺเน มคฺโค, สมฺปาปกฏฺเน เหตุ. เตน มคฺคสฺส ปฏิปทฏฺโ สมฺปาปกฏฺโ จ วุตฺโต โหติ. ‘‘อยํ มคฺโค อยํ ปฏิปทา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๕, ๔๘) หิ ปฏิปทา มคฺโค, ‘‘มคฺคสฺส นิยฺยานฏฺโ เหตุฏฺโ’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๒.๘) สมฺปาปโก เหตุ. เอวํ ทฺวีหิ ทฺวีหิ ปเทหิ ‘‘มคฺโคติ เกนฏฺเน มคฺโค’’ติ ปุจฺฉาย วิสฺสชฺชนํ กตํ โหติ. สหชาตานํ ธมฺมานํ อุปตฺถมฺภนายาติ อตฺตนา สหชาตานํ อรูปธมฺมานํ สหชาตอฺมฺนิสฺสยาทิภาเวน อุปตฺถมฺภนภาวาย. กิเลสานํ ปริยาทานายาติ ตํตํมคฺควชฺฌานํ วุตฺตาวเสสกิเลสานํ เขปนาย. ปฏิเวธาทิวิโสธนายาติ เอตฺถ ยสฺมา ‘‘โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ, สีลฺจ สุวิสุทฺธํ ทิฏฺิ จ อุชุกา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๖๙, ๓๘๑) วจนโต สีลฺจ ทิฏฺิ จ สจฺจปฏิเวธสฺส อาทิ. โส จ อาทิมคฺคกฺขเณ วิสุชฺฌติ. ตสฺมา ‘‘ปฏิเวธาทิวิโสธนายา’’ติ วุตฺตํ. จิตฺตสฺส อธิฏฺานายาติ สมฺปยุตฺตจิตฺตสฺส สกกิจฺเจ ปติฏฺานาย. จิตฺตสฺส โวทานายาติ จิตฺตสฺส ปริสุทฺธภาวาย. วิเสสาธิคมายาติ โลกิยโต วิเสสปฏิลาภาย. อุตฺตริ ปฏิเวธายาติ โลกิยโต อุตฺตริ ปฏิวิชฺฌนตฺถาย. สจฺจาภิสมยายาติ จตุนฺนํ สจฺจานํ เอกาภิสมยาย กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน เอกปฏิเวธาย. นิโรเธ ปติฏฺาปนายาติ จิตฺตสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา นิพฺพาเน ปติฏฺาปนตฺถาย. สกทาคามิมคฺคกฺขณาทีสุ ¶ อฏฺ มคฺคงฺคานิ เอกโต กตฺวา ตํตํมคฺควชฺฌกิเลสปฺปหานํ วุตฺตํ. เอวํ วจเน การณํ เหฏฺา วุตฺตเมว. ยสฺมา อุปรูปริมคฺเคนาปิ สุฏฺุ อาทิวิโสธนา สุฏฺุ จิตฺตโวทานฺจ โหติ, ตสฺมา ตานิปิ ปทานิ วุตฺตานิ.
ทสฺสนมคฺโคติอาทีหิ ¶ ยาว ปริโยสานา ตสฺส ธมฺมสฺส ลกฺขณวเสน มคฺคฏฺโ วุตฺโต. ตานิ สพฺพานิปิ ปทานิ อภิฺเยฺยนิทฺเทเส วุตฺตตฺถาเนว. เอวเมตฺถ ยถาสมฺภวํ โลกิยโลกุตฺตโร มคฺโค นิทฺทิฏฺโ. เหตุฏฺเน มคฺโคติ จ อฏฺงฺคิโก มคฺโค นิทฺทิฏฺโ. นิปฺปริยายมคฺคตฺตา จสฺส ปุน ‘‘มคฺโค’’ติ น วุตฺตํ. อาธิปเตยฺยฏฺเน อินฺทฺริยาติ อาทีนิ จ อินฺทฺริยาทีนํ อตฺถวเสน วุตฺตานิ, น มคฺคฏฺวเสน. สจฺจานีติ เจตฺถ สจฺจาณานิ. สพฺเพปิ เต ธมฺมา นิพฺพานสฺส ปฏิปทฏฺเน มคฺโค. อนฺเต วุตฺตํ นิพฺพานํ ¶ ปน สํสารทุกฺขาภิภูเตหิ ทุกฺขนิสฺสรณตฺถิเกหิ สปฺปุริเสหิ มคฺคียติ คเวสียตีติ มคฺโคติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพนฺติ.
มคฺคกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. มณฺฑเปยฺยกถา
มณฺฑเปยฺยกถาวณฺณนา
๒๓๘. อิทานิ ¶ ตสฺส มคฺคสฺส มณฺฑเปยฺยตฺตํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย ภควโต วจเนกเทสปุพฺพงฺคมาย มณฺฑเปยฺยกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ มณฺฑเปยฺยนฺติ ยถา สมฺปนฺนํ นิมฺมลํ วิปฺปสนฺนํ สปฺปิ สปฺปิมณฺโฑติ วุจฺจติ, เอวํ วิปฺปสนฺนฏฺเน มณฺโฑ, ปาตพฺพฏฺเน เปยฺยํ. ยฺหิ ปิวิตฺวา อนฺตรวีถิยํ ปติตา วิสฺิโน อตฺตโน สาฏกาทีนมฺปิ อสฺสามิกา โหนฺติ, ตํ ปสนฺนมฺปิ น ปาตพฺพํ. มยฺหํ ปน อิทํ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ สาสนพฺรหฺมจริยํ สมฺปนฺนตฺตา นิมฺมลตฺตา วิปฺปสนฺนตฺตา มณฺฑฺจ หิตสุขาวหตฺตา เปยฺยฺจาติ มณฺฑเปยฺยนฺติ ทีเปติ. มณฺโฑ เปยฺโย เอตฺถาติ มณฺฑเปยฺยํ. กึ ตํ? สาสนพฺรหฺมจริยํ. กสฺมา สิกฺขตฺตยํ พฺรหฺมจริยํ นาม? อุตฺตมฏฺเน นิพฺพานํ พฺรหฺมํ นาม, สิกฺขตฺตยํ นิพฺพานตฺถาย ปวตฺตนโต พฺรหฺมตฺถาย จริยาติ พฺรหฺมจริยนฺติ วุจฺจติ. สาสนพฺรหฺมจริยนฺติ ตํเยว. สตฺถา ¶ สมฺมุขีภูโตติ อิทเมตฺถ การณวจนํ. ยสฺมา ปน สตฺถา สมฺมุขีภูโต, ตสฺมา วีริยปโยคํ กตฺวา ปิวเถตํ มณฺฑํ. พาหิรกฺหิ เภสชฺชมณฺฑํ เวชฺชสฺส อสมฺมุขา ปิวนฺตานํ ปมาณํ วา อุคฺคมนนิคฺคมนํ วา น ชานามาติ อาสงฺกา โหติ. เวชฺชสฺส สมฺมุขา ปน เวชฺโช ชานิสฺสตีติ นิราสงฺกา ปิวนฺติ. เอวเมวํ อมฺหากฺจ ธมฺมสฺสามี สตฺถา สมฺมุขีภูโตติ วีริยํ กตฺวา ปิวถาติ มณฺฑปาเน สนฺนิโยเชติ. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ ยถารหํ อนุสาสตีติ สตฺถา. อปิจ ‘‘สตฺถา ภควา สตฺถวาโห’’ติอาทินา (มหานิ. ๑๙๐) นิทฺเทสนเยนเปตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สนฺทิสฺสมาโน มุโข ภูโตติ สมฺมุขีภูโต.
มณฺฑเปยฺยนิทฺเทเส ติธตฺตมณฺโฑติ ติธาภาโว ติธตฺตํ. ติธตฺเตน มณฺโฑ ติธตฺตมณฺโฑ, ติวิเธน มณฺโฑติ อตฺโถ. สตฺถริ สมฺมุขีภูเตติ อิทํ สพฺพาการปริปุณฺณมณฺฑตฺตยทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ปรินิพฺพุเตปิ ปน ¶ สตฺถริ เอกเทเสน มณฺฑตฺตยํ ปวตฺตติเยว. เตเนว จสฺส นิทฺเทเส ‘‘สตฺถริ สมฺมุขีภูเต’’ติ อวตฺวา กตโม เทสนามณฺโฑติอาทิ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
เทสนามณฺโฑติ ¶ ธมฺมเทสนา เอว มณฺโฑ. ปฏิคฺคหมณฺโฑติ เทสนาปฏิคฺคาหโก เอว มณฺโฑ. พฺรหฺมจริยมณฺโฑติ มคฺคพฺรหฺมจริยเมว มณฺโฑ.
อาจิกฺขนาติ เทเสตพฺพานํ สจฺจาทีนํ อิมานิ นามานีติ นามวเสน กถนา. เทสนาติ ทสฺสนา. ปฺาปนาติ ชานาปนา, าณมุเข ปนา วา. อาสนํ เปนฺโต หิ ‘‘อาสนํ ปฺาเปตี’’ติ วุจฺจติ. ปฏฺปนาติ ปฺาปนา, ปวตฺตนาติ อตฺโถ, าณมุเข ปนา วา. วิวรณาติ วิวฏกรณํ, วิวริตฺวา ทสฺสนาติ อตฺโถ. วิภชนาติ วิภาคกิริยา, วิภาคโต ทสฺสนาติ อตฺโถ. อุตฺตานีกมฺมนฺติ ปากฏภาวกรณํ. อถ วา อาจิกฺขนาติ เทสนาทีนํ ฉนฺนํ ปทานํ มูลปทํ. เทสนาทีนิ ฉ ปทานิ ตสฺส อตฺถวิวรณตฺถํ วุตฺตานิ. ตตฺถ เทสนาติ อุคฺฆฏิตฺูนํ วเสน สงฺเขปโต ปมํ อุทฺเทสวเสน เทสนา. อุคฺฆฏิตฺู หิ สงฺเขเปน วุตฺตํ ปมํ วุตฺตฺจ ปฏิวิชฺฌนฺติ. ปฺาปนาติ วิปฺจิตฺูนํ วเสน เตสํ จิตฺตโตสเนน พุทฺธินิสาเนน จ ปมํ สงฺขิตฺตสฺส วิตฺถารโต นิทฺเทสวเสน ปฺาปนา. ปฏฺปนาติ เตสํเยว นิทฺทิฏฺสฺส นิทฺเทสสฺส ปฏินิทฺเทสวเสน วิตฺถารตรวจเนน ปฺาปนา. วิวรณาติ นิทฺทิฏฺสฺสาปิ ปุนปฺปุนํ วจเนน วิวรณา. วิภชนาติ ¶ ปุนปฺปุนํ วุตฺตสฺสาปิ วิภาคกรเณน วิภชนา. อุตฺตานีกมฺมนฺติ วิวฏสฺส วิตฺถารตรวจเนน, วิภตฺตสฺส จ นิทสฺสนวจเนน อุตฺตานีกรณํ. อยํ เทสนา เนยฺยานมฺปิ ปฏิเวธาย โหติ. เยวาปนฺเปิ เกจีติ ปิยงฺกรมาตาทิกา วินิปาติกา คหิตา. วิฺาตาโรติ ปฏิเวธวเสน โลกุตฺตรธมฺมํ วิฺาตาโร. เอเต หิ ภิกฺขุอาทโย ปฏิเวธวเสน ธมฺมเทสนํ ปฏิคฺคณฺหนฺตีติ ปฏิคฺคหา. อยเมวาติอาทีนิ ปมาณนิทฺเทเส วุตฺตตฺถานิ. อริยมคฺโค นิพฺพาเนน สํสนฺทนโต พฺรหฺมตฺถาย จริยาติ พฺรหฺมจริยนฺติ วุจฺจติ.
๒๓๙. อิทานิ อธิโมกฺขมณฺโฑติอาทีหิ ตสฺมึ มคฺคกฺขเณ วิชฺชมานานิ อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคานิ มณฺฑเปยฺยวิธาเน โยเชตฺวา ทสฺเสติ. ตตฺถ ¶ อธิโมกฺขมณฺโฑติ อธิโมกฺขสงฺขาโต มณฺโฑ. กสโฏติ ปสาทวิรหิโต อาวิโล. ฉฑฺเฑตฺวาติ สมุจฺเฉทวเสน ปหาย. สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิโมกฺขมณฺฑํ ปิวตีติ มณฺฑเปยฺยนฺติ สทฺธินฺทฺริยโต อธิโมกฺขมณฺฑสฺส อนฺตฺเตปิ สติ อฺํ วิย กตฺวา โวหารวเสน วุจฺจติ, ยถา โลเก นิสทโปตโก นิสทโปตสรีรสฺส อนฺตฺเตปิ สติ นิสทโปตสฺส สรีรนฺติ วุจฺจติ, ยถา จ ปาฬิยํ ‘‘ผุสิตตฺต’’นฺติอาทีสุ ธมฺมโต อนฺโปิ ภาโว อฺโ วิย วุตฺโต, ยถา จ อฏฺกถายํ ‘‘ผุสนลกฺขโณ ผสฺโส’’ติอาทีสุ (ธ. ส. อฏฺ. ๑ ธมฺมุทฺเทสวาร ผสฺสปฺจมกราสิวณฺณนา) ธมฺมโต อนฺมฺปิ ลกฺขณํ อฺํ วิย วุตฺตํ, เอวมิทนฺติ เวทิตพฺพํ ¶ . ปิวตีติ เจตฺถ ตํสมงฺคิปุคฺคโลติ วุตฺตํ โหติ. ตํสมงฺคิปุคฺคโล ตํ มณฺฑํ ปิวตีติ กตฺวา เตน ปุคฺคเลน โส มณฺโฑ ปาตพฺพโต มณฺฑเปยฺยํ นาม โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘มณฺฑเปยฺโย’’ติ จ วตฺตพฺเพ ‘‘มณฺฑเปยฺย’’นฺติ ลิงฺควิปลฺลาโส กโต. เสสานมฺปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อปุพฺเพสุ ปน ปริฬาโหติ ปีณนลกฺขณาย ปีติยา ปฏิปกฺโข กิเลสสนฺตาโป. ทุฏฺุลฺลนฺติ อุปสมปฏิปกฺโข กิเลสวเสน โอฬาริกภาโว อสนฺตภาโว. อปฺปฏิสงฺขาติ ปฏิสงฺขานปฏิปกฺโข กิเลสวเสน อสมวาหิตภาโว.
๒๔๐. ปุน อฺเน ปริยาเยน มณฺฑเปยฺยวิธึ นิทฺทิสิตุกาโม อตฺถิ มณฺโฑติอาทิมาห. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ สทฺธินฺทฺริเย. อตฺถรโสติอาทีสุ สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมุจฺจนํ อตฺโถ, สทฺธินฺทฺริยํ ธมฺโม, ตเทว นานากิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติ, ตสฺส อตฺถสฺส สมฺปตฺติ อตฺถรโส. ตสฺส ธมฺมสฺส สมฺปตฺติ ธมฺมรโส. ตสฺสา วิมุตฺติยา สมฺปตฺติ วิมุตฺติรโส. อถ วา อตฺถปฏิลาภรติ อตฺถรโส, ธมฺมปฏิลาภรติ ธมฺมรโส, วิมุตฺติปฏิลาภรติ วิมุตฺติรโส. รตีติ จ ตํสมฺปยุตฺตา, ตทารมฺมณา วา ปีติ. อิมินา นเยน เสสปเทสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ ปริยาเย มณฺฑสฺส ¶ เปยฺยํ มณฺฑเปยฺยนฺติ อตฺโถ วุตฺโต โหติ.
เอวํ อินฺทฺริยาทิโพธิปกฺขิยธมฺมปฏิปาฏิยา อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคานํ วเสน มณฺฑเปยฺยํ ทสฺเสตฺวา ปุน อนฺเต ิตํ พฺรหฺมจริยมณฺฑํ ทสฺเสนฺโต มคฺคสฺส ปธานตฺตา มคฺคํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา อุปฺปฏิปาฏิวเสน มคฺคงฺคโพชฺฌงฺคพลอินฺทฺริยานิ ทสฺเสสิ ¶ . อาธิปเตยฺยฏฺเน อินฺทฺริยา มณฺโฑติอาทโย ยถาโยคํ โลกิยโลกุตฺตรา มณฺฑา. ตํ เหฏฺา วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. ตถฏฺเน สจฺจา มณฺโฑติ เอตฺถ ปน ทุกฺขสมุทยานํ มณฺฑตฺตาภาวา มหาหตฺถิปทสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๓๐๐) วิย สจฺจาณานิ สจฺจาติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฏิสมฺภิทามคฺค-อฏฺกถาย
มณฺฑเปยฺยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิตา จ มหาวคฺควณฺณนา.
(๒) ยุคนทฺธวคฺโค
๑. ยุคนทฺธกถา
ยุคนทฺธกถาวณฺณนา
๑. อิทานิ ¶ ¶ มณฺฑเปยฺยคุณสฺส อริยมคฺคสฺส ยุคนทฺธคุณํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย ยุคนทฺธกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ยสฺมา ปน ธมฺมเสนาปติ ธมฺมราเช ธรมาเนเยว ธมฺมราชสฺส ปรินิพฺพานสํวจฺฉเร ปรินิพฺพุโต, ตสฺมา ธมฺมราเช ธรมาเนเยว ธมฺมภณฺฑาคาริเกน เทสิตํ อิทํ สุตฺตนฺตํ ตสฺเสว สมฺมุขา สุตฺวา เอวํ เม สุตนฺติอาทิมาหาติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ อายสฺมาติ ปิยวจนํ ครุวจนํ สคารวสปฺปติสฺสวจนํ, อายุมาติ อตฺโถ. อานนฺโทติ ตสฺส เถรสฺส นามํ. โส หิ ชายมาโนเยว กุเล อานนฺทํ ภุสํ ตุฏฺึ อกาสิ. ตสฺมาสฺส ‘‘อานนฺโท’’ติ นามํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. โกสมฺพิยนฺติ เอวํนามเก นคเร. ตสฺส หิ นครสฺส อารามโปกฺขรณีอาทีสุ เตสุ เตสุ าเนสุ โกสมฺพรุกฺขา อุสฺสนฺนา อเหสุํ, ตสฺมา ตํ โกสมฺพีติ สงฺขํ อคมาสิ. ‘‘กุสมฺพสฺส อิสิโน อสฺสมโต อวิทูเร มาปิตตฺตา’’ติ เอเก.
โฆสิตาราเมติ โฆสิตเสฏฺินา การิเต อาราเม. โกสมฺพิยฺหิ ตโย เสฏฺิโน อเหสุํ โฆสิตเสฏฺิ กุกฺกุฏเสฏฺิ ปาวาริกเสฏฺีติ. เต ตโยปิ ‘‘โลเก พุทฺโธ อุปฺปนฺโน’’ติ สุตฺวา ปฺจหิ ปฺจหิ สกฏสเตหิ ทานูปกรณานิ คาหาเปตฺวา สาวตฺถึ คนฺตฺวา ¶ เชตวนสมีเป ขนฺธาวารํ พนฺธิตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา นิสินฺนา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิตฺวา สตฺถารํ นิมนฺเตตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส อฑฺฒมาสมตฺตํ มหาทานํ ทตฺวา ภควโต ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา สกชนปทคมนตฺถํ ภควนฺตํ ยาจิตฺวา ‘‘สฺุาคาเร โข คหปตโย ตถาคตา อภิรมนฺตี’’ติ ภควตา วุตฺเต ‘‘ทินฺนา โน ภควตา ปฏิฺา’’ติ ตฺวา อติวิย ตุฏฺา ทสพลํ วนฺทิตฺวา นิกฺขนฺตา อนฺตรามคฺเค โยชเน โยชเน ภควโต นิวาสตฺถํ วิหารํ กาเรนฺตา อนุปุพฺเพน โกสมฺพึ ปตฺวา อตฺตโน อตฺตโน ¶ อาราเม มหนฺตํ ธนปริจฺจาคํ กตฺวา ภควโต วิหาเร ¶ การาปยึสุ. ตตฺถ โฆสิตเสฏฺินา การิโต โฆสิตาราโม นาม อโหสิ, กุกฺกุฏเสฏฺินา การิโต กุกฺกุฏาราโม นาม, ปาวาริกเสฏฺินา อมฺพวเน การิโต ปาวาริกมฺพวนํ นาม. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘โฆสิตเสฏฺินา การิเต อาราเม’’ติ.
อาวุโส ภิกฺขโวติ เอตฺถ พุทฺธา ภควนฺโต สาวเก อาลปนฺตา ‘‘ภิกฺขโว’’ติ อาลปนฺติ. สาวกา ปน ‘‘พุทฺเธหิ สทิสา มา โหมา’’ติ ‘‘อาวุโส’’ติ ปมํ วตฺวา ปจฺฉา ‘‘ภิกฺขโว’’ติ วทนฺติ. พุทฺเธหิ จ อาลปิเต ภิกฺขุสงฺโฆ ‘‘ภทนฺเต’’ติ ปฏิวจนํ เทติ, สาวเกหิ อาลปิเต ‘‘อาวุโส’’ติ.
โย หิ โกจีติ อนิยมวจนํ. เอเตน ตาทิสานํ สพฺพภิกฺขูนํ ปริยาทานํ. มม สนฺติเกติ มม สมีเป. อรหตฺตปฺปตฺตนฺติ อตฺตนา อรหตฺตสฺส ปตฺตํ. นปุํสเก ภาเว สิทฺธวจนํ. อรหตฺตํ ปตฺตนฺติ วา ปทจฺเฉโท, อตฺตนา ปตฺตํ อรหตฺตนฺติ อตฺโถ. อรหตฺตปฺปตฺตํ อตฺตานนฺติ วา ปาเสโส. จตูหิ มคฺเคหีติ อุปริ วุจฺจมาเนหิ จตูหิ ปฏิปทามคฺเคหิ, น อริยมคฺเคหิ. ‘‘จตูหิ มคฺเคหี’’ติ วิสฺุจ วุตฺตตฺตา กสฺสจิ อรหโต ปมสฺส อริยมคฺคสฺส ธมฺมุทฺธจฺจปุพฺพงฺคโม มคฺโค, เอกสฺส อริยมคฺคสฺส สมถปุพฺพงฺคโม, เอกสฺส วิปสฺสนาปุพฺพงฺคโม, เอกสฺส ยุคนทฺธปุพฺพงฺคโมติ เอวํ จตฺตาโรปิ ปฏิปทา มคฺคา โหนฺตีติ เวทิตพฺพํ. เอเตสํ วา อฺตเรนาติ เอเตสํ จตุนฺนํ ปฏิปทานํ มคฺคานํ เอเกน วา, ปฏิปทามคฺเคน อรหตฺตปฺปตฺตํ พฺยากโรตีติ อตฺโถ. สุกฺขวิปสฺสกสฺส หิ อรหโต ธมฺมุทฺธจฺจปุพฺพงฺคมํ โสตาปตฺติมคฺคํ ปตฺวา เสสมคฺคตฺตยมฺปิ สุทฺธวิปสฺสนาหิเยว ปตฺตสฺส อรหตฺตปฺปตฺติ ธมฺมุทฺธจฺจปุพฺพงฺคมมคฺคา โหติ. ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหํ ปตฺวา วา อปฺปตฺวา วา สมถปุพฺพงฺคมาทีนํ ติณฺณํ ปฏิปทานํ มคฺคานํ เอเกกสฺส วเสน ปตฺตจตุมคฺคสฺส ¶ อรหโต อรหตฺตปฺปตฺติ อิตรเอเกกมคฺคปุพฺพงฺคมา โหติ. ตสฺมา อาห – ‘‘เอเตสํ วา อฺตเรนา’’ติ.
สมถปุพฺพงฺคมํ วิปสฺสนํ ภาเวตีติ สมถํ ปุพฺพงฺคมํ ปุเรจาริกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ภาเวติ, ปมํ สมาธึ อุปฺปาเทตฺวา ปจฺฉา วิปสฺสนํ ภาเวตีติ อตฺโถ. มคฺโค สฺชายตีติ ปโม โลกุตฺตรมคฺโค นิพฺพตฺตติ. โส ตํ มคฺคนฺติอาทีสุ เอกจิตฺตกฺขณิกสฺส มคฺคสฺส อาเสวนาทีนิ นาม นตฺถิ, ทุติยมคฺคาทโย ปน อุปฺปาเทนฺโต ตเมว มคฺคํ ‘‘อาเสวติ ภาเวติ ¶ พหุลีกโรตี’’ติ วุจฺจติ. สฺโชนานิ ปหียนฺติ, อนุสยา พฺยนฺตีโหนฺตีติ ยาว อรหตฺตมคฺคา ¶ กเมน สพฺเพ สฺโชนา ปหียนฺติ, อนุสยา พฺยนฺตีโหนฺติ. อนุสยา พฺยนฺตีโหนฺตีติ จ ปุน อนุปฺปตฺติยา วิคตนฺตา โหนฺตีติ อตฺโถ.
ปุน จปรนฺติ ปุน จ อปรํ การณํ. วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมํ สมถํ ภาเวตีติ วิปสฺสนํ ปุพฺพงฺคมํ ปุเรจาริกํ กตฺวา สมถํ ภาเวติ, ปมํ วิปสฺสนํ อุปฺปาเทตฺวา ปจฺฉา สมาธึ ภาเวตีติ อตฺโถ. ยุคนทฺธํ ภาเวตีติ ยุคนทฺธํ กตฺวา ภาเวติ. เอตฺถ เตเนว จิตฺเตน สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา เตเนว สงฺขาเร สมฺมสิตุํ น สกฺกา. อยํ ปน ยาวตา สมาปตฺติโย สมาปชฺชติ, ตาวตา สงฺขาเร สมฺมสติ. ยาวตา สงฺขาเร สมฺมสติ, ตาวตา สมาปตฺติโย สมาปชฺชติ. กถํ? ปมชฺฌานํ สมาปชฺชติ, ตโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสติ. สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา ทุติยชฺฌานํ สมาปชฺชติ, ตโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสติ. สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา ตติยชฺฌานํ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, ตโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสติ. เอวํ สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ ภาเวติ นาม.
ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตํ มานสํ โหตีติ เอตฺถ มนฺทปฺานํ วิปสฺสกานํ อุปกฺกิเลสวตฺถุตฺตา วิปสฺสนุปกฺกิเลสสฺิเตสุ โอภาสาทีสุ ทสสุ ธมฺเมสุ ภนฺตตาวเสน อุทฺธจฺจสหคตจิตฺตุปฺปตฺติยา วิกฺเขปสงฺขาตํ อุทฺธจฺจํ ธมฺมุทฺธจฺจํ, เตน ธมฺมุทฺธจฺเจน วิคฺคหิตํ วิรูปคฺคหิตํ วิโรธมาปาทิตํ มานสํ จิตฺตํ ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตํ มานสํ โหติ, เตน วา ธมฺมุทฺธจฺเจน การณภูเตน ตมฺมูลกตณฺหามานทิฏฺุปฺปตฺติยา วิคฺคหิตํ มานสํ โหติ. ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตมานสนฺติ วา ปาโ. โหติ โส อาวุโส สมโยติ อิมินา มคฺคามคฺคววตฺถาเนน ตํ ธมฺมุทฺธจฺจํ ปฏิพาหิตฺวา ปุน วิปสฺสนาวีถึ ปฏิปนฺนกาลํ ทสฺเสติ. ยํ ตํ จิตฺตนฺติ ยสฺมึ สมเย ตํ วิปสฺสนาวีถึ โอกฺกมิตฺวา ปวตฺตํ จิตฺตํ. อชฺฌตฺตเมว สนฺติฏฺตีติ ¶ วิปสฺสนาวีถึ ปจฺโจตริตฺวา ตสฺมึ สมเย โคจรชฺฌตฺตสงฺขาเต อารมฺมเณ สนฺติฏฺติ ปติฏฺาติ. สนฺนิสีทตีติ ตตฺเถว ปวตฺติวเสน สมฺมา นิสีทติ. เอโกทิ โหตีติ เอกคฺคํ โหติ. สมาธิยตีติ สมฺมา อาธิยติ สุฏฺุ ิตํ โหตีติ.
อยํ สุตฺตนฺตวณฺณนา.
๑. สุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๒. ตสฺส ¶ ¶ สุตฺตนฺตสฺส นิทฺเทสกถาย ตตฺถ ชาเต ธมฺเมติ ตสฺมึ สมาธิสฺมึ ชาเต จิตฺตเจตสิเก ธมฺเม. อนิจฺจโต อนุปสฺสนฏฺเนาติอาทินา วิปสฺสนาย เภทํ ทสฺเสติ. สมฺมาทิฏฺิ มคฺโคติ สมฺมาทิฏฺิสงฺขาโต มคฺโค. อฏฺสุ มคฺคงฺเคสุ เอเกโกปิ หิ มคฺโคติ วุจฺจติ.อาเสวตีติ โสตาปตฺติมคฺควเสน. ภาเวตีติ สกทาคามิมคฺคุปฺปาทเนน. พหุลีกโรตีติ อนาคามิอรหตฺตมคฺคุปฺปาทเนน. อิเมสํ ติณฺณํ อวตฺถาเภเทปิ สติ อาวชฺชนาทีนํ สาธารณตฺตา สทิสเมว วิสฺสชฺชนํ กตํ.
๓. อาโลกสฺาปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนานํ อนฺตราเปยฺยาเล อวิกฺเขปาทีนิ จ ฌาน สมาปตฺติกสิณานุสฺสติอสุภา จ ทีฆํ อสฺสาสาทีนิ จ อานนฺตริกสมาธิาณนิทฺเทเส (ปฏิ. ม. ๑.๘๐-๘๑) นิทฺทิฏฺตฺตา สงฺขิตฺตานิ. ตตฺถ จ อวิกฺเขปวเสนาติ ปุพฺพภาคาวิกฺเขปวเสน คเหตพฺพํ. อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสาสวเสนาติอาทิเก สุทฺธวิปสฺสนาวเสน วุตฺตจตุกฺเก ปน ตรุณวิปสฺสนากาเล วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตสมาธิปุพฺพงฺคมา พลววิปสฺสนา เวทิตพฺพา.
๔. วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมวาเร ปมํ อนิจฺจโตติอาทินา อารมฺมณํ อนิยเมตฺวา วิปสฺสนา วุตฺตา, ปจฺฉา รูปํ อนิจฺจโตติอาทินา อารมฺมณํ นิยเมตฺวา วุตฺตา. ตตฺถ ชาตานนฺติ ตสฺสา วิปสฺสนาย ชาตานํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ. โวสคฺคารมฺมณตาติ เอตฺถ โวสคฺโค นิพฺพานํ. นิพฺพานฺหิ สงฺขตโวสคฺคโต ปริจฺจาคโต ‘‘โวสคฺโค’’ติ วุตฺโต. วิปสฺสนา จ ตํสมฺปยุตฺตธมฺมา จ นิพฺพานนินฺนตาย อชฺฌาสยวเสน นิพฺพาเน ปติฏฺิตตฺตา นิพฺพานปติฏฺา นิพฺพานารมฺมณา. ปติฏฺาปิ หิ อาลมฺพียตีติ อารมฺมณํ นาม โหติ, นิพฺพาเน ปติฏฺฏฺเเนว นิพฺพานารมฺมณา. อฺตฺถ ปาฬิยมฺปิ หิ ปติฏฺา ‘‘อารมฺมณ’’นฺติ วุจฺจนฺติ. ยถาห – ‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, นฬาคารํ วา ติณาคารํ วา สุกฺขํ โกฬาปํ เตโรวสฺสิกํ ปุรตฺถิมาย เจปิ ทิสาย ปุริโส อาทิตฺตาย ติณุกฺกาย อุปสงฺกเมยฺย, ลเภถ อคฺคิ โอตารํ, ลเภถ ¶ อคฺคิ อารมฺมณ’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. ๔.๒๔๓). ตสฺมา ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ โวสคฺคารมฺมณตาย นิพฺพานปติฏฺาภาเวน เหตุภูเตน อุปฺปาทิโต โย จิตฺตสฺส เอกคฺคตาสงฺขาโต อุปจารปฺปนาเภโท อวิกฺเขโป, โส ¶ สมาธีติ วิปสฺสนาโต ปจฺฉา อุปฺปาทิโต ¶ นิพฺเพธภาคิโย สมาธิ นิทฺทิฏฺโ โหติ. ตสฺมาเยว หิ อิติ ปมํ วิปสฺสนา, ปจฺฉา สมโถติ วุตฺตํ.
๕. ยุคนทฺธนิทฺเทเส ยสฺมา เหฏฺา สุตฺตนฺตวณฺณนายํ วุตฺโต ยุคนทฺธกฺกโม ปุริมทฺวยนิทฺเทสนเยเนว ปากโฏ, มคฺคกฺขเณ ยุคนทฺธกฺกโม ปน น ปากโฏ, ตสฺมา ปุพฺพภาเค อเนกนฺติกํ ยุคนทฺธภาวนํ อวตฺวา มคฺคกฺขเณ เอกนฺเตน ลพฺภมานยุคนทฺธภาวนเมว ทสฺเสนฺโต โสฬสหิ อากาเรหีติอาทิมาห. ตตฺถ อารมฺมณฏฺเนาติอาทีสุ สตฺตรสสุ อากาเรสุ อนฺเต อุทฺทิฏฺํ ยุคนทฺธํ มูลปเทน เอกฏฺตฺตา ตํ วิปฺปหาย เสสานํ วเสน ‘‘โสฬสหี’’ติ วุตฺตํ. อารมฺมณฏฺเนาติ อาลมฺพนฏฺเน, อารมฺมณวเสนาติ อตฺโถ. เอวํ เสเสสุปิ. โคจรฏฺเนาติ อารมฺมณฏฺเปิ สติ นิสฺสยิตพฺพฏฺานฏฺเน. ปหานฏฺเนาติ ปชหนฏฺเน. ปริจฺจาคฏฺเนาติ ปหาเนปิ สติ ปุน อนาทิยเนน ปริจฺจาคฏฺเน. วุฏฺานฏฺเนาติ อุคฺคมนฏฺเน. วิวฏฺฏนฏฺเนาติ อุคฺคมเนปิ สติ อปุนราวฏฺฏเนน นิวตฺตนฏฺเน. สนฺตฏฺเนาติ นิพฺพุตฏฺเน. ปณีตฏฺเนาติ นิพฺพุตฏฺเปิ สติ อุตฺตมฏฺเน, อตปฺปกฏฺเน วา. วิมุตฺตฏฺเนาติ พนฺธนาปคตฏฺเน. อนาสวฏฺเนาติ พนฺธนโมกฺเขปิ สติ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตมานาสววิรหิตฏฺเน. ตรณฏฺเนาติ อโนสีทิตฺวา ปิลวนฏฺเน, อติกฺกมนฏฺเน วา. อนิมิตฺตฏฺเนาติ สงฺขารนิมิตฺตวิรหิตฏฺเน. อปฺปณิหิตฏฺเนาติ ปณิธิวิรหิตฏฺเน. สฺุตฏฺเนาติ อภินิเวสวิรหิตฏฺเน. เอกรสฏฺเนาติ เอกกิจฺจฏฺเน. อนติวตฺตนฏฺเนาติ อฺมฺํ อนติกฺกมนฏฺเน. ยุคนทฺธฏฺเนาติ ยุคลกฏฺเน.
อุทฺธจฺจํ ปชหโต, อวิชฺชํ ปชหโตติ โยคิโน ตสฺส ตสฺส ปฏิปกฺขปฺปหานวเสน วุตฺตํ. นิโรโธ เจตฺถ นิพฺพานเมว. อฺมฺํ นาติวตฺตนฺตีติ สมโถ เจ วิปสฺสนํ อติวตฺเตยฺย, ลีนปกฺขิกตฺตา สมถสฺส จิตฺตํ โกสชฺชาย สํวตฺเตยฺย. วิปสฺสนา เจ สมถํ อติวตฺเตยฺย, อุทฺธจฺจปกฺขิกตฺตา วิปสฺสนาย จิตฺตํ อุทฺธจฺจาย สํวตฺเตยฺย. ตสฺมา สมโถ จ วิปสฺสนํ อนติวตฺตมาโน โกสชฺชปาตํ น กโรติ, วิปสฺสนา สมถํ อนติวตฺตมานา อุทฺธจฺจปาตํ น กโรติ. สมโถ สมํ ปวตฺตมาโน ¶ วิปสฺสนํ อุทฺธจฺจปาตโต รกฺขติ, วิปสฺสนา สมํ ปวตฺตมานา สมถํ โกสชฺชปาตโต รกฺขติ. เอวมิเม อุโภ อฺมฺํ อนติวตฺตนกิจฺเจน ¶ เอกกิจฺจา, สมา หุตฺวา ปวตฺตมาเนน อฺมฺํ อนติวตฺตมานา อตฺถสิทฺธิกรา โหนฺติ. เตสํ มคฺคกฺขเณ ยุคนทฺธตฺตํ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนากฺขเณ ยุคนทฺธตฺตาเยว โหติ. ปหานปริจฺจาควุฏฺานวิวฏฺฏนกรณานํ มคฺคกิจฺจวเสน วุตฺตตฺตา สกลสฺส มคฺคกิจฺจสฺส ทสฺสนตฺถํ อุทฺธจฺจสหคตกิเลสา จ ขนฺธา จ อวิชฺชาสหคตกิเลสา จ ขนฺธา จ นิทฺทิฏฺา. เสสานํ ¶ น ตถา วุตฺตตฺตา ปฏิปกฺขธมฺมมตฺตทสฺสนวเสน อุทฺธจฺจาวิชฺชา เอว นิทฺทิฏฺา. วิวฏฺฏโตติ นิวตฺตนฺตสฺส.
สมาธิ กามาสวา วิมุตฺโต โหตีติ สมาธิสฺส กามจฺฉนฺทปฏิปกฺขตฺตา วุตฺตํ. ราควิราคาติ ราคสฺส วิราโค สมติกฺกโม เอติสฺสา อตฺถีติ ราควิราคา, ‘‘ราควิราคโต’’ติ นิสฺสกฺกวจนํ วา. ตถา อวิชฺชาวิราคา. เจโตวิมุตฺตีติ มคฺคสมฺปยุตฺโต สมาธิ. ปฺาวิมุตฺตีติ มคฺคสมฺปยุตฺตา ปฺา. ตรโตติ ตรนฺตสฺส. สพฺพปณิธีหีติ ราคโทสโมหปณิธีหิ, สพฺพปตฺถนาหิ วา. เอวํ จุทฺทส อากาเร วิสฺสชฺชิตฺวา เอกรสฏฺฺจ อนติวตฺตนฏฺฺจ อวิภชิตฺวาว อิเมหิ โสฬสหิ อากาเรหีติ อาห. กสฺมา? เตสํ จุทฺทสนฺนํ อาการานํ เอเกกสฺส อวสาเน ‘‘เอกรสา โหนฺติ, ยุคนทฺธา โหนฺติ, อฺมฺํ นาติวตฺตนฺตี’’ติ นิทฺทิฏฺตฺตา เต ทฺเวปิ อาการา นิทฺทิฏฺาว โหนฺติ. ตสฺมา ‘‘โสฬสหี’’ติ อาห. ยุคนทฺธฏฺโ ปน อุทฺเทเสปิ น ภณิโตเยวาติ.
๒. ธมฺมุทฺธจฺจวารนิทฺเทสวณฺณนา
๖. ธมฺมุทฺธจฺจวาเร อนิจฺจโต มนสิกโรโต โอภาโส อุปฺปชฺชตีติ อุทยพฺพยานุปสฺสนาย ิตสฺส ตีหิ อนุปสฺสนาหิ ปุนปฺปุนํ สงฺขาเร วิปสฺสนฺตสฺส วิปสฺสนฺตสฺส วิปสฺสนาาเณสุ ปริปากคเตสุ ตทงฺควเสน กิเลสปฺปหาเนน ปริสุทฺธจิตฺตสฺส อนิจฺจโต วา ทุกฺขโต วา อนตฺตโต วา มนสิการกฺขเณ วิปสฺสนาาณานุภาเวน ปกติยาว โอภาโส อุปฺปชฺชตีติ ปมํ ตาว อนิจฺจโต มนสิกโรโต โอภาโส กถิโต. อกุสโล วิปสฺสโก ตสฺมึ โอภาเส อุปฺปนฺเน ‘‘น จ วต เม อิโต ปุพฺเพ เอวรูโป โอภาโส อุปฺปนฺนปุพฺโพ, อทฺธา มคฺคํ ปตฺโตมฺหิ, ผลํ ปตฺโตมฺหี’’ติ ¶ อมคฺคํเยว ‘‘มคฺโค’’ติ, อผลเมว ‘‘ผล’’นฺติ คณฺหาติ. ตสฺส อมคฺคํ ‘‘มคฺโค’’ติ, อผลํ ‘‘ผล’’นฺติ คณฺหโต วิปสฺสนาวีถิ อุกฺกนฺตา โหติ. โส อตฺตโน ¶ วิปสฺสนาวีถึ วิสฺสชฺเชตฺวา วิกฺเขปมาปนฺโน วา โอภาสเมว ตณฺหาทิฏฺิมฺนาหิ มฺมาโน วา นิสีทติ. โส โข ปนายํ โอภาโส กสฺสจิ ภิกฺขุโน ปลฺลงฺกฏฺานมตฺตเมว โอภาเสนฺโต อุปฺปชฺชติ, กสฺสจิ อนฺโตคพฺภํ, กสฺสจิ พหิคพฺภมฺปิ, กสฺสจิ สกลวิหารํ, คาวุตํ อฑฺฒโยชนํ โยชนํ ทฺวิโยชนํ…เป… กสฺสจิ ปถวิตลโต ยาว อกนิฏฺพฺรหฺมโลกา เอกาโลกํ กุรุมาโน. ภควโต ปน ทสสหสฺสิโลกธาตุํ โอภาเสนฺโต ¶ อุทปาทิ. อยฺหิ โอภาโส จตุรงฺคสมนฺนาคเตปิ อนฺธกาเร ตํ ตํ านํ โอภาเสนฺโต อุปฺปชฺชติ.
โอภาโส ธมฺโมติ โอภาสํ อาวชฺชตีติ อยํ โอภาโส มคฺคธมฺโม ผลธมฺโมติ วา ตํ ตํ โอภาสํ มนสิ กโรติ. ตโต วิกฺเขโป อุทฺธจฺจนฺติ ตโต โอภาสโต ธมฺโมติ อาวชฺชนกรณโต วา โย อุปฺปชฺชติ วิกฺเขโป, โส อุทฺธจฺจํ นามาติ อตฺโถ. เตน อุทฺธจฺเจน วิคฺคหิตมานโสติ เตน เอวํ อุปฺปชฺชมาเนน อุทฺธจฺเจน วิโรธิตจิตฺโต, เตน วา อุทฺธจฺเจน การณภูเตน ตมฺมูลกกิเลสุปฺปตฺติยา วิโรธิตจิตฺโต วิปสฺสโก วิปสฺสนาวีถึ โอกฺกมิตฺวา วิกฺเขปํ วา ตมฺมูลกกิเลเสสุ วา ิตตฺตา อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต อุปฏฺานานิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ‘‘เตน วุจฺจติ ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตมานโส’’ติ เอวํ อิติ-สทฺโท โยเชตพฺโพ. โหติ โส สมโยติ เอวํ อสฺสาทวเสน อุปกฺกิลิฏฺจิตฺตสฺสาปิ โยคิโน สเจ อุปปริกฺขา อุปฺปชฺชติ, โส เอวํ ปชานาติ – ‘‘วิปสฺสนา นาม สงฺขารารมฺมณา, มคฺคผลานิ นิพฺพานารมฺมณานิ, อิมานิ จ จิตฺตานิ สงฺขารารมฺมณานิ, ตสฺมา นายโมภาโส มคฺโค, อุทยพฺพยานุปสฺสนาเยว นิพฺพานสฺส โลกิโก มคฺโค’’ติ มคฺคามคฺคํ ววตฺถเปตฺวา ตํ วิกฺเขปํ ปริวชฺชยิตฺวา อุทยพฺพยานุปสฺสนาย ตฺวา สาธุกํ สงฺขาเร อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต วิปสฺสติ. เอวํ อุปปริกฺขนฺตสฺส โส สมโย โหติ. เอวํ อปสฺสนฺโต ปน ‘‘มคฺคผลปฺปตฺโตมฺหี’’ติ อธิมานิโก โหติ.
ยํ ตํ จิตฺตนฺติ ยํ ตํ วิปสฺสนาจิตฺตํ. อชฺฌตฺตเมวาติ อนิจฺจานุปสฺสนาย อารมฺมเณ โคจรชฺฌตฺเตเยว. าณํ อุปฺปชฺชตีติ ตสฺเสว โยคาวจรสฺส รูปารูปธมฺเม ตุลยนฺตสฺส ตีรยนฺตสฺส วิสฺสฏฺอินฺทวชิรมิว อวิหตเวคํ ¶ ติขิณํ สูรมติวิสทํ วิปสฺสนาาณํ อุปฺปชฺชติ. ปีติ อุปฺปชฺชตีติ ตสฺเสว ตสฺมึ สมเย ขุทฺทิกา ปีติ, ขณิกา ปีติ, โอกฺกนฺติกา ปีติ, อุพฺเพคา ปีติ, ผรณา ปีตีติ อยํ ปฺจวิธา วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา ปีติ สกลสรีรํ ปูรยมานา อุปฺปชฺชติ. ปสฺสทฺธิ อุปฺปชฺชตีติ ตสฺเสว ตสฺมึ สมเย กายจิตฺตานํ เนว ทรโถ, น คารวตา, น กกฺขฬตา ¶ , น อกมฺมฺตา, น เคลฺตา, น วงฺกตา โหติ. อถ โข ปนสฺส กายจิตฺตานิ ปสฺสทฺธานิ ลหูนิ มุทูนิ กมฺมฺานิ ปคุณานิ สุวิสทานิ อุชุกานิเยว โหนฺติ. โส อิเมหิ ปสฺสทฺธาทีหิ อนุคฺคหิตกายจิตฺโต ตสฺมึ สมเย อมานุสึ นาม รตึ อนุภวติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –
‘‘สฺุาคารํ ¶ ปวิฏฺสฺส, สนฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน;
อมานุสี รตี โหติ, สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสโต.
‘‘ยโต ยโต สมฺมสติ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;
ลภตี ปีติปาโมชฺชํ, อมตํ ตํ วิชานต’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๗๓-๔) –
เอวมสฺส อิมํ อมานุสึ รตึ สาธยมานา ลหุตาทีหิ สหิตา วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา กายจิตฺตปสฺสทฺธิ อุปฺปชฺชติ. สุขํ อุปฺปชฺชตีติ ตสฺเสว ตสฺมึ สมเย สกลสรีรํ อภิสนฺทยมานํ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตํ สุขํ อุปฺปชฺชติ. อธิโมกฺโข อุปฺปชฺชตีติ ตสฺเสว ตสฺมึ สมเย จิตฺตเจตสิกานํ อติสยปสาทภูตา วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สทฺธา อุปฺปชฺชติ. ปคฺคโห อุปฺปชฺชตีติ ตสฺเสว ตสฺมึ สมเย อสิถิลมนจฺจารทฺธํ สุปคฺคหิตํ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตํ วีริยํ อุปฺปชฺชติ. อุปฏฺานํ อุปฺปชฺชตีติ ตสฺเสว ตสฺมึ สมเย สูปฏฺิตา สุปฺปติฏฺิตา นิขาตา อจลา ปพฺพตราชสทิสา วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สติ อุปฺปชฺชติ. โส ยํ ยํ านํ อาวชฺชติ สมนฺนาหรติ มนสิ กโรติ ปจฺจเวกฺขติ, ตํ ตํ านมสฺส โอกฺกนฺติตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา ทิพฺพจกฺขุโน ปรโลโก วิย สติยา อุปฏฺาติ (วิสุทฺธิ. ๒.๗๓๔).
อุเปกฺขาติ วิปสฺสนุเปกฺขา เจว อาวชฺชนุเปกฺขา จ. ตสฺมิฺหิ สมเย สพฺพสงฺขาเรสุ มชฺฌตฺตภูตา วิปสฺสนุเปกฺขาปิ พลวตี อุปฺปชฺชติ, มโนทฺวาเร อาวชฺชนุเปกฺขาปิ. สา หิสฺส ตํ ตํ านํ อาวชฺชนฺตสฺส วิสฺสฏฺอินฺทวชิรมิว ปตฺตปุเฏ ปกฺขนฺทตตฺตนาราโจ วิย จ สูรา ติขิณา หุตฺวา วหติ ¶ . เอวฺหิ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๗๓๔) วุตฺตํ. วิปสฺสนุเปกฺขาติ เจตฺถ ‘‘วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา’’ติ อาจริยา วทนฺติ. วิปสฺสนาาเณ หิ คยฺหมาเน ‘‘าณํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วิปสฺสนาาณสฺส อาคตตฺตา ปุนรุตฺติโทโส โหติ. ตติยชฺฌานวณฺณนายฺจ ‘‘สงฺขารุเปกฺขาวิปสฺสนุเปกฺขานมฺปิ อตฺถโต เอกีภาโว. ปฺา เอว หิ สา, กิจฺจวเสน ทฺวิธา ภินฺนา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตาย ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย วุจฺจมานาย ปุนรุตฺติโทโส ¶ จ น โหติ, ตติยชฺฌานวณฺณนาย จ สเมติ. ยสฺมา จ ปฺจสุ อินฺทฺริเยสุ ‘‘าณํ อธิโมกฺโข ปคฺคโห อุปฏฺาน’’นฺติ ปฺินฺทฺริยสทฺธินฺทฺริยวีริยินฺทฺริยสตินฺทฺริยานิ นิทฺทิฏฺานิ, สมาธินฺทฺริยํ ปน อนิทฺทิฏฺํ โหติ, ยุคนทฺธวเสนาปิ จ สมาธินฺทฺริยํ นิทฺทิสิตพฺพเมว โหติ, ตสฺมา สมปฺปวตฺโต สมาธิ ปุน สมาธาเน พฺยาปารปฺปหานกรเณน ‘‘อุเปกฺขา’’ติ วุตฺโตติ เวทิตพฺพํ.
นิกนฺติ ¶ อุปฺปชฺชตีติ เอวํ โอภาสาทิปฏิมณฺฑิตาย วิปสฺสนาย อาลยํ กุรุมานา สุขุมา สนฺตาการา นิกนฺติ อุปฺปชฺชติ, ยา กิเลโสติ ปริคฺคเหตุมฺปิ น สกฺกา โหติ. ยถา จ โอภาเส, เอวํ เอเตสุปิ อฺตรสฺมึ อุปฺปนฺเน โยคาวจโร ‘‘น จ วต เม อิโต ปุพฺเพ เอวรูปํ าณํ อุปฺปนฺนปุพฺพํ, เอวรูปา ปีติ ปสฺสทฺธิ สุขํ อธิโมกฺโข ปคฺคโห อุปฏฺานํ อุเปกฺขา นิกนฺติ อุปฺปนฺนปุพฺพา, อทฺธา มคฺคํ ปตฺโตมฺหิ, ผลํ ปตฺโตมฺหี’’ติ อมคฺคเมว ‘‘มคฺโค’’ติ, อผลเมว ‘‘ผล’’นฺติ คณฺหาติ. ตสฺส อมคฺคํ ‘‘มคฺโค’’ติ, อผลฺจ ‘‘ผล’’นฺติ คณฺหโต วิปสฺสนาวีถิ อุกฺกนฺตา โหติ. โส อตฺตโน มูลกมฺมฏฺานํ วิสฺสชฺเชตฺวา นิกนฺติเมว อสฺสาเทนฺโต นิสีทติ. เอตฺถ จ โอภาสาทโย อุปกฺกิเลสวตฺถุตาย อุปกฺกิเลสาติ วุตฺตา, น อกุสลตฺตา. นิกนฺติ ปน อุปกฺกิเลโส เจว อุปกฺกิเลสวตฺถุ จ. วตฺถุวเสเนว เจเต ทส, คาหวเสน ปน สมตึส โหนฺติ. กถํ? ‘‘มม โอภาโส อุปฺปนฺโน’’ติ คณฺหโต หิ ทิฏฺิคฺคาโห โหติ, ‘‘มนาโป วต โอภาโส อุปฺปนฺโน’’ติ คณฺหโต มานคฺคาโห, โอภาสํ อสฺสาทยโต ตณฺหาคฺคาโห. อิติ โอภาเส ทิฏฺิมานตณฺหาวเสน ตโย คาหา. ตถา เสเสสุปีติ เอวํ คาหวเสน สมตึส อุปกฺกิเลสา โหนฺติ. ทุกฺขโต มนสิกโรโต, อนตฺตโต มนสิกโรโตติ วาเรสุปิ ¶ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอเกกอนุปสฺสนาวเสน เหตฺถ เอเกกสฺส วิปสฺสนุปกฺกิเลสุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา, น เอกสฺเสว.
ตีสุ อนุปสฺสนาสุ. เอวํ อเภทโต วิปสฺสนาวเสน อุปกฺกิเลเส ทสฺเสตฺวา ปุน เภทวเสน ทสฺเสนฺโต รูปํ อนิจฺจโต มนสิกโรโตติอาทิมาห. ตตฺถ ชรามรณํ อนิจฺจโต อุปฏฺานนฺติ ชรามรณสฺส อนิจฺจโต อุปฏฺานํ.
๗. ยสฺมา ปุพฺเพ วุตฺตานํ สมตึสาย อุปกฺกิเลสานํ วเสน อกุสโล อพฺยตฺโต โยคาวจโร โอภาสาทีสุ วิกมฺปติ, โอภาสาทีสุ เอเกกํ ‘‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’ติ สมนุปสฺสติ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต โอภาเส เจว าเณ จาติอาทิคาถาทฺวยมาห. ตตฺถ ¶ วิกมฺปตีติ โอภาสาทิเก อารมฺมเณ นานากิเลสวเสน วิวิธา กมฺปติ เวธติ. เยหิ จิตฺตํ ปเวธตีติ เยหิ ปสฺสทฺธิสุเขหิ จิตฺตํ นานากิเลสวเสน นานปฺปกาเรน เวธติ กมฺปติ. ตสฺมา ปสฺสทฺธิยา สุเข เจว โยคาวจโร วิกมฺปตีติ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อุเปกฺขาวชฺชนาย เจวาติ อุเปกฺขาสงฺขาตาย อาวชฺชนาย เจว วิกมฺปติ, อาวชฺชนุเปกฺขาย เจว วิกมฺปตีติ อตฺโถ. วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๗๓๖) ปน ‘‘อุเปกฺขาวชฺชนายฺจา’’ติ วุตฺตํ. อุเปกฺขาย จาติ เหฏฺา วุตฺตปฺปการาย อุเปกฺขาย จ วิกมฺปติ, นิกนฺติยา จ วิกมฺปตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ทฺวินฺนํ อุเปกฺขานํ นิทฺทิฏฺตฺตา เหฏฺา ‘‘อุเปกฺขา อุปฺปชฺชตี’’ติ ¶ วุตฺตฏฺาเน จ อุภยถา อตฺโถ วุตฺโต. อนิจฺจานุปสฺสนาทีสุ จ เอเกกิสฺสาเยว อาวชฺชนุเปกฺขาย สพฺภาวโต เอเกกาเยว อนุปสฺสนา อนิจฺจํ อนิจฺจํ, ทุกฺขํ ทุกฺขํ, อนตฺตา อนตฺตาติ ปุนปฺปุนํ ภาวียตีติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺมา ปน กุสโล ปณฺฑิโต พฺยตฺโต พุทฺธิสมฺปนฺโน โยคาวจโร โอภาสาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ‘‘อยํ โข เม โอภาโส อุปฺปนฺโน, โส โข ปนายํ อนิจฺโจ สงฺขโต ปฏิจฺจสมุปฺปนฺโน ขยธมฺโม วยธมฺโม วิราคธมฺโม นิโรธธมฺโม’’ติ อิติ วา นํ ปฺาย ปริจฺฉินฺทติ อุปปริกฺขติ. อถ วา ปนสฺส เอวํ โหติ – สเจ โอภาโส อตฺตา ภเวยฺย, ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตุํ วฏฺเฏยฺย. อนตฺตาว ปนายํ ‘‘อตฺตา’’ติ คหิโต. ตสฺมายํ อวสวตฺตนฏฺเน อนตฺตาติ ปสฺสนฺโต ทิฏฺึ อุคฺฆาเฏติ. สเจ โอภาโส นิจฺโจ ¶ ภเวยฺย, ‘‘นิจฺโจ’’ติ คเหตุํ วฏฺเฏยฺย. อนิจฺโจว ปนายํ ‘‘นิจฺโจ’’ติ คหิโต. ตสฺมายํ หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺโจติ ปสฺสนฺโต มานํ สมุคฺฆาเฏติ. สเจ โอภาโส สุโข ภเวยฺย, ‘‘สุโข’’ติ คเหตุํ วฏฺเฏยฺย. ทุกฺโขว ปนายํ ‘‘สุโข’’ติ คหิโต. ตสฺมายํ อุปฺปาทวยปฏิปีฬนฏฺเน ทุกฺโขติ ปสฺสนฺโต นิกนฺตึ ปริยาทิยติ. ยถา จ โอภาเส, เอวํ เสเสสุปิ.
เอวํ อุปปริกฺขิตฺวา โอภาสํ ‘‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’’ติ สมนุปสฺสติ. าณํ…เป… นิกนฺตึ ‘‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’’ติ สมนุปสฺสติ. เอวํ สมนุปสฺสนฺโต โอภาสาทีสุ น กมฺปติ น เวธติ. ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อิมานิ ทส านานีติ คาถมาห. ตตฺถ ทส านานีติ โอภาสาทีนิ. ปฺา ยสฺส ปริจฺจิตาติ ยสฺส อุปกฺกิเลสวิมุตฺตาย ปฺาย ปริจิตานิ ปุนปฺปุนํ ผุฏฺานิ ปริภาวิตานิ. ธมฺมุทฺธจฺจกุสโล โหตีติ โส ปฺาย ปริจิตทสฏฺาโน โยคาวจโร ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการสฺส ธมฺมุทฺธจฺจสฺส ยถาสภาวปฏิเวเธน เฉโก โหติ. น จ สมฺโมห คจฺฉตีติ ธมฺมุทฺธจฺจกุสลตฺตาเยว ตณฺหามานทิฏฺุคฺฆาฏวเสน สมฺโมหฺจ น คจฺฉติ.
อิทานิ ¶ ปุพฺเพ วุตฺตเมว วิธึ อปเรน ปริยาเยน วิภาเวตฺวา ทสฺเสนฺโต วิกฺขิปติ เจว กิลิสฺสติ จาติอาทิคาถมาห. ตตฺถ มนฺทปฺโ โยคาวจโร โอภาสาทีสุ วิกฺเขปฺจ อวเสสกิเลสุปฺปตฺติฺจ ปาปุณาติ. มชฺฌิมปฺโ วิกฺเขปเมว ปาปุณาติ, นาวเสสกิเลสุปฺปตฺตึ, โส อธิมานิโก โหติ. ติกฺขปฺโ วิกฺเขปํ ปาปุณิตฺวาปิ ตํ อธิมานํ ปหาย วิปสฺสนํ อารภติ. อติติกฺขปฺโ น วิกฺเขปํ ปาปุณาติ, น จาวเสสกิเลสุปฺปตฺตึ. วิกฺขิปฺปติ เจวาติ เตสุ มนฺทปฺโ ธมฺมุทฺธจฺจสงฺขาตํ วิกฺเขปฺเจว ปาปุณียติ. กิลิสฺสติ จาติ ตณฺหามานทิฏฺิกิเลเสหิ กิเลสียติ จ, อุปตาปียติ วิพาธียตีติ อตฺโถ. จวติ จิตฺตภาวนาติ ตสฺส มนฺทปฺสฺส วิปสฺสนาจิตฺตภาวนา กิเลเสสุเยว ¶ านโต ปฏิปกฺขาวิหตตฺตา จวติ, ปริปตตีติ อตฺโถ. วิกฺขิปติ น กิลิสฺสตีติ มชฺฌิมปฺโ วิกฺเขเปน วิกฺขิปติ, กิเลเสหิ น กิลิสฺสติ. ภาวนา ปริหายตีติ ตสฺส มชฺฌิมปฺสฺส อธิมานิกตฺตา วิปสฺสนารมฺภาภาเวน วิปสฺสนา ปริหายติ, นปฺปวตฺตตีติ ¶ อตฺโถ. วิกฺขิปติ น กิลิสฺสตีติ ติกฺขปฺโปิ วิกฺเขเปน วิกฺขิปติ, กิเลเสหิ น กิลิสฺสติ. ภาวนา น ปริหายตีติ ตสฺส ติกฺขปฺสฺส สนฺเตปิ วิกฺเขเป ตํ อธิมานวิกฺเขปํ ปหาย วิปสฺสนารมฺภสพฺภาเวน วิปสฺสนาภาวนา น ปริหายติ, ปวตฺตตีติ อตฺโถ. น จ วิกฺขิปเต จิตฺตํ น กิลิสฺสตีติ อติติกฺขปฺสฺส จิตฺตํ น วิกฺเขเปน วิกฺขิปติ, น จ กิเลเสหิ กิลิสฺสติ. น จวติ จิตฺตภาวนาติ ตสฺส วิปสฺสนาจิตฺตภาวนา น จวติ, วิกฺเขปกิเลสาภาเวน ยถาาเน ติฏฺตีติ อตฺโถ.
อิเมหิ จตูหิ าเนหีติอาทีสุ อิทานิ วุตฺเตหิ อิเมหิ จตูหิ าเนหิ เหตุภูเตหิ, กรณภูเตหิ วา โอภาสาทิเก ทส าเน จิตฺตสฺส สงฺเขเปน จ วิกฺเขเปน จ วิคฺคหิตํ มานสํ วิกฺเขปกิเลสุปฺปตฺติวิรหิโต จตุตฺโถ กุสโล มหาปฺโ โยคาวจโร มนฺทปฺาทีนํ ติณฺณํ โยคาวจรานํ มานสํ เอวฺจ เอวฺจ โหตีติ นานปฺปการโต ชานาตีติ สมฺพนฺธโต อตฺถวณฺณนา เวทิตพฺพา. สงฺเขโปติ เจตฺถ วิกฺเขปสฺส เจว กิเลสานฺจ อุปฺปตฺติวเสน จิตฺตสฺส ลีนภาโว เวทิตพฺโพ. วิกฺเขโปติ ‘‘วิกฺขิปติ น กิลิสฺสตี’’ติ ทฺวีสุ าเนสุ วุตฺตวิกฺเขปวเสน จิตฺตสฺส อุทฺธตภาโว เวทิตพฺโพติ.
ยุคนทฺธกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สจฺจกถา
สจฺจกถาวณฺณนา
๘. อิทานิ ¶ ¶ ยุคนทฺธคุณสฺส อริยมคฺคสฺส วเสน สจฺจฏฺํ สจฺจปฏิเวธวิเสสํ สจฺจลกฺขณาทิวิธานฺจ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย สจฺจกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ตาว ตถานีติ ยถาสภาววเสน ตจฺฉานิ. ยถาสภาวภูตาเนว หิ ธมฺมชาตานิ สจฺจฏฺเน สจฺจานิ. สจฺจฏฺโ ปมาณนิทฺเทสวณฺณนายํ วุตฺโต. อวิตถานีติ วุตฺตสภาเว วิปริยายวิรหิตานิ. น หิ สจฺจานิ อสจฺจานิ นาม โหนฺติ. อนฺถานีติ อฺสภาววิรหิตานิ. น หิ อสจฺจานิ สจฺจานิ นาม โหนฺติ. อิทํ ทุกฺขนฺติ, ภิกฺขเว, ตถเมตนฺติ ภิกฺขเว, อิทํ ¶ ทุกฺขนฺติ ยํ วุจฺจติ, เอตํ ยถาสภาวตฺตา ตถํ. ทุกฺขเมว หิ ทุกฺขํ. วุตฺตสภาเว วิปริยายาภาวโต อวิตถํ. น หิ ทุกฺขํ อทุกฺขํ นาม โหติ. อฺสภาววิรหิตตฺตา อนฺถํ. น หิ ทุกฺขํ สมุทยาทิสภาวํ โหติ. สมุทยาทีสุปิ เอเสว นโย.
๑. ปมสุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา
ตถฏฺเนาติ ยถาสภาวฏฺเน. ปีฬนฏฺาทโย าณกถายํ วุตฺตตฺถาเยว.
๙. เอกปฺปฏิเวธานีติ เอเกน มคฺคาเณน ปฏิเวโธ, เอกโต วา ปฏิเวโธ เอเตสนฺติ เอกปฺปฏิเวธานิ. อนตฺตฏฺเนาติ จตุนฺนมฺปิ สจฺจานํ อตฺตวิรหิตตฺตา อนตฺตฏฺเน. วุตฺตฺเหตํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๕๖๗) – ปรมตฺถโต หิ สพฺพาเนว สจฺจานิ เวทกการกนิพฺพุตคมกาภาวโต สฺุานีติ เวทิตพฺพานิ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ทุกฺขเมว หิ, น โกจิ ทุกฺขิโต, การโก น, กิริยาว วิชฺชติ;
อตฺถิ นิพฺพุติ, น นิพฺพุโต ปุมา, มคฺคมตฺถิ, คมโก น วิชฺชตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๒.๕๖๗);
อถ ¶ วา –
‘‘ธุวสุภสุขตฺตสฺุํ, ปุริมทฺวยมตฺตสฺุมมตปทํ;
ธุวสุขอตฺตวิรหิโต, มคฺโค อิติ สฺุตา เตสู’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๒.๕๖๗);
สจฺจฏฺเนาติ อวิสํวาทกฏฺเน. ปฏิเวธฏฺเนาติ มคฺคกฺขเณ ปฏิวิชฺฌิตพฺพฏฺเน. เอกสงฺคหิตานีติ ตถฏฺาทินา เอเกเกเนว อตฺเถน สงฺคหิตานิ, เอกคณนํ คตานีติ อตฺโถ. ยํ เอกสงฺคหิตํ, ตํ เอกตฺตนฺติ ยสฺมา เอเกน สงฺคหิตํ, ตสฺมา เอกตฺตนฺติ อตฺโถ. สจฺจานํ พหุตฺเตปิ เอกตฺตมเปกฺขิตฺวา เอกวจนํ กตํ. เอกตฺตํ เอเกน าเณน ปฏิวิชฺฌตีติ ปุพฺพภาเค จตุนฺนํ สจฺจานํ นานตฺเตกตฺตํ สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปตฺวา ิโต มคฺคกฺขเณ ¶ ¶ เอเกน มคฺคาเณน ตถฏฺาทิตํตํเอกตฺตํ ปฏิวิชฺฌติ. กถํ? นิโรธสจฺจสฺส ตถฏฺาทิเก เอกตฺเต ปฏิวิทฺเธ เสสสจฺจานมฺปิ ตถฏฺาทิกํ เอกตฺตํ ปฏิวิทฺธเมว โหติ. ยถา ปุพฺพภาเค ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ นานตฺเตกตฺตํ สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปตฺวา ิตสฺส มคฺควุฏฺานกาเล อนิจฺจโต วา ทุกฺขโต วา อนตฺตโต วา วุฏฺหนฺตสฺส เอกสฺมิมฺปิ ขนฺเธ อนิจฺจาทิโต ทิฏฺเ เสสขนฺธาปิ อนิจฺจาทิโต ทิฏฺาว โหนฺติ, เอวมิทนฺติ ทฏฺพฺพํ. ทุกฺขสฺส ทุกฺขฏฺโ ตถฏฺโติ ทุกฺขสจฺจสฺส ปีฬนฏฺาทิโก จตุพฺพิโธ อตฺโถ สภาวฏฺเน ตถฏฺโ. เสสสจฺเจสุปิ เอเสว นโย. โสเยว จตุพฺพิโธ อตฺโถ อตฺตาภาวโต อนตฺตฏฺโ. วุตฺตสภาเว อวิสํวาทกโต สจฺจฏฺโ. มคฺคกฺขเณ ปฏิวิชฺฌิตพฺพโต ปฏิเวธฏฺโ วุตฺโตติ เวทิตพฺพํ.
๑๐. ยํ อนิจฺจนฺติอาทิ สามฺลกฺขณปุพฺพงฺคมํ กตฺวา ทสฺสิตํ. ตตฺถ ยํ อนิจฺจํ, ตํ ทุกฺขํ. ยํ ทุกฺขํ, ตํ อนิจฺจนฺติ ทุกฺขสมุทยมคฺคา คหิตา. ตานิ หิ ตีณิ สจฺจานิ อนิจฺจานิ เจว อนิจฺจตฺตา ทุกฺขานิ จ. ยํ อนิจฺจฺจ ทุกฺขฺจ, ตํ อนตฺตาติ ตานิเยว ตีณิ คหิตานิ. ยํ อนิจฺจฺจ ทุกฺขฺจ อนตฺตา จาติ เตหิ ตีหิ สห นิโรธสจฺจฺจ สงฺคหิตํ. จตฺตาริปิ หิ อนตฺตาเยว. ตํ ตถนฺติ ตํ สจฺจจตุกฺกํ สภาวภูตํ. ตํ สจฺจนฺติ ตเทว สจฺจจตุกฺกํ ยถาสภาเว อวิสํวาทกํ. นวหากาเรหีติอาทีสุ ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อภิฺเยฺย’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๓; สํ. นิ. ๔.๔๖) วจนโต อภิฺฏฺเน, ทุกฺขสฺส ปริฺฏฺเ, สมุทยสฺส ปหานฏฺเ, มคฺคสฺส ภาวนฏฺเ, นิโรธสฺส สจฺฉิกิริยฏฺเ อาเวนิเกปิ อิธ จตูสุปิ สจฺเจสุ าตปริฺาสพฺภาวโต ปริฺฏฺเน, จตุสจฺจทสฺสเนน ปหานสพฺภาวโต ปหานฏฺเน, จตุสจฺจภาวนาสพฺภาวโต ภาวนฏฺเน, จตุนฺนํ สจฺจานํ สจฺฉิกิริยสพฺภาวโต สจฺฉิกิริยฏฺเนาติ ¶ นิทฺทิฏฺนฺติ เวทิตพฺพํ. นวหากาเรหิ ตถฏฺเนาติอาทีสุ ปมํ วุตฺตนเยเนว โยชนา กาตพฺพา.
๑๑. ทฺวาทสหิ อากาเรหีติอาทีสุ ตถฏฺาทโย าณกถายํ วุตฺตตฺถา. เอเตสํ นิทฺเทเสปิ วุตฺตนเยเนว โยชนา เวทิตพฺพา.
๑๒. สจฺจานํ กติ ลกฺขณานีติอาทีสุ อุปริ วตฺตพฺพานิ ฉ ลกฺขณานิ สงฺขตาสงฺขตวเสน ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา ทฺเว ลกฺขณานีติ ¶ อาห. ตตฺถ ¶ สงฺขตลกฺขณฺจ อสงฺขตลกฺขณฺจาติ ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, สงฺขตสฺส สงฺขตลกฺขณานิ อุปฺปาโท ปฺายติ, วโย ปฺายติ, ิตสฺส อฺถตฺตํ ปฺายติ. ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อสงฺขตสฺส อสงฺขตลกฺขณานิ น อุปฺปาโท ปฺายติ, น วโย ปฺายติ, น ิตสฺส อฺถตฺตํ ปฺายตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๔๗-๔๘) เอวํ วุตฺตํ สงฺขตสฺส สงฺขตมิติ ลกฺขณฺจ อสงฺขตสฺส อสงฺขตมิติ ลกฺขณฺจ. สงฺขตํ ปน น ลกฺขณํ, ลกฺขณํ น สงฺขตํ. น จ สงฺขตํ วินา ลกฺขณํ ปฺาเปตุํ สกฺกา, นปิ ลกฺขณํ วินา สงฺขตํ. ลกฺขเณน ปน สงฺขตํ ปากฏํ โหติ.
ปุน ตเทว ลกฺขณทฺวยํ วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต ฉ ลกฺขณานีติ อาห. สงฺขตานํ สจฺจานนฺติ ทุกฺขสมุทยมคฺคสจฺจานํ. ตานิ หิ ปจฺจเยหิ สงฺคมฺม กตตฺตา สงฺขตานิ. อุปฺปาโทติ ชาติ. ปฺายตีติ ชานียติ. วโยติ ภงฺโค. ิตานํ อฺถตฺตนฺติ ิติปฺปตฺตานํ อฺถาภาโว ชรา. ติณฺณํ สงฺขตสจฺจานํ นิปฺผนฺนตฺตา อุปฺปาทวยฺถตฺตํ วุตฺตํ, เตสํเยว ปน อุปฺปาทสฺส, ชราย ภงฺคสฺส จ อนิปฺผนฺนตฺตา อุปฺปาทวยฺถตฺตํ น วตฺตพฺพํ. สงฺขตนิสฺสิตตฺตา อุปฺปาทวยฺถตฺตํ น ปฺายตีติ น วตฺตพฺพํ. สงฺขตวิการตฺตา ปน สงฺขตนฺติ วตฺตพฺพํ. ทุกฺขสมุทยานํ อุปฺปาทชราภงฺคา สจฺจปริยาปนฺนา, มคฺคสจฺจสฺส อุปฺปาทชราภงฺคา น สจฺจปริยาปนฺนาติ วทนฺติ. ตตฺถ ‘‘สงฺขตานํ อุปฺปาทกฺขเณ สงฺขตาปิ อุปฺปาทลกฺขณมฺปิ กาลสงฺขาโต ตสฺส ขโณปิ ปฺายติ, อุปฺปาเท วีติวตฺเต สงฺขตาปิ ชราลกฺขณมฺปิ กาลสงฺขาโต ตสฺส ขโณปิ ปฺายติ, ภงฺคกฺขเณ สงฺขตาปิ ชราปิ ภงฺคลกฺขณมฺปิ กาลสงฺขาโต ตสฺส ขโณปิ ปฺายตี’’ติ ขนฺธกวคฺคฏฺกถายํ (สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๓.๓๗-๓๘) วุตฺตํ. อสงฺขตสฺส สจฺจสฺสาติ นิโรธสจฺจสฺส. ตฺหิ ปจฺจเยหิ สมาคมฺม อกตตฺตา สยเมว นิปฺผนฺนนฺติ อสงฺขตํ. ิตสฺสาติ นิจฺจตฺตา ิตสฺส, น านปฺปตฺตตฺตา. ปุน ตเทว ลกฺขณทฺวยํ วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต ทฺวาทส ลกฺขณานีติ อาห.
จตุนฺนํ ¶ สจฺจานํ กติ กุสลาติอาทีสุ อพฺยากตนฺติ วิปากาพฺยากตํ กิริยาพฺยากตํ รูปาพฺยากตํ นิพฺพานาพฺยากตนฺติ จตูสุ อพฺยากเตสุ นิพฺพานาพฺยากตํ. จตฺตาริปิ หิ กุสลากุสลลกฺขเณน น พฺยากตตฺตา อพฺยากตานิ. สิยา กุสลนฺติ กามาวจรรูปาวจรารูปาวจรกุสลานํ ¶ วเสน ¶ กุสลมฺปิ ภเวยฺย. สิยา อกุสลนฺติ ตณฺหํ เปตฺวา เสสากุสลวเสน. สิยา อพฺยากตนฺติ กามาวจรรูปาวจรารูปาวจรวิปากกิริยานํ รูปานฺจ วเสน. สิยา ตีณิ สจฺจานีติอาทีสุ สงฺคหิตานีติ คณิตานิ. วตฺถุวเสนาติ อกุสลกุสลาพฺยากตทุกฺขสมุทยนิโรธมคฺคสงฺขาตวตฺถุวเสน. ยํ ทุกฺขสจฺจํ อกุสลนฺติ เปตฺวา ตณฺหํ อวเสสํ อกุสลํ. อกุสลฏฺเน ทฺเว สจฺจานิ เอกสจฺเจน สงฺคหิตานีติ อิมานิ ทฺเว ทุกฺขสมุทยสจฺจานิ อกุสลฏฺเน เอกสจฺเจน สงฺคหิตานิ, อกุสลสจฺจํ นาม โหตีติ อตฺโถ. เอกสจฺจํ ทฺวีหิ สจฺเจหิ สงฺคหิตนฺติ เอกํ อกุสลสจฺจํ ทฺวีหิ ทุกฺขสมุทยสจฺเจหิ สงฺคหิตํ. ยํ ทุกฺขสจฺจํ กุสลนฺติ เตภูมกํ กุสลํ. อิมานิ ทฺเว ทุกฺขมคฺคสจฺจานิ กุสลฏฺเน เอกสจฺเจน สงฺคหิตานิ, กุสลสจฺจํ นาม โหติ. เอกํ กุสลสจฺจํ ทฺวีหิ ทุกฺขมคฺคสจฺเจหิ สงฺคหิตํ. ยํ ทุกฺขสจฺจํ อพฺยากตนฺติ เตภูมกวิปากกิริยา รูปฺจ. อิมานิ ทฺเว ทุกฺขนิโรธสจฺจานิ อพฺยากตฏฺเน เอกสจฺเจน สงฺคหิตานิ, เอกํ อพฺยากตสจฺจํ นาม โหติ. เอกํ อพฺยากตสจฺจํ ทฺวีหิ ทุกฺขนิโรธสจฺเจหิ สงฺคหิตํ. ตีณิ สจฺจานิ เอกสจฺเจน สงฺคหิตานีติ สมุทยมคฺคนิโรธสจฺจานิ เอเกน อกุสลกุสลาพฺยากตภูเตน ทุกฺขสจฺเจน สงฺคหิตานิ. เอกํ สจฺจํ ตีหิ สจฺเจหิ สงฺคหิตนฺติ เอกํ ทุกฺขสจฺจํ วิสุํ อกุสลกุสลอพฺยากตภูเตหิ สมุทยมคฺคนิโรธสจฺเจหิ สงฺคหิตํ. เกจิ ปน ‘‘ทุกฺขสมุทยสจฺจานิ อกุสลฏฺเน สมุทยสจฺเจน สงฺคหิตานิ, ทุกฺขมคฺคสจฺจานิ กุสลฏฺเน มคฺคสจฺเจน สงฺคหิตานิ, น ทสฺสนฏฺเน. ทุกฺขนิโรธสจฺจานิ อพฺยากตฏฺเน นิโรธสจฺเจน สงฺคหิตานิ, น อสงฺขตฏฺเนา’’ติ วณฺณยนฺติ.
๒. ทุติยสุตฺตนฺตปาฬิวณฺณนา
๑๓. ปุน อฺสฺส สุตฺตนฺตสฺส อตฺถวเสน สจฺจปฺปฏิเวธํ นิทฺทิสิตุกาโม ปุพฺเพ เม, ภิกฺขเวติอาทิกํ สุตฺตนฺตํ อาหริตฺวา ทสฺเสสิ. ตตฺถ ปุพฺเพ เม, ภิกฺขเว, สมฺโพธาติ ภิกฺขเว, มม สมฺโพธิโต สพฺพฺุตฺาณโต ปุพฺเพ. อนภิสมฺพุทฺธสฺสาติ สพฺพธมฺเม อปฺปฏิวิทฺธสฺส. โพธิสตฺตสฺเสว สโตติ โพธิสตฺตภูตสฺเสว. เอตทโหสีติ โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺนสฺส เอตํ ปริวิตกฺกิตํ อโหสิ. อสฺสาโทติ อสฺสาทียตีติ อสฺสาโท. อาทีนโวติ โทโส ¶ . นิสฺสรณนฺติ อปคมนํ. สุขนฺติ ¶ สุขยตีติ สุขํ, ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ สุขิตํ กโรตีติ อตฺโถ. โสมนสฺสนฺติ ปีติโสมนสฺสโยคโต โสภนํ มโน อสฺสาติ สุมโน, สุมนสฺส ภาโว โสมนสฺสํ ¶ , สุขเมว ปีติโยคโต วิเสสิตํ. อนิจฺจนฺติ อทฺธุวํ. ทุกฺขนฺติ ทุกฺขวตฺถุตฺตา สงฺขารทุกฺขตฺตา จ ทุกฺขํ. วิปริณามธมฺมนฺติ อวสี หุตฺวา ชราภงฺควเสน ปริวตฺตนปกติกํ. เอเตน อนตฺตภาโว วุตฺโต โหติ. ฉนฺทราควินโยติ ฉนฺทสงฺขาตสฺส ราคสฺส สํวรณํ, น วณฺณราคสฺส. ฉนฺทราคปฺปหานนฺติ ตสฺเสว ฉนฺทราคสฺส ปชหนํ.
ยาวกีวฺจาติอาทีสุ ยาว อิเมสํ ปฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ…เป… ยถาภูตํ นาพฺภฺาสึ น อธิเกน าเณน ปฏิวิชฺฌึ, ตาว อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อนุตฺตรํ สพฺพฺุภาวํ อภิสมฺพุทฺโธ อภิสเมตาวี อรหนฺติ เนวาหํ ปจฺจฺาสึ เนว ปฏิฺํ อกาสินฺติ สมฺพนฺธโต อตฺโถ. กีวฺจาติ นิปาตมตฺตํ. ยโตติ ยสฺมา, ยทา วา. อถาติ อนนฺตรํ. าณฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทีติ ทสฺสนกิจฺจกรเณน ทสฺสนสงฺขาตํ ปจฺจเวกฺขณาณฺจ เม อุปฺปชฺชิ. อกุปฺปาติ โกเปตุํ จาเลตุํ อสกฺกุเณยฺยา. วิมุตฺตีติ อรหตฺตผลวิมุตฺติ. เอตาย เอว ผลปจฺจเวกฺขณาย มคฺคนิพฺพานปจฺจเวกฺขณาปิ วุตฺตาว โหนฺติ. อยมนฺติมา ชาตีติ อยํ ปจฺฉิมา ขนฺธปฺปวตฺติ. นตฺถิทานิ ปุนพฺภโวติ อิทานิ ปุน อุปฺปตฺติ นตฺถิ. เอเตน ปหีนกิเลสปจฺจเวกฺขณา วุตฺตา. อรหโต หิ อวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขณา น โหติ.
๓. ทุติยสุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๑๔. สจฺจปฺปฏิเวธาณโยชนกฺกเม จ อยํ รูปสฺส อสฺสาโทติ ปหานปฺปฏิเวโธติ ปุพฺพภาเค ‘‘อยํ ตณฺหาสมฺปยุตฺโต รูปสฺส อสฺสาโท’’ติ ตฺวา มคฺคกฺขเณ สมุทยปฺปหานสงฺขาโต สมุทยสจฺจปฺปฏิเวโธ. สมุทยสจฺจนฺติ สมุทยสจฺจปฺปฏิเวธาณํ. อริยสจฺจารมฺมณาณมฺปิ หิ ‘‘เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สพฺเพ เต จตูสุ อริยสจฺเจสุ สงฺคหํ คจฺฉนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๐๐) วิย ‘‘สจฺจ’’นฺติ วุจฺจติ. อยํ รูปสฺส อาทีนโวติ ปริฺาปฏิเวโธติ ปุพฺพภาเค ‘‘อยํ รูปสฺส อาทีนโว’’ติ ตฺวา มคฺคกฺขเณ ทุกฺขปริฺาสงฺขาโต ทุกฺขสจฺจปฺปฏิเวโธ. ทุกฺขสจฺจนฺติ ทุกฺขสจฺจปฺปฏิเวธาณํ. อิทํ รูปสฺส นิสฺสรณนฺติ สจฺฉิกิริยาปฏิเวโธติ ปุพฺพภาเค ‘‘อิทํ รูปสฺส นิสฺสรณ’’นฺติ ¶ ตฺวา มคฺคกฺขเณ นิโรธสจฺฉิกิริยาสงฺขาโต นิโรธสจฺจปฺปฏิเวโธ. นิโรธสจฺจนฺติ นิโรธสจฺจารมฺมณํ นิโรธสจฺจปฺปฏิเวธาณํ ¶ . ยา อิเมสุ ตีสุ าเนสูติ อิเมสุ ยถาวุตฺเตสุ ตีสุ สมุทยทุกฺขนิโรเธสุ ปฏิเวธวเสน ปวตฺตา ยา ทิฏฺิ โย สงฺกปฺโปติ โยชนา. ภาวนาปฏิเวโธติ อยํ มคฺคภาวนาสงฺขาโต มคฺคสจฺจปฺปฏิเวโธ. มคฺคสจฺจนฺติ มคฺคสจฺจปฺปฏิเวธาณํ.
๑๕. ปุน ¶ อปเรน ปริยาเยน สจฺจานิ จ สจฺจปฺปฏิเวธฺจ ทสฺเสนฺโต สจฺจนฺติ กติหากาเรหิ สจฺจนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา สพฺเพปิ สพฺพฺุโพธิสตฺตา โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺนา ชรามรณาทิกสฺส ทุกฺขสจฺจสฺส ชาติอาทิกํ สมุทยสจฺจํ ‘‘กึ นุ โข’’ติ เอสนฺติ, ตถา เอสนฺตา จ ชรามรณาทิกสฺส ทุกฺขสจฺจสฺส ชาติอาทิกํ สมุทยสจฺจํ ‘‘ปจฺจโย’’ติ ววตฺถเปนฺโต ปริคฺคณฺหนฺติ, ตสฺมา สา จ เอสนา โส จ ปริคฺคโห สจฺจานํ เอสนตฺตา ปริคฺคหตฺตา จ ‘‘สจฺจ’’นฺติ กตฺวา เอสนฏฺเน ปริคฺคหฏฺเนาติ วุตฺตํ. อยฺจ วิธิ ปจฺเจกพุทฺธานมฺปิ ปจฺจยปริคฺคเห ลพฺภติเยว, สาวกานํ ปน อนุสฺสววเสน ปจฺจยปริคฺคเห ลพฺภติ. ปฏิเวธฏฺเนาติ ปุพฺพภาเค ตถา เอสิตานํ ปริคฺคหิตานฺจ มคฺคกฺขเณ เอกปฏิเวธฏฺเน.
กึนิทานนฺติอาทีสุ นิทานาทีนิ สพฺพานิ การณเววจนานิ. การณฺหิ ยสฺมา ผลํ นิเทติ ‘‘หนฺท นํ คณฺหถา’’ติ อปฺเปติ วิย, ตสฺมา ‘‘นิทาน’’นฺติ วุจฺจติ. ยสฺมา ผลํ ตโต สมุเทติ, ชายติ, ปภวติ; ตสฺมา สมุทโย, ชาติ, ปภโวติ วุจฺจติ. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – กึ นิทานํ เอตสฺสาติ กึนิทานํ. โก สมุทโย เอตสฺสาติ กึสมุทยํ. กา ชาติ เอตสฺสาติ กึชาติกํ. โก ปภโว เอตสฺสาติ กึปภวํ. ยสฺมา ปน ตสฺส ชาติ ยถาวุตฺเตน อตฺเถน นิทานฺเจว สมุทโย จ ชาติ จ ปภโว จ, ตสฺมา ชาตินิทานนฺติอาทิมาห. ชรามรณนฺติ ทุกฺขสจฺจํ. ชรามรณสมุทยนฺติ ตสฺส ปจฺจยํ สมุทยสจฺจํ. ชรามรณนิโรธนฺติ นิโรธสจฺจํ. ชรามรณนิโรธคามินึ ปฏิปทนฺติ มคฺคสจฺจํ. อิมินาว นเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๑๖. นิโรธปฺปชานนาติ อารมฺมณกรเณน นิโรธสฺส ปชานนา. ชาติ สิยา ทุกฺขสจฺจํ, สิยา สมุทยสจฺจนฺติ ภวปจฺจยา ปฺายนฏฺเน ทุกฺขสจฺจํ ¶ , ชรามรณสฺส ปจฺจยฏฺเน สมุทยสจฺจํ. เอส นโย เสเสสุปิ. อวิชฺชา สิยา ทุกฺขสจฺจนฺติ ปน อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทยฏฺเนาติ.
สจฺจกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. โพชฺฌงฺคกถา
โพชฺฌงฺคกถาวณฺณนา
๑๗. อิทานิ ¶ สจฺจปฺปฏิเวธสิทฺธํ โพชฺฌงฺควิเสสํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย โพชฺฌงฺคกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ตาว โพชฺฌงฺคาติ โพธิยา, โพธิสฺส วา องฺคาติ ¶ โพชฺฌงฺคา. กึ วุตฺตํ โหติ (สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๑๘๒) – ยา หิ อยํ ธมฺมสามคฺคี, ยาย โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ อุปฺปชฺชมานาย ลีนุทฺธจฺจปติฏฺานายูหนกามสุขตฺตกิลมถานุโยคอุจฺเฉทสสฺสตาภินิเวสาทีนํ อเนเกสํ อุปทฺทวานํ ปฏิปกฺขภูตาย สติธมฺมวิจยวีริยปีติปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสงฺขาตาย ธมฺมสามคฺคิยา อริยสาวโก พุชฺฌตีติ กตฺวา โพธีติ วุจฺจติ, พุชฺฌตีติ กิเลสสนฺตานนิทฺทาย วุฏฺหติ, จตฺตาริ วา อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ, นิพฺพานเมว วา สจฺฉิกโรตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห – ‘‘สตฺต โพชฺฌงฺเค ภาเวตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๗๘; ที. นิ. ๓.๑๔๓). ตสฺสา ธมฺมสามคฺคีสงฺขาตาย โพธิยา องฺคาติ โพชฺฌงฺคา ฌานงฺคมคฺคงฺคาทโย วิย. โยเปส ยถาวุตฺตปฺปการาย เอตาย ธมฺมสามคฺคิยา พุชฺฌตีติ กตฺวา อริยสาวโก โพธีติ วุจฺจติ, ตสฺส โพธิสฺส องฺคาติปิ โพชฺฌงฺคา เสนงฺครถงฺคาทโย วิย. เตนาหุ อฏฺกถาจริยา ‘‘พุชฺฌนกสฺส ปุคฺคลสฺส องฺคาติ โพชฺฌงฺคา’’ติ. สติสมฺโพชฺฌงฺคาทีนํ อตฺโถ อภิฺเยฺยนิทฺเทเส วุตฺโต.
โพชฺฌงฺคตฺถนิทฺเทเส โพธาย สํวตฺตนฺตีติ พุชฺฌนตฺถาย สํวตฺตนฺติ. กสฺส พุชฺฌนตฺถาย? มคฺคผเลหิ นิพฺพานสฺส ปจฺจเวกฺขณาย กตกิจฺจสฺส พุชฺฌนตฺถาย, มคฺเคน วา กิเลสนิทฺทาโต ปพุชฺฌนตฺถาย ผเลน ปพุทฺธภาวตฺถายาปีติ วุตฺตํ โหติ. พลววิปสฺสนายปิ โพชฺฌงฺคา โพธาย สํวตฺตนฺติ ¶ . ตสฺมา อยํ วิปสฺสนามคฺคผลโพชฺฌงฺคานํ สาธารณตฺโถ. ตีสุปิ หิ าเนสุ โพธาย นิพฺพานปฏิเวธาย สํวตฺตนฺติ. เอเตน โพธิยา องฺคาติ โพชฺฌงฺคาติ วุตฺตํ โหติ. พุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคาติอาทีหิ ปฺจหิ จตุกฺเกหิ วุตฺตานํ โพชฺฌงฺคานํ อุปฺปตฺติฏฺานํ อภิฺเยฺยนิทฺเทเส วุตฺตํ. อปิ จ พุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคานํ สกิจฺจกรเณ สมตฺถภาวทสฺสนตฺถํ กตฺตุนิทฺเทโส ¶ . พุชฺฌนฏฺเนาติ สกิจฺจกรณสมตฺถตฺเตปิ สติ กตฺตุโน อภาวทสฺสนตฺถํ ภาวนิทฺเทโส. โพเธนฺตีติ โพชฺฌงฺคภาวนาย พุชฺฌนฺตานํ โยคีนํ ปโยชกตฺตา โพชฺฌงฺคานํ เหตุกตฺตุนิทฺเทโส. โพธนฏฺเนาติ ปมํ วุตฺตนเยเนว ปโยชกเหตุกตฺตุนา ภาวนิทฺเทโส. เอเตหิ โพธิยา องฺคา โพชฺฌงฺคาติ วุตฺตํ โหติ. โพธิปกฺขิยฏฺเนาติ พุชฺฌนฏฺเน โพธีติ ลทฺธนามสฺส โยคิสฺส ปกฺเข ภวตฺตา. อยเมเตสํ โยคิโน อุปการกตฺตนิทฺเทโส. เอเตหิ โพธิสฺส องฺคาติ โพชฺฌงฺคาติ วุตฺตํ โหติ. พุทฺธิลภนฏฺเนาติอาทิเก ฉกฺเก พุทฺธิลภนฏฺเนาติ โยคาวจเรน พุทฺธิยา ปาปุณนฏฺเน. โรปนฏฺเนาติ สตฺตานํ ปติฏฺาปนฏฺเน ¶ . ปาปนฏฺเนาติ ปติฏฺาปิตาย นิฏฺาปนฏฺเน. อิเม วิปสฺสนาโพชฺฌงฺคา ปติ-อภิ-สํ-อิติ ตีหิ อุปสคฺเคหิ วิเสสิตา มคฺคผลโพชฺฌงฺคาติ วทนฺติ. สพฺเพสมฺปิ ธมฺมโวหาเรน นิทฺทิฏฺานํ โพชฺฌงฺคานํ โพธิยา องฺคาติ โพชฺฌงฺคาติ วุตฺตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.
มูลมูลกาทิทสกวณฺณนา
๑๘. มูลฏฺเนาติอาทิเก มูลมูลเก ทสเก มูลฏฺเนาติ วิปสฺสนาทีสุ ปุริมา ปุริมา โพชฺฌงฺคา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ โพชฺฌงฺคานฺจ สหชาตธมฺมานฺจ อฺมฺฺจ มูลฏฺเน. มูลจริยฏฺเนาติ มูลํ หุตฺวา จริยา ปวตฺติ มูลจริยา. เตน มูลจริยฏฺเน, มูลํ หุตฺวา ปวตฺตนฏฺเนาติ อตฺโถ. มูลปริคฺคหฏฺเนาติ เต เอว โพชฺฌงฺคา อาทิโต ปภุติ อุปฺปาทนตฺถาย ปริคยฺหมานตฺตา ปริคฺคหา, มูลานิเยว ปริคฺคหา มูลปริคฺคหา. เตน มูลปริคฺคหฏฺเน. เต เอว อฺมฺํ ปริวารวเสน ปริวารฏฺเน. ภาวนาปาริปูริวเสน ปริปูรณฏฺเน. นิฏฺํ ปาปุณนวเสน ปริปากฏฺเน. เต เอว มูลานิ จ ฉพฺพิธา ปเภทภินฺนตฺตา ปฏิสมฺภิทา จาติ มูลปฏิสมฺภิทา. เตน มูลปฏิสมฺภิทฏฺเน. มูลปฏิสมฺภิทาปาปนฏฺเนาติ โพชฺฌงฺคภาวนานุยุตฺตสฺส โยคิโน ตํ มูลปฏิสมฺภิทํ ปาปนฏฺเน ¶ . ตสฺเสว โยคิโน ตสฺสา มูลปฏิสมฺภิทาย วสีภาวฏฺเน. เสเสสุปิ อีทิเสสุ ปุคฺคลโวหาเรสุ โพธิสฺส องฺคาติ โพชฺฌงฺคาติ วุตฺตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. มูลปฏิสมฺภิทาย วสีภาวปฺปตฺตานมฺปีติ อีทิเสสุปิ นิฏฺาวจเนสุ ผลโพชฺฌงฺคาติ เวทิตพฺพํ. วสีภาวํ ปตฺตานนฺติปิ ปาโ.
มูลมูลกทสกํ นิฏฺิตํ.
เสเสสุปิ เหตุมูลกาทีสุ นวสุ ทสเกสุ อิมินาว นเยน สาธารณวจนานํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ ¶ . อสาธารเณสุ ปน ยถาวุตฺตา เอว โพชฺฌงฺคา ยถาวุตฺตานํ ธมฺมานํ ชนกตฺตา เหตู นาม โหนฺติ. อุปตฺถมฺภกตฺตา ปจฺจยา นาม. เต เอว ตทงฺคสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธิวิสุทฺธิภูตตฺตา วิสุทฺธิ นาม. วชฺชวิรหิตตฺตา อนวชฺชา นาม. ‘‘สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา เนกฺขมฺม’’นฺติ วจนโต เนกฺขมฺมํ นาม. กิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา ตทงฺควิมุตฺติอาทิวเสน วิมุตฺติ นาม. มคฺคผลโพชฺฌงฺคา วิสยีภูเตหิ อาสเวหิ วิรหิตตฺตา อนาสวา. ติวิธาปิ โพชฺฌงฺคา กิเลเสหิ สฺุตฺตา ตทงฺควิเวกาทิวเสน วิเวกา. วิปสฺสนามคฺคโพชฺฌงฺคา ปริจฺจาคโวสคฺคตฺตา ปกฺขนฺทนโวสคฺคตฺตา จ โวสคฺคา. ผลโพชฺฌงฺคา ปกฺขนฺทนโวสคฺคตฺตา โวสคฺคา.
๑๙. มูลฏฺํ ¶ พุชฺฌนฺตีติอาทโย เอเกกปทวเสน นิทฺทิฏฺา นว ทสกา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. วสีภาวปฺปตฺตานนฺติ ปทํ ปน วตฺตมานวจนาภาเวน น โยชิตํ. ปริคฺคหฏฺาทโย อภิฺเยฺยนิทฺเทเส วุตฺตตฺถา.
๒๐. ปุน เถโร อตฺตนา เทสิตํ สุตฺตนฺตํ อุทฺทิสิตฺวา ตสฺส นิทฺเทสวเสน โพชฺฌงฺควิธึ ทสฺเสตุกาโม เอกํ สมยนฺติอาทิกํ นิทานํ วตฺวา สุตฺตนฺตํ ตาว อุทฺทิสิ. อตฺตนา เทสิตสุตฺตตฺตา เอว เจตฺถ เอวํ เม สุตนฺติ น วุตฺตํ. อายสฺมา สาริปุตฺโตติ ปเนตฺถ เทสกพฺยตฺติภาวตฺถํ อตฺตานํ ปรํ วิย กตฺวา วุตฺตํ. อีทิสฺหิ วจนํ โลเก คนฺเถสุ ปยุชฺชนฺติ. ปุพฺพณฺหสมยนฺติ สกลํ ปุพฺพณฺหสมยํ. อจฺจนฺตสํโยคตฺเถ อุปโยควจนํ. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. สติสมฺโพชฺฌงฺโค อิติ เจ ¶ เม โหตีติ สติสมฺโพชฺฌงฺโคติ เอวฺเจ มยฺหํ โหติ. อปฺปมาโณติ เม โหตีติ อปฺปมาโณติ เอวํ เม โหติ. สุสมารทฺโธติ เม โหตีติ สุฏฺุ ปริปุณฺโณติ เอวํ เม โหติ. ติฏฺนฺตนฺติ นิพฺพานารมฺมเณ ปวตฺติวเสน ติฏฺนฺตํ. จวตีติ นิพฺพานารมฺมณโต อปคจฺฉติ. เสสโพชฺฌงฺเคสุปิ เอเสว นโย.
ราชมหามตฺตสฺสาติ รฺโ มหาอมจฺจสฺส, มหติยา วา โภคมตฺตาย โภคปฺปมาเณน สมนฺนาคตสฺส. นานารตฺตานนฺติ นานารงฺครตฺตานํ, ปูรณตฺเถ สามิวจนํ, นานารตฺเตหีติ อตฺโถ. ทุสฺสกรณฺฑโกติ ทุสฺสเปฬา. ทุสฺสยุคนฺติ วตฺถยุคลํ. ปารุปิตุนฺติ อจฺฉาเทตุํ. อิมสฺมึ สุตฺตนฺเต เถรสฺส ผลโพชฺฌงฺคา กถิตา. ยทา หิ เถโร สติสมฺโพชฺฌงฺคํ สีสํ กตฺวา ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, ตทา อิตเร ตทนฺวยา โหนฺติ. ยทา ธมฺมวิจยาทีสุ อฺตรํ, ตทา เสสาปิ ตทนฺวยา โหนฺตีติ เอวํ ผลสมาปตฺติยา อตฺตโน จิณฺณวสีภาวํ ทสฺเสนฺโต เถโร อิมํ สุตฺตนฺตํ กเถสีติ.
สุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๒๑. กถํ ¶ สติสมฺโพชฺฌงฺโค อิติ เจ โหตีติ โพชฺฌงฺโคติ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ สีสํ กตฺวา ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชนฺตสฺส อฺเสุ โพชฺฌงฺเคสุ วิชฺชมาเนสุ เอวํ อยํ สติสมฺโพชฺฌงฺโค โหตีติ อิติ เจ ปวตฺตสฺส กถํ โส สติสมฺโพชฺฌงฺโค โหตีติ อตฺโถ. ยาวตา นิโรธูปฏฺาตีติ ยตฺตเกน กาเลน นิโรโธ อุปฏฺาติ, ยตฺตเก กาเล อารมฺมณโต นิพฺพานํ อุปฏฺาตีติ อตฺโถ. ยาวตา อจฺจีติ ยตฺตเกน ปริมาเณน ชาลา. กถํ อปฺปมาโณ อิติ เจ โหตีติ โพชฺฌงฺโคติ น อปฺปมาเณปิ สติสมฺโพชฺฌงฺเค วิชฺชมาเน เอวํ อยํ อปฺปมาโณ โหตีติ อิติ เจ ปวตฺตสฺส ¶ โส อปฺปมาโณ สติสมฺโพชฺฌงฺโค กถํ โหตีติ อตฺโถ. ปมาณพทฺธาติ กิเลสา จ ปริยุฏฺานา จ โปโนภวิกสงฺขารา จ ปมาณพทฺธา นาม โหนฺติ. ‘‘ราโคปมาณกรโณ, โทโส ปมาณกรโณ, โมโห ปมาณกรโณ’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๙) วจนโต ราคาทโย ยสฺส อุปฺปชฺชนฺติ, ‘‘อยํ เอตฺตโก’’ติ ตสฺส ปมาณกรณโต ปมาณํ นาม. ตสฺมึ ปมาเณ พทฺธา ปฏิพทฺธา อายตฺตาติ ¶ กิเลสาทโย ปมาณพทฺธา นาม โหนฺติ. กิเลสาติ อนุสยภูตา, ปริยุฏฺานาติ สมุทาจารปฺปตฺตกิเลสา. สงฺขารา โปโนภวิกาติ ปุนปฺปุนํ ภวกรณํ ปุนภโว, ปุนภโว สีลเมเตสนฺติ โปนภวิกา, โปนภวิกา เอว โปโนภวิกา. กุสลากุสลกมฺมสงฺขาตา สงฺขารา. อปฺปมาโณติ วุตฺตปฺปการสฺส ปมาณสฺส อภาเวน อปฺปมาโณ. มคฺคผลานมฺปิ อปฺปมาณตฺตา ตโต วิเสสนตฺถํ อจลฏฺเน อสงฺขตฏฺเนาติ วุตฺตํ. ภงฺคาภาวโต อจโล, ปจฺจยาภาวโต อสงฺขโต. โย หิ อจโล อสงฺขโต จ, โส อติวิย ปมาณวิรหิโต โหติ.
กถํ สุสมารทฺโธ อิติ เจ โหตีติ โพชฺฌงฺโคติ อนนฺตรํ วุตฺตนเยน โยเชตพฺพํ. วิสมาติ สยฺจ วิสมตฺตา, วิสมสฺส จ ภาวสฺส เหตุตฺตา วิสมา. สมธมฺโมติ สนฺตฏฺเน ปณีตฏฺเน สโม ธมฺโม. ปมาณาภาวโต สนฺโต. ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ ธมฺมานํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐) วจนโต สพฺพธมฺมุตฺตมฏฺเน ปณีโต. ตสฺมึ สมธมฺโมติ วุตฺเต สุสเม อารทฺโธ สุสมารทฺโธ. อาวชฺชิตตฺตาติ ผลสมาปตฺติยา ปวตฺตกาลํ สนฺธาย วุตฺตํ. อนุปฺปาทาทิสงฺขาเต นิพฺพาเน มโนทฺวาราวชฺชนสฺส อุปฺปนฺนตฺตาติ วุตฺตํ โหติ. ติฏฺตีติ ปวตฺตติ. อุปฺปาทาทีนิ เหฏฺา วุตฺตตฺถานิ. เสสโพชฺฌงฺคมูลเกสุปิ วาเรสุ เอเสว นโย.
โพชฺฌงฺคกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. เมตฺตากถา
เมตฺตากถาวณฺณนา
๒๒. อิทานิ ¶ โพชฺฌงฺคกถานนฺตรํ กถิตาย โพชฺฌงฺคกถาคติยา สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย เมตฺตากถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ตาว อาเสวิตายาติ อาทเรน เสวิตาย. ภาวิตายาติ ¶ วฑฺฒิตาย. พหุลีกตายาติ ปุนปฺปุนํ กตาย. ยานีกตายาติ ยุตฺตยานสทิสาย กตาย. วตฺถุกตายาติ ปติฏฺานฏฺเน วตฺถุ วิย กตาย. อนุฏฺิตายาติ ปจฺจุปฏฺิตาย. ปริจิตายาติ สมนฺตโต จิตาย อุปจิตาย. สุสมารทฺธายาติ สุฏฺุ สมารทฺธาย สุกตาย ¶ . อานิสํสาติ คุณา. ปาฏิกงฺขาติ ปฏิกงฺขิตพฺพา อิจฺฉิตพฺพา. สุขํ สุปตีติ ยถา เสสชนา สมฺปริวตฺตมานา กากจฺฉมานา ทุกฺขํ สุปนฺติ, เอวํ อสุปิตฺวา สุขํ สุปติ. นิทฺทํ โอกฺกนฺโตปิ สมาปตฺตึ สมาปนฺโน วิย โหติ. สุขํ ปฏิพุชฺฌตีติ ยถา อฺเ นิตฺถุนนฺตา วิชมฺภนฺตา สมฺปริวตฺตนฺตา ทุกฺขํ ปฏิพุชฺฌนฺติ, เอวํ อปฏิพุชฺฌิตฺวา วิกสมานมิว ปทุมํ สุขํ นิพฺพิการํ ปฏิพุชฺฌติ. น ปาปกํ สุปินํ ปสฺสตีติ สุปินํ ปสฺสนฺโตปิ ภทฺทกเมว สุปินํ ปสฺสติ. เจติยํ วนฺทนฺโต วิย ปูชํ กโรนฺโต วิย ธมฺมํ สุณนฺโต วิย จ โหติ. ยถา ปนฺเ อตฺตานํ โจเรหิ ปริวาริตํ วิย วาเฬหิ อุปทฺทุตํ วิย ปปาเต ปตนฺตํ วิย จ ปสฺสนฺติ, น เอวํ ปาปกํ สุปินํ ปสฺสติ. มนุสฺสานํ ปิโย โหตีติ อุเร อามุตฺตมุตฺตาหาโร วิย สีเส ปิฬนฺธมาลา วิย จ มนุสฺสานํ ปิโย โหติ มนาโป. อมนุสฺสานํ ปิโย โหตีติ ยเถว จ มนุสฺสานํ, เอวํ อมนุสฺสานมฺปิ ปิโย โหติ. เทวตา รกฺขนฺตีติ ปุตฺตมิว มาตาปิตโร เทวตา รกฺขนฺติ. นาสฺส อคฺคิ วา วิสํ วา สตฺถํ วา กมตีติ เมตฺตาวิหาริสฺส กาเย อคฺคิ วา วิสํ วา สตฺถํ วา น กมติ น ปวิสติ, นาสฺส กายํ วิโกเปตีติ วุตฺตํ โหติ. ตุวฏํ จิตฺตํ สมาธิยตีติ เมตฺตาวิหาริโน ขิปฺปเมว จิตฺตํ สมาธิยติ, นตฺถิ ตสฺส ทนฺธายิตตฺตํ. มุขวณฺโณ วิปฺปสีทตีติ พนฺธนา ปมุตฺตตาลปกฺกํ วิย จสฺส วิปฺปสนฺนวณฺณํ มุขํ โหติ. อสมฺมูฬฺโห กาลํ กโรตีติ เมตฺตาวิหาริโน สมฺโมหมรณํ นาม นตฺถิ, อสมฺมูฬฺโห นิทฺทํ โอกฺกมนฺโต วิย กาลํ กโรติ. อุตฺตริ อปฺปฏิวิชฺฌนฺโตติ เมตฺตาสมาปตฺติโต อุตฺตรึ อรหตฺตํ อธิคนฺตุํ อสกฺโกนฺโต อิโต จวิตฺวา สุตฺตปฺปพุทฺโธ วิย พฺรหฺมโลกูปโค โหตีติ พฺรหฺมโลกํ อุปปชฺชตีติ อตฺโถ.
เมตฺตานิทฺเทเส ¶ อโนธิโส ผรณาติ โอธิ มริยาทา, น โอธิ อโนธิ. ตโต อโนธิโส, อโนธิโตติ อตฺโถ, นิปฺปเทสโต ผุสนาติ วุตฺตํ โหติ. โอธิโสติ ปเทสวเสน. ทิสาผรณาติ ทิสาสุ ผรณา. สพฺเพติ อนวเสสปริยาทานํ. สตฺตาติปทสฺส อตฺโถ าณกถามาติกาวณฺณนายํ วุตฺโต, รุฬฺหีสทฺเทน ปน วีตราเคสุปิ อยํ โวหาโร วตฺตติ วิลีวมเยปิ พีชนิวิเสเส ตาลวณฺฏโวหาโร วิย. อเวราติ เวรรหิตา. อพฺยาปชฺชาติ พฺยาปาทรหิตา. อนีฆาติ ¶ นิทฺทุกฺขา. อนิคฺฆาติปิ ปาโ. สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตูติ ¶ สุขิตา หุตฺวา อตฺตภาวํ วตฺตยนฺตุ. ‘‘อเวรา’’ติ จ สกสนฺตาเน จ ปเร ปฏิจฺจ, ปรสนฺตาเน จ อิตเร ปฏิจฺจ เวราภาโว ทสฺสิโต, ‘‘อพฺยาปชฺชา’’ติอาทีสุ เวราภาวา ตมฺมูลกพฺยาปาทาภาโว, ‘‘อนีฆา’’ติ พฺยาปาทาภาวา ตมฺมูลกทุกฺขาภาโว, ‘‘สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’’ติ ทุกฺขาภาวาสุเขน อตฺตภาวปริหรณํ ทสฺสิตนฺติ เอวเมตฺถ วจนสมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพติ. อิเมสุ จ ‘‘อเวรา โหนฺตู’’ติอาทีสุ จตูสุปิ วจเนสุ ยํ ยํ ปากฏํ โหติ, ตสฺส ตสฺส วเสน เมตฺตาย ผรติ.
ปาณาติอาทีสุ ปาณนตาย ปาณา, อสฺสาสปสฺสาสายตฺตวุตฺติตายาติ อตฺโถ. ภูตตฺตา ภูตา, อภินิพฺพตฺตาติ อตฺโถ. ปุํ วุจฺจติ นิรโย, ตํ ปุํ คลนฺติ คจฺฉนฺตีติ ปุคฺคลา. อตฺตภาโว วุจฺจติ สรีรํ, ขนฺธปฺจกเมว วา, ตํ อุปาทาย ปฺตฺติมตฺตสพฺภาวโต, ตสฺมึ อตฺตภาเว ปริยาปนฺนา ปริจฺฉินฺนา อนฺโตคธาติ อตฺตภาวปริยาปนฺนา. ยถา จ สตฺตาติ วจนํ, เอวํ เสสานิปิ รุฬฺหีวเสน อาโรเปตฺวา สพฺพาเนตานิ สพฺพสตฺตเววจนานีติ เวทิตพฺพานิ. กามฺจ อฺานิปิ ‘‘สพฺเพ ชนฺตู สพฺเพ ชีวา’’ติอาทีนิ สพฺพสตฺตเววจนานิ อตฺถิ, ปากฏวเสน ปน อิมาเนว ปฺจ คเหตฺวา ‘‘ปฺจหากาเรหิ อโนธิโส ผรณา เมตฺตาเจโตวิมุตฺตี’’ติ วุจฺจติ. เย ปน ‘‘สตฺตา ปาณา’’ติอาทีนํ น เกวลํ วจนมตฺตโตว, อถ โข อตฺถโตปิ นานตฺตเมว อิจฺเฉยฺยุํ, เตสํ อโนธิโส ผรณา วิรุชฺฌติ. ตสฺมา ตถา อตฺถํ อคฺคเหตฺวา อิเมสุ ปฺจสุ อากาเรสุ อฺตรวเสน อโนธิโส เมตฺตาย ผรติ.
โอธิโส ผรเณ ปน อิตฺถิโย ปุริสาติ ลิงฺควเสน วุตฺตํ, อริยา อนริยาติ อริยปุถุชฺชนวเสน, เทวามนุสฺสา วินิปาติกาติ อุปปตฺติวเสน. ทิสาผรเณปิ ทิสาวิภาคํ อกตฺวา สพฺพทิสาสุ ‘‘สพฺเพ สตฺตา’’ติอาทินา นเยน ผรณโต อโนธิโส ผรณา โหติ, สพฺพทิสาสุ ‘‘สพฺพา อิตฺถิโย’’ติอาทินา นเยน ผรณโต โอธิโส ผรณา.
ยสฺมา ปน อยํ ติวิธาปิ เมตฺตาผรณา อปฺปนาปตฺตจิตฺตสฺส วเสน วุตฺตา, ตสฺมา ตีสุ วาเรสุ ¶ อปฺปนา คเหตพฺพา. อโนธิโส ผรเณ ตาว ¶ ‘‘สพฺเพ สตฺตา อเวรา โหนฺตู’’ติ เอกา, ‘‘อพฺยาปชฺชา โหนฺตู’’ติ เอกา ‘‘อนีฆา โหนฺตู’’ติ เอกา, ‘‘สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’’ติ เอกา. ตานิปิ หิ จตฺตาริ หิโตปสํหารวเสเนว วุตฺตานิ. หิโตปสํหารลกฺขณา หิ เมตฺตา. อิติ ‘‘สตฺตา’’ติอาทีสุ ปฺจสุ อากาเรสุ จตสฺสนฺนํ จตสฺสนฺนํ อปฺปนานํ วเสน วีสติ อปฺปนา โหนฺติ, โอธิโส ผรเณ ‘‘สพฺพา อิตฺถิโย’’ติอาทีสุ สตฺตสุ อากาเรสุ จตสฺสนฺนํ จตสฺสนฺนํ วเสน อฏฺวีสติ อปฺปนา. ทิสาผรเณ ¶ ปน ‘‘สพฺเพ ปุรตฺถิมาย ทิสาย สตฺตา’’ติอาทินา นเยน เอกเมกิสฺสา ทิสาย วีสติ วีสติ กตฺวา ทฺเว สตานิ, ‘‘สพฺพา ปุรตฺถิมาย ทิสาย อิตฺถิโย’’ติอาทินา นเยน เอกเมกิสฺสา ทิสาย อฏฺวีสติ อฏฺวีสติ กตฺวา อสีติ ทฺเว สตานีติ จตฺตาริ สตานิ อสีติ จ อปฺปนา. อิติ สพฺพานิปิ อิธ วุตฺตานิ อฏฺวีสาธิกานิ ปฺจ อปฺปนาสตานิ โหนฺติ. ยถา จ เมตฺตาย ติวิเธน ผรณา วุตฺตา, ตถา กรุณามุทิตาอุเปกฺขานมฺปิ วุตฺตาว โหตีติ เวทิตพฺพํ.
๑. อินฺทฺริยวารวณฺณนา
๒๓. อถ เมตฺตูปสํหาราการํ อินฺทฺริยาทิปริภาวนฺจ ทสฺเสตุํ สพฺเพสํ สตฺตานํ ปีฬนํ วชฺเชตฺวาติอาทิมาห. ตตฺถ ปีฬนนฺติ อพฺภนฺตรโต สรีรปีฬนํ. อุปฆาตนฺติ พาหิรโต สรีโรปฆาตํ. สนฺตาปนฺติ ยถา ตถา วา จิตฺตสนฺตาปนํ. ปริยาทานนฺติ ปกติยา ชีวิตาทิปริกฺขยํ. วิเหสนฺติ ปรโต ชีวิตวิเหนํ. วชฺเชตฺวาติ ปีฬนาทีสุ เอเกกํ อตฺตโน จิตฺเตเนว อปเนตฺวา. อิมานิ ปีฬนาทีนิ ปฺจ ปทานิ เมตฺโตปสํหารสฺส ปฏิปกฺขวิวชฺชนวเสน วุตฺตานิ, อปีฬนายาติอาทีนิ เมตฺโตปสํหารวเสน. อปีฬนายาติ อปีฬนากาเรน, สพฺเพ สตฺเต เมตฺตายตีติ สมฺพนฺโธ. เอวํ เสเสสุปิ. มา เวริโน มา ทุกฺขิโน มา ทุกฺขิตตฺตาติ อิมานิปิ ตีณิ เมตฺโตปสํหารสฺส ปฏิปกฺขปฏิกฺเขปวจนานิ. มา-วจนสฺส มา โหนฺตูติ อตฺโถ. อเวริโน สุขิโน สุขิตตฺตาติ อิมานิ ตีณิ เมตฺโตปสํหารวจนานิ. ‘‘อพฺยาปชฺชา อนีฆา’’ติ อิทํ ทฺวยํ ‘‘สุขิโน’’ติ วจเนน สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. สุขิตตฺตาติ ตสฺเสว สุขสฺส นิจฺจปฺปวตฺติทสฺสนํ. ‘‘สุขิตตฺตา’’ติ จ ‘‘สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’’ติ จ อตฺถโต เอกํ. ‘‘อปีฬนายา’’ติอาทีหิ วา อพฺยาปชฺชานีฆวจนานิ สงฺคหิตานิ. อฏฺหากาเรหีติ ‘‘อปีฬนายา’’ติอาทโย ปฺจ ¶ เมตฺโตปสํหาราการา ‘‘อเวริโน โหนฺตู’’ติอาทโย ตโย เมตฺโตปสํหาราการาติ อิเมหิ อฏฺหากาเรหิ. เมตฺตายตีติ สินิยฺหติ. ตํ ธมฺมํ เจตยตีติ ตํ หิโตปสํหารํ เจตยติ อภิสนฺทหติ, ปวตฺเตตีติ อตฺโถ. สพฺพพฺยาปาทปริยุฏฺาเนหิ ¶ วิมุจฺจตีติ เมตฺตาย ปฏิปกฺขภูเตหิ สพฺเพหิ พฺยาปาทสมุทาจาเรหิ วิกฺขมฺภนโต วิมุจฺจติ. เมตฺตา จ เจโต จ วิมุตฺติ จาติ เอกาเยว เมตฺตา ติธา วณฺณิตา.
อเวริโน เขมิโน สุขิโนติ อิมานิ ตีณิ ปทานิ ปุพฺเพ วุตฺเต อากาเร สงฺเขเปน สงฺคเหตฺวา วุตฺตานิ. สทฺธาย อธิมุจฺจตีติอาทินา นเยน วุตฺตานิ ปฺจินฺทฺริยานิ เมตฺตาย สมฺปยุตฺตานิเยว. อาเสวนาติอาทีสุ ฉสุ วาเรสุ อาเสวียติ เอเตหิ เมตฺตาติ อาเสวนา. ตถา ภาวนา พหุลีกมฺมํ. อลงฺการาติ วิภูสนา. สฺวาลงฺกตาติ สุฏฺุ อลงฺกตา ภูสิตา. ปริกฺขาราติ สมฺภารา. สุปริกฺขตาติ ¶ สุฏฺุ สมฺภตา. ปริวาราติ รกฺขนฏฺเน. ปุน อาเสวนาทีนิ อฏฺวีสติ ปทานิ เมตฺตาย วณฺณภณนตฺถํ วุตฺตานิ. ตตฺถ ปาริปูรีติ ปริปุณฺณภาวา. สหคตาติ เมตฺตาย สหคตา. ตถา สหชาตาทโย. ปกฺขนฺทนาติ เมตฺตาย ปวิสนา, ปกฺขนฺทติ เอเตหิ เมตฺตาติ วา ปกฺขนฺทนา. ตถา สํสีทนาทโย. เอตํ สนฺตนฺติ ผสฺสนาติ เอสา เมตฺตา สนฺตาติ เอเตหิ ผสฺสนา โหตีติ เอตํ สนฺตนฺติ ผสฺสนา ‘‘เอตทคฺค’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๑.๑๘๘ อาทโย) วิย นปุํสกวจนํ. สฺวาธิฏฺิตาติ สุฏฺุ ปติฏฺิตา. สุสมุคฺคตาติ สุฏฺุ สมุสฺสิตา. สุวิมุตฺตาติ อตฺตโน อตฺตโน ปจฺจนีเกหิ สุฏฺุ วิมุตฺตา. นิพฺพตฺเตนฺตีติ เมตฺตาสมฺปยุตฺตา หุตฺวา เมตฺตํ นิพฺพตฺเตนฺติ. โชเตนฺตีติ ปากฏํ กโรนฺติ. ปตาเปนฺตีติ วิโรเจนฺติ.
๒-๔. พลาทิวารตฺตยวณฺณนา
๒๔-๒๗. อินฺทฺริยวาเร วุตฺตนเยเนว พลวาโรปิ เวทิตพฺโพ. โพชฺฌงฺคมคฺคงฺควารา ปริยาเยน วุตฺตา, น ยถาลกฺขณวเสน. มคฺคงฺควาเร สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวา เมตฺตาย ปุพฺพภาควเสน วุตฺตา, น อปฺปนาวเสน. น หิ เอเต เมตฺตาย สห ภวนฺติ. สพฺเพสํ ปาณานนฺติอาทีนํ เสสวารานมฺปิ ¶ สตฺตวาเร วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เมตฺตาภาวนาวิธานํ ปน วิสุทฺธิมคฺคโต (วิสุทฺธิ. ๑.๒๔๐ อาทโย) คเหตพฺพนฺติ.
เมตฺตากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. วิราคกถา
วิราคกถาวณฺณนา
๒๘. อิทานิ ¶ มคฺคปโยชนปริโยสานาย เมตฺตากถาย อนนฺตรํ กถิตาย วิราคสงฺขาตมคฺคปุพฺพงฺคมาย วิราคกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ ปมํ ตาว ‘‘นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ วิราคา วิมุจฺจตี’’ติ (มหาว ๒๓) วุตฺตานํ ทฺวินฺนํ สุตฺตนฺตปทานํ อตฺถํ นิทฺทิสิตุกาเมน วิราโค มคฺโค, วิมุตฺติ ผลนฺติ อุทฺเทโส ปิโต. ตตฺถ ปมํ วจนตฺถํ ตาว นิทฺทิสิตุกาโม กถํ วิราโค มคฺโคติอาทิมาห. ตตฺถ วิรชฺชตีติ วิรตฺตา โหติ. เสสานิ มคฺคาณนิทฺเทเส วุตฺตตฺถานิ. วิราโคติ ยสฺมา สมฺมาทิฏฺิ วิรชฺชติ, ตสฺมา วิราโค นามาติ อตฺโถ ¶ . โส จ วิราโค ยสฺมา วิราคารมฺมโณ…เป… วิราเค ปติฏฺิโต, ตสฺมา จ วิราโคติ เอวํ ‘‘วิราคารมฺมโณ’’ติอาทีนํ ปฺจนฺนํ วจนานํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ วิราคารมฺมโณติ นิพฺพานารมฺมโณ. วิราคโคจโรติ นิพฺพานวิสโย. วิราเค สมุทาคโตติ นิพฺพาเน สมุปฺปนฺโน. วิราเค ิโตติ ปวตฺติวเสน นิพฺพาเน ิโต. วิราเค ปติฏฺิโตติ อนิวตฺตนวเสน นิพฺพาเน ปติฏฺิโต.
นิพฺพานฺจ วิราโคติ นิพฺพานํ วิราคเหตุตฺตา วิราโค. นิพฺพานารมฺมณตาชาตาติ นิพฺพานารมฺมเณ ชาตา, นิพฺพานารมฺมณภาเวน วา ชาตา. เต มคฺคสมฺปยุตฺตา สพฺเพว ผสฺสาทโย ธมฺมา วิรชฺชนฏฺเน วิราคา โหนฺตีติ วิราคา นาม โหนฺติ. สหชาตานีติ สมฺมาทิฏฺิสหชาตานิ สมฺมาสงฺกปฺปาทีนิ สตฺต มคฺคงฺคานิ. วิราคํ คจฺฉนฺตีติ วิราโค มคฺโคติ วิราคํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา คจฺฉนฺตีติ วิราคารมฺมณตฺตา วิราโค นาม, มคฺคนฏฺเน มคฺโค นาม โหตีติ อตฺโถ. เอเกกมฺปิ มคฺคงฺคํ มคฺโคติ นามํ ลภติ. อิติ เอเกกสฺส องฺคสฺส มคฺคตฺเต วุตฺเต สมฺมาทิฏฺิยาปิ มคฺคตฺตํ วุตฺตเมว โหติ. ตสฺมาเยว จ เอเตน มคฺเคนาติ อฏฺ มคฺคงฺคานิ คเหตฺวา วุตฺตํ. พุทฺธา จาติ ปจฺเจกพุทฺธาปิ สงฺคหิตา. เตปิ หิ ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, พุทฺธา ตถาคโต จ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปจฺเจกพุทฺโธ จา’’ติ (อ. นิ. ๒.๕๗) วุตฺตตฺตา พุทฺธาเยว ¶ . อคตนฺติ อนมตคฺเค สํสาเร อคตปุพฺพํ. ทิสนฺติ สกลายปฏิปตฺติยา ทิสฺสติ อปทิสฺสติ อภิสนฺทหียตีติ ทิสา, สพฺพพุทฺเธหิ วา ปรมํ สุขนฺติ ทิสฺสติ อปทิสฺสติ กถียตีติ ทิสา ¶ , สพฺพทุกฺขํ วา ทิสฺสนฺติ วิสฺสชฺเชนฺติ อุชฺฌนฺติ เอตายาติ ทิสา. ตํ ทิสํ. อฏฺงฺคิโก มคฺโคติ กึ วุตฺตํ โหติ? โย โส อฏฺงฺคิโก ธมฺมสมูโห, โส เอเตน นิพฺพานํ คจฺฉนฺตีติ คมนฏฺเน มคฺโค นามาติ วุตฺตํ โหติ. ปุถุสมณพฺราหฺมณานํ ปรปฺปวาทานนฺติ วิสุํ วิสุํ สมณานํ พฺราหฺมณานฺจ อิโต อฺลทฺธิกานํ. อคฺโคติ เตสํ เสสมคฺคานํ วิสิฏฺโ. เสฏฺโติ เสสมคฺคโต อติวิย ปสํสนีโย. โมกฺโขติ มุเข สาธุ, เสสมคฺคานํ อภิมุเข อยเมว สาธูติ อตฺโถ. อุตฺตโมติ เสสมคฺเค อติวิย อุตฺติณฺโณ. ปวโรติ เสสมคฺคโต นานปฺปกาเรหิ สํภชนีโย. อิตีติ การณตฺเถ นิปาโต. ตสฺมา ภควตา ‘‘มคฺคานํ อฏฺงฺคิโก เสฏฺโ’’ติ วุตฺโตติ อธิปฺปาโย. วุตฺตฺหิ ภควตา –
‘‘มคฺคานฏฺงฺคิโก เสฏฺโ, สจฺจานํ จตุโร ปทา;
วิราโค เสฏฺโ ธมฺมานํ, ทฺวิปทานฺจ จกฺขุมา’’ติ. (ธ. ป. ๒๗๓);
ตํ อิธ วิจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘มคฺคานํ อฏฺงฺคิโก เสฏฺโ’’ติ วุตฺตํ. เสสวาเรสุปิ ¶ อิมินา จ นเยน เหฏฺา วุตฺตนเยน จ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ทสฺสนวิราโคติอาทีสุ ทสฺสนสงฺขาโต วิราโค ทสฺสนวิราโค. อินฺทฺริยฏฺโต พลสฺส วิสิฏฺตฺตา อิธ อินฺทฺริยโต พลํ ปมํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อาธิปเตยฺยฏฺเน อินฺทฺริยานีติอาทิ อินฺทฺริยาทีนํ อตฺถวิภาวนา, น วิราคสฺส. ตถฏฺเน สจฺจาติ สจฺจาณํ เวทิตพฺพํ. สีลวิสุทฺธีติ สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวา. จิตฺตวิสุทฺธีติ สมฺมาสมาธิ. ทิฏฺิวิสุทฺธีติ สมฺมาทิฏฺิสงฺกปฺปา. วิมุตฺตฏฺเนาติ ตํตํมคฺควชฺฌกิเลเสหิ มุตฺตฏฺเน. วิชฺชาติ สมฺมาทิฏฺิ. วิมุตฺตีติ สมุจฺเฉทวิมุตฺติ. อมโตคธํ นิพฺพานํ ปริโยสานฏฺเน มคฺโคติ มคฺคผลปจฺจเวกฺขณาหิ มคฺคียตีติ มคฺโค.
อิมสฺมึ วิราคนิทฺเทเส วุตฺตา ธมฺมา สพฺเพปิ มคฺคกฺขเณเยว. วิมุตฺตินิทฺเทเส ผลกฺขเณ. ตสฺมา ฉนฺทมนสิการาปิ มคฺคผลสมฺปยุตฺตา.
๒๙. วิราคนิทฺเทเส ¶ วุตฺตนเยเนว วิมุตฺตินิทฺเทเสปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ผลํ ปเนตฺถ ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติ, นิพฺพานํ นิสฺสรณวิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติ. ‘‘สหชาตานิ สตฺตงฺคานี’’ติอาทีนิ วจนานิ อิธ น ลพฺภนฺตีติ น วุตฺตานิ. สยํ ผลวิมุตฺตตฺตา ปริจฺจาคฏฺเน วิมุตฺตีติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ.
วิราคกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ปฏิสมฺภิทากถา
๑. ธมฺมจกฺกปวตฺตนวารวณฺณนา
๓๐. อิทานิ ¶ วิราคสงฺขาตมคฺควเสน สิทฺธํ ปฏิสมฺภิทาปเภทํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย ปฏิสมฺภิทากถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. สุตฺตนฺเต ตาว พาราณสิยนฺติ พาราณสา นาม นที, พาราณสาย อวิทูเร ภวา นครี พาราณสี. ตสฺสํ พาราณสิยํ. อิสิปตเน มิคทาเยติ อิสีนํ ปตนุปฺปตนวเสน เอวํลทฺธนาเม มิคานํ อภยทานทินฺนฏฺานตฺตา มิคทายสงฺขาเต อาราเม. ตตฺถ หิ อุปฺปนฺนุปฺปนฺนา สพฺพฺุอิสโย ปตนฺติ, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนตฺถํ นิสีทนฺตีติ อตฺโถ. นนฺทมูลกปพฺภารโต สตฺตาหจฺจเยน นิโรธสมาปตฺติโต วุฏฺิตา อโนตตฺตทเห กตมุขโธวนกิจฺจา อากาเสน อาคนฺตฺวา ปจฺเจกพุทฺธอิสโยเปตฺถ สโมสรณวเสน ปตนฺติ ¶ , อุโปสถตฺถฺจ อนุโปสถตฺถฺจ สนฺนิปตนฺติ, คนฺธมาทนํ ปฏิคจฺฉนฺตา จ ตโต จ อุปฺปตนฺตีติปิ อิมินา อิสีนํ ปตนุปฺปตนวเสน ตํ ‘‘อิสิปตน’’นฺติ วุจฺจติ. ‘‘อิสิปทน’’นฺติปิ ปาโ. ปฺจวคฺคิเยติ –
‘‘โกณฺฑฺโ ภทฺทิโย วปฺโป, มหานาโม จ อสฺสชิ;
เอเต ปฺจ มหาเถรา, ปฺจวคฺคาติ วุจฺจเร’’ติ. –
เอวํ วุตฺตานํ ปฺจนฺนํ ภิกฺขูนํ วคฺโค ปฺจวคฺโค. ตสฺมึ ปฺจวคฺเค ภวา ตํปริยาปนฺนตฺตาติ ปฺจวคฺคิยา, เต ปฺจวคฺคิเย. ภิกฺขู อามนฺเตสีติ ทีปงฺกรทสพลสฺส ปาทมูเล กตาภินีหารโต ปฏฺาย ปารมิโย ปูเรนฺโต ¶ อนุปุพฺเพน ปจฺฉิมภวํ ปตฺวา ปจฺฉิมภเว จ กตาภินิกฺขมโน อนุปุพฺเพน โพธิมณฺฑํ ปตฺวา ตตฺถ อปราชิตปลฺลงฺเก นิสินฺโน มารพลํ ภินฺทิตฺวา ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริตฺวา มชฺฌิมยาเม ทิพฺพจกฺขุํ วิโสเธตฺวา ปจฺฉิมยามาวสาเน ทสสหสฺสิโลกธาตุํ อุนฺนาเทนฺโต สมฺปกมฺเปนฺโต สพฺพฺุตํ ปตฺวา สตฺต สตฺตาหานิ โพธิมณฺเฑ วีตินาเมตฺวา มหาพฺรหฺมุนา อายาจิตธมฺมเทสนา พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกตฺวา ¶ โลกานุคฺคเหน พาราณสึ คนฺตฺวา ปฺจวคฺคิเย ภิกฺขู สฺาเปตฺวา ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตุกาโม อามนฺเตสิ.
ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อนฺตาติ ทฺเวเม, ภิกฺขเว, โกฏฺาสา. อิมสฺส ปน วจนสฺส สมุทาหาเรน สมุทาหารนิคฺโฆโส เหฏฺา อวีจึ อุปริ ภวคฺคํ ปตฺวา ทสสหสฺสึ โลกธาตุํ ปตฺถริตฺวา อฏฺาสิ, ตสฺมึเยว สมเย อฏฺารสโกฏิสงฺขา พฺรหฺมาโน สมาคจฺฉึสุ. ปจฺฉิมทิสาย สูริโย อตฺถงฺคเมติ, ปุรตฺถิมาย ทิสาย อุตฺตราสาฬฺหนกฺขตฺเตน ยุตฺโต ปุณฺณจนฺโท อุคฺคจฺฉติ. ตสฺมึ สมเย ภควา ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตนฺตํ อารภนฺโต ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อนฺตา’’ติอาทิมาห.
ตตฺถ ปพฺพชิเตนาติ คิหิสํโยชนํ วตฺถุกามํ เฉตฺวา ปพฺพชิเตน. น เสวิตพฺพาติ น วลฺเชตพฺพา. ปพฺพชิตานํเยว วิเสสโต ปฏิปตฺติยา ภาชนภูตตฺตา ‘‘ปพฺพชิเตน น เสวิตพฺพา’’ติ วุตฺตํ. โย จายํ กาเมสุ กามสุขลฺลิกานุโยโคติ โย จ อยํ วตฺถุกาเมสุ กิเลสกามสุขสฺส, กิเลสกามสุขนิสฺสยสฺส วา อนุโยโค. หีโนติ ลามโก. คมฺโมติ คามวาสีนํ สนฺตโก. โปถุชฺชนิโกติ ปุถุชฺชเนน อนฺธพาลชเนน อาจิณฺโณ. อนริโยติ น อริโย. อถ วา น วิสุทฺธานํ อุตฺตมานํ อริยานํ สนฺตโก. อนตฺถสํหิโตติ น อตฺถสํหิโต, สุขาวหการณํ อนิสฺสิโตติ อตฺโถ. อตฺตกิลมถานุโยโคติ อตฺตโน กิลมถสฺส อนุโยโค ¶ , อตฺตโน ทุกฺขกรณนฺติ อตฺโถ. ทุกฺโขติ กณฺฏกาปสฺสยเสยฺยาทีหิ อตฺตมารเณหิ ทุกฺขาวโห. ตปสฺสีหิ ‘‘อุตฺตมํ ตโป’’ติ คหิตตฺตา เตสํ จิตฺตานุรกฺขนตฺถํ อิธ ‘‘หีโน’’ติ น วุตฺตํ, ปพฺพชิตานํ ธมฺมตฺตา ‘‘คมฺโม’’ติ จ, คิหีหิ อสาธารณตฺตา ‘‘โปถุชฺชนิโก’’ติ จ น วุตฺตํ. ตตฺถ ปน เกหิจิ ปพฺพชิตปฏิฺเหิ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาเทหิ ‘‘ยโต โข, โภ ¶ , อยํ อตฺตา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคิภูโต ปริจาเรติ, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา ทิฏฺธมฺมนิพฺพานปฺปตฺโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๙๔) คหิตตฺตา เตสํ จิตฺตานุรกฺขนตฺถฺจ ปจฺจุปฺปนฺเน สุขตฺตา จ ตสฺส ธมฺมสมาทานสฺส ‘‘ทุกฺโข’’ติ น วุตฺตํ. กามสุขลฺลิกานุโยโค ปจฺจุปฺปนฺเน ตณฺหาทิฏฺิสํกิลิฏฺสุขตฺตา อายติฺจ ทุกฺขวิปากตฺตา ตทนุยุตฺตานํ ตณฺหาทิฏฺิพนฺธนพทฺธตฺตา จ น เสวิตพฺโพ, อตฺตกิลมถานุโยโค ปจฺจุปฺปนฺเน ทิฏฺิสํกิลิฏฺทุกฺขตฺตา อายติฺจ ทุกฺขวิปากตฺตา ตทนุยุตฺตานํ ทิฏฺิพนฺธนพทฺธตฺตา จ น เสวิตพฺโพ, เอเต โขติ เต เอเต. อนุปคมฺมาติ น อุปคนฺตฺวา. มชฺฌิมาติ สํกิลิฏฺสุขทุกฺขานํ อภาวา มชฺเฌ ภวาติ มชฺฌิมา. สา เอว นิพฺพานํ ปฏิปชฺชนฺติ เอตายาติ ปฏิปทา. อภิสมฺพุทฺธาติ ปฏิวิทฺธา. จกฺขุกรณีติอาทีสุ ปฺาจกฺขุํ กโรตีติ จกฺขุกรณี. าณกรณีติ ตสฺเสว เววจนํ. อุปสมายาติ กิเลสูปสมาย. อภิฺายาติ จตุนฺนํ ¶ สจฺจานํ อภิชานนตฺถาย. สมฺโพธายาติ เตสํเยว สมฺพุชฺฌนตฺถาย. นิพฺพานายาติ นิพฺพานสจฺฉิกิริยตฺถาย. อถ วา ทสฺสนมคฺคาณํ กโรตีติ จกฺขุกรณี. ภาวนามคฺคาณํ กโรตีติ าณกรณี. สพฺพกิเลสานํ อุปสมาย. สพฺพธมฺมานํ อภิฺาย. อรหตฺตผลสมฺโพธาย. กิเลสานฺจ ขนฺธานฺจ นิพฺพานาย. สจฺจกถา อภิฺเยฺยนิทฺเทเส วุตฺตา.
เอวํ ภควา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา อตฺตนิ กตพหุมานานํ เตสํ อตฺตโน ปฏิเวธกฺกมํ สุตฺวา ปฏิปตฺติยา พหุมานาโรปเนน ปฏิปตฺติยํ ตฺวา สจฺจปฺปฏิเวธํ ปสฺสนฺโต อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติ เม, ภิกฺขเวติอาทินา อตฺตโน ปฏิเวธกฺกมํ ทสฺเสสิ. ตตฺถ อนนุสฺสุเตสูติ น อนุสฺสุเตสุ, ปรํ อนุคนฺตฺวา อสฺสุเตสูติ อตฺโถ. จกฺขูติอาทีนํ อตฺโถ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ, อิทํ ทุกฺขสมุทยํ, อิทํ ทุกฺขนิโรธํ, อิทํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจนฺติ จตุนฺนํ สจฺจานํ ทสฺสนปฏิเวโธ เสขภูมิยํ. ปริฺเยฺยํ ปหาตพฺพํ สจฺฉิกาตพฺพํ ภาเวตพฺพนฺติ จตุนฺนํ สจฺจานํ ภาวนาปฏิเวโธ ¶ เสขภูมิยํเยว. ปริฺาตํ ปหีนํ สจฺฉิกตํ ภาวิตนฺติ จตุนฺนํ สจฺจานํ ปจฺจเวกฺขณา อเสขภูมิยํ.
ติปริวฏฺฏนฺติ สจฺจาณกิจฺจาณกตาณสงฺขาตานํ ติณฺณํ ปริวฏฺฏานํ วเสน ตโย ปริวฏฺฏา อสฺสาติ ติปริวฏฺฏํ. เอตฺถ หิ ‘‘อิทํ ทุกฺขํ, อิทํ ทุกฺขสมุทยํ ¶ , อิทํ ทุกฺขนิโรธํ, อิทํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจ’’นฺติ เอวํ จตูสุ สจฺเจสุ ยถาภูตาณํ สจฺจาณํ นาม. เตสุเยว ‘‘ปริฺเยฺยํ ปหาตพฺพํ สจฺฉิกาตพฺพํ ภาเวตพฺพ’’นฺติ เอวํ กตฺตพฺพกิจฺจชานนาณํ กิจฺจาณํ นาม. ‘‘ปริฺาตํ ปหีนํ สจฺฉิกตํ ภาวิต’’นฺติ เอวํ ตสฺส กิจฺจสฺส กตภาวชานนาณํ กตาณํ นาม. ทฺวาทสาการนฺติ เตสํเยว เอเกกสฺมึ สจฺเจ ติณฺณํ ติณฺณํ อาการานํ วเสน ทฺวาทส อาการา อสฺสาติ ทฺวาทสาการํ. าณทสฺสนนฺติ เอเตสํ ติปริวฏฺฏานํ ทฺวาทสนฺนํ อาการานํ วเสน อุปฺปนฺนํ าณสงฺขาตํ ทสฺสนํ. อตฺตมนาติ สกมนา. สตฺตานฺหิ สุขกามตฺตา ทุกฺขปฏิกูลตฺตา ปีติโสมนสฺสยุตฺตมโน สกมโน นาม, ปีติโสมนสฺเสหิ อตฺตมนา คหิตมนา พฺยาปิตมนาติ วา อตฺโถ. อภินนฺทุนฺติ อภิมุขา หุตฺวา นนฺทึสุ. เวยฺยากรเณติ สุตฺตนฺเต. นิคฺคาถโก หิ สุตฺตนฺโต เกวลํ อตฺถสฺส พฺยากรณโต เวยฺยากรณํ นาม. ภฺมาเนติ กถิยมาเน. วตฺตมานสมีเป วตฺตมานวจนํ กตํ, ภณิเตติ อตฺโถ. วิรชนฺติ วิคตราคาทิรชํ. วีตมลนฺติ วิคตราคาทิมลํ. ราคาทโย หิ อชฺโฌตฺถรณฏฺเน รโช นาม, ทูสนฏฺเน มลํ นาม. ธมฺมจกฺขุนฺติ กตฺถจิ ปมมคฺคาณํ, กตฺถจิ อาทีนิ ตีณิ มคฺคาณานิ, กตฺถจิ จตุตฺถมคฺคาณมฺปิ ¶ . อิธ ปน ปมมคฺคาณเมว. ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺมนฺติ วิปสฺสนาวเสน เอวํ ปวตฺตสฺส ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทีติ อตฺโถ.
ธมฺมจกฺเกติ ปฏิเวธาเณ จ เทสนาาเณ จ. โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺนสฺส หิ ภควโต จตูสุ สจฺเจสุ ทฺวาทสาการํ ปฏิเวธาณมฺปิ อิสิปตเน นิสินฺนสฺส ทฺวาทสาการเมว สจฺจเทสนาย ปวตฺตกเทสนาาณมฺปิ ธมฺมจกฺกํ นาม. อุภยมฺปิ เหตํ ทสพลสฺส ปวตฺตาณเมว. ตํ อิมาย เทสนาย ปกาเสนฺเตน ภควตา ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ นาม. ตํ ปเนตํ ธมฺมจกฺกํ ยาว อฺาตโกณฺฑฺตฺเถโร อฏฺารสหิ พฺรหฺมโกฏีหิ สทฺธึ โสตาปตฺติผเล น ปติฏฺาติ, ตาว ภควา ปวตฺเตติ นาม, ปติฏฺิเต ปน ปวตฺติตํ นาม. ตํ สนฺธาย ‘‘ปวตฺติเต จ ภควตา ธมฺมจกฺเก’’ติ วุตฺตํ.
ภุมฺมา ¶ เทวาติ ภูมฏฺกา เทวา. สทฺทมนุสฺสาเวสุนฺติ เอกปฺปหาเรเนว สาธุการํ ทตฺวา เอตํ ภควตาติอาทีนิ วทนฺตา สทฺทํ อนุสฺสาวยึสุ. อปฺปฏิวตฺติยนฺติ ¶ ‘‘นยิทํ ตถา’’ติ ปฏิโลมํ วตฺเตตุํ อสกฺกุเณยฺยํ. สนฺนิปติตา เจตฺถ เทวพฺรหฺมาโน เทสนาปริโยสาเน เอกปฺปหาเรเนว สาธุการํ อทํสุ, สนฺนิปาตํ อนาคตา ปน ภุมฺมเทวาทโย เตสํ เตสํ สทฺทํ สุตฺวา สาธุการมทํสูติ เวทิตพฺพํ. เตสุ ปน ปพฺพตรุกฺขาทีสุ นิพฺพตฺตา ภุมฺมเทวา. เต จาตุมหาราชิกปริยาปนฺนา โหนฺตาปิ อิธ วิสุํ กตฺวา วุตฺตา. จาตุมหาราชิกาติ จ ธตรฏฺวิรูฬฺหกวิรูปกฺขกุเวรสงฺขาตา จตุมหาราชา เทวตา เอเตสนฺติ จาตุมหาราชิกา. เต สิเนรุเวมชฺเฌ โหนฺติ. เตสุ ปพฺพตฏฺกาปิ อตฺถิ อากาสฏฺกาปิ. เตสํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ ปตฺตา. ขิฑฺฑาปโทสิกา มโนปโทสิกา สีตวลาหกา อุณฺหวลาหกา จนฺทิมา เทวปุตฺโต สูริโย เทวปุตฺโตติ เอเต สพฺเพปิ จาตุมหาราชิกเทวโลกฏฺา เอว. เตตฺตึส ชนา ตตฺถ อุปฺปนฺนาติ ตาวตึสา. อปิจ ‘‘ตาวตึสา’’ติ เตสํ เทวานํ นามเมวาติปิ วุตฺตํ. เตปิ อตฺถิ ปพฺพตฏฺกา อตฺถิ อากาสฏฺกา. เตสํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ ปตฺตา, ตถา ยามาทีนํ. เอกเทวโลเกปิ หิ เทวานํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ อปฺปตฺตา นาม นตฺถิ. ทิพฺพํ สุขํ ยาตา ปยาตา สมฺปตฺตาติ ยามา. ตุฏฺา ปหฏฺาติ ตุสิตา. ปกติปฏิยตฺตารมฺมณโต อติเรเกน รมิตุกามกาเล ยถารุจิเต โภเค นิมฺมินิตฺวา นิมฺมินิตฺวา รมนฺตีติ นิมฺมานรตี. จิตฺตาจารํ ตฺวา ปรนิมฺมิเตสุ โภเคสุ วสํ วตฺเตนฺตีติ ปรนิมฺมิตวสวตฺตี. พฺรหฺมกาเย พฺรหฺมฆฏาย นิยุตฺตาติ พฺรหฺมกายิกา. สพฺเพปิ ปฺจโวการพฺรหฺมาโน คหิตา.
เตน ขเณนาติ วจนํ วิเสเสตฺวา เตน มุหุตฺเตนาติ วุตฺตํ. มุหุตฺตสงฺขาเตน ขเณน, น ปรมตฺถขเณนาติ ¶ วุตฺตํ โหติ. ยาว พฺรหฺมโลกาติ พฺรหฺมโลกํ อนฺโตกตฺวา. สทฺโทติ สาธุการสทฺโท. ทสสหสฺสีติ ทสสหสฺสจกฺกวาฬวตี. สงฺกมฺปีติ อุทฺธํ อุคฺคจฺฉนฺตี สุฏฺุ กมฺปิ. สมฺปกมฺปีติ อุทฺธํ อุคฺคจฺฉนฺตี อโธ โอกฺกมนฺตี สุฏฺุ ปกมฺปิ. สมฺปเวธีติ จตุทิสา คจฺฉนฺตี สุฏฺุ ปเวธิ. สมฺพุทฺธภาวาย มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมนฺเต จ โพธิสตฺเต ตโต นิกฺขมนฺเต จ มหาปถวี ปฺุเตเชน อกมฺปิตฺถ, อภิสมฺโพธิยํ ปฏิเวธาณเตเชน. ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเน เทสนาาณเตเชน สาธุการํ ทาตุกามา ¶ วิย ปถวี เทวตานุภาเวน อกมฺปิตฺถ, อายุสงฺขาโรสฺสชฺชเน มหาปรินิพฺพาเน จ การฺุเน จิตฺตสงฺโขภํ อสหมานา ¶ วิย ปถวี เทวตานุภาเวน อกมฺปิตฺถ. อปฺปมาโณติ วุทฺธปฺปมาโณ. อุฬาโรติ เอตฺถ ‘‘อุฬารานิ อุฬารานิ ขาทนียานิ ขาทนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๖๖) มธุรํ อุฬารนฺติ วุตฺตํ. ‘‘อุฬาราย วตฺถโภคาย จิตฺตํ น นมตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๙.๒๐) ปณีตํ อุฬารนฺติ วุตฺตํ. ‘‘อุฬาราย ขลุ ภวํ วจฺฉายโน สมณํ โคตมํ ปสํสาย ปสํสตี’’ติอาทีสุ เสฏฺํ อุฬารนฺติ วุตฺตํ. อิธ ปน ‘‘วิปุโล อุฬาโร’’ติ วุตฺโต. โอภาโสติ เทสนาาณานุภาเวน จ เทวตานุภาเวน จ ชาตโอภาโส. โลเกติ จกฺกวาฬสฺส ทสสหสฺสิยํเยว. อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวนฺติ เทวานํ อยมานุภาโว – นิวตฺถวตฺถปฺปภา ทฺวาทส โยชนานิ ผรติ, ตถา สรีรสฺส อลงฺการสฺส วิมานสฺส จ. ตํ เทวานํ เทวานุภาวํ อติกฺกมิตฺวาเยวาติ อตฺโถ. อุทานนฺติ โสมนสฺสาณมยิกํ อุทาหารํ. อุทาเนสีติ อุทาหริ. อฺาสิ วต, โภ โกณฺฑฺโติ อิมสฺสปิ อุทานสฺส อุทาหรณโฆโส ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ผริตฺวา อฏฺาสิ. อฺาสิโกณฺฑฺโติ ภุสํ าตโกณฺฑฺโติ อตฺโถ.
จกฺขุอาทีนํ นิทฺเทเส ทสฺสนฏฺเนาติอาทีสุ เอกเมว าณํ ยถาวุตฺตสฺส เนยฺยสฺส จกฺขุ วิย ทสฺสนกิจฺจกรเณน จกฺขุ. าณกิจฺจกรเณน าณํ. นานปฺปการโต ชานนกิจฺจกรเณน ปฺา. อนวเสสปฏิเวธกรเณน วิชฺชา. สพฺพถา โอภาสกิจฺจกรเณน อาโลโก นามาติ อตฺโถ. จกฺขุํ ธมฺโมติอาทีสุปิ เอกํเยว าณํ กิจฺจนานตฺเตน ปฺจธา วณฺณิตํ. อารมฺมณาติ อุปตฺถมฺภนฏฺเน. โคจราติ วิสยฏฺเน. ทสฺสนฏฺเนาติอาทีสุ าณกิจฺจํ ปฺจธา วุตฺตํ. อิมินา นเยน ตีสุ วาเรสุ เอเกกสฺมึ ปฺจ ปฺจ กตฺวา ปนฺนรส ธมฺมา, ปนฺนรส อตฺถา, ทฺวีสุ ปนฺนรสเกสุ ตึส นิรุตฺติโย, ปนฺนรสสุ ธมฺเมสุ ปนฺนรสสุ อตฺเถสุ ตึสาย นิรุตฺตีสูติ สฏฺิ าณานิ เวทิตพฺพานิ. เสสอริยสจฺเจสุปิ เอเสว นโย. จตูสุ อริยสจฺเจสุ เอเกกสฺมึ อริยสจฺเจ ปนฺนรสนฺนํ ปนฺนรสนฺนํ ธมฺมานํ อตฺถานฺจ วเสน สฏฺิ ธมฺมา, สฏฺิ อตฺถา, สฏฺิยา ธมฺเมสุ สฏฺิยา อตฺเถสุ จ วีสสตํ นิรุตฺติโย, วีสาธิกํ สตนฺติ ¶ อตฺโถ. สฏฺิยา ธมฺเมสุ สฏฺิยา อตฺเถสุ วีสุตฺตรสเต นิรุตฺตีสูติ เอวํ จตฺตารีสฺจ ทฺเว จ าณสตานิ.
๒-๓. สติปฏฺานวาราทิวณฺณนา
๓๑-๓๒. สติปฏฺานสุตฺตนฺตปุพฺพงฺคเม ¶ ¶ อิทฺธิปาทสุตฺตนฺตปุพฺพงฺคเม จ ปฏิสมฺภิทานิทฺเทเส อิมินาว นเยน อตฺโถ จ คณนา จ เวทิตพฺพา.
๔-๘. สตฺตโพธิสตฺตวาราทิวณฺณนา
๓๓-๓๗. สตฺตนฺนํ โพธิสตฺตานํ สุตฺตนฺเตสุ เอเกกสฺมึเยว สมุทเย จกฺขาทโย ปฺจ, นิโรเธ ปฺจาติ ทส ธมฺมา, สมุทเย ทสฺสนฏฺาทโย ปฺจ, นิโรเธ ปฺจาติ ทส อตฺถา, เตสํ วเสน วีสติ นิรุตฺติโย จตฺตารีสํ าณานิ. สตฺต เอกโต กตฺวา วุตฺตคณนา สุวิฺเยฺยา เอว. สพฺพฺุตฺาณวเสน วุตฺตปฏิสมฺภิทานิทฺเทเส เอเกกมูลเกสุ ‘‘าโต ทิฏฺโ วิทิโต สจฺฉิกโต ผสฺสิโต ปฺายา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๒๑) อิเมสุ ปฺจสุ วจเนสุ เอเกกสฺมึเยว จกฺขาทโย ปฺจ, ทสฺสนฏฺาทโย ปฺจาติ ปฺจปฺจกานํ วเสน ปฺจวีสติ ธมฺมา, ปฺจวีสติ อตฺถา, ตทฺทิคุณา นิรุตฺติโย, ตทฺทิคุณานิ าณานิ เยฺยานิ. ปฺจ เอกโต กตฺวา วุตฺตวาเรปิ ปฺจกฺขตฺตุํ ปฺจ ปฺจวีสติ กตฺวา ปฺจวีสสตํ ธมฺมา, ปฺจวีสสตํ อตฺถา, ตทฺทิคุณา นิรุตฺติโย, ตทฺทิคุณานิ าณานิ เยฺยานิ. อฑฺฒเตยฺยานีติ เจตฺถ ทฺเว สตานิ จ ปฺาสฺจ. ขนฺธาทีสุปิ เอเสว นโย. อิมินาว นเยน สจฺจวารปฏิสมฺภิทาวาเร จ ธมฺมาทิคณนา เวทิตพฺพา.
๙. ฉพุทฺธธมฺมวารวณฺณนา
๓๘. พุทฺธธมฺมวาเร ทิยฑฺฒสตนฺติ ฉกฺขตฺตุํ ปฺจวีสติ สตฺจ ปฺาสฺจ โหนฺติ, ตทฺทิคุณา นิรุตฺติโย ตทฺทิคุณานิ าณานิ. ปฏิสมฺภิทาธิกรเณติ ปฏิสมฺภิทาธิกาเร. อฑฺฒนวธมฺมสตานีติ ปมํ วุตฺเตสุ จตูสุ สจฺเจสุ สฏฺิ, จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สฏฺิ, จตูสุ สมฺมปฺปธาเนสุ สฏฺิ, สตฺตโพธิสตฺตเวยฺยากรเณสุ สตฺตติ, อภิฺฏฺาทีสุ ปฺจสุ ปฺจวีสสตํ, ขนฺธฏฺาทีสุ ¶ ปฺจสุ ปฺจวีสสตํ, ปุน จตูสุ อริยสจฺเจสุ สตํ, จตูสุ ปฏิสมฺภิทาสุ สตํ, ฉสุ พุทฺธธมฺเมสุ ทิยฑฺฒสตนฺติ เอวํ อฏฺสตานิ จ ปฺาสฺจ ธมฺมา โหนฺติ. เอวํ อตฺถาปิ ตตฺตกา เอว โหนฺติ. เอวเมว สจฺจาทีสุ ตีสุ าเนสุ วีสสตํ นิรุตฺติโย, สตฺตสุ เวยฺยากรเณสุ จตฺตารีสสตํ นิรุตฺติโย, อภิฺฏฺาทีสุ ขนฺธฏฺาทีสุ จ อฑฺฒเตยฺยานิ ¶ อฑฺฒเตยฺยานิ นิรุตฺติสตานิ, อริยสจฺเจสุ ปฏิสมฺภิทาสุ จ ทฺเว ทฺเว นิรุตฺติสตานิ, พุทฺธธมฺเมสุ ตีณิ นิรุตฺติสตานีติ เอวํ นิรุตฺติสหสฺสฺจ สตฺตนิรุตฺติสตานิ จ โหนฺติ. เอวเมว สจฺจาทีสุ ตีสุ าเนสุ จตฺตารีสาธิกานิ ทฺเว ทฺเว าณสตานิ, สตฺตสุ เวยฺยากรเณสุ อสีติอธิกานิ ทฺเว าณสตานิ, อภิฺฏฺาทีสุ ขนฺธฏฺาทีสุ จ ปฺจปฺจาณสตานิ ¶ , สจฺเจสุ ปฏิสมฺภิทาสุ จ จตฺตาริ จตฺตาริ าณสตานิ, พุทฺธธมฺเมสุ ฉ าณสตานีติ เอวํ ตีณิ จ าณสหสฺสานิ จตฺตาริ จ าณสตานิ โหนฺตีติ.
ปฏิสมฺภิทากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ธมฺมจกฺกกถา
๑. สจฺจวารวณฺณนา
๓๙. ปุน ¶ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตนฺตเมว ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา กถิตาย ธมฺมจกฺกกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ ทุกฺขวตฺถุกาติ เอกาภิสมยวเสน ทุกฺขํ วตฺถุ เอเตสนฺติ ทุกฺขวตฺถุกา. ตเทว ทุกฺขํ วิเสเสตฺวา สจฺจวตฺถุกาติอาทิมาห. ตตฺถ สจฺจํ อารมฺมณํ อุปตฺถมฺโภ เอเตสนฺติ สจฺจารมฺมณา. สจฺจํ โคจโร วิสโย เอเตสนฺติ สจฺจโคจรา. สจฺจสงฺคหิตาติ มคฺคสจฺเจน สงฺคหิตา. สจฺจปริยาปนฺนาติ มคฺคสจฺจายตฺตา. สจฺเจ สมุทาคตาติ ทุกฺขปริชานเนน ทุกฺขสจฺเจ สมุปฺปนฺนา. ตถา ตตฺเถว ิตา ปติฏฺิตา จ.
๔๐. อิทานิ ‘‘ปวตฺติเต จ ภควตา ธมฺมจกฺเก’’ติ วุตฺตํ ธมฺมจกฺกํ นิทฺทิสิตุกาโม ธมฺมจกฺกนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ทุวิธํ ธมฺมจกฺกํ ปฏิเวธธมฺมจกฺกํ เทสนาธมฺมจกฺกฺจ. ปฏิเวธธมฺมจกฺกํ โพธิปลฺลงฺเก, เทสนาธมฺมจกฺกํ อิสิปตเน. ธมฺมฺจ ปวตฺเตติ จกฺกฺจาติ ปฏิเวธธมฺมจกฺกํ วุตฺตํ, จกฺกฺจ ปวตฺเตติ ธมฺมฺจาติ เทสนาธมฺมจกฺกํ. กถํ? ภควา หิ โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺโน มคฺคกฺขเณ อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคาทิเภทํ ธมฺมฺจ ปวตฺเตติ, โสเยว จ ธมฺโม กิเลสสตฺตุฆาตาย ปวตฺตนโต ปหรณจกฺกํ วิยาติ ¶ จกฺกฺจ. ธมฺมํ ปวตฺเตนฺโตเยว ภควา ตํ จกฺกํ ปวตฺเตติ นาม. เอเตน ธมฺโมเยว จกฺกนฺติ กมฺมธารยสมาสตา วุตฺตา โหติ. อิสิปตเน นิสินฺโน ภควา ธมฺมเทสนกฺขเณ เวเนยฺยสนฺตาเน กิเลสสตฺตุฆาตาย ปวตฺตนโต ปหรณจกฺกสทิสํ เทสนาจกฺกฺจ ปวตฺเตติ, เวเนยฺยสนฺตาเน อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคาทิเภทํ ธมฺมจกฺกฺจ ปวตฺเตติ. เอเตน ธมฺโม จ จกฺกฺจ ธมฺมจกฺกนฺติ ทฺวนฺทสมาสตา วุตฺตา โหติ. ยสฺมา ปน ปวตฺตเก สติ ปวตฺตนา นาม โหติ, ตสฺมา สพฺพตฺถาปิ ‘‘ปวตฺเตตี’’ติ วุตฺตํ, ปวตฺตนฏฺเน ปน ‘‘จกฺก’’นฺติ วุตฺตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. ธมฺเมน ปวตฺเตตีติ ธมฺมจกฺกนฺติอาทีนิ เทสนาธมฺมจกฺกเมว สนฺธาย วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ.
ตตฺถ ¶ ธมฺเมน ปวตฺเตตีติ ยถาสภาวตฺตา ธมฺเมน ปวตฺตํ จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺมจริยาย ปวตฺเตตีติ เวเนยฺยสนฺตาเน ธมฺมตฺถาย ปวตฺตํ จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺเม ิโตติอาทีหิ ¶ ภควโต ธมฺมภูตตา ธมฺมสฺสามิตา จ วุตฺตา โหติ. ยถาห – ‘‘โส หาวุโส, ภควา ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสติ จกฺขุภูโต าณภูโต ธมฺมภูโต พฺรหฺมภูโต วตฺตา ปวตฺตา อตฺถสฺส นินฺเนตา อมตสฺส ทาตา ธมฺมสฺสามี ตถาคโต’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๐๓). ตสฺมา เตหิ ธมฺมสฺส จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ิโตติ วิสยีภาเวน ิโต. ปติฏฺิโตติ อจลภาเวน ปติฏฺิโต. วสิปฺปตฺโตติ อิสฺสรภาวํ ปตฺโต. ปารมิปฺปตฺโตติ โกฏิปฺปตฺโต. เวสารชฺชปฺปตฺโตติ วิสารทภาวํ ปตฺโต. ธมฺเม ปติฏฺาเปนฺโตติอาทีหิ เวเนยฺยสนฺตานมเปกฺขิตฺวา วุตฺเตหิ ปน วจเนหิ ธมฺมสฺสามิตาย จ ธมฺมตฺถาย จกฺกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺมํ สกฺกโรนฺโตติหอาทีหิ ธมฺมตฺถาย จกฺกนฺติ วุตฺตํ โหติ. โย หิ ธมฺมํ สกฺการาทิวเสน ปวตฺเตติ, โส ธมฺมตฺถํ ปวตฺเตติ. ธมฺมํ สกฺกโรนฺโตติ ยถา กโต โส ธมฺโม สุกโต โหติ, เอวเมว นํ กโรนฺโต. ธมฺมํ ครุํ กโรนฺโตติ ตสฺมึ คารวุปฺปตฺติยา ตํ ครุํ กโรนฺโต. ธมฺมํ มาเนนฺโตติ ธมฺมํ ปิยฺจ ภาวนียฺจ กตฺวา วิหรนฺโต. ธมฺมํ ปูเชนฺโตติ ตํ อปทิสิตฺวา เทสนาปฏิปตฺติปูชาย ปูชํ กโรนฺโต. ธมฺมํ อปจายมาโนติ ตสฺเสว ธมฺมสฺส สกฺการครุกาเรหิ นีจวุตฺติตํ กโรนฺโต. ธมฺมทฺธโช ธมฺมเกตูติ ตํ ธมฺมํ ธชมิว ปุรกฺขตฺวา เกตุมิว จ อุกฺขิปิตฺวา ปวตฺติยา ธมฺมทฺธโช ธมฺมเกตุ ¶ จ หุตฺวาติ อตฺโถ. ธมฺมาธิปเตยฺโยติ ธมฺมาธิปติโต อาคโต ภาวนาธมฺมวเสเนว จ สพฺพกิริยานํ กรเณน ธมฺมาธิปเตยฺโย หุตฺวา. ตํ โข ปน ธมฺมจกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยนฺติ เกนจิ นิวตฺเตตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อปฺปฏิหตปวตฺติตา วุตฺตา. ตสฺมา โส ธมฺโม ปวตฺตนฏฺเน จกฺกนฺติ วุตฺตํ โหติ.
สทฺธินฺทฺริยํ ธมฺโม, ตํ ธมฺมํ ปวตฺเตตีติ เวเนยฺยสนฺตาเน มคฺคสมฺปยุตฺตสทฺธินฺทฺริยุปฺปาทเนน ตํ สทฺธินฺทฺริยํ ธมฺมํ ปวตฺเตตีติ อตฺโถ. เอเสว นโย เสเสสุปิ. สจฺจาติ สจฺจาณานิ. วิปสฺสนา จ วิชฺชา จ มคฺคาณเมว. อนุปฺปาเท าณนฺติ อรหตฺตผเล าณํ. ตมฺปิ เวเนยฺยสนฺตาเน ปวตฺเตติเยว, นิพฺพานฺจ ปฏิเวธํ กโรนฺโต ปวตฺเตติเยว นาม.
สมุทยวาราทีสุ ¶ สมุทยวตฺถุกา นิโรธวตฺถุกา มคฺควตฺถุกาติ วิเสสปทํ ทสฺเสตฺวา สงฺขิตฺตา. เอตฺถาปิ วุตฺตสทิสํ ปมํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๒-๓. สติปฏฺานวาราทิวณฺณนา
๔๑-๔๒. สติปฏฺานอิทฺธิปาทปุพฺพงฺคมวาราปิ มคฺคกฺขณวเสน วุตฺตา. เตปิ ตตฺถ ตตฺถ วิเสสปทํ ทสฺเสตฺวา สงฺขิตฺตาติ.
ธมฺมจกฺกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. โลกุตฺตรกถา
โลกุตฺตรกถาวณฺณนา
๔๓. อิทานิ ¶ โลกุตฺตรธมฺมวติยา ธมฺมจกฺกกถาย อนนฺตรํ กถิตาย โลกุตฺตรกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ โลกุตฺตรปทสฺส อตฺโถ นิทฺเทสวาเร อาวิ ภวิสฺสติ. จตฺตาโร สติปฏฺานาติอาทโย สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา ยถาโยคํ มคฺคผลสมฺปยุตฺตา. เต พุชฺฌนฏฺเน โพธีติ เอวํลทฺธนามสฺส อริยสฺส ปกฺเข ภวตฺตา โพธิปกฺขิยา นาม. ปกฺเข ภวตฺตาติ อุปการภาเว ิตตฺตา. เตสุ อารมฺมเณสุ โอกฺกนฺติตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา อุปฏฺานโต อุปฏฺานํ, สติเยว อุปฏฺานํ สติปฏฺานํ. กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ ปนสฺส อสุภทุกฺขานิจฺจานตฺตาการคหณวเสน สุภสุขนิจฺจอตฺตสฺาปหานกิจฺจสาธนวเสน จ ปวตฺติโต จตุธา เภโท โหติ. ตสฺมา จตฺตาโร สติปฏฺานาติ วุจฺจติ. ปทหนฺติ ¶ เอเตนาติ ปธานํ, โสภนํ ปธานํ สมฺมปฺปธานํ, สมฺมา วา ปทหนฺติ เอเตนาติ สมฺมปฺปธานํ, โสภนํ วา ตํ กิเลสวิรูปปวตฺตวิรหิตโต ปธานฺจ หิตสุขนิปฺผาทกฏฺเน เสฏฺภาวาวหนโต ปธานภาวกรณโต วาติ สมฺมปฺปธานํ. วีริยสฺเสตํ อธิวจนํ. ตยิทํ อุปฺปนฺนานุปฺปนฺนานํ อกุสลานํ ปหานานุปฺปตฺติกิจฺจํ, อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานฺจ กุสลานํ อุปฺปตฺติฏฺิติกิจฺจํ สาธยตีติ จตุพฺพิธํ โหติ. ตสฺมา จตฺตาโร สมฺมปฺปธานาติ วุจฺจติ. นิปฺผตฺติปริยาเยน อิชฺฌนฏฺเน, อิชฺฌนฺติ เอตาย สตฺตา อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติ อิมินา วา ปริยาเยน อิทฺธิ, ตสฺสา สมฺปยุตฺตาย ปุพฺพงฺคมฏฺเน ผลภูตาย ปุพฺพภาคการณฏฺเน จ อิทฺธิยา ปาโทติ อิทฺธิปาโท. โส ฉนฺทวีริยจิตฺตวีมํสาวเสน จตุพฺพิโธว โหติ. ตสฺมา จตฺตาโร อิทฺธิปาทาติ วุจฺจติ. อสฺสทฺธิยโกสชฺชปมาทวิกฺเขปสมฺโมหานํ อภิภวนโต อภิภวนสงฺขาเตน อธิปติยฏฺเน อินฺทฺริยํ. อสฺสทฺธิยาทีหิ ¶ อนภิภวนียโต อกมฺปิยฏฺเน พลํ. ตทุภยมฺปิ สทฺธาวีริยสติสมาธิปฺาวเสน ปฺจวิธํ โหติ. ตสฺมา ปฺจินฺทฺริยานิ ปฺจ พลานีติ วุจฺจนฺติ. พุชฺฌนกสตฺตสฺส ปน องฺคภาเวน สติอาทโย สตฺต ธมฺมา โพชฺฌงฺคา, นิยฺยานฏฺเน จ สมฺมาทิฏฺิอาทโย อฏฺ มคฺคงฺคา โหนฺติ. เตน วุจฺจติ สตฺต โพชฺฌงฺคา อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโคติ.
อิติ ¶ อิเม สตฺตตึส โพธิปกฺขิยา ธมฺมา ปุพฺพภาเค โลกิยวิปสฺสนาย วตฺตมานาย จุทฺทสวิเธน กายํ ปริคฺคณฺหโต จ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, นววิเธน เวทนํ ปริคฺคณฺหโต จ เวทนานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, โสฬสวิเธน จิตฺตํ ปริคฺคณฺหโต จ จิตฺตานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, ปฺจวิเธน ธมฺเม ปริคฺคณฺหโต จ ธมฺมานุปสฺสนาสติปฏฺานํ. อิติ อิมสฺมึ อตฺตภาเว อนุปฺปนฺนปุพฺพํ ปรสฺส อุปฺปนฺนํ อกุสลํ ทิสฺวา ‘‘ยถา ปฏิปนฺนสฺส ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนํ, น ตถา ปฏิปชฺชิสฺสามิ, เอวํ เม เอตํ นุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ ตสฺส อนุปฺปาทาย วายมนกาเล ปมํ สมฺมปฺปธานํ, อตฺตโน สมุทาจารปฺปตฺตมกุสลํ ทิสฺวา ตสฺส ปหานาย วายมนกาเล ทุติยํ, อิมสฺมึ อตฺตภาเว อนุปฺปนฺนปุพฺพํ ฌานํ วา วิปสฺสนํ วา อุปฺปาเทตุํ วายมนฺตสฺส ตติยํ, อุปฺปนฺนํ ยถา น ปริหายติ, เอวํ ปุนปฺปุนํ อุปฺปาเทนฺตสฺส จตุตฺถํ สมฺมปฺปธานํ. ฉนฺทํ ธุรํ กตฺวา กุสลุปฺปาทนกาเล ฉนฺทิทฺธิปาโท, วีริยํ, จิตฺตํ, วีมํสํ ธุรํ กตฺวา กุสลุปฺปาทนกาเล วีมํสิทฺธิปาโท. มิจฺฉาวาจาย วิรมณกาเล สมฺมาวาจา ¶ , มิจฺฉากมฺมนฺตา, มิจฺฉาชีวา วิรมณกาเล สมฺมาชีโวติ เอวํ นานาจิตฺเตสุ ลพฺภนฺติ. จตุมคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺเต ลพฺภนฺติ, ผลกฺขเณ เปตฺวา จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเน อวเสสา เตตฺตึส ลพฺภนฺติ. เอวํ เอกจิตฺเต ลพฺภมาเนสุ เจเตสุ เอกาว นิพฺพานารมฺมณา สติ กายาทีสุ สุภสฺาทิปหานกิจฺจสาธนวเสน ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติ วุจฺจติ. เอกเมว จ วีริยํ อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ อนุปฺปาทาทิกิจฺจสาธนวเสน ‘‘จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา’’ติ วุจฺจติ. เสเสสุ หาปนวฑฺฒนํ นตฺถิ.
อปิจ เตสุ –
นว เอกวิธา เอโก, ทฺเวธาถ จตุปฺจธา;
อฏฺธา นวธา เจว, อิติ ฉทฺธา ภวนฺติ เต.
นว ¶ เอกวิธาติ ฉนฺโท จิตฺตํ ปีติ ปสฺสทฺธิ อุเปกฺขา สงฺกปฺโป วาจา กมฺมนฺโต อาชีโวติ อิเม นว ฉนฺทิทฺธิปาทาทิวเสน เอกวิธาว โหนฺติ, อฺโกฏฺาสํ น ภชนฺติ. เอโก ทฺเวธาติ สทฺธา อินฺทฺริยพลวเสน ทฺเวธา ิตา. อถ จตุปฺจธาติ อถฺโ เอโก จตุธา, อฺโ ปฺจธา ิโตติ อตฺโถ. ตตฺถ สมาธิ เอโก อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺควเสน จตุธา ิโต, ปฺา เตสํ จตุนฺนํ อิทฺธิปาทโกฏฺาสสฺส จ วเสน ปฺจธา. อฏฺธา นวธา เจวาติ อปโร เอโก อฏฺธา, เอโก นวธา ิโตติ อตฺโถ. จตุสติปฏฺานอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺควเสน สติ อฏฺธา ิตา, จตุสมฺมปฺปธานอิทฺธิปาทอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺควเสน วีริยํ นวธาติ. เอวํ –
จุทฺทเสว ¶ อสมฺภินฺนา, โหนฺเตเต โพธิปกฺขิยา;
โกฏฺาสโต สตฺตวิธา, สตฺตตึส ปเภทโต.
สกิจฺจนิปฺผาทนโต, สรูเปน จ วุตฺติโต;
สพฺเพว อริยมคฺคสฺส, สมฺภเว สมฺภวนฺติ เต.
เอวํ มคฺคผลสมฺปยุตฺเต สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺเม ทสฺเสตฺวา ปุน เต มคฺคผเลสุ สงฺขิปิตฺวา จตฺตาโร อริยมคฺคา จตฺตาริ จ สามฺผลานีติ อาห. สมณภาโว สามฺํ, จตุนฺนํ อริยมคฺคานเมตํ นามํ. สามฺานํ ผลานิ สามฺผลานิ. นิพฺพานํ ปน สพฺเพหิ อสมฺมิสฺสเมว. อิติ วิตฺถารโต สตฺตตึสโพธิปกฺขิยจตุมคฺคจตุผลนิพฺพานานํ วเสน ฉจตฺตาลีส ¶ โลกุตฺตรธมฺมา, ตโต สงฺเขเปน จตุมคฺคจตุผลนิพฺพานานํ วเสน นว โลกุตฺตรธมฺมา, ตโตปิ สงฺเขเปน มคฺคผลนิพฺพานานํ วเสน ตโย โลกุตฺตรธมฺมาติ เวทิตพฺพํ. สติปฏฺานาทีนํ มคฺคผลานฺจ โลกุตฺตรตฺเต วุตฺเต ตํสมฺปยุตฺตานํ ผสฺสาทีนมฺปิ โลกุตฺตรตฺตํ วุตฺตเมว โหติ. ปธานธมฺมวเสน ปน สติปฏฺานาทโยว วุตฺตา. อภิธมฺเม (ธ. ส. ๒๗๗ อาทโย, ๕๐๕ อาทโย) จ โลกุตฺตรธมฺมนิทฺเทเส มคฺคผลสมฺปยุตฺตานํ ผสฺสาทีนํ โลกุตฺตรตฺตํ วุตฺตเมวาติ.
โลกํ ตรนฺตีติ โลกํ อติกฺกมนฺติ. สพฺพมิธ อีทิสํ วตฺตมานกาลวจนํ จตฺตาโร อริยมคฺเค สนฺธาย วุตฺตํ. โสตาปตฺติมคฺโค หิ อปายโลกํ ตรติ, สกทาคามิมคฺโค กามาวจรโลเกกเทสํ ¶ ตรติ, อนาคามิมคฺโค กามาวจรโลกํ ตรติ, อรหตฺตมคฺโค รูปารูปาวจรโลกํ ตรติ. โลกา อุตฺตรนฺตีติ โลกา อุคฺคจฺฉนฺติ. โลกโตติ จ โลกมฺหาติ จ ตเทว นิสฺสกฺกวจนํ วิเสเสตฺวา ทสฺสิตํ. โลกํ สมติกฺกมนฺตีติ ปมํ วุตฺตตฺถเมว. ตตฺถ อุปสคฺคตฺถํ อนเปกฺขิตฺวา วุตฺตํ, อิธ สห อุปสคฺคตฺเถน วุตฺตํ. โลกํ สมติกฺกนฺตาติ ยถาวุตฺตํ โลกํ สมฺมา อติกฺกนฺตา. สพฺพมิธ อีทิสํ อตีตกาลวจนํ ผลนิพฺพานานิ สนฺธาย วุตฺตํ, โสตาปตฺติผลาทีนิ หิ ยถาวุตฺตํ โลกํ อติกฺกมิตฺวา ิตานิ, สทา นิพฺพานํ สพฺพโลกํ อติกฺกมิตฺวา ิตํ. โลเกน อติเรกาติ โลกโต อธิกภูตา. อิทํ สพฺเพปิ โลกุตฺตรธมฺเม สนฺธาย วุตฺตํ. นิสฺสรนฺตีติ นิคฺคจฺฉนฺติ. นิสฺสฏาติ นิคฺคตา. โลเก น ติฏฺนฺตีติอาทีนิ อฏฺารส วจนานิ สพฺพโลกุตฺตเรสุปิ ยุชฺชนฺติ. น ติฏฺนฺตีติ โลเก อปริยาปนฺนตฺตา วุตฺตํ. โลเก น ลิมฺปนฺตีติ ขนฺธสนฺตาเน วตฺตมานาปิ ตสฺมึ น ลิมฺปนฺตีติ อตฺโถ. โลเกน น ลิมฺปนฺตีติ ¶ อกตปฏิเวธานํ เกนจิ จิตฺเตน, กตปฏิเวธานํ อกุสเลน อปฺปมตฺเตนปิ จิตฺเตน น ลิมฺปนฺตีติ อตฺโถ. อสํลิตฺตา อนุปลิตฺตาติ อุปสคฺเคน วิเสสิตํ.
วิปฺปมุตฺตาติ อลิตฺตตฺตเมว นานาพฺยฺชเนน วิเสสิตํ. เย เกจิ หิ ยตฺถ เยน วา อลิตฺตา, เต ตตฺถ เตน วา วิปฺปมุตฺตา โหนฺติ. โลกา วิปฺปมุตฺตาติอาทีนิ ตีณิ นิสฺสกฺกวเสน วุตฺตานิ. วิสฺุตฺตาติ วิปฺปมุตฺตตฺตวิเสสนํ. เย เกจิ หิ ยตฺถ เยน ยโต วิปฺปมุตฺตา, เต ตตฺถ ¶ เตน ตโต วิสฺุตฺตา นาม โหนฺติ. โลกา สุชฺฌนฺตีติ โลกมลํ โธวิตฺวา โลกา สุชฺฌนฺติ. วิสุชฺฌนฺตีติ ตเทว อุปสคฺเคน วิเสสิตํ. วุฏฺหนฺตีติ อุฏฺิตา โหนฺติ. วิวฏฺฏนฺตีติ นิวฏฺฏนฺติ. น สชฺชนฺตีติ น ลคฺคนฺติ. น คยฺหนฺตีติ น คณฺหียนฺติ. น พชฺฌนฺตีติ น พาธียนฺติ. สมุจฺฉินฺทนฺตีติ อปฺปวตฺตึ กโรนฺติ. ยถา จ โลกํ สมุจฺฉินฺนตฺตาติ, ตเถว ‘‘โลกา วิสุทฺธตฺตา’’ติอาทิ วุตฺตเมว โหติ. ปฏิปฺปสฺสมฺเภนฺตีติ นิโรเธนฺติ. อปถาติอาทีนิ จตฺตาริ สพฺเพสุปิ โลกุตฺตเรสุ ยุชฺชนฺติ. อปถาติ อมคฺคา. อคตีติ อปฺปติฏฺา. อวิสยาติ อนายตฺตา. อสาธารณาติ อสมานา. วมนฺตีติ อุคฺคิลนฺติ. น ปจฺจาวมนฺตีติ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน วุตฺตํ, วนฺตํ ปุน น อทนฺตีติ อตฺโถ. เอเตน วนฺตสฺส สุวนฺตภาโว วุตฺโต โหติ. อนนฺตรทุกตฺตเยปิ เอเสว นโย. วิสีเนนฺตีติ วิกิรนฺติ วิมุจฺจนฺติ, น พนฺธนฺตีติ อตฺโถ. น อุสฺสีเนนฺตีติ น วิกิรนฺติ น วิมุจฺจนฺติ. ‘‘วิสิเนนฺตี’’ติ ‘‘น อุสฺสิเนนฺตี’’ติ รสฺสํ กตฺวา ปาโ สุนฺทโร. วิธูเปนฺตีติ นิพฺพาเปนฺติ. น ¶ สํธูเปนฺตีติ น อุชฺชลนฺติ. โลกํ สมติกฺกมฺม อภิภุยฺย ติฏฺนฺตีติ สพฺเพปิ โลกุตฺตรา ธมฺมา โลกํ สมฺมา อติกฺกมิตฺวา อภิภวิตฺวา จ ติฏฺนฺตีติ โลกุตฺตรา. สพฺเพหิปิ อิเมหิ ยถาวุตฺเตหิ ปกาเรหิ โลกุตฺตรานํ โลกโต อุตฺตรภาโว อธิกภาโว จ วุตฺโต โหตีติ.
โลกุตฺตรกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. พลกถา
พลกถาวณฺณนา
๔๔. อิทานิ ¶ โลกุตฺตรกถาย อนนฺตรํ กถิตาย โลกุตฺตรกถาวติยา สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย พลกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ อาทิโต สุตฺตนฺตวเสน ปฺจ พลานิ ทสฺเสตฺวา ตทฺานิปิ พลานิ ทสฺเสตุกาโม อปิจ อฏฺสฏฺิ พลานีติอาทิมาห. สพฺพานิปิ ตํตํปฏิปกฺเขหิ อกมฺปิยฏฺเน พลานิ นาม โหนฺติ. หิริพลนฺติอาทีสุ ปาปโต หิรียนฺติ เอตายาติ หิรี, ลชฺชาเยตํ นามํ. ปาปโต โอตฺตปฺปนฺติ เอเตนาติ โอตฺตปฺปํ, ปาปโต อุพฺเพคสฺเสตํ นามํ. อชฺฌตฺตสมุฏฺานา หิรี, พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ. อตฺตาธิปติ หิรี, โลกาธิปติ โอตฺตปฺปํ ¶ . ลชฺชาสภาวสณฺิตา หิรี, ภยสภาวสณฺิตํ โอตฺตปฺปํ. สปฺปติสฺสวลกฺขณา หิรี, วชฺชภีรุกภยทสฺสาวิลกฺขณํ โอตฺตปฺปํ. สา เอว หิรี อหิริเกน น กมฺปตีติ หิริพลํ. ตเทว โอตฺตปฺปํ อโนตฺตปฺเปน น กมฺปตีติ โอตฺตปฺปพลํ. อปฺปฏิสงฺขาเนน น กมฺปตีติ ปฏิสงฺขานพลํ. อุปปริกฺขณปฺาเยตํ นามํ. วีริยสีเสน สตฺต โพชฺฌงฺเค ภาเวนฺตสฺส อุปฺปนฺนพลํ ภาวนาพลํ. ตถาปวตฺตานํ จตุนฺนํ ขนฺธานเมตํ นามํ. ปริสุทฺธานิ สีลาทีนิ อนวชฺชพลํ. จตฺตาริ สงฺคหวตฺถูนิ สงฺคหพลํ. สงฺคเห พลนฺติปิ ปาโ. ทุกฺขมานํ อธิวาสนํ ขนฺติพลํ. ธมฺมกถาย ปเรสํ โตสนํ ปฺตฺติพลํ. อธิตสฺส อตฺถสฺส อธิคมาปนํ นิชฺฌตฺติพลํ. กุสเลสุ พหุภาโว อิสฺสริยพลํ. กุสเลสุ ยถารุจิ ปติฏฺานํ อธิฏฺานพลํ. หิริพลาทีนํ อตฺโถ มาติกาปเทสุ พฺยฺชนวเสน วิเสสโต ยุชฺชมานํ คเหตฺวา วุตฺโต. สมถพลํ วิปสฺสนาพลนฺติ พลปฺปตฺตา สมถวิปสฺสนา เอว.
มาติกานิทฺเทเส อสฺสทฺธิเย น กมฺปตีติ สทฺธาพลนฺติ มูลพลฏฺํ วตฺวา ตเมว อปเรหิ นวหิ ปริยาเยหิ วิเสเสตฺวา ทสฺเสสิ. โย ¶ หิ ธมฺโม อกมฺปิโย พลปฺปตฺโต โหติ, โส สหชาเต อุปตฺถมฺเภติ, อตฺตโน ปฏิปกฺเข กิเลเส ปริยาทิยติ, ปฏิเวธสฺส อาทิภูตํ สีลํ ทิฏฺิฺจ วิโสเธติ, จิตฺตํ อารมฺมเณ ปติฏฺาเปติ, จิตฺตํ ปภสฺสรํ กโรนฺโต โวทาเปติ, วสึ ปาเปนฺโต วิเสสํ อธิคมาเปติ, ตโต อุตฺตรึ ปาเปนฺโต อุตฺตริปฏิเวธํ กาเรติ, กเมน อริยมคฺคํ ¶ ปาเปตฺวา สจฺจาภิสมยํ กาเรติ, ผลปฺปตฺติยา นิโรเธ ปติฏฺาเปติ. ตสฺมา นวธา พลฏฺโ วิเสสิโต. เอส นโย วีริยพลาทีสุ จตูสุ.
กามจฺฉนฺทํ หิรียตีติ เนกฺขมฺมยุตฺโต โยคี เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺทโต หิรียติ. โอตฺตปฺเปปิ เอเสว นโย. เอเตหิ สพฺพากุสเลหิปิ หิรียนา โอตฺตปฺปนา วุตฺตาเยว โหนฺติ. พฺยาปาทนฺติอาทีนมฺปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปฏิสงฺขาตีติ อสมฺโมหวเสน อาทีนวโต อุปปริกฺขติ. ภาเวตีติ วฑฺเฒติ. วชฺชนฺติ ราคาทิวชฺชํ. สงฺคณฺหาตีติ พนฺธติ. ขมตีติ ตสฺส โยคิสฺส ขมติ รุจฺจติ. ปฺาเปตีติ โตเสติ. นิชฺฌาเปตีติ จินฺตาเปติ. วสํ วตฺเตตีติ จิตฺเต ปหุ หุตฺวา จิตฺตํ อตฺตโน ¶ วสํ กตฺวา ปวตฺเตติ. อธิฏฺาตีติ วิทหติ. ภาวนาพลาทีนิ สพฺพานิปิ เนกฺขมฺมาทีนิเยว. มาติกาวณฺณนาย อฺถา วุตฺโต, อตฺโถ ปน พฺยฺชนวเสเนว ปากฏตฺตา อิธ น วุตฺโตติ เวทิตพฺพํ. สมถพลํ วิปสฺสนาพลฺจ วิตฺถารโต นิทฺทิสิตฺวา อวสาเน อุทฺธจฺจสหคตกิเลเส จ ขนฺเธ จ น กมฺปตีติอาทิ จ อวิชฺชาสหคตกิเลเส จ ขนฺเธ จ น กมฺปตีติอาทิ จ สมถพลวิปสฺสนาพลานํ ลกฺขณทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.
เสขาเสขพเลสุ สมฺมาทิฏฺึ สิกฺขตีติ เสขพลนฺติ เสขปุคฺคโล สมฺมาทิฏฺึ สิกฺขตีติ เสโข, สา สมฺมาทิฏฺิ ตสฺส เสขสฺส พลนฺติ เสขพลนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ สิกฺขิตตฺตา อเสขพลนฺติ อเสขปุคฺคโล ตตฺถ สมฺมาทิฏฺิยา สิกฺขิตตฺตา น สิกฺขตีติ อเสโข, สาเยว สมฺมาทิฏฺิ ตสฺส อเสขสฺส พลนฺติ อเสขพลํ. เอเสว นโย สมฺมาสงฺกปฺปาทีสุ. สมฺมาาณนฺติ ปจฺจเวกฺขณาณํ. ตมฺปิ หิ โลกิกมฺปิ โหนฺตํ เสขสฺส ปวตฺตตฺตา เสขพลํ, อเสขสฺส ปวตฺตตฺตา อเสขพลนฺติ วุตฺตํ. สมฺมาวิมุตฺตีติ อฏฺ มคฺคงฺคานิ เปตฺวา เสสา ผลสมฺปยุตฺตา ธมฺมา ¶ . เกจิ ปน ‘‘เปตฺวา โลกุตฺตรวิมุตฺตึ อวเสสา วิมุตฺติโย สมฺมาวิมุตฺตี’’ติ วทนฺติ. ตสฺส เสขาเสขพลตฺตํ วุตฺตนยเมว.
ขีณาสวพเลสุ สพฺพานิปิ าณพลานิ. ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโนติ กรณตฺเถ สามิวจนํ, ขีณาสเวน ภิกฺขุนาติ อตฺโถ. อนิจฺจโตติ หุตฺวา อภาวากาเรน อนิจฺจโต. ยถาภูตนฺติ ยถาสภาวโต. ปฺายาติ สหวิปสฺสนาย มคฺคปฺาย. อนิจฺจโต สุทิฏฺา ทุกฺขโต อนตฺตโต สุทิฏฺา โหนฺติ ตมฺมูลกตฺตา. ยนฺติ ภาวนปุํสกวจนํ, เยน การเณนาติ วา อตฺโถ. อาคมฺมาติ ปฏิจฺจ. ปฏิชานาตีติ สมฺปฏิจฺฉติ ปฏิฺํ กโรติ. องฺคารกาสูปมาติ มหาภิตาปฏฺเน องฺคารกาสุยา อุปมิตา. กามาติ วตฺถุกามา จ กิเลสกามา จ.
วิเวกนินฺนนฺติ ¶ ผลสมาปตฺติวเสน อุปธิวิเวกสงฺขาตนิพฺพานนินฺนํ. ตโย หิ วิเวกา – กายวิเวโก จิตฺตวิเวโก อุปธิวิเวโกติ. กายวิเวโก จ วิเวกฏฺกายานํ เนกฺขมฺมาภิรตานํ. จิตฺตวิเวโก จ อธิจิตฺตมนุยุตฺตานํ. อุปธิวิเวโก จ นิรุปธีนํ ปุคฺคลานํ วิสงฺขารคตานํ, นิสฺสรณวิเวกสงฺขาตนิพฺพานนินฺนํ วา. ปฺจ หิ วิเวกา – วิกฺขมฺภนวิเวโก ตทงฺควิเวโก ¶ สมุจฺเฉทวิเวโก ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวโก นิสฺสรณวิเวโกติ. วิเวกนินฺนนฺติ วิเวเก นินฺนํ. วิเวกโปณนฺติ วิเวเก นตํ. วิเวกปพฺภารนฺติ วิเวกสีสภารํ. ทฺเวปิ ปุริมสฺเสว เววจนานิ. วิเวกฏฺนฺติ กิเลเสหิ วชฺชิตํ, ทูรีภูตํ วา. เนกฺขมฺมาภิรตนฺติ นิพฺพาเน อภิรตํ, ปพฺพชฺชาย อภิรตํ วา. พฺยนฺตีภูตนฺติ วิคตนฺตีภูตํ, เอกเทเสนาปิ อนลฺลีนํ วิปฺปมุตฺตํ วิสํสฏฺํ. สพฺพโสติ สพฺพถา. อาสวฏฺานิเยหิ ธมฺเมหีติ สํโยควเสน อาสวานํ การณภูเตหิ กิเลสธมฺเมหีติ อตฺโถ. อถ วา พฺยนฺตีภูตนฺติ วิคตนิกนฺติภูตํ, นิตฺตณฺหนฺติ อตฺโถ. กุโต? สพฺพโส อาสวฏฺานิเยหิ ธมฺเมหิ สพฺเพหิ เตภูมกธมฺเมหีติ อตฺโถ. อิธ ทสหิ ขีณาสวพเลหิ ขีณาสวสฺส โลกิยโลกุตฺตโร มคฺโค กถิโต. ‘‘อนิจฺจโต สพฺเพ สงฺขารา’’ติ ทุกฺขปริฺาพลํ, ‘‘องฺคารกาสูปมา กามา’’ติ สมุทยปหานพลํ, ‘‘วิเวกนินฺนํ จิตฺตํ โหตี’’ติ นิโรธสจฺฉิกิริยาพลํ, ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติอาทิ สตฺตวิธํ มคฺคภาวนาพลนฺติปิ วทนฺติ. ทส อิทฺธิพลานิ อิทฺธิกถาย อาวิ ภวิสฺสนฺติ.
ตถาคตพลนิทฺเทเส ตถาคตพลานีติ อฺเหิ อสาธารณานิ ตถาคตสฺเสว พลานิ. ยถา วา ปุพฺพพุทฺธานํ พลานิ ปฺุุสฺสยสมฺปตฺติยา อาคตานิ, ตถา อาคตพลานีติปิ อตฺโถ. ตตฺถ ทุวิธํ ¶ ตถาคตพลํ – กายพลํ าณพลฺจ. เตสุ กายพลํ หตฺถิกุลานุสาเรน เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ โปราเณหิ –
‘‘กาฬาวกฺจ คงฺเคยฺยํ, ปณฺฑรํ ตมฺพปิงฺคลํ;
คนฺธมงฺคลเหมฺจ, อุโปสถฉทฺทนฺติเม ทสา’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๗๖๐; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๔๘; สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๒๒);
อิมานิ ทส หตฺถิกุลานิ. ตตฺถ กาฬาวกนฺติ ปกติหตฺถิกุลํ ทฏฺพฺพํ. ยํ ทสนฺนํ ปุริสานํ กายพลํ, ตํ เอกสฺส กาฬาวกสฺส หตฺถิโน พลํ. ยํ ทสนฺนํ กาฬาวกานํ พลํ, ตํ เอกสฺส คงฺเคยฺยสฺส พลํ. ยํ ทสนฺนํ คงฺเคยฺยานํ, ตํ เอกสฺส ปณฺฑรสฺส. ยํ ทสนฺนํ ปณฺฑรานํ ¶ , ตํ เอกสฺส ตมฺพสฺส. ยํ ทสนฺนํ ตมฺพานํ, ตํ เอกสฺส ปิงฺคลสฺส. ยํ ทสนฺนํ ปิงฺคลานํ, ตํ เอกสฺส คนฺธหตฺถิโน. ยํ ทสนฺนํ คนฺธหตฺถีนํ, ตํ เอกสฺส มงฺคลหตฺถิโน. ยํ ทสนฺนํ มงฺคลหตฺถีนํ, ตํ เอกสฺส เหมวตสฺส. ยํ ทสนฺนํ ¶ เหมวตานํ, ตํ เอกสฺส อุโปสถสฺส. ยํ ทสนฺนํ อุโปสถานํ, ตํ เอกสฺส ฉทฺทนฺตสฺส. ยํ ทสนฺนํ ฉทฺทนฺตานํ, ตํ เอกสฺส ตถาคตสฺส พลํ. นารายนสงฺฆาตพลนฺติปิ อิทเมว วุจฺจติ. ตเทตํ ปกติหตฺถิโน คณนาย หตฺถีนํ โกฏิสหสฺสสฺส, ปุริสคณนาย ทสนฺนํ ปุริสโกฏิสหสฺสานํ พลํ โหติ. อิทํ ตาว ตถาคตสฺส กายพลํ.
าณพลํ ปน อิธ ตาว อฺตฺถ จ ปาฬิยํ อาคตเมว ทสพลาณํ, มชฺฌิเม (ม. นิ. ๑.๑๕๐) อาคตํ จตุเวสารชฺชาณํ, อฏฺสุ ปริสาสุ อกมฺปนาณํ, จตุโยนิปริจฺเฉทกาณํ, ปฺจคติปริจฺเฉทกาณํ, สํยุตฺตเก (สํ. นิ. ๒.๓๓-๓๔) อาคตานิ เตสตฺตติ าณานิ, สตฺตสตฺตติ าณานีติ เอวมฺานิปิ อเนกานิ าณสหสฺสานิ. เอตํ าณพลํ นาม. อิธาปิ าณพลเมว อธิปฺเปตํ. าณฺหิ อกมฺปิยฏฺเน อุปตฺถมฺภนฏฺเน จ พลนฺติ วุตฺตํ.
านฺจ านโตติ การณฺจ การณโต. การณฺหิ ยสฺมา ตตฺถ ผลํ ติฏฺติ ตทายตฺตวุตฺติตาย อุปฺปชฺชติ เจว ปวตฺตติ จ, ตสฺมา านนฺติ วุจฺจติ. ตํ ภควา เย เย ธมฺมา เยสํ เยสํ ธมฺมานํ เหตู ปจฺจยา อุปฺปาทาย, ตํ ตํ านนฺติ, เย เย ธมฺมา เยสํ เยสํ ธมฺมานํ น เหตู น ปจฺจยา อุปฺปาทาย, ตํ ตํ อฏฺานนฺติ ปชานนฺโต านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปีติ เยน าเณน. อิทมฺปีติ อิทมฺปิ านาฏฺานาณํ, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ นาม โหตีติ อตฺโถ. เอวํ เสสปเทสุปิ โยชนา เวทิตพฺพา.
อาสภํ ¶ านนฺติ เสฏฺฏฺานํ อุตฺตมฏฺานํ, อาสภา วา ปุพฺพพุทฺธา, เตสํ านนฺติ อตฺโถ. อปิจ ควสตเชฏฺโก อุสโภ, ควสหสฺสเชฏฺโก วสโภ, วชสตเชฏฺโก วา อุสโภ, วชสหสฺสเชฏฺโก วสโภ, สพฺพควเสฏฺโ สพฺพปริสฺสยสโห เสโต ปาสาทิโก มหาภารวโห อสนิสตสทฺเทหิปิ อสนฺตสนีโย นิสโภ, โส อิธ อุสโภติ อธิปฺเปโต. อิทมฺปิ หิ ตสฺส ปริยายวจนํ. อุสภสฺส อิทนฺติ อาสภํ. านนฺติ จตูหิ ปาเทหิ ปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา อวฏฺานํ. อิทํ ปน อาสภํ วิยาติ อาสภํ ยเถว หิ นิสภสงฺขาโต อุสโภ อุสภพเลน สมนฺนาคโต จตูหิ ปาเทหิ ปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา ¶ อจลฏฺาเนน ติฏฺติ, เอวํ ตถาคโตปิ ทสหิ ตถาคตพเลหิ สมนฺนาคโต จตูหิ เวสารชฺชปาเทหิ อฏฺปริสปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา สเทวเก โลเก เกนจิ ¶ ปจฺจตฺถิเกน ปจฺจามิตฺเตน อกมฺปิโย อจลฏฺาเนน ติฏฺติ, เอวํ ติฏฺมาโน จ ตํ อาสภํ านํ ปฏิชานาติ อุปคจฺฉติ น ปจฺจกฺขาติ, อตฺตนิ อาโรเปติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อาสภํ านํ ปฏิชานาตี’’ติ (สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๒๒; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๔๘).
ปริสาสูติ ขตฺติยพฺราหฺมณคหปติสมณจาตุมหาราชิกตาวตึสมารพฺรหฺมานํ วเสน อฏฺสุ ปริสาสุ. สีหนาทํ นทตีติ เสฏฺนาทํ อฉมฺภิตนาทํ นทติ, สีหนาทสทิสํ วา นาทํ นทติ. อยมตฺโถ สีหนาทสุตฺเตน (ม. นิ. ๑.๑๔๖ อาทโย; ที. นิ. ๑.๓๘๑ อาทโย) ทีเปตพฺโพ. ยถา วา สีโห สหนโต หนนโต จ สีโหติ วุจฺจติ, เอวํ ตถาคโต โลกธมฺมานํ สหนโต ปรปฺปวาทานํ หนนโต สีโหติ วุจฺจติ. เอวํ วุตฺตสฺส สีหสฺส นาทํ สีหนาทํ. ตตฺถ ยถา สีโห สีหพเลน สมนฺนาคโต สพฺพตฺถ วิสารโท วิคตโลมหํโส สีหนาทํ นทติ, เอวํ ตถาคตสีโหปิ ตถาคตพเลหิ สมนฺนาคโต อฏฺสุ ปริสาสุ วิสารโท วิคตโลมหํโส ‘‘อิติ รูป’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๓.๗๘) นเยน นานาวิธเทสนาวิลาสสมฺปนฺนํ สีหนาทํ นทติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปริสาสุ สีหนาทํ นทตี’’ติ.
พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตตีติ เอตฺถ พฺรหฺมนฺติ เสฏฺํ อุตฺตมํ วิสุทฺธํ. จกฺกสทฺโท ปนายํ –
สมฺปตฺติยํ ลกฺขเณ จ, รถงฺเค อิริยาปเถ;
ทาเน รตนธมฺมูร, จกฺกาทีสุ จ ทิสฺสติ;
ธมฺมจกฺเก อิธ มโต, ตมฺปิ ทฺเวธา วิภาวเย.
‘‘จตฺตาริมานิ ¶ , ภิกฺขเว, จกฺกานิ, เยหิ สมนฺนาคตานํ เทวมนุสฺสาน’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๓๑) หิ อยํ สมฺปตฺติยํ ทิสฺสติ. ‘‘เหฏฺา ปาทตเลสุ จกฺกานิ ชาตานิ โหนฺตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๕) เอตฺถ ลกฺขเณ. ‘‘จกฺกํว วหโต ปท’’นฺติ (ธ. ป. ๑) เอตฺถ รถงฺเค. ‘‘จตุจกฺกํ นวทฺวาร’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๙) เอตฺถ อิริยาปเถ. ‘‘ททํ ภฺุช มา จ ปมาโท ¶ , จกฺกํ วตฺตย โกสลาธิปา’’ติ (ชา. ๑.๗.๑๔๙) เอตฺถ ทาเน. ‘‘ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุรโหสี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๔๓) เอตฺถ รตนจกฺเก. ‘‘มยา ปวตฺติตํ จกฺก’’นฺติ (สุ. นิ. ๕๖๒) เอตฺถ ธมฺมจกฺเก. ‘‘อิจฺฉาหตสฺส โปสสฺส, จกฺกํ ภมติ มตฺถเก’’ติ (ชา. ๑.๑.๑๐๔; ๑.๕.๑๐๓) เอตฺถ อุรจกฺเก. ‘‘ขุรปริยนฺเตน เจปิ จกฺเกนา’’ติ ¶ (ที. นิ. ๑.๑๖๖) เอตฺถ ปหรณจกฺเก. ‘‘อสนิวิจกฺก’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๖๑; สํ. นิ. ๒.๑๖๒) เอตฺถ อสนิมณฺฑเล. อิธ ปนายํ ธมฺมจกฺเก มโต.
ตํ ปเนตํ ธมฺมจกฺกํ ทุวิธํ โหติ ปฏิเวธาณฺจ เทสนาาณฺจ. ตตฺถ ปฺาปภาวิตํ อตฺตโน อริยผลาวหํ ปฏิเวธาณํ, กรุณาปภาวิตํ สาวกานํ อริยผลาวหํ เทสนาาณํ. ตตฺถ ปฏิเวธาณํ อุปฺปชฺชมานํ อุปฺปนฺนนฺติ ทุวิธํ. ตฺหิ อภินิกฺขมนโต ยาว อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ นาม, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. ตุสิตภวนโต วา ยาว โพธิปลฺลงฺเก อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ นาม, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. ทีปงฺกรทสพลโต วา ปฏฺาย ยาว อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ นาม, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. เทสนาาณมฺปิ ปวตฺตมานํ ปวตฺตนฺติ ทุวิธํ. ตฺหิ ยาว อฺาตโกณฺฑฺตฺเถรสฺส อรหตฺตมคฺคา ปวตฺตมานํ นาม, ผลกฺขเณ ปวตฺตํ นาม. ตตฺถ ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตรํ, เทสนาาณํ โลกิยํ. อุภยมฺปิ ปเนตํ อฺเหิ อสาธารณํ, พุทฺธานํเยว โอรสาณํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตตี’’ติ.
กมฺมสมาทานานนฺติ สมาทิยิตฺวา กตานํ กุสลากุสลกมฺมานํ, กมฺมเมว วา กมฺมสมาทานํ. านโส เหตุโสติ ปจฺจยโต เจว เหตุโต จ. ตตฺถ คติอุปธิกาลปโยคา วิปากสฺส านํ. กมฺมํ เหตุ.
สพฺพตฺถคามินินฺติ สพฺพคติคามินิฺจ อคติคามินิฺจ. ปฏิปทนฺติ มคฺคํ. ยถาภูตํ ปชานาตีติ พหูสุปิ มนุสฺเสสุ เอกเมว ปาณํ ฆาเตนฺเตสุ อิมสฺส เจตนา นิรยคามินี ภวิสฺสติ, อิมสฺส ติรจฺฉานโยนิคามินีติ อิมินา นเยน เอกวตฺถุสฺมิมฺปิ กุสลากุสลเจตนาสงฺขาตานํ ปฏิปตฺตีนํ อวิปรีตโต สภาวํ ชานาติ.
อเนกธาตุนฺติ ¶ จกฺขุธาตุอาทีหิ, กามธาตุอาทีหิ วา ธาตูหิ พหุธาตุํ. นานาธาตุนฺติ ตาสํเยว ธาตูนํ วิลกฺขณตฺตา นานปฺปการธาตุํ ¶ . โลกนฺติ ขนฺธายตนธาตุโลกํ. ยถาภูตํ ปชานาตีติ ตาสํ ตาสํ ธาตูนํ อวิปรีตโต สภาวํ ปฏิวิชฺฌติ.
นานาธิมุตฺติกตนฺติ หีนปณีตาทิอธิมุตฺตีหิ นานาธิมุตฺติกภาวํ.
ปรสตฺตานนฺติ ปธานสตฺตานํ. ปรปุคฺคลานนฺติ ตโต ปเรสํ หีนสตฺตานํ. เอกตฺถเมว วา เอตํ ปททฺวยํ ¶ เวเนยฺยวเสน ภควตา ทฺเวธา วุตฺตํ. อิธาปิ ภควตา วุตฺตนเยเนว วุตฺตํ. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตนฺติ สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ ปรภาวฺจ อปรภาวฺจ, วุทฺธิฺจ หานิฺจาติ อตฺโถ.
ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนนฺติ ปมาทีนํ จตุนฺนํ ฌานานํ, ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีนํ (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙) อฏฺนฺนํ วิโมกฺขานํ, สวิตกฺกสวิจาราทีนํ ติณฺณํ สมาธีนํ, ปมชฺฌานสมาปตฺติอาทีนฺจ นวนฺนํ อนุปุพฺพสมาปตฺตีนํ. สํกิเลสนฺติ หานภาคิยธมฺมํ. โวทานนฺติ วิเสสภาคิยธมฺมํ. วุฏฺานนฺติ เยน การเณน ฌานาทีหิ วุฏฺหนฺติ, ตํ การณํ. ตํ ปน ‘‘โวทานมฺปิ วุฏฺานํ, ตมฺหา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ (วิภ. ๘๒๘) เอวํ วุตฺตํ ปคุณชฺฌานฺเจว ภวงฺคผลสมาปตฺติโย จ. เหฏฺิมํ เหฏฺิมฺหิ ปคุณชฺฌานํ อุปริมสฺส อุปริมสฺส ปทฏฺานํ โหติ, ตสฺมา ‘‘โวทานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. ภวงฺเคน ปน สพฺพชฺฌาเนหิ วุฏฺานํ โหติ, นิโรธสมาปตฺติโต ผลสมาปตฺติยา วุฏฺานํ โหติ. ตํ สนฺธาย ‘‘ตมฺหา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ.
ปุพฺเพนิวาสทิพฺพจกฺขุอาสวกฺขยาณานิ เหฏฺา ปกาสิตาเนว.
ตตฺถ อาสวานํ ขยาติ อรหตฺตมคฺเคน สพฺพกิเลสานํ ขยา. อนาสวนฺติ อาสววิรหิตํ. เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตินฺติ เอตฺถ เจโตวจเนน อรหตฺตผลสมฺปยุตฺโต สมาธิ, ปฺาวจเนน ตํสมฺปยุตฺตา จ ปฺา วุตฺตา. ตตฺถ จ สมาธิ ราคโต วิมุตฺตตฺตา เจโตวิมุตฺติ, ปฺา อวิชฺชาย วิมุตฺตตฺตา ปฺาวิมุตฺตีติ เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘โย หิสฺส, ภิกฺขเว, สมาธิ, ตทสฺส สมาธินฺทฺริยํ. ยา หิสฺส, ภิกฺขเว, ปฺา, ตทสฺส ปฺินฺทฺริยํ. อิติ โข, ภิกฺขเว, ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ อวิชฺชาวิราคา ¶ ปฺาวิมุตฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๕๑๖; ๕๒๐). อปิเจตฺถ สมถพลํ เจโตวิมุตฺติ, วิปสฺสนาพลํ ปฺาวิมุตฺตีติ เวทิตพฺพํ. ทิฏฺเว ธมฺเมติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว. สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวาติ อธิกาย ปฺาย อตฺตนาเยว ปจฺจกฺขํ กตฺวา, อปรปฺปจฺจเยน ตฺวาติ อตฺโถ. อุปสมฺปชฺชาติ อธิคนฺตฺวา, นิปฺผาเทตฺวา วา. อิเมสํ ปน ทสนฺนํ ทสพลาณานํ วิตฺถาโร อภิธมฺเม (วิภ. ๘๐๙ อาทโย) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ¶ ปรวาทิกถา โหติ – ทสพลาณํ นาม ปาฏิเยกฺกํ าณํ นตฺถิ, สพฺพฺุตฺาณสฺเสวายํ ปเภโทติ. น ตํ ตถา ทฏฺพฺพํ. อฺเมว หิ ทสพลาณํ, อฺํ สพฺพฺุตฺาณํ. ทสพลาณฺหิ สกสกกิจฺจเมว ชานาติ, สพฺพฺุตฺาณํ ตมฺปิ, ตโต อวเสสมฺปิ ¶ ชานาติ. ทสพลาเณสุ หิ ปมํ การณาการณเมว ชานาติ, ทุติยํ กมฺมนฺตรวิปากนฺตรเมว, ตติยํ กมฺมปริจฺเฉทเมว, จตุตฺถํ ธาตุนานตฺตการณเมว, ปฺจมํ สตฺตานํ อชฺฌาสยาธิมุตฺติเมว, ฉฏฺํ อินฺทฺริยานํ ติกฺขมุทุภาวเมว, สตฺตมํ ฌานาทีหิ สทฺธึ เตสํ สํกิเลสาทิเมว, อฏฺมํ ปุพฺเพนิวุตฺถขนฺธสนฺตติเมว, นวมํ สตฺตานํ จุติปฏิสนฺธิเมว, ทสมํ สจฺจปริจฺเฉทเมว. สพฺพฺุตฺาณํ ปน เอเตหิ ชานิตพฺพฺจ, ตโต อุตฺตริฺจ ปชานาติ. เอเตสํ ปน กิจฺจํ น สพฺพํ กโรติ. ตฺหิ ฌานํ หุตฺวา อปฺเปตุํ น สกฺโกติ, อิทฺธิ หุตฺวา วิกุพฺพิตุํ น สกฺโกติ, มคฺโค หุตฺวา กิเลเส เขเปตุํ น สกฺโกติ.
อปิจ ปรวาที เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘ทสพลาณํ นาเมตํ สวิตกฺกสวิจารํ อวิตกฺกวิจารมตฺตํ อวิตกฺกาวิจารํ กามาวจรํ รูปาวจรํ อรูปาวจรํ โลกิยํ โลกุตฺตร’’นฺติ. ชานนฺโต ‘‘ปฏิปาฏิยา สตฺต าณานิ สวิตกฺกสวิจารานี’’ติ วกฺขติ. ‘‘ตโต ปรานิ ทฺเว อวิตกฺกอวิจารานี’’ติ วกฺขติ. ‘‘อาสวกฺขยาณํ สิยา สวิตกฺกสวิจารํ, สิยา อวิตกฺกวิจารมตฺตํ, สิยา อวิตกฺกอวิจาร’’นฺติ วกฺขติ. ตถา ‘‘ปฏิปาฏิยา สตฺต กามาวจรานิ, ตโต ปรานิ ทฺเว รูปาวจรานิ, ตโต อวสาเน เอกํ โลกุตฺตร’’นฺติ วกฺขติ. ‘‘สพฺพฺุตฺาณํ ปน สวิตกฺกสวิจารเมว กามาวจรเมว โลกิยเมวา’’ติ วกฺขติ.
เอวเมตฺถ ¶ อปุพฺพตฺถานุวณฺณนํ ตฺวา อิทานิ ยสฺมา ตถาคโต ปมํเยว านาฏฺานาเณน เวเนยฺยสตฺตานํ อาสวกฺขยาธิคมสฺส เจว อนธิคมสฺส จ านาฏฺานภูตํ กิเลสาวรณาภาวํ ปสฺสติ โลกิยสมฺมาทิฏฺิฏฺานทสฺสนโต นิยตมิจฺฉาทิฏฺิฏฺานาภาวทสฺสนโต จ. อถ เนสํ กมฺมวิปากาเณน วิปากาวรณาภาวํ ปสฺสติ ติเหตุกปฏิสนฺธิทสฺสนโต. สพฺพตฺถคามินิปฏิปทาาเณน กมฺมาวรณาภาวํ ปสฺสติ อานนฺตริกกมฺมาภาวทสฺสนโต. เอวํ อนาวรณานํ อเนกธาตุนานาธาตุาเณน อนุกูลธมฺมเทสนตฺถํ จริยาวิเสสํ ปสฺสติ ธาตุเวมตฺตทสฺสนโต. อถ เนสํ นานาธิมุตฺติกตาาเณน อธิมุตฺตึ ปสฺสติ ปโยคํ อนาทิยิตฺวาปิ อธิมุตฺติวเสน ธมฺมเทสนตฺถํ ¶ . อเถวํ ทิฏฺอธิมุตฺตีนํ ยถาสตฺติ ยถาพลํ ธมฺมํ เทเสตุํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาเณน อินฺทฺริยปโรปริยตฺตํ ปสฺสติ สทฺธาทีนํ ติกฺขมุทุภาวทสฺสนโต. เอวํ ปริฺาตินฺทฺริยปโรปริยตฺตาปิ ปเนเต สเจ ทูเร โหนฺติ, อถ ฌานาทิาเณน ฌานาทีสุ วสีภูตตฺตา อิทฺธิวิเสเสน ขิปฺปํ อุปคจฺฉติ. อุปคนฺตฺวา จ เนสํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณน ปุพฺพชาติวิภาวนํ ทิพฺพจกฺขานุภาวโต ปตฺตพฺเพน เจโตปริยาเณน สมฺปติ จิตฺตวิเสสํ ปสฺสนฺโต อาสวกฺขยาณานุภาเวน ¶ อาสวกฺขยคามินิยา ปฏิปทาย วิคตสมฺโมหตฺตา อาสวกฺขยาย ธมฺมํ เทเสติ. ตสฺมา อิมินานุกฺกเมน อิมานิ ทส พลานิ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานีติ.
๔๕. อิทานิ สพฺพพลานิ ลกฺขณโต นิทฺทิสิตุกาโม เกนฏฺเน สทฺธาพลนฺติอาทินา นเยน ปุจฺฉํ กตฺวา อสฺสทฺธิเย อกมฺปิยฏฺเนาติอาทินา นเยน วิสฺสชฺชนํ อกาสิ. ตตฺถ หิรียตีติอาทิ ปุคฺคลาธิฏฺานา เทสนา. ภาวนาพลาทีสุ อธิฏฺานพลปริยนฺเตสุ ‘‘ตตฺถา’’ติ จ, ‘‘เตนา’’ติ จ, ‘‘ต’’นฺติ จ เนกฺขมฺมาทิกเมว สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เตน จิตฺตํ เอกคฺคนฺติ เตน สมาธินา จิตฺตํ เอกคฺคํ โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ ชาเตติ ตตฺถ สมเถ สมฺปโยควเสน ชาเต, ตสฺมึ วา วิปสฺสนารมฺมณํ หุตฺวา ชาเต. ตตฺถ สิกฺขตีติ ตตฺถ เสขพเล เสโข สิกฺขตีติ เสขพลนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ สิกฺขิตตฺตาติ ตตฺถ อเสขพเล อเสขสฺส สิกฺขิตตฺตา อเสขพลํ. เตน อาสวา ขีณาติ เตน โลกิยโลกุตฺตเรน าเณน อาสวา ขีณาติ ตํ าณํ ขีณาสวพลํ ¶ . โลกิเยนาปิ หิ าเณน อาสวา ขีณา นาม วิปสฺสนาย อภาเว โลกุตฺตรมคฺคาภาวโต. เอวํ ขีณาสวสฺส พลนฺติ ขีณาสวพลํ. ตสฺส อิชฺฌตีติ อิทฺธิพลนฺติ ตสฺส อิทฺธิมโต อิชฺฌตีติ อิทฺธิเยว พลํ อิทฺธิพลํ. อปฺปเมยฺยฏฺเนาติ ยสฺมา สาวกา านาฏฺานาทีนิ เอกเทเสน ชานนฺติ, สพฺพากาเรน ปชานนํเยว สนฺธาย ‘‘ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ วุตฺตํ. กิฺจาปิ ตีสุ วิชฺชาสุ ‘‘ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ น วุตฺตํ, อฺตฺถ ปน วุตฺตตฺตา ตาสุปิ วุตฺตเมว โหติ. อฺตฺถาติ เสเสสุ สตฺตสุ าณพเลสุ จ อภิธมฺเม (วิภ. ๗๖๐) จ ทสสุปิ พเลสุ. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณํ ปน สพฺพถาปิ สาวเกหิ อสาธารณเมว. ตสฺมา ทสปิ พลานิ สาวเกหิ อสาธารณานีติ. อธิมตฺตฏฺเน อตุลิยฏฺเน อปฺปเมยฺยานิ, ตสฺมาเยว จ ‘‘อปฺปเมยฺยฏฺเน ตถาคตพล’’นฺติ วุตฺตนฺติ.
พลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. สฺุกถา
สฺุกถาวณฺณนา
๔๖. อิทานิ ¶ ¶ โลกุตฺตรพลปริโยสานาย พลกถาย อนนฺตรํ กถิตาย โลกุตฺตรสฺุตาปริโยสานาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย สฺุตากถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. สุตฺตนฺเต ตาว อถาติ วจโนปาทาเน นิปาโต. เอเตน อายสฺมาติอาทิวจนสฺส อุปาทานํ กตํ โหติ. โขติ ปทปูรณตฺเถ นิปาโต. เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ ภุมฺมตฺเถ กรณวจนํ. ตสฺมา ยตฺถ ภควา, ตตฺถ อุปสงฺกมีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เยน วา การเณน ภควา เทวมนุสฺเสหิ อุปสงฺกมิตพฺโพ, เตเนว การเณน อุปสงฺกมีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เกน จ การเณน ภควา อุปสงฺกมิตพฺโพ? นานปฺปการคุณวิเสสาธิคมาธิปฺปาเยน, สาทุผลูปโภคาธิปฺปาเยน ทิชคเณหิ นิจฺจผลิตมหารุกฺโข วิย, เตน การเณน อุปสงฺกมีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อุปสงฺกมีติ จ คโตติ วุตฺตํ โหติ. อุปสงฺกมิตฺวาติ อุปสงฺกมนปริโยสานทีปนํ. อถ วา เอวฺจ คโต ตโต อาสนฺนตรํ านํ ภควโต สมีปสงฺขาตํ คนฺตฺวาติปิ วุตฺตํ โหติ.
อภิวาเทตฺวาติ ¶ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา. อิทานิ เยนฏฺเน โลเก อคฺคปุคฺคลสฺส อุปฏฺานํ อาคโต, ตํ ปุจฺฉิตุกาโม ทสนขสโมธานสมุชฺชลํ อฺชลึ สิรสิ ปติฏฺเปตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตนฺติ จ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส ‘‘วิสมํ จนฺทิมสูริยา ปริหรนฺตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๗๐) วิย. ตสฺมา ยถา นิสินฺโน เอกมนฺตํ นิสินฺโน โหติ, ตถา นิสีทีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ภุมฺมตฺเถ วา เอตํ อุปโยควจนํ. นิสีทีติ นิสชฺชํ กปฺเปสิ. ปณฺฑิตา หิ เทวมนุสฺสา ครุฏฺานียํ อุปสงฺกมิตฺวา อาสนกุสลตาย เอกมนฺตํ นิสีทนฺติ, อยฺจ เถโร เตสํ อฺตโร, ตสฺมา เอกมนฺตํ นิสีทิ.
กถํ นิสินฺโน ปน เอกมนฺตํ นิสินฺโน โหตีติ? ฉ นิสชฺชโทเส วชฺเชตฺวา. เสยฺยถิทํ – อติทูรํ อจฺจาสนฺนํ อุปริวาตํ อุนฺนตปฺปเทสํ อติสมฺมุขํ อติปจฺฉาติ. อติทูเร นิสินฺโน หิ สเจ กเถตุกาโม โหติ, อุจฺจาสทฺเทน กเถตพฺพํ โหติ. อจฺจาสนฺเน นิสินฺโน สงฺฆฏฺฏนํ กโรติ. อุปริวาเต นิสินฺโน สรีรคนฺเธน พาธติ. อุนฺนตปฺปเทเส นิสินฺโน อคารวํ ปกาเสติ. อติสมฺมุขา ¶ นิสินฺโน สเจ ทฏฺุกาโม โหติ, จกฺขุนา จกฺขุํ อาหจฺจ ทฏฺพฺพํ โหติ. อติปจฺฉา นิสินฺโน สเจ ทฏฺุกาโม โหติ, คีวํ ปสาเรตฺวา ทฏฺพฺพํ โหติ. ตสฺมา อยมฺปิ เอเต ฉ นิสชฺชโทเส วชฺเชตฺวา นิสีทิ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอกมนฺตํ นิสีที’’ติ. เอตทโวจาติ ¶ เอตํ อโวจ.
สฺุโ โลโก สฺุโ โลโกติ, ภนฺเต, วุจฺจตีติ อิมสฺมึ สาสเน ปฏิปนฺเนหิ เตหิ เตหิ ภิกฺขูหิ ‘‘สฺุโ โลโก สฺุโ โลโก’’ติ กถียตีติ อตฺโถ. ตหึ ตหึ ตาทิสานํ วจนานํ พหุกตฺตา เตสํ สพฺเพสํ สงฺคณฺหนตฺถํ อาเมฑิตวจนํ กตํ. เอวฺหิ วุตฺเต สพฺพานิ ตานิ วจนานิ สงฺคหิตานิ โหนฺติ. กิตฺตาวตาติ กิตฺตเกน ปริมาเณน. นุ-อิติ สํสยตฺเถ นิปาโต. สฺุํ อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วาติ ‘‘การโก เวทโก สยํวสี’’ติ เอวํ โลกปริกปฺปิเตน อตฺตนา จ อตฺตาภาวโตเยว อตฺตโน สนฺตเกน ปริกฺขาเรน จ สฺุํ. สพฺพํ จกฺขาทิ โลกิยํ ธมฺมชาตํ, ตํเยว ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโก นาม. ยสฺมา จ อตฺตา จ เอตฺถ นตฺถิ, อตฺตนิยฺจ เอตฺถ นตฺถิ, ตสฺมา สฺุโ โลโกติ วุจฺจตีติ อตฺโถ. โลกุตฺตโรปิ จ ¶ ธมฺโม อตฺตตฺตนิเยหิ สฺุโ เอว, ปุจฺฉานุรูเปน ปน โลกิโยว ธมฺโม วุตฺโต. สฺุโติ จ ธมฺโม นตฺถีติ วุตฺตํ น โหติ, ตสฺมึ ธมฺเม อตฺตตฺตนิยสารสฺส นตฺถิภาโว วุตฺโต โหติ. โลเก จ ‘‘สฺุํ ฆรํ, สฺุโ ฆโฏ’’ติ วุตฺเต ฆรสฺส ฆฏสฺส จ นตฺถิภาโว วุตฺโต น โหติ, ตสฺมึ ฆเร ฆเฏ จ อฺสฺส นตฺถิภาโว วุตฺโต โหติ. ภควตา จ ‘‘อิติ ยฺหิ โข ตตฺถ น โหติ, เตน ตํ สฺุํ สมนุปสฺสติ. ยํ ปน ตตฺถ อวสิฏฺํ โหติ, ตํ สนฺตํ อิทมตฺถีติ ปชานาตี’’ติ อยเมว อตฺโถ วุตฺโต. ตถา ายคนฺเถ จ สทฺทคนฺเถ จ อยเมว อตฺโถ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺตนฺเต อนตฺตลกฺขณเมว กถิตํ.
๔๗. สุตฺตนฺตนิทฺเทเส สฺุสฺุนฺติอาทีนิ ปฺจวีสติ มาติกาปทานิ สฺุสมฺพนฺเธน อุทฺทิสิตฺวา เตสํ นิทฺเทโส กโต. ตตฺถ มาติกาย ตาว สฺุสงฺขาตํ สฺุํ, น อฺเน อุปปเทน วิเสสิตนฺติ สฺุสฺุํ. อสุกนฺติ อนิทฺทิฏฺตฺตา เจตฺถ สฺุตฺตเมว วา อเปกฺขิตฺวา นปุํสกวจนํ กตํ. เอวํ เสเสสุปิ. สงฺขาโรเยว เสสสงฺขาเรหิ สฺุโติ สงฺขารสฺุํ. ชราภงฺควเสน วิรูโป ปริณาโม วิปริณาโม, เตน วิปริณาเมน สฺุํ วิปริณามสฺุํ. อคฺคฺจ ตํ อตฺตตฺตนิเยหิ, สพฺพสงฺขาเรหิ วา สฺฺุจาติ อคฺคสฺุํ. ลกฺขณเมว เสสลกฺขเณหิ สฺุนฺติ ลกฺขณสฺุํ. เนกฺขมฺมาทินา วิกฺขมฺภเนน สฺุํ. วิกฺขมฺภนสฺุํ. ตทงฺคสฺุาทีสุปิ จตูสุ เอเสว นโย. อชฺฌตฺตฺจ ตํ อตฺตตฺตนิยาทีหิ สฺฺุจาติ อชฺฌตฺตสฺุํ. พหิทฺธา จ ตํ อตฺตตฺตนิยาทีหิ สฺฺุจาติ พหิทฺธาสฺุํ. ตทุภยํ ¶ อตฺตตฺตนิยาทีหิ สฺุนฺติ ทุภโตสฺุํ. สมาโน ภาโค เอตสฺสาติ สภาคํ, สภาคฺจ ตํ อตฺตตฺตนิยาทีหิ สฺฺุจาติ สภาคสฺุํ, สทิสสฺุนฺติ อตฺโถ. วิคตํ สภาคํ วิสภาคํ, วิสภาคฺจ ¶ ตํ อตฺตตฺตนิยาทีหิ สฺฺุจาติ วิสภาคสฺุํ, วิสทิสสฺุนฺติ อตฺโถ. เกสุจิ โปตฺถเกสุ สภาคสฺุํ วิสภาคสฺุํ นิสฺสรณสฺุานนฺตรํ ลิขิตํ. เนกฺขมฺมาทิเอสนา กามจฺฉนฺทาทินา สฺุาติ เอสนาสฺุํ. ปริคฺคหสฺุาทีสุ ตีสุปิ เอเสว นโย. เอการมฺมเณ ปติฏฺิตตฺตา นานารมฺมณวิกฺเขปาภาวโต เอกตฺตฺจ ตํ นานตฺเตน สฺฺุจาติ เอกตฺตสฺุํ. ตพฺพิปรีเตน นานตฺตฺจ ¶ ตํ เอกตฺเตน สฺฺุจาติ นานตฺตสฺุํ. เนกฺขมฺมาทิขนฺติ กามจฺฉนฺทาทินา สฺุาติ ขนฺติสฺุํ. อธิฏฺานสฺุเ ปริโยคาหนสฺุเ จ เอเสว นโย. ปริโยคหนสฺุนฺติปิ ปาโ. สมฺปชานสฺสาติ สมฺปชฺเน สมนฺนาคตสฺส ปรินิพฺพายนฺตสฺส อรหโต. ปวตฺตปริยาทานนฺติ อนุปาทาปรินิพฺพานํ. สพฺพสฺุตานนฺติ สพฺพสฺุานํ. ปรมตฺถสฺุนฺติ สพฺพสงฺขาราภาวโต อุตฺตมตฺถภูตํ สฺุํ.
๔๘. มาติกานิทฺเทเส นิจฺเจน วาติ ภงฺคํ อติกฺกมิตฺวา ปวตฺตมานสฺส กสฺสจิ นิจฺจสฺส อภาวโต นิจฺเจน จ สฺุํ. ธุเวน วาติ วิชฺชมานกาเลปิ ปจฺจยายตฺตวุตฺติตาย ถิรสฺส กสฺสจิ อภาวโต ธุเวน จ สฺุํ. สสฺสเตน วาติ อพฺโพจฺฉินฺนสฺส สพฺพกาเล วิชฺชมานสฺส กสฺสจิ อภาวโต สสฺสเตน จ สฺุํ. อวิปริณามธมฺเมน วาติ ชราภงฺควเสน อวิปริณามปกติกสฺส กสฺสจิ อภาวโต อวิปริณามธมฺเมน จ สฺุํ. สุตฺตนฺเต อตฺตสฺุตาย เอว วุตฺตายปิ นิจฺจสฺุตฺจ สุขสฺุตฺจ ทสฺเสตุํ อิธ นิจฺเจน วาติอาทีนิปิ วุตฺตานิ. อนิจฺจสฺเสว หิ ปีฬาโยเคน ทุกฺขตฺตา นิจฺจสฺุตาย วุตฺตาย สุขสฺุตาปิ วุตฺตาว โหติ. รูปาทโย ปเนตฺถ ฉ วิสยา, จกฺขุวิฺาณาทีนิ ฉ วิฺาณานิ, จกฺขุสมฺผสฺสาทโย ฉ ผสฺสา, จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนาทโย ฉ เวทนา ฉ สงฺขิตฺตาติ เวทิตพฺพํ.
ปฺุาภิสงฺขาโรติอาทีสุ ปุนาติ อตฺตโน การกํ, ปูเรติ จสฺส อชฺฌาสยํ, ปุชฺชฺจ ภวํ นิพฺพตฺเตตีติ ปฺุํ, อภิสงฺขโรติ วิปากํ กฏตฺตารูปฺจาติ อภิสงฺขาโร, ปฺุํ อภิสงฺขาโร ปฺุาภิสงฺขาโร. ปฺุปฏิปกฺขโต อปฺุํ อภิสงฺขาโร อปฺุาภิสงฺขาโร. น อิฺชํ อเนฺชํ, อเนฺชํ ภวํ อภิสงฺขโรตีติ อาเนฺชาภิสงฺขาโร. ปฺุาภิสงฺขาโร ทานสีลภาวนาวเสน ปวตฺตา อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา, ภาวนาวเสเนว ปวตฺตา ปฺจ รูปาวจรกุสลเจตนาติ เตรส เจตนา โหนฺติ, อปฺุาภิสงฺขาโร ปาณาติปาตาทิวเสน ปวตฺตา ทฺวาทส อกุสลเจตนา, อาเนฺชาภิสงฺขาโร ภาวนาวเสเนว ปวตฺตา จตสฺโส อรูปาวจรเจตนาติ ¶ ตโยปิ สงฺขารา เอกูนตึส เจตนา โหนฺติ. กายสงฺขาโรติอาทีสุ ¶ กายโต วา ปวตฺโต, กายสฺส วา สงฺขาโรติ กายสงฺขาโร. วจีสงฺขารจิตฺตสงฺขาเรสุปิ เอเสว นโย. อยํ ติโก ¶ กมฺมายูหนกฺขเณ ปฺุาภิสงฺขาราทีนํ ทฺวารโต ปวตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺโต. กายวิฺตฺตึ สมุฏฺาเปตฺวา หิ กายทฺวารโต ปวตฺตา อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา, ทฺวาทส อกุสลเจตนา, อภิฺาเจตนา จาติ เอกวีสติ เจตนา กายสงฺขาโร นาม, ตา เอว จ วจีวิฺตฺตึ สมุฏฺาเปตฺวา วจีทฺวารโต ปวตฺตา วจีสงฺขาโร นาม, มโนทฺวาเร ปวตฺตา ปน สพฺพาปิ เอกูนตึส เจตนา จิตฺตสงฺขาโร นาม. อตีตา สงฺขาราติอาทีสุ สพฺเพปิ สงฺขตธมฺมา สกกฺขณํ ปตฺวา นิรุทฺธา อตีตา สงฺขารา, สกกฺขณํ อปฺปตฺตา อนาคตา สงฺขารา, สกกฺขณํ ปตฺตา ปจฺจุปฺปนฺนา สงฺขาราติ.
วิปริณามสฺุเ ปจฺจุปฺปนฺนํ ทสฺเสตฺวา ตสฺส ตสฺส วิปริณาโม สุเขน วตฺตุํ สกฺกาติ ปมํ ปจฺจุปฺปนฺนธมฺมา ทสฺสิตา. ตตฺถ ชาตํ รูปนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนํ รูปํ. สภาเวน สฺุนฺติ เอตฺถ สยํ ภาโว สภาโว, สยเมว อุปฺปาโทติ อตฺโถ. สโต วา ภาโว สภาโว, อตฺตโตเยว อุปฺปาโทติ อตฺโถ. ปจฺจยายตฺตวุตฺติตฺตา ปจฺจยํ วินา สยเมว ภาโว, อตฺตโต เอว วา ภาโว เอตสฺมึ นตฺถีติ สภาเวน สฺุํ, สยเมว ภาเวน, อตฺตโต เอว วา ภาเวน สฺุนฺติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา สกสฺส ภาโว สภาโว. ปถวีธาตุอาทีสุ หิ อเนเกสุ รูปารูปธมฺเมสุ เอเกโก ธมฺโม ปรํ อุปาทาย สโก นาม. ภาโวติ จ ธมฺมปริยายวจนเมตํ. เอกสฺส จ ธมฺมสฺส อฺโ ภาวสงฺขาโต ธมฺโม นตฺถิ, ตสฺมา สกสฺส อฺเน ภาเวน สฺุํ, สโก อฺเน ภาเวน สฺุโติ อตฺโถ. เตน เอกสฺส ธมฺมสฺส เอกสภาวตา วุตฺตา โหติ. อถ วา สภาเวน สฺุนฺติ สฺุสภาเวเนว สฺุํ. กึ วุตฺตํ โหติ? สฺุสฺุตาย เอว สฺุํ, น อฺาหิ ปริยายสฺุตาหิ สฺุนฺติ วุตฺตํ โหติ.
สเจ ปน เกจิ วเทยฺยุํ ‘‘สโก ภาโว สภาโว, เตน สภาเวน สฺุ’’นฺติ. กึ วุตฺตํ โหติ? ภาโวติ ธมฺโม, โส ปรํ อุปาทาย สปเทน วิเสสิโต สภาโว นาม โหติ. ธมฺมสฺส กสฺสจิ อวิชฺชมานตฺตา ‘‘ชาตํ รูปํ สภาเวน สฺุ’’นฺติ รูปสฺส อวิชฺชมานตา วุตฺตา โหตีติ. เอวํ สติ ‘‘ชาตํ รูป’’นฺติวจเนน วิรุชฺฌติ. น หิ อุปฺปาทรหิตํ ชาตํ นาม โหติ. นิพฺพานฺหิ อุปฺปาทรหิตํ, ตํ ชาตํ นาม น ¶ โหติ, ชาติชรามรณานิ จ อุปฺปาทรหิตานิ ชาตานิ นาม น โหนฺติ. เตเนเวตฺถ ‘‘ชาตา ชาติ สภาเวน สฺุา ¶ , ชาตํ ชรามรณํ ¶ สภาเวน สฺุ’’นฺติ เอวํ อนุทฺธริตฺวา ภวเมว อวสานํ กตฺวา นิทฺทิฏฺํ. ยทิ อุปฺปาทรหิตสฺสาปิ ‘‘ชาต’’นฺติวจนํ ยุชฺเชยฺย, ‘‘ชาตา ชาติ, ชาตํ ชรามรณ’’นฺติ วตฺตพฺพํ ภเวยฺย. ยสฺมา อุปฺปาทรหิเตสุ ชาติชรามรเณสุ ‘‘ชาต’’นฺติวจนํ น วุตฺตํ, ตสฺมา ‘‘สภาเวน สฺุํ อวิชฺชมาน’’นฺติ วจนํ อวิชฺชมานสฺส อุปฺปาทรหิตตฺตา ‘‘ชาต’’นฺติวจเนน วิรุชฺฌติ. อวิชฺชมานสฺส จ ‘‘สฺุ’’นฺติวจนํ เหฏฺา วุตฺเตน โลกวจเนน จ ภควโต วจเนน จ ายสทฺทคนฺถวจเนน จ วิรุชฺฌติ, อเนกาหิ จ ยุตฺตีหิ วิรุชฺฌติ, ตสฺมา ตํ วจนํ กจวรมิว ฉฑฺฑิตพฺพํ. ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, อตฺถิสมฺมตํ โลเก ปณฺฑิตานํ, อหมฺปิ ตํ อตฺถีติ วทามิ. ยํ, ภิกฺขเว, นตฺถิสมฺมตํ โลเก ปณฺฑิตานํ, อหมฺปิ ตํ นตฺถีติ วทามิ. กิฺจ, ภิกฺขเว, อตฺถิสมฺมตํ โลเก ปณฺฑิตานํ, ยมหํ อตฺถีติ วทามิ? รูปํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ อตฺถิสมฺมตํ โลเก ปณฺฑิตานํ, อหมฺปิ ตํ อตฺถีติ วทามี’’ติอาทีหิ (สํ. นิ. ๓.๙๔) อเนเกหิ พุทฺธวจนปฺปมาเณหิ อเนกาหิ จ ยุตฺตีหิ ธมฺมา สกกฺขเณ วิชฺชมานา เอวาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.
วิคตํ รูปนฺติ อุปฺปชฺชิตฺวา ภงฺคํ ปตฺวา นิรุทฺธํ อตีตํ รูปํ. วิปริณตฺเจว สฺฺุจาติ ชราภงฺควเสน วิรูปํ ปริณามํ ปตฺตฺจ วตฺตมานสฺเสว วิปริณามสพฺภาวโต อตีตสฺส วิปริณามาภาวโต เตน วิปริณาเมน สฺฺุจาติ อตฺโถ. ชาตา เวทนาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ชาติชรามรณํ ปน อนิปฺผนฺนตฺตา สกภาเวน อนุปลพฺภนียโต อิธ น ยุชฺชติ, ตสฺมา ‘‘ชาตา ชาติ, ชาตํ ชรามรณ’’นฺติอาทิเก ทฺเว นเย ปหาย ภวาทิกเมว นยํ ปริโยสานํ กตฺวา ปิตํ.
อคฺคนฺติ อคฺเค ภวํ. เสฏฺนฺติ อติวิย ปสํสนียํ. วิสิฏฺนฺติ อติสยภูตํ. วิเสฏฺนฺติปิ ปาโ. ติธาปิ ปสตฺถํ นิพฺพานํ สมฺมาปฏิปทาย ปฏิปชฺชิตพฺพโต ปทํ นาม. ยทิทนฺติ ยํ อิทํ. อิทานิ วตฺตพฺพํ นิพฺพานํ นิทสฺเสติ. ยสฺมา นิพฺพานํ อาคมฺม สพฺพสงฺขารานํ สมโถ โหติ, ขนฺธูปธิกิเลสูปธิอภิสงฺขารูปธิกามคุณูปธิสงฺขาตานํ อุปธีนํ ปฏินิสฺสคฺโค โหติ, ตณฺหานํ ขโย วิราโค นิโรโธ จ โหติ, ตสฺมา สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ¶ ตณฺหกฺขโย วิราโค นิโรโธติ วุจฺจติ. นิพฺพานนฺติ สภาวลกฺขเณน นิคมิตํ.
ลกฺขเณสุ ¶ หิ ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, พาลสฺส พาลลกฺขณานิ พาลนิมิตฺตานิ พาลาปทานานิ. กตมานิ ตีณิ? อิธ, ภิกฺขเว, พาโล ทุจฺจินฺติตจินฺตี จ โหติ ทุพฺภาสิตภาสี ¶ จ ทุกฺกฏกมฺมการี จ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ พาลสฺส พาลลกฺขณานิ พาลนิมิตฺตานิ พาลาปทานานี’’ติ (อ. นิ. ๓.๓; ม. นิ. ๓.๒๔๖) วุตฺตํ. ปณฺฑิเตหิ พาลสฺส พาโลติ สลฺลกฺขณโต ติวิธํ พาลลกฺขณํ. ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตสฺส ปณฺฑิตลกฺขณานิ ปณฺฑิตนิมิตฺตานิ ปณฺฑิตาปทานานิ. กตมานิ ตีณิ? อิธ, ภิกฺขเว, ปณฺฑิโต สุจินฺติตจินฺตี จ โหติ สุภาสิตภาสี จ สุกตกมฺมการี จ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ ปณฺฑิตสฺส ปณฺฑิตลกฺขณานิ ปณฺฑิตนิมิตฺตานิ ปณฺฑิตาปทานานี’’ติ (อ. นิ. ๓.๓; ม. นิ. ๓.๒๕๓) วุตฺตํ. ปณฺฑิเตหิ ปณฺฑิตสฺส ปณฺฑิโตติ สลฺลกฺขณโต ติวิธํ ปณฺฑิตลกฺขณํ.
‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, สงฺขตสฺส สงฺขตลกฺขณานิ. กตมานิ ตีณิ? อุปฺปาโท ปฺายติ, วโย ปฺายติ, ิตสฺส อฺถตฺตํ ปฺายติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ สงฺขตสฺส สงฺขตลกฺขณานี’’ติ (อ. นิ. ๓.๔๗-๔๘) วุตฺตํ. อุปฺปาโท เอว สงฺขตมิติ ลกฺขณนฺติ สงฺขตลกฺขณํ. เอวมิตรทฺวเยปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมินา อุปฺปาทกฺขเณ เสสทฺวินฺนํ, ิติกฺขเณ เสสทฺวินฺนํ, ภงฺคกฺขเณ จ เสสทฺวินฺนํ อภาโว ทสฺสิโต. ยํ ปเนตฺถ เปยฺยาลมุเขน ชาติยา จ ชรามรณสฺส จ อุปฺปาทาทิลกฺขณํ วุตฺตํ, ตํ วิปริณามสฺุตาย ชาติชรามรณานิ หิตฺวา ภวปริโยสานสฺเสว นยสฺส วจเนน จ อุปฺปาทาทีนํ อุปฺปาทาทิอวจนสมเยน จ วิรุชฺฌติ. ลกฺขณโสเต ปติตตฺตา ปน โสตปติตํ กตฺวา ลิขิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยถา จ อภิธมฺเม (ธ. ส. ๕๖๒-๕๖๕) อเหตุกวิปากมโนธาตุมโนวิฺาณธาตูนํ สงฺคหวาเร ลพฺภมานมฺปิ ฌานงฺคํ ปฺจวิฺาณโสเต ปติตฺวา คตนฺติ น อุทฺธฏนฺติ วุตฺตํ, เอวมิธาปิ โสตปติตตา เวทิตพฺพา. อถ วา ชาติชรามรณวนฺตานํ สงฺขารานํ อุปฺปาทาทโย ‘‘ชาติชรามรณํ อนิจฺจโต’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๗๓; ๒.๔) วิย เตสํ วิย กตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
เนกฺขมฺเมน ¶ กามจฺฉนฺโท วิกฺขมฺภิโต เจว สฺุโ จาติ กามจฺฉนฺโท เนกฺขมฺเมน วิกฺขมฺภิโต เจว เนกฺขมฺมสฺส ตตฺถ อภาวโต เตเนว วิกฺขมฺภนสงฺขาเตน เนกฺขมฺเมน สฺุโ จ. เอวํ เสเสสุปิ โยชนา กาตพฺพา. ตทงฺคปฺปหานสมุจฺเฉทปฺปหาเนสุปิ เจตฺถ ตทงฺควเสน จ สมุจฺเฉทวเสน จ ปหีนํ ทูรีกตเมว โหตีติ อิมินา ทูรีกรณฏฺเน วิกฺขมฺภนํ วุตฺตํ.
เนกฺขมฺเมน ¶ กามจฺฉนฺโท ตทงฺคสฺุโติ เนกฺขมฺเมน ปหีโน กามจฺฉนฺโท เตน เนกฺขมฺมสงฺขาเตน องฺเคน สฺุโ. อถ วา โย โกจิ กามจฺฉนฺโท เนกฺขมฺมสฺส ตตฺถ อภาวโต เนกฺขมฺเมน เตน องฺเคน สฺุโ. เอวํ เสเสสุปิ โยชนา กาตพฺพา. ตสฺส ตสฺส องฺคสฺส ตตฺถ ตตฺถ อภาวมตฺเตเนว เจตฺถ อุปจารปฺปนาฌานวเสน จ ¶ วิปสฺสนาวเสน จ ตทงฺคสฺุตา นิทฺทิฏฺา. ปหานทีปกสฺส วจนสฺส อภาเวน ปน วิวฏฺฏนานุปสฺสนํเยว ปริโยสานํ กตฺวา วิปสฺสนา นิทฺทิฏฺา, จตฺตาโร มคฺคา น นิทฺทิฏฺา. เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺโท สมุจฺฉินฺโน เจว สฺุโ จาติอาทีสุ วิกฺขมฺภเน วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตทงฺควิกฺขมฺภนวเสน ปหีนานิปิ เจตฺถ สมุทาจาราภาวโต สมุจฺฉินฺนานิ นาม โหนฺตีติ อิมินา ปริยาเยน สมุจฺเฉโท วุตฺโต, ตํตํสมุจฺเฉทกิจฺจสาธนวเสน วา มคฺคสมฺปยุตฺตเนกฺขมฺมาทิวเสน วุตฺตนฺติปิ เวทิตพฺพํ. ปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณสฺุเสุ จ อิธ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปหาเนสุ ปเนตฺถ ปฏิปฺปสฺสทฺธิมตฺตตฺตํ นิสฺสฏมตฺตตฺตฺจ คเหตฺวา วุตฺตํ. ปฺจสุปิ เอเตสุ สฺุเสุ เนกฺขมฺมาทีนิเยว วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณนาเมน วุตฺตานิ. อชฺฌตฺตนฺติ อชฺฌตฺตภูตํ. พหิทฺธาติ พหิทฺธาภูตํ. ทุภโตสฺุนฺติ อุภยสฺุํ. ปจฺจตฺตาทีสุปิ หิ โต-อิติวจนํ โหติเยว.
ฉ อชฺฌตฺติกายตนาทีนิ ฉอชฺฌตฺติกายตนาทีนํ ภาเวน สภาคานิ. ปเรหิ วิสภาคานิ. วิฺาณกายาติอาทีสุ เจตฺถ กายวจเนน วิฺาณาทีนิเยว วุตฺตานิ. เนกฺขมฺเมสนาทีสุ เนกฺขมฺมาทีนิเยว ตทตฺถิเกหิ วิฺูหิ เอสียนฺตีติ เอสนา. อถ วา ปุพฺพภาเค เนกฺขมฺมาทีนํ เอสนาปิ กามจฺฉนฺทาทีหิ สฺุา, กึ ปน เนกฺขมฺมาทีนีติปิ วุตฺตํ โหติ? ปริคฺคหาทีสุ เนกฺขมฺมาทีนิเยว ปุพฺพภาเค เอสิตานิ อปรภาเค ปริคฺคยฺหนฺตีติ ¶ ปริคฺคโหติ, ปริคฺคหิตานิ ปตฺติวเสน ปฏิลพฺภนฺตีติ ปฏิลาโภติ, ปฏิลทฺธานิ าณวเสน ปฏิวิชฺฌียนฺตีติ ปฏิเวโธติ จ วุตฺตานิ. เอกตฺตสฺฺุจ นานตฺตสฺฺุจ สกึเยว ปุจฺฉิตฺวา เอกตฺตสฺุํ วิสฺสชฺเชตฺวา นานตฺตสฺุํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว สกึ นิคมนํ กตํ. กสฺมา น วิสฺสชฺชิตนฺติ เจ? วุตฺตปริยาเยเนเวตฺถ โยชนา ายตีติ น วิสฺสชฺชิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อยํ ปเนตฺถ โยชนา – เนกฺขมฺมํ เอกตฺตํ, กามจฺฉนฺโท นานตฺตํ, กามจฺฉนฺโท นานตฺตํ, เนกฺขมฺเมกตฺเตน สฺุนฺติ. เอวํ เสเสสุปิ โยชนา เวทิตพฺพา.
ขนฺติอาทีสุ เนกฺขมฺมาทีนิเยว ขมนโต รุจฺจนโต ขนฺตีติ, โรจิตานิเยว ปวิสิตฺวา ติฏฺนโต อธิฏฺานนฺติ, ปวิสิตฺวา ิตานํ ยถารุจิเมว เสวนโต ปริโยคาหนนฺติ จ ¶ วุตฺตานิ. อิธ ¶ สมฺปชาโนติอาทิโก ปรมตฺถสฺุนิทฺเทโส ปรินิพฺพานาณนิทฺเทเส วณฺณิโตเยว.
อิเมสุ จ สพฺเพสุ สฺุเสุ สงฺขารสฺุํ วิปริณามสฺุํ ลกฺขณสฺฺุจ ยถาวุตฺตานํ ธมฺมานํ อฺมฺอสมฺมิสฺสตาทสฺสนตฺถํ. ยตฺถ ปน อกุสลปกฺขิกานํ กุสลปกฺขิเกน สฺุตา วุตฺตา, เตน อกุสเล อาทีนวทสฺสนตฺถํ. ยตฺถ ปน กุสลปกฺขิกานํ อกุสลปกฺขิเกน สฺุตา วุตฺตา, เตน กุสเล อานิสํสทสฺสนตฺถํ. ยตฺถ อตฺตตฺตนิยาทีหิ สฺุตา วุตฺตา, ตํ สพฺพสงฺขาเรสุ นิพฺพิทาชนนตฺถํ. อคฺคสฺุํ ปรมตฺถสฺฺุจ นิพฺพาเน อุสฺสาหชนนตฺถํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
เตสุ อคฺคสฺฺุจ ปรมตฺถสฺฺุจาติ ทฺเว สฺุานิ อตฺถโต เอกเมว นิพฺพานํ อคฺคปรมตฺถวเสน สอุปาทิเสสอนุปาทิเสสวเสน จ ทฺวิธา กตฺวา วุตฺตํ. ตานิ ทฺเว อตฺตตฺตนิยสฺุโต สงฺขารสฺุโต จ สภาคานิ. ‘‘สฺุสฺุํ อชฺฌตฺตสฺุํ พหิทฺธาสฺุํ ทุภโตสฺุํ สภาคสฺุํ วิสภาคสฺุ’’นฺติ อิมานิ ฉ สฺุานิ สฺุสฺุเมว โหติ. อชฺฌตฺตาทิเภทโต ปน ฉธา วุตฺตานิ. ตานิ ฉ จ อตฺตตฺตนิยาทิสฺุโต สภาคานิ. สงฺขารวิปริณามลกฺขณสฺุานิ, วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณสฺุานิ, เอสนาปริคฺคหปฏิลาภปฏิเวธสฺุานิ, เอกตฺตนานตฺตสฺุานิ, ขนฺติอธิฏฺานปริโยคาหนสฺุานิ จาติ สตฺตรส สฺุานิ อตฺตนิ อวิชฺชมาเนหิ เตหิ เตหิ ธมฺเมหิ สฺุตฺตา อวิชฺชมานานํ วเสน วิสุํ วิสุํ วุตฺตานิ. สงฺขารวิปริณามลกฺขณสฺุานิ ปน ¶ อิตเรน อิตเรน อสมฺมิสฺสวเสน สภาคานิ, วิกฺขมฺภนาทีนิ ปฺจ กุสลปกฺเขน สฺุตฺตา สภาคานิ, เอสนาทีนิ จตฺตาริ, ขนฺติอาทีนิ จ ตีณิ อกุสลปกฺเขน สฺุตฺตา สภาคานิ, เอกตฺตนานตฺตสฺุานิ อฺมฺปฏิปกฺขวเสน สภาคานิ.
สพฺเพ ธมฺมา สมาเสน, ติธา ทฺเวธา ตเถกธา;
สฺุาติ สฺุตฺถวิทู, วณฺณยนฺตีธ สาสเน.
กถํ? สพฺเพ ตาว โลกิยา ธมฺมา ธุวสุภสุขอตฺตวิรหิตตฺตา ธุวสุภสุขอตฺตสฺุา. มคฺคผลธมฺมา ธุวสุขตฺตวิรหิตตฺตา ธุวสุขตฺตสฺุา. อนิจฺจตฺตาเยว สุเขน สฺุา. อนาสวตฺตา น สุเภน สฺุา. นิพฺพานธมฺโม อตฺตสฺเสว อภาวโต อตฺตสฺุโ. โลกิยโลกุตฺตรา ปน สพฺเพปิ สงฺขตา ธมฺมา สตฺตสฺส กสฺสจิ อภาวโต สตฺตสฺุา. อสงฺขโต ¶ ¶ นิพฺพานธมฺโม เตสํ สงฺขารานมฺปิ อภาวโต สงฺขารสฺุโ. สงฺขตาสงฺขตา ปน สพฺเพปิ ธมฺมา อตฺตสงฺขาตสฺส ปุคฺคลสฺส อภาวโต อตฺตสฺุาติ.
สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฏิสมฺภิทามคฺคอฏฺกถาย
สฺุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ยุคนทฺธวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิตา จ มชฺฌิมวคฺคสฺส อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา.
(๓) ปฺาวคฺโค
๑. มหาปฺากถา
มหาปฺากถาวณฺณนา
๑. อิทานิ ¶ ¶ วิเสสโต ปฺาปทฏฺานภูตาย สฺุกถาย อนนฺตรํ กถิตาย ปฺากถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ อาทิโต ตาว สตฺตสุ อนุปสฺสนาสุ เอเกกมูลกา สตฺต ปฺา ปุจฺฉาปุพฺพงฺคมํ กตฺวา นิทฺทิฏฺา, ปุน สตฺตานุปสฺสนามูลกา เอเกกุตฺตรมูลกา จ ติสฺโส ปฺา ปุจฺฉํ อกตฺวาว นิทฺทิฏฺา, เอวมาทิโต ทสปฺาปาริปูรี นิทฺทิฏฺา. ตตฺถ อนิจฺจานุปสฺสนา ตาว ยสฺมา อนิจฺจโต ทิฏฺเสุ สงฺขาเรสุ ‘‘ยทนิจฺจํ, ตํ ทุกฺข’’นฺติ ทุกฺขโต จ ‘‘ยํ ทุกฺขํ, ตทนตฺตา’’ติ อนตฺตโต จ ชวติ, ตสฺมา สา ภาวิตา พหุลีกตา ชวนปฺํ ปริปูเรติ. สา หิ สกวิสเยสุ ชวตีติ ชวนา, ชวนา จ สา ปฺา จาติ ชวนปฺา. ทุกฺขานุปสฺสนา สมาธินฺทฺริยนิสฺสิตตฺตา พลวตี หุตฺวา ปณิธึ นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลติ, ตสฺมา นิพฺเพธิกปฺํ ปริปูเรติ. สา หิ นิพฺพิชฺฌตีติ นิพฺเพธิกา, นิพฺเพธิกา จ สา ปฺา จาติ นิพฺเพธิกปฺา. อนตฺตานุปสฺสนา สฺุตาทสฺสเนน วุทฺธิปฺปตฺติยา มหตฺตปฺปตฺตตฺตา มหาปฺํ ปริปูเรติ. สา หิ วุทฺธิปฺปตฺตตฺตา มหตี จ สา ปฺา จาติ มหาปฺา. นิพฺพิทานุปสฺสนา ยสฺมา ติสฺสนฺนํเยว อนุปสฺสนานํ ปุริมโตปิ อาเสวนาย พลปฺปตฺตาวตฺถตฺตา สพฺพสงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทนสมตฺถา หุตฺวา ติกฺขา โหติ, ตสฺมา ติกฺขปฺํ ปริปูเรติ. วิราคานุปสฺสนาปิ ยสฺมา ติสฺสนฺนํเยว อนุปสฺสนานํ ปุริมโตปิ อาเสวนาพลปฺปตฺตานํ วุทฺธตราวตฺถตฺตา สพฺพสงฺขาเรหิ วิรชฺชนสมตฺถา หุตฺวา วิปุลา โหติ, ตสฺมา วิปุลปฺํ ปริปูเรติ.
นิโรธานุปสฺสนาปิ ยสฺมา ติสฺสนฺนํเยว อนุปสฺสนานํ ปุริมโตปิ อาเสวนาพลปฺปตฺตานํ วุทฺธตราวตฺถตฺตา วยลกฺขณวเสน สพฺพสงฺขารานํ นิโรธทสฺสนสมตฺถา หุตฺวา คมฺภีรา โหติ, ตสฺมา คมฺภีรปฺํ ปริปูเรติ. นิโรโธ หิ อุตฺตานปฺเหิ อลพฺภเนยฺยปติฏฺตฺตา คมฺภีโร, ตสฺมึ ¶ คมฺภีเร คาธปฺปตฺตา ปฺาปิ คมฺภีรา. ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาปิ ยสฺมา ติสฺสนฺนํเยว อนุปสฺสนานํ ปุริมโตปิ อาเสวนาพลปฺปตฺตานํ วุทฺธตราวตฺถตฺตา วยลกฺขณวเสน สพฺพสงฺขารปฏินิสฺสชฺชนสมตฺถา ¶ หุตฺวา อสามนฺตา โหติ, วุทฺธิปริยนฺตปฺปตฺตตฺตา ฉหิ ปฺาหิ ทูเร โหตีติ อตฺโถ. ตสฺมา ¶ สยํ อสามนฺตตฺตา อสามนฺตปฺํ ปริปูเรติ. สา หิ เหฏฺิมปฺาหิ ทูรตฺตา อสามนฺตา, อสมีปา วา ปฺาติ อสามนฺตปฺา. ปณฺฑิจฺจํ ปริปูเรนฺตีติ ปณฺฑิตภาวํ ปริปูเรนฺติ. ยสฺมา ยถาวุตฺตา สตฺต ปฺา ปริปุณฺณา ภาเวตฺวา ปณฺฑิตลกฺขณปฺปตฺโต สิขปฺปตฺตวุฏฺานคามินิวิปสฺสนาสงฺขาเตหิ สงฺขารุเปกฺขานุโลมโคตฺรภุาเณหิ ปณฺฑิโต หุตฺวา ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคโต โหติ, ตสฺมา ‘‘ปณฺฑิจฺจํ ปริปูเรนฺตี’’ติ วุตฺตํ.
อฏฺ ปฺาติ ปณฺฑิจฺจสงฺขาตาย ปฺาย สห สพฺพา อฏฺ ปฺา. ปุถุปฺํ ปริปูเรนฺตีติ ยสฺมา เตน ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคโต หุตฺวา โส ปณฺฑิโต โคตฺรภุาณานนฺตรํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา โลกุตฺตรภาวปฺปตฺติยา โลกิยโต ปุถุภูตตฺตา วิสุํภูตตฺตา ปุถุปฺาติสงฺขาตํ มคฺคผลปฺํ ปาปุณาติ, ตสฺมา ‘‘อฏฺ ปฺา ปุถุปฺํ ปริปูเรนฺตี’’ติ วุตฺตํ.
อิมา นว ปฺาติอาทีสุ ตสฺเสว กเมน อธิคตมคฺคผลสฺส อริยปุคฺคลสฺส ปณีตโลกุตฺตรธมฺโมปโยเคน ปณีตจิตฺตสนฺตานตฺตา ปหฏฺากาเรเนว จ ปวตฺตมานจิตฺตสนฺตานสฺส ผลานนฺตรํ โอติณฺณภวงฺคโต วุฏฺิตสฺส มคฺคปจฺจเวกฺขณา, ตโต จ ภวงฺคํ โอตริตฺวา วุฏฺิตสฺส ผลปจฺจเวกฺขณา, อิมินาว นเยน ปหีนกิเลสปจฺจเวกฺขณา, อวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขณา, นิพฺพานปจฺจเวกฺขณาติ ปฺจ ปจฺจเวกฺขณา ปวตฺตนฺติ. ตาสุ ปจฺจเวกฺขณาสุ มคฺคปจฺจเวกฺขณา ผลปจฺจเวกฺขณา จ ปฏิภานปฏิสมฺภิทา โหติ. กถํ? ‘‘ยํกิฺจิ ปจฺจยสมฺภูตํ นิพฺพานํ ภาสิตตฺโถ วิปาโก กิริยาติ อิเม ปฺจ ธมฺมา อตฺโถ’’ติ อภิธมฺเม ปาฬึ อนุคนฺตฺวา ตทฏฺกถายํ วุตฺตํ. นิพฺพานสฺส จ อตฺถตฺตา ตทารมฺมณํ มคฺคผลาณํ ‘‘อตฺเถสุ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๑๘; ปฏิ. ม. ๑.๑๑๐) วจนโต อตฺถปฏิสมฺภิทา โหติ. ตสฺส อตฺถปฏิสมฺภิทาภูตสฺส มคฺคผลาณสฺส ปจฺจเวกฺขณาณํ ‘‘าเณสุ าณํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทา’’ติ วจนโต ปฏิภานปฏิสมฺภิทา โหติ. สา จ ปจฺจเวกฺขณปฺา หาสากาเรน ปวตฺตมานจิตฺตสนฺตานสฺส หาสปฺา นาม โหติ. ตสฺมา นว ปฺา หาสปฺํ ปริปูเรนฺตีติ จ หาสปฺา ปฏิภานปฏิสมฺภิทาติ จ วุตฺตํ. สพฺพปฺปการาปิ ปฺา ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส ปากฏกรณสงฺขาเตน ปฺาปนฏฺเน ปฺา, เตน เตน วา ปกาเรน ธมฺเม ชานาตีติ ปฺา.
ตสฺสาติ ¶ ¶ ตสฺส วุตฺตปฺปการสฺส อริยปุคฺคลสฺส. กรณตฺเถ สามิวจนํ. อตฺถววตฺถานโตติ ยถาวุตฺตสฺส ปฺจวิธสฺส อตฺถสฺส ววตฺถาปนวเสน. วุตฺตมฺปิ เจตํ สมณกรณียกถายํ ¶ ‘‘เหตุผลํ นิพฺพานํ วจนตฺโถ อถ วิปากํ กิริยาติ อตฺเถ ปฺจ ปเภเท ปมนฺตปเภทคตํ าณ’’นฺติ. อธิคตา โหตีติ ปฏิลทฺธา โหติ. สาเยว ปฏิลาภสจฺฉิกิริยาย สจฺฉิกตา. ปฏิลาภผสฺเสเนว ผสฺสิตา ปฺาย. ธมฺมววตฺถานโตติ ‘‘โย โกจิ ผลนิพฺพตฺตโก เหตุ อริยมคฺโค ภาสิตํ กุสลํ อกุสลนฺติ อิเม ปฺจ ธมฺมา ธมฺโม’’ติ อภิธมฺเม ปาฬิยานุสาเรน วุตฺตานํ ปฺจนฺนํ ธมฺมานํ ววตฺถาปนวเสน. วุตฺตมฺปิ เจตํ สมณกรณียกถายํ ‘‘เหตุ อริยมคฺโค วจนํ กุสลฺจ อกุสลฺจาติ ธมฺเม ปฺจ ปเภเท ทุติยนฺตปเภทคตํ าณ’’นฺติ. นิรุตฺติววตฺถานโตติ เตสํ เตสํ อตฺถธมฺมานํ อนุรูปนิรุตฺตีนํ ววตฺถาปนวเสน. ปฏิภานววตฺถานโตติ ปฏิภานสงฺขาตานํ ติณฺณํ ปฏิสมฺภิทาาณานํ ววตฺถาปนวเสน. ตสฺสิมาติ นิคมนวจนเมตํ.
๒. เอวํ สพฺพสงฺคาหกวเสน อนุปสฺสนานํ วิเสสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วตฺถุเภทวเสน ทสฺเสนฺโต รูเป อนิจฺจานุปสฺสนาติอาทิมาห. ตํ เหฏฺา วุตฺตตฺถเมว. ปุน รูปาทีสุเยว อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนวเสน ชวนปฺํ ทสฺเสตุกาโม เกวลํ รูปาทิวเสน จ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนรูปาทิวเสน จ ปุจฺฉํ กตฺวา ปุจฺฉากเมเนว วิสฺสชฺชนํ อกาสิ. ตตฺถ สุทฺธรูปาทิวิสฺสชฺชเนสุ ปมํ นิทฺทิฏฺา เอว ปฺา อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนมูลเกสุ สพฺพวิสฺสชฺชเนสุ เตสุ อตีตาทีสุ ชวนวเสน ชวนปฺาติ นิทฺทิฏฺา.
๓. ปุน อเนกสุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมํ ปฺาปเภทํ ทสฺเสตุกาโม ปมํ ตาว สุตฺตนฺเต อุทฺทิสิ. ตตฺถ สปฺปุริสสํเสโวติ เหฏฺา วุตฺตปฺปการานํ สปฺปุริสานํ ภชนํ. สทฺธมฺมสฺสวนนฺติ เตสํ สปฺปุริสานํ สนฺติเก สีลาทิปฏิปตฺติทีปกสฺส สทฺธมฺมวจนสฺส สวนํ. โยนิโสมนสิกาโรติ สุตานํ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขณวเสน อุปาเยน มนสิกาโร. ธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺตีติ โลกุตฺตรธมฺเม อนุคตสฺส สีลาทิปฏิปทาธมฺมสฺส ปฏิปชฺชนํ. ปฺาปฏิลาภาย ¶ ปฺาวุทฺธิยา ปฺาเวปุลฺลาย ปฺาพาหุลฺลายาติ อิมานิ จตฺตาริ ปฺาวเสน ภาววจนานิ. เสสานิ ทฺวาทส ปุคฺคลวเสน ภาววจนานิ.
๑. โสฬสปฺานิทฺเทสวณฺณนา
๔. สุตฺตนฺตนิทฺเทเส ¶ ฉนฺนํ อภิฺาาณานนฺติ อิทฺธิวิธทิพฺพโสตเจโตปริยปุพฺเพนิวาสทิพฺพจกฺขุอาสวานํ ขยาณานํ. เตสตฺตตีนํ าณานนฺติ าณกถาย นิทฺทิฏฺานํ สาวกสาธารณานํ าณานํ. สตฺตสตฺตตีนํ าณานนฺติ เอตฺถ –
‘‘สตฺตสตฺตริ ¶ โว, ภิกฺขเว, าณวตฺถูนิ เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ สาธุกํ มนสิ กโรถ, ภาสิสฺสามีติ. กตมานิ, ภิกฺขเว, สตฺตสตฺตริ าณวตฺถูนิ? ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ าณํ, อสติ ชาติยา นตฺถิ ชรามรณนฺติ าณํ. อตีตมฺปิ อทฺธานํ ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ าณํ, อสติ ชาติยา นตฺถิ ชรามรณนฺติ าณํ, อนาคตมฺปิ อทฺธานํ ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ าณํ, อสติ ชาติยา นตฺถิ ชรามรณนฺติ าณํ. ยมฺปิสฺส ตํ ธมฺมฏฺิติาณํ, ตมฺปิ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมนฺติ าณํ. ภวปจฺจยา ชาตีติ าณํ…เป… อุปาทานปจฺจยา ภโวติ าณํ… ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานนฺติ าณํ… เวทนาปจฺจยา ตณฺหาติ าณํ… ผสฺสปจฺจยา เวทนาติ าณํ… สฬายตนปจฺจยา ผสฺโสติ าณํ… นามรูปปจฺจยา สฬายตนนฺติ าณํ… วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ าณํ… สงฺขารปจฺจยา วิฺาณนฺติ าณํ… อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ าณํ, อสติ อวิชฺชาย นตฺถิ สงฺขาราติ าณํ. อตีตมฺปิ อทฺธานํ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ าณํ, อสติ อวิชฺชาย นตฺถิ สงฺขาราติ าณํ, อนาคตมฺปิ อทฺธานํ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ าณํ, อสติ อวิชฺชาย นตฺถิ สงฺขาราติ าณํ. ยมฺปิสฺส ตํ ธมฺมฏฺิติาณํ, ตมฺปิ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมนฺติ าณํ. อิมานิ วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตสตฺตริ าณวตฺถูนี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๓๔) –
เอวํ ¶ ภควตา นิทานวคฺเค วุตฺตานิ สตฺตสตฺตติ าณานิ. ‘‘ชรามรเณ าณํ, ชรามรณสมุทเย าณํ, ชรามรณนิโรเธ าณํ, ชรามรณนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย าณ’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๓๓) อิมินา นเยน เอกาทสสุ องฺเคสุ จตฺตาริ จตฺตาริ กตฺวา วุตฺตานิ จตุจตฺตารีส าณวตฺถูนิ ปน อิธ น คหิตานิ. อุภยตฺถ จ าณานิเยว หิตสุขสฺส วตฺถูนีติ าณวตฺถูนิ. ลาโภติอาทีสุ ลาโภเยว อุปสคฺเคน วิเสเสตฺวา ปฏิลาโภติ วุตฺโต. ปุน ตสฺเสว อตฺถวิวรณวเสน ปตฺติ สมฺปตฺตีติ วุตฺตํ. ผสฺสนาติ อธิคมวเสน ผุสนา. สจฺฉิกิริยาติ ปฏิลาภสจฺฉิกิริยา. อุปสมฺปทาติ นิปฺผาทนา.
สตฺตนฺนฺจ เสกฺขานนฺติ ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขนฺตีติ เสกฺขสฺิตานํ โสตาปตฺติมคฺคฏฺาทีนํ สตฺตนฺนํ. ปุถุชฺชนกลฺยาณกสฺส จาติ นิพฺพานคามินิยา ปฏิปทาย ยุตฺตตฺตา สุนฺทรฏฺเน กลฺยาณสฺิตสฺส ปุถุชฺชนสฺส. วฑฺฒิตํ วฑฺฒนํ เอตายาติ วฑฺฒิตวฑฺฒนา. ยถาวุตฺตานํ อฏฺนฺนมฺปิ ปฺานํ วเสน วิเสสโต จ อรหโต ปฺาวเสน ปฺาวุทฺธิยา. ตถา ปฺาเวปุลฺลาย. มหนฺเต ¶ อตฺเถ ปริคฺคณฺหาตีติอาทีสุ ปฏิสมฺภิทปฺปตฺโต อริยสาวโก อตฺถาทโย ¶ อารมฺมณกรเณน ปริคฺคณฺหาติ. สพฺพาปิ มหาปฺา อริยสาวกานํเยว. ตสฺสา จ ปฺาย วิสยา เหฏฺา วุตฺตตฺถา เอว.
ปุถุนานาขนฺเธสูติอาทีสุ นานาสทฺโท ปุถุสทฺทสฺส อตฺถวจนํ. าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺาติ เตสุ ตถาวุตฺเตสุ ขนฺธาทีสุ าณํ ปวตฺตตีติ กตฺวา ตํ าณํ ปุถุปฺา นามาติ อตฺโถ. นานาปฏิจฺจสมุปฺปาเทสูติ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนานํ ธมฺมานํ วเสน ปจฺจยพหุตฺตา วุตฺตํ. นานาสฺุตมนุปลพฺเภสูติ อุปลพฺภนํ อุปลพฺโภ, คหณนฺติ อตฺโถ. น อุปลพฺโภ อนุปลพฺโภ, อนุปลพฺภานํ พหุตฺตา พหุวจเนน อนุปลพฺภา, ปฺจวีสติสฺุตาวเสน วา นานาสฺุตาสุ อตฺตตฺตนิยาทีนํ อนุปลพฺภา นานาสฺุตานุปลพฺภา, เตสุ. ‘‘นานาสฺุตานุปลพฺเภสู’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘อทุกฺขมสุขา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ติกมาติกา ๒) วิย ม-กาโร ปทสนฺธิวเสน วุตฺโต. อิมา ปฺจ ปฺา กลฺยาณปุถุชฺชเนหิ สาธารณา, นานาอตฺถาทีสุ ปฺา อริยานํเยว. ปุถุชฺชนสาธารเณ ธมฺเมติ โลกิยธมฺเม. อิมินา อวสานปริยาเยน ¶ โลกิยโต ปุถุภูตนิพฺพานารมฺมณตฺตา ปุถุภูตา วิสุํภูตา ปฺาติ ปุถุปฺา นามาติ วุตฺตํ โหติ.
วิปุลปฺา มหาปฺานเยน เวทิตพฺพา. ยถาวุตฺเต ธมฺเม ปริคฺคณฺหนฺตสฺส คุณมหนฺตตาย เตสํ ธมฺมานํ ปริคฺคาหิกาย จ ปฺาย มหนฺตตา, เตสํ ธมฺมานํ สยเมว มหนฺตตฺตา อุฬารตฺตา ธมฺมานฺจ ปฺาย จ วิปุลตา เวทิตพฺพา. คมฺภีรปฺา ปุถุปฺานเยน เวทิตพฺพา. เต จ ธมฺมา เต จ อนุปลพฺภา สา จ ปฺา ปกติชเนน อลพฺภเนยฺยปติฏฺตฺตา คมฺภีรา.
ยสฺส ปุคฺคลสฺสาติ อริยปุคฺคลสฺเสว. อฺโ โกจีติ ปุถุชฺชโน. อภิสมฺภวิตุนฺติ สมฺปาปุณิตุํ. อนภิสมฺภวนีโยติ สมฺปาปุณิตุํ อสกฺกุเณยฺโย. อฺเหีติ ปุถุชฺชเนเหว. อฏฺมกสฺสาติ อรหตฺตผลฏฺโต ปฏฺาย คณิยมาเน อฏฺมภูตสฺส โสตาปตฺติมคฺคฏฺสฺส. ทูเรติ วิปฺปกฏฺเ. วิทูเรติ วิเสเสน วิปฺปกฏฺเ. สุวิทูเรติ สุฏฺุ วิเสเสน วิปฺปกฏฺเ. น สนฺติเกติ น สมีเป. น สามนฺตาติ น สมีปภาเค. อิมานิ ทฺเว ปฏิเสธสหิตานิ วจนานิ ทูรภาวสฺเสว นิยมนานิ. อุปาทายาติ ปฏิจฺจ. โสตาปนฺนสฺสาติ โสตาปตฺติผลฏฺสฺส. เอเตเนว ตํตํมคฺคปฺา ตํตํผลปฺาย ทูเรติ วุตฺตํ โหติ. ปจฺเจกสมฺพุทฺโธติ ¶ อุปสคฺเคน วิเสสิตํ. อิตรทฺวยํ ปน สุทฺธเมว อาคตํ.
๕. ‘‘ปจฺเจกพุทฺธสฺส สเทวกสฺส จ โลกสฺส ปฺา ตถาคตสฺส ปฺาย ทูเร’’ติอาทีนิ วตฺวา ตเมว ทูรฏฺํ อเนกปฺปการโต ทสฺเสตุกาโม ปฺาปเภทกุสโลติอาทิมาห ¶ . ตตฺถ ปฺาปเภทกุสโลติ อตฺตโน อนนฺตวิกปฺเป ปฺาปเภเท เฉโก. ปภินฺนาโณติ อนนฺตปฺปเภทปตฺตาโณ. เอเตน ปฺาปเภทกุสลตฺเตปิ สติ ตาสํ ปฺานํ อนนฺตเภทตฺตํ ทสฺเสติ. อธิคตปฏิสมฺภิโทติ ปฏิลทฺธอคฺคจตุปฏิสมฺภิทาาโณ. จตุเวสารชฺชปฺปตฺโตติ จตฺตาริ วิสารทภาวสงฺขาตานิ าณานิ ปตฺโต. ยถาห –
‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต ปฏิชานโต ‘อิเม ธมฺมา อนภิสมฺพุทฺธา’ติ, ตตฺร วต มํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา ¶ มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ สห ธมฺเมน ปฏิโจเทสฺสตีติ นิมิตฺตเมตํ, ภิกฺขเว, น สมนุปสฺสามิ, เอตมหํ, ภิกฺขเว, นิมิตฺตํ อสมนุปสฺสนฺโต เขมปฺปตฺโต อภยปฺปตฺโต เวสารชฺชปฺปตฺโต วิหรามิ. ขีณาสวสฺส เต ปฏิชานโต ‘อิเม อาสวา อปริกฺขีณา’ติ, ‘เย โข ปน เต อนฺตรายิกา ธมฺมา วุตฺตา, เต ปฏิเสวโต นาลํ อนฺตรายายา’ติ, ‘ยสฺส โข ปน เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโต, โส น นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายา’ติ, ตตฺร วต มํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ สห ธมฺเมน ปฏิโจเทสฺสตีติ นิมิตฺตเมตํ, ภิกฺขเว, น สมนุปสฺสามิ, เอตมหํ, ภิกฺขเว, นิมิตฺตํ อสมนุปสฺสนฺโต เขมปฺปตฺโต อภยปฺปตฺโต เวสารชฺชปฺปตฺโต วิหรามี’’ติ (อ. นิ. ๔.๘; ม. นิ. ๑.๑๕๐).
ทสพลพลธารีติ ทส พลานิ เอเตสนฺติ ทสพลา, ทสพลานํ พลานิ ทสพลพลานิ, ตานิ ทสพลพลานิ ธารยตีติ ทสพลพลธารี, ทสพลาณพลธารีติ อตฺโถ. เอเตหิ ตีหิ วจเนหิ อนนฺตปฺปเภทานํ เนยฺยานํ ปเภทมุขมตฺตํ ทสฺสิตํ. โสเยว ปฺาปโยควเสน อภิมงฺคลสมฺมตฏฺเน ปุริสาสโภ. อสนฺตาสฏฺเน ปุริสสีโห. มหนฺตฏฺเน ปุริสนาโค. ปชานนฏฺเน ปุริสาชฺโ. โลกกิจฺจธุรวหนฏฺเน ปุริสโธรยฺโห.
อถ เตชาทิกํ อนนฺตาณโต ลทฺธํ คุณวิเสสํ ทสฺเสตุกาโม เตสํ เตชาทีนํ อนนฺตาณมูลกภาวํ ทสฺเสนฺโต อนนฺตาโณติ วตฺวา อนนฺตเตโชติอาทิมาห. ตตฺถ อนนฺตาโณติ คณนวเสน จ ปภาววเสน จ อนฺตวิรหิตาโณ. อนนฺตเตโชติ เวเนยฺยสนฺตาเน โมหตมวิธมเนน อนนฺตาณเตโช. อนนฺตยโสติ ปฺาคุเณเหว โลกตฺตยวิตฺถตานนฺตกิตฺติโฆโส. อฑฺโฒติ ปฺาธนสมิทฺธิยา สมิทฺโธ. มหทฺธโนติ ปฺาธนวฑฺฒตฺเตปิ ปภาวมหตฺเตน มหนฺตํ ปฺาธนมสฺสาติ มหทฺธโน ¶ . มหาธโนติปิ ปาโ. ธนวาติ ¶ ปสํสิตพฺพปฺาธนวตฺตา นิจฺจยุตฺตปฺาธนวตฺตา อติสยภูตปฺาธนวตฺตา ธนวา. เอเตสุปิ หิ ตีสุ อตฺเถสุ อิทํ วจนํ สทฺทวิทู อิจฺฉนฺติ.
เอวํ ¶ ปฺาคุเณน ภควโต อตฺตสมฺปตฺติสิทฺธึ ทสฺเสตฺวา ปุน ปฺาคุเณเนว โลกหิตสมฺปตฺติสิทฺธึ ทสฺเสนฺโต เนตาติอาทิมาห. ตตฺถ เวเนยฺเย สํสารสงฺขาตภยฏฺานโต นิพฺพานสงฺขาตเขมฏฺานํ เนตา. ตตฺถ นยนกาเล เอว สํวรวินยปหานวินยวเสน เวเนยฺเย วิเนตา. ธมฺมเทสนากาเล เอว สํสยจฺเฉทเนน อนุเนตา. สํสยํ ฉินฺทิตฺวา ปฺาเปตพฺพํ อตฺถํ ปฺาเปตา. ตถา ปฺาปิตานํ นิจฺฉยกรเณน นิชฺฌาเปตา. ตถา นิชฺฌายิตสฺส อตฺถสฺส ปฏิปตฺติปโยชนวเสน เปกฺเขตา. ตถาปฏิปนฺเน ปฏิปตฺติผเลน ปสาเทตา. โส หิ ภควาติ เอตฺถ หิ-กาโร อนนฺตรํ วุตฺตสฺส อตฺถสฺส การโณปเทเส นิปาโต. อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตาติ สกสนฺตาเน น อุปฺปนฺนปุพฺพสฺส ฉอสาธารณาณเหตุภูตสฺส อริยมคฺคสฺส โพธิมูเล โลกหิตตฺถํ สกสนฺตาเน อุปฺปาเทตา. อสฺชาตสฺส มคฺคสฺส สฺชเนตาติ เวเนยฺยสนฺตาเน อสฺชาตปุพฺพสฺส สาวกปารมิาณเหตุภูตสฺส อริยมคฺคสฺส ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนโต ปภุติ ยาวชฺชกาลา เวเนยฺยสนฺตาเน สฺชเนตา. สาวกเวเนยฺยานมฺปิ หิ สนฺตาเน ภควโต วุตฺตวจเนเนว อริยมคฺคสฺส สฺชนนโต ภควา สฺชเนตา นาม โหติ. อนกฺขาตสฺส มคฺคสฺส อกฺขาตาติ อฏฺธมฺมสมนฺนาคตานํ พุทฺธภาวาย กตาภินีหารานํ โพธิสตฺตานํ พุทฺธภาวาย พฺยากรณํ ทตฺวา อนกฺขาตปุพฺพสฺส ปารมิตามคฺคสฺส, ‘‘พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากรณมตฺเตเนว วา โพธิมูเล อุปฺปชฺชิตพฺพสฺส อริยมคฺคสฺส อกฺขาตา. อยํ นโย ปจฺเจกโพธิสตฺตพฺยากรเณปิ ลพฺภติเยว.
มคฺคฺูติ ปจฺจเวกฺขณาวเสน อตฺตนา อุปฺปาทิตอริยมคฺคสฺส าตา. มคฺควิทูติ เวเนยฺยสนฺตาเน ชเนตพฺพสฺส อริยมคฺคสฺส กุสโล. มคฺคโกวิโทติ โพธิสตฺตานํ อกฺขาตพฺพมคฺเค วิจกฺขโณ. อถ วา อภิสมฺโพธิปฏิปตฺติมคฺคฺู, ปจฺเจกโพธิปฏิปตฺติมคฺควิทู, สาวกโพธิปฏิปตฺติมคฺคโกวิโท. อถ วา ‘‘เอเตน มคฺเคน อตํสุ ปุพฺเพ, ตริสฺสนฺติเยว ตรนฺติ โอฆ’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๔๐๙) วจนโต ยถาโยคํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนพุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวกานํ มคฺควเสน จ สฺุตานิมิตฺตอปฺปณิหิตมคฺควเสน ¶ จ อุคฺฆฏิตฺูวิปฺจิตฺูเนยฺยปุคฺคลานํ มคฺควเสน จ ยถากฺกเมนตฺถโยชนํ กโรนฺติ. มคฺคานุคามี จ ปนาติ ภควตา คตมคฺคานุคามิโน หุตฺวา ¶ . เอตฺถ จ-สทฺโท เหตุอตฺเถ นิปาโต. เอเตน จ ภควโต มคฺคุปฺปาทนาทิคุณาธิคมาย เหตุ วุตฺโต โหติ. ปน-สทฺโท กตตฺเถ นิปาโต. เตน ภควตา กตมคฺคกรณํ วุตฺตํ โหติ. ปจฺฉา สมนฺนาคตาติ ปมํ คตสฺส ภควโต ปจฺฉาคตสีลาทิคุเณน สมนฺนาคตา. อิติ เถโร ‘‘อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา’’ติอาทีหิ ¶ ยสฺมา สพฺเพปิ ภควโต สีลาทโย คุณา อรหตฺตมคฺคเมว นิสฺสาย อาคตา, ตสฺมา อรหตฺตมคฺคเมว นิสฺสาย คุณํ กเถสิ.
ชานํ ชานาตีติ ชานิตพฺพํ ชานาติ, สพฺพฺุตาย ยํกิฺจิ ปฺาย ชานิตพฺพํ นาม อตฺถิ, ตํ สพฺพํ ปฺจเนยฺยปถภูตํ ปฺาย ชานาตีติ อตฺโถ. ปสฺสํ ปสฺสตีติ ปสฺสิตพฺพํ ปสฺสติ, สพฺพทสฺสาวิตาย ตํเยว เนยฺยปถํ จกฺขุนา ทิฏฺํ วิย กโรนฺโต ปฺาจกฺขุนา ปสฺสตีติ อตฺโถ. ยถา วา เอกจฺโจ วิปรีตํ คณฺหนฺโต ชานนฺโตปิ น ชานาติ, ปสฺสนฺโตปิ น ปสฺสติ, น เอวํ ภควา. ภควา ปน ยถาสภาวํ คณฺหนฺโต ชานนฺโต ชานาติเยว, ปสฺสนฺโต ปสฺสติเยว. สฺวายํ ทสฺสนปริณายกฏฺเน จกฺขุภูโต. วิทิตตาทิอตฺเถน าณภูโต. อวิปรีตสภาวฏฺเน วา ปริยตฺติธมฺมปวตฺตนโต หทเยน จินฺเตตฺวา วาจาย นิจฺฉาริตธมฺมมโยติ วา ธมฺมภูโต. เสฏฺฏฺเน พฺรหฺมภูโต. อถ วา จกฺขุ วิย ภูโตติ จกฺขุภูโต. าณํ วิย ภูโตติ าณภูโต. ธมฺโม วิย ภูโตติ ธมฺมภูโต. พฺรหฺมา วิย ภูโตติ พฺรหฺมภูโต. สฺวายํ ธมฺมสฺส วจนโต, วตฺตนโต วา วตฺตา. นานปฺปกาเรหิ วจนโต, วตฺตนโต วา ปวตฺตา. อตฺถํ นีหริตฺวา นีหริตฺวา นยนโต อตฺถสฺส นินฺเนตา. อมตาธิคมาย ปฏิปตฺติเทสนโต, อมตปฺปกาสนาย วา ธมฺมเทสนาย อมตสฺส อธิคมาปนโต อมตสฺส ทาตา. โลกุตฺตรธมฺมสฺส อุปฺปาทิตตฺตา เวเนยฺยานุรูเปน ยถาสุขํ โลกุตฺตรธมฺมสฺส ทาเนน จ, ธมฺเมสุ จ อิสฺสโรติ ธมฺมสฺสามี. ตถาคตปทํ เหฏฺา วุตฺตตฺถํ.
อิทานิ ‘‘ชานํ ชานาตี’’ติอาทีหิ วุตฺตํ คุณํ สพฺพฺุตาย วิเสเสตฺวา ทสฺเสตุกาโม สพฺพฺุตํ สาเธนฺโต นตฺถีติอาทิมาห. เอวํภูตสฺส หิ ตสฺส ภควโต ปารมิตาปฺุพลปฺปภาวนิปฺผนฺเนน อรหตฺตมคฺคาเณน สพฺพธมฺเมสุ สวาสนสฺส สมฺโมหสฺส วิหตตฺตา อสจฺฉิกตํ นาม นตฺถิ. อสมฺโมหโต สพฺพธมฺมานํ าตตฺตา ¶ อฺาตํ นาม นตฺถิ. ตเถว ¶ จ สพฺพธมฺมานํ จกฺขุนา วิย าณจกฺขุนา ทิฏฺตฺตา อทิฏฺํ นาม นตฺถิ. าเณน ปน ปตฺตตฺตา อวิทิตํ นาม นตฺถิ. อสมฺโมหสจฺฉิกิริยาย สจฺฉิกตตฺตา อสจฺฉิกตํ นาม นตฺถิ. อสมฺโมหปฺาย ผุฏฺตฺตา ปฺาย อผสฺสิตํ นาม นตฺถิ. ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนํ กาลํ วา ธมฺมํ วา. อุปาทายาติ อาทาย, อนฺโตกตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘อุปาทายา’’ติ วจเนเนว กาลวินิมุตฺตํ นิพฺพานมฺปิ คหิตเมว โหติ. ‘‘อตีตา’’ทิวจนานิ จ ‘‘นตฺถี’’ติอาทิวจเนเนว ฆฏียนฺติ, ‘‘สพฺเพ’’ติอาทิวจเนน วา. สพฺเพ ธมฺมาติ สพฺพสงฺขตาสงฺขตธมฺมปริยาทานํ. สพฺพากาเรนาติ สพฺพธมฺเมสุ เอเกกสฺเสว ธมฺมสฺส อนิจฺจาการาทิสพฺพาการปริยาทานํ ¶ . าณมุเขติ าณาภิมุเข. อาปาถํ อาคจฺฉนฺตีติ โอสรณํ อุเปนฺติ. ‘‘ชานิตพฺพ’’นฺติปทํ ‘‘เนยฺย’’นฺติปทสฺส อตฺถวิวรณตฺถํ วุตฺตํ.
อตฺตตฺโถ วาติอาทีสุ วา-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. อตฺตตฺโถติ อตฺตโน อตฺโถ. ปรตฺโถติ ปเรสํ ติณฺณํ โลกานํ อตฺโถ. อุภยตฺโถติ อตฺตโน จ ปเรสฺจาติ สกึเยว อุภินฺนํ อตฺโถ. ทิฏฺธมฺมิโกติ ทิฏฺธมฺเม นิยุตฺโต, ทิฏฺธมฺมปฺปโยชโน วา อตฺโถ. สมฺปราเย นิยุตฺโต, สมฺปรายปฺปโยชโน วา สมฺปรายิโก. อุตฺตาโนติอาทีสุ โวหารวเสน วตฺตพฺโพ สุขปติฏฺตฺตา อุตฺตาโน. โวหารํ อติกฺกมิตฺวา วตฺตพฺโพ สฺุตาปฏิสํยุตฺโต ทุกฺขปติฏฺตฺตา คมฺภีโร. โลกุตฺตโร อจฺจนฺตติโรกฺขตฺตา คูฬฺโห. อนิจฺจตาทิโก ฆนาทีหิ ปฏิจฺฉนฺนตฺตา ปฏิจฺฉนฺโน. อปฺปจุรโวหาเรน วตฺตพฺโพ ยถารุตํ อคฺคเหตฺวา อธิปฺปายสฺส เนตพฺพตฺตา เนยฺโย. ปจุรโวหาเรน วตฺตพฺโพ วจนมตฺเตน อธิปฺปายสฺส นีตตฺตา นีโต. สุปริสุทฺธสีลสมาธิวิปสฺสนตฺโถ ตทงฺควิกฺขมฺภนวเสน วชฺชวิรหิตตฺตา อนวชฺโช. กิเลสสมุจฺเฉทนโต อริยมคฺคตฺโถ นิกฺกิเลโส. กิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา อริยผลตฺโถ โวทาโน. สงฺขตาสงฺขเตสุ อคฺคธมฺมตฺตา นิพฺพานํ ปรมตฺโถ. ปริวตฺตตีติ พุทฺธาณสฺส วิสยภาวโต อพหิภูตตฺตา อนฺโตพุทฺธาเณ พฺยาปิตฺวา วา สมนฺตา วา อาลิงฺคิตฺวา วา วิเสเสน วา วตฺตติ.
สพฺพํ กายกมฺมนฺติอาทีหิ ภควโต าณมยตํ ทสฺเสติ. าณานุปริวตฺตตีติ าณํ อนุปริวตฺตติ, าณวิรหิตํ น โหตีติ อตฺโถ. อปฺปฏิหตนฺติ นิราวรณตํ ทสฺเสติ. ปุน สพฺพฺุตํ อุปมาย สาเธตุกาโม ¶ ยาวตกนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ชานิตพฺพนฺติ เนยฺยํ, เนยฺยปริยนฺโต เนยฺยาวสานมสฺส อตฺถีติ เนยฺยปริยนฺติกํ. อสพฺพฺูนํ ปน เนยฺยาวสานเมว นตฺถิ. าณปริยนฺติเกปิ เอเสว นโย. ปุริมยมเก วุตฺตตฺถเมว อิมินา ยมเกน วิเสเสตฺวา ทสฺเสติ, ตติยยมเกน ปฏิเสธวเสน นิยมิตฺวา ทสฺเสติ ¶ . เอตฺถ จ เนยฺยํ าณสฺส ปถตฺตา เนยฺยปโถ. อฺมฺปริยนฺตฏฺายิโนติ เนยฺยฺจ าณฺจ เขเปตฺวา านโต อฺมฺสฺส ปริยนฺเต านสีลา. อาวชฺชนปฺปฏิพทฺธาติ มโนทฺวาราวชฺชนายตฺตา, อาวชฺชิตานนฺตรเมว ชานาตีติ อตฺโถ. อากงฺขปฺปฏิพทฺธาติ รุจิอายตฺตา, อาวชฺชนานนฺตรํ ชวนาเณน ชานาตีติ อตฺโถ. อิตรานิ ทฺเว ปทานิ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปทานํ ยถากฺกเมน อตฺถปฺปกาสนตฺถํ วุตฺตานิ. พุทฺโธ อาสยํ ชานาตีติอาทีนิ าณกถายํ วณฺณิตานิ. มหานิทฺเทเส ปน ‘‘ภควา อาสยํ ชานาตี’’ติ (มหานิ. ๖๙) อาคตํ. ตตฺถ ‘‘พุทฺธสฺส ภควโต’’ติ (มหานิ. ๖๙) อาคตฏฺาเน จ อิธ กตฺถจิ ‘‘พุทฺธสฺสา’’ติ อาคตํ.
อนฺตมโสติ ¶ อุปริมนฺเตน. ติมิติมิงฺคลนฺติ เอตฺถ ติมิ นาม เอกา มจฺฉชาติ, ติมึ คิลิตุํ สมตฺถา ตโต มหนฺตสรีรา ติมิงฺคลา นาม เอกา มจฺฉชาติ, ติมิงฺคลมฺปิ คิลิตุํ สมตฺถา ปฺจโยชนสติกสรีรา ติมิติมิงฺคลา นาม เอกา มจฺฉชาติ. อิธ ชาติคฺคหเณน เอกวจนํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. ครุฬํ เวนเตยฺยนฺติ เอตฺถ ครุโฬติ ชาติวเสน นามํ, เวนเตยฺโยติ โคตฺตวเสน. ปเทเสติ เอกเทเส. สาริปุตฺตสมาติ สพฺพพุทฺธานํ ธมฺมเสนาปติตฺเถเร คเหตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เสสสาวกา หิ ปฺาย ธมฺมเสนาปติตฺเถเรน สมา นาม นตฺถิ. ยถาห – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ มหาปฺานํ ยทิทํ สาริปุตฺโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๘-๑๘๙). อฏฺกถายฺจ วุตฺตํ –
‘‘โลกนาถํ เปตฺวาน, เย จฺเ สนฺติ ปาณิโน;
ปฺาย สาริปุตฺตสฺส, กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสิ’’นฺติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๗๑);
ผริตฺวาติ พุทฺธาณํ สพฺพเทวมนุสฺสานมฺปิ ปฺํ ปาปุณิตฺวา านโต เตสํ ปฺํ ผริตฺวา พฺยาปิตฺวา ติฏฺติ. อติฆํสิตฺวาติ พุทฺธาณํ สพฺพเทวมนุสฺสานมฺปิ ปฺํ อติกฺกมิตฺวา เตสํ อวิสยภูตมฺปิ สพฺพํ เนยฺยํ ฆํสิตฺวา ¶ ภฺชิตฺวา ติฏฺติ. มหานิทฺเทเส ปน (มหานิ. ๖๙) ‘‘อภิภวิตฺวา’’ติ ปาโ, มทฺทิตฺวาติปิ อตฺโถ. เยปิ เตติอาทีหิ เอวํ ผริตฺวา อติฆํสิตฺวา านสฺส ปจฺจกฺขการณํ ทสฺเสติ. ตตฺถ ปณฺฑิตาติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคตา. นิปุณาติ สณฺหสุขุมพุทฺธิโน สุขุเม อตฺถนฺตเร ปฏิวิชฺฌนสมตฺถา. กตปรปฺปวาทาติ าตปรปฺปวาทา เจว ปเรหิ สทฺธึ กตวาทปริจยา จ. วาลเวธิรูปาติ วาลเวธิธนุคฺคหสทิสา. โวภินฺทนฺตา มฺเ จรนฺติ ปฺาคเตน ทิฏฺิคตานีติ ¶ วาลเวธี วิย วาลํ สุขุมานิปิ ปเรสํ ทิฏฺิคมนานิ อตฺตโน ปฺาคมเนน ภินฺทนฺตา วิย จรนฺตีติ อตฺโถ. อถ วา ‘‘คูถคตํ มุตฺตคต’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๙.๑๑) วิย ปฺา เอว ปฺาคตานิ, ทิฏฺิโย เอว ทิฏฺิคตานิ.
ปฺหํ อภิสงฺขริตฺวาติ ทฺวิปทมฺปิ ติปทมฺปิ จตุปฺปทมฺปิ ปุจฺฉํ รจยิตฺวา. เตสํ ปฺหานํ อติพหุกตฺตา สพฺพสงฺคหตฺถํ ทฺวิกฺขตฺตุํ วุตฺตํ. คูฬฺหานิ จ ปฏิจฺฉนฺนานิ อตฺถชาตานีติ ปาเสโส. เตสํ ตถา วินยํ ทิสฺวา ‘‘อตฺตนา อภิสงฺขตปฺหํ ปุจฺฉตู’’ติ เอวํ ภควตา อธิปฺเปตตฺตา ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ. อฺเสํ ปน ปุจฺฉาย โอกาสเมว อทตฺวา ภควา อุปสงฺกมนฺตานํ ธมฺมํ เทเสติ. ยถาห –
‘‘เต ¶ ปฺหํ อภิสงฺขโรนฺติ ‘อิมํ มยํ ปฺหํ สมณํ โคตมํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิสฺสาม, สเจ โน สมโณ โคตโม เอวํ ปุฏฺโ เอวํ พฺยากริสฺสติ, เอวมสฺส มยํ วาทํ อาโรเปสฺสาม. เอวํ เจปิ โน ปุฏฺโ เอวํ พฺยากริสฺสติ, เอวํปิสฺส มยํ วาทํ อาโรเปสฺสามา’ติ. เต เยน สมโณ โคตโม, เตนุปสงฺกมนฺติ, เต สมโณ โคตโม ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ. เต สมเณน โคตเมน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุตฺเตชิตา สมฺปหํสิตา น เจว สมณํ โคตมํ ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ, กุโตสฺส วาทํ อาโรเปสฺสนฺติ? อฺทตฺถุ สมณสฺเสว โคตมสฺส สาวกา สมฺปชฺชนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๙).
กสฺมา ปฺหํ น ปุจฺฉนฺตีติ เจ? ภควา กิร ปริสมชฺเฌ ธมฺมํ เทเสนฺโต ปริสาย อชฺฌาสยํ โอโลเกติ. ตโต ปสฺสติ ‘‘อิเม ปณฺฑิตา คูฬฺหํ รหสฺสํ ปฺหํ โอวฏฺฏิกสารํ กตฺวา อาคตา’’ติ. โส เตหิ อปุฏฺโเยว ¶ ‘‘ปฺหปุจฺฉาย เอตฺตกา โทสา, วิสฺสชฺชเน เอตฺตกา, อตฺเถ ปเท อกฺขเร เอตฺตกาติ อิเม ปฺเห ปุจฺฉนฺโต เอวํ ปุจฺเฉยฺย, วิสฺสชฺเชนฺโต เอวํ วิสฺสชฺเชยฺยา’’ติ อิติ โอวฏฺฏิกสารํ กตฺวา อานีเต ปฺเห ธมฺมกถาย อนฺตเร ปกฺขิปิตฺวา วิทํเสติ. เต ปณฺฑิตา ‘‘เสยฺยา วต โน, เย มยํ อิเม ปฺเห น ปุจฺฉิมฺห. สเจปิ มยํ ปุจฺเฉยฺยาม, อปฺปติฏฺิเต โน กตฺวา สมโณ โคตโม ขิเปยฺยา’’ติ อตฺตมนา ภวนฺติ. อปิจ พุทฺธา นาม ธมฺมํ เทเสนฺตา ปริสํ เมตฺตาย ผรนฺติ. เมตฺตาย จ ผรเณน ทสพเลสุ มหาชนสฺส จิตฺตํ ปสีทติ. พุทฺธา นาม รูปคฺคปฺปตฺตา โหนฺติ ทสฺสนสมฺปนฺนา มธุรสฺสรา มุทุชิวฺหา สุผุสิตทนฺตาวรณา อมเตน หทยํ สิฺจนฺตา วิย ธมฺมํ กเถนฺติ. ตตฺร เนสํ เมตฺตาผรเณน ปสนฺนจิตฺตานํ เอวํ โหติ – เอวรูปํ อทฺเวชฺฌกถํ อโมฆกถํ นิยฺยานิกกถํ กเถนฺเตน ภควตา สทฺธึ น สกฺขิสฺสาม ¶ ปจฺจนีกคฺคาหํ คณฺหิตุนฺติ อตฺตโน ปสนฺนภาเวเนว ปฺหํ น ปุจฺฉนฺตีติ.
กถิตา วิสชฺชิตา จาติ เอวํ ตุมฺเห ปุจฺฉถาติ ปุจฺฉิตปฺหานํ อุจฺจารเณน เต ปฺหา ภควตา กถิตา เอว โหนฺติ. ยถา จ เต วิสชฺเชตพฺพา, ตถา วิสชฺชิตา เอว โหนฺติ. นิทฺทิฏฺการณาติ อิมินา การเณน อิมินา เหตุนา เอวํ โหตีติ เอวํ สเหตุกํ กตฺวา วิสชฺชเนน ภควตา นิทฺทิฏฺการณา เอว โหนฺติ เต ปฺหา. อุปกฺขิตฺตกา จ เต ภควโต สมฺปชฺชนฺตีติ เต ขตฺติยปณฺฑิตาทโย ภควโต ปฺหวิสชฺชเนเนว ภควโต สมีเป ขิตฺตกา ปาทขิตฺตกา สมฺปชฺชนฺติ, สาวกา วา สมฺปชฺชนฺติ อุปาสกา วาติ อตฺโถ, สาวกสมฺปตฺตึ วา ปาปุณนฺติ อุปาสกสมฺปตฺตึ วาติ วุตฺตํ โหติ. อถาติ อนนฺตรตฺเถ, เตสํ อุปกฺขิตฺตกสมฺปตฺติสมนนฺตรเมวาติ อตฺโถ ¶ . ตตฺถาติ ตสฺมึ าเน, ตสฺมึ อธิกาเร วา. อติโรจตีติ อติวิย โชเตติ ปกาสติ. ยทิทํ ปฺายาติ ยายํ ภควโต ปฺา, ตาย ปฺาย ภควาว อติโรจตีติ อตฺโถ. อิติสทฺโท การณตฺเถ, อิมินา การเณน อคฺโค อสามนฺตปฺโติ อตฺโถ.
๖. ราคํ อภิภุยฺยตีติ ภูริปฺาติ สา สา มคฺคปฺา อตฺตนา วชฺฌํ ราคํ อภิภุยฺยติ อภิภวติ มทฺทตีติ ภูริปฺา. ภูรีติ หิ ผุฏฏฺโ วิสทตฺโถ ¶ . ยา จ ผุฏา, สา ปฏิปกฺขํ อภิภวติ น อผุฏา, ตสฺมา ภูริปฺาย อภิภวนตฺโถ วุตฺโต. อภิภวิตาติ สา สา ผลปฺา ตํ ตํ ราคํ อภิภวิตวตี มทฺทิตวตีติ ภูริปฺา. อภิภวตาติ วา ปาโ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ราคาทีสุ ปน รชฺชนลกฺขโณ ราโค. ทุสฺสนลกฺขโณ โทโส. มุยฺหนลกฺขโณ โมโห. กุชฺฌนลกฺขโณ โกโธ. อุปนนฺธนลกฺขโณ อุปนาโห. ปุพฺพกาลํ โกโธ, อปรกาลํ อุปนาโห. ปรคุณมกฺขนลกฺขโณ มกฺโข. ยุคคฺคาหลกฺขโณ ปฬาโส. ปรสมฺปตฺติขียนลกฺขณา อิสฺสา. อตฺตโน สมฺปตฺตินิคูหณลกฺขณํ มจฺฉริยํ. อตฺตนา กตปาปปฏิจฺฉาทนลกฺขณา มายา. อตฺตโน อวิชฺชมานคุณปฺปกาสนลกฺขณํ สาเยฺยํ. จิตฺตสฺส อุทฺธุมาตภาวลกฺขโณ ถมฺโภ. กรณุตฺตริยลกฺขโณ สารมฺโภ. อุนฺนติลกฺขโณ มาโน. อพฺภุนฺนติลกฺขโณ อติมาโน. มตฺตภาวลกฺขโณ มโท. ปฺจสุ กามคุเณสุ จิตฺตโวสคฺคลกฺขโณ ปมาโท.
ราโค อริ, ตํ อรึ มทฺทนิปฺาติอาทีหิ กึ วุตฺตํ โหติ? ราคาทิโก กิเลโส จิตฺตสนฺตาเน ภูโต อรีติ ภู-อริ, ปทสนฺธิวเสน อ-การ โลปํ กตฺวา ภูรีติ วุตฺโต. ตสฺส ภูริสฺส มทฺทนี ปฺา ภูริมทฺทนิปฺาติ ¶ วตฺตพฺเพ มทฺทนิ สทฺท โลปํ กตฺวา ‘‘ภูริปฺา’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตํ อรึ มทฺทนีติ จ เตสํ อรีนํ มทฺทนีติ ปทจฺเฉโท กาตพฺโพ. ปถวีสมายาติ วิตฺถตวิปุลฏฺเเนว ปถวีสมาย. วิตฺถตายาติ ปชานิตพฺเพ วิสเย ปตฺถฏาย, น เอกเทเส วตฺตมานาย. วิปุลายาติ โอฬาริกภูตาย. มหานิทฺเทเส ปน ‘‘วิปุลาย วิตฺถตายา’’ติ (มหานิ. ๒๗) อาคตํ. สมนฺนาคโตติ ปุคฺคโล. อิติสทฺโท การณตฺเถ, อิมินา การเณน ปุคฺคลสฺส ภูริปฺาย สมนฺนาคตตฺตา ตสฺส ปฺา ภูริปฺา นามาติ ภูเต อตฺเถ รมตีติ อตฺโถ. ภูริปฺสฺส ปฺา ภูริปฺปฺาติ วตฺตพฺเพ เอกสฺส ปฺาสทฺทสฺส โลปํ กตฺวา ‘‘ภูริปฺา’’ติ วุตฺตํ. ภูริสมา ปฺาติ วา ภูริปฺา. อปิจาติ อฺปริยายทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ปฺายเมตนฺติ ปฺาย เอตํ. อธิวจนนฺติ อธิกวจนํ. ภูรีติ ภูเต อตฺเถ รมตีติ ภูริ. เมธาติ อสนิ วิย สิลุจฺจเย กิเลเส เมธติ ¶ หึสตีติ เมธา, ขิปฺปํ คหณธารณฏฺเน วา ¶ เมธา. ปริณายิกาติ ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ สตฺตํ หิตปฏิปตฺติยํ สมฺปยุตฺตธมฺเม จ ยาถาวลกฺขณปฏิเวเธ จ ปริเนตีติ ปริณายิกา. อิเมเหว อฺานิปิ ปฺาปริยายวจนานิ วุตฺตานิ โหนฺติ.
ปฺาพาหุลฺลนฺติ ปฺา พหุลา อสฺสาติ ปฺาพหุโล, ตสฺส ภาโว ปฺาพาหุลฺลํ. ตฺจ พหุลํ ปวตฺตมานา ปฺา เอว. อิเธกจฺโจติอาทีสุ ปุถุชฺชนกลฺยาณโก วา อริโย วา. ปฺา ครุกา อสฺสาติ ปฺาครุโก. ปฺา จริตํ ปวตฺตํ อสฺสาติ ปฺาจริโต. ปฺา อาสโย อสฺสาติ ปฺาสโย. ปฺาย อธิมุตฺโตติ ปฺาธิมุตฺโต. ปฺา เอว ธชภูตา อสฺสาติ ปฺาธโช. ปฺา เอว เกตุภูตา อสฺสาติ ปฺาเกตุ. ปฺา เอว อธิปติ ปฺาธิปติ, ปฺาธิปติโต อาคตตฺตา ปฺาธิปเตยฺโย. ธมฺมสภาววิจินนํ พหุลมสฺสาติ วิจยพหุโล. นานปฺปกาเรน ธมฺมสภาววิจินนํ พหุลมสฺสาติ ปวิจยพหุโล. ปฺาย โอคาเหตฺวา ตสฺส ตสฺส ธมฺมสฺส ขายนํ ปากฏกรณํ โอกฺขายนํ, โอกฺขายนํ พหุลมสฺสาติ โอกฺขายนพหุโล. ปฺาย ตสฺส ตสฺส ธมฺมสฺส สมฺมา เปกฺขณา สมฺเปกฺขา, สมฺเปกฺขาย อยนํ ปวตฺตนํ สมฺเปกฺขายนํ, สมฺเปกฺขายนํ ธมฺโม ปกติ อสฺสาติ สมฺเปกฺขายนธมฺโม. ตํ ตํ ธมฺมํ วิภูตํ ปากฏํ กตฺวา วิหรตีติ วิภูตวิหารี, วิภูโต วิหาโร วา อสฺส อตฺถีติ วิภูตวิหารี. สา ปฺา จริตํ, ครุกา, พหุลา อสฺสาติ ตจฺจริโต ตคฺครุโก ตพฺพหุโล. ตสฺสํ ปฺายํ นินฺโน, โปโณ, ปพฺภาโร, อธิมุตฺโตติ ตนฺนินฺโน ตปฺโปโณ ตปฺปพฺภาโร ตทธิมุตฺโต. สา ปฺา อธิปติ ตทธิปติ, ตโต อาคโต ตทธิปเตยฺโย. ‘‘ปฺาครุโก’’ติอาทีนิ ‘‘กามํ เสวนฺตํเยว ชานาติ อยํ ¶ ปุคฺคโล กามครุโก’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๓) วิย ปุริมชาติโต ปภุติ วุตฺตานิ. ‘‘ตจฺจริโต’’ติอาทีนิ อิมิสฺสา ชาติยา วุตฺตานิ.
สีฆปฺา จ ลหุปฺา จ หาสปฺา จ ชวนปฺา จ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา. ขิปฺปฏฺเน สีฆปฺา. ลหุกฏฺเน ลหุปฺา. หาสพหุลฏฺเน หาสปฺา. วิปสฺสนูปคสงฺขาเรสุ จ วิสงฺขาเร จ ชวนฏฺเน ชวนปฺา. สีฆํ สีฆนฺติ พหุนฺนํ สีลาทีนํ สงฺคหตฺถํ ทฺวิกฺขตฺตุํ วุตฺตํ. สีลานีติ จาริตฺตวาริตฺตวเสน ปฺตฺตานิ ปาติโมกฺขสํวรสีลานิ. อินฺทฺริยสํวรนฺติ ¶ จกฺขาทีนํ ฉนฺนํ อินฺทฺริยานํ ราคปฏิฆปฺปเวสํ อกตฺวา สติกวาเฏน วารณํ ถกนํ. โภชเน มตฺตฺุตนฺติ ปจฺจเวกฺขิตปริโภควเสน โภชเน ปมาณฺุภาวํ. ชาคริยานุโยคนฺติ ทิวสสฺส ตีสุ โกฏฺาเสสุ, รตฺติยา ปมปจฺฉิมโกฏฺาเสสุ จ ชาครติ น นิทฺทายติ, สมณธมฺมเมว จ กโรตีติ ชาคโร, ชาครสฺส ภาโว, กมฺมํ วา ชาคริยํ, ชาคริยสฺส อนุโยโค ชาคริยานุโยโค. ตํ ชาคริยานุโยคํ. สีลกฺขนฺธนฺติ เสกฺขํ อเสกฺขํ วา สีลกฺขนฺธํ. เอวมิตเรปิ ¶ ขนฺธา เวทิตพฺพา. ปฺากฺขนฺธนฺติ มคฺคปฺฺจ เสกฺขาเสกฺขานํ โลกิยปฺฺจ. วิมุตฺติกฺขนฺธนฺติ ผลวิมุตฺตึ. วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺธนฺติ ปจฺจเวกฺขณาณํ.
หาสพหุโลติ มูลปทํ. เวทพหุโลติ ตสฺสา เอว ปีติยา สมฺปยุตฺตโสมนสฺสเวทนาวเสน นิทฺเทสปทํ. ตุฏฺิพหุโลติ นาติพลวปีติยา ตุฏฺาการวเสน. ปาโมชฺชพหุโลติ พลวปีติยา ปมุทิตภาววเสน.
๗. ยํ กิฺจิ รูปนฺติอาทิ สมฺมสนาณนิทฺเทเส วุตฺตตฺถํ. ตุลยิตฺวาติ กลาปสมฺมสนวเสน ตุเลตฺวา. ตีรยิตฺวาติ อุทยพฺพยานุปสฺสนาวเสน ตีรยิตฺวา. วิภาวยิตฺวาติ ภงฺคานุปสฺสนาทิวเสน ปากฏํ กตฺวา. วิภูตํ กตฺวาติ สงฺขารุเปกฺขานุโลมวเสน ผุฏํ กตฺวา. ติกฺขปฺา โลกุตฺตรา เอว. อุปฺปนฺนนฺติ สมถวิปสฺสนาวเสน วิกฺขมฺภนตทงฺควเสน ปหีนมฺปิ อริยมคฺเคน อสมูหตตฺตา อุปฺปตฺติธมฺมตํ อนตีตตาย อสมูหตุปฺปนฺนนฺติ วุจฺจติ, ตํ อิธ อธิปฺเปตํ. นาธิวาเสตีติ สนฺตานํ อาโรเปตฺวา น วาเสติ. ปชหตีติ สมุจฺเฉทวเสน ปชหติ. วิโนเทตีติ ขิปติ. พฺยนฺตีกโรตีติ วิคตนฺตํ กโรติ. อนภาวํ คเมตีติ อนุ อภาวํ คเมติ, วิปสฺสนานุกฺกเมน อริยมคฺคํ ปตฺวา สมุจฺเฉทวเสเนว อภาวํ คมยตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ กามปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก กามวิตกฺโก. ‘‘อิเม สตฺตา มรนฺตู’’ติ ปเรสํ ¶ มรณปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก พฺยาปาทวิตกฺโก. ‘‘อิเม สตฺตา วิหึสียนฺตู’’ติ ปเรสํ วิหึสาปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก วิหึสาวิตกฺโก. ปาปเกติ ลามเก. อกุสเล ธมฺเมติ อโกสลฺลสมฺภูเต ธมฺเม.
นิพฺเพธิกปฺาติ นิพฺพิทาพหุลสฺส ปุคฺคลสฺส อุปฺปนฺนมคฺคปฺา เอว. อุพฺเพคพหุโลติ าณภยวเสน ภยพหุโล. อุตฺตาสพหุโลติ พลวภยพหุโล ¶ . อิทํ ปุริมสฺเสว อตฺถวิวรณํ. อุกฺกณฺนพหุโลติ สงฺขารโต อุทฺธํ วิสงฺขาราภิมุขตาย อุกฺกณฺนพหุโล. อนภิรติพหุโลติ อุกฺกณฺนวเสเนว อภิรติอภาวํ ทีเปติ. อิทานิปิ ตมตฺถํ ทฺวีหิ วจเนหิ วิวรติ. ตตฺถ พหิมุโขติ สงฺขารโต พหิภูตนิพฺพานาภิมุโข. น รมตีติ นาภิรมติ. อนิพฺพิทฺธปุพฺพนฺติ อนมตคฺเค สํสาเร อนฺตํ ปาเปตฺวา อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ. อปฺปทาลิตปุพฺพนฺติ ตสฺเสว อตฺถวจนํ, อนฺตกรเณเนว อปทาลิตปุพฺพนฺติ อตฺโถ. โลภกฺขนฺธนฺติ โลภราสึ, โลภโกฏฺาสํ วา. อิมาหิ โสฬสหิ ปฺาหิ สมนฺนาคโตติ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน อรหาเยว วุตฺโต. อุปริ ‘‘เอโก เสกฺขปฏิสมฺภิทปฺปตฺโต’’ติ (ปฏิ. ม. ๓.๘) วุตฺตตฺตา โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิโนปิ ลพฺภนฺติเยว.
๒. ปุคฺคลวิเสสนิทฺเทสวณฺณนา
๘. ทฺเว ¶ ปุคฺคลาติอาทีหิ ปฏิสมฺภิทปฺปตฺตปุคฺคลวิเสสปฏิปาฏึ ทสฺเสติ. ตตฺถ ปุพฺพโยโคติ อตีตชาตีสุ ปฏิสมฺภิทปฺปตฺติเหตุภูโต ปฺุปโยโค. เตนาติ เตน ปุพฺพโยคการเณน. เอวํ เสเสสุปิ. อติเรโก โหตีติ อติริตฺโต โหติ, อติเรกโยคโต วา ‘‘อติเรโก’’ติ วุตฺโต. อธิโก โหตีติ อคฺโค โหติ. วิเสโส โหตีติ วิสิฏฺโ โหติ, วิเสสโยคโต วา วิเสโส. าณํ ปภิชฺชตีติ ปฏิสมฺภิทาาณปฺปเภทํ ปาปุณาติ.
พหุสฺสุโตติ พุทฺธวจนวเสน. เทสนาพหุโลติ ธมฺมเทสนาวเสน. ครูปนิสฺสิโตติ ปฺาย อธิกํ ครุํ อุปนิสฺสิโต. วิหารพหุโลติ วิปสฺสนาวิหารพหุโล, ผลสมาปตฺติวิหารพหุโล วา. ปจฺจเวกฺขณาพหุโลติ วิปสฺสนาวิหาเร สติ วิปสฺสนาปจฺจเวกฺขณาพหุโล, ผลสมาปตฺติวิหาเร สติ ผลสมาปตฺติปจฺจเวกฺขณาพหุโล. เสขปฏิสมฺภิทปฺปตฺโตติ เสโข หุตฺวา ปฏิสมฺภิทปฺปตฺโต. เอวํ อเสขปฏิสมฺภิทปฺปตฺโต. สาวกปารมิปฺปตฺโตติ เอตฺถ มหาปฺานํ อคฺคสฺส มหาสาวกสฺส สตฺตสฏฺิยา สาวกาณานํ ปารคมนํ ปารมี, สาวกสฺส ปารมี สาวกปารมี, ตํ สาวกปารมึ ปตฺโตติ สาวกปารมิปฺปตฺโต. สาวกปารมิตาปฺปตฺโตติ วา ปาโ. สตฺตสฏฺิยา ¶ สาวกาณานํ ปาลโก ปูรโก จ โส มหาสาวโก ปรโม, ตสฺส ปรมสฺส อยํ สตฺตสฏฺิเภทา าณกิริยา ปรมสฺส ภาโว, กมฺมํ วาติ ปารมี, ตสฺส สาวกสฺส ปารมี สาวกปารมี ¶ , ตํ ปตฺโตติ สาวกปารมิปฺปตฺโต. สาวกปารมิปฺปตฺโตติ มหาโมคฺคลฺลานตฺเถราทิโก โย โกจิ สาวโก. สาวกปารมิปฺปตฺตสาวกโต อติเรกสฺส อฺสฺส สาวกสฺส อภาวา เอโก ปจฺเจกสมฺพุทฺโธติ อาห. ปุน ปฺาปเภทกุสโลติอาทีหิ วุตฺตตฺถเมว นิคเมตฺวา ทสฺเสสีติ. าณกถาย เยภุยฺเยน อเนกานิ าณานิ นิทฺทิฏฺานิ. ปฺากถาย เยภุยฺเยน เอกาปิ ปฺา นานาการวเสน นานากตฺวา วุตฺตาติ อยํ วิเสโส.
มหาปฺากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อิทฺธิกถา
อิทฺธิกถาวณฺณนา
๙. อิทานิ ¶ ปฺากถาย อนนฺตรํ ปฺานุภาวํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย อิทฺธิกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ ปุจฺฉาสุ ตาว กา อิทฺธีติ สภาวปุจฺฉา. กติ อิทฺธิโยติ ปเภทปุจฺฉา. กติ ภูมิโยติ สมฺภารปุจฺฉา. กติ ปาทาติ ปติฏฺปุจฺฉา. กติ ปทานีติ อาสนฺนการณปุจฺฉา. กติ มูลานีติ อาทิการณปุจฺฉา. วิสชฺชเนสุ อิชฺฌนฏฺเน อิทฺธีติ นิปฺผตฺติอตฺเถน ปฏิลาภฏฺเน จาติ อตฺโถ. ยฺหิ นิปฺผชฺชติ ปฏิลพฺภติ จ, ตํ อิชฺฌตีติ วุจฺจติ. ยถาห – ‘‘กามํ กามยมานสฺส, ตสฺส เจตํ สมิชฺฌตี’’ติ (สุ. นิ. ๗๗๒). ‘‘เนกฺขมฺมํ อิชฺฌตีติ อิทฺธิ, ปฏิหรตีติ ปาฏิหาริย’’นฺติอาทิ (ปฏิ. ม. ๓.๓๒). อปโร นโย – อิชฺฌนฏฺเน อิทฺธิ, อุปายสมฺปทาเยตํ อธิวจนํ. อุปายสมฺปทา หิ อิชฺฌติ อธิปฺเปตผลปฺปสวนโต. ยถาห – ‘‘อยํ โข, จิตฺโต คหปติ, สีลวา กลฺยาณธมฺโม, สเจ ปณิทหิสฺสติ ‘อนาคตมทฺธานํ ราชา อสฺสํ จกฺกวตฺตี’ติ. อิชฺฌิสฺสติ หิ สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๕๒). อปโร นโย – เอตาย สตฺตา อิชฺฌนฺตีติ อิทฺธิ. อิชฺฌนฺตีติ อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
๑๐. ทสสุ อิทฺธีสุ อธิฏฺานวเสน นิปฺผนฺนตฺตา อธิฏฺานา อิทฺธิ. ปกติวณฺณวิชหนวิการวเสน ปวตฺตตฺตา วิกุพฺพนา อิทฺธิ. สรีรพฺภนฺตเร อฺสฺส ¶ มโนมยสฺส สรีรสฺส นิปฺผตฺติวเสน ปวตฺตตฺตา มโนมยา อิทฺธิ. าณปฺปวตฺติโต ปุพฺเพ วา ปจฺฉา วา ตํขเณ วา าณานุภาวนิพฺพตฺโต วิเสโส าณวิปฺผารา อิทฺธิ. สมาธิโต ปุพฺเพ วา ปจฺฉา วา ตํขเณ วา สมถานุภาวนิพฺพตฺโต วิเสโส สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ. เจโตวสิปฺปตฺตานํ อริยานํเยว ¶ สมฺภวโต อริยา อิทฺธิ. กมฺมวิปากวเสน ชาโต วิเสโส กมฺมวิปากชา อิทฺธิ. ปุพฺเพ กตปฺุสฺส ชาโต วิเสโส ปฺุวโต อิทฺธิ. วิชฺชาย ชาโต วิเสโส วิชฺชามยา อิทฺธิ. เตน เตน สมฺมาปโยเคน ตสฺส ตสฺส กมฺมสฺส อิชฺฌนํ ตตฺถ ตตฺถ สมฺมาปโยคปจฺจยา อิชฺฌนฏฺเน อิทฺธิ.
อิทฺธิยา ¶ จตสฺโส ภูมิโยติ อวิเสเสตฺวา วุตฺเตปิ ยถาลาภวเสน อธิฏฺานวิกุพฺพนมโนมยิทฺธิยา เอว ภูมิโย, น เสสานํ. วิเวกชา ภูมีติ วิเวกโต วา วิเวเก วา ชาตา วิเวกชา ภูมิ. ปีติสุขภูมีติ ปีติสุขยุตฺตา ภูมิ. อุเปกฺขาสุขภูมีติ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย จ สุเขน จ ยุตฺตา ภูมิ. อทุกฺขมสุขาภูมีติ อทุกฺขมสุขเวทนายุตฺตา ภูมิ. เตสุ ปมทุติยานิ ฌานานิ ปีติผรณตา, ตีณิ ฌานานิ สุขผรณตา, จตุตฺถชฺฌานํ เจโตผรณตา. เอตฺถ จ ปุริมานิ ตีณิ ฌานานิ ยสฺมา ปีติผรเณน จ สุขผรเณน จ สุขสฺฺจ ลหุสฺฺจ โอกฺกมิตฺวา ลหุมุทุกมฺมฺกาโย หุตฺวา อิทฺธึ ปาปุณาติ, ตสฺมา อิมินา ปริยาเยน อิทฺธิลาภาย สํวตฺตนโต สมฺภารภูมิโยติ เวทิตพฺพานิ. จตุตฺถชฺฌานํ ปน อิทฺธิลาภาย ปกติภูมิเยว. อิทฺธิลาภายาติ อตฺตโน สนฺตาเน ปาตุภาววเสน อิทฺธีนํ ลาภาย. อิทฺธิปฏิลาภายาติ ปริหีนานํ วา อิทฺธีนํ วีริยารมฺภวเสน ปุน ลาภาย, อุปสคฺควเสน วา ปทํ วฑฺฒิตํ. อิทฺธิวิกุพฺพนตายาติ อิทฺธิยา วิวิธกรณภาวาย. อิทฺธิวิสวิตายาติ วิวิธํ วิเสสํ สวติ ชเนติ ปวตฺเตตีติ วิสวี, วิวิธํ สวนํ วา อสฺส อตฺถีติ วิสวี, ตสฺส ภาโว วิสวิตา. ตสฺสา วิสวิตาย, อิทฺธิยา วิวิธวิเสสปวตฺตนภาวายาติ อตฺโถ. อิทฺธิวสีภาวายาติ อิทฺธิยา อิสฺสรภาวาย. อิทฺธิเวสารชฺชายาติ อิทฺธิวิสารทภาวาย. อิทฺธิปาทา าณกถายํ วุตฺตตฺถา.
ฉนฺทํ ¶ เจ ภิกฺขุ นิสฺสายาติ ยทิ ภิกฺขุ ฉนฺทํ นิสฺสาย ฉนฺทํ อธิปตึ กริตฺวา. ลภติ สมาธินฺติ สมาธึ ปฏิลภติ นิพฺพตฺเตติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ฉนฺทวีริยจิตฺตวีมํสา จตฺตาริ ปทานิ, ตํสมฺปยุตฺตา จตฺตาโร สมาธี จตฺตาริ ปทานีติ เอวํ อฏฺ ปทานิ. ยสฺมา ปน อิทฺธิมุปฺปาเทตุกามตาฉนฺโท สมาธินา เอกโต นิยุตฺโตว อิทฺธิลาภาย สํวตฺตติ, ตถา วีริยาทโย, ตสฺมา อิมานิ อฏฺ ปทานิ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ.
ยํ ตํ ภควตา อภิฺา อุปฺปาเทตุกามสฺส โยคิโน กตฺตพฺพโยควิธึ ทสฺเสนฺเตน ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต’’ติ ¶ (ที. นิ. ๑.๒๓๘) จิตฺตสฺส อาเนฺชํ วุตฺตํ, ตํ เถโร โสฬสธา ทสฺเสนฺโต โสฬสมูลานีติอาทิมาห. ตตฺถ อโนนตนฺติ โกสชฺชวเสน อโนนตํ, อสลฺลีนนฺติ อตฺโถ. อนุนฺนตนฺติ อุทฺธจฺจวเสน อุทฺธํ น อารุฬฺหํ, อนุทฺธตนฺติ อตฺโถ. อนภินตนฺติ โลภวเสน น อภินตํ, อนลฺลีนนฺติ อตฺโถ. อภิกามตาย นตํ อภินตนฺติ, อิทํ ตาทิสํ น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ราเคติ สงฺขารวตฺถุเกน โลเภน. อนปนตนฺติ โทสวเสน น อปนตํ, น ¶ ฆฏฺฏนนฺติ อตฺโถ. ‘‘นตํ นตี’’ติ อตฺถโต เอกํ. อปคตนตนฺติ อปนตํ, อิทํ ตาทิสํ น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อนิสฺสิตนฺติ อนตฺตโต ทิฏฺตฺตา ทิฏฺิวเสน ‘‘อตฺตา’’ติ วา ‘‘อตฺตนิย’’นฺติ วา กิฺจิ น นิสฺสิตํ. อปฺปฏิพทฺธนฺติ ปจฺจุปการาสาวเสน นปฺปฏิพทฺธํ. ฉนฺทราเคติ สตฺตวตฺถุเกน โลเภน. วิปฺปมุตฺตนฺติ วิกฺขมฺภนวิมุตฺติวเสน กามราคโต วิปฺปมุตฺตํ. อถ วา ปฺจวิมุตฺติวเสน กามราคโต วิปฺปมุตฺตํ. อถ วา ปฺจวิมุตฺติวเสน ตโต ตโต ปฏิปกฺขโต วิปฺปมุตฺตํ. อิทํ ปุถุชฺชนเสขาเสขานมฺปิ อภิฺาย อุปฺปาทนโต นิโรธสมาปตฺติาเณ ‘‘โสฬสหิ าณจริยาหี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๘๔) วุตฺตนเยน อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน วุตฺตํ, ยถาลาภวเสน ปน คเหตพฺพํ. กามราเคติ เมถุนราเคน. วิสฺุตฺตนฺติ วิกฺขมฺภนโต เสสกิเลเสหิ วิสํยุตฺตํ, อุกฺกฏฺนเยน สมุจฺเฉทโต วา วิปฺปยุตฺตํ. กิเลเสติ เสสกิเลเสน. วิมริยาทิกตนฺติ วิกฺขมฺภิตพฺพมริยาทวเสน วิคตกิเลสมริยาทํ กตํ, เตน เตน ¶ มคฺเคน ปหาตพฺพมริยาทวเสน วา วิคตกิเลสมริยาทํ กตํ. กิเลสมริยาเทติ เตน เตน ปหีเนน กิเลสมริยาเทน. ลิงฺควิปลฺลาโส เจตฺถ ทฏฺพฺโพ. เอกตฺตคตนฺติ เอการมฺมณคตํ. นานตฺตกิเลเสหีติ นานารมฺมเณ ปวตฺตมาเนหิ กิเลเสหิ. อิทํ อารมฺมณมเปกฺขิตฺวา วุตฺตํ, ‘‘อโนนต’’นฺติอาทิ ปน กิเลเส เอว อเปกฺขิตฺวา. โอภาสคตนฺติ ปฺาย วิสทปฺปวตฺติวเสน ปฺโภาสํ คตํ. อวิชฺชนฺธกาเรติ พลวอวิชฺชาย. จตสฺโส จ ภูมิโย โสฬส จ มูลานิ อิทฺธิยา ปุพฺพภาควเสน วุตฺตานิ, จตฺตาโร จ ปาทา อฏฺ จ ปทานิ ปุพฺพภาควเสน จ สมฺปโยควเสน จ วุตฺตานีติ.
๑๐. เอวํ อิทฺธิยา ภูมิปาทปทมูลภูเต ธมฺเม ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตา อิทฺธิโย ทสฺเสนฺโต กตมา อธิฏฺานา อิทฺธีติอาทิมาห. ตตฺถ อุทฺเทสปทานํ อตฺโถ อิทฺธิวิธาณนิทฺเทเส วุตฺโตเยว. อิธ ภิกฺขูติ อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขุ. เตน สพฺพปการวเสน อิทฺธิวิธการกสฺส อฺตฺถ อภาวํ ทีเปติ. อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปทานํ นิทฺเทโส เหฏฺา วุตฺตตฺโถ. เตเนว จ อิทฺธิยา ภูมิปาทปทมูลภูเตหิ ¶ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๓๖๕-๓๖๖) วุตฺเตหิ จุทฺทสหิ ปนฺนรสหิ วา อากาเรหิ ปริทมิตจิตฺตตา จ ฉนฺทาทิเอเกกาธิปติสมาปชฺชนวเสน อาวชฺชนาทิวสีภาววเสน จ มุทุกมฺมฺกตจิตฺตตา จ วุตฺตา โหติ. พลวปุพฺพโยคสมฺปนฺโน ปุพฺพโยคสมฺปตฺติยา อรหตฺตปฏิลาเภเนว ปฏิลทฺธาภิฺาทิคุโณ ภิกฺขุ ภูมิอาทีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต โหตีติ กตฺวา โสปิ วุตฺโตว โหติ.
พหุกํ อาวชฺชตีติ ปถวีกสิณารมฺมณํ อภิฺาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย สเจ สตํ อิจฺฉติ, ‘‘สตํ โหมิ, สตํ โหมี’’ติ ปริกมฺมกรณวเสน อาวชฺชติ. อาวชฺชิตฺวา ¶ าเณน อธิฏฺาตีติ เอวํ ปริกมฺมํ กตฺวา อภิฺาาเณน อธิฏฺาติ. เอตฺถ ปริกมฺมํ กตฺวา ปุน ปาทกชฺฌานสมาปชฺชนํ น วุตฺตํ. กิฺจาปิ น วุตฺตํ, อถ โข อฏฺกถายํ (วิสุทฺธิ. ๒.๓๘๖) ‘‘อาวชฺชตีติ ปริกมฺมวเสเนว วุตฺตํ, อาวชฺชิตฺวา าเณน อธิฏฺาตีติ อภิฺาาณวเสน วุตฺตํ, ตสฺมา พหุกํ อาวชฺชติ, ตโต เตสํ ปริกมฺมจิตฺตานํ อวสาเน สมาปชฺชติ, สมาปตฺติโต วุฏฺหิตฺวา ปุน ‘พหุโก ¶ โหมี’ติ อาวชฺชิตฺวา ตโต ปรํ ปวตฺตานํ ติณฺณํ จตุนฺนํ วา ปุพฺพภาคจิตฺตานํ อนนฺตรา อุปฺปนฺเนน สนฺนิฏฺาปนวเสน อธิฏฺานนฺติ ลทฺธนาเมน เอเกเนว อภิฺาาเณน อธิฏฺาตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา เอวเมว ทฏฺพฺพํ. ยถา ‘‘ภฺุชิตฺวา สยตี’’ติ วุตฺเต ปานียํ อปิวิตฺวา หตฺถโธวนาทีนิ อกตฺวา ภุตฺตานนฺตรเมว สยตีติ อตฺโถ น โหตีติ อนฺตรา สนฺเตสุปิ อฺเสุ กิจฺเจสุ ‘‘ภุตฺวา สยตี’’ติ วุจฺจติ, เอวมิธาปีติ ทฏฺพฺพํ. ปมํ ปาทกชฺฌานสมาปชฺชนมฺปิ หิ ปาฬิยํ อวุตฺตเมวาติ. เตน ปน อธิฏฺานาเณน สเหว สตํ โหติ. สหสฺเสปิ สตสหสฺเสปิ เอเสว นโย. สเจ เอวํ น อิชฺฌติ, ปุน ปริกมฺมํ กตฺวา ทุติยมฺปิ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อธิฏฺาตพฺพํ. สํยุตฺตฏฺกถายฺหิ ‘‘เอกวารํ ทฺวิวารํ สมาปชฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ปาทกชฺฌานจิตฺตํ นิมิตฺตารมฺมณํ, ปริกมฺมจิตฺตานิ สตารมฺมณานิ วา สหสฺสารมฺมณานิ วา. ตานิ จ โข วณฺณวเสน, น ปณฺณตฺติวเสน. อธิฏฺานจิตฺตมฺปิ ตเถว สตารมฺมณํ วา สหสฺสารมฺมณํ วา. ตํ ปุพฺเพ วุตฺตอปฺปนาจิตฺตมิว โคตฺรภุอนนฺตรํ เอกเมว อุปฺปชฺชติ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานิกํ.
ยถายสฺมา จูฬปนฺถโก เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหตีติ พหุธาภาวสฺส กายสกฺขิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. วตฺตมานวจนํ ปเนตฺถ เถรสฺส ตถากรณปกติกตฺตา ตสฺส ธรมานกาลตฺตา จ กตนฺติ ¶ เวทิตพฺพํ. เอโก โหตีติ วาเรปิ เอเสว นโย.
ตตฺริทํ วตฺถุ (วิสุทฺธิ. ๒.๓๘๖) – เต ทฺเว ภาตโร กิร เถรา ปนฺเถ ชาตตฺตา ‘‘ปนฺถกา’’ติ นามํ ลภึสุ. เตสุ เชฏฺโ มหาปนฺถโก ปพฺพชิตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. โส อรหา หุตฺวา จูฬปนฺถกํ ปพฺพาเชตฺวา –
‘‘ปทุมํ ยถา โกกนทํ สุคนฺธํ, ปาโต สิยา ผุลฺลมวีตคนฺธํ;
องฺคีรสํ ปสฺส วิโรจมานํ, ตปนฺตมาทิจฺจมิวนฺตลิกฺเข’’ติ. (อ. นิ. ๕.๑๙๕; สํ. นิ. ๑.๑๒๓) –
อิมํ ¶ ¶ คาถํ อทาสิ. โส ตํ จตูหิ มาเสหิ ปคุณํ กาตุํ นาสกฺขิ. อถ นํ เถโร ‘‘อภพฺโพ ตฺวํ อิมสฺมึ สาสเน, นิกฺขม อิโต’’ติ อาห. ตสฺมิฺจ กาเล เถโร ภตฺตุทฺเทสโก โหติ. ชีวโก โกมารภจฺโจ พหุํ มาลาคนฺธวิเลปนํ อาทาย อตฺตโน อมฺพวนํ คนฺตฺวา สตฺถารํ ปูเชตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ทสพลํ วนฺทิตฺวา เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘สฺเว, ภนฺเต, พุทฺธปฺปมุขานิ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ อาทาย อมฺหากํ นิเวสเน ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ อาห. เถโรปิ ‘‘เปตฺวา จูฬปนฺถกํ เสสานํ อธิวาเสมี’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา จูฬปนฺถโก ภิยฺโยโส มตฺตาย โทมนสฺสปฺปตฺโต หุตฺวา ปุนทิวเส ปาโตว วิหารา นิกฺขมิตฺวา สาสเน สาเปกฺขตาย วิหารทฺวารโกฏฺเก โรทมาโน อฏฺาสิ.
ภควา ตสฺส อุปนิสฺสยํ ทิสฺวา ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘กสฺมา โรทสี’’ติ อาห. โส ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิ. ภควา ‘‘น สชฺฌายํ กาตุํ อสกฺโกนฺโต มม สาสเน อภพฺโพ นาม โหติ, มา โสจิ, ปนฺถกา’’ติ จกฺกจิตฺตตเลน ปาณินา ตสฺส สีสํ ปรามสิตฺวา ตํ พาหายํ คเหตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา คนฺธกุฏิปมุเข นิสีทาเปตฺวา อิทฺธิยา อภิสงฺขตํ ปริสุทฺธํ ปิโลติกขณฺฑํ ‘‘อิมํ ปิโลติกํ ‘รโชหรณํ รโชหรณ’นฺติ หตฺเถน ปริมชฺชนฺโต นิสีท, ปนฺถกา’’ติ วตฺวา ตสฺส ปิโลติกขณฺฑํ ทตฺวา กาเล อาโรจิเต ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ชีวกสฺส เคหํ คนฺตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทิ. ตสฺส ตํ ปิโลติกขณฺฑํ ตถาปริมชฺชนฺตสฺส กิลิฏฺํ หุตฺวา กเมน กาฬวณฺณํ อโหสิ. โส ‘‘อิทํ ปริสุทฺธํ ปิโลติกขณฺฑํ, นตฺเถตฺถ โทโส, อตฺตภาวํ นิสฺสาย ปนายํ โทโส’’ติ สฺํ ปฏิลภิตฺวา ปฺจสุ ขนฺเธสุ าณํ โอตาเรตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒสิ. อถสฺส ภควา โอภาสํ วิสฺสชฺเชตฺวา ปุรโต นิสินฺโน วิย ปฺายมานรูโป หุตฺวา อิมา โอภาสคาถา อภาสิ –
‘‘ราโค ¶ รโช น จ ปน เรณุ วุจฺจติ, ราคสฺเสตํ อธิวจนํ รโชติ;
เอตํ รชํ วิปฺปชหิตฺว ภิกฺขโว, วิหรนฺติ เต วิคตรชสฺส สาสเน.
‘‘โทโส…เป… สาสเน.
‘‘โมโห ¶ รโช น จ ปน เรณุ วุจฺจติ, โมหสฺเสตํ อธิวจนํ รโชติ;
เอตํ รชํ วิปฺปชหิตฺว ภิกฺขโว, วิหรนฺติ เต วิคตรชสฺส สาสเน. (มหานิ. ๒๐๙);
‘‘อธิเจตโส ¶ อปฺปมชฺชโต, มุนิโน โมนปเถสุ สิกฺขโต;
โสกา น ภวนฺติ ตาทิโน, อุปสนฺตสฺส สทา สตีมโต’’ติ. (อุทา. ๓๗);
คาถาปริโยสาเน เถโร สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. โส มโนมยชฺฌานลาภี หุตฺวา เอโก หุตฺวา พหุธา, พหุธา หุตฺวา เอโก ภวิตุํ สมตฺโถ อโหสิ. อรหตฺตมคฺเคเนวสฺส ตีณิ ปิฏกานิ ฉ จ อภิฺา อาคมึสุ.
ชีวโกปิ โข ทสพลสฺส ทกฺขิโณทกํ อุปนาเมสิ. สตฺถา ปตฺตํ หตฺเถน ปิทหิตฺวา ‘‘กึ ภนฺเต’’ติ ปุฏฺโ ‘‘วิหาเร เอโก ภิกฺขุ อตฺถิ, ชีวกา’’ติ อาห. โส ปุริสํ เปเสสิ ‘‘คจฺฉ อยฺยํ คเหตฺวา สีฆํ เอหี’’ติ. จูฬปนฺถกตฺเถโร ตสฺส ปุริสสฺส ปุเร อาคมนาเยว ภาตรํ อตฺตโน ปตฺตวิเสสํ าเปตุกาโม ภิกฺขุสหสฺสํ นิมฺมินิตฺวา เอกมฺปิ เอเกน อสทิสํ, เอกสฺสาปิ จ จีวรวิจารณาทิสามณกกมฺมํ อฺเน อสทิสํ อกาสิ. ปุริโส คนฺตฺวา วิหาเร พหู ภิกฺขู ทิสฺวา ปจฺจาคนฺตฺวา ‘‘พหู, ภนฺเต, วิหาเร ภิกฺขู, ปกฺโกสิตพฺพํ อยฺยํ น ปสฺสามี’’ติ ชีวกสฺส กเถสิ. ชีวโก สตฺถารํ ปุจฺฉิตฺวา ตสฺส นามํ วตฺวา ปุน ตํ เปเสสิ. โส คนฺตฺวา ‘‘จูฬปนฺถโก นาม กตโร ภนฺเต’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อหํ จูฬปนฺถโก, อหํ จูฬปนฺถโก’’ติ สกึเยว มุขสหสฺสํ กเถสิ. โส ปุน คนฺตฺวา ‘‘สพฺเพปิ กิร จูฬปนฺถกา, อหํ ปกฺโกสิตพฺพํ น ชานามี’’ติ อาห. ชีวโก ปฏิวิทฺธสจฺจตาย ‘‘อิทฺธิมา ภิกฺขู’’ติ นยโต อฺาสิ. ภควา อาห – ‘‘คจฺฉ, ยํ ปมํ ปสฺสสิ, ตํ จีวรกณฺเณ คเหตฺวา สตฺถา ตํ อามนฺเตตีติ วตฺวา อาเนหี’’ติ. โส คนฺตฺวา ตถา อกาสิ. ตาวเทว สพฺเพปิ นิมฺมิตา อนฺตรธายึสุ. เถโร ตํ อุยฺโยเชตฺวา มุขโธวนาทิสรีรกิจฺจํ นิฏฺเปตฺวา ปมตรํ คนฺตฺวา ปฺตฺตาสเน ¶ นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ สตฺถา ทกฺขิโณทกํ คณฺหิตฺวา ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา จูฬปนฺถกตฺเถเรเนว ภตฺตานุโมทนํ ธมฺมกถํ ¶ กถาเปสิ. เถโร ทีฆมชฺฌิมาคมปฺปมาณํ ธมฺมกถํ กเถสีติ.
อฺเ ภิกฺขู อธิฏฺาเนน มโนมยํ กายํ อภินิมฺมินิตฺวา ตโย วา จตฺตาโร วา อภินิมฺมินนฺติ, พหุเก เอกสทิเสเยว จ กตฺวา นิมฺมินนฺติ เอกวิธเมว กมฺมํ กุรุมาเน. จูฬปนฺถกตฺเถโร ปน เอกาวชฺชเนเนว ภิกฺขุสหสฺสํ มาเปสิ. ทฺเวปิ ชเน น เอกสทิเส อกาสิ, น เอกวิธํ กมฺมํ กุรุมาเน. ตสฺมา มโนมยํ กายํ อภินิมฺมินนฺตานํ อคฺโค นาม ชาโต. อฺเ ปน พหู อนิยเมตฺวา นิมฺมิตา อิทฺธิมตา สทิสาว โหนฺติ. านนิสชฺชาทีสุ ¶ จ ภาสิตตุณฺหีภาวาทีสุ จ ยํ ยํ อิทฺธิมา กโรติ, ตํ ตเทว กโรนฺติ. สเจ ปน นานาวณฺณํ กาตุกาโม โหติ เกจิ ปมวเย เกจิ มชฺฌิมวเย เกจิ ปจฺฉิมวเย, ตถา ทีฆเกเส อุปฑฺฒมุณฺเฑ มุณฺเฑ มิสฺสกเกเส อุปฑฺฒรตฺตจีวเร ปณฺฑุกจีวเร ปทภาณธมฺมกถาสรภฺปฺหาปุจฺฉนปฺหาวิสชฺชนรชนปจนจีวรสิพฺพนโธวนาทีนิ กโรนฺเต อปเรปิ วา นานปฺปการเก กาตุกาโม โหติ, เตน ปาทกชฺฌานโต วุฏฺาย ‘‘เอตฺตกา ภิกฺขู ปมวยา โหนฺตู’’ติอาทินา นเยน ปริกมฺมํ กตฺวา ปุน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อธิฏฺาตพฺพํ, อธิฏฺานจิตฺเตน สทฺธึ อิจฺฉิติจฺฉิตปฺปการาเยว โหนฺตีติ. เอเสว นโย พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหตีติอาทีสุ.
อยํ ปน วิเสโส – ปกติยา พหุโกติ นิมฺมิตกาลพฺภนฺตเร นิมฺมิตปกติยา พหุโก. อิมินา จ ภิกฺขุนา เอวํ พหุภาวํ นิมฺมินิตฺวา ปุน ‘‘เอโกว หุตฺวา จงฺกมิสฺสามิ, สชฺฌายํ กริสฺสามิ, ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา วา, ‘‘อยํ วิหาโร อปฺปภิกฺขุโก, สเจ เกจิ อาคมิสฺสนฺติ ‘กุโต อิเม เอตฺตกา เอกสทิสา ภิกฺขู, อทฺธา เถรสฺส เอส อานุภาโว’ติ มํ ชานิสฺสนฺตี’’ติ อปฺปิจฺฉตาย วา อนฺตราว ‘‘เอโก โหมี’’ติ อิจฺฉนฺเตน ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘เอโก โหมี’’ติ ปริกมฺมํ กตฺวา ปุน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘เอโก โหมี’’ติ อธิฏฺาตพฺพํ. อธิฏฺานจิตฺเตน สทฺธึเยว เอโก โหติ. เอวํ อกโรนฺโต ปน ยถาปริจฺฉินฺนกาลวเสน สยเมว เอโก โหติ.
๑๑. อาวิภาวนฺติ ปทํ ¶ นิกฺขิปิตฺวา เกนจิ อนาวฏํ โหตีติ วุตฺตตฺตา เกนจิ อนาวฏปเทน อาวิภาวปทสฺส ปากฏภาวตฺโถ วุตฺโต. ‘‘โหตี’’ติ ปเทน ‘‘กโรตี’’ติ ปาเสโส วุตฺโต โหติ. ปากฏํ โหนฺตฺหิ อาวิภาเว กเต โหติ. เกนจิ อนาวฏนฺติ กุฏฺฏาทินา เยน เกนจิ อนาวฏํ อาวรณวิรหิตํ. อปฺปฏิจฺฉนฺนนฺติ อุปริโต อจฺฉาทิตํ. ตเทว อนาวฏตฺตา วิวฏํ. อปฺปฏิจฺฉนฺนตฺตา ปากฏํ. ติโรภาวนฺติ ¶ อนฺตริตภาวํ กโรติ. อาวฏํเยว เตน อาวรเณน ปิหิตํ. ปฏิจฺฉนฺนํเยว เตน ปฏิจฺฉาทเนน ปฏิกุชฺชิตํ.
อากาสกสิณสมาปตฺติยาติ ปริจฺเฉทากาสกสิเณ อุปฺปาทิตาย จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติยา. ลาภีติ ลาโภ อสฺส อตฺถีติ ลาภี. อปริกฺขิตฺเตติ เกนจิ สมนฺตโต อปริกฺขิตฺเต ปเทเส. อิธ อากาสกสิณสฺเสว วุตฺตตฺตา ตตฺถ ภาวิตเมว ฌานํ อากาสกรณสฺส ปจฺจโย โหติ, น อฺนฺติ ทฏฺพฺพํ. อุปริอาโปกสิณาทีสุปิ ตทารมฺมณเมว ฌานํ ทฏฺพฺพํ, น อฺํ ¶ . ปถวึ อาวชฺชติ, อุทกํ อาวชฺชติ, อากาสํ อาวชฺชตีติ ปกติปถวีอุทกอากาเส อาวชฺชติ. อนฺตลิกฺเขติ ตสฺส อากาสสฺส ปถวิโต ทูรากาสภาวํ ทีเปติ.
๑๒. จนฺทิมสูริยปริมชฺชเน กสิณนิยมํ อกตฺวา ‘‘อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต’’ติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา นตฺเถตฺถ กสิณสมาปตฺตินิยโมติ เวทิตพฺพํ. นิสินฺนโก วา นิปนฺนโก วาติ นิสินฺโน วา นิปนฺโน วา. อิเมเหว อิตรอิริยาปถทฺวยมฺปิ วุตฺตเมว โหติ. หตฺถปาเส โหตูติ หตฺถสมีเป โหตุ. หตฺถปสฺเส โหตูติปิ ปาโ. อิทํ ตถา กาตุกามสฺส วเสน วุตฺตํ. อยํ ปน ตตฺถ คนฺตฺวาปิ หตฺถํ วฑฺเฒตฺวาปิ อามสติ. อามสตีติ อีสกํ ผุสติ. ปรามสตีติ พาฬฺหํ ผุสติ. ปริมชฺชตีติ สมนฺตโต ผุสติ. รูปคตนฺติ หตฺถปาเส ิตรูปเมว.
ทูเรปิ สนฺติเก อธิฏฺาตีติ ปาทกชฺฌานโต วุฏฺาย ทูเร เทวโลกํ วา พฺรหฺมโลกํ วา อาวชฺชติ ‘‘สนฺติเก โหตู’’ติ. อาวชฺชิตฺวา ปริกมฺมํ กตฺวา ปุน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย าเณน อธิฏฺาติ ‘‘สนฺติเก โหตู’’ติ. สนฺติเก โหติ. เอส นโย เสสปเทสุปิ. พฺรหฺมโลกํ ¶ ปน คนฺตุกามสฺส ทูรสฺส สนฺติกกรณํ วตฺวา พฺรหฺมโลกคมนสฺส อนุปการมฺปิ อิมาย อิทฺธิยา อิชฺฌมานวิเสสํ ทสฺเสนฺโต สนฺติเกปีติอาทิมาห. ตตฺถ น เกวลํ โถกกรณพหุกรณเมว, ‘‘อมธุรํ มธุร’’นฺติอาทีสุปิ ยํ ยํ อิจฺฉติ, ตํ สพฺพํ อิทฺธิมโต อิชฺฌติ. อปโร นโย – ทูเรปิ สนฺติเก อธิฏฺาตีติ ทูเร พฺรหฺมโลกํ วา มนุสฺสโลกสฺส สนฺติเก อธิฏฺาติ. สนฺติเกปิ ทูเร อธิฏฺาตีติ สนฺติเก มนุสฺสโลกํ วา ทูเร พฺรหฺมโลเก อธิฏฺาติ. พหุกมฺปิ โถกํ อธิฏฺาตีติ สเจ พฺรหฺมาโน พหู สนฺนิปติตา โหนฺติ, มหาอตฺตภาวตฺตา ทสฺสนูปจารํ สวนูปจารํ ปชหนฺติ, ทสฺสนูปจาเร จ สวนูปจาเร จ เอกชฺฌํ สงฺขิปิตฺวา พหุกมฺปิ โถกนฺติ อธิฏฺาติ. โถกมฺปิ พหุกํ อธิฏฺาตีติ สเจ มหาปริวาเรน ¶ คนฺตุกาโม โหติ, เอกกตฺตา โถกํ อตฺตานํ พหุกํ อธิฏฺหิตฺวา มหาปริวาโร คจฺฉตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอวํ สติ จตุพฺพิธมฺปิ ตํ พฺรหฺมโลกคมเน อุปกาโร โหติ.
ทิพฺเพน จกฺขุนา ตสฺส พฺรหฺมุโน รูปํ ปสฺสตีติ อิธ ิโต อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา ยสฺส พฺรหฺมุโน รูปํ ทฏฺุกาโม, ทิพฺเพน จกฺขุนา ตสฺส พฺรหฺมุโน รูปํ ปสฺสติ. อิเธว ิโต ทิพฺพาย โสตธาตุยา ตสฺส พฺรหฺมุโน ภาสมานสฺส สทฺทํ สุณาติ. เจโตปริยาเณน ตสฺส พฺรหฺมุโน จิตฺตํ ปชานาติ. ทิสฺสมาเนนาติ จกฺขุนา เปกฺขิยมาเนน. กายวเสน จิตฺตํ ปริณาเมตีติ รูปกายสฺส วเสน จิตฺตํ ปริณาเมติ. ปาทกชฺฌานจิตฺตํ คเหตฺวา กาเย อาโรเปติ, กายานุคติกํ กโรติ ทนฺธคมนํ. กายคมนฺหิ ทนฺธํ โหติ. อธิฏฺาตีติ ตสฺเสว เววจนํ, สนฺนิฏฺาเปตีติ ¶ อตฺโถ. สุขสฺฺจ ลหุสฺฺจ โอกฺกมิตฺวาติ ปาทกชฺฌานารมฺมเณน อิทฺธิจิตฺเตน สหชาตํ สุขสฺฺจ ลหุสฺฺจ โอกฺกมิตฺวา ปวิสิตฺวา ผุสิตฺวา ปาปุณิตฺวา. สุขสฺา จ นาม อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตสฺา. อุเปกฺขา หิ สนฺตํ สุขนฺติ วุตฺตา, สาเยว สฺา นีวรเณหิ เจว วิตกฺกาทิปจฺจนีเกหิ จ วิมุตฺตตฺตา ลหุสฺาติปิ เวทิตพฺพา. ตํ โอกฺกนฺตสฺส ปนสฺส กรชกาโยปิ ตูลปิจุ วิย สลฺลหุโก โหติ. โส เอวํ วาตกฺขิตฺตตูลปิจุนา วิย สลฺลหุเกน ทิสฺสมาเนน กาเยน พฺรหฺมโลกํ คจฺฉติ. เอวํ คจฺฉนฺโต จ สเจ อิจฺฉติ, ปถวีกสิณวเสน อากาเส มคฺคํ นิมฺมินิตฺวา ปทสา คจฺฉติ. สเจ อิจฺฉติ, อากาเส ปถวีกสิณวเสเนว ¶ ปเท ปเท ปทุมํ นิมฺมินิตฺวา ปทุเม ปทุเม ปทํ นิกฺขิปนฺโต ปทสา คจฺฉติ. สเจ อิจฺฉติ, วาโยกสิณวเสน วาตํ อธิฏฺหิตฺวา ตูลปิจุ วิย วายุนา คจฺฉติ. อปิจ คนฺตุกามตาว เอตฺถ ปมาณํ. สติ หิ คนฺตุกามตาย เอวํกตจิตฺตาธิฏฺาโน อธิฏฺานเวคกฺขิตฺโตว โส ชิยาเวคกฺขิตฺโต สโร วิย ทิสฺสมาโน คจฺฉติ.
จิตฺตวเสน กายํ ปริณาเมตีติ กรชกายํ คเหตฺวา ปาทกชฺฌานจิตฺเต อาโรเปติ, จิตฺตานุคติกํ กโรติ สีฆคมนํ. จิตฺตคมนฺหิ สีฆํ โหติ. สุขสฺฺจ ลหุสฺฺจ โอกฺกมิตฺวาติ รูปกายารมฺมเณน อิทฺธิจิตฺเตน สหชาตํ สุขสฺฺจ ลหุสฺฺจ. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิทํ ปน จิตฺตคมนเมว โหติ. เอวํ อทิสฺสมาเนน กาเยน คจฺฉนฺโต ปนายํ กึ ตสฺสาธิฏฺานจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ คจฺฉติ? อุทาหุ ิติกฺขเณ ภงฺคกฺขเณ วาติ วุตฺเต ‘‘ตีสุปิ ขเณสุ คจฺฉตี’’ติ เถโร อาห. กึ ปน โส สยํ คจฺฉติ, นิมฺมิตํ เปเสตีติ? ยถารุจิ ¶ กโรติ. อิธ ปนสฺส สยํ คมนเมว อาคตํ.
มโนมยนฺติ อธิฏฺานมเนน นิมฺมิตตฺตา มโนมยํ. สพฺพงฺคปจฺจงฺคนฺติ สพฺพองฺคปจฺจงฺควนฺตํ. อหีนินฺทฺริยนฺติ อิทํ จกฺขุโสตาทีนํ สณฺานวเสน วุตฺตํ, นิมฺมิตรูเป ปน ปสาโท นาม นตฺถิ. สเจ โส อิทฺธิมา จงฺกมติ, นิมฺมิโตปิ ตตฺถ จงฺกมตีติอาทิ สพฺพํ สาวกนิมฺมิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. พุทฺธนิมฺมิตา ปน ยํ ยํ ภควา กโรติ, ตํ ตมฺปิ กโรนฺติ, ภควโต จิตฺตวเสน อฺมฺปิ กโรนฺตีติ. ธูมายติ ปชฺชลตีติ เตโชกสิณวเสน. ธมฺมํ ภาสตีติอาทีนิ ตีณิ อนิยเมตฺวา วุตฺตานิ. สนฺติฏฺตีติ สงฺคมฺม ติฏฺติ. สลฺลปตีติ สงฺคมฺม ลปติ. สากจฺฉํ สมาปชฺชตีติ อฺมฺสฺส อุตฺตรปจฺจุตฺตรทานวเสน สํกถํ กโรติ. เอตฺถ จ ยํ โส อิทฺธิมา อิเธว ิโต ทิพฺเพน จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา สทฺทํ สุณาติ, เจโตปริยาเณน จิตฺตํ ปชานาติ, ยมฺปิ โส อิเธว ิโต เตน พฺรหฺมุนา สทฺธึ สนฺติฏฺติ ¶ , สลฺลปติ, สากจฺฉํ สมาปชฺชติ, ยมฺปิสฺส ‘‘ทูเรปิ สนฺติเก อธิฏฺาตี’’ติอาทิกํ อธิฏฺานํ, ยมฺปิ โส ทิสฺสมาเนน วา อทิสฺสมาเนน วา กาเยน พฺรหฺมโลกํ คจฺฉติ, เอตฺตาวตา น กาเยน ¶ วสํ วตฺเตติ. ยฺจ โข ‘‘โส ตสฺส พฺรหฺมุโน ปุรโต รูปึ อภินิมฺมินาตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตวิธานํ อาปชฺชติ, เอตฺตาวตา กาเยน วสํ วตฺเตติ นาม. เสสํ ปน กาเยน วสวตฺตนาย ปุพฺพภาคทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ. อยํ ตาว อธิฏฺานา อิทฺธิ.
๑๓. วิกุพฺพนิทฺธินิทฺเทเส สิขิสฺส ภควโต สาวกนิทสฺสนํ วิกุพฺพนิทฺธิยา กายสกฺขิปุคฺคลทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตมฺปิ ทสฺเสนฺโต ปมํ ตาว พฺรหฺมโลเก ิโต สหสฺสิโลกธาตุํ สเรน วิฺาเปสีติ อติวิย อจฺฉริยอพฺภุตภูตํ สหสฺสิโลกธาตุยา สทฺทสวนํ อธิฏฺานิทฺธึ ทสฺเสสิ. อิทานิ ตสฺส วตฺถุสฺส ปริทีปนตฺถมิทํ วุจฺจติ – อิมสฺมา หิ กปฺปา เอกตึเส กปฺเป สิขี ภควา อนนฺตรชาติยา ตุสิตปุรโต จวิตฺวา อรุณวตีนคเร อรุณวโต รฺโ ปภาวติยา นาม มเหสิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺติตฺวา ปริปกฺกาโณ มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา โพธิมณฺเฑ สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ปวตฺตวรธมฺมจกฺโก อรุณวตึ นิสฺสาย วิหรนฺโต เอกทิวสํ ปาโตว สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา มหาภิกฺขุสงฺฆปริวาโร ‘‘อรุณวตึ ปิณฺฑาย ปวิสิสฺสามี’’ติ นิกฺขมิตฺวา วิหารทฺวารโกฏฺกสมีเป ิโต อภิภุํ นาม อคฺคสาวกํ อามนฺเตสิ – ‘‘อติปฺปโค โข, ภิกฺขุ, อรุณวตึ ปิณฺฑาย ปวิสิตุํ. เยน อฺตโร พฺรหฺมโลโก เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ยถาห ¶ –
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, สิขี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อภิภุํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘อายาม, พฺราหฺมณ, เยน อฺตโร พฺรหฺมโลโก, เตนุปสงฺกมิสฺสาม ยาว ภตฺตสฺส กาโล ภวิสฺสตี’ติ. ‘เอวํ ภนฺเต’ติ โข, ภิกฺขเว, อภิภู ภิกฺขุ สิขิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข, ภิกฺขเว, สิขี จ ภควา อภิภู จ ภิกฺขุ เยน อฺตโร พฺรหฺมโลโก, เตนุปสงฺกมึสู’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๘๕).
ตตฺถ มหาพฺรหฺมา สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทิสฺวา อตฺตมโน ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา พฺรหฺมาสนํ ปฺาเปตฺวา อทาสิ. เถรสฺสาปิ อนุจฺฉวิกํ อาสนํ ปฺาปยึสุ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน, เถโรปิ อตฺตโน ปตฺตาสเน นิสีทิ. มหาพฺรหฺมาปิ ทสพลํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เตนาห – อถ โข, ภิกฺขเว, สิขี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อภิภุํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ ¶ ¶ – ‘‘ปฏิภาตุ, พฺราหฺมณ, ตํ พฺรหฺมุโน จ พฺรหฺมปริสาย จ พฺรหฺมปาริสชฺชานฺจ ธมฺมี กถา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข, ภิกฺขเว, อภิภู ภิกฺขุ สิขิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปฏิสฺสุณิตฺวา พฺรหฺมุโน จ พฺรหฺมปริสาย จ พฺรหฺมปาริสชฺชานฺจ ธมฺมกถํ กเถสิ. เถเร ธมฺมกถํ กเถนฺเต พฺรหฺมาโน อุชฺฌายึสุ ‘‘จิรสฺสฺจ มยํ สตฺถุ พฺรหฺมโลกาคมนํ ลภิมฺหา, อยฺจ ภิกฺขุ เปตฺวา สตฺถารํ สยํ ธมฺมกถํ อารภี’’ติ. สตฺถา เตสํ อนตฺตมนภาวํ ตฺวา อภิภุํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘อุชฺฌายนฺติ โข เต, พฺราหฺมณ, พฺรหฺมา จ พฺรหฺมปริสา จ พฺรหฺมปาริสชฺชา จ. เตน หิ, ตฺวํ พฺราหฺมณ, ภิยฺโยโส มตฺตาย สํเวเชหี’’ติ. เถโร สตฺถุ วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิกุพฺพนํ กตฺวา สหสฺสิโลกธาตุํ สเรน วิฺาเปนฺโต –
‘‘อารมฺภถ นิกฺกมถ, ยฺุชถ พุทฺธสาสเน;
ธุนาถ มจฺจุโน เสนํ, นฬาคารํว กฺุชโร.
‘‘โย อิมสฺมึ ธมฺมวินเย, อปฺปมตฺโต วิหสฺสติ;
ปหาย ชาติสํสารํ, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสตี’’ติ. (อ. นิ. ๑.๑๘๕) –
อิมํ คาถาทฺวยํ อภาสิ.
กึ ปน กตฺวา เถโร สหสฺสิโลกธาตุํ สเรน วิฺาเปสีติ? นีลกสิณํ ตาว สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อภิฺาาเณน จกฺกวาฬสหสฺเส สพฺพตฺถ อนฺธการํ ผริ. ตโต ‘‘กิมิทํ อนฺธการ’’นฺติ สตฺตานํ อาโภเค อุปฺปนฺเน อาโลกกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อาโลกํ ทสฺเสสิ. ‘‘กึ อาโลโก อย’’นฺติ วิจินนฺตานํ อตฺตานํ ทสฺเสสิ. จกฺกวาฬสหสฺเส จ เทวมนุสฺสา อฺชลึ ปคฺคณฺหิตฺวา เถรํเยว ¶ นมสฺสมานา อฏฺํสุ. เถโร ‘‘มหาชโน มยฺหํ ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส สทฺทํ สุณาตู’’ติ อิมา คาถา อภาสิ. สพฺเพ โอสฏาย ปริสาย มชฺเฌ นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส วิย สทฺทํ อสฺโสสุํ. อตฺโถปิ เตสํ ปากโฏ อโหสิ. ตํ วิฺาปนํ สนฺธาย ‘‘สเรน วิฺาเปสี’’ติ วุตฺตํ. เตน กตํ อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิกุพฺพนํ สนฺธาย ปุน โส ทิสฺสมาเนนปีติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ธมฺมํ เทเสสีติ ปมํ วุตฺตปฺปการํ ¶ อิทฺธิวิกุพฺพนํ ทสฺเสนฺโต ธมฺมํ เทเสสิ, ตโต ยถาวุตฺตกฺกเมน ทฺเว คาถา ภาสนฺโต สเรน ¶ วิฺาเปสีติ เวทิตพฺพํ. ทิสฺสมาเนนปิ กาเยนาติอาทีสุ จ อิตฺถํภูตลกฺขเณ กรณวจนํ, เอวํภูตกาโย หุตฺวาติ อตฺโถ.
อิทานิ ตํ วตฺถุํ ทสฺเสตฺวา อฺสฺสาปิ อิทฺธิมโต วิกุพฺพนิทฺธิกรณวิธานํ ทสฺเสนฺโต โส ปกติวณฺณํ วิชหิตฺวาติอาทิมาห. ตตฺถ โสติ เหฏฺา วุตฺตวิธาเนน มุทุกมฺมฺกตจิตฺโต โส อิทฺธิมา ภิกฺขุ. สเจ วิกุพฺพนิทฺธึ กาตุกาโม โหติ, อตฺตโน ปกติวณฺณํ ปกติสณฺานํ วิชหิตฺวา กุมารกวณฺณํ วา ทสฺเสติ. กถํ? ปถวีกสิณารมฺมณาภิฺาปาทกจตุตฺถชฺฌานโต วุฏฺาย ‘‘เอวรูโป กุมารโก โหมี’’ติ นิมฺมินิตพฺพํ กุมารกวณฺณํ อาวชฺชิตฺวา กตปริกมฺมาวสาเน ปุน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘เอวรูโป นาม กุมารโก โหมี’’ติ อภิฺาาเณน อธิฏฺาติ, สห อธิฏฺาเนน กุมารโก โหตีติ. วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๐๐) กสิณนิทฺเทเส ‘‘ปถวีกสิณวเสน เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหตีติอาทิภาโว…เป… เอวมาทีนิ อิชฺฌนฺตี’’ติ วจเนน อิธ ปถวีกสิณารมฺมณํ ปาทกชฺฌานํ ยุชฺชติ. ตตฺเถว ปน อภิฺานิทฺเทเส วิกุพฺพนิทฺธิยา ‘‘ปถวีกสิณาทีสุ อฺตรารมฺมณโต อภิฺาปาทกชฺฌานโต วุฏฺายา’’ติ วุตฺตํ, ตตฺเถว (วิสุทฺธิ. ๒.๓๙๘) จ ‘‘อตฺตโน กุมารกวณฺโณ อาวชฺชิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ, ตํ นาคาทินิมฺมาเน น ยุชฺชติ วิย. นาควณฺณาทินิมฺมาเนปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ นาควณฺณนฺติ สปฺปสณฺานํ. สุปณฺณวณฺณนฺติ ครุฬสณฺานํ. อินฺทวณฺณนฺติ สกฺกสณฺานํ. เทววณฺณนฺติ เสสเทวสณฺานํ. สมุทฺทวณฺณํ ปน อาโปกสิณวเสน อิชฺฌติ. ปตฺตินฺติ ปทาตึ. วิวิธมฺปิ เสนาพฺยูหนฺติ หตฺถิอาทีนํ วเสน อเนกวิหิตํ เสนาสมูหํ. วิสุทฺธิมคฺเค ปน ‘‘หตฺถิมฺปิ ทสฺเสตีติอาทิ ปเนตฺถ พหิทฺธาปิ หตฺถิอาทิทสฺสนวเสน วุตฺตํ. ตตฺถ ‘หตฺถี โหมี’ติ อนธิฏฺหิตฺวา ‘หตฺถี โหตู’ติ อธิฏฺาตพฺพํ. อสฺสาทีสุปิ เอเสว นโย’’ติ วุตฺตํ, ตํ ‘‘ปกติวณฺณํ วิชหิตฺวา’’ติ วุตฺตมูลปเทน ¶ จ วิกุพฺพนิทฺธิภาเวน จ วิรุชฺฌติ. ปาฬิยํ วุตฺตกฺกเมน หิ ปกติวณฺณํ อวิชหิตฺวา อธิฏฺานวเสน อฺสฺส ทสฺสนํ อธิฏฺานิทฺธิ นาม, ปกติวณฺณํ วิชหิตฺวา อธิฏฺานวเสน อตฺตโน อฺถาทสฺสนํ วิกุพฺพนิทฺธิ นาม.
๑๔. มโนมยิทฺธิาณนิทฺเทเส ¶ อิมมฺหา กายา อฺํ กายํ อภินิมฺมินาตีติอาทีสุ อิทฺธิมา ภิกฺขุ มโนมยิทฺธึ กาตุกาโม อากาสกสิณารมฺมณปาทกชฺฌานโต วุฏฺาย อตฺตโน รูปกายํ ตาว อาวชฺชิตฺวา วุตฺตนเยเนว ‘‘สุสิโร โหตู’’ติ อธิฏฺาติ, สุสิโร โหติ ¶ . อถ ตสฺส อพฺภนฺตเร ปถวีกสิณวเสน อฺํ กายํ อาวชฺชิตฺวา ปริกมฺมํ กตฺวา วุตฺตนเยเนว อธิฏฺาติ, ตสฺส อพฺภนฺตเร อฺโ กาโย โหติ. โส ตํ มุขโต อพฺพูหิตฺวา พหิ เปติ. อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาหิ ปกาเสนฺโต เสยฺยถาปีติอาทิมาห. ตตฺถ มฺุชมฺหาติ มฺุชติณมฺหา. อีสิกํ ปวาเหยฺยาติ กฬีรํ ลฺุเจยฺย. โกสิยาติ โกสกโต. กรณฺฑาติ กรณฺฑาย, ปุราณตจกฺจุกโตติ อตฺโถ. ตตฺถ จ อุทฺธเรยฺยาติ จิตฺเตเนวสฺส อุทฺธรณํ เวทิตพฺพํ. อยฺหิ อหิ นาม สชาติยํ ิโต, กฏฺนฺตรํ วา รุกฺขนฺตรํ วา นิสฺสาย, ตจโต สรีรํ นิกฺกฑฺฒนปโยคสงฺขาเตน ถาเมน, สรีรํ ขาทยมานํ วิย ปุราณตจํ ชิคุจฺฉนฺโต อิเมหิ จตูหิ การเณหิ สยเมว กฺจุกํ ปชหาติ.
เอตฺถ จ ยถา อีสิกาทโย มฺุชาทีหิ สทิสา โหนฺติ, เอวมิทํ มโนมยํ รูปํ อิทฺธิมตา สพฺพากาเรหิ สทิสเมว โหตีติ ทสฺสนตฺถํ อิมา อุปมา วุตฺตาติ. ‘‘มโนมเยน กาเยน, อิทฺธิยา อุปสงฺกมี’’ติ (เถรคา. ๙๐๑) เอตฺถ อภิฺามเนน กตกาโย มโนมยกาโย นาม. ‘‘อฺตรํ มโนมยํ กายํ อุปปชฺชตี’’ติ (จูฬว. ๓๓๓) เอตฺถ ฌานมเนน นิพฺพิตฺติตกาโย เตน มเนน กตตฺตา มโนมยกาโย นาม. อิธ ปน อภิฺามเนน อุปฺปาทิตกาโย เตน มเนน กตตฺตา มโนมยกาโย นาม. เอวํ สติ อธิฏฺานิทฺธิยา วิกุพฺพนิทฺธิยา จ กโต มโนมยกาโย นาม โหตีติ เจ? โหติเยว. อิธ ปน ตาสํ วิสุํ วิสุํ วิเสเสน วิเสเสตฺวา อธิฏฺานิทฺธิ วิกุพฺพนิทฺธีติ จ วุตฺตตฺตา อพฺภนฺตรโต นิมฺมานเมว มโนมยิทฺธิ นาม.
๑๕. าณวิปฺผาริทฺธินิทฺเทเส าณสฺส วิปฺผาโร เวโค อสฺสา อตฺถีติ าณวิปฺผารา. เอตฺถ จ สตฺตอนุปสฺสนาวเสเนว อิทฺธึ ทสฺเสตฺวา เสสา ยาว อรหตฺตมคฺคา สงฺขิตฺตาติ เวทิตพฺพา.
อายสฺมโต ¶ พากุลสฺส าณวิปฺผารา อิทฺธีติอาทีสุ พากุลตฺเถโร ตาว ทฺวีสุ กุเลสุ วฑฺฒิตตฺตา ¶ เอวํลทฺธนาโม ปุพฺพพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ปฺุสมฺปทาย สมฺปนฺโน เถโร. โส หิ มหาสมฺปตฺตึ อนุภวมาโน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อมฺหากํ ทสพลสฺส นิพฺพตฺติโต ปุเรตรเมว โกสมฺพิยํ เสฏฺิกุเล นิพฺพตฺติ. ตํ ชาตกาเล มงฺคลตฺถาย มหาปริวาเรน ยมุนํ เนตฺวา สปริวารา ธาตี นิมุชฺชนุมฺมุชฺชนวเสน กีฬาเปนฺตี นฺหาเปติ. เอโก มหามจฺโฉ ‘‘ภกฺโข เม อย’’นฺติ มฺมาโน มุขํ วิวริตฺวา อุปคโต. ธาตี ทารกํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลาตา. มหามจฺโฉ ตํ คิลิ. ปฺุวา สตฺโต สยนคพฺภํ ปวิสิตฺวา นิปนฺโน วิย น กิฺจิ ทุกฺขํ ปาปุณิ. มจฺโฉ ¶ ทารกสฺส เตเชน ตตฺตกํ ผาลํ คิลิตฺวา วิย ทยฺหมาโน เวเคน ตึสโยชนํ คนฺตฺวา พาราณสิวาสิโน มจฺฉพนฺธสฺส ชาลํ ปาวิสิ. โส ทารกสฺส เตเชน ชาลโต นีหฏมตฺโตว มโต. มจฺฉพนฺธา ตํ สกลเมว อนฺตรกาเชน อาทาย ‘‘สหสฺเสน เทมา’’ติ นคเร จรนฺตา อสีติโกฏิธนสฺส อปุตฺตกสฺส เสฏฺิสฺส ฆรทฺวารํ คนฺตฺวา เสฏฺิภริยาย เอเกน กหาปเณน อทํสุ. สา ตํ สยเมว ผลเก เปตฺวา ปิฏฺิโต ผาเลนฺตี มจฺฉกุจฺฉิยํ สุวณฺณวณฺณํ ทารกํ ทิสฺวา ‘‘มจฺฉกุจฺฉิยํ เม ปุตฺโต ลทฺโธ’’ติ นาทํ นทิตฺวา ทารกํ อาทาย สามิกํ อุปคจฺฉิ. เสฏฺิ ตาวเทว เภรึ จราเปตฺวา ทารกํ อาทาย รฺโ สนฺติกํ อาเนตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจสิ. ราชา ‘‘ปฺุวา ทารโก, โปเสหิ น’’นฺติ อาห. อิตรมฺปิ เสฏฺิกุลํ ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา ‘‘อมฺหากํ ปุตฺโต’’ติ ตํ ทารกํ คณฺหิตุํ วิวทิ. อุโภปิ ราชกุลํ อคมํสุ. ราชา ‘‘ทฺวินฺนมฺปิ อปุตฺตกํ กาตุํ น สกฺกา, ทฺวินฺนมฺปิ ทายาโท โหตู’’ติ อาห. ตโต ปฏฺาย ทฺเวปิ กุลานิ ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตานิ อเหสุํ. ตสฺส ทฺวีหิ กุเลหิ วฑฺฒิตตฺตา ‘‘พากุลกุมาโร’’ติ นามํ อกํสุ. ตสฺส วิฺุตํ ปตฺตสฺส ทฺวีสุปิ นคเรสุ ตโย ตโย ปาสาเท กาเรตฺวา นาฏกานิ ปจฺจุปฏฺเปสุํ. เอเกกสฺมึ นคเร จตฺตาโร จตฺตาโร มาเส วสิ. ตหึ เอกสฺมึ นคเร จตฺตาโร มาเส วุฏฺสฺส สงฺฆาฏนาวาสุ มณฺฑปํ กาเรตฺวา ตตฺถ นํ นาฏเกหิ สทฺธึ อาโรเปตฺวา มหาสมฺปตฺตึ อนุภวมานํ ทฺวีหิ มาเสหิ อิตรํ นครํ อุปฑฺฒปถํ เนนฺติ. อิตรนครวาสิโน นาฏกาปิ ‘‘ทฺวีหิ มาเสหิ อุปฑฺฒปถํ อาคโต ภวิสฺสตี’’ติ ตเถว ¶ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ทฺวีหิ มาเสหิ อตฺตโน นครํ อาเนนฺติ. อิตรนาฏกา มชฺเฌ นิวตฺติตฺวา อตฺตโน นครเมว คจฺฉนฺติ. ตตฺถ จตฺตาโร มาเส วสิตฺวา เตเนว นิยาเมน ปุน อิตรนครํ คจฺฉติ. เอวมสฺส ¶ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺตสฺส อสีติ วสฺสานิ ปริปุณฺณานิ.
ตสฺมึ สมเย อมฺหากํ โพธิสตฺโต สพฺพฺุตํ ปาปุณิตฺวา ปวตฺตวรธมฺมจกฺโก อนุกฺกเมน จาริกํ จรนฺโต โกสมฺพึ ปาปุณิ. ‘‘พาราณสิ’’นฺติ มชฺฌิมภาณกา. พากุลเสฏฺิปิ โข ‘‘ทสพโล อาคโต’’ติ สุตฺวา พหุํ คนฺธมาลํ อาทาย สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมกถํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิ. โส สตฺตาหเมว ปุถุชฺชโน หุตฺวา อฏฺเม อรุเณ สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. อถสฺส ทฺวีสุ นคเรสุ ปริจิตมาตุคามา อตฺตโน กุลฆรานิ อาคนฺตฺวา ตตฺเถว วสมานา จีวรานิ กริตฺวา ปหิณึสุ. เถโร เอกํ อฑฺฒมาสํ โกสมฺพิวาสีหิ ปหิตํ จีวรํ ปริภฺุชติ, เอกํ อฑฺฒมาสํ พาราณสิวาสีหีติ เอเตเนว นิยาเมน ทฺวีสุ นคเรสุ ยํ ยํ อุตฺตมํ, ตํ ตํ เถรสฺเสว อาหรียติ. ปพฺพชิตสฺสาปิสฺส สุเขเนว อสีติ วสฺสานิ อคมํสุ. อุภยตฺถาปิสฺส มุหุตฺตมตฺตมฺปิ อปฺปมตฺตโกปิ อาพาโธ น อุปฺปนฺนปุพฺโพ. โส ปจฺฉิเม กาเล พากุลสุตฺตํ (ม. นิ. ๓.๒๐๙ อาทโย) กเถตฺวา ปรินิพฺพายีติ ¶ . เอวํ มจฺฉกุจฺฉิยํ อโรคภาโว อายสฺมโต พากุลสฺส ปจฺฉิมภวิกสฺส เตน อตฺตภาเวน ปฏิลภิตพฺพอรหตฺตาณานุภาเวน นิพฺพตฺตตฺตา าณวิปฺผารา อิทฺธิ นาม. สุจริตกมฺมผลปฺปตฺตสฺส ปฏิสมฺภิทาาณสฺส อานุภาเวนาติปิ วทนฺติ.
สํกิจฺจตฺเถโรปิ (วิสุทฺธิ. ๒.๓๗๓) ปุพฺเพ กตปฺุโ ธมฺมเสนาปติตฺเถรสฺส อุปฏฺากสฺส สาวตฺถิยํ อฑฺฒกุลสฺส ธีตุ กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺติ. สา ตสฺมึ กุจฺฉิคเต เอเกน พฺยาธินา ตํ ขณํเยว กาลมกาสิ, ตสฺสา สรีเร ฌาปิยมาเน เปตฺวา คพฺภมํสํ เสสมํสํ ฌาปยิ. อถสฺสา คพฺภมํสํ จิตกโต โอตาเรตฺวา ทฺวีสุ ตีสุ าเนสุ สูเลหิ วิชฺฌึสุ. สูลโกฏิ ทารกสฺส อกฺขิโกฏึ ผุสิ. เอวํ คพฺภมํสํ วิชฺฌิตฺวา องฺคารราสิมฺหิ ปกฺขิปิตฺวา องฺคาเรเหว ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปกฺกมึสุ. คพฺภมํสํ ฌายิ, องฺคารมตฺถเก ปน สุวณฺณพิมฺพสทิโส ทารโก ปทุมคพฺเภ นิปนฺโน วิย อโหสิ. ปจฺฉิมภวิกสตฺตสฺส หิ สิเนรุนา โอตฺถริยมานสฺสาปิ อรหตฺตํ อปฺปตฺวา ชีวิตกฺขโย ¶ นาม นตฺถิ. ปุนทิวเส ‘‘จิตกํ นิพฺพาเปสฺสามา’’ติ อาคตา ตถา นิปนฺนํ ทารกํ ทิสฺวา อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาตา ทารกํ อาทาย นครํ คนฺตฺวา เนมิตฺตเก ปุจฺฉึสุ. เนมิตฺตกา ‘‘สเจ อยํ ทารโก อคารํ อชฺฌาวสิสฺสติ, ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา าตกา ทุคฺคตา ภวิสฺสนฺติ. สเจ ปพฺพชิสฺสติ, ปฺจหิ สมณสเตหิ ปริวุโต จริสฺสตี’’ติ อาหํสุ. อยฺยกา ตํ ทารกํ วฑฺเฒสิ. าตกาปิ วฑฺฒิตกาเล ‘‘อมฺหากํ อยฺยสฺส สนฺติเก ปพฺพาเชสฺสามา’’ติ โปสยึสุ. โส สตฺตวสฺสิกกาเล ‘‘ตว กุจฺฉิยา วสนกาเล มาตา เต กาลมกาสิ, ตสฺสา สรีเร ฌาปิยมาเนปิ ¶ ตฺวํ น ฌายี’’ติ กุมารกานํ กถํ สุตฺวา ‘‘อหํ กิร เอวรูปา ภยา มุตฺโต, กึ เม ฆราวาเสน ปพฺพชิสฺสามี’’ติ าตกานํ อาโรเจสิ. เต ‘‘สาธุ, ตาตา’’ติ ตํ ธมฺมเสนาปติตฺเถรสฺส สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘ภนฺเต, อิมํ ปพฺพาเชถา’’ติ อทํสุ. เถโร ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ ทตฺวา ปพฺพาเชสิ. โส ขุรคฺเคเยว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. ปริปุณฺณวสฺโส จ อุปสมฺปทํ ลภิตฺวา ทสวสฺโส หุตฺวา ปฺจสตภิกฺขุปริวาโร วิจรีติ. เอวํ วุตฺตนเยเนว ทารุจิตกาย อโรคภาโว อายสฺมโต สํกิจฺจสฺส าณวิปฺผารา อิทฺธิ นาม.
ภูตปาลตฺเถโรปิ (วิสุทฺธิ. ๒.๓๗๓) ปุพฺพเหตุสมฺปนฺโน. ตสฺส ปิตา ราชคเห ทลิทฺทมนุสฺโส. โส ตํ ทารกํ คเหตฺวา ทารูนํ อตฺถาย สกเฏน อฏวึ คนฺตฺวา ทารุภารํ กตฺวา สายํ นครทฺวารสมีปํ ปตฺโต. อถสฺส โคณา ยุคํ โอสฺสชิตฺวา นครํ ปวิสึสุ. โส สกฏมูเล ปุตฺตกํ นิสีทาเปตฺวา โคณานํ อนุปทํ คจฺฉนฺโต นครเมว ปาวิสิ. ตสฺส อนิกฺขนฺตสฺเสว ¶ ทฺวารํ ปิทหิ. ทารโก สกลรตฺตึ สกฏสฺส เหฏฺา นิปชฺชิตฺวา นิทฺทํ โอกฺกมิ. ราชคหํ ปกติยาปิ อมนุสฺสพหุลํ, อิทํ ปน สุสานสมีปฏฺานํ. น จ โกจิ ยกฺโข ตสฺส ปจฺฉิมภวิกสฺส ทารกสฺส อุปทฺทวํ กาตุมสกฺขิ. โส อปเรน สมเยน ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิตฺวา ภูตปาลตฺเถโร นาม อโหสีติ. เอวํ วาฬยกฺขานุจริเตปิ ปเทเส วุตฺตนเยเนว อโรคภาโว อายสฺมโต ภูตปาลสฺส าณวิปฺผารา อิทฺธิ นาม.
๑๖. สมาธิวิปฺผาริทฺธินิทฺเทเส ¶ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สมาธิวิปฺผารา อิทฺธีติอาทีสุ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส มหาโมคฺคลฺลานตฺเถเรน สทฺธึ กโปตกนฺทรายํ วิหรโต ชุณฺหาย รตฺติยา นโวโรปิเตหิ เกเสหิ อชฺโฌกาเส นิสินฺนสฺส เอโก ทุฏฺยกฺโข สหายเกน ยกฺเขน วาริยมาโนปิ สีเส ปหารํ อทาสิ. ยสฺส เมฆสฺส วิย คชฺชโต สทฺโท อโหสิ, เถโร ตสฺส ปหรณสมเย สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสินฺโน โหติ. อถสฺส เตน ปหาเรน น โกจิ อาพาโธ อโหสิ. อยํ ตสฺส อายสฺมโต สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ. ยถาห –
‘‘เอวํ เม สุตํ (อุทา. ๓๔) – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา จ สาริปุตฺโต อายสฺมา จ มหาโมคฺคลฺลาโน กโปตกนฺทรายํ วิหรนฺติ. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สาริปุตฺโต ชุณฺหาย รตฺติยา นโวโรปิเตหิ เกเสหิ อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหติ อฺตรํ สมาธึ สมาปชฺชิตฺวา.
‘‘เตน โข ปน สมเยน ทฺเว ยกฺขา สหายกา อุตฺตราย ทิสาย ทกฺขิณํ ทิสํ คจฺฉนฺติ เกนจิเทว กรณีเยน. อทฺทสํสุ โข เต ยกฺขา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ ชุณฺหาย รตฺติยา นโวโรปิเตหิ เกเสหิ อพฺโภกาเส นิสินฺนํ, ทิสฺวาน เอโก ยกฺโข ทุติยํ ยกฺขํ เอตทโวจ – ‘ปฏิภาติ มํ, สมฺม, อิมสฺส สมณสฺส สีเส ปหารํ ทาตุ’นฺติ. เอวํ วุตฺเต โส ยกฺโข ตํ ยกฺขํ เอตทโวจ – ‘อลํ, สมฺม, มา สมณํ อาสาเทสิ, อุฬาโร โส, สมฺม, สมโณ มหิทฺธิโก มหานุภาโว’ติ.
‘‘ทุติยมฺปิ โข…เป… ตติยมฺปิ โข โส ยกฺโข ตํ ยกฺขํ เอตทโวจ – ‘ปฏิภาติ มํ, สมฺม, อิมสฺส สมณสฺส สีเส ปหารํ ทาตุ’นฺติ. ตติยมฺปิ โข โส ยกฺโข ตํ ยกฺขํ เอตทโวจ – ‘อลํ, สมฺม, มา สมณํ อาสาเทสิ, อุฬาโร โส, สมฺม, สมโณ มหิทฺธิโก มหานุภาโว’ติ.
‘‘อถ ¶ ¶ โข โส ยกฺโข ตํ ยกฺขํ อนาทิยิตฺวา อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สีเส ปหารํ อทาสิ. ตาว มหาปหาโร อโหสิ, อปิ เตน ปหาเรน สตฺตรตนํ วา อฑฺฒฏฺมรตนํ วา นาคํ โอสาเรยฺย, มหนฺตํ วา ปพฺพตกูฏํ ปทาเลยฺย. อถ จ ปน โส ยกฺโข ‘ทยฺหามิ ทยฺหามี’ติ ตตฺเถว มหานิรยํ อปตาสิ.
‘‘อทฺทสา โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน เตน ยกฺเขน อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สีเส ปหารํ ทียมานํ, ทิสฺวา เยน อายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘กจฺจิ เต, อาวุโส สาริปุตฺต, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ น กิฺจิ ทุกฺข’นฺติ. ‘ขมนียํ เม, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, ยาปนียํ เม, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, อปิ จ เม สีสํ โถกํ ทุกฺข’นฺติ.
‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส สาริปุตฺต, อพฺภุตํ, อาวุโส สาริปุตฺต, ยาว มหิทฺธิโก อายสฺมา สาริปุตฺโต มหานุภาโว. อิธ เต, อาวุโส สาริปุตฺต, อฺตโร ยกฺโข สีเส ปหารํ อทาสิ. ตาว มหา ปหาโร อโหสิ, อปิ เตน ปหาเรน สตฺตรตนํ วา อฑฺฒฏฺมรตนํ วา นาคํ โอสาเรยฺย, มหนฺตํ วา ปพฺพตกูฏํ ปทาเลยฺย. อถ จ ปนายสฺมา สาริปุตฺโต เอวมาห – ‘ขมนียํ เม, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, ยาปนียํ เม, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, อปิ จ เม สีสํ โถกํ ทุกฺข’นฺติ.
‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, อพฺภุตํ, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, ยาว มหิทฺธิโก อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม ยกฺขมฺปิ ปสฺสิสฺสติ, มยํ ปเนตรหิ ปํสุปิสาจกมฺปิ น ปสฺสามาติ.
‘‘อสฺโสสิ ¶ โข ภควา ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย เตสํ อุภินฺนํ มหานาคานํ อิมํ เอวรูปํ กถาสลฺลาปํ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘ยสฺส ¶ เสลูปมํ จิตฺตํ, ิตํ นานุปกมฺปติ;
วิรตฺตํ รชนีเยสุ, โกปนีเย น กุปฺปติ;
ยสฺเสวํ ภาวิตํ จิตฺตํ, กุโต ตํ ทุกฺขเมสฺสตี’’ติ. (อุทา. ๓๔);
เอตฺถ ¶ จ ‘‘กุโต ตํ ทุกฺขเมสฺสตี’’ติ ภควตา วุตฺตวจเนน ‘‘เตน ปหาเรน น โกจิ อาพาโธ อโหสี’’ติ อฏฺกถาวจนํ อติวิย สเมติ. ตสฺมา ‘‘อปิจ เม สีสํ โถกํ ทุกฺข’’นฺติ วจเนน ทุกฺขเวทนา น โหติ, สีสสฺส ปน อกมฺมฺภาวํ สนฺธาย ‘‘ทุกฺข’’นฺติ วุตฺตํ. โลเกปิ หิ อกิจฺเฉน ปริหริตุํ สกฺกุเณยฺโย สุขสีโล, กิจฺเฉน ปริหริตุํ สกฺกุเณยฺโย ทุกฺขสีโลติ วุจฺจติ. ตมฺปิ โข อกมฺมฺตํ สมาปตฺติโต วุฏฺิตสมยตฺตา อโหสีติ เวทิตพฺโพ. สมาปตฺติอปฺปิตสมเย หิ ตมฺปิ น ภเวยฺยาติ. ‘‘เอตรหิ ปํสุปิสาจกมฺปิ น ปสฺสามา’’ติ ทฏฺุํ อสมตฺถตาย น วุตฺตํ, อภิฺาสุ พฺยาปาราภาเวน วุตฺตํ. เถโร กิร ‘‘ปจฺฉิมา ชนตา โปถุชฺชนิกาย อิทฺธิยา สารสฺา มาเหสุ’’นฺติ ปจฺฉิมํ ชนตํ อนุกมฺปมาโน เยภุยฺเยน อิทฺธึ น วลฺเชสิ. เถรคาถาย จ –
‘‘เนว ปุพฺเพนิวาสาย, นปิ ทิพฺพสฺส จกฺขุโน;
เจโตปริยาย อิทฺธิยา, จุติยา อุปปตฺติยา;
โสตธาตุวิสุทฺธิยา, ปณิธิ เม น วิชฺชตี’’ติ. (เถรคา. ๙๙๖) –
เถเรน สยเมว อภิฺาสุ ปตฺถนาภาโว วุตฺโต. เถโร ปน สตฺตสฏฺิยา สาวกปารมีาเณสุ ปารมิปฺปตฺโตติ.
สฺชีวตฺเถรํ ปน กกุสนฺธสฺส ภควโต ทุติยอคฺคสาวกํ นิโรธสมาปนฺนํ ‘‘กาลงฺกโต’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา โคปาลกาทโย ติณกฏฺาทีนิ สํกฑฺฒิตฺวา อคฺคึ อทํสุ. เถรสฺส จีวเร อํสุมตฺตมฺปิ น ฌายิตฺถ. อยมสฺสายสฺมโต อนุปุพฺพสมาปตฺติวเสน ปวตฺตสมถานุภาวนิพฺพตฺตตฺตา สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ. ยถาห –
‘‘เตน ¶ โข ปน, ปาปิม, สมเยน กกุสนฺโธ ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน โหติ. กกุสนฺธสฺส โข ปน, ปาปิม, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วิธุรสฺชีวํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. ยาวตา ปน, ปาปิม, กกุสนฺธสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาวกา. เตสุ น จ โกจิ อายสฺมตา ¶ วิธุเรน สมสโม โหติ ยทิทํ ธมฺมเทสนาย. อิมินา โข เอตํ, ปาปิม, ปริยาเยน อายสฺมโต วิธุรสฺส วิธุโรเตว สมฺา อุทปาทิ. อายสฺมา ปน, ปาปิม, สฺชีโว อรฺคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สฺุาคารคโตปิ อปฺปกสิเรเนว สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชติ.
‘‘ภูตปุพฺพํ, ปาปิม, อายสฺมา สฺชีโว อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโน นิสินฺโน โหติ. อทฺทสํสุ ¶ โข, ปาปิม, โคปาลกา ปสุปาลกา กสฺสกา ปถาวิโน อายสฺมนฺตํ สฺชีวํ อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺนํ, ทิสฺวาน เตสํ เอตทโหสิ – ‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ, อยํ สมโณ นิสินฺนโก กาลงฺกโต, หนฺท นํ ทหามา’ติ.
‘‘อถ โข เต, ปาปิม, โคปาลกา ปสุปาลกา กสฺสกา ปถาวิโน ติณฺจ กฏฺฺจ โคมยฺจ สํกฑฺฒิตฺวา อายสฺมโต สฺชีวสฺส กาเย อุปจินิตฺวา อคฺคึ ทตฺวา ปกฺกมึสุ. อถ โข, ปาปิม, อายสฺมา สฺชีโว ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ตาย สมาปตฺติยา วุฏฺหิตฺวา จีวรานิ ปปฺโผเฏตฺวา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อทฺทสํสุ โข เต, ปาปิม, โคปาลกา ปสุปาลกา กสฺสกา ปถาวิโน อายสฺมนฺตํ สฺชีวํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ, ทิสฺวาน เนสํ เอตทโหสิ – ‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ, อยํ สมโณ นิสินฺนโกว กาลงฺกโต, สฺวายํ ปฏิสฺชีวิโต’ติ. อิมินา โข เอวํ, ปาปิม, ปริยาเยน อายสฺมโต สฺชีวสฺส สฺชีโวเตว สมฺา อุทปาที’’ติ (ม. นิ. ๑.๕๐๗).
ขาณุโกณฺฑฺตฺเถโร ¶ ปน ปกติยาว สมาปตฺติพหุโล, โส อฺตรสฺมึ อรฺเ รตฺตึ สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสีทิ, ปฺจสตา โจรา ภณฺฑกํ เถเนตฺวา คจฺฉนฺตา ‘‘อิทานิ อมฺหากํ อนุปทํ คจฺฉนฺตา นตฺถี’’ติ วิสฺสมิตุกามา ภณฺฑกํ โอโรปยมานา ‘‘ขาณุโก อย’’นฺติ มฺมานา เถรสฺเสว อุปริ สพฺพภณฺฑกานิ เปสุํ. เตสํ วิสฺสมิตฺวา คจฺฉนฺตานํ ปมํ ปิตภณฺฑกสฺส คหณกาเล กาลปริจฺเฉทวเสน เถโร วุฏฺาสิ. เต เถรสฺส จลนาการํ ทิสฺวา ภีตา วิรวึสุ. เถโร ‘‘มา ภายถ, อุปาสกา, ภิกฺขุ อห’’นฺติ อาห. เต อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา เถรคเตน ปสาเทน ปพฺพชิตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. ตโต ปภุติ จ เถโร ขาณุโกณฺฑฺตฺเถโร นาม อโหสิ. อยเมตฺถ ปฺจหิ ภณฺฑกสเตหิ อชฺโฌตฺถฏสฺส ตสฺสายสฺมโต อาพาธาภาโว สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ.
อุตฺตรา ¶ (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๖๒) ปน อุปาสิกา ราชคเห มหาธนสฺส ปุณฺณสฺส เสฏฺิโน ธีตา, กุมาริกกาเลเยว สทฺธึ มาตาปิตูหิ โสตาปตฺติผลํ ปตฺตา, สา วยปฺปตฺตา ราชคหเสฏฺิโน มหตา นิพนฺเธน ตสฺส ปุตฺตสฺส มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส ทินฺนา. สา พุทฺธทสฺสนาย ธมฺมสฺสวนาย พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทานฺจ ทาตุํ ธมฺมฺจ โสตุํ โอกาสํ อลภมานา อุปทฺทุตา หุตฺวา ตสฺมึเยว นคเร สิริมํ นาม คณิกํ ปกฺโกสาเปตฺวา โอกาสกรณตฺถเมว ปิตุ ฆราว อานีตานิ ปฺจทสกหาปณสหสฺสานิ ตสฺสา ทตฺวา ‘‘อิเม กหาปเณ คเหตฺวา อิมํ อฑฺฒมาสํ เสฏฺิปุตฺตํ ปริจราหี’’ติ ตํ สามิกสฺส อปฺเปตฺวา สยํ อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย ‘‘อิมํ อฑฺฒมาสํ พุทฺธทสฺสนาทีนิ ¶ ลภิสฺสามี’’ติ ตุฏฺมานสา ยาว ปวารณาย พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิมนฺตาเปตฺวา อฑฺฒมาสํ มหาทานํ อทาสิ, ปจฺฉาภตฺตํ มหานเส ขชฺชโภชฺชาทีนิ สํวิทหาเปติ. ตสฺสา สามิโก ‘‘สฺเว ปวารณา’’ติ สิริมาย สห วาตปาเน ตฺวา พหิ โอโลเกนฺโต ตํ ตถาวิจรนฺตึ เสทกิลินฺนํ ฉาริกาย โอกิณฺณํ องฺคารมสิมกฺขิตํ ทิสฺวา ‘‘อตฺตโน สมฺปตฺตึ อภฺุชิตฺวา กุสลํ นาม กโรติ พาลา’’ติ หสิ. อุตฺตราปิ ตํ โอโลเกตฺวา ‘‘สมฺปรายตฺถํ กุสลํ น กโรติ พาโล’’ติ หสิ.
สิริมา ¶ อุภินฺนมฺปิ ตํ กิริยํ ทิสฺวา ‘‘อหํ ฆรสามินี’’ติ มฺมานา อิสฺสาปกตา อุตฺตราย กุชฺฌิตฺวา ‘‘ทุกฺขํ อุปฺปาเทสฺสามี’’ติ ปาสาทา โอตรติ. อุตฺตรา ตํ ตฺวา ปีเก นิสีทิตฺวา ตํ เมตฺเตน จิตฺเตน ผริ. สิริมา ปาสาทา โอรุยฺห มหานสํ ปวิสิตฺวา ปูวปจนโต อุฬุงฺกปูรํ ปกฺกุถิตํ สปฺปึ คเหตฺวา ตสฺสา มตฺถเก โอกิริ. ตํ ปทุมินิปณฺเณ สีตูทกํ วิย วินิวฏฺเฏตฺวา อคมาสิ. ทาสิโย สิริมํ หตฺเถหิ ปาเทหิ โปเถตฺวา ภูมิยํ ปาเตสุํ. อุตฺตรา เมตฺตาฌานโต วุฏฺาย ทาสิโย วาเรสิ. สิริมา อุตฺตรํ ขมาเปสิ. อุตฺตรา ‘‘สฺเว สตฺถุ ปุรโต ขมาเปหี’’ติ วตฺวา ตาย กายเวยฺยาวฏิกํ ยาจิตาย พฺยฺชนสมฺปาทนํ อาจิกฺขิ. สา ตํ สมฺปาเทตฺวา อตฺตโน ปริวารา ปฺจสตา คณิกาโย สสงฺฆํ สตฺถารํ ปริวิสิตฺวา ‘‘ขมาปนสหายิกา โหถา’’ติ วตฺวา ปุนทิวเส ตถา ตาหิ คณิกาหิ สทฺธึ สตฺถุ ภตฺตกิจฺจาวสาเน สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ‘‘อหํ ภควา อุตฺตราย อปรชฺฌึ, ขมตุ เม อุตฺตรา’’ติ อาห. สตฺถา ‘‘ขม, อุตฺตเร’’ติ วตฺวา ‘‘ขมามิ, ภควา’’ติ วุตฺเต ‘‘อกฺโกเธน ชิเน โกธ’’นฺติอาทิกํ (ธ. ป. ๒๒๓) ธมฺมํ เทเสสิ. อุตฺตรา ปุเรตรเมว สามิกฺจ สสฺสุสสุเร จ สตฺถุ สนฺติเก อุปเนสิ. เทสนาวสาเน เต จ ตโย ชนา, สพฺพา จ คณิกาโย โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหึสูติ. เอวํ อุตฺตราย อุปาสิกาย ปกฺกุถิตสปฺปินา ปีฬาภาโว สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ.
สามาวตี ¶ อุปาสิกา นาม โกสมฺพิยํ อุเทนสฺส รฺโ อคฺคมเหสี. ตสฺส หิ รฺโ ปฺจสตปฺจสตอิตฺถิปริวารา ติสฺโส อคฺคมเหสิโย อเหสุํ. ตาสํ สามาวตี ภทฺทิยนคเร ภทฺทิยเสฏฺิโน ธีตา. ปิตริ กาลงฺกเต ปิตุ สหายกสฺส โกสมฺพิยํ โฆสิตเสฏฺิโน ฆเร ปฺจสตอิตฺถิปริวารวฑฺฒิตํ วยปฺปตฺตํ ราชา ทิสฺวา ¶ สฺชาตสิเนโห สปริวารมตฺตโน ฆรํ เนตฺวา อภิเสกฏฺานํ อทาสิ. จณฺฑปชฺโชตสฺส รฺโ ธีตา วาสุลทตฺตา นาม เอกา มเหสี. มาคณฺฑิยพฺราหฺมณสฺส ธีตา ภควโต ปาทปริจาริกํ กตฺวา ปิตรา ทิยฺยมานา –
‘‘ทิสฺวาน ตณฺหํ อรตึ รคฺจ, นาโหสิ ฉนฺโท อปิ เมถุนสฺมึ;
กิเมวิทํ มุตฺตกรีสปุณฺณํ, ปาทาปิ นํ สมฺผุสิตุํ น อิจฺเฉ’’ติ. (สุ. นิ. ๘๔๑) –
ภควตา ¶ ภาสิตํ คาถํ สุตฺวา ภควติ อาฆาตํ พนฺธิ. ตสฺสา มาตาปิตโร มาคณฺฑิยสุตฺตเทสนาวสาเน อนาคามิผลํ ปตฺวา ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. ตสฺสา จูฬปิตา มาคณฺฑิโย ตํ โกสมฺพึ เนตฺวา รฺโ อทาสิ. สา รฺโ เอกา มเหสี.
อถ โข โฆสิตเสฏฺิ กุกฺกุฏเสฏฺิ ปาวาริกเสฏฺีติ ตโย เสฏฺิโน โลเก ตถาคตุปฺปาทํ สุตฺวา เชตวนํ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา โสตาปตฺติผลํ ปตฺวา อฑฺฒมาสํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา สตฺถุ โกสมฺพิคมนํ อายาจิตฺวา โกสมฺพึ คนฺตฺวา โฆสิตาราโม กุกฺกุฏาราโม ปาวาริการาโมติ ตโย ชนา ตโย อาราเม การาเปตฺวา อนุปุพฺเพน ตตฺถ อาคตํ สตฺถารํ ปฏิปาฏิยา เอเกกสฺมึ ทิวเส เอเกกสฺมึ วิหาเร วสาเปตฺวา เอเกโก สสงฺฆสฺส ภควโต มหาทานมทาสิ. อเถกทิวสํ เตสํ อุปฏฺาโก สุมโน นาม มาลากาโร เสฏฺิโน อายาจิตฺวา สสงฺฆํ สตฺถารํ โภเชตุํ อตฺตโน ฆเร นิสีทาเปสิ. ตสฺมึ ขเณ สามาวติยา ปริจาริกา ขุชฺชุตฺตรา นาม ทาสี อฏฺ กหาปเณ คเหตฺวา ตสฺส ฆรํ อคมาสิ. โส ‘‘สสงฺฆสฺส ตาว สตฺถุโน ปริเวสนสหายา โหหี’’ติ อาห. สา ตถา กตฺวา สตฺถุ ภตฺตกิจฺจาวสาเน ธมฺมเทสนํ สุตฺวา โสตาปนฺนา หุตฺวา อฺทา จตฺตาโร กหาปเณ อตฺตโน อาทิยนฺตี อทินฺนํ อาทิยิตุํ อภพฺพตฺตา อฏฺหิ กหาปเณหิ ปุปฺผานิ อาทาย สามาวติยา อุปนาเมสิ. ตาย ปุปฺผานํ พหุภาวการณํ ปุฏฺา มุสา ภณิตุํ อภพฺพตฺตา ยถาสภาวํ อาห. ‘‘อชฺช กสฺมา น คณฺหี’’ติ วุตฺตา ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ธมฺมํ สุตฺวา อมตํ สจฺฉากาสิ’’นฺติ อาห. ‘‘อมฺม อุตฺตเร, ตํ ธมฺมํ อมฺหากมฺปิ กเถหี’’ติ. ‘‘เตน หิ มํ นฺหาเปตฺวา สุทฺธํ วตฺถยุคํ ทตฺวา อุจฺเจ อาสเน นิสีทาเปตฺวา สพฺพา นีจาสเนสุ นิสีทถา’’ติ อาห. ตา ¶ สพฺพาปิ ¶ ตถา กรึสุ. สา เสขปฏิสมฺภิทปฺปตฺตา อริยสาวิกา เอกํ วตฺถํ นิวาเสตฺวา เอกํ อุตฺตราสงฺคํ กตฺวา พีชนึ คเหตฺวา ตาสํ ธมฺมํ เทเสสิ. สามาวตี จ ปฺจสตา จ อิตฺถิโย โสตาปตฺติผลํ ปาปุณึสุ. ตา สพฺพาปิ ขุชฺชุตฺตรํ วนฺทิตฺวา ‘‘อมฺม, อชฺชโต ปฏฺาย เวยฺยาวจฺจํ อกตฺวา อมฺหากํ มาตุฏฺาเน อาจริยฏฺาเน จ ตฺวา สตฺถารา ¶ เทสิตเทสิตํ ธมฺมํ สุตฺวา อมฺหากํ กเถหี’’ติ อาหํสุ. สา ตถา กโรนฺตี อปรภาเค ติปิฏกธรา หุตฺวา สตฺถารา พหุสฺสุตานํ อุปาสิกานํ อคฺคฏฺาเน ปิตา อคฺคฏฺานํ ลภิ. สามาวติมิสฺสิกา พุทฺธสฺส ทสฺสนํ ปิเหนฺติ, ทสพเล อนฺตรวีถึ ปฏิปนฺเน วาตปาเนสุ อปฺปโหนฺเตสุ ภิตฺตึ ภินฺทิตฺวา สตฺถารํ โอโลเกนฺติ, วนฺทนปูชนฺจ กโรนฺติ.
มาคณฺฑิยา ตตฺถ คตา ตานิ ฉิทฺทานิ ทิสฺวา ตตฺถ การณํ ปุจฺฉนฺตี สตฺถุ อาคตภาวํ ตฺวา ภควติ อาฆาเตน ตาสมฺปิ กุชฺฌิตฺวา ‘‘มหาราช, สามาวติมิสฺสิกานํ พหิทฺธา ปตฺถนา อตฺถิ, ภิตฺตึ ภินฺทิตฺวา สมณํ โคตมํ โอโลเกนฺติ, กติปาเหน ตํ มาเรสฺสนฺตี’’ติ ราชานํ อาห. ราชา ฉิทฺทานิ ทิสฺวาปิ ตสฺสา วจนํ น สทฺทหิ, อุทฺธจฺฉิทฺทกวาตปานานิ การาเปสิ. ปุน มาคณฺฑิยา ราชานํ ตาสุ ภินฺทิตุกามา อฏฺ สชีวกุกฺกุเฏ อาหราเปตฺวา ‘‘มหาราช, ตาสํ วีมํสนตฺถํ อิเม กุกฺกุเฏ มาเรตฺวา ‘มมตฺถาย ปจาหี’ติ เปเสหี’’ติ อาห. ราชา ตถา เปเสสิ. ตาย ‘‘ปาณาติปาตํ น กโรมา’’ติ วุตฺเต ปุน ‘‘ตสฺส สมณสฺส โคตมสฺส ปจิตฺวา เปเสหี’’ติ อาห. รฺา ตถา เปสิเต มาคณฺฑิยา อฏฺ มาริตกุกฺกุเฏ ตถา วตฺวา เปเสสิ. สามาวตี ปจิตฺวา ทสพลสฺส ปาเหสิ. มาคณฺฑิยา เตนปิ ราชานํ โกเปตุํ นาสกฺขิ.
ราชา ปน ตีสุ มเหสีสุ เอเกกิสฺสา วสนฏฺาเน สตฺต สตฺต ทิวสานิ วสติ. ราชา อตฺตโน คมนฏฺานํ หตฺถิกนฺตวีณํ อาทาย คจฺฉติ. มาคณฺฑิยา รฺโ สามาวติยา ปาสาทคมนกาเล ทาา อคเทน โธวาเปตฺวา เวฬุปพฺเพ ปกฺขิปาเปตฺวา เอกํ กณฺหสปฺปโปตกํ อาหราเปตฺวา อนฺโตวีณาย ปกฺขิปิตฺวา มาลาคุฬเกน ฉิทฺทํ ปิทหิ. ตํ รฺโ ตตฺถ คตกาเล อปราปรํ วิจรนฺตี วิย หุตฺวา วีณาฉิทฺทโต มาลาคุฬกํ อปเนสิ. สปฺโป นิกฺขมิตฺวา ปสฺสสนฺโต ผณํ กตฺวา สยนปิฏฺเ นิปชฺชิ. สา อาห – ‘‘ธี สปฺโป’’ติ มหาสทฺทมกาสิ. ราชา สปฺปํ ทิสฺวา กุชฺฌิ. สามาวตี รฺโ กุทฺธภาวํ ตฺวา ปฺจนฺนํ อิตฺถิสตานํ สฺมทาสิ ‘‘อชฺช โอธิสกเมตฺตาผรเณน ราชานํ ผรถา’’ติ. สยมฺปิ ตถา อกาสิ. ราชา สหสฺสถามธนุํ อาทาย ชิยํ โปเตฺวา สามาวตึ ¶ ธุเร กตฺวา สพฺพา ตา อิตฺถิโย ปฏิปาฏิยา ปาเปตฺวา วิสปีตํ ขุรปฺปํ สนฺนยฺหิตฺวา ธนุํ ปูเรตฺวา อฏฺาสิ. ขุรปฺปํ เนว ขิปิตุํ ¶ ¶ , น โอโรปิตุํ สกฺโกติ, คตฺเตหิ เสทา มุจฺจนฺติ, สรีรํ เวธติ, มุขโต เขโฬ ปตติ, คณฺหิตพฺพคหณํ น ปสฺสติ, อถ นํ สามาวตี ‘‘กึ, มหาราช, กิลมสี’’ติ อาห. ‘‘อาม, เทวิ, กิลมามิ, อวสฺสโย เม โหหี’’ติ. ‘‘สาธุ, มหาราช, ขุรปฺปํ ปถวีมุขํ กโรหี’’ติ. ราชา ตถา อกาสิ. สา ‘‘รฺโ หตฺถโต ขุรปฺปํ มุจฺจตู’’ติ อธิฏฺาสิ. ตสฺมึ ขเณ ขุรปฺปํ มุจฺจิ. ราชา ตํขณฺเว อุทเก นิมุชฺชิตฺวา อลฺลวตฺโถ อลฺลเกโส สามาวติยา ปาเทสุ นิปติตฺวา ‘‘ขม, เทวิ, มยฺหํ –
‘สมฺมุยฺหามิ ปมุยฺหามิ, สพฺพา มุยฺหนฺติ เม ทิสา;
สามาวตี มํ ตายสฺสุ, ตฺวฺจ เม สรณํ ภวา’’’ติ. – อาห;
สามาวตี –
‘‘มา มํ ตฺวํ สรณํ คจฺฉ, ยมหํ สรณํ คตา;
สรณํ คจฺฉ ตํ พุทฺธํ, ตฺวฺจ เม สรณํ ภวา’’ติ. –
อาห. ราชา ‘‘เตน หิ ตํ สรณํ คจฺฉามิ สตฺถารฺจ, วรฺจ เต ทมฺมี’’ติ อาห. สา ‘‘วโร คหิโต โหตุ, มหาราชา’’ติ อาห. ราชา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา สรณํ คนฺตฺวา นิมนฺเตตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส สตฺตาหํ มหาทานํ ทตฺวา ‘‘สามาวตึ วรํ คณฺหาหี’’ติ อาห. ‘‘สาธุ, มหาราช, อิมํ เม วรํ เทหิ, สตฺถา ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ อิธาคจฺฉตุ, ธมฺมํ โสสฺสามี’’ติ อาห. ราชา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ นิพทฺธํ อิธาคจฺฉถ, สามาวติมิสฺสิกา ‘ธมฺมํ โสสฺสามา’ติ วทนฺตี’’ติ อาห. สตฺถา ‘‘มหาราช, พุทฺธานํ นาม เอกฏฺานํ นิพทฺธํ คนฺตุํ น วฏฺฏติ, มหาชโนปิ ปจฺจาสีสตี’’ติ อาห. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต, ภิกฺขู อาณาเปถา’’ติ. สตฺถา อานนฺทตฺเถรํ อาณาเปสิ. เถโร ปฺจ ภิกฺขุสตานิ อาทาย นิพทฺธํ ราชกุลํ คจฺฉติ. ตาปิ เทวีปมุขา อิตฺถิโย เถรํ โภเชตฺวา ธมฺมํ สุณึสุ. สามาวติฺจ สตฺถา เมตฺตาวิหารีนํ อุปาสิกานํ อคฺคฏฺาเน เปสีติ. เอวํ รฺโ ขุรปฺปํ มฺุจิตุํ อวิสหนภาโว สามาวติยา อุปาสิกาย สมาธิวิปฺผารา อิทฺธีติ ¶ . เอตฺถ ¶ จ อเวจฺจปฺปสาเทน วา โอกปฺปนปสาเทน วา รตนตฺตยสรณคมเนน วา รตนตฺตยํ อุปาสตีติ อุปาสิกาติ วุจฺจตีติ.
๑๗. อริยิทฺธินิทฺเทเส อริยา อิทฺธีติ เจโตวสิปฺปตฺตานํ ขีณาสวอริยานํเยว สมฺภวโต ¶ อริยา อิทฺธีติ วุจฺจตีติ. อิธ ภิกฺขูติ อิมสฺมึ สาสเน ขีณาสโว ภิกฺขุ. อนิฏฺเ วตฺถุสฺมินฺติ อารมฺมณปกติยา อมนาเป วตฺถุสฺมึ สตฺเต วา สงฺขาเร วา. เมตฺตาย วา ผรตีติ สตฺโต เจ โหติ, เมตฺตาภาวนาย ผรติ. ธาตุโต วา อุปสํหรตีติ สงฺขาโร เจ โหติ, ‘‘ธาตุมตฺต’’นฺติ ธาตุมนสิการํ อุปสํหรติ. สตฺเตปิ ธาตูปสํหาโร วฏฺฏติ. อสุภาย วา ผรตีติ สตฺโต เจ, อสุภภาวนาย ผรติ. อนิจฺจโต วา อุปสํหรตีติ สงฺขาโร เจ, ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ มนสิการํ อุปสํหรติ. ตทุภยนฺติ ตํ อุภยํ. อุเปกฺขโกติ ฉฬงฺคุเปกฺขาย อุเปกฺขโก. สโตติ สติเวปุลฺลปฺปตฺตตฺตา. สมฺปชาโนติ ปฺาย สมฺปชานการิตฺตา. จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ การณวเสน จกฺขูติ ลทฺธโวหาเรน รูปทสฺสนสมตฺเถน จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ทิสฺวา. โปราณา ปนาหุ – ‘‘จกฺขุ รูปํ น ปสฺสติ อจิตฺตกตฺตา, จิตฺตํ น ปสฺสติ อจกฺขุกตฺตา, ทฺวารารมฺมณสงฺฆฏฺฏเน ปน ปสาทวตฺถุเกน จิตฺเตน ปสฺสติ. อีทิสี ปเนสา ‘ธนุนา วิชฺฌตี’ติอาทีสุ วิย สสมฺภารกถา นาม โหติ. ตสฺมา จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ทิสฺวาติ อยเมตฺถ อตฺโถ’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๓๕๒). อถ วา จกฺขุนา กรณภูเตน รูปํ ทิสฺวาติ อตฺโถ. เนว สุมโน โหตีติ เคหสิตโสมนสฺสปฏิกฺเขโป, น กิริยภูตาย โสมนสฺสเวทนาย. น ทุมฺมโนติ สพฺพโทมนสฺสปฏิกฺเขโป. อุเปกฺขโก วิหรตีติ อิฏฺานิฏฺารมฺมณาปาเถ ปริสุทฺธปกติภาวาวิชหนาการภูตาย ฉสุ ทฺวาเรสุ ปวตฺตนโต ‘‘ฉฬงฺคุเปกฺขา’’ติ ลทฺธนามาย ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย อุเปกฺขโก วิหรติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวาติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
๑๘. กมฺมวิปากชิทฺธินิทฺเทเส สพฺเพสํ ปกฺขีนนฺติ สพฺเพสํ ปกฺขิชาตานํ ฌานาภิฺา วินาเยว อากาเสน คมนํ. ตถา สพฺเพสํ เทวานํ อากาสคมนํ ทสฺสนาทีนิ จ. เอกจฺจานํ มนุสฺสานนฺติ ปมกปฺปิกานํ มนุสฺสานํ. เอกจฺจานํ วินิปาติกานนฺติ ปิยงฺกรมาตา ปุนพฺพสุมาตา ผุสฺสมิตฺตา ¶ ธมฺมคุตฺตาติเอวมาทีนํ สุขสมุสฺสยโต วินิปติตตฺตา วินิปาติกานํ อฺเสฺจ เปตานํ นาคสุปณฺณานฺจ อากาสคมนาทิกํ กมฺมวิปากชา อิทฺธิ.
ปฺุวโต อิทฺธินิทฺเทเส ราชาติ ธมฺเมน ปเรสํ รฺชนโต ราชา. รตนจกฺกํ วตฺเตตีติ จกฺกวตฺตี. เวหาสํ คจฺฉตีติ อจฺจนฺตสํโยคตฺเถ ¶ อุปโยควจนํ. จตุรงฺคินิยาติ หตฺถิอสฺสรถปตฺติสงฺขาตจตุองฺควติยา. เสนาติ เตสํ สมูหมตฺตเมว. อนฺตมโสติ เหฏฺิมนฺตโต. อสฺสพนฺธา นาม อสฺสานํ รกฺขกา. โคปุริสา นาม คุนฺนํ รกฺขกา. อุปาทายาติ อวิสฺสชฺเชตฺวา. เอวํ เตสํ เวหาสคมนฺจ ปฺุวโต อิทฺธีติ อตฺโถ.
โชติกสฺส ¶ คหปติสฺส ปฺุวโต อิทฺธีติ โชติโก นาม ปุพฺเพ ปจฺเจกพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ราชคหนคเร เสฏฺิ. ตสฺส กิร ชาตทิวเส สกลนคเร สพฺพาวุธานิ ชลึสุ, สพฺเพสํ กายารุฬฺหานิ อาภรณานิปิ ปชฺชลิตานิ วิย โอภาสํ มฺุจึสุ, นครํ เอกปชฺโชตํ อโหสิ. อถสฺส นามคฺคหณทิวเส สกลนครสฺส เอกโชติภูตตฺตา โชติโกติ นามํ กรึสุ. อถสฺส วยปฺปตฺตกาเล เคหกรณตฺถาย ภูมิตเล โสธิยมาเน สกฺโก เทวราชา อาคนฺตฺวา โสฬสกรีสมตฺเต าเน ปถวึ ภินฺทิตฺวา สตฺตรตนมยํ สตฺตภูมิกํ ปาสาทํ อุฏฺาเปสิ, ปาสาทํ ปริกฺขิปิตฺวา สตฺตรตนมเย สตฺตทฺวารโกฏฺกยุตฺเต สตฺตปากาเร อุฏฺาเปสิ, ปาการปริยนฺเต จตุสฏฺิ กปฺปรุกฺเข อุฏฺาเปสิ, ปาสาทสฺส จตูสุ กณฺเณสุ โยชนิกติคาวุติกทฺวิคาวุติกเอกคาวุติกา จตสฺโส นิธิกุมฺภิโย อุฏฺาเปสิ. ปาสาทสฺส จตูสุ กณฺเณสุ ตรุณตาลกฺขนฺธปฺปมาณา จตสฺโส สุวณฺณมยา อุจฺฉุยฏฺิโย นิพฺพตฺตึสุ. ตาสํ มณิมยานิ ปตฺตานิ สุวณฺณมยานิ ปพฺพานิ อเหสุํ. สตฺตสุ ทฺวารโกฏฺเกสุ เอเกกสฺมึ เอกทฺวิติจตุปฺจฉสตฺตยกฺขสหสฺสปริวารา สตฺต ยกฺขา อารกฺขํ คณฺหึสุ.
พิมฺพิสารมหาราชา ปาสาทาทีนํ อุฏฺานํ สุตฺวา เสฏฺิฉตฺตํ ปหิณิ. โส โชติกเสฏฺีติ สกลชมฺพุทีเป ปากโฏ หุตฺวา อุตฺตรกุรุโต เทวตาหิ อาเนตฺวา สิริคพฺเภ นิสีทาปิตาย เอกฺจ ตณฺฑุลนาฬึ ตโย จ โชติปาสาเณ คเหตฺวา อาคตาย ภริยาย สทฺธึ ตสฺมึ ปาสาเท มหาสมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต วสิ. เตสํ ยาวชีวํ ตาย เอกตณฺฑุลนาฬิยา ¶ ภตฺตํ ปโหสิ. สเจ กิร เต สกฏสตมฺปิ ตณฺฑุลานํ ปูเรตุกามา โหนฺติ, สา ตณฺฑุลนาฬิเยว หุตฺวา ติฏฺติ. ภตฺตปจนกาเล ตณฺฑุเล อุกฺขลิยํ ปกฺขิปิตฺวา เตสํ ปาสาณานํ อุปริ เปนฺติ. ปาสาณา ตาวเทว ปชฺชลิตฺวา ภตฺเต ปกฺกมตฺเต นิพฺพายนฺติ. เตเนว สฺาเณน ภตฺตสฺส ปกฺกภาวํ ชานนฺติ. สูเปยฺยาทิปจนกาเลปิ เอเสว นโย. เอวํ เตสํ โชติปาสาเณหิ อาหาโร ปจฺจติ, มณิอาโลเกน วสนฺติ. อคฺคิสฺส วา ทีปสฺส วา โอภาสเมว น ชานึสุ. โชติกสฺส กิร เอวรูปา สมฺปตฺตีติ สกลชมฺพุทีเป ปากโฏ อโหสิ. มหาชโน ยานาทีหิ ทสฺสนตฺถาย อาคจฺฉติ. โชติกเสฏฺิ อาคตาคตานํ อุตฺตรกุรุตณฺฑุลานํ ภตฺตํ ทาเปติ, ‘‘กปฺปรุกฺเขหิ วตฺถาภรณานิ คณฺหนฺตู’’ติ อาณาเปติ, ‘‘คาวุติกนิธิกุมฺภิยา ¶ มุขํ วิวราเปตฺวา ยาปนมตฺตํ คณฺหนฺตู’’ติ อาณาเปติ. สกลชมฺพุทีปวาสิเกสุ ธนํ คเหตฺวา คจฺฉนฺเตสุ นิธิกุมฺภิยา องฺคุลมตฺตมฺปิ อูนํ นาโหสีติ อยมสฺส ปฺุวโต อิทฺธิ.
ชฏิลสฺส คหปติสฺส ปฺุวโต อิทฺธีติ ชฏิโล นาม กสฺสปสฺส ภควโต ธาตุเจติเย กตาธิกาโร ตกฺกสิลายํ เสฏฺิ. ตสฺส กิร มาตา พาราณสิยํ เสฏฺิธีตา อภิรูปา อโหสิ ¶ . ตํ ปนฺนรสโสฬสวสฺสุทฺเทสิกกาเล อารกฺขนตฺถาย สตฺตภูมิกสฺส ปาสาทสฺส อุปริตเล วาสยึสุ. ตํ เอกทิวสํ วาตปานํ วิวริตฺวา พหิ โอโลกิยมานํ อากาเสน คจฺฉนฺโต วิชฺชาธโร ทิสฺวา อุปฺปนฺนสิเนโห วาตปาเนน ปวิสิตฺวา ตาย สทฺธึ สนฺถวมกาสิ. สา เตน คพฺภํ คณฺหิ. อถ นํ ทาสี ทิสฺวา ‘‘อมฺม, กึ อิท’’นฺติ วตฺวา ‘‘โหตุ, กสฺสจิ มา อาจิกฺขี’’ติ วุตฺตา ภเยน ตุณฺหี อโหสิ. สาปิ ทสเม มาเส ปุตฺตํ วิชายิตฺวา นวภาชนํ อาหราเปตฺวา ตตฺถ ตํ ทารกํ นิปชฺชาเปตฺวา ตํ ภาชนํ ปิทหิตฺวา อุปริ ปุปฺผทามานิ เปตฺวา ‘‘อิมํ สีเสน อุกฺขิปิตฺวา คนฺตฺวา คงฺคาย วิสฺสชฺเชหิ, ‘กึ อิท’นฺติ จ ปุฏฺา ‘อยฺยาย เม พลิกมฺม’นฺติ วเทยฺยาสี’’ติ ทาสึ อาณาเปสิ. สา ตถา อกาสิ. เหฏฺาคงฺคายปิ ทฺเว อิตฺถิโย นฺหายมานา ตํ ภาชนํ อุทเกน อาหริยมานํ ทิสฺวา เอกา ‘‘มยฺเหตํ ภาชน’’นฺติ อาห. เอกา ‘‘ยํ เอตสฺส อนฺโต, ตํ มยฺห’’นฺติ วตฺวา ภาชเน สมฺปตฺเต ตํ อาทาย ถเล เปตฺวา วิวริตฺวา ¶ ทารกํ ทิสฺวา เอกา ‘‘มม ภาชน’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘ทารโก มเมว โหตี’’ติ อาห. เอกา ‘‘ยํ ภาชนสฺส อนฺโต, ตํ มมา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘มม ทารโก’’ติ อาห. ตา วิวทมานา วินิจฺฉยํ คนฺตฺวา อมจฺเจสุ วินิจฺฉิตุํ อสกฺโกนฺเตสุ รฺโ สนฺติกํ อคมํสุ. ราชา ตาสํ วจนํ สุตฺวา ‘‘ตฺวํ ทารกํ คณฺห, ตฺวํ ภาชน’’นฺติ อาห. ยาย ปน ทารโก ลทฺโธ, สา มหากจฺจายนตฺเถรสฺส อุปฏฺายิกา โหติ. สา ตํ ทารกํ ‘‘เถรสฺส สนฺติเก ปพฺพาเชสฺสามี’’ติ โปเสสิ. ตสฺส ชาตทิวเส คพฺภมลสฺส โธวิตฺวา อนปนีตตฺตา เกสา ชฏิตา หุตฺวา อฏฺํสุ. เตนสฺส ชฏิโลเตว นามํ อกํสุ.
ตสฺส ปทสา วิจรณกาเล เถโร ตํ เคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อุปาสิกา เถรํ นิสีทาเปตฺวา อาหารมทาสิ. เถโร ทารกํ ทิสฺวา ‘‘อุปาสิเก, ทารโก เต ลทฺโธ’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อาม, ภนฺเต, อิมาหํ ตุมฺหากํ สนฺติเก ปพฺพาเชสฺสนฺติ โปเสสิ’’นฺติ อาห. เถโร ‘‘สาธู’’ติ ตํ อาทาย คจฺฉนฺโต ‘‘อตฺถิ นุ โข อิมสฺส คิหิสมฺปตฺตึ อนุภวิตุํ ปฺุกมฺม’’นฺติ โอโลเกนฺโต ‘‘มหาปฺุโ ¶ สตฺโต มหาสมฺปตฺตึ อนุภวิสฺสติ, ทหโร เอว จ ตาว, าณมฺปิ ตาวสฺส ปริปากํ น คจฺฉตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตํ อาทาย ตกฺกสิลายํ เอกสฺส อุปฏฺากสฺส เคหํ อคมาสิ. โส เถรํ วนฺทิตฺวา ิโต ทารกํ ทิสฺวา ‘‘ทารโก, ภนฺเต, ลทฺโธ’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อาม, อุปาสก, ปพฺพชิสฺสติ, ทหโร ตาว ตว สนฺติเก โหตู’’ติ. โส ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ ตํ ปุตฺตฏฺาเน เปตฺวา ปฏิชคฺคิ. ตสฺส ปน เคเห ทฺวาทส วสฺสานิ ภณฺฑกํ อุสฺสนฺนํ โหติ. โส คามนฺตรํ คจฺฉนฺโต สพฺพมฺปิ ตํ ภณฺฑกํ อาปณํ อาหริตฺวา ตสฺส ตสฺส ภณฺฑกสฺส มูลํ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘อิทฺจิทฺจ เอตฺตกํ นาม ธนํ คเหตฺวา ทเทยฺยาสี’’ติ วตฺวา ปกฺกามิ.
ตํ ¶ ทิวสํ นครปริคฺคาหิกา เทวตา อนฺตมโส ชีรกมริจมตฺตเกนาปิ อตฺถิเก ตสฺเสว อาปณาภิมุเข กรึสุ. โส ทฺวาทส วสฺสานิ อุสฺสนฺนภณฺฑกํ เอกทิวเสเนว วิกฺกิณิ. กุฏุมฺพิโก อาคนฺตฺวา อาปเณ กิฺจิ อทิสฺวา ‘‘สพฺพํ เต, ตาต, ภณฺฑกํ นาสิต’’นฺติ อาห. ‘‘น นาสิตํ, ตาต, สพฺพํ ตุมฺเหหิ วุตฺตนเยน วิกฺกิณิตํ, อิทํ อสุกสฺส มูลํ, อิทํ อสุกสฺส ¶ มูล’’นฺติ สพฺพมูลํ ตสฺเสว อปฺเปสิ. กุฏุมฺพิโก ปสีทิตฺวา ‘‘อนคฺโฆ ปุริโส ยตฺถ กตฺถจิ ชีวิตุํ สมตฺโถ’’ติ อตฺตโน วยปฺปตฺตํ ธีตรํ ตสฺส ทตฺวา ‘‘เคหมสฺส กโรถา’’ติ ปุริเส อาณาเปตฺวา นิฏฺิเต เคเห ‘‘คจฺฉถ ตุมฺเห, อตฺตโน เคเห วสถา’’ติ อาห. อถสฺส เคหปวิสนกาเล เอเกน ปาเทน อุมฺมาเร อกฺกนฺตมตฺเต เคหสฺส ปจฺฉิมภาเค ภูมิฏฺาเน อสีติหตฺโถ สุวณฺณปพฺพโต อุฏฺหิ. ราชา กิร ชฏิลสฺส เคเห ภูมึ ภินฺทิตฺวา สุวณฺณปพฺพโต อุฏฺิโตติ สุตฺวา ตสฺส เสฏฺิฉตฺตํ เปเสสิ. โส ชฏิลเสฏฺิ นาม อโหสีติ อยมสฺส ปฺุวโต อิทฺธิ.
เมณฺฑกสฺส เสฏฺิสฺส ปฺุวโต อิทฺธีติ (มหาว. ๒๙๖) เมณฺฑโก นาม วิปสฺสิมฺหิ ภควติ กตาธิกาโร มคธรฏฺเ ภทฺทิยนคเร เสฏฺิ. ตสฺส กิร ปจฺฉิมเคเห อฏฺกรีสมตฺเต าเน หตฺถิอสฺสอุสภปฺปมาณา สุวณฺณเมณฺฑกา ปถวึ ภินฺทิตฺวา ปิฏฺิยา ปิฏฺึ ปหรมานา อุฏฺหึสุ, เตสํ มุเขสุ ปฺจวณฺณานํ สุตฺตานํ เคณฺฑุกา ปกฺขิตฺตา โหนฺติ. สปฺปิเตลมธุผาณิตาทีหิ จ วตฺถจฺฉาทนหิรฺสุวณฺณาทีหิ จ อตฺเถ สติ เตสํ มุขโต เคณฺฑุกํ อปเนนฺติ. เอกสฺสปิ เมณฺฑกสฺส มุขโต สกลชมฺพุทีปวาสีนํ ปโหนกํ สปฺปิเตลมธุผาณิตวตฺถจฺฉาทนหิรฺสุวณฺณํ นิกฺขมติ. ตโต ปฏฺาเยส เมณฺฑกเสฏฺีติ ปฺายีติ อยมสฺส ปฺุวโต อิทฺธิ.
โฆสิตสฺส ¶ คหปติสฺส ปฺุวโต อิทฺธีติ โฆสิโต (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๖๐-๒๖๑) นาม ปจฺเจกสมฺพุทฺเธ กตาธิกาโร สกฺกรฏฺเ โกสมฺพิยํ เสฏฺิ. โส กิร เทวโลกโต จวิตฺวา โกสมฺพิยํ นครโสภินิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺติ. สา ตํ วิชาตทิวเส สุปฺเป สยาเปตฺวา สงฺการกูเฏ ฉฑฺฑาเปสิ. ทารกํ กากสุนขา ปริวาเรตฺวา นิสีทึสุ. เอโก ปุริโส ตํ ทิสฺวาว ปุตฺตสฺํ ปฏิลภิตฺวา ‘‘ปุตฺโต เม ลทฺโธ’’ติ เคหํ เนสิ. ตทา โกสมฺพิกเสฏฺิ ปุโรหิตํ ทิสฺวา ‘‘กึ, อาจริย, อชฺช เต ติถิกรณนกฺขตฺตาทโย โอโลกิตา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, มหาเสฏฺี’’ติ วุตฺเต ‘‘ชนปทสฺส กึ ภวิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อิมสฺมึ นคเร อชฺช ชาตทารโก เชฏฺเสฏฺิ ภวิสฺสตี’’ติ อาห. ตทา เสฏฺิโน ภริยา ครุคพฺภา ¶ โหติ, ตสฺมา โส สีฆํ เคหํ เปเสสิ ‘‘คจฺฉ, ชานาหิ นํ วิชาตา วา, น ¶ วา’’ติ. ‘‘น วิชาตา’’ติ สุตฺวา เคหํ คนฺตฺวา กาฬึ นาม ทาสึ ปกฺโกสิตฺวา สหสฺสํ ทตฺวา ‘‘คจฺฉ, อิมสฺมึ นคเร อุปธาเรตฺวา อชฺช ชาตทารกํ คณฺหิตฺวา เอหี’’ติ อาห. สา อุปธาเรนฺตี ตํ เคหํ คนฺตฺวา ตํ ทารกํ ตํ ทิวสํ ชาตํ ตฺวา สหสฺสํ ทตฺวา อาเนตฺวา เสฏฺิโน ทสฺเสสิ. เสฏฺิ ‘‘สเจ เม ธีตา ชายิสฺสติ, ตาย นํ สทฺธึ นิวาเสตฺวา เสฏฺิฏฺานสฺส สามิกํ กริสฺสามิ. สเจ ปุตฺโต ชายิสฺสติ, ฆาเตสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ตํ เคเห วฑฺฒาเปสิ.
อถสฺส ภริยา กติปาหจฺจเยน ปุตฺตํ วิชายิ. เสฏฺิ ‘‘อิมสฺมึ อสติ มม ปุตฺโต เสฏฺิฏฺานํ ลภิสฺสติ. อิทาเนว นํ มาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ กาฬึ อามนฺเตตฺวา ‘‘คจฺฉ เช, วชโต คุนฺนํ นิกฺขมนเวลาย วชทฺวารมชฺเฌ อิมํ ติริยํ นิปชฺชาเปหิ, คาวิโย นํ มทฺทิตฺวา มาเรสฺสนฺติ, มทฺทิตามทฺทิตภาวํ ปนสฺส ตฺวา เอหี’’ติ อาห. สา คนฺตฺวา โคปาลเกน วชทฺวาเร วิวฏมตฺเตเยว ตํ ตถา นิปชฺชาเปสิ. โคคณเชฏฺโก อุสโภ อฺสฺมึ กาเล สพฺพปจฺฉา นิกฺขมนฺโตปิ ตํทิวสํ สพฺพปมํ นิกฺขมิตฺวา ทารกํ จตุนฺนํ ปาทานํ อนฺตเร กตฺวา อฏฺาสิ. อเนกสตา คาโว อุสภสฺส ทฺเว ปสฺสานิ ฆํสนฺติโย นิกฺขมึสุ. โคปาลโกปิ ‘‘อยํ อุสโภ ปุพฺเพ สพฺพปจฺฉา นิกฺขมติ, อชฺช ปน ปมํ นิกฺขมิตฺวา ทฺวารมชฺเฌ นิจฺจโลว ิโต, กึ นุ โข เอต’’นฺติ จินฺเตตฺวา คนฺตฺวา ตสฺส เหฏฺา นิปนฺนํ ทารกํ ทิสฺวา ปุตฺตสิเนหํ ปฏิลภิตฺวา ‘‘ปุตฺโต เม ลทฺโธ’’ติ เคหํ เนสิ.
กาฬี คนฺตฺวา เสฏฺินา ปุจฺฉิตา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘คจฺฉ, นํ ปุน อิมํ สหสฺสํ ทตฺวา อาเนหี’’ติ วุตฺตา ปุน อาเนตฺวา อทาสิ. อถ นํ เสฏฺิ อาห – ‘‘อมฺม กาฬิ, อิมสฺมึ นคเร ปฺจสกฏสตานิ ปจฺจูสกาเล อุฏฺาย วาณิชฺชาย คจฺฉนฺติ, ตฺวํ อิมํ เนตฺวา ¶ จกฺกมคฺเค นิปชฺชาเปหิ, โคณา วา นํ มทฺทิสฺสนฺติ, จกฺกํ วา ฉินฺทิสฺสติ, ปวตฺติฺจสฺส ตฺวา อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ. สา คนฺตฺวา จกฺกมคฺเค นิปชฺชาเปสิ. สากฏิกเชฏฺโก ปุรโต อโหสิ. อถสฺส โคณา ตํ านํ ปตฺวา ธุรํ ฉฑฺเฑสุํ, ปุนปฺปุนํ อาโรเปตฺวา ปาชิยมานาปิ ปุรโต น คจฺฉึสุ. เอวํ ตสฺส เตหิ สทฺธึ วายมนฺตสฺเสว อรุณํ อุฏฺหิ. โส ‘‘กึ นาม โคณา กรึสู’’ติ มคฺคํ โอโลเกนฺโต ทารกํ ทิสฺวา ‘‘ภาริยํ วต ¶ กมฺม’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘ปุตฺโต เม ลทฺโธ’’ติ ตุฏฺมานโส ตํ เคหํ เนสิ.
กาฬีปิ คนฺตฺวา เสฏฺินา ปุจฺฉิตา ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘คจฺฉ, นํ ปุน สหสฺสํ ทตฺวา อาเนหี’’ติ วุตฺตา ตถา อกาสิ. อถ นํ เสฏฺิ อาห – ‘‘อิทานิ นํ อามกสุสานํ เนตฺวา คจฺฉนฺตเร นิปชฺชาเปหิ, ตตฺถ สุนขาทีหิ ขาทิโต, อมนุสฺเสน วา ปหโฏ มริสฺสติ, มตามตภาวฺจสฺส ¶ ชานิตฺวา อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ. สา ตํ เนตฺวา ตตฺถ นิปชฺชาเปตฺวา เอกมนฺเต อฏฺาสิ. ตํ สุนขาทโย วา อมนุสฺโส วา อุปสงฺกมิตุํ นาสกฺขึสุ. อเถโก อชปาโล อชา โคจรํ เนนฺโต สุสานปสฺเสน คจฺฉติ. เอกา อชา ปณฺณานิ ขาทมานา คจฺฉนฺตรํ ปวิสิตฺวา ทารกํ ทิสฺวา ชณฺณุเกหิ ตฺวา ทารกสฺส ถนํ อทาสิ. อชปาลเกน ‘‘เห เห’’ติ สทฺเท กเตปิ น นิกฺขมิ. โส ‘‘ยฏฺิยา นํ ปหริตฺวา นีหริสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺตรํ ปวิฏฺโ ชณฺณุเกหิ ตฺวา ทารกํ ขีรํ ปายนฺตึ ทิสฺวา ทารเก ปุตฺตสิเนหํ ปฏิลภิตฺวา ‘‘ปุตฺโต เม ลทฺโธ’’ติ อาทาย ปกฺกามิ.
กาฬี คนฺตฺวา เสฏฺินา ปุจฺฉิตา ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘คจฺฉ, นํ ปุน สหสฺสํ ทตฺวา อาเนหี’’ติ วุตฺตา ตถา อกาสิ. อย นํ เสฏฺิ อาห – ‘‘อมฺม, อิมํ อาทาย โจรปปาตปพฺพตํ อภิรุหิตฺวา ปปาเต ขิป, ปพฺพตกุจฺฉิยํ ปฏิหฺมาโน ขณฺฑาขณฺฑิโก หุตฺวา ภูมิยํ ปติสฺสติ, มตามตภาวฺจสฺส ตฺวา อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ. สา ตํ ตถา เนตฺวา ปพฺพตมตฺถเก ตฺวา ขิปิ. ตํ โข ปน ปพฺพตกุจฺฉึ นิสฺสาย มหาเวฬุคุมฺโพ ปพฺพตานุสาเรเนว วฑฺฒิ, ตสฺส มตฺถกํ ฆนชาโต ชิฺชุกคุมฺโพ อวตฺถริ. ทารโก ปตนฺโต โกชเว วิย ตสฺมึ ปติ. ตํ ทิวสฺจ นฬการเชฏฺกสฺส เวณุพลิ ปตฺโต โหติ. โส ปุตฺเตน สทฺธึ คนฺตฺวา ตํ เวฬุคุมฺพํ ฉินฺทิตุํ อารภิ. ตสฺมึ จลิเต ทารโก สทฺทมกาสิ. โส ทารกสทฺโท วิยาติ เอเกน ปสฺเสน อภิรุหิตฺวา ตํ ทิสฺวา ‘‘ปุตฺโต เม ลทฺโธ’’ติ ตุฏฺจิตฺโต อาทาย คโต. กาฬี คนฺตฺวา เสฏฺินา ปุจฺฉิตา ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘คจฺฉ, นํ ปุน สหสฺสํ ทตฺวา อาเนหี’’ติ วุตฺตา ตถา อกาสิ.
เสฏฺิโน อิทฺจิทฺจ กโรนฺตสฺเสว ทารโก วฑฺฒิโต. มหาโฆสวจนตฺตา จสฺส โฆสิโตเตว นามํ อโหสิ. โส เสฏฺิโน อกฺขิมฺหิ ¶ ¶ กณฺฏโก วิย ขายิ, อุชุกํ โอโลเกตุมฺปิ น วิสหิ. อถสฺส มรณูปายํ จินฺเตนฺโต อตฺตโน กุมฺภการสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตสฺส ‘‘กทา อาวาปํ อาลิมฺเปสฺสสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สฺเว’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ อิทํ สหสฺสํ คณฺหิตฺวา มเมกํ กมฺมํ กโรหี’’ติ อาห. ‘‘กึ สามี’’ติ? ‘‘เอโก เม อวชาตปุตฺโต อตฺถิ, ตํ ตว สนฺติกํ เปสิสฺสามิ, อถ นํ คพฺภํ ปเวเสตฺวา ติณฺหาย วาสิยา ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺทิตฺวา จาฏิยํ ปกฺขิปิตฺวา อาวาเป ปเวเสยฺยาสีติ. อิทํ เต สหสฺสํ สจฺจการสทิสํ, อุตฺตรึ ปน เต กตฺตพฺพยุตฺตกํ ปจฺฉา กริสฺสามี’’ติ. กุมฺภกาโร ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ.
เสฏฺิ ปุนทิวเส โฆสิตํ ปกฺโกสิตฺวา ‘‘หิยฺโย มยา กุมฺภกาโร เอกํ กมฺมํ อาณตฺโต, เอหิ ¶ , ตฺวํ ตาต, ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา เอวํ วเทหิ ‘หิยฺโย กิร เม ปิตรา อาณตฺตํ กมฺมํ นิปฺผาเทหี’’’ติ ปหิณิ. โส ‘‘สาธู’’ติ อคมาสิ. ตํ ตตฺถ คจฺฉนฺตํ อิตโร เสฏฺิโน ปุตฺโต ทารเกหิ สทฺธึ คุฬกกีฬํ กีฬนฺโต ทิสฺวา ปกฺโกสิตฺวา ‘‘กุหึ คจฺฉสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ปิตุ สาสนํ คเหตฺวา ‘‘กุมฺภการสฺส สนฺติก’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อหํ ตตฺถ คมิสฺสามิ, อิเม มํ ทารกา พหุลกฺขํ ชินึสุ, ตํ เม ปฏิชินิตฺวา เทหี’’ติ อาห. ‘‘อหํ ปิตุ ภายามี’’ติ. ‘‘มา ภายิ, ภาติก, อหํ ตํ สาสนํ หริสฺสามี’’ติ. ‘‘พหูหิ ชิโต ยาวาหํ อาคจฺฉามิ, ตาว เม ลกฺขํ ปฏิชินาหี’’ติ. โฆสิโต กิร คุฬกกีฬายํ เฉโก, เตน นํ เอวํ นิพนฺธิ. โสปิ ตํ ‘‘เตน หิ คนฺตฺวา กุมฺภการํ วเทหิ ‘ปิตรา กิร เม หิยฺโย เอกํ กมฺมํ อาณตฺตํ, ตํ นิปฺผาเทหี’’’ติ อุยฺโยเชสิ. โส ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตถา อวจ. อถ นํ กุมฺภกาโร เสฏฺินา วุตฺตนิยาเมน มาเรตฺวา อาวาเป ขิปิ. โฆสิโตปิ ทิวสภาคํ กีฬิตฺวา สายนฺหสมเยว เคหํ คนฺตฺวา ‘‘กึ, ตาต, น คโตสี’’ติ วุตฺเต อตฺตโน อคตการณฺจ กนิฏฺสฺส คตการณฺจ อาโรเจสิ. เสฏฺิ ‘‘ธี ธี’’ติ มหาวิรวํ วิรวิตฺวา สกลสรีเร ปกฺกุถิตโลหิโต วิย หุตฺวา ‘‘อมฺโภ กุมฺภการ, มา นาสยิ, มา นาสยี’’ติ พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺโต ตสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. กุมฺภกาโร ตํ ตถา อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘สามิ, มา สทฺทํ กริ, กมฺมํ นิปฺผนฺน’’นฺติ อาห. โส ปพฺพเตน วิย มหนฺเตน โสเกน อวตฺถโฏ หุตฺวา อนปฺปกํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทสิ.
เอวํ ¶ ¶ สนฺเตปิ ปน เสฏฺิ ตํ อุชุกํ โอโลเกตุํ น สกฺโกติ. ‘‘กินฺติ นํ มาเรยฺย’’นฺติ จินฺเตนฺโต ‘‘มม คามสเต อายุตฺตกสฺส สนฺติกํ เปเสตฺวา มาราเปสฺสามี’’ติ อุปายํ ทิสฺวา ‘‘อยํ เม อวชาตปุตฺโต, อิมํ มาเรตฺวา วจฺจกูเป ขิปตุ, เอวฺจ กเต อหํ มาตุลสฺส กตฺตพฺพยุตฺตกํ ชานิสฺสามี’’ติ ตสฺส ปณฺณํ ลิขิตฺวา ‘‘ตาต โฆสิต, อมฺหากํ คามสเต อายุตฺตโก อตฺถิ, อิมํ ปณฺณํ หริตฺวา ตสฺส เทหี’’ติ วตฺวา ปณฺณํ ตสฺส ทุสฺสนฺเต พนฺธิ. โส ปน อกฺขรสมยํ น ชานาติ. ทหรกาลโต ปฏฺาย หิ ตํ มาราเปนฺโตว เสฏฺิ มาเรตุํ นาสกฺขิ, กึ อกฺขรสมยํ สิกฺขาเปสฺสติ. โส อตฺตโน มรณปณฺณเมว ทุสฺสนฺเต พนฺธิตฺวา นิกฺขมนฺโต อาห – ‘‘ปาเถยฺยํ เม, ตาต, นตฺถี’’ติ. ‘‘ปาเถยฺเยน กมฺมํ นตฺถิ, อนฺตรามคฺเค อสุกคาเม นาม มม สหายโก เสฏฺิ อตฺถิ, ตสฺส ฆเร ปาตราสํ กตฺวา ปุรโต คจฺฉา’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ ปิตรํ วนฺทิตฺวา นิกฺขนฺโต ตํ คามํ ปตฺวา เสฏฺิฆรํ ปุจฺฉิตฺวา คนฺตฺวา เสฏฺิชายํ ปสฺสิ. ‘‘กุโต อาคโตสี’’ติ จ วุตฺเต ‘‘อนฺโตนครโต’’ติ อาห. ‘‘กสฺส ปุตฺโตสี’’ติ? ‘‘ตุมฺหากํ สหายเสฏฺิโน, อมฺมา’’ติ. ‘‘ตฺวํสิ โฆสิโต นามา’’ติ? ‘‘อาม, อมฺมา’’ติ. ตสฺสา สห ทสฺสเนเนว ตสฺมึ ปุตฺตสิเนโห อุปฺปชฺชิ. เสฏฺิโน ปเนกา ธีตา ¶ อตฺถิ ปนฺนรสโสฬสวสฺสุทฺเทสิกา อภิรูปา ปาสาทิกา, ตํ รกฺขิตุํ เอกเมว เปสนการิกํ ทาสึ ทตฺวา สตฺตภูมิกสฺส ปาสาทสฺส อุปริมตเล สิริคพฺเภ วสาเปนฺติ. เสฏฺิธีตา ตสฺมึ ขเณ ตํ ทาสึ อนฺตราปณํ เปเสสิ. อถ นํ เสฏฺิชายา ทิสฺวา ‘‘กุหึ คจฺฉสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อยฺยธีตาย เปสเนนา’’ติ วุตฺเต ‘‘อิโต ตาว เอหิ, ติฏฺตุ เปสนํ, ปุตฺตสฺส เม ปีกํ อตฺถริตฺวา อุทกํ อาหริตฺวา ปาเท โธวิตฺวา เตลํ มกฺขิตฺวา สยนํ อตฺถริตฺวา เทหิ, ปจฺฉา เปสนํ กริสฺสสี’’ติ อาห. สา ตถา อกาสิ.
อถ นํ จิเรนาคตํ เสฏฺิธีตา สนฺตชฺเชสิ. อถ นํ สา อาห – ‘‘มา เม กุชฺฌิ, เสฏฺิปุตฺโต โฆสิโต อาคโต, ตสฺส อิทฺจิทฺจ กตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา อาคตามฺหี’’ติ. เสฏฺิธีตาย ‘‘เสฏฺิปุตฺโต โฆสิโต’’ติ นามํ สุตฺวาว ปุพฺพสนฺนิวาสวเสน เปมํ ฉวิอาทีนิ ฉินฺทิตฺวา อฏฺิมิฺชํ อาหจฺจ ิตํ. อถ นํ ปุจฺฉิ ‘‘กุหึ โส อมฺมา’’ติ? ‘‘สยเน ¶ นิปนฺโน นิทฺทายตี’’ติ ¶ . ‘‘อตฺถิ ปนสฺส หตฺเถ กิฺจี’’ติ? ‘‘ทุสฺสนฺเต ปณฺณํ อตฺถี’’ติ. สา ‘‘กึ ปณฺณํ นุ โข เอต’’นฺติ ตสฺมึ นิทฺทายนฺเต มาตาปิตูนํ อฺวิหิตตาย อปสฺสนฺตานํ โอตริตฺวา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ ปณฺณํ โมเจตฺวา อาทาย อตฺตโน คพฺภํ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ปิธาย วาตปานํ วิวริตฺวา อกฺขรสมเย กุสลตาย ตํ ปณฺณํ วาเจตฺวา ‘‘อโห วต พาโล อตฺตโน มรณปณฺณํ ทุสฺสนฺเต พนฺธิตฺวา วิจรติ, สเจ มยา น ทิฏฺํ อสฺส, นตฺถิ ตสฺส ชีวิต’’นฺติ. ตํ ปณฺณํ ผาเลตฺวา นาเสตฺวา เสฏฺิสฺส วจเนน อปรํ ปณฺณํ ลิขิ – ‘‘อยํ มม ปุตฺโต โฆสิโต นาม, คามสตโต ปณฺณาการํ อาหราเปตฺวา อิมสฺส ชนปทเสฏฺิโน ธีตรา สทฺธึ มงฺคลํ กตฺวา อตฺตโน วสนคามสฺส มชฺเฌ ทฺวิภูมิกํ เคหํ กาเรตฺวา ปาการปริกฺเขเปน เจว ปุริสคุตฺตีหิ จ สุสํวิหิตารกฺขํ กโรตุ, มยฺหํ อิทฺจิทฺจ มยา กตนฺติ สาสนํ เปเสตุ. เอวํ กเต อหํ มาตุลสฺส กตฺตพฺพยุตฺตกํ ชานิสฺสามี’’ติ ลิขิตฺวา จ ปณฺณํ สงฺฆริตฺวา ทุสฺสนฺเตเยวสฺส พนฺธิ.
โส ทิวสภาคํ นิทฺทายิตฺวา อุฏฺาย ภฺุชิตฺวา ปกฺกามิ, ปุนทิวเส ปาโตว ตํ คามํ คนฺตฺวา อายุตฺตกํ คามกิจฺจํ กโรนฺตเมว ปสฺสิ. โส ตํ ทิสฺวา ‘‘กึ ตาตา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ปิตรา เม ตุมฺหากํ ปณฺณํ เปสิต’’นฺติ วุตฺเต ปณฺณํ คเหตฺวา วาเจตฺวา ตุฏฺมานโส ‘‘ปสฺสถ, โภ, มม สามิโน มยิ สิเนหํ กตฺวา เชฏฺปุตฺตสฺส มงฺคลํ กโรตู’’ติ มม สนฺติกํ ปหิณิ. ‘‘สีฆํ ทารุอาทีนิ อาหรถา’’ติ คหปติเก อาณาเปตฺวา คามมชฺเฌ วุตฺตปฺปการํ เคหํ การาเปตฺวา คามสตโต ปณฺณาการํ อาหราเปตฺวา ชนปทเสฏฺิโน ธีตรํ อาเนตฺวา มงฺคลํ กตฺวา เสฏฺิสฺส สาสนํ ปหิณิ ‘‘อิทฺจิทฺจ มยา กต’’นฺติ.
ตํ ¶ สุตฺวา เสฏฺิโน ‘‘ยํ กาเรมิ, ตํ น โหติ. ยํ น กาเรมิ, ตํ โหตี’’ติ มหนฺตํ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชิ. ปุตฺตโสเกน สทฺธึ โส โสโก เอกโต หุตฺวา กุจฺฉิทาหํ อุปฺปาเทตฺวา อติสารํ ชเนสิ. เสฏฺิธีตาปิ ‘‘สเจ โกจิ เสฏฺิโน สนฺติกา อาคจฺฉติ, มม อกเถตฺวา เสฏฺิปุตฺตสฺส ปมตรํ มา กเถถา’’ติ อาณาเปสิ. เสฏฺิปิ โข ‘‘น ทานิ ทุฏฺปุตฺตํ มม สาปเตยฺยสฺส สามิกํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เอกํ อายุตฺตกํ อาห – ‘‘มาตุล, ปุตฺตํ เม ทฏฺุกาโมมฺหิ, เอกํ ปาทมูลิกํ เปเสตฺวา ¶ เอกํ ปณฺณํ ลิขิตฺวา เปเสตฺวา มม ปุตฺตํ ปกฺโกสาเปหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ ปณฺณํ ทตฺวา เอกํ ปุริสํ เปเสสิ. เสฏฺิธีตา เสฏฺิสฺส พลวคิลานกาเล โฆสิตกุมารํ อาทาย อคมาสิ. เสฏฺิ กาลมกาสิ. ราชา ¶ ปิตริ กาลงฺกเต ปิตรา ภุตฺตโภคํ ทตฺวา สพฺพสเตน เสฏฺิฏฺานํ อทาสิ. โฆสิตเสฏฺิ นาม หุตฺวา มหาสมฺปตฺติยํ ิโต เสฏฺิธีตาย กาฬิยา วจเนน อาทิโต ปฏฺาย สตฺตสุ าเนสุ อตฺตโน มรณมุตฺตภาวํ ตฺวา เทวสิกํ สตสหสฺสํ วิสฺสชฺเชตฺวา ทานํ ปฏฺเปสีติ. เอวมสฺส สตฺตสุ าเนสุ อโรคภาโว ปฺุวโต อิทฺธิ. ตตฺถ คหนฺติ เคหํ วุจฺจติ, คเห ปติ คหปติ. มหาสาลกุเล อธิปติสฺเสตํ นามํ. เกสุจิ โปตฺถเกสุ โฆสิตานนฺตรํ เมณฺฑโก ลิขิโต.
ปฺจนฺนํ มหาปฺุานํ ปฺุวโต อิทฺธีติ เอตฺถ ปฺุิทฺธิ ปฺจนฺนํ มหาปฺุานํ ทฏฺพฺพาติ อตฺโถ. ปฺจ มหาปฺุา นาม เมณฺฑกเสฏฺิ, ตสฺส ภริยา จนฺทปทุมา, ปุตฺโต ธนฺจยเสฏฺิ, สุณิสา สุมนเทวี, โทโส ปุณฺโณ นามาติ อิเม ปฺจ ชนา ปจฺเจกสมฺพุทฺเธ กตาธิการา. เตสุ เมณฺฑกเสฏฺิ อฑฺฒเตรสานิ โกฏฺสตานิ โสธาเปตฺวา สีสํ นฺหาโต ทฺวาเร นิสีทิตฺวา อุทฺธํ อุลฺโลเกติ, อากาสโต รตฺตสาลิธารา โอปติตฺวา สพฺพโกฏฺเ ปูเรติ. ตสฺส ภริยา ตณฺฑุลํ เอกนาฬิมตฺตํ คเหตฺวา ภตฺตํ ปจาเปตฺวา เอกสฺมึ สูปพฺยฺชนเก สูปํ กาเรตฺวา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา ทฺวารโกฏฺเก ปฺตฺตาสเน นิสีทิตฺวา ‘‘สพฺเพ ภตฺเตน อตฺถิกา อาคจฺฉนฺตู’’ติ โฆสาเปตฺวา ปกฺโกสาเปตฺวา สุวณฺณกฏจฺฉุํ อาทาย อาคตาคตานํ อุปนีตภาชนานิ ปูเรตฺวา เทติ, สกลทิวสมฺปิ เทนฺติยา กฏจฺฉุนา สกึ คหิตฏฺานมตฺตเมว ปฺายติ. ตสฺส ปุตฺโต สีสํ นฺหาโต สหสฺสตฺถวิกํ อาทาย ‘‘กหาปเณหิ อตฺถิกา อาคจฺฉนฺตู’’ติ โฆสาเปตฺวา อาคตาคตานํ คหิตภาชนานิ ปูเรตฺวา เทติ. ถวิกาย กหาปณสหสฺสเมว โหติ. ตสฺส สุณิสา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา จตุโทณิกํ วีหิปิฏกํ อาทาย อาสเน นิสินฺนา ‘‘พีชภตฺเตน อตฺถิกา อาคจฺฉนฺตู’’ติ โฆสาเปตฺวา อาคตาคตานํ คหิตภาชนานิ ปูเรตฺวา เทติ, ปิฏกํ ยถาปูริตเมว โหติ. ตสฺส ทาโส สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต สุวณฺณยุเค ¶ สุวณฺณโยตฺเตหิ โคเณ โยเชตฺวา สุวณฺณปโตทยฏฺึ อาทาย โคณานํ คนฺธปฺจงฺคุลิกานิ ทตฺวา วิสาเณสุ สุวณฺณโกสเก ปฏิมฺุจิตฺวา เขตฺตํ คนฺตฺวา ปาเชติ ¶ , อิโต ติสฺโส, อิโต ติสฺโส, มชฺเฌ เอกาติ สตฺต สีตาโย ภิชฺชิตฺวา คจฺฉนฺติ. ชมฺพุทีปวาสิโน ภตฺตพีชหิรฺสุวณฺณาทีสุ ยถารุจิตํ เสฏฺิเคหโตเยว คณฺหึสุ. อนุกฺกเมน ปน ภทฺทิยนครํ อนุปฺปตฺเต ภควติ ภควโต ธมฺมเทสนาย ปฺจ มหาปฺุา จ ธนฺจยเสฏฺิสฺส ธีตา วิสาขา จ โสตาปตฺติผลํ ปาปุณึสุ. อยํ ปน เนสํ ปฺจนฺนํ มหาปฺุานํ ปฺุวโต อิทฺธิ. สงฺเขเปน ปน ปริปากคเต ปฺุสมฺภาเร อิชฺฌนกวิเสโส ปฺุวโต อิทฺธิ.
วิชฺชามยิทฺธินิทฺเทเส ¶ อิชฺฌนาการํ คนฺธาริวิชฺชํ วา อุปจารสิทฺธํ ปตฺถิตสิทฺธํ อฺํ วา วิชฺชํ ธาเรนฺตีติ วิชฺชาธรา. วิชฺชํ ปริชปฺเปตฺวาติ ยโถปจารํ วิชฺชํ มุเขน ปริวตฺเตตฺวา. เสสํ วุตฺตตฺถเมวาติ.
สมฺมาปโยคิทฺธินิทฺเทเส อิชฺฌนาการมตฺตํ ปุจฺฉิตฺวา อฺสฺส วิเสสสฺส อภาวโต ‘‘กตมา’’ติ อปุจฺฉิตฺวา ปการมตฺตเมว ปุจฺฉนฺเตน ‘‘กถ’’นฺติ ปุจฺฉา กตา, ตเถว ‘‘เอว’’นฺติ นิคมนํ กตํ. เอตฺถ จ ปฏิปตฺติสงฺขาตสฺเสว สมฺมาปโยคสฺส ทีปนวเสน ปุริมปาฬิสทิสาว ปาฬิ อาคตา. อฏฺกถายํ ปน สกฏพฺยูหาทิกรณวเสน ยํกิฺจิ สํวิทหนํ ยํกิฺจิ สิปฺปกมฺมํ ยํกิฺจิ เวชฺชกมฺมํ ติณฺณํ เวทานํ อุคฺคหณํ ติณฺณํ ปิฏกานํ อุคฺคหณํ, อนฺตมโส กสนวปนาทีนิ อุปาทาย ตํ ตํ กมฺมํ กตฺวา นิพฺพตฺตวิเสโส ตตฺถ ตตฺถ สมฺมาปโยคปจฺจยา อิชฺฌนฏฺเน อิทฺธีติ อาคตาติ.
อิทฺธิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อภิสมยกถา
อภิสมยกถาวณฺณนา
อิทานิ ¶ อิทฺธิกถานนฺตรํ ปรมิทฺธิภูตํ อภิสมยํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย อภิสมยกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ อภิสมโยติ สจฺจานํ อภิมุเขน สมาคโม, ปฏิเวโธติ อตฺโถ. เกน ¶ อภิสเมตีติ กึ วุตฺตํ โหติ? ‘‘เอวํ มหตฺถิโย โข, ภิกฺขเว, ธมฺมาภิสมโย’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๗๔) สุตฺตปเทสุ โย โส อภิสมโยติ วุตฺโต, ตสฺมึ อภิสมเย วตฺตมาเน อภิสเมตา ปุคฺคโล เกน ธมฺเมน สจฺจานิ อภิสเมติ, อภิมุโข หุตฺวา สมาคจฺฉติ, ปฏิวิชฺฌตีติ วุตฺตํ โหตีติ. อยํ ตาว โจทกสฺส ปุจฺฉา. จิตฺเตน อภิสเมตีติ จิตฺตํ วินา อภิสมยาภาวโต ตถา วิสฺสชฺชนํ. หฺจีติอาทิ ปุน โจทนา. หฺจิ ยทีติ อตฺโถ. ‘‘จิตฺเตนา’’ติ วุตฺตตฺตา เตน หิ อฺาณี อภิสเมตีติ อาห. น อฺาณี อภิสเมตีติ จิตฺตมตฺเตเนว อภิสมยาภาวโต ปฏิกฺเขโป. าเณน อภิสเมตีติ ปฏิฺา. ปุน หฺจีติอาทิ ‘‘าเณนา’’ติ วุตฺตตฺตา อฺาณี อจิตฺตโกติ โจทนา. น อจิตฺตโก อภิสเมตีติ อจิตฺตกสฺส อภิสมยาภาวโต ปฏิกฺเขโป. จิตฺเตน จาติอาทิ ปฏิฺา. ปุน หฺจีติอาทิ สพฺพจิตฺตาณสาธารณวเสน โจทนา. เสสโจทนาวิสฺสชฺชเนสุปิ เอเสว นโย.
ปรโต ¶ ปน กมฺมสฺสกตจิตฺเตน จ าเณน จาติ กมฺมสฺสกา สตฺตาติ เอวํ กมฺมสฺสกตาย ปวตฺตจิตฺเตน จ าเณน จ. สจฺจานุโลมิกจิตฺเตน จ าเณน จาติ สจฺจปฏิเวธสฺส อนุกูลตฺตา สจฺจานุโลมิกสงฺขาเตน วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตจิตฺเตน จ วิปสฺสนาาเณน จ. กถนฺติ ยถา อภิสมโย โหติ, ตถา กเถตุกมฺยตา ปุจฺฉา. อุปฺปาทาธิปเตยฺยนฺติ ยสฺมา จิตฺตสฺส อุปฺปาเท อสติ เจตสิกานํ อุปฺปาโท นตฺถิ. อารมฺมณคฺคหณฺหิ จิตฺตํ เตน สห อุปฺปชฺชมานา เจตสิกา กถํ อารมฺมเณ อคฺคหิเต อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ. อภิธมฺเมปิ จิตฺตุปฺปาเทเนว เจตสิกา วิภตฺตา, ตสฺมา มคฺคาณสฺส อุปฺปาเท อธิปติภูตํ จิตฺตนฺติ อตฺโถ. าณสฺสาติ มคฺคาณสฺส. เหตุ ปจฺจโย จาติ ชนโก จ อุปตฺถมฺภโก ¶ จ. ตํสมฺปยุตฺตนฺติ เตน าเณน สมฺปยุตฺตํ. นิโรธโคจรนฺติ นิพฺพานารมฺมณํ. ทสฺสนาธิปเตยฺยนฺติ เสสานํ ทสฺสนกิจฺจาภาวา นิพฺพานทสฺสเน อธิปติภูตํ. จิตฺตสฺสาติ มคฺคสมฺปยุตฺตจิตฺตสฺส. ตํสมฺปยุตฺตนฺติ เตน จิตฺเตน สมฺปยุตฺตํ.
ยสฺมา เอตมฺปิ ปริยายํ, น เกวลํ จิตฺตาเณหิเยว อภิสมโย, อถ โข สพฺเพปิ มคฺคสมฺปยุตฺตจิตฺตเจตสิกา ธมฺมา สจฺจาภิสมยกิจฺจสาธนวเสน ¶ อภิสมโย นาม โหนฺติ, ตสฺมา ตมฺปิ ปริยายํ ทสฺเสตุกาโม กึ นุ เอตฺตโกเยว อภิสมโยติ ปุจฺฉิตฺวา น หีติ ตํ วจนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณติอาทิมาห. ทสฺสนาภิสมโยติ ทสฺสนภูโต อภิสมโย. เอส นโย เสเสสุปิ. สจฺจาติ สจฺจาณานิ. มคฺคาณเมว นิพฺพานานุปสฺสนฏฺเน วิปสฺสนา. วิโมกฺโขติ มคฺควิโมกฺโข. วิชฺชาติ มคฺคาณเมว. วิมุตฺตีติ สมุจฺเฉทวิมุตฺติ. นิพฺพานํ อภิสมียตีติ อภิสมโย, เสสา อภิสเมนฺติ เอเตหีติ อภิสมยา.
ปุน มคฺคผลวเสน อภิสมยํ ภินฺทิตฺวา ทสฺเสตุํ กึ นูติอาทิมาห. ผลกฺขเณ ปเนตฺถ ยสฺมา สมุจฺเฉทนฏฺเน ขเย าณํ น ลพฺภติ, ตสฺมา ปฏิปฺปสฺสทฺธฏฺเน อนุปฺปาเท าณนฺติ วุตฺตํ. เสสํ ปน ยถานุรูปํ เวทิตพฺพนฺติ. อิทานิ ยสฺมา กิเลสปฺปหาเน สติ อภิสมโย โหติ, อภิสมเย จ สติ กิเลสปฺปหานํ โหติ, ตสฺมา โจทนาปุพฺพงฺคมํ กิเลสปฺปหานํ ทสฺเสตุกาโม ยฺวายนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ยฺวายนฺติ โย อยํ มคฺคฏฺโ อริยปุคฺคโล. เอวมาทิกานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ วจนานิ โจทกสฺส ปุจฺฉา. ปุน ¶ อตีเต กิเลเส ปชหตีติ อิทํ โจทนาย โอกาสทานตฺถํ วิสฺสชฺชนํ. ขีณนฺติ ภงฺควเสน ขีณํ. นิรุทฺธนฺติ สนฺตานวเสน ปุนปฺปุนํ อนุปฺปตฺติยา นิรุทฺธํ. วิคตนฺติ วตฺตมานกฺขณโต อปคตํ. วิคเมตีติ อปคมยติ. อตฺถงฺคตนฺติ อภาวํ คตํ. อตฺถงฺคเมตีติ อภาวํ คมยติ. ตตฺถ โทสํ ทสฺเสตฺวา น อตีเต กิเลเส ปชหตีติ ปฏิกฺขิตฺตํ. อนาคตโจทนาย อชาตนฺติ ชาตึ อปฺปตฺตํ. อนิพฺพตฺตนฺติ สภาวํ อปฺปตฺตํ. อนุปฺปนฺนนฺติ อุปฺปาทโต ปภุติ อุทฺธํ น ปฏิปนฺนํ. อปาตุภูตนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนภาเวน จิตฺตสฺส อปาตุภูตํ. อตีตานาคเต ปชหโต ปหาตพฺพานํ นตฺถิตาย อผโล วายาโม อาปชฺชตีติ ตทุภยมฺปิ ปฏิกฺขิตฺตํ. รตฺโต ราคํ ปชหตีติ วตฺตมาเนน ราเคน รตฺโต ตเมว ราคํ ปชหติ. วตฺตมานกิเลเสสุปิ เอเสว นโย. ถามคโตติ ถิรสภาวํ คโต. กณฺหสุกฺกาติ อกุสลา จ กุสลา จ ธมฺมา ยุคนทฺธา สมเมว วตฺตนฺตีติ อาปชฺชตีติ อตฺโถ. สํกิเลสิกาติ เอวํ สํกิเลสานํ สมฺปยุตฺตภาเว สติ สํกิเลเส นิยุตฺตา มคฺคภาวนา โหตีติ อาปชฺชตีติ อตฺโถ. เอวํ ปจฺจุปฺปนฺเน ปชหโต วายาเมน สทฺธึ ปหาตพฺพานํ ¶ ¶ อตฺถิตาย สํกิเลสิกา จ มคฺคภาวนา โหติ, วายาโม จ อผโล โหติ. น หิ ปจฺจุปฺปนฺนานํ กิเลสานํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตตา นาม อตฺถีติ.
น หีติ จตุธา วุตฺตสฺส วจนสฺส ปฏิกฺเขโป. อตฺถีติ ปฏิชานนํ. ยถา กถํ วิยาติ อตฺถิภาวสฺส อุทาหรณทสฺสนตฺถํ ปุจฺฉา. ยถา อตฺถิ, ตํ เกน ปกาเรน วิย อตฺถิ, กึ วิย อตฺถีติ อตฺโถ. เสยฺยถาปีติ ยถา นาม. ตรุณรุกฺโขติ ผลทายกภาวทีปนตฺถํ ตรุณคฺคหณํ. อชาตผโลติ ผลทายกตฺเตปิ สติ ผลคฺคหณโต ปุเรกาลคฺคหณํ. ตเมนนฺติ ตํ รุกฺขํ. เอนนฺติ นิปาตมตฺตํ, ตํ เอตนฺติ วา อตฺโถ. มูลํ ฉินฺเทยฺยาติ มูลโต ฉินฺเทยฺย. อชาตผลาติ อชาตานิ ผลานิ. เอวเมวนฺติ เอวํ เอวํ. อุปฺปาโท ปวตฺตํ นิมิตฺตํ อายูหนาติ จตูหิปิ ปจฺจุปฺปนฺนขนฺธสนฺตานเมว วุตฺตํ. ยสฺมิฺหิ ขนฺธสนฺตาเน ยํ ยํ มคฺคาณํ อุปฺปชฺชติ, เตน เตน มคฺคาเณน ปหาตพฺพานํ กิเลสานํ ตํ ขนฺธสนฺตานํ อพีชํ โหติ, ตสฺส อพีชภูตตฺตา ตปฺปจฺจยา เต เต กิเลสา อนุปฺปนฺนา เอว น อุปฺปชฺชนฺติ. อาทีนวํ ทิสฺวาติ อนิจฺจาทิโต อาทีนวํ ทิสฺวา. อนุปฺปาโทติอาทีหิ จตูหิ นิพฺพานเมว วุตฺตํ. จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ มคฺคสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. เหตุนิโรธา ทุกฺขนิโรโธติ กิเลสานํ พีชภูตสฺส สนฺตานสฺส อนุปฺปาทนิโรธา อนาคตกฺขนฺธภูตสฺส ทุกฺขสฺส เหตุภูตานํ กิเลสานํ ¶ อนุปฺปาทนิโรโธ โหติ. เอวํ ทุกฺขสฺส เหตุภูตกิเลสานํ อนุปฺปาทนิโรธา ทุกฺขสฺส อนุปฺปาทนิโรโธ โหติ. เอวํ กิเลสปฺปหานยุตฺติสพฺภาวโต เอว อตฺถิ มคฺคภาวนาติอาทิมาห. อฏฺกถายํ (วิสุทฺธิ. ๒.๘๓๒) ปน ‘‘เอเตน กึ ทีปิตํ โหติ? ภูมิลทฺธานํ กิเลสานํ ปหานํ ทีปิตํ โหติ. ภูมิลทฺธา ปน กึ อตีตา อนาคตา, อุทาหุ ปจฺจุปฺปนฺนาติ? ภูมิลทฺธุปฺปนฺนาเยว นามา’’ติ วตฺวา กถิตกิเลสปฺปหานสฺส วิตฺถารกถา สุตมยาณกถาย มคฺคสจฺจนิทฺเทสวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา, อิธ ปน มคฺคาเณน ปหาตพฺพา กิเลสาเยว อธิปฺเปตาติ.
อภิสมยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. วิเวกกถา
วิเวกกถาวณฺณนา
๒๒. อิทานิ ¶ ¶ ปหานาวสานาย อภิสมยกถาย อนนฺตรํ ปหานาการํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย วิเวกกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ตาว เย เกจีติ อนวเสสปริยาทานํ. พลกรณียาติ อูรุพเลน พาหุพเลน กตฺตพฺพา. กมฺมนฺตาติ ธาวนลงฺฆนกสนวปนาทีนิ กมฺมานิ. กรียนฺตีติ พลวนฺเตหิ กรียนฺติ. สีลํ นิสฺสายาติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ นิสฺสยํ กตฺวา. ภาเวตีติ ภินฺนสีลสฺส ภาวนาภาวโต อิธ ปน โลกิยโลกุตฺตรา มคฺคภาวนา อธิปฺเปตาติ. วิเวกนิสฺสิตนฺติ ตทงฺควิเวกํ สมุจฺเฉทวิเวกํ นิสฺสรณวิเวกํ นิสฺสิตํ. วิเวโกติ วิวิตฺตตา. อยฺหิ อริยมคฺคภาวนานุยุตฺโต โยคี วิปสฺสนากฺขเณ กิจฺจโต ตทงฺควิเวกนิสฺสิตํ, อชฺฌาสยโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตํ, มคฺคกฺขเณ กิจฺจโต สมุจฺเฉทวิเวกนิสฺสิตํ, อารมฺมณโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตํ ภาเวติ. เอส นโย วิราคนิสฺสิตาทีสุ. วิเวโกเยว หิ วิรชฺชนฏฺเน วิราโค, นิโรธฏฺเน นิโรโธ, โวสชฺชนฏฺเน โวสคฺโค. อถ วา กิเลเสหิ วิวิตฺตตฺตา วิเวโก, กิเลเสหิ วิรตฺตตฺตา วิราโค, กิเลสานํ นิรุทฺธตฺตา นิโรโธ, กิเลสานฺจ ปริจฺจตฺตตฺตา วิสฺสฏฺตฺตา, นิพฺพาเนจตฺตสฺส จ วิสฺสฏฺตฺตา โวสคฺโค. โวสคฺโค ปน ทุวิโธ ปริจฺจาคโวสคฺโค จ ปกฺขนฺทนโวสคฺโค จ. ตตฺถ ปริจฺจาคโวสคฺโคติ วิปสฺสนากฺขเณ ตทงฺควเสน, มคฺคกฺขเณ สมุจฺเฉทวเสน กิเลสปฺปหานํ. ปกฺขนฺทนโวสคฺโคติ วิปสฺสนากฺขเณ ตนฺนินฺนภาเวน, มคฺคกฺขเณ อารมฺมณกรเณน นิพฺพานปกฺขนฺทนํ. ตทุภยมฺปิ อิมสฺมึ ¶ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสเก อตฺถวณฺณนานเย วฏฺฏติ. ตถา หิ อยํ สมฺมาทิฏฺิอาทีสุ เอเกโก ธมฺโม ยถาวุตฺเตน ปกาเรน กิเลเส จ ปริจฺจชติ, นิพฺพานฺจ ปกฺขนฺทติ. โวสคฺคปริณามินฺติ อิมินา ปน สกเลน วจเนน โวสคฺคตฺถํ ปริณามิตํ ปริณตํ, ปริปจฺจิตํ ปริปกฺกฺจาติ วุตฺตํ โหติ. อยมฺปิ อริยมคฺคภาวนานุยุตฺโต ภิกฺขุ ยถา สมฺมาทิฏฺิอาทีสุ เอเกโก ธมฺโม กิเลสปริจฺจาคโวสคฺคตฺถฺจ ¶ นิพฺพานปกฺขนฺทนโวสคฺคตฺถฺจ ปริปจฺจติ, ยถา จ ปริปกฺโก โหติ, ตถา นํ ภาเวติ.
๒๓. พีชคามภูตคามาติ ¶ เอตฺถ มูลพีชํ ขนฺธพีชํ อคฺคพีชํ ผฬุพีชํ พีชพีชนฺติ (ปาจิ. ๙๑) ปฺจวิธํ พีชํ, พีชคาโม นาม พีชสมูโหติ อตฺโถ. ตเทว ปน สมฺปนฺนนีลงฺกุรปาตุภาวโต ปฏฺาย ภูตคาโม นาม, ภูตานํ ชาตานํ นิพฺพตฺตมูลนีลงฺกุรานํ สมูโหติ อตฺโถ. เทวตาปริคฺคเห สติ นีลงฺกุรกาลโต ปภุติ โหตีติ เตสํ เทวตาสงฺขาตานํ ภูตานํ คาโมติปิ ภูตคาโมติ วทนฺติ. วุทฺธินฺติ องฺกุราทิวเสน. วิรุฬฺหินฺติ ขนฺธาทิวเสน. เวปุลฺลนฺติ ปุปฺผาทิวเสน. ธมฺเมสุ ปน วุทฺธินฺติ อปุพฺพธมฺมปฺปวตฺติวเสน. วิรุฬินฺติ สกิจฺจกรณสาธนวเสน. เวปุลฺลนฺติ กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน วิปุลภาวนฺติ อตฺโถ. วิปุลตฺตนฺติปิ ปาโ. อถ วา เอตานิ ตีณิ ปทานิ สีลสมาธิปฺาหิปิ โยเชนฺติ.
มคฺคงฺคนิทฺเทสวณฺณนา
๒๔. สุตฺตนฺตนิทฺเทเส สมฺมาทิฏฺิยาติ สามิวจนํ. ฌานวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพาเนสุ โลกิยวิรติสมฺปยุตฺตจิตฺเต จ ยถาโยคํ สมฺปโยคโต จ อารมฺมณโต จ วตฺตมานาย สมฺมาทิฏฺิยา สามฺลกฺขณโต เอกีภูตาย สมฺมาทิฏฺิยา. วิกฺขมฺภนวิเวโกติ วิกฺขมฺภนวเสน ทูรีกรณวเสน วิเวโก. เกสํ? นีวรณานํ. ตสฺส ปมํ ฌานํ ภาวยโตติอาทิ วิกฺขมฺภนวเสน ปมชฺฌานเมว วุตฺตํ. ตสฺมึ วุตฺเต เสสชฺฌานานิปิ วุตฺตาเนว โหนฺติ. ฌาเนสุปิ สมฺมาทิฏฺิยา วิชฺชมานตฺตา สมฺมาทิฏฺิยา วิเวโก นาม โหติ. ตทงฺควิเวโกติ เตน เตน วิปสฺสนาาณงฺเคน วิเวโก. ทิฏฺิคตานนฺติ ทิฏฺิวิเวกสฺส ทุกฺกรตฺตา ปธานตฺตา จ ทิฏฺิวิเวโกว วุตฺโต. ตสฺมึ วุตฺเต นิจฺจสฺาทิวิเวโกปิ วุตฺโตว โหติ. นิพฺเพธภาคิยํ สมาธินฺติ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตสมาธึ. สมุจฺเฉทวิเวโกติ กิเลสานํ สมุจฺเฉเทน วิเวโก. โลกุตฺตรํ ขยคามิมคฺคนฺติ ขยสงฺขาตนิพฺพานคามิโลกุตฺตรมคฺคํ. ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวโกติ กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา วิเวโก. นิสฺสรณวิเวโกติ สพฺพสงฺขตนิสฺสรณภูโต สงฺขารวิเวโก. ฉนฺทชาโต โหตีติ ปุพฺพภาเค ชาตธมฺมฉนฺโท ¶ โหติ. สทฺธาธิมุตฺโตติ ปุพฺพภาเคเยว สทฺธาย อธิมุตฺโต โหติ. จิตฺตฺจสฺส สฺวาธิฏฺิตนฺติ ปุพฺพภาเคเยว จิตฺตฺจ อสฺส โยคิสฺส สุอธิฏฺิตํ สุฏฺุ ปติฏฺิตํ โหติ. อิติ ฉนฺโท สทฺธา ¶ จิตฺตนฺติ อิเม ตโย ธมฺมา ปุพฺพภาเค อุปฺปนฺนวิเวกานํ ¶ อุปนิสฺสยตฺตา นิสฺสยา นาม. เกจิ ปน ‘‘จิตฺตฺจสฺส สฺวาธิฏฺิตนฺติ สมาธิ วุตฺโต’’ติ วทนฺติ. วิราคาทีสุปิ เอเสว นโย.
นิโรธวาเร ปน นิโรธสทฺทโต อฺํ ปริยายวจนํ ทสฺเสนฺเตน อมตา ธาตูติ วุตฺตํ, เสเสสุ นิโรโธ นิพฺพานนฺติ อุภยตฺถาปิ นิพฺพานเมว. ทฺวาทส นิสฺสยาติ ฉนฺทสทฺธาจิตฺตานิเยว วิเวกาทีสุ จตูสุ เอเกกสฺมึ ตโย ตโย กตฺวา ทฺวาทส นิสฺสยา โหนฺติ.
๒๕. สมฺมาสงฺกปฺปวายามสติสมาธีนมฺปิ อิมินาว นเยน อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา. สมฺมาวาจากมฺมนฺตา ชีวานํ ปน ฌานกฺขเณ วิปสฺสนากฺขเณ จ อภาวา ฌานวิปสฺสนานํ ปุพฺพภาคปรภาควเสน วตฺตมานา วิรติโย ฌานวิปสฺสนา สนฺนิสฺสิตา กตฺวา วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. นีวรณานํ ทิฏฺิคตานฺจ วิเวกวิราคนิโรธปฏินิสฺสคฺคา ตถา ปวตฺตมานานํ วิรตีนํ วิเวกาทโย นามาติ เวทิตพฺพํ. ยถา อฏฺกนิปาเต ‘‘ตโต, ตฺวํ ภิกฺขุ, อิมํ สมาธึ สวิตกฺกํ สวิจารมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, อวิตกฺกวิจารมตฺตมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, อวิตกฺกํ อวิจารมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, สปฺปีติกมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, นิปฺปีติกมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, สาตสหคตมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, อุเปกฺขาสหคตมฺปิ ภาเวยฺยาสี’’ติ (อ. นิ. ๘.๖๓) เมตฺตาทโย กายานุปสฺสนาทโย จ นิยกชฺฌตฺตมูลสมาธิวเสน จตุกฺกปฺจกชฺฌานิกา วิย วุตฺตา, เอวมิธาปิ ปุพฺพภาคปรภาควเสน วิรติโย วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. พฺยฺชนจฺฉายมตฺตํ คเหตฺวา น ภควา อพฺภาจิกฺขิตพฺโพ. คมฺภีรฺหิ พุทฺธวจนํ, อาจริเย ปยิรุปาสิตฺวา อธิปฺปายโต คเหตพฺพํ.
๒๖-๒๗. โพชฺฌงฺคพลอินฺทฺริยวาเรสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.
วิเวกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จริยากถา
จริยากถาวณฺณนา
๒๘-๒๙. อิทานิ ¶ ¶ วิเวกกถานนฺตรํ ปรมวิเวกภูตสฺส นิสฺสรณวิเวกสงฺขาตสฺส นิพฺพานสฺส สจฺฉิกรณียสฺส สจฺฉิกิริโยปายทสฺสนตฺถํ, ตถา ¶ สจฺฉิกตนิโรธสฺส โลกหิตสุขกิริยากรณทสฺสนตฺถฺจ อินฺทฺริยกถาย นิทฺทิฏฺาปิ จริยากถา ปุน กถิตา. ตสฺสา อตฺถวณฺณนา อินฺทฺริยกถาย กถิตาเยวาติ.
จริยากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ปาฏิหาริยกถา
ปาฏิหาริยกถาวณฺณนา
๓๐. อิทานิ ¶ โลกตฺถจริยาปริโยสานาย จริยากถาย อนนฺตรํ โลกตฺถานุสาสนปริโยสานํ ปาฏิหาริยํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย ปาฏิหาริยกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ตาว ปาฏิหาริยานีติ ปจฺจนีกปฏิหรณวเสน ปาฏิหาริยานิ. อิทฺธิปาฏิหาริยนฺติ อิชฺฌนวเสน อิทฺธิ, ปฏิหรณวเสน ปาฏิหาริยํ, อิทฺธิเยว ปาฏิหาริยํ อิทฺธิปาฏิหาริยํ. อิตเรสุ ปน อาทิสฺสนวเสน อาเทสนํ, อนุสาสนวเสน อนุสาสนี. เสสํ วุตฺตนยเมว.
อิธาติ อิมสฺมึ โลเก. เอกจฺโจติ เอโก โปโส. อิทฺธิปาฏิหาริยนิทฺเทโส เหฏฺา วุตฺตตฺโถเยว. นิมิตฺเตน อาทิสตีติ อาคตนิมิตฺเตน วา คตนิมิตฺเตน วา ิตนิมิตฺเตน วา กเถติ. เอวมฺปิ เต มโนติ เอวมฺปิ ตว มโน โสมนสฺสิโต วา โทมนสฺสิโต วา กามวิตกฺกาทิสมฺปยุตฺโต วา. อปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ. อิตฺถมฺปิ เต มโนติ โสมนสฺสิตาทิโต เอเกกวิเธปิ จิตฺเต นานปฺปการปริทีปนํ. อิติปิ เต จิตฺตนฺติ อิติปิ ตว จิตฺตํ, อิมฺจ อิมฺจ อตฺถํ จินฺตยมานํ ปวตฺตตีติ อตฺโถ. พหุํ เจปิ อาทิสตีติ จิตฺตโต อฺํ วา อิทฺจ อิทฺจ นาม อโหสิ ภวติ ภวิสฺสตีติ พหุกมฺปิ กเถติ. ตเถว ตํ โหติ, โน อฺถาติ ตํ สพฺพมฺปิ ยถา ยถา กถิตํ, ตเถว โหติ, อฺถา น โหติ.
น เหว โข นิมิตฺเตน อาทิสตีติ นิมิตฺตํ ชานนฺโตปิ เกวลํ นิมิตฺเตเนว น กเถติ. อปิจาติ อปรปริยายทสฺสนํ. มนุสฺสานนฺติ จิตฺตํ ชานนกมนุสฺสานํ. อมนุสฺสานนฺติ สาวิตานํ วา อสฺสาวิตานํ วา ยกฺขปิสาจาทีนํ. เทวตานนฺติ จาตุมหาราชิกาทีนํ ¶ . สทฺทํ สุตฺวาติ อฺสฺส ¶ จิตฺตํ ตฺวา กเถนฺตานํ สทฺทํ สุณิตฺวา. ปนาติ นิปาโต ปุน อารมฺเภ. วิตกฺกยโตติ ยํ วา ตํ วา วิตกฺเกน วิตกฺเกนฺตสฺส. วิจารยโตติ วิตกฺกสมฺปยุตฺเตเนว วิจาเรน วิจาเรนฺตสฺส. วิตกฺกวิปฺผารสทฺทํ สุตฺวาติ วิตกฺกเวควเสน อุปฺปนฺนํ วิปฺปลปนฺตานํ สุตฺตปฺปมตฺตาทีนํ ¶ กูชนสทฺทํ สุตฺวา. ยํ วิตกฺกยโต โส สทฺโท อุปฺปนฺโน, ตสฺส วเสน ‘‘เอวมฺปิ เต มโน’’ติอาทีนิ อาทิสติ.
อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธินฺติ วิตกฺกวิจารกฺโขภวิรหิตสนฺตจิตฺตสฺสาปิ ชานนสมตฺถตํ ทสฺเสนฺเตน วุตฺตํ, เสสจิตฺตชานเน ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาตีติ เจโตปริยาณลาภี. โภโตติ ภวนฺตสฺส. มโนสงฺขารา ปณิหิตาติ จิตฺตสงฺขารา ปิตา. อมุกํ นาม วิตกฺกํ วิตกฺกยิสฺสตีติ กุสลาทิวิตกฺกํ วิตกฺกยิสฺสติ ปวตฺตยิสฺสตีติ ปชานาติ. ปชานนฺโต จ อาคมเนน ชานาติ, ปุพฺพภาเคน ชานาติ, อนฺโตสมาปตฺติยํ จิตฺตํ โอโลเกตฺวา ชานาติ. อาคมเนน ชานาติ นาม กสิณปริกมฺมกาเลเยว ‘‘เยนากาเรเนส กสิณภาวนํ อารทฺโธ ปมชฺฌานํ วา ทุติยาทิชฺฌานํ วา อฏฺ สมาปตฺติโย วา อุปฺปาเทสฺสตี’’ติ ชานาติ. ปุพฺพภาเคน ชานาติ นาม ปมวิปสฺสนาย อารทฺธาย เอวํ ชานาติ, ‘‘เยนากาเรเนส วิปสฺสนํ อารทฺโธ โสตาปตฺติมคฺคํ วา อุปฺปาเทสฺสติ…เป… อรหตฺตมคฺคํ วา อุปฺปาเทสฺสตี’’ติ ชานาติ. อนฺโตสมาปตฺติยํ จิตฺตํ โอโลเกตฺวา ชานาติ นาม ‘‘เยนากาเรน อิมสฺส มโนสงฺขารา ปิตา, อิมสฺส นาม จิตฺตสฺส อนนฺตรา อิมํ นาม วิตกฺกํ วิตกฺเกสฺสติ, อิโต วุฏฺิตสฺส เอตสฺส หานภาคิโย วา สมาธิ ภวิสฺสติ, ิติภาคิโย วา วิเสสภาคิโย วา นิพฺเพธภาคิโย วา, อภิฺาโย วา อุปฺปาเทสฺสตี’’ติ ชานาติ. พหุํ เจปิ อาทิสตีติ เจโตปริยาณสฺส จิตฺตเจตสิกานํเยว อารมฺมณกรณโต สราคาทิโสฬสปเภทวเสเนว พหุํ เจปิ กเถติ, น อฺวเสนาติ เวทิตพฺพํ. ตเถว ตํ โหตีติ อิทํ เอกํเสน ตเถว โหติ. เจโตปริยาณวเสน าตฺหิ อฺถาภาวี นาม นตฺถิ.
เอวํ วิตกฺเกถาติ เอวํ เนกฺขมฺมวิตกฺกาทโย ปวตฺเตนฺตา วิตกฺเกถ. มา เอวํ วิตกฺกยิตฺถาติ เอวํ กามวิตกฺกาทโย ปวตฺเตนฺตา มา วิตกฺกยิตฺถ ¶ . เอวํ มนสิ กโรถาติ เอวํ อนิจฺจสฺเมว, ทุกฺขสฺาทีสุ วา อฺตรํ มนสิ กโรถ. มา เอวํ มนสากตฺถาติ เอวํ นิจฺจนฺติอาทินา นเยน มา มนสิ อกตฺถ. อิทํ ¶ ปชหถาติ อิทํ ปฺจกามคุณราคาทึ ปชหถ. อิทํ อุปสมฺปชฺช วิหรถาติ อิทํ จตุมคฺคผลปฺปเภทํ โลกุตฺตรธมฺมเมว ปาปุณิตฺวา นิปฺผาเทตฺวา วิหรถ.
๓๑. อิทานิ อิทฺธิปาฏิหาริเย อปรํ ปริยายํ วิเสเสน ทสฺเสนฺโต เนกฺขมฺมํ อิชฺฌตีติ อิทฺธีติอาทิมาห. ตตฺถ กามจฺฉนฺทํ ปฏิหรตีติ อตฺตโน ปฏิปกฺขภูตํ กามจฺฉนฺทํ ปฏิพลํ หุตฺวา ¶ หรติ ปชหตีติ ตเทว เนกฺขมฺมํ ปาฏิหาริยํ นามาติ อตฺโถ. เย เตน เนกฺขมฺเมน สมนฺนาคตาติ เอวํ กามจฺฉนฺทปฏิหารเกน เตน เนกฺขมฺเมน เย ปุคฺคลา ปฏิลาภวเสน สมนฺนาคตา. วิสุทฺธจิตฺตาติ กามจฺฉนฺทาภาวโต วิสุทฺธจิตฺตา. อนาวิลสงฺกปฺปาติ กามสงฺกปฺเปน อนาลุลิตเนกฺขมฺมสงฺกปฺปา. อิติ อาเทสนาปาฏิหาริยนฺติ ปรจิตฺตกุสเลน วา อฺเน วา สมฺมาสมฺพุทฺเธน วา พุทฺธสาวเกหิ วา เอวํ อาเทสนา ปาฏิหาริยนฺติ อตฺโถ. อถ วา อิติ เอวํ อาทิสนํ อาเทสนาปาฏิหาริยนฺติ อาเทสนสทฺโท ปาเสสํ กตฺวา ปยุชฺชิตพฺโพ. เอวํ อาเสวิตพฺพนฺติ อิมินา จ ปกาเรน อิมินา จ ปกาเรน อาทิโต เสวิตพฺพํ. เสสตฺตเยปิ เอเสว นโย. ตทนุธมฺมตา สติ อุปฏฺเปตพฺพาติ ตสฺส เนกฺขมฺมสฺส อนุกูลภูตา สติ ภุสํ เปตพฺพา. อิติ อนุสาสนีปาฏิหาริยนฺติ เอตฺถ อาเทสนาปาฏิหาริยโยชนาย วิย โยชนา กาตพฺพา. อพฺยาปาทาทีสุปิ เอเสว นโย. ปาโ ปน ฌานาทีนิ สงฺขิปิตฺวา อนฺเต อรหตฺตมคฺคเมว ทสฺเสตฺวา ลิขิโต. ตตฺถ จตูสุปิ มคฺเคสุ ‘‘เอวํ อาเสวิตพฺโพ’’ติอาทิ เอกจิตฺตกฺขณิกตฺตา มคฺคสฺส ปุพฺพภาควเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. มคฺคสฺส หิ ปุพฺพภาคภูตาย โลกิยมคฺคสงฺขาตาย วุฏฺานคามินิยา วิปสฺสนาย มคฺคุปฺปาทนตฺถํ อาเสวนาทีสุ กเตสุ ตาย อุปฺปนฺโน มคฺโคปิ อาเสวิโต ภาวิโต พหุลีกโต นาม โหตีติ เวทิตพฺพํ. สพฺพตฺถิกวาทาจริยา ปน ‘‘เอเกกมคฺโค โสฬสกฺขณิโก’’ติ วทนฺติ. ตทนุธมฺมตาสติอุปฏฺาปนํ ปน ปุพฺพภาเค ยุชฺชติเยวาติ.
๓๒. ปุน เนกฺขมฺมํ อิชฺฌตีติ อิทฺธีติอาทีนิ ‘‘อิทฺธิปาฏิหาริย’’นฺติปทสฺส กมฺมธารยสมาสตฺตทีปนตฺถํ วุตฺตานิ. สุตฺตนฺเต วุตฺเตสุ ตีสุ อิทฺธิปาฏิหาริยสฺเสว สมาสตฺเต วุตฺเต เสสานํ ทฺวินฺนมฺปิ วุตฺโตว โหตีติ อิมสฺมึ ¶ ปริยาเย มูลภูตสฺส อิทฺธิปาฏิหาริยสฺเสว สมาสตฺโถ วุตฺโตติ เวทิตพฺพนฺติ.
ปาฏิหาริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สมสีสกถา
สมสีสกถาวณฺณนา
๓๓. อิทานิ ¶ ¶ ปาฏิหาริยกถานนฺตรํ อาทิปาฏิหาริยภูตสฺส อิทฺธิปาฏิหาริยสงฺคหิตสฺส สมสีสิภาวสฺส อิทฺธิปาฏิหาริยภาวทีปนตฺถํ าณกถาย นิทฺทิฏฺาปิ สมสีสกถา อิทฺธิปาฏิหาริยสมฺพนฺเธน ปุน กถิตา. ตสฺสา อตฺถวณฺณนา ตตฺถ กถิตาเยวาติ.
สมสีสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. สติปฏฺานกถา
สติปฏฺานกถาวณฺณนา
๓๔. อิทานิ ¶ สมสีสกถานนฺตรํ อตฺตนา วุตฺตสฺส อิทฺธิปาฏิหาริยสฺส สาธเก สตฺต อนุปสฺสนาวิเสเส ทสฺเสนฺเตน กถิตาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย สติปฏฺานกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ตาว จตฺตาโรติ คณนปริจฺเฉโท, เตน น ตโต เหฏฺา, น อุทฺธนฺติ สติปฏฺานปริจฺเฉทํ ทีเปติ. อิเมติ นิทฺทิสิตพฺพนิทสฺสนํ. ภิกฺขเวติ ธมฺมปฏิคฺคาหกปุคฺคลาลปนํ. สติปฏฺานาติ ตโย สติปฏฺานา สติโคจโรปิ, ติธา ปฏิปนฺเนสุ สาวเกสุ สตฺถุโน ปฏิฆานุนยวีติวตฺตตาปิ, สติปิ. ‘‘จตุนฺนํ, ภิกฺขเว, สติปฏฺานานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ เทเสสฺสามี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๔๐๘) หิ สติโคจโร ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺโต. ตสฺสตฺโถ – ปติฏฺาติ ตสฺมินฺติ ปฏฺานํ. กา ปติฏฺาติ? สติ. สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานนฺติ.
‘‘ตโย สติปฏฺานา ยทริโย เสวติ, ยทริโย เสวมาโน สตฺถา คณมนุสาสิตุมรหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๐๔, ๓๑๑) เอตฺถ ติธา ปฏิปนฺเนสุ สาวเกสุ สตฺถุโน ปฏิฆานุนยวีติวตฺตตา ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตา. ตสฺสตฺโถ – ปฏฺเปตพฺพโต ¶ ปฏฺานํ, ปวตฺตยิตพฺพโตติ อตฺโถ. เกน ปฏฺเปตพฺพโตติ? สติยา. สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานนฺติ. ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา พหุลีกตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๔๗) ปน สติเยว ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตา. ตสฺสตฺโถ – ปติฏฺาตีติ ปฏฺานํ, อุปฏฺาติ โอกฺกนฺทิตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา วตฺตตีติ อตฺโถ. สติเยว ปฏฺานํ สติปฏฺานํ. อถ วา สรณฏฺเน สติ, อุปฏฺานฏฺเน อุปฏฺานํ. อิติ สติ จ สา อุปฏฺานฺจาติปิ สติปฏฺานํ. อิทมิธ อธิปฺเปตํ. ยทิ ¶ เอวํ กสฺมา สติปฏฺานาติ พหุวจนํ กตนฺติ? สติพหุตฺตา. อารมฺมณเภเทน หิ พหุกา ตา สติโยติ.
กตเม จตฺตาโรติ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. ภิกฺขูติ สํสาเร ภยํ อิกฺขตีติ ¶ ภิกฺขุ. เสสปทานํ อตฺถวณฺณนา ปเนตฺถ สุตมยาณกถาย มคฺคสจฺจนิทฺเทสวณฺณนายํ วุตฺตาเยวาติ.
กสฺมา ปน ภควตา จตฺตาโรว สติปฏฺานา วุตฺตา อนูนา อนธิกาติ? เวเนยฺยหิตตฺตา. ตณฺหาจริตทิฏฺิจริตสมถยานิกวิปสฺสนายานิเกสุ หิ มนฺทติกฺขวเสน ทฺเวธา ทฺเวธา ปวตฺเตสุ มนฺทสฺส ตณฺหาจริตสฺส โอฬาริกํ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ วิสุทฺธิมคฺโค, ติกฺขสฺส สุขุมํ เวทนานุปสฺสนาสติปฏฺานํ. ทิฏฺิจริตสฺสาปิ มนฺทสฺส นาติปฺปเภทคตํ จิตฺตานุปสฺสนาสติปฏฺานํ วิสุทฺธิมคฺโค, ติกฺขสฺส อติปฺปเภทคตํ ธมฺมานุปสฺสนาสติปฏฺานํ. สมถยานิกสฺส จ มนฺทสฺส อกิจฺเฉน อธิคนฺตพฺพนิมิตฺตํ ปมํ สติปฏฺานํ วิสุทฺธิมคฺโค, ติกฺขสฺส โอฬาริการมฺมเณ อสณฺหนโต ทุติยํ. วิปสฺสนายานิกสฺสปิ มนฺทสฺส นาติปฺปเภทคตารมฺมณํ ตติยํ, ติกฺขสฺส อติปฺปเภทคตารมฺมณํ จตุตฺถํ. อิติ จตฺตาโรว วุตฺตา อนูนา อนธิกาติ.
สุภสุขนิจฺจอตฺตวิปลฺลาสปฺปหานตฺถํ วา. กาโย หิ อสุโภ, ตตฺถ จ สุภวิปลฺลาสวิปลฺลตฺถา สตฺตา. เตสํ ตตฺถ อสุภภาวทสฺสเนน ตสฺส วิปลฺลาสสฺส ปหานตฺถํ ปมํ สติปฏฺานํ วุตฺตํ. สุขํ นิจฺจํ อตฺตาติ คหิเตสุปิ จ เวทนาทีสุ เวทนา ทุกฺขา, จิตฺตํ อนิจฺจํ, ธมฺมา อนตฺตา, เตสุ จ สุขนิจฺจอตฺตวิปลฺลาสวิปลฺลตฺถา สตฺตา. เตสํ ตตฺถ ทุกฺขาทิภาวทสฺสเนน เตสํ วิปลฺลาสานํ ปหานตฺถํ เสสานิ ตีณิ วุตฺตานีติ ¶ เอวํ สุภสุขนิจฺจอตฺตวิปลฺลาสปฺปหานตฺถํ วา จตฺตาโรว วุตฺตา. น เกวลฺจ วิปลฺลาสปฺปหานตฺถเมว, จตุโรฆโยคาสวคนฺถอุปาทานอคติปฺปหานตฺถมฺปิ จตุพฺพิธาหารปริฺตฺถมฺปิ จตฺตาโรว วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ.
๓๕. (ก) สุตฺตนฺตนิทฺเทเส ปถวีกายนฺติ อิมสฺมึ รูปกาเย ปถวีธาตุ. สกลสรีเร ปน ปถวีธาตูนํ พหุกตฺตา สพฺพปถวีธาตุสงฺคหตฺถํ สมูหตฺเถน กายคฺคหณํ กตํ. อาโปกายาทีสุปิ เอเสว นโย. เกสกายาทีนมฺปิ พหุกตฺตา เกสกายาทิคหณํ กตํ. วกฺกาทีนิ ปน ปริจฺฉินฺนตฺตา กายคฺคหณํ นารหนฺตีติ เตสํ คหณํ น กตนฺติ เวทิตพฺพํ.
(ข) สุขํ ¶ เวทนนฺติอาทีสุ สุขํ เวทนนฺติ กายิกํ วา เจตสิกํ วา สุขํ เวทนํ. ตถา ทุกฺขํ เวทนํ. อทุกฺขมสุขํ เวทนนฺติ ปน เจตสิกเมว อุเปกฺขาเวทนํ. สามิสํ สุขํ เวทนนฺติ ฉ เคหสิตโสมนสฺสเวทนา. นิรามิสํ สุขํ เวทนนฺติ ฉ เนกฺขมฺมสิตโสมนสฺสเวทนา ¶ . สามิสํ ทุกฺขํ เวทนนฺติ ฉ เคหสิตโทมนสฺสเวทนา. นิรามิสํ ทุกฺขํ เวทนนฺติ ฉ เนกฺขมฺมสิตโทมนสฺสเวทนา. สามิสํ อทุกฺขมสุขํ เวทนนฺติ ฉ เคหสิตอุเปกฺขาเวทนา. นิรามิสํ อทุกฺขมสุขํ เวทนนฺติ ฉ เนกฺขมฺมสิตอุเปกฺขาเวทนา.
(ค) สราคํ จิตฺตนฺติอาทีนิ าณกถายํ วุตฺตตฺถานิ.
(ฆ) ตทวเสเส ธมฺเมติ เตหิ กายเวทนาจิตฺเตหิ อวเสเส เตภูมกธมฺเม. สพฺพตฺถ เตน าเณนาติ เตน สตฺตวิเธน อนุปสฺสนาาเณน. ยานิ ปเนตฺถ อนฺตรนฺตรา อวุตฺตตฺถานิ, ตานิ เหฏฺา ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตตฺถาเนวาติ.
สติปฏฺานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. วิปสฺสนากถา
วิปสฺสนากถาวณฺณนา
๓๖. อิทานิ ¶ วิปสฺสนาปฏิสํยุตฺตาย สติปฏฺานกถาย อนนฺตรํ วิปสฺสนาปเภทํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย วิปสฺสนากถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ตาว โสอิติ สพฺพนามตฺตา โย ¶ วา โส วา สพฺโพปิ สงฺคหิโต โหติ. วตาติ เอกํสตฺเถ นิปาโต. กฺจิ สงฺขารนฺติ อปฺปมตฺตกมฺปิ สงฺขารํ. อนุโลมิกาย ขนฺติยาติ เอตฺถ วิปสฺสนาาณเมว โลกุตฺตรมคฺคํ อนุโลเมตีติ อนุโลมิกํ, ตเทว ขนฺติมเปกฺขิตฺวา อนุโลมิกา. สพฺพสงฺขารา ตสฺส อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต ขมนฺติ รุจฺจนฺตีติ ขนฺติ. สา มุทุกา มชฺฌิมา ติกฺขาติ ติวิธา. กลาปสมฺมสนาทิกา อุทยพฺพยาณปริโยสานา มุทุกานุโลมิกา ขนฺติ. ภงฺคานุปสฺสนาทิกา สงฺขารุเปกฺขาาณปริโยสานา มชฺฌิมานุโลมิกา ขนฺติ. อนุโลมาณํ ติกฺขานุโลมิกา ขนฺติ. สมนฺนาคโตติ อุเปโต. เนตํ านํ วิชฺชตีติ ยถาวุตฺตํ เอตํ านํ เอตํ การณํ น วิชฺชติ. สมฺมตฺตนิยามนฺติ เอตฺถ ‘‘หิตสุขาวโห เม ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ อาสีสโต ตเถว สมฺภวโต ¶ อสุภาทีสุ จ อสุภนฺติอาทิอวิปรีตปฺปวตฺติสพฺภาวโต จ สมฺมา สภาโวติ สมฺมตฺโต, อนนฺตรผลทานาย อรหตฺตุปฺปตฺติยา จ นิยามภูตตฺตา นิยาโม, นิจฺฉโยติ อตฺโถ. สมฺมตฺโต จ โส นิยาโม จาติ สมฺมตฺตนิยาโม. โก โส? โลกุตฺตรมคฺโค, วิเสสโต ปน โสตาปตฺติมคฺโค. เตน หิ มคฺคนิยาเมน นิยตตฺตา ‘‘นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’ติ (ปารา. ๒๑; ที. นิ. ๑.๓๗๓) วุตฺตํ. ตํ สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมิสฺสติ ปวิสิสฺสตีติ เอตํ อฏฺานนฺติ อตฺโถ. โคตฺรภุโน ปน มคฺคสฺส อาวชฺชนฏฺานิยตฺตา ตํ อนาทิยิตฺวา อนุโลมิกขนฺติยา อนนฺตรํ สมฺมตฺตนิยาโมกฺกมนํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อถ วา อฏฺารสสุ มหาวิปสฺสนาสุ โคตฺรภุ วิวฏฺฏนานุปสฺสนา โหตีติ อนุโลมิกขนฺติยา เอว สงฺคหิตา โหติ. จตูสุปิ สุตฺตนฺเตสุ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอเตหิ อนุโลมิกขนฺติสมฺมตฺตนิยามจตุอริยผลวเสน จ ฉ ธมฺมาติ ฉกฺกนิปาเต ¶ (อ. นิ. ๖.๙๘, ๑๐๑) จตฺตาโร สุตฺตนฺตา วุตฺตา. กณฺหปกฺขสุกฺกปกฺขทฺวยวเสน หิ จตฺตาโร สุตฺตนฺตาว โหนฺตีติ.
๓๗. กติหากาเรหีติอาทิเก ปุจฺฉาปุพฺพงฺคเม สุตฺตนฺตนิทฺเทเส ปฺจกฺขนฺเธ อนิจฺจโตติอาทีสุ นามรูปฺจ นามรูปสฺส ปจฺจเย จ ปริคฺคเหตฺวา กลาปสมฺมสนวเสน อารทฺธวิปสฺสโก โยคาวจโร ปฺจสุ ขนฺเธสุ เอเกกํ ขนฺธํ อนิจฺจนฺติกตาย อาทิอนฺตวตาย จ อนิจฺจโต ปสฺสติ ¶ . อุปฺปาทวยปฏิปีฬนตาย ทุกฺขวตฺถุตาย จ ทุกฺขโต. ปจฺจยยาปนียตาย โรคมูลตาย จ โรคโต. ทุกฺขตาสูลโยคิตาย กิเลสาสุจิปคฺฆรณตาย อุปฺปาทชราภงฺเคหิ อุทฺธุมาตปริปกฺกปภินฺนตาย จ คณฺฑโต. ปีฬาชนกตาย อนฺโตตุทนตาย ทุนฺนีหรณียตาย จ สลฺลโต. วิครหณียตาย อวฑฺฒิอาวหนตาย อฆวตฺถุตาย จ อฆโต. อเสริภาวชนกตาย อาพาธปทฏฺานตาย จ อาพาธโต. อวสตาย อวิเธยฺยตาย จ ปรโต. พฺยาธิชรามรเณหิ ลุชฺชนปลุชฺชนตาย ปโลกโต. อเนกพฺยสนาวหนตาย อีติโต. อวิทิตานํเยว วิปุลานํ อนตฺถานํ อาวหนโต สพฺพูปทฺทววตฺถุตาย จ อุปทฺทวโต. สพฺพภยานํ อากรตาย จ ทุกฺขวูปสมสงฺขาตสฺส ปรมสฺสาสสฺส ปฏิปกฺขภูตตาย จ ภยโต. อเนเกหิ อนตฺเถหิ อนุพทฺธตาย โทสูปสฏฺตาย อุปสคฺโค วิย อนธิวาสนารหตาย จ อุปสคฺคโต. พฺยาธิชรามรเณหิ เจว โลภาทีหิ จ โลกธมฺเมหิ ปจลิตตาย จลโต. อุปกฺกเมน เจว สรเสน จ ปภงฺคุปคมนสีลตาย ปภงฺคุโต. สพฺพาวตฺถนิปาติตาย ถิรภาวสฺส จ อภาวตาย อทฺธุวโต. อตายนตาย เจว อลพฺภเนยฺยเขมตาย จ อตาณโต. อลฺลียิตุํ อนรหตาย อลฺลีนานมฺปิ จ เลณกิจฺจาการิตาย อเลณโต ¶ . นิสฺสิตานํ ภยสารกตฺตาภาเวน อสรณโต. ยถาปริกปฺปิเตหิ ธุวสุภสุขตฺตภาเวหิ ริตฺตตาย ริตฺตโต. ริตฺตตาเยว ตุจฺฉโต, อปฺปกตฺตา วา. อปฺปกมฺปิ หิ โลเก ตุจฺฉนฺติ วุจฺจติ. สามินิวาสิเวทกการกาธิฏฺายกวิรหิตตาย สฺุโต. สยฺจ อสามิกภาวาทิตาย อนตฺตโต. ปวตฺติทุกฺขตาย ทุกฺขสฺส จ อาทีนวตาย อาทีนวโต. อถ วา อาทีนํ วาติ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ อาทีนโว. กปณมนุสฺสสฺเสตํ อธิวจนํ, ขนฺธาปิ จ กปณาเยวาติ อาทีนวสทิสตาย อาทีนวโต. ชราย เจว มรเณน จาติ ทฺเวธา ปริณามปกติตาย วิปริณามธมฺมโต. ทุพฺพลตาย เผคฺคุ วิย สุขภฺชนียตาย จ อสารกโต. อฆเหตุตาย อฆมูลโต. มิตฺตมุขสปตฺโต วิย วิสฺสาสฆาติตาย วธกโต. วิคตภวตาย วิภวสมฺภูตตาย จ วิภวโต. อาสวปทฏฺานตาย สาสวโต. เหตุปจฺจเยหิ ¶ อภิสงฺขตตาย สงฺขตโต. มจฺจุมารกิเลสมารานํ อามิสภูตตาย มารามิสโต. ชาติชราพฺยาธิมรณปกติตาย ชาติชราพฺยาธิมรณธมฺมโต. โสกปริเทวอุปายาสเหตุตาย ¶ โสกปริเทวอุปายาสธมฺมโต. ตณฺหาทิฏฺิทุจฺจริตสํกิเลสานํ วิสยธมฺมตาย สํกิเลสิกธมฺมโต ปสฺสติ. สพฺเพสุ จ อิเมสุ ‘‘ปสฺสตี’’ติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ.
๓๘. ปฺจกฺขนฺเธติ สมูหโต วุตฺเตปิ เอเกกขนฺธวเสน อตฺถวณฺณนา กลาปสมฺมสนาณนิทฺเทเส วิสุํ วิสุํ อาคตตฺตา ปริโยสาเน จ วิสุํ วิสุํ ขนฺธานํ วเสน อนุปสฺสนานํ คณิตตฺตา สมูเห ปวตฺตวจนานํ อวยเวปิ ปวตฺติสมฺภวโต จ กตาติ เวทิตพฺพา, วิสุํ วิสุํ ปวตฺตสมฺมสนานํ เอกโต สงฺขิปิตฺวา วจนวเสน วา ‘‘ปฺจกฺขนฺเธ’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘เอกปฺปหาเรน ปฺจหิ ขนฺเธหิ วุฏฺาตี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๗๘๓) อฏฺกถาวจนสพฺภาวโต วา ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ เอกโต สมฺมสนํ วา ยุชฺชติเยวาติ. ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ นิโรโธ นิจฺจํ นิพฺพานนฺติ ปสฺสนฺโตติอาทีนวาณนิทฺเทเส วุตฺตนเยน วิปสฺสนากาเล สนฺติปทาณวเสน นิจฺจํ นิพฺพานนฺติ ปสฺสนฺโต. สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมตีติ มคฺคกฺขเณ โอกฺกมติ, ผลกฺขเณ ปน โอกฺกนฺโต นาม โหติ. เอเสว นโย สพฺเพสุปิ นิยาโมกฺกมนปริยาเยสุ. อาโรคฺยนฺติ อาโรคฺยภูตํ. วิสลฺลนฺติ สลฺลวิรหิตํ. เอเสว นโย อีทิเสสุ. อนาพาธนฺติ อาพาธวิรหิตํ, อาพาธปฏิปกฺขภูตํ วา. เอส นโย อีทิเสสุ. อปรปฺปจฺจยนฺติ อฺปจฺจยวิรหิตํ. อุปสฺสคฺคโตติ จ อนุปสฺสคฺคนฺติ จ เกจิ สํโยคํ กตฺวา ปนฺติ. ปรมสฺุนฺติ สพฺพสงฺขารสฺุตฺตา อุตฺตมตฺตา จ ปรมสฺุํ. ปรมตฺถนฺติ สงฺขตาสงฺขตานํ อคฺคภูตตฺตา อุตฺตมตฺถํ ¶ . ลิงฺควิปลฺลาสวเสน นปุํสกวจนํ. นิพฺพานสฺส จ สฺุตฺตา อนตฺตตฺตา จ อิมสฺมึ ทฺวเย ปฏิโลมปริยาโย น วุตฺโต. อนาสวนฺติ อาสววิรหิตํ. นิรามิสนฺติ อามิสวิรหิตํ. อชาตนฺติ ชาติวิรหิตตฺตา อนุปฺปนฺนํ. อมตนฺติ ภงฺคาภาวโต มรณวิรหิตํ. มรณมฺปิ หิ นปุํสกภาววจนวเสน ‘‘มต’’นฺติ วุจฺจติ.
๓๙. เอวมิมาย ปฏิปาฏิยา วุตฺตาสุ อาการเภทภินฺนาสุ จตฺตาลีสาย อนุปสฺสนาสุ สภาวสงฺคหวเสน ตีสุเยว อนุปสฺสนาสุ เอกสงฺคหํ ¶ กโรนฺโต อนิจฺจโตติ อนิจฺจานุปสฺสนาติอาทิมาห. ตาสุ ยถานุรูปํ อนิจฺจทุกฺขานตฺตตฺเต โยชนา กาตพฺพา. อวสาเน ปเนตา วิสุํ วิสุํ คณนวเสน ทสฺสิตา. คณนาสุ จ คณนปฏิปาฏิวเสน ปมํ อนตฺตานุปสฺสนา คณิตา. ตตฺถ ปฺจวีสตีติ ‘‘ปรโต ริตฺตโต ตุจฺฉโต สฺุโต อนตฺตโต’’ติ เอเกกสฺมึ ขนฺเธ ปฺจ ปฺจ กตฺวา ปฺจสุ ขนฺเธสุ ปฺจวีสติ อนตฺตานุปสฺสนา. ปฺาสาติ ‘‘อนิจฺจโต ปโลกโต จลโต ปภงฺคุโต อทฺธุวโต วิปริณามธมฺมโต อสารกโต วิภวโต สงฺขตโต มรณธมฺมโต’’ติ เอเกกสฺมึ ขนฺเธ ทส ทส กตฺวา ปฺจสุ ขนฺเธสุ ปฺาสํ อนิจฺจานุปสฺสนา. สตํ ปฺจวีสติ เจวาติ เสสา ‘‘ทุกฺขโต โรคโต’’ติอาทโย ¶ เอเกกสฺมึ ขนฺเธ ปฺจวีสติ ปฺจวีสติ กตฺวา ปฺจสุ ขนฺเธสุ ปฺจวีสติสตํ ทุกฺขานุปสฺสนา. ยานิ ทุกฺเข ปวุจฺจเรติ ยา อนุปสฺสนา ทุกฺเข ขนฺธปฺจเก คณนวเสน ปวุจฺจนฺติ, ตา สตํ ปฺจวีสติ เจวาติ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ‘‘ยานี’’ติ เจตฺถ ลิงฺควิปลฺลาโส ทฏฺพฺโพติ.
วิปสฺสนากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. มาติกากถา
มาติกากถาวณฺณนา
๔๐. อิทานิ ¶ มหาเถโร วิปสฺสนากถานนฺตรํ สกเล ปฏิสมฺภิทามคฺเค นิทฺทิฏฺเ สมถวิปสฺสนามคฺคนิพฺพานธมฺเม อาการนานตฺตวเสน นานาปริยาเยหิ โถเมตุกาโม นิจฺฉาโตติอาทีนิ เอกูนวีสติ มาติกาปทานิ อุทฺทิสิตฺวา เตสํ นิทฺเทสวเสน มาติกากถํ นาม กเถสิ. ตสฺสา อยํ อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. มาติกาย ตาว นิจฺฉาโตติ อมิลาโต. สพฺเพปิ หิ กิเลสา ปีฬาโยคโต มิลาตา, ราโคปิ ตาว นิรนฺตรปฺปวตฺโต สรีรํ ทหติ, กึ ปนฺเ กิเลสา ¶ . ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อคฺคี ราคคฺคิ โทสคฺคิ โมหคฺคี’’ติ (อิติวุ. ๙๓; ที. นิ. ๓.๓๐๕) ปน กิเลสนายกา ตโย เอว กิเลสา วุตฺตา, ตํสมฺปยุตฺตาปิ ปน ทหนฺติเยว. เอวํ ฉาตกิเลสาภาวโต นิจฺฉาโต. โก โส? วิโมกฺขสมฺพนฺเธน วิโมกฺโขติ ทฏฺพฺโพ. มุจฺจตีติ โมกฺโข. วิมุจฺจตีติ วิโมกฺโขติ ¶ อตฺโถ. อิทเมกํ มาติกาปทํ. วิชฺชาวิมุตฺตีติ วิชฺชาเยว วิมุตฺติ. อิทเมกํ มาติกาปทํ. ฌานวิโมกฺโขติ ฌานเมว วิโมกฺโข. อิทเมกํ มาติกาปทํ. เสสานิ เอเกกาเนวาติ เอวํ เอกูนวีสติ มาติกาปทานิ.
๔๑. เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺทโต นิจฺฉาโตติ เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺทโต อเปตตฺตา กามจฺฉนฺทโต นิกฺกิเลโส โยคี. เตน ปฏิลทฺธํ เนกฺขมฺมมฺปิ นิจฺฉาโต นิกฺกิเลโส วิโมกฺโข. เอวํ เสเสสุปิ. เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺทโต มุจฺจตีติ วิโมกฺโขติ เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺทโต โยคี มุจฺจตีติ ตํ เนกฺขมฺมํ วิโมกฺโขติ อตฺโถ. เอวํ เสเสสุปิ. วิชฺชตีติ วิชฺชาติ สภาวโต วิชฺชติ อตฺถิ อุปลพฺภตีติ วิชฺชา นามาติ อตฺโถ. อถ วา สภาวชานนตฺถํ ปฏิปนฺเนหิ โยคีหิ สภาวํ เวทียติ ชานียตีติ วิชฺชา นามาติ อตฺโถ. อถ วา วิเสสลาภตฺถํ ปฏิปนฺเนหิ โยคีหิ เวทียติ ปฏิลาภียตีติ วิชฺชา นามาติ อตฺโถ. อถ วา อตฺตนา วินฺทิตพฺพํ ภูมึ วินฺทติ ลภตีติ วิชฺชา นามาติ อตฺโถ. อถ วา สภาวทสฺสนเหตุตฺตา สภาวํ วิทิตํ กโรตีติ วิชฺชา นามาติ อตฺโถ. วิชฺชนฺโต มุจฺจติ, มุจฺจนฺโต ¶ วิชฺชตีติ ยถาวุตฺโต ธมฺโม ยถาวุตฺเตนตฺเถน วิชฺชมาโน ยถาวุตฺตโต มุจฺจติ, ยถาวุตฺตโต มุจฺจมาโน ยถาวุตฺเตนตฺเถน วิชฺชตีติ วิชฺชาวิมุตฺติ นามาติ อตฺโถ.
กามจฺฉนฺทํ สํวรฏฺเนาติ กามจฺฉนฺทนิวารณฏฺเน ตํ เนกฺขมฺมํ สีลวิสุทฺธิ นามาติ อตฺโถ. ตํเยว อวิกฺเขปเหตุตฺตา อวิกฺเขปฏฺเน จิตฺตวิสุทฺธิ. ทสฺสนเหตุตฺตา ทสฺสนฏฺเน ทิฏฺิวิสุทฺธิ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ปฏิปฺปสฺสมฺเภตีติ เนกฺขมฺมาทินา กามจฺฉนฺทาทิกํ โยคาวจโร ปฏิปฺปสฺสมฺเภตีติ เนกฺขมฺมาทิโก ธมฺโม ปสฺสทฺธิ นามาติ อตฺโถ. ปหีนตฺตาติ เตน เตน ปหาเนน ปหีนตฺตา. าตฏฺเน าณนฺติ ฌานปจฺจเวกฺขณาวเสน วิปสฺสนาวเสน มคฺคปจฺจเวกฺขณาวเสน าตฏฺเน เนกฺขมฺมาทิกํ าณํ นามาติ อตฺโถ. ทิฏฺตฺตา ทสฺสนนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. วิสุชฺฌตีติ โยคี, เนกฺขมฺมาทิกา วิสุทฺธิ.
เนกฺขมฺมนิทฺเทเส ¶ เนกฺขมฺมํ อโลภตฺตา กามราคโต นิสฺสฏนฺติ นิสฺสรณํ. ตโต นิกฺขนฺตนฺติ เนกฺขมฺมํ. ‘‘รูปานเมตํ นิสฺสรณํ ยทิทํ เนกฺขมฺม’’นฺติ วุจฺจมาเน อารุปฺปวิเสสสฺส อทิสฺสนโต ¶ วิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ อฺตฺถ วุตฺตปากฺกเมเนว ยทิทํ อารุปฺปนฺติ วุตฺตํ. ตฺจ อารุปฺปํ รูปโต นิกฺขนฺตตฺตา เนกฺขมฺมํ นามาติ อธิการวเสเนว วุตฺตํ โหติ. ภูตนฺติ อุปฺปาทสมาโยคทีปนํ. สงฺขตนฺติ ปจฺจยพลวิเสสทสฺสนํ. ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนนฺติ ปจฺจยสมาโยเคปิ ปจฺจยานํ อพฺยาปารภาวทสฺสนํ. นิโรโธ ตสฺส เนกฺขมฺมนฺติ นิพฺพานํ ตโต สงฺขตโต นิกฺขนฺตตฺตา ตสฺส สงฺขตสฺส เนกฺขมฺมํ นาม. อารุปฺปสฺส จ นิโรธสฺส จ คหณํ อฺตฺถ ปาเ วุตฺตกฺกเมเนว กตํ. ‘‘กามจฺฉนฺทสฺส เนกฺขมฺมํ เนกฺขมฺม’’นฺติ วุจฺจมาเน ปุนรุตฺตํ โหติ. เนกฺขมฺมวจเนเนว จ ตสฺส เนกฺขมฺมสิทฺธีติ ตํ อวตฺวา เสสเนกฺขมฺมเมว วุตฺตํ. ตํ อุชุกเมว. นิสฺสรณนิทฺเทเสปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. นิสฺสรณียา ธาตุโย ปเนตฺถ อุชุกเมว เนกฺขมฺมนฺติ วุตฺตํ. ปวิเวโกติ ปวิวิตฺตภาโว เนกฺขมฺมาทิโกเยว. โวสชฺชตีติ โยคี, เนกฺขมฺมาทโย โวสคฺโค. เนกฺขมฺมํ ปวตฺเตนฺโต โยคี เนกฺขมฺเมน จรตีติ วุจฺจติ. ตํ ปน เนกฺขมฺมํ จริยา. เอส นโย เสเสสุปิ. ฌานวิโมกฺขนิทฺเทเส วตฺตพฺพํ วิโมกฺขกถายํ วุตฺตํ. เกวลํ ตตฺถ ‘‘ชานาตีติ ฌานวิโมกฺโข’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๑๗) วุตฺตํ, อิธ ปน ‘‘ชานาตีติ, ฌายตี’’ติ ปุคฺคลาธิฏฺานาว เทสนา กตาติ อยํ วิเสโส.
๔๒. ภาวนาธิฏฺานชีวิตนิทฺเทเส จ ปุคฺคลาธิฏฺานา เทสนา กตา. ธมฺมโต ปน ภาวนา นาม เนกฺขมฺมาทโยว. อธิฏฺานํ นาม เนกฺขมฺมาทิวเสน ปติฏฺาปิตจิตฺตเมว. ชีวิตํ นาม เนกฺขมฺมาทิวเสน ปติฏฺาปิตจิตฺตสฺส สมฺมาอาชีโว นาม. โก โส สมฺมาอาชีโว นาม ¶ ? มิจฺฉาชีวา วิรติ, ธมฺเมน สเมน ปจฺจยปริเยสนวายาโม จ. ตตฺถ สมํ ชีวตีติ สมํ ชีวิตํ ชีวติ, ภาวนปุํสกวจนํ วา, สเมน ชีวตีติ วุตฺตํ โหติ. โน วิสมนฺติ ‘‘สมํ ชีวตี’’ติ วุตฺตสฺเสว อตฺถสฺส ปฏิเสธวเสน อวธารณํ กตํ. สมฺมา ชีวตีติ อาการนิทสฺสนํ. โน มิจฺฉาติ ตสฺเสว นิยมนํ. วิสุทฺธํ ชีวตีติ สภาววิสุทฺธิยา วิสุทฺธํ ชีวิตํ ชีวติ. โน กิลิฏฺนฺติ ตสฺเสว นิยมนํ. ยฺเทวาติอาทีหิ ยถาวุตฺตานํ ¶ ติสฺสนฺนํ สมฺปทานํ อานิสํสํ ทสฺเสติ. ตตฺถ ยฺเทวาติ ยํ ยํ เอว. ขตฺติยปริสนฺติ ขตฺติยานํ สนฺนิปาตํ. โส หิ สมนฺตโต สีทนฺติ เอตฺถ อกตพุทฺธิโนติ ปริสาติ วุจฺจติ. เอเสว นโย อิตรตฺตเย. ขตฺติยาทีนํเยว อาคมนสมฺปตฺติยา าณสมฺปตฺติยา จ สมนฺนาคตตฺตา ตาสํเยว จตสฺสนฺนํ คหณํ ¶ , น สุทฺทปริสาย. วิสารโทติ ตีหิ สมฺปทาหิ สมฺปนฺโน วิคตสารชฺโช, นิพฺภโยติ อตฺโถ. อมงฺกุภูโตติ อสงฺกุจิโต น นิตฺเตชภูโต. ตํ กิสฺส เหตูติ ตํ วิสารทตฺตํ เกน เหตุนา เกน การเณน โหตีติ เจติ อตฺโถ. อิทานิ ตถา หีติ ตสฺส การณวจนํ. ยสฺมา เอวํ ติสมฺปทาสมฺปนฺโน, ตสฺมา ‘‘วิสารโท โหตี’’ติ วิสารทภาวสฺส การณํ ทสฺเสตฺวา นิฏฺเปสีติ.
สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฏิสมฺภิทามคฺค-อฏฺกถาย
มาติกากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิตา จูฬวคฺคสฺส อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา.
เอตฺตาวตา จ ติวคฺคสงฺคหิตสฺส
สมตึสกถาปฏิมณฺฑิตสฺส ปฏิสมฺภิทามคฺคสฺส อตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา โหตีติ.
นิคมนกถา
มหาวคฺโค ¶ ¶ มชฺฌิโม จ, จูฬวคฺโค จ นามโต;
ตโย วคฺคา อิธ วุตฺตา, ปมาณปฏิปาฏิยา.
วคฺเค วคฺเค ทส ทส, กถา ยา ตา อุทีริตา;
อุทฺทานคาถา สพฺพาสํ, อิมา ตาสํ ยถากฺกมํ.
าณํ ทิฏฺิ อานาปานํ, อินฺทฺริยํ วิโมกฺขปฺจมํ;
คติ กมฺมํ วิปลฺลาโส, มคฺโค มณฺโฑติ ตา ทส.
ยุคนทฺธสจฺจโพชฺฌงฺคา, เมตฺตา วิราคปฺจมา;
ปฏิสมฺภิทา ธมฺมจกฺกํ, โลกุตฺตรพลสฺุตา.
ปฺา อิทฺธิ อภิสมโย, วิเวโก จริยปฺจโม;
ปาฏิหีรํ สมสีส-สติ วิปสฺสนมาติกา.
โย โส สุคตสุตานํ, อธิปติภูเตน ภูตหิตรตินา;
เถเรน ถิรคุณวตา, วุตฺโต ปฏิสมฺภิทามคฺโค.
ตสฺสตฺถวณฺณนา ยา, ปุพฺพฏฺกถานยํ ตถา ยุตฺตึ;
นิสฺสาย มยารทฺธา, นิฏฺานมุปาคตา เอสา.
ยํ ตํ อุตฺตรมนฺตี, มนฺติคุณยุโต ยุโต จ สทฺธาย;
การยิ มหาวิหาเร, ปริเวณมเนกสาธุคุณํ.
เถเรเนตฺถ ¶ ¶ นิวสตา, สมาปิตายํ มหาภิธาเนน;
ตติเย วสฺเส จุติโต, โมคฺคลฺลานสฺส ภูปติโน.
สมยํ อนุโลเมนฺตี, เถรานํ เถรวาททีปานํ;
นิฏฺํ คตา ยถายํ, อฏฺกถา โลกหิตชนนี.
ธมฺมํ อนุโลเมนฺตา, อตฺตหิตํ ปรหิตฺจ สาเธนฺตา;
นิฏฺํ คจฺฉนฺตุ ตถา, มโนรถา สพฺพสตฺตานํ.
สทฺธมฺมปกาสินิยา, อฏฺกถาเยตฺถ คณิตกุสเลหิ;
คณิตา ตุ ภาณวารา, วิฺเยฺยา อฏฺปฺาส.
อานุฏฺุเภน ¶ อสฺสา, ฉนฺโทพนฺเธน คณิยมานา ตุ;
จุทฺทสสหสฺสสงฺขา, คาถาโย ปฺจ จ สตานิ.
สาสนจิรฏฺิตตฺถํ, โลกหิตตฺถฺจ สาทเรน มยา;
ปฺุํ อิมํ รจยตา, ยํ ปตฺตมนปฺปกํ วิปุลํ.
ปฺุเน เตน โลโก, สทฺธมฺมรสายนํ ทสพลสฺส;
อุปภฺุชิตฺวา วิมลํ, ปปฺโปตุ สุขํ สุเขเนวาติ.
สทฺธมฺมปฺปกาสินี นาม
ปฏิสมฺภิทามคฺคปฺปกรณสฺส อฏฺกถา นิฏฺิตา.