📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

ขุทฺทกนิกาเย

ปฏิสมฺภิทามคฺค-อฏฺกถา

(ทุติโย ภาโค)

๖๘. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณนิทฺเทสวณฺณนา

๑๑๑. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณนิทฺเทเส ตถาคตสฺสาติ วจเน อุทฺเทเส สรูปโต อวิชฺชมาเนปิ ‘‘ฉ าณานิ อสาธารณานิ สาวเกหี’’ติ (ปฏิ. ม. มาติกา ๑.๗๓) วุตฺตตฺตา ‘‘ตถาคตสฺสา’’ติ วุตฺตเมว โหติ. ตสฺมา อุทฺเทเส อตฺถโต สิทฺธสฺส ตถาคตวจนสฺส นิทฺเทเส คหณํ กตํ. สตฺเต ปสฺสตีติ รูปาทีสุ ฉนฺทราเคน สตฺตตาย ลคฺคตาย สตฺตา, เต สตฺเต อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาเณน จกฺขุนา ปสฺสติ โอโลเกติ. อปฺปรชกฺเขติ ปฺามเย อกฺขิมฺหิ อปฺปํ ราคาทิรโช เอเตสนฺติ อปฺปรชกฺขา, อปฺปํ ราคาทิรโช เอเตสนฺติ วา อปฺปรชกฺขา. เต อปฺปรชกฺเข. มหารชกฺเขติ ปฺามเย อกฺขิมฺหิ มหนฺตํ ราคาทิรโช เอเตสนฺติ มหารชกฺขา, มหนฺตํ ราคาทิรโช เอเตสนฺติ วา มหารชกฺขา. ติกฺขินฺทฺริเย มุทินฺทฺริเยติ ติกฺขานิ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ เอเตสนฺติ ติกฺขินฺทฺริยา, มุทูนิ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ เอเตสนฺติ มุทินฺทฺริยา. สฺวากาเร ทฺวากาเรติ สุนฺทรา สทฺธาทโย อาการา โกฏฺาสา เอเตสนฺติ สฺวาการา, กุจฺฉิตา ครหิตา สทฺธาทโย อาการา โกฏฺาสา เอเตสนฺติ ทฺวาการา. สุวิฺาปเย ทุวิฺาปเยติ เย กถิตํ การณํ สลฺลกฺเขนฺติ สุเขน สกฺกา โหนฺติ วิฺาเปตุํ, เต สุวิฺาปยา, ตพฺพิปรีตา ทุวิฺาปยา. อปฺเปกจฺเจ ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิโนติ อปิ เอเก ปรโลกฺเจว ราคาทิวชฺชฺจ ภยโต ปสฺสนฺเต, อิมสฺส ปน ปทสฺส นิทฺเทเส ปรโลกสฺเสว น วุตฺตตฺตา ขนฺธาทิโลเก จ ราคาทิวชฺเช จ ปรํ พาฬฺหํ ภยํ ปสฺสนสีลาติ ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิโน. เต ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิเนติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. อปฺเปกจฺเจ น ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิโนติ ตพฺพิปรีเต. โลโกติ จ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน. วชฺชนฺติ จ วชฺชนียฏฺเน. เอตฺตาวตา อุทฺเทสสฺส นิทฺเทโส กโต โหติ.

ปุน นิทฺเทสสฺส ปฏินิทฺเทสํ กโรนฺโต อปฺปรชกฺเข มหารชกฺเขติอาทิมาห. ตตฺถ ตีสุ รตเนสุ โอกปฺปนสงฺขาตา สทฺธา อสฺส อตฺถีติ สทฺโธ. โส สทฺธาสมฺปนฺโน ปุคฺคโล อสฺสทฺธิยรชสฺส เจว อสฺสทฺธิยมูลกสฺส เสสากุสลรชสฺส จ อปฺปกตฺตา อปฺปรชกฺโข. นตฺถิ เอตสฺส สทฺธาติ อสฺสทฺโธ. โส วุตฺตปฺปการสฺส รชสฺส มหนฺตตฺตา มหารชกฺโข. อารทฺธํ วีริยมเนนาติ อารทฺธวีริโย. โส โกสชฺชรชสฺส เจว โกสชฺชมูลกสฺส เสสากุสลรชสฺส จ อปฺปกตฺตา อปฺปรชกฺโข. หีนวีริยตฺตา กุจฺฉิเตน อากาเรน สีทตีติ กุสีโท, กุสีโท เอว กุสีโต. โส วุตฺตปฺปการสฺส รชสฺส มหนฺตตฺตา มหารชกฺโข. อารมฺมณํ อุเปจฺจ ิตา สติ อสฺสาติ อุปฏฺิตสฺสติ. โส มุฏฺสฺสจฺจรชสฺส เจว มุฏฺสฺสจฺจมูลกสฺส เสสากุสลรชสฺส จ อปฺปกตฺตา อปฺปรชกฺโข. มุฏฺา นฏฺา สติ อสฺสาติ มุฏฺสฺสติ. โส วุตฺตปฺปการสฺส รชสฺส มหนฺตตฺตา มหารชกฺโข. อปฺปนาสมาธินา อุปจารสมาธินา วา อารมฺมเณ สมํ, สมฺมา วา อาหิโต ิโตติ สมาหิโต, สมาหิตจิตฺโตติ วา สมาหิโต. โส อุทฺธจฺจรชสฺส เจว อุทฺธจฺจมูลกสฺส เสสากุสลรชสฺส จ อปฺปกตฺตา อปฺปรชกฺโข. น สมาหิโต อสมาหิโต. โส วุตฺตปฺปการสฺส รชสฺส มหนฺตตฺตา มหารชกฺโข. อุทยตฺถคามินี ปฺา อสฺส อตฺถีติ ปฺวา. โส โมหรชสฺส เจว โมหมูลกสฺส เสสากุสลรชสฺส จ อปฺปกตฺตา อปฺปรชกฺโข. โมหมูฬฺหตฺตา ทุฏฺา ปฺา อสฺสาติ ทุปฺปฺโ. โส วุตฺตปฺปการสฺส รชสฺส มหนฺตตฺตา มหารชกฺโข. สทฺโธ ปุคฺคโล ติกฺขินฺทฺริโยติ พหุลํ อุปฺปชฺชมานาย พลวติยา สทฺธาย สทฺโธ, เตเนว สทฺธินฺทฺริเยน ติกฺขินฺทฺริโย. อสฺสทฺโธ ปุคฺคโล มุทินฺทฺริโยติ พหุลํ อุปฺปชฺชมาเนน อสฺสทฺธิเยน อสฺสทฺโธ, อนฺตรนฺตรา อุปฺปชฺชมาเนน ทุพฺพเลน สทฺธินฺทฺริเยน มุทินฺทฺริโย. เอส นโย เสเสสุปิ. สทฺโธ ปุคฺคโล สฺวากาโรติ ตาย เอว สทฺธาย โสภนากาโร. อสฺสทฺโธ ปุคฺคโล ทฺวากาโรติ เตเนว อสฺสทฺธิเยน วิรูปากาโร. เอส นโย เสเสสุปิ. สุวิฺาปโยติ สุเขน วิฺาเปตุํ สกฺกุเณยฺโย. ทุวิฺาปโยติ ทุกฺเขน วิฺาเปตุํ สกฺกุเณยฺโย. ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวีติ เอตฺถ ยสฺมา ปฺาสมฺปนฺนสฺเสว สทฺธาทีนิ สุปริสุทฺธานิ โหนฺติ, ตสฺมา สุปริสุทฺธสทฺธาทิสมฺปนฺโน ตํสมฺปยุตฺตาย, สุปริสุทฺธสทฺธาทิสมฺปนฺโนปิ วา ตปฺปจฺจยาย ปฺาย ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวี โหติ. ตสฺมา เอว หิ สทฺธาทโยปิ จตฺตาโร ‘‘ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวี’’ติ วุตฺตา.

๑๑๒. อิทานิ ‘‘ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวี’’ติ เอตฺถ วุตฺตํ โลกฺจ วชฺชฺจ ทสฺเสตุํ โลโกติอาทิมาห. เอตฺถ ขนฺธา เอว ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโกติ ขนฺธโลโก. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. วิปตฺติภวโลโกติ อปายโลโก. โส หิ อนิฏฺผลตฺตา วิรูโป ลาโภติ วิปตฺติ, ภวตีติ ภโว, วิปตฺติ เอว ภโว วิปตฺติภโว, วิปตฺติภโว เอว โลโก วิปตฺติภวโลโก. วิปตฺติสมฺภวโลโกติ อปายูปคํ กมฺมํ. ตฺหิ สมฺภวติ เอตสฺมา ผลนฺติ สมฺภโว, วิปตฺติยา สมฺภโว วิปตฺติสมฺภโว, วิปตฺติสมฺภโว เอว โลโก วิปตฺติสมฺภวโลโก. สมฺปตฺติภวโลโกติ สุคติโลโก. โส หิ อิฏฺผลตฺตา สุนฺทโร ลาโภติ สมฺปตฺติ, ภวตีติ ภโว, สมฺปตฺติ เอว ภโว สมฺปตฺติภโว, สมฺปตฺติภโว เอว โลโก สมฺปตฺติภวโลโก. สมฺปตฺติสมฺภวโลโกติ สุคตูปคํ กมฺมํ. ตฺหิ สมฺภวติ เอตสฺมา ผลนฺติ สมฺภโว, สมฺปตฺติยา สมฺภโว สมฺปตฺติสมฺภโว, สมฺปตฺติสมฺภโว เอว โลโก สมฺปตฺติสมฺภวโลโก. เอโก โลโกติอาทีนิ เหฏฺา วุตฺตตฺถาเนว.

วชฺชนฺติ นปุํสกวจนํ อสุโกติ อนิทฺทิฏฺตฺตา กตํ. กิเลสาติ ราคาทโย. ทุจฺจริตาติ ปาณาติปาตาทโย. อภิสงฺขาราติ ปุฺาภิสงฺขาราทโย. ภวคามิกมฺมาติ อตฺตโน วิปากทานวเสน ภวํ คจฺฉนฺตีติ ภวคามิโน, อภิสงฺขาเรสุปิ วิปากชนกาเนว กมฺมานิ วุตฺตานิ. อิตีติ วุตฺตปฺปการนิทสฺสนํ. อิมสฺมิฺจ โลเก อิมสฺมิฺจ วชฺเชติ วุตฺตปฺปกาเร โลเก จ วชฺเช จ. ติพฺพา ภยสฺาติ พลวตี ภยสฺา. ติพฺพาติ ปรสทฺทสฺส อตฺโถ วุตฺโต, ภยสฺาติ ภยสทฺทสฺส, โลกวชฺชทฺวยมฺปิ หิ ภยวตฺถุตฺตา สยฺจ สภยตฺตา ภยํ, ภยมิติ สฺา ภยสฺา. ปจฺจุปฏฺิตา โหตีติ ตํ ตํ ปฏิจฺจ อุเปจฺจ ิตา โหติ. เสยฺยถาปิ อุกฺขิตฺตาสิเก วธเกติ ยถา นาม ปหริตุํ อุจฺจาริตขคฺเค ปจฺจามิตฺเต ติพฺพา ภยสฺา ปจฺจุปฏฺิตา โหติ, เอวเมว โลเก จ วชฺเช จ ติพฺพา ภยสฺา ปจฺจุปฏฺิตา โหติ. อิเมหิ ปฺาสาย อากาเรหีติ อปฺปรชกฺขปฺจกาทีสุ ทสสุ ปฺจเกสุ เอเกกสฺมึ ปฺจนฺนํ ปฺจนฺนํ อาการานํ วเสน ปฺาสาย อากาเรหิ. อิมานิ ปฺจินฺทฺริยานีติ สทฺธินฺทฺริยาทีนิ ปฺจินฺทฺริยานิ. ชานาตีติ ตถาคโต ปฺาย ปชานาติ. ปสฺสตีติ ทิพฺพจกฺขุนา ทิฏฺํ วิย กโรติ. อฺาตีติ สพฺพาการมริยาทาหิ ชานาติ. ปฏิวิชฺฌตีติ เอกเทสํ อเสเสตฺวา นิรวเสสทสฺสนวเสน ปฺาย ปทาเลตีติ.

อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖๙. อาสยานุสยาณนิทฺเทสวณฺณนา

๑๑๓. อาสยานุสยาณนิทฺเทเส อิธ ตถาคโตติอาทิ ปฺจธา ปิโต นิทฺเทโส. ตตฺถ อาสยานุสยา วุตฺตตฺถา เอว. จริตนฺติ ปุพฺเพ กตํ กุสลากุสลํ กมฺมํ. อธิมุตฺตินฺติ สมฺปติ กุสเล อกุสเล วา จิตฺตโวสคฺโค. ภพฺพาภพฺเพติ ภพฺเพ จ อภพฺเพ จ. อริยาย ชาติยา สมฺภวนฺติ ชายนฺตีติ ภพฺพา. วตฺตมานสมีเป วตฺตมานวจนํ. ภวิสฺสนฺติ ชายิสฺสนฺตีติ วา ภพฺพา, ภาชนภูตาติ อตฺโถ. เย อริยมคฺคปฏิเวธสฺส อนุจฺฉวิกา อุปนิสฺสยสมฺปนฺนา, เต ภพฺพา. วุตฺตปฏิปกฺขา อภพฺพา.

กตโม สตฺตานํ อาสโยติอาทิ นิทฺเทสสฺส ปฏินิทฺเทโส. ตตฺถ สสฺสโตติ นิจฺโจ. โลโกติ อตฺตา. อิธ สรีรํเยว นสฺสติ, อตฺตา ปน อิธ ปรตฺถ จ โสเยวาติ มฺนฺติ. โส หิ สยํเยว อาโลเกตีติ กตฺวา ‘‘โลโก’’ติ มฺนฺติ. อสสฺสโตติ อนิจฺโจ. อตฺตา สรีเรเนว สห นสฺสตีติ มฺนฺติ. อนฺตวาติ ปริตฺเต กสิเณ ฌานํ อุปฺปาเทตฺวา ตํปริตฺตกสิณารมฺมณํ จิตฺตํ สปริยนฺโต อตฺตาติ มฺนฺติ. อนนฺตวาติ น อนฺตวา อปฺปมาเณ กสิเณ ฌานํ อุปฺปาเทตฺวา ตํอปฺปมาณกสิณารมฺมณํ จิตฺตํ อปริยนฺโต อตฺตาติ มฺนฺติ. ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ ชีโว จ สรีรฺจ ตํเยว. ชีโวติ อตฺตา, ลิงฺควิปลฺลาเสน นปุํสกวจนํ กตํ. สรีรนฺติ ราสฏฺเน ขนฺธปฺจกํ. อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรนฺติ อฺโ ชีโว อฺํ ขนฺธปฺจกํ. โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ ขนฺธา อิเธว วินสฺสนฺติ, สตฺโต มรณโต ปรํ โหติ วิชฺชติ น นสฺสติ. ‘‘ตถาคโต’’ติ เจตฺถ สตฺตาธิวจนนฺติ วทนฺติ. เกจิ ปน ‘‘ตถาคโตติ อรหา’’ติ วทนฺติ. อิเม ‘‘น โหตี’’ติ ปกฺเข โทสํ ทิสฺวา เอวํ คณฺหนฺติ. น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ ขนฺธาปิ อิเธว นสฺสนฺติ, ตถาคโต จ มรณโต ปรํ น โหติ อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ. อิเม ‘‘โหตี’’ติ ปกฺเข โทสํ ทิสฺวา เอวํ คณฺหนฺติ. โหติ จ น จ โหตีติ อิเม เอเกกปกฺขปริคฺคเห โทสํ ทิสฺวา อุภยปกฺขํ คณฺหนฺติ. เนว โหติ น น โหตีติ อิเม อุภยปกฺขปริคฺคเห อุภยโทสาปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘โหตีติ จ น โหติ, เนว โหตีติ จ น โหตี’’ติ อมราวิกฺเขปปกฺขํ คณฺหนฺติ.

อยํ ปเนตฺถ อฏฺกถานโย – ‘‘สสฺสโต โลโกติ วา’’ติอาทีหิ ทสหากาเรหิ ทิฏฺิปเภโทว วุตฺโต. ตตฺถ สสฺสโต โลโกติ จ ขนฺธปฺจกํ โลโกติ คเหตฺวา ‘‘อยํ โลโก นิจฺโจ ธุโว สพฺพกาลิโก’’ติ คณฺหนฺตสฺส สสฺสตนฺติ คหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. อสสฺสโตติ ตเมว โลกํ ‘‘อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสตี’’ติ คณฺหนฺตสฺส อุจฺเฉทคฺคหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. อนฺตวาติ ปริตฺตกสิณลาภิโน สุปฺปมตฺเต วา สราวมตฺเต วา กสิเณ สมาปนฺนสฺส อนฺโตสมาปตฺติยํ ปวตฺติตรูปารูปธมฺเม ‘‘โลโก’’ติ จ กสิณปริจฺเฉทนฺเตน ‘‘อนฺตวา’’ติ จ คณฺหนฺตสฺส ‘‘อนฺตวา โลโก’’ติ คหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. สา สสฺสตทิฏฺิปิ โหติ อุจฺเฉททิฏฺิปิ. วิปุลกสิณลาภิโน ปน ตสฺมึ กสิเณ สมาปนฺนสฺส อนฺโตสมาปตฺติยํ ปวตฺติตรูปารูปธมฺเม ‘‘โลโก’’ติ จ กสิณปริจฺเฉทนฺเตน ‘‘น อนฺตวา’’ติ จ คณฺหนฺตสฺส ‘‘อนนฺตวา โลโก’’ติ คหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. สา สสฺสตทิฏฺิปิ โหติ อุจฺเฉททิฏฺิปิ. ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ เภทนธมฺมสฺส สรีรสฺเสว ‘‘ชีว’’นฺติ คหิตตฺตา ‘‘สรีเร อุจฺฉิชฺชมาเน ชีวมฺปิ อุจฺฉิชฺชตี’’ติ อุจฺเฉทคฺคหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. ทุติยปเท สรีรโต อฺสฺส ชีวสฺส คหิตตฺตา ‘‘สรีเร อุจฺฉิชฺชมาเนปิ ชีวํ น อุจฺฉิชฺชตี’’ติ สสฺสตคฺคหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. โหติ ตถาคโตติอาทีสุ ‘‘สตฺโต ตถาคโต นาม, โส ปรํ มรณา โหตี’’ติ คณฺหโต ปมา สสฺสตทิฏฺิ. ‘‘น โหตี’’ติ คณฺหโต ทุติยา อุจฺเฉททิฏฺิ. ‘‘โหติ จ น จ โหตี’’ติ คณฺหโต ตติยา เอกจฺจสสฺสตทิฏฺิ. ‘‘เนว โหติ น น โหตี’’ติ คณฺหโต จตุตฺถา อมราวิกฺเขปทิฏฺีติ.

อิตีติ วุตฺตปฺปการทิฏฺินิสฺสยนิทสฺสนํ. ภวทิฏฺิสนฺนิสฺสิตา วา สตฺตา โหนฺติ วิภวทิฏฺิสนฺนิสฺสิตา วาติ ภโว วุจฺจติ สสฺสโต, สสฺสตวเสน อุปฺปชฺชมานทิฏฺิ ภวทิฏฺิ, ภโวติ ทิฏฺีติ วุตฺตํ โหติ. วิภโว วุจฺจติ อุจฺเฉโท, อุจฺเฉทวเสน อุปฺปชฺชมานทิฏฺิ วิภวทิฏฺิ, วิภโวติ ทิฏฺีติ วุตฺตํ โหติ. วุตฺตปฺปการา ทสวิธา ทิฏฺิ ภวทิฏฺิ จ วิภวทิฏฺิ จาติ ทฺวิธาว โหติ. ตาสุ ทฺวีสุ เอเกกํ สนฺนิสฺสิตา อปสฺสิตา อลฺลีนา สตฺตา โหนฺติ.

เอเต วา ปน อุโภ อนฺเต อนุปคมฺมาติ เอตฺถ ‘‘อคฺคิโต วา อุทกโต วา มิถุเภทา วา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๑๕๒) วิย วา-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. เอเต วุตฺตปฺปกาเร สสฺสตุจฺเฉทวเสน ทฺเว ปกฺเข จ น อุปคนฺตฺวา อนลฺลียิตฺวา ปหายาติ อตฺโถ. ‘‘อนุโลมิกา วา ขนฺตี’’ติ วิกปฺปตฺโถว. อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสูติ อิเมสํ ชรามรณาทีนํ ปจฺจยา อิทปฺปจฺจยา, อิทปฺปจฺจยา เอว อิทปฺปจฺจยตา, อิทปฺปจฺจยานํ วา สมูโห อิทปฺปจฺจยตา. ลกฺขณํ ปเนตฺถ สทฺทสตฺถโต ปริเยสิตพฺพํ. เต เต ปจฺจเย ปฏิจฺจ สห สมฺมา จ อุปฺปนฺนา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา. ตสฺสา อิทปฺปจฺจยตาย จ เตสุ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ จ ธมฺเมสุ. อนุโลมิกาติ โลกุตฺตรธมฺมานํ อนุโลมโต อนุโลมิกา. ขนฺตีติ าณํ. าณฺหิ ขมนโต ขนฺติ. ปฏิลทฺธา โหตีติ สตฺเตหิ อธิคตา โหติ. อิทปฺปจฺจยตาย ขนฺติยา อุจฺเฉทตฺตานุปคโม โหติ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมานํ ปจฺจยสามคฺคิยํ อายตฺตวุตฺติตฺตา ปจฺจยานุปรมทสฺสเนน ผลานุปรมทสฺสนโต. ปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ ขนฺติยา สสฺสตตฺตานุปคโม โหติ ปจฺจยสามคฺคิยํ นวนวานํ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมานํ อุปฺปาททสฺสนโต. เอวเมเต อุโภ อนฺเต อนุปคมฺม ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺมทสฺสเนน น อุจฺเฉโท น สสฺสโตติ ปวตฺตํ สมฺมาทสฺสนํ ‘‘อนุโลมิกา ขนฺตี’’ติ เวทิตพฺพํ. เอวฺหิ ตทุภยทิฏฺิปฏิปกฺขภูตา สมฺมาทิฏฺิ วุตฺตา โหติ. ยถาภูตํ วา าณนฺติ ยถาภูตํ ยถาสภาวํ เนยฺยํ. ตตฺถ ปวตฺตาณมฺปิ วิสยโวหาเรน ‘‘ยถาภูตาณ’’นฺติ วุตฺตํ. ตํ ปน สงฺขารุเปกฺขาปริยนฺตํ วิปสฺสนาาณํ อิธาธิปฺเปตํ. เหฏฺา ปน ‘‘ยถาภูตาณทสฺสน’’นฺติ ภยตูปฏฺานาณํ วุตฺตํ. ยถาภูตํ วา าณํ สตฺเตหิ ปฏิลทฺธํ โหตีติ สมฺพนฺโธ.

อิทานิ ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติอาทีหิ มิจฺฉาทิฏฺิปริภาวิตํ ‘‘เอเต วา ปนา’’ติอาทีหิ สมฺมาทิฏฺิปริภาวิตํ สตฺตสนฺตานํ ทสฺเสตฺวา ‘‘กามํ เสวนฺตฺเวา’’ติอาทีหิ เสสากุสเลหิ เสสกุสเลหิ จ ปริภาวิตํ สตฺตสนฺตานํ ทสฺเสติ. ตตฺถ กามํ เสวนฺตํเยว ปุคฺคลํ ตถาคโต ชานาตีติ โยชนา กาตพฺพา. เสวนฺตนฺติ จ อภิณฺหสมุทาจารวเสน เสวมานํ. ปุพฺเพ อาเสวิตวเสน กิเลสกาโม ครุ อสฺสาติ กามครุโก. ตเถว กาโม อาสเย สนฺตาเน อสฺสาติ กามาสโย. สนฺตานวเสเนว กาเม อธิมุตฺโต ลคฺโคติ กามาธิมุตฺโต. เสเสสุปิ เอเสว นโย. เนกฺขมฺมาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. กามาทีหิ จ ตีหิ เสสากุสลา, เนกฺขมฺมาทีหิ ตีหิ เสสกุสลา คหิตาว โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. ‘‘อยํ สตฺตานํ อาสโย’’ติ ติธา วุตฺตํ สนฺตานเมว ทสฺเสติ.

อยํ ปเนตฺถ อฏฺกถานโย – ‘‘อิติ ภวทิฏฺิสนฺนิสฺสิตา วา’’ติ เอวํ สสฺสตทิฏฺึ วา สนฺนิสฺสิตา. สสฺสตทิฏฺิ หิ เอตฺถ ภวทิฏฺีติ วุตฺตา, อุจฺเฉททิฏฺิ จ วิภวทิฏฺีติ. สพฺพทิฏฺีนฺหิ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺีหิ สงฺคหิตตฺตา สพฺเพปิเม ทิฏฺิคติกา สตฺตา อิมาว ทฺเว ทิฏฺิโย สนฺนิสฺสิตา โหนฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ทฺวยนิสฺสิโต ขฺวายํ, กจฺจาน, โลโก เยภุยฺเยน อตฺถิตฺเจว นตฺถิตฺจา’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๕). เอตฺถ หิ อตฺถิตาติ สสฺสตํ. นตฺถิตาติ อุจฺเฉโท. อยํ ตาว วฏฺฏนิสฺสิตานํ ปุถุชฺชนานํ สตฺตานํ อาสโย. อิทานิ วิวฏฺฏนิสฺสิตานํ สุทฺธสตฺตานํ อาสยํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอเต วา ปน อุโภ อนฺเต อนุปคมฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘เอเต วา ปนา’’ติ เอเตเยว. ‘‘อุโภ อนฺเต’’ติ สสฺสตุจฺเฉทสงฺขาเต ทฺเว อนฺเต. ‘‘อนุปคมฺมา’’ติ น อลฺลียิตฺวา. ‘‘อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสู’’ติ อิทปฺปจฺจยตาย เจว ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺเมสุ จ. ‘‘อนุโลมิกา ขนฺตี’’ติ วิปสฺสนาาณํ. ‘‘ยถาภูตํ าณ’’นฺติ มคฺคาณํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยา ปฏิจฺจสมุปฺปาเท เจว ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺเมสุ จ เอเต อุโภ สสฺสตุจฺเฉทอนฺเต อนุปคนฺตฺวา วิปสฺสนา ปฏิลทฺธา, ยฺจ ตโต อุตฺตริ มคฺคาณํ, อยํ สตฺตานํ อาสโย. อยํ วฏฺฏนิสฺสิตานฺจ วิวฏฺฏนิสฺสิตานฺจ สพฺเพสมฺปิ สตฺตานํ อาสโย อิทํ วสนฏฺานนฺติ. อยํ อาจริยานํ สมานฏฺกถา.

วิตณฺฑวาที ปนาห ‘‘มคฺโค นาม วาสํ วิทฺธํเสนฺโต คจฺฉติ, ตฺวํ มคฺโค วาโสติ วเทสี’’ติ? โส วตฺตพฺโพ ‘‘ตฺวํ อริยวาสภาณโก โหสิ น โหสี’’ติ? สเจ ‘‘น โหมี’’ติ วทติ, ‘‘ตฺวํ อภาณกตาย น ชานาสี’’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ ‘‘ภาณโกสฺมี’’ติ วทติ, ‘‘สุตฺตํ อาหรา’’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ อาหรติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ อาหรติ, สยํ อาหริตพฺพํ ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, อริยาวาสา, ยทริยา อาวสึสุ วา อาวสนฺติ วา อาวสิสฺสนฺติ วา’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑๙). เอตฺหิ สุตฺตํ มคฺคสฺส วาสภาวํ ทีเปติ. ตสฺมา สุกถิตเมเวตนฺติ. อิมํ ปน ภควา สตฺตานํ อาสยํ ชานนฺโต อิเมสฺจ ทิฏฺิคตานํ อิเมสฺจ วิปสฺสนาาณมคฺคาณานํ อปฺปวตฺติกฺขเณปิ ชานาติ เอว. ตสฺมาเยว จ ‘‘กามํ เสวนฺตํเยว ชานาตี’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ.

อนุสยนิทฺเทเส อนุสยาติ เกนฏฺเน อนุสยา? อนุสยนฏฺเน. โก เอส อนุสยนฏฺโ นามาติ? อปฺปหีนฏฺโ. เอเต หิ อปฺปหีนฏฺเน ตสฺส ตสฺส สนฺตาเน อนุเสนฺติ นาม. ตสฺมา ‘‘อนุสยา’’ติ วุจฺจนฺติ. อนุเสนฺตีติ อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. อถาปิ สิยา – อนุสยนฏฺโ นาม อปฺปหีนากาโร, โส จ อุปฺปชฺชตีติ วตฺตุํ น ยุชฺชติ, ตสฺมา น อนุสยา อุปฺปชฺชนฺตีติ. ตตฺริทํ ปฏิวจนํ – น อปฺปหีนากาโร, อนุสโยติ ปน อปฺปหีนฏฺเน ถามคตกิเลโส วุจฺจติ. โส จิตฺตสมฺปยุตฺโต สารมฺมโณ สปฺปจฺจยฏฺเน สเหตุโก เอกนฺตากุสโล อตีโตปิ โหติ อนาคโตปิ ปจฺจุปฺปนฺโนปิ, ตสฺมา อุปฺปชฺชตีติ วตฺตุํ ยุชฺชตีติ. ตตฺริทํ ปมาณํ – อิเธว ตาว อภิสมยกถาย (ปฏิ. ม. ๓.๒๑) ‘‘ปจฺจุปฺปนฺเน กิเลเส ปชหตี’’ติ ปุจฺฉํ กตฺวา อนุสยานํ ปจฺจุปฺปนฺนภาวสฺส อตฺถิตาย ‘‘ถามคโต อนุสยํ ปชหตี’’ติ วุตฺตํ. ธมฺมสงฺคณิยํ โมหสฺส ปทภาชเน ‘‘อวิชฺชานุสโย อวิชฺชาปริยุฏฺานํ อวิชฺชาลงฺคี โมโห อกุสลมูลํ, อยํ ตสฺมึ สมเย โมโห โหตี’’ติ (ธ. ส. ๓๙๐) อกุสลจิตฺเตน สทฺธึ โมหสฺส อุปฺปนฺนภาโว วุตฺโต. กถาวตฺถุสฺมึ ‘‘อนุสยา อพฺยากตา อนุสยา อเหตุกา อนุสยา จิตฺตวิปฺปยุตฺตา’’ติ สพฺเพ วาทา ปฏิเสธิตา. อนุสยยมเก สตฺตนฺนํ มหาวารานํ อฺตรสฺมึ อุปฺปชฺชนวาเร ‘‘ยสฺส กามราคานุสโย อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ปฏิฆานุสโย อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิ (ยม. ๒.อนุสยยมก.๓๐๐) วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘อนุเสนฺตีติ อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ ยํ วุตฺตํ, ตํ อิมินา ตนฺติปฺปมาเณน ยุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยมฺปิ ‘‘จิตฺตสมฺปยุตฺโต สารมฺมโณ’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตมฺปิ สุวุตฺตเมว. อนุสโย หิ นาเมส ปรินิปฺผนฺโน จิตฺตสมฺปยุตฺโต อกุสลธมฺโมติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.

กามราคานุสโยติอาทีสุ กามราโค จ โส อปฺปหีนฏฺเน อนุสโย จาติ กามราคานุสโย. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. กามราคานุสโย เจตฺถ โลภสหคตจิตฺเตสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จ มนาเปสุ อวเสสกามาวจรธมฺเมสุ อารมฺมณวเสเนว อุปฺปชฺชมาโน โลโภ. ปฏิฆานุสโย จ โทมนสฺสสหคตจิตฺเตสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จ อมนาเปสุ อวเสสกามาวจรธมฺเมสุ อารมฺมณวเสเนว อุปฺปชฺชมาโน โทโส. มานานุสโย ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺตโลภสหคตจิตฺเตสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จ ทุกฺขเวทนาวชฺเชสุ อวเสสกามาวจรธมฺเมสุ รูปารูปาวจรธมฺเมสุ จ อารมฺมณวเสเนว อุปฺปชฺชมาโน มาโน. ทิฏฺานุสโย จตูสุ ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺเตสุ. วิจิกิจฺฉานุสโย วิจิกิจฺฉาสหคเต. อวิชฺชานุสโย ทฺวาทสสุ อกุสลจิตฺเตสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จ. ตโยปิ อวเสสเตภูมกธมฺเมสุ อารมฺมณวเสเนว อุปฺปชฺชมานา ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาโมหา. ภวราคานุสโย จตูสุ ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺเตสุ อุปฺปชฺชมาโนปิ สหชาตวเสน น วุตฺโต, อารมฺมณวเสเนว ปน รูปารูปาวจรธมฺเมสุ อุปฺปชฺชมาโน โลโภ วุตฺโต.

๑๑๔. อิทานิ ยถาวุตฺตานํ อนุสยานํ อนุสยนฏฺานํ ทสฺเสนฺโต ยํ โลเกติอาทิมาห. ตตฺถ ยํ โลเก ปิยรูปนฺติ ยํ อิมสฺมึ โลเก ปิยชาติกํ ปิยสภาวํ. สาตรูปนฺติ สาตชาติกํ อสฺสาทปทฏฺานํ อิฏฺารมฺมณํ. เอตฺถ สตฺตานํ กามราคานุสโย อนุเสตีติ เอตสฺมึ อิฏฺารมฺมเณ สตฺตานํ อปฺปหีนฏฺเน กามราคานุสโย อนุเสติ. ‘‘ปิยรูปํ สาตรูป’’นฺติ จ อิธ กามาวจรธมฺโมเยว อธิปฺเปโต. ยถา นาม อุทเก นิมุคฺคสฺส เหฏฺา จ อุปริ จ สมนฺตา จ อุทกเมว โหติ, เอวเมว อิฏฺารมฺมเณ ราคุปฺปตฺติ นาม สตฺตานํ อาจิณฺณสมาจิณฺณา. ตถา อนิฏฺารมฺมเณ ปฏิฆุปฺปตฺติ. อิติ อิเมสุ ทฺวีสุ ธมฺเมสูติ เอวํ อิเมสุ ทฺวีสุ อิฏฺานิฏฺารมฺมณธมฺเมสุ. อวิชฺชานุปติตาติ กามราคปฏิฆสมฺปยุตฺตา หุตฺวา อารมฺมณกรณวเสน อวิชฺชา อนุปติตา อนุคตา. วิจฺเฉทํ กตฺวาปิ ปาโ. ตเทกฏฺโติ ตาย อวิชฺชาย สหเชกฏฺวเสน เอกโต ิโต. มาโน จ ทิฏฺิ จ วิจิกิจฺฉา จาติ นววิธมาโน, ทฺวาสฏฺิวิธา ทิฏฺิ, อฏฺวตฺถุกา วิจิกิจฺฉา, ตเทกฏฺโ มาโน จ ตเทกฏฺา ทิฏฺิ จ ตเทกฏฺา วิจิกิจฺฉา จาติ โยชนา. ทฏฺพฺพาติ ปสฺสิตพฺพา อวคนฺตพฺพา. ตโย เอกโต กตฺวา พหุวจนํ กตํ. ภวราคานุสโย ปเนตฺถ กามราคานุสเยเนว สงฺคหิโตติ เวทิตพฺโพ.

จริตนิทฺเทเส เตรส เจตนา ปุฺาภิสงฺขาโร. ทฺวาทส อปุฺาภิสงฺขาโร. จตสฺโส อาเนฺชาภิสงฺขาโร. ตตฺถ กามาวจโร ปริตฺตภูมโก. อิตโร มหาภูมโก. ตีสุปิ วา เอเตสุ โย โกจิ อปฺปวิปาโก ปริตฺตภูมโก, มหาวิปาโก มหาภูมโกติ เวทิตพฺโพ.

๑๑๕. อธิมุตฺตินิทฺเทเส สนฺตีติ สํวิชฺชนฺติ. หีนาธิมุตฺติกาติ ลามกชฺฌาสยา. ปณีตาธิมุตฺติกาติ กลฺยาณชฺฌาสยา. เสวนฺตีติ นิสฺสยนฺติ อลฺลียนฺติ. ภชนฺตีติ อุปสงฺกมนฺติ. ปยิรุปาสนฺตีติ ปุนปฺปุนํ อุปสงฺกมนฺติ. สเจ หิ อาจริยุปชฺฌายา น สีลวนฺโต โหนฺติ, อนฺเตวาสิกสทฺธิวิหาริกา สีลวนฺโต, เต อตฺตโน อาจริยุปชฺฌาเยปิ น อุปสงฺกมนฺติ, อตฺตโน สทิเส สารุปฺเป ภิกฺขูเยว อุปสงฺกมนฺติ. สเจปิ อาจริยุปชฺฌายา สารุปฺปา ภิกฺขู, อิตเร อสารุปฺปา, เตปิ น อาจริยุปชฺฌาเย อุปสงฺกมนฺติ, อตฺตโน สทิเส หีนาธิมุตฺติเกเยว อุปสงฺกมนฺติ. เอวํ อุปสงฺกมนํ ปน น เกวลํ เอตรหิเยว, อตีตานาคเตปีติ ทสฺเสตุํ อตีตมฺปิ อทฺธานนฺติอาทิมาห. ตตฺถ อตีตมฺปิ อทฺธานนฺติ อตีตสฺมึ กาเล, อจฺจนฺตสํโยคตฺเถ วา อุปโยควจนํ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว. อิทํ ปน ทุสฺสีลานํ ทุสฺสีลเสวนเมว, สีลวนฺตานํ สีลวนฺตเสวนเมว, ทุปฺปฺานํ ทุปฺปฺเสวนเมว, ปฺวนฺตานํ ปฺวนฺตเสวนเมว โก นิยเมตีติ? อชฺฌาสยธาตุ นิยเมตีติ.

ภพฺพาภพฺพนิทฺเทเส ฉฑฺเฑตพฺเพ ปมํ นิทฺทิสิตฺวา คเหตพฺเพ ปจฺฉา นิทฺทิสิตุํ อุทฺเทสสฺส อุปฺปฏิปาฏิยา ปมํ อภพฺพา นิทฺทิฏฺา. อุทฺเทเส ปน ทฺวนฺทสมาเส อจฺจิตสฺส จ มนฺทกฺขรสฺส จ ปทสฺส ปุพฺพนิปาตลกฺขณวเสน ภพฺพสทฺโท ปุพฺพํ ปยุตฺโต. กมฺมาวรเณนาติ ปฺจวิเธน อานนฺตริยกมฺเมน. สมนฺนาคตาติ สมงฺคีภูตา. กิเลสาวรเณนาติ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิยา. อิมานิ ทฺเว สคฺคมคฺคานํ อาวรณโต อาวรณานิ. ภิกฺขุนีทูสกาทีนิ กมฺมานิปิ กมฺมาวรเณเนว สงฺคหิตานิ. วิปากาวรเณนาติ อเหตุกปฏิสนฺธิยา. ยสฺมา ปน ทุเหตุกานมฺปิ อริยมคฺคปฏิเวโธ นตฺถิ, ตสฺมา ทุเหตุกา ปฏิสนฺธิปิ วิปากาวรณเมวาติ เวทิตพฺพา, อสฺสทฺธาติ พุทฺธาทีสุ สทฺธารหิตา. อจฺฉนฺทิกาติ กตฺตุกมฺยตากุสลจฺฉนฺทรหิตา. อุตฺตรกุรุกา มนุสฺสา อจฺฉนฺทิกฏฺานํ ปวิฏฺา. ทุปฺปฺาติ ภวงฺคปฺาย ปริหีนา. ภวงฺคปฺาย ปน ปริปุณฺณายปิ ยสฺส ภวงฺคํ โลกุตฺตรสฺส ปาทกํ น โหติ, โสปิ ทุปฺปฺโเยว นาม. อภพฺพา นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตนฺติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตนิยามสงฺขาตํ อริยมคฺคํ โอกฺกมิตุํ อภพฺพา. อริยมคฺโค หิ สมฺมา สภาโวติ สมฺมตฺตํ, โสเยว อนนฺตรผลทาเน, สยเมว วา อจลภาวโต นิยาโม, ตํ โอกฺกมิตุํ ปวิสิตุํ อภพฺพา. น กมฺมาวรเณนาติอาทีนิ วุตฺตวิปริยาเยเนว เวทิตพฺพานีติ.

อาสยานุสยาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗๐. ยมกปาฏิหีราณนิทฺเทสวณฺณนา

๑๑๖. ยมกปาฏิหีราณนิทฺเทเส อสาธารณํ สาวเกหีติ เสสาสาธารณาณนิทฺเทเส อฺวจเนหิ โอกาสาภาวโต น วุตฺตํ, อิธ ปน อฺวจนาภาวโต วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อุปริมกายโตติ นาภิยา อุทฺธํ สรีรโต. อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตตีติ เตโชกสิณารมฺมณํ ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘อุปริมกายโต อคฺคิชาลา วุฏฺาตู’’ติ อาวชฺชิตฺวา ปริกมฺมํ กตฺวา อนนฺตรํ อภิฺาาเณน ‘‘อุปริมกายโต อคฺคิชาลา วุฏฺาตู’’ติ อธิฏฺิเต สห อธิฏฺานา อุปริมกายโต อคฺคิชาลา วุฏฺาติ. สา หิ อิธ ราสฏฺเน ขนฺโธติ วุตฺตา. เหฏฺิมกายโตติ นาภิโต เหฏฺา สรีรโต. อุทกธารา ปวตฺตตีติ อาโปกสิณารมฺมณํ ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘เหฏฺิมกายโต อุทกธารา วุฏฺาตู’’ติ อาวชฺชิตฺวา ปริกมฺมํ กตฺวา อนนฺตรํ อภิฺาาเณน ‘‘เหฏฺิมกายโต อุทกธารา วุฏฺาตู’’ติ อธิฏฺิเต สห อธิฏฺานา เหฏฺิมกายโต อุทกธารา วุฏฺาติ. อุภยตฺถาปิ อพฺโพจฺเฉทวเสน ปวตฺตตีติ วุตฺตํ. อธิฏฺานสฺส อาวชฺชนสฺส จ อนฺตเร ทฺเว ภวงฺคจิตฺตานิ วตฺตนฺติ. ตสฺมาเยว ยุคลา หุตฺวา อคฺคิกฺขนฺธอุทกธารา ปวตฺตนฺติ, อนฺตรํ น ปฺายติ. อฺเสํ ปน ภวงฺคปริจฺเฉโท นตฺถิ. ปุรตฺถิมกายโตติ อภิมุขปสฺสโต. ปจฺฉิมกายโตติ ปิฏฺิปสฺสโต. ทกฺขิณอกฺขิโต วามอกฺขิโตติอาทิ สมาสปาโเยว, น อฺโ. ทกฺขิณนาสิกาโสตโต วามนาสิกาโสตโตติ ปาโ สุนฺทโร. รสฺสํ กตฺวาปิ ปนฺติ. อํสกูฏโตติ เอตฺถ อพฺภุคฺคตฏฺเน กูโฏ วิยาติ กูโฏ, อํโสเยว กูโฏ อํสกูโฏ. องฺคุลงฺคุเลหีติ องฺคุลีหิ องฺคุลีหิ. องฺคุลนฺตริกาหีติ องฺคุลีนํ อนฺตริกาหิ. เอเกกโลมโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, เอเกกโลมโต อุทกธารา ปวตฺตตีติ อุภยตฺถาปิ อาเมฑิตวจเนน สพฺพโลมานํ ปริยาทินฺนตฺตา เอเกกโลมโตว อคฺคิกฺขนฺธอุทกธารา ยุคลา ยุคลา หุตฺวา ปวตฺตนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. โลมกูปโต โลมกูปโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, โลมกูปโต โลมกูปโต อุทกธารา ปวตฺตตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เกสุจิ โปตฺถเกสุ ‘‘เอเกกโลมโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ. โลมกูปโต โลมกูปโต อุทกธารา ปวตฺตติ, โลมกูปโต โลมกูปโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, เอเกกโลมโต อุทกธารา ปวตฺตตี’’ติ ลิขิตํ. ตมฺปิ ยุชฺชติเยว. ปาฏิหีรสฺส อติสุขุมตฺตทีปนโต ปน ปุริมปาโเยว สุนฺทรตโร.

อิทานิ ฉนฺนํ วณฺณานนฺติ โก สมฺพนฺโธ? เหฏฺา ‘‘อุปริมกายโต’’ติอาทีหิ อเนเกหิ สรีราวยวา วุตฺตา. เตน สรีราวยวสมฺพนฺโธ ปวตฺตตีติ วจนสมฺพนฺเธน จ ยมกปาฏิหีราธิกาเรน จ ฉนฺนํ วณฺณานํ สรีราวยวภูตานํ รสฺมิโย ยมกา หุตฺวา ปวตฺตนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. สามิวจนสมฺพนฺเธน จ อวสฺสํ ‘‘รสฺมิโย’’ติ ปาเสโส อิจฺฉิตพฺโพเยว. นีลานนฺติ อุมาปุปฺผวณฺณานํ. ปีตกานนฺติ กณิการปุปฺผวณฺณานํ. โลหิตกานนฺติ อินฺทโคปกวณฺณานํ. โอทาตานนฺติ โอสธิตารกวณฺณานํ. มฺชิฏฺานนฺติ มนฺทรตฺตวณฺณานํ. ปภสฺสรานนฺติ ปภาสนปกติกานํ ปภสฺสรวณฺณานํ. ปภสฺสรวณฺเณ วิสุํ อวิชฺชมาเนปิ วุตฺเตสุ ปฺจสุ วณฺเณสุ เย เย ปภา สมุชฺชลา, เต เต ปภสฺสรา. ตถา หิ ตถาคตสฺส ยมกปาฏิหีรํ กโรนฺตสฺส ยมกปาฏิหีราณพเลเนว เกสมสฺสูนฺเจว อกฺขีนฺจ นีลฏฺาเนหิ นีลรสฺมิโย นิกฺขมนฺติ, ยาสํ วเสน คคนตลํ อฺชนจุณฺณสโมกิณฺณํ วิย อุมาปุปฺผนีลุปฺปลทลสฺฉนฺนํ วิย วีติปตนฺตมณิตาลวณฺฏํ วิย ปสาริตเมจกปฏํ วิย จ โหติ. ฉวิโต เจว อกฺขีนฺจ ปีตกฏฺาเนหิ ปีตรสฺมิโย นิกฺขมนฺติ, ยาสํ วเสน ทิสาภาคา สุวณฺณรสนิสิฺจมานา วิย สุวณฺณปฏปสาริตา วิย กุงฺกุมจุณฺณกณิการปุปฺผสมฺปริกิณฺณา วิย จ วิโรจนฺติ. มํสโลหิเตหิ เจว อกฺขีนฺจ รตฺตฏฺาเนหิ โลหิตรสฺมิโย นิกฺขมนฺติ, ยาสํ วเสน ทิสาภาคา จินปิฏฺจุณฺณรฺชิตา วิย สุปกฺกลาขารสนิสิฺจมานา วิย รตฺตกมฺพลปริกฺขิตฺตา วิย ชยสุมนปาลิภทฺทกพนฺธุชีวกกุสุมสมฺปริกิณฺณา วิย จ วิโรจนฺติ. อฏฺีหิ เจว ทนฺเตหิ จ อกฺขีนฺจ เสตฏฺาเนหิ โอทาตรสฺมิโย นิกฺขมนฺติ, ยาสํ วเสน ทิสาภาคา รชตกุเฏหิ อาสิฺจมานขีรธาราสมฺปริกิณฺณา วิย ปสาริตรชตปฏฺฏวิตานา วิย วีติปตนฺตรชตตาลวณฺฏา วิย กุนฺทกุมุทสินฺทุวารสุมนมลฺลิกาทิกุสุมสฺฉนฺนา วิย จ วิโรจนฺติ. หตฺถตลปาทตลาทีหิ มนฺทรตฺตฏฺาเนหิ มฺชิฏฺรสฺมิโย นิกฺขมนฺติ, ยาสํ วเสน ทิสาภาคา ปวาฬชาลปริกฺขิตฺตา วิย รตฺตกุรวกกุสุมสโมกิณฺณา วิย จ วิโรจนฺติ. อุณฺณานขาทีหิ ปภสฺสรฏฺาเนหิ ปภสฺสรรสฺมิโย นิกฺขมนฺติ, ยาสํ วเสน ทิสาภาคา โอสธิตารกปุฺชปุณฺณา วิย วิชฺชุปฏลาทิปริปุณฺณา วิย จ วิโรจนฺติ.

ภควา จงฺกมตีติอาทิ ‘‘ภควโต จ นิมฺมิตานฺจ นานาอิริยาปถกรณํ ยมกปาฏิหีเรเนว โหตี’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เตสฺหิ นิมฺมิตานํ อิริยาปถา ยุคลาว หุตฺวา วตฺตนฺติ. ยทิ นิมฺมิตา พหุกา โหนฺติ, ‘‘นิมฺมิโต’’ติอาทิ กสฺมา เอกวจนํ กตนฺติ เจ? นิมฺมิเตสุปิ เอเกกสฺส นานาอิริยาปถภาวทสฺสนตฺถํ. พหุวจเนน หิ วุตฺเต สพฺเพปิ นิมฺมิตา สกึ เอเกกอิริยาปถิกา วิย โหนฺติ. เอกวจเนน ปน วุตฺเต นิมฺมิเตสุ เอเกโก นานาอิริยาปถิโกติ ายติ. ตสฺมา เอกวจนนิทฺเทโส กโต. จูฬปนฺถกตฺเถโรปิ ตาว นานาอิริยาปถิกภิกฺขูนํ สหสฺสํ มาเปสิ, กึ ปน ภควา ยมกปาฏิหีเร พหู นิมฺมิเต น กริสฺสติ. จูฬปนฺถกตฺเถรํ มุฺจิตฺวา อฺเสํ สาวกานํ เอกาวชฺชเนน นานาอิริยปถิกานํ นานารูปานฺจ นิมฺมานํ น อิชฺฌติ. อนิยเมตฺวา หิ นิมฺมิตา อิทฺธิมตา สทิสาว โหนฺติ. านนิสชฺชาทีสุ วา ภาสิตตุณฺหีภาวาทีสุ วา ยํ ยํ อิทฺธิมา กโรติ, ตํ ตเทว กโรนฺติ, วิสทิสกรณํ นานากิริยากรณฺจ ‘‘เอตฺตกา อีทิสา โหนฺตุ, เอตฺตกา อิมํ นาม กโรนฺตู’’ติ วิสุํ วิสุํ อาวชฺชิตฺวา อธิฏฺาเนน อิชฺฌติ. ตถาคตสฺส ปน เอกาวชฺชนาธิฏฺาเนเนว นานปฺปการนิมฺมานํ อิชฺฌติ. เอวเมว อคฺคิกฺขนฺธอุทกธารานิมฺมาเน จ นานาวณฺณนิมฺมาเน จ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ภควา จงฺกมตีติ อากาเส วา ปถวิยํ วา จงฺกมติ. นิมฺมิโตติ อิทฺธิยา มาปิตพุทฺธรูปํ. ติฏฺติ วาติอาทีนิปิ อากาเส วา ปถวิยํ วา. กปฺเปตีติ กโรติ. ภควา ติฏฺตีติอาทีสุปิ เอเสว นโยติ.

ยมกปาฏิหีราณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗๑. มหากรุณาาณนิทฺเทสวณฺณนา

๑๑๗. มหากรุณาาณนิทฺเทเส พหุเกหิ อากาเรหีติ อิทานิ วุจฺจมาเนหิ เอกูนนวุติยา ปกาเรหิ. ปสฺสนฺตานนฺติ าณจกฺขุนา จ พุทฺธจกฺขุนา จ โอโลเกนฺตานํ. โอกฺกมตีติ โอตรติ ปวิสติ. อาทิตฺโตติ ทุกฺขลกฺขณวเสน ปีฬาโยคโต สนฺตาปนฏฺเน อาทีปิโต. ‘‘ยทนิจฺจํ, ตํ ทุกฺข’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๑๕) วุตฺตตฺตา สพฺพสงฺขตสฺส เจว ทุกฺขลกฺขณวเสน ปีฬิตตฺตา ทุกฺขสฺส จ กรุณาย มูลภูตตฺตา ปมํ ทุกฺขลกฺขณวเสน ‘‘อาทิตฺโต’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ราคาทีหิ อาทิตฺตตํ ปน อุปริ วกฺขติ. อถ วา อาทิตฺโตติ ราคาทีหิเยว อาทิตฺโต. อุปริ ปน ‘‘ตสฺส นตฺถฺโ โกจิ นิพฺพาเปตา’’ติ อตฺถาเปกฺขนวเสน ปุน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. โลกสนฺนิวาโสติ ปฺจกฺขนฺธา ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโก, ตณฺหาทิฏฺิวเสน สนฺนิวสนฺติ เอตฺถ สตฺตาติ สนฺนิวาโส, โลโกว สนฺนิวาโส โลกสนฺนิวาโส. ทุกฺขิตํ ขนฺธสนฺตานํ อุปาทาย สตฺตโวหารสพฺภาวโต โลกสนฺนิวาสโยคโต สตฺตสมูโหปิ โลกสนฺนิวาโส. โสปิ จ สหขนฺธโกเยว. อุยฺยุตฺโตติ อเนเกสุ กิจฺเจสุ นิจฺจพฺยาปารตาย กตโยโค กตอุสฺสาโห, สตตกิจฺเจสุ สอุสฺสุกฺโกติ อตฺโถ. ฆฏฺฏนยุตฺโตติ วา อุยฺยุตฺโต. ปยาโตติ ปพฺพเตยฺยา นที วิย อนวฏฺิตคมเนน มรณาย ยาตุํ อารทฺโธ. กุมฺมคฺคปฺปฏิปนฺโนติ กุจฺฉิตํ มิจฺฉามคฺคํ ปฏิปนฺโน. อุปริ ปน ‘‘วิปถปกฺขนฺโท’’ติ นานาปเทหิ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ.

อุปนียตีติ ชราวเสน มรณาย อุปนียติ หรียติ. ชรา หิ ‘‘อายุโน สํหานี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๒) วุตฺตา. อทฺธุโวติ น ถิโร, สทา ตเถว น โหติ. ยสฺมา อทฺธุโว, ตสฺมา อุปนียตีติ ปุริมสฺส การณวจนเมตํ. เอเตน สการณํ ชราทุกฺขํ วุตฺตํ. ตํ ชราทุกฺขํ ทิสฺวา ชราปาริชุฺรหิตาปิ วิฺู ปพฺพชนฺติ. อตาโณติ ตายิตุํ รกฺขิตุํ สมตฺเถน รหิโต, อนารกฺโขติ วุตฺตํ โหติ. อนภิสฺสโรติ อภิสริตฺวา อภิคนฺตฺวา พฺยาหรเณน อสฺสาเสตุํ สมตฺเถน รหิโต, อสหาโยติ วา อตฺโถ. ยสฺมา อนภิสฺสโร, ตสฺมา อตาโณติ ปุริมสฺส การณวจนเมตํ. เอเตน สการณํ ปิยวิปฺปโยคทุกฺขํ วุตฺตํ. ตํ ปิยวิปฺปโยคทุกฺขํ ทิสฺวา าติปาริชุฺรหิตาปิ วิฺู ปพฺพชนฺติ. อสฺสโกติ สกภณฺฑรหิโต. สพฺพํ ปหาย คมนียนฺติ สกภณฺฑนฺติ สลฺลกฺขิตํ สพฺพํ ปหาย โลเกน คนฺตพฺพํ. ยสฺมา สพฺพํ ปหาย คมนียํ, ตสฺมา อสฺสโกติ ปุริมสฺส การณวจนเมตํ. เอเตน สการณํ มรณทุกฺขํ วุตฺตํ. ตํ ทิสฺวา โภคปาริชุฺรหิตาปิ วิฺู ปพฺพชนฺติ. อฺตฺถ ‘‘กมฺมสฺสกา มาณวสตฺตา’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๘๙) วุตฺตํ, อิธ จ รฏฺปาลสุตฺเต จ ‘‘อสฺสโก โลโก’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๐๕) วุตฺตํ, ตํ กถํ ยุชฺชตีติ เจ? ปหาย คมนียํ สนฺธาย ‘‘อสฺสโก’’ติ วุตฺตํ, กมฺมํ ปน น ปหาย คมนียํ. ตสฺมา ‘‘กมฺมสฺสกา’’ติ วุตฺตํ. รฏฺปาลสุตฺเตเยว จ เอวเมตํ วุตฺตํ ‘‘ตฺวํ ปน ยถากมฺมํ คมิสฺสสี’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๐๖). อูโนติ ปาริปูริรหิโต. อติตฺโตติ ภิยฺโย ภิยฺโย ปตฺถนายปิ น สุหิโต. อิทํ อูนภาวสฺส การณวจนํ. ตณฺหาทาโสติ ตณฺหาย วเส วตฺตนโต ตณฺหาย ทาสภูโต. อิทํ อติตฺตภาวสฺส การณวจนํ. เอเตน อิจฺฉาโรคาปเทเสน สการณํ พฺยาธิทุกฺขํ วุตฺตํ. ตํ พฺยาธิทุกฺขํ ทิสฺวา พฺยาธิปาริชุฺรหิตาปิ วิฺู ปพฺพชนฺติ. อตายโนติ ปุตฺตาทีหิปิ ตายนสฺส อภาวโต อตายโน อนารกฺโข, อลพฺภเนยฺยเขโม วา. อเลโณติ อลฺลียิตุํ นิสฺสิตุํ อนรโห อลฺลีนานมฺปิ จ เลณกิจฺจาการโก. อสรโณติ นิสฺสิตานํ น ภยสารโก น ภยวินาสโก. อสรณีภูโตติ ปุเร อุปฺปตฺติยา อตฺตโน อภาเวเนว อสรโณ, อุปฺปตฺติสมกาลเมว อสรณีภูโตติ อตฺโถ.

อุทฺธโตติ สพฺพากุสเลสุ อุทฺธจฺจสฺส อุปฺปชฺชนโต สตฺตสนฺตาเน จ อกุสลุปฺปตฺติพาหุลฺลโต อกุสลสมงฺคีโลโก เตน อุทฺธจฺเจน อุทฺธโต. อวูปสนฺโตติ อวูปสมนลกฺขณสฺส อุทฺธจฺจสฺเสว โยเคน อวูปสนฺโต ภนฺตมิคปฏิภาโค. ‘‘อุปนียติ โลโก’’ติอาทีสุ จตูสุ จ ‘‘อุทฺธโต โลโก’’ติ จ ปฺจสุ าเนสุ โลโกติ อาคตํ, เสเสสุ โลกสนฺนิวาโสติ. อุภยถาปิ โลโกเยว. สสลฺโลติ ปีฬาชนกตาย อนฺโตตุทนตาย ทุนฺนีหรณียตาย จ สลฺลาติ สงฺขํ คเตหิ ราคาทีหิ สลฺเลหิ สหวตฺตนโก. วิทฺโธติ มิคาทโย กทาจิ ปเรหิ วิทฺธา โหนฺติ, อยํ ปน โลโก นิจฺจํ อตฺตนาว วิทฺโธ. ปุถุสลฺเลหีติ ‘‘สตฺต สลฺลานิ – ราคสลฺลํ, โทสสลฺลํ, โมหสลฺลํ, มานสลฺลํ, ทิฏฺิสลฺลํ, กิเลสสลฺลํ, ทุจฺจริตสลฺล’’นฺติ (มหานิ. ๑๗๔) วุตฺเตหิ สตฺตหิ สลฺเลหิ. ตสฺสาติ ตสฺส โลกสนฺนิวาสสฺส. สลฺลานํ อุทฺธตาติ เตสํ สลฺลานํ สตฺตสนฺตานโต อุทฺธริตา ปุคฺคโล. อฺตฺร มยาติ มํ เปตฺวา. เยปิ ภควโต สาวกา สลฺลานิ อุทฺธรนฺติ, เตสํ ภควโต วจเนเนว อุทฺธรณโต ภควาว อุทฺธรติ นาม. อวิชฺชนฺธการาวรโณติ อวิชฺชา เอว สภาวทสฺสนจฺฉาทเนน อนฺธํ วิย กโรตีติ อวิชฺชนฺธกาโร, โสว สภาวาวคมนนิวารเณน อาวรณํ เอตสฺสาติ อวิชฺชนฺธการาวรโณ. กิเลสปฺชรปกฺขิตฺโตติ กิเลสา เอว กุสลคมนสนฺนิรุชฺฌนฏฺเน ปฺชโรติ กิเลสปฺชโร, อวิชฺชาปภเว กิเลสปฺชเร ปกฺขิตฺโต ปาติโต. อาโลกํ ทสฺเสตาติ ปฺาโลกํ ทสฺสนสีโล, ปฺาโลกสฺส ทสฺเสตาติ วา อตฺโถ. อวิชฺชาคโตติ อวิชฺชํ คโต ปวิฏฺโ. น เกวลํ อวิชฺชาย อาวรณมตฺตเมว, อถ โข คหนคโต วิย อวิชฺชาโกสสฺส อนฺโต ปวิฏฺโติ ปุริมโต วิเสโส. อณฺฑภูโตติอาทโย จ วิเสสาเยว. อณฺฑภูโตติ อณฺเฑ ภูโต นิพฺพตฺโต. ยถา หิ อณฺเฑ นิพฺพตฺตา เอกจฺเจ สตฺตา ‘‘อณฺฑภูตา’’ติ วุจฺจนฺติ, เอวมยํ โลโก อวิชฺชณฺฑโกเส นิพฺพตฺตตฺตา ‘‘อณฺฑภูโต’’ติ วุจฺจติ. ปริโยนทฺโธติ เตน อวิชฺชณฺฑโกเสน สมนฺตโต โอนทฺโธ พทฺโธ เวิโต.

ตนฺตากุลกชาโตติ ตนฺตํ วิย อากุลภูโต. ยถา นาม ทุนฺนิกฺขิตฺตํ มูสิกจฺฉินฺนํ เปสการานํ ตนฺตํ ตหึ ตหึ อากุลํ โหติ, อิทํ อคฺคํ อิทํ มูลนฺติ อคฺเคน วา อคฺคํ, มูเลน วา มูลํ สมาเนตุํ ทุกฺกรํ โหติ, เอวเมว สตฺตา ปจฺจยากาเร ขลิตา อากุลา พฺยากุลา โหนฺติ, น สกฺโกนฺติ ปจฺจยาการํ อุชุํ กาตุํ. ตตฺถ ตนฺตํ ปจฺจตฺตปุริสกาเร ตฺวา สกฺกาปิ ภเวยฺย อุชุํ กาตุํ, เปตฺวา ปน ทฺเว โพธิสตฺเต อฺโ สตฺโต อตฺตโน ธมฺมตาย ปจฺจยาการํ อุชุํ กาตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. ยถา ปน อากุลํ ตนฺตํ กฺชิกํ ทตฺวา โกจฺเฉน ปหฏํ ตตฺถ ตตฺถ กุลกชาตํ โหติ คณฺิพทฺธํ, เอวมยํ โลโก ปจฺจเยสุ ปกฺขลิตฺวา ปจฺจเย อุชุํ กาตุํ อสกฺโกนฺโต ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตวเสน กุลกชาโต โหติ คณฺิพทฺโธ. เย หิ เกจิ ทิฏฺิโย นิสฺสิตา, สพฺเพ เต ปจฺจยํ อุชุํ กาตุํ น สกฺโกนฺติเยว. กุลาคณฺิกชาโตติ กุลาคณฺิกํ วิย ภูโต. กุลาคณฺิกํ วุจฺจติ เปสการกฺชิกสุตฺตํ. ‘‘กุลา นาม สกุณิกา, ตสฺสา กุลาวโก’’ติปิ เอเก. ยถา ตทุภยมฺปิ อากุลํ อคฺเคน วา อคฺคํ, มูเลน วา มูลํ สมาเนตุํ ทุกฺกรนฺติ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ. มุฺชปพฺพชภูโตติ มุฺชติณํ วิย ปพฺพชติณํ วิย จ ภูโต มุฺชติณปพฺพชติณสทิโส ชาโต. ยถา ตานิ ติณานิ โกฏฺเฏตฺวา โกฏฺเฏตฺวา กตรชฺชุ ชิณฺณกาเล กตฺถจิ ปติตํ คเหตฺวา เตสํ ติณานํ ‘‘อิทํ อคฺคํ อิทํ มูล’’นฺติ อคฺเคน วา อคฺคํ, มูเลน วา มูลํ สมาเนตุํ ทุกฺกรํ, ตมฺปิ ปจฺจตฺตปุริสกาเร ตฺวา สกฺกา ภเวยฺย อุชุํ กาตุํ, เปตฺวา ปน ทฺเว โพธิสตฺเต อฺโ สตฺโต อตฺตโน ธมฺมตาย ปจฺจยาการํ อุชุํ กาตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. เอวมยํ โลโก ปจฺจยาการํ อุชุํ กาตุํ อสกฺโกนฺโต ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตวเสน คณฺิชาโต หุตฺวา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ สํสารํ นาติวตฺตติ.

ตตฺถ อปาโยติ นิรโย ติรจฺฉานโยนิ เปตฺติวิสโย อสุรกาโย. สพฺเพปิ หิ เต วฑฺฒิสงฺขาตสฺส อายสฺส อภาวโต ‘‘อปาโย’’ติ วุจฺจนฺติ. ตถา ทุกฺขสฺส คติภาวโต ทุคฺคติ. สุขสมุสฺสยโต วินิปติตตฺตา วินิปาโต. อิตโร ปน –

‘‘ขนฺธานฺจ ปฏิปาฏิ, ธาตุอายตนาน จ;

อพฺโพจฺฉินฺนํ วตฺตมานา, สํสาโรติ ปวุจฺจติ’’.

ตํ สพฺพมฺปิ นาติวตฺตติ นาติกฺกมติ. อถ โข จุติโต ปฏิสนฺธึ, ปฏิสนฺธิโต จุตินฺติ เอวํ ปุนปฺปุนํ จุติปฏิสนฺธิโย คณฺหมาโน ตีสุ ภเวสุ จตูสุ โยนีสุ ปฺจสุ คตีสุ สตฺตสุ วิฺาณฏฺิตีสุ นวสุ สตฺตาวาเสสุ มหาสมุทฺเท วาตุกฺขิตฺตนาวา วิย ยนฺตโคโณ วิย จ ปริพฺภมติเยว. อวิชฺชาวิสโทสสลฺลิตฺโตติ อวิชฺชาเยว อกุสลุปฺปาทเนน กุสลชีวิตนาสนโต วิสนฺติ อวิชฺชาวิสํ, ตเทว สนฺตานทูสนโต อวิชฺชาวิสโทโส, เตน อนุสยปริยุฏฺานทุจฺจริตภูเตน ภุสํ ลิตฺโต มกฺขิโตติ อวิชฺชาวิสโทสสลฺลิตฺโต. กิเลสกลลีภูโตติ อวิชฺชาทิมูลกา กิเลสา เอว โอสีทนฏฺเน กลลํ กทฺทโมติ กิเลสกลลํ, ตทสฺส อตฺถีติ กิเลสกลลี, เอวํภูโต. ราคโทสโมหชฏาชฏิโตติ โลภปฏิฆาวิชฺชาสงฺขาตา ราคโทสโมหา เอว รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ เหฏฺุปริยวเสน ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต สํสิพฺพนฏฺเน เวฬุคุมฺพาทีนํ สาขาชาลสงฺขาตา ชฏา วิยาติ ชฏา, ตาย ราคโทสโมหชฏาย ชฏิโต. ยถา นาม เวฬุชฏาทีหิ เวฬุอาทโย, เอวํ ตาย ชฏาย อยํ โลโก ชฏิโต วินทฺโธ สํสิพฺพิโตติ อตฺโถ. ชฏํ วิชเฏตาติ อิมํ เอวํ เตธาตุกํ โลกํ ชเฏตฺวา ิตํ ชฏํ วิชเฏตา สํฉินฺทิตา สมฺปทาลยิตา.

ตณฺหาสงฺฆาฏปฏิมุกฺโกติ ตณฺหา เอว อพฺโพจฺฉินฺนํ ปวตฺติโต สงฺฆฏิตฏฺเน สงฺฆาโฏติ ตณฺหาสงฺฆาโฏ, ตสฺมึ ตณฺหาสงฺฆาเฏ ปฏิมุกฺโก อนุปวิฏฺโ อนฺโตคโตติ ตณฺหาสงฺฆาฏปฏิมุกฺโก. ตณฺหาชาเลน โอตฺถโฏติ ตณฺหา เอว ปุพฺเพ วุตฺตนเยน สํสิพฺพนฏฺเน ชาลนฺติ ตณฺหาชาลํ, เตน ตณฺหาชาเลน โอตฺถโฏ สมนฺตโต ฉาทิโต ปลิเวิโต. ตณฺหาโสเตน วุยฺหตีติ ตณฺหา เอว สํสาเร อากฑฺฒนฏฺเน โสโตติ ตณฺหาโสโต, เตน ตณฺหาโสเตน วุยฺหติ อากฑฺฒียติ. ตณฺหาสฺโชเนน สฺุตฺโตติ ตณฺหา เอว โลกํ วฏฺฏสฺมึ สํโยชนโต พนฺธนโต สํโยชนนฺติ ตณฺหาสํโยชนํ, เตน ตณฺหาสํโยชเนน สฺุตฺโต พทฺโธ. ตณฺหานุสเยน อนุสโฏติ ตณฺหา เอว อนุสยนฏฺเน อนุสโยติ ตณฺหานุสโย, เตน ตณฺหานุสเยน อนุสโฏ อนุคโต ถามคโต. ตณฺหาสนฺตาเปน สนฺตปฺปตีติ ตณฺหา เอว ปวตฺติกาเล ผลกาเล จ โลกํ สนฺตาเปตีติ สนฺตาโป, เตน ตณฺหาสนฺตาเปน สนฺตปฺปติ สนฺตาปียติ. ตณฺหาปริฬาเหน ปริฑยฺหตีติ ตณฺหา เอว พลวภูตา ปวตฺติกาเล ผลกาเล จ สมนฺตโต ทหนฏฺเน มหาปริฬาโหติ ตณฺหาปริฬาโห, เตน ตณฺหาปริฬาเหน ปริฑยฺหติ สมนฺตโต ฑหียติ. ทิฏฺิสงฺฆาฏาทโย อิมินาว นเยน โยเชตพฺพา.

อนุคโตติ อนุปวิฏฺโ. อนุสโฏติ อนุธาวิโต. อภิภูโตติ ปีฬิโต. อพฺภาหโตติ อภิอาหโต อภิมุขํ ภุสํ ปหโต. ทุกฺเข ปติฏฺิโตติ ทุกฺเข ขนฺธปฺจเก สุขวิปลฺลาเสน ปติฏฺิโต อภินิวิฏฺโ.

ตณฺหาย อุฑฺฑิโตติ ตณฺหาย อุลฺลงฺฆิโต. จกฺขุ หิ ตณฺหารชฺชุนา อาวุนิตฺวา รูปนาคทนฺเต อุฑฺฑิตํ, โสตาทีนิ ตณฺหารชฺชุนา อาวุนิตฺวา สทฺทาทินาคทนฺเตสุ อุฑฺฑิตานิ. ตํสมงฺคีโลโกปิ อุฑฺฑิโตเยว นาม. ชราปาการปริกฺขิตฺโตติ อนติกฺกมนียฏฺเน ปาการภูตาย ชราย ปริวาริโต. มจฺจุปาเสน ปริกฺขิตฺโตติ ทุมฺโมจนียฏฺเน ปาสภูเตน มรเณน พทฺโธ. มหาพนฺธนพทฺโธติ ทฬฺหตฺตา ทุจฺเฉทตฺตา จ มหนฺเตหิ พนฺธเนหิ พทฺโธ. ราคพนฺธเนนาติ ราโค เอว พนฺธติ สํสารโต จลิตุํ น เทตีติ ราคพนฺธนํ. เตน ราคพนฺธเนน. เสเสสุปิ เอเสว นโย. กิเลสพนฺธเนนาติ วุตฺตาวเสเสน กิเลสพนฺธเนน. ทุจฺจริตพนฺธเนนาติ ติวิเธน. สุจริตํ ปน พนฺธนโมกฺขสฺส เหตุภูตํ พนฺธนโมกฺขภูตฺจ อตฺถิ. ตสฺมา ตํ น คเหตพฺพํ.

พนฺธนํ โมเจตาติ ตสฺส พนฺธนํ โมเจตา. พนฺธนา โมเจตาติปิ ปาโ, พนฺธนโต ตํ โมเจตาติ อตฺโถ. มหาสมฺพาธปฺปฏิปนฺโนติ กุสลสฺจารปีฬเนน มหาสมฺพาธสงฺขาตํ ราคโทสโมหมานทิฏฺิกิเลสทุจฺจริตคหนํ ปฏิปนฺโน. โอกาสํ ทสฺเสตาติ โลกิยโลกุตฺตรสมาธิปฺาโอกาสํ ทสฺเสตา. มหาปลิโพเธน ปลิพุทฺโธติ มหานิวารเณน นิวุโต. มหาเลเปน วา ลิตฺโต. ปลิโพโธติ จ ราคาทิสตฺตวิโธ เอว. ‘‘ตณฺหาทิฏฺิปลิโพโธ’’ติ เอเก. ปลิโพธํ เฉตาติ ตํ ปลิโพธํ ฉินฺทิตา. มหาปปาเตติ ปฺจคติปปาเต, ชาติชรามรณปปาเต วา. ตํ สพฺพมฺปิ ทุรุตฺตรณฏฺเน ปปาโต. ปปาตา อุทฺธตาติ ตมฺหา ปปาตโต อุทฺธริตา. มหากนฺตารปฺปฏิปนฺโนติ ชาติชราพฺยาธิมรณโสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสกนฺตารํ ปฏิปนฺโน. สพฺพมฺปิ ตํ ทุรติกฺกมนฏฺเน กนฺตาโร, ตํ กนฺตารํ ตาเรตา. กนฺตารา ตาเรตาติ วา ปาโ. มหาสํสารปฺปฏิปนฺโนติ อพฺโพจฺฉินฺนํ ขนฺธสนฺตานํ ปฏิปนฺโน. สํสารา โมเจตาติ สํสารโต โมเจตา. สํสารํ โมเจตาติ วา ปาโ. มหาวิทุคฺเคติ สํสารวิทุคฺเค. สํสาโรเยว หิ ทุคฺคมนฏฺเน วิทุคฺโค. สมฺปริวตฺตตีติ ภุสํ นิวตฺติตฺวา จรติ. มหาปลิเปติ มหนฺเต กามกทฺทเม. กาโม หิ โอสีทนฏฺเน ปลิโป. ปลิปนฺโนติ ลคฺโค. มหาปลิปปลิปนฺโนติปิ ปาโ.

อพฺภาหโตติ สพฺโพปทฺทเวหิ อพฺภาหโต. ราคคฺคินาติ ราคาทโยเยว อนุทหนฏฺเน อคฺคิ, เตน ราคคฺคินา. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อุนฺนีตโกติ อุคฺคเหตฺวา นีโต, ชาติยา อุคฺคเหตฺวา ชราทิอุปทฺทวาย นีโตติ อตฺโถ. ก-กาโร ปเนตฺถ อนุกมฺปาย ทฏฺพฺโพ. หฺติ นิจฺจมตาโณติ ปริตฺตายเกน รหิโต สตตํ ปีฬียติ. ปตฺตทณฺโฑติ ราชาทีหิ ลทฺธอาโณ. ตกฺกโรติ โจโร. วชฺชพนฺธนพทฺโธติ ราคาทิวชฺชพนฺธเนหิ พทฺโธ. อาฆาตนปจฺจุปฏฺิโตติ มรณธมฺมคณฺิกฏฺานํ อุเปจฺจ ิโต. โกจิ พนฺธนา โมเจตา. โกจิ พนฺธนํ โมเจตาติปิ ปาโ. อนาโถติ นตฺถิ เอตสฺส นาโถ อิสฺสโร, สยํ วา น นาโถ น อิสฺสโรติ อนาโถ, อสรโณติ วา อตฺโถ. ปรมกาปฺปฺปตฺโตติ ชราทิปฏิพาหเน อปฺปหุตาย อตีว กปณภาวํ ปตฺโต. ตาเยตาติ รกฺขิตา. ตายิตาติ วา ปาโ สุนฺทโร. ทุกฺขาภิตุนฺโนติ ชาติทุกฺขาทีหิ อเนเกหิ ทุกฺเขหิ อภิตุนฺโน อติพฺยาธิโต อติกมฺปิโต จ. จิรรตฺตํ ปีฬิโตติ ทุกฺเขเหว ทีฆมทฺธานํ ปีฬิโต ฆฏฺฏิโต. คธิโตติ เคเธน คิทฺโธ, อภิชฺฌากายคนฺเถน วา คนฺถิโต. นิจฺจํ ปิปาสิโตติ ปาตุํ ภุฺชิตุํ อิจฺฉา ปิปาสา, สา ตณฺหา เอว, ตณฺหาปิปาสาย นิรนฺตรํ ปิปาสิโต.

อนฺโธติ ทสฺสนฏฺเน จกฺขูติ สงฺขํ คตาย ปฺาย อภาวโต กาโณ. ปฺา หิ ธมฺมสภาวํ ปสฺสติ. อจกฺขุโกติ ตํ ปน อนฺธตฺตํ น ปจฺฉา สมฺภูตํ, ปกติยา เอว อวิชฺชมานจกฺขุโกติ ตเมว อนฺธตฺตํ วิเสเสติ. หตเนตฺโตติ นยนฏฺเน เนตฺตนฺติ สงฺขํ คตาย ปฺาย อภาวโตเยว วินฏฺเนตฺตโก. สมวิสมํ ทสฺเสนฺตํ อตฺตภาวํ เนตีติ เนตฺตนฺติ หิ วุตฺตํ. ปฺาย สุคติฺจ อคติฺจ นยติ. หตเนตฺตตฺตาเยวสฺส เนตุอภาวํ ทสฺเสนฺโต อปริณายโกติ อาห, อวิชฺชมานเนตฺตโกติ อตฺโถ. อฺโปิสฺส เนตา น วิชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ. วิปถปกฺขนฺโทติ วิปรีโต, วิสโม วา ปโถ วิปโถ, ตํ วิปถํ ปกฺขนฺโท ปวิฏฺโ ปฏิปนฺโนติ วิปถปกฺขนฺโท, มิจฺฉาปถสงฺขาตํ มิจฺฉาทิฏฺึ ปฏิปนฺโนติ อตฺโถ. อฺชสาปรทฺโธติ อฺชเส อุชุมคฺคสฺมึ มชฺฌิมปฏิปทาย อปรทฺโธ วิรทฺโธ. อริยปถํ อาเนตาติ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ อุปเนตา ปฏิปาทยิตา. มโหฆปกฺขนฺโทติ ยสฺส สํวิชฺชนฺติ, ตํ วฏฺฏสฺมึ โอหนนฺติ โอสีทาเปนฺตีติ โอฆา, ปกติโอฆโต มหนฺตา โอฆาติ มโหฆา. เต กาโมโฆ ภโวโฆ ทิฏฺโโฆ อวิชฺโชโฆติ จตุปฺปเภทา. เต มโหเฆ ปกฺขนฺโท ปวิฏฺโติ มโหฆปกฺขนฺโท, สํสารสงฺขาตํ มโหฆํ วา ปกฺขนฺโทติ.

๑๑๘. อิทานิ เอกุตฺตริกนโย. ตตฺถ ทฺวีหิ ทิฏฺิคเตหีติ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺีหิ. ตตฺถ ทิฏฺิเยว ทิฏฺิคตํ ‘‘คูถคตํ มุตฺตคต’’นฺติอาทีนิ (อ. นิ. ๙.๑๑) วิย. คนฺตพฺพาภาวโต วา ทิฏฺิยา คตมตฺตเมเวตนฺติ ทิฏฺิคตํ, ทิฏฺีสุ คตํ อิทํ ทสฺสนํ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิอนฺโตคธตฺตาติปิ ทิฏฺิคตํ. ทฺวาสฏฺิเตสฏฺิทิฏฺิโยปิ หิ สสฺสตทิฏฺิ อุจฺเฉททิฏฺีติ ทฺเวว ทิฏฺิโย โหนฺติ. ตสฺมา สงฺเขเปน สพฺพา ทิฏฺิโย อนฺโต กโรนฺโต ‘‘ทฺวีหิ ทิฏฺิคเตหี’’ติ วุตฺตํ. ปริยุฏฺิโตติ ปริยุฏฺานํ ปตฺโต สมุทาจารํ ปตฺโต, อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทาเนน กุสลจารสฺส คหณํ ปตฺโตติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ทิฏฺิคเตหิ ปริยุฏฺิตา เทวมนุสฺสา โอลียนฺติ เอเก, อติธาวนฺติ เอเก, จกฺขุมนฺโต จ ปสฺสนฺตี’’ติอาทิ (อิติวุ. ๔๙).

ตีหิ ทุจฺจริเตหีติ ติวิธกายทุจฺจริเตน จตุพฺพิธวจีทุจฺจริเตน ติวิธมโนทุจฺจริเตน. วิปฺปฏิปนฺโนติ วิรูปํ ปฏิปนฺโน, มิจฺฉาปฏิปนฺโนติ อตฺโถ. โยเคหิ ยุตฺโตติ วฏฺฏสฺมึ โยเชนฺตีติ โยคา, อีติอตฺเถน วา โยคา, เตหิ โยเคหิ ยุตฺโต สมปฺปิโต. จตุโยคโยชิโตติ กามโยโค, ภวโยโค, ทิฏฺิโยโค, อวิชฺชาโยโคติ อิเมหิ จตูหิ โยเคหิ สกฏสฺมึ โยโค วิย วฏฺฏสฺมึ โยชิโต. ปฺจกามคุณิโก ราโค กามโยโค. รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค, ฌานนิกนฺติ จ, สสฺสตทิฏฺิสหชาโต ราโค ภววเสน ปตฺถนา ภวโยโค. ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย ทิฏฺิโยโค. อฏฺสุ าเนสุ อฺาณํ อวิชฺชาโยโค. เต เอว จตฺตาโร พลวภูตา โอฆา, ทุพฺพลภูตา โยคา.

จตูหิ คนฺเถหีติ ยสฺส สํวิชฺชนฺติ, ตํ จุติปฏิสนฺธิวเสน วฏฺฏสฺมึ คนฺเถนฺติ ฆเฏนฺตีติ คนฺถา. เต อภิชฺฌา กายคนฺโถ, พฺยาปาโท กายคนฺโถ, สีลพฺพตปรามาโส กายคนฺโถ, อิทํสจฺจาภินิเวโส กายคนฺโถติ จตุปฺปเภทา. อภิชฺฌายนฺติ เอตาย, สยํ วา อภิชฺฌายติ, อภิชฺฌายนมตฺตเมว วา เอสาติ อภิชฺฌา, โลโภเยว. นามกายํ คนฺเถติ จุติปฏิสนฺธิวเสน วฏฺฏสฺมึ ฆเฏตีติ กายคนฺโถ. พฺยาปชฺชติ เตน จิตฺตํ ปูติภาวํ คจฺฉติ, พฺยาปาทยติ วา วินยาจารรูปสมฺปตฺติหิตสุขาทีนีติ พฺยาปาโท. อิโต พหิทฺธา สมณพฺราหฺมณานํ สีเลน สุทฺธิ วเตน สุทฺธิ สีลวเตน สุทฺธีติ ปรามสนํ สีลพฺพตปรามาโส. สพฺพฺุภาสิตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติอาทินา อากาเรน อภินิวิสตีติ อิทํสจฺจาภินิเวโส. เตหิ จตูหิ คนฺเถหิ คนฺถิโต, พทฺโธติ อตฺโถ.

จตูหิ อุปาทาเนหีติ ภุสํ อาทิยนฺติ ทฬฺหคฺคาหํ คณฺหนฺตีติ อุปาทานา. เต กามุปาทานํ ทิฏฺุปาทานํ สีลพฺพตุปาทานํ อตฺตวาทุปาทานนฺติ จตุปฺปเภทา. วตฺถุสงฺขาตํ กามํ อุปาทิยตีติ กามุปาทานํ, กาโม จ โส อุปาทานฺจาติปิ กามุปาทานํ. ทิฏฺิ จ สา อุปาทานฺจาติ ทิฏฺุปาทานํ, ทิฏฺึ อุปาทิยตีติปิ ทิฏฺุปาทานํ. ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จา’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๑๔๗) หิ ปุริมทิฏฺึ อุตฺตรทิฏฺิ อุปาทิยติ. สีลพฺพตํ อุปาทิยตีติ สีลพฺพตุปาทานํ, สีลพฺพตฺจ ตํ อุปาทานฺจาติปิ สีลพฺพตุปาทานํ. โคสีลโควตาทีนิ หิ เอวํ วิสุทฺธีติ อภินิเวสโต สยเมว อุปาทานานิ. วทนฺติ เอเตนาติ วาโท, อุปาทิยนฺติ เอเตนาติ อุปาทานํ. กึ วทนฺติ, อุปาทิยนฺติ วา? อตฺตานํ. อตฺตโน วาทุปาทานํ อตฺตวาทุปาทานํ, อตฺตวาทมตฺตเมว วา อตฺตาติ อุปาทิยนฺติ เอเตนาติ อตฺตวาทุปาทานํ. เปตฺวา อิมา ทฺเว ทิฏฺิโย สพฺพาปิ ทิฏฺี ทิฏฺุปาทานํ. เตหิ จตูหิ อุปาทาเนหิ. อุปาทียตีติ ภุสํ คณฺหียติ. อุปาทิยตีติ วา ปาโ, โลโก อุปาทาเนหิ ตํ ตํ อารมฺมณํ ภุสํ คณฺหาตีติ อตฺโถ.

ปฺจคติสมารุฬฺโหติ สุกตทุกฺกฏการเณหิ คมฺมติ อุปสงฺกมียตีติ คติ, สโหกาสกา ขนฺธา. นิรโย ติรจฺฉานโยนิ เปตฺติวิสโย มนุสฺสา เทวาติ อิมา ปฺจ คติโย โวกฺกมนภาเวน ภุสํ อารุฬฺโห. ปฺจหิ กามคุเณหีติ รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพสงฺขาเตหิ ปฺจหิ วตฺถุกามโกฏฺาเสหิ. รชฺชตีติ อโยนิโสมนสิการํ ปฏิจฺจ ราคุปฺปาทเนน เตหิ รฺชียติ, สารตฺโต กรียตีติ อตฺโถ. ปฺจหิ นีวรเณหีติ จิตฺตํ นีวรนฺติ ปริโยนนฺธนฺตีติ นีวรณา. กามจฺฉนฺทพฺยาปาทถินมิทฺธอุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจวิจิกิจฺฉาสงฺขาเตหิ ปฺจหิ นีวรเณหิ. โอตฺถโฏติ อุปริโต ปิหิโต.

ฉหิ วิวาทมูเลหีติ ฉหิ วิวาทสฺส มูเลหิ. ยถาห –

‘‘ฉยิมานิ, ภิกฺขเว, วิวาทมูลานิ. กตมานิ ฉ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โกธโน โหติ อุปนาหี. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โกธโน โหติ อุปนาหี. โส สตฺถริปิ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, ธมฺเมปิ, สงฺเฆปิ, สิกฺขายปิ น ปริปูรการี. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สตฺถริ อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, ธมฺเมปิ, สงฺเฆปิ, สิกฺขายปิ น ปริปูรการี, โส สงฺเฆ วิวาทํ ชเนติ. โย โหติ วิวาโท พหุชนาหิตาย พหุชนาสุขาย พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํ. เอวรูปํ เจ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา สมนุปสฺเสยฺยาถ, ตตฺร ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ตสฺเสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานาย วายเมยฺยาถ. เอวรูปํ เจ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, วิวาทมูลํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา น สมนุปสฺเสยฺยาถ. ตตฺร ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ตสฺเสว ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายตึ อนวสฺสวาย ปฏิปชฺเชยฺยาถ. เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส ปหานํ โหติ. เอวเมตสฺส ปาปกสฺส วิวาทมูลสฺส อายตึ อนวสฺสโว โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มกฺขี โหติ ปฬาสี. อิสฺสุกี โหติ มจฺฉรี. สโ โหติ มายาวี. ปาปิจฺโฉ โหติ มิจฺฉาทิฏฺิ. สนฺทิฏฺิปรามาสี โหติ อาธานคฺคาหี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สนฺทิฏฺิปรามาสี โหติ อาธานคฺคาหี ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี, โส สตฺถริปิ…เป… อายตึ อนวสฺสโว โหตี’’ติ (ปริ. ๒๗๒; อ. นิ. ๖.๓๖).

ตตฺถ โกธโนติ กุชฺฌนลกฺขเณน โกเธน สมนฺนาคโต. อุปนาหีติ เวรอปฺปฏินิสฺสชฺชนลกฺขเณน อุปนาเหน สมนฺนาคโต. อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานนฺติ ทฺวินฺนํ ภิกฺขูนํ วิวาโท กถํ เทวมนุสฺสานํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตตีติ? โกสมฺพกกฺขนฺธเก (มหาว. ๔๕๑ อาทโย) วิย ทฺวีสุ ภิกฺขูสุ วิวาทํ อาปนฺเนสุ ตสฺมึ วิหาเร เตสํ อนฺเตวาสิกา วิวทนฺติ, เตสํ โอวาทํ คณฺหนฺโต ภิกฺขุนิสงฺโฆ วิวทติ, ตโต เตสํ อุปฏฺากาปิ วิวทนฺติ. อถ มนุสฺสานํ อารกฺขเทวตา ทฺเว โกฏฺาสา โหนฺติ. ธมฺมวาทีนํ อารกฺขเทวตา ธมฺมวาทินิโย โหนฺติ อธมฺมวาทีนํ อธมฺมวาทินิโย. ตโต อารกฺขเทวตานํ มิตฺตา ภุมฺมฏฺเทวตา ภิชฺชนฺติ. เอวํ ปรมฺปราย ยาว พฺรหฺมโลกา เปตฺวา อริยสาวเก สพฺเพ เทวมนุสฺสา ทฺเว โกฏฺาสา โหนฺติ. ธมฺมวาทีหิ ปน อธมฺมวาทิโนว พหุตรา โหนฺติ. ตโต ยํ พหุเกหิ คหิตํ, สพฺพํ ตํ สจฺจนฺติ ธมฺมํ วิสฺสชฺเชตฺวา พหุตราว อธมฺมํ คณฺหนฺติ. เต อธมฺมํ ปุรกฺขตฺวา วิหรนฺตา อปาเยสุ นิพฺพตฺตนฺติ. เอวํ ทฺวินฺนํ ภิกฺขูนํ วิวาโท เทวมนุสฺสานํ อหิตาย ทุกฺขาย โหติ. อชฺฌตฺตํ วาติ ตุมฺหากํ อพฺภนฺตรปริสาย วา. พหิทฺธา วาติ ปเรสํ ปริสาย วา. มกฺขีติ ปเรสํ คุณมกฺขณลกฺขเณน มกฺเขน สมนฺนาคโต. ปฬาสีติ ยุคคฺคาหลกฺขเณน ปฬาเสน สมนฺนาคโต. อิสฺสุกีติ ปเรสํ สกฺการาทิอิสฺสายนลกฺขณาย อิสฺสาย สมนฺนาคโต. มจฺฉรีติ อาวาสมจฺฉริยาทีหิ ปฺจหิ มจฺฉริเยหิ สมนฺนาคโต. สโติ เกราฏิโก. มายาวีติ กตปาปปฏิจฺฉาทโก. ปาปิจฺโฉติ อสนฺตสมฺภาวนิจฺฉโก ทุสฺสีโล. มิจฺฉาทิฏฺีติ นตฺถิกวาที อเหตุกวาที อกิริยวาที. สนฺทิฏฺิปรามาสีติ สยํ ทิฏฺิเมว ปรามสติ. อาธานคฺคาหีติ ทฬฺหคฺคาหี. ทุปฺปฏินิสฺสคฺคีติ น สกฺกา โหติ คหิตํ วิสฺสชฺชาเปตุํ. ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺเค ปน ‘‘ตตฺถ กตมานิ ฉ วิวาทมูลานิ? โกโธ มกฺโข อิสฺสา สาเยฺยํ ปาปิจฺฉตา สนฺทิฏฺิปรามาสิตา, อิมานิ ฉ วิวาทมูลานี’’ติ (วิภ. ๙๔๔) ปธานวเสน เอเกโกเยว ธมฺโม วุตฺโต.

ฉหิ ตณฺหากาเยหีติ ‘‘รูปตณฺหา, สทฺทตณฺหา, คนฺธตณฺหา, รสตณฺหา, โผฏฺพฺพตณฺหา, ธมฺมตณฺหา’’ติ (วิภ. ๙๔๔) วุตฺตาหิ ฉหิ ตณฺหาหิ. ตตฺถ ยสฺมา เอเกกาเยว ตณฺหา อเนกวิสยตฺตา เอเกกสฺมิมฺปิ วิสเย ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติโต อเนกา โหนฺติ, ตสฺมา สมูหฏฺเน กายสทฺเทน โยเชตฺวา ตณฺหากายาติ วุตฺตํ. ตณฺหากายาติ วุตฺเตปิ ตณฺหา เอว. รชฺชตีติ สยํ อารมฺมเณ รชฺชติ, สารตฺโต โหติ.

ฉหิ ทิฏฺิคเตหีติ สพฺพาสวสุตฺเต วุตฺเตหิ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ –

‘‘ตสฺส เอวํ อโยนิโส มนสิกโรโต ฉนฺนํ ทิฏฺีนํ อฺตรา ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ. ‘อตฺถิ เม อตฺตา’ติ วา อสฺส สจฺจโต เถตโต ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ, ‘นตฺถิ เม อตฺตา’ติ วา อสฺส สจฺจโต เถตโต ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ, ‘อตฺตนาว อตฺตานํ สฺชานามี’ติ วา อสฺส สจฺจโต เถตโต ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ, ‘อตฺตนาว อนตฺตานํ สฺชานามี’ติ วา อสฺส สจฺจโต เถตโต ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ, ‘อนตฺตนาว อตฺตานํ สฺชานามี’ติ วา อสฺส สจฺจโต เถตโต ทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ. อถ วา ปนสฺส เอวํ ทิฏฺิ โหติ ‘โย เม อยํ อตฺตา วโท เวเทยฺโย ตตฺร ตตฺร กลฺยาณปาปกานํ กมฺมานํ วิปากํ ปฏิสํเวเทติ, โส จ โข ปน เม อยํ อตฺตา นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต อวิปริณามธมฺโม สสฺสติสมํ ตเถว สฺสตี’’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๙).

ตตฺถ อตฺถิ เม อตฺตาติ สสฺสตทิฏฺิ สพฺพกาเลสุ อตฺตโน อตฺถิตํ คณฺหาติ. สจฺจโต เถตโตติ ภูตโต จ ถิรโต จ, ‘‘อิทํ สจฺจ’’นฺติ สุฏฺุ ทฬฺหภาเวนาติ วุตฺตํ โหติ. นตฺถิ เม อตฺตาติ อุจฺเฉททิฏฺิ สโต สตฺตสฺส ตตฺถ ตตฺถ วิภวคฺคหณโต. อถ วา ปุริมาปิ ตีสุ กาเลสุ อตฺถีติ คหณโต สสฺสตทิฏฺิ, ปจฺจุปฺปนฺนเมว อตฺถีติ คณฺหนฺตี อุจฺเฉททิฏฺิ, ปจฺฉิมาปิ อตีตานาคเตสุ นตฺถีติ คหณโต ‘‘ภสฺสนฺตา อาหุติโย’’ติ คหิตทิฏฺิคติกานํ วิย อุจฺเฉททิฏฺิ. อตีเต เอว นตฺถีติ คณฺหนฺตี อธิจฺจสมุปฺปนฺนกสฺส วิย สสฺสตทิฏฺิ. อตฺตนาว อตฺตานํ สฺชานามีติ สฺากฺขนฺธสีเสน ขนฺเธ อตฺตาติ คเหตฺวา สฺาย อวเสสกฺขนฺเธ สฺชานโต อิมินา อตฺตนา อิมํ อตฺตานํ สฺชานามีติ โหติ. อตฺตนาว อนตฺตานนฺติ สฺากฺขนฺธํเยว อตฺตาติ คเหตฺวา, อิตเร จตฺตาโรปิ อนตฺตาติ คเหตฺวา สฺาย เต สฺชานโต เอวํ โหติ. อนตฺตนาว อตฺตานนฺติ สฺากฺขนฺธํ อนตฺตาติ คเหตฺวา, อิตเร จตฺตาโรปิ อตฺตาติ คเหตฺวา สฺาย เต สฺชานโต เอวํ โหติ. สพฺพาปิ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิโยว. วโท เวเทยฺโยติอาทโย ปน สสฺสตทิฏฺิยา เอว อภินิเวสาการา. ตตฺถ วทตีติ วโท, วจีกมฺมสฺส การโกติ วุตฺตํ โหติ. เวทยตีติ เวเทยฺโย, ชานาติ อนุภวติ จาติ วุตฺตํ โหติ. กึ เวเทตีติ? ตตฺร ตตฺร กลฺยาณปาปกานํ กมฺมานํ วิปากํ ปฏิสํเวเทติ. ตตฺร ตตฺราติ เตสุ เตสุ โยนิคติิตินิวาสนิกาเยสุ อารมฺมเณสุ วา. นิจฺโจติ อุปฺปาทวยรหิโต. ธุโวติ ถิโร สารภูโต. สสฺสโตติ สพฺพกาลิโก. อวิปริณามธมฺโมติ อตฺตโน ปกติภาวํ อวิชหนธมฺโม, กกณฺฏโก วิย นานปฺปการตํ นาปชฺชติ. สสฺสติสมนฺติ จนฺทสูริยสมุทฺทมหาปถวีปพฺพตา โลกโวหาเรน สสฺสติโยติ วุจฺจนฺติ. สสฺสตีหิ สมํ สสฺสติสมํ. ยาว สสฺสติโย ติฏฺนฺติ, ตาว ตเถว สฺสตีติ คณฺหโต เอวํ ทิฏฺิ โหติ.

ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺเค ปน ‘‘ตตฺร ตตฺร ทีฆรตฺตํ กลฺยาณปาปกานํ กมฺมานํ วิปากํ ปจฺจนุโภติ, น โส ชาโต นาโหสิ, น โส ชาโต น ภวิสฺสติ, นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต อวิปริณามธมฺโมติ วา ปนสฺส สจฺจโต เถตโต ทิฏฺิ อุปฺปชฺชตี’’ติ (วิภ. ๙๔๘) ฉ ทิฏฺี เอวํ วิเสเสตฺวา วุตฺตา.

ตตฺถ น โส ชาโต นาโหสีติ โส อตฺตา อชาติธมฺมโต น ชาโต นาม, สทา วิชฺชมาโนเยวาติ อตฺโถ. เตเนว อตีเต นาโหสิ, อนาคเต น ภวิสฺสติ. โย หิ ชาโต, โส อโหสิ. โย จ ชายิสฺสติ, โส ภวิสฺสตีติ วุจฺจติ. อถ วา น โส ชาโต นาโหสีติ โส สทา วิชฺชมานตฺตา อตีเตปิ น ชาตุ น อโหสิ, อนาคเตปิ น ชาตุ น ภวิสฺสติ. อนุสยา วุตฺตตฺถา.

สตฺตหิ สฺโชเนหีติ สตฺตกนิปาเต วุตฺเตหิ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ –

‘‘สตฺติมานิ, ภิกฺขเว, สํโยชนานิ. กตมานิ สตฺต? อนุนยสํโยชนํ, ปฏิฆสํโยชนํ, ทิฏฺิสํโยชนํ, วิจิกิจฺฉาสํโยชนํ, มานสํโยชนํ, ภวราคสํโยชนํ, อวิชฺชาสํโยชนํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, สตฺต สํโยชนานี’’ติ (อ. นิ. ๗.๘).

ตตฺถ อนุนยสํโยชนนฺติ กามราคสํโยชนํ. สพฺพาเนเวตานิ พนฺธนฏฺเน สํโยชนานิ.

สตฺตหิ มาเนหีติ ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺเค วุตฺเตหิ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ –

‘‘มาโน, อติมาโน, มานาติมาโน, โอมาโน, อธิมาโน, อสฺมิมาโน, มิจฺฉามาโน’’ติ (วิภ. ๙๕๐).

ตตฺถ มาโนติ เสยฺยาทิวเสน ปุคฺคลํ อนามสิตฺวา ชาติอาทีสุ วตฺถุวเสเนว อุนฺนติ. อติมาโนติ ชาติอาทีหิ ‘‘มยา สทิโส นตฺถี’’ติ อติกฺกมิตฺวา อุนฺนติ. มานาติมาโนติ ‘‘อยํ ปุพฺเพ มยา สทิโส, อิทานิ อหํ เสฏฺโ, อยํ หีนตโร’’ติ อุปฺปนฺนมาโน. โอมาโนติ ชาติอาทีหิ อตฺตานํ เหฏฺา กตฺวา ปวตฺตมาโน, หีโนหมสฺมีติ มาโนเยว. อธิมาโนติ อนธิคเตเยว จตุสจฺจธมฺเม อธิคโตติ มาโน. อยํ ปน อธิมาโน ปริสุทฺธสีลสฺส กมฺมฏฺาเน อปฺปมตฺตสฺส นามรูปํ ววตฺถเปตฺวา ปจฺจยปริคฺคเหน วิติณฺณกงฺขสฺส ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺตสฺส อารทฺธวิปสฺสกสฺส ปุถุชฺชนสฺส อุปฺปชฺชติ, น อฺเสํ. อสฺมิมาโนติ รูปาทีสุ ขนฺเธสุ อสฺมีติ มาโน, ‘‘อหํ รูป’’นฺติอาทิวเสน อุปฺปนฺนมาโนติ วุตฺตํ โหติ. มิจฺฉามาโนติ ปาปเกน กมฺมายตนาทินา อุปฺปนฺนมาโน.

โลกธมฺมา วุตฺตตฺถา. สมฺปริวตฺตตีติ โลกธมฺเมหิ เหตุภูเตหิ ลาภาทีสุ จตูสุ อนุโรธวเสน, อลาภาทีสุ จตูสุ ปฏิวิโรธวเสน ภุสํ นิวตฺตติ, ปกติภาวํ ชหาตีติ อตฺโถ. มิจฺฉตฺตาปิ วุตฺตตฺถา. นิยฺยาโตติ คโต ปกฺขนฺโท, อภิภูโตติ อตฺโถ.

อฏฺหิ ปุริสโทเสหีติ อฏฺกนิปาเต อุปมาหิ สห, ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺเค อุปมํ วินา วุตฺเตหิ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ –

‘‘กตเม อฏฺ ปุริสโทสา? อิธ ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน ‘น สรามิ น สรามี’ติ อสฺสติยาว นิพฺเพเติ. อยํ ปโม ปุริสโทโส.

‘‘ปุน จปรํ ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน โจทกํเยว ปฏิปฺผรติ ‘กึ นุ โข ตุยฺหํ พาลสฺส อพฺยตฺตสฺส ภณิเตน, ตฺวมฺปิ นาม มํ ภณิตพฺพํ มฺสี’ติ? อยํ ทุติโย ปุริสโทโส.

‘‘ปุน จปรํ ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน โจทกํเยว ปจฺจาโรเปติ ‘ตฺวมฺปิ โขสิ อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ตฺวํ ตาว ปมํ ปฏิกโรหี’ติ. อยํ ตติโย ปุริสโทโส.

‘‘ปุน จปรํ ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน อฺเนฺํ ปฏิจรติ, พหิทฺธา กถํ อปนาเมติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. อยํ จตุตฺโถ ปุริสโทโส.

‘‘ปุน จปรํ ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน สงฺฆมชฺเฌ พาหาวิกฺเขปกํ ภณติ. อยํ ปฺจโม ปุริสโทโส.

‘‘ปุน จปรํ ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน อนาทิยิตฺวา สงฺฆํ อนาทิยิตฺวา โจทกํ สาปตฺติโกว เยน กามํ ปกฺกมติ. อยํ ฉฏฺโ ปุริสโทโส.

‘‘ปุน จปรํ ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน ‘เนวาหํ อาปนฺโนมฺหิ, น ปนาหํ อนาปนฺโนมฺหี’ติ โส ตุณฺหีภูโต สงฺฆํ วิเหเสติ. อยํ สตฺตโม ปุริสโทโส.

‘‘ปุน จปรํ ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน เอวมาห – ‘กึ นุ โข ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อติพาฬฺหํ มยิ พฺยาวฏา? อิทานาหํ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสามี’ติ. โส สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติตฺวา เอวมาห ‘อิทานิ โข ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อตฺตมนา โหถา’ติ. อยํ อฏฺโม ปุริสโทโส. อิเม อฏฺ ปุริสโทสา’’ติ (วิภ. ๙๕๗; อ. นิ. ๘.๑๔).

ตตฺถ ปุริสโทสาติ ปุริสานํ โทสา, เต ปน ปุริสสนฺตานํ ทูเสนฺตีติ โทสา. น สรามิ น สรามีติ ‘‘มยา เอตสฺส กมฺมสฺส กตฏฺานํ นสฺสรามิ น สลฺลกฺเขมี’’ติ เอวํ อสฺสติภาเวน นิพฺเพเติ โมเจติ. โจทกํเยว ปฏิปฺผรตีติ ปฏิวิรุทฺโธ หุตฺวา ผรติ, ปฏิอาณิภาเวน ติฏฺติ. กึ นุ โข ตุยฺหนฺติ ตุยฺหํ พาลสฺส อพฺยตฺตสฺส ภณิเตน นาม กึ, โย ตฺวํ เนว วตฺถุํ, น อาปตฺตึ, น โจทนํ ชานาสีติ ทีเปติ. ตฺวมฺปิ นาม เอวํ กิฺจิ อชานนฺโต ภณิตพฺพํ มฺสีติ อชฺโฌตฺถรติ. ปจฺจาโรเปตีติ ‘‘ตฺวมฺปิ โขสี’’ติอาทีนิ วทนฺโต ปติอาโรเปติ. ปฏิกโรหีติ เทสนาคามินึ เทเสหิ, วุฏฺานคามินิโต วุฏฺาหิ, ตโต สุทฺธนฺเต ปติฏฺิโต อฺํ โจเทสฺสสีติ ทีเปติ. อฺเนฺํ ปฏิจรตีติ อฺเน การเณน, วจเนน วา อฺํ การณํ, วจนํ วา ปฏิจฺฉาเทติ. ‘‘อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ วุตฺโต ‘‘โก อาปนฺโน, กึ อาปนฺโน, กิสฺมึ อาปนฺโน, กถํ อาปนฺโน, กํ ภณถ, กึ ภณถา’’ติ ภณติ. ‘‘เอวรูปํ กิฺจิ ตยา ทิฏฺ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘น สุณามี’’ติ โสตํ อุปเนติ. พหิทฺธา กถํ อปนาเมตีติ ‘‘อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ ปุฏฺโ ‘‘ปาฏลิปุตฺตํ คโตมฺหี’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘น ตว ปาฏลิปุตฺตคมนํ ปุจฺฉามา’’ติ วุตฺเต ตโต ราชคหํ คโตมฺหีติ. ‘‘ราชคหํ วา ยาหิ พฺราหฺมณเคหํ วา, อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ. ‘‘ตตฺถ เม สูกรมํสํ ลทฺธ’’นฺติอาทีนิ วทนฺโต กถํ พหิทฺธา วิกฺขิปติ. โกปนฺติ กุปิตภาวํ, โทสนฺติ ทุฏฺภาวํ. อุภยมฺเปตํ โกธสฺเสว นามํ. อปฺปจฺจยนฺติ อสนฺตุฏฺาการํ, โทมนสฺสสฺเสตํ นามํ. ปาตุกโรตีติ ทสฺเสติ ปกาเสติ. พาหาวิกฺเขปกํ ภณตีติ พาหํ วิกฺขิปิตฺวา วิกฺขิปิตฺวา อลชฺชิวจนํ วทติ. อนาทิยิตฺวาติ จิตฺตีกาเรน อคฺคเหตฺวา อวชานิตฺวา, อนาทโร หุตฺวาติ อตฺโถ. วิเหเสตีติ วิเหเติ พาธติ. อติพาฬฺหนฺติ อติทฬฺหํ อติปฺปมาณํ. มยิ พฺยาวฏาติ มยิ พฺยาปารํ อาปนฺนา. หีนายาวตฺติตฺวาติ หีนสฺส คิหิภาวสฺส อตฺถาย อาวตฺติตฺวา, คิหี หุตฺวาติ อตฺโถ. อตฺตมนา โหถาติ ตุฏฺจิตฺตา โหถ, ‘‘มยา ลภิตพฺพํ ลภถ, มยา วสิตพฺพฏฺาเน วสถ, ผาสุวิหาโร โว มยา กโต’’ติ อธิปฺปาเยน วทติ. ทุสฺสตีติ ทุฏฺโ โหติ.

นวหิ อาฆาตวตฺถูหีติ สตฺเตสุ อุปฺปตฺติวเสเนว กถิตานิ. ยถาห –

‘‘นวยิมานิ, ภิกฺขเว, อาฆาตวตฺถูนิ. กตมานิ นว? ‘อนตฺถํ เม อจรี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ, ‘อนตฺถํ เม จรตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ, ‘อนตฺถํ เม จริสฺสตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ, ‘ปิยสฺส เม มนาปสฺส อนตฺถํ อจริ, อนตฺถํ จรติ, อนตฺถํ จริสฺสตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ, ‘อปฺปิยสฺส เม อมนาปสฺส อตฺถํ อจริ, อตฺถํ จรติ, อตฺถํ จริสฺสตี’ติ อาฆาตํ พนฺธติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, นว อาฆาตวตฺถูนี’’ติ (อ. นิ. ๙.๒๙).

ตตฺถ อาฆาตวตฺถูนีติ อาฆาตการณานิ. อาฆาตนฺติ เจตฺถ โกโป, โสเยว อุปรูปริ โกปสฺส วตฺถุตฺตา อาฆาตวตฺถุ. อาฆาตํ พนฺธตีติ โกปํ พนฺธติ กโรติ อุปฺปาเทติ. ‘‘อตฺถํ เม นาจริ, น จรติ, น จริสฺสติ. ปิยสฺส เม มนาปสฺส อตฺถํ นาจริ, น จรติ, น จริสฺสติ. อปฺปิยสฺส เม อมนาปสฺส อนตฺถํ นาจริ, น จรติ, น จริสฺสตี’’ติ (มหานิ. ๘๕; วิภ. ๙๖๐; ธ. ส. ๑๐๖๖) นิทฺเทเส วุตฺตานิ อปรานิปิ นว อาฆาตวตฺถูนิ อิเมเหว นวหิ สงฺคหิตานิ. อาฆาติโตติ ฆฏฺฏิโต.

นววิธมาเนหีติ กตเม นววิธมานา? เสยฺยสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ มาโน, เสยฺยสฺส สทิโสหมสฺมีติ มาโน, เสยฺยสฺส หีโนหมสฺมีติ มาโน. สทิสสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ มาโน, สทิสสฺส สทิโสหมสฺมีติ มาโน, สทิสสฺส หีโนหมสฺมีติ มาโน. หีนสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ มาโน, หีนสฺส สทิโสหมสฺมีติ มาโน, หีนสฺส หีโนหมสฺมีติ มาโน. อิเม นววิธมานา (วิภ. ๙๖๒).

เอตฺถ ปน เสยฺยสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ มาโน ราชูนฺเจว ปพฺพชิตานฺจ อุปฺปชฺชติ. ราชา หิ ‘‘รฏฺเน วา ธเนน วา วาหเนหิ วา โก มยา สทิโส อตฺถี’’ติ เอตํ มานํ กโรติ, ปพฺพชิโตปิ ‘‘สีลธุตงฺคาทีหิ โก มยา สทิโส อตฺถี’’ติ เอตํ มานํ กโรติ.

เสยฺยสฺส สทิโสหมสฺมีติ มาโนปิ เอเตสํเยว อุปฺปชฺชติ. ราชา หิ ‘‘รฏฺเน วา ธเนน วา วาหเนหิ วา อฺราชูหิ สทฺธึ มยฺหํ กึ นานากรณ’’นฺติ เอตํ มานํ กโรติ, ปพฺพชิโตปิ ‘‘สีลธุตงฺคาทีหิ อฺเน ภิกฺขุนา มยฺหํ กึ นานากรณ’’นฺติ เอตํ มานํ กโรติ.

เสยฺยสฺส หีโนหมสฺมีติ มาโนปิ เอเตสํเยว อุปฺปชฺชติ. ยสฺส หิ รฺโ รฏฺํ วา ธนํ วา วาหนาทีนิ วา นาติสมฺปนฺนานิ โหนฺติ, โส ‘‘มยฺหํ ราชาติ โวหารสุขมตฺตกเมว, กึ ราชา นาม อห’’นฺติ เอตํ มานํ กโรติ, ปพฺพชิโตปิ อปฺปลาภสกฺกาโร ‘‘อหํ ธมฺมกถิโก พหุสฺสุโต มหาเถโรติ กถามตฺตเมว, กึ ธมฺมกถิโก นามาหํ, กึ พหุสฺสุโต นามาหํ, กึ มหาเถโร นามาหํ, ยสฺส เม ลาภสกฺกาโร นตฺถี’’ติ เอตํ มานํ กโรติ.

สทิสสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ มานาทโย อมจฺจาทีนํ อุปฺปชฺชนฺติ. อมจฺโจ วา หิ รฏฺิโย วา ‘‘โภคยานวาหนาทีหิ โก มยา สทิโส อฺโ ราชปุริโส อตฺถี’’ติ วา, ‘‘มยฺหํ อฺเหิ สทฺธึ กึ นานากรณ’’นฺติ วา, ‘‘อมจฺโจติ นามเมว มยฺหํ, ฆาสจฺฉาทนมตฺตมฺปิ เม นตฺถิ, กึ อมจฺโจ นามาห’’นฺติ วา เอตํ มานํ กโรติ.

หีนสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ มานาทโย ทาสาทีนํ อุปฺปชฺชนฺติ. ทาโส หิ ‘‘มาติโต วา ปิติโต วา โก มยา สทิโส อฺโ ทาโส นาม อตฺถิ, อฺเ ชีวิตุํ อสกฺโกนฺตา กุจฺฉิเหตุ ทาสา นาม ชาตา, อหํ ปน ปเวณิอาคตตฺตา เสยฺโย’’ติ วา, ‘‘ปเวณิอาคตภาเวน อุภโตสุทฺธิกทาสตฺเตน อสุกทาเสน นาม สทฺธึ มยฺหํ กึ นานากรณ’’นฺติ วา, ‘‘กุจฺฉิวเสนาหํ ทาสพฺยํ อุปคโต, มาตาปิตุโกฏิยา ปน เม ทาสฏฺานํ นตฺถิ, กึ ทาโส นาม อห’’นฺติ วา เอตํ มานํ กโรติ. ยถา จ ทาโส, เอวํ ปุกฺกุสจณฺฑาลาทโยปิ เอตํ มานํ กโรนฺติเยว. เอตฺถ จ เสยฺยสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ อุปฺปนฺนมาโนว ยาถาวมาโน, อิตเร ทฺเว อยาถาวมานา. ตถา สทิสสฺส สทิโสหมสฺมีติ หีนสฺส หีโนหมสฺมีติ อุปฺปนฺนมาโนว ยาถาวมาโน, อิตเร ทฺเว อยาถาวมานา. ตตฺถ ยาถาวมานา อรหตฺตมคฺควชฺฌา, อยาถาวมานา โสตาปตฺติมคฺควชฺฌาติ.

ตณฺหามูลกา วุตฺตาเยว. รชฺชตีติ น เกวลํ ราเคเนว รชฺชติ, อถ โข ตณฺหามูลกานํ ปริเยสนาทีนมฺปิ สมฺภวโต ตณฺหามูลเกหิ สพฺเพหิ อกุสลธมฺเมหิ รชฺชติ, ยุชฺชติ พชฺฌตีติ อธิปฺปาโย.

ทสหิ กิเลสวตฺถูหีติ กตมานิ ทส กิเลสวตฺถูนิ? โลโภ, โทโส, โมโห, มาโน, ทิฏฺิ, วิจิกิจฺฉา, ถินํ, อุทฺธจฺจํ, อหิริกํ, อโนตฺตปฺปนฺติ อิมานิ ทส กิเลสวตฺถูนิ (วิภ. ๙๖๖).

ตตฺถ กิเลสา เอว กิเลสวตฺถูนิ, วสนฺติ วา เอตฺถ อขีณาสวา สตฺตา โลภาทีสุ ปติฏฺิตตฺตาติ วตฺถูนิ, กิเลสา จ เต ตปฺปติฏฺานํ สตฺตานํ วตฺถูนิ จาติ กิเลสวตฺถูนิ. ยสฺมา เจตฺถ อนนฺตรปจฺจยาทิภาเวน อุปฺปชฺชมานาปิ กิเลสา วสนฺติ เอว นาม, ตสฺมา กิเลสานํ วตฺถูนีติปิ กิเลสวตฺถูนิ. ลุพฺภนฺติ เตน, สยํ วา ลุพฺภติ, ลุพฺภนมตฺตเมว วา ตนฺติ โลโภ. ทุสฺสนฺติ เตน, สยํ วา ทุสฺสติ, ทุสฺสนมตฺตเมว วา ตนฺติ โทโส. มุยฺหนฺติ เตน, สยํ วา มุยฺหติ, มุยฺหนมตฺตเมว วา ตนฺติ โมโห. มฺตีติ มาโน. ทิฏฺิอาทโย วุตฺตตฺถาว. น หิรียตีติ อหิริโก, ตสฺส ภาโว อหิริกํ. น โอตฺตปฺปตีติ อโนตฺตปฺปี, ตสฺส ภาโว อโนตฺตปฺปํ. เตสุ อหิริกํ กายทุจฺจริตาทีหิ อชิคุจฺฉนลกฺขณํ, อโนตฺตปฺปํ เตเหว อสารชฺชนลกฺขณํ, กิลิสฺสตีติ อุปตาปียติ วิพาธียติ.

ทสหิ อาฆาตวตฺถูหีติ ปุพฺเพ วุตฺเตหิ นวหิ จ ‘‘อฏฺาเน วา ปนาฆาโต ชายตี’’ติ (ธ. ส. ๑๐๖๖) วุตฺเตน จาติ ทสหิ. อนตฺถํ เม อจรีติอาทีนิปิ หิ อวิกปฺเปตฺวา ขาณุกณฺฏกาทิมฺหิปิ อฏฺาเน อาฆาโต อุปฺปชฺชติ.

ทสหิ อกุสลกมฺมปเถหีติ กตเม ทส อกุสลกมฺมปถา (ที. นิ. ๓.๓๖๐)? ปาณาติปาโต, อทินฺนาทานํ, กาเมสุมิจฺฉาจาโร, มุสาวาโท, ปิสุณา วาจา, ผรุสา วาจา, สมฺผปฺปลาโป, อภิชฺฌา, พฺยาปาโท, มิจฺฉาทิฏฺิ. อิเม ทส อกุสลกมฺมปถา. ตตฺถ อกุสลกมฺมานิ จ ตานิ ปถา จ ทุคฺคติยาติ อกุสลกมฺมปถา. สมนฺนาคโตติ สมงฺคีภูโต.

ทสหิ สฺโชเนหีติ กตมานิ ทส สํโยชนานิ (ธ. ส. ๑๑๑๘)? กามราคสํโยชนํ, ปฏิฆสํโยชนํ, มานสํโยชนํ, ทิฏฺิสํโยชนํ, วิจิกิจฺฉาสํโยชนํ, สีลพฺพตปรามาสสํโยชนํ, ภวราคสํโยชนํ, อิสฺสาสํโยชนํ, มจฺฉริยสํโยชนํ, อวิชฺชาสํโยชนํ, อิมานิ ทส สํโยชนานิ. มิจฺฉตฺตา วุตฺตาเยว.

ทสวตฺถุกาย มิจฺฉาทิฏฺิยาติ กตมา ทสวตฺถุกา มิจฺฉาทิฏฺิ (วิภ. ๙๗๑)? นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ, นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก, นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺติ. อยํ ทสวตฺถุกา มิจฺฉาทิฏฺิ.

ตตฺถ ทสวตฺถุกาติ ทส วตฺถูนิ เอติสฺสาติ ทสวตฺถุกา. นตฺถิ ทินฺนนฺติ ทินฺนํ นาม อตฺถิ, สกฺกา กสฺสจิ กิฺจิ ทาตุนฺติ ชานาติ. ทินฺนสฺส ปน ผลํ วิปาโก นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ ยิฏฺนฺติ ยิฏฺํ วุจฺจติ มหายาโค, ตํ ยชิตุํ สกฺกาติ ชานาติ. ยิฏฺสฺส ปน ผลํ วิปาโก นตฺถีติ คณฺหาติ. หุตนฺติ อาหุนปาหุนมงฺคลกิริยา, ตํ กาตุํ สกฺกาติ ชานาติ. ตสฺส ปน ผลํ วิปาโก นตฺถีติ คณฺหาติ. สุกตทุกฺกฏานนฺติ เอตฺถ ทส กุสลกมฺมปถา สุกตกมฺมานิ นาม, ทส อกุสลกมฺมปถา ทุกฺกฏกมฺมานิ นาม. เตสํ อตฺถิภาวํ ชานาติ. ผลํ วิปาโก ปน นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ อยํ โลโกติ ปรโลเก ิโต อิมํ โลกํ นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ ปโร โลโกติ อิธโลเก ิโต ปรโลกํ นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ มาตา นตฺถิ ปิตาติ มาตาปิตูนํ อตฺถิภาวํ ชานาติ. เตสุ กตปฺปจฺจเยน โกจิ ผลํ วิปาโก นตฺถีติ คณฺหาติ. นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกาติ จวนกอุปปชฺชนกสตฺตา นตฺถีติ คณฺหาติ. สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนาติ อนุโลมปฏิปทํ ปฏิปนฺนา ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณา โลกสฺมึ นตฺถีติ คณฺหาติ. เย อิมฺจ โลกํ…เป… ปเวเทนฺตีติ อิมฺจ ปรฺจ โลกํ อตฺตนาว อภิวิสิฏฺเน าเณน ตฺวา ปเวทนสมตฺโถ สพฺพฺู พุทฺโธ นตฺถีติ คณฺหาติ.

อนฺตคฺคาหิกาย ทิฏฺิยาติ ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติอาทิกํ เอเกกํ อนฺตํ ภาคํ คณฺหาตีติ อนฺตคฺคาหิกา. อถ วา อนฺตสฺส คาโห อนฺตคฺคาโห, อนฺตคฺคาโห อสฺสา อตฺถีติ อนฺตคฺคาหิกา. ตาย อนฺตคฺคาหิกาย. สา ปน วุตฺตาเยว.

อฏฺสตตณฺหาปปฺจสเตหีติ อฏฺุตฺตรํ สตํ อฏฺสตํ. สํสาเร ปปฺเจติ จิรํ วสาเปตีติ ปปฺโจ, ตณฺหา เอว ปปฺโจ ตณฺหาปปฺโจ, อารมฺมณเภเทน ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติวเสน จ ตณฺหานํ พหุกตฺตา พหุวจนํ กตฺวา ตณฺหาปปฺจานํ สตํ ตณฺหาปปฺจสตํ. เตน ‘‘ตณฺหาปปฺจสเตนา’’ติ วตฺตพฺเพ วจนวิปลฺลาสวเสน ‘‘ตณฺหาปปฺจสเตหี’’ติ พหุวจนนิทฺเทโส กโต. อฏฺสตนฺติ สงฺขาเตน ตณฺหาปปฺจสเตนาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อฏฺ อพฺโพหาริกานิ กตฺวา สตเมว คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺเค ปน ตณฺหาวิจริตานีติ อาคตํ. ยถาห –

‘‘อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานิ อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทาย, อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานิ พาหิรสฺส อุปาทาย, ตเทกชฺฌํ อภิสฺุหิตฺวา อภิสงฺขิปิตฺวา ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานิ โหนฺติ. อิติ อตีตานิ ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานิ, อนาคตานิ ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานิ, ปจฺจุปฺปนฺนานิ ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานิ ตเทกชฺฌํ อภิสฺุหิตฺวา อภิสงฺขิปิตฺวา อฏฺตณฺหาวิจริตสตํ โหตี’’ติ (วิภ. ๘๔๒).

ตณฺหาปปฺจาเยว ปเนตฺถ ตณฺหาวิจริตานีติ วุตฺตา. ตณฺหาสมุทาจารา ตณฺหาปวตฺติโยติ อตฺโถ. อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทายาติ อชฺฌตฺติกํ ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย. อิทฺหิ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. วิตฺถาโร ปนสฺส ตสฺส นิทฺเทเส (วิภ. ๙๗๓) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อยํ ปน อปโร นโย – รูปารมฺมณาเยว กามตณฺหา, ภวตณฺหา, วิภวตณฺหาติ ติสฺโส ตณฺหา โหนฺติ, ตถา สทฺทาทิอารมฺมณาติ ฉสุ อารมฺมเณสุ อฏฺารส ตณฺหา โหนฺติ, อชฺฌตฺตารมฺมณา อฏฺารส, พหิทฺธารมฺมณา อฏฺารสาติ ฉตฺตึส โหนฺติ. ตา เอว อตีตารมฺมณา ฉตฺตึส, อนาคตารมฺมณา ฉตฺตึส, ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ฉตฺตึสาติ อฏฺตณฺหาวิจริตสตํ โหติ. ปปฺจิโตติ อารมฺมเณ, สํสาเร วา ปปฺจิโต จิรวาสิโต.

ทฺวาสฏฺิยา ทิฏฺิคเตหีติ ‘‘กตมานิ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ พฺรหฺมชาเล เวยฺยากรเณ วุตฺตานิ ภควตา? จตฺตาโร สสฺสตวาทา, จตฺตาโร เอกจฺจสสฺสตวาทา, จตฺตาโร อนฺตานนฺติกา, จตฺตาโร อมราวิกฺเขปิกา, ทฺเว อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา, โสฬส สฺีวาทา, อฏฺ อสฺีวาทา, อฏฺ เนวสฺีนาสฺีวาทา, สตฺต อุจฺเฉทวาทา, ปฺจ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทาติ อิมานิ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ พฺรหฺมชาเล เวยฺยากรเณ วุตฺตานิ ภควตา’’ติ (วิภ. ๙๗๗). วิตฺถาโร ปเนตฺถ พฺรหฺมชาลสุตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

อหฺจมฺหิ ติณฺโณติ อหฺจ จตุโรฆํ, สํสารสมุทฺทํ วา ติณฺโณ อมฺหิ ภวามิ. มุตฺโตติ ราคาทิพนฺธเนหิ มุตฺโต. ทนฺโตติ นิพฺพิเสวโน นิปฺปริปฺผนฺโท. สนฺโตติ สีตีภูโต. อสฺสตฺโถติ นิพฺพานทสฺสเน ลทฺธสฺสาโส. ปรินิพฺพุโตติ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต. ปโหมีติ สมตฺโถมฺหิ. โขอิติ เอกํสตฺเถ นิปาโต. ปเร จ ปรินิพฺพาเปตุนฺติ เอตฺถ ปเร จ-สทฺโท ‘‘ปเร จ ตาเรตุ’’นฺติอาทีหิปิ โยเชตพฺโพติ.

มหากรุณาาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗๒-๗๓. สพฺพฺุตฺาณนิทฺเทสวณฺณนา

๑๑๙. สพฺพฺุตฺาณนิทฺเทเส กตมํ ตถาคตสฺส สพฺพฺุตฺาณนฺติ ปุจฺฉิตฺวา เตน สมคติกตฺตา เตเนว สห อนาวรณาณํ นิทฺทิฏฺํ. น หิ อนาวรณาณํ ธมฺมโต วิสุํ อตฺถิ, เอกเมว เหตํ าณํ อาการเภทโต ทฺเวธา วุจฺจติ สทฺธินฺทฺริยสทฺธาพลาทีนิ วิย. สพฺพฺุตฺาณเมว หิ นตฺถิ เอตสฺส อาวรณนฺติ, เกนจิ ธมฺเมน, ปุคฺคเลน วา อาวรณํ กาตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อนาวรณนฺติ วุจฺจติ อาวชฺชนปฏิพทฺธตฺตา สพฺพธมฺมานํ. อฺเ ปน อาวชฺชิตฺวาปิ น ชานนฺติ. เกจิ ปนาหุ ‘‘มโนวิฺาณํ วิย สพฺพารมฺมณิกตฺตา สพฺพฺุตฺาณํ. ตํเยว าณํ อินฺทวชิรํ วิย วิสเยสุ อปฺปฏิหตตฺตา อนาวรณาณํ. อนุปุพฺพสพฺพฺุตาปฏิกฺเขโป สพฺพฺุตฺาณํ, สกึสพฺพฺุตาปฏิกฺเขโป อนาวรณาณํ, ภควา สพฺพฺุตฺาณปฏิลาเภนปิ สพฺพฺูติ วุจฺจติ, น จ อนุปุพฺพสพฺพฺู. อนาวรณาณปฏิลาเภนปิ สพฺพฺูติ วุจฺจติ, น จ สกึสพฺพฺู’’ติ.

สพฺพํ สงฺขตมสงฺขตํ อนวเสสํ ชานาตีติ เอตฺถ สพฺพนฺติ ชาติวเสน สพฺพธมฺมานํ นิสฺเสสปริยาทานํ. อนวเสสนฺติ เอเกกสฺเสว ธมฺมสฺส สพฺพาการวเสน นิสฺเสสปริยาทานํ. สงฺขตมสงฺขตนฺติ ทฺวิธา ปเภททสฺสนํ. สงฺขตฺหิ เอโก ปเภโท, อสงฺขตํ เอโก ปเภโท. ปจฺจเยหิ สงฺคมฺม กตนฺติ สงฺขตํ. ขนฺธปฺจกํ. ตถา น สงฺขตนฺติ อสงฺขตํ. นิพฺพานํ. สงฺขตํ อนิจฺจทุกฺขานตฺตาทีหิ อากาเรหิ อนวเสสํ ชานาติ, อสงฺขตํ สุฺตานิมิตฺตอปฺปณิหิตาทีหิ อากาเรหิ อนวเสสํ ชานาติ. นตฺถิ เอตสฺส สงฺขตสฺส อสงฺขตสฺส จ อวเสโสติ อนวเสสํ. สงฺขตํ อสงฺขตฺจ. อเนกเภทาปิ ปฺตฺติ ปจฺจเยหิ อกตตฺตา อสงฺขตปกฺขํ ภชติ. สพฺพฺุตฺาณฺหิ สพฺพาปิ ปฺตฺติโย อเนกเภทโต ชานาติ. อถ วา สพฺพนฺติ สพฺพธมฺมคฺคหณํ. อนวเสสนฺติ นิปฺปเทสคฺคหณํ. ตตฺถ อาวรณํ นตฺถีติ ตตฺถ ตสฺมึ อนวเสเส สงฺขตาสงฺขเต นิสฺสงฺคตฺตา สพฺพฺุตฺาณสฺส อาวรณํ นตฺถีติ ตเทว สพฺพฺุตฺาณํ อนาวรณาณํ นามาติ อตฺโถ.

๑๒๐. อิทานิ อเนกวิสยเภทโต ทสฺเสตุํ อตีตนฺติอาทิมาห. ตตฺถ อตีตํ อนาคตํ ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ กาลเภทโต ทสฺสิตํ, จกฺขุ เจว รูปา จาติอาทิ วตฺถารมฺมณเภทโต. เอวํ ตํ สพฺพนฺติ เตสํ จกฺขุรูปานํ อนวเสสปริยาทานํ. เอวํ เสเสสุ. ยาวตาติ อนวเสสปริยาทานํ. อนิจฺจฏฺนฺติอาทิ สามฺลกฺขณเภทโต ทสฺสิตํ. อนิจฺจฏฺนฺติ จ อนิจฺจาการํ. ปจฺจตฺตตฺเถ วา อุปโยควจนํ. เอส นโย เอทิเสสุ. รูปสฺสาติอาทิ ขนฺธเภทโต ทสฺสิตํ. จกฺขุสฺส…เป… ชรามรณสฺสาติ เหฏฺา วุตฺตเปยฺยาลนเยน โยเชตพฺพํ. อภิฺายาติอาทีสุ เหฏฺา วุตฺตาณาเนว. อภิฺฏฺนฺติ อภิชานนสภาวํ. เอส นโย เอทิเสสุ. ขนฺธานํ ขนฺธฏฺนฺติอาทิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. กุสเล ธมฺเมติอาทิ กุสลตฺติกวเสน เภโท. กามาวจเร ธมฺเมติอาทิ จตุภูมกวเสน. อุภยตฺถาปิ ‘‘สพฺเพ ชานาตี’’ติ พหุวจนปาโ สุนฺทโร. เอกวจนโสเต ปติตตฺตา ปน โปตฺถเกสุ เอกวจเนน ลิขิตํ. ทุกฺขสฺสาติอาทิ จุทฺทสนฺนํ พุทฺธาณานํ วิสยเภโท. อินฺทฺริยปโรปริยตฺเต าณนฺติอาทีนิ จตฺตาริ าณานิ วตฺวา สพฺพฺุตฺาณํ กสฺมา น วุตฺตนฺติ เจ? วุจฺจมานสฺส สพฺพฺุตฺาณตฺตา. วิสยเภทโต หิ สพฺพฺุตฺาเณ วุจฺจมาเน ตํ าณํ น วตฺตพฺพํ โหติ, สพฺพฺุตฺาณํ ปน สพฺพฺุตฺาณสฺส วิสโย โหติเยว.

ปุน กาฬการามสุตฺตนฺตาทีสุ (อ. นิ. ๔.๒๔) วุตฺตนเยน สพฺพฺุตฺาณภูมึ ทสฺเสนฺโต ยาวตา สเทวกสฺส โลกสฺสาติอาทิมาห. ตตฺถ สห เทเวหิ สเทวกสฺส. สห มาเรน สมารกสฺส. สห พฺรหฺมุนา สพฺรหฺมกสฺส โลกสฺส. สห สมณพฺราหฺมเณหิ สสฺสมณพฺราหฺมณิยา. สห เทวมนุสฺเสหิ สเทวมนุสฺสาย ปชาย. ปชาตตฺตา ปชาติ สตฺตโลกสฺส ปริยายวจนเมตํ. ตตฺถ สเทวกวจเนน ปฺจกามาวจรเทวคฺคหณํ, สมารกวจเนน ฉฏฺกามาวจรเทวคฺคหณํ, สพฺรหฺมกวจเนน พฺรหฺมกายิกาทิพฺรหฺมคฺคหณํ, สสฺสมณพฺราหฺมณิวจเนน สาสนสฺส ปจฺจตฺถิกปจฺจามิตฺตสมณพฺราหฺมณคฺคหณํ สมิตปาปพาหิตปาปสมณพฺราหฺมณคฺคหณฺจ, ปชาวจเนน สตฺตโลกคฺคหณํ, สเทวมนุสฺสวจเนน สมฺมุติเทวเสสมนุสฺสคฺคหณํ เวทิตพฺพํ. เอวเมตฺถ ตีหิ ปเทหิ โอกาสโลโก, ทฺวีหิ ปชาวเสน สตฺตโลโก คหิโตติ เวทิตพฺโพ.

อปโร นโย – สเทวกคฺคหเณน อรูปาวจรโลโก คหิโต, สมารกคฺคหเณน ฉกามาวจรเทวโลโก, สพฺรหฺมกคฺคหเณน รูปาวจรพฺรหฺมโลโก, สสฺสมณพฺราหฺมณาทิคฺคหเณน จตุปริสวเสน, สมฺมุติเทเวหิ วา สห มนุสฺสโลโก, อวเสสสตฺตโลโก วา.

อปิเจตฺถ สเทวกวจเนน อุกฺกฏฺปริจฺเฉทโต สพฺพสฺสปิ โลกสฺส ทิฏฺาทิชานนภาวํ สาเธติ. ตโต เยสํ สิยา ‘‘มาโร มหานุภาโว ฉกามาวจริสฺสโร วสวตฺตี, กึ ตสฺสาปิ ทิฏฺาทึ ชานาตี’’ติ, เตสํ วิมตึ วิธมนฺโต ‘‘สมารกสฺสา’’ติ อาห. เยสํ ปน สิยา ‘‘พฺรหฺมา มหานุภาโว เอกงฺคุลิยา เอกสฺมึ จกฺกวาฬสหสฺเส อาโลกํ ผรติ, ทฺวีหิ…เป… ทสหิ องฺคุลีหิ ทสสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ อาโลกํ ผรติ, อนุตฺตรฺจ ฌานสมาปตฺติสุขํ ปฏิสํเวเทติ, กึ ตสฺสาปิ ทิฏฺาทึ ชานาตี’’ติ, เตสํ วิมตึ วิธมนฺโต ‘‘สพฺรหฺมกสฺสา’’ติ อาห. ตโต เยสํ สิยา ‘‘ปุถู สมณพฺราหฺมณา สาสนสฺส ปจฺจตฺถิกา, กึ เตสมฺปิ ทิฏฺาทึ ชานาตี’’ติ, เตสํ วิมตึ วิธมนฺโต ‘‘สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชายา’’ติ อาห. เอวํ อุกฺกฏฺานํ ทิฏฺาทิชานนภาวํ ปกาเสตฺวา อถ สมฺมุติเทเว อวเสสมนุสฺเส จ อุปาทาย อุกฺกฏฺปริจฺเฉทวเสน เสสสตฺตโลกสฺส ทิฏฺาทิชานนภาวํ ปกาเสติ. อยเมตฺถ อนุสนฺธิกฺกโม. โปราณา ปนาหุ – สเทวกสฺสาติ เทวตาหิ สทฺธึ อวเสสโลกสฺส. สมารกสฺสาติ มาเรน สทฺธึ อวเสสโลกสฺส. สพฺรหฺมกสฺสาติ พฺรหฺเมหิ สทฺธึ อวเสสโลกสฺส. เอวํ สพฺเพปิ ติภวูปเค สตฺเต ตีหากาเรหิ ตีสุ ปเทสุ ปกฺขิปิตฺวา ปุน ทฺวีหากาเรหิ ปริยาทาตุํ สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสายาติ วุตฺตํ. เอวํ ปฺจหิ ปเทหิ เตน เตน อากาเรน เตธาตุกเมว ปริยาทินฺนํ โหตีติ.

ทิฏฺนฺติ รูปายตนํ. สุตนฺติ สทฺทายตนํ. มุตนฺติ ปตฺวา คเหตพฺพโต คนฺธายตนํ, รสายตนํ, โผฏฺพฺพายตนํ. วิฺาตนฺติ สุขทุกฺขาทิธมฺมารมฺมณํ. ปตฺตนฺติ ปริเยสิตฺวา วา อปริเยสิตฺวา วา ปตฺตํ. ปริเยสิตนฺติ ปตฺตํ วา อปฺปตฺตํ วา ปริเยสิตํ. อนุวิจริตํ มนสาติ จิตฺเตน อนุสฺจริตํ. สพฺพํ ชานาตีติ อิมินา เอตํ ทสฺเสติ – ยํ อปริมานาสุ โลกธาตูสุ อิมสฺส สเทวกสฺส โลกสฺส ‘‘นีลํ ปีต’’นฺติอาทิ (ธ. ส. ๖๑๙) รูปารมฺมณํ จกฺขุทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, อยํ สตฺโต อิมสฺมึ ขเณ อิมํ นาม รูปารมฺมณํ ทิสฺวา สุมโน วา ทุมฺมโน วา มชฺฌตฺโต วา ชาโตติ ตํ สพฺพํ ตถาคตสฺส สพฺพฺุตฺาณํ ชานาติ. ตถา ยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อิมสฺส สเทวกสฺส โลกสฺส ‘‘เภริสทฺโท, มุทิงฺคสทฺโท’’ติอาทิ สทฺทารมฺมณํ โสตทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, ‘‘มูลคนฺโธ ตจคนฺโธ’’ติอาทิ (ธ. ส. ๖๒๔-๖๒๗) คนฺธารมฺมณํ ฆานทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, ‘‘มูลรโส, ขนฺธรโส’’ติอาทิ (ธ. ส. ๖๒๘-๖๓๑) รสารมฺมณํ ชิวฺหาทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, ‘‘กกฺขฬํ, มุทุก’’นฺติอาทิ (ธ. ส. ๖๔๗-๖๕๐) ปถวีธาตุเตโชธาตุวาโยธาตุเภทํ โผฏฺพฺพารมฺมณํ กายทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, อยํ สตฺโต อิมสฺมึ ขเณ อิมํ นาม โผฏฺพฺพารมฺมณํ ผุสิตฺวา สุมโน วา ทุมฺมโน วา มชฺฌตฺโต วา ชาโตติ ตํ สพฺพํ ตถาคตสฺส สพฺพฺุตฺาณํ ชานาติ. ตถา ยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อิมสฺส สเทวกสฺส โลกสฺส สุขทุกฺขาทิเภทํ ธมฺมารมฺมณํ มโนทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉติ, อยํ สตฺโต อิมสฺมึ ขเณ อิมํ นาม ธมฺมารมฺมณํ วิชานิตฺวา สุมโน วา ทุมฺมโน วา มชฺฌตฺโต วา ชาโตติ ตํ สพฺพํ ตถาคตสฺส สพฺพฺุตฺาณํ ชานาติ. อิมสฺส ปน มหาชนสฺส ปริเยสิตฺวา อปฺปตฺตมฺปิ อตฺถิ, ปริเยสิตฺวา ปตฺตมฺปิ อตฺถิ. อปริเยสิตฺวา อปฺปตฺตมฺปิ อตฺถิ, อปริเยสิตฺวา ปตฺตมฺปิ อตฺถิ. สพฺพํ ตถาคตสฺส สพฺพฺุตฺาเณน อปฺปตฺตํ นาม นตฺถีติ.

๑๒๑. ปุน อปเรน ปริยาเยน สพฺพฺุตฺาณภาวสาธนตฺถํ น ตสฺสาติ คาถมาห. ตตฺถ น ตสฺส อทฺทิฏฺมิธตฺถิ กิฺจีติ ตสฺส ตถาคตสฺส อิธ อิมสฺมึ เตธาตุเก โลเก, อิมสฺมึ ปจฺจุปฺปนฺนกาเล วา ปฺาจกฺขุนา อทฺทิฏฺํ นาม กิฺจิ อปฺปมตฺตกมฺปิ น อตฺถิ น สํวิชฺชติ. อตฺถีติ อิทํ วตฺตมานกาลิกํ อาขฺยาตปทํ. อิมินา ปจฺจุปฺปนฺนกาลิกสฺส สพฺพธมฺมสฺส าตภาวํ ทสฺเสติ. คาถาพนฺธสุขตฺถํ ปเนตฺถ ท-กาโร สํยุตฺโต. อโถ อวิฺาตนฺติ เอตฺถ อโถอิติ วจโนปาทาเน นิปาโต. อวิฺาตนฺติ อตีตกาลิกํ อวิฺาตํ นาม กิฺจิ ธมฺมชาตํ. นาโหสีติ ปาเสโส. อพฺยยภูตสฺส อตฺถิสทฺทสฺส คหเณ ปาเสสํ วินาปิ ยุชฺชติเยว. อิมินา อตีตกาลิกสฺส สพฺพธมฺมสฺส าตภาวํ ทสฺเสติ. อชานิตพฺพนฺติ อนาคตกาลิกํ อชานิตพฺพํ นาม ธมฺมชาตํ น ภวิสฺสติ, นตฺถิ วา. อิมินา อนาคตกาลิกสฺส สพฺพธมฺมสฺส าตภาวํ ทสฺเสติ. ชานนกิริยาวิเสสนมตฺตเมว วา เอตฺถ อ-กาโร. สพฺพํ อภิฺาสิ ยทตฺถิ เนยฺยนฺติ เอตฺถ ยํ เตกาลิกํ วา กาลวิมุตฺตํ วา เนยฺยํ ชานิตพฺพํ กิฺจิ ธมฺมชาตํ อตฺถิ, ตํ สพฺพํ ตถาคโต อภิฺาสิ อธิเกน สพฺพฺุตฺาเณน ชานิ ปฏิวิชฺฌิ. เอตฺถ อตฺถิสทฺเทน เตกาลิกสฺส กาลวิมุตฺตสฺส จ คหณา อตฺถิ-สทฺโท อพฺยยภูโตเยว ทฏฺพฺโพ. ตถาคโต เตน สมนฺตจกฺขูติ กาลวเสน โอกาสวเสน จ นิปฺปเทสตฺตา สมนฺตา สพฺพโต ปวตฺตํ าณจกฺขุ อสฺสาติ สมนฺตจกฺขุ. เตน ยถาวุตฺเตน การเณน ตถาคโต สมนฺตจกฺขุ, สพฺพฺูติ วุตฺตํ โหติ. อิมิสฺสา คาถาย ปุคฺคลาธิฏฺานาย เทสนาย สพฺพฺุตฺาณํ สาธิตํ.

ปุน พุทฺธาณานํ วิสยวเสน สพฺพฺุตฺาณํ ทสฺเสตุกาโม สมนฺตจกฺขูติ เกนฏฺเน สมนฺตจกฺขูติอาทิมาห. ตตฺถ คาถาย สมนฺตจกฺขูติ วุตฺตปเท ยํ ตํ สมนฺตจกฺขุ, ตํ เกนฏฺเน สมนฺตจกฺขูติ อตฺโถ. อตฺโถ ปนสฺส ยาวตา ทุกฺขสฺส ทุกฺขฏฺโติอาทีหิ วุตฺโตเยว โหติ. สพฺพฺุตฺาณฺหิ สมนฺตจกฺขุ. ยถาห – ‘‘สมนฺตจกฺขุ วุจฺจติ สพฺพฺุตฺาณ’’นฺติ (จูฬนิ. โธตกมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๓๒). ตสฺมึ สพฺพฺุตฺาณฏฺเ วุตฺเต สมนฺตจกฺขุฏฺโ วุตฺโตเยว โหตีติ. พุทฺธสฺเสว าณานีติ พุทฺธาณานิ. ทุกฺเข าณาทีนิปิ หิ สพฺพากาเรน พุทฺธสฺเสว ภควโต ปวตฺตนฺติ, อิตเรสํ ปน เอกเทสมตฺเตเนว ปวตฺตนฺติ. สาวกสาธารณานีติ ปน เอกเทเสนาปิ อตฺถิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. สพฺโพ าโตติ สพฺโพ าเณน าโต. อฺาโต ทุกฺขฏฺโ นตฺถีติ วุตฺตเมว อตฺถํ ปฏิเสเธน วิภาเวติ. สพฺโพ ทิฏฺโติ น เกวลํ าตมตฺโตเยว, อถ โข จกฺขุนา ทิฏฺโ วิย กโต. สพฺโพ วิทิโตติ น เกวลํ ทิฏฺมตฺโตเยว, อถ โข ปากโฏ. สพฺโพ สจฺฉิกโตติ น เกวลํ วิทิโตเยว, อถ โข ตตฺถ าณปฏิลาภวเสน ปจฺจกฺขีกโต. สพฺโพ ผสฺสิโตติ น เกวลํ สจฺฉิกโตเยว, อถ โข ปุนปฺปุนํ ยถารุจิ สมุทาจารวเสน ผุฏฺโติ. อถ วา าโต สภาวลกฺขณวเสน. ทิฏฺโ สามฺลกฺขณวเสน. วิทิโต รสวเสน. สจฺฉิกโต ปจฺจุปฏฺานวเสน. ผสฺสิโต ปทฏฺานวเสน. อถ วา าโต าณุปฺปาทวเสน. ทิฏฺโ จกฺขุปฺปาทวเสน. วิทิโต ปฺุปฺปาทวเสน. สจฺฉิกโต วิชฺชุปฺปาทวเสน. ผสฺสิโต อาโลกุปฺปาทวเสน. ‘‘ยาวตา ทุกฺขสฺส ทุกฺขฏฺโ, สพฺโพ ทิฏฺโ, อทิฏฺโ ทุกฺขฏฺโ นตฺถี’’ติอาทินา นเยน จ ‘‘ยาวตา สเทวกสฺส โลกสฺส…เป… อนุวิจริตํ มนสา, สพฺพํ าตํ, อฺาตํ นตฺถี’’ติอาทินา นเยน จ วิตฺถาโร เวทิตพฺโพ. ปมํ วุตฺตคาถา นิคมนวเสน ปุน วุตฺตา. ตํนิคมเนเยว หิ กเต าณนิคมนมฺปิ กตเมว โหตีติ.

สพฺพฺุตฺาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฏิสมฺภิทามคฺค-อฏฺกถาย

าณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทิฏฺิกถา

๑. อสฺสาททิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา

๑๒๒. อิทานิ าณกถานนฺตรํ กถิตาย ทิฏฺิกถาย อนุปุพฺพอนุวณฺณนา อนุปฺปตฺตา. อยฺหิ ทิฏฺิกถา าณกถาย กตาณปริจยสฺส สมธิคตสมฺมาทิฏฺิสฺส มิจฺฉาทิฏฺิมลวิโสธนา สุกรา โหติ, สมฺมาทิฏฺิ จ สุปริสุทฺธา โหตีติ าณกถานนฺตรํ กถิตา. ตตฺถ กา ทิฏฺีติอาทิกา ปุจฺฉา. กา ทิฏฺีติ อภินิเวสปรามาโส ทิฏฺีติอาทิกํ ปุจฺฉิตปุจฺฉาย วิสฺสชฺชนํ. กถํ อภินิเวสปรามาโส ทิฏฺีติอาทิโก วิสฺสชฺชิตวิสฺสชฺชนสฺส วิตฺถารนิทฺเทโส, สพฺพาว ตา ทิฏฺิโย อสฺสาททิฏฺิโยติอาทิกา ทิฏฺิสุตฺตสํสนฺทนาติ เอวมิเม จตฺตาโร ปริจฺเฉทา. ตตฺถ ปุจฺฉาปริจฺเฉเท ตาว กา ทิฏฺีติ ธมฺมปุจฺฉา, สภาวปุจฺฉา. กติ ทิฏฺิฏฺานานีติ เหตุปุจฺฉา ปจฺจยปุจฺฉา, กิตฺตกานิ ทิฏฺีนํ การณานีติ อตฺโถ. กติ ทิฏฺิปริยุฏฺานานีติ สมุทาจารปุจฺฉา วิการปุจฺฉา. ทิฏฺิโย เอว หิ สมุทาจารวเสน จิตฺตํ ปริโยนนฺธนฺติโย อุฏฺหนฺตีติ ทิฏฺิปริยุฏฺานานิ นาม โหนฺติ. กติ ทิฏฺิโยติ ทิฏฺีนํ สงฺขาปุจฺฉา คณนาปุจฺฉา. กติ ทิฏฺาภินิเวสาติ วตฺถุปฺปเภทวเสน อารมฺมณนานตฺตวเสน ทิฏฺิปฺปเภทปุจฺฉา. ทิฏฺิโย เอว หิ ตํ ตํ วตฺถุํ ตํ ตํ อารมฺมณํ อภินิวิสนฺติ ปรามสนฺตีติ ทิฏฺิปรามาสาติ วุจฺจนฺติ. กตโม ทิฏฺิฏฺานสมุคฺฆาโตติ ทิฏฺีนํ ปฏิปกฺขปุจฺฉา ปหานูปายปุจฺฉา. ทิฏฺิการณานิ หิ ขนฺธาทีนิ ทิฏฺิสมุคฺฆาเตน ตาสํ การณานิ น โหนฺตีติ ตานิ จ การณานิ สมุคฺฆาติตานิ นาม โหนฺติ. ตสฺมา ทิฏฺิฏฺานานิ สมฺมา ภุสํ หฺนฺติ เอเตนาติ ทิฏฺิฏฺานสมุคฺฆาโตติ วุจฺจติ.

อิทานิ เอตาสํ ฉนฺนํ ปุจฺฉานํ กา ทิฏฺีติอาทีนิ ฉ วิสฺสชฺชนานิ. ตตฺถ กา ทิฏฺีติ วิสฺสชฺเชตพฺพปุจฺฉา. อภินิเวสปรามาโส ทิฏฺีติ วิสฺสชฺชนํ. สา ปน อนิจฺจาทิเก วตฺถุสฺมึ นิจฺจาทิวเสน อภินิวิสติ ปติฏฺหติ ทฬฺหํ คณฺหาตีติ อภินิเวโส. อนิจฺจาทิอาการํ อติกฺกมิตฺวา นิจฺจนฺติอาทิวเสน วตฺตมาโน ปรโต อามสติ คณฺหาตีติ ปรามาโส. อถ วา นิจฺจนฺติอาทิกํ ปรํ อุตฺตมํ สจฺจนฺติ อามสติ คณฺหาตีติ ปรามาโส, อภินิเวโส จ โส ปรามาโส จาติ อภินิเวสปรามาโส. เอวํปกาโร ทิฏฺีติ กิจฺจโต ทิฏฺิสภาวํ วิสฺสชฺเชติ. ตีณิ สตนฺติ ตีณิ สตานิ, วจนวิปลฺลาโส กโต. กตโม ทิฏฺิฏฺานสมุคฺฆาโตติ ปุจฺฉํ อนุทฺธริตฺวาว โสตาปตฺติมคฺโค ทิฏฺิฏฺานสมุคฺฆาโตติ วิสฺสชฺชนํ กตํ.

๑๒๓. อิทานิ กถํ อภินิเวสปรามาโสติอาทิ วิตฺถารนิทฺเทโส. ตตฺถ รูปนฺติ อุปโยควจนํ. รูปํ อภินิเวสปรามาโสติ สมฺพนฺโธ. รูปนฺติ เจตฺถ รูปุปาทานกฺขนฺโธ กสิณรูปฺจ. ‘‘เอตํ มมา’’ติ อภินิเวสปรามาโส ทิฏฺิ, ‘‘เอโสหมสฺมี’’ติ อภินิเวสปรามาโส ทิฏฺิ, ‘‘เอโส เม อตฺตา’’ติ อภินิเวสปรามาโส ทิฏฺีติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. เอตนฺติ สามฺวจนํ. เตเนว ‘‘เวทนํ เอตํ มม, สงฺขาเร เอตํ มมา’’ติ นปุํสกวจนํ เอกวจนฺจ กตํ. เอโสติ ปน วตฺตพฺพมเปกฺขิตฺวา ปุลฺลิงฺเคกวจนํ กตํ. เอตํ มมาติ ตณฺหามฺนามูลิกา ทิฏฺิ. เอโสหมสฺมีติ มานมฺนามูลิกา ทิฏฺิ. เอโส เม อตฺตาติ ทิฏฺิมฺนา เอว. เกจิ ปน ‘‘เอตํ มมาติ มมํการกปฺปนา, เอโสหมสฺมีติ อหํการกปฺปนา, เอโส เม อตฺตาติ อหํการมมํการกปฺปิโต อตฺตาภินิเวโสติ จ, ตถา ยถากฺกเมเนว ตณฺหามูลนิเวโส มานปคฺคาโห, ตณฺหามูลนิวิฏฺโ มานปคฺคหิโต, อตฺตาภินิเวโสติ จ, สงฺขารานํ ทุกฺขลกฺขณาทสฺสนํ, สงฺขารานํ อนิจฺจลกฺขณาทสฺสนํ, สงฺขารานํ ติลกฺขณาทสฺสนเหตุโก อตฺตาภินิเวโสติ จ, ทุกฺเข อสุเภ จ สุขํ สุภนฺติ วิปลฺลาสคตสฺส, อนิจฺเจ นิจฺจนฺติ วิปลฺลาสคตสฺส, จตุพฺพิธวิปลฺลาสคตสฺส จ อตฺตาภินิเวโสติ จ, ปุพฺเพนิวาสาณสฺส อาการกปฺปนา, ทิพฺพจกฺขุาณสฺส อนาคตปฏิลาภกปฺปนา, ปุพฺพนฺตาปรนฺตอิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ กปฺปนิสฺสิตสฺส อตฺตาภินิเวโสติ จ, นนฺทิยา อตีตมนฺวาคเมติ, นนฺทิยา อนาคตํ ปฏิกงฺขติ, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ สํหีรติ อตฺตาภินิเวโสติ จ, ปุพฺพนฺเต อฺาณเหตุกา ทิฏฺิ, อปรนฺเต อฺาณเหตุกา ทิฏฺิ, ปุพฺพนฺตาปรนฺเต อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ อฺาณเหตุโก อตฺตาภินิเวโส’’ติ จ เอเตสํ ติณฺณํ วจนานํ อตฺถํ วณฺณยนฺติ.

ทิฏฺิโย ปเนตฺถ ปมํ ปฺจกฺขนฺธวตฺถุกา. ตโต ฉอชฺฌตฺติกพาหิรายตนวิฺาณ- กายสมฺผสฺสกายเวทนากายสฺากายเจตนากายตณฺหากายวิตกฺกวิจารธาตุทสกสิณ- ทฺวตฺตึสาการวตฺถุกา ทิฏฺิโย วุตฺตา. ทฺวตฺตึสากาเรสุ จ ยตฺถ วิสุํ อภินิเวโส น ยุชฺชติ, ตตฺถ สกลสรีราภินิเวสวเสเนว วิสุํ อภินิเวโส วิย กโตติ เวทิตพฺพํ. ตโต ทฺวาทสายตนอฏฺารสธาตุเอกูนวีสติอินฺทฺริยวเสน โยชนา กตา. ตีณิ เอกนฺตโลกุตฺตรินฺทฺริยานิ น โยชิตานิ. น หิ โลกุตฺตรวตฺถุกา ทิฏฺิโย โหนฺติ. สพฺพตฺถาปิ จ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺเสสุ ธมฺเมสุ โลกุตฺตเร เปตฺวา โลกิยา เอว คเหตพฺพา. อนินฺทฺริยพทฺธรูปฺจ น คเหตพฺพเมว. ตโต เตธาตุกวเสน นววิธภววเสน ฌานพฺรหฺมวิหารสมาปตฺติวเสน ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺควเสน จ โยชนา กตา. ชาติชรามรณานํ วิสุํ คหเณ ปริหาโร วุตฺตนโย เอว. สพฺพานิ เจตานิ รูปาทิกานิ ชรามรณนฺตานิ อฏฺนวุติสตํ ปทานิ ภวนฺติ.

๑๒๔. ทิฏฺิฏฺาเนสุ ขนฺธาปิ ทิฏฺิฏฺานนฺติ วีสติวตฺถุกายปิ สกฺกายทิฏฺิยา ปฺจนฺนํ ขนฺธานํเยว วตฺถุตฺตา ‘‘เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อตฺตานํ สมนุปสฺสมานา สมนุปสฺสนฺติ, สพฺเพ เต ปฺจุปาทานกฺขนฺเธสุเยว สมนุปสฺสนฺติ, เอเตสํ วา อฺตร’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๔๗) วุตฺตตฺตา จ ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทิฏฺีนํ การณํ. อวิชฺชาปิ ทิฏฺิฏฺานนฺติ อวิชฺชาย อนฺธีกตานํ ทิฏฺิอุปฺปตฺติโต ‘‘ยายํ, ภนฺเต, ทิฏฺิ ‘อสมฺมาสมฺพุทฺเธสุ สมฺมาสมฺพุทฺธา’ติ, อยํ นุ โข, ภนฺเต, ทิฏฺิ กึ ปฏิจฺจ ปฺายตีติ? มหตี โข เอสา, กจฺจาน, ธาตุ, ยทิทํ อวิชฺชาธาตุ. หีนํ, กจฺจาน, ธาตุํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ หีนา สฺา หีนา ทิฏฺี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๙๗) วจนโต จ อวิชฺชา ทิฏฺีนํ การณํ. ผสฺโสปิ ทิฏฺิฏฺานนฺติ เตน ผสฺเสน ผุฏฺสฺส ทิฏฺิอุปฺปตฺติโต ‘‘เย เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิวุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๒๓) วจนโต จ ผสฺโส ทิฏฺีนํ การณํ. สฺาปิ ทิฏฺิฏฺานนฺติ อาการมตฺตคฺคหเณน อยาถาวสภาวคาหเหตุตฺตา สฺาย –

‘‘ยานิ จ ตีณิ ยานิ จ สฏฺิ, สมณปฺปวาทสิตานิ ภูริปฺ;

สฺกฺขรสฺนิสฺสิตานิ, โอสรณานิ วิเนยฺย โอฆตมคา’’ติ. (สุ. นิ. ๕๔๓) –

วจนโต ‘‘สฺานิทานา หิ ปปฺจสงฺขา’’ติ (สุ. นิ. ๘๘๐; มหานิ. ๑๐๙) วจนโต จ สฺา ทิฏฺีนํ การณํ. วิตกฺโกปิ ทิฏฺิฏฺานนฺติ อาการปริวิตกฺเกน ทิฏฺิอุปฺปตฺติโต –

‘‘นเหว สจฺจานิ พหูนิ นานา, อฺตฺร สฺาย นิจฺจานิ โลเก;

ตกฺกฺจ ทิฏฺีสุ ปกปฺปยิตฺวา, สจฺจํ มุสาติ ทฺวยธมฺมมาหู’’ติ. (สุ. นิ. ๘๙๒) –

วจนโต จ วิตกฺโก ทิฏฺีนํ การณํ. อโยนิโสมนสิกาโรปิ ทิฏฺิฏฺานนฺติ อโยนิโส มนสิการสฺส อกุสลานํ อสาธารณเหตุตฺตา ‘‘ตสฺเสวํ อโยนิโส มนสิกโรโต ฉนฺนํ ทิฏฺีนํ อฺตรา ทิฏฺิ อุปฺปชฺชตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๙) วจนโต จ อโยนิโส มนสิกาโร ทิฏฺีนํ การณํ. ปาปมิตฺโตปิ ทิฏฺิฏฺานนฺติ ปาปมิตฺตสฺส ทิฏฺานุคติอาปชฺชเนน ทิฏฺิอุปฺปตฺติโต ‘‘พาหิรํ, ภิกฺขเว, องฺคนฺติ กริตฺวา น อฺํ เอกงฺคมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํ มหโต อนตฺถาย สํวตฺตติ. ยถยิทํ, ภิกฺขเว, ปาปมิตฺตตา’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๑๐) วจนโต จ ปาปมิตฺโต ทิฏฺีนํ การณํ. ปรโตปิ โฆโส ทิฏฺิฏฺานนฺติ ทุรกฺขาตธมฺมสฺสวเนน ทิฏฺิอุปฺปตฺติโต ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, เหตู ทฺเว ปจฺจยา มิจฺฉาทิฏฺิยา อุปฺปาทาย ปรโต จ โฆโส อโยนิโส จ มนสิกาโร’’ติ (อ. นิ. ๒.๑๒๖) วจนโต จ ปรโต โฆโส มิจฺฉาทิฏฺิกโต มิจฺฉาทิฏฺิปฏิสฺุตฺตกถา ทิฏฺีนํ การณํ.

อิทานิ ทิฏฺิฏฺานนฺติ ปทสฺส อตฺถํ วิวรนฺโต ขนฺธา เหตุ ขนฺธา ปจฺจโยติอาทิมาห. ขนฺธา เอว ทิฏฺีนํ อุปาทาย, ชนกเหตุ เจว อุปตฺถมฺภกปจฺจโย จาติ อตฺโถ. สมุฏฺานฏฺเนาติ สมุฏฺหนฺติ อุปฺปชฺชนฺติ เอเตนาติ สมุฏฺานํ, การณนฺติ อตฺโถ. เตน สมุฏฺานฏฺเน, ทิฏฺิการณภาเวนาติ อตฺโถ.

๑๒๕. อิทานิ กิจฺจเภเทน ทิฏฺิเภทํ ทสฺเสนฺโต กตมานิ อฏฺารส ทิฏฺิปริยุฏฺานานีติอาทิมาห. ตตฺถ ยา ทิฏฺีติ อิทานิ วุจฺจมานานํ อฏฺารสนฺนํ ปทานํ สาธารณํ มูลปทํ. ยา ทิฏฺิ, ตเทว ทิฏฺิคตํ, ยา ทิฏฺิ, ตเทว ทิฏฺิคหนนฺติ สพฺเพหิ สมฺพนฺโธ กาตพฺโพ. อยาถาวทสฺสนฏฺเน ทิฏฺิ, ตเทว ทิฏฺีสุ คตํ ทสฺสนํ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิอนฺโตคธตฺตาติ ทิฏฺิคตํ. เหฏฺาปิสฺส อตฺโถ วุตฺโตเยว. ทฺวินฺนํ อนฺตานํ เอกนฺตคตตฺตาปิ ทิฏฺิคตํ. สา เอว ทิฏฺิ ทุรติกฺกมนฏฺเน ทิฏฺิคหนํ ติณคหนวนคหนปพฺพตคหนานิ วิย. สาสงฺกสปฺปฏิภยฏฺเน ทิฏฺิกนฺตารํ โจรกนฺตารวาฬกนฺตารนิรุทกกนฺตารทุพฺภิกฺขกนฺตารา วิย. ธมฺมสงฺคณิยํ ‘‘ทิฏฺิกนฺตาโร’’ติ สกลิงฺเคเนว อาคตํ. สมฺมาทิฏฺิยา วินิวิชฺฌนฏฺเน ปฏิโลมฏฺเน จ ทิฏฺิวิสูกํ. มิจฺฉาทสฺสนฺหิ อุปฺปชฺชมานํ สมฺมาทสฺสนํ วินิวิชฺฌติ เจว วิโลเมติ จ. ธมฺมสงฺคณิยํ (ธ. ส. ๓๙๒, ๑๑๐๕) ‘‘ทิฏฺิวิสูกายิก’’นฺติ อาคตํ. กทาจิ สสฺสตสฺส, กทาจิ อุจฺเฉทสฺส คหณโต ทิฏฺิยา วิรูปํ ผนฺทิตนฺติ ทิฏฺิวิปฺผนฺทิตํ. ทิฏฺิคติโก หิ เอกสฺมึ ปติฏฺาตุํ น สกฺโกติ, กทาจิ สสฺสตํ อนุสฺสรติ, กทาจิ อุจฺเฉทํ. ทิฏฺิเยว อนตฺเถ สํโยเชตีติ ทิฏฺิสฺโชนํ. ทิฏฺิเยว อนฺโตตุทนฏฺเน ทุนฺนีหรณียฏฺเน จ สลฺลนฺติ ทิฏฺิสลฺลํ. ทิฏฺิเยว ปีฬากรณฏฺเน สมฺพาโธติ ทิฏฺิสมฺพาโธ. ทิฏฺิเยว โมกฺขาวรณฏฺเน ปลิโพโธติ ทิฏฺิปลิโพโธ. ทิฏฺิเยว ทุมฺโมจนียฏฺเน พนฺธนนฺติ ทิฏฺิพนฺธนํ. ทิฏฺิเยว ทุรุตฺตรฏฺเน ปปาโตติ ทิฏฺิปปาโต. ทิฏฺิเยว ถามคตฏฺเน อนุสโยติ ทิฏฺานุสโย. ทิฏฺิเยว อตฺตานํ สนฺตาเปตีติ ทิฏฺิสนฺตาโป. ทิฏฺิเยว อตฺตานํ อนุทหตีติ ทิฏฺิปริฬาโห. ทิฏฺิเยว กิเลสกายํ คนฺเถตีติ ทิฏฺิคนฺโถ. ทิฏฺิเยว ภุสํ อาทิยตีติ ทิฏฺุปาทานํ. ทิฏฺิเยว ‘‘สจฺจ’’นฺติอาทิวเสน อภินิวิสตีติ ทิฏฺาภินิเวโส. ทิฏฺิเยว อิทํ ปรนฺติ อามสติ, ปรโต วา อามสตีติ ทิฏฺิปรามาโส.

๑๒๖. อิทานิ ราสิวเสน โสฬส ทิฏฺิโย อุทฺทิสนฺโต กตมา โสฬส ทิฏฺิโยติอาทิมาห. ตตฺถ สุขโสมนสฺสสงฺขาเต อสฺสาเท ทิฏฺิ อสฺสาททิฏฺิ. อตฺตานํ อนุคตา ทิฏฺิ อตฺตานุทิฏฺิ. นตฺถีติ ปวตฺตตฺตา วิปรีตา ทิฏฺิ มิจฺฉาทิฏฺิ. สติ กาเย ทิฏฺิ, สนฺตี วา กาเย ทิฏฺิ สกฺกายทิฏฺิ. กาโยติ เจตฺถ ขนฺธปฺจกํ, ขนฺธปฺจกสงฺขาโต สกฺกาโย วตฺถุ ปติฏฺา เอติสฺสาติ สกฺกายวตฺถุกา. สสฺสตนฺติ ปวตฺตา ทิฏฺิ สสฺสตทิฏฺิ. อุจฺเฉโทติ ปวตฺตา ทิฏฺิ อุจฺเฉททิฏฺิ. สสฺสตาทิอนฺตํ คณฺหาตีติ อนฺตคฺคาหิกา, อนฺตคฺคาโห วา อสฺสา อตฺถีติ อนฺตคฺคาหิกา. อตีตสงฺขาตํ ปุพฺพนฺตํ อนุคตา ทิฏฺิ ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิ. อนาคตสงฺขาตํ อปรนฺตํ อนุคตา ทิฏฺิ อปรนฺตานุทิฏฺิ. อนตฺเถ สํโยเชตีติ สฺโชนิกา. อหงฺการวเสน อหนฺติ อุปฺปนฺเนน มาเนน ทิฏฺิยา มูลภูเตน วินิพนฺธา ฆฏิตา อุปฺปาทิตา ทิฏฺิ อหนฺติ มานวินิพนฺธา ทิฏฺิ. ตถา มมงฺการวเสน มมนฺติ อุปฺปนฺเนน มาเนน วินิพนฺธา ทิฏฺิ มมนฺติ มานวินิพนฺธา ทิฏฺิ. อตฺตโน วทนํ กถนํ อตฺตวาโท, เตน ปฏิสฺุตฺตา พทฺธา ทิฏฺิ อตฺตวาทปฏิสํยุตฺตา ทิฏฺิ. อตฺตานํ โลโกติ วทนํ กถนํ โลกวาโท, เตน ปฏิสฺุตฺตา ทิฏฺิ โลกวาทปฏิสํยุตฺตา ทิฏฺิ. ภโว วุจฺจติ สสฺสตํ, สสฺสตวเสน อุปฺปชฺชนทิฏฺิ ภวทิฏฺิ. วิภโว วุจฺจติ อุจฺเฉโท, อุจฺเฉทวเสน อุปฺปชฺชนทิฏฺิ วิภวทิฏฺิ.

๑๒๗-๑๒๘. อิทานิ ตีณิ สตํ ทิฏฺาภินิเวเส นิทฺทิสิตุกาโม กตเม ตีณิ สตํ ทิฏฺาภินิเวสาติ ปุจฺฉิตฺวา เต อวิสฺสชฺเชตฺวาว วิสุํ วิสุํ อภินิเวสวิสฺสชฺชเนเนว เต วิสฺสชฺเชตุกาโม อสฺสาททิฏฺิยา, กติหากาเรหิ อภินิเวโส โหตีติอาทินา นเยน โสฬสนฺนํ ทิฏฺีนํ อภินิเวสาการคณนํ ปุจฺฉิตฺวา ปุน อสฺสาททิฏฺิยา ปฺจตึสาย อากาเรหิ อภินิเวโส โหตีติ ตาสํ โสฬสนฺนํ ทิฏฺีนํ อภินิเวสาการคณนํ วิสฺสชฺเชตฺวา ปุน ตานิ คณนานิ วิสฺสชฺเชนฺโต อสฺสาททิฏฺิยา กตเมหิ ปฺจตึสาย อากาเรหิ อภินิเวโส โหตีติอาทิมาห. ตตฺถ รูปํ ปฏิจฺจาติ รูปกฺขนฺธํ ปฏิจฺจ. อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสนฺติ ‘‘อยํ เม กาโย อีทิโส’’ติ รูปสมฺปทํ นิสฺสาย เคหสิตํ ราคสมฺปยุตฺตํ สุขํ โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. เหฏฺา วุตฺเตนฏฺเน สุขฺจ โสมนสฺสฺจ. ตํเยว รูปสฺส อสฺสาโทติ รูปนิสฺสโย อสฺสาโท. ตฺหิ สุขํ ตณฺหาวเสน อสฺสาทียติ อุปภุฺชียตีติ อสฺสาโท. อภินิเวสปรามาโส ทิฏฺีติ โส อสฺสาโท สสฺสโตติ วา อุจฺฉิชฺชิสฺสตีติ วา สสฺสตํ วา อุจฺฉิชฺชมานํ วา อตฺตานํ สุขิตํ กโรตีติ วา อภินิเวสปรามาโส โหติ. ตสฺมา ยา จ ทิฏฺิ โย จ อสฺสาโทติ อสฺสาทสฺส ทิฏฺิภาวาภาเวปิ อสฺสาทํ วินา สา ทิฏฺิ น โหตีติ กตฺวา อุภยมฺปิ สมุจฺจิตํ. อสฺสาททิฏฺีติ อสฺสาเท ปวตฺตา ทิฏฺีติ วุตฺตํ โหติ.

อิทานิ นานาสุตฺเตหิ สํสนฺเทตฺวา มิจฺฉาทิฏฺึ มิจฺฉาทิฏฺิกฺจ ครหิตุกาโม อสฺสาททิฏฺิ มิจฺฉาทิฏฺีติอาทิมาห. ตตฺถ ทิฏฺิวิปตฺตีติ สมฺมาทิฏฺิวินาสกมิจฺฉาทิฏฺิสงฺขาตทิฏฺิยา วิปตฺติ. ทิฏฺิวิปนฺโนติ วิปนฺนา วินฏฺา สมฺมาทิฏฺิ อสฺสาติ ทิฏฺิวิปนฺโน, วิปนฺนทิฏฺีติ วุตฺตํ โหติ. มิจฺฉาทิฏฺิยา วา วิปนฺโน วินฏฺโติ ทิฏฺิวิปนฺโน. น เสวิตพฺโพ อุปสงฺกมเนน. น ภชิตพฺโพ จิตฺเตน. น ปยิรุปาสิตพฺโพ อุปสงฺกมิตฺวา นิสีทเนน. ตํ กิสฺส เหตูติ ‘‘ตํ เสวนาทิกํ เกน การเณน น กาตพฺพ’’นฺติ ตสฺส การณปุจฺฉา. ทิฏฺิ หิสฺส ปาปิกาติ การณวิสฺสชฺชนํ. ยสฺมา อสฺส ปุคฺคลสฺส ทิฏฺิ ปาปิกา, ตสฺมา ตํ เสวนาทิกํ น กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. ทิฏฺิยา ราโคติ ‘‘สุนฺทรา เม ทิฏฺี’’ติ ทิฏฺึ อารพฺภ ทิฏฺิยา อุปฺปชฺชนราโค. ทิฏฺิราครตฺโตติ เตน ทิฏฺิราเคน รงฺเคน รตฺตํ วตฺถํ วิย รตฺโต. น มหปฺผลนฺติ วิปากผเลน. น มหานิสํสนฺติ นิสฺสนฺทผเลน.

ปุริสปุคฺคลสฺสาติ ปุริสสงฺขาตสฺส ปุคฺคลสฺส. โลกิยโวหาเรน หิ ปุริ วุจฺจติ สรีรํ, ตสฺมึ ปุริสฺมึ เสติ ปวตฺตตีติ ปุริโส, ปุํ วุจฺจติ นิรโย, ตํ ปุํ คลติ คจฺฉตีติ ปุคฺคโล. เยภุยฺเยน หิ สตฺตา สุคติโต จุตา ทุคฺคติยํเยว นิพฺพตฺตนฺติ. ตํ กิสฺส เหตูติ ตํ น มหปฺผลตฺตํ เกน การเณน โหติ. ทิฏฺิ หิสฺส ปาปิกาติ ยสฺมา อสฺส ปุคฺคลสฺส ทิฏฺิ ปาปิกา, ตสฺมา น มหปฺผลํ โหตีติ อตฺโถ. ทฺเวว คติโยติ ปฺจสุ คตีสุ ทฺเวว คติโย. วิปชฺชมานาย ทิฏฺิยา นิรโย. สมฺปชฺชมานาย ติรจฺฉานโยนิ. ยฺเจว กายกมฺมนฺติ สกลิงฺคธารณปฏิปทานุโยคอภิวาทนปจฺจุฏฺานอฺชลิกมฺมาทิ กายกมฺมํ. ยฺจ วจีกมฺมนฺติ สกสมยปริยาปุณนสชฺฌายนเทสนาสมาทปนาทิ วจีกมฺมํ. ยฺจ มโนกมฺมนฺติ อิธโลกจินฺตาปฏิสํยุตฺตฺจ ปรโลกจินฺตาปฏิสํยุตฺตฺจ กตากตจินฺตาปฏิสํยุตฺตฺจ มโนกมฺมํ. ติณกฏฺธฺพีเชสุ สตฺตทิฏฺิสฺส ทานานุปฺปทานปฏิคฺคหณปริโภเคสุ จ กายวจีมโนกมฺมานิ. ยถาทิฏฺีติ ยา อยํ ทิฏฺิ, ตสฺสานุรูปํ. สมตฺตนฺติ ปริปุณฺณํ. สมาทินฺนนฺติ คหิตํ.

อฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ – ตเทตํ ยถาทิฏฺิยํ ิตกายกมฺมํ, ทิฏฺิสหชาตกายกมฺมํ, ทิฏฺานุโลมิกกายกมฺมนฺติ ติวิธํ โหติ. ตตฺถ ‘‘ปาณํ หนโต อทินฺนํ อาทิยโต มิจฺฉาจรโต นตฺถิ ตโตนิทานํ ปาปํ, นตฺถิ ปาปสฺส อาคโม’’ติ ยํ เอวํ ทิฏฺิกสฺส สโต ปาณาติปาตอทินฺนาทานมิจฺฉาจารสงฺขาตํ กายกมฺมํ, อิทํ ยถาทิฏฺิยํ ิตกายกมฺมํ นาม. ‘‘ปาณํ หนโต อทินฺนํ อาทิยโต มิจฺฉาจรโต นตฺถิ ตโตนิทานํ ปาปํ, นตฺถิ ปาปสฺส อาคโม’’ติ ยํ อิมาย ทิฏฺิยา อิมินา ทสฺสเนน สหชาตํ กายกมฺมํ, อิทํ ทิฏฺิสหชาตกายกมฺมํ นาม. ตเทว ปน สมตฺตํ สมาทินฺนํ คหิตํ ปรามฏฺํ ทิฏฺานุโลมิกกายกมฺมํ นาม. วจีกมฺมมโนกมฺเมสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน มุสา ภณโต ปิสุณํ ภณโต ผรุสํ ภณโต สมฺผํ ปลปโต อภิชฺฌาลุโน พฺยาปนฺนจิตฺตสฺส มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส สโต นตฺถิ ตโตนิทานํ ปาปํ, นตฺถิ ปาปสฺส อาคโมติ โยชนา กาตพฺพา. ลิงฺคธารณาทิปริยาปุณนาทิโลกจินฺตาทิวเสน วุตฺตนโย เจตฺถ สุนฺทโร.

เจตนาทีสุ ทิฏฺิสหชาตา เจตนา เจตนา นาม. ทิฏฺิสหชาตา ปตฺถนา ปตฺถนา นาม. เจตนาปตฺถนานํ วเสน จิตฺตฏฺปนา ปณิธิ นาม. เตหิ ปน เจตนาทีหิ สมฺปยุตฺตา ผสฺสาทโย สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนา ธมฺมา สงฺขารา นาม. อนิฏฺายาติอาทีหิ ทุกฺขเมว วุตฺตํ. ทุกฺขฺหิ สุขกาเมหิ สตฺเตหิ น เอสิตตฺตา อนิฏฺํ. อปฺปิยตฺตา อกนฺตํ. มนสฺส อวฑฺฒนโต, มนสิ อวิสปฺปนโต จ อมนาปํ. อายตึ อภทฺทตาย อหิตํ. ปีฬนโต ทุกฺขนฺติ. ตํ กิสฺส เหตูติ ตํ เอวํ สํวตฺตนํ เกน การเณน โหตีติ อตฺโถ. อิทานิสฺส การณํ ทิฏฺิ หิสฺส ปาปิกาติ. ยสฺมา ตสฺส ปุคฺคลสฺส ทิฏฺิ ปาปิกา ลามกา, ตสฺมา เอวํ สํวตฺตตีติ อตฺโถ. อลฺลาย ปถวิยา นิกฺขิตฺตนฺติ อุทเกน ตินฺตาย ภูมิยา โรปิตํ. ปถวีรสํ อาโปรสนฺติ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน ปถวิยา จ สมฺปทํ อาปสฺส จ สมฺปทํ. พีชนิกฺขิตฺตฏฺาเน หิ น สพฺพา ปถวี น สพฺโพ อาโป จ พีชํ ผลํ คณฺหาเปติ. โย ปน เตสํ ปเทโส พีชํ ผุสติ, โสเยว พีชํ ผลํ คณฺหาเปติ. ตสฺมา พีชโปสนาย ปจฺจยภูโตเยว โส ปเทโส ปถวีรโส อาโปรโสติ เวทิตพฺโพ. รสสทฺทสฺส หิ สมฺปตฺติ จ อตฺโถ. ยถาห ‘‘กิจฺจสมฺปตฺติอตฺเถน รโส นาม ปวุจฺจตี’’ติ. โลเก จ ‘‘สุรโส คนฺธพฺโพ’’ติ วุตฺเต สุสมฺปนฺโน คนฺธพฺโพติ อตฺโถ ายติ. อุปาทิยตีติ คณฺหาติ. โย หิ ปเทโส ปจฺจโย โหติ, ตํ ปจฺจยํ ลภมานํ พีชํ ตํ คณฺหาติ นาม. สพฺพํ ตนฺติ สพฺพํ ตํ รสชาตํ. ติตฺตกตฺตายาติ โส ปถวีรโส อาโปรโส จ อติตฺตโก สมาโนปิ ติตฺตกํ พีชํ นิสฺสาย นิมฺพรุกฺขาทีนํ เตสํ ผลานฺจ ติตฺตกภาวาย สํวตฺตติ. กฏุกตฺตายาติ อิทํ ปุริมสฺเสว เววจนํ.

‘‘วณฺณคนฺธรสูเปโต, อมฺโพยํ อหุวา ปุเร;

ตเมว ปูชํ ลภมาโน, เกนมฺโพ กฏุกปฺผโล’’ติ. (ชา. ๑.๒.๗๑) –

อาคตฏฺาเน วิย หิ อิธาปิ ติตฺตกเมว อปฺปิยฏฺเน กฏุกนฺติ เวทิตพฺพํ. อสาตตฺตายาติ อมธุรภาวาย. อสาทุตฺตายาติปิ ปาโ, อสาทุภาวายาติ อตฺโถ. สาทูติ หิ มธุรํ. พีชํ หิสฺสาติ อสฺส นิมฺพาทิกสฺส พีชํ. เอวเมวนฺติ เอวํ เอวํ. ยสฺมา สุขา เวทนา ปรโม อสฺสาโท, ตสฺมา มิจฺฉาทิฏฺิยา ทุกฺขเวทนาวเสน อาทีนโว ทสฺสิโตติ. ปุน อฏฺารสเภเทน ทิฏฺิยา อาทีนวํ ทสฺเสตุํ อสฺสาททิฏฺิ มิจฺฉาทิฏฺีติอาทิมาห. ตํ วุตฺตตฺถเมว. อิเมหิ อฏฺารสหิ อากาเรหิ ปริยุฏฺิตจิตฺตสฺส สฺโโคติ ทิฏฺิยา เอว สํสาเร พนฺธนํ ทสฺเสติ.

๑๒๙. ยสฺมา ปน ทิฏฺิภูตานิปิ สฺโชนานิ อตฺถิ อทิฏฺิภูตานิปิ, ตสฺมา ตํ ปเภทํ ทสฺเสนฺโต อตฺถิ สฺโชนานิ เจวาติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา กามราคสฺโชนสฺเสว อนุนยสฺโชนนฺติ อาคตฏฺานมฺปิ อตฺถิ, ตสฺมา อนุนยสฺโชนนฺติ วุตฺตํ. กามราคภาวํ อปฺปตฺวา ปวตฺตํ โลภํ สนฺธาย เอตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เสสขนฺธายตนาทิมูลเกสุปิ วาเรสุ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เวทนาปรมตฺตา จ อสฺสาทสฺส เวทนาปริโยสานา เอว เทสนา กตา. สฺาทโย น คหิตา. อิเมหิ ปฺจตึสาย อากาเรหีติ ปฺจกฺขนฺธา อชฺฌตฺติกายตนาทีนิ ปฺจ ฉกฺกานิ จาติ อิมานิ ปฺจตึส วตฺถูนิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนอสฺสาทารมฺมณวเสน ปฺจตึสาย อากาเรหิ.

อสฺสาททิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อตฺตานุทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา

๑๓๐. อตฺตานุทิฏฺิยํ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโนติ อาคมาธิคมาภาวา เยฺโย อสฺสุตวา อิติ. ยสฺส หิ ขนฺธธาตุอายตนสจฺจปจฺจยาการสติปฏฺานาทีสุ อุคฺคหปริปุจฺฉาวินิจฺฉยวิรหิตตฺตา อตฺตานุทิฏฺิปฏิเสธกโร เนว อาคโม, ปฏิปตฺติยา อธิคนฺตพฺพสฺส อนธิคตตฺตา น จ อธิคโม อตฺถิ, โส อาคมาธิคมานํ อภาวา เยฺโย อสฺสุตวา อิติ. สุตนฺติ หิ พุทฺธวจนาคโม จ สุตผลตฺตา เหตุโวหารวเสน อธิคโม จ, ตํ สุตํ อสฺส อตฺถีติ สุตวา, น สุตวา อสฺสุตวา. สฺวายํ –

ปุถูนํ ชนนาทีหิ, การเณหิ ปุถุชฺชโน;

ปุถุชฺชนนฺโตคธตฺตา, ปุถุวายํ ชโน อิติ.

โส หิ ปุถูนํ นานปฺปการานํ กิเลสาทีนํ ชนนาทีหิ การเณหิ ปุถุชฺชโน. ยถาห – ‘‘ปุถุ กิเลเส ชเนนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ อวิหตสกฺกายทิฏฺิกาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ สตฺถารานํ มุขุลฺโลกิกาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ สพฺพคตีหิ อวุฏฺิตาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ นานาภิสงฺขาเร อภิสงฺขโรนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ นานาโอเฆหิ วุยฺหนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ นานาสนฺตาเปหิ สนฺตปฺเปนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ นานาปริฬาเหหิ ปริทยฺหนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ ปฺจสุ กามคุเณสุ รตฺตา คิทฺธา คธิตา มุจฺฉิตา อชฺโฌสนฺนา ลคฺคา ลคฺคิตา ปลิพุทฺธาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ ปฺจหิ นีวรเณหิ อาวุตา นิวุตา โอวุตา ปิหิตา ปฏิจฺฉนฺนา ปฏิกุชฺชิตาติ ปุถุชฺชนา’’ติ (มหานิ. ๙๔). ปุถูนํ วา คณนปถมตีตานํ อริยธมฺมปรมฺมุขานํ นีจธมฺมสมุทาจารานํ ชนานํ อนฺโตคธตฺตาปิ ปุถุชฺชนา, ปุถุ วา อยํ, วิสุํเยว สงฺขํ คโต วิสํสฏฺโ สีลสุตาทิคุณยุตฺเตหิ อริเยหิ ชโนติปิ ปุถุชฺชโน. เอวเมเตหิ ‘‘อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน’’ติ ทฺวีหิ ปเทหิ เย เต –

‘‘ทุเว ปุถุชฺชนา วุตฺตา, พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา;

อนฺโธ ปุถุชฺชโน เอโก, กลฺยาเณโก ปุถุชฺชโน’’ติ. –

ทฺเว ปุถุชฺชนา วุตฺตา, เตสุ อนฺธปุถุชฺชโน วุตฺโต โหตีติ เวทิตพฺโพ.

อริยานํ อทสฺสาวีติอาทีสุ อริยาติ อารกตฺตา กิเลเสหิ, อนเย น อิริยนโต, อเย จ อิริยนโต, สเทวเกน จ โลเกน อรณียโต พุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ พุทฺธสาวกา จ วุจฺจนฺติ, พุทฺธา เอว วา อิธ อริยา. ยถาห – ‘‘สเทวเก, ภิกฺขเว, โลเก…เป… ตถาคโต อริโยติ วุจฺจตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๘).

สปฺปุริสาติ เอตฺถ ปน ปจฺเจกพุทฺธา ตถาคตสาวกา จ ‘‘สปฺปุริสา’’ติ เวทิตพฺพา. เต หิ โลกุตฺตรคุณโยเคน โสภนา ปุริสาติ สปฺปุริสา. สพฺเพเยว วา เอเต ทฺเวธาปิ วุตฺตา. พุทฺธาปิ หิ อริยา จ สปฺปุริสา จ ปจฺเจกพุทฺธา พุทฺธสาวกาปิ. ยถาห –

‘‘โย เว กตฺู กตเวทิ ธีโร, กลฺยาณมิตฺโต ทฬฺหภตฺติ จ โหติ;

ทุขิตสฺส สกฺกจฺจ กโรติ กิจฺจํ, ตถาวิธํ สปฺปุริสํ วทนฺตี’’ติ. (ชา. ๒.๑๗.๗๘);

เอตฺถ หิ ‘‘กตฺู กตเวทิ ธีโร’’ติ ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ วุตฺโต, ‘‘กลฺยาณมิตฺโต ทฬฺหภตฺติ จา’’ติ พุทฺธสาวโก, ‘‘ทุขิตสฺส สกฺกจฺจ กโรติ กิจฺจ’’นฺติ สมฺมาสมฺพุทฺโธติ. อิทานิ โย เตสํ อริยานํ อทสฺสนสีโล, น จ ทสฺสเน สาธุการี, โส ‘‘อริยานํ อทสฺสาวี’’ติ เวทิตพฺโพ. โส จ จกฺขุนา อทสฺสาวี าเณน อทสฺสาวีติ ทุวิโธ. เตสุ าเณน อทสฺสาวี อิธาธิปฺเปโต. มํสจกฺขุนา หิ ทิพฺพจกฺขุนา วา อริยา ทิฏฺาปิ อทิฏฺาว โหนฺติ เตสํ จกฺขูนํ วณฺณมตฺตคหณโต น อริยภาวโคจรโต. โสณสิงฺคาลาทโยปิ หิ จกฺขุนา อริเย ปสฺสนฺติ, น จ เต อริยานํ ทสฺสาวิโน, ตสฺมา จกฺขุนา ทสฺสนํ น ทสฺสนํ, าเณน ทสฺสนเมว ทสฺสนํ. ยถาห – ‘‘กึ เต, วกฺกลิ, อิมินา ปูติกาเยน ทิฏฺเน, โย โข, วกฺกลิ, ธมฺมํ ปสฺสติ, โส มํ ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๘๗). ตสฺมา จกฺขุนา ปสฺสนฺโตปิ าเณน อริเยหิ ทิฏฺํ อนิจฺจาทิลกฺขณํ อปสฺสนฺโต อริยาธิคตฺจ ธมฺมํ อนธิคจฺฉนฺโต อริยกรธมฺมานํ อริยภาวสฺส จ อทิฏฺตฺตา ‘‘อริยานํ อทสฺสาวี’’ติ เวทิตพฺโพ.

อริยธมฺมสฺส อโกวิโทติ สติปฏฺานาทิเภเท อริยธมฺเม อกุสโล. อริยธมฺเม อวินีโตติ เอตฺถ ปน –

ทุวิโธ วินโย นาม, เอกเมเกตฺถ ปฺจธา;

อภาวโต ตสฺส อยํ, ‘‘อวินีโต’’ติ วุจฺจติ.

อยฺหิ สํวรวินโย ปหานวินโยติ ทุวิโธ วินโย. เอตฺถ จ ทุวิเธปิ วินเย เอกเมโก วินโย ปฺจธา ภิชฺชติ. สํวรวินโยปิ หิ สีลสํวโร, สติสํวโร, าณสํวโร, ขนฺติสํวโร, วีริยสํวโรติ ปฺจวิโธ. ปหานวินโยปิ ตทงฺคปฺปหานํ, วิกฺขมฺภนปฺปหานํ, สมุจฺเฉทปฺปหานํ, ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ, นิสฺสรณปฺปหานนฺติ ปฺจวิโธ.

ตตฺถ ‘‘อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต โหติ สมุเปโต’’ติ (วิภ. ๕๑๑) อยํ สีลสํวโร. ‘‘รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๑๓; ม. นิ. ๑.๒๙๕; สํ. นิ. ๔.๒๓๙; อ. นิ. ๓.๑๖) อยํ สติสํวโร.

‘‘ยานิ โสตานิ โลกสฺมึ, (อชิตาติ ภควา)

สติ เตสํ นิวารณํ;

โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ, ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ. (สุ. นิ. ๑๐๔๑; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๔) –

อยํ าณสํวโร. ‘‘ขโม โหติ สีตสฺส อุณฺหสฺสา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔; อ. นิ. ๔.๑๑๔; ๖.๕๘) อยํ ขนฺติสํวโร. ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๖; อ. นิ. ๔.๑๑๔; ๖.๕๘) อยํ วีริยสํวโร. สพฺโพปิ จายํ สํวโร ยถาสกํ สํวริตพฺพานํ วิเนตพฺพานฺจ กายทุจฺจริตาทีนํ สํวรณโต ‘‘สํวโร’’, วินยนโต ‘‘วินโย’’ติ วุจฺจติ. เอวํ ตาว สํวรวินโย ปฺจธา ภิชฺชตีติ เวทิตพฺโพ.

ตถา ยํ นามรูปปริจฺเฉทาทีสุ วิปสฺสนาาเณสุ ปฏิปกฺขภาวโต ทีปาโลเกน วิย ตมสฺส เตน เตน วิปสฺสนาาเณน ตสฺส ตสฺส อนตฺถสฺส ปหานํ, เสยฺยถิทํ – นามรูปววตฺถาเนน สกฺกายทิฏฺิยา, ปจฺจยปริคฺคเหน อเหตุวิสมเหตุทิฏฺีนํ, กงฺขาวิตรเณน กถํกถีภาวสฺส, กลาปสมฺมสเนน ‘‘อหํ มมา’’ติ คาหสฺส, มคฺคามคฺคววตฺถาเนน อมคฺเค มคฺคสฺาย, อุทยทสฺสเนน อุจฺเฉททิฏฺิยา, วยทสฺสเนน สสฺสตทิฏฺิยา, ภยทสฺสเนน สภเย อภยสฺาย, อาทีนวทสฺสเนน อสฺสาทสฺาย, นิพฺพิทานุปสฺสเนน อภิรติสฺาย, มุฺจิตุกมฺยตาาเณน อมุฺจิตุกมฺยตาย, อุเปกฺขาาเณน อนุเปกฺขาย, อนุโลมาเณน ธมฺมฏฺิติยํ นิพฺพาเน จ ปฏิโลมภาวสฺส, โคตฺรภุนา สงฺขารนิมิตฺตคาหสฺส ปหานํ, เอตํ ตทงฺคปฺปหานํ นาม.

ยํ ปน อุปจารปฺปนาเภเทน สมาธินา ปวตฺติภาวนิวารณโต ฆฏปฺปหาเรน วิย อุทกปิฏฺเ เสวาลสฺส เตสํ เตสํ นีวรณาทิธมฺมานํ ปหานํ, อิทํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ นาม. ยํ จตุนฺนํ อริยมคฺคานํ ภาวิตตฺตา ตํตํมคฺควโต อตฺตโน สนฺตาเน ‘‘ทิฏฺิคตานํ ปหานายา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๒๗๗; วิภ. ๖๒๘) นเยน วุตฺตสฺส สมุทยปกฺขิกสฺส กิเลสคฺคณสฺส อจฺจนฺตอปฺปวตฺติภาเวน ปหานํ, อิทํ สมุจฺเฉทปฺปหานํ นาม. ยํ ปน ผลกฺขเณ ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตํ กิเลสานํ, อิทํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ นาม. ยํ สพฺพสงฺขตนิสฺสฏตฺตา ปหีนสพฺพสงฺขตํ นิพฺพานํ, อิทํ นิสฺสรณปฺปหานํ นาม. สพฺพมฺปิ เจตํ ปหานํ ยสฺมา จาคฏฺเน ปหานํ, วินยนฏฺเน วินโย, ตสฺมา ‘‘ปหานวินโย’’ติ วุจฺจติ, ตํตํปหานวโต วา ตสฺส ตสฺส วินยสฺส สมฺภวโตเปตํ ‘‘ปหานวินโย’’ติ วุจฺจติ. เอวํ ปหานวินโยปิ ปฺจธา ภิชฺชตีติ เวทิตพฺโพ.

เอวมยํ สงฺเขปโต ทุวิโธ, ปเภทโต จ ทสวิโธ วินโย ภินฺนสํวรตฺตา ปหาตพฺพสฺส จ อปฺปหีนตฺตา ยสฺมา เอตสฺส อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส นตฺถิ, ตสฺมา อภาวโต ตสฺส อยํ ‘‘อวินีโต’’ติ วุจฺจตีติ. เอส นโย สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส อโกวิโท สปฺปุริสธมฺเม อวินีโตติ เอตฺถาปิ. นินฺนานาการณฺหิ เอตํ อตฺถโต. ยถาห – ‘‘เยว เต อริยา, เตว เต สปฺปุริสา. เยว เต สปฺปุริสา, เตว เต อริยา. โยว โส อริยานํ ธมฺโม, โสว โส สปฺปุริสานํ ธมฺโม. โยว โส สปฺปุริสานํ ธมฺโม, โสว โส อริยานํ ธมฺโม. เยว เต อริยวินยา, เตว เต สปฺปุริสวินยา. เยว เต สปฺปุริสวินยา, เตว เต อริยวินยา. อริเยติ วา สปฺปุริเสติ วา, อริยธมฺเมติ วา สปฺปุริสธมฺเมติ วา, อริยวินเยติ วา สปฺปุริสวินเยติ วา เอเสเส เอเก เอกฏฺเ สเม สมภาเค ตชฺชาเต ตฺเวา’’ติ.

กสฺมา ปน เถโร อตฺตานุทิฏฺิยา กตเมหิ วีสติยา อากาเรหิ อภินิเวโส โหตีติ ปุจฺฉิตฺวา ตํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว ‘‘อิธ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน’’ติ เอวํ ปุถุชฺชนํ นิทฺทิสีติ? ปุคฺคลาธิฏฺานาย เทสนาย ตํ อตฺถํ อาวิกาตุํ ปมํ ปุถุชฺชนํ นิทฺทิสีติ เวทิตพฺพํ.

๑๓๑. เอวํ ปุถุชฺชนํ นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ อภินิเวสุทฺเทสํ ทสฺเสนฺโต รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติอาทิมาห. ตตฺถ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ รูปกฺขนฺธํ กสิณรูปฺจ ‘‘อตฺตา’’ติ ทิฏฺิปสฺสนาย สมนุปสฺสติ. นิทฺเทเส ปนสฺส รูปกฺขนฺเธ อภินิเวโส ปฺจกฺขนฺธาธิการตฺตา ปากโฏติ ตํ อวตฺวา กสิณรูปเมว ‘‘รูป’’นฺติ สามฺวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. รูปวนฺตํ วา อตฺตานนฺติ อรูปํ ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวา ตํ อตฺตานํ รูปวนฺตํ สมนุปสฺสติ. อตฺตนิ วา รูปนฺติ อรูปเมว ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวา ตสฺมึ อตฺตนิ รูปํ สมนุปสฺสติ. รูปสฺมึ วา อตฺตานนฺติ อรูปเมว ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวา ตํ อตฺตานํ รูปสฺมึ สมนุปสฺสติ.

ตตฺถ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ สุทฺธรูปเมว ‘‘อตฺตา’’ติ กถิตํ. รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมึ วา อตฺตานํ, เวทนํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, สฺํ, สงฺขาเร, วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ อิเมสุ สตฺตสุ าเนสุ อรูปํ ‘‘อตฺตา’’ติ กถิตํ. เวทนาวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา เวทนํ, เวทนาย วา อตฺตานนฺติ เอวํ จตูสุ ขนฺเธสุ ติณฺณํ ติณฺณํ วเสน ทฺวาทสสุ าเนสุ รูปารูปมิสฺสโก อตฺตา กถิโต. ตา ปน วีสติปิ ทิฏฺิโย มคฺคาวรณา, น สคฺคาวรณา, โสตาปตฺติมคฺควชฺฌา.

อิทานิ ตํ นิทฺทิสนฺโต กถํ รูปนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปถวีกสิณนฺติ ปถวีมณฺฑลํ นิสฺสาย อุปฺปาทิตํ ปฏิภาคนิมิตฺตสงฺขาตํ สกลผรณวเสน ปถวีกสิณํ. อหนฺติ อตฺตานเมว สนฺธาย คณฺหาติ. อตฺตนฺติ อตฺตานํ. อทฺวยนฺติ เอกเมว. เตลปฺปทีปสฺสาติ เตลยุตฺตสฺส ปทีปสฺส. ฌายโตติ ชลโต. ยา อจฺจิ, โส วณฺโณติอาทิ อจฺจึ มุฺจิตฺวา วณฺณสฺส อภาวโต วุตฺตํ. ยา จ ทิฏฺิ ยฺจ วตฺถูติ ตทุภยํ เอกโต กตฺวา รูปวตฺถุกา อตฺตานุทิฏฺิ วุจฺจตีติ อตฺโถ.

อาโปกสิณาทีนิ อาปาทีนิ นิสฺสาย อุปฺปาทิตกสิณนิมิตฺตาเนว. ปริจฺฉินฺนากาสกสิณํ ปน รูปชฺฌานสฺส อารมฺมณํ โหนฺตมฺปิ อากาสกสิณนฺติ วุจฺจมาเน อรูปชฺฌานารมฺมเณน กสิณุคฺฆาฏิมากาเสน สํกิณฺณํ โหตีติ น คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. รูปาธิการตฺตา วิฺาณกสิณํ น คเหตพฺพเมวาติ. อิเธกจฺโจ เวทนํ สฺํ สงฺขาเร วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ จตฺตาโร ขนฺเธ อภินฺทิตฺวา เอกโต คหณวเสน วุตฺตํ. โส หิ จิตฺตเจตสิกานํ วิสุํ วิสุํ กรเณ อสมตฺถตฺตา สพฺเพ เอกโต กตฺวา ‘‘อตฺตา’’ติ คณฺหาติ. อิมินา รูเปน รูปวาติ เอตฺถ สรีรรูปมฺปิ กสิณรูปมฺปิ ลพฺภติ. ฉายาสมฺปนฺโนติ ฉายาย สมฺปนฺโน อวิรโฬ. ตเมนาติ เอตฺถ เอน-สทฺโท นิปาตมตฺตํ, ตเมตนฺติ วา อตฺโถ. ฉายาวาติ วิชฺชมานจฺฉาโย. รูปํ อตฺตาติ อคฺคหิเตปิ รูปํ อมุฺจิตฺวา ทิฏฺิยา อุปฺปนฺนตฺตา รูปวตฺถุกาติ วุตฺตํ.

อตฺตนิ รูปํ สมนุปสฺสตีติ สรีรรูปสฺส กสิณรูปสฺส จ จิตฺตนิสฺสิตตฺตา ตสฺมึ อรูปสมุทาเย อตฺตนิ ตํ รูปํ สมนุปสฺสติ. อยํ คนฺโธติ ฆายิตคนฺธํ อาห. อิมสฺมึ ปุปฺเผติ ปุปฺผนิสฺสิตตฺตา คนฺธสฺส เอวมาห.

รูปสฺมึ อตฺตานํ สมนุปสฺสตีติ ยตฺถ รูปํ คจฺฉติ, ตตฺถ จิตฺตํ คจฺฉติ. ตสฺมา รูปนิสฺสิตํ จิตฺตํ คเหตฺวา ตํ อรูปสมุทายํ อตฺตานํ ตสฺมึ รูเป สมนุปสฺสติ. โอฬาริกตฺตา รูปสฺส โอฬาริกาธารํ กรณฺฑกมาห.

๑๓๒. อิเธกจฺโจ จกฺขุสมฺผสฺสชํ เวทนนฺติอาทีสุ วิสุํ วิสุํ เวทนาย ทิฏฺิคหเณ อสติปิ เวทนาติ เอกคฺคหเณน คหิเต สพฺพาสํ เวทนานํ อนฺโตคธตฺตา วิสุํ วิสุํ คหิตา เอว โหนฺตีติ วิสุํ วิสุํ โยชนา กตาติ เวทิตพฺพา. โส หิ อนุภวนวเสน เวทนาย โอฬาริกตฺตา เวทนํเยว ‘‘อตฺตา’’ติ คณฺหาติ. สฺํ สงฺขาเร วิฺาณํ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ สฺาทโย อรูปธมฺเม รูปฺจ เอกโต กตฺวา ‘‘อตฺตา’’ติ สมนุปสฺสติ. อุมฺมตฺตโก วิย หิ ปุถุชฺชโน ยถา ยถา อุปฏฺาติ, ตถา ตถา คณฺหาติ.

๑๓๓. จกฺขุสมฺผสฺสชํ สฺนฺติอาทีสุ สฺชานนวเสน สฺาย ปากฏตฺตา สฺํ ‘‘อตฺตา’ติ คณฺหาติ. เสสํ เวทนาย วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ.

๑๓๔. จกฺขุสมฺผสฺสชํ เจตนนฺติอาทีสุ สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺเนสุ ธมฺเมสุ เจตนาย ปธานตฺตา ปากฏตฺตา จ เจตนา เอว นิทฺทิฏฺา. ตาย อิตเรปิ นิทฺทิฏฺาว โหนฺติ. โส ปน เจตสิกภาววเสน ปากฏตฺตา เจตนํ ‘‘อตฺตา’’ติ คณฺหาติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

๑๓๕. จกฺขุวิฺาณนฺติอาทีสุ วิชานนวเสน จิตฺตสฺส ปากฏตฺตา จิตฺตํ ‘‘อตฺตา’’ติ คณฺหาติ. เสสเมตฺถาปิ วุตฺตนยเมว.

อตฺตานุทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. มิจฺฉาทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา

๑๓๖. มิจฺฉาทิฏฺิ เหฏฺา วุตฺตตฺถาเยว. อยํ ปน อปโร นโย – นตฺถิ ทินฺนนฺติ อุจฺเฉททิฏฺิกตฺตา ทานผลํ ปฏิกฺขิปติ. นตฺถิ ยิฏฺนฺติ เอตฺถ ยิฏฺนฺติ ขุทฺทกยฺโ. หุตนฺติ มหายฺโ. ทฺวินฺนมฺปิ ผลํ ปฏิกฺขิปติ. นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโกติ ทานผลสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา สีลาทีนํ ปุฺกมฺมานํ, ปาณาติปาตาทีนํ ปาปกมฺมานํ ผลํ ปฏิกฺขิปติ. นตฺถิ อยํ โลโกติ ปุเร กเตน กมฺมุนา. นตฺถิ ปโร โลโกติ อิธ กเตน กมฺมุนา. นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตาติ เตสุ กตกมฺมานํ ผลํ ปฏิกฺขิปติ. นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกาติ กมฺมเหตุกํ อุปปตฺตึ ปฏิกฺขิปติ. นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา…เป… ปเวเทนฺตีติ อิธโลกปรโลเก ปสฺสิตุํ อภิฺาปฏิลาภาย ปฏิปทํ ปฏิกฺขิปติ. อิธ ปาฬิยํ ปน นตฺถิ ทินฺนนฺติ วตฺถูติ นตฺถิ ทินฺนนฺติ วุจฺจมานํ ทานํ, ตสฺสา ทิฏฺิยา วตฺถูติ อตฺโถ. เอวํวาโท มิจฺฉาติ เอวํ นตฺถิ ทินฺนนฺติ วาโท วจนํ มิจฺฉา วิปรีโตติ อตฺโถ.

มิจฺฉาทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สกฺกายทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา

๑๓๗. สกฺกายทิฏฺิ ปน อตฺตานุทิฏฺิเยว, อฺตฺถ อาคตปริยายวจนทสฺสนตฺถํ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.

สกฺกายทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สสฺสตทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา

๑๓๘. สกฺกายวตฺถุกาย สสฺสตทิฏฺิยาติ กมฺมธารยสมาโส. รูปวนฺตํ วา อตฺตานนฺติอาทีนํ ปนฺนรสนฺนํ วจนานํ อนฺเต สมนุปสฺสตีติ สมฺพนฺโธ กาตพฺโพ, ปาโ วา. อฺถา หิ น ฆฏียตีติ. เอวํ ‘‘รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ สมนุปสฺสตี’’ติ เอกเมว ทสฺเสตฺวา เสสา จุทฺทส สํขิตฺตา.

สสฺสตทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อุจฺเฉททิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา

๑๓๙. สกฺกายวตฺถุกาย อุจฺเฉททิฏฺิยา เอวํ ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติ เอกเมว ทสฺเสตฺวา เสสา จตสฺโส สํขิตฺตา.

อุจฺเฉททิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อนฺตคฺคาหิกาทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา

๑๔๐. อนฺตคฺคาหิกาย ทิฏฺิยา ปมวาเร อาการปุจฺฉา. ทุติเย อาการคหณํ. ตติเย อาการวิสฺสชฺชนํ. ตตฺถ โลโกติ อตฺตา. โส อนฺโตติ อฺมฺปฏิปกฺเขสุ สสฺสตุจฺเฉทนฺเตสุ สสฺสตคฺคาเห สสฺสตนฺโต, อสสฺสตคฺคาเห อุจฺเฉทนฺโต. ปริตฺตํ โอกาสนฺติ สุปฺปมตฺตํ วา สราวมตฺตํ วา ขุทฺทกํ านํ. นีลกโต ผรตีติ นีลนฺติ อารมฺมณํ กโรติ. อยํ โลโกติ อตฺตานํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปริวฏุโมติ สมนฺตโต ปริจฺเฉทวา. อนฺตสฺีติ อนฺตวาติสฺี. อนฺโต อสฺส อตฺถีติ อนฺโตติ คเหตพฺพํ. ยํ ผรตีติ ยํ กสิณรูปํ ผรติ. ตํ วตฺถุ เจว โลโก จาติ ตํ กสิณรูปํ อารมฺมณฺเจว อาโลกิยฏฺเน โลโก จ. เยน ผรตีติ เยน จิตฺเตน ผรติ. โส อตฺตา เจว โลโก จาติ อตฺตานมเปกฺขิตฺวา ปุลฺลิงฺคํ กตํ, ตํ จิตฺตํ อตฺตา เจว อาโลกนฏฺเน โลโก จาติ วุตฺตํ โหติ. อนฺตวาติ อนฺโต. โอกาสกโต ผรตีติ อาโลกกสิณวเสน เตโชกสิณวเสน โอทาตกสิณวเสน วา โอภาโสติ ผรติ. นีลาทีนํ ปฺจนฺนํ ปภสฺสรกสิณานํเยว คหิตตฺตา ปถวีอาโปวาโยกสิณวเสน อตฺตาภินิเวโส น โหตีติ คเหตพฺพํ.

วิปุลํ โอกาสนฺติ ขลมณฺฑลมตฺตาทิวเสน มหนฺตํ านํ. อนนฺตวาติ วุทฺธอนนฺตวา. อปริยนฺโตติ วุทฺธอปริยนฺโต. อนนฺตสฺีติ อนนฺโตติสฺี. ตํ ชีวนฺติ โส ชีโว. ลิงฺควิปลฺลาโส กโต. ชีโวติ จ อตฺตา เอว. รูปาทีนิ ปฺจปิ ปริวฏุมฏฺเน สรีรํ. ชีวํ น สรีรนฺติ อตฺตสงฺขาโต ชีโว รูปสงฺขาตํ สรีรํ น โหติ. เอส นโย เวทนาทีสุ. ตถาคโตติ สตฺโต. อรหนฺติ เอเก. ปรํ มรณาติ มรณโต อุทฺธํ, ปรโลเกติ อตฺโถ. รูปํ อิเธว มรณธมฺมนฺติ อตฺตโน ปากฏกฺขนฺธสีเสน ปฺจกฺขนฺธคฺคหณํ, ตํ อิมสฺมึเยว โลเก นสฺสนปกติกนฺติ อตฺโถ. เสสกฺขนฺเธสุปิ เอเสว นโย. กายสฺส เภทาติ ขนฺธปฺจกสงฺขาตสฺส กายสฺส เภทโต ปรํ. อิมินา วจเนน ‘‘ปรํ มรณา’’ติ เอตสฺส อุทฺเทสสฺส อตฺโถ วุตฺโต. โหติปีติอาทีสุ โหตีติ มูลปทํ. จตูสุปิ อปิ-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. ติฏฺตีติ สสฺสตตฺตา ติฏฺติ, น จวตีติ อตฺโถ. ‘‘โหตี’’ติ ปทสฺส วา อตฺถวิเสสนตฺถํ ‘‘ติฏฺตี’’ติ ปทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อุปฺปชฺชตีติ อณฺฑชชลาพุชโยนิปเวสวเสน อุปฺปชฺชติ นาม, นิพฺพตฺตตีติ สํเสทชโอปปาติกโยนิปเวสวเสน นิพฺพตฺตติ นามาติ อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา. อุจฺฉิชฺชตีติ ปพนฺธาภาววเสน. วินสฺสตีติ ภงฺควเสน. น โหติ ปรํ มรณาติ ปุริมปทานํ อตฺถวิวรณํ, จุติโต อุทฺธํ น วิชฺชตีติ อตฺโถ. โหติ จ น จ โหตีติ เอกจฺจสสฺสติกานํ ทิฏฺิ, เอเกน ปริยาเยน โหติ, เอเกน ปริยาเยน น โหตีติ อตฺโถ. ชีวภาเวน โหติ, ปุพฺพชีวสฺส อภาเวน น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. เนว โหติ น น โหตีติ อมราวิกฺเขปิกานํ ทิฏฺิ, โหตีติ จ เนว โหติ, น โหตีติ จ น โหตีติ อตฺโถ. อนุวาทภยา มุสาวาทภยา จ มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา จ ปุพฺพวุตฺตนยสฺส ปฏิกฺเขปมตฺตํ กโรติ. อิเมหิ ปฺาสาย อากาเรหีติ ยถาวุตฺตานํ ทสนฺนํ ปฺจกานํ วเสน ปฺาสาย อากาเรหีติ.

อนฺตคฺคาหิกาทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ปุพฺพนฺตานุทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา

๑๔๑. ปุพฺพนฺตาปรนฺตานุทิฏฺีสุ สสฺสตํ วทนฺตีติ สสฺสตวาทา. อถ วา วทนฺติ เอเตนาติ วาโท, ทิฏฺิคตสฺเสตํ อธิวจนํ. สสฺสตนฺติ วาโทปิ สสฺสตโยเคน สสฺสโต, สสฺสโต วาโท เอเตสนฺติ สสฺสตวาทา. ตถา เอกจฺจํ สสฺสตนฺติ วาโท เอกจฺจสสฺสโต, โส เอเตสํ อตฺถีติ เอกจฺจสสฺสติกา. ตถา อนฺตวา, อนนฺตวา, อนฺตวา จ อนนฺตวา จ, เนวนฺตวา นานนฺตวาติ ปวตฺโต วาโท อนฺตานนฺโต, โส เอเตสํ อตฺถีติ อนฺตานนฺติกา. น มรตีติ อมรา. กา สา? ‘‘เอวมฺปิ เม โน’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๖๒-๖๓) นเยน ปริยนฺตรหิตสฺส ทิฏฺิคติกสฺส ทิฏฺิ เจว วาจา จ. วิวิโธ เขโป วิกฺเขโป, อมราย ทิฏฺิยา, วาจาย วา วิกฺเขโป อมราวิกฺเขโป, โส เอเตสํ อตฺถีติ อมราวิกฺเขปิกา. อปโร นโย – อมรา นาม มจฺฉชาติ, สา อุมฺมุชฺชนนิมุชฺชนาทิวเสน อุทเก สนฺธาวมานา คเหตุํ น สกฺกา โหติ, เอวเมวํ อยมฺปิ วาโท อิโต จิโต จ สนฺธาวติ, คาหํ น อุปคจฺฉตีติ อมราวิกฺเขโปติ วุจฺจติ, โส เอเตสํ อตฺถีติ อมราวิกฺเขปิกา. อธิจฺจสมุปฺปนฺโนติ อการณสมุปฺปนฺโน อตฺตา จ โลโก จาติ ทสฺสนํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ, ตํ เอเตสํ อตฺถีติ อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา.

ปุพฺพนฺตานุทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อปรนฺตานุทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา

๑๔๒. สฺึ วทนฺตีติ สฺีวาทา. อสฺึ วทนฺตีติ อสฺีวาทา. เนวสฺีนาสฺึ วทนฺตีติ เนวสฺีนาสฺีวาทา. อถ วา สฺีติ ปวตฺโต วาโท สฺีวาโท, โส เยสํ อตฺถีติ เต สฺีวาทา, ตถา อสฺีวาทา, เนวสฺีนาสฺีวาทา จ. อุจฺเฉทํ วทนฺตีติ อุจฺเฉทวาทา. ทิฏฺธมฺโมติ ปจฺจกฺขธมฺโม, ตตฺถ ตตฺถ ปฏิลทฺธอตฺตภาวสฺเสตํ อธิวจนํ. ทิฏฺธมฺเม นิพฺพานํ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ, อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ทุกฺขวูปสโมติ อตฺโถ, ตํ วทนฺตีติ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา. อิมสฺมึ ปนตฺเถ วิตฺถาริยมาเน สาฏฺกถํ สกลํ พฺรหฺมชาลสุตฺตํ วตฺตพฺพํ โหติ. เอวฺจ สติ อติปปฺโจ โหตีติ น วิตฺถาริโต. ตทตฺถิเกหิ ตํ อเปกฺขิตฺวา คเหตพฺโพ.

อปรนฺตานุทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐-๑๒. สฺโชนิกาทิทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา

๑๔๓. ยสฺมา สฺโชนิกา ทิฏฺิ สพฺพทิฏฺิสาธารณา, ตสฺมา ตสฺสา สพฺพทิฏฺิสฺโชนตฺตา สพฺพทิฏฺิสาธารโณ อตฺโถ นิทฺทิฏฺโ. โส เหฏฺา วุตฺตทิฏฺิปริยุฏฺานาเนว.

๑๔๔. มานวินิพนฺธทิฏฺีสุ จกฺขุ อหนฺติ อภินิเวสปรามาโสติ มานปุพฺพโก อภินิเวสปรามาโส. น หิ ทิฏฺิ มานสมฺปยุตฺตา โหติ. เตเนว จ มานวินิพนฺธาติ วุตฺตํ, มานปฏิพนฺธา มานมูลกาติ อตฺโถ.

๑๔๕. จกฺขุ มมนฺติ อภินิเวสปรามาโสติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน ‘‘มมา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘มม’’นฺติ อนุนาสิกาคโม เวทิตพฺโพ. ‘‘อห’’นฺติ มานวินิพนฺธาย รูปาทีนิปิ อชฺฌตฺติกาเนว. น หิ กสิณรูปํ วินา พาหิรานิ ‘‘อห’’นฺติ คณฺหาติ. ‘‘มม’’นฺติ มานวินิพนฺธาย ปน พาหิรานิปิ ลพฺภนฺติ. พาหิรานิปิ หิ ‘‘มม’’นฺติ คณฺหาติ. ยสฺมา ปน ทุกฺขา เวทนา อนิฏฺตฺตา มานวตฺถุ น โหติ, ตสฺมา ฉ เวทนา ตาสํ มูลปจฺจยา ฉ ผสฺสา จ น คหิตา. สฺาทโย ปน อิธ ปจฺฉินฺนตฺตา น คหิตาติ เวทิตพฺพา.

สํโยชนิกาทิทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๓. อตฺตวาทปฏิสํยุตฺตทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา

๑๔๖. อตฺตวาทปฏิสํยุตฺตา ทิฏฺิ อตฺตานุทิฏฺิเยว. อตฺตาติ วาเทน ปฏิสํยุตฺตตฺตา ปุน เอวํ วุตฺตา.

อตฺตวาทปฏิสํยุตฺตทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๔. โลกวาทปฏิสํยุตฺตทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา

๑๔๗. อตฺตา จ โลโก จาติ โส เอว อตฺตา จ อาโลกนฏฺเน โลโก จาติ อตฺโถ. สสฺสโตติ สสฺสตวาทานํ ทิฏฺิ. อสสฺสโตติ อุจฺเฉทวาทานํ. สสฺสโต จ อสสฺสโต จาติ เอกจฺจสสฺสติกานํ. เนว สสฺสโต นาสสฺสโตติ อมราวิกฺเขปิกานํ. อนฺตวาติ ปริตฺตกสิณลาภีนํ ตกฺกิกานฺจ นิคณฺาชีวิกานฺจ. อถ วา อุจฺเฉทวาทิโน ‘‘สตฺโต ชาติยา ปุพฺพนฺตวา, มรเณน อปรนฺตวา’’ติ วทนฺติ. อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา ‘‘สตฺโต ชาติยา ปุพฺพนฺตวา’’ติ วทนฺติ. อนนฺตวาติ อปฺปมาณกสิณลาภีนํ. สสฺสตวาทิโน ปน ‘‘ปุพฺพนฺตาปรนฺตา นตฺถิ, เตน อนนฺตวา’’ติ วทนฺติ. อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา ‘‘อปรนฺเตน อนนฺตวา’’ติ วทนฺติ.

อนฺตวา จ อนนฺตวา จาติ อุทฺธมโธ อวฑฺฒิตฺวา ติริยํ วฑฺฒิตกสิณานํ. เนว อนฺตวา น อนนฺตวาติ อมราวิกฺเขปิกานํ.

โลกวาทปฏิสํยุตฺตทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๕-๑๖. ภววิภวทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา

๑๔๘. ภววิภวทิฏฺีนํ ยถาวุตฺตทิฏฺิโต วิสุํ อภินิเวสาภาวโต วิสุํ นิทฺเทสํ อกตฺวา ยถาวุตฺตทิฏฺีนํเยว วเสน ‘‘โอลียนํ อติธาวน’’นฺติ เอเกกํ อาการํ นิทฺทิสิตุํ ปุจฺฉํ อกตฺวา จ โอลียนาภินิเวโส ภวทิฏฺิ, อติธาวนาภินิเวโส วิภวทิฏฺีติ อาห. ตตฺถ ‘‘ภวนิโรธาย ธมฺเม เทสิยมาเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทตี’’ติ (อิติวุ. ๔๙) วุตฺตโอลียนาภินิเวโส, สสฺสตสฺาย นิพฺพานโต สงฺโกจนาภินิเวโสติ อตฺโถ. ‘‘ภเวเนว โข ปเนเก อฏฺฏียมานา หรายมานา ชิคุจฺฉมานา วิภวํ อภินนฺทนฺตี’’ติ วุตฺตอติธาวนาภินิเวโส, อุจฺเฉทสฺาย นิโรธคามินิปฏิปทาติกฺกมนาภินิเวโสติ อตฺโถ.

อิทานิ ตาว ภววิภวทิฏฺิโย สพฺพทิฏฺีสุ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ อสฺสาททิฏฺิยาติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา อสฺสาททิฏฺิกา สสฺสตํ วา อุจฺเฉทํ วา นิสฺสาย ‘‘นตฺถิ กาเมสุ โทโส’’ติ คณฺหนฺติ, ตสฺมา ปฺจตึสาการาปิ อสฺสาททิฏฺิโย สิยา ภวทิฏฺิโย, สิยา วิภวทิฏฺิโยติ วุตฺตา. ตตฺถ ยสฺมา เอเกกาปิ ทิฏฺิโย สสฺสตคฺคาหวเสน ภวทิฏฺิโย ภเวยฺยุํ, อุจฺเฉทคฺคาหวเสน วิภวทิฏฺิโย ภเวยฺยุนฺติ อตฺโถ. อตฺตานุทิฏฺิยา รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, เวทนํ… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ ปฺจสุ รูปาทิโต อตฺตโน อนฺตฺตา เตสุ อุจฺฉินฺเนสุ อตฺตา อุจฺฉินฺโนติ คหณโต ปฺจ วิภวทิฏฺิโยติ วุตฺตํ. เสเสสุ ปฺจทสสุ าเนสุ รูปาทิโต อตฺตโน อฺตฺตา เตสุ อุจฺฉินฺเนสุปิ ‘‘อตฺตา สสฺสโตติ คหณโต ปนฺนรส ภวทิฏฺิโยติ วุตฺตํ.

มิจฺฉาทิฏฺิยา ‘‘สพฺพาว ตา วิภวทิฏฺิโย’’ติ อุจฺเฉทวเสน ปวตฺตตฺตา อนฺตวานนฺตวาทิฏฺีสุ ปริตฺตารมฺมณอปฺปมาณารมฺมณฌานลาภิโน ทิพฺพจกฺขุนา รูปธาตุยา จวิตฺวา สตฺเต อฺตฺถ อุปปนฺเน ปสฺสิตฺวา ภวทิฏฺึ อปสฺสิตฺวา วิภวทิฏฺึ คณฺหนฺติ. ตสฺมา ตตฺถ สิยา ภวทิฏฺิโย, สิยา วิภวทิฏฺิโยติ วุตฺตํ. โหติ จ น จ โหตีติ เอตฺถ โหติ จาติ ภวทิฏฺิ, น จ โหตีติ วิภวทิฏฺิ. เนว โหติ น น โหตีติ เอตฺถ เนว โหตีติ วิภวทิฏฺิ, น น โหตีติ ภวทิฏฺิ. ตสฺมา ตตฺถ ‘‘สิยา’’ติ วุตฺตํ.

ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิยา เอกจฺจสสฺสติกา สสฺสตฺจ ปฺเปนฺติ, อสสฺสตฺจ ปฺเปนฺติ. ตสฺมา สา ภวทิฏฺิ จ วิภวทิฏฺิ จ โหติ. จตฺตาโร อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ. ตสฺมา สา อตฺตานุทิฏฺิสทิสา ภวทิฏฺิ จ วิภวทิฏฺิ จ. จตฺตาโร อมราวิกฺเขปิกา ภวทิฏฺึ วา วิภวทิฏฺึ วา นิสฺสาย วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ, อวเสสา ปน ภวทิฏฺิโยว. ตสฺมา เต เต สนฺธาย ‘‘สิยา’’ติ วุตฺตํ. อปรนฺตานุทิฏฺิยา สตฺต อุจฺเฉทวาทา วิภวทิฏฺิโย, อวเสสา ภวทิฏฺิโย. ตสฺมา เต เต สนฺธาย ‘‘สิยา’’ติ วุตฺตํ. สฺโชนิกทิฏฺิยา สพฺพทิฏฺีนํ วเสน ‘‘สิยา’’ติ วุตฺตํ. อหนฺติ มานวินิพนฺธาย ทิฏฺิยา จกฺขาทีนํ อหนฺติ คหิตตฺตา เตสํ วินาเส อตฺตา วินฏฺโ โหตีติ สพฺพาว ตา วิภวทิฏฺิโยติ วุตฺตํ. อตฺตานุทิฏฺิโย วิย มมนฺติ มานวินิพนฺธาย ทิฏฺิยา จกฺขาทิโต อตฺตโน อฺตฺตา เตสํ วินาเสปิ อตฺตา น วินสฺสตีติ สพฺพาว ตา ภวทิฏฺิโยติ วุตฺตํ. โลกวาทปฏิสํยุตฺตาย ทิฏฺิยา ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จา’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๑๔๗) นเยน วุตฺตตฺตา ภววิภวทิฏฺิ ปากฏาเยว. เอตฺตาวตา อสฺสาททิฏฺาทิกา วิภวทิฏฺิปริโยสานา โสฬส ทิฏฺิโย ตีณิสตฺจ ทิฏฺาภินิเวสา นิทฺทิฏฺา โหนฺติ. อตฺตานุทิฏฺิ จ สกฺกายทิฏฺิ จ อตฺตวาทปฏิสฺุตฺตา ทิฏฺิ จ อตฺถโต เอกา ปริยาเยน ติวิธา วุตฺตา. สฺโชนิกา ปน ทิฏฺิ อวตฺถาเภเทน สพฺพาปิ ทิฏฺิโย โหนฺติ.

อิทานิ สพฺพาว ตา ทิฏฺิโย อสฺสาททิฏฺิโยติอาทิ อฺเน ปริยาเยน ยถาโยคํ ทิฏฺิสํสนฺทนา. ตตฺถ สพฺพาว ตา ทิฏฺิโยติ ยถาวุตฺตา อนวเสสา ทิฏฺิโย. ทิฏฺิราครตฺตตฺตา ตณฺหาสฺสาทนิสฺสิตตฺตา จ อสฺสาททิฏฺิโย, อตฺตสิเนหานุคตตฺตา อตฺตานุทิฏฺิโย, วิปรีตทสฺสนตฺตา มิจฺฉาทิฏฺิโย, ขนฺธวตฺถุกตฺตา สกฺกายทิฏฺิโย, เอเกกสฺส อนฺตสฺส คหิตตฺตา อนฺตคฺคาหิกา ทิฏฺิโย, อนตฺถสํโยชนิกตฺตา สฺโชนิกา ทิฏฺิโย, อตฺตวาเทน ยุตฺตตฺตา อตฺตวาทปฏิสํยุตฺตา ทิฏฺิโยติ อิมา สตฺต ทิฏฺิโย สพฺพทิฏฺิสงฺคาหิกา, เสสา ปน นว ทิฏฺิโย น สพฺพทิฏฺิสงฺคาหิกา.

อิทานิ วิตฺถารโต วุตฺตา สพฺพาว ตา ทิฏฺิโย ทฺวีสุเยว ทิฏฺีสุ สงฺขิปิตฺวา สตฺตานํ ทิฏฺิทฺวยนิสฺสยํ ทสฺเสนฺโต ภวฺจ ทิฏฺินฺติคาถมาห. สพฺพาปิ หิ ตา ทิฏฺิโย ภวทิฏฺี วา โหนฺติ วิภวทิฏฺี วา. ภวฺจ ทิฏฺึ วิภวฺจ ทิฏฺินฺติ เอตฺถ ปน จ-สทฺโท ทิฏฺิเมว สมุจฺจิโนติ, น นิสฺสยํ. น หิ เอโก ภววิภวทิฏฺิทฺวยํ นิสฺสยติ. ยถาห – ‘‘อิติ ภวทิฏฺิสนฺนิสฺสิตา วา สตฺตา โหนฺติ วิภวทิฏฺิสนฺนิสฺสิตา วา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๓). ตกฺกิกาติ ตกฺเกน วทนฺตีติ ตกฺกิกา. เต หิ ทิฏฺิคติกา สภาวปฏิเวธปฺาย อภาวา เกวลํ ตกฺเกน วตฺตนฺติ. เยปิ จ ฌานลาภิโน อภิฺาลาภิโน วา ทิฏฺึ คณฺหนฺติ, เตปิ ตกฺเกตฺวา คหณโต ตกฺกิกา เอว. นิสฺสิตาเสติ นิสฺสิตาติ อตฺโถ. เอกเมว ปทํ, ‘‘เส’’ติ นิปาตมตฺตํ วา. เตสํ นิโรธมฺหิ น หตฺถิ าณนฺติ ทิฏฺินิสฺสยสฺส การณวจนเมตํ. สกฺกายทิฏฺินิโรเธ นิพฺพาเน ยสฺมา เตสํ าณํ นตฺถิ, ตสฺมา เอตํ ทิฏฺิทฺวยํ นิสฺสิตาติ อตฺโถ. ‘‘น หิ อตฺถิ าณ’’นฺติ เอตฺถ หิ-กาโร การโณปเทเส นิปาโต. ยตฺถายํ โลโก วิปรีตสฺีติ ยตฺถ สุเข นิโรธมฺหิ อยํ สเทวโก โลโก ‘‘ทุกฺข’’มิติ วิปรีตสฺี โหติ, ตสฺมึ นิโรธมฺหิ น หตฺถิ าณนฺติ สมฺพนฺโธ. ทุกฺขมิติ วิปรีตสฺิตาย อิทํ สุตฺตํ –

‘‘รูปา สทฺทา รสา คนฺธา, ผสฺสา ธมฺมา จ เกวลา;

อิฏฺา กนฺตา มนาปา จ, ยาวตตฺถีติ วุจฺจติ.

‘‘สเทวกสฺส โลกสฺส, เอเต โว สุขสมฺมตา;

ยตฺถ เจเต นิรุชฺฌนฺติ, ตํ เนสํ ทุกฺขสมฺมตํ.

‘‘สุขนฺติ ทิฏฺมริเยหิ, สกฺกายสฺสุปโรธนํ;

ปจฺจนีกมิทํ โหติ, สพฺพโลเกน ปสฺสตํ.

‘‘ยํ ปเร สุขโต อาหุ, ตทริยา อาหุ ทุกฺขโต;

ยํ ปเร ทุกฺขโต อาหุ, ตทริยา สุขโต วิทู.

‘‘ปสฺส ธมฺมํ ทุราชานํ, สมฺปมูฬฺเหตฺถวิทฺทสุ;

นิวุตานํ ตโม โหติ, อนฺธกาโร อปสฺสตํ.

‘‘สตฺจ วิวฏํ โหติ, อาโลโก ปสฺสตามิว;

สนฺติเก น วิชานนฺติ, มคา ธมฺมสฺสโกวิทา.

‘‘ภวราคปเรเตหิ, ภวโสตานุสาริภิ;

มารเธยฺยานุปนฺเนหิ, นายํ ธมฺโม สุสมฺพุโธ.

‘‘โก นุ อฺตฺร อริเยภิ, ปทํ สมฺพุทฺธุมรหติ;

ยํ ปทํ สมฺมทฺาย, ปรินิพฺพนฺติ อนาสวา’’ติ. (สุ. นิ. ๗๖๔-๗๗๑);

๑๔๙. อิทานิ สพฺพาสํ ทิฏฺีนํ ทิฏฺิทฺวยภาวํ ทิฏฺิสมุคฺฆาตกฺจ สมฺมาทิฏฺึ สุตฺตโต ทสฺเสตุกาโม, ทฺวีหิ ภิกฺขเวติ สุตฺตํ อาหริ. ตตฺถ เทวาติ พฺรหฺมาโนปิ วุจฺจนฺติ. โอลียนฺตีติ สงฺกุจนฺติ. อติธาวนฺตีติ อติกฺกมิตฺวา คจฺฉนฺติ. จกฺขุมนฺโตติ ปฺวนฺโต. จ-สทฺโท อติเรกตฺโถ. ภวารามาติ ภโว อาราโม อภิรมฏฺานํ เอเตสนฺติ ภวารามา. ภวรตาติ ภเว อภิรตา. ภวสมฺมุทิตาติ ภเวน สนฺตุฏฺา. เทสิยมาเนติ ตถาคเตน วา ตถาคตสาวเกน วา เทสิยมาเน. น ปกฺขนฺทตีติ ธมฺมเทสนํ วา ภวนิโรธํ วา น ปวิสติ. น ปสีทตีติ ตตฺถ ปสาทํ น ปาปุณาติ. น สนฺติฏฺตีติ ตตฺถ น ปติฏฺาติ. นาธิมุจฺจตีติ ตตฺถ ฆนภาวํ น ปาปุณาติ. เอตฺตาวตา สสฺสตทิฏฺิ วุตฺตา.

อฏฺฏียมานาติ ทุกฺขํ ปาปุณมานา. หรายมานาติ ลชฺชํ ปาปุณมานา. ชิคุจฺฉมานาติ ชิคุจฺฉํ ปาปุณมานา. วิภวํ อภินนฺทนฺตีติ อุจฺเฉทํ ปฏิจฺจ ตุสฺสนฺติ, อุจฺเฉทํ ปตฺถยนฺตีติ วา อตฺโถ. กิราติ อนุสฺสวนตฺเถ นิปาโต. โภติ อาลปนเมตํ. สนฺตนฺติ นิพฺพุตํ. ปณีตนฺติ ทุกฺขาภาวโต ปณีตํ, ปธานภาวํ นีตนฺติ วา ปณีตํ. ยาถาวนฺติ ยถาสภาวํ. เอตฺตาวตา อุจฺเฉททิฏฺิ วุตฺตา.

อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. ภูตนฺติ เหตุโต สฺชาตํ ขนฺธปฺจกสงฺขาตํ ทุกฺขํ. ภูตโต ปสฺสตีติ อิทํ ภูตํ ทุกฺขนฺติ ปสฺสติ. นิพฺพิทายาติ วิปสฺสนตฺถาย. วิราคายาติ อริยมคฺคตฺถาย. นิโรธายาติ นิพฺพานตฺถาย. ปฏิปนฺโน โหตีติ ตทนุรูปํ ปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหติ. เอวํ ปสฺสนฺตีติ อิมินา ปกาเรน ปุพฺพภาเค โลกิยาเณน, ปฏิเวธกาเล โลกุตฺตราเณน ปสฺสนฺติ. เอตฺตาวตา สมฺมาทิฏฺิ วุตฺตา.

อิทานิ ทฺวีหิ คาถาหิ ตสฺสา สมฺมาทิฏฺิยา อานิสํสํ ทสฺเสติ. ตตฺถ โย ภูตํ ภูตโต ทิสฺวาติ ทุกฺขํ ปริฺาภิสมเยน อภิสเมตฺวาติ อตฺโถ. ภูตสฺส จ อติกฺกมนฺติ นิโรธํ สจฺฉิกิริยาภิสมเยน อภิสเมตฺวาติ อตฺโถ. ยถาภูเตธิมุจฺจตีติ มคฺคภาวนาภิสมยวเสน ยถาสภาเว นิโรเธ ‘‘เอตํ สนฺตํ, เอตํ ปณีต’’นฺติ อธิมุจฺจติ. ภวตณฺหา ปริกฺขยาติ สมุทยสฺส ปหาเนนาติ อตฺโถ. อสติปิ เจตฺถ สจฺจานํ นานาภิสมยตฺเต ‘‘ทิสฺวา’’ติ ปุพฺพกาลิกวจนํ สทฺธึ ปุพฺพภาคปฏิปทาย โวหารวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. น หิ ปุพฺพํ ปสฺสิตฺวา ปจฺฉา อธิมุจฺจติ. จตุสจฺจาภิสมโย สมานกาลเมว โหติ. สมานกาเลปิ วา ปุพฺพกาลิกานิ ปทานิ ภวนฺตีติ น โทโส. เวติ เอกํเสน โส อรหํ. ภูตปริฺาโตติ ทุกฺขํ ปริฺาตวา. วีตตณฺโหติ วิคตตณฺโห. ภวาภเวติ ขุทฺทเก จ มหนฺเต จ ภเว. วุทฺธิอตฺเถปิ หิ อ-การสฺส สมฺภวโต อภโวติ มหาภโว. โส ปน ขุทฺทกมหนฺตภาโว อุปาทายุปาทาย เวทิตพฺโพ. อถ วา ภเวติ สสฺสเต. อภเวติ อุจฺเฉเท. ตทุภเยปิ ทิฏฺิราคาภาเวน วีตตณฺโห. ภูตสฺส วิภวาติ วฏฺฏทุกฺขสฺส สมุจฺเฉทา. นาคจฺฉติ ปุนพฺภวนฺติ อรหโต ปรินิพฺพานํ วุตฺตํ.

๑๕๐. ตโย ปุคฺคลาติอาทิ มิจฺฉาทิฏฺิกครหณตฺถํ สมฺมาทิฏฺิกปสํสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ วิรูปภาวํ ปนฺนา คตา ทิฏฺิ เอเตสนฺติ วิปนฺนทิฏฺี. สุนฺทรภาวํ ปนฺนา คตา ทิฏฺิ เอเตสนฺติ สมฺปนฺนทิฏฺี. ติตฺถิโยติ ติตฺถํ วุจฺจติ ทิฏฺิ, ตํ ปฏิปนฺนตฺตา ติตฺเถ สาธุ, ติตฺถํ ยสฺส อตฺถีติ วา ติตฺถิโย. อิโต พหิทฺธา ปพฺพชฺชูปคโต. ติตฺถิยสาวโกติ เตสํ ทิฏฺานุคติมาปนฺโน คหฏฺโ. โย จ มิจฺฉาทิฏฺิโกติ ตทุภยภาวํ อนุปคนฺตฺวา ยาย กายจิ ทิฏฺิยา มิจฺฉาทิฏฺิโก.

ตถาคโตติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. ปจฺเจกพุทฺโธปิ เอตฺเถว สงฺคหิโต. ตถาคตสาวโกติ มคฺคปฺปตฺโต ผลปฺปตฺโต จ. โย จ สมฺมาทิฏฺิโกติ ตทุภยวินิมุตฺโต โลกิยสมฺมาทิฏฺิยา สมฺมาทิฏฺิโก.

คาถาสุ โกธโนติ โย อภิณฺหํ กุชฺฌติ, โส. อุปนาหีติ ตเมว โกธํ วฑฺเฒตฺวา อุปนนฺธนสีโล. ปาปมกฺขีติ ลามกภูตมกฺขวา. มายาวีติ กตปาปปฏิจฺฉาทนวา. วสโลติ หีนชจฺโจ. วิสุทฺโธติ าณทสฺสนวิสุทฺธิยา วิสุทฺโธ. สุทฺธตํ คโตติ มคฺคผลสงฺขาตํ สุทฺธภาวํ คโต. เมธาวีติ ปฺวา. อิมาย คาถาย โลกุตฺตรสมฺมาทิฏฺิสมฺปนฺโน เอว โถมิโต.

วิปนฺนทิฏฺิโย สมฺปนฺนทิฏฺิโยติ ปุคฺคลโวหารํ ปหาย ธมฺมเมว ครหนฺโต โถเมนฺโต จ อาห. เอตํ มมาติ ตณฺหามฺนวเสน ทิฏฺิ. เอโสหมสฺมีติ มานมฺนมูลิกา ทิฏฺิ. เอโส เม อตฺตาติ ทิฏฺิมฺนเมว.

เอตํ มมาติ กา ทิฏฺีติอาทีหิ ติสฺสนฺนํ วิปนฺนทิฏฺีนํ วิภาคฺจ คณนฺจ กาลสงฺคหฺจ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ กตํ. ตตฺถ กา ทิฏฺีติ อเนกาสุ ทิฏฺีสุ กตมา ทิฏฺีติ อตฺโถ. กตมนฺตานุคฺคหิตาติ ปุพฺพนฺตาปรนฺตสงฺขาตกาลทฺวเย กตเมน กาเลน อนุคฺคหิตา, อนุพทฺธาติ อตฺโถ. ยสฺมา ‘‘เอตํ มมา’’ติ ปรามสนฺโต ‘‘เอตํ มม อโหสิ, เอวํ มม อโหสิ, เอตฺตกํ มม อโหสี’’ติ อตีตํ วตฺถุํ อปทิสิตฺวา ปรามสติ, ตสฺมา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิ โหติ. ปุพฺพนฺตานุคฺคหิตา จ ตา ทิฏฺิโย โหนฺติ. ยสฺมา ‘‘เอโสหมสฺมี’’ติ ปรามสนฺโต ‘‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เอโสสฺมิ วิสุชฺฌิสฺสามี’’ติ อนาคตผลํ อุปาทาย ปรามสติ, ตสฺมา อปรนฺตานุทิฏฺิ โหติ. อปรนฺตานุคฺคหิตา จ ตา ทิฏฺิโย โหนฺติ. ยสฺมา ‘‘เอโส เม อตฺตา’’ติ ปรามสนฺโต อตีตานาคตํ อุปาทินฺนสนฺตตึ อุปาทาย ‘‘เอโส เม อตฺตา’’ติ ปรามสติ, สกฺกายทิฏฺิวเสน จ ปรามสติ, ตสฺมา สกฺกายทิฏฺิ โหติ. ปุพฺพนฺตาปรนฺตานุคฺคหิตา จ ตา ทิฏฺิโย โหนฺติ. ยสฺมา ปน สกฺกายทิฏฺิปฺปมุขาเยว ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย โหนฺติ, สกฺกายทิฏฺิสมุคฺฆาเตเนว จ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย สมุคฺฆาตํ คจฺฉนฺติ, ตสฺมา สกฺกายทิฏฺิปฺปมุเขน ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานีติ วุตฺตา, สกฺกายทิฏฺิปฺปมุเขน สกฺกายทิฏฺิทฺวาเรน ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ โหนฺตีติ อตฺโถ. สกฺกายทิฏฺิปฺปมุขานีติ ปาโ สุนฺทรตโร. สกฺกายทิฏฺิ ปมุขา อาทิ เอเตสนฺติ สกฺกายทิฏฺิปฺปมุขานิ. กานิ ตานิ? ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ.

‘‘กา ทิฏฺี’’ติ ปุจฺฉาย วีสติวตฺถุกา อตฺตานุทิฏฺิ, วีสติวตฺถุกา สกฺกายทิฏฺีติ วิสฺสชฺชนํ. ‘‘กติ ทิฏฺิโย’’ติ ปุจฺฉาย สกฺกายทิฏฺิปฺปมุขานิ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานีติ วิสฺสชฺชนํ. สาเยว ปน สกฺกายทิฏฺิ ‘‘เอโส เม อตฺตา’’ติ วจนสามฺเน อตฺตานุทิฏฺีติ วุตฺตา. ตสฺสา วุตฺตาย อตฺตวาทปฏิสฺุตฺตา ทิฏฺิปิ วุตฺตาเยว โหติ.

๑๕๑. เย เกจิ, ภิกฺขเวติอาทิสุตฺตาหรณํ สมฺปนฺนทิฏฺิปุคฺคลสมฺพนฺเธน สมฺปนฺนทิฏฺิปุคฺคลวิภาคทสฺสนตฺถํ กตํ. ตตฺถ นิฏฺํ คตาติ มคฺคาณวเสน สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควาติ นิจฺฉยํ คตา, นิพฺเพมติกาติ อตฺโถ. นิฏฺาคตาติ ปาโ สมาสปทํ โหติ, อตฺโถ ปน โสเยว. ทิฏฺิสมฺปนฺนาติ ทิฏฺิยา สุนฺทรภาวํ คตา. อิธ นิฏฺาติ อิมิสฺสา กามธาตุยา ปรินิพฺพานํ. อิธ วิหาย นิฏฺาติ อิมํ กามภวํ วิชหิตฺวา สุทฺธาวาสพฺรหฺมโลเก ปรินิพฺพานํ. สตฺตกฺขตฺตุปรมสฺสาติ สตฺตกฺขตฺตุํปรมา สตฺตวารปรมา ภวูปปตฺติ อตฺตภาวคฺคหณํ อสฺส, ตโต ปรํ อฏฺมํ ภวํ นาทิยตีติ สตฺตกฺขตฺตุปรโม. ตสฺส สตฺตกฺขตฺตุปรมสฺส โสตาปนฺนสฺส. โกลํโกลสฺสาติ กุลโต กุลํ คจฺฉตีติ โกลํโกโล. โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยโต หิ ปฏฺาย นีเจ กุเล อุปปตฺติ นาม นตฺถิ, มหาโภคกุเลสุเยว นิพฺพตฺตตีติ อตฺโถ. ตสฺส โกลํโกลสฺส โสตาปนฺนสฺส. เอกพีชิสฺสาติ ขนฺธพีชํ นาม กถิตํ. ยสฺส หิ โสตาปนฺนสฺส เอกํเยว ขนฺธพีชํ อตฺถิ, เอกํ อตฺตภาวคฺคหณํ, โส เอกพีชี นาม. ตสฺส เอกพีชิสฺส โสตาปนฺนสฺส. ภควตา คหิตนามวเสเนเวตานิ เอเตสํ นามานิ. เอตฺตกฺหิ านํ คโต สตฺตกฺขตฺตุปรโม นาม โหติ, เอตฺตกํ โกลํโกโล, เอตฺตกํ เอกพีชีติ ภควตา เอเตสํ นามํ คหิตํ. ภควา หิ ‘‘อยํ เอตฺตกํ านํ คมิสฺสติ, อยํ เอตฺตกํ านํ คมิสฺสตี’’ติ ตฺวา เตสํ ตานิ ตานิ นามานิ อคฺคเหสิ. มุทุปฺโ หิ โสตาปนฺโน สตฺต ภเว นิพฺพตฺเตนฺโต สตฺตกฺขตฺตุปรโม นาม, มชฺฌิมปฺโ ปรํ ฉฏฺํ ภวํ นิพฺพตฺเตนฺโต โกลํโกโล นาม, ติกฺขปฺโ เอกํ ภวํ นิพฺพตฺเตนฺโต เอกพีชี นาม. ตํ ปเนตํ เตสํ มุทุมชฺฌิมติกฺขปฺตํ ปุพฺพเหตุ นิยเมติ. อิเม ตโยปิ โสตาปนฺนา กามภววเสน วุตฺตา, รูปารูปภเว ปน พหุกาปิ ปฏิสนฺธิโย คณฺหนฺติ. สกทาคามิสฺสาติ ปฏิสนฺธิวเสน สกึ กามภวํ อาคจฺฉตีติ สกทาคามี. ตสฺส สกทาคามิสฺส. ทิฏฺเว ธมฺเม อรหาติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว อรหา. อรหนฺติปิ ปาโ. อิธ นิฏฺาติ กามภวํ สํสรนฺเตเยว สนฺธาย วุตฺตํ. รูปารูปภเว อุปฺปนฺนา ปน อริยา กามภเว น อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺเถว ปรินิพฺพายนฺติ.

อนฺตราปรินิพฺพายิสฺสาติ อายุเวมชฺฌสฺส อนฺตราเยว กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายนโต อนฺตราปรินิพฺพายี. โส ปน อุปฺปนฺนสมนนฺตรา ปรินิพฺพายี, อายุเวมชฺฌํ อปฺปตฺวา ปรินิพฺพายี, อายุเวมชฺฌํ ปตฺวา ปรินิพฺพายีติ ติวิโธ โหติ. ตสฺส อนฺตราปรินิพฺพายิสฺส อนาคามิโน. อุปหจฺจปรินิพฺพายิสฺสาติ อายุเวมชฺฌํ อติกฺกมิตฺวา วา กาลกิริยํ อุปคนฺตฺวา วา กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายนฺตสฺส อนาคามิโน. อสงฺขารปรินิพฺพายิสฺสาติ อสงฺขาเรน อปฺปโยเคน อธิมตฺตปฺปโยคํ อกตฺวาว กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายนธมฺมสฺส อนาคามิโน. สสงฺขารปรินิพฺพายิสฺสาติ สสงฺขาเรน ทุกฺเขน กสิเรน อธิมตฺตปฺปโยคํ กตฺวาว กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายนธมฺมสฺส อนาคามิโน. อุทฺธํโสตสฺส อกนิฏฺคามิโนติ อุทฺธํวาหิภาเวน อุทฺธมสฺส ตณฺหาโสตํ วฏฺฏโสตํ วาติ อุทฺธํโสโต, อุทฺธํ วา คนฺตฺวา ปฏิลภิตพฺพโต อุทฺธมสฺส มคฺคโสตนฺติ อุทฺธํโสโต, อกนิฏฺํ คจฺฉตีติ อกนิฏฺคามี. ตสฺส อุทฺธํโสตสฺส อกนิฏฺคามิโน อนาคามิสฺส. อยํ ปน อนาคามี จตุปฺปเภโท – โย อวิหโต ปฏฺาย จตฺตาโร พฺรหฺมโลเก โสเธตฺวา อกนิฏฺํ คนฺตฺวา ปรินิพฺพายติ, อยํ อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี นาม. โย เหฏฺา ตโย พฺรหฺมโลเก โสเธตฺวา สุทสฺสีพฺรหฺมโลเก ตฺวา ปรินิพฺพายติ, อยํ อุทฺธํโสโต น อกนิฏฺคามี นาม. โย อิโต อกนิฏฺเมว คนฺตฺวา ปรินิพฺพายติ, อยํ น อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี นาม. โย เหฏฺา จตูสุ พฺรหฺมโลเกสุ ตตฺถ ตตฺเถว ปรินิพฺพายติ, อยํ น อุทฺธํโสโต น อกนิฏฺคามี นามาติ. อิเม ปฺจ อนาคามิโน สุทฺธาวาสํ คเหตฺวา วุตฺตา. อนาคามิโน ปน รูปราคารูปราคานํ อปฺปหีนตฺตา อากงฺขมานา เสสรูปารูปภเวสุปิ นิพฺพตฺตนฺติ. สุทฺธาวาเส นิพฺพตฺตา ปน อฺตฺถ น นิพฺพตฺตนฺติ. อเวจฺจปฺปสนฺนาติ อริยมคฺควเสน ชานิตฺวา พุชฺฌิตฺวา อจลปฺปสาเทน ปสนฺนา. โสตาปนฺนาติ อริยมคฺคโสตํ อาปนฺนา. อิมินา สพฺเพปิ อริยผลฏฺา ปุคฺคลา คหิตาติ.

ภววิภวทิฏฺินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฏิสมฺภิทามคฺคฏฺกถาย

ทิฏฺิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อานาปานสฺสติกถา

๑. คณนวารวณฺณนา

๑๕๒. อิทานิ ทิฏฺิกถานนฺตรํ กถิตาย อานาปานสฺสติกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา อนุปฺปตฺตา. อยฺหิ อานาปานสฺสติกถา ทิฏฺิกถาย สุวิทิตทิฏฺาทีนวสฺส มิจฺฉาทิฏฺิมลวิโสธเนน สุวิสุทฺธจิตฺตสฺส ยถาภูตาวโพธาย สมาธิภาวนา สุกรา โหติ, สพฺพสมาธิภาวนาสุ จ สพฺพสพฺพฺุโพธิสตฺตานํ โพธิมูเล อิมินาว สมาธินา สมาหิตจิตฺตานํ ยถาภูตาวโพธโต อยเมว สมาธิภาวนา ปธานาติ จ ทิฏฺิกถานนฺตรํ กถิตา. ตตฺถ โสฬสวตฺถุกํ อานาปานสฺสติสมาธึ ภาวยโต สมธิกานิ ทฺเว าณสตานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ าณคณนุทฺเทโส, อฏฺ ปริปนฺเถ าณานีติอาทิ าณคณนนิทฺเทโส, กตมานิ อฏฺ ปริปนฺเถ าณานีติอาทิ. อิมานิ เอกวีสติ วิมุตฺติสุเข าณานีติปริยนฺตํ สพฺพาณานํ วิตฺถารนิทฺเทโส, อนฺเต โสฬสวตฺถุกํ อานาปานสฺสติสมาธึ ภาวยโตติอาทิ นิคมนนฺติ เอวํ ตาว ปาฬิววตฺถานํ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ คณนุทฺเทเส คณนวาเร ตาว โสฬสวตฺถุกนฺติ ทีฆํ รสฺสํ สพฺพกายปฏิสํเวที ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารนฺติ กายานุปสฺสนาจตุกฺกํ, ปีติปฏิสํเวที สุขปฏิสํเวที จิตฺตสงฺขารปฏิสํเวที ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารนฺติ เวทนานุปสฺสนาจตุกฺกํ, จิตฺตปฏิสํเวที อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ สมาทหํ จิตฺตํ วิโมจยํ จิตฺตนฺติ จิตฺตานุปสฺสนาจตุกฺกํ, อนิจฺจานุปสฺสี วิราคานุปสฺสี นิโรธานุปสฺสี ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสีติ ธมฺมานุปสฺสนาจตุกฺกนฺติ อิเมสํ จตุนฺนํ จตุกฺกานํ วเสน โสฬส วตฺถูนิ ปติฏฺา อารมฺมณานิ อสฺสาติ โสฬสวตฺถุโก. ตํ โสฬสวตฺถุกํ. สมาสวเสน ปเนตฺถ วิภตฺติโลโป กโต. อานนฺติ อพฺภนฺตรํ ปวิสนวาโต. อปานนฺติ พหินิกฺขมนวาโต. เกจิ ปน วิปริยาเยน วทนฺติ. อปานฺหิ อเปตํ อานโตติ อปานนฺติ วุจฺจติ, นิทฺเทเส (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๐) ปน นา-การสฺส ทีฆตฺตมชฺฌุเปกฺขิตฺวา อาปานนฺติ. ตสฺมึ อานาปาเน สติ อานาปานสฺสติ, อสฺสาสปสฺสาสปริคฺคาหิกาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. อานาปานสฺสติยา ยุตฺโต สมาธิ, อานาปานสฺสติยํ วา สมาธิ อานาปานสฺสติสมาธิ. ภาวยโตติ นิพฺเพธภาคิยํ ภาเวนฺตสฺส. สมธิกานีติ สห อธิเกน วตฺตนฺตีติ สมธิกานิ, สาติเรกานีติ อตฺโถ. ม-กาโร ปเนตฺถ ปทสนฺธิกโร. เกจิ ปน ‘‘สํอธิกานี’’ติ วทนฺติ. เอวํ สติ ทฺเว าณสตานิเยว อธิกานีติ อาปชฺชติ, ตํ น ยุชฺชติ. อิมานิ หิ วีสติอธิกานิ ทฺเว าณสตานิ โหนฺตีติ.

ปริปนฺเถ าณานีติ ปริปนฺถํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตาณานิ. ตถา อุปกาเร อุปกฺกิเลเส าณานิ. โวทาเน าณานีติ โวทายติ, เตน จิตฺตํ ปริสุทฺธํ โหตีติ โวทานํ. กึ ตํ? าณํ. ‘‘โวทานาณานี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุตมเย าณ’’นฺติอาทีสุ (ปฏิ. ม. มาติกา ๑.๑; ปฏิ. ม. ๑.๑) วิย ‘‘โวทาเน าณานี’’ติ วุตฺตํ. สโต สมฺปชาโน หุตฺวา กโรตีติ สโตการี, ตสฺส สโตการิสฺส าณานิ. นิพฺพิทาาณานีติ นิพฺพิทาภูตานิ าณานิ. นิพฺพิทานุโลมาณานีติ นิพฺพิทาย อนุกูลานิ าณานิ. นิพฺพิทานุโลมิาณานีติปิ ปาโ, นิพฺพิทานุโลโม เอเตสํ อตฺถีติ นิพฺพิทานุโลมีติ อตฺโถ. นิพฺพิทาปฏิปฺปสฺสทฺธิาณานีติ นิพฺพิทาย ปฏิปฺปสฺสทฺธิยํ าณานิ. วิมุตฺติสุเข าณานีติ วิมุตฺติสุเขน สมฺปยุตฺตานิ าณานิ.

กตมานิ อฏฺาติอาทีหิ ปริปนฺถอุปการานํ ปฏิปกฺขวิปกฺขยุคลตฺตา เตสุ าณานิ สเหว นิทฺทิฏฺานิ. กามจฺฉนฺทเนกฺขมฺมาทีนิ เหฏฺา วุตฺตตฺถานิ. อุปการนฺติ จ ลิงฺควิปลฺลาสวเสน นปุํสกวจนํ กตํ. สพฺเพปิ อกุสลา ธมฺมาติ วุตฺตาวเสสา เย เกจิ อกุสลา ธมฺมา. ตถา สพฺเพปิ นิพฺเพธภาคิยา กุสลา ธมฺมา. ‘‘ปริปนฺโถ อุปการ’’นฺติ จ ตํ ตเทว อเปกฺขิตฺวา เอกวจนํ กตํ. เอตฺถ จ ปริปนฺเถ าณานิอุปกาเร าณานิ จ ปุจฺฉิตฺวา เตสํ อารมฺมณาเนว วิสฺสชฺชิตฺวา เตเหว ตานิ วิสฺสชฺชิตานิ โหนฺตีติ ตทารมฺมณานิ าณานิ นิคเมตฺวา ทสฺเสสิ. อุปกฺกิเลเส าณาทีสุปิ เอเสว นโย.

คณนวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. โสฬสาณนิทฺเทสวณฺณนา

๑๕๓. โสฬสหิ อากาเรหีติ อุภยปกฺขวเสน วุตฺเตหิ โสฬสหิ าณโกฏฺาเสหิ. อุทุจิตํ จิตฺตํ สมุทุจิตนฺติ อุปจารภูมิยํ จิตฺตํ อุทฺธํ อุจิตํ, สมฺมา อุทฺธํ อุจิตํ, อุปรูปริ กตปริจยํ สมฺมา อุปรูปริ กตปริจยนฺติ อตฺโถ. อุทุชิตํ จิตฺตํ สมุทุชิตนฺติปิ ปาโ. อุปริภาวาย ชิตํ, อุปริภาวกเรหิ วา าเณหิ ชิตํ อุทุชิตํ. สมุทุชิตนฺติ สมา อุปริภาวาย, อุปริภาวกเรหิ วา าเณหิ ชิตํ. สมาติ เจตฺถ วิสมภาวปฏิกฺเขโป. อิมสฺมึ ปาเ อุ, ทุ-อิติ ทฺเว ทฺเว อุปสคฺคา โหนฺติ. อุรูชิตํ จิตฺตํ สมฺมารูชิตนฺติปิ ปาโ. เอตฺถาปิ ชิตตฺโถเยว. อุรู อรูติ อิทํ ปน นิปาตมตฺตเมวาติ วทนฺติ. วีโณปมฏฺกถาย ตชฺชิตํ สุตชฺชิตนฺติ จ อตฺโถ วุตฺโต, โส อิธ น ยุชฺชติ. เอกตฺเต สนฺติฏฺตีติ อุปจารภูมิยํ ตาว นานารมฺมณวิกฺเขปาภาเวน เอกตฺเต ปติฏฺาติ. นิยฺยานาวรณฏฺเน นีวรณาติ เอตฺถ อรติปิ สพฺเพปิ อกุสลา อาวรณฏฺเน นีวรณาติ วุตฺตา. นิยฺยานาวรณฏฺเนาติ นิยฺยานานํ อาคมนมคฺคปิทหนฏฺเน. นิยฺยานวารณฏฺเนาติปิ ปาโ, นิยฺยานานํ ปฏิกฺเขปนฏฺเนาติ อตฺโถ. เนกฺขมฺมํ อริยานํ นิยฺยานนฺติ มคฺคฏฺานํ อริยานํ นิยฺยานสงฺขาตสฺส อริยมคฺคสฺส เหตุตฺตา ผลูปจาเรน อริยานํ นิยฺยานํ. เตน จ เหตุภูเตน มคฺคกฺขเณ อริยา นิยฺยนฺติ นิคจฺฉนฺติ. เกจิ ปน ‘‘นิยฺยานนฺติ มคฺโค’’ติ วทนฺติ. อิธ อุปจารสฺส อธิปฺเปตตฺตา มคฺคกฺขเณ จ อาโลกสฺาย สพฺพกุสลธมฺมานฺจ อภาวา ตํ น ยุชฺชติ. นิวุตตฺตาติ ปฏิจฺฉนฺนตฺตา. นปฺปชานาตีติ ปุคฺคลวเสน วุตฺตํ.

วิสุทฺธจิตฺตสฺสาติ อุปจารภูมิยํเยว. ขณิกสโมธานาติ จิตฺตกฺขเณ จิตฺตกฺขเณ อุปฺปชฺชนโต ขโณ เอเตสํ อตฺถีติ ขณิกา, อุปกฺกิเลสา, ขณิกานํ สโมธาโน สมาคโม ปพนฺโธ ขณิกสโมธาโน. ตสฺมา ขณิกสโมธานา, อุปฺปชฺชมานา อุปกฺกิเลสา ขณิกปฺปพนฺธวเสน ขณิกปรมฺปราวเสน อุปฺปชฺชนฺติ, น เอกจิตฺตกฺขณวเสนาติ วุตฺตํ โหติ.

โสฬสาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อุปกฺกิเลสาณนิทฺเทสวณฺณนา

ปมจฺฉกฺกํ

๑๕๔. ปมจฺฉกฺเก อสฺสาสาทิมชฺฌปริโยสานนฺติ อพฺภนฺตรปวิสนวาตสฺส นาสิกคฺคํ วา มุขนิมิตฺตํ วา อาทิ, หทยํ มชฺฌํ, นาภิ ปริโยสานํ. ตํ ตสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ สติยา อนุคจฺฉโต โยคิสฺส านนานตฺตานุคมเนน จิตฺตํ อชฺฌตฺตํ วิกฺเขปํ คจฺฉติ, ตํ อชฺฌตฺตวิกฺเขปคตํ จิตฺตํ เอกตฺเต อสณฺหนโต สมาธิสฺส ปริปนฺโถ. ปสฺสาสาทิมชฺฌปริโยสานนฺติ พหินิกฺขมนวาตสฺส นาภิ อาทิ, หทยํ มชฺฌํ, นาสิกคฺคํ วา มุขนิมิตฺตํ วา พหิอากาโส วา ปริโยสานํ. โยชนา ปเนตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. อสฺสาสปฏิกงฺขนา นิกนฺติตณฺหาจริยาติ ‘‘นาสิกาวาตายตฺตมิทํ กมฺมฏฺาน’’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา โอฬาริโกฬาริกสฺส อสฺสาสสฺส ปตฺถนาสงฺขาตา นิกามนา เอว ตณฺหาปวตฺติ. ตณฺหาปวตฺติยา สติ เอกตฺเต อสณฺหนโต สมาธิสฺส ปริปนฺโถ. ปสฺสาสปฏิกงฺขนา นิกนฺตีติ ปุน อสฺสาสปุพฺพกสฺส ปสฺสาสสฺส ปตฺถนาสงฺขาตา นิกนฺติ. เสสํ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. อสฺสาเสนาภิตุนฺนสฺสาติ อติทีฆํ อติรสฺสํ วา อสฺสาสํ กโรนฺตสฺส อสฺสาสมูลกสฺส กายจิตฺตกิลมถสฺส สพฺภาวโต เตน อสฺสาเสน วิทฺธสฺส ปีฬิตสฺส. ปสฺสาสปฏิลาเภ มุจฺฉนาติ อสฺสาเสน ปีฬิตตฺตาเยว ปสฺสาเส อสฺสาทสฺิโน ปสฺสาสํ ปตฺถยโต ตสฺมึ ปสฺสาสปฏิลาเภ รชฺชนา. ปสฺสาสมูลเกปิ เอเสว นโย.

วุตฺตสฺเสว อตฺถสฺส อนุวณฺณนตฺถํ วุตฺเตสุ คาถาพนฺเธสุ อนุคจฺฉนาติ อนุคจฺฉมานา. สตีติ อชฺฌตฺตพหิทฺธาวิกฺเขปเหตุภูตา สติ. วิกฺขิปติ อเนน จิตฺตนฺติ วิกฺเขโป. โก โส? อสฺสาโส. อชฺฌตฺตํ วิกฺเขโป อชฺฌตฺตวิกฺเขโป, ตสฺส อากงฺขนา อชฺฌตฺตวิกฺเขปากงฺขนา, อสมฺมามนสิการวเสน อชฺฌตฺตวิกฺเขปกสฺส อสฺสาสสฺส อากงฺขนาติ วุตฺตํ โหติ. เอเตเนว นเยน พหิทฺธาวิกฺเขปปตฺถนา เวทิตพฺพา. เยหีติ เยหิ อุปกฺกิเลเสหิ. วิกฺขิปฺปมานสฺสาติ วิกฺขิปิยมานสฺส วิกฺเขปํ อาปาทิยมานสฺส. โน จ จิตฺตํ วิมุจฺจตีติ จิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสารมฺมเณ จ นาธิมุจฺจติ, ปจฺจนีกธมฺเมหิ จ น วิมุจฺจติ. จิตฺตํ โน จ วิมุจฺจติ ปรปตฺติยา จ โหนฺตีติ สมฺพนฺโธ. วิโมกฺขํ อปฺปชานนฺตาติ โส วา อฺโ วา อารมฺมณาธิมุตฺติวิโมกฺขฺจ ปจฺจนีกวิมุตฺติวิโมกฺขฺจ เอวํ อปฺปชานนฺตา. ปรปตฺติยาติ ปรปจฺจยํ ปรสทฺทหนํ อรหนฺติ, น อตฺตปจฺจกฺขํ าณนฺติ ‘‘ปรปจฺจยิกา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ปรปตฺติยา’’ติ วุตฺตํ. อตฺโถ ปน โสเยว.

ทุติยจฺฉกฺกํ

๑๕๕. ทุติยจฺฉกฺเก นิมิตฺตนฺติ อสฺสาสปสฺสาสานํ ผุสนฏฺานํ. อสฺสาสปสฺสาสา หิ ทีฆนาสิกสฺส นาสาปุฏํ ฆฏฺเฏนฺตา ปวตฺตนฺติ, รสฺสนาสิกสฺส อุตฺตโรฏฺํ. ยทิ หิ อยํ โยคี ตํ นิมิตฺตเมว อาวชฺชติ, ตสฺส นิมิตฺตเมว อาวชฺชมานสฺส อสฺสาเส จิตฺตํ วิกมฺปติ, น ปติฏฺาตีติ อตฺโถ. ตสฺส ตสฺมึ จิตฺเต อปฺปติฏฺิเต สมาธิสฺส อภาวโต ตํ วิกมฺปนํ สมาธิสฺส ปริปนฺโถ. ยทิ อสฺสาสเมว อาวชฺชติ, ตสฺส จิตฺตํ อพฺภนฺตรปเวสนวเสน วิกฺเขปํ อาวหติ, นิมิตฺเต น ปติฏฺาติ, ตสฺมา นิมิตฺเต วิกมฺปติ. อิมินา นเยน เสเสสุปิ โยชนา กาตพฺพา. คาถาสุ วิกฺขิปฺปเตติ วิกฺขิปียติ วิกฺเขปํ อาปาทียติ.

ตติยจฺฉกฺกํ

๑๕๖. ตติยจฺฉกฺเก อตีตานุธาวนํ จิตฺตนฺติ ผุสนฏฺานํ อติกฺกมิตฺวา คตํ อสฺสาสํ วา ปสฺสาสํ วา อนุคจฺฉมานํ จิตฺตํ. วิกฺเขปานุปติตนฺติ วิกฺเขเปน อนุคตํ, วิกฺเขปํ วา สยํ อนุปติตํ อนุคตํ. อนาคตปฏิกงฺขนํ จิตฺตนฺติ ผุสนฏฺานํ อปฺปตฺตํ อสฺสาสํ วา ปสฺสาสํ วา ปฏิกงฺขมานํ ปจฺจาสีสมานํ จิตฺตํ. วิกมฺปิตนฺติ ตสฺมึ อปฺปติฏฺาเนเนว วิกฺเขเปน วิกมฺปิตํ. ลีนนฺติ อติสิถิลวีริยตาทีหิ สงฺกุจิตํ. โกสชฺชานุปติตนฺติ กุสีตภาวานุคตํ. อติปคฺคหิตนฺติ อจฺจารทฺธวีริยตาทีหิ อติอุสฺสาหิตํ. อุทฺธจฺจานุปติตนฺติ วิกฺเขปานุคตํ. อภินตนฺติ อสฺสาทวตฺถูสุ ภุสํ นตํ อลฺลีนํ. อปนตนฺติ นิรสฺสาทวตฺถูสุ ปติหตํ, ตโต อปคตํ วา, อปคตนตํ วา, น ตโต อปคตนฺติ อตฺโถ. ราคานุปติตนฺติ เอตฺถ อสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตํ มนสิกโรโต อุปฺปนฺนปีติสุเข วา ปุพฺเพ หสิตลปิตกีฬิตวตฺถูสุ วา ราโค อนุปตติ. พฺยาปาทานุปติตนฺติ เอตฺถ มนสิกาเร นิรสฺสาทคตจิตฺตสฺส อุปฺปนฺนโทมนสฺสวเสน วา ปุพฺเพ สมุทาจิณฺเณสุ อาฆาตวตฺถูสุ วา พฺยาปาโท อนุปตติ. คาถาสุ น สมาธิยตีติ น สมาหิตํ โหติ. อธิจิตฺตนฺติ จิตฺตสีเสน นิทฺทิฏฺโ อธิโก สมาธิ.

๑๕๗. เอตฺตาวตา ตีหิ ฉกฺเกหิ อฏฺารส อุปกฺกิเลเส นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ เตสํ อุปกฺกิเลสานํ สมาธิสฺส ปริปนฺถภาวสาธเนน อาทีนวํ ทสฺเสนฺโต ปุน อสฺสาสาทิมชฺฌปริโยสานนฺติอาทิมาห. ตตฺถ กาโยปิ จิตฺตมฺปิ สารทฺธา จ โหนฺตีติ วิกฺเขปสมุฏฺานรูปานํ วเสน รูปกาโยปิ, วิกฺเขปสนฺตติวเสน จิตฺตมฺปิ มหตา โขเภน ขุภิตา สทรถา จ โหนฺติ. ตโต มนฺทตเรน อิฺชิตา กมฺปิตา, ตโต มนฺทตเรน ผนฺทิตา จลิตา โหนฺติ. พลวาปิ มชฺฌิโมปิ มนฺโทปิ โขโภ โหติเยว, น สกฺกา โขเภน น ภวิตุนฺติ วุตฺตํ โหติ. จิตฺตํ วิกมฺปิตตฺตาติ จิตฺตสฺส วิกมฺปิตตฺตา. คาถาสุ ปริปุณฺณา อภาวิตาติ ยถา ปริปุณฺณา โหติ, ตถา อภาวิตา. อิฺชิโตติ กมฺปิโต. ผนฺทิโตติ มนฺทกมฺปิโต. เหฏฺา นีวรณานํ อนนฺตรตฺตา ‘‘อิเมหิ จ ปน นีวรเณหี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๓) อจฺจนฺตสมีปนิทสฺสนวจนํ กตํ. อิธ ปน นิคมเน นีวรณานํ สนฺตรตฺตา เตหิ จ ปน นีวรเณหีติ ปรมฺมุขนิทสฺสนวจนํ กตํ.

อุปกฺกิเลสาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. โวทานาณนิทฺเทสวณฺณนา

๑๕๘. โวทาเน าณานีติ วิสุทฺธาณานิ. ตํ วิวชฺชยิตฺวาติ ยํ ปุพฺเพ วุตฺตํ อตีตานุธาวนํ จิตฺตํ วิกฺเขปานุปติตํ, ตํ วิวชฺชยิตฺวาติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. เอกฏฺาเน สมาทหตีติ อสฺสาสปสฺสาสานํ ผุสนฏฺาเน สมํ อาทหติ ปติฏฺาเปติ. ตตฺเถว อธิโมเจตีติ เอกฏฺาเนติ วุตฺเต อสฺสาสปสฺสาสานํ ผุสนฏฺาเนเยว สนฺนิฏฺเปติ สนฺนิฏฺานํ กโรติ. ปคฺคณฺหิตฺวาติ ธมฺมวิจยปีติสมฺโพชฺฌงฺคภาวนาย ปคฺคเหตฺวา. วินิคฺคณฺหิตฺวาติ ปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคภาวนาย วินิคฺคณฺหิตฺวา. ‘‘สตินฺทฺริยวีริยินฺทฺริเยหิ ปคฺคเหตฺวา, สตินฺทฺริยสมาธินฺทฺริเยหิ วินิคฺคเหตฺวา’’ติปิ วทนฺติ. สมฺปชาโน หุตฺวาติ อสุภภาวนาทีหิ. ปุน สมฺปชาโน หุตฺวาติ เมตฺตาภาวนาทีหิ. เยน ราเคน อนุปติตํ, เยน พฺยาปาเทน อนุปติตํ, ตํ ปชหตีติ สมฺพนฺโธ. ตํ จิตฺตํ อีทิสนฺติ สมฺปชานนฺโต ตปฺปฏิปกฺเขน ราคํ ปชหติ, พฺยาปาทํ ปชหตีติ วา อตฺโถ. ปริสุทฺธนฺติ นิรุปกฺกิเลสํ. ปริโยทาตนฺติ ปภสฺสรํ. เอกตฺตคตํ โหตีติ ตํ ตํ วิเสสํ ปตฺตสฺส ตํ ตํ เอกตฺตํ คตํ โหติ.

กตเม เต เอกตฺตาติ อิธ ยุชฺชมานายุชฺชมาเนปิ เอกตฺเต เอกโต กตฺวา ปุจฺฉติ. ทานูปสคฺคุปฏฺาเนกตฺตนฺติ ทานวตฺถุสงฺขาตสฺส ทานสฺส อุปสคฺโค โวสชฺชนํ ทานูปสคฺโค, ทานวตฺถุปริจฺจาคเจตนา. ตสฺส อุปฏฺานํ อารมฺมณกรณวเสน อุปคนฺตฺวา านํ ทานูปสคฺคุปฏฺานํ, ตเทว เอกตฺตํ, เตน วา เอกตฺตํ เอกคฺคภาโว ทานูปสคฺคุปฏฺาเนกตฺตํ. ทานโวสคฺคุปฏฺาเนกตฺตนฺติ ปาโ สุนฺทรตโร, โส เอวตฺโถ. เอเตน ปทุทฺธารวเสน จาคานุสฺสติสมาธิ วุตฺโต. ปทุทฺธารวเสน วุตฺโตปิ เจส อิตเรสํ ติณฺณมฺปิ เอกตฺตานํ อุปนิสฺสยปจฺจโย โหติ, ตสฺมา อิธ นิทฺทิฏฺนฺติ วทนฺติ. วิสาขาปิ หิ มหาอุปาสิกา อาห – ‘‘อิธ, ภนฺเต, ทิสาสุ วสฺสํวุฏฺา ภิกฺขู สาวตฺถึ อาคจฺฉิสฺสนฺติ ภควนฺตํ ทสฺสนาย, เต ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิสฺสนฺติ ‘อิตฺถนฺนาโม, ภนฺเต, ภิกฺขุ กาลงฺกโต, ตสฺส กา คติ, โก อภิสมฺปราโย’ติ? ตํ ภควา พฺยากริสฺสติ โสตาปตฺติผเล วา สกทาคามิผเล วา อนาคามิผเล วา อรหตฺเต วา. ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิสฺสามิ ‘อาคตปุพฺพา นุ โข, ภนฺเต, เตน อยฺเยน สาวตฺถี’ติ? สเจ เม วกฺขนฺติ ‘อาคตปุพฺพา เตน ภิกฺขุนา สาวตฺถี’ติ. นิฏฺเมตฺถ คจฺฉิสฺสามิ นิสฺสํสยํ ปริภุตฺตํ เตน อยฺเยน วสฺสิกสาฏิกา วา อาคนฺตุกภตฺตํ วา คมิกภตฺตํ วา คิลานภตฺตํ วา คิลานุปฏฺากภตฺตํ วา คิลานเภสชฺชํ วา ธุวยาคุ วาติ. ตสฺสา เม ตทนุสฺสรนฺติยา ปาโมชฺชํ ชายิสฺสติ, ปมุทิตาย ปีติ ชายิสฺสติ, ปีติมนาย กาโย ปสฺสมฺภิสฺสติ, ปสฺสทฺธกายา สุขํ เวทยิสฺสามิ, สุขินิยา จิตฺตํ สมาธิยิสฺสติ, สา เม ภวิสฺสติ อินฺทฺริยภาวนา พลภาวนา โพชฺฌงฺคภาวนา’’ติ (มหาว. ๓๕๑). อถ วา เอกตฺเตสุ ปมํ อุปจารสมาธิวเสน วุตฺตํ, ทุติยํ อปฺปนาสมาธิวเสน, ตติยํ วิปสฺสนาวเสน, จตุตฺถํ มคฺคผลวเสนาติ เวทิตพฺพํ. สมถสฺส นิมิตฺตํ สมถนิมิตฺตํ. วโย ภงฺโค เอว ลกฺขณํ วยลกฺขณํ. นิโรโธ นิพฺพานํ. เสสเมเตสุ ตีสุ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ.

จาคาธิมุตฺตานนฺติ ทาเน อธิมุตฺตานํ. อธิจิตฺตนฺติ วิปสฺสนาปาทกสมาธิ. วิปสฺสกานนฺติ ภงฺคานุปสฺสนโต ปฏฺาย ตีหิ อนุปสฺสนาหิ สงฺขาเร วิปสฺสนฺตานํ. อริยปุคฺคลานนฺติ อฏฺนฺนํ. ทุติยาทีนิ ตีณิ เอกตฺตานิ อานาปานสฺสติวเสน เสสกมฺมฏฺานวเสน จ ยุชฺชนฺติ. จตูหิ าเนหีติ จตูหิ การเณหิ. สมาธิวิปสฺสนามคฺคผลานํ วเสน ‘‘เอกตฺตคตํ จิตฺตํ ปฏิปทาวิสุทฺธิปกฺขนฺทฺเจว โหติ อุเปกฺขานุพฺรูหิตฺจ าเณน จ สมฺปหํสิต’’นฺติ อุทฺเทสปทานิ. ‘‘ปมสฺส ฌานสฺส โก อาที’’ติอาทีนิ เตสํ อุทฺเทสปทานํ วิตฺถาเรตุกมฺยตาปุจฺฉาปุพฺพงฺคมานิ นิทฺเทสปทานิ. ตตฺถ ปฏิปทาวิสุทฺธิปกฺขนฺทนฺติ ปฏิปทา เอว นีวรณมลวิโสธนโต วิสุทฺธิ, ตํ ปฏิปทาวิสุทฺธึ ปกฺขนฺทํ ปวิฏฺํ. อุเปกฺขานุพฺรูหิตนฺติ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย พฺรูหิตํ วฑฺฒิตํ. าเณน จ สมฺปหํสิตนฺติ ปริโยทาปเกน าเณน สมฺปหํสิตํ ปริโยทาปิตํ วิโสธิตํ. ปฏิปทาวิสุทฺธิ นาม สสมฺภาริโก อุปจาโร, อุเปกฺขานุพฺรูหนา นาม อปฺปนา, สมฺปหํสนา นาม ปจฺจเวกฺขณาติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. ยสฺมา ปน ‘‘เอกตฺตคตํ จิตฺตํ ปฏิปทาวิสุทฺธิปกฺขนฺทฺเจว โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตสฺมา อนฺโตอปฺปนายเมว อาคมนวเสน ปฏิปทาวิสุทฺธิ, ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจวเสน อุเปกฺขานุพฺรูหนา, ธมฺมานํ อนติวตฺตนาทิภาวสาธเนน ปริโยทาปกสฺส าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน สมฺปหํสนา เวทิตพฺพา. กถํ? ยสฺมิฺหิ วาเร อปฺปนา อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ โย นีวรณสงฺขาโต กิเลสคโณ ตสฺส ฌานสฺส ปริปนฺโถ, ตโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ, วิสุทฺธตฺตา อาวรณวิรหิตํ หุตฺวา มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ. มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ นาม สมปฺปวตฺโต อปฺปนาสมาธิเยว. ตทนนฺตรํ ปน ปุริมจิตฺตํ เอกสนฺตติปริณามนเยน ตถตฺตํ อุปคจฺฉมานํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ นาม. เอวํ ปฏิปนฺนตฺตา ตถตฺตุปคมเนน ตตฺถ ปกฺขนฺทติ นาม. เอวํ ตาว ปุริมจิตฺเต วิชฺชมานาการนิปฺผาทิกา ปมสฺส ฌานสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว อาคมนวเสน ปฏิปทาวิสุทฺธิ เวทิตพฺพา. เอวํ วิสุทฺธสฺส ปน ตสฺส ปุน วิโสเธตพฺพาภาวโต วิโสธเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. สมถภาวูปคมเนน สมถปฏิปนฺนสฺส ปุน สมาทาเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต สมถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. สมถปฏิปนฺนภาวโต เอว จสฺส กิเลสสํสคฺคํ ปหาย เอกตฺเตน อุปฏฺิตสฺส ปุน เอกตฺตุปฏฺาเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. เอวํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจวเสน อุเปกฺขานุพฺรูหนา เวทิตพฺพา.

เย ปเนเต เอวํ อุเปกฺขานุพฺรูหิเต ตตฺถ ชาตา สมาธิปฺาสงฺขาตา ยุคนทฺธธมฺมา อฺมฺํ อนติวตฺตมานา หุตฺวา ปวตฺตา, ยานิ จ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ นานากิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติรเสน เอกรสานิ หุตฺวา ปวตฺตานิ, ยํ เจส ตทุปคํ เตสํ อนติวตฺตนเอกรสภาวานํ อนุจฺฉวิกํ วีริยํ วาหยติ, ยา จสฺส ตสฺมึ ขเณ ปวตฺตา อาเสวนา, สพฺเพปิ เต อาการา ยสฺมา าเณน สํกิเลสโวทาเนสุ ตํ ตํ อาทีนวฺจ อานิสํสฺจ ทิสฺวา ตถา ตถา สมฺปหํสิตตฺตา วิโสธิตตฺตา ปริโยทาปิตตฺตา นิปฺผนฺนา, ตสฺมา ธมฺมานํ อนติวตฺตนาทิภาวสาธเนน ปริโยทาปกสฺส าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน สมฺปหํสนา เวทิตพฺพาติ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺมา อุเปกฺขาวเสน าณํ ปากฏํ โหติ, ยถาห – ‘‘ตถาปคฺคหิตํ จิตฺตํ สาธุกํ อชฺฌุเปกฺขติ, อุเปกฺขาวเสน ปฺาวเสน ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ. อุเปกฺขาวเสน นานตฺตกิเลเสหิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, วิโมกฺขวเสน ปฺาวเสน ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ. วิมุตฺตตฺตา เต ธมฺมา เอกรสา โหนฺติ, เอกรสฏฺเน ภาวนา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๑). ตสฺมา าณกิจฺจภูตา สมฺปหํสนา ปริโยสานนฺติ วุตฺตา.

เอวํ ติวตฺตคตนฺติอาทีนิ ตสฺเสว จิตฺตสฺส โถมนวจนานิ. ตตฺถ เอวํ ติวตฺตคตนฺติ เอวํ ยถาวุตฺเตน วิธินา ปฏิปทาวิสุทฺธิปกฺขนฺทนอุเปกฺขานุพฺรูหนาาณสมฺปหํสนาวเสน ติวิธภาวํ คตํ. วิตกฺกสมฺปนฺนนฺติ กิเลสกฺโขภวิรหิตตฺตา วิตกฺเกน สุนฺทรภาวํ ปนฺนํ คตํ. จิตฺตสฺส อธิฏฺานสมฺปนฺนนฺติ ตสฺมึเยว อารมฺมเณ จิตฺตสฺส นิรนฺตรปฺปวตฺติสงฺขาเตน อธิฏฺาเนน สมฺปนฺนํ อนูนํ. ยถา อธิฏฺานวสิยํ อธิฏฺานนฺติ ฌานปฺปวตฺติ, ตถา อิธาปิ จิตฺตสฺส อธิฏฺานนฺติ จิตฺเตกคฺคตาปิ ยุชฺชติ. เตน หิ เอกสฺมึเยว อารมฺมเณ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, น เอตฺถ วิกฺขิปตีติ. ‘‘สมาธิสมฺปนฺน’’นฺติ วิสุํ วุตฺตตฺตา ปน วุตฺตนเยเนว คเหตพฺพํ. อถ วา สมาธิสฺเสว ฌานสงฺคหิตตฺตา จิตฺตสฺส อธิฏฺานสมฺปนฺนนฺติ ฌานงฺคปฺจกวเสน วุตฺตํ. สมาธิสมฺปนฺนนฺติ อินฺทฺริยสงฺคหิตตฺตา อินฺทฺริยปฺจกวเสน, ทุติยชฺฌานาทีสุ ปน อลพฺภมานานิ ปทานิ ปหาย ลพฺภมานกวเสน ปีติสมฺปนฺนนฺติอาทิ วุตฺตํ.

อนิจฺจานุปสฺสนาทีสุ อฏฺารสสุ มหาวิปสฺสนาสุ วิตกฺกาทโย ปริปุณฺณาเยว ตาสํ กามาวจรตฺตา. เอตาสุ จ อปฺปนาย อภาวโต ปฏิปทาวิสุทฺธิอาทโย ขณิกสมาธิวเสน โยเชตพฺพา. จตูสุ มคฺเคสุ ปมชฺฌานิกวเสน วิตกฺกาทีนํ ลพฺภนโต ลพฺภมานกวเสเนว วิตกฺกาทโย ปริปุณฺณา วุตฺตา. ทุติยชฺฌานิกาทีสุ หิ มคฺเคสุ วิตกฺกาทโย ฌาเนสุ วิย ปริหายนฺตีติ. เอตฺตาวตา เตรส โวทานาณานิ วิตฺถารโต นิทฺทิฏฺานิ โหนฺติ. กถํ? เอกฏฺาเน สมาทหเนน ตตฺเถว อธิมุจฺจเนน โกสชฺชปฺปชหเนน อุทฺธจฺจปฺปชหเนน ราคปฺปชหเนน พฺยาปาทปฺปชหเนน สมฺปยุตฺตานิ ฉ าณานิ, จตูหิ เอกตฺเตหิ สมฺปยุตฺตานิ จตฺตาริ าณานิ, ปฏิปทาวิสุทฺธิอุเปกฺขานุพฺรูหนาสมฺปหํสนาหิ สมฺปยุตฺตานิ ตีณิ าณานีติ เอวํ เตรส าณานิ นิทฺทิฏฺานิ.

๑๕๙. เอวํ สนฺเตปิ อานาปานสฺสติสมาธิภาวนาวเสน เตสํ นิปฺผตฺตึ ทสฺเสตุกาโม ตานิ าณานิ อนิคเมตฺวาว นิมิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสาติอาทินา นเยน โจทนาปุพฺพงฺคมํ อานาปานสฺสติสมาธิภาวนาวิธึ ทสฺเสตฺวา อนฺเต ตานิ าณานิ นิคเมตฺวา ทสฺเสสิ. ตตฺถ นิมิตฺตํ วุตฺตเมว. อนารมฺมณาเมกจิตฺตสฺสาติ อนารมฺมณา เอกจิตฺตสฺส. ม-กาโร ปเนตฺถ ปทสนฺธิกโร. อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺสาติปิ ปาโ, เอกสฺส จิตฺตสฺส อารมฺมณํ น ภวนฺตีติ อตฺโถ. ตโย ธมฺเมติ นิมิตฺตาทโย ตโย ธมฺเม. ภาวนาติ อานาปานสฺสติสมาธิภาวนา. กถนฺติ ปมํ วุตฺตาย โจทนาคาถาย อนนฺตรํ วุตฺตาย ปริหารคาถาย อตฺถํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. น จิเมติ น จ อิเม. น จเมติปิ ปาโ, โสเยว ปทจฺเฉโท. กถํ น จ อวิทิตา โหนฺติ, กถํ น จ จิตฺตํ วิกฺเขปํ คจฺฉตีติ เอวํ กถํ สทฺโท เสเสหิ ปฺจหิ โยเชตพฺโพ. ปธานฺจ ปฺายตีติ อานาปานสฺสติสมาธิภาวนารมฺภกํ วีริยํ สนฺทิสฺสติ. วีริยฺหิ ปทหนฺติ เตนาติ ปธานนฺติ วุจฺจติ. ปโยคฺจ สาเธตีติ นีวรณวิกฺขมฺภกํ ฌานฺจ โยคี นิปฺผาเทติ. ฌานฺหิ นีวรณวิกฺขมฺภนาย ปยุฺชียตีติ ปโยโคติ วุตฺตํ. วิเสสมธิคจฺฉตีติ สํโยชนปฺปหานกรํ มคฺคฺจ ปฏิลภติ. มคฺโค หิ สมถวิปสฺสนานํ อานิสํสตฺตา วิเสโสติ วุตฺโต. วิเสสสฺส จ ปมุขภูตตฺตา จ-กาเรน สมุจฺจโย น กโต.

อิทานิ ตํ ปุจฺฉิตมตฺถํ อุปมาย สาเธนฺโต เสยฺยถาปิ รุกฺโขติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – ยถา นาม กกเจน ผาลนตฺถํ วาสิยา ตจฺฉิตฺวา รุกฺโข ผาลนกาเล นิจฺจลภาวตฺถํ สเม ภูมิปเทเส ปโยคกฺขมํ กตฺวา ปิโต. กกเจนาติ หตฺถกกเจน. อาคเตติ รุกฺขํ ผุสิตฺวา อตฺตโน สมีปภาคํ อาคเต. คเตติ รุกฺขํ ผุสิตฺวา ปรภาคํ คเต. วา-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. น อวิทิตา โหนฺตีติ รุกฺเข กกจทนฺเตหิ ผุฏฺํ ปุริเสน เปกฺขมานํ านํ อปฺปตฺวา เตสํ อาคมนคมนาภาวโต สพฺเพปิ กกจทนฺตา วิทิตาว โหนฺติ. ปธานนฺติ รุกฺขจฺเฉทนวีริยํ. ปโยคนฺติ รุกฺขจฺเฉทนกิริยํ. ‘‘วิเสสมธิคจฺฉตี’’ติ วจนํ อุปมาย นตฺถิ. อุปนิพนฺธนา นิมิตฺตนฺติ อุปนิพนฺธนาย สติยา นิมิตฺตภูตํ การณภูตํ นาสิกคฺคํ วา มุขนิมิตฺตํ วา. อุปนิพนฺธติ เอตาย อารมฺมเณ จิตฺตนฺติ อุปนิพนฺธนา นาม สติ. นาสิกคฺเค วาติ ทีฆนาสิโก นาสิกคฺเค. มุขนิมิตฺเต วาติ รสฺสนาสิโก อุตฺตโรฏฺเ. อุตฺตโรฏฺโ หิ มุเข สติยา นิมิตฺตนฺติ มุขนิมิตฺตนฺติ วุตฺโต. อาคเตติ ผุฏฺฏฺานโต อพฺภนฺตรํ อาคเต. คเตติ ผุฏฺฏฺานโต พหิทฺธา คเต. น อวิทิตา โหนฺตีติ ผุสนฏฺานํ อปฺปตฺวา อสฺสาสปสฺสาสานํ อาคมนคมนาภาวโต สพฺเพปิ เต วิทิตา เอว โหนฺติ. กมฺมนิยํ โหตีติ เยน วีริเยน กาโยปิ จิตฺตมฺปิ กมฺมนิยํ ภาวนากมฺมกฺขมํ ภาวนากมฺมโยคฺคํ โหติ. อิทํ วีริยํ ปธานํ นามาติ ผเลน การณํ วุตฺตํ โหติ. อุปกฺกิเลสา ปหียนฺตีติ วิกฺขมฺภนวเสน นีวรณานิ ปหียนฺติ. วิตกฺกา วูปสมฺมนฺตีติ นานารมฺมณจาริโน อนวฏฺิตา วิตกฺกา อุปสมํ คจฺฉนฺติ. เยน ฌาเนน อุปกฺกิเลสา ปหียนฺติ, วิตกฺกา วูปสมฺมนฺติ. อยํ ปโยโคติ ปโยคมเปกฺขิตฺวา ปุลฺลิงฺคนิทฺเทโส กโต. สฺโชนา ปหียนฺตีติ ตํตํมคฺควชฺฌา สฺโชนา สมุจฺเฉทปฺปหาเนน ปหียนฺติ. อนุสยา พฺยนฺตีโหนฺตีติ ปหีนานํ ปุน อนุปฺปตฺติธมฺมกตฺตา วิคโต อุปฺปาทนฺโต วา วยนฺโต วา เอเตสนฺติ พฺยนฺตา, ปุพฺเพ อพฺยนฺตา พฺยนฺตา โหนฺตีติ พฺยนฺตีโหนฺติ, วินสฺสนฺตีติ อตฺโถ. สฺโชนปฺปหานํ อนุสยปฺปหาเนน โหติ, น อฺถาติ ทสฺสนตฺถํ อนุสยปฺปหานมาห. เยน มคฺเคน สฺโชนา ปหียนฺติ อนุสยา พฺยนฺตีโหนฺติ, อยํ วิเสโสติ อตฺโถ. จตุตฺถจตุกฺเก อริยมคฺคสฺสาปิ นิทฺทิฏฺตฺตา อิธ อริยมคฺโค วุตฺโต. เอกจิตฺตสฺส อารมฺมณทฺวยาภาวสฺส อวุตฺเตปิ สิทฺธตฺตา ตํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว เอวํ อิเม ตโย ธมฺมา เอกจิตฺตสฺส อารมฺมณา น โหนฺตีติ นิคมนํ กตํ.

๑๖๐. อิทานิ ตํ ภาวนาสิทฺธิสาธกํ โยคาวจรํ ถุนนฺโต อานาปานสฺสติ ยสฺสาติ คาถํ วตฺวา ตสฺสา นิทฺเทสมาห. ตตฺถ อานาปานสฺสติโย ยถา พุทฺเธน เทสิตา, ตถา ปริปุณฺณา สุภาวิตา อนุปุพฺพํ ปริจิตา ยสฺส อตฺถิ สํวิชฺชนฺติ. โส อิมํ โลกํ ปภาเสติ. กึ วิย? อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา ยถา อพฺภาทีหิ มุตฺโต จนฺทิมา อิมํ โอกาสโลกํ ปภาเสติ, ตถา โส โยคาวจโร อิมํ ขนฺธาทิโลกํ ปภาเสตีติ คาถาย สมฺพนฺโธ. ‘‘อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา’’ติ จ ปทสฺส นิทฺเทเส มหิกาทีนมฺปิ วุตฺตตฺตา เอตฺถ อาทิสทฺทโลโป กโตติ เวทิตพฺโพ. คาถานิทฺเทเส โน ปสฺสาโส โน อสฺสาโสติ โส โสเยว อตฺโถ ปฏิเสเธน วิเสเสตฺวา วุตฺโต. อุปฏฺานํ สตีติ อสมฺมุสฺสนตาย ตเมว อสฺสาสํ อุปคนฺตฺวา านํ สติ นามาติ อตฺโถ. ตถา ปสฺสาสํ. เอตฺตาวตา อานาปาเนสุ สติ อานาปานสฺสตีติ อตฺโถ วุตฺโต โหติ.

อิทานิ สติวเสเนว ‘‘ยสฺสา’’ติ วุตฺตํ ปุคฺคลํ นิทฺทิสิตุกาโม โย อสฺสสติ, ตสฺสุปฏฺาติ. โย ปสฺสสติ, ตสฺสุปฏฺาตีติ วุตฺตํ. โย อสฺสสติ, ตสฺส สติ อสฺสาสํ อุปคนฺตฺวา ติฏฺติ. โย ปสฺสสติ, ตสฺส สติ ปสฺสาสํ อุปคนฺตฺวา ติฏฺตีติ อตฺโถ. ปริปุณฺณาติ ฌานวิปสฺสนามคฺคปรมฺปราย อรหตฺตมคฺคปฺปตฺติยา ปริปุณฺณา. เตเยว หิ ฌานวิปสฺสนามคฺคธมฺเม สนฺธาย ปริคฺคหฏฺเนาติอาทิมาห. เต หิ ธมฺมา อิมินา โยคินา ปริคฺคยฺหมานตฺตา ปริคฺคหา, เตน ปริคฺคหฏฺเน ปริปุณฺณา. ตตฺถ สพฺเพสํ จิตฺตเจตสิกานํ อฺมฺปริวารตฺตา ปริวารฏฺเน ปริปุณฺณา. ภาวนาปาริปูริวเสน ปริปูรฏฺเน ปริปุณฺณา. จตสฺโส ภาวนาติอาทีนิ สุภาวิตาติ วุตฺตปทสฺส อตฺถวเสน วุตฺตานิ. จตสฺโส ภาวนา เหฏฺา วุตฺตาเยว. ยานีกตาติ ยุตฺตยานสทิสา กตา. วตฺถุกตาติ ปติฏฺฏฺเน วตฺถุสทิสา กตา. อนุฏฺิตาติ ปจฺจุปฏฺิตา. ปริจิตาติ สมนฺตโต จิตา อุปจิตา. สุสมารทฺธาติ สุฏฺุ สมารทฺธา สุกตา. ยตฺถ ยตฺถ อากงฺขตีติ เยสุ เยสุ ฌาเนสุ ยาสุ ยาสุ วิปสฺสนาสุ สเจ อิจฺฉติ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ เตสุ ฌาเนสุ ตาสุ ตาสุ วิปสฺสนาสุ. วสิปฺปตฺโตติ วสีภาวํ พหุภาวํ ปตฺโต. พลปฺปตฺโตติ สมถวิปสฺสนาพลปฺปตฺโต. เวสารชฺชปฺปตฺโตติ วิสารทภาวํ ปฏุภาวํ ปตฺโต. เต ธมฺมาติ สมถวิปสฺสนา ธมฺมา. อาวชฺชนปฏิพทฺธาติ อาวชฺชนายตฺตา, อาวชฺชิตมตฺเตเยว ตสฺส สนฺตาเนน, าเณน วา สมฺปโยคํ คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. อากงฺขปฏิพทฺธาติ รุจิอายตฺตา, โรจิตมตฺเตเยว วุตฺตนเยน สมฺปโยคํ คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. มนสิกาโร ปเนตฺถ อาวชฺชนาย จิตฺตุปฺปาโท. อากงฺขนาย เววจนวเสน อตฺถวิวรณตฺถํ วุตฺโต. เตน วุจฺจติ ยานีกตาติ เอวํ กตตฺตาเยว เต ยุตฺตยานสทิสา กตา โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.

ยสฺมึ ยสฺมึ วตฺถุสฺมินฺติ โสฬสสุ วตฺถูสุ เอเกกสฺมึ. สฺวาธิฏฺิตนฺติ สุปฺปติฏฺิตํ. สูปฏฺิตาติ สุฏฺุ อุปฏฺิตา. สมฺปยุตฺตจิตฺตสตีนํ สเหว สกสกกิจฺจกรณโต อนุโลมปฏิโลมวเสน โยเชตฺวา เต ทฺเว ธมฺมา ทสฺสิตา. เตน วุจฺจติ วตฺถุกตาติ เอวํ ภูตตฺตาเยว กตปติฏฺา โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. เยน เยน จิตฺตํ อภินีหรตีติ ปุพฺพปฺปวตฺติโต อปเนตฺวา ยตฺถ ยตฺถ ภาวนาวิเสเส จิตฺตํ อุปเนติ. เตน เตน สติ อนุปริวตฺตตีติ ตสฺมึ ตสฺมึเยว ภาวนาวิเสเส สติ อนุกูลา หุตฺวา ปุพฺพปฺปวตฺติโต นิวตฺติตฺวา ปวตฺตติ. ‘‘เยน, เตนา’’ติ เจตฺถ ‘‘เยน ภควา เตนุปสงฺกมี’’ติอาทีสุ (ขุ. ปา. ๕.๑; สุ. นิ. มงฺคลสุตฺต) วิย ภุมฺมตฺโถ เวทิตพฺโพ. เตน วุจฺจติ อนุฏฺิตาติ เอวํ กรณโตเยว ตํ ตํ ภาวนํ อนุคนฺตฺวา ิตา โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อานาปานสฺสติยา สติปธานตฺตา วตฺถุกตานุฏฺิตปเทสุ สติยา สห โยชนา กตาติ เวทิตพฺพา.

ยสฺมา ปน ปริปุณฺณาเยว ปริจิตา โหนฺติ วฑฺฒิตา ลทฺธาเสวนา, ตสฺมา ‘‘ปริปุณฺณา’’ติปเท วุตฺตา ตโย อตฺถา ‘‘ปริจิตา’’ติปเทปิ วุตฺตา, จตุตฺโถ วิเสสตฺโถปิ วุตฺโต. ตตฺถ สติยา ปริคฺคณฺหนฺโตติ สมฺปยุตฺตาย, ปุพฺพภาคาย วา สติยา ปริคฺคเหตพฺเพ ปริคฺคณฺหนฺโต โยคี. ชินาติ ปาปเก อกุสเล ธมฺเมติ สมุจฺเฉทวเสน ลามเก กิเลเส ชินาติ อภิภวติ. อยฺจ ปุคฺคลาธิฏฺานา ธมฺมเทสนา. ธมฺเมสุ หิ ชินนฺเตสุ ตํธมฺมสมงฺคีปุคฺคโลปิ ชินาติ นาม. เต จ ธมฺมา สตึ อวิหาย อตฺตโน ปวตฺติกฺขเณ ชินิตุมารทฺธา ชิตาติ วุจฺจนฺติ ยถา ‘‘ภุฺชิตุมารทฺโธ ภุตฺโต’’ติ วุจฺจติ. ลกฺขณํ ปเนตฺถ สทฺทสตฺถโต เวทิตพฺพํ. เอวํ สนฺเตปิ ‘‘ปริชิตา’’ติ วตฺตพฺเพ ช-การสฺส จ-การํ กตฺวา ‘‘ปริจิตา’’ติ วุตฺตํ, ยถา สมฺมา คโท อสฺสาติ สุคโตติ อตฺถวิกปฺเป ท-การสฺส ต-กาโร นิรุตฺติลกฺขเณน กโต, เอวมิธาปิ เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป ปริจิตาติ ปทํ กตฺตุสาธนํ, ปุริมานิ ตีณิ กมฺมสาธนานิ.

จตฺตาโร สุสมารทฺธาติ จตฺตาโร สุสมารทฺธตฺถาติ วุตฺตํ โหติ, อตฺถสทฺทสฺส โลโป ทฏฺพฺโพ. สุสมารทฺธาติ ปทสฺส อตฺถาปิ หิ อิธ สุสมารทฺธาติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา, สุสมารทฺธธมฺมา วา. จตุรตฺถเภทโต จตฺตาโรติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา, น ธมฺมเภทโต. ยสฺมา ปน สุภาวิตาเยว สุสมารทฺธา โหนฺติ, น อฺเ, ตสฺมา ตโย ภาวนตฺถา อิธาปิ วุตฺตา. อาเสวนตฺโถปิ ตีสุ วุตฺเตสุ วุตฺโตเยว โหติ, ตสฺมา ตํ อวตฺวา ตปฺปจฺจนีกานํ สุสมูหตตฺโถ วุตฺโต. ปจฺจนีกสมุคฺฆาเตน หิ อารทฺธปริโยสานํ ปฺายติ, เตน สุสมารทฺธสฺส สิขาปฺปตฺโต อตฺโถ วุตฺโต โหติ. ตตฺถ ตปฺปจฺจนีกานนฺติ เตสํ ฌานวิปสฺสนามคฺคานํ ปฏิปกฺขภูตานํ. กิเลสานนฺติ กามจฺฉนฺทาทีนํ นิจฺจสฺาทิสมฺปยุตฺตานํ สกฺกายทิฏฺาทีนฺจ. สุสมูหตตฺตาติ วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุจฺเฉทวเสน สุฏฺุ สมูหตตฺตา นาสิตตฺตา. โปตฺถเกสุ ปน ‘‘สุสมุคฺฆาตตฺตา’’ติ ลิขนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ.

๑๖๑. ปุน ตสฺเสว ปทสฺส อฺมฺปิ อตฺถวิกปฺปํ ทสฺเสนฺโต สุสมนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ตตฺถ ชาตาติ ตสฺมึ สิขาปฺปตฺตภาวนาวิเสเส ชาตา. อนวชฺชาติ กิเลสานํ อารมฺมณภาวานุปคมเนน กิเลสโทสวิรหิตา. กุสลาติ ชาติวเสน กุสลา. โพธิปกฺขิยาติ พุชฺฌนฏฺเน โพธีติ ลทฺธนามสฺส อริยสฺส ปกฺเข ภวตฺตา โพธิปกฺขิยา. ปกฺเข ภวตฺตาติ หิ อุปการภาเว ิตตฺตา. เต จ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๕; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๒๒; มิ. ป. ๕.๔.๑) สตฺตตึส ธมฺมา. อิทํ สมนฺติ อิทํ มคฺคกฺขเณ ธมฺมชาตํ สมุจฺเฉทวเสน กิเลเส สเมติ วินาเสตีติ สมํ นาม. นิโรโธ นิพฺพานนฺติ ทุกฺขนิโรธตฺตา นิโรโธ, วานสงฺขาตาย ตณฺหาย อภาวา นิพฺพานํ. อิทํ สุสมนฺติ อิทํ นิพฺพานํ สพฺพสงฺขตวิสมาปคตตฺตา สุฏฺุ สมนฺติ สุสมํ นาม. าตนฺติ โพธิปกฺขิยสงฺขาตํ สมํ อสมฺโมหโต าเณน าตํ, นิพฺพานสงฺขาตํ สุสมํ อารมฺมณโต าเณน าตํ. ตเทว ทฺวยํ เตเนว จกฺขุนา วิย ทิฏฺํ. วิทิตนฺติ ตเทว ทฺวยํ สนฺตาเน อุปฺปาทเนน อารมฺมณกรเณน จ ปฏิลทฺธํ. าตํ วิย ปฺาย สจฺฉิกตํ ผสฺสิตฺจ. ‘‘อสลฺลีนํ อสมฺมุฏฺา อสารทฺโธ เอกคฺค’’นฺติ ปุริมสฺส ปุริมสฺส ปทสฺส อตฺถปฺปกาสนํ. ตตฺถ อารทฺธนฺติ ปฏฺปิตํ. อสลฺลีนนฺติ อสงฺกุจิตํ. อุปฏฺิตาติ อุปคนฺตฺวา ิตา. อสมฺมุฏฺาติ อวินฏฺา. ปสฺสทฺโธติ นิพฺพุโต. อสารทฺโธติ นิทฺทรโถ. สมาหิตนฺติ สมํ ปิตํ. เอกคฺคนฺติ อวิกฺขิตฺตํ.

‘‘จตฺตาโร สุสมารทฺธา’’ติอาทิ สกลสฺส สุสมารทฺธวจนสฺส มูลตฺโถ. ‘‘อตฺถิ สม’’นฺติอาทิ ปน สุสมวจนสฺส, ‘‘าต’’นฺติอาทิ อารทฺธวจนสฺส วิกปฺปตฺถา. ตตฺถายํ ปทตฺถสํสนฺทนา – ‘‘สมา จ สุสมา จ สมสุสมา’’ติ วตฺตพฺเพ เอกเทสสรูเปกเสสํ กตฺวา ‘‘สุสมา’’ อิจฺเจว วุตฺตา ยถา นามฺจ รูปฺจ นามรูปฺจ นามรูปนฺติ. ‘‘อิทํ สมํ, อิทํ สุสม’’นฺติ ปน อนฺาเปกฺขํ กตฺวา นปุํสกวจนํ กตํ. ยสฺมา ปน าตมฺปิ ทิฏฺนฺติ วุจฺจติ, ทิฏฺฺจ อารทฺธฺจ อตฺถโต เอกํ. วิทิตสจฺฉิกตผสฺสิตานิ ปน าตเววจนานิ, ตสฺมา าตนฺติ อารทฺธตฺโถเยว วุตฺโต โหติ.

อารทฺธํ โหติ วีริยํ อสลฺลีนนฺติ อยํ ปน อารทฺธวจนสฺส อุชุกตฺโถเยว. อุปฏฺิตา สตีติอาทีนิ ปน สมฺปยุตฺตวีริยสฺส อุปการกธมฺมทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ, น อารทฺธวจนสฺส อตฺถทสฺสนตฺถํ. ปุริเมน อตฺเถน สุฏฺุ สมารทฺธาติ สุสมารทฺธา จ, อิมินา อตฺเถน สุสมา อารทฺธาติ สุสมารทฺธา จ เอกเสเส กเต ‘‘สุสมารทฺธา’’ติ วุจฺจนฺติ. อิมมตฺถํ ปริคฺคเหตฺวา ‘‘เตน วุจฺจติ สุสมารทฺธา’’ติ วุตฺตํ.

อนุปุพฺพนฺติ ยถานุกฺกเมนาติ อตฺโถ, ปุพฺพํ ปุพฺพํ อนูติ วุตฺตํ โหติ. ทีฆํ อสฺสาสวเสนาติ ทีฆนฺติ วุตฺตอสฺสาสวเสน. ปุริมา ปุริมาติ ปุริมา ปุริมา สติ. เอเตน ปุพฺพนฺติปทสฺส อตฺโถ วุตฺโต โหติ. ปจฺฉิมา ปจฺฉิมาติ สติเยว. เอเตน อนูติปทสฺส อตฺโถ วุตฺโต โหติ. อุภเยน ปุพฺพฺจ อนุ จ ปริจิตาติ อตฺโถ วุตฺโต โหติ. อุปริ โสฬส วตฺถูนิ วิตฺถาเรตฺวา วจนโต อิธ สงฺขิปิตฺวา ‘‘ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี’’ติ อนฺติมเมว ทสฺสิตํ. ยสฺมา สิขาปฺปตฺตภาวนสฺส สพฺพาปิ อานาปานสฺสติโย ปุนปฺปุนํ ยถารุจิ ปวตฺตนโต อนุปริจิตาปิ โหนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อฺมฺํ ปริจิตา เจว โหนฺติ อนุปริจิตา จา’’ติ.

ยถตฺถาติ ยถาสภาวตฺถา. อตฺตทมถตฺโถติ อรหตฺตมคฺคกฺขเณ อตฺตโน นิพฺพิเสวนตฺโถ. สมถตฺโถติ สีติภาวตฺโถ. ปรินิพฺพาปนตฺโถติ กิเลสปรินิพฺพาเนน. อภิฺตฺโถติ สพฺพธมฺมวเสน. ปริฺตฺถาทโย มคฺคาณกิจฺจวเสน. สจฺจาภิสมยตฺโถ จตุนฺนํ สจฺจานํ เอกปฏิเวธทสฺสนวเสน. นิโรเธ ปติฏฺาปกตฺโถ อารมฺมณกรณวเสน.

พุทฺโธติปทสฺส อภาเวปิ พุทฺเธนาติปเท โย โส พุทฺโธ, ตํ นิทฺทิสิตุกาเมน พุทฺโธติ วุตฺตํ. สยมฺภูติ อุปเทสํ วินา สยเมว ภูโต. อนาจริยโกติ สยมฺภูปทสฺส อตฺถวิวรณํ. โย หิ อาจริยํ วินา สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ, โส สยมฺภู นาม โหติ. ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสูติอาทิ อนาจริยกภาวสฺส อตฺถปฺปกาสนํ. อนนุสฺสุเตสูติ อาจริยํ อนนุสฺสุเตสุ. สามนฺติ สยเมว. อภิสมฺพุชฺฌีติ ภุสํ สมฺมา ปฏิวิชฺฌิ. ตตฺถ จ สพฺพฺุตํ ปาปุณีติ เตสุ จ สจฺเจสุ สพฺพฺุภาวํ ปาปุณิ. ยถา สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌนฺตา สพฺพฺุโน โหนฺติ, ตถา สจฺจานํ ปฏิวิทฺธตฺตา เอวํ วุตฺตํ. สพฺพฺุตํ ปตฺโตติปิ ปาโ. พเลสุ จ วสีภาวนฺติ ทสสุ จ ตถาคตพเลสุ อิสฺสรภาวํ ปาปุณิ. โย โส เอวํ ภูโต, โส พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ สพฺเพสุ ธมฺเมสุ อปฺปฏิหตาณนิมิตฺตานุตฺตรวิโมกฺขาธิคมปริภาวิตํ ขนฺธสนฺตานํ อุปาทาย ปณฺณตฺติโก, สพฺพฺุตปทฏฺานํ วา สจฺจาภิสมฺโพธิมุปาทาย ปณฺณตฺติโก สตฺตวิเสโส พุทฺโธ. เอตฺตาวตา อตฺถโต พุทฺธวิภาวนา กตา โหติ.

๑๖๒. อิทานิ พฺยฺชนโต วิภาเวนฺโต พุทฺโธติ เกนฏฺเน พุทฺโธติอาทิมาห. ตตฺถ ยถา โลเก อวคนฺตา อวคโตติ วุจฺจติ, เอวํ พุชฺฌิตา สจฺจานีติ พุทฺโธ. ยถา ปณฺณโสสา วาตา ปณฺณสุสาติ วุจฺจนฺติ, เอวํ โพเธตา ปชายาติ พุทฺโธ. สพฺพฺุตาย พุทฺโธติ สพฺพธมฺมพุชฺฌนสมตฺถาย พุทฺธิยา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. สพฺพทสฺสาวิตาย พุทฺโธติ สพฺพธมฺมานํ าณจกฺขุนา ทิฏฺตฺตา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. อนฺเนยฺยตาย พุทฺโธติ อฺเน อโพธนียโต สยเมว พุทฺธตฺตา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. วิสวิตาย พุทฺโธติ นานาคุณวิสวนโต ปทุมมิว วิกสนฏฺเน พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. ขีณาสวสงฺขาเตน พุทฺโธติอาทีหิ ฉหิ ปริยาเยหิ จิตฺตสงฺโกจกรธมฺมปฺปหาเนน นิทฺทกฺขยวิพุทฺโธ ปุริโส วิย สพฺพกิเลสนิทฺทกฺขยวิพุทฺธตฺตา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. สงฺขา สงฺขาตนฺติ อตฺถโต เอกตฺตา สงฺขาเตนาติ วจนสฺส โกฏฺาเสนาติ อตฺโถ. ตณฺหาเลปทิฏฺิเลปาภาเวน นิรุปเลปสงฺขาเตน. สวาสนานํ สพฺพกิเลสานํ ปหีนตฺตา เอกนฺตวจเนน วิเสเสตฺวา เอกนฺตวีตราโคติอาทิ วุตฺตํ. เอกนฺตนิกฺกิเลโสติ ราคโทสโมหาวเสเสหิ สพฺพกิเลเสหิ นิกฺกิเลโส. เอกายนมคฺคํ คโตติ พุทฺโธติ คมนตฺถานํ ธาตูนํ พุชฺฌนตฺถตฺตา พุชฺฌนตฺถาปิ ธาตุโย คมนตฺถา โหนฺติ, ตสฺมา เอกายนมคฺคํ คตตฺตา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. เอกายนมคฺโคติ เจตฺถ –

‘‘มคฺโค ปนฺโถ ปโถ ปชฺโช, อฺชสํ วฏุมายนํ;

นาวา อุตฺตรเสตุ จ, กุลฺโล จ ภิสิ สงฺกโม’’ติ . (จูฬนิ. ปารายนตฺถุติคาถานิทฺเทส ๑๐๑) –

มคฺคสฺส พหูสุ นาเมสุ อยนนาเมน วุตฺโต. ตสฺมา เอกมคฺคภูโต มคฺโค, น ทฺเวธาปถภูโตติ อตฺโถ. อถ วา เอเกน อยิตพฺโพ มคฺโคติ เอกายนมคฺโค. เอเกนาติ คณสงฺคณิกํ ปหาย ปวิเวเกน จิตฺเตน. อยิตพฺโพติ ปฏิปชฺชิตพฺโพ. อยนฺติ วา เอเตนาติ อยโน, สํสารโต นิพฺพานํ คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. เอเกสํ อยโน เอกายโน. เอเกติ เสฏฺา, สพฺพสตฺตเสฏฺา จ สมฺมาสมฺพุทฺธา, ตสฺมา เอกายนมคฺโคติ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ อยนภูโต มคฺโคติ วุตฺตํ โหติ. อยตีติ วา อยโน, คจฺฉติ ปวตฺตตีติ อตฺโถ. เอกสฺมึ อยโน มคฺโคติ เอกายนมคฺโค, เอกสฺมึเยว พุทฺธสาสเน ปวตฺตมาโน มคฺโค, น อฺตฺถาติ วุตฺตํ โหติ. อปิ จ เอกํ อยตีติ เอกายโน, ปุพฺพภาเค นานามุขภาวนานยปฺปวตฺโตปิ อปรภาเค เอกํ นิพฺพานเมว คจฺฉตีติ วุตฺตํ โหติ, ตสฺมา เอกายนมคฺโคติ เอกนิพฺพานคมนมคฺโคติ อตฺโถ. เอโก อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ พุทฺโธติ น ปเรหิ พุทฺธตฺตา พุทฺโธ, กึ ปน สยเมว อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺธตฺตา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. อพุทฺธิวิหตตฺตา พุทฺธิปฏิลาภา พุทฺโธติ พุทฺธิ พุทฺธํ โพโธติ ปริยายวจนเมตํ. ตตฺถ ยถา นีลรตฺตคุณโยคา นีโล ปโฏ รตฺโต ปโฏติ วุจฺจติ, เอวํ พุทฺธคุณโยคา พุทฺโธติ าเปตุํ วุตฺตํ.

ตโต ปรํ พุทฺโธติ เนตํ นามนฺติอาทิ ‘‘อตฺถมนุคตา อยํ ปฺตฺตี’’ติ าปนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ มิตฺตา สหายา. อมจฺจา ภจฺจา. าตี ปิตุปกฺขิกา. สาโลหิตา มาตุปกฺขิกา. สมณา ปพฺพชฺชูปคตา. พฺราหฺมณา โภวาทิโน, สมิตปาปพาหิตปาปา วา. เทวตา สกฺกาทโย พฺรหฺมาโน จ. วิโมกฺขนฺติกนฺติ วิโมกฺโข อรหตฺตมคฺโค, วิโมกฺขสฺส อนฺโต อรหตฺตผลํ, ตสฺมึ วิโมกฺขนฺเต ภวํ วิโมกฺขนฺติกํ นาม. สพฺพฺุภาโว หิ อรหตฺตมคฺเคน สิชฺฌติ, อรหตฺตผโลทเย สิทฺโธ โหติ, ตสฺมา สพฺพฺุภาโว วิโมกฺขนฺเต ภโว โหติ. ตํ เนมิตฺติกมฺปิ นามํ วิโมกฺขนฺเต ภวํ นาม โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘วิโมกฺขนฺติกเมตํ พุทฺธานํ ภควนฺตาน’’นฺติ. โพธิยา มูเล สห สพฺพฺุตฺาณสฺส ปฏิลาภาติ มหาโพธิรุกฺขมูเล ยถาวุตฺตกฺขเณ สพฺพฺุตฺาณสฺส ปฏิลาเภน สห. สจฺฉิกา ปฺตฺตีติ อรหตฺตผลสจฺฉิกิริยาย, สพฺพธมฺมสจฺฉิกิริยาย วา ชาตา ปฺตฺติ. ยทิทํ พุทฺโธติ ยา อยํ พุทฺโธติ ปฺตฺติ, อยํ พฺยฺชนโต พุทฺธวิภาวนา.

‘‘ยถา พุทฺเธน เทสิตา’’ติคาถาปาทสฺส ปน อิมินา ปทภาชนีเย วุตฺตตฺเถน อยํ สํสนฺทนา – อานาปานสฺสติโย จ ยถา พุทฺเธน เทสิตา, เยน ปกาเรน เทสิตา. ยถาสทฺเทน สงฺคหิตา ทส ยถตฺถา จ ยถา พุทฺเธน เทสิตา, เยน ปกาเรน เทสิตาติ ปการตฺถสฺส จ ยถาสทฺทสฺส, สภาวตฺถสฺส จ ยถาสทฺทสฺส สรูเปกเสสวเสน เอกเสสํ กตฺวา ‘‘ยถา’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปทภาชนีเย ปนสฺส ยถตฺเถสุ เอเกกสฺส โยชนาวเสน ‘‘เทสิโต’’ติ เอกวจนํ กตํ.

‘‘โสติ คหฏฺโ วา โหติ ปพฺพชิโต วา’’ติ วุตฺตตฺตา อาทิปเทปิ ยสฺส คหฏฺสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วาติ วุตฺตเมว โหติ. โลกตฺโถ วุตฺโตเยว. ปภาเสตีติ อตฺตโน าณสฺส ปากฏํ กโรตีติ อตฺโถ. อภิสมฺพุทฺธตฺตาติ สาวกปารมิาเณนปิ ปฏิวิทฺธภาเวน. โอภาเสตีติ กามาวจรภูตํ โลกํ. ภาเสตีติ รูปาวจรภูตํ โลกํ. ปภาเสตีติ อรูปาวจรภูตํ โลกํ.

อริยาณนฺติ อรหตฺตมคฺคาณํ. มหิกา มุตฺโตติ มหิกาย มุตฺโต. มหิกาติ นีหาโร วุจฺจติ. มหิยา มุตฺโตติปิ ปาโ. ธูมรชา มุตฺโตติ ธูมโต จ รชโต จ มุตฺโต. ราหุคหณา วิปฺปมุตฺโตติ ราหุโน จนฺทสฺส อาสนฺนุปกฺกิเลสตฺตา ทฺวีหิ อุปสคฺเคหิ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. ภาสเต อิติ สโอภาสฏฺเน. ตปเต อิติ สเตชฏฺเน. วิโรจเต อิติ รุจิรฏฺเน. เอวเมวนฺติ เอวํ เอวํ. ยสฺมา ปน จนฺโทปิ สยํ ภาสนฺโต ตปนฺโต วิโรจนฺโต อิมํ โอกาสโลกํ โอภาเสติ, ภิกฺขุ จ ปฺาย ภาสนฺโต ตปนฺโต วิโรจนฺโต อิมํ ขนฺธาทิโลกํ ปฺาย โอภาเสติ, ตสฺมา อุภยตฺราปิ ‘‘ภาเสตี’’ติ อวตฺวา ‘‘ภาสเต’’ อิจฺเจว วุตฺตํ. เอวฺหิ วุตฺเต เหตุอตฺโถปิ วุตฺโต โหติ. อติวิสทตราภสูริโยปมํ อคฺคเหตฺวา กสฺมา จนฺโทปมา คหิตาติ เจ? สพฺพกิเลสปริฬาหวูปสเมน สนฺตสฺส ภิกฺขุโน สนฺตคุณยุตฺตจนฺโทปมา อนุจฺฉวิกาติ คหิตาติ เวทิตพฺพํ. เอวํ อานาปานสฺสติภาวนาสิทฺธิสาธกํ โยคาวจรํ ถุนิตฺวา อิมานิ เตรส โวทาเน าณานีติ ตานิ าณานิ นิคเมตฺวา ทสฺเสตีติ.

โวทานาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สโตการิาณนิทฺเทสวณฺณนา

๑๖๓. สโตการิาณนิทฺเทเส มาติกายํ อิธ ภิกฺขูติ อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขุ. อยฺหิ เอตฺถ อิธ-สทฺโท สพฺพปฺปการอานาปานสฺสติสมาธินิพฺพตฺตกสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิสฺสยภูตสาสนปริทีปโน, อฺสาสนสฺส ตถาภาวปฏิเสธโน จ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ…เป… สุฺา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อฺเหี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙; อ. นิ. ๔.๒๔๑).

อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุฺาคารคโต วาติ อิทมสฺส อานาปานสฺสติสมาธิ ภาวนานุรูปเสนาสนปริคฺคหปริทีปนํ. อิมสฺส หิ ภิกฺขุโน ทีฆรตฺตํ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ อนุวิสฏํ จิตฺตํ อานาปานสฺสติสมาธิอารมฺมณํ อภิรุหิตุํ น อิจฺฉติ, กูฏโคณยุตฺตรโถ วิย อุปฺปถเมว ธาวติ. ตสฺมา เสยฺยถาปิ นาม โคโป กูฏเธนุยา สพฺพํ ขีรํ ปิวิตฺวา วฑฺฒิตํ กูฏวจฺฉํ ทเมตุกาโม เธนุโต อปเนตฺวา เอกมนฺเต มหนฺตํ ถมฺภํ นิขณิตฺวา ตตฺถ โยตฺเตน พนฺเธยฺย, อถสฺส โส วจฺโฉ อิโต จิโต จ วิปฺผนฺทิตฺวา ปลายิตุํ อสกฺโกนฺโต ตเมว ถมฺภํ อุปนิสีเทยฺย วา อุปนิปชฺเชยฺย วา, เอวเมว อิมินาปิ ภิกฺขุนา ทีฆรตฺตํ รูปารมฺมณาทิรสปานวฑฺฒิตํ ทุฏฺจิตฺตํ ทเมตุกาเมน รูปาทิอารมฺมณโต อปเนตฺวา อรฺํ วา รุกฺขมูลํ วา สุฺาคารํ วา ปเวเสตฺวา ตตฺถ อสฺสาสปสฺสาสถมฺเภ สติโยตฺเตน พนฺธิตพฺพํ. เอวมสฺส ตํ จิตฺตํ อิโต จิโต จ วิปฺผนฺทิตฺวาปิ ปุพฺเพ อาจิณฺณารมฺมณํ อลภมานํ สติโยตฺตํ ฉินฺทิตฺวา ปลายิตุํ อสกฺโกนฺตํ ตเมวารมฺมณํ อุปจารปฺปนาวเสน อุปนิสีทติ เจว อุปนิปชฺชติ จ. เตนาหุ โปราณา –

‘‘ยถา ถมฺเภ นิพนฺเธยฺย, วจฺฉํ ทมํ นโร อิธ;

พนฺเธยฺเยวํ สกํ จิตฺตํ, สติยารมฺมเณ ทฬฺห’’นฺติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๑๗; ปารา. อฏฺ. ๒.๑๖๕; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๔; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๗) –

เอวมสฺส ตํ เสนาสนํ ภาวนานุรูปํ โหติ. อถ วา ยสฺมา อิทํ กมฺมฏฺานปฺปเภเท มุทฺธภูตํ สพฺพพุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกานํ วิเสสาธิคมทิฏฺธมฺมสุขวิหารปทฏฺานํ อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ อิตฺถิปุริสหตฺถิอสฺสาทิสทฺทสมากุลํ คามนฺตํ อปริจฺจชิตฺวา น สุกรํ ภาเวตุํ สทฺทกณฺฏกตฺตา ฌานสฺส. อคามเก ปน อรฺเ สุกรํ โยคาวจเรน อิทํ กมฺมฏฺานํ ปริคฺคเหตฺวา อานาปานจตุกฺกชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตเทว ปาทกํ กตฺวา สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อคฺคผลํ อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ. ตสฺมา ตสฺส อนุรูปํ เสนาสนํ อุปทิสนฺโต ภควา ‘‘อรฺคโต วา’’ติอาทิมาห, ตเถว เถโร.

วตฺถุวิชฺชาจริโย วิย หิ ภควา, โส ยถา วตฺถุวิชฺชาจริโย นครภูมึ ปสฺสิตฺวา สุฏฺุ อุปปริกฺขิตฺวา ‘‘เอตฺถ นครํ มาเปถา’’ติ อุปทิสติ, โสตฺถินา จ นคเร นิฏฺิเต ราชกุลโต มหาสกฺการํ ลภติ, เอวเมวํ โยคาวจรสฺส อนุรูปํ เสนาสนํ อุปปริกฺขิตฺวา ‘‘เอตฺถ กมฺมฏฺานํ อนุยุฺชิตพฺพ’’นฺติ อุปทิสติ, ตโต ตตฺถ กมฺมฏฺานมนุยุตฺเตน โยคินา กเมน อรหตฺเต ปตฺเต ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต โส ภควา’’ติ มหนฺตํ สกฺการํ ลภติ. อยํ ปน ภิกฺขุ ‘‘ทีปิสทิโส’’ติ วุจฺจติ. ยถา หิ มหาทีปิราชา อรฺเ ติณคหนํ วา วนคหนํ วา ปพฺพตคหนํ วา นิสฺสาย นิลียิตฺวา วนมหึสโคกณฺณสูกราทโย มิเค คณฺหาติ, เอวเมวํ อยํ อรฺาทีสุ กมฺมฏฺานมนุยุฺชนฺโต ภิกฺขุ ยถากฺกเมน โสตาปตฺติสกทาคามิอนาคามิอรหตฺตมคฺเค เจว อริยผลานิ จ คณฺหาตีติ เวทิตพฺโพ. เตนาหุ โปราณา –

‘‘ยถาปิ ทีปิโก นาม, นิลียิตฺวา คณฺหเต มิเค;

ตเถวายํ พุทฺธปุตฺโต, ยุตฺตโยโค วิปสฺสโก;

อรฺํ ปวิสิตฺวาน, คณฺหาติ ผลมุตฺตม’’นฺติ. (มิ. ป. ๖.๑.๕);

เตนสฺส ปรกฺกมชวโยคฺคภูมึ อรฺเสนาสนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อรฺคโต วา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ อรฺคโตติ อุปริ วุตฺตลกฺขณํ ยํกิฺจิ ปวิเวกสุขํ อรฺํ คโต. รุกฺขมูลคโตติ รุกฺขสมีปํ คโต. สุฺาคารคโตติ สุฺํ วิวิตฺโตกาสํ คโต. เอตฺถ จ เปตฺวา อรฺฺจ รุกฺขมูลฺจ อวเสสสตฺตวิธเสนาสนํ คโตปิ ‘‘สุฺาคารคโต’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. นววิธฺหิ เสนาสนํ. ยถาห – ‘‘โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปุฺช’’นฺติ (วิภ. ๕๐๘). เอวมสฺส อุตุตฺตยานุกูลํ ธาตุจริยานุกูลฺจ อานาปานสฺสติภาวนานุรูปํ เสนาสนํ อุปทิสิตฺวา อลีนานุทฺธจฺจปกฺขิกํ สนฺตมิริยาปถํ อุปทิสนฺโต นิสีทตีติ อาห. อถสฺส นิสชฺชาย ทฬฺหภาวํ อสฺสาสปสฺสาสานํ ปวตฺตนสมตฺถตํ อารมฺมณปริคฺคหูปายฺจ ทสฺเสนฺโต ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวาติอาทิมาห. ตตฺถ ปลฺลงฺกนฺติ สมนฺตโต อูรุพทฺธาสนํ. อาภุชิตฺวาติ พนฺธิตฺวา. อุชุํ กายํ ปณิธายาติ อุปริมสรีรํ อุชุกํ เปตฺวา อฏฺารส ปิฏฺิกณฺฏเก โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาเทตฺวา. เอวฺหิ นิสินฺนสฺส ธมฺมมํสนฺหารูนิ น ปณมนฺติ. อถสฺส ยา เตสํ ปณมนปจฺจยา ขเณ ขเณ เวทนา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ตา น อุปฺปชฺชนฺติ. ตาสุ อนุปฺปชฺชมานาสุ จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, กมฺมฏฺานํ น ปริปตติ, วุทฺธึ ผาตึ อุปคจฺฉติ.

ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวาติ กมฺมฏฺานาภิมุขํ สตึ ปยิตฺวา. โส สโตว อสฺสสติ สโต ปสฺสสตีติ โส ภิกฺขุ เอวํ นิสีทิตฺวา เอวฺจ สตึ อุปฏฺเปตฺวา ตํ สตึ อวิชหนฺโต สโต เอว อสฺสสติ สโต ปสฺสสติ, สโตการี โหตีติ วุตฺตํ โหติ.

อิทานิ เยหิ ปกาเรหิ สโตการี โหติ, เต ปกาเร ทสฺเสตุํ ทีฆํ วา อสฺสสนฺโตติอาทิมาห. ตตฺถ ทีฆํ วา อสฺสสนฺโตติ ทีฆํ วา อสฺสาสํ ปวตฺตยนฺโต. ตถา รสฺสํ. ยา ปน เนสํ ทีฆรสฺสตา, สา กาลวเสน เวทิตพฺพา. กทาจิ หิ มนุสฺสา หตฺถิอหิอาทโย วิย กาลวเสน ทีฆํ อสฺสสนฺติ จ ปสฺสสนฺติ จ, กทาจิ สุนขสสาทโย วิย รสฺสํ. อฺถา หิ จุณฺณวิจุณฺณา อสฺสาสปสฺสาสา ทีฆรสฺสา นาม น โหนฺติ. ตสฺมา เต ทีฆํ กาลํ ปวิสนฺตา จ นิกฺขมนฺตา จ ทีฆา, รสฺสํ กาลํ ปวิสนฺตา จ นิกฺขมนฺตา จ รสฺสาติ เวทิตพฺพา. ตตฺรายํ ภิกฺขุ อุปริ วุตฺเตหิ นวหากาเรหิ ทีฆํ อสฺสสนฺโต จ ปสฺสสนฺโต จ ทีฆํ อสฺสสามิ, ปสฺสสามีติ ปชานาติ, ตถา รสฺสํ.

เอวํ ปชานโต จ –

‘‘ทีโฆ รสฺโส จ อสฺสาโส, ปสฺสาโสปิ จ ตาทิโส;

จตฺตาโร วณฺณา วตฺตนฺติ, นาสิกคฺเคว ภิกฺขุโน’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๑๙; ปารา. อฏฺ. ๒.๑๖๕);

นวนฺนฺจสฺส อาการานํ เอเกนากาเรน กายานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนา สมฺปชฺชตีติ เวทิตพฺพา. สพฺพกายปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. สพฺพกายปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตีติ สกลสฺส อสฺสาสกายสฺสาทิมชฺฌปริโยสานํ วิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต อสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. สกลสฺส ปสฺสาสกายสฺสาทิมชฺฌปริโยสานํ วิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. เอวํ วิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน อสฺสสติ เจว ปสฺสสติ จ. ตสฺมา ‘‘อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ วุจฺจติ. เอกสฺส หิ ภิกฺขุโน จุณฺณวิจุณฺณวิสเฏ (วิสุทฺธิ. ๑.๒๑๙; ปารา. ๒.๑๖๕) อสฺสาสกาเย, ปสฺสาสกาเย วา อาทิ ปากโฏ โหติ, น มชฺฌปริโยสานํ. โส อาทิเมว ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, มชฺฌปริโยสาเน กิลมติ. เอกสฺส มชฺฌํ ปากฏํ โหติ, น อาทิปริโยสานํ. โส มชฺฌเมว ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, อาทิปริโยสาเน กิลมติ. เอกสฺส ปริโยสานํ ปากฏํ โหติ, น อาทิมชฺฌํ. โส ปริโยสานํเยว ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, อาทิมชฺเฌ กิลมติ. เอกสฺส สพฺพํ ปากฏํ โหติ, โส สพฺพมฺปิ ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, น กตฺถจิ กิลมติ. ตาทิเสน ภวิตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘สพฺพกายปฏิสํเวที’’ติอาทิ.

ตตฺถ สิกฺขตีติ เอวํ ฆฏติ วายมติ. โย วา ตถาภูตสฺส สํวโร, อยเมตฺถ อธิสีลสิกฺขา. โย ตถาภูตสฺส สมาธิ, อยํ อธิจิตฺตสิกฺขา. ยา ตถาภูตสฺส ปฺา, อยํ อธิปฺาสิกฺขาติ อิมา ติสฺโส สิกฺขาโย ตสฺมึ อารมฺมเณ ตาย สติยา เตน มนสิกาเรน สิกฺขติ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตตฺถ ยสฺมา ปุริมนเยน เกวลํ อสฺสสิตพฺพํ ปสฺสสิตพฺพเมว จ, น อฺํ กิฺจิ กาตพฺพํ, อิโต ปฏฺาย ปน าณุปฺปาทนาทีสุ โยโค กรณีโย. ตสฺมา ตตฺถ ‘‘อสฺสสามีติ ปชานาติ ปสฺสสามีติ ปชานาติ’’จฺเจว วตฺตมานกาลวเสน ปาฬึ วตฺวา อิโต ปฏฺาย กตฺตพฺพสฺส าณุปฺปาทนาทิโน อา-การสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘สพฺพกายปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’’ติอาทินา นเยน อนาคตกาลวเสน ปาฬิ อาโรปิตาติ เวทิตพฺพา.

ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ…เป… สิกฺขตีติ โอฬาริกํ อสฺสาสปสฺสาสสงฺขาตํ กายสงฺขารํ ปสฺสมฺเภนฺโต ปฏิปฺปสฺสมฺเภนฺโต นิโรเธนฺโต วูปสเมนฺโต อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ.

ตตฺเรวํ โอฬาริกสุขุมตา จ ปสฺสทฺธิ จ เวทิตพฺพา – อิมสฺส หิ ภิกฺขุโน ปุพฺเพ อปริคฺคหิตกาเล กาโย จ จิตฺตฺจ สทรถา โหนฺติ โอฬาริกา. กายจิตฺตานํ โอฬาริกตฺเต อวูปสนฺเต อสฺสาสปสฺสาสาปิ โอฬาริกา โหนฺติ, พลวตรา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ, นาสิกา นปฺปโหติ, มุเขน อสฺสสนฺโตปิ ปสฺสสนฺโตปิ ติฏฺติ. ยทา ปนสฺส กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ปริคฺคหิตา โหนฺติ, ตทา เต สนฺตา โหนฺติ วูปสนฺตา. เตสุ วูปสนฺเตสุ อสฺสาสปสฺสาสา สุขุมา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ, ‘‘อตฺถิ นุ โข, นตฺถี’’ติ วิเจตพฺพาการปฺปตฺตา โหนฺติ. เสยฺยถาปิ ปุริสสฺส ธาวิตฺวา ปพฺพตา วา โอโรหิตฺวา มหาภารํ วา สีสโต โอโรเปตฺวา ิตสฺส โอฬาริกา อสฺสาสปสฺสาสา โหนฺติ, นาสิกา นปฺปโหติ, มุเขน อสฺสสนฺโตปิ ปสฺสสนฺโตปิ ติฏฺติ. ยทา ปเนส ตํ ปริสฺสมํ วิโนเทตฺวา นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ อลฺลสาฏกํ หทเย กตฺวา สีตาย ฉายาย นิปนฺโน โหติ, อถสฺส เต อสฺสาสปสฺสาสา สุขุมา โหนฺติ ‘‘อตฺถิ นุ โข, นตฺถี’’ติ วิเจตพฺพาการปฺปตฺตา, เอวเมวํ อิมสฺส ภิกฺขุโน อปริคฺคหิตกาเลติ วิตฺถาเรตพฺพํ. ตถา หิสฺส ปุพฺเพ อปริคฺคหิตกาเล ‘‘โอฬาริโกฬาริเก กายสงฺขาเร ปสฺสมฺเภมี’’ติ อาโภคสมนฺนาหารมนสิกาโร นตฺถิ, ปริคฺคหิตกาเล ปน อตฺถิ. เตนสฺส อปริคฺคหิตกาลโต ปริคฺคหิตกาเล กายสงฺขาโร สุขุโม โหติ. เตนาหุ โปราณา –

‘‘สารทฺเธ กาเย จิตฺเต จ, อธิมตฺตํ ปวตฺตติ;

อสารทฺธมฺหิ กายมฺหิ, สุขุมํ สมฺปวตฺตตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๒๐; ปารา. อฏฺ. ๒.๑๖๕);

ปริคฺคเหปิ โอฬาริโก, ปมชฺฌานูปจาเร สุขุโม. ตสฺมิมฺปิ โอฬาริโก, ปมชฺฌาเน สุขุโม. ปมชฺฌาเน จ ทุติยชฺฌานูปจาเร จ โอฬาริโก, ทุติยชฺฌาเน สุขุโม. ทุติยชฺฌาเน จ ตติยชฺฌานูปจาเร จ โอฬาริโก, ตติยชฺฌาเน สุขุโม. ตติยชฺฌาเน จ จตุตฺถชฺฌานูปจาเร จ โอฬาริโก, จตุตฺถชฺฌาเน อติสุขุโม อปฺปวตฺติเมว ปาปุณาติ. อิทํ ตาว ทีฆภาณกสํยุตฺตภาณกานํ มตํ.

มชฺฌิมภาณกา ปน ‘‘ปมชฺฌาเน โอฬาริโก, ทุติยชฺฌานูปจาเร สุขุโม’’ติ เอวํ เหฏฺิมเหฏฺิมชฺฌานโต อุปรูปริชฺฌานูปจาเรปิ สุขุมตรํ อิจฺฉนฺติ. สพฺเพสํเยว ปน มเตน อปริคฺคหิตกาเล ปวตฺตกายสงฺขาโร ปริคฺคหิตกาเล ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ปริคฺคหิตกาเล ปวตฺตกายสงฺขาโร ปมชฺฌานูปจาเร…เป… จตุตฺถชฺฌานูปจาเร ปวตฺตกายสงฺขาโร จตุตฺถชฺฌาเน ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อยํ ตาว สมเถ นโย.

วิปสฺสนายํ ปน อปริคฺคหิตกาเล ปวตฺตกายสงฺขาโร โอฬาริโก, มหาภูตปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, อุปาทารูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, สกลรูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, อรูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, รูปารูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, ปจฺจยปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสเน สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, ลกฺขณารมฺมณิก วิปสฺสนาย สุขุโม. โสปิ ทุพฺพลวิปสฺสนาย โอฬาริโก, พลววิปสฺสนาย สุขุโม. ตตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ปุริมสฺส ปุริมสฺส ปจฺฉิเมน ปจฺฉิเมน ปฏิปฺปสฺสทฺธิ เวทิตพฺพา. เอวเมตฺถ โอฬาริกสุขุมตา ปฏิปฺปสฺสทฺธิ จ เวทิตพฺพา. อยํ ตาเวตฺถ กายานุปสฺสนาวเสน วุตฺตสฺส ปมจตุกฺกสฺส อนุปุพฺพปทวณฺณนา.

ยสฺมา ปเนตฺถ อิทเมว จตุกฺกํ อาทิกมฺมิกสฺส กมฺมฏฺานวเสน วุตฺตํ, อิตรานิ ปน ตีณิ จตุกฺกานิ เอตฺถ ปตฺตชฺฌานสฺส เวทนาจิตฺตธมฺมานุปสฺสนาวเสน, ตสฺมา อิมํ กมฺมฏฺานํ ภาเวตฺวา อานาปานจตุกฺกชฺฌานปทฏฺานาย วิปสฺสนาย สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิตุกาเมน อาทิกมฺมิเกน กุลปุตฺเตน วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตนเยน สีลปริโสธนาทีนิ สพฺพกิจฺจานิ กตฺวา สตฺตงฺคสมนฺนาคตสฺส อาจริยสฺส สนฺติเก ปฺจสนฺธิกํ กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตพฺพํ. ตตฺริเม ปฺจ สนฺธโย อุคฺคโห ปริปุจฺฉา อุปฏฺานํ อปฺปนา ลกฺขณนฺติ. ตตฺถ อุคฺคโห นาม กมฺมฏฺานสฺส อุคฺคณฺหนํ. ปริปุจฺฉา นาม กมฺมฏฺานสฺส ปริปุจฺฉนํ. อุปฏฺานํ นาม กมฺมฏฺานสฺส อุปฏฺานํ. อปฺปนา นาม กมฺมฏฺานสฺส อปฺปนา. ลกฺขณํ นาม กมฺมฏฺานสฺส ลกฺขณํ, ‘‘เอวํ ลกฺขณมิทํ กมฺมฏฺาน’’นฺติ กมฺมฏฺานสภาวูปธารณนฺติ วุตฺตํ โหติ.

เอวํ ปฺจสนฺธิกํ กมฺมฏฺานํ อุคฺคณฺหนฺโต อตฺตนาปิ น กิลมติ, อาจริยมฺปิ น วิเหเสติ. ตสฺมา โถกํ อุทฺทิสาเปตฺวา พหุํ กาลํ สชฺฌายิตฺวา เอวํ ปฺจสนฺธิกํ กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตฺวา อาจริยสฺส สนฺติเก วา อฺตฺถ วา อฏฺารส โทสยุตฺเต วิหาเร วชฺเชตฺวา ปฺจงฺคสมนฺนาคเต เสนาสเน วสนฺเตน อุปจฺฉินฺนขุทฺทกปลิโพเธน กตภตฺตกิจฺเจน ภตฺตสมฺมทํ ปฏิวิโนเทตฺวา สุขนิสินฺเนน รตนตฺตยคุณานุสฺสรเณน จิตฺตํ สมฺปหํเสตฺวา อาจริยุคฺคหโต เอกปทมฺปิ อปริหาเปนฺเตน อิทํ อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ มนสิ กาตพฺพํ. ตตฺรายํ มนสิการวิธิ –

‘‘คณนา อนุพนฺธนา, ผุสนา ปนา สลฺลกฺขณา;

วิวฏฺฏนา ปาริสุทฺธิ, เตสฺจ ปฏิปสฺสนา’’ติ.

ตตฺถ คณนาติ คณนาเยว. อนุพนฺธนาติ อนุคมนา. ผุสนาติ ผุฏฺฏฺานํ. ปนาติ อปฺปนา. สลฺลกฺขณาติ วิปสฺสนา. วิวฏฺฏนาติ มคฺโค. ปาริสุทฺธีติ ผลํ. เตสฺจ ปฏิปสฺสนาติ ปจฺจเวกฺขณา. ตตฺถ อิมินา อาทิกมฺมิเกน กุลปุตฺเตน ปมํ คณนาย อิทํ กมฺมฏฺานํ มนสิ กาตพฺพํ. คเณนฺเตน ปน ปฺจนฺนํ เหฏฺา น เปตพฺพํ, ทสนฺนํ อุปริ น เนตพฺพํ, อนฺตรา ขณฺฑํ น ทสฺเสตพฺพํ. ปฺจนฺนํ เหฏฺา เปนฺตสฺส หิ สมฺพาเธ โอกาเส จิตฺตุปฺปาโท วิปฺผนฺทติ สมฺพาเธ วเช สนฺนิรุทฺธโคคโณ วิย. ทสนฺนํ อุปริ เนนฺตสฺส คณนนิสฺสิโตว จิตฺตุปฺปาโท โหติ. อนฺตรา ขณฺฑํ ทสฺเสนฺตสฺส ‘‘สิขาปฺปตฺตํ นุ โข เม กมฺมฏฺานํ, โน’’ติ จิตฺตํ วิกมฺปติ, ตสฺมา เอเต โทเส วชฺเชตฺวา คเณตพฺพํ.

คเณนฺเตน จ ปมํ ทนฺธคณนาย ธฺมาปกคณนาย คเณตพฺพํ. ธฺมาปโก หิ นาฬึ ปูเรตฺวา ‘‘เอก’’นฺติ วตฺวา โอกิรติ, ปุน ปูเรนฺโต กิฺจิ กจวรํ ทิสฺวา ฉฑฺเฑนฺโต ‘‘เอกํ เอก’’นฺติ วทติ. เอเสว นโย ทฺเว ทฺเวติอาทีสุ. เอวเมวํ อิมินาปิ อสฺสาสปสฺสาเสสุ โย อุปฏฺาติ, ตํ คเหตฺวา ‘‘เอกํ เอก’’นฺติอาทึ กตฺวา ยาว ‘‘ทส ทสา’’ติ ปวตฺตมานํ ปวตฺตมานํ อุปลกฺเขตฺวาว คเณตพฺพํ. ตสฺส เอวํ คณยโต นิกฺขมนฺตา จ ปวิสนฺตา จ อสฺสาสปสฺสาสา ปากฏา โหนฺติ.

อถาเนน ตํ ทนฺธคณนํ ธฺมาปกคณนํ ปหาย สีฆคณนาย โคปาลกคณนาย คเณตพฺพํ. เฉโก หิ โคปาลโก สกฺขราทโย อุจฺฉงฺเคน คเหตฺวา รชฺชุทณฺฑหตฺโถ ปาโตว วชํ คนฺตฺวา คาโว ปิฏฺิยํ ปหริตฺวา ปลิฆตฺถมฺภมตฺถเก นิสินฺโน ทฺวารํ ปตฺตํ ปตฺตํเยว คาวํ ‘‘เอโก ทฺเว’’ติ สกฺขรํ ขิปิตฺวา ขิปิตฺวา คเณติ. ติยามรตฺตึ สมฺพาเธ โอกาเส ทุกฺขํ วุตฺถโคคโณ นิกฺขมนฺโต อฺมฺํ อุปนิฆํสนฺโต เวเคน เวเคน ปุฺชปุฺโช หุตฺวา นิกฺขมติ. โส เวเคน เวเคน ‘‘ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ ทสา’’ติ คเณติเยว, เอวมสฺสาปิ ปุริมนเยน คณยโต อสฺสาสปสฺสาสา ปากฏา หุตฺวา สีฆํ สีฆํ ปุนปฺปุนํ สฺจรนฺติ. ตโต เตน ‘‘ปุนปฺปุนํ สฺจรนฺตี’’ติ ตฺวา อนฺโต จ พหิ จ อคฺคเหตฺวา ทฺวารปฺปตฺตํ ทฺวารปฺปตฺตํเยว คเหตฺวา ‘‘เอโก ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ, เอโก ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ ฉ, เอโก ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ ฉ สตฺต…เป… อฏฺ นว ทสา’’ติ สีฆํ สีฆํ คเณตพฺพเมว. คณนาปฏิพทฺเธ หิ กมฺมฏฺาเน คณนพเลเนว จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ อริตฺตุปตฺถมฺภนวเสน จณฺฑโสเต นาวาปนมิว.

ตสฺเสวํ สีฆํ สีฆํ คณยโต กมฺมฏฺานํ นิรนฺตรํ ปวตฺตํ วิย หุตฺวา อุปฏฺาติ. อถ ‘‘นิรนฺตรํ ปวตฺตตี’’ติ ตฺวา อนฺโต จ พหิ จ วาตํ อปริคฺคเหตฺวา ปุริมนเยเนว เวเคน เวเคน คเณตพฺพํ. อนฺโตปวิสนวาเตน หิ สทฺธึ จิตฺตํ ปเวสยโต อพฺภนฺตรํ วาตพฺภาหตํ เมทปูริตํ วิย โหติ. พหินิกฺขมนวาเตน สทฺธึ จิตฺตํ นีหรโต พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมเณ จิตฺตํ วิกฺขิปติ. ผุฏฺผุฏฺโกาเส ปน สตึ เปตฺวา ภาเวนฺตสฺเสว ภาวนา สมฺปชฺชติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อนฺโต จ พหิ จ วาตํ อปริคฺคเหตฺวา ปุริมนเยเนว เวเคน เวเคน คเณตพฺพ’’นฺติ.

กีวจิรํ ปเนตํ คเณตพฺพนฺติ? ยาว วินา คณนาย อสฺสาสปสฺสาสารมฺมเณ สติ สนฺติฏฺติ. พหิ วิสฏวิตกฺกวิจฺเฉทํ กตฺวา อสฺสาสปสฺสาสารมฺมเณ สติ สณฺาปนตฺถํเยว หิ คณนาติ.

เอวํ คณนาย มนสิ กตฺวา อนุพนฺธนาย มนสิ กาตพฺพํ. อนุพนฺธนา นาม คณนํ ปฏิสํหริตฺวา สติยา นิรนฺตรํ อสฺสาสปสฺสาสานํ อนุคมนํ. ตฺจ โข น อาทิมชฺฌปริโยสานานุคมนวเสน. อาทิมชฺฌปริโยสานานิ ตสฺสานุคมเน อาทีนวา จ เหฏฺา วุตฺตาเยว.

ตสฺมา อนุพนฺธนาย มนสิกโรนฺเตน น อาทิมชฺฌปริโยสานวเสน มนสิ กาตพฺพํ, อปิจ โข ผุสนาวเสนปนาวเสน จ มนสิ กาตพฺพํ. คณนานุพนฺธนาวเสน วิย หิ ผุสนาปนาวเสน วิสุํ มนสิกาโร นตฺถิ, ผุฏฺผุฏฺฏฺาเนเยว ปน คเณนฺโต คณนาย จ ผุสนาย จ มนสิ กโรติ, ตตฺเถว คณนํ ปฏิสํหริตฺวา เต สติยา อนุพนฺธนฺโต, อปฺปนาวเสน จ จิตฺตํ เปนฺโต ‘‘อนุพนฺธนาย จ ผุสนาย จ ปนาย จ มนสิ กโรตี’’ติ วุจฺจติ. สฺวายมตฺโถ อฏฺกถาสุ วุตฺตปงฺคุฬโทวาริโกปมาหิ อิเธว ปาฬิยํ วุตฺตกกจูปมาย จ เวทิตพฺโพ.

ตตฺรายํ ปงฺคุโฬปมา – เสยฺยถาปิ ปงฺคุโฬ โทลาย กีฬตํ มาตาปุตฺตานํ โทลํ ขิปิตฺวา ตตฺเถว โทลาถมฺภมูเล นิสินฺโน กเมน อาคจฺฉนฺตสฺส จ คจฺฉนฺตสฺส จ โทลาผลกสฺส อุโภ โกฏิโย มชฺฌฺจ ปสฺสติ, น จ อุโภโกฏิมชฺฌานํ ทสฺสนตฺถํ พฺยาวโฏ โหติ, เอวเมว ภิกฺขุ สติวเสน อุปนิพนฺธนตฺถมฺภมูเล ตฺวา อสฺสาสปสฺสาสโทลํ ขิปิตฺวา ตตฺเถว นิมิตฺเต สติยา นิสีทนฺโต กเมน อาคจฺฉนฺตานฺจ คจฺฉนฺตานฺจ ผุฏฺฏฺาเน อสฺสาสปสฺสาสานํ อาทิมชฺฌปริโยสานํ สติยา อนุคจฺฉนฺโต ตตฺเถว (วิสุทฺธิ. ๑.๒๒๕) จิตฺตํ เปตฺวา ปสฺสติ, น จ เตสํ ทสฺสนตฺถํ พฺยาวโฏ โหติ. อยํ ปงฺคุโฬปมา.

อยํ ปน โทวาริโกปมา – เสยฺยถาปิ โทวาริโก นครสฺส อนฺโต จ พหิ จ ปุริเส ‘‘โก ตฺวํ, กุโต วา อาคโต, กุหึ วา คจฺฉสิ, กึ วา เต หตฺเถ’’ติ น วีมํสติ. น หิ ตสฺส เต ภารา, ทฺวารปฺปตฺตํ ทฺวารปฺปตฺตํเยว ปน วีมํสติ, เอวเมว อิมสฺส ภิกฺขุโน อนฺโตปวิฏฺวาตา จ พหินิกฺขนฺตวาตา จ น ภารา โหนฺติ, ทฺวารปฺปตฺตา ทฺวารปฺปตฺตาเยว ภาราติ อยํ โทวาริโกปมา.

กกจูปมา ปน ‘‘นิมิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสา’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๙) นเยน อิธ วุตฺตาเยว. อิธ ปนสฺส อาคตาคตวเสน อมนสิการมตฺตเมว ปโยชนนฺติ เวทิตพฺพํ.

อิทํ กมฺมฏฺานํ มนสิกโรโต กสฺสจิ น จิเรเนว นิมิตฺตฺจ อุปฺปชฺชติ, อวเสสฌานงฺคปฏิมณฺฑิตา อปฺปนาสงฺขาตา ปนา จ สมฺปชฺชติ. กสฺสจิ ปน คณนาวเสเนว มนสิการกาลโต ปภุติ ยถา สารทฺธกายสฺส มฺเจ วา ปีเ วา นิสีทโต มฺจปีํ โอนมติ วิกูชติ, ปจฺจตฺถรณํ วลึ คณฺหาติ, อสารทฺธกายสฺส ปน นิสีทโต เนว มฺจปีํ โอนมติ น วิกูชติ, น ปจฺจตฺถรณํ วลึ คณฺหาติ, ตูลปิจุปูริตํ วิย มฺจปีํ โหติ. กสฺมา? ยสฺมา อสารทฺโธ กาโย ลหุโก โหติ, เอวเมวํ คณนาวเสน มนสิการกาลโต ปภุติ อนุกฺกมโต โอฬาริกอสฺสาสปสฺสาสนิโรธวเสน กายทรเถ วูปสนฺเต กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ลหุกํ โหติ, สรีรํ อากาเส ลงฺฆนาการปฺปตฺตํ วิย โหติ.

ตสฺส โอฬาริเก อสฺสาสปสฺสาเส นิรุทฺเธ สุขุมอสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตารมฺมณํ จิตฺตํ ปวตฺตติ. ตสฺมิมฺปิ นิรุทฺเธ อปราปรํ ตโต สุขุมตรํ สุขุมตรํ อสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตารมฺมณํ ปวตฺตติเยว. สฺวายมตฺโถ อุปริ วุตฺตกํสถาโลปมาย เวทิตพฺโพ.

ยถา หิ อฺานิ กมฺมฏฺานานิ อุปรูปริ วิภูตานิ โหนฺติ, น ตถา อิทํ. อิทํ ปน อุปรูปริ ภาเวนฺตสฺส สุขุมตฺตํ คจฺฉติ, อุปฏฺานมฺปิ น อุปคจฺฉติ. เอวํ อนุปฏฺหนฺเต ปน ตสฺมึ เตน ภิกฺขุนา ‘‘อาจริยํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ วา ‘‘นฏฺํ ทานิ เม กมฺมฏฺาน’’นฺติ วา อุฏฺายาสนา น คนฺตพฺพํ. อิริยาปถํ วิโกเปตฺวา คจฺฉโต หิ กมฺมฏฺานํ นวนวเมว โหติ. ตสฺมา ยถานิสินฺเนเนว เทสโต อาหริตพฺพํ.

ตตฺรายํ อาหรณูปาโย – เตน ภิกฺขุนา กมฺมฏฺานสฺส อนุปฏฺานภาวํ ตฺวา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ ‘‘อิเม อสฺสาสปสฺสาสา นาม กตฺถ อตฺถิ, กตฺถ นตฺถิ. กสฺส วา อตฺถิ, กสฺส วา นตฺถี’’ติ. อเถวํ ปฏิสฺจิกฺขโต ‘‘อิเม อนฺโตมาตุกุจฺฉิยํ นตฺถิ, อุทเก นิมุคฺคานํ นตฺถิ, ตถา อสฺีภูตานํ มตานํ จตุตฺถชฺฌานสมาปนฺนานํ รูปารูปภวสมงฺคีนํ นิโรธสมาปนฺนาน’’นฺติ ตฺวา เอวํ อตฺตนาว อตฺตา ปฏิโจเทตพฺโพ ‘‘นนุ, ตฺวํ ปณฺฑิต, เนว มาตุกุจฺฉิคโต, น อุทเก นิมุคฺโค, น อสฺีภูโต, น มโต, น จตุตฺถชฺฌานสมาปนฺโน, น รูปารูปภวสมงฺคี, น นิโรธสมาปนฺโน. อตฺถิเยว เต อสฺสาสปสฺสาสา, มนฺทปฺตาย ปน ปริคฺคเหตุํ น สกฺโกสี’’ติ. อถาเนน ปกติผุฏฺวเสน จิตฺตํ เปตฺวา มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. อิเม หิ ทีฆนาสิกสฺส นาสาปุฏํ ฆฏฺเฏนฺตา ปวตฺตนฺติ, รสฺสนาสิกสฺส อุตฺตโรฏฺํ. ตสฺมาเนน อิมํ นาม านํ ฆฏฺเฏนฺตีติ นิมิตฺตํ เปตพฺพํ. อิมเมว หิ อตฺถวสํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ ภควตา – ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, มุฏฺสฺสติสฺส อสมฺปชานสฺส อานาปานสฺสติภาวนํ วทามี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๔๙; สํ. นิ. ๕.๙๙๒). กิฺจาปิ หิ ยํกิฺจิ กมฺมฏฺานํ สตสฺส สมฺปชานสฺเสว สมฺปชฺชติ, อิโต อฺํ ปน มนสิกโรนฺตสฺส ปากฏํ โหติ. อิทํ ปน อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ ครุกํ ครุกภาวนํ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธปุตฺตานํ มหาปุริสานํเยว มนสิการภูมิภูตํ, น เจว อิตฺตรํ, น จ อิตฺตรสตฺตสมาเสวิตํ. ยถา ยถา มนสิ กรียติ, ตถา ตถา สนฺตฺเจว โหติ สุขุมฺจ. ตสฺมา เอตฺถ พลวตี สติ จ ปฺา จ อิจฺฉิตพฺพา.

ยถา หิ มฏฺสาฏกสฺส ตุนฺนกรณกาเล สูจิปิ สุขุมา อิจฺฉิตพฺพา, สูจิปาสเวธนมฺปิ ตโต สุขุมตรํ, เอวเมวํ มฏฺสาฏกสทิสสฺส อิมสฺส กมฺมฏฺานสฺส ภาวนากาเล สูจิปฏิภาคา สติปิ สูจิปาสเวธนปฏิภาคา ตํสมฺปยุตฺตา ปฺาปิ พลวตี อิจฺฉิตพฺพา. ตาหิ จ ปน สติปฺาหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น เต อสฺสาสปสฺสาสา อฺตฺร ปกติผุฏฺโกาสา ปริเยสิตพฺพา.

ยถา หิ กสฺสโก เขตฺตํ กสิตฺวา พลีพทฺเท มุฺจิตฺวา โคจรมุเข กตฺวา ฉายาย นิสินฺโน วิสฺสเมยฺย, อถสฺส เต พลีพทฺทา เวเคน อฏวึ ปวิเสยฺยุํ. โย โหติ เฉโก กสฺสโก, โส ปุน เต คเหตฺวา โยเชตุกาโม น เตสํ อนุปทํ คนฺตฺวา อฏวึ อาหิณฺฑติ. อถ โข รสฺมิฺจ ปโตทฺจ คเหตฺวา อุชุกเมว เตสํ นิปาตนติตฺถํ คนฺตฺวา นิสีทติ วา นิปชฺชติ วา. อถ เต โคเณ ทิวสภาคํ จริตฺวา นิปาตนติตฺถํ โอตริตฺวา นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปจฺจุตฺตริตฺวา ิเต ทิสฺวา รสฺมิยา พนฺธิตฺวา ปโตเทน วิชฺฌนฺโต อาเนตฺวา โยเชตฺวา ปุน กมฺมํ กโรติ. เอวเมวํ เตน ภิกฺขุนา น เต อสฺสาสปสฺสาสา อฺตฺร ปกติผุฏฺโกาสา ปริเยสิตพฺพา. สติรสฺมึ ปน ปฺาปโตทฺจ คเหตฺวา ปกติผุฏฺโกาเส จิตฺตํ เปตฺวา มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. เอวํ หิสฺส มนสิกโรโต น จิรสฺเสว เต อุปฏฺหนฺติ นิปาตนติตฺเถ วิย โคณา. ตโต เตน สติรสฺมิยา พนฺธิตฺวา ตสฺมึเยว าเน โยเชตฺวา ปฺาปโตเทน วิชฺฌนฺเตน ปุนปฺปุนํ กมฺมฏฺานํ อนุยุฺชิตพฺพํ. ตสฺเสวมนุยุฺชโต น จิรสฺเสว นิมิตฺตํ อุปฏฺาติ. ตํ ปเนตํ น สพฺเพสํ เอกสทิสํ โหติ, อปิจ โข กสฺสจิ สุขสมฺผสฺสํ อุปฺปาทยมาโน ตูลปิจุ วิย กปฺปาสปิจุ วิย วาตธารา วิย จ อุปฏฺาตีติ เอกจฺเจ อาหุ.

อยํ ปน อฏฺกถาสุ วินิจฺฉโย – อิทฺหิ กสฺสจิ ตารกรูปํ วิย มณิคุฬิกา วิย มุตฺตาคุฬิกา วิย จ, กสฺสจิ ขรสมฺผสฺสํ หุตฺวา กปฺปาสฏฺิ วิย ทารุสารสูจิ วิย จ, กสฺสจิ ทีฆปามงฺคสุตฺตํ วิย กุสุมทามํ วิย ธูมสิขา วิย จ, กสฺสจิ วิตฺถตํ มกฺกฏกสุตฺตํ วิย วลาหกปฏลํ วิย ปทุมปุปฺผํ วิย รถจกฺกํ วิย จนฺทมณฺฑลํ วิย สูริยมณฺฑลํ วิย จ อุปฏฺาติ, ตฺจ ปเนตํ ยถา สมฺพหุเลสุ ภิกฺขูสุ สุตฺตนฺตํ สชฺฌายิตฺวา นิสินฺเนสุ เอเกน ภิกฺขุนา ‘‘ตุมฺหากํ กีทิสํ หุตฺวา อิทํ สุตฺตํ อุปฏฺาตี’’ติ วุตฺเต เอโก ‘‘มยฺหํ มหตี ปพฺพเตยฺยา นที วิย หุตฺวา อุปฏฺาตี’’ติ อาห. อปโร ‘‘มยฺหํ เอกา วนราชิ วิย’’. อฺโ ‘‘มยฺหํ เอโก สีตจฺฉาโย สาขาสมฺปนฺโน ผลภารภริโต รุกฺโข วิยา’’ติ. เตสฺหิ ตํ เอกเมว สุตฺตํ สฺานานตาย นานโต อุปฏฺาติ. เอวํ เอกเมว กมฺมฏฺานํ สฺานานตาย นานโต อุปฏฺาติ. สฺชฺหิ เอตํ สฺานิทานํ สฺาปภวํ, ตสฺมา สฺานานตาย นานโต อุปฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ.

เอวํ อุปฏฺิเต ปน นิมิตฺเต เตน ภิกฺขุนา อาจริยสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อาโรเจตพฺพํ ‘‘มยฺหํ, ภนฺเต, เอวรูปํ นาม อุปฏฺาตี’’ติ. อาจริเยน ปน ‘‘นิมิตฺตมิทํ, อาวุโส, กมฺมฏฺานํ ปุนปฺปุนํ มนสิ กโรหิ สปฺปุริสา’’ติ วตฺตพฺโพ. อถาเนน นิมิตฺเตเยว จิตฺตํ เปตพฺพํ. เอวมสฺสายํ อิโต ปภุติ ปนาวเสน ภาวนา โหติ. วุตฺตฺเหตํ โปราเณหิ –

‘‘นิมิตฺเต ปยํ จิตฺตํ, นานาการํ วิภาวยํ;

ธีโร อสฺสาสปสฺสาเส, สกํ จิตฺตํ นิพนฺธตี’’ติ. (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๖๕; วิสุทฺธิ. ๑.๒๓๒);

ตสฺเสวํ นิมิตฺตุปฏฺานโต ปภุติ นีวรณานิ วิกฺขมฺภิตาเนว โหนฺติ, กิเลสา สนฺนิสินฺนาว, จิตฺตํ อุปจารสมาธินา สมาหิตเมว. อถาเนน ตํ นิมิตฺตํ เนว วณฺณโต มนสิ กาตพฺพํ, น ลกฺขณโต ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ, อปิจ โข ขตฺติยมเหสิยา จกฺกวตฺติคพฺโภ วิย กสฺสเกน สาลิยวคพฺโภ วิย จ อาวาสาทีนิ สตฺต อสปฺปายานิ วชฺเชตฺวา ตาเนว สตฺต สปฺปายานิ เสวนฺเตน สาธุกํ รกฺขิตพฺพํ, อถ นํ เอวํ รกฺขิตฺวา ปุนปฺปุนํ มนสิการวเสน วุทฺธึ วิรูฬฺหึ คมยิตฺวา ทสวิธํ อปฺปนาโกสลฺลํ สมฺปาเทตพฺพํ, วีริยสมตา โยเชตพฺพา. ตสฺเสวํ ฆเฏนฺตสฺส วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตานุกฺกเมน ตสฺมึ นิมิตฺเต จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ นิพฺพตฺตนฺติ. เอวํ นิพฺพตฺตจตุกฺกปฺจกชฺฌาโน ปเนตฺถ ภิกฺขุ สลฺลกฺขณาวิวฏฺฏนาวเสน กมฺมฏฺานํ วฑฺเฒตฺวา ปาริสุทฺธึ ปตฺตุกาโม ตเทว ฌานํ ปฺจหากาเรหิ วสิปฺปตฺตํ ปคุณํ กตฺวา นามรูปํ ววตฺถเปตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปติ. กถํ? โส หิ สมาปตฺติโต วุฏฺาย อสฺสาสปสฺสาสานํ สมุทโย กรชกาโย จ จิตฺตฺจาติ ปสฺสติ. ยถา หิ กมฺมารคคฺคริยา ธมมานาย ภสฺตฺจ ปุริสสฺส จ ตชฺชํ วายามํ ปฏิจฺจ วาโต สฺจรติ, เอวเมวํ กายฺจ จิตฺตฺจ ปฏิจฺจ อสฺสาสปสฺสาสาติ. ตโต อสฺสาสปสฺสาเส จ กายฺจ รูปนฺติ, จิตฺตฺจ ตํสมฺปยุตฺเต จ ธมฺเม อรูปนฺติ ววตฺถเปติ.

เอวํ นามรูปํ ววตฺถเปตฺวา ตสฺส ปจฺจยํ ปริเยสติ, ปริเยสนฺโต จ ตํ ทิสฺวา ตีสุปิ อทฺธาสุ นามรูปสฺส ปวตฺตึ อารพฺภ กงฺขํ วิตรติ, วิติณฺณกงฺโข กลาปสมฺมสนวเสน ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา’’ติ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา อุทยพฺพยานุปสฺสนาย ปุพฺพภาเค อุปฺปนฺเน โอภาสาทโย ทส วิปสฺสนุปกฺกิเลเส ปหาย อุปกฺกิเลสวิมุตฺตํ อุทยพฺพยานุปสฺสนาาณํ ‘‘มคฺโค’’ติ ววตฺถเปตฺวา อุทยํ ปหาย ภงฺคานุปสฺสนํ ปตฺวา นิรนฺตรํ ภงฺคานุปสฺสเนน ภยโต อุปฏฺิเตสุ สพฺพสงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทนฺโต วิรชฺชนฺโต วิมุจฺจนฺโต ยถากฺกเมน จตฺตาโร อริยมคฺเค ปาปุณิตฺวา อรหตฺตผเล ปติฏฺาย เอกูนวีสติเภทสฺส ปจฺจเวกฺขณาาณสฺส ปริยนฺตํ ปตฺโต สเทวกสฺส โลกสฺส อคฺคทกฺขิเณยฺโย โหติ. เอตฺตาวตา จสฺส คณนํ อาทึ กตฺวา วิปสฺสนาปริโยสานา อานาปานสฺสติสมาธิภาวนา สมตฺตา โหตีติ. อยํ สพฺพาการโต ปมจตุกฺกวณฺณนา.

อิตเรสุ ปน ตีสุ จตุกฺเกสุ ยสฺมา วิสุํ กมฺมฏฺานภาวนานโย นาม นตฺถิ, ตสฺมา อนุปทวณฺณนานเยเนว เตสํ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปีติปฏิสํเวทีติ ปีตึ ปฏิสํวิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. ตตฺถ ทฺวีหากาเรหิ ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ อารมฺมณโต จ อสมฺโมหโต จ.

กถํ อารมฺมณโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชติ, ตสฺส สมาปตฺติกฺขเณ ฌานปฏิลาเภน อารมฺมณโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ อารมฺมณสฺส ปฏิสํวิทิตตฺตา.

กถํ อสมฺโมหโต? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตํ ปีตึ ขยโต วยโต สมฺมสติ, ตสฺส วิปสฺสนากฺขเณ ลกฺขณปฏิเวเธน อสมฺโมหโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. เอเตเนว นเยน อวเสสปทานิปิ อตฺถโต เวทิตพฺพานิ. อิทํ ปเนตฺถ วิเสสมตฺตํ – ติณฺณํ ฌานานํ วเสน สุขปฏิสํวิทิตา โหติ. จตุนฺนมฺปิ ฌานานํ วเสน จิตฺตสงฺขารปฏิสํวิทิตา เวทิตพฺพา. จิตฺตสงฺขาโรติ เวทนาสฺากฺขนฺธา. ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารนฺติ โอฬาริกํ โอฬาริกํ จิตฺตสงฺขารํ ปสฺสมฺเภนฺโต, นิโรเธนฺโตติ อตฺโถ. โส วิตฺถารโต กายสงฺขาเร วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. อปิเจตฺถ ปีติปเท ปีติสีเสน เวทนา วุตฺตา, สุขปเท สรูเปเนว เวทนา. ทฺวีสุ จิตฺตสงฺขารปเทสุ ‘‘สฺา จ เวทนา จ เจตสิกา, เอเต ธมฺมา จิตฺตปฏิพทฺธา จิตฺตสงฺขารา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๔; ม. นิ. ๑.๔๖๓) วจนโต สฺาสมฺปยุตฺตา เวทนาติ เอวํ เวทนานุปสฺสนานเยน อิทํ จตุกฺกํ ภาสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

ตติยจตุกฺเกปิ จตุนฺนํ ฌานานํ วเสน จิตฺตปฏิสํวิทิตา เวทิตพฺพา. อภิปฺปโมทยํ จิตฺตนฺติ จิตฺตํ โมเทนฺโต ปโมเทนฺโต หาเสนฺโต ปหาเสนฺโต อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. ตตฺถ ทฺวีหากาเรหิ อภิปฺปโมโท โหติ สมาธิวเสน จ วิปสฺสนาวเสน จ.

กถํ สมาธิวเสน? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชติ, โส สมาปตฺติกฺขเณ สมฺปยุตฺตาย ปีติยา จิตฺตํ อาโมเทติ ปโมเทติ. กถํ วิปสฺสนาวเสน? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตํ ปีตึ ขยโต วยโต สมฺมสติ. เอวํ วิปสฺสนากฺขเณ ฌานสมฺปยุตฺตํ ปีตึ อารมฺมณํ กตฺวา จิตฺตํ อาโมเทติ ปโมเทติ. เอวํ ปฏิปนฺโน ‘‘อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ วุจฺจติ.

สมาทหํ จิตฺตนฺติ ปมชฺฌานาทิวเสน อารมฺมเณ จิตฺตํ สมํ อาทหนฺโต สมํ เปนฺโต, ตานิ วา ปน ฌานานิ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ ขยโต วยโต สมฺมสโต วิปสฺสนากฺขเณ ลกฺขณปฏิเวเธน อุปฺปชฺชติ ขณิกจิตฺเตกคฺคตา, เอวํ อุปฺปนฺนาย ขณิกจิตฺเตกคฺคตาย วเสนปิ อารมฺมเณ จิตฺตํ สมํ อาทหนฺโต สมํ เปนฺโต ‘‘สมาทหํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ วุจฺจติ.

วิโมจยํ จิตฺตนฺติ ปมชฺฌาเนน นีวรเณหิ จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต, ทุติเยน วิตกฺกวิจาเรหิ, ตติเยน ปีติยา, จตุตฺเถน สุขทุกฺเขหิ จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต, ตานิ วา ปน ฌานานิ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ ขยโต วยโต สมฺมสติ. โส วิปสฺสนากฺขเณ อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจสฺาโต จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต, ทุกฺขานุปสฺสนาย สุขสฺาโต, อนตฺตานุปสฺสนาย อตฺตสฺาโต, นิพฺพิทานุปสฺสนาย นนฺทิโต, วิราคานุปสฺสนาย ราคโต, นิโรธานุปสฺสนาย สมุทยโต, ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย อาทานโต จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต อสฺสสติ เจว ปสฺสสติ จ. เตน วุจฺจติ – ‘‘วิโมจยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ. เอวํ จิตฺตานุปสฺสนาวเสน อิทํ จตุกฺกํ ภาสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

จตุตฺถจตุกฺเก ปน อนิจฺจานุปสฺสีติ เอตฺถ ตาว อนิจฺจํ เวทิตพฺพํ, อนิจฺจตา เวทิตพฺพา, อนิจฺจานุปสฺสนา เวทิตพฺพา, อนิจฺจานุปสฺสี เวทิตพฺโพ. ตตฺถ อนิจฺจนฺติ ปฺจกฺขนฺธา. กสฺมา? อุปฺปาทวยฺถตฺตภาวา. อนิจฺจตาติ เตสํเยว อุปฺปาทวยฺถตฺตํ, หุตฺวา อภาโว วา, นิพฺพตฺตานํ เตเนวากาเรน อฏฺตฺวา ขณภงฺเคน เภโทติ อตฺโถ. อนิจฺจานุปสฺสนาติ ตสฺสา อนิจฺจตาย วเสน รูปาทีสุ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ อนุปสฺสนา. อนิจฺจานุปสฺสีติ ตาย อนุปสฺสนาย สมนฺนาคโต. ตสฺมา เอวํภูโต อสฺสสนฺโต จ ปสฺสสนฺโต จ อิธ ‘‘อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ เวทิตพฺโพ.

วิราคานุปสฺสีติ เอตฺถ ปน ทฺเว วิราคา ขยวิราโค จ อจฺจนฺตวิราโค จ. ตตฺถ ขยวิราโคติ สงฺขารานํ ขณภงฺโค. อจฺจนฺตวิราโคติ นิพฺพานํ. วิราคานุปสฺสนาติ ตทุภยทสฺสนวเสน ปวตฺตา วิปสฺสนา จ มคฺโค จ. ตาย ทุวิธายปิ อนุปสฺสนาย สมนฺนาคโต หุตฺวา อสฺสสนฺโต จ ปสฺสสนฺโต จ ‘‘วิราคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ เวทิตพฺโพ. นิโรธานุปสฺสีปเทปิ เอเสว นโย.

ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสีติ เอตฺถาปิ ทฺเว ปฏินิสฺสคฺคา ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค จ ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโค จ. ปฏินิสฺสคฺโคเยว อนุปสฺสนา ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนา, วิปสฺสนามคฺคานเมตํ อธิวจนํ. วิปสฺสนาติ ตทงฺควเสน สทฺธึ ขนฺธาภิสงฺขาเรหิ กิเลเส ปริจฺจชติ, สงฺขตโทสทสฺสเนน จ ตพฺพิปรีเต นิพฺพาเน ตนฺนินฺนตาย ปกฺขนฺทตีติ ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค เจว ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโค จาติ วุจฺจติ. มคฺโค สมุจฺเฉทวเสน สทฺธึ ขนฺธาภิสงฺขาเรหิ กิเลเส ปริจฺจชติ, อารมฺมณกรเณน จ นิพฺพาเน ปกฺขนฺทตีติ ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค เจว ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโค จาติ วุจฺจติ. อุภยมฺปิ ปน ปุริมปุริมาณานํ อนุอนุ ปสฺสนโต อนุปสฺสนาติ วุจฺจติ. ตาย ทุวิธายปิ ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย สมนฺนาคโต หุตฺวา อสฺสสนฺโต จ ปสฺสสนฺโต จ ‘‘ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ เวทิตพฺโพ.

เอตฺถ จ ‘‘อนิจฺจานุปสฺสี’’ติ ตรุณวิปสฺสนาย วเสน วุตฺตํ, ‘‘วิราคานุปสฺสี’’ติ ตโต พลวตราย สงฺขาเรสุ วิรชฺชนสมตฺถาย วิปสฺสนาย วเสน, ‘‘นิโรธานุปสฺสี’’ติ ตโต พลวตราย กิเลสนิโรธนสมตฺถาย วิปสฺสนาย วเสน, ‘‘ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี’’ติ มคฺคสฺส อาสนฺนภูตาย อติติกฺขาย วิปสฺสนาย วเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยตฺถ ปน มคฺโคปิ ลพฺภติ, โส อภินฺโนเยว. เอวมิทํ จตุกฺกํ สุทฺธวิปสฺสนาวเสน วุตฺตํ, ปุริมานิ ปน ตีณิ สมถวิปสฺสนาวเสนาติ.

อานาปานสฺสติมาติกาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๖๔. อิทานิ ยถานิกฺขิตฺตํ มาติกํ ปฏิปาฏิยา ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ อิธาติ อิมิสฺสา ทิฏฺิยาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อิมิสฺสา ทิฏฺิยาติอาทีหิ ทสหิ ปเทหิ สิกฺขตฺตยสงฺขาตํ สพฺพฺุพุทฺธสาสนเมว กถิตํ. ตฺหิ พุทฺเธน ภควตา ทิฏฺตฺตา ทิฏฺีติ วุจฺจติ, ตสฺเสว ขมนวเสน ขนฺติ, รุจฺจนวเสน รุจิ, คหณวเสน อาทาโย, สภาวฏฺเน ธมฺโม, สิกฺขิตพฺพฏฺเน วินโย, ตทุภเยนปิ ธมฺมวินโย, ปวุตฺตวเสน ปาวจนํ, เสฏฺจริยฏฺเน พฺรหฺมจริยํ, อนุสิฏฺิทานวเสน สตฺถุสาสนนฺติ วุจฺจติ. ตสฺมา ‘‘อิมิสฺสา ทิฏฺิยา’’ติอาทีสุ อิมิสฺสา พุทฺธทิฏฺิยา, อิมิสฺสา พุทฺธขนฺติยา, อิมิสฺสา พุทฺธรุจิยา, อิมสฺมึ พุทฺธอาทาเย, อิมสฺมึ พุทฺธธมฺเม, อิมสฺมึ พุทฺธวินเย, อิมสฺมึ พุทฺธธมฺมวินเย, อิมสฺมึ พุทฺธปาวจเน, อิมสฺมึ พุทฺธพฺรหฺมจริเย, อิมสฺมึ พุทฺธสตฺถุสาสเนติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อปิเจตํ สิกฺขตฺตยสงฺขาตํ สกลํ ปาวจนํ ภควตา ทิฏฺตฺตา สมฺมาทิฏฺิปจฺจยตฺตา สมฺมาทิฏฺิปุพฺพงฺคมตฺตา จ ทิฏฺิ. ภควโต ขมนวเสน ขนฺติ. รุจฺจนวเสน รุจิ. คหณวเสน อาทาโย. อตฺตโน การกํ อปาเย อปตมานํ ธาเรตีติ ธมฺโม. โสว สํกิเลสปกฺขํ วิเนตีติ วินโย. ธมฺโม จ โส วินโย จาติ ธมฺมวินโย, กุสลธมฺเมหิ วา อกุสลธมฺมานํ เอส วินโยติ ธมฺมวินโย. เตเนว วุตฺตํ – ‘‘เย จ โข ตฺวํ, โคตมิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ อิเม ธมฺมา วิราคาย สํวตฺตนฺติ, โน สราคาย…เป… เอกํเสน, โคตมิ, ธาเรยฺยาสิ เอโส ธมฺโม เอโส วินโย เอตํ สตฺถุสาสน’’นฺติ (อ. นิ. ๘.๕๓; จูฬว. ๔๐๖). ธมฺเมน วา วินโย, น ทณฺฑาทีหีติ ธมฺมวินโย. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ทณฺเฑเนเก ทมยนฺติ, องฺกุเสหิ กสาหิ จ;

อทณฺเฑน อสตฺเถน, นาโค ทนฺโต มเหสินา’’ติ. (ม. นิ. ๒.๓๕๒; จูฬว. ๓๔๒);

ตถา ‘‘ธมฺเมน นยมานานํ, กา อุสูยา วิชานต’’นฺติ (มหาว. ๖๓). ธมฺมาย วา วินโย ธมฺมวินโย. อนวชฺชธมฺมตฺถํ เหส วินโย, น ภวโภคามิสตฺถํ. เตนาห ภควา – ‘‘นยิทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ชนกุหนตฺถ’’นฺติ (อิติวุ. ๓๕; อ. นิ. ๔.๒๕) วิตฺถาโร. ปุณฺณตฺเถโรปิ อาห – ‘‘อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถํ โข, อาวุโส, ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๕๙). วิสุทฺธํ วา นยตีติ วินโย, ธมฺมโต วินโย ธมฺมวินโย. สํสารธมฺมโต หิ โสกาทิธมฺมโต วา เอส วิสุทฺธํ นิพฺพานํ นยติ, ธมฺมสฺส วา วินโย, น ติตฺถกรานนฺติ ธมฺมวินโย. ธมฺมภูโต หิ ภควา, ตสฺเสว เอส วินโย. ยสฺมา วา ธมฺมา เอว อภิฺเยฺยา ปริฺเยฺยา ปหาตพฺพา ภาเวตพฺพา สจฺฉิกาตพฺพา จ, ตสฺมา เอส ธมฺเมสุ วินโย, น สตฺเตสุ น ชีเวสุ จาติ ธมฺมวินโย. สาตฺถสพฺยฺชนตาทีหิ อฺเสํ วจนโต ปธานํ วจนนฺติ ปวจนํ, ปวจนเมว ปาวจนํ. สพฺพจริยาหิ วิสิฏฺจริยภาเวน พฺรหฺมจริยํ. เทวมนุสฺสานํ สตฺถุภูตสฺส ภควโต สาสนนฺติ สตฺถุสาสนํ, สตฺถุภูตํ วา สาสนนฺติปิ สตฺถุสาสนํ. ‘‘โย โว, อานนฺท, มยา ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต ปฺตฺโต, โส โว มมจฺจเยน สตฺถา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๖) หิ ธมฺมวินโยว สตฺถาติ วุตฺโต. เอวเมเตสํ ปทานํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยสฺมา ปน อิมสฺมึเยว สาสเน สพฺพาการอานาปานสฺสติสมาธินิพฺพตฺตโก ภิกฺขุ วิชฺชติ, น อฺตฺร, ตสฺมา ตตฺถ ตตฺถ ‘‘อิมิสฺสา’’ติ จ ‘‘อิมสฺมิ’’นฺติ จ อยํ นิยโม กโตติ เวทิตพฺโพ. อยํ ‘‘อิธา’’ติมาติกาย นิทฺเทสสฺส อตฺโถ.

ปุถุชฺชนกลฺยาณโก วาติอาทินา จ ภิกฺขุสทฺทสฺส วจนตฺถํ อวตฺวา อิธาธิปฺเปตภิกฺขุเยว ทสฺสิโต. ตตฺถ ปุถุชฺชโน จ โส กิเลสานํ อสมุจฺฉินฺนตฺตา, กลฺยาโณ จ สีลาทิปฏิปตฺติยุตฺตตฺตาติ ปุถุชฺชนกลฺยาโณ, ปุถุชฺชนกลฺยาโณว ปุถุชฺชนกลฺยาณโก. อธิสีลาทีนิ สิกฺขตีติ เสกฺโข. โสตาปนฺโน วา สกทาคามี วา อนาคามี วา. อกุปฺโป จลยิตุมสกฺกุเณยฺโย อรหตฺตผลธมฺโม อสฺสาติ อกุปฺปธมฺโม. โสปิ หิ อิมํ สมาธึ ภาเวติ.

อรฺนิทฺเทเส วินยปริยาเยน ตาว ‘‘เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ อวเสสํ อรฺ’’นฺติ (ปารา. ๙๒) อาคตํ. สุตฺตนฺตปริยาเยน อารฺกํ ภิกฺขุํ สนฺธาย ‘‘อารฺกํ นาม เสนาสนํ ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปาจิ. ๕๗๓) อาคตํ. วินยสุตฺตนฺตา ปน อุโภปิ ปริยายเทสนา นาม, อภิธมฺโม นิปฺปริยายเทสนาติ อภิธมฺมปริยาเยน (วิภ. ๕๒๙) อรฺํ ทสฺเสตุํ นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลาติ วุตฺตํ, อินฺทขีลโต พหิ นิกฺขมิตฺวาติ อตฺโถ. นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลนฺติปิ ปาโ, อินฺทขีลํ อติกฺกมิตฺวา พหีติ วุตฺตํ โหติ. อินฺทขีโลติ เจตฺถ คามสฺส วา นครสฺส วา อุมฺมาโร.

รุกฺขมูลนิทฺเทเส รุกฺขมูลสฺส ปากฏตฺตา ตํ อวตฺวาว ยตฺถาติอาทิมาห. ตตฺถ ยตฺถาติ ยสฺมึ รุกฺขมูเล. อาสนฺติ นิสีทนฺติ เอตฺถาติ อาสนํ. ปฺตฺตนฺติ ปิตํ. มฺโจ วาติอาทีนิ อาสนสฺส ปเภทวจนานิ. มฺโจปิ หิ นิสชฺชายปิ โอกาสตฺตา อิธ อาสเนสุ วุตฺโต. โส ปน มสารกพุนฺทิกาพทฺธกุฬีรปาทกอาหจฺจปาทกานํ อฺตโร. ปีํ เตสํ อฺตรเมว. ภิสีติ อุณฺณาภิสิโจฬภิสิวากภิสิติณภิสิปณฺณภิสีนํ อฺตรา. ตฏฺฏิกาติ ตาลปณฺณาทีหิ จินิตฺวา กตา. จมฺมขณฺโฑติ นิสชฺชารโห โย โกจิ จมฺมขณฺโฑ. ติณสนฺถราทโย ติณาทีนิ คุมฺเพตฺวา กตา. ตตฺถาติ ตสฺมึ รุกฺขมูเล. จงฺกมติ วาติอาทีหิ รุกฺขมูลสฺส จตุอิริยาปถปวตฺตนโยคฺยตา กถิตา. ‘‘ยตฺถา’’ติอาทีหิ สพฺพปเทหิ รุกฺขมูลสฺส สนฺทจฺฉายตา ชนวิวิตฺตตา จ วุตฺตา โหติ. เกนจีติ เกนจิ สมูเหน. ตํ สมูหํ ภินฺทิตฺวา วิตฺถาเรนฺโต คหฏฺเหิ วา ปพฺพชิเตหิ วาติ อาห. อนากิณฺณนฺติ อสํกิณฺณํ อสมฺพาธํ. ยสฺส เสนาสนสฺส สมนฺตา คาวุตมฺปิ อฑฺฒโยชนมฺปิ ปพฺพตคหนํ วนคหนํ นทีคหนํ โหติ, น โกจิ อเวลาย อุปสงฺกมิตุํ สกฺโกติ, อิทํ สนฺติเกปิ อนากิณฺณํ นาม. ยํ ปน อฑฺฒโยชนิกํ วา โยชนิกํ วา โหติ, อิทํ ทูรตาย เอว อนากิณฺณํ นาม.

วิหาโรติ อฑฺฒโยคาทิมุตฺตโก อวเสสาวาโส. อฑฺฒโยโคติ สุปณฺณวงฺกเคหํ. ปาสาโทติ ทฺเว กณฺณิกา คเหตฺวา กโต ทีฆปาสาโท. หมฺมิยนฺติ อุปริอากาสตเล ปติฏฺิตกูฏาคารปาสาโทเยว. คุหาติ อิฏฺกาคุหา สิลาคุหา ทารุคุหา ปํสุคุหาติ เอวฺหิ ขนฺธกฏฺกถายํ (จูฬว. อฏฺ. ๒๙๔) วุตฺตํ. วิภงฺคฏฺกถายํ ปน วิหาโรติ สมนฺตา ปริหารปถํ อนฺโตเยว รตฺติฏฺานทิวาฏฺานานิ จ ทสฺเสตฺวา กตเสนาสนํ. คุหาติ ภูมิคุหา, ยตฺถ รตฺตินฺทิวํ ทีปํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ. ปพฺพตคุหา วา ภูมิคุหา วาติ อิทํ ทฺวยํ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. มาติกาย สพฺพกาลสาธารณลกฺขณวเสน ‘‘นิสีทตี’’ติ วตฺตมานวจนํ กตํ, อิธ ปน นิสินฺนสฺส ภาวนารมฺภสพฺภาวโต นิสชฺชารมฺภปริโยสานทสฺสนตฺถํ นิสินฺโนติ นิฏฺานวจนํ กตํ. ยสฺมา ปน อุชุํ กายํ ปณิธาย นิสินฺนสฺส กาโย อุชุโก โหติ, ตสฺมา พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวา อธิปฺเปตม เอว ทสฺเสนฺโต อุชุโกติอาทิมาห. ตตฺถ ิโต สุปณิหิโตติ อุชุกํ ปณิหิตตฺตา อุชุโก หุตฺวา ิโต, น สยเมวาติ อตฺโถ. ปริคฺคหฏฺโติ ปริคฺคหิตฏฺโ. กึ ปริคฺคหิตํ? นิยฺยานํ. กึ นิยฺยานํ? อานาปานสฺสติสมาธิเยว ยาว อรหตฺตมคฺคา นิยฺยานํ. เตนาหนิยฺยานฏฺโติ มุขสทฺทสฺส เชฏฺกตฺถวเสน สํสารโต นิยฺยานฏฺโ วุตฺโต. อุปฏฺานฏฺโติ สภาวฏฺโเยว. สพฺเพหิ ปเนเตหิ ปเทหิ ปริคฺคหิตนิยฺยานํ สตึ กตฺวาติ อตฺโถ วุตฺโต โหติ. เกจิ ปน ‘‘ปริคฺคหฏฺโติ สติยา ปริคฺคหฏฺโ, นิยฺยานฏฺโติ อสฺสาสปสฺสาสานํ ปวิสนนิกฺขมนทฺวารฏฺโ’’ติ วณฺณยนฺติ. ปริคฺคหิตอสฺสาสปสฺสาสนิยฺยานํ สตึ อุปฏฺเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.

๑๖๕. พาตฺตึสาย อากาเรหีติ ตาสุ ตาสุ อวตฺถาสุ ยถากฺกเมน ลพฺภมานานํ อนวเสสปริยาทานวเสน วุตฺตํ. ทีฆํ อสฺสาสวเสนาติ มาติกาย ‘‘ทีฆ’’นฺติวุตฺตอสฺสาสวเสน. เอวํ เสเสสุ. เอกคฺคตนฺติ เอกคฺคภาวํ. อวิกฺเขปนฺติ อวิกฺขิปนํ. เอกคฺคตา เอว หิ นานารมฺมเณสุ จิตฺตสฺส อวิกฺขิปนโต อวิกฺเขโปติ วุจฺจติ. ปชานโตติ อสมฺโมหวเสน ปชานนฺตสฺส, วินฺทนฺตสฺสาติ วา อตฺโถ. ‘‘อวิกฺเขโป เม ปฏิลทฺโธ’’ติ อารมฺมณกรณวเสน ปชานนฺตสฺส วา. ตาย สติยาติ ตาย อุปฏฺิตาย สติยา. เตน าเณนาติ เตน อวิกฺเขปชานนาเณน. สโต การี โหตีติ เอตฺถ ยสฺมา าณสมฺปยุตฺตา เอว สติ สตีติ อธิปฺเปตา, ยถาห – ‘‘สติมา โหติ ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคโต’’ติ (วิภ. ๔๖๗). ตสฺมา ‘‘สโต’’ติ วจเนเนว าณมฺปิ คหิตเมว โหติ.

๑๖๖. อทฺธานสงฺขาเตติ ทีฆสงฺขาเต กาเล. ทีโฆ หิ มคฺโค อทฺธาโนติ วุจฺจติ. อยมฺปิ กาโล ทีฆตฺตา อทฺธาโน วิย อทฺธาโนติ วุตฺโต. ‘‘อสฺสสตี’’ติ จ ‘‘ปสฺสสตี’’ติ จ อสฺสาสฺจ ปสฺสาสฺจ วิสุํ วิสุํ วตฺวาปิ ภาวนาย นิรนฺตรปฺปวตฺติทสฺสนตฺถํ ‘‘อสฺสสติปิ ปสฺสสติปี’’ติ ปุน สมาเสตฺวา วุตฺตํ. ฉนฺโท อุปฺปชฺชตีติ ภาวนาภิวุทฺธิยา ภิยฺโยภาวาย ฉนฺโท ชายติ. สุขุมตรนฺติ ปสฺสมฺภนสพฺภาวโต วุตฺตํ. ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชตีติ ภาวนาปาริปูริยา ปีติ ชายติ. อสฺสาสปสฺสาสาปิ จิตฺตํ วิวตฺตตีติ อสฺสาสปสฺสาเส นิสฺสาย ปฏิภาคนิมิตฺเต อุปฺปชฺชนฺเต ปกติอสฺสาสปสฺสาสโต จิตฺตํ นิวตฺตติ. อุเปกฺขา สณฺาตีติ ตสฺมึ ปฏิภาคนิมิตฺเต อุปจารปฺปนาสมาธิปตฺติยา ปุน สมาธาเน พฺยาปาราภาวโต ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา สณฺาติ นาม. นวหากาเรหีติ เอตฺถ ภาวนารมฺภโต ปภุติ ปุเร ฉนฺทุปฺปาทา ‘‘อสฺสสติปิ ปสฺสสติปี’’ติ วุตฺตา ตโย อาการา, ฉนฺทุปฺปาทโต ปภุติ ปุเร ปาโมชฺชุปฺปาทา ตโย, ปาโมชฺชุปฺปาทโต ปภุติ ตโยติ นว อาการา. กาโยติ จุณฺณวิจุณฺณาปิ อสฺสาสปสฺสาสา สมูหฏฺเน กาโย. ปกติอสฺสาสปกติปสฺสาเส นิสฺสาย อุปฺปนฺนนิมิตฺตมฺปิ อสฺสาสปสฺสาสาติ นามํ ลภติ. อุปฏฺานํ สตีติ ตํ อารมฺมณํ อุเปจฺจ ติฏฺตีติ สติ อุปฏฺานํ นาม. อนุปสฺสนา าณนฺติ สมถวเสน นิมิตฺตกายานุปสฺสนา, วิปสฺสนาวเสน นามกายรูปกายานุปสฺสนา าณนฺติ อตฺโถ. กาโย อุปฏฺานนฺติ โส กาโย อุเปจฺจ ติฏฺติ เอตฺถ สตีติ อุปฏฺานํ นาม. โน สตีติ โส กาโย สติ นาม น โหตีติ อตฺโถ. ตาย สติยาติ อิทานิ วุตฺตาย สติยา. เตน าเณนาติ อิทาเนว วุตฺเตน าเณน. ตํ กายํ อนุปสฺสตีติ สมถวิปสฺสนาวเสน ยถาวุตฺตํ กายํ อนุคนฺตฺวา ฌานสมฺปยุตฺตาเณน วา วิปสฺสนาาเณน วา ปสฺสติ.

มาติกาย กายาทีนํ ปทานํ อภาเวปิ อิมสฺส จตุกฺกสฺส กายานุปสฺสนาวเสน วุตฺตตฺตา อิทานิ วตฺตพฺพํ ‘‘กาเย กายานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนา’’ติ วจนํ สนฺธาย กายปทนิทฺเทโส กโต. กาเย กายานุปสฺสนาติ พหุวิเธ กาเย ตสฺส ตสฺส กายสฺส อนุปสฺสนา. อถ วา กาเย กายานุปสฺสนา, น อฺธมฺมานุปสฺสนาติ วุตฺตํ โหติ. อนิจฺจทุกฺขานตฺตาสุภภูเต กาเย น นิจฺจสุขตฺตสุภานุปสฺสนา, อถ โข อนิจฺจทุกฺขานตฺตาสุภโต กายสฺเสว อนุปสฺสนา. อถ วา กาเย อหนฺติ วา มมนฺติ วา อิตฺถีติ วา ปุริโสติ วา คเหตพฺพสฺส กสฺสจิ อนนุปสฺสนโต ตสฺเสว กายมตฺตสฺส อนุปสฺสนาติ วุตฺตํ โหติ. อุปริ เวทนาสุ เวทนานุปสฺสนาติอาทีสุ ตีสุปิ เอเสว นโย. สติเยว อุปฏฺานํ สติปฏฺานํ, กายานุปสฺสนาย สมฺปยุตฺตํ สติปฏฺานํ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, ตสฺส ภาวนา กายานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนา.

๑๖๗. ตํ กายนฺติ อนิทฺทิฏฺเปิ นามรูปกาเย กายสทฺเทน ตสฺสาปิ สงฺคหิตตฺตา นิทฺทิฏฺํ วิย กตฺวา วุตฺตํ. อนิจฺจานุปสฺสนาทโย หิ นามรูปกาเย เอว ลพฺภนฺติ, น นิมิตฺตกาเย. อนุปสฺสนา จ ภาวนา จ วุตฺตตฺถา เอว. ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสวเสนาติอาทิ อานาปานสฺสติภาวนาย อานิสํสํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตสฺสา หิ สติเวปุลฺลตาาณเวปุลฺลตา จ อานิสํโส. ตตฺถ จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโตติ ปฏิลทฺธชฺฌานสฺส วิปสฺสนากาเล จิตฺเตกคฺคตํ สนฺธาย วุตฺตํ. วิทิตา เวทนาติ สามฺโต อุทยทสฺสเนน วิทิตา เวทนา. วิทิตา อุปฏฺหนฺตีติ ขยโต วยโต สุฺโต วิทิตา อุปฏฺหนฺติ. วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺตีติ สามฺโต วยทสฺสเนน วิทิตา วินาสํ คจฺฉนฺติ, ภิชฺชนฺตีติ อตฺโถ. สฺาวิตกฺเกสุปิ เอเสว นโย. อิเมสุ ปน ตีสุ วุตฺเตสุ เสสา รูปธมฺมาปิ วุตฺตา โหนฺติ. กสฺมา ปน อิเม ตโย เอว วุตฺตาติ เจ? ทุปฺปริคฺคหตฺตา. เวทนาสุ ตาว สุขทุกฺขา ปากฏา, อุเปกฺขา ปน สุขุมา ทุปฺปริคฺคหา, น สุฏฺุ ปากฏา. สาปิ จสฺส ปากฏา โหติ, สฺา อาการมตฺตคฺคาหกตฺตา น ยถาสภาวคฺคาหินี. สา จ สภาวสามฺลกฺขณคฺคาหเกน วิปสฺสนาาเณน สมฺปยุตฺตา อติ วิย อปากฏา. สาปิ จสฺส ปากฏา โหติ, วิตกฺโก าณปติรูปกตฺตา าณโต วิสุํ กตฺวา ทุปฺปริคฺคโห. าณปติรูปโก หิ วิตกฺโก. ยถาห – ‘‘ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาทิฏฺิ โย จ สมฺมาสงฺกปฺโป, อิเม ธมฺมา ปฺากฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒). โสปิ จสฺส วิตกฺโก ปากโฏ โหตีติ เอวํ ทุปฺปริคฺคเหสุ วุตฺเตสุ เสสา วุตฺตาว โหนฺตีติ. อิเมสํ ปน ปทานํ นิทฺเทเส กถํ วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺตีติ ปุจฺฉิตฺวา ตํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว เวทนุปฺปาทสฺส วิทิตตฺเตเยว วิสฺสชฺชิเต เวทนาย วิทิตตฺตํ วิสฺสชฺชิตํ โหตีติ กถํ เวทนาย อุปฺปาโท วิทิโต โหตีติอาทิมาห. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อวิชฺชาสมุทยา อวิชฺชานิโรธาติอาทโย เหฏฺา วุตฺตตฺถา เอว. อิมินาว นเยน สฺาวิตกฺกาปิ เวทิตพฺพา. วิตกฺกวาเร ปน ‘‘ผสฺสสมุทยา ผสฺสนิโรธา’’ติ อวตฺวา ผสฺสฏฺาเน สฺาสมุทยา สฺานิโรธาติ วุตฺตํ. ตํ กสฺมา อิติ เจ? สฺามูลกตฺตา วิตกฺกสฺส. ‘‘สฺานานตฺตํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สงฺกปฺปนานตฺต’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๓๕๙) หิ วุตฺตํ.

อนิจฺจโต มนสิกโรโตติอาทีสุ จ ‘‘เวทนํ อนิจฺจโต มนสิกโรโต’’ติอาทินา นเยน ตสฺมึ ตสฺมึ วาเร โส โสเยว ธมฺโม โยเชตพฺโพ. ยสฺมา ปน วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา เวทนา วิปสฺสนากิจฺจกรเณ อสมตฺถตฺตา วิปสฺสนาย อนุปการิกา, ตสฺมาเยว จ โพธิปกฺขิยธมฺเมสุ นาคตา. วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตาย ปน สฺาย กิจฺจเมว อปริพฺยตฺตํ, ตสฺมา สา วิปสฺสนาย เอกนฺตมนุปการิกา เอว. วิตกฺกํ ปน วินา วิปสฺสนากิจฺจเมว นตฺถิ. วิตกฺกสหายา หิ วิปสฺสนา สกกิจฺจํ กโรติ. ยถาห –

‘‘ปฺา อตฺตโน ธมฺมตาย อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตาติ อารมฺมณํ นิจฺเฉตุํ น สกฺโกติ, วิตกฺเก ปน อาโกเฏตฺวา อาโกเฏตฺวา เทนฺเต สกฺโกติ. กถํ? ยถา หิ เหรฺิโก กหาปณํ หตฺเถ เปตฺวา สพฺพภาเคสุ โอโลเกตุกาโม สมาโนปิ น จกฺขุตเลเนว ปริวตฺเตตุํ สกฺโกติ, องฺคุลิปพฺเพหิ ปน ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา อิโต จิโต จ โอโลเกตุํ สกฺโกติ, เอวเมว น ปฺา อตฺตโน ธมฺมตาย อนิจฺจาทิวเสน อารมฺมณํ นิจฺเฉตุํ สกฺโกติ, อภินิโรปนลกฺขเณน ปน อาหนนปริยาหนนรเสน วิตกฺเกน อาโกเฏนฺเตน วิย ปริวตฺเตนฺเตน วิย จ อาทายาทาย ทินฺนเมว นิจฺเฉตุํ สกฺโกตี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๕๖๘).

ตสฺมา เวทนาสฺานํ วิปสฺสนาย อนุปการตฺตา ลกฺขณมตฺตวเสเนว ทสฺเสตุํ ‘‘เวทนาย สฺายา’’ติ ตตฺถ ตตฺถ เอกวจเนน นิทฺเทโส กโต. ยตฺตโก ปน วิปสฺสนาย เภโท, ตตฺตโก เอว วิตกฺกสฺสาติ ทสฺเสตุํ ‘‘วิตกฺกาน’’นฺติ ตตฺถ ตตฺถ พหุวจเนน นิทฺเทโส กโตติ วตฺตุํ ยุชฺชติ.

๑๖๘. ปุน ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสวเสนาติอาทิ อานาปานสฺสติภาวนาย สมฺปตฺตึ ภาวนาผลฺจ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ สโมธาเนตีติ อารมฺมณํ เปติ, อารมฺมณํ ปติฏฺาเปตีติ วา อตฺโถ. สโมทหนพฺยาปาราภาเวปิ ภาวนาปาริปูริยา เอว สโมทหติ นาม. โคจรนฺติ วิปสฺสนากฺขเณ สงฺขารารมฺมณํ, มคฺคกฺขเณ ผลกฺขเณ จ นิพฺพานารมฺมณํ. สมตฺถนฺติ สมเมว อตฺโถ, สมสฺส วา อตฺโถติ สมตฺโถ. ตํ สมตฺถํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. มคฺคํ สโมธาเนตีติ มคฺคผลกฺขเณเยว โคจรํ นิพฺพานเมว. อยํ ปุคฺคโลติ อานาปานสฺสติภาวนํ อนุยุตฺโต โยคาวจโรว. อิมสฺมึ อารมฺมเณติ เอตฺถ ปน ‘‘กาเย’’ติปเทน สงฺคหิเต นามรูปกายสงฺขาเต สงฺขตารมฺมเณ เตเนว กเมน มคฺเค นิพฺพานารมฺมเณ จ. ยํ ตสฺสาติอาทีหิ อารมฺมณโคจรสทฺทานํ เอกตฺถตา วุตฺตา. ตสฺสาติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส. ปชานาตีติ ปุคฺคโล ปชานนา ปฺาติ ปุคฺคโล ปฺาย ปชานาตีติ วุตฺตํ โหติ. อารมฺมณสฺส อุปฏฺานนฺติ วิปสฺสนากฺขเณ สงฺขารารมฺมณสฺส, มคฺคผลกฺขเณ นิพฺพานารมฺมณสฺส อุปฏฺานํ สติ. เอตฺถ จ กมฺมตฺเถ สามิวจนํ ยถา รฺโ อุปฏฺานนฺติ. อวิกฺเขโปติ สมาธิ. อธิฏฺานนฺติ ยถาวุตฺตสงฺขารารมฺมณํ นิพฺพานารมฺมณฺจ. ตฺหิ อธิฏฺาติ เอตฺถ จิตฺตนฺติ อธิฏฺานํ. โวทานนฺติ าณํ. ตฺหิ โวทายติ วิสุชฺฌติ เตน จิตฺตนฺติ โวทานํ. ลีนปกฺขิโก สมาธิ อลีนภาวปฺปตฺติยา สมภูตตฺตา สมํ, อุทฺธจฺจปกฺขิกํ าณํ อนุทฺธตภาวปฺปตฺติยา สมภูตตฺตา สมํ. เตน วิปสฺสนามคฺคผลกฺขเณสุ สมถวิปสฺสนานํ ยุคนทฺธตา วุตฺตา โหติ. สติ ปน สพฺพตฺถิกตฺตา ตทุภยสมตาย อุปการิกาติ สมํ, อารมฺมณํ สมตาธิฏฺานตฺตา สมํ. อนวชฺชฏฺโติ วิปสฺสนาย อนวชฺชสภาโว. นิกฺเลสฏฺโติ มคฺคสฺส นิกฺกิเลสสภาโว. นิกฺกิเลสฏฺโติ วา ปาโ. โวทานฏฺโติ ผลสฺส ปริสุทฺธสภาโว. ปรมฏฺโติ นิพฺพานสฺส สพฺพธมฺมุตฺตมสภาโว. ปฏิวิชฺฌตีติ ตํ ตํ สภาวํ อสมฺโมหโต ปฏิวิชฺฌติ. เอตฺถ จ ‘‘อารมฺมณสฺส อุปฏฺาน’’นฺติอาทีหิ สมฺมา ปฏิเวโธ วุตฺโต. เอตฺเถว จ โวทานฏฺปฏิเวธสฺส วุตฺตตฺตา เตน เอกลกฺขณา อนวชฺชฏฺนิกฺกิเลสฏฺปรมฏฺา ลกฺขณหารวเสน วุตฺตาเยว โหนฺติ. ยถาห –

‘‘วุตฺตมฺหิ เอกธมฺเม, เย ธมฺมา เอกลกฺขณา เกจิ;

วุตฺตา ภวนฺติ สพฺเพ, โส หาโร ลกฺขโณ นามา’’ติ. (เนตฺติ. ๔.๕ นิทฺเทสวาร);

อนวชฺชฏฺโ นิกฺกิเลสฏฺโ เจตฺถ อวิกฺเขปสงฺขาตสฺส สมสฺส อตฺโถ ปโยชนนฺติ สมตฺโถ, โวทานฏฺโ วิปสฺสนามคฺคโวทานํ สนฺธาย สมเมว อตฺโถติ สมตฺโถ, ผลโวทานํ สนฺธาย มคฺคโวทานสงฺขาตสฺส สมสฺส อตฺโถติ สมตฺโถ, ปรมฏฺโ ปน สมเมว อตฺโถติ วา นิพฺพานปโยชนตฺตา สพฺพสฺส สมสฺส อตฺโถติ วา สมตฺโถ, ตํ วุตฺตปฺปการํ สมฺจ สมตฺถฺจ เอกเทสสรูเปกเสสํ กตฺวา สมตฺถฺจ ปฏิวิชฺฌตีติ วุตฺตํ. อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคธมฺมา วิปสฺสนามคฺคผลกฺขเณปิ ลพฺภนฺติ, มคฺโค จ ติสฺโส จ วิสุทฺธิโย มคฺคผลกฺขเณเยว, วิโมกฺโข จ วิชฺชา จ ขเย าณฺจ มคฺคกฺขเณเยว, วิมุตฺติ จ อนุปฺปาเท าณฺจ ผลกฺขเณเยว, เสสา วิปสฺสนากฺขเณปีติ. ธมฺมวาเร อิเม ธมฺเม อิมสฺมึ อารมฺมเณ สโมธาเนตีติ นิพฺพานํ เปตฺวา เสสา ยถาโยคํ เวทิตพฺพา. อิทํ ปน เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ. อวุตฺตตฺถา ปเนตฺถ เหฏฺา วุตฺตา เอว. เอเกกจตุกฺกวเสเนตฺถ นิยฺยาเน ทสฺสิเตปิ จตุกฺกนฺโตคธสฺส เอเกกสฺสาปิ ภาคสฺส นิยฺยานสฺส อุปนิสฺสยตฺตา เอเกกภาควเสน นิยฺยานํ ทสฺสิตํ. น หิ เอเกกํ วินา นิยฺยานํ โหตีติ.

ทีฆํอสฺสาสปสฺสาสนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๖๙. รสฺสนิทฺเทเส อิตฺตรสงฺขาเตติ ปริตฺตสงฺขาเต กาเล. เสสเมตฺถ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ.

๑๗๐. สพฺพกายปฏิสํเวทินิทฺเทเส อรูปธมฺเมสุ เวทนาย โอฬาริกตฺตา สุขคฺคหณตฺถํ ปมํ อิฏฺานิฏฺารมฺมณสํเวทิกา เวทนา วุตฺตา, ตโต ยํ เวเทติ, ตํ สฺชานาตีติ เอวํ เวทนาวิสยสฺส อาการคฺคาหิกา สฺา, ตโต สฺาวเสน อภิสงฺขาริกา เจตนา, ตโต ‘‘ผุฏฺโ เวเทติ, ผุฏฺโ สฺชานาติ, ผุฏฺโ เจเตตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๓) วจนโต ผสฺโส, ตโต สพฺเพสํ สาธารณลกฺขโณ มนสิกาโร, เจตนาทีหิ สงฺขารกฺขนฺโธ วุตฺโต. เอวํ ตีสุ ขนฺเธสุ วุตฺเตสุ ตํนิสฺสโย วิฺาณกฺขนฺโธ วุตฺโตว โหติ. นามฺจาติ วุตฺตปฺปการํ นามฺจ. นามกาโย จาติ อิทํ ปน นาเมน นิพฺพานสฺสปิ สงฺคหิตตฺตา โลกุตฺตรานฺจ อวิปสฺสนุปคตฺตา ตํ อปเนตุํ วุตฺตํ. ‘‘กาโย’’ติ หิ วจเนน นิพฺพานํ อปนีตํ โหติ นิพฺพานสฺส ราสิวินิมุตฺตตฺตา. เย จ วุจฺจนฺติ จิตฺตสงฺขาราติ ‘‘สฺา จ เวทนา จ เจตสิกา เอเต ธมฺมา จิตฺตปฏิพทฺธา จิตฺตสงฺขารา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๔; ม. นิ. ๑.๔๖๓) เอวํ วุจฺจมานาปิ จิตฺตสงฺขารา อิธ นามกาเยเนว สงฺคหิตาติ วุตฺตํ โหติ. มหาภูตาติ มหนฺตปาตุภาวโต มหาภูตสามฺโต มหาปริหารโต มหาวิการโต มหนฺตภูตตฺตา จาติ มหาภูตา. เต ปน – ปถวี อาโป เตโช วาโยติ จตฺตาโร. จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูปนฺติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ, จตฺตาโร มหาภูเต อุปาทาย นิสฺสาย อมุฺจิตฺวา ปวตฺตรูปนฺติ อตฺโถ. ตํ ปน – จกฺขุ โสตํ ฆานํ ชิวฺหา กาโย รูปํ สทฺโท คนฺโธ รโส อิตฺถินฺทฺริยํ ปุริสินฺทฺริยํ ชีวิตินฺทฺริยํ หทยวตฺถุ โอชา กายวิฺตฺติ วจีวิฺตฺติ อากาสธาตุ รูปสฺส ลหุตา มุทุตา กมฺมฺตฺตา อุปจโย สนฺตติ ชรตา อนิจฺจตาติ จตุวีสติวิธํ. อสฺสาโส จ ปสฺสาโส จาติ ปากติโกเยว. อสฺสาสปสฺสาเส นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ ปฏิภาคนิมิตฺตมฺปิ ตเทว นามํ ลภติ ปถวีกสิณาทีนิ วิย. รูปสริกฺขกตฺตา รูปนฺติ จ นามํ ลภติ ‘‘พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๒๐๔; ที. นิ. ๓.๓๓๘) วิย. นิมิตฺตฺจ อุปนิพนฺธนาติ สติอุปนิพนฺธนาย นิมิตฺตภูตํ อสฺสาสปสฺสาสานํ ผุสนฏฺานํ. เย จ วุจฺจนฺติ กายสงฺขาราติ ‘‘อสฺสาสปสฺสาสา กายิกา เอเต ธมฺมา กายปฏิพทฺธา กายสงฺขารา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๑; ม. นิ. ๑.๔๖๓) เอวํ วุจฺจมานาปิ กายสงฺขารา อิธ รูปกาเยเนว สงฺคหิตาติ วุตฺตํ โหติ.

เต กายา ปฏิวิทิตา โหนฺตีติ ฌานกฺขเณ อสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตกายา วิปสฺสนากฺขเณ อวเสสรูปารูปกายา อารมฺมณโต ปฏิวิทิตา โหนฺติ, มคฺคกฺขเณ อสมฺโมหโต ปฏิวิทิตา โหนฺติ. อสฺสาสปสฺสาสวเสน ปฏิลทฺธชฺฌานสฺส โยคิสฺส อุปฺปนฺนวิปสฺสนามคฺเคปิ สนฺธาย ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสวเสนาติอาทิ วุตฺตํ.

อาวชฺชโต ปชานโตติอาทีนิ สีลกถายํ วุตฺตตฺถานิ. เต วุตฺตปฺปกาเร กาเย อนฺโตกริตฺวา ‘‘สพฺพกายปฏิสํเวที’’ติ วุตฺตํ.

สพฺพกายปฏิสํเวที อสฺสาสปสฺสาสานํ สํวรฏฺเนาติอาทีสุ ‘‘สพฺพกายปฏิสํเวที’’ติวุตฺตอสฺสาสปสฺสาสโต อุปฺปนฺนชฺฌานวิปสฺสนามคฺเคสุ สํวโรเยว สํวรฏฺเน สีลวิสุทฺธิ. อวิกฺเขโปเยว อวิกฺเขปฏฺเน จิตฺตวิสุทฺธิ. ปฺาเยว ทสฺสนฏฺเน ทิฏฺิวิสุทฺธิ. ฌานวิปสฺสนาสุ วิรติอภาเวปิ ปาปาภาวมตฺตเมว สํวโร นามาติ เวทิตพฺพํ.

๑๗๑. ปสฺสมฺภยนฺติอาทีนํ นิทฺเทเส กายิกาติ รูปกาเย ภวา. กายปฏิพทฺธาติ กายํ ปฏิพทฺธา กายํ นิสฺสิตา, กาเย สติ โหนฺติ, อสติ น โหนฺติ, ตสฺมาเยว เต กาเยน สงฺขรียนฺตีติ กายสงฺขารา. ปสฺสมฺเภนฺโตติ นิพฺพาเปนฺโต สนฺนิสีทาเปนฺโต. ปสฺสมฺภนวจเนเนว โอฬาริกานํ ปสฺสมฺภนํ สิทฺธํ. นิโรเธนฺโตติ โอฬาริกานํ อนุปฺปาทเนน นิโรเธนฺโต. วูปสเมนฺโตติ โอฬาริเกเยว เอกสนฺตติปริณามนเยน สนฺตภาวํ นยนฺโต. สิกฺขตีติ อธิการวเสน อสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตีติ สมฺพนฺโธ, ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขตีติ วา อตฺโถ.

อิทานิ โอฬาริกปสฺสมฺภนํ ทสฺเสตุํ ยถารูเปหีติอาทิมาห. ตตฺถ ยถารูเปหีติ ยาทิเสหิ. อานมนาติ ปจฺฉโต นมนา. วินมนาติ อุภยปสฺสโต นมนา. สนฺนมนาติ สพฺพโตปิ นมนฺตสฺส สุฏฺุ นมนา. ปณมนาติ ปุรโต นมนา. อิฺชนาติ กมฺปนา. ผนฺทนาติ อีสกํ จลนา. ปกมฺปนาติ ภุสํ กมฺปนา. ยถารูเปหิ กายสงฺขาเรหิ กายสฺส อานมนา…เป… ปกมฺปนา, ตถารูปํ กายสงฺขารํ ปสฺสมฺภยนฺติ จ, ยา กายสฺส อานมนา…เป… ปกมฺปนา, ตฺจ ปสฺสมฺภยนฺติ จ สมฺพนฺโธ กาตพฺโพ. กายสงฺขาเรสุ หิ ปสฺสมฺภิเตสุ กายสฺส อานมนาทโย จ ปสฺสมฺภิตาเยว โหนฺตีติ. ยถารูเปหิ กายสงฺขาเรหิ กายสฺส น อานมนาทิกา โหติ, ตถารูปํ สนฺตํ สุขุมมฺปิ กายสงฺขารํ ปสฺสมฺภยนฺติ จ, ยา กายสฺส น อานมนาทิกา, ตฺจ สนฺตํ สุขุมํ ปสฺสมฺภยนฺติ จ สมฺพนฺธโต เวทิตพฺพํ. สนฺตํ สุขุมนฺติ จ ภาวนปุํสกวจนเมตํ. อิติ กิราติ เอตฺถ อิติ เอวมตฺเถ, กิร ยทิอตฺเถ. ยทิ เอวํ สุขุมเกปิ อสฺสาสปสฺสาเส ปสฺสมฺภยํ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตีติ โจทเกน โจทนา อารทฺธา โหติ. อถ วา กิราติ โจทกวจนตฺตา อสทฺทหนตฺเถ อสหนตฺเถ ปโรกฺขตฺเถ จ ยุชฺชติเยว, เอวํ สุขุมานมฺปิ ปสฺสมฺภนํ สิกฺขตีติ น สทฺทหามิ น สหามิ อปจฺจกฺขํ เมติ วุตฺตํ โหติ.

เอวํ สนฺเตติ เอวํ สุขุมานํ ปสฺสมฺภเน สนฺเต. วาตูปลทฺธิยา จ ปภาวนา น โหตีติ อสฺสาสปสฺสาสวาตสฺส อุปลทฺธิยา. อุปลทฺธีติ วิฺาณํ. อสฺสาสปสฺสาสวาตํ อุปลพฺภมานสฺส ตทารมฺมณสฺส ภาวนาวิฺาณสฺส ปภาวนา อุปฺปาทนา น โหติ, ตสฺส อารมฺมณสฺส ภาวนา น โหตีติ อตฺโถ. อสฺสาสปสฺสาสานฺจ ปภาวนา น โหตีติ ภาวนาย สุขุมกานมฺปิ อสฺสาสปสฺสาสานํ นิโรธนโต เตสฺจ อุปฺปาทนา ปวตฺตนา น โหตีติ อตฺโถ. อานาปานสฺสติยา จ ปภาวนา น โหตีติ อสฺสาสปสฺสาสาภาวโตเยว ตทารมฺมณาย ภาวนาวิฺาณสมฺปยุตฺตาย สติยา จ ปวตฺตนา น โหติ. ตสฺมาเยว ตํสมฺปยุตฺตสฺส อานาปานสฺสติสมาธิสฺส จ ภาวนา น โหติ. น จ นํ ตนฺติ เอตฺถ จ นนฺติ นิปาตมตฺตํ ‘‘ภิกฺขุ จ น’’นฺติอาทีสุ (ปารา. ๒๗๓) วิย. ตํ วุตฺตวิธึ สมาปตฺตึ ปณฺฑิตา น สมาปชฺชนฺติปิ ตโต น วุฏฺหนฺติปีติ สมฺพนฺโธ. โจทนาปกฺขสฺส ปริหารวจเน อิติ กิราติ เอวเมว. เอตฺถ เอวการตฺเถ กิรสทฺโท ทฏฺพฺโพ. เอวํ สนฺเตติ เอวํ ปสฺสมฺภเน สนฺเต เอว.

ยถา กถํ วิยาติ ยถา ตํ วุตฺตวิธานํ โหติ, ตถา ตํ กถํ วิยาติ อุปมํ ปุจฺฉติ. อิทานิ เสยฺยถาปีติ ตํ อุปมํ ทสฺเสติ. กํเสติ กํสมยภาชเน. นิมิตฺตนฺติ เตสํ สทฺทานํ อาการํ. ‘‘นิมิตฺต’’นฺติ จ สามิอตฺเถ อุปโยควจนํ, นิมิตฺตสฺสาติ อตฺโถ. สทฺทนิมิตฺตฺจ สทฺทโต อนฺํ. สุคฺคหิตตฺตาติ สุฏฺุ อุคฺคหิตตฺตา. สุคหิตตฺตาติปิ ปาโ, สุฏฺุ คหิตตฺตาติ อตฺโถ. สุมนสิกตตฺตาติ สุฏฺุ อาวชฺชิตตฺตา. สูปธาริตตฺตาติ สุฏฺุ จิตฺเต ปิตตฺตา. สุขุมสทฺทนิมิตฺตารมฺมณตาปีติ ตทา สุขุมานมฺปิ สทฺทานํ นิรุทฺธตฺตา อนุคฺคหิตสทฺทนิมิตฺตสฺส อนารมฺมณมฺปิ สุขุมตรํ สทฺทนิมิตฺตํ อารมฺมณํ กตฺวา สุขุมตรํ สทฺทนิมิตฺตารมฺมณมฺปิ จิตฺตํ ปวตฺตติ, สุขุมตรสทฺทนิมิตฺตารมฺมณภาวโตปีติ วา อตฺโถ. อิมินาว นเยน อปฺปนายมฺปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ปสฺสมฺภยนฺติอาทีสุ ‘‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขาร’’นฺติ วุตฺตา อสฺสาสปสฺสาสา กาโยติ วา ‘‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขาร’’นฺติ เอตฺถ อสฺสาสปสฺสาสา กาโยติ วา โยชนา เวทิตพฺพา. ภาวนาวิสุทฺธิยา กายสงฺขาเร ปสฺสมฺภมาเนปิ โอฬาริกํ กายสงฺขารํ ปสฺสมฺเภมีติ โยคิโน อาโภเค สติ เตนาทเรน อติวิย ปสฺสมฺภติ. อนุปฏฺหนฺตมฺปิ สุขุมํ สุอานยํ โหติ.

อฏฺ อนุปสฺสนาาณานีติ ‘‘ทีฆํ รสฺสํ สพฺพกายปฏิสํเวที ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขาร’’นฺติ วุตฺเตสุ จตูสุ วตฺถูสุ อสฺสาสวเสน จตสฺโส, ปสฺสาสวเสน จตสฺโสติ อฏฺ อนุปสฺสนาาณานิ. อฏฺ จ อุปฏฺานานุสฺสติโยติ ‘‘ทีฆํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโต สติ อุปฏฺิตา โหตี’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๐) นเยน วุตฺเตสุ จตูสุ วตฺถูสุ อสฺสาสวเสน จตสฺโส, ปสฺสาสวเสน จตสฺโสติ อฏฺ จ อุปฏฺานานุสฺสติโย. อฏฺ จุปฏฺานานุสฺสติโยติปิ ปาโ. จตฺตาริ สุตฺตนฺติกวตฺถูนีติ ภควตา อานาปานสฺสติสุตฺตนฺเต (ม. นิ. ๓.๑๔๔ อาทโย) วุตฺตตฺตา ปมจตุกฺกวเสน จตฺตาริ สุตฺตนฺติกวตฺถูนีติ.

ปมจตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๗๒. ทุติยจตุกฺกสฺส ปีติปฏิสํเวทินิทฺเทเส อุปฺปชฺชติ ปีติ ปาโมชฺชนฺติ เอตฺถ ปีตีติ มูลปทํ. ปาโมชฺชนฺติ ตสฺส อตฺถปทํ, ปมุทิตภาโวติ อตฺโถ. ยา ปีติ ปาโมชฺชนฺติอาทีสุ ยา ‘‘ปีตี’’ติ จ ‘‘ปาโมชฺช’’นฺติ จ เอวมาทีนิ นามานิ ลภติ, สา ปีตีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ ปีตีติ สภาวปทํ. ปมุทิตสฺส ภาโว ปาโมชฺชํ. อาโมทนากาโร อาโมทนา. ปโมทนากาโร ปโมทนา. ยถา วา เภสชฺชานํ วา เตลานํ วา อุณฺโหทกสีโตทกานํ วา เอกโตกรณํ โมทนาติ วุจฺจติ, เอวมยมฺปิ ธมฺมานํ เอกโตกรเณน โมทนา, อุปสคฺควเสน ปน ปทํ มณฺเฑตฺวา อาโมทนา ปโมทนาติ วุตฺตํ. หาเสตีติ หาโส, ปหาเสตีติ ปหาโส, หฏฺปหฏฺาการานเมตํ อธิวจนํ. วิตฺตีติ วิตฺตํ, ธนสฺเสตํ นามํ. อยํ ปน โสมนสฺสปจฺจยตฺตา วิตฺติสริกฺขตาย วิตฺติ. ยถา หิ ธนิโน ธนํ ปฏิจฺจ โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, เอวํ ปีติมโตปิ ปีตึ ปฏิจฺจ โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. ตสฺมา ‘‘วิตฺตี’’ติ วุตฺตา. ตุฏฺิสภาวสณฺิตาย หิ ปีติยา เอตํ นามํ. ปีติมา ปน ปุคฺคโล กายจิตฺตานํ อุคฺคตตฺตา อพฺภุคฺคตตฺตา ‘‘อุทคฺโค’’ติ วุจฺจติ, อุทคฺคสฺส ภาโค โอทคฺยํ. อตฺตโน มนตา อตฺตมนตา. อนภิรทฺธสฺส หิ มโน ทุกฺขปทฏฺานตฺตา น อตฺตโน มโน นาม โหติ, อภิรทฺธสฺส สุขปทฏฺานตฺตา อตฺตโน มโน นาม โหติ, อิติ อตฺตโน มนตา อตฺตมนตา, สกมนตา สกมนสฺส ภาโวติ อตฺโถ. สา ปน ยสฺมา น อฺสฺส กสฺสจิ อตฺตโน มนตา, จิตฺตสฺเสว ปเนโส ภาโว เจตสิโก ธมฺโม, ตสฺมา อตฺตมนตา จิตฺตสฺสาติ วุตฺตา. เสสเมตฺถ จ อุปริ จ เหฏฺา วุตฺตนเยน โยเชตฺวา เวทิตพฺพํ.

๑๗๓. สุขปฏิสํเวทินิทฺเทเส ทฺเว สุขานีติ สมถวิปสฺสนาภูมิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. กายิกฺหิ สุขํ วิปสฺสนาย ภูมิ, เจตสิกํ สุขํ สมถสฺส จ วิปสฺสนาย จ ภูมิ. กายิกนฺติ ปสาทกายํ วินา อนุปฺปตฺติโต กาเย นิยุตฺตนฺติ กายิกํ. เจตสิกนฺติ อวิปฺปโยควเสน เจตสิ นิยุตฺตนฺติ เจตสิกํ. ตตฺถ กายิกปเทน เจตสิกํ สุขํ ปฏิกฺขิปติ, สุขปเทน กายิกํ ทุกฺขํ. ตถา เจตสิกปเทน กายิกํ สุขํ ปฏิกฺขิปติ, สุขปเทน เจตสิกํ ทุกฺขํ. สาตนฺติ มธุรํ สุมธุรํ. สุขนฺติ สุขเมว, น ทุกฺขํ. กายสมฺผสฺสชนฺติ กายสมฺผสฺเส ชาตํ. สาตํ สุขํ เวทยิตนฺติ สาตํ เวทยิตํ, น อสาตํ เวทยิตํ. สุขํ เวทยิตํ, น ทุกฺขํ เวทยิตํ. ปรโต ตีณิ ปทานิ อิตฺถิลิงฺควเสน วุตฺตานิ. สาตา เวทนา, น อสาตา. สุขา เวทนา, น ทุกฺขาติ อยเมว ปเนตฺถ อตฺโถ.

เจตสิกสุขนิทฺเทโส วุตฺตปฏิปกฺขนเยน โยเชตพฺโพ. เต สุขาติ ลิงฺควิปลฺลาโส กโต, ตานิ สุขานีติ วุตฺตํ โหติ. เสสเมตฺถ จตุกฺเก เหฏฺา ปมจตุกฺเก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. จตฺตาริ สุตฺตนฺติกวตฺถูนิ ทุติยจตุกฺกวเสน เวทิตพฺพานีติ.

ทุติยจตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๗๖. ตติยจตุกฺกนิทฺเทเส จิตฺตนฺติ มูลปทํ. วิฺาณนฺติ อตฺถปทํ. ยํ จิตฺตนฺติอาทิ ปีติยํ วุตฺตนเยน โยเชตพฺพํ. ตตฺถ จิตฺตนฺติอาทีสุ จิตฺตวิจิตฺตตาย จิตฺตํ. อารมฺมณํ มินมานํ ชานาตีติ มโน. มานสนฺติ มโนเยว. ‘‘อนฺตลิกฺขจโร ปาโส, ยฺวายํ จรติ มานโส’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๕๑; มหาว. ๓๓) หิ เอตฺถ ปน สมฺปยุตฺตกธมฺโม มานโสติ วุตฺโต.

‘‘กถฺหิ ภควา ตุยฺหํ, สาวโก สาสเน รโต;

อปฺปตฺตมานโส เสกฺโข, กาลํ กยิรา ชเน สุตา’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๕๙) –

เอตฺถ อรหตฺตํ มานสนฺติ วุตฺตํ. อิธ ปน มโนว มานสํ. พฺยฺชนวเสน เหตํ ปทํ วฑฺฒิตํ.

หทยนฺติ จิตฺตํ. ‘‘จิตฺตํ วา เต ขิปิสฺสามิ, หทยํ วา เต ผาเลสฺสามี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๓๗; สุ. นิ. อาฬวกสุตฺต) เอตฺถ อุโร หทยนฺติ วุตฺตํ. ‘‘หทยา หทยํ มฺเ อฺาย ตจฺฉตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๖๓) เอตฺถ จิตฺตํ. ‘‘วกฺกํ หทย’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๓๗๗; ม. นิ. ๑.๑๑๐) เอตฺถ หทยวตฺถุ. อิธ ปน จิตฺตเมว อพฺภนฺตรฏฺเน ‘‘หทย’’นฺติ วุตฺตํ. ตเทว ปริสุทฺธฏฺเน ปณฺฑรํ. ภวงฺคํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ยถาห – ‘‘ปภสฺสรมิทํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตฺจ โข อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺ’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๔๙). ตโต นิกฺขนฺตตฺตา ปน อกุสลมฺปิ คงฺคาย นิกฺขนฺตา นที คงฺคา วิย, โคธาวริโต นิกฺขนฺตา โคธาวรี วิย จ ‘‘ปณฺฑร’’นฺตฺเวว วุตฺตํ. ยสฺมา ปน อารมฺมณวิชานนลกฺขณํ จิตฺตํ อุปกฺกิเลเสน กิเลโส น โหติ, สภาวโต ปริสุทฺธเมว โหติ, อุปกฺกิเลสโยเค ปน สติ อุปกฺกิลิฏฺํ นาม โหติ, ตสฺมาปิ ‘‘ปณฺฑร’’นฺติ วตฺตุํ ยุชฺชติ.

มโน มนายตนนฺติ อิธ ปน มโนคหณํ มนสฺเสว อายตนภาวทีปนตฺถํ. เตเนตํ ทีเปติ – ‘‘นยิทํ เทวายตนํ วิย มนสฺส อายตนตฺตา มนายตนํ, อถ โข มโน เอว อายตนํ มนายตน’’นฺติ.

อายตนฏฺโ เหฏฺา วุตฺโตเยว. มนเต อิติ มโน, วิชานาตีติ อตฺโถ. อฏฺกถาจริยา ปนาหุ – นาฬิยา มินมาโน วิย มหาตุลาย ธารยมาโน วิย จ อารมฺมณํ ชานาตีติ มโน, ตเทว มนนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, มโนว อินฺทฺริยํ มนินฺทฺริยํ.

วิชานาตีติ วิฺาณํ. วิฺาณเมว ขนฺโธ วิฺาณกฺขนฺโธ. รุฬฺหิโต ขนฺโธ วุตฺโต. ราสฏฺเน หิ วิฺาณกฺขนฺธสฺส เอกเทโส เอกํ วิฺาณํ. ตสฺมา ยถา รุกฺขสฺส เอกเทสํ ฉินฺทนฺโต รุกฺขํ ฉินฺทตีติ วุจฺจติ, เอวเมว วิฺาณกฺขนฺธสฺส เอกเทสภูตํ เอกมฺปิ วิฺาณํ รุฬฺหิโต ‘‘วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ราสฏฺโเยว ขนฺธฏฺโ น โหติ, โกฏฺาสฏฺโปิ ขนฺธฏฺโเยว, ตสฺมา โกฏฺาสฏฺเน วิฺาณโกฏฺาโสติปิ อตฺโถ. ตชฺชา มโนวิฺาณธาตูติ เตสํ ผสฺสาทีนํ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อนุจฺฉวิกา มโนวิฺาณธาตุ. อิมสฺมิฺหิ ปเท เอกเมว จิตฺตํ มินนฏฺเน มโน, วิชานนฏฺเน วิฺาณํ, สภาวฏฺเน, นิสฺสตฺตฏฺเน วา ธาตูติ ตีหิ นาเมหิ วุตฺตํ.

๑๗๗.

อภิปฺปโมโทติ อธิกา ตุฏฺิ.

๑๗๘. สมาธินิทฺเทเส อจลภาเวน อารมฺมเณ ติฏฺตีติ ิติ. ปรโต ปททฺวยํ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตํ. อปิจ สมฺปยุตฺตธมฺเม อารมฺมณมฺหิ สมฺปิณฺเฑตฺวา ติฏฺตีติ สณฺิติ. อารมฺมณํ โอคาเหตฺวา อนุปวิสิตฺวา ติฏฺตีติ อวฏฺิติ. กุสลปกฺขสฺมึ หิ จตฺตาโร ธมฺมา อารมฺมณํ โอคาหนฺติ สทฺธา สติ สมาธิ ปฺาติ. เตเนว สทฺธา ‘‘โอกปฺปนา’’ติ วุตฺตา, สติ ‘‘อปิลาปนตา’’ติ, สมาธิ ‘‘อวฏฺิตี’’ติ, ปฺา ‘‘ปริโยคาหนา’’ติ. อกุสลปกฺเข ปน ตโย ธมฺมา อารมฺมณํ โอคาหนฺติ ตณฺหา ทิฏฺิ อวิชฺชาติ. เตเนว เต ‘‘โอฆา’’ติ วุตฺตา. อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาวเสน ปวตฺตสฺส วิสาหารสฺส ปฏิปกฺขโต อวิสาหาโร, อวิสาหรณนฺติ อตฺโถ. อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาวเสเนว คจฺฉนฺตํ จิตฺตํ วิกฺขิปติ นาม, อยํ ปน ตถา น โหตีติ อวิกฺเขโป. อุทฺธจฺจวิจิกิจฺฉาวเสเนว จิตฺตํ วิสาหฏํ นาม โหติ, อิโต จิโต จ หรียติ, อยํ ปน อวิสาหฏสฺส มานสสฺส ภาโวติ อวิสาหฏมานสตา.

สมโถติ ติวิโธ สมโถ จิตฺตสมโถ อธิกรณสมโถ สพฺพสงฺขารสมโถติ. ตตฺถ อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ จิตฺเตกคฺคตา จิตฺตสมโถ นาม. ตฺหิ อาคมฺม จิตฺตจลนํ จิตฺตวิปฺผนฺทนํ สมฺมติ วูปสมฺมติ, ตสฺมา โส ‘‘จิตฺตสมโถ’’ติ วุจฺจติ. สมฺมุขาวินยาทิสตฺตวิโธ อธิกรณสมโถ นาม. ตฺหิ อาคมฺม ตานิ ตานิ อธิกรณานิ สมฺมนฺติ วูปสมฺมนฺติ, ตสฺมา โส ‘‘อธิกรณสมโถ’’ติ วุจฺจติ. ยสฺมา ปน สพฺเพ สงฺขารา นิพฺพานํ อาคมฺม สมฺมนฺติ วูปสมฺมนฺติ, ตสฺมา ตํ สพฺพสงฺขารสมโถติ วุจฺจติ. อิมสฺมึ อตฺเถ จิตฺตสมโถ อธิปฺเปโต. สมาธิลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ สมาธินฺทฺริยํ. อุทฺธจฺเจ น กมฺปตีติ สมาธิพลํ. สมฺมาสมาธีติ ยาถาวสมาธิ นิยฺยานิกสมาธิ กุสลสมาธิ.

๑๗๙. ราคโต วิโมจยํ จิตฺตนฺติอาทีหิ ทสหิ กิเลสวตฺถูหิ วิโมจนํ วุตฺตํ. ถินคฺคหเณเนว เจตฺถ มิทฺธคฺคหณํ, อุทฺธจฺจคฺคหเณเนว จ กุกฺกุจฺจคฺคหณํ กตํ โหตีติ อฺเสุ ปาเสุ สหจาริตฺตา กิเลสวตฺถุโต วิโมจนวจเนเนว ปมชฺฌานาทีหิ นีวรณาทิโต วิโมจนํ, อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ นิจฺจสฺาทิโต จ วิโมจนํ วุตฺตเมว โหตีติ. กถํ ตํ จิตฺตํ อนุปสฺสตีติ เอตฺถ เปยฺยาเล จ อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ นิจฺจสฺาทีนํ ปหานํ วุตฺตเมว. จตฺตาริ สุตฺตนฺติกวตฺถูนิ ตติยจตุกฺกวเสน เวทิตพฺพานีติ.

ตติยจตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๘๐. จตุตฺถจตุกฺกนิทฺเทเส ‘‘อนิทฺทิฏฺเ นปุํสก’’นฺติ วจนโต อสุกนฺติ อนิทฺทิฏฺตฺตา ‘‘อนิจฺจนฺติ กึ อนิจฺจ’’นฺติ นปุํสกวจเนน ปุจฺฉา กตา. อุปฺปาทวยฏฺเนาติ อุปฺปาทวยสงฺขาเตน อตฺเถน, อุปฺปาทวยสภาเวนาติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ปฺจกฺขนฺธา สภาวลกฺขณํ, ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุปฺปาทวยา วิการลกฺขณํ. เอเตน หุตฺวา อภาเวน อนิจฺจาติ วุตฺตํ โหติ. เตเนว จ อฏฺกถายํ ‘‘สงฺขตลกฺขณวเสน อนิจฺจตาติ เตสํเยว อุปฺปาทวยฺถตฺต’’นฺติ จ วตฺวาปิ ‘‘หุตฺวา อภาโว วา’’ติ วุตฺตํ. เอเตน หุตฺวา อภาวากาโร อนิจฺจลกฺขณนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ ปสฺสนฺโต อิมานิ ปฺาย ลกฺขณานี’’ติ เปยฺยาลํ กตฺวา วุตฺตํ. ธมฺมาติ รูปกฺขนฺธาทโย ยถาวุตฺตธมฺมา.

วิราคานุปสฺสีนิทฺเทเส รูเป อาทีนวํ ทิสฺวาติ ภงฺคานุปสฺสนโต ปฏฺาย ปรโต วุตฺเตหิ อนิจฺจฏฺาทีหิ รูปกฺขนฺเธ อาทีนวํ ทิสฺวา. รูปวิราเคติ นิพฺพาเน. นิพฺพานฺหิ อาคมฺม รูปํ วิรชฺชติ อปุนรุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปชฺชเนน นิรุชฺฌติ, ตสฺมา นิพฺพานํ ‘‘รูปวิราโค’’ติ วุจฺจติ. ฉนฺทชาโต โหตีติ อนุสฺสววเสน อุปฺปนฺนธมฺมจฺฉนฺโท โหติ. สทฺธาธิมุตฺโตติ ตสฺมึเยว นิพฺพาเน สทฺธาย จ อธิมุตฺโต นิจฺฉิโต. จิตฺตฺจสฺส สฺวาธิฏฺิตนฺติ อสฺส โยคิสฺส จิตฺตํ ขยวิราคสงฺขาเต รูปภงฺเค อารมฺมณวเสน, อจฺจนฺต วิราคสงฺขาเต รูปวิราเค นิพฺพาเน อนุสฺสววเสน สุฏฺุ อธิฏฺิตํ สุฏฺุ ปติฏฺิตํ โหตีติ สมฺพนฺธโต เวทิตพฺพํ. รูเป วิราคานุปสฺสีติ รูปสฺส ขยวิราโค รูเป วิราโคติ ปกติภุมฺมวจเนน วุตฺโต. รูปสฺส อจฺจนฺตวิราโค รูเป วิราโคติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมวจเนน วุตฺโต. ตํ ทุวิธมฺปิ วิราคํ อารมฺมณโต อชฺฌาสยโต จ อนุปสฺสนสีโล ‘‘รูเป วิราคานุปสฺสี’’ติ วุตฺโต. เอส นโย เวทนาทีสุ. นิโรธานุปสฺสีปทนิทฺเทเสปิ เอเสว นโย.

๑๘๑. กติหากาเรหีติอาทิ ปเนตฺถ วิเสโส – ตตฺถ อวิชฺชาทีนํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานํ อาทีนวนิโรธทสฺสเนเนว รูปาทีนมฺปิ อาทีนวนิโรธา ทสฺสิตา โหนฺติ เตสมฺปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานติวตฺตนโต. อิมินา เอว จ วิเสสวจเนน วิราคานุปสฺสนโต นิโรธานุปสฺสนาย วิสิฏฺภาโว วุตฺโต โหติ. ตตฺถ อนิจฺจฏฺเนาติ ขยฏฺเน, หุตฺวา อภาวฏฺเน วา. ทุกฺขฏฺเนาติ ภยฏฺเน, ปฏิปีฬนฏฺเน วา. อนตฺตฏฺเนาติ อสารกฏฺเน, อวสวตฺตนฏฺเน วา. สนฺตาปฏฺเนาติ กิเลสสนฺตาปนฏฺเน. วิปริณามฏฺเนาติ ชราภงฺควเสน ทฺวิธา ปริณามนฏฺเน. นิทานนิโรเธนาติ มูลปจฺจยาภาเวน. นิรุชฺฌตีติ น ภวติ. สมุทยนิโรเธนาติ อาสนฺนปจฺจยาภาเวน. มูลปจฺจโย หิ พฺยาธิสฺส อสปฺปายโภชนํ วิย นิทานนฺติ วุตฺโต, อาสนฺนปจฺจโย พฺยาธิสฺส วาตปิตฺตเสมฺหา วิย สมุทโยติ วุตฺโต. นิทานฺหิ นิจฺฉเยน ททาติ ผลมิติ นิทานํ, สมุทโย ปน สุฏฺุ อุเทติ เอตสฺมา ผลมิติ สมุทโย. ชาตินิโรเธนาติ มูลปจฺจยสฺส อุปฺปตฺติอภาเวน. ปภวนิโรเธนาติ อาสนฺนปจฺจยสฺส อุปฺปตฺติอภาเวน. ชาติเยว หิ ปภวติ เอตสฺมา ทุกฺขนฺติ ปภโวติ วตฺตุํ ยุชฺชติ. เหตุนิโรเธนาติ ชนกปจฺจยาภาเวน. ปจฺจยนิโรเธนาติ อุปตฺถมฺภกปจฺจยาภาเวน. มูลปจฺจโยปิ หิ อาสนฺนปจฺจโย จ ชนกปจฺจโย อุปตฺถมฺภกปจฺจโย จ โหติเยว. เอเตหิ ติกฺขวิปสฺสนากฺขเณ ตทงฺคนิโรโธ, มคฺคกฺขเณ สมุจฺเฉทนิโรโธ วุตฺโต โหติ. าณุปฺปาเทนาติ ติกฺขวิปสฺสนาาณสฺส วา มคฺคาณสฺส วา อุปฺปาเทน. นิโรธุปฏฺาเนนาติ วิปสฺสนากฺขเณ ปจฺจกฺขโต ขยนิโรธสฺส อนุสฺสววเสน นิโรธสงฺขาตสฺส นิพฺพานสฺส อุปฏฺาเนน, มคฺคกฺขเณ ปจฺจกฺขโต จ นิพฺพานสฺส อุปฏฺาเนน. เอเตหิ วิสยวิสยินิยโมว กโต โหติ, ตทงฺคสมุจฺเฉทนิโรโธ จ วุตฺโต โหติ.

๑๘๒. ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสีปทนิทฺเทเส รูปํ ปริจฺจชตีติ อาทีนวทสฺสเนน นิรเปกฺขตาย รูปกฺขนฺธํ ปริจฺจชติ. ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโคติ ปริจฺจาคฏฺเน ปฏินิสฺสคฺโคติ วุตฺตํ โหติ. เอเตน ปฏินิสฺสคฺคปทสฺส ปริจฺจาคฏฺโ วุตฺโต, ตสฺมา กิเลสานํ ปชหนนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ วุฏฺานคามินี วิปสฺสนา กิเลเส ตทงฺควเสน ปริจฺจชติ, มคฺโค สมุจฺเฉทวเสน. รูปนิโรเธ นิพฺพาเน จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ วุฏฺานคามินี ตํนินฺนตาย ปกฺขนฺทติ, มคฺโค อารมฺมณกรเณน. ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโคติ ปกฺขนฺทนฏฺเน ปฏินิสฺสคฺโคติ วุตฺตํ โหติ. เอเตน ปฏินิสฺสคฺคปทสฺส ปกฺขนฺทนฏฺโ วุตฺโต, ตสฺมา จิตฺตสฺส นิพฺพาเน วิสฺสชฺชนนฺติ อตฺโถ. จตฺตาริ สุตฺตนฺติกวตฺถูนิ จตุตฺถจตุกฺกวเสน เวทิตพฺพานิ. อิมสฺมึ จตุกฺเก ชรามรเณ วตฺตพฺพํเหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. สติปฏฺาเนสุ จ ‘‘กาเย กายานุปสฺสนา, จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสนา’’ติ กายจิตฺตานํ เอกตฺตโวหารวเสน เอกวจนนิทฺเทโส กโต. ‘‘เวทนาสุ เวทนานุปสฺสนา, ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสนา’’ติ เวทนาธมฺมานํ นานตฺตโวหารวเสน พหุวจนนิทฺเทโส กโตติ เวทิตพฺโพติ.

จตุตฺถจตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิตา จ สโตการิาณนิทฺเทสวณฺณนา.

๖. าณราสิฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา

๑๘๓. อิทานิ ฉหิ ราสีหิ อุทฺทิฏฺาเณสุ จตุวีสติสมาธิาณนิทฺเทเส ตาว กายานุปสฺสนาทีนํ ติณฺณํ จตุกฺกานํ วเสน ทฺวาทสนฺนํ วตฺถูนํ เอเกกสฺมึ อสฺสาสวเสน เอโก, ปสฺสาสวเสน เอโกติ ทฺเว ทฺเว สมาธีติ ทฺวาทสสุ วตฺถูสุ จตุวีสติ สมาธโย โหนฺติ. ฌานกฺขเณ เตหิ สมฺปยุตฺตานิ จตุวีสติสมาธิวเสน าณานิ.

ทฺวาสตฺตติวิปสฺสนาาณนิทฺเทเส ทีฆํ อสฺสาสาติ ‘‘ทีฆ’’นฺติวุตฺตอสฺสาสโต. กึ วุตฺตํ โหติ? ทีฆํ อสฺสาสเหตุ ฌานํ ปฏิลภิตฺวา สมาหิเตน จิตฺเตน วิปสฺสนากฺขเณ อนิจฺจโต อนุปสฺสนฏฺเน วิปสฺสนาติ วุตฺตํ โหติ. เอส นโย อุตฺตรตฺราปิ. เตสํเยว ทฺวาทสนฺนํ วตฺถูนํ เอเกกสฺมึ อสฺสาสวเสน ติสฺโส, ปสฺสาสวเสน ติสฺโสติ ฉ ฉ อนุปสฺสนาติ ทฺวาทสสุ วตฺถูสุ ทฺวาสตฺตติ อนุปสฺสนา โหนฺติ. ตา เอว ทฺวาสตฺตติ อนุปสฺสนา ทฺวาสตฺตติวิปสฺสนาวเสน าณานิ.

นิพฺพิทาาณนิทฺเทเส อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสสนฺติ อนิจฺจานุปสฺสี หุตฺวา อสฺสสนฺโต, อนิจฺจานุปสฺสี หุตฺวา วตฺเตนฺโตติ อตฺโถ. ‘‘อสฺสส’’นฺติ จ อิทํ วจนํ เหตุอตฺเถ ทฏฺพฺพํ. ยถาภูตํ ชานาติ ปสฺสตีติ นิพฺพิทาาณนฺติ กลาปสมฺมสนโต ปฏฺาย ยาว ภงฺคานุปสฺสนา ปวตฺตวิปสฺสนาาเณน สงฺขารานํ ยถาสภาวํ ชานาติ, จกฺขุนา ทิฏฺมิว จ เตเนว าณจกฺขุนา ปสฺสติ. ตสฺมา นิพฺพิทาาณํ นามาติ อตฺโถ, สงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทาณํ นามาติ วุตฺตํ โหติ. อุปริ ภยตูปฏฺานาทีนํ มุฺจิตุกมฺยตาทีนฺจ าณานํ วิสุํ อาคตตฺตา อิธ ยถาวุตฺตาเนว วิปสฺสนาาณานิ นิพฺพิทาาณานีติ เวทิตพฺพานิ.

นิพฺพิทานุโลมาณนิทฺเทเส อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสสนฺติ อนิจฺจานุปสฺสิโน อสฺสสนฺตสฺส. สามิอตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ. ภยตุปฏฺาเน ปฺาติวจเนเนว ภยตุปฏฺานอาทีนวานุปสฺสนานิพฺพิทานุปสฺสนาาณานิ วุตฺตานิ โหนฺติ ติณฺณํ เอกลกฺขณตฺตา. อิมานิ ตีณิ าณานิ อนนฺตรา วุตฺตานํ นิพฺพิทาาณานํ อนุกูลภาเวน อนุโลมโต นิพฺพิทานุโลมาณานีติ วุตฺตานิ.

นิพฺพิทาปฏิปฺปสฺสทฺธิาณนิทฺเทเส อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสสนฺติ อนนฺตรสทิสเมว. ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา ปฺาติวจเนเนว มุฺจิตุกมฺยตาปฏิสงฺขานุปสฺสนาสงฺขารุเปกฺขาาณานิ วุตฺตานิ โหนฺติ ติณฺณํ เอกลกฺขณตฺตา. ‘‘ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา’’ติวจเนเนว อนุโลมาณมคฺคาณานิปิ คหิตานิ โหนฺติ. สงฺขารุเปกฺขาาณอนุโลมาณานิปิ หิ นิพฺพิทาย สิขาปฺปตฺตตฺตา นิพฺพิทาชนนพฺยาปารปฺปหาเนน นิพฺพิทาปฏิปฺปสฺสทฺธิาณานิ นาม โหนฺติ. มคฺคาณํ ปน นิพฺพิทาปฏิปฺปสฺสทฺธนฺเต อุปฺปชฺชนโต นิพฺพิทาปฏิปฺปสฺสทฺธิาณํ นาม โหตีติ อติวิย ยุชฺชตีติ. นิพฺพิทานุโลมาเณสุ วิย อาทิภูตํ มุฺจิตุกมฺยตาาณํ อคฺคเหตฺวา ‘‘ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา’’ติ อนฺเต าณทฺวยคฺคหณํ มคฺคาณสงฺคหณตฺถํ. มุฺจิตุกมฺยตาติ หิ วุตฺเต อนุโลมาณํ สงฺคยฺหติ, น มคฺคาณํ. มคฺคาณฺหิ มุฺจิตุกมฺยตา นาม น โหติ, กิจฺจสิทฺธิยํ สนฺติฏฺนโต ปน สนฺติฏฺนา นาม โหติ. อฏฺกถายมฺปิ จ ‘‘ผุสนาติ อปฺปนา’’ติ วุตฺตํ. อิทฺจ มคฺคาณํ นิพฺพาเน อปฺปนาติ กตฺวา สนฺติฏฺนา นาม โหตีติ ‘‘สนฺติฏฺนา’’ติวจเนน มคฺคาณมฺปิ สงฺคยฺหติ. นิพฺพิทานุโลมาณานิปิ อตฺถโต นิพฺพิทาาณาเนว โหนฺตีติ ตานิปิ นิพฺพิทาาเณหิ สงฺคเหตฺวา นิพฺพิทาปฏิปฺปสฺสทฺธิาณานีติ นิพฺพิทาคหณเมว กตํ, น นิพฺพิทานุโลมคฺคหณํ. ตีสุปิ เจเตสุ าณฏฺกนิทฺเทเสสุ จตุตฺถสฺส ธมฺมานุปสฺสนาจตุกฺกสฺส วเสน วุตฺตานํ จตุนฺนํ วตฺถูนํ เอเกกสฺมึ อสฺสาสวเสน เอกํ, ปสฺสาสวเสน เอกนฺติ ทฺเว ทฺเว าณานีติ จตูสุ วตฺถูสุ อฏฺ าณานิ โหนฺติ.

วิมุตฺติสุขาณนิทฺเทเส ปหีนตฺตาติ ปหานํ ทสฺเสตฺวา ตสฺส ปหานสฺส สมุจฺเฉทปฺปหานตฺตํ ทสฺเสนฺโต สมุจฺฉินฺนตฺตาติ อาห. วิมุตฺติสุเข าณนฺติ ผลวิมุตฺติสุขสมฺปยุตฺตาณฺจ ผลวิมุตฺติสุขารมฺมณปจฺจเวกฺขณาณฺจ. อนุสยวตฺถุสฺส กิเลสสฺส ปหาเนน ปริยุฏฺานทุจฺจริตวตฺถุปฺปหานํ โหตีติ ทสฺสนตฺถํ ปุน อนุสยานํ ปหานํ วุตฺตํ. เอกวีสติผลาณํ สนฺธาย ปหีนกิเลสคณนายปิ าณคณนา กตา โหติ, ปจฺจเวกฺขณาณฺจ สนฺธาย ปหีนกิเลสปจฺจเวกฺขณคณนาย ผลปจฺจเวกฺขณาณคณนา กตา โหตีติ.

าณราสิฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฏิสมฺภิทามคฺคฏฺกถาย

อานาปานสฺสติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อินฺทฺริยกถา

๑. ปมสุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา

๑๘๔. อิทานิ อานาปานสฺสติกถานนฺตรํ กถิตาย อินฺทฺริยกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา อนุปฺปตฺตา. อยฺหิ อินฺทฺริยกถา อานาปานสฺสติภาวนาย อุปการกานํ อินฺทฺริยานํ อภาเว อานาปานสฺสติภาวนาย อภาวโต ตทุปการกานํ อินฺทฺริยานํ วิโสธนาทิวิธิทสฺสนตฺถํ อานาปานสฺสติกถานนฺตรํ กถิตาติ ตฺจ กเถตพฺพํ อินฺทฺริยกถํ อตฺตนา ภควโต สมฺมุขา สุตํ วิฺาตาธิปฺปายสุตฺตนฺติกเทสนํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา ตทตฺถปฺปกาสนวเสน กเถตุกาโม ปมํ ตาว เอวํ เม สุตนฺติอาทิมาห.

ตตฺถ เอวนฺติ นิปาตปทํ. เมติอาทีนิ นามปทานิ. วิหรตีติ เอตฺถ วิ-อิติ อุปสคฺคปทํ, หรตีติ อาขฺยาตปทนฺติ อิมินา ตาว นเยน ปทวิภาโค เวทิตพฺโพ.

อตฺถโต ปน อุปมูปเทสครหปสํสนาการวจนคฺคหเณสุ เอวํ-สทฺโท ทิสฺสติ นิทสฺสนตฺเถ จ อวธารณตฺเถ จ. อิธ ปน เอวํสทฺโท อาการตฺเถ นิทสฺสนตฺเถ จ วิฺุชเนน ปวุตฺโต, ตเถว อวธารณตฺเถ จ.

ตตฺถ อาการตฺเถน เอวํสทฺเทน เอตมตฺถํ ทีเปติ – นานานยนิปุณมเนกชฺฌาสยสมุฏฺานํ อตฺถพฺยฺชนสมฺปนฺนํ วิวิธปาฏิหาริยํ ธมฺมตฺถเทสนาปฏิเวธคมฺภีรํ สพฺพสตฺตานํ สกสกภาสานุรูปโต โสตปถมาคจฺฉนฺตํ ตสฺส ภควโต วจนํ สพฺพปฺปกาเรน โก สมตฺโถ วิฺาตุํ, สพฺพถาเมน ปน โสตุกามตํ ชเนตฺวาปิ เอวํ เม สุตํ, มยาปิ เอเกนากาเรน สุตนฺติ.

นิทสฺสนตฺเถน ‘‘นาหํ สยมฺภู, น มยา อิทํ สจฺฉิกต’’นฺติ อตฺตานํ ปริโมเจนฺโต ‘‘เอวํ เม สุตํ, มยาปิ เอวํ สุต’’นฺติ อิทานิ วตฺตพฺพํ สกลํ สุตฺตํ นิทสฺเสติ.

อวธารณตฺเถน เถโร สาริปุตฺโต ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ มหาปฺานํ ยทิทํ สาริปุตฺโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๘-๑๘๙), ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกปุคฺคลมฺปิ สมนุปสฺสามิ, โย เอวํ ตถาคเตน อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ สมฺมเทว อนุปฺปวตฺเตติ ยถยิทํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต. สาริปุตฺโต, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ สมฺมเทว อนุปฺปวตฺเตตี’’ติเอวมาทินา (อ. นิ. ๑.๑๘๗) นเยน ภควตา ปสตฺถภาวานุรูปํ อตฺตโน ธารณพลํ ทสฺเสนฺโต สตฺตานํ โสตุกามตํ ชเนติ ‘‘เอวํ เม สุตํ, ตฺจ โข อตฺถโต วา พฺยฺชนโต วา อนูนมนธิกํ, เอวเมว, น อฺถา ทฏฺพฺพ’’นฺติ.

เมสทฺโท กรณสมฺปทานสามิอตฺเถสุ ทิสฺสติ. อิธ ปน ‘‘มยา สุตํ, มม สุต’’นฺติ จ อตฺถทฺวเย ยุชฺชติ.

สุตนฺติ อยํสทฺโท สอุปสคฺโค อนุปสคฺโค จ วิสฺสุตคมนกิลินฺนอุปจิตอนุโยคโสตวิฺเยฺเยสุ ทิสฺสติ วิฺาเตปิ จ โสตทฺวารานุสาเรน. อิธ ปนสฺส โสตทฺวารานุสาเรน อุปธาริตนฺติ วา อุปธารณนฺติ วา อตฺโถ. เม-สทฺทสฺส หิ มยาติอตฺเถ สติ ‘‘เอวํ มยา สุตํ โสตทฺวารานุสาเรน อุปธาริต’’นฺติ ยุชฺชติ, มมาติอตฺเถ สติ ‘‘เอวํ มม สุตํ โสตทฺวารานุสาเรน อุปธารณ’’นฺติ ยุชฺชติ.

อปิจ ‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติ อตฺตนา อุปฺปาทิตภาวํ อปฺปฏิชานนฺโต ปุริมสวนํ วิวรนฺโต ‘‘สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตมิทํ มยา ตสฺส ภควโต จตุเวสารชฺชวิสารทสฺส ทสพลธรสฺส อาสภฏฺานฏฺายิโน สีหนาทนาทิโน สพฺพสตฺตุตฺตมสฺส ธมฺมิสฺสรสฺส ธมฺมราชสฺส ธมฺมาธิปติโน ธมฺมทีปสฺส ธมฺมสรณสฺส สทฺธมฺมวรจกฺกวตฺติโน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วจนํ, น เอตฺถ อตฺเถ วา ธมฺเม วา ปเท วา พฺยฺชเน วา กงฺขา วา วิมติ วา กาตพฺพา’’ติ อิมสฺมึ ธมฺเม อสฺสทฺธิยํ วินาเสติ, สทฺธาสมฺปทํ อุปฺปาเทตีติ. เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘วินาสยติ อสฺสทฺธํ, สทฺธํ วฑฺเฒติ สาสเน;

เอวํ เม สุตมิจฺเจวํ, วทํ โคตมสาวโก’’ติ.

เอกนฺติ คณนปริจฺเฉทนิทฺเทโส. สมยนฺติ ปริจฺฉินฺนนิทฺเทโส. เอกํ สมยนฺติ อนิยมิตปริทีปนํ. ตตฺถ สมยสทฺโท –

สมวาเย ขเณ กาเล, สมูเห เหตุทิฏฺิสุ;

ปฏิลาเภ ปหาเน จ, ปฏิเวเธ จ ทิสฺสติ.

อิธ ปนสฺส กาโล อตฺโถ. เตน สํวจฺฉรอุตุมาสทฺธมาสรตฺตินฺทิวปุพฺพณฺหมชฺฌนฺหิกสายนฺหปม- มชฺฌิมปจฺฉิมยามมุหุตฺตาทีสุ กาลปฺปเภทภูเตสุ สมเยสุ เอกํ สมยนฺติ ทีเปติ.

ตตฺถ กิฺจาปิ เอเตสุ สํวจฺฉราทีสุ สมเยสุ ยํ ยํ สุตฺตํ ยมฺหิ ยมฺหิ สํวจฺฉเร อุตุมฺหิ มาเส ปกฺเข รตฺติภาเค ทิวสภาเค วา วุตฺตํ, สพฺพํ ตํ เถรสฺส สุวิทิตํ สุววตฺถาปิตํ ปฺาย. ยสฺมา ปน ‘‘เอวํ เม สุตํ อสุกสํวจฺฉเร อสุกอุตุมฺหิ อสุกมาเส อสุกปกฺเข อสุกรตฺติภาเค อสุกทิวสภาเค วา’’ติ เอวํ วุตฺเต น สกฺกา สุเขน ธาเรตุํ วา อุทฺทิสิตุํ วา อุทฺทิสาเปตุํ วา, พหุ จ วตฺตพฺพํ โหติ, ตสฺมา เอเกเนว ปเทน ตมตฺถํ สโมธาเนตฺวา ‘‘เอกํ สมย’’นฺติ อาห.

เย วา อิเม คพฺโภกฺกนฺติสมโย ชาติสมโย สํเวคสมโย อภินิกฺขมนสมโย ทุกฺกรการิกสมโย มารวิชยสมโย อภิสมฺโพธิสมโย ทิฏฺธมฺมสุขวิหารสมโย เทสนาสมโย ปรินิพฺพานสมโยติเอวมาทโย ภควโต เทวมนุสฺเสสุ อติวิย ปกาสา อเนกกาลปฺปเภทา เอว สมยา, เตสุ สมเยสุ เทสนาสมยสงฺขาตํ เอกํ สมยนฺติ ทีเปติ. โย จายํ าณกรุณากิจฺจสมเยสุ กรุณากิจฺจสมโย, อตฺตหิตปรหิตปฏิปตฺติสมเยสุ ปรหิตปฏิปตฺติสมโย, สนฺนิปติตานํ กรณียทฺวยสมเยสุ ธมฺมิกถาสมโย, เทสนาปฏิปตฺติสมเยสุ เทสนาสมโย, เตสุปิ สมเยสุ อฺตรํ สมยํ สนฺธาย ‘‘เอกํ สมย’’นฺติ อาห.

ยสฺมา ปน ‘‘เอกํ สมย’’นฺติ อจฺจนฺตสํโยคตฺโถ สมฺภวติ. ยฺหิ สมยํ ภควา อิมํ อฺํ วา สุตฺตนฺตํ เทเสสิ, อจฺจนฺตเมว ตํ สมยํ กรุณาวิหาเรน วิหาสิ, ตสฺมา ตทตฺถโชตนตฺถํ อิธ อุปโยควจนนิทฺเทโส กโตติ.

เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘ตํ ตํ อตฺถมเปกฺขิตฺวา, ภุมฺเมน กรเณน จ;

อฺตฺร สมโย วุตฺโต, อุปโยเคน โส อิธา’’ติ.

โปราณา ปน วณฺณยนฺติ – ‘‘ตสฺมึ สมเย’’ติ วา ‘‘เตน สมเยนา’’ติ วา ‘‘ตํ สมย’’นฺติ วา อภิลาปมตฺตเภโท เอส, สพฺพตฺถ ภุมฺมเมวตฺโถติ. ตสฺมา ‘‘เอกํ สมย’’นฺติ วุตฺเตปิ ‘‘เอกสฺมึ สมเย’’ติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ภควาติ ครุ. ครุฺหิ โลเก ‘‘ภควา’’ติ วทนฺติ. อยฺจ สพฺพคุณวิสิฏฺตาย สพฺพสตฺตานํ ครุ, ตสฺมา ‘‘ภควา’’ติ เวทิตพฺโพ. โปราเณหิปิ วุตฺตํ –

‘‘ภควาติ วจนํ เสฏฺํ, ภควาติ วจนมุตฺตมํ;

ครุ คารวยุตฺโต โส, ภควา เตน วุจฺจตี’’ติ.

อปิจ –

‘‘ภาคฺยวา ภคฺควา ยุตฺโต, ภเคหิ จ วิภตฺตวา;

ภตฺตวา วนฺตคมโน, ภเวสุ ภควา ตโต’’ติ. –

อิมิสฺสาปิ คาถาย วเสน อสฺส ปทสฺส วิตฺถารโต อตฺโถ เวทิตพฺโพ. โส จ วิสุทฺธิมคฺเค พุทฺธานุสฺสตินิทฺเทเส (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๓ อาทโย) วุตฺโตเยว.

เอตฺตาวตา เจตฺถ เอวนฺติ วจเนน เทสนาสมฺปตฺตึ นิทฺทิสติ, เม สุตนฺติ สาวกสมฺปตฺตึ, เอกํ สมยนฺติ กาลสมฺปตฺตึ, ภควาติ เทสกสมฺปตฺตึ.

สาวตฺถิยนฺติ เอตฺถ จ สวตฺถสฺส อิสิโน นิวาสฏฺานภูตา นครี สาวตฺถี, ยถา กากนฺที มากนฺทีติ เอวํ ตาว อกฺขรจินฺตกา. อฏฺกถาจริยา ปน ภณนฺติ – ยํ กิฺจิ มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภคํ สพฺพเมตฺถ อตฺถีติ สาวตฺถี, สตฺถสมาโยเค จ กึ ภณฺฑมตฺถีติ ปุจฺฉิเต สพฺพมตฺถีติปิ วจนมุปาทาย สาวตฺถี.

‘‘สพฺพทา สพฺพูปกรณํ, สาวตฺถิยํ สโมหิตํ;

ตสฺมา สพฺพมุปาทาย, สาวตฺถีติ ปวุจฺจตี’’ติ. –

ตสฺสํ สาวตฺถิยํ. สมีปตฺเถ ภุมฺมวจนํ. วิหรตีติ อวิเสเสน อิริยาปถทิพฺพพฺรหฺมอริยวิหาเรสุ อฺตรวิหารสมงฺคิปริทีปนเมตํ, อิธ ปน านคมนาสนสยนปฺปเภเทสุ อิริยาปเถสุ อฺตรอิริยาปถสมาโยคปริทีปนํ. เตน ิโตปิ คจฺฉนฺโตปิ นิสินฺโนปิ สยาโนปิ ภควา ‘‘วิหรติ’’จฺเจว เวทิตพฺโพ. โส หิ ภควา เอกํ อิริยาปถพาธนํ อฺเน อิริยาปเถน วิจฺฉินฺทิตฺวา อปริปตนฺตมตฺตภาวํ หรติ ปวตฺเตติ, ตสฺมา ‘‘วิหรตี’’ติ วุจฺจติ.

เชตวเนติ เอตฺถ อตฺตโน ปจฺจตฺถิกชนํ ชินาตีติ เชโต, รฺโ วา อตฺตโน ปจฺจตฺถิกชเน ชิเต ชาโตติ เชโต, มงฺคลกมฺยตาย วา ตสฺส เอวํนามเมว กตนฺติ เชโต, วนยตีติ วนํ, อตฺตสมฺปทาย สตฺตานํ ภตฺตึ กาเรติ, อตฺตนิ สิเนหํ อุปฺปาเทตีติ อตฺโถ. วนุเต อิติ วา วนํ, นานาวิธกุสุมคนฺธสมฺโมทมตฺตโกกิลาทิวิหงฺคาภิรุเตหิ มนฺทมารุตจลิตรุกฺขสาขาวิฏปปลฺลวปลาเสหิ ‘‘เอถ มํ ปริภุฺชถา’’ติ ปาณิโน ยาจติ วิยาติ อตฺโถ. เชตสฺส วนํ เชตวนํ. ตฺหิ เชเตน ราชกุมาเรน โรปิตํ สํวทฺธิตํ ปริปาลิตํ, โส จ ตสฺส สามี อโหสิ, ตสฺมา เชตวนนฺติ วุจฺจติ. ตสฺมึ เชตวเน. วนฺจ นาม โรปิมํ สยํชาตนฺติ ทุวิธํ. อิทฺจ เวฬุวนาทีนิ จ โรปิมานิ, อนฺธวนมหาวนาทีนิ สยํชาตานิ.

อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมติ สุทตฺโต นาม โส คหปติ มาตาปิตูหิ กตนามวเสน. สพฺพกามสมิทฺธตาย ปน วิคตมจฺเฉรตาย กรุณาทิคุณสมงฺคิตาย จ นิจฺจกาลํ อนาถานํ ปิณฺฑมทาสิ, เตน อนาถปิณฺฑิโกติ สงฺขํ คโต. อารมนฺติ เอตฺถ ปาณิโน, วิเสเสน วา ปพฺพชิตาติ อาราโม, ตสฺส ปุปฺผผลาทิโสภาย นาติทูรนจฺจาสนฺนตาทิปฺจวิธเสนาสนงฺคสมฺปตฺติยา จ ตโต ตโต อาคมฺม รมนฺติ อภิรมนฺติ, อนุกฺกณฺิตา หุตฺวา นิวสนฺตีติ อตฺโถ. วุตฺตปฺปการาย วา สมฺปตฺติยา ตตฺถ ตตฺถ คเตปิ อตฺตโน อพฺภนฺตรํ อาเนตฺวา รมาเปตีติ อาราโม. โส หิ อนาถปิณฺฑิเกน คหปตินา เชตสฺส ราชกุมารสฺส หตฺถโต อฏฺารสหิ หิรฺโกฏีหิ โกฏิสนฺถเรน กีณิตฺวา อฏฺารสหิ หิรฺโกฏีหิ เสนาสนานิ การาเปตฺวา อฏฺารสหิ หิรฺโกฏีหิ วิหารมหํ นิฏฺาเปตฺวา เอวํ จตุปฺาสหิรฺโกฏิปริจฺจาเคน พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิยฺยาทิโต, ตสฺมา ‘‘อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราโม’’ติ วุจฺจติ. ตสฺมึ อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม.

เอตฺถ จ ‘‘เชตวเน’’ติวจนํ ปุริมสามิปริกิตฺตนํ, ‘‘อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม’’ติ ปจฺฉิมสามิปริกิตฺตนํ. กิเมเตสํ ปริกิตฺตเน ปโยชนนฺติ? ปุฺกามานํ ทิฏฺานุคติอาปชฺชนํ. ตตฺถ หิ ทฺวารโกฏฺกปาสาทมาปเน ภูมิวิกฺกยลทฺธา อฏฺารส หิรฺโกฏิโย อเนกโกฏิอคฺฆนกา รุกฺขา จ เชตสฺส ปริจฺจาโค, จตุปฺาส หิรฺโกฏิโย อนาถปิณฺฑิกสฺส. อิติ เตสํ ปริกิตฺตเนน เอวํ ปุฺกามา ปุฺานิ กโรนฺตีติ ทสฺเสนฺโต อายสฺมา สาริปุตฺโต อฺเปิ ปุฺกาเม เตสํ ทิฏฺานุคติอาปชฺชเน นิโยเชติ.

ตตฺถ สิยา – ยทิ ตาว ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ, ‘‘เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม’’ติ น วตฺตพฺพํ. อถ ตตฺถ วิหรติ, ‘‘สาวตฺถิย’’นฺติ น วตฺตพฺพํ. น หิ สกฺกา อุภยตฺถ เอกํ สมยํ วิหริตุนฺติ. น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ, นนุ อโวจุมฺห ‘‘สมีปตฺเถ ภุมฺมวจน’’นฺติ. ตสฺมา ยถา คงฺคายมุนาทีนํ สมีเป โคยูถานิ จรนฺตานิ ‘‘คงฺคาย จรนฺติ, ยมุนาย จรนฺตี’’ติ วุจฺจนฺติ, เอวมิธาปิ ยทิทํ สาวตฺถิยา สมีเป เชตวนํ อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราโม, ตตฺถ วิหรนฺโต วุจฺจติ ‘‘สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม’’ติ. โคจรคามนิทสฺสนตฺถํ หิสฺส สาวตฺถิวจนํ, ปพฺพชิตานุรูปนิวาสฏฺานนิทสฺสนตฺถํ เสสวจนํ.

ตตฺถ สาวตฺถิกิตฺตเนน อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควโต คหฏฺานุคฺคหกรณํ ทสฺเสติ, เชตวนาทิกิตฺตเนน ปพฺพชิตานุคฺคหกรณํ. ตถา ปุริเมน ปจฺจยคฺคหณโต อตฺตกิลมถานุโยควิวชฺชนํ, ปจฺฉิเมน วตฺถุกามปฺปหานโต กามสุขลฺลิกานุโยควิวชฺชนูปายํ. อถ วา ปุริเมน จ ธมฺมเทสนาภิโยคํ, ปจฺฉิเมน วิเวกาธิมุตฺตึ. ปุริเมน กรุณาย อุปคมนํ, ปจฺฉิเมน ปฺาย อปคมนํ. ปุริเมน สตฺตานํ หิตสุขนิปฺผาทนาธิมุตฺตตํ, ปจฺฉิเมน ปรหิตสุขกรเณ นิรุปเลปตํ. ปุริเมน ธมฺมิกสุขาปริจฺจาคนิมิตฺตํ ผาสุวิหารํ, ปจฺฉิเมน อุตฺตริมนุสฺสธมฺมานุโยคนิมิตฺตํ. ปุริเมน มนุสฺสานํ อุปการพหุลตํ, ปจฺฉิเมน เทวานํ. ปุริเมน โลเก ชาตสฺส โลเก สํวทฺธภาวํ, ปจฺฉิเมน โลเกน อนุปลิตฺตตํ. ปุริเมน ‘‘เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว, โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตโม เอกปุคฺคโล? ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๗๐) วจนโต ยทตฺถํ ภควา อุปฺปนฺโน, ตทตฺถปริทีปนํ, ปจฺฉิเมน ยตฺถ อุปฺปนฺโน, ตทนุรูปวิหารปริทีปนํ. ภควา หิ ปมํ ลุมฺพินิวเน, ทุติยํ โพธิมณฺเฑติ โลกิยโลกุตฺตรสฺส อุปฺปตฺติยา วเนเยว อุปฺปนฺโน, เตนสฺส วเนเยว วิหารํ ทสฺเสตีติ เอวมาทินา นเยเนตฺถ อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา.

ตตฺราติ เทสกาลปริทีปนํ. ตฺหิ ยํ สมยํ วิหรติ, ตตฺร สมเย, ยสฺมิฺจ เชตวเน วิหรติ, ตตฺร เชตวเนติ ทีเปติ. ภาสิตพฺพยุตฺเต วา เทสกาเล ทีเปติ. น หิ ภควา อยุตฺเต เทเส กาเล วา ธมฺมํ เทเสติ. ‘‘อกาโล โข ตาว พาหิยา’’ติอาทิ (อุทา. ๑๐) เจตฺถ สาธกํ. โขติ ปทปูรณมตฺเต อวธารณตฺเถ อาทิกาลตฺเถ วา นิปาโต. ภควาติ โลกครุทีปนํ. ภิกฺขูติ กถาสวนยุตฺตปุคฺคลวจนํ. อปิเจตฺถ ‘‘ภิกฺขโกติ ภิกฺขุ, ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโตติ ภิกฺขู’’ติอาทินา (วิภ. ๕๑๐; ปารา. ๔๕) นเยน วจนตฺโถ เวทิตพฺโพ. อามนฺเตสีติ อาลปิ อภาสิ สมฺโพเธสิ, อยเมตฺถ อตฺโถ. อฺตฺร ปน าปเนปิ ปกฺโกสเนปิ. ภิกฺขโวติ อามนฺตนาการทีปนํ. เตน เตสํ ภิกฺขูนํ ภิกฺขนสีลตาภิกฺขนธมฺมตาภิกฺขเนสาธุการิตาทิคุณโยคสิทฺเธน วจเนน หีนาธิกชนเสวิตํ วุตฺตึ ปกาเสนฺโต อุทฺธตทีนภาวนิคฺคหํ กโรติ. ‘‘ภิกฺขโว’’ติ อิมินา จ กรุณาวิปฺผารโสมฺมหทยนยนนิปาตปุพฺพงฺคเมน วจเนน เต อตฺตโน มุขาภิมุเข กโรนฺโต เตเนว กเถตุกมฺยตาทีปเกน วจเนน เนสํ โสตุกมฺยตํ ชเนติ. เตเนว จ สมฺโพธนตฺเถน วจเนน สาธุกสวนมนสิกาเรปิ เต นิโยเชติ. สาธุกสวนมนสิการายตฺตา หิ สาสนสมฺปตฺติ.

อปเรสุ เทวมนุสฺเสสุ วิชฺชมาเนสุ กสฺมา ภิกฺขูเยว อามนฺเตสีติ เจ? เชฏฺเสฏฺาสนฺนสทาสนฺนิหิตภาชนภาวโต. สพฺพปริสสาธารณา หิ ภควโต ธมฺมเทสนา. ปริสาย จ เชฏฺา ภิกฺขู ปมุปฺปนฺนตฺตา, เสฏฺา อนคาริยภาวํ อาทึ กตฺวา สตฺถุ จริยานุวิธายกตฺตา สกลสาสนปฏิคฺคาหกตฺตา จ, อาสนฺนา ตตฺถ นิสินฺเนสุ สตฺถุสนฺนิกตฺตา, สทาสนฺนิหิตา สตฺถุสนฺติกาวจรตฺตา, ธมฺมเทสนาย จ เต เอว ภาชนํ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปตฺติสพฺภาวโต.

ตตฺถ สิยา – กิมตฺถํ ปน ภควา ธมฺมํ เทเสนฺโต ปมํ ภิกฺขู อามนฺเตสิ, น ธมฺมเมว เทเสสีติ? สติชนนตฺถํ. ปริสาย หิ ภิกฺขู อฺํ จินฺเตนฺตาปิ วิกฺขิตฺตจิตฺตาปิ ธมฺมํ ปจฺจเวกฺขนฺตาปิ กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺตาปิ นิสินฺนา โหนฺติ, เต อนามนฺเตตฺวา ธมฺเม เทสิยมาเน ‘‘อยํ เทสนา กึนิทานา กึปจฺจยา กตมาย อตฺถุปฺปตฺติยา เทสิตา’’ติ สลฺลกฺเขตุํ อสกฺโกนฺตา วิกฺเขปํ อาปชฺเชยฺยุํ, ทุคฺคหิตํ วา คณฺเหยฺยุํ. เตน เตสํ สติชนนตฺถํ ภควา ปมํ อามนฺเตตฺวา ปจฺฉา ธมฺมํ เทเสติ.

ภทนฺเตติ คารววจนเมตํ, สตฺถุโน ปฏิวจนทานํ วา. อปิเจตฺถ ‘‘ภิกฺขโว’’ติ วทมาโน ภควา เต ภิกฺขู อาลปติ, ‘‘ภทนฺเต’’ติ วทมานา เต ภควนฺตํ ปจฺจาลปนฺติ. ตถา ‘‘ภิกฺขโว’’ติ ภควา อาภาสติ, ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ปจฺจาภาสนฺติ. ‘‘ภิกฺขโว’’ติ ปฏิวจนํ ทาเปติ, ภทนฺเตติ ปฏิวจนํ เทนฺติ. เต ภิกฺขูติ เย ภควา อามนฺเตสิ. ภควโต ปจฺจสฺโสสุนฺติ ภควโต อามนฺตนํ ปฏิอสฺโสสุํ, อภิมุขา หุตฺวา สุณึสุ สมฺปฏิจฺฉึสุ ปฏิคฺคเหสุนฺติ อตฺโถ. ภควา เอตทโวจาติ ภควา เอตํ อิทานิ วตฺตพฺพํ สกลสุตฺตํ อโวจ.

เอตฺตาวตา จ ยํ อายสฺมตา สาริปุตฺเตน กมลกุวลยุชฺชลวิมลสาทุรสสลิลาย โปกฺขรณิยา สุขาวตรณตฺถํ นิมฺมลสิลาตลรจนวิลาสโสปานํ วิปฺปกิณฺณมุตฺตาชาลสทิสวาลิกากิณฺณปณฺฑรภูมิภาคํ ติตฺถํ วิย, สุวิภตฺตภิตฺติวิจิตฺรเวทิกาปริกฺขิตฺตสฺส นกฺขตฺตปถํ ผุสิตุกามตาย วิย, วิชมฺภิตสมุสฺสยสฺส ปาสาทวรสฺส สุขาโรหณตฺถํ ทนฺตมยสณฺหมุทุผลกกฺจนลตาวินทฺธมณิคณปฺปภาสมุทยุชฺชลโสภํ โสปานํ วิย, สุวณฺณวลยนูปุราทิสงฺฆฏฺฏนสทฺทสมฺมิสฺสิตกถิตหสิตมธุรสฺสรเคหชนวิจริตสฺส อุฬาริสฺสริยวิภวโสภิตสฺส มหาฆรสฺส สุขปฺปเวสนตฺถํ สุวณฺณรชตมณิมุตฺตาปวาฬาทิชุติวิสทวิชฺโชติตสุปฺปติฏฺิตวิสาลทฺวารกวาฏํ มหาทฺวารํ วิย อตฺถพฺยฺชนสมฺปนฺนสฺส พุทฺธานํ เทสนาาณคมฺภีรภาวสํสูจกสฺส อิมสฺส สุตฺตสฺส สุขาวคาหณตฺถํ กาลเทสเทสกปริสาปเทสปฏิมณฺฑิตํ นิทานํ ภาสิตํ, ตสฺส อตฺถวณฺณนา สมตฺตา.

สุตฺตนฺเต ปฺจาติ คณนปริจฺเฉโท. อิมานิ อินฺทฺริยานีติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ. อินฺทฺริยฏฺโ เหฏฺา วุตฺโต.

๑๘๕. อิทานิ อิมํ สุตฺตนฺตํ ทสฺเสตฺวา อิมสฺมึ สุตฺตนฺเต วุตฺตานํ อินฺทฺริยานํ วิสุทฺธิภาวนาวิธานํ ภาวิตตฺตํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิฺจ ทสฺเสตุกาโม อิมานิ ปฺจินฺทฺริยานีติอาทิมาห. ตตฺถ วิสุชฺฌนฺตีติ วิสุทฺธึ ปาปุณนฺติ. อสฺสทฺเธติ ตีสุ รตเนสุ สทฺธาวิรหิเต. สทฺเธติ ตีสุ รตเนสุ สทฺธาสมฺปนฺเน. เสวโตติ จิตฺเตน เสวนฺตสฺส. ภชโตติ อุปสงฺกมนฺตสฺส. ปยิรุปาสโตติ สกฺกจฺจํ อุปนิสีทนฺตสฺส. ปสาทนีเย สุตฺตนฺเตติ ปสาทชนเก รตนตฺตยคุณปฏิสํยุตฺเต สุตฺตนฺเต. กุสีเตติ กุจฺฉิเตน อากาเรน สีทนฺตีติ กุสีทา, กุสีทา เอว กุสีตา. เต กุสีเต. สมฺมปฺปธาเนติ จตุกิจฺจสาธกวีริยปฏิสํยุตฺตสุตฺตนฺเต. มุฏฺสฺสตีติ นฏฺสฺสติเก. สติปฏฺาเนติ สติปฏฺานาธิการเก สุตฺตนฺเต. ฌานวิโมกฺเขติ จตุตฺถชฺฌานอฏฺวิโมกฺขติวิธวิโมกฺขาธิการเก สุตฺตนฺเต. ทุปฺปฺเติ นิปฺปฺเ, ปฺาภาวโต วา ทุฏฺา ปฺา เอเตสนฺติ ทุปฺปฺา. เต ทุปฺปฺเ. คมฺภีราณจริยนฺติ จตุสจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิปฏิสํยุตฺเต สุตฺตนฺเต, าณกถาสทิเส วา. สุตฺตนฺตกฺขนฺเธติ สุตฺตนฺตโกฏฺาเส. อสฺสทฺธิยนฺติอาทีสุ อสฺสทฺธิยนฺติ อสฺสทฺธภาวํ. อสฺสทฺธิเย อาทีนวทสฺสาวี อสฺสทฺธิยํ ปชหนฺโต สทฺธินฺทฺริยํ ภาเวติ, สทฺธินฺทฺริเย อานิสํสทสฺสาวี สทฺธินฺทฺริยํ ภาเวนฺโต อสฺสทฺธิยํ ปชหติ. เอส นโย เสเสสุ. โกสชฺชนฺติ กุสีตภาวํ. ปมาทนฺติ สติวิปฺปวาสํ. อุทฺธจฺจนฺติ อุทฺธตภาวํ, วิกฺเขปนฺติ อตฺโถ. ปหีนตฺตาติ อปฺปนาวเสน ฌานปาริปูริยา ปหีนตฺตา. สุปฺปหีนตฺตาติ วุฏฺานคามินิวเสน วิปสฺสนาปาริปูริยา สุฏฺุ ปหีนตฺตา. ภาวิตํ โหติ สุภาวิตนฺติ วุตฺตกฺกเมเนว โยเชตพฺพํ. วิปสฺสนาย หิ วิปกฺขวเสน ปหีนตฺตา ‘‘สุปฺปหีนตฺตา’’ติ วตฺตุํ ยุชฺชติ. ตสฺมาเยว จ ‘‘สุภาวิต’’นฺติ, น ตถา ฌาเนน. ยสฺมา ปน ปหาตพฺพานํ ปหาเนน ภาวนาสิทฺธิ, ภาวนาสิทฺธิยา จ ปหาตพฺพานํ ปหานสิทฺธิ โหติ, ตสฺมา ยมกํ กตฺวา นิทฺทิฏฺํ.

๑๘๖. ปฏิปฺปสฺสทฺธิวาเร ภาวิตานิ เจว โหนฺติ สุภาวิตานิ จาติ ภาวิตานํเยว สุภาวิตตา. ปฏิปฺปสฺสทฺธานิ จ สุปฺปฏิปฺปสฺสทฺธานิ จาติ ปฏิปฺปสฺสทฺธานํเยว สุปฺปฏิปฺปสฺสทฺธตา วุตฺตา. ผลกฺขเณ มคฺคกิจฺจนิพฺพตฺติวเสน ภาวิตตา ปฏิปฺปสฺสทฺธตา จ เวทิตพฺพา. สมุจฺเฉทวิสุทฺธิโยติ มคฺควิสุทฺธิโยเยว. ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิสุทฺธิโยติ ผลวิสุทฺธิโย เอว.

อิทานิ ตถา วุตฺตวิธานานิ อินฺทฺริยานิ การกปุคฺคลวเสน โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ กตินํ ปุคฺคลานนฺติอาทิมาห. ตตฺถ สวเนน พุทฺโธติ สมฺมาสมฺพุทฺธโต ธมฺมกถาสวเนน จตุสจฺจํ พุทฺธวา, าตวาติ อตฺโถ. อิทํ ภาวิตินฺทฺริยภาวสฺส การณวจนํ. ภาวนาภิสมยวเสน หิ มคฺคสฺส พุทฺธตฺตา ผลกฺขเณ ภาวิตินฺทฺริโย โหติ. อฏฺนฺนมฺปิ อริยานํ ตถาคตสฺส สาวกตฺตา วิเสเสตฺวา อรหตฺตผลฏฺเมว ทสฺเสนฺโต ขีณาสโวติ อาห. โสเยว หิ สพฺพกิจฺจนิปฺผตฺติยา ภาวิตินฺทฺริโยติ วุตฺโต. อิตเรปิ ปน ตํตํมคฺคกิจฺจนิปฺผตฺติยา ปริยาเยน ภาวิตินฺทฺริยา เอว. ตสฺมา เอว จ จตูสุ ผลกฺขเณสุ ‘‘ปฺจินฺทฺริยานิ ภาวิตานิ เจว โหนฺติ สุภาวิตานิ จา’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน เตสํ อุปริมคฺคตฺถาย อินฺทฺริยภาวนา อตฺถิเยว, ตสฺมา เต น นิปฺปริยาเยน ภาวิตินฺทฺริยา. สยํ ภูตฏฺเนาติ อนาจริโย หุตฺวา สยเมว อริยาย ชาติยา ภูตฏฺเน ชาตฏฺเน ภควา. โสปิ หิ ภาวนาสิทฺธิวเสน ผลกฺขเณ สยมฺภู นาม โหติ. เอวํ สยํ ภูตฏฺเน ภาวิตินฺทฺริโย. อปฺปเมยฺยฏฺเนาติ อนนฺตคุณโยคโต ปมาเณตุํ อสกฺกุเณยฺยฏฺเน. ภควา ผลกฺขเณ ภาวนาสิทฺธิโต อปฺปเมยฺโยติ. ตสฺมาเยว ภาวิตินฺทฺริโย.

ปมสุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยสุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา

๑๘๗. ปุน อฺํ สุตฺตนฺตํ นิกฺขิปิตฺวา อินฺทฺริยวิธานํ นิทฺทิสิตุกาโม ปฺจิมานิ, ภิกฺขเวติอาทิกํ สุตฺตนฺตํ ทสฺเสติ. ตตฺถ เย หิ เกจีติ อนวเสสปริยาทานํ, หิ-กาโร ปทปูรณมตฺเต นิปาโต. สมณา วา พฺราหฺมณา วาติ โลกโวหารวเสน วุตฺตํ. สมุทยนฺติ ปจฺจยํ. อตฺถงฺคมนฺติ อุปฺปนฺนานํ อภาวคมนํ, อนุปฺปนฺนานํ อนุปฺปาทํ วา. อสฺสาทนฺติ อานิสํสํ. อาทีนวนฺติ โทสํ. นิสฺสรณนฺติ นิคฺคมนํ. ยถาภูตนฺติ ยถาสภาวํ. สมเณสูติ สมิตปาเปสุ. สมณสมฺมตาติ น มยา สมณาติ สมฺมตา. ‘‘สมฺมตา’’ติ วตฺตมานกาลวเสน วุจฺจมาเน สทฺทลกฺขณวเสน ‘‘เม’’ติ เอตฺถ สามิวจนเมว โหติ. พฺราหฺมเณสูติ พาหิตปาเปสุ. สามฺตฺถนฺติ สมณภาวสฺส อตฺถํ. พฺรหฺมฺตฺถนฺติ พฺราหฺมณภาวสฺส อตฺถํ. ทฺวเยนาปิ อรหตฺตผลเมว วุตฺตํ. อถ วา สามฺตฺถนฺติ เหฏฺา ตีณิ ผลานิ. พฺรหฺมฺตฺถนฺติ อรหตฺตผลํ. สามฺพฺรหฺมฺนฺติ หิ อริยมคฺโคเยว. ทิฏฺเว ธมฺเมติ ปจฺจกฺเขเยว อตฺตภาเว. สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวาติ อตฺตนาเยว อธิเกน าเณน ปจฺจกฺขํ กตฺวา. อุปสมฺปชฺชาติ ปาปุณิตฺวา, นิปฺผาเทตฺวา วา.

๑๘๘. สุตฺตนฺตนิทฺเทเส ปมํ อินฺทฺริยสมุทยาทีนํ ปเภทคณนํ ปุจฺฉิตฺวา ปุน ปเภทคณนา วิสฺสชฺชิตา. ตตฺถ อสีติสตนฺติ อสีติอุตฺตรํ สตํ. ปณฺฑิเตหิ ‘‘อสีติสต’’นฺติ วุตฺเตหิ อากาเรหีติ โยชนา.

ปุน ปเภทคณนาปุจฺฉาปุพฺพงฺคเม คณนานิทฺเทเส อธิโมกฺขตฺถายาติ อธิมุจฺจนตฺถาย สทฺทหนตฺถาย. อาวชฺชนาย สมุทโยติ มโนทฺวาราวชฺชนจิตฺตสฺส สมุทโย. สทฺธินฺทฺริยสฺส สมุทโยติ สทฺธินฺทฺริยสฺส ปจฺจโย, สทฺธํ อุปฺปาเทสฺสามีติ ปุพฺพภาคาวชฺชนํ สทฺธินฺทฺริยสฺส อุปนิสฺสยปจฺจโย, สทฺธินฺทฺริยชวนสฺส อาวชฺชนํ ปมสฺส ชวนสฺส อนนฺตรปจฺจโย, ทุติยชวนาทีนํ อุปนิสฺสยปจฺจโย. อธิโมกฺขวเสนาติ ฉนฺทสมฺปยุตฺตอธิโมกฺขวเสน. ฉนฺทสฺส สมุทโยติ ปุพฺพภาคาวชฺชนปจฺจยา อุปฺปนฺนสฺส อธิโมกฺขสมฺปยุตฺตสฺส เยวาปนกภูตสฺส ธมฺมจฺฉนฺทสฺส สมุทโย. โส ปน สทฺธินฺทฺริยสฺส สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ปจฺจโย โหติ, ฉนฺทาธิปติกาเล อธิปติปจฺจโย จ โหติ, โสเยว ทุติยสฺส อนนฺตรสมนนฺตรอนนฺตรูปนิสฺสยาเสวนนตฺถิวิคตวเสน ปจฺจโย โหติ. อิมินาว นเยน มนสิการสฺสปิ โยชนา กาตพฺพา. เกวลฺเหตฺถ มนสิกาโรติ สารณลกฺขโณ เยวาปนกมนสิกาโร. อธิปติปจฺจยตา ปนสฺส น โหติ. สมฺปยุตฺเตสุ อิเมสํ ทฺวินฺนํเยว คหณํ พลวปจฺจยตฺตาติ เวทิตพฺพํ. สทฺธินฺทฺริยสฺส วเสนาติ ภาวนาภิวุทฺธิยา อินฺทฺริยภาวํ ปตฺตสฺส สทฺธินฺทฺริยสฺส วเสน. เอกตฺตุปฏฺานนฺติ เอการมฺมเณ อจลภาเวน ภุสํ านํ อุปรูปริ สทฺธินฺทฺริยสฺส ปจฺจโย โหติ. สทฺธินฺทฺริเย วุตฺตนเยเนว เสสินฺทฺริยานิปิ เวทิตพฺพานิ. เอวเมเกกสฺส อินฺทฺริยสฺส จตฺตาโร จตฺตาโร สมุทยาติ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ วีสติ สมุทยา โหนฺติ. ปุน จตุนฺนํ สมุทยานํ เอเกกสฺมึ สมุทเย ปฺจ ปฺจ อินฺทฺริยานิ โยเชตฺวา วีสติ สมุทยา วุตฺตา. ปมวีสติ นานามคฺควเสน ทฏฺพฺพา, ทุติยวีสติ เอกมคฺควเสน ทฏฺพฺพาติ วทนฺติ. เอวํ จตฺตาลีส อาการา โหนฺติ. อตฺถงฺคมวาโรปิ อิมินาว นเยน เวทิตพฺโพ. โส ปน อตฺถงฺคโม อินฺทฺริยภาวนํ อนนุยุตฺตสฺส อปฺปฏิลทฺธา ปฏิลาภตฺถงฺคโม, อินฺทฺริยภาวนาย ปริหีนสฺส ปฏิลทฺธปริหานิ อตฺถงฺคโม, ผลปฺปตฺตสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิอตฺถงฺคโม. เอกตฺตอนุปฏฺานนฺติ เอกตฺเต อนุปฏฺานํ.

ก. อสฺสาทนิทฺเทสวณฺณนา

๑๘๙. อสฺสาทนิทฺเทเส อสฺสทฺธิยสฺส อนุปฏฺานนฺติ อสฺสทฺเธ ปุคฺคเล ปริวชฺชยโต สทฺเธ ปุคฺคเล เสวโต ปสาทนียสุตฺตนฺเต ปจฺจเวกฺขโต ตตฺถ โยนิโสมนสิการํ พหุลีกโรโต จ อสฺสทฺธิยสฺส อนุปฏฺานํ โหติ. อสฺสทฺธิยปริฬาหสฺส อนุปฏฺานนฺติ เอตฺถ อสฺสทฺธสฺส สทฺธากถาย ปวตฺตมานาย ทุกฺขํ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. อยํ อสฺสทฺธิยปริฬาโห. อธิโมกฺขจริยาย เวสารชฺชนฺติ สทฺธาวตฺถุวเสน วา ภาวนาย วา วสิปฺปตฺตสฺส สทฺธาปวตฺติยา วิสารทภาโว โหติ. สนฺโต จ วิหาราธิคโมติ สมถสฺส วา วิปสฺสนาย วา ปฏิลาโภ. สุขํ โสมนสฺสนฺติ เอตฺถ เจตสิกสุขภาวทสฺสนตฺถํ โสมนสฺสวจนํ. สทฺธินฺทฺริยสมุฏฺิตปณีตรูปผุฏฺกายสฺส กายิกสุขมฺปิ ลพฺภติเยว. สุขโสมนสฺสสฺส ปธานสฺสาทตฺตา ‘‘อยํ สทฺธินฺทฺริยสฺส อสฺสาโท’’ติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. อิมินาว นเยน เสสินฺทฺริยสฺสาทาปิ โยเชตฺวา เวทิตพฺพา.

ข. อาทีนวนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๐. อาทีนวนิทฺเทเส อนิจฺจฏฺเนาติ สทฺธินฺทฺริยสฺส อนิจฺจฏฺเน. โส อนิจฺจฏฺโ สทฺธินฺทฺริยสฺส อาทีนโวติ วุตฺตํ โหติ. อิตรทฺวเยปิ เอเสว นโย. อิเม สมุทยตฺถงฺคมสฺสาทาทีนวา โลกิยอินฺทฺริยานเมวาติ เวทิตพฺพา.

ค. นิสฺสรณนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๑. นิสฺสรณนิทฺเทเส อธิโมกฺขฏฺเนาติอาทีสุ เอเกกสฺมึ อินฺทฺริเย ปฺจ ปฺจ กตฺวา ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ ปฺจวีสติ นิสฺสรณานิ มคฺคผลวเสน นิทฺทิฏฺานิ. ตตฺถ ตโต ปณีตตรสทฺธินฺทฺริยสฺส ปฏิลาภาติ ตโต วิปสฺสนากฺขเณ ปวตฺตสทฺธินฺทฺริยโต มคฺคกฺขเณ ปณีตตรสฺส สทฺธินฺทฺริยสฺส ปฏิลาภวเสน. ปุริมตรสทฺธินฺทฺริยา นิสฺสฏํ โหตีติ ตสฺมึ มคฺคกฺขเณ สทฺธินฺทฺริยํ ปุริมตรโต วิปสฺสนากฺขเณ ปวตฺตสทฺธินฺทฺริยโต นิกฺขนฺตํ โหติ. อิมินาว นเยน ผลกฺขเณ สทฺธินฺทฺริยมฺปิ อุภยตฺถ เสสินฺทฺริยานิปิ โยเชตพฺพานิ.

๑๙๒. ปุพฺพภาเค ปฺจหิ อินฺทฺริเยหีติ ปมชฺฌานูปจาเร ปฺจหิ อินฺทฺริเยหิ ปมชฺฌานาทิอฏฺสมาปตฺติวเสน อฏฺ นิสฺสรณานิ, อนิจฺจานุปสฺสนาทิอฏฺารสมหาวิปสฺสนาวเสน อฏฺารส นิสฺสรณานิ, โสตาปตฺติมคฺคาทิวเสน อฏฺ โลกุตฺตรนิสฺสรณานิ. เอวํ ฌานสมาปตฺติมหาวิปสฺสนามคฺคผลวเสน จตุตฺตึส นิสฺสรณานิ ปุริมปุริมสมติกฺกมโต นิทฺทิฏฺานิ. เนกฺขมฺเม ปฺจินฺทฺริยานีติอาทีนิ ปน สตฺตตึส นิสฺสรณานิ ปฏิปกฺขปหานวเสน ปฏิปกฺขโต นิทฺทิฏฺานิ. ตตฺถ เนกฺขมฺมาทีสุ สตฺตสุ สตฺต นิสฺสรณานิ อุปจารภูมิวเสน วุตฺตานิ, ผลานิ ปน ปฏิปกฺขปหานาภาวโต น วุตฺตานิ.

๑๙๓. ทิฏฺเกฏฺเหีติ ยาว โสตาปตฺติมคฺคา ทิฏฺิยา สห เอกสฺมึ ปุคฺคเล ิตาติ ทิฏฺเกฏฺา. เตหิ ทิฏฺเกฏฺเหิ. โอฬาริเกหีติ ถูเลหิ กามราคพฺยาปาเทหิ. อณุสหคเตหีติ สุขุมภูเตหิ กามราคพฺยาปาเทหิเยว. สพฺพกิเลเสหีติ รูปราคาทีหิ. เตสุ หิ ปหีเนสุ สพฺพกิเลสา ปหีนา โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘สพฺพกิเลเสหี’’ติ วุตฺตํ. อวุตฺตตฺถานิ ปเนตฺถ ปทานิ เหฏฺา วุตฺตตฺถาเนวาติ. สพฺเพสฺเว ขีณาสวานํ ตตฺถ ตตฺถ ปฺจินฺทฺริยานีติ ‘‘อธิโมกฺขฏฺเนา’’ติอาทีสุ ปุพฺเพ วุตฺเตสุ าเนสุ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน ปฺจินฺทฺริยานิ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวกานํ ขีณาสวานํ ยถาโยคํ ตโต ตโต นิสฺสฏานิ โหนฺติ. อิมสฺมึ วาเร ปมํ วุตฺตนยา เอว ยถาโยคํ ขีณาสววเสน วุตฺตา.

กถํ ปเนตานิ นิสฺสรณานิ อสีติสตํ โหนฺตีติ? วุจฺจเต – มคฺคผลวเสน วุตฺตานิ ปฺจวีสติ, สมติกฺกมวเสน วุตฺตานิ จตุตฺตึส, ปฏิปกฺขวเสน วุตฺตานิ สตฺตตึสาติ ปมวาเร สพฺพานิ ฉนฺนวุติ นิสฺสรณานิ โหนฺติ, เอตานิเยว ทุติยวาเร ขีณาสวานํ วเสน ทฺวาทสสุ อปนีเตสุ จตุราสีติ โหนฺติ. อิติ ปุริมานิ ฉนฺนวุติ, อิมานิ จ จตุราสีตีติ อสีติสตํ โหนฺติ. กตมานิ ปน ทฺวาทส ขีณาสวานํ อปเนตพฺพานิ? สมติกฺกมโต วุตฺเตสุ มคฺคผลวเสน วุตฺตานิ อฏฺ นิสฺสรณานิ, ปฏิปกฺขโต วุตฺเตสุ มคฺควเสน วุตฺตานิ จตฺตารีติ อิมานิ ทฺวาทส อปเนตพฺพานิ. อรหตฺตผลวเสน วุตฺตานิ กสฺมา อปเนตพฺพานีติ เจ? สพฺพปมํ วุตฺตานํ ปฺจวีสติยา นิสฺสรณานํ มคฺคผลวเสเนว ลพฺภนโต. อรหตฺตผลวเสน นิสฺสรณานิ วุตฺตาเนว โหนฺติ. เหฏฺิมํ เหฏฺิมํ ปน ผลสมาปตฺตึ อุปริมา อุปริมา น สมาปชฺชนฺติเยวาติ เหฏฺา ตีณิปิ ผลานิ น ลพฺภนฺติเยว. ฌานสมาปตฺติวิปสฺสนาเนกฺขมฺมาทีนิ จ กิริยาวเสน ลพฺภนฺติ. ปฺจปิ เจตานิ อินฺทฺริยานิ ปุพฺพเมว ปฏิปกฺขานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา ปฏิปกฺขโต นิสฺสฏาเนว โหนฺตีติ.

ทุติยสุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ตติยสุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๔. ปุน อฺํ สุตฺตนฺตํ นิกฺขิปิตฺวา อินฺทฺริยวิธานํ นิทฺทิสิตุกาโม ปฺจิมานิ, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ โสตาปตฺติยงฺเคสูติ เอตฺถ โสโต อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, โสตสฺส อาปตฺติ ภุสํ ปาปุณนํ โสตาปตฺติ, โสตาปตฺติยา องฺคานิ สมฺภารานิ โสตาปตฺติองฺคานิ. โสตาปนฺนตาย ปุพฺพภาคปฏิลาภองฺคานิ. สปฺปุริสสํเสโว โสตาปตฺติองฺคํ, สทฺธมฺมสฺสวนํ โสตาปตฺติองฺคํ, โยนิโสมนสิกาโร โสตาปตฺติองฺคํ, ธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺติ โสตาปตฺติองฺคํ, อิมานิ จตฺตาริ โสตาปตฺติองฺคานิ. เสสา เหฏฺา วุตฺตา เอว. อิทฺจ อิเมสํ อินฺทฺริยานํ สกวิสเย เชฏฺกภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ยถา หิ จตฺตาโร เสฏฺิปุตฺตา ราชาติราชปฺจเมสุ สหาเยสุ ‘‘นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสามา’’ติ วีถึ โอติณฺเณสุ เอกสฺส เสฏฺิปุตฺตสฺส เคหํ คตกาเล อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว ‘‘อิเมสํ ขาทนียํ โภชนียํ เทถ, อิเมสํ คนฺธมาลาลงฺการาทีนิ เทถา’’ติ เคเห วิจาเรติ, ทุติยสฺส ตติยสฺส จตุตฺถสฺส เคหํ คตกาเล อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว ‘‘อิเมสํ ขาทนียํ โภชนียํ เทถ, อิเมสํ คนฺธมาลาลงฺการาทีนิ เทถา’’ติ เคเห วิจาเรติ, อถ สพฺพปจฺฉา รฺโ เคหํ คตกาเล กิฺจาปิ ราชา สพฺพตฺถ อิสฺสโรว, อิมสฺมึ ปน กาเล อตฺตโน เคเหเยว ‘‘อิเมสํ ขาทนียํ โภชนียํ เทถ, อิเมสํ คนฺธมาลาลงฺการาทีนิ เทถา’’ติ วิจาเรติ, เอวเมว สทฺธาปฺจมเกสุ อินฺทฺริเยสุ เตสุ สหาเยสุ เอกโต วีถึ โอตรนฺเตสุ วิย เอการมฺมเณ อุปฺปชฺชมาเนสุปิ ยถา ปมสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ โสตาปตฺติองฺคานิ ปตฺวา อธิโมกฺขลกฺขณํ สทฺธินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. ยถา ทุติยสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ สมฺมปฺปธานานิ ปตฺวา ปคฺคหณลกฺขณํ วีริยินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. ยถา ตติยสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ สติปฏฺานานิ ปตฺวา อุปฏฺานลกฺขณํ สตินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. ยถา จตุตฺถสฺส เคเห อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, เคหสามิโกว วิจาเรติ, เอวํ ฌานานิ ปตฺวา อวิกฺเขปลกฺขณํ สมาธินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ. สพฺพปจฺฉา รฺโ เคหํ คตกาเล ปน ยถา อิตเร จตฺตาโร ตุณฺหี นิสีทนฺติ, ราชาว วิจาเรติ, เอวํ อริยสจฺจานิ ปตฺวา ปชานนลกฺขณํ ปฺินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ ปุพฺพงฺคมํ, เสสานิ ตทนฺวยานิ โหนฺตีติ.

ก. ปเภทคณนนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๕. สุตฺตนฺตสฺส ปเภทคณนาปุจฺฉาปุพฺพงฺคเมว ปเภทคณนนิทฺเทเส สปฺปุริสสํเสเวติ โสภนานํ ปุริสานํ สมฺมา เสวเน. อธิโมกฺขาธิปเตยฺยฏฺเนาติ อธิโมกฺขสงฺขาเตน เสสินฺทฺริเยสุ อธิปติภาวฏฺเน, เสสินฺทฺริยานํ ปุพฺพงฺคมฏฺเนาติ อตฺโถ. สทฺธมฺมสวเนติ สตํ ธมฺโม, โสภโน วา ธมฺโมติ สทฺธมฺโม. ตสฺส สทฺธมฺมสฺส สวเน. โยนิโสมนสิกาเรติ อุปาเยน มนสิกาเร. ธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺติยาติ เอตฺถ นว โลกุตฺตรธมฺเม อนุคโต ธมฺโม ธมฺมานุธมฺโม, สีลสมาธิปฺาสงฺขาตสฺส ธมฺมานุธมฺมสฺส ปฏิปตฺติ ปฏิปชฺชนํ ธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺติ. สมฺมปฺปธานาทีสุปิ เอเสว นโย.

ข. จริยาวารวณฺณนา

๑๙๖. จริยาวาเรปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เกวลํ ปมวาโร อินฺทฺริยานํ อุปฺปาทนกาลวเสน วุตฺโต, จริยาวาโร อุปฺปนฺนานํ อาเสวนกาลวเสน จ ปาริปูริกาลวเสน จ วุตฺโต. จริยา ปกติ อุสฺสนฺนตาติ หิ อตฺถโต เอกํ.

จารวิหารนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๗. อิทานิ จริยาสมฺพนฺเธเนว จารวิหารนิทฺเทสวเสน อปเรน ปริยาเยน อินฺทฺริยวิธานํ นิทฺทิสิตุกาโม จาโร จ วิหาโร จาติอาทิกํ อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา ตสฺส นิทฺเทสมาห. ตตฺถ อุทฺเทเส ตาว ยถา จรนฺตํ วิหรนฺตํ วิฺู สพฺรหฺมจารี คมฺภีเรสุ าเนสุ โอกปฺเปยฺยุํ – อทฺธา อยมายสฺมา ปตฺโต วา ปาปุณิสฺสติ วาติ, ตถา อินฺทฺริยสมฺปนฺนสฺส จาโร จ วิหาโร จ วิฺูหิ สพฺรหฺมจารีหิ อนุพุทฺโธ โหติ ปฏิวิทฺโธติ อุทฺเทสสฺส สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อุทฺเทสนิทฺเทเส จริยา จาโรเยว. จาโร จริยาติ หิ อตฺถโต เอกํ. ตสฺมา ‘‘จาโร’’ติปทสฺส นิทฺเทเส ‘‘จริยา’’ติ วุตฺตํ. อิริยาปถจริยาติ อิริยาปถานํ จริยา, ปวตฺตนนฺติ อตฺโถ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อายตนจริยา ปน อายตเนสุ สติสมฺปชฺานํ จริยา. ปตฺตีติ ผลานิ. ตานิ หิ ปาปุณิยนฺตีติ ‘‘ปตฺตี’’ติ วุตฺตา. สตฺตโลกสฺส ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกา อตฺถา โลกตฺถาติ อยํ วิเสโส.

อิทานิ ตาสํ จริยานํ ภูมึ ทสฺเสนฺโต จตูสุ อิริยาปเถสูติอาทิมาห. สติปฏฺาเนสูติ อารมฺมณสติปฏฺาเนสุ. สติปฏฺาเนสุปิ วุจฺจมาเนสุ สติโต อนฺานิ โวหารวเสน อฺานิ วิย กตฺวา วุตฺตํ. อริยสจฺเจสูติ ปุพฺพภาคโลกิยสจฺจาเณน วิสุํ วิสุํ สจฺจปริคฺคหวเสน วุตฺตํ. อริยมคฺเคสุ สามฺผเลสูติ จ โวหารวเสเนว วุตฺตํ. ปเทเสติ โลกตฺถจริยาย เอกเทเส. นิปฺปเทสโต หิ โลกตฺถจริยํ พุทฺธา เอว กโรนฺติ. ปุน ตา เอว จริยาโย การกปุคฺคลวเสน ทสฺเสนฺโต ปณิธิสมฺปนฺนานนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปณิธิสมฺปนฺนา นาม อิริยาปถานํ สนฺตตฺตา อิริยาปถคุตฺติยา สมฺปนฺนา อกมฺปิตอิริยาปถา ภิกฺขุภาวานุรูเปน สนฺเตน อิริยาปเถน สมฺปนฺนา. อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารานนฺติ จกฺขาทีสุ ฉสุ อินฺทฺริเยสุ อตฺตโน อตฺตโน วิสเย ปวตฺตเอเกกทฺวารวเสน คุตฺตํ ทฺวารํ เอเตสนฺติ คุตฺตทฺวารา. เตสํ คุตฺตทฺวารานํ. ทฺวารนฺติ เจตฺถ อุปฺปตฺติทฺวารวเสน จกฺขาทโย เอว. อปฺปมาทวิหารีนนฺติ สีลาทีสุ อปฺปมาทวิหารวตํ. อธิจิตฺตมนุยุตฺตานนฺติ วิปสฺสนาย ปาทกภาเวน อธิจิตฺตสงฺขาตํ สมาธิมนุยุตฺตานํ. พุทฺธิสมฺปนฺนานนฺติ นามรูปววตฺถานํ อาทึ กตฺวา ยาว โคตฺรภุ, ตาว ปวตฺเตน าเณน สมฺปนฺนานํ. สมฺมาปฏิปนฺนานนฺติ จตุมคฺคกฺขเณ. อธิคตผลานนฺติ จตุผลกฺขเณ.

อธิมุจฺจนฺโตติ อธิโมกฺขํ กโรนฺโต. สทฺธาย จรตีติ สทฺธาวเสน ปวตฺตติ. ปคฺคณฺหนฺโตติ จตุสมฺมปฺปธานวีริเยน ปทหนฺโต. อุปฏฺาเปนฺโตติ สติยา อารมฺมณํ อุปฏฺาเปนฺโต. อวิกฺเขปํ กโรนฺโตติ สมาธิวเสน วิกฺเขปํ อกโรนฺโต. ปชานนฺโตติ จตุสจฺจปชานนปฺาย ปกาเรน ชานนฺโต. วิชานนฺโตติ อินฺทฺริยสมฺปยุตฺตชวนปุพฺพงฺคเมน อาวชฺชนวิฺาเณน อารมฺมณํ วิชานนฺโต. วิฺาณจริยายาติ อาวชฺชนวิฺาณจริยวเสน. เอวํ ปฏิปนฺนสฺสาติ สหชวนาย อินฺทฺริยจริยาย ปฏิปนฺนสฺส. กุสลา ธมฺมา อายาเปนฺตีติ สมถวิปสฺสนาวเสน ปวตฺตา กุสลา ธมฺมา ภุสํ ยาเปนฺติ, ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. อายตนจริยายาติ กุสลานํ ธมฺมานํ ภุสํ ยตนจริยาย, ฆฏนจริยาย ปวตฺตนจริยายาติ วุตฺตํ โหติ. วิเสสมธิคจฺฉตีติ วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธิวเสน วิเสสํ อธิคจฺฉติ. ทสฺสนจริยาทโย วุตฺตตฺถาเยว.

สทฺธาย วิหรตีติอาทีสุ สทฺธาทิสมงฺคิสฺส อิริยาปถวิหาโร ทฏฺพฺโพ. อนุพุทฺโธติ อนุมานพุทฺธิยา. ปฏิวิทฺโธติ ปจฺจกฺขพุทฺธิยา. ยสฺมา อธิโมกฺขฏฺาทีสุ อนุพุทฺเธสุ ปฏิวิทฺเธสุ จ จาโร จ วิหาโร จ อนุพุทฺโธ โหติ ปฏิวิทฺโธ, ตสฺมา อนุโพธปฏิเวเธสุ อธิโมกฺขฏฺาทโย จ นิทฺทิฏฺา.

เอวํ สทฺธาย จรนฺตนฺติอาทีสุ เอวนฺติ วุตฺตปฺปการํ นิทฺทิสนฺโต ยถาสทฺทสฺส อตฺถํ นิทฺทิสติ. วิฺูติอาทีสุปิ ยถาสภาวํ ชานนฺตีติ วิฺู. วิฺาตํ สภาวํ วิภาเวนฺติ ปากฏํ กโรนฺตีติ วิภาวี. อสนิ วิย สิลุจฺจเย กิเลเส เมธติ หึสตีติ เมธา, ขิปฺปํ คหณธารณฏฺเน วา เมธา, เมธา เอเตสํ อตฺถีติ เมธาวี. าณคติยา ปณฺฑนฺติ คจฺฉนฺติ ปวตฺตนฺตีติ ปณฺฑิตา. พุทฺธิสมฺปทาย สมนฺนาคตตฺตา พุทฺธิสมฺปนฺนา. สห พฺรหฺมํ จริยํ อุตฺตมํ ปฏิปทํ จรนฺตีติ สพฺรหฺมจาริโน. อปโลกนกมฺมาทิจตุพฺพิธํ กมฺมํ เอกโต กรณวเสน เอกํ กมฺมํ. ตถา ปฺจวิโธ ปาติโมกฺขุทฺเทโส เอกุทฺเทโส. สมา สิกฺขา เอเตสนฺติ สมสิกฺขา, สมสิกฺขานํ ภาโว สมสิกฺขตา. สมสิกฺขาตาติปิ ปนฺติ. เยสํ เอกํ กมฺมํ เอโก อุทฺเทโส สมสิกฺขตา, เต สพฺรหฺมจารีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ฌานานี’’ติ วตฺตพฺเพ ฌานาติ ลิงฺควิปลฺลาโส กโต. วิโมกฺขาติ ตโย วา อฏฺ วา วิโมกฺขา. สมาธีติ สวิตกฺกสวิจารอวิตกฺกวิจารมตฺตอวิตกฺกาวิจารา ตโย สมาธี. สมาปตฺติโยติ สุฺตานิมิตฺตาปฺปณิหิตา. อภิฺาโยติ ฉ อภิฺา.

เอโก อํโส ภาโค, น ทุติโยติ เอกํโส, เอกํสสฺส อตฺถสฺส วจนํ เอกํสวจนํ. เอวํ เสเสสุปิ โยชนา กาตพฺพา. วิเสสโต ปน สมํ, สมนฺตา วา เสติ ปวตฺตตีติ สํสโย, นตฺเถตฺถ สํสโยติ นิสฺสํสโย. เอกสฺมึเยว อนิจฺฉยตา หุตฺวา อิตรมฺปิ กงฺขตีติ กงฺขา, นตฺเถตฺถ กงฺขาติ นิกฺกงฺโข. ทฺวิธา ภาโว ทฺเวชฺฌํ, นตฺเถตฺถ ทฺเวชฺฌนฺติ อทฺเวชฺโฌ. ทฺวิธา เอลยติ กมฺเปตีติ ทฺเวฬฺหกํ, นตฺเถตฺถ ทฺเวฬฺหกนฺติ อทฺเวฬฺหโก. นิโยเคน นิยเมน วจนํ นิโยควจนํ. นิยฺโยควจนนฺติปิ ปนฺติ. อปณฺณกสฺส อวิรทฺธสฺส นิยฺยานิกสฺส อตฺถสฺส วจนํ อปณฺณกวจนํ. อวตฺถาปนวจนนฺติ นิจฺฉยวจนํ. สพฺพมฺปิ เหตํ วิจิกิจฺฉาภาวสฺส เววจนํ. ปิยสฺส อตฺถสฺส สพฺภาวโต วจนํ, ปิยเมวาติ ปิยวจนํ. ตถา ครุวจนํ. สห คารเวน ครุภาเวน สคารวํ. ปติสฺสยนํ ปติสฺสโย ปรํ ครุํ กตฺวา นิสฺสยนํ อปสฺสยนนฺติ อตฺโถ. ปติสฺสวนํ วา ปติสฺสโว, นิวาตวุตฺติตาย ปรวจนสวนนฺติ อตฺโถ. อุภยถาปิ ปรเชฏฺกภาวสฺเสตํ นามํ. สห คารเวน วตฺตตีติ สคารวํ. สห ปติสฺสเยน, ปติสฺสเวน วา วตฺตตีติ สปฺปติสฺสยํ. ‘‘สปฺปติสฺสว’’นฺติ วา วตฺตพฺเพ ย-การํ, ว-การํ วา โลปํ กตฺวา ‘‘สปฺปติสฺส’’นฺติ วุตฺตํ. อธิกํ วิสิฏฺํ วจนํ อธิวจนํ, สคารวฺจ ตํ สปฺปติสฺสฺจาติ สคารวสปฺปติสฺสํ, สคารวสปฺปติสฺสํ อธิวจนํ สคารวสปฺปติสฺสาธิวจนํ. อุภยตฺถาปิ เววจนวิกปฺปนานตฺตวเสน ปุนปฺปุนํ เอตนฺติ วุตฺตํ. ปตฺโต วา ปาปุณิสฺสติ วาติ ฌานาทีนิเยวาติ.

ตติยสุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. จตุตฺถสุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๘. ปุน ปมสุตฺตเมว นิกฺขิปิตฺวา อปเรน อากาเรน อินฺทฺริยานิ นิทฺทิสติ. ตตฺถ กติหากาเรหิ เกนฏฺเน ทฏฺพฺพานีติ กติหิ อากาเรหิ ทฏฺพฺพานิ. เกนฏฺเน ทฏฺพฺพานีติ ทฏฺพฺพากาเร จ ทฏฺพฺพฏฺฺจ ปุจฺฉติ. ฉหากาเรหิ เตนฏฺเน ทฏฺพฺพานีติ ฉหิ อากาเรหิ ทฏฺพฺพานิ, เตเนว ฉอาการสงฺขาเตนฏฺเน ทฏฺพฺพานิ. อาธิปเตยฺยฏฺเนาติ อธิปติภาวฏฺเน. อาทิวิโสธนฏฺเนาติ กุสลานํ ธมฺมานํ อาทิภูตสฺส สีลสฺส วิโสธนฏฺเน. อธิมตฺตฏฺเนาติ พลวฏฺเน. พลวฺหิ อธิกา มตฺตา ปมาณํ อสฺสาติ อธิมตฺตนฺติ วุจฺจติ. อธิฏฺานฏฺเนาติ ปติฏฺานฏฺเน. ปริยาทานฏฺเนาติ เขปนฏฺเน. ปติฏฺาปกฏฺเนาติ ปติฏฺาปนฏฺเน.

ก. อาธิปเตยฺยฏฺนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๙. อาธิปเตยฺยฏฺนิทฺเทเส อสฺสทฺธิยํ ปชหโตติอาทิ เอเกกสฺเสว อินฺทฺริยสฺส ปฏิปกฺขปชหนวจนํ เอกกฺขเณปิ อตฺตโน อตฺตโน ปฏิปกฺขปหานกิจฺจสาธเน อธิปติภาวสาธนตฺถํ วุตฺตํ. เสสานิ จตฺตาริ อินฺทฺริยานิ ตํสมฺปยุตฺตาเนว วุตฺตานิ. นานากฺขเณสุ วา เอเกกํ อินฺทฺริยํ ธุรํ กตฺวา ตสฺส ตสฺส ปฏิปกฺขสฺส ตํ ตํ อินฺทฺริยํ เชฏฺกํ กตฺวา เสสานิ ตทนฺวยานิ กตฺวา วุตฺตนฺติปิ เวทิตพฺพํ. กามจฺฉนฺทํ ปชหโตติอาทิ ปน เอกกฺขณวเสเนว วุตฺตํ.

ข. อาทิวิโสธนฏฺนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๐. อาทิวิโสธนฏฺนิทฺเทเส อสฺสทฺธิยสํวรฏฺเน สีลวิสุทฺธีติ อสฺสทฺธิยสฺส นิวารณฏฺเน วิรติอตฺเถน สีลมลวิโสธนโต สีลวิสุทฺธิ นาม. สทฺธินฺทฺริยสฺส อาทิวิโสธนาติ สทฺธินฺทฺริยสฺส อุปนิสฺสยวเสน อาทิภูตสฺส สีลสฺส วิโสธนา. อิมินาว นเยน เสสานิปิ กามจฺฉนฺทาทิสํวรณมูลกานิ จ อินฺทฺริยานิ เวทิตพฺพานิ.

ค. อธิมตฺตฏฺนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๑. อธิมตฺตฏฺนิทฺเทเส สทฺธินฺทฺริยสฺส ภาวนาย ฉนฺโท อุปฺปชฺชตีติ สทฺธสฺส ปุคฺคลสฺส สทฺธาปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมํ สุตฺวา วา สทฺธินฺทฺริยภาวนาย อสฺสาทํ ทิสฺวา วา สทฺธินฺทฺริเย กุสโล ธมฺมจฺฉนฺโท ชายติ. ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชตีติ ฉนฺทชาตตฺตา ทุพฺพลปีติ อุปฺปชฺชติ. ปีติ อุปฺปชฺชตีติ ปมุทิตตฺตา พลวปีติ อุปฺปชฺชติ. ปสฺสทฺธิ อุปฺปชฺชตีติ ปีติยา ปีณิตตฺตา กายจิตฺตปสฺสทฺธิ อุปฺปชฺชติ. สุขํ อุปฺปชฺชตีติ ปสฺสทฺธกายจิตฺตตฺตา เจตสิกํ สุขํ อุปฺปชฺชติ. โอภาโส อุปฺปชฺชตีติ สุเขน อภิสนฺนตฺตา าโณภาโส อุปฺปชฺชติ. สํเวโค อุปฺปชฺชตีติ าโณภาเสน วิทิตสงฺขาราทีนวตฺตา สงฺขารปวตฺติยํ สํเวโค อุปฺปชฺชติ. สํเวเชตฺวา จิตฺตํ สมาทหตีติ สํเวคํ อุปฺปาเทตฺวา เตเนว สํเวเคน จิตฺตํ สมาหิตํ กโรติ. สาธุกํ ปคฺคณฺหาตีติ ลีนุทฺธตภาวํ โมเจตฺวา สุฏฺุ ปคฺคณฺหาติ. สาธุกํ อชฺฌุเปกฺขตีติ วีริยสฺส สมํ หุตฺวา ปวตฺตตฺตา ปุน วีริยสมตานิโยชเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาวเสน สาธุกํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. อุเปกฺขาวเสนาติ สมวาหิตลกฺขณาย ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย วเสน. นานตฺตกิเลเสหีติ วิปสฺสนาย ปฏิปกฺขภูเตหิ นานาสภาเวหิ กิเลเสหิ. วิโมกฺขวเสนาติ ภงฺคานุปสฺสนโต ปฏฺาย นานตฺตกิเลเสหิ วิมุจฺจนวเสน. วิมุตฺตตฺตาติ นานตฺตกิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา.

เต ธมฺมาติ ฉนฺทาทโย ธมฺมา. เอกรสา โหนฺตีติ วิมุตฺติรเสน เอกรสา โหนฺติ. ภาวนาวเสนาติ เอกรสภาวนาวเสน. ตโต ปณีตตเร วิวฏฺฏนฺตีติ เตน การเณน วิปสฺสนารมฺมณโต ปณีตตเร นิพฺพานารมฺมเณ วิวฏฺฏนานุปสฺสนาสงฺขาเตน โคตฺรภุาเณน ฉนฺทาทโย ธมฺมา นิวตฺตนฺติ, สงฺขารารมฺมณโต อปคนฺตฺวา นิพฺพานารมฺมเณ ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. วิวฏฺฏนาวเสนาติ เอวํ โคตฺรภุขเณ สงฺขารารมฺมณโต วิวฏฺฏนวเสน. วิวฏฺฏิตตฺตา ตโต โวสชฺชตีติ มคฺคสมงฺคิปุคฺคโล มคฺคสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว ทุภโตวุฏฺานวเสน วิวฏฺฏิตตฺตา เตเนว การเณน กิเลเส จ ขนฺเธ จ โวสชฺชติ. โวสชฺชิตตฺตา ตโต นิรุชฺฌนฺตีติ มคฺคสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว กิเลเส จ ขนฺเธ จ โวสชฺชิตตฺตา เตเนว การเณน กิเลสา จ ขนฺธา จ อนุปฺปตฺตินิโรธวเสน นิรุชฺฌนฺติ. โวสชฺชิตตฺตาติ จ อาสํสายํ ภูตวจนํ กตํ. กิเลสนิโรเธ สติ ขนฺธนิโรธสพฺภาวโต จ ขนฺธนิโรโธ วุตฺโต. นิโรธวเสนาติ ยถาวุตฺตนิโรธวเสน. ตสฺเสว มคฺคสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ทฺเว โวสคฺเค ทสฺเสตุกาโม นิโรธวเสน ทฺเว โวสคฺคาติอาทิมาห. ทฺเวปิ เหฏฺา วุตฺตตฺถา เอว. อสฺสทฺธิยสฺส ปหานาย ฉนฺโท อุปฺปชฺชตีติอาทีสุปิ อิมินาว นเยน วิตฺถารโต อตฺโถ เวทิตพฺโพ. วีริยินฺทฺริยาทิมูลเกสุปิ วาเรสุ เอเสว นโย. อิมินาว นเยน อธิฏฺานฏฺนิทฺเทโสปิ วิตฺถารโต เวทิตพฺโพ. เกวลฺเหตฺถ อธิฏฺาตีติ วิเสโส, ปติฏฺาตีติ อตฺโถ.

ฆ-ง. ปริยาทานฏฺปติฏฺาปกฏฺนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๒-๒๐๓. ปริยาทานฏฺนิทฺเทเส ปริยาทิยตีติ เขเปติ. ปติฏฺาปกฏฺนิทฺเทเส สทฺโธ สทฺธินฺทฺริยํ อธิโมกฺเข ปติฏฺาเปตีติ สทฺธาสมฺปนฺโน ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา ทุกฺขา อนตฺตา’’ติ อธิมุจฺจนฺโต สทฺธินฺทฺริยํ อธิโมกฺเข ปติฏฺาเปติ. อิมินา ปุคฺคลวิเสเสน อินฺทฺริยภาวนาวิเสโส นิทฺทิฏฺโ. สทฺธสฺส สทฺธินฺทฺริยํ อธิโมกฺเข ปติฏฺาเปตีติ สทฺธาสมฺปนฺนสฺส ปุคฺคลสฺส สทฺธินฺทฺริยํ ตํเยว สทฺธํ ปติฏฺาเปติ. ตถา อธิมุจฺจนฺตํ อธิโมกฺเข ปติฏฺาเปตีติ. อิมินา อินฺทฺริยภาวนาวิเสเสน ปุคฺคลวิเสโส นิทฺทิฏฺโ. เอวํ จิตฺตํ ปคฺคณฺหนฺโต ปคฺคเห ปติฏฺาเปติ, สตึ อุปฏฺาเปนฺโต อุปฏฺาเน ปติฏฺาเปติ, จิตฺตํ สมาทหนฺโต อวิกฺเขเป ปติฏฺาเปติ, อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ ปสฺสนฺโต ทสฺสเน ปติฏฺาเปตีติ เสเสสุปิ โยชนา เวทิตพฺพา. โยคาวจโรติ สมถโยเค, วิปสฺสนาโยเค วา อวจรตีติ โยคาวจโร. อวจรตีติ ปวิสิตฺวา จรตีติ.

จตุตฺถสุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. อินฺทฺริยสโมธานวณฺณนา

๒๐๔. อิทานิ สมาธึ ภาวยโต วิปสฺสนํ ภาวยโต จ อินฺทฺริยสโมธานํ ทสฺเสตุกาโม ปมํ ตาว อุปฏฺานโกสลฺลปฺปเภทํ นิทฺทิสิตุํ ปุถุชฺชโน สมาธึ ภาเวนฺโตติอาทิมาห. ตตฺถ ปุถุชฺชโน สมาธึ ภาเวนฺโตติ นิพฺเพธภาคิยํ สมาธึ ภาเวนฺโต. เสกฺขสฺส วีตราคสฺส จ ปน โลกุตฺตโรปิ สมาธิ ลพฺภติ. อาวชฺชิตตฺตาติ กสิณาทินิมิตฺตสฺส อาวชฺชิตตฺตา, กสิณาทิปริกมฺมํ กตฺวา ตตฺถ อุปฺปาทิตนิมิตฺตตฺตาติ วุตฺตํ โหติ. อารมฺมณูปฏฺานกุสโลติ ตสฺส อุปฺปาทิตสฺส นิมิตฺตสฺเสว อุปฏฺาเน กุสโล. สมถนิมิตฺตูปฏฺานกุสโลติ อจฺจารทฺธวีริยตาทีหิ อุทฺธเต จิตฺเต ปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคภาวนาวเสน จิตฺโตปสมนิมิตฺตสฺส อุปฏฺาเน กุสโล. ปคฺคหนิมิตฺตูปฏฺานกุสโลติ อติสิถิลวีริยตาทีหิ ลีเน จิตฺเต ธมฺมวิจยวีริยปีติสมฺโพชฺฌงฺคภาวนาวเสน จิตฺตปคฺคหนิมิตฺตสฺส อุปฏฺาเน กุสโล. อวิกฺเขปูปฏฺานกุสโลติ อนุทฺธตาลีนจิตฺตสฺส สมฺปยุตฺตสฺส สมาธิสฺส อุปฏฺาเน กุสโล. โอภาสูปฏฺานกุสโลติ ปฺาปโยคมนฺทตาย นิรสฺสาเท จิตฺเต อฏฺสํเวควตฺถุปจฺจเวกฺขเณน จิตฺตํ สํเวเชตฺวา าโณภาสสฺส อุปฏฺาเน กุสโล. อฏฺ สํเวควตฺถูนิ นาม ชาติชราพฺยาธิมรณานิ จตฺตาริ, อปายทุกฺขํ ปฺจมํ, อตีเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, อนาคเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, ปจฺจุปฺปนฺเน อาหารปริเยฏฺิมูลกํ ทุกฺขนฺติ. สมฺปหํสนูปฏฺานกุสโลติ อุปสมสุขานธิคเมน นิรสฺสาเท จิตฺเต พุทฺธธมฺมสงฺฆคุณานุสฺสรเณน จิตฺตํ ปสาเทนฺโต สมฺปหํสนสฺส อุปฏฺาเน กุสโล. อุเปกฺขูปฏฺานกุสโลติ อุทฺธตาทิโทสวิรหิเต จิตฺเต นิคฺคหปคฺคหาทีสุ พฺยาปาราภาวกรเณน อุเปกฺขาย อุปฏฺาเน กุสโล. เสกฺโขติ ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขตีติ เสกฺโข. เอกตฺตูปฏฺานกุสโลติ สกฺกายทิฏฺาทีนํ ปหีนตฺตา เนกฺขมฺมาทิโน เอกตฺตสฺส อุปฏฺาเน กุสโล.

วีตราโคติ สพฺพโส ปหีนราคตฺตา วีตราโค ขีณาสโว. าณูปฏฺานกุสโลติ อรหา ธมฺเมสุ วิคตสมฺโมหตฺตา ตตฺถ ตตฺถ อสมฺโมหาณสฺส อุปฏฺาเน กุสโล. วิมุตฺตูปฏฺานกุสโลติ อรหตฺตผลวิมุตฺติยา อุปฏฺาเน กุสโล. วิมุตฺตีติ หิ สพฺพกิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา อรหตฺตผลวิมุตฺติ อธิปฺเปตา.

๒๐๕. วิปสฺสนาภาวนาย อุปฏฺานานุปฏฺาเนสุ อนิจฺจโตติอาทีนิ นิจฺจโตติอาทีนิ จ สีลกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. ปาโต ปน ‘‘อายูหนานุปฏฺานกุสโล วิปริณามูปฏฺานกุสโล อนิมิตฺตูปฏฺานกุสโล นิมิตฺตานุปฏฺานกุสโล อปฺปณิหิตูปฏฺานกุสโล ปณิธิอนุปฏฺานกุสโล อภินิเวสานุปฏฺานกุสโล’’ติ เอเตสุ สามิวจเนน สมาสปทจฺเฉโท กาตพฺโพ. เสเสสุ ปน นิสฺสกฺกวจเนน ปาโ.

๒๐๖. สุฺตูปฏฺานกุสโลติ ปเนตฺถ สุฺโต อุปฏฺานกุสโลติ วา สุฺตาย อุปฏฺานกุสโลติ วา ปทจฺเฉโท กาตพฺโพ. ยสฺมา ปน นิพฺพิทาวิราคนิโรธปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนา อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนา ยถาภูตาณทสฺสนํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนา วิวฏฺฏนานุปสฺสนาติ อิมา อฏฺ มหาวิปสฺสนา อตฺตโน สภาววิเสเสน วิเสสิตา, น อารมฺมณวิเสเสน, ตสฺมา อิมาสํ อฏฺนฺนํ ‘‘อนิจฺจโต อุปฏฺานกุสโล โหตี’’ติอาทีนิ วจนานิ วิย ‘‘นิพฺพิทาโต อุปฏฺานกุสโล โหตี’’ติอาทีนิ วจนานิ น ยุชฺชนฺติ. ตสฺมา เอว อิมา อฏฺ น โยชิตา. อาทีนวานุปสฺสนา ปน ‘‘สุฺตูปฏฺานกุสโล โหติ, อภินิเวสานุปฏฺานกุสโล โหตี’’ติ อิมินา ยุคลกวจเนเนว อตฺถโต ‘‘อาทีนวโต อุปฏฺานกุสโล โหติ, อาลยาภินิเวสานุปฏฺานกุสโล โหตี’’ติ โยชิตาว โหตีติ สรูเปน น โยชิตา. อิติ ปุริมา จ อฏฺ, อยฺจ อาทีนวานุปสฺสนาติ อฏฺารสสุ มหาวิปสฺสนาสุ อิมา นว อโยเชตฺวา อิตรา เอว นว โยชิตาติ เวทิตพฺพา. าณูปฏฺานกุสโลติ เสกฺโข วิปสฺสนูปกฺกิเลสานํ อภาวโต วิปสฺสนาภาวนาย าณสฺส อุปฏฺาเน กุสโล. สมาธิภาวนาย ปน นิกนฺติสพฺภาวโต าณูปฏฺาเน กุสโลติ น วุตฺโต.

วิสฺโคูปฏฺานกุสโลติ ‘‘กามโยควิสฺโโค ภวโยควิสฺโโค ทิฏฺิโยควิสฺโโค อวิชฺชาโยควิสฺโโค’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๑๒) จตุธา วุตฺตสฺส วิสฺโคสฺส อุปฏฺาเน กุสโล. สฺโคานุปฏฺานกุสโลติ กามโยคภวโยคทิฏฺิโยคาวิชฺชาโยควเสน จตุธา วุตฺตสฺส สฺโคสฺส อนุปฏฺาเน กุสโล. นิโรธูปฏฺานกุสโลติ ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน นิพฺพานนินฺนํ จิตฺตํ โหติ นิพฺพานโปณํ นิพฺพานปพฺภารํ วิเวกฏฺํ เนกฺขมฺมาภิรตํ พฺยนฺตีภูตํ สพฺพโส อาสวฏฺานิเยหิ ธมฺเมหี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๙๐; ปฏิ. ม. ๒.๔๔ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตขีณาสวพลวเสน นิพฺพานนินฺนจิตฺตตฺตา ขีณาสโวว นิโรธสงฺขาตสฺส นิพฺพานสฺส อุปฏฺาเน กุสโล.

อารมฺมณูปฏฺานกุสลวเสนาติอาทีสุ กุสลนฺติ าณํ. าณมฺปิ หิ กุสลปุคฺคลโยคโต กุสลํ ยถา ปณฺฑิตปุคฺคลโยคโต ‘‘ปณฺฑิตา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๑๐๓). ตสฺมา โกสลฺลวเสนาติ อตฺโถ.

๒๐๗. อิทานิ จตุสฏฺิยา อากาเรหีติอาทิ าณกถายํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๐๗) วุตฺตมฺปิ อินฺทฺริยกถาสมฺพนฺเธน อิธาเนตฺวา วุตฺตํ. ตํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๒๐๘. ปุน สมนฺตจกฺขุสมฺพนฺเธน อินฺทฺริยวิธานํ วตฺตุกาโม น ตสฺส อทฺทิฏฺมิธตฺถิ กิฺจีติอาทิมาห. ตตฺถ สมนฺตจกฺขูติ สพฺพฺุตฺาณํ. ปฺินฺทฺริยสฺส วเสนาติอาทินา ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ อวิโยคิตํ ทสฺเสติ. สทฺทหนฺโต ปคฺคณฺหาตีติอาทีหิ เอเกกินฺทฺริยมูลเกหิ ปฺจหิ จตุกฺเกหิ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ นินฺนปโยคกาเล วา มคฺคกฺขเณ วา เอกรสภาวํ อฺมฺปจฺจยภาวฺจ ทสฺเสติ. สทฺทหิตตฺตา ปคฺคหิตนฺติอาทีหิ เอเกกินฺทฺริยมูลเกหิ ปฺจหิ จตุกฺเกหิ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ นิพฺพตฺติกาเล วา ผลกาเล วา เอกรสภาวํ อฺมฺปจฺจยภาวฺจ ทสฺเสติ. ปุน พุทฺธจกฺขุสมฺพนฺเธน อินฺทฺริยวิธานํ วตฺตุกาโม ยํ พุทฺธจกฺขูติอาทิมาห. ตตฺถ พุทฺธจกฺขูติ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณํ อาสยานุสยาณฺจ. พุทฺธาณนฺติ จ อิทํ ตเทว ทฺวยํ, เสสํ เหฏฺา วุตฺตตฺถเมวาติ.

อินฺทฺริยสโมธานวณฺณนา นิฏฺิตา.

สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฏิสมฺภิทามคฺค-อฏฺกถาย

อินฺทฺริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. วิโมกฺขกถา

๑. วิโมกฺขุทฺเทสวณฺณนา

๒๐๙. อิทานิ อินฺทฺริยกถานนฺตรํ กถิตาย วิโมกฺขกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา อนุปฺปตฺตา. อยฺหิ วิโมกฺขกถา อินฺทฺริยภาวนานุยุตฺตสฺส วิโมกฺขสพฺภาวโต อินฺทฺริยกถานนฺตรํ กถิตา. ตฺจ กเถนฺโต ภควโต สมฺมุขา สุตสุตฺตนฺตเทสนาปุพฺพงฺคมํ กตฺวา กเถสิ. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ตาว สุฺโต วิโมกฺโขติอาทีสุ สุฺตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อริยมคฺโค สุฺโต วิโมกฺโข. โส หิ สุฺตาย ธาตุยา อุปฺปนฺนตฺตา สุฺโต, กิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา วิโมกฺโข. เอเตเนว นเยน อนิมิตฺตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อนิมิตฺโต, อปฺปณิหิตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อปฺปณิหิโตติ เวทิตพฺโพ.

เอโก หิ อาทิโตว อนิจฺจโต สงฺขาเร สมฺมสติ. ยสฺมา ปน น อนิจฺจโต สมฺมสนมตฺเตเนว มคฺควุฏฺานํ โหติ, ทุกฺขโตปิ อนตฺตโตปิ สมฺมสิตพฺพเมว, ตสฺมา ทุกฺขโตปิ อนตฺตโตปิ สมฺมสติ. ตสฺส เอวํ ปฏิปนฺนสฺส อนิจฺจโต เจ สมฺมสนกาเล มคฺควุฏฺานํ โหติ, อยํ อนิจฺจโต อภินิวิสิตฺวา อนิจฺจโต วุฏฺาติ นาม. สเจ ปนสฺส ทุกฺขโต อนตฺตโต สมฺมสนกาเล มคฺควุฏฺานํ โหติ, อยํ อนิจฺจโต อภินิวิสิตฺวา ทุกฺขโต, อนตฺตโต วุฏฺาติ นาม. เอส นโย ทุกฺขโต อนตฺตโต อภินิวิสิตฺวา วุฏฺาเนสุปิ. เอตฺถ จ โยปิ อนิจฺจโต อภินิวิฏฺโ, โยปิ ทุกฺขโต, โยปิ อนตฺตโต. วุฏฺานกาเล เจ อนิจฺจโต วุฏฺานํ โหติ, ตโยปิ ชนา อธิโมกฺขพหุลา โหนฺติ, สทฺธินฺทฺริยํ ปฏิลภนฺติ, อนิมิตฺตวิโมกฺเขน วิมุจฺจนฺติ, ปมมคฺคกฺขเณ สทฺธานุสาริโน โหนฺติ, สตฺตสุ าเนสุ สทฺธาวิมุตฺตา. สเจ ปน ทุกฺขโต วุฏฺานํ โหติ, ตโยปิ ชนา ปสฺสทฺธิพหุลา โหนฺติ, สมาธินฺทฺริยํ ปฏิลภนฺติ, อปฺปณิหิตวิโมกฺเขน วิมุจฺจนฺติ, สพฺพตฺถ กายสกฺขิโน โหนฺติ. ยสฺส ปเนตฺถ อรูปชฺฌานํ ปาทกํ โหติ, โส อคฺคผเล อุภโตภาควิมุตฺโต โหติ. อถ เนสํ อนตฺตโต วุฏฺานํ โหติ, ตโยปิ ชนา เวทพหุลา โหนฺติ, ปฺินฺทฺริยํ ปฏิลภนฺติ, สุฺตวิโมกฺเขน วิมุจฺจนฺติ, ปมมคฺคกฺขเณ ธมฺมานุสาริโน โหนฺติ, ฉสุ าเนสุ ทิฏฺิปฺปตฺตา, อคฺคผเล ปฺาวิมุตฺตาติ.

อปิจ มคฺโค นาม ปฺจหิ การเณหิ นามํ ลภติ สรเสน วา ปจฺจนีเกน วา สคุเณน วา อารมฺมเณน วา อาคมเนน วา. สเจ หิ สงฺขารุเปกฺขา อนิจฺจโต สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ, อนิมิตฺตวิโมกฺเขน วิมุจฺจติ. สเจ ทุกฺขโต สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ, อปฺปณิหิตวิโมกฺเขน วิมุจฺจติ. สเจ อนตฺตโต สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ, สุฺตวิโมกฺเขน วิมุจฺจติ. อิทํ สรสโต นามํ นาม. อนิจฺจานุปสฺสนาย ปน สงฺขารานํ ฆนวินิพฺโภคํ กตฺวา นิจฺจนิมิตฺตธุวนิมิตฺตสสฺสตนิมิตฺตานิ ปหาย อาคตตฺตา อนิมิตฺโต, ทุกฺขานุปสฺสนาย สุขสฺํ ปหาย ปณิธิปตฺถนํ สุกฺขาเปตฺวา อาคตตฺตา อปฺปณิหิโต, อนตฺตานุปสฺสนาย อตฺตสตฺตปุคฺคลสฺํ ปหาย สงฺขาเร สุฺโต ทิฏฺตฺตา สุฺโตติ อิทํ ปจฺจนีกโต นามํ นาม. ราคาทีหิ ปน สุฺตฺตา สุฺโต, รูปนิมิตฺตาทีนํ, ราคนิมิตฺตาทีนํเยว วา อภาเวน อนิมิตฺโต, ราคปณิธิอาทีนํ อภาวโต อปฺปณิหิโตติ อิทมสฺส สคุณโต นามํ นาม. โสยํ สุฺํ อนิมิตฺตํ อปฺปณิหิตฺจ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรตีติปิ สุฺโต อนิมิตฺโต อปฺปณิหิโตติ วุจฺจติ. อิทมสฺส อารมฺมณโต นามํ นาม. อาคมนํ ปน ทุวิธํ วิปสฺสนาคมนํ มคฺคาคมนฺจ. ตตฺถ มคฺเค วิปสฺสนาคมนํ ลพฺภติ, ผเล มคฺคาคมนํ. อนตฺตานุปสฺสนา หิ สุฺตา นาม, สุฺตวิปสฺสนาย มคฺโค สุฺโต, สุฺตมคฺคสฺส ผลํ สุฺตํ. อนิจฺจานุปสฺสนา อนิมิตฺตา นาม, อนิมิตฺตวิปสฺสนาย มคฺโค อนิมิตฺโต. อิทํ ปน นามํ อภิธมฺมปริยาเย น ลพฺภติ, สุตฺตนฺตปริยาเย ปน ลพฺภติ. ตตฺถ หิ โคตฺรภุาณํ อนิมิตฺตํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา อนิมิตฺตนามกํ หุตฺวา สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา มคฺคสฺส นามํ เทตีติ วทนฺติ. เตน มคฺโค อนิมิตฺโตติ วุตฺโต. มคฺคาคมเนน ผลํ อนิมิตฺตนฺติ ยุชฺชติเยว. ทุกฺขานุปสฺสนา สงฺขาเรสุ ปณิธึ สุกฺขาเปตฺวา อาคตตฺตา อปฺปณิหิตา นาม, อปฺปณิหิตวิปสฺสนาย มคฺโค อปฺปณิหิโต, อปฺปณิหิตมคฺคสฺส ผลํ อปฺปณิหิตนฺติ เอวํ วิปสฺสนา อตฺตโน นามํ มคฺคสฺส เทติ, มคฺโค ผลสฺสาติ อิทํ อาคมนโต นามํ นาม. เอวํ สงฺขารุเปกฺขา วิโมกฺขวิเสสํ นิยเมตีติ.

เอวํ ภควตา เทสิเต ตโย มหาวตฺถุเก วิโมกฺเข อุทฺทิสิตฺวา ตํนิทฺเทสวเสเนว อปเรปิ วิโมกฺเข นิทฺทิสิตุกาโม อปิจ อฏฺสฏฺิ วิโมกฺขาติอาทิมาห. ตตฺถ อปิจาติ อปรปริยายทสฺสนํ. กถํ เต อฏฺสฏฺิ โหนฺติ, นนุ เต ปฺจสตฺตตีติ? สจฺจํ ยถารุตวเสน ปฺจสตฺตติ. ภควตา ปน เทสิเต ตโย วิโมกฺเข เปตฺวา อฺวิโมกฺเข นิทฺทิสนโต อิเมสํ ตทวโรธโต จ อิเม ตโย น คเณตพฺพา, อชฺฌตฺตวิโมกฺขาทโย ตโยปิ วิโมกฺขา จตุธา วิตฺถารวจเนเยว อนฺโตคธตฺตา น คเณตพฺพา, ‘‘ปณิหิโต วิโมกฺโข, อปฺปณิหิโต วิโมกฺโข’’ติ เอตฺถ อปฺปณิหิโต วิโมกฺโข ปมํ อุทฺทิฏฺเน เอกนามิกตฺตา น คเณตพฺโพ, เอวํ อิเมสุ สตฺตสุ อปนีเตสุ เสสา อฏฺสฏฺิ วิโมกฺขา โหนฺติ. เอวํ สนฺเต สุฺตวิโมกฺขาทโย ตโย ปุน กสฺมา อุทฺทิฏฺาติ เจ? อุทฺเทเสน สงฺคเหตฺวา เตสมฺปิ นิทฺเทสกรณตฺถํ. อชฺฌตฺตวุฏฺานาทโย ปน ตโย ปเภทํ วินา มูลราสิวเสน อุทฺทิฏฺา, ปณิหิตวิโมกฺขปฏิปกฺขวเสน ปุน อปฺปณิหิโต วิโมกฺโข อุทฺทิฏฺโติ เวทิตพฺโพ.

อชฺฌตฺตวุฏฺานาทีสุ อชฺฌตฺตโต วุฏฺาตีติ อชฺฌตฺตวุฏฺาโน. อนุโลเมนฺตีติ อนุโลมา. อชฺฌตฺตวุฏฺานานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิ อปคมา อชฺฌตฺตวุฏฺานปฏิปฺปสฺสทฺธิ. รูปีติ อชฺฌตฺตํ เกสาทีสุ อุปฺปาทิตํ รูปชฺฌานํ รูปํ, ตํ รูปมสฺส อตฺถีติ รูปี รูปานิ ปสฺสตีติ พหิทฺธา นีลกสิณาทิรูปานิ ฌานจกฺขุนา ปสฺสติ. อิมินา อชฺฌตฺตพหิทฺธาวตฺถุเกสุ กสิเณสุ ฌานปฏิลาโภ ทสฺสิโต. อชฺฌตฺตํ อรูปสฺีติ อชฺฌตฺตํ น รูปสฺี, อตฺตโน เกสาทีสุ อนุปฺปาทิตรูปาวจรชฺฌาโนติ อตฺโถ. อิมินา พหิทฺธา ปริกมฺมํ กตฺวา พหิทฺธาว ปฏิลทฺธชฺฌานตา ทสฺสิตา. สุภนฺเตว อธิมุตฺโตติ ‘‘สุภ’’มิจฺเจว อารมฺมเณ อธิมุตฺโต. ตตฺถ กิฺจาปิ อนฺโตอปฺปนายํ ‘‘สุภ’’นฺติ อาโภโค นตฺถิ, โย ปน อปฺปฏิกูลากาเรน สตฺตารมฺมณํ ผรนฺโต วิหรติ, โส ยสฺมา ‘‘สุภ’’นฺเตว อธิมุตฺโต โหติ, ตสฺมา เอวํ อุทฺเทโส กโตติ. อปฺปิตปฺปิตสมเย เอว วิกฺขมฺภนวิมุตฺติสพฺภาวโต สมยวิโมกฺโข. โสเยว สกิจฺจกรณวเสน อปฺปิตสมเย เอว นิยุตฺโตติ สามยิโก. สามายิโกติปิ ปาโ. โกเปตุํ ภฺชิตุํ สกฺกุเณยฺยตาย กุปฺโป. โลกํ อนติกฺกมนโต โลเก นิยุตฺโตติ โลกิโก. โลกิโยติปิ ปาโ. โลกํ อุตฺตรติ, อุตฺติณฺโณติ วา โลกุตฺตโร. อารมฺมณกรณวเสน สห อาสเวหีติ สาสโว. อารมฺมณกรณวเสน สมฺปโยควเสน จ นตฺเถตฺถ อาสวาติ อนาสโว. รูปสงฺขาเตน สห อามิเสนาติ สามิโส. สพฺพโส รูปารูปปฺปหานา นิรามิสโตปิ นิรามิสตโรติ นิรามิสา นิรามิสตโร. ปณิหิโตติ ตณฺหาวเสน ปณิหิโต ปตฺถิโต. อารมฺมณกรณวเสน สฺโชเนหิ สํยุตฺตตฺตา สฺุตฺโต. เอกตฺตวิโมกฺโขติ กิเลเสหิ อนชฺฌารุฬฺหตฺตา เอกสภาโว วิโมกฺโข. สฺาวิโมกฺโขติ วิปสฺสนาาณเมว วิปรีตสฺาย วิมุจฺจนโต สฺาวิโมกฺโข. ตเทว วิปสฺสนาาณํ สมฺโมหโต วิมุจฺจนวเสน าณเมว วิโมกฺโขติ าณวิโมกฺโข. สีติสิยาวิโมกฺโขติ วิปสฺสนาาณเมว สีติ ภเวยฺยาติ ปวตฺโต วิโมกฺโข สีติสิยาวิโมกฺโข. สีติสิกาวิโมกฺโขติปิ ปาโ, สีติภาวิกาย วิโมกฺโขติ ตสฺส อตฺถํ วณฺณยนฺติ. ฌานวิโมกฺโขติ อุปจารปฺปนาเภทํ โลกิยโลกุตฺตรเภทฺจ ฌานเมว วิโมกฺโข. อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโขติ อนุปาทิยิตฺวา คหณํ อกตฺวา จิตฺตสฺส วิโมกฺโข. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

วิโมกฺขุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. วิโมกฺขนิทฺเทสวณฺณนา

๒๑๐. กตโมติอาทิเก อุทฺเทสสฺส นิทฺเทเส อิติ ปฏิสฺจิกฺขตีติ เอวํ อุปปริกฺขติ. สุฺมิทนฺติ อิทํ ขนฺธปฺจกํ สุฺํ. เกน สุฺํ? อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วา. ตตฺถ อตฺเตน วาติ พาลชนปริกปฺปิตสฺส อตฺตโน อภาวา เตน อตฺตนา จ สุฺํ. อตฺตนิเยน วาติ ตสฺส ปริกปฺปิตสฺส อตฺตโน สนฺตเกน จ สุฺํ. อตฺตโน อภาเวเนว อตฺตนิยาภาโว. อตฺตนิยฺจ นาม นิจฺจํ วา สิยา สุขํ วา, ตทุภยมฺปิ นตฺถิ. เตน นิจฺจปฏิกฺเขเปน อนิจฺจานุปสฺสนา, สุขปฏิกฺเขเปน ทุกฺขานุปสฺสนา จ วุตฺตา โหติ. สุฺมิทํ อตฺเตน วาติ อนตฺตานุปสฺสนาเยว วุตฺตา. โสติ โส เอวํ ตีหิ อนุปสฺสนาหิ วิปสฺสมาโน ภิกฺขุ. อภินิเวสํ น กโรตีติ อนตฺตานุปสฺสนาวเสน อตฺตาภินิเวสํ น กโรติ.

นิมิตฺตํ น กโรตีติ อนิจฺจานุปสฺสนาวเสน นิจฺจนิมิตฺตํ น กโรติ. ปณิธึ น กโรตีติ ทุกฺขานุปสฺสนาวเสน ปณิธึ น กโรติ. อิเม ตโย วิโมกฺขา ปริยาเยน วิปสฺสนากฺขเณ ตทงฺควเสนาปิ ลพฺภนฺติ, นิปฺปริยาเยน ปน สมุจฺเฉทวเสน มคฺคกฺขเณเยว. จตฺตาริ ฌานานิ อชฺฌตฺตํ นีวรณาทีหิ วุฏฺานโต อชฺฌตฺตวุฏฺาโน วิโมกฺโข. จตสฺโส อรูปสมาปตฺติโย อารมฺมเณหิ วุฏฺานโต พหิทฺธาวุฏฺาโน วิโมกฺโข. อารมฺมณมฺปิ หิ พาหิรายตนานิ วิย อิธ ‘‘พหิทฺธา’’ติ วุตฺตํ. อิเม ทฺเว วิกฺขมฺภนวิโมกฺขา, ทุภโต วุฏฺาโน ปน สมุจฺเฉทวิโมกฺโข.

นีวรเณหิ วุฏฺาตีติอาทีหิ อชฺฌตฺตวุฏฺานํ สรูปโต วุตฺตํ. รูปสฺายาติอาทีหิ กสิณาทิอารมฺมณสมติกฺกมสฺส ปากฏตฺตา ตํ อวตฺวา สุตฺตนฺเตสุ วุตฺตรูปสฺาทิสมติกฺกโม วุตฺโต. สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสาติ สมาสปทํ, สกฺกายทิฏฺิยา วิจิกิจฺฉาย สีลพฺพตปรามาสาติ วิจฺเฉโท. อยเมว วา ปาโ.

๒๑๑. วิตกฺโก จาติอาทีหิ ฌานานํ สมาปตฺตีนฺจ อุปจารภูมิโย วุตฺตา. อนิจฺจานุปสฺสนาติอาทีหิ จตุนฺนํ มคฺคานํ ปุพฺพภาควิปสฺสนา วุตฺตา. ปฏิลาโภ วาติ ปฺจวิธวสิปฺปตฺติยา พฺยาปิโต ปตฺถโฏ ลาโภติ ปฏิลาโภ. วสิปฺปตฺติยา หิ สพฺโพ ฌานปโยโค จ สมาปตฺติปโยโค จ ปฏิปฺปสฺสทฺโธ โหติ, ตสฺมา ปฏิลาโภ ‘‘ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิโมกฺโข’’ติ วุตฺโต. วิปาโก ปน ฌานสฺส สมาปตฺติยา จ ปฏิปฺปสฺสทฺธิ โหตีติ อุชุกเมว. เกจิ ปน ‘‘อุปจารปโยคสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา ฌานสฺส สมาปตฺติยา จ ปฏิลาโภ โหติ, ตสฺมา ฌานสมาปตฺติปฏิลาโภ ‘ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิโมกฺโข’ติ วุจฺจตี’’ติ วทนฺติ.

๒๑๒. อชฺฌตฺตนฺติ อตฺตานํ อธิกิจฺจ ปวตฺตํ. ปจฺจตฺตนฺติ อตฺตานํ ปฏิจฺจ ปวตฺตํ. อุภเยนาปิ นิยกชฺฌตฺตเมว ทีเปติ นีลนิมิตฺตนฺติ นีลเมว. นีลสฺํ ปฏิลภตีติ ตสฺมึ นีลนิมิตฺเต นีลมิติสฺํ ปฏิลภติ. สุคฺคหิตํ กโรตีติ ปริกมฺมภูมิยํ สุฏฺุ อุคฺคหิตํ กโรติ. สูปธาริตํ อุปธาเรตีติ อุปจารภูมิยํ สุฏฺุ อุปธาริตํ กตฺวา อุปธาเรติ. สฺวาวตฺถิตํ อวตฺถาเปตีติ อปฺปนาภูมิยํ สุฏฺุ นิจฺฉิตํ นิจฺฉินาติ. ววตฺถาเปตีติปิ ปาโ. อชฺฌตฺตฺหิ นีลปริกมฺมํ กโรนฺโต เกเส วา ปิตฺเต วา อกฺขิตารกายํ วา กโรติ. พหิทฺธา นีลนิมิตฺเตติ นีลปุปฺผนีลวตฺถนีลธาตูนํ อฺตเร นีลกสิเณ. จิตฺตํ อุปสํหรตีติ จิตฺตํ อุปเนติ. ปีตาทีสุปิ เอเสว นโย. อาเสวตีติ ตเมว สฺํ อาทิโต เสวติ. ภาเวตีติ วฑฺเฒติ. พหุลีกโรตีติ ปุนปฺปุนํ กโรติ. รูปนฺติ นีลนิมิตฺตํ รูปํ. รูปสฺีติ ตสฺมึ รูเป สฺา รูปสฺา, สา อสฺส อตฺถีติ รูปสฺี. อชฺฌตฺตํ ปีตนิมิตฺตาทีสุ ปีตปริกมฺมํ กโรนฺโต เมเท วา ฉวิยา วา อกฺขีนํ ปีตฏฺาเน วา กโรติ. โลหิตปริกมฺมํ กโรนฺโต มํเส วา โลหิเต วา ชิวฺหาย วา หตฺถตลปาทตเลสุ วา อกฺขีนํ รตฺตฏฺาเน วา กโรติ. โอทาตปริกมฺมํ กโรนฺโต อฏฺิมฺหิ วา ทนฺเต วา นเข วา อกฺขีนํ เสตฏฺาเน วา กโรติ. อชฺฌตฺตํ อรูปนฺติ อชฺฌตฺตํ รูปนิมิตฺตํ นตฺถีติ อตฺโถ.

เมตฺตาสหคเตนาติ ปมทุติยตติยชฺฌานวเสน เมตฺตาย สมนฺนาคเตน. เจตสาติ จิตฺเตน. เอกํ ทิสนฺติ เอกํ เอกิสฺสา ทิสาย ปมปริคฺคหิตํ สตฺตํ อุปาทาย เอกทิสาปริยาปนฺนสตฺตผรณวเสน วุตฺตํ. ผริตฺวาติ ผุสิตฺวา อารมฺมณํ กตฺวา. วิหรตีติ พฺรหฺมวิหาราธิฏฺิตํ อิริยาปถวิหารํ ปวตฺเตติ. ตถา ทุติยนฺติ ยถา ปุรตฺถิมาทีสุ ยํกิฺจิ เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตเถว ตทนนฺตรํ ทุติยํ ตติยํ จตุตฺถํ วาติ อตฺโถ. อิติ อุทฺธนฺติ เอเตเนว นเยน อุปริมํ ทิสนฺติ วุตฺตํ โหติ. อโธ ติริยนฺติ อโธทิสมฺปิ ติริยํ ทิสมฺปิ เอวเมว. ตตฺถ จ อโธติ เหฏฺา. ติริยนฺติ อนุทิสา. เอวํ สพฺพทิสาสุ อสฺสมณฺฑลิกาย อสฺสมิว เมตฺตาสหคตํ จิตฺตํ สาเรติปิ ปจฺจาสาเรติปีติ. เอตฺตาวตา เอกเมกํ ทิสํ ปริคฺคเหตฺวา โอธิโส เมตฺตาผรณํ ทสฺสิตํ. สพฺพธีติอาทิ ปน อโนธิโส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ สพฺพธีติ สพฺพตฺถ. สพฺพตฺตตายาติ สพฺเพสุ หีนมชฺฌิมุกฺกฏฺมิตฺตสปตฺตมชฺฌตฺตาทิปฺปเภเทสุ อตฺตตาย, ‘‘อยํ ปรสตฺโต’’ติ วิภาคํ อกตฺวา อตฺตสมตายาติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา สพฺพตฺตตายาติ สพฺเพน จิตฺตภาเวน, อีสกมฺปิ พหิ อวิกฺขิปมาโนติ วุตฺตํ โหติ. สพฺพาวนฺตนฺติ สพฺพสตฺตวนฺตํ, สพฺพสตฺตยุตฺตนฺติ อตฺโถ. สพฺพวนฺตนฺติปิ ปาโ. โลกนฺติ สตฺตโลกํ.

วิปุเลนาติ เอวมาทิปริยายทสฺสนโต ปเนตฺถ ปุน ‘‘เมตฺตาสหคเตนา’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา วา เอตฺถ โอธิโส ผรเณ วิย ปุน ตถาสทฺโท วา อิติ-สทฺโท วา น วุตฺโต, ตสฺมา ปุน ‘‘เมตฺตาสหคเตน เจตสา’’ติ วุตฺตํ, นิคมนวเสน วา เอตํ วุตฺตํ. วิปุเลนาติ เอตฺถ ผรณวเสน วิปุลตา ทฏฺพฺพา. ภูมิวเสน ปน ตํ มหคฺคตํ. ตฺหิ กิเลสวิกฺขมฺภนสมตฺถตาย วิปุลผลตาย ทีฆสนฺตานตาย จ มหนฺตภาวํ คตํ, มหนฺเตหิ วา อุฬารจฺฉนฺทวีริยจิตฺตปฺเหิ คตํ ปฏิปนฺนนฺติ มหคฺคตํ. ปคุณวเสน อปฺปมาณสตฺตารมฺมณวเสน จ อปฺปมาณํ. พฺยาปาทปจฺจตฺถิกปฺปหาเนน อเวรํ. โทมนสฺสปฺปหานโต อพฺยาปชฺชํ, นิทฺทุกฺขนฺติ วุตฺตํ โหติ. อปฺปฏิกูลา โหนฺตีติ ภิกฺขุโน จิตฺตสฺส อปฺปฏิกูลา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. เสเสสุปิ วุตฺตนเยเนว กรุณามุทิตาอุเปกฺขาวเสน โยเชตพฺพํ. กรุณาย วิเหสาปจฺจตฺถิกปฺปหาเนน อเวรํ, มุทิตาย อรติปจฺจตฺถิกปฺปหาเนน.

อุเปกฺขาสหคเตนาติ จตุตฺถชฺฌานวเสน อุเปกฺขาย สมนฺนาคเตน. ราคปจฺจตฺถิกปฺปหาเนน อเวรํ, เคหสิตโสมนสฺสปฺปหานโต อพฺยาปชฺชํ. สพฺพมฺปิ หิ อกุสลํ กิเลสปริฬาหโยคโต สพฺยาปชฺชเมวาติ อยเมเตสํ วิเสโส.

๒๑๓. สพฺพโสติ สพฺพากาเรน, สพฺพาสํ วา, อนวเสสานนฺติ อตฺโถ. รูปสฺานนฺติ สฺาสีเสน วุตฺตรูปาวจรชฺฌานานฺเจว ตทารมฺมณานฺจ. รูปาวจรชฺฌานมฺปิ หิ รูปนฺติ วุจฺจติ ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙; ธ. ส. ๒๔๘), ตสฺส อารมฺมณมฺปิ พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ‘‘สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๒๒๓). ตสฺมา อิธ รูเป สฺา รูปสฺาติ เอวํ สฺาสีเสน วุตฺตรูปาวจรชฺฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. รูปํ สฺา อสฺสาติ รูปสฺํ, รูปมสฺส นามนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ ปถวีกสิณาทิเภทสฺส ตทารมฺมณสฺส เจตํ อธิวจนนฺติ เวทิตพฺพํ. สมติกฺกมาติ วิราคา นิโรธา จ. กึ วุตฺตํ โหติ? เอตาสํ กุสลวิปากกิริยาวเสน ปฺจทสนฺนํ ฌานสงฺขาตานํ รูปสฺานํ, เอเตสฺจ ปถวีกสิณาทิวเสน นวนฺนํ อารมฺมณสงฺขาตานํ รูปสฺานํ สพฺพากาเรน, อนวเสสานํ วา วิราคา จ นิโรธา จ วิราคเหตุ เจว นิโรธเหตุ จ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. น หิ สกฺกา สพฺพโส อนติกฺกนฺตรูปสฺเน เอตํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุนฺติ. ยสฺมา ปน อารมฺมณสมติกฺกเมน ปตฺตพฺพา เอตา สมาปตฺติโย, น เอกสฺมึเยว อารมฺมเณ ปมชฺฌานาทีนิ วิย. อารมฺมเณ อวิรตฺตสฺส จ สฺาสมติกฺกโม น โหติ, ตสฺมา อยํ อารมฺมณสมติกฺกมวเสนาปิ อตฺถวณฺณนา กตาติ เวทิตพฺพา.

ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมาติ จกฺขาทีนํ วตฺถูนํ รูปาทีนํ อารมฺมณานฺจ ปฏิฆาเตน อุปฺปนฺนา สฺา ปฏิฆสฺา, รูปสฺาทีนํ เอตํ อธิวจนํ. ตาสํ กุสลวิปากานํ ปฺจนฺนํ, อกุสลวิปากานํ ปฺจนฺนนฺติ สพฺพโส ทสนฺนมฺปิ ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา ปหานา อสมุปฺปาทา, อปฺปวตฺตึ กตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. กามฺเจตา ปมชฺฌานาทีนิ สมาปนฺนสฺสปิ น สนฺติ, น หิ ตสฺมึ สมเย ปฺจทฺวารวเสน จิตฺตํ ปวตฺตติ, เอวํ สนฺเตปิ อฺตฺถ ปหีนานํ สุขทุกฺขานํ จตุตฺถชฺฌาเน วิย สกฺกายทิฏฺาทีนํ ตติยมคฺเค วิย จ อิมสฺมึ ฌาเน อุสฺสาหชนนตฺถํ อิมสฺส ฌานสฺส ปสํสาวเสน เอตาสํ เอตฺถ วจนํ เวทิตพฺพํ. อถ วา กิฺจาปิ ตา รูปาวจรํ สมาปนฺนสฺส น สนฺติ, อถ โข น ปหีนตฺตา น สนฺติ. น หิ รูปวิราคาย รูปาวจรภาวนา สํวตฺตติ, รูปายตฺตาเยว จ เอตาสํ ปวตฺติ. อยํ ปน ภาวนา รูปวิราคาย สํวตฺตติ, ตสฺมา ตา เอตฺถ ปหีนาติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. น เกวลฺจ วตฺตุํ, เอกํเสเนว เอวํ ธาเรตุมฺปิ วฏฺฏติ. ตาสฺหิ อิโต ปุพฺเพ อปฺปหีนตฺตาเยว ‘‘ปมชฺฌานํ สมาปนฺนสฺส สทฺโท กณฺฏโก’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๗๒) วุตฺโต ภควตา. อิธ จ ปหีนตฺตาเยว อรูปสมาปตฺตีนํ อาเนฺชตา สนฺตวิโมกฺขตา จ วุตฺตา.

นานตฺตสฺานํ อมนสิการาติ นานตฺเต วา โคจเร ปวตฺตานํ สฺานํ, นานตฺตานํ วา สฺานํ. ยสฺมา เหตา รูปสทฺทาทิเภเท นานตฺเต นานาสภาเว โคจเร ปวตฺตนฺติ, ยสฺมา เจตา อฏฺ กามาวจรกุสลสฺา, ทฺวาทส อกุสลสฺา, เอกาทส กามาวจรกุสลวิปากสฺา, ทฺเว อกุสลวิปากสฺา, เอกาทส กามาวจรกิริยาสฺาติ เอวํ จตุจตฺตาลีสมฺปิ สฺา นานตฺตา นานาสภาวา อฺมฺวิสทิสา, ตสฺมา ‘‘นานตฺตสฺา’’ติ วุตฺตา. ตาสํ สพฺพโส นานตฺตสฺานํ อมนสิการา อนาวชฺชนา จิตฺเต จ อนุปฺปาทนา. ยสฺมา ตา นาวชฺชติ จิตฺเต จ น อุปฺปาเทติ น มนสิกโรติ น ปจฺจเวกฺขติ, ตสฺมาติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺมา เจตฺถ ปุริมา รูปสฺา ปฏิฆสฺา จ อิมินา ฌาเนน นิพฺพตฺเต ภเวปิ น วิชฺชนฺติ, ปเคว ตสฺมึ ภเว อิมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรณกาเล, ตสฺมา ตาสํ สมติกฺกมา อตฺถงฺคมาติ ทฺเวธาปิ อภาโวเยว วุตฺโต. นานตฺตสฺาสุ ปน ยสฺมา อฏฺ กามาวจรกุสลสฺา, นว กิริยาสฺา, ทสากุสลสฺาติ อิมา สตฺตวีสติ สฺา อิมินา ฌาเนน นิพฺพตฺเต ภเว วิชฺชนฺติ, ตสฺมา ตาสํ อมนสิการาติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถาปิ หิ อิมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรนฺโต ตาสํ อมนสิการาเยว อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตา ปน มนสิกโรนฺโต อสมาปนฺโน โหตีติ. สงฺเขปโต เจตฺถ ‘‘รูปสฺานํ สมติกฺกมา’’ติอิมินา สพฺพรูปาวจรธมฺมานํ ปหานํ วุตฺตํ. ‘‘ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา’’ติอิมินา สพฺเพสํ กามาวจรจิตฺตเจตสิกานํ ปหานฺจ อมนสิกาโร จ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

อนนฺโต อากาโสติ เอตฺถ ปฺตฺติมตฺตตฺตา นาสฺส อุปฺปาทนฺโต วา วยนฺโต วา ปฺายตีติ อนนฺโต, อนนฺตผรณวเสนาปิ อนนฺโต. น หิ โส โยคี เอกเทสวเสน ผรติ, สกลวเสเนว ผรติ. อากาโสติ กสิณุคฺฆาฏิมากาโส. อากาสานฺจายตนาทีนิ วุตฺตตฺถานิ. อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ ตํ ปตฺวา นิปฺผาเทตฺวา ตทนุรูเปน อิริยาปเถน วิหรติ. ตเทว สมาปชฺชิตพฺพโต สมาปตฺติ.

อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺมาติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ฌานมฺปิ อากาสานฺจายตนํ อารมฺมณมฺปิ. อารมฺมณมฺปิ หิ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว อากาสานฺจํ จ ตํ ปมสฺส อารุปฺปชฺฌานสฺส อารมฺมณตฺตา เทวานํ เทวายตนํ วิย อธิฏฺานฏฺเน อายตนฺจาติ อากาสานฺจายตนํ, ตถา อากาสานฺจํ จ ตํ ตสฺส ฌานสฺส สฺชาติเหตุตฺตา ‘‘กมฺโพชา อสฺสานํ อายตน’’นฺติอาทีนิ วิย สฺชาติเทสฏฺเน อายตนฺจาติปิ อากาสานฺจายตนํ. เอวเมตํ ฌานฺจ อารมฺมณฺจาติ อุภยมฺปิ อปฺปวตฺติกรเณน จ อมนสิกรเณน จ สมติกฺกมิตฺวาว ยสฺมา อิทํ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหาตพฺพํ, ตสฺมา อุภยมฺเปตเมกชฺฌํ กตฺวา ‘‘อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺมา’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อนนฺตํ วิฺาณนฺติ ตํเยว ‘‘อนนฺโต อากาโส’’ติ ผริตฺวา ปวตฺตํ วิฺาณํ ‘‘อนนฺตํ วิฺาณ’’นฺติ มนสิกโรนฺโตติ วุตฺตํ โหติ. มนสิการวเสน วา อนนฺตํ. โส หิ ตํ อากาสารมฺมณํ วิฺาณํ อนวเสสโต มนสิกโรนฺโต อนนฺตํ มนสิ กโรติ.

วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺมาติ เอตฺถาปิ จ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ฌานมฺปิ วิฺาณฺจายตนํ อารมฺมณมฺปิ. อารมฺมณมฺปิ หิ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว วิฺาณฺจํ จ ตํ ทุติยสฺส อารุปฺปชฺฌานสฺส อารมฺมณตฺตา อธิฏฺานฏฺเน อายตนฺจาติ วิฺาณฺจายตนํ, ตถา วิฺาณฺจํ จ ตํ ตสฺเสว ฌานสฺส สฺชาติเหตุตฺตา สฺชาติเทสฏฺเน อายตนฺจาติปิ วิฺาณฺจายตนํ. เอวเมตํ ฌานฺจ อารมฺมณฺจาติ อุภยมฺปิ อปฺปวตฺติกรเณน จ อมนสิกรเณน จ สมติกฺกมิตฺวาว ยสฺมา อิทํ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหาตพฺพํ, ตสฺมา อุภยมฺเปตเมกชฺฌํ กตฺวา ‘‘วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺมา’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. นตฺถิ กิฺจีติ นตฺถิ นตฺถิ, สุฺํ สุฺํ, วิวิตฺตํ วิวิตฺตนฺติ เอวํ มนสิกโรนฺโตติ วุตฺตํ โหติ.

อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺมาติ เอตฺถาปิ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ฌานมฺปิ อากิฺจฺายตนํ อารมฺมณมฺปิ. อารมฺมณมฺปิ หิ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว อากิฺจฺฺจ ตํ ตติยสฺส อารุปฺปชฺฌานสฺส อารมฺมณตฺตา อธิฏฺานฏฺเน อายตนฺจาติ อากิฺจฺายตนํ, ตถา อากิฺจฺฺจ ตํ ตสฺเสว ฌานสฺส สฺชาติเหตุตฺตา สฺชาติเทสฏฺเน อายตนฺจาติปิ อากิฺจฺายตนํ. เอวเมตํ ฌานฺจ อารมฺมณฺจาติ อุภยมฺปิ อปฺปวตฺติกรเณน จ อมนสิกรเณน จ สมติกฺกมิตฺวาว ยสฺมา อิทํ เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหาตพฺพํ, ตสฺมา อุภยมฺเปตเมกชฺฌํ กตฺวา ‘‘อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺมา’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สฺาเวทยิตนิโรธกถา เหฏฺา กถิตาว.

‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทิกา สตฺต วิโมกฺขา ปจฺจนีกธมฺเมหิ สุฏฺุ วิมุจฺจนฏฺเน อารมฺมเณ อภิรติวเสน สุฏฺุ มุจฺจนฏฺเน จ วิโมกฺขา, นิโรธสมาปตฺติ ปน จิตฺตเจตสิเกหิ วิมุตฺตฏฺเน วิโมกฺโข. สมาปตฺติสมาปนฺนสมเย วิมุตฺโต โหติ, วุฏฺิตสมเย อวิมุตฺโต โหตีติ สมยวิโมกฺโข. สมุจฺเฉทวิมุตฺติวเสน อจฺจนฺตวิมุตฺตตฺตา อริยมคฺคา, ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิมุตฺติวเสน อจฺจนฺตวิมุตฺตตฺตา สามฺผลานิ, นิสฺสรณวิมุตฺติวเสน อจฺจนฺตวิมุตฺตตฺตา นิพฺพานํ อสมยวิโมกฺโข. ตถา สามยิกาสามยิกวิโมกฺขา.

ปมาทํ อาคมฺม ปริหายตีติ กุปฺโป. ตถา น ปริหายตีติ อกุปฺโป. โลกาย สํวตฺตตีติ โลกิโย. อริยมคฺคา โลกํ อุตฺตรนฺตีติ โลกุตฺตรา, สามฺผลานิ นิพฺพานฺจ โลกโต อุตฺติณฺณาติ โลกุตฺตรา. อาทิตฺตํ อโยคุฬํ มกฺขิกา วิย เตชุสฺสทํ โลกุตฺตรํ ธมฺมํ อาสวา นาลมฺพนฺตีติ อนาสโว. รูปปฺปฏิสฺุตฺโตติ รูปชฺฌานานิ. อรูปปฺปฏิสฺุตฺโตติ อรูปสมาปตฺติโย. ตณฺหาย อาลมฺพิโต ปณิหิโต. อนาลมฺพิโต อปฺปณิหิโต. มคฺคผลานิ เอการมฺมณตฺตา เอกนิฏฺตฺตา จ เอกตฺตวิโมกฺโข, นิพฺพานํ อทุติยตฺตา เอกตฺตวิโมกฺโข, อารมฺมณนานตฺตา วิปากนานตฺตา จ นานตฺตวิโมกฺโข.

๒๑๔. สิยาติ ภเวยฺย, ทส โหนฺตีติ จ เอโก โหตีติ จ ภเวยฺยาติ อตฺโถ. ‘‘สิยา’’ติ จ เอตํ วิธิวจนํ, น ปุจฺฉาวจนํ. วตฺถุวเสนาติ นิจฺจสฺาทิทสวตฺถุวเสน ทส โหนฺติ. ปริยาเยนาติ วิมุจฺจนปริยาเยน เอโก โหติ. สิยาติ กถฺจ สิยาติ ยํ วา สิยาติ วิหิตํ, ตํ กถํ สิยาติ ปุจฺฉติ. อนิจฺจานุปสฺสนาณนฺติ สมาสปทํ. อนิจฺจานุปสฺสนาาณนฺติ วา ปาโ. ตถา เสเสสุปิ. นิจฺจโต สฺายาติ นิจฺจโต ปวตฺตาย สฺาย, ‘‘นิจฺจ’’นฺติ ปวตฺตาย สฺายาติ อตฺโถ. เอส นโย สุขโต อตฺตโต นิมิตฺตโต สฺายาติ เอตฺถาปิ. นิมิตฺตโตติ จ นิจฺจนิมิตฺตโต. นนฺทิยา สฺายาติ นนฺทิวเสน ปวตฺตาย สฺาย, นนฺทิสมฺปยุตฺตาย สฺายาติ อตฺโถ. เอส นโย ราคโต สมุทยโต อาทานโต ปณิธิโต อภินิเวสโต สฺายาติ เอตฺถาปิ. ยสฺมา ปน ขยวยวิปริณามานุปสฺสนา ติสฺโส อนิจฺจานุปสฺสนาทีนํ พลวภาวาย พลวปจฺจยภูตา ภงฺคานุปสฺสนาวิเสสา. ภงฺคทสฺสเนน หิ อนิจฺจานุปสฺสนา พลวตี โหติ. อนิจฺจานุปสฺสนาย จ พลวติยา ชาตาย ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ, ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๕) ทุกฺขานตฺตานุปสฺสนาปิ พลวติโย โหนฺติ. ตสฺมา อนิจฺจานุปสฺสนาทีสุ วุตฺตาสุ ตาปิ ติสฺโส วุตฺตาว โหนฺติ. ยสฺมา จ สุฺตานุปสฺสนา ‘‘อภินิเวสโต สฺาย มุจฺจตี’’ติ วจเนเนว สาราทานาภินิเวสสมฺโมหาภินิเวสอาลยาภินิเวสสฺโคาภินิเวสโต สฺาย มุจฺจตีติ วุตฺตเมว โหติ, อภินิเวสาภาเวเนว อปฺปฏิสงฺขาโต สฺาย มุจฺจตีติ วุตฺตเมว โหติ, ตสฺมา อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาทโย ปฺจปิ อนุปสฺสนา น วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. เอวํ อฏฺารสสุ มหาวิปสฺสนาสุ เอตา อฏฺ อนุปสฺสนา อวตฺวา ทเสว อนุปสฺสนา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.

๒๑๕. อนิจฺจานุปสฺสนา ยถาภูตํ าณนฺติ อนิจฺจานุปสฺสนาเยว ยถาภูตาณํ. อุภยมฺปิ ปจฺจตฺตวจนํ. ยถาภูตาณนฺติ าณตฺโถ วุตฺโต. เอวํ เสเสสุปิ. สมฺโมหา อฺาณาติ สมฺโมหภูตา อฺาณา. มุจฺจตีติ วิโมกฺขตฺโถ วุตฺโต.

๒๑๖. อนิจฺจานุปสฺสนา อนุตฺตรํ สีติภาวาณนฺติ เอตฺถ สาสเนเยว สพฺภาวโต อุตฺตมฏฺเน อนุตฺตรํ, อนุตฺตรสฺส ปจฺจยตฺตา วา อนุตฺตรํ, สีติภาโว เอว าณํ สีติภาวาณํ. ตํ อนิจฺจานุปสฺสนาสงฺขาตํ อนุตฺตรํ สีติภาวาณํ. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ อนุตฺตรํ สีติภาวํ สจฺฉิกาตุ’’นฺติ (อ. นิ. ๖.๘๕) เอตฺถ นิพฺพานํ อนุตฺตโร สีติภาโว นาม. อิธ ปน วิปสฺสนา อนุตฺตโร สีติภาโว. นิจฺจโต สนฺตาปปริฬาหทรถา มุจฺจตีติ เอตฺถาปิ ‘‘นิจฺจ’’นฺติ ปวตฺตกิเลสา เอว อิธ จามุตฺร จ สนฺตาปนฏฺเน สนฺตาโป, ปริทหนฏฺเน ปริฬาโห, อุณฺหฏฺเน ทรโถติ วุจฺจนฺติ.

๒๑๗. เนกฺขมฺมํ ฌายตีติ ฌานนฺติอาทโย เหฏฺา วุตฺตตฺถา. เนกฺขมฺมาทีนิ เจตฺถ อฏฺ สมาปตฺติโย จ นิพฺเพธภาคิยาเนว.

๒๑๘. อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโขติ อิธ วิปสฺสนาเยว. ‘‘เอตทตฺถา กถา, เอตทตฺถา มนฺตนา, ยทิทํ อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโข’’ติ (ปริ. ๓๖๖; อ. นิ. ๓.๖๘) เอตฺถ ปน นิพฺพานํ อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโข. กติหุปาทาเนหีติ กติหิ อุปาทาเนหิ. กตมา เอกุปาทานาติ กตมโต เอกุปาทานโต. อิทํ เอกุปาทานาติ อิโต เอกโต อุปาทานโต. อิทนฺติ ปุพฺพาณาเปกฺขํ วา. อุปาทานโต มุจฺจเนสุ ยสฺมา อาทิโต สงฺขารานํ อุทยพฺพยํ ปสฺสิตฺวา ปสฺสิตฺวา อนิจฺจานุปสฺสนาย วิปสฺสติ, ปจฺฉา สงฺขารานํ ภงฺคเมว ปสฺสิตฺวา อนิมิตฺตานุปสฺสนาย วิปสฺสติ. อนิจฺจานุปสฺสนาวิเสโสเยว หิ อนิมิตฺตานุปสฺสนา. สงฺขารานํ อุทยพฺพยทสฺสเนน จ ภงฺคทสฺสเนน จ อตฺตาภาโว ปากโฏ โหติ. เตน ทิฏฺุปาทานสฺส จ อตฺตวาทุปาทานสฺส จ ปหานํ โหติ. ทิฏฺิปฺปหาเนเนว จ ‘‘สีลพฺพเตน อตฺตา สุชฺฌตี’’ติ ทสฺสนสฺส อภาวโต สีลพฺพตุปาทานสฺส ปหานํ โหติ. ยสฺมา จ อนตฺตานุปสฺสนาย อุชุกเมว อตฺตาภาวํ ปสฺสติ, อนตฺตานุปสฺสนาวิเสโสเยว จ สุฺตานุปสฺสนา, ตสฺมา อิมานิ จตฺตาริ าณานิ ทิฏฺุปาทานาทีหิ ตีหิ อุปาทาเนหิ มุจฺจนฺติ. ทุกฺขานุปสฺสนาทีนํเยว ปน จตสฺสนฺนํ ตณฺหาย อุชุวิปจฺจนีกตฺตา อนิจฺจานุปสฺสนาทีนํ จตสฺสนฺนํ กามุปาทานโต มุจฺจนํ น วุตฺตํ. ยสฺมา อาทิโต ทุกฺขานุปสฺสนาย ‘‘สงฺขารา ทุกฺขา’’ติ ปสฺสโต ปจฺฉา อปฺปณิหิตานุปสฺสนาย จ ‘‘สงฺขารา ทุกฺขา’’ติ ปสฺสโต สงฺขารานํ ปตฺถนา ปหียติ. ทุกฺขานุปสฺสนาวิเสโสเยว หิ อปฺปณิหิตานุปสฺสนา. ยสฺมา จ สงฺขาเรสุ นิพฺพิทานุปสฺสนาย นิพฺพินฺทนฺตสฺส วิราคานุปสฺสนาย วิรชฺชนฺตสฺส สงฺขารานํ ปตฺถนา ปหียติ, ตสฺมา อิมานิ จตฺตาริ าณานิ กามุปาทานโต มุจฺจนฺติ. ยสฺมา นิโรธานุปสฺสนาย กิเลเส นิโรเธติ, ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย กิเลเส ปริจฺจชติ, ตสฺมา อิมานิ ทฺเว าณานิ จตูหิ อุปาทาเนหิ มุจฺจนฺตีติ เอวํ สภาวนานตฺเตน จ อาการนานตฺเตน จ อฏฺสฏฺิ วิโมกฺขา นิทฺทิฏฺา.

๒๑๙. อิทานิ อาทิโต อุทฺทิฏฺานํ ติณฺณํ วิโมกฺขานํ มุขานิ ทสฺเสตฺวา วิโมกฺขมุขปุพฺพงฺคมํ อินฺทฺริยวิเสสํ ปุคฺคลวิเสสฺจ ทสฺเสตุกาโม ตีณิ โข ปนิมานีติอาทิมาห. ตตฺถ วิโมกฺขมุขานีติ ติณฺณํ วิโมกฺขานํ มุขานิ. โลกนิยฺยานาย สํวตฺตนฺตีติ เตธาตุกโลกโต นิยฺยานาย นิคฺคมนาย สํวตฺตนฺติ. สพฺพสงฺขาเร ปริจฺเฉทปริวฏุมโต สมนุปสฺสนตายาติ สพฺเพสํ สงฺขารานํ อุทยพฺพยวเสน ปริจฺเฉทโต เจว ปริวฏุมโต จ สมนุปสฺสนตาย. โลกนิยฺยานํ โหตีติ ปาเสโส. อนิจฺจานุปสฺสนา หิ อุทยโต ปุพฺเพ สงฺขารา นตฺถีติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา เตสํ คตึ สมนฺเนสมานา วยโต ปรํ น คจฺฉนฺติ, เอตฺเถว อนฺตรธายนฺตีติ ปริวฏุมโต ปริยนฺตโต สมนุปสฺสติ. สพฺพสงฺขารา หิ อุทเยน ปุพฺพนฺตปริจฺฉินฺนา, วเยน อปรนฺตปริจฺฉินฺนา. อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา จิตฺตสมฺปกฺขนฺทนตายาติ วิปสฺสนากฺขเณปิ นิพฺพานนินฺนตาย อนิมิตฺตากาเรน อุปฏฺานโต อนิมิตฺตสงฺขาตาย นิพฺพานธาตุยา จิตฺตปวิสนตาย จ โลกนิยฺยานํ โหติ. มโนสมุตฺเตชนตายาติ จิตฺตสํเวชนตาย. ทุกฺขานุปสฺสนาย หิ สงฺขาเรสุ จิตฺตํ สํวิชฺชติ. อปฺปณิหิตาย จ ธาตุยาติ วิปสฺสนากฺขเณปิ นิพฺพานนินฺนตาย อปฺปณิหิตากาเรน อุปฏฺานโต อปฺปณิหิตสงฺขาตาย นิพฺพานธาตุยา. สพฺพธมฺเมติ นิพฺพานสฺส อวิปสฺสนุปคตฺเตปิ อนตฺตสภาวสพฺภาวโต ‘‘สพฺพสงฺขาเร’’ติ อวตฺวา ‘‘สพฺพธมฺเม’’ติ วุตฺตํ. ปรโต สมนุปสฺสนตายาติ ปจฺจยายตฺตตฺตา อวสตาย อวิเธยฺยตาย จ ‘‘นาหํ น มม’’นฺติ เอวํ อนตฺตโต สมนุปสฺสนตาย. สุฺตาย จ ธาตุยาติ วิปสฺสนากฺขเณปิ นิพฺพานนินฺนตาย สุฺตากาเรน อุปฏฺานโต สุฺตาสงฺขาตาย นิพฺพานธาตุยา. อิติ อิมานิ ตีณิ วจนานิ อนิจฺจทุกฺขานตฺตานุปสฺสนานํ วเสน วุตฺตานิ. เตเนว ตทนนฺตรํ อนิจฺจโต มนสิกโรโตติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ขยโตติ ขียนโต. ภยโตติ สภยโต. สุฺโตติ อตฺตรหิตโต.

อธิโมกฺขพหุลนฺติ อนิจฺจานุปสฺสนาย ‘‘ขณภงฺควเสน สงฺขารา ภิชฺชนฺตี’’ติ สทฺธาย ปฏิปนฺนสฺส ปจฺจกฺขโต ขณภงฺคทสฺสเนน ‘‘สจฺจํ วตาห ภควา’’ติ ภควติ สทฺธาย สทฺธาพหุลํ จิตฺตํ โหติ. อถ วา ปจฺจุปฺปนฺนานํ ปเทสสงฺขารานํ อนิจฺจตํ ปสฺสิตฺวา ‘‘เอวํ อนิจฺจา อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา สพฺเพ สงฺขารา’’ติ อธิมุจฺจนโต อธิโมกฺขพหุลํ จิตฺตํ โหติ. ปสฺสทฺธิพหุลนฺติ ทุกฺขานุปสฺสนาย จิตฺตกฺโขภกราย ปณิธิยา ปชหนโต จิตฺตทรถาภาเวน ปสฺสทฺธิพหุลํ จิตฺตํ โหติ. อถ วา ทุกฺขานุปสฺสนาย สํเวคชนนโต สํวิคฺคสฺส จ โยนิโส ปทหนโต วิกฺเขปาภาเวน ปสฺสทฺธิพหุลํ จิตฺตํ โหติ. เวทพหุลนฺติ อนตฺตานุปสฺสนาย พาหิรเกหิ อทิฏฺํ คมฺภีรํ อนตฺตลกฺขณํ ปสฺสโต าณพหุลํ จิตฺตํ โหติ. อถ วา ‘‘สเทวเกน โลเกน อทิฏฺํ อนตฺตลกฺขณํ ทิฏฺ’’นฺติ ตุฏฺสฺส ตุฏฺิพหุลํ จิตฺตํ โหติ.

อธิโมกฺขพหุโล สทฺธินฺทฺริยํ ปฏิลภตีติ ปุพฺพภาเค อธิโมกฺโข พหุลํ ปวตฺตมาโน ภาวนาปาริปูริยา สทฺธินฺทฺริยํ นาม โหติ, ตํ โส ปฏิลภติ นาม. ปสฺสทฺธิพหุโล สมาธินฺทฺริยํ ปฏิลภตีติ ปุพฺพภาเค ปสฺสทฺธิพหุลสฺส ‘‘ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๗๓; อ. นิ. ๕.๒๖) วจนโต ภาวนาปาริปูริยา ปสฺสทฺธิปจฺจยา สมาธินฺทฺริยํ โหติ, ตํ โส ปฏิลภติ นาม. เวทพหุโล ปฺินฺทฺริยํ ปฏิลภตีติ ปุพฺพภาเค เวโท พหุลํ ปวตฺตมาโน ภาวนาปาริปูริยา ปฺินฺทฺริยํ นาม โหติ, ตํ โส ปฏิลภติ นาม.

อาธิปเตยฺยํ โหตีติ ฉนฺทาทิเก อธิปติภูเตปิ สกิจฺจนิปฺผาทนวเสน อธิปติ โหติ ปธาโน โหติ. ภาวนายาติ ภุมฺมวจนํ, อุปรูปริ ภาวนตฺถาย วา. ตทนฺวยา โหนฺตีติ ตํ อนุคามินี ตํ อนุวตฺตินี โหนฺติ. สหชาตปจฺจยา โหนฺตีติ อุปฺปชฺชมานา จ สหอุปฺปาทนภาเวน อุปการกา โหนฺติ ปกาสสฺส ปทีโป วิย. อฺมฺปจฺจยา โหนฺตีติ อฺมฺํ อุปฺปาทนุปตฺถมฺภนภาเวน อุปการกา โหนฺติ อฺมฺูปตฺถมฺภกํ ติทณฺฑํ วิย. นิสฺสยปจฺจยา โหนฺตีติ อธิฏฺานากาเรน นิสฺสยากาเรน จ อุปการกา โหนฺติ ตรุจิตฺตกมฺมานํ ปถวีปฏาทิ วิย. สมฺปยุตฺตปจฺจยา โหนฺตีติ เอกวตฺถุกเอการมฺมณเอกุปฺปาทเอกนิโรธสงฺขาเตน สมฺปยุตฺตภาเวน อุปการกา โหนฺติ.

๒๒๐. ปฏิเวธกาเลติ มคฺคกฺขเณ สจฺจปฏิเวธกาเล. ปฺินฺทฺริยํ อาธิปเตยฺยํ โหตีติ มคฺคกฺขเณ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา สจฺจทสฺสนกิจฺจกรณวเสน จ กิเลสปฺปหานกิจฺจกรณวเสน จ ปฺินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ. ปฏิเวธายาติ สจฺจปฏิวิชฺฌนตฺถาย. เอกรสาติ วิมุตฺติรเสน. ทสฺสนฏฺเนาติ สจฺจทสฺสนฏฺเน. เอวํ ปฏิวิชฺฌนฺโตปิ ภาเวติ, ภาเวนฺโตปิ ปฏิวิชฺฌตีติ มคฺคกฺขเณ สกึเยว ภาวนาย จ ปฏิเวธสฺส จ สพฺภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อนตฺตานุปสฺสนาย วิปสฺสนากฺขเณปิ ปฺินฺทฺริยสฺเสว อาธิปเตยฺยตฺตา ‘‘ปฏิเวธกาเลปี’’ติ อปิสทฺโท ปยุตฺโต.

๒๒๑. อนิจฺจโต มนสิกโรโต กตมินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหตีติอาทิ อินฺทฺริยวิเสเสน ปุคฺคลวิเสสํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ อธิมตฺตนฺติ อธิกํ. ตตฺถ สทฺธินฺทฺริยสมาธินฺทฺริยปฺินฺทฺริยานํ อธิมตฺตตา สงฺขารุเปกฺขาย เวทิตพฺพา. สทฺธาวิมุตฺโตติ เอตฺถ อวิเสเสตฺวา วุตฺเตปิ อุปริ วิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา โสตาปตฺติมคฺคํ เปตฺวา เสเสสุ สตฺตสุ าเนสุ สทฺธาวิมุตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. สทฺธาวิมุตฺโต สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตฺตา โหติ, น สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตฺตา สพฺพตฺถ สทฺธาวิมุตฺโตติปิ วุตฺตํ โหติ. โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตฺตาเยว เสเสสุ สมาธินฺทฺริยปฺินฺทฺริยาธิมตฺตตฺเตปิ สติ สทฺธาวิมุตฺโตเยว นาม โหตีติ วทนฺติ. กายสกฺขี โหตีติ อฏฺสุปิ าเนสุ กายสกฺขี นาม โหติ. ทิฏฺิปฺปตฺโต โหตีติ สทฺธาวิมุตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

สทฺทหนฺโต วิมุตฺโตติ สทฺธาวิมุตฺโตติ สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตฺตา โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ สทฺทหนฺโต จตูสุปิ ผลกฺขเณสุ วิมุตฺโตติ สทฺธาวิมุตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. อุปริมคฺคตฺตยกฺขเณ สทฺธาวิมุตฺตตฺตํ อิทานิ วกฺขติ. โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ ปน สทฺธานุสาริตฺตํ ปจฺฉา วกฺขติ. ผุฏฺตฺตา สจฺฉิกโตติ กายสกฺขีติ สุกฺขวิปสฺสกตฺเต สติ อุปจารชฺฌานผสฺสสฺส รูปารูปชฺฌานลาภิตฺเต สติ รูปารูปชฺฌานผสฺสสฺส ผุฏฺตฺตา นิพฺพานํ สจฺฉิกโตติ กายสกฺขี, นามกาเยน วุตฺตปฺปกาเร ฌานผสฺเส จ นิพฺพาเน จ สกฺขีติ วุตฺตํ โหติ. ทิฏฺตฺตา ปตฺโตติ ทิฏฺิปฺปตฺโตติ โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ สมฺปยุตฺเตน ปฺินฺทฺริเยน ปมํ นิพฺพานสฺส ทิฏฺตฺตา ปจฺฉา โสตาปตฺติผลาทิวเสน นิพฺพานํ ปตฺโตติ ทิฏฺิปฺปตฺโต, ปฺินฺทฺริยสงฺขาตาย ทิฏฺิยา นิพฺพานํ ปตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ ปน ธมฺมานุสาริตฺตํ ปจฺฉา วกฺขติ. สทฺทหนฺโต วิมุจฺจตีติ สทฺธาวิมุตฺโตติ สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตฺตา สกทาคามิอนาคามิอรหตฺตมคฺคกฺขเณสุ สทฺทหนฺโต วิมุจฺจตีติ สทฺธาวิมุตฺโต. เอตฺถ วิมุจฺจมาโนปิ อาสํสาย ภูตวจนวเสน ‘‘วิมุตฺโต’’ติ วุตฺโต. ฌานผสฺสนฺติ ติวิธํ ฌานผสฺสํ. ‘‘ฌานผสฺส’’นฺติอาทีนิ ‘‘ทุกฺขา สงฺขารา’’ติอาทีนิ จ ปมํ วุตฺตํ ทฺวยเมว วิเสเสตฺวา วุตฺตานิ. าตํ โหตีติอาทีนิ เหฏฺา วุตฺตตฺถานิ. เอตฺถ จ ฌานลาภี ปุคฺคโล สมาธินฺทฺริยสฺส อนุกูลาย ทุกฺขานุปสฺสนาย เอว วุฏฺหิตฺวา มคฺคผลานิ ปาปุณาตีติ อาจริยานํ อธิปฺปาโย.

สิยาติ สิยุํ, ภเวยฺยุนฺติ อตฺโถ. ‘‘สิยา’’ติ เอตํ วิธิวจนเมว. ตโย ปุคฺคลาติ วิปสฺสนานิยเมน อินฺทฺริยนิยเมน จ วุตฺตา ตโย ปุคฺคลา. วตฺถุวเสนาติ ตีสุ อนุปสฺสนาสุ เอเกกอินฺทฺริยวตฺถุวเสน. ปริยาเยนาติ เตเนว ปริยาเยน. อิมินา วาเรน กึ ทสฺสิตํ โหติ? เหฏฺา เอเกกิสฺสา อนุปสฺสนาย เอเกกสฺส อินฺทฺริยสฺส อาธิปจฺจํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตนฺติ จ, กทาจิ ตีสุปิ อนุปสฺสนาสุ เอเกกสฺเสว อินฺทฺริยสฺส อาธิปจฺจํ โหตีติ จ ทสฺสิตํ โหติ. อถ วา ปุพฺพภาควิปสฺสนากฺขเณ ติสฺสนฺนมฺปิ อนุปสฺสนานํ สพฺภาวโต ตาสุ ปุพฺพภาควิปสฺสนาสุ เตสํ เตสํ อินฺทฺริยานํ อาธิปจฺจํ อเปกฺขิตฺวา มคฺคผลกฺขเณสุ สทฺธาวิมุตฺตาทีนิ นามานิ โหนฺตีติ. เอวฺหิ วุจฺจมาเน เหฏฺา วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาย อุปริ จ กโต อินฺทฺริยาธิปจฺจปุคฺคลนิยโม สุกโตเยว นิจฺจโลเยว จ โหติ. อนนฺตรวาเร สิยาติ อฺโเยวาติ เอวํ สิยาติ อตฺโถ. เอตฺถ ปุพฺเพ วุตฺโตเยว นิยโม.

อิทานิ มคฺคผลวเสน ปุคฺคลวิเสสํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ อนิจฺจโต มนสิกโรโต…เป… โสตาปตฺติมคฺคํ ปฏิลภตีติอาทิมาห. ตตฺถ สทฺธํ อนุสฺสรติ อนุคจฺฉติ, สทฺธาย วา นิพฺพานํ อนุสฺสรติ อนุคจฺฉตีติ สทฺธานุสารี. สจฺฉิกตนฺติ ปจฺจกฺขกตํ. อรหตฺตนฺติ อรหตฺตผลํ. ปฺาสงฺขาตํ ธมฺมํ อนุสฺสรติ, เตน วา ธมฺเมน นิพฺพานํ อนุสฺสรตีติ ธมฺมานุสารี.

๒๒๒. ปุน อปเรหิ ปริยาเยหิ อินฺทฺริยตฺตยวิเสเสน ปุคฺคลวิเสสํ วณฺเณตุกาโม เย หิ เกจีติอาทิมาห. ตตฺถ ภาวิตา วาติ อตีเต ภาวยึสุ วา. ภาเวนฺติ วาติ ปจฺจุปฺปนฺเน. ภาวิสฺสนฺติ วาติ อนาคเต. อธิคตา วาติอาทิ เอเกกนฺติกํ ปุริมสฺส ปุริมสฺส อตฺถวิวรณตฺถํ วุตฺตํ. ผสฺสิตา วาติ าณผุสนาย ผุสึสุ วา. วสิปฺปตฺตาติ อิสฺสรภาวํ ปตฺตา. ปารมิปฺปตฺตาติ โวสานํ ปตฺตา. เวสารชฺชปฺปตฺตาติ วิสารทภาวํ ปตฺตา. สพฺพตฺถ สทฺธาวิมุตฺตาทโย เหฏฺา วุตฺตกฺขเณสุเยว, สติปฏฺานาทโย มคฺคกฺขเณเยว. อฏฺ วิโมกฺเขติ ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทิเก (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙; ธ. ส. ๒๔๘) ปฏิสมฺภิทามคฺคปฺปตฺติยา เอว ปตฺตา.

ติสฺโส สิกฺขาติ อธิสีลสิกฺขา อธิจิตฺตสิกฺขา อธิปฺาสิกฺขา มคฺคปฺปตฺตา เอว สิกฺขมานา. ทุกฺขํ ปริชานนฺตีติอาทีนิ มคฺคกฺขเณเยว. ปริฺาปฏิเวธํ ปฏิวิชฺฌตีติ ปริฺาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ, ปริฺาย ปฏิวิชฺฌิตพฺพนฺติ วา ปริฺาปฏิเวธํ. เอวํ เสเสสุปิ. สพฺพธมฺมาทีหิ วิเสเสตฺวา อภิฺาปฏิเวธาทโย วุตฺตา. สจฺฉิกิริยาปฏิเวโธ ปน มคฺคกฺขเณเยว นิพฺพานปจฺจเวกฺขณาณสิทฺธิวเสน เวทิตพฺโพติ. เอวมิธ ปฺจ อริยปุคฺคลา นิทฺทิฏฺา โหนฺติ, อุภโตภาควิมุตฺโต จ ปฺาวิมุตฺโต จาติ อิเม ทฺเว อนิทฺทิฏฺา. อฺตฺถ (วิสุทฺธิ. ๒.๗๗๓) ปน ‘‘โย ปน ทุกฺขโต มนสิกโรนฺโต ปสฺสทฺธิพหุโล สมาธินฺทฺริยํ ปฏิลภติ, โส สพฺพตฺถ กายสกฺขี นาม โหติ, อรูปชฺฌานํ ปน ปตฺวา อคฺคผลํ ปตฺโต อุภโตภาควิมุตฺโต นาม โหติ. โย ปน อนตฺตโต มนสิกโรนฺโต เวทพหุโล ปฺินฺทฺริยํ ปฏิลภติ, โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ ธมฺมานุสารี โหติ, ฉสุ าเนสุ ทิฏฺิปฺปตฺโต, อคฺคผเล ปฺาวิมุตฺโต’’ติ วุตฺตํ. เต อิธ กายสกฺขิทิฏฺิปฺปตฺเตหิเยว สงฺคหิตา. อตฺถโต ปน อรูปชฺฌาเนน เจว อริยมคฺเคน จาติ อุภโตภาเคน วิมุตฺโตติ อุภโตภาควิมุตฺโต. ปชานนฺโต วิมุตฺโตติ ปฺาวิมุตฺโตติ. เอตฺตาวตา อินฺทฺริยปุคฺคลวิเสสา นิทฺทิฏฺา โหนฺติ.

๒๒๓-๒๒๖. อิทานิ วิโมกฺขปุพฺพงฺคมเมว วิโมกฺขวิเสสํ ปุคฺคลวิเสสฺจ ทสฺเสตุกาโม อนิจฺจโต มนสิกโรโตติอาทิมาห. ตตฺถ ทฺเว วิโมกฺขาติ อปฺปณิหิตสุฺตวิโมกฺขา. อนิจฺจานุปสฺสนาคมนวเสน หิ อนิมิตฺตวิโมกฺโขติ ลทฺธนาโม มคฺโค ราคโทสโมหปณิธีนํ อภาวา สคุณโต จ เตสํเยว ปณิธีนํ อภาวา อปฺปณิหิตนฺติ ลทฺธนามํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรตีติ อารมฺมณโต จ อปฺปณิหิตวิโมกฺโขติ นามมฺปิ ลภติ. ตถา ราคโทสโมเหหิ สุฺตฺตา สคุณโต จ ราคาทีหิเยว สุฺตฺตา สุฺตนฺติ ลทฺธนามํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรตีติ อารมฺมณโต จ สุฺตวิโมกฺโขติ นามมฺปิ ลภติ. ตสฺมา เต ทฺเว วิโมกฺขา อนิมิตฺตวิโมกฺขนฺวยา นาม โหนฺติ. อนิมิตฺตมคฺคโต อนฺเปิ อฏฺนฺนํ มคฺคงฺคานํ เอเกกสฺส มคฺคงฺคสฺส วเสน สหชาตาทิปจฺจยา จ โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. ปุน ทฺเว วิโมกฺขาติ สุฺตานิมิตฺตวิโมกฺขา. ทุกฺขานุปสฺสนาคมนวเสน หิ อปฺปณิหิตวิโมกฺโขติ ลทฺธนาโม มคฺโค รูปนิมิตฺตาทีนํ ราคนิมิตฺตาทีนํ นิจฺจนิมิตฺตาทีนฺจ อภาวา สคุณโต จ เตสํเยว นิมิตฺตานํ อภาวา อนิมิตฺตสงฺขาตํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรตีติ อารมฺมณโต จ อนิมิตฺตวิโมกฺโขติ นามมฺปิ ลภติ. เสสํ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. ปุน ทฺเว วิโมกฺขาติ อนิมิตฺตอปฺปณิหิตวิโมกฺขา. โยชนา ปเนตฺถ วุตฺตนยา เอว.

ปฏิเวธกาเลติ อินฺทฺริยานํ วุตฺตกฺกเมเนว วุตฺตํ. มคฺคกฺขณํ ปน มุฺจิตฺวา วิปสฺสนากฺขเณ วิโมกฺโข นาม นตฺถิ. ปมํ วุตฺโตเยว ปน มคฺควิโมกฺโข ‘‘ปฏิเวธกาเล’’ติ วจเนน วิเสเสตฺวา ทสฺสิโต. ‘‘โย จายํ ปุคฺคโล สทฺธาวิมุตฺโต’’ติอาทิกา ทฺเว วารา จ ‘‘อนิจฺจโต มนสิกโรนฺโต โสตาปตฺติมคฺคํ ปฏิลภตี’’ติอาทิโก วาโร จ สงฺขิตฺโต, วิโมกฺขวเสน ปน โยเชตฺวา วิตฺถารโต เวทิตพฺโพ. เย หิ เกจิ เนกฺขมฺมนฺติอาทิโก วาโร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ. เอตฺตาวตา วิโมกฺขปุคฺคลวิเสสา นิทฺทิฏฺา โหนฺตีติ.

๒๒๗. ปุน วิโมกฺขมุขานิ จ วิโมกฺเข จ อเนกธา นิทฺทิสิตุกาโม อนิจฺจโต มนสิกโรนฺโตติอาทิมาห. ตตฺถ ยถาภูตนฺติ ยถาสภาเวน. ชานาตีติ าเณน ชานาติ. ปสฺสตีติ เตเนว าเณน จกฺขุนา วิย ปสฺสติ. ตทนฺวเยนาติ ตทนุคมเนน, ตสฺส ปจฺจกฺขโต าเณน ทิฏฺสฺส อนุคมเนนาติ อตฺโถ. กงฺขา ปหียตีติ อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจานิจฺจกงฺขา, อิตราหิ อิตรกงฺขา. นิมิตฺตนฺติ สนฺตติฆนวินิพฺโภเคน นิจฺจสฺาย ปหีนตฺตา อารมฺมณภูตํ สงฺขารนิมิตฺตํ ยถาภูตํ ชานาติ. เตน วุจฺจติ สมฺมาทสฺสนนฺติ เตน ยถาภูตชานเนน ตํ าณํ ‘‘สมฺมาทสฺสน’’นฺติ วุจฺจติ. ปวตฺตนฺติ ทุกฺขปฺปตฺตากาเร สุขสฺํ อุคฺฆาเฏตฺวา สุขสฺาย ปหาเนน ปณิธิสงฺขาตาย ตณฺหาย ปหีนตฺตา สุขสมฺมตมฺปิ วิปากปวตฺตํ ยถาภูตํ ชานาติ. นิมิตฺตฺจ ปวตฺตฺจาติ นานาธาตุมนสิการสมฺภเวน สมูหฆนวินิพฺโภเคน อุภยถาปิ อตฺตสฺาย ปหีนตฺตา สงฺขารนิมิตฺตฺจ วิปากปวตฺตฺจ ยถาภูตํ ชานาติ. ยฺจ ยถาภูตํ าณนฺติอาทิตฺตยํ อิทานิ วุตฺตเมว, น อฺํ. ภยโต อุปฏฺาตีติ นิจฺจสุขอตฺตาภาวทสฺสนโต ยถากฺกมํ ตํ ตํ ภยโต อุปฏฺาติ. ยา จ ภยตุปฏฺาเน ปฺาติอาทินา ‘‘อุทยพฺพยานุปสฺสนาาณํ ภงฺคานุปสฺสนาาณํ ภยตุปฏฺานาณํ อาทีนวานุปสฺสนาาณํ นิพฺพิทานุปสฺสนาาณํ มุฺจิตุกมฺยตาาณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาณํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ อนุโลมาณ’’นฺติ วุตฺเตสุ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิสงฺขาเตสุ นวสุ วิปสฺสนาาเณสุ ภยตุปฏฺานสมฺพนฺเธน อวตฺถาเภเทน ภินฺนานิ เอกฏฺานิ ตีณิ าณานิ วุตฺตานิ, น เสสานิ.

ปุน ตีสุ อนุปสฺสนาสุ อนฺเต ิตาย อนนฺตราย อนตฺตานุปสฺสนาย สมฺพนฺเธน ตาย สห สุฺตานุปสฺสนาย เอกฏฺตํ ทสฺเสตุํ ยา จ อนตฺตานุปสฺสนา ยา จ สุฺตานุปสฺสนาติอาทิมาห. อิมานิ หิ ทฺเว าณานิ อตฺถโต เอกเมว, อวตฺถาเภเทน ปน ภินฺนานิ. ยถา จ อิมานิ, ตถา อนิจฺจานุปสฺสนา จ อนิมิตฺตานุปสฺสนา จ อตฺถโต เอกเมว าณํ, ทุกฺขานุปสฺสนา จ อปฺปณิหิตานุปสฺสนา จ อตฺถโต เอกเมว าณํ, เกวลํ อวตฺถาเภเทเนว ภินฺนานิ. อนตฺตานุปสฺสนาสุฺตานุปสฺสนานฺจ เอกฏฺตาย วุตฺตาย เตสํ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนมฺปิ าณานํ เอกลกฺขณตฺตา เอกฏฺตา วุตฺตาว โหตีติ. นิมิตฺตํ ปฏิสงฺขา าณํ อุปฺปชฺชตีติ ‘‘สงฺขารนิมิตฺตํ อทฺธุวํ ตาวกาลิก’’นฺติ อนิจฺจลกฺขณวเสน ชานิตฺวา าณํ อุปฺปชฺชติ. กามฺจ น ปมํ ชานิตฺวา ปจฺฉา าณํ อุปฺปชฺชติ, โวหารวเสน ปน ‘‘มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณ’’นฺติอาทีนิ (สํ. นิ. ๔.๖๐; ม. นิ. ๑.๔๐๐; ๓.๔๒๑) วิย เอวํ วุจฺจติ. สทฺทสตฺถวิทูปิ จ ‘‘อาทิจฺจํ ปาปุณิตฺวา ตโม วิคจฺฉตี’’ติอาทีสุ วิย สมานกาเลปิ อิมํ ปทํ อิจฺฉนฺติ. เอกตฺตนเยน วา ปุริมฺจ ปจฺฉิมฺจ เอกํ กตฺวา เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิมินา นเยน อิตรสฺมิมฺปิ ปททฺวเย อตฺโถ เวทิตพฺโพ. มุฺจิตุกมฺยตาทีนํ ติณฺณํ าณานํ เอกฏฺตา เหฏฺา วุตฺตนยา เอว.

นิมิตฺตา จิตฺตํ วุฏฺาตีติ สงฺขารนิมิตฺเต โทสทสฺสเนน ตตฺถ อนลฺลีนตาย สงฺขารนิมิตฺตา จิตฺตํ วุฏฺาติ นาม. อนิมิตฺเต จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ สงฺขารนิมิตฺตปฏิปกฺเขน อนิมิตฺตสงฺขาเต นิพฺพาเน ตนฺนินฺนตาย จิตฺตํ ปวิสติ. เสสานุปสฺสนาทฺวเยปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. นิโรเธ นิพฺพานธาตุยาติ อิธ วุตฺเตเนว ปมานุปสฺสนาทฺวยมฺปิ วุตฺตเมว โหติ. นิโรเธติปิ ปาโ. พหิทฺธาวุฏฺานวิวฏฺฏเน ปฺาติ วุฏฺานสมฺพนฺเธน โคตฺรภุาณํ วุตฺตํ. โคตฺรภู ธมฺมาติ โคตฺรภุาณเมว. อิตรถา หิ เอกฏฺตา น ยุชฺชติ. ‘‘อสงฺขตา ธมฺมา, อปฺปจฺจยา ธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๗, ๘) วิย วา จตุมคฺควเสน วา พหุวจนํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยสฺมา วิโมกฺโขติ มคฺโค, มคฺโค จ ทุภโตวุฏฺาโน, ตสฺมา เตน สมฺพนฺเธน ยา จ ทุภโตวุฏฺานวิวฏฺฏเน ปฺาติอาทิ วุตฺตํ.

๒๒๘. ปุน วิโมกฺขานํ นานากฺขณานํ เอกกฺขณปริยายํ ทสฺเสตุกาโม กติหากาเรหีติอาทิมาห. ตตฺถ อาธิปเตยฺยฏฺเนาติ เชฏฺกฏฺเน. อธิฏฺานฏฺเนาติ ปติฏฺานฏฺเน. อภินีหารฏฺเนาติ วิปสฺสนาวีถิโต นีหรณฏฺเน. นิยฺยานฏฺเนาติ นิพฺพานุปคมนฏฺเน. อนิจฺจโต มนสิกโรโตติ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนากฺขเณเยว. อนิมิตฺโต วิโมกฺโขติ มคฺคกฺขเณเยว. เอส นโย เสเสสุ. จิตฺตํ อธิฏฺาตีติ จิตฺตํ อธิกํ กตฺวา าติ, จิตฺตํ ปติฏฺาเปตีติ อธิปฺปาโย. จิตฺตํ อภินีหรตีติ วิปสฺสนาวีถิโต จิตฺตํ นีหรติ. นิโรธํ นิพฺพานํ นิยฺยาตีติ นิโรธสงฺขาตํ นิพฺพานํ อุปคจฺฉตีติ เอวํ อาการนานตฺตโต จตุธา นานากฺขณตา ทสฺสิตา.

เอกกฺขณตาย สโมธานฏฺเนาติ เอกชฺฌํ สโมสรณฏฺเน. อธิคมนฏฺเนาติ วินฺทนฏฺเน. ปฏิลาภฏฺเนาติ ปาปุณนฏฺเน. ปฏิเวธฏฺเนาติ าเณน ปฏิวิชฺฌนฏฺเน. สจฺฉิกิริยฏฺเนาติ ปจฺจกฺขกรณฏฺเน. ผสฺสนฏฺเนาติ าณผุสนาย ผุสนฏฺเน. อภิสมยฏฺเนาติ อภิมุขํ สมาคมนฏฺเน. เอตฺถ ‘‘สโมธานฏฺเนา’’ติ มูลปทํ, เสสานิ อธิคมเววจนานิ. ตสฺมาเยว หิ สพฺเพสํ เอกโต วิสฺสชฺชนํ กตํ. นิมิตฺตา มุจฺจตีติ นิจฺจนิมิตฺตโต มุจฺจติ. อิมินา วิโมกฺขฏฺโ วุตฺโต. ยโต มุจฺจตีติ ยโต นิมิตฺตโต มุจฺจติ. ตตฺถ น ปณิทหตีติ ตสฺมึ นิมิตฺเต ปตฺถนํ น กโรติ. ยตฺถ น ปณิทหตีติ ยสฺมึ นิมิตฺเต น ปณิทหติ. เตน สุฺโติ เตน นิมิตฺเตน สุฺโ. เยน สุฺโติ เยน นิมิตฺเตน สุฺโ. เตน นิมิตฺเตน อนิมิตฺโตติ อิมินา อนิมิตฺตฏฺโ วุตฺโต.

ปณิธิยา มุจฺจตีติ ปณิธิโต มุจฺจติ. ‘‘ปณิธิ มุจฺจตี’’ติ ปาโ นิสฺสกฺกตฺโถเยว. อิมินา วิโมกฺขฏฺโ วุตฺโต. ยตฺถ น ปณิทหตีติ ยสฺมึ ทุกฺเข น ปณิทหติ. เตน สุฺโติ เตน ทุกฺเขน สุฺโ. เยน สุฺโติ เยน ทุกฺขนิมิตฺเตน สุฺโ. เยน นิมิตฺเตนาติ เยน ทุกฺขนิมิตฺเตน. ตตฺถ น ปณิทหตีติ อิมินา อปฺปณิหิตฏฺโ วุตฺโต. อภินิเวสา มุจฺจตีติ อิมินา วิโมกฺขฏฺโ วุตฺโต. เยน สุฺโติ เยน อภินิเวสนิมิตฺเตน สุฺโ. เยน นิมิตฺเตนาติ เยน อภินิเวสนิมิตฺเตน. ยตฺถ น ปณิทหติ, เตน สุฺโติ ยสฺมึ อภินิเวสนิมิตฺเต น ปณิทหติ, เตน อภินิเวสนิมิตฺเตน สุฺโ. อิมินา สุฺตฏฺโ วุตฺโต.

๒๒๙. ปุน อฏฺวิโมกฺขาทีนิ นิทฺทิสิตุกาโม อตฺถิ วิโมกฺโขติอาทิมาห. ตตฺถ นิจฺจโต อภินิเวสาติอาทีนิ สฺาวิโมกฺเข วุตฺตนเยน เวทิตพฺพานิ. สพฺพาภินิเวเสหีติ วุตฺตปฺปกาเรหิ อภินิเวเสหิ. อิติ อภินิเวสมุจฺจนวเสน สุฺตวิโมกฺขา นาม ชาตา, เตเยว นิจฺจาทินิมิตฺตมุจฺจนวเสน อนิมิตฺตวิโมกฺขา, นิจฺจนฺติอาทิปณิธีหิ มุจฺจนวเสน อปฺปณิหิตวิโมกฺขา. เอตฺถ จ ปณิธิ มุจฺจตีติ สพฺพตฺถ นิสฺสกฺกตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปณิธิยา มุจฺจตีติ วา ปาโ. ‘‘สพฺพปณิธีหิ มุจฺจตี’’ติ เจตฺถ สาธกํ. เอวํ ติสฺโส อนุปสฺสนา ตทงฺควิโมกฺขตฺตา จ สมุจฺเฉทวิโมกฺขสฺส ปจฺจยตฺตา จ ปริยาเยน วิโมกฺขาติ วุตฺตา.

๒๓๐. ตตฺถ ชาตาติ อนนฺตเร วิปสฺสนาวิโมกฺเขปิ สติ อิมิสฺสา กถาย มคฺควิโมกฺขาธิการตฺตา ตสฺมึ มคฺควิโมกฺเข ชาตาติ วุตฺตํ โหติ. อนวชฺชกุสลาติ ราคาทิวชฺชวิรหิตา กุสลา. วิจฺเฉทํ กตฺวา วา ปาโ. โพธิปกฺขิยา ธมฺมาติ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๕, ๔๓; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๒๒; มิ. ป. ๕.๔.๑) วุตฺตา สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา. อิทํ มุขนฺติ อิทํ วุตฺตปฺปการํ ธมฺมชาตํ อารมฺมณโต นิพฺพานปเวสาย มุขตฺตา มุขํ นามาติ วุตฺตํ โหติ. เตสํ ธมฺมานนฺติ เตสํ โพธิปกฺขิยานํ ธมฺมานํ. อิทํ วิโมกฺขมุขนฺติ นิพฺพานํ วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณวิโมกฺเขสุ นิสฺสรณวิโมกฺโขว, ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ ธมฺมานํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อิติวุ. ๙๐; อ. นิ. ๔.๓๔) วุตฺตตฺตา อุตฺตมฏฺเน มุขฺจาติ วิโมกฺขมุขํ. วิโมกฺขฺจ ตํ มุขฺจ วิโมกฺขมุขนฺติ กมฺมธารยสมาสวเสน อยเมว อตฺโถ วุตฺโต. วิโมกฺขฺจาติ เอตฺถ ลิงฺควิปลฺลาโส กโต. ตีณิ อกุสลมูลานีติ โลภโทสโมหา. ตีณิ ทุจฺจริตานีติ กายวจีมโนทุจฺจริตานิ. สพฺเพปิ อกุสลา ธมฺมาติ อกุสลมูเลหิ สมฺปยุตฺตา ทุจฺจริเตหิ สมฺปยุตฺตา จ อสมฺปยุตฺตา จ เสวิตพฺพโทมนสฺสาทีนิ เปตฺวา สพฺเพปิ อกุสลา ธมฺมา. กุสลมูลสุจริตานิ วุตฺตปฏิปกฺเขน เวทิตพฺพานิ. สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมาติ วุตฺตนเยเนว สมฺปยุตฺตา อสมฺปยุตฺตา จ วิโมกฺขสฺส อุปนิสฺสยภูตา สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา. วิวฏฺฏกถา เหฏฺา วุตฺตา. วิโมกฺขวิวฏฺฏสมฺพนฺเธน ปเนตฺถ เสสวิวฏฺฏาปิ วุตฺตา. อาเสวนาติ อาทิโต เสวนา. ภาวนาติ ตสฺเสว วฑฺฒนา. พหุลีกมฺมนฺติ ตสฺเสว วสิปฺปตฺติยา ปุนปฺปุนํ กรณํ. มคฺคสฺส ปน เอกกฺขเณเยว กิจฺจสาธนวเสน อาเสวนาทีนิ เวทิตพฺพานิ. ปฏิลาโภ วา วิปาโก วาติอาทีนิ เหฏฺา วุตฺตตฺถาเนวาติ.

วิโมกฺขนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฏิสมฺภิทามคฺค-อฏฺกถาย

วิโมกฺขกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. คติกถา

คติกถาวณฺณนา

๒๓๑. อิทานิ ตสฺสา วิโมกฺขุปฺปตฺติยา เหตุภูตํ เหตุสมฺปตฺตึ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย คติกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ทุเหตุกปฏิสนฺธิกสฺสาปิ หิ ‘‘นตฺถิ ฌานํ อปฺสฺสา’’ติ (ธ. ป. ๓๗๒) วจนโต ฌานมฺปิ น อุปฺปชฺชติ, กึ ปน วิโมกฺโข. ตตฺถ คติสมฺปตฺติยาติ นิรยติรจฺฉานโยนิเปตฺติวิสยมนุสฺสเทวสงฺขาตาสุ ปฺจสุ คตีสุ มนุสฺสเทวสงฺขาตาย คติสมฺปตฺติยา. เอเตน ปุริมา ติสฺโส คติวิปตฺติโย ปฏิกฺขิปติ. คติยา สมฺปตฺติ คติสมฺปตฺติ, สุคตีติ วุตฺตํ โหติ. คตีติ จ สโหกาสา ขนฺธา. ปฺจสุ จ คตีสุ เปตฺติวิสยคฺคหเณเนว อสุรกาโยปิ คหิโต. เทวาติ ฉ กามาวจรเทวา พฺรหฺมาโน จ. เทวคฺคหเณน อสุราปิ สงฺคหิตา. าณสมฺปยุตฺเตติ าณสมฺปยุตฺตปฏิสนฺธิกฺขเณ. ขโณปิ หิ าณสมฺปยุตฺตโยเคน เตเนว โวหาเรน วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. กตินํ เหตูนนฺติ อโลภาโทสาโมหเหตูสุ กตินํ เหตูนํ. อุปปตฺตีติ อุปปชฺชนํ, นิพฺพตฺตีติ อตฺโถ.

ยสฺมา ปน สุทฺทกุลชาตาปิ ติเหตุกา โหนฺติ, ตสฺมา เต สนฺธาย ปมปุจฺฉา. ยสฺมา จ เยภุยฺเยน มหาปุฺา ตีสุ มหาสาลกุเลสุ ชายนฺติ, ตสฺมา เตสํ ติณฺณํ กุลานํ วเสน ติสฺโส ปุจฺฉา. ปาโ ปน สงฺขิตฺโต. มหตี สาลา เอเตสนฺติ มหาสาลา, มหาฆรา มหาวิภวาติ อตฺโถ. อถ วา มหา สาโร เอเตสนฺติ มหาสาราติ วตฺตพฺเพ ร-การสฺส ล-การํ กตฺวา ‘‘มหาสาลา’’ติ วุตฺตํ. ขตฺติยา มหาสาลา, ขตฺติเยสุ วา มหาสาลาติ ขตฺติยมหาสาลา. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ยสฺส ขตฺติยสฺส เคเห ปจฺฉิมนฺเตน โกฏิสตํ ธนํ นิธานคตํ โหติ, กหาปณานฺจ วีสติ อมฺพณานิ ทิวสํ วลฺเช นิกฺขมนฺติ, อยํ ขตฺติยมหาสาโล นาม. ยสฺส พฺราหฺมณสฺส เคเห ปจฺฉิมนฺเตน อสีติโกฏิธนํ นิธานคตํ โหติ, กหาปณานฺจ ทส อมฺพณานิ ทิวสํ วลฺเช นิกฺขมนฺติ, อยํ พฺราหฺมณมหาสาโล นาม. ยสฺส คหปติสฺส เคเห ปจฺฉิมนฺเตน จตฺตาลีสโกฏิธนํ นิธานคตํ โหติ, กหาปณานฺจ ปฺจ อมฺพณานิ ทิวสํ วลฺเช นิกฺขมนฺติ, อยํ คหปติมหาสาโล นาม.

รูปาวจรานํ อรูปาวจรานฺจ เอกนฺตติเหตุกตฺตา ‘‘าณสมฺปยุตฺเต’’ติ น วุตฺตํ, มนุสฺเสสุ ปน ทุเหตุกาเหตุกานฺจ สพฺภาวโต, กามาวจเรสุ เทเวสุ ทุเหตุกานฺจ สพฺภาวโต เสเสสุ ‘‘าณสมฺปยุตฺเต’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถ จ กามาวจรเทวา ปฺจกามคุณรติยา กีฬนฺติ, สรีรชุติยา จ โชตนฺตีติ เทวา, รูปาวจรพฺรหฺมาโน ฌานรติยา กีฬนฺติ, สรีรชุติยา จ โชตนฺตีติ เทวา, อรูปาวจรพฺรหฺมาโน ฌานรติยา กีฬนฺติ, าณชุติยา จ โชตนฺตีติ เทวา.

๒๓๒. กุสลกมฺมสฺส ชวนกฺขเณติ อตีตชาติยา อิธ ติเหตุกปฏิสนฺธิชนกสฺส ติเหตุกกามาวจรกุสลกมฺมสฺส จ ชวนวีถิยํ ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติวเสน สตฺตวารํ ชวนกฺขเณ, ปวตฺตนกาเลติ อตฺโถ. ตโย เหตู กุสลาติ อโลโภ กุสลเหตุ อโทโส กุสลเหตุ อโมโห กุสลเหตุ. ตสฺมึ ขเณ ชาตเจตนายาติ ตสฺมึ วุตฺตกฺขเณเยว ชาตาย กุสลเจตนาย. สหชาตปจฺจยา โหนฺตีติ อุปฺปชฺชมานา จ สหอุปฺปาทนภาเวน อุปการกา โหนฺติ. เตน วุจฺจตีติ เตน สหชาตปจฺจยภาเวเนว วุจฺจติ. กุสลมูลปจฺจยาปิ สงฺขาราติ เอกจิตฺตกฺขณิกปจฺจยาการนเยน วุตฺตํ. ‘‘สงฺขารา’’ติ จ พหุวจเนน ตตฺถ สงฺขารกฺขนฺธสงฺคหิตา สพฺเพ เจตสิกา คหิตาติ เวทิตพฺพํ. อปิสทฺเทน สงฺขารปจฺจยาปิ กุสลมูลานีติปิ วุตฺตํ โหติ.

นิกนฺติกฺขเณติ อตฺตโน วิปากํ ทาตุํ ปจฺจุปฏฺิตกมฺเม วา ตถา ปจฺจุปฏฺิตกมฺเมน อุปฏฺาปิเต กมฺมนิมิตฺเต วา คตินิมิตฺเต วา อุปฺปชฺชมานานํ นิกนฺติกฺขเณ. นิกนฺตีติ นิกามนา ปตฺถนา. อาสนฺนมรณสฺส หิ โมเหน อากุลจิตฺตตฺตา อวีจิชาลายปิ นิกนฺติ อุปฺปชฺชติ, กึ ปน เสเสสุ นิมิตฺเตสุ. ทฺเว เหตูติ โลโภ อกุสลเหตุ โมโห อกุสลเหตุ. ภวนิกนฺติ ปน ปฏิสนฺธิอนนฺตรํ ปวตฺตภวงฺควีถิโต วุฏฺิตมตฺตสฺเสว อตฺตโน ขนฺธสนฺตานํ อารพฺภ สพฺเพสมฺปิ อุปฺปชฺชติ. ‘‘ยสฺส วา ปน ยตฺถ อกุสลา ธมฺมา น อุปฺปชฺชิตฺถ, ตสฺส ตตฺถ กุสลา ธมฺมา น อุปฺปชฺชิตฺถาติ อามนฺตา’’ติ เอวมาทิ อิทเมว สนฺธาย วุตฺตํ. ตสฺมึ ขเณ ชาตเจตนายาติ อกุสลเจตนาย.

ปฏิสนฺธิกฺขเณติ เตน กมฺเมน คหิตปฏิสนฺธิกฺขเณ. ตโย เหตูติ อโลโภ อพฺยากตเหตุ อโทโส อพฺยากตเหตุ อโมโห อพฺยากตเหตุ. ตสฺมึ ขเณ ชาตเจตนายาติ วิปากาพฺยากตเจตนาย. นามรูปปจฺจยาปิ วิฺาณนฺติ เอตฺถ ตสฺมึ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ตโย วิปากเหตู เสสเจตสิกา จ นามํ, หทยวตฺถุ รูปํ. ตโต นามรูปปจฺจยโตปิ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ ปวตฺตติ. วิฺาณปจฺจยาปิ นามรูปนฺติ เอตฺถาปิ นามํ วุตฺตปฺปการเมว, รูปํ ปน อิธ สเหตุกมนุสฺสปฏิสนฺธิยา อธิปฺเปตตฺตา คพฺภเสยฺยกานํ วตฺถุทสกํ กายทสกํ ภาวทสกนฺติ สมตึส รูปานิ, สํเสทชานํ โอปปาติกานฺจ ปริปุณฺณายตนานํ จกฺขุทสกํ โสตทสกํ ฆานทสกํ ชิวฺหาทสกฺจาติ สมสตฺตติ รูปานิ. ตํ วุตฺตปฺปการํ นามรูปํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปฏิสนฺธิวิฺาณปจฺจยา ปวตฺตติ.

ปฺจกฺขนฺธาติ เอตฺถ ปฏิสนฺธิจิตฺเตน ปฏิสนฺธิกฺขเณ ลพฺภมานานิ รูปานิ รูปกฺขนฺโธ, สหชาตา เวทนา เวทนากฺขนฺโธ, สฺา สฺากฺขนฺโธ, เสสเจตสิกา สงฺขารกฺขนฺโธ, ปฏิสนฺธิจิตฺตํ วิฺาณกฺขนฺโธ. สหชาตปจฺจยา โหนฺตีติ จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธา อฺมฺํ สหชาตปจฺจยา โหนฺติ, รูปกฺขนฺเธ จตฺตาโร มหาภูตา อฺมฺํ สหชาตปจฺจยา โหนฺติ, อรูปิโน ขนฺธา จ หทยรูปฺจ อฺมฺํ สหชาตปจฺจยา โหนฺติ, มหาภูตาปิ อุปาทารูปานํ สหชาตปจฺจยา โหนฺติ. อฺมฺปจฺจยา โหนฺตีติ อฺมฺํ อุปฺปาทนุปตฺถมฺภนภาเวน อุปการกา โหนฺติ, จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธา จ อฺมฺปจฺจยา โหนฺติ, จตฺตาโร มหาภูตา อฺมฺปจฺจยา โหนฺติ. นิสฺสยปจฺจยา โหนฺตีติ อธิฏฺานากาเรน นิสฺสยากาเรน จ อุปการกา โหนฺติ, จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธา จ อฺมฺํ นิสฺสยปจฺจยา โหนฺตีติ สหชาตา วิย วิตฺถาเรตพฺพา. วิปฺปยุตฺตปจฺจยา โหนฺตีติ เอกวตฺถุกาทิภาวานุปคมเนน วิปฺปยุตฺตภาเวน อุปการกา โหนฺติ, อรูปิโน ขนฺธา ปฏิสนฺธิรูปานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจยา โหนฺติ, หทยรูปํ อรูปีนํ ขนฺธานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจโย โหติ. ‘‘ปฺจกฺขนฺธา’’ติ เหตฺถ เอวํ ยถาลาภวเสน วุตฺตํ.

จตฺตาโร มหาภูตาติ เอตฺถ ตโย ปจฺจยา ปมํ วุตฺตาเยว. ตโย ชีวิตสงฺขาราติ อายุ จ อุสฺมา จ วิฺาณฺจ. อายูติ รูปชีวิตินฺทฺริยํ อรูปชีวิตินฺทฺริยฺจ. อุสฺมาติ เตโชธาตุ. วิฺาณนฺติ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ. เอตานิ หิ อุปรูปริ ชีวิตสงฺขารํ สงฺขโรนฺติ ปวตฺเตนฺตีติ ชีวิตสงฺขารา. สหชาตปจฺจยา โหนฺตีติ อรูปชีวิตินฺทฺริยํ ปฏิสนฺธิวิฺาณฺจ สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานฺจ หทยรูปสฺส จ อฺมฺสหชาตปจฺจยา โหนฺติ, เตโชธาตุ ติณฺณํ มหาภูตานํ อฺมฺสหชาตปจฺจโย โหติ, อุปาทารูปานํ สหชาตปจฺจโยว, รูปชีวิตินฺทฺริยํ สหชาตรูปานํ ปริยาเยน สหชาตปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพํ. อฺมฺปจฺจยา โหนฺติ, นิสฺสยปจฺจยา โหนฺตีติ ทฺวยํ อรูปชีวิตินฺทฺริยํ ปฏิสนฺธิวิฺาณฺจ สมฺปยุตฺตขนฺธานํ อฺมฺปจฺจยา โหนฺติ. อฺมฺนิสฺสยปจฺจยา โหนฺตีติ วุตฺตนเยเนว โยเชตฺวา เวทิตพฺพํ. วิปฺปยุตฺตปจฺจยา โหนฺตีติ อรูปชีวิตินฺทฺริยํ ปฏิสนฺธิวิฺาณฺจ ปฏิสนฺธิรูปานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจยา โหนฺติ. รูปชีวิตินฺทฺริยํ ปน อฺมฺนิสฺสยวิปฺปยุตฺตปจฺจยตฺเต น ยุชฺชติ. ตสฺมา ‘‘ตโย ชีวิตสงฺขารา’’ติ ยถาลาภวเสน วุตฺตํ. นามฺจ รูปฺจ วุตฺตนเยเนว จตุปจฺจยตฺเต โยเชตพฺพํ. จุทฺทส ธมฺมาติ ปฺจกฺขนฺธา, จตฺตาโร มหาภูตา, ตโย ชีวิตสงฺขารา, นามฺจ รูปฺจาติ เอวํ คณนาวเสน จุทฺทส ธมฺมา. เตสฺจ อุปริ อฺเสฺจ สหชาตาทิปจฺจยภาโว วุตฺตนโย เอว. สมฺปยุตฺตปจฺจยา โหนฺตีติ ปุน เอกวตฺถุกเอการมฺมณเอกุปฺปาทเอกนิโรธสงฺขาเตน สมฺปยุตฺตภาเวน อุปการกา โหนฺติ.

ปฺจินฺทฺริยานีติ สทฺธินฺทฺริยาทีนิ. นามฺจาติ อิธ เวทนาทโย ตโย ขนฺธา. วิฺาณฺจาติ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ. ปุน จุทฺทส ธมฺมาติ จตฺตาโร ขนฺธา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ตโย เหตู, นามฺจ วิฺาณฺจาติ เอวํ คณนาวเสน จุทฺทส ธมฺมา. อฏฺวีสติ ธมฺมาติ ปุริมา จ จุทฺทส, อิเม จ จุทฺทสาติ อฏฺวีสติ. อิธ รูปสฺสาปิ ปวิฏฺตฺตา สมฺปยุตฺตปจฺจยํ อปเนตฺวา วิปฺปยุตฺตปจฺจโย วุตฺโต.

เอวํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิชฺชมานสฺส ตสฺส ตสฺส ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส ธมฺมสฺส ตํ ตํ ปจฺจยเภทํ ทสฺเสตฺวา ปมํ นิทฺทิฏฺเ เหตู นิคเมตฺวา ทสฺเสนฺโต อิเมสํ อฏฺนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา อุปปตฺติ โหตีติ อาห. กมฺมายูหนกฺขเณ ตโย กุสลเหตู, นิกนฺติกฺขเณ ทฺเว อกุสลเหตู, ปฏิสนฺธิกฺขเณ ตโย อพฺยากตเหตูติ เอวํ อฏฺ เหตู. ตตฺถ ตโย กุสลเหตู, ทฺเว อกุสลเหตู จ อิธ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปวตฺติยา อุปนิสฺสยปจฺจยา โหนฺติ. ตโย อพฺยากตเหตู ยถาโยคํ เหตุปจฺจยสหชาตปจฺจยวเสน ปจฺจยา โหนฺติ. เสสวาเรสุปิ เอเสว นโย.

อรูปาวจรานํ ปน รูปาภาวา นามปจฺจยาปิ วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยาปิ นามนฺติ วุตฺตํ. รูปมิสฺสกจุทฺทสโกปิ จ ปริหีโน. ตสฺส ปริหีนตฺตา ‘‘อฏฺวีสติ ธมฺมา’’ติ วาโร จ น ลพฺภติ.

๒๓๓. อิทานิ วิโมกฺขสฺส ปจฺจยภูตํ ติเหตุกปฏิสนฺธึ ทสฺเสตฺวา เตเนว สมฺพนฺเธน ทุเหตุกปฏิสนฺธิวิเสสฺจ ทสฺเสตุกาโม คติสมฺปตฺติยา าณวิปฺปยุตฺเตติอาทิมาห. กุสลกมฺมสฺส ชวนกฺขเณติ อตีตชาติยา อิธ ปฏิสนฺธิชนกสฺส ทุเหตุกกุสลกมฺมสฺส วุตฺตนเยเนว ชวนกฺขเณ. ทฺเว เหตูติ าณวิปฺปยุตฺตตฺตา อโลโภ กุสลเหตุ อโทโส กุสลเหตุ. ทฺเว อพฺยากตเหตูปิ อโลภาโทสาเยว.

จตฺตาริ อินฺทฺริยานีติ ปฺินฺทฺริยวชฺชานิ สทฺธินฺทฺริยาทีนิ จตฺตาริ. ทฺวาทส ธมฺมาติ ปฺินฺทฺริยสฺส อโมหเหตุสฺส จ ปริหีนตฺตา ทฺวาทส. เตสํ ทฺวินฺนํเยว ปริหีนตฺตา ฉพฺพีสติ. ฉนฺนํ เหตูนนฺติ ทฺวินฺนํ กุสลเหตูนํ, ทฺวินฺนํ อกุสลเหตูนํ, ทฺวินฺนํ วิปากเหตูนนฺติ เอวํ ฉนฺนํ เหตูนํ. รูปารูปาวจรา ปเนตฺถ เอกนฺตติเหตุกตฺตา น คหิตา. เสสํ ปมวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิมสฺมึ วาเร ทุเหตุกปฏิสนฺธิยา ทุเหตุกกมฺมสฺเสว วุตฺตตฺตา ติเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกปฏิสนฺธิ น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมา ยํ ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๙๘) ติปิฏกมหาธมฺมรกฺขิตตฺเถรวาเท ‘‘ติเหตุกกมฺเมน ปฏิสนฺธิ ติเหตุกาว โหติ, ทุเหตุกาเหตุกา น โหติ. ทุเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกาเหตุกา โหติ, ติเหตุกา น โหตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ อิมาย ปาฬิยา สเมติ. ยํ ปน ติปิฏกจูฬนาคตฺเถรสฺส จ โมรวาปิวาสิมหาทตฺตตฺเถรสฺส จ วาเทสุ ‘‘ติเหตุกกมฺเมน ปฏิสนฺธิ ติเหตุกาปิ โหติ ทุเหตุกาปิ, อเหตุกา น โหติ. ทุเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกาปิ โหติ อเหตุกาปิ, ติเหตุกา น โหตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ อิมาย ปาฬิยา วิรุทฺธํ วิย ทิสฺสติ. อิมิสฺสา กถาย เหตุอธิการตฺตา อเหตุกปฏิสนฺธิ น วุตฺตาติ.

คติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. กมฺมกถาวณฺณนา

กมฺมกถาวณฺณนา

๒๓๔. อิทานิ ตสฺสา เหตุสมฺปตฺติยา ปจฺจยภูตํ กมฺมํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย กมฺมกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ อโหสิ กมฺมํ อโหสิ กมฺมวิปาโกติอาทีสุ อตีตภเวสุ กตสฺส กมฺมสฺส อตีตภเวสุเยว วิปกฺกวิปากํ คเหตฺวา ‘‘อโหสิ กมฺมํ อโหสิ กมฺมวิปาโก’’ติ วุตฺตํ. ตสฺเสว อตีตสฺส กมฺมสฺส ทิฏฺธมฺมเวทนียสฺส อุปปชฺชเวทนียสฺส จ ปจฺจยเวกลฺเลน อตีตภเวสุเยว อวิปกฺกวิปากฺจ อตีเตเยว ปรินิพฺพุตสฺส จ ทิฏฺธมฺมเวทนียอุปปชฺชเวทนียอปรปริยายเวทนียสฺส กมฺมสฺส อวิปกฺกวิปากฺจ คเหตฺวา อโหสิ กมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. อตีตสฺเสว กมฺมสฺส อวิปกฺกวิปากสฺส ปจฺจุปฺปนฺนภเว ปจฺจยสมฺปตฺติยา วิปจฺจมานํ วิปากํ คเหตฺวา อโหสิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. อตีตสฺเสว กมฺมสฺส อติกฺกนฺตวิปากกาลสฺส จ ปจฺจุปฺปนฺนภเว ปรินิพฺพายนฺตสฺส จ อวิปจฺจมานํ วิปากํ คเหตฺวา อโหสิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. อตีตสฺเสว กมฺมสฺส วิปาการหสฺส อวิปกฺกวิปากสฺส อนาคเต ภเว ปจฺจยสมฺปตฺติยา วิปจฺจิตพฺพํ วิปากํ คเหตฺวา อโหสิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. อตีตสฺเสว กมฺมสฺส อติกฺกนฺตวิปากกาลสฺส จ อนาคตภเว ปรินิพฺพายิตพฺพสฺส จ อวิปจฺจิตพฺพํ วิปากํ คเหตฺวา อโหสิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. เอวํ อตีตกมฺมํ อตีตปจฺจุปฺปนฺนานาคตวิปากาวิปากวเสน ฉธา ทสฺสิตํ.

ปจฺจุปฺปนฺนภเว กตสฺส ทิฏฺธมฺมเวทนียสฺส กมฺมสฺส อิเธว วิปจฺจมานํ วิปากํ คเหตฺวา อตฺถิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ตสฺเสว ปจฺจุปฺปนฺนสฺส กมฺมสฺส ปจฺจยเวกลฺเลน อิธ อวิปจฺจมานฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม ปรินิพฺพายนฺตสฺส อิธ อวิปจฺจมานฺจ วิปากํ คเหตฺวา อตฺถิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ปจฺจุปฺปนฺนสฺเสว กมฺมสฺส อุปปชฺชเวทนียสฺส จ อปรปริยายเวทนียสฺส จ อนาคตภเว วิปจฺจิตพฺพํ วิปากํ คเหตฺวา อตฺถิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ปจฺจุปฺปนฺนสฺเสว กมฺมสฺส อุปปชฺชเวทนียสฺส ปจฺจยเวกลฺเลน อนาคตภเว อวิปจฺจิตพฺพฺจ อนาคตภเว ปรินิพฺพายิตพฺพสฺส อปรปริยายเวทนียสฺส อวิปจฺจิตพฺพฺจ วิปากํ คเหตฺวา อตฺถิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. เอวํ ปจฺจุปฺปนฺนกมฺมํ ปจฺจุปฺปนฺนานาคตวิปากาวิปากวเสน จตุธา ทสฺสิตํ.

อนาคตภเว กาตพฺพสฺส กมฺมสฺส อนาคตภเว วิปจฺจิตพฺพํ วิปากํ คเหตฺวา ภวิสฺสติ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. ตสฺเสว อนาคตสฺส กมฺมสฺส ปจฺจยเวกลฺเลน อวิปจฺจิตพฺพฺจ อนาคตภเว ปรินิพฺพายิตพฺพสฺส อวิปจฺจิตพฺพฺจ วิปากํ คเหตฺวา ภวิสฺสติ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโกติ วุตฺตํ. เอวํ อนาคตกมฺมํ อนาคตวิปากาวิปากวเสน ทฺวิธา ทสฺสิตํ. ตํ สพฺพํ เอกโต กตฺวา ทฺวาทสวิเธน กมฺมํ ทสฺสิตํ โหติ.

อิมสฺมึ าเน ตฺวา ตีณิ กมฺมจตุกฺกานิ อาหริตฺวา วุจฺจนฺติ – เตสุ หิ วุตฺเตสุ อยมตฺโถ ปากฏตโร ภวิสฺสตีติ. จตุพฺพิธฺหิ กมฺมํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ อุปปชฺชเวทนียํ อปรปริยายเวทนียํ อโหสิกมฺมนฺติ. เตสุ เอกชวนวีถิยํ สตฺตสุ จิตฺเตสุ กุสลา วา อกุสลา วา ปมชวนเจตนา ทิฏฺธมฺมเวทนียกมฺมํ นาม. ตํ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว วิปากํ เทติ. ตถา อสกฺโกนฺตํ ปน ‘‘อโหสิ กมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโก, น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, นตฺถิ กมฺมวิปาโก’’ติ อิมสฺส ติกสฺส วเสน อโหสิกมฺมํ นาม โหติ. อตฺถสาธิกา ปน สตฺตมชวนเจตนา อุปปชฺชเวทนียกมฺมํ นาม. ตํ อนนฺตเร อตฺตภาเว วิปากํ เทติ. ตถา อสกฺโกนฺตํ วุตฺตนเยเนว อโหสิกมฺมํ นาม โหติ. อุภินฺนํ อนฺตเร ปน ปฺจชวนเจตนา อปรปริยายเวทนียกมฺมํ นาม. ตํ อนาคเต ยทา โอกาสํ ลภติ, ตทา วิปากํ เทติ. สติ สํสารปฺปวตฺติยา อโหสิกมฺมํ นาม น โหติ.

อปรมฺปิ จตุพฺพิธํ กมฺมํ ยคฺครุกํ ยพฺพหุลํ ยทาสนฺนํ กฏตฺตา วา ปน กมฺมนฺติ. ตตฺถ กุสลํ วา โหตุ อกุสลํ วา, ครุกาครุเกสุ ยํ ครุกํ มาตุฆาตาทิกมฺมํ วา มหคฺคตกมฺมํ วา, ตเทว ปมํ วิปจฺจติ. ตถา พหุลาพหุเลสุปิ ยํ พหุลํ โหติ สุสีลฺยํ วา ทุสฺสีลฺยํ วา, ตเทว ปมํ วิปจฺจติ. ยทาสนฺนํ นาม มรณกาเล อนุสฺสริตกมฺมํ วา กตกมฺมํ วา. ยฺหิ อาสนฺนมรเณ อนุสฺสริตุํ สกฺโกติ กาตุํ วา, เตเนว อุปปชฺชติ. เอเตหิ ปน ตีหิ มุตฺตํ ปุนปฺปุนํ ลทฺธาเสวนํ กฏตฺตา วา ปน กมฺมํ นาม โหติ. เตสํ อภาเว ตํ ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒติ.

อปรํ วา จตุพฺพิธํ กมฺมํ ชนกํ อุปตฺถมฺภกํ อุปปีฬกํ อุปฆาตกนฺติ. ตตฺถ ชนกํ นาม กุสลมฺปิ โหติ อกุสลมฺปิ. ตํ ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺเตปิ รูปารูปวิปากํ ชเนติ. อุปตฺถมฺภกํ ปน ชเนตุํ น สกฺโกติ, อฺเน กมฺเมน ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา ชนิเต วิปาเก อุปฺปชฺชนกสุขทุกฺขํ อุปตฺถมฺเภติ, อทฺธานํ ปวตฺเตติ. อุปปีฬกํ อฺเน กมฺเมน ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา ชนิเต วิปาเก อุปฺปชฺชนกสุขทุกฺขํ ปีเฬติ พาธติ, อทฺธานํ ปวตฺติตุํ น เทติ. อุปฆาตกํ ปน กุสลมฺปิ อกุสลมฺปิ สมานํ อฺํ ทุพฺพลกมฺมํ ฆาเตตฺวา ตสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กโรติ. เอวํ ปน กมฺเมน กเต โอกาเส ตํ วิปากํ อุปฺปนฺนํ นาม วุจฺจติ.

อิติ อิเมสํ ทฺวาทสนฺนํ กมฺมานํ กมฺมนฺตรฺจ วิปากนฺตรฺจ พุทฺธานํ กมฺมวิปากาณสฺเสว ยาถาวสรสโต ปากฏํ โหติ อสาธารณํ สาวเกหิ. วิปสฺสเกน ปน กมฺมนฺตรํ วิปากนฺตรฺจ เอกเทสโต ชานิตพฺพํ. ตสฺมา อยํ มุขมตฺตทสฺสเนน กมฺมวิเสโส ปกาสิโตติ.

๒๓๕. เอวํ สุทฺธิกกมฺมวเสน ปมวารํ วตฺวา ตเทว กมฺมํ ทฺวิธา วิภชิตฺวา กุสลากุสลาทิยุคลวเสน ทสหิ ปริยาเยหิ อปเร ทส วารา วุตฺตา. ตตฺถ อาโรคฺยฏฺเน กุสลํ, อนาโรคฺยฏฺเน อกุสลํ, อิทํ ทุกํ ชาติวเสน วุตฺตํ. อกุสลเมว ราคาทิโทสสํโยเคน สาวชฺชํ, กุสลํ ตทภาเวน อนวชฺชํ. อกุสลํ อปริสุทฺธตฺตา, กณฺหาภิชาติเหตุตฺตา วา กณฺหํ, กุสลํ ปริสุทฺธตฺตา, สุกฺกาภิชาติเหตุตฺตา วา สุกฺกํ. กุสลํ สุขวุทฺธิมตฺตา สุขุทฺรยํ, อกุสลํ ทุกฺขวุทฺธิมตฺตา ทุกฺขุทฺรยํ. กุสลํ สุขผลวตฺตา สุขวิปากํ, อกุสลํ ทุกฺขผลวตฺตา ทุกฺขวิปากนฺติ เอวเมเตสํ นานากาโร เวทิตพฺโพติ.

กมฺมกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. วิปลฺลาสกถา

วิปลฺลาสกถาวณฺณนา

๒๓๖. อิทานิ ตสฺส กมฺมสฺส ปจฺจยภูเต วิปลฺลาเส ทสฺเสนฺเตน กถิตาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย วิปลฺลาสกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. สุตฺตนฺเต ตาว สฺาวิปลฺลาสาติ สฺาย วิปลฺลตฺถภาวา วิปรีตภาวา, วิปรีตสฺาติ อตฺโถ. เสสทฺวเยสุปิ เอเสว นโย. จิตฺตกิจฺจสฺส ทุพฺพลฏฺาเน ทิฏฺิวิรหิตาย อกุสลสฺาย สกกิจฺจสฺส พลวกาเล สฺาวิปลฺลาโส. ทิฏฺิวิรหิตสฺเสว อกุสลจิตฺตสฺส สกกิจฺจสฺส พลวกาเล จิตฺตวิปลฺลาโส. ทิฏฺิสมฺปยุตฺเต จิตฺเต ทิฏฺิวิปลฺลาโส. ตสฺมา สพฺพทุพฺพโล สฺาวิปลฺลาโส, ตโต พลวตโร จิตฺตวิปลฺลาโส, สพฺพพลวตโร ทิฏฺิวิปลฺลาโส. อชาตพุทฺธิทารกสฺส กหาปณทสฺสนํ วิย หิ สฺา อารมฺมณสฺส อุปฏฺานาการมตฺตคฺคหณโต. คามิกปุริสสฺส กหาปณทสฺสนํ วิย จิตฺตํ ลกฺขณปฏิเวธสฺสาปิ สมฺปาปนโต. กมฺมารสฺส มหาสณฺฑาเสน อโยคหณํ วิย ทิฏฺิ อภินิวิสฺส ปรามสนโต. อนิจฺเจ นิจฺจนฺติ สฺาวิปลฺลาโสติ อนิจฺเจ วตฺถุสฺมึ ‘‘นิจฺจํ อิท’’นฺติ เอวํ คเหตฺวา อุปฺปชฺชนกสฺา สฺาวิปลฺลาโส. อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. น สฺาวิปลฺลาโส น จิตฺตวิปลฺลาโส น ทิฏฺิวิปลฺลาโสติ จตูสุ วตฺถูสุ ทฺวาทสนฺนํ วิปลฺลาสคฺคาหานํ อภาวา ยาถาวคฺคหณํ วุตฺตํ.

คาถาสุ อนตฺตนิ จ อตฺตาติ อนตฺตนิ อตฺตาติ เอวํสฺิโนติ อตฺโถ. มิจฺฉาทิฏฺิหตาติ น เกวลํ สฺิโนว, สฺาย วิย อุปฺปชฺชมานาย มิจฺฉาทิฏฺิยาปิ หตา. ขิตฺตจิตฺตาติ สฺาทิฏฺีหิ วิย อุปฺปชฺชมาเนน ขิตฺเตน วิพฺภนฺเตน จิตฺเตน สมนฺนาคตา. วิสฺิโนติ เทสนามตฺตเมตํ, วิปรีตสฺาจิตฺตทิฏฺิโนติ อตฺโถ. อถ วา สฺาปุพฺพงฺคมตฺตา ทิฏฺิยา ปมํ จตูหิ ปเทหิ สฺาวิปลฺลาโส วุตฺโต, ตโต มิจฺฉาทิฏฺิหตาติ ทิฏฺิวิปลฺลาโส, ขิตฺตจิตฺตาติ จิตฺตวิปลฺลาโส. วิสฺิโนติ ตีหิ วิปลฺลาสคฺคาเหหิ ปกติสฺาวิรหิตา โมหํ คตา ‘‘มุจฺฉิโต วิสเวเคน, วิสฺี สมปชฺชถา’’ติเอตฺถ (ชา. ๒.๒๒.๓๒๘) วิย. เต โยคยุตฺตา มารสฺสาติ เต ชนา สตฺตา มารสฺส โยเค ยุตฺตา นาม โหนฺติ. อโยคกฺเขมิโนติ จตูหิ โยเคหิ อีตีหิ เขมํ นิพฺพานํ อปฺปตฺตา. สตฺตา คจฺฉนฺติ สํสารนฺติ เตเยว ปุคฺคลา สํสารํ สํสรนฺติ. กสฺมา? ชาติมรณคามิโน หิ เต, ตสฺมา สํสรนฺตีติ อตฺโถ. พุทฺธาติ จตุสจฺจพุทฺธา สพฺพฺุโน. กาลตฺตยสาธารณวเสน พหุวจนํ. โลกสฺมินฺติ โอกาสโลเก. ปภงฺกราติ โลกสฺส ปฺาโลกํ กรา. อิมํ ธมฺมํ ปกาเสนฺตีติ วิปลฺลาสปฺปหานํ ธมฺมํ โชเตนฺติ. ทุกฺขูปสมคามินนฺติ ทุกฺขวูปสมํ นิพฺพานํ คจฺฉนฺตํ. เตสํ สุตฺวานาติ เตสํ พุทฺธานํ ธมฺมํ สุตฺวาน. สปฺปฺาติ ภพฺพภูตา ปฺวนฺโต. สจิตฺตํ ปจฺจลทฺธูติ วิปลฺลาสวชฺชิตํ สกจิตฺตํ ปฏิลภิตฺวา. ปฏิอลทฺธูติ ปทจฺเฉโท. อถ วา ปฏิลภึสุ ปฏิอลทฺธุนฺติ ปทจฺเฉโท. อนิจฺจโต ทกฺขุนฺติ อนิจฺจวเสเนว อทฺทสํสุ. อนตฺตนิ อนตฺตาติ อนตฺตานํ อนตฺตาติ อทฺทกฺขุํ. อถ วา อนตฺตนิ วตฺถุสฺมึ อตฺตา นตฺถีติ อทฺทกฺขุํ. สมฺมาทิฏฺิสมาทานาติ คหิตสมฺมาทสฺสนา. สพฺพํ ทุกฺขํ อุปจฺจคุนฺติ สกลํ วฏฺฏทุกฺขํ สมติกฺกนฺตา.

ปหีนาปหีนปุจฺฉาย ทิฏฺิสมฺปนฺนสฺสาติ โสตาปนฺนสฺส. ทุกฺเข สุขนฺติ สฺา อุปฺปชฺชติ. จิตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ โมหกาลุสฺสิยสฺส อปฺปหีนตฺตา สฺามตฺตํ วา จิตฺตมตฺตํ วา อุปฺปชฺชติ, อนาคามิสฺสปิ อุปฺปชฺชติ, กึ ปน โสตาปนฺนสฺส. อิเม ทฺเว อรหโตเยว ปหีนา. อสุเภ สุภนฺติ สฺา อุปฺปชฺชติ. จิตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ สกทาคามิสฺสปิ อุปฺปชฺชติ, กึ ปน โสตาปนฺนสฺส. อิเม ทฺเว อนาคามิสฺส ปหีนาติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตสฺมา อิทํ ทฺวยํ โสตาปนฺนสกทาคามิโน สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อนาคามิโน กามราคสฺส ปหีนตฺตา ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ สฺาจิตฺตวิปลฺลาสานฺจ ปหานํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ทฺวีสุ วตฺถูสูติอาทีหิ ปเทหิ ปหีนาปหีเน นิคเมตฺวา ทสฺเสติ. ตตฺถ ‘‘อนิจฺเจ นิจฺจ’’นฺติ, ‘‘อนตฺตนิ อตฺตา’’ติ อิเมสุ ทฺวีสุ วตฺถูสุ ฉ วิปลฺลาสา ปหีนา. ‘‘ทุกฺเข สุข’’นฺติ, ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ อิเมสุ ทฺวีสุ วตฺถูสุ ทฺเว ทิฏฺิวิปลฺลาสา ปหีนา. เกสุจิ โปตฺถเกสุ ทฺเวติ ปมํ ลิขิตํ, ปจฺฉา ฉาติ. จตูสุ วตฺถูสูติ จตฺตาริ เอกโต กตฺวา วุตฺตํ. อฏฺาติ ทฺวีสุ ฉ, ทฺวีสุ ทฺเวติ อฏฺ. จตฺตาโรติ ทุกฺขาสุภวตฺถูสุ เอเกกสฺมึ ทฺเว ทฺเว สฺาจิตฺตวิปลฺลาสาติ จตฺตาโร. เกสุจิ โปตฺถเกสุ ‘‘ฉ ทฺวีสู’’ติ วุตฺตฏฺาเนสุปิ เอวเมว ลิขิตนฺติ.

วิปลฺลาสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. มคฺคกถา

มคฺคกถาวณฺณนา

๒๓๗. อิทานิ เตสํ ติณฺณํ วิปลฺลาสานํ ปหานกรํ อริยมคฺคํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย มคฺคกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ มคฺโคติ เกนฏฺเน มคฺโคติ โย พุทฺธสาสเน มคฺโคติ วุจฺจติ, โส เกนฏฺเน มคฺโค นาม โหตีติ อตฺโถ. มิจฺฉาทิฏฺิยา ปหานายาติอาทีสุ ทสสุ ปริยาเยสุ ปโม ปโม ตสฺส ตสฺส มคฺคงฺคสฺส อุชุวิปจฺจนีกวเสน วุตฺโต. มคฺโค เจว เหตุ จาติ ตสฺส ตสฺส กิจฺจสฺส กรณาย ปฏิปทฏฺเน มคฺโค, สมฺปาปกฏฺเน เหตุ. เตน มคฺคสฺส ปฏิปทฏฺโ สมฺปาปกฏฺโ จ วุตฺโต โหติ. ‘‘อยํ มคฺโค อยํ ปฏิปทา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๕, ๔๘) หิ ปฏิปทา มคฺโค, ‘‘มคฺคสฺส นิยฺยานฏฺโ เหตุฏฺโ’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๒.๘) สมฺปาปโก เหตุ. เอวํ ทฺวีหิ ทฺวีหิ ปเทหิ ‘‘มคฺโคติ เกนฏฺเน มคฺโค’’ติ ปุจฺฉาย วิสฺสชฺชนํ กตํ โหติ. สหชาตานํ ธมฺมานํ อุปตฺถมฺภนายาติ อตฺตนา สหชาตานํ อรูปธมฺมานํ สหชาตอฺมฺนิสฺสยาทิภาเวน อุปตฺถมฺภนภาวาย. กิเลสานํ ปริยาทานายาติ ตํตํมคฺควชฺฌานํ วุตฺตาวเสสกิเลสานํ เขปนาย. ปฏิเวธาทิวิโสธนายาติ เอตฺถ ยสฺมา ‘‘โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ, สีลฺจ สุวิสุทฺธํ ทิฏฺิ จ อุชุกา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๖๙, ๓๘๑) วจนโต สีลฺจ ทิฏฺิ จ สจฺจปฏิเวธสฺส อาทิ. โส จ อาทิมคฺคกฺขเณ วิสุชฺฌติ. ตสฺมา ‘‘ปฏิเวธาทิวิโสธนายา’’ติ วุตฺตํ. จิตฺตสฺส อธิฏฺานายาติ สมฺปยุตฺตจิตฺตสฺส สกกิจฺเจ ปติฏฺานาย. จิตฺตสฺส โวทานายาติ จิตฺตสฺส ปริสุทฺธภาวาย. วิเสสาธิคมายาติ โลกิยโต วิเสสปฏิลาภาย. อุตฺตริ ปฏิเวธายาติ โลกิยโต อุตฺตริ ปฏิวิชฺฌนตฺถาย. สจฺจาภิสมยายาติ จตุนฺนํ สจฺจานํ เอกาภิสมยาย กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน เอกปฏิเวธาย. นิโรเธ ปติฏฺาปนายาติ จิตฺตสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา นิพฺพาเน ปติฏฺาปนตฺถาย. สกทาคามิมคฺคกฺขณาทีสุ อฏฺ มคฺคงฺคานิ เอกโต กตฺวา ตํตํมคฺควชฺฌกิเลสปฺปหานํ วุตฺตํ. เอวํ วจเน การณํ เหฏฺา วุตฺตเมว. ยสฺมา อุปรูปริมคฺเคนาปิ สุฏฺุ อาทิวิโสธนา สุฏฺุ จิตฺตโวทานฺจ โหติ, ตสฺมา ตานิปิ ปทานิ วุตฺตานิ.

ทสฺสนมคฺโคติอาทีหิ ยาว ปริโยสานา ตสฺส ธมฺมสฺส ลกฺขณวเสน มคฺคฏฺโ วุตฺโต. ตานิ สพฺพานิปิ ปทานิ อภิฺเยฺยนิทฺเทเส วุตฺตตฺถาเนว. เอวเมตฺถ ยถาสมฺภวํ โลกิยโลกุตฺตโร มคฺโค นิทฺทิฏฺโ. เหตุฏฺเน มคฺโคติ จ อฏฺงฺคิโก มคฺโค นิทฺทิฏฺโ. นิปฺปริยายมคฺคตฺตา จสฺส ปุน ‘‘มคฺโค’’ติ น วุตฺตํ. อาธิปเตยฺยฏฺเน อินฺทฺริยาติ อาทีนิ จ อินฺทฺริยาทีนํ อตฺถวเสน วุตฺตานิ, น มคฺคฏฺวเสน. สจฺจานีติ เจตฺถ สจฺจาณานิ. สพฺเพปิ เต ธมฺมา นิพฺพานสฺส ปฏิปทฏฺเน มคฺโค. อนฺเต วุตฺตํ นิพฺพานํ ปน สํสารทุกฺขาภิภูเตหิ ทุกฺขนิสฺสรณตฺถิเกหิ สปฺปุริเสหิ มคฺคียติ คเวสียตีติ มคฺโคติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพนฺติ.

มคฺคกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. มณฺฑเปยฺยกถา

มณฺฑเปยฺยกถาวณฺณนา

๒๓๘. อิทานิ ตสฺส มคฺคสฺส มณฺฑเปยฺยตฺตํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย ภควโต วจเนกเทสปุพฺพงฺคมาย มณฺฑเปยฺยกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ มณฺฑเปยฺยนฺติ ยถา สมฺปนฺนํ นิมฺมลํ วิปฺปสนฺนํ สปฺปิ สปฺปิมณฺโฑติ วุจฺจติ, เอวํ วิปฺปสนฺนฏฺเน มณฺโฑ, ปาตพฺพฏฺเน เปยฺยํ. ยฺหิ ปิวิตฺวา อนฺตรวีถิยํ ปติตา วิสฺิโน อตฺตโน สาฏกาทีนมฺปิ อสฺสามิกา โหนฺติ, ตํ ปสนฺนมฺปิ น ปาตพฺพํ. มยฺหํ ปน อิทํ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ สาสนพฺรหฺมจริยํ สมฺปนฺนตฺตา นิมฺมลตฺตา วิปฺปสนฺนตฺตา มณฺฑฺจ หิตสุขาวหตฺตา เปยฺยฺจาติ มณฺฑเปยฺยนฺติ ทีเปติ. มณฺโฑ เปยฺโย เอตฺถาติ มณฺฑเปยฺยํ. กึ ตํ? สาสนพฺรหฺมจริยํ. กสฺมา สิกฺขตฺตยํ พฺรหฺมจริยํ นาม? อุตฺตมฏฺเน นิพฺพานํ พฺรหฺมํ นาม, สิกฺขตฺตยํ นิพฺพานตฺถาย ปวตฺตนโต พฺรหฺมตฺถาย จริยาติ พฺรหฺมจริยนฺติ วุจฺจติ. สาสนพฺรหฺมจริยนฺติ ตํเยว. สตฺถา สมฺมุขีภูโตติ อิทเมตฺถ การณวจนํ. ยสฺมา ปน สตฺถา สมฺมุขีภูโต, ตสฺมา วีริยปโยคํ กตฺวา ปิวเถตํ มณฺฑํ. พาหิรกฺหิ เภสชฺชมณฺฑํ เวชฺชสฺส อสมฺมุขา ปิวนฺตานํ ปมาณํ วา อุคฺคมนนิคฺคมนํ วา น ชานามาติ อาสงฺกา โหติ. เวชฺชสฺส สมฺมุขา ปน เวชฺโช ชานิสฺสตีติ นิราสงฺกา ปิวนฺติ. เอวเมวํ อมฺหากฺจ ธมฺมสฺสามี สตฺถา สมฺมุขีภูโตติ วีริยํ กตฺวา ปิวถาติ มณฺฑปาเน สนฺนิโยเชติ. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ ยถารหํ อนุสาสตีติ สตฺถา. อปิจ ‘‘สตฺถา ภควา สตฺถวาโห’’ติอาทินา (มหานิ. ๑๙๐) นิทฺเทสนเยนเปตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สนฺทิสฺสมาโน มุโข ภูโตติ สมฺมุขีภูโต.

มณฺฑเปยฺยนิทฺเทเส ติธตฺตมณฺโฑติ ติธาภาโว ติธตฺตํ. ติธตฺเตน มณฺโฑ ติธตฺตมณฺโฑ, ติวิเธน มณฺโฑติ อตฺโถ. สตฺถริ สมฺมุขีภูเตติ อิทํ สพฺพาการปริปุณฺณมณฺฑตฺตยทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ปรินิพฺพุเตปิ ปน สตฺถริ เอกเทเสน มณฺฑตฺตยํ ปวตฺตติเยว. เตเนว จสฺส นิทฺเทเส ‘‘สตฺถริ สมฺมุขีภูเต’’ติ อวตฺวา กตโม เทสนามณฺโฑติอาทิ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

เทสนามณฺโฑติ ธมฺมเทสนา เอว มณฺโฑ. ปฏิคฺคหมณฺโฑติ เทสนาปฏิคฺคาหโก เอว มณฺโฑ. พฺรหฺมจริยมณฺโฑติ มคฺคพฺรหฺมจริยเมว มณฺโฑ.

อาจิกฺขนาติ เทเสตพฺพานํ สจฺจาทีนํ อิมานิ นามานีติ นามวเสน กถนา. เทสนาติ ทสฺสนา. ปฺาปนาติ ชานาปนา, าณมุเข ปนา วา. อาสนํ เปนฺโต หิ ‘‘อาสนํ ปฺาเปตี’’ติ วุจฺจติ. ปฏฺปนาติ ปฺาปนา, ปวตฺตนาติ อตฺโถ, าณมุเข ปนา วา. วิวรณาติ วิวฏกรณํ, วิวริตฺวา ทสฺสนาติ อตฺโถ. วิภชนาติ วิภาคกิริยา, วิภาคโต ทสฺสนาติ อตฺโถ. อุตฺตานีกมฺมนฺติ ปากฏภาวกรณํ. อถ วา อาจิกฺขนาติ เทสนาทีนํ ฉนฺนํ ปทานํ มูลปทํ. เทสนาทีนิ ฉ ปทานิ ตสฺส อตฺถวิวรณตฺถํ วุตฺตานิ. ตตฺถ เทสนาติ อุคฺฆฏิตฺูนํ วเสน สงฺเขปโต ปมํ อุทฺเทสวเสน เทสนา. อุคฺฆฏิตฺู หิ สงฺเขเปน วุตฺตํ ปมํ วุตฺตฺจ ปฏิวิชฺฌนฺติ. ปฺาปนาติ วิปฺจิตฺูนํ วเสน เตสํ จิตฺตโตสเนน พุทฺธินิสาเนน จ ปมํ สงฺขิตฺตสฺส วิตฺถารโต นิทฺเทสวเสน ปฺาปนา. ปฏฺปนาติ เตสํเยว นิทฺทิฏฺสฺส นิทฺเทสสฺส ปฏินิทฺเทสวเสน วิตฺถารตรวจเนน ปฺาปนา. วิวรณาติ นิทฺทิฏฺสฺสาปิ ปุนปฺปุนํ วจเนน วิวรณา. วิภชนาติ ปุนปฺปุนํ วุตฺตสฺสาปิ วิภาคกรเณน วิภชนา. อุตฺตานีกมฺมนฺติ วิวฏสฺส วิตฺถารตรวจเนน, วิภตฺตสฺส จ นิทสฺสนวจเนน อุตฺตานีกรณํ. อยํ เทสนา เนยฺยานมฺปิ ปฏิเวธาย โหติ. เยวาปนฺเปิ เกจีติ ปิยงฺกรมาตาทิกา วินิปาติกา คหิตา. วิฺาตาโรติ ปฏิเวธวเสน โลกุตฺตรธมฺมํ วิฺาตาโร. เอเต หิ ภิกฺขุอาทโย ปฏิเวธวเสน ธมฺมเทสนํ ปฏิคฺคณฺหนฺตีติ ปฏิคฺคหา. อยเมวาติอาทีนิ ปมาณนิทฺเทเส วุตฺตตฺถานิ. อริยมคฺโค นิพฺพาเนน สํสนฺทนโต พฺรหฺมตฺถาย จริยาติ พฺรหฺมจริยนฺติ วุจฺจติ.

๒๓๙. อิทานิ อธิโมกฺขมณฺโฑติอาทีหิ ตสฺมึ มคฺคกฺขเณ วิชฺชมานานิ อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคานิ มณฺฑเปยฺยวิธาเน โยเชตฺวา ทสฺเสติ. ตตฺถ อธิโมกฺขมณฺโฑติ อธิโมกฺขสงฺขาโต มณฺโฑ. กสโฏติ ปสาทวิรหิโต อาวิโล. ฉฑฺเฑตฺวาติ สมุจฺเฉทวเสน ปหาย. สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิโมกฺขมณฺฑํ ปิวตีติ มณฺฑเปยฺยนฺติ สทฺธินฺทฺริยโต อธิโมกฺขมณฺฑสฺส อนฺตฺเตปิ สติ อฺํ วิย กตฺวา โวหารวเสน วุจฺจติ, ยถา โลเก นิสทโปตโก นิสทโปตสรีรสฺส อนฺตฺเตปิ สติ นิสทโปตสฺส สรีรนฺติ วุจฺจติ, ยถา จ ปาฬิยํ ‘‘ผุสิตตฺต’’นฺติอาทีสุ ธมฺมโต อนฺโปิ ภาโว อฺโ วิย วุตฺโต, ยถา จ อฏฺกถายํ ‘‘ผุสนลกฺขโณ ผสฺโส’’ติอาทีสุ (ธ. ส. อฏฺ. ๑ ธมฺมุทฺเทสวาร ผสฺสปฺจมกราสิวณฺณนา) ธมฺมโต อนฺมฺปิ ลกฺขณํ อฺํ วิย วุตฺตํ, เอวมิทนฺติ เวทิตพฺพํ. ปิวตีติ เจตฺถ ตํสมงฺคิปุคฺคโลติ วุตฺตํ โหติ. ตํสมงฺคิปุคฺคโล ตํ มณฺฑํ ปิวตีติ กตฺวา เตน ปุคฺคเลน โส มณฺโฑ ปาตพฺพโต มณฺฑเปยฺยํ นาม โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘มณฺฑเปยฺโย’’ติ จ วตฺตพฺเพ ‘‘มณฺฑเปยฺย’’นฺติ ลิงฺควิปลฺลาโส กโต. เสสานมฺปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อปุพฺเพสุ ปน ปริฬาโหติ ปีณนลกฺขณาย ปีติยา ปฏิปกฺโข กิเลสสนฺตาโป. ทุฏฺุลฺลนฺติ อุปสมปฏิปกฺโข กิเลสวเสน โอฬาริกภาโว อสนฺตภาโว. อปฺปฏิสงฺขาติ ปฏิสงฺขานปฏิปกฺโข กิเลสวเสน อสมวาหิตภาโว.

๒๔๐. ปุน อฺเน ปริยาเยน มณฺฑเปยฺยวิธึ นิทฺทิสิตุกาโม อตฺถิ มณฺโฑติอาทิมาห. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ สทฺธินฺทฺริเย. อตฺถรโสติอาทีสุ สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมุจฺจนํ อตฺโถ, สทฺธินฺทฺริยํ ธมฺโม, ตเทว นานากิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติ, ตสฺส อตฺถสฺส สมฺปตฺติ อตฺถรโส. ตสฺส ธมฺมสฺส สมฺปตฺติ ธมฺมรโส. ตสฺสา วิมุตฺติยา สมฺปตฺติ วิมุตฺติรโส. อถ วา อตฺถปฏิลาภรติ อตฺถรโส, ธมฺมปฏิลาภรติ ธมฺมรโส, วิมุตฺติปฏิลาภรติ วิมุตฺติรโส. รตีติ จ ตํสมฺปยุตฺตา, ตทารมฺมณา วา ปีติ. อิมินา นเยน เสสปเทสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ ปริยาเย มณฺฑสฺส เปยฺยํ มณฺฑเปยฺยนฺติ อตฺโถ วุตฺโต โหติ.

เอวํ อินฺทฺริยาทิโพธิปกฺขิยธมฺมปฏิปาฏิยา อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคานํ วเสน มณฺฑเปยฺยํ ทสฺเสตฺวา ปุน อนฺเต ิตํ พฺรหฺมจริยมณฺฑํ ทสฺเสนฺโต มคฺคสฺส ปธานตฺตา มคฺคํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา อุปฺปฏิปาฏิวเสน มคฺคงฺคโพชฺฌงฺคพลอินฺทฺริยานิ ทสฺเสสิ. อาธิปเตยฺยฏฺเน อินฺทฺริยา มณฺโฑติอาทโย ยถาโยคํ โลกิยโลกุตฺตรา มณฺฑา. ตํ เหฏฺา วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. ตถฏฺเน สจฺจา มณฺโฑติ เอตฺถ ปน ทุกฺขสมุทยานํ มณฺฑตฺตาภาวา มหาหตฺถิปทสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๓๐๐) วิย สจฺจาณานิ สจฺจาติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฏิสมฺภิทามคฺค-อฏฺกถาย

มณฺฑเปยฺยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิตา จ มหาวคฺควณฺณนา.

(๒) ยุคนทฺธวคฺโค

๑. ยุคนทฺธกถา

ยุคนทฺธกถาวณฺณนา

. อิทานิ มณฺฑเปยฺยคุณสฺส อริยมคฺคสฺส ยุคนทฺธคุณํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย ยุคนทฺธกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ยสฺมา ปน ธมฺมเสนาปติ ธมฺมราเช ธรมาเนเยว ธมฺมราชสฺส ปรินิพฺพานสํวจฺฉเร ปรินิพฺพุโต, ตสฺมา ธมฺมราเช ธรมาเนเยว ธมฺมภณฺฑาคาริเกน เทสิตํ อิทํ สุตฺตนฺตํ ตสฺเสว สมฺมุขา สุตฺวา เอวํ เม สุตนฺติอาทิมาหาติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ อายสฺมาติ ปิยวจนํ ครุวจนํ สคารวสปฺปติสฺสวจนํ, อายุมาติ อตฺโถ. อานนฺโทติ ตสฺส เถรสฺส นามํ. โส หิ ชายมาโนเยว กุเล อานนฺทํ ภุสํ ตุฏฺึ อกาสิ. ตสฺมาสฺส ‘‘อานนฺโท’’ติ นามํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. โกสมฺพิยนฺติ เอวํนามเก นคเร. ตสฺส หิ นครสฺส อารามโปกฺขรณีอาทีสุ เตสุ เตสุ าเนสุ โกสมฺพรุกฺขา อุสฺสนฺนา อเหสุํ, ตสฺมา ตํ โกสมฺพีติ สงฺขํ อคมาสิ. ‘‘กุสมฺพสฺส อิสิโน อสฺสมโต อวิทูเร มาปิตตฺตา’’ติ เอเก.

โฆสิตาราเมติ โฆสิตเสฏฺินา การิเต อาราเม. โกสมฺพิยฺหิ ตโย เสฏฺิโน อเหสุํ โฆสิตเสฏฺิ กุกฺกุฏเสฏฺิ ปาวาริกเสฏฺีติ. เต ตโยปิ ‘‘โลเก พุทฺโธ อุปฺปนฺโน’’ติ สุตฺวา ปฺจหิ ปฺจหิ สกฏสเตหิ ทานูปกรณานิ คาหาเปตฺวา สาวตฺถึ คนฺตฺวา เชตวนสมีเป ขนฺธาวารํ พนฺธิตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา นิสินฺนา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิตฺวา สตฺถารํ นิมนฺเตตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส อฑฺฒมาสมตฺตํ มหาทานํ ทตฺวา ภควโต ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา สกชนปทคมนตฺถํ ภควนฺตํ ยาจิตฺวา ‘‘สุฺาคาเร โข คหปตโย ตถาคตา อภิรมนฺตี’’ติ ภควตา วุตฺเต ‘‘ทินฺนา โน ภควตา ปฏิฺา’’ติ ตฺวา อติวิย ตุฏฺา ทสพลํ วนฺทิตฺวา นิกฺขนฺตา อนฺตรามคฺเค โยชเน โยชเน ภควโต นิวาสตฺถํ วิหารํ กาเรนฺตา อนุปุพฺเพน โกสมฺพึ ปตฺวา อตฺตโน อตฺตโน อาราเม มหนฺตํ ธนปริจฺจาคํ กตฺวา ภควโต วิหาเร การาปยึสุ. ตตฺถ โฆสิตเสฏฺินา การิโต โฆสิตาราโม นาม อโหสิ, กุกฺกุฏเสฏฺินา การิโต กุกฺกุฏาราโม นาม, ปาวาริกเสฏฺินา อมฺพวเน การิโต ปาวาริกมฺพวนํ นาม. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘โฆสิตเสฏฺินา การิเต อาราเม’’ติ.

อาวุโส ภิกฺขโวติ เอตฺถ พุทฺธา ภควนฺโต สาวเก อาลปนฺตา ‘‘ภิกฺขโว’’ติ อาลปนฺติ. สาวกา ปน ‘‘พุทฺเธหิ สทิสา มา โหมา’’ติ ‘‘อาวุโส’’ติ ปมํ วตฺวา ปจฺฉา ‘‘ภิกฺขโว’’ติ วทนฺติ. พุทฺเธหิ จ อาลปิเต ภิกฺขุสงฺโฆ ‘‘ภทนฺเต’’ติ ปฏิวจนํ เทติ, สาวเกหิ อาลปิเต ‘‘อาวุโส’’ติ.

โย หิ โกจีติ อนิยมวจนํ. เอเตน ตาทิสานํ สพฺพภิกฺขูนํ ปริยาทานํ. มม สนฺติเกติ มม สมีเป. อรหตฺตปฺปตฺตนฺติ อตฺตนา อรหตฺตสฺส ปตฺตํ. นปุํสเก ภาเว สิทฺธวจนํ. อรหตฺตํ ปตฺตนฺติ วา ปทจฺเฉโท, อตฺตนา ปตฺตํ อรหตฺตนฺติ อตฺโถ. อรหตฺตปฺปตฺตํ อตฺตานนฺติ วา ปาเสโส. จตูหิ มคฺเคหีติ อุปริ วุจฺจมาเนหิ จตูหิ ปฏิปทามคฺเคหิ, น อริยมคฺเคหิ. ‘‘จตูหิ มคฺเคหี’’ติ วิสุฺจ วุตฺตตฺตา กสฺสจิ อรหโต ปมสฺส อริยมคฺคสฺส ธมฺมุทฺธจฺจปุพฺพงฺคโม มคฺโค, เอกสฺส อริยมคฺคสฺส สมถปุพฺพงฺคโม, เอกสฺส วิปสฺสนาปุพฺพงฺคโม, เอกสฺส ยุคนทฺธปุพฺพงฺคโมติ เอวํ จตฺตาโรปิ ปฏิปทา มคฺคา โหนฺตีติ เวทิตพฺพํ. เอเตสํ วา อฺตเรนาติ เอเตสํ จตุนฺนํ ปฏิปทานํ มคฺคานํ เอเกน วา, ปฏิปทามคฺเคน อรหตฺตปฺปตฺตํ พฺยากโรตีติ อตฺโถ. สุกฺขวิปสฺสกสฺส หิ อรหโต ธมฺมุทฺธจฺจปุพฺพงฺคมํ โสตาปตฺติมคฺคํ ปตฺวา เสสมคฺคตฺตยมฺปิ สุทฺธวิปสฺสนาหิเยว ปตฺตสฺส อรหตฺตปฺปตฺติ ธมฺมุทฺธจฺจปุพฺพงฺคมมคฺคา โหติ. ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหํ ปตฺวา วา อปฺปตฺวา วา สมถปุพฺพงฺคมาทีนํ ติณฺณํ ปฏิปทานํ มคฺคานํ เอเกกสฺส วเสน ปตฺตจตุมคฺคสฺส อรหโต อรหตฺตปฺปตฺติ อิตรเอเกกมคฺคปุพฺพงฺคมา โหติ. ตสฺมา อาห – ‘‘เอเตสํ วา อฺตเรนา’’ติ.

สมถปุพฺพงฺคมํ วิปสฺสนํ ภาเวตีติ สมถํ ปุพฺพงฺคมํ ปุเรจาริกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ภาเวติ, ปมํ สมาธึ อุปฺปาเทตฺวา ปจฺฉา วิปสฺสนํ ภาเวตีติ อตฺโถ. มคฺโค สฺชายตีติ ปโม โลกุตฺตรมคฺโค นิพฺพตฺตติ. โส ตํ มคฺคนฺติอาทีสุ เอกจิตฺตกฺขณิกสฺส มคฺคสฺส อาเสวนาทีนิ นาม นตฺถิ, ทุติยมคฺคาทโย ปน อุปฺปาเทนฺโต ตเมว มคฺคํ ‘‘อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรตี’’ติ วุจฺจติ. สฺโชนานิ ปหียนฺติ, อนุสยา พฺยนฺตีโหนฺตีติ ยาว อรหตฺตมคฺคา กเมน สพฺเพ สฺโชนา ปหียนฺติ, อนุสยา พฺยนฺตีโหนฺติ. อนุสยา พฺยนฺตีโหนฺตีติ จ ปุน อนุปฺปตฺติยา วิคตนฺตา โหนฺตีติ อตฺโถ.

ปุน จปรนฺติ ปุน จ อปรํ การณํ. วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมํ สมถํ ภาเวตีติ วิปสฺสนํ ปุพฺพงฺคมํ ปุเรจาริกํ กตฺวา สมถํ ภาเวติ, ปมํ วิปสฺสนํ อุปฺปาเทตฺวา ปจฺฉา สมาธึ ภาเวตีติ อตฺโถ. ยุคนทฺธํ ภาเวตีติ ยุคนทฺธํ กตฺวา ภาเวติ. เอตฺถ เตเนว จิตฺเตน สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา เตเนว สงฺขาเร สมฺมสิตุํ น สกฺกา. อยํ ปน ยาวตา สมาปตฺติโย สมาปชฺชติ, ตาวตา สงฺขาเร สมฺมสติ. ยาวตา สงฺขาเร สมฺมสติ, ตาวตา สมาปตฺติโย สมาปชฺชติ. กถํ? ปมชฺฌานํ สมาปชฺชติ, ตโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสติ. สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา ทุติยชฺฌานํ สมาปชฺชติ, ตโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสติ. สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา ตติยชฺฌานํ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, ตโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสติ. เอวํ สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ ภาเวติ นาม.

ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตํ มานสํ โหตีติ เอตฺถ มนฺทปฺานํ วิปสฺสกานํ อุปกฺกิเลสวตฺถุตฺตา วิปสฺสนุปกฺกิเลสสฺิเตสุ โอภาสาทีสุ ทสสุ ธมฺเมสุ ภนฺตตาวเสน อุทฺธจฺจสหคตจิตฺตุปฺปตฺติยา วิกฺเขปสงฺขาตํ อุทฺธจฺจํ ธมฺมุทฺธจฺจํ, เตน ธมฺมุทฺธจฺเจน วิคฺคหิตํ วิรูปคฺคหิตํ วิโรธมาปาทิตํ มานสํ จิตฺตํ ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตํ มานสํ โหติ, เตน วา ธมฺมุทฺธจฺเจน การณภูเตน ตมฺมูลกตณฺหามานทิฏฺุปฺปตฺติยา วิคฺคหิตํ มานสํ โหติ. ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตมานสนฺติ วา ปาโ. โหติ โส อาวุโส สมโยติ อิมินา มคฺคามคฺคววตฺถาเนน ตํ ธมฺมุทฺธจฺจํ ปฏิพาหิตฺวา ปุน วิปสฺสนาวีถึ ปฏิปนฺนกาลํ ทสฺเสติ. ยํ ตํ จิตฺตนฺติ ยสฺมึ สมเย ตํ วิปสฺสนาวีถึ โอกฺกมิตฺวา ปวตฺตํ จิตฺตํ. อชฺฌตฺตเมว สนฺติฏฺตีติ วิปสฺสนาวีถึ ปจฺโจตริตฺวา ตสฺมึ สมเย โคจรชฺฌตฺตสงฺขาเต อารมฺมเณ สนฺติฏฺติ ปติฏฺาติ. สนฺนิสีทตีติ ตตฺเถว ปวตฺติวเสน สมฺมา นิสีทติ. เอโกทิ โหตีติ เอกคฺคํ โหติ. สมาธิยตีติ สมฺมา อาธิยติ สุฏฺุ ิตํ โหตีติ.

อยํ สุตฺตนฺตวณฺณนา.

๑. สุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา

. ตสฺส สุตฺตนฺตสฺส นิทฺเทสกถาย ตตฺถ ชาเต ธมฺเมติ ตสฺมึ สมาธิสฺมึ ชาเต จิตฺตเจตสิเก ธมฺเม. อนิจฺจโต อนุปสฺสนฏฺเนาติอาทินา วิปสฺสนาย เภทํ ทสฺเสติ. สมฺมาทิฏฺิ มคฺโคติ สมฺมาทิฏฺิสงฺขาโต มคฺโค. อฏฺสุ มคฺคงฺเคสุ เอเกโกปิ หิ มคฺโคติ วุจฺจติ.อาเสวตีติ โสตาปตฺติมคฺควเสน. ภาเวตีติ สกทาคามิมคฺคุปฺปาทเนน. พหุลีกโรตีติ อนาคามิอรหตฺตมคฺคุปฺปาทเนน. อิเมสํ ติณฺณํ อวตฺถาเภเทปิ สติ อาวชฺชนาทีนํ สาธารณตฺตา สทิสเมว วิสฺสชฺชนํ กตํ.

. อาโลกสฺาปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนานํ อนฺตราเปยฺยาเล อวิกฺเขปาทีนิ จ ฌาน สมาปตฺติกสิณานุสฺสติอสุภา จ ทีฆํ อสฺสาสาทีนิ จ อานนฺตริกสมาธิาณนิทฺเทเส (ปฏิ. ม. ๑.๘๐-๘๑) นิทฺทิฏฺตฺตา สงฺขิตฺตานิ. ตตฺถ จ อวิกฺเขปวเสนาติ ปุพฺพภาคาวิกฺเขปวเสน คเหตพฺพํ. อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสาสวเสนาติอาทิเก สุทฺธวิปสฺสนาวเสน วุตฺตจตุกฺเก ปน ตรุณวิปสฺสนากาเล วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตสมาธิปุพฺพงฺคมา พลววิปสฺสนา เวทิตพฺพา.

. วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมวาเร ปมํ อนิจฺจโตติอาทินา อารมฺมณํ อนิยเมตฺวา วิปสฺสนา วุตฺตา, ปจฺฉา รูปํ อนิจฺจโตติอาทินา อารมฺมณํ นิยเมตฺวา วุตฺตา. ตตฺถ ชาตานนฺติ ตสฺสา วิปสฺสนาย ชาตานํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ. โวสคฺคารมฺมณตาติ เอตฺถ โวสคฺโค นิพฺพานํ. นิพฺพานฺหิ สงฺขตโวสคฺคโต ปริจฺจาคโต ‘‘โวสคฺโค’’ติ วุตฺโต. วิปสฺสนา จ ตํสมฺปยุตฺตธมฺมา จ นิพฺพานนินฺนตาย อชฺฌาสยวเสน นิพฺพาเน ปติฏฺิตตฺตา นิพฺพานปติฏฺา นิพฺพานารมฺมณา. ปติฏฺาปิ หิ อาลมฺพียตีติ อารมฺมณํ นาม โหติ, นิพฺพาเน ปติฏฺฏฺเเนว นิพฺพานารมฺมณา. อฺตฺถ ปาฬิยมฺปิ หิ ปติฏฺา ‘‘อารมฺมณ’’นฺติ วุจฺจนฺติ. ยถาห – ‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, นฬาคารํ วา ติณาคารํ วา สุกฺขํ โกฬาปํ เตโรวสฺสิกํ ปุรตฺถิมาย เจปิ ทิสาย ปุริโส อาทิตฺตาย ติณุกฺกาย อุปสงฺกเมยฺย, ลเภถ อคฺคิ โอตารํ, ลเภถ อคฺคิ อารมฺมณ’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. ๔.๒๔๓). ตสฺมา ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ โวสคฺคารมฺมณตาย นิพฺพานปติฏฺาภาเวน เหตุภูเตน อุปฺปาทิโต โย จิตฺตสฺส เอกคฺคตาสงฺขาโต อุปจารปฺปนาเภโท อวิกฺเขโป, โส สมาธีติ วิปสฺสนาโต ปจฺฉา อุปฺปาทิโต นิพฺเพธภาคิโย สมาธิ นิทฺทิฏฺโ โหติ. ตสฺมาเยว หิ อิติ ปมํ วิปสฺสนา, ปจฺฉา สมโถติ วุตฺตํ.

. ยุคนทฺธนิทฺเทเส ยสฺมา เหฏฺา สุตฺตนฺตวณฺณนายํ วุตฺโต ยุคนทฺธกฺกโม ปุริมทฺวยนิทฺเทสนเยเนว ปากโฏ, มคฺคกฺขเณ ยุคนทฺธกฺกโม ปน น ปากโฏ, ตสฺมา ปุพฺพภาเค อเนกนฺติกํ ยุคนทฺธภาวนํ อวตฺวา มคฺคกฺขเณ เอกนฺเตน ลพฺภมานยุคนทฺธภาวนเมว ทสฺเสนฺโต โสฬสหิ อากาเรหีติอาทิมาห. ตตฺถ อารมฺมณฏฺเนาติอาทีสุ สตฺตรสสุ อากาเรสุ อนฺเต อุทฺทิฏฺํ ยุคนทฺธํ มูลปเทน เอกฏฺตฺตา ตํ วิปฺปหาย เสสานํ วเสน ‘‘โสฬสหี’’ติ วุตฺตํ. อารมฺมณฏฺเนาติ อาลมฺพนฏฺเน, อารมฺมณวเสนาติ อตฺโถ. เอวํ เสเสสุปิ. โคจรฏฺเนาติ อารมฺมณฏฺเปิ สติ นิสฺสยิตพฺพฏฺานฏฺเน. ปหานฏฺเนาติ ปชหนฏฺเน. ปริจฺจาคฏฺเนาติ ปหาเนปิ สติ ปุน อนาทิยเนน ปริจฺจาคฏฺเน. วุฏฺานฏฺเนาติ อุคฺคมนฏฺเน. วิวฏฺฏนฏฺเนาติ อุคฺคมเนปิ สติ อปุนราวฏฺฏเนน นิวตฺตนฏฺเน. สนฺตฏฺเนาติ นิพฺพุตฏฺเน. ปณีตฏฺเนาติ นิพฺพุตฏฺเปิ สติ อุตฺตมฏฺเน, อตปฺปกฏฺเน วา. วิมุตฺตฏฺเนาติ พนฺธนาปคตฏฺเน. อนาสวฏฺเนาติ พนฺธนโมกฺเขปิ สติ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตมานาสววิรหิตฏฺเน. ตรณฏฺเนาติ อโนสีทิตฺวา ปิลวนฏฺเน, อติกฺกมนฏฺเน วา. อนิมิตฺตฏฺเนาติ สงฺขารนิมิตฺตวิรหิตฏฺเน. อปฺปณิหิตฏฺเนาติ ปณิธิวิรหิตฏฺเน. สุฺตฏฺเนาติ อภินิเวสวิรหิตฏฺเน. เอกรสฏฺเนาติ เอกกิจฺจฏฺเน. อนติวตฺตนฏฺเนาติ อฺมฺํ อนติกฺกมนฏฺเน. ยุคนทฺธฏฺเนาติ ยุคลกฏฺเน.

อุทฺธจฺจํ ปชหโต, อวิชฺชํ ปชหโตติ โยคิโน ตสฺส ตสฺส ปฏิปกฺขปฺปหานวเสน วุตฺตํ. นิโรโธ เจตฺถ นิพฺพานเมว. อฺมฺํ นาติวตฺตนฺตีติ สมโถ เจ วิปสฺสนํ อติวตฺเตยฺย, ลีนปกฺขิกตฺตา สมถสฺส จิตฺตํ โกสชฺชาย สํวตฺเตยฺย. วิปสฺสนา เจ สมถํ อติวตฺเตยฺย, อุทฺธจฺจปกฺขิกตฺตา วิปสฺสนาย จิตฺตํ อุทฺธจฺจาย สํวตฺเตยฺย. ตสฺมา สมโถ จ วิปสฺสนํ อนติวตฺตมาโน โกสชฺชปาตํ น กโรติ, วิปสฺสนา สมถํ อนติวตฺตมานา อุทฺธจฺจปาตํ น กโรติ. สมโถ สมํ ปวตฺตมาโน วิปสฺสนํ อุทฺธจฺจปาตโต รกฺขติ, วิปสฺสนา สมํ ปวตฺตมานา สมถํ โกสชฺชปาตโต รกฺขติ. เอวมิเม อุโภ อฺมฺํ อนติวตฺตนกิจฺเจน เอกกิจฺจา, สมา หุตฺวา ปวตฺตมาเนน อฺมฺํ อนติวตฺตมานา อตฺถสิทฺธิกรา โหนฺติ. เตสํ มคฺคกฺขเณ ยุคนทฺธตฺตํ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนากฺขเณ ยุคนทฺธตฺตาเยว โหติ. ปหานปริจฺจาควุฏฺานวิวฏฺฏนกรณานํ มคฺคกิจฺจวเสน วุตฺตตฺตา สกลสฺส มคฺคกิจฺจสฺส ทสฺสนตฺถํ อุทฺธจฺจสหคตกิเลสา จ ขนฺธา จ อวิชฺชาสหคตกิเลสา จ ขนฺธา จ นิทฺทิฏฺา. เสสานํ น ตถา วุตฺตตฺตา ปฏิปกฺขธมฺมมตฺตทสฺสนวเสน อุทฺธจฺจาวิชฺชา เอว นิทฺทิฏฺา. วิวฏฺฏโตติ นิวตฺตนฺตสฺส.

สมาธิ กามาสวา วิมุตฺโต โหตีติ สมาธิสฺส กามจฺฉนฺทปฏิปกฺขตฺตา วุตฺตํ. ราควิราคาติ ราคสฺส วิราโค สมติกฺกโม เอติสฺสา อตฺถีติ ราควิราคา, ‘‘ราควิราคโต’’ติ นิสฺสกฺกวจนํ วา. ตถา อวิชฺชาวิราคา. เจโตวิมุตฺตีติ มคฺคสมฺปยุตฺโต สมาธิ. ปฺาวิมุตฺตีติ มคฺคสมฺปยุตฺตา ปฺา. ตรโตติ ตรนฺตสฺส. สพฺพปณิธีหีติ ราคโทสโมหปณิธีหิ, สพฺพปตฺถนาหิ วา. เอวํ จุทฺทส อากาเร วิสฺสชฺชิตฺวา เอกรสฏฺฺจ อนติวตฺตนฏฺฺจ อวิภชิตฺวาว อิเมหิ โสฬสหิ อากาเรหีติ อาห. กสฺมา? เตสํ จุทฺทสนฺนํ อาการานํ เอเกกสฺส อวสาเน ‘‘เอกรสา โหนฺติ, ยุคนทฺธา โหนฺติ, อฺมฺํ นาติวตฺตนฺตี’’ติ นิทฺทิฏฺตฺตา เต ทฺเวปิ อาการา นิทฺทิฏฺาว โหนฺติ. ตสฺมา ‘‘โสฬสหี’’ติ อาห. ยุคนทฺธฏฺโ ปน อุทฺเทเสปิ น ภณิโตเยวาติ.

๒. ธมฺมุทฺธจฺจวารนิทฺเทสวณฺณนา

. ธมฺมุทฺธจฺจวาเร อนิจฺจโต มนสิกโรโต โอภาโส อุปฺปชฺชตีติ อุทยพฺพยานุปสฺสนาย ิตสฺส ตีหิ อนุปสฺสนาหิ ปุนปฺปุนํ สงฺขาเร วิปสฺสนฺตสฺส วิปสฺสนฺตสฺส วิปสฺสนาาเณสุ ปริปากคเตสุ ตทงฺควเสน กิเลสปฺปหาเนน ปริสุทฺธจิตฺตสฺส อนิจฺจโต วา ทุกฺขโต วา อนตฺตโต วา มนสิการกฺขเณ วิปสฺสนาาณานุภาเวน ปกติยาว โอภาโส อุปฺปชฺชตีติ ปมํ ตาว อนิจฺจโต มนสิกโรโต โอภาโส กถิโต. อกุสโล วิปสฺสโก ตสฺมึ โอภาเส อุปฺปนฺเน ‘‘น จ วต เม อิโต ปุพฺเพ เอวรูโป โอภาโส อุปฺปนฺนปุพฺโพ, อทฺธา มคฺคํ ปตฺโตมฺหิ, ผลํ ปตฺโตมฺหี’’ติ อมคฺคํเยว ‘‘มคฺโค’’ติ, อผลเมว ‘‘ผล’’นฺติ คณฺหาติ. ตสฺส อมคฺคํ ‘‘มคฺโค’’ติ, อผลํ ‘‘ผล’’นฺติ คณฺหโต วิปสฺสนาวีถิ อุกฺกนฺตา โหติ. โส อตฺตโน วิปสฺสนาวีถึ วิสฺสชฺเชตฺวา วิกฺเขปมาปนฺโน วา โอภาสเมว ตณฺหาทิฏฺิมฺนาหิ มฺมาโน วา นิสีทติ. โส โข ปนายํ โอภาโส กสฺสจิ ภิกฺขุโน ปลฺลงฺกฏฺานมตฺตเมว โอภาเสนฺโต อุปฺปชฺชติ, กสฺสจิ อนฺโตคพฺภํ, กสฺสจิ พหิคพฺภมฺปิ, กสฺสจิ สกลวิหารํ, คาวุตํ อฑฺฒโยชนํ โยชนํ ทฺวิโยชนํ…เป… กสฺสจิ ปถวิตลโต ยาว อกนิฏฺพฺรหฺมโลกา เอกาโลกํ กุรุมาโน. ภควโต ปน ทสสหสฺสิโลกธาตุํ โอภาเสนฺโต อุทปาทิ. อยฺหิ โอภาโส จตุรงฺคสมนฺนาคเตปิ อนฺธกาเร ตํ ตํ านํ โอภาเสนฺโต อุปฺปชฺชติ.

โอภาโส ธมฺโมติ โอภาสํ อาวชฺชตีติ อยํ โอภาโส มคฺคธมฺโม ผลธมฺโมติ วา ตํ ตํ โอภาสํ มนสิ กโรติ. ตโต วิกฺเขโป อุทฺธจฺจนฺติ ตโต โอภาสโต ธมฺโมติ อาวชฺชนกรณโต วา โย อุปฺปชฺชติ วิกฺเขโป, โส อุทฺธจฺจํ นามาติ อตฺโถ. เตน อุทฺธจฺเจน วิคฺคหิตมานโสติ เตน เอวํ อุปฺปชฺชมาเนน อุทฺธจฺเจน วิโรธิตจิตฺโต, เตน วา อุทฺธจฺเจน การณภูเตน ตมฺมูลกกิเลสุปฺปตฺติยา วิโรธิตจิตฺโต วิปสฺสโก วิปสฺสนาวีถึ โอกฺกมิตฺวา วิกฺเขปํ วา ตมฺมูลกกิเลเสสุ วา ิตตฺตา อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต อุปฏฺานานิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ‘‘เตน วุจฺจติ ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตมานโส’’ติ เอวํ อิติ-สทฺโท โยเชตพฺโพ. โหติ โส สมโยติ เอวํ อสฺสาทวเสน อุปกฺกิลิฏฺจิตฺตสฺสาปิ โยคิโน สเจ อุปปริกฺขา อุปฺปชฺชติ, โส เอวํ ปชานาติ – ‘‘วิปสฺสนา นาม สงฺขารารมฺมณา, มคฺคผลานิ นิพฺพานารมฺมณานิ, อิมานิ จ จิตฺตานิ สงฺขารารมฺมณานิ, ตสฺมา นายโมภาโส มคฺโค, อุทยพฺพยานุปสฺสนาเยว นิพฺพานสฺส โลกิโก มคฺโค’’ติ มคฺคามคฺคํ ววตฺถเปตฺวา ตํ วิกฺเขปํ ปริวชฺชยิตฺวา อุทยพฺพยานุปสฺสนาย ตฺวา สาธุกํ สงฺขาเร อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต วิปสฺสติ. เอวํ อุปปริกฺขนฺตสฺส โส สมโย โหติ. เอวํ อปสฺสนฺโต ปน ‘‘มคฺคผลปฺปตฺโตมฺหี’’ติ อธิมานิโก โหติ.

ยํ ตํ จิตฺตนฺติ ยํ ตํ วิปสฺสนาจิตฺตํ. อชฺฌตฺตเมวาติ อนิจฺจานุปสฺสนาย อารมฺมเณ โคจรชฺฌตฺเตเยว. าณํ อุปฺปชฺชตีติ ตสฺเสว โยคาวจรสฺส รูปารูปธมฺเม ตุลยนฺตสฺส ตีรยนฺตสฺส วิสฺสฏฺอินฺทวชิรมิว อวิหตเวคํ ติขิณํ สูรมติวิสทํ วิปสฺสนาาณํ อุปฺปชฺชติ. ปีติ อุปฺปชฺชตีติ ตสฺเสว ตสฺมึ สมเย ขุทฺทิกา ปีติ, ขณิกา ปีติ, โอกฺกนฺติกา ปีติ, อุพฺเพคา ปีติ, ผรณา ปีตีติ อยํ ปฺจวิธา วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา ปีติ สกลสรีรํ ปูรยมานา อุปฺปชฺชติ. ปสฺสทฺธิ อุปฺปชฺชตีติ ตสฺเสว ตสฺมึ สมเย กายจิตฺตานํ เนว ทรโถ, น คารวตา, น กกฺขฬตา, น อกมฺมฺตา, น เคลฺตา, น วงฺกตา โหติ. อถ โข ปนสฺส กายจิตฺตานิ ปสฺสทฺธานิ ลหูนิ มุทูนิ กมฺมฺานิ ปคุณานิ สุวิสทานิ อุชุกานิเยว โหนฺติ. โส อิเมหิ ปสฺสทฺธาทีหิ อนุคฺคหิตกายจิตฺโต ตสฺมึ สมเย อมานุสึ นาม รตึ อนุภวติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –

‘‘สุฺาคารํ ปวิฏฺสฺส, สนฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน;

อมานุสี รตี โหติ, สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสโต.

‘‘ยโต ยโต สมฺมสติ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;

ลภตี ปีติปาโมชฺชํ, อมตํ ตํ วิชานต’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๗๓-๔) –

เอวมสฺส อิมํ อมานุสึ รตึ สาธยมานา ลหุตาทีหิ สหิตา วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา กายจิตฺตปสฺสทฺธิ อุปฺปชฺชติ. สุขํ อุปฺปชฺชตีติ ตสฺเสว ตสฺมึ สมเย สกลสรีรํ อภิสนฺทยมานํ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตํ สุขํ อุปฺปชฺชติ. อธิโมกฺโข อุปฺปชฺชตีติ ตสฺเสว ตสฺมึ สมเย จิตฺตเจตสิกานํ อติสยปสาทภูตา วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สทฺธา อุปฺปชฺชติ. ปคฺคโห อุปฺปชฺชตีติ ตสฺเสว ตสฺมึ สมเย อสิถิลมนจฺจารทฺธํ สุปคฺคหิตํ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตํ วีริยํ อุปฺปชฺชติ. อุปฏฺานํ อุปฺปชฺชตีติ ตสฺเสว ตสฺมึ สมเย สูปฏฺิตา สุปฺปติฏฺิตา นิขาตา อจลา ปพฺพตราชสทิสา วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สติ อุปฺปชฺชติ. โส ยํ ยํ านํ อาวชฺชติ สมนฺนาหรติ มนสิ กโรติ ปจฺจเวกฺขติ, ตํ ตํ านมสฺส โอกฺกนฺติตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา ทิพฺพจกฺขุโน ปรโลโก วิย สติยา อุปฏฺาติ (วิสุทฺธิ. ๒.๗๓๔).

อุเปกฺขาติ วิปสฺสนุเปกฺขา เจว อาวชฺชนุเปกฺขา จ. ตสฺมิฺหิ สมเย สพฺพสงฺขาเรสุ มชฺฌตฺตภูตา วิปสฺสนุเปกฺขาปิ พลวตี อุปฺปชฺชติ, มโนทฺวาเร อาวชฺชนุเปกฺขาปิ. สา หิสฺส ตํ ตํ านํ อาวชฺชนฺตสฺส วิสฺสฏฺอินฺทวชิรมิว ปตฺตปุเฏ ปกฺขนฺทตตฺตนาราโจ วิย จ สูรา ติขิณา หุตฺวา วหติ. เอวฺหิ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๗๓๔) วุตฺตํ. วิปสฺสนุเปกฺขาติ เจตฺถ ‘‘วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา’’ติ อาจริยา วทนฺติ. วิปสฺสนาาเณ หิ คยฺหมาเน ‘‘าณํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วิปสฺสนาาณสฺส อาคตตฺตา ปุนรุตฺติโทโส โหติ. ตติยชฺฌานวณฺณนายฺจ ‘‘สงฺขารุเปกฺขาวิปสฺสนุเปกฺขานมฺปิ อตฺถโต เอกีภาโว. ปฺา เอว หิ สา, กิจฺจวเสน ทฺวิธา ภินฺนา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตาย ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย วุจฺจมานาย ปุนรุตฺติโทโส จ น โหติ, ตติยชฺฌานวณฺณนาย จ สเมติ. ยสฺมา จ ปฺจสุ อินฺทฺริเยสุ ‘‘าณํ อธิโมกฺโข ปคฺคโห อุปฏฺาน’’นฺติ ปฺินฺทฺริยสทฺธินฺทฺริยวีริยินฺทฺริยสตินฺทฺริยานิ นิทฺทิฏฺานิ, สมาธินฺทฺริยํ ปน อนิทฺทิฏฺํ โหติ, ยุคนทฺธวเสนาปิ จ สมาธินฺทฺริยํ นิทฺทิสิตพฺพเมว โหติ, ตสฺมา สมปฺปวตฺโต สมาธิ ปุน สมาธาเน พฺยาปารปฺปหานกรเณน ‘‘อุเปกฺขา’’ติ วุตฺโตติ เวทิตพฺพํ.

นิกนฺติ อุปฺปชฺชตีติ เอวํ โอภาสาทิปฏิมณฺฑิตาย วิปสฺสนาย อาลยํ กุรุมานา สุขุมา สนฺตาการา นิกนฺติ อุปฺปชฺชติ, ยา กิเลโสติ ปริคฺคเหตุมฺปิ น สกฺกา โหติ. ยถา จ โอภาเส, เอวํ เอเตสุปิ อฺตรสฺมึ อุปฺปนฺเน โยคาวจโร ‘‘น จ วต เม อิโต ปุพฺเพ เอวรูปํ าณํ อุปฺปนฺนปุพฺพํ, เอวรูปา ปีติ ปสฺสทฺธิ สุขํ อธิโมกฺโข ปคฺคโห อุปฏฺานํ อุเปกฺขา นิกนฺติ อุปฺปนฺนปุพฺพา, อทฺธา มคฺคํ ปตฺโตมฺหิ, ผลํ ปตฺโตมฺหี’’ติ อมคฺคเมว ‘‘มคฺโค’’ติ, อผลเมว ‘‘ผล’’นฺติ คณฺหาติ. ตสฺส อมคฺคํ ‘‘มคฺโค’’ติ, อผลฺจ ‘‘ผล’’นฺติ คณฺหโต วิปสฺสนาวีถิ อุกฺกนฺตา โหติ. โส อตฺตโน มูลกมฺมฏฺานํ วิสฺสชฺเชตฺวา นิกนฺติเมว อสฺสาเทนฺโต นิสีทติ. เอตฺถ จ โอภาสาทโย อุปกฺกิเลสวตฺถุตาย อุปกฺกิเลสาติ วุตฺตา, น อกุสลตฺตา. นิกนฺติ ปน อุปกฺกิเลโส เจว อุปกฺกิเลสวตฺถุ จ. วตฺถุวเสเนว เจเต ทส, คาหวเสน ปน สมตึส โหนฺติ. กถํ? ‘‘มม โอภาโส อุปฺปนฺโน’’ติ คณฺหโต หิ ทิฏฺิคฺคาโห โหติ, ‘‘มนาโป วต โอภาโส อุปฺปนฺโน’’ติ คณฺหโต มานคฺคาโห, โอภาสํ อสฺสาทยโต ตณฺหาคฺคาโห. อิติ โอภาเส ทิฏฺิมานตณฺหาวเสน ตโย คาหา. ตถา เสเสสุปีติ เอวํ คาหวเสน สมตึส อุปกฺกิเลสา โหนฺติ. ทุกฺขโต มนสิกโรโต, อนตฺตโต มนสิกโรโตติ วาเรสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอเกกอนุปสฺสนาวเสน เหตฺถ เอเกกสฺส วิปสฺสนุปกฺกิเลสุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา, น เอกสฺเสว.

ตีสุ อนุปสฺสนาสุ. เอวํ อเภทโต วิปสฺสนาวเสน อุปกฺกิเลเส ทสฺเสตฺวา ปุน เภทวเสน ทสฺเสนฺโต รูปํ อนิจฺจโต มนสิกโรโตติอาทิมาห. ตตฺถ ชรามรณํ อนิจฺจโต อุปฏฺานนฺติ ชรามรณสฺส อนิจฺจโต อุปฏฺานํ.

. ยสฺมา ปุพฺเพ วุตฺตานํ สมตึสาย อุปกฺกิเลสานํ วเสน อกุสโล อพฺยตฺโต โยคาวจโร โอภาสาทีสุ วิกมฺปติ, โอภาสาทีสุ เอเกกํ ‘‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’ติ สมนุปสฺสติ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต โอภาเส เจว าเณ จาติอาทิคาถาทฺวยมาห. ตตฺถ วิกมฺปตีติ โอภาสาทิเก อารมฺมเณ นานากิเลสวเสน วิวิธา กมฺปติ เวธติ. เยหิ จิตฺตํ ปเวธตีติ เยหิ ปสฺสทฺธิสุเขหิ จิตฺตํ นานากิเลสวเสน นานปฺปกาเรน เวธติ กมฺปติ. ตสฺมา ปสฺสทฺธิยา สุเข เจว โยคาวจโร วิกมฺปตีติ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อุเปกฺขาวชฺชนาย เจวาติ อุเปกฺขาสงฺขาตาย อาวชฺชนาย เจว วิกมฺปติ, อาวชฺชนุเปกฺขาย เจว วิกมฺปตีติ อตฺโถ. วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๗๓๖) ปน ‘‘อุเปกฺขาวชฺชนายฺจา’’ติ วุตฺตํ. อุเปกฺขาย จาติ เหฏฺา วุตฺตปฺปการาย อุเปกฺขาย จ วิกมฺปติ, นิกนฺติยา จ วิกมฺปตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ทฺวินฺนํ อุเปกฺขานํ นิทฺทิฏฺตฺตา เหฏฺา ‘‘อุเปกฺขา อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตฏฺาเน จ อุภยถา อตฺโถ วุตฺโต. อนิจฺจานุปสฺสนาทีสุ จ เอเกกิสฺสาเยว อาวชฺชนุเปกฺขาย สพฺภาวโต เอเกกาเยว อนุปสฺสนา อนิจฺจํ อนิจฺจํ, ทุกฺขํ ทุกฺขํ, อนตฺตา อนตฺตาติ ปุนปฺปุนํ ภาวียตีติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺมา ปน กุสโล ปณฺฑิโต พฺยตฺโต พุทฺธิสมฺปนฺโน โยคาวจโร โอภาสาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ‘‘อยํ โข เม โอภาโส อุปฺปนฺโน, โส โข ปนายํ อนิจฺโจ สงฺขโต ปฏิจฺจสมุปฺปนฺโน ขยธมฺโม วยธมฺโม วิราคธมฺโม นิโรธธมฺโม’’ติ อิติ วา นํ ปฺาย ปริจฺฉินฺทติ อุปปริกฺขติ. อถ วา ปนสฺส เอวํ โหติ – สเจ โอภาโส อตฺตา ภเวยฺย, ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตุํ วฏฺเฏยฺย. อนตฺตาว ปนายํ ‘‘อตฺตา’’ติ คหิโต. ตสฺมายํ อวสวตฺตนฏฺเน อนตฺตาติ ปสฺสนฺโต ทิฏฺึ อุคฺฆาเฏติ. สเจ โอภาโส นิจฺโจ ภเวยฺย, ‘‘นิจฺโจ’’ติ คเหตุํ วฏฺเฏยฺย. อนิจฺโจว ปนายํ ‘‘นิจฺโจ’’ติ คหิโต. ตสฺมายํ หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺโจติ ปสฺสนฺโต มานํ สมุคฺฆาเฏติ. สเจ โอภาโส สุโข ภเวยฺย, ‘‘สุโข’’ติ คเหตุํ วฏฺเฏยฺย. ทุกฺโขว ปนายํ ‘‘สุโข’’ติ คหิโต. ตสฺมายํ อุปฺปาทวยปฏิปีฬนฏฺเน ทุกฺโขติ ปสฺสนฺโต นิกนฺตึ ปริยาทิยติ. ยถา จ โอภาเส, เอวํ เสเสสุปิ.

เอวํ อุปปริกฺขิตฺวา โอภาสํ ‘‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’’ติ สมนุปสฺสติ. าณํ…เป… นิกนฺตึ ‘‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’’ติ สมนุปสฺสติ. เอวํ สมนุปสฺสนฺโต โอภาสาทีสุ น กมฺปติ น เวธติ. ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อิมานิ ทส านานีติ คาถมาห. ตตฺถ ทส านานีติ โอภาสาทีนิ. ปฺา ยสฺส ปริจฺจิตาติ ยสฺส อุปกฺกิเลสวิมุตฺตาย ปฺาย ปริจิตานิ ปุนปฺปุนํ ผุฏฺานิ ปริภาวิตานิ. ธมฺมุทฺธจฺจกุสโล โหตีติ โส ปฺาย ปริจิตทสฏฺาโน โยคาวจโร ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการสฺส ธมฺมุทฺธจฺจสฺส ยถาสภาวปฏิเวเธน เฉโก โหติ. น จ สมฺโมห คจฺฉตีติ ธมฺมุทฺธจฺจกุสลตฺตาเยว ตณฺหามานทิฏฺุคฺฆาฏวเสน สมฺโมหฺจ น คจฺฉติ.

อิทานิ ปุพฺเพ วุตฺตเมว วิธึ อปเรน ปริยาเยน วิภาเวตฺวา ทสฺเสนฺโต วิกฺขิปติ เจว กิลิสฺสติ จาติอาทิคาถมาห. ตตฺถ มนฺทปฺโ โยคาวจโร โอภาสาทีสุ วิกฺเขปฺจ อวเสสกิเลสุปฺปตฺติฺจ ปาปุณาติ. มชฺฌิมปฺโ วิกฺเขปเมว ปาปุณาติ, นาวเสสกิเลสุปฺปตฺตึ, โส อธิมานิโก โหติ. ติกฺขปฺโ วิกฺเขปํ ปาปุณิตฺวาปิ ตํ อธิมานํ ปหาย วิปสฺสนํ อารภติ. อติติกฺขปฺโ น วิกฺเขปํ ปาปุณาติ, น จาวเสสกิเลสุปฺปตฺตึ. วิกฺขิปฺปติ เจวาติ เตสุ มนฺทปฺโ ธมฺมุทฺธจฺจสงฺขาตํ วิกฺเขปฺเจว ปาปุณียติ. กิลิสฺสติ จาติ ตณฺหามานทิฏฺิกิเลเสหิ กิเลสียติ จ, อุปตาปียติ วิพาธียตีติ อตฺโถ. จวติ จิตฺตภาวนาติ ตสฺส มนฺทปฺสฺส วิปสฺสนาจิตฺตภาวนา กิเลเสสุเยว านโต ปฏิปกฺขาวิหตตฺตา จวติ, ปริปตตีติ อตฺโถ. วิกฺขิปติ น กิลิสฺสตีติ มชฺฌิมปฺโ วิกฺเขเปน วิกฺขิปติ, กิเลเสหิ น กิลิสฺสติ. ภาวนา ปริหายตีติ ตสฺส มชฺฌิมปฺสฺส อธิมานิกตฺตา วิปสฺสนารมฺภาภาเวน วิปสฺสนา ปริหายติ, นปฺปวตฺตตีติ อตฺโถ. วิกฺขิปติ น กิลิสฺสตีติ ติกฺขปฺโปิ วิกฺเขเปน วิกฺขิปติ, กิเลเสหิ น กิลิสฺสติ. ภาวนา น ปริหายตีติ ตสฺส ติกฺขปฺสฺส สนฺเตปิ วิกฺเขเป ตํ อธิมานวิกฺเขปํ ปหาย วิปสฺสนารมฺภสพฺภาเวน วิปสฺสนาภาวนา น ปริหายติ, ปวตฺตตีติ อตฺโถ. น จ วิกฺขิปเต จิตฺตํ น กิลิสฺสตีติ อติติกฺขปฺสฺส จิตฺตํ น วิกฺเขเปน วิกฺขิปติ, น จ กิเลเสหิ กิลิสฺสติ. น จวติ จิตฺตภาวนาติ ตสฺส วิปสฺสนาจิตฺตภาวนา น จวติ, วิกฺเขปกิเลสาภาเวน ยถาาเน ติฏฺตีติ อตฺโถ.

อิเมหิ จตูหิ าเนหีติอาทีสุ อิทานิ วุตฺเตหิ อิเมหิ จตูหิ าเนหิ เหตุภูเตหิ, กรณภูเตหิ วา โอภาสาทิเก ทส าเน จิตฺตสฺส สงฺเขเปน จ วิกฺเขเปน จ วิคฺคหิตํ มานสํ วิกฺเขปกิเลสุปฺปตฺติวิรหิโต จตุตฺโถ กุสโล มหาปฺโ โยคาวจโร มนฺทปฺาทีนํ ติณฺณํ โยคาวจรานํ มานสํ เอวฺจ เอวฺจ โหตีติ นานปฺปการโต ชานาตีติ สมฺพนฺธโต อตฺถวณฺณนา เวทิตพฺพา. สงฺเขโปติ เจตฺถ วิกฺเขปสฺส เจว กิเลสานฺจ อุปฺปตฺติวเสน จิตฺตสฺส ลีนภาโว เวทิตพฺโพ. วิกฺเขโปติ ‘‘วิกฺขิปติ น กิลิสฺสตี’’ติ ทฺวีสุ าเนสุ วุตฺตวิกฺเขปวเสน จิตฺตสฺส อุทฺธตภาโว เวทิตพฺโพติ.

ยุคนทฺธกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สจฺจกถา

สจฺจกถาวณฺณนา

. อิทานิ ยุคนทฺธคุณสฺส อริยมคฺคสฺส วเสน สจฺจฏฺํ สจฺจปฏิเวธวิเสสํ สจฺจลกฺขณาทิวิธานฺจ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย สจฺจกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ตาว ตถานีติ ยถาสภาววเสน ตจฺฉานิ. ยถาสภาวภูตาเนว หิ ธมฺมชาตานิ สจฺจฏฺเน สจฺจานิ. สจฺจฏฺโ ปมาณนิทฺเทสวณฺณนายํ วุตฺโต. อวิตถานีติ วุตฺตสภาเว วิปริยายวิรหิตานิ. น หิ สจฺจานิ อสจฺจานิ นาม โหนฺติ. อนฺถานีติ อฺสภาววิรหิตานิ. น หิ อสจฺจานิ สจฺจานิ นาม โหนฺติ. อิทํ ทุกฺขนฺติ, ภิกฺขเว, ตถเมตนฺติ ภิกฺขเว, อิทํ ทุกฺขนฺติ ยํ วุจฺจติ, เอตํ ยถาสภาวตฺตา ตถํ. ทุกฺขเมว หิ ทุกฺขํ. วุตฺตสภาเว วิปริยายาภาวโต อวิตถํ. น หิ ทุกฺขํ อทุกฺขํ นาม โหติ. อฺสภาววิรหิตตฺตา อนฺถํ. น หิ ทุกฺขํ สมุทยาทิสภาวํ โหติ. สมุทยาทีสุปิ เอเสว นโย.

๑. ปมสุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา

ตถฏฺเนาติ ยถาสภาวฏฺเน. ปีฬนฏฺาทโย าณกถายํ วุตฺตตฺถาเยว.

. เอกปฺปฏิเวธานีติ เอเกน มคฺคาเณน ปฏิเวโธ, เอกโต วา ปฏิเวโธ เอเตสนฺติ เอกปฺปฏิเวธานิ. อนตฺตฏฺเนาติ จตุนฺนมฺปิ สจฺจานํ อตฺตวิรหิตตฺตา อนตฺตฏฺเน. วุตฺตฺเหตํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๕๖๗) – ปรมตฺถโต หิ สพฺพาเนว สจฺจานิ เวทกการกนิพฺพุตคมกาภาวโต สุฺานีติ เวทิตพฺพานิ. เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘ทุกฺขเมว หิ, น โกจิ ทุกฺขิโต, การโก น, กิริยาว วิชฺชติ;

อตฺถิ นิพฺพุติ, น นิพฺพุโต ปุมา, มคฺคมตฺถิ, คมโก น วิชฺชตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๒.๕๖๗);

อถ วา –

‘‘ธุวสุภสุขตฺตสุฺํ, ปุริมทฺวยมตฺตสุฺมมตปทํ;

ธุวสุขอตฺตวิรหิโต, มคฺโค อิติ สุฺตา เตสู’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๒.๕๖๗);

สจฺจฏฺเนาติ อวิสํวาทกฏฺเน. ปฏิเวธฏฺเนาติ มคฺคกฺขเณ ปฏิวิชฺฌิตพฺพฏฺเน. เอกสงฺคหิตานีติ ตถฏฺาทินา เอเกเกเนว อตฺเถน สงฺคหิตานิ, เอกคณนํ คตานีติ อตฺโถ. ยํ เอกสงฺคหิตํ, ตํ เอกตฺตนฺติ ยสฺมา เอเกน สงฺคหิตํ, ตสฺมา เอกตฺตนฺติ อตฺโถ. สจฺจานํ พหุตฺเตปิ เอกตฺตมเปกฺขิตฺวา เอกวจนํ กตํ. เอกตฺตํ เอเกน าเณน ปฏิวิชฺฌตีติ ปุพฺพภาเค จตุนฺนํ สจฺจานํ นานตฺเตกตฺตํ สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปตฺวา ิโต มคฺคกฺขเณ เอเกน มคฺคาเณน ตถฏฺาทิตํตํเอกตฺตํ ปฏิวิชฺฌติ. กถํ? นิโรธสจฺจสฺส ตถฏฺาทิเก เอกตฺเต ปฏิวิทฺเธ เสสสจฺจานมฺปิ ตถฏฺาทิกํ เอกตฺตํ ปฏิวิทฺธเมว โหติ. ยถา ปุพฺพภาเค ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ นานตฺเตกตฺตํ สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปตฺวา ิตสฺส มคฺควุฏฺานกาเล อนิจฺจโต วา ทุกฺขโต วา อนตฺตโต วา วุฏฺหนฺตสฺส เอกสฺมิมฺปิ ขนฺเธ อนิจฺจาทิโต ทิฏฺเ เสสขนฺธาปิ อนิจฺจาทิโต ทิฏฺาว โหนฺติ, เอวมิทนฺติ ทฏฺพฺพํ. ทุกฺขสฺส ทุกฺขฏฺโ ตถฏฺโติ ทุกฺขสจฺจสฺส ปีฬนฏฺาทิโก จตุพฺพิโธ อตฺโถ สภาวฏฺเน ตถฏฺโ. เสสสจฺเจสุปิ เอเสว นโย. โสเยว จตุพฺพิโธ อตฺโถ อตฺตาภาวโต อนตฺตฏฺโ. วุตฺตสภาเว อวิสํวาทกโต สจฺจฏฺโ. มคฺคกฺขเณ ปฏิวิชฺฌิตพฺพโต ปฏิเวธฏฺโ วุตฺโตติ เวทิตพฺพํ.

๑๐. ยํ อนิจฺจนฺติอาทิ สามฺลกฺขณปุพฺพงฺคมํ กตฺวา ทสฺสิตํ. ตตฺถ ยํ อนิจฺจํ, ตํ ทุกฺขํ. ยํ ทุกฺขํ, ตํ อนิจฺจนฺติ ทุกฺขสมุทยมคฺคา คหิตา. ตานิ หิ ตีณิ สจฺจานิ อนิจฺจานิ เจว อนิจฺจตฺตา ทุกฺขานิ จ. ยํ อนิจฺจฺจ ทุกฺขฺจ, ตํ อนตฺตาติ ตานิเยว ตีณิ คหิตานิ. ยํ อนิจฺจฺจ ทุกฺขฺจ อนตฺตา จาติ เตหิ ตีหิ สห นิโรธสจฺจฺจ สงฺคหิตํ. จตฺตาริปิ หิ อนตฺตาเยว. ตํ ตถนฺติ ตํ สจฺจจตุกฺกํ สภาวภูตํ. ตํ สจฺจนฺติ ตเทว สจฺจจตุกฺกํ ยถาสภาเว อวิสํวาทกํ. นวหากาเรหีติอาทีสุ ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อภิฺเยฺย’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๓; สํ. นิ. ๔.๔๖) วจนโต อภิฺฏฺเน, ทุกฺขสฺส ปริฺฏฺเ, สมุทยสฺส ปหานฏฺเ, มคฺคสฺส ภาวนฏฺเ, นิโรธสฺส สจฺฉิกิริยฏฺเ อาเวนิเกปิ อิธ จตูสุปิ สจฺเจสุ าตปริฺาสพฺภาวโต ปริฺฏฺเน, จตุสจฺจทสฺสเนน ปหานสพฺภาวโต ปหานฏฺเน, จตุสจฺจภาวนาสพฺภาวโต ภาวนฏฺเน, จตุนฺนํ สจฺจานํ สจฺฉิกิริยสพฺภาวโต สจฺฉิกิริยฏฺเนาติ นิทฺทิฏฺนฺติ เวทิตพฺพํ. นวหากาเรหิ ตถฏฺเนาติอาทีสุ ปมํ วุตฺตนเยเนว โยชนา กาตพฺพา.

๑๑. ทฺวาทสหิ อากาเรหีติอาทีสุ ตถฏฺาทโย าณกถายํ วุตฺตตฺถา. เอเตสํ นิทฺเทเสปิ วุตฺตนเยเนว โยชนา เวทิตพฺพา.

๑๒. สจฺจานํ กติ ลกฺขณานีติอาทีสุ อุปริ วตฺตพฺพานิ ฉ ลกฺขณานิ สงฺขตาสงฺขตวเสน ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา ทฺเว ลกฺขณานีติ อาห. ตตฺถ สงฺขตลกฺขณฺจ อสงฺขตลกฺขณฺจาติ ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, สงฺขตสฺส สงฺขตลกฺขณานิ อุปฺปาโท ปฺายติ, วโย ปฺายติ, ิตสฺส อฺถตฺตํ ปฺายติ. ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อสงฺขตสฺส อสงฺขตลกฺขณานิ น อุปฺปาโท ปฺายติ, น วโย ปฺายติ, น ิตสฺส อฺถตฺตํ ปฺายตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๔๗-๔๘) เอวํ วุตฺตํ สงฺขตสฺส สงฺขตมิติ ลกฺขณฺจ อสงฺขตสฺส อสงฺขตมิติ ลกฺขณฺจ. สงฺขตํ ปน น ลกฺขณํ, ลกฺขณํ น สงฺขตํ. น จ สงฺขตํ วินา ลกฺขณํ ปฺาเปตุํ สกฺกา, นปิ ลกฺขณํ วินา สงฺขตํ. ลกฺขเณน ปน สงฺขตํ ปากฏํ โหติ.

ปุน ตเทว ลกฺขณทฺวยํ วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต ฉ ลกฺขณานีติ อาห. สงฺขตานํ สจฺจานนฺติ ทุกฺขสมุทยมคฺคสจฺจานํ. ตานิ หิ ปจฺจเยหิ สงฺคมฺม กตตฺตา สงฺขตานิ. อุปฺปาโทติ ชาติ. ปฺายตีติ ชานียติ. วโยติ ภงฺโค. ิตานํ อฺถตฺตนฺติ ิติปฺปตฺตานํ อฺถาภาโว ชรา. ติณฺณํ สงฺขตสจฺจานํ นิปฺผนฺนตฺตา อุปฺปาทวยฺถตฺตํ วุตฺตํ, เตสํเยว ปน อุปฺปาทสฺส, ชราย ภงฺคสฺส จ อนิปฺผนฺนตฺตา อุปฺปาทวยฺถตฺตํ น วตฺตพฺพํ. สงฺขตนิสฺสิตตฺตา อุปฺปาทวยฺถตฺตํ น ปฺายตีติ น วตฺตพฺพํ. สงฺขตวิการตฺตา ปน สงฺขตนฺติ วตฺตพฺพํ. ทุกฺขสมุทยานํ อุปฺปาทชราภงฺคา สจฺจปริยาปนฺนา, มคฺคสจฺจสฺส อุปฺปาทชราภงฺคา น สจฺจปริยาปนฺนาติ วทนฺติ. ตตฺถ ‘‘สงฺขตานํ อุปฺปาทกฺขเณ สงฺขตาปิ อุปฺปาทลกฺขณมฺปิ กาลสงฺขาโต ตสฺส ขโณปิ ปฺายติ, อุปฺปาเท วีติวตฺเต สงฺขตาปิ ชราลกฺขณมฺปิ กาลสงฺขาโต ตสฺส ขโณปิ ปฺายติ, ภงฺคกฺขเณ สงฺขตาปิ ชราปิ ภงฺคลกฺขณมฺปิ กาลสงฺขาโต ตสฺส ขโณปิ ปฺายตี’’ติ ขนฺธกวคฺคฏฺกถายํ (สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๓.๓๗-๓๘) วุตฺตํ. อสงฺขตสฺส สจฺจสฺสาติ นิโรธสจฺจสฺส. ตฺหิ ปจฺจเยหิ สมาคมฺม อกตตฺตา สยเมว นิปฺผนฺนนฺติ อสงฺขตํ. ิตสฺสาติ นิจฺจตฺตา ิตสฺส, น านปฺปตฺตตฺตา. ปุน ตเทว ลกฺขณทฺวยํ วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต ทฺวาทส ลกฺขณานีติ อาห.

จตุนฺนํ สจฺจานํ กติ กุสลาติอาทีสุ อพฺยากตนฺติ วิปากาพฺยากตํ กิริยาพฺยากตํ รูปาพฺยากตํ นิพฺพานาพฺยากตนฺติ จตูสุ อพฺยากเตสุ นิพฺพานาพฺยากตํ. จตฺตาริปิ หิ กุสลากุสลลกฺขเณน น พฺยากตตฺตา อพฺยากตานิ. สิยา กุสลนฺติ กามาวจรรูปาวจรารูปาวจรกุสลานํ วเสน กุสลมฺปิ ภเวยฺย. สิยา อกุสลนฺติ ตณฺหํ เปตฺวา เสสากุสลวเสน. สิยา อพฺยากตนฺติ กามาวจรรูปาวจรารูปาวจรวิปากกิริยานํ รูปานฺจ วเสน. สิยา ตีณิ สจฺจานีติอาทีสุ สงฺคหิตานีติ คณิตานิ. วตฺถุวเสนาติ อกุสลกุสลาพฺยากตทุกฺขสมุทยนิโรธมคฺคสงฺขาตวตฺถุวเสน. ยํ ทุกฺขสจฺจํ อกุสลนฺติ เปตฺวา ตณฺหํ อวเสสํ อกุสลํ. อกุสลฏฺเน ทฺเว สจฺจานิ เอกสจฺเจน สงฺคหิตานีติ อิมานิ ทฺเว ทุกฺขสมุทยสจฺจานิ อกุสลฏฺเน เอกสจฺเจน สงฺคหิตานิ, อกุสลสจฺจํ นาม โหตีติ อตฺโถ. เอกสจฺจํ ทฺวีหิ สจฺเจหิ สงฺคหิตนฺติ เอกํ อกุสลสจฺจํ ทฺวีหิ ทุกฺขสมุทยสจฺเจหิ สงฺคหิตํ. ยํ ทุกฺขสจฺจํ กุสลนฺติ เตภูมกํ กุสลํ. อิมานิ ทฺเว ทุกฺขมคฺคสจฺจานิ กุสลฏฺเน เอกสจฺเจน สงฺคหิตานิ, กุสลสจฺจํ นาม โหติ. เอกํ กุสลสจฺจํ ทฺวีหิ ทุกฺขมคฺคสจฺเจหิ สงฺคหิตํ. ยํ ทุกฺขสจฺจํ อพฺยากตนฺติ เตภูมกวิปากกิริยา รูปฺจ. อิมานิ ทฺเว ทุกฺขนิโรธสจฺจานิ อพฺยากตฏฺเน เอกสจฺเจน สงฺคหิตานิ, เอกํ อพฺยากตสจฺจํ นาม โหติ. เอกํ อพฺยากตสจฺจํ ทฺวีหิ ทุกฺขนิโรธสจฺเจหิ สงฺคหิตํ. ตีณิ สจฺจานิ เอกสจฺเจน สงฺคหิตานีติ สมุทยมคฺคนิโรธสจฺจานิ เอเกน อกุสลกุสลาพฺยากตภูเตน ทุกฺขสจฺเจน สงฺคหิตานิ. เอกํ สจฺจํ ตีหิ สจฺเจหิ สงฺคหิตนฺติ เอกํ ทุกฺขสจฺจํ วิสุํ อกุสลกุสลอพฺยากตภูเตหิ สมุทยมคฺคนิโรธสจฺเจหิ สงฺคหิตํ. เกจิ ปน ‘‘ทุกฺขสมุทยสจฺจานิ อกุสลฏฺเน สมุทยสจฺเจน สงฺคหิตานิ, ทุกฺขมคฺคสจฺจานิ กุสลฏฺเน มคฺคสจฺเจน สงฺคหิตานิ, น ทสฺสนฏฺเน. ทุกฺขนิโรธสจฺจานิ อพฺยากตฏฺเน นิโรธสจฺเจน สงฺคหิตานิ, น อสงฺขตฏฺเนา’’ติ วณฺณยนฺติ.

๒. ทุติยสุตฺตนฺตปาฬิวณฺณนา

๑๓. ปุน อฺสฺส สุตฺตนฺตสฺส อตฺถวเสน สจฺจปฺปฏิเวธํ นิทฺทิสิตุกาโม ปุพฺเพ เม, ภิกฺขเวติอาทิกํ สุตฺตนฺตํ อาหริตฺวา ทสฺเสสิ. ตตฺถ ปุพฺเพ เม, ภิกฺขเว, สมฺโพธาติ ภิกฺขเว, มม สมฺโพธิโต สพฺพฺุตฺาณโต ปุพฺเพ. อนภิสมฺพุทฺธสฺสาติ สพฺพธมฺเม อปฺปฏิวิทฺธสฺส. โพธิสตฺตสฺเสว สโตติ โพธิสตฺตภูตสฺเสว. เอตทโหสีติ โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺนสฺส เอตํ ปริวิตกฺกิตํ อโหสิ. อสฺสาโทติ อสฺสาทียตีติ อสฺสาโท. อาทีนโวติ โทโส. นิสฺสรณนฺติ อปคมนํ. สุขนฺติ สุขยตีติ สุขํ, ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ สุขิตํ กโรตีติ อตฺโถ. โสมนสฺสนฺติ ปีติโสมนสฺสโยคโต โสภนํ มโน อสฺสาติ สุมโน, สุมนสฺส ภาโว โสมนสฺสํ, สุขเมว ปีติโยคโต วิเสสิตํ. อนิจฺจนฺติ อทฺธุวํ. ทุกฺขนฺติ ทุกฺขวตฺถุตฺตา สงฺขารทุกฺขตฺตา จ ทุกฺขํ. วิปริณามธมฺมนฺติ อวสี หุตฺวา ชราภงฺควเสน ปริวตฺตนปกติกํ. เอเตน อนตฺตภาโว วุตฺโต โหติ. ฉนฺทราควินโยติ ฉนฺทสงฺขาตสฺส ราคสฺส สํวรณํ, น วณฺณราคสฺส. ฉนฺทราคปฺปหานนฺติ ตสฺเสว ฉนฺทราคสฺส ปชหนํ.

ยาวกีวฺจาติอาทีสุ ยาว อิเมสํ ปฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ…เป… ยถาภูตํ นาพฺภฺาสึ น อธิเกน าเณน ปฏิวิชฺฌึ, ตาว อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อนุตฺตรํ สพฺพฺุภาวํ อภิสมฺพุทฺโธ อภิสเมตาวี อรหนฺติ เนวาหํ ปจฺจฺาสึ เนว ปฏิฺํ อกาสินฺติ สมฺพนฺธโต อตฺโถ. กีวฺจาติ นิปาตมตฺตํ. ยโตติ ยสฺมา, ยทา วา. อถาติ อนนฺตรํ. าณฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทีติ ทสฺสนกิจฺจกรเณน ทสฺสนสงฺขาตํ ปจฺจเวกฺขณาณฺจ เม อุปฺปชฺชิ. อกุปฺปาติ โกเปตุํ จาเลตุํ อสกฺกุเณยฺยา. วิมุตฺตีติ อรหตฺตผลวิมุตฺติ. เอตาย เอว ผลปจฺจเวกฺขณาย มคฺคนิพฺพานปจฺจเวกฺขณาปิ วุตฺตาว โหนฺติ. อยมนฺติมา ชาตีติ อยํ ปจฺฉิมา ขนฺธปฺปวตฺติ. นตฺถิทานิ ปุนพฺภโวติ อิทานิ ปุน อุปฺปตฺติ นตฺถิ. เอเตน ปหีนกิเลสปจฺจเวกฺขณา วุตฺตา. อรหโต หิ อวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขณา น โหติ.

๓. ทุติยสุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา

๑๔. สจฺจปฺปฏิเวธาณโยชนกฺกเม จ อยํ รูปสฺส อสฺสาโทติ ปหานปฺปฏิเวโธติ ปุพฺพภาเค ‘‘อยํ ตณฺหาสมฺปยุตฺโต รูปสฺส อสฺสาโท’’ติ ตฺวา มคฺคกฺขเณ สมุทยปฺปหานสงฺขาโต สมุทยสจฺจปฺปฏิเวโธ. สมุทยสจฺจนฺติ สมุทยสจฺจปฺปฏิเวธาณํ. อริยสจฺจารมฺมณาณมฺปิ หิ ‘‘เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สพฺเพ เต จตูสุ อริยสจฺเจสุ สงฺคหํ คจฺฉนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๐๐) วิย ‘‘สจฺจ’’นฺติ วุจฺจติ. อยํ รูปสฺส อาทีนโวติ ปริฺาปฏิเวโธติ ปุพฺพภาเค ‘‘อยํ รูปสฺส อาทีนโว’’ติ ตฺวา มคฺคกฺขเณ ทุกฺขปริฺาสงฺขาโต ทุกฺขสจฺจปฺปฏิเวโธ. ทุกฺขสจฺจนฺติ ทุกฺขสจฺจปฺปฏิเวธาณํ. อิทํ รูปสฺส นิสฺสรณนฺติ สจฺฉิกิริยาปฏิเวโธติ ปุพฺพภาเค ‘‘อิทํ รูปสฺส นิสฺสรณ’’นฺติ ตฺวา มคฺคกฺขเณ นิโรธสจฺฉิกิริยาสงฺขาโต นิโรธสจฺจปฺปฏิเวโธ. นิโรธสจฺจนฺติ นิโรธสจฺจารมฺมณํ นิโรธสจฺจปฺปฏิเวธาณํ. ยา อิเมสุ ตีสุ าเนสูติ อิเมสุ ยถาวุตฺเตสุ ตีสุ สมุทยทุกฺขนิโรเธสุ ปฏิเวธวเสน ปวตฺตา ยา ทิฏฺิ โย สงฺกปฺโปติ โยชนา. ภาวนาปฏิเวโธติ อยํ มคฺคภาวนาสงฺขาโต มคฺคสจฺจปฺปฏิเวโธ. มคฺคสจฺจนฺติ มคฺคสจฺจปฺปฏิเวธาณํ.

๑๕. ปุน อปเรน ปริยาเยน สจฺจานิ จ สจฺจปฺปฏิเวธฺจ ทสฺเสนฺโต สจฺจนฺติ กติหากาเรหิ สจฺจนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา สพฺเพปิ สพฺพฺุโพธิสตฺตา โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺนา ชรามรณาทิกสฺส ทุกฺขสจฺจสฺส ชาติอาทิกํ สมุทยสจฺจํ ‘‘กึ นุ โข’’ติ เอสนฺติ, ตถา เอสนฺตา จ ชรามรณาทิกสฺส ทุกฺขสจฺจสฺส ชาติอาทิกํ สมุทยสจฺจํ ‘‘ปจฺจโย’’ติ ววตฺถเปนฺโต ปริคฺคณฺหนฺติ, ตสฺมา สา จ เอสนา โส จ ปริคฺคโห สจฺจานํ เอสนตฺตา ปริคฺคหตฺตา จ ‘‘สจฺจ’’นฺติ กตฺวา เอสนฏฺเน ปริคฺคหฏฺเนาติ วุตฺตํ. อยฺจ วิธิ ปจฺเจกพุทฺธานมฺปิ ปจฺจยปริคฺคเห ลพฺภติเยว, สาวกานํ ปน อนุสฺสววเสน ปจฺจยปริคฺคเห ลพฺภติ. ปฏิเวธฏฺเนาติ ปุพฺพภาเค ตถา เอสิตานํ ปริคฺคหิตานฺจ มคฺคกฺขเณ เอกปฏิเวธฏฺเน.

กึนิทานนฺติอาทีสุ นิทานาทีนิ สพฺพานิ การณเววจนานิ. การณฺหิ ยสฺมา ผลํ นิเทติ ‘‘หนฺท นํ คณฺหถา’’ติ อปฺเปติ วิย, ตสฺมา ‘‘นิทาน’’นฺติ วุจฺจติ. ยสฺมา ผลํ ตโต สมุเทติ, ชายติ, ปภวติ; ตสฺมา สมุทโย, ชาติ, ปภโวติ วุจฺจติ. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – กึ นิทานํ เอตสฺสาติ กึนิทานํ. โก สมุทโย เอตสฺสาติ กึสมุทยํ. กา ชาติ เอตสฺสาติ กึชาติกํ. โก ปภโว เอตสฺสาติ กึปภวํ. ยสฺมา ปน ตสฺส ชาติ ยถาวุตฺเตน อตฺเถน นิทานฺเจว สมุทโย จ ชาติ จ ปภโว จ, ตสฺมา ชาตินิทานนฺติอาทิมาห. ชรามรณนฺติ ทุกฺขสจฺจํ. ชรามรณสมุทยนฺติ ตสฺส ปจฺจยํ สมุทยสจฺจํ. ชรามรณนิโรธนฺติ นิโรธสจฺจํ. ชรามรณนิโรธคามินึ ปฏิปทนฺติ มคฺคสจฺจํ. อิมินาว นเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๑๖. นิโรธปฺปชานนาติ อารมฺมณกรเณน นิโรธสฺส ปชานนา. ชาติ สิยา ทุกฺขสจฺจํ, สิยา สมุทยสจฺจนฺติ ภวปจฺจยา ปฺายนฏฺเน ทุกฺขสจฺจํ, ชรามรณสฺส ปจฺจยฏฺเน สมุทยสจฺจํ. เอส นโย เสเสสุปิ. อวิชฺชา สิยา ทุกฺขสจฺจนฺติ ปน อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทยฏฺเนาติ.

สจฺจกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. โพชฺฌงฺคกถา

โพชฺฌงฺคกถาวณฺณนา

๑๗. อิทานิ สจฺจปฺปฏิเวธสิทฺธํ โพชฺฌงฺควิเสสํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย โพชฺฌงฺคกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ตาว โพชฺฌงฺคาติ โพธิยา, โพธิสฺส วา องฺคาติ โพชฺฌงฺคา. กึ วุตฺตํ โหติ (สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๑๘๒) – ยา หิ อยํ ธมฺมสามคฺคี, ยาย โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ อุปฺปชฺชมานาย ลีนุทฺธจฺจปติฏฺานายูหนกามสุขตฺตกิลมถานุโยคอุจฺเฉทสสฺสตาภินิเวสาทีนํ อเนเกสํ อุปทฺทวานํ ปฏิปกฺขภูตาย สติธมฺมวิจยวีริยปีติปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสงฺขาตาย ธมฺมสามคฺคิยา อริยสาวโก พุชฺฌตีติ กตฺวา โพธีติ วุจฺจติ, พุชฺฌตีติ กิเลสสนฺตานนิทฺทาย วุฏฺหติ, จตฺตาริ วา อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ, นิพฺพานเมว วา สจฺฉิกโรตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห – ‘‘สตฺต โพชฺฌงฺเค ภาเวตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๗๘; ที. นิ. ๓.๑๔๓). ตสฺสา ธมฺมสามคฺคีสงฺขาตาย โพธิยา องฺคาติ โพชฺฌงฺคา ฌานงฺคมคฺคงฺคาทโย วิย. โยเปส ยถาวุตฺตปฺปการาย เอตาย ธมฺมสามคฺคิยา พุชฺฌตีติ กตฺวา อริยสาวโก โพธีติ วุจฺจติ, ตสฺส โพธิสฺส องฺคาติปิ โพชฺฌงฺคา เสนงฺครถงฺคาทโย วิย. เตนาหุ อฏฺกถาจริยา ‘‘พุชฺฌนกสฺส ปุคฺคลสฺส องฺคาติ โพชฺฌงฺคา’’ติ. สติสมฺโพชฺฌงฺคาทีนํ อตฺโถ อภิฺเยฺยนิทฺเทเส วุตฺโต.

โพชฺฌงฺคตฺถนิทฺเทเส โพธาย สํวตฺตนฺตีติ พุชฺฌนตฺถาย สํวตฺตนฺติ. กสฺส พุชฺฌนตฺถาย? มคฺคผเลหิ นิพฺพานสฺส ปจฺจเวกฺขณาย กตกิจฺจสฺส พุชฺฌนตฺถาย, มคฺเคน วา กิเลสนิทฺทาโต ปพุชฺฌนตฺถาย ผเลน ปพุทฺธภาวตฺถายาปีติ วุตฺตํ โหติ. พลววิปสฺสนายปิ โพชฺฌงฺคา โพธาย สํวตฺตนฺติ. ตสฺมา อยํ วิปสฺสนามคฺคผลโพชฺฌงฺคานํ สาธารณตฺโถ. ตีสุปิ หิ าเนสุ โพธาย นิพฺพานปฏิเวธาย สํวตฺตนฺติ. เอเตน โพธิยา องฺคาติ โพชฺฌงฺคาติ วุตฺตํ โหติ. พุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคาติอาทีหิ ปฺจหิ จตุกฺเกหิ วุตฺตานํ โพชฺฌงฺคานํ อุปฺปตฺติฏฺานํ อภิฺเยฺยนิทฺเทเส วุตฺตํ. อปิ จ พุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคานํ สกิจฺจกรเณ สมตฺถภาวทสฺสนตฺถํ กตฺตุนิทฺเทโส. พุชฺฌนฏฺเนาติ สกิจฺจกรณสมตฺถตฺเตปิ สติ กตฺตุโน อภาวทสฺสนตฺถํ ภาวนิทฺเทโส. โพเธนฺตีติ โพชฺฌงฺคภาวนาย พุชฺฌนฺตานํ โยคีนํ ปโยชกตฺตา โพชฺฌงฺคานํ เหตุกตฺตุนิทฺเทโส. โพธนฏฺเนาติ ปมํ วุตฺตนเยเนว ปโยชกเหตุกตฺตุนา ภาวนิทฺเทโส. เอเตหิ โพธิยา องฺคา โพชฺฌงฺคาติ วุตฺตํ โหติ. โพธิปกฺขิยฏฺเนาติ พุชฺฌนฏฺเน โพธีติ ลทฺธนามสฺส โยคิสฺส ปกฺเข ภวตฺตา. อยเมเตสํ โยคิโน อุปการกตฺตนิทฺเทโส. เอเตหิ โพธิสฺส องฺคาติ โพชฺฌงฺคาติ วุตฺตํ โหติ. พุทฺธิลภนฏฺเนาติอาทิเก ฉกฺเก พุทฺธิลภนฏฺเนาติ โยคาวจเรน พุทฺธิยา ปาปุณนฏฺเน. โรปนฏฺเนาติ สตฺตานํ ปติฏฺาปนฏฺเน. ปาปนฏฺเนาติ ปติฏฺาปิตาย นิฏฺาปนฏฺเน. อิเม วิปสฺสนาโพชฺฌงฺคา ปติ-อภิ-สํ-อิติ ตีหิ อุปสคฺเคหิ วิเสสิตา มคฺคผลโพชฺฌงฺคาติ วทนฺติ. สพฺเพสมฺปิ ธมฺมโวหาเรน นิทฺทิฏฺานํ โพชฺฌงฺคานํ โพธิยา องฺคาติ โพชฺฌงฺคาติ วุตฺตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.

มูลมูลกาทิทสกวณฺณนา

๑๘. มูลฏฺเนาติอาทิเก มูลมูลเก ทสเก มูลฏฺเนาติ วิปสฺสนาทีสุ ปุริมา ปุริมา โพชฺฌงฺคา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ โพชฺฌงฺคานฺจ สหชาตธมฺมานฺจ อฺมฺฺจ มูลฏฺเน. มูลจริยฏฺเนาติ มูลํ หุตฺวา จริยา ปวตฺติ มูลจริยา. เตน มูลจริยฏฺเน, มูลํ หุตฺวา ปวตฺตนฏฺเนาติ อตฺโถ. มูลปริคฺคหฏฺเนาติ เต เอว โพชฺฌงฺคา อาทิโต ปภุติ อุปฺปาทนตฺถาย ปริคยฺหมานตฺตา ปริคฺคหา, มูลานิเยว ปริคฺคหา มูลปริคฺคหา. เตน มูลปริคฺคหฏฺเน. เต เอว อฺมฺํ ปริวารวเสน ปริวารฏฺเน. ภาวนาปาริปูริวเสน ปริปูรณฏฺเน. นิฏฺํ ปาปุณนวเสน ปริปากฏฺเน. เต เอว มูลานิ จ ฉพฺพิธา ปเภทภินฺนตฺตา ปฏิสมฺภิทา จาติ มูลปฏิสมฺภิทา. เตน มูลปฏิสมฺภิทฏฺเน. มูลปฏิสมฺภิทาปาปนฏฺเนาติ โพชฺฌงฺคภาวนานุยุตฺตสฺส โยคิโน ตํ มูลปฏิสมฺภิทํ ปาปนฏฺเน. ตสฺเสว โยคิโน ตสฺสา มูลปฏิสมฺภิทาย วสีภาวฏฺเน. เสเสสุปิ อีทิเสสุ ปุคฺคลโวหาเรสุ โพธิสฺส องฺคาติ โพชฺฌงฺคาติ วุตฺตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. มูลปฏิสมฺภิทาย วสีภาวปฺปตฺตานมฺปีติ อีทิเสสุปิ นิฏฺาวจเนสุ ผลโพชฺฌงฺคาติ เวทิตพฺพํ. วสีภาวํ ปตฺตานนฺติปิ ปาโ.

มูลมูลกทสกํ นิฏฺิตํ.

เสเสสุปิ เหตุมูลกาทีสุ นวสุ ทสเกสุ อิมินาว นเยน สาธารณวจนานํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อสาธารเณสุ ปน ยถาวุตฺตา เอว โพชฺฌงฺคา ยถาวุตฺตานํ ธมฺมานํ ชนกตฺตา เหตู นาม โหนฺติ. อุปตฺถมฺภกตฺตา ปจฺจยา นาม. เต เอว ตทงฺคสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธิวิสุทฺธิภูตตฺตา วิสุทฺธิ นาม. วชฺชวิรหิตตฺตา อนวชฺชา นาม. ‘‘สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา เนกฺขมฺม’’นฺติ วจนโต เนกฺขมฺมํ นาม. กิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา ตทงฺควิมุตฺติอาทิวเสน วิมุตฺติ นาม. มคฺคผลโพชฺฌงฺคา วิสยีภูเตหิ อาสเวหิ วิรหิตตฺตา อนาสวา. ติวิธาปิ โพชฺฌงฺคา กิเลเสหิ สุฺตฺตา ตทงฺควิเวกาทิวเสน วิเวกา. วิปสฺสนามคฺคโพชฺฌงฺคา ปริจฺจาคโวสคฺคตฺตา ปกฺขนฺทนโวสคฺคตฺตา จ โวสคฺคา. ผลโพชฺฌงฺคา ปกฺขนฺทนโวสคฺคตฺตา โวสคฺคา.

๑๙. มูลฏฺํ พุชฺฌนฺตีติอาทโย เอเกกปทวเสน นิทฺทิฏฺา นว ทสกา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. วสีภาวปฺปตฺตานนฺติ ปทํ ปน วตฺตมานวจนาภาเวน น โยชิตํ. ปริคฺคหฏฺาทโย อภิฺเยฺยนิทฺเทเส วุตฺตตฺถา.

๒๐. ปุน เถโร อตฺตนา เทสิตํ สุตฺตนฺตํ อุทฺทิสิตฺวา ตสฺส นิทฺเทสวเสน โพชฺฌงฺควิธึ ทสฺเสตุกาโม เอกํ สมยนฺติอาทิกํ นิทานํ วตฺวา สุตฺตนฺตํ ตาว อุทฺทิสิ. อตฺตนา เทสิตสุตฺตตฺตา เอว เจตฺถ เอวํ เม สุตนฺติ น วุตฺตํ. อายสฺมา สาริปุตฺโตติ ปเนตฺถ เทสกพฺยตฺติภาวตฺถํ อตฺตานํ ปรํ วิย กตฺวา วุตฺตํ. อีทิสฺหิ วจนํ โลเก คนฺเถสุ ปยุชฺชนฺติ. ปุพฺพณฺหสมยนฺติ สกลํ ปุพฺพณฺหสมยํ. อจฺจนฺตสํโยคตฺเถ อุปโยควจนํ. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. สติสมฺโพชฺฌงฺโค อิติ เจ เม โหตีติ สติสมฺโพชฺฌงฺโคติ เอวฺเจ มยฺหํ โหติ. อปฺปมาโณติ เม โหตีติ อปฺปมาโณติ เอวํ เม โหติ. สุสมารทฺโธติ เม โหตีติ สุฏฺุ ปริปุณฺโณติ เอวํ เม โหติ. ติฏฺนฺตนฺติ นิพฺพานารมฺมเณ ปวตฺติวเสน ติฏฺนฺตํ. จวตีติ นิพฺพานารมฺมณโต อปคจฺฉติ. เสสโพชฺฌงฺเคสุปิ เอเสว นโย.

ราชมหามตฺตสฺสาติ รฺโ มหาอมจฺจสฺส, มหติยา วา โภคมตฺตาย โภคปฺปมาเณน สมนฺนาคตสฺส. นานารตฺตานนฺติ นานารงฺครตฺตานํ, ปูรณตฺเถ สามิวจนํ, นานารตฺเตหีติ อตฺโถ. ทุสฺสกรณฺฑโกติ ทุสฺสเปฬา. ทุสฺสยุคนฺติ วตฺถยุคลํ. ปารุปิตุนฺติ อจฺฉาเทตุํ. อิมสฺมึ สุตฺตนฺเต เถรสฺส ผลโพชฺฌงฺคา กถิตา. ยทา หิ เถโร สติสมฺโพชฺฌงฺคํ สีสํ กตฺวา ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, ตทา อิตเร ตทนฺวยา โหนฺติ. ยทา ธมฺมวิจยาทีสุ อฺตรํ, ตทา เสสาปิ ตทนฺวยา โหนฺตีติ เอวํ ผลสมาปตฺติยา อตฺตโน จิณฺณวสีภาวํ ทสฺเสนฺโต เถโร อิมํ สุตฺตนฺตํ กเถสีติ.

สุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา

๒๑. กถํ สติสมฺโพชฺฌงฺโค อิติ เจ โหตีติ โพชฺฌงฺโคติ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ สีสํ กตฺวา ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชนฺตสฺส อฺเสุ โพชฺฌงฺเคสุ วิชฺชมาเนสุ เอวํ อยํ สติสมฺโพชฺฌงฺโค โหตีติ อิติ เจ ปวตฺตสฺส กถํ โส สติสมฺโพชฺฌงฺโค โหตีติ อตฺโถ. ยาวตา นิโรธูปฏฺาตีติ ยตฺตเกน กาเลน นิโรโธ อุปฏฺาติ, ยตฺตเก กาเล อารมฺมณโต นิพฺพานํ อุปฏฺาตีติ อตฺโถ. ยาวตา อจฺจีติ ยตฺตเกน ปริมาเณน ชาลา. กถํ อปฺปมาโณ อิติ เจ โหตีติ โพชฺฌงฺโคติ น อปฺปมาเณปิ สติสมฺโพชฺฌงฺเค วิชฺชมาเน เอวํ อยํ อปฺปมาโณ โหตีติ อิติ เจ ปวตฺตสฺส โส อปฺปมาโณ สติสมฺโพชฺฌงฺโค กถํ โหตีติ อตฺโถ. ปมาณพทฺธาติ กิเลสา จ ปริยุฏฺานา จ โปโนภวิกสงฺขารา จ ปมาณพทฺธา นาม โหนฺติ. ‘‘ราโคปมาณกรโณ, โทโส ปมาณกรโณ, โมโห ปมาณกรโณ’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๙) วจนโต ราคาทโย ยสฺส อุปฺปชฺชนฺติ, ‘‘อยํ เอตฺตโก’’ติ ตสฺส ปมาณกรณโต ปมาณํ นาม. ตสฺมึ ปมาเณ พทฺธา ปฏิพทฺธา อายตฺตาติ กิเลสาทโย ปมาณพทฺธา นาม โหนฺติ. กิเลสาติ อนุสยภูตา, ปริยุฏฺานาติ สมุทาจารปฺปตฺตกิเลสา. สงฺขารา โปโนภวิกาติ ปุนปฺปุนํ ภวกรณํ ปุนภโว, ปุนภโว สีลเมเตสนฺติ โปนภวิกา, โปนภวิกา เอว โปโนภวิกา. กุสลากุสลกมฺมสงฺขาตา สงฺขารา. อปฺปมาโณติ วุตฺตปฺปการสฺส ปมาณสฺส อภาเวน อปฺปมาโณ. มคฺคผลานมฺปิ อปฺปมาณตฺตา ตโต วิเสสนตฺถํ อจลฏฺเน อสงฺขตฏฺเนาติ วุตฺตํ. ภงฺคาภาวโต อจโล, ปจฺจยาภาวโต อสงฺขโต. โย หิ อจโล อสงฺขโต จ, โส อติวิย ปมาณวิรหิโต โหติ.

กถํ สุสมารทฺโธ อิติ เจ โหตีติ โพชฺฌงฺโคติ อนนฺตรํ วุตฺตนเยน โยเชตพฺพํ. วิสมาติ สยฺจ วิสมตฺตา, วิสมสฺส จ ภาวสฺส เหตุตฺตา วิสมา. สมธมฺโมติ สนฺตฏฺเน ปณีตฏฺเน สโม ธมฺโม. ปมาณาภาวโต สนฺโต. ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ ธมฺมานํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐) วจนโต สพฺพธมฺมุตฺตมฏฺเน ปณีโต. ตสฺมึ สมธมฺโมติ วุตฺเต สุสเม อารทฺโธ สุสมารทฺโธ. อาวชฺชิตตฺตาติ ผลสมาปตฺติยา ปวตฺตกาลํ สนฺธาย วุตฺตํ. อนุปฺปาทาทิสงฺขาเต นิพฺพาเน มโนทฺวาราวชฺชนสฺส อุปฺปนฺนตฺตาติ วุตฺตํ โหติ. ติฏฺตีติ ปวตฺตติ. อุปฺปาทาทีนิ เหฏฺา วุตฺตตฺถานิ. เสสโพชฺฌงฺคมูลเกสุปิ วาเรสุ เอเสว นโย.

โพชฺฌงฺคกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. เมตฺตากถา

เมตฺตากถาวณฺณนา

๒๒. อิทานิ โพชฺฌงฺคกถานนฺตรํ กถิตาย โพชฺฌงฺคกถาคติยา สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย เมตฺตากถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ตาว อาเสวิตายาติ อาทเรน เสวิตาย. ภาวิตายาติ วฑฺฒิตาย. พหุลีกตายาติ ปุนปฺปุนํ กตาย. ยานีกตายาติ ยุตฺตยานสทิสาย กตาย. วตฺถุกตายาติ ปติฏฺานฏฺเน วตฺถุ วิย กตาย. อนุฏฺิตายาติ ปจฺจุปฏฺิตาย. ปริจิตายาติ สมนฺตโต จิตาย อุปจิตาย. สุสมารทฺธายาติ สุฏฺุ สมารทฺธาย สุกตาย. อานิสํสาติ คุณา. ปาฏิกงฺขาติ ปฏิกงฺขิตพฺพา อิจฺฉิตพฺพา. สุขํ สุปตีติ ยถา เสสชนา สมฺปริวตฺตมานา กากจฺฉมานา ทุกฺขํ สุปนฺติ, เอวํ อสุปิตฺวา สุขํ สุปติ. นิทฺทํ โอกฺกนฺโตปิ สมาปตฺตึ สมาปนฺโน วิย โหติ. สุขํ ปฏิพุชฺฌตีติ ยถา อฺเ นิตฺถุนนฺตา วิชมฺภนฺตา สมฺปริวตฺตนฺตา ทุกฺขํ ปฏิพุชฺฌนฺติ, เอวํ อปฏิพุชฺฌิตฺวา วิกสมานมิว ปทุมํ สุขํ นิพฺพิการํ ปฏิพุชฺฌติ. น ปาปกํ สุปินํ ปสฺสตีติ สุปินํ ปสฺสนฺโตปิ ภทฺทกเมว สุปินํ ปสฺสติ. เจติยํ วนฺทนฺโต วิย ปูชํ กโรนฺโต วิย ธมฺมํ สุณนฺโต วิย จ โหติ. ยถา ปนฺเ อตฺตานํ โจเรหิ ปริวาริตํ วิย วาเฬหิ อุปทฺทุตํ วิย ปปาเต ปตนฺตํ วิย จ ปสฺสนฺติ, น เอวํ ปาปกํ สุปินํ ปสฺสติ. มนุสฺสานํ ปิโย โหตีติ อุเร อามุตฺตมุตฺตาหาโร วิย สีเส ปิฬนฺธมาลา วิย จ มนุสฺสานํ ปิโย โหติ มนาโป. อมนุสฺสานํ ปิโย โหตีติ ยเถว จ มนุสฺสานํ, เอวํ อมนุสฺสานมฺปิ ปิโย โหติ. เทวตา รกฺขนฺตีติ ปุตฺตมิว มาตาปิตโร เทวตา รกฺขนฺติ. นาสฺส อคฺคิ วา วิสํ วา สตฺถํ วา กมตีติ เมตฺตาวิหาริสฺส กาเย อคฺคิ วา วิสํ วา สตฺถํ วา น กมติ น ปวิสติ, นาสฺส กายํ วิโกเปตีติ วุตฺตํ โหติ. ตุวฏํ จิตฺตํ สมาธิยตีติ เมตฺตาวิหาริโน ขิปฺปเมว จิตฺตํ สมาธิยติ, นตฺถิ ตสฺส ทนฺธายิตตฺตํ. มุขวณฺโณ วิปฺปสีทตีติ พนฺธนา ปมุตฺตตาลปกฺกํ วิย จสฺส วิปฺปสนฺนวณฺณํ มุขํ โหติ. อสมฺมูฬฺโห กาลํ กโรตีติ เมตฺตาวิหาริโน สมฺโมหมรณํ นาม นตฺถิ, อสมฺมูฬฺโห นิทฺทํ โอกฺกมนฺโต วิย กาลํ กโรติ. อุตฺตริ อปฺปฏิวิชฺฌนฺโตติ เมตฺตาสมาปตฺติโต อุตฺตรึ อรหตฺตํ อธิคนฺตุํ อสกฺโกนฺโต อิโต จวิตฺวา สุตฺตปฺปพุทฺโธ วิย พฺรหฺมโลกูปโค โหตีติ พฺรหฺมโลกํ อุปปชฺชตีติ อตฺโถ.

เมตฺตานิทฺเทเส อโนธิโส ผรณาติ โอธิ มริยาทา, น โอธิ อโนธิ. ตโต อโนธิโส, อโนธิโตติ อตฺโถ, นิปฺปเทสโต ผุสนาติ วุตฺตํ โหติ. โอธิโสติ ปเทสวเสน. ทิสาผรณาติ ทิสาสุ ผรณา. สพฺเพติ อนวเสสปริยาทานํ. สตฺตาติปทสฺส อตฺโถ าณกถามาติกาวณฺณนายํ วุตฺโต, รุฬฺหีสทฺเทน ปน วีตราเคสุปิ อยํ โวหาโร วตฺตติ วิลีวมเยปิ พีชนิวิเสเส ตาลวณฺฏโวหาโร วิย. อเวราติ เวรรหิตา. อพฺยาปชฺชาติ พฺยาปาทรหิตา. อนีฆาติ นิทฺทุกฺขา. อนิคฺฆาติปิ ปาโ. สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตูติ สุขิตา หุตฺวา อตฺตภาวํ วตฺตยนฺตุ. ‘‘อเวรา’’ติ จ สกสนฺตาเน จ ปเร ปฏิจฺจ, ปรสนฺตาเน จ อิตเร ปฏิจฺจ เวราภาโว ทสฺสิโต, ‘‘อพฺยาปชฺชา’’ติอาทีสุ เวราภาวา ตมฺมูลกพฺยาปาทาภาโว, ‘‘อนีฆา’’ติ พฺยาปาทาภาวา ตมฺมูลกทุกฺขาภาโว, ‘‘สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’’ติ ทุกฺขาภาวาสุเขน อตฺตภาวปริหรณํ ทสฺสิตนฺติ เอวเมตฺถ วจนสมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพติ. อิเมสุ จ ‘‘อเวรา โหนฺตู’’ติอาทีสุ จตูสุปิ วจเนสุ ยํ ยํ ปากฏํ โหติ, ตสฺส ตสฺส วเสน เมตฺตาย ผรติ.

ปาณาติอาทีสุ ปาณนตาย ปาณา, อสฺสาสปสฺสาสายตฺตวุตฺติตายาติ อตฺโถ. ภูตตฺตา ภูตา, อภินิพฺพตฺตาติ อตฺโถ. ปุํ วุจฺจติ นิรโย, ตํ ปุํ คลนฺติ คจฺฉนฺตีติ ปุคฺคลา. อตฺตภาโว วุจฺจติ สรีรํ, ขนฺธปฺจกเมว วา, ตํ อุปาทาย ปฺตฺติมตฺตสพฺภาวโต, ตสฺมึ อตฺตภาเว ปริยาปนฺนา ปริจฺฉินฺนา อนฺโตคธาติ อตฺตภาวปริยาปนฺนา. ยถา จ สตฺตาติ วจนํ, เอวํ เสสานิปิ รุฬฺหีวเสน อาโรเปตฺวา สพฺพาเนตานิ สพฺพสตฺตเววจนานีติ เวทิตพฺพานิ. กามฺจ อฺานิปิ ‘‘สพฺเพ ชนฺตู สพฺเพ ชีวา’’ติอาทีนิ สพฺพสตฺตเววจนานิ อตฺถิ, ปากฏวเสน ปน อิมาเนว ปฺจ คเหตฺวา ‘‘ปฺจหากาเรหิ อโนธิโส ผรณา เมตฺตาเจโตวิมุตฺตี’’ติ วุจฺจติ. เย ปน ‘‘สตฺตา ปาณา’’ติอาทีนํ น เกวลํ วจนมตฺตโตว, อถ โข อตฺถโตปิ นานตฺตเมว อิจฺเฉยฺยุํ, เตสํ อโนธิโส ผรณา วิรุชฺฌติ. ตสฺมา ตถา อตฺถํ อคฺคเหตฺวา อิเมสุ ปฺจสุ อากาเรสุ อฺตรวเสน อโนธิโส เมตฺตาย ผรติ.

โอธิโส ผรเณ ปน อิตฺถิโย ปุริสาติ ลิงฺควเสน วุตฺตํ, อริยา อนริยาติ อริยปุถุชฺชนวเสน, เทวามนุสฺสา วินิปาติกาติ อุปปตฺติวเสน. ทิสาผรเณปิ ทิสาวิภาคํ อกตฺวา สพฺพทิสาสุ ‘‘สพฺเพ สตฺตา’’ติอาทินา นเยน ผรณโต อโนธิโส ผรณา โหติ, สพฺพทิสาสุ ‘‘สพฺพา อิตฺถิโย’’ติอาทินา นเยน ผรณโต โอธิโส ผรณา.

ยสฺมา ปน อยํ ติวิธาปิ เมตฺตาผรณา อปฺปนาปตฺตจิตฺตสฺส วเสน วุตฺตา, ตสฺมา ตีสุ วาเรสุ อปฺปนา คเหตพฺพา. อโนธิโส ผรเณ ตาว ‘‘สพฺเพ สตฺตา อเวรา โหนฺตู’’ติ เอกา, ‘‘อพฺยาปชฺชา โหนฺตู’’ติ เอกา ‘‘อนีฆา โหนฺตู’’ติ เอกา, ‘‘สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’’ติ เอกา. ตานิปิ หิ จตฺตาริ หิโตปสํหารวเสเนว วุตฺตานิ. หิโตปสํหารลกฺขณา หิ เมตฺตา. อิติ ‘‘สตฺตา’’ติอาทีสุ ปฺจสุ อากาเรสุ จตสฺสนฺนํ จตสฺสนฺนํ อปฺปนานํ วเสน วีสติ อปฺปนา โหนฺติ, โอธิโส ผรเณ ‘‘สพฺพา อิตฺถิโย’’ติอาทีสุ สตฺตสุ อากาเรสุ จตสฺสนฺนํ จตสฺสนฺนํ วเสน อฏฺวีสติ อปฺปนา. ทิสาผรเณ ปน ‘‘สพฺเพ ปุรตฺถิมาย ทิสาย สตฺตา’’ติอาทินา นเยน เอกเมกิสฺสา ทิสาย วีสติ วีสติ กตฺวา ทฺเว สตานิ, ‘‘สพฺพา ปุรตฺถิมาย ทิสาย อิตฺถิโย’’ติอาทินา นเยน เอกเมกิสฺสา ทิสาย อฏฺวีสติ อฏฺวีสติ กตฺวา อสีติ ทฺเว สตานีติ จตฺตาริ สตานิ อสีติ จ อปฺปนา. อิติ สพฺพานิปิ อิธ วุตฺตานิ อฏฺวีสาธิกานิ ปฺจ อปฺปนาสตานิ โหนฺติ. ยถา จ เมตฺตาย ติวิเธน ผรณา วุตฺตา, ตถา กรุณามุทิตาอุเปกฺขานมฺปิ วุตฺตาว โหตีติ เวทิตพฺพํ.

๑. อินฺทฺริยวารวณฺณนา

๒๓. อถ เมตฺตูปสํหาราการํ อินฺทฺริยาทิปริภาวนฺจ ทสฺเสตุํ สพฺเพสํ สตฺตานํ ปีฬนํ วชฺเชตฺวาติอาทิมาห. ตตฺถ ปีฬนนฺติ อพฺภนฺตรโต สรีรปีฬนํ. อุปฆาตนฺติ พาหิรโต สรีโรปฆาตํ. สนฺตาปนฺติ ยถา ตถา วา จิตฺตสนฺตาปนํ. ปริยาทานนฺติ ปกติยา ชีวิตาทิปริกฺขยํ. วิเหสนฺติ ปรโต ชีวิตวิเหนํ. วชฺเชตฺวาติ ปีฬนาทีสุ เอเกกํ อตฺตโน จิตฺเตเนว อปเนตฺวา. อิมานิ ปีฬนาทีนิ ปฺจ ปทานิ เมตฺโตปสํหารสฺส ปฏิปกฺขวิวชฺชนวเสน วุตฺตานิ, อปีฬนายาติอาทีนิ เมตฺโตปสํหารวเสน. อปีฬนายาติ อปีฬนากาเรน, สพฺเพ สตฺเต เมตฺตายตีติ สมฺพนฺโธ. เอวํ เสเสสุปิ. มา เวริโน มา ทุกฺขิโน มา ทุกฺขิตตฺตาติ อิมานิปิ ตีณิ เมตฺโตปสํหารสฺส ปฏิปกฺขปฏิกฺเขปวจนานิ. มา-วจนสฺส มา โหนฺตูติ อตฺโถ. อเวริโน สุขิโน สุขิตตฺตาติ อิมานิ ตีณิ เมตฺโตปสํหารวจนานิ. ‘‘อพฺยาปชฺชา อนีฆา’’ติ อิทํ ทฺวยํ ‘‘สุขิโน’’ติ วจเนน สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. สุขิตตฺตาติ ตสฺเสว สุขสฺส นิจฺจปฺปวตฺติทสฺสนํ. ‘‘สุขิตตฺตา’’ติ จ ‘‘สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’’ติ จ อตฺถโต เอกํ. ‘‘อปีฬนายา’’ติอาทีหิ วา อพฺยาปชฺชานีฆวจนานิ สงฺคหิตานิ. อฏฺหากาเรหีติ ‘‘อปีฬนายา’’ติอาทโย ปฺจ เมตฺโตปสํหาราการา ‘‘อเวริโน โหนฺตู’’ติอาทโย ตโย เมตฺโตปสํหาราการาติ อิเมหิ อฏฺหากาเรหิ. เมตฺตายตีติ สินิยฺหติ. ตํ ธมฺมํ เจตยตีติ ตํ หิโตปสํหารํ เจตยติ อภิสนฺทหติ, ปวตฺเตตีติ อตฺโถ. สพฺพพฺยาปาทปริยุฏฺาเนหิ วิมุจฺจตีติ เมตฺตาย ปฏิปกฺขภูเตหิ สพฺเพหิ พฺยาปาทสมุทาจาเรหิ วิกฺขมฺภนโต วิมุจฺจติ. เมตฺตา จ เจโต จ วิมุตฺติ จาติ เอกาเยว เมตฺตา ติธา วณฺณิตา.

อเวริโน เขมิโน สุขิโนติ อิมานิ ตีณิ ปทานิ ปุพฺเพ วุตฺเต อากาเร สงฺเขเปน สงฺคเหตฺวา วุตฺตานิ. สทฺธาย อธิมุจฺจตีติอาทินา นเยน วุตฺตานิ ปฺจินฺทฺริยานิ เมตฺตาย สมฺปยุตฺตานิเยว. อาเสวนาติอาทีสุ ฉสุ วาเรสุ อาเสวียติ เอเตหิ เมตฺตาติ อาเสวนา. ตถา ภาวนา พหุลีกมฺมํ. อลงฺการาติ วิภูสนา. สฺวาลงฺกตาติ สุฏฺุ อลงฺกตา ภูสิตา. ปริกฺขาราติ สมฺภารา. สุปริกฺขตาติ สุฏฺุ สมฺภตา. ปริวาราติ รกฺขนฏฺเน. ปุน อาเสวนาทีนิ อฏฺวีสติ ปทานิ เมตฺตาย วณฺณภณนตฺถํ วุตฺตานิ. ตตฺถ ปาริปูรีติ ปริปุณฺณภาวา. สหคตาติ เมตฺตาย สหคตา. ตถา สหชาตาทโย. ปกฺขนฺทนาติ เมตฺตาย ปวิสนา, ปกฺขนฺทติ เอเตหิ เมตฺตาติ วา ปกฺขนฺทนา. ตถา สํสีทนาทโย. เอตํ สนฺตนฺติ ผสฺสนาติ เอสา เมตฺตา สนฺตาติ เอเตหิ ผสฺสนา โหตีติ เอตํ สนฺตนฺติ ผสฺสนา ‘‘เอตทคฺค’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๑.๑๘๘ อาทโย) วิย นปุํสกวจนํ. สฺวาธิฏฺิตาติ สุฏฺุ ปติฏฺิตา. สุสมุคฺคตาติ สุฏฺุ สมุสฺสิตา. สุวิมุตฺตาติ อตฺตโน อตฺตโน ปจฺจนีเกหิ สุฏฺุ วิมุตฺตา. นิพฺพตฺเตนฺตีติ เมตฺตาสมฺปยุตฺตา หุตฺวา เมตฺตํ นิพฺพตฺเตนฺติ. โชเตนฺตีติ ปากฏํ กโรนฺติ. ปตาเปนฺตีติ วิโรเจนฺติ.

๒-๔. พลาทิวารตฺตยวณฺณนา

๒๔-๒๗. อินฺทฺริยวาเร วุตฺตนเยเนว พลวาโรปิ เวทิตพฺโพ. โพชฺฌงฺคมคฺคงฺควารา ปริยาเยน วุตฺตา, น ยถาลกฺขณวเสน. มคฺคงฺควาเร สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวา เมตฺตาย ปุพฺพภาควเสน วุตฺตา, น อปฺปนาวเสน. น หิ เอเต เมตฺตาย สห ภวนฺติ. สพฺเพสํ ปาณานนฺติอาทีนํ เสสวารานมฺปิ สตฺตวาเร วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เมตฺตาภาวนาวิธานํ ปน วิสุทฺธิมคฺคโต (วิสุทฺธิ. ๑.๒๔๐ อาทโย) คเหตพฺพนฺติ.

เมตฺตากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. วิราคกถา

วิราคกถาวณฺณนา

๒๘. อิทานิ มคฺคปโยชนปริโยสานาย เมตฺตากถาย อนนฺตรํ กถิตาย วิราคสงฺขาตมคฺคปุพฺพงฺคมาย วิราคกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ ปมํ ตาว ‘‘นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ วิราคา วิมุจฺจตี’’ติ (มหาว ๒๓) วุตฺตานํ ทฺวินฺนํ สุตฺตนฺตปทานํ อตฺถํ นิทฺทิสิตุกาเมน วิราโค มคฺโค, วิมุตฺติ ผลนฺติ อุทฺเทโส ปิโต. ตตฺถ ปมํ วจนตฺถํ ตาว นิทฺทิสิตุกาโม กถํ วิราโค มคฺโคติอาทิมาห. ตตฺถ วิรชฺชตีติ วิรตฺตา โหติ. เสสานิ มคฺคาณนิทฺเทเส วุตฺตตฺถานิ. วิราโคติ ยสฺมา สมฺมาทิฏฺิ วิรชฺชติ, ตสฺมา วิราโค นามาติ อตฺโถ. โส จ วิราโค ยสฺมา วิราคารมฺมโณ…เป… วิราเค ปติฏฺิโต, ตสฺมา จ วิราโคติ เอวํ ‘‘วิราคารมฺมโณ’’ติอาทีนํ ปฺจนฺนํ วจนานํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ วิราคารมฺมโณติ นิพฺพานารมฺมโณ. วิราคโคจโรติ นิพฺพานวิสโย. วิราเค สมุทาคโตติ นิพฺพาเน สมุปฺปนฺโน. วิราเค ิโตติ ปวตฺติวเสน นิพฺพาเน ิโต. วิราเค ปติฏฺิโตติ อนิวตฺตนวเสน นิพฺพาเน ปติฏฺิโต.

นิพฺพานฺจ วิราโคติ นิพฺพานํ วิราคเหตุตฺตา วิราโค. นิพฺพานารมฺมณตาชาตาติ นิพฺพานารมฺมเณ ชาตา, นิพฺพานารมฺมณภาเวน วา ชาตา. เต มคฺคสมฺปยุตฺตา สพฺเพว ผสฺสาทโย ธมฺมา วิรชฺชนฏฺเน วิราคา โหนฺตีติ วิราคา นาม โหนฺติ. สหชาตานีติ สมฺมาทิฏฺิสหชาตานิ สมฺมาสงฺกปฺปาทีนิ สตฺต มคฺคงฺคานิ. วิราคํ คจฺฉนฺตีติ วิราโค มคฺโคติ วิราคํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา คจฺฉนฺตีติ วิราคารมฺมณตฺตา วิราโค นาม, มคฺคนฏฺเน มคฺโค นาม โหตีติ อตฺโถ. เอเกกมฺปิ มคฺคงฺคํ มคฺโคติ นามํ ลภติ. อิติ เอเกกสฺส องฺคสฺส มคฺคตฺเต วุตฺเต สมฺมาทิฏฺิยาปิ มคฺคตฺตํ วุตฺตเมว โหติ. ตสฺมาเยว จ เอเตน มคฺเคนาติ อฏฺ มคฺคงฺคานิ คเหตฺวา วุตฺตํ. พุทฺธา จาติ ปจฺเจกพุทฺธาปิ สงฺคหิตา. เตปิ หิ ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, พุทฺธา ตถาคโต จ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปจฺเจกพุทฺโธ จา’’ติ (อ. นิ. ๒.๕๗) วุตฺตตฺตา พุทฺธาเยว. อคตนฺติ อนมตคฺเค สํสาเร อคตปุพฺพํ. ทิสนฺติ สกลายปฏิปตฺติยา ทิสฺสติ อปทิสฺสติ อภิสนฺทหียตีติ ทิสา, สพฺพพุทฺเธหิ วา ปรมํ สุขนฺติ ทิสฺสติ อปทิสฺสติ กถียตีติ ทิสา, สพฺพทุกฺขํ วา ทิสฺสนฺติ วิสฺสชฺเชนฺติ อุชฺฌนฺติ เอตายาติ ทิสา. ตํ ทิสํ. อฏฺงฺคิโก มคฺโคติ กึ วุตฺตํ โหติ? โย โส อฏฺงฺคิโก ธมฺมสมูโห, โส เอเตน นิพฺพานํ คจฺฉนฺตีติ คมนฏฺเน มคฺโค นามาติ วุตฺตํ โหติ. ปุถุสมณพฺราหฺมณานํ ปรปฺปวาทานนฺติ วิสุํ วิสุํ สมณานํ พฺราหฺมณานฺจ อิโต อฺลทฺธิกานํ. อคฺโคติ เตสํ เสสมคฺคานํ วิสิฏฺโ. เสฏฺโติ เสสมคฺคโต อติวิย ปสํสนีโย. โมกฺโขติ มุเข สาธุ, เสสมคฺคานํ อภิมุเข อยเมว สาธูติ อตฺโถ. อุตฺตโมติ เสสมคฺเค อติวิย อุตฺติณฺโณ. ปวโรติ เสสมคฺคโต นานปฺปกาเรหิ สํภชนีโย. อิตีติ การณตฺเถ นิปาโต. ตสฺมา ภควตา ‘‘มคฺคานํ อฏฺงฺคิโก เสฏฺโ’’ติ วุตฺโตติ อธิปฺปาโย. วุตฺตฺหิ ภควตา –

‘‘มคฺคานฏฺงฺคิโก เสฏฺโ, สจฺจานํ จตุโร ปทา;

วิราโค เสฏฺโ ธมฺมานํ, ทฺวิปทานฺจ จกฺขุมา’’ติ. (ธ. ป. ๒๗๓);

ตํ อิธ วิจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘มคฺคานํ อฏฺงฺคิโก เสฏฺโ’’ติ วุตฺตํ. เสสวาเรสุปิ อิมินา จ นเยน เหฏฺา วุตฺตนเยน จ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ทสฺสนวิราโคติอาทีสุ ทสฺสนสงฺขาโต วิราโค ทสฺสนวิราโค. อินฺทฺริยฏฺโต พลสฺส วิสิฏฺตฺตา อิธ อินฺทฺริยโต พลํ ปมํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อาธิปเตยฺยฏฺเน อินฺทฺริยานีติอาทิ อินฺทฺริยาทีนํ อตฺถวิภาวนา, น วิราคสฺส. ตถฏฺเน สจฺจาติ สจฺจาณํ เวทิตพฺพํ. สีลวิสุทฺธีติ สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวา. จิตฺตวิสุทฺธีติ สมฺมาสมาธิ. ทิฏฺิวิสุทฺธีติ สมฺมาทิฏฺิสงฺกปฺปา. วิมุตฺตฏฺเนาติ ตํตํมคฺควชฺฌกิเลเสหิ มุตฺตฏฺเน. วิชฺชาติ สมฺมาทิฏฺิ. วิมุตฺตีติ สมุจฺเฉทวิมุตฺติ. อมโตคธํ นิพฺพานํ ปริโยสานฏฺเน มคฺโคติ มคฺคผลปจฺจเวกฺขณาหิ มคฺคียตีติ มคฺโค.

อิมสฺมึ วิราคนิทฺเทเส วุตฺตา ธมฺมา สพฺเพปิ มคฺคกฺขเณเยว. วิมุตฺตินิทฺเทเส ผลกฺขเณ. ตสฺมา ฉนฺทมนสิการาปิ มคฺคผลสมฺปยุตฺตา.

๒๙. วิราคนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว วิมุตฺตินิทฺเทเสปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ผลํ ปเนตฺถ ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติ, นิพฺพานํ นิสฺสรณวิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติ. ‘‘สหชาตานิ สตฺตงฺคานี’’ติอาทีนิ วจนานิ อิธ น ลพฺภนฺตีติ น วุตฺตานิ. สยํ ผลวิมุตฺตตฺตา ปริจฺจาคฏฺเน วิมุตฺตีติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ.

วิราคกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ปฏิสมฺภิทากถา

๑. ธมฺมจกฺกปวตฺตนวารวณฺณนา

๓๐. อิทานิ วิราคสงฺขาตมคฺควเสน สิทฺธํ ปฏิสมฺภิทาปเภทํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย ปฏิสมฺภิทากถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. สุตฺตนฺเต ตาว พาราณสิยนฺติ พาราณสา นาม นที, พาราณสาย อวิทูเร ภวา นครี พาราณสี. ตสฺสํ พาราณสิยํ. อิสิปตเน มิคทาเยติ อิสีนํ ปตนุปฺปตนวเสน เอวํลทฺธนาเม มิคานํ อภยทานทินฺนฏฺานตฺตา มิคทายสงฺขาเต อาราเม. ตตฺถ หิ อุปฺปนฺนุปฺปนฺนา สพฺพฺุอิสโย ปตนฺติ, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนตฺถํ นิสีทนฺตีติ อตฺโถ. นนฺทมูลกปพฺภารโต สตฺตาหจฺจเยน นิโรธสมาปตฺติโต วุฏฺิตา อโนตตฺตทเห กตมุขโธวนกิจฺจา อากาเสน อาคนฺตฺวา ปจฺเจกพุทฺธอิสโยเปตฺถ สโมสรณวเสน ปตนฺติ, อุโปสถตฺถฺจ อนุโปสถตฺถฺจ สนฺนิปตนฺติ, คนฺธมาทนํ ปฏิคจฺฉนฺตา จ ตโต จ อุปฺปตนฺตีติปิ อิมินา อิสีนํ ปตนุปฺปตนวเสน ตํ ‘‘อิสิปตน’’นฺติ วุจฺจติ. ‘‘อิสิปทน’’นฺติปิ ปาโ. ปฺจวคฺคิเยติ –

‘‘โกณฺฑฺโ ภทฺทิโย วปฺโป, มหานาโม จ อสฺสชิ;

เอเต ปฺจ มหาเถรา, ปฺจวคฺคาติ วุจฺจเร’’ติ. –

เอวํ วุตฺตานํ ปฺจนฺนํ ภิกฺขูนํ วคฺโค ปฺจวคฺโค. ตสฺมึ ปฺจวคฺเค ภวา ตํปริยาปนฺนตฺตาติ ปฺจวคฺคิยา, เต ปฺจวคฺคิเย. ภิกฺขู อามนฺเตสีติ ทีปงฺกรทสพลสฺส ปาทมูเล กตาภินีหารโต ปฏฺาย ปารมิโย ปูเรนฺโต อนุปุพฺเพน ปจฺฉิมภวํ ปตฺวา ปจฺฉิมภเว จ กตาภินิกฺขมโน อนุปุพฺเพน โพธิมณฺฑํ ปตฺวา ตตฺถ อปราชิตปลฺลงฺเก นิสินฺโน มารพลํ ภินฺทิตฺวา ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริตฺวา มชฺฌิมยาเม ทิพฺพจกฺขุํ วิโสเธตฺวา ปจฺฉิมยามาวสาเน ทสสหสฺสิโลกธาตุํ อุนฺนาเทนฺโต สมฺปกมฺเปนฺโต สพฺพฺุตํ ปตฺวา สตฺต สตฺตาหานิ โพธิมณฺเฑ วีตินาเมตฺวา มหาพฺรหฺมุนา อายาจิตธมฺมเทสนา พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกตฺวา โลกานุคฺคเหน พาราณสึ คนฺตฺวา ปฺจวคฺคิเย ภิกฺขู สฺาเปตฺวา ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตุกาโม อามนฺเตสิ.

ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อนฺตาติ ทฺเวเม, ภิกฺขเว, โกฏฺาสา. อิมสฺส ปน วจนสฺส สมุทาหาเรน สมุทาหารนิคฺโฆโส เหฏฺา อวีจึ อุปริ ภวคฺคํ ปตฺวา ทสสหสฺสึ โลกธาตุํ ปตฺถริตฺวา อฏฺาสิ, ตสฺมึเยว สมเย อฏฺารสโกฏิสงฺขา พฺรหฺมาโน สมาคจฺฉึสุ. ปจฺฉิมทิสาย สูริโย อตฺถงฺคเมติ, ปุรตฺถิมาย ทิสาย อุตฺตราสาฬฺหนกฺขตฺเตน ยุตฺโต ปุณฺณจนฺโท อุคฺคจฺฉติ. ตสฺมึ สมเย ภควา ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตนฺตํ อารภนฺโต ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อนฺตา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ปพฺพชิเตนาติ คิหิสํโยชนํ วตฺถุกามํ เฉตฺวา ปพฺพชิเตน. น เสวิตพฺพาติ น วลฺเชตพฺพา. ปพฺพชิตานํเยว วิเสสโต ปฏิปตฺติยา ภาชนภูตตฺตา ‘‘ปพฺพชิเตน น เสวิตพฺพา’’ติ วุตฺตํ. โย จายํ กาเมสุ กามสุขลฺลิกานุโยโคติ โย จ อยํ วตฺถุกาเมสุ กิเลสกามสุขสฺส, กิเลสกามสุขนิสฺสยสฺส วา อนุโยโค. หีโนติ ลามโก. คมฺโมติ คามวาสีนํ สนฺตโก. โปถุชฺชนิโกติ ปุถุชฺชเนน อนฺธพาลชเนน อาจิณฺโณ. อนริโยติ น อริโย. อถ วา น วิสุทฺธานํ อุตฺตมานํ อริยานํ สนฺตโก. อนตฺถสํหิโตติ น อตฺถสํหิโต, สุขาวหการณํ อนิสฺสิโตติ อตฺโถ. อตฺตกิลมถานุโยโคติ อตฺตโน กิลมถสฺส อนุโยโค, อตฺตโน ทุกฺขกรณนฺติ อตฺโถ. ทุกฺโขติ กณฺฏกาปสฺสยเสยฺยาทีหิ อตฺตมารเณหิ ทุกฺขาวโห. ตปสฺสีหิ ‘‘อุตฺตมํ ตโป’’ติ คหิตตฺตา เตสํ จิตฺตานุรกฺขนตฺถํ อิธ ‘‘หีโน’’ติ น วุตฺตํ, ปพฺพชิตานํ ธมฺมตฺตา ‘‘คมฺโม’’ติ จ, คิหีหิ อสาธารณตฺตา ‘‘โปถุชฺชนิโก’’ติ จ น วุตฺตํ. ตตฺถ ปน เกหิจิ ปพฺพชิตปฏิฺเหิ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาเทหิ ‘‘ยโต โข, โภ, อยํ อตฺตา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคิภูโต ปริจาเรติ, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา ทิฏฺธมฺมนิพฺพานปฺปตฺโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๙๔) คหิตตฺตา เตสํ จิตฺตานุรกฺขนตฺถฺจ ปจฺจุปฺปนฺเน สุขตฺตา จ ตสฺส ธมฺมสมาทานสฺส ‘‘ทุกฺโข’’ติ น วุตฺตํ. กามสุขลฺลิกานุโยโค ปจฺจุปฺปนฺเน ตณฺหาทิฏฺิสํกิลิฏฺสุขตฺตา อายติฺจ ทุกฺขวิปากตฺตา ตทนุยุตฺตานํ ตณฺหาทิฏฺิพนฺธนพทฺธตฺตา จ น เสวิตพฺโพ, อตฺตกิลมถานุโยโค ปจฺจุปฺปนฺเน ทิฏฺิสํกิลิฏฺทุกฺขตฺตา อายติฺจ ทุกฺขวิปากตฺตา ตทนุยุตฺตานํ ทิฏฺิพนฺธนพทฺธตฺตา จ น เสวิตพฺโพ, เอเต โขติ เต เอเต. อนุปคมฺมาติ น อุปคนฺตฺวา. มชฺฌิมาติ สํกิลิฏฺสุขทุกฺขานํ อภาวา มชฺเฌ ภวาติ มชฺฌิมา. สา เอว นิพฺพานํ ปฏิปชฺชนฺติ เอตายาติ ปฏิปทา. อภิสมฺพุทฺธาติ ปฏิวิทฺธา. จกฺขุกรณีติอาทีสุ ปฺาจกฺขุํ กโรตีติ จกฺขุกรณี. าณกรณีติ ตสฺเสว เววจนํ. อุปสมายาติ กิเลสูปสมาย. อภิฺายาติ จตุนฺนํ สจฺจานํ อภิชานนตฺถาย. สมฺโพธายาติ เตสํเยว สมฺพุชฺฌนตฺถาย. นิพฺพานายาติ นิพฺพานสจฺฉิกิริยตฺถาย. อถ วา ทสฺสนมคฺคาณํ กโรตีติ จกฺขุกรณี. ภาวนามคฺคาณํ กโรตีติ าณกรณี. สพฺพกิเลสานํ อุปสมาย. สพฺพธมฺมานํ อภิฺาย. อรหตฺตผลสมฺโพธาย. กิเลสานฺจ ขนฺธานฺจ นิพฺพานาย. สจฺจกถา อภิฺเยฺยนิทฺเทเส วุตฺตา.

เอวํ ภควา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา อตฺตนิ กตพหุมานานํ เตสํ อตฺตโน ปฏิเวธกฺกมํ สุตฺวา ปฏิปตฺติยา พหุมานาโรปเนน ปฏิปตฺติยํ ตฺวา สจฺจปฺปฏิเวธํ ปสฺสนฺโต อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติ เม, ภิกฺขเวติอาทินา อตฺตโน ปฏิเวธกฺกมํ ทสฺเสสิ. ตตฺถ อนนุสฺสุเตสูติ น อนุสฺสุเตสุ, ปรํ อนุคนฺตฺวา อสฺสุเตสูติ อตฺโถ. จกฺขูติอาทีนํ อตฺโถ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ, อิทํ ทุกฺขสมุทยํ, อิทํ ทุกฺขนิโรธํ, อิทํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจนฺติ จตุนฺนํ สจฺจานํ ทสฺสนปฏิเวโธ เสขภูมิยํ. ปริฺเยฺยํ ปหาตพฺพํ สจฺฉิกาตพฺพํ ภาเวตพฺพนฺติ จตุนฺนํ สจฺจานํ ภาวนาปฏิเวโธ เสขภูมิยํเยว. ปริฺาตํ ปหีนํ สจฺฉิกตํ ภาวิตนฺติ จตุนฺนํ สจฺจานํ ปจฺจเวกฺขณา อเสขภูมิยํ.

ติปริวฏฺฏนฺติ สจฺจาณกิจฺจาณกตาณสงฺขาตานํ ติณฺณํ ปริวฏฺฏานํ วเสน ตโย ปริวฏฺฏา อสฺสาติ ติปริวฏฺฏํ. เอตฺถ หิ ‘‘อิทํ ทุกฺขํ, อิทํ ทุกฺขสมุทยํ, อิทํ ทุกฺขนิโรธํ, อิทํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจ’’นฺติ เอวํ จตูสุ สจฺเจสุ ยถาภูตาณํ สจฺจาณํ นาม. เตสุเยว ‘‘ปริฺเยฺยํ ปหาตพฺพํ สจฺฉิกาตพฺพํ ภาเวตพฺพ’’นฺติ เอวํ กตฺตพฺพกิจฺจชานนาณํ กิจฺจาณํ นาม. ‘‘ปริฺาตํ ปหีนํ สจฺฉิกตํ ภาวิต’’นฺติ เอวํ ตสฺส กิจฺจสฺส กตภาวชานนาณํ กตาณํ นาม. ทฺวาทสาการนฺติ เตสํเยว เอเกกสฺมึ สจฺเจ ติณฺณํ ติณฺณํ อาการานํ วเสน ทฺวาทส อาการา อสฺสาติ ทฺวาทสาการํ. าณทสฺสนนฺติ เอเตสํ ติปริวฏฺฏานํ ทฺวาทสนฺนํ อาการานํ วเสน อุปฺปนฺนํ าณสงฺขาตํ ทสฺสนํ. อตฺตมนาติ สกมนา. สตฺตานฺหิ สุขกามตฺตา ทุกฺขปฏิกูลตฺตา ปีติโสมนสฺสยุตฺตมโน สกมโน นาม, ปีติโสมนสฺเสหิ อตฺตมนา คหิตมนา พฺยาปิตมนาติ วา อตฺโถ. อภินนฺทุนฺติ อภิมุขา หุตฺวา นนฺทึสุ. เวยฺยากรเณติ สุตฺตนฺเต. นิคฺคาถโก หิ สุตฺตนฺโต เกวลํ อตฺถสฺส พฺยากรณโต เวยฺยากรณํ นาม. ภฺมาเนติ กถิยมาเน. วตฺตมานสมีเป วตฺตมานวจนํ กตํ, ภณิเตติ อตฺโถ. วิรชนฺติ วิคตราคาทิรชํ. วีตมลนฺติ วิคตราคาทิมลํ. ราคาทโย หิ อชฺโฌตฺถรณฏฺเน รโช นาม, ทูสนฏฺเน มลํ นาม. ธมฺมจกฺขุนฺติ กตฺถจิ ปมมคฺคาณํ, กตฺถจิ อาทีนิ ตีณิ มคฺคาณานิ, กตฺถจิ จตุตฺถมคฺคาณมฺปิ. อิธ ปน ปมมคฺคาณเมว. ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺมนฺติ วิปสฺสนาวเสน เอวํ ปวตฺตสฺส ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทีติ อตฺโถ.

ธมฺมจกฺเกติ ปฏิเวธาเณ จ เทสนาาเณ จ. โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺนสฺส หิ ภควโต จตูสุ สจฺเจสุ ทฺวาทสาการํ ปฏิเวธาณมฺปิ อิสิปตเน นิสินฺนสฺส ทฺวาทสาการเมว สจฺจเทสนาย ปวตฺตกเทสนาาณมฺปิ ธมฺมจกฺกํ นาม. อุภยมฺปิ เหตํ ทสพลสฺส ปวตฺตาณเมว. ตํ อิมาย เทสนาย ปกาเสนฺเตน ภควตา ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ นาม. ตํ ปเนตํ ธมฺมจกฺกํ ยาว อฺาตโกณฺฑฺตฺเถโร อฏฺารสหิ พฺรหฺมโกฏีหิ สทฺธึ โสตาปตฺติผเล น ปติฏฺาติ, ตาว ภควา ปวตฺเตติ นาม, ปติฏฺิเต ปน ปวตฺติตํ นาม. ตํ สนฺธาย ‘‘ปวตฺติเต จ ภควตา ธมฺมจกฺเก’’ติ วุตฺตํ.

ภุมฺมา เทวาติ ภูมฏฺกา เทวา. สทฺทมนุสฺสาเวสุนฺติ เอกปฺปหาเรเนว สาธุการํ ทตฺวา เอตํ ภควตาติอาทีนิ วทนฺตา สทฺทํ อนุสฺสาวยึสุ. อปฺปฏิวตฺติยนฺติ ‘‘นยิทํ ตถา’’ติ ปฏิโลมํ วตฺเตตุํ อสกฺกุเณยฺยํ. สนฺนิปติตา เจตฺถ เทวพฺรหฺมาโน เทสนาปริโยสาเน เอกปฺปหาเรเนว สาธุการํ อทํสุ, สนฺนิปาตํ อนาคตา ปน ภุมฺมเทวาทโย เตสํ เตสํ สทฺทํ สุตฺวา สาธุการมทํสูติ เวทิตพฺพํ. เตสุ ปน ปพฺพตรุกฺขาทีสุ นิพฺพตฺตา ภุมฺมเทวา. เต จาตุมหาราชิกปริยาปนฺนา โหนฺตาปิ อิธ วิสุํ กตฺวา วุตฺตา. จาตุมหาราชิกาติ จ ธตรฏฺวิรูฬฺหกวิรูปกฺขกุเวรสงฺขาตา จตุมหาราชา เทวตา เอเตสนฺติ จาตุมหาราชิกา. เต สิเนรุเวมชฺเฌ โหนฺติ. เตสุ ปพฺพตฏฺกาปิ อตฺถิ อากาสฏฺกาปิ. เตสํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ ปตฺตา. ขิฑฺฑาปโทสิกา มโนปโทสิกา สีตวลาหกา อุณฺหวลาหกา จนฺทิมา เทวปุตฺโต สูริโย เทวปุตฺโตติ เอเต สพฺเพปิ จาตุมหาราชิกเทวโลกฏฺา เอว. เตตฺตึส ชนา ตตฺถ อุปฺปนฺนาติ ตาวตึสา. อปิจ ‘‘ตาวตึสา’’ติ เตสํ เทวานํ นามเมวาติปิ วุตฺตํ. เตปิ อตฺถิ ปพฺพตฏฺกา อตฺถิ อากาสฏฺกา. เตสํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ ปตฺตา, ตถา ยามาทีนํ. เอกเทวโลเกปิ หิ เทวานํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ อปฺปตฺตา นาม นตฺถิ. ทิพฺพํ สุขํ ยาตา ปยาตา สมฺปตฺตาติ ยามา. ตุฏฺา ปหฏฺาติ ตุสิตา. ปกติปฏิยตฺตารมฺมณโต อติเรเกน รมิตุกามกาเล ยถารุจิเต โภเค นิมฺมินิตฺวา นิมฺมินิตฺวา รมนฺตีติ นิมฺมานรตี. จิตฺตาจารํ ตฺวา ปรนิมฺมิเตสุ โภเคสุ วสํ วตฺเตนฺตีติ ปรนิมฺมิตวสวตฺตี. พฺรหฺมกาเย พฺรหฺมฆฏาย นิยุตฺตาติ พฺรหฺมกายิกา. สพฺเพปิ ปฺจโวการพฺรหฺมาโน คหิตา.

เตน ขเณนาติ วจนํ วิเสเสตฺวา เตน มุหุตฺเตนาติ วุตฺตํ. มุหุตฺตสงฺขาเตน ขเณน, น ปรมตฺถขเณนาติ วุตฺตํ โหติ. ยาว พฺรหฺมโลกาติ พฺรหฺมโลกํ อนฺโตกตฺวา. สทฺโทติ สาธุการสทฺโท. ทสสหสฺสีติ ทสสหสฺสจกฺกวาฬวตี. สงฺกมฺปีติ อุทฺธํ อุคฺคจฺฉนฺตี สุฏฺุ กมฺปิ. สมฺปกมฺปีติ อุทฺธํ อุคฺคจฺฉนฺตี อโธ โอกฺกมนฺตี สุฏฺุ ปกมฺปิ. สมฺปเวธีติ จตุทิสา คจฺฉนฺตี สุฏฺุ ปเวธิ. สมฺพุทฺธภาวาย มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมนฺเต จ โพธิสตฺเต ตโต นิกฺขมนฺเต จ มหาปถวี ปุฺเตเชน อกมฺปิตฺถ, อภิสมฺโพธิยํ ปฏิเวธาณเตเชน. ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเน เทสนาาณเตเชน สาธุการํ ทาตุกามา วิย ปถวี เทวตานุภาเวน อกมฺปิตฺถ, อายุสงฺขาโรสฺสชฺชเน มหาปรินิพฺพาเน จ การุฺเน จิตฺตสงฺโขภํ อสหมานา วิย ปถวี เทวตานุภาเวน อกมฺปิตฺถ. อปฺปมาโณติ วุทฺธปฺปมาโณ. อุฬาโรติ เอตฺถ ‘‘อุฬารานิ อุฬารานิ ขาทนียานิ ขาทนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๖๖) มธุรํ อุฬารนฺติ วุตฺตํ. ‘‘อุฬาราย วตฺถโภคาย จิตฺตํ น นมตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๙.๒๐) ปณีตํ อุฬารนฺติ วุตฺตํ. ‘‘อุฬาราย ขลุ ภวํ วจฺฉายโน สมณํ โคตมํ ปสํสาย ปสํสตี’’ติอาทีสุ เสฏฺํ อุฬารนฺติ วุตฺตํ. อิธ ปน ‘‘วิปุโล อุฬาโร’’ติ วุตฺโต. โอภาโสติ เทสนาาณานุภาเวน จ เทวตานุภาเวน จ ชาตโอภาโส. โลเกติ จกฺกวาฬสฺส ทสสหสฺสิยํเยว. อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวนฺติ เทวานํ อยมานุภาโว – นิวตฺถวตฺถปฺปภา ทฺวาทส โยชนานิ ผรติ, ตถา สรีรสฺส อลงฺการสฺส วิมานสฺส จ. ตํ เทวานํ เทวานุภาวํ อติกฺกมิตฺวาเยวาติ อตฺโถ. อุทานนฺติ โสมนสฺสาณมยิกํ อุทาหารํ. อุทาเนสีติ อุทาหริ. อฺาสิ วต, โภ โกณฺฑฺโติ อิมสฺสปิ อุทานสฺส อุทาหรณโฆโส ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ผริตฺวา อฏฺาสิ. อฺาสิโกณฺฑฺโติ ภุสํ าตโกณฺฑฺโติ อตฺโถ.

จกฺขุอาทีนํ นิทฺเทเส ทสฺสนฏฺเนาติอาทีสุ เอกเมว าณํ ยถาวุตฺตสฺส เนยฺยสฺส จกฺขุ วิย ทสฺสนกิจฺจกรเณน จกฺขุ. าณกิจฺจกรเณน าณํ. นานปฺปการโต ชานนกิจฺจกรเณน ปฺา. อนวเสสปฏิเวธกรเณน วิชฺชา. สพฺพถา โอภาสกิจฺจกรเณน อาโลโก นามาติ อตฺโถ. จกฺขุํ ธมฺโมติอาทีสุปิ เอกํเยว าณํ กิจฺจนานตฺเตน ปฺจธา วณฺณิตํ. อารมฺมณาติ อุปตฺถมฺภนฏฺเน. โคจราติ วิสยฏฺเน. ทสฺสนฏฺเนาติอาทีสุ าณกิจฺจํ ปฺจธา วุตฺตํ. อิมินา นเยน ตีสุ วาเรสุ เอเกกสฺมึ ปฺจ ปฺจ กตฺวา ปนฺนรส ธมฺมา, ปนฺนรส อตฺถา, ทฺวีสุ ปนฺนรสเกสุ ตึส นิรุตฺติโย, ปนฺนรสสุ ธมฺเมสุ ปนฺนรสสุ อตฺเถสุ ตึสาย นิรุตฺตีสูติ สฏฺิ าณานิ เวทิตพฺพานิ. เสสอริยสจฺเจสุปิ เอเสว นโย. จตูสุ อริยสจฺเจสุ เอเกกสฺมึ อริยสจฺเจ ปนฺนรสนฺนํ ปนฺนรสนฺนํ ธมฺมานํ อตฺถานฺจ วเสน สฏฺิ ธมฺมา, สฏฺิ อตฺถา, สฏฺิยา ธมฺเมสุ สฏฺิยา อตฺเถสุ จ วีสสตํ นิรุตฺติโย, วีสาธิกํ สตนฺติ อตฺโถ. สฏฺิยา ธมฺเมสุ สฏฺิยา อตฺเถสุ วีสุตฺตรสเต นิรุตฺตีสูติ เอวํ จตฺตารีสฺจ ทฺเว จ าณสตานิ.

๒-๓. สติปฏฺานวาราทิวณฺณนา

๓๑-๓๒. สติปฏฺานสุตฺตนฺตปุพฺพงฺคเม อิทฺธิปาทสุตฺตนฺตปุพฺพงฺคเม จ ปฏิสมฺภิทานิทฺเทเส อิมินาว นเยน อตฺโถ จ คณนา จ เวทิตพฺพา.

๔-๘. สตฺตโพธิสตฺตวาราทิวณฺณนา

๓๓-๓๗. สตฺตนฺนํ โพธิสตฺตานํ สุตฺตนฺเตสุ เอเกกสฺมึเยว สมุทเย จกฺขาทโย ปฺจ, นิโรเธ ปฺจาติ ทส ธมฺมา, สมุทเย ทสฺสนฏฺาทโย ปฺจ, นิโรเธ ปฺจาติ ทส อตฺถา, เตสํ วเสน วีสติ นิรุตฺติโย จตฺตารีสํ าณานิ. สตฺต เอกโต กตฺวา วุตฺตคณนา สุวิฺเยฺยา เอว. สพฺพฺุตฺาณวเสน วุตฺตปฏิสมฺภิทานิทฺเทเส เอเกกมูลเกสุ ‘‘าโต ทิฏฺโ วิทิโต สจฺฉิกโต ผสฺสิโต ปฺายา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๒๑) อิเมสุ ปฺจสุ วจเนสุ เอเกกสฺมึเยว จกฺขาทโย ปฺจ, ทสฺสนฏฺาทโย ปฺจาติ ปฺจปฺจกานํ วเสน ปฺจวีสติ ธมฺมา, ปฺจวีสติ อตฺถา, ตทฺทิคุณา นิรุตฺติโย, ตทฺทิคุณานิ าณานิ เยฺยานิ. ปฺจ เอกโต กตฺวา วุตฺตวาเรปิ ปฺจกฺขตฺตุํ ปฺจ ปฺจวีสติ กตฺวา ปฺจวีสสตํ ธมฺมา, ปฺจวีสสตํ อตฺถา, ตทฺทิคุณา นิรุตฺติโย, ตทฺทิคุณานิ าณานิ เยฺยานิ. อฑฺฒเตยฺยานีติ เจตฺถ ทฺเว สตานิ จ ปฺาสฺจ. ขนฺธาทีสุปิ เอเสว นโย. อิมินาว นเยน สจฺจวารปฏิสมฺภิทาวาเร จ ธมฺมาทิคณนา เวทิตพฺพา.

๙. ฉพุทฺธธมฺมวารวณฺณนา

๓๘. พุทฺธธมฺมวาเร ทิยฑฺฒสตนฺติ ฉกฺขตฺตุํ ปฺจวีสติ สตฺจ ปฺาสฺจ โหนฺติ, ตทฺทิคุณา นิรุตฺติโย ตทฺทิคุณานิ าณานิ. ปฏิสมฺภิทาธิกรเณติ ปฏิสมฺภิทาธิกาเร. อฑฺฒนวธมฺมสตานีติ ปมํ วุตฺเตสุ จตูสุ สจฺเจสุ สฏฺิ, จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สฏฺิ, จตูสุ สมฺมปฺปธาเนสุ สฏฺิ, สตฺตโพธิสตฺตเวยฺยากรเณสุ สตฺตติ, อภิฺฏฺาทีสุ ปฺจสุ ปฺจวีสสตํ, ขนฺธฏฺาทีสุ ปฺจสุ ปฺจวีสสตํ, ปุน จตูสุ อริยสจฺเจสุ สตํ, จตูสุ ปฏิสมฺภิทาสุ สตํ, ฉสุ พุทฺธธมฺเมสุ ทิยฑฺฒสตนฺติ เอวํ อฏฺสตานิ จ ปฺาสฺจ ธมฺมา โหนฺติ. เอวํ อตฺถาปิ ตตฺตกา เอว โหนฺติ. เอวเมว สจฺจาทีสุ ตีสุ าเนสุ วีสสตํ นิรุตฺติโย, สตฺตสุ เวยฺยากรเณสุ จตฺตารีสสตํ นิรุตฺติโย, อภิฺฏฺาทีสุ ขนฺธฏฺาทีสุ จ อฑฺฒเตยฺยานิ อฑฺฒเตยฺยานิ นิรุตฺติสตานิ, อริยสจฺเจสุ ปฏิสมฺภิทาสุ จ ทฺเว ทฺเว นิรุตฺติสตานิ, พุทฺธธมฺเมสุ ตีณิ นิรุตฺติสตานีติ เอวํ นิรุตฺติสหสฺสฺจ สตฺตนิรุตฺติสตานิ จ โหนฺติ. เอวเมว สจฺจาทีสุ ตีสุ าเนสุ จตฺตารีสาธิกานิ ทฺเว ทฺเว าณสตานิ, สตฺตสุ เวยฺยากรเณสุ อสีติอธิกานิ ทฺเว าณสตานิ, อภิฺฏฺาทีสุ ขนฺธฏฺาทีสุ จ ปฺจปฺจาณสตานิ, สจฺเจสุ ปฏิสมฺภิทาสุ จ จตฺตาริ จตฺตาริ าณสตานิ, พุทฺธธมฺเมสุ ฉ าณสตานีติ เอวํ ตีณิ จ าณสหสฺสานิ จตฺตาริ จ าณสตานิ โหนฺตีติ.

ปฏิสมฺภิทากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ธมฺมจกฺกกถา

๑. สจฺจวารวณฺณนา

๓๙. ปุน ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตนฺตเมว ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา กถิตาย ธมฺมจกฺกกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ ทุกฺขวตฺถุกาติ เอกาภิสมยวเสน ทุกฺขํ วตฺถุ เอเตสนฺติ ทุกฺขวตฺถุกา. ตเทว ทุกฺขํ วิเสเสตฺวา สจฺจวตฺถุกาติอาทิมาห. ตตฺถ สจฺจํ อารมฺมณํ อุปตฺถมฺโภ เอเตสนฺติ สจฺจารมฺมณา. สจฺจํ โคจโร วิสโย เอเตสนฺติ สจฺจโคจรา. สจฺจสงฺคหิตาติ มคฺคสจฺเจน สงฺคหิตา. สจฺจปริยาปนฺนาติ มคฺคสจฺจายตฺตา. สจฺเจ สมุทาคตาติ ทุกฺขปริชานเนน ทุกฺขสจฺเจ สมุปฺปนฺนา. ตถา ตตฺเถว ิตา ปติฏฺิตา จ.

๔๐. อิทานิ ‘‘ปวตฺติเต จ ภควตา ธมฺมจกฺเก’’ติ วุตฺตํ ธมฺมจกฺกํ นิทฺทิสิตุกาโม ธมฺมจกฺกนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ทุวิธํ ธมฺมจกฺกํ ปฏิเวธธมฺมจกฺกํ เทสนาธมฺมจกฺกฺจ. ปฏิเวธธมฺมจกฺกํ โพธิปลฺลงฺเก, เทสนาธมฺมจกฺกํ อิสิปตเน. ธมฺมฺจ ปวตฺเตติ จกฺกฺจาติ ปฏิเวธธมฺมจกฺกํ วุตฺตํ, จกฺกฺจ ปวตฺเตติ ธมฺมฺจาติ เทสนาธมฺมจกฺกํ. กถํ? ภควา หิ โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺโน มคฺคกฺขเณ อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคาทิเภทํ ธมฺมฺจ ปวตฺเตติ, โสเยว จ ธมฺโม กิเลสสตฺตุฆาตาย ปวตฺตนโต ปหรณจกฺกํ วิยาติ จกฺกฺจ. ธมฺมํ ปวตฺเตนฺโตเยว ภควา ตํ จกฺกํ ปวตฺเตติ นาม. เอเตน ธมฺโมเยว จกฺกนฺติ กมฺมธารยสมาสตา วุตฺตา โหติ. อิสิปตเน นิสินฺโน ภควา ธมฺมเทสนกฺขเณ เวเนยฺยสนฺตาเน กิเลสสตฺตุฆาตาย ปวตฺตนโต ปหรณจกฺกสทิสํ เทสนาจกฺกฺจ ปวตฺเตติ, เวเนยฺยสนฺตาเน อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคาทิเภทํ ธมฺมจกฺกฺจ ปวตฺเตติ. เอเตน ธมฺโม จ จกฺกฺจ ธมฺมจกฺกนฺติ ทฺวนฺทสมาสตา วุตฺตา โหติ. ยสฺมา ปน ปวตฺตเก สติ ปวตฺตนา นาม โหติ, ตสฺมา สพฺพตฺถาปิ ‘‘ปวตฺเตตี’’ติ วุตฺตํ, ปวตฺตนฏฺเน ปน ‘‘จกฺก’’นฺติ วุตฺตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. ธมฺเมน ปวตฺเตตีติ ธมฺมจกฺกนฺติอาทีนิ เทสนาธมฺมจกฺกเมว สนฺธาย วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ.

ตตฺถ ธมฺเมน ปวตฺเตตีติ ยถาสภาวตฺตา ธมฺเมน ปวตฺตํ จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺมจริยาย ปวตฺเตตีติ เวเนยฺยสนฺตาเน ธมฺมตฺถาย ปวตฺตํ จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺเม ิโตติอาทีหิ ภควโต ธมฺมภูตตา ธมฺมสฺสามิตา จ วุตฺตา โหติ. ยถาห – ‘‘โส หาวุโส, ภควา ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสติ จกฺขุภูโต าณภูโต ธมฺมภูโต พฺรหฺมภูโต วตฺตา ปวตฺตา อตฺถสฺส นินฺเนตา อมตสฺส ทาตา ธมฺมสฺสามี ตถาคโต’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๐๓). ตสฺมา เตหิ ธมฺมสฺส จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ิโตติ วิสยีภาเวน ิโต. ปติฏฺิโตติ อจลภาเวน ปติฏฺิโต. วสิปฺปตฺโตติ อิสฺสรภาวํ ปตฺโต. ปารมิปฺปตฺโตติ โกฏิปฺปตฺโต. เวสารชฺชปฺปตฺโตติ วิสารทภาวํ ปตฺโต. ธมฺเม ปติฏฺาเปนฺโตติอาทีหิ เวเนยฺยสนฺตานมเปกฺขิตฺวา วุตฺเตหิ ปน วจเนหิ ธมฺมสฺสามิตาย จ ธมฺมตฺถาย จกฺกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺมํ สกฺกโรนฺโตติหอาทีหิ ธมฺมตฺถาย จกฺกนฺติ วุตฺตํ โหติ. โย หิ ธมฺมํ สกฺการาทิวเสน ปวตฺเตติ, โส ธมฺมตฺถํ ปวตฺเตติ. ธมฺมํ สกฺกโรนฺโตติ ยถา กโต โส ธมฺโม สุกโต โหติ, เอวเมว นํ กโรนฺโต. ธมฺมํ ครุํ กโรนฺโตติ ตสฺมึ คารวุปฺปตฺติยา ตํ ครุํ กโรนฺโต. ธมฺมํ มาเนนฺโตติ ธมฺมํ ปิยฺจ ภาวนียฺจ กตฺวา วิหรนฺโต. ธมฺมํ ปูเชนฺโตติ ตํ อปทิสิตฺวา เทสนาปฏิปตฺติปูชาย ปูชํ กโรนฺโต. ธมฺมํ อปจายมาโนติ ตสฺเสว ธมฺมสฺส สกฺการครุกาเรหิ นีจวุตฺติตํ กโรนฺโต. ธมฺมทฺธโช ธมฺมเกตูติ ตํ ธมฺมํ ธชมิว ปุรกฺขตฺวา เกตุมิว จ อุกฺขิปิตฺวา ปวตฺติยา ธมฺมทฺธโช ธมฺมเกตุ จ หุตฺวาติ อตฺโถ. ธมฺมาธิปเตยฺโยติ ธมฺมาธิปติโต อาคโต ภาวนาธมฺมวเสเนว จ สพฺพกิริยานํ กรเณน ธมฺมาธิปเตยฺโย หุตฺวา. ตํ โข ปน ธมฺมจกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยนฺติ เกนจิ นิวตฺเตตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อปฺปฏิหตปวตฺติตา วุตฺตา. ตสฺมา โส ธมฺโม ปวตฺตนฏฺเน จกฺกนฺติ วุตฺตํ โหติ.

สทฺธินฺทฺริยํ ธมฺโม, ตํ ธมฺมํ ปวตฺเตตีติ เวเนยฺยสนฺตาเน มคฺคสมฺปยุตฺตสทฺธินฺทฺริยุปฺปาทเนน ตํ สทฺธินฺทฺริยํ ธมฺมํ ปวตฺเตตีติ อตฺโถ. เอเสว นโย เสเสสุปิ. สจฺจาติ สจฺจาณานิ. วิปสฺสนา จ วิชฺชา จ มคฺคาณเมว. อนุปฺปาเท าณนฺติ อรหตฺตผเล าณํ. ตมฺปิ เวเนยฺยสนฺตาเน ปวตฺเตติเยว, นิพฺพานฺจ ปฏิเวธํ กโรนฺโต ปวตฺเตติเยว นาม.

สมุทยวาราทีสุ สมุทยวตฺถุกา นิโรธวตฺถุกา มคฺควตฺถุกาติ วิเสสปทํ ทสฺเสตฺวา สงฺขิตฺตา. เอตฺถาปิ วุตฺตสทิสํ ปมํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๒-๓. สติปฏฺานวาราทิวณฺณนา

๔๑-๔๒. สติปฏฺานอิทฺธิปาทปุพฺพงฺคมวาราปิ มคฺคกฺขณวเสน วุตฺตา. เตปิ ตตฺถ ตตฺถ วิเสสปทํ ทสฺเสตฺวา สงฺขิตฺตาติ.

ธมฺมจกฺกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. โลกุตฺตรกถา

โลกุตฺตรกถาวณฺณนา

๔๓. อิทานิ โลกุตฺตรธมฺมวติยา ธมฺมจกฺกกถาย อนนฺตรํ กถิตาย โลกุตฺตรกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ โลกุตฺตรปทสฺส อตฺโถ นิทฺเทสวาเร อาวิ ภวิสฺสติ. จตฺตาโร สติปฏฺานาติอาทโย สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา ยถาโยคํ มคฺคผลสมฺปยุตฺตา. เต พุชฺฌนฏฺเน โพธีติ เอวํลทฺธนามสฺส อริยสฺส ปกฺเข ภวตฺตา โพธิปกฺขิยา นาม. ปกฺเข ภวตฺตาติ อุปการภาเว ิตตฺตา. เตสุ อารมฺมเณสุ โอกฺกนฺติตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา อุปฏฺานโต อุปฏฺานํ, สติเยว อุปฏฺานํ สติปฏฺานํ. กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ ปนสฺส อสุภทุกฺขานิจฺจานตฺตาการคหณวเสน สุภสุขนิจฺจอตฺตสฺาปหานกิจฺจสาธนวเสน จ ปวตฺติโต จตุธา เภโท โหติ. ตสฺมา จตฺตาโร สติปฏฺานาติ วุจฺจติ. ปทหนฺติ เอเตนาติ ปธานํ, โสภนํ ปธานํ สมฺมปฺปธานํ, สมฺมา วา ปทหนฺติ เอเตนาติ สมฺมปฺปธานํ, โสภนํ วา ตํ กิเลสวิรูปปวตฺตวิรหิตโต ปธานฺจ หิตสุขนิปฺผาทกฏฺเน เสฏฺภาวาวหนโต ปธานภาวกรณโต วาติ สมฺมปฺปธานํ. วีริยสฺเสตํ อธิวจนํ. ตยิทํ อุปฺปนฺนานุปฺปนฺนานํ อกุสลานํ ปหานานุปฺปตฺติกิจฺจํ, อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานฺจ กุสลานํ อุปฺปตฺติฏฺิติกิจฺจํ สาธยตีติ จตุพฺพิธํ โหติ. ตสฺมา จตฺตาโร สมฺมปฺปธานาติ วุจฺจติ. นิปฺผตฺติปริยาเยน อิชฺฌนฏฺเน, อิชฺฌนฺติ เอตาย สตฺตา อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติ อิมินา วา ปริยาเยน อิทฺธิ, ตสฺสา สมฺปยุตฺตาย ปุพฺพงฺคมฏฺเน ผลภูตาย ปุพฺพภาคการณฏฺเน จ อิทฺธิยา ปาโทติ อิทฺธิปาโท. โส ฉนฺทวีริยจิตฺตวีมํสาวเสน จตุพฺพิโธว โหติ. ตสฺมา จตฺตาโร อิทฺธิปาทาติ วุจฺจติ. อสฺสทฺธิยโกสชฺชปมาทวิกฺเขปสมฺโมหานํ อภิภวนโต อภิภวนสงฺขาเตน อธิปติยฏฺเน อินฺทฺริยํ. อสฺสทฺธิยาทีหิ อนภิภวนียโต อกมฺปิยฏฺเน พลํ. ตทุภยมฺปิ สทฺธาวีริยสติสมาธิปฺาวเสน ปฺจวิธํ โหติ. ตสฺมา ปฺจินฺทฺริยานิ ปฺจ พลานีติ วุจฺจนฺติ. พุชฺฌนกสตฺตสฺส ปน องฺคภาเวน สติอาทโย สตฺต ธมฺมา โพชฺฌงฺคา, นิยฺยานฏฺเน จ สมฺมาทิฏฺิอาทโย อฏฺ มคฺคงฺคา โหนฺติ. เตน วุจฺจติ สตฺต โพชฺฌงฺคา อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโคติ.

อิติ อิเม สตฺตตึส โพธิปกฺขิยา ธมฺมา ปุพฺพภาเค โลกิยวิปสฺสนาย วตฺตมานาย จุทฺทสวิเธน กายํ ปริคฺคณฺหโต จ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, นววิเธน เวทนํ ปริคฺคณฺหโต จ เวทนานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, โสฬสวิเธน จิตฺตํ ปริคฺคณฺหโต จ จิตฺตานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, ปฺจวิเธน ธมฺเม ปริคฺคณฺหโต จ ธมฺมานุปสฺสนาสติปฏฺานํ. อิติ อิมสฺมึ อตฺตภาเว อนุปฺปนฺนปุพฺพํ ปรสฺส อุปฺปนฺนํ อกุสลํ ทิสฺวา ‘‘ยถา ปฏิปนฺนสฺส ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนํ, น ตถา ปฏิปชฺชิสฺสามิ, เอวํ เม เอตํ นุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ ตสฺส อนุปฺปาทาย วายมนกาเล ปมํ สมฺมปฺปธานํ, อตฺตโน สมุทาจารปฺปตฺตมกุสลํ ทิสฺวา ตสฺส ปหานาย วายมนกาเล ทุติยํ, อิมสฺมึ อตฺตภาเว อนุปฺปนฺนปุพฺพํ ฌานํ วา วิปสฺสนํ วา อุปฺปาเทตุํ วายมนฺตสฺส ตติยํ, อุปฺปนฺนํ ยถา น ปริหายติ, เอวํ ปุนปฺปุนํ อุปฺปาเทนฺตสฺส จตุตฺถํ สมฺมปฺปธานํ. ฉนฺทํ ธุรํ กตฺวา กุสลุปฺปาทนกาเล ฉนฺทิทฺธิปาโท, วีริยํ, จิตฺตํ, วีมํสํ ธุรํ กตฺวา กุสลุปฺปาทนกาเล วีมํสิทฺธิปาโท. มิจฺฉาวาจาย วิรมณกาเล สมฺมาวาจา, มิจฺฉากมฺมนฺตา, มิจฺฉาชีวา วิรมณกาเล สมฺมาชีโวติ เอวํ นานาจิตฺเตสุ ลพฺภนฺติ. จตุมคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺเต ลพฺภนฺติ, ผลกฺขเณ เปตฺวา จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเน อวเสสา เตตฺตึส ลพฺภนฺติ. เอวํ เอกจิตฺเต ลพฺภมาเนสุ เจเตสุ เอกาว นิพฺพานารมฺมณา สติ กายาทีสุ สุภสฺาทิปหานกิจฺจสาธนวเสน ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติ วุจฺจติ. เอกเมว จ วีริยํ อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ อนุปฺปาทาทิกิจฺจสาธนวเสน ‘‘จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา’’ติ วุจฺจติ. เสเสสุ หาปนวฑฺฒนํ นตฺถิ.

อปิจ เตสุ –

นว เอกวิธา เอโก, ทฺเวธาถ จตุปฺจธา;

อฏฺธา นวธา เจว, อิติ ฉทฺธา ภวนฺติ เต.

นว เอกวิธาติ ฉนฺโท จิตฺตํ ปีติ ปสฺสทฺธิ อุเปกฺขา สงฺกปฺโป วาจา กมฺมนฺโต อาชีโวติ อิเม นว ฉนฺทิทฺธิปาทาทิวเสน เอกวิธาว โหนฺติ, อฺโกฏฺาสํ น ภชนฺติ. เอโก ทฺเวธาติ สทฺธา อินฺทฺริยพลวเสน ทฺเวธา ิตา. อถ จตุปฺจธาติ อถฺโ เอโก จตุธา, อฺโ ปฺจธา ิโตติ อตฺโถ. ตตฺถ สมาธิ เอโก อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺควเสน จตุธา ิโต, ปฺา เตสํ จตุนฺนํ อิทฺธิปาทโกฏฺาสสฺส จ วเสน ปฺจธา. อฏฺธา นวธา เจวาติ อปโร เอโก อฏฺธา, เอโก นวธา ิโตติ อตฺโถ. จตุสติปฏฺานอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺควเสน สติ อฏฺธา ิตา, จตุสมฺมปฺปธานอิทฺธิปาทอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺควเสน วีริยํ นวธาติ. เอวํ –

จุทฺทเสว อสมฺภินฺนา, โหนฺเตเต โพธิปกฺขิยา;

โกฏฺาสโต สตฺตวิธา, สตฺตตึส ปเภทโต.

สกิจฺจนิปฺผาทนโต, สรูเปน จ วุตฺติโต;

สพฺเพว อริยมคฺคสฺส, สมฺภเว สมฺภวนฺติ เต.

เอวํ มคฺคผลสมฺปยุตฺเต สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺเม ทสฺเสตฺวา ปุน เต มคฺคผเลสุ สงฺขิปิตฺวา จตฺตาโร อริยมคฺคา จตฺตาริ จ สามฺผลานีติ อาห. สมณภาโว สามฺํ, จตุนฺนํ อริยมคฺคานเมตํ นามํ. สามฺานํ ผลานิ สามฺผลานิ. นิพฺพานํ ปน สพฺเพหิ อสมฺมิสฺสเมว. อิติ วิตฺถารโต สตฺตตึสโพธิปกฺขิยจตุมคฺคจตุผลนิพฺพานานํ วเสน ฉจตฺตาลีส โลกุตฺตรธมฺมา, ตโต สงฺเขเปน จตุมคฺคจตุผลนิพฺพานานํ วเสน นว โลกุตฺตรธมฺมา, ตโตปิ สงฺเขเปน มคฺคผลนิพฺพานานํ วเสน ตโย โลกุตฺตรธมฺมาติ เวทิตพฺพํ. สติปฏฺานาทีนํ มคฺคผลานฺจ โลกุตฺตรตฺเต วุตฺเต ตํสมฺปยุตฺตานํ ผสฺสาทีนมฺปิ โลกุตฺตรตฺตํ วุตฺตเมว โหติ. ปธานธมฺมวเสน ปน สติปฏฺานาทโยว วุตฺตา. อภิธมฺเม (ธ. ส. ๒๗๗ อาทโย, ๕๐๕ อาทโย) จ โลกุตฺตรธมฺมนิทฺเทเส มคฺคผลสมฺปยุตฺตานํ ผสฺสาทีนํ โลกุตฺตรตฺตํ วุตฺตเมวาติ.

โลกํ ตรนฺตีติ โลกํ อติกฺกมนฺติ. สพฺพมิธ อีทิสํ วตฺตมานกาลวจนํ จตฺตาโร อริยมคฺเค สนฺธาย วุตฺตํ. โสตาปตฺติมคฺโค หิ อปายโลกํ ตรติ, สกทาคามิมคฺโค กามาวจรโลเกกเทสํ ตรติ, อนาคามิมคฺโค กามาวจรโลกํ ตรติ, อรหตฺตมคฺโค รูปารูปาวจรโลกํ ตรติ. โลกา อุตฺตรนฺตีติ โลกา อุคฺคจฺฉนฺติ. โลกโตติ จ โลกมฺหาติ จ ตเทว นิสฺสกฺกวจนํ วิเสเสตฺวา ทสฺสิตํ. โลกํ สมติกฺกมนฺตีติ ปมํ วุตฺตตฺถเมว. ตตฺถ อุปสคฺคตฺถํ อนเปกฺขิตฺวา วุตฺตํ, อิธ สห อุปสคฺคตฺเถน วุตฺตํ. โลกํ สมติกฺกนฺตาติ ยถาวุตฺตํ โลกํ สมฺมา อติกฺกนฺตา. สพฺพมิธ อีทิสํ อตีตกาลวจนํ ผลนิพฺพานานิ สนฺธาย วุตฺตํ, โสตาปตฺติผลาทีนิ หิ ยถาวุตฺตํ โลกํ อติกฺกมิตฺวา ิตานิ, สทา นิพฺพานํ สพฺพโลกํ อติกฺกมิตฺวา ิตํ. โลเกน อติเรกาติ โลกโต อธิกภูตา. อิทํ สพฺเพปิ โลกุตฺตรธมฺเม สนฺธาย วุตฺตํ. นิสฺสรนฺตีติ นิคฺคจฺฉนฺติ. นิสฺสฏาติ นิคฺคตา. โลเก น ติฏฺนฺตีติอาทีนิ อฏฺารส วจนานิ สพฺพโลกุตฺตเรสุปิ ยุชฺชนฺติ. น ติฏฺนฺตีติ โลเก อปริยาปนฺนตฺตา วุตฺตํ. โลเก น ลิมฺปนฺตีติ ขนฺธสนฺตาเน วตฺตมานาปิ ตสฺมึ น ลิมฺปนฺตีติ อตฺโถ. โลเกน น ลิมฺปนฺตีติ อกตปฏิเวธานํ เกนจิ จิตฺเตน, กตปฏิเวธานํ อกุสเลน อปฺปมตฺเตนปิ จิตฺเตน น ลิมฺปนฺตีติ อตฺโถ. อสํลิตฺตา อนุปลิตฺตาติ อุปสคฺเคน วิเสสิตํ.

วิปฺปมุตฺตาติ อลิตฺตตฺตเมว นานาพฺยฺชเนน วิเสสิตํ. เย เกจิ หิ ยตฺถ เยน วา อลิตฺตา, เต ตตฺถ เตน วา วิปฺปมุตฺตา โหนฺติ. โลกา วิปฺปมุตฺตาติอาทีนิ ตีณิ นิสฺสกฺกวเสน วุตฺตานิ. วิสฺุตฺตาติ วิปฺปมุตฺตตฺตวิเสสนํ. เย เกจิ หิ ยตฺถ เยน ยโต วิปฺปมุตฺตา, เต ตตฺถ เตน ตโต วิสฺุตฺตา นาม โหนฺติ. โลกา สุชฺฌนฺตีติ โลกมลํ โธวิตฺวา โลกา สุชฺฌนฺติ. วิสุชฺฌนฺตีติ ตเทว อุปสคฺเคน วิเสสิตํ. วุฏฺหนฺตีติ อุฏฺิตา โหนฺติ. วิวฏฺฏนฺตีติ นิวฏฺฏนฺติ. น สชฺชนฺตีติ น ลคฺคนฺติ. น คยฺหนฺตีติ น คณฺหียนฺติ. น พชฺฌนฺตีติ น พาธียนฺติ. สมุจฺฉินฺทนฺตีติ อปฺปวตฺตึ กโรนฺติ. ยถา จ โลกํ สมุจฺฉินฺนตฺตาติ, ตเถว ‘‘โลกา วิสุทฺธตฺตา’’ติอาทิ วุตฺตเมว โหติ. ปฏิปฺปสฺสมฺเภนฺตีติ นิโรเธนฺติ. อปถาติอาทีนิ จตฺตาริ สพฺเพสุปิ โลกุตฺตเรสุ ยุชฺชนฺติ. อปถาติ อมคฺคา. อคตีติ อปฺปติฏฺา. อวิสยาติ อนายตฺตา. อสาธารณาติ อสมานา. วมนฺตีติ อุคฺคิลนฺติ. น ปจฺจาวมนฺตีติ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน วุตฺตํ, วนฺตํ ปุน น อทนฺตีติ อตฺโถ. เอเตน วนฺตสฺส สุวนฺตภาโว วุตฺโต โหติ. อนนฺตรทุกตฺตเยปิ เอเสว นโย. วิสีเนนฺตีติ วิกิรนฺติ วิมุจฺจนฺติ, น พนฺธนฺตีติ อตฺโถ. น อุสฺสีเนนฺตีติ น วิกิรนฺติ น วิมุจฺจนฺติ. ‘‘วิสิเนนฺตี’’ติ ‘‘น อุสฺสิเนนฺตี’’ติ รสฺสํ กตฺวา ปาโ สุนฺทโร. วิธูเปนฺตีติ นิพฺพาเปนฺติ. สํธูเปนฺตีติ น อุชฺชลนฺติ. โลกํ สมติกฺกมฺม อภิภุยฺย ติฏฺนฺตีติ สพฺเพปิ โลกุตฺตรา ธมฺมา โลกํ สมฺมา อติกฺกมิตฺวา อภิภวิตฺวา จ ติฏฺนฺตีติ โลกุตฺตรา. สพฺเพหิปิ อิเมหิ ยถาวุตฺเตหิ ปกาเรหิ โลกุตฺตรานํ โลกโต อุตฺตรภาโว อธิกภาโว จ วุตฺโต โหตีติ.

โลกุตฺตรกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. พลกถา

พลกถาวณฺณนา

๔๔. อิทานิ โลกุตฺตรกถาย อนนฺตรํ กถิตาย โลกุตฺตรกถาวติยา สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย พลกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ อาทิโต สุตฺตนฺตวเสน ปฺจ พลานิ ทสฺเสตฺวา ตทฺานิปิ พลานิ ทสฺเสตุกาโม อปิจ อฏฺสฏฺิ พลานีติอาทิมาห. สพฺพานิปิ ตํตํปฏิปกฺเขหิ อกมฺปิยฏฺเน พลานิ นาม โหนฺติ. หิริพลนฺติอาทีสุ ปาปโต หิรียนฺติ เอตายาติ หิรี, ลชฺชาเยตํ นามํ. ปาปโต โอตฺตปฺปนฺติ เอเตนาติ โอตฺตปฺปํ, ปาปโต อุพฺเพคสฺเสตํ นามํ. อชฺฌตฺตสมุฏฺานา หิรี, พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ. อตฺตาธิปติ หิรี, โลกาธิปติ โอตฺตปฺปํ. ลชฺชาสภาวสณฺิตา หิรี, ภยสภาวสณฺิตํ โอตฺตปฺปํ. สปฺปติสฺสวลกฺขณา หิรี, วชฺชภีรุกภยทสฺสาวิลกฺขณํ โอตฺตปฺปํ. สา เอว หิรี อหิริเกน น กมฺปตีติ หิริพลํ. ตเทว โอตฺตปฺปํ อโนตฺตปฺเปน น กมฺปตีติ โอตฺตปฺปพลํ. อปฺปฏิสงฺขาเนน น กมฺปตีติ ปฏิสงฺขานพลํ. อุปปริกฺขณปฺาเยตํ นามํ. วีริยสีเสน สตฺต โพชฺฌงฺเค ภาเวนฺตสฺส อุปฺปนฺนพลํ ภาวนาพลํ. ตถาปวตฺตานํ จตุนฺนํ ขนฺธานเมตํ นามํ. ปริสุทฺธานิ สีลาทีนิ อนวชฺชพลํ. จตฺตาริ สงฺคหวตฺถูนิ สงฺคหพลํ. สงฺคเห พลนฺติปิ ปาโ. ทุกฺขมานํ อธิวาสนํ ขนฺติพลํ. ธมฺมกถาย ปเรสํ โตสนํ ปฺตฺติพลํ. อธิตสฺส อตฺถสฺส อธิคมาปนํ นิชฺฌตฺติพลํ. กุสเลสุ พหุภาโว อิสฺสริยพลํ. กุสเลสุ ยถารุจิ ปติฏฺานํ อธิฏฺานพลํ. หิริพลาทีนํ อตฺโถ มาติกาปเทสุ พฺยฺชนวเสน วิเสสโต ยุชฺชมานํ คเหตฺวา วุตฺโต. สมถพลํ วิปสฺสนาพลนฺติ พลปฺปตฺตา สมถวิปสฺสนา เอว.

มาติกานิทฺเทเส อสฺสทฺธิเย น กมฺปตีติ สทฺธาพลนฺติ มูลพลฏฺํ วตฺวา ตเมว อปเรหิ นวหิ ปริยาเยหิ วิเสเสตฺวา ทสฺเสสิ. โย หิ ธมฺโม อกมฺปิโย พลปฺปตฺโต โหติ, โส สหชาเต อุปตฺถมฺเภติ, อตฺตโน ปฏิปกฺเข กิเลเส ปริยาทิยติ, ปฏิเวธสฺส อาทิภูตํ สีลํ ทิฏฺิฺจ วิโสเธติ, จิตฺตํ อารมฺมเณ ปติฏฺาเปติ, จิตฺตํ ปภสฺสรํ กโรนฺโต โวทาเปติ, วสึ ปาเปนฺโต วิเสสํ อธิคมาเปติ, ตโต อุตฺตรึ ปาเปนฺโต อุตฺตริปฏิเวธํ กาเรติ, กเมน อริยมคฺคํ ปาเปตฺวา สจฺจาภิสมยํ กาเรติ, ผลปฺปตฺติยา นิโรเธ ปติฏฺาเปติ. ตสฺมา นวธา พลฏฺโ วิเสสิโต. เอส นโย วีริยพลาทีสุ จตูสุ.

กามจฺฉนฺทํ หิรียตีติ เนกฺขมฺมยุตฺโต โยคี เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺทโต หิรียติ. โอตฺตปฺเปปิ เอเสว นโย. เอเตหิ สพฺพากุสเลหิปิ หิรียนา โอตฺตปฺปนา วุตฺตาเยว โหนฺติ. พฺยาปาทนฺติอาทีนมฺปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปฏิสงฺขาตีติ อสมฺโมหวเสน อาทีนวโต อุปปริกฺขติ. ภาเวตีติ วฑฺเฒติ. วชฺชนฺติ ราคาทิวชฺชํ. สงฺคณฺหาตีติ พนฺธติ. ขมตีติ ตสฺส โยคิสฺส ขมติ รุจฺจติ. ปฺาเปตีติ โตเสติ. นิชฺฌาเปตีติ จินฺตาเปติ. วสํ วตฺเตตีติ จิตฺเต ปหุ หุตฺวา จิตฺตํ อตฺตโน วสํ กตฺวา ปวตฺเตติ. อธิฏฺาตีติ วิทหติ. ภาวนาพลาทีนิ สพฺพานิปิ เนกฺขมฺมาทีนิเยว. มาติกาวณฺณนาย อฺถา วุตฺโต, อตฺโถ ปน พฺยฺชนวเสเนว ปากฏตฺตา อิธ น วุตฺโตติ เวทิตพฺพํ. สมถพลํ วิปสฺสนาพลฺจ วิตฺถารโต นิทฺทิสิตฺวา อวสาเน อุทฺธจฺจสหคตกิเลเส จ ขนฺเธ จ น กมฺปตีติอาทิ จ อวิชฺชาสหคตกิเลเส จ ขนฺเธ จ น กมฺปตีติอาทิ จ สมถพลวิปสฺสนาพลานํ ลกฺขณทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.

เสขาเสขพเลสุ สมฺมาทิฏฺึ สิกฺขตีติ เสขพลนฺติ เสขปุคฺคโล สมฺมาทิฏฺึ สิกฺขตีติ เสโข, สา สมฺมาทิฏฺิ ตสฺส เสขสฺส พลนฺติ เสขพลนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ สิกฺขิตตฺตา อเสขพลนฺติ อเสขปุคฺคโล ตตฺถ สมฺมาทิฏฺิยา สิกฺขิตตฺตา น สิกฺขตีติ อเสโข, สาเยว สมฺมาทิฏฺิ ตสฺส อเสขสฺส พลนฺติ อเสขพลํ. เอเสว นโย สมฺมาสงฺกปฺปาทีสุ. สมฺมาาณนฺติ ปจฺจเวกฺขณาณํ. ตมฺปิ หิ โลกิกมฺปิ โหนฺตํ เสขสฺส ปวตฺตตฺตา เสขพลํ, อเสขสฺส ปวตฺตตฺตา อเสขพลนฺติ วุตฺตํ. สมฺมาวิมุตฺตีติ อฏฺ มคฺคงฺคานิ เปตฺวา เสสา ผลสมฺปยุตฺตา ธมฺมา. เกจิ ปน ‘‘เปตฺวา โลกุตฺตรวิมุตฺตึ อวเสสา วิมุตฺติโย สมฺมาวิมุตฺตี’’ติ วทนฺติ. ตสฺส เสขาเสขพลตฺตํ วุตฺตนยเมว.

ขีณาสวพเลสุ สพฺพานิปิ าณพลานิ. ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโนติ กรณตฺเถ สามิวจนํ, ขีณาสเวน ภิกฺขุนาติ อตฺโถ. อนิจฺจโตติ หุตฺวา อภาวากาเรน อนิจฺจโต. ยถาภูตนฺติ ยถาสภาวโต. ปฺายาติ สหวิปสฺสนาย มคฺคปฺาย. อนิจฺจโต สุทิฏฺา ทุกฺขโต อนตฺตโต สุทิฏฺา โหนฺติ ตมฺมูลกตฺตา. นฺติ ภาวนปุํสกวจนํ, เยน การเณนาติ วา อตฺโถ. อาคมฺมาติ ปฏิจฺจ. ปฏิชานาตีติ สมฺปฏิจฺฉติ ปฏิฺํ กโรติ. องฺคารกาสูปมาติ มหาภิตาปฏฺเน องฺคารกาสุยา อุปมิตา. กามาติ วตฺถุกามา จ กิเลสกามา จ.

วิเวกนินฺนนฺติ ผลสมาปตฺติวเสน อุปธิวิเวกสงฺขาตนิพฺพานนินฺนํ. ตโย หิ วิเวกา – กายวิเวโก จิตฺตวิเวโก อุปธิวิเวโกติ. กายวิเวโก จ วิเวกฏฺกายานํ เนกฺขมฺมาภิรตานํ. จิตฺตวิเวโก จ อธิจิตฺตมนุยุตฺตานํ. อุปธิวิเวโก จ นิรุปธีนํ ปุคฺคลานํ วิสงฺขารคตานํ, นิสฺสรณวิเวกสงฺขาตนิพฺพานนินฺนํ วา. ปฺจ หิ วิเวกา – วิกฺขมฺภนวิเวโก ตทงฺควิเวโก สมุจฺเฉทวิเวโก ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวโก นิสฺสรณวิเวโกติ. วิเวกนินฺนนฺติ วิเวเก นินฺนํ. วิเวกโปณนฺติ วิเวเก นตํ. วิเวกปพฺภารนฺติ วิเวกสีสภารํ. ทฺเวปิ ปุริมสฺเสว เววจนานิ. วิเวกฏฺนฺติ กิเลเสหิ วชฺชิตํ, ทูรีภูตํ วา. เนกฺขมฺมาภิรตนฺติ นิพฺพาเน อภิรตํ, ปพฺพชฺชาย อภิรตํ วา. พฺยนฺตีภูตนฺติ วิคตนฺตีภูตํ, เอกเทเสนาปิ อนลฺลีนํ วิปฺปมุตฺตํ วิสํสฏฺํ. สพฺพโสติ สพฺพถา. อาสวฏฺานิเยหิ ธมฺเมหีติ สํโยควเสน อาสวานํ การณภูเตหิ กิเลสธมฺเมหีติ อตฺโถ. อถ วา พฺยนฺตีภูตนฺติ วิคตนิกนฺติภูตํ, นิตฺตณฺหนฺติ อตฺโถ. กุโต? สพฺพโส อาสวฏฺานิเยหิ ธมฺเมหิ สพฺเพหิ เตภูมกธมฺเมหีติ อตฺโถ. อิธ ทสหิ ขีณาสวพเลหิ ขีณาสวสฺส โลกิยโลกุตฺตโร มคฺโค กถิโต. ‘‘อนิจฺจโต สพฺเพ สงฺขารา’’ติ ทุกฺขปริฺาพลํ, ‘‘องฺคารกาสูปมา กามา’’ติ สมุทยปหานพลํ, ‘‘วิเวกนินฺนํ จิตฺตํ โหตี’’ติ นิโรธสจฺฉิกิริยาพลํ, ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติอาทิ สตฺตวิธํ มคฺคภาวนาพลนฺติปิ วทนฺติ. ทส อิทฺธิพลานิ อิทฺธิกถาย อาวิ ภวิสฺสนฺติ.

ตถาคตพลนิทฺเทเส ตถาคตพลานีติ อฺเหิ อสาธารณานิ ตถาคตสฺเสว พลานิ. ยถา วา ปุพฺพพุทฺธานํ พลานิ ปุฺุสฺสยสมฺปตฺติยา อาคตานิ, ตถา อาคตพลานีติปิ อตฺโถ. ตตฺถ ทุวิธํ ตถาคตพลํ – กายพลํ าณพลฺจ. เตสุ กายพลํ หตฺถิกุลานุสาเรน เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ โปราเณหิ –

‘‘กาฬาวกฺจ คงฺเคยฺยํ, ปณฺฑรํ ตมฺพปิงฺคลํ;

คนฺธมงฺคลเหมฺจ, อุโปสถฉทฺทนฺติเม ทสา’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๗๖๐; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๔๘; สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๒๒);

อิมานิ ทส หตฺถิกุลานิ. ตตฺถ กาฬาวกนฺติ ปกติหตฺถิกุลํ ทฏฺพฺพํ. ยํ ทสนฺนํ ปุริสานํ กายพลํ, ตํ เอกสฺส กาฬาวกสฺส หตฺถิโน พลํ. ยํ ทสนฺนํ กาฬาวกานํ พลํ, ตํ เอกสฺส คงฺเคยฺยสฺส พลํ. ยํ ทสนฺนํ คงฺเคยฺยานํ, ตํ เอกสฺส ปณฺฑรสฺส. ยํ ทสนฺนํ ปณฺฑรานํ, ตํ เอกสฺส ตมฺพสฺส. ยํ ทสนฺนํ ตมฺพานํ, ตํ เอกสฺส ปิงฺคลสฺส. ยํ ทสนฺนํ ปิงฺคลานํ, ตํ เอกสฺส คนฺธหตฺถิโน. ยํ ทสนฺนํ คนฺธหตฺถีนํ, ตํ เอกสฺส มงฺคลหตฺถิโน. ยํ ทสนฺนํ มงฺคลหตฺถีนํ, ตํ เอกสฺส เหมวตสฺส. ยํ ทสนฺนํ เหมวตานํ, ตํ เอกสฺส อุโปสถสฺส. ยํ ทสนฺนํ อุโปสถานํ, ตํ เอกสฺส ฉทฺทนฺตสฺส. ยํ ทสนฺนํ ฉทฺทนฺตานํ, ตํ เอกสฺส ตถาคตสฺส พลํ. นารายนสงฺฆาตพลนฺติปิ อิทเมว วุจฺจติ. ตเทตํ ปกติหตฺถิโน คณนาย หตฺถีนํ โกฏิสหสฺสสฺส, ปุริสคณนาย ทสนฺนํ ปุริสโกฏิสหสฺสานํ พลํ โหติ. อิทํ ตาว ตถาคตสฺส กายพลํ.

าณพลํ ปน อิธ ตาว อฺตฺถ จ ปาฬิยํ อาคตเมว ทสพลาณํ, มชฺฌิเม (ม. นิ. ๑.๑๕๐) อาคตํ จตุเวสารชฺชาณํ, อฏฺสุ ปริสาสุ อกมฺปนาณํ, จตุโยนิปริจฺเฉทกาณํ, ปฺจคติปริจฺเฉทกาณํ, สํยุตฺตเก (สํ. นิ. ๒.๓๓-๓๔) อาคตานิ เตสตฺตติ าณานิ, สตฺตสตฺตติ าณานีติ เอวมฺานิปิ อเนกานิ าณสหสฺสานิ. เอตํ าณพลํ นาม. อิธาปิ าณพลเมว อธิปฺเปตํ. าณฺหิ อกมฺปิยฏฺเน อุปตฺถมฺภนฏฺเน จ พลนฺติ วุตฺตํ.

านฺจ านโตติ การณฺจ การณโต. การณฺหิ ยสฺมา ตตฺถ ผลํ ติฏฺติ ตทายตฺตวุตฺติตาย อุปฺปชฺชติ เจว ปวตฺตติ จ, ตสฺมา านนฺติ วุจฺจติ. ตํ ภควา เย เย ธมฺมา เยสํ เยสํ ธมฺมานํ เหตู ปจฺจยา อุปฺปาทาย, ตํ ตํ านนฺติ, เย เย ธมฺมา เยสํ เยสํ ธมฺมานํ น เหตู น ปจฺจยา อุปฺปาทาย, ตํ ตํ อฏฺานนฺติ ปชานนฺโต านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปีติ เยน าเณน. อิทมฺปีติ อิทมฺปิ านาฏฺานาณํ, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ นาม โหตีติ อตฺโถ. เอวํ เสสปเทสุปิ โยชนา เวทิตพฺพา.

อาสภํ านนฺติ เสฏฺฏฺานํ อุตฺตมฏฺานํ, อาสภา วา ปุพฺพพุทฺธา, เตสํ านนฺติ อตฺโถ. อปิจ ควสตเชฏฺโก อุสโภ, ควสหสฺสเชฏฺโก วสโภ, วชสตเชฏฺโก วา อุสโภ, วชสหสฺสเชฏฺโก วสโภ, สพฺพควเสฏฺโ สพฺพปริสฺสยสโห เสโต ปาสาทิโก มหาภารวโห อสนิสตสทฺเทหิปิ อสนฺตสนีโย นิสโภ, โส อิธ อุสโภติ อธิปฺเปโต. อิทมฺปิ หิ ตสฺส ปริยายวจนํ. อุสภสฺส อิทนฺติ อาสภํ. านนฺติ จตูหิ ปาเทหิ ปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา อวฏฺานํ. อิทํ ปน อาสภํ วิยาติ อาสภํ ยเถว หิ นิสภสงฺขาโต อุสโภ อุสภพเลน สมนฺนาคโต จตูหิ ปาเทหิ ปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา อจลฏฺาเนน ติฏฺติ, เอวํ ตถาคโตปิ ทสหิ ตถาคตพเลหิ สมนฺนาคโต จตูหิ เวสารชฺชปาเทหิ อฏฺปริสปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา สเทวเก โลเก เกนจิ ปจฺจตฺถิเกน ปจฺจามิตฺเตน อกมฺปิโย อจลฏฺาเนน ติฏฺติ, เอวํ ติฏฺมาโน จ ตํ อาสภํ านํ ปฏิชานาติ อุปคจฺฉติ น ปจฺจกฺขาติ, อตฺตนิ อาโรเปติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อาสภํ านํ ปฏิชานาตี’’ติ (สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๒๒; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๔๘).

ปริสาสูติ ขตฺติยพฺราหฺมณคหปติสมณจาตุมหาราชิกตาวตึสมารพฺรหฺมานํ วเสน อฏฺสุ ปริสาสุ. สีหนาทํ นทตีติ เสฏฺนาทํ อฉมฺภิตนาทํ นทติ, สีหนาทสทิสํ วา นาทํ นทติ. อยมตฺโถ สีหนาทสุตฺเตน (ม. นิ. ๑.๑๔๖ อาทโย; ที. นิ. ๑.๓๘๑ อาทโย) ทีเปตพฺโพ. ยถา วา สีโห สหนโต หนนโต จ สีโหติ วุจฺจติ, เอวํ ตถาคโต โลกธมฺมานํ สหนโต ปรปฺปวาทานํ หนนโต สีโหติ วุจฺจติ. เอวํ วุตฺตสฺส สีหสฺส นาทํ สีหนาทํ. ตตฺถ ยถา สีโห สีหพเลน สมนฺนาคโต สพฺพตฺถ วิสารโท วิคตโลมหํโส สีหนาทํ นทติ, เอวํ ตถาคตสีโหปิ ตถาคตพเลหิ สมนฺนาคโต อฏฺสุ ปริสาสุ วิสารโท วิคตโลมหํโส ‘‘อิติ รูป’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๓.๗๘) นเยน นานาวิธเทสนาวิลาสสมฺปนฺนํ สีหนาทํ นทติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปริสาสุ สีหนาทํ นทตี’’ติ.

พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตตีติ เอตฺถ พฺรหฺมนฺติ เสฏฺํ อุตฺตมํ วิสุทฺธํ. จกฺกสทฺโท ปนายํ –

สมฺปตฺติยํ ลกฺขเณ จ, รถงฺเค อิริยาปเถ;

ทาเน รตนธมฺมูร, จกฺกาทีสุ จ ทิสฺสติ;

ธมฺมจกฺเก อิธ มโต, ตมฺปิ ทฺเวธา วิภาวเย.

‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, จกฺกานิ, เยหิ สมนฺนาคตานํ เทวมนุสฺสาน’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๓๑) หิ อยํ สมฺปตฺติยํ ทิสฺสติ. ‘‘เหฏฺา ปาทตเลสุ จกฺกานิ ชาตานิ โหนฺตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๕) เอตฺถ ลกฺขเณ. ‘‘จกฺกํว วหโต ปท’’นฺติ (ธ. ป. ๑) เอตฺถ รถงฺเค. ‘‘จตุจกฺกํ นวทฺวาร’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๙) เอตฺถ อิริยาปเถ. ‘‘ททํ ภุฺช มา จ ปมาโท, จกฺกํ วตฺตย โกสลาธิปา’’ติ (ชา. ๑.๗.๑๔๙) เอตฺถ ทาเน. ‘‘ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุรโหสี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๔๓) เอตฺถ รตนจกฺเก. ‘‘มยา ปวตฺติตํ จกฺก’’นฺติ (สุ. นิ. ๕๖๒) เอตฺถ ธมฺมจกฺเก. ‘‘อิจฺฉาหตสฺส โปสสฺส, จกฺกํ ภมติ มตฺถเก’’ติ (ชา. ๑.๑.๑๐๔; ๑.๕.๑๐๓) เอตฺถ อุรจกฺเก. ‘‘ขุรปริยนฺเตน เจปิ จกฺเกนา’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๖๖) เอตฺถ ปหรณจกฺเก. ‘‘อสนิวิจกฺก’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๖๑; สํ. นิ. ๒.๑๖๒) เอตฺถ อสนิมณฺฑเล. อิธ ปนายํ ธมฺมจกฺเก มโต.

ตํ ปเนตํ ธมฺมจกฺกํ ทุวิธํ โหติ ปฏิเวธาณฺจ เทสนาาณฺจ. ตตฺถ ปฺาปภาวิตํ อตฺตโน อริยผลาวหํ ปฏิเวธาณํ, กรุณาปภาวิตํ สาวกานํ อริยผลาวหํ เทสนาาณํ. ตตฺถ ปฏิเวธาณํ อุปฺปชฺชมานํ อุปฺปนฺนนฺติ ทุวิธํ. ตฺหิ อภินิกฺขมนโต ยาว อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ นาม, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. ตุสิตภวนโต วา ยาว โพธิปลฺลงฺเก อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ นาม, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. ทีปงฺกรทสพลโต วา ปฏฺาย ยาว อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ นาม, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. เทสนาาณมฺปิ ปวตฺตมานํ ปวตฺตนฺติ ทุวิธํ. ตฺหิ ยาว อฺาตโกณฺฑฺตฺเถรสฺส อรหตฺตมคฺคา ปวตฺตมานํ นาม, ผลกฺขเณ ปวตฺตํ นาม. ตตฺถ ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตรํ, เทสนาาณํ โลกิยํ. อุภยมฺปิ ปเนตํ อฺเหิ อสาธารณํ, พุทฺธานํเยว โอรสาณํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตตี’’ติ.

กมฺมสมาทานานนฺติ สมาทิยิตฺวา กตานํ กุสลากุสลกมฺมานํ, กมฺมเมว วา กมฺมสมาทานํ. านโส เหตุโสติ ปจฺจยโต เจว เหตุโต จ. ตตฺถ คติอุปธิกาลปโยคา วิปากสฺส านํ. กมฺมํ เหตุ.

สพฺพตฺถคามินินฺติ สพฺพคติคามินิฺจ อคติคามินิฺจ. ปฏิปทนฺติ มคฺคํ. ยถาภูตํ ปชานาตีติ พหูสุปิ มนุสฺเสสุ เอกเมว ปาณํ ฆาเตนฺเตสุ อิมสฺส เจตนา นิรยคามินี ภวิสฺสติ, อิมสฺส ติรจฺฉานโยนิคามินีติ อิมินา นเยน เอกวตฺถุสฺมิมฺปิ กุสลากุสลเจตนาสงฺขาตานํ ปฏิปตฺตีนํ อวิปรีตโต สภาวํ ชานาติ.

อเนกธาตุนฺติ จกฺขุธาตุอาทีหิ, กามธาตุอาทีหิ วา ธาตูหิ พหุธาตุํ. นานาธาตุนฺติ ตาสํเยว ธาตูนํ วิลกฺขณตฺตา นานปฺปการธาตุํ. โลกนฺติ ขนฺธายตนธาตุโลกํ. ยถาภูตํ ปชานาตีติ ตาสํ ตาสํ ธาตูนํ อวิปรีตโต สภาวํ ปฏิวิชฺฌติ.

นานาธิมุตฺติกตนฺติ หีนปณีตาทิอธิมุตฺตีหิ นานาธิมุตฺติกภาวํ.

ปรสตฺตานนฺติ ปธานสตฺตานํ. ปรปุคฺคลานนฺติ ตโต ปเรสํ หีนสตฺตานํ. เอกตฺถเมว วา เอตํ ปททฺวยํ เวเนยฺยวเสน ภควตา ทฺเวธา วุตฺตํ. อิธาปิ ภควตา วุตฺตนเยเนว วุตฺตํ. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตนฺติ สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ ปรภาวฺจ อปรภาวฺจ, วุทฺธิฺจ หานิฺจาติ อตฺโถ.

ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนนฺติ ปมาทีนํ จตุนฺนํ ฌานานํ, ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีนํ (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙) อฏฺนฺนํ วิโมกฺขานํ, สวิตกฺกสวิจาราทีนํ ติณฺณํ สมาธีนํ, ปมชฺฌานสมาปตฺติอาทีนฺจ นวนฺนํ อนุปุพฺพสมาปตฺตีนํ. สํกิเลสนฺติ หานภาคิยธมฺมํ. โวทานนฺติ วิเสสภาคิยธมฺมํ. วุฏฺานนฺติ เยน การเณน ฌานาทีหิ วุฏฺหนฺติ, ตํ การณํ. ตํ ปน ‘‘โวทานมฺปิ วุฏฺานํ, ตมฺหา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ (วิภ. ๘๒๘) เอวํ วุตฺตํ ปคุณชฺฌานฺเจว ภวงฺคผลสมาปตฺติโย จ. เหฏฺิมํ เหฏฺิมฺหิ ปคุณชฺฌานํ อุปริมสฺส อุปริมสฺส ปทฏฺานํ โหติ, ตสฺมา ‘‘โวทานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. ภวงฺเคน ปน สพฺพชฺฌาเนหิ วุฏฺานํ โหติ, นิโรธสมาปตฺติโต ผลสมาปตฺติยา วุฏฺานํ โหติ. ตํ สนฺธาย ‘‘ตมฺหา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ.

ปุพฺเพนิวาสทิพฺพจกฺขุอาสวกฺขยาณานิ เหฏฺา ปกาสิตาเนว.

ตตฺถ อาสวานํ ขยาติ อรหตฺตมคฺเคน สพฺพกิเลสานํ ขยา. อนาสวนฺติ อาสววิรหิตํ. เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตินฺติ เอตฺถ เจโตวจเนน อรหตฺตผลสมฺปยุตฺโต สมาธิ, ปฺาวจเนน ตํสมฺปยุตฺตา จ ปฺา วุตฺตา. ตตฺถ จ สมาธิ ราคโต วิมุตฺตตฺตา เจโตวิมุตฺติ, ปฺา อวิชฺชาย วิมุตฺตตฺตา ปฺาวิมุตฺตีติ เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘โย หิสฺส, ภิกฺขเว, สมาธิ, ตทสฺส สมาธินฺทฺริยํ. ยา หิสฺส, ภิกฺขเว, ปฺา, ตทสฺส ปฺินฺทฺริยํ. อิติ โข, ภิกฺขเว, ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๕๑๖; ๕๒๐). อปิเจตฺถ สมถพลํ เจโตวิมุตฺติ, วิปสฺสนาพลํ ปฺาวิมุตฺตีติ เวทิตพฺพํ. ทิฏฺเว ธมฺเมติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว. สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวาติ อธิกาย ปฺาย อตฺตนาเยว ปจฺจกฺขํ กตฺวา, อปรปฺปจฺจเยน ตฺวาติ อตฺโถ. อุปสมฺปชฺชาติ อธิคนฺตฺวา, นิปฺผาเทตฺวา วา. อิเมสํ ปน ทสนฺนํ ทสพลาณานํ วิตฺถาโร อภิธมฺเม (วิภ. ๘๐๙ อาทโย) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.

ตตฺถ ปรวาทิกถา โหติ – ทสพลาณํ นาม ปาฏิเยกฺกํ าณํ นตฺถิ, สพฺพฺุตฺาณสฺเสวายํ ปเภโทติ. น ตํ ตถา ทฏฺพฺพํ. อฺเมว หิ ทสพลาณํ, อฺํ สพฺพฺุตฺาณํ. ทสพลาณฺหิ สกสกกิจฺจเมว ชานาติ, สพฺพฺุตฺาณํ ตมฺปิ, ตโต อวเสสมฺปิ ชานาติ. ทสพลาเณสุ หิ ปมํ การณาการณเมว ชานาติ, ทุติยํ กมฺมนฺตรวิปากนฺตรเมว, ตติยํ กมฺมปริจฺเฉทเมว, จตุตฺถํ ธาตุนานตฺตการณเมว, ปฺจมํ สตฺตานํ อชฺฌาสยาธิมุตฺติเมว, ฉฏฺํ อินฺทฺริยานํ ติกฺขมุทุภาวเมว, สตฺตมํ ฌานาทีหิ สทฺธึ เตสํ สํกิเลสาทิเมว, อฏฺมํ ปุพฺเพนิวุตฺถขนฺธสนฺตติเมว, นวมํ สตฺตานํ จุติปฏิสนฺธิเมว, ทสมํ สจฺจปริจฺเฉทเมว. สพฺพฺุตฺาณํ ปน เอเตหิ ชานิตพฺพฺจ, ตโต อุตฺตริฺจ ปชานาติ. เอเตสํ ปน กิจฺจํ น สพฺพํ กโรติ. ตฺหิ ฌานํ หุตฺวา อปฺเปตุํ น สกฺโกติ, อิทฺธิ หุตฺวา วิกุพฺพิตุํ น สกฺโกติ, มคฺโค หุตฺวา กิเลเส เขเปตุํ น สกฺโกติ.

อปิจ ปรวาที เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘ทสพลาณํ นาเมตํ สวิตกฺกสวิจารํ อวิตกฺกวิจารมตฺตํ อวิตกฺกาวิจารํ กามาวจรํ รูปาวจรํ อรูปาวจรํ โลกิยํ โลกุตฺตร’’นฺติ. ชานนฺโต ‘‘ปฏิปาฏิยา สตฺต าณานิ สวิตกฺกสวิจารานี’’ติ วกฺขติ. ‘‘ตโต ปรานิ ทฺเว อวิตกฺกอวิจารานี’’ติ วกฺขติ. ‘‘อาสวกฺขยาณํ สิยา สวิตกฺกสวิจารํ, สิยา อวิตกฺกวิจารมตฺตํ, สิยา อวิตกฺกอวิจาร’’นฺติ วกฺขติ. ตถา ‘‘ปฏิปาฏิยา สตฺต กามาวจรานิ, ตโต ปรานิ ทฺเว รูปาวจรานิ, ตโต อวสาเน เอกํ โลกุตฺตร’’นฺติ วกฺขติ. ‘‘สพฺพฺุตฺาณํ ปน สวิตกฺกสวิจารเมว กามาวจรเมว โลกิยเมวา’’ติ วกฺขติ.

เอวเมตฺถ อปุพฺพตฺถานุวณฺณนํ ตฺวา อิทานิ ยสฺมา ตถาคโต ปมํเยว านาฏฺานาเณน เวเนยฺยสตฺตานํ อาสวกฺขยาธิคมสฺส เจว อนธิคมสฺส จ านาฏฺานภูตํ กิเลสาวรณาภาวํ ปสฺสติ โลกิยสมฺมาทิฏฺิฏฺานทสฺสนโต นิยตมิจฺฉาทิฏฺิฏฺานาภาวทสฺสนโต จ. อถ เนสํ กมฺมวิปากาเณน วิปากาวรณาภาวํ ปสฺสติ ติเหตุกปฏิสนฺธิทสฺสนโต. สพฺพตฺถคามินิปฏิปทาาเณน กมฺมาวรณาภาวํ ปสฺสติ อานนฺตริกกมฺมาภาวทสฺสนโต. เอวํ อนาวรณานํ อเนกธาตุนานาธาตุาเณน อนุกูลธมฺมเทสนตฺถํ จริยาวิเสสํ ปสฺสติ ธาตุเวมตฺตทสฺสนโต. อถ เนสํ นานาธิมุตฺติกตาาเณน อธิมุตฺตึ ปสฺสติ ปโยคํ อนาทิยิตฺวาปิ อธิมุตฺติวเสน ธมฺมเทสนตฺถํ. อเถวํ ทิฏฺอธิมุตฺตีนํ ยถาสตฺติ ยถาพลํ ธมฺมํ เทเสตุํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาเณน อินฺทฺริยปโรปริยตฺตํ ปสฺสติ สทฺธาทีนํ ติกฺขมุทุภาวทสฺสนโต. เอวํ ปริฺาตินฺทฺริยปโรปริยตฺตาปิ ปเนเต สเจ ทูเร โหนฺติ, อถ ฌานาทิาเณน ฌานาทีสุ วสีภูตตฺตา อิทฺธิวิเสเสน ขิปฺปํ อุปคจฺฉติ. อุปคนฺตฺวา จ เนสํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณน ปุพฺพชาติวิภาวนํ ทิพฺพจกฺขานุภาวโต ปตฺตพฺเพน เจโตปริยาเณน สมฺปติ จิตฺตวิเสสํ ปสฺสนฺโต อาสวกฺขยาณานุภาเวน อาสวกฺขยคามินิยา ปฏิปทาย วิคตสมฺโมหตฺตา อาสวกฺขยาย ธมฺมํ เทเสติ. ตสฺมา อิมินานุกฺกเมน อิมานิ ทส พลานิ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานีติ.

๔๕. อิทานิ สพฺพพลานิ ลกฺขณโต นิทฺทิสิตุกาโม เกนฏฺเน สทฺธาพลนฺติอาทินา นเยน ปุจฺฉํ กตฺวา อสฺสทฺธิเย อกมฺปิยฏฺเนาติอาทินา นเยน วิสฺสชฺชนํ อกาสิ. ตตฺถ หิรียตีติอาทิ ปุคฺคลาธิฏฺานา เทสนา. ภาวนาพลาทีสุ อธิฏฺานพลปริยนฺเตสุ ‘‘ตตฺถา’’ติ จ, ‘‘เตนา’’ติ จ, ‘‘ต’’นฺติ จ เนกฺขมฺมาทิกเมว สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เตน จิตฺตํ เอกคฺคนฺติ เตน สมาธินา จิตฺตํ เอกคฺคํ โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ ชาเตติ ตตฺถ สมเถ สมฺปโยควเสน ชาเต, ตสฺมึ วา วิปสฺสนารมฺมณํ หุตฺวา ชาเต. ตตฺถ สิกฺขตีติ ตตฺถ เสขพเล เสโข สิกฺขตีติ เสขพลนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ สิกฺขิตตฺตาติ ตตฺถ อเสขพเล อเสขสฺส สิกฺขิตตฺตา อเสขพลํ. เตน อาสวา ขีณาติ เตน โลกิยโลกุตฺตเรน าเณน อาสวา ขีณาติ ตํ าณํ ขีณาสวพลํ. โลกิเยนาปิ หิ าเณน อาสวา ขีณา นาม วิปสฺสนาย อภาเว โลกุตฺตรมคฺคาภาวโต. เอวํ ขีณาสวสฺส พลนฺติ ขีณาสวพลํ. ตสฺส อิชฺฌตีติ อิทฺธิพลนฺติ ตสฺส อิทฺธิมโต อิชฺฌตีติ อิทฺธิเยว พลํ อิทฺธิพลํ. อปฺปเมยฺยฏฺเนาติ ยสฺมา สาวกา านาฏฺานาทีนิ เอกเทเสน ชานนฺติ, สพฺพากาเรน ปชานนํเยว สนฺธาย ‘‘ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ วุตฺตํ. กิฺจาปิ ตีสุ วิชฺชาสุ ‘‘ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ น วุตฺตํ, อฺตฺถ ปน วุตฺตตฺตา ตาสุปิ วุตฺตเมว โหติ. อฺตฺถาติ เสเสสุ สตฺตสุ าณพเลสุ จ อภิธมฺเม (วิภ. ๗๖๐) จ ทสสุปิ พเลสุ. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณํ ปน สพฺพถาปิ สาวเกหิ อสาธารณเมว. ตสฺมา ทสปิ พลานิ สาวเกหิ อสาธารณานีติ. อธิมตฺตฏฺเน อตุลิยฏฺเน อปฺปเมยฺยานิ, ตสฺมาเยว จ ‘‘อปฺปเมยฺยฏฺเน ตถาคตพล’’นฺติ วุตฺตนฺติ.

พลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. สุฺกถา

สุฺกถาวณฺณนา

๔๖. อิทานิ โลกุตฺตรพลปริโยสานาย พลกถาย อนนฺตรํ กถิตาย โลกุตฺตรสุฺตาปริโยสานาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย สุฺตากถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. สุตฺตนฺเต ตาว อถาติ วจโนปาทาเน นิปาโต. เอเตน อายสฺมาติอาทิวจนสฺส อุปาทานํ กตํ โหติ. โขติ ปทปูรณตฺเถ นิปาโต. เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ ภุมฺมตฺเถ กรณวจนํ. ตสฺมา ยตฺถ ภควา, ตตฺถ อุปสงฺกมีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เยน วา การเณน ภควา เทวมนุสฺเสหิ อุปสงฺกมิตพฺโพ, เตเนว การเณน อุปสงฺกมีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เกน จ การเณน ภควา อุปสงฺกมิตพฺโพ? นานปฺปการคุณวิเสสาธิคมาธิปฺปาเยน, สาทุผลูปโภคาธิปฺปาเยน ทิชคเณหิ นิจฺจผลิตมหารุกฺโข วิย, เตน การเณน อุปสงฺกมีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อุปสงฺกมีติ จ คโตติ วุตฺตํ โหติ. อุปสงฺกมิตฺวาติ อุปสงฺกมนปริโยสานทีปนํ. อถ วา เอวฺจ คโต ตโต อาสนฺนตรํ านํ ภควโต สมีปสงฺขาตํ คนฺตฺวาติปิ วุตฺตํ โหติ.

อภิวาเทตฺวาติ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา. อิทานิ เยนฏฺเน โลเก อคฺคปุคฺคลสฺส อุปฏฺานํ อาคโต, ตํ ปุจฺฉิตุกาโม ทสนขสโมธานสมุชฺชลํ อฺชลึ สิรสิ ปติฏฺเปตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตนฺติ จ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส ‘‘วิสมํ จนฺทิมสูริยา ปริหรนฺตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๗๐) วิย. ตสฺมา ยถา นิสินฺโน เอกมนฺตํ นิสินฺโน โหติ, ตถา นิสีทีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ภุมฺมตฺเถ วา เอตํ อุปโยควจนํ. นิสีทีติ นิสชฺชํ กปฺเปสิ. ปณฺฑิตา หิ เทวมนุสฺสา ครุฏฺานียํ อุปสงฺกมิตฺวา อาสนกุสลตาย เอกมนฺตํ นิสีทนฺติ, อยฺจ เถโร เตสํ อฺตโร, ตสฺมา เอกมนฺตํ นิสีทิ.

กถํ นิสินฺโน ปน เอกมนฺตํ นิสินฺโน โหตีติ? ฉ นิสชฺชโทเส วชฺเชตฺวา. เสยฺยถิทํ – อติทูรํ อจฺจาสนฺนํ อุปริวาตํ อุนฺนตปฺปเทสํ อติสมฺมุขํ อติปจฺฉาติ. อติทูเร นิสินฺโน หิ สเจ กเถตุกาโม โหติ, อุจฺจาสทฺเทน กเถตพฺพํ โหติ. อจฺจาสนฺเน นิสินฺโน สงฺฆฏฺฏนํ กโรติ. อุปริวาเต นิสินฺโน สรีรคนฺเธน พาธติ. อุนฺนตปฺปเทเส นิสินฺโน อคารวํ ปกาเสติ. อติสมฺมุขา นิสินฺโน สเจ ทฏฺุกาโม โหติ, จกฺขุนา จกฺขุํ อาหจฺจ ทฏฺพฺพํ โหติ. อติปจฺฉา นิสินฺโน สเจ ทฏฺุกาโม โหติ, คีวํ ปสาเรตฺวา ทฏฺพฺพํ โหติ. ตสฺมา อยมฺปิ เอเต ฉ นิสชฺชโทเส วชฺเชตฺวา นิสีทิ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอกมนฺตํ นิสีที’’ติ. เอตทโวจาติ เอตํ อโวจ.

สุฺโ โลโก สุฺโ โลโกติ, ภนฺเต, วุจฺจตีติ อิมสฺมึ สาสเน ปฏิปนฺเนหิ เตหิ เตหิ ภิกฺขูหิ ‘‘สุฺโ โลโก สุฺโ โลโก’’ติ กถียตีติ อตฺโถ. ตหึ ตหึ ตาทิสานํ วจนานํ พหุกตฺตา เตสํ สพฺเพสํ สงฺคณฺหนตฺถํ อาเมฑิตวจนํ กตํ. เอวฺหิ วุตฺเต สพฺพานิ ตานิ วจนานิ สงฺคหิตานิ โหนฺติ. กิตฺตาวตาติ กิตฺตเกน ปริมาเณน. นุ-อิติ สํสยตฺเถ นิปาโต. สุฺํ อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วาติ ‘‘การโก เวทโก สยํวสี’’ติ เอวํ โลกปริกปฺปิเตน อตฺตนา จ อตฺตาภาวโตเยว อตฺตโน สนฺตเกน ปริกฺขาเรน จ สุฺํ. สพฺพํ จกฺขาทิ โลกิยํ ธมฺมชาตํ, ตํเยว ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโก นาม. ยสฺมา จ อตฺตา จ เอตฺถ นตฺถิ, อตฺตนิยฺจ เอตฺถ นตฺถิ, ตสฺมา สุฺโ โลโกติ วุจฺจตีติ อตฺโถ. โลกุตฺตโรปิ จ ธมฺโม อตฺตตฺตนิเยหิ สุฺโ เอว, ปุจฺฉานุรูเปน ปน โลกิโยว ธมฺโม วุตฺโต. สุฺโติ จ ธมฺโม นตฺถีติ วุตฺตํ น โหติ, ตสฺมึ ธมฺเม อตฺตตฺตนิยสารสฺส นตฺถิภาโว วุตฺโต โหติ. โลเก จ ‘‘สุฺํ ฆรํ, สุฺโ ฆโฏ’’ติ วุตฺเต ฆรสฺส ฆฏสฺส จ นตฺถิภาโว วุตฺโต น โหติ, ตสฺมึ ฆเร ฆเฏ จ อฺสฺส นตฺถิภาโว วุตฺโต โหติ. ภควตา จ ‘‘อิติ ยฺหิ โข ตตฺถ น โหติ, เตน ตํ สุฺํ สมนุปสฺสติ. ยํ ปน ตตฺถ อวสิฏฺํ โหติ, ตํ สนฺตํ อิทมตฺถีติ ปชานาตี’’ติ อยเมว อตฺโถ วุตฺโต. ตถา ายคนฺเถ จ สทฺทคนฺเถ จ อยเมว อตฺโถ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺตนฺเต อนตฺตลกฺขณเมว กถิตํ.

๔๗. สุตฺตนฺตนิทฺเทเส สุฺสุฺนฺติอาทีนิ ปฺจวีสติ มาติกาปทานิ สุฺสมฺพนฺเธน อุทฺทิสิตฺวา เตสํ นิทฺเทโส กโต. ตตฺถ มาติกาย ตาว สุฺสงฺขาตํ สุฺํ, น อฺเน อุปปเทน วิเสสิตนฺติ สุฺสุฺํ. อสุกนฺติ อนิทฺทิฏฺตฺตา เจตฺถ สุฺตฺตเมว วา อเปกฺขิตฺวา นปุํสกวจนํ กตํ. เอวํ เสเสสุปิ. สงฺขาโรเยว เสสสงฺขาเรหิ สุฺโติ สงฺขารสุฺํ. ชราภงฺควเสน วิรูโป ปริณาโม วิปริณาโม, เตน วิปริณาเมน สุฺํ วิปริณามสุฺํ. อคฺคฺจ ตํ อตฺตตฺตนิเยหิ, สพฺพสงฺขาเรหิ วา สุฺฺจาติ อคฺคสุฺํ. ลกฺขณเมว เสสลกฺขเณหิ สุฺนฺติ ลกฺขณสุฺํ. เนกฺขมฺมาทินา วิกฺขมฺภเนน สุฺํ. วิกฺขมฺภนสุฺํ. ตทงฺคสุฺาทีสุปิ จตูสุ เอเสว นโย. อชฺฌตฺตฺจ ตํ อตฺตตฺตนิยาทีหิ สุฺฺจาติ อชฺฌตฺตสุฺํ. พหิทฺธา จ ตํ อตฺตตฺตนิยาทีหิ สุฺฺจาติ พหิทฺธาสุฺํ. ตทุภยํ อตฺตตฺตนิยาทีหิ สุฺนฺติ ทุภโตสุฺํ. สมาโน ภาโค เอตสฺสาติ สภาคํ, สภาคฺจ ตํ อตฺตตฺตนิยาทีหิ สุฺฺจาติ สภาคสุฺํ, สทิสสุฺนฺติ อตฺโถ. วิคตํ สภาคํ วิสภาคํ, วิสภาคฺจ ตํ อตฺตตฺตนิยาทีหิ สุฺฺจาติ วิสภาคสุฺํ, วิสทิสสุฺนฺติ อตฺโถ. เกสุจิ โปตฺถเกสุ สภาคสุฺํ วิสภาคสุฺํ นิสฺสรณสุฺานนฺตรํ ลิขิตํ. เนกฺขมฺมาทิเอสนา กามจฺฉนฺทาทินา สุฺาติ เอสนาสุฺํ. ปริคฺคหสุฺาทีสุ ตีสุปิ เอเสว นโย. เอการมฺมเณ ปติฏฺิตตฺตา นานารมฺมณวิกฺเขปาภาวโต เอกตฺตฺจ ตํ นานตฺเตน สุฺฺจาติ เอกตฺตสุฺํ. ตพฺพิปรีเตน นานตฺตฺจ ตํ เอกตฺเตน สุฺฺจาติ นานตฺตสุฺํ. เนกฺขมฺมาทิขนฺติ กามจฺฉนฺทาทินา สุฺาติ ขนฺติสุฺํ. อธิฏฺานสุฺเ ปริโยคาหนสุฺเ จ เอเสว นโย. ปริโยคหนสุฺนฺติปิ ปาโ. สมฺปชานสฺสาติ สมฺปชฺเน สมนฺนาคตสฺส ปรินิพฺพายนฺตสฺส อรหโต. ปวตฺตปริยาทานนฺติ อนุปาทาปรินิพฺพานํ. สพฺพสุฺตานนฺติ สพฺพสุฺานํ. ปรมตฺถสุฺนฺติ สพฺพสงฺขาราภาวโต อุตฺตมตฺถภูตํ สุฺํ.

๔๘. มาติกานิทฺเทเส นิจฺเจน วาติ ภงฺคํ อติกฺกมิตฺวา ปวตฺตมานสฺส กสฺสจิ นิจฺจสฺส อภาวโต นิจฺเจน จ สุฺํ. ธุเวน วาติ วิชฺชมานกาเลปิ ปจฺจยายตฺตวุตฺติตาย ถิรสฺส กสฺสจิ อภาวโต ธุเวน จ สุฺํ. สสฺสเตน วาติ อพฺโพจฺฉินฺนสฺส สพฺพกาเล วิชฺชมานสฺส กสฺสจิ อภาวโต สสฺสเตน จ สุฺํ. อวิปริณามธมฺเมน วาติ ชราภงฺควเสน อวิปริณามปกติกสฺส กสฺสจิ อภาวโต อวิปริณามธมฺเมน จ สุฺํ. สุตฺตนฺเต อตฺตสุฺตาย เอว วุตฺตายปิ นิจฺจสุฺตฺจ สุขสุฺตฺจ ทสฺเสตุํ อิธ นิจฺเจน วาติอาทีนิปิ วุตฺตานิ. อนิจฺจสฺเสว หิ ปีฬาโยเคน ทุกฺขตฺตา นิจฺจสุฺตาย วุตฺตาย สุขสุฺตาปิ วุตฺตาว โหติ. รูปาทโย ปเนตฺถ ฉ วิสยา, จกฺขุวิฺาณาทีนิ ฉ วิฺาณานิ, จกฺขุสมฺผสฺสาทโย ฉ ผสฺสา, จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนาทโย ฉ เวทนา ฉ สงฺขิตฺตาติ เวทิตพฺพํ.

ปุฺาภิสงฺขาโรติอาทีสุ ปุนาติ อตฺตโน การกํ, ปูเรติ จสฺส อชฺฌาสยํ, ปุชฺชฺจ ภวํ นิพฺพตฺเตตีติ ปุฺํ, อภิสงฺขโรติ วิปากํ กฏตฺตารูปฺจาติ อภิสงฺขาโร, ปุฺํ อภิสงฺขาโร ปุฺาภิสงฺขาโร. ปุฺปฏิปกฺขโต อปุฺํ อภิสงฺขาโร อปุฺาภิสงฺขาโร. น อิฺชํ อเนฺชํ, อเนฺชํ ภวํ อภิสงฺขโรตีติ อาเนฺชาภิสงฺขาโร. ปุฺาภิสงฺขาโร ทานสีลภาวนาวเสน ปวตฺตา อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา, ภาวนาวเสเนว ปวตฺตา ปฺจ รูปาวจรกุสลเจตนาติ เตรส เจตนา โหนฺติ, อปุฺาภิสงฺขาโร ปาณาติปาตาทิวเสน ปวตฺตา ทฺวาทส อกุสลเจตนา, อาเนฺชาภิสงฺขาโร ภาวนาวเสเนว ปวตฺตา จตสฺโส อรูปาวจรเจตนาติ ตโยปิ สงฺขารา เอกูนตึส เจตนา โหนฺติ. กายสงฺขาโรติอาทีสุ กายโต วา ปวตฺโต, กายสฺส วา สงฺขาโรติ กายสงฺขาโร. วจีสงฺขารจิตฺตสงฺขาเรสุปิ เอเสว นโย. อยํ ติโก กมฺมายูหนกฺขเณ ปุฺาภิสงฺขาราทีนํ ทฺวารโต ปวตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺโต. กายวิฺตฺตึ สมุฏฺาเปตฺวา หิ กายทฺวารโต ปวตฺตา อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา, ทฺวาทส อกุสลเจตนา, อภิฺาเจตนา จาติ เอกวีสติ เจตนา กายสงฺขาโร นาม, ตา เอว จ วจีวิฺตฺตึ สมุฏฺาเปตฺวา วจีทฺวารโต ปวตฺตา วจีสงฺขาโร นาม, มโนทฺวาเร ปวตฺตา ปน สพฺพาปิ เอกูนตึส เจตนา จิตฺตสงฺขาโร นาม. อตีตา สงฺขาราติอาทีสุ สพฺเพปิ สงฺขตธมฺมา สกกฺขณํ ปตฺวา นิรุทฺธา อตีตา สงฺขารา, สกกฺขณํ อปฺปตฺตา อนาคตา สงฺขารา, สกกฺขณํ ปตฺตา ปจฺจุปฺปนฺนา สงฺขาราติ.

วิปริณามสุฺเ ปจฺจุปฺปนฺนํ ทสฺเสตฺวา ตสฺส ตสฺส วิปริณาโม สุเขน วตฺตุํ สกฺกาติ ปมํ ปจฺจุปฺปนฺนธมฺมา ทสฺสิตา. ตตฺถ ชาตํ รูปนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนํ รูปํ. สภาเวน สุฺนฺติ เอตฺถ สยํ ภาโว สภาโว, สยเมว อุปฺปาโทติ อตฺโถ. สโต วา ภาโว สภาโว, อตฺตโตเยว อุปฺปาโทติ อตฺโถ. ปจฺจยายตฺตวุตฺติตฺตา ปจฺจยํ วินา สยเมว ภาโว, อตฺตโต เอว วา ภาโว เอตสฺมึ นตฺถีติ สภาเวน สุฺํ, สยเมว ภาเวน, อตฺตโต เอว วา ภาเวน สุฺนฺติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา สกสฺส ภาโว สภาโว. ปถวีธาตุอาทีสุ หิ อเนเกสุ รูปารูปธมฺเมสุ เอเกโก ธมฺโม ปรํ อุปาทาย สโก นาม. ภาโวติ จ ธมฺมปริยายวจนเมตํ. เอกสฺส จ ธมฺมสฺส อฺโ ภาวสงฺขาโต ธมฺโม นตฺถิ, ตสฺมา สกสฺส อฺเน ภาเวน สุฺํ, สโก อฺเน ภาเวน สุฺโติ อตฺโถ. เตน เอกสฺส ธมฺมสฺส เอกสภาวตา วุตฺตา โหติ. อถ วา สภาเวน สุฺนฺติ สุฺสภาเวเนว สุฺํ. กึ วุตฺตํ โหติ? สุฺสุฺตาย เอว สุฺํ, น อฺาหิ ปริยายสุฺตาหิ สุฺนฺติ วุตฺตํ โหติ.

สเจ ปน เกจิ วเทยฺยุํ ‘‘สโก ภาโว สภาโว, เตน สภาเวน สุฺ’’นฺติ. กึ วุตฺตํ โหติ? ภาโวติ ธมฺโม, โส ปรํ อุปาทาย สปเทน วิเสสิโต สภาโว นาม โหติ. ธมฺมสฺส กสฺสจิ อวิชฺชมานตฺตา ‘‘ชาตํ รูปํ สภาเวน สุฺ’’นฺติ รูปสฺส อวิชฺชมานตา วุตฺตา โหตีติ. เอวํ สติ ‘‘ชาตํ รูป’’นฺติวจเนน วิรุชฺฌติ. น หิ อุปฺปาทรหิตํ ชาตํ นาม โหติ. นิพฺพานฺหิ อุปฺปาทรหิตํ, ตํ ชาตํ นาม น โหติ, ชาติชรามรณานิ จ อุปฺปาทรหิตานิ ชาตานิ นาม น โหนฺติ. เตเนเวตฺถ ‘‘ชาตา ชาติ สภาเวน สุฺา, ชาตํ ชรามรณํ สภาเวน สุฺ’’นฺติ เอวํ อนุทฺธริตฺวา ภวเมว อวสานํ กตฺวา นิทฺทิฏฺํ. ยทิ อุปฺปาทรหิตสฺสาปิ ‘‘ชาต’’นฺติวจนํ ยุชฺเชยฺย, ‘‘ชาตา ชาติ, ชาตํ ชรามรณ’’นฺติ วตฺตพฺพํ ภเวยฺย. ยสฺมา อุปฺปาทรหิเตสุ ชาติชรามรเณสุ ‘‘ชาต’’นฺติวจนํ น วุตฺตํ, ตสฺมา ‘‘สภาเวน สุฺํ อวิชฺชมาน’’นฺติ วจนํ อวิชฺชมานสฺส อุปฺปาทรหิตตฺตา ‘‘ชาต’’นฺติวจเนน วิรุชฺฌติ. อวิชฺชมานสฺส จ ‘‘สุฺ’’นฺติวจนํ เหฏฺา วุตฺเตน โลกวจเนน จ ภควโต วจเนน จ ายสทฺทคนฺถวจเนน จ วิรุชฺฌติ, อเนกาหิ จ ยุตฺตีหิ วิรุชฺฌติ, ตสฺมา ตํ วจนํ กจวรมิว ฉฑฺฑิตพฺพํ. ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, อตฺถิสมฺมตํ โลเก ปณฺฑิตานํ, อหมฺปิ ตํ อตฺถีติ วทามิ. ยํ, ภิกฺขเว, นตฺถิสมฺมตํ โลเก ปณฺฑิตานํ, อหมฺปิ ตํ นตฺถีติ วทามิ. กิฺจ, ภิกฺขเว, อตฺถิสมฺมตํ โลเก ปณฺฑิตานํ, ยมหํ อตฺถีติ วทามิ? รูปํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ อตฺถิสมฺมตํ โลเก ปณฺฑิตานํ, อหมฺปิ ตํ อตฺถีติ วทามี’’ติอาทีหิ (สํ. นิ. ๓.๙๔) อเนเกหิ พุทฺธวจนปฺปมาเณหิ อเนกาหิ จ ยุตฺตีหิ ธมฺมา สกกฺขเณ วิชฺชมานา เอวาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.

วิคตํ รูปนฺติ อุปฺปชฺชิตฺวา ภงฺคํ ปตฺวา นิรุทฺธํ อตีตํ รูปํ. วิปริณตฺเจว สุฺฺจาติ ชราภงฺควเสน วิรูปํ ปริณามํ ปตฺตฺจ วตฺตมานสฺเสว วิปริณามสพฺภาวโต อตีตสฺส วิปริณามาภาวโต เตน วิปริณาเมน สุฺฺจาติ อตฺโถ. ชาตา เวทนาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ชาติชรามรณํ ปน อนิปฺผนฺนตฺตา สกภาเวน อนุปลพฺภนียโต อิธ น ยุชฺชติ, ตสฺมา ‘‘ชาตา ชาติ, ชาตํ ชรามรณ’’นฺติอาทิเก ทฺเว นเย ปหาย ภวาทิกเมว นยํ ปริโยสานํ กตฺวา ปิตํ.

อคฺคนฺติ อคฺเค ภวํ. เสฏฺนฺติ อติวิย ปสํสนียํ. วิสิฏฺนฺติ อติสยภูตํ. วิเสฏฺนฺติปิ ปาโ. ติธาปิ ปสตฺถํ นิพฺพานํ สมฺมาปฏิปทาย ปฏิปชฺชิตพฺพโต ปทํ นาม. ยทิทนฺติ ยํ อิทํ. อิทานิ วตฺตพฺพํ นิพฺพานํ นิทสฺเสติ. ยสฺมา นิพฺพานํ อาคมฺม สพฺพสงฺขารานํ สมโถ โหติ, ขนฺธูปธิกิเลสูปธิอภิสงฺขารูปธิกามคุณูปธิสงฺขาตานํ อุปธีนํ ปฏินิสฺสคฺโค โหติ, ตณฺหานํ ขโย วิราโค นิโรโธ จ โหติ, ตสฺมา สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหกฺขโย วิราโค นิโรโธติ วุจฺจติ. นิพฺพานนฺติ สภาวลกฺขเณน นิคมิตํ.

ลกฺขเณสุ หิ ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, พาลสฺส พาลลกฺขณานิ พาลนิมิตฺตานิ พาลาปทานานิ. กตมานิ ตีณิ? อิธ, ภิกฺขเว, พาโล ทุจฺจินฺติตจินฺตี จ โหติ ทุพฺภาสิตภาสี จ ทุกฺกฏกมฺมการี จ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ พาลสฺส พาลลกฺขณานิ พาลนิมิตฺตานิ พาลาปทานานี’’ติ (อ. นิ. ๓.๓; ม. นิ. ๓.๒๔๖) วุตฺตํ. ปณฺฑิเตหิ พาลสฺส พาโลติ สลฺลกฺขณโต ติวิธํ พาลลกฺขณํ. ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตสฺส ปณฺฑิตลกฺขณานิ ปณฺฑิตนิมิตฺตานิ ปณฺฑิตาปทานานิ. กตมานิ ตีณิ? อิธ, ภิกฺขเว, ปณฺฑิโต สุจินฺติตจินฺตี จ โหติ สุภาสิตภาสี จ สุกตกมฺมการี จ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ ปณฺฑิตสฺส ปณฺฑิตลกฺขณานิ ปณฺฑิตนิมิตฺตานิ ปณฺฑิตาปทานานี’’ติ (อ. นิ. ๓.๓; ม. นิ. ๓.๒๕๓) วุตฺตํ. ปณฺฑิเตหิ ปณฺฑิตสฺส ปณฺฑิโตติ สลฺลกฺขณโต ติวิธํ ปณฺฑิตลกฺขณํ.

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, สงฺขตสฺส สงฺขตลกฺขณานิ. กตมานิ ตีณิ? อุปฺปาโท ปฺายติ, วโย ปฺายติ, ิตสฺส อฺถตฺตํ ปฺายติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ สงฺขตสฺส สงฺขตลกฺขณานี’’ติ (อ. นิ. ๓.๔๗-๔๘) วุตฺตํ. อุปฺปาโท เอว สงฺขตมิติ ลกฺขณนฺติ สงฺขตลกฺขณํ. เอวมิตรทฺวเยปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมินา อุปฺปาทกฺขเณ เสสทฺวินฺนํ, ิติกฺขเณ เสสทฺวินฺนํ, ภงฺคกฺขเณ จ เสสทฺวินฺนํ อภาโว ทสฺสิโต. ยํ ปเนตฺถ เปยฺยาลมุเขน ชาติยา จ ชรามรณสฺส จ อุปฺปาทาทิลกฺขณํ วุตฺตํ, ตํ วิปริณามสุฺตาย ชาติชรามรณานิ หิตฺวา ภวปริโยสานสฺเสว นยสฺส วจเนน จ อุปฺปาทาทีนํ อุปฺปาทาทิอวจนสมเยน จ วิรุชฺฌติ. ลกฺขณโสเต ปติตตฺตา ปน โสตปติตํ กตฺวา ลิขิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยถา จ อภิธมฺเม (ธ. ส. ๕๖๒-๕๖๕) อเหตุกวิปากมโนธาตุมโนวิฺาณธาตูนํ สงฺคหวาเร ลพฺภมานมฺปิ ฌานงฺคํ ปฺจวิฺาณโสเต ปติตฺวา คตนฺติ น อุทฺธฏนฺติ วุตฺตํ, เอวมิธาปิ โสตปติตตา เวทิตพฺพา. อถ วา ชาติชรามรณวนฺตานํ สงฺขารานํ อุปฺปาทาทโย ‘‘ชาติชรามรณํ อนิจฺจโต’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๗๓; ๒.๔) วิย เตสํ วิย กตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺโท วิกฺขมฺภิโต เจว สุฺโ จาติ กามจฺฉนฺโท เนกฺขมฺเมน วิกฺขมฺภิโต เจว เนกฺขมฺมสฺส ตตฺถ อภาวโต เตเนว วิกฺขมฺภนสงฺขาเตน เนกฺขมฺเมน สุฺโ จ. เอวํ เสเสสุปิ โยชนา กาตพฺพา. ตทงฺคปฺปหานสมุจฺเฉทปฺปหาเนสุปิ เจตฺถ ตทงฺควเสน จ สมุจฺเฉทวเสน จ ปหีนํ ทูรีกตเมว โหตีติ อิมินา ทูรีกรณฏฺเน วิกฺขมฺภนํ วุตฺตํ.

เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺโท ตทงฺคสุฺโติ เนกฺขมฺเมน ปหีโน กามจฺฉนฺโท เตน เนกฺขมฺมสงฺขาเตน องฺเคน สุฺโ. อถ วา โย โกจิ กามจฺฉนฺโท เนกฺขมฺมสฺส ตตฺถ อภาวโต เนกฺขมฺเมน เตน องฺเคน สุฺโ. เอวํ เสเสสุปิ โยชนา กาตพฺพา. ตสฺส ตสฺส องฺคสฺส ตตฺถ ตตฺถ อภาวมตฺเตเนว เจตฺถ อุปจารปฺปนาฌานวเสน จ วิปสฺสนาวเสน จ ตทงฺคสุฺตา นิทฺทิฏฺา. ปหานทีปกสฺส วจนสฺส อภาเวน ปน วิวฏฺฏนานุปสฺสนํเยว ปริโยสานํ กตฺวา วิปสฺสนา นิทฺทิฏฺา, จตฺตาโร มคฺคา น นิทฺทิฏฺา. เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺโท สมุจฺฉินฺโน เจว สุฺโ จาติอาทีสุ วิกฺขมฺภเน วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตทงฺควิกฺขมฺภนวเสน ปหีนานิปิ เจตฺถ สมุทาจาราภาวโต สมุจฺฉินฺนานิ นาม โหนฺตีติ อิมินา ปริยาเยน สมุจฺเฉโท วุตฺโต, ตํตํสมุจฺเฉทกิจฺจสาธนวเสน วา มคฺคสมฺปยุตฺตเนกฺขมฺมาทิวเสน วุตฺตนฺติปิ เวทิตพฺพํ. ปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณสุฺเสุ จ อิธ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปหาเนสุ ปเนตฺถ ปฏิปฺปสฺสทฺธิมตฺตตฺตํ นิสฺสฏมตฺตตฺตฺจ คเหตฺวา วุตฺตํ. ปฺจสุปิ เอเตสุ สุฺเสุ เนกฺขมฺมาทีนิเยว วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณนาเมน วุตฺตานิ. อชฺฌตฺตนฺติ อชฺฌตฺตภูตํ. พหิทฺธาติ พหิทฺธาภูตํ. ทุภโตสุฺนฺติ อุภยสุฺํ. ปจฺจตฺตาทีสุปิ หิ โต-อิติวจนํ โหติเยว.

ฉ อชฺฌตฺติกายตนาทีนิ ฉอชฺฌตฺติกายตนาทีนํ ภาเวน สภาคานิ. ปเรหิ วิสภาคานิ. วิฺาณกายาติอาทีสุ เจตฺถ กายวจเนน วิฺาณาทีนิเยว วุตฺตานิ. เนกฺขมฺเมสนาทีสุ เนกฺขมฺมาทีนิเยว ตทตฺถิเกหิ วิฺูหิ เอสียนฺตีติ เอสนา. อถ วา ปุพฺพภาเค เนกฺขมฺมาทีนํ เอสนาปิ กามจฺฉนฺทาทีหิ สุฺา, กึ ปน เนกฺขมฺมาทีนีติปิ วุตฺตํ โหติ? ปริคฺคหาทีสุ เนกฺขมฺมาทีนิเยว ปุพฺพภาเค เอสิตานิ อปรภาเค ปริคฺคยฺหนฺตีติ ปริคฺคโหติ, ปริคฺคหิตานิ ปตฺติวเสน ปฏิลพฺภนฺตีติ ปฏิลาโภติ, ปฏิลทฺธานิ าณวเสน ปฏิวิชฺฌียนฺตีติ ปฏิเวโธติ จ วุตฺตานิ. เอกตฺตสุฺฺจ นานตฺตสุฺฺจ สกึเยว ปุจฺฉิตฺวา เอกตฺตสุฺํ วิสฺสชฺเชตฺวา นานตฺตสุฺํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว สกึ นิคมนํ กตํ. กสฺมา น วิสฺสชฺชิตนฺติ เจ? วุตฺตปริยาเยเนเวตฺถ โยชนา ายตีติ น วิสฺสชฺชิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อยํ ปเนตฺถ โยชนา – เนกฺขมฺมํ เอกตฺตํ, กามจฺฉนฺโท นานตฺตํ, กามจฺฉนฺโท นานตฺตํ, เนกฺขมฺเมกตฺเตน สุฺนฺติ. เอวํ เสเสสุปิ โยชนา เวทิตพฺพา.

ขนฺติอาทีสุ เนกฺขมฺมาทีนิเยว ขมนโต รุจฺจนโต ขนฺตีติ, โรจิตานิเยว ปวิสิตฺวา ติฏฺนโต อธิฏฺานนฺติ, ปวิสิตฺวา ิตานํ ยถารุจิเมว เสวนโต ปริโยคาหนนฺติ จ วุตฺตานิ. อิธ สมฺปชาโนติอาทิโก ปรมตฺถสุฺนิทฺเทโส ปรินิพฺพานาณนิทฺเทเส วณฺณิโตเยว.

อิเมสุ จ สพฺเพสุ สุฺเสุ สงฺขารสุฺํ วิปริณามสุฺํ ลกฺขณสุฺฺจ ยถาวุตฺตานํ ธมฺมานํ อฺมฺอสมฺมิสฺสตาทสฺสนตฺถํ. ยตฺถ ปน อกุสลปกฺขิกานํ กุสลปกฺขิเกน สุฺตา วุตฺตา, เตน อกุสเล อาทีนวทสฺสนตฺถํ. ยตฺถ ปน กุสลปกฺขิกานํ อกุสลปกฺขิเกน สุฺตา วุตฺตา, เตน กุสเล อานิสํสทสฺสนตฺถํ. ยตฺถ อตฺตตฺตนิยาทีหิ สุฺตา วุตฺตา, ตํ สพฺพสงฺขาเรสุ นิพฺพิทาชนนตฺถํ. อคฺคสุฺํ ปรมตฺถสุฺฺจ นิพฺพาเน อุสฺสาหชนนตฺถํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

เตสุ อคฺคสุฺฺจ ปรมตฺถสุฺฺจาติ ทฺเว สุฺานิ อตฺถโต เอกเมว นิพฺพานํ อคฺคปรมตฺถวเสน สอุปาทิเสสอนุปาทิเสสวเสน จ ทฺวิธา กตฺวา วุตฺตํ. ตานิ ทฺเว อตฺตตฺตนิยสุฺโต สงฺขารสุฺโต จ สภาคานิ. ‘‘สุฺสุฺํ อชฺฌตฺตสุฺํ พหิทฺธาสุฺํ ทุภโตสุฺํ สภาคสุฺํ วิสภาคสุฺ’’นฺติ อิมานิ ฉ สุฺานิ สุฺสุฺเมว โหติ. อชฺฌตฺตาทิเภทโต ปน ฉธา วุตฺตานิ. ตานิ ฉ จ อตฺตตฺตนิยาทิสุฺโต สภาคานิ. สงฺขารวิปริณามลกฺขณสุฺานิ, วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณสุฺานิ, เอสนาปริคฺคหปฏิลาภปฏิเวธสุฺานิ, เอกตฺตนานตฺตสุฺานิ, ขนฺติอธิฏฺานปริโยคาหนสุฺานิ จาติ สตฺตรส สุฺานิ อตฺตนิ อวิชฺชมาเนหิ เตหิ เตหิ ธมฺเมหิ สุฺตฺตา อวิชฺชมานานํ วเสน วิสุํ วิสุํ วุตฺตานิ. สงฺขารวิปริณามลกฺขณสุฺานิ ปน อิตเรน อิตเรน อสมฺมิสฺสวเสน สภาคานิ, วิกฺขมฺภนาทีนิ ปฺจ กุสลปกฺเขน สุฺตฺตา สภาคานิ, เอสนาทีนิ จตฺตาริ, ขนฺติอาทีนิ จ ตีณิ อกุสลปกฺเขน สุฺตฺตา สภาคานิ, เอกตฺตนานตฺตสุฺานิ อฺมฺปฏิปกฺขวเสน สภาคานิ.

สพฺเพ ธมฺมา สมาเสน, ติธา ทฺเวธา ตเถกธา;

สุฺาติ สุฺตฺถวิทู, วณฺณยนฺตีธ สาสเน.

กถํ? สพฺเพ ตาว โลกิยา ธมฺมา ธุวสุภสุขอตฺตวิรหิตตฺตา ธุวสุภสุขอตฺตสุฺา. มคฺคผลธมฺมา ธุวสุขตฺตวิรหิตตฺตา ธุวสุขตฺตสุฺา. อนิจฺจตฺตาเยว สุเขน สุฺา. อนาสวตฺตา น สุเภน สุฺา. นิพฺพานธมฺโม อตฺตสฺเสว อภาวโต อตฺตสุฺโ. โลกิยโลกุตฺตรา ปน สพฺเพปิ สงฺขตา ธมฺมา สตฺตสฺส กสฺสจิ อภาวโต สตฺตสุฺา. อสงฺขโต นิพฺพานธมฺโม เตสํ สงฺขารานมฺปิ อภาวโต สงฺขารสุฺโ. สงฺขตาสงฺขตา ปน สพฺเพปิ ธมฺมา อตฺตสงฺขาตสฺส ปุคฺคลสฺส อภาวโต อตฺตสุฺาติ.

สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฏิสมฺภิทามคฺคอฏฺกถาย

สุฺกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ยุคนทฺธวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิตา จ มชฺฌิมวคฺคสฺส อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา.

(๓) ปฺาวคฺโค

๑. มหาปฺากถา

มหาปฺากถาวณฺณนา

. อิทานิ วิเสสโต ปฺาปทฏฺานภูตาย สุฺกถาย อนนฺตรํ กถิตาย ปฺากถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ อาทิโต ตาว สตฺตสุ อนุปสฺสนาสุ เอเกกมูลกา สตฺต ปฺา ปุจฺฉาปุพฺพงฺคมํ กตฺวา นิทฺทิฏฺา, ปุน สตฺตานุปสฺสนามูลกา เอเกกุตฺตรมูลกา จ ติสฺโส ปฺา ปุจฺฉํ อกตฺวาว นิทฺทิฏฺา, เอวมาทิโต ทสปฺาปาริปูรี นิทฺทิฏฺา. ตตฺถ อนิจฺจานุปสฺสนา ตาว ยสฺมา อนิจฺจโต ทิฏฺเสุ สงฺขาเรสุ ‘‘ยทนิจฺจํ, ตํ ทุกฺข’’นฺติ ทุกฺขโต จ ‘‘ยํ ทุกฺขํ, ตทนตฺตา’’ติ อนตฺตโต จ ชวติ, ตสฺมา สา ภาวิตา พหุลีกตา ชวนปฺํ ปริปูเรติ. สา หิ สกวิสเยสุ ชวตีติ ชวนา, ชวนา จ สา ปฺา จาติ ชวนปฺา. ทุกฺขานุปสฺสนา สมาธินฺทฺริยนิสฺสิตตฺตา พลวตี หุตฺวา ปณิธึ นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลติ, ตสฺมา นิพฺเพธิกปฺํ ปริปูเรติ. สา หิ นิพฺพิชฺฌตีติ นิพฺเพธิกา, นิพฺเพธิกา จ สา ปฺา จาติ นิพฺเพธิกปฺา. อนตฺตานุปสฺสนา สุฺตาทสฺสเนน วุทฺธิปฺปตฺติยา มหตฺตปฺปตฺตตฺตา มหาปฺํ ปริปูเรติ. สา หิ วุทฺธิปฺปตฺตตฺตา มหตี จ สา ปฺา จาติ มหาปฺา. นิพฺพิทานุปสฺสนา ยสฺมา ติสฺสนฺนํเยว อนุปสฺสนานํ ปุริมโตปิ อาเสวนาย พลปฺปตฺตาวตฺถตฺตา สพฺพสงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทนสมตฺถา หุตฺวา ติกฺขา โหติ, ตสฺมา ติกฺขปฺํ ปริปูเรติ. วิราคานุปสฺสนาปิ ยสฺมา ติสฺสนฺนํเยว อนุปสฺสนานํ ปุริมโตปิ อาเสวนาพลปฺปตฺตานํ วุทฺธตราวตฺถตฺตา สพฺพสงฺขาเรหิ วิรชฺชนสมตฺถา หุตฺวา วิปุลา โหติ, ตสฺมา วิปุลปฺํ ปริปูเรติ.

นิโรธานุปสฺสนาปิ ยสฺมา ติสฺสนฺนํเยว อนุปสฺสนานํ ปุริมโตปิ อาเสวนาพลปฺปตฺตานํ วุทฺธตราวตฺถตฺตา วยลกฺขณวเสน สพฺพสงฺขารานํ นิโรธทสฺสนสมตฺถา หุตฺวา คมฺภีรา โหติ, ตสฺมา คมฺภีรปฺํ ปริปูเรติ. นิโรโธ หิ อุตฺตานปฺเหิ อลพฺภเนยฺยปติฏฺตฺตา คมฺภีโร, ตสฺมึ คมฺภีเร คาธปฺปตฺตา ปฺาปิ คมฺภีรา. ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาปิ ยสฺมา ติสฺสนฺนํเยว อนุปสฺสนานํ ปุริมโตปิ อาเสวนาพลปฺปตฺตานํ วุทฺธตราวตฺถตฺตา วยลกฺขณวเสน สพฺพสงฺขารปฏินิสฺสชฺชนสมตฺถา หุตฺวา อสามนฺตา โหติ, วุทฺธิปริยนฺตปฺปตฺตตฺตา ฉหิ ปฺาหิ ทูเร โหตีติ อตฺโถ. ตสฺมา สยํ อสามนฺตตฺตา อสามนฺตปฺํ ปริปูเรติ. สา หิ เหฏฺิมปฺาหิ ทูรตฺตา อสามนฺตา, อสมีปา วา ปฺาติ อสามนฺตปฺา. ปณฺฑิจฺจํ ปริปูเรนฺตีติ ปณฺฑิตภาวํ ปริปูเรนฺติ. ยสฺมา ยถาวุตฺตา สตฺต ปฺา ปริปุณฺณา ภาเวตฺวา ปณฺฑิตลกฺขณปฺปตฺโต สิขปฺปตฺตวุฏฺานคามินิวิปสฺสนาสงฺขาเตหิ สงฺขารุเปกฺขานุโลมโคตฺรภุาเณหิ ปณฺฑิโต หุตฺวา ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคโต โหติ, ตสฺมา ‘‘ปณฺฑิจฺจํ ปริปูเรนฺตี’’ติ วุตฺตํ.

อฏฺ ปฺาติ ปณฺฑิจฺจสงฺขาตาย ปฺาย สห สพฺพา อฏฺ ปฺา. ปุถุปฺํ ปริปูเรนฺตีติ ยสฺมา เตน ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคโต หุตฺวา โส ปณฺฑิโต โคตฺรภุาณานนฺตรํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา โลกุตฺตรภาวปฺปตฺติยา โลกิยโต ปุถุภูตตฺตา วิสุํภูตตฺตา ปุถุปฺาติสงฺขาตํ มคฺคผลปฺํ ปาปุณาติ, ตสฺมา ‘‘อฏฺ ปฺา ปุถุปฺํ ปริปูเรนฺตี’’ติ วุตฺตํ.

อิมา นว ปฺาติอาทีสุ ตสฺเสว กเมน อธิคตมคฺคผลสฺส อริยปุคฺคลสฺส ปณีตโลกุตฺตรธมฺโมปโยเคน ปณีตจิตฺตสนฺตานตฺตา ปหฏฺากาเรเนว จ ปวตฺตมานจิตฺตสนฺตานสฺส ผลานนฺตรํ โอติณฺณภวงฺคโต วุฏฺิตสฺส มคฺคปจฺจเวกฺขณา, ตโต จ ภวงฺคํ โอตริตฺวา วุฏฺิตสฺส ผลปจฺจเวกฺขณา, อิมินาว นเยน ปหีนกิเลสปจฺจเวกฺขณา, อวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขณา, นิพฺพานปจฺจเวกฺขณาติ ปฺจ ปจฺจเวกฺขณา ปวตฺตนฺติ. ตาสุ ปจฺจเวกฺขณาสุ มคฺคปจฺจเวกฺขณา ผลปจฺจเวกฺขณา จ ปฏิภานปฏิสมฺภิทา โหติ. กถํ? ‘‘ยํกิฺจิ ปจฺจยสมฺภูตํ นิพฺพานํ ภาสิตตฺโถ วิปาโก กิริยาติ อิเม ปฺจ ธมฺมา อตฺโถ’’ติ อภิธมฺเม ปาฬึ อนุคนฺตฺวา ตทฏฺกถายํ วุตฺตํ. นิพฺพานสฺส จ อตฺถตฺตา ตทารมฺมณํ มคฺคผลาณํ ‘‘อตฺเถสุ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๑๘; ปฏิ. ม. ๑.๑๑๐) วจนโต อตฺถปฏิสมฺภิทา โหติ. ตสฺส อตฺถปฏิสมฺภิทาภูตสฺส มคฺคผลาณสฺส ปจฺจเวกฺขณาณํ ‘‘าเณสุ าณํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทา’’ติ วจนโต ปฏิภานปฏิสมฺภิทา โหติ. สา จ ปจฺจเวกฺขณปฺา หาสากาเรน ปวตฺตมานจิตฺตสนฺตานสฺส หาสปฺา นาม โหติ. ตสฺมา นว ปฺา หาสปฺํ ปริปูเรนฺตีติ จ หาสปฺา ปฏิภานปฏิสมฺภิทาติ จ วุตฺตํ. สพฺพปฺปการาปิ ปฺา ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส ปากฏกรณสงฺขาเตน ปฺาปนฏฺเน ปฺา, เตน เตน วา ปกาเรน ธมฺเม ชานาตีติ ปฺา.

ตสฺสาติ ตสฺส วุตฺตปฺปการสฺส อริยปุคฺคลสฺส. กรณตฺเถ สามิวจนํ. อตฺถววตฺถานโตติ ยถาวุตฺตสฺส ปฺจวิธสฺส อตฺถสฺส ววตฺถาปนวเสน. วุตฺตมฺปิ เจตํ สมณกรณียกถายํ ‘‘เหตุผลํ นิพฺพานํ วจนตฺโถ อถ วิปากํ กิริยาติ อตฺเถ ปฺจ ปเภเท ปมนฺตปเภทคตํ าณ’’นฺติ. อธิคตา โหตีติ ปฏิลทฺธา โหติ. สาเยว ปฏิลาภสจฺฉิกิริยาย สจฺฉิกตา. ปฏิลาภผสฺเสเนว ผสฺสิตา ปฺาย. ธมฺมววตฺถานโตติ ‘‘โย โกจิ ผลนิพฺพตฺตโก เหตุ อริยมคฺโค ภาสิตํ กุสลํ อกุสลนฺติ อิเม ปฺจ ธมฺมา ธมฺโม’’ติ อภิธมฺเม ปาฬิยานุสาเรน วุตฺตานํ ปฺจนฺนํ ธมฺมานํ ววตฺถาปนวเสน. วุตฺตมฺปิ เจตํ สมณกรณียกถายํ ‘‘เหตุ อริยมคฺโค วจนํ กุสลฺจ อกุสลฺจาติ ธมฺเม ปฺจ ปเภเท ทุติยนฺตปเภทคตํ าณ’’นฺติ. นิรุตฺติววตฺถานโตติ เตสํ เตสํ อตฺถธมฺมานํ อนุรูปนิรุตฺตีนํ ววตฺถาปนวเสน. ปฏิภานววตฺถานโตติ ปฏิภานสงฺขาตานํ ติณฺณํ ปฏิสมฺภิทาาณานํ ววตฺถาปนวเสน. ตสฺสิมาติ นิคมนวจนเมตํ.

. เอวํ สพฺพสงฺคาหกวเสน อนุปสฺสนานํ วิเสสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วตฺถุเภทวเสน ทสฺเสนฺโต รูเป อนิจฺจานุปสฺสนาติอาทิมาห. ตํ เหฏฺา วุตฺตตฺถเมว. ปุน รูปาทีสุเยว อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนวเสน ชวนปฺํ ทสฺเสตุกาโม เกวลํ รูปาทิวเสน จ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนรูปาทิวเสน จ ปุจฺฉํ กตฺวา ปุจฺฉากเมเนว วิสฺสชฺชนํ อกาสิ. ตตฺถ สุทฺธรูปาทิวิสฺสชฺชเนสุ ปมํ นิทฺทิฏฺา เอว ปฺา อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนมูลเกสุ สพฺพวิสฺสชฺชเนสุ เตสุ อตีตาทีสุ ชวนวเสน ชวนปฺาติ นิทฺทิฏฺา.

. ปุน อเนกสุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมํ ปฺาปเภทํ ทสฺเสตุกาโม ปมํ ตาว สุตฺตนฺเต อุทฺทิสิ. ตตฺถ สปฺปุริสสํเสโวติ เหฏฺา วุตฺตปฺปการานํ สปฺปุริสานํ ภชนํ. สทฺธมฺมสฺสวนนฺติ เตสํ สปฺปุริสานํ สนฺติเก สีลาทิปฏิปตฺติทีปกสฺส สทฺธมฺมวจนสฺส สวนํ. โยนิโสมนสิกาโรติ สุตานํ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขณวเสน อุปาเยน มนสิกาโร. ธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺตีติ โลกุตฺตรธมฺเม อนุคตสฺส สีลาทิปฏิปทาธมฺมสฺส ปฏิปชฺชนํ. ปฺาปฏิลาภาย ปฺาวุทฺธิยา ปฺาเวปุลฺลาย ปฺาพาหุลฺลายาติ อิมานิ จตฺตาริ ปฺาวเสน ภาววจนานิ. เสสานิ ทฺวาทส ปุคฺคลวเสน ภาววจนานิ.

๑. โสฬสปฺานิทฺเทสวณฺณนา

. สุตฺตนฺตนิทฺเทเส ฉนฺนํ อภิฺาาณานนฺติ อิทฺธิวิธทิพฺพโสตเจโตปริยปุพฺเพนิวาสทิพฺพจกฺขุอาสวานํ ขยาณานํ. เตสตฺตตีนํ าณานนฺติ าณกถาย นิทฺทิฏฺานํ สาวกสาธารณานํ าณานํ. สตฺตสตฺตตีนํ าณานนฺติ เอตฺถ –

‘‘สตฺตสตฺตริ โว, ภิกฺขเว, าณวตฺถูนิ เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ สาธุกํ มนสิ กโรถ, ภาสิสฺสามีติ. กตมานิ, ภิกฺขเว, สตฺตสตฺตริ าณวตฺถูนิ? ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ าณํ, อสติ ชาติยา นตฺถิ ชรามรณนฺติ าณํ. อตีตมฺปิ อทฺธานํ ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ าณํ, อสติ ชาติยา นตฺถิ ชรามรณนฺติ าณํ, อนาคตมฺปิ อทฺธานํ ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ าณํ, อสติ ชาติยา นตฺถิ ชรามรณนฺติ าณํ. ยมฺปิสฺส ตํ ธมฺมฏฺิติาณํ, ตมฺปิ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมนฺติ าณํ. ภวปจฺจยา ชาตีติ าณํ…เป… อุปาทานปจฺจยา ภโวติ าณํ… ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานนฺติ าณํ… เวทนาปจฺจยา ตณฺหาติ าณํ… ผสฺสปจฺจยา เวทนาติ าณํ… สฬายตนปจฺจยา ผสฺโสติ าณํ… นามรูปปจฺจยา สฬายตนนฺติ าณํ… วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ าณํ… สงฺขารปจฺจยา วิฺาณนฺติ าณํ… อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ าณํ, อสติ อวิชฺชาย นตฺถิ สงฺขาราติ าณํ. อตีตมฺปิ อทฺธานํ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ าณํ, อสติ อวิชฺชาย นตฺถิ สงฺขาราติ าณํ, อนาคตมฺปิ อทฺธานํ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ าณํ, อสติ อวิชฺชาย นตฺถิ สงฺขาราติ าณํ. ยมฺปิสฺส ตํ ธมฺมฏฺิติาณํ, ตมฺปิ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมนฺติ าณํ. อิมานิ วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตสตฺตริ าณวตฺถูนี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๓๔) –

เอวํ ภควตา นิทานวคฺเค วุตฺตานิ สตฺตสตฺตติ าณานิ. ‘‘ชรามรเณ าณํ, ชรามรณสมุทเย าณํ, ชรามรณนิโรเธ าณํ, ชรามรณนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย าณ’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๓๓) อิมินา นเยน เอกาทสสุ องฺเคสุ จตฺตาริ จตฺตาริ กตฺวา วุตฺตานิ จตุจตฺตารีส าณวตฺถูนิ ปน อิธ น คหิตานิ. อุภยตฺถ จ าณานิเยว หิตสุขสฺส วตฺถูนีติ าณวตฺถูนิ. ลาโภติอาทีสุ ลาโภเยว อุปสคฺเคน วิเสเสตฺวา ปฏิลาโภติ วุตฺโต. ปุน ตสฺเสว อตฺถวิวรณวเสน ปตฺติ สมฺปตฺตีติ วุตฺตํ. ผสฺสนาติ อธิคมวเสน ผุสนา. สจฺฉิกิริยาติ ปฏิลาภสจฺฉิกิริยา. อุปสมฺปทาติ นิปฺผาทนา.

สตฺตนฺนฺจ เสกฺขานนฺติ ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขนฺตีติ เสกฺขสฺิตานํ โสตาปตฺติมคฺคฏฺาทีนํ สตฺตนฺนํ. ปุถุชฺชนกลฺยาณกสฺส จาติ นิพฺพานคามินิยา ปฏิปทาย ยุตฺตตฺตา สุนฺทรฏฺเน กลฺยาณสฺิตสฺส ปุถุชฺชนสฺส. วฑฺฒิตํ วฑฺฒนํ เอตายาติ วฑฺฒิตวฑฺฒนา. ยถาวุตฺตานํ อฏฺนฺนมฺปิ ปฺานํ วเสน วิเสสโต จ อรหโต ปฺาวเสน ปฺาวุทฺธิยา. ตถา ปฺาเวปุลฺลาย. มหนฺเต อตฺเถ ปริคฺคณฺหาตีติอาทีสุ ปฏิสมฺภิทปฺปตฺโต อริยสาวโก อตฺถาทโย อารมฺมณกรเณน ปริคฺคณฺหาติ. สพฺพาปิ มหาปฺา อริยสาวกานํเยว. ตสฺสา จ ปฺาย วิสยา เหฏฺา วุตฺตตฺถา เอว.

ปุถุนานาขนฺเธสูติอาทีสุ นานาสทฺโท ปุถุสทฺทสฺส อตฺถวจนํ. าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺาติ เตสุ ตถาวุตฺเตสุ ขนฺธาทีสุ าณํ ปวตฺตตีติ กตฺวา ตํ าณํ ปุถุปฺา นามาติ อตฺโถ. นานาปฏิจฺจสมุปฺปาเทสูติ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนานํ ธมฺมานํ วเสน ปจฺจยพหุตฺตา วุตฺตํ. นานาสุฺตมนุปลพฺเภสูติ อุปลพฺภนํ อุปลพฺโภ, คหณนฺติ อตฺโถ. น อุปลพฺโภ อนุปลพฺโภ, อนุปลพฺภานํ พหุตฺตา พหุวจเนน อนุปลพฺภา, ปฺจวีสติสุฺตาวเสน วา นานาสุฺตาสุ อตฺตตฺตนิยาทีนํ อนุปลพฺภา นานาสุฺตานุปลพฺภา, เตสุ. ‘‘นานาสุฺตานุปลพฺเภสู’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘อทุกฺขมสุขา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ติกมาติกา ๒) วิย ม-กาโร ปทสนฺธิวเสน วุตฺโต. อิมา ปฺจ ปฺา กลฺยาณปุถุชฺชเนหิ สาธารณา, นานาอตฺถาทีสุ ปฺา อริยานํเยว. ปุถุชฺชนสาธารเณ ธมฺเมติ โลกิยธมฺเม. อิมินา อวสานปริยาเยน โลกิยโต ปุถุภูตนิพฺพานารมฺมณตฺตา ปุถุภูตา วิสุํภูตา ปฺาติ ปุถุปฺา นามาติ วุตฺตํ โหติ.

วิปุลปฺา มหาปฺานเยน เวทิตพฺพา. ยถาวุตฺเต ธมฺเม ปริคฺคณฺหนฺตสฺส คุณมหนฺตตาย เตสํ ธมฺมานํ ปริคฺคาหิกาย จ ปฺาย มหนฺตตา, เตสํ ธมฺมานํ สยเมว มหนฺตตฺตา อุฬารตฺตา ธมฺมานฺจ ปฺาย จ วิปุลตา เวทิตพฺพา. คมฺภีรปฺา ปุถุปฺานเยน เวทิตพฺพา. เต จ ธมฺมา เต จ อนุปลพฺภา สา จ ปฺา ปกติชเนน อลพฺภเนยฺยปติฏฺตฺตา คมฺภีรา.

ยสฺส ปุคฺคลสฺสาติ อริยปุคฺคลสฺเสว. อฺโ โกจีติ ปุถุชฺชโน. อภิสมฺภวิตุนฺติ สมฺปาปุณิตุํ. อนภิสมฺภวนีโยติ สมฺปาปุณิตุํ อสกฺกุเณยฺโย. อฺเหีติ ปุถุชฺชเนเหว. อฏฺมกสฺสาติ อรหตฺตผลฏฺโต ปฏฺาย คณิยมาเน อฏฺมภูตสฺส โสตาปตฺติมคฺคฏฺสฺส. ทูเรติ วิปฺปกฏฺเ. วิทูเรติ วิเสเสน วิปฺปกฏฺเ. สุวิทูเรติ สุฏฺุ วิเสเสน วิปฺปกฏฺเ. น สนฺติเกติ น สมีเป. น สามนฺตาติ น สมีปภาเค. อิมานิ ทฺเว ปฏิเสธสหิตานิ วจนานิ ทูรภาวสฺเสว นิยมนานิ. อุปาทายาติ ปฏิจฺจ. โสตาปนฺนสฺสาติ โสตาปตฺติผลฏฺสฺส. เอเตเนว ตํตํมคฺคปฺา ตํตํผลปฺาย ทูเรติ วุตฺตํ โหติ. ปจฺเจกสมฺพุทฺโธติ อุปสคฺเคน วิเสสิตํ. อิตรทฺวยํ ปน สุทฺธเมว อาคตํ.

. ‘‘ปจฺเจกพุทฺธสฺส สเทวกสฺส จ โลกสฺส ปฺา ตถาคตสฺส ปฺาย ทูเร’’ติอาทีนิ วตฺวา ตเมว ทูรฏฺํ อเนกปฺปการโต ทสฺเสตุกาโม ปฺาปเภทกุสโลติอาทิมาห. ตตฺถ ปฺาปเภทกุสโลติ อตฺตโน อนนฺตวิกปฺเป ปฺาปเภเท เฉโก. ปภินฺนาโณติ อนนฺตปฺปเภทปตฺตาโณ. เอเตน ปฺาปเภทกุสลตฺเตปิ สติ ตาสํ ปฺานํ อนนฺตเภทตฺตํ ทสฺเสติ. อธิคตปฏิสมฺภิโทติ ปฏิลทฺธอคฺคจตุปฏิสมฺภิทาาโณ. จตุเวสารชฺชปฺปตฺโตติ จตฺตาริ วิสารทภาวสงฺขาตานิ าณานิ ปตฺโต. ยถาห –

‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต ปฏิชานโต ‘อิเม ธมฺมา อนภิสมฺพุทฺธา’ติ, ตตฺร วต มํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ สห ธมฺเมน ปฏิโจเทสฺสตีติ นิมิตฺตเมตํ, ภิกฺขเว, น สมนุปสฺสามิ, เอตมหํ, ภิกฺขเว, นิมิตฺตํ อสมนุปสฺสนฺโต เขมปฺปตฺโต อภยปฺปตฺโต เวสารชฺชปฺปตฺโต วิหรามิ. ขีณาสวสฺส เต ปฏิชานโต ‘อิเม อาสวา อปริกฺขีณา’ติ, ‘เย โข ปน เต อนฺตรายิกา ธมฺมา วุตฺตา, เต ปฏิเสวโต นาลํ อนฺตรายายา’ติ, ‘ยสฺส โข ปน เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโต, โส น นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายา’ติ, ตตฺร วต มํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมึ สห ธมฺเมน ปฏิโจเทสฺสตีติ นิมิตฺตเมตํ, ภิกฺขเว, น สมนุปสฺสามิ, เอตมหํ, ภิกฺขเว, นิมิตฺตํ อสมนุปสฺสนฺโต เขมปฺปตฺโต อภยปฺปตฺโต เวสารชฺชปฺปตฺโต วิหรามี’’ติ (อ. นิ. ๔.๘; ม. นิ. ๑.๑๕๐).

ทสพลพลธารีติ ทส พลานิ เอเตสนฺติ ทสพลา, ทสพลานํ พลานิ ทสพลพลานิ, ตานิ ทสพลพลานิ ธารยตีติ ทสพลพลธารี, ทสพลาณพลธารีติ อตฺโถ. เอเตหิ ตีหิ วจเนหิ อนนฺตปฺปเภทานํ เนยฺยานํ ปเภทมุขมตฺตํ ทสฺสิตํ. โสเยว ปฺาปโยควเสน อภิมงฺคลสมฺมตฏฺเน ปุริสาสโภ. อสนฺตาสฏฺเน ปุริสสีโห. มหนฺตฏฺเน ปุริสนาโค. ปชานนฏฺเน ปุริสาชฺโ. โลกกิจฺจธุรวหนฏฺเน ปุริสโธรยฺโห.

อถ เตชาทิกํ อนนฺตาณโต ลทฺธํ คุณวิเสสํ ทสฺเสตุกาโม เตสํ เตชาทีนํ อนนฺตาณมูลกภาวํ ทสฺเสนฺโต อนนฺตาโณติ วตฺวา อนนฺตเตโชติอาทิมาห. ตตฺถ อนนฺตาโณติ คณนวเสน จ ปภาววเสน จ อนฺตวิรหิตาโณ. อนนฺตเตโชติ เวเนยฺยสนฺตาเน โมหตมวิธมเนน อนนฺตาณเตโช. อนนฺตยโสติ ปฺาคุเณเหว โลกตฺตยวิตฺถตานนฺตกิตฺติโฆโส. อฑฺโฒติ ปฺาธนสมิทฺธิยา สมิทฺโธ. มหทฺธโนติ ปฺาธนวฑฺฒตฺเตปิ ปภาวมหตฺเตน มหนฺตํ ปฺาธนมสฺสาติ มหทฺธโน. มหาธโนติปิ ปาโ. ธนวาติ ปสํสิตพฺพปฺาธนวตฺตา นิจฺจยุตฺตปฺาธนวตฺตา อติสยภูตปฺาธนวตฺตา ธนวา. เอเตสุปิ หิ ตีสุ อตฺเถสุ อิทํ วจนํ สทฺทวิทู อิจฺฉนฺติ.

เอวํ ปฺาคุเณน ภควโต อตฺตสมฺปตฺติสิทฺธึ ทสฺเสตฺวา ปุน ปฺาคุเณเนว โลกหิตสมฺปตฺติสิทฺธึ ทสฺเสนฺโต เนตาติอาทิมาห. ตตฺถ เวเนยฺเย สํสารสงฺขาตภยฏฺานโต นิพฺพานสงฺขาตเขมฏฺานํ เนตา. ตตฺถ นยนกาเล เอว สํวรวินยปหานวินยวเสน เวเนยฺเย วิเนตา. ธมฺมเทสนากาเล เอว สํสยจฺเฉทเนน อนุเนตา. สํสยํ ฉินฺทิตฺวา ปฺาเปตพฺพํ อตฺถํ ปฺาเปตา. ตถา ปฺาปิตานํ นิจฺฉยกรเณน นิชฺฌาเปตา. ตถา นิชฺฌายิตสฺส อตฺถสฺส ปฏิปตฺติปโยชนวเสน เปกฺเขตา. ตถาปฏิปนฺเน ปฏิปตฺติผเลน ปสาเทตา. โส หิ ภควาติ เอตฺถ หิ-กาโร อนนฺตรํ วุตฺตสฺส อตฺถสฺส การโณปเทเส นิปาโต. อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตาติ สกสนฺตาเน น อุปฺปนฺนปุพฺพสฺส ฉอสาธารณาณเหตุภูตสฺส อริยมคฺคสฺส โพธิมูเล โลกหิตตฺถํ สกสนฺตาเน อุปฺปาเทตา. อสฺชาตสฺส มคฺคสฺส สฺชเนตาติ เวเนยฺยสนฺตาเน อสฺชาตปุพฺพสฺส สาวกปารมิาณเหตุภูตสฺส อริยมคฺคสฺส ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนโต ปภุติ ยาวชฺชกาลา เวเนยฺยสนฺตาเน สฺชเนตา. สาวกเวเนยฺยานมฺปิ หิ สนฺตาเน ภควโต วุตฺตวจเนเนว อริยมคฺคสฺส สฺชนนโต ภควา สฺชเนตา นาม โหติ. อนกฺขาตสฺส มคฺคสฺส อกฺขาตาติ อฏฺธมฺมสมนฺนาคตานํ พุทฺธภาวาย กตาภินีหารานํ โพธิสตฺตานํ พุทฺธภาวาย พฺยากรณํ ทตฺวา อนกฺขาตปุพฺพสฺส ปารมิตามคฺคสฺส, ‘‘พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากรณมตฺเตเนว วา โพธิมูเล อุปฺปชฺชิตพฺพสฺส อริยมคฺคสฺส อกฺขาตา. อยํ นโย ปจฺเจกโพธิสตฺตพฺยากรเณปิ ลพฺภติเยว.

มคฺคฺูติ ปจฺจเวกฺขณาวเสน อตฺตนา อุปฺปาทิตอริยมคฺคสฺส าตา. มคฺควิทูติ เวเนยฺยสนฺตาเน ชเนตพฺพสฺส อริยมคฺคสฺส กุสโล. มคฺคโกวิโทติ โพธิสตฺตานํ อกฺขาตพฺพมคฺเค วิจกฺขโณ. อถ วา อภิสมฺโพธิปฏิปตฺติมคฺคฺู, ปจฺเจกโพธิปฏิปตฺติมคฺควิทู, สาวกโพธิปฏิปตฺติมคฺคโกวิโท. อถ วา ‘‘เอเตน มคฺเคน อตํสุ ปุพฺเพ, ตริสฺสนฺติเยว ตรนฺติ โอฆ’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๔๐๙) วจนโต ยถาโยคํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนพุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวกานํ มคฺควเสน จ สุฺตานิมิตฺตอปฺปณิหิตมคฺควเสน จ อุคฺฆฏิตฺูวิปฺจิตฺูเนยฺยปุคฺคลานํ มคฺควเสน จ ยถากฺกเมนตฺถโยชนํ กโรนฺติ. มคฺคานุคามี จ ปนาติ ภควตา คตมคฺคานุคามิโน หุตฺวา. เอตฺถ จ-สทฺโท เหตุอตฺเถ นิปาโต. เอเตน จ ภควโต มคฺคุปฺปาทนาทิคุณาธิคมาย เหตุ วุตฺโต โหติ. ปน-สทฺโท กตตฺเถ นิปาโต. เตน ภควตา กตมคฺคกรณํ วุตฺตํ โหติ. ปจฺฉา สมนฺนาคตาติ ปมํ คตสฺส ภควโต ปจฺฉาคตสีลาทิคุเณน สมนฺนาคตา. อิติ เถโร ‘‘อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา’’ติอาทีหิ ยสฺมา สพฺเพปิ ภควโต สีลาทโย คุณา อรหตฺตมคฺคเมว นิสฺสาย อาคตา, ตสฺมา อรหตฺตมคฺคเมว นิสฺสาย คุณํ กเถสิ.

ชานํ ชานาตีติ ชานิตพฺพํ ชานาติ, สพฺพฺุตาย ยํกิฺจิ ปฺาย ชานิตพฺพํ นาม อตฺถิ, ตํ สพฺพํ ปฺจเนยฺยปถภูตํ ปฺาย ชานาตีติ อตฺโถ. ปสฺสํ ปสฺสตีติ ปสฺสิตพฺพํ ปสฺสติ, สพฺพทสฺสาวิตาย ตํเยว เนยฺยปถํ จกฺขุนา ทิฏฺํ วิย กโรนฺโต ปฺาจกฺขุนา ปสฺสตีติ อตฺโถ. ยถา วา เอกจฺโจ วิปรีตํ คณฺหนฺโต ชานนฺโตปิ น ชานาติ, ปสฺสนฺโตปิ น ปสฺสติ, น เอวํ ภควา. ภควา ปน ยถาสภาวํ คณฺหนฺโต ชานนฺโต ชานาติเยว, ปสฺสนฺโต ปสฺสติเยว. สฺวายํ ทสฺสนปริณายกฏฺเน จกฺขุภูโต. วิทิตตาทิอตฺเถน าณภูโต. อวิปรีตสภาวฏฺเน วา ปริยตฺติธมฺมปวตฺตนโต หทเยน จินฺเตตฺวา วาจาย นิจฺฉาริตธมฺมมโยติ วา ธมฺมภูโต. เสฏฺฏฺเน พฺรหฺมภูโต. อถ วา จกฺขุ วิย ภูโตติ จกฺขุภูโต. าณํ วิย ภูโตติ าณภูโต. ธมฺโม วิย ภูโตติ ธมฺมภูโต. พฺรหฺมา วิย ภูโตติ พฺรหฺมภูโต. สฺวายํ ธมฺมสฺส วจนโต, วตฺตนโต วา วตฺตา. นานปฺปกาเรหิ วจนโต, วตฺตนโต วา ปวตฺตา. อตฺถํ นีหริตฺวา นีหริตฺวา นยนโต อตฺถสฺส นินฺเนตา. อมตาธิคมาย ปฏิปตฺติเทสนโต, อมตปฺปกาสนาย วา ธมฺมเทสนาย อมตสฺส อธิคมาปนโต อมตสฺส ทาตา. โลกุตฺตรธมฺมสฺส อุปฺปาทิตตฺตา เวเนยฺยานุรูเปน ยถาสุขํ โลกุตฺตรธมฺมสฺส ทาเนน จ, ธมฺเมสุ จ อิสฺสโรติ ธมฺมสฺสามี. ตถาคตปทํ เหฏฺา วุตฺตตฺถํ.

อิทานิ ‘‘ชานํ ชานาตี’’ติอาทีหิ วุตฺตํ คุณํ สพฺพฺุตาย วิเสเสตฺวา ทสฺเสตุกาโม สพฺพฺุตํ สาเธนฺโต นตฺถีติอาทิมาห. เอวํภูตสฺส หิ ตสฺส ภควโต ปารมิตาปุฺพลปฺปภาวนิปฺผนฺเนน อรหตฺตมคฺคาเณน สพฺพธมฺเมสุ สวาสนสฺส สมฺโมหสฺส วิหตตฺตา อสจฺฉิกตํ นาม นตฺถิ. อสมฺโมหโต สพฺพธมฺมานํ าตตฺตา อฺาตํ นาม นตฺถิ. ตเถว จ สพฺพธมฺมานํ จกฺขุนา วิย าณจกฺขุนา ทิฏฺตฺตา อทิฏฺํ นาม นตฺถิ. าเณน ปน ปตฺตตฺตา อวิทิตํ นาม นตฺถิ. อสมฺโมหสจฺฉิกิริยาย สจฺฉิกตตฺตา อสจฺฉิกตํ นาม นตฺถิ. อสมฺโมหปฺาย ผุฏฺตฺตา ปฺาย อผสฺสิตํ นาม นตฺถิ. ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนํ กาลํ วา ธมฺมํ วา. อุปาทายาติ อาทาย, อนฺโตกตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘อุปาทายา’’ติ วจเนเนว กาลวินิมุตฺตํ นิพฺพานมฺปิ คหิตเมว โหติ. ‘‘อตีตา’’ทิวจนานิ จ ‘‘นตฺถี’’ติอาทิวจเนเนว ฆฏียนฺติ, ‘‘สพฺเพ’’ติอาทิวจเนน วา. สพฺเพ ธมฺมาติ สพฺพสงฺขตาสงฺขตธมฺมปริยาทานํ. สพฺพากาเรนาติ สพฺพธมฺเมสุ เอเกกสฺเสว ธมฺมสฺส อนิจฺจาการาทิสพฺพาการปริยาทานํ. าณมุเขติ าณาภิมุเข. อาปาถํ อาคจฺฉนฺตีติ โอสรณํ อุเปนฺติ. ‘‘ชานิตพฺพ’’นฺติปทํ ‘‘เนยฺย’’นฺติปทสฺส อตฺถวิวรณตฺถํ วุตฺตํ.

อตฺตตฺโถ วาติอาทีสุ วา-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. อตฺตตฺโถติ อตฺตโน อตฺโถ. ปรตฺโถติ ปเรสํ ติณฺณํ โลกานํ อตฺโถ. อุภยตฺโถติ อตฺตโน จ ปเรสฺจาติ สกึเยว อุภินฺนํ อตฺโถ. ทิฏฺธมฺมิโกติ ทิฏฺธมฺเม นิยุตฺโต, ทิฏฺธมฺมปฺปโยชโน วา อตฺโถ. สมฺปราเย นิยุตฺโต, สมฺปรายปฺปโยชโน วา สมฺปรายิโก. อุตฺตาโนติอาทีสุ โวหารวเสน วตฺตพฺโพ สุขปติฏฺตฺตา อุตฺตาโน. โวหารํ อติกฺกมิตฺวา วตฺตพฺโพ สุฺตาปฏิสํยุตฺโต ทุกฺขปติฏฺตฺตา คมฺภีโร. โลกุตฺตโร อจฺจนฺตติโรกฺขตฺตา คูฬฺโห. อนิจฺจตาทิโก ฆนาทีหิ ปฏิจฺฉนฺนตฺตา ปฏิจฺฉนฺโน. อปฺปจุรโวหาเรน วตฺตพฺโพ ยถารุตํ อคฺคเหตฺวา อธิปฺปายสฺส เนตพฺพตฺตา เนยฺโย. ปจุรโวหาเรน วตฺตพฺโพ วจนมตฺเตน อธิปฺปายสฺส นีตตฺตา นีโต. สุปริสุทฺธสีลสมาธิวิปสฺสนตฺโถ ตทงฺควิกฺขมฺภนวเสน วชฺชวิรหิตตฺตา อนวชฺโช. กิเลสสมุจฺเฉทนโต อริยมคฺคตฺโถ นิกฺกิเลโส. กิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา อริยผลตฺโถ โวทาโน. สงฺขตาสงฺขเตสุ อคฺคธมฺมตฺตา นิพฺพานํ ปรมตฺโถ. ปริวตฺตตีติ พุทฺธาณสฺส วิสยภาวโต อพหิภูตตฺตา อนฺโตพุทฺธาเณ พฺยาปิตฺวา วา สมนฺตา วา อาลิงฺคิตฺวา วา วิเสเสน วา วตฺตติ.

สพฺพํ กายกมฺมนฺติอาทีหิ ภควโต าณมยตํ ทสฺเสติ. าณานุปริวตฺตตีติ าณํ อนุปริวตฺตติ, าณวิรหิตํ น โหตีติ อตฺโถ. อปฺปฏิหตนฺติ นิราวรณตํ ทสฺเสติ. ปุน สพฺพฺุตํ อุปมาย สาเธตุกาโม ยาวตกนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ชานิตพฺพนฺติ เนยฺยํ, เนยฺยปริยนฺโต เนยฺยาวสานมสฺส อตฺถีติ เนยฺยปริยนฺติกํ. อสพฺพฺูนํ ปน เนยฺยาวสานเมว นตฺถิ. าณปริยนฺติเกปิ เอเสว นโย. ปุริมยมเก วุตฺตตฺถเมว อิมินา ยมเกน วิเสเสตฺวา ทสฺเสติ, ตติยยมเกน ปฏิเสธวเสน นิยมิตฺวา ทสฺเสติ. เอตฺถ จ เนยฺยํ าณสฺส ปถตฺตา เนยฺยปโถ. อฺมฺปริยนฺตฏฺายิโนติ เนยฺยฺจ าณฺจ เขเปตฺวา านโต อฺมฺสฺส ปริยนฺเต านสีลา. อาวชฺชนปฺปฏิพทฺธาติ มโนทฺวาราวชฺชนายตฺตา, อาวชฺชิตานนฺตรเมว ชานาตีติ อตฺโถ. อากงฺขปฺปฏิพทฺธาติ รุจิอายตฺตา, อาวชฺชนานนฺตรํ ชวนาเณน ชานาตีติ อตฺโถ. อิตรานิ ทฺเว ปทานิ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปทานํ ยถากฺกเมน อตฺถปฺปกาสนตฺถํ วุตฺตานิ. พุทฺโธ อาสยํ ชานาตีติอาทีนิ าณกถายํ วณฺณิตานิ. มหานิทฺเทเส ปน ‘‘ภควา อาสยํ ชานาตี’’ติ (มหานิ. ๖๙) อาคตํ. ตตฺถ ‘‘พุทฺธสฺส ภควโต’’ติ (มหานิ. ๖๙) อาคตฏฺาเน จ อิธ กตฺถจิ ‘‘พุทฺธสฺสา’’ติ อาคตํ.

อนฺตมโสติ อุปริมนฺเตน. ติมิติมิงฺคลนฺติ เอตฺถ ติมิ นาม เอกา มจฺฉชาติ, ติมึ คิลิตุํ สมตฺถา ตโต มหนฺตสรีรา ติมิงฺคลา นาม เอกา มจฺฉชาติ, ติมิงฺคลมฺปิ คิลิตุํ สมตฺถา ปฺจโยชนสติกสรีรา ติมิติมิงฺคลา นาม เอกา มจฺฉชาติ. อิธ ชาติคฺคหเณน เอกวจนํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. ครุฬํ เวนเตยฺยนฺติ เอตฺถ ครุโฬติ ชาติวเสน นามํ, เวนเตยฺโยติ โคตฺตวเสน. ปเทเสติ เอกเทเส. สาริปุตฺตสมาติ สพฺพพุทฺธานํ ธมฺมเสนาปติตฺเถเร คเหตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เสสสาวกา หิ ปฺาย ธมฺมเสนาปติตฺเถเรน สมา นาม นตฺถิ. ยถาห – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ มหาปฺานํ ยทิทํ สาริปุตฺโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๘-๑๘๙). อฏฺกถายฺจ วุตฺตํ –

‘‘โลกนาถํ เปตฺวาน, เย จฺเ สนฺติ ปาณิโน;

ปฺาย สาริปุตฺตสฺส, กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสิ’’นฺติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๗๑);

ผริตฺวาติ พุทฺธาณํ สพฺพเทวมนุสฺสานมฺปิ ปฺํ ปาปุณิตฺวา านโต เตสํ ปฺํ ผริตฺวา พฺยาปิตฺวา ติฏฺติ. อติฆํสิตฺวาติ พุทฺธาณํ สพฺพเทวมนุสฺสานมฺปิ ปฺํ อติกฺกมิตฺวา เตสํ อวิสยภูตมฺปิ สพฺพํ เนยฺยํ ฆํสิตฺวา ภฺชิตฺวา ติฏฺติ. มหานิทฺเทเส ปน (มหานิ. ๖๙) ‘‘อภิภวิตฺวา’’ติ ปาโ, มทฺทิตฺวาติปิ อตฺโถ. เยปิ เตติอาทีหิ เอวํ ผริตฺวา อติฆํสิตฺวา านสฺส ปจฺจกฺขการณํ ทสฺเสติ. ตตฺถ ปณฺฑิตาติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคตา. นิปุณาติ สณฺหสุขุมพุทฺธิโน สุขุเม อตฺถนฺตเร ปฏิวิชฺฌนสมตฺถา. กตปรปฺปวาทาติ าตปรปฺปวาทา เจว ปเรหิ สทฺธึ กตวาทปริจยา จ. วาลเวธิรูปาติ วาลเวธิธนุคฺคหสทิสา. โวภินฺทนฺตา มฺเ จรนฺติ ปฺาคเตน ทิฏฺิคตานีติ วาลเวธี วิย วาลํ สุขุมานิปิ ปเรสํ ทิฏฺิคมนานิ อตฺตโน ปฺาคมเนน ภินฺทนฺตา วิย จรนฺตีติ อตฺโถ. อถ วา ‘‘คูถคตํ มุตฺตคต’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๙.๑๑) วิย ปฺา เอว ปฺาคตานิ, ทิฏฺิโย เอว ทิฏฺิคตานิ.

ปฺหํ อภิสงฺขริตฺวาติ ทฺวิปทมฺปิ ติปทมฺปิ จตุปฺปทมฺปิ ปุจฺฉํ รจยิตฺวา. เตสํ ปฺหานํ อติพหุกตฺตา สพฺพสงฺคหตฺถํ ทฺวิกฺขตฺตุํ วุตฺตํ. คูฬฺหานิ จ ปฏิจฺฉนฺนานิ อตฺถชาตานีติ ปาเสโส. เตสํ ตถา วินยํ ทิสฺวา ‘‘อตฺตนา อภิสงฺขตปฺหํ ปุจฺฉตู’’ติ เอวํ ภควตา อธิปฺเปตตฺตา ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ. อฺเสํ ปน ปุจฺฉาย โอกาสเมว อทตฺวา ภควา อุปสงฺกมนฺตานํ ธมฺมํ เทเสติ. ยถาห –

‘‘เต ปฺหํ อภิสงฺขโรนฺติ ‘อิมํ มยํ ปฺหํ สมณํ โคตมํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิสฺสาม, สเจ โน สมโณ โคตโม เอวํ ปุฏฺโ เอวํ พฺยากริสฺสติ, เอวมสฺส มยํ วาทํ อาโรเปสฺสาม. เอวํ เจปิ โน ปุฏฺโ เอวํ พฺยากริสฺสติ, เอวํปิสฺส มยํ วาทํ อาโรเปสฺสามา’ติ. เต เยน สมโณ โคตโม, เตนุปสงฺกมนฺติ, เต สมโณ โคตโม ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ. เต สมเณน โคตเมน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุตฺเตชิตา สมฺปหํสิตา น เจว สมณํ โคตมํ ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ, กุโตสฺส วาทํ อาโรเปสฺสนฺติ? อฺทตฺถุ สมณสฺเสว โคตมสฺส สาวกา สมฺปชฺชนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๙).

กสฺมา ปฺหํ น ปุจฺฉนฺตีติ เจ? ภควา กิร ปริสมชฺเฌ ธมฺมํ เทเสนฺโต ปริสาย อชฺฌาสยํ โอโลเกติ. ตโต ปสฺสติ ‘‘อิเม ปณฺฑิตา คูฬฺหํ รหสฺสํ ปฺหํ โอวฏฺฏิกสารํ กตฺวา อาคตา’’ติ. โส เตหิ อปุฏฺโเยว ‘‘ปฺหปุจฺฉาย เอตฺตกา โทสา, วิสฺสชฺชเน เอตฺตกา, อตฺเถ ปเท อกฺขเร เอตฺตกาติ อิเม ปฺเห ปุจฺฉนฺโต เอวํ ปุจฺเฉยฺย, วิสฺสชฺเชนฺโต เอวํ วิสฺสชฺเชยฺยา’’ติ อิติ โอวฏฺฏิกสารํ กตฺวา อานีเต ปฺเห ธมฺมกถาย อนฺตเร ปกฺขิปิตฺวา วิทํเสติ. เต ปณฺฑิตา ‘‘เสยฺยา วต โน, เย มยํ อิเม ปฺเห น ปุจฺฉิมฺห. สเจปิ มยํ ปุจฺเฉยฺยาม, อปฺปติฏฺิเต โน กตฺวา สมโณ โคตโม ขิเปยฺยา’’ติ อตฺตมนา ภวนฺติ. อปิจ พุทฺธา นาม ธมฺมํ เทเสนฺตา ปริสํ เมตฺตาย ผรนฺติ. เมตฺตาย จ ผรเณน ทสพเลสุ มหาชนสฺส จิตฺตํ ปสีทติ. พุทฺธา นาม รูปคฺคปฺปตฺตา โหนฺติ ทสฺสนสมฺปนฺนา มธุรสฺสรา มุทุชิวฺหา สุผุสิตทนฺตาวรณา อมเตน หทยํ สิฺจนฺตา วิย ธมฺมํ กเถนฺติ. ตตฺร เนสํ เมตฺตาผรเณน ปสนฺนจิตฺตานํ เอวํ โหติ – เอวรูปํ อทฺเวชฺฌกถํ อโมฆกถํ นิยฺยานิกกถํ กเถนฺเตน ภควตา สทฺธึ น สกฺขิสฺสาม ปจฺจนีกคฺคาหํ คณฺหิตุนฺติ อตฺตโน ปสนฺนภาเวเนว ปฺหํ น ปุจฺฉนฺตีติ.

กถิตา วิสชฺชิตา จาติ เอวํ ตุมฺเห ปุจฺฉถาติ ปุจฺฉิตปฺหานํ อุจฺจารเณน เต ปฺหา ภควตา กถิตา เอว โหนฺติ. ยถา จ เต วิสชฺเชตพฺพา, ตถา วิสชฺชิตา เอว โหนฺติ. นิทฺทิฏฺการณาติ อิมินา การเณน อิมินา เหตุนา เอวํ โหตีติ เอวํ สเหตุกํ กตฺวา วิสชฺชเนน ภควตา นิทฺทิฏฺการณา เอว โหนฺติ เต ปฺหา. อุปกฺขิตฺตกา จ เต ภควโต สมฺปชฺชนฺตีติ เต ขตฺติยปณฺฑิตาทโย ภควโต ปฺหวิสชฺชเนเนว ภควโต สมีเป ขิตฺตกา ปาทขิตฺตกา สมฺปชฺชนฺติ, สาวกา วา สมฺปชฺชนฺติ อุปาสกา วาติ อตฺโถ, สาวกสมฺปตฺตึ วา ปาปุณนฺติ อุปาสกสมฺปตฺตึ วาติ วุตฺตํ โหติ. อถาติ อนนฺตรตฺเถ, เตสํ อุปกฺขิตฺตกสมฺปตฺติสมนนฺตรเมวาติ อตฺโถ. ตตฺถาติ ตสฺมึ าเน, ตสฺมึ อธิกาเร วา. อติโรจตีติ อติวิย โชเตติ ปกาสติ. ยทิทํ ปฺายาติ ยายํ ภควโต ปฺา, ตาย ปฺาย ภควาว อติโรจตีติ อตฺโถ. อิติสทฺโท การณตฺเถ, อิมินา การเณน อคฺโค อสามนฺตปฺโติ อตฺโถ.

. ราคํ อภิภุยฺยตีติ ภูริปฺาติ สา สา มคฺคปฺา อตฺตนา วชฺฌํ ราคํ อภิภุยฺยติ อภิภวติ มทฺทตีติ ภูริปฺา. ภูรีติ หิ ผุฏฏฺโ วิสทตฺโถ. ยา จ ผุฏา, สา ปฏิปกฺขํ อภิภวติ น อผุฏา, ตสฺมา ภูริปฺาย อภิภวนตฺโถ วุตฺโต. อภิภวิตาติ สา สา ผลปฺา ตํ ตํ ราคํ อภิภวิตวตี มทฺทิตวตีติ ภูริปฺา. อภิภวตาติ วา ปาโ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ราคาทีสุ ปน รชฺชนลกฺขโณ ราโค. ทุสฺสนลกฺขโณ โทโส. มุยฺหนลกฺขโณ โมโห. กุชฺฌนลกฺขโณ โกโธ. อุปนนฺธนลกฺขโณ อุปนาโห. ปุพฺพกาลํ โกโธ, อปรกาลํ อุปนาโห. ปรคุณมกฺขนลกฺขโณ มกฺโข. ยุคคฺคาหลกฺขโณ ปฬาโส. ปรสมฺปตฺติขียนลกฺขณา อิสฺสา. อตฺตโน สมฺปตฺตินิคูหณลกฺขณํ มจฺฉริยํ. อตฺตนา กตปาปปฏิจฺฉาทนลกฺขณา มายา. อตฺตโน อวิชฺชมานคุณปฺปกาสนลกฺขณํ สาเยฺยํ. จิตฺตสฺส อุทฺธุมาตภาวลกฺขโณ ถมฺโภ. กรณุตฺตริยลกฺขโณ สารมฺโภ. อุนฺนติลกฺขโณ มาโน. อพฺภุนฺนติลกฺขโณ อติมาโน. มตฺตภาวลกฺขโณ มโท. ปฺจสุ กามคุเณสุ จิตฺตโวสคฺคลกฺขโณ ปมาโท.

ราโค อริ, ตํ อรึ มทฺทนิปฺาติอาทีหิ กึ วุตฺตํ โหติ? ราคาทิโก กิเลโส จิตฺตสนฺตาเน ภูโต อรีติ ภู-อริ, ปทสนฺธิวเสน อ-การ โลปํ กตฺวา ภูรีติ วุตฺโต. ตสฺส ภูริสฺส มทฺทนี ปฺา ภูริมทฺทนิปฺาติ วตฺตพฺเพ มทฺทนิ สทฺท โลปํ กตฺวา ‘‘ภูริปฺา’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตํ อรึ มทฺทนีติ จ เตสํ อรีนํ มทฺทนีติ ปทจฺเฉโท กาตพฺโพ. ปถวีสมายาติ วิตฺถตวิปุลฏฺเเนว ปถวีสมาย. วิตฺถตายาติ ปชานิตพฺเพ วิสเย ปตฺถฏาย, น เอกเทเส วตฺตมานาย. วิปุลายาติ โอฬาริกภูตาย. มหานิทฺเทเส ปน ‘‘วิปุลาย วิตฺถตายา’’ติ (มหานิ. ๒๗) อาคตํ. สมนฺนาคโตติ ปุคฺคโล. อิติสทฺโท การณตฺเถ, อิมินา การเณน ปุคฺคลสฺส ภูริปฺาย สมนฺนาคตตฺตา ตสฺส ปฺา ภูริปฺา นามาติ ภูเต อตฺเถ รมตีติ อตฺโถ. ภูริปฺสฺส ปฺา ภูริปฺปฺาติ วตฺตพฺเพ เอกสฺส ปฺาสทฺทสฺส โลปํ กตฺวา ‘‘ภูริปฺา’’ติ วุตฺตํ. ภูริสมา ปฺาติ วา ภูริปฺา. อปิจาติ อฺปริยายทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ปฺายเมตนฺติ ปฺาย เอตํ. อธิวจนนฺติ อธิกวจนํ. ภูรีติ ภูเต อตฺเถ รมตีติ ภูริ. เมธาติ อสนิ วิย สิลุจฺจเย กิเลเส เมธติ หึสตีติ เมธา, ขิปฺปํ คหณธารณฏฺเน วา เมธา. ปริณายิกาติ ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ สตฺตํ หิตปฏิปตฺติยํ สมฺปยุตฺตธมฺเม จ ยาถาวลกฺขณปฏิเวเธ จ ปริเนตีติ ปริณายิกา. อิเมเหว อฺานิปิ ปฺาปริยายวจนานิ วุตฺตานิ โหนฺติ.

ปฺาพาหุลฺลนฺติ ปฺา พหุลา อสฺสาติ ปฺาพหุโล, ตสฺส ภาโว ปฺาพาหุลฺลํ. ตฺจ พหุลํ ปวตฺตมานา ปฺา เอว. อิเธกจฺโจติอาทีสุ ปุถุชฺชนกลฺยาณโก วา อริโย วา. ปฺา ครุกา อสฺสาติ ปฺาครุโก. ปฺา จริตํ ปวตฺตํ อสฺสาติ ปฺาจริโต. ปฺา อาสโย อสฺสาติ ปฺาสโย. ปฺาย อธิมุตฺโตติ ปฺาธิมุตฺโต. ปฺา เอว ธชภูตา อสฺสาติ ปฺาธโช. ปฺา เอว เกตุภูตา อสฺสาติ ปฺาเกตุ. ปฺา เอว อธิปติ ปฺาธิปติ, ปฺาธิปติโต อาคตตฺตา ปฺาธิปเตยฺโย. ธมฺมสภาววิจินนํ พหุลมสฺสาติ วิจยพหุโล. นานปฺปกาเรน ธมฺมสภาววิจินนํ พหุลมสฺสาติ ปวิจยพหุโล. ปฺาย โอคาเหตฺวา ตสฺส ตสฺส ธมฺมสฺส ขายนํ ปากฏกรณํ โอกฺขายนํ, โอกฺขายนํ พหุลมสฺสาติ โอกฺขายนพหุโล. ปฺาย ตสฺส ตสฺส ธมฺมสฺส สมฺมา เปกฺขณา สมฺเปกฺขา, สมฺเปกฺขาย อยนํ ปวตฺตนํ สมฺเปกฺขายนํ, สมฺเปกฺขายนํ ธมฺโม ปกติ อสฺสาติ สมฺเปกฺขายนธมฺโม. ตํ ตํ ธมฺมํ วิภูตํ ปากฏํ กตฺวา วิหรตีติ วิภูตวิหารี, วิภูโต วิหาโร วา อสฺส อตฺถีติ วิภูตวิหารี. สา ปฺา จริตํ, ครุกา, พหุลา อสฺสาติ ตจฺจริโต ตคฺครุโก ตพฺพหุโล. ตสฺสํ ปฺายํ นินฺโน, โปโณ, ปพฺภาโร, อธิมุตฺโตติ ตนฺนินฺโน ตปฺโปโณ ตปฺปพฺภาโร ตทธิมุตฺโต. สา ปฺา อธิปติ ตทธิปติ, ตโต อาคโต ตทธิปเตยฺโย. ‘‘ปฺาครุโก’’ติอาทีนิ ‘‘กามํ เสวนฺตํเยว ชานาติ อยํ ปุคฺคโล กามครุโก’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๓) วิย ปุริมชาติโต ปภุติ วุตฺตานิ. ‘‘ตจฺจริโต’’ติอาทีนิ อิมิสฺสา ชาติยา วุตฺตานิ.

สีฆปฺา จ ลหุปฺา จ หาสปฺา จ ชวนปฺา จ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา. ขิปฺปฏฺเน สีฆปฺา. ลหุกฏฺเน ลหุปฺา. หาสพหุลฏฺเน หาสปฺา. วิปสฺสนูปคสงฺขาเรสุ จ วิสงฺขาเร จ ชวนฏฺเน ชวนปฺา. สีฆํ สีฆนฺติ พหุนฺนํ สีลาทีนํ สงฺคหตฺถํ ทฺวิกฺขตฺตุํ วุตฺตํ. สีลานีติ จาริตฺตวาริตฺตวเสน ปฺตฺตานิ ปาติโมกฺขสํวรสีลานิ. อินฺทฺริยสํวรนฺติ จกฺขาทีนํ ฉนฺนํ อินฺทฺริยานํ ราคปฏิฆปฺปเวสํ อกตฺวา สติกวาเฏน วารณํ ถกนํ. โภชเน มตฺตฺุตนฺติ ปจฺจเวกฺขิตปริโภควเสน โภชเน ปมาณฺุภาวํ. ชาคริยานุโยคนฺติ ทิวสสฺส ตีสุ โกฏฺาเสสุ, รตฺติยา ปมปจฺฉิมโกฏฺาเสสุ จ ชาครติ น นิทฺทายติ, สมณธมฺมเมว จ กโรตีติ ชาคโร, ชาครสฺส ภาโว, กมฺมํ วา ชาคริยํ, ชาคริยสฺส อนุโยโค ชาคริยานุโยโค. ตํ ชาคริยานุโยคํ. สีลกฺขนฺธนฺติ เสกฺขํ อเสกฺขํ วา สีลกฺขนฺธํ. เอวมิตเรปิ ขนฺธา เวทิตพฺพา. ปฺากฺขนฺธนฺติ มคฺคปฺฺจ เสกฺขาเสกฺขานํ โลกิยปฺฺจ. วิมุตฺติกฺขนฺธนฺติ ผลวิมุตฺตึ. วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺธนฺติ ปจฺจเวกฺขณาณํ.

หาสพหุโลติ มูลปทํ. เวทพหุโลติ ตสฺสา เอว ปีติยา สมฺปยุตฺตโสมนสฺสเวทนาวเสน นิทฺเทสปทํ. ตุฏฺิพหุโลติ นาติพลวปีติยา ตุฏฺาการวเสน. ปาโมชฺชพหุโลติ พลวปีติยา ปมุทิตภาววเสน.

. ยํ กิฺจิ รูปนฺติอาทิ สมฺมสนาณนิทฺเทเส วุตฺตตฺถํ. ตุลยิตฺวาติ กลาปสมฺมสนวเสน ตุเลตฺวา. ตีรยิตฺวาติ อุทยพฺพยานุปสฺสนาวเสน ตีรยิตฺวา. วิภาวยิตฺวาติ ภงฺคานุปสฺสนาทิวเสน ปากฏํ กตฺวา. วิภูตํ กตฺวาติ สงฺขารุเปกฺขานุโลมวเสน ผุฏํ กตฺวา. ติกฺขปฺา โลกุตฺตรา เอว. อุปฺปนฺนนฺติ สมถวิปสฺสนาวเสน วิกฺขมฺภนตทงฺควเสน ปหีนมฺปิ อริยมคฺเคน อสมูหตตฺตา อุปฺปตฺติธมฺมตํ อนตีตตาย อสมูหตุปฺปนฺนนฺติ วุจฺจติ, ตํ อิธ อธิปฺเปตํ. นาธิวาเสตีติ สนฺตานํ อาโรเปตฺวา น วาเสติ. ปชหตีติ สมุจฺเฉทวเสน ปชหติ. วิโนเทตีติ ขิปติ. พฺยนฺตีกโรตีติ วิคตนฺตํ กโรติ. อนภาวํ คเมตีติ อนุ อภาวํ คเมติ, วิปสฺสนานุกฺกเมน อริยมคฺคํ ปตฺวา สมุจฺเฉทวเสเนว อภาวํ คมยตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ กามปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก กามวิตกฺโก. ‘‘อิเม สตฺตา มรนฺตู’’ติ ปเรสํ มรณปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก พฺยาปาทวิตกฺโก. ‘‘อิเม สตฺตา วิหึสียนฺตู’’ติ ปเรสํ วิหึสาปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก วิหึสาวิตกฺโก. ปาปเกติ ลามเก. อกุสเล ธมฺเมติ อโกสลฺลสมฺภูเต ธมฺเม.

นิพฺเพธิกปฺาติ นิพฺพิทาพหุลสฺส ปุคฺคลสฺส อุปฺปนฺนมคฺคปฺา เอว. อุพฺเพคพหุโลติ าณภยวเสน ภยพหุโล. อุตฺตาสพหุโลติ พลวภยพหุโล. อิทํ ปุริมสฺเสว อตฺถวิวรณํ. อุกฺกณฺนพหุโลติ สงฺขารโต อุทฺธํ วิสงฺขาราภิมุขตาย อุกฺกณฺนพหุโล. อนภิรติพหุโลติ อุกฺกณฺนวเสเนว อภิรติอภาวํ ทีเปติ. อิทานิปิ ตมตฺถํ ทฺวีหิ วจเนหิ วิวรติ. ตตฺถ พหิมุโขติ สงฺขารโต พหิภูตนิพฺพานาภิมุโข. น รมตีติ นาภิรมติ. อนิพฺพิทฺธปุพฺพนฺติ อนมตคฺเค สํสาเร อนฺตํ ปาเปตฺวา อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ. อปฺปทาลิตปุพฺพนฺติ ตสฺเสว อตฺถวจนํ, อนฺตกรเณเนว อปทาลิตปุพฺพนฺติ อตฺโถ. โลภกฺขนฺธนฺติ โลภราสึ, โลภโกฏฺาสํ วา. อิมาหิ โสฬสหิ ปฺาหิ สมนฺนาคโตติ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน อรหาเยว วุตฺโต. อุปริ ‘‘เอโก เสกฺขปฏิสมฺภิทปฺปตฺโต’’ติ (ปฏิ. ม. ๓.๘) วุตฺตตฺตา โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิโนปิ ลพฺภนฺติเยว.

๒. ปุคฺคลวิเสสนิทฺเทสวณฺณนา

. ทฺเว ปุคฺคลาติอาทีหิ ปฏิสมฺภิทปฺปตฺตปุคฺคลวิเสสปฏิปาฏึ ทสฺเสติ. ตตฺถ ปุพฺพโยโคติ อตีตชาตีสุ ปฏิสมฺภิทปฺปตฺติเหตุภูโต ปุฺปโยโค. เตนาติ เตน ปุพฺพโยคการเณน. เอวํ เสเสสุปิ. อติเรโก โหตีติ อติริตฺโต โหติ, อติเรกโยคโต วา ‘‘อติเรโก’’ติ วุตฺโต. อธิโก โหตีติ อคฺโค โหติ. วิเสโส โหตีติ วิสิฏฺโ โหติ, วิเสสโยคโต วา วิเสโส. าณํ ปภิชฺชตีติ ปฏิสมฺภิทาาณปฺปเภทํ ปาปุณาติ.

พหุสฺสุโตติ พุทฺธวจนวเสน. เทสนาพหุโลติ ธมฺมเทสนาวเสน. ครูปนิสฺสิโตติ ปฺาย อธิกํ ครุํ อุปนิสฺสิโต. วิหารพหุโลติ วิปสฺสนาวิหารพหุโล, ผลสมาปตฺติวิหารพหุโล วา. ปจฺจเวกฺขณาพหุโลติ วิปสฺสนาวิหาเร สติ วิปสฺสนาปจฺจเวกฺขณาพหุโล, ผลสมาปตฺติวิหาเร สติ ผลสมาปตฺติปจฺจเวกฺขณาพหุโล. เสขปฏิสมฺภิทปฺปตฺโตติ เสโข หุตฺวา ปฏิสมฺภิทปฺปตฺโต. เอวํ อเสขปฏิสมฺภิทปฺปตฺโต. สาวกปารมิปฺปตฺโตติ เอตฺถ มหาปฺานํ อคฺคสฺส มหาสาวกสฺส สตฺตสฏฺิยา สาวกาณานํ ปารคมนํ ปารมี, สาวกสฺส ปารมี สาวกปารมี, ตํ สาวกปารมึ ปตฺโตติ สาวกปารมิปฺปตฺโต. สาวกปารมิตาปฺปตฺโตติ วา ปาโ. สตฺตสฏฺิยา สาวกาณานํ ปาลโก ปูรโก จ โส มหาสาวโก ปรโม, ตสฺส ปรมสฺส อยํ สตฺตสฏฺิเภทา าณกิริยา ปรมสฺส ภาโว, กมฺมํ วาติ ปารมี, ตสฺส สาวกสฺส ปารมี สาวกปารมี, ตํ ปตฺโตติ สาวกปารมิปฺปตฺโต. สาวกปารมิปฺปตฺโตติ มหาโมคฺคลฺลานตฺเถราทิโก โย โกจิ สาวโก. สาวกปารมิปฺปตฺตสาวกโต อติเรกสฺส อฺสฺส สาวกสฺส อภาวา เอโก ปจฺเจกสมฺพุทฺโธติ อาห. ปุน ปฺาปเภทกุสโลติอาทีหิ วุตฺตตฺถเมว นิคเมตฺวา ทสฺเสสีติ. าณกถาย เยภุยฺเยน อเนกานิ าณานิ นิทฺทิฏฺานิ. ปฺากถาย เยภุยฺเยน เอกาปิ ปฺา นานาการวเสน นานากตฺวา วุตฺตาติ อยํ วิเสโส.

มหาปฺากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อิทฺธิกถา

อิทฺธิกถาวณฺณนา

. อิทานิ ปฺากถาย อนนฺตรํ ปฺานุภาวํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย อิทฺธิกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ ปุจฺฉาสุ ตาว กา อิทฺธีติ สภาวปุจฺฉา. กติ อิทฺธิโยติ ปเภทปุจฺฉา. กติ ภูมิโยติ สมฺภารปุจฺฉา. กติ ปาทาติ ปติฏฺปุจฺฉา. กติ ปทานีติ อาสนฺนการณปุจฺฉา. กติ มูลานีติ อาทิการณปุจฺฉา. วิสชฺชเนสุ อิชฺฌนฏฺเน อิทฺธีติ นิปฺผตฺติอตฺเถน ปฏิลาภฏฺเน จาติ อตฺโถ. ยฺหิ นิปฺผชฺชติ ปฏิลพฺภติ จ, ตํ อิชฺฌตีติ วุจฺจติ. ยถาห – ‘‘กามํ กามยมานสฺส, ตสฺส เจตํ สมิชฺฌตี’’ติ (สุ. นิ. ๗๗๒). ‘‘เนกฺขมฺมํ อิชฺฌตีติ อิทฺธิ, ปฏิหรตีติ ปาฏิหาริย’’นฺติอาทิ (ปฏิ. ม. ๓.๓๒). อปโร นโย – อิชฺฌนฏฺเน อิทฺธิ, อุปายสมฺปทาเยตํ อธิวจนํ. อุปายสมฺปทา หิ อิชฺฌติ อธิปฺเปตผลปฺปสวนโต. ยถาห – ‘‘อยํ โข, จิตฺโต คหปติ, สีลวา กลฺยาณธมฺโม, สเจ ปณิทหิสฺสติ ‘อนาคตมทฺธานํ ราชา อสฺสํ จกฺกวตฺตี’ติ. อิชฺฌิสฺสติ หิ สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๕๒). อปโร นโย – เอตาย สตฺตา อิชฺฌนฺตีติ อิทฺธิ. อิชฺฌนฺตีติ อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.

๑๐. ทสสุ อิทฺธีสุ อธิฏฺานวเสน นิปฺผนฺนตฺตา อธิฏฺานา อิทฺธิ. ปกติวณฺณวิชหนวิการวเสน ปวตฺตตฺตา วิกุพฺพนา อิทฺธิ. สรีรพฺภนฺตเร อฺสฺส มโนมยสฺส สรีรสฺส นิปฺผตฺติวเสน ปวตฺตตฺตา มโนมยา อิทฺธิ. าณปฺปวตฺติโต ปุพฺเพ วา ปจฺฉา วา ตํขเณ วา าณานุภาวนิพฺพตฺโต วิเสโส าณวิปฺผารา อิทฺธิ. สมาธิโต ปุพฺเพ วา ปจฺฉา วา ตํขเณ วา สมถานุภาวนิพฺพตฺโต วิเสโส สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ. เจโตวสิปฺปตฺตานํ อริยานํเยว สมฺภวโต อริยา อิทฺธิ. กมฺมวิปากวเสน ชาโต วิเสโส กมฺมวิปากชา อิทฺธิ. ปุพฺเพ กตปุฺสฺส ชาโต วิเสโส ปุฺวโต อิทฺธิ. วิชฺชาย ชาโต วิเสโส วิชฺชามยา อิทฺธิ. เตน เตน สมฺมาปโยเคน ตสฺส ตสฺส กมฺมสฺส อิชฺฌนํ ตตฺถ ตตฺถ สมฺมาปโยคปจฺจยา อิชฺฌนฏฺเน อิทฺธิ.

อิทฺธิยา จตสฺโส ภูมิโยติ อวิเสเสตฺวา วุตฺเตปิ ยถาลาภวเสน อธิฏฺานวิกุพฺพนมโนมยิทฺธิยา เอว ภูมิโย, น เสสานํ. วิเวกชา ภูมีติ วิเวกโต วา วิเวเก วา ชาตา วิเวกชา ภูมิ. ปีติสุขภูมีติ ปีติสุขยุตฺตา ภูมิ. อุเปกฺขาสุขภูมีติ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย จ สุเขน จ ยุตฺตา ภูมิ. อทุกฺขมสุขาภูมีติ อทุกฺขมสุขเวทนายุตฺตา ภูมิ. เตสุ ปมทุติยานิ ฌานานิ ปีติผรณตา, ตีณิ ฌานานิ สุขผรณตา, จตุตฺถชฺฌานํ เจโตผรณตา. เอตฺถ จ ปุริมานิ ตีณิ ฌานานิ ยสฺมา ปีติผรเณน จ สุขผรเณน จ สุขสฺฺจ ลหุสฺฺจ โอกฺกมิตฺวา ลหุมุทุกมฺมฺกาโย หุตฺวา อิทฺธึ ปาปุณาติ, ตสฺมา อิมินา ปริยาเยน อิทฺธิลาภาย สํวตฺตนโต สมฺภารภูมิโยติ เวทิตพฺพานิ. จตุตฺถชฺฌานํ ปน อิทฺธิลาภาย ปกติภูมิเยว. อิทฺธิลาภายาติ อตฺตโน สนฺตาเน ปาตุภาววเสน อิทฺธีนํ ลาภาย. อิทฺธิปฏิลาภายาติ ปริหีนานํ วา อิทฺธีนํ วีริยารมฺภวเสน ปุน ลาภาย, อุปสคฺควเสน วา ปทํ วฑฺฒิตํ. อิทฺธิวิกุพฺพนตายาติ อิทฺธิยา วิวิธกรณภาวาย. อิทฺธิวิสวิตายาติ วิวิธํ วิเสสํ สวติ ชเนติ ปวตฺเตตีติ วิสวี, วิวิธํ สวนํ วา อสฺส อตฺถีติ วิสวี, ตสฺส ภาโว วิสวิตา. ตสฺสา วิสวิตาย, อิทฺธิยา วิวิธวิเสสปวตฺตนภาวายาติ อตฺโถ. อิทฺธิวสีภาวายาติ อิทฺธิยา อิสฺสรภาวาย. อิทฺธิเวสารชฺชายาติ อิทฺธิวิสารทภาวาย. อิทฺธิปาทา าณกถายํ วุตฺตตฺถา.

ฉนฺทํ เจ ภิกฺขุ นิสฺสายาติ ยทิ ภิกฺขุ ฉนฺทํ นิสฺสาย ฉนฺทํ อธิปตึ กริตฺวา. ลภติ สมาธินฺติ สมาธึ ปฏิลภติ นิพฺพตฺเตติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ฉนฺทวีริยจิตฺตวีมํสา จตฺตาริ ปทานิ, ตํสมฺปยุตฺตา จตฺตาโร สมาธี จตฺตาริ ปทานีติ เอวํ อฏฺ ปทานิ. ยสฺมา ปน อิทฺธิมุปฺปาเทตุกามตาฉนฺโท สมาธินา เอกโต นิยุตฺโตว อิทฺธิลาภาย สํวตฺตติ, ตถา วีริยาทโย, ตสฺมา อิมานิ อฏฺ ปทานิ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ.

ยํ ตํ ภควตา อภิฺา อุปฺปาเทตุกามสฺส โยคิโน กตฺตพฺพโยควิธึ ทสฺเสนฺเตน ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๓๘) จิตฺตสฺส อาเนฺชํ วุตฺตํ, ตํ เถโร โสฬสธา ทสฺเสนฺโต โสฬสมูลานีติอาทิมาห. ตตฺถ อโนนตนฺติ โกสชฺชวเสน อโนนตํ, อสลฺลีนนฺติ อตฺโถ. อนุนฺนตนฺติ อุทฺธจฺจวเสน อุทฺธํ น อารุฬฺหํ, อนุทฺธตนฺติ อตฺโถ. อนภินตนฺติ โลภวเสน น อภินตํ, อนลฺลีนนฺติ อตฺโถ. อภิกามตาย นตํ อภินตนฺติ, อิทํ ตาทิสํ น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ราเคติ สงฺขารวตฺถุเกน โลเภน. อนปนตนฺติ โทสวเสน น อปนตํ, น ฆฏฺฏนนฺติ อตฺโถ. ‘‘นตํ นตี’’ติ อตฺถโต เอกํ. อปคตนตนฺติ อปนตํ, อิทํ ตาทิสํ น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อนิสฺสิตนฺติ อนตฺตโต ทิฏฺตฺตา ทิฏฺิวเสน ‘‘อตฺตา’’ติ วา ‘‘อตฺตนิย’’นฺติ วา กิฺจิ น นิสฺสิตํ. อปฺปฏิพทฺธนฺติ ปจฺจุปการาสาวเสน นปฺปฏิพทฺธํ. ฉนฺทราเคติ สตฺตวตฺถุเกน โลเภน. วิปฺปมุตฺตนฺติ วิกฺขมฺภนวิมุตฺติวเสน กามราคโต วิปฺปมุตฺตํ. อถ วา ปฺจวิมุตฺติวเสน กามราคโต วิปฺปมุตฺตํ. อถ วา ปฺจวิมุตฺติวเสน ตโต ตโต ปฏิปกฺขโต วิปฺปมุตฺตํ. อิทํ ปุถุชฺชนเสขาเสขานมฺปิ อภิฺาย อุปฺปาทนโต นิโรธสมาปตฺติาเณ ‘‘โสฬสหิ าณจริยาหี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๘๔) วุตฺตนเยน อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน วุตฺตํ, ยถาลาภวเสน ปน คเหตพฺพํ. กามราเคติ เมถุนราเคน. วิสฺุตฺตนฺติ วิกฺขมฺภนโต เสสกิเลเสหิ วิสํยุตฺตํ, อุกฺกฏฺนเยน สมุจฺเฉทโต วา วิปฺปยุตฺตํ. กิเลเสติ เสสกิเลเสน. วิมริยาทิกตนฺติ วิกฺขมฺภิตพฺพมริยาทวเสน วิคตกิเลสมริยาทํ กตํ, เตน เตน มคฺเคน ปหาตพฺพมริยาทวเสน วา วิคตกิเลสมริยาทํ กตํ. กิเลสมริยาเทติ เตน เตน ปหีเนน กิเลสมริยาเทน. ลิงฺควิปลฺลาโส เจตฺถ ทฏฺพฺโพ. เอกตฺตคตนฺติ เอการมฺมณคตํ. นานตฺตกิเลเสหีติ นานารมฺมเณ ปวตฺตมาเนหิ กิเลเสหิ. อิทํ อารมฺมณมเปกฺขิตฺวา วุตฺตํ, ‘‘อโนนต’’นฺติอาทิ ปน กิเลเส เอว อเปกฺขิตฺวา. โอภาสคตนฺติ ปฺาย วิสทปฺปวตฺติวเสน ปฺโภาสํ คตํ. อวิชฺชนฺธกาเรติ พลวอวิชฺชาย. จตสฺโส จ ภูมิโย โสฬส จ มูลานิ อิทฺธิยา ปุพฺพภาควเสน วุตฺตานิ, จตฺตาโร จ ปาทา อฏฺ จ ปทานิ ปุพฺพภาควเสน จ สมฺปโยควเสน จ วุตฺตานีติ.

๑๐. เอวํ อิทฺธิยา ภูมิปาทปทมูลภูเต ธมฺเม ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตา อิทฺธิโย ทสฺเสนฺโต กตมา อธิฏฺานา อิทฺธีติอาทิมาห. ตตฺถ อุทฺเทสปทานํ อตฺโถ อิทฺธิวิธาณนิทฺเทเส วุตฺโตเยว. อิธ ภิกฺขูติ อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขุ. เตน สพฺพปการวเสน อิทฺธิวิธการกสฺส อฺตฺถ อภาวํ ทีเปติ. อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปทานํ นิทฺเทโส เหฏฺา วุตฺตตฺโถ. เตเนว จ อิทฺธิยา ภูมิปาทปทมูลภูเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๓๖๕-๓๖๖) วุตฺเตหิ จุทฺทสหิ ปนฺนรสหิ วา อากาเรหิ ปริทมิตจิตฺตตา จ ฉนฺทาทิเอเกกาธิปติสมาปชฺชนวเสน อาวชฺชนาทิวสีภาววเสน จ มุทุกมฺมฺกตจิตฺตตา จ วุตฺตา โหติ. พลวปุพฺพโยคสมฺปนฺโน ปุพฺพโยคสมฺปตฺติยา อรหตฺตปฏิลาเภเนว ปฏิลทฺธาภิฺาทิคุโณ ภิกฺขุ ภูมิอาทีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต โหตีติ กตฺวา โสปิ วุตฺโตว โหติ.

พหุกํ อาวชฺชตีติ ปถวีกสิณารมฺมณํ อภิฺาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย สเจ สตํ อิจฺฉติ, ‘‘สตํ โหมิ, สตํ โหมี’’ติ ปริกมฺมกรณวเสน อาวชฺชติ. อาวชฺชิตฺวา าเณน อธิฏฺาตีติ เอวํ ปริกมฺมํ กตฺวา อภิฺาาเณน อธิฏฺาติ. เอตฺถ ปริกมฺมํ กตฺวา ปุน ปาทกชฺฌานสมาปชฺชนํ น วุตฺตํ. กิฺจาปิ น วุตฺตํ, อถ โข อฏฺกถายํ (วิสุทฺธิ. ๒.๓๘๖) ‘‘อาวชฺชตีติ ปริกมฺมวเสเนว วุตฺตํ, อาวชฺชิตฺวา าเณน อธิฏฺาตีติ อภิฺาาณวเสน วุตฺตํ, ตสฺมา พหุกํ อาวชฺชติ, ตโต เตสํ ปริกมฺมจิตฺตานํ อวสาเน สมาปชฺชติ, สมาปตฺติโต วุฏฺหิตฺวา ปุน ‘พหุโก โหมี’ติ อาวชฺชิตฺวา ตโต ปรํ ปวตฺตานํ ติณฺณํ จตุนฺนํ วา ปุพฺพภาคจิตฺตานํ อนนฺตรา อุปฺปนฺเนน สนฺนิฏฺาปนวเสน อธิฏฺานนฺติ ลทฺธนาเมน เอเกเนว อภิฺาาเณน อธิฏฺาตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา เอวเมว ทฏฺพฺพํ. ยถา ‘‘ภุฺชิตฺวา สยตี’’ติ วุตฺเต ปานียํ อปิวิตฺวา หตฺถโธวนาทีนิ อกตฺวา ภุตฺตานนฺตรเมว สยตีติ อตฺโถ น โหตีติ อนฺตรา สนฺเตสุปิ อฺเสุ กิจฺเจสุ ‘‘ภุตฺวา สยตี’’ติ วุจฺจติ, เอวมิธาปีติ ทฏฺพฺพํ. ปมํ ปาทกชฺฌานสมาปชฺชนมฺปิ หิ ปาฬิยํ อวุตฺตเมวาติ. เตน ปน อธิฏฺานาเณน สเหว สตํ โหติ. สหสฺเสปิ สตสหสฺเสปิ เอเสว นโย. สเจ เอวํ น อิชฺฌติ, ปุน ปริกมฺมํ กตฺวา ทุติยมฺปิ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อธิฏฺาตพฺพํ. สํยุตฺตฏฺกถายฺหิ ‘‘เอกวารํ ทฺวิวารํ สมาปชฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ปาทกชฺฌานจิตฺตํ นิมิตฺตารมฺมณํ, ปริกมฺมจิตฺตานิ สตารมฺมณานิ วา สหสฺสารมฺมณานิ วา. ตานิ จ โข วณฺณวเสน, น ปณฺณตฺติวเสน. อธิฏฺานจิตฺตมฺปิ ตเถว สตารมฺมณํ วา สหสฺสารมฺมณํ วา. ตํ ปุพฺเพ วุตฺตอปฺปนาจิตฺตมิว โคตฺรภุอนนฺตรํ เอกเมว อุปฺปชฺชติ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานิกํ.

ยถายสฺมา จูฬปนฺถโก เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหตีติ พหุธาภาวสฺส กายสกฺขิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. วตฺตมานวจนํ ปเนตฺถ เถรสฺส ตถากรณปกติกตฺตา ตสฺส ธรมานกาลตฺตา จ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอโก โหตีติ วาเรปิ เอเสว นโย.

ตตฺริทํ วตฺถุ (วิสุทฺธิ. ๒.๓๘๖) – เต ทฺเว ภาตโร กิร เถรา ปนฺเถ ชาตตฺตา ‘‘ปนฺถกา’’ติ นามํ ลภึสุ. เตสุ เชฏฺโ มหาปนฺถโก ปพฺพชิตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. โส อรหา หุตฺวา จูฬปนฺถกํ ปพฺพาเชตฺวา –

‘‘ปทุมํ ยถา โกกนทํ สุคนฺธํ, ปาโต สิยา ผุลฺลมวีตคนฺธํ;

องฺคีรสํ ปสฺส วิโรจมานํ, ตปนฺตมาทิจฺจมิวนฺตลิกฺเข’’ติ. (อ. นิ. ๕.๑๙๕; สํ. นิ. ๑.๑๒๓) –

อิมํ คาถํ อทาสิ. โส ตํ จตูหิ มาเสหิ ปคุณํ กาตุํ นาสกฺขิ. อถ นํ เถโร ‘‘อภพฺโพ ตฺวํ อิมสฺมึ สาสเน, นิกฺขม อิโต’’ติ อาห. ตสฺมิฺจ กาเล เถโร ภตฺตุทฺเทสโก โหติ. ชีวโก โกมารภจฺโจ พหุํ มาลาคนฺธวิเลปนํ อาทาย อตฺตโน อมฺพวนํ คนฺตฺวา สตฺถารํ ปูเชตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ทสพลํ วนฺทิตฺวา เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘สฺเว, ภนฺเต, พุทฺธปฺปมุขานิ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ อาทาย อมฺหากํ นิเวสเน ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ อาห. เถโรปิ ‘‘เปตฺวา จูฬปนฺถกํ เสสานํ อธิวาเสมี’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา จูฬปนฺถโก ภิยฺโยโส มตฺตาย โทมนสฺสปฺปตฺโต หุตฺวา ปุนทิวเส ปาโตว วิหารา นิกฺขมิตฺวา สาสเน สาเปกฺขตาย วิหารทฺวารโกฏฺเก โรทมาโน อฏฺาสิ.

ภควา ตสฺส อุปนิสฺสยํ ทิสฺวา ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘กสฺมา โรทสี’’ติ อาห. โส ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิ. ภควา ‘‘น สชฺฌายํ กาตุํ อสกฺโกนฺโต มม สาสเน อภพฺโพ นาม โหติ, มา โสจิ, ปนฺถกา’’ติ จกฺกจิตฺตตเลน ปาณินา ตสฺส สีสํ ปรามสิตฺวา ตํ พาหายํ คเหตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา คนฺธกุฏิปมุเข นิสีทาเปตฺวา อิทฺธิยา อภิสงฺขตํ ปริสุทฺธํ ปิโลติกขณฺฑํ ‘‘อิมํ ปิโลติกํ ‘รโชหรณํ รโชหรณ’นฺติ หตฺเถน ปริมชฺชนฺโต นิสีท, ปนฺถกา’’ติ วตฺวา ตสฺส ปิโลติกขณฺฑํ ทตฺวา กาเล อาโรจิเต ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ชีวกสฺส เคหํ คนฺตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทิ. ตสฺส ตํ ปิโลติกขณฺฑํ ตถาปริมชฺชนฺตสฺส กิลิฏฺํ หุตฺวา กเมน กาฬวณฺณํ อโหสิ. โส ‘‘อิทํ ปริสุทฺธํ ปิโลติกขณฺฑํ, นตฺเถตฺถ โทโส, อตฺตภาวํ นิสฺสาย ปนายํ โทโส’’ติ สฺํ ปฏิลภิตฺวา ปฺจสุ ขนฺเธสุ าณํ โอตาเรตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒสิ. อถสฺส ภควา โอภาสํ วิสฺสชฺเชตฺวา ปุรโต นิสินฺโน วิย ปฺายมานรูโป หุตฺวา อิมา โอภาสคาถา อภาสิ –

‘‘ราโค รโช น จ ปน เรณุ วุจฺจติ, ราคสฺเสตํ อธิวจนํ รโชติ;

เอตํ รชํ วิปฺปชหิตฺว ภิกฺขโว, วิหรนฺติ เต วิคตรชสฺส สาสเน.

‘‘โทโส…เป… สาสเน.

‘‘โมโห รโช น จ ปน เรณุ วุจฺจติ, โมหสฺเสตํ อธิวจนํ รโชติ;

เอตํ รชํ วิปฺปชหิตฺว ภิกฺขโว, วิหรนฺติ เต วิคตรชสฺส สาสเน. (มหานิ. ๒๐๙);

‘‘อธิเจตโส อปฺปมชฺชโต, มุนิโน โมนปเถสุ สิกฺขโต;

โสกา น ภวนฺติ ตาทิโน, อุปสนฺตสฺส สทา สตีมโต’’ติ. (อุทา. ๓๗);

คาถาปริโยสาเน เถโร สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. โส มโนมยชฺฌานลาภี หุตฺวา เอโก หุตฺวา พหุธา, พหุธา หุตฺวา เอโก ภวิตุํ สมตฺโถ อโหสิ. อรหตฺตมคฺเคเนวสฺส ตีณิ ปิฏกานิ ฉ จ อภิฺา อาคมึสุ.

ชีวโกปิ โข ทสพลสฺส ทกฺขิโณทกํ อุปนาเมสิ. สตฺถา ปตฺตํ หตฺเถน ปิทหิตฺวา ‘‘กึ ภนฺเต’’ติ ปุฏฺโ ‘‘วิหาเร เอโก ภิกฺขุ อตฺถิ, ชีวกา’’ติ อาห. โส ปุริสํ เปเสสิ ‘‘คจฺฉ อยฺยํ คเหตฺวา สีฆํ เอหี’’ติ. จูฬปนฺถกตฺเถโร ตสฺส ปุริสสฺส ปุเร อาคมนาเยว ภาตรํ อตฺตโน ปตฺตวิเสสํ าเปตุกาโม ภิกฺขุสหสฺสํ นิมฺมินิตฺวา เอกมฺปิ เอเกน อสทิสํ, เอกสฺสาปิ จ จีวรวิจารณาทิสามณกกมฺมํ อฺเน อสทิสํ อกาสิ. ปุริโส คนฺตฺวา วิหาเร พหู ภิกฺขู ทิสฺวา ปจฺจาคนฺตฺวา ‘‘พหู, ภนฺเต, วิหาเร ภิกฺขู, ปกฺโกสิตพฺพํ อยฺยํ น ปสฺสามี’’ติ ชีวกสฺส กเถสิ. ชีวโก สตฺถารํ ปุจฺฉิตฺวา ตสฺส นามํ วตฺวา ปุน ตํ เปเสสิ. โส คนฺตฺวา ‘‘จูฬปนฺถโก นาม กตโร ภนฺเต’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อหํ จูฬปนฺถโก, อหํ จูฬปนฺถโก’’ติ สกึเยว มุขสหสฺสํ กเถสิ. โส ปุน คนฺตฺวา ‘‘สพฺเพปิ กิร จูฬปนฺถกา, อหํ ปกฺโกสิตพฺพํ น ชานามี’’ติ อาห. ชีวโก ปฏิวิทฺธสจฺจตาย ‘‘อิทฺธิมา ภิกฺขู’’ติ นยโต อฺาสิ. ภควา อาห – ‘‘คจฺฉ, ยํ ปมํ ปสฺสสิ, ตํ จีวรกณฺเณ คเหตฺวา สตฺถา ตํ อามนฺเตตีติ วตฺวา อาเนหี’’ติ. โส คนฺตฺวา ตถา อกาสิ. ตาวเทว สพฺเพปิ นิมฺมิตา อนฺตรธายึสุ. เถโร ตํ อุยฺโยเชตฺวา มุขโธวนาทิสรีรกิจฺจํ นิฏฺเปตฺวา ปมตรํ คนฺตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ สตฺถา ทกฺขิโณทกํ คณฺหิตฺวา ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา จูฬปนฺถกตฺเถเรเนว ภตฺตานุโมทนํ ธมฺมกถํ กถาเปสิ. เถโร ทีฆมชฺฌิมาคมปฺปมาณํ ธมฺมกถํ กเถสีติ.

อฺเ ภิกฺขู อธิฏฺาเนน มโนมยํ กายํ อภินิมฺมินิตฺวา ตโย วา จตฺตาโร วา อภินิมฺมินนฺติ, พหุเก เอกสทิเสเยว จ กตฺวา นิมฺมินนฺติ เอกวิธเมว กมฺมํ กุรุมาเน. จูฬปนฺถกตฺเถโร ปน เอกาวชฺชเนเนว ภิกฺขุสหสฺสํ มาเปสิ. ทฺเวปิ ชเน น เอกสทิเส อกาสิ, น เอกวิธํ กมฺมํ กุรุมาเน. ตสฺมา มโนมยํ กายํ อภินิมฺมินนฺตานํ อคฺโค นาม ชาโต. อฺเ ปน พหู อนิยเมตฺวา นิมฺมิตา อิทฺธิมตา สทิสาว โหนฺติ. านนิสชฺชาทีสุ จ ภาสิตตุณฺหีภาวาทีสุ จ ยํ ยํ อิทฺธิมา กโรติ, ตํ ตเทว กโรนฺติ. สเจ ปน นานาวณฺณํ กาตุกาโม โหติ เกจิ ปมวเย เกจิ มชฺฌิมวเย เกจิ ปจฺฉิมวเย, ตถา ทีฆเกเส อุปฑฺฒมุณฺเฑ มุณฺเฑ มิสฺสกเกเส อุปฑฺฒรตฺตจีวเร ปณฺฑุกจีวเร ปทภาณธมฺมกถาสรภฺปฺหาปุจฺฉนปฺหาวิสชฺชนรชนปจนจีวรสิพฺพนโธวนาทีนิ กโรนฺเต อปเรปิ วา นานปฺปการเก กาตุกาโม โหติ, เตน ปาทกชฺฌานโต วุฏฺาย ‘‘เอตฺตกา ภิกฺขู ปมวยา โหนฺตู’’ติอาทินา นเยน ปริกมฺมํ กตฺวา ปุน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อธิฏฺาตพฺพํ, อธิฏฺานจิตฺเตน สทฺธึ อิจฺฉิติจฺฉิตปฺปการาเยว โหนฺตีติ. เอเสว นโย พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหตีติอาทีสุ.

อยํ ปน วิเสโส – ปกติยา พหุโกติ นิมฺมิตกาลพฺภนฺตเร นิมฺมิตปกติยา พหุโก. อิมินา จ ภิกฺขุนา เอวํ พหุภาวํ นิมฺมินิตฺวา ปุน ‘‘เอโกว หุตฺวา จงฺกมิสฺสามิ, สชฺฌายํ กริสฺสามิ, ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา วา, ‘‘อยํ วิหาโร อปฺปภิกฺขุโก, สเจ เกจิ อาคมิสฺสนฺติ ‘กุโต อิเม เอตฺตกา เอกสทิสา ภิกฺขู, อทฺธา เถรสฺส เอส อานุภาโว’ติ มํ ชานิสฺสนฺตี’’ติ อปฺปิจฺฉตาย วา อนฺตราว ‘‘เอโก โหมี’’ติ อิจฺฉนฺเตน ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘เอโก โหมี’’ติ ปริกมฺมํ กตฺวา ปุน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘เอโก โหมี’’ติ อธิฏฺาตพฺพํ. อธิฏฺานจิตฺเตน สทฺธึเยว เอโก โหติ. เอวํ อกโรนฺโต ปน ยถาปริจฺฉินฺนกาลวเสน สยเมว เอโก โหติ.

๑๑. อาวิภาวนฺติ ปทํ นิกฺขิปิตฺวา เกนจิ อนาวฏํ โหตีติ วุตฺตตฺตา เกนจิ อนาวฏปเทน อาวิภาวปทสฺส ปากฏภาวตฺโถ วุตฺโต. ‘‘โหตี’’ติ ปเทน ‘‘กโรตี’’ติ ปาเสโส วุตฺโต โหติ. ปากฏํ โหนฺตฺหิ อาวิภาเว กเต โหติ. เกนจิ อนาวฏนฺติ กุฏฺฏาทินา เยน เกนจิ อนาวฏํ อาวรณวิรหิตํ. อปฺปฏิจฺฉนฺนนฺติ อุปริโต อจฺฉาทิตํ. ตเทว อนาวฏตฺตา วิวฏํ. อปฺปฏิจฺฉนฺนตฺตา ปากฏํ. ติโรภาวนฺติ อนฺตริตภาวํ กโรติ. อาวฏํเยว เตน อาวรเณน ปิหิตํ. ปฏิจฺฉนฺนํเยว เตน ปฏิจฺฉาทเนน ปฏิกุชฺชิตํ.

อากาสกสิณสมาปตฺติยาติ ปริจฺเฉทากาสกสิเณ อุปฺปาทิตาย จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติยา. ลาภีติ ลาโภ อสฺส อตฺถีติ ลาภี. อปริกฺขิตฺเตติ เกนจิ สมนฺตโต อปริกฺขิตฺเต ปเทเส. อิธ อากาสกสิณสฺเสว วุตฺตตฺตา ตตฺถ ภาวิตเมว ฌานํ อากาสกรณสฺส ปจฺจโย โหติ, น อฺนฺติ ทฏฺพฺพํ. อุปริอาโปกสิณาทีสุปิ ตทารมฺมณเมว ฌานํ ทฏฺพฺพํ, น อฺํ. ปถวึ อาวชฺชติ, อุทกํ อาวชฺชติ, อากาสํ อาวชฺชตีติ ปกติปถวีอุทกอากาเส อาวชฺชติ. อนฺตลิกฺเขติ ตสฺส อากาสสฺส ปถวิโต ทูรากาสภาวํ ทีเปติ.

๑๒. จนฺทิมสูริยปริมชฺชเน กสิณนิยมํ อกตฺวา ‘‘อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต’’ติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา นตฺเถตฺถ กสิณสมาปตฺตินิยโมติ เวทิตพฺพํ. นิสินฺนโก วา นิปนฺนโก วาติ นิสินฺโน วา นิปนฺโน วา. อิเมเหว อิตรอิริยาปถทฺวยมฺปิ วุตฺตเมว โหติ. หตฺถปาเส โหตูติ หตฺถสมีเป โหตุ. หตฺถปสฺเส โหตูติปิ ปาโ. อิทํ ตถา กาตุกามสฺส วเสน วุตฺตํ. อยํ ปน ตตฺถ คนฺตฺวาปิ หตฺถํ วฑฺเฒตฺวาปิ อามสติ. อามสตีติ อีสกํ ผุสติ. ปรามสตีติ พาฬฺหํ ผุสติ. ปริมชฺชตีติ สมนฺตโต ผุสติ. รูปคตนฺติ หตฺถปาเส ิตรูปเมว.

ทูเรปิ สนฺติเก อธิฏฺาตีติ ปาทกชฺฌานโต วุฏฺาย ทูเร เทวโลกํ วา พฺรหฺมโลกํ วา อาวชฺชติ ‘‘สนฺติเก โหตู’’ติ. อาวชฺชิตฺวา ปริกมฺมํ กตฺวา ปุน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย าเณน อธิฏฺาติ ‘‘สนฺติเก โหตู’’ติ. สนฺติเก โหติ. เอส นโย เสสปเทสุปิ. พฺรหฺมโลกํ ปน คนฺตุกามสฺส ทูรสฺส สนฺติกกรณํ วตฺวา พฺรหฺมโลกคมนสฺส อนุปการมฺปิ อิมาย อิทฺธิยา อิชฺฌมานวิเสสํ ทสฺเสนฺโต สนฺติเกปีติอาทิมาห. ตตฺถ น เกวลํ โถกกรณพหุกรณเมว, ‘‘อมธุรํ มธุร’’นฺติอาทีสุปิ ยํ ยํ อิจฺฉติ, ตํ สพฺพํ อิทฺธิมโต อิชฺฌติ. อปโร นโย – ทูเรปิ สนฺติเก อธิฏฺาตีติ ทูเร พฺรหฺมโลกํ วา มนุสฺสโลกสฺส สนฺติเก อธิฏฺาติ. สนฺติเกปิ ทูเร อธิฏฺาตีติ สนฺติเก มนุสฺสโลกํ วา ทูเร พฺรหฺมโลเก อธิฏฺาติ. พหุกมฺปิ โถกํ อธิฏฺาตีติ สเจ พฺรหฺมาโน พหู สนฺนิปติตา โหนฺติ, มหาอตฺตภาวตฺตา ทสฺสนูปจารํ สวนูปจารํ ปชหนฺติ, ทสฺสนูปจาเร จ สวนูปจาเร จ เอกชฺฌํ สงฺขิปิตฺวา พหุกมฺปิ โถกนฺติ อธิฏฺาติ. โถกมฺปิ พหุกํ อธิฏฺาตีติ สเจ มหาปริวาเรน คนฺตุกาโม โหติ, เอกกตฺตา โถกํ อตฺตานํ พหุกํ อธิฏฺหิตฺวา มหาปริวาโร คจฺฉตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอวํ สติ จตุพฺพิธมฺปิ ตํ พฺรหฺมโลกคมเน อุปกาโร โหติ.

ทิพฺเพน จกฺขุนา ตสฺส พฺรหฺมุโน รูปํ ปสฺสตีติ อิธ ิโต อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา ยสฺส พฺรหฺมุโน รูปํ ทฏฺุกาโม, ทิพฺเพน จกฺขุนา ตสฺส พฺรหฺมุโน รูปํ ปสฺสติ. อิเธว ิโต ทิพฺพาย โสตธาตุยา ตสฺส พฺรหฺมุโน ภาสมานสฺส สทฺทํ สุณาติ. เจโตปริยาเณน ตสฺส พฺรหฺมุโน จิตฺตํ ปชานาติ. ทิสฺสมาเนนาติ จกฺขุนา เปกฺขิยมาเนน. กายวเสน จิตฺตํ ปริณาเมตีติ รูปกายสฺส วเสน จิตฺตํ ปริณาเมติ. ปาทกชฺฌานจิตฺตํ คเหตฺวา กาเย อาโรเปติ, กายานุคติกํ กโรติ ทนฺธคมนํ. กายคมนฺหิ ทนฺธํ โหติ. อธิฏฺาตีติ ตสฺเสว เววจนํ, สนฺนิฏฺาเปตีติ อตฺโถ. สุขสฺฺจ ลหุสฺฺจ โอกฺกมิตฺวาติ ปาทกชฺฌานารมฺมเณน อิทฺธิจิตฺเตน สหชาตํ สุขสฺฺจ ลหุสฺฺจ โอกฺกมิตฺวา ปวิสิตฺวา ผุสิตฺวา ปาปุณิตฺวา. สุขสฺา จ นาม อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตสฺา. อุเปกฺขา หิ สนฺตํ สุขนฺติ วุตฺตา, สาเยว สฺา นีวรเณหิ เจว วิตกฺกาทิปจฺจนีเกหิ จ วิมุตฺตตฺตา ลหุสฺาติปิ เวทิตพฺพา. ตํ โอกฺกนฺตสฺส ปนสฺส กรชกาโยปิ ตูลปิจุ วิย สลฺลหุโก โหติ. โส เอวํ วาตกฺขิตฺตตูลปิจุนา วิย สลฺลหุเกน ทิสฺสมาเนน กาเยน พฺรหฺมโลกํ คจฺฉติ. เอวํ คจฺฉนฺโต จ สเจ อิจฺฉติ, ปถวีกสิณวเสน อากาเส มคฺคํ นิมฺมินิตฺวา ปทสา คจฺฉติ. สเจ อิจฺฉติ, อากาเส ปถวีกสิณวเสเนว ปเท ปเท ปทุมํ นิมฺมินิตฺวา ปทุเม ปทุเม ปทํ นิกฺขิปนฺโต ปทสา คจฺฉติ. สเจ อิจฺฉติ, วาโยกสิณวเสน วาตํ อธิฏฺหิตฺวา ตูลปิจุ วิย วายุนา คจฺฉติ. อปิจ คนฺตุกามตาว เอตฺถ ปมาณํ. สติ หิ คนฺตุกามตาย เอวํกตจิตฺตาธิฏฺาโน อธิฏฺานเวคกฺขิตฺโตว โส ชิยาเวคกฺขิตฺโต สโร วิย ทิสฺสมาโน คจฺฉติ.

จิตฺตวเสน กายํ ปริณาเมตีติ กรชกายํ คเหตฺวา ปาทกชฺฌานจิตฺเต อาโรเปติ, จิตฺตานุคติกํ กโรติ สีฆคมนํ. จิตฺตคมนฺหิ สีฆํ โหติ. สุขสฺฺจ ลหุสฺฺจ โอกฺกมิตฺวาติ รูปกายารมฺมเณน อิทฺธิจิตฺเตน สหชาตํ สุขสฺฺจ ลหุสฺฺจ. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิทํ ปน จิตฺตคมนเมว โหติ. เอวํ อทิสฺสมาเนน กาเยน คจฺฉนฺโต ปนายํ กึ ตสฺสาธิฏฺานจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ คจฺฉติ? อุทาหุ ิติกฺขเณ ภงฺคกฺขเณ วาติ วุตฺเต ‘‘ตีสุปิ ขเณสุ คจฺฉตี’’ติ เถโร อาห. กึ ปน โส สยํ คจฺฉติ, นิมฺมิตํ เปเสตีติ? ยถารุจิ กโรติ. อิธ ปนสฺส สยํ คมนเมว อาคตํ.

มโนมยนฺติ อธิฏฺานมเนน นิมฺมิตตฺตา มโนมยํ. สพฺพงฺคปจฺจงฺคนฺติ สพฺพองฺคปจฺจงฺควนฺตํ. อหีนินฺทฺริยนฺติ อิทํ จกฺขุโสตาทีนํ สณฺานวเสน วุตฺตํ, นิมฺมิตรูเป ปน ปสาโท นาม นตฺถิ. สเจ โส อิทฺธิมา จงฺกมติ, นิมฺมิโตปิ ตตฺถ จงฺกมตีติอาทิ สพฺพํ สาวกนิมฺมิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. พุทฺธนิมฺมิตา ปน ยํ ยํ ภควา กโรติ, ตํ ตมฺปิ กโรนฺติ, ภควโต จิตฺตวเสน อฺมฺปิ กโรนฺตีติ. ธูมายติ ปชฺชลตีติ เตโชกสิณวเสน. ธมฺมํ ภาสตีติอาทีนิ ตีณิ อนิยเมตฺวา วุตฺตานิ. สนฺติฏฺตีติ สงฺคมฺม ติฏฺติ. สลฺลปตีติ สงฺคมฺม ลปติ. สากจฺฉํ สมาปชฺชตีติ อฺมฺสฺส อุตฺตรปจฺจุตฺตรทานวเสน สํกถํ กโรติ. เอตฺถ จ ยํ โส อิทฺธิมา อิเธว ิโต ทิพฺเพน จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ, ทิพฺพาย โสตธาตุยา สทฺทํ สุณาติ, เจโตปริยาเณน จิตฺตํ ปชานาติ, ยมฺปิ โส อิเธว ิโต เตน พฺรหฺมุนา สทฺธึ สนฺติฏฺติ, สลฺลปติ, สากจฺฉํ สมาปชฺชติ, ยมฺปิสฺส ‘‘ทูเรปิ สนฺติเก อธิฏฺาตี’’ติอาทิกํ อธิฏฺานํ, ยมฺปิ โส ทิสฺสมาเนน วา อทิสฺสมาเนน วา กาเยน พฺรหฺมโลกํ คจฺฉติ, เอตฺตาวตา น กาเยน วสํ วตฺเตติ. ยฺจ โข ‘‘โส ตสฺส พฺรหฺมุโน ปุรโต รูปึ อภินิมฺมินาตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตวิธานํ อาปชฺชติ, เอตฺตาวตา กาเยน วสํ วตฺเตติ นาม. เสสํ ปน กาเยน วสวตฺตนาย ปุพฺพภาคทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ. อยํ ตาว อธิฏฺานา อิทฺธิ.

๑๓. วิกุพฺพนิทฺธินิทฺเทเส สิขิสฺส ภควโต สาวกนิทสฺสนํ วิกุพฺพนิทฺธิยา กายสกฺขิปุคฺคลทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตมฺปิ ทสฺเสนฺโต ปมํ ตาว พฺรหฺมโลเก ิโต สหสฺสิโลกธาตุํ สเรน วิฺาเปสีติ อติวิย อจฺฉริยอพฺภุตภูตํ สหสฺสิโลกธาตุยา สทฺทสวนํ อธิฏฺานิทฺธึ ทสฺเสสิ. อิทานิ ตสฺส วตฺถุสฺส ปริทีปนตฺถมิทํ วุจฺจติ – อิมสฺมา หิ กปฺปา เอกตึเส กปฺเป สิขี ภควา อนนฺตรชาติยา ตุสิตปุรโต จวิตฺวา อรุณวตีนคเร อรุณวโต รฺโ ปภาวติยา นาม มเหสิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺติตฺวา ปริปกฺกาโณ มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา โพธิมณฺเฑ สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ปวตฺตวรธมฺมจกฺโก อรุณวตึ นิสฺสาย วิหรนฺโต เอกทิวสํ ปาโตว สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา มหาภิกฺขุสงฺฆปริวาโร ‘‘อรุณวตึ ปิณฺฑาย ปวิสิสฺสามี’’ติ นิกฺขมิตฺวา วิหารทฺวารโกฏฺกสมีเป ิโต อภิภุํ นาม อคฺคสาวกํ อามนฺเตสิ – ‘‘อติปฺปโค โข, ภิกฺขุ, อรุณวตึ ปิณฺฑาย ปวิสิตุํ. เยน อฺตโร พฺรหฺมโลโก เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ยถาห

‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, สิขี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อภิภุํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘อายาม, พฺราหฺมณ, เยน อฺตโร พฺรหฺมโลโก, เตนุปสงฺกมิสฺสาม ยาว ภตฺตสฺส กาโล ภวิสฺสตี’ติ. ‘เอวํ ภนฺเต’ติ โข, ภิกฺขเว, อภิภู ภิกฺขุ สิขิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข, ภิกฺขเว, สิขี จ ภควา อภิภู จ ภิกฺขุ เยน อฺตโร พฺรหฺมโลโก, เตนุปสงฺกมึสู’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๘๕).

ตตฺถ มหาพฺรหฺมา สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทิสฺวา อตฺตมโน ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา พฺรหฺมาสนํ ปฺาเปตฺวา อทาสิ. เถรสฺสาปิ อนุจฺฉวิกํ อาสนํ ปฺาปยึสุ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน, เถโรปิ อตฺตโน ปตฺตาสเน นิสีทิ. มหาพฺรหฺมาปิ ทสพลํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เตนาห – อถ โข, ภิกฺขเว, สิขี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อภิภุํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘ปฏิภาตุ, พฺราหฺมณ, ตํ พฺรหฺมุโน จ พฺรหฺมปริสาย จ พฺรหฺมปาริสชฺชานฺจ ธมฺมี กถา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข, ภิกฺขเว, อภิภู ภิกฺขุ สิขิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปฏิสฺสุณิตฺวา พฺรหฺมุโน จ พฺรหฺมปริสาย จ พฺรหฺมปาริสชฺชานฺจ ธมฺมกถํ กเถสิ. เถเร ธมฺมกถํ กเถนฺเต พฺรหฺมาโน อุชฺฌายึสุ ‘‘จิรสฺสฺจ มยํ สตฺถุ พฺรหฺมโลกาคมนํ ลภิมฺหา, อยฺจ ภิกฺขุ เปตฺวา สตฺถารํ สยํ ธมฺมกถํ อารภี’’ติ. สตฺถา เตสํ อนตฺตมนภาวํ ตฺวา อภิภุํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘อุชฺฌายนฺติ โข เต, พฺราหฺมณ, พฺรหฺมา จ พฺรหฺมปริสา จ พฺรหฺมปาริสชฺชา จ. เตน หิ, ตฺวํ พฺราหฺมณ, ภิยฺโยโส มตฺตาย สํเวเชหี’’ติ. เถโร สตฺถุ วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิกุพฺพนํ กตฺวา สหสฺสิโลกธาตุํ สเรน วิฺาเปนฺโต –

‘‘อารมฺภถ นิกฺกมถ, ยุฺชถ พุทฺธสาสเน;

ธุนาถ มจฺจุโน เสนํ, นฬาคารํว กุฺชโร.

‘‘โย อิมสฺมึ ธมฺมวินเย, อปฺปมตฺโต วิหสฺสติ;

ปหาย ชาติสํสารํ, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสตี’’ติ. (อ. นิ. ๑.๑๘๕) –

อิมํ คาถาทฺวยํ อภาสิ.

กึ ปน กตฺวา เถโร สหสฺสิโลกธาตุํ สเรน วิฺาเปสีติ? นีลกสิณํ ตาว สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อภิฺาาเณน จกฺกวาฬสหสฺเส สพฺพตฺถ อนฺธการํ ผริ. ตโต ‘‘กิมิทํ อนฺธการ’’นฺติ สตฺตานํ อาโภเค อุปฺปนฺเน อาโลกกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อาโลกํ ทสฺเสสิ. ‘‘กึ อาโลโก อย’’นฺติ วิจินนฺตานํ อตฺตานํ ทสฺเสสิ. จกฺกวาฬสหสฺเส จ เทวมนุสฺสา อฺชลึ ปคฺคณฺหิตฺวา เถรํเยว นมสฺสมานา อฏฺํสุ. เถโร ‘‘มหาชโน มยฺหํ ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส สทฺทํ สุณาตู’’ติ อิมา คาถา อภาสิ. สพฺเพ โอสฏาย ปริสาย มชฺเฌ นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส วิย สทฺทํ อสฺโสสุํ. อตฺโถปิ เตสํ ปากโฏ อโหสิ. ตํ วิฺาปนํ สนฺธาย ‘‘สเรน วิฺาเปสี’’ติ วุตฺตํ. เตน กตํ อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิกุพฺพนํ สนฺธาย ปุน โส ทิสฺสมาเนนปีติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ธมฺมํ เทเสสีติ ปมํ วุตฺตปฺปการํ อิทฺธิวิกุพฺพนํ ทสฺเสนฺโต ธมฺมํ เทเสสิ, ตโต ยถาวุตฺตกฺกเมน ทฺเว คาถา ภาสนฺโต สเรน วิฺาเปสีติ เวทิตพฺพํ. ทิสฺสมาเนนปิ กาเยนาติอาทีสุ จ อิตฺถํภูตลกฺขเณ กรณวจนํ, เอวํภูตกาโย หุตฺวาติ อตฺโถ.

อิทานิ ตํ วตฺถุํ ทสฺเสตฺวา อฺสฺสาปิ อิทฺธิมโต วิกุพฺพนิทฺธิกรณวิธานํ ทสฺเสนฺโต โส ปกติวณฺณํ วิชหิตฺวาติอาทิมาห. ตตฺถ โสติ เหฏฺา วุตฺตวิธาเนน มุทุกมฺมฺกตจิตฺโต โส อิทฺธิมา ภิกฺขุ. สเจ วิกุพฺพนิทฺธึ กาตุกาโม โหติ, อตฺตโน ปกติวณฺณํ ปกติสณฺานํ วิชหิตฺวา กุมารกวณฺณํ วา ทสฺเสติ. กถํ? ปถวีกสิณารมฺมณาภิฺาปาทกจตุตฺถชฺฌานโต วุฏฺาย ‘‘เอวรูโป กุมารโก โหมี’’ติ นิมฺมินิตพฺพํ กุมารกวณฺณํ อาวชฺชิตฺวา กตปริกมฺมาวสาเน ปุน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘เอวรูโป นาม กุมารโก โหมี’’ติ อภิฺาาเณน อธิฏฺาติ, สห อธิฏฺาเนน กุมารโก โหตีติ. วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๐๐) กสิณนิทฺเทเส ‘‘ปถวีกสิณวเสน เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหตีติอาทิภาโว…เป… เอวมาทีนิ อิชฺฌนฺตี’’ติ วจเนน อิธ ปถวีกสิณารมฺมณํ ปาทกชฺฌานํ ยุชฺชติ. ตตฺเถว ปน อภิฺานิทฺเทเส วิกุพฺพนิทฺธิยา ‘‘ปถวีกสิณาทีสุ อฺตรารมฺมณโต อภิฺาปาทกชฺฌานโต วุฏฺายา’’ติ วุตฺตํ, ตตฺเถว (วิสุทฺธิ. ๒.๓๙๘) จ ‘‘อตฺตโน กุมารกวณฺโณ อาวชฺชิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ, ตํ นาคาทินิมฺมาเน น ยุชฺชติ วิย. นาควณฺณาทินิมฺมาเนปิ เอเสว นโย.

ตตฺถ นาควณฺณนฺติ สปฺปสณฺานํ. สุปณฺณวณฺณนฺติ ครุฬสณฺานํ. อินฺทวณฺณนฺติ สกฺกสณฺานํ. เทววณฺณนฺติ เสสเทวสณฺานํ. สมุทฺทวณฺณํ ปน อาโปกสิณวเสน อิชฺฌติ. ปตฺตินฺติ ปทาตึ. วิวิธมฺปิ เสนาพฺยูหนฺติ หตฺถิอาทีนํ วเสน อเนกวิหิตํ เสนาสมูหํ. วิสุทฺธิมคฺเค ปน ‘‘หตฺถิมฺปิ ทสฺเสตีติอาทิ ปเนตฺถ พหิทฺธาปิ หตฺถิอาทิทสฺสนวเสน วุตฺตํ. ตตฺถ ‘หตฺถี โหมี’ติ อนธิฏฺหิตฺวา ‘หตฺถี โหตู’ติ อธิฏฺาตพฺพํ. อสฺสาทีสุปิ เอเสว นโย’’ติ วุตฺตํ, ตํ ‘‘ปกติวณฺณํ วิชหิตฺวา’’ติ วุตฺตมูลปเทน จ วิกุพฺพนิทฺธิภาเวน จ วิรุชฺฌติ. ปาฬิยํ วุตฺตกฺกเมน หิ ปกติวณฺณํ อวิชหิตฺวา อธิฏฺานวเสน อฺสฺส ทสฺสนํ อธิฏฺานิทฺธิ นาม, ปกติวณฺณํ วิชหิตฺวา อธิฏฺานวเสน อตฺตโน อฺถาทสฺสนํ วิกุพฺพนิทฺธิ นาม.

๑๔. มโนมยิทฺธิาณนิทฺเทเส อิมมฺหา กายา อฺํ กายํ อภินิมฺมินาตีติอาทีสุ อิทฺธิมา ภิกฺขุ มโนมยิทฺธึ กาตุกาโม อากาสกสิณารมฺมณปาทกชฺฌานโต วุฏฺาย อตฺตโน รูปกายํ ตาว อาวชฺชิตฺวา วุตฺตนเยเนว ‘‘สุสิโร โหตู’’ติ อธิฏฺาติ, สุสิโร โหติ. อถ ตสฺส อพฺภนฺตเร ปถวีกสิณวเสน อฺํ กายํ อาวชฺชิตฺวา ปริกมฺมํ กตฺวา วุตฺตนเยเนว อธิฏฺาติ, ตสฺส อพฺภนฺตเร อฺโ กาโย โหติ. โส ตํ มุขโต อพฺพูหิตฺวา พหิ เปติ. อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาหิ ปกาเสนฺโต เสยฺยถาปีติอาทิมาห. ตตฺถ มุฺชมฺหาติ มุฺชติณมฺหา. อีสิกํ ปวาเหยฺยาติ กฬีรํ ลุฺเจยฺย. โกสิยาติ โกสกโต. กรณฺฑาติ กรณฺฑาย, ปุราณตจกฺจุกโตติ อตฺโถ. ตตฺถ จ อุทฺธเรยฺยาติ จิตฺเตเนวสฺส อุทฺธรณํ เวทิตพฺพํ. อยฺหิ อหิ นาม สชาติยํ ิโต, กฏฺนฺตรํ วา รุกฺขนฺตรํ วา นิสฺสาย, ตจโต สรีรํ นิกฺกฑฺฒนปโยคสงฺขาเตน ถาเมน, สรีรํ ขาทยมานํ วิย ปุราณตจํ ชิคุจฺฉนฺโต อิเมหิ จตูหิ การเณหิ สยเมว กฺจุกํ ปชหาติ.

เอตฺถ จ ยถา อีสิกาทโย มุฺชาทีหิ สทิสา โหนฺติ, เอวมิทํ มโนมยํ รูปํ อิทฺธิมตา สพฺพากาเรหิ สทิสเมว โหตีติ ทสฺสนตฺถํ อิมา อุปมา วุตฺตาติ. ‘‘มโนมเยน กาเยน, อิทฺธิยา อุปสงฺกมี’’ติ (เถรคา. ๙๐๑) เอตฺถ อภิฺามเนน กตกาโย มโนมยกาโย นาม. ‘‘อฺตรํ มโนมยํ กายํ อุปปชฺชตี’’ติ (จูฬว. ๓๓๓) เอตฺถ ฌานมเนน นิพฺพิตฺติตกาโย เตน มเนน กตตฺตา มโนมยกาโย นาม. อิธ ปน อภิฺามเนน อุปฺปาทิตกาโย เตน มเนน กตตฺตา มโนมยกาโย นาม. เอวํ สติ อธิฏฺานิทฺธิยา วิกุพฺพนิทฺธิยา จ กโต มโนมยกาโย นาม โหตีติ เจ? โหติเยว. อิธ ปน ตาสํ วิสุํ วิสุํ วิเสเสน วิเสเสตฺวา อธิฏฺานิทฺธิ วิกุพฺพนิทฺธีติ จ วุตฺตตฺตา อพฺภนฺตรโต นิมฺมานเมว มโนมยิทฺธิ นาม.

๑๕. าณวิปฺผาริทฺธินิทฺเทเส าณสฺส วิปฺผาโร เวโค อสฺสา อตฺถีติ าณวิปฺผารา. เอตฺถ จ สตฺตอนุปสฺสนาวเสเนว อิทฺธึ ทสฺเสตฺวา เสสา ยาว อรหตฺตมคฺคา สงฺขิตฺตาติ เวทิตพฺพา.

อายสฺมโต พากุลสฺส าณวิปฺผารา อิทฺธีติอาทีสุ พากุลตฺเถโร ตาว ทฺวีสุ กุเลสุ วฑฺฒิตตฺตา เอวํลทฺธนาโม ปุพฺพพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ปุฺสมฺปทาย สมฺปนฺโน เถโร. โส หิ มหาสมฺปตฺตึ อนุภวมาโน เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อมฺหากํ ทสพลสฺส นิพฺพตฺติโต ปุเรตรเมว โกสมฺพิยํ เสฏฺิกุเล นิพฺพตฺติ. ตํ ชาตกาเล มงฺคลตฺถาย มหาปริวาเรน ยมุนํ เนตฺวา สปริวารา ธาตี นิมุชฺชนุมฺมุชฺชนวเสน กีฬาเปนฺตี นฺหาเปติ. เอโก มหามจฺโฉ ‘‘ภกฺโข เม อย’’นฺติ มฺมาโน มุขํ วิวริตฺวา อุปคโต. ธาตี ทารกํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลาตา. มหามจฺโฉ ตํ คิลิ. ปุฺวา สตฺโต สยนคพฺภํ ปวิสิตฺวา นิปนฺโน วิย น กิฺจิ ทุกฺขํ ปาปุณิ. มจฺโฉ ทารกสฺส เตเชน ตตฺตกํ ผาลํ คิลิตฺวา วิย ทยฺหมาโน เวเคน ตึสโยชนํ คนฺตฺวา พาราณสิวาสิโน มจฺฉพนฺธสฺส ชาลํ ปาวิสิ. โส ทารกสฺส เตเชน ชาลโต นีหฏมตฺโตว มโต. มจฺฉพนฺธา ตํ สกลเมว อนฺตรกาเชน อาทาย ‘‘สหสฺเสน เทมา’’ติ นคเร จรนฺตา อสีติโกฏิธนสฺส อปุตฺตกสฺส เสฏฺิสฺส ฆรทฺวารํ คนฺตฺวา เสฏฺิภริยาย เอเกน กหาปเณน อทํสุ. สา ตํ สยเมว ผลเก เปตฺวา ปิฏฺิโต ผาเลนฺตี มจฺฉกุจฺฉิยํ สุวณฺณวณฺณํ ทารกํ ทิสฺวา ‘‘มจฺฉกุจฺฉิยํ เม ปุตฺโต ลทฺโธ’’ติ นาทํ นทิตฺวา ทารกํ อาทาย สามิกํ อุปคจฺฉิ. เสฏฺิ ตาวเทว เภรึ จราเปตฺวา ทารกํ อาทาย รฺโ สนฺติกํ อาเนตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจสิ. ราชา ‘‘ปุฺวา ทารโก, โปเสหิ น’’นฺติ อาห. อิตรมฺปิ เสฏฺิกุลํ ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา ‘‘อมฺหากํ ปุตฺโต’’ติ ตํ ทารกํ คณฺหิตุํ วิวทิ. อุโภปิ ราชกุลํ อคมํสุ. ราชา ‘‘ทฺวินฺนมฺปิ อปุตฺตกํ กาตุํ น สกฺกา, ทฺวินฺนมฺปิ ทายาโท โหตู’’ติ อาห. ตโต ปฏฺาย ทฺเวปิ กุลานิ ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตานิ อเหสุํ. ตสฺส ทฺวีหิ กุเลหิ วฑฺฒิตตฺตา ‘‘พากุลกุมาโร’’ติ นามํ อกํสุ. ตสฺส วิฺุตํ ปตฺตสฺส ทฺวีสุปิ นคเรสุ ตโย ตโย ปาสาเท กาเรตฺวา นาฏกานิ ปจฺจุปฏฺเปสุํ. เอเกกสฺมึ นคเร จตฺตาโร จตฺตาโร มาเส วสิ. ตหึ เอกสฺมึ นคเร จตฺตาโร มาเส วุฏฺสฺส สงฺฆาฏนาวาสุ มณฺฑปํ กาเรตฺวา ตตฺถ นํ นาฏเกหิ สทฺธึ อาโรเปตฺวา มหาสมฺปตฺตึ อนุภวมานํ ทฺวีหิ มาเสหิ อิตรํ นครํ อุปฑฺฒปถํ เนนฺติ. อิตรนครวาสิโน นาฏกาปิ ‘‘ทฺวีหิ มาเสหิ อุปฑฺฒปถํ อาคโต ภวิสฺสตี’’ติ ตเถว ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ทฺวีหิ มาเสหิ อตฺตโน นครํ อาเนนฺติ. อิตรนาฏกา มชฺเฌ นิวตฺติตฺวา อตฺตโน นครเมว คจฺฉนฺติ. ตตฺถ จตฺตาโร มาเส วสิตฺวา เตเนว นิยาเมน ปุน อิตรนครํ คจฺฉติ. เอวมสฺส สมฺปตฺตึ อนุภวนฺตสฺส อสีติ วสฺสานิ ปริปุณฺณานิ.

ตสฺมึ สมเย อมฺหากํ โพธิสตฺโต สพฺพฺุตํ ปาปุณิตฺวา ปวตฺตวรธมฺมจกฺโก อนุกฺกเมน จาริกํ จรนฺโต โกสมฺพึ ปาปุณิ. ‘‘พาราณสิ’’นฺติ มชฺฌิมภาณกา. พากุลเสฏฺิปิ โข ‘‘ทสพโล อาคโต’’ติ สุตฺวา พหุํ คนฺธมาลํ อาทาย สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมกถํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺโธ ปพฺพชิ. โส สตฺตาหเมว ปุถุชฺชโน หุตฺวา อฏฺเม อรุเณ สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. อถสฺส ทฺวีสุ นคเรสุ ปริจิตมาตุคามา อตฺตโน กุลฆรานิ อาคนฺตฺวา ตตฺเถว วสมานา จีวรานิ กริตฺวา ปหิณึสุ. เถโร เอกํ อฑฺฒมาสํ โกสมฺพิวาสีหิ ปหิตํ จีวรํ ปริภุฺชติ, เอกํ อฑฺฒมาสํ พาราณสิวาสีหีติ เอเตเนว นิยาเมน ทฺวีสุ นคเรสุ ยํ ยํ อุตฺตมํ, ตํ ตํ เถรสฺเสว อาหรียติ. ปพฺพชิตสฺสาปิสฺส สุเขเนว อสีติ วสฺสานิ อคมํสุ. อุภยตฺถาปิสฺส มุหุตฺตมตฺตมฺปิ อปฺปมตฺตโกปิ อาพาโธ น อุปฺปนฺนปุพฺโพ. โส ปจฺฉิเม กาเล พากุลสุตฺตํ (ม. นิ. ๓.๒๐๙ อาทโย) กเถตฺวา ปรินิพฺพายีติ. เอวํ มจฺฉกุจฺฉิยํ อโรคภาโว อายสฺมโต พากุลสฺส ปจฺฉิมภวิกสฺส เตน อตฺตภาเวน ปฏิลภิตพฺพอรหตฺตาณานุภาเวน นิพฺพตฺตตฺตา าณวิปฺผารา อิทฺธิ นาม. สุจริตกมฺมผลปฺปตฺตสฺส ปฏิสมฺภิทาาณสฺส อานุภาเวนาติปิ วทนฺติ.

สํกิจฺจตฺเถโรปิ (วิสุทฺธิ. ๒.๓๗๓) ปุพฺเพ กตปุฺโ ธมฺมเสนาปติตฺเถรสฺส อุปฏฺากสฺส สาวตฺถิยํ อฑฺฒกุลสฺส ธีตุ กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺติ. สา ตสฺมึ กุจฺฉิคเต เอเกน พฺยาธินา ตํ ขณํเยว กาลมกาสิ, ตสฺสา สรีเร ฌาปิยมาเน เปตฺวา คพฺภมํสํ เสสมํสํ ฌาปยิ. อถสฺสา คพฺภมํสํ จิตกโต โอตาเรตฺวา ทฺวีสุ ตีสุ าเนสุ สูเลหิ วิชฺฌึสุ. สูลโกฏิ ทารกสฺส อกฺขิโกฏึ ผุสิ. เอวํ คพฺภมํสํ วิชฺฌิตฺวา องฺคารราสิมฺหิ ปกฺขิปิตฺวา องฺคาเรเหว ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปกฺกมึสุ. คพฺภมํสํ ฌายิ, องฺคารมตฺถเก ปน สุวณฺณพิมฺพสทิโส ทารโก ปทุมคพฺเภ นิปนฺโน วิย อโหสิ. ปจฺฉิมภวิกสตฺตสฺส หิ สิเนรุนา โอตฺถริยมานสฺสาปิ อรหตฺตํ อปฺปตฺวา ชีวิตกฺขโย นาม นตฺถิ. ปุนทิวเส ‘‘จิตกํ นิพฺพาเปสฺสามา’’ติ อาคตา ตถา นิปนฺนํ ทารกํ ทิสฺวา อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาตา ทารกํ อาทาย นครํ คนฺตฺวา เนมิตฺตเก ปุจฺฉึสุ. เนมิตฺตกา ‘‘สเจ อยํ ทารโก อคารํ อชฺฌาวสิสฺสติ, ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา าตกา ทุคฺคตา ภวิสฺสนฺติ. สเจ ปพฺพชิสฺสติ, ปฺจหิ สมณสเตหิ ปริวุโต จริสฺสตี’’ติ อาหํสุ. อยฺยกา ตํ ทารกํ วฑฺเฒสิ. าตกาปิ วฑฺฒิตกาเล ‘‘อมฺหากํ อยฺยสฺส สนฺติเก ปพฺพาเชสฺสามา’’ติ โปสยึสุ. โส สตฺตวสฺสิกกาเล ‘‘ตว กุจฺฉิยา วสนกาเล มาตา เต กาลมกาสิ, ตสฺสา สรีเร ฌาปิยมาเนปิ ตฺวํ น ฌายี’’ติ กุมารกานํ กถํ สุตฺวา ‘‘อหํ กิร เอวรูปา ภยา มุตฺโต, กึ เม ฆราวาเสน ปพฺพชิสฺสามี’’ติ าตกานํ อาโรเจสิ. เต ‘‘สาธุ, ตาตา’’ติ ตํ ธมฺมเสนาปติตฺเถรสฺส สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘ภนฺเต, อิมํ ปพฺพาเชถา’’ติ อทํสุ. เถโร ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ ทตฺวา ปพฺพาเชสิ. โส ขุรคฺเคเยว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. ปริปุณฺณวสฺโส จ อุปสมฺปทํ ลภิตฺวา ทสวสฺโส หุตฺวา ปฺจสตภิกฺขุปริวาโร วิจรีติ. เอวํ วุตฺตนเยเนว ทารุจิตกาย อโรคภาโว อายสฺมโต สํกิจฺจสฺส าณวิปฺผารา อิทฺธิ นาม.

ภูตปาลตฺเถโรปิ (วิสุทฺธิ. ๒.๓๗๓) ปุพฺพเหตุสมฺปนฺโน. ตสฺส ปิตา ราชคเห ทลิทฺทมนุสฺโส. โส ตํ ทารกํ คเหตฺวา ทารูนํ อตฺถาย สกเฏน อฏวึ คนฺตฺวา ทารุภารํ กตฺวา สายํ นครทฺวารสมีปํ ปตฺโต. อถสฺส โคณา ยุคํ โอสฺสชิตฺวา นครํ ปวิสึสุ. โส สกฏมูเล ปุตฺตกํ นิสีทาเปตฺวา โคณานํ อนุปทํ คจฺฉนฺโต นครเมว ปาวิสิ. ตสฺส อนิกฺขนฺตสฺเสว ทฺวารํ ปิทหิ. ทารโก สกลรตฺตึ สกฏสฺส เหฏฺา นิปชฺชิตฺวา นิทฺทํ โอกฺกมิ. ราชคหํ ปกติยาปิ อมนุสฺสพหุลํ, อิทํ ปน สุสานสมีปฏฺานํ. น จ โกจิ ยกฺโข ตสฺส ปจฺฉิมภวิกสฺส ทารกสฺส อุปทฺทวํ กาตุมสกฺขิ. โส อปเรน สมเยน ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิตฺวา ภูตปาลตฺเถโร นาม อโหสีติ. เอวํ วาฬยกฺขานุจริเตปิ ปเทเส วุตฺตนเยเนว อโรคภาโว อายสฺมโต ภูตปาลสฺส าณวิปฺผารา อิทฺธิ นาม.

๑๖. สมาธิวิปฺผาริทฺธินิทฺเทเส อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สมาธิวิปฺผารา อิทฺธีติอาทีสุ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส มหาโมคฺคลฺลานตฺเถเรน สทฺธึ กโปตกนฺทรายํ วิหรโต ชุณฺหาย รตฺติยา นโวโรปิเตหิ เกเสหิ อชฺโฌกาเส นิสินฺนสฺส เอโก ทุฏฺยกฺโข สหายเกน ยกฺเขน วาริยมาโนปิ สีเส ปหารํ อทาสิ. ยสฺส เมฆสฺส วิย คชฺชโต สทฺโท อโหสิ, เถโร ตสฺส ปหรณสมเย สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสินฺโน โหติ. อถสฺส เตน ปหาเรน น โกจิ อาพาโธ อโหสิ. อยํ ตสฺส อายสฺมโต สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ. ยถาห –

‘‘เอวํ เม สุตํ (อุทา. ๓๔) – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา จ สาริปุตฺโต อายสฺมา จ มหาโมคฺคลฺลาโน กโปตกนฺทรายํ วิหรนฺติ. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สาริปุตฺโต ชุณฺหาย รตฺติยา นโวโรปิเตหิ เกเสหิ อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหติ อฺตรํ สมาธึ สมาปชฺชิตฺวา.

‘‘เตน โข ปน สมเยน ทฺเว ยกฺขา สหายกา อุตฺตราย ทิสาย ทกฺขิณํ ทิสํ คจฺฉนฺติ เกนจิเทว กรณีเยน. อทฺทสํสุ โข เต ยกฺขา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ ชุณฺหาย รตฺติยา นโวโรปิเตหิ เกเสหิ อพฺโภกาเส นิสินฺนํ, ทิสฺวาน เอโก ยกฺโข ทุติยํ ยกฺขํ เอตทโวจ – ‘ปฏิภาติ มํ, สมฺม, อิมสฺส สมณสฺส สีเส ปหารํ ทาตุ’นฺติ. เอวํ วุตฺเต โส ยกฺโข ตํ ยกฺขํ เอตทโวจ – ‘อลํ, สมฺม, มา สมณํ อาสาเทสิ, อุฬาโร โส, สมฺม, สมโณ มหิทฺธิโก มหานุภาโว’ติ.

‘‘ทุติยมฺปิ โข…เป… ตติยมฺปิ โข โส ยกฺโข ตํ ยกฺขํ เอตทโวจ – ‘ปฏิภาติ มํ, สมฺม, อิมสฺส สมณสฺส สีเส ปหารํ ทาตุ’นฺติ. ตติยมฺปิ โข โส ยกฺโข ตํ ยกฺขํ เอตทโวจ – ‘อลํ, สมฺม, มา สมณํ อาสาเทสิ, อุฬาโร โส, สมฺม, สมโณ มหิทฺธิโก มหานุภาโว’ติ.

‘‘อถ โข โส ยกฺโข ตํ ยกฺขํ อนาทิยิตฺวา อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สีเส ปหารํ อทาสิ. ตาว มหาปหาโร อโหสิ, อปิ เตน ปหาเรน สตฺตรตนํ วา อฑฺฒฏฺมรตนํ วา นาคํ โอสาเรยฺย, มหนฺตํ วา ปพฺพตกูฏํ ปทาเลยฺย. อถ จ ปน โส ยกฺโข ‘ทยฺหามิ ทยฺหามี’ติ ตตฺเถว มหานิรยํ อปตาสิ.

‘‘อทฺทสา โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน เตน ยกฺเขน อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สีเส ปหารํ ทียมานํ, ทิสฺวา เยน อายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘กจฺจิ เต, อาวุโส สาริปุตฺต, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ น กิฺจิ ทุกฺข’นฺติ. ‘ขมนียํ เม, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, ยาปนียํ เม, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, อปิ จ เม สีสํ โถกํ ทุกฺข’นฺติ.

‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส สาริปุตฺต, อพฺภุตํ, อาวุโส สาริปุตฺต, ยาว มหิทฺธิโก อายสฺมา สาริปุตฺโต มหานุภาโว. อิธ เต, อาวุโส สาริปุตฺต, อฺตโร ยกฺโข สีเส ปหารํ อทาสิ. ตาว มหา ปหาโร อโหสิ, อปิ เตน ปหาเรน สตฺตรตนํ วา อฑฺฒฏฺมรตนํ วา นาคํ โอสาเรยฺย, มหนฺตํ วา ปพฺพตกูฏํ ปทาเลยฺย. อถ จ ปนายสฺมา สาริปุตฺโต เอวมาห – ‘ขมนียํ เม, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, ยาปนียํ เม, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, อปิ จ เม สีสํ โถกํ ทุกฺข’นฺติ.

‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, อพฺภุตํ, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, ยาว มหิทฺธิโก อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม ยกฺขมฺปิ ปสฺสิสฺสติ, มยํ ปเนตรหิ ปํสุปิสาจกมฺปิ น ปสฺสามาติ.

‘‘อสฺโสสิ โข ภควา ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย เตสํ อุภินฺนํ มหานาคานํ อิมํ เอวรูปํ กถาสลฺลาปํ.

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ยสฺส เสลูปมํ จิตฺตํ, ิตํ นานุปกมฺปติ;

วิรตฺตํ รชนีเยสุ, โกปนีเย น กุปฺปติ;

ยสฺเสวํ ภาวิตํ จิตฺตํ, กุโต ตํ ทุกฺขเมสฺสตี’’ติ. (อุทา. ๓๔);

เอตฺถ จ ‘‘กุโต ตํ ทุกฺขเมสฺสตี’’ติ ภควตา วุตฺตวจเนน ‘‘เตน ปหาเรน น โกจิ อาพาโธ อโหสี’’ติ อฏฺกถาวจนํ อติวิย สเมติ. ตสฺมา ‘‘อปิจ เม สีสํ โถกํ ทุกฺข’’นฺติ วจเนน ทุกฺขเวทนา น โหติ, สีสสฺส ปน อกมฺมฺภาวํ สนฺธาย ‘‘ทุกฺข’’นฺติ วุตฺตํ. โลเกปิ หิ อกิจฺเฉน ปริหริตุํ สกฺกุเณยฺโย สุขสีโล, กิจฺเฉน ปริหริตุํ สกฺกุเณยฺโย ทุกฺขสีโลติ วุจฺจติ. ตมฺปิ โข อกมฺมฺตํ สมาปตฺติโต วุฏฺิตสมยตฺตา อโหสีติ เวทิตพฺโพ. สมาปตฺติอปฺปิตสมเย หิ ตมฺปิ น ภเวยฺยาติ. ‘‘เอตรหิ ปํสุปิสาจกมฺปิ น ปสฺสามา’’ติ ทฏฺุํ อสมตฺถตาย น วุตฺตํ, อภิฺาสุ พฺยาปาราภาเวน วุตฺตํ. เถโร กิร ‘‘ปจฺฉิมา ชนตา โปถุชฺชนิกาย อิทฺธิยา สารสฺา มาเหสุ’’นฺติ ปจฺฉิมํ ชนตํ อนุกมฺปมาโน เยภุยฺเยน อิทฺธึ น วลฺเชสิ. เถรคาถาย จ –

‘‘เนว ปุพฺเพนิวาสาย, นปิ ทิพฺพสฺส จกฺขุโน;

เจโตปริยาย อิทฺธิยา, จุติยา อุปปตฺติยา;

โสตธาตุวิสุทฺธิยา, ปณิธิ เม น วิชฺชตี’’ติ. (เถรคา. ๙๙๖) –

เถเรน สยเมว อภิฺาสุ ปตฺถนาภาโว วุตฺโต. เถโร ปน สตฺตสฏฺิยา สาวกปารมีาเณสุ ปารมิปฺปตฺโตติ.

สฺชีวตฺเถรํ ปน กกุสนฺธสฺส ภควโต ทุติยอคฺคสาวกํ นิโรธสมาปนฺนํ ‘‘กาลงฺกโต’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา โคปาลกาทโย ติณกฏฺาทีนิ สํกฑฺฒิตฺวา อคฺคึ อทํสุ. เถรสฺส จีวเร อํสุมตฺตมฺปิ น ฌายิตฺถ. อยมสฺสายสฺมโต อนุปุพฺพสมาปตฺติวเสน ปวตฺตสมถานุภาวนิพฺพตฺตตฺตา สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ. ยถาห –

‘‘เตน โข ปน, ปาปิม, สมเยน กกุสนฺโธ ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน โหติ. กกุสนฺธสฺส โข ปน, ปาปิม, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วิธุรสฺชีวํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. ยาวตา ปน, ปาปิม, กกุสนฺธสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาวกา. เตสุ น จ โกจิ อายสฺมตา วิธุเรน สมสโม โหติ ยทิทํ ธมฺมเทสนาย. อิมินา โข เอตํ, ปาปิม, ปริยาเยน อายสฺมโต วิธุรสฺส วิธุโรเตว สมฺา อุทปาทิ. อายสฺมา ปน, ปาปิม, สฺชีโว อรฺคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สุฺาคารคโตปิ อปฺปกสิเรเนว สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชติ.

‘‘ภูตปุพฺพํ, ปาปิม, อายสฺมา สฺชีโว อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโน นิสินฺโน โหติ. อทฺทสํสุ โข, ปาปิม, โคปาลกา ปสุปาลกา กสฺสกา ปถาวิโน อายสฺมนฺตํ สฺชีวํ อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺนํ, ทิสฺวาน เตสํ เอตทโหสิ – ‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ, อยํ สมโณ นิสินฺนโก กาลงฺกโต, หนฺท นํ ทหามา’ติ.

‘‘อถ โข เต, ปาปิม, โคปาลกา ปสุปาลกา กสฺสกา ปถาวิโน ติณฺจ กฏฺฺจ โคมยฺจ สํกฑฺฒิตฺวา อายสฺมโต สฺชีวสฺส กาเย อุปจินิตฺวา อคฺคึ ทตฺวา ปกฺกมึสุ. อถ โข, ปาปิม, อายสฺมา สฺชีโว ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ตาย สมาปตฺติยา วุฏฺหิตฺวา จีวรานิ ปปฺโผเฏตฺวา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อทฺทสํสุ โข เต, ปาปิม, โคปาลกา ปสุปาลกา กสฺสกา ปถาวิโน อายสฺมนฺตํ สฺชีวํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ, ทิสฺวาน เนสํ เอตทโหสิ – ‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ, อยํ สมโณ นิสินฺนโกว กาลงฺกโต, สฺวายํ ปฏิสฺชีวิโต’ติ. อิมินา โข เอวํ, ปาปิม, ปริยาเยน อายสฺมโต สฺชีวสฺส สฺชีโวเตว สมฺา อุทปาที’’ติ (ม. นิ. ๑.๕๐๗).

ขาณุโกณฺฑฺตฺเถโร ปน ปกติยาว สมาปตฺติพหุโล, โส อฺตรสฺมึ อรฺเ รตฺตึ สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสีทิ, ปฺจสตา โจรา ภณฺฑกํ เถเนตฺวา คจฺฉนฺตา ‘‘อิทานิ อมฺหากํ อนุปทํ คจฺฉนฺตา นตฺถี’’ติ วิสฺสมิตุกามา ภณฺฑกํ โอโรปยมานา ‘‘ขาณุโก อย’’นฺติ มฺมานา เถรสฺเสว อุปริ สพฺพภณฺฑกานิ เปสุํ. เตสํ วิสฺสมิตฺวา คจฺฉนฺตานํ ปมํ ปิตภณฺฑกสฺส คหณกาเล กาลปริจฺเฉทวเสน เถโร วุฏฺาสิ. เต เถรสฺส จลนาการํ ทิสฺวา ภีตา วิรวึสุ. เถโร ‘‘มา ภายถ, อุปาสกา, ภิกฺขุ อห’’นฺติ อาห. เต อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา เถรคเตน ปสาเทน ปพฺพชิตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. ตโต ปภุติ จ เถโร ขาณุโกณฺฑฺตฺเถโร นาม อโหสิ. อยเมตฺถ ปฺจหิ ภณฺฑกสเตหิ อชฺโฌตฺถฏสฺส ตสฺสายสฺมโต อาพาธาภาโว สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ.

อุตฺตรา (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๖๒) ปน อุปาสิกา ราชคเห มหาธนสฺส ปุณฺณสฺส เสฏฺิโน ธีตา, กุมาริกกาเลเยว สทฺธึ มาตาปิตูหิ โสตาปตฺติผลํ ปตฺตา, สา วยปฺปตฺตา ราชคหเสฏฺิโน มหตา นิพนฺเธน ตสฺส ปุตฺตสฺส มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส ทินฺนา. สา พุทฺธทสฺสนาย ธมฺมสฺสวนาย พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทานฺจ ทาตุํ ธมฺมฺจ โสตุํ โอกาสํ อลภมานา อุปทฺทุตา หุตฺวา ตสฺมึเยว นคเร สิริมํ นาม คณิกํ ปกฺโกสาเปตฺวา โอกาสกรณตฺถเมว ปิตุ ฆราว อานีตานิ ปฺจทสกหาปณสหสฺสานิ ตสฺสา ทตฺวา ‘‘อิเม กหาปเณ คเหตฺวา อิมํ อฑฺฒมาสํ เสฏฺิปุตฺตํ ปริจราหี’’ติ ตํ สามิกสฺส อปฺเปตฺวา สยํ อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย ‘‘อิมํ อฑฺฒมาสํ พุทฺธทสฺสนาทีนิ ลภิสฺสามี’’ติ ตุฏฺมานสา ยาว ปวารณาย พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิมนฺตาเปตฺวา อฑฺฒมาสํ มหาทานํ อทาสิ, ปจฺฉาภตฺตํ มหานเส ขชฺชโภชฺชาทีนิ สํวิทหาเปติ. ตสฺสา สามิโก ‘‘สฺเว ปวารณา’’ติ สิริมาย สห วาตปาเน ตฺวา พหิ โอโลเกนฺโต ตํ ตถาวิจรนฺตึ เสทกิลินฺนํ ฉาริกาย โอกิณฺณํ องฺคารมสิมกฺขิตํ ทิสฺวา ‘‘อตฺตโน สมฺปตฺตึ อภุฺชิตฺวา กุสลํ นาม กโรติ พาลา’’ติ หสิ. อุตฺตราปิ ตํ โอโลเกตฺวา ‘‘สมฺปรายตฺถํ กุสลํ น กโรติ พาโล’’ติ หสิ.

สิริมา อุภินฺนมฺปิ ตํ กิริยํ ทิสฺวา ‘‘อหํ ฆรสามินี’’ติ มฺมานา อิสฺสาปกตา อุตฺตราย กุชฺฌิตฺวา ‘‘ทุกฺขํ อุปฺปาเทสฺสามี’’ติ ปาสาทา โอตรติ. อุตฺตรา ตํ ตฺวา ปีเก นิสีทิตฺวา ตํ เมตฺเตน จิตฺเตน ผริ. สิริมา ปาสาทา โอรุยฺห มหานสํ ปวิสิตฺวา ปูวปจนโต อุฬุงฺกปูรํ ปกฺกุถิตํ สปฺปึ คเหตฺวา ตสฺสา มตฺถเก โอกิริ. ตํ ปทุมินิปณฺเณ สีตูทกํ วิย วินิวฏฺเฏตฺวา อคมาสิ. ทาสิโย สิริมํ หตฺเถหิ ปาเทหิ โปเถตฺวา ภูมิยํ ปาเตสุํ. อุตฺตรา เมตฺตาฌานโต วุฏฺาย ทาสิโย วาเรสิ. สิริมา อุตฺตรํ ขมาเปสิ. อุตฺตรา ‘‘สฺเว สตฺถุ ปุรโต ขมาเปหี’’ติ วตฺวา ตาย กายเวยฺยาวฏิกํ ยาจิตาย พฺยฺชนสมฺปาทนํ อาจิกฺขิ. สา ตํ สมฺปาเทตฺวา อตฺตโน ปริวารา ปฺจสตา คณิกาโย สสงฺฆํ สตฺถารํ ปริวิสิตฺวา ‘‘ขมาปนสหายิกา โหถา’’ติ วตฺวา ปุนทิวเส ตถา ตาหิ คณิกาหิ สทฺธึ สตฺถุ ภตฺตกิจฺจาวสาเน สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ‘‘อหํ ภควา อุตฺตราย อปรชฺฌึ, ขมตุ เม อุตฺตรา’’ติ อาห. สตฺถา ‘‘ขม, อุตฺตเร’’ติ วตฺวา ‘‘ขมามิ, ภควา’’ติ วุตฺเต ‘‘อกฺโกเธน ชิเน โกธ’’นฺติอาทิกํ (ธ. ป. ๒๒๓) ธมฺมํ เทเสสิ. อุตฺตรา ปุเรตรเมว สามิกฺจ สสฺสุสสุเร จ สตฺถุ สนฺติเก อุปเนสิ. เทสนาวสาเน เต จ ตโย ชนา, สพฺพา จ คณิกาโย โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหึสูติ. เอวํ อุตฺตราย อุปาสิกาย ปกฺกุถิตสปฺปินา ปีฬาภาโว สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ.

สามาวตี อุปาสิกา นาม โกสมฺพิยํ อุเทนสฺส รฺโ อคฺคมเหสี. ตสฺส หิ รฺโ ปฺจสตปฺจสตอิตฺถิปริวารา ติสฺโส อคฺคมเหสิโย อเหสุํ. ตาสํ สามาวตี ภทฺทิยนคเร ภทฺทิยเสฏฺิโน ธีตา. ปิตริ กาลงฺกเต ปิตุ สหายกสฺส โกสมฺพิยํ โฆสิตเสฏฺิโน ฆเร ปฺจสตอิตฺถิปริวารวฑฺฒิตํ วยปฺปตฺตํ ราชา ทิสฺวา สฺชาตสิเนโห สปริวารมตฺตโน ฆรํ เนตฺวา อภิเสกฏฺานํ อทาสิ. จณฺฑปชฺโชตสฺส รฺโ ธีตา วาสุลทตฺตา นาม เอกา มเหสี. มาคณฺฑิยพฺราหฺมณสฺส ธีตา ภควโต ปาทปริจาริกํ กตฺวา ปิตรา ทิยฺยมานา –

‘‘ทิสฺวาน ตณฺหํ อรตึ รคฺจ, นาโหสิ ฉนฺโท อปิ เมถุนสฺมึ;

กิเมวิทํ มุตฺตกรีสปุณฺณํ, ปาทาปิ นํ สมฺผุสิตุํ น อิจฺเฉ’’ติ. (สุ. นิ. ๘๔๑) –

ภควตา ภาสิตํ คาถํ สุตฺวา ภควติ อาฆาตํ พนฺธิ. ตสฺสา มาตาปิตโร มาคณฺฑิยสุตฺตเทสนาวสาเน อนาคามิผลํ ปตฺวา ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. ตสฺสา จูฬปิตา มาคณฺฑิโย ตํ โกสมฺพึ เนตฺวา รฺโ อทาสิ. สา รฺโ เอกา มเหสี.

อถ โข โฆสิตเสฏฺิ กุกฺกุฏเสฏฺิ ปาวาริกเสฏฺีติ ตโย เสฏฺิโน โลเก ตถาคตุปฺปาทํ สุตฺวา เชตวนํ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา โสตาปตฺติผลํ ปตฺวา อฑฺฒมาสํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา สตฺถุ โกสมฺพิคมนํ อายาจิตฺวา โกสมฺพึ คนฺตฺวา โฆสิตาราโม กุกฺกุฏาราโม ปาวาริการาโมติ ตโย ชนา ตโย อาราเม การาเปตฺวา อนุปุพฺเพน ตตฺถ อาคตํ สตฺถารํ ปฏิปาฏิยา เอเกกสฺมึ ทิวเส เอเกกสฺมึ วิหาเร วสาเปตฺวา เอเกโก สสงฺฆสฺส ภควโต มหาทานมทาสิ. อเถกทิวสํ เตสํ อุปฏฺาโก สุมโน นาม มาลากาโร เสฏฺิโน อายาจิตฺวา สสงฺฆํ สตฺถารํ โภเชตุํ อตฺตโน ฆเร นิสีทาเปสิ. ตสฺมึ ขเณ สามาวติยา ปริจาริกา ขุชฺชุตฺตรา นาม ทาสี อฏฺ กหาปเณ คเหตฺวา ตสฺส ฆรํ อคมาสิ. โส ‘‘สสงฺฆสฺส ตาว สตฺถุโน ปริเวสนสหายา โหหี’’ติ อาห. สา ตถา กตฺวา สตฺถุ ภตฺตกิจฺจาวสาเน ธมฺมเทสนํ สุตฺวา โสตาปนฺนา หุตฺวา อฺทา จตฺตาโร กหาปเณ อตฺตโน อาทิยนฺตี อทินฺนํ อาทิยิตุํ อภพฺพตฺตา อฏฺหิ กหาปเณหิ ปุปฺผานิ อาทาย สามาวติยา อุปนาเมสิ. ตาย ปุปฺผานํ พหุภาวการณํ ปุฏฺา มุสา ภณิตุํ อภพฺพตฺตา ยถาสภาวํ อาห. ‘‘อชฺช กสฺมา น คณฺหี’’ติ วุตฺตา ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ธมฺมํ สุตฺวา อมตํ สจฺฉากาสิ’’นฺติ อาห. ‘‘อมฺม อุตฺตเร, ตํ ธมฺมํ อมฺหากมฺปิ กเถหี’’ติ. ‘‘เตน หิ มํ นฺหาเปตฺวา สุทฺธํ วตฺถยุคํ ทตฺวา อุจฺเจ อาสเน นิสีทาเปตฺวา สพฺพา นีจาสเนสุ นิสีทถา’’ติ อาห. ตา สพฺพาปิ ตถา กรึสุ. สา เสขปฏิสมฺภิทปฺปตฺตา อริยสาวิกา เอกํ วตฺถํ นิวาเสตฺวา เอกํ อุตฺตราสงฺคํ กตฺวา พีชนึ คเหตฺวา ตาสํ ธมฺมํ เทเสสิ. สามาวตี จ ปฺจสตา จ อิตฺถิโย โสตาปตฺติผลํ ปาปุณึสุ. ตา สพฺพาปิ ขุชฺชุตฺตรํ วนฺทิตฺวา ‘‘อมฺม, อชฺชโต ปฏฺาย เวยฺยาวจฺจํ อกตฺวา อมฺหากํ มาตุฏฺาเน อาจริยฏฺาเน จ ตฺวา สตฺถารา เทสิตเทสิตํ ธมฺมํ สุตฺวา อมฺหากํ กเถหี’’ติ อาหํสุ. สา ตถา กโรนฺตี อปรภาเค ติปิฏกธรา หุตฺวา สตฺถารา พหุสฺสุตานํ อุปาสิกานํ อคฺคฏฺาเน ปิตา อคฺคฏฺานํ ลภิ. สามาวติมิสฺสิกา พุทฺธสฺส ทสฺสนํ ปิเหนฺติ, ทสพเล อนฺตรวีถึ ปฏิปนฺเน วาตปาเนสุ อปฺปโหนฺเตสุ ภิตฺตึ ภินฺทิตฺวา สตฺถารํ โอโลเกนฺติ, วนฺทนปูชนฺจ กโรนฺติ.

มาคณฺฑิยา ตตฺถ คตา ตานิ ฉิทฺทานิ ทิสฺวา ตตฺถ การณํ ปุจฺฉนฺตี สตฺถุ อาคตภาวํ ตฺวา ภควติ อาฆาเตน ตาสมฺปิ กุชฺฌิตฺวา ‘‘มหาราช, สามาวติมิสฺสิกานํ พหิทฺธา ปตฺถนา อตฺถิ, ภิตฺตึ ภินฺทิตฺวา สมณํ โคตมํ โอโลเกนฺติ, กติปาเหน ตํ มาเรสฺสนฺตี’’ติ ราชานํ อาห. ราชา ฉิทฺทานิ ทิสฺวาปิ ตสฺสา วจนํ น สทฺทหิ, อุทฺธจฺฉิทฺทกวาตปานานิ การาเปสิ. ปุน มาคณฺฑิยา ราชานํ ตาสุ ภินฺทิตุกามา อฏฺ สชีวกุกฺกุเฏ อาหราเปตฺวา ‘‘มหาราช, ตาสํ วีมํสนตฺถํ อิเม กุกฺกุเฏ มาเรตฺวา ‘มมตฺถาย ปจาหี’ติ เปเสหี’’ติ อาห. ราชา ตถา เปเสสิ. ตาย ‘‘ปาณาติปาตํ น กโรมา’’ติ วุตฺเต ปุน ‘‘ตสฺส สมณสฺส โคตมสฺส ปจิตฺวา เปเสหี’’ติ อาห. รฺา ตถา เปสิเต มาคณฺฑิยา อฏฺ มาริตกุกฺกุเฏ ตถา วตฺวา เปเสสิ. สามาวตี ปจิตฺวา ทสพลสฺส ปาเหสิ. มาคณฺฑิยา เตนปิ ราชานํ โกเปตุํ นาสกฺขิ.

ราชา ปน ตีสุ มเหสีสุ เอเกกิสฺสา วสนฏฺาเน สตฺต สตฺต ทิวสานิ วสติ. ราชา อตฺตโน คมนฏฺานํ หตฺถิกนฺตวีณํ อาทาย คจฺฉติ. มาคณฺฑิยา รฺโ สามาวติยา ปาสาทคมนกาเล ทาา อคเทน โธวาเปตฺวา เวฬุปพฺเพ ปกฺขิปาเปตฺวา เอกํ กณฺหสปฺปโปตกํ อาหราเปตฺวา อนฺโตวีณาย ปกฺขิปิตฺวา มาลาคุฬเกน ฉิทฺทํ ปิทหิ. ตํ รฺโ ตตฺถ คตกาเล อปราปรํ วิจรนฺตี วิย หุตฺวา วีณาฉิทฺทโต มาลาคุฬกํ อปเนสิ. สปฺโป นิกฺขมิตฺวา ปสฺสสนฺโต ผณํ กตฺวา สยนปิฏฺเ นิปชฺชิ. สา อาห – ‘‘ธี สปฺโป’’ติ มหาสทฺทมกาสิ. ราชา สปฺปํ ทิสฺวา กุชฺฌิ. สามาวตี รฺโ กุทฺธภาวํ ตฺวา ปฺจนฺนํ อิตฺถิสตานํ สฺมทาสิ ‘‘อชฺช โอธิสกเมตฺตาผรเณน ราชานํ ผรถา’’ติ. สยมฺปิ ตถา อกาสิ. ราชา สหสฺสถามธนุํ อาทาย ชิยํ โปเตฺวา สามาวตึ ธุเร กตฺวา สพฺพา ตา อิตฺถิโย ปฏิปาฏิยา ปาเปตฺวา วิสปีตํ ขุรปฺปํ สนฺนยฺหิตฺวา ธนุํ ปูเรตฺวา อฏฺาสิ. ขุรปฺปํ เนว ขิปิตุํ, น โอโรปิตุํ สกฺโกติ, คตฺเตหิ เสทา มุจฺจนฺติ, สรีรํ เวธติ, มุขโต เขโฬ ปตติ, คณฺหิตพฺพคหณํ น ปสฺสติ, อถ นํ สามาวตี ‘‘กึ, มหาราช, กิลมสี’’ติ อาห. ‘‘อาม, เทวิ, กิลมามิ, อวสฺสโย เม โหหี’’ติ. ‘‘สาธุ, มหาราช, ขุรปฺปํ ปถวีมุขํ กโรหี’’ติ. ราชา ตถา อกาสิ. สา ‘‘รฺโ หตฺถโต ขุรปฺปํ มุจฺจตู’’ติ อธิฏฺาสิ. ตสฺมึ ขเณ ขุรปฺปํ มุจฺจิ. ราชา ตํขณฺเว อุทเก นิมุชฺชิตฺวา อลฺลวตฺโถ อลฺลเกโส สามาวติยา ปาเทสุ นิปติตฺวา ‘‘ขม, เทวิ, มยฺหํ –

‘สมฺมุยฺหามิ ปมุยฺหามิ, สพฺพา มุยฺหนฺติ เม ทิสา;

สามาวตี มํ ตายสฺสุ, ตฺวฺจ เม สรณํ ภวา’’’ติ. – อาห;

สามาวตี –

‘‘มา มํ ตฺวํ สรณํ คจฺฉ, ยมหํ สรณํ คตา;

สรณํ คจฺฉ ตํ พุทฺธํ, ตฺวฺจ เม สรณํ ภวา’’ติ. –

อาห. ราชา ‘‘เตน หิ ตํ สรณํ คจฺฉามิ สตฺถารฺจ, วรฺจ เต ทมฺมี’’ติ อาห. สา ‘‘วโร คหิโต โหตุ, มหาราชา’’ติ อาห. ราชา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา สรณํ คนฺตฺวา นิมนฺเตตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส สตฺตาหํ มหาทานํ ทตฺวา ‘‘สามาวตึ วรํ คณฺหาหี’’ติ อาห. ‘‘สาธุ, มหาราช, อิมํ เม วรํ เทหิ, สตฺถา ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ อิธาคจฺฉตุ, ธมฺมํ โสสฺสามี’’ติ อาห. ราชา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ นิพทฺธํ อิธาคจฺฉถ, สามาวติมิสฺสิกา ‘ธมฺมํ โสสฺสามา’ติ วทนฺตี’’ติ อาห. สตฺถา ‘‘มหาราช, พุทฺธานํ นาม เอกฏฺานํ นิพทฺธํ คนฺตุํ น วฏฺฏติ, มหาชโนปิ ปจฺจาสีสตี’’ติ อาห. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต, ภิกฺขู อาณาเปถา’’ติ. สตฺถา อานนฺทตฺเถรํ อาณาเปสิ. เถโร ปฺจ ภิกฺขุสตานิ อาทาย นิพทฺธํ ราชกุลํ คจฺฉติ. ตาปิ เทวีปมุขา อิตฺถิโย เถรํ โภเชตฺวา ธมฺมํ สุณึสุ. สามาวติฺจ สตฺถา เมตฺตาวิหารีนํ อุปาสิกานํ อคฺคฏฺาเน เปสีติ. เอวํ รฺโ ขุรปฺปํ มุฺจิตุํ อวิสหนภาโว สามาวติยา อุปาสิกาย สมาธิวิปฺผารา อิทฺธีติ. เอตฺถ จ อเวจฺจปฺปสาเทน วา โอกปฺปนปสาเทน วา รตนตฺตยสรณคมเนน วา รตนตฺตยํ อุปาสตีติ อุปาสิกาติ วุจฺจตีติ.

๑๗. อริยิทฺธินิทฺเทเส อริยา อิทฺธีติ เจโตวสิปฺปตฺตานํ ขีณาสวอริยานํเยว สมฺภวโต อริยา อิทฺธีติ วุจฺจตีติ. อิธ ภิกฺขูติ อิมสฺมึ สาสเน ขีณาสโว ภิกฺขุ. อนิฏฺเ วตฺถุสฺมินฺติ อารมฺมณปกติยา อมนาเป วตฺถุสฺมึ สตฺเต วา สงฺขาเร วา. เมตฺตาย วา ผรตีติ สตฺโต เจ โหติ, เมตฺตาภาวนาย ผรติ. ธาตุโต วา อุปสํหรตีติ สงฺขาโร เจ โหติ, ‘‘ธาตุมตฺต’’นฺติ ธาตุมนสิการํ อุปสํหรติ. สตฺเตปิ ธาตูปสํหาโร วฏฺฏติ. อสุภาย วา ผรตีติ สตฺโต เจ, อสุภภาวนาย ผรติ. อนิจฺจโต วา อุปสํหรตีติ สงฺขาโร เจ, ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ มนสิการํ อุปสํหรติ. ตทุภยนฺติ ตํ อุภยํ. อุเปกฺขโกติ ฉฬงฺคุเปกฺขาย อุเปกฺขโก. สโตติ สติเวปุลฺลปฺปตฺตตฺตา. สมฺปชาโนติ ปฺาย สมฺปชานการิตฺตา. จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ การณวเสน จกฺขูติ ลทฺธโวหาเรน รูปทสฺสนสมตฺเถน จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ทิสฺวา. โปราณา ปนาหุ – ‘‘จกฺขุ รูปํ น ปสฺสติ อจิตฺตกตฺตา, จิตฺตํ น ปสฺสติ อจกฺขุกตฺตา, ทฺวารารมฺมณสงฺฆฏฺฏเน ปน ปสาทวตฺถุเกน จิตฺเตน ปสฺสติ. อีทิสี ปเนสา ‘ธนุนา วิชฺฌตี’ติอาทีสุ วิย สสมฺภารกถา นาม โหติ. ตสฺมา จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ทิสฺวาติ อยเมตฺถ อตฺโถ’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๓๕๒). อถ วา จกฺขุนา กรณภูเตน รูปํ ทิสฺวาติ อตฺโถ. เนว สุมโน โหตีติ เคหสิตโสมนสฺสปฏิกฺเขโป, น กิริยภูตาย โสมนสฺสเวทนาย. น ทุมฺมโนติ สพฺพโทมนสฺสปฏิกฺเขโป. อุเปกฺขโก วิหรตีติ อิฏฺานิฏฺารมฺมณาปาเถ ปริสุทฺธปกติภาวาวิชหนาการภูตาย ฉสุ ทฺวาเรสุ ปวตฺตนโต ‘‘ฉฬงฺคุเปกฺขา’’ติ ลทฺธนามาย ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย อุเปกฺขโก วิหรติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวาติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

๑๘. กมฺมวิปากชิทฺธินิทฺเทเส สพฺเพสํ ปกฺขีนนฺติ สพฺเพสํ ปกฺขิชาตานํ ฌานาภิฺา วินาเยว อากาเสน คมนํ. ตถา สพฺเพสํ เทวานํ อากาสคมนํ ทสฺสนาทีนิ จ. เอกจฺจานํ มนุสฺสานนฺติ ปมกปฺปิกานํ มนุสฺสานํ. เอกจฺจานํ วินิปาติกานนฺติ ปิยงฺกรมาตา ปุนพฺพสุมาตา ผุสฺสมิตฺตา ธมฺมคุตฺตาติเอวมาทีนํ สุขสมุสฺสยโต วินิปติตตฺตา วินิปาติกานํ อฺเสฺจ เปตานํ นาคสุปณฺณานฺจ อากาสคมนาทิกํ กมฺมวิปากชา อิทฺธิ.

ปุฺวโต อิทฺธินิทฺเทเส ราชาติ ธมฺเมน ปเรสํ รฺชนโต ราชา. รตนจกฺกํ วตฺเตตีติ จกฺกวตฺตี. เวหาสํ คจฺฉตีติ อจฺจนฺตสํโยคตฺเถ อุปโยควจนํ. จตุรงฺคินิยาติ หตฺถิอสฺสรถปตฺติสงฺขาตจตุองฺควติยา. เสนาติ เตสํ สมูหมตฺตเมว. อนฺตมโสติ เหฏฺิมนฺตโต. อสฺสพนฺธา นาม อสฺสานํ รกฺขกา. โคปุริสา นาม คุนฺนํ รกฺขกา. อุปาทายาติ อวิสฺสชฺเชตฺวา. เอวํ เตสํ เวหาสคมนฺจ ปุฺวโต อิทฺธีติ อตฺโถ.

โชติกสฺส คหปติสฺส ปุฺวโต อิทฺธีติ โชติโก นาม ปุพฺเพ ปจฺเจกพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ราชคหนคเร เสฏฺิ. ตสฺส กิร ชาตทิวเส สกลนคเร สพฺพาวุธานิ ชลึสุ, สพฺเพสํ กายารุฬฺหานิ อาภรณานิปิ ปชฺชลิตานิ วิย โอภาสํ มุฺจึสุ, นครํ เอกปชฺโชตํ อโหสิ. อถสฺส นามคฺคหณทิวเส สกลนครสฺส เอกโชติภูตตฺตา โชติโกติ นามํ กรึสุ. อถสฺส วยปฺปตฺตกาเล เคหกรณตฺถาย ภูมิตเล โสธิยมาเน สกฺโก เทวราชา อาคนฺตฺวา โสฬสกรีสมตฺเต าเน ปถวึ ภินฺทิตฺวา สตฺตรตนมยํ สตฺตภูมิกํ ปาสาทํ อุฏฺาเปสิ, ปาสาทํ ปริกฺขิปิตฺวา สตฺตรตนมเย สตฺตทฺวารโกฏฺกยุตฺเต สตฺตปากาเร อุฏฺาเปสิ, ปาการปริยนฺเต จตุสฏฺิ กปฺปรุกฺเข อุฏฺาเปสิ, ปาสาทสฺส จตูสุ กณฺเณสุ โยชนิกติคาวุติกทฺวิคาวุติกเอกคาวุติกา จตสฺโส นิธิกุมฺภิโย อุฏฺาเปสิ. ปาสาทสฺส จตูสุ กณฺเณสุ ตรุณตาลกฺขนฺธปฺปมาณา จตสฺโส สุวณฺณมยา อุจฺฉุยฏฺิโย นิพฺพตฺตึสุ. ตาสํ มณิมยานิ ปตฺตานิ สุวณฺณมยานิ ปพฺพานิ อเหสุํ. สตฺตสุ ทฺวารโกฏฺเกสุ เอเกกสฺมึ เอกทฺวิติจตุปฺจฉสตฺตยกฺขสหสฺสปริวารา สตฺต ยกฺขา อารกฺขํ คณฺหึสุ.

พิมฺพิสารมหาราชา ปาสาทาทีนํ อุฏฺานํ สุตฺวา เสฏฺิฉตฺตํ ปหิณิ. โส โชติกเสฏฺีติ สกลชมฺพุทีเป ปากโฏ หุตฺวา อุตฺตรกุรุโต เทวตาหิ อาเนตฺวา สิริคพฺเภ นิสีทาปิตาย เอกฺจ ตณฺฑุลนาฬึ ตโย จ โชติปาสาเณ คเหตฺวา อาคตาย ภริยาย สทฺธึ ตสฺมึ ปาสาเท มหาสมฺปตฺตึ อนุภวนฺโต วสิ. เตสํ ยาวชีวํ ตาย เอกตณฺฑุลนาฬิยา ภตฺตํ ปโหสิ. สเจ กิร เต สกฏสตมฺปิ ตณฺฑุลานํ ปูเรตุกามา โหนฺติ, สา ตณฺฑุลนาฬิเยว หุตฺวา ติฏฺติ. ภตฺตปจนกาเล ตณฺฑุเล อุกฺขลิยํ ปกฺขิปิตฺวา เตสํ ปาสาณานํ อุปริ เปนฺติ. ปาสาณา ตาวเทว ปชฺชลิตฺวา ภตฺเต ปกฺกมตฺเต นิพฺพายนฺติ. เตเนว สฺาเณน ภตฺตสฺส ปกฺกภาวํ ชานนฺติ. สูเปยฺยาทิปจนกาเลปิ เอเสว นโย. เอวํ เตสํ โชติปาสาเณหิ อาหาโร ปจฺจติ, มณิอาโลเกน วสนฺติ. อคฺคิสฺส วา ทีปสฺส วา โอภาสเมว น ชานึสุ. โชติกสฺส กิร เอวรูปา สมฺปตฺตีติ สกลชมฺพุทีเป ปากโฏ อโหสิ. มหาชโน ยานาทีหิ ทสฺสนตฺถาย อาคจฺฉติ. โชติกเสฏฺิ อาคตาคตานํ อุตฺตรกุรุตณฺฑุลานํ ภตฺตํ ทาเปติ, ‘‘กปฺปรุกฺเขหิ วตฺถาภรณานิ คณฺหนฺตู’’ติ อาณาเปติ, ‘‘คาวุติกนิธิกุมฺภิยา มุขํ วิวราเปตฺวา ยาปนมตฺตํ คณฺหนฺตู’’ติ อาณาเปติ. สกลชมฺพุทีปวาสิเกสุ ธนํ คเหตฺวา คจฺฉนฺเตสุ นิธิกุมฺภิยา องฺคุลมตฺตมฺปิ อูนํ นาโหสีติ อยมสฺส ปุฺวโต อิทฺธิ.

ชฏิลสฺส คหปติสฺส ปุฺวโต อิทฺธีติ ชฏิโล นาม กสฺสปสฺส ภควโต ธาตุเจติเย กตาธิกาโร ตกฺกสิลายํ เสฏฺิ. ตสฺส กิร มาตา พาราณสิยํ เสฏฺิธีตา อภิรูปา อโหสิ. ตํ ปนฺนรสโสฬสวสฺสุทฺเทสิกกาเล อารกฺขนตฺถาย สตฺตภูมิกสฺส ปาสาทสฺส อุปริตเล วาสยึสุ. ตํ เอกทิวสํ วาตปานํ วิวริตฺวา พหิ โอโลกิยมานํ อากาเสน คจฺฉนฺโต วิชฺชาธโร ทิสฺวา อุปฺปนฺนสิเนโห วาตปาเนน ปวิสิตฺวา ตาย สทฺธึ สนฺถวมกาสิ. สา เตน คพฺภํ คณฺหิ. อถ นํ ทาสี ทิสฺวา ‘‘อมฺม, กึ อิท’’นฺติ วตฺวา ‘‘โหตุ, กสฺสจิ มา อาจิกฺขี’’ติ วุตฺตา ภเยน ตุณฺหี อโหสิ. สาปิ ทสเม มาเส ปุตฺตํ วิชายิตฺวา นวภาชนํ อาหราเปตฺวา ตตฺถ ตํ ทารกํ นิปชฺชาเปตฺวา ตํ ภาชนํ ปิทหิตฺวา อุปริ ปุปฺผทามานิ เปตฺวา ‘‘อิมํ สีเสน อุกฺขิปิตฺวา คนฺตฺวา คงฺคาย วิสฺสชฺเชหิ, ‘กึ อิท’นฺติ จ ปุฏฺา ‘อยฺยาย เม พลิกมฺม’นฺติ วเทยฺยาสี’’ติ ทาสึ อาณาเปสิ. สา ตถา อกาสิ. เหฏฺาคงฺคายปิ ทฺเว อิตฺถิโย นฺหายมานา ตํ ภาชนํ อุทเกน อาหริยมานํ ทิสฺวา เอกา ‘‘มยฺเหตํ ภาชน’’นฺติ อาห. เอกา ‘‘ยํ เอตสฺส อนฺโต, ตํ มยฺห’’นฺติ วตฺวา ภาชเน สมฺปตฺเต ตํ อาทาย ถเล เปตฺวา วิวริตฺวา ทารกํ ทิสฺวา เอกา ‘‘มม ภาชน’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘ทารโก มเมว โหตี’’ติ อาห. เอกา ‘‘ยํ ภาชนสฺส อนฺโต, ตํ มมา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘มม ทารโก’’ติ อาห. ตา วิวทมานา วินิจฺฉยํ คนฺตฺวา อมจฺเจสุ วินิจฺฉิตุํ อสกฺโกนฺเตสุ รฺโ สนฺติกํ อคมํสุ. ราชา ตาสํ วจนํ สุตฺวา ‘‘ตฺวํ ทารกํ คณฺห, ตฺวํ ภาชน’’นฺติ อาห. ยาย ปน ทารโก ลทฺโธ, สา มหากจฺจายนตฺเถรสฺส อุปฏฺายิกา โหติ. สา ตํ ทารกํ ‘‘เถรสฺส สนฺติเก ปพฺพาเชสฺสามี’’ติ โปเสสิ. ตสฺส ชาตทิวเส คพฺภมลสฺส โธวิตฺวา อนปนีตตฺตา เกสา ชฏิตา หุตฺวา อฏฺํสุ. เตนสฺส ชฏิโลเตว นามํ อกํสุ.

ตสฺส ปทสา วิจรณกาเล เถโร ตํ เคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อุปาสิกา เถรํ นิสีทาเปตฺวา อาหารมทาสิ. เถโร ทารกํ ทิสฺวา ‘‘อุปาสิเก, ทารโก เต ลทฺโธ’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อาม, ภนฺเต, อิมาหํ ตุมฺหากํ สนฺติเก ปพฺพาเชสฺสนฺติ โปเสสิ’’นฺติ อาห. เถโร ‘‘สาธู’’ติ ตํ อาทาย คจฺฉนฺโต ‘‘อตฺถิ นุ โข อิมสฺส คิหิสมฺปตฺตึ อนุภวิตุํ ปุฺกมฺม’’นฺติ โอโลเกนฺโต ‘‘มหาปุฺโ สตฺโต มหาสมฺปตฺตึ อนุภวิสฺสติ, ทหโร เอว จ ตาว, าณมฺปิ ตาวสฺส ปริปากํ น คจฺฉตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตํ อาทาย ตกฺกสิลายํ เอกสฺส อุปฏฺากสฺส เคหํ อคมาสิ. โส เถรํ วนฺทิตฺวา ิโต ทารกํ ทิสฺวา ‘‘ทารโก, ภนฺเต, ลทฺโธ’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อาม, อุปาสก, ปพฺพชิสฺสติ, ทหโร ตาว ตว สนฺติเก โหตู’’ติ. โส ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ ตํ ปุตฺตฏฺาเน เปตฺวา ปฏิชคฺคิ. ตสฺส ปน เคเห ทฺวาทส วสฺสานิ ภณฺฑกํ อุสฺสนฺนํ โหติ. โส คามนฺตรํ คจฺฉนฺโต สพฺพมฺปิ ตํ ภณฺฑกํ อาปณํ อาหริตฺวา ตสฺส ตสฺส ภณฺฑกสฺส มูลํ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘อิทฺจิทฺจ เอตฺตกํ นาม ธนํ คเหตฺวา ทเทยฺยาสี’’ติ วตฺวา ปกฺกามิ.

ตํ ทิวสํ นครปริคฺคาหิกา เทวตา อนฺตมโส ชีรกมริจมตฺตเกนาปิ อตฺถิเก ตสฺเสว อาปณาภิมุเข กรึสุ. โส ทฺวาทส วสฺสานิ อุสฺสนฺนภณฺฑกํ เอกทิวเสเนว วิกฺกิณิ. กุฏุมฺพิโก อาคนฺตฺวา อาปเณ กิฺจิ อทิสฺวา ‘‘สพฺพํ เต, ตาต, ภณฺฑกํ นาสิต’’นฺติ อาห. ‘‘น นาสิตํ, ตาต, สพฺพํ ตุมฺเหหิ วุตฺตนเยน วิกฺกิณิตํ, อิทํ อสุกสฺส มูลํ, อิทํ อสุกสฺส มูล’’นฺติ สพฺพมูลํ ตสฺเสว อปฺเปสิ. กุฏุมฺพิโก ปสีทิตฺวา ‘‘อนคฺโฆ ปุริโส ยตฺถ กตฺถจิ ชีวิตุํ สมตฺโถ’’ติ อตฺตโน วยปฺปตฺตํ ธีตรํ ตสฺส ทตฺวา ‘‘เคหมสฺส กโรถา’’ติ ปุริเส อาณาเปตฺวา นิฏฺิเต เคเห ‘‘คจฺฉถ ตุมฺเห, อตฺตโน เคเห วสถา’’ติ อาห. อถสฺส เคหปวิสนกาเล เอเกน ปาเทน อุมฺมาเร อกฺกนฺตมตฺเต เคหสฺส ปจฺฉิมภาเค ภูมิฏฺาเน อสีติหตฺโถ สุวณฺณปพฺพโต อุฏฺหิ. ราชา กิร ชฏิลสฺส เคเห ภูมึ ภินฺทิตฺวา สุวณฺณปพฺพโต อุฏฺิโตติ สุตฺวา ตสฺส เสฏฺิฉตฺตํ เปเสสิ. โส ชฏิลเสฏฺิ นาม อโหสีติ อยมสฺส ปุฺวโต อิทฺธิ.

เมณฺฑกสฺส เสฏฺิสฺส ปุฺวโต อิทฺธีติ (มหาว. ๒๙๖) เมณฺฑโก นาม วิปสฺสิมฺหิ ภควติ กตาธิกาโร มคธรฏฺเ ภทฺทิยนคเร เสฏฺิ. ตสฺส กิร ปจฺฉิมเคเห อฏฺกรีสมตฺเต าเน หตฺถิอสฺสอุสภปฺปมาณา สุวณฺณเมณฺฑกา ปถวึ ภินฺทิตฺวา ปิฏฺิยา ปิฏฺึ ปหรมานา อุฏฺหึสุ, เตสํ มุเขสุ ปฺจวณฺณานํ สุตฺตานํ เคณฺฑุกา ปกฺขิตฺตา โหนฺติ. สปฺปิเตลมธุผาณิตาทีหิ จ วตฺถจฺฉาทนหิรฺสุวณฺณาทีหิ จ อตฺเถ สติ เตสํ มุขโต เคณฺฑุกํ อปเนนฺติ. เอกสฺสปิ เมณฺฑกสฺส มุขโต สกลชมฺพุทีปวาสีนํ ปโหนกํ สปฺปิเตลมธุผาณิตวตฺถจฺฉาทนหิรฺสุวณฺณํ นิกฺขมติ. ตโต ปฏฺาเยส เมณฺฑกเสฏฺีติ ปฺายีติ อยมสฺส ปุฺวโต อิทฺธิ.

โฆสิตสฺส คหปติสฺส ปุฺวโต อิทฺธีติ โฆสิโต (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๖๐-๒๖๑) นาม ปจฺเจกสมฺพุทฺเธ กตาธิกาโร สกฺกรฏฺเ โกสมฺพิยํ เสฏฺิ. โส กิร เทวโลกโต จวิตฺวา โกสมฺพิยํ นครโสภินิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺติ. สา ตํ วิชาตทิวเส สุปฺเป สยาเปตฺวา สงฺการกูเฏ ฉฑฺฑาเปสิ. ทารกํ กากสุนขา ปริวาเรตฺวา นิสีทึสุ. เอโก ปุริโส ตํ ทิสฺวาว ปุตฺตสฺํ ปฏิลภิตฺวา ‘‘ปุตฺโต เม ลทฺโธ’’ติ เคหํ เนสิ. ตทา โกสมฺพิกเสฏฺิ ปุโรหิตํ ทิสฺวา ‘‘กึ, อาจริย, อชฺช เต ติถิกรณนกฺขตฺตาทโย โอโลกิตา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, มหาเสฏฺี’’ติ วุตฺเต ‘‘ชนปทสฺส กึ ภวิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อิมสฺมึ นคเร อชฺช ชาตทารโก เชฏฺเสฏฺิ ภวิสฺสตี’’ติ อาห. ตทา เสฏฺิโน ภริยา ครุคพฺภา โหติ, ตสฺมา โส สีฆํ เคหํ เปเสสิ ‘‘คจฺฉ, ชานาหิ นํ วิชาตา วา, น วา’’ติ. ‘‘น วิชาตา’’ติ สุตฺวา เคหํ คนฺตฺวา กาฬึ นาม ทาสึ ปกฺโกสิตฺวา สหสฺสํ ทตฺวา ‘‘คจฺฉ, อิมสฺมึ นคเร อุปธาเรตฺวา อชฺช ชาตทารกํ คณฺหิตฺวา เอหี’’ติ อาห. สา อุปธาเรนฺตี ตํ เคหํ คนฺตฺวา ตํ ทารกํ ตํ ทิวสํ ชาตํ ตฺวา สหสฺสํ ทตฺวา อาเนตฺวา เสฏฺิโน ทสฺเสสิ. เสฏฺิ ‘‘สเจ เม ธีตา ชายิสฺสติ, ตาย นํ สทฺธึ นิวาเสตฺวา เสฏฺิฏฺานสฺส สามิกํ กริสฺสามิ. สเจ ปุตฺโต ชายิสฺสติ, ฆาเตสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ตํ เคเห วฑฺฒาเปสิ.

อถสฺส ภริยา กติปาหจฺจเยน ปุตฺตํ วิชายิ. เสฏฺิ ‘‘อิมสฺมึ อสติ มม ปุตฺโต เสฏฺิฏฺานํ ลภิสฺสติ. อิทาเนว นํ มาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ กาฬึ อามนฺเตตฺวา ‘‘คจฺฉ เช, วชโต คุนฺนํ นิกฺขมนเวลาย วชทฺวารมชฺเฌ อิมํ ติริยํ นิปชฺชาเปหิ, คาวิโย นํ มทฺทิตฺวา มาเรสฺสนฺติ, มทฺทิตามทฺทิตภาวํ ปนสฺส ตฺวา เอหี’’ติ อาห. สา คนฺตฺวา โคปาลเกน วชทฺวาเร วิวฏมตฺเตเยว ตํ ตถา นิปชฺชาเปสิ. โคคณเชฏฺโก อุสโภ อฺสฺมึ กาเล สพฺพปจฺฉา นิกฺขมนฺโตปิ ตํทิวสํ สพฺพปมํ นิกฺขมิตฺวา ทารกํ จตุนฺนํ ปาทานํ อนฺตเร กตฺวา อฏฺาสิ. อเนกสตา คาโว อุสภสฺส ทฺเว ปสฺสานิ ฆํสนฺติโย นิกฺขมึสุ. โคปาลโกปิ ‘‘อยํ อุสโภ ปุพฺเพ สพฺพปจฺฉา นิกฺขมติ, อชฺช ปน ปมํ นิกฺขมิตฺวา ทฺวารมชฺเฌ นิจฺจโลว ิโต, กึ นุ โข เอต’’นฺติ จินฺเตตฺวา คนฺตฺวา ตสฺส เหฏฺา นิปนฺนํ ทารกํ ทิสฺวา ปุตฺตสิเนหํ ปฏิลภิตฺวา ‘‘ปุตฺโต เม ลทฺโธ’’ติ เคหํ เนสิ.

กาฬี คนฺตฺวา เสฏฺินา ปุจฺฉิตา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘คจฺฉ, นํ ปุน อิมํ สหสฺสํ ทตฺวา อาเนหี’’ติ วุตฺตา ปุน อาเนตฺวา อทาสิ. อถ นํ เสฏฺิ อาห – ‘‘อมฺม กาฬิ, อิมสฺมึ นคเร ปฺจสกฏสตานิ ปจฺจูสกาเล อุฏฺาย วาณิชฺชาย คจฺฉนฺติ, ตฺวํ อิมํ เนตฺวา จกฺกมคฺเค นิปชฺชาเปหิ, โคณา วา นํ มทฺทิสฺสนฺติ, จกฺกํ วา ฉินฺทิสฺสติ, ปวตฺติฺจสฺส ตฺวา อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ. สา คนฺตฺวา จกฺกมคฺเค นิปชฺชาเปสิ. สากฏิกเชฏฺโก ปุรโต อโหสิ. อถสฺส โคณา ตํ านํ ปตฺวา ธุรํ ฉฑฺเฑสุํ, ปุนปฺปุนํ อาโรเปตฺวา ปาชิยมานาปิ ปุรโต น คจฺฉึสุ. เอวํ ตสฺส เตหิ สทฺธึ วายมนฺตสฺเสว อรุณํ อุฏฺหิ. โส ‘‘กึ นาม โคณา กรึสู’’ติ มคฺคํ โอโลเกนฺโต ทารกํ ทิสฺวา ‘‘ภาริยํ วต กมฺม’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘ปุตฺโต เม ลทฺโธ’’ติ ตุฏฺมานโส ตํ เคหํ เนสิ.

กาฬีปิ คนฺตฺวา เสฏฺินา ปุจฺฉิตา ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘คจฺฉ, นํ ปุน สหสฺสํ ทตฺวา อาเนหี’’ติ วุตฺตา ตถา อกาสิ. อถ นํ เสฏฺิ อาห – ‘‘อิทานิ นํ อามกสุสานํ เนตฺวา คจฺฉนฺตเร นิปชฺชาเปหิ, ตตฺถ สุนขาทีหิ ขาทิโต, อมนุสฺเสน วา ปหโฏ มริสฺสติ, มตามตภาวฺจสฺส ชานิตฺวา อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ. สา ตํ เนตฺวา ตตฺถ นิปชฺชาเปตฺวา เอกมนฺเต อฏฺาสิ. ตํ สุนขาทโย วา อมนุสฺโส วา อุปสงฺกมิตุํ นาสกฺขึสุ. อเถโก อชปาโล อชา โคจรํ เนนฺโต สุสานปสฺเสน คจฺฉติ. เอกา อชา ปณฺณานิ ขาทมานา คจฺฉนฺตรํ ปวิสิตฺวา ทารกํ ทิสฺวา ชณฺณุเกหิ ตฺวา ทารกสฺส ถนํ อทาสิ. อชปาลเกน ‘‘เห เห’’ติ สทฺเท กเตปิ น นิกฺขมิ. โส ‘‘ยฏฺิยา นํ ปหริตฺวา นีหริสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺตรํ ปวิฏฺโ ชณฺณุเกหิ ตฺวา ทารกํ ขีรํ ปายนฺตึ ทิสฺวา ทารเก ปุตฺตสิเนหํ ปฏิลภิตฺวา ‘‘ปุตฺโต เม ลทฺโธ’’ติ อาทาย ปกฺกามิ.

กาฬี คนฺตฺวา เสฏฺินา ปุจฺฉิตา ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘คจฺฉ, นํ ปุน สหสฺสํ ทตฺวา อาเนหี’’ติ วุตฺตา ตถา อกาสิ. อย นํ เสฏฺิ อาห – ‘‘อมฺม, อิมํ อาทาย โจรปปาตปพฺพตํ อภิรุหิตฺวา ปปาเต ขิป, ปพฺพตกุจฺฉิยํ ปฏิหฺมาโน ขณฺฑาขณฺฑิโก หุตฺวา ภูมิยํ ปติสฺสติ, มตามตภาวฺจสฺส ตฺวา อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ. สา ตํ ตถา เนตฺวา ปพฺพตมตฺถเก ตฺวา ขิปิ. ตํ โข ปน ปพฺพตกุจฺฉึ นิสฺสาย มหาเวฬุคุมฺโพ ปพฺพตานุสาเรเนว วฑฺฒิ, ตสฺส มตฺถกํ ฆนชาโต ชิฺชุกคุมฺโพ อวตฺถริ. ทารโก ปตนฺโต โกชเว วิย ตสฺมึ ปติ. ตํ ทิวสฺจ นฬการเชฏฺกสฺส เวณุพลิ ปตฺโต โหติ. โส ปุตฺเตน สทฺธึ คนฺตฺวา ตํ เวฬุคุมฺพํ ฉินฺทิตุํ อารภิ. ตสฺมึ จลิเต ทารโก สทฺทมกาสิ. โส ทารกสทฺโท วิยาติ เอเกน ปสฺเสน อภิรุหิตฺวา ตํ ทิสฺวา ‘‘ปุตฺโต เม ลทฺโธ’’ติ ตุฏฺจิตฺโต อาทาย คโต. กาฬี คนฺตฺวา เสฏฺินา ปุจฺฉิตา ตํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘คจฺฉ, นํ ปุน สหสฺสํ ทตฺวา อาเนหี’’ติ วุตฺตา ตถา อกาสิ.

เสฏฺิโน อิทฺจิทฺจ กโรนฺตสฺเสว ทารโก วฑฺฒิโต. มหาโฆสวจนตฺตา จสฺส โฆสิโตเตว นามํ อโหสิ. โส เสฏฺิโน อกฺขิมฺหิ กณฺฏโก วิย ขายิ, อุชุกํ โอโลเกตุมฺปิ น วิสหิ. อถสฺส มรณูปายํ จินฺเตนฺโต อตฺตโน กุมฺภการสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตสฺส ‘‘กทา อาวาปํ อาลิมฺเปสฺสสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สฺเว’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ อิทํ สหสฺสํ คณฺหิตฺวา มเมกํ กมฺมํ กโรหี’’ติ อาห. ‘‘กึ สามี’’ติ? ‘‘เอโก เม อวชาตปุตฺโต อตฺถิ, ตํ ตว สนฺติกํ เปสิสฺสามิ, อถ นํ คพฺภํ ปเวเสตฺวา ติณฺหาย วาสิยา ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺทิตฺวา จาฏิยํ ปกฺขิปิตฺวา อาวาเป ปเวเสยฺยาสีติ. อิทํ เต สหสฺสํ สจฺจการสทิสํ, อุตฺตรึ ปน เต กตฺตพฺพยุตฺตกํ ปจฺฉา กริสฺสามี’’ติ. กุมฺภกาโร ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ.

เสฏฺิ ปุนทิวเส โฆสิตํ ปกฺโกสิตฺวา ‘‘หิยฺโย มยา กุมฺภกาโร เอกํ กมฺมํ อาณตฺโต, เอหิ, ตฺวํ ตาต, ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา เอวํ วเทหิ ‘หิยฺโย กิร เม ปิตรา อาณตฺตํ กมฺมํ นิปฺผาเทหี’’’ติ ปหิณิ. โส ‘‘สาธู’’ติ อคมาสิ. ตํ ตตฺถ คจฺฉนฺตํ อิตโร เสฏฺิโน ปุตฺโต ทารเกหิ สทฺธึ คุฬกกีฬํ กีฬนฺโต ทิสฺวา ปกฺโกสิตฺวา ‘‘กุหึ คจฺฉสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ปิตุ สาสนํ คเหตฺวา ‘‘กุมฺภการสฺส สนฺติก’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อหํ ตตฺถ คมิสฺสามิ, อิเม มํ ทารกา พหุลกฺขํ ชินึสุ, ตํ เม ปฏิชินิตฺวา เทหี’’ติ อาห. ‘‘อหํ ปิตุ ภายามี’’ติ. ‘‘มา ภายิ, ภาติก, อหํ ตํ สาสนํ หริสฺสามี’’ติ. ‘‘พหูหิ ชิโต ยาวาหํ อาคจฺฉามิ, ตาว เม ลกฺขํ ปฏิชินาหี’’ติ. โฆสิโต กิร คุฬกกีฬายํ เฉโก, เตน นํ เอวํ นิพนฺธิ. โสปิ ตํ ‘‘เตน หิ คนฺตฺวา กุมฺภการํ วเทหิ ‘ปิตรา กิร เม หิยฺโย เอกํ กมฺมํ อาณตฺตํ, ตํ นิปฺผาเทหี’’’ติ อุยฺโยเชสิ. โส ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตถา อวจ. อถ นํ กุมฺภกาโร เสฏฺินา วุตฺตนิยาเมน มาเรตฺวา อาวาเป ขิปิ. โฆสิโตปิ ทิวสภาคํ กีฬิตฺวา สายนฺหสมเยว เคหํ คนฺตฺวา ‘‘กึ, ตาต, น คโตสี’’ติ วุตฺเต อตฺตโน อคตการณฺจ กนิฏฺสฺส คตการณฺจ อาโรเจสิ. เสฏฺิ ‘‘ธี ธี’’ติ มหาวิรวํ วิรวิตฺวา สกลสรีเร ปกฺกุถิตโลหิโต วิย หุตฺวา ‘‘อมฺโภ กุมฺภการ, มา นาสยิ, มา นาสยี’’ติ พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺโต ตสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. กุมฺภกาโร ตํ ตถา อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘สามิ, มา สทฺทํ กริ, กมฺมํ นิปฺผนฺน’’นฺติ อาห. โส ปพฺพเตน วิย มหนฺเตน โสเกน อวตฺถโฏ หุตฺวา อนปฺปกํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทสิ.

เอวํ สนฺเตปิ ปน เสฏฺิ ตํ อุชุกํ โอโลเกตุํ น สกฺโกติ. ‘‘กินฺติ นํ มาเรยฺย’’นฺติ จินฺเตนฺโต ‘‘มม คามสเต อายุตฺตกสฺส สนฺติกํ เปเสตฺวา มาราเปสฺสามี’’ติ อุปายํ ทิสฺวา ‘‘อยํ เม อวชาตปุตฺโต, อิมํ มาเรตฺวา วจฺจกูเป ขิปตุ, เอวฺจ กเต อหํ มาตุลสฺส กตฺตพฺพยุตฺตกํ ชานิสฺสามี’’ติ ตสฺส ปณฺณํ ลิขิตฺวา ‘‘ตาต โฆสิต, อมฺหากํ คามสเต อายุตฺตโก อตฺถิ, อิมํ ปณฺณํ หริตฺวา ตสฺส เทหี’’ติ วตฺวา ปณฺณํ ตสฺส ทุสฺสนฺเต พนฺธิ. โส ปน อกฺขรสมยํ น ชานาติ. ทหรกาลโต ปฏฺาย หิ ตํ มาราเปนฺโตว เสฏฺิ มาเรตุํ นาสกฺขิ, กึ อกฺขรสมยํ สิกฺขาเปสฺสติ. โส อตฺตโน มรณปณฺณเมว ทุสฺสนฺเต พนฺธิตฺวา นิกฺขมนฺโต อาห – ‘‘ปาเถยฺยํ เม, ตาต, นตฺถี’’ติ. ‘‘ปาเถยฺเยน กมฺมํ นตฺถิ, อนฺตรามคฺเค อสุกคาเม นาม มม สหายโก เสฏฺิ อตฺถิ, ตสฺส ฆเร ปาตราสํ กตฺวา ปุรโต คจฺฉา’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ ปิตรํ วนฺทิตฺวา นิกฺขนฺโต ตํ คามํ ปตฺวา เสฏฺิฆรํ ปุจฺฉิตฺวา คนฺตฺวา เสฏฺิชายํ ปสฺสิ. ‘‘กุโต อาคโตสี’’ติ จ วุตฺเต ‘‘อนฺโตนครโต’’ติ อาห. ‘‘กสฺส ปุตฺโตสี’’ติ? ‘‘ตุมฺหากํ สหายเสฏฺิโน, อมฺมา’’ติ. ‘‘ตฺวํสิ โฆสิโต นามา’’ติ? ‘‘อาม, อมฺมา’’ติ. ตสฺสา สห ทสฺสเนเนว ตสฺมึ ปุตฺตสิเนโห อุปฺปชฺชิ. เสฏฺิโน ปเนกา ธีตา อตฺถิ ปนฺนรสโสฬสวสฺสุทฺเทสิกา อภิรูปา ปาสาทิกา, ตํ รกฺขิตุํ เอกเมว เปสนการิกํ ทาสึ ทตฺวา สตฺตภูมิกสฺส ปาสาทสฺส อุปริมตเล สิริคพฺเภ วสาเปนฺติ. เสฏฺิธีตา ตสฺมึ ขเณ ตํ ทาสึ อนฺตราปณํ เปเสสิ. อถ นํ เสฏฺิชายา ทิสฺวา ‘‘กุหึ คจฺฉสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อยฺยธีตาย เปสเนนา’’ติ วุตฺเต ‘‘อิโต ตาว เอหิ, ติฏฺตุ เปสนํ, ปุตฺตสฺส เม ปีกํ อตฺถริตฺวา อุทกํ อาหริตฺวา ปาเท โธวิตฺวา เตลํ มกฺขิตฺวา สยนํ อตฺถริตฺวา เทหิ, ปจฺฉา เปสนํ กริสฺสสี’’ติ อาห. สา ตถา อกาสิ.

อถ นํ จิเรนาคตํ เสฏฺิธีตา สนฺตชฺเชสิ. อถ นํ สา อาห – ‘‘มา เม กุชฺฌิ, เสฏฺิปุตฺโต โฆสิโต อาคโต, ตสฺส อิทฺจิทฺจ กตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา อาคตามฺหี’’ติ. เสฏฺิธีตาย ‘‘เสฏฺิปุตฺโต โฆสิโต’’ติ นามํ สุตฺวาว ปุพฺพสนฺนิวาสวเสน เปมํ ฉวิอาทีนิ ฉินฺทิตฺวา อฏฺิมิฺชํ อาหจฺจ ิตํ. อถ นํ ปุจฺฉิ ‘‘กุหึ โส อมฺมา’’ติ? ‘‘สยเน นิปนฺโน นิทฺทายตี’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปนสฺส หตฺเถ กิฺจี’’ติ? ‘‘ทุสฺสนฺเต ปณฺณํ อตฺถี’’ติ. สา ‘‘กึ ปณฺณํ นุ โข เอต’’นฺติ ตสฺมึ นิทฺทายนฺเต มาตาปิตูนํ อฺวิหิตตาย อปสฺสนฺตานํ โอตริตฺวา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ ปณฺณํ โมเจตฺวา อาทาย อตฺตโน คพฺภํ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ปิธาย วาตปานํ วิวริตฺวา อกฺขรสมเย กุสลตาย ตํ ปณฺณํ วาเจตฺวา ‘‘อโห วต พาโล อตฺตโน มรณปณฺณํ ทุสฺสนฺเต พนฺธิตฺวา วิจรติ, สเจ มยา น ทิฏฺํ อสฺส, นตฺถิ ตสฺส ชีวิต’’นฺติ. ตํ ปณฺณํ ผาเลตฺวา นาเสตฺวา เสฏฺิสฺส วจเนน อปรํ ปณฺณํ ลิขิ – ‘‘อยํ มม ปุตฺโต โฆสิโต นาม, คามสตโต ปณฺณาการํ อาหราเปตฺวา อิมสฺส ชนปทเสฏฺิโน ธีตรา สทฺธึ มงฺคลํ กตฺวา อตฺตโน วสนคามสฺส มชฺเฌ ทฺวิภูมิกํ เคหํ กาเรตฺวา ปาการปริกฺเขเปน เจว ปุริสคุตฺตีหิ จ สุสํวิหิตารกฺขํ กโรตุ, มยฺหํ อิทฺจิทฺจ มยา กตนฺติ สาสนํ เปเสตุ. เอวํ กเต อหํ มาตุลสฺส กตฺตพฺพยุตฺตกํ ชานิสฺสามี’’ติ ลิขิตฺวา จ ปณฺณํ สงฺฆริตฺวา ทุสฺสนฺเตเยวสฺส พนฺธิ.

โส ทิวสภาคํ นิทฺทายิตฺวา อุฏฺาย ภุฺชิตฺวา ปกฺกามิ, ปุนทิวเส ปาโตว ตํ คามํ คนฺตฺวา อายุตฺตกํ คามกิจฺจํ กโรนฺตเมว ปสฺสิ. โส ตํ ทิสฺวา ‘‘กึ ตาตา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ปิตรา เม ตุมฺหากํ ปณฺณํ เปสิต’’นฺติ วุตฺเต ปณฺณํ คเหตฺวา วาเจตฺวา ตุฏฺมานโส ‘‘ปสฺสถ, โภ, มม สามิโน มยิ สิเนหํ กตฺวา เชฏฺปุตฺตสฺส มงฺคลํ กโรตู’’ติ มม สนฺติกํ ปหิณิ. ‘‘สีฆํ ทารุอาทีนิ อาหรถา’’ติ คหปติเก อาณาเปตฺวา คามมชฺเฌ วุตฺตปฺปการํ เคหํ การาเปตฺวา คามสตโต ปณฺณาการํ อาหราเปตฺวา ชนปทเสฏฺิโน ธีตรํ อาเนตฺวา มงฺคลํ กตฺวา เสฏฺิสฺส สาสนํ ปหิณิ ‘‘อิทฺจิทฺจ มยา กต’’นฺติ.

ตํ สุตฺวา เสฏฺิโน ‘‘ยํ กาเรมิ, ตํ น โหติ. ยํ น กาเรมิ, ตํ โหตี’’ติ มหนฺตํ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชิ. ปุตฺตโสเกน สทฺธึ โส โสโก เอกโต หุตฺวา กุจฺฉิทาหํ อุปฺปาเทตฺวา อติสารํ ชเนสิ. เสฏฺิธีตาปิ ‘‘สเจ โกจิ เสฏฺิโน สนฺติกา อาคจฺฉติ, มม อกเถตฺวา เสฏฺิปุตฺตสฺส ปมตรํ มา กเถถา’’ติ อาณาเปสิ. เสฏฺิปิ โข ‘‘น ทานิ ทุฏฺปุตฺตํ มม สาปเตยฺยสฺส สามิกํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เอกํ อายุตฺตกํ อาห – ‘‘มาตุล, ปุตฺตํ เม ทฏฺุกาโมมฺหิ, เอกํ ปาทมูลิกํ เปเสตฺวา เอกํ ปณฺณํ ลิขิตฺวา เปเสตฺวา มม ปุตฺตํ ปกฺโกสาเปหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ ปณฺณํ ทตฺวา เอกํ ปุริสํ เปเสสิ. เสฏฺิธีตา เสฏฺิสฺส พลวคิลานกาเล โฆสิตกุมารํ อาทาย อคมาสิ. เสฏฺิ กาลมกาสิ. ราชา ปิตริ กาลงฺกเต ปิตรา ภุตฺตโภคํ ทตฺวา สพฺพสเตน เสฏฺิฏฺานํ อทาสิ. โฆสิตเสฏฺิ นาม หุตฺวา มหาสมฺปตฺติยํ ิโต เสฏฺิธีตาย กาฬิยา วจเนน อาทิโต ปฏฺาย สตฺตสุ าเนสุ อตฺตโน มรณมุตฺตภาวํ ตฺวา เทวสิกํ สตสหสฺสํ วิสฺสชฺเชตฺวา ทานํ ปฏฺเปสีติ. เอวมสฺส สตฺตสุ าเนสุ อโรคภาโว ปุฺวโต อิทฺธิ. ตตฺถ คหนฺติ เคหํ วุจฺจติ, คเห ปติ คหปติ. มหาสาลกุเล อธิปติสฺเสตํ นามํ. เกสุจิ โปตฺถเกสุ โฆสิตานนฺตรํ เมณฺฑโก ลิขิโต.

ปฺจนฺนํ มหาปุฺานํ ปุฺวโต อิทฺธีติ เอตฺถ ปุฺิทฺธิ ปฺจนฺนํ มหาปุฺานํ ทฏฺพฺพาติ อตฺโถ. ปฺจ มหาปุฺา นาม เมณฺฑกเสฏฺิ, ตสฺส ภริยา จนฺทปทุมา, ปุตฺโต ธนฺจยเสฏฺิ, สุณิสา สุมนเทวี, โทโส ปุณฺโณ นามาติ อิเม ปฺจ ชนา ปจฺเจกสมฺพุทฺเธ กตาธิการา. เตสุ เมณฺฑกเสฏฺิ อฑฺฒเตรสานิ โกฏฺสตานิ โสธาเปตฺวา สีสํ นฺหาโต ทฺวาเร นิสีทิตฺวา อุทฺธํ อุลฺโลเกติ, อากาสโต รตฺตสาลิธารา โอปติตฺวา สพฺพโกฏฺเ ปูเรติ. ตสฺส ภริยา ตณฺฑุลํ เอกนาฬิมตฺตํ คเหตฺวา ภตฺตํ ปจาเปตฺวา เอกสฺมึ สูปพฺยฺชนเก สูปํ กาเรตฺวา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา ทฺวารโกฏฺเก ปฺตฺตาสเน นิสีทิตฺวา ‘‘สพฺเพ ภตฺเตน อตฺถิกา อาคจฺฉนฺตู’’ติ โฆสาเปตฺวา ปกฺโกสาเปตฺวา สุวณฺณกฏจฺฉุํ อาทาย อาคตาคตานํ อุปนีตภาชนานิ ปูเรตฺวา เทติ, สกลทิวสมฺปิ เทนฺติยา กฏจฺฉุนา สกึ คหิตฏฺานมตฺตเมว ปฺายติ. ตสฺส ปุตฺโต สีสํ นฺหาโต สหสฺสตฺถวิกํ อาทาย ‘‘กหาปเณหิ อตฺถิกา อาคจฺฉนฺตู’’ติ โฆสาเปตฺวา อาคตาคตานํ คหิตภาชนานิ ปูเรตฺวา เทติ. ถวิกาย กหาปณสหสฺสเมว โหติ. ตสฺส สุณิสา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา จตุโทณิกํ วีหิปิฏกํ อาทาย อาสเน นิสินฺนา ‘‘พีชภตฺเตน อตฺถิกา อาคจฺฉนฺตู’’ติ โฆสาเปตฺวา อาคตาคตานํ คหิตภาชนานิ ปูเรตฺวา เทติ, ปิฏกํ ยถาปูริตเมว โหติ. ตสฺส ทาโส สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต สุวณฺณยุเค สุวณฺณโยตฺเตหิ โคเณ โยเชตฺวา สุวณฺณปโตทยฏฺึ อาทาย โคณานํ คนฺธปฺจงฺคุลิกานิ ทตฺวา วิสาเณสุ สุวณฺณโกสเก ปฏิมุฺจิตฺวา เขตฺตํ คนฺตฺวา ปาเชติ, อิโต ติสฺโส, อิโต ติสฺโส, มชฺเฌ เอกาติ สตฺต สีตาโย ภิชฺชิตฺวา คจฺฉนฺติ. ชมฺพุทีปวาสิโน ภตฺตพีชหิรฺสุวณฺณาทีสุ ยถารุจิตํ เสฏฺิเคหโตเยว คณฺหึสุ. อนุกฺกเมน ปน ภทฺทิยนครํ อนุปฺปตฺเต ภควติ ภควโต ธมฺมเทสนาย ปฺจ มหาปุฺา จ ธนฺจยเสฏฺิสฺส ธีตา วิสาขา จ โสตาปตฺติผลํ ปาปุณึสุ. อยํ ปน เนสํ ปฺจนฺนํ มหาปุฺานํ ปุฺวโต อิทฺธิ. สงฺเขเปน ปน ปริปากคเต ปุฺสมฺภาเร อิชฺฌนกวิเสโส ปุฺวโต อิทฺธิ.

วิชฺชามยิทฺธินิทฺเทเส อิชฺฌนาการํ คนฺธาริวิชฺชํ วา อุปจารสิทฺธํ ปตฺถิตสิทฺธํ อฺํ วา วิชฺชํ ธาเรนฺตีติ วิชฺชาธรา. วิชฺชํ ปริชปฺเปตฺวาติ ยโถปจารํ วิชฺชํ มุเขน ปริวตฺเตตฺวา. เสสํ วุตฺตตฺถเมวาติ.

สมฺมาปโยคิทฺธินิทฺเทเส อิชฺฌนาการมตฺตํ ปุจฺฉิตฺวา อฺสฺส วิเสสสฺส อภาวโต ‘‘กตมา’’ติ อปุจฺฉิตฺวา ปการมตฺตเมว ปุจฺฉนฺเตน ‘‘กถ’’นฺติ ปุจฺฉา กตา, ตเถว ‘‘เอว’’นฺติ นิคมนํ กตํ. เอตฺถ จ ปฏิปตฺติสงฺขาตสฺเสว สมฺมาปโยคสฺส ทีปนวเสน ปุริมปาฬิสทิสาว ปาฬิ อาคตา. อฏฺกถายํ ปน สกฏพฺยูหาทิกรณวเสน ยํกิฺจิ สํวิทหนํ ยํกิฺจิ สิปฺปกมฺมํ ยํกิฺจิ เวชฺชกมฺมํ ติณฺณํ เวทานํ อุคฺคหณํ ติณฺณํ ปิฏกานํ อุคฺคหณํ, อนฺตมโส กสนวปนาทีนิ อุปาทาย ตํ ตํ กมฺมํ กตฺวา นิพฺพตฺตวิเสโส ตตฺถ ตตฺถ สมฺมาปโยคปจฺจยา อิชฺฌนฏฺเน อิทฺธีติ อาคตาติ.

อิทฺธิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อภิสมยกถา

อภิสมยกถาวณฺณนา

๑๙.

อิทานิ อิทฺธิกถานนฺตรํ ปรมิทฺธิภูตํ อภิสมยํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย อภิสมยกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ อภิสมโยติ สจฺจานํ อภิมุเขน สมาคโม, ปฏิเวโธติ อตฺโถ. เกน อภิสเมตีติ กึ วุตฺตํ โหติ? ‘‘เอวํ มหตฺถิโย โข, ภิกฺขเว, ธมฺมาภิสมโย’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๗๔) สุตฺตปเทสุ โย โส อภิสมโยติ วุตฺโต, ตสฺมึ อภิสมเย วตฺตมาเน อภิสเมตา ปุคฺคโล เกน ธมฺเมน สจฺจานิ อภิสเมติ, อภิมุโข หุตฺวา สมาคจฺฉติ, ปฏิวิชฺฌตีติ วุตฺตํ โหตีติ. อยํ ตาว โจทกสฺส ปุจฺฉา. จิตฺเตน อภิสเมตีติ จิตฺตํ วินา อภิสมยาภาวโต ตถา วิสฺสชฺชนํ. หฺจีติอาทิ ปุน โจทนา. หฺจิ ยทีติ อตฺโถ. ‘‘จิตฺเตนา’’ติ วุตฺตตฺตา เตน หิ อฺาณี อภิสเมตีติ อาห. น อฺาณี อภิสเมตีติ จิตฺตมตฺเตเนว อภิสมยาภาวโต ปฏิกฺเขโป. าเณน อภิสเมตีติ ปฏิฺา. ปุน หฺจีติอาทิ ‘‘าเณนา’’ติ วุตฺตตฺตา อฺาณี อจิตฺตโกติ โจทนา. น อจิตฺตโก อภิสเมตีติ อจิตฺตกสฺส อภิสมยาภาวโต ปฏิกฺเขโป. จิตฺเตน จาติอาทิ ปฏิฺา. ปุน หฺจีติอาทิ สพฺพจิตฺตาณสาธารณวเสน โจทนา. เสสโจทนาวิสฺสชฺชเนสุปิ เอเสว นโย.

ปรโต ปน กมฺมสฺสกตจิตฺเตน จ าเณน จาติ กมฺมสฺสกา สตฺตาติ เอวํ กมฺมสฺสกตาย ปวตฺตจิตฺเตน จ าเณน จ. สจฺจานุโลมิกจิตฺเตน จ าเณน จาติ สจฺจปฏิเวธสฺส อนุกูลตฺตา สจฺจานุโลมิกสงฺขาเตน วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตจิตฺเตน จ วิปสฺสนาาเณน จ. กถนฺติ ยถา อภิสมโย โหติ, ตถา กเถตุกมฺยตา ปุจฺฉา. อุปฺปาทาธิปเตยฺยนฺติ ยสฺมา จิตฺตสฺส อุปฺปาเท อสติ เจตสิกานํ อุปฺปาโท นตฺถิ. อารมฺมณคฺคหณฺหิ จิตฺตํ เตน สห อุปฺปชฺชมานา เจตสิกา กถํ อารมฺมเณ อคฺคหิเต อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ. อภิธมฺเมปิ จิตฺตุปฺปาเทเนว เจตสิกา วิภตฺตา, ตสฺมา มคฺคาณสฺส อุปฺปาเท อธิปติภูตํ จิตฺตนฺติ อตฺโถ. าณสฺสาติ มคฺคาณสฺส. เหตุ ปจฺจโย จาติ ชนโก จ อุปตฺถมฺภโก จ. ตํสมฺปยุตฺตนฺติ เตน าเณน สมฺปยุตฺตํ. นิโรธโคจรนฺติ นิพฺพานารมฺมณํ. ทสฺสนาธิปเตยฺยนฺติ เสสานํ ทสฺสนกิจฺจาภาวา นิพฺพานทสฺสเน อธิปติภูตํ. จิตฺตสฺสาติ มคฺคสมฺปยุตฺตจิตฺตสฺส. ตํสมฺปยุตฺตนฺติ เตน จิตฺเตน สมฺปยุตฺตํ.

๒๐.

ยสฺมา เอตมฺปิ ปริยายํ, น เกวลํ จิตฺตาเณหิเยว อภิสมโย, อถ โข สพฺเพปิ มคฺคสมฺปยุตฺตจิตฺตเจตสิกา ธมฺมา สจฺจาภิสมยกิจฺจสาธนวเสน อภิสมโย นาม โหนฺติ, ตสฺมา ตมฺปิ ปริยายํ ทสฺเสตุกาโม กึ นุ เอตฺตโกเยว อภิสมโยติ ปุจฺฉิตฺวา น หีติ ตํ วจนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณติอาทิมาห. ทสฺสนาภิสมโยติ ทสฺสนภูโต อภิสมโย. เอส นโย เสเสสุปิ. สจฺจาติ สจฺจาณานิ. มคฺคาณเมว นิพฺพานานุปสฺสนฏฺเน วิปสฺสนา. วิโมกฺโขติ มคฺควิโมกฺโข. วิชฺชาติ มคฺคาณเมว. วิมุตฺตีติ สมุจฺเฉทวิมุตฺติ. นิพฺพานํ อภิสมียตีติ อภิสมโย, เสสา อภิสเมนฺติ เอเตหีติ อภิสมยา.

๒๑.

ปุน มคฺคผลวเสน อภิสมยํ ภินฺทิตฺวา ทสฺเสตุํ กึ นูติอาทิมาห. ผลกฺขเณ ปเนตฺถ ยสฺมา สมุจฺเฉทนฏฺเน ขเย าณํ น ลพฺภติ, ตสฺมา ปฏิปฺปสฺสทฺธฏฺเน อนุปฺปาเท าณนฺติ วุตฺตํ. เสสํ ปน ยถานุรูปํ เวทิตพฺพนฺติ. อิทานิ ยสฺมา กิเลสปฺปหาเน สติ อภิสมโย โหติ, อภิสมเย จ สติ กิเลสปฺปหานํ โหติ, ตสฺมา โจทนาปุพฺพงฺคมํ กิเลสปฺปหานํ ทสฺเสตุกาโม ยฺวายนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ยฺวายนฺติ โย อยํ มคฺคฏฺโ อริยปุคฺคโล. เอวมาทิกานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ วจนานิ โจทกสฺส ปุจฺฉา. ปุน อตีเต กิเลเส ปชหตีติ อิทํ โจทนาย โอกาสทานตฺถํ วิสฺสชฺชนํ. ขีณนฺติ ภงฺควเสน ขีณํ. นิรุทฺธนฺติ สนฺตานวเสน ปุนปฺปุนํ อนุปฺปตฺติยา นิรุทฺธํ. วิคตนฺติ วตฺตมานกฺขณโต อปคตํ. วิคเมตีติ อปคมยติ. อตฺถงฺคตนฺติ อภาวํ คตํ. อตฺถงฺคเมตีติ อภาวํ คมยติ. ตตฺถ โทสํ ทสฺเสตฺวา น อตีเต กิเลเส ปชหตีติ ปฏิกฺขิตฺตํ. อนาคตโจทนาย อชาตนฺติ ชาตึ อปฺปตฺตํ. อนิพฺพตฺตนฺติ สภาวํ อปฺปตฺตํ. อนุปฺปนฺนนฺติ อุปฺปาทโต ปภุติ อุทฺธํ น ปฏิปนฺนํ. อปาตุภูตนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนภาเวน จิตฺตสฺส อปาตุภูตํ. อตีตานาคเต ปชหโต ปหาตพฺพานํ นตฺถิตาย อผโล วายาโม อาปชฺชตีติ ตทุภยมฺปิ ปฏิกฺขิตฺตํ. รตฺโต ราคํ ปชหตีติ วตฺตมาเนน ราเคน รตฺโต ตเมว ราคํ ปชหติ. วตฺตมานกิเลเสสุปิ เอเสว นโย. ถามคโตติ ถิรสภาวํ คโต. กณฺหสุกฺกาติ อกุสลา จ กุสลา จ ธมฺมา ยุคนทฺธา สมเมว วตฺตนฺตีติ อาปชฺชตีติ อตฺโถ. สํกิเลสิกาติ เอวํ สํกิเลสานํ สมฺปยุตฺตภาเว สติ สํกิเลเส นิยุตฺตา มคฺคภาวนา โหตีติ อาปชฺชตีติ อตฺโถ. เอวํ ปจฺจุปฺปนฺเน ปชหโต วายาเมน สทฺธึ ปหาตพฺพานํ อตฺถิตาย สํกิเลสิกา จ มคฺคภาวนา โหติ, วายาโม จ อผโล โหติ. น หิ ปจฺจุปฺปนฺนานํ กิเลสานํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตตา นาม อตฺถีติ.

น หีติ จตุธา วุตฺตสฺส วจนสฺส ปฏิกฺเขโป. อตฺถีติ ปฏิชานนํ. ยถา กถํ วิยาติ อตฺถิภาวสฺส อุทาหรณทสฺสนตฺถํ ปุจฺฉา. ยถา อตฺถิ, ตํ เกน ปกาเรน วิย อตฺถิ, กึ วิย อตฺถีติ อตฺโถ. เสยฺยถาปีติ ยถา นาม. ตรุณรุกฺโขติ ผลทายกภาวทีปนตฺถํ ตรุณคฺคหณํ. อชาตผโลติ ผลทายกตฺเตปิ สติ ผลคฺคหณโต ปุเรกาลคฺคหณํ. ตเมนนฺติ ตํ รุกฺขํ. เอนนฺติ นิปาตมตฺตํ, ตํ เอตนฺติ วา อตฺโถ. มูลํ ฉินฺเทยฺยาติ มูลโต ฉินฺเทยฺย. อชาตผลาติ อชาตานิ ผลานิ. เอวเมวนฺติ เอวํ เอวํ. อุปฺปาโท ปวตฺตํ นิมิตฺตํ อายูหนาติ จตูหิปิ ปจฺจุปฺปนฺนขนฺธสนฺตานเมว วุตฺตํ. ยสฺมิฺหิ ขนฺธสนฺตาเน ยํ ยํ มคฺคาณํ อุปฺปชฺชติ, เตน เตน มคฺคาเณน ปหาตพฺพานํ กิเลสานํ ตํ ขนฺธสนฺตานํ อพีชํ โหติ, ตสฺส อพีชภูตตฺตา ตปฺปจฺจยา เต เต กิเลสา อนุปฺปนฺนา เอว น อุปฺปชฺชนฺติ. อาทีนวํ ทิสฺวาติ อนิจฺจาทิโต อาทีนวํ ทิสฺวา. อนุปฺปาโทติอาทีหิ จตูหิ นิพฺพานเมว วุตฺตํ. จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ มคฺคสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. เหตุนิโรธา ทุกฺขนิโรโธติ กิเลสานํ พีชภูตสฺส สนฺตานสฺส อนุปฺปาทนิโรธา อนาคตกฺขนฺธภูตสฺส ทุกฺขสฺส เหตุภูตานํ กิเลสานํ อนุปฺปาทนิโรโธ โหติ. เอวํ ทุกฺขสฺส เหตุภูตกิเลสานํ อนุปฺปาทนิโรธา ทุกฺขสฺส อนุปฺปาทนิโรโธ โหติ. เอวํ กิเลสปฺปหานยุตฺติสพฺภาวโต เอว อตฺถิ มคฺคภาวนาติอาทิมาห. อฏฺกถายํ (วิสุทฺธิ. ๒.๘๓๒) ปน ‘‘เอเตน กึ ทีปิตํ โหติ? ภูมิลทฺธานํ กิเลสานํ ปหานํ ทีปิตํ โหติ. ภูมิลทฺธา ปน กึ อตีตา อนาคตา, อุทาหุ ปจฺจุปฺปนฺนาติ? ภูมิลทฺธุปฺปนฺนาเยว นามา’’ติ วตฺวา กถิตกิเลสปฺปหานสฺส วิตฺถารกถา สุตมยาณกถาย มคฺคสจฺจนิทฺเทสวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา, อิธ ปน มคฺคาเณน ปหาตพฺพา กิเลสาเยว อธิปฺเปตาติ.

อภิสมยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. วิเวกกถา

วิเวกกถาวณฺณนา

๒๒. อิทานิ ปหานาวสานาย อภิสมยกถาย อนนฺตรํ ปหานาการํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย วิเวกกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ตาว เย เกจีติ อนวเสสปริยาทานํ. พลกรณียาติ อูรุพเลน พาหุพเลน กตฺตพฺพา. กมฺมนฺตาติ ธาวนลงฺฆนกสนวปนาทีนิ กมฺมานิ. กรียนฺตีติ พลวนฺเตหิ กรียนฺติ. สีลํ นิสฺสายาติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ นิสฺสยํ กตฺวา. ภาเวตีติ ภินฺนสีลสฺส ภาวนาภาวโต อิธ ปน โลกิยโลกุตฺตรา มคฺคภาวนา อธิปฺเปตาติ. วิเวกนิสฺสิตนฺติ ตทงฺควิเวกํ สมุจฺเฉทวิเวกํ นิสฺสรณวิเวกํ นิสฺสิตํ. วิเวโกติ วิวิตฺตตา. อยฺหิ อริยมคฺคภาวนานุยุตฺโต โยคี วิปสฺสนากฺขเณ กิจฺจโต ตทงฺควิเวกนิสฺสิตํ, อชฺฌาสยโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตํ, มคฺคกฺขเณ กิจฺจโต สมุจฺเฉทวิเวกนิสฺสิตํ, อารมฺมณโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตํ ภาเวติ. เอส นโย วิราคนิสฺสิตาทีสุ. วิเวโกเยว หิ วิรชฺชนฏฺเน วิราโค, นิโรธฏฺเน นิโรโธ, โวสชฺชนฏฺเน โวสคฺโค. อถ วา กิเลเสหิ วิวิตฺตตฺตา วิเวโก, กิเลเสหิ วิรตฺตตฺตา วิราโค, กิเลสานํ นิรุทฺธตฺตา นิโรโธ, กิเลสานฺจ ปริจฺจตฺตตฺตา วิสฺสฏฺตฺตา, นิพฺพาเนจตฺตสฺส จ วิสฺสฏฺตฺตา โวสคฺโค. โวสคฺโค ปน ทุวิโธ ปริจฺจาคโวสคฺโค จ ปกฺขนฺทนโวสคฺโค จ. ตตฺถ ปริจฺจาคโวสคฺโคติ วิปสฺสนากฺขเณ ตทงฺควเสน, มคฺคกฺขเณ สมุจฺเฉทวเสน กิเลสปฺปหานํ. ปกฺขนฺทนโวสคฺโคติ วิปสฺสนากฺขเณ ตนฺนินฺนภาเวน, มคฺคกฺขเณ อารมฺมณกรเณน นิพฺพานปกฺขนฺทนํ. ตทุภยมฺปิ อิมสฺมึ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสเก อตฺถวณฺณนานเย วฏฺฏติ. ตถา หิ อยํ สมฺมาทิฏฺิอาทีสุ เอเกโก ธมฺโม ยถาวุตฺเตน ปกาเรน กิเลเส จ ปริจฺจชติ, นิพฺพานฺจ ปกฺขนฺทติ. โวสคฺคปริณามินฺติ อิมินา ปน สกเลน วจเนน โวสคฺคตฺถํ ปริณามิตํ ปริณตํ, ปริปจฺจิตํ ปริปกฺกฺจาติ วุตฺตํ โหติ. อยมฺปิ อริยมคฺคภาวนานุยุตฺโต ภิกฺขุ ยถา สมฺมาทิฏฺิอาทีสุ เอเกโก ธมฺโม กิเลสปริจฺจาคโวสคฺคตฺถฺจ นิพฺพานปกฺขนฺทนโวสคฺคตฺถฺจ ปริปจฺจติ, ยถา จ ปริปกฺโก โหติ, ตถา นํ ภาเวติ.

๒๓. พีชคามภูตคามาติ เอตฺถ มูลพีชํ ขนฺธพีชํ อคฺคพีชํ ผฬุพีชํ พีชพีชนฺติ (ปาจิ. ๙๑) ปฺจวิธํ พีชํ, พีชคาโม นาม พีชสมูโหติ อตฺโถ. ตเทว ปน สมฺปนฺนนีลงฺกุรปาตุภาวโต ปฏฺาย ภูตคาโม นาม, ภูตานํ ชาตานํ นิพฺพตฺตมูลนีลงฺกุรานํ สมูโหติ อตฺโถ. เทวตาปริคฺคเห สติ นีลงฺกุรกาลโต ปภุติ โหตีติ เตสํ เทวตาสงฺขาตานํ ภูตานํ คาโมติปิ ภูตคาโมติ วทนฺติ. วุทฺธินฺติ องฺกุราทิวเสน. วิรุฬฺหินฺติ ขนฺธาทิวเสน. เวปุลฺลนฺติ ปุปฺผาทิวเสน. ธมฺเมสุ ปน วุทฺธินฺติ อปุพฺพธมฺมปฺปวตฺติวเสน. วิรุฬินฺติ สกิจฺจกรณสาธนวเสน. เวปุลฺลนฺติ กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน วิปุลภาวนฺติ อตฺโถ. วิปุลตฺตนฺติปิ ปาโ. อถ วา เอตานิ ตีณิ ปทานิ สีลสมาธิปฺาหิปิ โยเชนฺติ.

มคฺคงฺคนิทฺเทสวณฺณนา

๒๔. สุตฺตนฺตนิทฺเทเส สมฺมาทิฏฺิยาติ สามิวจนํ. ฌานวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพาเนสุ โลกิยวิรติสมฺปยุตฺตจิตฺเต จ ยถาโยคํ สมฺปโยคโต จ อารมฺมณโต จ วตฺตมานาย สมฺมาทิฏฺิยา สามฺลกฺขณโต เอกีภูตาย สมฺมาทิฏฺิยา. วิกฺขมฺภนวิเวโกติ วิกฺขมฺภนวเสน ทูรีกรณวเสน วิเวโก. เกสํ? นีวรณานํ. ตสฺส ปมํ ฌานํ ภาวยโตติอาทิ วิกฺขมฺภนวเสน ปมชฺฌานเมว วุตฺตํ. ตสฺมึ วุตฺเต เสสชฺฌานานิปิ วุตฺตาเนว โหนฺติ. ฌาเนสุปิ สมฺมาทิฏฺิยา วิชฺชมานตฺตา สมฺมาทิฏฺิยา วิเวโก นาม โหติ. ตทงฺควิเวโกติ เตน เตน วิปสฺสนาาณงฺเคน วิเวโก. ทิฏฺิคตานนฺติ ทิฏฺิวิเวกสฺส ทุกฺกรตฺตา ปธานตฺตา จ ทิฏฺิวิเวโกว วุตฺโต. ตสฺมึ วุตฺเต นิจฺจสฺาทิวิเวโกปิ วุตฺโตว โหติ. นิพฺเพธภาคิยํ สมาธินฺติ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตสมาธึ. สมุจฺเฉทวิเวโกติ กิเลสานํ สมุจฺเฉเทน วิเวโก. โลกุตฺตรํ ขยคามิมคฺคนฺติ ขยสงฺขาตนิพฺพานคามิโลกุตฺตรมคฺคํ. ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวโกติ กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา วิเวโก. นิสฺสรณวิเวโกติ สพฺพสงฺขตนิสฺสรณภูโต สงฺขารวิเวโก. ฉนฺทชาโต โหตีติ ปุพฺพภาเค ชาตธมฺมฉนฺโท โหติ. สทฺธาธิมุตฺโตติ ปุพฺพภาเคเยว สทฺธาย อธิมุตฺโต โหติ. จิตฺตฺจสฺส สฺวาธิฏฺิตนฺติ ปุพฺพภาเคเยว จิตฺตฺจ อสฺส โยคิสฺส สุอธิฏฺิตํ สุฏฺุ ปติฏฺิตํ โหติ. อิติ ฉนฺโท สทฺธา จิตฺตนฺติ อิเม ตโย ธมฺมา ปุพฺพภาเค อุปฺปนฺนวิเวกานํ อุปนิสฺสยตฺตา นิสฺสยา นาม. เกจิ ปน ‘‘จิตฺตฺจสฺส สฺวาธิฏฺิตนฺติ สมาธิ วุตฺโต’’ติ วทนฺติ. วิราคาทีสุปิ เอเสว นโย.

นิโรธวาเร ปน นิโรธสทฺทโต อฺํ ปริยายวจนํ ทสฺเสนฺเตน อมตา ธาตูติ วุตฺตํ, เสเสสุ นิโรโธ นิพฺพานนฺติ อุภยตฺถาปิ นิพฺพานเมว. ทฺวาทส นิสฺสยาติ ฉนฺทสทฺธาจิตฺตานิเยว วิเวกาทีสุ จตูสุ เอเกกสฺมึ ตโย ตโย กตฺวา ทฺวาทส นิสฺสยา โหนฺติ.

๒๕. สมฺมาสงฺกปฺปวายามสติสมาธีนมฺปิ อิมินาว นเยน อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา. สมฺมาวาจากมฺมนฺตา ชีวานํ ปน ฌานกฺขเณ วิปสฺสนากฺขเณ จ อภาวา ฌานวิปสฺสนานํ ปุพฺพภาคปรภาควเสน วตฺตมานา วิรติโย ฌานวิปสฺสนา สนฺนิสฺสิตา กตฺวา วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. นีวรณานํ ทิฏฺิคตานฺจ วิเวกวิราคนิโรธปฏินิสฺสคฺคา ตถา ปวตฺตมานานํ วิรตีนํ วิเวกาทโย นามาติ เวทิตพฺพํ. ยถา อฏฺกนิปาเต ‘‘ตโต, ตฺวํ ภิกฺขุ, อิมํ สมาธึ สวิตกฺกํ สวิจารมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, อวิตกฺกวิจารมตฺตมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, อวิตกฺกํ อวิจารมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, สปฺปีติกมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, นิปฺปีติกมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, สาตสหคตมฺปิ ภาเวยฺยาสิ, อุเปกฺขาสหคตมฺปิ ภาเวยฺยาสี’’ติ (อ. นิ. ๘.๖๓) เมตฺตาทโย กายานุปสฺสนาทโย จ นิยกชฺฌตฺตมูลสมาธิวเสน จตุกฺกปฺจกชฺฌานิกา วิย วุตฺตา, เอวมิธาปิ ปุพฺพภาคปรภาควเสน วิรติโย วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. พฺยฺชนจฺฉายมตฺตํ คเหตฺวา น ภควา อพฺภาจิกฺขิตพฺโพ. คมฺภีรฺหิ พุทฺธวจนํ, อาจริเย ปยิรุปาสิตฺวา อธิปฺปายโต คเหตพฺพํ.

๒๖-๒๗. โพชฺฌงฺคพลอินฺทฺริยวาเรสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.

วิเวกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. จริยากถา

จริยากถาวณฺณนา

๒๘-๒๙. อิทานิ วิเวกกถานนฺตรํ ปรมวิเวกภูตสฺส นิสฺสรณวิเวกสงฺขาตสฺส นิพฺพานสฺส สจฺฉิกรณียสฺส สจฺฉิกิริโยปายทสฺสนตฺถํ, ตถา สจฺฉิกตนิโรธสฺส โลกหิตสุขกิริยากรณทสฺสนตฺถฺจ อินฺทฺริยกถาย นิทฺทิฏฺาปิ จริยากถา ปุน กถิตา. ตสฺสา อตฺถวณฺณนา อินฺทฺริยกถาย กถิตาเยวาติ.

จริยากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ปาฏิหาริยกถา

ปาฏิหาริยกถาวณฺณนา

๓๐. อิทานิ โลกตฺถจริยาปริโยสานาย จริยากถาย อนนฺตรํ โลกตฺถานุสาสนปริโยสานํ ปาฏิหาริยํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย ปาฏิหาริยกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ตาว ปาฏิหาริยานีติ ปจฺจนีกปฏิหรณวเสน ปาฏิหาริยานิ. อิทฺธิปาฏิหาริยนฺติ อิชฺฌนวเสน อิทฺธิ, ปฏิหรณวเสน ปาฏิหาริยํ, อิทฺธิเยว ปาฏิหาริยํ อิทฺธิปาฏิหาริยํ. อิตเรสุ ปน อาทิสฺสนวเสน อาเทสนํ, อนุสาสนวเสน อนุสาสนี. เสสํ วุตฺตนยเมว.

อิธาติ อิมสฺมึ โลเก. เอกจฺโจติ เอโก โปโส. อิทฺธิปาฏิหาริยนิทฺเทโส เหฏฺา วุตฺตตฺโถเยว. นิมิตฺเตน อาทิสตีติ อาคตนิมิตฺเตน วา คตนิมิตฺเตน วา ิตนิมิตฺเตน วา กเถติ. เอวมฺปิ เต มโนติ เอวมฺปิ ตว มโน โสมนสฺสิโต วา โทมนสฺสิโต วา กามวิตกฺกาทิสมฺปยุตฺโต วา. อปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ. อิตฺถมฺปิ เต มโนติ โสมนสฺสิตาทิโต เอเกกวิเธปิ จิตฺเต นานปฺปการปริทีปนํ. อิติปิ เต จิตฺตนฺติ อิติปิ ตว จิตฺตํ, อิมฺจ อิมฺจ อตฺถํ จินฺตยมานํ ปวตฺตตีติ อตฺโถ. พหุํ เจปิ อาทิสตีติ จิตฺตโต อฺํ วา อิทฺจ อิทฺจ นาม อโหสิ ภวติ ภวิสฺสตีติ พหุกมฺปิ กเถติ. ตเถว ตํ โหติ, โน อฺถาติ ตํ สพฺพมฺปิ ยถา ยถา กถิตํ, ตเถว โหติ, อฺถา น โหติ.

น เหว โข นิมิตฺเตน อาทิสตีติ นิมิตฺตํ ชานนฺโตปิ เกวลํ นิมิตฺเตเนว น กเถติ. อปิจาติ อปรปริยายทสฺสนํ. มนุสฺสานนฺติ จิตฺตํ ชานนกมนุสฺสานํ. อมนุสฺสานนฺติ สาวิตานํ วา อสฺสาวิตานํ วา ยกฺขปิสาจาทีนํ. เทวตานนฺติ จาตุมหาราชิกาทีนํ. สทฺทํ สุตฺวาติ อฺสฺส จิตฺตํ ตฺวา กเถนฺตานํ สทฺทํ สุณิตฺวา. ปนาติ นิปาโต ปุน อารมฺเภ. วิตกฺกยโตติ ยํ วา ตํ วา วิตกฺเกน วิตกฺเกนฺตสฺส. วิจารยโตติ วิตกฺกสมฺปยุตฺเตเนว วิจาเรน วิจาเรนฺตสฺส. วิตกฺกวิปฺผารสทฺทํ สุตฺวาติ วิตกฺกเวควเสน อุปฺปนฺนํ วิปฺปลปนฺตานํ สุตฺตปฺปมตฺตาทีนํ กูชนสทฺทํ สุตฺวา. ยํ วิตกฺกยโต โส สทฺโท อุปฺปนฺโน, ตสฺส วเสน ‘‘เอวมฺปิ เต มโน’’ติอาทีนิ อาทิสติ.

อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธินฺติ วิตกฺกวิจารกฺโขภวิรหิตสนฺตจิตฺตสฺสาปิ ชานนสมตฺถตํ ทสฺเสนฺเตน วุตฺตํ, เสสจิตฺตชานเน ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาตีติ เจโตปริยาณลาภี. โภโตติ ภวนฺตสฺส. มโนสงฺขารา ปณิหิตาติ จิตฺตสงฺขารา ปิตา. อมุกํ นาม วิตกฺกํ วิตกฺกยิสฺสตีติ กุสลาทิวิตกฺกํ วิตกฺกยิสฺสติ ปวตฺตยิสฺสตีติ ปชานาติ. ปชานนฺโต จ อาคมเนน ชานาติ, ปุพฺพภาเคน ชานาติ, อนฺโตสมาปตฺติยํ จิตฺตํ โอโลเกตฺวา ชานาติ. อาคมเนน ชานาติ นาม กสิณปริกมฺมกาเลเยว ‘‘เยนากาเรเนส กสิณภาวนํ อารทฺโธ ปมชฺฌานํ วา ทุติยาทิชฺฌานํ วา อฏฺ สมาปตฺติโย วา อุปฺปาเทสฺสตี’’ติ ชานาติ. ปุพฺพภาเคน ชานาติ นาม ปมวิปสฺสนาย อารทฺธาย เอวํ ชานาติ, ‘‘เยนากาเรเนส วิปสฺสนํ อารทฺโธ โสตาปตฺติมคฺคํ วา อุปฺปาเทสฺสติ…เป… อรหตฺตมคฺคํ วา อุปฺปาเทสฺสตี’’ติ ชานาติ. อนฺโตสมาปตฺติยํ จิตฺตํ โอโลเกตฺวา ชานาติ นาม ‘‘เยนากาเรน อิมสฺส มโนสงฺขารา ปิตา, อิมสฺส นาม จิตฺตสฺส อนนฺตรา อิมํ นาม วิตกฺกํ วิตกฺเกสฺสติ, อิโต วุฏฺิตสฺส เอตสฺส หานภาคิโย วา สมาธิ ภวิสฺสติ, ิติภาคิโย วา วิเสสภาคิโย วา นิพฺเพธภาคิโย วา, อภิฺาโย วา อุปฺปาเทสฺสตี’’ติ ชานาติ. พหุํ เจปิ อาทิสตีติ เจโตปริยาณสฺส จิตฺตเจตสิกานํเยว อารมฺมณกรณโต สราคาทิโสฬสปเภทวเสเนว พหุํ เจปิ กเถติ, น อฺวเสนาติ เวทิตพฺพํ. ตเถว ตํ โหตีติ อิทํ เอกํเสน ตเถว โหติ. เจโตปริยาณวเสน าตฺหิ อฺถาภาวี นาม นตฺถิ.

เอวํ วิตกฺเกถาติ เอวํ เนกฺขมฺมวิตกฺกาทโย ปวตฺเตนฺตา วิตกฺเกถ. มา เอวํ วิตกฺกยิตฺถาติ เอวํ กามวิตกฺกาทโย ปวตฺเตนฺตา มา วิตกฺกยิตฺถ. เอวํ มนสิ กโรถาติ เอวํ อนิจฺจสฺเมว, ทุกฺขสฺาทีสุ วา อฺตรํ มนสิ กโรถ. มา เอวํ มนสากตฺถาติ เอวํ นิจฺจนฺติอาทินา นเยน มา มนสิ อกตฺถ. อิทํ ปชหถาติ อิทํ ปฺจกามคุณราคาทึ ปชหถ. อิทํ อุปสมฺปชฺช วิหรถาติ อิทํ จตุมคฺคผลปฺปเภทํ โลกุตฺตรธมฺมเมว ปาปุณิตฺวา นิปฺผาเทตฺวา วิหรถ.

๓๑. อิทานิ อิทฺธิปาฏิหาริเย อปรํ ปริยายํ วิเสเสน ทสฺเสนฺโต เนกฺขมฺมํ อิชฺฌตีติ อิทฺธีติอาทิมาห. ตตฺถ กามจฺฉนฺทํ ปฏิหรตีติ อตฺตโน ปฏิปกฺขภูตํ กามจฺฉนฺทํ ปฏิพลํ หุตฺวา หรติ ปชหตีติ ตเทว เนกฺขมฺมํ ปาฏิหาริยํ นามาติ อตฺโถ. เย เตน เนกฺขมฺเมน สมนฺนาคตาติ เอวํ กามจฺฉนฺทปฏิหารเกน เตน เนกฺขมฺเมน เย ปุคฺคลา ปฏิลาภวเสน สมนฺนาคตา. วิสุทฺธจิตฺตาติ กามจฺฉนฺทาภาวโต วิสุทฺธจิตฺตา. อนาวิลสงฺกปฺปาติ กามสงฺกปฺเปน อนาลุลิตเนกฺขมฺมสงฺกปฺปา. อิติ อาเทสนาปาฏิหาริยนฺติ ปรจิตฺตกุสเลน วา อฺเน วา สมฺมาสมฺพุทฺเธน วา พุทฺธสาวเกหิ วา เอวํ อาเทสนา ปาฏิหาริยนฺติ อตฺโถ. อถ วา อิติ เอวํ อาทิสนํ อาเทสนาปาฏิหาริยนฺติ อาเทสนสทฺโท ปาเสสํ กตฺวา ปยุชฺชิตพฺโพ. เอวํ อาเสวิตพฺพนฺติ อิมินา จ ปกาเรน อิมินา จ ปกาเรน อาทิโต เสวิตพฺพํ. เสสตฺตเยปิ เอเสว นโย. ตทนุธมฺมตา สติ อุปฏฺเปตพฺพาติ ตสฺส เนกฺขมฺมสฺส อนุกูลภูตา สติ ภุสํ เปตพฺพา. อิติ อนุสาสนีปาฏิหาริยนฺติ เอตฺถ อาเทสนาปาฏิหาริยโยชนาย วิย โยชนา กาตพฺพา. อพฺยาปาทาทีสุปิ เอเสว นโย. ปาโ ปน ฌานาทีนิ สงฺขิปิตฺวา อนฺเต อรหตฺตมคฺคเมว ทสฺเสตฺวา ลิขิโต. ตตฺถ จตูสุปิ มคฺเคสุ ‘‘เอวํ อาเสวิตพฺโพ’’ติอาทิ เอกจิตฺตกฺขณิกตฺตา มคฺคสฺส ปุพฺพภาควเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. มคฺคสฺส หิ ปุพฺพภาคภูตาย โลกิยมคฺคสงฺขาตาย วุฏฺานคามินิยา วิปสฺสนาย มคฺคุปฺปาทนตฺถํ อาเสวนาทีสุ กเตสุ ตาย อุปฺปนฺโน มคฺโคปิ อาเสวิโต ภาวิโต พหุลีกโต นาม โหตีติ เวทิตพฺพํ. สพฺพตฺถิกวาทาจริยา ปน ‘‘เอเกกมคฺโค โสฬสกฺขณิโก’’ติ วทนฺติ. ตทนุธมฺมตาสติอุปฏฺาปนํ ปน ปุพฺพภาเค ยุชฺชติเยวาติ.

๓๒. ปุน เนกฺขมฺมํ อิชฺฌตีติ อิทฺธีติอาทีนิ ‘‘อิทฺธิปาฏิหาริย’’นฺติปทสฺส กมฺมธารยสมาสตฺตทีปนตฺถํ วุตฺตานิ. สุตฺตนฺเต วุตฺเตสุ ตีสุ อิทฺธิปาฏิหาริยสฺเสว สมาสตฺเต วุตฺเต เสสานํ ทฺวินฺนมฺปิ วุตฺโตว โหตีติ อิมสฺมึ ปริยาเย มูลภูตสฺส อิทฺธิปาฏิหาริยสฺเสว สมาสตฺโถ วุตฺโตติ เวทิตพฺพนฺติ.

ปาฏิหาริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สมสีสกถา

สมสีสกถาวณฺณนา

๓๓. อิทานิ ปาฏิหาริยกถานนฺตรํ อาทิปาฏิหาริยภูตสฺส อิทฺธิปาฏิหาริยสงฺคหิตสฺส สมสีสิภาวสฺส อิทฺธิปาฏิหาริยภาวทีปนตฺถํ าณกถาย นิทฺทิฏฺาปิ สมสีสกถา อิทฺธิปาฏิหาริยสมฺพนฺเธน ปุน กถิตา. ตสฺสา อตฺถวณฺณนา ตตฺถ กถิตาเยวาติ.

สมสีสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. สติปฏฺานกถา

สติปฏฺานกถาวณฺณนา

๓๔. อิทานิ สมสีสกถานนฺตรํ อตฺตนา วุตฺตสฺส อิทฺธิปาฏิหาริยสฺส สาธเก สตฺต อนุปสฺสนาวิเสเส ทสฺเสนฺเตน กถิตาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย สติปฏฺานกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ตาว จตฺตาโรติ คณนปริจฺเฉโท, เตน น ตโต เหฏฺา, น อุทฺธนฺติ สติปฏฺานปริจฺเฉทํ ทีเปติ. อิเมติ นิทฺทิสิตพฺพนิทสฺสนํ. ภิกฺขเวติ ธมฺมปฏิคฺคาหกปุคฺคลาลปนํ. สติปฏฺานาติ ตโย สติปฏฺานา สติโคจโรปิ, ติธา ปฏิปนฺเนสุ สาวเกสุ สตฺถุโน ปฏิฆานุนยวีติวตฺตตาปิ, สติปิ. ‘‘จตุนฺนํ, ภิกฺขเว, สติปฏฺานานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ เทเสสฺสามี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๔๐๘) หิ สติโคจโร ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺโต. ตสฺสตฺโถ – ปติฏฺาติ ตสฺมินฺติ ปฏฺานํ. กา ปติฏฺาติ? สติ. สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานนฺติ.

‘‘ตโย สติปฏฺานา ยทริโย เสวติ, ยทริโย เสวมาโน สตฺถา คณมนุสาสิตุมรหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๐๔, ๓๑๑) เอตฺถ ติธา ปฏิปนฺเนสุ สาวเกสุ สตฺถุโน ปฏิฆานุนยวีติวตฺตตา ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตา. ตสฺสตฺโถ – ปฏฺเปตพฺพโต ปฏฺานํ, ปวตฺตยิตพฺพโตติ อตฺโถ. เกน ปฏฺเปตพฺพโตติ? สติยา. สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานนฺติ. ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา พหุลีกตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๔๗) ปน สติเยว ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตา. ตสฺสตฺโถ – ปติฏฺาตีติ ปฏฺานํ, อุปฏฺาติ โอกฺกนฺทิตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา วตฺตตีติ อตฺโถ. สติเยว ปฏฺานํ สติปฏฺานํ. อถ วา สรณฏฺเน สติ, อุปฏฺานฏฺเน อุปฏฺานํ. อิติ สติ จ สา อุปฏฺานฺจาติปิ สติปฏฺานํ. อิทมิธ อธิปฺเปตํ. ยทิ เอวํ กสฺมา สติปฏฺานาติ พหุวจนํ กตนฺติ? สติพหุตฺตา. อารมฺมณเภเทน หิ พหุกา ตา สติโยติ.

กตเม จตฺตาโรติ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. ภิกฺขูติ สํสาเร ภยํ อิกฺขตีติ ภิกฺขุ. เสสปทานํ อตฺถวณฺณนา ปเนตฺถ สุตมยาณกถาย มคฺคสจฺจนิทฺเทสวณฺณนายํ วุตฺตาเยวาติ.

กสฺมา ปน ภควตา จตฺตาโรว สติปฏฺานา วุตฺตา อนูนา อนธิกาติ? เวเนยฺยหิตตฺตา. ตณฺหาจริตทิฏฺิจริตสมถยานิกวิปสฺสนายานิเกสุ หิ มนฺทติกฺขวเสน ทฺเวธา ทฺเวธา ปวตฺเตสุ มนฺทสฺส ตณฺหาจริตสฺส โอฬาริกํ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ วิสุทฺธิมคฺโค, ติกฺขสฺส สุขุมํ เวทนานุปสฺสนาสติปฏฺานํ. ทิฏฺิจริตสฺสาปิ มนฺทสฺส นาติปฺปเภทคตํ จิตฺตานุปสฺสนาสติปฏฺานํ วิสุทฺธิมคฺโค, ติกฺขสฺส อติปฺปเภทคตํ ธมฺมานุปสฺสนาสติปฏฺานํ. สมถยานิกสฺส จ มนฺทสฺส อกิจฺเฉน อธิคนฺตพฺพนิมิตฺตํ ปมํ สติปฏฺานํ วิสุทฺธิมคฺโค, ติกฺขสฺส โอฬาริการมฺมเณ อสณฺหนโต ทุติยํ. วิปสฺสนายานิกสฺสปิ มนฺทสฺส นาติปฺปเภทคตารมฺมณํ ตติยํ, ติกฺขสฺส อติปฺปเภทคตารมฺมณํ จตุตฺถํ. อิติ จตฺตาโรว วุตฺตา อนูนา อนธิกาติ.

สุภสุขนิจฺจอตฺตวิปลฺลาสปฺปหานตฺถํ วา. กาโย หิ อสุโภ, ตตฺถ จ สุภวิปลฺลาสวิปลฺลตฺถา สตฺตา. เตสํ ตตฺถ อสุภภาวทสฺสเนน ตสฺส วิปลฺลาสสฺส ปหานตฺถํ ปมํ สติปฏฺานํ วุตฺตํ. สุขํ นิจฺจํ อตฺตาติ คหิเตสุปิ จ เวทนาทีสุ เวทนา ทุกฺขา, จิตฺตํ อนิจฺจํ, ธมฺมา อนตฺตา, เตสุ จ สุขนิจฺจอตฺตวิปลฺลาสวิปลฺลตฺถา สตฺตา. เตสํ ตตฺถ ทุกฺขาทิภาวทสฺสเนน เตสํ วิปลฺลาสานํ ปหานตฺถํ เสสานิ ตีณิ วุตฺตานีติ เอวํ สุภสุขนิจฺจอตฺตวิปลฺลาสปฺปหานตฺถํ วา จตฺตาโรว วุตฺตา. น เกวลฺจ วิปลฺลาสปฺปหานตฺถเมว, จตุโรฆโยคาสวคนฺถอุปาทานอคติปฺปหานตฺถมฺปิ จตุพฺพิธาหารปริฺตฺถมฺปิ จตฺตาโรว วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ.

๓๕. (ก) สุตฺตนฺตนิทฺเทเส ปถวีกายนฺติ อิมสฺมึ รูปกาเย ปถวีธาตุ. สกลสรีเร ปน ปถวีธาตูนํ พหุกตฺตา สพฺพปถวีธาตุสงฺคหตฺถํ สมูหตฺเถน กายคฺคหณํ กตํ. อาโปกายาทีสุปิ เอเสว นโย. เกสกายาทีนมฺปิ พหุกตฺตา เกสกายาทิคหณํ กตํ. วกฺกาทีนิ ปน ปริจฺฉินฺนตฺตา กายคฺคหณํ นารหนฺตีติ เตสํ คหณํ น กตนฺติ เวทิตพฺพํ.

(ข) สุขํ เวทนนฺติอาทีสุ สุขํ เวทนนฺติ กายิกํ วา เจตสิกํ วา สุขํ เวทนํ. ตถา ทุกฺขํ เวทนํ. อทุกฺขมสุขํ เวทนนฺติ ปน เจตสิกเมว อุเปกฺขาเวทนํ. สามิสํ สุขํ เวทนนฺติ ฉ เคหสิตโสมนสฺสเวทนา. นิรามิสํ สุขํ เวทนนฺติ ฉ เนกฺขมฺมสิตโสมนสฺสเวทนา. สามิสํ ทุกฺขํ เวทนนฺติ ฉ เคหสิตโทมนสฺสเวทนา. นิรามิสํ ทุกฺขํ เวทนนฺติ ฉ เนกฺขมฺมสิตโทมนสฺสเวทนา. สามิสํ อทุกฺขมสุขํ เวทนนฺติ ฉ เคหสิตอุเปกฺขาเวทนา. นิรามิสํ อทุกฺขมสุขํ เวทนนฺติ ฉ เนกฺขมฺมสิตอุเปกฺขาเวทนา.

(ค) สราคํ จิตฺตนฺติอาทีนิ าณกถายํ วุตฺตตฺถานิ.

(ฆ) ตทวเสเส ธมฺเมติ เตหิ กายเวทนาจิตฺเตหิ อวเสเส เตภูมกธมฺเม. สพฺพตฺถ เตน าเณนาติ เตน สตฺตวิเธน อนุปสฺสนาาเณน. ยานิ ปเนตฺถ อนฺตรนฺตรา อวุตฺตตฺถานิ, ตานิ เหฏฺา ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตตฺถาเนวาติ.

สติปฏฺานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. วิปสฺสนากถา

วิปสฺสนากถาวณฺณนา

๓๖. อิทานิ วิปสฺสนาปฏิสํยุตฺตาย สติปฏฺานกถาย อนนฺตรํ วิปสฺสนาปเภทํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย วิปสฺสนากถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ตาว โสอิติ สพฺพนามตฺตา โย วา โส วา สพฺโพปิ สงฺคหิโต โหติ. วตาติ เอกํสตฺเถ นิปาโต. กฺจิ สงฺขารนฺติ อปฺปมตฺตกมฺปิ สงฺขารํ. อนุโลมิกาย ขนฺติยาติ เอตฺถ วิปสฺสนาาณเมว โลกุตฺตรมคฺคํ อนุโลเมตีติ อนุโลมิกํ, ตเทว ขนฺติมเปกฺขิตฺวา อนุโลมิกา. สพฺพสงฺขารา ตสฺส อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต ขมนฺติ รุจฺจนฺตีติ ขนฺติ. สา มุทุกา มชฺฌิมา ติกฺขาติ ติวิธา. กลาปสมฺมสนาทิกา อุทยพฺพยาณปริโยสานา มุทุกานุโลมิกา ขนฺติ. ภงฺคานุปสฺสนาทิกา สงฺขารุเปกฺขาาณปริโยสานา มชฺฌิมานุโลมิกา ขนฺติ. อนุโลมาณํ ติกฺขานุโลมิกา ขนฺติ. สมนฺนาคโตติ อุเปโต. เนตํ านํ วิชฺชตีติ ยถาวุตฺตํ เอตํ านํ เอตํ การณํ น วิชฺชติ. สมฺมตฺตนิยามนฺติ เอตฺถ ‘‘หิตสุขาวโห เม ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ อาสีสโต ตเถว สมฺภวโต อสุภาทีสุ จ อสุภนฺติอาทิอวิปรีตปฺปวตฺติสพฺภาวโต จ สมฺมา สภาโวติ สมฺมตฺโต, อนนฺตรผลทานาย อรหตฺตุปฺปตฺติยา จ นิยามภูตตฺตา นิยาโม, นิจฺฉโยติ อตฺโถ. สมฺมตฺโต จ โส นิยาโม จาติ สมฺมตฺตนิยาโม. โก โส? โลกุตฺตรมคฺโค, วิเสสโต ปน โสตาปตฺติมคฺโค. เตน หิ มคฺคนิยาเมน นิยตตฺตา ‘‘นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’ติ (ปารา. ๒๑; ที. นิ. ๑.๓๗๓) วุตฺตํ. ตํ สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมิสฺสติ ปวิสิสฺสตีติ เอตํ อฏฺานนฺติ อตฺโถ. โคตฺรภุโน ปน มคฺคสฺส อาวชฺชนฏฺานิยตฺตา ตํ อนาทิยิตฺวา อนุโลมิกขนฺติยา อนนฺตรํ สมฺมตฺตนิยาโมกฺกมนํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อถ วา อฏฺารสสุ มหาวิปสฺสนาสุ โคตฺรภุ วิวฏฺฏนานุปสฺสนา โหตีติ อนุโลมิกขนฺติยา เอว สงฺคหิตา โหติ. จตูสุปิ สุตฺตนฺเตสุ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอเตหิ อนุโลมิกขนฺติสมฺมตฺตนิยามจตุอริยผลวเสน จ ฉ ธมฺมาติ ฉกฺกนิปาเต (อ. นิ. ๖.๙๘, ๑๐๑) จตฺตาโร สุตฺตนฺตา วุตฺตา. กณฺหปกฺขสุกฺกปกฺขทฺวยวเสน หิ จตฺตาโร สุตฺตนฺตาว โหนฺตีติ.

๓๗. กติหากาเรหีติอาทิเก ปุจฺฉาปุพฺพงฺคเม สุตฺตนฺตนิทฺเทเส ปฺจกฺขนฺเธ อนิจฺจโตติอาทีสุ นามรูปฺจ นามรูปสฺส ปจฺจเย จ ปริคฺคเหตฺวา กลาปสมฺมสนวเสน อารทฺธวิปสฺสโก โยคาวจโร ปฺจสุ ขนฺเธสุ เอเกกํ ขนฺธํ อนิจฺจนฺติกตาย อาทิอนฺตวตาย จ อนิจฺจโต ปสฺสติ. อุปฺปาทวยปฏิปีฬนตาย ทุกฺขวตฺถุตาย จ ทุกฺขโต. ปจฺจยยาปนียตาย โรคมูลตาย จ โรคโต. ทุกฺขตาสูลโยคิตาย กิเลสาสุจิปคฺฆรณตาย อุปฺปาทชราภงฺเคหิ อุทฺธุมาตปริปกฺกปภินฺนตาย จ คณฺฑโต. ปีฬาชนกตาย อนฺโตตุทนตาย ทุนฺนีหรณียตาย จ สลฺลโต. วิครหณียตาย อวฑฺฒิอาวหนตาย อฆวตฺถุตาย จ อฆโต. อเสริภาวชนกตาย อาพาธปทฏฺานตาย จ อาพาธโต. อวสตาย อวิเธยฺยตาย จ ปรโต. พฺยาธิชรามรเณหิ ลุชฺชนปลุชฺชนตาย ปโลกโต. อเนกพฺยสนาวหนตาย อีติโต. อวิทิตานํเยว วิปุลานํ อนตฺถานํ อาวหนโต สพฺพูปทฺทววตฺถุตาย จ อุปทฺทวโต. สพฺพภยานํ อากรตาย จ ทุกฺขวูปสมสงฺขาตสฺส ปรมสฺสาสสฺส ปฏิปกฺขภูตตาย จ ภยโต. อเนเกหิ อนตฺเถหิ อนุพทฺธตาย โทสูปสฏฺตาย อุปสคฺโค วิย อนธิวาสนารหตาย จ อุปสคฺคโต. พฺยาธิชรามรเณหิ เจว โลภาทีหิ จ โลกธมฺเมหิ ปจลิตตาย จลโต. อุปกฺกเมน เจว สรเสน จ ปภงฺคุปคมนสีลตาย ปภงฺคุโต. สพฺพาวตฺถนิปาติตาย ถิรภาวสฺส จ อภาวตาย อทฺธุวโต. อตายนตาย เจว อลพฺภเนยฺยเขมตาย จ อตาณโต. อลฺลียิตุํ อนรหตาย อลฺลีนานมฺปิ จ เลณกิจฺจาการิตาย อเลณโต. นิสฺสิตานํ ภยสารกตฺตาภาเวน อสรณโต. ยถาปริกปฺปิเตหิ ธุวสุภสุขตฺตภาเวหิ ริตฺตตาย ริตฺตโต. ริตฺตตาเยว ตุจฺฉโต, อปฺปกตฺตา วา. อปฺปกมฺปิ หิ โลเก ตุจฺฉนฺติ วุจฺจติ. สามินิวาสิเวทกการกาธิฏฺายกวิรหิตตาย สุฺโต. สยฺจ อสามิกภาวาทิตาย อนตฺตโต. ปวตฺติทุกฺขตาย ทุกฺขสฺส จ อาทีนวตาย อาทีนวโต. อถ วา อาทีนํ วาติ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ อาทีนโว. กปณมนุสฺสสฺเสตํ อธิวจนํ, ขนฺธาปิ จ กปณาเยวาติ อาทีนวสทิสตาย อาทีนวโต. ชราย เจว มรเณน จาติ ทฺเวธา ปริณามปกติตาย วิปริณามธมฺมโต. ทุพฺพลตาย เผคฺคุ วิย สุขภฺชนียตาย จ อสารกโต. อฆเหตุตาย อฆมูลโต. มิตฺตมุขสปตฺโต วิย วิสฺสาสฆาติตาย วธกโต. วิคตภวตาย วิภวสมฺภูตตาย จ วิภวโต. อาสวปทฏฺานตาย สาสวโต. เหตุปจฺจเยหิ อภิสงฺขตตาย สงฺขตโต. มจฺจุมารกิเลสมารานํ อามิสภูตตาย มารามิสโต. ชาติชราพฺยาธิมรณปกติตาย ชาติชราพฺยาธิมรณธมฺมโต. โสกปริเทวอุปายาสเหตุตาย โสกปริเทวอุปายาสธมฺมโต. ตณฺหาทิฏฺิทุจฺจริตสํกิเลสานํ วิสยธมฺมตาย สํกิเลสิกธมฺมโต ปสฺสติ. สพฺเพสุ จ อิเมสุ ‘‘ปสฺสตี’’ติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ.

๓๘. ปฺจกฺขนฺเธติ สมูหโต วุตฺเตปิ เอเกกขนฺธวเสน อตฺถวณฺณนา กลาปสมฺมสนาณนิทฺเทเส วิสุํ วิสุํ อาคตตฺตา ปริโยสาเน จ วิสุํ วิสุํ ขนฺธานํ วเสน อนุปสฺสนานํ คณิตตฺตา สมูเห ปวตฺตวจนานํ อวยเวปิ ปวตฺติสมฺภวโต จ กตาติ เวทิตพฺพา, วิสุํ วิสุํ ปวตฺตสมฺมสนานํ เอกโต สงฺขิปิตฺวา วจนวเสน วา ‘‘ปฺจกฺขนฺเธ’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘เอกปฺปหาเรน ปฺจหิ ขนฺเธหิ วุฏฺาตี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๗๘๓) อฏฺกถาวจนสพฺภาวโต วา ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ เอกโต สมฺมสนํ วา ยุชฺชติเยวาติ. ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ นิโรโธ นิจฺจํ นิพฺพานนฺติ ปสฺสนฺโตติอาทีนวาณนิทฺเทเส วุตฺตนเยน วิปสฺสนากาเล สนฺติปทาณวเสน นิจฺจํ นิพฺพานนฺติ ปสฺสนฺโต. สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมตีติ มคฺคกฺขเณ โอกฺกมติ, ผลกฺขเณ ปน โอกฺกนฺโต นาม โหติ. เอเสว นโย สพฺเพสุปิ นิยาโมกฺกมนปริยาเยสุ. อาโรคฺยนฺติ อาโรคฺยภูตํ. วิสลฺลนฺติ สลฺลวิรหิตํ. เอเสว นโย อีทิเสสุ. อนาพาธนฺติ อาพาธวิรหิตํ, อาพาธปฏิปกฺขภูตํ วา. เอส นโย อีทิเสสุ. อปรปฺปจฺจยนฺติ อฺปจฺจยวิรหิตํ. อุปสฺสคฺคโตติ จ อนุปสฺสคฺคนฺติ จ เกจิ สํโยคํ กตฺวา ปนฺติ. ปรมสุฺนฺติ สพฺพสงฺขารสุฺตฺตา อุตฺตมตฺตา จ ปรมสุฺํ. ปรมตฺถนฺติ สงฺขตาสงฺขตานํ อคฺคภูตตฺตา อุตฺตมตฺถํ. ลิงฺควิปลฺลาสวเสน นปุํสกวจนํ. นิพฺพานสฺส จ สุฺตฺตา อนตฺตตฺตา จ อิมสฺมึ ทฺวเย ปฏิโลมปริยาโย น วุตฺโต. อนาสวนฺติ อาสววิรหิตํ. นิรามิสนฺติ อามิสวิรหิตํ. อชาตนฺติ ชาติวิรหิตตฺตา อนุปฺปนฺนํ. อมตนฺติ ภงฺคาภาวโต มรณวิรหิตํ. มรณมฺปิ หิ นปุํสกภาววจนวเสน ‘‘มต’’นฺติ วุจฺจติ.

๓๙. เอวมิมาย ปฏิปาฏิยา วุตฺตาสุ อาการเภทภินฺนาสุ จตฺตาลีสาย อนุปสฺสนาสุ สภาวสงฺคหวเสน ตีสุเยว อนุปสฺสนาสุ เอกสงฺคหํ กโรนฺโต อนิจฺจโตติ อนิจฺจานุปสฺสนาติอาทิมาห. ตาสุ ยถานุรูปํ อนิจฺจทุกฺขานตฺตตฺเต โยชนา กาตพฺพา. อวสาเน ปเนตา วิสุํ วิสุํ คณนวเสน ทสฺสิตา. คณนาสุ จ คณนปฏิปาฏิวเสน ปมํ อนตฺตานุปสฺสนา คณิตา. ตตฺถ ปฺจวีสตีติ ‘‘ปรโต ริตฺตโต ตุจฺฉโต สุฺโต อนตฺตโต’’ติ เอเกกสฺมึ ขนฺเธ ปฺจ ปฺจ กตฺวา ปฺจสุ ขนฺเธสุ ปฺจวีสติ อนตฺตานุปสฺสนา. ปฺาสาติ ‘‘อนิจฺจโต ปโลกโต จลโต ปภงฺคุโต อทฺธุวโต วิปริณามธมฺมโต อสารกโต วิภวโต สงฺขตโต มรณธมฺมโต’’ติ เอเกกสฺมึ ขนฺเธ ทส ทส กตฺวา ปฺจสุ ขนฺเธสุ ปฺาสํ อนิจฺจานุปสฺสนา. สตํ ปฺจวีสติ เจวาติ เสสา ‘‘ทุกฺขโต โรคโต’’ติอาทโย เอเกกสฺมึ ขนฺเธ ปฺจวีสติ ปฺจวีสติ กตฺวา ปฺจสุ ขนฺเธสุ ปฺจวีสติสตํ ทุกฺขานุปสฺสนา. ยานิ ทุกฺเข ปวุจฺจเรติ ยา อนุปสฺสนา ทุกฺเข ขนฺธปฺจเก คณนวเสน ปวุจฺจนฺติ, ตา สตํ ปฺจวีสติ เจวาติ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ‘‘ยานี’’ติ เจตฺถ ลิงฺควิปลฺลาโส ทฏฺพฺโพติ.

วิปสฺสนากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. มาติกากถา

มาติกากถาวณฺณนา

๔๐. อิทานิ มหาเถโร วิปสฺสนากถานนฺตรํ สกเล ปฏิสมฺภิทามคฺเค นิทฺทิฏฺเ สมถวิปสฺสนามคฺคนิพฺพานธมฺเม อาการนานตฺตวเสน นานาปริยาเยหิ โถเมตุกาโม นิจฺฉาโตติอาทีนิ เอกูนวีสติ มาติกาปทานิ อุทฺทิสิตฺวา เตสํ นิทฺเทสวเสน มาติกากถํ นาม กเถสิ. ตสฺสา อยํ อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. มาติกาย ตาว นิจฺฉาโตติ อมิลาโต. สพฺเพปิ หิ กิเลสา ปีฬาโยคโต มิลาตา, ราโคปิ ตาว นิรนฺตรปฺปวตฺโต สรีรํ ทหติ, กึ ปนฺเ กิเลสา. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อคฺคี ราคคฺคิ โทสคฺคิ โมหคฺคี’’ติ (อิติวุ. ๙๓; ที. นิ. ๓.๓๐๕) ปน กิเลสนายกา ตโย เอว กิเลสา วุตฺตา, ตํสมฺปยุตฺตาปิ ปน ทหนฺติเยว. เอวํ ฉาตกิเลสาภาวโต นิจฺฉาโต. โก โส? วิโมกฺขสมฺพนฺเธน วิโมกฺโขติ ทฏฺพฺโพ. มุจฺจตีติ โมกฺโข. วิมุจฺจตีติ วิโมกฺโขติ อตฺโถ. อิทเมกํ มาติกาปทํ. วิชฺชาวิมุตฺตีติ วิชฺชาเยว วิมุตฺติ. อิทเมกํ มาติกาปทํ. ฌานวิโมกฺโขติ ฌานเมว วิโมกฺโข. อิทเมกํ มาติกาปทํ. เสสานิ เอเกกาเนวาติ เอวํ เอกูนวีสติ มาติกาปทานิ.

๔๑. เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺทโต นิจฺฉาโตติ เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺทโต อเปตตฺตา กามจฺฉนฺทโต นิกฺกิเลโส โยคี. เตน ปฏิลทฺธํ เนกฺขมฺมมฺปิ นิจฺฉาโต นิกฺกิเลโส วิโมกฺโข. เอวํ เสเสสุปิ. เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺทโต มุจฺจตีติ วิโมกฺโขติ เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺทโต โยคี มุจฺจตีติ ตํ เนกฺขมฺมํ วิโมกฺโขติ อตฺโถ. เอวํ เสเสสุปิ. วิชฺชตีติ วิชฺชาติ สภาวโต วิชฺชติ อตฺถิ อุปลพฺภตีติ วิชฺชา นามาติ อตฺโถ. อถ วา สภาวชานนตฺถํ ปฏิปนฺเนหิ โยคีหิ สภาวํ เวทียติ ชานียตีติ วิชฺชา นามาติ อตฺโถ. อถ วา วิเสสลาภตฺถํ ปฏิปนฺเนหิ โยคีหิ เวทียติ ปฏิลาภียตีติ วิชฺชา นามาติ อตฺโถ. อถ วา อตฺตนา วินฺทิตพฺพํ ภูมึ วินฺทติ ลภตีติ วิชฺชา นามาติ อตฺโถ. อถ วา สภาวทสฺสนเหตุตฺตา สภาวํ วิทิตํ กโรตีติ วิชฺชา นามาติ อตฺโถ. วิชฺชนฺโต มุจฺจติ, มุจฺจนฺโต วิชฺชตีติ ยถาวุตฺโต ธมฺโม ยถาวุตฺเตนตฺเถน วิชฺชมาโน ยถาวุตฺตโต มุจฺจติ, ยถาวุตฺตโต มุจฺจมาโน ยถาวุตฺเตนตฺเถน วิชฺชตีติ วิชฺชาวิมุตฺติ นามาติ อตฺโถ.

กามจฺฉนฺทํ สํวรฏฺเนาติ กามจฺฉนฺทนิวารณฏฺเน ตํ เนกฺขมฺมํ สีลวิสุทฺธิ นามาติ อตฺโถ. ตํเยว อวิกฺเขปเหตุตฺตา อวิกฺเขปฏฺเน จิตฺตวิสุทฺธิ. ทสฺสนเหตุตฺตา ทสฺสนฏฺเน ทิฏฺิวิสุทฺธิ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ปฏิปฺปสฺสมฺเภตีติ เนกฺขมฺมาทินา กามจฺฉนฺทาทิกํ โยคาวจโร ปฏิปฺปสฺสมฺเภตีติ เนกฺขมฺมาทิโก ธมฺโม ปสฺสทฺธิ นามาติ อตฺโถ. ปหีนตฺตาติ เตน เตน ปหาเนน ปหีนตฺตา. าตฏฺเน าณนฺติ ฌานปจฺจเวกฺขณาวเสน วิปสฺสนาวเสน มคฺคปจฺจเวกฺขณาวเสน าตฏฺเน เนกฺขมฺมาทิกํ าณํ นามาติ อตฺโถ. ทิฏฺตฺตา ทสฺสนนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. วิสุชฺฌตีติ โยคี, เนกฺขมฺมาทิกา วิสุทฺธิ.

เนกฺขมฺมนิทฺเทเส เนกฺขมฺมํ อโลภตฺตา กามราคโต นิสฺสฏนฺติ นิสฺสรณํ. ตโต นิกฺขนฺตนฺติ เนกฺขมฺมํ. ‘‘รูปานเมตํ นิสฺสรณํ ยทิทํ เนกฺขมฺม’’นฺติ วุจฺจมาเน อารุปฺปวิเสสสฺส อทิสฺสนโต วิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ อฺตฺถ วุตฺตปากฺกเมเนว ยทิทํ อารุปฺปนฺติ วุตฺตํ. ตฺจ อารุปฺปํ รูปโต นิกฺขนฺตตฺตา เนกฺขมฺมํ นามาติ อธิการวเสเนว วุตฺตํ โหติ. ภูตนฺติ อุปฺปาทสมาโยคทีปนํ. สงฺขตนฺติ ปจฺจยพลวิเสสทสฺสนํ. ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนนฺติ ปจฺจยสมาโยเคปิ ปจฺจยานํ อพฺยาปารภาวทสฺสนํ. นิโรโธ ตสฺส เนกฺขมฺมนฺติ นิพฺพานํ ตโต สงฺขตโต นิกฺขนฺตตฺตา ตสฺส สงฺขตสฺส เนกฺขมฺมํ นาม. อารุปฺปสฺส จ นิโรธสฺส จ คหณํ อฺตฺถ ปาเ วุตฺตกฺกเมเนว กตํ. ‘‘กามจฺฉนฺทสฺส เนกฺขมฺมํ เนกฺขมฺม’’นฺติ วุจฺจมาเน ปุนรุตฺตํ โหติ. เนกฺขมฺมวจเนเนว จ ตสฺส เนกฺขมฺมสิทฺธีติ ตํ อวตฺวา เสสเนกฺขมฺมเมว วุตฺตํ. ตํ อุชุกเมว. นิสฺสรณนิทฺเทเสปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. นิสฺสรณียา ธาตุโย ปเนตฺถ อุชุกเมว เนกฺขมฺมนฺติ วุตฺตํ. ปวิเวโกติ ปวิวิตฺตภาโว เนกฺขมฺมาทิโกเยว. โวสชฺชตีติ โยคี, เนกฺขมฺมาทโย โวสคฺโค. เนกฺขมฺมํ ปวตฺเตนฺโต โยคี เนกฺขมฺเมน จรตีติ วุจฺจติ. ตํ ปน เนกฺขมฺมํ จริยา. เอส นโย เสเสสุปิ. ฌานวิโมกฺขนิทฺเทเส วตฺตพฺพํ วิโมกฺขกถายํ วุตฺตํ. เกวลํ ตตฺถ ‘‘ชานาตีติ ฌานวิโมกฺโข’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๑๗) วุตฺตํ, อิธ ปน ‘‘ชานาตีติ, ฌายตี’’ติ ปุคฺคลาธิฏฺานาว เทสนา กตาติ อยํ วิเสโส.

๔๒. ภาวนาธิฏฺานชีวิตนิทฺเทเส จ ปุคฺคลาธิฏฺานา เทสนา กตา. ธมฺมโต ปน ภาวนา นาม เนกฺขมฺมาทโยว. อธิฏฺานํ นาม เนกฺขมฺมาทิวเสน ปติฏฺาปิตจิตฺตเมว. ชีวิตํ นาม เนกฺขมฺมาทิวเสน ปติฏฺาปิตจิตฺตสฺส สมฺมาอาชีโว นาม. โก โส สมฺมาอาชีโว นาม? มิจฺฉาชีวา วิรติ, ธมฺเมน สเมน ปจฺจยปริเยสนวายาโม จ. ตตฺถ สมํ ชีวตีติ สมํ ชีวิตํ ชีวติ, ภาวนปุํสกวจนํ วา, สเมน ชีวตีติ วุตฺตํ โหติ. โน วิสมนฺติ ‘‘สมํ ชีวตี’’ติ วุตฺตสฺเสว อตฺถสฺส ปฏิเสธวเสน อวธารณํ กตํ. สมฺมา ชีวตีติ อาการนิทสฺสนํ. โน มิจฺฉาติ ตสฺเสว นิยมนํ. วิสุทฺธํ ชีวตีติ สภาววิสุทฺธิยา วิสุทฺธํ ชีวิตํ ชีวติ. โน กิลิฏฺนฺติ ตสฺเสว นิยมนํ. ยฺเทวาติอาทีหิ ยถาวุตฺตานํ ติสฺสนฺนํ สมฺปทานํ อานิสํสํ ทสฺเสติ. ตตฺถ ยฺเทวาติ ยํ ยํ เอว. ขตฺติยปริสนฺติ ขตฺติยานํ สนฺนิปาตํ. โส หิ สมนฺตโต สีทนฺติ เอตฺถ อกตพุทฺธิโนติ ปริสาติ วุจฺจติ. เอเสว นโย อิตรตฺตเย. ขตฺติยาทีนํเยว อาคมนสมฺปตฺติยา าณสมฺปตฺติยา จ สมนฺนาคตตฺตา ตาสํเยว จตสฺสนฺนํ คหณํ, น สุทฺทปริสาย. วิสารโทติ ตีหิ สมฺปทาหิ สมฺปนฺโน วิคตสารชฺโช, นิพฺภโยติ อตฺโถ. อมงฺกุภูโตติ อสงฺกุจิโต น นิตฺเตชภูโต. ตํ กิสฺส เหตูติ ตํ วิสารทตฺตํ เกน เหตุนา เกน การเณน โหตีติ เจติ อตฺโถ. อิทานิ ตถา หีติ ตสฺส การณวจนํ. ยสฺมา เอวํ ติสมฺปทาสมฺปนฺโน, ตสฺมา ‘‘วิสารโท โหตี’’ติ วิสารทภาวสฺส การณํ ทสฺเสตฺวา นิฏฺเปสีติ.

สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฏิสมฺภิทามคฺค-อฏฺกถาย

มาติกากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิตา จูฬวคฺคสฺส อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา.

เอตฺตาวตา จ ติวคฺคสงฺคหิตสฺส

สมตึสกถาปฏิมณฺฑิตสฺส ปฏิสมฺภิทามคฺคสฺส อตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา โหตีติ.

นิคมนกถา

มหาวคฺโค มชฺฌิโม จ, จูฬวคฺโค จ นามโต;

ตโย วคฺคา อิธ วุตฺตา, ปมาณปฏิปาฏิยา.

วคฺเค วคฺเค ทส ทส, กถา ยา ตา อุทีริตา;

อุทฺทานคาถา สพฺพาสํ, อิมา ตาสํ ยถากฺกมํ.

าณํ ทิฏฺิ อานาปานํ, อินฺทฺริยํ วิโมกฺขปฺจมํ;

คติ กมฺมํ วิปลฺลาโส, มคฺโค มณฺโฑติ ตา ทส.

ยุคนทฺธสจฺจโพชฺฌงฺคา, เมตฺตา วิราคปฺจมา;

ปฏิสมฺภิทา ธมฺมจกฺกํ, โลกุตฺตรพลสุฺตา.

ปฺา อิทฺธิ อภิสมโย, วิเวโก จริยปฺจโม;

ปาฏิหีรํ สมสีส-สติ วิปสฺสนมาติกา.

โย โส สุคตสุตานํ, อธิปติภูเตน ภูตหิตรตินา;

เถเรน ถิรคุณวตา, วุตฺโต ปฏิสมฺภิทามคฺโค.

ตสฺสตฺถวณฺณนา ยา, ปุพฺพฏฺกถานยํ ตถา ยุตฺตึ;

นิสฺสาย มยารทฺธา, นิฏฺานมุปาคตา เอสา.

ยํ ตํ อุตฺตรมนฺตี, มนฺติคุณยุโต ยุโต จ สทฺธาย;

การยิ มหาวิหาเร, ปริเวณมเนกสาธุคุณํ.

เถเรเนตฺถ นิวสตา, สมาปิตายํ มหาภิธาเนน;

ตติเย วสฺเส จุติโต, โมคฺคลฺลานสฺส ภูปติโน.

สมยํ อนุโลเมนฺตี, เถรานํ เถรวาททีปานํ;

นิฏฺํ คตา ยถายํ, อฏฺกถา โลกหิตชนนี.

ธมฺมํ อนุโลเมนฺตา, อตฺตหิตํ ปรหิตฺจ สาเธนฺตา;

นิฏฺํ คจฺฉนฺตุ ตถา, มโนรถา สพฺพสตฺตานํ.

สทฺธมฺมปกาสินิยา, อฏฺกถาเยตฺถ คณิตกุสเลหิ;

คณิตา ตุ ภาณวารา, วิฺเยฺยา อฏฺปฺาส.

อานุฏฺุเภน อสฺสา, ฉนฺโทพนฺเธน คณิยมานา ตุ;

จุทฺทสสหสฺสสงฺขา, คาถาโย ปฺจ จ สตานิ.

สาสนจิรฏฺิตตฺถํ, โลกหิตตฺถฺจ สาทเรน มยา;

ปุฺํ อิมํ รจยตา, ยํ ปตฺตมนปฺปกํ วิปุลํ.

ปุฺเน เตน โลโก, สทฺธมฺมรสายนํ ทสพลสฺส;

อุปภุฺชิตฺวา วิมลํ, ปปฺโปตุ สุขํ สุเขเนวาติ.

สทฺธมฺมปฺปกาสินี นาม

ปฏิสมฺภิทามคฺคปฺปกรณสฺส อฏฺกถา นิฏฺิตา.