📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ขุทฺทกนิกาเย
มิลินฺทปฺหปาฬิ
มิลินฺโท ¶ ¶ ¶ นาม โส ราชา, สาคลายํ ปุรุตฺตเม;
อุปคฺฉิ นาคเสนํ, คงฺคา จ [คงฺคาว (สี. ปี.)] ยถา สาครํ.
อาสชฺช ราชา จิตฺรกถึ, อุกฺกาธารํ ตโมนุทํ;
อปุจฺฉิ นิปุเณ ปฺเห, านาฏฺานคเต ปุถู.
ปุจฺฉา วิสชฺชนา [วิสฺสชฺชนา (สี. ปี.)] เจว, คมฺภีรตฺถูปนิสฺสิตา;
หทยงฺคมา กณฺณสุขา, อพฺภุตา โลมหํสนา.
อภิธมฺมวินโยคาฬฺหา, สุตฺตชาลสมตฺติตา;
นาคเสนกถา จิตฺรา, โอปมฺเมหิ นเยหิ จ.
ตตฺถ ¶ าณํ ปณิธาย, หาสยิตฺวาน มานสํ;
สุณาถ นิปุเณ ปฺเห, กงฺขาฏฺานวิทาลเนติ.
๒. ตํ ยถานุสูยเต – อตฺถิ โยนกานํ นานาปุฏเภทนํ สาคลํ นาม นครํ นทีปพฺพตโสภิตํ รมณียภูมิปฺปเทสภาคํ อารามุยฺยาโนปวนตฬากโปกฺขรณิสมฺปนฺนํ นทีปพฺพตวนรามเณยฺยกํ สุตวนฺตนิมฺมิตํ นิหตปจฺจตฺถิกํ [นิปฺปจฺจตฺถิกํ (ก.)] ปจฺจามิตฺตานุปปีฬิตํ วิวิธวิจิตฺรทฬฺหมฏฺฏาลโกฏฺกํ วรปวรโคปุร [ปวรปจุรโคปุร (สี.)] โตรณํ คมฺภีรปริขาปณฺฑรปาการปริกฺขิตฺตนฺเตปุรํ. สุวิภตฺตวีถิจจฺจรจตุกฺกสิงฺฆาฏกํ ¶ สุปฺปสาริตาเนกวิธวรภณฺฑปริปูริตนฺตราปณํ ¶ วิวิธทานคฺคสตสมุปโสภิตํ [สตสมุปโสภิตํ (สี. ปี.)] หิมคิริสิขรสงฺกาสวรภวนสตสหสฺสปฺปฏิมณฺฑิตํ คชหยรถปตฺติสมากุลํ อภิรูปนรนาริคณานุจริตํ อากิณฺณชนมนุสฺสํ ปุถุขตฺติยพฺราหฺมณเวสฺสสุทฺทํ วิวิธสมณพฺราหฺมณสภาชน [สภาชน (สี. ปี.), สมฺมาภาชน (ก.)] สงฺฆฏิตํ พหุวิธวิชฺชาวนฺต [วิชฺชาธร (ก.)] นรจิร [นรวิร (สี. ปี.)] นิเสวิตํ กาสิกโกฏุมฺพริกาทินานาวิธวตฺถาปณสมฺปนฺนํ สุปฺปสาริตรุจิรพหุวิธปุปฺผคนฺธาปณํ คนฺธคนฺธิตํ อาสีสนียพหุรตนปริปูริตํ ทิสามุขสุปฺปสาริตาปณํ สิงฺคารวาณิชคณานุจริตํ กหาปณรชตสุวณฺณกํสปตฺถรปริปูรํ ปชฺโชตมานนิธินิเกตํ ปหูตธนธฺวิตฺตูปกรณํ ปริปุณฺณโกสโกฏฺาคารํ พหฺวนฺนปานํ พหุวิธขชฺชโภชฺชเลยฺยเปยฺยสายนียํ อุตฺตรกุรุสงฺกาสํ สมฺปนฺนสสฺสํ อาฬกมนฺทา วิย เทวปุรํ.
เอตฺถ ตฺวา เตสํ ปุพฺพกมฺมํ กเถตพฺพํ, กเถนฺเตน จ ฉธา วิภชิตฺวา กเถตพฺพํ. เสยฺยถีทํ – ปุพฺพโยโค มิลินฺทปฺหํ ลกฺขณปฺหํ เมณฺฑกปฺหํ อนุมานปฺหํ โอปมฺมกถาปฺหนฺติ.
ตตฺถ มิลินฺทปฺโห ลกฺขณปฺโห, วิมติจฺเฉทนปฺโหติ ทุวิโธ. เมณฺฑกปฺโหปิ มหาวคฺโค, โยคิกถาปฺโหติ ทุวิโธ.
ปุพฺพโยโคติ เตสํ ปุพฺพกมฺมํ.
๑. พาหิรกถา
ปุพฺพโยคาทิ
๓. อตีเต ¶ ¶ กิร กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน วตฺตมาเน คงฺคาย สมีเป เอกสฺมึ อาวาเส มหาภิกฺขุสงฺโฆ ปฏิวสติ, ตตฺถ วตฺตสีลสมฺปนฺนา ภิกฺขู ปาโตว อุฏฺาย ยฏฺิสมฺมชฺชนิโย [ยฏฺิสมฺมฺุชนิโย (สี. ปี.)] อาทาย พุทฺธคุเณ อาวชฺเชนฺตา องฺคณํ สมฺมชฺชิตฺวา กจวรพฺยูหํ กโรนฺติ. อเถโก ภิกฺขุ เอกํ สามเณรํ ‘‘เอหิ สามเณร, อิมํ กจวรํ ฉฑฺเฑหี’’ติ อาห, โส อสุณนฺโต วิย คจฺฉติ, โส ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ อามนฺติยมาโน อสุณนฺโต วิย คจฺฉเตว. ตโต โส ภิกฺขุ ‘‘ทุพฺพโจ วตายํ สามเณโร’’ติ กุทฺโธ สมฺมชฺชนิทณฺเฑน ¶ ปหารํ อทาสิ. ตโต โส โรทนฺโต ภเยน กจวรํ ฉฑฺเฑนฺโต ‘‘อิมินา กจวรฉฑฺฑนปฺุกมฺเมน ยาวาหํ นิพฺพานํ ปาปุณามิ [น ปาปุณามิ (สฺยา.)], เอตฺถนฺตเร นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน มชฺฌนฺหิกสูริโย [สุริโย (สี. ปี.)] วิย มเหสกฺโข มหาเตโช ภเวยฺย’’นฺติ ปมํ ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ. กจวรํ ฉฑฺเฑตฺวา นหานตฺถาย คงฺคาติตฺถํ คโต คงฺคาย อูมิเวคํ คคฺครายมานํ ทิสฺวา ‘‘ยาวาหํ นิพฺพานํ ปาปุณามิ [น ปาปุณามิ (สฺยา.)], เอตฺถนฺตเร นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน อยํ อูมิเวโค วิย านุปฺปตฺติกปฏิภาโน ภเวยฺยํ อกฺขยปฏิภาโน’’ติ ทุติยมฺปิ ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ.
โสปิ ภิกฺขุ สมฺมชฺชนิสาลาย สมฺมชฺชนึ เปตฺวา นหานตฺถาย คงฺคาติตฺถํ คจฺฉนฺโต สามเณรสฺส ปตฺถนํ สุตฺวา ‘‘เอส มยา ปโยชิโตปิ ตาว เอวํ ปตฺเถติ, มยฺหํ กึ น สมิชฺฌิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ยาวาหํ นิพฺพานํ ปาปุณามิ [น ปาปุณามิ (สฺยา.)], เอตฺถนฺตเร นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน อยํ คงฺคาอูมิเวโค วิย อกฺขยปฏิภาโน ภเวยฺยํ, อิมินา ปุจฺฉิตปุจฺฉิตํ สพฺพํ ปฺหปฏิภานํ วิชเฏตุํ นิพฺเพเตุํ สมตฺโถ ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ.
เต อุโภปิ เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ สํสรนฺตา เอกํ พุทฺธนฺตรํ เขเปสุํ. อถ อมฺหากํ ภควตาปิ ยถา โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโร ทิสฺสติ, เอวเมเตปิ ทิสฺสนฺติ มม ปรินิพฺพานโต ปฺจวสฺสสเต ¶ อติกฺกนฺเต เอเต อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ, ยํ มยา สุขุมํ กตฺวา เทสิตํ ธมฺมวินยํ, ตํ เอเต ปฺหปุจฺฉนโอปมฺมยุตฺติวเสน นิชฺชฏํ นิคฺคุมฺพํ กตฺวา วิภชิสฺสนฺตีติ นิทฺทิฏฺา.
๔. เตสุ ¶ สามเณโร ชมฺพุทีเป สาคลนคเร มิลินฺโท นาม ราชา อโหสิ ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี ปฏิพโล อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ มนฺตโยควิธานกิริยานํ [สมนฺตโยค … (สี. ปี.)], กรณกาเล นิสมฺมการี โหติ, พหูนิ จสฺส สตฺถานิ อุคฺคหิตานิ โหนฺติ. เสยฺยถิทํ, สุติ สมฺมุติ สงฺขฺยา โยคา นีติ วิเสสิกา คณิกา คนฺธพฺพา ติกิจฺฉา ธนุพฺเพทา [จตุพฺเพทา (สี. ปี.)] ปุราณา อิติหาสา โชติสา มายา เกตุ [เหตุ (สี. ปี.)] มนฺตนา ยุทฺธา ฉนฺทสา พุทฺธวจเนน ¶ [ฉนฺทสามุทฺทวจเนน (สี. ปี.)] เอกูนวีสติ, วิตณฺฑวาที [วาที (สี. ปี.)] ทุราสโท ทุปฺปสโห ปุถุติตฺถกรานํ อคฺคมกฺขายติ, สกลชมฺพุทีเป มิลินฺเทน รฺา สโม โกจิ นาโหสิ ยทิทํ ถาเมน ชเวน สูเรน ปฺาย, อฑฺโฒ มหทฺธโน มหาโภโค อนนฺตพลวาหโน.
๕. อเถกทิวสํ มิลินฺโท ราชา อนนฺตพลวาหนํ จตุรงฺคินึ พลคฺคเสนาพฺยูหํ ทสฺสนกมฺยตาย นครา นิกฺขมิตฺวา พหินคเร เสนงฺคทสฺสนํ กตฺวา [เสนาคณนํ กาเรตฺวา (สี. ปี.)] สาเรตฺวา โส ราชา ภสฺสปฺปวาทโก โลกายตวิตณฺฑ [ปวตฺต (สี. ปี.)] ชนสลฺลาปปฺลว จิตฺตโกตูหโล วิสารโท วิชมฺภโก สูริยํ โอโลเกตฺวา อมจฺเจ อามนฺเตสิ ‘‘พหุ ภเณ ตาว ทิวสาวเสโส กึ กริสฺสาม, อิทาเนว นครํ ปวิสิตฺวา อตฺถิ โกจิ ปณฺฑิโต สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา สงฺฆี คณี คณาจริโย อปิ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ปฏิชานมาโน, โย มยา สทฺธึ สลฺลปิตุํ สกฺโกติ กงฺขํ ปฏิวิเนตุํ, ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสาม, กงฺขํ ปฏิวินยิสฺสามา’’ติ.
เอวํ วุตฺเต ปฺจสตา โยนกา ราชานํ มิลินฺทํ เอตทโวจุํ ‘‘อตฺถิ, มหาราช, ฉ สตฺถาโร ปูรโณ กสฺสโป มกฺขลิโคสาโล นิคณฺโ นาฏปุตฺโต [นาถปุตฺโต (สี. ปี.)] สฺชโย เพลฏฺปุตฺโต อชิโต เกสกมฺพโล ปกุโธ กจฺจายโน, เต สงฺฆิโน คณิโน คณาจริยกา าตา ยสสฺสิโน ติตฺถกรา สาธุสมฺมตา พหุชนสฺส, คจฺฉ ตฺวํ มหาราช, เต ปฺหํ ปุจฺฉสฺสุ, กงฺขํ ปฏิวินยสฺสู’’ติ.
๖. อถ โข มิลินฺโท ราชา ปฺจหิ โยนกสเตหิ ปริวุโต ภทฺรวาหนํ รถวรมารุยฺห เยน ปูรโณ กสฺสโป เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ¶ ปูรเณน กสฺสเปน สทฺธึ สมฺโมทิ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข มิลินฺโท ราชา ปูรณํ กสฺสปํ เอตทโวจ ‘‘โก, ภนฺเต กสฺสป, โลกํ ปาเลตี’’ติ? ‘‘ปถวี, มหาราช ¶ , โลกํ ปาเลตี’’ติ. ‘‘ยทิ, ภนฺเต กสฺสป, ปถวี [ปวี (สี. สฺยา. ปี.)] โลกํ ปาเลติ, อถ กสฺมา อวีจินิรยํ คจฺฉนฺตา สตฺตา ปถวึ อติกฺกมิตฺวา ¶ คจฺฉนฺตี’’ติ? เอวํ วุตฺเต ปูรโณ กสฺสโป เนว สกฺขิ โอคิลิตุํ, โน สกฺขิ อุคฺคิลิตุํ, อโธมุโข ปตฺตกฺขนฺโธ ตุณฺหีภูโต ปชฺฌายนฺโต นิสีทิ.
๗. อถ โข มิลินฺโท ราชา มกฺขลึ โคสาลํ เอตทโวจ ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต โคสาล, กุสลากุสลานิ กมฺมานิ, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’ติ? ‘‘นตฺถิ, มหาราช, กุสลากุสลานิ กมฺมานิ, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก. เย เต, มหาราช, อิธ โลเก ขตฺติยา, เต ปรโลกํ คนฺตฺวาปิ ปุน ขตฺติยาว ภวิสฺสนฺติ, เย เต พฺราหฺมณา เวสฺสา สุทฺทา จณฺฑาลา ปุกฺกุสา, เต ปรโลกํ คนฺตฺวาปิ ปุน พฺราหฺมณา เวสฺสา สุทฺทา จณฺฑาลา ปุกฺกุสาว ภวิสฺสนฺติ. กึ กุสลากุสเลหิ กมฺเมหี’’ติ? ‘‘ยทิ, ภนฺเต โคสาล, อิธ โลเก ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา สุทฺทา จณฺฑาลา ปุกฺกุสา, เต ปรโลกํ คนฺตฺวาปิ ปุน ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา สุทฺทา จณฺฑาลา ปุกฺกุสาว ภวิสฺสนฺติ, นตฺถิ กุสลากุสเลหิ กมฺเมหิ กรณียํ. เตน หิ, ภนฺเต โคสาล, เย เต อิธ โลเก หตฺถจฺฉินฺนา, เต ปรโลกํ คนฺตฺวาปิ ปุน หตฺถจฺฉินฺนาว ภวิสฺสนฺติ. เย ปาทจฺฉินฺนา, เต ปาทจฺฉินฺนาว ภวิสฺสนฺติ. เย หตฺถปาทจฺฉินฺนา, เต หตฺถปาทจฺฉินฺนาว ภวิสฺสนฺติ. เย กณฺณจฺฉินฺนา, เต กณฺณจฺฉินฺนาว ภวิสฺสนฺติ. เย นาสจฺฉินฺนา, เต นาสจฺฉินฺนาว ภวิสฺสนฺติ. เย กณฺณนาสจฺฉินฺนา, เต กณฺณนาสจฺฉินฺนาว ภวิสฺสนฺตี’’ติ. เอวํ วุตฺเต โคสาโล ตุณฺหี อโหสิ.
อถ โข มิลินฺทสฺส รฺโ เอตทโหสิ ‘‘ตุจฺโฉ วต โภ ชมฺพุทีโป, ปลาโป วต โภ ชมฺพุทีโป, นตฺถิ โกจิ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา, โย มยา สทฺธึ สลฺลปิตุํ สกฺโกติ กงฺขํ ปฏิวิเนตุ’’นฺติ.
อถ ¶ โข มิลินฺโท ราชา อมจฺเจ อามนฺเตสิ ‘‘รมณียา วต โภ โทสินา รตฺติ, กํ นุ ขฺวชฺช สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา อุปสงฺกเมยฺยาม ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ, โก มยา สทฺธึ สลฺลปิตุํ สกฺโกติ กงฺขํ ปฏิวิเนตุ’’นฺติ? เอวํ วุตฺเต อมจฺจา ตุณฺหีภูตา รฺโ มุขํ โอโลกยมานา อฏฺํสุ.
เตน โข ปน สมเยน สาคลนครํ ทฺวาทส วสฺสานิ สฺุํ อโหสิ สมณพฺราหฺมณคหปติปณฺฑิเตหิ, ยตฺถ สมณพฺราหฺมณคหปติปณฺฑิตา ปฏิวสนฺตีติ สุณาติ, ตตฺถ คนฺตฺวา ¶ ราชา เต ปฺหํ ปุจฺฉติ, เต ¶ สพฺเพปิ ปฺหวิสชฺชเนน ราชานํ อาราเธตุํ อสกฺโกนฺตา เยน วา เตน วา ปกฺกมนฺติ. เย อฺํ ทิสํ น ปกฺกมนฺติ, เต สพฺเพ ตุณฺหีภูตา อจฺฉนฺติ. ภิกฺขู ปน เยภุยฺเยน หิมวนฺตเมว คจฺฉนฺติ.
๘. เตน โข ปน สมเยน โกฏิสตา อรหนฺโต หิมวนฺเต ปพฺพเต รกฺขิตตเล ปฏิวสนฺติ. อถ โข อายสฺมา อสฺสคุตฺโต ทิพฺพาย โสตธาตุยา มิลินฺทสฺส รฺโ วจนํ สุตฺวา ยุคนฺธรมตฺถเก ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา ภิกฺขู ปุจฺฉิ ‘‘อตฺถาวุโส โกจิ ภิกฺขุ ปฏิพโล มิลินฺเทน รฺา สทฺธึ สลฺลปิตุํ กงฺขํ ปฏิวิเนตุ’’นฺติ?
เอวํ วุตฺเต โกฏิสตา อรหนฺโต ตุณฺหี อเหสุํ. ทุติยมฺปิ ตติยมฺปิ ปุฏฺา ตุณฺหี อเหสุํ. อถ โข อายสฺมา อสฺสคุตฺโต ภิกฺขุสงฺฆํ เอตทโวจ ‘‘อตฺถาวุโส ตาวตึสภวเน เวชยนฺตสฺส ปาจีนโต เกตุมตี นาม วิมานํ, ตตฺถ มหาเสโน นาม เทวปุตฺโต ปฏิวสติ, โส ปฏิพโล เตน มิลินฺเทน รฺา สทฺธึ สลฺลปิตุํ กงฺขํ ปฏิวิเนตุ’’นฺติ.
อถ โข โกฏิสตา อรหนฺโต ยุคนฺธรปพฺพเต อนฺตรหิตา ตาวตึสภวเน ปาตุรเหสุํ. อทฺทสา โข สกฺโก เทวานมินฺโท เต ภิกฺขู ทูรโตว อาคจฺฉนฺเต, ทิสฺวาน เยนายสฺมา อสฺสคุตฺโต เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อสฺสคุตฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ, เอกมนฺตํ ิโต โข สกฺโก เทวานมินฺโท อายสฺมนฺตํ อสฺสคุตฺตํ เอตทโวจ ‘‘มหา โข, ภนฺเต, ภิกฺขุสงฺโฆ อนุปฺปตฺโต, อหํ สงฺฆสฺส อารามิโก, เกนตฺโถ, กึ มยา กรณีย’’นฺติ?
อถ โข อายสฺมา อสฺสคุตฺโต สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ ‘‘อยํ โข, มหาราช, ชมฺพุทีเป สาคลนคเร มิลินฺโท นาม ราชา วิตณฺฑวาที ทุราสโท ¶ ทุปฺปสโห ปุถุติตฺถกรานํ อคฺคมกฺขายติ, โส ภิกฺขุสงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา ทิฏฺิวาเทน ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ วิเหเตี’’ติ.
อถ ¶ โข สกฺโก เทวานมินฺโท อายสฺมนฺตํ อสฺสคุตฺตํ เอตทโวจ ‘‘อยํ โข, ภนฺเต, มิลินฺโท ราชา อิโต จุโต มนุสฺเสสุ อุปฺปนฺโน, เอโส โข, ภนฺเต, เกตุมติวิมาเน มหาเสโน นาม เทวปุตฺโต ปฏิวสติ, โส ปฏิพโล เตน ¶ มิลินฺเทน รฺา สทฺธึ สลฺลปิตุํ กงฺขํ ปฏิวิเนตุํ, ตํ เทวปุตฺตํ ยาจิสฺสาม มนุสฺสโลกูปปตฺติยา’’ติ.
อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท ภิกฺขุสงฺฆํ ปุรกฺขตฺวา เกตุมติวิมานํ ปวิสิตฺวา มหาเสนํ เทวปุตฺตํ อาลิงฺคิตฺวา เอตทโวจ ‘‘ยาจติ ตํ, มาริส, ภิกฺขุสงฺโฆ มนุสฺสโลกูปปตฺติยา’’ติ. ‘‘น เม, ภนฺเต, มนุสฺสโลเกนตฺโถ กมฺมพหุเลน, ติพฺโพ มนุสฺสโลโก, อิเธวาหํ, ภนฺเต, เทวโลเก อุปรูปรูปปตฺติโก หุตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ โข สกฺเกน เทวานมินฺเทน ยาจิโต มหาเสโน เทวปุตฺโต เอวมาห ‘‘น เม, ภนฺเต, มนุสฺสโลเกนตฺโถ กมฺมพหุเลน, ติพฺโพ มนุสฺสโลโก, อิเธวาหํ, ภนฺเต, เทวโลเก อุปรูปรูปปตฺติโก หุตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ.
อถ โข อายสฺมา อสฺสคุตฺโต มหาเสนํ เทวปุตฺตํ เอตทโวจ ‘‘อิธ มยํ, มาริส, สเทวกํ โลกํ อนุวิโลกยมานา อฺตฺร ตยา มิลินฺทสฺส รฺโ วาทํ ภินฺทิตฺวา สาสนํ ปคฺคเหตุํ สมตฺถํ อฺํ กฺจิ น ปสฺสาม, ยาจติ ตํ, มาริส, ภิกฺขุสงฺโฆ, สาธุ สปฺปุริส มนุสฺสโลเก นิพฺพตฺติตฺวา ทสพลสฺส สาสนํ ปคฺคณฺหาหี’’ติ. เอวํ วุตฺเต มหาเสโน เทวปุตฺโต ‘‘อหํ กิร มิลินฺทสฺส รฺโ วาทํ ภินฺทิตฺวา พุทฺธสาสนํ ปคฺคเหตุํ สมตฺโถ ภวิสฺสามี’’ติ หฏฺปหฏฺโ อุทคฺคุทคฺโค หุตฺวา ‘‘สาธุ, ภนฺเต, มนุสฺสโลเก อุปฺปชฺชิสฺสามี’’ติ ปฏิฺํ อทาสิ.
๙. อถ โข เต ภิกฺขู เทวโลเก ตํ กรณียํ ตีเรตฺวา เทเวสุ ตาวตึเสสุ อนฺตรหิตา หิมวนฺเต ปพฺพเต รกฺขิตตเล ปาตุรเหสุํ.
อถ โข อายสฺมา อสฺสคุตฺโต ภิกฺขุสงฺฆํ เอตทโวจ ‘‘อตฺถาวุโส, อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ โกจิ ภิกฺขุ สนฺนิปาตํ อนาคโต’’ติ. เอวํ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขุ อายสฺมนฺตํ อสฺสคุตฺตํ เอตทโวจ ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต ¶ , อายสฺมา โรหโณ อิโต สตฺตเม ทิวเส หิมวนฺตํ ¶ ปพฺพตํ ปวิสิตฺวา นิโรธํ สมาปนฺโน, ตสฺส สนฺติเก ทูตํ ปาเหถา’’ติ. อายสฺมาปิ โรหโณ ตงฺขณฺเว นิโรธา วุฏฺาย ‘‘สงฺโฆ มํ ปฏิมาเนตี’’ติ หิมวนฺเต ปพฺพเต อนฺตรหิโต รกฺขิตตเล โกฏิสตานํ อรหนฺตานํ ปุรโต ปาตุรโหสิ.
อถ โข อายสฺมา อสฺสคุตฺโต อายสฺมนฺตํ โรหณํ เอตทโวจ ‘‘กึ นุ โข, อาวุโส, โรหณ พุทฺธสาสเน ภิชฺชนฺเต [ปลุชฺชนฺเต (สี. ปี.)] น ปสฺสสิ สงฺฆสฺส กรณียานี’’ติ. ‘‘อมนสิกาโร เม, ภนฺเต, อโหสี’’ติ.
‘‘เตน ¶ , หาวุโส โรหณ, ทณฺฑกมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘กึ, ภนฺเต, กโรมี’’ติ? ‘‘อตฺถาวุโส โรหณ, หิมวนฺตปพฺพตปสฺเส คชงฺคลํ [กชงฺคลํ (สี. ปี.)] นาม พฺราหฺมณคาโม, ตตฺถ โสณุตฺตโร นาม พฺราหฺมโณ ปฏิวสติ, ตสฺส ปุตฺโต อุปฺปชฺชิสฺสติ นาคเสโนติ นาม ทารโก, เตน หิ ตฺวํ, อาวุโส โรหณ, ทสมาสาธิกานิ สตฺต วสฺสานิ ตํ กุลํ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา นาคเสนํ ทารกํ นีหริตฺวา ปพฺพาเชหิ, ปพฺพชิเตว ตสฺมึ ทณฺฑกมฺมโต มุจฺจิสฺสสี’’ติ. อายสฺมาปิ โข โรหโณ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ.
๑๐. มหาเสโนปิ โข เทวปุตฺโต เทวโลกา จวิตฺวา โสณุตฺตรพฺราหฺมณสฺส ภริยาย กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ อคฺคเหสิ, สห ปฏิสนฺธิคฺคหณา ตโย อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา ปาตุรเหสุํ, อาวุธภณฺฑานิ ปชฺชลึสุ, อคฺคสสฺสํ อภินิปฺผนฺนํ, มหาเมโฆ อภิปฺปวสฺสิ. อายสฺมาปิ โข โรหโณ ตสฺส ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปฏฺาย ทสมาสาธิกานิ สตฺต วสฺสานิ ตํ กุลํ ปิณฺฑาย ปวิสนฺโต เอกทิวสมฺปิ กฏจฺฉุมตฺตํ ภตฺตํ วา อุฬุงฺกมตฺตํ ยาคุํ วา อภิวาทนํ วา อฺชลิกมฺมํ วา สามีจิกมฺมํ วา นาลตฺถ, อถ โข อกฺโกสฺเว ปริภาสฺเว ปฏิลภติ ‘‘อติจฺฉถ ภนฺเต’’ติ วจนมตฺตมฺปิ วตฺตา นาม นาโหสิ, ทสมาสาธิกานํ ปน สตฺตนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน เอกทิวสํ ‘‘อติจฺฉถ ภนฺเต’’ติ วจนมตฺตํ อลตฺถ. ตํ ทิวสเมว พฺราหฺมโณปิ พหิ กมฺมนฺตา ¶ อาคจฺฉนฺโต ปฏิปเถ เถรํ ทิสฺวา ‘‘กึ, โภ ปพฺพชิต, อมฺหากํ เคหํ อคมิตฺถา’’ติ อาห. ‘‘อาม, พฺราหฺมณ, อคมมฺหา’’ติ. ‘‘อปิ กิฺจิ ลภิตฺถา’’ติ. ‘‘อาม, พฺราหฺมณ, ลภิมฺหา’’ติ. โส อนตฺตมโน เคหํ คนฺตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘ตสฺส ¶ ปพฺพชิตสฺส กิฺจิ อทตฺถา’’ติ. ‘‘น กิฺจิ อทมฺหา’’ติ. พฺราหฺมโณ ทุติยทิวเส ฆรทฺวาเร เยว นิสีทิ ‘‘อชฺช ปพฺพชิตํ มุสาวาเทน นิคฺคเหสฺสามี’’ติ. เถโร ทุติยทิวเส พฺราหฺมณสฺส ฆรทฺวารํ สมฺปตฺโต.
พฺราหฺมโณ เถรํ ทิสฺวาว เอวมาห ‘‘ตุมฺเห หิยฺโย อมฺหากํ เคเห กิฺจิ อลภิตฺวาว ‘‘ลภิมฺหา’’ติ อโวจุตฺถ, วฏฺฏติ นุ โข ตุมฺหากํ มุสาวาโท’’ติ. เถโร อาห ‘‘มยํ, พฺราหฺมณ, ตุมฺหากํ เคเห ( ) [(ปวิสนฺตา) (ก.)] ทสมาสาธิกานิ สตฺต วสฺสานิ ‘อติจฺฉถา’ติ วจนมตฺตมฺปิ อลภิตฺวา หิยฺโย ‘อติจฺฉถา’ติ วจนมตฺตํ ลภิมฺหา, อเถตํ วาจาปฏิสนฺธารํ [ปฏิสนฺตารํ (สี. ปี.)] อุปาทาย เอวมโวจุมฺหา’’ติ.
พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ ‘‘อิเม วาจาปฏิสนฺธารมตฺตมฺปิ ลภิตฺวา ชนมชฺเฌ ‘ลภิมฺหา’ติ ปสํสนฺติ, อฺํ กิฺจิ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ลภิตฺวา กสฺมา นปฺปสํสนฺตี’’ติ ปสีทิตฺวา ¶ อตฺตโน อตฺถาย ปฏิยาทิตภตฺตโต กฏจฺฉุภิกฺขํ, ตทุปิยฺจ พฺยฺชนํ ทาเปตฺวา ‘‘อิมํ ภิกฺขํ สพฺพกาลํ ตุมฺเห ลภิสฺสถา’’ติ อาห.
โส ปุนทิวสโต ปภุติ อุปสงฺกมนฺตสฺส เถรสฺส อุปสมํ ทิสฺวา ภิยฺโยโส มตฺตาย ปสีทิตฺวา เถรํ นิจฺจกาลํ อตฺตโน ฆเร ภตฺตวิสฺสคฺคกรณตฺถาย ยาจิ. เถโร ตุณฺหีภาเวน อธิวาเสตฺวา ทิวเส ทิวเส ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา คจฺฉนฺโต โถกํ โถกํ พุทฺธวจนํ กเถตฺวา คจฺฉติ. สาปิ โข พฺราหฺมณี ทสมาสจฺจเยน ปุตฺตํ วิชายิ, ‘‘นาคเสโน’’ติสฺส นามมกํสุ, โส อนุกฺกเมน วฑฺฒนฺโต สตฺตวสฺสิโก ชาโต.
๑๑. อถ โข นาคเสนสฺส ทารกสฺส ปิตา นาคเสนํ ทารกํ เอตทโวจ ‘‘อิมสฺมึ โข ¶ , ตาต นาคเสน, พฺราหฺมณกุเล สิกฺขานิ สิกฺเขยฺยาสี’’ติ. ‘‘กตมานิ, ตาต, อิมสฺมึ พฺราหฺมณกุเล สิกฺขานิ นามา’’ติ? ‘‘ตโย โข, ตาต นาคเสน, เวทา สิกฺขานิ นาม, อวเสสานิ สิปฺปานิ สิปฺปํ นามา’’ติ. ‘‘เตน หิ, ตาต, สิกฺขิสฺสามี’’ติ.
อถ โข โสณุตฺตโร พฺราหฺมโณ อาจริยพฺราหฺมณสฺส อาจริยภาคํ สหสฺสํ ทตฺวา อนฺโตปาสาเท เอกสฺมึ คพฺเภ เอกโต มฺจกํ ปฺเปตฺวา อาจริยพฺราหฺมณํ เอตทโวจ ‘‘สชฺฌาเปหิ โข, ตฺวํ พฺราหฺมณ, อิมํ ¶ ทารกํ มนฺตานีติ. เตน หิ ‘ตาต ทารก’ อุคฺคณฺหาหิ มนฺตานี’’ติ. อาจริยพฺราหฺมโณ สชฺฌายติ นาคเสนสฺส ทารกสฺส เอเกเนว อุทฺเทเสน ตโย เวทา หทยงฺคตา วาจุคฺคตา สูปธาริตา สุววตฺถาปิตา สุมนสิกตา อเหสุํ, สกิเมว จกฺขุํ อุทปาทิ ตีสุ เวเทสุ สนิฆณฺฑุเกฏุเภสุ [สนิฆณฺฏุเกฏุเภสุ (ก.)] สากฺขรปฺปเภเทสุ อิติหาสปฺจเมสุ ปทโก เวยฺยากรโณ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย อโหสิ.
อถ โข นาคเสโน ทารโก ปิตรํ เอตทโวจ ‘‘อตฺถิ นุ โข, ตาต, อิมสฺมึ พฺราหฺมณกุเล อิโต อุตฺตริมฺปิ สิกฺขิตพฺพานิ, อุทาหุ เอตฺตกาเนวา’’ติ. ‘‘นตฺถิ, ตาต นาคเสน, อิมสฺมึ พฺราหฺมณกุเล อิโต อุตฺตรึ สิกฺขิตพฺพานิ, เอตฺตกาเนว สิกฺขิตพฺพานี’’ติ.
อถ โข นาคเสโน ทารโก อาจริยสฺส อนุโยคํ ทตฺวา ปาสาทา โอรุยฺห ปุพฺพวาสนาย โจทิตหทโย รโหคโต ปฏิสลฺลีโน อตฺตโน สิปฺปสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ โอโลเกนฺโต อาทิมฺหิ วา มชฺเฌ วา ปริโยสาเน วา อปฺปมตฺตกมฺปิ สารํ อทิสฺวา ‘‘ตุจฺฉา วต ¶ โภ อิเม เวทา, ปลาปา วต โภ อิเม เวทา อสารา นิสฺสารา’’ติ วิปฺปฏิสารี อนตฺตมโน อโหสิ.
๑๒. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา โรหโณ วตฺตนิเย เสนาสเน นิสินฺโน นาคเสนสฺส ทารกสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย วตฺตนิเย เสนาสเน อนฺตรหิโต คชงฺคลพฺราหฺมณคามสฺส ปุรโต ปาตุรโหสิ. อทฺทสา โข นาคเสโน ทารโก อตฺตโน ทฺวารโกฏฺเก ิโต อายสฺมนฺตํ โรหณํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวาน อตฺตมโน อุทคฺโค ปมุทิโต ปีติโสมนสฺสชาโต ‘‘อปฺเปว นามายํ ปพฺพชิโต กฺจิ สารํ ชาเนยฺยา’’ติ เยนายสฺมา โรหโณ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ¶ โรหณํ เอตทโวจ ‘‘โก นุ โข, ตฺวํ มาริส, เอทิโส ภณฺฑุกาสาววสโน’’ติ. ‘‘ปพฺพชิโต [ปาปกานํ มลานํ ปพฺพาเชตุํ ปพฺพชิโต (สี. ปี.)] นามาหํ ทารกา’’ติ. ‘‘เกน, ตฺวํ มาริส, ปพฺพชิโต นามาสี’’ติ? ‘‘ปาปกานิ มลานิ ปพฺพาเชติ, ตสฺมาหํ, ทารก, ปพฺพชิโต นามา’’ติ. ‘‘กึการณา, มาริส, เกสา เต น ยถา อฺเส’’นฺติ ¶ ? ‘‘โสฬสิเม, ทารก, ปลิโพเธ ทิสฺวา เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา ปพฺพชิโต. ‘‘กตเม โสฬส’’? ‘‘อลงฺการปลิโพโธ มณฺฑนปลิโพโธ เตลมกฺขนปลิโพโธ โธวนปลิโพโธ มาลาปลิโพโธ คนฺธปลิโพโธ วาสนปลิโพโธ หรีฏกปลิโพโธ อามลกปลิโพโธ รงฺคปลิโพโธ พนฺธนปลิโพโธ โกจฺฉปลิโพโธ กปฺปกปลิโพโธ วิชฏนปลิโพโธ อูกาปลิโพโธ, เกเสสุ วิลูเนสุ โสจนฺติ กิลมนฺติ ปริเทวนฺติ อุรตฺตาฬึ กนฺทนฺติ สมฺโมหํ อาปชฺชนฺติ, อิเมสุ โข, ทารก, โสฬสสุ ปลิโพเธสุ ปลิคุณฺิตา มนุสฺสา สพฺพานิ อติสุขุมานิ สิปฺปานิ นาเสนฺตี’’ติ. ‘‘กึการณา, มาริส, วตฺถานิปิ เต น ยถา อฺเส’’นฺติ? ‘‘กามนิสฺสิตานิ โข, ทารก, วตฺถานิ, กามนิสฺสิตานิ คิหิพฺยฺชนภณฺฑานิ [กมนียานิ คิหิพฺยฺชนานิ (สี. ปี.)], ยานิ กานิจิ โข ภยานิ วตฺถโต อุปฺปชฺชนฺติ, ตานิ กาสาววสนสฺส น โหนฺติ, ตสฺมา วตฺถานิปิ เม น ยถา อฺเส’’นฺติ. ‘‘ชานาสิ โข, ตฺวํ มาริส, สิปฺปานิ นามา’’ติ? ‘‘อาม, ทารก, ชานามหํ สิปฺปานิ, ยํ โลเก อุตฺตมํ มนฺตํ, ตมฺปิ ชานามี’’ติ. ‘‘มยฺหมฺปิ ตํ, มาริส, ทาตุํ สกฺกา’’ติ? ‘‘อาม, ทารก, สกฺกา’’ติ. ‘‘เตน หิ เม เทหี’’ติ. ‘‘อกาโล โข, ทารก, อนฺตรฆรํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺมฺหา’’ติ.
อถ โข นาคเสโน ทารโก อายสฺมโต โรหณสฺส หตฺถโต ปตฺตํ คเหตฺวา ฆรํ ปเวเสตฺวา ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา อายสฺมนฺตํ โรหณํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ เอตทโวจ ‘‘เทหิ เม ทานิ, มาริส, มนฺต’’นฺติ. ‘‘ยทา โข ตฺวํ, ทารก, นิปฺปลิโพโธ ¶ หุตฺวา มาตาปิตโร อนุชานาเปตฺวา มยา คหิตํ ปพฺพชิตเวสํ คณฺหิสฺสสิ, ตทา ทสฺสามี’’ติ อาห.
อถ โข นาคเสโน ¶ ทารโก มาตาปิตโร อุปสงฺกมิตฺวา อาห ‘‘อมฺมตาตา, อยํ ปพฺพชิโต ‘ยํ โลเก อุตฺตมํ มนฺตํ, ตํ ชานามี’ติ วทติ, น จ อตฺตโน สนฺติเก อปพฺพชิตสฺส เทติ, อหํ เอตสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ตํ อุตฺตมํ มนฺตํ อุคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ. อถสฺส มาตาปิตโร ‘‘ปพฺพชิตฺวาปิ โน ปุตฺโต มนฺตํ คณฺหตุ, คเหตฺวา ปุน อาคจฺฉิสฺสตี’’ติ มฺมานา ‘‘คณฺห ปุตฺตา’’ติ อนุชานึสุ.
๑๓. อถ ¶ โข อายสฺมา โรหโณ นาคเสนํ ทารกํ อาทาย เยน วตฺตนิยํ เสนาสนํ, เยน วิชมฺภวตฺถุ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา วิชมฺภวตฺถุสฺมึ เสนาสเน เอกรตฺตํ วสิตฺวา เยน รกฺขิตตลํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา โกฏิสตานํ อรหนฺตานํ มชฺเฌ นาคเสนํ ทารกํ ปพฺพาเชสิ. ปพฺพชิโต จ ปนายสฺมา นาคเสโน อายสฺมนฺตํ โรหณํ เอตทโวจ ‘‘คหิโต เม, ภนฺเต, ตว เวโส, เทถ เม ทานิ มนฺต’’นฺติ. อถ โข อายสฺมา โรหโณ ‘‘กิมฺหิ นุ โขหํ นาคเสนํ วิเนยฺยํ ปมํ วินเย วา สุตฺตนฺเต วา อภิธมฺเม วา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ปณฺฑิโต โข อยํ นาคเสโน, สกฺโกติ สุเขเนว อภิธมฺมํ ปริยาปุณิตุ’’นฺติ ปมํ อภิธมฺเม วิเนสิ.
อายสฺมา จ นาคเสโน ‘‘กุสลา ธมฺมา, อกุสลา ธมฺมา, อพฺยากตา ธมฺมา’’ติ ติกทุกปฏิมณฺฑิตํ ธมฺมสงฺคณีปกรณํ, ขนฺธวิภงฺคาทิ อฏฺารส วิภงฺคปฏิมณฺฑิตํ วิภงฺคปฺปกรณํ, ‘‘สงฺคโห อสงฺคโห’’ติ อาทินา จุทฺทสวิเธน วิภตฺตํ ธาตุกถาปกรณํ, ‘‘ขนฺธปฺตฺติ อายตนปฺตฺตี’’ติ อาทินา ฉพฺพิเธน วิภตฺตํ ปุคฺคลปฺตฺติปฺปกรณํ, สกวาเท ปฺจสุตฺตสตานิ ปรวาเท ปฺจสุตฺตสตานีติ สุตฺตสหสฺสํ สโมธาเนตฺวา วิภตฺตํ กถาวตฺถุปฺปกรณํ, ‘‘มูลยมกํ ขนฺธยมก’’นฺติ อาทินา ทสวิเธน วิภตฺตํ ยมกปฺปกรณํ, ‘‘เหตุปจฺจโย อารมฺมณปจฺจโย’’ติ อาทินา จตุวีสติวิเธน วิภตฺตํ ปฏฺานปฺปกรณนฺติ สพฺพํ ตํ อภิธมฺมปิฏกํ เอเกเนว สชฺฌาเยน ปคุณํ กตฺวา ‘‘ติฏฺถ ¶ ภนฺเต, น ปุน โอสาเรถ, เอตฺตเกเนวาหํ สชฺฌายิสฺสามี’’ติ อาห.
๑๔. อถ โข อายสฺมา นาคเสโน เยน โกฏิสตา อรหนฺโต เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา โกฏิสเต อรหนฺเต เอตทโวจ ‘‘อหํ โข ภนฺเต ‘กุสลา ธมฺมา, อกุสลา ธมฺมา ¶ , อพฺยากตา ธมฺมา’ติ อิเมสุ ตีสุ ปเทสุ ปกฺขิปิตฺวา สพฺพํ ตํ อภิธมฺมปิฏกํ วิตฺถาเรน โอสาเรสฺสามี’’ติ. ‘‘สาธุ, นาคเสน, โอสาเรหี’’ติ.
อถ โข อายสฺมา นาคเสโน สตฺต มาสานิ สตฺต ปกรณานิ วิตฺถาเรน โอสาเรสิ, ปถวี อุนฺนทิ, เทวตา สาธุการมทํสุ, พฺรหฺมาโน อปฺโผเฏสุํ, ทิพฺพานิ จนฺทนจุณฺณานิ ทิพฺพานิ จ มนฺทารวปุปฺผานิ อภิปฺปวสฺสึสุ.
๑๕. อถ ¶ โข โกฏิสตา อรหนฺโต อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ ปริปุณฺณวีสติวสฺสํ รกฺขิตตเล อุปสมฺปาเทสุํ. อุปสมฺปนฺโน จ ปนายสฺมา นาคเสโน ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อุปชฺฌาเยน สทฺธึ คามํ ปิณฺฑาย ปวิสนฺโต เอวรูปํ ปริวิตกฺกํ อุปฺปาเทสิ ‘‘ตุจฺโฉ วต เม อุปชฺฌาโย, พาโล วต เม อุปชฺฌาโย, เปตฺวา อวเสสํ พุทฺธวจนํ ปมํ มํ อภิธมฺเม วิเนสี’’ติ.
อถ โข อายสฺมา โรหโณ อายสฺมโต นาคเสนสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘อนนุจฺฉวิกํ โข นาคเสน ปริวิตกฺกํ วิตกฺเกสิ, น โข ปเนตํ นาคเสน ตวานุจฺฉวิก’’นฺติ.
อถ โข อายสฺมโต นาคเสนสฺส เอตทโหสิ ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ, ยตฺร หิ นาม เม อุปชฺฌาโย เจตสา เจโตปริวิตกฺกํ ชานิสฺสติ, ปณฺฑิโต วต เม อุปชฺฌาโย, ยํนูนาหํ อุปชฺฌายํ ขมาเปยฺย’’นฺติ. อถ โข อายสฺมา นาคเสโน อายสฺมนฺตํ โรหณํ เอตทโวจ ‘‘ขมถ เม, ภนฺเต, น ปุน เอวรูปํ วิตกฺเกสฺสามี’’ติ.
อถ โข อายสฺมา โรหโณ อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ¶ ‘‘น โข ตฺยาหํ นาคเสน เอตฺตาวตา ขมามิ, อตฺถิ โข นาคเสน สาคลํ นาม นครํ, ตตฺถ มิลินฺโท นาม ราชา รชฺชํ กาเรติ, โส ทิฏฺิวาเทน ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ วิเหเติ, สเจ ตฺวํ ตตฺถ คนฺตฺวา ตํ ราชานํ ทเมตฺวา พุทฺธสาสเน ปสาเทสฺสสิ, เอวาหํ ตํ ขมิสฺสามี’’ติ.
‘‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, เอโก มิลินฺโท ราชา; สเจ, ภนฺเต, สกลชมฺพุทีเป สพฺเพ ราชาโน อาคนฺตฺวา มํ ปฺหํ ปุจฺเฉยฺยุํ, สพฺพํ ตํ วิสชฺเชตฺวา สมฺปทาเลสฺสามิ, ‘ขมถ เม ภนฺเต’ติ วตฺวา, ‘น ขมามี’ติ วุตฺเต ‘เตน หิ, ภนฺเต, อิมํ เตมาสํ กสฺส สนฺติเก วสิสฺสามี’ติ อาห’’ ¶ . อยํ โข, นาคเสน, อายสฺมา อสฺสคุตฺโต วตฺตนิเย เสนาสเน วิหรติ, คจฺฉ ตฺวํ, นาคเสน, เยนายสฺมา อสฺสคุตฺโต เตนุปสงฺกม, อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน อายสฺมโต อสฺสคุตฺตสฺส ปาเท สิรสา วนฺท, เอวฺจ นํ วเทหิ ‘อุปชฺฌาโย เม, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปาเท สิรสา วนฺทติ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉติ, อุปชฺฌาโย เม, ภนฺเต, อิมํ เตมาสํ ตุมฺหากํ สนฺติเก วสิตุํ มํ ปหิณี’ติ ¶ , ‘โกนาโม เต อุปชฺฌาโย’ติ จ วุตฺเต ‘โรหณตฺเถโร นาม ภนฺเต’’ติ วเทยฺยาสิ, ‘อหํ โกนาโม’ติ วุตฺเต เอวํ วเทยฺยาสิ ‘มม อุปชฺฌาโย, ภนฺเต, ตุมฺหากํ นามํ ชานาตี’’’ติ. ‘‘เอวํ ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา นาคเสโน อายสฺมนฺตํ โรหณํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน วตฺตนิยํ เสนาสนํ, เยนายสฺมา อสฺสคุตฺโต เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อสฺสคุตฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ, เอกมนฺตํ ิโต โข อายสฺมา นาคเสโน อายสฺมนฺตํ อสฺสคุตฺตํ เอตทโวจ ‘‘อุปชฺฌาโย เม, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปาเท สิรสา วนฺทติ, เอวฺจ วเทติ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉติ, อุปชฺฌาโย เม, ภนฺเต, อิมํ เตมาสํ ตุมฺหากํ สนฺติเก วสิตุํ มํ ปหิณี’’ติ.
อถ โข อายสฺมา อสฺสคุตฺโต อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘ตฺวํ ¶ กินฺนาโมสี’’ติ. ‘‘อหํ, ภนฺเต, นาคเสโน นามา’’ติ. ‘‘โกนาโม เต อุปชฺฌาโย’’ติ? ‘‘อุปชฺฌาโย เม, ภนฺเต, โรหโณ นามา’’ติ. ‘‘อหํ โกนาโม’’ติ. ‘‘อุปชฺฌาโย เม, ภนฺเต, ตุมฺหากํ นามํ ชานาตี’’ติ.
‘‘สาธุ, นาคเสน, ปตฺตจีวรํ ปฏิสาเมหี’’ติ. ‘‘สาธุ ภนฺเต’’ติ ปตฺตจีวรํ ปฏิสาเมตฺวา ปุนทิวเส ปริเวณํ สมฺมชฺชิตฺวา มุโขทกํ ทนฺตโปณํ อุปฏฺเปสิ. เถโร สมฺมชฺชิตฏฺานํ ปฏิสมฺมชฺชิ, ตํ อุทกํ ฉฑฺเฑตฺวา อฺํ อุทกํ อาหริ, ตฺจ ทนฺตกฏฺํ อปเนตฺวา อฺํ ทนฺตกฏฺํ คณฺหิ, น อาลาปสลฺลาปํ อกาสิ, เอวํ สตฺต ทิวสานิ กตฺวา สตฺตเม ทิวเส ปุน ปุจฺฉิตฺวา ปุน เตน ตเถว วุตฺเต วสฺสวาสํ อนุชานิ.
๑๖. เตน โข ปน สมเยน เอกา มหาอุปาสิกา อายสฺมนฺตํ อสฺสคุตฺตํ ตึสมตฺตานิ วสฺสานิ อุปฏฺาสิ. อถ โข สา มหาอุปาสิกา เตมาสจฺจเยน เยนายสฺมา อสฺสคุตฺโต เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อสฺสคุตฺตํ เอตทโวจ ‘‘อตฺถิ นุ โข, ตาต, ตุมฺหากํ สนฺติเก อฺโ ภิกฺขู’’ติ. ‘‘อตฺถิ, มหาอุปาสิเก, อมฺหากํ สนฺติเก นาคเสโน นาม ภิกฺขู’’ติ ¶ . ‘‘เตน หิ, ตาต อสฺสคุตฺต, อธิวาเสหิ นาคเสเนน สทฺธึ สฺวาตนาย ภตฺต’’นฺติ. อธิวาเสสิ โข อายสฺมา อสฺสคุตฺโต ตุณฺหีภาเวน.
อถ ¶ โข อายสฺมา อสฺสคุตฺโต ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อายสฺมตา นาคเสเนน สทฺธึ ปจฺฉาสมเณน เยน มหาอุปาสิกาย นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข สา มหาอุปาสิกา อายสฺมนฺตํ อสฺสคุตฺตํ อายสฺมนฺตฺจ นาคเสนํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ. อถ โข อายสฺมา อสฺสคุตฺโต ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘ตฺวํ, นาคเสน, มหาอุปาสิกาย อนุโมทนํ กโรหี’’ติ อิทํ วตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.
อถ ¶ โข สา มหาอุปาสิกา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘มหลฺลิกา โขหํ, ตาต นาคเสน, คมฺภีราย ธมฺมกถาย มยฺหํ อนุโมทนํ กโรหี’’ติ. อถ โข อายสฺมา นาคเสโน ตสฺสา มหาอุปาสิกาย คมฺภีราย ธมฺมกถาย โลกุตฺตราย สฺุตปฺปฏิสํยุตฺตาย อนุโมทนํ อกาสิ. อถ โข ตสฺสา มหาอุปาสิกาย ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ ‘‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ. อายสฺมาปิ โข นาคเสโน ตสฺสา มหาอุปาสิกาย อนุโมทนํ กตฺวา อตฺตนา เทสิตํ ธมฺมํ ปจฺจเวกฺขนฺโต วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ตสฺมึเยว อาสเน นิสินฺโน โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาสิ.
อถ โข อายสฺมา อสฺสคุตฺโต มณฺฑลมาเฬ นิสินฺโน ทฺวินฺนมฺปิ ธมฺมจกฺขุปฏิลาภํ ตฺวา สาธุการํ ปวตฺเตสิ ‘‘สาธุ สาธุ นาคเสน, เอเกน กณฺฑปฺปหาเรน ทฺเว มหากายา ปทาลิตา’’ติ, อเนกานิ จ เทวตาสหสฺสานิ สาธุการํ ปวตฺเตสุํ.
๑๗. อถ โข อายสฺมา นาคเสโน อุฏฺายาสนา เยนายสฺมา อสฺสคุตฺโต เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อสฺสคุตฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ อายสฺมา อสฺสคุตฺโต เอตทโวจ ‘‘คจฺฉ, ตฺวํ นาคเสน, ปาฏลิปุตฺตํ, ปาฏลิปุตฺตนคเร อโสการาเม อายสฺมา ธมฺมรกฺขิโต ปฏิวสติ, ตสฺส สนฺติเก พุทฺธวจนํ ปริยาปุณาหี’’ติ. ‘‘กีว ทูโร, ภนฺเต, อิโต ปาฏลิปุตฺตนคร’’นฺติ? ‘‘โยชนสตานิ โข นาคเสนา’’ติ. ‘‘ทูโร โข, ภนฺเต, มคฺโค ¶ . อนฺตรามคฺเค ภิกฺขา ทุลฺลภา, กถาหํ คมิสฺสามี’’ติ? ‘‘คจฺฉ, ตฺวํ นาคเสน, อนฺตรามคฺเค ปิณฺฑปาตํ ลภิสฺสสิ สาลีนํ โอทนํ วิคตกาฬกํ ¶ อเนกสูปํ อเนกพฺยฺชน’’นฺติ. ‘‘เอวํ ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา นาคเสโน อายสฺมนฺตํ อสฺสคุตฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ปาฏลิปุตฺตํ เตน จาริกํ ปกฺกามิ.
๑๘. เตน ¶ โข ปน สมเยน ปาฏลิปุตฺตโก เสฏฺิ ปฺจหิ สกฏสเตหิ ปาฏลิปุตฺตคามิมคฺคํ ปฏิปนฺโน โหติ. อทฺทสา โข ปาฏลิปุตฺตโก เสฏฺิ อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวาน เยนายสฺมา นาคเสโน เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ อภิวาเทตฺวา ‘‘กุหึ คจฺฉสิ ตาตา’’ติ อาห. ‘‘ปาฏลิปุตฺตํ คหปตี’’ติ. ‘‘สาธุ ตาต, มยมฺปิ ปาฏลิปุตฺตํ คจฺฉาม. อมฺเหหิ สทฺธึ สุขํ คจฺฉถา’’ติ.
อถ โข ปาฏลิปุตฺตโก เสฏฺิ อายสฺมโต นาคเสนสฺส อิริยาปเถ ปสีทิตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ปาฏลิปุตฺตโก เสฏฺิ อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘กินฺนาโมสิ ตฺวํ ตาตา’’ติ. ‘‘อหํ, คหปติ, นาคเสโน นามา’’ติ. ‘‘ชานาสิ โข, ตฺวํ ตาต, พุทฺธวจนํ นามา’’ติ? ‘‘ชานามิ โขหํ, คหปติ, อภิธมฺมปทานี’’ติ. ‘‘ลาภา โน ตาต, สุลทฺธํ โน ตาต, อหมฺปิ โข, ตาต, อาภิธมฺมิโก, ตฺวมฺปิ อาภิธมฺมิโก, ภณ, ตาต, อภิธมฺมปทานี’’ติ. อถ โข อายสฺมา นาคเสโน ปาฏลิปุตฺตกสฺส เสฏฺิสฺส อภิธมฺมํ เทเสสิ, เทเสนฺเต เยว ปาฏลิปุตฺตกสฺส เสฏฺิสฺส วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ ‘‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ.
อถ โข ปาฏลิปุตฺตโก เสฏฺิ ปฺจมตฺตานิ สกฏสตานิ ปุรโต อุยฺโยเชตฺวา สยํ ปจฺฉโต คจฺฉนฺโต ปาฏลิปุตฺตสฺส อวิทูเร ทฺเวธาปเถ ตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘อยํ โข, ตาต นาคเสน, อโสการามสฺส มคฺโค, อิทํ โข, ตาต, อมฺหากํ กมฺพลรตนํ โสฬสหตฺถํ อายาเมน, อฏฺหตฺถํ วิตฺถาเรน, ปฏิคฺคณฺหาหิ โข, ตาต, อิทํ ¶ กมฺพลรตนํ ¶ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. ปฏิคฺคเหสิ โข อายสฺมา นาคเสโน ตํ กมฺพลรตนํ อนุกมฺปํ อุปาทาย. อถ โข ปาฏลิปุตฺตโก เสฏฺิ อตฺตมโน อุทคฺโค ปมุทิโต ปีติโสมนสฺสชาโต อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.
๑๙. อถ โข อายสฺมา นาคเสโน เยน อโสการาโม เยนายสฺมา ธมฺมรกฺขิโต เตนุปสงฺกมิ ¶ , อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ธมฺมรกฺขิตํ อภิวาเทตฺวา อตฺตโน อาคตการณํ กเถตฺวา อายสฺมโต ธมฺมรกฺขิตสฺส สนฺติเก เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ เอเกเนว อุทฺเทเสน ตีหิ มาเสหิ พฺยฺชนโส ปริยาปุณิตฺวา ปุน ตีหิ มาเสหิ อตฺถโส มนสากาสิ.
อถ โข อายสฺมา ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘เสยฺยถาปิ, นาคเสน, โคปาลโก คาโว รกฺขติ, อฺเ โครสํ ปริภฺุชนฺติ. เอวเมว โข, ตฺวํ นาคเสน, เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ ธาเรนฺโตปิ น ภาคี สามฺสฺสา’’ติ. ‘‘โหตุ, ภนฺเต, อลํ เอตฺตเกนา’’ติ. เตเนว ทิวสภาเคน เตน รตฺติภาเคน สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ, สห สจฺจปฺปฏิเวเธน อายสฺมโต นาคเสนสฺส สพฺเพ เทวา สาธุการมทํสุ, ปถวี อุนฺนทิ, พฺรหฺมาโน อปฺโผเฏสุํ, ทิพฺพานิ จนฺทนจุณฺณานิ ทิพฺพานิ จ มนฺทารวปุปฺผานิ อภิปฺปวสฺสึสุ.
๒๐. เตน โข ปน สมเยน โกฏิสตา อรหนฺโต หิมวนฺเต ปพฺพเต รกฺขิตตเล สนฺนิปติตฺวา อายสฺมโต นาคเสนสฺส สนฺติเก ทูตํ ปาเหสุํ ‘‘อาคจฺฉตุ นาคเสโน, ทสฺสนกามา มยํ นาคเสน’’นฺติ. อถ โข อายสฺมา นาคเสโน ทูตสฺส วจนํ สุตฺวา อโสการาเม อนฺตรหิโต หิมวนฺเต ปพฺพเต รกฺขิตตเล โกฏิสตานํ อรหนฺตานํ ปุรโต ปาตุรโหสิ.
อถ โข โกฏิสตา อรหนฺโต อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจุํ ‘‘เอโส โข, นาคเสน, มิลินฺโท ราชา ภิกฺขุสงฺฆํ วิเหเติ วาทปฺปฏิวาเทน ปฺหปุจฺฉาย. สาธุ, นาคเสน, คจฺฉ ตฺวํ มิลินฺทํ ราชานํ ¶ ทเมหี’’ติ. ‘‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, เอโก มิลินฺโท ราชา; สเจ, ภนฺเต, สกลชมฺพุทีเป ราชาโน อาคนฺตฺวา มํ ปฺหํ ปุจฺเฉยฺยุํ, สพฺพํ ตํ วิสชฺเชตฺวา สมฺปทาเลสฺสามิ, คจฺฉถ ¶ โว, ภนฺเต, อจฺฉมฺภิตา สาคลนคร’’นฺติ. อถ โข เถรา ภิกฺขู สาคลนครํ กาสาวปฺปชฺโชตํ อิสิวาตปฏิวาตํ อกํสุ.
๒๑. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อายุปาโล สงฺขฺเยยฺยปริเวเณ ปฏิวสติ. อถ โข มิลินฺโท ราชา อมจฺเจ เอตทโวจ ‘‘รมณียา วต โภ โทสินา รตฺติ, กนฺนุ ขฺวชฺช สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา อุปสงฺกเมยฺยาม สากจฺฉาย ปฺหปุจฺฉนาย, โก มยา สทฺธึ สลฺลปิตุํ อุสฺสหติ กงฺขํ ปฏิวิเนตุ’’นฺติ. เอวํ วุตฺเต ปฺจสตา โยนกา ราชานํ มิลินฺทํ เอตทโวจุํ ‘‘อตฺถิ, มหาราช, อายุปาโล นาม เถโร เตปิฏโก พหุสฺสุโต อาคตาคโม, โส เอตรหิ สงฺขฺเยยฺยปริเวเณ ปฏิวสติ; คจฺฉ, ตฺวํ มหาราช, อายสฺมนฺตํ อายุปาลํ ปฺหํ ปุจฺฉสฺสู’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภเณ, ภทนฺตสฺส อาโรเจถา’’ติ.
อถ ¶ โข เนมิตฺติโก อายสฺมโต อายุปาลสฺส สนฺติเก ทูตํ ปาเหสิ ‘‘ราชา, ภนฺเต, มิลินฺโท อายสฺมนฺตํ อายุปาลํ ทสฺสนกาโม’’ติ. อายสฺมาปิ โข อายุปาโล เอวมาห ‘‘เตน หิ อาคจฺฉตู’’ติ. อถ โข มิลินฺโท ราชา ปฺจมตฺเตหิ โยนกสเตหิ ปริวุโต รถวรมารุยฺห เยน สงฺขฺเยยฺยปริเวณํ เยนายสฺมา อายุปาโล เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา อายุปาเลน สทฺธึ สมฺโมทิ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ อายุปาลํ เอตทโวจ ‘‘กิมตฺถิยา, ภนฺเต อายุปาล, ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชา, โก จ ตุมฺหากํ ปรมตฺโถ’’ติ. เถโร อาห ‘‘ธมฺมจริยสมจริยตฺถา โข, มหาราช, ปพฺพชฺชา, สามฺผลํ โข ปน อมฺหากํ ปรมตฺโถ’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, ภนฺเต, โกจิ คิหีปิ ธมฺมจารี สมจารี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, อตฺถิ คิหีปิ ธมฺมจารี สมจารี, ภควติ โข, มหาราช, พาราณสิยํ ¶ อิสิปตเน มิคทาเย ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตนฺเต อฏฺารสนฺนํ พฺรหฺมโกฏีนํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ, เทวตานํ ปน ธมฺมาภิสมโย คณนปถํ วีติวตฺโต, สพฺเพเต คิหิภูตา, น ปพฺพชิตา.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ภควตา โข มหาสมยสุตฺตนฺเต เทสิยมาเน, มหามงฺคลสุตฺตนฺเต เทสิยมาเน, สมจิตฺตปริยายสุตฺตนฺเต เทสิยมาเน, ราหุโลวาทสุตฺตนฺเต เทสิยมาเน, ปราภวสุตฺตนฺเต เทสิยมาเน คณนปถํ วีติวตฺตานํ เทวตานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ, สพฺเพเต ¶ คิหิภูตา, น ปพฺพชิตา’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต อายุปาล, นิรตฺถิกา ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชา, ปุพฺเพ กตสฺส ปาปกมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน สมณา สกฺยปุตฺติยา ปพฺพชนฺติ ธุตงฺคานิ จ ปริหรนฺติ. เย โข เต, ภนฺเต อายุปาล, ภิกฺขู เอกาสนิกา, นูน เต ปุพฺเพ ปเรสํ โภคหารกา โจรา, เต ปเรสํ โภเค อจฺฉินฺทิตฺวา ตสฺส กมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน เอตรหิ เอกาสนิกา ภวนฺติ, น ลภนฺติ กาเลน กาลํ ปริภฺุชิตุํ, นตฺถิ เตสํ สีลํ, นตฺถิ ตโป, นตฺถิ พฺรหฺมจริยํ. เย โข ปน เต, ภนฺเต อายุปาล, ภิกฺขู อพฺโภกาสิกา, นูน เต ปุพฺเพ คามฆาตกา โจรา, เต ปเรสํ เคหานิ วินาเสตฺวา ตสฺส กมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน เอตรหิ อพฺโภกาสิกา ภวนฺติ, น ลภนฺติ เสนาสนานิ ปริภฺุชิตุํ, นตฺถิ เตสํ สีลํ, นตฺถิ ตโป, นตฺถิ พฺรหฺมจริยํ. เย โข ปน เต, ภนฺเต อายุปาล, ภิกฺขู เนสชฺชิกา, นูน เต ปุพฺเพ ปนฺถทูสกา โจรา, เต ปเรสํ ปถิเก ชเน คเหตฺวา พนฺธิตฺวา นิสีทาเปตฺวา ตสฺส กมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน เอตรหิ เนสชฺชิกา ภวนฺติ, น ลภนฺติ เสยฺยํ กปฺเปตุํ, นตฺถิ เตสํ สีลํ, นตฺถิ ตโป, นตฺถิ พฺรหฺมจริย’’นฺติ อาห.
เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อายุปาโล ตุณฺหี อโหสิ, น กิฺจิ ปฏิภาสิ. อถ โข ปฺจสตา ¶ โยนกา ราชานํ มิลินฺทํ เอตทโวจุํ ‘‘ปณฺฑิโต, มหาราช, เถโร, อปิ จ โข อวิสารโท น กิฺจิ ปฏิภาสตี’’ติ.
อถ โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ อายุปาลํ ตุณฺหีภูตํ ทิสฺวา อปฺโผเฏตฺวา อุกฺกุฏฺึ ¶ กตฺวา โยนเก เอตทโวจ ‘‘ตุจฺโฉ วต โภ ชมฺพุทีโป, ปลาโป วต โภ ชมฺพุทีโป, นตฺถิ โกจิ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา, โย มยา สทฺธึ สลฺลปิตุํ อุสฺสหติ กงฺขํ ปฏิวิเนตุ’’นฺติ.
๒๒. อถ โข มิลินฺทสฺส รฺโ สพฺพํ ตํ ปริสํ อนุวิโลเกนฺตสฺส อภีเต อมงฺกุภูเต โยนเก ทิสฺวา เอตทโหสิ ‘‘นิสฺสํสยํ อตฺถิ มฺเ อฺโ โกจิ ปณฺฑิโต ภิกฺขุ, โย มยา สทฺธึ สลฺลปิตุํ อุสฺสหติ, เยนิเม โยนกา น มงฺกุภูตา’’ติ. อถ โข มิลินฺโท ราชา โยนเก เอตทโวจ ‘‘อตฺถิ, ภเณ, อฺโ โกจิ ปณฺฑิโต ภิกฺขุ, โย มยา สทฺธึ สลฺลปิตุํ อุสฺสหติ กงฺขํ ปฏิวิเนตุ’’นฺติ.
เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา นาคเสโน สมณคณปริวุโต สงฺฆี คณี คณาจริโย าโต ยสสฺสี สาธุสมฺมโต พหุชนสฺส ¶ ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี นิปุโณ วิฺู วิภาวี วินีโต วิสารโท พหุสฺสุโต เตปิฏโก เวทคู ปภินฺนพุทฺธิมา อาคตาคโม ปภินฺนปฏิสมฺภิโท นวงฺคสตฺถุสาสเน ปริยตฺติธโร ปารมิปฺปตฺโต ชินวจเน ธมฺมตฺถเทสนาปฏิเวธกุสโล อกฺขยวิจิตฺรปฏิภาโน จิตฺรกถี กลฺยาณวากฺกรโณ ทุราสโท ทุปฺปสโห ทุรุตฺตโร ทุราวรโณ ทุนฺนิวารโย, สาคโร วิย อกฺโขโภ, คิริราชา วิย นิจฺจโล, รณฺชโห ตโมนุโท ปภงฺกโร มหากถี ปรคณิคณมถโน ปรติตฺถิยมทฺทโน ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ ราชูนํ ราชมหามตฺตานํ สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺโต วุทฺธานํ วิฺูนํ โสตาวธาเนน สมนฺนาคตานํ สนฺทสฺเสนฺโต นวงฺคํ ชินสาสนรตนํ, อุปทิสนฺโต ธมฺมมคฺคํ, ธาเรนฺโต ธมฺมปฺปชฺโชตํ, อุสฺสาเปนฺโต ธมฺมยูปํ, ยชนฺโต ธมฺมยาคํ, ปคฺคณฺหนฺโต ธมฺมทฺธชํ, อุสฺสาเปนฺโต ธมฺมเกตุํ, ธเมนฺโต [อุปฺปฬาเสนฺโต (สี. ปี.)] ธมฺมสงฺขํ, อาหนนฺโต ธมฺมเภรึ, นทนฺโต สีหนาทํ ¶ , คชฺชนฺโต อินฺทคชฺชิตํ, มธุรคิรคชฺชิเตน าณวรวิชฺชุชาลปริเวิเตน กรุณาชลภริเตน มหตา ธมฺมามตเมเฆน สกลโลกมภิตปฺปยนฺโต คามนิคมราชธานีสุ จาริกํ จรมาโน อนุปุพฺเพน สาคลนครํ อนุปฺปตฺโต โหติ. ตตฺร สุทํ อายสฺมา นาคเสโน อสีติยา ภิกฺขุสหสฺเสหิ สทฺธึ สงฺขฺเยยฺยปริเวเณ ปฏิวสติ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘พหุสฺสุโต ¶ จิตฺรกถี, นิปุโณ จ วิสารโท;
สามยิโก จ กุสโล, ปฏิภาเน จ โกวิโท.
‘‘เต จ เตปิฏกา ภิกฺขู, ปฺจเนกายิกาปิ จ;
จตุเนกายิกา เจว, นาคเสนํ ปุรกฺขรุํ.
‘‘คมฺภีรปฺโ เมธาวี, มคฺคามคฺคสฺส โกวิโท;
อุตฺตมตฺถํ อนุปฺปตฺโต, นาคเสโน วิสารโท.
‘‘เตหิ ภิกฺขูหิ ปริวุโต, นิปุเณหิ สจฺจวาทิภิ;
จรนฺโต คามนิคมํ, สาคลํ อุปสงฺกมิ.
‘‘สงฺขฺเยยฺยปริเวณสฺมึ ¶ , นาคเสโน ตทา วสิ;
กเถติ โส มนุสฺเสหิ, ปพฺพเต เกสรี ยถา’’ติ.
๒๓. อถ โข เทวมนฺติโย ราชานํ มิลินฺทํ เอตทโวจ ‘‘อาคเมหิ, ตฺวํ มหาราช; อตฺถิ, มหาราช, นาคเสโน นาม เถโร ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี วินีโต วิสารโท พหุสฺสุโต จิตฺรกถี กลฺยาณปฏิภาโน อตฺถธมฺมนิรุตฺติปฏิภานปฏิสมฺภิทาสุ ปารมิปฺปตฺโต, โส เอตรหิ สงฺขฺเยยฺยปริเวเณ ปฏิวสติ, คจฺฉ, ตฺวํ มหาราช, อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ ปฺหํ ปุจฺฉสฺสุ, อุสฺสหติ โส ตยา สทฺธึ สลฺลปิตุํ กงฺขํ ปฏิวิเนตุ’’นฺติ. อถ โข มิลินฺทสฺส รฺโ สหสา ‘‘นาคเสโน’’ติ สทฺทํ สุตฺวาว อหุเทว ภยํ, อหุเทว ฉมฺภิตตฺตํ, อหุเทว โลมหํโส. อถ โข มิลินฺโท ราชา เทวมนฺติยํ เอตทโวจ ‘‘อุสฺสหติ โภ นาคเสโน ภิกฺขุ มยา สทฺธึ สลฺลปิตุ’’นฺติ? ‘‘อุสฺสหติ, มหาราช, อปิ อินฺทยมวรุณกุเวรปชาปติ สุยาม ¶ สนฺตุสิตโลกปาเลหิปิ ปิตุปิตามเหน มหาพฺรหฺมุนาปิ สทฺธึ สลฺลปิตุํ, กิมงฺคํ ปน มนุสฺสภูเตนา’’ติ.
อถ โข มิลินฺโท ราชา เทวมนฺติยํ เอตทโวจ ‘‘เตน หิ, ตฺวํ เทวมนฺติย, ภทนฺตสฺส สนฺติเก ทูตํ เปเสหี’’ติ. ‘‘เอวํ เทวา’’ติ โข เทวมนฺติโย อายสฺมโต นาคเสนสฺส สนฺติเก ทูตํ ปาเหสิ ‘‘ราชา, ภนฺเต, มิลินฺโท อายสฺมนฺตํ ทสฺสนกาโม’’ติ. อายสฺมาปิ โข นาคเสโน เอวมาห ‘‘เตน หิ อาคจฺฉตู’’ติ.
อถ ¶ โข มิลินฺโท ราชา ปฺจมตฺเตหิ โยนกสเตหิ ปริวุโต รถวรมารุยฺห มหตา พลกาเยน สทฺธึ เยน สงฺขฺเยยฺยปริเวณํ เยนายสฺมา นาคเสโน เตนุปสงฺกมิ. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา นาคเสโน อสีติยา ภิกฺขุสหสฺเสหิ สทฺธึ มณฺฑลมาเฬ นิสินฺโน โหติ. อทฺทสา โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมโต นาคเสนสฺส ปริสํ ทูรโตว, ทิสฺวาน เทวมนฺติยํ เอตทโวจ ‘‘กสฺเสสา, เทวมนฺติย, มหตี ปริสา’’ติ? ‘‘อายสฺมโต โข, มหาราช, นาคเสนสฺส ปริสา’’ติ.
อถ โข มิลินฺทสฺส รฺโ อายสฺมโต นาคเสนสฺส ปริสํ ทูรโตว ทิสฺวา อหุเทว ภยํ, อหุเทว ฉมฺภิตตฺตํ, อหุเทว โลมหํโส. อถ โข มิลินฺโท ราชา ขคฺคปริวาริโต วิย คโช, ครุฬปริวาริโต ¶ วิย นาโค, อชครปริวาริโต วิย โกตฺถุโก [โกตฺถุโก (สี. ปี.)], มหึสปริวุโต วิย อจฺโฉ, นาคานุพทฺโธ วิย มณฺฑูโก, สทฺทูลานุพทฺโธ วิย มิโค, อหิตุณฺฑิกสมาคโต [อภิคุณฺิกสมาคโต (สี. ปี.)] วิย ปนฺนโค, มชฺชารสมาคโต วิย อุนฺทูโร, ภูตเวชฺชสมาคโต วิย ปิสาโจ, ราหุมขคโต วิย จนฺโท, ปนฺนโค วิย เปฬนฺตรคโต, สกุโณ วิย ปฺชรนฺตรคโต, มจฺโฉ วิย ชาลนฺตรคโต, วาฬวนมนุปฺปวิฏฺโ วิย ปุริโส, เวสฺสวณาปราธิโก วิย ยกฺโข, ปริกฺขีณายุโก วิย เทวปุตฺโต ภีโต อุพฺพิคฺโค อุตฺรสฺโต สํวิคฺโค โลมหฏฺชาโต วิมโน ทุมฺมโน ภนฺตจิตฺโต วิปริณตมานโส ‘‘มา มํ อยํ ปริชโน ปริภวี’’ติ สตึ [ธีตึ (สี. ปี.)] อุปฏฺเปตฺวา เทวมนฺติยํ เอตทโวจ – ‘‘มา โข, ตฺวํ เทวมนฺติย ¶ , อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ มยฺหํ อาจิกฺเขยฺยาสิ, อนกฺขาตฺเวาหํ นาคเสนํ ชานิสฺสามี’’ติ. ‘‘สาธุ, มหาราช, ตฺวฺเว ชานาหี’’ติ.
เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา นาคเสโน ตสฺสา ภิกฺขุปริสาย ปุรโต จตฺตาลีสาย ภิกฺขุสหสฺสานํ นวกตโร โหติ ปจฺฉโต จตฺตาลีสาย ภิกฺขุสหสฺสานํ วุฑฺฒตโร.
อถ โข มิลินฺโท ราชา สพฺพํ ตํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปุรโต จ ปจฺฉโต จ มชฺฌโต จ อนุวิโลเกนฺโต อทฺทสา โข อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ ทูรโตว ภิกฺขุสงฺฆสฺส มชฺเฌ นิสินฺนํ เกสรสีหํ วิย วิคตภยเภรวํ วิคตโลมหํสํ วิคตภยสารชฺชํ, ทิสฺวาน อากาเรเนว อฺาสิ ‘‘เอโส โข เอตฺถ นาคเสโน’’ติ.
อถ โข มิลินฺโท ราชา เทวมนฺติยํ เอตทโวจ ‘‘เอโส โข, เทวมนฺติย, อายสฺมา นาคเสโน’’ติ. ‘‘อาม, มหาราช, เอโส โข นาคเสโน, สุฏฺุ โข, ตฺวํ มหาราช, นาคเสนํ อฺาสี’’ติ ¶ . ตโต ราชา ตุฏฺโ อโหสิ ‘‘อนกฺขาโตว มยา นาคเสโน อฺาโต’’ติ. อถ โข มิลินฺทสฺส รฺโ อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ ทิสฺวาว อหุเทว ภยํ, อหุเทว ฉมฺภิตตฺตํ, อหุเทว โลมหํโส.
เตนาหุ –
‘‘จรเณน ¶ จ สมฺปนฺนํ, สุทนฺตํ อุตฺตเม ทเม;
ทิสฺวา ราชา นาคเสนํ, อิทํ วจนมพฺรวิ.
‘‘กถิตา [กถิกา (สี. ปี.)] มยา พหู ทิฏฺา, สากจฺฉา โอสฏา พหู;
น ตาทิสํ ภยํ อาสิ, อชฺช ตาโส ยถา มม.
‘‘นิสฺสํสยํ ปราชโย, มม อชฺช ภวิสฺสติ;
ชโย จ นาคเสนสฺส, ยถา จิตฺตํ น สณฺิต’’นฺติ.
พาหิรกถา นิฏฺิตา.
๒-๓. มิลินฺทปฺโห
๑. มหาวคฺโค
๑. ปฺตฺติปฺโห
๑. อถ ¶ ¶ ¶ โข มิลินฺโท ราชา เยนายสฺมา นาคเสโน เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา นาคเสเนน สทฺธึ สมฺโมทิ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. อายสฺมาปิ โข นาคเสโน ปฏิสมฺโมทนีเยเนว [ปฏิสมฺโมทิ, เตเนว (สี.)] มิลินฺทสฺส รฺโ จิตฺตํ อาราเธสิ. อถ โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘กถํ ภทนฺโต ายติ, กินฺนาโมสิ ภนฺเต’’ติ? ‘‘นาคเสโน’’ติ โข อหํ, มหาราช, ายามิ, ‘‘นาคเสโน’’ติ โข มํ, มหาราช, สพฺรหฺมจารี สมุทาจรนฺติ, อปิ จ มาตาปิตโร นามํ กโรนฺติ ‘‘นาคเสโน’’ติ วา ‘‘สูรเสโน’’ติ วา ‘‘วีรเสโน’’ติ วา ‘‘สีหเสโน’’ติ วา, อปิ จ โข, มหาราช, สงฺขา สมฺา ปฺตฺติ โวหาโร นามมตฺตํ ยทิทํ นาคเสโนติ, น เหตฺถ ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ.
อถ โข มิลินฺโท ราชา เอวมาห ‘‘สุณนฺตุ เม โภนฺโต ปฺจสตา โยนกา อสีติสหสฺสา จ ภิกฺขู, อยํ นาคเสโน เอวมาห ‘น เหตฺถ ปุคฺคโล อุปลพฺภตี’ติ, กลฺลํ นุ โข ตทภินนฺทิตุ’’นฺติ. อถ โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘สเจ, ภนฺเต นาคเสน, ปุคฺคโล นูปลพฺภติ, โก จรหิ ตุมฺหากํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ เทติ, โก ตํ ปริภฺุชติ, โก สีลํ รกฺขติ, โก ภาวนมนุยฺุชติ, โก มคฺคผลนิพฺพานานิ สจฺฉิกโรติ, โก ปาณํ หนติ, โก อทินฺนํ อาทิยติ, โก กาเมสุมิจฺฉาจารํ จรติ, โก มุสา ภณติ, โก มชฺชํ ปิวติ, โก ปฺจานนฺตริยกมฺมํ ¶ กโรติ, ตสฺมา นตฺถิ กุสลํ, นตฺถิ อกุสลํ, นตฺถิ กุสลากุสลานํ กมฺมานํ กตฺตา วา กาเรตา วา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, สเจ ¶ , ภนฺเต นาคเสน, โย ตุมฺเห มาเรติ, นตฺถิ ตสฺสาปิ ปาณาติปาโต, ตุมฺหากมฺปิ, ภนฺเต นาคเสน, นตฺถิ อาจริโย, นตฺถิ อุปชฺฌาโย, นตฺถิ อุปสมฺปทา. ‘นาคเสโนติ มํ, มหาราช, สพฺรหฺมจารี สมุทาจรนฺตี’ติ ยํ วเทสิ, ‘กตโม เอตฺถ นาคเสโน ¶ ? กินฺนุ โข, ภนฺเต, เกสา นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติ. ‘‘โลมา นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติ. ‘‘นขา…เป… ทนฺตา…เป… ตโจ…เป… มํสํ…เป… นฺหารุ…เป… อฏฺิ…เป… อฏฺิมิฺชํ…เป… วกฺกํ…เป… หทยํ…เป… ยกนํ…เป… กิโลมกํ…เป… ปิหกํ…เป… ปปฺผาสํ…เป… อนฺตํ…เป… อนฺตคุณํ…เป… อุทริยํ…เป… กรีสํ…เป… ปิตฺตํ…เป… เสมฺหํ…เป… ปุพฺโพ…เป… โลหิตํ…เป… เสโท…เป… เมโท…เป… อสฺสุ…เป… วสา…เป… เขโฬ…เป… สิงฺฆาณิกา…เป… ลสิกา…เป… มุตฺตํ…เป… มตฺถเก มตฺถลุงฺคํ นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิมหาราชา’’ติ. ‘‘กึ นุ โข, ภนฺเต, รูปํ นาคเสโน’’ติ? ‘‘นหิ มหาราชา’’ติ. ‘‘เวทนา นาคเสโน’’ติ?‘‘น หิ มหาราชา’’ติ. ‘‘สฺา นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติ. ‘‘สงฺขารา นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติ. ‘‘วิฺาณํ นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, รูปเวทนาสฺาสงฺขารวิฺาณํ นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, อฺตฺร รูปเวทนาสฺาสงฺขารวิฺาณํ นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติ. ‘‘ตมหํ ภนฺเต, ปุจฺฉนฺโต ปุจฺฉนฺโต น ปสฺสามิ นาคเสนํ. นาคเสนสทฺโท เยว นุ โข, ภนฺเต, นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติ. ‘‘โก ปเนตฺถ นาคเสโน, อลิกํ ตฺวํ, ภนฺเต, ภาสสิ มุสาวาทํ, นตฺถิ นาคเสโน’’ติ.
อถ โข อายสฺมา นาคเสโน มิลินฺทํ ราชานํ เอตทโวจ ‘‘ตฺวํ โขสิ, มหาราช, ขตฺติยสุขุมาโล อจฺจนฺตสุขุมาโล, ตสฺส เต, มหาราช, มชฺฌนฺหิกสมยํ ตตฺตาย ภูมิยา อุณฺหาย วาลิกาย ขราย สกฺขรกถลิกาย [ขรา สกฺขรกลวาลิกา (สี. ปี.)] มทฺทิตฺวา ปาเทนาคจฺฉนฺตสฺส ปาทา รุชฺชนฺติ, กาโย กิลมติ, จิตฺตํ อุปหฺติ, ทุกฺขสหคตํ กายวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, กึ นุ โข ตฺวํ ปาเทนาคโตสิ, อุทาหุ วาหเนนา’’ติ? ‘‘นาหํ, ภนฺเต, ปาเทนาคจฺฉามิ, รเถนาหํ ¶ อาคโตสฺมี’’ติ. ‘‘สเจ, ตฺวํ มหาราช, รเถนาคโตสิ, รถํ เม อาโรเจหิ, กึ นุ โข, มหาราช, อีสา รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘อกฺโข รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘จกฺกานิ รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘รถปฺชรํ รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘รถทณฺฑโก รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘ยุคํ รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘รสฺมิโย ¶ รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘ปโตทลฏฺิ รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ นุ โข, มหาราช, อีสาอกฺขจกฺกรถปฺชรรถทณฺฑยุครสฺมิปโตทา รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ปน, มหาราช ¶ , อฺตฺร อีสาอกฺขจกฺกรถปฺชรรถทณฺฑยุครสฺมิปโตทา รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘ตมหํ, มหาราช, ปุจฺฉนฺโต ปุจฺฉนฺโต น ปสฺสามิ รถํ. รถสทฺโทเยว นุ โข, มหาราช, รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘โก ปเนตฺถ รโถ, อลิกํ, ตฺวํ มหาราช, ภาสสิ มุสาวาทํ, นตฺถิ รโถ, ตฺวํสิ, มหาราช, สกลชมฺพุทีเป อคฺคราชา, กสฺส ปน ตฺวํ ภายิตฺวา มุสาวาทํ ภาสสิ, สุณนฺตุ เม โภนฺโต ปฺจสตา โยนกา อสีติสหสฺสา จ ภิกฺขู, อยํ มิลินฺโท ราชา เอวมาห ‘รเถนาหํ อาคโตสฺมี’ติ, สเจ ตฺวํ, มหาราช, รเถนาคโต‘สิ, รถํ เม อาโรเจหี’ติ วุตฺโต สมาโน รถํ น สมฺปาเทติ, กลฺลํ นุ โข ตทภินนฺทิตุ’’นฺติ. เอวํ วุตฺเต ปฺจสตา โยนกา อายสฺมโต นาคเสนสฺส สาธุการํ ทตฺวา มิลินฺทํ ราชานํ เอตทโวจุํ ‘‘อิทานิ โข ตฺวํ, มหาราช, สกฺโกนฺโต ภาสสฺสู’’ติ.
อถ โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘นาหํ, ภนฺเต นาคเสน, มุสา ภณามิ, อีสฺจ ปฏิจฺจ อกฺขฺจ ปฏิจฺจ จกฺกานิ จ ปฏิจฺจ รถปฺชรฺจ ปฏิจฺจ รถทณฺฑกฺจ ปฏิจฺจ ‘รโถ’ติ สงฺขา สมฺา ปฺตฺติ โวหาโร นามมตฺตํ ปวตฺตตี’’ติ.
‘‘สาธุ โข, ตฺวํ มหาราช, รถํ ชานาสิ, เอวเมว โข, มหาราช, มยฺหมฺปิ เกเส จ ปฏิจฺจ โลเม จ ปฏิจฺจ…เป… มตฺถเก มตฺถลุงฺคฺจ ¶ ปฏิจฺจ รูปฺจ ปฏิจฺจ เวทนฺจ ปฏิจฺจ สฺฺจ ปฏิจฺจ สงฺขาเร จ ปฏิจฺจ วิฺาณฺจ ปฏิจฺจ ‘นาคเสโน’ติ สงฺขา สมฺา ปฺตฺติ โวหาโร นามมตฺตํ ปวตฺตติ, ปรมตฺถโต ปเนตฺถ ปุคฺคโล นูปลพฺภติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, วชิราย ภิกฺขุนิยา ภควโต สมฺมุขา –
‘‘‘ยถา หิ องฺคสมฺภารา, โหติ สทฺโท รโถ อิติ;
เอวํ ขนฺเธสุ สนฺเตสุ, โหติ ‘‘สตฺโต’’ติ สมฺมุตี’’’ติ [ปสฺส สํ. นิ. ๑.๑๗๑].
‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต นาคเสน, อพฺภุตํ, ภนฺเต นาคเสน, อติจิตฺรานิ ปฺหปฏิภานานิ วิสชฺชิตานิ, ยทิ พุทฺโธ ติฏฺเยฺย สาธุการํ ทเทยฺย, สาธุ สาธุ นาคเสน, อติจิตฺรานิ ปฺหปฏิภานานิ วิสชฺชิตานี’’ติ.
ปฺตฺติปฺโห ปโม.
๒. วสฺสคณนปฺโห
๒. ‘‘กติวสฺโสสิ ¶ ¶ ตฺวํ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ? ‘‘สตฺตวสฺโสหํ, มหาราชา’’ติ. ‘‘เก เต, ภนฺเต, สตฺต, ตฺวํ วา สตฺต, คณนา วา สตฺตา’’ติ?
เตน โข ปน สมเยน มิลินฺทสฺส รฺโ สพฺพาภรณปฏิมณฺฑิตสฺส อลงฺกตปฏิยตฺตสฺส ปถวิยํ ฉายา ทิสฺสติ, อุทกมณิเก จ ฉายา ทิสฺสติ. อถ โข อายสฺมา นาคเสโน มิลินฺทํ ราชานํ เอตทโวจ ‘‘อยํ เต, มหาราช, ฉายา ปถวิยํ อุทกมณิเก จ ทิสฺสติ, กึ ปน, มหาราช, ตฺวํ วา ราชา, ฉายา วา ราชา’’ติ? ‘‘อหํ, ภนฺเต นาคเสน, ราชา, นายํ ฉายา ราชา, มํ ปน นิสฺสาย ฉายา ปวตฺตตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, วสฺสานํ คณนา สตฺต, น ปนาหํ สตฺต, มํ ปน นิสฺสาย สตฺต ปวตฺตติ, ฉายูปมํ มหาราชา’’ติ. ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต นาคเสน, อพฺภุตํ, ภนฺเต นาคเสน, อติจิตฺรานิ ปฺหปฏิภานานิ วิสชฺชิตานี’’ติ.
วสฺสคณนปฺโห ทุติโย.
๓. วีมํสนปฺโห
๓. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, สลฺลปิสฺสสิ มยา สทฺธิ’’นฺติ? ‘‘สเจ, ตฺวํ มหาราช, ปณฺฑิตวาทํ [ปณฺฑิตวาทา (สี. ปี.)] สลฺลปิสฺสสิ สลฺลปิสฺสามิ, สเจ ปน ราชวาทํ สลฺลปิสฺสสิ น สลฺลปิสฺสามี’’ติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, ปณฺฑิตา สลฺลปนฺตี’’ติ? ‘‘ปณฺฑิตานํ โข, มหาราช, สลฺลาเป อาเวนมฺปิ กยิรติ, นิพฺเพนมฺปิ กยิรติ, นิคฺคโหปิ กยิรติ, ปฏิกมฺมมฺปิ ¶ กยิรติ, วิสฺสาโสปิ [วิเสโสปิ (สี. ปี.)] กยิรติ, ปฏิวิสฺสาโสปิ กยิรติ, น จ เตน ปณฺฑิตา กุปฺปนฺติ, เอวํ โข, มหาราช, ปณฺฑิตา สลฺลปนฺตี’’ติ. ‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, ราชาโน สลฺลปนฺตี’’ติ? ‘‘ราชาโน โข, มหาราช, สลฺลาเป เอกํ วตฺถุํ ปฏิชานนฺติ, โย ตํ วตฺถุํ วิโลเมติ, ตสฺส ทณฺฑํ อาณาเปนฺติ ‘อิมสฺส ทณฺฑํ ปเณถา’ติ, เอวํ โข, มหาราช, ราชาโน สลฺลปนฺตี’’ติ. ‘‘ปณฺฑิตวาทาหํ, ภนฺเต, สลฺลปิสฺสามิ, โน ราชวาทํ, วิสฺสฏฺโ ภทนฺโต สลฺลปตุ ยถา ภิกฺขุนา วา สามเณเรน วา อุปาสเกน วา อารามิเกน ¶ วา สทฺธึ สลฺลปติ ¶ , เอวํ วิสฺสฏฺโ ภทนฺโต สลฺลปตุ มา ภายตู’’ติ. ‘‘สุฏฺุ มหาราชา’’ติ เถโร อพฺภานุโมทิ.
ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. ‘‘ปุจฺฉ มหาราชา’’ติ. ‘‘ปุจฺฉิโตสิ เม ภนฺเต’’ติ. ‘‘วิสชฺชิตํ มหาราชา’’ติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, ตยา วิสชฺชิต’’นฺติ? ‘‘กึ ปน, มหาราช, ตยา ปุจฺฉิต’’นฺติ.
วีมํสนปฺโห ตติโย.
๔. อนนฺตกายปฺโห
๔. อถ โข มิลินฺทสฺส รฺโ เอตทโหสิ ‘‘ปณฺฑิโต โข อยํ ภิกฺขุ ปฏิพโล มยา สทฺธึ สลฺลปิตุํ, พหุกานิ จ เม านานิ ปุจฺฉิตพฺพานิ ภวิสฺสนฺติ, ยาว อปุจฺฉิตานิ เยว ตานิ านานิ ภวิสฺสนฺติ, อถ สูริโย อตฺถํ คมิสฺสติ, ยํนูนาหํ สฺเว อนฺเตปุเร สลฺลเปยฺย’’นฺติ. อถ โข ราชา เทวมนฺติยํ เอตทโวจ ‘‘เตน หิ, ตฺวํ เทวมนฺติย, ภทนฺตสฺส อาโรเจยฺยาสิ ‘สฺเว อนฺเตปุเร รฺา สทฺธึ สลฺลาโป ภวิสฺสตี’’’ติ. อิทํ วตฺวา มิลินฺโท ราชา อุฏฺายาสนา เถรํ นาคเสนํ อาปุจฺฉิตฺวา รถํ อภิรูหิตฺวา ‘‘นาคเสโน นาคเสโน’’ติ สชฺฌายํ กโรนฺโต ปกฺกามิ.
อถ โข เทวมนฺติโย อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘ราชา, ภนฺเต, มิลินฺโท เอวมาห ‘สฺเว อนฺเตปุเร รฺา สทฺธึ สลฺลาโป ภวิสฺสตี’’’ติ. ‘‘สุฏฺู’’ติ เถโร อพฺภานุโมทิ. อถ โข ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน เทวมนฺติโย จ อนนฺตกาโย จ มงฺกุโร จ สพฺพทินฺโน จ เยน มิลินฺโท ราชา เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ มิลินฺทํ เอตทโวจุํ ‘‘อาคจฺฉตุ, มหาราช, ภทนฺโต นาคเสโน’’ติ ¶ ? ‘‘อาม อาคจฺฉตู’’ติ. ‘‘กิตฺตเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ อาคจฺฉตู’’ติ? ‘‘ยตฺตเก ภิกฺขู อิจฺฉติ, ตตฺตเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ อาคจฺฉตู’’ติ.
อถ โข สพฺพทินฺโน อาห ‘‘อาคจฺฉตุ, มหาราช, ทสหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิ’’นฺติ, ทุติยมฺปิ โข ราชา อาห ‘‘ยตฺตเก ภิกฺขู อิจฺฉติ, ตตฺตเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ อาคจฺฉตู’’ติ ¶ . ทุติยมฺปิ โข สพฺพทินฺโน อาห ‘‘อาคจฺฉตุ, มหาราช, ทสหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิ’’นฺติ. ตติยมฺปิ โข ราชา อาห ‘‘ยตฺตเก ¶ ภิกฺขู อิจฺฉติ, ตตฺตเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ อาคจฺฉตู’’ติ. ตติยมฺปิ โข สพฺพทินฺโน อาห ‘‘อาคจฺฉตุ, มหาราช, ทสหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิ’’นฺติ. ‘‘สพฺโพ ปนายํ สกฺกาโร ปฏิยาทิโต, อหํ ภณามิ ‘ยตฺตเก ภิกฺขู อิจฺฉติ, ตตฺตเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ อาคจฺฉตู’ติ. อยํ, ภเณ สพฺพทินฺโน, อฺถา ภณติ, กึ นุ มยํ นปฺปฏิพลา ภิกฺขูนํ โภชนํ ทาตุ’’นฺติ? เอวํ วุตฺเต สพฺพทินฺโน มงฺกุ อโหสิ.
อถ โข เทวมนฺติโย จ อนนฺตกาโย จ มงฺกุโร จ เยนายสฺมา นาคเสโน เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจุํ ‘‘ราชา, ภนฺเต, มิลินฺโท เอวมาห ‘ยตฺตเก ภิกฺขู อิจฺฉติ, ตตฺตเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ อาคจฺฉตู’’’ติ. อถ โข อายสฺมา นาคเสโน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อสีติยา ภิกฺขุสหสฺเสหิ สทฺธึ สาคลํ ปาวิสิ.
อถ โข อนนฺตกาโย อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ นิสฺสาย คจฺฉนฺโต อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยํ ปเนตํ พฺรูสิ ‘นาคเสโน’ติ, กตโม เอตฺถ, นาคเสโน’’ติ? เถโร อาห ‘‘โก ปเนตฺถ ‘นาคเสโน’ติ มฺสี’’ติ? ‘‘โย โส, ภนฺเต, อพฺภนฺตเร วาโต ชีโว ปวิสติ จ นิกฺขมติ จ, โส ‘นาคเสโน’ติ มฺามี’’ติ. ‘‘ยทิ ปเนโส วาโต นิกฺขมิตฺวา นปฺปวิเสยฺย, ปวิสิตฺวา น นิกฺขเมยฺย, ชีเวยฺย นุ โข โส ปุริโส’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ ¶ . ‘‘เย ปนิเม สงฺขธมกา สงฺขํ ธเมนฺติ, เตสํ วาโต ปุน ปวิสตี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เย ปนิเม วํสธมกา วํสํ ธเมนฺติ, เตสํ วาโต ปุน ปวิสตี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เย ปนิเม สิงฺคธมกา สิงฺคํ ธเมนฺติ, เตสํ วาโต ปุน ปวิสตี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘อถ กิสฺส ปน เตน น มรนฺตี’’ติ. ‘‘นาหํ ปฏิพโล ตยา วาทินา สทฺธึ สลฺลปิตุํ, สาธุ, ภนฺเต, อตฺถํ ชปฺเปหี’’ติ. ‘‘เนโส ชีโว, อสฺสาสปสฺสาสา นาเมเต กายสงฺขารา’’ติ เถโร อภิธมฺมกถํ กเถสิ. อถ อนนฺตกาโย อุปาสกตฺตํ ปฏิเวเทสีติ.
อนนฺตกายปฺโห จตุตฺโถ.
๕. ปพฺพชฺชปฺโห
๕. อถ ¶ ¶ โข อายสฺมา นาคเสโน เยน มิลินฺทสฺส รฺโ นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ สปริสํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา เอกเมกํ ภิกฺขุํ เอกเมเกน ทุสฺสยุเคน อจฺฉาเทตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ ติจีวเรน อจฺฉาเทตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘ภนฺเต นาคเสน ทสหิ, ภิกฺขูหิ สทฺธึ อิธ นิสีทถ, อวเสสา คจฺฉนฺตู’’ติ.
อถ โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ วิทิตฺวา อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กิมฺหิ โหติ กถาสลฺลาโป’’ติ? ‘‘อตฺเถน มยํ, มหาราช, อตฺถิกา, อตฺเถ โหตุ กถาสลฺลาโป’’ติ.
ราชา อาห ‘‘กิมตฺถิยา, ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชา, โก จ ตุมฺหากํ ปรมตฺโถ’’ติ. เถโร อาห ‘‘กินฺติ, มหาราช, อิทํ ทุกฺขํ นิรุชฺเฌยฺย, อฺฺจ ทุกฺขํ น อุปฺปชฺเชยฺยาติ. เอตทตฺถา, มหาราช, อมฺหากํ ปพฺพชฺชา, อนุปาทา ปรินิพฺพานํ โข ปน อมฺหากํ ปรมตฺโถ’’ติ.
‘‘กึ ปน, ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพ เอตทตฺถาย ¶ ปพฺพชนฺตี’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราช, เกจิ เอตทตฺถาย ปพฺพชนฺติ, เกจิ ราชาภินีตา [ราชภีติตา (สี.)] ปพฺพชนฺติ, เกจิ โจราภินีตา [โจรภีติตา (สี.)] ปพฺพชนฺติ, เกจิ อิณฏฺฏา ปพฺพชนฺติ, เกจิ อาชีวิกตฺถาย ปพฺพชนฺติ, เย ปน สมฺมา ปพฺพชนฺติ, เต เอตทตฺถาย ปพฺพชนฺตี’’ติ.
‘‘ตฺวํ ปน, ภนฺเต, เอตทตฺถาย ปพฺพชิโตสี’’ติ? ‘‘อหํ โข, มหาราช, ทหรโก สนฺโต ปพฺพชิโต, น ชานามิ อิมสฺส นามตฺถาย ปพฺพชามีติ, อปิ จ โข เม เอวํ อโหสิ ‘ปณฺฑิตา อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา, เต มํ สิกฺขาเปสฺสนฺตี’ติ, สฺวาหํ เตหิ สิกฺขาปิโต ชานามิ จ ปสฺสามิ จ ‘อิมสฺส นามตฺถาย ปพฺพชฺชา’’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ ¶ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ปพฺพชฺชปฺโห ปฺจโม.
๖. ปฏิสนฺธิปฺโห
๖. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อตฺถิ โกจิ มโต น ปฏิสนฺทหตี’’ติ. เถโร อาห ‘‘โกจิ ปฏิสนฺทหติ, โกจิ น ปฏิสนฺทหตี’’ติ. ‘‘โก ปฏิสนฺทหติ, โก น ปฏิสนฺทหตี’’ติ? ‘‘สกิเลโส, มหาราช, ปฏิสนฺทหติ, นิกฺกิเลโส น ปฏิสนฺทหตี’’ติ. ‘‘ตฺวํ ปน, ภนฺเต นาคเสน, ปฏิสนฺทหิสฺสสี’’ติ? ‘‘สเจ, มหาราช, สอุปาทาโน ภวิสฺสามิ ปฏิสนฺทหิสฺสามิ, สเจ อนุปาทาโน ภวิสฺสามิ น ปฏิสนฺทหิสฺสามี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ปฏิสนฺธิปฺโห ฉฏฺโ.
๗. โยนิโสมนสิการปฺโห
๗. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย น ปฏิสนฺทหติ, นนุ โส โยนิโส มนสิกาเรน น ปฏิสนฺทหตี’’ติ? ‘‘โยนิโส จ มหาราช, มนสิกาเรน ปฺาย จ อฺเหิ จ กุสเลหิ ธมฺเมหี’’ติ. ‘‘นนุ, ภนฺเต, โยนิโส มนสิกาโร เยว ปฺา’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราช, อฺโ มนสิกาโร, อฺา ปฺา, อิเมสํ โข, มหาราช, อเชฬกโคณมหึสโอฏฺคทฺรภานมฺปิ มนสิกาโร อตฺถิ, ปฺา ปน เตสํ นตฺถี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
โยนิโสมนสิการปฺโห สตฺตโม.
๘. มนสิการลกฺขณปฺโห
๘. ราชา ¶ อาห ‘‘กึลกฺขโณ, ภนฺเต นาคเสน, มนสิกาโร, กึลกฺขณา ปฺา’’ติ? ‘‘อูหนลกฺขโณ โข, มหาราช, มนสิกาโร, เฉทนลกฺขณา ปฺา’’ติ.
‘‘กถํ อูหนลกฺขโณ มนสิกาโร, กถํ เฉทนลกฺขณา ปฺา, โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ชานาสิ, ตฺวํ มหาราช, ยวลาวเก’’ติ. ‘‘อาม ¶ , ภนฺเต, ชานามี’’ติ ¶ . ‘‘กถํ, มหาราช, ยวลาวกา ยวํ ลุนนฺตี’’ติ? ‘‘วาเมน, ภนฺเต, หตฺเถน ยวกลาปํ คเหตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน ทาตฺตํ คเหตฺวา ทาตฺเตน ฉินฺทนฺตี’’ติ.
‘‘ยถา, มหาราช, ยวลาวโก วาเมน หตฺเถน ยวกลาปํ คเหตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน ทาตฺตํ คเหตฺวา ยวํ ฉินฺทติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคาวจโร มนสิกาเรน มานสํ คเหตฺวา ปฺาย กิเลเส ฉินฺทติ, เอวํ โข, มหาราช, อูหนลกฺขโณ มนสิกาโร, เอวํ เฉทนลกฺขณา ปฺา’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
มนสิการลกฺขณปฺโห อฏฺโม.
๙. สีลลกฺขณปฺโห
๙. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยํ ปเนตํ พฺรูสิ ‘อฺเหิ จ กุสเลหิ ธมฺเมหี’ติ, กตเม เต กุสลา ธมฺมา’’ติ? ‘‘สีลํ, มหาราช, สทฺธา วีริยํ สติ สมาธิ, อิเม เต กุสลา ธมฺมา’’ติ. ‘‘กึลกฺขณํ, ภนฺเต, สีล’’นฺติ? ‘‘ปติฏฺานลกฺขณํ, มหาราช, สีลํ สพฺเพสํ กุสลานํ ธมฺมานํ, อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคสติปฏฺานสมฺมปฺปธานอิทฺธิปาทฌานวิโมกฺขส- มาธิสมาปตฺตีนํ สีลํ ปติฏฺํ, สีเล ปติฏฺิโต โข, มหาราช, โยคาวจโร สีลํ นิสฺสาย สีเล ปติฏฺาย ปฺจินฺทฺริยานิ ภาเวติ สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยนฺติ, สพฺเพ กุสลา ธมฺมา น ปริหายนฺตี’’ติ. ‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช ¶ , เย เกจิ พีชคามภูตคามา วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชนฺติ, สพฺเพ เต ปถวึ นิสฺสาย ปถวิยํ ปติฏฺาย วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคาวจโร สีลํ นิสฺสาย สีเล ปติฏฺาย ปฺจินฺทฺริยานิ ภาเวติ สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริย’’นฺติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, เย เกจิ พลกรณียา กมฺมนฺตา กยิรนฺติ, สพฺเพ เต ปถวึ นิสฺสาย ปถวิยํ ปติฏฺาย กยิรนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคาวจโร สีลํ นิสฺสาย สีเล ปติฏฺาย ปฺจินฺทฺริยานิ ¶ ภาเวติ สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริย’’นฺติ ¶ .
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, นครวฑฺฒกี นครํ มาเปตุกาโม ปมํ นครฏฺานํ โสธาเปตฺวา ขาณุกณฺฏกํ อปกฑฺฒาเปตฺวา ภูมึ สมํ การาเปตฺวา ตโต อปรภาเค วีถิจตุกฺกสิงฺฆาฏกาทิปริจฺเฉเทน วิภชิตฺวา นครํ มาเปติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคาวจโร สีลํ นิสฺสาย สีเล ปติฏฺาย ปฺจินฺทฺริยานิ ภาเวติ สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริย’’นฺติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ลงฺฆโก สิปฺปํ ทสฺเสตุกาโม ปถวึ ขณาเปตฺวา สกฺขรกถลํ อปกฑฺฒาเปตฺวา ภูมึ สมํ การาเปตฺวา มุทุกาย ภูมิยา สิปฺปํ ทสฺเสติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคาวจโร สีลํ นิสฺสาย สีเล ปติฏฺาย ปฺจินฺทฺริยานิ ภาเวติ สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยนฺติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา –
‘‘‘สีเล ปติฏฺาย นโร สปฺโ, จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวยํ;
อาตาปี นิปโก ภิกฺขุ, โส อิมํ วิชฏเย ชฏ’นฺติ [ปสฺส สํ. นิ. ๑.๒๓].
‘‘‘อยํ ปติฏฺา ธรณีว ปาณินํ, อิทฺจ มูลํ กุสลาภิวุฑฺฒิยา;
มุขฺจิทํ สพฺพชินานุสาสเน, โย สีลกฺขนฺโธ วรปาติโมกฺขิโย’’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สีลลกฺขณปฺโห นวโม.
๑๐. สมฺปสาทนลกฺขณสทฺธาปฺโห
๑๐. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขณา สทฺธา’’ติ? ‘‘สมฺปสาทนลกฺขณา จ, มหาราช, สทฺธา, สมฺปกฺขนฺทนลกฺขณา จา’’ติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต, สมฺปสาทนลกฺขณา สทฺธา’’ติ? ‘‘สทฺธา โข, มหาราช, อุปฺปชฺชมานา นีวรเณ ¶ วิกฺขมฺเภติ, วินีวรณํ จิตฺตํ โหติ อจฺฉํ ¶ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ. เอวํ โข, มหาราช, สมฺปสาทนลกฺขณา สทฺธา’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ราชา จกฺกวตฺตี จตุรงฺคินิยา เสนาย สทฺธึ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน ปริตฺตํ อุทกํ ตเรยฺย, ตํ อุทกํ หตฺถีหิ จ อสฺเสหิ จ รเถหิ จ ปตฺตีหิ จ ขุภิตํ ภเวยฺย อาวิลํ ลุฬิตํ กลลีภูตํ. อุตฺติณฺโณ จ ราชา จกฺกวตฺตี มนุสฺเส อาณาเปยฺย ‘ปานียํ, ภเณ, อาหรถ, ปิวิสฺสามี’ติ, รฺโ จ อุทกปฺปสาทโก มณิ ภเวยฺย. ‘เอวํ เทวา’ติ โข เต มนุสฺสา รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ตํ อุทกปฺปสาทกํ มณึ อุทเก ปกฺขิเปยฺยุํ, ตสฺมึ อุทเก ปกฺขิตฺตมตฺเต สงฺขเสวาลปณกํ วิคจฺเฉยฺย, กทฺทโม จ สนฺนิสีเทยฺย, อจฺฉํ ภเวยฺย อุทกํ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ. ตโต รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปานียํ อุปนาเมยฺยุํ ‘ปิวตุ, เทว, ปานีย’นฺติ.
‘‘ยถา, มหาราช, อุทกํ, เอวํ จิตฺตํ ทฏฺพฺพํ, ยถา เต มนุสฺสา, เอวํ โยคาวจโร ทฏฺพฺโพ, ยถา สงฺขเสวาลปณกํ กทฺทโม จ, เอวํ กิเลสา ทฏฺพฺพา. ยถา อุทกปฺปสาทโก มณิ, เอวํ สทฺธา ทฏฺพฺพา, ยถา อุทกปฺปสาทเก มณิมฺหิ อุทเก ปกฺขิตฺตมตฺเต สงฺขเสวาลปณกํ วิคจฺเฉยฺย, กทฺทโม จ สนฺนิสีเทยฺย, อจฺฉํ ภเวยฺย อุทกํ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ, เอวเมว โข, มหาราช, สทฺธา อุปฺปชฺชมานา นีวรเณ วิกฺขมฺเภติ, วินีวรณํ จิตฺตํ โหติ อจฺฉํ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ, เอวํ โข, มหาราช, สมฺปสาทนลกฺขณา สทฺธา’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สมฺปสาทนลกฺขณสทฺธาปฺโห ทสโม.
๑๑. สมฺปกฺขนฺทนลกฺขณสทฺธาปฺโห
๑๑. ‘‘กถํ ¶ , ภนฺเต, สมฺปกฺขนฺทนลกฺขณา สทฺธา’’ติ,? ‘‘ยถา, มหาราช, โยคาวจโร อฺเสํ จิตฺตํ วิมุตฺตํ ปสฺสิตฺวา โสตาปตฺติผเล วา สกทาคามิผเล วา อนาคามิผเล วา อรหตฺเต วา สมฺปกฺขนฺทติ โยคํ กโรติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. เอวํ โข, มหาราช, สมฺปกฺขนฺทนลกฺขณา สทฺธา’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ ¶ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, อุปริปพฺพเต มหาเมโฆ ¶ อภิปฺปวสฺเสยฺย, ตํ อุทกํ ยถานินฺนํ ปวตฺตมานํ ปพฺพตกนฺทรปทรสาขา ปริปูเรตฺวา นทึ ปริปูเรยฺย, สา อุภโต กูลานิ สํวิสฺสนฺทนฺตี คจฺเฉยฺย, อถ มหาชนกาโย อาคนฺตฺวา ตสฺสา นทิยา อุตฺตานตํ วา คมฺภีรตํ วา อชานนฺโต ภีโต วิตฺถโต ตีเร ติฏฺเยฺย, อถฺตโร ปุริโส อาคนฺตฺวา อตฺตโน ถามฺจ พลฺจ สมฺปสฺสนฺโต คาฬฺหํ กจฺฉํ พนฺธิตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา ตเรยฺย, ตํ ติณฺณํ ปสฺสิตฺวา มหาชนกาโยปิ ตเรยฺย. เอวเมว โข, มหาราช, โยคาวจโร อฺเสํ จิตฺตํ วิมุตฺตํ ปสฺสิตฺวา โสตาปตฺติผเล วา สกทาคามิผเล วา อนาคามิผเล วา อรหตฺเต วา สมฺปกฺขนฺทติ โยคํ กโรติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. เอวํ โข, มหาราช, สมฺปกฺขนฺทนลกฺขณา สทฺธาติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา สํยุตฺตนิกายวเร –
‘‘‘สทฺธาย ตรตี โอฆํ, อปฺปมาเทน อณฺณวํ;
วีริเยน ทุกฺขมจฺเจติ, ปฺาย ปริสุชฺฌตี’’’ติ [ปสฺส สํ. นิ. ๑.๒๔๖].
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สมฺปกฺขนฺทนลกฺขณสทฺธาปฺโห เอกาทสโม.
๑๒. วีริยลกฺขณปฺโห
๑๒. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขณํ วีริย’’นฺติ? ‘‘อุปตฺถมฺภนลกฺขณํ, มหาราช, วีริยํ, วีริยูปตฺถมฺภิตา สพฺเพ กุสลา ธมฺมา น ปริหายนฺตี’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส เคเห ปตนฺเต อฺเน ทารุนา อุปตฺถมฺเภยฺย, อุปตฺถมฺภิตํ สนฺตํ เอวํ ตํ เคหํ น ปเตยฺย. เอวเมว โข, มหาราช, อุปตฺถมฺภนลกฺขณํ วีริยํ, วีริยูปตฺถมฺภิตา สพฺเพ กุสลา ธมฺมา น ปริหายนฺตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ปริตฺตกํ เสนํ มหตี เสนา ภฺเชยฺย, ตโต ราชา อฺมฺํ อนุสฺสาเรยฺย อนุเปเสยฺย อตฺตโน ¶ ปริตฺตกาย เสนาย พลํ อนุปทํ ทเทยฺย, ตาย สทฺธึ ปริตฺตกา เสนา มหตึ เสนํ ภฺเชยฺย. เอวเมว โข, มหาราช, อุปตฺถมฺภนลกฺขณํ วีริยํ, วีริยูปตฺถมฺภิตา สพฺเพ กุสลา ธมฺมา น ปริหายนฺติ. ภาสิตมฺเปตํ ¶ , มหาราช, ภควตา – ‘วีริยวา โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ. สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ. สุทฺธมตฺตานํ ปริหรตี’’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
วีริยลกฺขณปฺโห ทฺวาทสโม.
๑๓. สติลกฺขณปฺโห
๑๓. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขณา สตี’’ติ? ‘‘อปิลาปนลกฺขณา, มหาราช, สติ, อุปคฺคณฺหนลกฺขณา จา’’ติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต, อปิลาปนลกฺขณา สตี’’ติ? ‘‘สติ, มหาราช, อุปฺปชฺชมานา กุสลากุสลสาวชฺชานวชฺชหีนปฺปณีตกณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคธมฺเม อปิลาเปติ ‘อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา, อิเม จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, อิเม จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, อิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ, อิมานิ ปฺจ พลานิ, อิเม สตฺต โพชฺฌงฺคา, อยํ อริโย ¶ อฏฺงฺคิโก มคฺโค, อยํ สมโถ, อยํ วิปสฺสนา, อยํ วิชฺชา, อยํ วิมุตฺตี’ติ. ตโต โยคาวจโร เสวิตพฺเพ ธมฺเม เสวติ, อเสวิตพฺเพ ธมฺเม น เสวติ. ภชิตพฺเพ ธมฺเม ภชติ อภชิตฺตพฺเพ ธมฺเม น ภชติ. เอวํ โข, มหาราช, อปิลาปนลกฺขณา สตี’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ภณฺฑาคาริโก ราชานํ จกฺกวตฺตึ สายํ ปาตํ ยสํ สราเปติ ‘เอตฺตกา, เทว, เต หตฺถี, เอตฺตกา อสฺสา, เอตฺตกา รถา, เอตฺตกา ปตฺตี, เอตฺตกํ หิรฺํ, เอตฺตกํ สุวณฺณํ, เอตฺตกํ สาปเตยฺยํ, ตํ เทโว สรตู’ติ รฺโ สาปเตยฺยํ อปิลาเปติ. เอวเมว โข, มหาราช, สติ อุปฺปชฺชมานา กุสลากุสลสาวชฺชานวชฺชหีนปฺปณีตกณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคธมฺเม อปิลาเปติ ‘อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา, อิเม จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, อิเม จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, อิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ, อิมานิ ปฺจ พลานิ, อิเม สตฺต โพชฺฌงฺคา, อยํ อริโย ¶ อฏฺงฺคิโก มคฺโค, อยํ สมโถ, อยํ วิปสฺสนา, อยํ วิชฺชา, อยํ วิมุตฺตี’ติ. ตโต โยคาวจโร เสวิตพฺเพ ธมฺเม เสวติ, อเสวิตพฺเพ ธมฺเม น เสวติ. ภชิตพฺเพ ธมฺเม ภชติ, อภชิตพฺเพ ธมฺเม น ภชติ. เอวํ โข, มหาราช, อปิลาปนลกฺขณา สตี’’ติ.
‘‘กถํ, ภนฺเต, อุปคฺคณฺหนลกฺขณา สตี’’ติ? ‘‘สติ, มหาราช, อุปฺปชฺชมานา หิตาหิตานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเวติ ‘อิเม ธมฺมา หิตา, อิเม ธมฺมา ¶ อหิตา. อิเม ธมฺมา อุปการา, อิเม ธมฺมา อนุปการา’ติ. ตโต โยคาวจโร อหิเต ธมฺเม อปนุเทติ, หิเต ธมฺเม อุปคฺคณฺหาติ. อนุปกาเร ธมฺเม อปนุเทติ, อุปกาเร ธมฺเม อุปคฺคณฺหาติ. เอวํ โข, มหาราช, อุปคฺคณฺหนลกฺขณา สตี’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปริณายกรตนํ รฺโ หิตาหิเต ชานาติ ‘อิเม รฺโ หิตา, อิเม อหิตา. อิเม อุปการา, อิเม อนุปการา’ติ. ตโต อหิเต อปนุเทติ, หิเต อุปคฺคณฺหาติ. อนุปกาเร อปนุเทติ, อุปกาเร อุปคฺคณฺหาติ. เอวเมว โข, มหาราช, สติ อุปฺปชฺชมานา หิตาหิตานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเวติ ‘อิเม ธมฺมา หิตา, อิเม ธมฺมา อหิตา. อิเม ธมฺมา อุปการา, อิเม ธมฺมา อนุปการา’ติ. ตโต โยคาวจโร อหิเต ธมฺเม อปนุเทติ, หิเต ธมฺเม อุปคฺคณฺหา’ติ. อนุปกาเร ธมฺเม อปนุเทติ, อุปกาเร ทมฺเม อุปคฺคณฺหาติ. เอวํ โข, มหาราช, อุปคฺคณฺหนลกฺขณา สติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา – ‘สติฺจ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, สพฺพตฺถิกํ วทามี’’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ ¶ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สติลกฺขณปฺโห เตรสโม.
๑๔. สมาธิปฺโห
๑๔. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขโณ สมาธี’’ติ? ‘‘ปมุขลกฺขโณ, มหาราช, สมาธิ, เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สพฺเพ เต สมาธิปมุขา โหนฺติ สมาธินินฺนา สมาธิโปณา สมาธิปพฺภารา’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ ¶ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, กูฏาคารสฺส ยา ยาจิ โคปานสิโย, สพฺพา ตา กูฏงฺคมา โหนฺติ กูฏนินฺนา กูฏสโมสรณา, กูฏํ ตาสํ อคฺคมกฺขายติ. เอวเมว โข, มหาราช, เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สพฺเพ เต สมาธิปมุขา โหนฺติ สมาธินินฺนา สมาธิโปณา สมาธิปพฺภาราติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิ ราชา จตุรงฺคินิยา เสนาย สทฺธึ สงฺคามํ โอตเรยฺย, สพฺพาว เสนา หตฺถี จ อสฺสา จ รถา จ ปตฺตี จ ตปฺปมุขา [ตมฺปมุขา (สฺยา. ก.)] ภเวยฺยุํ ตนฺนินฺนา ตปฺโปณา ตปฺปพฺภารา ตํ เยว อนุปริยาเยยฺยุํ. เอวเมว โข, มหาราช, เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สพฺเพ เต สมาธิปมุขา โหนฺติ สมาธินินฺนา สมาธิโปณา ¶ สมาธิปพฺภารา. เอวํ โข, มหาราช, ปมุขลกฺขโณ สมาธิ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา – ‘‘สมาธึ, ภิกฺขเว, ภาเวถ, สมาหิโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สมาธิปฺโห จุทฺทสโม.
๑๕. ปฺาลกฺขณปฺโห
๑๕. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขณา ปฺา’’ติ? ‘‘ปุพฺเพว โข, มหาราช, มยา วุตฺตํ ‘เฉทนลกฺขณา ปฺา’ติ, อปิ จ โอภาสนลกฺขณา ปฺา’’ติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต, โอภาสนลกฺขณา ปฺา’’ติ? ‘‘ปฺา, มหาราช, อุปฺปชฺชมานา อวิชฺชนฺธการํ วิธเมติ, วิชฺโชภาสํ ชเนติ, าณาโลกํ วิทํเสติ, อริยสจฺจานิ ปากฏานิ กโรติ. ตโต โยคาวจโร ‘อนิจฺจ’นฺติ วา ‘ทุกฺข’นฺติ วา ‘อนตฺตา’ติ วา สมฺมปฺปฺาย ปสฺสตี’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส อนฺธกาเร เคเห ปทีปํ ปเวเสยฺย, ปวิฏฺโ ปทีโป อนฺธการํ วิธเมติ, โอภาสํ ชเนติ, อาโลกํ วิทํเสติ, รูปานิ ปากฏานิ กโรติ. เอวเมว โข, มหาราช, ปฺา ¶ อุปฺปชฺชมานา อวิชฺชนฺธการํ วิธเมติ, วิชฺโชภาสํ ชเนติ, าณาโลกํ วิทํเสติ, อริยสจฺจานิ ปากฏานิ กโรติ. ตโต โยคาวจโร ‘อนิจฺจ’นฺติ วา ‘ทุกฺข’นฺติ วา ‘อนตฺตา’ติ วา สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ. เอวํ โข, มหาราช, โอภาสนลกฺขณา ปฺา’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ปฺาลกฺขณปฺโห ปนฺนรสโม.
๑๖. นานาธมฺมานํ เอกกิจฺจอภินิปฺผาทนปฺโห
๑๖. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อิเม ธมฺมา นานา สนฺตา เอกํ อตฺถํ อภินิปฺผาเทนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, อิเม ธมฺมา นานา สนฺตา เอกํ อตฺถํ อภินิปฺผาเทนฺติ, กิเลเส หนนฺตี’’ติ.
‘‘กถํ, ภนฺเต, อิเม ธมฺมา นานา สนฺตา เอกํ อตฺถํ อภินิปฺผาเทนฺติ, กิเลเส หนนฺติ? โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, เสนา นานา สนฺตา หตฺถี จ อสฺสา จ รถา จ ปตฺตี ¶ จ เอกํ อตฺถํ อภินิปฺผาเทนฺติ, สงฺคาเม ปรเสนํ อภิวิชินนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, อิเม ธมฺมา นานา สนฺตา เอกํ อตฺถํ อภินิปฺผาเทนฺติ, กิเลเส หนนฺตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
นานาธมฺมานํ เอกกิจฺจอภินิปฺผาทนปฺโห โสฬสโม.
มหาวคฺโค ปโม.
อิมสฺมึ วคฺเค โสฬส ปฺหา.
๒. อทฺธานวคฺโค
๑. ธมฺมสนฺตติปฺโห
๑. ราชา ¶ ¶ ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย อุปฺปชฺชติ, โส เอว โส, อุทาหุ อฺโ’’ติ? เถโร อาห ‘‘น จ โส, น จ อฺโ’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ยทา ตฺวํ ทหโร ตรุโณ มนฺโท อุตฺตานเสยฺยโก อโหสิ, โส เยว ตฺวํ เอตรหิ มหนฺโต’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, อฺโ โส ทหโร ตรุโณ มนฺโท อุตฺตานเสยฺยโก อโหสิ, อฺโ อหํ เอตรหิ มหนฺโต’’ติ. ‘‘เอวํ สนฺเต โข, มหาราช, มาตาติปิ น ภวิสฺสติ, ปิตาติปิ น ภวิสฺสติ, อาจริโยติปิ น ภวิสฺสติ, สิปฺปวาติปิ น ภวิสฺสติ, สีลวาติปิ น ภวิสฺสติ, ปฺวาติปิ น ภวิสฺสติ. กึ นุ โข, มหาราช, อฺา เอว กลลสฺส มาตา, อฺา อพฺพุทสฺส มาตา, อฺา เปสิยา มาตา, อฺา ฆนสฺส มาตา, อฺา ขุทฺทกสฺส มาตา, อฺา มหนฺตสฺส มาตา, อฺโ สิปฺปํ สิกฺขติ, อฺโ สิกฺขิโต ภวติ, อฺโ ปาปกมฺมํ กโรติ, อฺสฺส หตฺถปาทา ฉิชฺชนฺตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต. ตฺวํ ปน, ภนฺเต, เอวํ วุตฺเต กึ วเทยฺยาสี’’ติ? เถโร อาห ‘‘อหฺเว โข, มหาราช, ทหโร อโหสึ ตรุโณ มนฺโท อุตฺตานเสยฺยโก, อหฺเว เอตรหิ มหนฺโต, อิมเมว กายํ นิสฺสาย สพฺเพ เต เอกสงฺคหิตา’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส ปทีปํ ปทีเปยฺย, กึ โส สพฺพรตฺตึ ปทีเปยฺยา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สพฺพรตฺตึ ปทีเปยฺยา’’ติ. ‘‘กึ นุ โข, มหาราช, ยา ปุริเม ยาเม อจฺจิ, สา มชฺฌิเม ยาเม อจฺจี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘ยา มชฺฌิเม ยาเม อจฺจิ, สา ปจฺฉิเม ยาเม อจฺจี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ นุ โข, มหาราช, อฺโ โส อโหสิ ปุริเม ยาเม ปทีโป, อฺโ มชฺฌิเม ยาเม ปทีโป, อฺโ ¶ ปจฺฉิเม ยาเม ปทีโป’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต, ตํ เยว นิสฺสาย สพฺพรตฺตึ ปทีปิโต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ธมฺมสนฺตติ สนฺทหติ, อฺโ อุปฺปชฺชติ, อฺโ นิรุชฺฌติ, อปุพฺพํ อจริมํ วิย สนฺทหติ, เตน น จ โส, น จ อฺโ, ปุริมวิฺาเณ ปจฺฉิมวิฺาณํ สงฺคหํ คจฺฉตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย ¶ โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ขีรํ ¶ ทุยฺหมานํ กาลนฺตเรน ทธิ ปริวตฺเตยฺย, ทธิโต นวนีตํ, นวนีตโต ฆตํ ปริวตฺเตยฺย, โย นุ โข, มหาราช, เอวํ วเทยฺย ‘ยํ เยว ขีรํ ตํ เยว ทธิ, ยํ เยว ทธิ ตํ เยว นวนีตํ, ยํ เยว นวนีตํ ตํ เยว ฆต’นฺติ, สมฺมา นุ โข โส, มหาราช, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต, ตํเยว นิสฺสาย สมฺภูต’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ธมฺมสนฺตติ สนฺทหติ, อฺโ อุปฺปชฺชติ, อฺโ นิรุชฺฌติ, อปุพฺพํ อจริมํ วิย สนฺทหติ, เตน น จ โส, น จ อฺโ, ปุริมวิฺาเณ ปจฺฉิมวิฺาณํ สงฺคหํ คจฺฉตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ธมฺมสนฺตติปฺโห ปโม.
๒. ปฏิสนฺทหนปฺโห
๒. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย น ปฏิสนฺทหติ, ชานาติ โส ‘น ปฏิสนฺทหิสฺสามี’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, โย น ปฏิสนฺทหติ, ชานาติ โส ‘น ปฏิสนฺทหิสฺสามี’ติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต, ชานาตี’’ติ? ‘‘โย เหตุ โย ปจฺจโย, มหาราช, ปฏิสนฺทหนาย, ตสฺส เหตุสฺส ตสฺส ปจฺจยสฺส อุปรมา ชานาติ โส ‘น ปฏิสนฺทหิสฺสามี’’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, กสฺสโก คหปติโก กสิตฺวา จ วปิตฺวา จ ธฺาคารํ ปริปูเรยฺย. โส อปเรน สมเยน เนว กสฺเสยฺย น วปฺเปยฺย, ยถาสมฺภตฺจ ธฺํ ปริภฺุเชยฺย วา วิสชฺเชยฺย วา ยถา ปจฺจยํ วา กเรยฺย, ชาเนยฺย โส, มหาราช, กสฺสโก คหปติโก ‘น เม ธฺาคารํ ปริปูเรสฺสตี’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชาเนยฺยา’’ติ. ‘‘กถํ ¶ ชาเนยฺยา’’ติ? ‘‘โย เหตุ โย ปจฺจโย ธฺาคารสฺส ปริปูรณาย, ตสฺส เหตุสฺส ตสฺส ปจฺจยสฺส อุปรมา ชานาติ ‘น เม ธฺาคารํ ปริปูเรสฺสตี’’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย เหตุ โย ปจฺจโย ปฏิสนฺทหนาย, ตสฺส เหตุสฺส ตสฺส ปจฺจยสฺส อุปรมา ชานาติ โส ‘น ปฏิสนฺทหิสฺสามี’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ปฏิสนฺทหนปฺโห ทุติโย.
๓. าณปฺาปฺโห
๓. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยสฺส าณํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺส ปฺา อุปฺปนฺนา’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ยสฺส าณํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺส ปฺา อุปฺปนฺนา’’ติ. ‘‘กึ, ภนฺเต, ยฺเว ¶ าณํ สา เยว ปฺา’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ยฺเว าณํ สา เยว ปฺา’’ติ. ‘‘ยสฺส ปน, ภนฺเต, ตฺเว าณํ สา เยว ปฺา อุปฺปนฺนา, กึ สมฺมุยฺเหยฺย โส, อุทาหุ น สมฺมุยฺเหยฺยา’’ติ? ‘‘กตฺถจิ, มหาราช, สมฺมุยฺเหยฺย, กตฺถจิ น สมฺมุยฺเหยฺยา’’ติ. ‘‘กุหึ, ภนฺเต, สมฺมุยฺเหยฺยา’’ติ? ‘‘อฺาตปุพฺเพสุ วา, มหาราช, สิปฺปฏฺาเนสุ, อคตปุพฺพาย วา ทิสาย, อสฺสุตปุพฺพาย วา นามปฺตฺติยา สมฺมุยฺเหยฺยา’’ติ. ‘‘กุหึ น สมฺมุยฺเหยฺยา’’ติ? ‘‘ยํ โข ปน, มหาราช, ตาย ปฺาย กตํ ‘อนิจฺจ’นฺติ วา ‘ทุกฺข’นฺติ วา ‘อนตฺตา’ติ วา, ตหึ น สมฺมุยฺเหยฺยา’’ติ. ‘‘โมโห ปนสฺส, ภนฺเต, กุหึ คจฺฉตี’’ติ? ‘‘โมโห โข, มหาราช, าเณ อุปฺปนฺนมตฺเต ตตฺเถว นิรุชฺฌตี’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส อนฺธการเคเห ปทีปํ อาโรเปยฺย, ตโต อนฺธกาโร นิรุชฺเฌยฺย, อาโลโก ปาตุภเวยฺย. เอวเมว โข, มหาราช, าเณ อุปฺปนฺนมตฺเต โมโห ตตฺเถว นิรุชฺฌตี’’ติ.
‘‘ปฺา ปน, ภนฺเต, กุหึ คจฺฉตี’’ติ? ‘‘ปฺาปิ โข, มหาราช, สกิจฺจยํ กตฺวา ตตฺเถว นิรุชฺฌติ, ยํ ปน ตาย ปฺาย กตํ ‘อนิจฺจ’นฺติ วา ‘ทุกฺข’นฺติ วา ‘อนตฺตา’ติ วา, ตํ น นิรุชฺฌตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ยํ ปเนตํ พฺรูสิ ‘ปฺา สกิจฺจยํ กตฺวา ตตฺเถว นิรุชฺฌติ, ยํ ปน ตาย ปฺาย กตํ ‘อนิจฺจ’นฺติ วา ‘ทุกฺข’นฺติ วา ‘อนตฺตา’ติ วา, ตํ น นิรุชฺฌตี’ติ, ตสฺส โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โย โกจิ ปุริโส รตฺตึ เลขํ เปเสตุกาโม เลขกํ ปกฺโกสาเปตฺวา ปทีปํ อาโรเปตฺวา เลขํ ลิขาเปยฺย, ลิขิเต ปน เลเข ปทีปํ วิชฺฌาเปยฺย, วิชฺฌาปิเตปิ ปทีเป เลขํ น วินสฺเสยฺย. เอวเมว โข, มหาราช, ปฺา สกิจฺจยํ กตฺวา ตตฺเถว นิรุชฺฌติ, ยํ ปน ตาย ปฺาย กตํ ‘อนิจฺจ’นฺติ วา ‘ทุกฺข’นฺติ วา ‘อนตฺตา’ติ วา, ตํ น นิรุชฺฌตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย ¶ โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ปุรตฺถิเมสุ ชนปเทสุ ¶ มนุสฺสา อนุฆรํ ปฺจ ปฺจ อุทกฆฏกานิ เปนฺติ อาลิมฺปนํ วิชฺฌาเปตุํ, ฆเร ปทิตฺเต ตานิ ปฺจ อุทกฆฏกานิ ฆรสฺสูปริ ขิปนฺติ, ตโต อคฺคิ วิชฺฌายติ, กึ นุ โข, มหาราช, เตสํ มนุสฺสานํ เอวํ โหติ ‘ปุน เตหิ ฆเฏหิ ฆฏกิจฺจํ กริสฺสามา’’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, อลํ เตหิ ฆเฏหิ, กึ เตหิ ฆเฏหี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ปฺจ อุทกฆฏกานิ, เอวํ ปฺจินฺทฺริยานิ ทฏฺพฺพานิ สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ. ยถา เต มนุสฺสา, เอวํ โยคาวจโร ทฏฺพฺโพ. ยถา อคฺคิ, เอวํ กิเลสา ทฏฺพฺพา. ยถา ปฺจหิ อุทกฆฏเกหิ อคฺคิ วิชฺฌาปียติ, เอวํ ปฺจินฺทฺริเยหิ กิเลสา วิชฺฌาปิยนฺติ, วิชฺฌาปิตาปิ กิเลสา น ปุน สมฺภวนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, ปฺา สกิจฺจยํ กตฺวา ตตฺเถว นิรุชฺฌติ, ยํ ปน ตาย ปฺาย กตํ ‘อนิจฺจ’นฺติ วา ‘ทุกฺข’นฺติ วา ‘อนตฺตา’ติ วา, ตํ น นิรุชฺฌตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, เวชฺโช ปฺจมูลเภสชฺชานิ คเหตฺวา คิลานกํ อุปสงฺกมิตฺวา ตานิ ปฺจมูลเภสชฺชานิ ปิสิตฺวา [ปึสิตฺวา (สี. ปี.)] คิลานกํ ปาเยยฺย, เตหิ จ โทสา นิทฺธเมยฺยุํ, กึ นุ โข, มหาราช, ตสฺส เวชฺชสฺส เอวํ โหติ ‘ปุน เตหิ ปฺจมูลเภสชฺเชหิ เภสชฺชกิจฺจํ กริสฺสามี’’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, อลํ เตหิ ปฺจมูลเภสชฺเชหิ, กึ เตหิ ปฺจมูลเภสชฺเชหี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ปฺจมูลเภสชฺชานิ, เอวํ ปฺจินฺทฺริยานิ ทฏฺพฺพานิ สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ, ยถา เวชฺโช, เอวํ โยคาวจโร ทฏฺพฺโพ. ยถา พฺยาธิ, เอวํ กิเลสา ทฏฺพฺพา. ยถา พฺยาธิโต ปุริโส, เอวํ ปุถุชฺชโน ทฏฺพฺโพ. ยถา ปฺจมูลเภสชฺเชหิ คิลานสฺส โทสา นิทฺธนฺตา, โทเส นิทฺธนฺเต คิลาโน อโรโค โหติ, เอวํ ปฺจินฺทฺริเยหิ กิเลสา นิทฺธมียนฺติ, นิทฺธมิตา จ กิเลสา น ปุน สมฺภวนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, ปฺา สกิจฺจยํ ¶ กตฺวา ตตฺเถว นิรุชฺฌติ, ยํ ปน ตาย ปฺาย กตํ ‘อนิจฺจ’นฺติ วา ¶ ‘ทุกฺข’นฺติ วา ‘อนตฺตา’ติ วา, ตํ น นิรุชฺฌตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, สงฺคามาวจโร โยโธ ปฺจ กณฺฑานิ คเหตฺวา สงฺคามํ โอตเรยฺย ปรเสนํ วิเชตุํ, โส สงฺคามคโต ตานิ ปฺจ กณฺฑานิ ขิเปยฺย, เตหิ จ ปรเสนา ภิชฺเชยฺย ¶ , กึ นุ โข, มหาราช, ตสฺส สงฺคามาวจรสฺส โยธสฺส เอวํ โหติ ‘ปุน เตหิ กณฺเฑหิ กณฺฑกิจฺจํ กริสฺสามี’’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, อลํ เตหิ กณฺเฑหิ, กึ เตหิ กณฺเฑหี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ปฺจ กณฺฑานิ, เอวํ ปฺจินฺทฺริยานิ ทฏฺพฺพานิ สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ. ยถา, มหาราช, สงฺคามาวจโร โยโธ, เอวํ โยคาวจโร ทฏฺพฺโพ. ยถา ปรเสนา, เอวํ กิเลสา ทฏฺพฺพา. ยถา ปฺจหิ กณฺเฑหิ ปรเสนา ภิชฺชติ, เอวํ ปฺจินฺทฺริเยหิ กิเลสา ภิชฺชนฺติ, ภคฺคา จ กิเลสา น ปุน สมฺภวนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, ปฺา สกิจฺจยํ กตฺวา ตตฺเถว นิรุชฺฌติ, ยํ ปน ตาย ปฺาย กตํ ‘อนิจฺจ’นฺติ วา ‘ทุกฺข’นฺติ วา ‘อนตฺตา’ติ วา, ตํ น นิรุชฺฌตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
าณปฺาปฺโห ตติโย.
๔. ปฏิสนฺทหนปุคฺคลเวทิยนปฺโห
๔. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย น ปฏิสนฺทหติ, เวเทติ โส กิฺจิ ทุกฺขํ เวทน’’นฺติ? เถโร อาห ‘‘กิฺจิ เวเทติ, กิฺจิ น เวเทตี’’ติ. ‘‘กึ เวเทติ, กึ น เวเทตี’’ติ? ‘‘กายิกํ, มหาราช, เวทนํ เวเทติ, เจตสิกํ เวทนํ น เวเทตี’’ติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต, กายิกํ เวทนํ เวเทติ, กถํ เจตสิกํ เวทนํ น เวเทตี’’ติ? ‘‘โย เหตุ โย ปจฺจโย กายิกาย ทุกฺขเวทนาย อุปฺปตฺติยา, ตสฺส เหตุสฺส ตสฺส ปจฺจยสฺส อนุปรมา กายิกํ ทุกฺขเวทนํ เวเทติ, โย เหตุ โย ปจฺจโย เจตสิกาย ทุกฺขเวทนาย อุปฺปตฺติยา, ตสฺส เหตุสฺส ตสฺส ปจฺจยสฺส อุปรมา เจตสิกํ ทุกฺขเวทนํ น เวเทติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา – ‘โส เอกํ เวทนํ เวเทติ กายิกํ น เจตสิก’’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, โย ทุกฺขํ เวทนํ เวเทติ, กสฺมา โส น ปรินิพฺพายตี’’ติ? ‘‘นตฺถิ, มหาราช, อรหโต อนุนโย วา ปฏิโฆ วา, น จ อรหนฺโต อปกฺกํ ปาเตนฺติ ปริปากํ อาคเมนฺติ ปณฺฑิตา. ภาสิตมฺเปตํ ¶ , มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘นาภินนฺทามิ ¶ มรณํ, นาภินนฺทามิ ชีวิตํ;
กาลฺจ ปฏิกงฺขามิ, นิพฺพิสํ ภตโก ยถา.
‘‘‘นาภินนฺทามิ มรณํ, นาภินนฺทามิ ชีวิตํ;
กาลฺจ ปฏิกงฺขามิ, สมฺปชาโน ปติสฺสโต’’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ [ปสฺส เถรคา. ๖๕๔].
ปฏิสนฺทหนปุคฺคลเวทิยนปฺโห จตุตฺโถ.
๕. เวทนาปฺโห
๕. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, สุขา เวทนา กุสลา วา อกุสลา วา อพฺยากตา วา’’ติ? ‘‘สิยา, มหาราช, กุสลา, สิยา อกุสลา, สิยา อพฺยากตา’’ติ. ‘‘ยทิ, ภนฺเต, กุสลา น ทุกฺขา, ยทิ ทุกฺขา น กุสลา, กุสลํ ทุกฺขนฺติ นุปฺปชฺชตี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, อิธ ปุริสสฺส หตฺเถ ตตฺตํ อโยคุฬํ นิกฺขิเปยฺย, ทุติเย หตฺเถ สีตํ หิมปิณฺฑํ นิกฺขิเปยฺย, กึ นุ โข, มหาราช, อุโภปิ เต ทเหยฺยุ’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อุโภปิ เต ทเหยฺยุ’’นฺติ. ‘‘กึ นุ โข, เต มหาราช, อุโภปิ อุณฺหา’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ปน เต, มหาราช, อุโภปิ สีตลา’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘อาชานาหิ นิคฺคหํ ยทิ ตตฺตํ ทหติ, น จ เต อุโภปิ อุณฺหา, เตน นุปฺปชฺชติ. ยทิ สีตลํ ทหติ, น จ เต อุโภปิ สีตลา, เตน นุปฺปชฺชติ. กิสฺส ปน เต, มหาราช, อุโภปิ ทหนฺติ, น จ เต อุโภปิ อุณฺหา, น จ เต อุโภปิ สีตลา? เอกํ อุณฺหํ, เอกํ สีตลํ, อุโภปิ เต ทหนฺติ, เตน นุปฺปชฺชตี’’ติ. ‘‘นาหํ ปฏิพโล ตยา วาทินา สทฺธึ สลฺลปิตุํ, สาธุ อตฺถํ ชปฺเปหี’’ติ. ตโต เถโร อภิธมฺมสํยุตฺตาย กถาย ราชานํ มิลินฺทํ สฺาเปสิ –
‘‘ฉยิมานิ ¶ , มหาราช, เคหนิสฺสิตานิ โสมนสฺสานิ, ฉ เนกฺขมฺมนิสฺสิตานิ โสมนสฺสานิ, ฉ เคหนิสฺสิตานิ โทมนสฺสานิ, ฉ เนกฺขมฺมนิสฺสิตานิ โทมนสฺสานิ, ฉ เคหนิสฺสิตา อุเปกฺขา, ฉ เนกฺขมฺมนิสฺสิตา อุเปกฺขาติ, อิมานิ ฉ ¶ ฉกฺกานิ, อตีตาปิ ฉตฺตึสวิธา เวทนา, อนาคตาปิ ¶ ฉตฺตึสวิธา เวทนา, ปจฺจุปฺปนฺนาปิ ฉตฺตึสวิธา เวทนา, ตเทกชฺฌํ อภิสฺุหิตฺวา อภิสมฺปิณฺเฑตฺวา อฏฺสตํ เวทนา โหนฺตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
เวทนาปฺโห ปฺจโม.
๖. นามรูปเอกตฺตนานตฺตปฺโห
๖. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, โก ปฏิสนฺทหตี’’ติ? เถโร อาห ‘‘นามรูปํ โข, มหาราช, ปฏิสนฺทหตี’’ติ. ‘‘กึ อิมํ เยว นามรูปํ ปฏิสนฺทหตี’’ติ? ‘‘น โข, มหาราช, อิมํ เยว นามรูปํ ปฏิสนฺทหติ, อิมินา ปน, มหาราช, นามรูเปน กมฺมํ กโรติ โสภนํ วา ปาปกํ วา, เตน กมฺเมน อฺํ นามรูปํ ปฏิสนฺทหตี’’ติ. ‘‘ยทิ, ภนฺเต, น อิมํ เยว นามรูปํ ปฏิสนฺทหติ, นนุ โส มุตฺโต ภวิสฺสติ ปาปเกหิ กมฺเมหี’’ติ? เถโร อาห ‘‘ยทิ น ปฏิสนฺทเหยฺย, มุตฺโต ภเวยฺย ปาปเกหิ กมฺเมหิ. ยสฺมา จ โข, มหาราช, ปฏิสนฺทหติ, ตสฺมา น มุตฺโต ปาปเกหิ กมฺเมหี’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส อฺตรสฺส ปุริสสฺส อมฺพํ อวหเรยฺย, ตเมนํ อมฺพสามิโก คเหตฺวา รฺโ ทสฺเสยฺย ‘อิมินา เทว ปุริเสน มยฺหํ อมฺพา อวหฏา’ติ, โส เอวํ วเทยฺย ‘นาหํ, เทว, อิมสฺส อมฺเพ อวหรามิ, อฺเ เต อมฺพา, เย อิมินา โรปิตา, อฺเ เต อมฺพา, เย มยา อวหฏา, นาหํ ทณฺฑปฺปตฺโต’ติ. กึ นุ โข โส, มหาราช, ปุริโส ทณฺฑปฺปตฺโต ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ทณฺฑปฺปตฺโต ภเวยฺยา’’ติ. ‘‘เกน การเณนา’’ติ? ‘‘กิฺจาปิ โส เอวํ วเทยฺย, ปุริมํ, ภนฺเต, อมฺพํ อปฺปจฺจกฺขาย ปจฺฉิเมน อมฺเพน โส ปุริโส ทณฺฑปฺปตฺโต ภเวยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อิมินา นามรูเปน กมฺมํ กโรติ โสภนํ วา ปาปกํ วา, เตน กมฺเมน อฺํ นามรูปํ ปฏิสนฺทหติ, ตสฺมา น มุตฺโต ปาปเกหิ กมฺเมหี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย ¶ โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส อฺตรสฺส ปุริสสฺส สาลึ อวหเรยฺย…เป… อุจฺฉุํ อวหเรยฺย…เป… ¶ ยถา มหาราช โกจิ ปุริโส เหมนฺตกาเล อคฺคึ ชาเลตฺวา วิสิพฺเพตฺวา ¶ [วิสีเวตฺวา (สี. ปี.)] อวิชฺฌาเปตฺวา ปกฺกเมยฺย, อถ โข โส อคฺคิ อฺตรสฺส ปุริสสฺส เขตฺตํ ฑเหยฺย [อุปฑเหยฺย (ก.)], ตเมนํ เขตฺตสามิโก คเหตฺวา รฺโ ทสฺเสยฺย ‘อิมินา, เทว, ปุริเสน มยฺหํ เขตฺตํ ทฑฺฒ’นฺติ. โส เอวํ วเทยฺย ‘นาหํ, เทว, อิมสฺส เขตฺตํ ฌาเปมิ, อฺโ โส อคฺคิ, โย มยา อวิชฺฌาปิโต, อฺโ โส อคฺคิ, เยนิมสฺส เขตฺตํ ทฑฺฒํ, นาหํ ทณฺฑปฺปตฺโต’ติ. กึ นุ โข โส, มหาราช, ปุริโส ทณฺฑปฺปตฺโต ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ทณฺฑปฺปตฺโต ภเวยฺยา’’ติ. ‘‘เกน การเณนา’’ติ? ‘‘กิฺจาปิ โส เอวํ วเทยฺย, ปุริมํ, ภนฺเต, อคฺคึ อปฺปจฺจกฺขาย ปจฺฉิเมน อคฺคินา โส ปุริโส ทณฺฑปฺปตฺโต ภเวยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อิมินา นามรูเปน กมฺมํ กโรติ โสภนํ วา ปาปกํ วา, เตน กมฺเมน อฺํ นามรูปํ ปฏิสนฺทหติ, ตสฺมา น มุตฺโต ปาปเกหิ กมฺเมหี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส ปทีปํ อาทาย ปาสาทํ อภิรูหิตฺวา ภฺุเชยฺย, ปทีโป ฌายมาโน ติณํ ฌาเปยฺย, ติณํ ฌายมานํ ฆรํ ฌาเปยฺย, ฆรํ ฌายมานํ คามํ ฌาเปยฺย, คามชโน ตํ ปุริสํ คเหตฺวา เอวํ วเทยฺย ‘กิสฺส ตฺวํ, โภ ปุริส, คามํ ฌาเปสี’ติ, โส เอวํ วเทยฺย ‘นาหํ, โภ, คามํ ฌาเปมิ, อฺโ โส ปทีปคฺคิ, ยสฺสาหํ อาโลเกน ภฺุชึ, อฺโ โส อคฺคิ, เยน คาโม ฌาปิโต’ติ, เต วิวทมานา ตว สนฺติเก อาคจฺเฉยฺยุํ, กสฺส ตฺวํ, มหาราช, อฏฺฏํ [อตฺถํ (สี. ปี.)] ธาเรยฺยาสี’’ติ? ‘‘คามชนสฺส ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ การณา’’ติ? ‘‘กิฺจาปิ โส เอวํ วเทยฺย, อปิ จ ตโต เอว โส อคฺคิ นิพฺพตฺโต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, กิฺจาปิ อฺํ มารณนฺติกํ นามรูปํ, อฺํ ปฏิสนฺธิสฺมึ นามรูปํ, อปิ จ ตโต เยว ตํ นิพฺพตฺตํ, ตสฺมา น มุตฺโต ปาปเกหิ กมฺเมหี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส ทหรึ ทาริกํ วาเรตฺวา สุงฺกํ ทตฺวา ปกฺกเมยฺย. สา อปเรน ¶ สมเยน มหตี อสฺส วยปฺปตฺตา, ตโต อฺโ ปุริโส สุงฺกํ ทตฺวา วิวาหํ กเรยฺย, อิตโร อาคนฺตฺวา เอวํ วเทยฺย ‘กิสฺส ปน เม ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ภริยํ เนสี’ติ? โส เอวํ วเทยฺย ‘นาหํ ตว ภริยํ เนมิ, อฺา สา ทาริกา ทหรี ตรุณี, ยา ¶ ตยา วาริตา จ ทินฺนสุงฺกา จ, อฺายํ ทาริกา มหตี วยปฺปตฺตา มยา วาริตา จ ทินฺนสุงฺกา จา’ติ, เต วิวทมานา ตว สนฺติเก อาคจฺเฉยฺยุํ. กสฺส ตฺวํ, มหาราช, อฏฺฏํ ธาเรยฺยาสี’’ติ? ‘‘ปุริมสฺส ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ การณา’’ติ? ‘‘กิฺจาปิ ¶ โส เอวํ วเทยฺย, อปิ จ ตโต เยว สา มหตี นิพฺพตฺตา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, กิฺจาปิ อฺํ มารณนฺติกํ นามรูปํ, อฺํ ปฏิสนฺธิสฺมึ นามรูปํ, อปิ จ ตโต เยว ตํ นิพฺพตฺตํ, ตสฺมา นปริมุตฺโต ปาปเกหิ กมฺเมหี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส โคปาลกสฺส หตฺถโต ขีรฆฏํ กิณิตฺวา ตสฺเสว หตฺเถ นิกฺขิปิตฺวา ปกฺกเมยฺย ‘สฺเว คเหตฺวา คมิสฺสามี’ติ, ตํ อปรชฺชุ ทธิ สมฺปชฺเชยฺย. โส อาคนฺตฺวา เอวํ วเทยฺย ‘เทหิ เม ขีรฆฏ’นฺติ. โส ทธึ ทสฺเสยฺย. อิตโร เอวํ วเทยฺย ‘นาหํ ตว หตฺถโต ทธึ กิณามิ, เทหิ เม ขีรฆฏ’นฺติ. โส เอวํ วเทยฺย ‘อชานโต เต ขีรํ ทธิภูต’นฺติ เต วิวทมานา ตว สนฺติเก อาคจฺเฉยฺยุํ, กสฺส ตฺวํ มหาราช, อฏฺฏํ ธาเรยฺยาสี’’ติ? ‘‘โคปาลกสฺส ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ การณา’’ติ? ‘‘กิฺจาปิ โส เอวํ วเทยฺย, อปิ จ ตโต เยว ตํ นิพฺพตฺต’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, กิฺจาปิ อฺํ มารณนฺติกํ นามรูปํ, อฺํ ปฏิสนฺธิสฺมึ นามรูปํ, อปิ จ ตโต เยว ตํ นิพฺพตฺตํ, ตสฺมา น ปริมุตฺโต ปาปเกหิ กมฺเมหี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
นามรูปเอกตฺตนานตฺตปฺโห ฉฏฺโ.
๗. เถรปฏิสนฺทหนาปฏิสนฺทหนปฺโห
๗. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตฺวํ ปน ปฏิสนฺทหิสฺสสี’’ติ? ‘‘อลํ, มหาราช, กึ เต เตน ปุจฺฉิเตน, นนุ มยา ปฏิกจฺเจว อกฺขาตํ ‘สเจ, มหาราช, สอุปาทาโน ภวิสฺสามิ ¶ , ปฏิสนฺทหิสฺสามิ, สเจ อนุปาทาโน ภวิสฺสามิ, น ปฏิสนฺทหิสฺสามี’’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส รฺโ อธิการํ กเรยฺย. ราชา ตุฏฺโ อธิการํ ทเทยฺย, โส เตน อธิกาเรน ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคิภูโต ปริจเรยฺย, โส ¶ เจ ชนสฺส อาโรเจยฺย ‘น เม ราชา กิฺจิ ปฏิกโรตี’ ติ. กึ นุ โข โส, มหาราช, ปุริโส ยุตฺตการี ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช ¶ , กึ เต เตน ปุจฺฉิเตน, นนุ มยา ปฏิกจฺเจว อกฺขาตํ ‘สเจ สอุปาทาโน ภวิสฺสามิ, ปฏิสนฺทหิสฺสามิ, สเจ อนุปาทาโน ภวิสฺสามิ, น ปฏิสนฺทหิสฺสามี’’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
เถรปฏิสนฺทหนาปฏิสนฺทหนปฺโห สตฺตโม.
๘. นามรูปปฏิสนฺทหนปฺโห
๘. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยํ ปเนตํ พฺรูสิ ‘นามรูป’นฺติ, ตตฺถ กตมํ นามํ, กตมํ รูป’’นฺติ. ‘‘ยํ ตตฺถ, มหาราช, โอฬาริกํ, เอตํ รูปํ, เย ตตฺถ สุขุมา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา, เอตํ นาม’’นฺติ. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, เกน การเณน นามํ เยว น ปฏิสนฺทหติ, รูปํ เยว วา’’ติ? ‘‘อฺมฺูปนิสฺสิตา, มหาราช, เอเต ธมฺมา เอกโตว อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, กุกฺกุฏิยา กลลํ น ภเวยฺย, อณฺฑมฺปิ น ภเวยฺย, ยฺจ ตตฺถ กลลํ, ยฺจ อณฺฑํ, อุโภเปเต อฺมฺูปนิสฺสิตา, เอกโตว เนสํ อุปฺปตฺติ โหติ. เอวเมว โข, มหาราช, ยทิ ตตฺถ นามํ น ภเวยฺย, รูปมฺปิ น ภเวยฺย, ยฺเจว ตตฺถ นามํ, ยฺเจว รูปํ, อุโภเปเต อฺมฺูปนิสฺสิตา, เอกโตว เนสํ อุปฺปตฺติ โหติ. เอวเมตํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิต’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
นามรูปปฏิสนฺทหนปฺโห อฏฺโม.
๙. อทฺธานปฺโห
๙. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยํ ปเนตํ พฺรูสิ ‘ทีฆมทฺธาน’นฺติ, กิเมตํ อทฺธานํ นามา’’ติ ¶ ? ‘‘อตีโต, มหาราช, อทฺธา, อนาคโต อทฺธา, ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา’’ติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, สพฺเพ อทฺธา อตฺถี’’ติ? ‘‘โกจิ, มหาราช ¶ , อทฺธา อตฺถิ, โกจิ นตฺถี’’ติ. ‘‘กตโม ปน, ภนฺเต, อตฺถิ, กตโม ¶ นตฺถี’’ติ? ‘‘เย เต, มหาราช, สงฺขารา อตีตา วิคตา นิรุทฺธา วิปริณตา, โส อทฺธา นตฺถิ, เย ธมฺมา วิปากา, เย จ วิปากธมฺมธมฺมา, เย จ อฺตฺร ปฏิสนฺธึ เทนฺติ, โส อทฺธา อตฺถิ. เย สตฺตา กาลงฺกตา อฺตฺร อุปฺปนฺนา, โส จ อทฺธา อตฺถิ. เย สตฺตา กาลงฺกตา อฺตฺร อนุปฺปนฺนา, โส อทฺธา นตฺถิ. เย จ สตฺตา ปรินิพฺพุตา, โส จ อทฺธา นตฺถิ ปรินิพฺพุตตฺตา’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
อทฺธานปฺโห นวโม.
อทฺธานวคฺโค ทุติโย.
อิมสฺมึ วคฺเค นว ปฺหา.
๓. วิจารวคฺโค
๑. อทฺธานมูลปฺโห
๑. ราชา ¶ ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อตีตสฺส อทฺธานสฺส กึ มูลํ, อนาคตสฺส อทฺธานสฺส กึ มูลํ, ปจฺจุปฺปนฺนสฺส อทฺธานสฺส กึ มูล’’นฺติ? ‘‘อตีตสฺส จ, มหาราช, อทฺธานสฺส อนาคตสฺส จ อทฺธานสฺส ปจฺจุปฺปนฺนสฺส จ อทฺธานสฺส อวิชฺชา มูลํ. อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส อทฺธานสฺส [ทุกฺขกฺขนฺธสฺส อทฺธานสฺส (สี.)] ปุริมา โกฏิ น ปฺายตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
อทฺธานมูลปฺโห ปโม.
๒. ปุริมโกฏิปฺโห
๒. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยํ ปเนตํ พฺรูสิ ‘ปุริมา โกฏิ น ปฺายตี’ติ, ตสฺส โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส ปริตฺตํ [ปริปกฺกํ (ก.)] พีชํ ปถวิยํ นิกฺขิเปยฺย, ตโต องฺกุโร อุฏฺหิตฺวา อนุปุพฺเพน วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตฺวา ผลํ ทเทยฺย. ตโต พีชํ ¶ คเหตฺวา ปุน โรเปยฺย, ตโตปิ องฺกุโร อุฏฺหิตฺวา อนุปุพฺเพน วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตฺวา ¶ ผลํ ทเทยฺย. เอวเมติสฺสา สนฺตติยา อตฺถิ อนฺโต’’ติ? ‘‘นตฺถิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อทฺธานสฺสาปิ ปุริมา โกฏิ น ปฺายตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, กุกฺกุฏิยา อณฺฑํ ภเวยฺย, อณฺฑโต กุกฺกุฏี กุกฺกุฏิยา อณฺฑนฺติ. เอวเมติสฺสา สนฺตติยา อตฺถิ อนฺโต’’ติ? ‘‘นตฺถิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อทฺธานสฺสาปิ ปุริมา โกฏิ น ปฺายตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย ¶ โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. เถโร ปถวิยา จกฺกํ ลิขิตฺวา มิลินฺทํ ราชานํ เอตทโวจ ‘‘อตฺถิ, มหาราช, อิมสฺส จกฺกสฺส อนฺโต’’ติ? ‘‘นตฺถิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อิมานิ จกฺกานิ วุตฺตานิ ภควตา ‘จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา กมฺมํ, กมฺมโต ปุน จกฺขุํ ชายตี’ติ. เอวเมติสฺสา สนฺตติยา อตฺถิ อนฺโต’’ติ? ‘‘นตฺถิ ภนฺเต’’ติ.
‘‘‘โสตฺจ ปฏิจฺจ สทฺเท จ…เป… มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา กมฺมํ, กมฺมโต ปุน มโน ชายตี’ติ. เอวเมติสฺสา สนฺตติยา อตฺถิ อนฺโต’’ติ? ‘‘นตฺถิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อทฺธานสฺสาปิ ปุริมา โกฏิ น ปฺายตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ปุริมโกฏิปฺโห ทุติโย.
๓. โกฏิปฺายนปฺโห
๓. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยํ ปเนตํ พฺรูสิ ‘ปุริมา โกฏิ น ปฺายตี’ติ, กตมา จ สา ปุริมา โกฏี’’ติ? ‘‘โย โข, มหาราช, อตีโต อทฺธา, เอสา ปุริมา โกฏี’’ติ. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยํ ปเนตํ พฺรูสิ ‘ปุริมา โกฏิ น ปฺายตี’ติ, กึ ปน, ภนฺเต ¶ , สพฺพาปิ ปุริมา โกฏิ น ปฺายตี’’ติ? ‘‘กาจิ, มหาราช, ปฺายติ, กาจิ น ปฺายตี’’ติ. ‘‘กตมา, ภนฺเต, ปฺายติ, กตมา น ปฺายตี’’ติ? ‘‘อิโต ปุพฺเพ, มหาราช, สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ อวิชฺชา นาโหสีติ เอสา ปุริมา โกฏิ น ปฺายติ, ยํ อหุตฺวา สมฺโภติ, หุตฺวา ปฏิวิคจฺฉติ, เอสป ปุริมา โกฏิ ปฺายตี’’ติ ¶ .
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยํ อหุตฺวา สมฺโภติ, หุตฺวา ปฏิวิคจฺฉติ, นนุ ตํ อุภโต ฉินฺนํ อตฺถํ คจฺฉตี’’ติ? ‘‘ยทิ, มหาราช, อุภโต ฉินฺนํ อตฺถํ คจฺฉติ, อุภโต ¶ ฉินฺนา สกฺกา วฑฺเฒตุ’’นฺติ? ‘‘อาม, สาปิ สกฺกา วฑฺเฒตุ’’นฺติ.’’นาหํ, ภนฺเต, เอตํ ปุจฺฉามิ โกฏิโต สกฺกา วฑฺเฒตุ’’นฺติ? ‘‘อาม สกฺกา วฑฺเฒตุ’’นฺติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. เถโร ตสฺส รุกฺขูปมํ อกาสิ, ขนฺธา จ เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส พีชานี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
โกฏิปฺายนปฺโห ตติโย.
๔. สงฺขารชายมานปฺโห
๔. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อตฺถิ เกจิ สงฺขารา, เย ชายนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, อตฺถิ สงฺขารา, เย ชายนฺตี’’ติ. ‘‘กตเม เต, ภนฺเต’’ติ? ‘‘จกฺขุสฺมิฺจ โข, มหาราช, สติ รูเปสุ จ จกฺขุวิฺาณํ โหติ, จกฺขุวิฺาเณ สติ จกฺขุสมฺผสฺโส โหติ, จกฺขุสมฺผสฺเส สติ เวทนา โหติ, เวทนาย สติ ตณฺหา โหติ, ตณฺหาย สติ อุปาทานํ โหติ, อุปาทาเน สติ ภโว โหติ, ภเว สติ ชาติ โหติ, ชาติยา สติ ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ, เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติ. จกฺขุสฺมิฺจ โข, มหาราช, อสติ รูเปสุ จ อสติ จกฺขุวิฺาณํ น โหติ, จกฺขุวิฺาเณ อสติ จกฺขุสมฺผสฺโส น โหติ, จกฺขุสมฺผสฺเส อสติ เวทนา น โหติ, เวทนาย อสติ ตณฺหา น โหติ, ตณฺหาย อสติ อุปาทานํ น โหติ, อุปาทาเน อสติ ¶ ภโว น โหติ, ภเว อสติ ชาติ น โหติ, ชาติยา อสติ ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา น โหนฺติ, เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สงฺขารชายมานปฺโห จตุตฺโถ.
๕. ภวนฺตสงฺขารชายมานปฺโห
๕. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อตฺถิ เกจิ สงฺขารา, เย อภวนฺตา ชายนฺตี’’ติ? ‘‘นตฺถิ, มหาราช, เกจิ สงฺขารา, เย อภวนฺตา ชายนฺติ, ภวนฺตา เยว โข, มหาราช, สงฺขารา ชายนฺตี’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, อิทํ เคหํ อภวนฺตํ ชาตํ, ยตฺถ ตฺวํ ¶ นิสินฺโนสี’’ติ? ‘‘นตฺถิ กิฺจิ, ภนฺเต, อิธ อภวนฺตํ ชาตํ, ภวนฺตํ เยว ชาตํ, อิมานิ โข, ภนฺเต, ทารูนิ วเน อเหสุํ, อยฺจ มตฺติกา ปถวิยํ อโหสิ, อิตฺถีนฺจ ปุริสานฺจ ตชฺเชน วายาเมน เอวมิทํ เคหํ นิพฺพตฺต’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, นตฺถิ เกจิ สงฺขารา, เย อภวนฺตา ชายนฺติ, ภวนฺตา เยว สงฺขารา ชายนฺตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, เย เกจิ พีชคามภูตคามา ปถวิยํ นิกฺขิตฺตา อนุปุพฺเพน วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชมานา ปุปฺผานิ จ ผลานิ จ ทเทยฺยุํ, น เต รุกฺขา อภวนฺตา ชาตา, ภวนฺตา เยว เต รุกฺขา ชาตา. เอวเมว โข, มหาราช, นตฺถิ เกจิ สงฺขารา, เย อภวนฺตา ชายนฺติ, ภวนฺตา เยว เต สงฺขารา ชายนฺตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, กุมฺภกาโร ปถวิยา มตฺติกํ อุทฺธริตฺวา นานาภาชนานิ กโรติ, น ตานิ ภาชนานิ อภวนฺตานิ ชาตานิ, ภวนฺตานิ เยว ชาตานิ. เอวเมว โข, มหาราช, นตฺถิ เกจิ สงฺขารา, เย อภวนฺตา ชายนฺติ, ภวนฺตา เยว สงฺขารา ชายนฺตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย ¶ โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, วีณาย ปตฺตํ น สิยา, จมฺมํ น สิยา, โทณิ น สิยา, ทณฺโฑ น สิยา, อุปวีโณ น สิยา, ตนฺติโย น สิยุํ, โกโณ น สิยา, ปุริสสฺส จ ตชฺโช วายาโม น สิยา, ชาเยยฺย สทฺโท’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘ยโต จ โข, มหาราช, วีณาย ปตฺตํ สิยา, จมฺมํ สิยา, โทณิ สิยา, ทณฺโฑ สิยา, อุปวีโณ สิยา, ตนฺติโย สิยุํ, โกโณ สิยา, ปุริสสฺส จ ตชฺโช วายาโม สิยา, ชาเยยฺย สทฺโท’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชาเยยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, นตฺถิ เกจิ สงฺขารา, เย อภวนฺตา ชายนฺติ, ภวนฺตา เยว โข สงฺขารา ชายนฺตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, อรณิ น สิยา, อรณิโปตโก น สิยา, อรณิโยตฺตกํ น สิยา, อุตฺตรารณิ น ¶ สิยา, โจฬกํ น สิยา, ปุริสสฺส จ ตชฺโช วายาโม น สิยา, ชาเยยฺย โส อคฺคี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘ยโต จ โข, มหาราช, อรณิ สิยา, อรณิโปตโก สิยา, อรณิโยตฺตกํ สิยา, อุตฺตรารณิ สิยา, โจฬกํ สิยา, ปุริสสฺส จ ตชฺโช วายาโม สิยา, ชาเยยฺย โส อคฺคี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต ¶ , ชาเยยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, นตฺถิ เกจิ สงฺขารา, เย อภวนฺตา ชายนฺติ, ภวนฺตา เยว โข สงฺขารา ชายนฺตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, มณิ น สิยา, อาตโป น สิยา, โคมยํ น สิยา, ชาเยยฺย โส อคฺคี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘ยโต จ โข, มหาราช, มณิ สิยา, อาตโป สิยา, โคมยํ สิยา, ชาเยยฺย โส อคฺคี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชาเยยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, นตฺถิ เกจิ สงฺขารา เย อภวนฺตา ชายนฺติ, ภวนฺตา เยว โข สงฺขารา ชายนฺตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, อาทาโส น สิยา, อาภา น สิยา, มุขํ น สิยา, ชาเยยฺย อตฺตา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ยโต จ โข, มหาราช, อาทาโส สิยา, อาภา สิยา, มุขํ สิยา, ชาเยยฺย อตฺตา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชาเยยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, นตฺถิ เกจิ สงฺขารา, เย อภวนฺตา ชายนฺติ, ภวนฺตา เยว โข สงฺขารา ชายนฺตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ ¶ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ภวนฺตสงฺขารชายมานปฺโห ปฺจโม.
๖. เวทคูปฺโห
๖. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, เวทคู อุปลพฺภตี’’ติ? ‘‘โก ปเนส, มหาราช, เวทคู นามา’’ติ? ‘‘โย, ภนฺเต, อพฺภนฺตเร ชีโว จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ, โสเตน สทฺทํ สุณาติ, ฆาเนน คนฺธํ ฆายติ, ชิวฺหาย รสํ สายติ, กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสติ, มนสา ธมฺมํ วิชานาติ, ยถา มยํ อิธ ปาสาเท นิสินฺนา เยน เยน วาตปาเนน อิจฺเฉยฺยาม ปสฺสิตุํ, เตน เตน วาตปาเนน ปสฺเสยฺยาม, ปุรตฺถิเมนปิ วาตปาเนน ปสฺเสยฺยาม, ปจฺฉิเมนปิ ¶ วาตปาเนน ปสฺเสยฺยาม, อุตฺตเรนปิ วาตปาเนน ปสฺเสยฺยาม, ทกฺขิเณนปิ วาตปาเนน ปสฺเสยฺยาม. เอวเมว โข, ภนฺเต, อยํ อพฺภนฺตเร ชีโว เยน เยน ทฺวาเรน อิจฺฉติ ปสฺสิตุํ, เตน เตน ทฺวาเรน ปสฺสตี’’ติ.
เถโร อาห ‘‘ปฺจทฺวารํ, มหาราช, ภณิสฺสามิ, ตํ สุโณหิ, สาธุกํ มนสิกโรหิ, ยทิ อพฺภนฺตเร ชีโว จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ, ยถา มยํ อิธ ปาสาเท นิสินฺนา เยน เยน วาตปาเนน อิจฺเฉยฺยาม ปสฺสิตุํ, เตน เตน วาตปาเนน รูปํ เยว ปสฺเสยฺยาม, ปุรตฺถิเมนปิ วาตปาเนน รูปํ เยว ปสฺเสยฺยาม, ปจฺฉิเมนปิ ¶ วาตปาเนน รูปํ เยว ปสฺเสยฺยาม, อุตฺตเรนปิ วาตปาเนน รูปํ เยว ปสฺเสยฺยาม, ทกฺขิเณนปิ วาตปาเนน รูปํ เยว ปสฺเสยฺยาม, เอวเมเตน อพฺภนฺตเร ชีเวน โสเตนปิ รูปํ เยว ปสฺสิตพฺพํ, ฆาเนนปิ รูปํ เยว ปสฺสิตพฺพํ, ชิวฺหายปิ รูปํ เยว ปสฺสิตพฺพํ, กาเยนปิ รูปํ เยว ปสฺสิตพฺพํ, มนสาปิ รูปํ เยว ปสฺสิตพฺพํ; จกฺขุนาปิ สทฺโท เยว โสตพฺโพ, ฆาเนนปิ สทฺโท เยว โสตพฺโพ, ชิวฺหายปิ สทฺโท เยว โสตพฺโพ, กาเยนปิ สทฺโท เยว โสตพฺโพ, มนสาปิ สทฺโท เยว โสตพฺโพ; จกฺขุนาปิ คนฺโธ เยว ฆายิตพฺโพ, โสเตนปิ คนฺโธ เยว ฆายิตพฺโพ, ชิวฺหายปิ คนฺโธ เยว ฆายิตพฺโพ, กาเยนปิ คนฺโธ เยว ฆายิตพฺโพ, มนสาปิ คนฺโธ เยว ฆายิตพฺโพ; จกฺขุนาปิ รโส เยว สายิตพฺโพ, โสเตนปิ รโส เยว สายิตพฺโพ, ฆาเนนปิ รโส เยว สายิตพฺโพ, กาเยนปิ รโส เยว สายิตพฺโพ, มนสาปิ รโส เยว สายิตพฺโพ; จกฺขุนาปิ โผฏฺพฺพํ เยว ผุสิตพฺพํ, โสเตนปิ โผฏฺพฺพํ เยว ผุสิตพฺพํ, ฆาเนนปิ โผฏฺพฺพํ เยว ผุสิตพฺพํ, ชิวฺหายปิ โผฏฺพฺพํ เยว ¶ ผุสิตพฺพํ, มนสาปิ โผฏฺพฺพํ เยว ผุสิตพฺพํ; จกฺขุนาปิ ธมฺมํ เยว วิชานิตพฺพํ, โสเตนปิ ธมฺมํ เยว วิชานิตพฺพํ, ฆาเนนปิ ธมฺมํ เยว วิชานิตพฺพํ, ชิวฺหายปิ ธมฺมํ เยว วิชานิตพฺพํ, กาเยนปิ ธมฺมํ เยว วิชานิตพฺพ’’นฺติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ.
‘‘น โข เต, มหาราช, ยุชฺชติ ปุริเมน วา ปจฺฉิมํ, ปจฺฉิเมน วา ปุริมํ, ยถา วา ปน, มหาราช, มยํ อิธ ปาสาเท นิสินฺนา อิเมสุ ชาลวาตปาเนสุ อุคฺฆาฏิเตสุ มหนฺเตน อากาเสน พหิมุขา สุฏฺุตรํ รูปํ ปสฺสาม, เอวเมเตน อพฺภนฺตเร ชีเวนาปิ จกฺขุทฺวาเรสุ อุคฺฆาฏิเตสุ มหนฺเตน อากาเสน สุฏฺุตรํ รูปํ ปสฺสิตพฺพํ, โสเตสุ อุคฺฆาฏิเตสุ…เป… ฆาเน ¶ อุคฺฆาฏิเต…เป… ชิวฺหาย อุคฺฆาฏิตาย…เป… กาเย อุคฺฆาฏิเต มหนฺเตน อากาเสน สุฏฺุตรํ สทฺโท โสตพฺโพ, คนฺโธ ฆายิตพฺโพ, รโส สายิตพฺโพ, โผฏฺพฺโพ ผุสิตพฺโพ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ ¶ .
‘‘น โข เต, มหาราช, ยุชฺชติ ปุริเมน วา ปจฺฉิมํ, ปจฺฉิเมน วา ปุริมํ, ยถา วา ปน, มหาราช, อยํ ทินฺโน นิกฺขมิตฺวา พหิทฺวารโกฏฺเก ติฏฺเยฺย, ชานาสิ ตฺวํ, มหาราช, ‘อยํ ทินฺโน นิกฺขมิตฺวา พหิทฺวารโกฏฺเก ิโต’’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชานามี’’ติ. ‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อยํ ทินฺโน อนฺโต ปวิสิตฺวา ตว ปุรโต ติฏฺเยฺย, ชานาสิ ตฺวํ, มหาราช, ‘อยํ ทินฺโน อนฺโต ปวิสิตฺวา มม ปุรโต ิโต’’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชานามี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อพฺภนฺตเร โส ชีโว ชิวฺหาย รเส นิกฺขิตฺเต ชาเนยฺย อมฺพิลตฺตํ วา ลวณตฺตํ วา ติตฺตกตฺตํ วา กฏุกตฺตํ วา กสายตฺตํ วา มธุรตฺตํ วา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชาเนยฺยา’’ติ. ‘‘เต รเส อนฺโต ปวิฏฺเ ชาเนยฺย อมฺพิลตฺตํ วา ลวณตฺตํ วา ติตฺตกตฺตํ วา กฏุกตฺตํ วา กสายตฺตํ วา มธุรตฺตํ วา’’ติ. ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ.
‘‘น โข เต, มหาราช, ยุชฺชติ ปุริเมน วา ปจฺฉิมํ, ปจฺฉิเมน วา ปุริมํ, ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส มธุฆฏสตํ อาหราเปตฺวา มธุโทณึ ปูราเปตฺวา ปุริสสฺส มุขํ ปิทหิตฺวา [ปิทหิตฺวาว (ก.)] มธุโทณิยา ปกฺขิเปยฺย, ชาเนยฺย, มหาราช, โส ปุริโส มธุํ สมฺปนฺนํ วา น สมฺปนฺนํ วา’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เกน การเณนา’’ติ. ‘‘น หิ ตสฺส, ภนฺเต, มุเข มธุ ปวิฏฺ’’นฺติ.
‘‘น ¶ โข เต, มหาราช, ยุชฺชติ ปุริเมน วา ปจฺฉิมํ, ปจฺฉิเมน วา ปุริม’’นฺติ. ‘‘นาหํ ปฏิพโล ตยา วาทินา สทฺธึ สลฺลปิตุํ; สาธุ, ภนฺเต, อตฺถํ ชปฺเปหี’’ติ.
เถโร อภิธมฺมสํยุตฺตาย กถาย ราชานํ มิลินฺทํ สฺาเปสิ – ‘‘อิธ, มหาราช, จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ, ตํสหชาตา ผสฺโส เวทนา สฺา เจตนา เอกคฺคตา ชีวิตินฺทฺริยํ มนสิกาโรติ เอวเมเต ธมฺมา ปจฺจยโต ชายนฺติ, น เหตฺถ เวทคู อุปลพฺภติ, โสตฺจ ปฏิจฺจ สทฺเท จ…เป… มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณํ, ตํสหชาตา ผสฺโส เวทนา สฺา เจตนา เอกคฺคตา ¶ ชีวิตินฺทฺริยํ มนสิกาโรติ ¶ เอวเมเต ธมฺมา ปจฺจยโต ชายนฺติ, น เหตฺถ เวทคู อุปลพฺภตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
เวทคูปฺโห ฉฏฺโ.
๗. จกฺขุวิฺาณาทิปฺโห
๗. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยตฺถ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ยตฺถ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชตี’’ติ.
‘‘กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, ปมํ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา มโนวิฺาณํ, อุทาหุ มโนวิฺาณํ ปมํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา จกฺขุวิฺาณ’’นฺติ? ‘‘ปมํ, มหาราช, จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา มโนวิฺาณ’’นฺติ.
‘‘กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, จกฺขุวิฺาณํ มโนวิฺาณํ อาณาเปติ ‘ยตฺถาหํ อุปฺปชฺชามิ, ตฺวมฺปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชาหี’ติ, อุทาหุ มโนวิฺาณํ จกฺขุวิฺาณํ อาณาเปติ ‘ยตฺถ ตฺวํ อุปฺปชฺชิสฺสสิ, อหมฺปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชิสฺสามี’’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราช, อนาลาโป เตสํ อฺมฺเหี’’ติ.
‘‘กถํ ¶ , ภนฺเต นาคเสน, ยตฺถ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘นินฺนตฺตา จ, มหาราช, ทฺวารตฺตา จ จิณฺณตฺตา จ สมุทาจริตตฺตา จา’’ติ.
‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, นินฺนตฺตา ยตฺถ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชติ? โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, เทเว วสฺสนฺเต กตเมน อุทกํ คจฺเฉยฺยา’’ติ? ‘‘เยน, ภนฺเต, นินฺนํ, เตน คจฺเฉยฺยา’’ติ. ‘‘อถาปเรน สมเยน เทโว วสฺเสยฺย, กตเมน ตํ อุทกํ คจฺเฉยฺยา’’ติ. ‘‘เยน, ภนฺเต, ปุริมํ อุทกํ คตํ, ตมฺปิ เตน คจฺเฉยฺยา’’ติ.
‘‘กึ นุํ โข, มหาราช, ปุริมํ อุทกํ ปจฺฉิมํ อุทกํ อาณาเปติ ‘เยนาหํ คจฺฉามิ, ตฺวมฺปิ เตน คจฺฉาหี’ติ, ปจฺฉิมํ วา อุทกํ ปุริมํ อุทกํ อาณาเปติ ‘เยน ตฺวํ คจฺฉิสฺสสิ, อหมฺปิ เตน คจฺฉิสฺสามี’’’ติ. ‘‘น หิ, ภนฺเต, อนาลาโป ¶ เตสํ อฺมฺเหิ, นินฺนตฺตา คจฺฉนฺตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, นินฺนตฺตา ยตฺถ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชติ, น จกฺขุวิฺาณํ ¶ มโนวิฺาณํ อาณาเปติ ‘ยตฺถาหํ อุปฺปชฺชามิ, ตฺวมฺปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชาหี’ติ, นาปิ มโนวิฺาณํ จกฺขุวิฺาณํ อาณาเปติ ‘ยตฺถ ตฺวํ อุปฺปชฺชิสฺสสิ, อหมฺปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชิสฺสามี’ติ, อนาลาโป เตสํ อฺมฺเหิ, นินฺนตฺตา อุปฺปชฺชนฺตี’’’ติ.
‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, ทฺวารตฺตา ยตฺถ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชติ? อเปปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, รฺโ ปจฺจนฺติมํ นครํ อสฺส ทฬฺหปาการโตรณํ เอกทฺวารํ, ตโต ปุริโส นิกฺขมิตุกาโม ภเวยฺย, กตเมน นิกฺขเมยฺยา’’ติ? ‘‘ทฺวาเรน, ภนฺเต, นิกฺขเมยฺยา’’ติ. ‘‘อถาปโร ปุริโส นิกฺขมิตุกาโม ภเวยฺย, กตเมน โส นิกฺขเมยฺยา’’ติ? ‘‘เยน, ภนฺเต, ปุริโม ปุริโส นิกฺขนฺโต, โสปิ เตน นิกฺขเมยฺยา’’ติ.
‘‘กึ นุ โข, มหาราช, ปุริโม ปุริโส ปจฺฉิมํ ปุริสํ อาณาเปติ ‘เยนาหํ คจฺฉามิ, ตฺวมฺปิ เตน คจฺฉาหี’ติ, ปจฺฉิโม วา ปุริโส ปุริมํ ปุริสํ อาณาเปติ ‘เยน ตฺวํ คจฺฉิสฺสสิ, อหมฺปิ เตน คจฺฉิสฺสามี’ติ. ‘‘น หิ, ภนฺเต, อนาลาโป เตสํ อฺมฺเหิ, ทฺวารตฺตา คจฺฉนฺตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ทฺวารตฺตา ยตฺถ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชติ, น จกฺขุวิฺาณํ มโนวิฺาณํ อาณาเปติ ‘ยตฺถาหํ อุปฺปชฺชามิ ¶ , ตฺวมฺปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชาหี’ติ, นาปิ มโนวิฺาณํ จกฺขุวิฺาณํ อาณาเปติ ‘ยตฺถ ตฺวํ อุปฺปชฺชิสฺสสิ, อหมฺปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชิสฺสามี’ติ, อนาลาโป เตสํ อฺมฺเหิ, ทฺวารตฺตา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ.
‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, จิณฺณตฺตา ยตฺถ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชติ?โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ปมํ เอกํ สกฏํ คจฺเฉยฺย, อถ ทุติยํ สกฏํ กตเมน คจฺเฉยฺยา’’ติ? ‘‘เยน, ภนฺเต, ปุริมํ สกฏํ คตํ, ตมฺปิ เตน คจฺเฉยฺยา’’ติ.
‘‘กึ นุ โข, มหาราช, ปุริมํ สกฏํ ปจฺฉิมํ สกฏํ อาณาเปติ ‘เยนาหํ คจฺฉามิ, ตฺวมฺปิ เตน คจฺฉาหี’ติ, ปจฺฉิมํ วา ¶ สกฏํ ปุริมํ สกฏํ ¶ อาณาเปติ ‘เยน ตฺวํ คจฺฉิสฺสสิ, อหมฺปิ เตน คจฺฉิสฺสามี’’’ติ. ‘‘น หิ, ภนฺเต, อนาลาโป เตสํ อฺมฺเหิ, จิณฺณตฺตา คจฺฉนฺตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, จิณฺณตฺตา ยตฺถ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชติ, น จกฺขุวิฺาณํ มโนวิฺาณํ อาณาเปติ ‘ยตฺถาหํ อุปฺปชฺชามิ, ตฺวมฺปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชาหี’ติ, นาปิ มโนวิฺาณํ จกฺขุวิฺาณํ อาณาเปติ ‘ยตฺถ ตฺวํ อุปฺปชฺชิสฺสสิ, อหมฺปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชิสฺสามี’ติ, อนาลาโป เตสํ อฺมฺเหิ, จิณฺณตฺตา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ.
‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, สมุทาจริตตฺตา ยตฺถ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชติ? โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, มุทฺทาคณนาสงฺขฺยาเลขาสิปฺปฏฺาเนสุ อาทิกมฺมิกสฺส ทนฺธายนา ภวติ, อถาปเรน สมเยน นิสมฺมกิริยาย สมุทาจริตตฺตา อทนฺธายนา ภวติ. เอวเมว โข, มหาราช, สมุทาจริตตฺตา ยตฺถ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชติ, น จกฺขุวิฺาณํ มโนวิฺาณํ อาณาเปติ ‘ยตฺถาหํ อุปฺปชฺชามิ, ตฺวมฺปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชาหี’ติ, นาปิ มโนวิฺาณํ จกฺขุวิฺาณํ อาณาเปติ ‘ยตฺถ ตฺวํ อุปฺปชฺชิสฺสสิ, อหมฺปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชิสฺสามี’ติ, อนาลาโป เตสํ อฺมฺเหิ, สมุทาจริตตฺตา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยตฺถ โสตวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชตีติ…เป… ยตฺถ ฆานวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ…เป… ยตฺถ ชิวฺหาวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ ¶ …เป… ยตฺถ กายวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ยตฺถ กายวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชตี’’ติ.
‘‘กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, ปมํ กายวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา มโนวิฺาณํ, อุทาหุ มโนวิฺาณํ ปมํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา กายวิฺาณ’’นฺติ? ‘‘กายวิฺาณํ, มหาราช, ปมํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา มโนวิฺาณ’’นฺติ.
‘‘กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน,…เป… อนาลาโป ¶ เตสํ อฺมฺเหิ, สมุทาจริตตฺตา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
จกฺขุวิฺาณาทิปฺโห สตฺตโม.
๘. ผสฺสลกฺขณปฺโห
๘. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยตฺถ มโนวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ผสฺโสปิ เวทนาปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ยตฺถ มโนวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ผสฺโสปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชติ, เวทนาปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชติ, สฺาปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชติ, เจตนาปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชติ, วิตกฺโกปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชติ, วิจาโรปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชติ, สพฺเพปิ ผสฺสปฺปมุขา ธมฺมา ตตฺถ อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขโณ ผสฺโส’’ติ? ‘‘ผุสนลกฺขโณ, มหาราช, ผสฺโส’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ทฺเว เมณฺฑา ยุชฺเฌยฺยุํ, เตสุ ยถา เอโก เมณฺโฑ, เอวํ จกฺขุ ทฏฺพฺพํ ยถา ทุติโย เมณฺโฑ, เอวํ รูปํ ทฏฺพฺพํ. ยถา เตสํ สนฺนิปาโต, เอวํ ผสฺโส ทฏฺพฺโพ’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ทฺเว ปาณี วชฺเชยฺยุํ, เตสุ ยถา เอโก ¶ ปาณิ, เอวํ จกฺขุ ทฏฺพฺพํ. ยถา ทุติโย ปาณิ, เอวํ รูปํ ทฏฺพฺพํ. ยถา เตสํ สนฺนิปาโต, เอวํ ผสฺโส ทฏฺพฺโพ’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ทฺเว สมฺมา วชฺเชยฺยุํ, เตสุ ยถา เอโก สมฺโม, เอวํ จกฺขุ ทฏฺพฺพํ. ยถา ทุติโย สมฺโม, เอวํ รูปํ ทฏฺพฺพํ. ยถา เตสํ สนฺนิปาโต, เอวํ ผสฺโส ทฏฺพฺโพ’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ผสฺสลกฺขณปฺโห อฏฺโม.
๙. เวทนาลกฺขณปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขณา เวทนา’’ติ? ‘‘เวทยิตลกฺขณา, มหาราช, เวทนา อนุภวนลกฺขณา จา’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส รฺโ อธิการํ กเรยฺย, ตสฺส ราชา ตุฏฺโ อธิการํ ทเทยฺย, โส เตน อธิกาเรน ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคิภูโต ปริจเรยฺย, ตสฺส เอวมสฺส ‘มยา โข ปุพฺเพ รฺโ อธิกาโร กโต, ตสฺส เม ราชา ¶ ตุฏฺโ อธิการํ อทาสิ, สฺวาหํ ตโตนิทานํ อิมํ เอวรูปํ เวทนํ เวทยามี’ติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, โกจิเทว ¶ ปุริโส กุสลํ กมฺมํ กตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺย, โส จ ตตฺถ ทิพฺเพหิ ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคิภูโต ปริจเรยฺย, ตสฺส เอวมสฺส ‘สฺวาหํ โข ปุพฺเพ กุสลํ กมฺมํ อกาสึ, โสหํ ตโตนิทานํ อิมํ เอวรูปํ เวทนํ เวทยามี’ติ, เอวํ โข, มหาราช, เวทยิตลกฺขณา เวทนา อนุภวนลกฺขณา จา’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ ¶ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
เวทนาลกฺขณปฺโห นวโม.
๑๐. สฺาลกฺขณปฺโห
๑๐. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขณา สฺา’’ติ? ‘‘สฺชานนลกฺขณา, มหาราช, สฺา. กึ สฺชานาติ? นีลมฺปิ สฺชานาติ, ปีตมฺปิ สฺชานาติ, โลหิตมฺปิ สฺชานาติ, โอทาตมฺปิ สฺชานาติ, มฺชิฏฺมฺปิ [มฺเชฏฺมฺปิ (สี. ปี.)] สฺชานาติ. เอวํ โข, มหาราช, สฺชานนลกฺขณา สฺา’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, รฺโ ภณฺฑาคาริโก ภณฺฑาคารํ ปวิสิตฺวา นีลปีตโลหิโตทาตมฺชิฏฺานิ [มฺเชฏฺานิ (สี. ปี.)] ราชโภคานิ รูปานิ ปสฺสิตฺวา สฺชานาติ. เอวํ โข, มหาราช, สฺชานนลกฺขณา สฺา’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สฺาลกฺขณปฺโห ทสโม.
๑๑. เจตนาลกฺขณปฺโห
๑๑. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขณา เจตนา’’ติ? ‘‘เจตยิตลกฺขณา, มหาราช, เจตนา อภิสงฺขรณลกฺขณา จา’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ ¶ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส วิสํ อภิสงฺขริตฺวา อตฺตนา จ ปิเวยฺย, ปเร จ ปาเยยฺย, โส อตฺตนาปิ ทุกฺขิโต ภเวยฺย, ปเรปิ ทุกฺขิตา ภเวยฺยุํ. เอวเมว โข, มหาราช, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อกุสลํ กมฺมํ เจตนาย เจตยิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺย. เยปิ ตสฺส อนุสิกฺขนฺติ ¶ , เตปิ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส สปฺปินวนีตเตลมธุผาณิตํ เอกชฺฌํ อภิสงฺขริตฺวา อตฺตนา จ ปิเวยฺย, ปเร จ ปาเยยฺย, โส อตฺตนา สุขิโต ภเวยฺย, ปเรปิ สุขิตา ภเวยฺยุํ. เอวเมว ¶ โข, มหาราช, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล กุสลํ กมฺมํ เจตนาย เจตยิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. เยปิ ตสฺส อนุสิกฺขนฺติ, เตปิ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ. เอวํ โข, มหาราช, เจตยิตลกฺขณา เจตนา อภิสงฺขรณลกฺขณา จา’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
เจตนาลกฺขณปฺโห เอกาทสโม.
๑๒. วิฺาณลกฺขณปฺโห
๑๒. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขณํ วิฺาณ’’นฺติ? ‘‘วิชานนลกฺขณํ, มหาราช, วิฺาณ’’นฺติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, นครคุตฺติโก มชฺเฌ นครสิงฺฆาฏเก นิสินฺโน ปสฺเสยฺย ปุรตฺถิมทิสโต ปุริสํ อาคจฺฉนฺตํ, ปสฺเสยฺย ทกฺขิณทิสโต ปุริสํ อาคจฺฉนฺตํ, ปสฺเสยฺย ปจฺฉิมทิสโต ปุริสํ อาคจฺฉนฺตํ, ปสฺเสยฺย อุตฺตรทิสโต ปุริสํ อาคจฺฉนฺตํ. เอวเมว โข, มหาราช, ยฺจ ปุริโส จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ, ตํ วิฺาเณน วิชานาติ. ยฺจ โสเตน สทฺทํ สุณาติ, ตํ วิฺาเณน วิชานาติ. ยฺจ ฆาเนน คนฺธํ ฆายติ, ตํ วิฺาเณน วิชานาติ. ยฺจ ชิวฺหาย รสํ สายติ, ตํ วิฺาเณน ¶ วิชานาติ. ยฺจ กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสติ, ตํ วิฺาเณน วิชานาติ, ยฺจ มนสา ธมฺมํ วิชานาติ, ตํ วิฺาเณน วิชานาติ. เอวํ โข, มหาราช, วิชานนลกฺขณํ วิฺาณ’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ ¶ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
วิฺาณลกฺขณปฺโห ทฺวาทสโม.
๑๓. วิตกฺกลกฺขณปฺโห
๑๓. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขโณ วิตกฺโก’’ติ? ‘‘อปฺปนาลกฺขโณ มหาราช, วิตกฺโก’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, วฑฺฒกี สุปริกมฺมกตํ ทารุํ สนฺธิสฺมึ อปฺเปติ, เอวเมว โข, มหาราช, อปฺปนาลกฺขโณ วิตกฺโก’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
วิตกฺกลกฺขณปฺโห เตรสโม.
๑๔. วิจารลกฺขณปฺโห
๑๔. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขโณ วิจาโร’’ติ? ‘‘อนุมชฺชนลกฺขโณ, มหาราช, วิจาโร’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, กํสถาลํ อาโกฏิตํ ปจฺฉา อนุรวติ ¶ อนุสนฺทหติ [อนุสทฺทายติ (ก.)], ยถา, มหาราช, อาโกฏนา, เอวํ วิตกฺโก ทฏฺพฺโพ. ยถา อนุรวนา [อนุมชฺชนา (ก.)], เอวํ วิจาโร ทฏฺพฺโพ’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ ¶ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
วิจารลกฺขณปฺโห จุทฺทสโม.
วิจารวคฺโค ตติโย.
อิมสฺมึ วคฺเค จุทฺทส ปฺหา.
๔. นิพฺพานวคฺโค
๑. ผสฺสาทิวินิพฺภุชนปฺโห
๑. ราชา ¶ ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, สกฺกา อิเมสํ ธมฺมานํ เอกโตภาวคตานํ วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวา นานากรณํ ปฺาเปตุํ ‘อยํ ผสฺโส, อยํ เวทนา, อยํ สฺา, อยํ เจตนา, อิทํ วิฺาณํ, อยํ วิตกฺโก, อยํ วิจาโร’ติ’’? ‘‘น สกฺกา, มหาราช, อิเมสํ ธมฺมานํ เอกโตภาวคตานํ วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวา นานากรณํ ปฺาเปตุํ ‘อยํ ผสฺโส, อยํ เวทนา, อยํ สฺา, อยํ เจตนา, อิทํ วิฺาณํ, อยํ วิตกฺโก, อยํ วิจาโร’’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, รฺโ สูโท อรสํ วา รสํ วา [ยูสํ วา รสํ วา (สี. สฺยา. ปี.)] กเรยฺย, โส ตตฺถ ทธิมฺปิ ปกฺขิเปยฺย, โลณมฺปิ ปกฺขิเปยฺย, สิงฺคิเวรมฺปิ ปกฺขิเปยฺย, ชีรกมฺปิ ปกฺขิเปยฺย, มริจมฺปิ ปกฺขิเปยฺย, อฺานิปิ ปการานิ ปกฺขิเปยฺย, ตเมนํ ราชา เอวํ วเทยฺย, ‘ทธิสฺส เม รสํ อาหร, โลณสฺส เม รสํ อาหร, สิงฺคิเวรสฺส เม รสํ อาหร, ชีรกสฺส เม รสํ อาหร, มริจสฺส เม รสํ อาหร, สพฺเพสํ เม ปกฺขิตฺตานํ รสํ อาหรา’ติ. สกฺกา นุ โข, มหาราช, เตสํ รสานํ เอกโตภาวคตานํ วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวา รสํ อาหริตุํ อมฺพิลตฺตํ วา ลวณตฺตํ วา ติตฺตกตฺตํ วา กฏุกตฺตํ วา กสายตฺตํ วา มธุรตฺตํ วา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, สกฺกา เตสํ รสานํ เอกโตภาวคตานํ ¶ วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวา รสํ อาหริตุํ อมฺพิลตฺตํ วา ลวณตฺตํ วา ติตฺตกตฺตํ วา กฏุกตฺตํ วา กสายตฺตํ วา มธุรตฺตํ วา, อปิ จ โข ปน สเกน สเกน ลกฺขเณน อุปฏฺหนฺตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, น สกฺกา อิเมสํ ธมฺมานํ เอกโตภาวคตานํ วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวา นานากรณํ ปฺาเปตุํ ‘อยํ ผสฺโส, อยํ เวทนา, อยํ สฺา, อยํ เจตนา, อิทํ วิฺาณํ, อยํ วิตกฺโก, อยํ วิจาโร’ติ, อปิ จ โข ปน สเกน สเกน ลกฺขเณน อุปฏฺหนฺตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ ¶ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ผสฺสาทิวินิพฺภุชนปฺโห ปโม.
๒. นาคเสนปฺโห
๒. เถโร ¶ อาห ‘‘โลณํ, มหาราช, จกฺขุวิฺเยฺย’’นฺติ. ‘‘อาม, ภนฺเต, จกฺขุวิฺเยฺย’’นฺติ. ‘‘สุฏฺุ โข, มหาราช, ชานาหี’’ติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, ชิวฺหาวิฺเยฺย’’นฺติ? ‘‘อาม, มหาราช, ชิวฺหาวิฺเยฺย’’นฺติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, สพฺพํ โลณํ ชิวฺหาย วิชานาตี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, สพฺพํ โลณํ ชิวฺหาย วิชานาติ’’.
‘‘ยทิ, ภนฺเต, สพฺพํ โลณํ ชิวฺหาย วิชานาติ, กิสฺส ปน ตํ สกเฏหิ พลีพทฺทา [พลิพทฺทา (สี. ปี.)] อาหรนฺติ, นนุ โลณเมว อาหริตพฺพ’’นฺติ? ‘‘น สกฺกา, มหาราช, โลณเมว อาหริตุํ เอกโตภาวคตา เอเต ธมฺมา โคจรนานตฺตคตา โลณํ ครุภาโว จาติ. สกฺกา ปน, มหาราช, โลณํ ตุลาย ตุลยิตุ’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สกฺกา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, มหาราช, โลณํ ตุลาย ตุลยิตุํ, ครุภาโว ตุลาย ตุลิยตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
นาคเสนปฺโห ทุติโย.
๓. ปฺจายตนกมฺมนิพฺพตฺตปฺโห
๓. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยานิมานิ ปฺจายตนานิ, กึ นุ ตานิ นานากมฺเมหิ นิพฺพตฺตานิ, อุทาหุ เอเกน กมฺเมนา’’ติ? ‘‘นานากมฺเมหิ, มหาราช, นิพฺพตฺตานิ, น เอเกน กมฺเมนา’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, เอกสฺมึ เขตฺเต นานาพีชานิ วปฺเปยฺยุํ ¶ , เตสํ นานาพีชานํ นานาผลานิ นิพฺพตฺเตยฺยุ’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, นิพฺพตฺเตยฺยุ’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ยานิ ยานิ ปฺจายตนานิ, ตานิ ตานิ นานากมฺเมหิ นิพฺพตฺตานิ, น เอเกน กมฺเมนา’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ปฺจายตนกมฺมนิพฺพตฺตปฺโห ตติโย.
๔. กมฺมนานากรณปฺโห
๔. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, เกน การเณน มนุสฺสา น สพฺเพ สมกา, อฺเ อปฺปายุกา, อฺเ ทีฆายุกา, อฺเ พหฺวาพาธา อฺเ อปฺปาพาธา, อฺเ ทุพฺพณฺณา, อฺเ วณฺณวนฺโต, อฺเ อปฺเปสกฺขา, อฺเ มเหสกฺขา, อฺเ อปฺปโภคา, อฺเ มหาโภคา, อฺเ นีจกุลีนา, อฺเ มหากุลีนา, อฺเ ทุปฺปฺา, อฺเ ปฺวนฺโต’’ติ?
เถโร อาห ‘‘กิสฺส ปน, มหาราช, รุกฺขา น สพฺเพ สมกา, อฺเ อมฺพิลา, อฺเ ลวณา, อฺเ ติตฺตกา, อฺเ กฏุกา, อฺเ กสาวา, อฺเ มธุรา’’ติ? ‘‘มฺามิ, ภนฺเต, พีชานํ นานากรเณนา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, กมฺมานํ นานากรเณน มนุสฺสา น สพฺเพ สมกา, อฺเ อปฺปายุกา, อฺเ ทีฆายุกา, อฺเ พหฺวาพาธา, อฺเ อปฺปาพาธา, อฺเ ทุพฺพณฺณา, อฺเ วณฺณวนฺโต, อฺเ อปฺเปสกฺขา, อฺเ มเหสกฺขา, อฺเ อปฺปโภคา, อฺเ มหาโภคา, อฺเ นีจกุลีนา, อฺเ มหากุลีนา, อฺเ ทุปฺปฺา, อฺเ ปฺวนฺโต. ภาสิตมฺเปตํ มหาราช ภควตา – ‘กมฺมสฺสกา, มาณว, สตฺตา กมฺมทายาทา กมฺมโยนี กมฺมพนฺธู กมฺมปฺปฏิสรณา, กมฺมํ สตฺเต วิภชติ ยทิทํ หีนปฺปณีตตายา’’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
กมฺมนานากรณปฺโห จตุตฺโถ.
๕. วายามกรณปฺโห
๕. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘กินฺติ อิมํ ทุกฺขํ นิรุชฺเฌยฺย, อฺฺจ ทุกฺขํ นุปฺปชฺเชยฺยา’ติ ¶ . เอตทตฺถา, มหาราช, อมฺหากํ ปพฺพชฺชา’’ติ. ‘‘กึ ปฏิกจฺเจว วายมิเตน, นนุ สมฺปตฺเต กาเล วายมิตพฺพ’’นฺติ? เถโร อาห ‘‘สมฺปตฺเต กาเล, มหาราช, วายาโม อกิจฺจกโร ภวติ, ปฏิกจฺเจว วายาโม กิจฺจกโร ภวตี’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ยทา ตฺวํ ปิปาสิโต ภเวยฺยาสิ, ตทา ตฺวํ อุทปานํ ขณาเปยฺยาสิ, ตฬากํ ขณาเปยฺยาสิ ‘ปานียํ ปิวิสฺสามี’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, สมฺปตฺเต กาเล ¶ วายาโม อกิจฺจกโร ภวติ, ปฏิกจฺเจว วายาโม กิจฺจกโร ภวตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ยทา ตฺวํ พุภุกฺขิโต ภเวยฺยาสิ, ตทา ตฺวํ เขตฺตํ กสาเปยฺยาสิ, สาลึ โรปาเปยฺยาสิ, ธฺํ อติหราเปยฺยาสิ ‘ภตฺตํ ภฺุชิสฺสามี’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, สมฺปตฺเต กาเล วายาโม อกิจฺจกโร ภวติ, ปฏิกจฺเจว วายาโม กิจฺจกโร ภวตีติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ยทา เต สงฺคาโม ปจฺจุปฏฺิโต ภเวยฺย, ตทา ตฺวํ ปริขํ ขณาเปยฺยาสิ, ปาการํ การาเปยฺยาสิ, โคปุรํ การาเปยฺยาสิ, อฏฺฏาลกํ การาเปยฺยาสิ, ธฺํ อติหราเปยฺยาสิ, ตทา ตฺวํ หตฺถิสฺมึ สิกฺเขยฺยาสิ, อสฺสสฺมึ สิกฺเขยฺยาสิ, รถสฺมึ สิกฺเขยฺยาสิ, ธนุสฺมึ สิกฺเขยฺยาสิ, ถรุสฺมึ สิกฺเขยฺยาสี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, สมฺปตฺเต กาเล วายาโม อกิจฺจกโร ภวติ, ปฏิกจฺเจว วายาโม กิจฺจกโร ภวติ. ภาสิตมฺเปตํ มหาราช ภควตา –
‘‘‘ปฏิกจฺเจว ตํ กยิรา, ยํ ชฺา หิตมตฺตโน;
น สากฏิกจินฺตาย, มนฺตา ธีโร ปรกฺกเม.
‘‘‘ยถา ¶ สากฏิโก มฏฺํ [นาม (สี. ปี. ก.) สํ. นิ. ๑.๑๐๓], สมํ หิตฺวา มหาปถํ;
วิสมํ มคฺคมารุยฺห, อกฺขจฺฉินฺโนว ฌายติ.
‘‘‘เอวํ ¶ ธมฺมา อปกฺกมฺม, อธมฺมมนุวตฺติย;
มนฺโท มจฺจุ มุขํ ปตฺโต, อกฺขจฺฉินฺโนว ฌายตี’’’ติ [โสจตีติ (สพฺพตฺถ)].
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
วายามกรณปฺโห ปฺจโม.
๖. เนรยิกคฺคิอุณฺหภาวปฺโห
๖. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘ปากติกอคฺคิโต เนรยิโก อคฺคิ มหาภิตาปตโร โหติ, ขุทฺทโกปิ ปาสาโณ ¶ ปากติเก อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺโต ทิวสมฺปิ ปจฺจมาโน [ธมมาโน (สี. ปี.)] น วิลยํ คจฺฉติ, กูฏาคารมตฺโตปิ ปาสาโณ เนรยิกคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺโต ขเณน วิลยํ คจฺฉตี’ติ, เอตํ วจนํ น สทฺทหามิ, เอวฺจ ปน วเทถ ‘เย จ ตตฺถ อุปฺปนฺนา สตฺตา, เต อเนกานิปิ วสฺสสหสฺสานิ นิรเย ปจฺจมานา น วิลยํ คจฺฉนฺตี’ติ, ตมฺปิ วจนํ น สทฺทหามี’’ติ.
เถโร อาห ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ยา ตา สนฺติ มกรินิโยปิ สุสุมารินิโยปิ กจฺฉปินิโยปิ โมรินิโยปิ กโปตินิโยปิ, กึนุ ตา กกฺขฬานิ ปาสาณานิ สกฺขราโย จ ขาทนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ขาทนฺตี’’ติ. ‘‘กึ ปน ตานิ ตาสํ กุจฺฉิยํ โกฏฺพฺภนฺตรคตานิ วิลยํ คจฺฉนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, วิลยํ คจฺฉนฺตี’’ติ. ‘‘โย ปน ตาสํ กุจฺฉิยํ คพฺโภ, โสปิ วิลยํ คจฺฉตี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เกน การเณนา’’ติ? ‘‘มฺามิ, ภนฺเต, กมฺมาธิกเตน น วิลยํ คจฺฉตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, กมฺมาธิกเตน เนรยิกา สตฺตา อเนกานิปิ วสฺสสหสฺสานิ นิรเย ปจฺจมานา น วิลยํ คจฺฉนฺติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา – ‘โส น ตาว กาลํ กโรติ, ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตีโหตี’’’ติ.
‘‘ภิยฺโย ¶ โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ยา ตา สนฺติ สีหินิโยปิ พฺยคฺฆินิโยปิ ทีปินิโยปิ กุกฺกุรินิโยปิ, กึนุ ตา กกฺขฬานิ อฏฺิกานิ มํสานิ ขาทนฺตีติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ขาทนฺตี’’ติ. ‘‘กึ ปน ตานิ ตาสํ กุจฺฉิยํ ¶ โกฏฺพฺภนฺตรคตานิ วิลยํ คจฺฉนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, วิลยํ คจฺฉนฺตี’’ติ. ‘‘โย ปน ตาสํ กุจฺฉิยํ คพฺโภ, โสปิ วิลยํ คจฺฉตี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เกน การเณนา’’ติ? ‘‘มฺามิ, ภนฺเต, กมฺมาธิกเตน น วิลยํ คจฺฉตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, กมฺมาธิกเตน เนรยิกา สตฺตา อเนกานิปิ วสฺสสหสฺสานิ นิรเย ปจฺจมานา น วิลยํ คจฺฉนฺตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ยา ตา สนฺติ โยนกสุขุมาลินิโยปิ ขตฺติยสุขุมาลินิโยปิ พฺราหฺมณสุขุมาลินิโยปิ คหปติสุขุมาลินิโยปิ, กึนุ ตา กกฺขฬานิ ขชฺชกานิ มํสานิ ขาทนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ขาทนฺตี’’ติ. ‘‘กึ ปน ตานิ ตาสํ กุจฺฉิยํ โกฏฺพฺภนฺตรคตานิ วิลยํ คจฺฉนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, วิลยํ คจฺฉนฺตี’’ติ. ‘‘โย ¶ ปน ตาสํ กุจฺฉิยํ คพฺโภ โสปิ วิลยํ คจฺฉตี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เกน การเณนา’’ติ. ‘‘มฺามิ, ภนฺเต, กมฺมาธิกเตน น วิลยํ คจฺฉตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, กมฺมาธิกเตน เนรยิกา สตฺตา อเนกานิปิ วสฺสสหสฺสานิ นิรเย ปจฺจมานา น วิลยํ คจฺฉนฺติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา – ‘‘โส น ตาว กาลํ กโรติ, ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตีโหตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
เนรยิกคฺคิอุณฺหภาวปฺโห ฉฏฺโ.
๗. ปถวิสนฺธารกปฺโห
๗. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘อยํ มหา ปถวี อุทเก ปติฏฺิตา, อุทกํ วาเต ปติฏฺิตํ, วาโต อากาเส ปติฏฺิโต’ติ, เอตมฺปิ วจนํ น สทฺทหามี’’ติ. เถโร ธมฺมกรเกน [ธมฺมกรเณน (ก.)] อุทกํ คเหตฺวา ราชานํ มิลินฺทํ สฺาเปสิ ‘‘ยถา, มหาราช, อิมํ อุทกํ วาเตน อาธาริตํ, เอวํ ตมฺปิ อุทกํ วาเตน อาธาริต’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ ¶ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ปถวิสนฺธารกปฺโห สตฺตโม.
๘. นิโรธนิพฺพานปฺโห
๘. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, นิโรโธ นิพฺพาน’’นฺติ? ‘‘อาม, มหาราช, นิโรโธ นิพฺพาน’’นฺติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต ¶ , นาคเสน, นิโรโธ นิพฺพาน’’นฺติ? ‘‘สพฺเพ พาลปุถุชฺชนา โข, มหาราช, อชฺฌตฺติกพาหิเร อายตเน อภินนฺทนฺติ อภิวทนฺติ อชฺโฌสาย ติฏฺนฺติ, เต เตน โสเตน วุยฺหนฺติ, น ปริมุจฺจนฺติ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกน ปริเทเวน ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ น ปริมุจฺจนฺติ ทุกฺขสฺมาติ วทามิ. สุตวา จ โข, มหาราช, อริยสาวโก อชฺฌตฺติกพาหิเร อายตเน ¶ นาภินนฺทติ นาภิวทติ นาชฺโฌสาย ติฏฺติ, ตสฺส ตํ อนภินนฺทโต อนภิวทโต อนชฺโฌสาย ติฏฺโต ตณฺหา นิรุชฺฌติ, ตณฺหานิโรธา อุปาทานนิโรโธ, อุปาทานนิโรธา ภวนิโรโธ, ภวนิโรธา ชาตินิโรโธ, ชาตินิโรธา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา นิรุชฺฌนฺติ, เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหติ, เอวํ โข, มหาราช, นิโรโธ นิพฺพาน’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
นิโรธนิพฺพานปฺโห อฏฺโม.
๙. นิพฺพานลภนปฺโห
๙. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพว ลภนฺติ นิพฺพาน’’นฺติ? ‘‘น โข, มหาราช, สพฺเพว ลภนฺติ นิพฺพานํ, อปิ จ โข, มหาราช, โย สมฺมา ปฏิปนฺโน อภิฺเยฺเย ธมฺเม อภิชานาติ, ปริฺเยฺเย ธมฺเม ปริชานาติ, ปหาตพฺเพ ธมฺเม ปชหติ, ภาเวตพฺเพ ธมฺเม ภาเวติ, สจฺฉิกาตพฺเพ ธมฺเม สจฺฉิกโรติ, โส ลภติ นิพฺพาน’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ ¶ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
นิพฺพานลภนปฺโห นวโม.
๑๐. นิพฺพานสุขชานนปฺโห
๑๐. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย น ลภติ นิพฺพานํ, ชานาติ โส ‘สุขํ นิพฺพาน’’’นฺติ? ‘‘อาม, มหาราช, โย น ลภติ นิพฺพานํ, ชานาติ โส ‘สุขํ นิพฺพาน’’’นฺติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, อลภนฺโต ชานาติ ‘สุขํ นิพฺพาน’’’นฺติ? ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, เยสํ นจฺฉินฺนา หตฺถปาทา ¶ , ชาเนยฺยุํ เต, มหาราช, ‘ทุกฺขํ หตฺถปาทจฺเฉทน’’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชาเนยฺยุ’’นฺติ. ‘‘กถํ ชาเนยฺยุ’’นฺติ? ‘‘อฺเสํ, ภนฺเต, ฉินฺนหตฺถปาทานํ ปริเทวิตสทฺทํ สุตฺวา ชานนฺติ ‘ทุกฺขํ หตฺถปาทจฺเฉทน’’’นฺติ ¶ . ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, เยสํ ทิฏฺํ นิพฺพานํ, เตสํ สทฺทํ สุตฺวา ชานาติ ‘สุขํ นิพฺพาน’’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
นิพฺพานสุขชานนปฺโห ทสโม.
นิพฺพานวคฺโค จตุตฺโถ.
อิมสฺมึ วคฺเค ทส ปฺหา.
๕. พุทฺธวคฺโค
๑. พุทฺธสฺส อตฺถินตฺถิภาวปฺโห
๑. ราชา ¶ ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, พุทฺโธ ตยา ทิฏฺโ’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘อถ เต อาจริเยหิ พุทฺโธ ทิฏฺโ’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, นตฺถิ พุทฺโธ’’ติ. ‘‘กึ ปน, มหาราช, หิมวติ อูหา นที ตยา ทิฏฺา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อถ เต ปิตรา อูหา นที ทิฏฺา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, นตฺถิ อูหา นที’’ติ. ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต, กิฺจาปิ มยา อูหา นที น ทิฏฺา, ปิตราปิ เม อูหา นที น ทิฏฺา, อปิ จ อตฺถิ อูหา นที’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, กิฺจาปิ มยา ภควา น ทิฏฺโ, อาจริเยหิปิ เม ภควา น ทิฏฺโ, อปิ จ อตฺถิ ภควา’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
พุทฺธสฺส อตฺถินตฺถิภาวปฺโห ปโม.
๒. พุทฺธสฺส อนุตฺตรภาวปฺโห
๒. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, พุทฺโธ อนุตฺตโร’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ภควา อนุตฺตโร’’ติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, อทิฏฺปุพฺพํ ชานาสิ ‘พุทฺโธ อนุตฺตโร’’’ติ? ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, เยหิ อทิฏฺปุพฺโพ มหาสมุทฺโท, ชาเนยฺยุํ เต, มหาราช, มหนฺโต โข มหาสมุทฺโท คมฺภีโร อปฺปเมยฺโย ทุปฺปริโยคาโห, ยตฺถิมา ปฺจ มหานทิโย สตตํ สมิตํ อปฺเปนฺติ, เสยฺยถิทํ, คงฺคา ยมุนา อจิรวตี สรภู มหี, เนว ตสฺส อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายตี’’ติ ¶ ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชาเนยฺยุ’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, สาวเก มหนฺเต ปรินิพฺพุเต ¶ ปสฺสิตฺวา ชานามิ ‘ภควา อนุตฺตโร’’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
พุทฺธสฺส อนุตฺตรภาวปฺโห ทุติโย.
๓. พุทฺธสฺส อนุตฺตรภาวชานนปฺโห
๓. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, สกฺกา ชานิตุํ ‘พุทฺโธ อนุตฺตโร’’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, สกฺกา ชานิตุํ ‘ภควา อนุตฺตโร’’’ติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, สกฺกา ชานิตุํ ‘พุทฺโธ อนุตฺตโร’’’ติ. ‘‘ภูตปุพฺพํ, มหาราช, ติสฺสตฺเถโร นาม เลขาจริโย อโหสิ, พหูนิ วสฺสานิ อพฺภตีตานิ กาลงฺกตสฺส กถํ โส ายตี’’ติ. ‘‘เลเขน ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย ธมฺมํ ปสฺสติ, โส ภควนฺตํ ปสฺสติ, ธมฺโม หิ, มหาราช, ภควตา เทสิโต’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
พุทฺธสฺส อนุตฺตรภาวชานนปฺโห ตติโย.
๔. ธมฺมทิฏฺปฺโห
๔. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ธมฺโม ตยา ทิฏฺโ’’ติ. ‘‘พุทฺธเนตฺติยา โข, มหาราช, พุทฺธปฺตฺติยา ยาวชีวํ สาวเกหิ วตฺติตพฺพ’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ธมฺมทิฏฺปฺโห จตุตฺโถ.
๕. อสงฺกมนปฏิสนฺทหนปฺโห
๕. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, น จ สงฺกมติ ปฏิสนฺทหติ จา’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, น จ สงฺกมติ ปฏิสนฺทหติ จา’’ติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, น จ สงฺกมติ ปฏิสนฺทหติ จ, โอปมฺมํ กโรหี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส ปทีปโต ปทีปํ ปทีเปยฺย, กึนุ โข โส, มหาราช, ปทีโป ปทีปมฺหา สงฺกนฺโต’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, น จ สงฺกมติ ปฏิสนฺทหติ จา’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘อภิชานาสิ นุ, ตฺวํ มหาราช, ทหรโก สนฺโต สิโลกาจริยสฺส สนฺติเก กิฺจิ สิโลกํ คหิต’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ ¶ . ‘‘กึนุ โข, มหาราช, โส สิโลโก อาจริยมฺหา สงฺกนฺโต’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, น จ สงฺกมติ ปฏิสนฺทหติ จาติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
อสงฺกมนปฏิสนฺทหนปฺโห ปฺจโม.
๖. เวทคูปฺโห
๖. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, เวทคู อุปลพฺภตี’’ติ? เถโร อาห ‘‘ปรมตฺเถน โข, มหาราช, เวทคู นุปลพฺภตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
เวทคูปฺโห ฉฏฺโ.
๗. อฺกายสงฺกมนปฺโห
๗. ราชา ¶ ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อตฺถิ โกจิ สตฺโต โย อิมมฺหา กายา อฺํ กายํ สงฺกมตี’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, อิมมฺหา กายา อฺํ กายํ สงฺกมนฺโต นตฺถิ, นนุ มุตฺโต ภวิสฺสติ ปาปเกหิ กมฺเมหี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ยทิ น ปฏิสนฺทเหยฺย, มุตฺโต ภวิสฺสติ ปาปเกหิ กมฺเมหีติ, ยสฺมา จ โข, มหาราช, ปฏิสนฺทหติ, ตสฺมา น ปริมุตฺโต ปาปเกหิ กมฺเมหี’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส อฺตรสฺส ปุริสสฺส อมฺพํ อวหเรยฺย, กึ โส ทณฺฑปฺปตฺโต ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ทณฺฑปฺปตฺโต ภเวยฺยา’’ติ. ‘‘น โข โส, มหาราช, ตานิ อมฺพานิ อวหริ, ยานิ เตน โรปิตานิ, กสฺมา ทณฺฑปฺปตฺโต ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘ตานิ, ภนฺเต, อมฺพานิ นิสฺสาย ชาตานิ, ตสฺมา ทณฺฑปฺปตฺโต ภเวยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อิมินา นามรูเปน กมฺมํ กโรติ โสภนํ วา อโสภนํ ¶ วา, เตน กมฺเมน อฺํ นามรูปํ ปฏิสนฺทหติ, ตสฺมา น ปริมุตฺโต ปาปเกหิ กมฺเมหี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
อฺกายสงฺกมนปฺโห สตฺตโม.
๘. กมฺมผลอตฺถิภาวปฺโห
๘. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อิมินา นามรูเปน กมฺมํ กตํ กุสลํ วา อกุสลํ วา, กุหึ ตานิ กมฺมานิ ติฏฺนฺตี’’ติ? ‘‘อนุพนฺเธยฺยุํ โข, มหาราช, ตานิ กมฺมานิ ฉายาว อนปายินี’’ติ [อนุปายินีติ (ก.)]. ‘‘สกฺกา ปน, ภนฺเต, ตานิ กมฺมานิ ทสฺเสตุํ ‘อิธ วา อิธ วา ตานิ กมฺมานิ ติฏฺนฺตี’’’ติ? ‘‘น สกฺกา, มหาราช, ตานิ กมฺมานิ ทสฺเสตุํ ‘อิธ วา อิธ วา ตานิ กมฺมานิ ติฏฺนฺตี’’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ ¶ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ยานิมานิ รุกฺขานิ อนิพฺพตฺตผลานิ, สกฺกา เตสํ ผลานิ ทสฺเสตุํ ‘อิธ วา อิธ วา ตานิ ผลานิ ติฏฺนฺตี’’’ติ. ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อพฺโพจฺฉินฺนาย สนฺตติยา น สกฺกา ตานิ กมฺมานิ ทสฺเสตุํ ‘อิธ วา อิธ วา ตานิ กมฺมานิ ติฏฺนฺตี’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
กมฺมผลอตฺถิภาวปฺโห อฏฺโม.
๙. อุปฺปชฺชติชานนปฺโห
๙. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย อุปฺปชฺชติ, ชานาติ โส ‘อุปฺปชฺชิสฺสามี’’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, โย อุปฺปชฺชติ ชานาติ โส ‘อุปฺปชฺชิสฺสามี’’’ติ. ‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, กสฺสโก คหปติโก พีชานิ ปถวิยํ นิกฺขิปิตฺวา สมฺมา เทเว วสฺสนฺเต ชานาติ ‘ธฺํ ¶ นิพฺพตฺติสฺสตี’’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชาเนยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย อุปฺปชฺชติ, ชานาติ โส ‘อุปฺปชฺชิสฺสามี’’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
อุปฺปชฺชติชานนปฺโห นวโม.
๑๐. พุทฺธนิทสฺสนปฺโห
๑๐. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, พุทฺโธ อตฺถี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ภควา อตฺถี’’ติ. ‘‘สกฺกา ปน, ภนฺเต นาคเสน, พุทฺโธ นิทสฺเสตุํ อิธวา อิธวา’’ติ? ‘‘ปรินิพฺพุโต, มหาราช, ภควา อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา, น สกฺกา ภควา นิทสฺเสตุํ ‘อิธ วา อิธ วา’’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ ¶ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, มหโต อคฺคิกฺขนฺธสฺส ชลมานสฺส ยา อจฺจิ อตฺถงฺคตา, สกฺกา สา อจฺจิ ทสฺเสตุํ ‘อิธ วา อิธ วา’’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, นิรุทฺธา สา อจฺจิ อปฺปฺตฺตึ คตา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ภควา อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุโต อตฺถงฺคโต, น สกฺกา ภควา นิทสฺเสตุํ ‘อิธ วา อิธ วา’ ติ, ธมฺมกาเยน ปน โข, มหาราช, สกฺกา ภควา นิทสฺเสตุํ. ธมฺโม หิ, มหาราช, ภควตา เทสิโต’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
พุทฺธนิทสฺสนปฺโห ทสโม.
พุทฺธวคฺโค ปฺจโม.
อิมสฺมึ วคฺเค ทส ปฺหา.
๖. สติวคฺโค
๑. กายปิยายนปฺโห
๑. ราชา ¶ ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ปิโย ปพฺพชิตานํ กาโย’’ติ? ‘‘น โข, มหาราช, ปิโย ปพฺพชิตานํ กาโย’’ติ. ‘‘อถ กิสฺส นุ โข, ภนฺเต, เกลายถ มมายถา’’ติ? ‘‘กึ ปน เต, มหาราช, กทาจิ กรหจิ สงฺคามคตสฺส กณฺฑปฺปหาโร โหตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, โหตี’’ติ. ‘‘กึนุ โข ¶ , มหาราช, โส วโณ อาเลเปน จ อาลิมฺปียติ เตเลน จ มกฺขียติ สุขุเมน จ โจฬปฏฺเฏน ปลิเวียตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อาเลเปน จ อาลิมฺปียติ เตเลน จ มกฺขียติ สุขุเมน จ โจฬปฏฺเฏน ปลิเวียตี’’ติ. ‘‘กึนุ โข, มหาราช, ปิโย เต วโณ, เตน อาเลเปน จ อาลิมฺปียติ เตเลน จ มกฺขียติ สุขุเมน จ โจฬปฏฺเฏน ปลิเวียตี’’ติ? ‘‘น เม, ภนฺเต, ปิโย วโณ, อปิ จ มํสสฺส รุหนตฺถาย อาเลเปน จ อาลิมฺปียติ เตเลน จ มกฺขียติ สุขุเมน จ โจฬปฏฺเฏน ปลิเวียตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อปฺปิโย ปพฺพชิตานํ กาโย, อถ จ ปพฺพชิตา อนชฺโฌสิตา กายํ ปริหรนฺติ พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย. อปิ จ โข, มหาราช, วณูปโม กาโย วุตฺโต ภควตา, เตน ปพฺพชิตา วณมิว กายํ ปริหรนฺติ อนชฺโฌสิตา. ภาสิตมฺเปตํ มหาราช ภควตา –
‘‘‘อลฺลจมฺมปฏิจฺฉนฺโน, นวทฺวาโร มหาวโณ;
สมนฺตโต ปคฺฆรติ, อสุจิปูติคนฺธิโย’’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
กายปิยายนปฺโห ปโม.
๒. สพฺพฺูภาวปฺโห
๒. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, พุทฺโธ สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ภควา ¶ สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี’’ติ. ‘‘อถ กิสฺส นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, สาวกานํ อนุปุพฺเพน สิกฺขาปทํ ปฺเปสี’’ติ? ‘‘อตฺถิ ปน เต ¶ มหาราช, โกจิ เวชฺโช, โย อิมิสฺสํ ปถวิยํ สพฺพเภสชฺชานิ ชานาตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อตฺถี’’ติ. ‘‘กึนุ โข, มหาราช, โส เวชฺโช คิลานกํ สมฺปตฺเต กาเล เภสชฺชํ ปาเยติ, อุทาหุ อสมฺปตฺเต กาเล’’ติ? ‘‘สมฺปตฺเต กาเล, ภนฺเต, คิลานกํ เภสชฺชํ ปาเยติ, โน อสมฺปตฺเต กาเล’’ติ? ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ภควา สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี น อสมฺปตฺเต กาเล สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺาเปติ, สมฺปตฺเต กาเล สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺาเปติ ยาวชีวํ อนติกฺกมนีย’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สพฺพฺูภาวปฺโห ทุติโย.
๓. มหาปุริสลกฺขณปฺโห
๓. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, พุทฺโธ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต อสีติยา จ อนุพฺยฺชเนหิ ปริรฺชิโต สุวณฺณวณฺโณ กฺจนสนฺนิภตฺตโจ พฺยามปฺปโภ’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ภควา ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต อสีติยา จ อนุพฺยฺชเนหิ ปริรฺชิโต สุวณฺณวณฺโณ กฺจนสนฺนิภตฺตโจ พฺยามปฺปโภ’’ติ.
‘‘กึ ปนสฺส, ภนฺเต, มาตาปิตโรปิ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคตา อสีติยา จ อนุพฺยฺชเนหิ ปริรฺชิตา สุวณฺณวณฺณา กฺจนสนฺนิภตฺตจา พฺยามปฺปภา’’ติ? ‘‘โน จสฺส, มหาราช, มาตาปิตโร ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคตา อสีติยา จ อนุพฺยฺชเนหิ ปริรฺชิตา สุวณฺณวณฺณา กฺจนสนฺนิภตฺตจา พฺยามปฺปภา’’ติ.
‘‘เอวํ สนฺเต โข, ภนฺเต นาคเสน, น อุปฺปชฺชติ พุทฺโธ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต อสีติยา จ อนุพฺยฺชเนหิ ปริรฺชิโต สุวณฺณวณฺโณ กฺจนสนฺนิภตฺตโจ พฺยามปฺปโภติ, อปิ จ มาตุสทิโส วา ปุตฺโต โหติ มาตุปกฺโข วา, ปิตุสทิโส วา ปุตฺโต โหติ ปิตุปกฺโข วา’’ติ. เถโร อาห ‘‘อตฺถิ ปน, มหาราช, กิฺจิ ปทุมํ สตปตฺต’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อตฺถี’’ติ. ‘‘ตสฺส ปน กุหึ สมฺภโว’’ติ? ‘‘กทฺทเม ชายติ อุทเก อาสียตี’’ติ ¶ . ‘‘กึนุ โข, มหาราช, ปทุมํ กทฺทเมน สทิสํ วณฺเณน วา คนฺเธน วา รเสน วา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อถ อุทเกน วา ¶ คนฺเธน วา รเสน วา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ภควา ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต อสีติยา จ อนุพฺยฺชเนหิ ปริรฺชิโต สุวณฺณวณฺโณ กฺจนสนฺนิภตฺตโจ พฺยามปฺปโภ, โน จสฺส มาตาปิตโร ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคตา อสีติยา จ อนุพฺยฺชเนหิ ปริรฺชิตา สุวณฺณวณฺณา กฺจนสนฺนิภตฺตจา พฺยามปฺปภา’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
มหาปุริสลกฺขณปฺโห ตติโย.
๔. ภควโต พฺรหฺมจาริปฺโห
๔. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, พุทฺโธ พฺรหฺมจารี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ภควา พฺรหฺมจารี’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, พุทฺโธ พฺรหฺมุโน สิสฺโส’’ติ? ‘‘อตฺถิ ปน เต, มหาราช, หตฺถิปาโมกฺโข’’ติ? ‘‘อตฺถิ ¶ , ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึนุ โข, มหาราช, โส หตฺถี กทาจิ กรหจิ โกฺจนาทํ นทตีติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, นทตี’’ติ ‘‘เตน หิ, มหาราช, โส หตฺถี โกฺจสกุณสฺส สิสฺโส’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ปน, มหาราช, พฺรหฺมา สพุทฺธิโก อพุทฺธิโก’’ติ? ‘‘สพุทฺธิโก, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, พฺรหฺมา ภควโต สิสฺโส’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ภควโต พฺรหฺมจาริปฺโห จตุตฺโถ.
๕. ภควโต อุปสมฺปทาปฺโห
๕. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อุปสมฺปทา สุนฺทรา’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, อุปสมฺปทา สุนฺทรา’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, ภนฺเต, พุทฺธสฺส อุปสมฺปทา, อุทาหุ นตฺถี’’ติ? ‘‘อุปสมฺปนฺโน โข, มหาราช ¶ , ภควา โพธิรุกฺขมูเล สห สพฺพฺุตาเณน, นตฺถิ ภควโต อุปสมฺปทา อฺเหิ ทินฺนา, ยถา สาวกานํ, มหาราช, ภควา สิกฺขาปทํ ปฺเปติ ยาวชีวํ อนติกฺกมนีย’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ภควโต อุปสมฺปทาปฺโห ปฺจโม.
๖. อสฺสุเภสชฺชาเภสชฺชปฺโห
๖. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย จ มาตริ มตาย โรทติ, โย จ ธมฺมเปเมน โรทติ, อุภินฺนํ เตสํ โรทนฺตานํ กสฺส อสฺสุ เภสชฺชํ, กสฺส น เภสชฺช’’นฺติ? ‘‘เอกสฺส โข, มหาราช, อสฺสุ ราคโทสโมเหหิ สมลํ อุณฺหํ, เอกสฺส ปีติโสมนสฺเสน วิมลํ สีตลํ. ยํ โข, มหาราช, สีตลํ, ตํ เภสชฺชํ, ยํ อุณฺหํ, ตํ น เภสชฺช’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
อสฺสุเภสชฺชาเภสชฺชปฺโห ฉฏฺโ.
๗. สราควีตราคนานากรณปฺโห
๗. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึ นานากรณํ สราคสฺส จ วีตราคสฺส จา’’ติ? ‘‘เอโก โข, มหาราช, อชฺโฌสิโต, เอโก อนชฺโฌสิโต’’ติ. ‘‘กึ เอตํ, ภนฺเต, อชฺโฌสิโต อนชฺโฌสิโต นามา’’ติ? ‘‘เอโก โข, มหาราช, อตฺถิโก, เอโก อนตฺถิโก’’ติ. ‘‘ปสฺสามหํ, ภนฺเต, เอวรูปํ โย จ สราโค, โย จ วีตราโค, สพฺโพเปโส โสภนํ เยว อิจฺฉติ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา, น โกจิ ปาปกํ อิจฺฉตี’’ติ. ‘‘อวีตราโค โข, มหาราช, รสปฏิสํเวที จ รสราคปฏิสํเวที จ โภชนํ ภฺุชติ, วีตราโค ปน รสปฏิสํเวที ¶ โภชนํ ภฺุชติ, โน จ โข รสราคปฏิสํเวที’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ ¶ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สราควีตราคนานากรณปฺโห สตฺตโม.
๘. ปฺาปติฏฺานปฺโห
๘. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ปฺา กุหึ ปฏิวสตี’’ติ? ‘‘น กตฺถจิ มหาราชา’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, นตฺถิ ปฺา’’ติ. ‘‘วาโต, มหาราช, กุหึ ปฏิวสตี’’ติ? ‘‘น กตฺถจิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, นตฺถิ วาโต’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ปฺาปติฏฺานปฺโห อฏฺโม.
๙. สํสารปฺโห
๙. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยํ ปเนตํ พฺรูสิ ‘สํสาโร’ติ, กตโม โส สํสาโร’’ติ? ‘‘อิธ, มหาราช, ชาโต อิเธว มรติ, อิธ มโต อฺตฺร อุปฺปชฺชติ, ตหึ ชาโต ตหึ เยว มรติ, ตหึ มโต อฺตฺร อุปฺปชฺชติ, เอวํ โข, มหาราช, สํสาโร โหตี’’ติ. ‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส ปกฺกํ อมฺพํ ขาทิตฺวา อฏฺึ โรเปยฺย, ตโต มหนฺโต อมฺพรุกฺโข นิพฺพตฺติตฺวา ผลานิ ทเทยฺย, อถ โส ปุริโส ตโตปิ ปกฺกํ อมฺพํ ขาทิตฺวา อฏฺึ โรเปยฺย, ตโตปิ มหนฺโต อมฺพรุกฺโข นิพฺพตฺติตฺวา ผลานิ ทเทยฺย, เอวเมเตสํ รุกฺขานํ โกฏิ น ปฺายติ, เอวเมว โข, มหาราช, อิธ ชาโต อิเธว มรติ, อิธ มโต อฺตฺร อุปฺปชฺชติ, ตหึ ชาโต ตหึ เยว มรติ, ตหึ มโต อฺตฺร อุปฺปชฺชติ, เอวํ โข, มหาราช, สํสาโร โหตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สํสารปฺโห นวโม.
๑๐. จิรกตสรณปฺโห
๑๐. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, เกน อตีตํ จิรกตํ สรตี’’ติ? ‘‘สติยา, มหาราชา’’ติ. ‘‘นนุ, ภนฺเต นาคเสน, จิตฺเตน สรติ โน สติยา’’ติ? ‘‘อภิชานาสิ นุ, ตฺวํ มหาราช, กิฺจิเทว กรณียํ กตฺวา ปมุฏฺ’’นฺติ? ‘‘อาม ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ นุ โข, ตฺวํ มหาราช, ตสฺมึ สมเย อจิตฺตโก อโหสี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, สติ ตสฺมึ สมเย นาโหสี’’ติ. ‘‘อถ กสฺมา, ตฺวํ มหาราช, เอวมาห ‘จิตฺเตน สรติ, โน สติยา’’’ติ?
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
จิรกตสรณปฺโห ทสโม.
๑๑. อภิชานนฺตสติปฺโห
๑๑. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, สพฺพา สติ อภิชานนฺตี อุปฺปชฺชติ ¶ , อุทาหุ กฏุมิกาว สตี’’ติ? ‘‘อภิชานนฺตีปิ, มหาราช, กฏุมิกาปิ สตี’’ติ. ‘‘เอวฺหิ โข, ภนฺเต นาคเสน, สพฺพา สติ อภิชานนฺตี, นตฺถิ กฏุมิกา สตี’’ติ? ‘‘ยทิ นตฺถิ, มหาราช, กฏุมิกา สติ, นตฺถิ กิฺจิ สิปฺปิกานํ กมฺมายตเนหิ วา สิปฺปายตเนหิ วา วิชฺชาฏฺาเนหิ วา กรณียํ, นิรตฺถกา อาจริยา, ยสฺมา จ โข, มหาราช, อตฺถิ กฏุมิกา สติ, ตสฺมา อตฺถิ กมฺมายตเนหิ วา สิปฺปายตเนหิ วา วิชฺชาฏฺาเนหิ วา กรณียํ, อตฺโถ จ อาจริเยหี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
อภิชานนฺตสติปฺโห เอกาทสโม.
สติวคฺโค ฉฏฺโ.
อิมสฺมึ วคฺเค เอกาทส ปฺหา.
๗. อรูปธมฺมววตฺตนวคฺโค
๑. สติอุปฺปชฺชนปฺโห
๑. ราชา ¶ ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กติหากาเรหิ สติ อุปฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘สตฺตรสหากาเรหิ, มหาราช, สติ อุปฺปชฺชตี’’ติ. ‘‘กตเมหิ สตฺตรสหากาเรหี’’ติ? ‘‘อภิชานโตปิ, มหาราช, สติ อุปฺปชฺชติ, กฏุมิกายปิ สติ อุปฺปชฺชติ, โอฬาริกวิฺาณโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, หิตวิฺาณโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, อหิตวิฺาณโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, สภาคนิมิตฺตโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, วิสภาคนิมิตฺตโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, กถาภิฺาณโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, ลกฺขณโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, สารณโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, มุทฺทาโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, คณนาโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, ธารณโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, ภาวนโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, โปตฺถกนิพนฺธนโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, อุปนิกฺเขปโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, อนุภูตโตปิ สติ อุปฺปชฺชตีติ.
‘‘กถํ อภิชานโต สติ อุปฺปชฺชติ? ยถา, มหาราช, อายสฺมา จ อานนฺโท ขุชฺชุตฺตรา จ อุปาสิกา, เย วา ปน อฺเปิ ¶ เกจิ ชาติสฺสรา ชาตึ สรนฺติ, เอวํ อภิชานโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ กฏุมิกาย สติ อุปฺปชฺชติ? โย ปกติยา มุฏฺสฺสติโก, ปเร จ ตํ สราปนตฺถํ นิพนฺธนฺติ, เอวํ กฏุมิกาย สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ โอฬาริกวิฺาณโต สติ อุปฺปชฺชติ? ยทา รชฺเช วา อภิสิตฺโต โหติ, โสตาปตฺติผลํ วา ปตฺโต โหติ, เอวํ โอฬาริกวิฺาณโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ ¶ หิตวิฺาณโต สติ อุปฺปชฺชติ? ยมฺหิ สุขาปิโต, ‘อมุกสฺมึ เอวํ สุขาปิโต’ติ สรติ, เอวํ หิตวิฺาณโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ อหิตวิฺาณโต สติ อุปฺปชฺชติ? ยมฺหิ ทุกฺขาปิโต, ‘อมุกสฺมึ เอวํ ทุกฺขาปิโต’ติ สรติ, เอวํ อหิตวิฺาณโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ สภาคนิมิตฺตโต สติ อุปฺปชฺชติ? สทิสํ ปุคฺคลํ ทิสฺวา มาตรํ วา ปิตรํ วา ภาตรํ วา ภคินึ วา สรติ, โอฏฺํ วา โคณํ วา คทฺรภํ วา ทิสฺวา อฺํ ตาทิสํ โอฏฺํ วา โคณํ วา คทฺรภํ วา สรติ, เอวํ สภาคนิมิตฺตโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ ¶ วิสภาคนิมตฺตโต สติ อุปฺปชฺชติ? อสุกสฺส นาม วณฺโณ เอทิโส, สทฺโท เอทิโส, คนฺโธ เอทิโส, รโส เอทิโส, โผฏฺพฺโพ เอทิโสติ สรติ, เอวมฺปิ วิสภาคนิมิตฺตโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ กถาภิฺาณโต สติ อุปฺปชฺชติ? โย ปกติยา มุฏฺสฺสติโก โหติ, ตํ ปเร สราเปนฺติ, เตน โส สรติ, เอวํ กถาภิฺาณโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ ลกฺขณโต สติ อุปฺปชฺชติ? โย ปกติยา พลีพทฺทานํ องฺเคน ชานาติ, ลกฺขเณน ชานาติ, เอวํ ลกฺขณโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ สารณโต สติ อุปฺปชฺชติ? โย ปกติยา มุฏฺสฺสติโก โหติ, โย ตํ ‘สราหิ โภ, สราหิ โภ’ติ ปุนปฺปุนํ สราเปติ, เอวํ สารณโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ มุทฺทาโต สติ อุปฺปชฺชติ? ลิปิยา สิกฺขิตตฺตา ชานาติ ‘อิมสฺส อกฺขรสฺส อนนฺตรํ อิมํ อกฺขรํ กาตพฺพ’นฺติ เอวํ มุทฺทาโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ คณนาโต สติ อุปฺปชฺชติ? คณนาย สิกฺขิตตฺตา คณกา พหุมฺปิ คเณนฺติ, เอวํ คณนาโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ ¶ ธารณโต สติ อุปฺปชฺชติ? ธารณาย สิกฺขิตตฺตา ธารณกา พหุมฺปิ ธาเรนฺติ ¶ , เอวํ ธารณโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ ภาวนาโต สติ อุปฺปชฺชติ? อิธ ภิกฺขุ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถีทํ, เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เอวํ ภาวนาโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ โปตฺถกนิพนฺธนโต สติ อุปฺปชฺชติ? ราชาโน อนุสาสนิยํ อสฺสรนฺตา [อนุสฺสรนฺตา (สพฺพตฺถ)] เอตํ โปตฺถกํ อาหรถาติ, เตน โปตฺถเกน อนุสฺสรนฺติ, เอวํ โปตฺถกนิพนฺธนโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ อุปนิกฺเขปโต สติ อุปฺปชฺชติ? อุปนิกฺขิตฺตํ ภณฺฑํ ทิสฺวา สรติ, เอวํ อุปนิกฺเขปโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ อนุภูตโต สติ อุปฺปชฺชติ? ทิฏฺตฺตา รูปํ สรติ, สุตตฺตา สทฺทํ สรติ, ฆายิตตฺตา คนฺธํ สรติ, สายิตตฺตา รสํ สรติ, ผุฏฺตฺตา โผฏฺพฺพํ ¶ สรติ, วิฺาตตฺตา ธมฺมํ สรติ, เอวํ อนุภูตโต สติ อุปฺปชฺชติ. อิเมหิ โข, มหาราช, สตฺตรสหากาเรหิ สติ อุปฺปชฺชตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สติอุปฺปชฺชนปฺโห ปโม.
๒. พุทฺธคุณสติปฏิลาภปฺโห
๒. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห เอตํ ภณถ ‘โย วสฺสสตํ อกุสลํ กเรยฺย, มรณกาเล จ เอกํ พุทฺธคุณํ สตึ ปฏิลเภยฺย, โส เทเวสุ อุปฺปชฺเชยฺยา’ติ เอตํ น สทฺทหามิ, เอวฺจ ปน วเทถ ‘เอเตน ปาณาติปาเตน นิรเย อุปฺปชฺเชยฺยา’ติ เอตมฺปิ น สทฺทหามี’’ติ.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ขุทฺทโกปิ ปาสาโณ วินา นาวาย อุทเก อุปฺปิลเวยฺยา’’ติ ¶ . ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ นุ โข, มหาราช, วาหสตมฺปิ ปาสาณานํ นาวาย อาโรปิตํ อุทเก อุปฺปิลเวยฺยา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, นาวา, เอวํ กุสลานิ กมฺมานิ ทฏฺพฺพานี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
พุทฺธคุณสติปฏิลาภปฺโห ทุติโย.
๓. ทุกฺขปฺปหานวายมปฺโห
๓. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึ ตุมฺเห อตีตสฺส ทุกฺขสฺส ปหานาย วายมถา’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, อนาคตสฺส ทุกฺขสฺส ปหานาย วายมถา’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘กึ ปน ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ทุกฺขสฺส ¶ ปหานาย วายมถา’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘ยทิ ตุมฺเห น อตีตสฺส ทุกฺขสฺส ปหานาย วายมถ, น อนาคตสฺส ทุกฺขสฺส ปหานาย วายมถ, น ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ทุกฺขสฺส ปหานาย วายมถ, อถ กิมตฺถาย วายมถา’’ติ. เถโร อาห ‘กินฺติ, มหาราช, อิทฺจ ทุกฺขํ นิรุชฺเฌยฺย, อฺฺจ ทุกฺขํ นุปฺปชฺเชยฺยา’ติ เอตทตฺถาย วายมามา’’ติ.
‘‘อตฺถิ ¶ ปน เต, ภนฺเต นาคเสน, อนาคตํ ทุกฺข’’นฺติ? ‘‘นตฺถิ [กถา. ๘๒๘, ๘๒๙ ปสฺสิตพฺพํ], มหาราชา’’ติ ‘‘ตุมฺเห โข, ภนฺเต นาคเสน, อติปณฺฑิตา, เย ตุมฺเห อสนฺตานํ อนาคตานํ ทุกฺขานํ ปหานาย วายมถา’’ติ? ‘‘อตฺถิ ปน เต, มหาราช, เกจิ ปฏิราชาโน ปจฺจตฺถิกา ปจฺจามิตฺตา ปจฺจุปฏฺิตา โหนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อตฺถี’’ติ. ‘‘กึนุ โข, มหาราช, ตทา ตุมฺเห ปริขํ ขณาเปยฺยาถ, ปาการํ จินาเปยฺยาถ โคปุรํ การาเปยฺยาถ, อฏฺฏาลกํ การาเปยฺยาถ, ธฺํ อติหราเปยฺยาถา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ปฏิกจฺเจว ตํ ปฏิยตฺตํ โหตี’’ติ. ‘‘กึ ตุมฺเห, มหาราช, ตทา หตฺถิสฺมึ สิกฺเขยฺยาถ, อสฺสสฺมึ สิกฺเขยฺยาถ, รถสฺมึ สิกฺเขยฺยาถ, ธนุสฺมึ สิกฺเขยฺยาถ, ถรุสฺมึ สิกฺเขยฺยาถา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ปฏิกจฺเจว ตํ สิกฺขิตํ โหตี’’ติ. ‘‘กิสฺสตฺถายา’’ติ? ‘‘อนาคตานํ, ภนฺเต, ภยานํ ปฏิพาหนตฺถายา’’ติ. ‘‘กึ นุ โข, มหาราช, อตฺถิ อนาคตํ ภย’’นฺติ? ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต’’ติ ¶ . ‘‘ตุมฺเห จ โข, มหาราช, อติปณฺฑิตา, เย ตุมฺเห อสนฺตานํ อนาคตานํ ภยานํ ปฏิพาหนตฺถาย ปฏิยาเทถา’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหีติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ยทา ตฺวํ ปิปาสิโต ภเวยฺยาสิ, ตทา ตฺวํ อุทปานํ ขณาเปยฺยาสิ, โปกฺขรณึ ขณาเปยฺยาสิ, ตฬากํ ขณาเปยฺยาสิ ‘ปานียํ ปิวิสฺสามี’’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ปฏิกจฺเจว ตํ ปฏิยตฺตํ โหตี’’ติ. ‘‘กิสฺสตฺถายา’’ติ? ‘‘อนาคตานํ, ภนฺเต, ปิปาสานํ ปฏิพาหนตฺถาย ปฏิยตฺตํ โหตี’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, มหาราช, อนาคตา ปิปาสา’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ตุมฺเห โข, มหาราช, อติปณฺฑิตา ¶ , เย ตุมฺเห อสนฺตานํ อนาคตานํ ปิปาสานํ ปฏิพาหนตฺถาย ตํ ปฏิยาเทถา’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ยทา ตฺวํ พุภุกฺขิโต ภเวยฺยาสิ, ตทา ตฺวํ เขตฺตํ กสาเปยฺยาสิ, สาลึ วปาเปยฺยาสิ ‘ภตฺตํ ภฺุชิสฺสามี’’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ปฏิกจฺเจว ตํ ปฏิยตฺตํ โหตี’’ติ. ‘‘กิสฺสตฺถายา’’ติ. ‘‘อนาคตานํ, ภนฺเต, พุภุกฺขานํ ปฏิพาหนตฺถายา’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, มหาราช, อนาคตา พุภุกฺขา’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ตุมฺเห ¶ โข, มหาราช, อติปณฺฑิตา, เย ตุมฺเห อสนฺตานํ อนาคตานํ พุภุกฺขานํ ปฏิพาหนตฺถาย ปฏิยาเทถา’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ทุกฺขปฺปหานวายมปฺโห ตติโย.
๔. พฺรหฺมโลกปฺโห
๔. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กีวทูโร อิโต พฺรหฺมโลโก’’ติ? ‘‘ทูโร โข, มหาราช, อิโต พฺรหฺมโลโก กูฏาคารมตฺตา สิลา ตมฺหา ปติตา อโหรตฺเตน อฏฺจตฺตาลีสโยชนสหสฺสานิ ภสฺสมานา จตูหิ มาเสหิ ปถวิยํ ปติฏฺเหยฺยา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห เอวํ ภณถ ‘เสยฺยถาปิ พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย ¶ , ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว อิทฺธิมา ภิกฺขุ เจโตวสิปฺปตฺโต ชมฺพุทีเป อนฺตรหิโต พฺรหฺมโลเก ปาตุภเวยฺยา’ติ เอตํ วจนํ น สทฺทหามิ, เอวํ อติสีฆํ ตาว พหูนิ โยชนสตานิ คจฺฉิสฺสตี’’ติ.
เถโร อาห ‘‘กุหึ ปน, มหาราช, ตว ชาตภูมี’’ติ? ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต, อลสนฺโท นาม ทีโป, ตตฺถาหํ ชาโต’’ติ. ‘‘กีว ทูโร, มหาราช, อิโต อลสนฺโท โหตี’’ติ? ‘‘ทฺวิมตฺตานิ, ภนฺเต, โยชนสตานี’’ติ. ‘‘อภิชานาสิ นุ ตฺวํ, มหาราช, ตตฺถ กิฺจิเทว กรณียํ กริตฺวา สริตา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สรามี’’ติ. ‘‘ลหุํ โข ตฺวํ, มหาราช, คโตสิ ทฺวิมตฺตานิ โยชนสตานี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
พฺรหฺมโลกปฺโห จตุตฺโถ.
๕. ทฺวินฺนํ โลกุปฺปนฺนานํ สมกภาวปฺโห
๕. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย อิธ กาลงฺกโต พฺรหฺมโลเก อุปฺปชฺเชยฺย, โย จ อิธ กาลงฺกโต กสฺมีเร อุปฺปชฺเชยฺย, โก จิรตรํ โก สีฆตร’’นฺติ? ‘‘สมกํ, มหาราชา’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ ¶ กโรหี’’ติ. ‘‘กุหึ ปน, มหาราช, ตว ¶ ชาตนคร’’นฺติ? ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต, กลสิคาโม นาม, ตตฺถาหํ ชาโต’’ติ. ‘‘กีว ทูโร, มหาราช, อิโต กลสิคาโม โหตี’’ติ. ‘‘ทฺวิมตฺตานิ, ภนฺเต, โยชนสตานี’’ติ. ‘‘กีว ทูรํ, มหาราช, อิโต กสฺมีรํ โหตี’’ติ? ‘‘ทฺวาทส, ภนฺเต, โยชนานี’’ติ. ‘‘อิงฺฆ, ตฺวํ มหาราช, กลสิคามํ จินฺเตหี’’ติ. ‘‘จินฺติโต, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อิงฺฆ, ตฺวํ มหาราช, กสฺมีรํ จินฺเตหี’’ติ. ‘‘จินฺติตํ ภนฺเต’’ติ. ‘‘กตมํ นุ โข, มหาราช, จิเรน จินฺติตํ, กตมํ สีฆตร’’นฺติ? ‘‘สมกํ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย อิธ กาลงฺกโต พฺรหฺมโลเก อุปฺปชฺเชยฺย, โย จ อิธ กาลงฺกโต กสฺมีเร อุปฺปชฺเชยฺย, สมกํ เยว อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ทฺเว สกุณา อากาเสน คจฺเฉยฺยุํ ¶ , เตสุ เอโก อุจฺเจ รุกฺเข นิสีเทยฺย, เอโก นีเจ รุกฺเข นิสีเทยฺย, เตสํ สมกํ ปติฏฺิตานํ กตมสฺส ฉายา ปมตรํ ปถวิยํ ปติฏฺเหยฺย, กตมสฺส ฉายา จิเรน ปถวิยํ ปติฏฺเหยฺยา’’ติ? ‘‘สมกํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย อิธ กาลงฺกโต พฺรหฺมโลเก อุปฺปชฺเชยฺย, โย จ อิธ กาลงฺกโต กสฺมีเร อุปฺปชฺเชยฺย, สมกํ เยว อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ทฺวินฺนํ โลกุปฺปนฺนานํ สมกภาวปฺโห ปฺจโม.
๖. โพชฺฌงฺคปฺโห
๖. ราชา อาห ‘‘กติ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, โพชฺฌงฺคา’’ติ? ‘‘สตฺต โข, มหาราช, โพชฺฌงฺคา’’ติ. ‘‘กติหิ ปน, ภนฺเต, โพชฺฌงฺเคหิ พุชฺฌตี’’ติ? ‘‘เอเกน โข, มหาราช, โพชฺฌงฺเคน พุชฺฌติ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺเคนา’’ติ. ‘‘อถ กิสฺส นุ โข, ภนฺเต, วุจฺจนฺติ ‘สตฺต โพชฺฌงฺคา’’’ติ? ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, อสิ โกสิยา ปกฺขิตฺโต อคฺคหิโต หตฺเถน อุสฺสหติ เฉชฺชํ ฉินฺทิตุ’’นฺติ. ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺเคน วินา ฉหิ โพชฺฌงฺเคหิ น พุชฺฌตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
โพชฺฌงฺคปฺโห ฉฏฺโ.
๗. ปาปปฺุานํ อปฺปานปฺปภาวปฺโห
๗. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กตรํ นุ โข พหุตรํ ปฺุํ วา อปฺุํ วา’’ติ? ‘‘ปฺุํ โข, มหาราช ¶ , พหุตรํ, อปฺุํ โถก’’นฺติ. ‘‘เกน การเณนา’’ติ? ‘‘อปฺุํ โข, มหาราช, กโรนฺโต วิปฺปฏิสารี โหติ ‘ปาปกมฺมํ มยา กต’นฺติ, เตน ปาปํ น ¶ วฑฺฒติ. ปฺุํ โข, มหาราช, กโรนฺโต อวิปฺปฏิสารี โหติ, อวิปฺปฏิสาริโน ปาโมชฺชํ ชายติ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ, สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาติ, เตน การเณน ปฺุํ วฑฺฒติ. ปุริโส โข, มหาราช, ฉินฺนหตฺถปาโท ภควโต เอกํ อุปฺปลหตฺถํ ทตฺวา เอกนวุติกปฺปานิ วินิปาตํ น คจฺฉิสฺสติ. อิมินาปิ, มหาราช, การเณน ภณามิ ‘ปฺุํ พหุตรํ, อปฺุํ โถก’’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ปาปปฺุานํ อปฺปานปฺปภาวปฺโห สตฺตโม.
๘. ชานนฺตาชานนฺตปาปกรณปฺโห
๘. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย ชานนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ, โย อชานนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ, กสฺส พหุตรํ อปฺุ’’นฺติ? เถโร อาห ‘‘โย โข, มหาราช, อชานนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ, ตสฺส พหุตรํ อปฺุ’’นฺติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, โย อมฺหากํ ราชปุตฺโต วา ราชมหามตฺโต วา อชานนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ, ตํ มยํ ทิคุณํ ทณฺเฑมา’’ติ? ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ตตฺตํ อโยคุฬํ อาทิตฺตํ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํ เอโก ชานนฺโต คณฺเหยฺย, เอโก อชานนฺโต คณฺเหยฺย, กตโม [กสฺส (ก.)] พลวตรํ ฑยฺเหยฺยา’’ติ. ‘‘โย โข, ภนฺเต, อชานนฺโต คณฺเหยฺย, โส [ตสฺส (ปี. ก.)] พลวตรํ ฑยฺเหยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย อชานนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ, ตสฺส พหุตรํ อปฺุ’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ชานนฺตาชานนฺตปาปกรณปฺโห อฏฺโม.
๙. อุตฺตรกุรุกาทิคมนปฺโห
๙. ราชา ¶ ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อตฺถิ โกจิ, โย อิมินา สรีเรน อุตฺตรกุรุํ วา คจฺเฉยฺย, พฺรหฺมโลกํ วา, อฺํ วา ปน ทีป’’นฺติ? ‘‘อตฺถิ, มหาราช, โย อิมินา จาตุมฺมหาภูติเกน กาเยน อุตฺตรกุรุํ วา คจฺเฉยฺย, พฺรหฺมโลกํ วา, อฺํ วา ปน ทีป’’นฺติ.
‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, อิมินา จาตุมฺมหาภูติเกน กาเยน อุตฺตรกุรุํ วา คจฺเฉยฺย, พฺรหฺมโลกํ วา, อฺํ วา ปน ¶ ทีป’’นฺติ? ‘‘อภิชานาสิ นุ, ตฺวํ มหาราช, อิมิสฺสา ปถวิยา วิทตฺถึ วา รตนํ วา ลงฺฆิตา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อภิชานามิ ‘อหํ, ภนฺเต นาคเสน, อฏฺปิ รตนิโย ลงฺเฆมี’’’ติ. ‘‘กถํ, ตฺวํ มหาราช, อฏฺปิ รตนิโย ลงฺเฆสี’’ติ? ‘‘อหฺหิ, ภนฺเต, จิตฺตํ อุปฺปาเทมิ ‘เอตฺถ นิปติสฺสามี’ติ สห จิตฺตุปฺปาเทน กาโย เม ลหุโก โหตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อิทฺธิมา ภิกฺขุ เจโตวสิปฺปตฺโต กายํ จิตฺเต สมาโรเปตฺวา จิตฺตวเสน เวหาสํ คจฺฉตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
อุตฺตรกุรุกาทิคมนปฺโห นวโม.
๑๐. ทีฆฏฺิปฺโห
๑๐. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห เอวํ ภณถ ‘อฏฺิกานิ ทีฆานิ โยชนสติกานิปี’ติ, รุกฺโขปิ ตาว นตฺถิ โยชนสติโก, กุโต ปน อฏฺิกานิ ทีฆานิ โยชนสติกานิ ภวิสฺสนฺตี’’ติ?
‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, สุตํ เต ‘มหาสมุทฺเท ปฺจโยชนสติกาปิ มจฺฉา อตฺถี’’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สุต’’นฺติ. ‘‘นนุ มหาราช, ปฺจโยชนสติกสฺส มจฺฉสฺส อฏฺิกานิ ทีฆานิ ภวิสฺสนฺติ โยชนสติกานิปี’’ติ?
‘‘กลฺโลสิ ¶ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ทีฆฏฺิปฺโห ทสโม.
๑๑. อสฺสาสปสฺสาสนิโรธปฺโห
๑๑. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห เอวํ ภณถ ‘สกฺกา อสฺสาสปสฺสาเส นิโรเธตุ’’’นฺติ? ‘‘อาม, มหาราช, สกฺกา อสฺสาสปสฺสาเส นิโรเธตุ’’นฺติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, สกฺกา อสฺสาสปสฺสาเส นิโรเธตุ’’นฺติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, สุตปุพฺโพ เต โกจิ กากจฺฉมาโน’’ติ. ‘‘อาม, ภนฺเต, สุตปุพฺโพ’’ติ. ‘‘กึ นุ โข, มหาราช, โส สทฺโท กาเย นมิเต วิรเมยฺยา’’ติ. ‘‘อาม, ภนฺเต, วิรเมยฺยา’’ติ. ‘‘โส หิ นาม, มหาราช, สทฺโท อภาวิตกายสฺส อภาวิตสีลสฺส อภาวิตจิตฺตสฺส อภาวิตปฺสฺส กาเย นมิเต วิรมิสฺสติ, กึ ปน ภาวิตกายสฺส ภาวิตสีลสฺส ภาวิตจิตฺตสฺส ภาวิตปฺสฺส จตุตฺถชฺฌานํ สมาปนฺนสฺส อสฺสาสปสฺสาสา น นิรุชฺฌิสฺสนฺตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
อสฺสาสปสฺสาสนิโรธปฺโห เอกาทสโม.
๑๒. สมุทฺทปฺโห
๑๒. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘สมุทฺโท สมุทฺโท’ติ วุจฺจติ, เกน การเณน อุทกํ ‘สมุทฺโท’ติ วุจฺจตี’’ติ? เถโร ¶ อาห ‘‘ยตฺตกํ, มหาราช, อุทกํ, ตตฺตกํ โลณํ. ยตฺตกํ โลณํ, ตตฺตกํ อุทกํ. ตสฺมา ‘สมุทฺโท’ติ วุจฺจตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สมุทฺทปฺโห ทฺวาทสโม.
๑๓. สมุทฺทเอกรสปฺโห
๑๓. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, เกน การเณน สมุทฺโท เอกรโส โลณรโส’’ติ? ‘‘จิรสณฺิตตฺตา โข, มหาราช, อุทกสฺส สมุทฺโท เอกรโส โลณรโส’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สมุทฺทเอกรสปฺโห เตรสโม.
๑๔. สุขุมปฺโห
๑๔. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, สกฺกา สพฺพํ สุขุมํ ฉินฺทิตุ’’นฺติ? ‘‘อาม, มหาราช, สกฺกา สพฺพํ สุขุมํ ฉินฺทิตุ’’นฺติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, สพฺพํ สุขุม’’นฺติ? ‘‘ธมฺโม โข, มหาราช, สพฺพสุขุโม, น โข, มหาราช, ธมฺมา สพฺเพ สุขุมา, ‘สุขุม’นฺติ วา ‘ถูล’นฺติ วา ธมฺมานเมตมธิวจนํ. ยํ กิฺจิ ฉินฺทิตพฺพํ, สพฺพํ ตํ ปฺาย ฉินฺทติ, นตฺถิ ทุติยํ ปฺาย เฉทน’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สุขุมปฺโห จุทฺทสโม.
๑๕. วิฺาณนานตฺถปฺโห
๑๕. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘วิฺาณ’นฺติ วา ‘ปฺา’ติ วา ‘ภูตสฺมึ ชีโว’ติ วา อิเม ธมฺมา นานตฺถา เจว นานาพฺยฺชนา จ, อุทาหุ เอกตฺถา พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ ¶ ? ‘‘วิชานนลกฺขณํ, มหาราช, วิฺาณํ, ปชานนลกฺขณา ปฺา, ภูตสฺมึ ชีโว นุปลพฺภตี’’ติ. ‘‘ยทิ ชีโว นุปลพฺภติ, อถ โก จรหิ จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ, โสเตน สทฺทํ สุณาติ, ฆาเนน คนฺธํ ฆายติ, ชิวฺหาย รสํ สายติ, กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสติ, มนสา ธมฺมํ วิชานาตี’’ติ? เถโร อาห ‘‘ยทิ ชีโว จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ…เป… มนสา ธมฺมํ วิชานาติ, โส ชีโว จกฺขุทฺวาเรสุ อุปฺปาฏิเตสุ มหนฺเตน อากาเสน พหิมุโข สุฏฺุตรํ รูปํ ปสฺเสยฺย, โสเตสุ อุปฺปาฏิเตสุ, ฆาเน อุปฺปาฏิเต, ชิวฺหาย อุปฺปาฏิตาย, กาเย อุปฺปาฏิเต มหนฺเตน อากาเสน สุฏฺุตรํ สทฺทํ สุเณยฺย, คนฺธํ ฆาเยยฺย, รสํ สาเยยฺย, โผฏฺพฺพํ ผุเสยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ ¶ , ภนฺเต’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, ภูตสฺมึ ชีโว นุปลพฺภตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
วิฺาณนานตฺถปฺโห ปนฺนรสโม.
๑๖. อรูปธมฺมววตฺถานทุกฺกรปฺโห
๑๖. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ทุกฺกรํ นุ โข ภควตา กต’’นฺติ? เถโร อาห ‘‘ทุกฺกรํ, มหาราช, ภควตา กต’’นฺติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ทุกฺกรํ กต’’นฺติ. ‘‘ทุกฺกรํ, มหาราช, ภควตา กตํ อิเมสํ อรูปีนํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ เอการมฺมเณ วตฺตมานานํ ววตฺถานํ อกฺขาตํ ‘อยํ ผสฺโส, อยํ เวทนา, อยํ สฺา, อยํ เจตนา, อิทํ จิตฺต’’’นฺติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส นาวาย มหาสมุทฺทํ อชฺโฌคาเหตฺวา หตฺถปุเฏน อุทกํ คเหตฺวา ชิวฺหาย สายิตฺวา ชาเนยฺย นุ โข, มหาราช, โส ปุริโส ‘‘อิทํ คงฺคาย อุทกํ, อิทํ ยมุนาย อุทกํ, อิทํ อจิรวติยา อุทกํ, อิทํ สรภุยา อุทกํ, อิทํ มหิยา อุทก’’’นฺติ? ‘‘ทุกฺกรํ, ภนฺเต, ชานิตุ’’นฺติ. ‘‘อิโต ทุกฺกรตรํ โข, มหาราช, ภควตา กตํ อิเมสํ อรูปีนํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ เอการมฺมเณ วตฺตมานานํ ววตฺถานํ ¶ อกฺขาตํ ‘อยํ ผสฺโส, อยํ เวทนา, อยํ สฺา, อยํ เจตนา, อิทํ จิตฺต’’’นฺติ. ‘‘สุฏฺุ, ภนฺเต’’ติ ราชา อพฺภานุโมทีติ.
อรูปธมฺมววตฺถานทุกฺกรปฺโห โสฬสโม.
อรูปธมฺมววตฺถานวคฺโค สตฺตโม.
อิมสฺมึ วคฺเค โสฬส ปฺหา.
มิลินฺทปฺหปุจฺฉาวิสชฺชนา
เถโร ¶ ¶ อาห ‘‘ชานาสิ โข, มหาราช, สมฺปติ กา เวลา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชานามิ ‘สมฺปติ ปโม ยาโม อติกฺกนฺโต, มชฺฌิโม ยาโม ปวตฺตติ, อุกฺกา ปทีปียนฺติ, จตฺตาริ ปฏากานิ อาณตฺตานิ คมิสฺสนฺติ ภณฺฑโต ราชเทยฺยานี’’’ติ.
โยนกา เอวมาหํสุ ‘‘กลฺโลสิ, มหาราช, ปณฺฑิโต เถโร’’ติ. ‘‘อาม, ภเณ, ปณฺฑิโต เถโร, เอทิโส อาจริโย ภเวยฺย มาทิโส จ ¶ อนฺเตวาสี, นจิรสฺเสว ปณฺฑิโต ธมฺมํ อาชาเนยฺยา’’ติ. ตสฺส ปฺหเวยฺยากรเณน ตุฏฺโ ราชา เถรํ นาคเสนํ สตสหสฺสคฺฆนเกน กมฺพเลน อจฺฉาเทตฺวา ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อชฺชตคฺเค เต อฏฺสตํ ภตฺตํ ปฺเปมิ, ยํ กิฺจิ อนฺเตปุเร กปฺปิยํ, เตน จ ปวาเรมี’’ติ อาห. อลํ มหาราช ชีวามี’’ติ. ‘‘ชานามิ, ภนฺเต นาคเสน, ชีวสิ, อปิ จ อตฺตานฺจ รกฺข, มมฺจ รกฺขาหี’’ติ. ‘‘กถํ อตฺตานํ รกฺขสิ, ‘นาคเสโน มิลินฺทํ ราชานํ ปสาเทติ, น จ กิฺจิ อลภี’ติ ปราปวาโท [ปรปฺปวาโท (ก.)] อาคจฺเฉยฺยาติ, เอวํ อตฺตานํ รกฺข. กถํ มมํ รกฺขสิ, ‘มิลินฺโท ราชา ปสนฺโน ปสนฺนาการํ น กโรตี’ติ ปราปวาโท อาคจฺเฉยฺยาติ, เอวํ มมํ รกฺขาหี’’ติ. ‘‘ตถา โหตุ, มหาราชา’’ติ. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, สีโห มิคราชา สุวณฺณปฺชเร ปกฺขิตฺโตปิ พหิมุโข เยว โหติ, เอวเมว โข อหํ, ภนฺเต, กิฺจาปิ อคารํ อชฺฌาวสามิ พหิมุโข เยว ปน อจฺฉามิ. สเจ อหํ, ภนฺเต, อคารสฺมา อนาคาริยํ ปพฺพเชยฺยํ, น จิรํ ชีเวยฺยํ, พหู เม ปจฺจตฺถิกา’’ติ.
อถ โข อายสฺมา นาคเสโน มิลินฺทสฺส รฺโ ปฺหํ วิสชฺเชตฺวา อุฏฺายาสนา สงฺฆารามํ อคมาสิ. อจิรปกฺกนฺเต จ อายสฺมนฺเต นาคเสเน มิลินฺทสฺส รฺโ เอตทโหสิ ‘‘กึ มยา ปุจฺฉิตํ, กึ ภทนฺเตน นาคเสเนน วิสชฺชิต’’นฺติ? อถ โข มิลินฺทสฺส รฺโ เอตทโหสิ ‘‘สพฺพํ มยา สุปุจฺฉิตํ, สพฺพํ ภทนฺเตน นาคเสเนน สุวิสชฺชิต’’นฺติ. อายสฺมโตปิ นาคเสนสฺส สงฺฆารามคตสฺส เอตทโหสิ ‘‘กึ มิลินฺเทน ¶ รฺา ปุจฺฉิตํ, กึ มยา ¶ วิสชฺชิต’’นฺติ. อถ โข อายสฺมโต นาคเสนสฺส เอตทโหสิ ‘‘สพฺพํ มิลินฺเทน รฺา สุปุจฺฉิตํ, สพฺพํ มยา สุวิสชฺชิต’’นฺติ.
อถ โข อายสฺมา นาคเสโน ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน มิลินฺทสฺส รฺโ นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ ¶ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ –
‘‘มา โข ภทนฺตสฺส เอวํ อโหสิ ‘นาคเสโน มยา ปฺหํ ปุจฺฉิโต’ติ เตเนว โสมนสฺเสน ตํ รตฺตาวเสสํ วีตินาเมสีติ น เต เอวํ ทฏฺพฺพํ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, ตํ รตฺตาวเสสํ เอตทโหสิ ‘กึ มยา ปุจฺฉิตํ, กึ ภทนฺเตน วิสชฺชิต’นฺติ, ‘สพฺพํ มยา สุปุจฺฉิตํ, สพฺพํ ภทนฺเตน สุวิสชฺชิต’’’นฺติ.
เถโรปิ เอวมาห – ‘‘มา โข มหาราชสฺส เอวํ อโหสิ ‘มิลินฺทสฺส รฺโ มยา ปฺโห วิสชฺชิโต’ติ เตเนว โสมนสฺเสน ตํ รตฺตาวเสสํ วีตินาเมสีติ น เต เอวํ ทฏฺพฺพํ. ตสฺส มยฺหํ, มหาราช, ตํ รตฺตาวเสสํ เอตทโหสิ ‘กึ มิลินฺเทน รฺา ปุจฺฉิตํ, กึ มยา วิสชฺชิต’นฺติ, ‘สพฺพํ มิลินฺเทน รฺา สุปุจฺฉิตํ, สพฺพํ มยา สุวิสชฺชิต’’’นฺติ อิติห เต มหานาคา อฺมฺสฺส สุภาสิตํ สมนุโมทึสูติ.
มิลินฺทปฺหปุจฺฉาวิสชฺชนา นิฏฺิตา.
เมณฺฑกปฺหารมฺภกถา
อฏฺมนฺตปริวชฺชนียฏฺานานิ
ภสฺสปฺปวาโท ¶ ¶ ¶ [ภสฺสปฺปเวที (สี. ปี.)] เวตณฺฑี, อติพุทฺธิ วิจกฺขโณ;
มิลินฺโท าณเภทาย, นาคเสนมุปาคมิ.
วสนฺโต ตสฺส ฉายาย, ปริปุจฺฉํ ปุนปฺปุนํ;
ปภินฺนพุทฺธิ หุตฺวาน, โสปิ อาสิ ติเปฏโก.
นวงฺคํ อนุมชฺชนฺโต, รตฺติภาเค รโหคโต;
อทฺทกฺขิ เมณฺฑเก ปฺเห, ทุนฺนิเวเ สนิคฺคเห.
‘‘ปริยายภาสิตํ อตฺถิ, อตฺถิ สนฺธายภาสิตํ;
สภาวภาสิตํ อตฺถิ, ธมฺมราชสฺส สาสเน.
‘‘เตสมตฺถํ อวิฺาย, เมณฺฑเก ชินภาสิเต;
อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, วิคฺคโห ตตฺถ เหสฺสติ.
‘‘หนฺท กถึ ปสาเทตฺวา, เฉชฺชาเปสฺสามิ เมณฺฑเก;
ตสฺส นิทฺทิฏฺมคฺเคน, นิทฺทิสิสฺสนฺตฺยนาคเต’’ติ.
อถ โข มิลินฺโท ราชา ปภาตาย รตฺติยา อุทฺธสฺเต [อุฏฺิเต (สฺยา.), อุคฺคเต (สี. ปี.)] อรุเณ สีสํ นฺหตฺวา สิรสิ อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเน สมฺมาสมฺพุทฺเธ อนุสฺสริตฺวา อฏฺ วตฺตปทานิ สมาทิยิ ‘‘อิโต เม อนาคตานิ สตฺต ทิวสานิ อฏฺ คุเณ สมาทิยิตฺวา ตโป จริตพฺโพ ภวิสฺสติ ¶ , โสหํ จิณฺณตโป สมาโน อาจริยํ อาราเธตฺวา เมณฺฑเก ปฺเห ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. อถ โข มิลินฺโท ราชา ปกติทุสฺสยุคํ อปเนตฺวา อาภรณานิ จ โอมฺุจิตฺวา กาสาวํ นิวาเสตฺวา มุณฺฑกปฏิสีสกํ สีเส ปฏิมฺุจิตฺวา มุนิภาวมุปคนฺตฺวา อฏฺ คุเณ สมาทิยิ ‘‘อิมํ สตฺตาหํ มยา น ราชตฺโถ อนุสาสิตพฺโพ, น ราคูปสฺหิตํ จิตฺตํ อุปฺปาเทตพฺพํ, น โทสูปสฺหิตํ จิตฺตํ อุปฺปาเทตพฺพํ, น โมหูปสฺหิตํ จิตฺตํ อุปฺปาเทตพฺพํ, ทาสกมฺมกรโปริเส ชเนปิ นิวาตวุตฺตินา ภวิตพฺพํ, กายิกํ ¶ วาจสิกํ ¶ อนุรกฺขิตพฺพํ, ฉปิ อายตนานิ นิรวเสสโต อนุรกฺขิตพฺพานิ, เมตฺตาภาวนาย มานสํ ปกฺขิปิตพฺพ’’นฺติ. อิเม อฏฺ คุเณ สมาทิยิตฺวา เตสฺเวว อฏฺสุ คุเณสุ มานสํ ปติฏฺเปตฺวา พหิ อนิกฺขมิตฺวา สตฺตาหํ วีตินาเมตฺวา อฏฺเม ทิวเส ปภาตาย รตฺติยา ปเคว ปาตราสํ กตฺวา โอกฺขิตฺตจกฺขุ มิตภาณี สุสณฺิเตน อิริยาปเถน อวิกฺขิตฺเตน จิตฺเตน หฏฺเน อุทคฺเคน วิปฺปสนฺเนน เถรํ นาคเสนํ อุปสงฺกมิตฺวา เถรสฺส ปาเท สิรสา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิโต อิทมโวจ –
‘‘อตฺถิ เม, ภนฺเต นาคเสน, โกจิ อตฺโถ ตุมฺเหหิ สทฺธึ มนฺตยิตพฺโพ, น ตตฺถ อฺโ โกจิ ตติโย อิจฺฉิตพฺโพ, สฺุเ โอกาเส ปวิวิตฺเต อรฺเ อฏฺงฺคุปาคเต สมณสารุปฺเป. ตตฺถ โส ปฺโห ปุจฺฉิตพฺโพ ภวิสฺสติ, ตตฺถ เม คุยฺหํ น กาตพฺพํ น รหสฺสกํ, อรหามหํ รหสฺสกํ สุณิตุํ สุมนฺตเน อุปคเต, อุปมายปิ โส อตฺโถ อุปปริกฺขิตพฺโพ, ยถา กึ วิย, ยถา นาม, ภนฺเต นาคเสน, มหาปถวี นิกฺเขปํ อรหติ นิกฺเขเป อุปคเต. เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, อรหามหํ รหสฺสกํ สุณิตุํ สุมนฺตเน อุปคเต’’ติ. ครุนา สห ปวิวิตฺตปวนํ ปวิสิตฺวา อิทมโวจ – ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อิธ ปุริเสน มนฺตยิตุกาเมน อฏฺ านานิ ปริวชฺชยิตพฺพานิ ภวนฺติ, น เตสุ าเนสุ วิฺู ปุริโส อตฺถํ มนฺเตติ, มนฺติโตปิ อตฺโถ ปริปตติ น สมฺภวติ. กตมานิ อฏฺ านานิ? วิสมฏฺานํ ปริวชฺชนียํ, สภยํ ปริวชฺชนียํ, อติวาตฏฺานํ ปริวชฺชนียํ, ปฏิจฺฉนฺนฏฺานํ ปริวชฺชนียํ, เทวฏฺานํ ปริวชฺชนียํ, ปนฺโถ ปริวชฺชนีโย, สงฺคาโม [สงฺกโม (สี. ปี.)] ปริวชฺชนีโย, อุทกติตฺถํ ปริวชฺชนียํ. อิมานิ อฏฺ านานิ ปริวชฺชนียานี’’ติ.
เถโร อาห ‘‘โก โทโส วิสมฏฺาเน, สภเย, อติวาเต, ปฏิจฺฉนฺเน, เทวฏฺาเน, ปนฺเถ, สงฺคาเม, อุทกติตฺเถ’’ติ? ‘‘วิสเม, ภนฺเต ¶ นาคเสน, มนฺติโต อตฺโถ วิกิรติ วิธมติ ปคฺฆรติ น สมฺภวติ, สภเย มโน สนฺตสฺสติ, สนฺตสฺสิโต น สมฺมา อตฺถํ สมนุปสฺสติ, อติวาเต สทฺโท อวิภูโต โหติ, ปฏิจฺฉนฺเน อุปสฺสุตึ ติฏฺนฺติ, เทวฏฺาเน ¶ มนฺติโต อตฺโถ ครุกํ ¶ ปริณมติ, ปนฺเถ มนฺติโต อตฺโถ ตุจฺโฉ ภวติ, สงฺคาเม จฺจโล ภวติ, อุทกติตฺเถ ปากโฏ ภวติ. ภวตีห –
‘‘‘วิสมํ สภยํ อติวาโต, ปฏิจฺฉนฺนํ เทวนิสฺสิตํ;
ปนฺโถ จ สงฺคาโม ติตฺถํ, อฏฺเเต ปริวชฺชิยา’’’ติ.
อฏฺ มนฺตนสฺส ปริวชฺชนียฏฺานานิ.
อฏฺมนฺตวินาสกปุคฺคลา
‘‘ภนฺเต นาคเสน, อฏฺิเม ปุคฺคลา มนฺติยมานา มนฺติตํ อตฺถํ พฺยาปาเทนฺติ. กตเม อฏฺ? ราคจริโต โทสจริโต โมหจริโต มานจริโต ลุทฺโธ อลโส เอกจินฺตี พาโลติ. อิเม อฏฺ ปุคฺคลา มนฺติตํ อตฺถํ พฺยาปาเทนฺตี’’ติ.
เถโร อาห ‘‘เตสํ โก โทโส’’ติ? ‘‘ราคจริโต, ภนฺเต นาคเสน, ราควเสน มนฺติตํ อตฺถํ พฺยาปาเทติ, โทสจริโต โทสวเสน มนฺติตํ อตฺถํ พฺยาปาเทติ, โมหจริโต โมหวเสน มนฺติตํ อตฺถํ พฺยาปาเทติ, มานจริโต มานวเสน มนฺติตํ อตฺถํ พฺยาปาเทติ, ลุทฺโธ โลภวเสน มนฺติตํ อตฺถํ พฺยาปาเทติ, อลโส อลสตาย มนฺติตํ อตฺถํ พฺยาปาเทติ, เอกจินฺตี เอกจินฺติตาย มนฺติตํ อตฺถํ พฺยาปาเทติ, พาโล พาลตาย มนฺติตํ อตฺถํ พฺยาปาเทติ. ภวตีห –
‘‘‘รตฺโต ทุฏฺโ จ มูฬฺโห จ, มานี ลุทฺโธ ตถาลโส;
เอกจินฺตี จ พาโล จ, เอเต อตฺถวินาสกา’’’ติ.
อฏฺ มนฺตวินาสกปุคฺคลา.
นวคุยฺหมนฺตวิธํสกํ
‘‘ภนฺเต นาคเสน, นวิเม ปุคฺคลา มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรนฺติ น ธาเรนฺติ. กตเม นว? ราคจริโต ¶ โทสจริโต โมหจริโต ภีรุโก อามิสครุโก อิตฺถี โสณฺโฑ ปณฺฑโก ทารโก’’ติ.
เถโร อาห ‘‘เตสํ โก โทโส’’ติ? ‘‘ราคจริโต, ภนฺเต นาคเสน, ราควเสน มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ, โทสจริโต, ภนฺเต ¶ , โทสวเสน มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ, มูฬฺโห โมหวเสน มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ¶ ธาเรติ, ภีรุโก ภยวเสน มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ, อามิสครุโก อามิสเหตุ มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ, อิตฺถี ปฺาย อิตฺตรตาย มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ, โสณฺฑิโก สุราโลลตาย มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ, ปณฺฑโก อเนกํสิกตาย มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ, ทารโก จปลตาย มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ. ภวตีห –
‘‘‘รตฺโต ทุฏฺโ จ มูฬฺโห จ, ภีรุ อามิสครุโก [อามิสจกฺขุโก (สี. ปี.)];
อิตฺถี โสณฺโฑ ปณฺฑโก จ, นวโม ภวติ ทารโก.
‘‘นเวเต ปุคฺคลา โลเก, อิตฺตรา จลิตา จลา;
เอเตหิ มนฺติตํ คุยฺหํ, ขิปฺปํ ภวติ ปากฏ’’’นฺติ.
นว คุยฺหมนฺตวิธํสกา ปุคฺคลา.
อฏฺ ปฺาปฏิลาภการณํ
‘‘ภนฺเต นาคเสน, อฏฺหิ การเณหิ พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ. กตเมหิ อฏฺหิ? วยปริณาเมน พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ, ยสปริณาเมน พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ, ปริปุจฺฉาย พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ, ติตฺถสํวาเสน พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ, โยนิโส มนสิกาเรน พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ, สากจฺฉาย พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ, สฺเนหูปเสวเนน พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ, ปติรูปเทสวาเสน พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ. ภวตีห –
‘‘‘วเยน ¶ ยสปุจฺฉาหิ, ติตฺถวาเสน โยนิโส;
สากจฺฉา สฺเนหสํเสวา, ปติรูปวเสน จ.
‘‘เอตานิ อฏฺ านานิ, พุทฺธิวิสทการณา;
เยสํ เอตานิ สมฺโภนฺติ, เตสํ พุทฺธิ ปภิชฺชตี’’’ติ.
อฏฺ ปฺาปฏิลาภการณานิ.
อาจริยคุณํ
‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, อยํ ภูมิภาโค อฏฺ มนฺตโทสวิวชฺชิโต, อหฺจ โลเก ปรโม มนฺติสหาโย [มนฺตสหาโย (สี.)], คุยฺหมนุรกฺขี จาหํ ยาวาหํ ชีวิสฺสามิ ตาว คุยฺหมนุรกฺขิสฺสามิ, อฏฺหิ จ เม การเณหิ พุทฺธิ ปริณามํ คตา, ทุลฺลโภ เอตรหิ มาทิโส อนฺเตวาสี, สมฺมา ¶ ปฏิปนฺเน อนฺเตวาสิเก เย อาจริยานํ ปฺจวีสติ อาจริยคุณา, เตหิ คุเณหิ อาจริเยน สมฺมา ปฏิปชฺชิตพฺพํ. กตเม ปฺจวีสติ คุณา?
‘‘อิธ, ภนฺเต นาคเสน, อาจริเยน อนฺเตวาสิมฺหิ สตตํ สมิตํ อารกฺขา อุปฏฺเปตพฺพา, อเสวนเสวนา ชานิตพฺพา, ปมตฺตาปฺปมตฺตา ชานิตพฺพา, เสยฺยวกาโส ชานิตพฺโพ, เคลฺํ ชานิตพฺพํ, โภชนสฺส [โภชนียํ (สฺยา.)] ลทฺธาลทฺธํ ชานิตพฺพํ, วิเสโส ชานิตพฺโพ, ปตฺตคตํ สํวิภชิตพฺพํ, อสฺสาสิตพฺโพ ‘มา ภายิ, อตฺโถ เต อภิกฺกมตี’ติ, ‘อิมินา ปุคฺคเลน ปฏิจรตี’ติ [ปฏิจราหีติ (ก.)] ปฏิจาโร ชานิตพฺโพ, คาเม ปฏิจาโร ชานิตพฺโพ, วิหาเร ปฏิจาโร ชานิตพฺโพ, น เตน หาโส ทโว กาตพฺโพ [น เตน สห สลฺลาโป กาตพฺโพ (สี. ปี.)], เตน สห อาลาโป กาตพฺโพ, ฉิทฺทํ ทิสฺวา อธิวาเสตพฺพํ, สกฺกจฺจการินา ภวิตพฺพํ, อขณฺฑการินา ภวิตพฺพํ, อรหสฺสการินา ภวิตพฺพํ, นิรวเสสการินา ภวิตพฺพํ, ‘ชเนมิมํ [ชาเนมิมํ (สฺยา.)] สิปฺเปสู’ติ ชนกจิตฺตํ อุปฏฺเปตพฺพํ, ‘กถํ อยํ น ปริหาเยยฺยา’ติ วฑฺฒิจิตฺตํ อุปฏฺเปตพฺพํ, ‘พลวํ อิมํ กโรมิ สิกฺขาพเลนา’ติ จิตฺตํ อุปฏฺเปตพฺพํ, เมตฺตจิตฺตํ อุปฏฺเปตพฺพํ, อาปทาสุ น วิชหิตพฺพํ, กรณีเย นปฺปมชฺชิตพฺพํ, ขลิเต ธมฺเมน ปคฺคเหตพฺโพติ. อิเม โข, ภนฺเต, ปฺจวีสติ อาจริยสฺส อาจริยคุณา, เตหิ คุเณหิ มยิ สมฺมา ปฏิปชฺชสฺสุ, สํสโย เม, ภนฺเต, อุปฺปนฺโน, อตฺถิ เมณฺฑกปฺหา ชินภาสิตา ¶ , อนาคเต อทฺธาเน ตตฺถ วิคฺคโห อุปฺปชฺชิสฺสติ, อนาคเต จ อทฺธาเน ทุลฺลภา ภวิสฺสนฺติ ตุมฺหาทิสา พุทฺธิมนฺโต, เตสุ เม ปฺเหสุ จกฺขุํ เทหิ ปรวาทานํ นิคฺคหายา’’ติ.
อุปาสกคุณํ
เถโร ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ทส อุปาสกสฺส อุปาสกคุเณ ปริทีเปสิ. ‘‘ทส อิเม, มหาราช, อุปาสกสฺส อุปาสกคุณา. กตเม ทส ¶ , อิธ, มหาราช, อุปาสโก สงฺเฆน สมานสุขทุกฺโข โหติ, ธมฺมาธิปเตยฺโย โหติ, ยถาพลํ สํวิภาครโต โหติ, ชินสาสนปริหานึ ทิสฺวา อภิวฑฺฒิยา วายมติ. สมฺมาทิฏฺิโก โหติ, อปคตโกตูหลมงฺคลิโก ชีวิตเหตุปิ น อฺํ สตฺถารํ อุทฺทิสติ, กายิกวาจสิกฺจสฺส รกฺขิตํ โหติ, สมคฺคาราโม โหติ สมคฺครโต, อนุสูยโก โหติ, น จ กุหนวเสน ¶ สาสเน จรติ, พุทฺธํ สรณํ คโต โหติ, ธมฺมํ สรณํ คโต โหติ, สงฺฆํ สรณํ คโต โหติ. อิเม โข, มหาราช, ทส อุปาสกสฺส อุปาสกคุณา, เต สพฺเพ คุณา ตยิ สํวิชฺชนฺติ, ตํ เต ยุตฺตํ ปตฺตํ อนุจฺฉวิกํ ปติรูปํ ยํ ตฺวํ ชินสาสนปริหานึ ทิสฺวา อภิวฑฺฒึ อิจฺฉสิ, กโรมิ เต โอกาสํ, ปุจฺฉ มํ ตฺวํ ยถาสุข’’นฺติ.
เมณฺฑกปฺหารมฺภกถา นิฏฺิตา.
๔. เมณฺฑกปฺโห
๑. อิทฺธิพลวคฺโค
๑. กตาธิการสผลปฺโห
๑. อถ ¶ ¶ โข มิลินฺโท ราชา กตาวกาโส นิปจฺจ ครุโน ปาเท สิรสิ อฺชลึ กตฺวา เอตทโวจ ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อิเม ติตฺถิยา เอวํ ภณนฺติ [วฺโจ ภวติ อผโล (สี. ปี. ก.)] ‘ยทิ พุทฺโธ ปูชํ สาทิยติ, น ปรินิพฺพุโต พุทฺโธ สํยุตฺโต โลเกน อนฺโตภวิโก โลกสฺมึ โลกสาธารโณ, ตสฺมา ตสฺส กโต อธิกาโร อวฺโฌ ภวติ สผโล. ยทิ ปรินิพฺพุโต วิสํยุตฺโต โลเกน นิสฺสโฏ สพฺพภเวหิ, ตสฺส ปูชา นุปฺปชฺชติ, ปรินิพฺพุโต น กิฺจิ สาทิยติ, อสาทิยนฺตสฺส กโต อธิกาโร วฺโฌ ภวติ อผโล’ติ อุภโต โกฏิโก เอโส ปฺโห, เนโส วิสโย อปฺปตฺตมานสานํ, มหนฺตานํ เยเวโส วิสโย, ภินฺเทตํ ทิฏฺิชาลํ เอกํเส ปย, ตเวโส ปฺโห อนุปฺปตฺโต, อนาคตานํ ชินปุตฺตานํ จกฺขุํ เทหิ ปรวาทนิคฺคหายา’’ติ.
เถโร อาห ‘‘ปรินิพฺพุโต, มหาราช, ภควา, น จ ภควา ปูชํ สาทิยติ, โพธิมูเล เยว ตถาคตสฺส สาทิยนา ปหีนา, กึ ปน อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุตสฺส. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘ปูชิยนฺตา [ปูชิตา (สฺยา.)] อสมสมา, สเทวมานุเสหิ เต;
น สาทิยนฺติ สกฺการํ, พุทฺธานํ เอส ธมฺมตา’’’ติ.
ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ปุตฺโต วา ปิตุโน วณฺณํ ภาสติ, ปิตา วา ปุตฺตสฺส วณฺณํ ¶ ภาสติ, น เจตํ การณํ ปรวาทานํ นิคฺคหาย, ปสาทปฺปกาสนํ นาเมตํ, อิงฺฆ เม ตฺวํ ตตฺถ การณํ สมฺมา พฺรูหิ สกวาทสฺส ¶ ปติฏฺาปนาย ทิฏฺิชาลวินิเวนายา’’ติ.
เถโร อาห ‘‘ปรินิพฺพุโต, มหาราช, ภควา, น จ ภควา ปูชํ สาทิยติ, อสาทิยนฺตสฺเสว ตถาคตสฺส เทวมนุสฺสา ธาตุรตนํ วตฺถุํ กริตฺวา ตถาคตสฺส าณรตนารมฺมเณน สมฺมาปฏิปตฺตึ เสวนฺตา ติสฺโส สมฺปตฺติโย ปฏิลภนฺติ.
‘‘ยถา ¶ , มหาราช, มหติมหาอคฺคิกฺขนฺโธ ปชฺชลิตฺวา นิพฺพาเยยฺย, อปิ นุ โข โส, มหาราช, มหาอคฺคิกฺขนฺโธ สาทิยติ ติณกฏฺุปาทาน’’นฺติ? ‘‘ชลมาโนปิ โส, ภนฺเต, มหาอคฺคิกฺขนฺโธ ติณกฏฺุปาทานํ น สาทิยติ, กึ ปน นิพฺพุโต อุปสนฺโต อเจตโน สาทิยติ? ‘‘ตสฺมึ ปน, มหาราช, อคฺคิกฺขนฺเธ อุปรเต อุปสนฺเต โลเก อคฺคิ สฺุโ โหตี’’ติ. ‘‘น หิ, ภนฺเต, กฏฺํ อคฺคิสฺส วตฺถุ โหติ อุปาทานํ, เย เกจิ มนุสฺสา อคฺคิกามา, เต อตฺตโน ถามพลวีริเยน ปจฺจตฺตปุริสกาเรน กฏฺํ มนฺถยิตฺวา [มทฺทิตฺวา (ก.)] อคฺคึ นิพฺพตฺเตตฺวา เตน อคฺคินา อคฺคิกรณียานิ กมฺมานิ กโรนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, ติตฺถิยานํ วจนํ มิจฺฉา ภวติ ‘อสาทิยนฺตสฺส กโต อธิกาโร วฺโฌ ภวติ อผโล’ติ.
‘‘ยถา, มหาราช, มหติมหาอคฺคิกฺขนฺโธ ปชฺชลิ, เอวเมว ภควา ทสสหสฺสิยา [ทสสหสฺสิมฺหิ (สี. ปี. ก.)] โลกธาตุยา พุทฺธสิริยา ปชฺชลิ. ยถา, มหาราช, มหติมหาอคฺคิกฺขนฺโธ ปชฺชลิตฺวา นิพฺพุโต, เอวเมว ภควา ทสสหสฺสิยา โลกธาตุยา พุทฺธสิริยา ปชฺชลิตฺวา อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุโต. ยถา, มหาราช, นิพฺพุโต อคฺคิกฺขนฺโธ ติณกฏฺุปาทานํ น สาทิยติ, เอวเมว โข โลกหิตสฺส สาทิยนา ปหีนา อุปสนฺตา. ยถา, มหาราช, มนุสฺสา นิพฺพุเต อคฺคิกฺขนฺเธ อนุปาทาเน อตฺตโน ถามพลวีริเยน ปจฺจตฺตปุริสกาเรน กฏฺํ มนฺถยิตฺวา อคฺคึ นิพฺพตฺเตตฺวา เตน อคฺคินา อคฺคิกรณียานิ กมฺมานิ กโรนฺติ, เอวเมว โข เทวมนุสฺสา ตถาคตสฺส ปรินิพฺพุตสฺส อสาทิยนฺตสฺเสว ธาตุรตนํ วตฺถุํ กริตฺวา ตถาคตสฺส าณรตนารมฺมเณน ¶ สมฺมาปฏิปตฺตึ เสวนฺตา ติสฺโส สมฺปตฺติโย ปฏิลภนฺติ, อิมินาปิ, มหาราช, การเณน ตถาคตสฺส ปรินิพฺพุตสฺส อสาทิยนฺตสฺเสว กโต อธิกาโร อวฺโฌ ภวติ สผโล.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ เยน การเณน ตถาคตสฺส ปรินิพฺพุตสฺส อสาทิยนฺตสฺเสว ¶ กโต อธิกาโร อวฺโฌ ภวติ สผโล. ยถา, มหาราช, มหติมหาวาโต วายิตฺวา อุปรเมยฺย, อปิ นุ โข โส, มหาราช, อุปรโต วาโต สาทิยติ ปุน นิพฺพตฺตาปน’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, อุปรตสฺส วาตสฺส อาโภโค วา ¶ มนสิกาโร วา ปุน นิพฺพตฺตาปนาย’’. ‘‘กึ การณํ’’? ‘‘อเจตนา สา วาโยธาตู’’ติ. ‘‘อปิ นุ ตสฺส, มหาราช, อุปรตสฺส วาตสฺส วาโตติ สมฺา อปคจฺฉตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ตาลวณฺฏวิธูปนานิ วาตสฺส อุปฺปตฺติยา ปจฺจยา, เย เกจิ มนุสฺสา อุณฺหาภิตตฺตา ปริฬาหปริปีฬิตา, เต ตาลวณฺเฏน วา วิธูปเนน วา อตฺตโน ถามพลวีริเยน ปจฺจตฺตปุริสกาเรน ตํ นิพฺพตฺเตตฺวา เตน วาเตน อุณฺหํ นิพฺพาเปนฺติ ปริฬาหํ วูปสเมนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, ติตฺถิยานํ วจนํ มิจฺฉา ภวติ ‘อสาทิยนฺตสฺส กโต อธิกาโร วฺโฌ ภวติ อผโล’ติ.
‘‘ยถา, มหาราช, มหติมหาวาโต วายิ, เอวเมว ภควา ทสสหสฺสิยา โลกธาตุยา สีตลมธุรสนฺตสุขุมเมตฺตาวาเตน อุปวายิ. ยถา, มหาราช, มหติมหาวาโต วายิตฺวา อุปรโต, เอวเมว ภควา สีตลมธุรสนฺตสุขุมเมตฺตาวาเตน อุปวายิตฺวา อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุโต. ยถา, มหาราช, อุปรโต วาโต ปุน นิพฺพตฺตาปนํ น สาทิยติ, เอวเมว โลกหิตสฺส สาทิยนา ปหีนา อุปสนฺตา. ยถา, มหาราช, เต มนุสฺสา อุณฺหาภิตตฺตา ปริฬาหปริปีฬิตา, เอวเมว เทวมนุสฺสา ติวิธคฺคิสนฺตาปปริฬาหปริปีฬิตา. ยถา ตาลวณฺฏวิธูปนานิ วาตสฺส นิพฺพตฺติยา ปจฺจยา โหนฺติ, เอวเมว ตถาคตสฺส ธาตุ จ าณรตนฺจ ปจฺจโย โหติ ติสฺสนฺนํ สมฺปตฺตีนํ ¶ ปฏิลาภาย. ยถา มนุสฺสา อุณฺหาภิตตฺตา ปริฬาหปริปีฬิตา ตาลวณฺเฏน วา วิธูปเนน วา วาตํ นิพฺพตฺเตตฺวา อุณฺหํ นิพฺพาเปนฺติ ปริฬาหํ วูปสเมนฺติ, เอวเมว เทวมนุสฺสา ตถาคตสฺส ปรินิพฺพุตสฺส อสาทิยนฺตสฺเสว ธาตฺุจ าณรตนฺจ ปูเชตฺวา กุสลํ นิพฺพตฺเตตฺวา เตน กุสเลน ติวิธคฺคิสนฺตาปปริฬาหํ นิพฺพาเปนฺติ วูปสเมนฺติ. อิมินาปิ, มหาราช, การเณน ตถาคตสฺส ปรินิพฺพุตสฺส อสาทิยนฺตสฺเสว กโต อธิกาโร อวฺโฌ ภวติ สผโลติ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ ปรวาทานํ นิคฺคหาย. ยถา, มหาราช, ปุริโส เภรึ อาโกเฏตฺวา สทฺทํ นิพฺพตฺเตยฺย, โย โส เภริสทฺโท ปุริเสน นิพฺพตฺติโต, โส สทฺโท อนฺตรธาเยยฺย, อปิ นุ โข โส, มหาราช, สทฺโท สาทิยติ ปุน นิพฺพตฺตาปน’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, อนฺตรหิโต โส สทฺโท, นตฺถิ ตสฺส ปุน อุปฺปาทาย อาโภโค ¶ วา มนสิกาโร วา, สกึ นิพฺพตฺเต เภริสทฺเท อนฺตรหิเต โส เภริสทฺโท สมุจฺฉินฺโน โหติ. เภรี ปน, ภนฺเต, ปจฺจโย ¶ โหติ สทฺทสฺส นิพฺพตฺติยา, อถ ปุริโส ปจฺจเย สติ อตฺตเชน วายาเมน เภรึ อโกเฏตฺวา สทฺทํ นิพฺพตฺเตตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ภควา สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนปริภาวิตํ ธาตุรตนฺจ ธมฺมฺจ วินยฺจ อนุสิฏฺฺจ [อนุสตฺถิฺจ (สี. ปี.)] สตฺถารํ ปยิตฺวา สยํ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุโต, น จ ปรินิพฺพุเต ภควติ สมฺปตฺติลาโภ อุปจฺฉินฺโน โหติ, ภวทุกฺขปฏิปีฬิตา สตฺตา ธาตุรตนฺจ ธมฺมฺจ วินยฺจ อนุสิฏฺฺจ ปจฺจยํ กริตฺวา สมฺปตฺติกามา สมฺปตฺติโย ปฏิลภนฺติ, อิมินาปิ, มหาราช, การเณน ตถาคตสฺส ปรินิพฺพุตสฺส อสาทิยนฺตสฺเสว กโต อธิกาโร อวฺโฌ ภวติ สผโลติ.
‘‘ทิฏฺฺเจตํ, มหาราช, ภควตา อนาคตมทฺธานํ. กถิตฺจ ภณิตฺจ อาจิกฺขิตฺจ ‘สิยา โข ปนานนฺท, ตุมฺหากํ เอวมสฺส อตีตสตฺถุกํ ¶ ปาวจนํ นตฺถิ โน สตฺถาติ, น โข ปเนตํ, อานนฺท, เอวํ ทฏฺพฺพํ, โย โว, อานนฺท, มยา ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต ปฺตฺโต, โส โว มมจฺจเยน สตฺถา’ติ. ปรินิพฺพุตสฺส ตถาคตสฺส อสาทิยนฺตสฺส กโต อธิกาโร วฺโฌ ภวติ อผโลติ, ตํ เตสํ ติตฺถิยานํ วจนํ มิจฺฉา อภูตํ วิตถํ อลิกํ วิรุทฺธํ วิปรีตํ ทุกฺขทายกํ ทุกฺขวิปากํ อปายคมนียนฺติ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ เยน การเณน ตถาคตสฺส ปรินิพฺพุตสฺส อสาทิยนฺตสฺเสว กโต อธิกาโร อวฺโฌ ภวติ สผโล. สาทิยติ นุ โข, มหาราช, อยํ มหาปถวี ‘สพฺพพีชานิ มยิ สํวิรุหนฺตู’’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน ตานิ, มหาราช, พีชานิ อสาทิยนฺติยา มหาปถวิยา สํวิรุหิตฺวา ทฬฺหมูลชฏาปติฏฺิตา ขนฺธสารสาขาปริวิตฺถิณฺณา ปุปฺผผลธรา โหนฺตี’’ติ? ‘‘อสาทิยนฺตีปิ, ภนฺเต, มหาปถวี เตสํ พีชานํ วตฺถุํ โหติ ปจฺจยํ เทติ วิรุหนาย, ตานิ พีชานิ ตํ วตฺถุํ นิสฺสาย เตน ปจฺจเยน สํวิรุหิตฺวา ทฬฺหมูลชฏาปติฏฺิตา ขนฺธสารสาขาปริวิตฺถิณฺณา ปุปฺผผลธรา โหนฺตี’’ติ. ‘‘เตน ¶ หิ, มหาราช, ติตฺถิยา สเก วาเท นฏฺา โหนฺติ หตา วิรุทฺธา, สเจ เต ภณนฺติ ‘อสาทิยนฺตสฺส กโต อธิกาโร วฺโฌ ภวติ อผโล’ ติ.
‘‘ยถา, มหาราช, มหาปถวี, เอวํ ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. ยถา, มหาราช, มหาปถวี น กิฺจิ สาทิยติ, เอวํ ตถาคโต น กิฺจิ สาทิยติ. ยถา, มหาราช, ตานิ พีชานิ ปถวึ นิสฺสาย สํวิรุหิตฺวา ทฬฺหมูลชฏาปติฏฺิตา ขนฺธสารสาขาปริวิตฺถิณฺณา ปุปฺผผลธรา โหนฺติ, เอวํ เทวมนุสฺสา ตถาคตสฺส ปรินิพฺพุตสฺส อสาทิยนฺตสฺเสว ธาตฺุจ าณรตนฺจ นิสฺสาย ทฬฺหกุสลมูลปติฏฺิตา สมาธิกฺขนฺธธมฺมสารสีลสาขาปริวิตฺถิณฺณา ¶ วิมุตฺติปุปฺผสามฺผลธรา โหนฺติ, อิมินาปิ, มหาราช ¶ , การเณน ตถาคตสฺส ปรินิพฺพุตสฺส อสาทิยนฺตสฺเสว กโต อธิกาโร อวฺโฌ ภวติ สผโลติ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ เยน การเณน ตถาคตสฺส ปรินิพฺพุตสฺส อสาทิยนฺตสฺเสว กโต อธิกาโร อวฺโฌ ภวติ สผโล. สาทิยนฺติ นุ โข, มหาราช, อิเม โอฏฺา โคณา คทฺรภา อชา ปสู มนุสฺสา อนฺโตกุจฺฉิสฺมึ กิมิกุลานํ สมฺภว’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน เต, มหาราช, กิมโย เตสํ อสาทิยนฺตานํ อนฺโตกุจฺฉิสฺมึ สมฺภวิตฺวา พหุปุตฺตนตฺตา เวปุลฺลตํ ปาปุณนฺตี’’ติ? ‘‘ปาปสฺส, ภนฺเต, กมฺมสฺส พลวตาย อสาทิยนฺตานํ เยว เตสํ สตฺตานํ อนฺโตกุจฺฉิสฺมึ กิมโย สมฺภวิตฺวา พหุปุตฺตนตฺตา เวปุลฺลตํ ปาปุณนฺตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคตสฺส ปรินิพฺพุตสฺส อสาทิยนฺตสฺเสว ธาตุสฺส จ าณารมฺมณสฺส จ พลวตาย ตถาคเต กโต อธิกาโร อวฺโฌ ภวติ สผโลติ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ เยน การเณน ตถาคตสฺส ปรินิพฺพุตสฺส อสาทิยนฺตสฺเสว กโต อธิกาโร อวฺโฌ ภวติ สผโล. สาทิยนฺติ นุ โข, มหาราช, อิเม มนุสฺสา อิเม อฏฺนวุติ โรคา กาเย นิพฺพตฺตนฺตู’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน เต, มหาราช, โรคา อสาทิยนฺตานํ กาเย นิปตนฺตี’’ติ? ‘‘ปุพฺเพ กเตน, ภนฺเต, ทุจฺจริเตนา’’ติ. ‘‘ยทิ, มหาราช, ปุพฺเพ กตํ อกุสลํ อิธ ¶ เวทนียํ โหติ, เตน หิ, มหาราช, ปุพฺเพ กตมฺปิ อิธ กตมฺปิ กุสลากุสลํ กมฺมํ อวฺฌํ ภวติ สผลนฺติ. อิมินาปิ, มหาราช, การเณน ตถาคตสฺส ปรินิพฺพุตสฺส อสาทิยนฺตสฺเสว กโต อธิกาโร อวฺโฌ ภวติ สผโลติ.
‘‘สุตปุพฺพํ ปน ตยา, มหาราช, นนฺทโก นาม ยกฺโข เถรํ สาริปุตฺตํ อาสาทยิตฺวา ปถวึ ปวิฏฺโ’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สุยฺยติ, โลเก ปากโฏ เอโส’’ติ. ‘‘อปิ นุ โข, มหาราช, เถโร สาริปุตฺโต สาทิยิ นนฺทกสฺส ยกฺขสฺส มหาปถวิคิลน’’นฺติ ¶ [ปวตฺตมาเนปิ (สฺยา.)]. ‘‘อุพฺพตฺติยนฺเตปิ, ภนฺเต, สเทวเก โลเก ปตมาเนปิ ฉมายํ จนฺทิมสูริเย วิกิรนฺเตปิ สิเนรุปพฺพตราเช เถโร สาริปุตฺโต น ปรสฺส ทุกฺขํ สาทิเยยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? เยน เหตุนา เถโร สาริปุตฺโต กุชฺเฌยฺย วา ทุสฺเสยฺย วา, โส เหตุ เถรสฺส สาริปุตฺตสฺส สมูหโต สมุจฺฉินฺโน, เหตุโน สมุคฺฆาติตตฺตา, ภนฺเต, เถโร สาริปุตฺโต ชีวิตหารเกปิ โกปํ น กเรยฺยา’’ติ. ‘‘ยทิ, มหาราช ¶ , เถโร สาริปุตฺโต นนฺทกสฺส ยกฺขสฺส ปถวิคิลนํ น สาทิยิ, กิสฺส ปน นนฺทโก ยกฺโข ปถวึ ปวิฏฺโ’’ติ? ‘‘อกุสลสฺส, ภนฺเต, กมฺมสฺส พลวตายา’’ติ. ‘‘ยทิ, มหาราช, อกุสลสฺส กมฺมสฺส พลวตาย นนฺทโก ยกฺโข ปถวึ ปวิฏฺโ, อสาทิยนฺตสฺสาปิ กโต อปราโธ อวฺโฌ ภวติ สผโล. เตน หิ, มหาราช, อกุสลสฺสปิ กมฺมสฺส พลวตาย อสาทิยนฺตสฺส กโต อธิกาโร อวฺโฌ ภวติ สผโลติ. อิมินาปิ, มหาราช, การเณน ตถาคตสฺส ปรินิพฺพุตสฺส อสาทิยนฺตสฺเสว กโต อธิกาโร อวฺโฌ ภวติ สผโลติ.
‘‘กติ นุ โข เต, มหาราช, มนุสฺสา, เย เอตรหิ มหาปถวึ ปวิฏฺา, อตฺถิ เต ตตฺถ สวณ’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สุยฺยตี’’ติ. ‘‘อิงฺฆ ตฺวํ, มหาราช, สาเวหี’’ติ? ‘‘จิฺจมาณวิกา, ภนฺเต, สุปฺปพุทฺโธ จ สกฺโก, เทวทตฺโต จ เถโร, นนฺทโก จ ยกฺโข, นนฺโท จ มาณวโกติ. สุตเมตํ, ภนฺเต, อิเม ปฺจ ชนา มหาปถวึ ปวิฏฺา’’ติ. ‘‘กิสฺมึ เต, มหาราช, อปรทฺธา’’ติ? ‘‘ภควติ จ, ภนฺเต, สาวเกสุ จา’’ติ. ‘‘อปิ นุ โข, มหาราช ¶ , ภควา วา สาวกา วา สาทิยึสุ อิเมสํ มหาปถวิปวิสน’’นฺติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, ตถาคตสฺส ปรินิพฺพุตสฺส อสาทิยนฺตสฺเสว กโต อธิกาโร อวฺโฌ ภวติ สผโล’’ติ. ‘‘สุวิฺาปิโต, ภนฺเต นาคเสน, ปฺโห คมฺภีโร อุตฺตานีกโต, คุยฺหํ วิทํสิตํ ¶ , คณฺิ ภินฺโน, คหนํ อคหนํ กตํ, นฏฺา ปรวาทา, ภคฺคา กุทิฏฺี, นิปฺปภา ชาตา กุติตฺถิยา, ตฺวํ คณีวรปวรมาสชฺชา’’ติ.
กตาธิการสผลปฺโห ปโม.
๒. สพฺพฺุภาวปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, พุทฺโธ สพฺพฺู’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ภควา สพฺพฺู, น จ ภควโต สตตํ สมิตํ าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิตํ, อาวชฺชนปฏิพทฺธํ ภควโต สพฺพฺุตาณํ, อาวชฺชิตฺวา ยทิจฺฉกํ ชานาตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, พุทฺโธ อสพฺพฺูติ. ยทิ ตสฺส ปริเยสนาย สพฺพฺุตาณํ โหตี’’ติ. ‘‘วาหสตํ โข, มหาราช, วีหีนํ อฑฺฒจูฬฺจ วาหา วีหิสตฺตมฺพณานิ ทฺเว จ ตุมฺพา เอกจฺฉรากฺขเณ ปวตฺตจิตฺตสฺส เอตฺตกา วีหี ลกฺขํ ปียมานา [ปียมาเน (สี. ปี.)] ปริกฺขยํ ปริยาทานํ คจฺเฉยฺยุํ?
‘‘ตตฺริเม ¶ สตฺตวิธา จิตฺตา ปวตฺตนฺติ, เย เต, มหาราช, สราคา สโทสา สโมหา สกิเลสา อภาวิตกายา อภาวิตสีลา อภาวิตจิตฺตา อภาวิตปฺา, เตสํ ตํ จิตฺตํ ครุกํ อุปฺปชฺชติ ทนฺธํ ปวตฺตติ. กึ การณา? อภาวิตตฺตา จิตฺตสฺส. ยถา, มหาราช, วํสนาฬสฺส วิตตสฺส วิสาลสฺส วิตฺถิณฺณสฺส สํสิพฺพิตวิสิพฺพิตสฺส สาขาชฏาชฏิตสฺส อากฑฺฒิยนฺตสฺส ครุกํ โหติ อาคมนํ ทนฺธํ. กึ การณา? สํสิพฺพิตวิสิพฺพิตตฺตา สาขานํ. เอวเมว โข, มหาราช, เย เต สราคา สโทสา สโมหา สกิเลสา อภาวิตกายา อภาวิตสีลา อภาวิตจิตฺตา อภาวิตปฺา, เตสํ ตํ จิตฺตํ ครุกํ อุปฺปชฺชติ ทนฺธํ ปวตฺตติ. กึ การณา? สํสิพฺพิตวิสิพฺพิตตฺตา กิเลเสหิ, อิทํ ปมํ จิตฺตํ.
‘‘ตตฺริทํ ทุติยํ จิตฺตํ วิภตฺตมาปชฺชติ – เย เต, มหาราช, โสตาปนฺนา ปิหิตาปายา ทิฏฺิปฺปตฺตา วิฺาตสตฺถุสาสนา, เตสํ ตํ จิตฺตํ ตีสุ ¶ าเนสุ ลหุกํ อุปฺปชฺชติ ¶ ลหุกํ ปวตฺตติ. อุปริภูมีสุ ครุกํ อุปฺปชฺชติ ทนฺธํ ปวตฺตติ. กึ การณา? ตีสุ าเนสุ จิตฺตสฺส ปริสุทฺธตฺตา อุปริ กิเลสานํ อปฺปหีนตฺตา. ยถา, มหาราช, วํสนาฬสฺส ติปพฺพคณฺิปริสุทฺธสฺส อุปริ สาขาชฏาชฏิตสฺส อากฑฺฒิยนฺตสฺส ยาว ติปพฺพํ ตาว ลหุกํ เอติ, ตโต อุปริ ถทฺธํ. กึ การณา? เหฏฺา ปริสุทฺธตฺตา อุปริ สาขาชฏาชฏิตตฺตา. เอวเมว โข, มหาราช, เย เต โสตาปนฺนา ปิหิตาปายา ทิฏฺิปฺปตฺตา วิฺาตสตฺถุสาสนา, เตสํ ตํ จิตฺตํ ตีสุ าเนสุ ลหุกํ อุปฺปชฺชติ ลหุกํ ปวตฺตติ, อุปริภูมีสุ ครุกํ อุปฺปชฺชติ ทนฺธํ ปวตฺตติ. กึ การณา? ตีสุ าเนสุ จิตฺตสฺส ปริสุทฺธตฺตา อุปริ กิเลสานํ อปฺปหีนตฺตา, อิทํ ทุติยํ จิตฺตํ.
‘‘ตตฺริทํ ตติยํ จิตฺตํ วิภตฺตมาปชฺชติ – เย เต, มหาราช, สกทาคามิโน, เยสํ ราคโทสโมหา ตนุภูตา, เตสํ ตํ จิตฺตํ ปฺจสุ าเนสุ ลหุกํ อุปฺปชฺชติ ลหุกํ ปวตฺตติ, อุปริภูมีสุ ครุกํ อุปฺปชฺชติ ทนฺธํ ปวตฺตติ. กึ การณา? ปฺจสุ าเนสุ จิตฺตสฺส ปริสุทฺธตฺตา อุปริ กิเลสานํ อปฺปหีนตฺตา. ยถา, มหาราช, วํสนาฬสฺส ปฺจปพฺพคณฺิปริสุทฺธสฺส อุปริ สาขาชฏาชฏิตสฺส อากฑฺฒิยนฺตสฺส ยาว ปฺจปพฺพํ ตาว ลหุกํ เอติ, ตโต อุปริ ถทฺธํ. กึ การณา? เหฏฺา ปริสุทฺธตฺตา อุปริ สาขาชฏาชฏิตตฺตา. เอวเมว โข, มหาราช, เย เต สกทาคามิโน, เยสํ ราคโทสโมหา ตนุภูตา, เตสํ ตํ จิตฺตํ ปฺจสุ าเนสุ ลหุกํ อุปฺปชฺชติ ลหุกํ ปวตฺตติ, อุปริภูมีสุ ครุกํ อุปฺปชฺชติ ทนฺธํ ปวตฺตติ. กึ การณา? ปฺจสุ าเนสุ จิตฺตสฺส ปริสุทฺธตฺตา อุปริ กิเลสานํ อปฺปหีนตฺตา, อิทํ ตติยํ จิตฺตํ.
‘‘ตตฺริทํ ¶ จตุตฺถํ จิตฺตํ วิภตฺตมาปชฺชติ – เย เต, มหาราช, อนาคามิโน, เยสํ ปฺโจรมฺภาคิยานิ สฺโชนานิ ปหีนานิ, เตสํ ตํ จิตฺตํ ทสสุ าเนสุ ลหุกํ ¶ อุปฺปชฺชติ ลหุกํ ปวตฺตติ, อุปริภูมีสุ ครุกํ อุปฺปชฺชติ ทนฺธํ ปวตฺตติ. กึ การณา? ทสสุ าเนสุ จิตฺตสฺส ปริสุทฺธตฺตา อุปริ กิเลสานํ อปฺปหีนตฺตา. ยถา, มหาราช, วํสนาฬสฺส ทสปพฺพคณฺิปริสุทฺธสฺส อุปริ สาขาชฏาชฏิตสฺส อากฑฺฒิยนฺตสฺส ยาว ทสปพฺพํ ตาว ลหุกํ เอติ, ตโต อุปริ ถทฺธํ. กึ การณา? เหฏฺา ปริสุทฺธตฺตา อุปริ สาขาชฏาชฏิตตฺตา. เอวเมว โข, มหาราช, เย เต อนาคามิโน, เยสํ ปฺโจรมฺภาคิยานิ สฺโชนานิ ปหีนานิ, เตสํ ตํ ¶ จิตฺตํ ทสสุ าเนสุ ลหุกํ อุปฺปชฺชติ ลหุกํ ปวตฺตติ, อุปริภูมีสุ ครุกํ อุปฺปชฺชติ ทนฺธํ ปวตฺตติ. กึ การณา? ทสสุ าเนสุ จิตฺตสฺส ปริสุทฺธตฺตา อุปริ กิเลสานํ อปฺปหีนตฺตา, อิทํ จตุตฺถํ จิตฺตํ.
‘‘ตตฺริทํ ปฺจมํ จิตฺตํ วิภตฺตมาปชฺชติ – เย เต, มหาราช, อรหนฺโต ขีณาสวา โธตมลา วนฺตกิเลสา วุสิตวนฺโต กตกรณียา โอหิตภารา อนุปฺปตฺตสทตฺถา ปริกฺขีณภวสฺโชนา ปตฺตปฏิสมฺภิทา สาวกภูมีสุ ปริสุทฺธา, เตสํ ตํ จิตฺตํ สาวกวิสเย ลหุกํ อุปฺปชฺชติ ลหุกํ ปวตฺตติ, ปจฺเจกพุทฺธภูมีสุ ครุกํ อุปฺปชฺชติ ทนฺธํ ปวตฺตติ. กึ การณา? ปริสุทฺธตฺตา สาวกวิสเย, อปริสุทฺธตฺตา ปจฺเจกพุทฺธวิสเย. ยถา, มหาราช, วํสนาฬสฺส สพฺพปพฺพคณฺิปริสุทฺธสฺส อากฑฺฒิยนฺตสฺส ลหุกํ โหติ อาคมนํ อทนฺธํ. กึ การณา? สพฺพปพฺพคณฺิปริสุทฺธตฺตา อคหนตฺตา วํสสฺส. เอวเมว โข, มหาราช, เย เต อรหนฺโต ขีณาสวา โธตมลา วนฺตกิเลสา วุสิตวนฺโต กตกรณียา โอหิตภารา อนุปฺปตฺตสทตฺถา ปริกฺขีณภวสฺโชนา ปตฺตปฏิสมฺภิทา สาวกภูมีสุ ปริสุทฺธา, เตสํ ตํ จิตฺตํ สาวกวิสเย ลหุกํ อุปฺปชฺชติ ลหุกํ ปวตฺตติ, ปจฺเจกพุทฺธภูมีสุ ครุกํ อุปฺปชฺชติ ทนฺธํ ปวตฺตติ. กึ การณา? ปริสุทฺธตฺตา สาวกวิสเย, อปริสุทฺธตฺตา ปจฺเจกพุทฺธวิสเย, อิทํ ปฺจมํ จิตฺตํ.
‘‘ตตฺริทํ ¶ ฉฏฺํ จิตฺตํ วิภตฺตมาปชฺชติ – เย เต, มหาราช, ปจฺเจกพุทฺธา สยมฺภุโน อนาจริยกา เอกจาริโน ขคฺควิสาณกปฺปา สกวิสเย ปริสุทฺธวิมลจิตฺตา, เตสํ ตํ จิตฺตํ สกวิสเย ลหุกํ อุปฺปชฺชติ ลหุกํ ปวตฺตติ, สพฺพฺุพุทฺธภูมีสุ ครุกํ อุปฺปชฺชติ ทนฺธํ ปวตฺตติ. กึ การณา? ปริสุทฺธตฺตา สกวิสเย มหนฺตตฺตา สพฺพฺุพุทฺธวิสยสฺส. ยถา, มหาราช, ปุริโส สกวิสยํ ปริตฺตํ นทึ รตฺติมฺปิ ทิวาปิ ยทิจฺฉก อจฺฉมฺภิโต โอตเรยฺย, อถ ปรโต มหาสมุทฺทํ คมฺภีรํ วิตฺถตํ อคาธมปารํ ทิสฺวา ภาเยยฺย, ทนฺธาเยยฺย น วิสเหยฺย ¶ โอตริตุํ. กึ การณา? ติณฺณตฺตา [จิณฺณตฺตา (สี. สฺยา. ปี.)] สกวิสยสฺส, มหนฺตตฺตา จ มหาสมุทฺทสฺส. เอวเมว โข, มหาราช, เย เต ปจฺเจกพุทฺธา สยมฺภุโน อนาจริยกา เอกจาริโน ขคฺควิสาณกปฺปา สกวิสเย ปริสุทฺธวิมลจิตฺตา, เตสํ ¶ ตํ จิตฺตํ สกวิสเย ลหุกํ อุปฺปชฺชติ ลหุกํ ปวตฺตติ, สพฺพฺุพุทฺธภูมีสุ ครุกํ อุปฺปชฺชติ ทนฺธํ ปวตฺตติ. กึ การณา? ปริสุทฺธตฺตา สกวิสเย มหนฺตตฺตา สพฺพฺุพุทฺธวิสยสฺส, อิทํ ฉฏฺํ จิตฺตํ.
‘‘ตตฺริทํ สตฺตมํ จิตฺตํ วิภตฺตมาปชฺชติ – เย เต, มหาราช, สมฺมาสมฺพุทฺธา สพฺพฺุโน ทสพลธรา จตุเวสารชฺชวิสารทา อฏฺารสหิ พุทฺธธมฺเมหิ สมนฺนาคตา อนนฺตชินา อนาวรณาณา, เตสํ ตํ จิตฺตํ สพฺพตฺถ ลหุกํ อุปฺปชฺชติ ลหุกํ ปวตฺตติ. กึ การณา? สพฺพตฺถ ปริสุทฺธตฺตา. อปิ นุ โข, มหาราช, นาราจสฺส สุโธตสฺส วิมลสฺส นิคฺคณฺิสฺส สุขุมธารสฺส อชิมฺหสฺส อวงฺกสฺส อกุฏิลสฺส ทฬฺหจาปสมารูฬฺหสฺส โขมสุขุเม วา กปฺปาสสุขุเม วา กมฺพลสุขุเม วา พลวนิปาติตสฺส ทนฺธายิตตฺตํ วา ลคฺคนํ วา โหตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ‘‘กึ การณา’’? ‘‘สุขุมตฺตา วตฺถานํ สุโธตตฺตา นาราจสฺส นิปาตสฺส จ พลวตฺตา’’ติ ¶ , เอวเมว โข, มหาราช, เย เต สมฺมาสมฺพุทฺธา สพฺพฺุโน ทสพลธรา จตุเวสารชฺชวิสารทา อฏฺารสหิ พุทฺธธมฺเมหิ สมนฺนาคตา อนนฺตชินา อนาวรณาณา, เตสํ ตํ จิตฺตํ สพฺพตฺถ ลหุกํ อุปฺปชฺชติ ลหุกํ ปวตฺตติ. กึ การณา? สพฺพตฺถ ปริสุทฺธตฺตา, อิทํ สตฺตมํ จิตฺตํ.
‘‘ตตฺร, มหาราช, ยทิทํ สพฺพฺุพุทฺธานํ จิตฺตํ, ตํ ฉนฺนมฺปิ จิตฺตานํ คณนํ อติกฺกมิตฺวา อสงฺขฺเยยฺเยน คุเณน ปริสุทฺธฺจ ลหุกฺจ. ยสฺมา จ ภควโต จิตฺตํ ปริสุทฺธฺจ ลหุกฺจ, ตสฺมา, มหาราช, ภควา ยมกปาฏิหีรํ ทสฺเสติ. ยมกปาฏิหีเร, มหาราช, าตพฺพํ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ จิตฺตํ เอวํ ลหุปริวตฺตนฺติ, น ตตฺถ สกฺกา อุตฺตรึ การณํ วตฺตุํ, เตปิ, มหาราช, ปาฏิหีรา สพฺพฺุพุทฺธานํ จิตฺตํ อุปาทาย คณนมฺปิ สงฺขมฺปิ กลมฺปิ กลภาคมฺปิ น อุเปนฺติ, อาวชฺชนปฏิพทฺธํ, มหาราช, ภควโต สพฺพฺุตาณํ, อาวชฺเชตฺวา ยทิจฺฉกํ ชานาติ.
‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส หตฺเถ ปิตํ ยํ กิฺจิ ทุติเย หตฺเถ เปยฺย วิวเฏน มุเขน วาจํ นิจฺฉาเรยฺย, มุขคตํ โภชนํ คิเลยฺย, อุมฺมีเลตฺวา วา นิมีเลยฺย, นิมีเลตฺวา วา อุมฺมีเลยฺย, สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, จิรตรํ เอตํ, มหาราช, ลหุตรํ ภควโต สพฺพฺุตาณํ, ลหุตรํ อาวชฺชนํ, อาวชฺเชตฺวา ยทิจฺฉกํ ชานาติ ¶ , อาวชฺชนวิกลมตฺตเกน น ตาวตา พุทฺธา ภควนฺโต อสพฺพฺุโน นาม โหนฺตี’’ติ.
‘‘อาวชฺชนมฺปิ ¶ , ภนฺเต นาคเสน, ปริเยสนาย กาตพฺพํ, อิงฺฆ มํ ตตฺถ การเณน สฺาเปหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ปุริสสฺส อฑฺฒสฺส มหทฺธนสฺส มหาโภคสฺส ปหูตชาตรูปรชตสฺส ปหูตวิตฺตูปกรณสฺส ปหูตธนธฺสฺส สาลิวีหิยวตณฺฑุลติลมุคฺคมาสปุพฺพณฺณาปรณฺณสปฺปิเตลนวนีตขีรทธิมธุคุฬผาณิตา ¶ จ ขโฬปิกุมฺภิปีรโกฏฺภาชนคตา ภเวยฺยุํ, ตสฺส จ ปุริสสฺส ปาหุนโก อาคจฺเฉยฺย ภตฺตารโห ภตฺตาภิกงฺขี, ตสฺส จ เคเห ยํ รนฺธํ โภชนํ, ตํ ปรินิฏฺิตํ ภเวยฺย, กุมฺภิโต ตณฺฑุเล นีหริตฺวา โภชนํ รนฺเธยฺย, อปิ จ โข โส, มหาราช, ตาวตเกน โภชนเวกลฺลมตฺตเกน อธโน นาม กปโณ นาม ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, จกฺกวตฺติรฺโ ฆเรปิ, ภนฺเต, อกาเล โภชนเวกลฺลํ โหติ, กึ ปน คหปติกสฺสา’’ติ? ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคตสฺส อาวชฺชนวิกลมตฺตกํ สพฺพฺุตาณํ อาวชฺเชตฺวา ยทิจฺฉกํ ชานาติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, รุกฺโข อสฺส ผลิโต โอณตวินโต ปิณฺฑิภารภริโต, น กิฺจิ ตตฺถ ปติตํ ผลํ ภเวยฺย, อปิ นุ โข โส, มหาราช, รุกฺโข ตาวตเกน ปติตผลเวกลฺลมตฺตเกน อผโล นาม ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ปตนปฏิพทฺธานิ ตานิ รุกฺขผลานิ, ปติเต ยทิจฺฉกํ ลภตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคตสฺส อาวชฺชนปฏิพทฺธํ สพฺพฺุตาณํ อาวชฺเชตฺวา ยทิจฺฉกํ ชานาตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, อาวชฺเชตฺวา อาวชฺเชตฺวา พุทฺโธ ยทิจฺฉกํ ชานาตี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ภควา อาวชฺเชตฺวา อาวชฺเชตฺวา ยทิจฺฉกํ ชานาตี’’ติ.
‘‘ยถา, มหาราช, จกฺกวตฺตี ราชา ยทา จกฺกรตนํ สรติ ‘อุเปตุ เม จกฺกรตน’นฺติ, สริเต จกฺกรตนํ อุเปติ, เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต อาวชฺเชตฺวา อาวชฺเชตฺวา ยทิจฺฉกํ ชานาตี’’ติ. ‘‘ทฬฺหํ, ภนฺเต นาคเสน, การณํ, พุทฺโธ สพฺพฺู, สมฺปฏิจฺฉาม พุทฺโธ สพฺพฺู’’ติ.
พุทฺธสพฺพฺุภาวปฺโห ทุติโย.
๓. เทวทตฺตปพฺพชฺชปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, เทวทตฺโต เกน ปพฺพาชิโต’’ติ? ‘‘ฉ ยิเม, มหาราช, ขตฺติยกุมารา ภทฺทิโย จ อนุรุทฺโธ จ อานนฺโท จ ภคุ จ กิมิโล ¶ [กิมฺพิโล (สี. ปี.) ม. นิ. ๒.๑๖๖ ปสฺสิตพฺพํ] จ เทวทตฺโต ¶ จ อุปาลิกปฺปโก สตฺตโม อภิสมฺพุทฺเธ สตฺถริ สกฺยกุลานนฺทชนเน ภควนฺตํ อนุปพฺพชนฺตา นิกฺขมึสุ, เต ภควา ปพฺพาเชสี’’ติ. ‘‘นนุ, ภนฺเต, เทวทตฺเตน ปพฺพชิตฺวา สงฺโฆ ภินฺโน’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, เทวทตฺเตน ปพฺพชิตฺวา สงฺโฆ ภินฺโน, น คิหี สงฺฆํ ภินฺทติ, น ภิกฺขุนี, น สิกฺขมานา, น สามเณโร, น สามเณรี สงฺฆํ ภินฺทติ, ภิกฺขุ ปกตตฺโต สมานสํวาสโก สมานสีมายํ ิโต สงฺฆํ ภินฺทตีติ. สงฺฆเภทโก, ภนฺเต, ปุคฺคโล กึ กมฺมํ ผุสตี’’ติ? ‘‘กปฺปฏฺิติกํ, มหาราช, กมฺมํ ผุสตี’’ติ.
‘‘กึ ปน, ภนฺเต นาคเสน, พุทฺโธ ชานาติ ‘เทวทตฺโต ปพฺพชิตฺวา สงฺฆํ ภินฺทิสฺสติ, สงฺฆํ ภินฺทิตฺวา กปฺปํ นิรเย ปจฺจิสฺสตี’’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ตถาคโต ชานาติ ‘เทวทตฺโต ปพฺพชิตฺวา สงฺฆํ ภินฺทิสฺสติ, สงฺฆํ ภินฺทิตฺวา กปฺปํ นิรเย ปจฺจิสฺสตี’’’ติ. ‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, พุทฺโธ ชานาติ ‘เทวทตฺโต ปพฺพชิตฺวา สงฺฆํ ภินฺทิสฺสติ, สงฺฆํ ภินฺทิตฺวา กปฺปํ นิรเย ปจฺจิสฺสตี’ติ, เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, พุทฺโธ การุณิโก อนุกมฺปโก หิเตสี สพฺพสตฺตานํ อหิตํ อปเนตฺวา หิตมุปทหตีติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ตํ อชานิตฺวา ปพฺพาเชสิ, เตน หิ พุทฺโธ อสพฺพฺูติ, อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, วิชเฏหิ เอตํ มหาชฏํ, ภินฺท ปราปวาทํ, อนาคเต อทฺธาเน ตยา สทิสา พุทฺธิมนฺโต ภิกฺขู ทุลฺลภา ภวิสฺสนฺติ, เอตฺถ ตว พลํ ปกาเสหี’’ติ.
‘‘การุณิโก, มหาราช, ภควา สพฺพฺู จ, การฺุเน, มหาราช, ภควา สพฺพฺุตาเณน เทวทตฺตสฺส คตึ โอโลเกนฺโต อทฺทส เทวทตฺตํ อาปายิกํ กมฺมํ [อปราปริยกมฺมํ (สี. สฺยา. ปี.)] อายูหิตฺวา อเนกานิ กปฺปโกฏิสตสหสฺสานิ นิรเยน นิรยํ วินิปาเตน วินิปาตํ คจฺฉนฺตํ, ตํ ภควา สพฺพฺุตาเณน ชานิตฺวา อิมสฺส อปริยนฺตกตํ กมฺมํ มม สาสเน ปพฺพชิตสฺส ปริยนฺตกตํ ภวิสฺสติ, ปุริมํ ¶ อุปาทาย ปริยนฺตกตํ ทุกฺขํ ภวิสฺสติ, อปพฺพชิโตปิ อยํ โมฆปุริโส กปฺปฏฺิยเมว กมฺมํ อายูหิสฺสตีติ การฺุเน เทวทตฺตํ ปพฺพาเชสี’’ติ.
‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, พุทฺโธ วธิตฺวา เตเลน มกฺเขติ, ปปาเต ปาเตตฺวา หตฺถํ เทติ, มาเรตฺวา ¶ ชีวิตํ ปริเยสติ, ยํ โส ปมํ ทุกฺขํ ¶ ทตฺวา ปจฺฉา สุขํ อุปทหตี’’ติ? ‘‘วเธติปิ, มหาราช, ตถาคโต สตฺตานํ หิตวเสน, ปาเตติปิ สตฺตานํ หิตวเสน, มาเรติปิ สตฺตานํ หิตวเสน, วธิตฺวาปิ, มหาราช, ตถาคโต สตฺตานํ หิตเมว อุปทหติ, ปาเตตฺวาปิ สตฺตานํ หิตเมว อุปทหติ, มาเรตฺวาปิ สตฺตานํ หิตเมว อุปทหติ. ยถา, มหาราช, มาตาปิตโร นาม วธิตฺวาปิ ปาตยิตฺวาปิ ปุตฺตานํ หิตเมว อุปทหนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต วเธติปิ สตฺตานํ หิตวเสน, ปาเตติปิ สตฺตานํ หิตวเสน, มาเรติปิ สตฺตานํ หิตวเสน, วธิตฺวาปิ, มหาราช, ตถาคโต สตฺตานํ หิตเมว อุปทหติ, ปาเตตฺวาปิ สตฺตานํ หิตเมว อุปทหติ, มาเรตฺวาปิ สตฺตานํ หิตเมว อุปทหติ, เยน เยน โยเคน สตฺตานํ คุณวุฑฺฒิ โหติ, เตน เตน โยเคน สพฺพสตฺตานํ หิตเมว อุปทหติ. สเจ, มหาราช, เทวทตฺโต น ปพฺพาเชยฺย, คิหิภูโต สมาโน นิรยสํวตฺตนิกํ พหุํ ปาปกมฺมํ กตฺวา อเนกานิ กปฺปโกฏิสตสหสฺสานิ นิรเยน นิรยํ วินิปาเตน วินิปาตํ คจฺฉนฺโต พหุํ ทุกฺขํ เวทยิสฺสติ, ตํ ภควา ชานมาโน การฺุเน เทวทตฺตํ ปพฺพาเชสิ, ‘มม สาสเน ปพฺพชิตสฺส ทุกฺขํ ปริยนฺตกตํ ภวิสฺสตี’ติ การฺุเน ครุกํ ทุกฺขํ ลหุกํ อกาสิ.
‘‘ยถา วา, มหาราช, ธนยสสิริาติพเลน พลวา ปุริโส อตฺตโน าตึ วา มิตฺตํ วา รฺา ครุกํ ทณฺฑํ ธาเรนฺตํ อตฺตโน พหุวิสฺสตฺถภาเวน สมตฺถตาย ครุกํ ทณฺฑํ ลหุกํ อกาสิ, เอวเมว โข, มหาราช, ภควา พหูนิ กปฺปโกฏิสตสหสฺสานิ ทุกฺขํ เวทยมานํ เทวทตฺตํ ปพฺพาเชตฺวา ¶ สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติพลสมตฺถภาเวน ครุกํ ทุกฺขํ ลหุกํ อกาสิ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, กุสโล ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต ครุกํ โรคํ พลโวสธพเลน ลหุกํ กโรติ, เอวเมว โข, มหาราช, พหูนิ กปฺปโกฏิสตสหสฺสานิ ทุกฺขํ เวทยมานํ เทวทตฺตํ ภควา โรคฺุตาย ปพฺพาเชตฺวา การฺุพโล ปตฺถทฺธธมฺโมสธพเลน ครุกํ ทุกฺขํ ลหุกํ อกาสิ. อปิ นุ โข โส, มหาราช, ภควา พหุเวทนียํ เทวทตฺตํ อปฺปเวทนียํ กโรนฺโต กิฺจิ อปฺุํ อาปชฺเชยฺยา’’ติ? ‘‘น กิฺจิ, ภนฺเต, อปฺุํ อาปชฺเชยฺย อนฺตมโส คทฺทูหนมตฺตมฺปี’’ติ. ‘‘อิมมฺปิ โข, มหาราช, การณํ อตฺถโต สมฺปฏิจฺฉ, เยน การเณน ภควา เทวทตฺตํ ปพฺพาเชสิ.
‘‘อปรมฺปิ ¶ , มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน ภควา เทวทตฺตํ ปพฺพาเชสิ. ยถา, มหาราช, โจรํ อาคุจารึ คเหตฺวา รฺโ ทสฺเสยฺยุํ, ‘อยํ โข, เทว, โจโร อาคุจารี, อิมสฺส ยํ อิจฺฉสิ, ตํ ทณฺฑํ ปเณหี’ติ. ตเมนํ ราชา เอวํ วเทยฺย ‘เตน หิ ¶ , ภเณ, อิมํ โจรํ พหินครํ นีหริตฺวา อาฆาตเน สีสํ ฉินฺทถา’’ติ, ‘เอวํ เทวา’ติ โข เต รฺโ ปฏิสฺสุตฺวา ตํ พหินครํ นีหริตฺวา อาฆาตนํ นเยยฺยุํ. ตเมนํ ปสฺเสยฺย โกจิเทว ปุริโส รฺโ สนฺติกา ลทฺธวโร ลทฺธยสธนโภโค อาเทยฺยวจโน พลวิจฺฉิตการี, โส ตสฺส การฺุํ กตฺวา เต ปุริเส เอวํ วเทยฺย ‘อลํ, โภ, กึ ตุมฺหากํ อิมสฺส สีสจฺเฉทเนน, เตน หิ โภ อิมสฺส หตฺถํ วา ปาทํ วา ฉินฺทิตฺวา ชีวิตํ รกฺขถ, อหเมตสฺส การณา รฺโ สนฺติเก ปฏิวจนํ กริสฺสามี’ติ. เต ตสฺส พลวโต วจเนน ตสฺส โจรสฺส หตฺถํ วา ปาทํ วา ฉินฺทิตฺวา ชีวิตํ รกฺเขยฺยุํ. อปิ นุ โข โส, มหาราช, ปุริโส เอวํ การี ตสฺส โจรสฺส กิจฺจการี อสฺสา’’ติ? ‘‘ชีวิตทายโก โส, ภนฺเต, ปุริโส ตสฺส โจรสฺส, ชีวิเต ทินฺเน กึ ตสฺส อกตํ นาม อตฺถี’’ติ? ‘‘ยา ปน หตฺถปาทจฺเฉทเน ¶ เวทนา, โส ตาย เวทนาย กิฺจิ อปฺุํ อาปชฺเชยฺยา’’ติ? ‘‘อตฺตโน กเตน โส, ภนฺเต, โจโร ทุกฺขเวทนํ เวทยติ, ชีวิตทายโก ปน ปุริโส น กิฺจิ อปฺุํ อาปชฺเชยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ภควา การฺุเน เทวทตฺตํ ปพฺพาเชสิ ‘มม สาสเน ปพฺพชิตสฺส ทุกฺขํ ปริยนฺตกตํ ภวิสฺสตี’ติ. ปริยนฺตกตฺจ, มหาราช, เทวทตฺตสฺส ทุกฺขํ, เทวทตฺโต, มหาราช, มรณกาเล –
‘‘‘อิเมหิ อฏฺีหิ ตมคฺคปุคฺคลํ, เทวาติเทวํ นรทมฺมสารถึ;
สมนฺตจกฺขุํ สตปฺุลกฺขณํ, ปาเณหิ พุทฺธํ สรณํ อุเปมี’ติ.
‘‘ปาณุเปตํ สรณมคมาสิ. เทวทตฺโต, มหาราช, ฉ โกฏฺาเส กเต กปฺเป อติกฺกนฺเต ปมโกฏฺาเส สงฺฆํ ภินฺทิ, ปฺจ โกฏฺาเส นิรเย ปจฺจิตฺวา ตโต มุจฺจิตฺวา อฏฺิสฺสโร นาม ปจฺเจกพุทฺโธ ภวิสฺสติ. อปิ นุ โข โส, มหาราช, ภควา เอวํ การี เทวทตฺตสฺส กิจฺจการี อสฺสา’’ติ? ‘‘สพฺพทโท, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคโต เทวทตฺตสฺส, ยํ ตถาคโต ¶ เทวทตฺตํ ปจฺเจกโพธึ ปาเปสฺสติ, กึ ตถาคเตน เทวทตฺตสฺส อกตํ นาม อตฺถี’’ติ? ‘‘ยํ ปน, มหาราช, เทวทตฺโต สงฺฆํ ภินฺทิตฺวา นิรเย ทุกฺขเวทนํ เวทยติ, อปิ นุ โข ภควา ตโตนิทานํ กิฺจิ อปฺุํ อาปชฺเชยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, อตฺตนา กเตน, ภนฺเต, เทวทตฺโต กปฺปํ นิรเย ปจฺจติ, ทุกฺขปริยนฺตการโก สตฺถา น กิฺจิ อปฺุํ อาปชฺชตี’’ติ. ‘‘อิมมฺปิ โข, ตฺวํ มหาราช, การณํ อตฺถโต สมฺปฏิจฺฉ, เยน การเณน ภควา เทวทตฺตํ ปพฺพาเชสิ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน ภควา เทวทตฺตํ ปพฺพาเชสิ ¶ . ยถา, มหาราช, กุสโล ¶ ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต วาตปิตฺตเสมฺหสนฺนิปาตอุตุปริณามวิสมปริหารโอปกฺกมิโกปกฺกนฺตํ ปูติกุณปทุคฺคนฺธาภิสฺฉนฺนํ อนฺโตสลฺลํ สุสิรคตํ ปุพฺพรุหิรสมฺปุณฺณํ วณํ วูปสเมนฺโต วณมุขํ กกฺขฬติขิณขารกฏุเกน เภสชฺเชน อนุลิมฺปติ ปริปจฺจนาย, ปริปจฺจิตฺวา มุทุภาวมุปคตํ สตฺเถน วิกนฺตยิตฺวา ฑหติ สลากาย, ทฑฺเฒ ขารลวณํ เทติ, เภสชฺเชน อนุลิมฺปติ วณรุหนาย พฺยาธิตสฺส โสตฺถิภาวมนุปฺปตฺติยา, อปิ นุ โข โส, มหาราช, ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต อหิตจิตฺโต เภสชฺเชน อนุลิมฺปติ, สตฺเถน วิกนฺเตติ, ฑหติ สลากาย, ขารลวณํ เทตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, หิตจิตฺโต โสตฺถิกาโม ตานิ กิริยานิ กโรตี’’ติ. ‘‘ยา ปนสฺส เภสชฺชกิริยากรเณน อุปฺปนฺนา ทุกฺขเวทนา, ตโตนิทานํ โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต กิฺจิ อปฺุํ อาปชฺเชยฺยา’’ติ? ‘‘หิตจิตฺโต, ภนฺเต, โสตฺถิกาโม ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต ตานิ กิริยานิ กโรติ, กึ โส ตโตนิทานํ อปฺุํ อาปชฺเชยฺย, สคฺคคามี โส, ภนฺเต, ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, การฺุเน ภควา เทวทตฺตํ ปพฺพาเชสิ ทุกฺขปริมุตฺติยา.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน ภควา เทวทตฺตํ ปพฺพาเชสิ. ยถา, มหาราช, ปุริโส กณฺฏเกน วิทฺโธ อสฺส, อถฺตโร ปุริโส ตสฺส หิตกาโม โสตฺถิกาโม ติณฺเหน กณฺฏเกนวา สตฺถมุเขน วา สมนฺตโต ฉินฺทิตฺวา ปคฺฆรนฺเตน โลหิเตน ตํ กณฺฏกํ นีหเรยฺย, อปิ นุ โข โส, มหาราช, ปุริโส อหิตกาโม ตํ กณฺฏกํ นีหรตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, หิตกาโม โส, ภนฺเต, ปุริโส โสตฺถิกาโม ตํ กณฺฏกํ นีหรติ. สเจ ¶ โส, ภนฺเต, ตํ กณฺฏกํ น นีหเรยฺย, มรณํ วา โส เตน ปาปุเณยฺย มรณมตฺตํ วา ทุกฺข’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต การฺุเน เทวทตฺตํ ปพฺพาเชสิ ทุกฺขปริมุตฺติยา. สเจ มหาราช, ภควา เทวทตฺตํ น ปพฺพาเชยฺย, กปฺปโกฏิสตสหสฺสมฺปิ ¶ เทวทตฺโต ภวปรมฺปราย นิรเย ปจฺเจยฺยา’’ติ.
‘‘อนุโสตคามึ, ภนฺเต นาคเสน, เทวทตฺตํ ตถาคโต ปฏิโสตํ ปาเปสิ, วิปนฺถปฏิปนฺนํ เทวทตฺตํ ปนฺเถ ปฏิปาเทสิ, ปปาเต ปติตสฺส เทวทตฺตสฺส ปติฏฺํ อทาสิ, วิสมคตํ เทวทตฺตํ ตถาคโต สมํ อาโรเปสิ, อิเม จ, ภนฺเต นาคเสน, เหตู อิมานิ จ การณานิ น สกฺกา อฺเน สนฺทสฺเสตุํ อฺตฺร ตวาทิเสน พุทฺธิมตา’’ติ.
เทวทตฺตปพฺพชฺชปฺโห ตติโย.
๔. ปถวิจลนปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา – ‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว [อฏฺิเม อานนฺท (อ. นิ. ๘.๗๐)], เหตู อฏฺ ปจฺจยา มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวายา’ติ. อเสสวจนํ อิทํ, นิสฺเสสวจนํ อิทํ, นิปฺปริยายวจนํ อิทํ, นตฺถฺโ นวโม เหตุ มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, อฺโ นวโม เหตุ ภเวยฺย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย, ตมฺปิ เหตุํ ภควา กเถยฺย. ยสฺมา จ โข, ภนฺเต นาคเสน, นตฺถฺโ นวโม เหตุ มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย, ตสฺมา อนาจิกฺขิโต ภควตา, อยฺจ นวโม เหตุ ทิสฺสติ มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย, ยํ เวสฺสนฺตเรน รฺา มหาทาเน ทียมาเน สตฺตกฺขตฺตุํ มหาปถวี กมฺปิตาติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, อฏฺเว เหตู อฏฺ ปจฺจยา มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย, เตน หิ เวสฺสนฺตเรน รฺา มหาทาเน ทียมาเน สตฺตกฺขตฺตุํ มหาปถวี กมฺปิตาติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ เวสฺสนฺตเรน รฺา มหาทาเน ทียมาเน สตฺตกฺขตฺตุํ มหาปถวี กมฺปิตา, เตน หิ อฏฺเว เหตู อฏฺ ปจฺจยา มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวายาติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห สุขุโม ทุนฺนิเวิโย ¶ อนฺธกรโณ เจว คมฺภีโร จ, โส ตวานุปฺปตฺโต, เนโส ¶ อฺเน อิตฺตรปฺเน สกฺกา วิสชฺเชตุํ อฺตฺร ตวาทิเสน พุทฺธิมตา’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา – ‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, เหตู อฏฺ ปจฺจยา มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวายา’ติ. ยํ เวสฺสนฺตเรน รฺา มหาทาเน ทียมาเน สตฺตกฺขตฺตุํ มหาปถวี กมฺปิตา, ตฺจ ปน อกาลิกํ กทาจุปฺปตฺติกํ อฏฺหิ เหตูหิ วิปฺปมุตฺตํ, ตสฺมา อคณิตํ อฏฺหิ เหตูหิ.
‘‘ยถา, มหาราช, โลเก ตโย เยว เมฆา คณียนฺติ วสฺสิโก เหมนฺติโก ปาวุสโกติ. ยทิ เต มฺุจิตฺวา อฺโ เมโฆ ปวสฺสติ, น โส เมโฆ คณียติ สมฺมเตหิ เมเฆหิ, อกาลเมโฆตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ. เอวเมว โข, มหาราช, เวสฺสนฺตเรน รฺา มหาทาเน ทียมาเน ยํ สตฺตกฺขตฺตุํ มหาปถวี กมฺปิตา, อกาลิกํ เอตํ กทาจุปฺปตฺติกํ อฏฺหิ เหตูหิ วิปฺปมุตฺตํ, น ตํ คณียติ อฏฺหิ เหตูหิ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, หิมวนฺตา ปพฺพตา ปฺจ นทิสตานิ สนฺทนฺติ, เตสํ, มหาราช, ปฺจนฺนํ นทิสตานํ ทเสว นทิโย นทิคณนาย คณียนฺติ. เสยฺยถีทํ, คงฺคา ยมุนา อจิรวตี ¶ สรภู มหี สินฺธุ สรสฺสตี เวตฺรวตี วีตํสา จนฺทภาคาติ, อวเสสา นทิโย นทิคณนาย อคณิตา. กึ การณา? น ตา นทิโย ธุวสลิลา. เอวเมว โข, มหาราช, เวสฺสนฺตเรน รฺา มหาทาเน ทียมาเน ยํ สตฺตกฺขตฺตุํ มหาปถวี กมฺปิตา, อกาลิกํ เอตํ กทาจุปฺปตฺติกํ อฏฺหิ เหตูหิ วิปฺปมุตฺตํ, น ตํ คณียติ อฏฺหิ เหตูหิ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, รฺโ สตมฺปิ ทฺวิสตมฺปิ ติสตมฺปิ อมจฺจา โหนฺติ, เตสํ ฉ เยว ชนา อมจฺจคณนาย คณียนฺติ. เสยฺยถีทํ, เสนาปติ ปุโรหิโต อกฺขทสฺโส ภณฺฑาคาริโก ฉตฺตคฺคาหโก ขคฺคคฺคาหโก. เอเต เยว อมจฺจคณนาย คณียนฺติ. กึ การณา? ยุตฺตตฺตา ราชคุเณหิ, อวเสสา อคณิตา, สพฺเพ อมจฺจาตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ ¶ . เอวเมว โข, มหาราช, เวสฺสนฺตเรน รฺา มหาทาเน ทียมาเน ยํ สตฺตกฺขตฺตุํ มหาปถวี กมฺปิตา, อกาลิกํ เอตํ กทาจุปฺปตฺติกํ อฏฺหิ เหตูหิ วิปฺปมุตฺตํ, น ตํ คณียติ อฏฺหิ เหตูหิ.
‘‘สุยฺยติ ¶ นุ โข, มหาราช, เอตรหิ ชินสาสเน กตาธิการานํ ทิฏฺธมฺมสุขเวทนียกมฺมํ, กิตฺติ จ เยสํ อพฺภุคฺคตา เทวมนุสฺเสสู’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สุยฺยติ เอตรหิ ชินสาสเน กตาธิการานํ ทิฏฺธมฺมสุขเวทนียกมฺมํ, กิตฺติ จ เยสํ อพฺภุคฺคตา เทวมนุสฺเสสุ สตฺต ชนาติ’’. ‘‘เก จ เต, มหาราชา’’ติ? ‘‘สุมโน จ, ภนฺเต, มาลากาโร, เอกสาฏโก จ พฺราหฺมโณ, ปุณฺโณ จ ภตโก, มลฺลิกา จ เทวี, โคปาลมาตา จ เทวี, สุปฺปิยา จ อุปาสิกา, ปุณฺณา จ ทาสีติ อิเม สตฺต ทิฏฺธมฺมสุขเวทนียา สตฺตา, กิตฺติ จ อิเมสํ อพฺภุคฺคตา เทวมนุสฺเสสู’’ติ.
‘‘อปเรปิ สุยฺยนฺติ นุ โข อตีเต มานุสเกเนว สรีรเทเหน ติทสภวนํ คตา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สุยฺยนฺตี’’ติ. ‘‘เก จ เต, มหาราชา’’ติ? ‘‘คุตฺติโล จ คนฺธพฺโพ, สาธีโน จ ราชา, นิมิ จ ราชา, มนฺธาตา จ ราชาติ อิเม จตุโร ชนา สุยฺยนฺติ, เตเนว มานุสเกน สรีรเทเหน ติทสภวนํ คตา’’ติ. ‘‘สุจิรมฺปิ กตํ สุยฺยติ สุกตทุกฺกฏนฺติ? สุตปุพฺพํ ปน ตยา, มหาราช, อตีเต วา อทฺธาเน วตฺตมาเน วา อทฺธาเน อิตฺถนฺนามสฺส ทาเน ทียมาเน สกึ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา ติกฺขตฺตุํ วา มหาปถวี กมฺปิตา’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘อตฺถิ เม, มหาราช, อาคโม อธิคโม ปริยตฺติ สวนํ สิกฺขาพลํ สุสฺสูสา ปริปุจฺฉา อาจริยุปาสนํ, มยาปิ น สุตปุพฺพํ ‘อิตฺถนฺนามสฺส ทาเน ทียมาเน สกึ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา ติกฺขตฺตุํ วา มหาปถวี กมฺปิตา’ติ เปตฺวา เวสฺสนฺตรสฺส ราชวสภสฺส ทานวรํ ¶ . ภควโต จ, มหาราช, กสฺสปสฺส, ภควโต จ สกฺยมุนิโนติ ทฺวินฺนํ พุทฺธานํ อนฺตเร คณนปถํ ¶ วีติวตฺตา วสฺสโกฏิโย อติกฺกนฺตา, ตตฺถปิ เม สวนํ นตฺถิ ‘อิตฺถนฺนามสฺส ทาเน ทียมาเน สกึ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา ติกฺขตฺตุํ วา มหาปถวี กมฺปิตา’ติ. น, มหาราช, ตาวตเกน วีริเยน ตาวตเกน ปรกฺกเมน มหาปถวี กมฺปติ, คุณภารภริตา, มหาราช, สพฺพโสเจยฺยกิริยคุณภารภริตา ธาเรตุํ น วิสหนฺตี มหาปถวี จลติ กมฺปติ ปเวธติ.
‘‘ยถา, มหาราช, สกฏสฺส อติภารภริตสฺส นาภิโย จ เนมิโย จ ผลนฺติ อกฺโข ภิชฺชติ, เอวเมว โข, มหาราช, สพฺพโสเจยฺยกิริยคุณภารภริตา มหาปถวี ธาเรตุํ น วิสหนฺตี จลติ กมฺปติ ปเวธติ.
‘‘ยถา ¶ วา ปน, มหาราช, คคนํ อนิลชลเวคสฺฉาทิตํ อุสฺสนฺนชลภารภริตํ อติวาเตน ผุฏิตตฺตา นทติ รวติ คฬคฬายติ, เอวเมว โข, มหาราช, มหาปถวี รฺโ เวสฺสนฺตรสฺส ทานพลวิปุลอุสฺสนฺนภารภริตา ธาเรตุํ น วิสหนฺตี จลติ กมฺปติ ปเวธติ. น หิ, มหาราช, รฺโ เวสฺสนฺตรสฺส จิตฺตํ ราควเสน ปวตฺตติ, น โทสวเสน ปวตฺตติ, น โมหวเสน ปวตฺตติ, น มานวเสน ปวตฺตติ, น ทิฏฺิวเสน ปวตฺตติ, น กิเลสวเสน ปวตฺตติ, น วิตกฺกวเสน ปวตฺตติ, น อรติวเสน ปวตฺตติ, อถ โข ทานวเสน พหุลํ ปวตฺตติ ‘กินฺติ อนาคตา ยาจกา มม สนฺติเก อาคจฺเฉยฺยุํ, อาคตา จ ยาจกา ยถากามํ ลภิตฺวา อตฺตมนา ภเวยฺยุ’นฺติ สตตํ สมิตํ ทานํ ปติ มานสํ ปิตํ โหติ. รฺโ, มหาราช, เวสฺสนฺตรสฺส สตตํ สมิตํ ทสสุ าเนสุ มานสํ ปิตํ โหติ ทเม สเม ขนฺติยํ สํวเร ยเม นิยเม อกฺโกเธ อวิหึสายํ สจฺเจ โสเจยฺเย. รฺโ, มหาราช, เวสฺสนฺตรสฺส กาเมสนา ปหีนา, ภเวสนา ปฏิปฺปสฺสทฺธา, พฺรหฺมจริเยสนาย เยว อุสฺสุกฺกํ อาปนฺโน, รฺโ, มหาราช, เวสฺสนฺตรสฺส อตฺตรกฺขา [ปรรกฺขาย (สี. ปี.)] ปหีนา, สพฺพสตฺตรกฺขาย อุสฺสุกฺกํ อาปนฺโน ‘กินฺติ อิเม สตฺตา สมคฺคา อสฺสุ อโรคา สธนา ทีฆายุกา’ติ ¶ พหุลํ เยว มานสํ ปวตฺตติ. ททมาโน จ, มหาราช, เวสฺสนฺตโร ราชา ตํ ทานํ น ภวสมฺปตฺติเหตุ เทติ, น ธนเหตุ เทติ, น ปฏิทานเหตุ เทติ, น อุปลาปนเหตุ เทติ, น อายุเหตุ เทติ, น วณฺณเหตุ เทติ, น สุขเหตุ เทติ, น พลเหตุ เทติ, น ยสเหตุ เทติ, น ปุตฺตเหตุ เทติ, น ธีตุเหตุ เทติ, อถ โข สพฺพฺุตาณเหตุ สพฺพฺุตาณรตนสฺส การณา เอวรูเป อตุลวิปุลานุตฺตเร ทานวเร อทาสิ, สพฺพฺุตํ ปตฺโต จ อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘‘ชาลึ ¶ กณฺหาชินํ ธีตํ, มทฺทิเทวึ ปติพฺพตํ;
จชมาโน น จินฺเตสึ, โพธิยา เยว การณา’ติ.
‘‘เวสฺสนฺตโร, มหาราช, ราชา อกฺโกเธน โกธํ ชินาติ, อสาธุํ สาธุนา ชินาติ, กทริยํ ทาเนน ชินาติ, อลิกวาทินํ สจฺเจน ชินาติ, สพฺพํ อกุสลํ กุสเลน ชินาติ. ตสฺส เอวํ ททมานสฺส ธมฺมานุคตสฺส ธมฺมสีสกสฺส [ธมฺมาสีสกสฺส (ก.)] ทานนิสฺสนฺทพลว [ทานนิสฺสนฺทพล (สี. ปี.)] วีริยวิปุลวิปฺผาเรน เหฏฺา มหาวาตา สฺจลนฺติ ¶ สณิกํ สณิกํ สกึ สกึ อากุลากุลา วายนฺติ โอนมนฺติ อุนฺนมนฺติ วินมนฺติ, ฉินฺนปตฺตปาทปา [สีนฺนปฺปตฺตปาทปา (สี.)] ปปตนฺติ, คุมฺพํ คุมฺพํ วลาหกา คคเน สนฺธาวนฺติ, รโชสฺจิตา วาตา ทารุณา โหนฺติ, คคนํ อุปฺปีฬิตา วาตา วายนฺติ, สหสา ธมธมายนฺติ, มหาภีโม สทฺโท นิจฺฉรติ, เตสุ วาเตสุ กุปิเตสุ อุทกํ สณิกํ สณิกํ จลติ, อุทเก จลิเต ขุพฺภนฺติ มจฺฉกจฺฉปา, ยมกยมกา อูมิโย ชายนฺติ, ชลจรา สตฺตา ตสนฺติ, ชลวีจิ ยุคนทฺโธ วตฺตติ, วีจินาโท ปวตฺตติ, โฆรา พุพฺพุฬา [ปุพฺพุฬา (ก.)] อุฏฺหนฺติ, เผณมาลา ภวนฺติ, อุตฺตรติ มหาสมุทฺโท, ทิสาวิทิสํ ธาวติ อุทกํ, อุทฺธํโสตปฏิโสตมุขา สนฺทนฺติ สลิลธารา, ตสนฺติ อสุรา ครุฬา นาคา ยกฺขา, อุพฺพิชฺชนฺติ ‘กึ นุ โข, กถํ นุ โข, สาคโร วิปริวตฺตตี’ติ, คมนปถเมสนฺติ ภีตจิตฺตา, ขุภิเต ลุฬิเต ชลธาเร ปกมฺปติ มหาปถวี สนคา สสาครา ¶ , ปริวตฺตติ สิเนรุคิริ กูฏเสลสิขโร วินมมาโน โหติ, วิมนา โหนฺติ อหินกุลพิฬารโกฏฺุกสูกรมิคปกฺขิโน, รุทนฺติ ยกฺขา อปฺเปสกฺขา, หสนฺติ ยกฺขา มเหสกฺขา กมฺปมานาย มหาปถวิยา.
‘‘ยถา, มหาราช, มหติ มหาปริโยเค อุทฺธนคเต อุทกสมฺปุณฺเณ อากิณฺณตณฺฑุเล เหฏฺโต อคฺคิ ชลมาโน ปมํ ตาว ปริโยคํ สนฺตาเปติ, ปริโยโค สนฺตตฺโต อุทกํ สนฺตาเปติ, อุทกํ สนฺตตฺตํ ตณฺฑุลํ สนฺตาเปติ, ตณฺฑุลํ สนฺตตฺตํ อุมฺมุชฺชติ นิมุชฺชติ, พุพฺพุฬกชาตํ โหติ, เผณมาลา อุตฺตรติ; เอวเมว โข, มหาราช, เวสฺสนฺตโร ราชา ยํ โลเก ทุจฺจชํ, ตํ จชิ, ตสฺส ตํ ทุจฺจชํ จชนฺตสฺส ทานสฺส สภาวนิสฺสนฺเทน เหฏฺา มหาวาตา ธาเรตุํ น วิสหนฺตา ปริกุปฺปึสุ [ปริกมฺปึสุ (ก.)], มหาวาเตสุ ปริกุปิเตสุ [ปริขุพฺภิเตสุ (สฺยา.)] อุทกํ กมฺปิ, อุทเก กมฺปิเต มหาปถวี กมฺปิ, อิติ ตทา มหาวาตา จ อุทกฺจ มหาปถวี จาติ อิเม ตโย เอกมนา วิย อเหสุํ มหาทานนิสฺสนฺเทน วิปุลพลวีริเยน นตฺเถทิโส, มหาราช, อฺสฺส ทานานุภาโว, ยถา เวสฺสนฺตรสฺส รฺโ มหาทานานุภาโว. ยถา, มหาราช, มหิยา พหุวิธา มณโย วิชฺชนฺติ. เสยฺยถีทํ, อินฺทนีโล มหานีโล โชติรโส เวฬุริโย อุมฺมาปุปฺโผ สิรีสปุปฺโผ ¶ มโนหโร สูริยกนฺโต จนฺทกนฺโต วชิโร ขชฺโชปนโก ผุสฺสราโค ¶ โลหิตงฺโค มสารคลฺโลติ, เอเต สพฺเพ อติกฺกมฺม จกฺกวตฺติมณิ อคฺคมกฺขายติ, จกฺกวตฺติมณิ, มหาราช, สมนฺตา โยชนํ โอภาเสติ. เอวเมว โข, มหาราช, ยํ กิฺจิ มหิยา ทานํ วิชฺชติ อปิ อสทิสทานํ ปรมํ, ตํ สพฺพํ อติกฺกมฺม เวสฺสนฺตรสฺส รฺโ มหาทานํ อคฺคมกฺขายติ, เวสฺสนฺตรสฺส, มหาราช, รฺโ มหาทาเน ทียมาเน สตฺตกฺขตฺตุํ มหาปถวี กมฺปิตา’’ติ.
‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต นาคเสน, พุทฺธานํ, อพฺภุตํ, ภนฺเต นาคเสน, พุทฺธานํ, ยํ ตถาคโต โพธิสตฺโต สมาโน ¶ อสโม โลเกน เอวํขนฺติ เอวํจิตฺโต เอวํอธิมุตฺติ เอวํอธิปฺปาโย, โพธิสตฺตานํ, ภนฺเต นาคเสน, ปรกฺกโม ทกฺขาปิโต, ปารมี จ ชินานํ ภิยฺโย โอภาสิตา, จริยํ จรโตปิ ตาว ตถาคตสฺส สเทวเก โลเก เสฏฺภาโว อนุทสฺสิโต. สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, โถมิตํ ชินสาสนํ, โชติตา ชินปารมี, ฉินฺโน ติตฺถิยานํ วาทคณฺิ, ภินฺโน ปราปวาทกุมฺโภ [คุมฺโพ ตยา วิทฺธํสิโต (สฺยา.)], ปฺโห คมฺภีโร อุตฺตานีกโต, คหนํ อคหนํ กตํ, สมฺมา ลทฺธํ ชินปุตฺตานํ นิพฺพาหนํ [นิพฺพายนํ (ก.)], เอวเมตํ คณิวรปวร ตถา สมฺปฏิจฺฉามา’’ติ.
ปถวิจลนปฺโห จตุตฺโถ.
๕. สิวิราชจกฺขุทานปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห เอวํ ภณถ ‘สิวิราเชน ยาจกสฺส จกฺขูนิ ทินฺนานิ, อนฺธสฺส สโต ปุน ทิพฺพจกฺขูนิ อุปฺปนฺนานี’ติ, เอตมฺปิ วจนํ สกสฏํ สนิคฺคหํ สโทสํ ‘เหตุสมุคฺฆาเต อเหตุสฺมึ อวตฺถุสฺมึ นตฺถิ ทิพฺพจกฺขุสฺส อุปฺปาโท’ติ สุตฺเต วุตฺตํ, ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, สิวิราเชน ยาจกสฺส จกฺขูนิ ทินฺนานิ, เตน หิ ‘ปุน ทิพฺพจกฺขูนิ อุปฺปนฺนานี’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา; ยทิ ทิพฺพจกฺขูนิ อุปฺปนฺนานิ, เตน หิ ‘สิวิราเชน ยาจกสฺส จกฺขูนิ ทินฺนานี’ติ ยํ วจนํ, ตมฺปิ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห คณฺิโตปิ คณฺิตโร เวโตปิ เวตโร คหนโตปิ คหนตโร, โส ตวานุปฺปตฺโต, ตตฺถ ฉนฺทมภิชเนหิ นิพฺพาหนาย ปรวาทานํ นิคฺคหายา’’ติ.
‘‘ทินฺนานิ ¶ , มหาราช, สิวิราเชน ยาจกสฺส จกฺขูนิ, ตตฺถ มา วิมตึ อุปฺปาเทหิ, ปุน ¶ ทิพฺพานิ จ จกฺขูนิ อุปฺปนฺนานิ, ตตฺถาปิ มา วิมตึ ชเนหี’’ติ. ‘‘อปิ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, เหตุสมุคฺฆาเต อเหตุสฺมึ อวตฺถุสฺมึ ทิพฺพจกฺขุ อุปฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, เอตฺถ ¶ การณํ, เยน การเณน เหตุสมุคฺฆาเต อเหตุสฺมึ อวตฺถุสฺมึ ทิพฺพจกฺขุ อุปฺปชฺชติ, อิงฺฆ ตาว การเณน มํ สฺาเปหี’’ติ?
‘‘กึ ปน, มหาราช, อตฺถิ โลเก สจฺจํ นาม, เยน สจฺจวาทิโน สจฺจกิริยํ กโรนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อตฺถิ โลเก สจฺจํ นาม, สจฺเจน, ภนฺเต นาคเสน, สจฺจวาทิโน สจฺจกิริยํ กตฺวา เทวํ วสฺสาเปนฺติ, อคฺคึ นิพฺพาเปนฺติ, วิสํ ปฏิหนนฺติ, อฺมฺปิ วิวิธํ กตฺตพฺพํ กโรนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, ยุชฺชติ สเมติ สิวิราชสฺส สจฺจพเลน ทิพฺพจกฺขูนิ อุปฺปนฺนานีติ, สจฺจพเลน, มหาราช, อวตฺถุสฺมึ ทิพฺพจกฺขุ อุปฺปชฺชติ, สจฺจํ เยว ตตฺถ วตฺถุ ภวติ ทิพฺพจกฺขุสฺส อุปฺปาทาย.
‘‘ยถา, มหาราช, เย เกจิ สตฺตา สจฺจมนุคายนฺติ ‘มหาเมโฆ ปวสฺสตู’ติ, เตสํ สห สจฺจมนุคีเตน มหาเมโฆ ปวสฺสติ, อปิ นุ โข, มหาราช, อตฺถิ อากาเส วสฺสเหตุ สนฺนิจิโต ‘เยน เหตุนา มหาเมโฆ ปวสฺสตี’’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, สจฺจํ เยว ตตฺถ เหตุ ภวติ มหโต เมฆสฺส ปวสฺสนายา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, นตฺถิ ตสฺส ปกติเหตุ, สจฺจํ เยเวตฺถ วตฺถุ ภวติ ทิพฺพจกฺขุสฺส อุปฺปาทายาติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, เย เกจิ สตฺตา สจฺจมนุคายนฺติ ‘ชลิตปชฺชลิตมหาอคฺคิกฺขนฺโธ ปฏินิวตฺตตู’ติ, เตสํ สห สจฺจมนุคีเตน ชลิตปชฺชลิตมหาอคฺคิกฺขนฺโธ ขเณน ปฏินิวตฺตติ. อปิ นุ โข, มหาราช, อตฺถิ ตสฺมึ ชลิตปชฺชลิเต มหาอคฺคิกฺขนฺเธ เหตุ สนฺนิจิโต ‘เยน เหตุนา ชลิตปชฺชลิตมหาอคฺคิกฺขนฺโธ ขเณน ปฏินิวตฺตตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, สจฺจํ เยว ตตฺถ วตฺถุ โหติ ตสฺส ชลิตปชฺชลิตสฺส มหาอคฺคิกฺขนฺธสฺส ขเณน ปฏินิวตฺตนายา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, นตฺถิ ตสฺส ปกติเหตุ, สจฺจํ เยเวตฺถ วตฺถุ ภวติ ทิพฺพจกฺขุสฺส อุปฺปาทายาติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, เย เกจิ สตฺตา สจฺจมนุคายนฺติ ¶ ‘วิสํ หลาหลํ อคทํ ภวตู’ติ. เตสํ สห สจฺจมนุคีเตน วิสํ หลาหลํ ขเณน ¶ อคทํ ภวติ, อปิ นุ โข, มหาราช, อตฺถิ ตสฺมึ หลาหลวิเส เหตุ สนฺนิจิโต ‘เยน เหตุนา วิสํ หลาหลํ ขเณน อคทํ ภวตี’’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, สจฺจํ เยว ตตฺถ เหตุ ภวติ วิสสฺส หลาหลสฺส ขเณน ¶ ปฏิฆาตายา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, วินา ปกติเหตุํ สจฺจํ เยเวตฺถ วตฺถุ ภวติ ทิพฺพจกฺขุสฺส อุปฺปาทายาติ.
‘‘จตุนฺนมฺปิ, มหาราช, อริยสจฺจานํ ปฏิเวธาย นตฺถฺํ วตฺถุ, สจฺจํ วตฺถุํ กตฺวา จตฺตาริ อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌนฺตีติ. อตฺถิ, มหาราช, จีนวิสเย จีนราชา, โส มหาสมุทฺเท กีฬิตุกาโม [พลึ กาตุกาโม (สี. ปี.)] จตุมาเส จตุมาเส สจฺจกิริยํ กตฺวา สห รเถน อนฺโตมหาสมุทฺเท โยชนํ ปวิสติ, ตสฺส รถสีสสฺส ปุรโต ปุรโต มหาวาริกฺขนฺโธ ปฏิกฺกมติ, นิกฺขนฺตสฺส ปุน โอตฺถรติ, อปิ นุ โข, มหาราช, โส มหาสมุทฺโท สเทวมนุสฺเสนปิ โลเกน ปกติกายพเลน สกฺกา ปฏิกฺกมาเปตุ’’นฺติ? ‘‘อติปริตฺตเกปิ, ภนฺเต, ตฬาเก อุทกํ น สกฺกา สเทวมนุสฺเสนปิ โลเกน ปกติกายพเลน ปฏิกฺกมาเปตุํ, กึ ปน มหาสมุทฺเท อุทก’’นฺติ? ‘‘อิมินาปิ, มหาราช, การเณน สจฺจพลํ าตพฺพํ ‘นตฺถิ ตํ านํ, ยํ สจฺเจน น ปตฺตพฺพ’นฺติ.
‘‘นคเร, มหาราช, ปาฏลิปุตฺเต อโสโก ธมฺมราชา สเนคมชานปทอมจฺจภฏพลมหามตฺเตหิ ปริวุโต คงฺคํ นทึ [คงฺคานทึ (สี.)] นวสลิลสมฺปุณฺณํ สมติตฺถิกํ สมฺภริตํ ปฺจโยชนสตายามํ โยชนปุถุลํ สนฺทมานํ ทิสฺวา อมจฺเจ เอวมาห ‘อตฺถิ โกจิ, ภเณ, สมตฺโถ, โย อิมํ มหาคงฺคํ ปฏิโสตํ สนฺทาเปตุ’นฺติ. อมจฺจา อาหํสุ ‘ทุกฺกรํ เทวา’ติ.
‘‘ตสฺมึ เยว คงฺคากูเล ิตา พนฺธุมตี นาม คณิกา อสฺโสสิ รฺา กิร เอวํ ¶ วุตฺตํ ‘สกฺกา นุ โข อิมํ มหาคงฺคํ ปฏิโสตํ สนฺทาเปตุ’นฺติ, สา เอวมาห ‘อหฺหิ นคเร ปาฏลิปุตฺเต คณิกา รูปูปชีวินี อนฺติมชีวิกา, มม ตาว ราชา สจฺจกิริยํ ปสฺสตู’ติ. อถ สา สจฺจกิริยํ อกาสิ, สห ตสฺสา สจฺจกิริยาย ขเณน สา มหาคงฺคา คฬคฬายนฺตี ปฏิโสตํ สนฺทิตฺถ มหโต ชนกายสฺส ปสฺสโต.
‘‘อถ ราชา คงฺคาย อาวฏฺฏอูมิเวคชนิตํ หลาหลสทฺทํ สุตฺวา วิมฺหิโต อจฺฉริยพฺภุตชาโต อมจฺเจ เอวมาห ‘กิสฺสายํ, ภเณ, มหาคงฺคา ปฏิโสตํ สนฺทตี’ติ? ‘พนฺธุมตี, มหาราช, คณิกา ตว วจนํ สุตฺวา ¶ สจฺจกิริยํ อกาสิ, ตสฺสา สจฺจกิริยาย มหาคงฺคา อุทฺธํมุขา สนฺทตี’ติ.
‘‘อถ สํวิคฺคหทโย ราชา ตุริตตุริโต สยํ คนฺตฺวา ตํ คณิกํ ปุจฺฉิ ‘สจฺจํ กิร, เช ¶ , ตยา สจฺจกิริยาย อยํ คงฺคา ปฏิโสตํ สนฺทาปิตา’ติ? ‘อาม เทวา’ติ. ราชา อาห ‘กึ เต ตตฺถ พลํ อตฺถิ, โก วา เต วจนํ อาทิยติ อนุมฺมตฺโต, เกน ตฺวํ พเลน อิมํ มหาคงฺคํ ปฏิโสตํ สนฺทาเปสี’ติ? สา อาห ‘สจฺจพเลนาหํ, มหาราช, อิมํ มหาคงฺคํ ปฏิโสตํ สนฺทาเปสิ’นฺติ. ราชา อาห ‘กึ เต สจฺจพลํ อตฺถิ โจริยา ธุตฺติยา อสติยา ฉินฺนิกาย ปาปิยา ภินฺนสีลาย [ปาปิกาย ภินฺนสีมาย (สี.)] หิริอติกฺกนฺติกาย อนฺธชนปโลภิกายา’ติ. ‘สจฺจํ, มหาราช, ตาทิสิกา อหํ, ตาทิสิกายปิ เม, มหาราช, สจฺจกิริยา อตฺถิ, ยายาหํ อิจฺฉมานา สเทวกมฺปิ โลกํ ปริวตฺเตยฺย’นฺติ. ราชา อาห ‘กตมา ปน สา โหติ สจฺจกิริยา, อิงฺฆ มํ สาเวหี’ติ. ‘โย เม, มหาราช, ธนํ เทติ ขตฺติโย วา พฺราหฺมโณ วา เวสฺโส วา สุทฺโท วา อฺโ วา โกจิ, เตสํ สมกํ เยว อุปฏฺหามิ, ‘‘ขตฺติโย’’ติ วิเสโส นตฺถิ, ‘‘สุทฺโท’’ติ อติมฺนา [อติมฺมาโน (ก.)] นตฺถิ, อนุนยปฺปฏิฆวิปฺปมุตฺตา ธนสฺสามิกํ ปริจรามิ, เอสา เม เทว สจฺจกิริยา, ยายาหํ อิมํ มหาคงฺคํ ปฏิโสตํ สนฺทาเปสิ’นฺติ.
‘‘อิติปิ, มหาราช, สจฺเจ ิตา น กิฺจิ อตฺถํ น วินฺทนฺติ. ทินฺนานิ จ, มหาราช, สิวิราเชน ยาจกสฺส จกฺขูนิ ¶ , ทิพฺพจกฺขูนิ จ อุปฺปนฺนานิ, ตฺจ สจฺจกิริยาย. ยํ ปน สุตฺเต วุตฺตํ ‘มํสจกฺขุสฺมึ นฏฺเ อเหตุสฺมึ อวตฺถุสฺมึ นตฺถิ ทิพฺพจกฺขุสฺส อุปฺปาโท’ติ. ตํ ภาวนามยํ จกฺขุํ สนฺธาย วุตฺตํ, เอวเมตํ, มหาราช, ธาเรหี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, สุนิพฺเพิโต ปฺโห, สุนิทฺทิฏฺโ นิคฺคโห, สุมทฺทิตา ปรวาทา, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
สิวิราชจกฺขุทานปฺโห ปฺจโม.
๖. คพฺภาวกฺกนฺติปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘ติณฺณํ โข ปน, ภิกฺขเว, สนฺนิปาตา คพฺภสฺส อวกฺกนฺติ [คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ (ม. นิ. ๑.๔๐๘)] โหติ, อิธ มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา ¶ โหนฺติ, มาตา จ อุตุนี โหติ, คนฺธพฺโพ จ ปจฺจุปฏฺิโต โหติ, อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, ติณฺณํ สนฺนิปาตา คพฺภสฺส อวกฺกนฺติ โหตี’ติ, อเสสวจนเมตํ, นิสฺเสสวจนเมตํ, นิปฺปริยายวจนเมตํ, อรหสฺสวจนเมตํ, สเทวมนุสฺสานํ มชฺเฌ นิสีทิตฺวา ภณิตํ, อยฺจ ทฺวินฺนํ สนฺนิปาตา คพฺภสฺส อวกฺกนฺติ ทิสฺสติ, ทุกูเลน ตาปเสน ปาริกาย ตาปสิยา อุตุนิกาเล ทกฺขิเณน หตฺถงฺคุฏฺเน ¶ นาภิ ปรามฏฺา, ตสฺส เตน นาภิปรามสเนน สามกุมาโร นิพฺพตฺโต. มาตงฺเคนาปิ อิสินา พฺราหฺมณกฺาย อุตุนิกาเล ทกฺขิเณน หตฺถงฺคุฏฺเน นาภิ ปรามฏฺา, ตสฺส เตน นาภิปรามสเนน มณฺฑพฺโย นาม มาณวโก นิพฺพตฺโตติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘ติณฺณํ โข ปน, ภิกฺขเว, สนฺนิปาตา คพฺภสฺส อวกฺกนฺติ โหตี’ติ. เตน หิ สาโม จ กุมาโร มณฺฑพฺโย จ มาณวโก อุโภปิ เต นาภิปรามสเนน นิพฺพตฺตาติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ, ภนฺเต, ตถาคเตน ภณิตํ ‘สาโม จ กุมาโร มณฺฑพฺโย จ มาณวโก นาภิปรามสเนน นิพฺพตฺตา’’ติ, เตน หิ ‘ติณฺณํ โข ปน, ภิกฺขเว, สนฺนิปาตา ¶ คพฺภสฺส อวกฺกนฺติ โหตี’ติ ยํ วจนํ, ตมฺปิ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห สุคมฺภีโร สุนิปุโณ วิสโย พุทฺธิมนฺตานํ, โส ตวานุปฺปตฺโต, ฉินฺท วิมติปถํ, ธาเรหิ าณวรปฺปชฺโชต’’นฺติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘ติณฺณํ โข ปน, ภิกฺขเว, สนฺนิปาตา คพฺภสฺส อวกฺกนฺติ โหติ, อิธ มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺติ, มาตา จ อุตุนี โหติ, คนฺธพฺโพ จ ปจฺจุปฏฺิโต โหติ, เอวํ ติณฺณํ สนฺนิปาตา คพฺภสฺส อวกฺกนฺติ โหตี’ติ. ภณิตฺจ ‘สาโม จ กุมาโร มณฺฑพฺโย จ มาณวโก นาภิปรามสเนน นิพฺพตฺตา’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, เยน การเณน ปฺโห สุวินิจฺฉิโต โหติ, เตน การเณน มํ สฺาเปหี’’ติ.
‘‘สุตปุพฺพํ ปน ตยา, มหาราช, สํกิจฺโจ จ กุมาโร อิสิสิงฺโค จ ตาปโส เถโร จ กุมารกสฺสโป ‘อิมินา นาม เต นิพฺพตฺตา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สุยฺยติ, อพฺภุคฺคตา เตสํ ชาติ, ทฺเว มิคเธนุโย ตาว อุตุนิกาเล ทฺวินฺนํ ตาปสานํ ปสฺสาวฏฺานํ อาคนฺตฺวา สสมฺภวํ ปสฺสาวํ ปิวึสุ, เตน ปสฺสาวสมฺภเวน สํกิจฺโจ จ กุมาโร อิสิสิงฺโค จ ตาปโส นิพฺพตฺตา. เถรสฺส อุทายิสฺส ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปคตสฺส ¶ รตฺตจิตฺเตน ภิกฺขุนิยา องฺคชาตํ อุปนิชฺฌายนฺตสฺส สมฺภวํ กาสาเว มุจฺจิ. อถ โข อายสฺมา อุทายิ ตํ ภิกฺขุนึ เอตทโวจ ‘คจฺฉ ภคินิ, อุทกํ อาหร อนฺตรวาสกํ โธวิสฺสามี’ติ. ‘อาหรยฺย อหเมว โธวิสฺสามี’ติ. ตโต สา ภิกฺขุนี อุตุนิสมเย ตํ สมฺภวํ เอกเทสํ มุเขน อคฺคเหสิ, เอกเทสํ องฺคชาเต ปกฺขิปิ, เตน เถโร กุมารกสฺสโป นิพฺพตฺโตติ เอตํ ชโน อาหา’’ติ.
‘‘อปิ นุ โข ตฺวํ, มหาราช, สทฺทหสิ ตํ วจน’’นฺติ? ‘‘อาม ภนฺเต, พลวํ ตตฺถ มยํ การณํ อุปลภาม, เยน มยํ การเณน สทฺทหาม ‘อิมินา การเณน นิพฺพตฺตา’’ติ. ‘‘กึ ปเนตฺถ, มหาราช, การณ’’นฺติ? ‘‘สุปริกมฺมกเต ¶ , ภนฺเต, กลเล พีชํ นิปติตฺวา ขิปฺปํ สํวิรุหตี’’ติ ¶ . ‘‘อาม มหาราชา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, ภนฺเต, สา ภิกฺขุนี อุตุนี สมานา สณฺิเต กลเล รุหิเร ปจฺฉินฺนเวเค ิตาย ธาตุยา ตํ สมฺภวํ คเหตฺวา ตสฺมึ กลเล ปกฺขิปิ, เตน ตสฺสา คพฺโภ สณฺาสิ, เอวํ ตตฺถ การณํ ปจฺเจม เตสํ นิพฺพตฺติยา’’ติ. ‘‘เอวเมตํ, มหาราช, ตถา สมฺปฏิจฺฉามิ, โยนิปฺปเวเสน คพฺโภ สมฺภวตีติ. สมฺปฏิจฺฉสิ ปน, ตฺวํ มหาราช, เถรสฺส กุมารกสฺสปสฺส คพฺภาวกฺกมน’’นฺติ? ‘‘อาม ภนฺเต’’ติ. ‘‘สาธุ, มหาราช, ปจฺจาคโตสิ มม วิสยํ, เอกวิเธนปิ คพฺภาวกฺกนฺตึ กถยนฺโต มมานุพลํ ภวิสฺสสิ, อถ ยา ปน ตา ทฺเว มิคเธนุโย ปสฺสาวํ ปิวิตฺวา คพฺภํ ปฏิลภึสุ, ตาสํ ตฺวํ สทฺทหสิ คพฺภสฺสาวกฺกมน’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ยํ กิฺจิ ภุตฺตํ ปีตํ ขายิตํ เลหิตํ, สพฺพํ ตํ กลลํ โอสรติ, านคตํ วุฑฺฒิมาปชฺชติ. ยถา, ภนฺเต นาคเสน, ยา กาจิ สริตา นาม, สพฺพา ตา มหาสมุทฺทํ โอสรนฺติ, านคตา วุฑฺฒิมาปชฺชนฺติ. เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, ยํ กิฺจิ ภุตฺตํ ปีตํ ขายิตํ เลหิตํ, สพฺพํ ตํ กลลํ โอสรติ, านคตํ วุฑฺฒิมาปชฺชติ, เตนาหํ การเณน สทฺทหามิ มุขคเตนปิ คพฺภสฺส อวกฺกนฺติ โหตี’’ติ. ‘‘สาธุ, มหาราช, คาฬฺหตรํ อุปคโตสิ มม วิสยํ, มุขปาเนนปิ ทฺวยสนฺนิปาโต ภวติ. สํกิจฺจสฺส จ, มหาราช, กุมารสฺส อิสิสิงฺคสฺส จ ตาปสสฺส เถรสฺส จ กุมารกสฺสปสฺส คพฺภาวกฺกมนํ สมฺปฏิจฺฉสี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สนฺนิปาโต โอสรตี’’ติ.
‘‘สาโมปิ, มหาราช, กุมาโร มณฺฑพฺโยปิ มาณวโก ตีสุ สนฺนิปาเตสุ อนฺโตคธา, เอกรสา เยว ปุริเมน, ตตฺถ การณํ วกฺขามิ. ทุกูโล ¶ จ, มหาราช, ตาปโส ปาริกา จ ตาปสี อุโภปิ เต อรฺวาสา อเหสุํ ปวิเวกาธิมุตฺตา อุตฺตมตฺถคเวสกา, ตปเตเชน ยาว พฺรหฺมโลกํ สนฺตาเปสุํ ¶ . เตสํ ตทา สกฺโก เทวานมินฺโท สายํ ปาตํ อุปฏฺานํ อาคจฺฉติ. โส เตสํ ครุกตเมตฺตตาย อุปธาเรนฺโต อทฺทส อนาคตมทฺธาเน ทฺวินฺนมฺปิ เตสํ จกฺขูนํ อนฺตรธานํ, ทิสฺวา เต เอวมาห ‘เอกํ เม, โภนฺโต, วจนํ กโรถ, สาธุ เอกํ ปุตฺตํ ชเนยฺยาถ, โส ตุมฺหากํ อุปฏฺาโก ภวิสฺสติ อาลมฺพโน จา’ติ. ‘อลํ, โกสิย, มา เอวํ ภณี’ติ. เต ตสฺส ตํ วจนํ น สมฺปฏิจฺฉึสุ. อนุกมฺปโก อตฺถกาโม สกฺโก เทวานมินฺโท ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ เต เอวมาห ‘เอกํ เม, โภนฺโต, วจนํ กโรถ, สาธุ เอกํ ปุตฺตํ ชเนยฺยาถ, โส ตุมฺหากํ อุปฏฺาโก ภวิสฺสติ อาลมฺพโน จา’ติ. ตติยมฺปิ เต อาหํสุ ‘อลํ, โกสิย, มา ตฺวํ โข อมฺเห อนตฺเถ นิโยเชหิ, กทายํ กาโย น ภิชฺชิสฺสติ, ภิชฺชตุ อยํ กาโย เภทนธมฺโม, ภิชฺชนฺติยาปิ ธรณิยา ปตนฺเตปิ เสลสิขเร ผลนฺเตปิ อากาเส ปตนฺเตปิ จนฺทิมสูริเย ¶ เนว มยํ โลกธมฺเมหิ มิสฺสยิสฺสาม, มา ตฺวํ อมฺหากํ สมฺมุขภาวํ อุปคจฺฉ, อุปคตสฺส เต เอโส วิสฺสาโส, อนตฺถจโร ตฺวํ มฺเ’ติ.
ตโต สกฺโก เทวานมินฺโท เตสํ มนํ อลภมาโน ครุกโต ปฺชลิโก ปุน ยาจิ ‘ยทิ เม วจนํ น อุสฺสหถ กาตุํ, ยทา ตาปสี อุตุนี โหติ ปุปฺผวตี, ตทา ตฺวํ, ภนฺเต, ทกฺขิเณน หตฺถงฺคุฏฺเน นาภึ ปรามเสยฺยาสิ, เตน สา คพฺภํ ลจฺฉติ, สนฺนิปาโต เยเวส คพฺภาวกฺกนฺติยา’ติ. ‘สกฺโกมหํ, โกสิย, ตํ วจนํ กาตุํ, น ตาวตเกน อมฺหากํ ตโป ภิชฺชติ, โหตู’ติ สมฺปฏิจฺฉึสุ. ตาย จ ปน เวลาย เทวภวเน อตฺถิ เทวปุตฺโต อุสฺสนฺนกุสลมูโล ขีณายุโก อายุกฺขยปฺปตฺโต ยทิจฺฉกํ สมตฺโถ โอกฺกมิตุํ อปิ จกฺกวตฺติกุเลปิ. อถ สกฺโก เทวานมินฺโท ตํ เทวปุตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาห ‘เอหิ โข, มาริส, สุปภาโต เต ทิวโส, อตฺถสิทฺธิ อุปคตา, ยมหํ เต อุปฏฺานมาคมึ, รมณีเย เต โอกาเส วาโส ภวิสฺสติ, ปติรูเป ¶ กุเล ปฏิสนฺธิ ภวิสฺสติ, สุนฺทเรหิ มาตาปิตูหิ วฑฺเฒตพฺโพ, เอหิ เม วจนํ กโรหี’ติ ยาจิ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ ยาจิ สิรสิ ปฺชลิกโต.
ตโต ¶ โส เทวปุตฺโต เอวมาห ‘กตมํ ตํ, มาริส, กุลํ, ยํ ตฺวํ อภิกฺขณํ กิตฺตยสิ ปุนปฺปุน’นฺติ. ‘ทุกูโล จ ตาปโส ปาริกา จ ตาปสี’ติ. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ตุฏฺโ สมฺปฏิจฺฉิ ‘สาธุ, มาริส, โย ตว ฉนฺโท, โส โหตุ, อากงฺขมาโน อหํ, มาริส, ปตฺถิเต กุเล อุปฺปชฺเชยฺยํ, กิมฺหิ กุเล อุปฺปชฺชามิ อณฺฑเช วา ชลาพุเช วา สํเสทเช วา โอปปาติเก วา’ติ? ‘ชลาพุชาย, มาริส, โยนิยา อุปฺปชฺชาหี’ติ. อถ สกฺโก เทวานมินฺโท อุปฺปตฺติทิวสํ วิคเณตฺวา ทุกูลสฺส ตาปสสฺส อาโรเจสิ ‘อสุกสฺมึ นาม ทิวเส ตาปสี อุตุนี ภวิสฺสติ ปุปฺผวตี, ตทา ตฺวํ, ภนฺเต, ทกฺขิเณน หตฺถงฺคุฏฺเน นาภึ ปรามเสยฺยาสี’ติ. ตสฺมึ, มหาราช, ทิวเส ตาปสี จ อุตุนี ปุปฺผวตี อโหสิ, เทวปุตฺโต จ ตตฺถูปโค ปจฺจุปฏฺิโต อโหสิ, ตาปโส จ ทกฺขิเณน หตฺถงฺคุฏฺเน ตาปสิยา นาภึ ปรามสิ, อิติ เต ตโย สนฺนิปาตา อเหสุํ, นาภิปรามสเนน ตาปสิยา ราโค อุทปาทิ, โส ปนสฺสา ราโค นาภิปรามสนํ ปฏิจฺจ มา ตฺวํ สนฺนิปาตํ อชฺฌาจารเมว มฺิ, อูหสนมฺปิ [หสนมฺปิ (ก.)] สนฺนิปาโต, อุลฺลปนมฺปิ สนฺนิปาโต, อุปนิชฺฌายนมฺปิ สนฺนิปาโต, ปุพฺพภาคภาวโต ราคสฺส อุปฺปาทาย อามสเนน สนฺนิปาโต ชายติ, สนฺนิปาตา โอกฺกมนํ โหตีติ.
‘‘อนชฺฌาจาเรปิ, มหาราช, ปรามสเนน คพฺภาวกฺกนฺติ โหติ. ยถา, มหาราช, อคฺคิ ¶ ชลมาโน อปรามสโนปิ อุปคตสฺส สีตํ พฺยปหนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, อนชฺฌาจาเรปิ ปรามสเนน คพฺภาวกฺกนฺติ โหติ.
‘‘จตุนฺนํ, มหาราช, วเสน สตฺตานํ คพฺภาวกฺกนฺติ โหติ กมฺมวเสน โยนิวเสน กุลวเสน อายาจนวเสน, อปิ จ สพฺเพเปเต สตฺตา กมฺมสมฺภวา กมฺมสมุฏฺานา ¶ .
‘‘กถํ, มหาราช, กมฺมวเสน สตฺตานํ คพฺภาวกฺกนฺติ โหติ? อุสฺสนฺนกุสลมูลา, มหาราช, สตฺตา ยทิจฺฉกํ อุปฺปชฺชนฺติ ขตฺติยมหาสาลกุเล วา พฺราหฺมณมหาสาลกุเล วา คหปติมหาสาลกุเล วา เทเวสุ วา อณฺฑชาย วา โยนิยา ชลาพุชาย วา โยนิยา สํเสทชาย วา โยนิยา โอปปาติกาย วา โยนิยา. ยถา, มหาราช, ปุริโส อฑฺโฒ ¶ มหทฺธโน มหาโภโค ปหูตชาตรูปรชโต ปหูตวิตฺตูปกรโณ ปหูตธนธฺโ ปหูตาติปกฺโข ทาสึ วา ทาสํ วา เขตฺตํ วา วตฺถุํ วา คามํ วา นิคมํ วา ชนปทํ วา ยํ กิฺจิ มนสา อภิปตฺถิตํ, ยทิจฺฉกํ ทฺวิคุณติคุณมฺปิ ธนํ ทตฺวา กิณาติ, เอวเมว โข, มหาราช, อุสฺสนฺนกุสลมูลา สตฺตา ยทิจฺฉกํ อุปฺปชฺชนฺติ ขตฺติยมหาสาลกุเล วา พฺราหฺมณมหาสาลกุเล วา คหปติมหาสาลกุเล วา เทเวสุ วา อณฺฑชาย วา โยนิยา ชลาพุชาย วา โยนิยา สํเสทชย วา โยนิยา โอปปาติกาย วา โยนิยา. เอวํ กมฺมวเสน สตฺตานํ คพฺภาวกฺกนฺติ โหติ.
‘‘กถํ โยนิวเสน สตฺตานํ คพฺภาวกฺกนฺติ โหติ? กุกฺกุฏานํ, มหาราช, วาเตน คพฺภาวกฺกนฺติ โหติ. พลากานํ เมฆสทฺเทน คพฺภาวกฺกนฺติ โหติ. สพฺเพปิ เทวา อคพฺภเสยฺยกา สตฺตา เยว, เตสํ นานาวณฺเณน คพฺภาวกฺกนฺติ โหติ. ยถา, มหาราช, มนุสฺสา นานาวณฺเณน มหิยา จรนฺติ, เกจิ ปุรโต ปฏิจฺฉาเทนฺติ, เกจิ ปจฺฉโต ปฏิจฺฉาเทนฺติ, เกจิ นคฺคา โหนฺติ, เกจิ ภณฺฑู โหนฺติ เสตปฏธรา, เกจิ โมฬิพทฺธา โหนฺติ, เกจิ ภณฺฑู กาสาววสนา โหนฺติ, เกจิ กาสาววสนา โมฬิพทฺธา โหนฺติ, เกจิ ชฏิโน วากจีรธรา [วากจีรา (ก.)] โหนฺติ, เกจิ จมฺมวสนา โหนฺติ, เกจิ รสฺมิโย นิวาเสนฺติ, สพฺเพเปเต มนุสฺสา นานาวณฺเณน มหิยา จรนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, สตฺตา เยว เต สพฺเพ, เตสํ นานาวณฺเณน คพฺภาวกฺกนฺติ โหติ. เอวํ โยนิวเสน สตฺตานํ คพฺภาวกฺกนฺติ โหติ.
‘‘กถํ กุลวเสน สตฺตานํ คพฺภาวกฺกนฺติ โหติ? กุลํ นาม, มหาราช, จตฺตาริ กุลานิ อณฺฑชํ ชลาพุชํ สํเสทชํ ¶ โอปปาติกํ. ยทิ ตตฺถ คนฺธพฺโพ ยโต กุโตจิ อาคนฺตฺวา ¶ อณฺฑเช กุเล อุปฺปชฺชติ, โส ตตฺถ อณฺฑโช โหติ…เป… ชลาพุเช กุเล…เป… สํเสทเช กุเล…เป… โอปปาติเก กุเล อุปฺปชฺชติ, โส ตตฺถ โอปปาติโก โหติ. เตสุ เตสุ กุเลสุ ตาทิสา เยว สตฺตา สมฺภวนฺติ. ยถา, มหาราช, หิมวติ เนรุปพฺพตํ เย เกจิ มิคปกฺขิโน อุเปนฺติ, สพฺเพ เต ¶ สกวณฺณํ วิชหิตฺวา สุวณฺณวณฺณา โหนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ คนฺธพฺโพ ยโต กุโตจิ อาคนฺตฺวา อณฺฑชํ โยนึ อุปคนฺตฺวา สภาววณฺณํ วิชหิตฺวา อณฺฑโช โหติ…เป… ชลาพุชํ…เป… สํเสทชํ…เป… โอปปาติกํ โยนึ อุปคนฺตฺวา สภาววณฺณํ วิชหิตฺวา โอปปาติโก โหติ, เอวํ กุลวเสน สตฺตานํ คพฺภาวกฺกนฺติ โหติ.
‘‘กถํ อายาจนวเสน สตฺตานํ คพฺภาวกฺกนฺติ โหติ? อิธ, มหาราช, กุลํ โหติ อปุตฺตกํ พหุสาปเตยฺยํ สทฺธํ ปสนฺนํ สีลวนฺตํ กลฺยาณธมฺมํ ตปนิสฺสิตํ, เทวปุตฺโต จ อุสฺสนฺนกุสลมูโล จวนธมฺโม โหติ. อถ สกฺโก เทวานมินฺโท ตสฺส กุลสฺส อนุกมฺปาย ตํ เทวปุตฺตํ อายาจติ ‘ปณิเธหิ, มาริส, อสุกสฺส กุลสฺส มเหสิยา กุจฺฉิ’นฺติ. โส ตสฺส อายาจนเหตุ ตํ กุลํ ปณิเธติ. ยถา, มหาราช, มนุสฺสา ปฺุกามา สมณํ มโนภาวนียํ อายาจิตฺวา เคหํ อุปเนนฺติ, อยํ อุปคนฺตฺวา สพฺพสฺส กุลสฺส สุขาวโห ภวิสฺสตีติ. เอวเมว โข, มหาราช, สกฺโก เทวานมินฺโท ตํ เทวปุตฺตํ อายาจิตฺวา ตํ กุลํ อุปเนติ. เอวํ อายาจนวเสน สตฺตานํ คพฺภาวกฺกนฺติ โหติ.
‘‘สาโม, มหาราช, กุมาโร สกฺเกน เทวานมินฺเทน อายาจิโต ปาริกาย ตาปสิยา กุจฺฉึ โอกฺกนฺโต. สาโม, มหาราช, กุมาโร กตปฺุโ, มาตาปิตโร สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา, อายาจโก สกฺโก, ติณฺณํ เจโตปณิธิยา สาโม กุมาโร นิพฺพตฺโต. อิธ, มหาราช, นยกุสโล ปุริโส สุกฏฺเ อนูปเขตฺเต พีชํ โรเปยฺย, อปิ นุ ตสฺส พีชสฺส อนฺตรายํ วิวชฺเชนฺตสฺส วุฑฺฒิยา โกจิ อนฺตราโย ภเวยฺยา’’ติ ¶ ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, นิรุปฆาตํ พีชํ ขิปฺปํ สํวิรุเหยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, สาโม กุมาโร มุตฺโต อุปฺปนฺนนฺตราเยหิ ติณฺณํ เจโตปณิธิยา นิพฺพตฺโต.
‘‘อปิ นุ โข, มหาราช, สุตปุพฺพํ ตยา อิสีนํ มโนปโทเสน อิทฺโธ ผีโต มหาชนปโท สชโน สมุจฺฉินฺโน’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สุยฺยติ. มหิยา ทณฺฑการฺํ [ทณฺฑกีรฺํ (ม. นิ. ๒.๖๕)] มชฺฌารฺํ กาลิงฺคารฺํ มาตงฺคารฺํ, สพฺพํ ตํ อรฺํ อรฺภูตํ, สพฺเพเปเต ชนปทา อิสีนํ มโนปโทเสน ขยํ คตา’’ติ. ‘‘ยทิ ¶ , มหาราช, เตสํ มโนปโทเสน สุสมิทฺธา ชนปทา ¶ อุจฺฉิชฺชนฺติ, อปิ นุ โข เตสํ มโนปสาเทน กิฺจิ นิพฺพตฺเตยฺยา’’ติ? ‘‘อาม ภนฺเต’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, สาโม กุมาโร ติณฺณํ พลวนฺตานํ เจโตปสาเทน นิพฺพตฺโต อิสินิมฺมิโต เทวนิมฺมิโต ปฺุนิมฺมิโตติ. เอวเมตํ, มหาราช, ธาเรหิ.
‘‘ตโยเม, มหาราช, เทวปุตฺตา สกฺเกน เทวานมินฺเทน อายาจิตา กุลํ อุปฺปนฺนา. กตเม ตโย? สาโม กุมาโร มหาปนาโท กุสราชา, ตโยเปเต โพธิสตฺตา’’ติ. ‘‘สุนิทฺทิฏฺา, ภนฺเต นาคเสน, คพฺภาวกฺกนฺติ, สุกถิตํ การณํ, อนฺธกาโร อาโลโก กโต, ชฏา วิชฏิตา, นิจฺฉุทฺธา ปรวาทา, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
คพฺภาวกฺกนฺติปฺโห ฉฏฺโ.
๗. สทฺธมฺมนฺตรธานปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘ปฺเจว ทานิ, อานนฺท, วสฺสสตานิ [วสฺสสหสฺสานิ (สี.) ปสฺส อ. นิ. ๘.๕๑] สทฺธมฺโม สฺสตี’ติ. ปุน จ ปรินิพฺพานสมเย สุภทฺเทน ปริพฺพาชเกน ปฺหํ ปุฏฺเน ภควตา ภณิตํ ‘อิเม จ, สุภทฺท [ที. นิ. ๒.๒๑๔ ปสฺสิตพฺพํ], ภิกฺขู สมฺมา วิหเรยฺยุํ, อสฺุโ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสา’ติ, อเสสวจนเมตํ, นิสฺเสสวจนเมตํ, นิปฺปริยายวจนเมตํ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคเตน ภณิตํ ‘ปฺเจว ทานิ, อานนฺท, วสฺสสตานิ สทฺธมฺโม สฺสตี’ติ, เตน หิ ‘อสฺุโ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสา’ติ ¶ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ตถาคเตน ภณิตํ ‘อสฺุโ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสา’ติ, เตน หิ ‘ปฺเจว ทานิ, อานนฺท, วสฺสสตานิ สทฺธมฺโม สฺสตี’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห คหนโตปิ คหนตโร พลวโตปิ พลวตโร คณฺิโตปิ คณฺิตโร, โส ตวานุปฺปตฺโต, ตตฺถ เต าณพลวิปฺผารํ ทสฺเสหิ มกโร วิย สาครพฺภนฺตรคโต’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘ปฺเจว ทานิ, อานนฺท, วสฺสสตานิ สทฺธมฺโม สฺสตี’ติ. ปรินิพฺพานสมเย จ สุภทฺทสฺส ปริพฺพาชกสฺส ภณิตํ ¶ ‘อิเม จ, สุภทฺท, ภิกฺขู สมฺมา วิหเรยฺยุํ, อสฺุโ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสา’ติ. ตฺจ ปน, มหาราช, ภควโต วจนํ นานตฺถฺเจว โหติ นานาพฺยฺชนฺจ, อยํ สาสนปริจฺเฉโท, อยํ ปฏิปตฺติ ปริทีปนาติ ทูรํ วิวชฺชิตา เต อุโภ อฺมฺํ. ยถา, มหาราช, นภํ ปถวิโต ทูรํ วิวชฺชิตํ ¶ , นิรยํ สคฺคโต ทูรํ วิวชฺชิตํ, กุสลํ อกุสลโต ทูรํ วิวชฺชิตํ, สุขํ ทุกฺขโต ทูรํ วิวชฺชิตํ. เอวเมว โข, มหาราช, เต อุโภ อฺมฺํ ทูรํ วิวชฺชิตา.
‘‘อปิ จ, มหาราช, มา เต ปุจฺฉา โมฆา อสฺส [อสฺสุ (สี. สฺยา.)], รสโต เต สํสนฺทิตฺวา กถยิสฺสามิ ‘ปฺเจว ทานิ, อานนฺท, วสฺสสตานิ สทฺธมฺโม สฺสตี’ติ ยํ ภควา อาห, ตํ ขยํ ปริทีปยนฺโต เสสกํ ปริจฺฉินฺทิ, วสฺสสหสฺสํ, อานนฺท, สทฺธมฺโม ติฏฺเยฺย, สเจ ภิกฺขุนิโย น ปพฺพาเชยฺยุํ. ปฺเจว ทานิ, อานนฺท, วสฺสสตานิ สทฺธมฺโม สฺสตีติ. อปิ นุ โข, มหาราช, ภควา เอวํ วทนฺโต สทฺธมฺมสฺส อนฺตรธานํ วา วเทติ อภิสมยํ วา ปฏิกฺโกสตี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘นฏฺํ, มหาราช, ปริกิตฺตยนฺโต เสสกํ ปริทีปยนฺโต ปริจฺฉินฺทิ. ยถา, มหาราช, ปุริโส นฏฺายิโก สพฺพเสสกํ คเหตฺวา ชนสฺส ปริทีเปยฺย ‘เอตฺตกํ เม ภณฺฑํ นฏฺํ, อิทํ เสสก’นฺติ ¶ . เอวเมว โข, มหาราช, ภควา นฏฺํ ปริทีปยนฺโต เสสกํ เทวมนุสฺสานํ กเถสิ ‘ปฺเจว ทานิ, อานนฺท, วสฺสสตานิ สทฺธมฺโม สฺสตี’ติ. ยํ ปน, มหาราช, ภควตา ภณิตํ ‘ปฺเจว ทานิ, อานนฺท, วสฺสสตานิ สทฺธมฺโม สฺสตี’ติ, สาสนปริจฺเฉโท เอโส.
‘‘ยํ ปน ปรินิพฺพานสมเย สุภทฺทสฺส ปริพฺพาชกสฺส สมเณ ปริกิตฺตยนฺโต อาห ‘อิเม จ, สุภทฺท, ภิกฺขู สมฺมา วิหเรยฺยุํ, อสฺุโ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสา’ติ, ปฏิปตฺติปริทีปนา เอสา, ตฺวํ ปน ตํ ปริจฺเฉทฺจ ปริทีปนฺจ เอกรสํ กโรสิ. ยทิ ปน เต ฉนฺโท, เอกรสํ กตฺวา กถยิสฺสามิ, สาธุกํ สุโณหิ มนสิกโรหิ อวิกฺขิตฺตมานโส [อวิจลมานโส (สี.) อวิมานโส (ปี. ก.)].
‘‘อิธ, มหาราช, ตฬาโก ภเวยฺย นวสลิลสมฺปุณฺโณ สมฺมุขมุตฺตริยมาโน ปริจฺฉินฺโน ปริวฏุมกโต, อปริยาทิณฺเณ เยว ตสฺมึ ¶ ตฬาเก อุทกูปริ มหาเมโฆ อปราปรํ อนุปฺปพนฺโธ อภิวสฺเสยฺย, อปิ นุ โข, มหาราช, ตสฺมึ ตฬาเก อุทกํ ปริกฺขยํ ปริยาทานํ คจฺเฉยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เกน การเณน มหาราชา’’ติ? ‘‘เมฆสฺส, ภนฺเต, อนุปฺปพนฺธตายา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ชินสาสนวรสทฺธมฺมตฬาโก อาจารสีลคุณวตฺตปฏิปตฺติวิมลนวสลิลสมฺปุณฺโณ อุตฺตริยมาโน ภวคฺคมภิภวิตฺวา ิโต. ยทิ ตตฺถ พุทฺธปุตฺตา อาจารสีลคุณวตฺตปฏิปตฺติเมฆวสฺสํ อปราปรํ อนุปฺปพนฺธาเปยฺยุํ อภิวสฺสาเปยฺยุํ. เอวมิทํ ชินสาสนวรสทฺธมฺมตฬาโก จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺเยฺย, อรหนฺเตหิ โลโก อสฺุโ ภเวยฺย, อิมมตฺถํ ภควตา สนฺธาย ภาสิตํ ‘อิเม จ, สุภทฺท, ภิกฺขู สมฺมา วิหเรยฺยุํ, อสฺุโ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสา’ติ.
‘‘อิธ ¶ ปน, มหาราช, มหติ มหาอคฺคิกฺขนฺเธ ชลมาเน อปราปรํ สุกฺขติณกฏฺโคมยานิ อุปสํหเรยฺยุํ, อปิ นุ โข โส, มหาราช, อคฺคิกฺขนฺโธ นิพฺพาเยยฺยา’’ติ ¶ ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ภิยฺโย ภิยฺโย โส อคฺคิกฺขนฺโธ ชเลยฺย, ภิยฺโย ภิยฺโย ปภาเสยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ทสสหสฺสิยา [ทสสหสฺสิมฺหิ (พหูสุ)] โลกธาตุยา ชินสาสนวรมฺปิ อาจารสีลคุณวตฺตปฏิปตฺติยา ชลติ ปภาสติ. ยทิ ปน, มหาราช, ตทุตฺตรึ พุทฺธปุตฺตา ปฺจหิ ปธานิยงฺเคหิ สมนฺนาคตา สตตมปฺปมตฺตา ปทเหยฺยุํ, ตีสุ สิกฺขาสุ ฉนฺทชาตา สิกฺเขยฺยุํ, จาริตฺตฺจ สีลํ สมตฺตํ ปริปูเรยฺยุํ, เอวมิทํ ชินสาสนวรํ ภิยฺโย ภิยฺโย จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺเยฺย, อสฺุโ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสาติ อิมมตฺถํ ภควตา สนฺธาย ภาสิตํ ‘อิเม จ, สุภทฺท, ภิกฺขู สมฺมา วิหเรยฺยุํ, อสฺุโ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสา’ติ.
‘‘อิธ ปน, มหาราช, สินิทฺธสมสุมชฺชิตสปฺปภาสวิมลาทาสํ [สปฺปภํ สุวิมลาทาสํ (สี.)] สณฺหสุขุมเครุกจุณฺเณน อปราปรํ มชฺเชยฺยุํ, อปิ นุ โข, มหาราช, ตสฺมึ อาทาเส มลกทฺทมรโชชลฺลํ ชาเยยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, อฺทตฺถุ วิมลตรํ เยว ภเวยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ชินสาสนวรํ ปกตินิมฺมลํ พฺยปคตกิเลสมลรโชชลฺลํ, ยทิ ตํ พุทฺธปุตฺตา อาจารสีลคุณวตฺตปฏิปตฺติสลฺเลขธุตคุเณน ชินสาสนวรํ สลฺลกฺเขยฺยุํ [สลฺลิกฺเขยฺยุํ (สี. ปี.)], เอวมิทํ ชินสาสนวรํ จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺเยฺย, อสฺุโ จ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสาติ ¶ อิมมตฺถํ ภควตา สนฺธาย ภาสิตํ ‘อิเม จ, สุภทฺท, ภิกฺขู สมฺมา วิหเรยฺยุํ, อสฺุโ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสา’ติ. ปฏิปตฺติมูลกํ, มหาราช, สตฺถุสาสนํ ปฏิปตฺติการณํ ปฏิปตฺติยา อนนฺตรหิตาย ติฏฺตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘สทฺธมฺมนฺตรธาน’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ สทฺธมฺมนฺตรธาน’’นฺติ? ‘‘ตีณิมานิ, มหาราช, สาสนนฺตรธานานิ. กตมานิ ตีณิ? อธิคมนฺตรธานํ ปฏิปตฺตนฺตรธานํ ลิงฺคนฺตรธานํ ¶ , อธิคเม, มหาราช, อนฺตรหิเต สุปฺปฏิปนฺนสฺสาปิ ธมฺมาภิสมโย น โหติ, ปฏิปตฺติยา อนฺตรหิตาย สิกฺขาปทปฺตฺติ อนฺตรธายติ, ลิงฺคํเยว ติฏฺติ, ลิงฺเค อนฺตรหิเต ปเวณุปจฺเฉโท โหติ, อิมานิ โข, มหาราช, ตีณิ อนฺตรธานานี’’ติ.
‘‘สุวิฺาปิโต, ภนฺเต นาคเสน, ปฺโห, คมฺภีโร อุตฺตานีกโต, คณฺิ ภินฺโน, นฏฺา ปรวาทา ภคฺคา นิปฺปภา กตา, ตฺวํ คณิวรวสภมาสชฺชาติ.
สทฺธมฺมนฺตรธานปฺโห สตฺตโม.
๘. อกุสลจฺเฉทนปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ตถาคโต สพฺพํ อกุสลํ ฌาเปตฺวา สพฺพฺุตํ ปตฺโต, อุทาหุ สาวเสเส อกุสเล สพฺพฺุตํ ปตฺโต’’ติ? ‘‘สพฺพํ, มหาราช, อกุสลํ ฌาเปตฺวา ภควา สพฺพฺุตํ ปตฺโต, นตฺถิ ภควโต เสเสกํ อกุสล’’นฺติ.
‘‘กึ ปน, ภนฺเต, ทุกฺขา เวทนา ตถาคตสฺส กาเย อุปฺปนฺนปุพฺพา’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ราชคเห ภควโต ปาโท สกลิกาย [สกฺขลิกาย (สฺยา. ก.)] ขโต, โลหิตปกฺขนฺทิกาพาโธ อุปฺปนฺโน, กาเย อภิสนฺเน ชีวเกน วิเรโก การิโต, วาตาพาเธ อุปฺปนฺเน อุปฏฺาเกน เถเรน อุณฺโหทกํ ปริยิฏฺ’’นฺติ.
‘‘ยทิ ¶ , ภนฺเต นาคเสน, ตถาคโต สพฺพํ อกุสลํ ฌาเปตฺวา สพฺพฺุตํ ปตฺโต, เตน หิ ภควโต ปาโท สกลิกาย ขโต, โลหิตปกฺขนฺทิกา จ อาพาโธ อุปฺปนฺโนติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ตถาคตสฺส ปาโท สกลิกาย ขโต, โลหิตปกฺขนฺทิกา จ อาพาโธ อุปฺปนฺโน, เตน หิ ตถาคโต สพฺพํ อกุสลํ ฌาเปตฺวา สพฺพฺุตํ ปตฺโตติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. นตฺถิ, ภนฺเต, วินา กมฺเมน เวทยิตํ, สพฺพํ ตํ เวทยิตํ กมฺมมูลกํ, ตํ กมฺเมเนว เวทยติ, อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ [นิพฺพายิตพฺโพติ (ก.)].
‘‘น หิ, มหาราช, สพฺพํ ตํ เวทยิตํ กมฺมมูลกํ. อฏฺหิ, มหาราช, การเณหิ เวทยิตานิ อุปฺปชฺชนฺติ, เยหิ การเณหิ ปุถู สตฺตา เวทนา เวทิยนฺติ. กตเมหิ อฏฺหิ? วาตสมุฏฺานานิปิ โข, มหาราช, อิเธกจฺจานิ เวทยิตานิ ¶ อุปฺปชฺชนฺติ, ปิตฺตสมุฏฺานานิปิ โข, มหาราช…เป… เสมฺหสมุฏฺานานิปิ โข, มหาราช…เป… สนฺนิปาติกานิปิ โข, มหาราช…เป… อุตุปริณามชานิปิ โข, มหาราช…เป… วิสมปริหารชานิปิ โข, มหาราช…เป… โอปกฺกมิกานิปิ โข, มหาราช…เป… กมฺมวิปากชานิปิ โข, มหาราช, อิเธกจฺจานิ เวทยิตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อิเมหิ โข, มหาราช, อฏฺหิ การเณหิ ปุถู สตฺตา เวทนา เวทยนฺติ. ตตฺถ เย เต ปุคฺคลา ‘สตฺเต กมฺมํ วิพาธตี’ติ วเทยฺยุํ, เต อิเม ปุคฺคลา สตฺตการณํ ปฏิพาหนฺติ. เตสํ ตํ วจนํ มิจฺฉา’’ติ. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยฺจ วาติกํ ยฺจ ปิตฺติกํ ยฺจ เสมฺหิกํ ยฺจ สนฺนิปาติกํ ยฺจ อุตุปริณามชํ ยฺจ วิสมปริหารชํ ¶ ยฺจ โอปกฺกมิกํ, สพฺเพเต กมฺมสมุฏฺานา เยว, กมฺเมเนว เต สพฺเพ สมฺภวนฺตี’’ติ.
‘‘ยทิ, มหาราช, เตปิ สพฺเพ กมฺมสมุฏฺานาว อาพาธา ภเวยฺยุํ, น เตสํ โกฏฺาสโต ลกฺขณานิ ภเวยฺยุํ. วาโต โข, มหาราช, กุปฺปมาโน ทสวิเธน กุปฺปติ สีเตน อุณฺเหน ชิฆจฺฉาย วิปาสาย อติภุตฺเตน าเนน ปธาเนน อาธาวเนน อุปกฺกเมน กมฺมวิปาเกน. ตตฺร เย เต นว วิธา, น เต อตีเต, น อนาคเต, วตฺตมานเก ภเว อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา น วตฺตพฺพา ‘กมฺมสมฺภวา สพฺพา เวทนา’ติ. ปิตฺตํ, มหาราช, กุปฺปมานํ ติวิเธน กุปฺปติ สีเตน อุณฺเหน วิสมโภชเนน. เสมฺหํ, มหาราช, กุปฺปมานํ ติวิเธน กุปฺปติ สีเตน อุณฺเหน อนฺนปาเนน. โย ¶ จ, มหาราช, วาโต ยฺจ ปิตฺตํ ยฺจ เสมฺหํ, เตหิ เตหิ โกเปหิ กุปฺปิตฺวา มิสฺสี หุตฺวา สกํ สกํ เวทนํ อากฑฺฒติ. อุตุปริณามชา, มหาราช, เวทนา อุตุปริยาเมน อุปฺปชฺชติ. วิสมปริหารชา เวทนา วิสมปริหาเรน อุปฺปชฺชติ. โอปกฺกมิกา, มหาราช, เวทนา อตฺถิ กิริยา, อตฺถิ กมฺมวิปากา, กมฺมวิปากชา เวทนา ปุพฺเพ กเตน กมฺเมน อุปฺปชฺชติ. อิติ โข, มหาราช, อปฺปํ กมฺมวิปากชํ, พหุตรํ อวเสสํ. ตตฺถ พาลา ‘สพฺพํ ¶ กมฺมวิปากชํ เยวา’ติ อติธาวนฺติ. ตํ กมฺมํ น สกฺกา วินา พุทฺธาเณน ววตฺถานํ กาตุํ.
‘‘ยํ ปน, มหาราช, ภควโต ปาโท สกลิกาย ขโต, ตํ เวทยิตํ เนว วาตสมุฏฺานํ, น ปิตฺตสมุฏฺานํ, น เสมฺหสมุฏฺานํ, น สนฺนิปาติกํ, น อุตุปริณามชํ, น วิสมปริหารชํ, น กมฺมวิปากชํ, โอปกฺกมิกํ เยว. เทวทตฺโต หิ, มหาราช, พหูนิ ชาติสตสหสฺสานิ ตถาคเต อาฆาตํ พนฺธิ, โส เตน อาฆาเตน มหตึ ครุํ สิลํ คเหตฺวา ‘มตฺถเก ปาเตสฺสามี’ติ มฺุจิ, อถฺเ ทฺเว เสลา อาคนฺตฺวา ตํ สิลํ ตถาคตํ อสมฺปตฺตํ เยว สมฺปฏิจฺฉึสุ, ตาสํ ปหาเรน ปปฏิกา ภิชฺชิตฺวา ภควโต ปาเท ปติตฺวา รุหิรํ [นิปติตฺวา รุธิรํ (สฺยา.)] อุปฺปาเทสิ, กมฺมวิปากโต วา, มหาราช, ภควโต เอสา เวทนา นิพฺพตฺตา กิริยโต วา, ตตุทฺธํ นตฺถฺา เวทนา.
‘‘ยถา, มหาราช, เขตฺตทุฏฺตาย วา พีชํ น สมฺภวติ พีชทุฏฺตาย วา. เอวเมว โข, มหาราช, กมฺมวิปากโต วา ภควโต เอสา เวทนา นิพฺพตฺตา กิริยโต วา, ตตุทฺธํ นตฺถฺา เวทนา.
‘‘ยถา ¶ วา ปน, มหาราช, โกฏฺทุฏฺตาย วา โภชนํ วิสมํ ปริณมติ อาหารทุฏฺตาย วา, เอวเมว โข, มหาราช, กมฺมวิปากโต วา ภควโต เอสา เวทนา นิพฺพตฺตา กิริยโต วา, ตตุทฺธํ นตฺถฺา เวทนา. อปิ จ, มหาราช, นตฺถิ ภควโต กมฺมวิปากชา เวทนา, นตฺถิ วิสมปริหารชา เวทนา, อวเสเสหิ สมุฏฺาเนหิ ภควโต เวทนา อุปฺปชฺชติ, ตาย จ ปน เวทนาย น สกฺกา ภควนฺตํ ชีวิตา โวโรเปตุํ.
‘‘นิปตนฺติ ¶ , มหาราช, อิมสฺมึ จาตุมหาภูติเก [จาตุมฺมหาภูติเก (สี.)] กาเย อิฏฺานิฏฺา สุภาสุภเวทนา. อิธ, มหาราช, อากาเส ขิตฺโต เลฑฺฑุ มหาปถวิยา นิปตติ, อปิ นุ โข โส, มหาราช, เลฑฺฑุ ปุพฺเพ กเตน มหาปถวิยา นิปตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, นตฺถิ โส, ภนฺเต, เหตุ มหาปถวิยา, เยน เหตุนา มหาปถวี กุสลากุสลวิปากํ ปฏิสํเวเทยฺย, ปจฺจุปฺปนฺเนน ¶ , ภนฺเต, อกมฺมเกน เหตุนา โส เลฑฺฑุ มหาปถวิยํ นิปตติ. ยถา, มหาราช, มหาปถวี, เอวํ ตถาคโต ทฏฺพฺโพ. ยถา เลฑฺฑุ ปุพฺเพ อกเตน มหาปถวิยํ นิปตติ, เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคตสฺส ปุพฺเพ อกเตน สา สกลิกาปาเท นิปติตา.
‘‘อิธ ปน, มหาราช, มนุสฺสา มหาปถวึ ภินฺทนฺติ จ ขณนฺติ จ, อปิ นุ โข, มหาราช, เต มนุสฺสา ปุพฺเพ กเตน มหาปถวึ ภินฺทนฺติ จ ขณนฺติ จา’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ยา สา สกลิกา ภควโต ปาเท นิปติตา, น สา สกลิกา ปุพฺเพ กเตน ภควโต ปาเท นิปติตา. โยปิ, มหาราช, ภควโต โลหิตปกฺขนฺทิกาพาโธ อุปฺปนฺโน, โสปิ อาพาโธ น ปุพฺเพ กเตน อุปฺปนฺโน, สนฺนิปาติเกเนว อุปฺปนฺโน, เย เกจิ, มหาราช, ภควโต กายิกา อาพาธา อุปฺปนฺนา, น เต กมฺมาภินิพฺพตฺตา, ฉนฺนํ เอเตสํ สมุฏฺานานํ อฺตรโต นิพฺพตฺตา.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สํยุตฺตนิกายวรลฺฉเก โมฬิยสีวเก [โมลิยสิวเก (สฺยา. ก.) สํ. นิ. ๔.๒๖๙ ปสฺสิตพฺพํ] เวยฺยากรเณ –
‘‘‘ปิตฺตสมุฏฺานานิปิ โข, สีวก, อิเธกจฺจานิ เวทยิตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. สามมฺปิ โข เอตํ, สีวก, เวทิตพฺพํ, ยถา ปิตฺตสมุฏฺานานิปิ อิเธกจฺจานิ เวทยิตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. โลกสฺสปิ โข เอตํ, สีวก, สจฺจสมฺมตํ, ยถา ปิตฺตสมุฏฺานานิปิ อิเธกจฺจานิ เวทยิตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. ตตฺร, สีวก, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน ‘‘ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, สพฺพํ ตํ ปุพฺเพ กตเหตู’’ติ ¶ . ยฺจ สามํ าตํ, ตฺจ อติธาวนฺติ, ยฺจ โลเก สจฺจสมฺมตํ, ตฺจ อติธาวนฺติ. ตสฺมา เตสํ สมณพฺราหฺมณานํ มิจฺฉาติ วทามิ.
‘‘‘เสมฺหสมุฏฺานานิปิ ¶ โข, สีวก, อิเธกจฺจานิ เวทยิตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. วาตสมุฏฺานานิปิ โข, สีวก…เป… สนฺนิปาติกานิปิ โข, สีวก…เป… อุตุปริณามชานิปิ โข, สีวก…เป… วิสมปริหารชานิปิ โข ¶ , สีวก…เป… โอปกฺกมิกานิปิ โข, สีวก…เป… กมฺมวิปากชานิปิ โข, สีวก, อิเธกจฺจานิ เวทยิตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. สามมฺปิ โข เอตํ, สีวก, เวทิตพฺพํ, ยถา กมฺมวิปากชานิปิ อิเธกจฺจานิ เวทยิตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. โลกสฺสปิ โข เอตํ, สีวก, สจฺจสมฺมตํ, ยถา กมฺมวิปากชานิปิ อิเธกจฺจานิ เวทยิตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. ตตฺร, สีวก, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน ‘‘ยํ กิฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฏิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, สพฺพํ ตํ ปุพฺเพ กตเหตู’’ติ. ยฺจ สามํ าตํ, ตฺจ อติธาวนฺติ, ยฺจ โลเก สจฺจสมฺมตํ, ตฺจ อติธาวนฺติ. ตสฺมา เตสํ สมณพฺราหฺมณานํ มิจฺฉาติ วทามี’’’ติ.
‘‘อิติปิ, มหาราช, น สพฺพา เวทนา กมฺมวิปากชา, สพฺพํ, มหาราช, อกุสลํ ฌาเปตฺวา ภควา สพฺพฺุตํ ปตฺโตติ เอวเมตํ ธาเรหี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
อกุสลจฺเฉทนปฺโห อฏฺโม.
๙. อุตฺตริกรณียปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘ยํ กิฺจิ กรณียํ ตถาคตสฺส, สพฺพํ ตํ โพธิยา เยว มูเล ปรินิฏฺิตํ, นตฺถิ ตถาคตสฺส อุตฺตรึ กรณียํ, กตสฺส วา ปติจโย’ติ, อิทฺจ เตมาสํ ปฏิสลฺลานํ ทิสฺสติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ยํ กิฺจิ กรณียํ ตถาคตสฺส, สพฺพํ ตํ โพธิยา เยว มูเล ปรินิฏฺิตํ, นตฺถิ ตถาคตสฺส อุตฺตรึ กรณียํ, กตสฺส วา ปติจโย, เตน หิ ‘เตมาสํ ปฏิสลฺลีโน’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ เตมาสํ ปฏิสลฺลีโน, เตน หิ ‘ยํ กิฺจิ กรณียํ, ตถาคตสฺส, สพฺพํ ตํ โพธิยา เยว มูเล ปรินิฏฺิต’นฺติ ตมฺปิ วจนํ ¶ มิจฺฉา ¶ . นตฺถิ กตกรณียสฺส ปฏิสลฺลานํ, สกรณียสฺเสว ปฏิสลฺลานํ ¶ ยถา นาม พฺยาธิตสฺเสว เภสชฺเชน กรณียํ โหติ, อพฺยาธิตสฺส กึ เภสชฺเชน. ฉาตสฺเสว โภชเนน กรณียํ โหติ, อฉาตสฺส กึ โภชเนน. เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, นตฺถิ กตกรณียสฺส ปฏิสลฺลานํ, สกรณียสฺเสว ปฏิสลฺลานํ. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ยํ กิฺจิ, มหาราช, กรณียํ ตถาคตสฺส, สพฺพํ ตํ โพธิยา เยว มูเล ปรินิฏฺิตํ, นตฺถิ ตถาคตสฺส อุตฺตรึ กรณียํ, กตสฺส วา ปติจโย, ภควา จ เตมาสํ ปฏิสลฺลีโน, ปฏิสลฺลานํ โข, มหาราช, พหุคุณํ, สพฺเพปิ ตถาคตา ปฏิสลฺลียิตฺวา สพฺพฺุตํ ปตฺตา, ตํ เต สุกตคุณมนุสฺสรนฺตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติ. ยถา, มหาราช, ปุริโส รฺโ สนฺติกา ลทฺธวโร ปฏิลทฺธโภโค ตํ สุกตคุณมนุสฺสรนฺโต อปราปรํ รฺโ อุปฏฺานํ เอติ. เอวเมว โข, มหาราช, สพฺเพปิ ตถาคตา ปฏิสลฺลียิตฺวา สพฺพฺุตํ ปตฺตา, ตํ เต สุกตคุณมนุสฺสรนฺตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ปุริโส อาตุโร ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน ภิสกฺกมุปเสวิตฺวา โสตฺถิมนุปฺปตฺโต ตํ สุกตคุณมนุสฺสรนฺโต อปราปรํ ภิสกฺกมุปเสวติ. เอวเมว โข, มหาราช, สพฺเพปิ ตถาคตา ปฏิสลฺลียิตฺวา สพฺพฺุตํ ปตฺตา, ตํ เต สุกตคุณมนุสฺสรนฺตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติ.
‘‘อฏฺวีสติ โข ปนิเม, มหาราช, ปฏิสลฺลานคุณา, เย คุเณ สมนุสฺสรนฺตา [สมนุปสฺสนฺตา (สี. ปี.)] ตถาคตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติ. กตเม อฏฺวีสติ? อิธ, มหาราช, ปฏิสลฺลานํ ปฏิสลฺลียมานํ อตฺตานํ รกฺขติ, อายุํ วฑฺเฒติ, พลํ เทติ, วชฺชํ ปิทหติ, อยสมปเนติ, ยสมุปเนติ, อรตึ วิโนเทติ, รติมุปทหติ, ภยมปเนติ, เวสารชฺชํ กโรติ, โกสชฺชมปเนติ, วีริยมภิชเนติ, ราคมปเนติ, โทสมปเนติ, โมหมปเนติ, มานํ นิหนฺติ, วิตกฺกํ ภฺชติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ กโรติ, มานสํ สฺเนหยติ [โสภยติ (สี.)], หาสํ ¶ ชเนติ, ครุกํ กโรติ, ลาภมุปฺปาทยติ, นมสฺสิยํ กโรติ ¶ , ปีตึ ปาเปติ, ปาโมชฺชํ กโรติ, สงฺขารานํ สภาวํ ทสฺสยติ, ภวปฺปฏิสนฺธึ อุคฺฆาเฏติ, สพฺพสามฺํ เทติ. อิเม โข, มหาราช, อฏฺวีสติ ปฏิสลฺลานคุณา, เย คุเณ สมนุสฺสรนฺตา ตถาคตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติ.
‘‘อปิ จ โข, มหาราช, ตถาคตา สนฺตํ สุขํ สมาปตฺติรตึ อนุภวิตุกามา ปฏิสลฺลานํ ¶ เสวนฺติ ปริโยสิตสงฺกปฺปา. จตูหิ โข, มหาราช, การเณหิ ตถาคตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติ. กตเมหิ จตูหิ? วิหารผาสุตายปิ, มหาราช, ตถาคตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติ, อนวชฺชคุณพหุลตายปิ ตถาคตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติ, อเสสอริยวีถิโตปิ ตถาคตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติ, สพฺพพุทฺธานํ ถุตโถมิตวณฺณิตปสตฺถโตปิ ตถาคตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติ. อิเมหิ โข, มหาราช, จตูหิ การเณหิ ตถาคตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติ. อิติ โข, มหาราช, ตถาคตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺติ น สกรณียตาย, น กตสฺส วา ปติจยาย, อถ โข คุณวิเสสทสฺสาวิตาย ตถาคตา ปฏิสลฺลานํ เสวนฺตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
อุตฺตริกรณียปฺโห นวโม.
๑๐. อิทฺธิพลทสฺสนปฺโห
๑๐. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา’ติ. ปุน จ ภณิตํ ‘อิโต ติณฺณํ มาสานํ อจฺจเยน ตถาคโต ปรินิพฺพายิสฺสตี’ติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา…เป… กปฺปาวเสสํ วา’ติ, เตน หิ เตมาสปริจฺเฉโท มิจฺฉา. ยทิ, ภนฺเต, ตถาคเตน ภณิตํ ‘อิโต ติณฺณํ มาสานํ อจฺจเยน ตถาคโต ¶ ปรินิพฺพายิสฺสตี’ติ, เตน หิ ‘‘ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา…เป… กปฺปาวเสสํ วา’ติ ¶ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. นตฺถิ ตถาคตานํ อฏฺาเน คชฺชิตํ. อโมฆวจนา พุทฺธา ภควนฺโต ตถวจนา อทฺเวชฺฌวจนา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห คมฺภีโร สุนิปุโณ ทุนฺนิชฺฌาปโย ตวานุปฺปตฺโต, ภินฺเทตํ ทิฏฺิชาลํ, เอกํเส ปย, ภินฺท ปรวาท’’นฺติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา…เป… กปฺปาวเสสํ วา’ติ, เตมาสปริจฺเฉโท จ ภณิโต, โส จ ปน กปฺโป อายุกปฺโป วุจฺจติ. น, มหาราช, ภควา อตฺตโน พลํ กิตฺตยมาโน เอวมาห, อิทฺธิพลํ ปน ¶ มหาราช, ภควา ปริกิตฺตยมาโน เอวมาห ‘ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา…เป… กปฺปาวเสสํ วา’ติ.
‘‘ยถา, มหาราช, รฺโ อสฺสาชานีโย ภเวยฺย สีฆคติ อนิลชโว, ตสฺส ราชา ชวพลํ ปริกิตฺตยนฺโต สเนคมชานปทภฏพลพฺราหฺมณคหปติกอมจฺจชนมชฺเฌ เอวํ วเทยฺย ‘อากงฺขมาโน เม, โภ, อยํ หยวโร สาครชลปริยนฺตํ มหึ อนุวิจริตฺวา ขเณน อิธาคจฺเฉยฺยา’ติ, น จ ตํ ชวคตึ ตสฺสํ ปริสายํ ทสฺเสยฺย, วิชฺชติ จ โส ชโว ตสฺส, สมตฺโถ จ โส ขเณน สาครชลปริยนฺตํ มหึ อนุวิจริตุํ. เอวเมว โข, มหาราช, ภควา อตฺตโน อิทฺธิพลํ ปริกิตฺตยมาโน เอวมาห, ตมฺปิ เตวิชฺชานํ ฉฬภิฺานํ อรหนฺตานํ วิมลขีณาสวานํ เทวมนุสฺสานฺจ มชฺเฌ นิสีทิตฺวา ภณิตํ ‘ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา’ติ. วิชฺชติ จ ตํ, มหาราช, อิทฺธิพลํ ภควโต, สมตฺโถ จ ภควา อิทฺธิพเลน กปฺปํ วา าตุํ กปฺปาวเสสํ วา, น จ ภควา ตํ ¶ อิทฺธิพลํ ตสฺสํ ปริสายํ ทสฺเสติ, อนตฺถิโก, มหาราช, ภควา สพฺพภเวหิ, ครหิตา จ ตถาคตสฺส สพฺพภวา. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อปฺปมตฺตโกปิ คูโถ ทุคฺคนฺโธ โหติ ¶ . เอวเมว โข อหํ, ภิกฺขเว, อปฺปมตฺตกมฺปิ ภวํ น วณฺเณมิ อนฺตมโส อจฺฉราสงฺฆาตมตฺตมฺปี’ติ อปิ นุ โข, มหาราช, ภควา สพฺพภวคติโยนิโย คูถสมํ ทิสฺวา อิทฺธิพลํ นิสฺสาย ภเวสุ ฉนฺทราคํ กเรยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, ภควา อิทฺธิพลํ ปริกิตฺตยมาโน เอวรูปํ พุทฺธสีหนาทมภินที’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
อิทฺธิพลทสฺสนปฺโห ทสโม.
อิทฺธิพลวคฺโค ปโม.
อิมสฺมึ วคฺเค ทส ปฺหา.
๒. อเภชฺชวคฺโค
๑. ขุทฺทานุขุทฺทกปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘อภิฺายาหํ, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสมิ โน อนภิฺายา’ติ. ปุน จ วินยปฺตฺติยา เอวํ ภณิตํ ‘อากงฺขมาโน, อานนฺท, สงฺโฆ มมจฺจเยน ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ สมูหนตู’ติ. กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ ทุปฺปฺตฺตานิ, อุทาหุ อวตฺถุสฺมึ อชานิตฺวา ปฺตฺตานิ, ยํ ภควา อตฺตโน อจฺจเยน ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ สมูหนาเปติ? ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘อภิฺายาหํ, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสมิ โน อนภิฺายา’ติ, เตน หิ ‘อากงฺขมาโน, อานนฺท, สงฺโฆ มมจฺจเยน ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ สมูหนตู’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ตถาคเต วินยปฺตฺติยา ¶ เอวํ ภณิตํ ‘อากงฺขมาโน, อานนฺท, สงฺโฆ มมจฺจเยน ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ สมูหนตู’ติ เตน หิ ‘อภิฺายาหํ, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสมิ โน อนภิฺายา’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห สุขุโม นิปุโณ คมฺภีโร สุคมฺภีโร ทุนฺนิชฺฌาปโย, โส ตวานุปฺปตฺโต, ตตฺถ เต าณพลวิปฺผารํ ทสฺเสหี’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘อภิฺายาหํ, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสมิ โน อนภิฺายา’ติ, วินยปฺตฺติยาปิ เอวํ ภณิตํ ‘อากงฺขมาโน, อานนฺท, สงฺโฆ มมจฺจเยน ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ สมูหนตู’ติ, ตํ ปน, มหาราช, ตถาคโต ภิกฺขู วีมํสมาโน อาห ‘อุกฺกเลสฺสนฺติ [อุกฺกฑฺฒิสฺสนฺติ (สี.), อุสฺสกฺกิสฺสนฺติ (สฺยา.)] นุ โข มม สาวกา มยา วิสฺสชฺชาปียมานา มมจฺจเยน ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ, อุทาหุ อาทิยิสฺสนฺตี’ติ.
‘‘ยถา, มหาราช, จกฺกวตฺตี ราชา ปุตฺเต เอวํ วเทยฺย ‘อยํ โข, ตาตา, มหาชนปโท สพฺพทิสาสุ สาครปริยนฺโต, ทุกฺกโร, ตาตา, ตาวตเกน พเลน ธาเรตุํ, เอถ ตุมฺเห, ตาตา, มมจฺจเยน ¶ ปจฺจนฺเต ปจฺจนฺเต เทเส ปชหถา’ติ. อปิ นุ โข เต, มหาราช, กุมารา ปิตุอจฺจเยน ¶ หตฺถคเต ชนปเท สพฺเพ เต ปจฺจนฺเต ปจฺจนฺเต เทเส มฺุเจยฺยุ’’นฺติ? ‘‘น หิ ภนฺเต, ราชโต [ราชาโน (สี. ปี.)], ภนฺเต, ลุทฺธตรา [ลทฺธตรา (ก.)] กุมารา รชฺชโลเภน ตทุตฺตรึ ทิคุณติคุณํ ชนปทํ ปริคฺคณฺเหยฺยุํ [ปริกฑฺเฒยฺยุํ (สี. ปี.)], กึ ปน เต หตฺถคตํ ชนปทํ มฺุเจยฺยุ’’นฺติ? ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต ภิกฺขู วีมํสมาโน เอวมาห ‘อากงฺขมาโน, อานนฺท, สงฺโฆ มมจฺจเยน ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ สมูหนตู’ติ. ทุกฺขปริมุตฺติยา, มหาราช, พุทฺธปุตฺตา ธมฺมโลเภน อฺมฺปิ อุตฺตรึ ทิยฑฺฒสิกฺขาปทสตํ โคเปยฺยุํ, กึ ปน ปกติปฺตฺตํ สิกฺขาปทํ มฺุเจยฺยุ’’นฺติ?
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยํ ภควา อาห ‘ขุทฺทานุขุทฺทกานิ ¶ สิกฺขาปทานี’ติ, เอตฺถายํ ชโน สมฺมูฬฺโห วิมติชาโต อธิกโต สํสยปกฺขนฺโท. กตมานิ ตานิ ขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ, กตมานิ อนุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานีติ? ทุกฺกฏํ, มหาราช, ขุทฺทกํ สิกฺขาปทํ, ทุพฺภาสิตํ อนุขุทฺทกํ สิกฺขาปทํ, อิมานิ ทฺเว ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ, ปุพฺพเกหิปิ, มหาราช, มหาเถเรหิ เอตฺถ วิมติ อุปฺปาทิตา, เตหิปิ เอกชฺฌํ น กโต ธมฺมสณฺิติปริยาเย ภควตา เอโส ปฺโห อุปทิฏฺโติ. จิรนิกฺขิตฺตํ, ภนฺเต นาคเสน, ชินรหสฺสํ อชฺเชตรหิ โลเก วิวฏํ ปากฏํ กต’’นฺติ.
ขุทฺทานุขุทฺทกปฺโห ปโม.
๒. อพฺยากรณียปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘นตฺถานนฺท ตถาคตสฺส ธมฺเมสุ อาจริยมุฏฺี’ติ, ปุน จ เถเรน มาลุกฺยปุตฺเตน [มาลุงฺกฺยปุตฺเตน (สี. สฺยา. ปี.) สํ. นิ. ๔.๙๕; อ. นิ. ๑.๔.๒๕๗ ปสฺสิตพฺพํ] ปฺหํ ปุฏฺโ น พฺยากาสิ. เอโส โข, ภนฺเต นาคเสน, ปฺโห ทฺวยนฺโต [ทฺวยโต (สี.)] เอกนฺตนิสฺสิโต ภวิสฺสติ อชานเนน วา คุยฺหกรเณน วา. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘นตฺถานนฺท ตถาคตสฺส ธมฺเมสุ อาจริยมุฏฺี’ติ, เตน หิ เถรสฺส มาลุกฺยปุตฺตสฺส อชานนฺเตน น ¶ พฺยากตํ. ยทิ ชานนฺเตน น พฺยากตํ, เตน หิ อตฺถิ ตถาคตสฺส ธมฺเมสุ อาจริยมุฏฺิ. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘นตฺถานนฺท ตถาคตสฺส ธมฺเมสุ อาจริยมุฏฺี’ติ, อพฺยากโต ¶ จ เถเรน มาลุกฺยปุตฺเตน ปุจฺฉิโต ปฺโห, ตฺจ ปน น อชานนฺเตน น คุยฺหกรเณน. จตฺตาริมานิ, มหาราช, ปฺหพฺยากรณานิ. กตมานิ จตฺตาริ? เอกํสพฺยากรณีโย ปฺโห วิภชฺชพฺยากรณีโย ปฺโห ปฏิปุจฺฉาพฺยากรณีโย ปฺโห ปนีโย ปฺโหติ.
‘‘กตโม จ, มหาราช, เอกํสพฺยากรณีโย ปฺโห? ‘รูปํ อนิจฺจ’นฺติ เอกํสพฺยากรณีโย ¶ ปฺโห, ‘เวทนา อนิจฺจา’ติ…เป… ‘สฺา อนิจฺจา’ติ…เป… ‘สงฺขารา อนิจฺจา’ติ…เป… ‘วิฺาณํ อนิจฺจ’’นฺติ เอกํสพฺยากรณีโย ปฺโห, อยํ เอกํสพฺยากรณีโย ปฺโห.
‘‘กตโม วิภชฺชพฺยากรณีโย ปฺโห? ‘อนิจฺจํ ปน รูป’นฺติ วิภชฺชพฺยากรณีโย ปฺโห, ‘อนิจฺจา ปน เวทนา’ติ…เป… ‘อนิจฺจา ปน สฺา’ติ…เป… ‘อนิจฺจา ปน สงฺขารา’ติ…เป… ‘อนิจฺจํ ปน วิฺาณ’นฺติ วิภชฺชพฺยากรณีโย ปฺโห, อยํ วิภชฺชพฺยากรณีโย ปฺโห.
‘‘กตโม ปฏิปุจฺฉาพฺยากรณีโย ปฺโห? ‘กึ นุ โข จกฺขุนา สพฺพํ วิชานาตี’ติ อยํ ปฏิปุจฺฉาพฺยากรณีโย ปฺโห.
‘‘กตโม ปนีโย ปฺโห? ‘สสฺสโต โลโก’ติ ปนีโย ปฺโห, ‘อสสฺสโต โลโก’ติ. ‘อนฺตวา โลโก’ติ. ‘อนนฺตวา โลโก’ติ. ‘อนฺตวา จ อนนฺตวา จ โลโก’ติ. ‘เนวนฺตวา นานนฺตวา โลโก’ติ. ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ. ‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’นฺติ. ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ. ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ. ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ. ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ ปนีโย ปฺโห, อยํ ปนีโย ปฺโห.
‘‘ภควา, มหาราช, เถรสฺส มาลุกฺยปุตฺตสฺส ตํ ปนียํ ปฺหํ น พฺยากาสิ. โส ปน ปฺโห กึ การณา ปนีโย? น ตสฺส ทีปนาย เหตุ ¶ วา การณํ วา อตฺถิ, ตสฺมา โส ปฺโห ปนีโย. นตฺถิ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ อการณมเหตุกํ คิรมุทีรณ’’นฺติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
อพฺยากรณียปฺโห ทุติโย.
๓. มจฺจุภายนาภายนปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘สพฺเพ ตสนฺติ ทณฺฑสฺส, สพฺเพ ภายนฺติ มจฺจุโน’ติ, ปุน ภณิตํ ‘อรหา สพฺพภยมติกฺกนฺโต’ติ. กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, อรหา ทณฺฑภยา ตสติ ¶ , นิรเย วา เนรยิกา สตฺตา ชลิตา กุถิตา ตตฺตา สนฺตตฺตา ตมฺหา ชลิตคฺคิชาลกา มหานิรยา จวมานา มจฺจุโน ภายนฺติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘สพฺเพ ตสนฺติ ทณฺฑสฺส, สพฺเพ ภายนฺติ มจฺจุโน’ติ, เตน หิ ‘อรหา สพฺพภยมติกฺกนฺโต’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ภควตา ภณิตํ ‘อรหา สพฺพภยมติกฺกนฺโต’ติ, เตน หิ ‘สพฺเพ ตสนฺติ ทณฺฑสฺส, สพฺเพ ภายนฺติ มจฺจุโน’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยํ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘เนตํ, มหาราช, วจนํ ภควตา อรหนฺเต อุปาทาย ภณิตํ ‘สพฺเพ ตสนฺติ ทณฺฑสฺส, สพฺเพ ภายนฺติ มจฺจุโน’ติ. ปิโต อรหา ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ, สมูหโต ภยเหตุ อรหโต. เย เต, มหาราช, สตฺตา สกิเลสา, เยสฺจ อธิมตฺตา อตฺตานุทิฏฺิ, เย จ สุขทุกฺเขสุ อุนฺนตาวนตา, เต อุปาทาย ภควตา ภณิตํ ‘สพฺเพ ตสนฺติ ทณฺฑสฺส, สพฺเพ ภายนฺติ มจฺจุโน’ติ. อรหโต, มหาราช, สพฺพคติ อุปจฺฉินฺนา, โยนิ วิทฺธํสิตา, ปฏิสนฺธิ อุปหตา, ภคฺคา ผาสุกา, สมูหตา สพฺพภวาลยา, สมุจฺฉินฺนา สพฺพสงฺขารา, หตํ กุสลากุสลํ, วิหตา อวิชฺชา, อพีชํ วิฺาณํ กตํ, ทฑฺฒา สพฺพกิเลสา, อติวตฺตา โลกธมฺมา, ตสฺมา อรหา น ตสติ สพฺพภเยหิ.
‘‘อิธ, มหาราช, รฺโ จตฺตาโร มหามตฺตา ภเวยฺยุํ อนุรกฺขา ลทฺธยสา วิสฺสาสิกา ปิตา มหติ อิสฺสริเย าเน. อถ ราชา กิสฺมิฺจิ ¶ เทว กรณีเย สมุปฺปนฺเน ยาวตา สกวิชิเต สพฺพชนสฺส อาณาเปยฺย ‘สพฺเพว เม พลึ กโรนฺตุ, สาเธถ ตุมฺเห จตฺตาโร มหามตฺตา ตํ กรณีย’นฺติ. อปิ นุ โข, มหาราช, เตสํ จตุนฺนํ มหามตฺตานํ พลิภยา สนฺตาโส อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เกน การเณน มหาราชา’’ติ. ‘‘ปิตา เต, ภนฺเต, รฺา อุตฺตมฏฺาเน, นตฺถิ เตสํ พลิ, สมติกฺกนฺตพลิโน เต, อวเสเส อุปาทาย รฺา อาณาปิตํ ¶ ‘สพฺเพว เม พลึ กโรนฺตู’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, เนตํ วจนํ ภควตา อรหนฺเต อุปาทาย ภณิตํ, ปิโต อรหา ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ, สมูหโต ภยเหตุ อรหโต, เย เต, มหาราช, สตฺตา สกิเลสา, เยสฺจ อธิมตฺตา อตฺตานุทิฏฺิ, เย จ สุขทุกฺเขสุ อุนฺนตาวนตา ¶ , เต อุปาทาย ภควตา ภณิตํ ‘สพฺเพ ตสนฺติ ทณฺฑสฺส, สพฺเพ ภายนฺติ มจฺจุโน’ติ. ตสฺมา อรหา น ตสติ สพฺพภเยหี’’ติ.
‘‘เนตํ, ภนฺเต นาคเสน, วจนํ สาวเสสํ, นิรวเสสวจนเมตํ ‘สพฺเพ’ติ. ตตฺถ เม อุตฺตรึ การณํ พฺรูหิ ตํ วจนํ ปติฏฺาเปตุ’’นฺติ.
‘‘อิธ, มหาราช, คาเม คามสฺสามิโก อาณาปกํ อาณาเปยฺย ‘เอหิ, โภ อาณาปก, ยาวตา คาเม คามิกา, เต สพฺเพ สีฆํ มม สนฺติเก สนฺนิปาเตหี’ติ. โส ‘สาธุ สามี’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา คามมชฺเฌ ตฺวา ติกฺขตฺตุํ สทฺทมนุสฺสาเวยฺย ‘ยาวตา คาเม คามิกา, เต สพฺเพ สีฆสีฆํ สามิโน สนฺติเก สนฺนิปตนฺตู’ติ. ตโต เต คามิกา อาณาปกสฺส วจเนน ตุริตตุริตา สนฺนิปติตฺวา คามสฺสามิกสฺส อาโรเจนฺติ ‘สนฺนิปติตา, สามิ, สพฺเพ คามิกา, ยํ เต กรณียํ ตํ กโรหี’ติ. อิติ โส, มหาราช, คามสฺสามิโก กุฏิปุริเส สนฺนิปาเตนฺโต สพฺเพ คามิเก อาณาเปติ, เต จ อาณตฺตา น สพฺเพ สนฺนิปตนฺติ, กุฏิปุริสา เยว สนฺนิปตนฺติ, ‘เอตฺตกา เยว เม คามิกา’ติ คามสฺสามิโก จ ตถา สมฺปฏิจฺฉติ, อฺเ พหุตรา อนาคตา อิตฺถิปุริสา ทาสิทาสา ภตกา กมฺมกรา คามิกา คิลานา โคมหึสา อเชฬกา สุวานา, เย อนาคตา, สพฺเพ เต อคณิตา, กุฏิปุริเส เยว อุปาทาย อาณาปิตตฺตา ‘สพฺเพ สนฺนิปตนฺตู’ติ. เอวเมว โข, มหาราช, เนตํ วจนํ ภควตา อรหนฺเต อุปาทาย ภณิตํ, ปิโต อรหา ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ, สมูหโต ภยเหตุ อรหโต, เย เต, มหาราช, สตฺตา สกิเลสา, เยสฺจ อธิมตฺตา อตฺตานุทิฏฺิ, เย ¶ จ สุขทุกฺเขสุ อุนฺนตาวนตา, เต อุปาทาย ภควตา ภณิตํ ‘สพฺเพ ตสนฺติ ทณฺฑสฺส, สพฺเพ ภายนฺติ มจฺจุโน’ติ ¶ . ตสฺมา อรหา น ตสติ สพฺพภเยหิ.
‘‘อตฺถิ, มหาราช, สาวเสสํ วจนํ สาวเสโส อตฺโถ, อตฺถิ สาวเสสํ วจนํ นิรวเสโส อตฺโถ, อตฺถิ นิรวเสสํ วจนํ สาวเสโส อตฺโถ, อตฺถิ นิรวเสสํ วจนํ นิรวเสโส อตฺโถ. เตน เตน อตฺโถ สมฺปฏิจฺฉิตพฺโพ.
‘‘ปฺจวิเธหิ, มหาราช, การเณหิ อตฺโถ สมฺปฏิจฺฉิตพฺโพ อาหจฺจปเทน รเสน อาจริยวํเสน [อาจริยวํสตาย (ปี. ก.)] อธิปฺปายา การณุตฺตริยตาย. เอตฺถ หิ อาหจฺจปทนฺติ สุตฺตํ อธิปฺเปตํ. รโสติ สุตฺตานุโลมํ. อาจริยวํโสติ อาจริยวาโท. อธิปฺปาโยติ อตฺตโน มติ. การณุตฺตริยตาติ อิเมหิ ¶ จตูหิ สเมนฺตํ [สเมตํ (สี.)] การณํ. อิเมหิ โข, มหาราช, ปฺจหิ การเณหิ อตฺโถ สมฺปฏิจฺฉิตพฺโพ. เอวเมโส ปฺโห สุวินิจฺฉิโต โหตี’’ติ.
‘‘โหตุ, ภนฺเต นาคเสน, ตถา ตํ สมฺปฏิจฺฉามิ. ปิโต โหตุ อรหา ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ, ตสนฺตุ อวเสสา สตฺตา, นิรเย ปน เนรยิกา สตฺตา ทุกฺขา ติพฺพา กฏุกา เวทนา เวทยมานา ชลิตปชฺชลิตสพฺพงฺคปจฺจงฺคา รุณฺณการฺุกนฺทิตปริเทวิตลาลปฺปิตมุขา อสยฺหติพฺพทุกฺขาภิภูตา อตาณา อสรณา อสรณีภูตา อนปฺปโสกาตุรา อนฺติมปจฺฉิมคติกา เอกนฺตโสกปรายณา อุณฺหติขิณจณฺฑขรตปนเตชวนฺโต ภีมภยชนกนินาทมหาสทฺทา สํสิพฺพิตฉพฺพิธชาลามาลากุลา สมนฺตา สตโยชนานุผรณจฺจิเวคา กทริยา ตปนา มหานิรยา จวมานา มจฺจุโน ภายนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราชา’’ติ.
‘‘นนุ, ภนฺเต นาคเสน, นิรโย เอกนฺตทุกฺขเวทนีโย, กิสฺส ปน เต เนรยิกา สตฺตา เอกนฺตทุกฺขเวทนียา นิรยา จวมานา มจฺจุโน ภายนฺติ, กิสฺส นิรเย รมนฺตี’’ติ? ‘‘น เต, มหาราช, เนรยิกา สตฺตา นิรเย รมนฺติ, มฺุจิตุกามาว เต นิรยา. มรณสฺเสว โส [มรณสฺเสโส (สี. ปี.)], มหาราช, อานุภาโว, เยน เตสํ สนฺตาโส อุปฺปชฺชตี’’ติ. ‘‘เอตํ โข, ภนฺเต นาคเสน, น สทฺทหามิ, ยํ มุจฺจิตุกามานํ จุติยา ¶ สนฺตาโส อุปฺปชฺชตีติ, หาสนียํ ¶ , ภนฺเต นาคเสน, ตํ านํ, ยํ เต ปตฺถิตํ ลภนฺติ, การเณน มํ สฺาเปหี’’ติ.
‘‘มรณนฺติ โข, มหาราช, เอตํ อทิฏฺสจฺจานํ ตาสนียฏฺานํ, เอตฺถายํ ชโน ตสติ จ อุพฺพิชฺชติ จ. โย จ, มหาราช, กณฺหสปฺปสฺส ภายติ, โส มรณสฺส ภายนฺโต กณฺหสปฺปสฺส ภายติ. โย จ หตฺถิสฺส ภายติ…เป… สีหสฺส…เป… พฺยคฺฆสฺส…เป… ทีปิสฺส…เป… อจฺฉสฺส…เป… ตรจฺฉสฺส…เป… มหึสสฺส…เป… ควยสฺส…เป… อคฺคิสฺส…เป… อุทกสฺส…เป… ขาณุกสฺส…เป… กณฺฏกสฺส ภายติ. โย จ สตฺติยา ภายติ, โส มรณสฺส ภายนฺโต สตฺติยา ภายติ. มรณสฺเสว โส [มรณสฺเสโส (สี. ปี.)], มหาราช, สรสสภาวเตโช [สรสภาวเตโช (สี. ปี.)], ตสฺส สรสสภาวเตเชน สกิเลสา สตฺตา มรณสฺส ตสนฺติ ภายนฺติ, มุจฺจิตุกามาปิ, มหาราช, เนรยิกา สตฺตา มรณสฺส ตสนฺติ ภายนฺติ.
‘‘อิธ, มหาราช, ปุริสสฺส กาเย เมโท คณฺิ อุปฺปชฺเชยฺย. โส เตน โรเคน ทุกฺขิโต อุปทฺทวา ปริมุจฺจิตุกาโม ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ อามนฺตาเปยฺย. ตสฺส วจนํ โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตสฺส โรคสฺส อุทฺธรณาย อุปกรณํ อุปฏฺาเปยฺย, สตฺถกํ ติขิณํ กเรยฺย ¶ , ยมกสลากา [ทหนสลากํ (ก.)] อคฺคิมฺหิ ปกฺขิเปยฺย, ขารลวณํ นิสทาย ปิสาเปยฺย, อปิ นุ โข, มหาราช, ตสฺส อาตุรสฺส ติขิณสตฺถกจฺเฉทเนน ยมกสลากาทหเนน ขารโลณปฺปเวสเนน ตาโส อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ? ‘‘อาม ภนฺเต’’ติ. ‘‘อิติ, มหาราช, ตสฺส อาตุรสฺส โรคา มุจฺจิตุกามสฺสาปิ เวทนาภยา สนฺตาโส อุปฺปชฺชติ. เอวเมว โข, มหาราช, นิรยา มุจฺจิตุกามานมฺปิ เนรยิกานํ สตฺตานํ มรณภยา สนฺตาโส อุปฺปชฺชติ.
‘‘อิธ, มหาราช, ปุริโส อิสฺสราปราธิโก พทฺโธ สงฺขลิกพนฺธเนน คพฺเภ ปกฺขิตฺโต ปริมุจฺจิตุกาโม อสฺส, ตเมนํ โส อิสฺสโร โมเจตุกาโม ปกฺโกสาเปยฺย. อปิ นุ โข, มหาราช, ตสฺส อิสฺสราปราธิกสฺส ปุริสสฺส ‘กตโทโส ¶ อห’นฺติ ชานนฺตสฺส อิสฺสรทสฺสเนน สนฺตาโส อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ? ‘‘อาม ภนฺเต’’ติ. ‘‘อิติ, มหาราช, ตสฺส อิสฺสราปราธิกสฺส ปุริสสฺส ปริมุจฺจิตุกามาสฺสาปิ อิสฺสรภยา สนฺตาโส อุปฺปชฺชติ. เอวเมว โข, มหาราช, นิรยา มุจฺจิตุกามานมฺปิ เนรยิกานํ สตฺตานํ มรณภยา สนฺตาโส อุปฺปชฺชตี’’ติ.
‘‘อปรมฺปิ ¶ , ภนฺเต, อุตฺตรึ การณํ พฺรูหิ, เยนาหํ การเณน โอกปฺเปยฺย’’นฺติ. ‘‘อิธ, มหาราช, ปุริโส ทฏฺวิเสน อาสีวิเสน ทฏฺโ ภเวยฺย, โส เตน วิสวิกาเรน ปเตยฺย อุปฺปเตยฺย วฏฺเฏยฺย ปวฏฺเฏยฺย, อถฺตโร ปุริโส พลวนฺเตน มนฺตปเทน ตํ ทฏฺวิสํ อาสีวิสํ อาเนตฺวา ตํ ทฏฺวิสํ ปจฺจาจมาเปยฺย, อปิ นุ โข, มหาราช, ตสฺส วิสคตสฺส ปุริสสฺส ตสฺมึ ทฏฺวิเส สปฺเป โสตฺถิเหตุ อุปคจฺฉนฺเต สนฺตาโส อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ? ‘‘อาม ภนฺเต’’ติ. อิติ, มหาราช, ตถารูเป อหิมฺหิ โสตฺถิเหตุปิ อุปคจฺฉนฺเต ตสฺส สนฺตาโส อุปฺปชฺชติ. เอวเมว โข, มหาราช, นิรยา มุจฺจิตุกามานมฺปิ เนรยิกานํ สนฺตานํ มรณภยา สนฺตาโส อุปฺปชฺชติ. อนิฏฺํ, มหาราช, สพฺพสตฺตานํ มรณํ, ตสฺมา เนรยิกา สตฺตา นิรยา ปริมุจฺจิตุกามาปิ มจฺจุโน ภายนฺตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
มจฺจุภายนาภายนปฺโห ตติโย.
๔. มจฺจุปาสมุตฺติปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา –
‘‘‘น ¶ อนฺตลิกฺเข น สมุทฺทมชฺเฌ, น ปพฺพตานํ วิวรํ ปวิสฺส;
น วิชฺชตี โส ชคติปฺปเทโส, ยตฺถฏฺิโต มุจฺเจยฺย มจฺจุปาสา’ติ.
‘‘ปุน ภควตา ปริตฺตา จ อุทฺทิฏฺา. เสยฺยถิทํ, รตนสุตฺตํ เมตฺตสุตฺตํ ขนฺธปริตฺตํ โมรปริตฺตํ ธชคฺคปริตฺตํ ¶ อาฏานาฏิยปริตฺตํ องฺคุลิมาลปริตฺตํ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, อากาสคโตปิ สมุทฺทมชฺฌคโตปิ ปาสาทกุฏิเลณคุหาปพฺภารทริพิลคิริ วิวรปพฺพตนฺตรคโตปิ น มุจฺจติ มจฺจุปาสา, เตน หิ ปริตฺตกมฺมํ มิจฺฉา. ยทิ ปริตฺตกรเณน มจฺจุปาสา ปริมุตฺติ ภวติ, เตน หิ ‘น อนฺตลิกฺเข…เป… มจฺจุปาสา’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห คณฺิโตปิ คณฺิตโร ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ ¶ , มหาราช, ภควตา ‘น อนฺตลิกฺเข…เป… มจฺจุปาสา’ติ, ปริตฺตา จ ภควตา อุทฺทิฏฺา, ตฺจ ปน สาวเสสายุกสฺส วยสมฺปนฺนสฺส อเปตกมฺมาวรณสฺส, นตฺถิ, มหาราช, ขีณายุกสฺส ิติยา กิริยา วา อุปกฺกโม วา.
‘‘ยถา มหาราช มตสฺส รุกฺขสฺส สุกฺขสฺส โกฬาปสฺส นิสฺเนหสฺส อุปรุทฺธชีวิตสฺส คตายุสงฺขารสฺส กุมฺภสหสฺเสนปิ อุทเก อากิรนฺเต อลฺลตฺตํ วา ปลฺลวิตหริตภาโว วา น ภเวยฺย. เอวเมว โข, มหาราช, เภสชฺชปริตฺตกมฺเมน นตฺถิ ขีณายุกสฺส ิติยา กิริยา วา อุปกฺกโม วา, ยานิ ตานิ, มหาราช, มหิยา โอสธานิ เภสชฺชานิ, ตานิปิ ขีณายุกสฺส อกิจฺจกรานิ ภวนฺติ. สาวเสสายุกํ, มหาราช, วยสมฺปนฺนํ อเปตกมฺมาวรณํ ปริตฺตํ รกฺขติ โคเปติ, ตสฺสตฺถาย ภควตา ปริตฺตา อุทฺทิฏฺา.
‘‘ยถา, มหาราช, กสฺสโก ปริปกฺเก ธฺเ มเต สสฺสนาเฬ อุทกปฺปเวสนํ วาเรยฺย, ยํ ปน สสฺสํ ตรุณํ เมฆสนฺนิภํ วยสมฺปนฺนํ, ตํ อุทกวฑฺฒิยา วฑฺฒติ. เอวเมว โข, มหาราช, ขีณายุกสฺส เภสชฺชปริตฺตกิริยา ปิตา ปฏิกฺขิตฺตา ¶ , เย ปน เต มนุสฺสา สาวเสสายุกา วยสมฺปนฺนา, เตสํ อตฺถาย ปริตฺตเภสชฺชานิ ภณิตานิ, เต ปริตฺตเภสชฺเชหิ วฑฺฒนฺตี’’ติ.
‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ขีณายุโก มรติ, สาวเสสายุโก ชีวติ, เตน หิ ปริตฺตเภสชฺชานิ นิรตฺถกานิ โหนฺตี’’ติ? ‘‘ทิฏฺปุพฺโพ ปน ตยา, มหาราช, โกจิ โรโค เภสชฺเชหิ ปฏินิวตฺติโต’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อเนกสตานิ ทิฏฺานี’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, ‘ปริตฺตเภสชฺชกิริยา นิรตฺถกา’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา ภวตี’’ติ.
‘‘ทิสฺสนฺติ ¶ , ภนฺเต นาคเสน, เวชฺชานํ อุปกฺกมา เภสชฺชปานานุเลปา, เตน เตสํ อุปกฺกเมน โรโค ปฏินิวตฺตตี’’ติ. ‘‘ปริตฺตานมฺปิ, มหาราช, ปวตฺตียมานานํ สทฺโท สุยฺยติ, ชิวฺหา สุกฺขติ, หทยํ พฺยาวฏฺฏติ, กณฺโ อาตุรติ. เตน เตสํ ปวตฺเตน สพฺเพ พฺยาธโย วูปสมนฺติ, สพฺพา อีติโย อปคจฺฉนฺตีติ.
‘‘ทิฏฺปุพฺโพ ปน ตยา, มหาราช, โกจิ อหินา ทฏฺโ มนฺตปเทน วิสํ ปาตียมาโน วิสํ จิกฺขสฺสนฺโต อุทฺธมโธ อาจมยมาโน’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต ¶ , อชฺเชตรหิปิ ตํ โลเก วตฺตตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, ‘ปริตฺตเภสชฺชกิริยา นิรตฺถกา’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา ภวติ. กตปริตฺตฺหิ, มหาราช, ปุริสํ ฑํสิตุกาโม อหิ น ฑํสติ, วิวฏํ มุขํ ปิทหติ, โจรานํ อุกฺขิตฺตลคุฬมฺปิ น สมฺภวติ, เต ลคุฬํ มฺุจิตฺวา เปมํ กโรนฺติ, กุปิโตปิ หตฺถินาโค สมาคนฺตฺวา อุปรมติ, ปชฺชลิตมหาอคฺคิกฺขนฺโธปิ อุปคนฺตฺวา นิพฺพายติ, วิสํ หลาหลมฺปิ ขายิตํ อคทํ สมฺปชฺชติ, อาหารตฺถํ วา ผรติ, วธกา หนฺตุกามา อุปคนฺตฺวา ทาสภูตา สมฺปชฺชนฺติ, อกฺกนฺโตปิ ปาโส น สํวรติ [น สํจรติ (สี.)].
‘‘สุตปุพฺพํ ปน ตยา, มหาราช, ‘โมรสฺส กตปริตฺตสฺส สตฺตวสฺสสตานิ ลุทฺทโก นาสกฺขิ ปาสํ อุปเนตุํ, อกตปริตฺตสฺส ตํ เยว ทิวสํ ปาสํ อุปเนสี’’ติ ¶ ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สุยฺยติ, อพฺภุคฺคโต โส สทฺโท สเทวเก โลเก’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช ‘ปริตฺตเภสชฺชกิริยา นิรตฺถกา’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา ภวติ.
‘‘สุตปุพฺพํ ปน ตยา, มหาราช, ‘ทานโว ภริยํ ปริรกฺขนฺโต สมุคฺเค ปกฺขิปิตฺวา คิลิตฺวา กุจฺฉินา ปริหรติ, อเถโก วิชฺชาธโร ตสฺส ทานวสฺส มุเขน ปวิสิตฺวา ตาย สทฺธึ อภิรมติ, ยทา โส ทานโว อฺาสิ, อถ สมุคฺคํ วมิตฺวา วิวริ, สห สมุคฺเค วิวเฏ วิชฺชาธโร ยถากามํ [เยน กามํ (ก.)] ปกฺกามี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สุยฺยติ, อพฺภุคฺคโต โสปิ สทฺโท สเทวเก โลเก’’ติ. ‘‘นนุ โส, มหาราช, วิชฺชาธโร ปริตฺตพเลน [มนฺตพเลน (?)] คหณา มุตฺโต’’ติ. ‘‘อาม ภนฺเต’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, อตฺถิ ปริตฺตพลํ.
‘‘สุตปุพฺพํ ปน ตยา, มหาราช, ‘อปโรปิ วิชฺชาธโร พาราณสิรฺโ อนฺเตปุเร มเหสิยา สทฺธึ สมฺปทุฏฺโ [สํสฏฺโ (สี.)] คหณปฺปตฺโต สมาโน ขเณน อทสฺสนํ คโต มนฺตพเลนา’’ติ. ‘‘อาม, ภนฺเต, สุยฺยตี’’ติ. ‘‘นนุ โส, มหาราช, วิชฺชาธโร ปริตฺตพเลน คหณา มุตฺโต’’ติ? ‘‘อาม ภนฺเต’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, อตฺถิ ปริตฺตพล’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘กึ สพฺเพ เยว ปริตฺตํ รกฺขตี’ติ? ‘‘เอกจฺเจ, มหาราช, รกฺขติ, เอกจฺเจ น รกฺขตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, ปริตฺตํ น สพฺพตฺถิก’’นฺติ? ‘‘อปิ นุ โข, มหาราช, โภชนํ สพฺเพสํ ชีวิตํ รกฺขตี’’ติ? ‘‘เอกจฺเจ, ภนฺเต ¶ , รกฺขติ, เอกจฺเจ น รกฺขตี’’ติ. ‘‘กึ การณา’’ติ. ‘‘ยโต, ภนฺเต, เอกจฺเจ ตํ เยว โภชนํ อติภฺุชิตฺวา วิสูจิกาย มรนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, โภชนํ น สพฺเพสํ ชีวิตํ รกฺขตี’’ติ? ‘‘ทฺวีหิ, ภนฺเต นาคเสน, การเณหิ โภชนํ ชีวิตํ หรติ อติภุตฺเตน วา อุสฺมาทุพฺพลตาย วา, อายุททํ, ภนฺเต นาคเสน, โภชนํ ทุรุปจาเรน ชีวิตํ หรตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ปริตฺตํ เอกจฺเจ รกฺขติ, เอกจฺเจ น รกฺขติ.
‘‘ตีหิ, มหาราช, การเณหิ ปริตฺตํ น รกฺขติ ¶ กมฺมาวรเณน, กิเลสาวรเณน, อสทฺทหนตาย. สตฺตานุรกฺขณํ, มหาราช, ปริตฺตํ อตฺตนา กเตน อารกฺขํ ชหติ, ยถา, มหาราช, มาตา ปุตฺตํ กุจฺฉิคตํ โปเสติ, หิเตน อุปจาเรน ชเนติ, ชนยิตฺวา อสุจิมลสิงฺฆาณิกมปเนตฺวา อุตฺตมวรสุคนฺธํ อุปลิมฺปติ, โส อปเรน สมเยน ปเรสํ ปุตฺเต อกฺโกสนฺเต วา ปหรนฺเต วา ปหารํ เทติ. เต ตสฺส กุชฺฌิตฺวา ปริสาย อากฑฺฒิตฺวา ตํ คเหตฺวา สามิโน อุปเนนฺติ, ยทิ ปน ตสฺสา ปุตฺโต อปรทฺโธ โหติ เวลาติวตฺโต. อถ นํ สามิโน มนุสฺสา อากฑฺฒยมานา ทณฺฑมุคฺครชาณุมุฏฺีหิ ตาเฬนฺติ โปเถนฺติ, อปิ นุ โข, มหาราช, ตสฺส มาตา ลภติ อากฑฺฒนปริกฑฺฒนํ คาหํ สามิโน อุปนยนํ กาตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เกน การเณน, มหาราชา’’ติ. ‘‘อตฺตโน, ภนฺเต, อปราเธนา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, สตฺตานํ อารกฺขํ ปริตฺตํ อตฺตโน อปราเธน วฺฌํ กโรตี’’ติ [กาเรตีติ (สี.)]. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, สุวินิจฺฉิโต ปฺโห, คหนํ อคหนํ กตํ, อนฺธกาโร อาโลโก กโต, วินิเวิตํ ทิฏฺิชาลํ, ตฺวํ คณิวรปวรมาสชฺชา’’ติ.
มจฺจุปาสมุตฺติปฺโห จตุตฺโถ.
๕. พุทฺธลาภนฺตรายปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘ลาภี ตถาคโต จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’นฺติ. ปุน จ ตถาคโต ปฺจสาลํ พฺราหฺมณคามํ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา กิฺจิเทว อลภิตฺวา ยถาโธเตน ¶ ปตฺเตน นิกฺขนฺโตติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคโต ¶ ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ, เตน หิ ปฺจสาลํ พฺราหฺมณคามํ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา กิฺจิเทว อลภิตฺวา ยถาโธเตน ปตฺเตน นิกฺขนฺโตติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ปฺจสาลํ พฺราหฺมณคามํ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา กิฺจิเทว อลภิตฺวา ยถาโธเตน ปตฺเตน นิกฺขนฺโต, เตน หิ ลาภี ตถาคโต จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานนฺติ ¶ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห สุมหนฺโต ทุนฺนิพฺเพโ ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ลาภี, มหาราช, ตถาคโต จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ, ปฺจสาลฺจ พฺราหฺมณคามํ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา กิฺจิเทว อลภิตฺวา ยถาโธเตน ปตฺเตน นิกฺขนฺโต, ตฺจ ปน มารสฺส ปาปิมโต การณา’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควโต คณนปถํ วีติวตฺตกปฺเป [คณนปถวีติวตฺเต กปฺเป (สี.)] อภิสงฺขตํ กุสลํ กินฺติ นิฏฺิตํ, อธุนุฏฺิเตน มาเรน ปาปิมตา ตสฺส กุสลสฺส พลเวคํ [ตํ กุสลพลเวควิปฺผารํ (สี.)] กินฺติ ปิหิตํ, เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ ทฺวีสุ าเนสุ อุปวาโท อาคจฺฉติ, กุสลโตปิ อกุสลํ พลวตรํ โหติ, พุทฺธพลโตปิ มารพลํ พลวตรํ โหตีติ, เตน หิ รุกฺขสฺส มูลโตปิ อคฺคํ ภารตรํ โหติ, คุณสมฺปริกิณฺณโตปิ ปาปิยํ พลวตรํ โหตี’’ติ. ‘‘น, มหาราช, ตาวตเกน กุสลโตปิ อกุสลํ พลวตรํ นาม โหติ, น พุทฺธพลโตปิ มารพลํ พลวตรํ นาม โหติ. อปิ เจตฺถ การณํ อิจฺฉิตพฺพํ.
‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส รฺโ จกฺกวตฺติสฺส มธุํ วา มธุปิณฺฑิกํ วา อฺํ วา อุปายนํ อภิหเรยฺย, ตเมนํ รฺโ ทฺวารปาโล เอวํ วเทยฺย ‘อกาโล, โภ, อยํ รฺโ ทสฺสนาย, เตน หิ, โภ, ตว อุปายนํ คเหตฺวา สีฆสีฆํ ปฏินิวตฺต, ปุเร ตว ราชา ทณฺฑํ ธาเรสฺสตี’ติ [มา เต ราชา ทณฺฑํ ปาเปยฺยาติ (สี.)]. ตโต โส ปุริโส ทณฺฑภยา ตสิโต อุพฺพิคฺโค ตํ อุปายนํ อาทาย สีฆสีฆํ ปฏินิวตฺเตยฺย, อปิ นุ โข โส, มหาราช, ราชา จกฺกวตฺตี ตาวตเกน อุปายนวิกลมตฺตเกน ทฺวารปาลโต ทุพฺพลตโร นาม โหติ ¶ , อฺํ วา ปน กิฺจิ อุปายนํ น ลเภยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, อิสฺสาปกโต โส, ภนฺเต, ทฺวารปาโล อุปายนํ นิวาเรสิ, อฺเน ปน ทฺวาเรน สตสหสฺสคุณมฺปิ รฺโ อุปายนํ อุเปตี’’ติ ¶ . ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อิสฺสาปกโต มาโร ปาปิมา ปฺจสาลเก พฺราหฺมณคหปติเก อนฺวาวิสิ, อฺานิ ปน อเนกานิ เทวตาสตสหสฺสานิ อมตํ ทิพฺพํ โอชํ คเหตฺวา อุปคตานิ ‘ภควโต กาเย โอชํ โอทหิสฺสามา’ติ ภควนฺตํ นมสฺสมานานิ ปฺชลิกานิ ิตานี’’ติ.
‘‘โหตุ, ภนฺเต นาคเสน, สุลภา ภควโต จตฺตาโร ปจฺจยา โลเก อุตฺตมปุริสสฺส, ยาจิโตว ¶ ภควา เทวมนุสฺโสหิ จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภฺุชติ, อปิ จ โข ปน มารสฺส โย อธิปฺปาโย, โส ตาวตเกน สิทฺโธ, ยํ โส ภควโต โภชนสฺส อนฺตรายมกาสิ. เอตฺถ เม, ภนฺเต, กงฺขา น ฉิชฺชติ, วิมติชาโตหํ ตตฺถ สํสยปกฺขนฺโท. น เม ตตฺถ มานสํ ปกฺขนฺทติ, ยํ ตถาคตสฺส อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สเทวเก โลเก อคฺคปุคฺคลวรสฺส กุสลวรปฺุสมฺภวสฺส อสมสมสฺส อนุปมสฺส อปฺปฏิสมสฺส ฉวกํ ลามกํ ปริตฺตํ ปาปํ อนริยํ วิปนฺนํ มาโร ลาภนฺตรายมกาสี’’ติ.
‘‘จตฺตาโร โข, มหาราช, อนฺตรายา อทิฏฺนฺตราโย อุทฺทิสฺส กตนฺตราโย อุปกฺขฏนฺตราโย ปริโภคนฺตราโยติ. ตตฺถ กตโม อทิฏฺนฺตราโย? อโนทิสฺส อทสฺสเนน อนภิสงฺขตํ โกจิ อนฺตรายํ กโรติ ‘กึ ปรสฺส ทินฺเนนา’ติ, อยํ อทิฏฺนฺตราโย นาม.
‘‘กตโม อุทฺทิสฺส กตนฺตราโย? อิเธกจฺจํ ปุคฺคลํ อุปทิสิตฺวา อุทฺทิสฺส โภชนํ ปฏิยตฺตํ โหติ, ตํ โกจิ อนฺตรายํ กโรติ, อยํ อุทฺทิสฺส กตนฺตราโย นาม.
‘‘กตโม อุปกฺขฏนฺตราโย? อิธ ยํ กิฺจิ อุปกฺขฏํ โหติ อปฺปฏิคฺคหิตํ, ตตฺถ โกจิ อนฺตรายํ กโรติ, อยํ อุปกฺขฏนฺตราโย นาม.
‘‘กตโม ปริโภคนฺตราโย? อิธ ยํ กิฺจิ ปริโภคํ, ตตฺถ โกจิ อนฺตรายํ กโรติ, อยํ ปริโภคนฺตราโย นาม. อิเม โข, มหาราช, จตฺตาโร อนฺตรายา.
‘‘ยํ ปน มาโร ปาปิมา ปฺจสาลเก พฺราหฺมณคหปติเก อนฺวาวิสิ, ตํ เนว ภควโต ปริโภคํ น อุปกฺขฏํ น อุทฺทิสฺสกตํ, อนาคตํ ¶ อสมฺปตฺตํ อทสฺสเนน ¶ อนฺตรายํ กตํ, ตํ ปน เนกสฺส ภควโต เยว, อถ โข เย เต เตน สมเยน นิกฺขนฺตา อพฺภาคตา, สพฺเพปิ เต ตํ ทิวสํ โภชนํ น ลภึสุ, นาหํ ตํ, มหาราช, ปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย, โย ตสฺส ภควโต อุทฺทิสฺส กตํ อุปกฺขฏํ ปริโภคํ อนฺตรายํ กเรยฺย. สเจ โกจิ อิสฺสาย อุทฺทิสฺส กตํ อุปกฺขฏํ ปริโภคํ อนฺตรายํ กเรยฺย, ผเลยฺย ตสฺส มุทฺธา สตธา วา สหสฺสธา วา.
‘‘จตฺตาโรเม, มหาราช, ตถาคตสฺส เกนจิ อนาวรณียา คุณา. กตเม จตฺตาโร? ลาโภ, มหาราช, ภควโต อุทฺทิสฺส กโต อุปกฺขโฏ น สกฺกา เกนจิ อนฺตรายํ กาตุํ; สรีรานุคตา ¶ , มหาราช, ภควโต พฺยามปฺปภา น สกฺกา เกนจิ อนฺตรายํ กาตุํ; สพฺพฺุตํ, มหาราช, ภควโต าณรตนํ น สกฺกา เกนจิ อนฺตรายํ กาตุํ; ชีวิตํ, มหาราช, ภควโต น สกฺกา เกนจิ อนฺตรายํ กาตุํ. อิเม โข, มหาราช, จตฺตาโร ตถาคตสฺส เกนจิ อนาวรณียา คุณา, สพฺเพเปเต, มหาราช, คุณา เอกรสา อโรคา อกุปฺปา อปรูปกฺกมา อผุสานิ กิริยานิ. อทสฺสเนน, มหาราช, มาโร ปาปิมา นิลียิตฺวา ปฺจสาลเก พฺราหฺมณคหปติเก อนฺวาวิสิ.
‘‘ยถา, มหาราช, รฺโ ปจฺจนฺเต เทเส วิสเม อทสฺสเนน นิลียิตฺวา โจรา ปนฺถํ ทูเสนฺติ. ยทิ ปน ราชา เต โจเร ปสฺเสยฺย, อปิ นุ โข เต โจรา โสตฺถึ ลเภยฺยุ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ผรสุนา ผาลาเปยฺย สตธา วา สหสฺสธา วา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อทสฺสเนน มาโร ปาปิมา นิลียิตฺวา ปฺจสาลเก พฺราหฺมณคหปติเก อนฺวาวิสิ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อิตฺถี สปติกา อทสฺสเนน นิลียิตฺวา ปรปุริสํ เสวติ, เอวเมว โข, มหาราช, อทสฺสเนน มาโร ปาปิมา นิลียิตฺวา ปฺจสาลเก พฺราหฺมณคหปติเก อนฺวาวิสิ. ยทิ, มหาราช, ¶ อิตฺถี สามิกสฺส สมฺมุขา ปรปุริสํ เสวติ, อปิ นุ โข สา อิตฺถี โสตฺถึ ลเภยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, หเนยฺยาปิ ตํ, ภนฺเต, สามิโก วเธยฺยาปิ พนฺเธยฺยาปิ ทาสิตฺตํ วา อุปเนยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อทสฺสเนน มาโร ปาปิมา นิลียิตฺวา ปฺจสาลเก พฺราหฺมณคหปติเก อนฺวาวิสิ. ยทิ, มหาราช, มาโร ปาปิมา ภควโต อุทฺทิสฺส กตํ อุปกฺขฏํ ปริโภคํ อนฺตรายํ ¶ กเรยฺย, ผเลยฺย ตสฺส มุทฺธา สตธา วา สหสฺสธา วา’’ติ. ‘‘เอวเมตํ, ภนฺเต นาคเสน, โจริกาย กตํ มาเรน ปาปิมตา, นิลียิตฺวา มาโร ปาปิมา ปฺจสาลเก พฺราหฺมณคหปติเก อนฺวาวิสิ. สเจ โส, ภนฺเต, มาโร ปาปิมา ภควโต อุทฺทิสฺส กตํ อุปกฺขฏํ ปริโภคํ อนฺตรายํ กเรยฺย, มุทฺธา วาสฺส ผเลยฺย สตธา วา สหสฺสธา วา, กาโย วาสฺส ภุสมุฏฺิ วิย วิกิเรยฺย, สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
พุทฺธลาภนฺตรายปฺโห ปฺจโม.
๖. อปฺุปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘โย อชานนฺโต ปาณาติปาตํ กโรติ, โส พลวตรํ อปฺุํ ปสวตี’ติ. ปุน จ ภควตา วินยปฺตฺติยา ภณิตํ ‘อนาปตฺติ อชานนฺตสฺสา’ติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, อชานิตฺวา ปาณาติปาตํ กโรนฺโต พลวตรํ อปฺุํ ปสวติ, เตน หิ ‘อนาปตฺติ อชานนฺตสฺสา’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ อนาปตฺติ อชานนฺตสฺส, เตน หิ ‘อชานิตฺวา ปาณาติปาตํ กโรนฺโต พลวตรํ อปฺุํ ปสวตี’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ทุรุตฺตโร ทุรติกฺกโม ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘โย อชานนฺโต ปาณาติปาตํ กโรติ, โส พลวตรํ อปฺุํ ปสวตี’ติ. ปุน จ วินยปฺตฺติยา ภควตา ภณิตํ ‘อนาปตฺติ อชานนฺตสฺสา’ติ. ตตฺถ อตฺถนฺตรํ อตฺถิ. กตมํ อตฺถนฺตรํ ¶ ? อตฺถิ, มหาราช, อาปตฺติ สฺาวิโมกฺขา, อตฺถิ อาปตฺติ โนสฺาวิโมกฺขา. ยายํ, มหาราช, อาปตฺติ สฺาวิโมกฺขา, ตํ อาปตฺตึ อารพฺภ ภควตา ภณิตํ ‘อนาปตฺติ อชานนฺตสฺสา’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
อปฺุปฺโห ฉฏฺโ.
๗. ภิกฺขุสงฺฆปริหรณปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, น เอวํ โหติ ‘‘อหํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสามี’’’ติ วา, ‘‘มมุทฺเทสิโก ภิกฺขุสงฺโฆ’’ติ วา’ติ. ปุน จ เมตฺเตยฺยสฺส ภควโต สภาวคุณํ ปริทีปยมาเนน ภควตา เอวํ ภณิตํ ‘‘โส อเนกสหสฺสํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสติ, เสยฺยถาปิ อหํ เอตรหิ อเนกสตํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหรามี’’ติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, น เอวํ โหติ ‘‘อหํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสามี’’ติ วา, ‘‘มมุทฺเทสิโก ภิกฺขุสงฺโฆ’’ติ วา’ติ, เตน หิ อเนกสตํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหรามีติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ตถาคเตน ภณิตํ ‘โส อเนกสหสฺสํ ¶ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสติ, เสยฺยถาปิ อหํ เอตรหิ อเนกสตํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหรามี’ติ, เตน หิ ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, น เอวํ โหติ ‘อหํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสามี’ติ วา, ‘มมุทฺเทสิโก ภิกฺขุสงฺโฆ’ติ วาติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา, อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, น เอวํ โหติ ‘‘อหํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสามี’’ติ วา, ‘‘มมุทฺเทสิโก ภิกฺขุสงฺโฆ’’ติ วา’ติ. ปุน จ เมตฺเตยฺยสฺสาปิ ภควโต สภาวคุณํ ปริทีปยมาเนน ภควตา ภณิตํ ‘โส อเนกสหสฺสํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสติ, เสยฺยถาปิ อหํ เอตรหิ อเนกสตํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหรามี’ติ. เอตสฺมิฺจ, มหาราช, ปฺเห เอโก อตฺโถ สาวเสโส, เอโก อตฺโถ นิรวเสโส. น, มหาราช, ตถาคโต ปริสาย อนุคามิโก, ปริสา ปน ตถาคตสฺส อนุคามิกา ¶ . สมฺมุติ, มหาราช, เอสา ‘อห’นฺติ ‘มมา’ติ, น ปรมตฺโถ เอโส, วิคตํ, มหาราช, ตถาคตสฺส เปมํ, วิคโต สิเนโห, ‘มยฺห’นฺติปิ ตถาคตสฺส คหณํ นตฺถิ, อุปาทาย ปน อวสฺสโย โหติ.
‘‘ยถา, มหาราช, ปถวี ภูมฏฺานํ สตฺตานํ ปติฏฺา โหติ อุปสฺสยํ, ปถวิฏฺา เจเต สตฺตา, น จ มหาปถวิยา ‘มยฺเหเต’ติ อเปกฺขา โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต สพฺพสตฺตานํ ปติฏฺา โหติ ¶ อุปสฺสยํ, ตถาคตฏฺา [ตถาคตปติฏฺา เอว (สี.)] เจเต สตฺตา, น จ ตถาคตสฺส ‘มยฺเหเต’ติ อเปกฺขา โหติ. ยถา วา ปน, มหาราช, มหติมหาเมโฆ อภิวสฺสนฺโต ติณรุกฺขปสุมนุสฺสานํ วุฑฺฒึ เทติ สนฺตตึ อนุปาเลติ. วุฏฺูปชีวิโน เจเต สตฺตา สพฺเพ, น จ มหาเมฆสฺส ‘มยฺเหเต’ติ อเปกฺขา โหติ. เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต สพฺพสตฺตานํ กุสลธมฺเม ชเนติ อนุปาเลติ, สตฺถูปชีวิโน เจเต สตฺตา สพฺเพ, น จ ตถาคตสฺส ‘มยฺเหเต’ติ อเปกฺขา โหติ. ตํ กิสฺส เหตุ? อตฺตานุทิฏฺิยา ปหีนตฺตา’’ติ.
‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, สุนิพฺเพิโต ปฺโห พหุวิเธหิ การเณหิ, คมฺภีโร อุตฺตานีกโต, คณฺิ ภินฺโน, คหนํ อคหนํ กตํ, อนฺธกาโร อาโลโก กโต, ภคฺคา ปรวาทา, ชินปุตฺตานํ จกฺขุํ อุปฺปาทิต’’นฺติ.
ภิกฺขุสงฺฆปริหรณปฺโห สตฺตโม.
๘. อเภชฺชปริสปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘ตถาคโต อเภชฺชปริโส’ติ, ปุน จ ภณถ ‘เทวทตฺเตน เอกปฺปหารํ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ ภินฺนานี’ติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคโต อเภชฺชปริโส, เตน หิ เทวทตฺเตน เอกปฺปหารํ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ ภินฺนานีติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ เทวทตฺเตน เอกปฺปหารํ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ ¶ ภินฺนานิ, เตน หิ ‘ตถาคโต อเภชฺชปริโส’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, คมฺภีโร ทุนฺนิเวิโย, คณฺิโตปิ คณฺิตโร, เอตฺถายํ ชโน อาวโฏ นิวุโต โอวุโต ปิหิโต ปริโยนทฺโธ, เอตฺถ ตว าณพลํ ทสฺเสหิ ปรวาเทสู’’ติ.
‘‘อเภชฺชปริโส, มหาราช, ตถาคโต, เทวทตฺเตน จ เอกปฺปหารํ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ ภินฺนานิ, ตฺจ ปน เภทกสฺส พเลน, เภทเก วิชฺชมาเน นตฺถิ, มหาราช, อเภชฺชํ นาม. เภทเก สติ มาตาปิ ปุตฺเตน ภิชฺชติ, ปุตฺโตปิ มาตรา ภิชฺชติ, ปิตาปิ ปุตฺเตน ภิชฺชติ, ปุตฺโตปิ ปิตรา ภิชฺชติ, ภาตาปิ ภคินิยา ภิชฺชติ, ภคินีปิ ภาตรา ภิชฺชติ, สหาโยปิ ¶ สหาเยน ภิชฺชติ, นาวาปิ นานาทารุสงฺฆฏิตา อูมิเวคสมฺปหาเรน ภิชฺชติ, รุกฺโขปิ มธุกปฺปสมฺปนฺนผโล อนิลพลเวคาภิหโต ภิชฺชติ, สุวณฺณมฺปิ ชาติมนฺตํ [ชาตรูปมฺปิ (สี.)] โลเหน ภิชฺชติ. อปิ จ, มหาราช, เนโส อธิปฺปาโย วิฺูนํ, เนสา พุทฺธานํ อธิมุตฺติ, เนโส ปณฺฑิตานํ ฉนฺโท ‘ตถาคโต เภชฺชปริโส’ติ. อปิ เจตฺถ การณํ อตฺถิ, เยน การเณน ตถาคโต วุจฺจติ ‘อเภชฺชปริโส’ติ. กตมํ เอตฺถ การณํ? ตถาคตสฺส, มหาราช, กเตน อทาเนน วา อปฺปิยวจเนน วา อนตฺถจริยาย วา อสมานตฺตตาย วา ยโต กุโตจิ จริยํ จรนฺตสฺสปิ ปริสา ภินฺนาติ น สุตปุพฺพํ, เตน การเณน ตถาคโต วุจฺจติ ‘อเภชฺชปริโส’ติ. ตยาเปตํ, มหาราช, าตพฺพํ ‘อตฺถิ กิฺจิ นวงฺเค พุทฺธวจเน สุตฺตาคตํ, อิมินา นาม การเณน โพธิสตฺตสฺส กเตน ตถาคตสฺส ปริสา ภินฺนา’ติ? ‘‘นตฺถิ ภนฺเต, โน เจตํ โลเก ทิสฺสติ โนปิ สุยฺยติ. สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
อเภชฺชปริสปฺโห อฏฺโม.
อเภชฺชวคฺโค ทุติโย.
อิมสฺมึ วคฺเค อฏฺ ปฺหา.
๓. ปณามิตวคฺโค
๑. เสฏฺธมฺมปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘ธมฺโม หิ, วาเสฏฺ, เสฏฺโ ชเนตสฺมึ ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปราเย จา’ติ. ปุน จ ‘อุปาสโก คิหี โสตาปนฺโน ปิหิตาปาโย ทิฏฺิปฺปตฺโต วิฺาตสาสโน ภิกฺขุํ วา สามเณรํ วา ปุถุชฺชนํ อภิวาเทติ ปจฺจุฏฺเตี’ติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘ธมฺโม หิ, วาเสฏฺ, เสฏฺโ ชเนตสฺมึ ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปราเย จา’ติ, เตน หิ ‘อุปาสโก คิหี โสตาปนฺโน ปิหิตาปาโย ทิฏฺิปฺปตฺโต วิฺาตสาสโน ภิกฺขุํ วา สามเณรํ วา ปุถุชฺชนํ อภิวาเทติ ปจฺจุฏฺเตี’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ‘อุปาสโก คิหี โสตาปนฺโน ปิหิตาปาโย ทิฏฺิปฺปตฺโต วิฺาตสาสโน ภิกฺขุํ วา สามเณรํ วา ปุถุชฺชนํ อภิวาเทติ ปจฺจุฏฺเติ’, เตน หิ ‘ธมฺโม หิ, วาเสฏฺ, เสฏฺโ ชเนตสฺมึ ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปราเย จาติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘ธมฺโม หิ, วาเสฏฺ, เสฏฺโ ชเนตสฺมึ ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปราเย จา’ติ, ‘อุปาสโก จ คิหี โสตาปนฺโน ปิหิตาปาโย ทิฏฺิปฺปตฺโต วิฺาตสาสโน ภิกฺขุํ วา สามเณรํ วา ปุถุชฺชนํ อภิวาเทติ ปจฺจุฏฺเติ’. ตตฺถ ปน การณํ อตฺถิ. กตมํ ตํ การณํ?
‘‘วีสติ โข ปนิเม, มหาราช, สมณสฺส สมณกรณา ธมฺมา ทฺเว จ ลิงฺคานิ, เยหิ สมโณ อภิวาทนปจฺจุฏฺานสมานนปูชนารโห โหติ. กตเม วีสติ สมณสฺส สมณกรณา ธมฺมา ทฺเว จ ลิงฺคานิ? เสฏฺโ [เสฏฺภูมิสโย (สี. สฺยา.), เสฏฺโ ยโม (ปี.)] ธมฺมาราโม, อคฺโค นิยโม, จาโร วิหาโร สํยโม สํวโร ขนฺติ โสรจฺจํ เอกตฺตจริยา เอกตฺตาภิรติ ปฏิสลฺลานํ หิริโอตฺตปฺปํ วีริยํ อปฺปมาโท สิกฺขาสมาทานํ [สิกฺขาปธานํ (สี. สฺยา.), สุกฺกาวทานํ (ก.)] อุทฺเทโส ปริปุจฺฉา สีลาทิอภิรติ นิราลยตา สิกฺขาปทปาริปูริตา, กาสาวธารณํ ¶ , ภณฺฑุภาโว ¶ . อิเม โข ¶ , มหาราช, วีสติ สมณสฺส สมณกรณา ธมฺมา ทฺเว จ ลิงฺคานิ. เอเต คุเณ ภิกฺขุ สมาทาย วตฺตติ, โส เตสํ ธมฺมานํ อนูนตฺตา ปริปุณฺณตฺตา สมฺปนฺนตฺตา สมนฺนาคตตฺตา อเสกฺขภูมึ อรหนฺตภูมึ โอกฺกมติ, เสฏฺํ ภูมนฺตรํ โอกฺกมติ, อรหตฺตาสนฺนคโตติ อรหติ อุปาสโก โสตาปนฺโน ภิกฺขุํ ปุถุชฺชนํ อภิวาเทตุํ ปจฺจุฏฺาตุํ.
‘‘‘ขีณาสเวหิ โส สามฺํ อุปคโต, นตฺถิ เม โส สมโย’ติ [ตํ สามฺ’’นฺติ (?)] อรหติ อุปาสโก โสตาปนฺโน ภิกฺขุํ ปุถุชฺชนํ อภิวาเทตุํ ปจฺจุฏฺาตุํ.
‘‘‘อคฺคปริสํ โส อุปคโต, นาหํ ตํ านํ อุปคโต’ติ อรหติ อุปาสโก โสตาปนฺโน ภิกฺขุํ ปุถุชฺชนํ อภิวาเทตุํ ปจฺจุฏฺาตุํ.
‘‘‘ลภติ โส ปาติโมกฺขุทฺเทสํ โสตุํ, นาหํ ตํ ลภามิ โสตุ’นฺติ อรหติ อุปาสโก โสตาปนฺโน ภิกฺขุํ ปุถุชฺชนํ อภิวาเทตุํ ปจฺจุฏฺาตุํ.
‘‘‘โส อฺเ ปพฺพาเชติ อุปสมฺปาเทติ ชินสาสนํ วฑฺเฒติ, อหเมตํ น ลภามิ กาตุ’นฺติ อรหติ อุปาสโก โสตาปนฺโน ภิกฺขุํ ปุถุชฺชนํ อภิวาเทตุํ ปจฺจุฏฺาตุํ.
‘‘‘อปฺปมาเณสุ โส สิกฺขาปเทสุ สมตฺตการี, นาหํ เตสุ วตฺตามี’ติ อรหติ อุปาสโก โสตาปนฺโน ภิกฺขุํ ปุถุชฺชนํ อภิวาเทตุํ ปจฺจุฏฺาตุํ.
‘‘‘อุปคโต โส สมณลิงฺคํ, พุทฺธาธิปฺปาเย ิโต, เตนาหํ ลิงฺเคน ทูรมปคโต’ติ อรหติ อุปาสโก โสตาปนฺโน ภิกฺขุํ ปุถุชฺชนํ อภิวาเทตุํ ปจฺจุฏฺาตุํ.
‘‘‘ปรูฬฺหกจฺฉโลโม โส อนฺชิตอมณฺฑิโต อนุลิตฺตสีลคนฺโธ, อหํ ปน มณฺฑนวิภูสนาภิรโต’ติ อรหติ อุปาสโก โสตาปนฺโน ภิกฺขุํ ปุถุชฺชนํ อภิวาเทตุํ ปจฺจุฏฺาตุํ.
‘‘อปิ จ, มหาราช, ‘เย เต วีสติ สมณกรณา ธมฺมา ทฺเว จ ลิงฺคานิ, สพฺเพเปเต ธมฺมา ภิกฺขุสฺส สํวิชฺชนฺติ, โส เยว เต ธมฺเม ธาเรติ, อฺเปิ ตตฺถ สิกฺขาเปติ, โส เม อาคโม ¶ สิกฺขาปนฺจ นตฺถี’ติ อรหติ ¶ อุปาสโก โสตาปนฺโน ภิกฺขุํ ปุถุชฺชนํ อภิวาเทตุํ ปจฺจุฏฺาตุํ ¶ .
‘‘ยถา, มหาราช, ราชกุมาโร ปุโรหิตสฺส สนฺติเก วิชฺชํ อธียติ, ขตฺติยธมฺมํ สิกฺขติ, โส อปเรน สมเยน อภิสิตฺโต อาจริยํ อภิวาเทติ ปจฺจุฏฺเติ ‘สิกฺขาปโก เม อย’นฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, ‘ภิกฺขุ สิกฺขาปโก วํสธโร’ติ อรหติ อุปาสโก โสตาปนฺโน ภิกฺขุํ ปุถุชฺชนํ อภิวาเทตุํ ปจฺจุฏฺาตุํ.
‘‘อปิ จ, มหาราช, อิมินาเปตํ ปริยาเยน ชานาหิ ภิกฺขุภูมิยา มหนฺตตํ อสมวิปุลภาวํ. ยทิ, มหาราช, อุปาสโก โสตาปนฺโน อรหตฺตํ สจฺฉิกโรติ, ทฺเวว ตสฺส คติโย ภวนฺติ อนฺา ตสฺมึ เยว ทิวเส ปรินิพฺพาเยยฺย วา, ภิกฺขุภาวํ วา อุปคจฺเฉยฺย. อจลา หิ สา, มหาราช, ปพฺพชฺชา, มหตี อจฺจุคฺคตา, ยทิทํ ภิกฺขุภูมี’’ติ. ‘‘าณคโต, ภนฺเต นาคเสน, ปฺโห สุนิพฺเพิโต พลวตา อติพุทฺธินา ตยา, น ยิมํ ปฺหํ สมตฺโถ อฺโ เอวํ วินิเวเตุํ อฺตฺร ตวาทิเสน พุทฺธิมตา’’ติ.
เสฏฺธมฺมปฺโห ปโม.
๒. สพฺพสตฺตหิตผรณปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘ตถาคโต สพฺพสตฺตานํ อหิตมปเนตฺวา หิตมุปทหตี’ติ. ปุน จ ภณถ อคฺคิกฺขนฺธูปเม ธมฺมปริยาเย ภฺมาเน ‘สฏฺิมตฺตานํ ภิกฺขูนํ อุณฺหํ โลหิตํ มุขโต อุคฺคต’นฺติ. อคฺคิกฺขนฺธูปมํ, ภนฺเต, ธมฺมปริยายํ เทเสนฺเตน ตถาคเตน สฏฺิมตฺตานํ ภิกฺขูนํ หิตมปเนตฺวา อหิตมุปทหิตํ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคโต สพฺพสตฺตานํ อหิตมปเนตฺวา หิตมุปทหติ, เตน หิ อคฺคิกฺขนฺธูปเม ธมฺมปริยาเย ภฺมาเน สฏฺิมตฺตานํ ภิกฺขูนํ อุณฺหํ โลหิตํ มุขโต อุคฺคตนฺติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ อคฺคิกฺขนฺธูปเม ธมฺมปริยาเย ภฺมาเน สฏฺิมตฺตานํ ภิกฺขูนํ อุณฺหํ โลหิตํ มุขโต อุคฺคตํ, เตน ¶ หิ ตถาคโต สพฺพสตฺตานํ อหิตมปเนตฺวา หิตมุปทหตีติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ตถาคโต ¶ ¶ , มหาราช, สพฺพสตฺตานํ อหิตมปเนตฺวา หิตมุปทหติ, อคฺคิกฺขนฺธูปเม ธมฺมปริยาเย ภฺมาเน สฏฺิมตฺตานํ ภิกฺขูนํ อุณฺหํ โลหิตํ มุขโต อุคฺคตํ, ตฺจ ปน น ตถาคตสฺส กเตน, เตสํ เยว อตฺตโน กเตนา’’ติ.
‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคโต อคฺคิกฺขนฺธูปมํ ธมฺมปริยายํ น ภาเสยฺย, อปิ นุ เตสํ อุณฺหํ โลหิตํ มุขโต อุคฺคจฺเฉยฺยาติ, น หิ, มหาราช, มิจฺฉาปฏิปนฺนานํ เตสํ ภควโต ธมฺมปริยายํ สุตฺวา ปริฬาโห กาเย อุปฺปชฺชิ, เตน เตสํ ปริฬาเหน อุณฺหํ โลหิตํ มุขโต อุคฺคต’’นฺติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคตสฺเสว กเตน เตสํ อุณฺหํ โลหิตํ มุขโต อุคฺคตํ, ตถาคโต เยว ตตฺถ อธิกาโร เตสํ นาสนาย, ยถา นาม, ภนฺเต นาคเสน, อหิ วมฺมิกํ ปวิเสยฺย, อถฺตโร ปํสุกาโม ปุริโส วมฺมิกํ ภินฺทิตฺวา ปํสุํ หเรยฺย, ตสฺส ปํสุหรเณน วมฺมิกสฺส สุสิรํ ปิทเหยฺย, อถ ตตฺเถว โส อสฺสาสํ อลภมาโน มเรยฺย, นนุ โส, ภนฺเต, อหิ ตสฺส ปุริสสฺส กเตน มรณปฺปตฺโต’’ติ. ‘‘อาม มหาราชา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคโต เยว ตตฺถ อธิกาโร เตสํ นาสนายา’’ติ.
‘‘ตถาคโต, มหาราช, ธมฺมํ เทสยมาโน อนุนยปฺปฏิฆํ น กโรติ, อนุนยปฺปฏิฆวิปฺปมุตฺโต ธมฺมํ เทเสติ, เอวํ ธมฺเม เทสียมาเน เย ตตฺถ สมฺมาปฏิปนฺนา, เต พุชฺฌนฺติ. เย ปน มิจฺฉาปฏิปนฺนา, เต ปตนฺติ. ยถา, มหาราช, ปุริสสฺส อมฺพํ วา ชมฺพุํ วา มธุกํ วา จาลยมานสฺส ยานิ ตตฺถ ผลานิ สารานิ ทฬฺหพนฺธนานิ, ตานิ ตตฺเถว อจฺจุตานิ ติฏฺนฺติ, ยานิ ตตฺถ ผลานิ ปูติวณฺฏมูลานิ ทุพฺพลพนฺธนานิ, ตานิ ¶ ปตนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต ธมฺมํ เทสยมาโน อนุนยปฺปฏิฆํ น กโรติ, อนุนยปฺปฏิฆวิปฺปมุตฺโต ธมฺมํ เทเสติ, เอวํ ธมฺเม เทสียมาเน เย ตตฺถ สมฺมาปฏิปนฺนา, เต พุชฺฌนฺติ. เย ปน มิจฺฉาปฏิปนฺนา, เต ปตนฺติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, กสฺสโก ธฺํ โรเปตุกาโม เขตฺตํ กสติ, ตสฺส กสนฺตสฺส อเนกสตสหสฺสานิ ติณานิ มรนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต ปริปกฺกมานเส สตฺเต โพเธนฺโต [โพเธตุํ (สี.)] อนุนยปฺปฏิฆวิปฺปมุตฺโต ¶ ธมฺมํ เทเสติ, เอวํ ธมฺเม เทสียมาเน เย ตตฺถ สมฺมาปฏิปนฺนา, เต พุชฺฌนฺติ. เย ปน มิจฺฉาปฏิปนฺนา, เต ติณานิ วิย มรนฺติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, มนุสฺสา รสเหตุ ยนฺเตน อุจฺฉุํ ปีฬยนฺติ, เตสํ อุจฺฉุํ ปีฬยมานานํ เย ตตฺถ ยนฺตมุขคตา กิมโย, เต ปีฬิยนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต ¶ ปริปกฺกมานเส สตฺเต โพเธนฺโต ธมฺมยนฺตมภิปีฬยติ [ธมฺมยนฺตมติปีฬยติ (ก.)], เย ตตฺถ มิจฺฉาปฏิปนฺนา, เต กิมี วิย มรนฺตี’’ติ.
‘‘นนุ, ภนฺเต นาคเสน, เต ภิกฺขู ตาย ธมฺมเทสนาย ปติตา’’ติ? ‘‘อปิ นุ โข, มหาราช, ตจฺฉโก รุกฺขํ ตจฺฉนฺโต [รกฺขนฺโต (สี. ปี.] อุชุกํ ปริสุทฺธํ กโรตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, วชฺชนียํ อปเนตฺวา ตจฺฉโก รุกฺขํ อุชุกํ ปริสุทฺธํ กโรตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต ปริสํ รกฺขนฺโต น สกฺโกติ โพธเนยฺเย [อโพธนีเย (สฺยา.)] สตฺเต โพเธตุํ, มิจฺฉาปฏิปนฺเน ปน สตฺเต อปเนตฺวา โพธเนยฺเย สตฺเต โพเธติ, อตฺตกเตน ปน เต, มหาราช, มิจฺฉาปฏิปนฺนา ปตนฺติ.
‘‘ยถา, มหาราช, กทลี เวฬุ อสฺสตรี อตฺตเชน [อตฺตเชน ผเลน (สี.)] หฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, เย เต มิจฺฉาปฏิปนฺนา, เต อตฺตกเตน หฺนฺติ ปตนฺติ.
‘‘ยถา, มหาราช, โจรา อตฺตกเตน จกฺขุปฺปาฏนํ สูลาโรปนํ สีสจฺเฉทนํ ปาปุณนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, เย เต มิจฺฉาปฏิปนฺนา, เต อตฺตกเตน หฺนฺติ ปตนฺติ ¶ [ชินสาสนา ปตนฺติ (สี. ปี.)]. เยสํ, มหาราช, สฏฺิมตฺตานํ ภิกฺขูนํ อุณฺหํ โลหิตํ มุขโต อุคฺคตํ, เตสํ ตํ เนว ภควโต กเตน, น ปเรสํ กเตน, อถ โข อตฺตโน เยว กเตน.
‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส สพฺพชนสฺส อมตํ ทเทยฺย, เต ตํ อมตํ อสิตฺวา อโรคา ทีฆายุกา สพฺพีติโต [สพฺพีติยา (สี.)] ปริมุจฺเจยฺยุํ, อถฺตโร ปุริโส ทุรุปจาเรน ตํ อสิตฺวา มรณํ ปาปุเณยฺย, อปิ นุ โข โส, มหาราช, อมตทายโก ปุริโส ตโตนิทานํ กิฺจิ อปฺุํ อาปชฺเชยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต ทสสหสฺสิยา โลกธาตุยา เทวมนุสฺสานํ อมตํ ธมฺมทานํ ¶ เทติ, เย เต สตฺตา ภพฺพา, เต ธมฺมามเตน พุชฺฌนฺติ. เย ปน เต สตฺตา อภพฺพา, เต ธมฺมามเตน หฺนฺติ ปตนฺติ. โภชนํ, มหาราช, สพฺพสตฺตานํ ชีวิตํ รกฺขติ, ตเมกจฺเจ ภฺุชิตฺวา วิสูจิกาย มรนฺติ, อปิ นุ โข โส, มหาราช, โภชนทายโก ปุริโส ตโตนิทานํ กิฺจิ อปฺุํ อาปชฺเชยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต ทสสหสฺสิยา โลกธาตุยา เทวมนุสฺสานํ อมตํ ธมฺมทานํ เทติ, เย เต สตฺตา ภพฺพา, เต ธมฺมามเตน พุชฺฌนฺติ. เย ปน เต สตฺตา อภพฺพา, เต ธมฺมามเตน หฺนฺติ ปตนฺตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
สพฺพสตฺตหิตผรณปฺโห ทุติโย.
๓. วตฺถคุยฺหนิทสฺสนปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ตถาคเตน –
‘‘‘กาเยน สํวโร สาธุ [ธ. ป. ๓๖๑], สาธุ วาจาย สํวโร;
มนสา สํวโร สาธุ, สาธุ สพฺพตฺถ สํวโร’ติ.
‘‘ปุน จ ตถาคโต จตุนฺนํ ปริสานํ มชฺเฌ นิสีทิตฺวา ปุรโต เทวมนุสฺสานํ เสลสฺส พฺราหฺมณสฺส โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํ ทสฺเสสิ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ¶ ภณิตํ ‘กาเยน สํวโร สาธู’ติ, เตน หิ เสลสฺส พฺราหฺมณสฺส โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํ ทสฺเสสีติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ เสลสฺส พฺราหฺมณสฺส โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํ ทสฺเสติ, เตน หิ ‘กาเยน สํวโร สาธู’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘กาเยน สํวโร สาธู’ติ, เสลสฺส จ พฺราหฺมณสฺส โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํ ทสฺสิตํ. ยสฺส โข, มหาราช, ตถาคเต กงฺขา อุปฺปนฺนา, ตสฺส โพธนตฺถาย ภควา อิทฺธิยา ตปฺปฏิภาคํ กายํ ทสฺเสติ, โส เยว ตํ ปาฏิหาริยํ ปสฺสตี’’ติ.
‘‘โก ¶ ปเนตํ, ภนฺเต นาคเสน, สทฺทหิสฺสติ, ยํ ปริสคโต เอโก เยว ตํ คุยฺหํ ปสฺสติ, อวเสสา ตตฺเถว วสนฺตา น ปสฺสนฺตีติ. อิงฺฆ เม ตฺวํ ตตฺถ การณํ อุปทิส, การเณน มํ สฺาเปหี’’ติ. ‘‘ทิฏฺปุพฺโพ ปน ตยา, มหาราช, โกจิ พฺยาธิโต ปุริโส ปริกิณฺโณ าติมิตฺเตหี’’ติ. ‘‘อาม ภนฺเต’’ติ. ‘‘อปิ นุ โข สา, มหาราช, ปริสา ปสฺสเตตํ เวทนํ, ยาย โส ปุริโส เวทนาย เวทยตี’’ติ. ‘‘น หิ ภนฺเต, อตฺตนา เยว โส, ภนฺเต, ปุริโส เวทยตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ยสฺเสว ตถาคเต กงฺขา อุปฺปนฺนา, ตสฺเสว ตถาคโต โพธนตฺถาย อิทฺธิยา ตปฺปฏิภาคํ กายํ ทสฺเสติ, โส เยว ตํ ปาฏิหาริยํ ปสฺสติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, กฺจิเทว ปุริสํ ภูโต อาวิเสยฺย, อปิ นุ โข สา, มหาราช, ปริสา ปสฺสติ ตํ ภูตาคมน’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, โส เยว อาตุโร ตสฺส ภูตสฺส อาคมนํ ปสฺสตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ยสฺเสว ตถาคเต กงฺขา อุปฺปนฺนา, ตสฺเสว ¶ ตถาคโต โพธนตฺถาย อิทฺธิยา ตปฺปฏิภาคํ กายํ ทสฺเสติ, โส เยว ตํ ปาฏิหาริยํ ปสฺสตี’’ติ.
‘‘ทุกฺกรํ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา กตํ, ยํ เอกสฺสปิ อทสฺสนียํ, ตํ ทสฺเสนฺเตนา’’ติ. ‘‘น, มหาราช, ภควา คุยฺหํ ทสฺเสสิ ¶ , อิทฺธิยา ปน ฉายํ ทสฺเสสี’’ติ. ‘‘ฉายายปิ, ภนฺเต, ทิฏฺาย ทิฏฺํ เยว โหติ คุยฺหํ, ยํ ทิสฺวา นิฏฺํ คโต’’ติ. ‘‘ทุกฺกรฺจาปิ, มหาราช, ตถาคโต กโรติ โพธเนยฺเย สตฺเต โพเธตุํ. ยทิ, มหาราช, ตถาคโต กิริยํ หาเปยฺย, โพธเนยฺยา สตฺตา น พุชฺเฌยฺยุํ. ยสฺมา จ โข, มหาราช, โยคฺู ตถาคโต โพธเนยฺเย สตฺเต โพเธตุํ, ตสฺมา ตถาคโต เยน เยน โยเคน โพธเนยฺยา พุชฺฌนฺติ, เตน เตน โยเคน โพธเนยฺเย โพเธติ.
‘‘ยถา, มหาราช, ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต เยน เยน เภสชฺเชน อาตุโร อโรโค โหติ, เตน เตน เภสชฺเชน อาตุรํ อุปสงฺกมติ, วมนียํ วเมติ, วิเรจนียํ วิเรเจติ, อนุเลปนียํ อนุลิมฺเปติ, อนุวาสนียํ อนุวาเสติ. เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต เยน เยน โยเคน โพธเนยฺยา สตฺตา พุชฺฌนฺติ, เตน เตน โยเคน โพเธติ.
‘‘ยถา ¶ วา ปน, มหาราช, อิตฺถี มูฬฺหคพฺภา ภิสกฺกสฺส อทสฺสนียํ คุยฺหํ ทสฺเสติ, เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต โพธเนยฺเย สตฺเต โพเธตุํ อทสฺสนียํ คุยฺหํ อิทฺธิยา ฉายํ ทสฺเสสิ. นตฺถิ, มหาราช, อทสฺสนีโย นาม โอกาโส ปุคฺคลํ อุปาทาย. ยทิ, มหาราช, โกจิ ภควโต หทยํ ทิสฺวา พุชฺเฌยฺย, ตสฺสปิ ภควา โยเคน หทยํ ทสฺเสยฺย, โยคฺู, มหาราช, ตถาคโต เทสนากุสโล.
‘‘นนุ, มหาราช, ตถาคโต เถรสฺส นนฺทสฺส อธิมุตฺตึ ชานิตฺวา ตํ เทวภวนํ เนตฺวา เทวกฺาโย ทสฺเสสิ ‘อิมินายํ กุลปุตฺโต พุชฺฌิสฺสตี’ติ, เตน จ โส กุลปุตฺโต พุชฺฌิ. อิติ โข, มหาราช, ตถาคโต อเนกปริยาเยน สุภนิมิตฺตํ หีเฬนฺโต ครหนฺโต ชิคุจฺฉนฺโต ตสฺส โพธนเหตุ กกุฏปาทินิโย อจฺฉราโย ทสฺเสสิ. เอวมฺปิ ตถาคโต โยคฺู เทสนากุสโล.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ตถาคโต เถรสฺส จูฬปนฺถกสฺส ภาตรา นิกฺกฑฺฒิตสฺส ทุกฺขิตสฺส ทุมฺมนสฺส อุปคนฺตฺวา สุขุมํ โจฬขณฺฑํ อทาสิ ‘อิมินายํ กุลปุตฺโต พุชฺฌิสฺสตี’ติ ¶ , โส ¶ จ กุลปุตฺโต เตน การเณน ชินสาสเน วสีภาวํ ปาปุณิ. เอวมฺปิ, มหาราช, ตถาคโต โยคฺู เทสนากุสโล.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ตถาคโต พฺราหฺมณสฺส โมฆราชสฺส ยาว ตติยํ ปฺหํ ปุฏฺโ น พฺยากาสิ ‘เอวมิมสฺส กุลปุตฺตสฺส มาโน อุปสมิสฺสติ, มานูปสมา อภิสมโย ภวิสฺสตี’ติ, เตน จ ตสฺส กุลปุตฺตสฺส มาโน อุปสมิ, มานูปสมา โส พฺราหฺมโณ ฉสุ อภิฺาสุ วสีภาวํ ปาปุณิ. เอวมฺปิ, มหาราช, ตถาคโต โยคฺู เทสนากุสโล’’ติ.
‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, สุนิพฺเพิโต ปฺโห พหุวิเธหิ การเณหิ, คหนํ อคหนํ กตํ, อนฺธกาโร อาโลโก กโต, คณฺิ ภินฺโน, ภคฺคา ปรวาทา, ชินปุตฺตานํ จกฺขุํ ตยา อุปฺปาทิตํ, นิปฺปฏิภานา ติตฺถิยา, ตฺวํ คณิวรปวรมาสชฺชา’’ติ.
วตฺถคุยฺหนิทสฺสนปฺโห ตติโย.
๔. ผรุสวาจาภาวปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา ‘ปริสุทฺธวจีสมาจาโร อาวุโส ตถาคโต, นตฺถิ ตถาคตสฺส วจีทุจฺจริตํ, ยํ ตถาคโต รกฺเขยฺย ‘มา เม อิทํ ปโร อฺาสี’ติ. ปุน จ ตถาคโต เถรสฺส สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส อปราเธ ปาราชิกํ ปฺเปนฺโต ผรุสาหิ วาจาหิ โมฆปุริสวาเทน สมุทาจริ, เตน จ โส เถโร โมฆปุริสวาเทน มงฺกุจิตฺตวเสน รุนฺธิตตฺตา วิปฺปฏิสารี นาสกฺขิ อริยมคฺคํ ปฏิวิชฺฌิตุํ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ปริสุทฺธวจีสมาจาโร ตถาคโต, นตฺถิ ตถาคตสฺส วจีทุจฺจริตํ, เตน หิ ตถาคเตน เถรสฺส สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส อปราเธ โมฆปุริสวาเทน สมุทาจิณฺณนฺติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ภควตา เถรสฺส สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส อปราเธ โมฆปุริสวาเทน ¶ สมุทาจิณฺณํ, เตน หิ ปริสุทฺธวจีสมาจาโร ตถาคโต, นตฺถิ ตถาคตสฺส วจีทุจฺจริตนฺติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา ‘ปริสุทฺธวจีสมาจาโร อาวุโส ¶ ตถาคโต, นตฺถิ ตถาคตสฺส วจีทุจฺจริตํ, ยํ ตถาคโต รกฺเขยฺย ‘มา เม อิทํ ปโร อฺาสี’ติ. อายสฺมโต จ สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส อปราเธ ปาราชิกํ ปฺเปนฺเตน ภควตา โมฆปุริสวาเทน สมุทาจิณฺณํ, ตฺจ ปน อทุฏฺจิตฺเตน อสารมฺเภน ยาถาวลกฺขเณน. กิฺจ ตตฺถ ยาถาวลกฺขณํ, ยสฺส, มหาราช, ปุคฺคลสฺส อิมสฺมึ อตฺตภาเว จตุสจฺจาภิสมโย น โหติ, ตสฺส ปุริสตฺตนํ โมฆํ อฺํ กยิรมานํ อฺเน สมฺภวติ, เตน วุจฺจติ ‘โมฆปุริโส’ติ. อิติ, มหาราช, ภควตา อายสฺมโต สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส สตาววจเนน สมุทาจิณฺณํ, โน อภูตวาเทนา’’ติ.
‘‘สภาวมฺปิ, ภนฺเต นาคเสน, โย อกฺโกสนฺโต ภณติ, ตสฺส มยํ กหาปณํ ทณฺฑํ ธาเรม, อปราโธ เยว โส วตฺถุํ นิสฺสาย วิสุํ โวหารํ อาจรนฺโต อกฺโกสตี’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, มหาราช, สุตปุพฺพํ ¶ ตยา ขลิตสฺส อภิวาทนํ วา ปจฺจุฏฺานํ วา สกฺการํ วา อุปายนานุปฺปทานํ วา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ยโต กุโตจิ ยตฺถ กตฺถจิ ขลิโต, โส ปริภาสนารโห โหติ ตชฺชนารโห, อุตฺตมงฺคมฺปิสฺส ฉินฺทนฺติ หนนฺติปิ พนฺธนฺติปิ ฆาเตนฺติปิ ฌาเปนฺติปี’’ติ [ชาเปนฺติปีติ (สี. ปี.)]. ‘‘เตน หิ, มหาราช, ภควตา กิริยา เยว กตา, โน อกิริยา’’ติ.
‘‘กิริยมฺปิ, ภนฺเต นาคเสน, กุรุมาเนน ปติรูเปน กาตพฺพํ อนุจฺฉวิเกน, สวเนนปิ, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคตสฺส สเทวโก โลโก โอตฺตปฺปติ หิริยติ ภิยฺโย ทสฺสเนน ตตุตฺตรึ อุปสงฺกมเนน ปยิรุปาสเนนา’’ติ. ‘‘อปิ ¶ นุ โข, มหาราช, ติกิจฺฉโก อภิสนฺเน กาเย กุปิเต โทเส สิเนหนียานิ เภสชฺชานิ เทตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ติณฺหานิ เลขนียานิ เภสชฺชานิ เทตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต สพฺพกิเลสพฺยาธิวูปสมาย อนุสิฏฺึ เทติ, ผรุสาปิ, มหาราช, ตถาคตสฺส วาจา สตฺเต สิเนหยติ, มุทุเก กโรติ. ยถา, มหาราช, อุณฺหมฺปิ อุทกํ ยํ กิฺจิ สิเนหนียํ สิเนหยติ, มุทุกํ กโรติ, เอวเมว โข, มหาราช, ผรุสาปิ ตถาคตสฺส วาจา อตฺถวตี โหติ กรุณาสหคตา. ยถา, มหาราช, ปิตุวจนํ ปุตฺตานํ อตฺถวนฺตํ โหติ กรุณาสหคตํ, เอวเมว โข, มหาราช, ผรุสาปิ ตถาคตสฺส วาจา อตฺถวตี โหติ กรุณาสหคตา. ผรุสาปิ, มหาราช, ตถาคตสฺส วาจา สตฺตานํ กิเลสปฺปหานา [กิเลสปฺปหานาย (สี.)] โหติ. ยถา, มหาราช, ทุคฺคนฺธมฺปิ โคมุตฺตํ ปีตํ วิรสมฺปิ อคทํ ขายิตํ สตฺตานํ พฺยาธึ หนติ, เอวเมว โข, มหาราช, ผรุสาปิ ตถาคตสฺส วาจา อตฺถวตี กรุณาสหคตา. ยถา, มหาราช, มหนฺโตปิ ตูลปฺุโช [ตูลปิจุ (สี. สฺยา.)] ปรสฺส กาเย นิปติตฺวา รุชํ น กโรติ, เอวเมว โข, มหาราช, ผรุสาปิ ตถาคตสฺส ¶ วาจา น กสฺสจิ ทุกฺขํ อุปฺปาเทตี’’ติ. ‘‘สุวินิจฺฉิโต, ภนฺเต นาคเสน, ปฺโห พหูหิ การเณหิ, สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
ผรุสวาจาภาวปฺโห จตุตฺโถ.
๕. รุกฺขอเจตนาภาวปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ตถาคเตน –
‘‘‘อเจตนํ พฺราหฺมณ อสฺสุณนฺตํ, ชาโน อชานนฺตมิมํ ปลาสํ;
อารทฺธวีริโย ธุวํ อปฺปมตฺโต, สุขเสยฺยํ ปุจฺฉสิ กิสฺส เหตู’ติ [ชา. ๑.๔.๒๕].
ปุน ¶ จ ภณิตํ –
‘‘‘อิติ ผนฺทนรุกฺโขปิ, ตาวเท อชฺฌภาสถ;
มยฺหมฺปิ วจนํ อตฺถิ, ภารทฺวาช สุโณหิ เม’ติ [ชา. ๑.๑๓.๒๐].
‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, รุกฺโข อเจตโน, เตน หิ ผนฺทเนน รุกฺเขน ภารทฺวาเชน สห สลฺลปิตนฺติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ผนฺทเนน รุกฺเขน ภารทฺวาเชน สทฺธึ สลฺลปิตํ, เตน หิ รุกฺโข อเจตโนติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘รุกฺโข อเจตโน’ติ, ผนฺทเนน จ รุกฺเขน ภารทฺวาเชน สทฺธึ สลฺลปิตํ, ตฺจ ปน วจนํ โลกสมฺาย ภณิตํ. นตฺถิ, มหาราช, อเจตนสฺส รุกฺขสฺส สลฺลาโป นาม, อปิ จ, มหาราช, ตสฺมึ รุกฺเข อธิวตฺถาย เทวตาเยตํ อธิวจนํ รุกฺโขติ, รุกฺโข สลฺลปตีติ เจสา โลกปณฺณตฺติ, ยถา, มหาราช, สกฏํ ธฺสฺส ปริปูริตํ ธฺสกฏนฺติ ชโน โวหรติ, น จ ตํ ธฺมยํ สกฏํ, รุกฺขมยํ สกฏํ, ตสฺมึ สกเฏ ธฺสฺส ปน อากิริตตฺตา ธฺสกฏนฺติ ชโน โวหรติ, เอวเมว โข, มหาราช, น รุกฺโข สลฺลปติ, รุกฺโข อเจตโน, ยา ปน ตสฺมึ รุกฺเข อธิวตฺถา เทวตา, ตสฺสา เยว ตํ อธิวจนํ รุกฺโขติ, รุกฺโข สลฺลปตีติ เจสา โลกปณฺณตฺติ.
‘‘ยถา ¶ วา ปน, มหาราช, ทธึ มนฺถยมาโน ตกฺกํ มนฺเถมีติ โวหรติ, น ตํ ตกฺกํ, ยํ โส มนฺเถติ, ทธึ เยว โส มนฺเถนฺโต ตกฺกํ มนฺเถมีติ โวหรติ, เอวเมว โข, มหาราช, น รุกฺโข สลฺลปติ, รุกฺโข อเจตโน ¶ . ยา ปน ตสฺมึ รุกฺเข อธิวตฺถา เทวตา, ตสฺสาเยว ตํ อธิวจนํ รุกฺโขติ, รุกฺโข สลฺลปตีติ เจสา โลกปณฺณตฺติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อสนฺตํ สาเธตุกาโม สนฺตํ สาเธมีติ โวหรติ ¶ , อสิทฺธํ สิทฺธนฺติ โวหรติ, เอวเมสา โลกสมฺา, เอวเมว โข, มหาราช, น รุกฺโข สลฺลปติ, รุกฺโข อเจตโน. ยา ปน ตสฺมึ รุกฺเข อธิวตฺถา เทวตา, ตสฺสาเยว ตํ อธิวจนํ รุกฺโขติ, รุกฺโข สลฺลปตีติ เจสา โลกปณฺณตฺติ, ยาย, มหาราช, โลกสมฺาย ชโน โวหรติ, ตถาคโตปิ ตาเยว โลกสมฺาย สตฺตานํ ธมฺมํ เทเสตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
รุกฺขอเจตนาภาวปฺโห ปฺจโม.
๖. ปิณฺฑปาตมหปฺผลปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ธมฺมสงฺคีติการเกหิ เถเรหิ –
‘‘‘จุนฺทสฺส ภตฺตํ ภฺุชิตฺวา, กมฺมารสฺสาติ เม สุตํ;
อาพาธํ สมฺผุสี ธีโร, ปพาฬฺหํ มารณนฺติก’นฺติ [ที. นิ. ๒.๑๙๐].
‘‘ปุน จ ภควตา ภณิตํ ‘ทฺเวเม, อานนฺท, ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมวิปากา อติวิย อฺเหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จ. กตเม ทฺเว? ยฺจ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิตฺวา ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌิ, ยฺจ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิตฺวา ตถาคโต อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ. อิเม ทฺเว ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมวิปากา, อติวิย อฺเหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จา’ติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควโต จุนฺทสฺส ภตฺตํ ภุตฺตาวิสฺส [ภฺุชิตฺวา (สี.)] ขโร อาพาโธ อุปฺปนฺโน, ปพาฬฺหา จ เวทนา ปวตฺตา มารณนฺติกา, เตน หิ ‘ทฺเวเม, อานนฺท, ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมวิปากา อติวิย อฺเหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จา’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ทฺเวเม ปิณฺฑปาตา ¶ สมสมผลา สมวิปากา อติวิย อฺเหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ ¶ มหานิสํสตรา จ, เตน หิ ภควโต จุนฺทสฺส ภตฺตํ ภุตฺตาวิสฺส [ภฺุชิตฺวา (สี.)] ขโร อาพาโธ อุปฺปนฺโน, ปพาฬฺหา จ เวทนา ปวตฺตา มารณนฺติกาติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. กึนุ โข, ภนฺเต นาคเสน, โส ปิณฺฑปาโต วิสคตตาย มหปฺผโล, โรคุปฺปาทกตาย มหปฺผโล ¶ , อายุวินาสกตาย มหปฺผโล, ภควโต ชีวิตหรณตาย มหปฺผโล? ตตฺถ เม การณํ พฺรูหิ ปรวาทานํ นิคฺคหาย, เอตฺถายํ ชโน สมฺมูฬฺโห โลภวเสน อติพหุํ ขายิเตน โลหิตปกฺขนฺทิกา อุปฺปนฺนาติ. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ธมฺมสงฺคีติการเกหิ เถเรหิ –
‘‘‘จุนฺทสฺส ภตฺตํ ภฺุชิตฺวา, กมฺมารสฺสาติ เม สุตํ;
อาพาธํ สมฺผุสี ธีโร, ปพาฬฺหํ มารณนฺติก’นฺติ.
‘‘ภควตา จ ภณิตํ ‘ทฺเวเม, อานนฺท, ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมวิปากา อติวิย อฺเหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จ. กตเม ทฺเว? ยฺจ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิตฺวา ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌิ, ยฺจ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิตฺวา ตถาคโต อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ [ปรินิพฺพายิ (สี.)], อิเม ทฺเว ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมวิปากา, อติวิย อฺเหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จา’ติ.
‘‘โส ปน ปิณฺฑปาโต พหุคุโณ อเนกานิสํโส. เทวตา, มหาราช, หฏฺา ปสนฺนมานสา ‘อยํ ภควโต ปจฺฉิโม ปิณฺฑปาโต’ติ ทิพฺพํ โอชํ สูกรมทฺทเว อากิรึสุ. ตฺจ ปน สมฺมาปากํ ลหุปากํ [พหุปากํ (สี.)] มนฺุํ พหุรสํ ชฏฺรคฺคิเตชสฺส หิตํ. น, มหาราช, ตโตนิทานํ ภควโต โกจิ อนุปฺปนฺโน โรโค อุปฺปนฺโน, อปิ จ, มหาราช, ภควโต ปกติทุพฺพเล สรีเร ขีเณ อายุสงฺขาเร อุปฺปนฺโน โรโค ภิยฺโย อภิวฑฺฒิ.
‘‘ยถา, มหาราช, ปกติยา ชลมาโน อคฺคิ อฺสฺมึ อุปาทาเน ทินฺเน ภิยฺโย ปชฺชลติ, เอวเมว โข, มหาราช, ภควโต ปกติทุพฺพเล สรีเร ขีเณ อายุสงฺขาเร อุปฺปนฺโน โรโค ภิยฺโย อภิวฑฺฒิ.
‘‘ยถา ¶ วา ปน, มหาราช, โสโต ¶ ปกติยา สนฺทมาโน อภิวุฏฺเ มหาเมเฆ ภิยฺโย มโหโฆ ¶ อุทกวาหโก โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, ภควโต ปกติทุพฺพเล สรีเร ขีเณ อายุสงฺขาเร อุปฺปนฺโน โรโค ภิยฺโย อภิวฑฺฒิ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ปกติยา อภิสนฺนธาตุ กุจฺฉิ อฺสฺมึ อชฺโฌหริเต ภิยฺโย อายเมยฺย [อามเยยฺย (สี.)], เอวเมว โข, มหาราช, ภควโต ปกติทุพฺพเล สรีเร ขีเณ อายุสงฺขาเร อุปฺปนฺโน โรโค ภิยฺโย อภิวฑฺฒิ, นตฺถิ, มหาราช, ตสฺมึ ปิณฺฑปาเต โทโส, น จ ตสฺส สกฺกา โทสํ อาโรเปตุ’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, เกน การเณน เต ทฺเว ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมวิปากา อติวิย อฺเหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จา’’ติ? ‘‘ธมฺมานุมชฺชนสมาปตฺติวเสน, มหาราช, เต ทฺเว ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมวิปากา อติวิย อฺเหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, กตเมสํ ธมฺมานํ อนุมชฺชนสมาปตฺติวเสน เต ทฺเว ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมวิปากา อติวิย อฺเหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จา’’ติ? ‘‘นวนฺนํ, มหาราช, อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺตีนํ อนุโลมปฺปฏิโลมสมาปชฺชนวเสน เต ทฺเว ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมวิปากา อติวิย อฺเหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ทฺวีสุ เยว ทิวเสสุ อธิมตฺตํ ตถาคโต นวานุปุพฺพวิหารสมาปตฺติโย อนุโลมปฺปฏิโลมํ สมาปชฺชี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราชา’’ติ. ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต นาคเสน, อพฺภุตํ ภนฺเต นาคเสน. ยํ อิมสฺมึ พุทฺธกฺเขตฺเต อสทิสํ ปรมทานํ, ตมฺปิ อิเมหิ ทฺวีหิ ปิณฺฑปาเตหิ อคณิตํ. อจฺฉริยํ, ภนฺเต นาคเสน, อพฺภุตํ, ภนฺเต นาคเสน. ยาว มหนฺตา นวานุปุพฺพวิหารสมาปตฺติโย, ยตฺร หิ นาม นวานุปุพฺพวิหารสมาปตฺติวเสน ¶ ทานํ มหปฺผลตรํ โหติ มหานิสํสตรฺจ. สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
ปิณฺฑปาตมหปฺผลปฺโห ฉฏฺโ.
๗. พุทฺธปูชนปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ตถาคเตน ‘อพฺยาวฏา ตุมฺเห, อานนฺท, โหถ ตถาคตสฺส สรีรปูชายา’ติ. ปุน จ ภณิตํ –
‘‘‘ปูเชถ นํ ปูชนิยสฺส ธาตุํ;
เอวํ กิร สคฺคมิโต คมิสฺสถา’ติ.
‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคเตน ภณิตํ ‘อพฺยาวฏา ตุมฺเห, อานนฺท, โหถ ตถาคตสฺส สรีรปูชายา’ติ, เตน หิ ‘ปูเชถ นํ ปูชนิยสฺส ธาตุํ, เอวํ กรา สคฺคมิโต คมิสฺสถา’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ตถาคเตน ภณิตํ ‘ปูเชถ นํ ปูชนิยสฺส ธาตุํ, เอวํ กรา สคฺคมิโต คมิสฺสถา’ติ, เตน หิ ‘อพฺยาวฏา ตุมฺเห อานนฺท, โหถ ตถาคตสฺส สรีรปูชายา’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘อพฺยาวฏา ตุมฺเห, อานนฺท, โหถ ตถาคตสฺส สรีรปูชายา’ติ, ปุน จ ภณิตํ ‘ปูเชถ นํ ปูชนิยสฺส ธาตุํ, เอวํ กรา สคฺคมิโต คมิสฺสถา’ติ, ตฺจ ปน น สพฺเพสํ ชินปุตฺตานํ เยว อารพฺภ ภณิตํ ‘อพฺยาวฏา ตุมฺเห, อานนฺท, โหถ ตถาคตสฺส สรีรปูชายา’ติ. อกมฺมํ เหตํ, มหาราช, ชินปุตฺตานํ ¶ ยทิทํ ปูชา, สมฺมสนํ สงฺขารานํ, โยนิโส มนสิกาโร, สติปฏฺานานุปสฺสนา, อารมฺมณสารคฺคาโห, กิเลสยุทฺธํ, สทตฺถมนุยฺุชนา, เอตํ ชินปุตฺตานํ กรณียํ, อวเสสานํ เทวมนุสฺสานํ ปูชา กรณียา.
‘‘ยถา, มหาราช, มหิยา ราชปุตฺตานํ หตฺถิอสฺสรถธนุถรุเลขมุทฺทาสิกฺขาขคฺคมนฺตสุติ- สมฺมุติยุทฺธยุชฺฌาปนกิริยา กรณียา, อวเสสานํ ปุถุเวสฺสสุทฺทานํ กสิ วณิชฺชา โครกฺขา กรณียา, เอวเมว โข, มหาราช, อกมฺมํ เหตํ ชินปุตฺตานํ ยทิทํ ปูชา, สมฺมสนํ สงฺขารานํ, โยนิโส มนสิกาโร, สติปฏฺานานุปสฺสนา, อารมฺมณสารคฺคาโห, กิเลสยุทฺธํ, สทตฺถมนุยฺุชนา, เอตํ ชินปุตฺตานํ กรณียํ, อวเสสานํ เทวมนุสฺสานํ ปูชา กรณียา.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, พฺราหฺมณมาณวกานํ อิรุเวทํ ยชุเวทํ สามเวทํ อถพฺพณเวทํ ลกฺขณํ ¶ อิติหาสํ ปุราณํ นิฆณฺฑุ เกฏุภํ อกฺขรปฺปเภทํ ปทํ เวยฺยากรณํ ภาสมคฺคํ อุปฺปาตํ สุปินํ นิมิตฺตํ ฉฬงฺคํ จนฺทคฺคาหํ ¶ สูริยคฺคาหํ สุกฺกราหุจริตํ อุฬุคฺคหยุทฺธํ [โอฬุคฺคหยุทฺธํ (ก.)] เทวทุนฺทุภิสฺสรํ โอกฺกนฺติ อุกฺกาปาตํ ภูมิกมฺมํ [ภูมิกมฺปํ (สี. ปี.)] ทิสาทาหํ ภุมฺมนฺตลิกฺขํ โชติสํ โลกายติกํ สาจกฺกํ มิคจกฺกํ อนฺตรจกฺกํ มิสฺสกุปฺปาทํ สกุณรุตรวิตํ [สกุณรุตํ (สี.)] สิกฺขา กรณียา, อวเสสานํ ปุถุเวสฺสสุทฺทานํ กสิ วณิชฺชา โครกฺขา กรณียา, เอวเมว โข, มหาราช, อกมฺมํ เหตํ ชินปุตฺตานํ ยทิทํ ปูชา, สมฺมสนํ สงฺขารานํ, โยนิโส มนสิกาโร, สติปฏฺานานุปสฺสนา, อารมฺมณสารคฺคาโห, กิเลสยุทฺธํ, สทตฺถมนุยฺุชนา, เอตํ ชินปุตฺตานํ กรณียํ, อวเสสานํ เทวมนุสฺสานํ ปูชา กรณียา, ตสฺมา, มหาราช, ตถาคโต ‘มา อิเม อกมฺเม ยฺุชนฺตุ, กมฺเม อิเม ¶ ยฺุชนฺตู’ติ อาห ‘อพฺยาวฏา ตุมฺเห, อานนฺท, โหถ ตถาคตสฺส สรีรปูชายา’ติ. ยเทตํ, มหาราช, ตถาคโต น ภเณยฺย, ปตฺตจีวรมฺปิ อตฺตโน ปริยาทาเปตฺวา ภิกฺขู พุทฺธปูชํ เยว กเรยฺยุ’’นฺติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
พุทฺธปูชนปฺโห สตฺตโม.
๘. ปาทสกลิกาหตปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘ภควโต คจฺฉนฺตสฺส อยํ อเจตนา มหาปถวี นินฺนํ อุนฺนมติ, อุนฺนตํ โอนมตี’ติ, ปุน จ ภณถ ‘ภควโต ปาโท สกลิกาย ขโต’ติ. ยา สา สกลิกา ภควโต ปาเท ปติตา, กิสฺส ปน สา สกลิกา ภควโต ปาทา น นิวตฺตา. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควโต คจฺฉนฺตสฺส อยํ อเจตนา มหาปถวี นินฺนํ อุนฺนมติ, อุนฺนตํ โอนมติ, เตน หิ ‘ภควโต ปาโท สกลิกาย ขโต’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ภควโต ปาโท สกลิกาย ขโต, เตน หิ ‘ภควโต คจฺฉนฺตสฺส อยํ อเจตนา มหาปถวี นินฺนํ อุนฺนมติ อุนฺนตํ โอนมตี’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘สจฺจํ ¶ , มหาราช, อตฺเถตํ ภควโต คจฺฉนฺตสฺส อยํ อเจตนา มหาปถวี นินฺนํ อุนฺนมติ อุนฺนตํ โอนมติ, ภควโต จ ปาโท สกลิกาย ขโต, น จ ปน สา สกลิกา อตฺตโน ธมฺมตาย ปติตา, เทวทตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปติตา. เทวทตฺโต, มหาราช, พหูนิ ชาติสตสหสฺสานิ ภควติ อาฆาตํ พนฺธิ, โส เตน อาฆาเตน ‘มหนฺตํ กูฏาคารปฺปมาณํ ปาสาณํ ¶ ภควโต อุปริ ปาเตสฺสามี’ติ มฺุจิ. อถ ทฺเว เสลา ปถวิโต อุฏฺหิตฺวา ตํ ปาสาณํ สมฺปฏิจฺฉึสุ, อถ เนสํ สมฺปหาเรน ปาสาณโต ปปฏิกา ภิชฺชิตฺวา เยน วา เตน วา ¶ ปตนฺตี ภควโต ปาเท ปติตา’’ติ.
‘‘ยถา จ, ภนฺเต นาคเสน, ทฺเว เสลา ปาสาณํ สมฺปฏิจฺฉึสุ, ตเถว ปปฏิกาปิ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพา’’ติ? ‘‘สมฺปฏิจฺฉิตมฺปิ, มหาราช, อิเธกจฺจํ ปคฺฆรติ ปสวติ น านมุปคจฺฉติ, ยถา, มหาราช, อุทกํ ปาณินา คหิตํ องฺคุลนฺตริกาหิ ปคฺฆรติ ปสวติ น านมุปคจฺฉติ, ขีรํ ตกฺกํ มธุํ สปฺปิ เตสํ มจฺฉรสํ มํสรสํ ปาณินา คหิตํ องฺคุลนฺตริกาหิ ปคฺฆรติ ปสวติ น านมุปคจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช, สมฺปฏิจฺฉนตฺถํ อุปคตานํ ทฺวินฺนํ เสลานํ สมฺปหาเรน ปาสาณโต ปปฏิกา ภิชฺชิตฺวา เยน วา เตน วา ปตนฺตี ภควโต ปาเท ปติตา.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, สณฺหสุขุมอณุรชสมํ ปุฬินํ มุฏฺินา คหิตํ องฺคุลนฺตริกาหิ ปคฺฆรติ ปสวติ น านมุปคจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช, สมฺปฏิจฺฉนตฺถํ อุปคตานํ ทฺวินฺนํ เสลานํ สมฺปหาเรน ปาสาณโต ปปฏิกา ภิชฺชิตฺวา เยน วา เตน วา ปตนฺตี ภควโต ปาเท ปติตา.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, กพโฬ มุเขน คหิโต อิเธกจฺจสฺส มุขโต มุจฺจิตฺวา ปคฺฆรติ ปสวติ น านมุปคจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช, สมฺปฏิจฺฉนตฺถํ อุปคตานํ ทฺวินฺนํ เสลานํ สมฺปหาเรน ปาสาณโต ปปฏิกา ภิชฺชิตฺวา เยน วา เตน วา ปตนฺตี ภควโต ปาเท ปติตา’’ติ.
‘‘โหตุ, ภนฺเต นาคเสน, เสเลหิ ปาสาโณ สมฺปฏิจฺฉิโต, อถ ปปฏิกายปิ อปจิติ กาตพฺพา ยเถว มหาปถวิยา’’ติ? ‘‘ทฺวาทสิเม, มหาราช, อปจิตึ น กโรนฺติ. กตเม ทฺวาทส? รตฺโต ราควเสน อปจิตึ น กโรติ, ทุฏฺโ โทสวเสน, มูฬฺโห โมหวเสน, อุนฺนโต ¶ มานวเสน, นิคฺคุโณ อวิเสสตาย, อติถทฺโธ อนิเสธนตาย, หีโน หีนสภาวตาย, วจนกโร อนิสฺสรตาย, ปาโป กทริยตาย, ทุกฺขาปิโต ปฏิทุกฺขาปนตาย, ลุทฺโธ ¶ โลภาภิภูตตาย, อายูหิโต อตฺถสาธนตาย [อตฺถสาธเนน (สฺยา. ปี. ก.)] อปจิตึ น กโรติ. อิเม โข มหาราช ทฺวาทส อปจิตึ น กโรนฺติ. สา จ ปน ปปฏิกา ปาสาณสมฺปหาเรน ¶ ภิชฺชิตฺวา อนิมิตฺตกตทิสา เยน วา เตน วา ปตมานา ภควโต ปาเท ปติตา.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, สณฺหสุขุมอณุรโช อนิลพลสมาหโต อนิมิตฺตกตทิโส เยน วา เตน วา อภิกิรติ, เอวเมว โข, มหาราช, สา ปปฏิกา ปาสาณสมฺปหาเรน ภิชฺชิตฺวา อนิมิตฺตกตทิสา เยน วา เตน วา ปตมานา ภควโต ปาเท ปติตา. ยทิ ปน, มหาราช, สา ปปฏิกา ปาสาณโต วิสุํ น ภเวยฺย, ตมฺปิ เต เสลา ปาสาณปปฏิกํ อุปฺปติตฺวา คณฺเหยฺยุํ. เอสา ปน, มหาราช, ปปฏิกา น ภูมฏฺา น อากาสฏฺา, ปาสาณสมฺปหารเวเคน ภิชฺชิตฺวา อนิมิตฺตกตทิสา เยน วา เตน วา ปตมานา ภควโต ปาเท ปติตา.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, วาตมณฺฑลิกาย อุกฺขิตฺตํ ปุราณปณฺณํ อนิมิตฺตกตทิสํ เยน วา เตน วา ปตติ, เอวเมว โข, มหาราช, เอสา ปปฏิกา ปาสาณสมฺปหารเวเคน อนิมิตฺตกตทิสา เยน วา เตน วา ปตมานา ภควโต ปาเท ปติตา. อปิ จ, มหาราช, อกตฺุสฺส กทริยสฺส เทวทตฺตสฺส ทุกฺขานุภวนาย ปปฏิกา ภควโต ปาเท ปติตา’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
ปาทสกลิกาหตปฺโห อฏฺโม.
๙. อคฺคคฺคสมณปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘อาสวานํ ขยา สมโณ โหตี’ติ. ปุน จ ภณิตํ –
‘‘‘จตุพฺภิ ธมฺเมหิ สมงฺคิภูตํ, ตํ เว นรํ สมณํ อาหุ โลเก’ติ.
ตตฺริเม ¶ จตฺตาโร ธมฺมา ขนฺติ อปฺปาหารตา รติวิปฺปหานํ อากิฺจฺํ. สพฺพานิ ปเนตานิ อปริกฺขีณาสวสฺส ¶ สกิเลสสฺเสว โหนฺติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, อาสวานํ ขยา สมโณ โหติ, เตน หิ ‘จตุพฺภิ ธมฺเมหิ สมงฺคิภูตํ, ตํ เว นรํ สมณํ อาหุ โลเก’ติ ¶ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ จตุพฺภิ ธมฺเมหิ สมงฺคิภูโต สมโณ โหติ, เตน หิ ‘อาสวานํ ขยา สมโณ โหตี’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา, อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘อาสวานํ ขยา สมโณ โหตี’ติ. ปุน จ ภณิตํ ‘จตุพฺภิ ธมฺเมหิ สมงฺคิภูตํ, ตํ เว นรํ สมณํ อาหุ โลเก’ติ. ตทิทํ, มหาราช, วจนํ เตสํ เตสํ ปุคฺคลานํ คุณวเสน ภณิตํ ‘จตุพฺภิ ธมฺเมหิ สมงฺคิภูตํ, ตํ เว นรํ สมณํ อาหุ โลเก’ติ, อิทํ ปน นิรวเสสวจนํ ‘อาสวานํ ขยา สมโณ โหตี’ติ.
‘‘อปิ จ, มหาราช, เย เกจิ กิเลสูปสมาย ปฏิปนฺนา, เต สพฺเพ อุปาทายุปาทาย สมโณ ขีณาสโว อคฺคมกฺขายติ. ยถา, มหาราช, ยานิ กานิจิ ชลชถลชปุปฺผานิ, วสฺสิกํ เตสํ อคฺคมกฺขายติ, อวเสสานิ ยานิ กานิจิ วิวิธานิ ปุปฺผชาตานิ, สพฺพานิ ตานิ ปุปฺผานิ เยว, อุปาทายุปาทาย ปน วสฺสิกํ เยว ปุปฺผํ ชนสฺส ปตฺถิตํ ปิหยิตํ. เอวเมว โข, มหาราช, เย เกจิ กิเลสูปสมาย ปฏิปนฺนา, เต สพฺเพ อุปาทายุปาทาย สมโณ ขีณาสโว อคฺคมกฺขายติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, สพฺพธฺานํ สาลิ อคฺคมกฺขายติ, ยา กาจิ อวเสสา วิวิธา ธฺชาติโย, ตา สพฺพา อุปาทายุปาทาย ¶ โภชนานิ สรีรยาปนาย, สาลิ เยว เตสํ อคฺคมกฺขายติ. เอวเมว โข, มหาราช, เย เกจิ กิเลสูปสมาย ปฏิปนฺนา, เต สพฺเพ อุปาทายุปาทาย สมโณ ขีณาสโว อคฺคมกฺขายตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
อคฺคคฺคสมณปฺโห นวโม.
๑๐. วณฺณภณนปฺโห
๑๐. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘มมํ วา, ภิกฺขเว, ปเร วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ธมฺมสฺส วา, สงฺฆสฺส วา วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ตตฺร ตุมฺเหหิ น อานนฺโท, น โสมนสฺสํ, น ¶ เจตโส อุปฺปิลาวิตตฺตํ กรณีย’นฺติ ปุน จ ตถาคโต เสลสฺส พฺราหฺมณสฺส ยถาภุจฺเจ วณฺเณ ภฺมาเน อานนฺทิโต สุมโน อุปฺปิลาวิโต ภิยฺโย อุตฺตรึ สกคุณํ ปกิตฺเตสิ –
‘‘‘ราชาหมสฺมิ เสลาติ, ธมฺมราชา อนุตฺตโร;
ธมฺเมน จกฺกํ วตฺเตมิ, จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติย’นฺติ [ม. นิ. ๒.๓๙๙].
‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘มมํ วา, ภิกฺขเว, ปเร วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ธมฺมสฺส วา สงฺฆสฺส วา วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ตตฺร ตุมฺเหหิ น อานนฺโท, น โสมนสฺสํ, น เจตโส อุปฺปิลาวิตตฺตํ กรณีย’นฺติ, เตน หิ เสลสฺส พฺราหฺมณสฺส ยถาภุจฺเจ วณฺเณ ภฺมาเน อานนฺทิโต สุมโน อุปฺปิลาวิโต ภิยฺโย อุตฺตรึ สกคุณํ ปกิตฺเตสีติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ เสลสฺส พฺราหฺมณสฺส ยถาภุจฺเจ วณฺเณ ภฺมาเน อานนฺทิโต สุมโน อุปฺปิลาวิโต ภิยฺโย อุตฺตรึ สกคุณํ ปกิตฺเตสิ, เตน หิ ‘มมํ วา, ภิกฺขเว, ปเร วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ธมฺมสฺส วา สงฺฆสฺส วา วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ตตฺร ตุมฺเหหิ น อานนฺโท, น โสมนสฺสํ, น เจตโส อุปฺปิลาวิตตฺตํ กรณีย’นฺติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ ¶ , มหาราช, ภควตา ‘มมํ วา, ภิกฺขเว, ปเร วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ธมฺมสฺส วา สงฺฆสฺส วา วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ตตฺร ตุมฺเหหิ น อานนฺโท, น โสมนสฺสํ, น เจตโส อุปฺปิลาวิตตฺตํ กรณีย’นฺติ. เสลสฺส จ พฺราหฺมณสฺส ยถาภุจฺเจ วณฺเณ ภฺมาเน ภิยฺโย อุตฺตรึ สกคุณํ ปกิตฺติตํ –
‘‘‘ราชาหมสฺมิ เสลาติ, ธมฺมราชา อนุตฺตโร;
ธมฺเมน จกฺกํ วตฺเตมิ, จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติย’นฺติ.
‘‘ปมํ, มหาราช, ภควตา ธมฺมสฺส สภาวสรสลกฺขณํ สภาวํ อวิตถํ ภูตํ ตจฺฉํ ตถตฺถํ ปริทีปยมาเนน ภณิตํ ‘มมํ วา ภิกฺขเว, ปเร ¶ วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ธมฺมสฺส วา สงฺฆสฺส วา วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ตตฺร ตุมฺเหหิ น อานนฺโท, น โสมนสฺสํ, น เจตโส อุปฺปิลาวิตตฺตํ กรณีย’นฺติ. ยํ ปน ภควตา เสลสฺส พฺราหฺมณสฺส ยถาภุจฺเจ วณฺเณ ภฺมาเน ภิยฺโย อุตฺตรึ สกคุณํ ปกิตฺติตํ ‘ราชาหมสฺมิ เสลาติ, ธมฺมราชา อนุตฺตโร’ติ ตํ น ลาภเหตุ, น ยสเหตุ, น อตฺตเหตุ, น ปกฺขเหตุ, น อนฺเตวาสิกมฺยตาย, อถ โข อนุกมฺปาย การฺุเน ¶ หิตวเสน เอวํ อิมสฺส ธมฺมาภิสมโย ภวิสฺสติ ติณฺณฺจ มาณวกสตานนฺติ, เอวํ ภิยฺโย อุตฺตรึ สกคุณํ ภณิตํ ‘ราชาหมสฺมิ เสลาติ, ธมฺมราชา อนุตฺตโร’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
วณฺณภณนปฺโห ทสโม.
๑๑. อหึสานิคฺคหปฺโห
๑๑. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘อหึสยํ ปรํ โลเก, ปิโย โหหิสิ มามโก’ติ. ปุน จ ภณิตํ ‘นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํ, ปคฺคณฺเห ปคฺคหารห’นฺติ. นิคฺคโห ¶ นาม, ภนฺเต นาคเสน, หตฺถจฺเฉโท ปาทจฺเฉโท วโธ พนฺธนํ การณา มารณํ สนฺตติวิโกปนํ, น เอตํ วจนํ ภควโต ยุตฺตํ, น จ ภควา อรหติ เอตํ วจนํ วตฺตุํ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘อหึสยํ ปรํ โลเก, ปิโย โหหิสิ มามโก’’ติ, เตน หิ ‘‘นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํ, ปคฺคณฺเห ปคฺคหารห’’นฺติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ตถาคเตน ภณิตํ ‘‘นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํ, ปคฺคณฺเห ปคฺคหารห’’นฺติ, เตน หิ ‘‘อหึสยํ ปรํ โลเก, ปิโย โหหิสิ มามโก’’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘อหึสยํ ปรํ โลเก, ปิโย โหหิสิ มามโก’ติ, ภณิตฺจ ‘นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํ, ปคฺคณฺเห ปคฺคหารห’นฺติ ¶ . ‘อหึสยํ ปรํ โลเก, ปิโย โหหิสิ มามโก’ติ สพฺเพสํ, มหาราช, ตถาคตานํ อนุมตํ เอตํ, เอสา อนุสิฏฺิ, เอสา ธมฺมเทสนา, ธมฺโม หิ, มหาราช, อหึสาลกฺขโณ, สภาววจนํ เอตํ. ยํ ปน, มหาราช, ตถาคโต อาห ‘นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํ, ปคฺคณฺเห ปคฺคหารห’นฺติ, ภาสา เอสา, อุทฺธตํ, มหาราช, จิตฺตํ นิคฺคเหตพฺพํ, ลีนํ จิตฺตํ ปคฺคเหตพฺพํ. อกุสลํ จิตฺตํ นิคฺคเหตพฺพํ, กุสลํ จิตฺตํ ปคฺคเหตพฺพํ. อโยนิโส มนสิกาโร นิคฺคเหตพฺโพ, โยนิโส มนสิกาโร ปคฺคเหตพฺโพ. มิจฺฉาปฏิปนฺโน ¶ นิคฺคเหตพฺโพ, สมฺมาปฏิปนฺโน ปคฺคเหตพฺโพ. อนริโย นิคฺคเหตพฺโพ อริโย ปคฺคเหตพฺโพ. โจโร นิคฺคเหตพฺโพ, อโจโร ปคฺคเหตพฺโพ’’ติ.
‘‘โหตุ, ภนฺเต นาคเสน, อิทานิ ตฺวํ ปจฺจาคโตสิ มม วิสยํ, ยมหํ ปุจฺฉามิ, โส เม ¶ อตฺโถ อุปคโต. โจโร ปน, ภนฺเต นาคเสน, นิคฺคณฺหนฺเตน กถํ นิคฺคเหตพฺโพ’’ติ? ‘‘โจโร, มหาราช, นิคฺคณฺหนฺเตน เอวํ นิคฺคเหตพฺโพ, ปริภาสนีโย ปริภาสิตพฺโพ, ทณฺฑนีโย ทณฺเฑตพฺโพ, ปพฺพาชนีโย ปพฺพาเชตพฺโพ, พนฺธนีโย พนฺธิตพฺโพ, ฆาตนีโย ฆาเตตพฺโพ’’ติ. ‘‘ยํ ปน, ภนฺเต นาคเสน, โจรานํ ฆาตนํ, ตํ ตถาคตานํ อนุมต’’นฺติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน โจโร อนุสาสนีโย อนุมโต ตถาคตาน’’นฺติ? ‘‘โย โส, มหาราช, ฆาตียติ, น โส ตถาคตานํ อนุมติยา ฆาตียติ, สยํกเตน โส ฆาตียติ, อปิ จ ธมฺมานุสิฏฺิยา อนุสาสียติ, สกฺกา ปน, มหาราช, ตยา ปุริสํ อการกํ อนปราธํ วีถิยํ จรนฺตํ คเหตฺวา ฆาตยิตุ’’นฺติ? ‘‘น สกฺกา, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เกน การเณน, มหาราชา’’ติ? ‘‘อการกตฺตา, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, น โจโร ตถาคตานํ อนุมติยา หฺติ, สยํกเตน โส หฺติ, กึ ปเนตฺถ อนุสาสโก กิฺจิ โทสํ อาปชฺชตี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, ตถาคตานํ อนุสิฏฺิ สมฺมานุสิฏฺิ โหตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
อหึสานิคฺคหปฺโห เอกาทสโม.
๑๒. ภิกฺขุปณามิตปฺโห
๑๒. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘อกฺโกธโน วิคตขิโลหมสฺมี’ติ, ปุน จ ตถาคโต เถเร สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเน สปริเส ปณาเมสิ, กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคโต ¶ กุปิโต ปริสํ ปณาเมสิ, อุทาหุ ตุฏฺโ ปณาเมสิ, เอตํ ตาว ชานาหิ อิมํ นามาติ? ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, กุปิโต ปริสํ ปณาเมสิ, เตน หิ ตถาคตสฺส โกโธ อปฺปฏิวตฺติโต, ยทิ ตุฏฺโ ปณาเมสิ, เตน หิ อวตฺถุสฺมึ อชานนฺเตน ปณามิตา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘อกฺโกธโน วิคตขิโลหมสฺมี’ติ, ปณามิตา จ เถรา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา สปริสา, ตฺจ ปน น โกเปน, อิธ, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส มหาปถวิยา มูเล วา ขาณุเก วา ปาสาเณ วา กเล วา วิสเม วา ภูมิภาเค ขลิตฺวา ปตติ, อปิ นุ โข, มหาราช, มหาปถวี กุปิตา ตํ ปาเตตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, นตฺถิ มหาปถวิยา โกโป วา ปสาโท วา, อนุนยปฺปฏิฆวิปฺปมุตฺตา มหาปถวี, สยเมว โส อลโส ขลิตฺวา ¶ ปติโตติ. เอวเมว โข, มหาราช, นตฺถิ ตถาคตานํ โกโป วา ปสาโท วา, อนุนยปฺปฏิฆวิปฺปมุตฺตา ตถาคตา อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, อถ โข สยํ กเตเนว เต อตฺตโน อปราเธน ปณามิตา.
‘‘อิธ ปน, มหาราช, มหาสมุทฺโท น มเตน กุณเปน สํวสติ, ยํ โหติ มหาสมุทฺเท มตํ กุณปํ, ตํ ขิปฺปเมว นิจฺฉุภติ ถลํ อุสฺสาเรติ. อปิ นุ โข, มหาราช, มหาสมุทฺโท กุปิโต ตํ กุณปํ นิจฺฉุภตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, นตฺถิ มหาสมุทฺทสฺส โกโป วา ปสาโท วา, อนุนยปฺปฏิฆวิปฺปมุตฺโต มหาสมุทฺโท’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, นตฺถิ ตถาคตานํ โกโป วา ปสาโท วา, อนุนยปฺปฏิฆวิปฺปมุตฺตา ตถาคตา อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, อถ โข สยํ กเตเนว เต อตฺตโน อปราเธน ปณามิตา.
‘‘ยถา, มหาราช, ปถวิยา ขลิโต ปตียติ, เอวํ ชินสาสนวเร ขลิโต ปณามียติ. ยถา, มหาราช, สมุทฺเท มตํ กุณปํ ¶ นิจฺฉุภียติ ¶ , เอวํ ชินสาสนวเร ขลิโต ปณามียติ. ยํ ปน เต, มหาราช, ตถาคโต ปณาเมสิ, เตสํ อตฺถกาโม หิตกาโม สุขกาโม วิสุทฺธิกาโม ‘เอวํ อิเม ชาติชราพฺยาธิมรเณหิ ปริมุจฺจิสฺสนฺตี’ติ ปณาเมสี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
ภิกฺขุปณามิตปฺโห ทฺวาทสโม.
ปณามิตวคฺโค ตติโย.
อิมสฺมึ วคฺเค ทฺวาทส ปฺหา.
๔. สพฺพฺุตาณวคฺโค
๑. อิทฺธิกมฺมวิปากปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ อิทฺธิมนฺตานํ ยทิทํ มหาโมคฺคลฺลาโน’ติ. ปุน จ กิร โส ลคุเฬหิ ปริโปถิโต ภินฺนสีโส สฺจุณฺณิตฏฺิมํสธมนิฉินฺนปริคตฺโต ปรินิพฺพุโต [ธมนิมชฺชปริกตฺโต (สี. ปี.), ธมฺมนิมิฺชปริคตฺโต (สฺยา.)]. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, เถโร มหาโมคฺคลฺลาโน อิทฺธิยา โกฏึ คโต, เตน หิ ลคุเฬหิ โปถิโต ปรินิพฺพุโตติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ลคุเฬหิ ปริโปถิโต ปรินิพฺพุโต, เตน หิ อิทฺธิยา โกฏึ คโตติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. กึ น สมตฺโถ อิทฺธิยา อตฺตโน อุปฆาตํ อปนยิตุํ, สเทวกสฺสปิ โลกสฺส ปฏิสรณํ ภวิตุํ อรโหติ? อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ อิทฺธิมนฺตานํ ยทิทํ มหาโมคฺคลฺลาโน’ติ. อายสฺมา จ มหาโมคฺคลฺลาโน ลคุฬหโต ปรินิพฺพุโต, ตฺจ ปน กมฺมาธิคฺคหิเตนา’’ติ.
‘‘นนุ, ภนฺเต นาคเสน, อิทฺธิมโต อิทฺธิวิสโยปิ ¶ กมฺมวิปาโกปิ ทฺเว อจินฺติยา, อจินฺติเยน อจินฺติยํ อปนยิตพฺพํ. ยถา นาม, ภนฺเต, เกจิ ผลกามา กปิตฺเถน กปิตฺถํ โปเถนฺติ, อมฺเพน อมฺพํ โปเถนฺติ, เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, อจินฺติเยน อจินฺติยํ โปถยิตฺวา อปเนตพฺพ’’นฺติ? ‘‘อจินฺติยานมฺปิ, มหาราช, เอกํ อธิมตฺตํ พลวตรํ, ยถา, มหาราช, มหิยา ราชาโน โหนฺติ สมชจฺจา, สมชจฺจานมฺปิ เตสํ เอโก สพฺเพ อภิภวิตฺวา อาณํ ปวตฺเตติ. เอวเมว โข, มหาราช, เตสํ อจินฺติยานํ กมฺมวิปากํ เยว อธิมตฺตํ พลวตรํ, กมฺมวิปากํ เยว สพฺเพ อภิภวิย อาณํ ปวตฺเตติ, กมฺมาธิคฺคหิตสฺส อวเสสา กิริยา โอกาสํ น ลภนฺติ.
‘‘อิธ ¶ ¶ ปน, มหาราช, โกจิ ปุริโส กิสฺมิฺจิเทว ปกรเณ อปรชฺฌติ, น ตสฺส มาตา วา ปิตา วา ภคินี วา ภาตโร วา สขี วา สหายกา วา [ภคินิภาตโร วา สขิสหายกา วา (สี. ปี. ก.)] ตายนฺติ, อถ โข ราชา เยว ตตฺถ อภิภวิย อาณํ ปวตฺเตติ. กึ ตตฺถ การณํ? อปราธิกตา. เอวเมว โข, มหาราช, เตสํ อจินฺติยานํ กมฺมวิปากํ เยว อธิมตฺตํ พลวตรํ, กมฺมวิปากํ เยว สพฺเพ อภิภวิย อาณํ ปวตฺเตติ, กมฺมาธิคฺคหิตสฺส อวเสสา กิริยา โอกาสํ น ลภนฺติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, มหิยา ทวฑาเห สมุฏฺิเต ฆฏสหสฺสมฺปิ อุทกํ น สกฺโกติ นิพฺพาเปตุํ, อถ โข อคฺคิ เยว ตตฺถ อภิภวิย อาณํ ปวตฺเตติ. กึ ตตฺถ การณํ? พลวตา เตชสฺส. เอวเมว โข, มหาราช, เตสํ อจินฺติยานํ กมฺมวิปากํ เยว อธิมตฺตํ พลวตรํ, กมฺมวิปากํ เยว สพฺเพ อภิภวิย อาณํ ปวตฺเตติ, กมฺมาธิคฺคหิตสฺส อวเสสา กิริยา โอกาสํ น ลภนฺติ, ตสฺมา, มหาราช, อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส กมฺมาธิคฺคหิตสฺส ลคุเฬหิ โปถิยมานสฺส อิทฺธิยา สมนฺนาหาโร นาโหสี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
อิทฺธิกมฺมวิปากปฺโห ปโม.
๒. ธมฺมวินยปฏิจฺฉนฺนาปฏิจฺฉนฺนปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘ตถาคตปฺปเวทิโต, ภิกฺขเว, ธมฺมวินโย วิวโฏ วิโรจติ โน ปฏิจฺฉนฺโน’ติ. ปุน จ ปาติโมกฺขุทฺเทโส เกวลฺจ วินยปิฏกํ ปิหิตํ ปฏิจฺฉนฺนํ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ชินสาสเน ยุตฺตํ วา ปตฺตํ วา สมยํ ลเภถ, วินยปณฺณตฺติ วิวฏา โสเภยฺย. เกน การเณน? เกวลํ ตตฺถ สิกฺขา สํยโม นิยโม สีลคุณอาจารปณฺณตฺติ อตฺถรโส ธมฺมรโส วิมุตฺติรโส. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘ตถาคตปฺปเวทิโต, ภิกฺขเว, ธมฺมวินโย วิวโฏ วิโรจติ โน ปฏิจฺฉนฺโน’ติ, เตน หิ ‘ปาติโมกฺขุทฺเทโส เกวลฺจ วินยปิฏกํ ปิหิตํ ปฏิจฺฉนฺน’นฺติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ปาติโมกฺขุทฺเทโส เกวลฺจ วินยปิฏกํ ปิหิตํ ปฏิจฺฉนฺนํ, เตน หิ ‘ตถาคตปฺปเวทิโต, ¶ ภิกฺขเว, ธมฺมวินโย วิวโฏ วิโรจติ โน ปฏิจฺฉนฺโน’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ ¶ , มหาราช, ภควตา ‘ตถาคตปฺปเวทิโต, ภิกฺขเว, ธมฺมวินโย วิวโฏ วิโรจติ โน ปฏิจฺฉนฺโน’ติ. ปุน จ ปาติโมกฺขุทฺเทโส เกวลฺจ วินยปิฏกํ ปิหิตํ ปฏิจฺฉนฺนํ, ตฺจ ปน น สพฺเพสํ, สีมํ กตฺวา ปิหิตํ.
‘‘ติวิเธน, มหาราช, ภควตา ปาติโมกฺขุทฺเทโส สีมํ กตฺวา ปิหิโต, ปุพฺพกานํ ตถาคตานํ วํสวเสน ปาติโมกฺขุทฺเทโส สีมํ กตฺวา ปิหิโต, ธมฺมสฺส ครุกตฺตา ปิหิโต, ภิกฺขุภูมิยา ครุกตฺตา ปิหิโต.
‘‘กถํ ปุพฺพกานํ ตถาคตานํ วํสวเสน ปาติโมกฺขุทฺเทโส สีมํ กตฺวา ปิหิโต, เอโส วํโส, มหาราช, สพฺเพสํ ปุพฺพกานํ ตถาคตานํ ยทิทํ ภิกฺขุมชฺเฌ ปาติโมกฺขุทฺเทโส อวเสสานํ ปิหิโต. ยถา, มหาราช, ขตฺติยานํ ขตฺติยมายา ขตฺติเยสุ เยว จรติ, เอวเมตํ ขตฺติยานํ โลกสฺส ปเวณี อวเสสานํ ปิหิตา. เอวเมว ¶ โข, มหาราช, เอโส วํโส สพฺเพสํ ปุพฺพกานํ ตถาคตานํ ยทิทํ ภิกฺขุมชฺเฌ ปาติโมกฺขุทฺเทโส อวเสสานํ ปิหิโต.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, มหิยา คณา วตฺตนฺติ, เสยฺยถิทํ, มลฺลา อโตณา ปพฺพตา ธมฺมคิริยา พฺรหฺมคิริยา นฏกา นจฺจกา ลงฺฆกา ปิสาจา มณิภทฺทา ปุณฺณพทฺธา จนฺทิมสูริยา สิริเทวตา กาลิเทวตา, สิวา วสุเทวา ฆนิกา อสิปาสา ภทฺทิปุตฺตาติ, เตสํ เตสํ รหสฺสํ เตสุ เตสุ คเณสุ เยว จรติ, อวเสสานํ ปิหิตํ. เอวเมว โข, มหาราช, เอโส วํโส สพฺเพสํ ปุพฺพกานํ ตถาคตานํ ยทิทํ ภิกฺขุมชฺเฌ ปาติโมกฺขุทฺเทโส อวเสสานํ ปิหิโต. เอวํ ปุพฺพกานํ ตถาคตานํ วํสวเสน ปาติโมกฺขุทฺเทโส สีมํ กตฺวา ปิหิโต.
‘‘กถํ ธมฺมสฺส ครุกตฺตา ปาติโมกฺขุทฺเทโส สีมํ กตฺวา ปิหิโต? ธมฺโม, มหาราช, ครุโก ภาริโย, ตตฺถ สมฺมตฺตการี อฺํ อาราเธติ, ตํ ตตฺถ ปรมฺปราสมฺมตฺตการิตาย ปาปุณาติ, น ตํ ตตฺถ ปรมฺปราสมฺมตฺตการิตาย ปาปุณาติ, มา จายํ สารธมฺโม วรธมฺโม ¶ อสมฺมตฺตการีนํ หตฺถคโต โอฺาโต อวฺาโต หีฬิโต ขีฬิโต ครหิโต ภวตุ, มา จายํ สารธมฺโม วรธมฺโม ทุชฺชนคโต โอฺาโต อวฺาโต หีฬิโต ขีฬิโต ครหิโต ภวตูติ. เอวํ ธมฺมสฺส ครุกตฺตา ปาติโมกฺขุทฺเทโส สีมํ กตฺวา ปิหิโต.
‘‘ยถา, มหาราช, สารวรปวรอภิชาตชาติมนฺตรตฺตโลหิตจนฺทนํ นาม สวรปุรมนุคตํ โอฺาตํ อวฺาตํ หีฬิตํ ขีฬิตํ ครหิตํ ภวติ, เอวเมว โข, มหาราช, มา จายํ สารธมฺโม ¶ วรธมฺโม ปรมฺปราอสมฺมตฺตการีนํ หตฺถคโต โอฺาโต อวฺาโต หีฬิโต ขีฬิโต ครหิโต ภวตุ, มา จายํ สารธมฺโม วรธมฺโม ทุชฺชนคโต โอฺาโต อวฺาโต หีฬิโต ขีฬิโต ครหิโต ภวตูติ. เอวํ ธมฺมสฺส ครุกตฺตา ปาติโมกฺขุทฺเทโส สีมํ กตฺวา ปิหิโต ¶ .
‘‘กถํ ภิกฺขุภูมิยา ครุกตฺตา ปาติโมกฺขุทฺเทโส สีมํ กตฺวา ปิหิโต, ภิกฺขุภาโว โข, มหาราช, โลเก อตุลิโย อปฺปมาโณ อนคฺฆิโย, น สกฺกา เกนจิ อคฺฆาเปตุํ ตุเลตุํ ปริเมตุํ, มายํ เอวรูเป ภิกฺขุภาเว ิโต โลเกน สมสโม ภวตูติ ภิกฺขูนํ เยว อนฺตเร ปาติโมกฺขุทฺเทโส จรติ. ยถา, มหาราช, โลเก วรปวรภณฺฑํ วตฺถํ วา อตฺถรณํ วา คชตุรงฺครถสุวณฺณรชตมณิมุตฺตาอิตฺถิรตนาทีนิ วา วิชิตกมฺมสูรา วา [นิชฺชิตกมฺมสูรา วา (สี. ปี.)] สพฺเพ เต ราชานมุปคจฺฉนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, ยาวตา โลเก [โลเก สิกฺขา (สี. ปี.)] สุคตาคมปริยตฺติอาจารสํยมสีลสํวรคุณา, สพฺเพ เต ภิกฺขุสงฺฆมุปคตา ภวนฺติ. เอวํ ภิกฺขุภูมิยา ครุกตฺตา ปาติโมกฺขุทฺเทโส สีมํ กตฺวา ปิหิโต’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปิฏิจฺฉามี’’ติ.
ธมฺมวินยปฏิจฺฉนฺนาปฏิจฺฉนฺนปฺโห ทุติโย.
๓. มุสาวาทครุลหุภาวปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘สมฺปชานมุสาวาเท ปาราชิโก โหตี’ติ. ปุน จ ภณิตํ ‘สมฺปชานมุสาวาเท ลหุกํ อาปตฺตึ ¶ อาปชฺชติ เอกสฺส สนฺติเก เทสนาวตฺถุก’นฺติ. ภนฺเต นาคเสน, โก ปเนตฺถ วิเสโส, กึ การณํ, ยฺเจเกน มุสาวาเทน อุจฺฉิชฺชติ, ยฺเจเกน มุสาวาเทน สเตกิจฺโฉ โหติ? ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘สมฺปชานมุสาวาเท ปาราชิโก โหตี’ติ, เตน หิ ‘สมฺปชานมุสาวาเท ลหุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ เอกสฺส สนฺติเก เทสนาวตฺถุก’นฺติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ตถาคเตน ภณิตํ ‘สมฺปชานมุสาวาเท ลหุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ เอกสฺส สนฺติเก เทสนาวตฺถุก’นฺติ, เตน หิ ‘สมฺปชานมุสาวาเท ปาราชิโก โหตี’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ ¶ , มหาราช, ภควตา ‘สมฺปชานมุสาวาเท ปาราชิโก โหตี’ติ. ภณิตฺจ ¶ ‘สมฺปชานมุสาวาเท ลหุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ เอกสฺส สนฺติเก เทสนาวตฺถุก’นฺติ, ตฺจ ปน วตฺถุวเสน ครุกลหุกํ โหติ. ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, อิธ โกจิ ปุริโส ปรสฺส ปาณินา ปหารํ ทเทยฺย, ตสฺส ตุมฺเห กึ ทณฺฑํ ธาเรถา’’ติ? ‘‘ยทิ โส, ภนฺเต, อาห ‘นกฺขมามี’ติ, ตสฺส มยํ อกฺขมมาเน กหาปณํ หราเปมา’’ติ ‘‘อิธ ปน, มหาราช, โส เยว ปุริโส ตว ปาณินา ปหารํ ทเทยฺย, ตสฺส ปน โก ทณฺโฑ’’ติ? ‘‘หตฺถมฺปิสฺส, ภนฺเต, เฉทาเปยฺยาม, ปาทมฺปิ เฉทาเปยฺยาม, ยาว สีสํ กฬีรจฺเฉชฺชํ เฉทาเปยฺยาม, สพฺพมฺปิ ตํ เคหํ วิลุมฺปาเปยฺยาม, อุภโตปกฺเข [อุภโตปสฺเส (สี. ปี. ก.)] ยาว สตฺตมํ กุลํ สมุคฺฆาตาเปยฺยามา’’ติ. ‘‘โก ปเนตฺถ, มหาราช, วิเสโส, กึ การณํ, ยํ เอกสฺส ปาณิปฺปหาเร สุขุโม กหาปโณ ทณฺโฑ, ยํ ตว ปาณิปฺปหาเร หตฺถจฺเฉชฺชํ ปาทจฺเฉชฺชํ ยาว กฬีรจฺเฉชฺชํ สพฺพเคหาทานํ อุภโตปกฺเข ยาว สตฺตมกุลา สมุคฺฆาโต’’ติ? ‘‘มนุสฺสนฺตเรน, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, สมฺปชานมุสาวาโท วตฺถุวเสน ครุกลหุโก โหตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
มุสาวาทครุลหุภาวปฺโห ตติโย.
๔. โพธิสตฺตธมฺมตาปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ธมฺมตาธมฺมปริยาเย ‘ปุพฺเพว โพธิสตฺตานํ มาตาปิตโร นิยตา โหนฺติ, โพธิ นิยตา โหติ, อคฺคสาวกา นิยตา โหนฺติ, ปุตฺโต นิยโต โหติ, อุปฏฺาโก นิยโต โหตี’ติ. ปุน จ ตุมฺเห ภณถ ‘ตุสิเต กาเย ิโต โพธิสตฺโต อฏฺ มหาวิโลกนานิ วิโลเกติ, กาลํ วิโลเกติ, ทีปํ วิโลเกติ, เทสํ วิโลเกติ, กุลํ วิโลเกติ, ชเนตฺตึ วิโลเกติ, อายุํ วิโลเกติ, มาสํ วิโลเกติ, เนกฺขมฺมํ วิโลเกตี’ติ. ภนฺเต ¶ นาคเสน, อปริปกฺเก าเณ พุชฺฌนํ นตฺถิ, ปริปกฺเก าเณ น สกฺกา นิเมสนฺตรมฺปิ อาคเมตุํ, อนติกฺกมนียํ ปริปกฺกมานสํ. กสฺมา โพธิสตฺโต กาลํ วิโลเกหิ ‘กมฺหิ กาเล อุปฺปชฺชามี’ติ. อปริปกฺเก าเณ พุชฺฌนํ นตฺถิ, ปริปกฺเก าเณ น สกฺกา นิเมสนฺตรมฺปิ อาคเมตุํ, กสฺมา โพธิสตฺโต กุลํ วิโลเกติ ‘กุมฺหิ กุเล อุปฺปชฺชามี’ติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ปุพฺเพว โพธิสตฺตสฺส มาตาปิตโร นิยตา, เตน หิ ‘กุลํ วิโลเกตี’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ กุลํ วิโลเกติ, เตน หิ ‘ปุพฺเพว โพธิสตฺตสฺส มาตาปิตโร นิยตา’ติ ¶ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘นิยตา, มหาราช, ปุพฺเพว โพธิสตฺตสฺส มาตาปิตโร, กุลฺจ โพธิสตฺโต วิโลเกติ. กินฺติ ปน กุลํ วิโลเกติ ‘เย เม มาตาปิตโร, เต ขตฺติยา อุทาหุ พฺราหฺมณา’ติ. เอวํ กุลํ วิโลเกติ.
‘‘อฏฺนฺนํ, มหาราช, ปุพฺเพว อนาคตํ โอโลเกตพฺพํ โหติ. กตเมสํ อฏฺนฺนํ? วาณิชสฺส, มหาราช, ปุพฺเพว วิกฺกยภณฺฑํ โอโลเกตพฺพํ โหติ, หตฺถินาคสฺส ปุพฺเพว โสณฺฑาย อนาคโต มคฺโค โอโลเกตพฺโพ โหติ, สากฏิกสฺส ปุพฺเพว อนาคตํ ติตฺถํ โอโลเกตพฺพํ โหติ, นิยามกสฺส ปุพฺเพว อนาคตํ ตีรํ โอโลเกตฺวา นาวา เปเสตพฺพา โหติ, ภิสกฺกสฺส ปุพฺเพว อายุํ โอโลเกตฺวา อาตุโร อุปสงฺกมิตพฺโพ โหติ, อุตฺตรเสตุสฺส ปุพฺเพว ถิราถิรภาวํ ชานิตฺวา อภิรุหิตพฺพํ โหติ, ภิกฺขุสฺส ปุพฺเพว อนาคตํ กาลํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา โภชนํ ภฺุชิตพฺพํ โหติ, โพธิสตฺตานํ ปุพฺเพว กุลํ โอโลเกตพฺพํ โหติ ¶ ‘ขตฺติยกุลํ วา พฺราหฺมณกุลํ วา’ติ. อิเมสํ โข, มหาราช, อฏฺนฺนํ ปุพฺเพว อนาคตํ โอโลเกตพฺพํ โหตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
โพธิสตฺตธมฺมตาปฺโห จตุตฺโถ.
๕. อตฺตนิปาตนปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘น, ภิกฺขเว, อตฺตานํ ปาเตตพฺพํ, โย ปาเตยฺย, ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพ’ติ. ปุน จ ตุมฺเห ภณถ ‘ยตฺถ กตฺถจิ ภควา สาวกานํ ธมฺมํ เทสยมาโน อเนกปริยาเยน ชาติยา ชราย พฺยาธิโน มรณสฺส สมุจฺเฉทาย ธมฺมํ เทเสติ, โย หิ โกจิ ชาติชราพฺยาธิมรณํ สมติกฺกมติ, ตํ ปรมาย ปสํสาย ปสํสตี’ติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘น, ภิกฺขเว, อตฺตานํ ปาเตตพฺพํ, โย ปาเตยฺย, ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพ’ติ, เตน หิ ‘ชาติยา ชราย พฺยาธิโน มรณสฺส สมุจฺเฉทาย ธมฺมํ เทเสตี’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ชาติยา ชราย พฺยาธิโน มรณสฺส สมุจฺเฉทาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน หิ ‘น, ภิกฺขเว, อตฺตานํ ปาเตตพฺพํ, โย ปาเตยฺย, ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพ’’ติ ตมฺปิ ¶ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘น, ภิกฺขเว, อตฺตานํ ปาเตตพฺพํ, โย ปาเตยฺย, ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพ’ติ. ยตฺถ กตฺถจิ ภควตา สาวกานํ ธมฺมํ เทสยามาเนน จ อเนกปริยาเยน ชาติยา ชราย พฺยาธิโน มรณสฺส สมุจฺเฉทาย ธมฺโม เทสิโต, ตตฺถ ปน การณํ อตฺถิ, เยน ภควา การเณน ปฏิกฺขิปิ สมาทเปสิ จา’’ติ.
‘‘กึ ปเนตฺถ, ภนฺเต นาคเสน, การณํ, เยน ภควา การเณน ปฏิกฺขิปิ สมาทเปสิ จา’’ติ? ‘‘สีลวา, มหาราช, สีลสมฺปนฺโน อคทสโม สตฺตานํ กิเลสวิสวินาสเน, โอสธสโม สตฺตานํ กิเลสพฺยาธิวูปสเม, อุทกสโม สตฺตานํ กิเลสรโชชลฺลาปหรเณ, มณิรตนสโม สตฺตานํ สพฺพสมฺปตฺติทาเน, นาวาสโม สตฺตานํ จตุโรฆปารคมเน, สตฺถวาหสโม สตฺตานํ ชาติกนฺตารตารเณ, วาตสโม สตฺตานํ ¶ ติวิธคฺคิสนฺตาปนิพฺพาปเน, มหาเมฆสโม สตฺตานํ มานสปริปูรเณ, อาจริยสโม สตฺตานํ กุสลสิกฺขาปเน, สุเทสกสโม สตฺตานํ เขมปถมาจิกฺขเณ. เอวรูโป, มหาราช, พหุคุโณ อเนกคุโณ อปฺปมาณคุโณ คุณราสิ ¶ คุณปฺุโช สตฺตานํ วฑฺฒิกโร สีลวา ‘มา วินสฺสี’ติ สตฺตานํ อนุกมฺปาย ภควา สิกฺขาปทํ ปฺเปสิ ‘น, ภิกฺขเว, อตฺตานํ ปาเตตพฺพํ, โย ปาเตยฺย, ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพ’ติ. อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน ภควา ปฏิกฺขิปิ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน กุมารกสฺสเปน วิจิตฺรกถิเกน ปายาสิราชฺสฺส ปรโลกํ ทีปยมาเนน ‘ยถา ยถา โข ราชฺ สมณพฺราหฺมณา สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺนฺติ, ตถา ตถา พหุํ ปฺุํ ปสวนฺติ, พหุชนหิตาย จ ปฏิปชฺชนฺติ พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’นฺติ.
‘‘เกน ปน การเณน ภควา สมาทเปสิ? ชาติปิ, มหาราช, ทุกฺขา, ชราปิ ทุกฺขา, พฺยาธิปิ ทุกฺโข, มรณมฺปิ ทุกฺขํ, โสโกปิ ทุกฺโข, ปริเทโวปิ ทุกฺโข, ทุกฺขมฺปิ ทุกฺขํ, โทมนสฺสมฺปิ ทุกฺขํ, อุปายาโสปิ ทุกฺโข, อปฺปิเยหิ สมฺปโยโคปิ ทุกฺโข, ปิเยหิ วิปฺปโยโคปิ ทุกฺโข, มาตุมรณมฺปิ ทุกฺขํ, ปิตุมรณมฺปิ ทุกฺขํ, ภาตุมรณมฺปิ ทุกฺขํ, ภคินิมรณมฺปิ ทุกฺขํ, ปุตฺตมรณมฺปิ ทุกฺขํ, ทารมรณมฺปิ ทุกฺขํ, ทาสมรณมฺปิ ทุกฺขํ [อิทํ วากฺยํ สี. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ], าติมรณมฺปิ ทุกฺขํ, าติพฺยสนมฺปิ ทุกฺขํ, โรคพฺยสนมฺปิ ทุกฺขํ, โภคพฺยสนมฺปิ ทุกฺขํ, สีลพฺยสนมฺปิ ทุกฺขํ, ทิฏฺิพฺยสนมฺปิ ทุกฺขํ, ราชภยมฺปิ ทุกฺขํ, โจรภยมฺปิ ทุกฺขํ, เวริภยมฺปิ ¶ ทุกฺขํ, ทุพฺภิกฺขภยมฺปิ ทุกฺขํ, อคฺคิภยมฺปิ ทุกฺขํ, อุทกภยมฺปิ ทุกฺขํ, อูมิภยมฺปิ ทุกฺขํ, อาวฏฺฏภยมฺปิ ทุกฺขํ, กุมฺภีลภยมฺปิ ทุกฺขํ, สุสุกาภยมฺปิ ทุกฺขํ, อตฺตานุวาทภยมฺปิ ทุกฺขํ, ปรานุวาทภยมฺปิ ทุกฺขํ, ทณฺฑภยมฺปิ ทุกฺขํ, ทุคฺคติภยมฺปิ ทุกฺขํ, ปริสาสารชฺชภยมฺปิ ทุกฺขํ, อาชีวกภยมฺปิ ทุกฺขํ, มรณภยมฺปิ ทุกฺขํ, เวตฺเตหิ ตาฬนมฺปิ ¶ ทุกฺขํ, กสาหิ ตาฬนมฺปิ ทุกฺขํ, อทฺธทณฺฑเกหิ ตาฬนมฺปิ ทุกฺขํ, หตฺถจฺเฉทนมฺปิ ทุกฺขํ, ปาทจฺเฉทนมฺปิ ทุกฺขํ, หตฺถปาทจฺเฉทนมฺปิ ทุกฺขํ, กณฺณจฺเฉทนมฺปิ ทุกฺขํ, นาสจฺเฉทนมฺปิ ทุกฺขํ, กณฺณนาสจฺเฉทนมฺปิ ทุกฺขํ, พิลงฺคถาลิกมฺปิ ทุกฺขํ, สงฺขมุณฺฑิกมฺปิ ทุกฺขํ, ราหุมุขมฺปิ ทุกฺขํ, โชติมาลิกมฺปิ ทุกฺขํ, หตฺถปชฺโชติกมฺปิ ทุกฺขํ, เอรกวตฺติกมฺปิ ทุกฺขํ, จีรกวาสิกมฺปิ ทุกฺขํ, เอเณยฺยกมฺปิ ทุกฺขํ ¶ , พฬิสมํสิกมฺปิ ทุกฺขํ, กหาปณิกมฺปิ ทุกฺขํ, ขาราปตจฺฉิกมฺปิ ทุกฺขํ, ปลิฆปริวตฺติกมฺปิ ทุกฺขํ, ปลาลปีกมฺปิ ทุกฺขํ, ตตฺเตน เตเลน โอสิฺจนมฺปิ ทุกฺขํ, สุนเขหิ ขาทาปนมฺปิ ทุกฺขํ, ชีวสูลาโรปนมฺปิ ทุกฺขํ, อสินา สีสจฺเฉทนมฺปิ ทุกฺขํ, เอวรูปานิ, มหาราช, พหุวิธานิ อเนกวิธานิ ทุกฺขานิ สํสารคโต อนุภวติ.
‘‘ยถา, มหาราช, หิมวนฺตปพฺพเต อภิวุฏฺํ อุทกํ คงฺคาย นทิยา ปาสาณ สกฺขร ขร มรุมฺพ อาวฏฺฏ คคฺคลก อูมิกวงฺกจทิก อาวรณนีวรณมูลกสาขาสุ ปริโยตฺถรติ, เอวเมว โข, มหาราช, เอวรูปานิ พหุวิธานิ อเนกวิธานิ ทุกฺขานิ สํสารคโต อนุภวติ. ปวตฺตํ, มหาราช, ทุกฺขํ, อปฺปวตฺตํ สุขํ. อปฺปวตฺตสฺส คุณํ ปวตฺตสฺส [ปวตฺเต (สี. ปี. ก.)] จ ภยํ ทีปยมาโน, มหาราช, ภควา อปฺปวตฺตสฺส สจฺฉิกิริยาย ชาติชราพฺยาธิมรณสมติกฺกมาย สมาทเปสิ, อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน ภควา สมาทเปสี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, สุนิพฺเพิโต ปฺโห, สุกถิตํ การณํ, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
อตฺตนิปาตนปฺโห ปฺจโม.
๖. เมตฺตาภาวนานิสํสปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘เมตฺตาย, ภิกฺขเว, เจโตวิมุตฺติยา อาเสวิตาย ภาวิตาย พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฏฺิตาย ปริจิตาย สุสมารทฺธาย เอกาทสานิสํสา ปาฏิกงฺขา. กตเม เอกาทส? สุขํ สุปติ, สุขํ ปฏิพุชฺฌติ ¶ , น ปาปกํ สุปินํ ปสฺสติ, มนุสฺสานํ ปิโย โหติ, อมนุสฺสานํ ปิโย โหติ, เทวตา รกฺขนฺติ, นาสฺส อคฺคิ วา วิสํ วา สตฺถํ วา กมติ [สตฺถํ กมติ (สฺยา.) อ. นิ. ๑๑.๑๕ ปสฺสิตพฺพํ], ตุวฏํ จิตฺตํ สมาธิยติ, มุขวณฺโณ วิปฺปสีทติ, อสมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, อุตฺตรึ อปฺปฏิวิชฺฌนฺโต พฺรหฺมโลกูปโค โหตี’ติ. ปุน จ ตุมฺเห ภณถ ‘สาโม กุมาโร เมตฺตาวิหารี มิคสงฺเฆน ปริวุโต ปวเน วิจรนฺโต ปีฬิยกฺเขน รฺา วิทฺโธ วิสปีเตน สลฺเลน ตตฺเถว มุจฺฉิโต ปติโต’ติ.
‘‘ยทิ ¶ , ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘เมตฺตาย ภิกฺขเว…เป… พฺรหฺมโลกูปโค โหตี’ติ, เตน หิ ‘‘สาโม กุมาโร เมตฺตาวิหารี มิคสงฺเฆน ปริวุโต ปวเน วิจรนฺโต ปีฬิยกฺเขน รฺา วิทฺโธ วิสปีเตน สลฺเลน ตตฺเถว มุจฺฉิโต ปติโต’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ สาโม กุมาโร เมตฺตาวิหารี มิคสงฺเฆน ปริวุโต ปวเน วิจรนฺโต ปีฬิยกฺเขน รฺา วิทฺโธ วิสปีเตน สลฺเลน ตตฺเถว มุจฺฉิโต ปติโต, เตน หิ ‘เมตฺตาย, ภิกฺขเว…เป… สตฺถํ วา กมตี’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห สุนิปุโณ ปริสณฺโห สุขุโม คมฺภีโร, อปิ สุนิปุณานํ มนุชานํ คตฺเต เสทํ โมเจยฺย, โส ตวานุปฺปตฺโต, วิชเฏหิ ตํ มหาชฏาชฏิตํ, อนาคตานํ ชินปุตฺตานํ จกฺขุํ เทหิ นิพฺพาหนายา’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘เมตฺตาย ภิกฺขเว…เป... สตฺถํ วา กมตี’ติ. สาโม จ กุมาโร เมตฺตาวิหารี มิคสงฺเฆน ปริวุโต ปวเน วิจรนฺโต ปีฬิยกฺเขน รฺา วิทฺโธ วิสปีเตน สลฺเลน ตตฺเถว มุจฺฉิโต ปติโต, ตตฺถ ปน, ¶ มหาราช, การณํ อตฺถิ. กตมํ ตตฺถ การณํ? เนเต, มหาราช, คุณา ปุคฺคลสฺส, เมตฺตาภาวนาเยเต คุณา, สาโม, มหาราช, กุมาโร ฆฏํ อุกฺขิปนฺโต ตสฺมึ ขเณ เมตฺตาภาวนาย ปมตฺโต อโหสิ.
‘‘ยสฺมึ, มหาราช, ขเณ ปุคฺคโล เมตฺตํ สมาปนฺโน โหติ, น ตสฺส ปุคฺคลสฺส ตสฺมึ ขเณ อคฺคิ วา วิสํ วา สตฺถํ วา กมติ. ตสฺส เย เกจิ อหิตกามา อุปคนฺตฺวา ตํ น ปสฺสนฺติ, น ตสฺมึ โอกาสํ ลภนฺติ. เนเต, มหาราช, คุณา ปุคฺคลสฺส, เมตฺตาภาวนาเยเต คุณา. อิธ, มหาราช, ปุริโส สงฺคามสูโร อเภชฺชกวจชาลิกํ สนฺนยฺหิตฺวา สงฺคามํ โอตเรยฺย, ตสฺส สรา ขิตฺตา อุปคนฺตฺวา ปตนฺติ วิกิรนฺติ, น ตสฺมึ โอกาสํ ลภนฺติ, เนโส, มหาราช, คุโณ สงฺคามสูรสฺส, อเภชฺชกวจชาลิกาเยโส คุโณ, ยสฺส สรา ขิตฺตา อุปคนฺตฺวา ปตนฺติ วิกิรนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, เนเต คุณา ปุคฺคลสฺส, เมตฺตาภาวนาเยเต คุณา.
‘‘ยสฺมึ ¶ , มหาราช, ขเณ ปุคฺคโล เมตฺตํ สมาปนฺโน โหติ, น ตสฺส ปุคฺคลสฺส ตสฺมึ ขเณ อคฺคิ วา วิสํ วา สตฺถํ วา กมติ. ตสฺส เย เกจิ อหิตกามา อุปคนฺตฺวา ตํ น ปสฺสนฺติ, ตสฺมึ โอกาสํ น ลภนฺติ, เนเต ¶ , มหาราช, คุณา ปุคฺคลสฺส, เมตฺตาภาวนาเยเต คุณา. อิธ ปน, มหาราช, ปุริโส ทิพฺพํ อนฺตรธานํ มูลํ หตฺเถ กเรยฺย, ยาว ตํ มูลํ ตสฺส หตฺถคตํ โหติ, ตาว น อฺโ โกจิ ปกติมนุสฺโส ตํ ปุริสํ ปสฺสติ. เนโส, มหาราช, คุโณ ปุริสสฺส, มูลสฺเสโส คุโณ อนฺตรธานสฺส, ยํ โส ปกติมนุสฺสานํ จกฺขุปเถ น ทิสฺสติ. เอวเมว โข, มหาราช, เนเต คุณา ปุคฺคลสฺส, เมตฺตาภาวนาเยเต คุณา.
‘‘ยสฺมึ, มหาราช, ขเณ ปุคฺคโล เมตฺตํ สมาปนฺโน โหติ, น ตสฺส ปุคฺคลสฺส ตสฺมึ ขเณ อคฺคิ วา วิสํ วา สตฺถํ วา กมติ. ตสฺส เย เกจิ อหิตกามา อุปคนฺตฺวา ตํ น ปสฺสนฺติ, น ตสฺมึ โอกาสํ ลภนฺติ. เนเต, มหาราช, คุณา ปุคฺคลสฺส, เมตฺตาภาวนาเยเต คุณา. ยถา วา ปน, มหาราช, ปุริสํ ¶ สุกตํ มหาเลณมนุปฺปวิฏฺํ มหติมหาเมโฆ อภิวสฺสนฺโต น สกฺโกติ เตมยิตุํ, เนโส, มหาราช, คุโณ ปุริสสฺส, มหาเลณสฺเสโส คุโณ, ยํ มหาเมโฆ อภิวสฺสมาโน น ตํ เตเมติ. เอวเมว โข, มหาราช, เนเต คุณา ปุคฺคลสฺส, เมตฺตาภาวนาเยเต คุณา.
‘‘ยสฺมึ, มหาราช, ขเณ ปุคฺคโล เมตฺตํ สมาปนฺโน โหติ, น ตสฺส ปุคฺคลสฺส ตสฺมึ ขเณ อคฺคิ วา วิสํ วา สตฺถํ วา กมติ. ตสฺส เย เกจิ อหิตกามา อุปคนฺตฺวา ตํ น ปสฺสนฺติ, น ตสฺส สกฺโกนฺติ อหิตํ กาตุํ เนเต, มหาราช, คุณา ปุคฺคลสฺส, เมตฺตาภาวนาเยเต คุณา’’ติ. ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต นาคเสน, อพฺภุตํ ภนฺเต นาคเสน, สพฺพปาปนิวารณา เมตฺตาภาวนา’’ติ. ‘‘สพฺพกุสลคุณาวหา, มหาราช, เมตฺตาภาวนา หิตานมฺปิ อหิตานมฺปิ, เย เต สตฺตา วิฺาณพทฺธา, สพฺเพสํ มหานิสํสา เมตฺตาภาวนา สํวิภชิตพฺพา’’ติ.
เมตฺตาภาวนานิสํสปฺโห ฉฏฺโ.
๗. กุสลากุสลสมวิสมปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต นาคเสน ‘กุสลการิสฺสปิ อกุสลการิสฺสปิ วิปาโก สมสโม, อุทาหุ โกจิ ¶ วิเสโส อตฺถี’ติ? ‘‘อตฺถิ, มหาราช, กุสลสฺส ¶ จ อกุสลสฺส จ วิเสโส, กุสลํ, มหาราช, สุขวิปากํ สคฺคสํวตฺตนิกํ, อกุสลํ ทุกฺขวิปากํ นิรยสํวตฺตนิก’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘เทวทตฺโต เอกนฺตกณฺโห, เอกนฺตกณฺเหหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต, โพธิสตฺโต เอกนฺตสุกฺโก, เอกนฺตสุกฺเกหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต’ติ. ปุน จ เทวทตฺโต ภเว ภเว ยเสน จ ปกฺเขน จ โพธิสตฺเตน สมสโม โหติ, กทาจิ อธิกตโร วา. ยทา เทวทตฺโต นคเร พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺตสฺส รฺโ ปุโรหิตปุตฺโต อโหสิ, ตทา โพธิสตฺโต ฉวกจณฺฑาโล อโหสิ วิชฺชาธโร, วิชฺชํ ปริชปฺปิตฺวา อกาเล อมฺพผลานิ นิพฺพตฺเตสิ, เอตฺถ ตาว โพธิสตฺโต เทวทตฺตโต ชาติยา นิหีโน ยเสน ¶ จ นิหีโน.
‘‘ปุน จปรํ ยทา เทวทตฺโต ราชา อโหสิ มหา มหีปติ สพฺพกามสมงฺคี, ตทา โพธิสตฺโต ตสฺสูปโภโค อโหสิ หตฺถินาโค สพฺพลกฺขณสมฺปนฺโน, ตสฺส จารุคติวิลาสํ อสหมาโน ราชา วธมิจฺฉนฺโต หตฺถาจริยํ เอวมโวจ ‘อสิกฺขิโต เต, อาจริย, หตฺถินาโค, ตสฺส อากาสคมนํ นาม การณํ กโรหี’ติ, ตตฺถปิ ตาว โพธิสตฺโต เทวทตฺตโต ชาติยา นิหีโน ลามโก ติรจฺฉานคโต.
‘‘ปุน จปรํ ยทา เทวทตฺโต มนุสฺโส อโหสิ ปวเน นฏฺายิโก, ตทา โพธิสตฺโต มหาปถวี นาม มกฺกโฏ อโหสิ, เอตฺถปิ ตาว ทิสฺสติ วิเสโส มนุสฺสสฺส จ ติรจฺฉานคตสฺส จ, ตตฺถปิ ตาว โพธิสตฺโต เทวทตฺตโต ชาติยา นิหีโน.
‘‘ปุน จปรํ ยทา เทวทตฺโต มนุสฺโส อโหสิ โสณุตฺตโร นาม เนสาโท พลวา พลวตโร นาคพโล, ตทา โพธิสตฺโต ฉทฺทนฺโต นาม นาคราชา อโหสิ. ตทา โส ลุทฺทโก ตํ หตฺถินาคํ ฆาเตสิ, ตตฺถปิ ตาว เทวทตฺโตว อธิกตโร.
‘‘ปุน จปรํ ยทา เทวทตฺโต มนุสฺโส อโหสิ วนจรโก อนิเกตวาสี, ตทา โพธิสตฺโต สกุโณ อโหสิ ติตฺติโร มนฺตชฺฌายี, ตทาปิ โส วนจรโก ตํ สกุณํ ฆาเตสิ, ตตฺถปิ ตาว เทวทตฺโตว ชาติยา อธิกตโร.
‘‘ปุน ¶ จปรํ ยทา เทวทตฺโต กลาพุ นาม กาสิราชา [กาสิกราชา (ก.)] อโหสิ, ตทา โพธิสตฺโต ตาปโส ¶ อโหสิ ขนฺติวาที. ตทา โส ราชา ตสฺส ตาปสสฺส กุทฺโธ หตฺถปาเท วํสกฬีเร วิย เฉทาเปสิ, ตตฺถปิ ตาว เทวทตฺโต เยว อธิกตโร ชาติยา จ ยเสน จ.
‘‘ปุน จปรํ ยทา เทวทตฺโต มนุสฺโส อโหสิ วนจโร, ตทา โพธิสตฺโต นนฺทิโย นาม วานรินฺโท อโหสิ, ตทาปิ โส วนจโร ตํ วานรินฺทํ ฆาเตสิ สทฺธึ มาตรา กนิฏฺภาติเกน จ, ตตฺถปิ ตาว เทวทตฺโต เยว อธิกตโร ชาติยา.
‘‘ปุน จปรํ ยทา เทวทตฺโต มนุสฺโส อโหสิ อเจลโก การมฺภิโย นาม, ตทา โพธิสตฺโต ปณฺฑรโก นาม นาคราชา อโหสิ, ตตฺถปิ ตาว เทวทตฺโต ¶ เยว อธิกตโร ชาติยา.
‘‘ปุน จปรํ ยทา เทวทตฺโต มนุสฺโส อโหสิ ปวเน ชฏิลโก, ตทา โพธิสตฺโต ตจฺฉโก นาม มหาสูกโร อโหสิ, ตตฺถปิ ตาว เทวทตฺโต เยว ชาติยา อธิกตโร.
‘‘ปุน จปรํ ยทา เทวทตฺโต เจตีสุ สูรปริจโร นาม ราชา อโหสิ อุปริ ปุริสมตฺเต คคเน เวหาสงฺคโม, ตทา โพธิสตฺโต กปิโล นาม พฺราหฺมโณ อโหสิ, ตตฺถปิ ตาว เทวทตฺโต เยว อธิกตโร ชาติยา จ ยเสน จ.
‘‘ปุน จปรํ ยทา เทวทตฺโต มนุสฺโส อโหสิ สาโม นาม, ตทา โพธิสตฺโต รุรุ นาม มิคราชา อโหสิ, ตตฺถปิ ตาว เทวทตฺโต เยว ชาติยา อธิกตโร.
‘‘ปุน จปรํ ยทา เทวทตฺโต มนุสฺโส อโหสิ ลุทฺทโก ปวนจโร, ตทา โพธิสตฺโต หตฺถินาโค อโหสิ, โส ลุทฺทโก ตสฺส หตฺถินาคสฺส สตฺตกฺขตฺตุํ ทนฺเต ฉินฺทิตฺวา หริ, ตตฺถปิ ตาว เทวทตฺโต เยว โยนิยา อธิกตโร.
‘‘ปุน จปรํ ยทา เทวทตฺโต สิงฺคาโล อโหสิ ขตฺติยธมฺโม, โส ยาวตา ชมฺพุทีเป ปเทสราชาโน เต สพฺเพ อนุยุตฺเต อกาสิ, ตทา ¶ โพธิสตฺโต วิธุโร นาม ปณฺฑิโต อโหสิ, ตตฺถปิ ตาว เทวทตฺโต เยว ยเสน อธิกตโร.
‘‘ปุน ¶ จปรํ ยทา เทวทตฺโต หตฺถินาโค หุตฺวา ลฏุกิกาย สกุณิกาย ปุตฺตเก ฆาเตสิ, ตทา โพธิสตฺโตปิ หตฺถินาโค อโหสิ ยูถปติ, ตตฺถ ตาว อุโภปิ เต สมสมา อเหสุํ.
‘‘ปุน จปรํ ยทา เทวทตฺโต ยกฺโข อโหสิ อธมฺโม นาม, ตทา โพธิสตฺโตปิ ยกฺโข อโหสิ ธมฺโม นาม, ตตฺถปิ ตาว อุโภปิ สมสมา อเหสุํ.
‘‘ปุน จปรํ ยทา เทวทตฺโต นาวิโก อโหสิ ปฺจนฺนํ กุลสตานํ อิสฺสโร, ตทา โพธิสตฺโตปิ นาวิโก อโหสิ ปฺจนฺนํ กุลสตานํ อิสฺสโร, ตตฺถปิ ตาว อุโภปิ สมสมา อเหสุํ.
‘‘ปุน จปรํ ยทา เทวทตฺโต สตฺถวาโห อโหสิ ปฺจนฺนํ สกฏสตานํ อิสฺสโร, ตทา โพธิสตฺโตปิ สตฺถวาโห อโหสิ ปฺจนฺนํ สกฏสตานํ อิสฺสโร, ตตฺถปิ ตาว อุโภปิ สมสมา อเหสุํ.
‘‘ปุน จปรํ ¶ ยทา เทวทตฺโต สาโข นาม มิคราชา อโหสิ, ตทา โพธิสตฺโตปิ นิคฺโรโธ นาม มิคราชา อโหสิ, ตตฺถปิ ตาว อุโภปิ สมสมา อเหสุํ.
‘‘ปุน จปรํ ยทา เทวทตฺโต สาโข นาม เสนาปติ อโหสิ, ตทา โพธิสตฺโตปิ นิคฺโรโธ นาม ราชา อโหสิ, ตตฺถปิ ตาว อุโภปิ สมสมา อเหสุํ.
‘‘ปุน จปรํ ยทา เทวทตฺโต ขณฺฑหาโล นาม พฺราหฺมโณ อโหสิ, ตทา โพธิสตฺโต จนฺโท นาม ราชกุมาโร อโหสิ, ตทา โส ขณฺฑหาโล เยว อธิกตโร.
‘‘ปุน จปรํ ยทา เทวทตฺโต พฺรหฺมทตฺโต นาม ราชา อโหสิ, ตทา โพธิสตฺโต ตสฺส ปุตฺโต มหาปทุโม นาม กุมาโร อโหสิ, ตทา โส ราชา สกปุตฺตํ โจรปปาเต ขิปาเปสิ, ยโต กุโตจิ ปิตาว ปุตฺตานํ อธิกตโร โหติ วิสิฏฺโติ, ตตฺถปิ ตาว เทวทตฺโต เยว อธิกตโร.
‘‘ปุน ¶ จปรํ ยทา เทวทตฺโต มหาปตาโป นาม ราชา อโหสิ, ตทา โพธิสตฺโต ตสฺส ปุตฺโต ¶ ธมฺมปาโล นาม กุมาโร อโหสิ, ตทา โส ราชา สกปุตฺตสฺส หตฺถปาเท สีสฺจ เฉทาเปสิ, ตตฺถปิ ตาว เทวทตฺโต เยว อุตฺตโร อธิกตโร.
อชฺเชตรหิ อุโภปิ สกฺยกุเล ชายึสุ. โพธิสตฺโต พุทฺโธ อโหสิ สพฺพฺู โลกนายโก, เทวทตฺโต ตสฺส เทวาติเทวสฺส สาสเน ปพฺพชิตฺวา อิทฺธึ นิพฺพตฺเตตฺวา พุทฺธาลยํ อกาสิ. กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, ยํ มยา ภณิตํ, ตํ สพฺพํ ตถํ อุทาหุ วิตถ’’นฺติ?
‘‘ยํ ตฺวํ, มหาราช, พหุวิธํ การณํ โอสาเรสิ, สพฺพํ ตํ ตเถว, โน อฺถา’’ติ. ‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, กณฺโหปิ สุกฺโกปิ สมสมคติกา โหนฺติ, เตน หิ กุสลมฺปิ อกุสลมฺปิ สมสมวิปากํ โหตี’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราช, กุสลมฺปิ อกุสลมฺปิ สมสมวิปากํ โหติ, น หิ, มหาราช, เทวทตฺโต สพฺพชเนหิ ปฏิวิรุทฺโธ, โพธิสตฺเตเนว ปฏิวิรุทฺโธ. โย ตสฺส โพธิสตฺเตน ปฏิวิรุทฺโธ, โส ตสฺมึ ตสฺมึ เยว ภเว ปจฺจติ ผลํ เทติ. เทวทตฺโตปิ, มหาราช, อิสฺสริเย ¶ ิโต ชนปเทสุ อารกฺขํ เทติ, เสตุํ สภํ ปฺุสาลํ กาเรติ, สมณพฺราหฺมณานํ กปณทฺธิกวณิพฺพกานํ นาถานาถานํ ยถาปณิหิตํ ทานํ เทติ. ตสฺส โส วิปาเกน ภเว ภเว สมฺปตฺติโย ปฏิลภติ. กสฺเสตํ, มหาราช, สกฺกา วตฺตุํ วินา ทาเนน ทเมน สํยเมน อุโปสถกมฺเมน สมฺปตฺตึ อนุภวิสฺสตีติ?
‘‘ยํ ปน ตฺวํ, มหาราช, เอวํ วเทสิ ‘เทวทตฺโต จ โพธิสตฺโต จ เอกโต อนุปริวตฺตนฺตี’ติ, โส น ชาติสตสฺส อจฺจเยน สมาคโม อโหสิ, น ชาติสหสฺสสฺส อจฺจเยน, น ชาติสตสหสฺสสฺส อจฺจเยน, กทาจิ กรหจิ พหูนํ อโหรตฺตานํ อจฺจเยน สมาคโม อโหสิ. ยํ ปเนตํ, มหาราช, ภควตา กาณกจฺฉโปปมํ อุปทสฺสิตํ มนุสฺสตฺตปฺปฏิลาภาย, ตถูปมํ, มหาราช, อิเมสํ สมาคมํ ธาเรหิ.
‘‘น, มหาราช, โพธิสตฺตสฺส เทวทตฺเตเนว สทฺธึ สมาคโม อโหสิ, เถโรปิ, มหาราช, สาริปุตฺโต อเนเกสุ ชาติสตสหสฺเสสุ โพธิสตฺตสฺส ปิตา อโหสิ, มหาปิตา อโหสิ, จูฬปิตา อโหสิ ¶ , ภาตา อโหสิ, ปุตฺโต อโหสิ, ภาคิเนยฺโย อโหสิ, มิตฺโต อโหสิ.
‘‘โพธิสตฺโตปิ, มหาราช, อเนเกสุ ชาติสตสหสฺเสสุ เถรสฺส สาริปุตฺตสฺส ปิตา อโหสิ, มหาปิตา อโหสิ, จูฬปิตา อโหสิ, ภาตา อโหสิ, ปุตฺโต อโหสิ, ภาคิเนยฺโย อโหสิ ¶ , มิตฺโต อโหสิ, สพฺเพปิ, มหาราช, สตฺตนิกายปริยาปนฺนา สํสารโสตมนุคตา สํสารโสเตน วุยฺหนฺตา อปฺปิเยหิปิ ปิเยหิปิ สมาคจฺฉนฺติ. ยถา, มหาราช, อุทกํ โสเตน วุยฺหมานํ สุจิอสุจิกลฺยาณปาปเกน สมาคจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช, สพฺเพปิ สตฺตนิกายปริยาปนฺนา สํสารโสตมนุคตา สํสารโสเตน วุยฺหนฺตา อปฺปิเยหิปิ ปิเยหิปิ สมาคจฺฉนฺติ. เทวทตฺโต, มหาราช, ยกฺโข สมาโน อตฺตนา อธมฺโม ปเร อธมฺเม นิโยเชตฺวา สตฺตปฺาสวสฺสโกฏิโย สฏฺิ จ วสฺสสตสหสฺสานิ มหานิรเย ปจฺจิ ¶ , โพธิสตฺโตปิ, มหาราช, ยกฺโข สมาโน อตฺตนา ธมฺโม ปเร ธมฺเม นิโยเชตฺวา สตฺตปฺาสวสฺสโกฏิโย สฏฺิ จ วสฺสสตสหสฺสานิ สคฺเค โมทิ สพฺพกามสมงฺคี, อปิ จ, มหาราช, เทวทตฺโต อิมสฺมึ ภเว พุทฺธํ อนาสาทนียมาสาทยิตฺวา สมคฺคฺจ สงฺฆํ ภินฺทิตฺวา ปถวึ ปาวิสิ, ตถาคโต พุชฺฌิตฺวา สพฺพธมฺเม ปรินิพฺพุโต อุปธิสงฺขเย’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
กุสลากุสลสมวิสมปฺโห สตฺตโม.
๘. อมราเทวีปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา –
‘‘‘สเจ ลเภถ ขณํ วา รโห วา, นิมนฺตกํ [นิวาตกํ (กุณาลชาตเก)] วาปิ ลเภถ ตาทิสํ;
สพฺพาว [สพฺพาปิ (สี. ปี.)] อิตฺถี กยิรุํ [กเรยฺยุํ (สี. ปี. ก.)] นุ ปาปํ, อฺํ อลทฺธา ปีสปฺปินา สทฺธิ’นฺติ.
‘‘ปุน จ กถียติ ‘มโหสธสฺส ภริยา อมรา นาม อิตฺถี คามเก ปิตา ปวุตฺถปติกา รโห นิสินฺนา วิวิตฺตา ราชปฺปฏิสมํ สามิกํ กริตฺวา สหสฺเสน ¶ นิมนฺตียมานา ปาปํ นากาสี’ติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘สเจ…เป… สทฺธิ’นฺติ เตน หิ ‘มโหสธสฺส ภริยา…เป… นากาสี’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ มโหสธสฺส ภริยา…เป… ¶ นากาสิ, เตน หิ ‘สเจ…เป… สทฺธิ’นฺติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘สเจ…เป… สทฺธิ’นฺติ. กถียติ จ ‘มโหสธสฺส ภริยา ¶ …เป… นากาสี’ติ. กเรยฺย สา, มหาราช, อิตฺถี สหสฺสํ ลภมานา ตาทิเสน ปุริเสน สทฺธึ ปาปกมฺมํ, น สา กเรยฺย สเจ ขณํ วา รโห วา นิมนฺตกํ วาปิ ตาทิสํ ลเภยฺย, วิจินนฺตี สา, มหาราช, อมรา อิตฺถี น อทฺทส ขณํ วา รโห วา นิมนฺตกํ วาปิ ตาทิสํ.
‘‘อิธ โลเก ครหภยา ขณํ น ปสฺสิ, ปรโลเก นิรยภยา ขณํ น ปสฺสิ, กฏุกวิปากํ ปาปนฺติ ขณํ น ปสฺสิ, ปิยํ อมฺุจิตุกามา ขณํ น ปสฺสิ, สามิกสฺส ครุกตาย ขณํ น ปสฺสิ, ธมฺมํ อปจายนฺตี ขณํ น ปสฺสิ, อนริยํ ครหนฺตี ขณํ น ปสฺสิ, กิริยํ อภินฺทิตุกามา ขณํ น ปสฺสิ. เอวรูเปหิ พหูหิ การเณหิ ขณํ น ปสฺสิ.
‘‘รโหปิ สา โลเก วิจินิตฺวา อปสฺสนฺตี ปาปํ นากาสิ. สเจ สา มนุสฺเสหิ ¶ รโห ลเภยฺย, อถ อมนุสฺเสหิ รโห น ลเภยฺย. สเจ อมนุสฺเสหิ รโห ลเภยฺย, อถ ปรจิตฺตวิทูหิ ปพฺพชิเตหิ รโห น ลเภยฺย. สเจ ปรจิตฺตวิทูหิ ปพฺพชิเตหิ รโห ลเภยฺย, อถ ปรจิตฺตวิทูนีหิ เทวตาหิ รโห น ลเภยฺย. สเจ ปรจิตฺตวิทูนีหิ เทวตาหิ รโห ลเภยฺย, อตฺตนาว ปาเปหิ รโห น ลเภยฺย. สเจ อตฺตนาว ปาเปหิ รโห ลเภยฺย, อถ อธมฺเมน รโห น ลเภยฺย. เอวรูเปหิ พหุวิเธหิ การเณหิ รโห อลภิตฺวา ปาปํ นากาสิ.
‘‘นิมนฺตกมฺปิ สา โลเก วิจินิตฺวา ตาทิสํ อลภนฺตี ปาปํ นากาสิ. มโหสโธ, มหาราช, ปณฺฑิโต อฏฺวีสติยา องฺเคหิ สมนฺนาคโต. กตเมหิ อฏฺวีสติยา องฺเคหิ สมนฺนาคโต? มโหสโธ, มหาราช, สูโร หิริมา โอตฺตปฺปี สปกฺโข มิตฺตสมฺปนฺโน ขโม สีลวา สจฺจวาที โสเจยฺยสมฺปนฺโน อกฺโกธโน อนติมานี อนุสูยโก วีริยวา อายูหโก สงฺคาหโก สํวิภาคี สขิโล นิวาตวุตฺติ สณฺโห อสโ อมายาวี อติพุทฺธิสมฺปนฺโน กิตฺติมา วิชฺชาสมฺปนฺโน หิเตสี อุปนิสฺสิตานํ ¶ ปตฺถิโต สพฺพชนสฺส ธนวา ยสวา. มโหสโธ, มหาราช, ปณฺฑิโต อิเมหิ อฏฺวีสติยา องฺเคหิ สมนฺนาคโต. สา อฺํ ตาทิสํ นิมนฺตกํ อลภิตฺวา ปาปํ นากาสี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
อมราเทวีปฺโห อฏฺโม.
๙. อรหนฺตอภายนปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘วิคตภยสนฺตาสา อรหนฺโต’ติ. ปุน จ นคเร ราชคเห ธนปาลกํ หตฺถึ ภควติ โอปตนฺตํ ทิสฺวา ปฺจ ขีณาสวสตานิ ปริจฺจชิตฺวา ชินวรํ ปกฺกนฺตานิ ทิสาวิทิสํ เอกํ เปตฺวา เถรํ อานนฺทํ. กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, เต อรหนฺโต ภยา ปกฺกนฺตา, ปฺายิสฺสติ สเกน กมฺเมนาติ ทสพลํ ปาเตตุกามา ปกฺกนฺตา ¶ , อุทาหุ ตถาคตสฺส อตุลํ วิปุลมสมํ ปาฏิหาริยํ ทฏฺุกามา ปกฺกนฺตา? ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘วิคตภยสนฺตาสา อรหนฺโต’ติ, เตน หิ ‘นคเร…เป… อานนฺท’นฺติ ยํ วจนํ ตํ มิจฺฉา. ยทิ นคเร ราชคเห ธนปาลกํ หตฺถึ ภควติ โอปตนฺตํ ทิสฺวา ปฺจ ขีณาสวสตานิ ปริจฺจชิตฺวา ชินวรํ ปกฺกนฺตานิ ทิสาวิทิสํ เอกํ เปตฺวา เถรํ อานนฺทํ, เตน หิ ‘วิคตภยสนฺตาสา อรหนฺโต’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘วิคตภยสนฺตาสา อรหนฺโต’ติ, นคเร ราชคเห ธนปาลกํ หตฺถึ ภควติ โอปตนฺตํ ทิสฺวา ปฺจ ขีณาสวสตานิ ปริจฺจชิตฺวา ชินวรํ ปกฺกนฺตานิ ทิสาวิทิสํ เอกํ เปตฺวา เถรํ อานนฺทํ, ตฺจ ปน น ภยา, นาปิ ภควนฺตํ ปาเตตุกามตาย.
‘‘เยน ปน, มหาราช, เหตุนา อรหนฺโต ภาเยยฺยุํ วา ตาเสยฺยุํ วา, โส เหตุ อรหนฺตานํ สมุจฺฉินฺโน, ตสฺมา วิคตภยสนฺตาสา อรหนฺโต, ภายติ นุ, มหาราช, มหาปถวี ขณนฺเตปิ ภินฺทนฺเตปิ ธาเรนฺเตปิ สมุทฺทปพฺพตคิริสิขเรติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เกน การเณน มหาราชา’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต, มหาปถวิยา โส เหตุ, เยน เหตุนา มหาปถวี ¶ ภาเยยฺย วา ตาเสยฺย วา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, นตฺถิ อรหนฺตานํ โส เหตุ, เยน เหตุนา อรหนฺโต ภาเยยฺยุํ วา ตาเสยฺยุํ วา.
‘‘ภายติ นุ, มหาราช, คิริสิขรํ ฉินฺทนฺเต วา ภินฺทนฺเต วา ปตนฺเต วา อคฺคินา ทหนฺเต วา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เกน การเณน มหาราชา’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต, คิริสิขรสฺส ¶ โส เหตุ, เยน เหตุนา คิริสิขรํ ภาเยยฺย วา ตาเสยฺย วา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, นตฺถิ อรหนฺตานํ โส เหตุ, เยน เหตุนา อรหนฺโต ภาเยยฺยุํ วา ตาเสยฺยุํ วา.
‘‘ยทิปิ ¶ , มหาราช, โลกธาตุสตสหสฺเสสุ เย เกจิ สตฺตนิกายปริยาปนฺนา สพฺเพปิ เต สตฺติหตฺถา เอกํ อรหนฺตํ อุปธาวิตฺวา ตาเสยฺยุํ, น ภเวยฺย อรหโต จิตฺตสฺส กิฺจิ อฺถตฺตํ. กึ การณํ? อฏฺานมนวกาสตาย.
‘‘อปิ จ, มหาราช, เตสํ ขีณาสวานํ เอวํ เจโตปริวิตกฺโก อโหสิ ‘อชฺช นรวรปวเร ชินวรวสเภ นครวรมนุปฺปวิฏฺเ วีถิยา ธนปาลโก หตฺถี อาปติสฺสติ, อสํสยมติเทวเทวํ อุปฏฺาโก น ปริจฺจชิสฺสติ, ยทิ มยํ สพฺเพปิ ภควนฺตํ น ปริจฺจชิสฺสาม, อานนฺทสฺส คุโณ ปากโฏ น ภวิสฺสติ, น เหว จ ตถาคตํ สมุปคมิสฺสติ หตฺถินาโค, หนฺท มยํ อปคจฺฉาม, เอวมิทํ มหโต ชนกายสฺส กิเลสพนฺธนโมกฺโข ภวิสฺสติ, อานนฺทสฺส จ คุโณ ปากโฏ ภวิสฺสตี’ติ. เอวํ เต อรหนฺโต อานิสํสํ ทิสฺวา ทิสาวิทิสํ ปกฺกนฺตา’’ติ. ‘‘สุวิภตฺโต, ภนฺเต นาคเสน, ปฺโห, เอวเมตํ นตฺถิ อรหนฺตานํ ภยํ วา สนฺตาโส วา, อานิสํสํ ทิสฺวา อรหนฺโต ปกฺกนฺตา ทิสาวิทิส’’นฺติ.
อรหนฺตอภายนปฺโห นวโม.
๑๐. พุทฺธสพฺพฺุภาวปฺโห
๑๐. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘ตถาคโต สพฺพฺู’ติ. ปุน จ ภณถ ‘ตถาคเตน สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปฺปมุเข ภิกฺขุสงฺเฆ ปณามิเต ¶ จาตุเมยฺยกา จ สกฺยา พฺรหฺมา จ สหมฺปติ พีชูปมฺจ วจฺฉตรุณูปมฺจ อุปทสฺเสตฺวา ภควนฺตํ ปสาเทสุํ ขมาเปสุํ นิชฺฌตฺตํ อกํสู’ติ. กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, อฺาตา ตา อุปมา ตถาคตสฺส, ยาหิ ตถาคโต อุปมาหิ ¶ โอรโต ขมิโต อุปสนฺโต นิชฺฌตฺตํ คโต? ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคตสฺส ตา อุปมา อฺาตา, เตน หิ พุทฺโธ อสพฺพฺู, ยทิ าตา, เตน หิ โอกสฺส ปสยฺห วีมํสาเปกฺโข ปณาเมสิ, เตน หิ ตสฺส อการฺุตา สมฺภวติ. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘สพฺพฺู, มหาราช, ตถาคโต, ตาหิ จ อุปมาหิ ภควา ปสนฺโน โอรโต ขมิโต อุปสนฺโต ¶ นิชฺฌตฺตํ คโต. ธมฺมสฺสามี, มหาราช, ตถาคโต, ตถาคตปฺปเวทิเตเหว เต โอปมฺเมหิ ตถาคตํ อาราเธสุํ โตเสสุํ ปสาเทสุํ, เตสฺจ ตถาคโต ปสนฺโน ‘สาธู’ติ อพฺภานุโมทิ.
‘‘ยถา, มหาราช, อิตฺถี สามิกสฺส สนฺตเกเนว ธเนน สามิกํ อาราเธติ โตเสติ ปสาเทติ, ตฺจ สามิโก ‘สาธู’ติ อพฺภานุโมทติ, เอวเมว โข, มหาราช, จาตุเมยฺยกา จ สกฺยา พฺรหฺมา จ สหมฺปติ ตถาคตปฺปเวทิเตเหว โอปมฺเมหิ ตถาคตํ อาราเธสุํ โตเสสุํ ปสาเทสุํ, เตสฺจ ตถาคโต ปสนฺโน ‘สาธู’ติ อพฺภานุโมทิ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, กปฺปโก รฺโ สนฺตเกเนว สุวณฺณผณเกน รฺโ อุตฺตมงฺคํ ปสาธยมาโน ราชานํ อาราเธติ โตเสติ ปสาเทติ, ตสฺส จ ราชา ปสนฺโน ‘สาธู’ติ อพฺภานุโมทติ, ยถิจฺฉิตมนุปฺปเทติ, เอวเมว โข, มหาราช, จาตุเมยฺยกา จ สกฺยา พฺรหฺมา จ สหมฺปติ ตถาคตปฺปเวทิเตเหว โอปมฺเมหิ ตถาคตํ อาราเธสุํ โตเสสุํ ปสาเทสุํ, เตสฺจ ตถาคโต ปสนฺโน ‘สาธู’ติ อพฺภานุโมทิ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, สทฺธิวิหาริโก อุปชฺฌายาภตํ ปิณฺฑปาตํ คเหตฺวา อุปชฺฌายสฺส อุปนาเมนฺโต อุปชฺฌายํ อาราเธติ โตเสติ ปสาเทติ, ตฺจ อุปชฺฌาโย ปสนฺโน ‘สาธู’ติ อพฺภานุโมทติ, เอวเมว ¶ โข, มหาราช, จาตุเมยฺยกา จ สกฺยา พฺรหฺมา จ สหมฺปติ ตถาคตปฺปเวทิเตเหว โอปมฺเมหิ ตถาคตํ อาราเธสุํ โตเสสุํ ปสาเทสุํ, เตสฺจ ¶ ตถาคโต ปสนฺโน ‘สาธู’ติ อพฺภานุโมทิตฺวา สพฺพทุกฺขปริมุตฺติยา ธมฺมํ เทเสสี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามีติ.
พุทฺธสพฺพฺุภาวปฺโห ทสโม.
สพฺพฺุตาณวคฺโค จตุตฺโถ.
อิมสฺมึ วคฺเค ทส ปฺหา.
๕. สนฺถววคฺโค
๑. สนฺถวปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา –
‘‘‘สนฺถวโต ภยํ ชาตํ, นิเกตา ชายเต รโช;
อนิเกตมสนฺถวํ, เอตํ เว มุนิทสฺสน’นฺติ.
‘‘ปุน จ ภควตา ภณิตํ ‘วิหาเร การเย รมฺเม, วาสเยตฺถ พหุสฺสุเต’ติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคเตน ภณิตํ ‘สนฺถวโต ภยํ ชาตํ, นิเกตา ชายเต รโช. อนิเกตมสนฺถวํ, เอตํ เว มุนิทสฺสน’นฺติ, เตน หิ ‘วิหาเร การเย รมฺเม, วาสเยตฺถ พหุสฺสุเต’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ตถาคเตน ภณิตํ ‘วิหาเร การเย รมฺเม, วาสเยตฺถ พหุสฺสุเต’ติ, เตน หิ ‘สนฺถวโต ภยํ ชาตํ, นิเกตา ชายเต รโช. อนิเกตมสนฺถวํ, เอตํ เว มุนิทสฺสน’นฺติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ ¶ , มหาราช, ภควตา ‘สนฺถวโต ภยํ ชาตํ, นิเกตา ชายเต รโช. อนิเกตมสนฺถวํ, เอตํ เว มุนิทสฺสน’นฺติ. ภณิตฺจ ‘วิหาเร การเย รมฺเม, วาสเยตฺถ พหุสฺสุเต’ติ. ยํ, มหาราช, ภควตา ภณิตํ ‘สนฺถวโต ภยํ ชาตํ, นิเกตา ชายเต รโช. อนิเกตมสนฺถวํ, เอตํ เว มุนิทสฺสน’นฺติ, ตํ สภาววจนํ อเสสวจนํ นิสฺเสสวจนํ นิปฺปริยายวจนํ สมณานุจฺฉวํ สมณสารุปฺปํ สมณปฺปติรูปํ สมณารหํ สมณโคจรํ สมณปฺปฏิปทา สมณปฺปฏิปตฺติ. ยถา, มหาราช, อารฺโก มิโค อรฺเ ปวเน จรมาโน นิราลโย อนิเกโต ยถิจฺฉกํ สยติ, เอวเมว โข, มหาราช, ภิกฺขุนา ‘สนฺถวโต ภยํ ชาตํ, นิเกตา ชายเต รโช. อนิเกตมสนฺถวํ, เอตํ เว มุนิทสฺสน’นฺติ จินฺเตตพฺพํ.
‘‘ยํ ¶ ปน, มหาราช, ภควตา ภณิตํ ‘วิหาเร การเย รมฺเม, วาสเยตฺถ พหุสฺสุเต’ติ, ตํ ทฺเว อตฺถวเส สมฺปสฺสมาเนน ภควตา ภณิตํ. กตเม ทฺเว? วิหารทานํ นาม สพฺพพุทฺเธหิ วณฺณิตํ อนุมตํ โถมิตํ ¶ ปสตฺถํ, ตํ เต วิหารทานํ ทตฺวา ชาติชรามรณา ปริมุจฺจิสฺสนฺตีติ. อยํ ตาว ปโม อานิสํโส วิหารทาเน.
‘‘ปุน จปรํ วิหาเร วิชฺชมาเน ภิกฺขุนิโย พฺยตฺตสงฺเกตา ภวิสฺสนฺติ, สุลภํ ทสฺสนํ ทสฺสนกามานํ, อนิเกเต ทุทฺทสฺสนา ภวิสฺสนฺตีติ. อยํ ทุติโย อานิสํโส วิหารทาเน. อิเม ทฺเว อตฺถวเส สมฺปสฺสมาเนน ภควตา ภณิตํ ‘วิหาเร ¶ การเย รมฺเม, วาสเยตฺถ พหุสฺสุเต’ติ, น ตตฺถ พุทฺธปุตฺเตน อาลโย กรณีโย นิเกเต’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
สนฺถวปฺโห ปโม.
๒. อุทรสํยตปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา –
‘‘‘อุตฺติฏฺเ นปฺปมชฺเชยฺย, อุทเร สํยโต สิยา’ติ.
‘‘ปุน จ ภควตา ภณิตํ ‘อหํ โข ปนุทายิ, อปฺเปกทา อิมินา ปตฺเตน สมติตฺติกมฺปิ ภฺุชามิ, ภิยฺโยปิ ภฺุชามี’ติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘อุตฺติฏฺเ นปฺปมชฺเชยฺย, อุทเร สํยโต สิยา’ติ, เตน หิ ‘อหํ โข ปนุทายิ, อปฺเปกทา อิมินา ปตฺเตน สมติตฺถิกมฺปิ ภฺุชามิ, ภิยฺโยปิ ภฺุชามี’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ตถาคเตน ภณิตํ ‘อหํ โข ปนุทายิ, อปฺเปกทา อิมินา ปตฺเตน สมติตฺถิกมฺปิ ภฺุชามิ, ภิยฺโยปิ ภฺุชามี’ติ, เตน หิ ‘อุตฺติฏฺเ นปฺปมชฺเชยฺย, อุทเร สํยโต สิยา’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘อุตฺติฏฺเ นปฺปมชฺเชยฺย, อุทเร สํยโต สิยา’ติ, ภณิตฺจ ‘อหํ โข ปนุทายิ, อปฺเปกทา อิมินา ปตฺเตน สมติตฺติกมฺปิ ภฺุชามิ, ภิยฺโยปิ ภฺุชามี’ติ ¶ . ยํ, มหาราช, ภควตา ภณิตํ ‘อุตฺติฏฺเ นปฺปมชฺเชยฺย, อุทเร สํยโต สิยา’ติ, ตํ ¶ สภาววจนํ อเสสวจนํ นิสฺเสสวจนํ นิปฺปริยายวจนํ ภูตวจนํ ตจฺฉวจนํ ยาถาววจนํ อวิปรีตวจนํ อิสิวจนํ มุนิวจนํ ภควนฺตวจนํ อรหนฺตวจนํ ¶ ปจฺเจกพุทฺธวจนํ ชินวจนํ สพฺพฺุวจนํ ตถาคตสฺส อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วจนํ.
‘‘อุทเร อสํยโต, มหาราช, ปาณมฺปิ หนติ, อทินฺนมฺปิ อาทิยติ, ปรทารมฺปิ คจฺฉติ, มุสาปิ ภณติ, มชฺชมฺปิ ปิวติ, มาตรมฺปิ ชีวิตา โวโรเปติ, ปิตรมฺปิ ชีวิตา โวโรเปติ, อรหนฺตมฺปิ ชีวิตา โวโรเปติ, สงฺฆมฺปิ ภินฺทติ, ทุฏฺเน จิตฺเตน ตถาคตสฺส โลหิตมฺปิ อุปฺปาเทติ. นนุ, มหาราช, เทวทตฺโต อุทเร อสํยโต สงฺฆํ ภินฺทิตฺวา กปฺปฏฺิยํ กมฺมํ อายูหิ [อายูหติ (ก.)]. เอวรูปานิ, มหาราช, อฺานิปิ พหุวิธานิ การณานิ ทิสฺวา ภควตา ภณิตํ ‘อุตฺติฏฺเ นปฺปมชฺเชยฺย, อุทเร สํยโต สิยา’ติ.
‘‘อุทเร สํยโต, มหาราช, จตุสจฺจาภิสมยํ อภิสเมติ, จตฺตาริ สามฺผลานิ สจฺฉิกโรติ, จตูสุ ปฏิสมฺภิทาสุ อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ ฉสุ อภิฺาสุ วสีภาวํ ปาปุณาติ, เกวลฺจ สมณธมฺมํ ปูเรติ. นนุ, มหาราช, สุกโปตโก อุทเร สํยโต หุตฺวา ยาว ตาวตึสภวนํ กมฺเปตฺวา สกฺกํ เทวานมินฺทํ อุปฏฺานมุปเนสิ, เอวรูปานิ, มหาราช, อฺานิปิ พหุวิธานิ การณานิ ทิสฺวา ภควตา ภณิตํ ‘อุตฺติฏฺเ นปฺปมชฺเชยฺย, อุทเร สํยโต สิยา’ติ.
‘‘ยํ ปน, มหาราช, ภควตา ภณิตํ ‘อหํ โข ปนุทายิ อปฺเปกทา อิมินา ปตฺเตน สมติตฺติกมฺปิ ภฺุชามิ, ภิยฺโยปิ ภฺุชามี’ติ, ตํ กตกิจฺเจน นิฏฺิตกิริเยน สิทฺธตฺเถน วุสิตโวสาเนน นิราวรเณน สพฺพฺุนา สยมฺภุนา ตถาคเตน อตฺตานํ อุปาทาย ภณิตํ.
‘‘ยถา, มหาราช, วนฺตสฺส วิริตฺตสฺส อนุวาสิตสฺส อาตุรสฺส ¶ สปฺปายกิริยา อิจฺฉิตพฺพา โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, สกิเลสสฺส อทิฏฺสจฺจสฺส อุทเร สํยโม กรณีโย โหติ. ยถา, มหาราช, มณิรตนสฺส สปฺปภาสสฺส ชาติมนฺตสฺส อภิชาติปริสุทฺธสฺส มชฺชนนิฆํสนปริโสธเนน กรณียํ น โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคตสฺส พุทฺธวิสเย ปารมึ คตสฺส กิริยากรเณสุ อาวรณํ น โหตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
อุทรสํยตปฺโห ทุติโย.
๓. พุทฺธอปฺปาพาธปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘อหมสฺมิ, ภิกฺขเว, พฺราหฺมโณ ยาจโยโค สทา ปยตปาณิ อนฺติมเทหธโร อนุตฺตโร ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต’ติ. ปุน จ ภณิตํ ภควตา ‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ อปฺปาพาธานํ ยทิทํ พากุโล’ติ. ภควโต จ สรีเร พหุกฺขตฺตุํ อาพาโธ อุปฺปนฺโน ทิสฺสติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคโต อนุตฺตโร, เตน หิ ‘เอตทคฺคํ…เป… พากุโล’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ เถโร พากุโล อปฺปาพาธานํ อคฺโค, เตน หิ ‘อหมสฺมิ…เป… สลฺลกตฺโต’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘อหมสฺมิ…เป… สลฺลกตฺโต’ติ, ภณิตฺจ ‘เอตทคฺคํ…เป… พากุโล’ติ, ตฺจ ปน พาหิรานํ อาคมานํ อธิคมานํ ปริยตฺตีนํ อตฺตนิ วิชฺชมานตํ ¶ สนฺธาย ภาสิตํ.
‘‘สนฺติ โข ปน, มหาราช, ภควโต สาวกา านจงฺกมิกา, เต าเนน จงฺกเมน ทิวารตฺตึ วีตินาเมนฺติ, ภควา ปน, มหาราช, าเนน จงฺกเมน นิสชฺชาย สยเนน ทิวารตฺตึ วีตินาเมติ, เย เต, มหาราช, ภิกฺขู านจงฺกมิกา, เต เตน องฺเคน อติเรกา.
‘‘สนฺติ โข ปน, มหาราช, ภควโต สาวกา เอกาสนิกา, เต ชีวิตเหตุปิ ทุติยํ โภชนํ น ภฺุชนฺติ, ภควา ปน, มหาราช, ทุติยมฺปิ ยาว ตติยมฺปิ โภชนํ ภฺุชติ, เย เต, มหาราช, ภิกฺขู เอกาสนิกา, เต เตน องฺเคน อติเรกา, อเนกวิธานิ, มหาราช, ตานิ การณานิ เตสํ เตสํ ตํ ตํ สนฺธาย ภณิตานิ. ภควา ปน, มหาราช, อนุตฺตโร สีเลน สมาธินา ปฺาย วิมุตฺติยา วิมุตฺติาณทสฺสเนน ทสหิ จ พเลหิ จตูหิ เวสารชฺเชหิ อฏฺารสหิ พุทฺธธมฺเมหิ ฉหิ อสาธารเณหิ าเณหิ, เกวเล จ พุทฺธวิสเย ตํ สนฺธาย ภณิตํ ‘อหมสฺมิ…เป… สลฺลกตฺโต’ติ.
‘‘อิธ, มหาราช, มนุสฺเสสุ เอโก ชาติมา โหติ, เอโก ธนวา, เอโก วิชฺชวา, เอโก สิปฺปวา, เอโก สูโร, เอโก วิจกฺขโณ, สพฺเพเปเต อภิภวิย ราชา เยว เตสํ อุตฺตโม โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, ภควา สพฺพสตฺตานํ อคฺโค เชฏฺโ เสฏฺโ.
‘‘ยํ ¶ ¶ ปน อายสฺมา พากุโล อปฺปาพาโธ อโหสิ, ตํ อภินีหารวเสน, โส หิ, มหาราช, อโนมทสฺสิสฺส ภควโต อุทรวาตาพาเธ อุปฺปนฺเน วิปสฺสิสฺส จ ภควโต อฏฺสฏฺิยา จ ภิกฺขุสตสหสฺสานํ ติณปุปฺผกโรเค อุปฺปนฺเน สยํ ตาปโส สมาโน นานาเภสชฺเชหิ ตํ พฺยาธึ อปเนตฺวา อปฺปาพาธตํ ปตฺโต, ภณิโต จ ‘เอตทคฺคํ…เป… พากุโล’ติ.
‘‘ภควโต, มหาราช, พฺยาธิมฺหิ อุปฺปชฺชนฺเตปิ อนุปฺปชฺชนฺเตปิ ธุตงฺคํ อาทิยนฺเตปิ อนาทิยนฺเตปิ นตฺถิ ¶ ภควตา สทิโส โกจิ สตฺโต. ภาสิตมฺเปตํ มหาราช ภควตา เทวาติเทเวน สํยุตฺตนิกายวรลฺฉเก –
‘‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, สตฺตา อปทา วา ทฺวิปทา วา จตุปฺปทา วา พหุปฺปทา วา รูปิโน วา อรูปิโน วา สฺิโน วา อสฺิโน วา เนวสฺีนาสฺิโน วา, ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’ติ. ‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’’ติ.
พุทฺธอปฺปาพาธปฺโห ตติโย.
๔. มคฺคุปฺปาทนปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘ตถาคโต ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา’ติ. ปุน จ ภณิตํ ‘อทฺทสํ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, ปุราณํ มคฺคํ ปุราณํ อฺชสํ ปุพฺพเกหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ อนุยาต’นฺติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคโต อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา, เตน หิ ‘อทฺทสํ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, ปุราณํ มคฺคํ ปุราณํ อฺชสํ ปุพฺพเกหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ อนุยาต’นฺติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ตถาคเตน ภณิตํ ‘อทฺทสํ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, ปุราณํ มคฺคํ ปุราณํ อฺชสํ ปุพฺพเกหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ อนุยาต’นฺติ, เตน หิ ‘ตถาคโต, ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ ¶ , มหาราช, ภควตา ‘ตถาคโต, ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา’ติ. ภณิตฺจ ‘อทฺทสํ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, ปุราณํ มคฺคํ ปุราณํ ¶ อฺชสํ ปุพฺพเกหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ อนุยาต’นฺติ, ตํ ทฺวยมฺปิ สภาววจนเมว, ปุพฺพกานํ, มหาราช, ตถาคตานํ อนฺตรธาเนน อสติ อนุสาสเก มคฺโค อนฺตรธายิ, ตํ [โส ตํ (สี. ปี. ก.)] ตถาคโต มคฺคํ ลุคฺคํ ปลุคฺคํ คูฬฺหํ ปิหิตํ ปฏิจฺฉนฺนํ อสฺจรณํ ¶ ปฺาจกฺขุนา สมฺปสฺสมาโน [สมฺมสมาโน (สี. ปี.)] อทฺทส ปุพฺพเกหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ อนุยาตํ, ตํการณา อาห ‘อทฺทสํ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, ปุราณํ มคฺคํ ปุราณํ อฺชสํ ปุพฺพเกหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ อนุยาต’นฺติ.
‘‘ปุพฺพกานํ, มหาราช, ตถาคตานํ อนฺตรธาเนน อสติ อนุสาสเก ลุคฺคํ ปลุคฺคํ คูฬฺหํ ปิหิตํ ปฏิจฺฉนฺนํ อสฺจรณํ มคฺคํ ยํ ทานิ ตถาคโต สฺจรณํ อกาสิ, ตํการณา อาห ‘ตถาคโต, ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา’ติ.
‘‘อิธ, มหาราช, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส อนฺตรธาเนน มณิรตนํ คิริสิขนฺตเร นิลียติ, อปรสฺส จกฺกวตฺติสฺส สมฺมาปฏิปตฺติยา อุปคจฺฉติ, อปิ นุ โข ตํ, มหาราช, มณิรตนํ ตสฺส ปกต’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ปากติกํ เยว ตํ มณิรตนํ, เตน ปน นิพฺพตฺติต’’นฺติ [นิพฺพตฺตนฺติ (สี. ปี.)]. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ปากติกํ ปุพฺพเกหิ ตถาคเตหิ อนุจิณฺณํ อฏฺงฺคิกํ สิวํ มคฺคํ อสติ อนุสาสเก ลุคฺคํ ปลุคฺคํ คูฬฺหํ ปิหิตํ ปฏิจฺฉนฺนํ อสฺจรณํ ภควา ปฺาจกฺขุนา สมฺปสฺสมาโน อุปฺปาเทสิ, สฺจรณํ อกาสิ, ตํการณา อาห ‘ตถาคโต, ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา’ติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, สนฺตํ เยว ปุตฺตํ โยนิยา ชนยิตฺวา มาตา ‘ชนิกา’ติ วุจฺจติ, เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต สนฺตํ เยว มคฺคํ ลุคฺคํ ปลุคฺคํ คูฬฺหํ ปิหิตํ ปฏิจฺฉนฺนํ อสฺจรณํ ปฺาจกฺขุนา สมฺปสฺสมาโน อุปฺปาเทสิ, สฺจรณํ อกาสิ, ตํการณา อาห ‘ตถาคโต, ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา’ติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, โกจิ ปุริโส ยํ กิฺจิ นฏฺํ ปสฺสติ, ‘เตน ตํ ภณฺฑํ นิพฺพตฺติต’นฺติ ชโน โวหรติ, เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต สนฺตํ เยว มคฺคํ ลุคฺคํ ปลุคฺคํ คูฬฺหํ ปิหิตํ ปฏิจฺฉนฺนํ อสฺจรณํ ¶ ปฺาจกฺขุนา สมฺปสฺสมาโน อุปฺปาเทสิ, สฺจรณํ ¶ อกาสิ, ตํการณา อาห ‘ตถาคโต, ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา’ติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, โกจิ ปุริโส วนํ โสเธตฺวา ภูมึ นีหรติ, ‘ตสฺส สา ภูมี’ติ ¶ ชโน โวหรติ, น เจสา ภูมิ เตน ปวตฺติตา, ตํ ภูมึ การณํ กตฺวา ภูมิสามิโก นาม โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต สนฺตํ เยว มคฺคํ ลุคฺคํ ปลุคฺคํ คูฬฺหํ ปิหิตํ ปฏิจฺฉนฺนํ อสฺจรณํ ปฺาย สมฺปสฺสมาโน อุปฺปาเทสิ, สฺจรณํ อกาสิ, ตํการณา อาห ‘ตถาคโต, ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา’’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
มคฺคุปฺปาทนปฺโห จตุตฺโถ.
๕. พุทฺธอวิเหกปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘ปุพฺเพ วาหํ มนุสฺสภูโต สมาโน สตฺตานํ อวิเหกชาติโก อโหสิ’นฺติ. ปุน จ ภณิตํ ‘โลมสกสฺสโป นาม อิสิ สมาโน อเนกสเต ปาเณ ฆาตยิตฺวา วาชเปยฺยํ มหายฺํ ยชี’ติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘ปุพฺเพ วาหํ มนุสฺสภูโต สมาโน สตฺตานํ อวิเหกชาติโก อโหสิ’นฺติ, เตน หิ ‘โลมสกสฺสเปน อิสินา อเนกสเต ปาเณ ฆาตยิตฺวา วาชเปยฺยํ มหายฺํ ยชิต’นฺติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ‘โลมสกสฺสเปน อิสินา อเนกสเต ปาเณ ฆาตยิตฺวา วาชเปยฺยํ มหายฺํ ยชิตํ’, เตน หิ ‘ปุพฺเพ วาหํ มนุสฺสภูโต สมาโน สตฺตานํ อวิเหกชาติโก อโหสิ’นฺติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘ปุพฺเพ วาหํ มนุสฺสภูโต สมาโน สตฺตานํ อวิเหกชาติโก อโหสิ’นฺติ, ‘โลมสกสฺสเปน อิสินา อเนกสเต ปาเณ ฆาตยิตฺวา ¶ วาชเปยฺยํ มหายฺํ ยชิตํ’, ตฺจ ปน ราควเสน วิสฺินา, โน สเจตเนนา’’ติ.
‘‘อฏฺิเม ¶ , ภนฺเต นาคเสน, ปุคฺคลา ปาณํ หนนฺติ. กตเม อฏฺ? รตฺโต ราควเสน ปาณํ หนติ, ทุฏฺโ โทสวเสน ปาณํ หนติ, มูฬฺโห โมหวเสน ปาณํ หนติ, มานี มานวเสน ปาณํ หนติ, ลุทฺโธ โลภวเสน ปาณํ หนติ, อกิฺจโน ชีวิกตฺถาย ปาณํ หนติ, พาโล หสฺสวเสน [อฺาณวเสน (ก. สี.)] ปาณํ หนติ, ราชา วินยนวเสน ปาณํ หนติ. อิเม โข, ภนฺเต นาคเสน, อฏฺ ปุคฺคลา ปาณํ หนนฺติ. ปากติกํ เยว, ภนฺเต นาคเสน, โพธิสตฺเตน กต’’นฺติ ¶ . ‘‘น, มหาราช, ปากติกํ โพธิสตฺเตน กตํ, ยทิ, มหาราช, โพธิสตฺโต ปกติภาเวน โอนเมยฺย มหายฺํ ยชิตุํ, น ยิมํ คาถํ ภเณยฺย –
‘‘‘สสมุทฺทปริยายํ, มหึ สาครกุณฺฑลํ;
น อิจฺเฉ สห นินฺทาย, เอวํ เสยฺห [สยฺห (สี. ปี.)] วิชานหี’ติ.
‘‘เอวํวาที, มหาราช, โพธิสตฺโต สห ทสฺสเนน จนฺทวติยา ราชกฺาย วิสฺี อโหสิ ขิตฺตจิตฺโต รตฺโต วิสฺิภูโต อากุลากุโล ตุริตตุริโต เตน วิกฺขิตฺตภนฺตลุฬิตจิตฺเตน มหติมหาปสุฆาตคลรุหิรสฺจยํ วาชเปยฺยํ มหายฺํ ยชิ.
‘‘ยถา, มหาราช, อุมฺมตฺตโก ขิตฺตจิตฺโต ชลิตมฺปิ ชาตเวทํ อกฺกมติ, กุปิตมฺปิ อาสีวิสํ คณฺหาติ, มตฺตมฺปิ หตฺถึ อุเปติ, สมุทฺทมฺปิ อตีรทสฺสึ ปกฺขนฺทติ, จนฺทนิกมฺปิ โอฬิคลฺลมฺปิ โอมทฺทติ, กณฺฏกาธานมฺปิ อภิรุหติ, ปปาเตปิ ปตติ, อสุจิมฺปิ ภกฺเขติ, นคฺโคปิ รถิยา จรติ, อฺมฺปิ พหุวิธํ อกิริยํ กโรติ. เอวเมว โข, มหาราช, โพธิสตฺโต สห ทสฺสเนน จนฺทวติยา ราชกฺาย วิสฺี อโหสิ ขิตฺตจิตฺโต รตฺโต วิสฺิภูโต อากุลากุโล ตุริตตุริโต, เตน วิกฺขิตฺตภนฺตลุฬิตจิตฺเตน มหติมหาปสุฆาตคลรุหิรสฺจยํ วาชเปยฺยํ มหายฺํ ¶ ยชิ.
‘‘ขิตฺตจิตฺเตน, มหาราช, กตํ ปาปํ ทิฏฺธมฺเมปิ น มหาสาวชฺชํ โหติ, สมฺปราเย วิปาเกนปิ โน ตถา. อิธ, มหาราช, โกจิ อุมฺมตฺตโก วชฺฌมาปชฺเชยฺย, ตสฺส ตุมฺเห กึ ทณฺฑํ ธาเรถา’’ติ? ‘‘โก, ภนฺเต, อุมฺมตฺตกสฺส ทณฺโฑ ภวิสฺสติ, ตํ มยํ โปถาเปตฺวา นีหราเปม, เอโสว ตสฺส ทณฺโฑ’’ติ. ‘‘อิติ โข, มหาราช, อุมฺมตฺตกสฺส อปราเธ ทณฺโฑปิ น ภวติ ¶ , ตสฺมา อุมฺมตฺตกสฺส กเตปิ น โทโส ภวติ สเตกิจฺโฉ. เอวเมว โข, มหาราช, โลมสกสฺสโป อิสิ สห ทสฺสเนน จนฺทวติยา ราชกฺาย วิสฺี อโหสิ ขิตฺตจิตฺโต รตฺโต วิสฺิภูโต วิสฏปยาโต อากุลากุโล ตุริตตุริโต, เตน วิกฺขิตฺตภนฺตลุฬิตจิตฺเตน มหติมหาปสุฆาตคลรุหิรสฺจยํ วาชเปยฺยํ มหายฺํ ยชิ. ยทา จ ปน ปกติจิตฺโต อโหสิ ปฏิลทฺธสฺสติ, ตทา ปุนเทว ปพฺพชิตฺวา ปฺจาภิฺาโย นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
พุทฺธอวิเหกปฺโห ปฺจโม.
๖. ฉทฺทนฺตโชติปาลารพฺภปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ฉทฺทนฺโต นาคราชา –
‘‘‘วธิสฺสเมตนฺติ ปรามสนฺโต, กาสาวมทฺทกฺขิ ธชํ อิสีนํ;
ทุกฺเขน ผุฏฺสฺสุทปาทิ สฺา, อรหทฺธโช สพฺภิ อวชฺฌรูโป’ติ.
‘‘ปุน จ ภณิตํ ‘โชติปาลมาณโว สมาโน กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ มุณฺฑกวาเทน สมณกวาเทน อสพฺภาหิ ผรุสาหิ วาจาหิ อกฺโกสิ ปริภาสี’ติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, โพธิสตฺโต ติรจฺฉานคโต สมาโน กาสาวํ อภิปูชยิ, เตน หิ ‘โชติปาเลน มาณเวน ¶ กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ มุณฺฑกวาเทน สมณกวาเทน อสพฺภาหิ ผรุสาหิ วาจาหิ อกฺกุฏฺโ ปริภาสิโต’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ โชติปาเลน มาณเวน กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ มุณฺฑกวาเทน สมณกวาเทน อสพฺภาหิ ผรุสาหิ วาจาหิ อกฺกุฏฺโ ปริภาสิโต, เตน หิ ‘ฉทฺทนฺเตน นาคราเชน กาสาวํ ปูชิต’นฺติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. ยทิ ติรจฺฉานคเตน โพธิสตฺเตน กกฺขฬขรกฏุกเวทนํ เวทยมาเนน ลุทฺทเกน นิวตฺถํ กาสาวํ ปูชิตํ, กึ มนุสฺสภูโต สมาโน ปริปกฺกาโณ ปริปกฺกาย โพธิยา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสพลํ โลกนายกํ อุทิโตทิตํ ¶ ชลิตพฺยาโมภาสํ ปวรุตฺตมํ ปวรรุจิรกาสิกกาสาวมภิปารุตํ ทิสฺวา น ปูชยิ? อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ฉทฺทนฺโต นาคราชา ‘วธิสฺสเมตนฺติ…เป… อวชฺฌรูโป’ติ. โชติปาเลน จ มาณเวน กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ มุณฺฑกวาเทน สมณกวาเทน อสพฺภาหิ ผรุสาหิ วาจาหิ อกฺกุฏฺโ ปริภาสิโต, ตฺจ ปน ชาติวเสน กุลวเสน. โชติปาโล, มหาราช, มาณโว อสฺสทฺเธ อปฺปสนฺเน กุเล ปจฺจาชาโต, ตสฺส มาตาปิตโร ภคินิภาตโร ทาสิทาสเจฏกปริวารกมนุสฺสา พฺรหฺมเทวตา พฺรหฺมครุกา, เต ‘พฺราหฺมณา เอว อุตฺตมา ปวรา’ติ อวเสเส ปพฺพชิเต ครหนฺติ ชิคุจฺฉนฺติ, เตสํ ตํ วจนํ สุตฺวา โชติปาโล มาณโว ฆฏิกาเรน กุมฺภกาเรน สตฺถารํ ทสฺสนาย ปกฺโกสิโต เอวมาห ‘กึ ปน เตน มุณฺฑเกน สมณเกน ทิฏฺเนา’ติ.
‘‘ยถา ¶ , มหาราช ¶ , อมตํ วิสมาสชฺช ติตฺตกํ โหติ, ยถา จ สีโตทกํ อคฺคิมาสชฺช อุณฺหํ โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โชติปาโล มาณโว อสฺสทฺเธ อปฺปสนฺเน กุเล ปจฺจาชาโต, โส กุลวเสน อนฺโธ หุตฺวา [โส กุลชาติวเสน อนฺโธ ภวิตฺวา (สฺยา.)] ตถาคตํ อกฺโกสิ ปริภาสิ.
‘‘ยถา, มหาราช, ชลิตปชฺชลิโต มหาอคฺคิกฺขนฺโธ สปฺปภาโส อุทกมาสชฺช อุปหตปฺปภาเตโช สีตโล กาฬโก ภวติ ปริปกฺกนิคฺคุณฺฑิผลสทิโส, เอวเมว โข, มหาราช, โชติปาโล มาณโว ปฺุวา สทฺโธ าณวิปุลสปฺปภาโส อสฺสทฺเธ อปฺปสนฺเน กุเล ปจฺจาชาโต, โส กุลวเสน อนฺโธ หุตฺวา ตถาคตํ อกฺโกสิ ปริภาสิ, อุปคนฺตฺวา จ พุทฺธคุณมฺาย เจฏกภูโต วิย อโหสิ, ชินสาสเน ปพฺพชิตฺวา อภิฺา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
ฉทฺทนฺตโชติปาลารพฺภปฺโห ฉฏฺโ.
๗. ฆฏิการปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส อาเวสนํ สพฺพํ เตมาสํ อากาสจฺฉทนํ อฏฺาสิ, น เทโวติวสฺสี’ติ. ปุน จ ภณิตํ ‘กสฺสปสฺส ตถาคตสฺส [ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส (ม. นิ. ๒.๒๘๙)] กุฏิ โอวสฺสตี’ติ. กิสฺส ปน, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคตสฺส เอวมุสฺสนฺนกุสลมูลสฺส [เอวรูปสฺส อุสฺสนฺนกุสลมูลสฺส (ก.)] กุฏิ โอวสฺสติ, ตถาคตสฺส นาม โส อานุภาโว อิจฺฉิตพฺโพ? ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส อาเวสนํ อโนวสฺสํ อากาสจฺฉทนํ อโหสิ, เตน หิ ‘ตถาคตสฺส กุฏิ โอวสฺสตี’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ตถาคตสฺส กุฏิ โอวสฺสติ, เตน หิ ‘ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส อาเวสนํ อโนวสฺสกํ อโหสิ อากาสจฺฉทน’นฺติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส อาเวสนํ สพฺพํ เตมาสํ อากาสจฺฉทนํ ¶ อฏฺาสิ, น เทโวติวสฺสี’ติ. ภณิตฺจ ‘กสฺสปสฺส ตถาคตสฺส กุฏิ โอวสฺสตี’ติ. ฆฏิกาโร, มหาราช, กุมฺภกาโร สีลวา กลฺยาณธมฺโม อุสฺสนฺนกุสลมูโล อนฺเธ ¶ ชิณฺเณ มาตาปิตโร โปเสติ, ตสฺส อสมฺมุขา อนาปุจฺฉาเยวสฺส ฆเร ติณํ หริตฺวา ภควโต กุฏึ ฉาเทสุํ, โส เตน ติณหรเณน อกมฺปิตํ อสฺจลิตํ สุสณฺิตํ วิปุลมสมํ ปีตึ ปฏิลภติ, ภิยฺโย โสมนสฺสฺจ อตุลํ อุปฺปาเทสิ ‘อโห วต เม ภควา โลกุตฺตโม สุวิสฺสตฺโถ’ติ, เตน ตสฺส ทิฏฺธมฺมิโก วิปาโก นิพฺพตฺโต. น หิ, มหาราช, ตถาคโต ตาวตเกน วิกาเรน จลติ.
‘‘ยถา, มหาราช, สิเนรุ คิริราชา อเนกสตสหสฺสวาตสมฺปหาเรนปิ น กมฺปติ น จลติ, มโหทธิ วรปฺปวรสาคโร อเนกสตนหุตมหาคงฺคาสตสหสฺเสหิปิ น ปูรติ น วิการมาปชฺชติ, เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต น ตาวตเกน วิกาเรน จลติ.
‘‘ยํ ปน, มหาราช, ตถาคตสฺส กุฏิ โอวสฺสติ, ตํ มหโต ชนกายสฺส อนุกมฺปาย. ทฺเวเม, มหาราช, อตฺถวเส สมฺปสฺสมานา ตถาคตา ¶ สยํ นิมฺมิตํ ปจฺจยํ นปฺปฏิเสวนฺติ, ‘อยํ อคฺคทกฺขิเณยฺโย สตฺถา’ติ ภควโต ปจฺจยํ ทตฺวา เทวมนุสฺสา สพฺพทุคฺคติโต ปริมุจฺจิสฺสนฺตีติ, ทสฺเสตฺวา วุตฺตึ ปริเยสนฺตีติ ‘มา อฺเ อุปวเทยฺยุ’นฺติ. อิเม ทฺเว อตฺถวเส สมฺปสฺสมานา ตถาคตา สยํ นิมฺมิตํ ปจฺจยํ นปฺปฏิเสวนฺติ. ยทิ, มหาราช, สกฺโก วา ตํ กุฏึ อโนวสฺสํ กเรยฺย พฺรหฺมา วา สยํ วา, สาวชฺชํ ภเวยฺย ตํ เยว กรณํ [การณํ (สี. ปี.)] สโทสํ สนิคฺคหํ, อิเม วิภูตํ [วิภูสํ (สี. ปี.)] กตฺวา โลกํ สมฺโมเหนฺติ อธิกตํ กโรนฺตีติ, ตสฺมา ตํ กรณํ วชฺชนียํ. น, มหาราช, ตถาคตา วตฺถุํ ยาจนฺติ, ตาย อวตฺถุยาจนาย อปริภาสิยา ภวนฺตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
ฆฏิการปฺโห สตฺตโม.
๘. พฺราหฺมณราชวาทปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ตถาคเตน ‘อหมสฺมิ, ภิกฺขเว, พฺราหฺมโณ ยาจโยโค’ติ. ปุน จ ภณิตํ ‘ราชาหมสฺมิ เสลา’ติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘อหมสฺมิ, ภิกฺขเว ¶ , พฺราหฺมโณ ยาจโยโค’ติ, เตน หิ ‘ราชาหมสฺมิ เสลา’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ตถาคเตน ภณิตํ ‘ราชาหมสฺมิ เสลา’ติ, เตน หิ ‘อหมสฺมิ, ภิกฺขเว, พฺราหฺมโณ ยาจโยโค’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. ขตฺติโย วา หิ ภเวยฺย พฺราหฺมโณ วา, นตฺถิ เอกาย ชาติยา ทฺเว วณฺณา นาม, อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘อหมสฺมิ, ภิกฺขเว, พฺราหฺมโณ ยาจโยโค’ติ, ปุน จ ภณิตํ ‘ราชาหมสฺมิ เสลา’ติ, ตตฺถ การณํ อตฺถิ, เยน การเณน ตถาคโต พฺราหฺมโณ จ ราชา จ โหตี’’ติ.
‘‘กึ ปน ตํ, ภนฺเต นาคเสน, การณํ, เยน การเณน ตถาคโต พฺราหฺมโณ จ ราชา จ โหติ’’? ‘‘สพฺเพ, มหาราช, ปาปกา ¶ อกุสลา ธมฺมา ตถาคตสฺส พาหิตา ปหีนา อปคตา พฺยปคตา อุจฺฉินฺนา ขีณา ขยํ ปตฺตา นิพฺพุตา อุปสนฺตา, ตสฺมา ตถาคโต ‘พฺราหฺมโณ’ติ วุจฺจติ.
‘‘พฺราหฺมโณ นาม สํสยมเนกํสํ วิมติปถํ วีติวตฺโต, ภควาปิ, มหาราช, สํสยมเนกํสํ วิมติปถํ วีติวตฺโต, เตน การเณน ตถาคโต ‘พฺราหฺมโณ’ติ วุจฺจติ.
‘‘พฺราหฺมโณ นาม สพฺพภวคติโยนินิสฺสโฏ มลรชคตวิปฺปมุตฺโต อสหาโย, ภควาปิ, มหาราช, สพฺพภวคติโยนินิสฺสโฏ มลรชคตวิปฺปมุตฺโต อสหาโย, เตน การเณน ตถาคโต ‘พฺราหฺมโณ’ติ วุจฺจติ.
‘‘พฺราหฺมณา นาม อคฺคเสฏฺวรปวรทิพฺพวิหารพหุโล, ภควาปิ, มหาราช, อคฺคเสฏฺวรปวรทิพฺพวิหารพหุโล, เตนาปิ กปรเณน ตถาคโต ‘‘พฺราหฺมโณ’’ติ วุจฺจติ.
‘‘พฺราหฺมโณ นาม อชฺฌยน อชฺฌาปน ทานปฺปฏิคฺคหณ ทม สํยมนิยมปุพฺพมนุสิฏฺิ ปเวณิ วํส ธรโณ, ภควาปิ, มหาราช, อชฺฌยน อชฺฌาปน ทานปฺปฏิคฺคหณ ทม สํยม นิยม ปุพฺพชินาจิณฺณ อนุสิฏฺิ ¶ ปเวณิ วํส ธรโณ เตนาปิ การเณน ตถาคโต ‘พฺราหฺมโณ’ติ วุจฺจติ.
‘‘พฺราหฺมโณ นาม พฺรหาสุขวิหารชฺฌานฌายี; ภควาปิ, มหาราช, พฺรหาสุขวิหารชฺฌานฌายี, เตนาปิ การเณน ตถาคโต ‘พฺราหฺมโณ’ติ วุจฺจติ.
‘‘พฺราหฺมโณ ¶ นาม สพฺพภวาภวคตีสุ อภิชาติวตฺติตมนุจริตํ ชานาติ, ภควาปิ, มหาราช, สพฺพภวาภวคตีสุ อภิชาติวตฺติตมนุจริตํ ชานาติ, เตนาปิ การเณน ตถาคโต ‘พฺราหฺมโณ’ติ วุจฺจติ.
‘‘พฺราหฺมโณติ, มหาราช, ภควโต เนตํ นามํ มาตรา กตํ, น ปิตรา กตํ, น ภาตรา กตํ, น ภคินิยา กตํ, น มิตฺตามจฺเจหิ กตํ, น าติสาโลหิเตหิ กตํ, น สมณพฺราหฺมเณหิ กตํ, น เทวตาหิ กตํ, วิโมกฺขนฺติกเมตํ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ นามํ โพธิยา เยว มูเล มารเสนํ วิธมิตฺวา อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ¶ ธมฺเม พาเหตฺวา สห สพฺพฺุตาณสฺส ปฏิลาภา ปฏิลทฺธปาตุภูตสมุปฺปนฺนมตฺเต สจฺฉิกา ปฺตฺติ ยทิทํ พฺราหฺมโณติ, เตน การเณน ตถาคโต วุจฺจติ ‘พฺราหฺมโณ’’’ติ.
‘‘เกน ปน, ภนฺเต นาคเสน, การเณน ตถาคโต วุจฺจติ ‘ราชา’’’ติ? ‘‘ราชา นาม, มหาราช, โย โกจิ รชฺชํ กาเรติ โลกมนุสาสติ, ภควาปิ, มหาราช, ทสสหสฺสิยา โลกธาตุยา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรติ, สเทวกํ โลกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ อนุสาสติ, เตนาปิ การเณน ตถาคโต วุจฺจติ ‘ราชา’ติ.
‘‘ราชา นาม, มหาราช, สพฺพชนมนุสฺเส อภิภวิตฺวา นนฺทยนฺโต าติสงฺฆํ, โสจยนฺโต อมิตฺตสงฺฆํ, มหติมหายสสิริหรํ ถิรสารทณฺฑํ อนูนสตสลากาลงฺกตํ อุสฺสาเปติ ปณฺฑรวิมลเสตจฺฉตฺตํ, ภควาปิ, มหาราช, โสจยนฺโต มารเสนํ มิจฺฉาปฏิปนฺนํ, นนฺทยนฺโต เทวมนุสฺเส สมฺมาปฏิปนฺเน ทสสหสฺสิยา ¶ โลกธาตุยา มหติมหายสสิริหรํ ขนฺติถิรสารทณฺฑํ าณวรสตสลากาลงฺกตํ อุสฺสาเปติ อคฺควรวิมุตฺติปณฺฑรวิมลเสตจฺฉตฺตํ, เตนาปิ การเณน ตถาคโต วุจฺจติ ‘ราชา’ติ.
‘‘ราชา นาม อุปคตสมฺปตฺตชนานํ พหูนมภิวนฺทนีโย ภวติ, ภควาปิ, มหาราช, อุปคตสมฺปตฺตเทวมนุสฺสานํ พหูนมภิวนฺทนีโย, เตนาปิ การเณน ตถาคโต วุจฺจติ ‘ราชา’ติ.
‘‘ราชา นาม ยสฺส กสฺสจิ อาราธกสฺส ปสีทิตฺวา วริตํ วรํ ทตฺวา กาเมน ตปฺปยติ, ภควาปิ, มหาราช, ยสฺส กสฺสจิ กาเยน วาจาย มนสา อาราธกสฺส ปสีทิตฺวา วริตํ วรมนุตฺตรํ สพฺพทุกฺขปริมุตฺตึ ทตฺวา อเสสกามวเรน จ ตปฺปยติ, เตนาปิ การเณน ตถาคโต วุจฺจติ ‘ราชา’ติ.
‘‘ราชา ¶ นาม อาณํ วีติกฺกมนฺตํ วิครหติ ฌาเปติ [ชาเปติ (สี. ปี.)] ธํเสติ, ภควโตปิ, มหาราช, สาสนวเร อาณํ อติกฺกมนฺโต อลชฺชี มงฺกุภาเวน โอฺาโต หีฬิโต ครหิโต ภวิตฺวา วชฺชติ ชินสาสนวรมฺหา, เตนาปิ การเณน ตถาคโต วุจฺจติ ‘ราชา’ติ.
‘‘ราชา ¶ นาม ปุพฺพกานํ ธมฺมิกานํ ราชูนํ ปเวณิมนุสิฏฺิยา ธมฺมาธมฺมมนุทีปยิตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ การยมาโน ปิหยิโต ปิโย ปตฺถิโต ภวติ ชนมนุสฺสานํ, จิรํ ราชกุลวํสํ ปยติ ธมฺมคุณพเลน, ภควาปิ, มหาราช, ปุพฺพกานํ สยมฺภูนํ ปเวณิมนุสิฏฺิยา ธมฺมาธมฺมมนุทีปยิตฺวา ธมฺเมน โลกมนุสาสมาโน ปิหยิโต ปิโย ปตฺถิโต เทวมนุสฺสานํ จิรํ สาสนํ ปวตฺเตติ ธมฺมคุณพเลน, เตนาปิ การเณน ตถาคโต วุจฺจติ ‘ราชา’ติ. เอวมเนกวิธํ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน ตถาคโต พฺราหฺมโณปิ ภเวยฺย ราชาปิ ภเวยฺย, สุนิปุโณ ภิกฺขุ กปฺปมฺปิ โน นํ สมฺปาเทยฺย, กึ อติพหุํ ภณิเตน, สํขิตฺตํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพ’’นฺติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
พฺราหฺมณราชวาทปฺโห อฏฺโม.
๙. คาถาภิคีตโภชนกถาปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา –
‘‘‘คาถาภิคีตํ เม อโภชเนยฺยํ [อโภชนียํ (ก.) สุ. นิ. ๘๑ ปสฺสิตพฺพํ], สมฺปสฺสตํ พฺราหฺมณ เนส ธมฺมา;
คาถาภิคีตํ ปนุทนฺติ พุทฺธา, ธมฺเม สตี พฺราหฺมณ วุตฺติเรสา’ติ.
‘‘ปุน จ ภควา ปริสาย ธมฺมํ เทเสนฺโต กเถนฺโต อนุปุพฺพิกถํ ปมํ ตาว ทานกถํ กเถติ, ปจฺฉา สีลกถํ, ตสฺส ภควโต สพฺพโลกิสฺสรสฺส ภาสิตํ สุตฺวา เทวมนุสฺสา อภิสงฺขริตฺวา ทานํ เทนฺติ, ตสฺส ตํ อุยฺโยชิตํ ทานํ สาวกา ปริภฺุชนฺติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ภณิตํ ‘คาถาภิคีตํ เม อโภชเนยฺย’นฺติ, เตน หิ ‘ภควา ทานกถํ ปมํ กเถตี’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ทานกถํ ปมํ กเถติ, เตน หิ ‘คาถาภิคีตํ เม อโภชเนยฺย’นฺติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. กึ การณํ? โย โส, ภนฺเต, ทกฺขิเณยฺโย คิหีนํ ปิณฺฑปาตทานสฺส วิปากํ กเถติ, ตสฺส เต ธมฺมกถํ สุตฺวา ปสนฺนจิตฺตา อปราปรํ ¶ ทานํ ¶ เทนฺติ, เย ตํ ทานํ ปริภฺุชนฺติ, สพฺเพ เต คาถาภิคีตํ ปริภฺุชนฺติ. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห นิปุโณ คมฺภีโร ตปานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘คาถาภิคีตํ เม อโภชเนยฺยํ, สมฺปสฺสตํ พฺราหฺมณ เนส ธมฺโม. คาถาภิคีตํ ปนุทนฺติ พุทฺธา, ธมฺเม สตี พฺราหฺมณ วุตฺติเรสา’ติ, กเถติ จ ภควา ปมํ ทานกถํ, ตฺจ ปน กิริยํ สพฺเพสํ ตถาคตานํ ปมํ ทานกถาย, ตตฺถ จิตฺตํ อภิรมาเปตฺวา ปจฺฉา สีเล นิโยเชนฺติ. ยถา, มหาราช, มนุสฺสา ตรุณทารกานํ ปมํ ตาว ¶ กีฬาภณฺฑกานิ เทนฺติ. เสยฺยถิทํ, วงฺกกํ ฆฏิกํ จิงฺคุลกํ ปตฺตาฬฺหกํ รถกํ ธนุกํ, ปจฺฉา เต สเก สเก กมฺเม นิโยเชนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต ปมํ ทานกถาย จิตฺตํ อภิรมาเปตฺวา ปจฺฉา สีเล นิโยเชติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ภิสกฺโก นาม อาตุรานํ ปมํ ตาว จตูหปฺจาหํ เตลํ ปาเยติ พลกรณาย สิเนหนาย, ปจฺฉา วิเรเจติ. เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต ปมํ ตาว ทานกถาย จิตฺตํ อภิรมาเปตฺวา ปจฺฉา สีเล นิโยเชติ. ทายกานํ, มหาราช, ทานปตีนํ จิตฺตํ มุทุกํ โหติ มทฺทวํ สินิทฺธํ, เตน เต ทานเสตุสงฺกเมน ทานนาวาย สํสารสาครปารมนุคจฺฉนฺติ, ตสฺมา เตสํ ปมํ กมฺมภูมิมนุสาสติ, น จ เกนจิ [เตน (สี. ปี.)] วิฺตฺติมาปชฺชตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘วิฺตฺติ’นฺติ ยํ วเทสิ, กติ ปน ตา วิฺตฺติโย’’ติ? ‘‘ทฺเวมา, มหาราช, วิฺตฺติโย กายวิฺตฺติ วจีวิฺตฺติ จาติ. ตตฺถ อตฺถิ กายวิฺตฺติ สาวชฺชา, อตฺถิ อนวชฺชา. อตฺถิ วจีวิฺตฺติ สาวชฺชา, อตฺถิ อนวชฺชา.
‘‘กตมา กายวิฺตฺติ สาวชฺชา? อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ กุลานิ อุปคนฺตฺวา อโนกาเส ิโต านํ ภฺชติ, อยํ กายวิฺตฺติ สาวชฺชา. ตาย จ วิฺาปิตํ อริยา น ปริภฺุชนฺติ, โส จ ปุคฺคโล อริยานํ สมเย โอฺาโต โหติ หีฬิโต ขีฬิโต ครหิโต ปริภูโต อจิตฺตีกโต, ภินฺนาชีโวตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ กุลานิ อุปคนฺตฺวา อโนกาเส ิโต คลํ ปณาเมตฺวา โมรเปกฺขิตํ เปกฺขติ ‘เอวํ อิเม ปสฺสนฺตี’ติ, เตน จ เต ปสฺสนฺติ. อยมฺปิ กายวิฺตฺติ สาวชฺชา. ตาย จ วิฺาปิตํ อริยา น ปริภฺุชนฺติ, โส จ ปุคฺคโล อริยานํ ¶ สมเย โอฺาโต โหติ หีฬิโต ขีฬิโต ครหิโต ปริภูโต อจิตฺตีกโต, ภินฺนาชีโวตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ หนุกาย วา ¶ ภมุกาย วา องฺคุฏฺเน วา วิฺาเปติ, อยมฺปิ กายวิฺตฺติ สาวชฺชา, ตาย จ วิฺาปิตํ อริยา น ปริภฺุชนฺติ, โส จ ปุคฺคโล อริยานํ สมเย โอฺาโต โหติ หีฬิโต ขีฬิโต ครหิโต ปริภูโต อจิตฺตีกโต, ภินฺนาชีโวตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.
‘‘กตมา กายวิฺตฺติ อนวชฺชา? อิธ ภิกฺขุ กุลานิ อุปคนฺตฺวา สโต สมาหิโต สมฺปชาโน าเนปิ อฏฺาเนปิ ยถานุสิฏฺึ คนฺตฺวา าเน ติฏฺติ, ทาตุกาเมสุ ติฏฺติ, อทาตุกาเมสุ ปกฺกมติ. อยํ กายวิฺตฺติ อนวชฺชา, ตาย จ วิฺาปิตํ อริยา ปริภฺุชนฺติ, โส จ ปุคฺคโล อริยานํ สมเย วณฺณิโต โหติ ถุโต ปสตฺโถ สลฺเลขิตาจาโร, ปริสุทฺธาชีโวตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘น เว ยาจนฺติ สปฺปฺา, ธีโร จ เวทิตุมรหติ [อริยา ครหนฺติ ยาจนํ (สี. ปี.)];
อุทฺทิสฺส อริยา ติฏฺนฺติ, เอสา อริยาน ยาจนา’ติ.
‘‘กตมา วจีวิฺตฺติ สาวชฺชา? อิธ, มหาราช, ภิกฺขุ วาจาย พหุวิธํ วิฺาเปติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ, อยํ วจีวิฺตฺติ สาวชฺชา, ตาย จ วิฺาปิตํ อริยา น ปริภฺุชนฺติ, โส จ ปุคฺคโล อริยานํ สมเย โอฺาโต โหติ หีฬิโต ขีฬิโต ครหิโต ปริภูโต อจิตฺตีกโต, ภินฺนาชีโวตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ ปเรสํ สาเวนฺโต เอวํ ภณติ ‘อิมินา เม อตฺโถ’ติ, ตาย จ วาจาย ปเรสํ สาวิตาย ตสฺส ลาโภ อุปฺปชฺชติ, อยมฺปิ วจีวิฺตฺติ สาวชฺชา, ตาย จ วิฺาปิตํ อริยา ¶ น ปริภฺุชนฺติ, โส จ ปุคฺคโล อริยานํ สมเย โอฺาโต โหติ หีฬิโต ขีฬิโต ครหิโต ปริภูโต อจิตฺตีกโต, ภินฺนาชีโวตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ วจีวิปฺผาเรน ปริสาย สาเวติ ‘เอวฺจ เอวฺจ ¶ ภิกฺขูนํ ทาตพฺพ’นฺติ, ตฺจ เต วจนํ สุตฺวา ปริกิตฺติตํ อภิหรนฺติ, อยมฺปิ วจีวิฺตฺติ สาวชฺชา, ตาย จ วิฺาปิตํ อริยา น ปริภฺุชนฺติ, โส จ ปุคฺคโล อริยานํ สมเย โอฺาโต โหติ หีฬิโต ขีฬิโต ¶ ครหิโต ปริภูโต อจิตฺตีกโต, ภินฺนาชีโวตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.
‘‘นนุ, มหาราช, เถโรปิ สาริปุตฺโต อตฺถงฺคเต สูริเย รตฺติภาเค คิลาโน สมาโน เถเรน มหาโมคฺคลฺลาเนน เภสชฺชํ ปุจฺฉียมาโน วาจํ ภินฺทิ, ตสฺส เตน วจีเภเทน เภสชฺชํ อุปฺปชฺชิ. อถ เถโร สาริปุตฺโต ‘วจีเภเทน เม อิมํ เภสชฺชํ อุปฺปนฺนํ, มา เม อาชีโว ภิชฺชี’ติ อาชีวเภทภยา ตํ เภสชฺชํ ปชหิ น อุปชีวิ. เอวมฺปิ วจีวิฺตฺติ สาวชฺชา, ตาย จ วิฺาปิตํ อริยา น ปริภฺุชนฺติ. โส จ ปุคฺคโล อริยานํ สมเย โอฺาโต โหติ หีฬิโต ขีฬิโต ครหิโต ปริภูโต อจิตฺตีกโต, ภินฺนาชีโวตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ.
‘‘กตมา วจีวิฺตฺติ อนวชฺชา? อิธ, มหาราช, ภิกฺขุ สติ ปจฺจเย เภสชฺชํ วิฺาเปติ าติปวาริเตสุ กุเลสุ, อยํ วจีวิฺตฺติ อนวชฺชา, ตาย จ วิฺาปิตํ อริยา ปริภฺุชนฺติ, โส จ ปุคฺคโล อริยานํ สมเย วณฺณิโต โหติ โถมิโต ปสตฺโถ, ปริสุทฺธาชีโวตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ, อนุมโต ตถาคเตหิ อรหนฺเตหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ.
‘‘ยํ ปน, มหาราช, ตถาคโต กสิภารทฺวาชสฺส พฺราหฺมณสฺส โภชนํ ปชหิ [ปชหติ (ก.)], ตํ อาเวนวินิเวนกฑฺฒนนิคฺคหปฺปฏิกมฺเมน นิพฺพตฺติ, ตสฺมา ตถาคโต ตํ ปิณฺฑปาตํ ปฏิกฺขิปิ น อุปชีวี’’ติ.
‘‘สพฺพกาลํ, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคเต ภฺุชมาเน เทวตา ทิพฺพํ โอชํ ปตฺเต อากิรนฺติ, อุทาหุ ‘สูกรมทฺทเว จ มธุปายาเส จา’ติ ทฺวีสุ เยว ปิณฺฑปาเตสุ อากิรึสู’’ติ? ‘‘สพฺพกาลํ, มหาราช, ตถาคเต ภฺุชมาเน เทวตา ทิพฺพํ โอชํ คเหตฺวา อุปติฏฺิตฺวา อุทฺธฏุทฺธเฏ อาโลเป อากิรนฺติ.
‘‘ยถา ¶ , มหาราช, รฺโ สูโท รฺโ ภฺุชนฺตสฺส สูปํ คเหตฺวา อุปติฏฺิตฺวา กพเฬ กพเฬ สูปํ อากิรติ, เอวเมว โข, มหาราช, สพฺพกาลํ ตถาคเต ภฺุชมาเน เทวตา ทิพฺพํ โอชํ คเหตฺวา อุปติฏฺิตฺวา อุทฺธฏุทฺธเฏ อาโลเป ทิพฺพํ โอชํ อากิรนฺติ. เวรฺชายมฺปิ, มหาราช ¶ ¶ , ตถาคตสฺส สุกฺขยวปุลเก [สุกฺขยวมูลเก (ก.)] ภฺุชมานสฺส เทวตา ทิพฺเพน โอเชน เตมยิตฺวา เตมยิตฺวา อุปสํหรึสุ, เตน ตถาคตสฺส กาโย อุปจิโต อโหสี’’ติ. ‘‘ลาภา วต, ภนฺเต นาคเสน, ตาสํ เทวตานํ, ยา ตถาคตสฺส สรีรปฺปฏิชคฺคเน สตตํ สมิตํ อุสฺสุกฺกมาปนฺนา. สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
คาถาภิคีตโภชนกถาปฺโห นวโม.
๑๐. ธมฺมเทสนาย อปฺโปสฺสุกฺกปฺโห
๑๐. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘ตถาคเตน จตูหิ จ อสงฺขฺเยยฺเยหิ กปฺปานํ สตสหสฺเสน จ เอตฺถนฺตเร สพฺพฺุตาณํ ปริปาจิตํ มหโต ชนกายสฺส สมุทฺธรณายา’ติ. ปุน จ ‘สพฺพฺุตํ ปตฺตสฺส อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมิ, โน ธมฺมเทสนายา’ติ.
‘‘ยถา นาม, ภนฺเต นาคเสน, อิสฺสาโส วา อิสฺสาสนฺเตวาสี วา พหุเก ทิวเส สงฺคามตฺถาย อุปาสนํ สิกฺขิตฺวา สมฺปตฺเต มหายุทฺเธ โอสกฺเกยฺย, เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคเตน จตูหิ จ อสงฺขฺเยยฺเยหิ กปฺปานํ สตสหสฺเสน จ เอตฺถนฺตเร สพฺพฺุตาณํ ปริปาเจตฺวา มหโต ชนกายสฺส สมุทฺธรณาย สพฺพฺุตํ ปตฺเตน ธมฺมเทสนาย โอสกฺกิตํ.
‘‘ยถา วา ปน, ภนฺเต นาคเสน, มลฺโล วา มลฺลนฺเตวาสี วา พหุเก ทิวเส นิพฺพุทฺธํ สิกฺขิตฺวา สมฺปตฺเต มลฺลยุทฺเธ โอสกฺเกยฺย, เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคเตน จตูหิ จ อสงฺขฺเยยฺเยหิ กปฺปานํ สตสหสฺเสน จ เอตฺถนฺตเร สพฺพฺุตาณํ ปริปาเจตฺวา มหโต ชนกายสฺส สมุทฺธรณาย สพฺพฺุตํ ปตฺเตน ธมฺมเทสนาย โอสกฺกิตํ.
‘‘กึ นุ ¶ โข, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคเตน ภยา โอสกฺกิตํ, อุทาหุ อปากฏตาย โอสกฺกิตํ, อุทาหุ ทุพฺพลตาย โอสกฺกิตํ, อุทาหุ อสพฺพฺุตาย ¶ โอสกฺกิตํ, กึ ตตฺถ การณํ, อิงฺฆ เม ตฺวํ การณํ พฺรูหิ กงฺขาวิตรณาย. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคเตน จตูหิ จ อสงฺขฺเยยฺเยหิ กปฺปานํ สตสหสฺเสน จ เอตฺถนฺตเร สพฺพฺุตาณํ ปริปาจิตํ มหโต ชนกายสฺส สมุทฺธรณาย, เตน หิ ‘สพฺพฺุตํ ปตฺตสฺส อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมิ, โน ธมฺมเทสนายา’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ สพฺพฺุตํ ปตฺตสฺส อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมิ ¶ โน ธมฺมเทสนาย, เตน หิ ‘ตถาคเตน จตูหิ จ อสงฺขฺเยยฺเยติ กปฺปานํ สตสหสฺเสน จ เอตฺถนฺตเร สพฺพฺุตาณํ ปริปาจิตํ มหโต ชนกายสฺส สมุทฺธรณายา’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห คมฺภีโร ทุนฺนิพฺเพโ ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ปริปาจิตฺจ, มหาราช, ตถาคเตน จตูหิ จ อสงฺขฺเยยฺเยหิ กปฺปานํ สตสหสฺเสน จ เอตฺถนฺตเร สพฺพฺุตาณํ มหโต ชนกายสฺส สมุทฺธรณาย, ปตฺตสพฺพฺุตสฺส จ อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมิ, โน ธมฺมเทสนาย. ตฺจ ปน ธมฺมสฺส คมฺภีรนิปุณทุทฺทสทุรนุโพธสุขุมทุปฺปฏิเวธตํ สตฺตานฺจ อาลยารามตํ สกฺกายทิฏฺิยา ทฬฺหสุคฺคหิตตฺจ ทิสฺวา ‘กึ นุ โข, กถํ นุ โข’ติ อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมิ, โน ธมฺมเทสนาย, สตฺตานํ ปฏิเวธจินฺตนมานสํ เยเวตํ.
‘‘ยถา, มหาราช, ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต อเนกพฺยาธิปริปีฬิตํ นรํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ จินฺตยติ ‘เกน นุ โข อุปกฺกเมน กตเมน วา เภสชฺเชน อิมสฺส พฺยาธิ วูปสเมยฺยา’ติ, เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคตสฺส สพฺพกิเลสพฺยาธิปริปีฬิตํ ชนํ ธมฺมสฺส จ คมฺภีรนิปุณทุทฺทสทุรนุโพธสุขุมทุปฺปฏิเวธตํ ทิสฺวา ‘กึ นุ โข, กถํ นุ โข’ติ อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมิ, โน ธมฺมเทสนาย, สตฺตานํ ¶ ปฏิเวธจินฺตนมานสํ เยเวตํ.
‘‘ยถา, มหาราช, รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาวสิตฺตสฺส โทวาริกอนีกฏฺปาริสชฺชเนคมภฏพล [พลตฺถ (สี. ปี.)] อมจฺจราชฺราชูปชีวิเน ชเน ทิสฺวา เอวํ จิตฺตมุปฺปชฺเชยฺย ¶ ‘กึ นุ โข, กถํ นุ โข อิเม สงฺคณฺหิสฺสามี’ติ, เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคตสฺส ธมฺมสฺส คมฺภีรนิปุณทุทฺทสทุรนุโพธสุขุมทุปฺปฏิเวธตํ สตฺตานฺจ อาลยารามตํ สกฺกายทิฏฺิยา ทฬฺหสุคฺคหิตตฺจ ทิสฺวา ‘กึ นุ โข, กถํ นุ โข’ติ อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมิ, โน ธมฺมเทสนาย, สตฺตานํ ปฏิเวธจินฺตนมานสํ เยเวตํ.
‘‘อปิ จ, มหาราช, สพฺเพสํ ตถาคตานํ ธมฺมตา เอสา, ยํ พฺรหฺมุนา อายาจิตา ธมฺมํ เทเสนฺติ. ตตฺถ ปน กึ การณํ? เย เตน สมเยน มนุสฺสา ตาปสปริพฺพาชกา สมณพฺราหฺมณา, สพฺเพเต พฺรหฺมเทวตา โหนฺติ พฺรหฺมครุกา พฺรหฺมปรายณา, ตสฺมา ตสฺส พลวโต ยสวโต าตสฺส ปฺาตสฺส อุตฺตรสฺส อจฺจุคฺคตสฺส โอนมเนน สเทวโก โลโก โอนมิสฺสติ โอกปฺเปสฺสติ ¶ อธิมุจฺจิสฺสตีติ อิมินา จ, มหาราช, การเณน ตถาคตา พฺรหฺมุนา อายาจิตา ธมฺมํ เทเสนฺติ.
‘‘ยถา, มหาราช, โกจิ ราชา วา ราชมหามตฺโต วา ยสฺส โอนมติ อปจิตึ กโรติ, พลวตรสฺส ตสฺส โอนมเนน อวเสสา ชนตา โอนมติ อปจิตึ กโรติ, เอวเมว โข, มหาราช, พฺรหฺเม โอนมิเต ตถาคตานํ สเทวโก โลโก โอนมิสฺสติ, ปูชิตปูชโก มหาราช, โลโก, ตสฺมา โส พฺรหฺมา สพฺเพสํ ตถาคตานํ อายาจติ ธมฺมเทสนาย, เตน จ การเณน ตถาคตา พฺรหฺมุนา อายาจิตา ธมฺมํ เทเสนฺตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, สุนิพฺเพิโต ปฺโห, อติภทฺรกํ เวยฺยากรณํ, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
ธมฺมเทสนาย อปฺโปสฺสุกฺกปฺโห ทสโม.
๑๑. อาจริยานาจริยปฺโห
๑๑. ‘‘ภนฺเต, ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา –
‘‘‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชติ;
สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโล’ติ [มหาว. ๑๑].
‘‘ปุน จ ภณิตํ ‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อาฬาโร กาลาโม อาจริโย เม สมาโน อนฺเตวาสึ มํ สมานํ อตฺตนา สมสมํ เปสิ, อุฬาราย ¶ จ มํ ปูชาย ปูเชสี’ติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคเตน ภณิตํ ‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชติ. สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโล’ติ, เตน หิ ‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อาฬาโร กาลาโม อาจริโย เม สมาโน อนฺเตวาสึ มํ สมานํ อตฺตนา สมสมํ เปสี’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา. ยทิ ตถาคเตน ภณิตํ ‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อาฬาโร กาลาโม อาจริโย เม สมาโน อนฺเตวาสึ มํ สมานํ อตฺตนา สมสมํ เปสี’ติ, เตน หิ ‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชติ. สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโล’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉา. อยมฺปิ อุภโต โกฏิโก ปฺโห ตวานุปฺปตฺโต, โส ตยา นิพฺพาหิตพฺโพ’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ ¶ , มหาราช, ตถาคเตน ‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชติ. สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโล’ติ, ภณิตฺจ ‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อาฬาโร กาลาโม อาจริโย เม สมาโน อนฺเตวาสึ มํ สมานํ อตฺตนา สมสมํ เปสิ, อุฬาราย จ มํ ปูชาย ปูเชสี’ติ.
‘‘ตฺจ ปน วจนํ ปุพฺเพว สมฺโพธา อนภิสมฺพุทฺธสฺส โพธิสตฺตสฺเสว สโต อาจริยภาวํ สนฺธาย ภาสิตํ.
‘ปฺจิเม, มหาราช, ปุพฺเพว สมฺโพธา อนภิสมฺพุทฺธสฺส โพธิสตฺตสฺส สโต อาจริยา, เยหิ อนุสิฏฺโ โพธิสตฺโต ตตฺถ ตตฺถ ทิวสํ วีตินาเมสิ. กตเม ปฺจ? เย เต, มหาราช, อฏฺ พฺราหฺมณา ชาตมตฺเต โพธิสตฺเต ลกฺขณานิ ¶ ปริคฺคณฺหึสุ, เสยฺยถีทํ, ราโม ธโช ลกฺขโณ มนฺตี ยฺโ สุยาโม สุโภโช สุทตฺโตติ. เต ตสฺส โสตฺถึ ปเวทยิตฺวา รกฺขากมฺมํ อกํสุ, เต จ ปมํ อาจริยา.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, โพธิสตฺตสฺส ปิตา สุทฺโธทโน ราชา ยํ เตน สมเยน อภิชาตํ อุทิจฺจชาติมนฺตํ ปทกํ เวยฺยากรณํ ฉฬงฺควนฺตํ สพฺพมิตฺตํ นาม พฺราหฺมณํ อุปเนตฺวา โสวณฺเณน ภิงฺคาเรน [ภิงฺกาเรน (สี. ปี.)] อุทกํ โอโณเชตฺวา ‘อิมํ กุมารํ สิกฺขาเปหี’ติ อทาสิ, อยํ ทุติโย อาจริโย.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, ยา สา เทวตา โพธิสตฺตํ สํเวเชสี, ยสฺสา วจนํ สุตฺวา โพธิสตฺโต สํวิคฺโค อุพฺพิคฺโค ตสฺมึ เยว ขเณ เนกฺขมฺมํ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิ, อยํ ตติโย อาจริโย.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อาฬาโร กาลาโม อากิฺจฺายตนสฺส ปริกมฺมํ อาจิกฺขิ, อยํ จตุตฺโถ อาจริโย.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อุทโก รามปุตฺโต เนวสฺานาสฺายตนสฺส ปริกมฺมํ อาจิกฺขิ [อาจิกฺขติ (ก.)], อยํ ปฺจโม อาจริโย. อิเม โข, มหาราช, ปุพฺเพว สมฺโพธา อนภิสมฺพุทฺธสฺส โพธิสตฺตสฺส สโต ปฺจ อาจริยา. เต จ ปน อาจริยา โลกิเย ธมฺเม. อิมสฺมิฺจ ปน, มหาราช, โลกุตฺตเร ธมฺเม สพฺพฺุตาณปฺปฏิเวธาย นตฺถิ ตถาคตสฺส อนุตฺตโร อนุสาสโก, สยมฺภู ¶ , มหาราช, ตถาคโต อนาจริยโก, ตสฺมา การณา ตถาคเตน ภณิตํ ‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชติ. สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโล’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
อาจริยานาจริยปฺโห เอกาทสโม.
สนฺถววคฺโค ปฺจโม.
อิมสฺมึ วคฺเค เอกาทส ปฺโห.
เมณฺฑกปฺโห นิฏฺิโต.
๕. อนุมานปฺโห
๑. พุทฺธวคฺโค
๑. ทฺวินฺนํ พุทฺธานํ อนุปฺปชฺชมานปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺโธ อปุพฺพํ อจริมํ ¶ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ. เทเสนฺตา จ, ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพปิ ตถาคตา สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺเม เทเสนฺติ, กถยมานา จ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ กเถนฺติ, สิกฺขาเปนฺตา จ ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขาเปนฺติ, อนุสาสมานา จ อปฺปมาทปฺปฏิปตฺติยํ อนุสาสนฺติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพสมฺปิ ตถาคตานํ เอกา เทสนา เอกา กถา เอกา สิกฺขา เอกา อนุสิฏฺิ, เกน การเณน ทฺเว ตถาคตา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ? เอเกนปิ ตาว พุทฺธุปฺปาเทน อยํ โลโก โอภาสชาโต, ยทิ ทุติโย พุทฺโธ ภเวยฺย, ทฺวินฺนํ ปภาย อยํ โลโก ภิยฺโยโสมตฺตาย โอภาสชาโต ภเวยฺย, โอวทมานา จ ทฺเว ตถาคตา สุขํ โอวเทยฺยุํ, อนุสาสมานา จ สุขํ อนุสาเสยฺยุํ, ตตฺถ เม การณํ พฺรูหิ, ยถาหํ นิสฺสํสโย ภเวยฺย’’นฺติ.
‘‘อยํ, มหาราช, ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกพุทฺธธารณี, เอกสฺเสว ตถาคตสฺส คุณํ ธาเรติ, ยทิ ทุติโย พุทฺโธ อุปฺปชฺเชยฺย, นายํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ ธาเรยฺย, จเลยฺย กมฺเปยฺย นเมยฺย โอนเมยฺย วินเมยฺย วิกิเรยฺย วิธเมยฺย วิทฺธํเสยฺย, น านมุปคจฺเฉยฺย.
‘‘ยถา, มหาราช, นาวา เอกปุริสสนฺธารณี [เอกปุริสสนฺตารณี (สี. ปี.)] ภเวยฺย, เอกสฺมึ ปุริเส อภิรูฬฺเห สา นาวา สมุปาทิกา [สมุทกา (ก.)] ภเวยฺย. อถ ทุติโย ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ตาทิโส อายุนา วณฺเณน วเยน ปมาเณน กิสถูเลน สพฺพงฺคปจฺจงฺเคน, โส ตํ นาวํ อภิรูเหยฺย, อปิ นุ สา, มหาราช, นาวา ¶ ทฺวินฺนมฺปิ ธาเรยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, จเลยฺย กมฺเปยฺย นเมยฺย โอนเมยฺย วินเมยฺย วิกิเรยฺย วิธเมยฺย วิทฺธํเสยฺย, น านมุปคจฺเฉยฺย, โอสีเทยฺย อุทเก’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อยํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ ¶ เอกพุทฺธธารณี, เอกสฺเสว ตถาคตสฺส คุณํ ธาเรติ, ยทิ ทุติโย พุทฺโธ อุปฺปชฺเชยฺย, นายํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ ธาเรยฺย, จเลยฺย กมฺเปยฺย นเมยฺย โอนเมยฺย วินเมยฺย วิกิเรยฺย วิธเมยฺย วิทฺธํเสยฺย, น านมุปคจฺเฉยฺย.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ปุริโส ¶ ยาวทตฺถํ โภชนํ ภฺุเชยฺย ฉาเทนฺตํ ยาว กณฺมภิปูรยิตฺวา, โส ธาโต ปีณิโต ปริปุณฺโณ นิรนฺตโร ตนฺทิกโต อโนนมิตทณฺฑชาโต ปุนเทว ตตฺตกํ โภชนํ ภฺุเชยฺย, อปิ นุ โข โส, มหาราช, ปุริโส สุขิโต ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, สกึ ภุตฺโตว มเรยฺยา’’ติ [ภุตฺโต วเมยฺยาติ (ก.)]. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อยํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกพุทฺธธารณี, เอกสฺเสว ตถาคตสฺส คุณํ ธาเรติ, ยทิ ทุติโย พุทฺโธ อุปฺปชฺเชยฺย, นายํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ ธาเรยฺย, จเลยฺย กมฺเปยฺย นเมยฺย โอนเมยฺย วินเมยฺย วิกิเรยฺย วิธเมยฺย วิทฺธํเสยฺย, น านมุปคจฺเฉยฺยา’’ติ.
‘‘กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, อติธมฺมภาเรน ปถวี จลตี’’ติ? ‘‘อิธ, มหาราช, ทฺเว สกฏา รตนปริปูริตา ภเวยฺยุํ ยาว มุขสมา, เอกสฺมา สกฏโต รตนํ คเหตฺวา เอกสฺมึ สกเฏ อากิเรยฺยุํ, อปิ นุ โข ตํ, มหาราช, สกฏํ ทฺวินฺนมฺปิ สกฏานํ รตนํ ธาเรยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, นาภิปิ ตสฺส ผเลยฺย, อราปิ ตสฺส ภิชฺเชยฺยุํ, เนมิปิ ตสฺส โอปเตยฺย, อกฺโขปิ ตสฺส ภิชฺเชยฺยา’’ติ. ‘‘กึ นุ โข, มหาราช, อติรตนภาเรน สกฏํ ภิชฺชตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อติธมฺมภาเรน ปถวี จลติ.
‘‘อปิ จ, มหาราช, อิมํ การณํ พุทฺธพลปริทีปนาย โอสาริตํ. อฺมฺปิ ตตฺถ อภิรูปํ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ. ยทิ, มหาราช, ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เตสํ ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย ‘ตุมฺหากํ พุทฺโธ, อมฺหากํ พุทฺโธ’ติ, อุภโต ปกฺขชาตา ภเวยฺยุํ, ยถา, มหาราช, ทฺวินฺนํ พลวามจฺจานํ ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย ‘ตุมฺหากํ อมจฺโจ, อมฺหากํ อมจฺโจ’ติ, อุภโต ปกฺขชาตา โหนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, ยทิ ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เตสํ ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย ‘ตุมฺหากํ ¶ พุทฺโธ, อมฺหากํ พุทฺโธ’ติ, อุภโต ปกฺขชาตา ¶ ภเวยฺยุํ ¶ . อิทํ ตาว, มหาราช, เอกํ การณํ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ. ยทิ, มหาราช, ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ‘อคฺโค พุทฺโธ’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา ภเวยฺย, ‘เชฏฺโ พุทฺโธ’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา ภเวยฺย, ‘เสฏฺโ พุทฺโธ’ติ, ‘วิสิฏฺโ พุทฺโธ’ติ, ‘อุตฺตโม พุทฺโธ’ติ, ‘ปวโร พุทฺโธ’ติ, ‘อสโม พุทฺโธ’ติ, ‘อสมสโม พุทฺโธ’ติ, ‘อปฺปฏิโม พุทฺโธ’ติ, ‘อปฺปฏิภาโค พุทฺโธ’ติ, ‘อปฺปฏิปุคฺคโล พุทฺโธ’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา ภเวยฺย. อิทมฺปิ โข ตฺวํ, มหาราช, การณํ อตฺถโต สมฺปฏิจฺฉ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ.
‘‘อปิ จ โข, มหาราช, พุทฺธานํ ภควนฺตานํ สภาวปกติ เอสายํ, เอโก เยว พุทฺโธ โลเก อุปฺปชฺชติ. กสฺมา การณา? มหนฺตตาย สพฺพฺุพุทฺธคุณานํ. อฺมฺปิ, มหาราช, ยํ โลเก มหนฺตํ, ตํ เอกํ เยว โหติ. ปถวี, มหาราช, มหนฺตี, สา เอกา เยว. สาคโร มหนฺโต, โส เอโก เยว. สิเนรุ คิริราชา มหนฺโต, โส เอโก เยว. อากาโส มหนฺโต, โส เอโก เยว. สกฺโก มหนฺโต, โส เอโก เยว. มาโร มหนฺโต, โส เอโก เยว. มหาพฺรหฺมา มหนฺโต, โส เอโก เยว. ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ มหนฺโต, โส เอโก เยว โลกสฺมึ. ยตฺถ เต อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ อฺสฺส โอกาโส น โหติ, ตสฺมา, มหาราช, ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอโก เยว โลกสฺมึ อุปฺปชฺชตี’’ติ.
‘‘สุกถิโต, ภนฺเต นาคเสน, ปฺโห โอปมฺเมหิ การเณหิ. อนิปุโณเปตํ สุตฺวา อตฺตมโน ภเวยฺย, กึ ปน มาทิโส มหาปฺโ. สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
ทฺวินฺนํ พุทฺธานํ อนุปฺปชฺชมานปฺโห ปโม.
๒. โคตมิวตฺถทานปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา มาตุจฺฉาย มหาปชาปติยา โคตมิยา วสฺสิกสาฏิกาย ทียมานาย ‘สงฺเฆ โคตมิ เทหิ, สงฺเฆ เต ทินฺเน อหฺเจว ปูชิโต ภวิสฺสามิ ¶ สงฺโฆ จา’ติ. กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคโต สงฺฆรตนโต น ภาริโก น ครุโก น ทกฺขิเณยฺโย, ยํ ตถาคโต สกาย มาตุจฺฉาย สยํ ปิฺชิตํ [ปิจฺฉิตํ (สี. ปี.)] สยํ ลฺุจิตํ สยํ โปถิตํ สยํ กนฺติตํ สยํ วายิตํ วสฺสิกสาฏิกํ อตฺตโน ทียมานํ สงฺฆสฺส ทาเปสิ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคโต สงฺฆรตนโต อุตฺตโร ภเวยฺย อธิโก วา วิสิฏฺโ วา, ‘มยิ ทินฺเน มหปฺผลํ ภวิสฺสตี’ติ น ตถาคโต มาตุจฺฉาย สยํ ปิฺชิตํ สยํ ลฺุจิตํ สยํ โปถิตํ วสฺสิกสาฏิกํ สงฺเฆ ทาเปยฺย, ยสฺมา จ โข ภนฺเต นาคเสน ตถาคโต อตฺตานํ น ปตฺถยติ [น ปตฺถียติ (สี. ปี.)] น อุปนิสฺสยติ, ตสฺมา ตถาคโต มาตุจฺฉาย ตํ วสฺสิกสาฏิกํ สงฺฆสฺส ทาเปสี’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา มาตุจฺฉาย มหาปชาปติยา โคตมิยา วสฺสิกสาฏิกาย ทียมานาย ‘สงฺเฆ โคตมิ เทหิ, สงฺเฆ เต ทินฺเน อหฺเจว ปูชิโต ภวิสฺสามิ สงฺโฆ จา’ติ. ตํ ปน น อตฺตโน ปติมานนสฺส อวิปากตาย น อทกฺขิเณยฺยตาย, อปิ จ โข, มหาราช, หิตตฺถาย อนุกมฺปาย อนาคตมทฺธานํ สงฺโฆ มมจฺจเยน จิตฺตีกโต ภวิสฺสตีติ วิชฺชมาเน เยว คุเณ ปริกิตฺตยนฺโต เอวมาห ‘สงฺเฆ โคตมิ เทหิ, สงฺเฆ เต ทินฺเน อหฺเจว ปูชิโต ภวิสฺสามิ สงฺโฆ จา’ติ.
‘‘ยถา, มหาราช, ปิตา ธรมาโน เยว อมจฺจภฏพลโทวาริกอนีกฏฺปาริสชฺชชนมชฺเฌ รฺโ สนฺติเก ปุตฺตสฺส วิชฺชมานํ เยว คุณํ ปกิตฺเตติ [ปริกิตฺเตติ (ก.)] ‘อิธ ปิโต อนาคตมทฺธานํ ชนมชฺเฌ ปูชิโต ภวิสฺสตี’ติ. เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต หิตตฺถาย อนุกมฺปาย อนาคตมทฺธานํ สงฺโฆ มมจฺจเยน จิตฺตีกโต ภวิสฺสตีติ วิชฺชมาเน เยว คุเณ ปกิตฺตยนฺโต เอวมาห ‘สงฺเฆ ¶ โคตมิ เทหิ, สงฺเฆ เต ทินฺเน อหฺเจว ปุชิโต ภวิสฺสามิ สงฺโฆ จา’ติ.
‘‘น ¶ โข, มหาราช, ตาวตเกน วสฺสิกสาฏิกานุปฺปทานมตฺตเกน สงฺโฆ ตถาคตโต อธิโก นาม โหติ วิสิฏฺโ วา. ยถา, มหาราช, มาตาปิตโร ปุตฺตานํ อุจฺฉาเทนฺติ ปริมทฺทนฺติ นหาเปนฺติ สมฺพาเหนฺติ, อปิ นุ โข, มหาราช, ตาวตเกน อุจฺฉาทนปริมทฺทนนหาปนสมฺพาหนมตฺตเกน ‘ปุตฺโต มาตาปิตูหิ อธิโก นาม โหติ วิสิฏฺโ วา’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, อกามกรณียา ภนฺเต ปุตฺตา มาตาปิตูนํ, ตสฺมา มาตาปิตโร ปุตฺตานํ อุจฺฉาทนปริมทฺทนนหาปนสมฺพาหนํ กโรนฺตี’’ติ. เอวเมว โข, มหาราช, น ตาวตเกน วสฺสิกสาฏิกานุปฺปทานมตฺตเกน ¶ สงฺโฆ ตถาคตโต อธิโก นาม โหติ วิสิฏฺโ วาติ. อปิ จ ตถาคโต อกามกรณียํ กโรนฺโต มาตุจฺฉาย ตํ วสฺสิกสาฏิกํ สงฺฆสฺส ทาเปสิ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส รฺโ อุปายนํ อาหเรยฺย, ตํ ราชา อุปายนํ อฺตรสฺส ภฏสฺส วา พลสฺส วา เสนาปติสฺส วา ปุโรหิตสฺส วา ทเทยฺย. อปิ นุ โข โส, มหาราช, ปุริโส ตาวตเกน อุปายนปฏิลาภมตฺตเกน รฺา อธิโก นาม โหติ วิสิฏฺโ วา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ราชภตฺติโก, ภนฺเต, โส ปุริโส ราชูปชีวี, ตฏฺาเน เปนฺโต ราชา อุปายนํ เทตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, น ตาวตเกน วสฺสิกสาฏิกานุปฺปทานมตฺตเกน สงฺโฆ ตถาคตโต อธิโก นาม โหติ วิสิฏฺโ วา, อถ โข ตถาคตภตฺติโก ตถาคตูปชีวี. ตฏฺาเน เปนฺโต ตถาคโต สงฺฆสฺส วสฺสิกสาฏิกํ ทาเปสิ.
‘‘อปิ จ, มหาราช, ตถาคตสฺส เอวํ อโหสิ ‘สภาวปฏิปูชนีโย สงฺโฆ, มม สนฺตเกน สงฺฆํ ปฏิปูเชสฺสามี’ติ สงฺฆสฺส วสฺสิกสาฏิกํ ทาเปสิ, น, มหาราช, ตถาคโต อตฺตโน เยว ปฏิปูชนํ วณฺเณติ, อถ โข เย โลเก ปฏิปูชนารหา, เตสมฺปิ ตถาคโต ปฏิปูชนํ วณฺเณติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน มชฺฌิมนิกายวรลฺฉเก ¶ ธมฺมทายาทธมฺมปริยาเย อปฺปิจฺฉปฺปฏิปตฺตึ ปกิตฺตยมาเนน ‘อสุ เยว เม ปุริโม ภิกฺขุ ปุชฺชตโร จ ปาสํสตโร จา’ติ. ‘‘นตฺถิ, มหาราช, ภเวสุ โกจิ สตฺโต ตถาคตโต ทกฺขิเณยฺโย วา ¶ อุตฺตโร วา อธิโก วา วิสิฏฺโ วา, ตถาคโตว อุตฺตโร อธิโก วิสิฏฺโ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, สํยุตฺตนิกายวเร มาณวคามิเกน เทวปุตฺเตน ภควโต ปุรโต ตฺวา เทวมนุสฺสมชฺเฌ –
‘‘‘วิปุโล ราชคหียานํ [ราชคหิกานํ (ก.) สํ. นิ. ๑.๑๑๑ ปสฺสิตพฺพํ], คิริ เสฏฺโ ปวุจฺจติ;
เสโต หิมวตํ เสฏฺโ, อาทิจฺโจ อฆคามินํ.
‘‘‘สมุทฺโท อุทธินํ เสฏฺโ, นกฺขตฺตานฺจ จนฺทิมา;
สเทวกสฺส โลกสฺส, พุทฺโธ อคฺโค ปวุจฺจตี’ติ.
‘‘ตา ¶ โข ปเนตา, มหาราช, มาณวคามิเกน เทวปุตฺเตน คาถา สุคีตา น ทุคฺคีตา, สุภาสิตา น ทุพฺภาสิตา, อนุมตา จ ภควตา, นนุ, มหาราช, เถเรนปิ สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา ภณิตํ –
‘‘‘เอโก มโนปสาโท; สรณคมนมฺชลิปณาโม วา;
อุสฺสหเต ตารยิตุํ, มารพลนิสูทเน พุทฺเธ’ติ.
‘‘ภควตา จ ภณิตํ เทวาติเทเวน ‘เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว, โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตโม เอกปุคฺคโล? ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… เทวมนุสฺสาน’’’นฺติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
โคตมิวตฺถทานปฺโห ทุติโย.
๓. คิหิปพฺพชิตสมฺมาปฏิปตฺติปฺโห
[๓] ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘คิหิโน วาหํ, ภิกฺขเว, ปพฺพชิตสฺส วา สมฺมาปฏิปตฺตึ ¶ วณฺเณมิ, คิหี วา ภิกฺขเว ปพฺพชิโต วา สมฺมาปฏิปนฺโน สมฺมาปฏิปตฺตาธิกรณเหตุ อาราธโก โหติ ายํ ¶ ธมฺมํ กุสล’’นฺติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, คิหี โอทาตวสโน กามโภคี ปุตฺตทารสมฺพาธสยนํ อชฺฌาวสนฺโต กาสิกจนฺทนํ ปจฺจนุโภนฺโต มาลาคนฺธวิเลปนํ ธาเรนฺโต ชาตรูปรชตํ สาทิยนฺโต มณิกุณฺฑล [มณิกนก (สี. ปี.)] วิจิตฺตโมฬิพทฺโธ สมฺมาปฏิปนฺโน อาราธโก โหติ ายํ ธมฺมํ กุสลํ, ปพฺพชิโตปิ ภณฺฑุกาสาววตฺถวสโน ปรปิณฺฑมชฺฌุปคโต จตูสุ สีลกฺขนฺเธสุ สมฺมาปริปูรการี ทิยฑฺเฒสุ สิกฺขาปทสเตสุ สมาทาย วตฺตนฺโต เตรสสุ ธุตคุเณสุ อนวเสสํ วตฺตนฺโต สมฺมาปฏิปนฺโน อาราธโก โหติ ายํ ธมฺมํ กุสลํ. ตตฺถ, ภนฺเต, โก วิเสโส คิหิโน วา ปพฺพชิตสฺส วา? อผลํ โหติ ตโปกมฺมํ, นิรตฺถกา ปพฺพชฺชา. วฺฌา สิกฺขาปทโคปนา, โมฆํ ธุตคุณสมาทานํ, กึ ตตฺถ ทุกฺขมนุจิณฺเณน, นนุ นาม สุเขเนว สุขํ อธิคนฺตพฺพ’’นฺติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘คิหิโน วาหํ, ภิกฺขเว, ปพฺพชิตสฺส วา สมฺมาปฏิปตฺตึ ¶ วณฺเณมิ, คิหี วา, ภิกฺขเว, ปพฺพชิโต วา สมฺมาปฏิปนฺโน สมฺมาปฏิปตฺตาธิกรณเหตุ อาราธโก โหติ ายํ ธมฺมํ กุสล’’นฺติ. เอวเมตํ, มหาราช, สมฺมาปฏิปนฺโนว เสฏฺโ, ปพฺพชิโตปิ, มหาราช, ‘ปพฺพชิโตมฺหี’ติ น สมฺมา ปฏิปชฺเชยฺย, อถ โข โส อารกาว สามฺา, อารกาว พฺรหฺมฺา, ปเคว คิหี โอทาตวสโน. คิหีปิ, มหาราช, สมฺมาปฏิปนฺโน อาราธโก โหติ ายํ ธมฺมํ กุสลํ, ปพฺพชิโตปิ, มหาราช, สมฺมาปฏิปนฺโน อาราธโก โหติ ายํ ธมฺมํ กุสลํ.
‘‘อปิ จ โข, มหาราช, ปพฺพชิโตว สามฺสฺส อิสฺสโร อธิปติ; ปพฺพชฺชา, มหาราช, พหุคุณา อเนกคุณา อปฺปมาณคุณา, น สกฺกา ปพฺพชฺชาย คุณํ ปริมาณํ กาตุํ.
‘‘ยถา, มหาราช, กามททสฺส มณิรตนสฺส น สกฺกา ธเนน อคฺโฆ ¶ ปริมาณํ กาตุํ ‘เอตฺตกํ มณิรตนสฺส มูล’นฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, ปพฺพชฺชา พหุคุณา อเนกคุณา อปฺปมาณคุณา, น สกฺกา ปพฺพชฺชาย คุณํ ปริมาณํ กาตุํ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, มหาสมุทฺเท อูมิโย น สกฺกา ปริมาณํ กาตุํ ‘เอตฺตกา มหาสมุทฺเท อูมิโย’ติ, เอวเมว โข, มหาราช, ปพฺพชฺชา พหุคุณา ¶ อเนกคุณา อปฺปมาณคุณา, น สกฺกา ปพฺพชฺชาย คุณํ ปริมาณํ กาตุํ.
‘‘ปพฺพชิตสฺส, มหาราช, ยํ กิฺจิ กรณียํ, สพฺพํ ตํ ขิปฺปเมว สมิชฺฌติ โน จิรรตฺตาย. กึ การณา? ปพฺพชิโต, มหาราช, อปฺปิจฺโฉ โหติ สนฺตุฏฺโ ปวิวิตฺโต อสํสฏฺโ อารทฺธวีริโย นิราลโย อนิเกโต ปริปุณฺณสีโล สลฺเลขิตาจาโร ธุตปฺปฏิปตฺติกุสโล โหติ, ตํ การณา ปพฺพชิตสฺส ยํ กิฺจิ กรณียํ, สพฺพํ ตํ ขิปฺปเมว สมิชฺฌติ โน จิรรตฺตาย. ยถา, มหาราช, นิคฺคณฺิสมสุโธตอุชุวิมลนาราโจ สุสชฺชิโต สมฺมา วหติ, เอวเมว โข, มหาราช, ปพฺพชิตสฺส ยํ กิฺจิ กรณียํ, สพฺพํ ตํ ขิปฺปเมว สมิชฺฌติ โน จิรรตฺตายา’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
คิหิปพฺพชิตสมฺมาปฏิปตฺติปฺโห ตติโย.
๔. ปฏิปทาโทสปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ยทา โพธิสตฺโต ทุกฺกรการิกํ อกาสิ, เนตาทิโส อฺตฺร อารมฺโภ อโหสิ นิกฺกโม กิเลสยุทฺธํ มจฺจุเสนํ วิธมนํ อาหารปริคฺคโห ทุกฺกรการิกา, เอวรูเป ปรกฺกเม กิฺจิ อสฺสาทํ อลภิตฺวา ตเมว จิตฺตํ ปริหาเปตฺวา เอวมโวจ ‘น โข ปนาหํ อิมาย กฏุกาย ทุกฺกรการิกาย อธิคจฺฉามิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อลมริยาณทสฺสนวิเสสํ, สิยา นุ โข อฺโ มคฺโค โพธายา’ติ, ตโต นิพฺพินฺทิตฺวา อฺเน มเคน สพฺพฺุตํ ปตฺโต, ปุน ตาย ปฏิปทาย สาวเก อนุสาสติ สมาทเปติ.
‘‘‘อารมฺภถ ¶ นิกฺขมถ, ยฺุชถ พุทฺธสาสเน;
ธุนาถ มจฺจุโน เสนํ, นฬาคารํว กฺุชโร’ติ [สํ. นิ. ๑.๑๘๕].
‘‘เกน น โข, ภนฺเต นาคเสน, การเณน ตถาคโต ยาย ปฏิปทาย อตฺตนา นิพฺพินฺโน วิรตฺตรูโป, ตตฺถ สาวเก อนุสาสติ สมาทเปตี’’ติ?
‘‘ตทาปิ ¶ , มหาราช, เอตรหิปิ สา เยว ปฏิปทา, ตํ เยว ปฏิปทํ ปฏิปชฺชิตฺวา โพธิสตฺโต สพฺพฺุตํ ปตฺโต. อปิ จ, มหาราช, โพธิสตฺโต อติวีริยํ กโรนฺโต นิรวเสสโต อาหารํ อุปรุนฺธิ. ตสฺส อาหารูปโรเธน จิตฺตทุพฺพลฺยํ อุปฺปชฺชิ. โส เตน ทุพฺพลฺเยน นาสกฺขิ สพฺพฺุตํ ปาปุณิตุํ, โส มตฺตมตฺตํ กพฬีการาหารํ เสวนฺโต ตาเยว ปฏิปทาย นจิรสฺเสว สพฺพฺุตํ ปาปุณิ. โส เยว, มหาราช, ปฏิปทา สพฺเพสํ ตถาคตานํ สพฺพฺุตาณปฺปฏิลาภาย.
‘‘ยถา, มหาราช, สพฺเพสํ สตฺตานํ อาหาโร อุปตฺถมฺโภ, อาหารูปนิสฺสิตา สพฺเพ สตฺตา สุขํ อนุภวนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, สา เยว ปฏิปทา สพฺเพสํ ตถาคตานํ สพฺพฺุตาณปฺปฏิลาภาย, เนโส, มหาราช, โทโส อารมฺภสฺส, น นิกฺกมสฺส, น กิเลสยุทฺธสฺส, เยน ตถาคโต ตสฺมึ สมเย น ปาปุณิ สพฺพฺุตาณํ, อถ โข อาหารูปโรธสฺเสเวโส โทโส, สทา ปฏิยตฺตา เยเวสา ปฏิปทา.
‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส อทฺธานํ อติเวเคน คจฺเฉยฺย, เตน โส ปกฺขหโต วา ภเวยฺย ¶ ปีสปฺปี วา อสฺจโร ปถวิตเล. อปิ นุ โข, มหาราช, มหาปถวิยา โทโส อตฺถิ, เยน โส ปุริโส ปกฺขหโต อโหสี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต; สทา ปฏิยตฺตา, ภนฺเต, มหาปถวี, กุโต ตสฺสา โทโส? วายามสฺเสเวโส โทโส, เยน โส ปุริโส ปกฺขหโต อโหสี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, เนโส โทโส อารมฺภสฺส, น นิกฺกมสฺส, น กิเลสยุทฺธสฺส, เยน ตถาคโต ตสฺมึ สมเย น ปาปุณิ สพฺพฺุตาณํ, อถ โข อาหารูปโรธสฺเสเวโส โทโส สทา ปฏิยตฺตา ¶ เยเวสา ปฏิปทา.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ปุริโส กิลิฏฺํ สาฏกํ นิวาเสยฺย, น โส ตํ โธวาเปยฺย, เนโส โทโส อุทกสฺส, สทา ปฏิยตฺตํ อุทกํ. ปุริสสฺเสเวโส โทโส. เอวเมว โข, มหาราช, เนโส โทโส อารมฺภสฺส, น นิกฺกมสฺส, น กิเลสยุทฺธสฺส, เยน ตถาคโต ตสฺมึ สมเย น ปาปุณิ สพฺพฺุตาณํ, อถ โข อาหารูปโรธสฺเสเวโส โทโส, สทา ปฏิยตฺตา เยเวสา ปฏิปทา, ตสฺมา ตถาคโต ตาเยว ปฏิปทาย สาวเก อนุสาสติ สมาทเปติ, เอวํ โข, มหาราช, สทา ¶ ปฏิยตฺตา อนวชฺชา สา ปฏิปทา’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
ปฏิปทาโทสปฺโห จตุตฺโถ.
๕. หีนายาวตฺตนปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, มหนฺตํ อิทํ ตถาคตสาสนํ สารํ วรํ เสฏฺํ ปวรํ อนุปมํ ปริสุทฺธํ วิมลํ ปณฺฑรํ อนวชฺชํ, น ยุตฺตํ คิหึ ตาวตกํ ปพฺพเชตุํ, คิหี เยว [คิหึ เยว (สี. ปี.)] เอกสฺมึ ผเล วิเนตฺวา ยทา อปุนราวตฺตี โหติ ตทา โส ปพฺพาเชตพฺโพ. กึ การณา? อิเม ทุชฺชนา ตาว ตตฺถ สาสเน วิสุทฺเธ ปพฺพชิตฺวา ปฏินิวตฺติตฺวา หีนายาวตฺตนฺติ, เตสํ ปจฺจาคมเนน อยํ มหาชโน เอวํ วิจินฺเตติ ‘ตุจฺฉกํ วต โภ เอตํ สมณสฺส โคตมสฺส สาสนํ ภวิสฺสติ, ยํ อิเม ปฏินิวตฺตนฺตี’ติ, อิทเมตฺถ การณ’’นฺติ.
‘‘ยถา, มหาราช, ตฬาโก ภเวยฺย สมฺปุณฺณสุจิวิมลสีตลสลิโล, อถ โย โกจิ กิลิฏฺโ มลกทฺทมคโต ตํ ตฬากํ คนฺตฺวา อนหายิตฺวา กิลิฏฺโว ปฏินิวตฺเตยฺย, ตตฺถ, มหาราช, กตมํ ชโน ครเหยฺย กิลิฏฺํ วา ตฬากํ วา’’ติ? ‘‘กิลิฏฺํ, ภนฺเต, ชโน ครเหยฺย ¶ ‘อยํ ตฬากํ คนฺตฺวา อนหายิตฺวา กิลิฏฺโว ปฏินิวตฺโต, กึ อิมํ อนหายิตุกามํ ตฬาโก สยํ นหาเปสฺสติ, โก โทโส ตฬากสฺสา’ติ. เอวเมว โข, มหาราช ¶ , ตถาคโต วิมุตฺติวรสลิลสมฺปุณฺณํ สทฺธมฺมวรตฬากํ มาเปสิ ‘เย เกจิ กิเลสมลกิลิฏฺา สเจตนา พุธา, เต อิธ นหายิตฺวา สพฺพกิเลเส ปวาหยิสฺสนฺตี’ติ. ยทิ โกจิ ตํ สทฺธมฺมวรตฬากํ คนฺตฺวา อนหายิตฺวา สกิเลโสว ปฏินิวตฺติตฺวา หีนายาวตฺตติ ตํ เยว ชโน ครหิสฺสติ ‘อยํ ชินสาสเน ปพฺพชิตฺวา ตตฺถ ปติฏฺํ อลภิตฺวา หีนายาวตฺโต, กึ อิมํ อปฺปฏิปชฺชนฺตํ ชินสาสนํ สยํ โพเธสฺสติ, โก โทโส ชินสาสนสฺสา’ติ?
‘‘ยถา ¶ วา ปน, มหาราช, ปุริโส ปรมพฺยาธิโต โรคุปฺปตฺติกุสลํ อโมฆธุวสิทฺธกมฺมํ ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ ทิสฺวา อติกิจฺฉาเปตฺวา สพฺยาธิโกว ปฏินิวตฺเตยฺย, ตตฺถ กตมํ ชโน ครเหยฺย อาตุรํ วา ภิสกฺกํ วา’’ติ? ‘‘อาตุรํ, ภนฺเต, ชโน ครเหยฺย ‘อยํ โรคุปฺปตฺติกุสลํ อโมฆธุวสิทฺธกมฺมํ ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ ทิสฺวา อติกิจฺฉาเปตฺวา สพฺยาธิโกว ปฏินิวตฺโต, กึ อิมํ อติกิจฺฉาเปนฺตํ ภิสกฺโก สยํ ติกิจฺฉิสฺสติ, โก โทโส ภิสกฺกสฺสา’’’ติ? ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต อนฺโตสาสนสมุคฺเค เกวลํ สกลกิเลสพฺยาธิวูปสมนสมตฺถํ อมโตสธํ ปกฺขิปิ, ‘เย เกจิ กิเลสพฺยาธิปีฬิตา สเจตนา พุธา, เต อิมํ อมโตสธํ ปิวิตฺวา สพฺพกิเลสพฺยาธึ วูปสเมสฺสนฺตี’ติ. ยทิ โกจิ ยํ อมโตสธํ อปิวิตฺวา สกิเลโสว ปฏินิวตฺติตฺวา หีนายาวตฺตติ, ตํ เยว ชโน ครหิสฺสติ ‘อยํ ชินสาสเน ปพฺพชิตฺวา ตตฺถ ปติฏฺํ อลภิตฺวา หีนายาวตฺโต, กึ อิมํ อปฺปฏิปชฺชนฺตํ ชินสาสนํ สยํ โพเธสฺสติ, โก โทโส ชินสาสนสฺสา’ติ?
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ฉาโต ปุริโส มหติมหาปฺุภตฺตปริเวสนํ คนฺตฺวา ตํ ภตฺตํ อภฺุชิตฺวา ฉาโตว ปฏินิวตฺเตยฺย, ตตฺถ กตมํ ชโน ครเหยฺย ฉาตํ วา ปฺุภตฺตํ วา’’ติ? ‘‘ฉาตํ, ภนฺเต, ชโน ครเหยฺย ¶ ‘อยํ ขุทาปีฬิโต ปฺุภตฺตํ ปฏิลภิตฺวา อภฺุชิตฺวา ฉาโตว ปฏินิวตฺโต, กึ อิมสฺส อภฺุชนฺตสฺส โภชนํ สยํ มุขํ ปวิสิสฺสติ, โก โทโส โภชนสฺสา’’’ติ? ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต อนฺโตสาสนสมุคฺเค ปรมปวรํ สนฺตํ สิวํ ปณีตํ อมตํ ปรมมธุรํ กายคตาสติโภชนํ เปสิ ‘เย เกจิ กิเลสฉาตชฺฌตฺตา ตณฺหาปเรตมานสา สเจตนา พุธา, เต อิมํ โภชนํ ภฺุชิตฺวา กามรูปารูปภเวสุ สพฺพํ ตณฺหมปเนสฺสนฺตี’ติ. ยทิ โกจิ ตํ โภชนํ อภฺุชิตฺวา ตณฺหาสิโตว ปฏินิวตฺติตฺวา หีนายาวตฺตติ, ตฺเว ชโน ครหิสฺสติ ‘อยํ ชินสาสเน ปพฺพชิตฺวา ¶ ตตฺถ ปติฏฺํ อลภิตฺวา หีนายาวตฺโต, กึ อิมํ อปฺปฏิปชฺชนฺตํ ชินสาสนํ สยํ โพเธสฺสสิ, โก โทโส ชินสาสนสฺสา’ติ.
‘‘ยทิ, มหาราช, ตถาคโต คิหึ เยว เอกสฺมึ ผเล วินีตํ ปพฺพาเชยฺย, น นามายํ ปพฺพชฺชา กิเลสปฺปหานาย วิสุทฺธิยา วา, นตฺถิ ¶ ปพฺพชฺชาย กรณียํ. ยถา, มหาราช, ปุริโส อเนกสเตน กมฺเมน ตฬากํ ขณาเปตฺวา ปริสาย เอวมนุสฺสาเวยฺย ‘มา เม, โภนฺโต, เกจิ สํกิลิฏฺา อิมํ ตฬากํ โอตรถ, ปวาหิตรโชชลฺลา ปริสุทฺธา วิมลมฏฺา อิมํ ตฬากํ โอตรถา’ติ. อปิ นุ โข, มหาราช, เตสํ ปวาหิตรโชชลฺลานํ ปริสุทฺธานํ วิมลมฏฺานํ เตน ตฬาเกน กรณียํ ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ยสฺสตฺถาย เต ตํ ตฬากํ อุปคจฺเฉยฺยุํ, ตํ อฺตฺเรว เตสํ กตํ กรณียํ, กึ เตสํ เตน ตฬาเกนา’’ติ? ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ยทิ ตถาคโต คิหึ เยว เอกสฺมึ ผเล วินีตํ ปพฺพาเชยฺย, ตตฺเถว เตสํ กตํ กรณียํ, กึ เตสํ ปพฺพชฺชาย.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, สภาวอิสิภตฺติโก สุตมนฺตปทธโร อตกฺกิโก โรคุปฺปตฺติกุสโล อโมฆธุวสิทฺธกมฺโม ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต สพฺพโรคูปสมเภสชฺชํ สนฺนิปาเตตฺวา ปริสาย เอวมนุสฺสาเวยฺย ‘มา โข, โภนฺโต ¶ , เกจิ สพฺยาธิกา มม สนฺติเก อุปคจฺฉถ, อพฺยาธิกา อโรคา มม สนฺติเก อุปคจฺฉถา’ติ. อปิ นุ โข, มหาราช, เตสํ อพฺยาธิกานํ อโรคานํ ปริปุณฺณานํ อุทคฺคานํ เตน ภิสกฺเกน กรณียํ ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ยสฺสตฺถาย เต ตํ ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ อุปคจฺเฉยฺยุํ, ตํ อฺตฺเรว เตสํ กตํ กรณียํ, กึ เตสํ เตน ภิสกฺเกนา’’ติ? ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ยทิ ตถาคโต คิหึ เยว เอกสฺมึ ผเล วินีตํ ปพฺพาเชยฺย, ตตฺเถว เตสํ กตํ กรณียํ, กึ เตสํ ปพฺพชฺชาย?
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, โกจิ ปุริโส อเนกถาลิปากสตํ โภชนํ ปฏิยาทาเปตฺวา ปริสาย เอวมนุสฺสาเวยฺย ‘มา เม, โภนฺโต, เกจิ ฉาตา อิมํ ปริเวสนํ อุปคจฺฉถ, สุภุตฺตา ติตฺตา สุหิตา ธาตา ปีณิตา ปริปุณฺณา อิมํ ปริเวสนํ อุปคจฺฉถา’’ติ. อปิ นุ โข มหาราช, เตสํ ภุตฺตาวีนํ ติตฺตานํ สุหิตานํ ธาตานํ ปีณิตานํ ปริปุณฺณานํ เตน โภชเนน กรณียํ ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ยสฺสตฺถาย เต ตํ ปริเวสนํ อุปคจฺเฉยฺยุํ, ตํ อฺตฺเรว เตสํ กตํ กรณียํ, กึ เตสํ ตาย ปริเวสนายา’’ติ? ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ยทิ ตถาคโต คิหึ เยว เอกสฺมึ ผเล วินีตํ ปพฺพาเชยฺย, ตตฺเถว เตสํ กตํ กรณียํ, กึ เตสํ ปพฺพชฺชาย?
‘‘อปิ ¶ ¶ จ, มหาราช, เย หีนายาวตฺตนฺติ, เต ชินสาสนสฺส ปฺจ อตุลิเย คุเณ ทสฺเสนฺติ. กตเม ปฺจ? ภูมิมหนฺตภาวํ ทสฺเสนฺติ, ปริสุทฺธวิมลภาวํ ทสฺเสนฺติ, ปาเปหิ อสํวาสิยภาวํ ทสฺเสนฺติ, ทุปฺปฏิเวธภาวํ ทสฺเสนฺติ, พหุสํวรรกฺขิยภาวํ ทสฺเสนฺติ.
‘‘กถํ ภูมิมหนฺตภาวํ ทสฺเสนฺติ? ยถา, มหาราช, ปุริโส อธโน หีนชจฺโจ นิพฺพิเสโส พุทฺธิปริหีโน มหารชฺชํ ปฏิลภิตฺวา น จิรสฺเสว ปริปตติ ปริธํสติ ปริหายติ ยสโต, น สกฺโกติ อิสฺสริยํ สนฺธาเรตุํ. กึ การณํ ¶ ? มหนฺตตฺตา อิสฺสริยสฺส. เอวเมว โข, มหาราช, เย เกจิ นิพฺพิเสสา อกตปฺุา พุทฺธิปริหีนา ชินสาสเน ปพฺพชนฺติ, เต ตํ ปพฺพชฺชํ ปวรุตฺตมํ สนฺธาเรตุํ อวิสหนฺตา น จิรสฺเสว ชินสาสนา ปริปติตฺวา ปริธํสิตฺวา ปริหายิตฺวา หีนายาวตฺตนฺติ, น สกฺโกนฺติ ชินสาสนํ สนฺธาเรตุํ. กึ การณํ? มหนฺตตฺตา ชินสาสนภูมิยา. เอวํ ภูมิมหนฺตภาวํ ทสฺเสนฺติ.
‘‘กถํ ปริสุทฺธวิมลภาวํ ทสฺเสนฺติ? ยถา, มหาราช, วาริ โปกฺขรปตฺเต วิกิรติ วิธมติ วิธํเสติ, น านมุปคจฺฉติ นูปลิมฺปติ. กึ การณํ? ปริสุทฺธวิมลตฺตา ปทุมสฺส. เอวเมว โข, มหาราช, เย เกจิ สา กูฏา วงฺกา กุฏิลา วิสมทิฏฺิโน ชินสาสเน ปพฺพชนฺติ, เต ปริสุทฺธวิมลนิกฺกณฺฏกปณฺฑรวรปฺปวรสาสนโต น จิรสฺเสว วิกิริตฺวา วิธมิตฺวา วิธํเสตฺวา อสณฺหิตฺวา อนุปลิมฺปิตฺวา หีนายาวตฺตนฺติ. กึ การณํ? ปริสุทฺธวิมลตฺตา ชินสาสนสฺส. เอวํ ปริสุทฺธวิมลภาวํ ทสฺเสนฺติ.
‘‘กถํ ปาเปหิ อสํวาสิยภาวํ ทสฺเสนฺติ? ยถา, มหาราช, มหาสมุทฺโท น มเตน กุณเปน สํวสติ, ยํ โหติ มหาสมุทฺเท มตํ กุณปํ, ตํ ขิปฺปเมว ตีรํ อุปเนติ ถลํ วา อุสฺสาเรติ. กึ การณํ? มหาภูตานํ ภวนตฺตา มหาสมุทฺทสฺส. เอวเมว โข, มหาราช, เย เกจิ ปาปกา อสํวุตา อหิริกา อกิริยา โอสนฺนวีริยา กุสีตา กิลิฏฺา ทุชฺชนา มนุสฺสา ชินสาสเน ปพฺพชนฺติ, เต น จิรสฺเสว ชินสาสนโต อรหนฺตวิมลขีณาสวมหาภูตภวนโต นิกฺขมิตฺวา อสํวสิตฺวา หีนายาวตฺตนฺติ. กึ การณํ? ปาเปหิ อสํวาสิยตฺตา ชินสาสนสฺส. เอวํ ปาเปหิ อสํวาสิยภาวํ ทสฺเสนฺติ.
‘‘กถํ ¶ ทุปฺปฏิเวธภาวํ ทสฺเสนฺติ? ยถา, มหาราช, เย เกจิ อเฉกา อสิกฺขิตา อสิปฺปิโน มติวิปฺปหีนา อิสฺสาสา [อิสฺสตฺถา (สี. สฺยา. ปี.)] วาลคฺคเวธํ อวิสหนฺตา วิคฬนฺติ ปกฺกมนฺติ. กึ การณํ? สณฺหสุขุมทุปฺปฏิเวธตฺตา วาลคฺคสฺส ¶ . เอวเมว โข, มหาราช, เย เกจิ ทุปฺปฺา ชฬา ¶ เอฬมูคา มูฬฺหา ทนฺธคติกา ชนา ชินสาสเน ปพฺพชนฺติ, เต ตํ ปรมสณฺหสุขุมจตุสจฺจปฺปฏิเวธํ ปฏิวิชฺฌิตุํ อวิสหนฺตา ชินสาสนา วิคฬิตฺวา ปกฺกมิตฺวา น จิรสฺเสว หีนายาวตฺตนฺติ. กึ การณํ? ปรมสณฺหสุขุมทุปฺปฏิเวธตาย สจฺจานํ. เอวํ ทุปฺปฏิเวธภาวํ ทสฺเสนฺติ.
‘‘กถํ พหุสํวรรกฺขิยภาวํ ทสฺเสนฺติ? ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส มหติมหายุทฺธภูมิมุปคโต ปรเสนาย ทิสาวิทิสาหิ สมนฺตา ปริวาริโต สตฺติหตฺถํ ชนมุเปนฺตํ ทิสฺวา ภีโต โอสกฺกติ ปฏินิวตฺตติ ปลายติ. กึ การณํ? พหุวิธยุทฺธมุขรกฺขณภยา. เอวเมว โข, มหาราช, เย เกจิ ปาปกา อสํวุตา อหิริกา อกิริยา อกฺขนฺตี จปลา จลิตา อิตฺตรา พาลชนา ชินสาสเน ปพฺพชนฺติ, เต พหุวิธํ สิกฺขาปทํ ปริรกฺขิตุํ อวิสหนฺตา โอสกฺกิตฺวา ปฏินิวตฺติตฺวา ปลายิตฺวา น จิรสฺเสว หีนายาวตฺตนฺติ. กึ การณํ? พหุวิธสํวรรกฺขิยภาวตฺตา ชินสาสนสฺส. เอวํ พหุวิธสํวรรกฺขิยภาวํ ทสฺเสนฺติ.
‘‘ถลชุตฺตเมปิ, มหาราช, วสฺสิกาคุมฺเพ กิมิวิทฺธานิ ปุปฺผานิ โหนฺติ, ตานิ องฺกุรานิ สงฺกุฏิตานิ อนฺตรา เยว ปริปตนฺติ, น จ เตสุ ปริปติเตสุ วสฺสิกาคุมฺโพ หีฬิโต นาม โหติ. ยานิ ตตฺถ ิตานิ ปุปฺผานิ, ตานิ สมฺมา คนฺเธน ทิสาวิทิสํ อภิพฺยาเปนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, เย เต ชินสาสเน ปพฺพชิตฺวา หีนายาวตฺตนฺติ, เต ชินสาสเน กิมิวิทฺธานิ วสฺสิกาปุปฺผานิ วิย วณฺณคนฺธรหิตา นิพฺพณฺณาการสีลา อภพฺพา เวปุลฺลาย, น จ เตสํ หีนายาวตฺตเนน ชินสาสนํ หีฬิตํ นาม โหติ. เย ตตฺถ ิตา ภิกฺขู, เต สเทวกํ โลกํ สีลวรคนฺเธน อภิพฺยาเปนฺติ.
‘‘สาลีนมฺปิ, มหาราช, นิราตงฺกานํ ¶ โลหิตกานํ อนฺตเร กรุมฺภกํ นาม สาลิชาติ อุปฺปชฺชิตฺวา อนฺตรา เยว วินสฺสติ, น จ ตสฺสา วินฏฺตฺตา โลหิตกสาลี หีฬิตา นาม โหนฺติ. เย ตตฺถ ิตา สาลี, เต ราชูปโภคา โหนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, เย เต ชินสาสเน ปพฺพชิตฺวา ¶ หีนายาวตฺตนฺติ, เต โลหิตกสาลีนมนฺตเร กรุมฺภกา วิย ชินสาสเน น วฑฺฒิตฺวา เวปุลฺลตํ น ปาปุณิตฺวา [วฑฺฒิตฺวา เวปุลฺลตํ อปาปุณิตฺวา (สี. ก.)] อนฺตรา เยว หีนายาวตฺตนฺติ, น จ เตสํ หีนายาวตฺตเนน ชินสาสนํ หีฬิตํ นาม โหติ. เย ตตฺถ ิตา ภิกฺขู เต อรหตฺตสฺส อนุจฺฉวิกา โหนฺติ.
‘‘กามททสฺสาปิ ¶ , มหาราช, มณิรตนสฺส เอกเทสํ [เอกเทเส (ก.)] กกฺกสํ อุปฺปชฺชติ, น จ ตตฺถ กกฺกสุปฺปนฺนตฺตา มณิรตนํ หีฬิตํ นาม โหติ. ยํ ตตฺถ ปริสุทฺธํ มณิรตนสฺส, ตํ ชนสฺส หาสกรํ โหติ. เอวเมว โข, มหาราช, เย เต ชินสาสเน ปพฺพชิตฺวา หีนายาวตฺตนฺติ, กกฺกสา เต ชินสาสเน ปปฏิกา, น จ เตสํ หีนายาวตฺตเนน ชินสาสนํ หีฬิตํ นาม โหติ. เย ตตฺถ ิตา ภิกฺขู, เต เทวมนุสฺสานํ หาสชนกา โหนฺติ.
‘‘ชาติสมฺปนฺนสฺสปิ, มหาราช, โลหิตจนฺทนสฺส เอกเทสํ ปูติกํ โหติ อปฺปคนฺธํ. น เตน โลหิตจนฺทนํ หีฬิตํ นาม โหติ. ยํ ตตฺถ อปูติกํ สุคนฺธํ, ตํ สมนฺตา วิธูเปติ อภิพฺยาเปติ. เอวเมว โข, มหาราช, เย เต ชินสาสเน ปพฺพชิตฺวา หีนายาวตฺตนฺติ, เต โลหิตจนฺทนสารนฺตเร ปูติกเทสมิว ฉฑฺฑนียา ชินสาสเน, น จ เตสํ หีนายาวตฺตเนน ชินสาสนํ หีฬิตํ นาม โหติ. เย ตตฺถ ิตา ภิกฺขู, เต สเทวกํ โลกํ สีลวรจนฺทนคนฺเธน อนุลิมฺปยนฺตี’’ติ.
‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เตน เตน อนุจฺฉวิเกน เตน เตน สทิเสน การเณน นิรวชฺชมนุปาปิตํ ชินสาสนํ เสฏฺภาเวน ปริทีปิตํ, หีนายาวตฺตมานาปิ เต ชินสาสนสฺส เสฏฺภาวํ เยว ปริทีเปนฺตี’’ติ.
หีนายาวตฺตนปฺโห ปฺจโม.
๖. อรหนฺตเวทนาเวทิยนปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘อรหา เอกํ เวทนํ เวทยติ กายิกํ, น เจตสิก’นฺติ. กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, อรหโต จิตฺตํ ยํ กายํ นิสฺสาย ปวตฺตติ, ตตฺถ อรหา อนิสฺสโร อสฺสามี อวสวตฺตี’’ติ ¶ ? ‘‘อาม, มหาราชา’’ติ. ‘‘น โข, ภนฺเต นาคเสน, ยุตฺตเมตํ, ยํ โส สกจิตฺตสฺส ปวตฺตมาเน กาเย อนิสฺสโร โหติ อสฺสามี อวสวตฺตี; สกุโณปิ ตาว, ภนฺเต, ยสฺมึ กุลาวเก ปฏิวสติ, ตตฺถ โส อิสฺสโร โหติ สามี วสวตฺตี’’ติ.
‘‘ทสยิเม, มหาราช, กายานุคตา ธมฺมา ภเว ภเว กายํ อนุธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺติ. กตเม ¶ ทส? สีตํ อุณฺหํ ชิฆจฺฉา ปิปาสา อุจฺจาโร ปสฺสาโว มิทฺธํ ชรา พฺยาธิ มรณํ. อิเม โข, มหาราช, ทส กายานุคตา ธมฺมา ภเว ภเว กายํ อนุธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺติ, ตตฺถ อรหา อนิสฺสโร อสฺสามี อวสวตฺตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, เกน การเณน อรหโต กาเย อาณา นปฺปวตฺตติ อิสฺสริยํ วา, ตตฺถ เม การณํ พฺรูหี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, เย เกจิ ปถวินิสฺสิตา สตฺตา, สพฺเพ เต ปถวึ นิสฺสาย จรนฺติ วิหรนฺติ วุตฺตึ กปฺเปนฺติ, อปิ นุ โข, มหาราช, เตสํ ปถวิยา อาณา ปวตฺตติ อิสฺสริยํ วา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อรหโต จิตฺตํ กายํ นิสฺสาย ปวตฺตติ, น จ อรหโต กาเย อาณา ปวตฺตติ อิสฺสริยํ วา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, เกน การเณน ปุถุชฺชโน กายิกมฺปิ เจตสิกมฺปิ เวทนํ เวทยตี’’ติ? ‘‘อภาวิตตฺตา, มหาราช, จิตฺตสฺส ปุถุชฺชโน กายิกมฺปิ เจตสิกมฺปิ เวทนํ เวทยติ. ยถา, มหาราช, โคโณ ฉาโต ปริตสิโต อพลทุพฺพลปริตฺตกติเณสุ วา ลตาย วา อุปนิพทฺโธ อสฺส, ยทา โส โคโณ ปริกุปิโต โหติ, ตทา สห อุปนิพนฺธเนน ปกฺกมติ. เอวเมว โข, มหาราช, อภาวิตจิตฺตสฺส เวทนา อุปฺปชฺชิตฺวา จิตฺตํ ปริโกเปติ, จิตฺตํ ปริกุปิตํ กายํ อาภุชติ นิพฺภุชติ สมฺปริวตฺตกํ ¶ กโรติ. อถ โข โส อภาวิตจิตฺโต ตสติ รวติ เภรวราวมภิรวติ, อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน ปุถุชฺชโน กายิกมฺปิ เจตสิกมฺปิ เวทนํ เวทยตี’’ติ.
‘‘กึ ปน ตํ การณํ, เยน การเณน อรหา เอกํ เวทนํ เวทยติ กายิกํ, น เจตสิก’’นฺติ? ‘‘อรหโต, มหาราช, จิตฺตํ ภาวิตํ โหติ สุภาวิตํ ทนฺตํ สุทนฺตํ อสฺสวํ วจนกรํ, โส ทุกฺขาย เวทนาย ผุฏฺโ สมาโน ‘อนิจฺจ’นฺติ ทฬฺหํ คณฺหาติ, สมาธิถมฺเภ จิตฺตํ อุปนิพนฺธติ, ตสฺส ¶ ตํ จิตฺตํ สมาธิถมฺเภ อุปนิพนฺธนํ น เวธติ น จลติ, ิตํ โหติ อวิกฺขิตฺตํ, ตสฺส เวทนาวิการวิปฺผาเรน กาโย อาภุชติ นิพฺภุชติ สมฺปริวตฺตติ, อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน อรหา เอกํ เวทนํ เวทยติ กายิกํ, น เจตสิก’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตํ นาม โลเก อจฺฉริยํ ยํ กาเย จลมาเน จิตฺตํ น จลติ, ตตฺถ เม การณํ พฺรูหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, มหติมหารุกฺเข ขนฺธสาขาปลาสสมฺปนฺเน อนิลพลสมาหเต สาขา จลติ, อปิ นุ ตสฺส ขนฺโธปิ จลตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ ¶ . ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อรหา ทุกฺขาย เวทนาย ผุฏฺโ สมาโน ‘อนิจฺจ’นฺติ ทฬฺหํ คณฺหาติ, สมาธิถมฺเภ จิตฺตํ อุปนิพนฺธติ, ตสฺส ตํ จิตฺตํ สมาธิถมฺเภ อุปนิพนฺธนํ น เวธติ น จลติ, ิตํ โหติ อวิกฺขิตฺตํ, ตสฺส เวทนาวิการวิปฺผาเรน กาโย อาภุชติ นิพฺภุชติ สมฺปริวตฺตติ, จิตฺตํ ปน ตสฺส น เวธติ น จลติ ขนฺโธ วิย มหารุกฺขสฺสา’’ติ. ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต นาคเสน, อพฺภุตํ, ภนฺเต นาคเสน, น เม เอวรูโป สพฺพกาลิโก ธมฺมปทีโป ทิฏฺปุพฺโพ’’ติ.
อรหนฺตเวทนาเวทิยนปฺโห ฉฏฺโ.
๗. อภิสมยนฺตรายกรปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, อิธ โย โกจิ คิหี ปาราชิกํ อชฺฌาปนฺโน ภเวยฺย, โส อปเรน สมเยน ปพฺพาเชยฺย, อตฺตนาปิ โส น ชาเนยฺย ‘คิหิปาราชิกํ อชฺฌาปนฺโนสฺมี’ติ, นปิ ตสฺส อฺโ โกจิ อาจิกฺเขยฺย ‘คิหิปาราชิกํ อชฺฌาปนฺโนสี’ติ. โส จ ตถตฺตาย ปฏิปชฺเชยฺย, อปิ นุ ตสฺส ธมฺมาภิสมโย ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘เกน, ภนฺเต, การเณนา’’ติ? ‘‘โย ตสฺส เหตุ ธมฺมาภิสมยาย, โส ตสฺส สมุจฺฉินฺโน, ตสฺมา ธมฺมาภิสมโย น ภวตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘ชานนฺตสฺส กุกฺกุจฺจํ โหติ, กุกฺกุจฺเจ สติ อาวรณํ โหติ, อาวเฏ จิตฺเต ธมฺมาภิสมโย น โหตี’ติ. อิมสฺส ปน อชานนฺตสฺส อกุกฺกุจฺจชาตสฺส สนฺตจิตฺตสฺส วิหรโต เกน การเณน ธมฺมาภิสมโย น โหติ, วิสเมน วิสเมเนโส ปฺโห คจฺฉติ, จินฺเตตฺวา วิสชฺเชถา’’ติ.
‘‘รุหติ ¶ , มหาราช, สุกฏฺเ สุกลเล มณฺฑเขตฺเต สารทํ สุขสยิตํ พีช’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อปิ นุ, มหาราช, ตฺเว พีชํ ฆนเสลสิลาตเล รุเหยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน, มหาราช, ตฺเว พีชํ กลเล รุหติ, กิสฺส ฆนเสเล น รุหตี’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต, ตสฺส พีชสฺส รุหนาย ฆนเสเล เหตุ, อเหตุนา พีชํ น รุหตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, เยน เหตุนา ตสฺส ธมฺมาภิสมโย ภเวยฺย, โส ตสฺส เหตุ สมุจฺฉินฺโน, อเหตุนา ธมฺมาภิสมโย น โหติ.
‘‘ยถา ¶ วา ปน, มหาราช, ทณฺฑเลฑฺฑุลคุฬมุคฺครา ปถวิยา านมุปคจฺฉนฺติ, อปิ นุ, มหาราช, เต เยว ทณฺฑเลฑฺฑุลคุฬมุคฺครา คคเน านมุปคจฺฉนฺตี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ปเนตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน เต เยว ทณฺฑเลฑฺฑุลคุฬมุคฺครา ปถวิยา านมุปคจฺฉนฺติ, เกน การเณน คคเน น ติฏฺนฺตี’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต, เตสํ ทณฺฑเลฑฺฑุลคุฬมุคฺครานํ ปติฏฺานาย อากาเส เหตุ, อเหตุนา น ติฏฺนฺตี’’ติ ¶ . ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ตสฺส เตน โทเสน อภิสมยเหตุ สมุจฺฉินฺโน, เหตุสมุคฺฆาเต อเหตุนา อภิสมโย น โหตีติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ถเล อคฺคิ ชลติ, อปิ นุ โข, มหาราช, โส เยว อคฺคิ อุทเก ชลตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ปเนตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน โส เยว อคฺคิ ถเล ชลติ, เกน การเณน อุทเก น ชลตี’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต, อคฺคิสฺส ชลนาย อุทเก เหตุ, อเหตุนา น ชลตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ตสฺส เตน โทเสน อภิสมยเหตุ สมุจฺฉินฺโน, เหตุสมุคฺฆาเต อเหตุนา ธมฺมาภิสมโย น โหตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ปุนเปตํ อตฺถํ จินฺเตหิ, น เม ตตฺถ จิตฺตสฺตฺติ ภวติ, อชานนฺตสฺส อสติ กุกฺกุจฺเจ อาวรณํ โหตีติ, การเณน มํ สฺาเปหี’’ติ. ‘‘อปิ นุ, มหาราช, วิสํ หลาหลํ อชานนฺเตน ขายิตํ ชีวิตํ หรตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อชานนฺเตนปิ กตํ ปาปํ อภิสมยนฺตรายกรํ โหติ.
‘‘อปิ นุ, มหาราช, อคฺคิ อชานิตฺวา อกฺกมนฺตํ ฑหตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อชานนฺเตนปิ กตํ ปาปํ อภิสมยนฺตรายกรํ โหติ.
‘‘อปิ ¶ นุ, มหาราช, อชานนฺตํ อาสีวิโส ฑํสิตฺวา ชีวิตํ หรตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อชานนฺเตนปิ กตํ ปาปํ อภิสมยนฺตรายกรํ โหติ.
‘‘นนุ, มหาราช, กาลิงฺคราชา สมณโกลฺโ สตฺตรตนปริกิณฺโณ หตฺถิรตนมภิรุยฺห กุลทสฺสนาย คจฺฉนฺโต อชานนฺโตปิ นาสกฺขิ โพธิมณฺฑสฺส อุปริโต คนฺตุํ, อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน อชานนฺเตนปิ กตํ ปาปํ อภิสมยนฺตรายกรํ โหตี’’ติ? ‘‘ชินภาสิตํ ¶ , ภนฺเต นาคเสน, การณํ น สกฺกา ปฏิกฺโกสิตุํ, เอโสเวตสฺส อตฺโถ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
อภิสมยนฺตรายกรปฺโห สตฺตโม.
๘. ทุสฺสีลปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, คิหิทุสฺสีลสฺส จ สมณทุสฺสีลสฺส จ โก วิเสโส, กึ นานากรณํ, อุโภเปเต สมสมคติกา, อุภินฺนมฺปิ สมสโม วิปาโก โหติ, อุทาหุ กิฺจิ นานาการณํ อตฺถี’’ติ?
‘‘ทส ยิเม, มหาราช, คุณา สมณทุสฺสีลสฺส คิหิทุสฺสีลโต วิเสเสน อติเรกา, ทสหิ จ การเณหิ อุตฺตรึ ทกฺขิณํ วิโสเธติ.
‘‘กตเม ทส คุณา สมณทุสฺสีลสฺส คิหิทุสฺสีลโต วิเสเสน อติเรกา? อิธ, มหาราช, สมณทุสฺสีโล พุทฺเธ สคารโว โหติ, ธมฺเม สคารโว โหติ, สงฺเฆ สคารโว โหติ, สพฺรหฺมจารีสุ สคารโว โหติ, อุทฺเทสปริปุจฺฉาย วายมติ, สวนพหุโล โหติ, ภินฺนสีโลปิ, มหาราช, ทุสฺสีโล ปริสคโต อากปฺปํ อุปฏฺเปติ, ครหภยา กายิกํ วาจสิกํ รกฺขติ, ปธานาภิมุขฺจสฺส โหติ จิตฺตํ, ภิกฺขุสามฺํ อุปคโต โหติ. กโรนฺโตปิ, มหาราช, สมณทุสฺสีโล ปาปํ ปฏิจฺฉนฺนํ อาจรติ. ยถา, มหาราช, อิตฺถี สปติกา นิลียิตฺวา รหสฺเสเนว ปาปมาจรติ; เอวเมว โข, มหาราช, กโรนฺโตปิ ¶ สมณทุสฺสีโล ปาปํ ปฏิจฺฉนฺนํ อาจรติ. อิเม โข, มหาราช, ทส คุณา สมณทุสฺสีลสฺส คิหิทุสฺสีลโต วิเสเสน อติเรกา.
‘‘กตเมหิ ทสหิ การเณหิ อุตฺตรึ ทกฺขิณํ วิโสเธติ? อนวชฺชกวจธารณตายปิ ทกฺขิณํ วิโสเธติ, อิสิสามฺภณฺฑุลิงฺคธารณโตปิ ทกฺขิณํ วิโสเธติ, สงฺฆสมยมนุปฺปวิฏฺตายปิ ทกฺขิณํ วิโสเธติ, พุทฺธธมฺมสงฺฆสรณคตตายปิ ทกฺขิณํ วิโสเธติ, ปธานาสยนิเกตวาสิตายปิ ทกฺขิณํ วิโสเธติ, ชินสาสนธร [ชินสาสนธน (สี. ปี.)] ปริเยสนโตปิ ทกฺขิณํ วิโสเธติ, ปวรธมฺมเทสนโตปิ ทกฺขิณํ วิโสเธติ, ธมฺมทีปคติปรายณตายปิ ทกฺขิณํ ¶ วิโสเธติ, ‘อคฺโค พุทฺโธ’ติ เอกนฺตอุชุทิฏฺิตายปิ ทกฺขิณํ วิโสเธติ, อุโปสถสมาทานโตปิ ทกฺขิณํ วิโสเธติ. อิเมหิ โข, มหาราช, ทสหิ การเณหิ อุตฺตรึ ทกฺขิณํ วิโสเธติ ¶ .
‘‘สุวิปนฺโนปิ หิ, มหาราช, สมณทุสฺสีโล ทายกานํ ทกฺขิณํ วิโสเธติ. ยถา, มหาราช, อุทกํ สุพหลมฺปิ กลลกทฺทมรโชชลฺลํ อปเนติ; เอวเมว โข, มหาราช, สุวิปนฺโนปิ สมณทุสฺสีโล ทายกานํ ทกฺขิณํ วิโสเธติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อุณฺโหทกํ สุกุธิตมฺปิ [สุกิตมฺปิ (สี. ปี), สุขุิตมฺปิ (สฺยา.)] ชฺชลนฺตํ มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ นิพฺพาเปติ, เอวเมว โข, มหาราช, สุวิปนฺโนปิ สมณทุสฺสีโล ทายกานํ ทกฺขิณํ วิโสเธติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, โภชนํ วิรสมฺปิ ขุทาทุพฺพลฺยํ อปเนติ, เอวเมว โข, มหาราช, สุวิปนฺโนปิ สมณทุสฺสีโล ทายกานํ ทกฺขิณํ วิโสเธติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ตถาคเตน เทวาติเทเวน มชฺฌิมนิกายวรลฺฉเก ทกฺขิณวิภงฺเค เวยฺยากรเณ –
‘‘‘โย สีลวา ทุสฺสีเลสุ ททาติ ทานํ, ธมฺเมน ลทฺธํ สุปสนฺนจิตฺโต;
อภิสทฺทหํ กมฺมผลํ อุฬารํ, สา ทกฺขิณา ทายกโต วิสุชฺฌตี’’’ติ [ม. นิ. ๓.๓๘๒].
‘‘อจฺฉริยํ ¶ , ภนฺเต นาคเสน, อพฺภุตํ, ภนฺเต นาคเสน, ตาวตกํ มยํ ปฺหํ อปุจฺฉิมฺห, ตํ ตฺวํ โอปมฺเมหิ การเณหิ วิภาเวนฺโต อมตมธุรํ สวนูปคํ อกาสิ. ยถา นาม, ภนฺเต, สูโท วา สูทนฺเตวาสี วา ตาวตกํ มํสํ ลภิตฺวา นานาวิเธหิ สมฺภาเรหิ สมฺปาเทตฺวา ราชูปโภคํ กโรติ; เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, ตาวตกํ มยํ ปฺหํ อปุจฺฉิมฺห, ตํ ตฺวํ โอปมฺเมหิ การเณหิ วิภาเวตฺวา อมตมธุรํ สวนูปคํ อกาสี’’ติ.
ทุสฺสีลปฺโห อฏฺโม.
๙. อุทกสตฺตชีวปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, อิมํ อุทกํ อคฺคิมฺหิ ตปฺปมานํ จิจฺจิฏายติ จิฏิจิฏายติ สทฺทายติ พหุวิธํ, กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, อุทกํ ชีวติ, กึ กีฬมานํ สทฺทายติ, อุทาหุ ¶ อฺเน ปฏิปีฬิตํ สทฺทายตี’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราช, อุทกํ ชีวติ, นตฺถิ อุทเก ชีโว วา สตฺโต วา, อปิ จ, มหาราช, อคฺคิสนฺตาปเวคสฺส มหนฺตตาย อุทกํ จิจฺจิฏายติ จิฏิจิฏายติ สทฺทายติ พหุวิธ’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, อิเธกจฺเจ ติตฺถิยา อุทกํ ชีวตีติ สีโตทกํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อุทกํ ตาเปตฺวา เวกติกเวกติกํ ปริภฺุชนฺติ, เต ตุมฺเห ครหนฺติ ปริภวนฺติ ‘เอกินฺทฺริยํ สมณา สกฺยปุตฺติยา ชีวํ วิเหเนฺตี’ติ, ตํ เตสํ ครหํ ปริภวํ วิโนเทหิ อปเนหิ นิจฺฉาเรหี’’ติ. ‘‘น หิ, มหาราช, อุทกํ ชีวติ, นตฺถิ, มหาราช, อุทเก ชีโว วา สตฺโต วา, อปิ จ, มหาราช, อคฺคิสนฺตาปเวคสฺส มหนฺตตาย อุทกํ จิจฺจิฏายติ จิฏิจิฏายติ สทฺทายติ พหุวิธํ.
‘‘ยถา, มหาราช, อุทกํ โสพฺภสรสริตทหตฬากกนฺทรปทรอุทปานนินฺนโปกฺขรณิคตํ วาตาตปเวคสฺส มหนฺตตาย ปริยาทิยติ ปริกฺขยํ คจฺฉติ, อปิ นุ ตตฺถ อุทกํ จิจฺจิฏายติ จิฏิจิฏายติ สทฺทายติ พหุวิธ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ยทิ, มหาราช, อุทกํ ชีเวยฺย, ตตฺถาปิ อุทกํ สทฺทาเยยฺย, อิมินาปิ, มหาราช, การเณน ชานาหิ ‘นตฺถิ อุทเก ชีโว วา สตฺโต วา, อคฺคิสนฺตาปเวคสฺส มหนฺตตาย อุทกํ จิจฺจิฏายติ จิฏิจิฏายติ สทฺทายติ พหุวิธ’นฺติ.
‘‘อปรมฺปิ ¶ , มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ ‘นตฺถิ อุทเก ชีโว วา สตฺโต วา, อคฺคิสนฺตาปเวคสฺส มหนฺตตาย อุทกํ สทฺทายตี’ติ. ยทา ปน, มหาราช, อุทกํ ตณฺฑุเลหิ สมฺมิสฺสิตํ ภาชนคตํ โหติ ปิหิตํ อุทฺธเน อปิตํ, อปิ นุ ตตฺถ อุทกํ สทฺทายตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, อจลํ โหติ สนฺตสนฺต’’นฺติ. ‘‘ตํ เยว ปน, มหาราช, อุทกํ ภาชนคตํ อคฺคึ อุชฺชาเลตฺวา อุทฺธเน ปิตํ โหติ, อปิ นุ ตตฺถ อุทกํ อจลํ โหติ สนฺตสนฺต’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, จลติ ขุพฺภติ ลุฬติ อาวิลติ อูมิชาตํ โหติ, อุทฺธมโธ ทิสาวิทิสํ คจฺฉติ, อุตฺตรติ ¶ ปตรติ เผณมาลี โหตีติ. กิสฺส ปน ตํ, มหาราช ¶ , ปากติกํ อุทกํ น จลติ สนฺตสนฺตํ โหติ, กิสฺส ปน อคฺคิคตํ จลติ ขุพฺภติ ลุฬติ อาวิลติ อูมิชาตํ โหติ, อุทฺธมโธ ทิสาวิทิสํ คจฺฉติ, อุตฺตรติ ปตรติ เผณมาลี โหตี’’ติ? ‘‘ปากติกํ, ภนฺเต, อุทกํ น จลติ, อคฺคิกตํ ปน อุทกํ อคฺคิสนฺตาปเวคสฺส มหนฺตตาย จิจฺจิฏายติ จิฏิจิฏายติ สทฺทายติ พหุวิธ’’นฺติ. ‘‘อิมินาปิ มหาราช, การเณน ชานาหิ ‘นตฺถิ อุทเก ชีโว วา สตฺโต วา, อคฺคิสนฺตาปเวคสฺส มหนฺตตาย อุทกํ สทฺทายตี’ติ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรํ การณํ สุโณหิ, นตฺถิ อุทเก ชีโว วา สตฺโต วา, อคฺคิสนฺตาปเวคสฺส มหนฺตตาย อุทกํ สทฺทายติ. โหติ ตํ, มหาราช, อุทกํ ฆเร ฆเร อุทกวารกคตํ ปิหิต’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อปิ นุ ตํ, มหาราช, อุทกํ จลติ ขุพฺภติ ลุฬติ อาวิลติ อูมิชาตํ โหติ, อุทฺธมโธ ทิสาวิทิสํ คจฺฉติ, อุตฺตรติ ปตรติ เผณมาลี โหตี’’ติ. ‘‘น หิ, ภนฺเต, อจลํ ตํ โหติ ปากติกํ อุทกวารกคตํ อุทก’’นฺติ.
‘‘สุตปุพฺพํ ปน ตยา, มหาราช, ‘มหาสมุทฺเท อุทกํ จลติ ขุพฺภติ ลุฬติ อาวิลติ อูมิชาตํ โหติ, อุทฺธมโธ ทิสาวิทิสํ คจฺฉติ, อุตฺตรติ ปตรติ เผณมาลี โหติ, อุสฺสกฺกิตฺวา โอสฺสกฺกิตฺวา [โอสฺสกฺกิตฺวา’’ติ ปทํ สี. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] เวลาย ปหรติ สทฺทายติ พหุวิธ’’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สุตปุพฺพํ เอตํ มยา ทิฏฺปุพฺพฺจ ‘มหาสมุทฺเท อุทกํ หตฺถสตมฺปิ ทฺเวปิ หตฺถสตานิ คคเน อุสฺสกฺกตี’’’ติ. ‘‘กิสฺส, มหาราช, อุทกวารกคตํ อุทกํ น จลติ น สทฺทายติ, กิสฺส ปน มหาสมุทฺเท อุทกํ จลติ สทฺทายตี’’ติ? ‘‘วาตเวคสฺส มหนฺตตาย, ภนฺเต, มหาสมุทฺเท อุทกํ จลติ สทฺทายติ, อุทกวารกคตํ อุทกํ อฆฏฺฏิตํ เกหิจิ ¶ น จลติ น สทฺทายตี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, วาตเวคสฺส มหนฺตตาย มหาสมุทฺเท อุทกํ จลติ สทฺทายติ ¶ เอวเมว อคฺคิสนฺตาปเวคสฺส มหนฺตตาย อุทกํ สทฺทายตี’’ติ.
‘‘นนุ, มหาราช, เภริโปกฺขรํ สุกฺขํ สุกฺเขน โคจมฺเมน โอนนฺธนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’. ‘‘อปิ นุ, มหาราช, เภริยา ชีโว วา สตฺโต วา อตฺถี’’ติ. ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน, มหาราช, เภรี สทฺทายตี’’ติ? ‘‘อิตฺถิยา วา, ภนฺเต, ปุริสสฺส วา ตชฺเชน วายาเมนา’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, อิตฺถิยา วา ปุริสสฺส วา ตชฺเชน วายาเมน เภรี สทฺทายติ, เอวเมว อคฺคิสนฺตาปเวคสฺส มหนฺตตาย อุทกํ สทฺทายติ. อิมินาปิ, มหาราช ¶ , การเณน ชานาหิ ‘นตฺถิ อุทเก ชีโว วา สตฺโต วา, อคฺคิสนฺตาปเวคสฺส มหนฺตตาย อุทกํ สทฺทายตี’ติ.
‘‘มยฺหมฺปิ ตาว, มหาราช, ตว ปุจฺฉิตพฺพํ อตฺถิ, เอวเมโส ปฺโห สุวินิจฺฉิโต โหติ, กึ นุ โข, มหาราช, สพฺเพหิปิ ภาชเนหิ อุทกํ ตปฺปมานํ สทฺทายติ, อุทาหุ เอกจฺเจหิ เยว ภาชเนหิ ตปฺปมานํ สทฺทายตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, สพฺเพหิปิ ภาชเนหิ อุทกํ ตปฺปมานํ สทฺทายติ, เอกจฺเจหิ เยว ภาชเนหิ อุทกํ ตปฺปมานํ สทฺทายตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, ชหิโตสิ สกสมยํ, ปจฺจาคโตสิ มม วิสยํ, นตฺถิ อุทเก ชีโว วา สตฺโต วา. ยทิ, มหาราช, สพฺเพหิปิ ภาชเนหิ อุทกํ ตปฺปมานํ สทฺทาเยยฺย, ยุตฺตมิทํ ‘อุทกํ ชีวตี’ติ วตฺตุํ. น หิ, มหาราช, อุทกํ ทฺวยํ โหติ, ยํ สทฺทายติ, ตํ ชีวติ, ยํ น สทฺทายติ, ตํ น ชีวตีติ. ยทิ, มหาราช, อุทกํ ชีเวยฺย, มหนฺตานํ หตฺถินาคานํ อุสฺสนฺนกายานํ ปภินฺนานํ โสณฺฑาย อุสฺสิฺจิตฺวา มุเข ปกฺขิปิตฺวา กุจฺฉึ ปเวสยนฺตานํ, ตมฺปิ อุทกํ เตสํ ทนฺตนฺตเร จิปฺปิยมานํ สทฺทาเยยฺย. หตฺถสติกาปิ มหานาวา ครุกา ภาริกา อเนกสตสหสฺสภารปริปูรา มหาสมุทฺเท วิจรนฺติ, ตาหิปิ จิปฺปิยมานํ อุทกํ สทฺทาเยยฺย. มหติมหนฺตาปิ มจฺฉา ¶ อเนกสตโยชนิกกายา ติมี ติมิงฺคลา ติมิรปิงฺคลา อพฺภนฺตเร นิมุคฺคา มหาสมุทฺเท นิวาสฏฺานตาย ปฏิวสนฺตา มหาอุทกธารา อาจมนฺติ ธมนฺติ จ, เตสมฺปิ ตํ ทนฺตนฺตเรปิ อุทรนฺตเรปิ จิปฺปิยมานํ อุทกํ สทฺทาเยยฺย. ยสฺมา จ โข, มหาราช, เอวรูเปหิ เอวรูเปหิ มหนฺเตหิ ปฏิปีฬเนหิ ปฏิปีฬิตํ อุทกํ น สทฺทายติ ตสฺมาปิ นตฺถิ อุทเก ชีโว วา สตฺโต วาติ, เอวเมตํ, มหาราช, ธาเรหี’’ติ.
‘‘สาธุ ¶ , ภนฺเต นาคเสน, โทสาคโต ปฺโห อนุจฺฉวิกาย วิภตฺติยา วิภตฺโต, ยถา นาม, ภนฺเต นาคเสน, มหคฺฆํ มณิรตนํ เฉกํ อาจริยํ กุสลํ สิกฺขิตํ มณิการํ ปาปุณิตฺวา กิตฺตึ ลเภยฺย โถมนํ ปสํสํ, มุตฺตารตนํ วา มุตฺติกํ ทุสฺสรตนํ วา ทุสฺสิกํ, โลหิตจนฺทนํ วา คนฺธิกํ ปาปุณิตฺวา กิตฺตึ ลเภยฺย โถมนํ ปสํสํ. เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, โทสาคโต [เทสาคโต (สี. ปี.)] ปฺโห อนุจฺฉวิกาย วิภตฺติยา วิภตฺโต, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
อุทกสตฺตชีวปฺโห นวโม.
พุทฺธวคฺโค ปโม.
อิมสฺมึ วคฺเค นว ปฺหา.
๒. นิปฺปปฺจวคฺโค
๑. นิปฺปปฺจปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘นิปฺปปฺจารามา, ภิกฺขเว, วิหรถ นิปฺปปฺจรติโน’ติ, กตมํ ตํ นิปฺปปฺจ’’นฺติ? ‘‘โสตาปตฺติผลํ, มหาราช, นิปฺปปฺจํ, สกทาคามิผลํ นิปฺปปฺจํ, อนาคามิผลํ นิปฺปปฺจํ, อรหตฺตผลํ นิปฺปปฺจ’’นฺติ.
‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, โสตาปตฺติผลํ นิปฺปปฺจํ, สกทาคามิอนาคามิอรหตฺตผลํ นิปฺปปฺจํ ¶ , กิสฺส ปน อิเม ภิกฺขู อุทฺทิสนฺติ ปริปุจฺฉนฺติ สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ, นวกมฺเมน ปลิพุชฺฌนฺติ ทาเนน จ ปูชาย จ, นนุ เต ชินปฺปฏิกฺขิตฺตํ กมฺมํ กโรตี’’ติ?
‘‘เย เต, มหาราช, ภิกฺขู อุทฺทิสนฺติ ปริปุจฺฉนฺติ สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ, นวกมฺเมน ปลิพุชฺฌนฺติ ทาเนน จ ปูชาย จ, สพฺเพ เต นิปฺปปฺจสฺส ปตฺติยา กโรนฺติ. เย เต, มหาราช, สภาวปริสุทฺธา ปุพฺเพ วาสิตวาสนา, เต เอกจิตฺตกฺขเณน นิปฺปปจ โหนฺติ. เย ปน เต ภิกฺขู มหารชกฺขา, เต อิเมหิ ปโยเคหิ นิปฺปปฺจา โหนฺติ.
‘‘ยถา, มหาราช, เอโก ปุริโส เขตฺเต พีชํ โรเปตฺวา อตฺตโน ยถาพลวีริเยน วินา ปาการวติยา ธฺํ อุทฺธเรยฺย, เอโก ปุริโส เขตฺเต พีชํ โรเปตฺวา วนํ ปวิสิตฺวา กฏฺฺจ สาขฺจ ฉินฺทิตฺวา วติปาการํ กตฺวา ธฺํ อุทฺธเรยฺย. ยา ตตฺถ ตสฺส วติปาการปริเยสนา, สา ธฺตฺถาย. เอวเมว โข, มหาราช, เย เต สภาวปริสุทฺธา ปุพฺเพ วาสิตวาสนา, เต เอกจิตฺตกฺขเณน นิปฺปปฺจา โหนฺติ, วินา วติปาการํ ปุริโส วิย ธฺุทฺธาโร. เย ปน เต ภิกฺขู มหารชกฺขา, เต อิเมหิ ปโยเคหิ นิปฺปปฺจา โหนฺติ, วติปาการํ กตฺวา ปุริโส วิย ธฺุทฺธาโร.
‘‘ยถา ¶ วา ปน, มหาราช, ปุริโส มหติมหนฺเต อมฺพรุกฺขมตฺถเก ผลปิณฺฑิ ภเวยฺย, อถ ตตฺถ โย โกจิ อิทฺธิมา อาคนฺตฺวา ตสฺส ผลํ หเรยฺย, โย ปน ตตฺถ อนิทฺธิมา, โส กฏฺฺจ วลฺลิฺจ ฉินฺทิตฺวา นิสฺเสณึ พนฺธิตฺวา ตาย ตํ รุกฺขํ อภิรุหิตฺวา ผลํ หเรยฺย. ยา ตตฺถ ¶ ตสฺส นิสฺเสณิปริเยสนา, สา ผลตฺถาย. เอวเมว โข, มหาราช, เย เต สภาวปริสุทฺธา ปุพฺเพ วาสิตวาสนา, เต เอกจิตฺตกฺขเณน นิปฺปปฺจา โหนฺติ, อิทฺธิมา วิย รุกฺขผลํ หรนฺโต. เย ปน เต ภิกฺขู มหารชกฺขา, เต อิมินา ปโยเคน สจฺจานิ อภิสเมนฺติ, นิสฺเสณิยา วิย ปุริโส รุกฺขผลํ หรนฺโต ¶ .
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, เอโก ปุริโส อตฺถกรณิโก เอกโก เยว สามิกํ อุปคนฺตฺวา อตฺถํ สาเธติ. เอโก ธนวา ธนวเสน ปริสํ วฑฺเฒตฺวา ปริสาย อตฺถํ สาเธติ. ยา ตตฺถ ตสฺส ปริสปริเยสนา, สา อตฺถตฺถาย. เอวเมว โข, มหาราช, เย เต สภาวปริสุทฺธา ปุพฺเพ วาสิตวาสนา, เต เอกจิตฺตกฺขเณน ฉสุ อภิฺาสุ วสิภาวํ ปาปุณนฺติ, ปุริโส วิย เอกโก อตฺถสิทฺธึ กโรนฺโต. เย ปน เต ภิกฺขู มหารชกฺขา, เต อิเมหิ ปโยเคหิ สามฺตฺถมภิสาเธนฺติ, ปริสาย วิย ปุริโส อตฺถสิทฺธึ กโรนฺโต.
‘‘อุทฺเทโสปิ, มหาราช, พหุกาโร, ปริปุจฺฉาปิ พหุการา, นวกมฺมมฺปิ พหุการํ, ทานมฺปิ พหุการํ, ปูชาปิ พหุการา เตสุ เตสุ กรณีเยสุ. ยถา, มหาราช, ปุริโส ราชูปเสวี กตาวี อมจฺจภฏพลโทวาริกอนีกฏฺปาริสชฺชชเนหิ, เต ตสฺส กรณีเย อนุปฺปตฺเต สพฺเพปิ อุปการา โหนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, อุทฺเทโสปิ พหุกาโร, ปริปุจฺฉาปิ พหุการา, นวกมฺมมฺปิ พหุการํ, ทานมฺปิ พหุการํ, ปูชาปิ พหุการา เตสุ เตสุ กรณีเยสุ. ยทิ, มหาราช, สพฺเพปิ อภิชาติปริสุทฺธา ภเวยฺยุํ, อนุสาสเนน [อนุสาสเกน (สี. ปี.)] กรณียํ น ภเวยฺย. ยสฺมา จ โข, มหาราช, สวเนน กรณียํ โหติ, เถโร, มหาราช, สาริปุตฺโต อปริมิตมสงฺเขยฺยกปฺปํ อุปาทาย อุปจิตกุสลมูโล ปฺาย โกฏึ คโต, โสปิ วินา สวเนน นาสกฺขิ อาสวกฺขยํ ปาปุณิตุํ. ตสฺมา, มหาราช, พหุการํ สวนํ, ตถา อุทฺเทโสปิ ปริปุจฺฉาปิ. ตสฺมา อุทฺเทสปริปุจฺฉาปิ นิปฺปปฺจา สงฺขตา’’ติ. ‘‘สุนิชฺฌาปิโต, ภนฺเต นาคเสน, ปฺโห, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
นิปฺปปฺจปฺโห ปโม.
๒. ขีณาสวภาวปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘โย คิหี อรหตฺตํ ปตฺโต, ทฺเว วาสฺส คติโย ภวนฺติ อนฺา, ตสฺมึ เยว ทิวเส ปพฺพชติ วา ปรินิพฺพายติ วา. น โส ทิวโส ¶ สกฺกา อติกฺกเมตุ’นฺติ. สเจ โส, ภนฺเต นาคเสน, ตสฺมึ ทิวเส อาจริยํ วา อุปชฺฌายํ วา ปตฺตจีวรํ วา น ลเภถ, อปิ นุ โข โส อรหา สยํ วา ปพฺพเชยฺย ทิวสํ วา อติกฺกเมยฺย, อฺโ โกจิ อรหา อิทฺธิมา อาคนฺตฺวา ตํ ปพฺพาเชยฺย วา ปรินิพฺพาเยยฺย วา’’ติ? ‘‘น โส, มหาราช, อรหา สยํ ปพฺพเชยฺย, สยํ ปพฺพชนฺโต เถยฺยํ อาปชฺชติ, น จ ทิวสํ อติกฺกเมยฺย, อฺสฺส อรหนฺตสฺส อาคมนํ ภเวยฺย วา น วา ภเวยฺย, ตสฺมึ เยว ทิวเส ปรินิพฺพาเยยฺยา’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, อรหตฺตสฺส สนฺตภาโว วิชหิโต โหติ, เยน อธิคตสฺส ชีวิตหาโร ภวตี’’ติ.
‘‘วิสมํ, มหาราช, คิหิลิงฺคํ, วิสเม ลิงฺเค ลิงฺคทุพฺพลตาย อรหตฺตํ ปตฺโต คิหี ตสฺมึ เยว ทิวเส ปพฺพชติ วา ปรินิพฺพายติ วา. เนโส, มหาราช, โทโส อรหตฺตสฺส, คิหิลิงฺคสฺเสเวโส โทโส ยทิทํ ลิงฺคทุพฺพลตา.
‘‘ยถา, มหาราช, โภชนํ สพฺพสตฺตานํ อายุปาลกํ ชีวิตรกฺขกํ วิสมโกฏฺสฺส มนฺททุพฺพลคหณิกสฺส อวิปาเกน ชีวิตํ หรติ. เนโส, มหาราช, โทโส โภชนสฺส, โกฏฺสฺเสเวโส โทโส ยทิทํ อคฺคิทุพฺพลตา. เอวเมว โข, มหาราช, วิสเม ลิงฺเค ลิงฺคทุพฺพลตาย อรหตฺตํ ปตฺโต คิหี ตสฺมึ เยว ทิวเส ปพฺพชติ วา ปรินิพฺพายติ วา. เนโส, มหาราช, โทโส อรหตฺตสฺส, คิหิลิงฺคสฺเสเวโส โทโส ยทิทํ ลิงฺคทุพฺพลตา.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ปริตฺตํ ติณสลากํ อุปริ ครุเก ปาสาเณ ปิเต ทุพฺพลตาย ภิชฺชิตฺวา ปตติ. เอวเมว โข, มหาราช, อรหตฺตํ ปตฺโต คิหี เตน ลิงฺเคน อรหตฺตํ ธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต ตสฺมึ เยว ทิวเส ปพฺพชติ วา ปรินิพฺพายติ วา.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ปุริโส อพโล ทุพฺพโล นิหีนชจฺโจ ปริตฺตปฺุโ มหติมหารชฺชํ ลภิตฺวา ขเณน ปริปตติ ปริธํสติ โอสกฺกติ, น สกฺโกติ อิสฺสริยํ ธาเรตุํ, เอวเมว โข, มหาราช, อรหตฺตํ ¶ ปตฺโต คิหี เตน ลิงฺเคน อรหตฺตํ ¶ ธาเรตุํ น สกฺโกติ ¶ , เตน การเณน ตสฺมึ เยว ทิวเส ปพฺพชติ วา ปรินิพฺพายติ วา’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
ขีณาสวภาวปฺโห ทุติโย.
๓. ขีณาสวสติสมฺโมสปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อตฺถิ อรหโต สติสมฺโมโส’’ติ? ‘‘วิคตสติสมฺโมสา โข, มหาราช, อรหนฺโต, นตฺถิ อรหนฺตานํ สติสมฺโมโส’’ติ. ‘‘อาปชฺเชยฺย ปน, ภนฺเต, อรหา อาปตฺติ’’นฺติ? ‘‘อาม, มหาราชา’’ติ. ‘‘กิสฺมึ วตฺถุสฺมิ’’นฺติ? ‘‘กุฏิกาเร, มหาราช, สฺจริตฺเต, วิกาเล กาลสฺาย, ปวาริเต อปฺปวาริตสฺาย, อนติริตฺเต อติริตฺตสฺายา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘เย อาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ, เต ทฺวีหิ การเณหิ อาปชฺชนฺติ อนาทริเยน วา อชานเนน วา’ติ. อปิ นุ โข, ภนฺเต, อรหโต อนาทริยํ โหติ, ยํ อรหา อาปตฺตึ อาปชฺชตี’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ.
‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, อรหา อาปตฺตึ อาปชฺชติ, นตฺถิ จ อรหโต อนาทริยํ, เตน หิ อตฺถิ อรหโต สติสมฺโมโส’’ติ? ‘‘นตฺถิ, มหาราช, อรหโต สติสมฺโมโส, อาปตฺติฺจ อรหา อาปชฺชตี’’ติ.
‘‘เตน หิ, ภนฺเต, การเณน มํ สฺาเปหิ, กึ ตตฺถ การณ’’นฺติ? ‘‘ทฺเวเม, มหาราช, กิเลสา โลกวชฺชํ ปณฺณตฺติวชฺชฺจาติ. กตมํ, มหาราช, โลกวชฺชํ? ทส อกุสลกมฺมปถา, อิทํ วุจฺจติ โลกวชฺชํ. กตมํ ปณฺณตฺติวชฺชํ? ยํ โลเก อตฺถิ สมณานํ อนนุจฺฉวิกํ อนนุโลมิกํ, คิหีนํ อนวชฺชํ. ตตฺถ ภควา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปติ ‘ยาวชีวํ อนติกฺกมนีย’นฺติ. วิกาลโภชนํ, มหาราช, โลกสฺส อนวชฺชํ, ตํ ชินสาสเน วชฺชํ. ภูตคามวิโกปนํ, มหาราช, โลกสฺส อนวชฺชํ, ตํ ชินสาสเน วชฺชํ. อุทเก หสฺสธมฺมํ, มหาราช, โลกสฺส อนวชฺชํ, ตํ ชินสาสเน วชฺชํ. อิติ เอวรูปานิ เอวรูปานิ, มหาราช ¶ , ชินสาสเน วชฺชานิ, อิทํ วุจฺจติ ปณฺณตฺติวชฺชํ.
‘‘โลกวชฺชํ ¶ อภพฺโพ ขีณาสโว ตํ อชฺฌาจริตุํ, ยํ กิเลสํ ปณฺณตฺติวชฺชํ, ตํ ¶ อชานนฺโต อาปชฺเชยฺย. อวิสโย, มหาราช, เอกจฺจสฺส อรหโต สพฺพํ ชานิตุํ, น หิ ตสฺส พลํ อตฺถิ สพฺพํ ชานิตุํ. อนฺาตํ, มหาราช, อรหโต อิตฺถิปุริสานํ นามมฺปิ โคตฺตมฺปิ, มคฺโคปิ ตสฺส มหิยา อนฺาโต; วิมุตฺตึ เยว, มหาราช, เอกจฺโจ อรหา ชาเนยฺย; ฉฬภิฺโ อรหา สกวิสยํ ชาเนยฺย; สพฺพฺู, มหาราช, ตถาคโตว สพฺพํ ชานาตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
ขีณาสวสติสมฺโมสปฺโห ตติโย.
๔. โลเก นตฺถิภาวปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ทิสฺสนฺติ โลเก พุทฺธา, ทิสฺสนฺติ ปจฺเจกพุทฺธา, ทิสฺสนฺติ ตถาคตสฺส สาวกา, ทิสฺสนฺติ จกฺกวตฺติราชาโน, ทิสฺสนฺติ ปเทสราชาโน, ทิสฺสนฺติ เทวมนุสฺสา, ทิสฺสนฺติ สธนา, ทิสฺสนฺติ อธนา, ทิสฺสนฺติ สุคตา, ทิสฺสนฺติ ทุคฺคตา, ทิสฺสติ ปุริสสฺส อิตฺถิลิงฺคํ ปาตุภูตํ, ทิสฺสติ อิตฺถิยา ปุริสลิงฺคํ ปาตุภูตํ, ทิสฺสติ สุกตํ ทุกฺกตํ กมฺมํ, ทิสฺสนฺติ กลฺยาณปาปกานํ กมฺมานํ วิปากูปโภคิโน สตฺตา, อตฺถิ โลเก สตฺตา อณฺฑชา ชลาพุชา สํเสทชา โอปปาติกา, อตฺถิ สตฺตา อปทา ทฺวิปทา จตุปฺปทา พหุปฺปทา, อตฺถิ โลเก ยกฺขา รกฺขสา กุมฺภณฺฑา อสุรา ทานวา คนฺธพฺพา เปตา ปิสาจา, อตฺถิ กินฺนรา มโหรคา นาคา สุปณฺณา สิทฺธา วิชฺชาธรา, อตฺถิ หตฺถี อสฺสา คาโว มหึสา [มหิสา (สี. ปี.)] โอฏฺา คทฺรภา อชา เอฬกา มิคา สูกรา สีหา พฺยคฺฆา ทีปี อจฺฉา โกกา ตรจฺฉา โสณา สิงฺคาลา, อตฺถิ พหุวิธา สกุณา, อตฺถิ สุวณฺณํ รชตํ มุตฺตา มณิ สงฺโข สิลา ปวาฬํ โลหิตงฺโก มสารคลฺลํ เวฬุริโย วชิรํ ผลิกํ กาฬโลหํ ตมฺพโลหํ วฏฺฏโลหํ กํสโลหํ, อตฺถิ โขมํ โกเสยฺยํ กปฺปาสิกํ สาณํ ภงฺคํ กมฺพลํ, อตฺถิ สาลิ วีหิ ยโว กงฺคุ กุทฺรูโส วรโก โคธูโม ¶ มุคฺโค, มาโส ติลํ กุลตฺถํ, อตฺถิ มูลคนฺโธ สารคนฺโธ เผคฺคุคนฺโธ ตจคนฺโธ ปตฺตคนฺโธ ¶ ปุปฺผคนฺโธ ผลคนฺโธ สพฺพคนฺโธ, อตฺถิ ติณ ลตา คจฺฉ รุกฺข โอสธิ วนปฺปติ นที ปพฺพต สมุทฺท มจฺฉกจฺฉปา สพฺพํ โลเก อตฺถิ. ยํ, ภนฺเต, โลเก นตฺถิ, ตํ เม กเถหี’’ติ.
‘‘ตีณิมานิ, มหาราช, โลเก นตฺถิ. กตมานิ ตีณิ? สเจตนา วา อเจตนา วา อชรามรา ¶ โลเก นตฺถิ, สงฺขารานํ นิจฺจตา นตฺถิ, ปรมตฺเถน สตฺตูปลทฺธิ นตฺถิ, อิมานิ โข, มหาราช, ตีณิ โลเก นตฺถี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
โลเก นตฺถิภาวปฺโห จตุตฺโถ.
๕. อกมฺมชาทิปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ทิสฺสนฺติ โลเก กมฺมนิพฺพตฺตา, ทิสฺสนฺติ เหตุนิพฺพตฺตา, ทิสฺสนฺติ อุตุนิพฺพตฺตา, ยํ โลเก อกมฺมชํ อเหตุชํ อนุตุชํ, ตํ เม กเถหี’’ติ. ‘‘ทฺเวเม, มหาราช, โลกสฺมึ อกมฺมชา อเหตุชา อนุตุชา. กตเม ทฺเว? อากาโส, มหาราช, อกมฺมโช อเหตุโช อนุตุโช; นิพฺพานํ, มหาราช, อกมฺมชํ อเหตุชํ อนุตุชํ. อิเม โข, มหาราช, ทฺเว อกมฺมชา อเหตุชา อนุตุชา’’ติ.
‘‘มา, ภนฺเต นาคเสน, ชินวจนํ มกฺเขหิ, มา อชานิตฺวา ปฺหํ พฺยากโรหี’’ติ. ‘‘กึ โข, มหาราช, อหํ วทามิ, ยํ มํ ตฺวํ เอวํ วเทสิ ‘มา, ภนฺเต นาคเสน, ชินวจนํ มกฺเขหิ, มา อชานิตฺวา ปฺหํ พฺยากโรหี’’’ติ? ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยุตฺตมิทํ ตาว วตฺตุํ ‘อากาโส อกมฺมโช อเหตุโช อนุตุโช’ติ. อเนกสเตหิ ปน, ภนฺเต นาคเสน, การเณหิ ภควตา สาวกานํ นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย มคฺโค อกฺขาโต, อถ จ ปน ตฺวํ เอวํ วเทสิ ‘อเหตุชํ นิพฺพาน’’’นฺติ. ‘‘สจฺจํ, มหาราช, ภควตา อเนกสเตหิ การเณหิ สาวกานํ นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย มคฺโค อกฺขาโต, น จ ปน นิพฺพานสฺส อุปฺปาทาย เหตุ อกฺขาโต’’ติ.
‘‘เอตฺถ มยํ, ภนฺเต นาคเสน, อนฺธการโต อนฺธการตรํ ¶ ปวิสาม, วนโต วนตรํ ปวิสาม, คหนโต คหนตรํ [คหนนฺตรโต คหนนฺตรํ (ก.)] ปวิสาม, ยตฺร หิ นาม ¶ นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย เหตุ อตฺถิ, ตสฺส ปน ธมฺมสฺส อุปฺปาทาย เหตุ นตฺถิ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย เหตุ อตฺถิ, เตน หิ นิพฺพานสฺส อุปฺปาทายปิ เหตุ อิจฺฉิตพฺโพ.
‘‘ยถา ปน, ภนฺเต นาคเสน, ปุตฺตสฺส ปิตา อตฺถิ, เตน การเณน ปิตุโนปิ ปิตา อิจฺฉิตพฺโพ. ยถา อนฺเตวาสิกสฺส อาจริโย อตฺถิ, เตน การเณน อาจริยสฺสปิ อาจริโย อิจฺฉิตพฺโพ ¶ . ยถา องฺกุรสฺส พีชํ อตฺถิ, เตน การเณน พีชสฺสปิ พีชํ อิจฺฉิตพฺพํ. เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, ยทิ นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย เหตุ อตฺถิ, เตน การเณน นิพฺพานสฺส อุปฺปาทายปิ เหตุ อิจฺฉิตพฺโพ.
‘‘ยถา รุกฺขสฺส วา ลตาย วา อคฺเค สติ เตน การเณน มชฺฌมฺปิ อตฺถิ, มูลมฺปิ อตฺถิ. เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, ยทิ นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย เหตุ อตฺถิ, เตน การเณน นิพฺพานสฺส อุปฺปาทายปิ เหตุ อิจฺฉิตพฺโพ’’’ติ.
‘‘อนุปฺปาทนียํ, มหาราช, นิพฺพานํ, ตสฺมา น นิพฺพานสฺส อุปฺปาทาย เหตุ อกฺขาโต’’ติ. ‘‘อิงฺฆ, ภนฺเต นาคเสน, การณํ ทสฺเสตฺวา การเณน มํ สฺาเปหิ, ยถาหํ ชาเนยฺยํ นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย เหตุ อตฺถิ, นิพฺพานสฺส อุปฺปาทาย เหตุ นตฺถี’’ติ.
‘‘เตน หิ, มหาราช, สกฺกจฺจํ โสตํ โอทห, สาธุกํ สุโณหิ, วกฺขามิ ตตฺถ การณํ, สกฺกุเณยฺย, มหาราช, ปุริโส ปากติเกน พเลน อิโต หิมวนฺตํ ปพฺพตราชํ อุปคนฺตุ’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘สกฺกุเณยฺย ปน โส, มหาราช, ปุริโส ปากติเกน พเลน หิมวนฺตํ ปพฺพตราชํ อิธ อาหริตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, สกฺกา นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย มคฺโค อกฺขาตุํ, น สกฺกา นิพฺพานสฺส อุปฺปาทาย เหตุ ทสฺเสตุํ.
‘‘สกฺกุเณยฺย, มหาราช, ปุริโส ปากติเกน พเลน มหาสมุทฺทํ นาวาย อุตฺตริตฺวา ปาริมตีรํ คนฺตุ’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ? ‘‘สกฺกุเณยฺย ปน โส, มหาราช ¶ , ปุริโส ปากติเกน พเลน มหาสมุทฺทสฺส ปาริมตีรํ อิธ อาหริตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, สกฺกา นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย มคฺโค อกฺขาตุํ, น สกฺกา นิพฺพานสฺส อุปฺปาทาย เหตุ ทสฺเสตุํ. กึ การณา? อสงฺขตตฺตา ธมฺมสฺสา’’ติ.
‘‘อสงฺขตํ ¶ , ภนฺเต นาคเสน, นิพฺพาน’’นฺติ? ‘‘อาม, มหาราช, อสงฺขตํ นิพฺพานํ น เกหิจิ กตํ, นิพฺพานํ, มหาราช, น วตฺตพฺพํ อุปฺปนฺนนฺติ วา อนุปฺปนฺนนฺติ วา อุปฺปาทนียนฺติ วา อตีตนฺติ วา อนาคตนฺติ วา ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ วา จกฺขุวิฺเยฺยนฺติ วา โสตวิฺเยฺยนฺติ วา ฆานวิฺเยฺยนฺติ วา ชิวฺหาวิฺเยฺยนฺติ วา กายวิฺเยฺยนฺติ วา’’ติ. ‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, นิพฺพานํ น อุปฺปนฺนํ น อนุปฺปนฺนํ น อุปฺปาทนียํ น อตีตํ น อนาคตํ น ปจฺจุปฺปนฺนํ ¶ น จกฺขุวิฺเยฺยํ น โสตวิฺเยฺยํ น ฆานวิฺเยฺยํ น ชิวฺหาวิฺเยฺยํ น กายวิฺเยฺยํ, เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห นตฺถิธมฺมํ นิพฺพานํ อปทิสถ ‘นตฺถิ นิพฺพาน’นฺติ. ‘‘อตฺถิ, มหาราช, นิพฺพานํ, มโนวิฺเยฺยํ นิพฺพานํ, วิสุทฺเธน มานเสน ปณีเตน อุชุเกน อนาวรเณน นิรามิเสน สมฺมาปฏิปนฺโน อริยสาวโก นิพฺพานํ ปสฺสตี’’ติ.
‘‘กีทิสํ ปน ตํ, ภนฺเต, นิพฺพานํ, ยํ ตํ โอปมฺเมหิ อาทีปนียํ การเณหิ มํ สฺาเปหิ, ยถา อตฺถิธมฺมํ โอปมฺเมหิ อาทีปนีย’’นฺติ. ‘‘อตฺถิ, มหาราช, วาโต นามา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อิงฺฆ, มหาราช, วาตํ ทสฺเสหิ วณฺณโต วา สณฺานโต วา อณุํ วา ถูลํ วา ทีฆํ วา รสฺสํ วา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, ภนฺเต นาคเสน, วาโต อุปทสฺสยิตุํ, น โส วาโต หตฺถคฺคหณํ วา นิมฺมทฺทนํ วา อุเปติ, อปิ จ อตฺถิ โส วาโต’’ติ. ‘‘ยทิ, มหาราช, น สกฺกา วาโต อุปทสฺสยิตุํ, เตน หิ นตฺถิ วาโต’’ติ? ‘‘ชานามหํ, ภนฺเต นาคเสน, วาโต อตฺถีติ เม หทเย อนุปวิฏฺํ, น ¶ จาหํ สกฺโกมิ วาตํ อุปทสฺสยิตุ’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อตฺถิ นิพฺพานํ, น จ สกฺกา นิพฺพานํ อุปทสฺสยิตุํ วณฺเณน วา สณฺาเนน วา’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, สูปทสฺสิตํ โอปมฺมํ, สุนิทฺทิฏฺํ การณํ, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามิ ‘อตฺถิ นิพฺพาน’’’นฺติ.
อกมฺมชาทิปฺโห ปฺจโม.
๖. กมฺมชาทิปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กตเม เอตฺถ กมฺมชา, กตเม เหตุชา, กตเม อุตุชา, กตเม น กมฺมชา, น เหตุชา, น อุตุชา’’ติ? ‘‘เย เกจิ, มหาราช, สตฺตา สเจตนา, สพฺเพ เต กมฺมชา; อคฺคิ จ สพฺพานิ จ ¶ พีชชาตานิ เหตุชานิ; ปถวี จ ปพฺพตา จ อุทกฺจ วาโต จ, สพฺเพ เต อุตุชา; อากาโส จ นิพฺพานฺจ อิเม ทฺเว อกมฺมชา อเหตุชา อนุตุชา. นิพฺพานํ ปน, มหาราช, น วตฺตพฺพํ กมฺมชนฺติ วา เหตุชนฺติ วา อุตุชนฺติ วา อุปฺปนฺนนฺติ วา อนุปฺปนฺนนฺติ วา อุปฺปาทนียนฺติ วา อตีตนฺติ วา อนาคตนฺติ วา ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ วา จกฺขุวิฺเยฺยนฺติ วา โสตวิฺเยฺยนฺติ วา ฆานวิฺเยฺยนฺติ วา ชิวฺหาวิฺเยฺยนฺติ วา กายวิฺเยฺยนฺติ วา, อปิ จ, มหาราช, มโนวิฺเยฺยํ นิพฺพานํ, ยํ ¶ โส สมฺมาปฏิปนฺโน อริยสาวโก วิสุทฺเธน าเณน ปสฺสตี’’ติ. ‘‘รมณีโย, ภนฺเต นาคเสน, ปฺโห สุวินิจฺฉิโต นิสฺสํสโย เอกนฺตคโต, วิมติ อุปฺปจฺฉินฺนา, ตฺวํ คณิวรปวรมาสชฺชา’’ติ.
กมฺมชาทิปฺโห ฉฏฺโ.
๗. ยกฺขปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อตฺถิ โลเก ยกฺขา นามา’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, อตฺถิ โลเก ยกฺขา นามา’’ติ. ‘‘จวนฺติ ปน เต, ภนฺเต, ยกฺขา ตมฺหา โยนิยา’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, จวนฺติ เต ยกฺขา ตมฺหา โยนิยา’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน, ภนฺเต นาคเสน, เตสํ มตานํ ยกฺขานํ สรีรํ น ทิสฺสติ, กุณปคนฺโธปิ ¶ น วายตี’’ติ? ‘‘ทิสฺสติ, มหาราช, มตานํ ยกฺขานํ สรีรํ, กุณปคนฺโธปิ เตสํ วายติ, มตานํ, มหาราช, ยกฺขานํ สรีรํ กีฏวณฺเณน วา ทิสฺสติ, กิมิวณฺเณน วา ทิสฺสติ, กิปิลฺลิกวณฺเณน วา ทิสฺสติ, ปฏงฺควณฺเณน วา ทิสฺสติ, อหิวณฺเณน วา ทิสฺสติ, วิจฺฉิกวณฺเณน วา ทิสฺสติ, สตปทิวณฺเณน วา ทิสฺสติ, ทิชวณฺเณน วา ทิสฺสติ, มิควณฺเณน วา ทิสฺสตี’’ติ. ‘‘โก หิ, ภนฺเต นาคเสน, อฺโ อิทํ ปฺหํ ปุฏฺโ วิสชฺเชยฺย อฺตฺร ตวาทิเสน พุทฺธิมตา’’ติ.
ยกฺขปฺโห สตฺตโม.
๘. อนวเสสสิกฺขาปทปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, เย เต อเหสุํ ติกิจฺฉกานํ ปุพฺพกา อาจริยา เสยฺยถิทํ, นารโท ธมฺมนฺตรี [ธนฺวนฺตรี (?)] องฺคิรโส กปิโล กณฺฑรคฺคิ สาโม ¶ อตุโล ปุพฺพกจฺจายโน, สพฺเพเปเต อาจริยา สกึ เยว โรคุปฺปตฺติฺจ นิทานฺจ สภาวฺจ สมุฏฺานฺจ ติกิจฺฉฺจ กิริยฺจ สิทฺธาสิทฺธฺจ สพฺพํ ตํ [สนฺตํ (ก.)] นิรวเสสํ ชานิตฺวา ‘อิมสฺมึ กาเย เอตฺตกา โรคา อุปฺปชฺชิสฺสนฺตี’ติ เอกปฺปหาเรน กลาปคฺคาหํ กริตฺวา สุตฺตํ พนฺธึสุ, อสพฺพฺุโน เอเต สพฺเพ, กิสฺส ปน ตถาคโต สพฺพฺู สมาโน อนาคตํ กิริยํ พุทฺธาเณน ชานิตฺวา ‘เอตฺตเก นาม วตฺถุสฺมึ เอตฺตกํ ¶ นาม สิกฺขาปทํ ปฺเปตพฺพํ ภวิสฺสตี’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา อนวเสสโต สิกฺขาปทํ น ปฺเปสิ, อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมึ อยเส ปากเฏ โทเส วิตฺถาริเก ปุถุคเต อุชฺฌายนฺเตสุ มนุสฺเสสุ ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปสี’’ติ?
‘‘าตเมตํ, มหาราช, ตถาคตสฺส ‘อิมสฺมึ สมเย อิเมสุ มนุสฺเสสุ สาธิกํ ทิยฑฺฒสิกฺขาปทสตํ ปฺเปตพฺพํ ภวิสฺสตี’ติ, อปิ จ ตถาคตสฺส เอวํ อโหสิ ‘สเจ โข อหํ สาธิกํ ทิยฑฺฒสิกฺขาปทสตํ เอกปฺปหารํ ปฺเปสฺสามิ, มหาชโน สนฺตาสมาปชฺชิสฺสติ ¶ ‘พหุกํ อิธ รกฺขิตพฺพํ, ทุกฺกรํ วต โภ สมณสฺส โคตมสฺส สาสเน ปพฺพชิตุ’นฺติ, ปพฺพชิตุกามาปิ น ปพฺพชิสฺสนฺติ, วจนฺจ เม น สทฺทหิสฺสนฺติ, อสทฺทหนฺตา เต มนุสฺสา อปายคามิโน ภวิสฺสนฺน-ติ อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมึ ธมฺมเทสนาย วิฺาเปตฺวา ปากเฏ โทเส สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสามี’’’ติ. ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต นาคเสน, พุทฺธานํ, อพฺภุตํ, ภนฺเต นาคเสน, พุทฺธานํ, ยาว มหนฺตํ ตถาคตสฺส สพฺพฺุตาณํ, เอวเมตํ, ภนฺเต นาคเสน, สุนิทฺทิฏฺโ เอโส อตฺโถ ตถาคเตน, ‘พหุกํ อิธ สิกฺขิตพฺพ’นฺติ สุตฺวา สตฺตานํ สนฺตาโส อุปฺปชฺเชยฺย, เอโกปิ ชินสาสเน น ปพฺพเชยฺย, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
อนวเสสสิกฺขาปทปฺโห อฏฺโม.
๙. สูริยตปนปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อยํ สูริโย สพฺพกาลํ กินํ ตปติ, อุทาหุ กิฺจิกาลํ มนฺทํ ตปตี’’ติ? ‘‘สพฺพกาลํ, มหาราช, สูริโย กินํ ตปติ ¶ , น กิฺจิกาลํ มนฺทํ ตปตี’’ติ. ‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, สูริโย สพฺพกาลํ กินํ ตปติ, กิสฺส ปน อปฺเปกทา สูริโย กินํ ตปติ, อปฺเปกทา มนฺทํ ตปตี’’ติ? ‘‘จตฺตาโรเม, มหาราช, สูริยสฺส โรคา, เยสํ อฺตเรน โรเคน ปฏิปีฬิโต สูริโย มนฺทํ ตปติ. กตเม จตฺตาโร? อพฺภํ, มหาราช, สูริยสฺส โรโค, เตน โรเคน ปฏิปีฬิโต สูริโย มนฺทํ ตปติ. มหิกา, มหาราช, สูริยสฺส โรโค, เตน โรเคน ปฏิปีฬิโต สูริโย มนฺทํ ตปติ. เมโฆ, มหาราช, สูริยสฺส โรโค, เตน โรเคน ปฏิปีฬิโต สูริโย มนฺทํ ตปติ. ราหุ, มหาราช, สูริยสฺส โรโค, เตน โรเคน ปฏิปีฬิโต สูริโย มนฺทํ ตปติ. อิเม โข, มหาราช, จตฺตาโร สูริยสฺส โรคา, เยสํ อฺตเรน โรเคน ปฏิปีฬิโต สูริโย มนฺทํ ตปตี’’ติ. ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต ¶ นาคเสน, อพฺภุตํ, ภนฺเต ¶ นาคเสน, สูริยสฺสปิ ตาว เตโชสมฺปนฺนสฺส โรโค อุปฺปชฺชิสฺสติ, กิมงฺคํ ปน อฺเสํ สตฺตานํ, นตฺถิ, ภนฺเต, เอสา วิภตฺติ อฺสฺส อฺตฺร ตวาทิเสน พุทฺธิมตา’’ติ.
สูริยตปนปฺโห นวโม.
๑๐. กินตปนปฺโห
๑๐. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กิสฺส เหมนฺเต สูริโย กินํ ตปติ, โน ตถา คิมฺเห’’ติ? ‘‘คิมฺเห, มหาราช, อนุปหตํ โหติ รโชชลฺลํ, วาตกฺขุภิตา เรณู คคนานุคตา โหนฺติ, อากาเสปิ อพฺภา สุพหลา โหนฺติ, มหาวาโต จ อธิมตฺตํ วายติ, เต สพฺเพ นานากุลา สมายุตา สูริยรํสิโย ปิทหนฺติ, เตน คิมฺเห สูริโย มนฺทํ ตปติ.
‘‘เหมนฺเต ปน, มหาราช, เหฏฺา ปถวี นิพฺพุตา โหติ, อุปริ มหาเมโฆ อุปฏฺิโต โหติ, อุปสนฺตํ โหติ รโชชลฺลํ, เรณุ จ สนฺตสนฺตํ คคเน จรติ, วิคตวลาหโก จ โหติ อากาโส, วาโต ¶ จ มนฺทมนฺทํ วายติ, เอเตสํ อุปรติยา วิสุทฺธา [วิสทา (สี. ปี.)] โหนฺติ สูริยรํสิโย, อุปฆาตวิมุตฺตสฺส สูริยสฺส ตาโป อติ วิย ตปติ. อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน สูริโย เหมนฺเต กินํ ตปติ, โน ตถา คิมฺเห’’ติ. ‘‘สพฺพีติมุตฺโต, ภนฺเต, สูริโย กินํ ตปติ, เมฆาทิสหคโต กินํ น ตปตี’’ติ.
กินตปนปฺโห ทสโม.
นิปฺปปฺจวคฺโค ทุติโย.
อิมสฺมึ วคฺเค ทส ปฺหา.
๓. เวสฺสนฺตรวคฺโค
๑. เวสฺสนฺตรปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, สพฺเพว โพธิสตฺตา ปุตฺตทารํ เทนฺติ, อุทาหุ เวสฺสนฺตเรเนว รฺา ปุตฺตทารํ ทินฺน’’นฺติ? ‘‘สพฺเพปิ, มหาราช, โพธิสตฺตา ปุตฺตทารํ เทนฺติ, น เวสฺสนฺตเรเนว รฺา ปุตฺตทารํ ทินฺน’’นฺติ. ‘‘อปิ ¶ จ โข, ภนฺเต นาคเสน, เตสํ อนุมเตน เทนฺตี’’ติ. ‘‘ภริยา, มหาราช, อนุมตา, ทารกา ปน พาลตาย วิลปึสุ [ลาลปึสุ (สี. ปี.)], ยทิ เต อตฺถโต ชาเนยฺยุํ, เตปิ อนุโมเทยฺยุํ, น เต วิลเปยฺยุ’’นฺติ.
‘‘ทุกฺกรํ, ภนฺเต นาคเสน, โพธิสตฺเตน กตํ, ยํ โส อตฺตโน โอรเส ปิเย ปุตฺเต พฺราหฺมณสฺส ทาสตฺถาย อทาสิ.
‘‘อิทมฺปิ ทุติยํ ทุกฺกรโต ทุกฺกรตรํ, ยํ โส อตฺตโน โอรเส ปิเย ปุตฺเต พาลเก ตรุณเก ลตาย พนฺธิตฺวา เตน พฺราหฺมเณน ลตาย อนุมชฺชียนฺเต ทิสฺวา อชฺฌุเปกฺขิ.
‘‘อิทมฺปิ ตติยํ ทุกฺกรโต ทุกฺกรตรํ, ยํ โส สเกน พเลน พนฺธนา มุจฺจิตฺวา อาคเต ทารเก สารชฺชมุปคเต ปุนเทว ลตาย พนฺธิตฺวา อทาสิ.
‘‘อิทมฺปิ จตุตฺถํ ทุกฺกรโต ทุกฺกรตรํ, ยํ โส ทารเก ‘อยํ โข, ตาต, ยกฺโข ขาทิตุํ เนติ อมฺเห’ติ วิลปนฺเต ‘มา ภายิตฺถา’ติ น อสฺสาเสสิ.
‘‘อิทมฺปิ ปฺจมํ ทุกฺกรโต ทุกฺกรตรํ, ยํ โส ชาลิสฺส กุมารสฺส รุทมานสฺส ปาเทสุ นิปติตฺวา ‘อลํ, ตาต, กณฺหาชินํ นิวตฺเตหิ, อหเมว คจฺฉามิ ยกฺเขน สห, ขาทตุ มํ ยกฺโข’ติ ยาจมานสฺส เอวํ น สมฺปฏิจฺฉิ.
‘‘อิทมฺปิ ¶ ฉฏฺํ ทุกฺกรโต ทุกฺกรตรํ, ยํ โส ชาลิสฺส กุมารสฺส ‘ปาสาณสมํ นูน เต, ตาต, หทยํ, ยํ ตฺวํ อมฺหากํ ทุกฺขิตานํ เปกฺขมาโน นิมฺมนุสฺสเก พฺรหารฺเ ยกฺเขน นียมาเน น นิวาเรสี’ติ วิลปมานสฺส การฺุํ นากาสิ.
‘‘อิทมฺปิ ¶ สตฺตมํ ทุกฺกรโต ทุกฺกรตรํ, ยํ ตสฺส รุฬรุฬสฺส ภีมภีมสฺส นีเต ทารเก อทสฺสนํ คมิเต น ผลิ หทยํ สตธา วา สหสฺสธา วา, ปฺุกาเมน มนุเชน กึ ปรทุกฺขาปเนน, นนุ นาม สกทานํ ทาตพฺพํ โหตี’’ติ?
‘‘ทุกฺกรสฺส, มหาราช, กตตฺตา โพธิสตฺตสฺส กิตฺติสทฺโท ทสสหสฺสิยา โลกธาตุยา สเทวมนุสฺเสสุ อพฺภุคฺคโต, เทวา เทวภวเน ¶ ปกิตฺเตนฺติ, อสุรา อสุรภวเน ปกิตฺเตนฺติ, ครุฬา ครุฬภวเน ปกิตฺเตนฺติ, นาคา นาคภวเน ปกิตฺเตนฺติ, ยกฺขา ยกฺขภวเน ปกิตฺเตนฺติ, อนุปุพฺเพน ตสฺส กิตฺติสทฺโท ปรมฺปราย อชฺเชตรหิ อิธ อมฺหากํ สมยํ อนุปฺปตฺโต, ตํ มยํ ทานํ ปกิตฺเตนฺตา วิโกเปนฺตา นิสินฺนา สุทินฺนํ, อุทาหุ ทุทฺทินฺนนฺติ. โส โข ปนายํ, มหาราช, กิตฺติสทฺโท นิปุณานํ วิฺูนํ วิทูนํ วิภาวีนํ โพธิสตฺตานํ ทส คุเณ อนุทสฺสติ. กตเม ทส? อเคธตา นิราลยตา จาโค ปหานํ อปุนราวตฺติตา สุขุมตา มหนฺตตา ทุรนุโพธตา ทุลฺลภตา อสทิสตา พุทฺธธมฺมสฺส, โส โข ปนายํ, มหาราช, กิตฺติสทฺโท นิปุณานํ วิฺูนํ วิทูนํ วิภาวีนํ โพธิสตฺตานํ อิเม ทส คุเณ อนุทสฺสตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย ปรํ ทุกฺขาเปตฺวา ทานํ เทติ, อปิ นุ ตํ ทานํ สุขวิปากํ โหติ สคฺคสํวตฺตนิก’’นฺติ? ‘‘อาม, มหาราช, กึ วตฺตพฺพ’’นฺติ. ‘‘อิงฺฆ, ภนฺเต นาคเสน, การณํ อุปทสฺเสหี’’ติ. ‘‘อิธ, มหาราช, โกจิ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา สีลวา โหติ กลฺยาณธมฺโม, โส ภเวยฺย ปกฺขหโต วา ปีสปฺปี วา อฺตรํ วา พฺยาธึ อาปนฺโน, ตเมนํ โย โกจิ ปฺุกาโม ยานํ อาโรเปตฺวา ปตฺถิตํ เทสมนุปาเปยฺย, อปิ นุ โข, มหาราช, ตสฺส ปุริสสฺส ตโตนิทานํ กิฺจิ สุขํ นิพฺพตฺเตยฺย สคฺคสํวตฺตนิกํ ตํ กมฺม’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, กึ วตฺตพฺพํ? หตฺถิยานํ วา โส, ภนฺเต, ปุริโส ลเภยฺย อสฺสยานํ วา รถยานํ วา, ถเล ถลยานํ ชเล ชลยานํ เทเวสุ เทวยานํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสยานํ, ตทนุจฺฉวิกํ ตทนุโลมิกํ ภเว ภเว นิพฺพตฺเตยฺย, ตทนุจฺฉวิกานิ ตทนุโลมิกานิ จสฺส สุขานิ นิพฺพตฺเตยฺยุํ, สุคติโต สุคตึ คจฺเฉยฺย, เตเนว กมฺมาภิสนฺเทน อิทฺธิยานํ อภิรุยฺห ปตฺถิตํ นิพฺพานนครํ ปาปุเณยฺยา’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, ปรทุกฺขาปเนน ทินฺนทานํ สุขวิปากํ โหติ ¶ สคฺคสํวตฺตนิกํ ¶ , ยํ โส ปุริโส พลีพทฺเท ทุกฺขาเปตฺวา เอวรูปํ สุขํ อนุภวติ.
‘‘อปรมฺปิ ¶ , มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, ยถา ปรทุกฺขาปเนน ทินฺนทานํ สุขวิปากํ โหติ สคฺคสํวตฺตนิกํ. อิธ, มหาราช, โย โกจิ ราชา ชนปทโต ธมฺมิกํ พลึ อุทฺธราเปตฺวา อาณาปวตฺตเนน ทานํ ทเทยฺย, อปิ นุ โข โส, มหาราช, ราชา ตโตนิทานํ กิฺจิ สุขํ อนุภเวยฺย สคฺคสํวตฺตนิกํ ตํ ทาน’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, กึ วตฺตพฺพํ, ตโตนิทานํ โส, ภนฺเต, ราชา อุตฺตรึ อเนกสตสหสฺสคุณํ ลเภยฺย. ราชูนํ อติราชา ภเวยฺย, เทวานํ อติเทโว ภเวยฺย, พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมา ภเวยฺย, สมณานํ อติสมโณ ภเวยฺย, พฺราหฺมณานํ อติพฺราหฺมโณ ภเวยฺย, อรหนฺตานํ อติอรหา [อติอรหนฺโต (สฺยา. ก.)] ภเวยฺยา’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, ปรทุกฺขาปเนน ทินฺนทานํ สุขวิปากํ โหติ สคฺคสํวตฺตนิกํ, ยํ โส ราชา พลินา ชนํ ปีเฬตฺวา ทินฺนทาเนน เอวรูปํ อุตฺตรึ ยสสุขํ อนุภวตี’’ติ.
‘‘อติทานํ, ภนฺเต นาคเสน, เวสฺสนฺตเรน รฺา ทินฺนํ, ยํ โส สกํ ภริยํ ปรสฺส ภริยตฺถาย อทาสิ, สเก โอรเส ปุตฺเต พฺราหฺมณสฺส ทาสตฺถาย อทาสิ, อติทานํ นาม, ภนฺเต นาคเสน, โลเก วิทูหิ นินฺทิตํ ครหิตํ, ยถา นาม, ภนฺเต นาคเสน, อติภาเรน สกฏสฺส อกฺโข ภิชฺชติ, อติภาเรน นาวา โอสีทติ, อติภุตฺเตน โภชนํ วิสมํ ปริณมติ, อติวสฺเสน ธฺํ วินสฺสติ, อติทาเนน โภคกฺขยํ อุเปติ, อติตาเปน ปถวี อุปฑยฺหติ, อติราเคน อุมฺมตฺตโก โหติ, อติโทเสน วชฺโฌ โหติ, อติโมเหน อนยํ อาปชฺชติ, อติโลเภน โจรคฺคหณมุปคจฺฉติ, อติภเยน นิรุชฺฌติ, อติปูเรน นที อุตฺตรติ, อติวาเตน อสนิ ปตติ, อติอคฺคินา โอทนํ อุตฺตรติ, อติสฺจรเณน น จิรํ ชีวติ. เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, อติทานํ นาม โลเก วิทูหิ นินฺทิตํ ครหิตํ, อติทานํ, ภนฺเต นาคเสน, เวสฺสนฺตเรน รฺา ¶ ทินฺนํ, น ตตฺถ กิฺจิ ผลํ อิจฺฉิตพฺพ’’นฺติ.
‘‘อติทานํ, มหาราช, โลเก วิทูหิ วณฺณิตํ ถุตํ ปสตฺถํ, เย เกจิ ยาทิสํ กีทิสํ ทานํ เทนฺติ [เกจิ ยาทิสํ ตาทิสํ ทานํ เทนฺติ (สฺยา.)], อติทานทายี โลเก กิตฺตึ ปาปุณาติ. ยถา ¶ , มหาราช, อติปวรตาย ทิพฺพํ วนมูลํ คหิตมฺปิ หตฺถปาเส ิตานํ ปรชนานํ น ทสฺสยติ, อคโท อติชจฺจตาย [อติอุสภตาย (ก.)] ปีฬาย สมุคฺฆาตโก โรคานํ อนฺตกโร, อคฺคิ อติโชติตาย ฑหติ, อุทกํ อติสีตตาย นิพฺพาเปติ, ปทุมํ ปริสุทฺธตาย น อุปลิมฺปติ วาริกทฺทเมน, มณิ อติคุณตาย กามทโท, วชิรํ อติติขิณตาย วิชฺฌติ มณิมุตฺตาผลิกํ, ปถวี อติมหนฺตตาย นโรรคมิคปกฺขิชลเสลปพฺพตทุเม ธาเรติ, สมุทฺโท อติมหนฺตตาย อปริปูรโณ, สิเนรุ อติภารตาย อจโล, อากาโส อติวิตฺถารตาย อนนฺโต, สูริโย อติปฺปภตาย ติมิรํ ฆาเตติ, สีโห อติชาติตาย วิคตภโย, มลฺโล อติพลวตาย ปฏิมลฺลํ ขิปฺปํ อุกฺขิปติ ¶ , ราชา อติปฺุตาย อธิปติ, ภิกฺขุ อติสีลวนฺตตาย นาคยกฺขนรมรูหิ นมสฺสนีโย, พุทฺโธ อติอคฺคตาย [อติวิสิฏฺตาย (สฺยา.)] อนุปโม. เอวเมว โข, มหาราช, อติทานํ นาม โลเก วิทูหิ วณฺณิตํ ถุตํ ปสตฺถํ, เย เกจิ ยาทิสํ กีทิสํ ทานํ เทนฺติ, อติทานทายี โลเก กิตฺตึ ปาปุณาติ, อติทาเนน เวสฺสนฺตโร ราชา ทสสหสฺสิยา โลกธาตุยา วณฺณิโต ถุโต ปสตฺโถ มหิโต กิตฺติโต, เตเนว อติทาเนน เวสฺสนฺตโร ราชา อชฺเชตรหิ พุทฺโธ ชาโต อคฺโค สเทวเก โลเก.
‘‘อตฺถิ ปน, มหาราช, โลเก ปนียํ ทานํ, ยํ ทกฺขิเณยฺเย อนุปฺปตฺเต น ทาตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ทส โข ปนิมานิ, ภนฺเต นาคเสน, ทานานิ, ยานิ โลเก อทานสมฺมตานิ, โย ตานิ ทานานิ เทติ, โส อปายคามี โหติ. กตมานิ ทส? มชฺชทานํ, ภนฺเต นาคเสน, โลเก อทานสมฺมตํ, โย ตํ ทานํ เทติ, โส อปายคามี โหติ. สมชฺชทานํ…เป… อิตฺถิทานํ…เป… อุสภทานํ…เป… จิตฺตกมฺมทานํ…เป… สตฺถทานํ ¶ …เป… วิสทานํ…เป… สงฺขลิกทานํ…เป… กุกฺกุฏสูกรทานํ…เป… ตุลากูฏมานกูฏทานํ, ภนฺเต นาคเสน, โลเก อทานสมฺมตํ โหติ, โย ตํ ทานํ เทติ, โส อปายคามี โหติ. อิมานิ โข, ภนฺเต นาคเสน, ทส ทานานิ โลเก อทานสมฺมตานิ, โย ตานิ ทานานิ เทติ, โส อปายคามี โหตี’’ติ.
‘‘นาหํ ตํ, มหาราช, อทานสมฺมตํ ปุจฺฉามิ, อิมํ ขฺวาหํ, มหาราช, ตํ ปุจฺฉามิ ‘อตฺถิ ปน, มหาราช, โลเก ปนียํ ทานํ, ยํ ทกฺขิเณยฺเย อนุปฺปตฺเต น ทาตพฺพ’นฺติ. ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต นาคเสน, โลเก ปนียํ ทานํ. ยํ ¶ ทกฺขิเณยฺเย อนุปฺปตฺเต น ทาตพฺพํ, จิตฺตปฺปสาเท อุปฺปนฺเน เกจิ ทกฺขิเณยฺยานํ โภชนํ เทนฺติ, เกจิ อจฺฉาทนํ, เกจิ สยนํ, เกจิ อาวสถํ, เกจิ อตฺถรณปาวุรณํ, เกจิ ทาสิทาสํ, เกจิ เขตฺตวตฺถุํ, เกจิ ทฺวิปทจตุปฺปทํ, เกจิ สตํ สหสฺสํ สตสหสฺสํ, เกจิ มหารชฺชํ, เกจิ ชีวิตมฺปิ เทนฺตี’’ติ. ‘‘ยทิ ปน, มหาราช, เกจิ ชีวิตมฺปิ เทนฺติ, กึ การณา เวสฺสนฺตรํ ทานปตึ อติพาฬฺหํ ปริปาเตสิ สุทินฺเน ปุตฺเต จ ทาเร จ?
‘‘อปิ นุ โข, มหาราช, อตฺถิ โลกปกติ โลกาจิณฺณํ, ลภติ ปิตา ปุตฺตํ อิณฏฺโฏ วา อาชีวิกปกโต วา อาวปิตุํ วา [อาธาเปตุํ วา (สฺยา.), อาธปิตุํ วา (ก.)] วิกฺกิณิตุํ วา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ลภติ ปิตา ปุตฺตํ อิณฏฺโฏ วา อาชีวิกปกโต วา อาวปิตุํ วา วิกฺกิณิตุํ วา’’ติ. ‘‘ยทิ, มหาราช, ลภติ ปิตา ปุตฺตํ อิณฏฺโฏ วา อาชีวิกปกโต วา อาวปิตุํ วา วิกฺกิณิตุํ วา ¶ , เวสฺสนฺตโรปิ, มหาราช, ราชา อลภมาโน สพฺพฺุตาณํ อุปทฺทุโต ทุกฺขิโต ตสฺส ธมฺมธนสฺส ปฏิลาภาย ปุตฺตทารํ อาวเปสิ จ วิกฺกิณิ จ. อิติ, มหาราช, เวสฺสนฺตเรน รฺา อฺเสํ ทินฺนํ เยว ทินฺนํ, กตํ เยว กตํ. กิสฺส ปน ตฺวํ, มหาราช, เตน ทาเนน เวสฺสนฺตรํ ทานปตึ อติพาฬฺหํ อปสาเทสี’’ติ?
‘‘นาหํ, ภนฺเต นาคเสน, เวสฺสนฺตรสฺส ทานปติโน ทานํ ครหามิ, อปิ จ ปุตฺตทารํ ยาจนฺเต นิมินิตฺวา อตฺตานํ ¶ ทาตพฺพ’’นฺติ. ‘‘เอตํ โข, มหาราช, อสพฺภิการณํ, ยํ ปุตฺตทารํ ยาจนฺเต อตฺตานํ ทเทยฺย, ยํ ยํ หิ ยาจนฺเต ตํ ตเทว ทาตพฺพํ, เอตํ สปฺปุริสานํ กมฺมํ. ยถา, มหาราช, โกจิ ปุริโส ปานียํ อาหราเปยฺย, ตสฺส โย โภชนํ ทเทยฺย, อปิ นุ โส, มหาราช, ปุริโส ตสฺส กิจฺจการี อสฺสา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ยํ โส อาหราเปติ, ตเมว ตสฺส เทนฺโต กิจฺจการี อสฺสา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, เวสฺสนฺตโร ราชา พฺราหฺมเณ ปุตฺตทารํ ยาจนฺเต ปุตฺตทารํ เยว อทาสิ. สเจ, มหาราช, พฺราหฺมโณ เวสฺสนฺตรสฺส สรีรํ ยาเจยฺย, น โส, มหาราช, อตฺตานํ รกฺเขยฺย น กมฺเปยฺย น รชฺเชยฺย, ตสฺส ทินฺนํ ปริจฺจตฺตํ เยว สรีรํ ภเวยฺย. สเจ, มหาราช, โกจิ เวสฺสนฺตรํ ทานปตึ อุปคนฺตฺวา ยาเจยฺย ‘ทาสตฺตํ เม ¶ อุเปหี’ติ, ทินฺนํ ปริจฺจตฺตํ เยวสฺส สรีรํ ภเวยฺย, น โส ทตฺวา ตเปยฺย [เปยฺย (สี.)], รฺโ, มหาราช, เวสฺสนฺตรสฺส กาโย พหุสาธารโณ.
‘‘ยถา, มหาราช, ปกฺกา มํสเปสิ พหุสาธารณา, เอวเมว โข, มหาราช, รฺโ เวสฺสนฺตรสฺส กาโย พหุสาธารโณ. ยถา วา ปน, มหาราช, ผลิโต [ผลิโน (?)] รุกฺโข นานาทิชคณสาธารโณ, เอวเมว โข, มหาราช, รฺโ เวสฺสนฺตรสฺส กาโย พหุสาธารโณ. กึ การณา? ‘เอวาหํ ปฏิปชฺชนฺโต สมฺมาสมฺโพธึ ปาปุณิสฺสามี’ติ.
‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส อธโน ธนตฺถิโก ธนปริเยสนํ จรมาโน อชปถํ สงฺกุปถํ เวตฺตปถํ คจฺฉติ, ชลถลวาณิชฺชํ กโรติ, กาเยน วาจาย มนสา ธนํ อาราเธติ, ธนปฺปฏิลาภาย วายมติ. เอวเมว โข, มหาราช, เวสฺสนฺตโร ทานปติ อธโน พุทฺธธเนน สพฺพฺุตาณรตนปฺปฏิลาภาย ยาจกานํ ธนธฺํ ทาสิทาสํ ยานวาหนํ สกลสาปเตยฺยํ สกํ ปุตฺตทารํ อตฺตานฺจ จชิตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ เยว ปริเยสติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อมจฺโจ มุทฺทกาโม มุทฺทาธิกรณํ ¶ ยํ กิฺจิ เคเห ธนธฺํ หิรฺสุวณฺณํ, ตํ สพฺพํ ทตฺวาปิ มุทฺทปฺปฏิลาภาย วายมติ. เอวเมว โข, มหาราช, เวสฺสนฺตโร ¶ ทานปติ สพฺพํ ตํ พาหิรพฺภนฺตรธนํ ทตฺวา ชีวิตมฺปิ ปเรสํ ทตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ เยว ปริเยสติ.
‘‘อปิ จ, มหาราช, เวสฺสนฺตรสฺส ทานปติโน เอวํ อโหสิ ‘ยํ โส พฺราหฺมโณ ยาจติ, ตเมวาหํ ตสฺส เทนฺโต กิจฺจการี นาม โหมี’ติ, เอวํ โส ตสฺส ปุตฺตทารมทาสิ. น โข, มหาราช, เวสฺสนฺตโร ทานปติ เทสฺสตาย พฺราหฺมณสฺส ปุตฺตทารมทาสิ, น อทสฺสนกามตาย ปุตฺตทารมทาสิ, น อติพหุกา เม ปุตฺตทารา, ‘น สกฺโกมิ เต โปเสตุ’นฺติ ปุตฺตทารมทาสิ, น อุกฺกณฺิโต ‘อปฺปิยา เม’ติ นีหริตุกามตาย ปุตฺตทารมทาสิ. อถ โข สพฺพฺุตาณรตนสฺเสว ปิยตฺตา สพฺพฺุตาณสฺส การณา เวสฺสนฺตโร ราชา เอวรูปํ อตุลํ วิปุลมนุตฺตรํ ปิยํ มนาปํ ทยิตํ ปาณสมํ ปุตฺตทารทานวรํ พฺราหฺมณสฺส อทาสิ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ ¶ , มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน จริยาปิฏเก –
‘‘‘น เม เทสฺสา อุโภ ปุตฺตา, มทฺที เทวี น เทสฺสิยา;
สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา ปิเย อทาสห’นฺติ.
‘‘ตสฺมา, มหาราช, เวสฺสตโร ราชา ปุตฺตทานํ [ปุตฺตทารํ (ก.)] ทตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา นิปชฺชิ. ตสฺส อติเปเมน ทุกฺขิตสฺส พลวโสโก อุปฺปชฺชิ, หทยวตฺถุ อุณฺหมโหสิ. นาสิกาย อปฺปโหนฺติยา มุเขน อุณฺเห อสฺสาสปสฺสาเส วิสฺสชฺเชสิ, อสฺสูนิ ปริวตฺติตฺวา โลหิตพินฺทูนิ หุตฺวา เนตฺเตหิ นิกฺขมึสุ. เอวเมว โข, มหาราช, ทุกฺเขน เวสฺสนฺตโร ราชา พฺราหฺมณสฺส ปุตฺตทารมทาสิ ‘มา เม ทานปโถ ปริหายี’ติ.
‘‘อปิ จ, มหาราช, เวสฺสนฺตโร ราชา ทฺเว อตฺถวเส ปฏิจฺจ พฺราหฺมณสฺส ทฺเว ทารเก อทาสิ. กตเม ทฺเว? ทานปโถ จ เม อปริหีโน ภวิสฺสติ, ทุกฺขิเต จ เม ปุตฺตเก วนมูลผเลหิ อิโตนิทานํ อยฺยโก โมเจสฺสตีติ. ชานาติ ¶ หิ, มหาราช, เวสฺสนฺตโร ราชา ‘น เม ทารกา สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ, อิเม จ ทารเก อยฺยโก นิกฺกิณิสฺสติ, เอวํ อมฺหากมฺปิ คมนํ ภวิสฺสตี’ติ. อิเม โข, มหาราช, ทฺเว อตฺถวเส ปฏิจฺจ พฺราหฺมณสฺส ทฺเว ทารเก อทาสิ.
‘‘อปิ จ, มหาราช, เวสฺสนฺตโร ราชา ชานาติ ‘อยํ โข พฺราหฺมโณ ชิณฺโณ วุฑฺโฒ มหลฺลโก ¶ ทุพฺพโล ภคฺโค ทณฺฑปรายโณ ขีณายุโก ปริตฺตปฺุโ, เนโส สมตฺโถ อิเม ทารเก ทาสโภเคน ภฺุชิตุ’นฺติ. สกฺกุเณยฺย ปน, มหาราช, ปุริโส ปากติเกน พเลน อิเม จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว คเหตฺวา เปฬาย วา สมุคฺเค วา ปกฺขิปิตฺวา นิปฺปเภ กตฺวา ถาลกปริโภเคน [ปทีปปริโภเคน (สฺยา.)] ปริภฺุชิตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อิมสฺมึ โลเก จนฺทิมสูริยปฺปฏิภาคสฺส เวสฺสนฺตรสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุนฺติ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน เวสฺสนฺตรสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ. ยถา, มหาราช, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส มณิรตนํ สุภํ ชาติมนฺตํ อฏฺํสํ สุปริกมฺมกตํ จตุหตฺถายามํ สกฏนาภิปริณาหํ น สกฺกา เกนจิ ปิโลติกาย ¶ เวเตฺวา เปฬาย ปกฺขิปิตฺวา สตฺถกนิสานปริโภเคน ปริภฺุชิตุํ, เอวเมว โข, มหาราช, โลเก จกฺกวตฺติรฺโ มณิรตนปฺปฏิภาคสฺส เวสฺสนฺตรสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน เวสฺสนฺตรสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ. ยถา, มหาราช, ติธา ปภินฺโน สพฺพเสโต สตฺตปฺปติฏฺิโต อฏฺรตนุพฺเพโธ นวรตนายามปริณาโห ปาสาทิโก ทสฺสนีโย อุโปสโถ นาคราชา น สกฺกา เกนจิ สุปฺเปน วา สราเวน วา ปิทหิตุํ, โควจฺฉโก วิย วจฺฉกสาลาย ปกฺขิปิตฺวา ปริหริตุํ ¶ วา, เอวเมว โข, มหาราช, โลเก อุโปสถนาคราชปฺปฏิภาคสฺส เวสฺสนฺตรสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน เวสฺสนฺตรสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ. ยถา, มหาราช, มหาสมุทฺโท ทีฆปุถุลวิตฺถิณฺโณ คมฺภีโร อปฺปเมยฺโย ทุรุตฺตโร อปริโยคาฬฺโห อนาวโฏ น สกฺกา เกนจิ สพฺพตฺถ ปิทหิตฺวา เอกติตฺเถน ปริโภคํ กาตุํ, เอวเมว โข, มหาราช, โลเก มหาสมุทฺทปฺปฏิภาคสฺส เวสฺสนฺตรสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน เวสฺสนฺตรสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ. ยถา, มหาราช, หิมวนฺโต ปพฺพตราชา ปฺจโยชนสตํ อจฺจุคฺคโต นเภ ติสหสฺสโยชนายามวิตฺถาโร จตุราสีติกูฏสหสฺสปฺปฏิมณฺฑิโต ปฺจนฺนํ มหานทีสตานํ ¶ ปภโว มหาภูตคณาลโย นานาวิธคนฺธธโร ทิพฺโพสธสตสมลงฺกโต นเภ วลาหโก วิย อจฺจุคฺคโต ทิสฺสติ, เอวเมว โข, มหาราช, โลเก หิมวนฺตปพฺพตราชปฺปฏิภาคสฺส เวสฺสนฺตรสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน เวสฺสนฺตรสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ. ยถา, มหาราช, รตฺตนฺธการติมิสายํ อุปริปพฺพตคฺเค ชลมาโน มหาอคฺคิกฺขนฺโธ สุวิทูเรปิ ปฺายติ, เอวเมว โข, มหาราช, เวสฺสนฺตโร ราชา ปพฺพตคฺเค ชลมาโน ¶ มหาอคฺคิกฺขนฺโธ วิย สุวิทูเรปิ ปากโฏ ปฺายติ, ตสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน เวสฺสนฺตรสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ. ยถา, มหาราช, หิมวนฺเต ปพฺพเต นาคปุปฺผสมเย อุชุวาเต วายนฺเต ทส ทฺวาทส โยชนานิ ปุปฺผคนฺโธ วายติ, เอวเมว โข ¶ , มหาราช, เวสฺสนฺตรสฺส รฺโ อปิ โยชนสหสฺเสหิปิ ยาว อกนิฏฺภวนํ เอตฺถนฺตเร สุราสุรครุฬคนฺธพฺพยกฺขรกฺขสมโหรคกินฺนรอินฺทภวเนสุ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต, สีลวรคนฺโธ จสฺส สมฺปวายติ, เตน ตสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ. อนุสิฏฺโ, มหาราช, ชาลี กุมาโร ปิตรา เวสฺสนฺตเรน รฺา ‘อยฺยโก เต, ตาต, ตุมฺเห พฺราหฺมณสฺส ธนํ ทตฺวา นิกฺกิณนฺโต ตํ นิกฺขสหสฺสํ ทตฺวา นิกฺกิณาตุ, กณฺหาชินํ นิกฺกิณนฺโต ทาสสตํ ทาสิสตํ หตฺถิสตํ อสฺสสตํ เธนุสตํ อุสภสตํ นิกฺขสตนฺติ สพฺพสตํ ทตฺวา นิกฺกิณาตุ, ยทิ เต, ตาต, อยฺยโก ตุมฺเห พฺราหฺมณสฺส หตฺถโต อาณาย พลสา มุธา คณฺหาติ, มา ตุมฺเห อยฺยกสฺส วจนํ กริตฺถ, พฺราหฺมณสฺเสว อนุยายิโน โหถา’ติ, เอวมนุสาสิตฺวา ปุตฺเต เปเสสิ, ตโต ชาลีกุมาโร คนฺตฺวา อยฺยเกน ปุฏฺโ กเถสิ –
‘‘‘สหสฺสคฺฆํ หิ มํ ตาต, พฺราหฺมณสฺส ปิตา อทา;
อโถ กณฺหาชินํ กฺํ, หตฺถีนฺจ สเตน จา’’’ติ.
‘‘สุนิพฺเพิโต, ภนฺเต นาคเสน, ปฺโห; สุภินฺนํ ทิฏฺิชาลํ; สุมทฺทิโต ปรวาโท; สกสมโย สุทีปิโต; พฺยฺชนํ สุปริโสธิตํ; สุวิภตฺโต อตฺโถ; เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
เวสฺสนฺตรปฺโห ปโม.
๒. ทุกฺกรการิกปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, สพฺเพว โพธิสตฺตา ทุกฺกรการิกํ กโรนฺติ, อุทาหุ โคตเมเนว โพธิสตฺเตน ทุกฺกรการิกา กตา’’ติ? ‘‘นตฺถิ, มหาราช ¶ , สพฺเพสํ โพธิสตฺตานํ ทุกฺกรการิกา, โคตเมเนว โพธิสตฺเตน ทุกฺกรการิกา กตา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยทิ เอวํ อยุตฺตํ, ยํ โพธิสตฺตานํ โพธิสตฺเตหิ เวมตฺตตา โหตี’’ติ. ‘‘จตูหิ ¶ , มหาราช, าเนหิ โพธิสตฺตานํ โพธิสตฺเตหิ เวมตฺตตา โหติ. กตเมหิ จตูหิ? กุลเวมตฺตตา ปธานเวมตฺตตา [อทฺธานเวมตฺตตา (สี. สฺยา. ปี.)] อายุเวมตฺตตา ปมาณเวมตฺตตาติ. อิเมหิ โข, มหาราช, จตูหิ าเนหิ โพธิสตฺตานํ โพธิสตฺเตหิ เวมตฺตตา โหติ. สพฺเพสมฺปิ, มหาราช, พุทฺธานํ รูเป สีเล สมาธิมฺหิ ปฺาย วิมุตฺติยา วิมุตฺติาณทสฺสเน จตุเวสารชฺเช ทสตถาคตพเล ฉอสาธารณาเณ จุทฺทสพุทฺธาเณ อฏฺารสพุทฺธธมฺเม เกวเล จ พุทฺธคุเณ [พุทฺธธมฺเม (สี. ปี.)] นตฺถิ เวมตฺตตา, สพฺเพปิ พุทฺธา พุทฺธธมฺเมหิ สมสมา’’ติ.
‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพปิ พุทฺธา พุทฺธธมฺเมหิ สมสมา, เกน การเณน โคตเมเนว โพธิสตฺเตน ทุกฺกรการิกา กตา’’ติ? ‘‘อปริปกฺเก, มหาราช, าเณ อปริปกฺกาย โพธิยา โคตโม โพธิสตฺโต เนกฺขมฺมมภินิกฺขนฺโต อปริปกฺกํ าณํ ปริปาจยมาเนน ทุกฺกรการิกา กตา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, เกน การเณน โพธิสตฺโต อปริปกฺเก าเณ อปริปกฺกาย โพธิยา มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโต, นนุ นาม าณํ ปริปาเจตฺวา ปริปกฺเก าเณ นิกฺขมิตพฺพ’’นฺติ?
‘‘โพธิสตฺโต, มหาราช, วิปรีตํ อิตฺถาคารํ ทิสฺวา วิปฺปฏิสารี อโหสิ, ตสฺส วิปฺปฏิสาริสฺส อรติ อุปฺปชฺชิ, อรติจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ ทิสฺวา อฺตโร มารกายิโก เทวปุตฺโต ‘อยํ โข กาโล อรติจิตฺตสฺส วิโนทนายา’ติ เวหาเส ตฺวา อิทํ วจนมพฺรวิ –
‘‘มาริส, มา โข ตฺวํ อุกฺกณฺิโต อโหสิ, อิโต เต สตฺตเม ทิวเส ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุภวิสฺสติ สหสฺสารํ สเนมิกํ สนาภิกํ สพฺพาการปริปูรํ, ปถวิคตานิ จ เต ¶ รตนานิ อากาสฏฺานิ จ สยเมว อุปคจฺฉิสฺสนฺติ, ทฺวิสหสฺสปริตฺตทีปปริวาเรสุ จตูสุ มหาทีเปสุ เอกมุเขน อาณา ปวตฺติสฺสติ, ปโรสหสฺสฺจ เต ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา ¶ , เตหิ ปุตฺเตหิ ปริกิณฺโณ สตฺตรตนสมนฺนาคโต จตุทฺทีปมนุสาสิสฺสสี’ติ.
‘‘ยถา นาม ทิวสสนฺตตฺตํ อโยสูลํ สพฺพตฺถ ¶ อุปฑหนฺตํ กณฺณโสตํ ปวิเสยฺย, เอวเมว โข, มหาราช, โพธิสตฺตสฺส ตํ วจนํ กณฺณโสตํ ปวิสิตฺถ, อิติ โส ปกติยาว อุกฺกณฺิโต ตสฺสา เทวตาย วจเนน ภิยฺโยโสมตฺตาย อุพฺพิชฺชิ สํวิชฺชิ สํเวคมาปชฺชิ.
‘‘ยถา ปน, มหาราช, มหติมหาอคฺคิกฺขนฺโธ ชลมาโน อฺเน กฏฺเน อุปฑหิโต ภิยฺโยโสมตฺตาย ชเลยฺย, เอวเมว โข, มหาราช, โพธิสตฺโต ปกติยาว อุกฺกณฺิโต ตสฺสา เทวตาย วจเนน ภิยฺโยโสมตฺตาย อุพฺพิชฺชิ สํวิชฺชิ สํเวคมาปชฺชิ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, มหาปถวี ปกติตินฺตา นิพฺพตฺตหริตสทฺทลา อาสิตฺโตทกา จิกฺขลฺลชาตา ปุนเทว มหาเมเฆ อภิวุฏฺเ ภิยฺโยโสมตฺตาย จิกฺขลฺลตรา อสฺส, เอวเมว โข, มหาราช, โพธิสตฺโต ปกติยาว อุกฺกณฺิโต ตสฺสา เทวตาย วจเนน ภิยฺโยโสมตฺตาย อุพฺพิชฺชิ สํวิชฺชิ สํเวคมาปชฺชี’’ติ.
‘‘อปิ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, โพธิสตฺตสฺส ยทิ สตฺตเม ทิวเส ทิพฺพํ จกฺกรตนํ นิพฺพตฺเตยฺย, ปฏินิวตฺเตยฺย โพธิสตฺโต ทิพฺเพ จกฺกรตเน นิพฺพตฺเต’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราช, สตฺตเม ทิวเส โพธิสตฺตสฺส ทิพฺพํ จกฺกรตนํ นิพฺพตฺเตยฺย, อปิ จ ปโลภนตฺถาย ตาย เทวตาย มุสา ภณิตํ, ยทิปิ, มหาราช, สตฺตเม ทิวเส ทิพฺพํ จกฺกรตนํ นิพฺพตฺเตยฺย, โพธิสตฺโต น นิวตฺเตยฺย. กึ การณํ? ‘อนิจฺจ’นฺติ, มหาราช, โพธิสตฺโต ทฬฺหํ อคฺคเหสิ, ‘ทุกฺขํ อนตฺตา’ติ ทฬฺหํ อคฺคเหสิ, อุปาทานกฺขยํ ปตฺโต.
‘‘ยถา, มหาราช, อโนตตฺตทหโต อุทกํ คงฺคํ นทึ ปวิสติ, คงฺคาย นทิยา มหาสมุทฺทํ ปวิสติ, มหาสมุทฺทโต ปาตาลมุขํ ปวิสติ, อปิ นุ, มหาราช, ตํ อุทกํ ปาตาลมุขคตํ ปฏินิวตฺติตฺวา มหาสมุทฺทํ ปวิเสยฺย, มหาสมุทฺทโต คงฺคํ นทึ ปวิเสยฺย, คงฺคาย นทิยา ปุน อโนตตฺตํ ¶ ปวิเสยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โพธิสตฺเตน กปฺปานํ สตสหสฺสํ จตุโร จ อสงฺขฺเยยฺเย กุสลํ ปริปาจิตํ อิมสฺส ภวสฺส ¶ การณา, โสยํ อนฺติมภโว อนุปฺปตฺโต ¶ ปริปกฺกํ โพธิาณํ ฉหิ วสฺเสหิ พุทฺโธ ภวิสฺสติ สพฺพฺู โลเก อคฺคปุคฺคโล, อปิ นุ โข, มหาราช, โพธิสตฺโต จกฺกรตนการณา [จกฺกรตนสฺส การณา (สี. สฺยา. ปี.)] ปฏินิวตฺเตยฺยา’’ติ [ปรินิวตฺเตยฺยาติ (สี. ปี. ก.)]? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ.
‘‘อปิ จ, มหาราช, มหาปถวี ปริวตฺเตยฺย สกานนา สปพฺพตา, นตฺเวว โพธิสตฺโต ปฏินิวตฺเตยฺย อปตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ. อาโรเหยฺยปิ เจ, มหาราช, คงฺคาย อุทกํ ปฏิโสตํ, นตฺเวว โพธิสตฺโต ปฏินิวตฺเตยฺย อปตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ; วิสุสฺเสยฺยปิ เจ, มหาราช, มหาสมุทฺโท อปริมิตชลธโร โคปเท อุทกํ วิย, นตฺเวว โพธิสตฺโต ปฏินิวตฺเตยฺย อปตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ; ผเลยฺยปิ เจ, มหาราช, สิเนรุปพฺพตราชา สตธา วา สหสฺสธา วา, นตฺเวว โพธิสตฺโต ปฏินิวตฺเตยฺย อปตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ; ปเตยฺยุมฺปิ เจ, มหาราช, จนฺทิมสูริยา สตารกา เลฑฺฑุ วิย ฉมายํ, นตฺเวว โพธิสตฺโต ปฏินิวตฺเตยฺย อปตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ; สํวตฺเตยฺยปิ เจ, มหาราช, อากาโส กิลฺชมิว, นตฺเวว โพธิสตฺโต ปฏินิวตฺเตยฺย อปตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ. กึ การณา? ปทาลิตตฺตา สพฺพพนฺธนาน’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, กติ โลเก พนฺธนานี’’ติ? ‘‘ทส โข ปนิมานิ, มหาราช, โลเก พนฺธนานิ, เยหิ พนฺธเนหิ พทฺธา สตฺตา น นิกฺขมนฺติ, นิกฺขมิตฺวาปิ ปฏินิวตฺตนฺติ. กตมานิ ทส? มาตา, มหาราช, โลเก พนฺธนํ, ปิตา, มหาราช, โลเก พนฺธนํ, ภริยา, มหาราช, โลเก พนฺธนํ, ปุตฺตา, มหาราช, โลเก พนฺธนํ, าตี, มหาราช, โลเก พนฺธนํ, มิตฺตํ, มหาราช, โลเก พนฺธนํ, ธนํ, มหาราช, โลเก พนฺธนํ, ลาภสกฺกาโร, มหาราช ¶ , โลเก พนฺธนํ, อิสฺสริยํ, มหาราช, โลเก พนฺธนํ, ปฺจ กามคุณา, มหาราช, โลเก พนฺธนํ, อิมานิ โข มหาราช ทส โลเก พนฺธนานิ, เยหิ พนฺธเนหิ พทฺธา สตฺตา น นิกฺขมนฺติ, นิกฺขมิตฺวาปิ ปฏินิวตฺตนฺติ, ตานิ ทส พนฺธนานิ โพธิสตฺตสฺส ฉินฺนานิ ปทาลิตานิ, ตสฺมา, มหาราช, โพธิสตฺโต น ปฏินิวตฺตตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยทิ โพธิสตฺโต อุปฺปนฺเน อรติจิตฺเต เทวตาย วจเนน อปริปกฺเก าเณ อปริปกฺกาย โพธิยา เนกฺขมฺมมภินิกฺขนฺโต, กึ ¶ ตสฺส ทุกฺกรการิกาย กตาย, นนุ นาม สพฺพภกฺเขน ภวิตพฺพํ าณปริปากํ อาคมยมาเนนา’’ติ?
‘‘ทส โข ปนิเม, มหาราช, ปุคฺคลา โลกสฺมึ โอฺาตา อวฺาตา หีฬิตา ขีฬิตา ครหิตา ปริภูตา อจิตฺตีกตา. กตเม ทส? อิตฺถี, มหาราช, วิธวา โลกสฺมึ โอฺาตา ¶ อวฺาตา หีฬิตา ขีฬิตา ครหิตา ปริภูตา อจิตฺตีกตา. ทุพฺพโล, มหาราช, ปุคฺคโล…เป… อมิตฺตาติ, มหาราช, ปุคฺคโล…เป… มหคฺฆโส, มหาราช, ปุคฺคโล…เป… อครุกุลวาสิโก, มหาราช, ปุคฺคโล…เป… ปาปมิตฺโต, มหาราช, ปุคฺคโล…เป… ธนหีโน, มหาราช, ปุคฺคโล…เป… อาจารหีโน, มหาราช, ปุคฺคโล…เป… กมฺมหีโน, มหาราช, ปุคฺคโล…เป… ปโยคหีโน, มหาราช, ปุคฺคโล โลกสฺมึ โอฺาโต อวฺาโต หีฬิโต ขีฬิโต ครหิโต ปริภูโต อจิตฺตีกโต. อิเม โข, มหาราช, ทส ปุคฺคลา โลกสฺมึ โอฺาตา อวฺาตา หีฬิตา ขีฬิตา ครหิตา ปริภูตา อจิตฺตีกตา. อิมานิ โข, มหาราช, ทส านานิ อนุสฺสรมานสฺส โพธิสตฺตสฺส เอวํ สฺา อุปฺปชฺชิ ‘มาหํ กมฺมหีโน อสฺสํ ปโยคหีโน ครหิโต เทวมนุสฺสานํ, ยํนูนาหํ กมฺมสฺสามี อสฺสํ กมฺมครุ กมฺมาธิปเตยฺโย กมฺมสีโล กมฺมโธรยฺโห กมฺมนิเกตวา อปฺปมตฺโต วิหเรยฺย’นฺติ, เอวํ โข, มหาราช, โพธิสตฺโต าณํ ปริปาเจนฺโต ทุกฺกรการิกํ อกาสี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, โพธิสตฺโต ทุกฺกรการิกํ กโรนฺโต เอวมาห ¶ ‘น โข ปนาหํ อิมาย กฏุกาย ทุกฺกรการิกาย อธิคจฺฉามิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อลมริยาณทสฺสนวิเสสํ, สิยา นุ โข อฺโ มคฺโค โพธายา’ติ. อปิ นุ ตสฺมึ สมเย โพธิสตฺตสฺส มคฺคํ อารพฺภ สติสมฺโมโส อโหสี’’ติ?
‘‘ปฺจวีสติ โข ปนิเม, มหาราช, จิตฺตทุพฺพลีกรณา ธมฺมา, เยหิ ทุพฺพลีกตํ จิตฺตํ น สมฺมา สมาธิยติ อาสวานํ ขยาย. กตเม ปฺจวีสติ? โกโธ, มหาราช, จิตฺตทุพฺพลีกรโณ ธมฺโม, เยน ทุพฺพลีกตํ จิตฺตํ น สมฺมา สมาธิยติ อาสวานํ ขยาย, อุปนาโห…เป… มกฺโข…เป… ปฬาโส…เป… อิสฺสา…เป… มจฺฉริยํ…เป… มายา…เป… สาเยฺยํ…เป… ถมฺโภ…เป… สารมฺโภ…เป… มาโน…เป… อติมาโน ¶ …เป… มโท…เป… ปมาโท…เป… ถินมิทฺธํ…เป… ตนฺทิ [นนฺที (ปี. ก.)] …เป… อาลสฺยํ…เป… ปาปมิตฺตตา…เป… รูปา…เป… สทฺทา…เป… คนฺธา…เป… รสา…เป… โผฏฺพฺพา…เป… ขุทาปิปาสา…เป… อรติ, มหาราช, จิตฺตทุพฺพลีกรโณ ธมฺโม, เยน ทุพฺพลีกตํ จิตฺตํ น สมฺมา สมาธิยติ อาสวานํ ขยาย. อิเม โข, มหาราช, ปฺจวีสติ จิตฺตทุพฺพลีกรณา ธมฺมา, เยหิ ทุพฺพลีกตํ จิตฺตํ น สมฺมา สมาธิยติ อาสวานํ ขยาย.
โพธิสตฺตสฺส ¶ โข, มหาราช, ขุทาปิปาสา [ขุทาปิปาสา (สี. ปี. ก.)] กายํ ปริยาทิยึสุ, กาเย ปริยาทินฺเน จิตฺตํ น สมฺมา สมาธิยติ อาสวานํ ขยาย. สตสหสฺสํ, มหาราช, กปฺปานํ [กปฺเป (ก.)] จตุโร จ อสงฺขฺเยยฺเย กปฺเป โพธิสตฺโต จตุนฺนํ เยว อริยสจฺจานํ อภิสมยํ อนฺเวสิ ตาสุ ตาสุ ชาตีสุ, กึ ปนสฺส ปจฺฉิเม ภเว อภิสมยชาติยํ มคฺคํ อารพฺภ สติสมฺโมโส เหสฺสติ? อปิ จ, มหาราช, โพธิสตฺตสฺส สฺามตฺตํ อุปฺปชฺชิ ‘สิยา นุ โข อฺโ มคฺโค โพธายา’ติ. ปุพฺเพ โข, มหาราช, โพธิสตฺโต เอกมาสิโก สมาโน ปิตุ สกฺกสฺส กมฺมนฺเต สีตาย ชมฺพุจฺฉายาย สิริสยเน ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสินฺโน วิวิจฺเจว กาเมหิ วิจิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช ¶ วิหาสิ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหาสี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามิ, าณํ ปริปาเจนฺโต โพธิสตฺโต ทุกฺกรการิกํ อกาสี’’ติ.
ทุกฺกรการิกปฺโห ทุติโย.
๓. กุสลากุสลพลวตรปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กตมํ อธิมตฺตํ พลวตรํ กุสลํ วา อกุสลํ วา’’ติ? ‘‘กุสลํ, มหาราช, อธิมตฺตํ พลวตรํ, โน ตถา อกุสล’นฺติ. ‘‘นาหํ, ภนฺเต นาคเสน, ตํ วจนํ สมฺปฏิจฺฉามิ ‘กุสลํ อธิมตฺตํ พลวตรํ, โน ตถา อกุสล’นฺติ, ทิสฺสนฺติ, ภนฺเต นาคเสน, อิธ ปาณาติปาติโน อทินฺนาทายิโน กาเมสุมิจฺฉาจาริโน มุสาวาทิโน คามฆาติกา ปนฺถทูสกา เนกติกา วฺจนิกา, สพฺเพ เต ตาวตเกน ปาเปน ลภนฺติ หตฺถจฺเฉทํ ปาทจฺเฉทํ หตฺถปาทจฺเฉทํ กณฺณจฺเฉทํ นาสจฺเฉทํ กณฺณนาสจฺเฉทํ ¶ พิลงฺคถาลิกํ สงฺขมุณฺฑิกํ ราหุมุขํ โชติมาลิกํ หตฺถปชฺโชติกํ เอรกวตฺติกํ จีรกวาสิกํ เอเณยฺยกํ พฬิสมํสิกํ กหาปณิกํ ขาราปตจฺฉิกํ ปลิฆปริวตฺติกํ ปลาลปีกํ ตตฺเตนปิ เตเลน โอสิฺจนํ สุนเขหิปิ ขาทาปนํ ชีวสูลาโรปนํ อสินาปิ สีสจฺเฉทํ, เกจิ รตฺตึ ปาปํ กตฺวา รตฺตึ เยว วิปากํ อนุภวนฺติ, เกจิ รตฺตึ กตฺวา ทิวา เยว อนุภวนฺติ, เกจิ ทิวา กตฺวา ทิวา เยว อนุภวนฺติ, เกจิ ทิวา กตฺวา รตฺตึ เยว อนุภวนฺติ, เกจิ ทฺเว ตโย ทิวเส วีติวตฺเต อนุภวนฺติ, สพฺเพปิ เต ทิฏฺเว ธมฺเม วิปากํ อนุภวนฺติ. อตฺถิ ปน, ภนฺเต นาคเสน, โกจิ เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา ติณฺณํ วา จตุนฺนํ วา ปฺจนฺนํ วา ทสนฺนํ วา สตสฺส วา สหสฺสสฺส ¶ วา สตสหสฺสสฺส วา สปริวารํ ทานํ ทตฺวา ทิฏฺธมฺมิกํ โภคํ วา ยสํ วา สุขํ วา อนุภวิตา สีเลน วา อุโปสถกมฺเมน วา’’ติ?
‘‘อตฺถิ, มหาราช ¶ , จตฺตาโร ปุริสา ทานํ ทตฺวา สีลํ สมาทิยิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กตฺวา ทิฏฺเว ธมฺเม เตเนว สรีรเทเหน ติทสปุเร สมนุปฺปตฺตา’’ติ [ยสมนุปตฺตาติ (สี. ปี.)]. ‘‘โก จ โก จ ภนฺเต’’ติ? ‘‘มนฺธาตา, มหาราช, ราชา, นิมิ ราชา, สาธีโน ราชา, คุตฺติโล จ คนฺธพฺโพ’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, อเนเกหิ ตํ ภวสหสฺเสหิ อนฺตริตํ, ทฺวินฺนมฺเปตํ อมฺหากํ [ทีปิตํ, อมฺหากมฺเปตํ (ก.)] ปโรกฺขํ, ยทิ สมตฺโถสิ วตฺตมานเก ภเว ภควโต ธรมานกาเล กเถหี’’ติ? ‘‘วตฺตมานเกปิ, มหาราช, ภเว ปุณฺณโก ทาโส เถรสฺส สาริปุตฺตสฺส โภชนํ ทตฺวา ตทเหว เสฏฺิฏฺานํ อชฺฌุปคโต, โส เอตรหิ ปุณฺณโก เสฏฺีติ ปฺายิ, โคปาลมาตา เทวี อตฺตโน เกเส วิกฺกิณิตฺวา ลทฺเธหิ อฏฺหิ กหาปเณหิ เถรสฺส มหากจฺจายนสฺส อตฺตฏฺมกสฺส ปิณฺฑปาตํ ทตฺวา ตทเหว รฺโ จนฺทปชฺโชตสฺส [อุเทนสฺส (สี. ปี.)] อคฺคมเหสิฏฺานํ ปตฺตา. สุปฺปิยา อุปาสิกา อฺตรสฺส คิลานภิกฺขุโน อตฺตโน อูรุมํเสน ปฏิจฺฉาทนียํ ทตฺวา ทุติยทิวเส เยว รูฬฺหวณา สฺฉวี [สจฺฉวี (สี. ปี.)] อโรคา ชาตา. มลฺลิกา เทวี ภควโต อาภิโทสิกํ กุมฺมาสปิณฺฑํ ทตฺวา ตทเหว รฺโ โกสลสฺส อคฺคมเหสี ชาตา. สุมโน มาลากาโร อฏฺหิ สุมนปุปฺผมุฏฺีหิ ภควนฺตํ ปูเชตฺวา ตํ ทิวสํ เยว มหาสมฺปตฺตึ ปตฺโต. เอกสาฏโก ¶ พฺราหฺมโณ อุตฺตรสาฏเกน ภควนฺตํ ปูเชตฺวา ตํ ทิวสํ เยว สพฺพฏฺกํ ลภิ, สพฺเพเปเต, มหาราช, ทิฏฺธมฺมิกํ โภคฺจ ยสฺจ อนุภวึสู’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, วิจินิตฺวา ปริเยสิตฺวา ฉ ชเน เยว อทฺทสาสี’’ติ. ‘‘อาม, มหาราชา’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, อกุสลํ เยว อธิมตฺตํ พลวตรํ, โน ตถา กุสลํ. อหฺหิ, ภนฺเต นาคเสน, เอกทิวสํ เยว ทสปิ ปุริเส ปสฺสามิ ปาปสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน สูเลสุ อาโรเปนฺเต, วีสมฺปิ ตึสมฺปิ จตฺตาลีสมฺปิ ปฺาสมฺปิ ปุริสสตมฺปิ ¶ ปุริสสหสฺสมฺปิ ปสฺสามิ ปาปสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน สูเลสุ อาโรเปนฺเต. นนฺทกุลสฺส, ภนฺเต นาคเสน, ภทฺทสาโล นาม เสนาปติปุตฺโต อโหสิ. เตน จ รฺา จนฺทคุตฺเตน สงฺคาโม สมุปพฺยูฬฺโห อโหสิ. ตสฺมึ โข ปน, ภนฺเต นาคเสน, สงฺคาเม อุภโต พลกาเย อสีติกพนฺธรูปานิ อเหสุํ, เอกสฺมึ กิร สีสกพนฺเธ ปริปาเต [ปริปุณฺเณ (สพฺพตฺถ)] เอกํ กพนฺธรูปํ อุฏฺหติ, สพฺเพเปเต ¶ ปาปสฺเสว กมฺมสฺส วิปาเกน อนยพฺยสนํ อาปนฺนา. อิมินาปิ, ภนฺเต นาคเสน, การเณน ภณามิ อกุสลํ เยว อธิมตฺตํ พลวตรํ, โน ตถา กุสล’’นฺติ.
‘‘สุยฺยติ, ภนฺเต นาคเสน, อิมสฺมึ พุทฺธสาสเน โกสเลน รฺา อสทิสทานํ ทินฺน’’นฺติ? ‘‘อาม, มหาราช, สุยฺยตี’’ติ. ‘‘อปิ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, โกสลราชา ตํ อสทิสํ ทานํ ทตฺวา ตโตนิทานํ กฺจิ ทิฏฺธมฺมิกํ โภคํ วา ยสํ วา สุขํ วา ปฏิลภี’’ติ [ปฏิลภตีติ (ก.)]? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, โกสลราชา เอวรูปํ อนุตฺตรํ ทานํ ทตฺวาปิ น ลภิ [น ลภติ (ก.)] ตโตนิทานํ กฺจิ ทิฏฺธมฺมิกํ โภคํ วา ยสํ วา สุขํ วา, เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, อกุสลํ เยว อธิมตฺตํ พลวตรํ, โน ตถา กุสล’’นฺติ.
‘‘ปริตฺตตฺตา, มหาราช, อกุสลํ ขิปฺปํ ปริณมติ, วิปุลตฺตา กุสลํ ทีเฆน กาเลน ปริณมติ, อุปมายปิ, มหาราช, เอตํ อุปปริกฺขิตพฺพํ. ยถา, มหาราช, อปรนฺเต ชนปเท กุมุทภณฺฑิกา นาม ธฺชาติ มาสลูนา [มาสปูรา (ก.)] อนฺโตเคหคตา โหติ, สาลโย ฉปฺปฺจมาเสหิ ปริณมนฺติ ¶ , กึ ปเนตฺถ, มหาราช, อนฺตรํ โก วิเสโส กุมุทภณฺฑิกาย จ สาลีนฺจา’’ติ? ‘‘ปริตฺตตฺตา, ภนฺเต, กุมุทภณฺฑิกาย, วิปุลตฺตา จ สาลีนํ. สาลโย, ภนฺเต นาคเสน, ราชารหา ราชโภชนํ, กุมุทภณฺฑิกา ทาสกมฺมกรานํ โภชน’’นฺติ. ‘‘เอวเมว ¶ โข, มหาราช, ปริตฺตตฺตา อกุสลํ ขิปฺปํ ปริณมติ, วิปุลตฺตา กุสลํ ทีเฆน กาเลน ปริณมตี’’ติ.
‘‘ยํ ตตฺถ, ภนฺเต นาคเสน, ขิปฺปํ ปริณมติ, ตํ นาม โลเก อธิมตฺตํ พลวตรํ, ตสฺมา อกุสลํ พลวตรํ, โน ตถา กุสลํ. ยถา นาม, ภนฺเต นาคเสน, โย โกจิ โยโธ มหติมหายุทฺธํ ปวิสิตฺวา ปฏิสตฺตุํ อุปกจฺฉเก คเหตฺวา อากฑฺฒิตฺวา ขิปฺปตรํ สามิโน อุปเนยฺย, โส โยโธ โลเก สมตฺโถ สูโร นาม. โย จ ภิสกฺโก ขิปฺปํ สลฺลํ อุทฺธรติ โรคมปเนติ, โส ภิสกฺโก เฉโก นาม. โย คณโก สีฆสีฆํ คเณตฺวา ขิปฺปํ ทสฺสยติ, โส คณโก เฉโก นาม. โย มลฺโล ขิปฺปํ ปฏิมลฺลํ อุกฺขิปิตฺวา อุตฺตานกํ ปาเตติ, โส มลฺโล สมตฺโถ สูโร นาม. เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, ยํ ขิปฺปํ ปริณมติ กุสลํ วา อกุสลํ วา, ตํ โลเก อธิมตฺตํ พลวตร’’นฺติ.
‘‘อุภยมฺปิ ตํ, มหาราช, กมฺมํ สมฺปรายเวทนียเมว, อปิ จ โข อกุสลํ สาวชฺชตาย ขเณน ทิฏฺธมฺมเวทนียํ โหติ, ปุพฺพเกหิ, มหาราช, ขตฺติเยหิ ปิโต เอโส นิยโม ¶ ‘โย ปาณํ หนติ, โส ทณฺฑารโห…เป… โย อทินฺนํ อาทิยติ…เป… โย ปรทารํ คจฺฉติ…เป… โย มุสา ภณติ…เป… โย คามํ ฆาเตติ…เป… โย ปนฺถํ ทูเสติ…เป… โย นิกตึ กโรติ…เป… โย วฺจนํ กโรติ, โส ทณฺฑารโห วธิตพฺโพ เฉตฺตพฺโพ เภตฺตพฺโพ หนฺตพฺโพ’ติ. ตํ เต อุปาทาย วิจินิตฺวา วิจินิตฺวา ทณฺเฑนฺติ วเธนฺติ ฉินฺทนฺติ ภินฺทนฺติ หนนฺติ จ, อปิ นุ, มหาราช, อตฺถิ เกหิจิ ปิโต นิยโม ‘โย ทานํ วา เทติ, สีลํ วา รกฺขติ, อุโปสถกมฺมํ วา กโรติ, ตสฺส ธนํ วา ยสํ วา ทาตพฺพ’นฺติ; อปิ นุ ตํ วิจินิตฺวา วิจินิตฺวา ธนํ วา ยสํ วา เทนฺติ, โจรสฺส กตกมฺมสฺส วธพนฺธนํ วิยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ยทิ, มหาราช, ทายกานํ วิจินิตฺวา วิจินิตฺวา ธนํ วา ยสํ วา ทเทยฺยุํ, กุสลมฺปิ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ ¶ ภเวยฺย, ยสฺมา จ โข, มหาราช, ทายเก น วิจินนฺติ ‘ธนํ วา ยสํ วา ทสฺสามา’ติ, ตสฺมา กุสลํ น ทิฏฺธมฺมเวทนียํ. อิมินา, มหาราช, การเณน อกุสลํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ, สมฺปราเยว ¶ โส อธิมตฺตํ พลวตรํ เวทนํ เวทยตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, ตวาทิเสน พุทฺธิมนฺเตน วินา เนโส ปฺโห สุนิพฺเพิโย, โลกิกํ, ภนฺเต นาคเสน, โลกุตฺตเรน วิฺาปิต’’นฺติ.
กุสลากุสลพลวตรปฺโห ตติโย.
๔. ปุพฺพเปตาทิสปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อิเม ทายกา ทานํ ทตฺวา ปุพฺพเปตานํ อาทิสนฺติ [อุทฺทิสนฺติ (ก. สี.)] ‘อิทํ เตสํ ปาปุณาตู’ติ, อปิ นุ เต กิฺจิ ตโตนิทานํ วิปากํ ปฏิลภนฺตี’’ติ? ‘‘เกจิ, มหาราช, ปฏิลภนฺติ, เกจิ นปฺปฏิลภนฺตี’’ติ. ‘‘เก, ภนฺเต, ปฏิลภนฺติ, เก นปฺปฏิลภนฺตี’’ติ? ‘‘นิรยูปปนฺนา, มหาราช, นปฺปฏิลภนฺติ, สคฺคคตา นปฺปฏิลภนฺติ, ติรจฺฉานโยนิคตา นปฺปฏิลภนฺติ, จตุนฺนํ เปตานํ ตโย เปตา นปฺปฏิลภนฺติ วนฺตาสิกา ขุปฺปิปาสิโน นิชฺฌามตณฺหิกา, ลภนฺติ เปตา ปรทตฺตูปชีวิโน, เตปิ สรมานา เยว ลภนฺตี’’ติ.
‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, ทายกานํ ทานํ วิโสสิตํ [วิโสตํ (สี. ปี.)] โหติ อผลํ, เยสํ อุทฺทิสฺส กตํ ยทิ เต นปฺปฏิลภนฺตี’’ติ? ‘‘น หิ ตํ, มหาราช, ทานํ อผลํ โหติ อวิปากํ, ทายกา ¶ เยว ตสฺส ผลํ อนุภวนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, การเณน มํ สฺาเปหี’’ติ. ‘‘อิธ, มหาราช, เกจิ มนุสฺสา มจฺฉมํสสุราภตฺตขชฺชกานิ ปฏิยาเทตฺวา าติกุลํ คจฺฉนฺติ, ยทิ เต าตกา ตํ อุปายนํ น สมฺปฏิจฺเฉยฺยุํ, อปิ นุ ตํ อุปายนํ วิโสสิตํ คจฺเฉยฺย วินสฺเสยฺย วา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, สามิกานํ เยว ตํ โหตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ทายกา เยว ตสฺส ผลํ อนุภวนฺติ. ยถา ปน ¶ , มหาราช, ปุริโส คพฺภํ ปวิฏฺโ อสติ ปุรโต นิกฺขมนมุเข เกน นิกฺขเมยฺยา’’ติ. ‘‘ปวิฏฺเเนว ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ทายกา เยว ตสฺส ผลํ อนุภวนฺตี’’ติ. ‘‘โหตุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามิ, ทายกา เยว ตสฺส ผลํ อนุภวนฺติ, น มยํ ตํ การณํ วิโลเมมาติ.
‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ยทิ อิเมสํ ทายกานํ ทินฺนทานํ ปุพฺพเปตานํ ปาปุณาติ, เต จ ตสฺส วิปากํ อนุภวนฺติ. เตน หิ โย ปาณาติปาตี ลุทฺโท โลหิตปาณี ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป มนุสฺเส ฆาเตตฺวา ทารุณํ กมฺมํ กตฺวา ปุพฺพเปตานํ อาทิเสยฺย ‘อิมสฺส เม กมฺมสฺส วิปาโก ปุพฺพเปตานํ ปาปุณาตู’ติ, อปิ นุ ตสฺส วิปาโก ปุพฺพเปตานํ ปาปุณาตี’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, โก ตตฺถ เหตุ กึ การณํ, เยน กุสลํ ปาปุณาติ อกุสลํ น ปาปุณาตี’’ติ? ‘‘เนโส, มหาราช, ปฺโห ปุจฺฉิตพฺโพ, มา จ ตฺวํ, มหาราช, ‘วิสชฺชโก อตฺถี’ติ อปุจฺฉิตพฺพํ ปุจฺฉิ, ‘กิสฺส อากาโส นิราลมฺโพ, กิสฺส คงฺคา อุทฺธมฺมุขา น สนฺทติ, กิสฺส อิเม มนุสฺสา จ ทิชา จ ทฺวิปทา มิคา จตุปฺปทา’ติ ตมฺปิ มํ ตฺวํ ปุจฺฉิสฺสสี’’ติ. ‘‘นาหํ ตํ, ภนฺเต นาคเสน, วิเหสาเปกฺโข ปุจฺฉามิ, อปิ จ นิพฺพาหนตฺถาย [นิพฺพานตฺถาย (ก.)] สนฺเทหสฺส ปุจฺฉามิ, พหู มนุสฺสา โลเก วามคามิโน [ปาปคาหิโน (สฺยา.)] วิจกฺขุกา, ‘กินฺติ เต โอตารํ น ลเภยฺยุ’นฺติ เอวาหํ ตํ ปุจฺฉามี’’ติ. ‘‘น สกฺกา, มหาราช, สห อกเตน อนนุมเตน สห ปาปํ กมฺมํ สํวิภชิตุํ.
‘‘ยถา, มหาราช, มนุสฺสา อุทกนิพฺพาหเนน อุทกํ สุวิทูรมฺปิ หรนฺติ, อปิ นุ, มหาราช, สกฺกา ฆนมหาเสลปพฺพโต [ปพฺพตโต (ก.)] นิพฺพาหเนน ยถิจฺฉิตํ หริตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, สกฺกา กุสลํ สํวิภชิตุํ, น สกฺกา อกุสลํ สํวิภชิตุํ. ยถา วา ปน, มหาราช, สกฺกา เตเลน ปทีโป ชาเลตุํ, อปิ นุ, มหาราช, สกฺกา อุทเกน ปทีโป ¶ ชาเลตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, สกฺกา ¶ กุสลํ สํวิภชิตุํ, น สกฺกา อกุสลํ สํวิภชิตุํ. ยถา วา ปน, มหาราช, กสฺสกา ตฬากโต อุทกํ นีหริตฺวา ธฺํ ปริปาเจนฺติ, อปิ นุ โข, มหาราช, สกฺกา มหาสมุทฺทโต อุทกํ นีหริตฺวา ธฺํ ปริปาเจตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, สกฺกา กุสลํ สํวิภชิตุํ, น สกฺกา อกุสลํ สํวิภชิตุ’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, เกน การเณน สกฺกา กุสลํ สํวิภชิตุํ, น สกฺกา อกุสลํ สํวิภชิตุํ. การเณน มํ สฺาเปหิ, นาหํ อนฺโธ อนาโลโก ¶ สุตฺวา เวทิสฺสามี’’ติ. ‘‘อกุสลํ, มหาราช, โถกํ, กุสลํ พหุกํ, โถกตฺตา อกุสลํ กตฺตารํ เยว ปริยาทิยติ, พหุกตฺตา กุสลํ สเทวกํ โลกํ อชฺโฌตฺถรตี’’ติ. ‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ.
‘‘ยถา, มหาราช, ปริตฺตํ เอกํ อุทกพินฺทุ ปถวิยํ นิปเตยฺย, อปิ นุ โข ตํ, มหาราช, อุทกพินฺทุ ทสปิ ทฺวาทสปิ โยชนานิ อชฺโฌตฺถเรยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ยตฺถ ตํ อุทกพินฺทุ นิปติตํ, ตตฺเถว ปริยาทิยตี’’ติ. ‘‘เกน การเณน, มหาราชา’’ติ? ‘‘ปริตฺตตฺตา, ภนฺเต, อุทกพินฺทุสฺสา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ปริตฺตํ อกุสลํ ปริตฺตตฺตา กตฺตารํ เยว ปริยาทิยติ, น สกฺกา สํวิภชิตุํ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, มหติมหาเมโฆ อภิวสฺเสยฺย ตปฺปยนฺโต ธรณิตลํ, อปิ นุ โข โส, มหาราช, มหาเมโฆ สมนฺตโต โอตฺถเรยฺยา’’ติ. ‘‘อาม, ภนฺเต, ปูรยิตฺวา โส มหาเมโฆ โสพฺภสร สริตสาขากนฺทรปทรทหตฬาก [มาติกาตฬาก (ก.)] อุทปานโปกฺขรณิโย ทสปิ ทฺวาทสปิ โยชนานิ อชฺโฌตฺถเรยฺยา’’ติ. ‘‘เกน การเณน, มหาราชา’’ติ? ‘‘มหนฺตตฺตา, ภนฺเต, เมฆสฺสา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, กุสลํ พหุกํ, พหุกตฺตา สกฺกา เทวมนุสฺเสหิปิ สํวิภชิตุ’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, เกน การเณน อกุสลํ โถกํ กุสลํ ¶ พหุตร’’นฺติ? ‘‘อิธ, มหาราช, โย โกจิ ทานํ เทติ, สีลํ สมาทิยติ, อุโปสถกมฺมํ กโรติ, โส หฏฺโ ปหฏฺโ หสิโต ปมุทิโต ปสนฺนมานโส เวทชาโต โหติ, ตสฺส อปราปรํ ปีติ อุปฺปชฺชติ, ปีติมนสฺส ภิยฺโย ภิยฺโย กุสลํ ปวฑฺฒติ.
‘‘ยถา, มหาราช, อุทปาเน พหุสลิลสมฺปุณฺเณ เอเกน เทเสน อุทกํ ปวิเสยฺย, เอเกน นิกฺขเมยฺย, นิกฺขมนฺเตปิ อปราปรํ อุปฺปชฺชติ, น สกฺกา โหติ ขยํ ปาเปตุํ. เอวเมว โข ¶ , มหาราช, กุสลํ ภิยฺโย ภิยฺโย ปวฑฺฒติ. วสฺสสเตปิ เจ, มหาราช, ปุริโส กตํ กุสลํ อาวชฺเชยฺย, อาวชฺชิเต อาวชฺชิเต ภิยฺโย ภิยฺโย กุสลํ ปวฑฺฒติ. ตสฺส ตํ กุสลํ สกฺกา โหติ ยถิจฺฉเกหิ สทฺธึ สํวิภชิตุํ, อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน กุสลํ พหุตรํ.
‘‘อกุสลํ ¶ ปน, มหาราช, กโรนฺโต ปจฺฉา วิปฺปฏิสารี โหติ, วิปฺปฏิสาริโน จิตฺตํ ปฏิลียติ ปฏิกุฏติ ปฏิวตฺตติ น สมฺปสารียติ โสจติ ตปฺปติ หายติ ขียติ น ปริวฑฺฒติ ตตฺเถว ปริยาทิยติ. ยถา, มหาราช, สุกฺขาย นทิยา มหาปุฬินาย อุนฺนตาวนตาย กุฏิลสงฺกุฏิลาย อุปริโต ปริตฺตํ อุทกํ อาคจฺฉนฺตํ หายติ ขียติ น ปริวฑฺฒติ ตตฺเถว ปริยาทิยติ. เอวเมว โข, มหาราช, อกุสลํ กโรนฺตสฺส จิตฺตํ ปฏิลียติ ปฏิกุฏติ ปฏิวตฺตติ น สมฺปสารียติ โสจติ ตปฺปติ หายติ ขียติ น ปริวฑฺฒติ ตตฺเถว ปริยาทิยติ, อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน อกุสลํ โถก’’นฺติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
ปุพฺพเปตาทิสปฺโห จตุตฺโถ.
๕. สุปินปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อิมสฺมึ โลเก นรนาริโย สุปินํ ปสฺสนฺติ กลฺยาณมฺปิ ปาปกมฺปิ, ทิฏฺปุพฺพมฺปิ อทิฏฺปุพฺพมฺปิ, กตปุพฺพมฺปิ อกตปุพฺพมฺปิ, เขมมฺปิ ¶ สภยมฺปิ, ทูเรปิ สนฺติเกปิ, พหุวิธานิปิ อเนกวณฺณสหสฺสานิ ทิสฺสนฺติ, กิฺเจตํ สุปินํ นาม, โก เจตํ ปสฺสตี’’ติ? ‘‘นิมิตฺตเมตํ, มหาราช, สุปินํ นาม, ยํ จิตฺตสฺส อาปาต [อาปาถ (สี. ปี.)] มุปคจฺฉติ. ฉยิเม, มหาราช, สุปินํ ปสฺสนฺติ, วาติโก สุปินํ ปสฺสติ, ปิตฺติโก สุปินํ ปสฺสติ, เสมฺหิโก สุปินํ ปสฺสติ, เทวตูปสํหารโต สุปินํ ปสฺสติ, สมุทาจิณฺณโต สุปินํ ปสฺสติ, ปุพฺพนิมิตฺตโต สุปินํ ปสฺสติ, ตตฺร, มหาราช, ยํ ปุพฺพนิมิตฺตโต สุปินํ ปสฺสติ, ตํ เยว สจฺจํ, อวเสสํ มิจฺฉา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย ปุพฺพนิมิตฺตโต สุปินํ ปสฺสติ, กึ ตสฺส จิตฺตํ สยํ คนฺตฺวา ตํ นิมิตฺตํ วิจินาติ, ตํ วา นิมิตฺตํ จิตฺตสฺส อาปาตมุปคจฺฉติ, อฺโ วา อาคนฺตฺวา ตสฺส ¶ อาโรเจตี’’ติ? ‘‘น, มหาราช, ตสฺส จิตฺตํ สยํ คนฺตฺวา ตํ นิมิตฺตํ วิจินาติ, นาปิ อฺโ โกจิ อาคนฺตฺวา ตสฺส อาโรเจติ, อถ โข ตํ เยว นิมิตฺตํ จิตฺตสฺส อาปาตมุปคจฺฉติ. ยถา, มหาราช, อาทาโส น สยํ กุหิฺจิ คนฺตฺวา ฉายํ วิจินาติ, นาปิ อฺโ โกจิ ¶ ฉายํ อาเนตฺวา อาทาสํ อาโรเปติ [อาโรเจติ (ก.)], อถ โข ยโต กุโตจิ ฉายา อาคนฺตฺวา อาทาสสฺส อาปาตมุปคจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช, น ตสฺส จิตฺตํ สยํ คนฺตฺวา ตํ นิมิตฺตํ วิจินาติ, นาปิ อฺโ โกจิ อาคนฺตฺวา อาโรเจติ, อถ โข ยโต กุโตจิ นิมิตฺตํ อาคนฺตฺวา จิตฺตสฺส อาปาตมุปคจฺฉตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยํ ตํ จิตฺตํ สุปินํ ปสฺสติ, อปิ นุ ตํ จิตฺตํ ชานาติ ‘เอวํ นาม วิปาโก ภวิสฺสติ เขมํ วา ภยํ วา’ติ? ‘‘น หิ, มหาราช, ตํ จิตฺตํ ชานาติ ‘เอวํวิปาโก ภวิสฺสติ เขมํ วา ภยํ วา’ติ, นิมิตฺเต ปน อุปฺปนฺเน อฺเสํ กเถติ, ตโต เต อตฺถํ กเถนฺตี’’ติ.
‘‘อิงฺฆ, ภนฺเต นาคเสน, การณํ เม ทสฺเสหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, สรีเร ติลกา ปีฬกา ททฺทูนิ อุฏฺหนฺติ ลาภาย วา อลาภาย วา, ยสาย วา อยสาย วา, นินฺทาย ¶ วา ปสํสาย วา, สุขาย วา ทุกฺขาย วา, อปิ นุ ตา, มหาราช, ปีฬกา ชานิตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ ‘อิมํ นาม มยํ อตฺถํ นิปฺผาเทสฺสามา’’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ยาทิเส ตา โอกาเส ปีฬกา สมฺภวนฺติ, ตตฺถ ตา ปีฬกา ทิสฺวา เนมิตฺตกา พฺยากโรนฺติ ‘เอวํ นาม วิปาโก ภวิสฺสตี’’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ยํ ตํ จิตฺตํ สุปินํ ปสฺสติ, น ตํ จิตฺตํ ชานาติ ‘เอวํ นาม วิปาโก ภวิสฺสติ เขมํ วา ภยํ วา’ติ, นิมิตฺเต ปน อุปฺปนฺเน อฺเสํ กเถติ, ตโต เต อตฺถํ กเถนฺตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย สุปินํ ปสฺสติ, โส นิทฺทายนฺโต, อุทาหุ ชาครนฺโต [ชคฺคนฺโต (สี. ปี.)] ปสฺสตี’’ติ? ‘‘โย โส, มหาราช, สุปินํ ปสฺสติ, น โส นิทฺทายนฺโต ปสฺสติ, นาปิ ชาครนฺโต ปสฺสติ. อปิ จ โอกฺกนฺเต มิทฺเธ อสมฺปตฺเต ภวงฺเค เอตฺถนฺตเร สุปินํ ปสฺสติ. มิทฺธสมารูฬฺหสฺส, มหาราช, จิตฺตํ ภวงฺคคตํ โหติ, ภวงฺคคตํ จิตฺตํ นปฺปวตฺตติ, อปฺปวตฺตํ จิตฺตํ สุขทุกฺขํ นปฺปชานาติ, อปฺปฏิวิชานนฺตสฺส สุปิโน น โหติ, ปวตฺตมาเน จิตฺเต สุปินํ ปสฺสติ.
‘‘ยถา, มหาราช, ติมิเร อนฺธกาเร อปฺปภาเส สุปริสุทฺเธปิ อาทาเส ฉายา น ทิสฺสติ ¶ , เอวเมว โข, มหาราช, มิทฺธสมารูฬฺเห จิตฺเต ภวงฺคคเต ติฏฺมาเนปิ สรีเร จิตฺตํ อปฺปวตฺตํ โหติ, อปฺปวตฺเต จิตฺเต สุปินํ น ปสฺสติ ¶ . ยถา, มหาราช, อาทาโส, เอวํ สรีรํ ทฏฺพฺพํ; ยถา อนฺธกาโร, เอวํ มิทฺธํ ทฏฺพฺพํ; ยถา อาโลโก, เอวํ จิตฺตํ ทฏฺพฺพํ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, มหิโกตฺถฏสฺส สูริยสฺส ปภา น ทิสฺสติ สนฺตา เยว สูริยรสฺมิ อปฺปวตฺตา โหติ, อปฺปวตฺตาย สูริยรสฺมิยา อาโลโก น โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, มิทฺธสมารูฬฺหสฺส จิตฺตํ ภวงฺคคตํ โหติ, ภวงฺคคตํ จิตฺตํ นปฺปวตฺตติ, อปฺปวตฺเต จิตฺเต สุปินํ น ปสฺสติ. ยถา, มหาราช, สูริโย, เอวํ สรีรํ ทฏฺพฺพํ; ยถา มหิโกตฺถรณํ, เอวํ มิทฺธํ ¶ ทฏฺพฺพํ; ยถา สูริยรสฺมิ, เอวํ จิตฺตํ ทฏฺพฺพํ.
‘‘ทฺวินฺนํ, มหาราช, สนฺเตปิ สรีเร จิตฺตํ อปฺปวตฺตํ โหติ, มิทฺธสมารูฬฺหสฺส ภวงฺคคตสฺส สนฺเตปิ สรีเร จิตฺตํ อปฺปวตฺตํ โหติ, นิโรธสมาปนฺนสฺส สนฺเตปิ สรีเร จิตฺตํ อปฺปวตฺตํ โหติ, ชาครนฺตสฺส, มหาราช, จิตฺตํ โลลํ โหติ วิวฏํ ปากฏํ อนิพทฺธํ, เอวรูปสฺส จิตฺเต นิมิตฺตํ อาปาตํ น อุเปติ. ยถา, มหาราช, ปุริสํ วิวฏํ ปากฏํ อกิริยํ อรหสฺสํ รหสฺสกามา ปริวชฺเชนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, ชาครนฺตสฺส ทิพฺโพ อตฺโถ อาปาตํ น อุเปติ, ตสฺมา ชาครนฺโต สุปินํ น ปสฺสติ. ยถา วา ปน, มหาราช, ภิกฺขุํ ภินฺนาชีวํ อนาจารํ ปาปมิตฺตํ ทุสฺสีลํ กุสีตํ หีนวีริยํ กุสลา โพธิปกฺขิยา ธมฺมา อาปาตํ น อุเปนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, ชาครนฺตสฺส ทิพฺโพ อตฺโถ อาปาตํ น อุเปติ, ตสฺมา ชาครนฺโต สุปินํ น ปสฺสตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, อตฺถิ มิทฺธสฺส อาทิมชฺฌปริโยสาน’’นฺติ? ‘‘อาม, มหาราช, อตฺถิ มิทฺธสฺส อาทิมชฺฌปริโยสาน’’นฺติ. ‘‘กตมํ อาทิ, กตมํ มชฺฌํ, กตมํ ปริโยสาน’’นฺติ? ‘‘โย, มหาราช, กายสฺส โอนาโห ปริโยนาโห ทุพฺพลฺยํ มนฺทตา อกมฺมฺตา กายสฺส, อยํ มิทฺธสฺส อาทิ; โย, มหาราช, กปินิทฺทาปเรโต โวกิณฺณกํ ชคฺคติ [โวกิณฺณตํ คจฺฉติ (นิสฺย)], อิทํ มิทฺธสฺส มชฺฌํ; ภวงฺคคติ ปริโยสนํ. มชฺฌูปคโต, มหาราช, กปินิทฺทาปเรโต สุปินํ ปสฺสติ. ยถา, มหาราช, โกจิ ยตจารี สมาหิตจิตฺโต ิตธมฺโม อจลพุทฺธิ ปหีนโกตูหลสทฺทํ วนมชฺโฌคาหิตฺวา สุขุมํ อตฺถํ จินฺตยติ, น จ โส ตตฺถ มิทฺธํ โอกฺกมติ, โส ตตฺถ สมาหิโต เอกคฺคจิตฺโต สุขุมํ อตฺถํ ปฏิวิชฺฌติ, เอวเมว โข, มหาราช, ชาคโร น มิทฺธสมาปนฺโน ¶ , มชฺฌูปคโต กปินิทฺทาปเรโต สุปินํ ¶ ปสฺสติ. ยถา, มหาราช, โกตูหลสทฺโท, เอวํ ชาครํ ทฏฺพฺพํ; ยถา วิวิตฺตํ วนํ, เอวํ กปินิทฺทาปเรโต ทฏฺพฺโพ ¶ ; ยถา โส โกตูหลสทฺทํ โอหาย มิทฺธํ วิวชฺเชตฺวา มชฺฌตฺตภูโต สุขุมํ อตฺถํ ปฏิวิชฺฌติ, เอวํ ชาคโร น มิทฺธสมาปนฺโน กปินิทฺทาปเรโต สุปินํ ปสฺสตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
สุปินปฺโห ปฺจโม.
๖. อกาลมรณปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, เย เต สตฺตา มรนฺติ, สพฺเพ เต กาเล เยว มรนฺติ, อุทาหุ อกาเลปิ มรนฺตี’’ติ? ‘‘อตฺถิ, มหาราช, กาเลปิ มรณํ, อตฺถิ อกาเลปิ มรณ’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, เก กาเล มรนฺติ, เก อกาเล มรนฺตี’’ติ? ‘‘ทิฏฺปุพฺพา ปน, มหาราช, ตยา อมฺพรุกฺขา วา ชมฺพุรุกฺขา วา, อฺสฺมา วา ปน ผลรุกฺขา ผลานิ ปตนฺตานิ อามานิ จ ปกฺกานิ จา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ยานิ ตานิ, มหาราช, ผลานิ รุกฺขโต ปตนฺติ, สพฺพานิ ตานิ กาเล เยว ปตนฺติ, อุทาหุ อกาเลปี’’ติ? ‘‘ยานิ ตานิ, ภนฺเต นาคเสน, ผลานิ ปริปกฺกานิ วิลีนานิ ปตนฺติ, สพฺพานิ ตานิ กาเล ปตนฺติ. ยานิ ปน ตานิ อวเสสานิ ผลานิ เตสุ กานิจิ กิมิวิทฺธานิ ปตนฺติ, กานิจิ ลคุฬหตานิ [สกุณปหตา (สฺยา.), ลกุฏหตานิ (สี. ปี. ก.)] ปตนฺติ, กานิจิ วาตปฺปหตานิ ปตนฺติ, กานิจิ อนฺโตปูติกานิ หุตฺวา ปตนฺติ, สพฺพานิ ตานิ อกาเล ปตนฺตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, เย เต ชราเวคหตา มรนฺติ, เต เยว กาเล มรนฺติ, อวเสสา เกจิ กมฺมปฺปฏิพาฬฺหา มรนฺติ, เกจิ คติปฺปฏิพาฬฺหา มรนฺติ, เกจิ กิริยปฺปฏิพาฬฺหา มรนฺตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, เย เต กมฺมปฺปฏิพาฬฺหา มรนฺติ, เยปิ เต คติปฺปฏิพาฬฺหา มรนฺติ, เยปิ เต กิริยปฺปฏิพาฬฺหา มรนฺติ, เยปิ เต ชราเวคปฺปฏิพาฬฺหา มรนฺติ, สพฺเพ เต กาเล เยว มรนฺติ, โยปิ มาตุกุจฺฉิคโต มรติ, โส ตสฺส กาโล, กาเล เยว โส มรติ. โยปิ วิชาตฆเร มรติ, โส ตสฺส กาโล ¶ , โสปิ กาเล เยว มรติ. โยปิ มาสิโก ¶ มรติ…เป… โยปิ วสฺสสติโก มรติ, โส ตสฺส กาโล, กาเล เยว โส มรติ, เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, อกาเล มรณํ นาม น โหติ, เย เกจิ มรนฺติ, สพฺเพ เต กาเล เยว มรนฺตี’’ติ.
‘‘สตฺติเม ¶ , มหาราช, วิชฺชมาเนปิ อุตฺตรึ อายุสฺมึ อกาเล มรนฺติ. กตเม สตฺต? ชิฆจฺฉิโต, มหาราช, โภชนํ อลภมาโน อุปหตพฺภนฺตโร วิชฺชมาเนปิ อุตฺตรึ อายุสฺมึ อกาเล มรติ, ปิปาสิโต, มหาราช, ปานียํ อลภมาโน ปริสุกฺขหทโย วิชฺชมาเนปิ อุตฺตรึ อายุสฺมึ อกาเล มรติ, อหินา ทฏฺโ, มหาราช, วิสเวคาภิหโต ติกิจฺฉกํ อลภมาโน วิชฺชมาเนปิ อุตฺตรึ อายุสฺมึ อกาเล มรติ, วิสมาสิโต, มหาราช, ฑยฺหนฺเตสุ องฺคปจฺจงฺเคสุ อคทํ อลภมาโน วิชฺชมาเนปิ อุตฺตรึ อายุสฺมึ อกาเล มรติ, อคฺคิคโต, มหาราช, ฌายมาโน นิพฺพาปนํ อลภมาโน วิชฺชมาเนปิ อุตฺตรึ อายุสฺมึ อกาเล มรติ, อุทกคโต, มหาราช, ปติฏฺํ อลภมาโน วิชฺชมาเนปิ อุตฺตรึ อายุสฺมึ อกาเล มรติ, สตฺติหโต, มหาราช, อาพาธิโก ภิสกฺกํ อลภมาโน วิชฺชมาเนปิ อุตฺตรึ อายุสฺมึ อกาเล มรติ, อิเม โข, มหาราช, สตฺต วิชฺชมาเนปิ อุตฺตรึ อายุสฺมึ อกาเล มรนฺติ. ตตฺราปาหํ, มหาราช, เอกํเสน วทามิ.
‘‘อฏฺวิเธน, มหาราช, สตฺตานํ กาลงฺกิริยา โหติ, วาตสมุฏฺาเนน ปิตฺตสมุฏฺาเนน เสมฺหสมุฏฺาเนน สนฺนิปาติเกน อุตุวิปริณาเมน วิสมปริหาเรน โอปกฺกมิเกน กมฺมวิปาเกน, มหาราช, สตฺตานํ กาลงฺกิริยา โหติ. ตตฺร, มหาราช, ยทิทํ กมฺมวิปาเกน กาลงฺกิริยา, สา เยว ตตฺถ สามยิกา [สามายิกา (ก.)] กาลงฺกิริยา, อวเสสา อสามยิกา กาลงฺกิริยาติ. ภวติ จ –
‘‘‘ชิฆจฺฉาย ปิปาสาย, อหิทฏฺา [อหิทฏฺโ (สี.), อหินา ทฏฺโ (ปี.)] วิเสน จ;
อคฺคิอุทกสตฺตีหิ, อกาเล ตตฺถ มียติ;
วาตปิตฺเตน ¶ เสมฺเหน, สนฺนิปาเตนุตูหิ จ;
วิสโมปกฺกมกมฺเมหิ, อกาเล ตตฺถ มียตี’ติ.
‘‘เกจิ ¶ , มหาราช, สตฺตา ปุพฺเพ กเตน เตน เตน อกุสลกมฺมวิปาเกน มรนฺติ. อิธ, มหาราช, โย ปุพฺเพ ปเร ชิฆจฺฉาย มาเรติ, โส พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ ชิฆจฺฉาย ปริปีฬิโต ฉาโต ปริกิลนฺโต สุกฺขมิลาตหทโย พุภุกฺขิโต [สุกฺขิโต (สี. ปี. ก.)] วิสุกฺขิโต ฌายนฺโต อพฺภนฺตรํ ปริฑยฺหนฺโต ชิฆจฺฉาย เยว มรติ ทหโรปิ มชฺฌิโมปิ มหลฺลโกปิ, อิทมฺปิ ตสฺส สามยิกมรณํ.
‘‘โย ปุพฺเพ ปเร ปิปาสาย มาเรติ, โส พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ เปโต หุตฺวา นิชฺฌามตณฺหิโก ¶ สมาโน ลูโข กิโส ปริสุกฺขิตหทโย ปิปาสาย เยว มรติ ทหโรปิ มชฺฌิโมปิ มหลฺลโกปิ, อิทมฺปิ ตสฺส สามยิกมรณํ.
‘‘โย ปุพฺเพ ปเร อหินา ฑํสาเปตฺวา มาเรติ, โส พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ อชครมุเขเนว อชครมุขํ กณฺหสปฺปมุเขเนว กณฺหสปฺปมุขํ ปริวตฺติตฺวา เตหิ ขายิตขายิโต อหีหิ ทฏฺโ เยว มรติ ทหโรปิ มชฺฌิโมปิ มหลฺลโกปิ, อิทมฺปิ ตสฺส สามยิกมรณํ.
‘‘โย ปุพฺเพ ปเร วิสํ ทตฺวา มาเรติ, โส พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ ฑยฺหนฺเตหิ องฺคปจฺจงฺเคหิ ภิชฺชมาเนน สรีเรน กุณปคนฺธํ วายนฺโต วิเสเนว มรติ ทหโรปิ มชฺฌิโมปิ มหลฺลโกปิ, อิทมฺปิ ตสฺส สามยิกมรณํ.
‘‘โย ปุพฺเพ ปเร อคฺคินา มาเรติ, โส พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ องฺคารปพฺพเตเนว องฺคารปพฺพตํ ยมวิสเยเนว ยมวิสยํ ปริวตฺติตฺวา ทฑฺฒวิทฑฺฒคตฺโต อคฺคินา เยว มรติ ทหโรปิ มชฺฌิโมปิ มลลฺลโกปิ, อิทมฺปิ ตสฺส สามยิกมรณํ.
‘‘โย ปุพฺเพ ปเร อุทเกน มาเรติ, โส พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ หตวิลุตฺตภคฺคทุพฺพลคตฺโต ขุพฺภิตจิตฺโต [ขุภิตจิตฺโต (สี. ปี.)] อุทเกเนว [อุทเก เยว (พหูสุ)] มรติ ทหโรปิ มชฺฌิโมปิ มหลฺลโกปิ, อิทมฺปิ ตสฺส สามยิกมรณํ.
‘‘โย ปุพฺเพ ปเร สตฺติยา มาเรติ, โส ¶ พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ ฉินฺนภินฺนโกฏฺฏิตวิโกฏฺฏิโต สตฺติมุขสมาหโต สตฺติยา เยว มรติ ทหโรปิ มชฺฌิโมปิ มหลฺลโกปิ, อิทมฺปิ ตสฺส สามยิกมรณํ’’.
‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, อกาเล มรณํ อตฺถีติ ยํ วเทติ, อิงฺฆ เม ตฺวํ ตตฺถ การณํ อติทิสาติ’’. ‘‘ยถา, มหาราช, มหติมหาอคฺคิกฺขนฺโธ อาทินฺนติณกฏฺสาขาปลาโส ปริยาทินฺนภกฺโข อุปาทานสงฺขยา นิพฺพายติ, โส อคฺคิ วุจฺจติ ‘อนีติโก อนุปทฺทโว สมเย นิพฺพุโต นามา’ติ, เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ พหูนิ ทิวสสหสฺสานิ ชีวิตฺวา ชราชิณฺโณ อายุกฺขยา อนีติโก อนุปทฺทโว มรติ, โส วุจฺจติ ‘สมเย มรณมุปคโต’ติ.
‘‘ยถา ¶ วา ปน, มหาราช, มหติมหาอคฺคิกฺขนฺโธ อาทินฺนติณกฏฺสาขาปลาโส อสฺส, ตํ อปริยาทินฺเน เยว ติณกฏฺสาขาปลาเส มหติมหาเมโฆ อภิปฺปวสฺสิตฺวา นิพฺพาเปยฺย, อปิ นุ โข, มหาราช, มหาอคฺคิกฺขนฺโธ สมเย นิพฺพุโต นาม โหตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน โส, มหาราช, ปจฺฉิโม อคฺคิกฺขนฺโธ ปุริมเกน อคฺคิกฺขนฺเธน สมสมคติโก นาโหสี’’ติ? ‘‘อาคนฺตุเกน, ภนฺเต, เมเฆน ปฏิปีฬิโต โส อคฺคิกฺขนฺโธ อสมเย นิพฺพุโต’’ติ. เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ อกาเล มรติ, โส อาคนฺตุเกน โรเคน ปฏิปีฬิโต วาตสมุฏฺาเนน วา ปิตฺตสมุฏฺาเนน วา เสมฺหสมุฏฺาเนน วา สนฺนิปาติเกน วา อุตุปริณามเชน วา วิสมปริหารเชน วา โอปกฺกมิเกน วา ชิฆจฺฉาย วา ปิปาสาย วา สปฺปทฏฺเน วา วิสมาสิเตน วา อคฺคินา วา อุทเกน วา สตฺติเวคปฺปฏิปีฬิโต วา อกาเล มรติ. อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน อกาเล มรณํ อตฺถิ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, คคเน มหติมหาวลาหโก อุฏฺหิตฺวา นินฺนฺจ ถลฺจ ปริปูรยนฺโต อภิวสฺสติ, โส วุจฺจติ ‘เมโฆ อนีติโก อนุปทฺทโว วสฺสตี’ติ. เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ จิรํ ชีวิตฺวา ชราชิณฺโณ อายุกฺขยา ¶ อนีติโก อนุปทฺทโว มรติ, โส วุจฺจติ ‘สมเย มรณมุปคโต’ติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, คคเน มหติมหาวลาหโก อุฏฺหิตฺวา อนฺตราเยว มหตา วาเตน อพฺภตฺถํ คจฺเฉยฺย, อปิ นุ โข โส, มหาราช, มหาวลาหโก สมเย วิคโต นาม โหตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน โส, มหาราช, ปจฺฉิโม วลาหโก ปุริเมน วลาหเกน สมสมคติโก นาโหสี’’ติ? ‘‘อาคนฺตุเกน, ภนฺเต, วาเตน ปฏิปีฬิโต โส วลาหโก อสมยปฺปตฺโต เยว วิคโต’’ติ ¶ . ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ อกาเล มรติ, โส อาคนฺตุเกน โรเคน ปฏิปีฬิโต วาตสมุฏฺาเนน วา…เป… สตฺติเวคปฺปฏิปีฬิโต วา อกาเล มรติ. อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน อกาเล มรณํ อตฺถีติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, พลวา อาสีวิโส กุปิโต กิฺจิเทว ปุริสํ ฑํเสยฺย, ตสฺส ตํ วิสํ อนีติกํ อนุปทฺทวํ มรณํ ปาเปยฺย, ตํ วิสํ วุจฺจติ ‘อนีติกมนุปทฺทวํ โกฏิคต’นฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ จิรํ ชีวิตฺวา ชราชิณฺโณ อายุกฺขยา อนีติโก อนุปทฺทโว มรติ, โส วุจฺจติ ‘อนีติโก อนุปทฺทโว ชีวิตโกฏิคโต สามยิกํ มรณมุปคโต’ติ.
‘‘ยถา ¶ วา ปน, มหาราช, พลวตา อาสีวิเสน ทฏฺสฺส อนฺตราเยว อาหิตุณฺฑิโก อคทํ ทตฺวา อวิสํ กเรยฺย, อปิ นุ โข ตํ, มหาราช, วิสํ สมเย วิคตํ นาม โหตี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน ตํ, มหาราช, ปจฺฉิมํ วิสํ ปุริมเกน วิเสน สมสมคติกํ นาโหสี’’ติ? ‘‘อาคนฺตุเกน, ภนฺเต, อคเทน ปฏิปีฬิตํ วิสํ อโกฏิคตํ เยว วิคต’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ อกาเล มรติ, โส อาคนฺตุเกน โรเคน ปฏิปีฬิโต วาตสมุฏฺาเนน วา…เป… สตฺติเวคปฺปฏิปีฬิโต วา อกาเล มรติ. อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน อกาเล มรณํ อตฺถีติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อิสฺสาโส สรํ ปาเตยฺย, สเจ ¶ โส สโร ยถาคติคมนปถมตฺถกํ คจฺฉติ, โส สโร วุจฺจติ ‘อนีติโก อนุปทฺทโว ยถาคติคมนปถมตฺถกํ คโต นามา’ติ. เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ จิรํ ชีวิตฺวา ชราชิณฺโณ อายุกฺขยา อนีติโก อนุปทฺทโว มรติ, โส วุจฺจติ ‘อนีติโก อนุปทฺทโว สมเย มรณมุปคโต’ติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อิสฺสาโส สรํ ปาเตยฺย, ตสฺส ตํ สรํ ตสฺมึ เยว ขเณ โกจิ คณฺเหยฺย, อปิ นุ โข โส, มหาราช, สโร ยถาคติคมนปถมตฺถกํ คโต นาม โหตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน โส, มหาราช, ปจฺฉิโม สโร ปุริมเกน สเรน สมสมคติโก นาโหสี’’ติ? ‘‘อาคนฺตุเกน, ภนฺเต, คหเณน ตสฺส สรสฺส ¶ คมนํ อุปจฺฉินฺน’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ อกาเล มรติ, โส อาคนฺตุเกน โรเคน ปฏิปีฬิโต วาตสมุฏฺาเนน วา…เป… สตฺติเวคปฺปฏิปีฬิโต วา อกาเล มรติ. อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน อกาเล มรณํ อตฺถีติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, โย โกจิ โลหมยํ ภาชนํ อาโกเฏยฺย, ตสฺส อาโกฏเนน สทฺโท นิพฺพตฺติตฺวา ยถาคติคมนปถมตฺถกํ คจฺฉติ, โส สทฺโท วุจฺจติ ‘อนีติโก อนุปทฺทโว ยถาคติคมนปถมตฺถกํ คโต นามา’ติ. เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ พหูนิ ทิวสสหสฺสานิ ชีวิตฺวา ชราชิณฺโณ อายุกฺขยา อนีติโก อนุปทฺทโว มรติ, โส วุจฺจติ ‘อนีติโก อนุปทฺทโว สมเย มรณมุปาคโต’ติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, โย โกจิ โลหมยํ ภาชนํ อาโกเฏยฺย, ตสฺส อาโกฏเนน สทฺโท นิพฺพตฺเตยฺย, นิพฺพตฺเต สทฺเท อทูรคเต โกจิ อามเสยฺย, สห อามสเนน สทฺโท นิรุชฺเฌยฺย ¶ , อปิ นุ โข โส, มหาราช, สทฺโท ยถาคติคมนปถมตฺถกํ คโต นาม โหตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน, มหาราช, ปจฺฉิโม สทฺโท ปุริมเกน สทฺเทน สมสมคติโก นาโหสี’’ติ? ‘‘อาคนฺตุเกน, ภนฺเต, อามสเนน โส สทฺโท อุปรโต’’ติ ¶ . ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ อกาเล มรติ, โส อาคนฺตุเกน โรเคน ปฏิปีฬิโต วาตสมุฏฺาเนน วา…เป… สตฺติเวคปฺปฏิปีฬิโต วา อกาเล มรติ. อิทเมตฺถ มหาราช การณํ, เยน การเณน อกาเล มรณํ อตฺถีติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, เขตฺเต สุวิรูฬฺหํ ธฺพีชํ สมฺมา ปวตฺตมาเนน วสฺเสน โอตตวิตตอากิณฺณพหุผลํ หุตฺวา [อุฏฺิตอากิณฺณพหุผลํ ภวิตฺวา (สฺยา.)] สสฺสุฏฺานสมยํ ปาปุณาติ, ตํ ธฺํ วุจฺจติ ‘อนีติกมนุปทฺทวํ สมยสมฺปตฺตํ นาม โหตี’ติ. เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ พหูนิ ทิวสสหสฺสานิ ชีวิตฺวา ชราชิณฺโณ อายุกฺขยา อนีติโก อนุปทฺทโว มรติ, โส วุจฺจติ ‘อนีติโก อนุปทฺทโว สมเย มรณมุปคโต’ติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, เขตฺเต สุวิรูฬฺหํ ธฺพีชํ อุทเกน วิกลํ มเรยฺย, อปิ นุ โข ตํ, มหาราช, ธฺํ อสมยสมฺปตฺตํ นาม โหตี’’ติ? ‘‘น ¶ หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน ตํ, มหาราช, ปจฺฉิมํ ธฺํ ปุริมเกน ธฺเน สมสมคติกํ นาโหสี’’ติ? ‘‘อาคนฺตุเกน, ภนฺเต, อุณฺเหน ปฏิปีฬิตํ ตํ ธฺํ มต’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ อกาเล มรติ, โส อาคนฺตุเกน โรเคน ปฏิปีฬิโต วาตสมุฏฺาเนน วา…เป… สตฺติเวคปฺปฏิปีฬิโต วา อกาเล มรติ. อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน อกาเล มรณํ อตฺถีติ.
‘‘สุตปุพฺพํ ปน ตยา, มหาราช, ‘สมฺปนฺนตรุณสสฺสํ กิมโย อุฏฺหิตฺวา สมูลํ นาเสนฺตี’’’ติ? ‘‘สุตปุพฺพฺเจว ตํ, ภนฺเต, อมฺเหหิ ทิฏฺปุพฺพฺจา’’ติ. ‘‘กึ นุ โข ตํ, มหาราช, สสฺสํ กาเล นฏฺํ, อุทาหุ อกาเล นฏฺ’’นฺติ? ‘‘อกาเล, ภนฺเต, ยทิ โข ตํ, ภนฺเต, สสฺสํ กิมโย น ขาเทยฺยุํ, สสฺสุทฺธรณสมยํ ปาปุเณยฺยา’’ติ. ‘‘กึ ปน, มหาราช, อาคนฺตุเกน อุปฆาเตน สสฺสํ วินสฺสติ, นิรุปฆาตํ สสฺสํ สสฺสุทฺธรณสมยํ ปาปุณาตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว ¶ โข, มหาราช, โย โกจิ อกาเล มรติ, โส อาคนฺตุเกน โรเคน ปฏิปีฬิโต วาตสมุฏฺาเนน วา…เป… สตฺติเวคปฺปฏิปีฬิโต วา มรติ. อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน อกาเล มรณํ อตฺถีติ.
‘‘สุตปุพฺพํ ¶ ปน ตยา, มหาราช, ‘สมฺปนฺเน สสฺเส ผลภารนมิเต มฺจริตปตฺเต กรกวสฺสํ นาม วสฺสชาติ นิปติตฺวา วินาเสติ อผลํ กโรตี’ติ? ‘‘สุตปุพฺพฺเจว ตํ, ภนฺเต, อมฺเหหิ ทิฏฺปุพฺพฺจา’’ติ. ‘‘อปิ นุ โข ตํ, มหาราช, สสฺสํ กาเล นฏฺํ, อุทาหุ อกาเล นฏฺ’’นฺติ? ‘‘อกาเล, ภนฺเต, ยทิ โข ตํ, ภนฺเต, สสฺสํ กรกวสฺสํ น วสฺเสยฺย สสฺสุทฺธรณสมยํ ปาปุเณยฺยา’’ติ. ‘‘กึ ปน, มหาราช, อาคนฺตุเกน อุปฆาเตน สสฺสํ วินสฺสติ, นิรุปฆาตํ สสฺสํ สสฺสุทฺธรณสมยํ ปาปุณาตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ อกาเล มรติ, โส อาคนฺตุเกน โรเคน ปฏิปีฬิโต วาตสมุฏฺาเนน วา ปิตฺตสมุฏฺาเนน วา เสมฺหสมุฏฺาเนน วา สนฺนิปาติเกน วา อุตุปริณามเชน วา วิสมปริหารเชน วา โอปกฺกมิเกน วา ชิฆจฺฉาย วา ปิปาสาย วา สปฺปทฏฺเน วา วิสมาสิเตน วา อคฺคินา วา อุทเกน วา สตฺติเวคปฺปฏิปีฬิโต วา อกาเล มรติ. ยทิ ปน อาคนฺตุเกน โรเคน ปฏิปีฬิโต น ภเวยฺย, สมเยว มรณํ ปาปุเณยฺย. อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน อกาเล มรณํ อตฺถี’’ติ.
‘‘อจฺฉริยํ ¶ , ภนฺเต นาคเสน, อพฺภุตํ ภนฺเต นาคเสน, สุทสฺสิตํ การณํ, สุทสฺสิตํ โอปมฺมํ อกาเล มรณสฺส ปริทีปนาย, ‘อตฺถิ อกาเล มรณ’นฺติ อุตฺตานีกตํ ปากฏํ กตํ วิภูตํ กตํ, อจิตฺตวิกฺขิตฺตโกปิ, ภนฺเต นาคเสน, มนุโช เอกเมเกนปิ ตาว โอปมฺเมน นิฏฺํ คจฺเฉยฺย ‘อตฺถิ อกาเล มรณ’นฺติ ¶ , กึ ปน มนุโช สเจตโน? ปโมปมฺเมเนวาหํ, ภนฺเต, สฺตฺโต ‘อตฺถิ อกาเล มรณ’นฺติ, อปิ จ อปราปรํ นิพฺพาหนํ โสตุกาโม น สมฺปฏิจฺฉิ’’นฺติ.
อกาลมรณปฺโห ฉฏฺโ.
๗. เจติยปาฏิหาริยปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพสํ ปรินิพฺพุตานํ เจติเย ปาฏิหีรํ โหติ, อุทาหุ เอกจฺจานํ เยว โหตี’’ติ? ‘‘เอกจฺจานํ, มหาราช, โหติ, เอกจฺจานํ น โหตี’’ติ. ‘‘กตเมสํ, ภนฺเต, โหติ, กตเมสํ น โหตี’’ติ? ‘‘ติณฺณนฺนํ, มหาราช, อฺตรสฺส อธิฏฺานา ปรินิพฺพุตสฺส เจติเย ปาฏิหีรํ โหติ. กตเมสํ ติณฺณนฺนํ? อิธ, มหาราช, อรหา เทวมนุสฺสานํ อนุกมฺปาย ¶ ติฏฺนฺโตว อธิฏฺาติ ‘เอวํนาม เจติเย ปาฏิหีรํ โหตู’ติ, ตสฺส อธิฏฺานวเสน เจติเย ปาฏิหีรํ โหติ, เอวํ อรหโต อธิฏฺานวเสน ปรินิพฺพุตสฺส เจติเย ปาฏิหีรํ โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, เทวตา มนุสฺสานํ อนุกมฺปาย ปรินิพฺพุตสฺส เจติเย ปาฏิหีรํ ทสฺเสนฺติ ‘อิมินา ปาฏิหีเรน สทฺธมฺโม นิจฺจสมฺปคฺคหิโต ภวิสฺสติ, มนุสฺสา จ ปสนฺนา กุสเลน อภิวฑฺฒิสฺสนฺตี’ติ, เอวํ เทวตานํ อธิฏฺานวเสน ปรินิพฺพุตสฺส เจติเย ปาฏิหีรํ โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อิตฺถี วา ปุริโส วา สทฺโธ ปสนฺโน ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี พุทฺธิสมฺปนฺโน โยนิโส จินฺตยิตฺวา คนฺธํ วา มาลํ วา ทุสฺสํ วา อฺตรํ วา กิฺจิ อธิฏฺหิตฺวา เจติเย อุกฺขิปติ ‘เอวํนาม โหตู’ติ, ตสฺสปิ อธิฏฺานวเสน ปรินิพฺพุตสฺส เจติเย ปาฏิหีรํ โหติ, เอวํ มนุสฺสานํ อธิฏฺานวเสน ปรินิพฺพุตสฺส เจติเย ปาฏิหีรํ โหติ.
‘‘อิเมสํ ¶ โข, มหาราช, ติณฺณนฺนํ อฺตรสฺส อธิฏฺานวเสน ปรินิพฺพุตสฺส เจติเย ปาฏิหีรํ โหติ.
‘‘ยทิ, มหาราช, เตสํ อธิฏฺานํ น โหติ, ขีณาสวสฺสปิ ฉฬภิฺสฺส เจโตวสิปฺปตฺตสฺส เจติเย ปาฏิหีรํ น โหติ, อสติปิ ¶ , มหาราช, ปาฏิหีเร จริตํ ทิสฺวา สุปริสุทฺธํ โอกปฺเปตพฺพํ นิฏฺํ คนฺตพฺพํ สทฺทหิตพฺพํ ‘สุปรินิพฺพุโต อยํ พุทฺธปุตฺโต’’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
เจติยปาฏิหาริยปฺโห สตฺตโม.
๘. ธมฺมาภิสมยปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, เย เต สมฺมา ปฏิปชฺชนฺติ, เตสํ สพฺเพสํ เยว ธมฺมาภิสมโย โหติ, อุทาหุ กสฺสจิ น โหตี’’ติ? ‘‘กสฺสจิ, มหาราช, โหติ, กสฺสจิ น โหตี’’ติ. ‘‘กสฺส ภนฺเต โหติ, กสฺส น โหตี’’ติ? ‘‘ติรจฺฉานคตสฺส, มหาราช, สุปฺปฏิปนฺนสฺสาปิ ธมฺมาภิสมโย ¶ น โหติ, เปตฺติวิสยูปปนฺนสฺส…เป… มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส…เป… กุหกสฺส…เป… มาตุฆาตกสฺส…เป… ปิตุฆาตกสฺส…เป… อรหนฺตฆาตกสฺส…เป… สงฺฆเภทกสฺส…เป… โลหิตุปฺปาทกสฺส…เป… เถยฺยสํวาสกสฺส…เป… ติตฺถิยปกฺกนฺตสฺส…เป… ภิกฺขุนิทูสกสฺส…เป… เตรสนฺนํ ครุกาปตฺตีนํ อฺตรํ อาปชฺชิตฺวา อวุฏฺิตสฺส…เป… ปณฺฑกสฺส…เป… อุภโตพฺยฺชนกสฺส สุปฺปฏิปนฺนสฺสาปิ ธมฺมาภิสมโย น โหติ…เป… โยปิ มนุสฺสทหรโก อูนกสตฺตวสฺสิโก, ตสฺส สุปฺปฏิปนฺนสฺสาปิ ธมฺมาภิสมโย น โหติ. อิเมสํ โข, มหาราช, โสฬสนฺนํ ปุคฺคลานํ สุปฺปฏิปนฺนานมฺปิ ธมฺมาภิสมโย น โหตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, เย เต ปนฺนรส ปุคฺคลา วิรุทฺธา เยว, เตสํ ธมฺมาภิสมโย โหตุ วา มา วา โหตุ, อถ เกน การเณน มนุสฺสทหรกสฺส อูนกสตฺตวสฺสิกสฺส สุปฺปฏิปนฺนสฺสาปิ ธมฺมาภิสมโย น โหติ? เอตฺถ ตาว ปฺโห ภวติ ‘นนุ นาม ทหรกสฺส น ราโค โหติ, น โทโส โหติ, น โมโห โหติ, น มาโน โหติ, น มิจฺฉาทิฏฺิ โหติ, น อรติ โหติ, น กามวิตกฺโก โหติ, อมิสฺสิโต กิเลเสหิ, โส นาม ทหรโก ยุตฺโต จ ปตฺโต จ อรหติ จ จตฺตาริ สจฺจานิ เอกปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌิตุ’’’นฺติ.
‘‘ตฺเเวตฺถ ¶ , มหาราช, การณํ, เยนาหํ การเณน ภณามิ ¶ ‘อูนกสตฺตวสฺสิกสฺส สุปฺปฏิปนฺนสฺสาปิ ธมฺมาภิสมโย น โหตี’ติ. ยทิ, มหาราช, อูนกสตฺตวสฺสิโก รชนีเย รชฺเชยฺย, ทุสฺสนีเย ทุสฺเสยฺย, โมหนีเย มุยฺเหยฺย, มทนีเย มชฺเชยฺย, ทิฏฺึ วิชาเนยฺย, รติฺจ อรติฺจ วิชาเนยฺย, กุสลากุสลํ วิตกฺเกยฺย, ภเวยฺย ตสฺส ธมฺมาภิสมโย, อปิ จ, มหาราช, อูนกสตฺตวสฺสิกสฺส จิตฺตํ อพลํ ทุพฺพลํ ปริตฺตํ อปฺปํ โถกํ มนฺทํ อวิภูตํ, อสงฺขตา นิพฺพานธาตุ ครุกา ภาริกา วิปุลา มหตี. อูนกสตฺตวสฺสิโก, มหาราช, เตน ทุพฺพเลน จิตฺเตน ปริตฺตเกน มนฺเทน อวิภูเตน น สกฺโกติ ครุกํ ภาริกํ วิปุลํ มหตึ อสงฺขตํ นิพฺพานธาตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ.
‘‘ยถา, มหาราช, สิเนรุปพฺพตราชา ครุโก ภาริโก วิปุโล มหนฺโต, อปิ นุ โข ตํ, มหาราช, ปุริโส อตฺตโน ปากติเกน ถามพลวีริเยน สกฺกุเณยฺย สิเนรุปพฺพตราชานํ อุทฺธริตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เกน การเณน มหาราชา’’ติ? ‘‘ทุพฺพลตฺตา, ภนฺเต, ปุริสสฺส, มหนฺตตฺตา สิเนรุปพฺพตราชสฺสา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อูนกสตฺตวสฺสิกสฺส จิตฺตํ อพลํ ทุพฺพลํ ปริตฺตํ อปฺปํ โถกํ มนฺทํ อวิภูตํ, อสงฺขตา นิพฺพานธาตุ ¶ ครุกา ภาริกา วิปุลา มหตี. อูนกสตฺตวสฺสิโก เตน ทุพฺพเลน จิตฺเตน ปริตฺเตน มนฺเทน อวิภูเตน น สกฺโกติ ครุกํ ภาริกํ วิปุลํ มหตึ อสงฺขตํ นิพฺพานธาตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ, เตน การเณน อูนกสตฺตวสฺสิกสฺส สุปฺปฏิปนฺนสฺสาปิ ธมฺมาภิสมโย น โหติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อยํ มหาปถวี ทีฆา อายตา ปุถุลา วิตฺถตา วิสาลา วิตฺถิณฺณา วิปุลา มหนฺตา, อปิ นุ โข ตํ, มหาราช, มหาปถวึ สกฺกา ปริตฺตเกน อุทกพินฺทุเกน เตเมตฺวา อุทกจิกฺขลฺลํ กาตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เกน การเณน, มหาราชา’’ติ? ‘‘ปริตฺตตฺตา, ภนฺเต, อุทกพินฺทุสฺส, มหนฺตตฺตา มหาปถวิยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อูนกสตฺตวสฺสิกสฺส จิตฺตํ อพลํ ¶ ทุพฺพลํ ปริตฺตํ อปฺปํ โถกํ มนฺทํ อวิภูตํ, อสงฺขตา นิพฺพานธาตุ ทีฆา อายตา ปุถุลา วิตฺถตา วิสาลา วิตฺถิณฺณา วิปุลา มหนฺตา. อูนกสตฺตวสฺสิโก เตน ทุพฺพเลน จิตฺเตน ปริตฺตเกน มนฺเทน อวิภูเตน น สกฺโกติ มหตึ อสงฺขตํ นิพฺพานธาตุํ ¶ ปฏิวิชฺฌิตุํ, เตน การเณน อูนกสตฺตวสฺสิกสฺส สุปฺปฏิปนฺนสฺสาปิ ธมฺมาภิสมโย น โหติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อพลทุพฺพลปริตฺตอปฺปโถกมนฺทคฺคิ ภเวยฺย, อปิ นุ โข, มหาราช, ตาวตเกน มนฺเทน อคฺคินา สกฺกา สเทวเก โลเก อนฺธการํ วิธมิตฺวา อาโลกํ ทสฺเสตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เกน การเณน มหาราชา’’ติ? ‘‘มนฺทตฺตา, ภนฺเต, อคฺคิสฺส, โลกสฺส มหนฺตตฺตา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อูนกสตฺตวสฺสิกสฺส จิตฺตํ อพลํ ทุพฺพลํ ปริตฺตํ อปฺปํ โถกํ มนฺทํ อวิภูตํ, มหตา จ อวิชฺชนฺธกาเรน ปิหิตํ. ตสฺมา ทุกฺกรํ าณาโลกํ ทสฺสยิตุํ, เตน การเณน อูนกสตฺตวสฺสิกสฺส สุปฺปฏิปนฺนสฺสาปิ ธมฺมาภิสมโย น โหติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อาตุโร กิโส อณุปริมิตกาโย สาลกกิมิ หตฺถินาคํ ติธา ปภินฺนํ นวายตํ ติวิตฺถตํ ทสปริณาหํ อฏฺรตนิกํ สกฏฺานมุปคตํ ทิสฺวา คิลิตุํ ปริกฑฺเฒยฺย, อปิ นุ โข โส, มหาราช, สาลกกิมิ สกฺกุเณยฺย ตํ หตฺถินาคํ คิลิตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เกน การเณน, มหาราชา’’ติ? ‘‘ปริตฺตตฺตา, ภนฺเต, สาลกกิมิสฺส, มหนฺตตฺตา หตฺถินาคสฺสา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อูนกสตฺตวสฺสิกสฺส จิตฺตํ อพลํ ทุพฺพลํ ปริตฺตํ อปฺปํ โถกํ มนฺทํ อวิภูตํ, มหตี อสงฺขตา นิพฺพานธาตุ. โส เตน ทุพฺพเลน จิตฺเตน ปริตฺตเกน มนฺเทน อวิภูเตน น สกฺโกติ มหตึ อสงฺขตํ นิพฺพานธาตุํ ¶ ปฏิวิชฺฌิตุํ, เตน การเณน อูนกสตฺตวสฺสิกสฺส สุปฺปฏิปนฺนสฺสาปิ ธมฺมาภิสมโย น โหตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
ธมฺมาภิสมยปฺโห อฏฺโม.
๙. เอกนฺตสุขนิพฺพานปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, กึ เอกนฺตสุขํ นิพฺพานํ, อุทาหุ ทุกฺเขน มิสฺส’’นฺติ? ‘‘เอกนฺตสุขํ, มหาราช, นิพฺพานํ, ทุกฺเขน อมิสฺส’’นฺติ.
‘‘น มยํ ตํ, ภนฺเต นาคเสน, วจนํ สทฺทหาม ‘เอกนฺตสุขํ นิพฺพาน’นฺติ, เอวเมตฺถ มยํ, ภนฺเต นาคเสน, ปจฺเจม ‘นิพฺพานํ ทุกฺเขน มิสฺส’นฺติ, การณฺเจตฺถ อุปลภาม ‘นิพฺพานํ ทุกฺเขน มิสฺส’นฺติ. กตมํ เอตฺถ การณํ ¶ ? เย เต, ภนฺเต นาคเสน, นิพฺพานํ ปริเยสนฺติ, เตสํ ทิสฺสติ กายสฺส จ จิตฺตสฺส จ อาตาโป ปริตาโป านจงฺกมนิสชฺชาสยนาหารปริคฺคโห มิทฺธสฺส จ อุปโรโธ อายตนานฺจ ปฏิปีฬนํ ธนธฺปิยาติมิตฺตปฺปชหนํ. เย เกจิ โลเก สุขิตา สุขสมปฺปิตา, เต สพฺเพปิ ปฺจหิ กามคุเณหิ อายตเน รเมนฺติ พฺรูเหนฺติ, มนาปิกมนาปิกพหุวิธสุภนิมิตฺเตน รูเปน จกฺขุํ รเมนฺติ พฺรูเหนฺติ, มนาปิกมนาปิกคีตวาทิตพหุวิธสุภนิมิตฺเตน สทฺเทน โสตํ รเมนฺติ พฺรูเหนฺติ, มนาปิกมนาปิกปุปฺผผลปตฺตตจมูลสารพหุวิธสุภนิมิตฺเตน คนฺเธน ฆานํ รเมนฺติ พฺรูเหนฺติ, มนาปิกมนาปิกขชฺชโภชฺชเลยฺยเปยฺยสายนียพหุวิธสุภนิมิตฺเตน รเสน ชิวฺหํ รเมนฺติ พฺรุเหนฺติ, มนาปิกมนาปิกสณฺหสุขุมมุทุมทฺทวพหุวิธสุภนิมิตฺเตน ผสฺเสน กายํ รเมนฺติ พฺรูเหนฺติ, มนาปิกมนาปิกกลฺยาณปาปกสุภาสุภพหุวิธวิตกฺกมนสิกาเรน มนํ รเมนฺติ พฺรูเหนฺติ. ตุมฺเห ตํ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายมโนพฺรูหนํ หนถ อุปหนถ, ฉินฺทถ อุปจฺฉินฺทถ, รุนฺธถ อุปรุนฺธถ. เตน กาโยปิ ปริตปติ, จิตฺตมฺปิ ปริตปติ, กาเย ปริตตฺเต กายิกทุกฺขเวทนํ เวทิยติ, จิตฺเต ปริตตฺเต เจตสิกทุกฺขเวทนํ เวทยติ. นนุ มาคณฺฑิโยปิ [มาคนฺทิโยปิ (สี. ปี.)] ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ ครหมาโน เอวมาห ¶ ‘ภูนหุ [ภูตหจฺโจ (ปี.), ภูนหจฺโจ (ก.)] สมโณ โคตโม’ติ. อิทเมตฺถ การณํ, เยนาหํ การเณน พฺรูมิ ‘นิพฺพานํ ทุกฺเขน มิสฺส’’’นฺติ.
‘‘น หิ, มหาราช, นิพฺพานํ ทุกฺเขน มิสฺสํ, เอกนฺตสุขํ นิพฺพานํ. ยํ ปน ตฺวํ, มหาราช ¶ , พฺรูสิ ‘นิพฺพานํ ทุกฺข’นฺติ, เนตํ ทุกฺขํ นิพฺพานํ นาม, นิพฺพานสฺส ปน สจฺฉิกิริยาย ปุพฺพภาโค เอโส, นิพฺพานปริเยสนํ เอตํ, เอกนฺตสุขํ เยว, มหาราช, นิพฺพานํ, น ทุกฺเขน มิสฺสํ. เอตฺถ การณํ วทามิ. อตฺถิ, มหาราช, ราชูนํ รชฺชสุขํ นามา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อตฺถิ ราชูนํ รชฺชสุข’’นฺติ. ‘‘อปิ นุ โข ตํ, มหาราช, รชฺชสุขํ ทุกฺเขน มิสฺส’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน เต, มหาราช, ราชาโน ปจฺจนฺเต กุปิเต เตสํ ปจฺจนฺตนิสฺสิตานํ ปฏิเสธาย อมจฺเจหิ ปริณายเกหิ ภเฏหิ พลตฺเถหิ ปริวุตา ปวาสํ คนฺตฺวา ฑํสมกสวาตาตปปฏิปีฬิตา สมวิสเม ปริธาวนฺติ, มหายุทฺธฺจ กโรนฺติ, ชีวิตสํสยฺจ ปาปุณนฺตี’’ติ? ‘‘เนตํ, ภนฺเต นาคเสน, รชฺชสุขํ นาม, รชฺชสุขสฺส ปริเยสนาย ปุพฺพภาโค เอโส, ทุกฺเขน, ภนฺเต นาคเสน, ราชาโน ¶ รชฺชํ ปริเยสิตฺวา รชฺชสุขํ อนุภวนฺติ, เอวํ, ภนฺเต นาคเสน, รชฺชสุขํ ทุกฺเขน อมิสฺสํ, อฺํ ตํ รชฺชสุขํ, อฺํ ทุกฺข’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, เอกนฺตสุขํ นิพฺพานํ, น ทุกฺเขน มิสฺสํ. เย ปน ตํ นิพฺพานํ ปริเยสนฺติ, เต กายฺจ จิตฺตฺจ อาตาเปตฺวา านจงฺกมนิสชฺชาสยนาหารํ ปริคฺคเหตฺวา มิทฺธํ อุปรุนฺธิตฺวา อายตนานิ ปฏิปีเฬตฺวา กายฺจ ชีวิตฺจ ปริจฺจชิตฺวา ทุกฺเขน นิพฺพานํ ปริเยสิตฺวา เอกนฺตสุขํ นิพฺพานํ อนุภวนฺติ, นิหตปจฺจามิตฺตา วิย ราชาโน รชฺชสุขํ. เอวํ, มหาราช, เอกนฺตสุขํ นิพฺพานํ, น ทุกฺเขน มิสฺสํ, อฺํ นิพฺพานํ, อฺํ ทุกฺขนฺติ.
‘‘อปรมฺปิ ¶ , มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ เอกนฺตสุขํ นิพฺพานํ, น ทุกฺเขน มิสฺสํ, อฺํ ทุกฺขํ, อฺํ นิพฺพานนฺติ. อตฺถิ, มหาราช, อาจริยานํ สิปฺปวนฺตานํ สิปฺปสุขํ นามา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อตฺถิ อาจริยานํ สิปฺปวนฺตานํ สิปฺปสุข’’นฺติ. ‘‘อปิ นุ โข ตํ, มหาราช, สิปฺปสุขํ ทุกฺเขน มิสฺส’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน เต, มหาราช, อาจริยา [อิทํ ปทํ สี. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] อาจริยานํ อภิวาทนปจฺจุฏฺาเนน อุทกาหรณฆรสมฺมชฺชนทนฺตกฏฺมุโขทกานุปฺปทาเนน อุจฺฉิฏฺปฏิคฺคหณอุจฺฉาทนนหาปนปาทปริกมฺเมน สกจิตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา ปรจิตฺตานุวตฺตเนน ทุกฺขเสยฺยาย วิสมโภชเนน กายํ อาตาเปนฺตี’’ติ? ‘‘เนตํ, ภนฺเต นาคเสน, สิปฺปสุขํ นาม, สิปฺปปริเยสนาย ปุพฺพภาโค เอโส, ทุกฺเขน, ภนฺเต นาคเสน, อาจริยา สิปฺปํ ปริเยสิตฺวา สิปฺปสุขํ อนุภวนฺติ, เอวํ, ภนฺเต นาคเสน, สิปฺปสุขํ ทุกฺเขน อมิสฺสํ, อฺํ ตํ สิปฺปสุขํ, อฺํ ทุกฺข’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, เอกนฺตสุขํ นิพฺพานํ, น ทุกฺเขน มิสฺสํ. เย ปน ตํ นิพฺพานํ ปริเยสนฺติ, เต กายฺจ จิตฺตฺจ อาตาเปตฺวา านจงฺกมนิสชฺชาสยนาหารํ ปริคฺคเหตฺวา มิทฺธํ อุปรุนฺธิตฺวา อายตนานิ ปฏิปีเฬตฺวา กายฺจ ชีวิตฺจ ปริจฺจชิตฺวา ทุกฺเขน นิพฺพานํ ปริเยสิตฺวา ¶ เอกนฺตสุขํ นิพฺพานํ อนุภวนฺติ, อาจริยา วิย สิปฺปสุขํ. เอวํ, มหาราช, เอกนฺตสุขํ นิพฺพานํ, น ทุกฺเขน มิสฺสํ, อฺํ ทุกฺขํ, อฺํ นิพฺพาน’’นฺติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
เอกนฺตสุขนิพฺพานปฺโห นวโม.
๑๐. นิพฺพานรูปสณฺานปฺโห
๑๐. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘นิพฺพานํ นิพฺพาน’นฺติ ยํ วเทสิ, สกฺกา ปน ตสฺส นิพฺพานสฺส รูปํ วา สณฺานํ วา วยํ วา ปมาณํ วา โอปมฺเมน วา การเณน วา เหตุนา ¶ วา นเยน วา อุปทสฺสยิตุ’’นฺติ? ‘‘อปฺปฏิภาคํ, มหาราช, นิพฺพานํ, น สกฺกา นิพฺพานสฺส รูปํ วา สณฺานํ วา วยํ วา ปมาณํ วา โอปมฺเมน วา การเณน วา เหตุนา วา นเยน วา อุปทสฺสยิตุ’’นฺติ. ‘‘เอตมฺปาหํ, ภนฺเต นาคเสน, น สมฺปฏิจฺฉามิ, ยํ อตฺถิธมฺมสฺส นิพฺพานสฺส รูปํ วา สณฺานํ วา วยํ วา ปมาณํ วา โอปมฺเมน วา การเณน วา เหตุนา วา นเยน วา อปฺาปนํ, การเณน มํ สฺาเปหี’’ติ. ‘‘โหตุ, มหาราช, การเณน ตํ สฺาเปสฺสามิ. อตฺถิ, มหาราช, มหาสมุทฺโท นามา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อตฺเถโส มหาสมุทฺโท’’ติ. ‘‘สเจ ตํ, มหาราช, โกจิ เอวํ ปุจฺเฉยฺย ‘กิตฺตกํ, มหาราช, มหาสมุทฺเท อุทกํ, กติ ปน เต สตฺตา, เย มหาสมุทฺเท ปฏิวสนฺตี’ติ, เอวํ ปุฏฺโ ตฺวํ, มหาราช, กินฺติ ตสฺส พฺยากเรยฺยาสี’’ติ? ‘‘สเจ มํ, ภนฺเต, โกจิ เอวํ ปุจฺเฉยฺย ‘กิตฺตกํ, มหาราช, มหาสมุทฺเท อุทกํ, กติ ปน เต สตฺตา, เย มหาสมุทฺเท ปฏิวสนฺตี’ติ, ตมหํ, ภนฺเต, เอวํ วเทยฺยํ ‘อปุจฺฉิตพฺพํ มํ ตฺวํ อมฺโภ ปุริส ปุจฺฉสิ, เนสา ปุจฺฉา เกนจิ ปุจฺฉิตพฺพา, ปนีโย เอโส ปฺโห. อวิภตฺโต โลกกฺขายิเกหิ มหาสมุทฺโท, น สกฺกา มหาสมุทฺเท อุทกํ ปริมินิตุํ สตฺตา วา เย ตตฺถ วาสมุปคตาติ เอวาหํ ภนฺเต ตสฺส ปฏิวจนํ ทเทยฺย’’’นฺติ.
‘‘กิสฺส ปน, ตฺวํ มหาราช, อตฺถิธมฺเม มหาสมุทฺเท เอวํ ปฏิวจนํ ทเทยฺยาสิ, นนุ วิคเณตฺวา [มินิตฺวา (ก.)] ตสฺส อาจิกฺขิตพฺพํ ‘เอตฺตกํ มหาสมุทฺเท อุทกํ, เอตฺตกา จ สตฺตา มหาสมุทฺเท ปฏิวสนฺตี’’ติ? ‘‘น สกฺกา, ภนฺเต, อวิสโย เอโส ปฺโห’’ติ.
‘‘ยถา ¶ , มหาราช, อตฺถิธมฺเม เยว มหาสมุทฺเท น สกฺกา อุทกํ ปริคเณตุํ [ปริมินิตุํ (ก.)] สตฺตา วา เย ตตฺถ วาสมุปคตา, เอวเมว โข, มหาราช, อตฺถิธมฺมสฺเสว นิพฺพานสฺส น สกฺกา รูปํ วา สณฺานํ วา วยํ วา ปมาณํ วา โอปมฺเมน วา ¶ การเณน วา เหตุนา วา นเยน วา อุปทสฺสยิตุํ, วิคเณยฺย, มหาราช, อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต มหาสมุทฺเท อุทกํ ตตฺราสเย ¶ จ สตฺเต, น ตฺเวว โส อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต สกฺกุเณยฺย นิพฺพานสฺส รูปํ วา สณฺานํ วา วยํ วา ปมาณํ วา โอปมฺเมน วา การเณน วา เหตุนา วา นเยน วา อุปทสฺสยิตุํ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, อตฺถิธมฺมสฺเสว นิพฺพานสฺส น สกฺกา รูปํ วา สณฺานํ วา วยํ วา ปมาณํ วา โอปมฺเมน วา การเณน วา เหตุนา วา นเยน วา อุปทสฺสยิตุนฺติ. อตฺถิ, มหาราช, เทเวสุ อรูปกายิกา นาม เทวา’’ติ. ‘‘อาม, ภนฺเต, สุยฺยติ ‘อตฺถิ เทเวสุ อรูปกายิกา นาม เทวา’’’ติ. ‘‘สกฺกา ปน, มหาราช, เตสํ อรูปกายิกานํ เทวานํ รูปํ วา สณฺานํ วา วยํ วา ปมาณํ วา โอปมฺเมน วา การเณน วา เหตุนา วา นเยน วา อุปทสฺสยิตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, นตฺถิ อรูปกายิกา เทวา’’ติ? ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต, อรูปกายิกา เทวา, น จ สกฺกา เตสํ รูปํ วา สณฺานํ วา วยํ วา ปมาณํ วา โอปมฺเมน วา การเณน วา เหตุนา วา นเยน วา อุปทสฺสยิตุ’’นฺติ. ‘‘ยถา, มหาราช, อตฺถิสตฺตานํ เยว อรูปกายิกานํ เทวานํ น สกฺกา รูปํ วา สณฺานํ วา วยํ วา ปมาณํ วา โอปมฺเมน วา การเณน วา เหตุนา วา นเยน วา อุปทสฺสยิตุํ, เอวเมว โข, มหาราช, อตฺถิธมฺมสฺเสว นิพฺพานสฺส น สกฺกา รูปํ วา สณฺานํ วา วยํ วา ปมาณํ วา โอปมฺเมน วา การเณน วา เหตุนา วา นเยน วา อุปทสฺสยิตุ’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, โหตุ เอกนฺตสุขํ นิพฺพานํ, น จ สกฺกา ตสฺส รูปํ วา สณฺานํ วา วยํ วา ปมาณํ วา โอปมฺเมน วา การเณน วา เหตุนา วา นเยน วา อุปทสฺสยิตุํ. อตฺถิ ปน, ภนฺเต, นิพฺพานสฺส คุณํ อฺเหิ อนุปวิฏฺํ กิฺจิ โอปมฺมนิทสฺสนมตฺต’’นฺติ? ‘‘สรูปโต, มหาราช, นตฺถิ, คุณโต ปน สกฺกา กิฺจิ โอปมฺมนิทสฺสนมตฺตํ ¶ อุปทสฺสยิตุ’’นฺติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, ยถาหํ ลภามิ นิพฺพานสฺส คุณโตปิ เอกเทสปริทีปนมตฺตํ, ตถา สีฆํ พฺรูหิ, นิพฺพาเปหิ เม หทยปริฬาหํ วินย สีตลมธุรวจนมาลุเตนา’’ติ.
‘‘ปทุมสฺส, มหาราช, เอโก คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ, อุทกสฺส ทฺเว คุณา, อคทสฺส ตโย ¶ คุณา, มหาสมุทฺทสฺส จตฺตาโร คุณา, โภชนสฺส ปฺจ คุณา, อากาสสฺส ทส คุณา, มณิรตนสฺส ตโย คุณา ¶ , โลหิตจนฺทนสฺส ตโย คุณา, สปฺปิมณฺฑสฺส ตโย คุณา, คิริสิขรสฺส ปฺจ คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘ปทุมสฺส เอโก คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ’ติ ยํ วเทสิ, กตโม ปทุมสฺส เอโก คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ปทุมํ อนุปลิตฺตํ อุทเกน, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ สพฺพกิเลเสหิ อนุปลิตฺตํ. อยํ, มหาราช, ปทุมสฺส เอโก คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘อุทกสฺส ทฺเว คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’ติ ยํ วเทสิ, กตเม อุทกสฺส ทฺเว คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, อุทกํ สีตลํ ปริฬาหนิพฺพาปนํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ สีตลํ สพฺพกิเลสปริฬาหนิพฺพาปนํ. อยํ, มหาราช, อุทกสฺส ปโม คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, อุทกํ กิลนฺตตสิตปิปาสิตฆมฺมาภิตตฺตานํ ชนปสุปชานํ ปิปาสาวินยนํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ กามตณฺหาภวตณฺหาวิภวตณฺหาปิปาสาวินยนํ. อยํ, มหาราช, อุทกสฺส ทุติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. อิเม โข, มหาราช, อุทกสฺส ทฺเว คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘อคทสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’ติ ยํ วเทสิ, กตเม อคทสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ ¶ อนุปวิฏฺา’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, อคโท วิสปีฬิตานํ สตฺตานํ ปฏิสรณํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ กิเลสวิสปีฬิตานํ สตฺตานํ ปฏิสรณํ. อยํ, มหาราช, อคทสฺส ปโม คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, อคโท โรคานํ อนฺตกโร, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ สพฺพทุกฺขานํ อนฺตกรํ. อยํ, มหาราช, อคทสฺส ทุติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, อคโท อมตํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ อมตํ. อยํ, มหาราช, อคทสฺส ตติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. อิเม โข, มหาราช, อคทสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘มหาสมุทฺทสฺส จตฺตาโร คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’ติ ยํ วเทสิ, กตเม มหาสมุทฺทสฺส จตฺตาโร คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, มหาสมุทฺโท สฺุโ สพฺพกุณเปหิ, เอวเมว โข, มหาราช ¶ , นิพฺพานํ สฺุํ สพฺพกิเลสกุณเปหิ. อยํ, มหาราช ¶ , มหาสมุทฺทสฺส ปโม คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, มหาสมุทฺโท มหนฺโต อโนรปาโร, น ปริปูรติ สพฺพสวนฺตีหิ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ มหนฺตํ อโนรปารํ, น ปูรติ สพฺพสตฺเตหิ. อยํ, มหาราช, มหาสมุทฺทสฺส ทุติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, มหาสมุทฺโท มหนฺตานํ ภูตานํ อาวาโส, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ มหนฺตานํ อรหนฺตานํ วิมลขีณาสวพลปฺปตฺตวสีภูตมหาภูตานํ อาวาโส. อยํ, มหาราช, มหาสมุทฺทสฺส ตติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, มหาสมุทฺโท อปริมิตวิวิธวิปุลวีจิปุปฺผสํกุสุมิโต, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ อปริมิตวิวิธวิปุลปริสุทฺธวิชฺชาวิมุตฺติปุปฺผสํกุสุมิตํ. อยํ, มหาราช, มหาสมุทฺทสฺส จตุตฺโถ คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. อิเม โข, มหาราช, มหาสมุทฺทสฺส จตฺตาโร คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ.
‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘โภชนสฺส ปฺจ คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’ติ ยํ วเทสิ, กตเม โภชนสฺส ปฺจ คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, โภชนํ สพฺพสตฺตานํ อายุธารณํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ สจฺฉิกตํ ชรามรณนาสนโต อายุธารณํ. อยํ, มหาราช, โภชนสฺส ปโม คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, โภชนํ สพฺพสตฺตานํ พลวฑฺฒนํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ สจฺฉิกตํ สพฺพสตฺตานํ อิทฺธิพลวฑฺฒนํ. อยํ, มหาราช, โภชนสฺส ทุติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, โภชนํ สพฺพสตฺตานํ วณฺณชนนํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ สจฺฉิกตํ สพฺพสตฺตานํ คุณวณฺณชนนํ. อยํ, มหาราช, โภชนสฺส ตติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, โภชนํ สพฺพสตฺตานํ ทรถวูปสมนํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ สจฺฉิกตํ สพฺพสตฺตานํ สพฺพกิเลสทรถวูปสมนํ. อยํ, มหาราช, โภชนสฺส จตุตฺโถ คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, โภชนํ สพฺพสตฺตานํ ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺยปฏิวิโนทนํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ สจฺฉิกตํ สพฺพสตฺตานํ สพฺพทุกฺขชิฆจฺฉาทุพฺพลฺยปฏิวิโนทนํ. อยํ, มหาราช, โภชนสฺส ปฺจโม คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. อิเม โข, มหาราช, โภชนสฺส ปฺจ คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ.
‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘อากาสสฺส ทส คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’ติ ยํ วเทสิ, กตเม อากาสสฺส ทส คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, อากาโส น ชายติ, น ชียติ, น มียติ, น จวติ, น อุปฺปชฺชติ, ทุปฺปสโห, อโจราหรโณ, อนิสฺสิโต, วิหคคมโน, นิราวรโณ, อนนฺโต. เอวเมว ¶ โข, มหาราช, นิพฺพานํ น ชายติ, น ชียติ ¶ , น มียติ, น จวติ, น อุปฺปชฺชติ, ทุปฺปสหํ, อโจราหรณํ, อนิสฺสิตํ, อริยคมนํ, นิราวรณํ, อนนฺตํ. อิเม โข, มหาราช, อากาสสฺส ทส คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘มณิรตนสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’ติ ยํ วเทสิ, กตเม มณิรตนสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, มณิรตนํ กามททํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ กามททํ. อยํ, มหาราช, มณิรตนสฺส ปโม คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, มณิรตนํ หาสกรํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ หาสกรํ. อยํ, มหาราช, มณิรตนสฺส ทุติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, มณิรตนํ อุชฺโชตตฺตกรํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ อุชฺโชตตฺตกรํ [อุชฺโชตตฺถกรํ (สี. ปี.), อุชฺโชติตตฺถกรํ (สฺยา.)]. อยํ, มหาราช, มณิรตนสฺส ตติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. อิเม โข, มหาราช, มณิรตนสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘โลหิตจนฺทนสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’ติ ยํ วเทสิ, กตเม โลหิตจนฺทนสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, โลหิตจนฺทนํ ทุลฺลภํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ ทุลฺลภํ. อยํ, มหาราช, โลหิตจนฺทนสฺส ปโม คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, โลหิตจนฺทนํ อสมสุคนฺธํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ อสมสุคนฺธํ. อยํ, มหาราช, โลหิตจนฺทนสฺส ทุติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, โลหิตจนฺทนํ สชฺชนปสตฺถํ [สพฺพชนปสตฺถํ (สฺยา.)], เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ อริยสชฺชนปสตฺถํ. อยํ, มหาราช, โลหิตจนฺทนสฺส ตติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. อิเม โข, มหาราช, โลหิตจนฺทนสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ.
‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ‘สปฺปิมณฺฑสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’ติ ยํ วเทสิ, กตเม สปฺปิมณฺฑสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, สปฺปิมณฺโฑ วณฺณสมฺปนฺโน, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ คุณวณฺณสมฺปนฺนํ. อยํ, มหาราช, สปฺปิมณฺฑสฺส ปโม คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, สปฺปิมณฺโฑ คนฺธสมฺปนฺโน, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ สีลคนฺธสมฺปนฺนํ. อยํ, มหาราช, สปฺปิมณฺฑสฺส ทุติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, สปฺปิมณฺโฑ รสสมฺปนฺโน, เอวเมว โข ¶ , มหาราช, นิพฺพานํ รสสมฺปนฺนํ. อยํ, มหาราช, สปฺปิมณฺฑสฺส ตติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. อิเม โข, มหาราช, สปฺปิมณฺฑสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘คิริสิขรสฺส ปฺจ คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’ติ ยํ วเทสิ, กตเม คิริสิขรสฺส ปฺจ คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, คิริสิขรํ อจฺจุคฺคตํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ อจฺจุคตํ. อยํ, มหาราช, คิริสิขรสฺส ปโม คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, คิริสิขรํ อจลํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ อจลํ. อยํ, มหาราช, คิริสิขรสฺส ทุติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, คิริสิขรํ ทุรธิโรหํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ ทุรธิโรหํ สพฺพกิเลสานํ. อยํ, มหาราช, คิริสิขรสฺส ตติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, คิริสิขรํ สพฺพพีชานํ อวิรูหนํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ สพฺพกิเลสานํ อวิรูหนํ. อยํ, มหาราช, คิริสิขรสฺส จตุตฺโถ คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, คิริสิขรํ อนุนยปฺปฏิฆวิปฺปมุตฺตํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ อนุนยปฺปฏิฆวิปฺปมุตฺตํ. อยํ, มหาราช, คิริสิขรสฺส ปฺจโม คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ ¶ . อิเม โข, มหาราช, คิริสิขรสฺส ปฺจ คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
นิพฺพานรูปสณฺานปฺโห ทสโม.
๑๑. นิพฺพานสจฺฉิกรณปฺโห
๑๑. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘นิพฺพานํ น อตีตํ, น อนาคตํ, น ปจฺจุปฺปนฺนํ, น อุปฺปนฺนํ น อนุปฺปนฺนํ น อุปฺปาทนีย’นฺติ. อิธ, ภนฺเต นาคเสน, โย โกจิ สมฺมาปฏิปนฺโน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ, โส อุปฺปนฺนํ สจฺฉิกโรติ, อุทาหุ อุปฺปาเทตฺวา สจฺฉิกโรตี’’ติ? ‘‘โย โกจิ, มหาราช, สมฺมาปฏิปนฺโน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ, โส น อุปฺปนฺนํ สจฺฉิกโรติ, น อุปฺปาเทตฺวา สจฺฉิกโรติ, อปิ จ, มหาราช, อตฺเถสา นิพฺพานธาตุ, ยํ โส สมฺมาปฏิปนฺโน สจฺฉิกโรตี’’ติ.
‘‘มา, ภนฺเต นาคเสน, อิมํ ปฺหํ ปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา ทีเปหิ, วิวฏํ ปากฏํ กตฺวา ทีเปหิ ¶ ฉนฺทชาโต อุสฺสาหชาโต, ยํ เต สิกฺขิตํ, ตํ สพฺพํ เอตฺเถวากิราหิ, เอตฺถายํ ชโน สมฺมูฬฺโห วิมติชาโต สํสยปกฺขนฺโท, ภินฺเทตํ อนฺโตโทสสลฺล’’นฺติ. ‘‘อตฺเถสา, มหาราช, นิพฺพานธาตุ สนฺตา สุขา ปณีตา, ตํ สมฺมาปฏิปนฺโน ชินานุสิฏฺิยา สงฺขาเร สมฺมสนฺโต ปฺาย สจฺฉิกโรติ. ยถา, มหาราช, อนฺเตวาสิโก อาจริยานุสิฏฺิยา วิชฺชํ ปฺาย สจฺฉิกโรติ, เอวเมว โข, มหาราช, สมฺมาปฏิปนฺโน ชินานุสิฏฺิยา ปฺาย นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ.
‘‘กถํ ปน ตํ นิพฺพานํ ทฏฺพฺพนฺติ? อนีติโต นิรุปทฺทวโต อภยโต เขมโต สนฺตโต สุขโต สาตโต ปณีตโต สุจิโต สีตลโต ทฏฺพฺพํ.
‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส พหุกฏฺปฺุเชน ชลิตกฏฺิเตน อคฺคินา ทยฺหมาโน วายาเมน ตโต มฺุจิตฺวา นิรคฺคิโกกาสํ ¶ ปวิสิตฺวา ตตฺถ ปรมสุขํ ลเภยฺย, เอวเมว โข, มหาราช, โย สมฺมาปฏิปนฺโน, โส โยนิโส มนสิกาเรน พฺยปคตติวิธคฺคิสนฺตาปํ ปรมสุขํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ. ยถา, มหาราช, อคฺคิ, เอวํ ติวิธคฺคิ ทฏฺพฺโพ; ยถา อคฺคิคโต ปุริโส, เอวํ สมฺมาปฏิปนฺโน ทฏฺพฺโพ; ยถา นิรคฺคิโกกาโส, เอวํ นิพฺพานํ ทฏฺพฺพํ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ปุริโส อหิกุกฺกุรมนุสฺสกุณปสรีรวฬฺชโกฏฺาสราสิคโต กุณปชฏาชฏิตนฺตรมนุปวิฏฺโ วายาเมน ตโต มฺุจิตฺวา นิกฺกุณโปกาสํ ปวิสิตฺวา ตตฺถ ปรมสุขํ ลเภยฺย, เอวเมว ¶ โข, มหาราช, โย สมฺมาปฏิปนฺโน, โส โยนิโส มนสิกาเรน พฺยปคตกิเลสกุณปํ ปรมสุขํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ. ยถา, มหาราช, กุณปํ, เอวํ ปฺจ กามคุณา ทฏฺพฺพา; ยถา กุณปคโต ปุริโส, เอวํ สมฺมาปฏิปนฺโน ทฏฺพฺโพ; ยถา นิกฺกุณโปกาโส, เอวํ นิพฺพานํ ทฏฺพฺพํ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ปุริโส ภีโต ตสิโต กมฺปิโต วิปรีตวิพฺภนฺตจิตฺโต วายาเมน ตโต มฺุจิตฺวา ทฬฺหํ ถิรํ อจลํ อภยฏฺานํ ปวิสิตฺวา ตตฺถ ปรมสุขํ ลเภยฺย, เอวเมว โข, มหาราช, โย สมฺมาปฏิปนฺโน, โส โยนิโส มนสิกาเรน พฺยปคตภยสนฺตาสํ ปรมสุขํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ. ยถา, มหาราช, ภยํ, เอวํ ชาติชราพฺยาธิมรณํ ปฏิจฺจ อปราปรํ ปวตฺตภยํ ทฏฺพฺพํ; ยถา ภีโต ปุริโส, เอวํ สมฺมาปฏิปนฺโน ทฏฺพฺโพ; ยถา อภยฏฺานํ, เอวํ นิพฺพานํ ทฏฺพฺพํ.
‘‘ยถา ¶ วา ปน, มหาราช, ปุริโส กิลิฏฺมลินกลลกทฺทมเทเส ปติโต วายาเมน ตํ กลลกทฺทมํ อปวาเหตฺวา ปริสุทฺธวิมลเทสมุปคนฺตฺวา ตตฺถ ปรมสุขํ ลเภยฺย, เอวเมว โข, มหาราช, โย สมฺมาปฏิปนฺโน, โส โยนิโส มนสิกาเรน พฺยปคตกิเลสมลกทฺทมํ ปรมสุขํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ. ยถา, มหาราช, กลลํ, เอวํ ลาภสกฺการสิโลโก ¶ ทฏฺพฺโพ; ยถา กลลคโต ปุริโส, เอวํ สมฺมาปฏิปนฺโน ทฏฺพฺโพ; ยถา ปริสุทฺธวิมลเทโส, เอวํ นิพฺพานํ ทฏฺพฺพํ.
‘‘ตฺจ ปน นิพฺพานํ สมฺมาปฏิปนฺโน กินฺติ สจฺฉิกโรติ? โย โส, มหาราช, สมฺมาปฏิปนฺโน, โส สงฺขารานํ ปวตฺตํ สมฺมสติ. ปวตฺตํ สมฺมสมาโน ตตฺถ ชาตึ ปสฺสติ ชรํ ปสฺสติ พฺยาธึ ปสฺสติ มรณํ ปสฺสติ, น ตตฺถ กิฺจิ สุขํ สาตํ ปสฺสติ อาทิโตปิ มชฺฌโตปิ ปริโยสานโตปิ. โส ตตฺถ กิฺจิ น คยฺหูปคํ ปสฺสติ. ยถา, มหาราช, ปุริโส ทิวสสนฺตตฺเต อโยคุเฬ ชลิเต ตตฺเต กิเต อาทิโตปิ มชฺฌโตปิ ปริโยสานโตปิ น กิฺจิ คยฺหูปคํ ปเทสํ ปสฺสติ, เอวเมว โข, มหาราช, โย สงฺขารานํ ปวตฺตํ สมฺมสติ, โส ปวตฺตํ สมฺมสมาโน ตตฺถ ชาตึ ปสฺสติ ชรํ ปสฺสติ พฺยาธึ ปสฺสติ มรณํ ปสฺสติ, น ตตฺถ กิฺจิ สุขํ สาตํ ปสฺสติ อาทิโตปิ มชฺฌโตปิ ปริโยสานโตปิ. โส ตตฺถ [อิทํ ปททฺวยํ สี. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] น กิฺจิ คยฺหูปคํ ปสฺสติ, ตสฺส คยฺหูปคํ ¶ อปสฺสนฺตสฺส จิตฺเต อรติ สณฺาติ, กายสฺมึ ฑาโห โอกฺกมติ, โส อตาโณ อสรโณ อสรณีภูโต ภเวสุ นิพฺพินฺทติ.
‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส ชลิตชาลํ มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ ปวิเสยฺย, โส ตตฺถ อตาโณ อสรโณ อสรณีภูโต อคฺคิมฺหิ นิพฺพินฺเทยฺย, เอวเมว โข, มหาราช, ตสฺส คยฺหูปคํ อปสฺสนฺตสฺส จิตฺเต อรติ สณฺาติ, กายสฺมึ ฑาโห โอกฺกมติ, โส อตาโณ อสรโณ อสรณีภูโต ภเวสุ นิพฺพินฺทติ.
‘‘ตสฺส ปวตฺเต ภยทสฺสาวิสฺส เอวํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ ‘สนฺตตฺตํ โข ปเนตํ ปวตฺตํ สมฺปชฺชลิตํ พหุทุกฺขํ พหูปายาสํ, ยทิ โกจิ ลเภถ อปฺปวตฺตํ เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ, ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหกฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. อิติ เหตํ [หิตํ (สี.), หิ อิทํ (ปี.)] ตสฺส อปฺปวตฺเต จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ ¶ ปหํสยติ ตุสยติ [ปหํสียติ กุหียติ (สี. ปี.)]‘ปฏิลทฺธํ โข เม นิสฺสรณ’นฺติ.
‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส วิปฺปนฏฺโ วิเทสปกฺขนฺโท นิพฺพาหนมคฺคํ ทิสฺวา ตตฺถ ปกฺขนฺทติ ¶ ปสีทติ ปหํสยติ ตุสยติ [ปหํสียติ กุหียติ (สี. ปี.)] ‘ปฏิลทฺโธ เม นิพฺพาหนมคฺโค’ติ, เอวเมว โข, มหาราช, ปวตฺเต ภยทสฺสาวิสฺส อปฺปวตฺเต จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ ปหํสยติ ตุสยติ [ปหํสียติ กุหียติ (สี. ปี.)] ‘ปฏิลทฺธํ โข เม นิสฺสรณ’นฺติ.
‘‘โส อปฺปวตฺตตฺถาย มคฺคํ อายูหติ คเวสติ ภาเวติ พหุลีกโรติ, ตสฺส ตทตฺถํ สติ สนฺติฏฺติ, ตทตฺถํ วีริยํ สนฺติฏฺติ, ตทตฺถํ ปีติ สนฺติฏฺติ, ตสฺส ตํ จิตฺตํ อปราปรํ มนสิกโรโต ปวตฺตํ สมติกฺกมิตฺวา อปฺปวตฺตํ โอกฺกมติ, อปฺปวตฺตมนุปฺปตฺโต, มหาราช, สมฺมาปฏิปนฺโน ‘นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตี’ติ วุจฺจตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
นิพฺพานสจฺฉิกรณปฺโห เอกาทสโม.
๑๒. นิพฺพานสนฺนิหิตปฺโห
๑๒. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, อตฺถิ โส ปเทโส ปุรตฺถิมาย วา ทิสาย ทกฺขิณาย วา ทิสาย ปจฺฉิมาย วา ทิสาย อุตฺตราย วา ทิสาย อุทฺธํ วา อโธ วา ติริยํ วา, ยตฺถ นิพฺพานํ สนฺนิหิต’’นฺติ? ‘‘นตฺถิ, มหาราช, โส ปเทโส ปุรตฺถิมาย วา ทิสาย ทกฺขิณาย วา ทิสาย ปจฺฉิมาย วา ทิสาย อุตฺตราย วา ทิสาย อุทฺธํ วา อโธ วา ติริยํ วา, ยตฺถ นิพฺพานํ สนฺนิหิต’’นฺติ.
‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, นตฺถิ นิพฺพานสฺส สนฺนิหิโตกาโส, เตน หิ นตฺถิ นิพฺพานํ? เยสฺจ ตํ นิพฺพานํ สจฺฉิกตํ, เตสมฺปิ สจฺฉิกิริยา มิจฺฉา, การณํ ตตฺถ วกฺขามิ, ยถา, ภนฺเต นาคเสน, มหิยา ธฺุฏฺานํ เขตฺตํ อตฺถิ, คนฺธุฏฺานํ ปุปฺผํ อตฺถิ, ปุปฺผุฏฺานํ คุมฺโพ อตฺถิ, ผลุฏฺานํ รุกฺโข อตฺถิ, รตนุฏฺานํ อากโร อตฺถิ, ตตฺถ โย โกจิ ยํ ยํ อิจฺฉติ, โส ตตฺถ คนฺตฺวา ตํ ตํ หรติ, เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, ยทิ ¶ นิพฺพานํ อตฺถิ, ตสฺส นิพฺพานสฺส อุฏฺาโนกาโสปิ อิจฺฉิตพฺโพ, ยสฺมา จ โข, ภนฺเต นาคเสน, นิพฺพานสฺส อุฏฺาโนกาโส นตฺถิ, ตสฺมา นตฺถิ นิพฺพานนฺติ พฺรูมิ, เยสฺจ นิพฺพานํ สจฺฉิกตํ, เตสมฺปิ สจฺฉิกิริยา มิจฺฉา’’ติ.
‘‘นตฺถิ ¶ , มหาราช, นิพฺพานสฺส สนฺนิหิโตกาโส, อตฺถิ เจตํ นิพฺพานํ, สมฺมาปฏิปนฺโน โยนิโส มนสิกาเรน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ. ยถา ปน, มหาราช, อตฺถิ อคฺคิ นาม, นตฺถิ ตสฺส สนฺนิหิโตกาโส, ทฺเว กฏฺานิ สงฺฆฏฺเฏนฺโต อคฺคึ อธิคจฺฉติ. เอวเมว โข, มหาราช, อตฺถิ นิพฺพานํ, นตฺถิ ตสฺส สนฺนิหิโตกาโส, สมฺมาปฏิปนฺโน โยนิโส มนสิกาเรน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อตฺถิ สตฺต รตนานิ นาม. เสยฺยถิทํ, จกฺกรตนํ หตฺถิรตนํ อสฺสรตนํ มณิรตนํ อิตฺถิรตนํ คหปติรตนํ ปริณายกรตนํ. น จ เตสํ รตนานํ สนฺนิหิโตกาโส อตฺถิ, ขตฺติยสฺส ปน สมฺมาปฏิปนฺนสฺส ปฏิปตฺติพเลน ตานิ รตนานิ อุปคจฺฉนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, อตฺถิ นิพฺพานํ, นตฺถิ ตสฺส สนฺนิหิโตกาโส, สมฺมาปฏิปนฺโน โยนิโส มนสิกาเรน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, นิพฺพานสฺส สนฺนิหิโตกาโส มา โหตุ, อตฺถิ ปน ตํ านํ, ยตฺถ ิโต สมฺมาปฏิปนฺโน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช ¶ , อตฺถิ ตํ านํ, ยตฺถ ิโต สมฺมาปฏิปนฺโน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตี’’ติ.
‘‘กตมํ ปน, ภนฺเต, ตํ านํ, ยตฺถ ิโต สมฺมาปฏิปนฺโน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตี’’ติ? ‘‘สีลํ, มหาราช, านํ, สีเล ปติฏฺิโต โยนิโส มนสิกโรนฺโต สกฺกยวเนปิ จีนวิลาเตปิ อลสนฺเทปิ นิคุมฺเพปิ [นิกุมฺเพปิ (สี. สฺยา. ปี.)] กาสิโกสเลปิ กสฺมีเรปิ คนฺธาเรปิ นคมุทฺธนิปิ พฺรหฺมโลเกปิ ยตฺถ กตฺถจิปิ ิโต สมฺมาปฏิปนฺโน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ. ยถา, มหาราช, โย โกจิ จกฺขุมา ¶ ปุริโส สกยวเนปิ จีนวิลาเตปิ อลสนฺเทปิ นิคุมฺเพปิ กาสิโกสเลปิ กสฺมีเรปิ คนฺธาเรปิ นคมุทฺธนิปิ พฺรหฺมโลเกปิ ยตฺถ กตฺถจิปิ ิโต อากาสํ ปสฺสติ, เอวเมว โข, มหาราช, สีเล ปติฏฺิโต โยนิโส มนสิกโรนฺโต สกยวเนปิ…เป… ยตฺถ กตฺถจิปิ ิโต สมฺมาปฏิปนฺโน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, สกยวเนปิ…เป… ยตฺถ กตฺถจิปิ ิตสฺส ปุพฺพทิสา อตฺถิ, เอวเมว โข, มหาราช, สีเล ปติฏฺิตสฺส โยนิโส มนสิกโรนฺตสฺส สกฺกยวเนปิ…เป… ยตฺถ กตฺถจิปิ ิตสฺส สมฺมาปฏิปนฺนสฺส อตฺถิ นิพฺพานสจฺฉิกิริยา’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เทสิตํ ตยา นิพฺพานํ, เทสิตา นิพฺพานสจฺฉิกิริยา, ปริกฺขตา สีลคุณา, ทสฺสิตา สมฺมาปฏิปตฺติ, อุสฺสาปิโต ธมฺมทฺธโช, สณฺปิตา ¶ ธมฺมเนตฺติ, อวฺโฌ สุปฺปยุตฺตานํ สมฺมาปโยโค, เอวเมตํ คณิวรปวร ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
นิพฺพานสนฺนิหิตปฺโห ทฺวาทสโม.
เวสฺสนฺตรวคฺโค ตติโย.
อิมสฺมึ วคฺเค ทฺวาทส ปฺหา.
๔. อนุมานวคฺโค
๑. อนุมานปฺโห
๑. อถ ¶ ¶ ¶ โข มิลินฺโท ราชา เยนายสฺมา นาคเสโน เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข มิลินฺโท ราชา าตุกาโม โสตุกาโม ธาเรตุกาโม าณาโลกํ ทฏฺุกาโม อฺาณํ ภินฺทิตุกาโม าณาโลกํ อุปฺปาเทตุกาโม อวิชฺชนฺธการํ นาเสตุกาโม อธิมตฺตํ ธิติฺจ อุสฺสาหฺจ สติฺจ สมฺปชฺฺจ อุปฏฺเปตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึ ปน พุทฺโธ ตยา ทิฏฺโ’’ติ. ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘กึ ปน เต อาจริเยหิ พุทฺโธ ทิฏฺโ’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, น กิร ตยา พุทฺโธ ทิฏฺโ, นาปิ กิร เต อาจริเยหิ พุทฺโธ ทิฏฺโ, เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, นตฺถิ พุทฺโธ, น เหตฺถ พุทฺโธ ปฺายตี’’ติ.
‘‘อตฺถิ ปน เต, มหาราช, ปุพฺพกา ขตฺติยา, เย เต ตว ขตฺติยวํสสฺส ปุพฺพงฺคมา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต. โก สํสโย, อตฺถิ ปุพฺพกา ขตฺติยา, เย มม ขตฺติยวํสสฺส ปุพฺพงฺคมา’’ติ. ‘‘ทิฏฺปุพฺพา ตยา, มหาราช, ปุพฺพกา ขตฺติยา’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เย ปน ตํ, มหาราช, อนุสาสนฺติ ปุโรหิตา เสนาปติโน อกฺขทสฺสา มหามตฺตา, เตหิ ปุพฺพกา ขตฺติยา ทิฏฺปุพฺพา’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘ยทิ ปน เต, มหาราช, ปุพฺพกา ขตฺติยา น ทิฏฺา, นาปิ กิร เต อนุสาสเกหิ ปุพฺพกา ขตฺติยา ทิฏฺา, เตน หิ นตฺถิ ปุพฺพกา ขตฺติยา, น เหตฺถ ปุพฺพกา ขตฺติยา ปฺายนฺตี’’ติ.
‘‘ทิสฺสนฺติ, ภนฺเต นาคเสน, ปุพฺพกานํ ขตฺติยานํ อนุภูตานิ ปริโภคภณฺฑานิ. เสยฺยถิทํ, เสตจฺฉตฺตํ ¶ อุณฺหีสํ ปาทุกา วาลพีชนี ขคฺครตนํ มหารหานิ จ สยนานิ. เยหิ มยํ ชาเนยฺยาม สทฺทเหยฺยาม ‘อตฺถิ ปุพฺพกา ขตฺติยา’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, มยมฺเปตํ ¶ ภควนฺตํ ชาเนยฺยาม สทฺทเหยฺยาม. อตฺถิ ตํ การณํ, เยน มยํ การเณน ชาเนยฺยาม สทฺทเหยฺยาม ‘อตฺถิ โส ภควา’ติ. กตมํ ตํ การณํ? อตฺถิ โข, มหาราช, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน อนุภูตานิ ปริโภคภณฺฑานิ. เสยฺยถิทํ, จตฺตาโร สติปฏฺานา ¶ จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ปฺจินฺทฺริยานิ ปฺจ พลานิ สตฺต โพชฺฌงฺคา อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, เยหิ สเทวโก โลโก ชานาติ สทฺทหติ ‘อตฺถิ โส ภควา’ติ. อิมินา, มหาราช, การเณน อิมินา เหตุนา อิมินา นเยน อิมินา อนุมาเนน าตพฺโพ ‘อตฺถิ โส ภควา’ติ.
‘‘‘พหู ชเน ตารยิตฺวา, นิพฺพุโต อุปธิกฺขเย;
อนุมาเนน าตพฺพํ, อตฺถิ โส ทฺวิปทุตฺตโม’’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, นครวฑฺฒกี นครํ มาเปตุกาโม ปมํ ตาว สมํ อนุนฺนตมโนนตํ อสกฺขรปาสาณํ นิรุปทฺทวมนวชฺชํ รมณียํ ภูมิภาคํ อนุวิโลเกตฺวา ยํ ตตฺถ วิสมํ, ตํ สมํ การาเปตฺวา ขาณุกณฺฏกํ วิโสธาเปตฺวา ตตฺถ นครํ มาเปยฺย โสภนํ วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ อุกฺกิณฺณปริขาปาการํ ทฬฺหโคปุรฏฺฏาลโกฏฺฏกํ ปุถุจจฺจรจตุกฺกสนฺธิสิงฺฆาฏกํ สุจิสมตลราชมคฺคํ สุวิภตฺตอนฺตราปณํ อารามุยฺยานตฬากโปกฺขรณิอุทปานสมฺปนฺนํ พหุวิธเทวฏฺานปฺปฏิมณฺฑิตํ สพฺพโทสวิรหิตํ, โส ตสฺมึ นคเร สพฺพถา เวปุลฺลตฺตํ ปตฺเต อฺํ เทสํ อุปคจฺเฉยฺย, อถ ตํ นครํ อปเรน สมเยน อิทฺธํ ภเวยฺย ผีตํ สุภิกฺขํ ¶ เขมํ สมิทฺธํ สิวํ อนีติกํ นิรุปทฺทวํ นานาชนสมากุลํ, ปุถู ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา สุทฺทา หตฺถาโรหา อสฺสาโรหา รถิกา ปตฺติกา ธนุคฺคหา ถรุคฺคหา เจลกา จลกา ปิณฺฑทายกา อุคฺคา ราชปุตฺตา ปกฺขนฺทิโน มหานาคา สูรา วมฺมิโน โยธิโน ทาสิกปุตฺตา ภฏิปุตฺตา [ทาสปุตฺตา ภฏฺฏิปุตฺตา (สี. ปี.)] มลฺลกา คณกา อาฬาริกา สูทา กปฺปกา นหาปกา จุนฺทา มาลาการา สุวณฺณการา สชฺฌุการา สีสการา ติปุการา โลหการา วฏฺฏการา อโยการา มณิการา เปสการา กุมฺภการา เวณุการา โลณการา จมฺมการา รถการา ทนฺตการา รชฺชุการา โกจฺฉการา สุตฺตการา วิลีวการา ธนุการา ชิยการา อุสุการา จิตฺตการา รงฺคการา รชกา ตนฺตวายา ตุนฺนวายา เหรฺิกา ทุสฺสิกา คนฺธิกา ติณหารกา กฏฺหารกา ภตกา ปณฺณิกา ผลิกา [ผลฺลิกา (สี. ปี.)] มูลิกา โอทนิกา ปูวิกา มจฺฉิกา มํสิกา มชฺชิกา นฏกา นจฺจกา ลงฺฆกา อินฺทชาลิกา เวตาลิกา มลฺลา ¶ ฉวฑาหกา ปุปฺผฉฑฺฑกา เวนา เนสาทา คณิกา ลาสิกา กุมฺภทาสิโย สกฺกยวนจีนวิลาตา อุชฺเชนกา ภารุกจฺฉกา กาสิโกสลา ปรนฺตกา มาคธกา สาเกตกา โสเรยฺยกา [โสรฏฺกา (สี. ปี.)] ปาเวยฺยกา โกฏุมฺพรมาถุรกา อลสนฺทกสฺมีรคนฺธารา ตํ นครํ วาสาย ¶ อุปคตา นานาวิสยิโน ชนา นวํ สุวิภตฺตํ อโทสมนวชฺชํ รมณียํ ตํ นครํ ปสฺสิตฺวา อนุมาเนน ชานนฺติ ‘เฉโก วต โภ โส นครวฑฺฒกี, โย อิมสฺส นครสฺส มาเปตา’ติ. เอวเมว โข, มหาราช, โส ภควา อสโม อสมสโม อปฺปฏิสโม อสทิโส อตุโล อสงฺขฺเยโย อปฺปเมยฺโย อปริเมยฺโย อมิตคุโณ คุณปารมิปฺปตฺโต อนนฺตธิติ อนนฺตเตโช อนนฺตวีริโย อนนฺตพโล พุทฺธพลปารมึ คโต ¶ สเสนมารํ ปราเชตฺวา ทิฏฺิชาลํ ปทาเลตฺวา อวิชฺชํ เขเปตฺวา วิชฺชํ อุปฺปาเทตฺวา ธมฺมุกฺกํ ธารยิตฺวา สพฺพฺุตํ ปาปุณิตฺวา วิชิตสงฺคาโม ธมฺมนครํ มาเปสิ.
‘‘ภควโต โข, มหาราช, ธมฺมนครํ สีลปาการํ หิริปริขํ าณทฺวารโกฏฺกํ วีริยอฏฺฏาลกํ สทฺธาเอสิกํ สติโทวาริกํ ปฺาปาสาทํ สุตฺตนฺตจจฺจรํ อภิธมฺมสิงฺฆาฏกํ วินยวินิจฺฉยํ สติปฏฺานวีถิกํ, ตสฺส โข ปน, มหาราช, สติปฏฺานวีถิยํ เอวรูปา อาปณา ปสาริตา โหนฺติ. เสยฺยถีทํ, ปุปฺผาปณํ คนฺธาปณํ ผลาปณํ อคทาปณํ โอสธาปณํ อมตาปณํ รตนาปณํ สพฺพาปณ’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, กตมํ พุทฺธสฺส ภควโต ปุปฺผาปณ’’นฺติ? ‘‘อตฺถิ โข ปน, มหาราช, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน อารมฺมณวิภตฺติโย อกฺขาตา. เสยฺยถีทํ, อนิจฺจสฺา ทุกฺขสฺา อนตฺตสฺา อสุภสฺา อาทีนวสฺา ปหานสฺา วิราคสฺา นิโรธสฺา สพฺพโลเก อนภิรติสฺา สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจสฺา อานาปานสฺสติ อุทฺธุมาตกสฺา วินีลกสฺา วิปุพฺพกสฺา วิจฺฉิทฺทกสฺา วิกฺขายิตกสฺา วิกฺขิตฺตกสฺา หตวิกฺขิตฺตกสฺา โลหิตกสฺา ปุฬวกสฺา อฏฺิกสฺา เมตฺตาสฺา กรุณาสฺา มุทิตาสฺา อุเปกฺขาสฺา มรณานุสฺสติ กายคตาสติ, อิเม โข, มหาราช, พุทฺเธน ภควตา อารมฺมณวิภตฺติโย อกฺขาตา. ตตฺถ โย โกจิ ชรามรณา มุจฺจิตุกาโม, โส เตสุ อฺตรํ ¶ อารมฺมณํ คณฺหาติ, เตน อารมฺมเณน ราคา วิมุจฺจติ, โทสา วิมุจฺจติ, โมหา วิมุจฺจติ, มานโต วิมุจฺจติ, ทิฏฺิโต วิมุจฺจติ, สํสารํ ตรติ, ตณฺหาโสตํ นิวาเรติ, ติวิธํ มลํ วิโสเธติ, สพฺพกิเลเส อุปหนฺตฺวา อมลํ วิรชํ สุทฺธํ ปณฺฑรํ อชาตึ ¶ อชรํ อมรํ สุขํ สีติภูตํ อภยํ นครุตฺตมํ นิพฺพานนครํ ปวิสิตฺวา อรหตฺเต จิตฺตํ วิโมเจติ, อิทํ วุจฺจติ มหาราช ‘ภควโต ปุปฺผาปณ’นฺติ.
‘‘‘กมฺมมูลํ ¶ คเหตฺวาน, อาปณํ อุปคจฺฉถ;
อารมฺมณํ กิณิตฺวาน, ตโต มุจฺจถ มุตฺติยา’’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, กตมํ พุทฺธสฺส ภควโต คนฺธาปณ’’นฺติ? ‘‘อตฺถิ โข ปน, มหาราช, เตน ภควตา สีลวิภตฺติโย อกฺขาตา, เยน สีลคนฺเธน อนุลิตฺตา ภควโต ปุตฺตา สเทวกํ โลกํ สีลคนฺเธน ธูเปนฺติ สมฺปธูเปนฺติ, ทิสมฺปิ อนุทิสมฺปิ อนุวาตมฺปิ ปฏิวาตมฺปิ วายนฺติ อติวายนฺติ, ผริตฺวา ติฏฺนฺติ. กตมา ตา สีลวิภตฺติโย? สรณสีลํ ปฺจงฺคสีลํ อฏฺงฺคสีลํ ทสงฺคสีลํ ปฺจุทฺเทสปริยาปนฺนํ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ. อิทํ วุจฺจติ, มหาราช, ‘ภควโต คนฺธาปณ’นฺติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘‘‘น ปุปฺผคนฺโธ ปฏิวาตเมติ, น จนฺทนํ ตคฺครมลฺลิกา วา;
สตฺจ คนฺโธ ปฏิวาตเมติ, สพฺพา ทิสา สปฺปุริโส ปวายติ [ปวาติ (สี. ปี.) ธ. ป. ๕๔ ปสฺสิตพฺพํ].
‘‘‘จนฺทนํ ตครํ วาปิ, อุปฺปลํ อถ วสฺสิกี;
เอเตสํ คนฺธชาตานํ, สีลคนฺโธ อนุตฺตโร.
‘‘‘อปฺปมตฺโต อยํ คนฺโธ, ยฺวายํ ตครจนฺทนํ;
โย จ สีลวตํ คนฺโธ, วาติ เทเวสุ อุตฺตโม’’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, กตมํ พุทฺธสฺส ภควโต ผลาปณ’’นฺติ? ‘‘ผลานิ โข, มหาราช, ภควตา อกฺขาตานิ. เสยฺยถีทํ, โสตาปตฺติผลํ สกทาคามิผลํ อนาคามิผลํ อรหตฺตผลํ สฺุตผลสมาปตฺติ อนิมิตฺตผลสมาปตฺติ อปฺปณิหิตผลสมาปตฺติ ¶ . ตตฺถ โย โกจิ ยํ ¶ ผลํ อิจฺฉติ, โส กมฺมมูลํ ทตฺวา ปตฺถิตํ ผลํ กิณาติ. ยทิ โสตาปตฺติผลํ, ยทิ สกทาคามิผลํ, ยทิ อนาคามิผลํ, ยทิ อรหตฺตผลํ, ยทิ สฺุตผลสมาปตฺตึ, ยทิ อนิมิตฺตผลสมาปตฺตึ, ยทิ อปฺปณิหิตผลสมาปตฺตึ. ยถา, มหาราช, กสฺสจิ ปุริสสฺส ธุวผโล อมฺโพ ภเวยฺย, โส น ตาว ตโต ผลานิ ปาเตติ, ยาว กยิกา น อาคจฺฉนฺติ, อนุปฺปตฺเต ปน กยิเก มูลํ คเหตฺวา เอวํ อาจิกฺขติ ‘อมฺโภ ปุริส เอโส โข ธุวผโล อมฺโพ, ตโต ยํ อิจฺฉสิ, เอตฺตกํ ผลํ คณฺหาหิ สลาฏุกํ วา โทวิลํ วา เกสิกํ วา อามํ วา ปกฺกํ วา’ติ, โส เตน อตฺตนา ทินฺนมูเลน ยทิ สลาฏุกํ อิจฺฉติ, สลาฏุกํ คณฺหาติ, ยทิ โทวิลํ อิจฺฉติ, โทวิลํ คณฺหาติ, ยทิ เกสิกํ อิจฺฉติ, เกสิกํ คณฺหาติ, ยทิ ¶ อามกํ อิจฺฉติ, อามกํ คณฺหาติ, ยทิ ปกฺกํ อิจฺฉติ, ปกฺกํ คณฺหาติ. เอวเมว โข, มหาราช, โย ยํ ผลํ อิจฺฉติ, โส กมฺมมูลํ ทตฺวา ปตฺถิตํ ผลํ คณฺหาติ, ยทิ โสตาปตฺติผลํ…เป… ยทิ อปฺปณิหิตผลสมาปตฺตึ, อิทํ วุจฺจติ, มหาราช, ‘ภควโต ผลาปณ’นฺติ.
‘‘‘กมฺมมูลํ ชนา ทตฺวา, คณฺหนฺติ อมตมฺผลํ;
เตน เต สุขิตา โหนฺติ, เย กีตา อมตปฺผล’’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, กตมํ พุทฺธสฺส ภควโต อคทาปณ’’นฺติ? ‘‘อคทานิ โข, มหาราช, ภควตา อกฺขาตานิ, เยหิ อคเทหิ โส ภควา สเทวกํ โลกํ กิเลสวิสโต ปริโมเจติ. กตมานิ ปน ตานิ อคทานิ? ยานิมานิ, มหาราช, ภควตา จตฺตาริ อริยสจฺจานิ อกฺขาตานิ. เสยฺยถีทํ, ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ทุกฺขสมุทยํ อริยสจฺจํ ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ, ตตฺถ เย เกจิ อฺาเปกฺขา จตุสจฺจํ ธมฺมํ สุณนฺติ, เต ชาติยา ปริมุจฺจนฺติ ¶ , ชราย ปริมุจฺจนฺติ, มรณา ปริมุจฺจนฺติ, โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาเสหิ ปริมุจฺจนฺติ, อิทํ วุจฺจติ มหาราช ‘ภควโต อคทาปณ’นฺติ.
‘‘‘เย เกจิ อคทา โลเก [โลเก อคทา (ปี.)], วิสานํ ปฏิพาหกา;
ธมฺมาคทสมํ นตฺถิ, เอตํ ปิวถ ภิกฺขโว’’’ติ.
‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, กตมํ พุทฺธสฺส ภควโต โอสธาปณ’’นฺติ? ‘‘โอสธานิ โข, มหาราช, ภควตา อกฺขาตานิ, เยหิ โอสเธหิ โส ภควา เทวมนุสฺเส ติกิจฺฉติ. เสยฺยถีทํ, จตฺตาโร สติปฏฺานา จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ปฺจินฺทฺริยานิ ปฺจ พลานิ สตฺต โพชฺฌงฺคา อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, เอเตหิ โอสเธหิ ภควา มิจฺฉาทิฏฺึ วิเรเจติ, มิจฺฉาสงฺกปฺปํ วิเรเจติ, มิจฺฉาวาจํ วิเรเจติ, มิจฺฉากมฺมนฺตํ วิเรเจติ, มิจฺฉาอาชีวํ วิเรเจติ, มิจฺฉาวายามํ วิเรเจติ, มิจฺฉาสตึ วิเรเจติ, มิจฺฉาสมาธึ วิเรเจติ, โลภวมนํ กาเรติ, โทสวมนํ กาเรติ, โมหวมนํ กาเรติ, มานวมนํ กาเรติ, ทิฏฺิวมนํ กาเรติ, วิจิกิจฺฉาวมนํ กาเรติ, อุทฺธจฺจวมนํ กาเรติ, ถินมิทฺธวมนํ กาเรติ, อหิริกาโนตฺตปฺปวมนํ กาเรติ, สพฺพกิเลสวมนํ กาเรติ, อิทํ วุจฺจติ, มหาราช, ‘ภควโต โอสธาปณ’นฺติ.
‘‘‘เย ¶ เกจิ โอสธา โลเก, วิชฺชนฺติ วิวิธา พหู;
ธมฺโมสธสมํ นตฺถิ, เอตํ ปิวถ ภิกฺขโว.
‘‘‘ธมฺโมสธํ ปิวิตฺวาน, อชรามรณา สิยุํ;
ภาวยิตฺวา จ ปสฺสิตฺวา, นิพฺพุตา อุปธิกฺขเย’’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, กตมํ พุทฺธสฺส ภควโต อมตาปณ’’นฺติ? ‘‘อมตํ โข, มหาราช, ภควตา อกฺขาตํ, เยน อมเตน โส ภควา สเทวกํ โลกํ อภิสิฺจิ ¶ , เยน อมเตน อภิสิตฺตา เทวมนุสฺสา ชาติชราพฺยาธิมรณโสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาเสหิ ปริมุจฺจึสุ. กตมํ ตํ อมตํ? ยทิทํ กายคตาสติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน ‘อมตํ เต, ภิกฺขเว, ปริภฺุชนฺติ, เย กายคตาสตึ ปริภฺุชนฺตี’ติ. อิทํ วุจฺจติ, มหาราช, ‘ภควโต อมตาปณ’นฺติ.
‘‘‘พฺยาธิตํ ชนตํ ทิสฺวา, อมตาปณํ ปสารยิ;
กมฺเมน ตํ กิณิตฺวาน, อมตํ อาเทถ ภิกฺขโว’’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, กตมํ พุทฺธสฺส ภควโต รตนาปณ’’นฺติ? ‘‘รตนานิ โข, มหาราช, ภควตา อกฺขาตานิ, เยหิ รตเนหิ วิภูสิตา ภควโต ปุตฺตา สเทวกํ โลกํ วิโรจนฺติ โอภาเสนฺติ ปภาเสนฺติ ชลนฺติ ปชฺชลนฺติ อุทฺธํ อโธ ติริยํ อาโลกํ ทสฺเสนฺติ. กตมานิ ตานิ ¶ รตนานิ? สีลรตนํ สมาธิรตนํ ปฺารตนํ วิมุตฺติรตนํ วิมุตฺติาณทสฺสนรตนํ ปฏิสมฺภิทารตนํ โพชฺฌงฺครตนํ.
‘‘กตมํ, มหาราช, ภควโต สีลรตนํ? ปาติโมกฺขสํวรสีลํ อินฺทฺริยสํวรสีลํ อาชีวปาริสุทฺธิสีลํ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ จูฬสีลํ มชฺฌิมสีลํ มหาสีลํ มคฺคสีลํ ผลสีลํ. สีลรตเนน โข, มหาราช, วิภูสิตสฺส ปุคฺคลสฺส สเทวโก โลโก สมารโก สพฺรหฺมโก สสฺสมณพฺราหฺมณี ปชา ปิหยติ ปตฺเถติ, สีลรตนปิฬนฺโธ โข, มหาราช, ภิกฺขุ ทิสมฺปิ อนุทิสมฺปิ อุทฺธมฺปิ อโธปิ ติริยมฺปิ วิโรจติ อติวิโรจติ [อติโรจติ (สี. ปี.)], เหฏฺโต อวีจึ อุปริโต ภวคฺคํ อุปาทาย เอตฺถนฺตเร สพฺพรตนานิ อติกฺกมิตฺวา [อติสยิตฺวา (สี. ปี.)] อภิภวิตฺวา อชฺโฌตฺถริตฺวา ติฏฺติ, เอวรูปานิ โข, มหาราช, สีลรตนานิ ภควโต รตนาปเณ ปสาริตานิ, อิทํ วุจฺจติ มหาราช ‘ภควโต สีลรตน’นฺติ.
‘‘‘เอวรูปานิ ¶ ¶ สีลานิ, สนฺติ พุทฺธสฺส อาปเณ;
กมฺเมน ตํ กิณิตฺวาน, รตนํ โว ปิฬนฺธถา’ติ.
‘‘กตมํ, มหาราช, ภควโต สมาธิรตนํ? สวิตกฺกสวิจาโร สมาธิ, อวิตกฺกวิจารมตฺโต สมาธิ, อวิตกฺกอวิจาโร สมาธิ, สฺุโต สมาธิ, อนิมิตฺโต สมาธิ, อปฺปณิหิโต สมาธิ. สมาธิรตนํ โข, มหาราช, ปิฬนฺธสฺส ภิกฺขุโน เย เต กามวิตกฺกพฺยาปาทวิตกฺกวิหึสาวิตกฺกมานุทฺธจฺจทิฏฺิวิจิกิจฺฉากิเลสวตฺถูนิ วิวิธานิ จ กุวิตกฺกานิ, เต สพฺเพ สมาธึ อาสชฺช วิกิรนฺติ วิธมนฺติ วิทฺธํสนฺติ น สณฺนฺติ [น สณฺหนฺติ (สี.)] น อุปลิมฺปนฺติ [น อุปลิปฺปนฺติ (สี. ปี.)]. ยถา, มหาราช, วาริ โปกฺขรปตฺเต วิกิรติ วิธมติ วิทฺธํสติ น สณฺาติ น อุปลิมฺปติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ปริสุทฺธตฺตา ปทุมสฺส. เอวเมว โข, มหาราช, สมาธิรตนํ ปิฬนฺธสฺส ภิกฺขุโน เย เต กามวิตกฺกพฺยาปาทวิตกฺกวิหึสาวิตกฺกมานุทฺธจฺจ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉากิเลสวตฺถูนิ วิวิธานิ จ กุวิตกฺกานิ, เต สพฺเพ สมาธึ อาสชฺช วิกิรนฺติ วิธมนฺติ วิทฺธํสนฺติ น สณฺนฺติ น อุปลิมฺปนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ปริสุทฺธตฺตา สมาธิสฺส. อิทํ วุจฺจติ, มหาราช, ‘ภควโต สมาธิรตน’นฺติ, เอวรูปานิ โข, มหาราช, สมาธิรตนานิ ภควโต รตนาปเณ ปสาริตานิ.
‘‘‘สมาธิรตนมาลสฺส ¶ , กุวิตกฺกา น ชายเร;
น จ วิกฺขิปเต จิตฺตํ, เอตํ ตุมฺเห ปิฬนฺธถา’ติ.
‘‘กตมํ, มหาราช, ภควโต ปฺารตนํ? ยาย, มหาราช, ปฺาย อริยสาวโก ‘อิทํ กุสล’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อิทํ อกุสล’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อิทํ สาวชฺชํ, อิทํ อนวชฺชํ, อิทํ เสวิตพฺพํ, อิทํ น เสวิตพฺพํ, อิทํ หีนํ, อิทํ ปณีตํ, อิทํ กณฺหํ, อิทํ ¶ สุกฺกํ, อิทํ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาค’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. อิทํ วุจฺจติ มหาราช ‘ภควโต ปฺารตน’นฺติ.
‘‘‘ปฺารตนมาลสฺส, น จิรํ วตฺตเต ภโว;
ขิปฺปํ ผสฺเสติ [ผุสฺเสติ (สฺยา.), ปสฺสติ (ก.)] อมตํ, น จ โส โรจเต ภเว’ติ.
‘‘กตมํ ¶ , มหาราช, ภควโต วิมุตฺติรตนํ’’? ‘‘วิมุตฺติรตนํ [วิมุตฺติรตนนฺติ (สี. ปี.)] โข, มหาราช, อรหตฺตํ วุจฺจติ, อรหตฺตํ ปตฺโต โข, มหาราช, ภิกฺขุ ‘วิมุตฺติรตนํ ปิฬนฺโธ’ติ วุจฺจติ. ยถา, มหาราช, ปุริโส มุตฺตากลาปมณิกลาปปวาฬกลาปาภรณปฺปฏิมณฺฑิโต [ปวาฬาภรณปฏิปณฺฑิโต (สี. ปี.)] อคลุตครตาลีสกโลหิตจนฺทนานุลิตฺตคตฺโต นาคปุนฺนาคสาลสลฬจมฺปกยูถิกาติมุตฺตกปาฏลุปฺปลวสฺสิกมลฺลิกาวิจิตฺโต เสสชเน อติกฺกมิตฺวา วิโรจติ อติวิโรจติ โอภาสติ ปภาสติ สมฺปภาสติ ชลติ ปชฺชลติ อภิภวติ อชฺโฌตฺถรติ มาลาคนฺธรตนาภรเณหิ, เอวเมว โข, มหาราช, อรหตฺตํ ปตฺโต ขีณาสโว วิมุตฺติรตนปิฬนฺโธ อุปาทายุปาทาย วิมุตฺตานํ ภิกฺขูนํ อติกฺกมิตฺวา สมติกฺกมิตฺวา วิโรจติ อติวิโรจติ โอภาสติ ปภาสติ สมฺปภาสติ ชลติ ปชฺชลติ อภิภวติ อชฺโฌตฺถรติ วิมุตฺติยา. ตํ กิสฺส เหตุ? อคฺคํ, มหาราช, เอตํ ปิฬนฺธนํ สพฺพปิฬนฺธนานํ, ยทิทํ วิมุตฺติปิฬนฺธนํ. อิทํ วุจฺจติ, มหาราช, ‘ภควโต วิมุตฺติรตน’นฺติ.
‘‘‘มณิมาลาธรํ เคห, ชโน [เคหํ, ชโน (ก.)] สามึ อุทิกฺขติ;
วิมุตฺติรตนมาลนฺตุ, อุทิกฺขนฺติ สเทวกา’ติ.
‘‘กตมํ ¶ มหาราช, ภควโต วิมุตฺติาณทสฺสนรตนํ? ปจฺจเวกฺขณาณํ, มหาราช, ภควโต วิมุตฺติาณทสฺสนรตนนฺติ ¶ วุจฺจติ, เยน าเณน อริยสาวโก มคฺคผลนิพฺพานานิ ปหีนกิเลสาวสิฏฺกิเลเส จ ปจฺจเวกฺขติ.
‘‘‘เย าเณน พุชฺฌนฺติ, อริยา กตกิจฺจตํ;
ตํ าณรตนํ ลทฺธุํ, วายเมถ ชิโนรสา’ติ.
‘‘กตมํ, มหาราช, ภควโต ปฏิสมฺภิทารตนํ? จตสฺโส โข, มหาราช, ปฏิสมฺภิทาโย อตฺถปฏิสมฺภิทา ธมฺมปฏิสมฺภิทา นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา ปฏิภานปฏิสมฺภิทาติ. อิเมหิ โข, มหาราช, จตูหิ ปฏิสมฺภิทารตเนหิ สมลงฺกโต ภิกฺขุ ยํ ยํ ปริสํ อุปสงฺกมติ, ยทิ ขตฺติยปริสํ, ยทิ พฺราหฺมณปริสํ, ยทิ คหปติปริสํ, ยทิ สมณปริสํ, วิสารโท อุปสงฺกมติ อมงฺกุภูโต อภีรุ อจฺฉมฺภี อนุตฺราสี วิคตโลมหํโส ปริสํ อุปสงฺกมติ.
‘‘ยถา, มหาราช, โยโธ สงฺคามสูโร สนฺนทฺธปฺจาวุโธ อจฺฉมฺภิโต [อสมฺภีโต (สี. ปี.)] สงฺคามํ โอตรติ, ‘สเจ ¶ อมิตฺตา ทูเร ภวิสฺสนฺติ อุสุนา ปาตยิสฺสามิ, ตโต โอรโต ภวิสฺสนฺติ สตฺติยา ปหริสฺสามิ, ตโต โอรโต ภวิสฺสนฺติ กณเยน ปหริสฺสามิ, อุปคตํ สนฺตํ มณฺฑลคฺเคน ทฺวิธา ฉินฺทิสฺสามิ, กายูปคตํ ฉุริกาย วินิวิชฺฌิสฺสามี’ติ [วิชฺฌิสฺสามีติ (สี.)], เอวเมว โข, มหาราช, จตุปฏิสมฺภิทารตนมณฺฑิโต ภิกฺขุ อจฺฉมฺภิโต ปริสํ อุปสงฺกมติ. โย โกจิ มํ อตฺถปฏิสมฺภิเท ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสติ, ตสฺส อตฺเถน อตฺถํ กถยิสฺสามิ, การเณน การณํ กถยิสฺสามิ, เหตุนา เหตุํ กถยิสฺสามิ, นเยน นยํ กถยิสฺสามิ, นิสฺสํสยํ กริสฺสามิ, วิมตึ วิเวเจสฺสามิ, โตสยิสฺสามิ ปฺหเวยฺยากรเณน.
‘‘โย โกจิ มํ ธมฺมปฏิสมฺภิเท ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสติ, ตสฺส ธมฺเมน ธมฺมํ กถยิสฺสามิ, อมเตน อมตํ กถยิสฺสามิ, อสงฺขเตน อสงฺขตํ กถยิสฺสามิ, นิพฺพาเนน นิพฺพานํ กถยิสฺสามิ, สฺุเตน สฺุตํ กถยิสฺสามิ ¶ , อนิมิตฺเตน อนิมิตฺตํ กถยิสฺสามิ, อปฺปณิหิเตน อปฺปณิหิตํ กถยิสฺสามิ, อเนเชน อเนชํ กถยิสฺสามิ, นิสฺสํสยํ กริสฺสามิ, วิมตึ วิเวเจสฺสามิ, โตสยิสฺสามิ ปฺหาเวยฺยากรเณน.
‘‘โย ¶ โกจิ มํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิเท ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสติ, ตสฺส นิรุตฺติยา นิรุตฺตึ กถยิสฺสามิ, ปเทน ปทํ กถยิสฺสามิ, อนุปเทน อนุปทํ กถยิสฺสามิ, อกฺขเรน อกฺขรํ กถยิสฺสามิ, สนฺธิยา สนฺธึ กถยิสฺสามิ, พฺยฺชเนน พฺยฺชนํ กถยิสฺสามิ, อนุพฺยฺชเนน อนุพฺยฺชนํ กถยิสฺสามิ, วณฺเณน วณฺณํ กถยิสฺสามิ, สเรน สรํ กถยิสฺสามิ, ปฺตฺติยา ปฺตฺตึ กถยิสฺสามิ, โวหาเรน โวหารํ กถยิสฺสามิ, นิสฺสํสยํ กริสฺสามิ, วิมตึ วิเวเจสฺสามิ, โตสยิสฺสามิ ปฺหเวยฺยากรเณน.
‘‘โย โกจิ มํ ปฏิภานปฏิสมฺภิเท ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสติ, ตสฺส ปฏิภาเนน ปฏิภานํ กถยิสฺสามิ, โอปมฺเมน โอปมฺมํ กถยิสฺสามิ, ลกฺขเณน ลกฺขณํ กถยิสฺสามิ, รเสน รสํ กถยิสฺสามิ, นิสฺสํสยํ กริสฺสามิ, วิมตึ วิเวเจสฺสามิ, โตสยิสฺสามิ ปฺหเวยฺยากรเณนาติ, อิทํ วุจฺจติ, มหาราช, ‘ภควโต ปฏิสมฺภิทารตน’นฺติ.
‘‘‘ปฏิสมฺภิทา กิณิตฺวาน, าเณน ผสฺสเยยฺย โย;
อจฺฉมฺภิโต อนุพฺพิคฺโค, อติโรจติ สเทวเก’ติ.
‘‘กตมํ, มหาราช, ภควโต โพชฺฌงฺครตนํ? สตฺติเม, มหาราช, โพชฺฌงฺคา, สติสมฺโพชฺฌงฺโค ¶ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค. อิเมหิ โข, มหาราช, สตฺตหิ โพชฺฌงฺครตเนหิ ปฏิมณฺฑิโต ภิกฺขุ สพฺพํ ตมํ อภิภุยฺย สเทวกํ โลกํ โอภาเสติ ปภาเสติ อาโลกํ ชเนติ. อิทํ วุจฺจติ, มหาราช, ‘ภควโต โพชฺฌงฺครตน’นฺติ.
‘‘‘โพชฺฌงฺครตนมาลสฺส ¶ , อุฏฺหนฺติ [อุปฏฺหนฺติ (ก.), อุทิกฺขนฺติ (สฺยา.)] สเทวกา;
กมฺเมน ตํ กิณิตฺวาน, รตนํ โว ปิฬนฺธถา’’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, กตมํ พุทฺธสฺส ภควโต สพฺพาปณ’’นฺติ? ‘‘สพฺพาปณํ โข, มหาราช, ภควโต นวงฺคํ พุทฺธวจนํ สารีริกานิ ปาริโภคิกานิ เจติยานิ สงฺฆรตนฺจ. สพฺพาปเณ, มหาราช, ภควตา ชาติสมฺปตฺติ ปสาริตา, โภคสมฺปตฺติ ปสาริตา, อายุสมฺปตฺติ ปสาริตา, อาโรคฺยสมฺปตฺติ ปสาริตา, วณฺณสมฺปตฺติ ปสาริตา, ปฺาสมฺปตฺติ ปสาริตา, มานุสิกสมฺปตฺติ ปสาริตา, ทิพฺพสมฺปตฺติ ปสาริตา, นิพฺพานสมฺปตฺติ ¶ ปสาริตา. ตตฺถ เย ตํ ตํ สมฺปตฺตึ อิจฺฉนฺติ, เต กมฺมมูลํ ทตฺวา ปตฺถิตปตฺถิตํ สมฺปตฺตึ กิณนฺติ, เกจิ สีลสมาทาเนน กิณนฺติ, เกจิ อุโปสถกมฺเมน กิณนฺติ, อปฺปมตฺตเกนปิ กมฺมมูเลน อุปาทายุปาทาย สมฺปตฺติโย ปฏิลภนฺติ. ยถา, มหาราช, อาปณิกสฺส อาปเณ ติลมุคฺคมาเส ปริตฺตเกนปิ ตณฺฑุลมุคฺคมาเสน อปฺปเกนปิ มูเลน อุปาทายุปาทาย คณฺหนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, ภควโต สพฺพาปเณ อปฺปมตฺตเกนปิ กมฺมมูเลน อุปาทายุปาทาย สมฺปตฺติโย ปฏิลภนฺติ. อิทํ วุจฺจติ, มหาราช, ‘ภควโต สพฺพาปณ’นฺติ.
‘‘‘อายุ อโรคตา วณฺณํ, สคฺคํ อุจฺจากุลีนตา;
อสงฺขตฺจ อมตํ, อตฺถิ สพฺพาปเณ ชิเน.
‘‘‘อปฺเปน พหุเกนาปิ, กมฺมมูเลน คยฺหติ;
กิณิตฺวา สทฺธามูเลน, สมิทฺธา โหถ ภิกฺขโว’ติ.
‘‘ภควโต โข, มหาราช, ธมฺมนคเร เอวรูปา ชนา ปฏิวสนฺติ, สุตฺตนฺติกา เวนยิกา อาภิธมฺมิกา ธมฺมกถิกา ชาตกภาณกา ทีฆภาณกา มชฺฌิมภาณกา สํยุตฺตภาณกา ¶ องฺคุตฺตรภาณกา ขุทฺทกภาณกา สีลสมฺปนฺนา สมาธิสมฺปนฺนา ปฺาสมฺปนฺนา โพชฺฌงฺคภาวนารตา วิปสฺสกา สทตฺถมนุยุตฺตา อารฺิกา รุกฺขมูลิกา อพฺโภกาสิกา ปลาลปฺุชิกา โสสานิกา ¶ เนสชฺชิกา ปฏิปนฺนกา ผลฏฺา เสกฺขา ผลสมงฺคิโน โสตาปนฺนา สกทาคามิโน อนาคามิโน อรหนฺโต เตวิชฺชา ฉฬภิฺา อิทฺธิมนฺโต ปฺาย ปารมึคตา สติปฏฺานสมฺมปฺปธานอิทฺธิปาทอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺควรฌานวิโมกฺขรู ปารูปสนฺตสุขสมาปตฺติกุสลา, เตหิ อรหนฺเตหิ อากุลํ สมากุลํ อากิณฺณํ สมากิณฺณํ นฬวนสรวนมิว ธมฺมนครํ อโหสิ. ภวตีห –
‘‘‘วีตราคา วีตโทสา, วีตโมหา อนาสวา;
วีตตณฺหา อนาทานา, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘อารฺิกา ธุตธรา, ฌายิโน ลูขจีวรา;
วิเวกาภิรตา ธีรา, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘เนสชฺชิกา สนฺถติกา, อโถปิ านจงฺกมา;
ปํสุกูลธรา สพฺเพ, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘ติจีวรธรา ¶ สนฺตา, จมฺมขณฺฑจตุตฺถกา;
รตา เอกาสเน วิฺู, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘อปฺปิจฺฉา นิปกา ธีรา, อปฺปาหารา อโลลุปา;
ลาภาลาเภน สนฺตุฏฺา, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘ฌายี ฌานรตา ธีรา, สนฺตจิตฺตา สมาหิตา;
อากิฺจฺํ ปตฺถยานา, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘ปฏิปนฺนา ผลฏฺา จ, เสกฺขา ผลสมงฺคิโน;
อาสีสกา [อาสึสกา (สี. ปี.)] อุตฺตมตฺถํ, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘โสตาปนฺนา จ วิมลา, สกทาคามิโน จ เย;
อนาคามี จ อรหนฺโต, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘สติปฏฺานกุสลา ¶ , โพชฺฌงฺคภาวนารตา;
วิปสฺสกา ธมฺมธรา, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘อิทฺธิปาเทสุ ¶ กุสลา, สมาธิภาวนารตา;
สมฺมปฺปธานานุยุตฺตา, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘อภิฺาปารมิปฺปตฺตา, เปตฺติเก โคจเร รตา;
อนฺตลิกฺขมฺหิ จรณา, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘โอกฺขิตฺตจกฺขู มิตภาณี, คุตฺตทฺวารา สุสํวุตา;
สุทนฺตา อุตฺตเม ทมฺเม [ธมฺเม (สี. ปี.)], ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘เตวิชฺชา ฉฬภิฺา จ, อิทฺธิยา ปารมึ คตา;
ปฺาย ปารมิปฺปตฺตา, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต’ติ.
‘‘เย โข เต, มหาราช, ภิกฺขู อปริมิตาณวรธรา อสงฺคา อตุลคุณา [อตุลิยคุณา (สี. ปี. ก.)] อตุลยสา อตุลพลา อตุลเตชา ธมฺมจกฺกานุปฺปวตฺตกา ปฺาปารมึ คตา, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘ธมฺมเสนาปติโน’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู อิทฺธิมนฺโต อธิคตปฺปฏิสมฺภิทาปตฺตเวสารชฺชา คคนจรา ทุราสทา ทุปฺปสหา อนาลมฺพจรา สสาครมหิธรปถวิกมฺปโก จนฺทสูริยปริมชฺชกา วิกุพฺพนาธิฏฺานาภินีหารกุสลา อิทฺธิยา ¶ ปารมึ คตา, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘ปุโรหิตา’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู ธุตงฺคมนุคตา อปฺปิจฺฉา สนฺตุฏฺา วิฺตฺติมเนสนชิคุจฺฉกา ปิณฺฑาย สปทานจาริโน ภมราว คนฺธมนุฆายิตฺวา ปวิสนฺติ วิวิตฺตกานนํ, กาเย จ ชีวิเต จ นิรเปกฺขา อรหตฺตมนุปฺปตฺตา ธุตงฺคคุเณ อคฺคนิกฺขิตฺตา, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘อกฺขทสฺสา’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู ปริสุทฺธา วิมลา นิกฺกิเลสา จุตูปปาตกุสลา ทิพฺพจกฺขุมฺหิ ¶ ปารมึ คตา, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘นครโชตกา’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู พหุสฺสุตา ¶ อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา สิถิลธนิตทีฆรสฺสครุกลหุกกฺขรปริจฺเฉทกุสลา นวงฺคสาสนธรา, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘ธมฺมรกฺขา’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู วินยฺู วินยโกวิทา านาฏฺานกุสลา [นิทานปนกุสลา (สี. ปี.), นิทานวตฺถุกุสลา (สฺยา.)] อาปตฺตานาปตฺติครุกลหุกสเตกิจฺฉอเตกิจฺฉวุฏฺานเทสนานิคฺคห- ปฏิกมฺมโอสารณนิสฺสารณปฏิสารณกุสลา วินเย ปารมึ คตา, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘รูปรกฺขา’ติ [รูปทกฺขาติ (สี. สฺยา. ปี.)] วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู วิมุตฺติวรกุสุมมาลพทฺธา วรปวรมหคฺฆเสฏฺภาวมนุปฺปตฺตา พหุชนกนฺตมภิปตฺถิตา, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘ปุปฺผาปณิกา’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู จตุสจฺจาภิสมยปฺปฏิวิทฺธา ทิฏฺสจฺจา วิฺาตสาสนา จตูสุ สามฺผเลสุ ติณฺณวิจิกิจฺฉา ปฏิลทฺธผลสุขา อฺเสมฺปิ ปฏิปนฺนานํ เต ผเล สํวิภชนฺติ, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘ผลาปณิกา’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ¶ ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู สีลสํวรคนฺธมนุลิตฺตา [สีลวรสุคนฺธมนุลิตฺตา (สี. ปี.)] อเนกวิธพหุคุณธรา กิเลสมลทุคฺคนฺธวิธมกา, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘คนฺธาปณิกา’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู ธมฺมกามา ปิยสมุทาหารา อภิธมฺเม อภิวินเย อุฬารปาโมชฺชา อรฺคตาปิ รุกฺขมูลคตาปิ สฺุาคารคตาปิ ธมฺมวรรสํ ปิวนฺติ, กาเยน วาจาย มนสา ธมฺมวรรสโมคาฬฺหา อธิมตฺตปฏิภานา ธมฺเมสุ ธมฺเมสนปฺปฏิปนฺนา อิโต วา ตโต วา ยตฺถ ยตฺถ อปฺปิจฺฉกถา สนฺตุฏฺิกถา ปวิเวกกถา อสํสคฺคกถา วีริยารมฺภกถา สีลกถา สมาธิกถา ¶ ปฺากถา วิมุตฺติกถา วิมุตฺติาณทสฺสนกถา ¶ , ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา ตํ ตํ กถารสํ ปิวนฺติ, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘โสณฺฑา ปิปาสา’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตํ ชาคริยานุโยคมนุยุตฺตา นิสชฺชฏฺานจงฺกเมหิ รตฺตินฺทิวํ วีตินาเมนฺติ, ภาวนานุโยคมนุยุตฺตา กิเลสปฏิพาหนาย สทตฺถปฺปสุตา, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘นครคุตฺติกา’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู นวงฺคํ พุทฺธวจนํ อตฺถโต จ พฺยฺชนโต จ นยโต จ การณโต จ เหตุโต จ อุทาหรณโต จ วาเจนฺติ อนุวาเจนฺติ ภาสนฺติ อนุภาสนฺติ, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘ธมฺมาปณิกา’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู ธมฺมรตนโภเคน อาคมปริยตฺติสุตโภเคน โภคิโน ธนิโน นิทฺทิฏฺสรพฺยฺชนลกฺขณปฺปฏิเวธา วิฺู ผรณา, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘ธมฺมเสฏฺิโน’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู อุฬารเทสนาปฏิเวธา ปริจิณฺณารมฺมณวิภตฺตินิทฺเทสา สิกฺขาคุณปารมิปฺปตฺตา, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘วิสฺสุตธมฺมิกา’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เอวํ สุวิภตฺตํ โข, มหาราช, ภควโต ธมฺมนครํ เอวํ สุมาปิตํ เอวํ สุวิหิตํ เอวํ สุปริปูริตํ เอวํ สุววตฺถาปิตํ เอวํ สุรกฺขิตํ เอวํ สุโคปิตํ เอวํ ¶ ทุปฺปสยฺหํ ปจฺจตฺถิเกหิ ปจฺจามิตฺเตหิ, อิมินา, มหาราช, การเณน อิมินา เหตุนา อิมินา นเยน อิมินา อนุมาเนน าตพฺพํ อตฺถิ โส ภควาติ.
‘‘‘ยถาปิ นครํ ทิสฺวา, สุวิภตฺตํ มโนรมํ;
อนุมาเนน ชานนฺติ, วฑฺฒกิสฺส มหตฺตนํ.
‘‘‘ตเถว โลกนาถสฺส, ทิสฺวา ธมฺมปุรํ วรํ;
อนุมาเนน ชานนฺติ, อตฺถิ โส ภควา อิติ.
‘‘‘อนุมาเนน ¶ ¶ ชานนฺติ, อูมึ ทิสฺวาน สาคเร;
ยถายํ ทิสฺสเต อูมิ, มหนฺโต โส ภวิสฺสติ.
‘‘‘ตถา พุทฺธํ โสกนุทํ, สพฺพตฺถมปราชิตํ;
ตณฺหกฺขยมนุปฺปตฺตํ, ภวสํสารโมจนํ.
‘‘‘อนุมาเนน าตพฺพํ, อูมึ ทิสฺวา สเทวเก;
ยถา ธมฺมูมิวิปฺผาโร, อคฺโค พุทฺโธ ภวิสฺสติ.
‘‘‘อนุมาเนน ชานนฺติ, ทิสฺวา อจฺจุคฺคตํ คิรึ;
ยถา อจฺจุคฺคโต เอโส, หิมวา โส ภวิสฺสติ.
‘‘‘ตถา ทิสฺวา ธมฺมคิรึ, สีตีภูตํ นิรูปธึ;
อจฺจุคฺคตํ ภควโต, อจลํ สุปฺปติฏฺิตํ.
‘‘‘อนุมาเนน าตพฺพํ, ทิสฺวาน ธมฺมปพฺพตํ;
ตถา หิ โส มหาวีโร, อคฺโค พุทฺโธ ภวิสฺสติ.
‘‘‘ยถาปิ คชราชสฺส, ปทํ ทิสฺวาน มานุสา;
อนุมาเนน ชานนฺติ, มหา เอโส คโช อิติ.
‘‘‘ตเถว พุทฺธนาคสฺส, ปทํ ทิสฺวา วิภาวิโน;
อนุมาเนน ชานนฺติ, อุฬาโร โส ภวิสฺสติ.
‘‘‘อนุมาเนน ชานนฺติ, ภีเต ทิสฺวาน กุมฺมิเค;
มิคราชสฺส สทฺเทน, ภีตาเม กุมฺมิคา อิติ.
‘‘‘ตเถว ติตฺถิเย ทิสฺวา, วิตฺถเต ภีตมานเส;
อนุมาเนน าตพฺพํ, ธมฺมราเชน คชฺชิตํ.
‘‘‘นิพฺพุตํ ¶ ¶ ปถวึ ทิสฺวา, หริตปตฺตํ มโหทิกํ;
อนุมาเนน ชานนฺติ, มหาเมเฆน นิพฺพุตํ.
‘‘‘ตเถวิมํ ชนํ ทิสฺวา, อาโมทิตปโมทิตํ;
อนุมาเนน าตพฺพํ, ธมฺมเมเฆน ตปฺปิตํ.
‘‘‘ลคฺคํ ทิสฺวา ภุสํ ปงฺกํ, กลลทฺทคตํ มหึ;
อนุมาเนน ชานนฺติ, วาริกฺขนฺโธ มหา คโต.
‘‘‘ตเถวิมํ ชนํ ทิสฺวา, รชปงฺกสโมหิตํ;
วหิตํ ธมฺมนทิยา, วิสฏฺํ ธมฺมสาคเร.
‘‘‘ธมฺมามตคตํ ทิสฺวา, สเทวกมิมํ มหึ;
อนุมาเนน าตพฺพํ, ธมฺมกฺขนฺโธ มหา คโต.
‘‘‘อนุมาเนน ¶ ชานนฺติ, ฆายิตฺวา คนฺธมุตฺตมํ;
ยถายํ วายเต คนฺโธ, เหสฺสนฺติ ปุปฺผิตา ทุมา.
‘‘‘ตเถวายํ สีลคนฺโธ, ปวายติ สเทวเก;
อนุมาเนน าตพฺพํ, อตฺถิ พุทฺโธ อนุตฺตโร’ติ.
‘‘เอวรูเปน โข, มหาราช, การณสเตน การณสหสฺเสน เหตุสเตน เหตุสหสฺเสน นยสเตน นยสหสฺเสน โอปมฺมสเตน โอปมฺมสหสฺเสน สกฺกา พุทฺธพลํ อุปทสฺสยิตุํ. ยถา, มหาราช, ทกฺโข มาลากาโร นานาปุปฺผราสิมฺหา อาจริยานุสิฏฺิยา ปจฺจตฺตปุริสกาเรน วิจิตฺตํ มาลาคุณราสึ กเรยฺย, เอวเมว โข, มหาราช, โส ภควา วิจิตฺตปุปฺผราสิ วิย อนนฺตคุโณ อปฺปเมยฺยคุโณ, อหเมตรหิ ชินสาสเน มาลากาโร วิย ปุปฺผคนฺถโก ปุพฺพกานํ อาจริยานํ มคฺเคนปิ มยฺหํ พุทฺธิพเลนปิ อสงฺขฺเยยฺเยนปิ การเณน อนุมาเนน พุทฺธพลํ ทีปยิสฺสามิ, ตฺวํ ปเนตฺถ ฉนฺทํ ชเนหิ สวนายา’’ติ.
‘‘ทุกฺกรํ ¶ , ภนฺเต นาคเสน, อฺเสํ เอวรูเปน การเณน อนุมาเนน พุทฺธพลํ อุปทสฺสยิตุํ, นิพฺพุโตสฺมิ, ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺหากํ ปรมวิจิตฺเตน ปฺหเวยฺยากรเณนา’’ติ.
อนุมานปฺโห ปโม.
๒. ธุตงฺคปฺโห
‘‘ปสฺสตารฺเก ¶ ¶ ภิกฺขู, อชฺโฌคาฬฺเห ธุเต คุเณ;
ปุน ปสฺสติ คิหี ราชา, อนาคามิผเล ิเต.
‘‘อุโภปิ เต วิโลเกตฺวา, อุปฺปชฺชิ สํสโย มหา;
พุชฺเฌยฺย เจ คิหี ธมฺเม, ธุตงฺคํ นิปฺผลํ สิยา.
‘‘ปรวาทิวาทมถนํ, นิปุณํ ปิฏกตฺตเย;
หนฺท ปุจฺเฉ กถิเสฏฺํ, โส เม กงฺขํ วิเนสฺสตี’’ติ.
อถ โข มิลินฺโท ราชา เยนายสฺมา นาคเสโน เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อตฺถิ โกจิ คิหี อคาริโก กามโภคี ปุตฺตทารสมฺพาธสยนํ อชฺฌาวสนฺโต กาสิกจนฺทนํ ปจฺจนุโภนฺโต มาลาคนฺธวิเลปนํ ธารยนฺโต ชาตรูปรชตํ สาทิยนฺโต มณิมุตฺตากฺจนวิจิตฺตโมฬิพทฺโธ เยน สนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกต’’นฺติ?
‘‘น, มหาราช, เอกฺเว สตํ น ทฺเว สตานิ น ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ สตานิ น สหสฺสํ น สตสหสฺสํ น โกฏิสตํ น โกฏิสหสฺสํ น โกฏิสตสหสฺสํ, ติฏฺตุ มหาราช ทสนฺนํ วีสติยา สตสฺส สหสฺสสฺส อภิสมโย, กตเมน เต ปริยาเยน อนุโยคํ ทมฺมี’’ติ.
‘‘ตฺวเมเวตํ พฺรูหี’’ติ. ‘‘เตนหิ เต, มหาราช, กถยิสฺสามิ สเตน วา สหสฺเสน วา สตสหสฺเสน ¶ วา โกฏิยา วา โกฏิสเตน วา โกฏิสหสฺเสน วา โกฏิสตสหสฺเสน วา, ยา กาจิ นวงฺเค พุทฺธวจเน สลฺเลขิตาจารปฺปฏิปตฺติธุตวรงฺคคุณนิสฺสิตา ¶ [ธุตวรงฺคคุณนิสฺสิตา (สี. สฺยา. ปี.)] ถา, ตา สพฺพา อิธ สโมสริสฺสนฺติ. ยถา, มหาราช, นินฺนุนฺนตสมวิสมถลาถลเทสภาเค อภิวุฏฺํ อุทกํ, สพฺพํ ตํ ตโต วินิคฬิตฺวา มโหทธึ สาครํ สโมสรติ, เอวเมว โข, มหาราช, สมฺปาทเก สติ ยา กาจิ นวงฺเค พุทฺธวจเน สลฺเลขิตาจารปฺปฏิปตฺติธุตงฺคคุณธรนิสฺสิตา กถา, ตา สพฺพา อิธ สโมสริสฺสนฺติ.
‘‘มยฺหมฺเปตฺถ ¶ , มหาราช, ปริพฺยตฺตตาย พุทฺธิยา การณปริทีปนํ สโมสริสฺสติ, เตเนโส อตฺโถ สุวิภตฺโต วิจิตฺโต ปริปุณฺโณ ปริสุทฺโธ สมานีโต ภวิสฺสติ. ยถา, มหาราช, กุสโล เลขาจริโย อนุสิฏฺโ เลขํ โอสาเรนฺโต อตฺตโน พฺยตฺตตาย พุทฺธิยา การณปริทีปเนน เลขํ ปริปูเรติ, เอวํ สา เลขา สมตฺตา ปริปุณฺณา อนูนิกา ภวิสฺสติ. เอวเมว มยฺหมฺเปตฺถ ปริพฺยตฺตตาย พุทฺธิยา การณปริทีปนํ สโมสริสฺสติ, เตเนโส อตฺโถ สุวิภตฺโต วิจิตฺโต ปริปุณฺโณ ปริสุทฺโธ สมานีโต ภวิสฺสติ.
‘‘นคเร, มหาราช, สาวตฺถิยา ปฺจโกฏิมตฺตา อริยสาวกา ภควโต อุปาสกอุปาสิกาโย สตฺตปณฺณาสสหสฺสานิ ตีณิ จ สตสหสฺสานิ อนาคามิผเล ปติฏฺิตา, เต สพฺเพปิ คิหี เยว, น ปพฺพชิตา. ปุน ตตฺเถว กณฺฑมฺพมูเล ยมกปาฏิหาริเย วีสติ ปาณโกฏิโย อภิสมึสุ, ปุน จูฬราหุโลวาเท [มหาราหุโลวาเท (สี. ปี.)], มหามงฺคลสุตฺตนฺเต, สมจิตฺตปริยาเย, ปราภวสุตฺตนฺเต, ปุราเภทสุตฺตนฺเต, กลหวิวาทสุตฺตนฺเต, จูฬพฺยูหสุตฺตนฺเต, มหาพฺยูหสุตฺตนฺเต, ตุวฏกสุตฺตนฺเต, สาริปุตฺตสุตฺตนฺเต คณนปถมตีตานํ เทวตานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ.
‘‘นคเร ราชคเห ปฺาสสหสฺสานิ ตีณิ จ สตสหสฺสานิ อริยสาวกา ภควโต อุปาสกอุปาสิกาโย, ปุน ตตฺเถว ธนปาลหตฺถินาคทมเน นวุติ ปาณโกฏิโย, ปารายนสมาคเม ปาสาณกเจติเย จุทฺทส ปาณโกฏิโย, ปุน อินฺทสาลคุหายํ อสีติ เทวตาโกฏิโย, ปุน พาราณสิยํ อิสิปตเน ¶ มิคทาเย ปเม ธมฺมเทสเน อฏฺารส พฺรหฺมโกฏิโย อปริมาณา จ เทวตาโย, ปุน ตาวตึสภวเน ปณฺฑุกมฺพลสิลายํ อภิธมฺมเทสนาย อสีติ เทวตาโกฏิโย, เทโวโรหเณ สงฺกสฺสนครทฺวาเร โลกวิวรณปาฏิหาริเย ปสนฺนานํ นรมรูนํ ตึส โกฏิโย อภิสมึสุ.
ปุน สกฺเกสุ กปิลวตฺถุสฺมึ นิคฺโรธาราเม พุทฺธวํสเทสนาย มหาสมยสุตฺตนฺตเทสนาย จ คณนปถมตีตานํ ¶ เทวตานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ ¶ . ปุน สุมนมาลาการสมาคเม, ครหทินฺนสมาคเม, อานนฺทเสฏฺิสมาคเม, ชมฺพุกาชีวกสมาคเม, มณฺฑุกเทวปุตฺตสมาคเม, มฏฺกุณฺฑลิเทวปุตฺตสมาคเม, สุลสานครโสภินิสมาคเม, สิริมานครโสภินิสมาคเม, เปสการธีตุสมาคเม, จูฬสุภทฺทาสมาคเม, สาเกตพฺราหฺมณสฺส อาฬาหนทสฺสนสมาคเม, สูนาปรนฺตกสมาคเม, สกฺกปฺหสมาคเม, ติโรกุฏฺฏสมาคเม [ติโรกุฑฺฑสมาคเม (สี. ปี.)], รตนสุตฺตสมาคเม ปจฺเจกํ จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ, ยาวตา, มหาราช, ภควา โลเก อฏฺาสิ, ตาว ตีสุ มณฺฑเลสุ โสฬสสุ มหาชนปเทสุ ยตฺถ ยตฺถ ภควา วิหาสิ, ตตฺถ ตตฺถ เยภุยฺเยน ทฺเว ตโย จตฺตาโร ปฺจ สตํ สหสฺสํ สตสหสฺสํ เทวา จ มนุสฺสา จ สนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกรึสุ. เย เต, มหาราช, เทวา คิหี เยว, น เต ปพฺพชิตา, เอตานิ เจว, มหาราช, อฺานิ จ อเนกานิ เทวตาโกฏิสตสหสฺสานิ คิหี อคาริกา กามโภคิโน สนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกรึสู’’ติ.
‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, คิหี อคาริกา กามโภคิโน สนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรนฺติ, อถ อิมานิ ธุตงฺคานิ กิมตฺถํ สาเธนฺติ, เตน การเณน ธุตงฺคานิ ¶ อกิจฺจกรานิ โหนฺติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, วินา มนฺโตสเธหิ พฺยาธโย วูปสมนฺติ, กึ วมนวิเรจนาทินา สรีรทุพฺพลกรเณน? ยทิ มุฏฺีหิ ปฏิสตฺตุนิคฺคโห ภวติ, กึ อสิสตฺติสรธนุโกทณฺฑลคุฬมุคฺคเรหิ? ยทิ คณฺิกุฏิลสุสิรกณฺฏลตาสาขา อาลมฺพิตฺวา รุกฺขมภิรูหนํ ภวติ, กึ ทีฆทฬฺหนิสฺเสณิปริเยสเนน? ยทิ ถณฺฑิลเสยฺยาย ธาตุสมตา ภวติ, กึ สุขสมฺผสฺสมหติมหาสิริสยนปริเยสเนน? ยทิ เอกโก สาสงฺกสปฺปฏิภยวิสมกนฺตารตรณสมตฺโถ ภวติ, กึ สนฺนทฺธสชฺชมหติมหาสตฺถปริเยสเนน? ยทิ นทิสรํ พาหุนา ตริตุํ สมตฺโถ ภวติ, กึ ธุวเสตุนาวาปริเยสเนน? ยทิ สกสนฺตเกน ฆาสจฺฉาทนํ กาตุํ ปโหติ, กึ ปรูปเสวนปิยสมุลฺลาปปจฺฉาปุเรธาวเนน? ยทิ อขาตตฬาเก อุทกํ ลภติ, กึ อุทปานตฬากโปกฺขรณิขณเนน? เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, ยทิ คิหี อคาริกา กามโภคิโน สนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรนฺติ, กึ ธุตคุณวรสมาทิยเนนา’’ติ?
‘‘อฏฺวีสติ ¶ โข ปนิเม, มหาราช, ธุตงฺคคุณา ยถาภุจฺจคุณา, เยหิ คุเณหิ ธุตงฺคานิ สพฺพพุทฺธานํ ปิหยิตานิ ปตฺถิตานิ. กตเม อฏฺวีสติ? อิธ, มหาราช, ธุตงฺคํ สุทฺธาชีวํ สุขผลํ อนวชฺชํ น ปรทุกฺขาปนํ อภยํ อสมฺปีฬนํ เอกนฺตวฑฺฒิกํ อปริหานิยํ อมายํ อารกฺขา ปตฺถิตททํ สพฺพสตฺตทมนํ สํวรหิตํ ปติรูปํ อนิสฺสิตํ วิปฺปมุตฺตํ ราคกฺขยํ โทสกฺขยํ ¶ โมหกฺขยํ มานปฺปหานํ กุวิตกฺกจฺเฉทนํ กงฺขาวิตรณํ โกสชฺชวิทฺธํสนํ อรติปฺปหานํ ขมนํ อตุลํ อปฺปมาณํ สพฺพทุกฺขกฺขยคมนํ, อิเม โข, มหาราช, อฏฺวีสติ ธุตงฺคคุณา ยถาภุจฺจคุณา เยหิ คุเณหิ ¶ ธุตงฺคานิ สพฺพพุทฺธานํ ปิหยิตานิ ปตฺถิตานิ.
‘‘เย โข เต, มหาราช, ธุตคุเณ สมฺมา อุปเสวนฺติ, เต อฏฺารสหิ คุเณหิ สมุเปตา ภวนฺติ. กตเมหิ อฏฺารสหิ? อาจาโร เตสํ สุวิสุทฺโธ โหติ, ปฏิปทา สุปูริตา โหติ, กายิกํ วาจสิกํ สุรกฺขิตํ โหติ, มโนสมาจาโร สุวิสุทฺโธ โหติ, วีริยํ สุปคฺคหิตํ โหติ, ภยํ วูปสมฺมติ, อตฺตานุทิฏฺิพฺยปคตา โหติ, อาฆาโต อุปรโต โหติ, เมตฺตา อุปฏฺิตา โหติ, อาหาโร ปริฺาโต โหติ, สพฺพสตฺตานํ ครุกโต โหติ, โภชเน มตฺตฺู โหติ, ชาคริยมนุยุตฺโต โหติ, อนิเกโต โหติ, ยตฺถ ผาสุ ตตฺถ วิหารี โหติ, ปาปเชคุจฺฉี โหติ, วิเวการาโม โหติ, สตตํ อปฺปมตฺโต โหติ, เย เต, มหาราช, ธุตคุเณ สมฺมา อุปเสวนฺติ, เต อิเมหิ อฏฺารสหิ คุเณหิ สมุเปตา ภวนฺติ.
‘‘ทส อิเม, มหาราช, ปุคฺคลา ธุตคุณารหา. กตเม ทส? สทฺโธ โหติ หิริมา ธิติมา อกุโห อตฺถวสี อโลโล สิกฺขากาโม ทฬฺหสมาทาโน อนุชฺฌานพหุโล เมตฺตาวิหารี, อิเม โข, มหาราช, ทส ปุคฺคลา ธุตคุณารหา.
‘‘เย เต, มหาราช, คิหี อคาริกา กามโภคิโน สนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรนฺติ, สพฺเพ เต ปุริมาสุ ชาตีสุ เตรสสุ ธุตคุเณสุ กตูปาสนา กตภูมิกมฺมา, เต ตตฺถ จารฺจ ปฏิปตฺติฺจ โสธยิตฺวา อชฺเชตรหิ คิหี เยว สนฺตา สนฺตํ ปรมตฺตํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรนฺติ.
‘‘ยถา ¶ , มหาราช, กุสโล อิสฺสาโส อนฺเตวาสิเก ปมํ ตาว อุปาสนสาลายํ จาปเภทจาปาโรปนคฺคหณมุฏฺิปฺปฏิปีฬนองฺคุลิวินามนปาทปนสรคฺคหณสนฺนหนอากฑฺฒน สทฺธารณลกฺขนิยมนขิปเน ติณปุริสกฉกณ [ขณก (สี. ปี.)] ติณปลาลมตฺติกาปฺุชผลกลกฺขเวเธ อนุสิกฺขาเปตฺวา รฺโ สนฺติเก อุปาสนํ อาราธยิตฺวา อาชฺรถคชตุรงฺคธนธฺหิรฺสุวณฺณทาสิทาสภริยคามวรํ ลภติ ¶ , เอวเมว โข, มหาราช, เย เต คิหี อคาริกา กามโภคิโน สนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรนฺติ, เต สพฺเพ ปุริมาสุ ชาตีสุ เตรสสุ ธุตคุเณสุ กตูปาสนา กตภูมิกมฺมา, เต ตตฺเถว จารฺจ ปฏิปตฺติฺจ โสธยิตฺวา อชฺเชตรหิ คิหี เยว สนฺตา สนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรนฺติ. น, มหาราช, ธุตคุเณสุ ปุพฺพาเสวนํ วินา ¶ เอกิสฺสา เยว ชาติยา อรหตฺตํ สจฺฉิกิริยา โหติ, อุตฺตเมน ปน วีริเยน อุตฺตมาย ปฏิปตฺติยา ตถารูเปน อาจริเยน กลฺยาณมิตฺเตน อรหตฺตํ สจฺฉิกิริยา โหติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต อาจริยํ ธเนน วา วตฺตปฺปฏิปตฺติยา วา อาราเธตฺวา สตฺตคฺคหณเฉทนเลขนเวธนสลฺลุทฺธรณวณโธวนโสสนเภสชฺชานุลิมฺปนวมน วิเรจนานุวาสนกิริยมนุสิกฺขิตฺวา วิชฺชาสุ กตสิกฺโข กตูปาสโน กตหตฺโถ อาตุเร อุปสงฺกมติ ติกิจฺฉาย, เอวเมว โข, มหาราช, เย เต คิหี อคาริกา กามโภคิโน สนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรนฺติ, เต สพฺเพ ปุริมาสุ ชาตีสุ เตรสสุ ธุตคุเณสุ กตูปาสนา กตภูมิกมฺมา, เต ตตฺเถว จารฺจ ปฏิปตฺติฺจ โสธยิตฺวา อชฺเชตรหิ คิหี เยว สนฺตา สนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรนฺติ, น, มหาราช, ธุตคุเณหิ อวิสุทฺธานํ ธมฺมาภิสมโย โหติ.
‘‘ยถา, มหาราช, อุทกสฺส อเสจเนน พีชานํ อวิรูหนํ โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, ธุตคุเณหิ อวิสุทฺธานํ ธมฺมาภิสมโย น โหติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อกตกุสลานํ อกตกลฺยาณานํ สุคติคมนํ น โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, ธุตคุเณหิ อวิสุทฺธานํ ธมฺมาภิสมโย น โหติ.
‘‘ปถวิสมํ ¶ , มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ ปติฏฺานฏฺเน. อาโปสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ สพฺพกิเลสมลโธวนฏฺเน. เตโชสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ สพฺพกิเลสวนชฺฌาปนฏฺเน ¶ . วาโยสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ สพฺพกิเลสมลรโชปวาหนฏฺเน. อคทสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ สพฺพกิเลสพฺยาธิวูปสมนฏฺเน. อมตสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ สพฺพกิเลสวิสนาสนฏฺเน. เขตฺตสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ สพฺพสามฺคุณสสฺสวิรูหนฏฺเน. มโนหรสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ ปตฺถิติจฺฉิตสพฺพสมฺปตฺติวรททฏฺเน. นาวาสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ สํสารมหณฺณวปารคมนฏฺเน. ภีรุตฺตาณสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ ชรามรณภีตานํ อสฺสาสกรณฏฺเน. มาตุสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ กิเลสทุกฺขปฺปฏิปีฬิตานํ อนุคฺคาหกฏฺเน. ปิตุสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ กุสลวฑฺฒิกามานํ สพฺพสามฺคุณชนกฏฺเน. มิตฺตสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ สพฺพสามฺคุณปริเยสนอวิสํวาทกฏฺเน. ปทุมสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ ¶ สพฺพกิเลสมเลหิ อนุปลิตฺตฏฺเน. จตุชฺชาติยวรคนฺธสมํ ¶ , มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ กิเลสทุคฺคนฺธปฏิวิโนทนฏฺเน. คิริราชวรสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ อฏฺโลกธมฺมวาเตหิ อกมฺปิยฏฺเน. อากาสสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ สพฺพตฺถ คหณาปคตอุรุวิสฏวิตฺถตมหนฺตฏฺเน. นทีสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ กิเลสมลปวาหนฏฺเน. สุเทสกสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ ชาติกนฺตารกิเลสวนคหนนิตฺถรณฏฺเน. มหาสตฺถวาหสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ สพฺพภยสฺุเขมอภยวรปวรนิพฺพานนครสมฺปาปนฏฺเน ¶ . สุมชฺชิตวิมลาทาสสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ สงฺขารานํ สภาวทสฺสนฏฺเน. ผลกสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ กิเลสลคุฬสรสตฺติปฏิพาหนฏฺเน. ฉตฺตสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ กิเลสวสฺสติวิธคฺคิสนฺตาปาตปปฏิพาหนฏฺเน. จนฺทสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ ปิหยิตปตฺถิตฏฺเน. สูริยสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ โมหตมติมิรนาสนฏฺเน. สาครสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ อเนกวิธสามฺคุณวรรตนุฏฺานฏฺเน, อปริมิตอสงฺขฺเยยฺยอปฺปเมยฺยฏฺเน จ. เอวํ โข, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ พหูปการํ สพฺพทรถปริฬาหนุทํ อรตินุทํ ภยนุทํ ภวนุทํ ขีลนุทํ มลนุทํ โสกนุทํ ทุกฺขนุทํ ราคนุทํ โทสนุทํ โมหนุทํ มานนุทํ ทิฏฺินุทํ สพฺพากุสลธมฺมนุทํ ยสาวหํ หิตาวหํ สุขาวหํ ผาสุกรํ ปีติกรํ โยคกฺเขมกรํ อนวชฺชํ อิฏฺสุขวิปากํ คุณราสิคุณปฺุชํ อปริมิตอสงฺขฺเยยฺย อปฺปเมยฺยคุณํ วรํ ปวรํ อคฺคํ.
‘‘ยถา ¶ , มหาราช, มนุสฺสา อุปตฺถมฺภวเสน โภชนํ อุปเสวนฺติ, หิตวเสน เภสชฺชํ อุปเสวนฺติ, อุปการวเสน มิตฺตํ อุปเสวนฺติ, ตารณวเสน นาวํ อุปเสวนฺติ, สุคนฺธวเสน มาลาคนฺธํ อุปเสวนฺติ, อภยวเสน ภีรุตฺตาณํ อุปเสวนฺติ, ปติฏฺาวเสน [ปติฏฺานวเสน (ก.)] ปถวึ อุปเสวนฺติ, สิปฺปวเสน อาจริยํ อุปเสวนฺติ, ยสวเสน ราชานํ อุปเสวนฺติ, กามททวเสน มณิรตนํ อุปเสวนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, สพฺพสามฺคุณททวเสน อริยา ธุตคุณํ อุปเสวนฺติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อุทกํ พีชวิรูหนาย, อคฺคิ ¶ ฌาปนาย, อาหาโร พลาหรณาย, ลตา พนฺธนาย, สตฺถํ เฉทนาย, ปานียํ ปิปาสาวินยนาย, นิธิ อสฺสาสกรณาย, นาวา ตีรสมฺปาปนาย, เภสชฺชํ พฺยาธิวูปสมนาย, ยานํ สุขคมนาย, ภีรุตฺตาณํ ภยวิโนทนาย, ราชา อารกฺขตฺถาย, ผลกํ ทณฺฑเลฑฺฑุลคุฬสรสตฺติปฏิพาหนาย, อาจริโย อนุสาสนาย, มาตา โปสนาย, อาทาโส โอโลกนาย, อลงฺกาโร โสภนาย, วตฺถํ ปฏิจฺฉาทนาย, นิสฺเสณี อาโรหนาย, ตุลา วิสมวิกฺเขปนาย [นิกฺเขปนาย (สี. ปี.)], มนฺตํ ปริชปฺปนาย, อาวุธํ ตชฺชนียปฏิพาหนาย ¶ , ปทีโป อนฺธการวิธมนาย, วาโต ปริฬาหนิพฺพาปนาย, สิปฺปํ วุตฺตินิปฺผาทนาย, อคทํ ชีวิตรกฺขณาย, อากโร รตนุปฺปาทนาย, รตนํ อลงฺกราย, อาณา อนติกฺกมนาย, อิสฺสริยํ วสวตฺตนาย, เอวเมว โข, มหาราช, ธุตคุณํ สามฺพีชวิรูหนาย, กิเลสมลฌาปนาย, อิทฺธิพลาหรณาย, สติสํวรนิพนฺธนาย, วิมติวิจิกิจฺฉาสมุจฺเฉทนาย, ตณฺหาปิปาสาวินยนาย, อภิสมยอสฺสาสกรณาย, จตุโรฆนิตฺถรณาย, กิเลสพฺยาธิวูปสมาย, นิพฺพานสุขปฺปฏิลาภาย, ชาติชราพฺยาธิมรณโสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสภยวิโนทนาย, สามฺคุณปริรกฺขณาย, อรติกุวิตกฺกปฏิพาหนาย, สกลสามฺตฺถานุสาสนาย, สพฺพสามฺคุณโปสนาย, สมถวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพานทสฺสนาย, สกลโลกถุตโถมิตมหติมหาโสภนกรณาย, สพฺพาปายปิทหนาย, สามฺตฺถเสลสิขรมุทฺธนิ อภิรูหนาย, วงฺกกุฏิลวิสมจิตฺตวิกฺเขปนาย [จิตฺตนิกฺเขปนาย (สี. ปี.)], เสวิตพฺพาเสวิตพฺพธมฺเม สาธุสชฺฌายกรณาย, สพฺพกิเลสปฏิสตฺตุตชฺชนาย ¶ , อวิชฺชนฺธการวิธมนาย, ติวิธคฺคิสนฺตาปปริฬาหนิพฺพาปนาย, สณฺหสุขุมสนฺตสมาปตฺตินิปฺผาทนาย, สกลสามฺคุณปริรกฺขณาย, โพชฺฌงฺควรรตนุปฺปาทนาย, โยคิชนาลงฺกรณาย, อนวชฺชนิปุณสุขุมสนฺติสุขมนติกฺกมนาย ¶ , สกลสามฺอริยธมฺมวสวตฺตนาย. อิติ, มหาราช, อิเมสํ คุณานํ อธิคมาย ยทิทํ เอกเมกํ ธุตคุณํ, เอวํ, มหาราช, อตุลิยํ ธุตคุณํ อปฺปเมยฺยํ อสมํ อปฺปฏิสมํ อปฺปฏิภาคํ อปฺปฏิเสฏฺํ อุตฺตรํ เสฏฺํ วิสิฏฺํ อธิกํ อายตํ ปุถุลํ วิสฏํ วิตฺถตํ ครุกํ ภาริยํ มหนฺตํ.
‘‘โย โข, มหาราช, ปุคฺคโล ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต กุหโก ลุทฺโธ โอทริโก ลาภกาโม ยสกาโม กิตฺติกาโม อยุตฺโต อปฺปตฺโต อนนุจฺฉวิโก อนรโห อปฺปติรูโป ธุตงฺคํ [ตธุคุณํ (ก.) เอวมุปริปิ] สมาทิยติ, โส ทิคุณํ ทณฺฑมาปชฺชติ, สพฺพคุณฆาตมาปชฺชติ, ทิฏฺธมฺมิกํ หีฬนํ ขีฬนํ ครหนํ อุปฺปณฺฑนํ ขิปนํ อสมฺโภคํ นิสฺสารณํ นิจฺฉุภนํ ปวาหนํ ปพฺพาชนํ ปฏิลภติ, สมฺปราเยปิ สตโยชนิเก อวีจิมหานิรเย อุณฺหกิตตตฺตสนฺตตฺตอจฺจิชาลามาลเก อเนกวสฺสโกฏิสตสหสฺสานิ อุทฺธมโธ ติริยํ เผณุทฺเทหกํ สมฺปริวตฺตกํ ปจฺจติ, ตโต มุจฺจิตฺวา [มุจฺจิตฺวา (สี. ปี.)] กิสผรุสกาฬงฺคปจฺจงฺโค สูนุทฺธุมาตสุสิรุตฺตมงฺโค [สูนุทฺธุมาตสูจิมุขปมาณสุสิรุตฺตมงฺโค (สี. ปี.)] ฉาโต ปิปาสิโต วิสมภีมรูปวณฺโณ ภคฺคกณฺณโสโต อุมฺมีลิตนิมีลิตเนตฺตนยโน อรุคตฺตปกฺกคตฺโต ปุฬวากิณฺณสพฺพกาโย วาตมุเข ชลมาโน วิย อคฺคิกฺขนฺโธ อนฺโต ชลมาโน ปชฺชลมาโน อตาโณ อสรโณ อารุณฺณรุณฺณการฺุรวํ ปริเทวมาโน นิชฺฌามตณฺหิโก สมณมหาเปโต หุตฺวา อาหิณฺฑมาโน มหิยา อฏฺฏสฺสรํ กโรติ.
‘‘ยถา ¶ , มหาราช, โกจิ อยุตฺโต อปฺปตฺโต อนนุจฺฉวิโก อนรโห อปฺปติรูโป หีโน กุชาติโก ขตฺติยาภิเสเกน อภิสิฺจติ, โส ลภติ หตฺถจฺเฉทํ ปาทจฺเฉทํ หตฺถปาทจฺเฉทํ กณฺณจฺเฉทํ นาสจฺเฉทํ กณฺณนาสจฺเฉทํ ¶ พิลงฺคถาลิกํ สงฺขมุณฺฑิกํ ราหุมุขํ โชติมาลิกํ หตฺถปชฺโชติกํ เอรกวตฺติกํ จีรกวาสิกํ เอเณยฺยกํ พฬิสมํสิกํ กหาปณกํ ขาราปตจฺฉิกํ ปลิฆปริวตฺติกํ ปลาลปีกํ ตตฺเตน เตเลน ¶ โอสิฺจนํ สุนเขหิ ขาทาปนํ ชีวสูลาโรปนํ อสินา สีสจฺเฉทํ อเนกวิหิตมฺปิ กมฺมการณํ อนุภวติ. กึ การณา? อยุตฺโต อปฺปตฺโต อนนุจฺฉวิโก อนรโห อปฺปติรูโป หีโน กุชาติโก มหนฺเต อิสฺสริเย าเน อตฺตานํ เปสิ, เวลํ ฆาเตสิ, เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ ปุคฺคโล ปาปิจฺโฉ…เป… มหิยา อฏฺฏสฺสรํ กโรติ.
‘‘โย ปน, มหาราช, ปุคฺคโล ยุตฺโต ปตฺโต อนุจฺฉวิโก อรโห ปติรูโป อปฺปิจฺโฉ สนฺตุฏฺโ ปวิวิตฺโต อสํสฏฺโ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต อสโ อมาโย อโนทริโก อลาภกาโม อยสกาโม อกิตฺติกาโม สทฺโธ สทฺธาปพฺพชิโต ชรามรณา มุจฺจิตุกาโม ‘สาสนํ ปคฺคณฺหิสฺสามี’ติ ธุตงฺคํ สมาทิยติ, โส ทิคุณํ ปูชํ อรหติ เทวานฺจ ปิโย โหติ มนาโป ปิหยิโต ปตฺถิโต, ชาติสุมนมลฺลิกาทีนํ วิย ปุปฺผํ นหาตานุลิตฺตสฺส, ชิฆจฺฉิตสฺส วิย ปณีตโภชนํ, ปิปาสิตสฺส วิย สีตลวิมลสุรภิปานียํ, วิสคตสฺส วิย โอสธวรํ, สีฆคมนกามสฺส วิย อาชฺรถวรุตฺตมํ, อตฺถกามสฺส วิย มโนหรมณิรตนํ, อภิสิฺจิตุกามสฺส วิย ปณฺฑรวิมลเสตจฺฉตฺตํ, ธมฺมกามสฺส วิย อรหตฺตผลาธิคมมนุตฺตรํ. ตสฺส จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ปฺจินฺทฺริยานิ ปฺจ พลานิ สตฺต โพชฺฌงฺคา อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ, สมถวิปสฺสนา อธิคจฺฉติ, อธิคมปฺปฏิปตฺติ ปริณมติ, จตฺตาริ สามฺผลานิ ¶ จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา ติสฺโส วิชฺชา ฉฬภิฺา เกวโล จ สมณธมฺโม สพฺเพ ตสฺสาเธยฺยา โหนฺติ, วิมุตฺติปณฺฑรวิมลเสตจฺฉตฺเตน อภิสิฺจติ.
‘‘ยถา, มหาราช, รฺโ ขตฺติยสฺส อภิชาตกุลกุลีนสฺส ขตฺติยาภิเสเกน อภิสิตฺตสฺส ปริจรนฺติ สรฏฺเนคมชานปทภฏพลา [พลตฺถา (สี. ปี.)] อฏฺตฺตึสา จ ราชปริสา นฏนจฺจกา มุขมงฺคลิกา โสตฺถิวาจกา สมณพฺราหฺมณสพฺพปาสณฺฑคณา อภิคจฺฉนฺติ, ยํ กิฺจิ ปถวิยา ปฏฺฏนรตนากรนครสุงฺกฏฺานเวรชฺชกเฉชฺชเภชฺชชนมนุสาสนํ สพฺพตฺถ สามิโก ภวติ, เอวเมว โข ¶ , มหาราช, โย โกจิ ปุคฺคโล ยุตฺโต ปตฺโต…เป… วิมุตฺติปณฺฑรวิมลเสตจฺฉตฺเตน อภิสิฺจติ.
‘‘เตรสิมานิ ¶ , มหาราช, ธุตงฺคานิ, เยหิ สุทฺธิกโต นิพฺพานมหาสมุทฺทํ ปวิสิตฺวา พหุวิธํ ธมฺมกีฬมภิกีฬติ, รูปารูปอฏฺสมาปตฺติโย วฬฺเชติ, อิทฺธิวิธํ ทิพฺพโสตธาตุํ ปรจิตฺตวิชานนํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสตึ ทิพฺพจกฺขุํ สพฺพาสวกฺขยฺจ ปาปุณาติ. กตเม เตรส? ปํสุกูลิกงฺคํ เตจีวริกงฺคํ ปิณฺฑปาติกงฺคํ สปทานจาริกงฺคํ เอกาสนิกงฺคํ ปตฺตปิณฺฑิกงฺคํ ขลุปจฺฉาภตฺติกงฺคํ อารฺิกงฺคํ รุกฺขมูลิกงฺคํ อพฺโภกาสิกงฺคํ โสสานิกงฺคํ ยถาสนฺถติกงฺคํ เนสชฺชิกงฺคํ, อิเมหิ โข, มหาราช, เตรสหิ ธุตคุเณหิ ปุพฺเพ อาเสวิเตหิ นิเสวิเตหิ จิณฺเณหิ ปริจิณฺเณหิ จริเตหิ อุปจริเตหิ ปริปูริเตหิ เกวลํ สามฺํ ปฏิลภติ, ตสฺสาเธยฺยา โหนฺติ เกวลา สนฺตา สุขา สมาปตฺติโย.
‘‘ยถา, มหาราช, สธโน นาวิโก ปฏฺฏเน สุฏฺุ กตสุงฺโก มหาสมุทฺทํ ปวิสิตฺวา วงฺคํ ตกฺโกลํ จีนํ โสวีรํ สุรฏฺํ อลสนฺทํ โกลปฏฺฏนํ สุวณฺณภูมึ คจฺฉติ อฺมฺปิ ยํ กิฺจิ นาวาสฺจรณํ, เอวเมว โข, มหาราช, อิเมหิ เตรสหิ ธุตคุเณหิ ¶ ปุพฺเพ อาเสวิเตหิ นิเสวิเตหิ จิณฺเณหิ ปริจิณฺเณหิ จริเตหิ อุปจริเตหิ ปริปูริเตหิ เกวลํ สามฺํ ปฏิลภติ, ตสฺสาเธยฺยา โหนฺติ เกวลา สนฺตา สุขา สมาปตฺติโย.
‘‘ยถา, มหาราช, กสฺสโก ปมํ เขตฺตโทสํ ติณกฏฺปาสาณํ อปเนตฺวา กสิตฺวา วปิตฺวา สมฺมา อุทกํ ปเวเสตฺวา รกฺขิตฺวา โคเปตฺวา ลวนมทฺทเนน พหุธฺโก โหติ, ตสฺสาเธยฺยา ภวนฺติ เย เกจิ อธนา กปณา ทลิทฺทา ทุคฺคตชนา, เอวเมว โข, มหาราช, อิเมหิ เตรสหิ ธุตคุเณหิ ปุพฺเพ อาเสวิเตหิ…เป… เกวลา สนฺตา สุขา สมาปตฺติโย.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต อภิชาตกุลีโน เฉชฺชเภชฺชชนมนุสาสเน อิสฺสโร โหติ วสวตฺตี สามิโก อิจฺฉากรโณ, เกวลา จ มหาปถวี ตสฺสาเธยฺยา โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, อิเมหิ เตรสหิ ธุตคุเณหิ ปุพฺเพ อาเสวิเตหิ นิเสวิเตหิ จิณฺเณหิ ปริจิณฺเณหิ จริเตหิ อุปจริเตหิ ปริปูริเตหิ ชินสาสนวเร อิสฺสโร โหติ วสวตฺตี สามิโก อิจฺฉากรโณ, เกวลา จ สมณคุณา ตสฺสาเธยฺยา โหนฺติ.
‘‘นนุ ¶ , มหาราช, เถโร อุปเสโน วงฺคนฺตปุตฺโต สลฺเลขธุตคุเณ ปริปูรการิตาย อนาทิยิตฺวา ¶ สาวตฺถิยา สงฺฆสฺส กติกํ สปริโส นรทมฺมสารถึ ปฏิสลฺลานคตํ อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, ภควา จ ตํ สุวินีตํ ปริสํ โอโลเกตฺวา หฏฺตุฏฺโ ปมุทิโต อุทคฺโค ปริสาย สทฺธึ สลฺลาปํ สลฺลปิตฺวา อสมฺภินฺเนน พฺรหฺมสฺสเรน เอตทโวจ ‘ปาสาทิกา โข ปน ตฺยายํ อุปเสน ปริสา, กตํ ตฺวํ อุปเสน ปริสํ วิเนสี’ติ. โสปิ สพฺพฺุนา ทสพเลน เทวาติเทเวน ปุฏฺโ ยถาภูตสภาวคุณวเสน ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘โย โกจิ มํ, ภนฺเต, อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ วา นิสฺสยํ วา ยาจติ, ตมหํ ¶ เอวํ วทามิ ‘‘อหํ โข อาวุโส อารฺิโก ปิณฺฑปาติโก ปํสุกูลิโก เตจีวริโก. สเจ ตฺวมฺปิ อารฺิโก ภวิสฺสสิ ปิณฺฑปาติโก ปํสุกูลิโก เตจีวริโก, เอวาหํ ตํ ปพฺพาเชสฺสามิ นิสฺสยํ ทสฺสามี’’ติ, สเจ โส เม, ภนฺเต, ปฏิสฺสุณิตฺวา นนฺทติ โอรมติ, เอวาหํ ตํ ปพฺพาเชมิ นิสฺสยํ เทมิ, สเจ น นนฺทติ น โอรมติ, น ตํ ปพฺพาเชมิ, น นิสฺสยํ เทมิ, เอวาหํ, ภนฺเต, ปริสํ วิเนมี’’ติ. เอวํ โข [เอวมฺปิ (ก.)], มหาราช, ธุตคุณวรสมาทิณฺโณ ชินสาสนวเร อิสฺสโร โหติ. วสวตฺตี สามิโก อิจฺฉากรโณ, ตสฺสาเธยฺยา โหนฺติ เกวลา สนฺตา สุขา สมาปตฺติโย.
‘‘ยถา, มหาราช, ปทุมํ อภิวุทฺธปริสุทฺธอุทิจฺจชาติปฺปภวํ สินิทฺธํ มุทุ โลภนียํ สุคนฺธํ ปิยํ ปตฺถิตํ ปสตฺถํ ชลกทฺทมมนุปลิตฺตํ อณุปตฺตเกสรกณฺณิกาภิมณฺฑิตํ ภมรคณเสวิตํ สีตลสลิลสํวทฺธํ, เอวเมว โข, มหาราช, อิเมหิ เตรสหิ ธุตคุเณหิ ปุพฺเพ อาเสวิเตหิ นิเสวิเตหิ จิณฺเณหิ ปริจิณฺเณหิ จริเตหิ อุปจริเตหิ ปริปูริเตหิ อริยสาวโก ตึสคุณวเรหิ สมุเปโต โหติ.
‘‘กตเมหิ ตึสคุณวเรหิ? สินิทฺธมุทุมทฺทวเมตฺตจิตฺโต โหติ, ฆาติตหตวิหตกิเลโส โหติ, หตนิหตมานทพฺโพ โหติ, อจลทฬฺหนิวิฏฺนิพฺเพมติกสทฺโธ โหติ, ปริปุณฺณปีณิตปหฏฺโลภนียสนฺตสุขสมาปตฺติลาภี โหติ, สีลวรปวรอสมสุจิคนฺธปริภาวิโต โหติ, เทวมนุสฺสานํ ปิโย โหติ มนาโป, ขีณาสวอริยวรปุคฺคลปตฺถิโต, เทวมนุสฺสานํ วนฺทิตปูชิโต, พุธวิพุธปณฺฑิตชนานํ ถุตถวิตโถมิตปสตฺโถ ¶ , อิธ วา หุรํ วา โลเกน อนุปลิตฺโต, อปฺปโถกวชฺเชปิ [อปฺปสาวชฺเชปิ (ก.)] ภยทสฺสาวี, วิปุลวรสมฺปตฺติกามานํ มคฺคผลวรตฺถสาธโน, อายาจิตวิปุลปณีตปจฺจยภาคี, อนิเกตสยโน, ฌานชฺโฌสิตตปฺปวรวิหารี ¶ , วิชฏิตกิเลสชาลวตฺถุ, ภินฺนภคฺคสงฺกุฏิตสฺฉินฺนคตินีวรโณ, อกุปฺปธมฺโม, อภินีตวาโส, อนวชฺชโภคี ¶ , คติวิมุตฺโต, อุตฺติณฺณสพฺพวิจิกิจฺโฉ, วิมุตฺติชฺโฌสิตตฺโถ [วิมุตฺติชฺฌาสิตตฺโต (สี. ปี.)], ทิฏฺธมฺโม, อจลทฬฺหภีรุตฺตาณมุปคโต, สมุจฺฉินฺนานุสโย, สพฺพาสวกฺขยํ ปตฺโต, สนฺตสุขสมาปตฺติวิหารพหุโล, สพฺพสมณคุณสมุเปโต, อิเมหิ ตึสคุณวเรหิ สมุเปโต โหติ.
‘‘นนุ, มหาราช, เถโร สาริปุตฺโต ทสสหสฺสิโลกธาตุยา อคฺคปุริโส เปตฺวา ทสพลํ โลกาจริยํ, โสปิ อปริมิตมสงฺขฺเยยฺยกปฺเป สมาจิตกุสลมูโล [สมาจิณฺณกุสลมูโล (ก.)] พฺราหฺมณกุลกุลีโน มนาปิกํ กามรตึ อเนกสตสงฺขํ ธนวรฺจ โอหาย ชินสาสเน ปพฺพชิตฺวา อิเมหิ เตรสหิ ธุตคุเณหิ กายวจีจิตฺตํ ทมยิตฺวา อชฺเชตรหิ อนนฺตคุณสมนฺนาคโต โคตมสฺส ภควโต สาสนวเร ธมฺมจกฺกมนุปฺปวตฺตโก ชาโต. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน เอกงฺคุตฺตรนิกายวรลฺฉเก –
‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกปุคฺคลมฺปิ สมนุปสฺสามิ, โย เอวํ ตถาคเตน อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ สมฺมเทว อนุปฺปวตฺเตติ, ยถยิทํ ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต, สาริปุตฺโต. ภิกฺขเว, ตถาคเตน อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ สมฺมเทว อนุปฺปวตฺเตตี’’’ติ.
‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, ยํ กิฺจิ นวงฺคํ พุทฺธวจนํ, ยา จ โลกุตฺตรา กิริยา, ยา จ โลเก อธิคมวิปุลวรสมฺปตฺติโย, สพฺพํ ตํ เตรสสุ ธุตคุเณสุ สโมธาโนปคต’’ [สโมธาเนตพฺพํ (ก.)] นฺติ.
ธุตงฺคปฺโห ทุติโย.
อนุมานวคฺโค จตุตฺโถ.
๖. โอปมฺมกถาปฺโห
มาติกา
ภนฺเต ¶ ¶ ¶ นาคเสน, กติหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อรหตฺตํ สจฺฉิกโรตีติ?
อิธ, มหาราช, อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุกาเมน ภิกฺขุนา –
คทฺรภสฺส [โฆรสฺสรสฺส (สี. สฺยา. ปี.)] เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
กุกฺกุฏสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
กลนฺทกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
ทีปินิยา เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
ทีปิกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
กุมฺมสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
วํสสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
จาปสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
วายสสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
มกฺกฏสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
คทฺรภวคฺโค ปโม.
ลาพุลตาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
ปทุมสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
พีชสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
สาลกลฺยาณิกาย ¶ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
นาวาย ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
นาวาลคฺคนกสฺส [นาวาลคนกสฺส (สี. ปี.)] ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
กูปสฺส ¶ [กูปกสฺส (ก.)] เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
นิยามกสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
กมฺมการสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
สมุทฺทสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
สมุทฺทวคฺโค ทุติโย.
ปถวิยา ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
อาปสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
เตชสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
วายุสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
ปพฺพตสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
อากาสสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
จนฺทสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
สูริยสฺส สตฺต องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
สกฺกสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
จกฺกวตฺติสฺส จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
ปถวีวคฺโค ตติโย.
อุปจิกาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
พิฬารสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
อุนฺทูรสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
วิจฺฉิกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
นกุลสฺส เอกํ องฺคํ ¶ คเหตพฺพํ.
ชรสิงฺคาลสฺส ¶ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
มิคสฺส ¶ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
โครูปสฺส จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
วราหสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
หตฺถิสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
อุปจิกาวคฺโค จตุตฺโถ.
สีหสฺส สตฺต องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
จกฺกวากสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
เปณาหิกาย ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
ฆรกโปตสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
อุลูกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
สตปตฺตสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
วคฺคุลิสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
ชลูกาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
สปฺปสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
อชครสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
สีหวคฺโค ปฺจโม.
ปนฺถมกฺกฏกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
ถนสิตทารกสฺส [ถนปีตทารกสฺส (สฺยา.)] เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
จิตฺตกธรกุมฺมสฺส [จิตฺตกถลกุมฺมสฺส (ก.)] เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
ปวนสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
รุกฺขสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
เมฆสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
มณิรตนสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
มาควิกสฺส ¶ ¶ จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
พาฬิสิกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
ตจฺฉกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
มกฺกฏวคฺโค ฉฏฺโ.
กุมฺภสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
กาฬายสสฺส [กาฬหํสสฺส (ก.)] ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
ฉตฺตสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
เขตฺตสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
อคทสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
โภชนสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
อิสฺสาสสฺส จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
กุมฺภวคฺโค สตฺตโม.
รฺโ จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
โทวาริกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
นิสทาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
ปทีปสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
มยูรสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
ตุรงฺคสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
โสณฺฑิกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
อินฺทขีลสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
ตุลาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
ขคฺคสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
มจฺฉสฺส ¶ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
อิณคฺคาหกสฺส ¶ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
พฺยาธิตสฺส ¶ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
มตสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
นทิยา ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
อุสภสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
มคฺคสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
สุงฺกสายิกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
โจรสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
สกุณคฺฆิยา เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
สุนขสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
ติกิจฺฉกสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
คพฺภินิยา ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
จมริยา เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
กิกิยา ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
กโปติกาย ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
เอกนยนสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
กสฺสกสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
ชมฺพุกสิงฺคาลิยา เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
จงฺควารกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
ทพฺพิยา เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
อิณสาธกสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
อนุวิจินกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
สารถิสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
โภชกสฺส ¶ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
ตุนฺนวายสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
นาวิกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
ภมรสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานีติ.
มาติกา นิฏฺิตา.
๑. คทฺรภวคฺโค
๑. คทฺรภงฺคปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘คทฺรภสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, คทฺรโภ นาม สงฺการกูเฏปิ จตุกฺเกปิ สิงฺฆาฏเกปิ คามทฺวาเรปิ ถุสราสิมฺหิปิ ยตฺถ กตฺถจิ สยติ, น สยนพหุโล โหติ, เอวเมว ¶ โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ติณสนฺถาเรปิ ปณฺณสนฺถาเรปิ กฏฺมฺจเกปิ ฉมายปิ ยตฺถ กตฺถจิ จมฺมขณฺฑํ ปตฺถริตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ สยิตพฺพํ, น สยนพหุเลน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, คทฺรภสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน ‘กลิงฺครูปธานา, ภิกฺขเว, เอตรหิ มม สาวกา วิหรนฺติ อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปธานสฺมิ’นฺติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินาปิ –
‘‘‘ปลฺลงฺเกน นิสินฺนสฺส, ชณฺณุเกนาภิวสฺสติ;
อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน’’’ติ.
คทฺรภงฺคปฺโห ปโม.
๒. กุกฺกุฏงฺคปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘กุกฺกุฏสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, กุกฺกุโฏ ¶ กาเลน สมเยน ปฏิสลฺลียติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กาเลน สมเยเนว เจติยงฺคณํ สมฺมชฺชิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺเปตฺวา สรีรํ ปฏิชคฺคิตฺวา นหายิตฺวา เจติยํ วนฺทิตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ทสฺสนาย คนฺตฺวา กาเลน สมเยน สฺุาคารํ ปวิสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, กุกฺกุฏสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, กุกฺกุโฏ กาเลน สมเยเนว วุฏฺาติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กาเลน สมเยเนว วุฏฺหิตฺวา เจติยงฺคณํ สมฺมชฺชิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺเปตฺวา สรีรํ ปฏิชคฺคิตฺวา เจติยํ วนฺทิตฺวา ปุนเทว สฺุาคารํ ปวิสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, กุกฺกุฏสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, กุกฺกุโฏ ปถวึ ขณิตฺวา ขณิตฺวา อชฺโฌหารํ อชฺโฌหรติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา อชฺโฌหารํ อชฺโฌหริตพฺพํ ‘เนว ทวาย น มทาย ¶ น มณฺฑนาย น วิภูสนาย, ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา ยาปนาย วิหึสูปรติยา พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย, อิติ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามิ นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามิ, ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสติ อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จา’ติ. อิทํ, มหาราช, กุกฺกุฏสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘‘‘กนฺตาเร ปุตฺตมํสํว, อกฺขสฺสพฺภฺชนํ ยถา;
เอวํ อาหริ อาหารํ, ยาปนตฺถมมุจฺฉิโต’ติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, กุกฺกุโฏ สจกฺขุโกปิ รตฺตึ อนฺโธ โหติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อนนฺเธเนว อนฺเธน วิย ภวิตพฺพํ, อรฺเปิ โคจรคาเม ปิณฺฑาย จรนฺเตนปิ รชนีเยสุ รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพธมฺเมสุ อนฺเธน พธิเรน มูเคน วิย ภวิตพฺพํ, น นิมิตฺตํ คเหตพฺพํ, นานุพฺยฺชนํ คเหตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, กุกฺกุฏสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน มหากจฺจายเนน –
‘จกฺขุมาสฺส ยถา อนฺโธ, โสตวา พธิโร ยถา;
ปฺวาสฺส [ชิวฺหาวสฺส (สี. ปี.)] ยถา มูโค, พลวา ทุพฺพโลริว;
อตฺตอตฺเถ [อถ อตฺเถ (สี. ปี.)] สมุปฺปนฺเน, สเยถ มตสายิก’นฺติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, กุกฺกุโฏ เลฑฺฑุทณฺฑลคุฬมุคฺคเรหิ ปริปาติยนฺโตปิ สกํ เคหํ น วิชหติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน จีวรกมฺมํ กโรนฺเตนปิ นวกมฺมํ กโรนฺเตนปิ วตฺตปฺปฏิวตฺตํ กโรนฺเตนปิ อุทฺทิสนฺเตนปิ อุทฺทิสาเปนฺเตนปิ โยนิโส มนสิกาโร น วิชหิตพฺโพ, สกํ โข ปเนตํ, มหาราช, โยคิโน เคหํ, ยทิทํ โยนิโส มนสิกาโร ¶ . อิทํ, มหาราช, กุกฺกุฏสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ ¶ . ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน ‘โก จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน โคจโร สโก เปตฺติโก วิสโย? ยทิทํ จตฺตาโร สติปฏฺานา’ติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินาปิ –
‘‘‘ยถา สุทนฺโต มาตงฺโค, สกํ โสณฺฑํ น มทฺทติ;
ภกฺขาภกฺขํ วิชานาติ, อตฺตโน วุตฺติกปฺปนํ.
‘‘‘ตเถว พุทฺธปุตฺเตน, อปฺปมตฺเตน วา ปน;
ชินวจนํ น มทฺทิตพฺพํ, มนสิการวรุตฺตม’’’นฺติ.
กุกฺกุฏงฺคปฺโห ทุติโย.
๓. กลนฺทกงฺคปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘กลนฺทกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, กลนฺทโก ปฏิสตฺตุมฺหิ โอปตนฺเต นงฺคุฏฺํ ปปฺโผเฏตฺวา มหนฺตํ กตฺวา เตเนว นงฺคุฏฺลคุเฬน ปฏิสตฺตุํ ปฏิพาหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กิเลสสตฺตุมฺหิ โอปตนฺเต สติปฏฺานลคุฬํ ปปฺโผเฏตฺวา มหนฺตํ กตฺวา เตเนว สติปฏฺานลคุเฬน สพฺพกิเลสา ปฏิพาหิตพฺพา. อิทํ, มหาราช, กลนฺทกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน จูฬปนฺถเกน –
‘ยทา กิเลสา โอปตนฺติ, สามฺคุณธํสนา;
สติปฏฺานลคุเฬน, หนฺตพฺพา เต ปุนปฺปุน’’’นฺติ.
กลนฺทกงฺคปฺโห ตติโย.
๔. ทีปินิยงฺคปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ‘ทีปินิยา เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ทีปินี สกึ เยว คพฺภํ คณฺหาติ, น ปุนปฺปุนํ ปุริสํ อุเปติ? เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อายตึ ปฏิสนฺธึ อุปฺปตฺตึ คพฺภเสยฺยํ จุตึ เภทํ ขยํ วินาสํ สํสารภยํ ทุคฺคตึ วิสมํ สมฺปีฬิตํ ทิสฺวา ‘ปุนพฺภเว ¶ นปฺปฏิสนฺทหิสฺสามี’ติ โยนิโส มนสิกาโร กรณีโย. อิทํ, มหาราช, ทีปินิยา เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สุตฺตนิปาเต ธนิยโคปาลกสุตฺเต –
‘‘‘อุสโภริว เฉตฺว พนฺธนานิ, นาโค ปูติลตํว ทาลยิตฺวา;
นาหํ ปุนุเปสฺสํ คพฺภเสยฺยํ, อถ เจ ปตฺถยสี ปวสฺส เทวา’’’ติ.
ทีปินิยงฺคปฺโห จตุตฺโถ.
๕. ทีปิกงฺคปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘ทีปิกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ทีปิโก อรฺเ ติณคหนํ วา วนคหนํ วา ปพฺพตคหนํ วา นิสฺสาย นิลียิตฺวา มิเค คณฺหาติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน วิเวกํ เสวิตพฺพํ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปฺุชํ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสํ วิชนวาตํ มนุสฺสราหเสยฺยกํ ปฏิสลฺลานสารุปฺปํ; วิเวกํ เสวมาโน หิ, มหาราช, โยคี โยคาวจโร นจิรสฺเสว ฉฬภิฺาสุ จ วสิภาวํ ปาปุณาติ. อิทํ, มหาราช, ทีปิกสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรหิ ธมฺมสงฺคาหเกหิ –
‘‘‘ยถาปิ ¶ ¶ ทีปิโก นาม, นิลียิตฺวา คณฺหเต [คณฺหตี (สี. ปี.)] มิเค;
ตเถวายํ พุทฺธปุตฺโต, ยุตฺตโยโค วิปสฺสโก;
อรฺํ ปวิสิตฺวาน, คณฺหาติ ผลมุตฺตม’นฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ทีปิโก ยํ กิฺจิ ปสุํ วธิตฺวา วาเมน ปสฺเสน ปติตํ น ภกฺเขติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เวฬุทาเนน วา ปตฺตทาเนน วา ปุปฺผทาเนน วา ผลทาเนน วา สินานทาเนน วา มตฺติกาทาเนน วา จุณฺณทาเนน วา ทนฺตกฏฺทาเนน ¶ วา มุโขทกทาเนน วา จาตุกมฺยตาย วา มุคฺคสุปฺยตาย [มุคฺคสุปฺปตาย (สี. ปี.)] วา ปาริภฏ [ปาริภฏฺฏตาย (สี. ปี.)] ยตาย วา ชงฺฆเปสนีเยน วา เวชฺชกมฺเมน วา ทูตกมฺเมน วา ปหิณคมเนน วา ปิณฺฑปฏิปิณฺเฑน วา ทานานุปฺปทาเนน วา วตฺถุวิชฺชาย วา นกฺขตฺตวิชฺชาย วา องฺควิชฺชาย [นควิชฺชาย (ก.)] วา อฺตรฺตเรน วา พุทฺธปฺปฏิกุฏฺเน มิจฺฉาชีเวน นิปฺผาทิตํ โภชนํ น ภฺุชิตพฺพํ [ปริภฺุชิตพฺพํ (สี. ปี.)] วาเมน ปสฺเสน ปติตํ ปสุํ วิย ทีปิโก. อิทํ, มหาราช, ทีปิกสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘วจีวิฺตฺติวิปฺผารา, อุปฺปนฺนํ มธุปายสํ;
สเจ ภุตฺโต ภเวยฺยาหํ, สาชีโว ครหิโต มม.
‘‘‘ยทิปิ เม อนฺตคุณํ, นิกฺขมิตฺวา พหี จเร;
เนว ภินฺเทยฺยมาชีวํ, จชมาโนปิ ชีวิต’’’นฺติ.
ทีปิกงฺคปฺโห ปฺจโม.
๖. กุมฺมงฺคปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘กุมฺมสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, กุมฺโม อุทกจโร อุทเกเยว วาสํ กปฺเปติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพปาณภูตปุคฺคลานํ หิตานุกมฺปินา เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน สพฺพาวนฺตํ โลกํ ผริตฺวา วิหริตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, กุมฺมสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ ¶ จปรํ, มหาราช, กุมฺโม อุทเก อุปฺปิลวนฺโต สีสํ อุกฺขิปิตฺวา ยทิ โกจิ ปสฺสติ, ตตฺเถว นิมุชฺชติ คาฬฺหโมคาหติ ‘มา มํ เต ปุน ปสฺเสยฺยุ’นฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กิเลเสสุ โอปตนฺเตสุ อารมฺมณสเร นิมุชฺชิตพฺพํ คาฬฺหโมคาหิตพฺพํ ‘มา มํ กิเลสา ปุน ปสฺเสยฺยุ’นฺติ. อิทํ, มหาราช, กุมฺมสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ ¶ , มหาราช, กุมฺโม อุทกโต นิกฺขมิตฺวา กายํ โอตาเปติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน นิสชฺชฏฺานสยนจงฺกมโต มานสํ นีหริตฺวา สมฺมปฺปธาเน มานสํ โอตาเปตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, กุมฺมสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, กุมฺโม ปถวึ ขณิตฺวา วิวิตฺเต วาสํ กปฺเปติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ลาภสกฺการสิโลกํ ปชหิตฺวา สฺุํ วิวิตฺตํ กานนํ วนปตฺถํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสํ ปวิวิตฺตโมคาหิตฺวา วิวิตฺเต เยว วาสํ อุปคนฺตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, กุมฺมสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน อุปเสเนน วงฺคนฺตปุตฺเตน –
‘‘‘วิวิตฺตํ อปฺปนิคฺโฆสํ, วาฬมิคนิเสวิตํ;
เสเว เสนาสนํ ภิกฺขุ, ปฏิสลฺลานการณา’ติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, กุมฺโม จาริกํ จรมาโน ยทิ กฺจิ ปสฺสติ วา, สทฺทํ สุณาติ วา, โสณฺฑิปฺจมานิ องฺคานิ สเก กปาเล นิทหิตฺวา อปฺโปสฺสุกฺโก ตุณฺหีภูโต ติฏฺติ กายมนุรกฺขนฺโต, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพตฺถ รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพธมฺเมสุ อาปตนฺเตสุ ฉสุ ทฺวาเรสุ สํวรกวาฏํ อนุคฺฆาเฏตฺวา มานสํ สโมทหิตฺวา สํวรํ กตฺวา สเตน สมฺปชาเนน วิหาตพฺพํ สมณธมฺมํ อนุรกฺขมาเนน. อิทํ, มหาราช, กุมฺมสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สํยุตฺตนิกายวเร กุมฺมูปมสุตฺตนฺเต –
‘‘‘กุมฺโมว ¶ องฺคานิ สเก กปาเล, สโมทหํ ภิกฺขุ มโนวิตกฺเก;
อนิสฺสิโต ¶ อฺมเหยาโน, ปรินิพฺพุโตนูปวเทยฺย กฺจี’’’ติ.
กุมฺมงฺคปฺโห ฉฏฺโ.
๗. วํสงฺคปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘วํสสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, วํโส ยตฺถ วาโต, ตตฺถ อนุโลเมติ, นาฺตฺถมนุธาวติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ยํ พุทฺเธน ภควตา ภาสิตํ นวงฺคํ สตฺถุ สาสนํ, ตํ อนุโลมยิตฺวา กปฺปิเย อนวชฺเช ตฺวา สมณธมฺมํ เยว ปริเยสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, วํสสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ มหาราช เถเรน ราหุเลน –
‘‘‘นวงฺคํ พุทฺธวจนํ, อนุโลเมตฺวาน สพฺพทา;
กปฺปิเย อนวชฺชสฺมึ, ตฺวาปายํ สมุตฺตริ’’’นฺติ.
วํสงฺคปฺโห สตฺตโม.
๘. จาปงฺคปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘จาปสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, จาโป สุตจฺฉิโต นมิโต [มิโต (สี. ปี. ก.)] ยาวคฺคมูลํ สมกเมว อนุนมติ นปฺปฏิตฺถมฺภติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เถรนวมชฺฌิมสมเกสุ อนุนมิตพฺพํ นปฺปฏิผริตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, จาปสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน วิธุร [ปุณฺณก] ชาตเก –
‘‘‘จาโปวูนุทโร ¶ ธีโร, วํโส วาปิ ปกมฺปเย [จาโป วา นุน เม ธีโร, วํโสว อนุโลมยํ (สี. ปี. ก.)];
ปฏิโลมํ น วตฺเตยฺย, ส ราชวสตึ วเส’’’ติ.
จาปงฺคปฺโห อฏฺโม.
๙. วายสงฺคปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘วายสสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, วายโส อาสงฺกิตปริสงฺกิโต ยตฺตปฺปยตฺโต ¶ จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อาสงฺกิตปริสงฺกิเตน ยตฺตปยตฺเตน อุปฏฺิตาย สติยา สํวุเตหิ อินฺทฺริเยหิ จริตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, วายสสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, วายโส ยํ กิฺจิ โภชนํ ทิสฺวา าตีหิ สํวิภชิตฺวา ภฺุชติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เย เต ลาภา ธมฺมิกา ธมฺมลทฺธา อนฺตมโส ปตฺตปริยาปนฺนมตฺตมฺปิ, ตถารูเปหิ ลาเภหิ ปฏิวิภตฺตโภคินา ภวิตพฺพํ สีลวนฺเตหิ สพฺรหฺมจารีหิ. อิทํ, มหาราช, วายสสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘สเจ เม อุปนาเมนฺติ, ยถาลทฺธํ ตปสฺสิโน;
สพฺเพ สํวิภชิตฺวาน, ตโต ภฺุชามิ โภชน’’’นฺติ.
วายสงฺคปฺโห นวโม.
๑๐. มกฺกฏงฺคปฺโห
๑๐. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘มกฺกฏสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, มกฺกโฏ วาสมุปคจฺฉนฺโต ตถารูเป โอกาเส มหติมหารุกฺเข ปวิวิตฺเต สพฺพฏฺกสาเข [สพฺพตฺถกสาเข (สฺยา.), สพฺพฏฺสาเข (ก.)] ภีรุตฺตาเณ วาสมุปคจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช ¶ , โยคินา โยคาวจเรน ลชฺชึ เปสลํ สีลวนฺตํ กลฺยาณธมฺมํ พหุสฺสุตํ ธมฺมธรํ วินยธรํ ปิยํ ครุภาวนียํ วตฺตารํ วจนกฺขมํ โอวาทกํ วิฺาปกํ สนฺทสฺสกํ สมาทปกํ สมุตฺเตชกํ สมฺปหํสกํ เอวรูปํ กลฺยาณมิตฺตํ อาจริยํ นิสฺสาย วิหริตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, มกฺกฏสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, มกฺกโฏ รุกฺเข เยว จรติ ติฏฺติ นิสีทติ, ยทิ นิทฺทํ โอกฺกมติ, ตตฺเถว รตฺตึ วาสมนุภวติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปวนาภิมุเขน ภวิตพฺพํ, ปวเน เยว านจงฺกมนิสชฺชาสยนํ ¶ นิทฺทํ โอกฺกมิตพฺพํ, ตตฺเถว สติปฏฺานมนุภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, มกฺกฏสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘จงฺกมนฺโตปิ ติฏฺนฺโต, นิสชฺชาสยเนน วา;
ปวเน โสภเต ภิกฺขุ, ปวนนฺตํว วณฺณิต’’’นฺติ.
มกฺกฏงฺคปฺโห ทสโม.
คทฺรภวคฺโค ปโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
คทฺรโภ เจว [โฆรสฺสโร จ (สี. สฺยา. ปี.)] กุกฺกุโฏ, กลนฺโท ทีปินิ ทีปิโก;
กุมฺโม วํโส จ จาโป จ, วายโส อถ มกฺกโฏติ.
๒. สมุทฺทวคฺโค
๑. ลาพุลตงฺคปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ‘ลาพุลตาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ลาพุลตา ติเณ วา กฏฺเ วา ลตาย วา โสณฺฑิกาหิ อาลมฺพิตฺวา ตสฺสูปริ วฑฺฒติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อรหตฺเต อภิวฑฺฒิตุกาเมน มนสา อารมฺมณํ อาลมฺพิตฺวา อรหตฺเต อภิวฑฺฒิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ลาพุลตาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘ยถา ลาพุลตา นาม, ติเณ กฏฺเ ลตาย วา;
อาลมฺพิตฺวา โสณฺฑิกาหิ, ตโต วฑฺฒติ อุปฺปริ.
‘‘‘ตเถว พุทฺธปุตฺเตน, อรหตฺตผลกามินา;
อารมฺมณํ อาลมฺพิตฺวา, วฑฺฒิตพฺพํ อเสกฺขผเล’’’ติ.
ลาพุลตงฺคปฺโห ปโม.
๒. ปทุมงฺคปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘ปทุมสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ ¶ ? ‘‘ยถา, มหาราช, ปทุมํ อุทเก ชาตํ อุทเก สํวทฺธํ อนุปลิตฺตํ อุทเกน, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กุเล คเณ ลาเภ ยเส ¶ สกฺกาเร สมฺมานนาย ปริโภคปจฺจเยสุ จ สพฺพตฺถ อนุปลิตฺเตน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปทุมสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปทุมํ อุทกา อจฺจุคฺคมฺม าติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพโลกํ อภิภวิตฺวา อจฺจุคฺคมฺม โลกุตฺตรธมฺเม าตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปทุมสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, ปทุมํ อปฺปมตฺตเกนปิ อนิเลน เอริตํ จลติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อปฺปมตฺตเกสุปิ กิเลเสสุ สํยโม กรณีโย, ภยทสฺสาวินา วิหริตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปทุมสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน ‘อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสู’ติ.
ปทุมงฺคปฺโห ทุติโย.
๓. พีชงฺคปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘พีชสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, พีชํ อปฺปกมฺปิ สมานํ ภทฺทเก เขตฺเต วุตฺตํ เทเว สมฺมา ธารํ ปเวจฺฉนฺเต สุพหูนิ ผลานิ อนุทสฺสติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ยถา ปฏิปาทิตํ สีลํ เกวลํ สามฺผลมนุทสฺสติ. เอวํ สมฺมา ปฏิปชฺชิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, พีชสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, พีชํ สุปริโสธิเต เขตฺเต โรปิตํ ขิปฺปเมว สํวิรูหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน มานสํ สุปริคฺคหิตํ สฺุาคาเร ปริโสธิตํ สติปฏฺานเขตฺตวเร ขิตฺตํ ขิปฺปเมว วิรูหติ. อิทํ, มหาราช, พีชสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ ¶ . ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน อนุรุทฺเธน –
‘‘‘ยถาปิ ¶ เขตฺเต [ยถา เขตฺเต (สี.)] ปริสุทฺเธ, พีชฺจสฺส ปติฏฺิตํ;
วิปุลํ ตสฺส ผลํ โหติ, อปิ โตเสติ กสฺสกํ.
‘‘‘ตเถว โยคิโน จิตฺตํ, สฺุาคาเร วิโสธิตํ;
สติปฏฺานเขตฺตมฺหิ, ขิปฺปเมว วิรูหตี’’’ติ.
พีชงฺคปฺโห ตติโย.
๔. สาลกลฺยาณิกงฺคปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘สาลกลฺยาณิกาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, สาลกลฺยาณิกา นาม อนฺโตปถวิยํ เยว อภิวฑฺฒติ หตฺถสตมฺปิ ภิยฺโยปิ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน จตฺตาริ สามฺผลานิ จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา ฉฬภิฺาโย เกวลฺจ สมณธมฺมํ สฺุาคาเร เยว ปริปูรยิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สาลกลฺยาณิกาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน ราหุเลน –
‘‘‘สาลกลฺยาณิกา นาม, ปาทโป ธรณีรุโห;
อนฺโตปถวิยํ เยว, สตหตฺโถปิ วฑฺฒติ.
‘‘‘ยถา กาลมฺหิ สมฺปตฺเต, ปริปาเกน โส ทุโม;
อุคฺคฺฉิตฺวาน เอกาหํ, สตหตฺโถปิ วฑฺฒติ.
‘‘‘เอวเมวาหํ มหาวีร, สาลกลฺยาณิกา วิย;
อพฺภนฺตเร สฺุาคาเร, ธมฺมโต อภิวฑฺฒยิ’’’นฺติ.
สาลกลฺยาณิกงฺคปฺโห จตุตฺโถ.
๕. นาวงฺคปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘นาวาย ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, นาวา พหุวิธทารุสงฺฆาฏสมวาเยน พหุมฺปิ ชนํ ตารยติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อาจารสีลคุณวตฺตปฺปฏิวตฺตพหุวิธธมฺมสงฺฆาฏสมวาเยน สเทวโก โลโก ตารยิตพฺโพ. อิทํ, มหาราช, นาวาย ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, นาวา พหุวิธอูมิตฺถนิตเวควิสฏมาวฏฺฏเวคํ ¶ สหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน พหุวิธกิเลสอูมิเวคํ ลาภสกฺการยสสิโลกปูชนวนฺทนา ปรกุเลสุ นินฺทาปสํสาสุขทุกฺขสมฺมานนวิมานนพหุวิธโทสอูมิเวคฺจ สหิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, นาวาย ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, นาวา อปริมิตมนนฺตมปารมกฺโขภิตคมฺภีเร มหติมหาโฆเส ติมิติมิงฺคลมกรมจฺฉคณากุเล มหติมหาสมุทฺเท จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ติปริวฏฺฏ ทฺวาทสาการ จตุสจฺจาภิสมยปฺปฏิเวเธ มานสํ สฺจารยิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, นาวาย ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สํยุตฺตนิกายวเร สจฺจสํยุตฺเต –
‘‘‘วิตกฺเกนฺตา จ โข ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ วิตกฺเกยฺยาถ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ วิตกฺเกยฺยาถ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ วิตกฺเกยฺยาถ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ วิตกฺเกยฺยาถา’’’ติ.
นาวงฺคปฺโห ปฺจโม.
๖. นาวาลคฺคนกงฺคปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘นาวาลคฺคนกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ¶ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, นาวาลคฺคนกํ พหุอูมิชาลากุลวิกฺโขภิตสลิลตเล มหติมหาสมุทฺเท นาวํ ลคฺเคติ เปติ, น เทติ ทิสาวิทิสํ หริตุํ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ราคโทสโมหูมิชาเล มหติมหาวิตกฺกสมฺปหาเร จิตฺตํ ลคฺเคตพฺพํ, น ทาตพฺพํ ทิสาวิทิสํ หริตุํ. อิทํ, มหาราช, นาวาลคฺคนกสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, นาวาลคฺคนกํ น ปฺลวติ [น ปิลวติ (สี. ปี.)] วิสีทติ, หตฺถสเตปิ อุทเก นาวํ ลคฺเคติ านมุปเนติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ลาภยสสกฺการมานนวนฺทนปูชนอปจิตีสุ ลาภคฺคยสคฺเคปิ ¶ น ปฺลวิตพฺพํ, สรีรยาปนมตฺตเก เยว จิตฺตํ เปตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, นาวาลคฺคนกสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘ยถา ¶ สมุทฺเท ลคฺคนกํ, น ปฺลวติ วิสีทติ;
ตเถว ลาภสกฺกาเร, มา ปฺลวถ วิสีทถา’’’ติ.
นาวาลคฺคนกงฺคปฺโห ฉฏฺโ.
๗. กูปงฺคปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘กูปสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, กูโป รชฺชฺุจ วรตฺตฺจ ลงฺการฺจ ธาเรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สติสมฺปชฺสมนฺนาคเตน ภวิตพฺพํ, อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต อาโลกิเต วิโลกิเต สมิฺชิเต ปสาริเต สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม คเต ิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการินา ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, กูปสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน ‘สโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิหเรยฺย สมฺปชาโน, อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี’’’ติ.
กูปงฺคปฺโห สตฺตโม.
๘. นิยามกงฺคปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘นิยามกสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, นิยามโก รตฺตินฺทิวํ สตตํ สมิตํ อปฺปมตฺโต ยตฺตปฺปยตฺโต นาวํ สาเรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน จิตฺตํ นิยามยมาเนน รตฺตินฺทิวํ สตตํ สมิตํ อปฺปมตฺเตน ยตฺตปฺปยตฺเตน โยนิโส มนสิกาเรน จิตฺตํ นิยาเมตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, นิยามกสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน ธมฺมปเท –
‘‘‘อปฺปมาทรตา ¶ โหถ, สจิตฺตมนุรกฺขถ;
ทุคฺคา อุทฺธรถตฺตานํ, ปงฺเก สนฺโนว [สตฺโตว (สี. ปี.)] กฺุชโร’ติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, นิยามกสฺส ยํ กิฺจิ มหาสมุทฺเท กลฺยาณํ วา ปาปกํ วา, สพฺพํ ตํ วิทิตํ โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กุสลากุสลํ สาวชฺชานวชฺชํ หีนปฺปณีตํ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคํ วิชานิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, นิยามกสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, นิยามโก ยนฺเต มุทฺทิกํ เทติ ‘มา โกจิ ยนฺตํ อามสิตฺถา’ติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน จิตฺเต สํวรมุทฺทิกา ทาตพฺพา ‘มา กิฺจิ ปาปกํ อกุสลวิตกฺกํ วิตกฺเกสี’ติ, อิทํ, มหาราช, นิยามกสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สํยุตฺตนิกายวเร ‘มา, ภิกฺขเว, ปาปเก อกุสเล วิตกฺเก วิตกฺเกยฺยาถ, เสยฺยถีทํ, กามวิตกฺกํ พฺยาปาทวิตกฺกํ วิหึสาวิตกฺก’’’นฺติ.
นิยามกงฺคปฺโห อฏฺโม.
๙. กมฺมการงฺคปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘กมฺมการสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, กมฺมกาโร เอวํ จินฺตยติ ‘ภตโก อหํ อิมาย นาวาย กมฺมํ กโรมิ, อิมายาหํ นาวาย วาหสา ภตฺตเวตนํ ลภามิ, น เม ปมาโท กรณีโย, อปฺปมาเทน เม อยํ นาวา วาเหตพฺพา’ติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เอวํ จินฺตยิตพฺพํ ‘อิมํ โข อหํ จาตุมหาภูติกํ กายํ สมฺมสนฺโต สตตํ สมิตํ อปฺปมตฺโต อุปฏฺิตสฺสติ สโต สมฺปชาโน สมาหิโต เอกคฺคจิตฺโต ชาติชราพฺยาธิมรณโสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาเสหิ ปริมุจฺจิสฺสามีติ อปฺปมาโท เม กรณีโย’ติ, อิทํ, มหาราช, กมฺมการสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘กายํ ¶ อิมํ สมฺมสถ, ปริชานาถ ปุนปฺปุนํ;
กาเย สภาวํ ทิสฺวาน, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสถา’ติ.
กมฺมการงฺคปฺโห นวโม.
๑๐. สมุทฺทงฺคปฺโห
๑๐. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘สมุทฺทสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, มหาสมุทฺโท มเตน กุณเปน สทฺธึ น สํวสติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ราคโทสโมหมานทิฏฺิมกฺขปฬาสอิสฺสามจฺฉริยมายาสาเยฺยกุฏิลวิสมทุจฺจริตกิเลสมเลหิ สทฺธึ น สํวสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สมุทฺทสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, มหาสมุทฺโท มุตฺตามณิเวฬุริยสงฺขสิลาปวาฬผลิกมณิวิวิธรตนนิจยํ ธาเรนฺโต ปิทหติ, น พหิ วิกิรติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน มคฺคผลฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺติวิปสฺสนาภิฺาวิวิธคุณรตนานิ อธิคนฺตฺวา ¶ ปิทหิตพฺพานิ, น พหิ นีหริตพฺพานิ. อิทํ, มหาราช, สมุทฺทสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, มหาสมุทฺโท มหนฺเตหิ มหาภูเตหิ สทฺธึ สํวสติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อปฺปิจฺฉํ สนฺตุฏฺํ ธุตวาทํ สลฺเลขวุตฺตึ อาจารสมฺปนฺนํ ลชฺชึ เปสลํ ครุํ ภาวนียํ วตฺตารํ วจนกฺขมํ โจทกํ ปาปครหึ โอวาทกํ อนุสาสกํ วิฺาปกํ สนฺทสฺสกํ สมาทปกํ สมุตฺเตชกํ สมฺปหํสกํ กลฺยาณมิตฺตํ สพฺรหฺมจารึ นิสฺสาย วสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, มหาสมุทฺทสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, มหาสมุทฺโท นวสลิลสมฺปุณฺณาหิ คงฺคายมุนาอจิรวตีสรภูมหีอาทีหิ นทีสตสหสฺเสหิ อนฺตลิกฺเข สลิลธาราหิ จ ปูริโตปิ สกํ เวลํ นาติวตฺตติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ลาภสกฺการสิโลกวนฺทนมานนปูชนการณา ชีวิตเหตุปิ สฺจิจฺจ สิกฺขาปทวีติกฺกโม น กรณีโย. อิทํ, มหาราช, มหาสมุทฺทสฺส ¶ จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘เสยฺยถาปิ, มหาราช [ปหาราธ (สี. ปี.)], มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติกฺกมติ, เอวเมว โข, มหาราช, ยํ มหา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ตํ มม สาวกา ชีวิตเหตุปิ นาติกฺกมนฺตี’ติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, มหาสมุทฺโท สพฺพสวนฺตีหิ คงฺคายมุนาอจิรวตีสรภูมหีหิ อนฺตลิกฺเข อุทกธาราหิปิ น ปริปูรติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อุทฺเทสปริปุจฺฉาสวนธารณวินิจฺฉยอภิธมฺมวินยคาฬฺหสุตฺตนฺตวิคฺคหปทนิกฺเขปปทสนฺธิ ปทวิภตฺตินวงฺคชินสาสนวรํ สุณนฺเตนาปิ น ตปฺปิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, มหาสมุทฺทสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สุตโสมชาตเก –
‘‘‘อคฺคิ ยถา ติณกฏฺํ ทหนฺโต, น ตปฺปติ สาคโร วา นทีหิ;
เอวมฺปิ เจ [เอวมฺปิ เว (สฺยา.), เอวํ หิ เม (ก.) ชา. ๑ อสีตินิปาเต] ปณฺฑิตา ราชเสฏฺ, สุตฺวา น ตปฺปนฺติ สุภาสิเตนา’’’ติ.
สมุทฺทงฺคปฺโห ทสโม.สมุทฺทวคฺโค ทุติโย.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
ลาพุลตา จ ปทุมํ, พีชํ สาลกลฺยาณิกา;
นาวา จ นาวาลคฺคนํ, กูโป นิยามโก ตถา;
กมฺมกาโร สมุทฺโท จ, วคฺโค เตน ปวุจฺจตีติ.
๓. ปถวีวคฺโค
๑. ปถวีองฺคปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ ¶ นาคเสน, ‘ปถวิยา ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ปถวี อิฏฺานิฏฺานิ กปฺปูราครุตครจนฺทนกุงฺกุมาทีนิ อากิรนฺเตปิ ปิตฺตเสมฺหปุพฺพรุหิรเสทเมทเขฬสิงฺฆาณิกลสิก- มุตฺตกรีสาทีนิ อากิรนฺเตปิ ตาทิสา เยว, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อิฏฺานิฏฺเ ลาภาลาเภ ยสายเส นินฺทาปสํสาย สุขทุกฺเข สพฺพตฺถ ตาทินา เยว ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปถวิยา ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปถวี มณฺฑนวิภูสนาปคตา สกคนฺธปริภาวิตา, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน วิภูสนาปคเตน สกสีลคนฺธปริภาวิเตน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปถวิยา ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปถวี นิรนฺตรา อขณฺฑจฺฉิทฺทา อสุสิรา พหลา ฆนา วิตฺถิณฺณา, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน นิรนฺตรมขณฺฑจฺฉิทฺทมสุสิรพหลฆนวิตฺถิณฺณสีเลน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปถวิยา ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปถวี คามนิคมนครชนปทรุกฺขปพฺพตนทีตฬากโปกฺขรณีมิคปกฺขิมนุชนรนาริคณํ ธาเรนฺตีปิ อกิลาสุ โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน โอวทนฺเตนปิ อนุสาสนฺเตนปิ วิฺาเปนฺเตนปิ สนฺทสฺเสนฺเตนปิ สมาทเปนฺเตนปิ สมุตฺเตเชนฺเตนปิ สมฺปหํเสนฺเตนปิ ธมฺมเทสนาสุ อกิลาสุนา ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปถวิยา จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, ปถวี อนุนยปฺปฏิฆวิปฺปมุตฺตา, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อนุนยปฺปฏิฆวิปฺปมุตฺเตน ปถวิสเมน เจตสา วิหริตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปถวิยา ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ ¶ , มหาราช, อุปาสิกาย จูฬสุภทฺทาย สกสมเณ ปริกิตฺตยมานาย –
‘‘‘เอกฺเจ ¶ พาหํ วาสิยา, ตจฺเฉ กุปิตมานสา [กุปิตมานโส (ก.)];
เอกฺเจพาหํ คนฺเธน, อาลิมฺเปยฺย ปโมทิตา [ปโมทิโต (ก.)].
‘‘‘อมุสฺมึ ปฏิโฆ นตฺถิ, ราโค อสฺมึ น วิชฺชติ;
ปถวีสมจิตฺตา เต, ตาทิสา สมณา มมา’’’ติ.
ปถวีองฺคปฺโห ปโม.
๒. อาปงฺคปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘อาปสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, อาโป สุสณฺิตมกมฺปิตมลุฬิตสภาวปริสุทฺโธ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กุหนลปนเนมิตฺตกนิปฺเปสิกตํ อปเนตฺวา สุสณฺิตมกมฺปิตมลุฬิตสภาวปริสุทฺธาจาเรน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อาปสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อาโป สีตลสภาวสณฺิโต, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพสตฺเตสุ ขนฺติเมตฺตานุทฺทยสมฺปนฺเนน หิเตสินา อนุกมฺปเกน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อาปสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อาโป อสุจึ สุจึ กโรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน คาเม วา อรฺเ วา อุปชฺฌาเย อุปชฺฌายมตฺเตสุ อาจริเย อาจริยมตฺเตสุ สพฺพตฺถ อนธิกรเณน ภวิตพฺพํ อนวเสสการินา. อิทํ, มหาราช, อาปสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, อาโป พหุชนปตฺถิโต, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อปฺปิจฺฉสนฺตุฏฺปวิวิตฺตปฏิสลฺลาเนน สตตํ สพฺพโลกมภิปตฺถิเตน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อาปสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, อาโป น กสฺสจิ อหิตมุปทหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปรภณฺฑนกลหวิคฺคหวิวาทริตฺตชฺฌานอรติชนนํ กายวจีจิตฺเตหิ ¶ ปาปกํ น กรณียํ. อิทํ, มหาราช, อาปสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ มหาราช, ภควตา, เทวาติเทเวน กณฺหชาตเก –
‘‘‘วรฺเจ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;
น มโน วา สรีรํ วา, มํ-กเต สกฺก กสฺสจิ;
กทาจิ อุปหฺเถ, เอตํ สกฺก วรํ วเร’’’ติ.
อาปงฺคปฺโห ทุติโย.
๓. เตชงฺคปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘เตชสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, เตโช ติณกฏฺสาขาปลาสํ ฑหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เย เต อพฺภนฺตรา วา พาหิรา วา กิเลสา อิฏฺานิฏฺารมฺมณานุภวนา, สพฺเพ เต าณคฺคินา ฑหิตพฺพา. อิทํ, มหาราช, เตชสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, เตโช นิทฺทโย อการุณิโก, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพกิเลเสสุ การฺุานุทฺทยา น กาตพฺพา. อิทํ, มหาราช, เตชสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, เตโช สีตํ ปฏิหนติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ¶ วีริยสนฺตาปเตชํ อภิชเนตฺวา กิเลสา ปฏิหนฺตพฺพา. อิทํ, มหาราช, เตชสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, เตโช อนุนยปฺปฏิฆวิปฺปมุตฺโต อุณฺหมภิชเนติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อนุนยปฺปฏิฆวิปฺปมุตฺเตน เตโชสเมน เจตสา วิหริตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, เตชสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, เตโช อนฺธการํ วิธมิตฺวา [วิธมติ (สี. ปี. ก.)] อาโลกํ ทสฺสยติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อวิชฺชนฺธการํ วิธมิตฺวา าณาโลกํ ทสฺสยิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, เตชสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สกํ ปุตฺตํ ราหุลํ โอวทนฺเตน ¶ –
‘เตโชสมํ [ม. นิ. ๒.๑๑๙], ราหุล, ภาวนํ ภาเวหิ, เตโชสมํ หิ เต, ราหุล, ภาวนํ ภาวยโต อุปฺปนฺนา? มนาปามนาปา ผสฺสา จิตฺตํ น ปริยาทาย สฺสนฺตี’’’ติ.
เตชงฺคปฺโห ตติโย.
๔. วายุงฺคปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘วายุสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, วายุ สุปุปฺผิตวนสณฺฑนฺตรํ อภิวายติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน วิมุตฺติวรกุสุมปุปฺผิตารมฺมณวนนฺตเร รมิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, วายุสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, วายุ ธรณีรุหปาทปคเณ มถยติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน วนนฺตรคเตน สงฺขาเร วิจินนฺเตน กิเลสา มถยิตพฺพา. อิทํ, มหาราช, วายุสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, วายุ อากาเส จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ¶ โลกุตฺตรธมฺเมสุ มานสํ สฺจารยิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, วายุสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, วายุ คนฺธํ อนุภวติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อตฺตโน สีลวรสุรภิคนฺโธ [สีลสุรภิคนฺโท (สี. ปี.)] อนุภวิตพฺโพ. อิทํ, มหาราช, วายุสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, วายุ นิราลโย อนิเกตวาสี, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน นิราลยมนิเกตมสนฺถเวน สพฺพตฺถ ¶ วิมุตฺเตน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, วายุสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สุตฺตนิปาเต –
‘‘‘สนฺถวาโต ภยํ ชาตํ, นิเกตา ชายเต รโช;
อนิเกตมสนฺถวํ, เอตํ เว มุนิทสฺสน’’’นฺติ.
วายุงฺคปฺโห จตุตฺโถ.
๕. ปพฺพตงฺคปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘ปพฺพตสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ ¶ ? ‘‘ยถา, มหาราช, ปพฺพโต อจโล อกมฺปิโต [อกมฺปิโย (สี. ปี.)] อสมฺปเวธี, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สมฺมานเน วิมานเน สกฺกาเร อสกฺกาเร ครุกาเร อครุกาเร ยเส อยเส นินฺทาย ปสํสาย สุเข ทุกฺเข อิฏฺานิฏฺเสุ สพฺพตฺถ รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพธมฺเมสุ รชนีเยสุ น รชฺชิตพฺพํ, ทุสฺสนีเยสุ น ทุสฺสิตพฺพํ, มุยฺหนีเยสุ น มุยฺหิตพฺพํ, น กมฺปิตพฺพํ น จลิตพฺพํ, ปพฺพเตน วิย อจเลน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปพฺพตสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘‘‘เสโล ¶ ยถา เอกฆโน [เอกคฺฆโน (ก.) ธ. ป. ๘๑ ธมฺมปเท], วาเตน น สมีรติ;
เอวํ นินฺทาปสํสาสุ, น สมิฺชนฺติ ปณฺฑิตา’ติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปพฺพโต ถทฺโธ น เกนจิ สํสฏฺโ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ถทฺเธน อสํสฏฺเน ภวิตพฺพํ, น เกนจิ สํสคฺโค กรณีโย. อิทํ, มหาราช, ปพฺพตสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘‘‘อสํสฏฺํ คหฏฺเหิ, อนาคาเรหิ จูภยํ;
อโนกสาริมปฺปิจฺฉํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณ’นฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปพฺพเต พีชํ น วิรูหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สกมานเส กิเลสา น วิรูหาเปตพฺพา. อิทํ, มหาราช, ปพฺพตสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สุภูตินา –
‘‘‘ราคูปสํหิตํ ¶ จิตฺตํ, ยทา อุปฺปชฺชเต มม;
สยํว ปจฺจเวกฺขามิ [ปจฺจเวกฺขิตฺวา (สพฺพตฺถ)], เอกคฺโค [เอกโก (สพฺพตฺถ)] ตํ ทเมมหํ.
‘‘‘รชฺชเส [รชฺชสิ (สี.), รฺชสิ (ปี.)] รชนีเย จ, ทุสฺสนีเย จ ทุสฺสเส;
มุยฺหเส [มุยฺหสิ (สี.)] โมหนีเย จ, นิกฺขมสฺสุ วนา ตุวํ.
‘‘‘วิสุทฺธานํ ¶ อยํ วาโส, นิมฺมลานํ ตปสฺสินํ;
มา โข วิสุทฺธํ ทูเสสิ, นิกฺขมสฺสุ วนา ตุว’นฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปพฺพโต อจฺจุคฺคโต, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน าณจฺจุคฺคเตน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปพฺพตสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘‘‘ปมาทํ อปฺปมาเทน, ยทา นุทติ ปณฺฑิโต;
ปฺาปาสาทมารุยฺห, อโสโก โสกินึ ปชํ;
ปพฺพตฏฺโว ภูมฏฺเ [ภุมฺมฏฺเ (สี. ปี.)], ธีโร พาเล อเวกฺขตี’ติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, ปพฺพโต อนุนฺนโต อโนนโต, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อุนฺนตาวนติ น กรณียา. อิทํ, มหาราช, ปพฺพตสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, อุปาสิกาย จูฬสุภทฺทาย สกสมเณ ปริกิตฺตยมานาย –
‘‘‘ลาเภน อุนฺนโต โลโก, อลาเภน จ โอนโต;
ลาภาลาเภน เอกตฺถา [เอกฏฺา (สี. ปี.)], ตาทิสา สมณา มมา’’’ติ.
ปพฺพตงฺคปฺโห ปฺจโม.
๖. อากาสงฺคปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘อากาสสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, อากาโส สพฺพโส อคยฺโห, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ¶ สพฺพโส กิเลเสหิ อคยฺเหน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อากาสสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อากาโส อิสิตาปสภูตทิชคณานุสฺจริโต, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’ติ สงฺขาเรสุ มานสํ สฺจารยิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อากาสสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อากาโส สนฺตาสนีโย, เอวเมว โข, มหาราช ¶ , โยคินา โยคาวจเรน สพฺพภวปฏิสนฺธีสุ มานสํ อุพฺเพชยิตพฺพํ, อสฺสาโท น กาตพฺโพ. อิทํ, มหาราช, อากาสสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อากาโส อนนฺโต อปฺปมาโณ อปริเมยฺโย, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อนนฺตสีเลน อปริมิตาเณน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อากาสสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อากาโส อลคฺโค อสตฺโต อปฺปติฏฺิโต อปลิพุทฺโธ, เอวเมว โข ¶ , มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กุเล คเณ ลาเภ อาวาเส ปลิโพเธ ปจฺจเย สพฺพกิเลเสสุ จ สพฺพตฺถ อลคฺเคน ภวิตพฺพํ, อนาสตฺเตน อปฺปติฏฺิเตน อปลิพุทฺเธน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อากาสสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สกํ ปุตฺตํ ราหุลํ โอวทนฺเตน – ‘เสยฺยถาปิ, ราหุล [ม. นิ. ๒.๑๑๙], อากาโส น กตฺถจิ ปติฏฺิโต, เอวเมว โข ตฺวํ, ราหุล, อากาสสมํ ภาวนํ ภาเวหิ, อากาสสมํ หิ เต, ราหุล, ภาวนํ ภาวยโต อุปฺปนฺนา มนาปามนาปา ผสฺสา จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสนฺตี’’’ติ.
อากาสงฺคปฺโห ฉฏฺโ.
๗. จนฺทงฺคปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘จนฺทสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, จนฺโท สุกฺกปกฺเข ¶ อุทยนฺโต อุตฺตรุตฺตรึ วฑฺฒติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อาจารสีลคุณวตฺตปฺปฏิปตฺติยา อาคมาธิคเม ปฏิสลฺลาเน สติปฏฺาเน อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตาย โภชเน มตฺตฺุตาย ชาคริยานุโยเค อุตฺตรุตฺตรึ วฑฺฒิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, จนฺทสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, จนฺโท อุฬาราธิปติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อุฬาเรน ฉนฺทาธิปตินา ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, จนฺทสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, จนฺโท นิสาย จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปวิวิตฺเตน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, จนฺทสฺส ตติยํ ¶ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, จนฺโท วิมานเกตุ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สีลเกตุนา ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, จนฺทสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, จนฺโท อายาจิตปตฺถิโต อุเทติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา ¶ โยคาวจเรน อายาจิตปตฺถิเตน กุลานิ อุปสงฺกมิตพฺพานิ. อิทํ, มหาราช, จนฺทสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สํยุตฺตนิกายวเร ‘จนฺทูปมา, ภิกฺขเว, กุลานิ อุปสงฺกมถ, อปกสฺเสว กายํ อปกสฺส จิตฺตํ นิจฺจนวกา กุเลสุ อปฺปคพฺภา’’’ติ [อปฺปคพฺพาติ (ก.) สํ. นิ. ๒.๑๔๖].
จนฺทงฺคปฺโห สตฺตโม.
๘. สูริยงฺคปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘สูริยสฺส [สุริยสฺส (สี. สฺยา. ปี.)] สตฺต องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ สตฺต องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, สูริโย สพฺพํ อุทกํ ปริโสเสติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพกิเลสา อนวเสสํ ปริโสเสตพฺพา. อิทํ, มหาราช, สูริยสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, สูริโย ตมนฺธการํ วิธมติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพํ ราคตมํ โทสตมํ โมหตมํ มานตมํ ทิฏฺิตมํ กิเลสตมํ สพฺพํ ทุจฺจริตตมํ วิธมยิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สูริยสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สูริโย อภิกฺขณํ จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อภิกฺขณํ โยนิโส มนสิกาโร กาตพฺโพ. อิทํ, มหาราช, สูริยสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สูริโย รํสิมาลี, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อารมฺมณมาลินา ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สูริยสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สูริโย มหาชนกายํ สนฺตาเปนฺโต จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อาจารสีลคุณวตฺตปฺปฏิปตฺติยา ¶ ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺติอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคสติปฏฺานสมฺมปฺปธานอิทฺธิปาเทหิ สเทวโก โลโก สนฺตาปยิตพฺโพ. อิทํ, มหาราช, สูริยสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, สูริโย ราหุภยา ภีโต จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ทุจฺจริตทุคฺคติวิสมกนฺตารวิปากวินิปาตกิเลสชาลชฏิเต ทิฏฺิสงฺฆาฏปฏิมุกฺเก กุปถปกฺขนฺเท กุมฺมคฺคปฏิปนฺเน [กุมคฺคปฏิปนฺเน (สฺยา. ก.)] สตฺเต ทิสฺวา มหตา สํเวคภเยน มานสํ สํเวเชตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สูริยสฺส ฉฏฺํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สูริโย กลฺยาณปาปเก ทสฺเสติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคสติปฏฺานสมฺมปฺปธานอิทฺธิปาทโลกิยโลกุตฺตรธมฺมา ทสฺเสตพฺพา. อิทํ, มหาราช, สูริยสฺส สตฺตมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน วงฺคีเสน –
‘‘‘ยถาปิ สูริโย อุทยนฺโต, รูปํ ทสฺเสติ ปาณินํ;
สุจิฺจ อสุจิฺจาปิ, กลฺยาณฺจาปิ ปาปกํ.
‘‘‘ตถา ¶ ภิกฺขุ ธมฺมธโร, อวิชฺชาปิหิตํ ชนํ;
ปถํ ทสฺเสติ วิวิธํ, อาทิจฺโจวุทยํ ยถา’’’ติ.
สูริยงฺคปฺโห อฏฺโม.
๙. สกฺกงฺคปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘สกฺกสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, สกฺโก เอกนฺตสุขสมปฺปิโต, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เอกนฺตปวิเวกสุขาภิรเตน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สกฺกสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สกฺโก เทเว ทิสฺวา ปคฺคณฺหาติ, หาสมภิชเนติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กุสเลสุ ธมฺเมสุ อลีนมตนฺทิตํ สนฺตํ มานสํ ปคฺคเหตพฺพํ, หาสมภิชเนตพฺพํ, อุฏฺหิตพฺพํ ฆฏิตพฺพํ วายมิตพฺพํ ¶ . อิทํ, มหาราช, สกฺกสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, สกฺกสฺส อนภิรติ นุปฺปชฺชติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สฺุาคาเร อนภิรติ น อุปฺปาเทตพฺพา. อิทํ, มหาราช, สกฺกสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สุภูตินา –
‘‘‘สาสเน เต มหาวีร, ยโต ปพฺพชิโต อหํ;
นาภิชานามิ อุปฺปนฺนํ, มานสํ กามสํหิต’’’นฺติ.
สกฺกงฺคปฺโห นวโม.
๑๐. จกฺกวตฺติงฺคปฺโห
๑๐. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘จกฺกวตฺติสฺส จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช ¶ , จกฺกวตฺตี จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ ชนํ สงฺคณฺหาติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน จตสฺสนฺนํ ปริสานํ มานสํ สงฺคเหตพฺพํ อนุคฺคเหตพฺพํ สมฺปหํเสตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, จกฺกวตฺติสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, จกฺกวตฺติสฺส วิชิเต โจรา น อุฏฺหนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กามราคพฺยาปาทวิหึสาวิตกฺกา น อุปฺปาเทตพฺพา. อิทํ, มหาราช, จกฺกวตฺติสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘‘‘วิตกฺกูปสเม จ โย รโต, อสุภํ ภาวยเต [ภาวยตี (สฺยา.) ธ. ป. ๓๕๐ ธมฺมปเท] สทา สโต;
เอส โข พฺยนฺติกาหิติ, เอส เฉจฺฉติ มารพนฺธน’นฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, จกฺกวตฺตี ทิวเส ทิวเส สมุทฺทปริยนฺตํ มหาปถวึ อนุยายติ กลฺยาณปาปกานิ วิจินมาโน, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมํ ทิวเส ทิวเส ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ ‘กึ นุ โข เม อิเมหิ ตีหิ าเนหิ ¶ อนุปวชฺชสฺส ทิวโส วีติวตฺตตี’ติ. อิทํ, มหาราช, จกฺกวตฺติสฺส ¶ ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน องฺคุตฺตรนิกายวเร –
‘กถมฺภูตสฺส เม รตฺตินฺทิวา วีติวตฺตนฺตีติ [วีติปตนฺตีติ (สี. ปี.)] ปพฺพชิเตน อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพ’นฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, จกฺกวตฺติสฺส อพฺภนฺตรพาหิรารกฺขา สุสํวิหิตา โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อพฺภนฺตรานํ พาหิรานํ กิเลสานํ อารกฺขาย สติโทวาริโก เปตพฺโพ. อิทํ ¶ , มหาราช, จกฺกวตฺติสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘สติโทวาริโก, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกุสลํ ปชหติ กุสลํ ภาเวติ, สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ, สุทฺธมตฺตานํ ปริหรตี’’’ติ.
จกฺกวตฺติงฺคปฺโห ทสโม.
ปถวีวคฺโค ตติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
ปถวี อาโป จ เตโช จ, วาโย จ ปพฺพเตน จ;
อากาโส จนฺทสูริโย จ, สกฺโก จ จกฺกวตฺตินาติ.
๔. อุปจิกาวคฺโค
๑. อุปจิกงฺคปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ‘อุปจิกาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, อุปจิกา อุปริ ฉทนํ กตฺวา อตฺตานํ ปิทหิตฺวา โคจราย จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สีลสํวรฉทนํ กตฺวา มานสํ ปิทหิตฺวา ปิณฺฑาย จริตพฺพํ, สีลสํวรฉทเนน โข, มหาราช, โยคี โยคาวจโร สพฺพภยสมติกฺกนฺโต โหติ. อิทํ, มหาราช, อุปจิกาย เอกํ องฺคํ ¶ คเหตพฺพํ, ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน อุปเสเนน วงฺคนฺตปุตฺเตน –
‘‘‘สีลสํวรฉทนํ, โยคี กตฺวาน มานสํ;
อนุปลิตฺโต โลเกน, ภยา จ ปริมุจฺจตี’’’ติ.
อุปจิกงฺคปฺโห ปโม.
๒. พิฬารงฺคปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘พิฬารสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, พิฬาโร คุหาคโตปิ สุสิรคโตปิ หมฺมิยนฺตรคโตปิ อุนฺทูรํ เยว ปริเยสติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน คามคเตนาปิ อรฺคเตนาปิ รุกฺขมูลคเตนาปิ สฺุาคารคเตนาปิ สตตํ สมิตํ อปฺปมตฺเตน กายคตาสติโภชนํ เยว ปริเยสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, พิฬารสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, พิฬาโร อาสนฺเน เยว โคจรํ ปริเยสติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อิเมสุ เยว ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสินา วิหริตพฺพํ ‘อิติ รูปํ อิติ รูปสฺส สมุทโย อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม, อิติ เวทนา อิติ เวทนาย สมุทโย อิติ เวทนาย อตฺถงฺคโม, อิติ สฺา อิติ สฺาย สมุทโย ¶ อิติ สฺาย อตฺถงฺคโม, อิติ สงฺขารา อิติ สงฺขารานํ สมุทโย อิติ สงฺขารานํ อตฺถงฺคโม, อิติ วิฺาณํ อิติ วิฺาณสฺส สมุทโย อิติ วิฺาณสฺส อตฺถงฺคโม’ติ. อิทํ, มหาราช, พิฬารสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘‘‘น อิโต ทูเร ภวิตพฺพํ, ภวคฺคํ กึ กริสฺสติ;
ปจฺจุปฺปนฺนมฺหิ โวหาเร, สเก กายมฺหิ วินฺทถา’’’ติ.
พิฬารงฺคปฺโห ทุติโย.
๓. อุนฺทูรงฺคปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘อุนฺทูรสฺส [อุนฺทุรสฺส (สฺยา. ก.)] เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, อุนฺทูโร อิโตจิโต จ วิจรนฺโต อาหารูปาสีสโก เยว จรติ, เอวเมว โข, มหาราช ¶ , โยคินา โยคาวจเรน อิโตจิโต จ วิจรนฺเตน โยนิโส มนสิการูปาสีสเกเนว ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อุนฺทูรสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน อุปเสเนน วงฺคนฺตปุตฺเตน –
‘‘‘ธมฺมาสีสํ [ธมฺมสีสํ (สี. ปี.)] กริตฺวาน, วิหรนฺโต วิปสฺสโก;
อโนลีโน วิหรติ, อุปสนฺโต สทา สโต’’’ติ.
อุนฺทูรงฺคปฺโห ตติโย.
๔. วิจฺฉิกงฺคปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘วิจฺฉิกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, วิจฺฉิโก นงฺคุลาวุโธ นงฺคุลํ อุสฺสาเปตฺวา จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน าณาวุเธน ภวิตพฺพํ, าณํ อุสฺสาเปตฺวา วิหริตพฺพํ ¶ . อิทํ, มหาราช, วิจฺฉิกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน อุปเสเนน วงฺคนฺตปุตฺเตน –
‘‘‘าณขคฺคํ คเหตฺวาน, วิหรนฺโต วิปสฺสโก;
ปริมุจฺจติ สพฺพภยา, ทุปฺปสโห จ โส ภเว’’’ติ.
วิจฺฉิกงฺคปฺโห จตุตฺโถ.
๕. นกุลงฺคปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘นกุลสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, นกุโล อุรคมุปคจฺฉนฺโต เภสชฺเชน กายํ ปริภาเวตฺวา อุรคมุปคจฺฉติ คเหตุํ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน โกธาฆาตพหุลํ กลหวิคฺคหวิวาทวิโรธาภิภูตํ โลกมุปคจฺฉนฺเตน เมตฺตาเภสชฺเชน มานสํ อนุลิมฺปิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, นกุลสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘ตสฺมา สกํ ปเรสมฺปิ, กาตพฺพา เมตฺตภาวนา;
เมตฺตจิตฺเตน ผริตพฺพํ, เอตํ พุทฺธาน สาสน’’’นฺติ.
นกุลงฺคปฺโห ปฺจโม.
๖. ชรสิงฺคาลงฺคปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ‘ชรสิงฺคาลสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ชรสิงฺคาโล โภชนํ ปฏิลภิตฺวา อชิคุจฺฉมาโน ยาวทตฺถํ อาหรยติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน โภชนํ ปฏิลภิตฺวา อชิคุจฺฉมาเนน สรีรยาปนมตฺตเมว ปริภฺุชิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ชรสิงฺคาลสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน มหากสฺสเปน –
‘‘‘เสนาสนมฺหา โอรุยฺห, คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสึ;
ภฺุชนฺตํ ปุริสํ กุฏฺึ, สกฺกจฺจ นํ อุปฏฺหึ.
‘‘‘โส ¶ เม ปกฺเกน หตฺเถน, อาโลปํ อุปนามยิ;
อาโลปํ ปกฺขิปนฺตสฺส, องฺคุลิเปตฺถ ฉิชฺชถ.
‘‘‘กุฏฺฏมูลฺจ นิสฺสาย, อาโลปํ ตํ อภฺุชิสํ;
ภฺุชมาเน วา ภุตฺเต วา, เชคุจฺฉํ เม น วิชฺชตี’ติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ชรสิงฺคาโล โภชนํ ปฏิลภิตฺวา น วิจินาติ ลูขํ วา ปณีตํ วาติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน โภชนํ ปฏิลภิตฺวา น วิจินิตพฺพํ ‘ลูขํ วา ปณีตํ วา สมฺปนฺนํ วา อสมฺปนฺนํ วา’ติ, ยถาลทฺเธน สนฺตุสฺสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ชรสิงฺคาลสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน อุปเสเนน วงฺคนฺตปุตฺเตน –
‘‘‘ลูเขนปิ จ สนฺตุสฺเส, นาฺํ ปตฺเถ รสํ พหุํ;
รเสสุ อนุคิทฺธสฺส, ฌาเน น รมเต [รมตี (สี. ปี.)] มโน;
อิตรีตเรน สนฺตุฏฺโ [สนฺตุฏฺเ (สี. ปี.)], สามฺํ ปริปูรตี’’’ติ.
ชรสิงฺคาลงฺคปฺโห ฉฏฺโ.
๗. มิคงฺคปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘มิคสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, มิโค ทิวา อรฺเ จรติ, รตฺตึ อพฺโภกาเส, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ทิวา อรฺเ วิหริตพฺพํ, รตฺตึ อพฺโภกาเส. อิทํ, มหาราช, มิคสฺส ¶ ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน โลมหํสนปริยาเย –
‘โส โข อหํ, สาริปุตฺต, ยา ตา รตฺติโย สีตา เหมนฺติกา อนฺตรฏฺกา หิมปาตสมยา [อนฺตรฏฺเก หิมปาตสมเย (สี. ปี. ก.)], ตถารูปาสุ รตฺตีสุ รตฺตึ อพฺโภกาเส วิหรามิ, ทิวา วนสณฺเฑ. คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเส ทิวา อพฺโภกาเส วิหรามิ, รตฺตึ วนสณฺเฑ’ติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, มิโค สตฺติมฺหิ วา สเร วา โอปตนฺเต วฺเจติ [วชฺเชติ (ก.)] ปลายติ, น กายมุปเนติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กิเลเสสุ โอปตนฺเตสุ วฺจยิตพฺพํ [วชฺชยิตพฺพํ (ก.)] ปลายิตพฺพํ, น จิตฺตมุปเนตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, มิคสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, มิโค มนุสฺเส ทิสฺวา เยน วา เตน วา ปลายติ ‘มา มํ เต อทฺทสํสู’ติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ภณฺฑนกลหวิคฺคหวิวาทสีเล ทุสฺสีเล กุสีเต สงฺคณิการาเม ทิสฺวา เยน วา เตน วา ปลายิตพฺพํ ‘มา มํ เต อทฺทสํสุ, อหฺจ เต มา อทฺทส’นฺติ. อิทํ, มหาราช, มิคสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘มา เม กทาจิ ปาปิจฺโฉ, กุสีโต หีนวีริโย;
อปฺปสฺสุโต อนาจาโร, สมฺมโต [สเมโต (สี. ปี.)] อหุ กตฺถจี’’’ติ.
มิคงฺคปฺโห สตฺตโม.
๘. โครูปงฺคปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘โครูปสฺส จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, โครูโป สกํ เคหํ น วิชหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สโก กาโย น วิชหิตพฺโพ ‘อนิจฺจุจฺฉาทนปริมทฺทนเภทนวิกิรณวิทฺธํสนธมฺโม อยํ กาโย’ติ. อิทํ, มหาราช, โครูปสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, โครูโป อาทินฺนธุโร สุขทุกฺเขน ธุรํ วหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อาทินฺนพฺรหฺมจริเยน ¶ สุขทุกฺเขน ยาว ชีวิตปริยาทานา อาปาณโกฏิกํ พฺรหฺมจริยํ จริตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, โครูปสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, โครูโป ฉนฺเทน ฆายมาโน ปานียํ ปิวติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อาจริยุปชฺฌายานํ อนุสิฏฺิ ¶ ฉนฺเทน เปเมน ปสาเทน ฆายมาเนน ปฏิคฺคเหตพฺพา. อิทํ, มหาราช, โครูปสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, โครูโป เยน เกนจิ วาหิยมาโน วหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เถรนวมชฺฌิมภิกฺขูนมฺปิ คิหิอุปาสกสฺสาปิ โอวาทานุสาสนี สิรสา สมฺปฏิจฺฉิตพฺพา. อิทํ, มหาราช, โครูปสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘ตทหุ ปพฺพชิโต สนฺโต, ชาติยา สตฺตวสฺสิโก;
โสปิ มํ อนุสาเสยฺย, สมฺปฏิจฺฉามิ มตฺถเก [มุทฺธนา (สี.)].
‘‘‘ติพฺพํ ฉนฺทฺจ เปมฺจ, ตสฺมึ ทิสฺวา อุปฏฺเป;
เปยฺยาจริยฏฺาเน, สกฺกจฺจ นํ ปุนปฺปุน’’’นฺติ.
โครูปงฺคปฺโห อฏฺโม.
๙. วราหงฺคปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘วราหสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, วราโห สนฺตตฺตกิเต [สนฺตตฺตกิเน (สี. ปี.)] คิมฺหสมเย สมฺปตฺเต อุทกํ อุปคจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน โทเสน จิตฺเต อาลุฬิตขลิตวิพฺภนฺตสนฺตตฺเต สีตลามตปณีตเมตฺตาภาวนํ อุปคนฺตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, วราหสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, วราโห จิกฺขลฺลมุทกมุปคนฺตฺวา นาสิกาย ปถวึ ขณิตฺวา โทณึ กตฺวา โทณิกาย สยติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ¶ มานเส กายํ นิกฺขิปิตฺวา อารมฺมณนฺตรคเตน สยิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, วราหสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน ปิณฺโฑลภารทฺวาเชน –
‘‘‘กาเย [กาเยน (ก.)] สภาวํ ทิสฺวาน, วิจินิตฺวา วิปสฺสโก;
เอกากิโย อทุติโย, เสติ อารมฺมณนฺตเร’’’ติ.
วราหงฺคปฺโห นวโม.
๑๐. หตฺถิงฺคปฺโห
๑๐. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘หตฺถิสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, หตฺถี นาม จรนฺโต เยว ปถวึ ทาเลติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กายํ สมฺมสมาเนเนว สพฺเพ กิเลสา ทาเลตพฺพา. อิทํ, มหาราช, หตฺถิสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, หตฺถี สพฺพกาเยเนว อปโลเกติ, อุชุกํ เยว เปกฺขติ, น ทิสาวิทิสา วิโลเกติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพกาเยน อปโลกินา ¶ ภวิตพฺพํ, น ทิสาวิทิสา วิโลเกตพฺพา, น อุทฺธํ อุลฺโลเกตพฺพํ, น อโธ โอโลเกตพฺพํ, ยุคมตฺตเปกฺขินา ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, หตฺถิสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, หตฺถี อนิพทฺธสยโน โคจรายมนุคนฺตฺวา น ตเมว เทสํ วาสตฺถมุปคจฺฉติ, น ธุวปฺปติฏฺาลโย, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อนิพทฺธสยเนน ภวิตพฺพํ, นิราลเยน ปิณฺฑาย คนฺตพฺพํ, ยทิ ปสฺสติ วิปสฺสโก มนฺุํ ปติรูปํ รุจิรเทเส ภวํ มณฺฑปํ วา รุกฺขมูลํ วา คุหํ วา ปพฺภารํ วา, ตตฺเถว วาสมุปคนฺตพฺพํ, ธุวปฺปติฏฺาลโย น กาตพฺโพ. อิทํ, มหาราช, หตฺถิสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, หตฺถี อุทกํ โอคาหิตฺวา สุจิวิมลสีตลสลิลปริปุณฺณํ กุมุทุปฺปลปทุมปุณฺฑรีกสฺฉนฺนํ มหติมหนฺตํ ¶ ปทุมสรํ โอคาหิตฺวา กีฬติ คชวรกีฬํ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สุจิวิมลวิปฺปสนฺนมนาวิลธมฺมวรวาริปุณฺณํ วิมุตฺติกุสุมสฺฉนฺนํ มหาสติปฏฺานโปกฺขรณึ โอคาหิตฺวา าเณน สงฺขารา โอธุนิตพฺพา วิธุนิตพฺพา, โยคาวจรกีฬา กีฬิตพฺพา. อิทํ, มหาราช, หตฺถิสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, หตฺถี สโต ปาทํ อุทฺธรติ, สโต ปาทํ นิกฺขิปติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สเตน สมฺปชาเนน ปาทํ อุทฺธริตพฺพํ, สเตน สมฺปชาเนน ปาทํ นิกฺขิปิตพฺพํ, อภิกฺกมปฏิกฺกเม สมิฺชนปสารเณ สพฺพตฺถ สเตน สมฺปชาเนน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, หตฺถิสฺส ¶ ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สํยุตฺตนิกายวเร –
‘‘‘กาเยน สํวโร สาธุ, สาธุ วาจาย สํวโร;
มนสา สํวโร สาธุ, สาธุ สพฺพตฺถ สํวโร;
สพฺพตฺถ สํวุโต ลชฺชี, รกฺขิโตติ ปวุจฺจตี’’’ติ.
หตฺถิงฺคปฺโห ทสโม.อุปจิกาวคฺโค จตุตฺโถ.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
อุปจิกา พิฬาโร จ, อุนฺทูโร วิจฺฉิเกน จ;
นกุโล สิงฺคาโล มิโค,
โครูโป วราโห หตฺถินา ทสาติ.
๕. สีหวคฺโค
๑. สีหงฺคปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ ¶ นาคเสน, ‘สีหสฺส สตฺต องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ สตฺต องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, สีโห นาม เสตวิมลปริสุทฺธปณฺฑโร, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เสตวิมลปริสุทฺธปณฺฑรจิตฺเตน พฺยปคตกุกฺกุจฺเจน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สีหสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สีโห จตุจรโณ วิกฺกนฺตจารี, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน จตุริทฺธิปาทจรเณน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สีหสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สีโห อภิรูปรุจิรเกสรี, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อภิรูปรุจิรสีลเกสรินา ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สีหสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สีโห ชีวิตปริยาทาเนปิ น กสฺสจิ โอนมติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารปริยาทาเนปิ น กสฺสจิ โอนมิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สีหสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สีโห สปทานภกฺโข ยสฺมึ โอกาเส นิปตติ, ตตฺเถว ยาวทตฺถํ ภกฺขยติ, น วรมํสํ วิจินาติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สปทานภกฺเขน ภวิตพฺพํ, น กุลานิ วิจินิตพฺพานิ, น ปุพฺพเคหํ หิตฺวา กุลานิ อุปสงฺกมิตพฺพานิ, น โภชนํ วิจินิตพฺพํ, ยสฺมึ โอกาเส กพฬํ อาทียติ, ตสฺมึ เยว โอกาเส ¶ ภฺุชิตพฺพํ สรีรยาปนตฺถํ [สรีรยาปนมตฺตํ (สี. ปี.)], น วรโภชนํ วิจินิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สีหสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สีโห อสนฺนิธิภกฺโข, สกึ โคจรํ ภกฺขยิตฺวา น ปุน ตํ อุปคจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อสนฺนิธิการปริโภคินา ¶ ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สีหสฺส ฉฏฺํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ ¶ , มหาราช, สีโห โภชนํ อลทฺธา น ปริตสฺสติ, ลทฺธาปิ โภชนํ อคธิโต [อคถิโต (สี.)] อมุจฺฉิโต อนชฺโฌสนฺโน ปริภฺุชติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน โภชนํ อลทฺธา น ปริตสฺสิตพฺพํ, ลทฺธาปิ โภชนํ อคธิเตน อมุจฺฉิเตน อนชฺโฌสนฺเนน อาทีนวทสฺสาวินา นิสฺสรณปฺเน ปริภฺุชิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สีหสฺส สตฺตมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สํยุตฺตนิกายวเร เถรํ มหากสฺสปํ ปริกิตฺตยมาเนน –
‘สนฺตุฏฺโยํ, ภิกฺขเว, กสฺสโป อิตรีตเรน ปิณฺฑปาเตน, อิตรีตรปิณฺฑปาตสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที, น จ ปิณฺฑปาตเหตุ อเนสนํ อปฺปติรูปํ อาปชฺชติ, อลทฺธา จ ปิณฺฑปาตํ น ปริตสฺสติ, ลทฺธา จ ปิณฺฑปาตํ อคธิโต อมุจฺฉิโต อนชฺโฌสนฺโน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปฺโ ปริภฺุชตี’’’ติ.
สีหงฺคปฺโห ปโม.
๒. จกฺกวากงฺคปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘จกฺกวากสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานีติ’’? ‘‘ยถา, มหาราช, จกฺกวาโก ยาว ชีวิตปริยาทานา ทุติยิกํ น วิชหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ยาว ชีวิตปริยาทานา โยนิโส มนสิกาโร น วิชหิตพฺโพ. อิทํ, มหาราช, จกฺกวากสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, จกฺกวาโก เสวาลปณกภกฺโข, เตน จ สนฺตุฏฺึ อาปชฺชติ, ตาย จ สนฺตุฏฺิยา พเลน จ วณฺเณน จ น ปริหายติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ยถาลาภสนฺโตโส กรณีโย, ยถาลาภสนฺตุฏฺโ โข, มหาราช, โยคี โยคาวจโร น ปริหายติ สีเลน, น ปริหายติ สมาธินา, น ¶ ปริหายติ ปฺาย, น ปริหายติ วิมุตฺติยา, น ปริหายติ วิมุตฺติาณทสฺสเนน, น ปริหายติ สพฺเพหิ กุสเลหิ ธมฺเมหิ. อิทํ, มหาราช, จกฺกวากสฺส ¶ ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, จกฺกวาโก ปาเณ น วิเหยติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน นิหิตทณฺเฑน นิหิตสตฺเถน ลชฺชินา ทยาปนฺเนน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปินา ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, จกฺกวากสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน จกฺกวากชาตเก –
‘‘‘โย น หนฺติ น ฆาเตติ, น ชินาติ น ชาปเย;
เมตฺตํโส [อหึสา (สี. ปี.)] สพฺพภูเตสุ, เวรํ ตสฺส น เกนจี’’’ติ.
จกฺกวากงฺคปฺโห ทุติโย.
๓. เปณาหิกงฺคปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘เปณาหิกาย ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, เปณาหิกา สกปติมฺหิ อุสูยาย ฉาปเก น โปสยติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สกมเน [สกมโน (ก.)] กิเลเส อุปฺปนฺเน อุสูยายิตพฺพํ, สติปฏฺาเนน สมฺมาสํวรสุสิเร ปกฺขิปิตฺวา มโนทฺวาเร กายคตาสติ ภาเวตพฺพา. อิทํ, มหาราช, เปณาหิกาย ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, เปณาหิกา ปวเน ทิวสํ โคจรํ จริตฺวา สายํ ปกฺขิคณํ อุเปติ อตฺตโน คุตฺติยา, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เอกเกน ปวิเวกํ เสวิตพฺพํ สํโยชนปริมุตฺติยา, ตตฺร รตึ อลภมาเนน อุปวาทภยปริรกฺขณาย สงฺฆํ โอสริตฺวา ¶ สงฺฆรกฺขิเตน วสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, เปณาหิกาย ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, พฺรหฺมุนา สหมฺปตินา ภควโต สนฺติเก –
‘‘‘เสเวถ ¶ ปนฺตานิ เสนาสนานิ, จเรยฺย สํโยชนวิปฺปโมกฺขา;
สเจ รตึ นาธิคจฺเฉยฺย ตตฺถ, สงฺเฆ วเส รกฺขิตตฺโต สตีมา’’’ติ.
เปณาหิกงฺคปฺโห ตติโย.
๔. ฆรกโปตงฺคปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘ฆรกโปตสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ฆรกโปโต ปรเคเห วสมาโน น เตสํ กิฺจิ ภณฺฑสฺส นิมิตฺตํ คณฺหาติ, มชฺฌตฺโต วสติ สฺาพหุโล, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปรกุลํ อุปคเตน ตสฺมึ กุเล อิตฺถีนํ วา ปุริสานํ วา มฺเจ วา ปีเ วา วตฺเถ วา อลงฺกาเร วา อุปโภเค วา ปริโภเค วา โภชนวิกตีสุ วา น นิมิตฺตํ คเหตพฺพํ, มชฺฌตฺเตน ภวิตพฺพํ, สมณสฺา ปจฺจุปฏฺเปตพฺพา. อิทํ, มหาราช, ฆรกโปตสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน จูฬนารทชาตเก –
‘‘‘ปวิสิตฺวา ปรกุลํ, ปานตฺถํ โภชนาย วา [ปาเนสุ โภชเนสุ วา (สี. ปี.)];
มิตํ ขาเท มิตํ ภฺุเช, น จ รูเป มนํ กเร’’’ติ.
ฆรกโปตงฺคปฺโห จตุตฺโถ.
๕. อุลูกงฺคปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘อุลูกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, อุลูโก กาเกหิ ปฏิวิรุทฺโธ, รตฺตึ กากสงฺฆํ คนฺตฺวา พหูปิ กาเก หนติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อฺาเณน ¶ ปฏิวิรุทฺโธ กาตพฺโพ, เอเกน รโห นิสีทิตฺวา อฺาณํ สมฺปมทฺทิตพฺพํ, มูลโต ฉินฺทิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อุลูกสฺส ปมํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, อุลูโก สุปฺปฏิสลฺลีโน โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปฏิสลฺลานาราเมน ภวิตพฺพํ ปฏิสลฺลานรเตน. อิทํ, มหาราช, อุลูกสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สํยุตฺตนิกายวเร –
‘‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฏิสลฺลานาราโม ปฏิสลฺลานรโต ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถา ภูถํ ปชานาติ ¶ , ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาตี’’’ติ.
อุลูกงฺคปฺโห ปฺจโม.
๖. สตปตฺตงฺคปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘สตปตฺตสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, สตปตฺโต รวิตฺวา ปเรสํ เขมํ วา ภยํ วา อาจิกฺขติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปเรสํ ธมฺมํ เทสยมาเนน วินิปาตํ ภยโต ทสฺสยิตพฺพํ, นิพฺพานํ เขมโต ทสฺสยิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สตปตฺตสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน ปิณฺโฑลภารทฺวาเชน –
‘‘‘นิรเย ภยสนฺตาสํ, นิพฺพาเน วิปุลํ สุขํ;
อุภยาเนตานตฺถานิ ทสฺเสตพฺพานิ โยคินา’’’ติ.
สตปตฺตงฺคปฺโห ฉฏฺโ.
๗. วคฺคุลิงฺคปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘วคฺคุลิสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, วคฺคุลิ เคหํ ปวิสิตฺวา วิจริตฺวา นิกฺขมติ, น ตตฺถ ปลิพุทฺธติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน คามํ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา สปทานํ วิจริตฺวา ¶ ปฏิลทฺธลาเภน ขิปฺปเมว นิกฺขมิตพฺพํ, น ตตฺถ ปลิพุทฺเธน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, วคฺคุลิสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, วคฺคุลิ ปรเคเห วสมาโน น เตสํ ปริหานึ กโรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กุลานิ อุปสงฺกมิตฺวา อติยาจนาย วา วิฺตฺติพหุลตาย วา กายโทสพหุลตาย วา อติภาณิตาย วา สมานสุขทุกฺขตาย วา น เตสํ โกจิ วิปฺปฏิสาโร กรณีโย, นปิ เตสํ มูลกมฺมํ ปริหาเปตพฺพํ, สพฺพถา วฑฺฒิ เยว อิจฺฉิตพฺพา. อิทํ, มหาราช, วคฺคุลิสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ¶ เทวาติเทเวน ทีฆนิกายวเร ลกฺขณสุตฺตนฺเต –
‘‘‘สทฺธาย สีเลน สุเตน พุทฺธิยา, จาเคน ธมฺเมน พหูหิ สาธุหิ;
ธเนน ธฺเน จ เขตฺตวตฺถุนา, ปุตฺเตหิ ทาเรหิ จตุปฺปเทหิ จ.
‘‘‘าตีหิ มิตฺเตหิ จ พนฺธเวหิ, พเลน วณฺเณน สุเขน จูภยํ;
กถํ น หาเยยฺยุํ ปเรติ อิจฺฉติ, อตฺถสมิทฺธิฺจ ปนาภิกงฺขตี’’’ติ.
วคฺคุลิงฺคปฺโห สตฺตโม.
๘. ชลูกงฺคปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘ชลูกาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ชลูกา ยตฺถ อลฺลียติ, ตตฺเถว ทฬฺหํ อลฺลียิตฺวา รุหิรํ ปิวติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ยสฺมึ อารมฺมเณ ¶ จิตฺตํ อลฺลียติ, ตํ อารมฺมณํ วณฺณโต จ สณฺานโต จ ทิสโต จ โอกาสโต จ ปริจฺเฉทโต จ ลิงฺคโต จ นิมิตฺตโต จ ทฬฺหํ ปติฏฺาเปตฺวา เตเนวารมฺมเณน วิมุตฺติรสมเสจนกํ ปาตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ชลูกาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน อนุรุทฺเธน –
‘‘‘ปริสุทฺเธน ¶ จิตฺเตน, อารมฺมเณ ปติฏฺาย;
เตน จิตฺเตน ปาตพฺพํ, วิมุตฺติรสมเสจน’’’นฺติ.
ชลูกงฺคปฺโห อฏฺโม.
๙. สปฺปงฺคปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘สปฺปสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, สปฺโป อุเรน คจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปฺาย จริตพฺพํ, ปฺาย จรมานสฺส โข, มหาราช, โยคิโน จิตฺตํ าเย จรติ, วิลกฺขณํ วิวชฺเชติ, สลกฺขณํ ภาเวติ. อิทํ, มหาราช ¶ , สปฺปสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สปฺโป จรมาโน โอสธํ ปริวชฺเชนฺโต จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ทุจฺจริตํ ปริวชฺเชนฺเตน จริตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สปฺปสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สปฺโป มนุสฺเส ทิสฺวา ตปฺปติ [มนุสฺสํ ทิสฺวา กมฺปติ (ก.)] โสจติ จินฺตยติ, เอวเมว โข มหาราช โยคินา โยคาวจเรน กุวิตกฺเก, วิตกฺเกตฺวา อรตึ อุปฺปาทยิตฺวา ตปฺปิตพฺพํ โสจิตพฺพํ จินฺตยิตพฺพํ ‘ปมาเทน เม ทิวโส วีตินามิโต, น โส ปุน สกฺกา ลทฺธุ’นฺติ. อิทํ, มหาราช, สปฺปสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ภลฺลาฏิยชาตเก ทฺวินฺนํ กินฺนรานํ –
‘‘‘มเยกรตฺตํ ¶ [ยเมกรตฺตึ (สี. ปี.)] วิปฺปวสิมฺห ลุทฺท, อกามกา อฺมฺํ สรนฺตา;
ตเมกรตฺตํ [ตเมกรตฺตึ (สี. ปี.)] อนุตปฺปมานา, โสจาม ‘สา รตฺติ ปุน นเหสฺสตี’’’ติ.
สปฺปงฺคปฺโห นวโม.
๑๐. อชครงฺคปฺโห
๑๐. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘อชครสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, อชคโร มหติมหากาโย พหูปิ ทิวเส อูนูทโร ทีนตโร กุจฺฉิปูรํ อาหารํ น ลภติ, อปริปุณฺโณ เยว ยาวเทว สรีรยาปนมตฺตเกน ยาเปติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคิโน โยคาวจรสฺส ภิกฺขาจริยปฺปสุตสฺส ปรปิณฺฑมุปคตสฺส ปรทินฺนปฺปาฏิกงฺขิสฺส สยํคาหปฺปฏิวิรตสฺส ทุลฺลภํ อุทรปริปูรํ อาหารํ, อปิ จ อตฺถวสิเกน กุลปุตฺเตน จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป อภฺุชิตฺวา อวเสสํ อุทเกน ปริปูเรตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อชครสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘อลฺลํ ¶ สุกฺขํ วา ภฺุชนฺโต, น พาฬฺหํ สุหิโต สิยา;
อูนูทโร มิตาหาโร, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช.
‘‘‘จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป, อภุตฺวา อุทกํ ปิเว;
อลํ ผาสุ วิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน’’’ติ.
อชครงฺคปฺโห ทสโม.
สีหวคฺโค ปฺจโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
เกสรี จกฺกวาโก จ, เปณาหิ ฆรกโปตโก;
อุลูโก สตปตฺโต จ, วคฺคุลิ จ ชลูปิกา;
สปฺโป อชคโร เจว, วคฺโค เตน ปวุจฺจตีติ.
๖. มกฺกฏกวคฺโค
๑. ปนฺถมกฺกฏกงฺคปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ‘ปนฺถมกฺกฏกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ปนฺถมกฺกฏโก ปนฺเถ มกฺกฏชาลวิตานํ กตฺวา ยทิ ตตฺถ ชาลเก ลคฺคติ กิมิ วา มกฺขิกา วา ปฏงฺโค วา, ตํ คเหตฺวา ภกฺขยติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ฉสุ ทฺวาเรสุ สติปฏฺานชาลวิตานํ กตฺวา ยทิ ตตฺถ กิเลสมกฺขิกา พชฺฌนฺติ, ตตฺเถว ฆาเตตพฺพา. อิทํ, มหาราช, ปนฺถมกฺกฏกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน อนุรุทฺเธน –
‘‘‘จิตฺตํ นิยเม ฉสุ ทฺวาเรสุ, สติปฏฺานวรุตฺตเม;
กิเลสา ตตฺถ ลคฺคา เจ, หนฺตพฺพา เต วิปสฺสินา’’’ติ.
ปนฺถมกฺกฏกงฺคปฺโห ปโม.
๒. ถนสฺสิตทารกงฺคปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘ถนสฺสิตทารกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ ¶ ? ‘‘ยถา, มหาราช, ถนสฺสิตทารโก สทตฺเถ ลคฺคติ, ขีรตฺถิโก โรทติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สทตฺเถ ลคฺคิตพฺพํ, สพฺพตฺถ ธมฺมาเณน ภวิตพฺพํ, อุทฺเทเส ปริปุจฺฉาย สมฺมปฺปโยเค ปวิเวเก ครุสํวาเส กลฺยาณมิตฺตเสวเน. อิทํ, มหาราช, ถนสฺสิตทารกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน ทีฆนิกายวเร ปรินิพฺพานสุตฺตนฺเต –
‘‘‘อิงฺฆํ ¶ ตุมฺเห, อานนฺท, สารตฺเถ [สทตฺเถ (สี. ปี.)] ฆฏถ, สารตฺเถ อนุยฺุชถ;
สารตฺเถ อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรถา’’’ติ.
ถนสฺสิตทารกงฺคปฺโห ทุติโย.
๓. จิตฺตกธรกุมฺมงฺคปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘จิตฺตกธรกุมฺมสฺส [จิตฺตกถลกุมฺมสฺส (สี. ปี.)] เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, จิตฺตกธรกุมฺโม อุทกภยา อุทกํ ปริวชฺเชตฺวา วิจรติ, ตาย จ ปน อุทกํ ปริวชฺชนาย อายุนา น ปริหายติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปมาเท ภยทสฺสาวินา ภวิตพฺพํ, อปฺปมาเท คุณวิเสสทสฺสาวินา. ตาย จ ปน ภยทสฺสาวิตาย น ปริหายติ สามฺา, นิพฺพานสฺส สนฺติเก อุเปติ [เปติ (ก.)]. อิทํ, มหาราช, จิตฺตกธรกุมฺมสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน ธมฺมปเท –
‘‘‘อปฺปมาทรโต ภิกฺขุ, ปมาเท ภยทสฺสิ วา;
อภพฺโพ ปริหานาย, นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก’’’ติ.
จิตฺตกธรกุมฺมงฺคปฺโห จตุตฺโถ.
๔. ปวนงฺคปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘ปวนสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ปวนํ นาม อสุจิชนํ ปฏิจฺฉาเทติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปเรสํ อปรทฺธํ ขลิตํ ปฏิจฺฉาเทตพฺพํ น วิวริตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปวนสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปวนํ สฺุํ ปจุรชเนหิ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ¶ ¶ ราคโทสโมหมานทิฏฺิชาเลหิ สพฺเพหิ จ กิเลเสหิ สฺุเน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปวนสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปวนํ วิวิตฺตํ ชนสมฺพาธรหิตํ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อนริเยหิ ปวิวิตฺเตน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปวนสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, ปวนํ สนฺตํ ปริสุทฺธํ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สนฺเตน ปริสุทฺเธน ภวิตพฺพํ, นิพฺพุเตน ปหีนมาเนน ปหีนมกฺเขน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปวนสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปวนํ อริยชนสํเสวิตํ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อริยชนสํเสวิเตน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปวนสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สํยุตฺตนิกายวเร –
‘‘‘ปวิวิตฺเตหิ อริเยหิ, ปหิตตฺเตหิ ฌายิภิ;
นิจฺจํ อารทฺธวีริเยหิ, ปณฺฑิเตหิ สหาวเส’’’ติ.
ปวนงฺคปฺโห จตุตฺโถ.
๕. รุกฺขงฺคปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘รุกฺขสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, รุกฺโข นาม ปุปฺผผลธโร, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน วิมุตฺติปุปฺผสามฺผลธารินา ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, รุกฺขสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, รุกฺโข อุปคตานมนุปฺปวิฏฺานํ ชนานํ ฉายํ เทติ, เอวเมว โข ¶ , มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อุปคตานมนุปฺปวิฏฺานํ ปุคฺคลานํ อามิสปฺปฏิสนฺธาเรน วา ธมฺมปฺปฏิสนฺถาเรน วา ปฏิสนฺถริตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, รุกฺขสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, รุกฺโข ฉายาเวมตฺตํ ¶ น กโรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพสตฺเตสุ เวมตฺตตา น กาตพฺพา, โจรวธกปจฺจตฺถิเกสุปิ อตฺตนิปิ สมสมา เมตฺตาภาวนา กาตพฺพา, ‘กินฺติ อิเม สตฺตา อเวรา อพฺยาปชฺชา [อพฺยาปชฺฌา (สี.)] อนีฆา สุขี อตฺตานํ ปริหเรยฺยุ’นฺติ. อิทํ, มหาราช, รุกฺขสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘วธเก ¶ เทวทตฺตมฺหิ, โจเร องฺคุลิมาลเก;
ธนปาเล ราหุเล จ, สพฺพตฺถ สมโก มุนี’’’ติ.
รุกฺขงฺคปฺโห ปฺจโม.
๖. เมฆงฺคปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘เมฆสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, เมโฆ อุปฺปนฺนํ รโชชลฺลํ วูปสเมติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อุปฺปนฺนํ กิเลสรโชชลฺลํ วูปสเมตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, เมฆสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, เมโฆ ปถวิยา อุณฺหํ นิพฺพาเปติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เมตฺตาภาวนาย สเทวโก โลโก นิพฺพาเปตพฺโพ. อิทํ, มหาราช, เมฆสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, เมโฆ สพฺพพีชานิ วิรุหาเปติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพสตฺตานํ สทฺธํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ สทฺธาพีชํ ตีสุ สมฺปตฺตีสุ โรเปตพฺพํ, ทิพฺพมานุสิกาสุ สุขสมฺปตฺตีสุ ยาวปรมตฺถนิพฺพานสุขสมฺปตฺติ. อิทํ, มหาราช, เมฆสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, เมโฆ อุตุโต สมุฏฺหิตฺวา ธรณิตลรุเห ติณรุกฺขลตาคุมฺพโอสธิวนปฺปตโย ปริรกฺขติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน โยนิโส มนสิการํ นิพฺพตฺเตตฺวา เตน โยนิโส มนสิกาเรน สมณธมฺโม ปริรกฺขิตพฺโพ, โยนิโส มนสิการมูลกา สพฺเพ กุสลา ธมฺมา. อิทํ, มหาราช, เมฆสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ ¶ , มหาราช, เมโฆ วสฺสมาโน นทิตฬากโปกฺขรณิโย กนฺทรปทรสรโสพฺภอุทปานานิ จ ปริปูเรติ อุทกธาราหิ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อาคมปริยตฺติยา ธมฺมเมฆมภิวสฺสยิตฺวา อธิคมกามานํ มานสํ ปริปูรยิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, เมฆสฺส ¶ ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘โพธเนยฺยํ ชนํ ทิสฺวา, สตสหสฺเสปิ โยชเน;
ขเณน อุปคนฺตฺวาน, โพเธติ ตํ มหามุนี’’’ติ.
เมฆงฺคปฺโห ฉฏฺโ.
๗. มณิรตนงฺคปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘มณิรตนสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, มณิรตนํ เอกนฺตปริสุทฺธํ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เอกนฺตปริสุทฺธาชีเวน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, มณิรตนสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, มณิรตนํ น เกนจิ สทฺธึ มิสฺสียติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปาเปหิ ปาปสหาเยหิ สทฺธึ น มิสฺสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, มณิรตนสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, มณิรตนํ ชาติรตเนหิ โยชียติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา ¶ โยคาวจเรน อุตฺตมวรชาติมนฺเตหิ สทฺธึ สํวสิตพฺพํ, ปฏิปนฺนกผลฏฺเสกฺขผลสมงฺคีหิ โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิอรหนฺตเตวิชฺชฉฬภิฺสมณมณิรตเนหิ สทฺธึ สํวสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, มณิรตนสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สุตฺตนิปาเต –
‘‘‘สุทฺธา สุทฺเธหิ สํวาสํ, กปฺปยวฺโห ปติสฺสตา;
ตโต สมคฺคา นิปกา, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสถา’’’ติ.
มณิรตนปฺโห สตฺตโม.
๘. มาควิกงฺคปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘มาควิกสฺส จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, มาควิโก ¶ อปฺปมิทฺโธ โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อปฺปมิทฺเธน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, มาควิกสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, มาควิโก มิเคสุ เยว จิตฺตํ อุปนิพนฺธติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อารมฺมเณสุ เยว จิตฺตํ อุปนิพนฺธิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, มาควิกสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, มาควิโก กาลํ กมฺมสฺส ชานาติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปฏิสลฺลานสฺส กาโล ชานิตพฺโพ ‘อยํ กาโล ปฏิสลฺลานสฺส, อยํ กาโล นิกฺขมนายา’ติ. อิทํ, มหาราช, มาควิกสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, มาควิโก มิคํ ทิสฺวา หาสมภิชเนติ ‘อิมํ ลจฺฉามี’ติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อารมฺมเณ อภิรมิตพฺพํ, หาสมภิชเนตพฺพํ ‘อุตฺตรึ วิเสสมธิคจฺฉิสฺสามี’ติ. อิทํ, มหาราช, มาควิกสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ มหาราช เถเรน โมฆราเชน –
‘‘‘อารมฺมเณ ¶ ลภิตฺวาน, ปหิตตฺเตน ภิกฺขุนา;
ภิยฺโย หาโส ชเนตพฺโพ, อธิคจฺฉิสฺสามิ อุตฺตริ’’’นฺติ.
มาควิกงฺคปฺโห อฏฺโม.
๙. พาฬิสิกงฺคปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘พาฬิสิกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, พาฬิสิโก พฬิเสน มจฺเฉ อุทฺธรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน าเณน อุตฺตรึ สามฺผลานิ อุทฺธริตพฺพานิ. อิทํ, มหาราช, พาฬิสิกสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, พาฬิสิโก ปริตฺตกํ วธิตฺวา วิปุลํ ลาภมธิคจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา ¶ โยคาวจเรน ปริตฺตโลกามิสมตฺตํ ปริจฺจชิตพฺพํ. โลกามิสมตฺตํ, มหาราช, ปริจฺจชิตฺวา โยคี โยคาวจโร วิปุลํ สามฺผลํ อธิคจฺฉติ. อิทํ, มหาราช, พาฬิสิกสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน ราหุเลน –
‘‘‘สฺุตฺจานิมิตฺตฺจ, วิโมกฺขฺจาปฺปณิหิตํ;
จตุโร ผเล ฉฬภิฺา, จชิตฺวา โลกามิสํ ลเภ’’’ติ.
พาฬิสิกงฺคปฺโห นวโม.
๑๐. ตจฺฉกงฺคปฺโห
๑๐. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘ตจฺฉกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ตจฺฉโก กาฬสุตฺตํ อนุโลเมตฺวา รุกฺขํ ตจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ชินสาสนมนุโลมยิตฺวา สีลปถวิยํ ¶ ปติฏฺหิตฺวา สทฺธาหตฺเถน ปฺาวาสึ คเหตฺวา กิเลสา ตจฺเฉตพฺพา. อิทํ, มหาราช, ตจฺฉกสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ตจฺฉโก เผคฺคุํ อปหริตฺวา สารมาทิยติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สสฺสตํ อุจฺเฉทํ ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ ตทุตฺตมํ อฺทุตฺตมํ อกตมภพฺพํ อปุริสการํ อพฺรหฺมจริยวาสํ สตฺตวินาสํ นวสตฺตปาตุภาวํ สงฺขารสสฺสตภาวํ โย กโรติ, โส ปฏิสํเวเทติ, อฺโ กโรติ, อฺโ ปฏิสํเวเทติ, กมฺมผลทสฺสนา จ กิริยผลทิฏฺิ จ อิติ เอวรูปานิ เจว อฺานิ จ วิวาทปถานิ อปเนตฺวา สงฺขารานํ สภาวํ ปรมสฺุตํ นิรีหนิชฺชีวตํ [นิสตฺตนิชีวตํ (ก.)] อจฺจนฺตํ สฺุตํ อาทิยิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ตจฺฉกสฺส ทุติยํ ¶ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สุตฺตนิปาเต –
‘‘‘การณฺฑวํ ¶ นิทฺธมถ, กสมฺพุํ อปกสฺสถ;
ตโต ปลาเป วาเหถ, อสฺสมเณ สมณมานิเน.
‘‘‘นิทฺธมิตฺวาน ปาปิจฺเฉ, ปาปอาจารโคจเร;
สุทฺธา สุทฺเธหิ สํวาสํ, กปฺปยวฺโห ปติสฺสตา;
ตโต สมคฺคา นิปกา, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสถา’’’ติ.
ตจฺฉกงฺคปฺโห ทสโม.
มกฺกฏกวคฺโค ฉฏฺโ.
ตสฺสุทฺทานํ –
มกฺกโฏ ทารโก กุมฺโม, วนํ รุกฺโข จ ปฺจโม;
เมโฆ มณิ มาควิโก, พาฬิสี ตจฺฉเกน จาติ.
๗. กุมฺภวคฺโค
๑. กุมฺภงฺคปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ‘กุมฺภสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, กุมฺโภ สมฺปุณฺโณ น สณติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อาคเม อธิคเม ปริยตฺติยํ สามฺเ ปารมึ ปตฺวา น สณิตพฺพํ, น เตน มาโน กรณีโย, น ทพฺโพ [ทปฺโป (สี.)] ทสฺเสตพฺโพ, นิหตมาเนน นิหตทพฺเพน ภวิตพฺพํ, อุชุเกน อมุขเรน อวิกตฺถินา. อิทํ, มหาราช, กุมฺภสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สุตฺตนิปาเต –
‘‘‘ยทูนกํ ตํ สณติ, ยํ ปูรํ สนฺตเมว ตํ;
อฑฺฒกุมฺภูปโม [ริตฺตกุมฺภูปโม (สี.)] พาโล, รหโท ปูโรว ปณฺฑิโต’’’ติ.
กุมฺภงฺคปฺโห ปโม.
๒. กาฬายสงฺคปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘กาฬายสสฺส [กาฬหํสสฺส (ก.)] ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ ¶ ? ‘‘ยถา, มหาราช, กาฬายโส สุปีโต [สุถิโต (ก.)] วมติ [วหติ (สฺยา. ก.)], เอวเมว โข, มหาราช, โยคิโน โยคาวจรสฺส มานสํ โยนิโส มนสิกาเรน [โยนิโส มนสิกาเร (สี. สฺยา. ก.)] อปีตํ วมติ. อิทํ, มหาราช, กาฬายสสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, กาฬายโส สกึ ปีตํ อุทกํ น วมติ, เอวเมว โข, มหาราช ¶ , โยคินา โยคาวจเรน โย สกึ อุปฺปนฺโน ปสาโท, น ปุน โส วมิตพฺโพ ‘อุฬาโร โส ภควา สมฺมาสมฺพุทฺโธ, สฺวากฺขาโต ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆ’ติ. ‘รูปํ อนิจฺจํ, เวทนา อนิจฺจา, สฺา อนิจฺจา, สงฺขารา อนิจฺจา, วิฺาณํ อนิจฺจนฺติ ยํ สกึ อุปฺปนฺนํ าณํ, น ปุน ตํ วมิตพฺพํ. อิทํ ¶ , มหาราช, กาฬายสสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘‘‘ทสฺสนมฺหิ ปริโสธิโต [ปริโสธิเก (สี. ก.)] นโร, อริยธมฺเม นิยโต วิเสสคู;
นปฺปเวธติ อเนกภาคโส, สพฺพโส จ มุขภาวเมว โส’’’ติ.
กาฬายสงฺคปฺโห ทุติโย.
๓. ฉตฺตงฺคปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘ฉตฺตสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ฉตฺตํ อุปริ มุทฺธนิ จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กิเลสานํ อุปริ มุทฺธนิ จเรน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ฉตฺตสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ฉตฺตํ มุทฺธนุปตฺถมฺภํ โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน โยนิโส มนสิการุปตฺถมฺเภน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ฉตฺตสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ฉตฺตํ วาตาตปเมฆวุฏฺิโย ปฏิหนติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน นานาวิธทิฏฺิปุถุสมณพฺราหฺมณานํ [มหาวาต (ก.)] มตวาตติวิธคฺคิสนฺตาปกิเลสวุฏฺิโย ปฏิหนฺตพฺพา ¶ . อิทํ, มหาราช, ฉตฺตสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘ยถาปิ ฉตฺตํ วิปุลํ, อจฺฉิทฺทํ ถิรสํหิตํ;
วาตาตปํ นิวาเรติ, มหตี เมฆวุฏฺิโย.
‘‘‘ตเถว ¶ พุทฺธปุตฺโตปิ, สีลฉตฺตธโร สุจิ;
กิเลสวุฏฺึ วาเรติ, สนฺตาปติวิธคฺคโย’’’ติ.
ฉตฺตงฺคปฺโห ตติโย.
๔. เขตฺตงฺคปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘เขตฺตสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, เขตฺตํ มาติกาสมฺปนฺนํ โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สุจริตวตฺตปฺปฏิวตฺตมาติกาสมฺปนฺเนน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, เขตฺตสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, เขตฺตํ มริยาทาสมฺปนฺนํ โหติ, ตาย จ มริยาทาย อุทกํ รกฺขิตฺวา ธฺํ ปริปาเจติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สีลหิริมริยาทาสมฺปนฺเนน ภวิตพฺพํ, ตาย จ สีลหิริมริยาทาย สามฺํ รกฺขิตฺวา จตฺตาริ สามฺผลานิ คเหตพฺพานิ. อิทํ, มหาราช, เขตฺตสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, เขตฺตํ อุฏฺานสมฺปนฺนํ โหติ, กสฺสกสฺส หาสชนกํ อปฺปมฺปิ พีชํ วุตฺตํ พหุ โหติ, พหุ วุตฺตํ พหุตรํ โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อุฏฺานสมฺปนฺเนน วิปุลผลทายินา ภวิตพฺพํ, ทายกานํ หาสชนเกน ภวิตพฺพํ, ยถา อปฺปํ ทินฺนํ พหุ โหติ, พหุ ทินฺนํ พหุตรํ โหติ. อิทํ, มหาราช, เขตฺตสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน อุปาลินา วินยธเรน –
‘‘‘เขตฺตูปเมน ภวิตพฺพํ, อุฏฺานวิปุลทายินา;
เอส เขตฺตวโร นาม, โย ททาติ วิปุลํ ผล’’’นฺติ.
เขตฺตงฺคปฺโห จตุตฺโถ.
๕. อคทงฺคปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ‘อคทสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, อคเท กิมี น สณฺหนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน มานเส กิเลสา น สณฺเปตพฺพา. อิทํ, มหาราช, อคทสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, อคโท ทฏฺผุฏฺทิฏฺอสิตปีตขายิตสายิตํ สพฺพํ วิสํ ปฏิหนติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ราคโทสโมหมานทิฏฺิวิสํ สพฺพํ ปฏิหนิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อคทสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘‘‘สงฺขารานํ สภาวตฺถํ, ทฏฺุกาเมน โยคินา;
อคเทเนว โหตพฺพํ, กิเลสวิสนาสเน’’’ติ.
อคทงฺคปฺโห ปฺจโม.
๖. โภชนงฺคปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘โภชนสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, โภชนํ สพฺพสตฺตานํ อุปตฺถมฺโภ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพสตฺตานํ มคฺคุปตฺถมฺเภน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, โภชนสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, โภชนํ สพฺพสตฺตานํ พลํ วฑฺเฒติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปฺุวฑฺฒิยา วฑฺฒิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, โภชนสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, โภชนํ สพฺพสตฺตานํ อภิปตฺถิตํ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพโลกาภิปตฺถิเตน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, โภชนสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน มหาโมคฺคลฺลาเนน –
‘‘‘สํยเมน ¶ นิยเมน, สีเลน ปฏิปตฺติยา;
ปตฺถิเตน ภวิตพฺพํ, สพฺพโลกสฺส โยคินา’’’ติ.
โภชนงฺคปฺโห ฉฏฺโ.
๗. อิสฺสาสงฺคปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘อิสฺสาสสฺส จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, อิสฺสาโส สเร ปาตยนฺโต อุโภ ปาเท ปถวิยํ ทฬฺหํ ปติฏฺาเปติ, ชณฺณุอเวกลฺลํ กโรติ, สรกลาปํ กฏิสนฺธิมฺหิ เปติ, กายํ อุปตฺถทฺธํ กโรติ, ทฺเว หตฺเถ สนฺธิฏฺานํ อาโรเปติ, มุฏฺึ ปีฬยติ, องฺคุลิโย นิรนฺตรํ กโรติ, คีวํ ปคฺคณฺหาติ, จกฺขูนิ มุขฺจ ปิทหติ, นิมิตฺตํ อุชุํ กโรติ, หาสมุปฺปาเทติ ‘วิชฺฌิสฺสามี’ติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สีลปถวิยํ วีริยปาเท ปติฏฺาเปตพฺพํ, ขนฺติโสรจฺจํ อเวกลฺลํ กาตพฺพํ, สํวเร จิตฺตํ เปตพฺพํ, สํยมนิยเม อตฺตา อุปเนตพฺโพ, อิจฺฉา มุจฺฉา ปีฬยิตพฺพา, โยนิโส มนสิกาเร จิตฺตํ นิรนฺตรํ กาตพฺพํ, วีริยํ ปคฺคเหตพฺพํ, ฉ ทฺวารา ปิทหิตพฺพา, สติ อุปฏฺเปตพฺพา, หาสมุปฺปาเทตพฺพํ ‘สพฺพกิเลเส าณนาราเจน วิชฺฌิสฺสามี’ติ. อิทํ, มหาราช, อิสฺสาสสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อิสฺสาโส อาฬกํ ปริหรติ วงฺกชิมฺหกุฏิลนาราจสฺส อุชุกรณาย. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อิมสฺมึ กาเย สติปฏฺานอาฬกํ ปริหริตพฺพํ วงฺกชิมฺหกุฏิลจิตฺตสฺส อุชุกรณาย. อิทํ, มหาราช, อิสฺสาสสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อิสฺสาโส ลกฺเข อุปาเสติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ¶ อิมสฺมึ กาเย อุปาสิตพฺพํ. กถํ มหาราช โยคินา โยคาวจเรน อิมสฺมึ กาเย อุปาสิตพฺพํ? อนิจฺจโต อุปาสิตพฺพํ, ทุกฺขโต อุปาสิตพฺพํ, อนตฺตโต อุปาสิตพฺพํ, โรคโต…เป… คณฺฑโต…เป… สลฺลโต…เป… อฆโต…เป… อาพาธโต…เป… ปรโต…เป… ปโลกโต…เป… อีติโต…เป… อุปทฺทวโต…เป… ภยโต…เป… อุปสคฺคโต…เป… จลโต…เป… ปภงฺคุโต…เป… อทฺธุวโต…เป… อตาณโต…เป… อเลณโต…เป… อสรณโต…เป… ริตฺตโต…เป… ตุจฺฉโต…เป… สฺุโต…เป… อาทีนวโต…เป… วิปริณามธมฺมโต…เป… อสารโต ¶ …เป… อฆมูลโต…เป… วธกโต…เป… วิภวโต…เป… สาสวโต…เป… สงฺขตโต…เป… มารามิสโต…เป… ชาติธมฺมโต…เป… ชราธมฺมโต…เป… พฺยาธิธมฺมโต…เป… มรณธมฺมโต…เป… โสกธมฺมโต…เป… ปริเทวธมฺมโต…เป… อุปายาสธมฺมโต…เป… สํกิเลสธมฺมโต…เป… เอวํ โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ¶ อิมสฺมึ กาเย อุปาสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อิสฺสาสสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อิสฺสาโส สายํ ปาตํ อุปาสติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สายํ ปาตํ อารมฺมเณ อุปาสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อิสฺสาสสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘ยถา อิสฺสาสโก นาม, สายํ ปาตํ อุปาสติ;
อุปาสนํ อริฺจนฺโต [น ริจฺฉนฺโต (สี. ก.)], ลภเต ภตฺตเวตนํ.
‘‘‘ตเถว พุทฺธปุตฺโตปิ, กโรติ กายุปาสนํ;
กายุปาสนํ อริฺจนฺโต, อรหตฺตมธิคจฺฉตี’’’ติ.
อิสฺสาสงฺคปฺโห สตฺตโม.
กุมฺภวคฺโค สตฺตโม [อิโต ปรํ ราชงฺคปฺหาทิกา อฏฺตึส ปฺหา วินฏฺา, เยหิ ตา ทิฏฺา,§เตหิ โน อาโรเจตพฺพา ปุน มุทฺทาปนกาเล ปกฺขิปนตฺถายาติ (น, พุ, ส)].
ตสฺสุทฺทานํ –
กุมฺโภ จ กาฬายโส จ, ฉตฺตํ เขตฺตฺจ อคโท;
โภชเนน จ อิสฺสาโส, วุตฺตํ ทานิ วิทูหีติ.
โอปมฺมกถาปฺโห นิฏฺิโต.
นิคมนํ
อิติ ¶ ¶ ฉสุ กณฺเฑสุ พาวีสติวคฺคปติมณฺฑิเตสุ ทฺวาสฏฺิอธิกา ทฺเวสตา อิมสฺมึ โปตฺถเก อาคตา มิลินฺทปฺหา สมตฺตา, อนาคตา จ ปน ทฺวาจตฺตาลีสา โหนฺติ, อาคตา จ อนาคตา จ สพฺพา สโมธาเนตฺวา จตูหิ อธิกา ติสตปฺหา โหนฺติ, สพฺพาว มิลินฺทปฺหาติ สงฺขํ คจฺฉนฺติ.
รฺโ จ เถรสฺส จ ปุจฺฉาวิสชฺชนาวสาเน จตุราสีติสตสหสฺสโยชนพหลา อุทกปริยนฺตํ กตฺวา อยํ มหาปถวี ฉธา กมฺปิตฺถ, วิชฺชุลฺลตา นิจฺฉรึสุ, เทวตา ทิพฺพปุปฺผวสฺสํ ปวสฺสึสุ, มหาพฺรหฺมา สาธุการมทาสิ, มหาสมุทฺทกุจฺฉิยํ เมฆตฺถนิตนิคฺโฆโส วิย มหาโฆโส อโหสิ, อิติ โส มิลินฺโท ราชา จ โอโรธคณา จ สิรสา อฺชลึ ปณาเมตฺวา วนฺทึสุ.
มิลินฺโท ¶ ราชา อติวิย ปมุทิตหทโย สุมถิตมานหทโย พุทฺธสาสเน สารมติโน รตนตฺตเย สุนิกฺกงฺโข นิคฺคุมฺโพ นิตฺถทฺโธ หุตฺวา เถรสฺส คุเณสุ ปพฺพชฺชาสุ ปฏิปทาอิริยาปเถสุ จ อติวิย ปสนฺโน วิสฺสตฺโถ นิราลโย นิหตมานตฺถมฺโภ อุทฺธฏทาโ วิย ภุชคินฺโท เอวมาห ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, พุทฺธวิสโย ปฺโห ตยา วิสชฺชิโต, อิมสฺมึ พุทฺธสาสเน เปตฺวา ธมฺมเสนาปตึ สาริปุตฺตตฺเถรํ อฺโ ตยา สทิโส ปฺหวิสชฺชเน นตฺถิ, ขมถ, ภนฺเต นาคเสน, มม อจฺจยํ, อุปาสกํ มํ, ภนฺเต นาคเสน, ธาเรถ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.
ตทา ราชา สห พลกาเยหิ นาคเสนตฺเถรํ ปยิรุปาสิตฺวา มิลินฺทํ นาม วิหารํ กาเรตฺวา เถรสฺส นิยฺยาเตตฺวา จตูหิ ปจฺจเยหิ นาคเสนํ โกฏิสเตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปริจริ, ปุนปิ เถรสฺส ปฺาย ปสีทิตฺวา ปุตฺตสฺส รชฺชํ นิยฺยาเตตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ, เตน วุตฺตํ –
‘‘ปฺา ปสตฺถา โลกสฺมึ, กตา สทฺธมฺมฏฺิติยา;
ปฺาย วิมตึ หนฺตฺวา, สนฺตึ ปปฺโปนฺติ ปณฺฑิตา.
ยสฺมึ ¶ ¶ ขนฺเธ ิตา ปฺา, สติ ตตฺถ อนูนกา;
ปูชา วิเสสสฺสาธาโร, อคฺโค เสฏฺโ [โส ว (ปี.)] อนุตฺตโร;
ตสฺมา หิ ปณฺฑิโต โปโส, สมฺปสฺสํ หิตมตฺตโน [อตฺถมตฺตโน (ปี.)];
ปฺวนฺตํภิปูเชยฺย, เจติยํ วิย สาทโร’’ติ [ปูชิยนฺติ (ปี.) อิโต ปรํ ติสฺโส คาถาโย สี. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ].
ลงฺกายํ โทณินคเร, วสตา โทณินามินา;
มหาเถเรน เลขิตฺวา, สุฏฺปิตํ ยถาสุตํ;
มิลินฺทราชปฺโห จ, นาคเสนวิสชฺชนํ;
มิลินฺโท หิ มหาปฺโ, นาคเสโน สุปณฺฑิโต;
อิมินา ปฺุกมฺเมน, อิโต คจฺฉามิ ตุสฺสิตํ;
เมตฺเตยฺยํนาคเต ปสฺเส, สุเณยฺยํ ธมฺมมุตฺตมนฺติ.
มิลินฺทปฺโห นิฏฺิโต.