📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

ขุทฺทกนิกาเย

เนตฺติปฺปกรณ-อฏฺกถา

คนฺถารมฺภกถา

มหาการุณิกํ นาถํ, เยฺยสาครปารคุํ;

วนฺเท นิปุณคมฺภีร-วิจิตฺรนยเทสนํ.

วิชฺชาจรณสมฺปนฺนา, เยน นิยฺยนฺติ โลกโต;

วนฺเท ตมุตฺตมํ ธมฺมํ, สมฺมาสมฺพุทฺธปูชิตํ.

สีลาทิคุณสมฺปนฺโน, ิโต มคฺคผเลสุ โย;

วนฺเท อริยสงฺฆํ ตํ, ปุฺกฺเขตฺตํ อนุตฺตรํ.

วนฺทนาชนิตํ ปุฺํ, อิติ ยํ รตนตฺตเย;

หตนฺตราโย สพฺพตฺถ, หุตฺวาหํ ตสฺส เตชสา.

ิตึ อากงฺขมาเนน, จิรํ สทฺธมฺมเนตฺติยา;

ธมฺมรกฺขิตนาเมน, เถเรน อภิยาจิโต.

ปทุมุตฺตรนาถสฺส, ปาทมูเล ปวตฺติตํ;

ปสฺสตา อภินีหารํ, สมฺปตฺตํ ยสฺส มตฺถกํ.

สํขิตฺตํ วิภชนฺตานํ, เอโส อคฺโคติ ตาทินา;

ปิโต เอตทคฺคสฺมึ, โย มหาสาวกุตฺตโม.

ฉฬภิฺโ วสิปฺปตฺโต, ปภินฺนปฏิสมฺภิโท;

มหากจฺจายโน เถโร, สมฺพุทฺเธน ปสํสิโต.

เตน ยา ภาสิตา เนตฺติ, สตฺถารา อนุโมทิตา;

สาสนสฺส สทายตฺตา, นวงฺคสฺสตฺถวณฺณนา.

ตสฺสา คมฺภีราเณหิ, โอคาเหตพฺพภาวโต;

กิฺจาปิ ทุกฺกรา กาตุํ, อตฺถสํวณฺณนา มยา.

สห สํวณฺณนํ ยสฺมา, ธรเต สตฺถุสาสนํ;

ปุพฺพาจริยสีหานํ, ติฏฺเตว วินิจฺฉโย.

ตสฺมา ตมุปนิสฺสาย, โอคาเหตฺวาน ปฺจปิ;

นิกาเย เปฏเกนาปิ, สํสนฺทิตฺวา ยถาพลํ.

สุวิสุทฺธมสํกิณฺณํ, นิปุณตฺถวินิจฺฉยํ;

มหาวิหารวาสีนํ, สมยํ อวิโลมยํ.

ปมาทเลขํ วชฺเชตฺวา, ปาฬึ สมฺมา นิโยชยํ;

อุปเทสํ วิภาเวนฺโต, กริสฺสามตฺถวณฺณนํ.

อิติ อตฺถํ อสงฺกิณฺณํ, เนตฺติปฺปกรณสฺส เม;

วิภชนฺตสฺส สกฺกจฺจํ, นิสามยถ สาธโวติ.

ตตฺถ เกนฏฺเน เนตฺติ? สทฺธมฺมนยนฏฺเน เนตฺติ. ยถา หิ ตณฺหา สตฺเต กามาทิภวํ นยตีติ ‘‘ภวเนตฺตี’’ติ วุจฺจติ, เอวมยมฺปิ เวเนยฺยสตฺเต อริยธมฺมํ นยตีติ สทฺธมฺมนยนฏฺเน ‘‘เนตฺตี’’ติ วุจฺจติ. อถ วา นยนฺติ ตายาติ เนตฺติ. เนตฺติปฺปกรเณน หิ กรณภูเตน ธมฺมกถิกา เวเนยฺยสตฺเต ทสฺสนมคฺคํ นยนฺติ สมฺปาเปนฺตีติ, นียนฺติ วา เอตฺถ เอตสฺมึ ปกรเณ อธิฏฺานภูเต ปติฏฺาเปตฺวา เวเนยฺยา นิพฺพานํ สมฺปาปิยนฺตีติ เนตฺติ. น หิ เนตฺติอุปเทสสนฺนิสฺสเยน วินา อวิปรีตสุตฺตตฺถาวโพโธ สมฺภวติ. ตถา หิ วุตฺตํ – ‘‘ตสฺมา นิพฺพายิตุกาเมนา’’ติอาทิ. สพฺพาปิ หิ สุตฺตสฺส อตฺถสํวณฺณนา เนตฺติอุปเทสายตฺตา, เนตฺติ จ สุตฺตปฺปภวา, สุตฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปภวนฺติ.

สา ปนายํ เนตฺติ ปกรณปริจฺเฉทโต ติปฺปเภทา หารนยปฏฺานานํ วเสน. ปมฺหิ หารวิจาโร, ตโต นยวิจาโร, ปจฺฉา ปฏฺานวิจาโรติ. ปาฬิววตฺถานโต ปน สงฺคหวารวิภาควารวเสน ทุวิธา. สพฺพาปิ หิ เนตฺติ สงฺคหวาโร วิภาควาโรติ วารทฺวยเมว โหติ.

ตตฺถ สงฺคหวาโร อาทิโต ปฺจหิ คาถาหิ ปริจฺฉินฺโน. สพฺโพ หิ ปกรณตฺโถ ‘‘ยํ โลโก ปูชยเต’’ติอาทีหิ ปฺจหิ คาถาหิ อปริคฺคหิโต นาม นตฺถิ. นนุ เจตฺถ ปฏฺานํ อสงฺคหิตนฺติ? นยิทเมวํ ทฏฺพฺพํ, มูลปทคฺคหเณน ปฏฺานสฺส สงฺคหิตตฺตา. ตถา หิ วกฺขติ – ‘‘อฏฺารส มูลปทา กุหึ ทฏฺพฺพา สาสนปฏฺาเน’’ติ. มูลปทปฏฺานานิ หิ อตฺถนยสงฺขารตฺติกา วิย อฺมฺํ สงฺคหิตานิ.

วิภาควาโร ปน อุทฺเทสนิทฺเทสปฏินิทฺเทสวเสน ติวิโธ. เตสุ ‘‘ตตฺถ กตเม โสฬส หารา’’ติ อารภิตฺวา ยาว ‘‘ภวนฺติ อฏฺารส ปทานี’’ติ อยํ อุทฺเทสวาโร. ‘‘อสฺสาทาทีนวตา’’ติ อารภิตฺวา ยาว ‘‘เตตฺตึสา เอตฺติกา เนตฺตี’’ติ อยํ นิทฺเทสวาโร. ปฏินิทฺเทสวาโร ปน หารวิภงฺควาโร หารสมฺปาตวาโร นยสมุฏฺานวาโร สาสนปฏฺานวาโรติ จตุพฺพิโธ. เตสุ ‘‘ตตฺถ กตโม เทสนาหาโร’’ติ อารภิตฺวา ยาว ‘‘อยํ ปหาเนน สมาโรปนา’’ติ อยํ หารวิภงฺควาโร. ตตฺถ ‘‘กตโม เทสนาหารสมฺปาโต’’ติ อารภิตฺวา ยาว ‘‘อนุปาทิเสสา จ นิพฺพานธาตู’’ติ อยํ หารสมฺปาตวาโร. เอตฺถาห – หารวิภงฺคหารสมฺปาตวารานํ กึ นานากรณนฺติ? วุจฺจเต – ยตฺถ อเนเกหิปิ อุทาหรณสุตฺเตหิ เอโก หาโร นิทฺทิสียติ, อยํ หารวิภงฺควาโร. ยตฺถ ปน เอกสฺมึ สุตฺเต อเนเก หารา สมฺปตนฺติ, อยํ หารสมฺปาตวาโร. วุตฺตฺเหตํ เปฏเก

‘‘ยตฺถ จ สพฺเพ หารา, สมฺปตมานา นยนฺติ สุตฺตตฺถํ;

พฺยฺชนวิธิปุถุตฺตา, สา ภูมี หารสมฺปาโต’’ติ.

นยสมุฏฺานสาสนปฏฺานวารวิภาโค ปากโฏ เอว. สาสนปฏฺานวาโร ปน สงฺคหวาเร วิย อุทฺเทสนิทฺเทสวาเรสุปิ น สรูปโต อุทฺธโฏติ. เอตฺถาห – ‘‘อิทํ เนตฺติปฺปกรณํ มหาสาวกภาสิตํ, ภควตา อนุโมทิต’’นฺติ จ กถเมตํ วิฺายตีติ? ปาฬิโต เอว. น หิ ปาฬิโต อฺํ ปมาณตรํ อตฺถิ. ยา หิ จตูหิ มหาปเทเสหิ อวิรุทฺธา ปาฬิ, สา ปมาณํ. ตถา หิ อครหิตาย อาจริยปรมฺปราย เปฏโกปเทโส วิย อิทํ เนตฺติปฺปกรณํ อาภตํ. ยทิ เอวํ กสฺมาสฺส นิทานํ น วุตฺตํ. สาวกภาสิตานมฺปิ หิ สุภสุตฺต- (ที. นิ. ๑.๔๔๔ อาทโย) อนงฺคณสุตฺต- (ม. นิ. ๑.๕๗ อาทโย) กจฺจายนสํยุตฺตาทีนํ นิทานํ ภาสิตนฺติ? นยิทํ เอกนฺติกํ. สาวกภาสิตานํ พุทฺธภาสิตานมฺปิ หิ เอกจฺจานํ ปฏิสมฺภิทามคฺคนิทฺเทสาทีนํ ธมฺมปทพุทฺธวํสาทีนฺจ นิทานํ น ภาสิตํ, น จ ตาวตา ตานิ อปฺปมาณํ, เอวมิธาปิ ทฏฺพฺพํ.

นิทานฺจ นาม สุตฺตวินยานํ ธมฺมภณฺฑาคาริกอุปาลิตฺเถราทีหิ มหาสาวเกเหว ภาสิตํ, อิทฺจ มหาสาวกภาสิตํ, เถรํ มุฺจิตฺวา อนฺวิสยตฺตา อิมิสฺสา วิจารณายาติ กิเมเตน นิทานคเวสเนน, อตฺโถเยเวตฺถ คเวสิตพฺโพ, โย ปาฬิยา อวิรุทฺโธติ. อถ วา ปาฬิยา อตฺถสํวณฺณนาภาวโต น อิมสฺส ปกรณสฺส วิสุํ นิทานวจนกิจฺจํ อตฺถิ, ปฏิสมฺภิทามคฺคนิทฺเทสาทีนํ วิยาติ ทฏฺพฺพํ.

อิทานิ เอตสฺมึ ปกรเณ นานปฺปการโกสลฺลตฺถํ อยํ วิภาโค เวทิตพฺโพ – สพฺพเมว เจตํ ปกรณํ สาสนปริเยฏฺิภาวโต เอกวิธํ, ตถา อริยมคฺคสมฺปาทนโต วิมุตฺติรสโต จ. พฺยฺชนตฺถวิจารภาวโต ทุวิธํ, ตถา สงฺคหวิภาคภาวโต ธมฺมวินยตฺถสํวณฺณนโต โลกิยโลกุตฺตรตฺถสงฺคหณโต รูปารูปธมฺมปริคฺคาหกโต ลกฺขณลกฺขิยภาวโต ปวตฺตินิวตฺติวจนโต สภาควิสภาคนิทฺเทสโต สาธารณาสาธารณธมฺมวิภาคโต จ.

ติวิธํ ปุคฺคลตฺตยนิทฺเทสโต ติวิธกลฺยาณวิภาคโต ปริฺตฺตยกถนโต ปหานตฺตยูปเทสโต สิกฺขตฺตยสงฺคหณโต ติวิธสํกิเลสวิโสธนโต มูลคีติอนุคีติสงฺคีติเภทโต ปิฏกตฺตยตฺถสํวณฺณนโต หารนยปฏฺานปฺปเภทโต จ.

จตุพฺพิธํ จตุปฺปฏิสมฺภิทาวิสยโต จตุนยเทสนโต ธมฺมตฺถเทสนาปฏิเวธคมฺภีรภาวโต จ. ปฺจวิธํ อภิฺเยฺยาทิธมฺมวิภาคโต ปฺจกฺขนฺธนิทฺเทสโต ปฺจคติปริจฺเฉทโต ปฺจนิกายตฺถวิวรณโต จ. ฉพฺพิธํ ฉฬารมฺมณวิภาคโต ฉอชฺฌตฺติกพาหิรายตนวิภาคโต จ. สตฺตวิธํ สตฺตวิฺาณฏฺิติปริจฺเฉทโต. นววิธํ สุตฺตาทินวงฺคนิทฺเทสโต. จุทฺทสวิธํ สุตฺตาธิฏฺานวิภาคโต. โสฬสวิธํ อฏฺวีสติวิธฺจ สาสนปฏฺานปฺปเภทโต. จตุราสีติสหสฺสวิธํ จตุราสีติสหสฺสธมฺมกฺขนฺธวิจารภาวโตติอาทินา นเยน ปกรณวิภาโค เวทิตพฺโพ.

ตตฺถ สาสนปริเยฏฺิภาวโตติ สกลํ เนตฺติปฺปกรณํ สิกฺขตฺตยสงฺคหสฺส นวงฺคสฺส สตฺถุสาสนสฺส อตฺถสํวณฺณนาภาวโต. อริยมคฺคสมฺปาทนโตติ ทสฺสนภูมิภาวนาภูมิสมฺปาทนโต. วิมุตฺติรสโตติ สาสนสฺส อมตปริโยสานตฺตา วุตฺตํ. พฺยฺชนตฺถวิจารภาวโตติ หารพฺยฺชนปทกมฺมนยานํ พฺยฺชนวิจารตฺตา อตฺถปทอตฺถนยานํ อตฺถวิจารตฺตา วุตฺตํ. สงฺคหวิภาคภาโว ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. ธมฺมวินยตฺถสํวณฺณนโตติ สกลสฺสาปิ ปริยตฺติสาสนสฺส ธมฺมวินยภาวโต วุตฺตํ. ลกฺขณลกฺขิยภาวโตติ เนตฺติวจนสฺส ลกฺขณตฺตา อุทาหรณสุตฺตานฺจ ลกฺขิยตฺตา วุตฺตํ. สภาควิสภาคนิทฺเทสโตติ สมานชาติยา ธมฺมา สภาคา, ปฏิปกฺขา วิสภาคา, ตํวิจารภาวโตติ อตฺโถ. สาธารณาสาธารณธมฺมวิภาคโตติ ปหาเนกฏฺสหเชกฏฺตาทิสามฺเน เย ธมฺมา เยสํ ธมฺมานํ นามวตฺถาทินา สาธารณา ตพฺพิธุรตาย อสาธารณา จ, ตํวิภาคโต ทุวิธนฺติ อตฺโถ.

ปุคฺคลตฺตยนิทฺเทสโตติ อุคฺฆฏิตฺุอาทิ ปุคฺคลตฺตยนิทฺเทสโต. ติวิธกลฺยาณวิภาคโตติ อาทิกลฺยาณาทิวิภาคโต. มูลคีติอนุคีติสงฺคีติเภทโตติ ปมํ วจนํ มูลคีติ, วุตฺตสฺเสว อตฺถสฺส สงฺคหคาถา อนุคีติ, ตํตํสุตฺตตฺถโยชนวเสน วิปฺปกิณฺณสฺส ปกรณสฺส สงฺคายนํ สงฺคีติ, สา เถรสฺส ปรโต ปวตฺติตาติ เวทิตพฺพา, เอตาสํ ติสฺสนฺนํ เภทโต ติวิธนฺติ อตฺโถ. ปฺจกฺขนฺธนิทฺเทสโตติ รูปาทิปฺจกฺขนฺธสีลาทิปฺจธมฺมกฺขนฺธนิทฺเทสโต ปฺจวิธนฺติ อตฺโถ. สุตฺตาธิฏฺานวิภาคโตติ โลภโทสโมหานํ อโลภาโทสาโมหานํ กายวจีมโนกมฺมานํ สทฺธาทิปฺจินฺทฺริยานฺจ วเสน จุทฺทสวิธสฺส สุตฺตาธิฏฺานสฺส วิภาควจนโต จุทฺทสวิธนฺติ อตฺโถ. เสสํ สุวิฺเยฺยนฺติ น ปปฺจิตํ.

๑. สงฺคหวารวณฺณนา

เอวํ อเนกเภทวิภตฺเต เนตฺติปฺปกรเณ ยทิทํ วุตฺตํ ‘‘สงฺคหวิภาควารวเสน ทุวิธ’’นฺติ, ตตฺถ สงฺคหวาโร อาทิ. ตสฺสาปิ ‘‘ยํ โลโก ปูชยเต’’ติ อยํ คาถา อาทิ. ตตฺถ นฺติ อนิยมโต อุปโยคนิทฺเทโส, ตสฺส ‘‘ตสฺสา’’ติ อิมินา นิยมนํ เวทิตพฺพํ. โลโกติ กตฺตุนิทฺเทโส. ปูชยเตติ กิริยานิทฺเทโส. สโลกปาโลติ กตฺตุวิเสสนํ. สทาติ กาลนิทฺเทโส. นมสฺสติ จาติ อุปจเยน กิริยานิทฺเทโส. ตสฺสาติ สามินิทฺเทโส. เอตนฺติ ปจฺจตฺตนิทฺเทโส. สาสนวรนฺติ ปจฺจตฺตนิทฺเทเสน นิทฺทิฏฺธมฺมนิทสฺสนํ. วิทูหีติ กรณวจเนน กตฺตุนิทฺเทโส. เยฺยนฺติ กมฺมวาจกกิริยานิทฺเทโส. นรวรสฺสาติ ‘‘ตสฺสา’’ติ นิยเมตฺวา ทสฺสิตสฺส สรูปโต ทสฺสนํ.

ตตฺถ โลกิยนฺติ เอตฺถ ปุฺาปุฺานิ ตพฺพิปาโก จาติ โลโก, ปชา, สตฺตนิกาโยติ อตฺโถ. โลก-สทฺโท หิ ชาติสทฺทตาย สามฺวเสน นิรวเสสโต สตฺเต สงฺคณฺหาติ. กิฺจาปิ หิ โลกสทฺโท สงฺขารภาชเนสุปิ ทิฏฺปฺปโยโค, ปูชนกิริยาโยคฺยภูตตาวเสน ปน สตฺตโลกวจโน เอว อิธ คหิโตติ ทฏฺพฺพํ. ปูชยเตติ มานยติ, อปจายตีติ อตฺโถ.

โลกํ ปาเลนฺตีติ โลกปาลา, จตฺตาโร มหาราชาโน. โลกิยา ปน อินฺทยมวรุณกุเวรา โลกปาลาติ วทนฺติ. สห โลกปาเลหีติ สโลกปาโล, ‘‘โลโก’’ติ อิมินา ตุลฺยาธิกรณํ. อถ วา อิสฺสริยาธิปจฺเจน ตํตํสตฺตโลกสฺส ปาลนโต รกฺขณโต ขตฺติยจตุมหาราชสกฺกสุยามสนฺตุสิตสุนิมฺมิตปรนิมฺมิตวสวตฺติมหาพฺรหฺมาทโย โลกปาลา. เตหิ สห ตํตํสตฺตนิกาโย สโลกปาโล โลโกติ วุตฺโต. อถ วา ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, สุกฺกา ธมฺมา โลกํ ปาเลนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๒.๙; อิติวุ. ๔๒) วจนโต หิโรตฺตปฺปธมฺมา โลกปาลา. เตหิ สมนฺนาคโต โลโก สโลกปาโล. หิโรตฺตปฺปสมฺปนฺนา หิ ปาปครหิโน สปฺปุริสา ธมฺมจฺฉนฺทวนฺตตาย ภควติ ปูชานมกฺการปรา โหนฺตีติ.

สทาติ สพฺพกาลํ รตฺติฺเจว ทิวา จ, สทาติ วา ภควโต ธรมานกาเล ตโต ปรฺจ. อถ วา สทาติ อภินีหารโต ปฏฺาย ยาว สาสนนฺตรธานา, ตโต ปรมฺปิ วา. มหาภินีหารโต ปฏฺาย หิ มหาโพธิสตฺตา โพธิยา นิยตตาย พุทฺธงฺกุรภูตา สเทวกสฺส โลกสฺส ปูชนียา เจว วนฺทนียา จ โหนฺติ. ยถาห ภควา สุเมธภูโต –

‘‘ทีปงฺกโร โลกวิทู, อาหุตีนํ ปฏิคฺคโห;

มม กมฺมํ ปกิตฺเตตฺวา, ทกฺขิณํ ปาทมุทฺธริ.

‘‘เย ตตฺถาสุํ ชินปุตฺตา, ปทกฺขิณมกํสุ มํ;

เทวา มนุสฺสา อสุรา จ, อภิวาเทตฺวาน ปกฺกมุ’’นฺติ. (พุ. วํ. ๒.๗๕-๗๖);

นมสฺสติ จาติ เกจิ เกสฺจิ ปูชาสกฺการาทีนิ กโรนฺตาปิ เตสํ อปากฏคุณตาย นมกฺการํ น กโรนฺติ, น เอวํ ภควโต, ยถาภูตอพฺภุคฺคตกิตฺติสทฺทตาย ปน ภควนฺตํ สเทวโก โลโก ปูชยติ เจว นมสฺสติ จาติ อตฺโถ. ‘‘สทา นรมนุสฺโส’’ติ เกจิ ปนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. ตสฺสาติ ยํ สเทวโก โลโก ปูชยติ เจว นมสฺสติ จ, ตสฺส. เอตนฺติ อิทานิ วตฺตพฺพํ พุทฺธิยํ วิปริวตฺตมานํ สามฺเน ทสฺเสติ. สาสนวรนฺติ ตํ สรูปโต ทสฺเสติ. ตตฺถ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ ยถารหํ สตฺเต สาสติ วิเนติ เอเตนาติ สาสนํ, ตเทว เอกนฺตนิยฺยานฏฺเน อนฺสาธารณคุณตาย จ อุตฺตมฏฺเน ตํตํอภิปตฺถิตสมิทฺธิเหตุตาย ปณฺฑิเตหิ วริตพฺพโต วา วรํ, สาสนเมว วรนฺติ สาสนวรํ. วิทูหีติ ยถาสภาวโต กมฺมกมฺมผลานิ กุสลาทิเภเท จ ธมฺเม วิทนฺตีติ วิทู, ปณฺฑิตมนุสฺสา, เตหิ. าตพฺพํ, าณมรหตีติ วา เยฺยํ. นรวรสฺสาติ ปุริสวรสฺส, อคฺคปุคฺคลสฺสาติ อตฺโถ.

อิทํ วุตฺตํ โหติ – โย อนฺสาธารณมหากรุณาสพฺพฺุตฺาณาทิคุณวิเสสโยเคน สเทวเกน โลเกน ปูชนีโย นมสฺสนีโย จ ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ตสฺส โลเก อุตฺตมปุคฺคลสฺส เอตํ อิทานิ อมฺเหหิ วิภชิตพฺพหารนยปฏฺานวิจารณวิสยภูตํ สาสนํ อาทิกลฺยาณตาทิคุณสมฺปตฺติยา วรํ อคฺคํ อุตฺตมํ นิปุณาณโคจรตาย ปณฺฑิตเวทนียเมวาติ. ภควโต หิ วจนํ เอกคาถามตฺตมฺปิ สจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทขนฺธายตนธาตินฺทฺริยสติปฏฺานาทิสภาวธมฺมนิทฺธารณกฺขมตาย โสฬสหารปฺจนยโสฬสอฏฺวีสติวิธปฏฺานวิจารโยคฺยภาเวน จ ปรมคมฺภีรํ อตฺถโต อคาธปารํ สณฺหสุขุมาณวิสยเมวาติ. เตเนวาห – ‘‘ปฺวนฺตสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม ทุปฺปฺสฺสา’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๕๘; อ. นิ. ๘.๓๐). อถ วา ภควโต สาสนํ ปริฺากฺกเมน ลกฺขณาวโพธปฺปฏิปตฺติยา สุฺตมุขาทีหิ โอคาหิตพฺพตฺตา อวิฺูนํ สุปินนฺเตนปิ น วิสโย โหตีติ อาห – ‘‘วิทูหิ เยฺย’’นฺติ. ตถา จ วุตฺตํ – ‘‘เอตุ วิฺู ปุริโส’’ติอาทิ.

อปเร ปน ‘‘ตํ ตสฺส สาสนวร’’นฺติ ปนฺติ, เตสํ มเตน ยํ-สทฺโท สาสน-สทฺเทน สมานาธิกรโณติ ทฏฺพฺโพ. อิทํ วุตฺตํ โหติ ยํ สาสนวรํ สโลกปาโล โลโก ปูชยติ นมสฺสติ จ, ตํ สาสนวรํ วิทูหิ าตพฺพนฺติ. อิมสฺมิฺจ นเย โลกปาล-สทฺเทน ภควาปิ วุจฺจติ. ภควา หิ โลกคฺคตายกตฺตา นิปฺปริยาเยน โลกปาโล, ตสฺมา ‘‘ตสฺสา’’ติ โลกปาลสฺส สตฺถุโนติ อตฺโถ. สโลกปาโลติ เจตฺถ โลกปาล-สทฺโท คุณีภูโตปิ สตฺถุวิสยตฺตา สาสน-สทฺทาเปกฺขตาย สามิภาเวน สมฺพนฺธีวิเสสภูโต ปธานภูโต วิย ปฏินิทฺเทสํ อรหตีติ.

กถํ ปน สยํ ธมฺมสฺสามี ภควา ธมฺมํ ปูชยตีติ? นายํ วิโรโธ. ธมฺมครุโน หิ พุทฺธา ภควนฺโต, เต สพฺพกาลํ ธมฺมํ อปจายมานาว วิหรนฺตีติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ยํนูนาหํ ยฺวายํ ธมฺโม มยา อภิสมฺพุทฺโธ, ตเมว ธมฺมํ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๑๗๓; อ. นิ. ๔.๒๑).

อปิ จ ภควโต ธมฺมปูชนา สตฺตสตฺตาหปฺปฏิปตฺติอาทีหิ ทีเปตพฺพา. ธมฺมสฺสามีติ จ ธมฺเมน สเทวกสฺส โลกสฺส สามีติ อตฺโถ, น ธมฺมสฺส สามีติ. เอวมฺปิ นมสฺสตีติ วจนํ น ยุชฺชติ. น หิ ภควา กฺจิ นมสฺสตีติ, เอโสปิ นิทฺโทโส. น หิ นมสฺสตีติ ปทสฺส นมกฺการํ กโรตีติ อยเมว อตฺโถ, อถ โข ครุกรเณน ตนฺนินฺโน ตปฺโปโณ ตปฺปพฺภาโรติ อยมฺปิ อตฺโถ ลพฺภติ. ภควา จ ธมฺมครุตาย สพฺพกาลํ ธมฺมนินฺนโปณปพฺภารภาเวน วิหรตีติ. อยฺจ อตฺโถ ‘‘เยน สุทํ สฺวาหํ นิจฺจกปฺปํ วิหรามี’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) เอวมาทีหิ สุตฺตปเทหิ ทีเปตพฺโพ. ‘‘วิทูหิ เนยฺย’’นฺติปิ ปาโ, ตสฺส ปณฺฑิเตหิ สปรสนฺตาเนสุ เนตพฺพํ ปาเปตพฺพนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ อตฺตสนฺตาเน ปาปนํ พุชฺฌนํ, ปรสนฺตาเน โพธนนฺติ ทฏฺพฺพํ.

เอวํ ภควโต สเทวกสฺส โลกสฺส ปูชนียวนฺทนียภาโว อคฺคปุคฺคลภาโว จ วุจฺจมาโน คุณวิสิฏฺตํ ทีเปติ, สา จ คุณวิสิฏฺตา มหาโพธิยา เวทิตพฺพา. อาสวกฺขยาณปทฏฺานฺหิ สพฺพฺุตฺาณํ สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานฺจ อาสวกฺขยาณํ ‘‘มหาโพธี’’ติ วุจฺจติ. สา อวิปรีตธมฺมเทสนโต ตถาคเต สุปฺปติฏฺิตาติ วิฺายติ. น หิ สวาสนนิรวเสสกิเลสปฺปหานํ อนาวรณาณฺจ วินา ตาทิสี ธมฺมเทสนา สมฺภวติ. อิจฺจสฺส จตุเวสารชฺชโยโค. เตน ทสพลฉอสาธารณาณอฏฺารสาเวณิกพุทฺธธมฺมาทิสกลสพฺพฺุคุณปาริปูรี ปกาสิตา โหติ. เอตาทิสี จ คุณวิภูติ มหากรุณาปุพฺพงฺคมํ อภินีหารสมฺปตฺตึ ปุรสฺสรํ กตฺวา สมฺปาทิตํ สมตฺตึสปารมิสงฺขาตํ ปุฺาณสมฺภารมนฺตเรน น อุปลพฺภตีติ เหตุสมฺปทาปิ อตฺถโต วิภาวิตา โหตีติ เอวํ ภควโต ตีสุปิ อวตฺถาสุ สพฺพสตฺตานํ เอกนฺตหิตปฺปฏิลาภเหตุภูตา อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณา นิรวเสสา พุทฺธคุณา อิมาย คาถาย ปกาสิตาติ เวทิตพฺพํ.

ทุติยนเย ปน ยสฺมา สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สผลํ อริยมคฺคสาสนํ ตสฺส อารมฺมณภูตฺจ อมตธาตุํ ตทธิคมูปายฺจ ปุพฺพภาคปฏิปตฺติสาสนํ ตทตฺถปริทีปนฺจ ปริยตฺติสาสนํ ยถารหํ สจฺจาภิสมยวเสน อภิสเมนฺโต สฺวากฺขาตตาทิคุณวิเสสยุตฺตตํ มนสิกโรนฺโต สกฺกจฺจํ สวนธารณปริปุจฺฉาทีหิ ปริจยํ กโรนฺโต จ สเทวโก โลโก ปูชยติ นาม. โลกนาโถ จ สมฺมาสมฺโพธิปฺปตฺติยา เวเนยฺยานํ สกฺกจฺจํ ธมฺมเทสเนน ‘‘อริยํ โว, ภิกฺขเว, สมฺมาสมาธึ เทเสสฺสามิ’’ (ม. นิ. ๓.๑๓๖; สํ. นิ. ๕.๒๘; เปฏโก. ๒๔), ‘‘มคฺคานฏฺงฺคิโก เสฏฺโ’’ (ธ. ป. ๒๗๓; กถา. ๘๗๒; เนตฺติ. ๑๒๕; เปฏโก. ๓๐), ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ อคฺคมกฺขายติ’’ (อิติวุ. ๙๐; อ. นิ. ๔.๓๔), ‘‘ขยํ วิราคํ อมตํ ปณีตํ’’ (ขุ. ปา. ๖.๔; สุ. นิ. ๒๒๗), ‘‘เอกายโน อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา’’ (ที. นิ. ๒.๓๗๓; ม. นิ. ๑.๑๐๖; สํ. นิ. ๕.๓๖๗), ‘‘ธมฺมํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อาทิกลฺยาณ’’นฺติอาทีหิ (ม. นิ. ๓.๔๒๐; เนตฺติ. ๕) วจเนหิ โถมเนน จ ปูชยติ นาม. ตสฺมา สาสนวรสฺส ปูชนียภาโว อิธ วุจฺจมาโน อนวเสสโต ธมฺมคุเณ ทีเปตีติ เย อริยภาวาทโย นิยฺยานาทโย ขยวิราคาทโย มทนิมฺมทนาทโย อสงฺขตาทโย สฺวากฺขาตตาทโย อาทิกลฺยาณตาทโย จ อเนเกหิ สุตฺตปเทหิ ปเวทิตา อเนเก ธมฺมคุณา, เต นิรวเสสโต อิมาย คาถาย ปกาสิตาติ เวทิตพฺพา.

ยสฺมา ปน อริยสจฺจปฺปฏิเวเธน สมุคฺฆาฏิตสมฺโมหาเยว ปรมตฺถโต ปณฺฑิตา พาลฺยาทิสมติกฺกมนโต, ตสฺมา ภาวิตโลกุตฺตรมคฺคา สจฺฉิกตสามฺผลา จ อริยปุคฺคลา วิเสสโต วิทูติ วุจฺจนฺติ. เต หิ ยถาวุตฺตสาสนวรํ อวิปรีตโต าตุํ เนตุฺจ สปรสนฺตาเน สกฺกุณนฺตีติ อฏฺอริยปุคฺคลสมูหสฺส ปรมตฺถสงฺฆสฺสาปิ อิธ คหิตตฺตา เย สุปฺปฏิปนฺนตาทโย อเนเกหิ สุตฺตปเทหิ สํวณฺณิตา อริยสงฺฆคุณา, เตปิ นิรวเสสโต อิธ ปกาสิตาติ เวทิตพฺพา.

เอวํ ปมคาถาย สาติสยํ รตนตฺตยคุณปริทีปนํ กตฺวา อิทานิ –

‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณํ, กุสลสฺส อุปสมฺปทา;

สจิตฺตปริโยทปนํ, เอตํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติ. (ที. นิ. ๒.๙๐; ธ. ป. ๑๘๓; เนตฺติ. ๓๐, ๕๐, ๑๑๖, ๑๒๔) –

วจนโต สงฺเขปโต สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สาสนํ, ตํ ปน สิกฺขตฺตยํ าณวิเสสวิสยภาวเภทโต อวตฺถาเภทโต จ ติวิธํ โหติ. กถํ? สุตมยาณโคจโร จ โย ‘‘ปริยตฺติสทฺธมฺโม’’ติ วุจฺจติ. จินฺตามยาณโคจโร จ โย อาการปริวิตกฺกทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺตีหิ คเหตพฺพากาโร วิมุตฺตายตนวิเสโส ‘‘ปฏิปตฺติสทฺธมฺโม’’ติ วุจฺจติ. วิปสฺสนาาณาทิสหคโต ภาวนามยาณโคจโร จ โย ‘‘ปฏิเวธสทฺธมฺโม’’ติ วุจฺจติ. เอวํ ติวิธมฺปิ สาสนํ สาสนวรนฺติ ปเทน สงฺคณฺหิตฺวา ตตฺถ ยํ ปมํ, ตํ อิตเรสํ อธิคมูปาโยติ สพฺพสาสนมูลภูตํ อตฺตโน ปกรณสฺส จ วิสยภูตํ ปริยตฺติสาสนเมว ตาว สงฺเขปโต วิภชนฺโต ‘‘ทฺวาทส ปทานี’’ติ คาถมาห.

ตตฺถ ทฺวาทสาติ คณนปริจฺเฉโท. ปทานีติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ. เตสุ พฺยฺชนปทานิ ปชฺชติ อตฺโถ เอเตหีติ ปทานิ. อตฺถปทานิ ปน ปชฺชนฺติ ายนฺตีติ ปทานิ. อุภยมฺปิ วา อุภยถา โยเชตพฺพํ พฺยฺชนปทานมฺปิ อวิปรีตํ ปฏิปชฺชิตพฺพตฺตา, อตฺถปทานํ อุตฺตริวิเสสาธิคมสฺส การณภาวโต, ตานิ ปทานิ ปรโต ปาฬิยฺเว อาวิ ภวิสฺสนฺตีติ ตตฺเถว วณฺณยิสฺสาม. อตฺถสูจนาทิอตฺถโต สุตฺตํ. วุตฺตฺเหตํ สงฺคเหสุ –

‘‘อตฺถานํ สูจนโต, สุวุตฺตโต สวนโตถ สูทนโต;

สุตฺตาณา สุตฺตสภาคโต จ, ‘สุตฺต’นฺติ อกฺขาต’’นฺติ. (ปารา. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา; ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา; ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา);

ตเทตํ ตตฺถ สุตฺตปิฏกวเสน อาคตํ, อิธ ปน ปิฏกตฺตยวเสน โยเชตพฺพํ. ‘‘ทฺวาทส ปทานิ สุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ, ยํ ปริยตฺติสาสนนฺติ อตฺโถ. ตํ สพฺพนฺติ ตํ ‘‘สุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ สกลํ พุทฺธวจนํ. พฺยฺชนฺจ อตฺโถ จาติ พฺยฺชนฺเจว ตทตฺโถ จ. ยโต ‘‘ทฺวาทส ปทานิ สุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อตฺถสูจนาทิโต สุตฺตํ ปริยตฺติธมฺโม, ตฺจ สพฺพํ อตฺถโต ทฺวาทส ปทานิ ฉ พฺยฺชนปทานิ เจว ฉ อตฺถปทานิ จาติ. อถ วา ยเทตํ ‘‘สาสนวร’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ สพฺพํ สุตฺตํ, ปริยตฺติสาสนสฺส อธิปฺเปตตฺตา. อตฺถโต ปน ทฺวาทส ปทานิ, พฺยฺชนตฺถปทสมุทายภาวโต. ยถาห – ‘‘พฺยฺชนฺจ อตฺโถ จา’’ติ. ตํ วิฺเยฺยํ อุภยนฺติ ยสฺมึ พฺยฺชเน อตฺเถ จ วจนวจนียภาเวน สมฺพนฺเธ สุตฺตโวหาโร, ตทุภยํ สรูปโต วิฺาตพฺพํ ตตฺถ กตมํ พฺยฺชนํ กตโม อตฺโถติ? เตเนวาห – ‘‘โก อตฺโถ พฺยฺชนํ กตม’’นฺติ.

เอวํ ‘‘สาสนวร’’นฺติ วุตฺตสฺส สุตฺตสฺส ปริยตฺติภาวํ ตสฺส จ อตฺถพฺยฺชนปทภาเวน เวทิตพฺพตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตสฺส ปวิจยุปายํ เนตฺติปฺปกรณํ ปทตฺถวิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘โสฬสหารา’’ติ คาถมาห.

ตตฺถ โสฬส หารา เอติสฺสาติ โสฬสหารา. ปฺจนยา อฏฺารสมูลปทาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อถ วา โสฬส หารา โสฬสหารา. เอวํ อิตรตฺถาปิ. หารนยมูลปทานิ เอว หิ สงฺเขปโต วิตฺถารโต จ ภาสิตานิ เนตฺตีติ. สาสนสฺส ปริเยฏฺีติ สาสนสฺส อตฺถปริเยสนา, ปริยตฺติสาสนสฺส อตฺถสํวณฺณนาติ อตฺโถ, สกลสฺเสว วา สาสนสฺส อตฺถวิจารณาติ อตฺโถ. ปฏิปตฺติปฏิเวเธปิ หิ เนตฺตินยานุสาเรน อธิคจฺฉนฺตีติ. มหกจฺจาเนนาติ กจฺโจติ ปุราตโน อิสิ, ตสฺส วํสาลงฺการภูโตยํ มหาเถโร ‘‘กจฺจาโน’’ติ วุจฺจติ. มหกจฺจาโนติ ปน ปูชาวจนํ, ยถา มหาโมคฺคลฺลาโนติ, ‘‘กจฺจายนโคตฺตนิทฺทิฏฺา’’ติปิ ปาโ. อยฺจ คาถา เนตฺตึ สงฺคายนฺเตหิ ปกรณตฺถสงฺคณฺหนวเสน ปิตาติ ทฏฺพฺพา. ยถา จายํ, เอวํ หารวิภงฺควาเร ตํตํหารนิทฺเทสนิคมเน ‘‘เตนาห อายสฺมา’’ติอาทิวจนํ, หาราทิสมุทายภูตายํ เนตฺติยํ พฺยฺชนตฺถสมุทาเย จ สุตฺเต กึ เกน วิจิยตีติ วิจารณายํ อาห – ‘‘หารา พฺยฺชนวิจโย’’ติอาทิ.

ตตฺถ โสฬสปิ หารา มูลปทนิทฺธารณมนฺตเรน พฺยฺชนมุเขเนว สุตฺตสฺส สํวณฺณนา โหนฺติ, น นยา วิย มูลปทสงฺขาตสภาวธมฺมนิทฺธารณมุเขนาติ เต ‘‘พฺยฺชนวิจโย สุตฺตสฺสา’’ติ วุตฺตา. อตฺถนยา ปน ยถาวุตฺตอตฺถมุเขเนว สุตฺตสฺส อตฺถสมฺปฏิปตฺติยา โหนฺตีติ อาห – ‘‘นยา ตโย จ สุตฺตตฺโถ’’ติ. อยฺจ วิจารณา ปรโตปิ อาคมิสฺสติ. เกจิ ‘‘นโย จา’’ติ ปนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. อุภยํ ปริคฺคหีตนฺติ หารา นยา จาติ เอตํ อุภยํ สุตฺตสฺส อตฺถนิทฺธารณวเสน ปริสมนฺตโต คหิตํ สพฺพถา สุตฺเต โยชิตํ. วุจฺจติ สุตฺตํ วทติ สํวณฺเณติ. กถํ? ยถาสุตฺตํ สุตฺตานุรูปํ, ยํ สุตฺตํ ยถา สํวณฺเณตพฺพํ, ตถา สํวณฺเณตีติ อตฺโถ. ยํ ยํ สุตฺตนฺติ วา ยถาสุตฺตํ, สพฺพํ สุตฺตนฺติ อตฺโถ. เนตฺตินเยน หิ สํวณฺเณตุํ อสกฺกุเณยฺยํ นาม สุตฺตํ นตฺถีติ.

อิทานิ ยํ วุตฺตํ – ‘‘สาสนวรํ วิทูหิ เยฺย’’นฺติ, ตตฺถ เนตฺติสํวณฺณนาย วิสยภูตํ ปริยตฺติธมฺมเมว ปการนฺตเรน นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ยา เจวา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ อตฺเถสุ กตปริจฺเฉโท พฺยฺชนปฺปพนฺโธ เทสนา, โย ปาโติ วุจฺจติ. ตทตฺโถ เทสิตํ ตาย เทสนาย ปโพธิตตฺตา. ตทุภยฺจ วิมุตฺตายตนสีเสน ปริจยํ กโรนฺตานํ อนุปาทาปรินิพฺพานปริโยสานานํ สมฺปตฺตีนํ เหตุภาวโต เอกนฺเตน วิฺเยฺยํ, ตทุภยวินิมุตฺตสฺส วา เยฺยสฺส อภาวโต ตเทว ทฺวยํ วิฺเยฺยนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ยา เจว…เป… วิฺเยฺยนฺติ. ตตฺราติ ตสฺมึ วิชานเน สาเธตพฺเพ, นิปฺผาเทตพฺเพ เจตํ ภุมฺมํ. อยมานุปุพฺพีติ อยํ วกฺขมานา อนุปุพฺพิ หารนยานํ อนุกฺกโม, อนุกฺกเมน วกฺขมานา หารนยาติ อตฺโถ. นววิธสุตฺตนฺตปริเยฏฺีติ สุตฺตาทิวเสน นวงฺคสฺส สาสนสฺส ปริเยสนา, อตฺถวิจารณาติ อตฺโถ. สามิอตฺเถ วา เอตํ ปจฺจตฺตํ นววิธสุตฺตนฺตปริเยฏฺิยา อนุปุพฺพีติ. อถ วา อนุปุพฺพีติ กรณตฺเถ ปจฺจตฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถาวุตฺตวิชานเน สาเธตพฺเพ วกฺขมานาย หารนยานุปุพฺพิยา อยํ นววิธสุตฺตนฺตสฺส อตฺถปริเยสนาติ.

เอตฺถาห – กถํ ปเนตฺถ เคยฺยงฺคาทีนํ สุตฺตภาโว, สุตฺตภาเว จ เตสํ กถํ สาสนสฺส นวงฺคภาโว. ยฺจ สงฺคเหสุ วุจฺจติ ‘‘สคาถกํ สุตฺตํ เคยฺยํ, นิคฺคาถกํ สุตฺตํ เวยฺยากรณ’’นฺติ, ตถา จ สติ สุตฺตงฺคเมว น สิยา. อถาปิ วิสุํ สุตฺตงฺคํ สิยา, มงฺคลสุตฺตาทีนํ (ขุ. ปา. ๕.๑ อาทโย; สุ. นิ. ๒๖๑ อาทโย) สุตฺตงฺคสงฺคโห น สิยา, คาถาภาวโต ธมฺมปทาทีนํ วิย, เคยฺยงฺคสงฺคโห วา สิยา, สคาถกตฺตา สคาถาวคฺคสฺส วิย, ตถา อุภโตวิภงฺคาทีสุ สคาถกปฺปเทสานนฺติ. วุจฺจเต –

สุตฺตนฺติ สามฺวิธิ, วิเสสวิธโย ปเร;

สนิมิตฺตา นิรุฬฺหตฺตา, สหตาฺเน นาฺโต.

สพฺพสฺสาปิ หิ พุทฺธวจนสฺส สุตฺตนฺติ อยํ สามฺวิธิ. ตถา หิ ‘‘เอตฺตกํ ตสฺส ภควโต สุตฺตาคตํ สุตฺตปริยาปนฺนํ (ปาจิ. ๑๒๔๒), สาวตฺถิยา สุตฺตวิภงฺเค, สกวาเท ปฺจ สุตฺตสตานี’’ติอาทิวจนโต วินยาภิธมฺมปริยตฺติวิเสเสปิ สุตฺตโวหาโร ทิสฺสติ. ตเทกเทเสสุ ปน เคยฺยาทโย วิเสสวิธโย เตน เตน นิมิตฺเตน ปติฏฺิตา. ตถา หิ เคยฺยสฺส สคาถกตฺตํ ตพฺภาวนิมิตฺตํ. โลเกปิ หิ สสิโลกํ สคาถกํ จุณฺณิยคนฺถํ เคยฺย’’นฺติ วทนฺติ. คาถาวิรเห ปน สติ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนภาโว เวยฺยากรณสฺส. ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนฺหิ ‘‘พฺยากรณ’’นฺติ วุจฺจติ. พฺยากรณเมว เวยฺยากรณนฺติ. เอวํ สนฺเต สคาถกาทีนมฺปิ ปฺหาวิสฺสชฺชนวเสน ปวตฺตานํ เวยฺยากรณภาโว อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ, เคยฺยาทิสฺานํ อโนกาสภาวโต ‘‘คาถาวิรเห สตี’’ติ วิเสสิตตฺตา จ. ตถา หิ ธมฺมปทาทีสุ เกวลํ คาถาพนฺเธสุ สคาถกตฺเตปิ โสมนสฺสาณมยิกคาถายุตฺเตสุ ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิวจนสมฺพนฺเธสุ อพฺภุตธมฺมปฏิสํยุตฺเตสุ จ สุตฺตวิเสเสสุ ยถากฺกมํ คาถาอุทานอิติวุตฺตกอพฺภุตธมฺมสฺา ปติฏฺิตา, ตถา สติปิ คาถาพนฺธภาเว ภควโต อตีตาสุ ชาตีสุ จริยานุภาวปฺปกาสเกสุ ชาตกสฺา. สติปิ ปฺหาวิสฺสชฺชนภาเว สคาถกตฺเต จ เกสุจิ สุตฺตนฺเตสุ เวทสฺส ลภาปนโต เวทลฺลสฺา ปติฏฺิตาติ เอวํ เตน เตน สคาถกตฺตาทินา นิมิตฺเตน เตสุ เตสุ สุตฺตวิเสเสสุ เคยฺยงฺคาทิสฺา ปติฏฺิตาติ วิเสสวิธโย สุตฺตงฺคโต ปเร เคยฺยาทโย.

ยํ ปเนตฺถ เคยฺยงฺคาทินิมิตฺตรหิตํ สุตฺตํ, ตํ สุตฺตงฺคํ วิเสสสฺาปริหาเรน สามฺสฺาย ปวตฺตนโตติ. นนุ จ สคาถกํ สุตฺตํ เคยฺยํ, นิคฺคาถกํ สุตฺตํ เวยฺยากรณนฺติ สุตฺตงฺคํ น สมฺภวตีติ โจทนา ตทวตฺถา เอวาติ? น ตทวตฺถา, โสธิตตฺตา. โสธิตฺหิ ปุพฺเพ คาถาวิรเห สติ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนภาโว เวยฺยากรณสฺส ตพฺภาวนิมิตฺตนฺติ. ยฺจ วุตฺตํ – ‘‘คาถาภาวโต มงฺคลสุตฺตาทีนํ สุตฺตงฺคสงฺคโห น สิยา’’ติ, ตมฺปิ น, นิรุฬฺหตฺตา. นิรุฬฺโห หิ มงฺคลสุตฺตาทีสุ สุตฺตภาโว, น หิ ตานิ ธมฺมปทพุทฺธวํสาทโย วิย คาถาภาเวน ปฺาตานิ, กินฺตุ สุตฺตภาเวเนว. เตเนว หิ อฏฺกถายํ ‘‘สุตฺตนามก’’นฺติ นามคฺคหณํ กตํ.

ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘สคาถกตฺตา เคยฺยงฺคสงฺคโห วา สิยา’’ติ, ตทปิ นตฺถิ, ยสฺมา สหตาฺเน. สห คาถาหีติ หิ สคาถกํ. สหภาโว จ นาม อตฺถโต อฺเน โหติ, น จ มงฺคลสุตฺตาทีสุ คาถาวินิมุตฺโต โกจิ สุตฺตปฺปเทโส อตฺถิ. โย สห คาถาหีติ วุจฺเจยฺย, น จ สมุทาโย นาม โกจิ อตฺถิ. ยทปิ วุตฺตํ – ‘‘อุภโตวิภงฺคาทีสุ สคาถกปฺปเทสานํ เคยฺยงฺคสงฺคโห สิยา’’ติ, ตทปิ น อฺโต. อฺา เอว หิ ตา คาถา, ชาตกาทิปริยาปนฺนตฺตา. อโต น ตาหิ อุภโตวิภงฺคาทีนํ เคยฺยงฺคภาโวติ เอวํ สุตฺตาทีนํ องฺคานํ อฺมฺสงฺกราภาโว เวทิตพฺโพ. ยสฺมา ปน สพฺพมฺปิ พุทฺธวจนํ ยถาวุตฺตนเยน อตฺถานํ สูจนาทิอตฺเถน สุตฺตนฺตฺเวว วุจฺจติ, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘นววิธสุตฺตนฺตปริเยฏฺี’’ติ.

สงฺคหวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อุทฺเทสวารวณฺณนา

. เอวํ สงฺคหวาเรน สงฺเขปโต ทสฺสิเต หาราทโย อิทานิ วิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ กตเม โสฬส หารา’’ติอาทิเทสนา อารทฺธา. ตตฺถ ตตฺถาติ ยํ วุตฺตํ – ‘‘โสฬสหารา เนตฺตี’’ติ, ตสฺมึ วจเน, ติสฺสํ วา คาถายํ, ยานิ หารนยมูลปทานิ อุทฺธฏานิ, เตสูติ อตฺโถ. กตเมติ ปุจฺฉาวจนํ. ปุจฺฉา จ นาเมสา ปฺจวิธา อทิฏฺโชตนาปุจฺฉา ทิฏฺสํสนฺทนาปุจฺฉา วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉา อนุมติปุจฺฉา กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาติ. ตาสุ อยํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. โสฬสาติ คณนวเสน ปริจฺเฉโท. เตน เนสํ น ตโต อุทฺธํ อโธ จาติ เอตปรมตํ ทสฺเสติ. สา เจตปรมตา ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. หาราติ คณนวเสน ปริจฺฉินฺนานํ สามฺโต ทสฺสนํ. เทสนา วิจโยติอาทิ สรูปทสฺสนํ.

ตตฺถ เกนฏฺเน หารา? หรียนฺติ เอเตหิ, เอตฺถ วา สุตฺตเคยฺยาทิวิสยา อฺาณสํสยวิปลฺลาสาติ หารา, หรนฺติ วา สยํ ตานิ, หรณมตฺตเมว วาติ หารา ผลูปจาเรน. อถ วา หรียนฺติ โวหรียนฺติ ธมฺมสํวณฺณกธมฺมปฏิคฺคาหเกหิ ธมฺมสฺส ทานคฺคหณวเสนาติ หารา. อถ วา หารา วิยาติ หารา. ยถา หิ อเนกรตนาวลิสมูโห หารสงฺขาโต อตฺตโน อวยวภูตรตนสมฺผสฺเสหิ สมุปฺปชฺชนียมานหิลาทสุโข หุตฺวา ตทุปโภคีชนสรีรสนฺตาปํ นิทาฆปริฬาหุปชนิตํ วูปสเมติ, เอวเมเตปิ นานาวิธปรมตฺถรตนปฺปพนฺธา สํวณฺณนาวิเสสา อตฺตโน อวยวภูตปรมตฺถรตนาธิคเมน สมุปฺปาทิยมานนิพฺพุติสุขา ธมฺมปฏิคฺคาหกชนหทยปริตาปํ กามราคาทิกิเลสเหตุกํ วูปสเมนฺตีติ. อถ วา หารยนฺติ อฺาณาทีนํ หารํ อปคมํ กโรนฺติ อาจิกฺขนฺตีติ วา หารา. อถ วา โสตุชนจิตฺตสฺส หรณโต รมณโต จ หารา นิรุตฺตินเยน, ยถา – ‘‘ภเวสุ วนฺตคมโน ภควา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๔๔; ปารา. อฏฺ. ๑.๑ เวรฺชกณฺฑวณฺณนา). อยํ ตาว หารานํ สาธารณโต อตฺโถ.

อสาธารณโต ปน เทสียติ สํวณฺณียติ เอตาย สุตฺตตฺโถติ เทสนา, เทสนาสหจรณโต วา เทสนา. นนุ จ อฺเปิ หารา เทสนาสงฺขาตสฺส สุตฺตสฺส อตฺถสํวณฺณนโต เทสนาสหจาริโนวาติ? สจฺจเมตํ, อยํ ปน หาโร เยภุยฺเยน ยถารุตวเสเนว วิฺายมาโน เทสนาย สห จรตีติ วตฺตพฺพตํ อรหติ, น ตถา ปเร. น หิ อสฺสาทาทีนวนิสฺสรณาทิสนฺทสฺสนรหิตา สุตฺตเทสนา อตฺถิ. อสฺสาทาทิสนฺทสฺสนวิภาวนลกฺขโณ จายํ หาโรติ.

วิจิยนฺติ เอเตน, เอตฺถ วา ปทปฺหาทโย, วิจิติ เอว วา เตสนฺติ วิจโย. ปาฬิยํ ปน วิจินตีติ วิจโยติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต.

ยุตฺตีติ อุปปตฺติสาธนยุตฺติ, อิธ ปน ยุตฺติวิจารณา ยุตฺติ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘รูปภโว รูป’’นฺติ ยถา, ยุตฺติสหจรณโต วา. อิธาปิ เทสนาหาเร วุตฺตนเยน อตฺโถ วิตฺถาเรตพฺโพ.

ปทฏฺานนฺติ อาสนฺนการณํ, อิธาปิ ปทฏฺานวิจารณาติอาทิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

ลกฺขียนฺติ เอเตน, เอตฺถ วา เอกลกฺขณา ธมฺมา อวุตฺตาปิ เอกวจเนนาติ ลกฺขณํ.

วิยูหียนฺติ วิภาเคน ปิณฺฑียนฺติ เอเตน, เอตฺถ วาติ พฺยูโห. นิพฺพจนาทีนํ สุตฺเต ทสฺสิยมานานํ จตุนฺนํ พฺยูโหติ จตุพฺยูโห, จตุนฺนํ วา พฺยูโห เอตฺถาติ จตุพฺยูโห.

อาวฏฺฏียนฺติ เอเตน, เอตฺถ วา สภาคา วิสภาคา จ ธมฺมา, เตสํ วา อาวฏฺฏนนฺติ อาวฏฺโฏ.

วิภชียนฺติ เอเตน, เอตฺถ วา สาธารณาสาธารณานํ สํกิเลสโวทานธมฺมานํ ภูมิโยติ วิภตฺติ, วิภชนํ วา เอเตสํ ภูมิยาติ วิภตฺติ.

ปฏิปกฺขวเสน ปริวตฺตียนฺติ อิมินา, เอตฺถ วา สุตฺเต วุตฺตธมฺมา, ปริวตฺตนํ วา เตสนฺติ ปริวตฺตโน.

วิวิธํ วจนํ เอกสฺเสวตฺถสฺส วาจกเมตฺถาติ วิวจนํ, วิวจนเมว เววจนํ, วิวิธํ วุจฺจติ เอเตน อตฺโถติ วา วิวจนํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

ปกาเรหิ ปเภทโต วา าปียนฺติ อิมินา, เอตฺถ วา อตฺถาติ ปฺตฺติ.

โอตารียนฺติ อนุปฺปเวสียนฺติ เอเตน, เอตฺถ วา สุตฺตาคตา ธมฺมา ปฏิจฺจสมุปฺปาทาทีสูติ โอตรโณ.

โสธียนฺติ สมาธียนฺติ เอเตน, เอตฺถ วา สุตฺเต ปทปทตฺถปฺหารมฺภาติ โสธโน.

อธิฏฺียนฺติ อนุปวตฺตียนฺติ เอเตน, เอตฺถ วา สามฺวิเสสภูตา ธมฺมา วินา วิกปฺเปนาติ อธิฏฺาโน.

ปริกโรติ อภิสงฺขโรติ ผลนฺติ ปริกฺขาโร, เหตุ ปจฺจโย จ, ปริกฺขารํ อาจิกฺขตีติ ปริกฺขาโร, หาโร, ปริกฺขารวิสยตฺตา ปริกฺขารสหจรณโต วา ปริกฺขาโร.

สมาโรปียนฺติ เอเตน, เอตฺถ วา ปทฏฺานาทิมุเขน ธมฺมาติ สมาโรปโน. สพฺพตฺถ จ ภาวสาธนวเสนาปิ อตฺโถ สมฺภวตีติ ตสฺสาปิ วเสน โยเชตพฺพํ.

ตสฺสาติ ยถาวุตฺตสฺส หารุทฺเทสสฺส. อนุคีตีติ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส สุขคฺคหณตฺถํ อนุปจฺฉา คายนคาถา, ตาสุ โอสานคาถาย อตฺถโต อสํกิณฺณาติ ปทตฺเถน สงฺกรรหิตา, เตน ยทิปิ เกจิ หารา อฺมฺํ อวิสิฏฺา วิย ทิสฺสนฺติ, ตถาปิ เตสํ อตฺถโต สงฺกโร นตฺถีติ ทสฺเสติ. โส จ เนสํ อสงฺกโร ลกฺขณนิทฺเทเส สุปากโฏ โหติ. เอเตสฺเจวาติ เอเตสํ โสฬสนฺนํ หารานํ. ยถา อสงฺกโร, ตถา เจว ภวติ. กึ ภวติ? วิตฺถารตยา วิตฺถาเรน. นยวิภตฺติ นเยน อุปาเยน าเยน วิภาโค. เอเตน ตํ เอว อสงฺกิณฺณตํ วิภาเวติ. เกจิ ‘‘วิตฺถารนยา’’ติ ปนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ, อยฺจ คาถา เกสุจิ โปตฺถเกสุ นตฺถิ.

. เอวํ หาเร อุทฺทิสิตฺวา อิทานิ นเย อุทฺทิสิตุํ ‘‘ตตฺถ กตเม’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นยนฺติ สํกิเลเส โวทานานิ จ วิภาคโต าเปนฺตีติ นยา, นียนฺติ วา ตานิ เอเตหิ, เอตฺถ วาติ นยา, นยนมตฺตเมว วาติ นยา, นียนฺติ วา สยํ ธมฺมกถิเกหิ อุปนียนฺติ สุตฺตสฺส อตฺถปวิจยตฺถนฺติ นยา. อถ วา นยา วิยาติ นยา. ยถา หิ เอกตฺตาทโย นยา สมฺมา ปฏิวิชฺฌิยมานา ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมานํ ยถากฺกมํ สมฺพนฺธวิภาคพฺยาปารวิรหานุรูปผลภาวทสฺสเนน อสงฺกรโต สมฺมุติสจฺจปรมตฺถสจฺจานํ สภาวํ ปเวทยนฺตา ปรมตฺถสจฺจปฺปฏิเวธาย สํวตฺตนฺติ, เอวเมเตปิ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคธมฺมวิภาคทสฺสเนน อวิปรีตสุตฺตตฺถาวโพธาย อภิสมฺภุณนฺตา เวเนยฺยานํ จตุสจฺจปฺปฏิเวธาย สํวตฺตนฺติ. อถ วา ปริยตฺติอตฺถสฺส นยนโต สํกิเลสโต ยมนโต จ นยา นิรุตฺตินเยน.

นนฺทิยาวฏฺโฏติอาทีสุ นนฺทิยาวฏฺฏสฺส วิย อาวฏฺโฏ เอตสฺสาติ นนฺทิยาวฏฺโฏ, ยถา หิ นนฺทิยาวฏฺโฏ อนฺโติเตน ปธานาวยเวน พหิทฺธา อาวฏฺฏติ, เอวมยมฺปิ นโยติ อตฺโถ. อถ วา นนฺทิยา ตณฺหาย ปโมทสฺส วา อาวฏฺโฏ เอตฺถาติ นนฺทิยาวฏฺโฏ. ตีหิ อวยเวหิ โลภาทีหิ สํกิเลสปกฺเข อโลภาทีหิ จ โวทานปกฺเข ปุกฺขโล โสภโนติ ติปุกฺขโล. อสนฺตาสนชวปรกฺกมาทิวิเสสโยเคน สีโห ภควา, ตสฺส วิกฺกีฬิตํ เทสนาวจีกมฺมภูโต วิหาโรติ กตฺวา วิปลฺลาสตปฺปฏิปกฺขปริทีปนโต สีหสฺส วิกฺกีฬิตํ เอตฺถาติ สีหวิกฺกีฬิโต, นโย. พลวิเสสโยคทีปนโต วา สีหวิกฺกีฬิตสทิสตฺตา นโย สีหวิกฺกีฬิโต. พลวิเสโส เจตฺถ สทฺธาทิพลํ, ทสพลานิ เอว วา. อตฺถนยตฺตยทิสาภาเวน กุสลาทิธมฺมานํ อาโลจนํ ทิสาโลจนํ. ตถา อาโลจิตานํ เตสํ ธมฺมานํ อตฺถนยตฺตยโยชเน สมานยนโต องฺกุโส วิย องฺกุโส. คาถาสุ ลฺเชติ ปกาเสติ สุตฺตตฺถนฺติ ลฺชโก, นโย จ โส ลฺชโก จาติ นยลฺชโก. คตาติ าตา, มตาติ อตฺโถ. โส เอว วา ปาโ. เสสํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ.

. เอวํ นเยปิ อุทฺทิสิตฺวา อิทานิ มูลปทานิ อุทฺทิสิตุํ ‘‘ตตฺถ กตมานี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ มูลานิ จ ตานิ นยานํ ปฏฺานภาคานฺจ ปติฏฺาภาวโต ปทานิ จ อธิคมูปายภาวโต โกฏฺาสภาวโต จาติ มูลปทานิ. โกสลฺลสมฺภูตฏฺเน, กุจฺฉิตานํ วา ปาปธมฺมานํ สลนโต วิทฺธํสนโต, กุสานํ วา ราคาทีนํ ลวนโต, กุสา วิย วา ลวนโต, กุเสน วา าเณน ลาตพฺพโต ปวตฺเตตพฺพโต กุสลานิ, ตปฺปฏิปกฺขโต อกุสลานีติ ปทตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เอวํ คณนปริจฺเฉทโต ชาติเภทโต จ มูลปทานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สรูปโต ทสฺเสนฺโต สํกิเลสปกฺขํเยว ปมํ อุทฺทิสติ ‘‘ตณฺหา’’ติอาทินา. ตตฺถ ตสติ ปริตสตีติ ตณฺหา. อวินฺทิยํ วินฺทติ, วินฺทิยํ น วินฺทตีติ อวิชฺชา, วิชฺชาปฏิปกฺขาติ วา อวิชฺชา. ลุพฺภนฺติ เตน, สยํ วา ลุพฺภติ, ลุพฺภนมตฺตเมว วา โสติ โลโภ. โทสโมเหสุปิ เอเสว นโย. อสุเภ ‘‘สุภ’’นฺติ ปวตฺตา สฺา สุภสฺา. สุขสฺาทีสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สงฺคหนฺติ คณนํ. สโมสรณนฺติ สโมโรปนํ.

ปจฺจนีกธมฺเม สเมตีติ สมโถ. อนิจฺจาทีหิ วิวิเธหิ อากาเรหิ ปสฺสตีติ วิปสฺสนา. อโลภาทโย โลภาทิปฏิปกฺขโต เวทิตพฺพา. อสุเภ ‘‘อสุภ’’นฺติ ปวตฺตา สฺา อสุภสฺา, กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ. สฺาสีเสน หิ เทสนา. ทุกฺขสฺาทีสุปิ เอเสว นโย.

อิทํ อุทฺทานนฺติ อิทํ วุตฺตสฺเสว อตฺถสฺส วิปฺปกิณฺณภาเวน นสฺสิตุํ อทตฺวา อุทฺธํ ทานํ รกฺขณํ อุทฺทานํ, สงฺคหวจนนฺติ อตฺโถ. ‘‘จตฺตาโร วิปลฺลาสา’’ติปิ ปาโ. กิเลสภูมีติ สํกิเลสภูมิ สพฺเพสํ อกุสลธมฺมานํ สโมสรณฏฺานตฺตา. กุสลานํ ยานิ ตีณิ มูลานิ. ‘‘กุสลานี’’ติปิ ปนฺติ. สติปฏฺานาติ อสุภสฺาทโย สนฺธายาห. อินฺทฺริยภูมีติ สทฺธาทีนํ วิมุตฺติปริปาจนินฺทฺริยานํ สโมสรณฏฺานตฺตา วุตฺตํ. ยุชฺชนฺตีติ โยชียนฺติ. โขติ ปทปูรเณ, อวธารณตฺเถ วา นิปาโต. เตน เอเต เอวาติ ทสฺเสติ. อฏฺารเสวาติ วา. มูลปทาติ มูลปทานิ, ลิงฺควิปลฺลาโส วา.

อุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. นิทฺเทสวารวณฺณนา

. เอวํ อุทฺทิฏฺเ หาราทโย นิทฺทิสิตุํ ‘‘ตตฺถ สงฺเขปโต’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ อุทฺเทสปาเ. สงฺเขปโต เนตฺติ กิตฺติตาติ สมาสโต เนตฺติปฺปกรณํ กถิตํ. หารนยมูลปทานฺหิ สรูปทสฺสนํ อุทฺเทสปาเน กตนฺติ. เอตฺถ จ หารนยานํ –

สามฺโต วิเสเสน, ปทตฺโถ ลกฺขณํ กโม;

เอตฺตาวตา จ เหตฺวาที, เวทิตพฺพา หิ วิฺุนา.

เตสุ อวิเสสโต วิเสสโต จ หารนยานํ อตฺโถ ทสฺสิโต. ลกฺขณาทีสุ ปน อวิเสสโต สพฺเพปิ หารา นยา จ ยถากฺกมํ พฺยฺชนตฺถมุเขน นวงฺคสฺส สาสนสฺส อตฺถสํวณฺณนลกฺขณา. วิเสสโต ปน ตสฺส ตสฺส หารสฺส นยสฺส จ ลกฺขณํ นิทฺเทเส เอว กถยิสฺสาม. กมาทีนิ จ ยสฺมา เนสํ ลกฺขเณสุ าเตสุ วิฺเยฺยานิ โหนฺติ, ตสฺมา ตานิปิ นิทฺเทสโต ปรโต ปกาสยิสฺสาม.

หารสงฺเขโป

. ยา ปน อสฺสาทาทีนวตาติอาทิกา นิทฺเทสคาถา, ตาสุ อสฺสาทาทีนวตาติ อสฺสาโท อาทีนวตาติ ปทวิภาโค. อาทีนวตาติ จ อาทีนโว เอว. เกจิ ‘‘อสฺสาทาทีนวโต’’ติ ปนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. ตตฺถ อสฺสาทียตีติ อสฺสาโท, สุขํ โสมนสฺสฺจ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อยํ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อสฺสาโท’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๖๖; สํ. นิ. ๓.๒๖). ยถา เจตํ สุขํ โสมนสฺสํ, เอวํ อิฏฺารมฺมณมฺปิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘โส ตทสฺสาเทติ ตํ นิกาเมตี’’ติ ‘‘รูปํ อสฺสาเทติ อภินนฺทติ, ตํ อารพฺภ ราโค อุปฺปชฺชตี’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๔), ‘‘สํโยชนีเยสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน’’ติ (สํ. นิ. ๒.๕๓) จ. อสฺสาเทติ เอตายาติ วา อสฺสาโท, ตณฺหา. ตณฺหาย หิ การณภูตาย ปุคฺคโล สุขมฺปิ สุขารมฺมณมฺปิ อสฺสาเทติ. ยถา จ ตณฺหา, เอวํ วิปลฺลาสาปิ. วิปลฺลาสวเสน หิ สตฺตา อนิฏฺมฺปิ อารมฺมณํ อิฏฺากาเรน อสฺสาเทนฺติ, เอวํ เวทนาย สพฺเพสํ เตภูมกสงฺขารานํ ตณฺหาย วิปลฺลาสานฺจ อสฺสาทวิจาโร เวทิตพฺโพ.

กถํ ปน ทุกฺขาทุกฺขมสุขเวทนานํ อสฺสาทนียตาติ? วิปลฺลาสโต สุขปริยายสพฺภาวโต จ. ตถา หิ วุตฺตํ – ‘‘สุขา โข, อาวุโส วิสาข, เวทนา ิติสุขา วิปริณามทุกฺขา. ทุกฺขา เวทนา ิติทุกฺขา วิปริณามสุขา, อทุกฺขมสุขา เวทนา าณสุขา อฺาณทุกฺขา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕). ตตฺถ เวทนาย อฏฺสตปริยายวเสน, เตภูมกสงฺขารานํ นิกฺเขปกณฺฑรูปกณฺฑวเสน, ตณฺหาย สํกิเลสวตฺถุวิภงฺเค นิกฺเขปกณฺเฑ จ ตณฺหานิทฺเทสวเสน, วิปลฺลาสานํ สุขสฺาทิวเสน ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตวเสน จ วิภาโค เวทิตพฺโพ.

อาทีนโว ทุกฺขา เวทนา ติสฺโสปิ วา ทุกฺขตา. อถ วา สพฺเพปิ เตภูมกา สงฺขารา อาทีนโว. อาทีนํ อติวิย กปณํ วาติ ปวตฺตตีติ หิ อาทีนโว, กปณมนุสฺโส, เอวํสภาวา จ เตภูมกา ธมฺมา อนิจฺจตาทิโยเคน. ยโต ตตฺถ อาทีนวานุปสฺสนา อารทฺธวิปสฺสกานํ ยถาภูตนโยติ วุจฺจติ. ตถา จ วุตฺตํ – ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา, อยํ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อาทีนโว’’ติ. ตสฺมา อาทีนโว ทุกฺขสจฺจนิทฺเทสภูตานํ ชาติยาทีนํ อนิจฺจตาทีนํ ทฺวาจตฺตาลีสาย อาการานฺจ วเสน วิภชิตฺวา นิทฺทิสิตพฺโพ.

นิสฺสรติ เอเตนาติ นิสฺสรณํ, อริยมคฺโค. นิสฺสรตีติ วา นิสฺสรณํ นิพฺพานํ. อุภยมฺปิ สามฺนิทฺเทเสน เอกเสเสน วา ‘‘นิสฺสรณ’’นฺติ วุตฺตํ. ปิ-สทฺโท ปุริมานํ ปจฺฉิมานฺจ สมฺปิณฺฑนตฺโถ. ตตฺถ อริยมคฺคปกฺเข สติปฏฺานาทีนํ สตฺตตฺตึสโพธิปกฺขิยธมฺมานํ กายานุปสฺสนาทีนฺจ ตทนฺโตคธเภทานํ วเสน นิสฺสรณํ วิภชิตฺวา นิทฺทิสิตพฺพํ.

นิพฺพานปกฺเข ปน กิฺจาปิ อสงฺขตาย ธาตุยา นิปฺปริยาเยน วิภาโค นตฺถิ. ปริยาเยน ปน โสปาทิเสสนิรุปาทิเสสเภเทน. ยโต วา ตํ นิสฺสฏํ, เตสํ ปฏิสมฺภิทามคฺเค (ปฏิ. ม. ๑.๓) ทสฺสิตปฺปเภทานํ จกฺขาทีนํ ฉนฺนํ ทฺวารานํ รูปาทีนํ ฉนฺนํ อารมฺมณานํ ตํตํทฺวารปฺปวตฺตานํ ฉนฺนํ ฉนฺนํ วิฺาณผสฺสเวทนาสฺาเจตนาตณฺหาวิตกฺกวิจารานํ ปถวีธาตุอาทีนํ ฉนฺนํ ธาตูนํ ทสนฺนํ กสิณายตนานํ อสุภานํ เกสาทีนํ ทฺวตฺตึสาย อาการานํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ ทฺวาทสนฺนํ อายตนานํ อฏฺารสนฺนํ ธาตูนํ โลกิยานํ อินฺทฺริยานํ กามธาตุอาทีนํ ติสฺสนฺนํ ธาตูนํ กามภวาทีนํ ติณฺณํ ติณฺณํ ภวานํ จตุนฺนํ ฌานานํ อปฺปมฺานํ อารุปฺปานํ ทฺวาทสนฺนํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานฺจาติ เอวมาทีนํ สงฺขตธมฺมานํ นิสฺสรณภาเวน จ วิภชิตฺวา นิทฺทิสิตพฺพํ.

ผลนฺติ เทสนาผลํ. กึ ปน ตนฺติ? ยํ เทสนาย นิปฺผาทียติ. นนุ จ นิพฺพานาธิคโม ภควโต เทสนาย นิปฺผาทียติ. นิพฺพานฺจ ‘‘นิสฺสรณ’’นฺติ อิมินา วุตฺตเมวาติ? สจฺจเมตํ, ตฺจ โข ปรมฺปราย. อิธ ปน ปจฺจกฺขโต เทสนาผลํ อธิปฺเปตํ. ตํ ปน สุตมยาณํ. อตฺถธมฺมเวทาทิอริยมคฺคสฺส ปุพฺพภาคปฺปฏิปตฺติภูตา ฉพฺพิสุทฺธิโย. ยฺจ ตสฺมึ ขเณ มคฺคํ อนภิสมฺภุณนฺตสฺส กาลนฺตเร ตทธิคมการณภูตํ สมฺปตฺติภวเหตุ จ สิยา. ตถา หิ วกฺขติ – ‘‘อตฺตานุทิฏฺึ อูหจฺจ, เอวํ มจฺจุตโร สิยาติ (สุ. นิ. ๑๑๒๕; กถา. ๒๒๖; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉา ๑๔๔, โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๘; เนตฺติ. ๕; เปฏโก. ๒๒) อิทํ ผล’’นฺติ, ‘‘ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารินฺติ อิทํ ผล’’นฺติ (ชา. ๑.๑๐.๑๐๒-๑๐๓; ๑.๑๕.๓๘๕) จ. เอเตน นเยน เทเวสุ จ มานุเสสุ จ อายุวณฺณพลสุขยสปริวารอาธิปเตยฺยสมฺปตฺติโย อุปธิสมฺปตฺติโย จกฺกวตฺติสิรี เทวรชฺชสิรี จตฺตาริ สมฺปตฺติจกฺกานิ สีลสมฺปทา สมาธิสมฺปทา ติสฺโส วิชฺชา ฉ อภิฺา จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา สาวกโพธิ ปจฺเจกโพธิ สมฺมาสมฺโพธีติ สพฺพาปิ สมฺปตฺติโย ปุฺสมฺภารเหตุกา ภควโต เทสนาย สาเธตพฺพตาย ผลนฺติ เวทิตพฺพา.

อุปาโยติ อริยมคฺคปทฏฺานภูตา ปุพฺพภาคปฺปฏิปทา. สา หิ ปุริมา ปุริมา ปจฺฉิมาย ปจฺฉิมาย อธิคมูปายภาวโต ปรมฺปราย มคฺคนิพฺพานาธิคมสฺส จ เหตุภาวโต อุปาโย. ยา จ ปุพฺเพ วุตฺตผลาธิคมสฺส อุปายปฏิปตฺติ. เกจิ ปน ‘‘สห วิปสฺสนาย มคฺโค อุปาโย’’ติ วทนฺติ, เตสํ มเตน นิสฺสรณนฺติ นิพฺพานเมว วุตฺตํ สิยา. ผลํ วิย อุปาโยปิ ปุพฺพภาโคติ วุตฺตํ สิยา, ยํ ปน วกฺขติ ‘‘สพฺเพ ธมฺมา…เป… วิสุทฺธิยาติ (ธ. ป. ๒๗๙; เถรคา. ๖๗๘) อยํ อุปาโย’’ติ. เอตฺถาปิ ปุพฺพภาคปฺปฏิปทา เอว อุทาหฏาติ สกฺกา วิฺาตุํ. ยสฺมา ปน ‘‘เต ปหาย ตเร โอฆนฺติ อิทํ นิสฺสรณ’’นฺติ อริยมคฺคสฺส นิสฺสรณภาวํ วกฺขติ. อริยมคฺโค หิ โอฆตรณนฺติ.

อาณตฺตีติ อาณารหสฺส ภควโต เวเนยฺยชนสฺส หิตสิทฺธิยา ‘‘เอวํ ปฏิปชฺชาหี’’ติ วิธานํ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘สุฺโต โลกํ อเวกฺขสฺสุ, โมฆราชาติ (สุ. นิ. ๑๑๒๕; กถา. ๒๒๖; เนตฺติ. ๕; เปฏโก. ๒๒; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉา ๑๔๔, โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๘) อาณตฺตี’’ติ.

โยคีนนฺติ จตุสจฺจกมฺมฏฺานภาวนาย ยุตฺตปฺปยุตฺตานํ เวเนยฺยานํ, อตฺถายาติ วจนเสโส. เทสนาหาโรติ เอเตสํ ยถาวุตฺตานํ อสฺสาทาทีนํ วิภชนลกฺขโณ สํวณฺณนาวิเสโส เทสนาหาโร นามาติ อตฺโถ. เอตฺถาห – กึ ปเนเตสํ อสฺสาทาทีนํ อนวเสสานํ วจนํ เทสนาหาโร, อุทาหุ เอกจฺจานนฺติ? นิรวเสสานํเยว. ยสฺมิฺหิ สุตฺเต อสฺสาทาทีนวนิสฺสรณานิ สรูปโต อาคตานิ, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ยตฺถ ปน เอกเทเสน อาคตานิ, น วา สรูเปน. ตตฺถ อนาคตํ อตฺถวเสน นิทฺธาเรตฺวา หาโร โยเชตพฺโพ. อยฺจ อตฺโถ เทสนาหารวิภงฺเค อาคมิสฺสตีติ อิธ น ปปฺจิโต.

. ยํ ปุจฺฉิตนฺติ ยา ปุจฺฉา, วิจิยมานาติ วจนเสโส. วิสฺสชฺชิตํ อนุคีตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ตตฺถ วิสฺสชฺชิตนฺติ วิสฺสชฺชนา, สา เอกํสพฺยากรณาทิวเสน จตุพฺพิธํ พฺยากรณํ. -สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ, เตน คาถายํ อวุตฺตํ ปทาทึ สงฺคณฺหาติ. ตา ปน ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนา กสฺสาติ อาห ‘‘สุตฺตสฺสา’’ติ. เอเตน สุตฺเต อาคตํ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ วิเจตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. ยา จ อนุคีติติ วุตฺตสฺเสว อตฺถสฺส ยา อนุ ปจฺฉา คีติ อนุคีติ, สงฺคหคาถา, ปุจฺฉาย วา อนุรูปา คีติ. เอเตน ปุพฺพาปรํ คหิตํ. พฺยากรณสฺส หิ ปุจฺฉานุรูปตา อิธ ปุพฺพาปรํ อธิปฺเปตํ. ยา ‘‘ปุจฺฉานุสนฺธี’’ติ วุจฺจติ. ปุริมํ ‘‘สุตฺตสฺสา’’ติ ปทํ ปุพฺพาเปกฺขนฺติ ปุน ‘‘สุตฺตสฺสา’’ติ วุตฺตํ. เตน สุตฺตสฺส นิสฺสยภูเต อสฺสาทาทิเก ปริคฺคณฺหาติ. เอตฺตาวตา วิจยหารสฺส วิสโย นิรวเสเสน ทสฺสิโต โหติ. ตถา จ วกฺขติ วิจยหารวิภงฺเค ‘‘ปทํ วิจินติ…เป… อนุคีตึ วิจินตี’’ติ.

ตตฺถ สุตฺเต สพฺเพสํ ปทานํ อนุปุพฺเพน อตฺถโส พฺยฺชนโส จ วิจโย ปทวิจโย. ‘‘อยํ ปุจฺฉา อทิฏฺโชตนา ทิฏฺสํสนฺทนา วิมติจฺเฉทนา อนุมติปุจฺฉา กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา สตฺตาธิฏฺานา ธมฺมาธิฏฺานา เอกาธิฏฺานา อเนกาธิฏฺานา สมฺมุติวิสยา ปรมตฺถวิสยา อตีตวิสยา อนาคตวิสยา ปจฺจุปฺปนฺนวิสยา’’ติอาทินา ปุจฺฉาวิจโย เวทิตพฺโพ. ‘‘อิทํ วิสฺสชฺชนํ เอกํสพฺยากรณํ วิภชฺชพฺยากรณํ ปฏิปุจฺฉาพฺยากรณํ ปนํ สาวเสสํ นิรวเสสํ สอุตฺตรํ อนุตฺตรํ โลกิยํ โลกุตฺตร’’นฺติอาทินา วิสฺสชฺชนวิจโย.

‘‘อยํ ปุจฺฉา อิมินา สเมติ, เอเตน น สเมตี’’ติ ปุจฺฉิตตฺถํ อาเนตฺวา วิจโย ปุพฺเพนาปรํ สํสนฺทิตฺวา จ วิจโย ปุพฺพาปรวิจโย. ‘‘อยํ อนุคีติ วุตฺตตฺถสงฺคหา อวุตฺตตฺถสงฺคหา ตทุภยตฺถสงฺคหา กุสลตฺถสงฺคหา อกุสลตฺถสงฺคหา’’ติอาทินา อนุคีติวิจโย. อสฺสาทาทีสุ สุขเวทนาย ‘‘อิฏฺารมฺมณานุภวนลกฺขณา’’ติอาทินา, ตณฺหาย ‘‘อารมฺมณคฺคหณลกฺขณา’’ติอาทินา, วิปลฺลาสานํ ‘‘วิปรีตคฺคหณลกฺขณา’’ติอาทินา, อวสิฏฺานํ เตภูมกธมฺมานํ ‘‘ยถาสกลกฺขณา’’ติอาทินา สพฺเพสฺจ ทฺวาวีสติยา ติเกสุ ทฺวาจตฺตาลีสาธิเก จ ทุกสเต ลพฺภมานปทวเสน ตํตํอสฺสาทตฺถวิเสสนิทฺธารณํ อสฺสาทวิจโย.

ทุกฺขเวทนาย ‘‘อนิฏฺานุภวนลกฺขณา’’ติอาทินา, ทุกฺขสจฺจานํ ‘‘ปฏิสนฺธิลกฺขณา’’ติอาทินา, อนิจฺจตาทีนํ อาทิอนฺตวนฺตตาย อนิจฺจนฺติกตาย จ ‘‘อนิจฺจา’’ติอาทินา สพฺเพสฺจ โลกิยธมฺมานํ สํกิเลสภาคิยหานภาคิยตาทิวเสน อาทีนววุตฺติยา โอการนิทฺธารเณน อาทีนววิจโย. นิสฺสรณปเท อริยมคฺคสฺส อาคมนโต กายานุปสฺสนาทิปุพฺพภาคปฺปฏิปทาวิภาควิเสสนิทฺธารณวเสน นิพฺพานสฺส ยถาวุตฺตปริยายวิภาควิเสสนิทฺธารณวเสนาติ เอวํ นิสฺสรณวิจโย. ผลาทีนํ ตํตํสุตฺตเทสนาย สาเธตพฺพผลสฺส ตทุปายสฺส ตตฺถ ตตฺถ สุตฺตวิธิวจนสฺส จ วิภาคนิทฺธารณวเสน วิจโย เวทิตพฺโพ. เอวํ ปทปุจฺฉาวิสฺสชฺชนปุพฺพาปรานุคีตีนํ อสฺสาทาทีนฺจ วิเสสนิทฺธารณวเสเนว วิจยลกฺขโณ ‘‘วิจโย หาโร’’ติ เวทิตพฺโพ.

. สพฺเพสนฺติ โสฬสนฺนํ. ภูมีติ พฺยฺชนํ สนฺธายาห. พฺยฺชนฺหิ มูลปทานิ วิย นยานํ หารานํ ภูมิ ปวตฺติฏฺานํ, เตสํ พฺยฺชนวิจารภาวโต. วุตฺตฺหิ – ‘‘หารา พฺยฺชนวิจโย’’ติ, เปฏเกปิ หิ วุตฺตํ – ‘‘ยตฺถ จ สพฺเพ หารา, สมฺปตมานา นยนฺติ สุตฺตตฺถํ. พฺยฺชนวิธิปุถุตฺตา’’ติ. โคจโรติ สุตฺตตฺโถ. สุตฺตสฺส หิ ปทตฺถุทฺธารณมุเขน หารโยชนา. เตสํ พฺยฺชนตฺถานํ. ยุตฺตายุตฺตปริกฺขาติ ยุตฺตสฺส จ อยุตฺตสฺส จ อุปปริกฺขา. ‘‘ยุตฺตายุตฺติปริกฺขา’’ติปิ ปาโ, ยุตฺติอยุตฺตีนํ วิจารณาติ อตฺโถ. กถํ ปน เตสํ ยุตฺตายุตฺตชานนา? จตูหิ มหาปเทเสหิ อวิรุชฺฌเนน. ตตฺถ พฺยฺชนสฺส ตาว สภาวนิรุตฺติภาโว อธิปฺเปตตฺถวาจกภาโว จ ยุตฺตภาโว. อตฺถสฺส ปน สุตฺตวินยธมฺมตาหิ อวิโลมนํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. หาโร ยุตฺตีติ นิทฺทิฏฺโติ เอวํ สุตฺเต พฺยฺชนตฺถานํ ยุตฺตายุตฺตภาววิภาวนลกฺขโณ ยุตฺติหาโรติ เวทิตพฺโพ.

. ธมฺมนฺติ ยํ กิฺจิ สุตฺตาคตํ กุสลาทิธมฺมมาห. ตสฺส ธมฺมสฺสาติ ตสฺส ยถาวุตฺตสฺส กุสลาทิธมฺมสฺส. ยํ ปทฏฺานนฺติ ยํ การณํ, โยนิโสมนสิการาทิ สุตฺเต อาคตํ วา อนาคตํ วา สมฺภวโต นิทฺธาเรตฺวา กเถตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. อิตีติ เอวํ, วุตฺตนเยนาติ อตฺโถ. ยาว สพฺพธมฺมาติ ยตฺตกา ตสฺมึ สุตฺเต อาคตา ธมฺมา, เตสํ สพฺเพสมฺปิ ยถานุรูปํ ปทฏฺานํ นิทฺธาเรตฺวา กเถตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. อถ วา ยาว สพฺพธมฺมาติ สุตฺตาคตสฺส ธมฺมสฺส ยํ ปทฏฺานํ, ตสฺสปิ ยํ ปทฏฺานนฺติ สมฺภวโต ยาว สพฺพธมฺมา ปทฏฺานวิจารณา กาตพฺพาติ อตฺโถ. เอโส หาโร ปทฏฺาโนติ เอวํ สุตฺเต อาคตธมฺมานํ ปทฏฺานภูตา ธมฺมา เตสฺจ ปทฏฺานภูตาติ สมฺภวโต ปทฏฺานภูตธมฺมนิทฺธารณลกฺขโณ ปทฏฺาโน นาม หาโรติ อตฺโถ.

. วุตฺตมฺหิ เอกธมฺเมติ กุสลาทีสุ ขนฺธาทีสุ วา ยสฺมึ กิสฺมิฺจิ เอกธมฺเม, สุตฺเต สรูปโต นิทฺธารณวเสน วา กถิเต. เย ธมฺมา เอกลกฺขณา เกจีติ เย เกจิ ธมฺมา กุสลาทิภาเวน รูปกฺขนฺธาทิภาเวน วา เตน ธมฺเมน สมานลกฺขณา. วุตฺตา ภวนฺติ สพฺเพติ เต สพฺเพปิ กุสลาทิสภาวา, ขนฺธาทิสภาวา วา ธมฺมา สุตฺเต อวุตฺตาปิ ตาย สมานลกฺขณตาย วุตฺตา ภวนฺติ อาเนตฺวา สํวณฺณนาวเสนาติ อธิปฺปาโย. เอตฺถ จ เอกลกฺขณาติ สมานลกฺขณา วุตฺตา. เตน สหจาริตา สมานกิจฺจตา สมานเหตุตา สมานผลตา สมานารมฺมณตาติ เอวมาทีหิ อวุตฺตานมฺปิ วุตฺตานํ วิย นิทฺธารณํ เวทิตพฺพํ. โส หาโร ลกฺขโณ นามาติ เอวํ สุตฺเต อนาคเตปิ ธมฺเม วุตฺตปฺปกาเรน อาคเต วิย นิทฺธาเรตฺวา ยา สํวณฺณนา, โส ลกฺขโณ นาม หาโรติ อตฺโถ.

. เนรุตฺตนฺติ นิรุตฺตํ, ปทนิพฺพจนนฺติ อตฺโถ. อธิปฺปาโยติ พุทฺธานํ สาวกานํ วา ตสฺส สุตฺตสฺส เทสกานํ อธิปฺปาโย. พฺยฺชนนฺติ พฺยฺชเนน, กรเณ หิ เอตํ ปจฺจตฺตํ. กามฺจ สพฺเพ หารา พฺยฺชนวิจยา, อยํ ปน วิเสสโต พฺยฺชนทฺวาเรเนว อตฺถปริเยสนาติ กตฺวา ‘‘พฺยฺชน’’นฺติ วุตฺตํ. ตถา หิ วกฺขติ – ‘‘พฺยฺชเนน สุตฺตสฺส เนรุตฺตฺจ อธิปฺปาโย จ นิทานฺจ ปุพฺพาปรานุสนฺธิ จ คเวสิตพฺพา’’ติ. อถาติ ปทปูรณมตฺตํ. เทสนานิทานนฺติ นิททาติ ผลนฺติ นิทานํ, การณํ, เยน การเณน เทสนา ปวตฺตา, ตํ เทสนาย ปวตฺตินิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. ปุพฺพาปรานุสนฺธีติ ปุพฺเพน จ อปเรน จ อนุสนฺธิ. ‘‘ปุพฺพาปเรน สนฺธี’’ติปิ ปาโ, สุตฺตสฺส ปุพฺพภาเคน อปรภาคํ สํสนฺทิตฺวา กถนนฺติ อตฺโถ. สงฺคีติวเสน วา ปุพฺพาปรภูเตหิ สุตฺตนฺตเรหิ สํวณฺณิยมานสฺส สุตฺตสฺส สํสนฺทนํ ปุพฺพาปรานุสนฺธิ. ยฺจ ปุพฺพปเทน ปรปทสฺส สมฺพนฺธนํ, อยมฺปิ ปุพฺพาปรานุสนฺธิ. เอโส หาโร จตุพฺยูโหติ เอวํ นิพฺพจนาธิปฺปายาทีนํ จตุนฺนํ วิภาวนลกฺขโณ จตุพฺยูโห หาโร นามาติ อตฺโถ.

. เอกมฺหิ ปทฏฺาเนติ เอกสฺมึ อารมฺภธาตุอาทิเก ปรกฺกมธาตุอาทีนํ ปทฏฺานภูเต ธมฺเม เทสนารุฬฺเห สติ. ปริเยสติ เสสกํ ปทฏฺานนฺติ ตสฺส วิสภาคตาย อคฺคหเณน วา เสสกํ ปมาทาทีนํ อาสนฺนการณตฺตา ปทฏฺานภูตํ โกสชฺชาทิกํ ธมฺมนฺตรํ ปริเยสติ ปฺาย คเวสติ, ปริเยสิตฺวา จ สํวณฺณนาย โยเชนฺโต เทสนํ อาวฏฺฏติ ปฏิปกฺเขติ วีริยารมฺภาทิมุเขน อารทฺธสุตฺตํ วุตฺตนเยน ปมาทาทิวเสน นิทฺทิสนฺโต เทสนํ ปฏิปกฺขโต อาวฏฺเฏติ นาม. อาวฏฺโฏ นาม โส หาโรติ เทสนาย คหิตธมฺมานํ สภาควิสภาคธมฺมวเสน อาวฏฺฏนลกฺขโณ อาวฏฺโฏ หาโร นามาติ อตฺโถ.

. ธมฺมนฺติ สภาวธมฺมํ, ตํ กุสลาทิวเสน อเนกวิธํ. ปทฏฺานนฺติ ยสฺมึ ปติฏฺิเต อุตฺตริ คุณวิเสเส อธิคจฺฉติ, ตํ วิเสสาธิคมนการณํ. ภูมินฺติ ปุถุชฺชนภูมิ ทสฺสนภูมีติ เอวมาทิกํ ภูมึ. วิภชฺชเตติ วิภาเคน กเถติ. สาธารเณติ ทสฺสนปหาตพฺพาทินามวเสน วา ปุถุชฺชนโสตาปนฺนาทิวตฺถุวเสน วา สาธารเณ อวิสิฏฺเ สมาเนติ อตฺโถ. วุตฺตวิปริยาเยน อสาธารณา เวทิตพฺพา. เนยฺโย วิภตฺตีติ ยถาวุตฺตธมฺมาทีนํ วิภชโน อยํ หาโร วิภตฺตีติ าตพฺโพติ อตฺโถ. ตสฺมา สํกิเลสธมฺเม โวทานธมฺเม จ สาธารณาสาธารณโต ปทฏฺานโต ภูมิโต จ วิภชนลกฺขโณ ‘‘วิภตฺติหาโร’’ติ ทฏฺพฺพํ.

. นิทฺทิฏฺเติ กถิเต สุตฺเต อาคเต, สํวณฺณิเต วา. ภาวิเตติ ยถา อุปฺปนฺนสทิสา อุปฺปนฺนาติ วุจฺจนฺติ, เอวํ ภาวิตสทิเส ภาเวตพฺเพติ อตฺโถ. ปหีเนติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปริวตฺตติ ปฏิปกฺเขติ วุตฺตานํ ธมฺมานํ เย ปฏิปกฺขา, เตสํ วเสน ปริวตฺเตตีติ อตฺโถ. เอวํ นิทฺทิฏฺานํ ธมฺมานํ ปฏิปกฺขโต ปริวตฺตนลกฺขโณ ‘‘ปริวตฺตโน หาโร’’ติ เวทิตพฺโพ.

๑๐. วิวิธานิ เอกสฺมึเยว อตฺเถ วจนานิ วิวจนานิ, วิวจนานิ เอว เววจนานิ, ปริยายสทฺทาติ อตฺโถ. ตานิ เววจนานิ. พหูนีติ อเนกานิ. ตุ-สทฺโท อวธารเณ. เตน พหู เอว ปริยายสทฺทา เววจนหารโยชนายํ กเถตพฺพา, น กติปยาติ ทสฺเสติ. สุตฺเต วุตฺตานีติ นววิธสุตฺตนฺตสงฺขาเต เตปิฏเก พุทฺธวจเน ภาสิตานิ. เอตฺถาปิ ตุ-สทฺทสฺส อตฺโถ อาเนตฺวา โยเชตพฺโพ, เตน ปาฬิยํ อาคตานิเยว เววจนานิ คเหตพฺพานีติ วุตฺตํ โหติ. เอกธมฺมสฺสาติ เอกสฺส ปทตฺถสฺส. โย ชานาติ สุตฺตวิทูติ ยถา ‘‘สปฺปิสฺส ชานาหี’’ติ วุตฺเต ‘‘สปฺปินา วิจาเรหิ, สปฺปึ เทหิ, เทถา’’ติ วา อาณาเปตีติ อตฺโถ, เอวํ โย สุตฺตโกวิโท ธมฺมกถิโก เอกสฺส อตฺถสฺส พหูปิ ปริยายสทฺเท วิจาเรติ วิภาเวติ โยเชตีติ อตฺโถ. เววจโน นาม โส หาโรติ ตสฺส อตฺถสฺส วุตฺตปฺปการปริยายสทฺทโยชนาลกฺขโณ เววจนหาโร นาม. ตสฺมา เอกสฺมึ อตฺเถ อเนกปริยายสทฺทโยชนาลกฺขโณ ‘‘เววจนหาโร’’ติ เวทิตพฺพํ.

๑๑. ธมฺมนฺติ ขนฺธาทิธมฺมํ. ปฺตฺตีหีติ ปฺาปเนหิ ปกาเรหิ าปเนหิ, อสงฺกรโต วา ปเนหิ. วิวิธาหีติ นิกฺเขปปฺปภวาทิวเสน อเนกวิธาหิ. โส อากาโรติ โย เอกสฺเสวตฺถสฺส นิกฺเขปปฺปภวปฺตฺติอาทิวเสน อเนกาหิ ปฺตฺตีหิ ปฺาปนากาโร. เยฺโย ปฺตฺติ นาม หาโรติ ปฺตฺติหาโร นามาติ าตพฺโพ. ตสฺมา เอเกกสฺส ธมฺมสฺส อเนกาหิ ปฺตฺตีหิ ปฺาเปตพฺพาการวิภาวนลกฺขโณ ‘‘ปฺตฺติหาโร’’ติ เวทิตพฺพํ.

๑๒. ปฏิจฺจุปฺปาโทติ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท. อินฺทฺริยขนฺธาติ อินฺทฺริยานิ จ ขนฺธา จ. ธาตุอายตนาติ ธาตุโย จ อายตนานิ จ. เอเตหีติ โย ทฺวาทสปทิโก ปจฺจยากาโร ยานิ จ ทฺวาวีสตินฺทฺริยานิ เย จ ปฺจกฺขนฺธา ยา จ อฏฺารส ธาตุโย ยานิ จ ทฺวาทสายตนานิ, เอเตหิ สุตฺเต อาคตปทตฺถมุเขน นิทฺธาริยมาเนหิ. โอตรติ โยติ โย สํวณฺณนานโย โอคาหติ, ปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิเก อนุปวิสตีติ อตฺโถ. โอตรโณ นาม โส หาโรติ โย ยถาวุตฺโต สํวณฺณนาวิเสโส, โส โอตรณหาโร นาม. -สทฺเทน เจตฺถ สุฺตมุขาทีนํ คาถายํ อวุตฺตานมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. เอวํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิมุเขหิ สุตฺตตฺถสฺส โอตรณลกฺขโณ โอตรโณ หาโร นามาติ เวทิตพฺพํ.

๑๓. วิสฺสชฺชิตมฺหีติ พุทฺธาทีหิ พฺยากเต. ปฺเหติ าตุํ อิจฺฉิเต อตฺเถ. คาถายนฺติ คาถารุฬฺเห. อิทฺจ ปุจฺฉนฺตา เยภุยฺเยน คาถาพนฺธวเสน ปุจฺฉนฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ. ยมารพฺภาติ สา ปน คาถา ยํ อตฺถํ อารพฺภ อธิกิจฺจ ปุจฺฉิตา, ตสฺส อตฺถสฺส. สุทฺธาสุทฺธปริกฺขาติ ปทํ โสธิตํ, อารมฺโภ น โสธิโต, ปทฺจ โสธิตํ อารมฺโภ จ โสธิโตติ เอวํ ปทาทีนํ โสธิตาโสธิตภาววิจาโร. หาโร โส โสธโน นามาติ ยถาวุตฺตวิจาโร โสธโน หาโร นาม. เอวํ สุตฺเต ปทปทตฺถปฺหารมฺภานํ โสธนลกฺขโณ ‘‘โสธโน หาโร’’ติ เวทิตพฺพํ.

๑๔. เอกตฺตตายาติ เอกสฺส ภาโว เอกตฺตํ, เอกตฺตเมว เอกตฺตตา, ตาย เอกตฺตตาย. เอก-สทฺโท เจตฺถ สมานสทฺทปริยาโย, ตสฺมา สามฺเนาติ อตฺโถ. วิสิฏฺา มตฺตา วิมตฺตา, วิมตฺตาว เวมตฺตํ, ตสฺส ภาโว เวมตฺตตา, ตาย เวมตฺตตาย, วิเสเสนาติ อตฺโถ. เต น วิกปฺปยิตพฺพาติ เย ธมฺมา ‘‘ทุกฺขํ สมุทโย’’ติอาทินา สามฺเน, ‘‘ชาติ ชรา กามตณฺหา ภวตณฺหา’’ติอาทินา วิเสเสน จ สุตฺเต เทสิตา, เต ‘‘กิเมตฺถ สามฺํ, โก วา วิเสโส’’ติ เอวํ สามฺวิเสสวิกปฺปนวเสน น วิกปฺปยิตพฺพา. กสฺมา? สามฺวิเสสกปฺปนาย โวหารภาเวน อนวฏฺานโต กาลทิสาวิเสสาทีนํ วิย อเปกฺขาสิทฺธิโต จ. ยถา หิ ‘‘อชฺช หิยฺโย สฺเว’’ติ วุจฺจมานา กาลวิเสสา อนวฏฺิตสภาวา ‘‘ปุริมา ทิสา ปจฺฉิมา ทิสา’’ติ วุจฺจมานา ทิสาวิเสสา จ, เอวํ สามฺวิเสสาปิ. ตถา หิ ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ วุจฺจมานํ ชาติอาทิอเปกฺขาย สามฺมฺปิ สมานํ สจฺจาเปกฺขาย วิเสโส โหติ. เอส นโย สมุทยาทีสุปิ. เอโส หาโร อธิฏฺาโนติ เอวํ สุตฺตาคตานํ ธมฺมานํ อวิกปฺปนวเสน สามฺวิเสสนิทฺธารณลกฺขโณ อธิฏฺาโน หาโร นามาติ อตฺโถ.

๑๕. เย ธมฺมาติ เย อวิชฺชาทิกา ปจฺจยธมฺมา. ยํ ธมฺมนฺติ ยํ สงฺขาราทิกํ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมํ. ชนยนฺตีติ นิพฺพตฺเตนฺติ. ปจฺจยาติ สหชาตปจฺจยภาเวน. ปรมฺปรโตติ ปรมฺปรปจฺจยภาเวน, อนุรูปสนฺตานฆฏนวเสน ปจฺจโย หุตฺวาติ อตฺโถ. อุปนิสฺสยโกฏิ หิ อิธาธิปฺเปตา. ปุริมสฺมึ อวสิฏฺโ ปจฺจยภาโว. เหตุมวกฑฺฒยิตฺวาติ ตํ ยถาวุตฺตปจฺจยสงฺขาตํ ชนกาทิเภทภินฺนํ เหตุํ อากฑฺฒิตฺวา สุตฺตโต นิทฺธาเรตฺวา โย สํวณฺณนาสงฺขาโต, เอโส หาโร ปริกฺขาโรติ เอวํ สุตฺเต อาคตธมฺมานํ ปริกฺขารสงฺขาเต เหตุปจฺจเย นิทฺธาเรตฺวา สํวณฺณนลกฺขโณ ปริกฺขาโร หาโรติ อตฺโถ.

๑๖. เย ธมฺมาติ เย สีลาทิธมฺมา. ยํมูลาติ เยสํ สมาธิอาทีนํ มูลภูตา, เต เตสํ สมาธิอาทีนํ ปทฏฺานภาเวน สมาโรปยิตพฺพาติ สมฺพนฺโธ. เย เจกตฺถา ปกาสิตา มุนินาติ เย จ ราควิราคาเจโตวิมุตฺติเสกฺขผลกามธาตุสมติกฺกมนาทิสทฺทา อนาคามิผลตฺถตาย เอกตฺถา พุทฺธมุนินา ปริทีปิตา, เต อฺมฺเววจนภาเวน สมาโรปยิตพฺพาติ สมฺพนฺโธ. สมาโรปนฺเจตฺถ สุตฺเต ยถารุตวเสน นิทฺธารณวเสน วา คยฺหมานสฺส สิกฺขตฺตยสงฺขาตสฺส สีลาทิกฺขนฺธตฺตยสฺส ปริยายนฺตรวิภาวนมุเขน ภาวนาปาริปูริกถนํ, ภาวนาปาริปูรี จ ปหาตพฺพสฺส ปหาเนนาติ ปหานสมาโรปนาปิ อตฺถโต ทสฺสิตา เอว โหติ. เอส สมาโรปโน หาโรติ เอส สุตฺเต อาคตธมฺมานํ ปทฏฺานเววจนภาวนาปหานสมาโรปนวิจารณลกฺขโณ สมาโรปโน นาม หาโรติ อตฺโถ.

นยสงฺเขโป

๑๗. เอวํ คาถาพนฺธวเสน โสฬสปิ หาเร นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ นเย นิทฺทิสิตุํ ‘‘ตณฺหฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตณฺหฺจ อวิชฺชมฺปิ จาติ สุตฺเต อาคตํ อตฺถโต นิทฺธารณวเสน วา คหิตํ ตณฺหํ อวิชฺชฺจ โย เนตีติ สมฺพนฺโธ. โย สํวณฺณนาวิเสโส ตํ เนติ สํกิเลสปกฺขํ ปาเปติ สํกิเลสวเสน สุตฺตตฺถํ โยเชตีติ อธิปฺปาโย. สมเถนาติ สมาธินา. วิปสฺสนายาติ ปฺาย, โย เนติ โวทานปกฺขํ ปาเปติ, ตถา สุตฺตตฺถํ โยเชตีติ อธิปฺปาโย. สจฺเจหิ โยชยิตฺวาติ นยนฺโต จ ตณฺหา จ อวิชฺชา จ ภวมูลกตฺตา สมุทยสจฺจํ, อวเสสา เตภูมกธมฺมา ทุกฺขสจฺจํ, สมถวิปสฺสนา มคฺคสจฺจํ, เตน ปตฺตพฺพา อสงฺขตธาตุ นิโรธสจฺจนฺติ เอวํ อิเมหิ จตูหิ สจฺเจหิ โยเชตฺวา. อยํ นโย นนฺทิยาวฏฺโฏติ โย ตณฺหาวิชฺชาหิ สํกิเลสปกฺขสฺส สุตฺตตฺถสฺส สมถวิปสฺสนาหิ โวทานปกฺขสฺส จตุสจฺจโยชนมุเขน นยนลกฺขโณ สํวณฺณนาวิเสโส, อยํ นนฺทิยาวฏฺโฏ นโย นามาติ อตฺโถ. เอตฺถ จ นยสฺส ภูมิ คาถายํ ‘‘นโย’’ติ วุตฺตา, ตสฺมา สํวณฺณนาวิเสโสติ วุตฺตํ. น หิ อตฺถนโย สํวณฺณนา, จตุสจฺจปฏิเวธสฺส อนุรูโป ปุพฺพภาเค อนุคาหณนโย อตฺถนโย. ตสฺส ปน ยา อุคฺฆฏิตฺุอาทีนํ วเสน ตณฺหาทิมุเขน นยภูมิรจนา, ตตฺถ นยโวหาโร.

๑๘. อกุสเลติ ทฺวาทสจิตฺตุปฺปาทสงฺคหิเต สพฺเพปิ อกุสเล ธมฺเม. สมูเลหีติ อตฺตโน มูเลหิ, โลภโทสโมเหหีติ อตฺโถ. กุสเลติ สพฺเพปิ จตุภูมเก กุสเล ธมฺเม. กุสลมูเลหีติ กุสเลหิ อโลภาทิมูเลหิ โย เนติ. นยนฺโต จ กุสลากุสลํ มายามรีจิอาทโย วิย อภูตํ น โหตีติ ภูตํ. ปฏฆฏาทโย วิย น สมฺมุติสจฺจมตฺตนฺติ ตถํ. อกุสลสฺส อิฏฺวิปากตาภาวโต กุสลสฺส จ อนิฏฺวิปากตาภาวโต วิปาเก สติ อวิสํวาทกตฺตา อวิตถํ เนติ. เอวเมเตสํ ติณฺณมฺปิ ปทานํ กุสลากุสลวิเสสนตา ทฏฺพฺพา. อถ วา อกุสลมูเลหิ อกุสลานิ กุสลมูเลหิ จ กุสลานิ นยนฺโต อยํ นโย ภูตํ ตถํ อวิตถํ เนติ, จตฺตาริ สจฺจานิ นิทฺธาเรตฺวา โยเชตีติ อตฺโถ. ทุกฺขาทีนิ หิ พาธกาทิภาวโต อฺถาภาวาภาเวน ภูตานิ, สจฺจสภาวตฺตา ตถานิ, อวิสํวาทนโต อวิตถานิ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ตถานิ อวิตถานิ อนฺถานี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๐). ติปุกฺขลํ ตํ นยํ อาหูติ โย อกุสลมูเลหิ สํกิเลสปกฺขสฺส กุสลมูเลหิ โวทานปกฺขสฺส สุตฺตตฺถสฺส จตุสจฺจโยชนมุเขน นยนลกฺขโณ สํวณฺณนาวิเสโส, ตํ ติปุกฺขลํ นยนฺติ วทนฺตีติ อตฺโถ.

๑๙. วิปลฺลาเสหีติ อสุเภ สุภนฺติอาทินยปฺปวตฺเตหิ จตูหิ วิปลฺลาเสหิ. กิเลเสติ กิลิสฺสนฺติ วิพาธิยนฺตีติ กิเลสา, สํกิลิฏฺธมฺมา, สํกิเลสปกฺขนฺติ อตฺโถ. เกจิ ‘‘สํกิเลเส’’ติปิ ปนฺติ, กิเลสสหิเตติ อตฺโถ. อินฺทฺริเยหีติ สทฺธาทีหิ อินฺทฺริเยหิ. สทฺธมฺเมติ ปฏิปตฺติปฏิเวธสทฺธมฺเม, โวทานปกฺขนฺติ อตฺโถ. เอตํ นยนฺติ โย สุภสฺาทีหิ วิปลฺลาเสหิ สกลสฺส สํกิเลสปกฺขสฺส สทฺธินฺทฺริยาทีหิ โวทานปกฺขสฺส จตุสจฺจโยชนวเสน นยนลกฺขโณ สํวณฺณนาวิเสโส, เอตํ นยํ นยวิทู สทฺธมฺมนยโกวิทา, อตฺถนยกุสลา เอว วา สีหวิกฺกีฬิตํ นยนฺติ วทนฺตีติ อตฺโถ.

๒๐. เวยฺยากรเณสูติ ตสฺส ตสฺส อตฺถนยสฺส โยชนตฺถํ กเตสุ สุตฺตสฺส อตฺถวิสฺสชฺชเนสูติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘ตหึ ตหิ’’นฺติ. กุสลากุสลาติ โวทานิยา สํกิเลสิกา จ ตสฺส ตสฺส นยสฺส ทิสาภูตธมฺมา. วุตฺตาติ สุตฺตโต นิทฺธาเรตฺวา กถิตา. มนสา โวโลกยเตติ เต ยถาวุตฺตธมฺเม จิตฺเตเนว ‘‘อยํ ปมา ทิสา อยํ ทุติยา ทิสา’’ติอาทินา ตสฺส ตสฺส นยสฺส ทิสาภาเวน อุปปริกฺขติ, วิจาเรตีติ อตฺโถ. ‘‘โอโลกยเต เต อพหี’’ติปิ ปาโ. ตตฺถ เตติ เต ยถาวุตฺตธมฺเม. อพหีติ อพฺภนฺตรํ, จิตฺเต เอวาติ อตฺโถ. ตํ ขุ ทิสาโลจนํ อาหูติ โอโลกยเตติ เอตฺถ ยเทตํ โอโลกนํ, ตํ ทิสาโลจนํ นาม นยํ วทนฺติ. ขุ-ติ จ นิปาโต อวธารเณ. เตน โอโลกนเมว อยํ นโย, น โกจิ อตฺถวิเสโสติ ทสฺเสติ.

๒๑. โอโลเกตฺวาติ ปมาทิทิสาภาเวน อุปปริกฺขิตฺวา. ทิสาโลจเนนาติ ทิสาโลจนนเยน กรณภูเตน. เยน หิ วิธินา ตสฺส ตสฺส อตฺถนยสฺส โยชนาย ทิสา โอโลกียนฺติ, โส วิธิ ทิสาโลจนนฺติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อุกฺขิปิยาติ อุทฺธริตฺวา, ทิสาภูตธมฺเม สุตฺตโต นิทฺธาเรตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘อุกฺขิปิย โย สมาเนตี’’ติปิ ปนฺติ, ตสฺสตฺโถ – ‘‘โย เตสํ ทิสาภูตธมฺมานํ สมานยนํ กโรตี’’ติ. นฺติ วา กิริยาปรามสนํ. สมาเนตีติ สมํ, สมฺมา วา อาเนติ ตสฺส ตสฺส นยสฺส โยชนาวเสน. เก ปน อาเนติ? สพฺเพ กุสลากุสเล ตํตํนยทิสาภูเต. อยํ นโยติ สมาเนตีติ เอตฺถ ยเทตํ ตํตํนยทิสาภูตธมฺมานํ สมานยนํ, อยํ องฺกุโส นาม นโยติ อตฺโถ. เอตฺจ ทฺวยํ ‘‘โวหารนโย, กมฺมนโย’’ติ จ วุจฺจติ.

๒๒. เอวํ หาเร นเย จ นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ เนสํ โยชนกฺกมํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โสฬส หารา ปม’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปมํ โสฬส หารา ‘‘โยเชตพฺพา’’ติ วจนเสโส. หารสํวณฺณนา ปมํ กาตพฺพา พฺยฺชนปริเยฏฺิภาวโตติ อธิปฺปาโย. ทิสโลจนโตติ ทิสาโลจเนน, อยเมว วา ปาโ. องฺกุเสน หีติ หิ-สทฺโท นิปาตมตฺตํ. เสสํ อุตฺตานเมว.

ทฺวาทสปทํ

๒๓. อิทานิ เยสํ พฺยฺชนปทานํ อตฺถปทานฺจ วเสน ทฺวาทส ปทานิ สุตฺตนฺติ วุตฺตํ, ตานิ ปทานิ นิทฺทิสิตุํ ‘‘อกฺขรํ ปท’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อปริโยสิเต ปเท วณฺโณ อกฺขรํ ปริยายวเสน อกฺขรณโต อสฺจรณโต. น หิ วณฺณสฺส ปริยาโย วิชฺชติ, อถ วณฺโณติ เกนฏฺเน วณฺโณ? อตฺถสํวณฺณนฏฺเน. วณฺโณ เอว หิ อิตฺตรขณตาย อปราปรภาเวน ปวตฺโต ปทาทิภาเวน คยฺหมาโน ยถาสมฺพนฺธํ ตํ ตํ อตฺถํ วทติ. เอกกฺขรํ วา ปทํ อกฺขรํ, เกจิ ปน ‘‘มนสา เทสนาวาจาย อกฺขรณโต อกฺขร’’นฺติ วทนฺติ.

ปทนฺติ ปชฺชติ อตฺโถ เอเตนาติ ปทํ, ตํ นามปทํ อาขฺยาตปทํ อุปสคฺคปทํ นิปาตปทนฺติ จตุพฺพิธํ. ตตฺถ ‘‘ผสฺโส เวทนา จิตฺต’’นฺติ เอวมาทิกํ สตฺวปฺปธานํ นามปทํ. ‘‘ผุสติ เวทยติ วิชานาตี’’ติ เอวมาทิกํ กิริยาปธานํ อาขฺยาตปทํ. กิริยาวิเสสคฺคหณนิมิตฺตํ ‘‘ป’’ อิติ เอวมาทิกํ อุปสคฺคปทํ. กิริยาย สตฺวสฺส จ สรูปวิเสสปฺปกาสนเหตุภูตํ ‘‘เอว’’นฺติ เอวมาทิกํ นิปาตปทํ.

พฺยฺชนนฺติ สงฺเขปโต วุตฺตํ ปทาภิหิตํ อตฺถํ พฺยฺชยตีติ พฺยฺชนํ, วากฺยํ. ตํ ปน อตฺถโต ปทสมุทาโยติ ทฏฺพฺพํ. ปทมตฺตสวเนปิ หิ อธิการาทิวเสน ลพฺภมาเนหิ ปทนฺตเรหิ อนุสนฺธานํ กตฺวาว อตฺถสมฺปฏิปตฺติ โหตีติ วากฺยเมว อตฺถํ พฺยฺชยติ. นิรุตฺตีติ อาการาภิหิตํ นิพฺพจนํ นิรุตฺติ.

นิทฺเทโสติ นิพฺพจนวิตฺถาโร นิรวเสสเทสนตฺตา นิทฺเทโส. ปเทหิ วากฺยสฺส วิภาโค อากาโร. ยทิ เอวํ ปทโต อาการสฺส โก วิเสโสติ? อปริโยสิเต วากฺเย อวิภชฺชมาเน วา ตทวยโว ปทํ. อุจฺจารณวเสน ปริโยสิเต วากฺเย วิภชฺชมาเน วา ตทวยโว อากาโรติ อยเมเตสํ วิเสโส. ฉฏฺํ วจนํ ฉฏฺวจนํ. อากาโร ฉฏฺวจนํ เอตสฺสาติ อาการฉฏฺวจนํ, พฺยฺชนปทํ. เอตฺถ จ พฺยฺชนนฺติ อิมสฺส ปทสฺส อนนฺตรํ วตฺตพฺพํ อาการปทํ นิทฺเทสปทานนฺตรํ วทนฺเตน ‘‘อาการฉฏฺวจน’’นฺติ วุตฺตํ, ปทานุปุพฺพิกํ ปน อิจฺฉนฺเตหิ ตํ พฺยฺชนปทานนฺตรเมว กาตพฺพํ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘อปริมาณา พฺยฺชนา อปริมาณา อาการาติ, พฺยฺชเนหิ วิวรติ อากาเรหิ วิภชตี’’ติ จ. เกจิ ปน ‘‘อาการปทพฺยฺชนนิรุตฺติโย จ นิทฺเทโส’’ติ ปนฺติ. เอตฺตาว พฺยฺชนํ สพฺพนฺติ ยานิมานิ อกฺขราทีนิ นิทฺทิฏฺานิ, เอตฺตกเมว สพฺพํ พฺยฺชนํ, เอเตหิ อสงฺคหิตํ พฺยฺชนํ นาม นตฺถีติ อตฺโถ.

๒๔. สงฺกาสนาติ สํขิตฺเตน กาสนา. ปกาสนาติ ปมํ กาสนา, กาสียติ ทีปียตีติ อตฺโถ. อิมินา หิ อตฺถปททฺวเยน อกฺขรปเทหิ วิภาวิยมาโน อตฺถากาโร คหิโต. ยสฺมา อกฺขเรหิ สุยฺยมาเนหิ สุณนฺตานํ วิเสสวิธานสฺส กตตฺตา ปทปริโยสาเน ปทตฺถสมฺปฏิปตฺติ โหติ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘ตตฺถ ภควา อกฺขเรหิ สงฺกาเสติ ปเทหิ ปกาเสตีติ, อกฺขเรหิ ปเทหิ จ อุคฺฆาเฏตี’’ติ จ.

วิวรณาติ วิตฺถารณา. วิภชนา จ อุตฺตานีกมฺมฺจ ปฺตฺติ จ วิภชนุตฺตานีกมฺมปฺตฺติ. ตตฺถ วิภชนาติ วิภาคกรณํ, อุภเยนาปิ นิทฺทิสนมาห. อิธ ปุริมนเยเนว พฺยฺชนากาเรหิ นิทฺทิสิยมาโน อตฺถากาโร ทสฺสิโตติ ทฏฺพฺพํ. อุตฺตานีกมฺมํ ปากฏกรณํ. ปกาเรหิ าปนํ ปฺตฺติ. ทฺวเยนาปิ ปฏินิทฺทิสนํ กเถติ. เอตฺถาปิ นิรุตฺตินิทฺเทสสงฺขาเตหิ พฺยฺชนปเทหิ นิทฺทิสิยมาโน อตฺถากาโร วุตฺโต, โย ปฏินิทฺทิสียตีติ วุจฺจติ. เอเตหีติ เอเตหิ เอว สงฺกาสนาทิวินิมุตฺตสฺส เทสนาตฺถสฺส อภาวโต. อตฺโถติ สุตฺตตฺโถ. กมฺมนฺติ อุคฺฆฏนาทิกมฺมํ. สุตฺตตฺเถน หิ เทสนาย ปวตฺติยมาเนน อุคฺฆฏิตฺุอาทิเวเนยฺยานํ จิตฺตสนฺตานสฺส ปโพธนกิริยานิพฺพตฺติ. โส จ สุตฺตตฺโถ สงฺกาสนาทิอากาโรติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อตฺโถ กมฺมฺจ นิทฺทิฏฺ’’นฺติ.

๒๕. ตีณีติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ, ตโยติ วุตฺตํ โหติ. นวหิ ปเทหีติ นวหิ โกฏฺาเสหิ. อตฺโถ สมายุตฺโตติ อตฺโถ สมฺมา ยุตฺโต น วินา วตฺตติ. สพฺพสฺส หิ พุทฺธวจนสฺส จตุสจฺจปฺปกาสนโต อตฺถนยานฺจ จตุสจฺจโยชนวเสน ปวตฺตนโต สพฺโพ ปาฬิอตฺโถ อตฺถนยตฺตยสงฺคหิโต สงฺกาสนาทิอาการวิเสสวุตฺติ จาติ.

๒๖. อิทานิ ยถานิทฺทิฏฺเ เทสนาหาราทิเก เนตฺติปฺปกรณสฺส ปทตฺเถ สุขคฺคหณตฺถํ คณนวเสน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺถสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จตุพฺพีสาติ โสฬส หารา ฉ พฺยฺชนปทานิ ทฺเว กมฺมนยาติ เอวํ จตุพฺพีส. อุภยนฺติ ฉ อตฺถปทานิ ตโย อตฺถนยาติ อิทํ นววิธํ ยถาวุตฺตํ จตุพฺพีสวิธฺจาติ เอตํ อุภยํ. สงฺกลยิตฺวาติ สมฺปิณฺเฑตฺวา. ‘‘สงฺเขปยโต’’ติปิ ปาโ, เอกโต กโรนฺตสฺสาติ อตฺโถ. เอตฺติกาติ เอตปฺปมาณา, อิโต วินิมุตฺโต โกจิ เนตฺติปทตฺถา นตฺถีติ อตฺโถ.

เอวํ เตตฺตึสปทตฺถาย เนตฺติยา สุตฺตสฺส อตฺถปริเยสนาย โย ‘‘โสฬส หารา ปม’’นฺติ นเยหิ ปมํ หารา สํวณฺเณตพฺพาติ หารนยานํ สํวณฺณนากฺกโม ทสฺสิโต, สฺวายํ หารนยานํ เทสนากฺกเมเนว สิทฺโธ. เอวํ สิทฺเธ สติ อยํ อารมฺโภ อิมมตฺถํ ทีเปติ – สพฺเพปิเม หารา นยา จ อิมินา ทสฺสิตกฺกเมเนว สุตฺเตสุ สํวณฺณนาวเสน โยเชตพฺพา, น อุปฺปฏิปาฏิยาติ.

กึ ปเนตฺถ การณํ, ยเทเต หารา นยา จ อิมินาว กเมน เทสิตาติ? ยทิปิ นายมนุโยโค กตฺถจิ อนุกฺกเม นิวิสติ, อปิ จ ธมฺมเทสนาย นิสฺสยผลตทุปายสรีรภูตานํ อสฺสาทาทีนํ วิภาวนสภาวตฺตา ปกติยา สพฺพสุตฺตานุรูปาติ สุวิฺเยฺยภาวโต ปเรสฺจ สํวณฺณนาวิเสสานํ วิจยหาราทีนํ ปติฏฺาภาวโต ปมํ เทสนาหาโร ทสฺสิโต.

ปทปุจฺฉาวิสฺสชฺชนปุพฺพาปรานุคีตีหิ สทฺธึ เทสนาหารปทตฺถานํ ปวิจยสภาวตาย ตสฺส อนนฺตรํ วิจโย. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘ปทํ วิจินติ…เป… อาณตฺตึ วิจินติ อนุคีตึ วิจินตี’’ติ.

วิจเยน หาเรน ปวิจิตานํ อตฺถานํ ยุตฺตายุตฺติวิจารณา ยุตฺตาติ ยุตฺติวิจารณภาวโต วิจยานนฺตรํ ยุตฺติหาโร วุตฺโต. ตถา หิ วกฺขติ – ‘‘วิจเยน หาเรน วิจินิตฺวา ยุตฺติหาเรน โยเชตพฺพ’’นฺติ.

ยุตฺตายุตฺตานํเยว อตฺถานํ อุปปตฺติอนุรูปํ การณปรมฺปราย นิทฺธารณลกฺขณํ ปทฏฺานจินฺตนํ กตฺตพฺพนฺติ ยุตฺติหารานนฺตรํ ปทฏฺานหาโร ทสฺสิโต. ตถา หิ วกฺขติ – ‘‘โย โกจิ อุปนิสฺสโย โย โกจิ ปจฺจโย จ, สพฺโพ โส ปทฏฺาน’’นฺติ.

ยุตฺตายุตฺตานํ การณปรมฺปราย ปริคฺคหิตสภาวานํเยว จ ธมฺมานํ อวุตฺตานมฺปิ เอกลกฺขณตาย คหณํ กาตพฺพนฺติ ทสฺสนตฺถํ ปทฏฺานานนฺตรํ ลกฺขโณ หาโร วุตฺโต. ตถา หิ ลกฺขณหารวิภงฺเค ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทินา ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ ทสฺเสตฺวา ‘‘เอวํ เย ธมฺมา เอกลกฺขณา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

อตฺถโต นิทฺธาริตานมฺปิ ธมฺมานํ นิพฺพจนาทีนิ วตฺตพฺพานิ, น สุตฺเต สรูปโต อาคตานเมวาติ ทสฺสนตฺถํ ลกฺขณานนฺตรํ จตุพฺยูโห วุตฺโต. เอวฺหิ นิรวเสสโต อตฺถาวโพโธ โหติ, เอวฺจ กตฺวา ‘‘ยทา หิ ภิกฺขุ อตฺถสฺส จ นามํ ชานาติ ธมฺมสฺส จ นามํ ชานาติ ตถา ตถา นํ อภินิโรเปตี’’ติ อนวเสสปริยาทานํ วกฺขติ. ตถา ‘‘ปุนปฺปุนํ คพฺภมุเปตี’’ติ เอตฺถ ‘‘เย ชรามรเณน อฏฺฏิยิตุกามา ภวิสฺสนฺติ, เต ภวิสฺสนฺติ โภชเน มตฺตฺุโน อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารา’’ติอาทินา สมฺมาปฏิปตฺตึ อธิปฺปายภาเวน วกฺขติ.

นิพฺพจนาธิปฺปายนิทานวจเนหิ สทฺธึ สุตฺเต ปทตฺถานํ สุตฺตนฺตรสํสนฺทนสงฺขาเต ปุพฺพาปรวิจาเร ทสฺสิเต เตสํ สภาควิสภาคธมฺมนฺตราวฏฺฏนํ สุเขน สกฺกา ทสฺเสตุนฺติ จตุพฺยูหานนฺตรํ อาวฏฺโฏ วุตฺโต. เตเนว หิ ‘‘อารมฺภถ นิกฺกมถา’’ติ คาถายํ อารมฺภนิกฺกมนพุทฺธสาสนโยคธุนเนหิ วีริยสมาธิปฺินฺทฺริยานิ นิทฺธาเรตฺวา ตทนุโยคสฺส มูลํ ‘‘ปมาโท’’ติ สุตฺตนฺตเร ทสฺสิโต ปมาโท อาวฏฺฏิโต.

สภาควิสภาคธมฺมาวฏฺฏเน นิโยชิเต สาธารณาสาธารณวเสน สํกิเลสโวทานธมฺมานํ ปทฏฺานโต ภูมิโต จ วิภาโค สกฺกา สุเขน โยชิตุนฺติ อาวฏฺฏานนฺตรํ วิภตฺติหาโร วุตฺโต. ยโต วิภตฺติหารวิภงฺเค ‘‘กตเม ธมฺมา สาธารณา? ทฺเว ธมฺมา สาธารณา, นามสาธารณา วตฺถุสาธารณา จา’’ติ อารภิตฺวา ‘‘มิจฺฉตฺตนิยตานํ สตฺตานํ อนิยตานฺจ สตฺตานํ ทสฺสนปฺปหาตพฺพา กิเลสา สาธารณา, ปุถุชฺชนสฺส โสตาปนฺนสฺส จ กามราคพฺยาปาทา สาธารณา’’ติอาทินา สภาควิสภาคปริยายวนฺเตเยว ธมฺเม วิภชิสฺสติ.

สาวชฺชานวชฺชธมฺมานํ สปฺปฏิภาคาภาวโต เตสํ วิภาเค กเต สุตฺตาคเต ธมฺเม อกสิเรน ปฏิปกฺขโต ปริวตฺเตตุํ สกฺกาติ วิภตฺติอนนฺตรํ ปริวตฺตนหาโร วุตฺโต. ตถา หิ ‘‘สมฺมาทิฏฺิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส มิจฺฉาทิฏฺิ นิชฺชิณฺณา ภวตี’’ติ ปฏิวิภตฺตสภาเว เอว ธมฺเม ปริวตฺตนหารวิภงฺเค อุทาหริสฺสติ.

ปฏิปกฺขโต ปริวตฺติตาปิ ธมฺมา ปริยายวจเนหิ โพเธตพฺพา, น สุตฺเต อาคตาเยวาติ ทสฺสนตฺถํ ปริวตฺตนานนฺตรํ เววจนหาโร วุตฺโต.

เอวํ เต ธมฺมา ปริยายสทฺทโตปิ วิภาวิตา โหนฺตีติ ปริยายโต ปกาสิตานํ ธมฺมานํ ปเภทโต ปฺตฺติวเสน วิภชนํ สุเขน สกฺกา าตุนฺติ เววจนหารานนฺตรํ ปฺตฺติหาโร วุตฺโต. ตถา หิ สุตฺเต อาคตธมฺมานํ ปริยายปฺตฺติวิภาคํ สุโพธนฺจ ปฺตฺติหารวิภงฺเค วกฺขติ.

ปภาวปริฺาทิปฺตฺติวิภาคมุเขน ปฏิจฺจสมุปฺปาทสจฺจาทิธมฺมวิภาเค กเต สุตฺเต อาคตธมฺมานํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิมุเขน อวธารณํ สกฺกา ทสฺเสตุนฺติ ปฺตฺติอนนฺตรํ โอตรโณ หาโร วุตฺโต. ตถา หิ ‘‘อุทฺธํ อโธ’’ติ คาถํ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘วิปฺปมุตฺโต’’ติ ปเทน อเสกฺขํ วิชฺชํ นิทฺธาเรตฺวา ‘‘วิชฺชุปฺปาทา อวิชฺชานิโรโธ’’ติอาทินา ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ อุทาหริสฺสติ.

ธาตายตนาทีสุ โอตาริตานํ สุตฺเต ปทตฺถานํ ปุจฺฉารมฺภวิโสธนํ สกฺกา สุเขน สมฺปาเทตุนฺติ โอตรณานนฺตรํ โสธโน หาโร วุตฺโต. ตถา หิ วกฺขติ – ‘‘ยตฺถ เอวํ สุทฺโธ อารมฺโภ, โส ปฺโห วิสฺสชฺชิโต ภวตี’’ติอาทิ.

วิโสธิเตสุ สุตฺเต ปทปทตฺเถสุ ตตฺถ ลพฺภมานสามฺวิเสสภาโว สุกโร โหตีติ ทสฺเสตุํ โสธนานนฺตรํ อธิฏฺาโน หาโร ทสฺสิโต. โสธโน หิ อธิฏฺานสฺส พหูปกาโร, ตโต เอว หิ ‘‘ยถา ยถา วา ปน ปุจฺฉิตํ, ตถา ตถา วิสฺสชฺชยิตพฺพ’’นฺติ วกฺขติ.

สามฺวิเสสภูเตสุ สาธารณาสาธารเณสุ ธมฺเมสุ ปเวทิเตสุ ปริกฺขารสงฺขาตสฺส สาธารณาสาธารณรูปสฺส ปจฺจยเหตุราสิสฺส ปเภโท สุวิฺเยฺโยติ อธิฏฺานานนฺตรํ ปริกฺขาโร วุตฺโต. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘อสาธารณลกฺขโณ เหตุ, สาธารณลกฺขโณ ปจฺจโย. ยถา กึ ภเว, ยถา องฺกุรสฺส นิพฺพตฺติยา พีชํ อสาธารณํ, ปถวี อาโป จ สาธารณา’’ติอาทิ.

อสาธารเณ สาธารเณ จ การเณ ทสฺสิเต ตสฺส อตฺตโน ผเลสุ การณากาโร เตสํ เหตุผลานํ ปเภทโต เทสนากาโร ภาเวตพฺพปหาตพฺพธมฺมานํ ภาวนาปหานานิ จ นิทฺธาเรตฺวา วุจฺจมานานิ สมฺมา สุตฺตสฺส อตฺถํ ตถตฺตาวโพธาย สํวตฺตนฺตีติ ปริกฺขารานนฺตรํ สมาโรปโน หาโร ทสฺสิโตติ. อิทํ หารานํ อนุกฺกมการณํ.

นยานํ ปน เวเนยฺยตฺตยปฺปโยชิตตฺตา อตฺถนยตฺตยูปเทสสฺส ตทนุกฺกเมเนว นนฺทิยาวฏฺฏาทีนํ ติณฺณํ อตฺถนยานํ กโม เวทิตพฺโพ. อุคฺฆฏิตฺุอาทโย หิ ตโย เวเนยฺยา นนฺทิยาวฏฺฏาทโย ปโยเชนฺติ. ตสฺมา เต อุทฺเทสนิทฺเทสปฏินิทฺเทสา วิย ยถากฺกมํ เตสํ อุปการาย สวํตฺตนฺตีติ. ตถา หิ เนสํ จตฺตาโร ฉ อฏฺ จ มูลปทา นิทฺทิฏฺา. อิตรสฺส ปน นยทฺวยสฺส อตฺถนยตฺตยสฺส ภูมิยา อาโลจนํ ตสฺส ตตฺถ สมานยนฺจาติ อิมินา การเณน อุทฺเทสกฺกโม เวทิตพฺโพ. น หิ สกฺกา อโนโลเกตฺวา สมาเนตุนฺติ.

เอตปรมตา จ หารานํ เอตฺตเกหิ ปการวิเสเสหิ อตฺถนยตฺตยสหิเตหิ สุตฺตสฺส อตฺโถ นิทฺธาริยมาโน เวเนยฺยานํ อลมนุตฺตราย ปมาย ภูมิยา สมธิคมายาติ เวทิตพฺโพ. ทสฺสนภูมิสมนุปฺปตฺติอตฺถา หิ เนตฺติปฺปกรณเทสนาติ. อถ วา เอตทนฺโตคธตฺตา สพฺเพสํ สุตฺตสฺส สํวณฺณนาวิเสสานํ เอตฺตาวตา หารานํ ทฏฺพฺพา. ยตฺตกา หิ สุตฺตสฺส สํวณฺณนาวิเสสา, สพฺเพ เต เนตฺติอุปเทสายตฺตาติ วุตฺโตวายมตฺโถ.

ตถา หิ เย เกจิ สุตฺตสฺส สํวณฺณนาปการา นิทฺทิสียนฺติ. เสยฺยถิทํ – สุตฺตสฺส สมุฏฺานํ วตฺตพฺพํ, อธิปฺปาโย วิภาเวตพฺโพ, อเนกธา ปทตฺโถ สํวณฺเณตพฺโพ, วิธิ อนุวาโท จ เวทิตพฺโพ, วิโรโธ สมาธาตพฺโพ, อนุสนฺธิยา อนุรูปํ นิคเมตพฺพนฺติ. ตถา สุตฺตสฺส ปโยชนํ ปิณฺฑตฺโถ ปทตฺโถ อนุสนฺธิ โจทนา ปริหาโร จ อตฺถํ วทนฺเตน วตฺตพฺพาติ. ตถา อุโปคฺฆาฏปทวิคฺคหปทตฺถจาลนาปจฺจุปฏฺานานิ วตฺตพฺพานีติ.

ตถา ติสฺโส กถา เอกนาฬิกา จตุรสฺสา นิสินฺนวตฺติกา. ตตฺถ ปาฬึ วตฺวา เอเกกปทสฺส อตฺถกถนํ เอกนาฬิกา นาม.

ปฏิปกฺขํ ทสฺเสตฺวา ปฏิปกฺขสฺส อุปมํ ทสฺเสตฺวา สปกฺขํ ทสฺเสตฺวา สปกฺขสฺส อุปมํ ทสฺเสตฺวา กถนํ จตุรสฺสา นาม.

วิสภาคธมฺมวเสเนว ปริโยสานํ คนฺตฺวา ปุน สภาคธมฺมวเสเนว ปริโยสานคมนํ นิสินฺนวตฺติกา นาม.

เภทกถาย ตตฺวกถาย ปริยายวจเนหิ จ สุตฺตํ สํวณฺเณตพฺพนฺติ จ เอวมาทโย. เตสมฺปิ เอตฺเถว อวโรโธ, ยสฺมา เต อิธ กติปยหารสงฺคหิตาติ.

นยานํ ปน ยสฺมา อุคฺฆฏิตฺุอาทโย ตโย เอว เวเนยฺยา สจฺจาภิสมยภาคิโน ตทตฺถาย จ อตฺถนยเทสนา, ตสฺมา สติปิ สํกิเลสโวทานธมฺมานํ ยถาวุตฺตมูลปทเภทโต วฑฺเฒตฺวา วิภชิตพฺพปฺปกาเร ตถา มูลปทานิ อวฑฺเฒตฺวา เวเนยฺยตฺตยวเสเนว เอตปรมตา วุตฺตา. นวสุ นวสุ เอว หิ มูลปเทสุ สพฺเพสํ สํกิเลสโวทานธมฺมานํ อนฺโตคธภาวโต น ตานิ วฑฺเฒตพฺพานิ เวเนยฺยตฺตยาธิการโต น หาเปตพฺพานีติ นยานํ เอตปรมตา ทฏฺพฺพา.

กมฺมนยานํ ปน อาโลจนสมานยนโต อฺสฺส ปการนฺตรสฺส อสมฺภวโต เอตปรมตา. เหตฺวาทีติ เอตฺถ อาทิสทฺเทน ผลภูมิอุปนิสาสภาควิสภาคลกฺขณนยาทโย ปริคฺคหิตา. เตสุ เหตูติ การณํ, โย ธมฺโมติปิ วุจฺจติ, โส ปน ปจฺจยภาเวน เอกวิโธ. การโก สมฺปาปโกติ ทุวิโธ. ปุน การโก าปโก สมฺปาปโกติ ติวิโธ. เหตุเหตุ ปจฺจยเหตุ อุตฺตมเหตุ สาธารณเหตูติ จตุพฺพิโธ. ปจฺจยธมฺโม กุสโล อกุสโล สทฺโท อริยมคฺโคติ ปฺจวิโธ. ตถา สภาคเหตุ อสภาคเหตุ อชฺฌตฺติกเหตุ พาหิรเหตุ ชนกเหตุ ปริคฺคาหกเหตุ สาธารณเหตุ อสาธารณเหตุ สมนนฺตรเหตุ ปรมฺปรเหตุ สหชาตเหตุ อสหชาตเหตุ สาสวเหตุ อนาสวเหตูติอาทินา อเนกวิโธ จาติ เวทิตพฺโพ.

ผลมฺปิ ปจฺจยุปฺปนฺนภาเวน เอกวิธํ. อธิคนฺตพฺพโตปิ สมฺปาปกเหตุวเสน ผลปริยาโย ลพฺภตีติ นิพฺพตฺเตตพฺพอธิคนฺตพฺพภาวโต ทุวิธํ. าเปตพฺพนิพฺพตฺเตตพฺพปตฺตพฺพโต ติวิธํ. ปจฺจยุปฺปนฺนวิปากกิริยาวจนตฺถนิพฺพานวเสน ปฺจวิธํ. สภาคเหตุนิพฺพตฺตํ อสภาคเหตุนิพฺพตฺตนฺติ เอวมาทิวเสน อเนกวิธฺจาติ เวทิตพฺพํ. ตถา โลกิยํ โลกุตฺตรนฺติ. ตตฺถ โลกุตฺตรํ จตฺตาริ สามฺผลานิ. โลกิยผลํ ทุวิธํ กายิกํ มานสฺจ. ตตฺถ กายิกํ ปฺจทฺวาริกํ, อวสิฏฺํ มานสํ. ยฺจ ตาย ตาย สุตฺตเทสนาย สาเธตพฺพํ, ตทปิ ผลนฺติ.

ภูมีติ สาสวภูมิ อนาสวภูมิ สงฺขตภูมิ อสงฺขตภูมิ ทสฺสนภูมิ ภาวนาภูมิ ปุถุชฺชนภูมิ เสกฺขภูมิ อเสกฺขภูมิ สาวกภูมิ ปจฺเจกพุทฺธภูมิ สมฺมาสมฺพุทฺธภูมิ ฌานภูมิ อสมาหิตภูมิ ปฏิปชฺชมานภูมิ ปฏิปนฺนภูมิ ปมาภูมิ ยาว จตุตฺถีภูมิ กามาวจรภูมิ ยาว โลกุตฺตรภูมีติ พหุวิธา. ตตฺถ สาสวภูมิ ปริตฺตมหคฺคตา ธมฺมา. อนาสวภูมิ อปฺปมาณา ธมฺมา. สงฺขตภูมิ นิพฺพานวชฺชา สพฺเพ สภาวธมฺมา. อสงฺขตภูมิ อปฺปจฺจยา ธมฺมา. ทสฺสนภูมิ ปมมคฺคผลธมฺมา. ภาวนาภูมิ อวสิฏฺมคฺคผลธมฺมา. ปุถุชฺชนภูมิ หีนมชฺฌิมา ธมฺมา. เสกฺขภูมิ จตฺตาโร อริยมคฺคธมฺมา เหฏฺิมา จ ตโย ผลธมฺมา. อเสกฺขภูมิ อคฺคผลธมฺมา. สาวกปจฺเจกพุทฺธพุทฺธธมฺมา สาวกาทิภูมิโย. ฌานภูมิ ฌานธมฺมา. อสมาหิตภูมิ ฌานวชฺชิตา ธมฺมา. ปฏิปชฺชมานภูมิ มคฺคธมฺมา. ปฏิปนฺนภูมิ ผลธมฺมา. ปมาทิภูมิโย สห ผเลน จตฺตาโร มคฺคา อปริยาปนฺนา ธมฺมา ‘‘ปมาย ภูมิยา ปตฺติยา’’ติอาทิวจนโต. กามาวจราทิภูมิโย กามาวจราทิธมฺมา. เย จ ธมฺมา เตสํ เตสํ หารนยานํ ปติฏฺานภาเวน สุตฺเตสุ นิทฺธารียนฺติ, เตปิ ภูมิโยติ วิฺาตพฺพา.

อุปนิสาติ พลวการณํ, โย อุปนิสฺสยปจฺจโยติ วุจฺจติ. ยฺจ สนฺธาย สุตฺเต ‘‘ทุกฺขูปนิสา สทฺธา สทฺธูปนิสํ ‘สีล’นฺติ ยาว วิมุตฺตูปนิสํ วิมุตฺติาณทสฺสน’’นฺติ วุตฺตํ. อปิ จ อุปนิสาติ ตสฺมึ ตสฺมึ สมเย สิทฺธนฺเต หทยภูตํ อพฺภนฺตรํ วุจฺจติ. อิธาปิ เนตฺติหทยํ, ยํ สมฺมา ปริคฺคณฺหนฺตา ธมฺมกถิกา ตสฺมึ ตสฺมึ สุตฺเต อาคตธมฺมมุเขน สพฺพหารนยโยชนาย สมตฺถา โหนฺติ. กึ ปเนตํ เนตฺติหทยํ? ยทิทํ เอตสฺเสว เตตฺตึสวิธสฺส ปกรณปทตฺถโสฬสสฺส อฏฺวีสติวิธปฏฺานวิภงฺคสหิตสฺส วิสโย สห นิมิตฺตวิภาเคน อสงฺกรโต ววตฺถิโต.

เสยฺยถิทํ – เทสนาหารสฺส อสฺสาทาทโย วิสโย, ตสฺส อสฺสาทาทิวิภาวนลกฺขณตฺตา. ตสฺส อสฺสาโท สุขํ โสมนสฺสนฺติ เอวมาทิวิภาโค, ตสฺส นิมิตฺตํ อิฏฺารมฺมณาทิ, อยฺจ อตฺโถ เทสนาหารวิจยหารนิทฺเทสวณฺณนายํ วิตฺถารโต ปกาสิโต เอว. สุตฺเต อาคตธมฺมสฺส สภาควิสภาคธมฺมาวฏฺฏนวิสโย อาวฏฺฏหาโร, ตทุภยอาวฏฺฏนลกฺขณตฺตา. สุตฺเต อาคตธมฺมานํ ปจฺจนีกธมฺมวิสโย ปริวตฺตนหาโร, ปฏิปกฺขธมฺมปริวตฺตนลกฺขณตฺตา. ปทฏฺานปริกฺขาเรสุ อาสนฺนการณํ อุปนิสฺสยการณฺจ ปทฏฺานํ, เหตุ ปริกฺขาโรติ อยเมเตสํ วิเสโส.

สภาควิสภาคธมฺมา จ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ อนุกูลปฏิกูลธมฺมา ยถากฺกมํ เวทิตพฺพา. ยถา – สมฺมาทิฏฺิยา สมฺมาสงฺกปฺโป สภาโค, มิจฺฉาสงฺกปฺโป วิสภาโคติ อิมินา นเยน สพฺพํ สภาควิสภาคโต เวทิตพฺพํ.

ลกฺขณนฺติ สภาโว. โส หารนยานํ นิทฺเทเส วิภาวิโต เอว.

ยํ ปเนตํ เหตุอาทิวิเสสวินิมุตฺตํ หารนยานํ โยชนานิพนฺธนํ, โส นโย. ยถาห – ลกฺขณหาเร ‘‘เอวํ เย ธมฺมา เอกลกฺขณา กิจฺจโต จ ลกฺขณโต จ สามฺโต จา’’ติอาทิ. ตถา วิจเยน หาเรน วิจินิตฺวา ยุตฺติหาเรน โยเชตพฺพาติ. ตถา โสธนหาราทีสุ สุทฺโธ อารมฺโภ โหติ, โส ปฺโห วิสฺสชฺชิโต ภวตีติ เอวมาทิ. เอกตฺตาทโยปิ นยา อิธ นโยติ คเหตพฺพา.

เอวํ เหตุผลาทีนิ อุปธาเรตฺวา เนสํ วเสน ตตฺถ ตตฺถ สุตฺเต ลพฺภมานปทตฺถนิทฺธารณมุเขน ยถาลกฺขณํ เอเต หารา นยา จ โยเชตพฺพา. วิเสสโต ปน ปทฏฺานปริกฺขารา เหตุวเสน. เทสนาวิจยจตุพฺยูหสมาโรปนา เหตุผลวเสน. ตถา เววจนปฺตฺติโอตรณโสธนา ผลวเสเนวาติ เกจิ. วิภตฺติ เหตุภูมิวเสน. ปริวตฺโต วิสภาควเสน. อาวฏฺโฏ สภาควิสภาควเสน. ลกฺขณยุตฺติอธิฏฺานา นยวเสน โยเชตพฺพาติ. เอตฺตาวตา จ ยํ วุตฺตํ –

‘‘สามฺโต วิเสเสน, ปทตฺโถ ลกฺขณํ กโม;

เอตฺตาวตา จ เหตฺวาที, เวทิตพฺพา หิ วิฺุนา’’ติ.

อยํ คาถา วุตฺตตฺถา โหติ.

นิทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปฏินิทฺเทสวารวณฺณนา

๑. เทสนาหารวิภงฺควณฺณนา

. เอวํ หาราทโย สุขคฺคหณตฺถํ คาถาพนฺธวเสน สรูปโต นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ เตสุ หาเร ตาว ปฏินิทฺเทสวเสน วิภชิตุํ ‘‘ตตฺถ กตโม เทสนาหาโร’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กตโมติ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. เทสนาหาโรติ ปุจฺฉิตพฺพธมฺมนิทสฺสนํ. กิฺจาปิ เทสนาหาโร นิทฺเทสวาเร สรูปโต ทสฺสิโต, ปฏินิทฺเทสสฺส ปน วิสยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อสฺสาทาทีนวตา’’ติ คาถํ เอกเทเสน ปจฺจามสติ. อยํ เทสนาหาโร ปุพฺพาปราเปกฺโข. ตตฺถ ปุพฺพาเปกฺขตฺเต ‘‘กตโม เทสนาหาโร’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อสฺสาทาทีนวตา’’ติ สรูปโต ทสฺสิตสฺส นิคมนํ โหติ. ปราเปกฺขตฺเต ปน ‘‘อยํ เทสนาหาโร กึ เทสยตี’’ติ เทสนากิริยาย กตฺตุนิทฺเทโส โหติ. เตน เทสนาหารสฺส อนฺวตฺถสฺตํ ทสฺเสติ. เทสยตีติ สํวณฺเณติ, วิตฺถาเรตีติ อตฺโถ.

อิทานิ อเนน เทเสตพฺพธมฺเม สรูปโต ทสฺเสนฺโต ‘‘อสฺสาท’’นฺติอาทิมาห, ตํ ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมว. ตสฺมา อิโต ปรมฺปิ อวุตฺตเมว วณฺณยิสฺสาม. ‘‘กตฺถ ปน อาคเต อสฺสาทาทิเก อยํ หาโร สํวณฺเณตี’’ติ อนุโยคํ มนสิกตฺวา เทสนาหาเรน สํวณฺเณตพฺพธมฺมํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ธมฺมํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามี’’ติอาทิกํ สพฺพปริยตฺติธมฺมสงฺคาหกํ ภควโต ฉฉกฺกเทสนํ เอกเทเสน ทสฺเสติ.

ตตฺถ ธมฺมนฺติ อยํ ธมฺม-สทฺโท ปริยตฺติสจฺจสมาธิปฺาปกติปุฺาปตฺติเยฺยาทีสุ พหูสุ อตฺเถสุ ทิฏฺปฺปโยโค. ตถา หิ ‘‘อิธ, ภิกฺขุ, ธมฺมํ ปริยาปุณาตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๕.๗๓) ปริยตฺติธมฺเม ทิสฺสติ. ‘‘ทิฏฺธมฺโม ปตฺตธมฺโม’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๙๙; มหาว. ๑๘) สจฺเจ. ‘‘เอวํธมฺมา เต ภควนฺโต อเหสุ’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๑๓, ๑๔๕) สมาธิมฺหิ. ‘‘สจฺจํ ธมฺโม ธิติ จาโค’’ติ เอวมาทีสุ (ชา. ๑.๑.๕๗; ๑.๒.๑๔๗-๑๔๘) ปฺายํ. ‘‘ชาติธมฺมานํ, ภิกฺขเว, สตฺตาน’’นฺติ เอวมาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๙๘; ม. นิ. ๑.๑๓๑) ปกติยํ. ‘‘ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจาริ’’นฺติอาทีสุ (ชา. ๑.๑๐.๑๐๒; ๑.๑๕.๓๘๕) ปุฺเ. ‘‘จตฺตาโร ปาราชิกา ธมฺมา’’ติ เอวมาทีสุ (ปารา. ๒๓๓) อาปตฺติยํ. ‘‘กุสลา ธมฺมา อกุสลาธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ติกมาติกา ๑) เยฺเย. อิธ ปน ปริยตฺติยํ ทฏฺพฺโพติ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.มูลปริยายสุตฺตวณฺณนา; ธ. ส. อฏฺ. จิตฺตุปฺปาทกณฺฑ ๑; พุ. วํ. อฏฺ. ๑.๑).

โวติ ปน อยํ โว-สทฺโท ‘‘หนฺท ทานิ, ภิกฺขเว, ปวาเรมิ โว’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๑๕) เอตฺถ อุปโยคตฺเถ อาคโต. ‘‘สนฺนิปติตานํ โว, ภิกฺขเว, ทฺวยํ กรณีย’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๗๓) กรณตฺเถ. ‘‘เย หิ โว อริยา ปริสุทฺธกายกมฺมนฺตา’’ติอาทีสุ ปทปูรเณ. ‘‘อาโรจยามิ โว, ภิกฺขเว’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๗.๗๒) สมฺปทานตฺเถ. อิธาปิ สมฺปทานตฺเถ เอวาติ ทฏฺพฺโพ.

ภิกฺขนสีลตาทิคุณโยเคน ภิกฺขู, ภินฺนกิเลสตาทิคุณโยเคน วา. อถ วา สํสาเร ภยํ อิกฺขนฺตีติ ภิกฺขู. ภิกฺขเวติ เตสํ อาลปนํ. เตน เต ธมฺมสฺสวเน นิโยเชนฺโต อตฺตโน มุขาภิมุขํ กโรติ. เทเสสฺสามีติ กเถสฺสามิ. เตน นาหํ ธมฺมิสฺสรตาย ตุมฺเห อฺํ กิฺจิ กาเรยฺยามิ, อนาวรณาเณน สพฺพํ เยฺยธมฺมํ ปจฺจกฺขการิตาย ปน ธมฺมํ เทเสสฺสามีติ อิทานิ ปวตฺติยมานํ ธมฺมเทสนํ ปฏิชานาติ. อาทิกลฺยาณนฺติอาทีสุ อาทิมฺหิ กลฺยาณํ อาทิกลฺยาณํ, อาทิกลฺยาณเมตสฺสาติ วา อาทิกลฺยาณํ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ตตฺถ สีเลน อาทิกลฺยาณํ. สมาธินา มชฺเฌกลฺยาณํ. ปฺาย ปริโยสานกลฺยาณํ. พุทฺธสุพุทฺธตาย วา อาทิกลฺยาณํ. ธมฺมสุธมฺมตาย มชฺเฌกลฺยาณํ. สงฺฆสุปฺปฏิปตฺติยา ปริโยสานกลฺยาณํ. อถ วา อุคฺฆฏิตฺุวินยเนน อาทิกลฺยาณํ. วิปฺจิตฺุวินยเนน มชฺเฌกลฺยาณํ เนยฺยปุคฺคลวินยเนน ปริโยสานกลฺยาณํ. อยเมวตฺโถ อิธาธิปฺเปโต.

อตฺถสมฺปตฺติยา สาตฺถํ. พฺยฺชนสมฺปตฺติยา สพฺยฺชนํ. สงฺกาสนาทิฉอตฺถปทสมาโยคโต วา สาตฺถํ. อกฺขราทิฉพฺยฺชนปทสมาโยคโต สพฺยฺชนํ. อยเมวตฺโถ อิธาธิปฺเปโต. อุปเนตพฺพาภาวโต เอกนฺเตน ปริปุณฺณนฺติ เกวลปริปุณฺณํ. อปเนตพฺพาภาวโต ปริสุทฺธํ. สีลาทิปฺจธมฺมกฺขนฺธปาริปูริยา วา ปริปุณฺณํ. จตุโรฆนิตฺถรณาย ปวตฺติยา โลกามิสนิรเปกฺขตาย จ ปริสุทฺธํ. พฺรหฺมํ เสฏฺํ อุตฺตมํ พฺรหฺมูนํ วา เสฏฺานํ อริยานํ จริยํ สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สาสนํ พฺรหฺมจริยํ ปกาสยิสฺสามิ ปริทีปยิสฺสามีติ อตฺโถ.

เอวํ ภควตา เทสิโต ปกาสิโต จ สาสนธมฺโม เยสํ อสฺสาทาทีนํ ทสฺสนวเสน ปวตฺโต, เต อสฺสาทาทโย เทสนาหารสฺส วิสยภูตา ยตฺถ ยตฺถ ปาเ สวิเสสํ วุตฺตา, ตโต ตโต นิทฺธาเรตฺวา อุทาหรณวเสน อิธาเนตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ กตโม อสฺสาโท’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กามนฺติ มนาปิยรูปาทึ เตภูมกธมฺมสงฺขาตํ วตฺถุกามํ. กามยมานสฺสาติ อิจฺฉนฺตสฺส. ตสฺส เจตํ สมิชฺฌตีติ ตสฺส กามยมานสฺส สตฺตสฺส ตํ กามสงฺขาตํ วตฺถุ สมิชฺฌติ เจ, สเจ โส ตํ ลภตีติ วุตฺตํ โหติ. อทฺธา ปีติมโน โหตีติ เอกํเสน ตุฏฺจิตฺโต โหติ. ลทฺธาติ ลภิตฺวา. มจฺโจติ สตฺโต. ยทิจฺฉตีติ ยํ อิจฺฉติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน นิทฺเทเส (มหานิ. ๑) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. อยํ อสฺสาโทติ ยายํ อธิปฺปายสมิชฺฌนา อิจฺฉิตลาเภ ปีติมนตา โสมนสฺสํ, อยํ อสฺสาเทตพฺพโต อสฺสาโท.

ตสฺส เจ กามยานสฺสาติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส กาเม อิจฺฉมานสฺส, กาเมน วา ยายมานสฺส. ฉนฺทชาตสฺสาติ ชาตตณฺหสฺส. ชนฺตุโนติ สตฺตสฺส. เต กามา ปริหายนฺตีติ เต วตฺถุกามา เกนจิ อนฺตราเยน วินสฺสนฺติ เจ. สลฺลวิทฺโธว รุปฺปตีติ อถ อโยมยาทินา สลฺเลน วิทฺโธ วิย ปีฬิยตีติ อตฺโถ. อยํ อาทีนโวติ ยายํ กามานํ วิปริณามฺถาภาวา กามยานสฺส สตฺตสฺส รุปฺปนา โทมนสฺสุปฺปตฺติ, อยํ อาทีนโว.

โย กาเม ปริวชฺเชตีติ โย ภิกฺขุ ยถาวุตฺเต กาเม ตตฺถ ฉนฺทราคสฺส วิกฺขมฺภเนน วา สมุจฺฉินฺทเนน วา สพฺพภาเคน วชฺเชติ. ยถา กึ? สปฺปสฺเสว ปทา สิโรติ, ยถา โกจิ ปุริโส ชีวิตุกาโม กณฺหสปฺปํ ปฏิปเถ ปสฺสิตฺวา อตฺตโน ปาเทน ตสฺส สิรํ ปริวชฺเชติ, โสมํ…เป… สมติวตฺตตีติ โส ภิกฺขุ สพฺพํ โลกํ วิสริตฺวา ิตตฺตา โลเก วิสตฺติกาสงฺขาตํ อิมํ ตณฺหํ สติมา หุตฺวา สมติกฺกมตีติ. อิทํ นิสฺสรณนฺติ ยทิทํ วิสตฺติกาสงฺขาตาย ตณฺหาย นิพฺพานารมฺมเณน อริยมคฺเคน สมติวตฺตนํ, อิทํ นิสฺสรณํ.

เขตฺตนฺติ เกทาราทิเขตฺตํ. วตฺถุนฺติ ฆรวตฺถุอาทิวตฺถุํ. หิรฺํ วาติ กหาปณสงฺขาตํ สุวณฺณสงฺขาตฺจ หิรฺํ. วา-สทฺโท วิกปฺปนตฺโถ, โส สพฺพปเทสุ โยเชตพฺโพ. ควาสฺสนฺติ คาโว จ อสฺเส จาติ ควาสฺสํ. ทาสโปริสนฺติ ทาเส จ โปริเส จาติ ทาสโปริสํ. ถิโยติ อิตฺถิโย. พนฺธูติ าติพนฺธโว. ปุถู กาเมติ อฺเปิ วา มนาปิยรูปาทิเก พหู กามคุเณ. โย นโร อนุคิชฺฌตีติ โย สตฺโต อนุ อนุ อภิกงฺขติ ปตฺเถตีติ อตฺโถ. อยํ อสฺสาโทติ ยทิทํ เขตฺตาทีนํ อนุคิชฺฌนํ, อยํ อสฺสาเทติ วตฺถุกาเม เอเตนาติ อสฺสาโท.

อพลา นํ พลียนฺตีติ เขตฺตาทิเภเท กาเม อนุคิชฺฌนฺตํ ตํ ปุคฺคลํ กุสเลหิ ปหาตพฺพตฺตา อพลสงฺขาตา กิเลสา พลียนฺติ อภิภวนฺติ, สทฺธาพลาทิวิรเหน วา อพลํ ตํ ปุคฺคลํ อพลา กิเลสา พลียนฺติ, อพลตฺตา อภิภวนฺตีติ อตฺโถ. มทฺทนฺเตนํ ปริสฺสยาติ เอนํ กามคิทฺธํ กาเม ปริเยสนฺตํ รกฺขนฺตฺจ สีหาทโย จ ปากฏปริสฺสยา กายทุจฺจริตาทโย จ อปากฏปริสฺสยา มทฺทนฺติ. ตโต นํ…เป… ทกนฺติ ตโต เตหิ ปากฏาปากฏปริสฺสเยหิ อภิภูตํ ตํ ปุคฺคลํ ชาติอาทิทุกฺขํ สมุทฺเท ภินฺนนาวํ อุทกํ วิย อนฺเวติ อนุคจฺฉตีติ อตฺโถ. อยํ อาทีนโวติ ยฺวายํ ตณฺหาทุจฺจริตสํกิเลสเหตุโก ชาติอาทิทุกฺขานุพนฺโธ, อยํ อาทีนโว.

ตสฺมาติ ยสฺมา กามคิทฺธสฺส วุตฺตนเยน ทุกฺขานุพนฺโธ วิชฺชติ, ตสฺมา. ชนฺตูติ สตฺโต. สทา สโตติ ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตํ ชาคริยานุโยเคน สโต หุตฺวา. กามานิ ปริวชฺชเยติ วิกฺขมฺภนวเสน สมุจฺเฉทวเสน จ รูปาทีสุ วตฺถุกาเมสุ สพฺพปฺปการํ กิเลสกามํ อนุปฺปาเทนฺโต กามานิ ปริวชฺชเย ปชเหยฺย. เต ปหาย ตเร โอฆนฺติ เอวํ เต กาเม ปหาย ตปฺปหานกรอริยมคฺเคเนว จตุพฺพิธมฺปิ โอฆํ ตเรยฺย, ตริตุํ สกฺกุเณยฺยาติ อตฺโถ. นาวํ สิตฺวาว ปารคูติ ยถา ปุริโส อุทกคฺคหเณน ครุภารํ นาวํ อุทกํ พหิ สิฺจิตฺวา ลหุกาย นาวาย อปฺปกสิเรเนว ปารคู ภเวยฺย, ปารํ คจฺเฉยฺย, เอวเมว อตฺตภาวนาวํ กิเลสูทกครุกํ สิฺจิตฺวา ลหุเกน อตฺตภาเวน ปารคู ภเวยฺย, ปารํ นิพฺพานํ อรหตฺตปฺปตฺติยา คจฺเฉยฺย อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพาเนนาติ อตฺโถ. อิทํ นิสฺสรณนฺติ ยํ กามปฺปหานมุเขน จตุโรฆํ ตริตฺวา อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา นิพฺพานํ, อิทํ สพฺพสงฺขตนิสฺสรณโต นิสฺสรณนฺติ.

ธมฺโมติ ทานาทิปุฺธมฺโม. หเวติ นิปาตมตฺตํ. รกฺขติ ธมฺมจารินฺติ โย ตํ ธมฺมํ อปฺปมตฺโต จรติ, ตํ ธมฺมจารึ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกเภเทน ทุวิธโตปิ อนตฺถโต รกฺขติ ปาเลติ. ฉตฺตํ มหนฺตํ ยถ วสฺสกาเลติ วสฺสกาเล เทเว วสฺสนฺเต ยถา มหนฺตํ ฉตฺตํ กุสเลน ปุริเสน ธาริตํ ตํ วสฺสเตมนโต รกฺขติ. ตตฺถ ยถา ตํ ฉตฺตํ อปฺปมตฺโต หุตฺวา อตฺตานํ รกฺขนฺตํ ฉาเทนฺตฺจ วสฺสาทิโต รกฺขติ, เอวํ ธมฺโมปิ อตฺตสมฺมาปณิธาเนน อปฺปมตฺโต หุตฺวา ธมฺมจริยาย อตฺตานํ รกฺขนฺตํเยว รกฺขตีติ อธิปฺปาโย. เอสา…เป… จารีติ เอเตน วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กโรติ, ตํ สุวิฺเยฺยเมว. อิทํ ผลนฺติ ทิฏฺธมฺมิเกหิ สมฺปรายิเกหิ จ อนตฺเถหิ ยทิทํ ธมฺมสฺส รกฺขณํ วุตฺตํ รกฺขาวสานสฺส จ อพฺภุทยสฺส นิปฺผาทนํ, อิทํ นิสฺสรณํ อนามสิตฺวา เทสนาย นิพฺพตฺเตตพฺพตาย ผลนฺติ.

สพฺเพ ธมฺมาติ สพฺเพ สงฺขตา ธมฺมา. อนตฺตาติ นตฺถิ เอเตสํ อตฺตา การกเวทกสภาโว, สยํ วา น อตฺตาติ อนตฺตาติ. อิตีติ เอวํ. ยทา ปฺาย ปสฺสตีติ ยสฺมึ กาเล วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปนฺโต อนตฺตานุปสฺสนาสงฺขาตาย ปฺาย ปสฺสติ. อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเขติ อถ อนตฺตานุปสฺสนาย ปุพฺเพ เอว อนิจฺจตาทุกฺขตานํ สุปริทิฏฺตฺตา นิพฺพิทานุปสฺสนาวเสน วิปสฺสนาโคจรภูเต ปฺจกฺขนฺธทุกฺเข นิพฺพินฺทติ นิพฺเพทํ อาปชฺชติ. เอส มคฺโค วิสุทฺธิยาติ ยา วุตฺตลกฺขณา นิพฺพิทานุปสฺสนา สพฺพกิเลสวิสุชฺฌนโต วิสุทฺธิสงฺขาตสฺส อริยมคฺคสฺส อจฺจนฺตวิสุทฺธิยา วา อมตธาตุยา มคฺโค อุปาโย. อยํ อุปาโยติ ยทิทํ อนตฺตานุปสฺสนามุเขน สพฺพสฺมึ วฏฺฏสฺมึ นิพฺพินฺทนํ วุตฺตํ, ตํ วิสุทฺธิยา อธิคมเหตุภาวโต อุปาโย.

‘‘จกฺขุมา…เป… ปริวชฺชเย’’ติ อิมิสฺสา คาถาย อยํ สงฺเขปตฺโถ – ยถา จกฺขุมา ปุริโส สรีเร วหนฺเต วิสมานิ ภูมิปฺปเทสานิ จณฺฑตาย วา วิสเม หตฺถิอาทโย ปริวชฺเชติ, เอวํ โลเก สปฺปฺโ ปุริโส สปฺปฺตาย หิตาหิตํ ชานนฺโต ปาปานิ ลามกานิ ทุจฺจริตานิ ปริวชฺเชยฺยาติ. อยํ อาณตฺตีติ ยา อยํ ‘‘ปาปานิ ปริวชฺเชตพฺพานี’’ติ ธมฺมราชสฺส ภควโต อาณา, อยํ อาณตฺตีติ.

เอวํ วิสุํ วิสุํ สุตฺเตสุ อาคตา ผลูปายาณตฺติโย อุทาหรณภาเวน ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตา เอกโต อาคตา ทสฺเสตุํ ‘‘สุฺโต’’ติ คาถมาห.

ตตฺถ สุฺโต โลกํ อเวกฺขสฺสุ, โมฆราชาติ อาณตฺตีติ ‘‘โมฆราช, สพฺพมฺปิ สงฺขารโลกํ อวสวตฺติตาสลฺลกฺขณวเสน วา ตุจฺฉภาวสมนุปสฺสนวเสน วา สุฺโติ ปสฺสา’’ติ อิทํ ธมฺมราชสฺส วจนํ วิธานภาวโต อาณตฺติ. สพฺพทา สติกิริยาย ตํสุฺตาทสฺสนํ สมฺปชฺชตีติ ‘‘สทา สโตติ อุปาโย’’ติ วุตฺตํ. อตฺตานุทิฏฺึ อูหจฺจาติ วีสติวตฺถุกํ สกฺกายทสฺสนํ อุทฺธริตฺวา สมุจฺฉินฺทิตฺวา. เอวํ มจฺจุตโร สิยาติ. อิทํ ผลนฺติ ยํ เอวํ วุตฺเตน วิธินา มจฺจุตรณํ มจฺจุโน วิสยาติกฺกมนํ ตสฺส ยํ ปุพฺพภาคปฏิปทาปฏิปชฺชนํ, อิทํ เทสนาย ผลนฺติ อตฺโถ. ยถา ปน อสฺสาทาทโย สุตฺเต กตฺถจิ สรูปโต กตฺถจิ นิทฺธาเรตพฺพตาย กตฺถจิ วิสุํ วิสุํ กตฺถจิ เอกโต ทสฺสิตา, น เอวํ ผลาทโย. ผลาทโย ปน สพฺพตฺถ สุตฺเต คาถาสุ วา เอกโต ทสฺเสตพฺพาติ อิมสฺส นยสฺส ทสฺสนตฺถํ วิสุํ วิสุํ อุทาหริตฺวาปิ ปุน ‘‘สุฺโต โลก’’นฺติอาทินา เอกโต อุทาหรณํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

. เอวํ อสฺสาทาทโย อุทาหรณวเสน สรูปโต ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตตฺถ ปุคฺคลวิภาเคน เทสนาวิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ อุคฺฆฏิตํ ฆฏิตมตฺตํ อุทฺทิฏฺมตฺตํ ยสฺส นิทฺเทสปฏินิทฺเทสา น กตา, ตํ ชานาตีติ อุคฺฆฏิตฺู. อุทฺเทสมตฺเตน สปฺปเภทํ สวิตฺถารมตฺถํ ปฏิวิชฺฌตีติ อตฺโถ, อุคฺฆฏิตํ วา อุจฺจลิตํ อุฏฺปิตนฺติ อตฺโถ, ตํ ชานาตีติ อุคฺฆฏิตฺู. ธมฺโม หิ เทสิยมาโน เทสกโต เทสนาภาชนํ สงฺกมนฺโต วิย โหติ, ตเมส อุจฺจลิตเมว ชานาตีติ อตฺโถ, จลิตเมว วา อุคฺฆฏิตํ. สสฺสตาทิอาการสฺส หิ เวเนยฺยานํ อาสยสฺส พุทฺธาเวณิกา ธมฺมเทสนา ตงฺขณปติตา เอว จลนาย โหติ, ตโต ปรมฺปรานุวตฺติยา, ตตฺถายํ อุคฺฆฏิเต จลิตมตฺเตเยว อาสเย ธมฺมํ ชานาติ อวพุชฺฌตีติ อุคฺฆฏิตฺู, ตสฺส อุคฺฆฏิตฺุสฺส นิสฺสรณํ เทสยติ, ตตฺตเกเนว ตสฺส อตฺถสิทฺธิโต. วิปฺจิตํ วิตฺถาริตํ นิทฺทิฏฺํ ชานาตีติ วิปฺจิตฺู, วิปฺจิตํ วา มนฺทํ สณิกํ ธมฺมํ ชานาตีติ วิปฺจิตฺู, ตสฺส วิปฺจิตฺุสฺส อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ เทสยติ, นาติสงฺเขปวิตฺถาราย เทสนาย ตสฺส อตฺถสิทฺธิโต. เนตพฺโพ ธมฺมสฺส ปฏินิทฺทิเสน อตฺถํ ปาเปตพฺโพติ เนยฺโย, มุทินฺทฺริยตาย วา ปฏิโลมคฺคหณโต เนตพฺโพ อนุเนตพฺโพติ เนยฺโย, ตสฺส เนยฺยสฺส อสฺสาทํ อาทีนวํ นิสฺสรณฺจ เทสยติ, อนวเสเสตฺวาว เทสเนน ตสฺส อตฺถสิทฺธิโต. ตตฺถายํ ปาฬิ –

‘‘กตโม จ ปุคฺคโล อุคฺฆฏิตฺู? ยสฺส ปุคฺคลสฺส สห อุทาหฏเวลาย ธมฺมาภิสมโย โหติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล อุคฺฆฏิตฺู.

‘‘กตโม จ ปุคฺคโล วิปฺจิตฺู? ยสฺส ปุคฺคลสฺส สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺเถ วิภชิยมาเน ธมฺมาภิสมโย โหติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล วิปฺจิตฺู.

‘‘กตโม จ ปุคฺคโล เนยฺโย? ยสฺส ปุคฺคลสฺส อุทฺเทสโต ปริปุจฺฉโต โยนิโสมนสิกโรโต กลฺยาณมิตฺเต เสวโต ภชโต ปยิรุปาสโต เอวํ อนุปุพฺเพน ธมฺมาภิสมโย โหติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล เนยฺโย’’ติ (ปุ. ป. ๑๔๘-๑๕๐).

ปทปรโม ปเนตฺถ เนตฺติยํ ปฏิเวธสฺส อภาชนนฺติ น คหิโตติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ อสฺสาโท, อาทีนโว, นิสฺสรณํ, อสฺสาโท จ อาทีนโว จ, อสฺสาโท จ นิสฺสรณฺจ, อาทีนโว จ นิสฺสรณฺจ, อสฺสาโท จ อาทีนโว จ นิสฺสรณฺจาติ เอเต สตฺต ปฏฺานนยา.

เตสุ ตติยฉฏฺสตฺตมา เวเนยฺยตฺตยวินยเน สมตฺถตาย คหิตา, อิตเร จตฺตาโร น คหิตา. น หิ เกวเลน อสฺสาเทน อาทีนเวน ตทุภเยน วา กถิเตน เวเนยฺยวินยนํ สมฺภวติ, กิเลสานํ ปหานาวจนโต. ปฺจโมปิ อาทีนวาวจนโต นิสฺสรณสฺส อนุปาโย เอว. น หิ วิมุตฺติรสา ภควโต เทสนา วิมุตฺตึ ตทุปายฺจ อนามสนฺตี ปวตฺตติ. ตสฺมา เอเต จตฺตาโร นยา อนุทฺธฏา. สเจ ปน ปทปรมสฺส ปุคฺคลสฺส วเสน ปวตฺตํ สํกิเลสภาคิยํ วาสนาภาคิยํ ตทุภยภาเค ิตํ เทสนํ สุตฺเตกเทสํ คาถํ วา ตาทิสํ เอเตสํ นยานํ อุทาหรณภาเวน อุทฺธรติ, เอวํ สติ สตฺตนฺนมฺปิ นยานํ คหณํ ภเวยฺย. เวเนยฺยวินยนํ ปน เตสํ สนฺตาเน อริยมคฺคสฺส อุปฺปาทนํ. ตํ ยถาวุตฺเตหิ เอว นเยติ, นาวเสเสหีติ อิตเร อิธ น วุตฺตา. ยสฺมา ปน เปฏเก (เปฏโก. ๒๓) –

‘‘ตตฺถ กตโม อสฺสาโท จ อาทีนโว จ?

ยานิ กโรติ ปุริโส, ตานิ อตฺตนิ ปสฺสติ;

กลฺยาณการี กลฺยาณํ, ปาปการี จ ปาปก’’นฺติ.

ตตฺถ ยํ กลฺยาณการี กลฺยาณํ ปจฺจนุโภติ, อยํ อสฺสาโท. ยํ ปาปการี ปาปํ ปจฺจนุโภติ, อยํ อาทีนโว.

อฏฺิเม, ภิกฺขเว, โลกธมฺมา. กตเม อฏฺ? ลาโภติอาทิ (อ. นิ. ๘.๖). ตตฺถ ลาโภ ยโส สุขํ ปสํสา, อยํ อสฺสาโท. อลาโภ อยโส ทุกฺขํ นินฺทา, อยํ อาทีนโว.

ตตฺถ กตโม อสฺสาโท จ นิสฺสรณฺจ?

‘‘สุโข วิปาโก ปุฺานํ, อธิปฺปาโย จ อิชฺฌติ;

ขิปฺปฺจ ปรมํ สนฺตึ, นิพฺพานมธิคจฺฉตี’’ติ. (เปฏโก. ๒๓);

อยํ อสฺสาโท จ นิสฺสรณฺจ.

ทฺวตฺตึสิมานิ, ภิกฺขเว, มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณานิ, เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ทฺเวว คติโย ภวนฺติ อนฺา…เป… วิวฏจฺฉโทติ สพฺพํ ลกฺขณสุตฺตํ, (ที. นิ. ๓.๑๙๙) อยํ อสฺสาโท จ นิสฺสรณฺจ.

ตตฺถ กตโม อาทีนโว จ นิสฺสรณฺจ?

‘‘ภารา หเว ปฺจกฺขนฺธา, ภารหาโร จ ปุคฺคโล;

ภาราทานํ ทุขํ โลเก, ภารนิกฺเขปนํ สุขํ.

‘‘นิกฺขิปิตฺวา ครุํ ภารํ, อฺํ ภารํ อนาทิย;

สมูลํ ตณฺหมพฺพุยฺห, นิจฺฉาโต ปรินิพฺพุโต’’ติ. (สํ. นิ. ๓.๒๒);

อยํ อาทีนโว จ นิสฺสรณฺจ.

ตตฺถ กตโม อสฺสาโท จ อาทีนโว จ นิสฺสรณฺจ?

‘‘กามา หิ จิตฺรา มธุรา มโนรมา, วิรูปรูเปน มเถนฺติ จิตฺตํ;

ตสฺมา อหํ ปพฺพชิโตมฺหิ ราช, อปณฺณกํ สามฺเมว เสยฺโยติ. (ม. นิ. ๒.๓๐๗; เถรคา. ๗๘๗-๗๘๘; เปฏโก. ๒๓);

อยํ อสฺสาโท จ อาทีนโว จ นิสฺสรณฺจา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา เตปิ นยา อิธ นิทฺธาเรตฺวา เวทิตพฺพา. ผลาทีสุปิ อยํ นโย ลพฺภติ เอว. ยสฺมา เปฏเก (เปฏโก. ๒๒) ‘‘ตตฺถ กตมํ ผลฺจ อุปาโย จ? สีเล ปติฏฺาย นโร สปฺโ’’ติ คาถา (สํ. นิ. ๑.๒๓), อิทํ ผลฺจ อุปาโย จ.

ตตฺถ กตมํ ผลฺจ อาณตฺติ จ?

‘‘สเจ ภายถ ทุกฺขสฺส, สเจ โว ทุกฺขมปฺปิยํ;

มากตฺถ ปาปกํ กมฺมํ, อาวิ วา ยทิ วา รโหติ. (อุทา. ๔๔);

อิทํ ผลฺจ อาณตฺติ จ.

ตตฺถ กตโม อุปาโย จ อาณตฺติ จ?

‘‘กุมฺภูปมํ กายมิมํ วิทิตฺวา, นครูปมํ จิตฺตมิทํ เปตฺวา;

โยเธถ มารํ ปฺาวุเธน, ชิตฺจ รกฺเข อนิเวสโน สิยา’’ติ. (ธ. ป. ๔๐);

อยํ อุปาโย จ อาณตฺติ จ. เอวํ ผลาทีนํ ทุกวเสนปิ อุทาหรณํ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ จ โย นิสฺสรณเทสนาย วิเนตพฺโพ, โส อุคฺฆฏิตฺูติอาทินา ยถา เทสนาวิภาเคน ปุคฺคลวิภาคสิทฺธิ โหติ, เอวํ อุคฺฆฏิตฺุสฺส ภควา นิสฺสรณํ เทเสตีติอาทินา ปุคฺคลวิภาเคน เทสนาวิภาโค สมฺภวตีติ โส ตถา ทสฺสิโต.

เอวํ เยสํ ปุคฺคลานํ วเสน เทสนาวิภาโค ทสฺสิโต, เต ปุคฺคเล ปฏิปทาวิภาเคน วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘จตสฺโส ปฏิปทา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปฏิปทาภิฺากโต วิภาโค ปฏิปทากโต โหตีติ อาห – ‘‘จตสฺโส ปฏิปทา’’ติ. ตา ปเนตา จ สมถวิปสฺสนาปฏิปตฺติวเสน ทุวิธา โหนฺติ. กถํ? สมถปกฺเข ตาว ปมสมนฺนาหารโต ปฏฺาย ยาว ตสฺส ตสฺส ฌานสฺส อุปจารํ อุปฺปชฺชติ, ตาว ปวตฺตา สมถภาวนา ‘‘ปฏิปทา’’ติ วุจฺจติ. อุปจารโต ปน ปฏฺาย ยาว อปฺปนา ตาว ปวตฺตา ปฺา ‘‘อภิฺา’’ติ วุจฺจติ.

สา ปนายํ ปฏิปทา เอกจฺจสฺส ทุกฺขา โหติ นีวรณาทิปจฺจนีกธมฺมสมุทาจารคหณตาย กิจฺฉา อสุขเสวนาติ อตฺโถ, เอกจฺจสฺส ตทภาเวน สุขา. อภิฺาปิ เอกจฺจสฺส ทนฺธา โหติ มนฺทา อสีฆปฺปวตฺติ, เอกจฺจสฺส ขิปฺปา อมนฺทา สีฆปฺปวตฺติ. ตสฺมา โย อาทิโต กิเลเส วิกฺขมฺเภนฺโต ทุกฺเขน สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน กิลมนฺโต วิกฺขมฺเภติ, ตสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา โหติ. โย ปน วิกฺขมฺภิตกิเลโส อปฺปนาปริวาสํ วสนฺโต จิเรน องฺคปาตุภาวํ ปาปุณาติ, ตสฺส ทนฺธาภิฺา นาม โหติ. โย ขิปฺปํ องฺคปาตุภาวํ ปาปุณาติ, ตสฺส ขิปฺปาภิฺา นาม โหติ. โย กิเลเส วิกฺขมฺเภนฺโต สุเขน อกิลมนฺโต วิกฺขมฺเภติ, ตสฺส สุขา ปฏิปทา นาม โหติ.

วิปสฺสนาปกฺเข ปน โย รูปารูปมุเขน วิปสฺสนํ อภินิวิสนฺโต จตฺตาริ มหาภูตานิ ปริคฺคเหตฺวา อุปาทารูปํ ปริคฺคณฺหาติ อรูปํ ปริคฺคณฺหาติ, รูปารูปํ ปน ปริคฺคณฺหนฺโต ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, ตสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา นาม โหติ. ปริคฺคหิตรูปารูปสฺส ปน วิปสฺสนาปริวาเส มคฺคปาตุภาวทนฺธตาย ทนฺธาภิฺา นาม โหติ. โยปิ รูปารูปํ ปริคฺคเหตฺวา นามรูปํ ววตฺถเปนฺโต ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต ววตฺถเปติ, ววตฺถปิเต จ นามรูเป วิปสฺสนาปริวาสํ วสนฺโต จิเรน มคฺคํ อุปฺปาเทตุํ สกฺโกติ. ตสฺสาปิ ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา นาม โหติ.

อปโร นามรูปมฺปิ ววตฺถเปตฺวา ปจฺจเย ปริคฺคณฺหนฺโต ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต ปริคฺคณฺหาติ, ปจฺจเย จ ปริคฺคเหตฺวา วิปสฺสนาปริวาสํ วสนฺโต จิเรน มคฺคํ อุปฺปาเทติ. เอวมฺปิ ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา นาม โหติ.

อปโร ปจฺจเยปิ ปริคฺคเหตฺวา ลกฺขณานิ ปฏิวิชฺฌนฺโต ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต ปฏิวิชฺฌติ, ปฏิวิทฺธลกฺขโณ จ วิปสฺสนาปริวาสํ วสนฺโต จิเรน มคฺคํ อุปฺปาเทติ. เอวมฺปิ ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา นาม โหติ.

อปโร ลกฺขณานิปิ ปฏิวิชฺฌิตฺวา วิปสฺสนาาเณ ติกฺเข สูเร สุปฺปสนฺเน วหนฺเต อุปฺปนฺนํ วิปสฺสนานิกนฺตึ ปริยาทิยมาโน ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต ปริยาทิยติ, นิกนฺติฺจ ปริยาทิยิตฺวา วิปสฺสนาปริวาสํ วสนฺโต จิเรน มคฺคํ อุปฺปาเทติ. เอวมฺปิ ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา นาม โหติ. อิมินาวุปาเยน อิตราปิ ติสฺโส ปฏิปทา เวทิตพฺพา. วิปสฺสนาปกฺขิกา เอว ปเนตฺถ จตสฺโส ปฏิปทา ทฏฺพฺพา.

จตฺตาโร ปุคฺคลาติ ยถาวุตฺตปฏิปทาวิภาเคน จตฺตาโร ปฏิปนฺนกปุคฺคลา. ตํ ปน ปฏิปทาวิภาคํ สทฺธึ เหตุปายผเลหิ ทสฺเสตุํ ‘‘ตณฺหาจริโต’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ จริตนฺติ จริยา, วุตฺตีติ อตฺโถ. ตณฺหาย นิพฺพตฺติตํ จริตํ เอตสฺสาติ ตณฺหาจริโต, ตณฺหาย วา ปวตฺติโต จริโต ตณฺหาจริโต, โลภชฺฌาสโยติ อตฺโถ. ทิฏฺิจริโตติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. มนฺโทติ มนฺทิยํ วุจฺจติ อวิชฺชา, ตาย สมนฺนาคโต มนฺโท, โมหาธิโกติ อตฺโถ.

สตินฺทฺริเยนาติ สติยา อาธิปจฺจํ กุรุมานาย. สตินฺทฺริยเมว หิสฺส วิสทํ โหติ. ยสฺมา ตณฺหาจริตตาย ปุพฺพภาเค โกสชฺชาภิภเวน น วีริยํ พลวํ โหติ, โมหาธิกตาย น ปฺา พลวตี. ตทุภเยนาปิ น สมาธิ พลวา โหติ, ตสฺมา ‘‘สตินฺทฺริยเมว หิสฺส วิสทํ โหตี’’ติ วุตฺตํ. เตเนวาห – ‘‘สติปฏฺาเนหิ นิสฺสเยหี’’ติ. ตณฺหาจริตตาย จสฺส กิเลสวิกฺขมฺภนํ น สุกรนฺติ ทุกฺขา ปฏิปทา, อวิสทาณตาย ทนฺธาภิฺาติ ปุพฺเพ วุตฺตนยํ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. นิยฺยาตีติ อริยมคฺเคน วฏฺฏทุกฺขโต นิคฺคจฺฉติ.

อุทตฺโถติ อุทอตฺโถ, อุฬารปฺโติ อตฺโถ. ปฺาสหายปฏิลาเภน จสฺส สมาธิ ติกฺโข โหติ สมฺปยุตฺเตสุ อาธิปจฺจํ ปวตฺเตติ. เตเนวาห – ‘‘สมาธินฺทฺริเยนา’’ติ. วิสทาณตฺตา ‘‘ขิปฺปาภิฺายา’’ติ วุตฺตํ. สมาธิปธานตฺตา ฌานานํ ฌาเนหิ นิสฺสเยหีติ อยํ วิเสโส. เสสํ ปุริมสทิสเมว. ทิฏฺิจริโต อนิยฺยานิกมคฺคมฺปิ นิยฺยานิกนฺติ มฺมาโน ตตฺถ อุสฺสาหพหุลตฺตา วีริยาธิโก โหติ. วีริยาธิกตาเยว จสฺส กิเลสวิกฺขมฺภนํ สุกรนฺติ สุขา ปฏิปทา, อวิสทาณตาย ปน ทนฺธาภิฺาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘ทิฏฺิจริโต มนฺโท’’ติอาทินา. เสสํ วุตฺตนยเมว.

สจฺเจหีติ อริยสจฺเจหิ. อริยสจฺจานิ หิ โลกิยานิ ปุพฺพภาคาณสฺส สมฺมสนฏฺานตาย โลกุตฺตรานิ อธิมุจฺจนตาย มคฺคาณสฺส อภิสมยฏฺานตาย จ นิสฺสยานิ โหนฺตีติ. เสสํ วุตฺตนยเมว. เอตฺถ จ ทิฏฺิจริโต อุทตฺโถ อุคฺฆฏิตฺู. ตณฺหาจริโต มนฺโท เนยฺโย. อิตเร ทฺเวปิ วิปฺจิตฺูติ เอวํ เยน เวเนยฺยตฺตเยน ปุพฺเพ เทสนาวิภาโค ทสฺสิโต, ตเทว เวเนยฺยตฺตยํ อิมินา ปฏิปทาวิภาเคน ทสฺสิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

อิทานิ ตํ เวเนยฺยุปุคฺคลวิภาคํ อตฺถนยโยชนาย วิสยํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อุโภ ตณฺหาจริตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตณฺหาย สมาธิปฏิปกฺขตฺตา ตณฺหาจริโต วิสุชฺฌมาโน สมาธิมุเขน วิสุชฺฌตีติ อาห ‘‘สมถปุพฺพงฺคมายา’’ติ. ‘‘สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ ภาเวตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๗๐; ปฏิ. ม. ๒.๑, ๓) วจนโต ปน สมฺมาทิฏฺิสหิเตเนว สมฺมาสมาธินา นิยฺยานํ, น สมฺมาสมาธินา เอวาติ อาห – ‘‘สมถปุพฺพงฺคมาย วิปสฺสนายา’’ติ. ‘‘ราควิราคา เจโตวิมุตฺตีติ อรหตฺตผลสมาธี’’ติ สงฺคเหสุ วุตฺตํ. อิธ ปน อนาคามิผลสมาธีติ วกฺขติ. โส หิ สมาธิสฺมึ ปริปูรการีติ. ตตฺถ รฺชนฏฺเน ราโค. โส วิรชฺชติ เอตายาติ ราควิราคา, ตาย ราควิราคาย, ราคปฺปหายิกายาติ อตฺโถ.

เจโตวิมุตฺติยาติ เจโตติ จิตฺตํ, ตทปเทเสน เจตฺถ สมาธิ วุจฺจติ ‘‘ยถา จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวย’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๓). ปฏิปฺปสฺสทฺธิวเสน ปฏิปกฺขโต วิมุจฺจตีติ วิมุตฺติ, เตน วา วิมุตฺโต, ตโต วิมุจฺจนนฺติ วา วิมุตฺติ, สมาธิเยว. ยถา หิ โลกิยกถายํ สฺา จิตฺตฺจ เทสนาสีสํ. ยถาห – ‘‘นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๓๒, ๓๔๑, ๓๕๗; อ. นิ. ๗.๔๔; ๙.๒๔) ‘‘กึ จิตฺโต ตฺวํ, ภิกฺขู’’ติ (ปารา. ๑๓๕) จ, เอวํ โลกุตฺตรกถายํ ปฺา สมาธิ จ. ยถาห – ‘‘ปฺจาณิโก สมฺมาสมาธี’’ติ (วิภ. ๘๐๔) จ ‘‘สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ ภาเวตี’’ติ จ. เตสุ อิธ ราคสฺส อุชุวิปจฺจนีกโต สมถปุพฺพงฺคมตาวจนโต จ เจโตคฺคหเณน สมาธิ วุตฺโต. ตถา วิมุตฺติวจเนน. เตน วุตฺตํ ‘‘สมาธิเยวา’’ติ. เจโต จ ตํ วิมุตฺติ จาติ เจโตวิมุตฺติ. อถ วา วุตฺตปฺปการสฺเสว เจตโส ปฏิปกฺขโต วิมุตฺติ วิโมกฺโขติ เจโตวิมุตฺติ, เจตสิ วา ผลวิฺาเณ วุตฺตปฺปการาว วิมุตฺตีติ เจโตวิมุตฺติ, เจตโส วา ผลวิฺาณสฺส ปฏิปกฺขโต วิมุตฺติ วิโมกฺโข เอตสฺมินฺติ เจโตวิมุตฺติ, สมาธิเยว. ปฺาวิมุตฺติยาติ เอตฺถาปิ อยํ นโย ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺโพ.

ทิฏฺิยา สวิสเย ปฺาสทิสี ปวตฺตีติ ทิฏฺิจริโต วิสุชฺฌมาโน ปฺามุเขน วิสุชฺฌตีติ อาห – ‘‘อุโภ ทิฏฺิจริตา วิปสฺสนา’’ติอาทิ. อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺตีติ อรหตฺตผลปฺา. สมถคฺคหเณน ตปฺปฏิปกฺขโต ตณฺหํ วิปสฺสนาคฺคหเณน อวิชฺชฺจ นิทฺธาเรตฺวา ปมนยสฺส ภูมึ สกฺกา สุเขน ทสฺเสตุนฺติ อาห – ‘‘เย สมถ…เป… หาตพฺพา’’ติ.

ตตฺถ สมถปุพฺพงฺคมา ปฏิปทาติ ปุริมา ทฺเว ปฏิปทา, อิตรา วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมาติ ทฏฺพฺพา. หาตพฺพาติ คเมตพฺพา, เนตพฺพาติ อตฺโถ. วิปสฺสนาย อนิจฺจทุกฺขอนตฺตสฺาภาวโต ทุกฺขสฺาปริวารตฺตา จ อสุภสฺาย อิมา จตสฺโส สฺา ทสฺสิตา โหนฺติ. ตปฺปฏิปกฺเขน จ จตฺตาโร วิปลฺลาสาติ สกลสฺส สีหวิกฺกีฬิตนยสฺส ภูมึ สุเขน สกฺกา ทสฺเสตุนฺติ อาห – ‘‘เย วิปสฺสนา…เป… หาตพฺพา’’ติ.

. เอวํ ปฏิปทาวิภาเคน เวเนยฺยปุคฺคลวิภาคํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตํ าณวิภาเคน ทสฺเสนฺโต ยสฺมา ภควโต เทสนา ยาวเทว เวเนยฺยวินยนตฺถา, วินยนฺจ เนสํ สุตมยาทีนํ ติสฺสนฺนํ ปฺานํ อนุกฺกเมน นิพฺพตฺตนํ, ยถา ภควโต เทสนาย ปวตฺติภาววิภาวนฺจ หารนยพฺยาปาโร, ตสฺมา อิมสฺส หารสฺส สมุฏฺิตปฺปการํ ตาว ปุจฺฉิตฺวา เยน ปุคฺคลวิภาคทสฺสเนน เทสนาภาชนํ วิภชิตฺวา ตตฺถ เทสนายํ เทสนาหารํ นิโยเชตุกาโม ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สฺวายํ หาโร กตฺถ สมฺภวตี’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ยสฺสาติ โย โส อฏฺหิ อกฺขเณหิ วิมุตฺโต โสตาวธานปริโยสานาหิ จ สมฺปตฺตีติ สมนฺนาคโต ยสฺส. สตฺถาติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ ยถารหํ อนุสาสนโต สตฺถา. ธมฺมนฺติ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน อปาเยสุ อปตมาเน ธาเรตีติ ธมฺโม, ตํ ธมฺมํ. เทสยตีติ สงฺเขปวิตฺถารนเยหิ ภาสติ กเถติ. อฺตโรติ ภควโต สาวเกสุ อฺตโร. ครุฏฺานีโยติ สีลสุตาทิคุณวิเสสโยเคน ครุกรณีโย. สพฺรหฺมจารีติ พฺรหฺมํ วุจฺจติ เสฏฺฏฺเน สกลํ สตฺถุสาสนํ. สมํ สห วา พฺรหฺมํ จรติ ปฏิปชฺชตีติ สพฺรหฺมจารี. สทฺธํ ปฏิลภตีติ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต โส ภควา โย เอวรูปสฺส ธมฺมสฺส เทเสตา’’ติ ตถาคเต, ‘‘สฺวากฺขาโต วตายํ ธมฺโม โย เอวํ เอกนฺตปริปุณฺโณ เอกนฺตปริสุทฺโธ’’ติอาทินา ธมฺเม จ สทฺธํ ลภติ อุปฺปาเทตีติ อตฺโถ.

ตตฺถาติ ตสฺมึ ยถาสุเต ยถาปริยตฺเต ธมฺเม. วีมํสาติ ปาฬิยา ปาฬิอตฺถสฺส จ วีมํสนปฺา. เสสํ ตสฺสา เอว เววจนํ. สา หิ ยถาวุตฺตวีมํสเน สงฺโกจํ อนาปชฺชิตฺวา อุสฺสหนวเสน อุสฺสาหนา, ตุลนวเสน ตุลนา, อุปปริกฺขณวเสน อุปปริกฺขาติ จ วุตฺตา. อถ วา วีมํสตีติ วีมํสา, สา ปทปทตฺถวิจารณา ปฺา. อุสฺสาหนาติ วีริเยน อุปตฺถมฺภิตา ธมฺมสฺส ธารณปริจยสาธิกา ปฺา. ตุลนาติ ปเทน ปทนฺตรํ, เทสนาย วา เทสนนฺตรํ ตุลยิตฺวา สํสนฺทิตฺวา คหณปฺา. อุปปริกฺขาติ มหาปเทเส โอตาเรตฺวา ปาฬิยา ปาฬิอตฺถสฺส จ อุปปริกฺขณปฺา. อตฺตหิตํ ปรหิตฺจ อากงฺขนฺเตหิ สุยฺยตีติ สุตํ, กาลวจนิจฺฉาย อภาวโต, ยถา ทุทฺธนฺติ. กึ ปน ตนฺติ? อธิการโต สามตฺถิยโต วา ปริยตฺติธมฺโมติ วิฺายติ. อถ วา สวนํ สุตํ, โสตทฺวารานุสาเรน ปริยตฺติธมฺมสฺส อุปธารณนฺติ อตฺโถ. สุเตน เหตุนา นิพฺพตฺตา สุตมยี. ปกาเรน ชานาตีติ ปฺา. ยา วีมํสา, อยํ สุตมยี ปฺาติ ปจฺเจกมฺปิ โยเชตพฺพํ. ตถาติ ยถา สุตมยี ปฺา วีมํสาทิปริยายวตี วีมํสาทิวิภาควตี จ, ตถา จินฺตามยี จาติ อตฺโถ. ยถา วา สุตมยี โอรมตฺติกา อนวฏฺิตา จ, เอวํ จินฺตามยี จาติ ทสฺเสติ.

สุเตน นิสฺสเยนาติ สุเตน ปริยตฺติธมฺเมน ปริยตฺติธมฺมสฺสวเนน วา อุปนิสฺสเยน อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ กรณวจนํ, ยถาวุตฺตํ สุตํ อุปนิสฺสายาติ อตฺโถ. วีมํสาติอาทีสุ ‘‘อิทํ สีลํ, อยํ สมาธิ, อิเม รูปารูปธมฺมา, อิเม ปฺจกฺขนฺธา’’ติ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ สภาววีมํสนภูตา ปฺา วีมํสา. เตสํเยว ธมฺมานํ วจนตฺถํ มุฺจิตฺวา สภาวสรสลกฺขณสฺส ตุลยิตฺวา วิย คหณปฺา ตุลนา. เตสํเยว ธมฺมานํ สลกฺขณํ อวิชหิตฺวา อนิจฺจตาทิรุปฺปนสปฺปจฺจยาทิอากาเร จ ตกฺเกตฺวา วิตกฺเกตฺวา จ อุปปริกฺขณปฺา อุปปริกฺขา, ตถา อุปปริกฺขิเต ธมฺเม สวิคฺคเห วิย อุปฏฺหนฺเต เอวเมเตหิ นิชฺฌานกฺขเม กตฺวา จิตฺเตน อนุ อนุ เปกฺขณา มนสานุเปกฺขณา. เอตฺถ จ ยถา สุตมยี ปฺา ยถาสุตสฺส ธมฺมสฺส ธารณปริจยวเสน ปวตฺตนโต อุสฺสาหชาตา ‘‘อุสฺสาหนา’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหติ, น เอวํ จินฺตามยีติ อิธ ‘‘อุสฺสาหนา’’ติ ปทํ น วุตฺตํ. จินฺตนํ จินฺตา, นิชฺฌานนฺติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

อิมาหิ ทฺวีหิ ปฺาหีติ ยถาวุตฺตาหิ ทฺวีหิ ปฺาหิ การณภูตาหิ. สุตจินฺตามยาเณสุ หิ ปติฏฺิโต วิปสฺสนํ อารภตีติ. ‘‘อิมาสุ ทฺวีสุ ปฺาสู’’ติปิ ปนฺติ. ‘‘เตหิ ชาตาสุ อุปฺปนฺนาสู’’ติ วา วจนเสโส โยเชตพฺโพ. มนสิการสมฺปยุตฺตสฺสาติ รูปารูปปริคฺคหาทิมนสิกาเร ยุตฺตปฺปยุตฺตสฺส. ยํ าณํ อุปฺปชฺชตีติ วุตฺตนเยน มนสิการปฺปโยเคน ทิฏฺิวิสุทฺธิกงฺขาวิตรณวิสุทฺธิมคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธิปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธีนํ สมฺป อาทเนน วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกนฺตสฺส ยํ าณทสฺสนวิสุทฺธิสงฺขาตํ อริยมคฺคาณํ อุปฺปชฺชติ, อยํ ภาวนามยี ปฺาติ สมฺพนฺโธ. ตํ ปน ทสฺสนํ ภาวนาติ ทุวิธนฺติ อาห – ‘‘ทสฺสนภูมิยํ วา ภาวนาภูมิยํ วา’’ติ. ยทิ ทสฺสนนฺติ วุจฺจติ, กถํ ตตฺถ ปฺา ภาวนามยีติ? ภาวนามยเมว หิ ตํ าณํ, ปมํ นิพฺพานทสฺสนโต ปน ‘‘ทสฺสน’’นฺติ วุตฺตนฺติ สผโล ปมมคฺโค ทสฺสนภูมิ. เสสา เสกฺขาเสกฺขธมฺมา ภาวนาภูมิ.

. อิทานิ อิมา ติสฺโส ปฺา ปริยายนฺตเรน ทสฺเสตุํ ‘‘ปรโตโฆสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปรโตติ น อตฺตโต, อฺโต สตฺถุโต สาวกโต วาติ อตฺโถ. โฆสาติ เตสํ เทสนาโฆสโต, เทสนาปจฺจยาติ อตฺโถ. อถ วา ปรโต โฆโส เอติสฺสาติ ปรโตโฆสา, ยา ปฺา, สา สุตมยีติ โยเชตพฺพํ. ปจฺจตฺตสมุฏฺิตาติ ปจฺจตฺตํ ตสฺส ตสฺส อตฺตนิ สมฺภูตา. โยนิโสมนสิการาติ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ สภาวปริคฺคณฺหนาทินา ยถาวุตฺเตน อุปาเยน ปวตฺตมนสิการา. ปรโต จ โฆเสนาติ ปรโตโฆเสน เหตุภูเตน. เสสํ วุตฺตนยเมว.

อิทานิ ยทตฺถํ อิมา ปฺา อุทฺธฏา, ตเมว เวเนยฺยปุคฺคลวิภาคํ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อิมา ทฺเวติ คณนวเสน วตฺวา ปุน ตา สุตมยี จินฺตามยี จาติ สรูปโต ทสฺเสติ. อยํ อุคฺฆฏิตฺูติ อยํ สุตมยจินฺตามยาเณหิ อาสยปโยคปโพธสฺส นิปฺผาทิตตฺตา อุทฺเทสมตฺเตเนว ชานนโต ‘‘อุคฺฆฏิตฺู’’ติ วุจฺจติ. อยํ วิปฺจิตฺูติ จินฺตามยาเณน อาสยสฺส อปริกฺขตตฺตา อุทฺเทสนิทฺเทเสหิ ชานนโต วิปฺจิตฺู. อยํ เนยฺโยติ สุตมยาณสฺสาปิ อภาวโต นิรวเสสํ วิตฺถารเทสนาย เนตพฺพโต เนยฺโย.

. เอวํ เทสนาปฏิปทาาณวิภาเคหิ เทสนาภาชนํ เวเนยฺยตฺตยํ วิภชิตฺวา อิทานิ ตตฺถ ปวตฺติตาย ภควโต ธมฺมเทสนาย เทสนาหารํ นิทฺธาเรตฺวา โยเชตุํ ‘‘สายํ ธมฺมเทสนา’’ติอาทิ อารทฺธํ.

ตตฺถ สายนฺติ สา อยํ. ยา ปุพฺเพ ‘‘ธมฺมํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามี’’ติอาทินา (เนตฺติ. ๕) ปฏินิทฺเทสวารสฺส อาทิโต เทสนาหารสฺส วิสยภาเวน นิกฺขิตฺตา ปาฬิ, ตเมเวตฺถ เทสนาหารํ นิโยเชตุํ ‘‘สายํ ธมฺมเทสนา’’ติ ปจฺจามสติ. กึ เทสยตีติ กเถตุกมฺยตาวเสน เทสนาย ปิณฺฑตฺถํ ปุจฺฉิตฺวา ตํ คณนาย ปริจฺฉินฺทิตฺวา สามฺโต ทสฺเสติ ‘‘จตฺตาริ สจฺจานี’’ติ. สจฺจวินิมุตฺตา หิ ภควโต เทสนา นตฺถีติ. ตสฺสา จ จตฺตาริ สจฺจานิ ปิณฺฑตฺโถ. ปวตฺติปวตฺตกนิวตฺติตทุปายวิมุตฺตสฺส เนยฺยสฺส อภาวโต จตฺตาริ อวิปรีตภาเวน สจฺจานีติ ทฏฺพฺพํ. ตานิ ‘‘ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺค’’นฺติ สรูปโต ทสฺเสติ.

ตตฺถ อเนกุปทฺทวาธิฏฺานภาเวน กุจฺฉิตตฺตา พาลชนปริกปฺปิตธุวสุภสุขตฺตภาววิรเหน ตุจฺฉตฺตา จ ทุกฺขํ. อวเสสปจฺจยสมวาเย ทุกฺขสฺส อุปฺปตฺติการณตฺตา สมุทโย. สพฺพคติสุฺตฺตา นตฺถิ เอตฺถ สํสารจารกสงฺขาโต ทุกฺขโรโธ, เอตสฺมึ วา อธิคเต สํสารจารกสงฺขาตสฺส ทุกฺขโรธสฺส อภาโวติปิ นิโรโธ, อนุปฺปาทนิโรธปจฺจยตฺตา วา. มาเรนฺโต คจฺฉติ, นิพฺพานตฺถิเกหิ มคฺคิยตีติ วา มคฺโค. ตตฺถ สมุทเยน อสฺสาโท, ทุกฺเขน อาทีนโว, มคฺคนิโรเธหิ นิสฺสรณํ. เอวํ ยสฺมึ สุตฺเต จตฺตาริ สจฺจานิ สรูปโต อาคตานิ, ตตฺถ ยถารุตวเสน. ยตฺถ ปน สุตฺเต จตฺตาริ สจฺจานิ สรูปโต น อาคตานิ, ตตฺถ อตฺถโต จตฺตาริ สจฺจานิ อุทฺธริตฺวา เตสํ วเสน อสฺสาทาทโย นิทฺธาเรตพฺพา. ยตฺถ จ อสฺสาทาทโย สรูปโต อาคตา, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ยตฺถ ปน น อาคตา, ตตฺถ อตฺถโต อุทฺธริตฺวา เตสํ วเสน จตฺตาริ สจฺจานิ นิทฺธาเรตพฺพานิ. อิธ ปน อสฺสาทาทโย อุทาหรณวเสน สรูปโต ทสฺสิตาติ เตหิ สจฺจานิ นิทฺธาเรตุํ ‘‘อาทีนโว จา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ ‘‘สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๘๗; ม. นิ. ๑.๑๒๐; ๓.๓๗๓; วิภ. ๒๐๒) วจนโต ตณฺหาวชฺชา เตภูมกธมฺมา ทุกฺขสจฺจํ, เต จ อนิจฺจาทิสภาวตฺตา อาทีนโว, ผลฺจ เทสนาย สาเธตพฺพํ. ตตฺถ ยํ โลกิยํ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ผลฺจ ทุกฺข’’นฺติ. อสฺสาโทติ ตณฺหาวิปลฺลาสานมฺปิ อิจฺฉิตตฺตา เต สนฺธาย ‘‘อสฺสาโท สมุทโย’’ติ วุตฺตํ. สห วิปสฺสนาย อริยมคฺโค เทสนา จ เทสนาผลาธิคมสฺส อุปาโยติ กตฺวา ‘‘อุปาโย อาณตฺติ จ มคฺโค’’ติ วุตฺตํ. นิสฺสรณปเท จาปิ อริยมคฺโค นิทฺธาเรตพฺโพ, น จายํ สจฺจวิภาโค อากุโลติ ทฏฺพฺโพ. ยถา หิ สจฺจวิภงฺเค (วิภ. ๒๐๘) ‘‘ตณฺหา อวสิฏฺา กิเลสา อวสิฏฺา อกุสลา ธมฺมา สาสวานิ กุสลมูลานิ สาสวา จ กุสลา ธมฺมา สมุทยสจฺจภาเวน วิภตฺตา’’ติ ตสฺมึ ตสฺมึ นเย ตํตํอวสิฏฺา เตภูมกธมฺมา ทุกฺขสจฺจภาเวน วิภตฺตา, เอวมิธาปิ ทฏฺพฺพนฺติ. อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานีติ นิคมนํ. อิทํ ธมฺมจกฺกนฺติ ยายํ ภควโต จตุสจฺจวเสน สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา, อิทํ ธมฺมจกฺกํ.

อิทานิ ตสฺสา ธมฺมเทสนาย ธมฺมจกฺกภาวํ สจฺจวิภงฺคสุตฺตวเสน (ม. นิ. ๓.๓๗๑ อาทโย) ทสฺเสตุํ ‘‘ยถาห ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อิทํ ทุกฺขนฺติ อิทํ ชาติอาทิวิภาคํ สงฺเขปโต ปฺจุปาทานกฺขนฺธสงฺคหํ ตณฺหาวชฺชํ เตภูมกธมฺมชาตํ ทุกฺขสฺส อธิฏฺานภาเวน ทุกฺขทุกฺขาทิภาเวน จ ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติ อตฺโถ. เมติ ภควา อตฺตานํ นิทฺทิสติ. พาราณสิยนฺติ พาราณสีนามกสฺส นครสฺส อวิทูเร. ปจฺเจกพุทฺธอิสีนํ อากาสโต โอตรณฏฺานตาย อิสิปตนํ. มิคานํ ตตฺถ อภยสฺส ทินฺนตฺตา มิคทายนฺติ จ ลทฺธนาเม อสฺสเม. อุตฺตรติ อติกฺกมติ, อภิภวตีติ วา อุตฺตรํ, นตฺถิ เอตสฺส อุตฺตรนฺติ อนุตฺตรํ. อนติสยํ อปฺปฏิภาคํ วา. กิฺจาปิ ภควโต ธมฺมเทสนา อเนกาสุ เทวมนุสฺสปริสาสุ อเนกสตกฺขตฺตุํ เตสํ อริยสจฺจปฺปฏิเวธสมฺปาทนวเสน ปวตฺติตา, ตถาปิ สพฺพปมํ อฺาสิโกณฺฑฺปฺปมุขาย อฏฺารสปริมาณาย พฺรหฺมโกฏิยา จตุสจฺจปฺปฏิเวธวิภาวนียา ธมฺมเทสนา, ตสฺสา สาติสยา ธมฺมจกฺกสมฺาติ ‘‘ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติต’’นฺติ วุตฺตํ.

ตตฺถ สติปฏฺานาทิธมฺโม เอว ปวตฺตนฏฺเน จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกํ, จกฺกนฺติ วา อาณา. ธมฺมโต อนเปตตฺตา ธมฺมฺจ ตํ จกฺกฺจาติ ธมฺมจกฺกํ. ธมฺเมน าเยน จกฺกนฺติปิ ธมฺมจกฺกํ. ยถาห – ‘‘ธมฺมฺจ ปวตฺเตติ จกฺกฺจาติ ธมฺมจกฺกํ, จกฺกฺจ ปวตฺเตติ ธมฺมฺจาติ ธมฺมจกฺกํ, ธมฺเมน ปวตฺเตตีติ ธมฺมจกฺก’’นฺติอาทิ (ปฏิ. ม. ๒.๔๑-๔๒). อปฺปฏิวตฺติยนฺติ ธมฺมิสฺสรสฺส ภควโต สมฺมาสมฺพุทฺธภาวโต ธมฺมจกฺกสฺส จ อนุตฺตรภาวโต อปฺปฏิเสธนียํ. เกน ปน อปฺปฏิวตฺติยนฺติ อาห ‘‘สมเณน วา’’ติอาทิ. ตตฺถ สมเณนาติ ปพฺพชฺชํ อุปคเตน. พฺราหฺมเณนาติ ชาติพฺราหฺมเณน. ปรมตฺถสมณพฺราหฺมณานฺหิ ปฏิโลมนจิตฺตํเยว นตฺถิ. เทเวนาติ กามาวจรเทเวน. เกนจีติ เยน เกนจิ อวสิฏฺปาริสชฺเชน. เอตฺตาวตา อฏฺนฺนมฺปิ ปริสานํ อนวเสสปริยาทานํ ทฏฺพฺพํ. โลกสฺมินฺติ สตฺตโลเก.

ตตฺถาติ ติสฺสํ จตุสจฺจธมฺมเทสนายํ. อปริมาณา ปทา, อปริมาณา อกฺขราติ อุปฺปฏิปาฏิวจนํ เยภุยฺเยน ปทสงฺคหิตานิ อกฺขรานีติ ทสฺสนตฺถํ. ปทา อกฺขรา พฺยฺชนาติ ลิงฺควิปลฺลาโส กโตติ ทฏฺพฺพํ. อตฺถสฺสาติ จตุสจฺจสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส. สงฺกาสนาติ สงฺกาสิตพฺพากาโร. เอส นโย เสเสสุปิ. อตฺถสฺสาติ จ สมฺพนฺเธ สามิวจนํ. อิติปิทนฺติ อิตีติ ปการตฺโถ, ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ, อิมินาปิ อิมินาปิ ปกาเรน อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ เวทิตพฺพนฺติ อตฺโถ. เตน ชาติอาทิเภเทน ยถาวุตฺตสฺส ทุกฺขสจฺจสฺส อเนกเภทตํ ตํทีปกานํ อกฺขรปทาทีนํ วุตฺตปฺปการํ อปริมาณตฺจ สมตฺเถติ.

อยํ ทุกฺขสมุทโยติ อยํ กามตณฺหาทิเภทา ตณฺหาวฏฺฏสฺส มูลภูตา ยถาวุตฺตสฺส ทุกฺขสฺส นิพฺพตฺติเหตุภาวโต ทุกฺขสมุทโย. อยํ ทุกฺขนิโรโธติ อยํ สพฺพสงฺขตนิสฺสฏา อสงฺขตธาตุ ยถาวุตฺตสฺส ทุกฺขสฺส อนุปฺปาทนิโรธปจฺจยตฺตา ทุกฺขนิโรโธ. อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ อยํ สมฺมาทิฏฺิอาทิอฏฺงฺคสมูโห ทุกฺขนิโรธสงฺขาตํ นิพฺพานํ คจฺฉติ อารมฺมณวเสน ตทภิมุขีภูตตฺตา ปฏิปทา จ โหติ ทุกฺขนิโรธปฺปตฺติยาติ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา. อิติปิทนฺติ ปทสฺส ปน สมุทยสจฺเจ อฏฺสตตณฺหาวิจริเตหิ, นิโรธสจฺเจ มทนิมฺมทนาทิปริยาเยหิ, มคฺคสจฺเจ สตฺตตฺตึสโพธิปกฺขิยธมฺเมหิ อตฺโถ วิภชิตฺวา เวทิตพฺโพ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

เอวํ ‘‘ทฺวาทส ปทานิ สุตฺต’’นฺติ คาถาย สกลสฺส สาสนสฺส ฉนฺนํ อตฺถปทานํ ฉนฺนฺจ พฺยฺชนปทานํ วเสน ยา ทฺวาทสปทตา วุตฺตา, ตเมว ‘‘ธมฺมํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามี’’ติอาทินา เทสนาหารสฺส วิสยทสฺสนวเสน ฉฉกฺกปริยายํ (ม. นิ. ๓.๔๒๐ อาทโย) เอกเทเสน อุทฺทิสิตฺวา ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺเตน (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๓; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) ตทตฺถสฺส สงฺคหิตภาวทสฺสนมุเขน สพฺพสฺสาปิ ภควโต วจนสฺส จตุสจฺจเทสนาภาวํ ตทตฺถสฺส จ จตุสจฺจภาวํ วิภาเวนฺโต ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ เม, ภิกฺขเว, พาราณสิย’’นฺติอาทินา สจฺจวิภงฺคสุตฺตํ (ม. นิ. ๓.๓๗๑ อาทโย) อุทฺเทสโต ทสฺเสตฺวา ‘‘ตตฺถ อปริมาณา ปทา’’ติอาทินา พฺยฺชนตฺถปทานิ วิภชนฺโต ทฺวาทสปทภาวํ ทีเปตฺวา อิทานิ เตสํ อฺมฺวิสยิวิสยภาเวน สมฺพนฺธภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ภควา อกฺขเรหิ สงฺกาเสตี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ ปทาวยวคฺคหณมุเขน ปทคฺคหณํ, คหิเต จ ปเท ปทตฺถาวโพโธ คหิตปุพฺพสงฺเกตสฺส โหติ. ตตฺถ จ ปทาวยวคฺคหเณน วิย ปทคฺคหณสฺส, ปทตฺถาวยวคฺคหเณนาปิ ปทตฺถคฺคหณสฺส วิเสสาธานํ ชายตีติ อาห – ‘‘อกฺขเรหิ สงฺกาเสตี’’ติ. ยสฺมา ปน อกฺขเรหิ สํขิตฺเตน ทีปิยมาโน อตฺโถ ปทปริโยสาเน วากฺยสฺส อปริโยสิตตฺตา ปเทเนว ปกาสิโต ทีปิโต โหติ, ตสฺมา ‘‘ปเทหิ ปกาเสตี’’ติ วุตฺตํ. วากฺยปริโยสาเน ปน โส อตฺโถ วิวริโต วิวโฏ กโต โหตีติ วุตฺตํ ‘‘พฺยฺชเนหิ วิวรตี’’ติ. ยสฺมา จ ปกาเรหิ วากฺยเภเท กเต ตทตฺโถ วิภตฺโต นาม โหติ, ตสฺมา ‘‘อากาเรหิ วิภชตี’’ติ วุตฺตํ. ตถา วากฺยาวยวานํ ปจฺเจกํ นิพฺพจนวิภาเค กเต โส อตฺโถ ปากโฏ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘นิรุตฺตีหิ อุตฺตานีกโรตี’’ติ. กตนิพฺพจเนหิ วากฺยาวยเวหิ วิตฺถารวเสน นิรวเสสโต เทสิเตหิ เวเนยฺยานํ จิตฺตปริโตสนํ พุทฺธินิสานฺจ กตํ โหตีติ อาห – ‘‘นิทฺเทเสหิ ปฺเปตี’’ติ. เอตฺถ จ อกฺขเรหิ เอว สงฺกาเสตีติ อวธารณํ อกตฺวา อกฺขเรหิ สงฺกาเสติเยวาติ เอวํ อวธารณํ ทฏฺพฺพํ. เอวฺหิ สติ อตฺถปทานํ นานาวากฺยวิสยตาปิ สิทฺธา โหติ. เตน เอกานุสนฺธิเก สุตฺเต ฉเฬว อตฺถปทานิ, นานานุสนฺธิเก ปน อนุสนฺธิมฺหิ อนุสนฺธิมฺหิ ฉ ฉ อตฺถปทานิ นิทฺธาเรตพฺพานิ.

‘‘อกฺขเรหิ จ ปเทหิ จ อุคฺฆเฏตี’’ติอาทินา พฺยฺชนปทานํ กิจฺจสาธนํ ทสฺเสติ. เวเนยฺยตฺตยวินยเมว หิ เตสํ พฺยาปาโร. อฏฺานภาวโต ปน สจฺจปฺปฏิเวธสฺส ปทปรโม น อิธ วุตฺโต. เนยฺยคฺคหเณเนว วา ตสฺสาปิ อิธ คหณํ เสกฺขคฺคหเณน วิย กลฺยาณปุถุชฺชนสฺสาติ ทฏฺพฺพํ. อกฺขเรหีติอาทีสุ กรณสาธเน กรณวจนํ, น เหตุมฺหิ. อกฺขราทีนิ หิ อุคฺฆฏนาทิอตฺถานิ, น อุคฺฆฏนาทิอกฺขราทิอตฺถํ. ยทตฺถา จ กิริยา โส เหตุ, ยถา ‘‘อนฺเนนวสตี’’ติ. อุคฺฆเฏตีติ โสตาวธานํ กตฺวา สมาหิตจิตฺตานํ เวเนยฺยานํ สงฺกาสนวเสน อกฺขเรหิ วิเสสํ อาทหนฺโต ยถา ปทปริโยสาเน อาสยปฺปฏิโพโธ โหติ, ตถา ยถาธิปฺเปตํ อตฺถํ สงฺเขเปน กเถติ อุทฺทิสตีติ อตฺโถ. วิปฺจยตีติ ยถาอุทฺทิฏฺํ อตฺถํ นิทฺทิสติ. วิตฺถาเรตีติ วิตฺถารํ กโรติ, วิตฺถารํ กตฺวา อาจิกฺขติ วา, ปฏินิทฺทิสตีติ อตฺโถ. ยสฺมา เจตฺถ อุคฺฆเฏตีติ อุทฺทิสนํ อธิปฺเปตํ. อุทฺเทโส จ เทสนาย อาทิ, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘อุคฺฆฏนา อาที’’ติ. ตถา วิปฺจนํ นิทฺทิสนํ, วิตฺถรณํ ปฏินิทฺทิสนํ, นิทฺเทสปฏินิทฺเทสา จ เทสนาย มชฺฌปริโยสานาติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘วิปฺจนา มชฺเฌ, วิตฺถารณา ปริโยสาน’’นฺติ.

เอวํ ‘‘อกฺขเรหิ สงฺกาเสตี’’ติอาทินา ฉนฺนํ พฺยฺชนปทานํ พฺยาปารํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺถปทานํ พฺยาปารํ ทสฺเสตุํ ‘‘โสยํ ธมฺมวินโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สีลาทิธมฺโม เอว ปริยตฺติอตฺถภูโต เวเนยฺยวินยนโต ธมฺมวินโย. อุคฺฆฏียนฺโตติ อุทฺทิสิยมาโน. เตนาติ อุคฺฆฏิตฺูวินยเนน. วิปฺจียนฺโตติ นิทฺทิสิยมาโน. วิตฺถารียนฺโตติ ปฏินิทฺทิสิยมาโน.

๑๐. เอตฺตาวตา ‘‘ธมฺมํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามี’’ติ อุทฺทิฏฺาย ปาฬิยา ติวิธกลฺยาณตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺถพฺยฺชนสมฺปตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘ฉ ปทานิ อตฺโถ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตํ สุวิฺเยฺยํ. ‘‘เตนาห ภควา’’ติอาทินา เทสนาหารสฺส วิสยภาเวน อุทฺทิฏฺํ ปาฬึ นิคมนวเสน ทสฺเสติ. โลกุตฺตรนฺติอาทิ ‘‘เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธ’’นฺติ ปทานํ อตฺถวิวรณํ. ตตฺถ อุปฏฺิตํ สพฺพวิเสสานนฺติ สพฺเพสํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสงฺขาตานํ วิเสสานํ อธิสีลสิกฺขาทิวิเสสานํ วา อุปติฏฺนฏฺานํ. ‘‘อิทํ เนสํ ปทกฺกนฺต’’นฺติอาทีนํ วิย เอตสฺส สทฺทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. ‘‘อิทํ วุจฺจติ ตถาคตปทํ อิติปี’’ติอาทีสุ อิทํ สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สาสนพฺรหฺมจริยํ ตถาคตคนฺธหตฺถิโน ปฏิปตฺติเทสนาคมเนหิ กิเลสคหนํ โอตฺถริตฺวา คตมคฺโคติปิ. เตน โคจรภาวนาเสวนาหิ นิเสวิตํ ภชิตนฺติปิ. ตสฺส มหาวชิราณสพฺพฺุตฺาณทนฺเตหิ อารฺชิตํ เตภูมกธมฺมานํ อารฺชนฏฺานนฺติปิ วุจฺจตีติ อตฺโถ. อโต เจตนฺติ ยโต ตถาคตปทาทิภาเวน วุจฺจติ, อโต อเนเนว การเณน พฺรหฺมุโน สพฺพสตฺตุตฺตมสฺส ภควโต, พฺรหฺมํ วา สพฺพเสฏฺํ จริยนฺติ ปฺายติ ยาวเทว มนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตตฺตา ยถาวุตฺตปฺปกาเรหิ ายติ. เตนาห ภควาติ ยถาวุตฺตตฺถํ ปาฬึ นิคมนวเสน ทสฺเสติ.

อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถตาย ภควโต เทสนาย ยาวเทว อริยมคฺคสมฺปาปนตฺโถ เทสนาหาโรติ ทสฺเสตุํ ‘‘เกสํ อยํ ธมฺมเทสนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘โยคีน’’นฺติ อาห. จตุสจฺจกมฺมฏฺานภาวนาย ยุตฺตปฺปยุตฺตาติ โยคิโน. เต หิ อิมํ เทสนาหารํ ปโยเชนฺตีติ. อิทํ วจนํ เทสนาหารวิภงฺคสฺส ยถานุสนฺธินา สมฺมา ปิตภาวํ ทสฺเสตุํ ปกรณํ สงฺคายนฺเตหิ ปิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน’’ติ. นิยุตฺโตติ ปาฬิโต อสฺสาทาทิปทตฺเถ นิทฺธาเรตฺวา โยชิโตติ อตฺโถ.

เทสนาหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. วิจยหารวิภงฺควณฺณนา

๑๑. ตตฺถ กตโม วิจโย หาโรติอาทิ วิจยหารวิภงฺโค. ตตฺถายํ อปุพฺพปทวณฺณนา – กึ วิจินตีติ เอตฺถ ‘‘วิจินตี’’ติ เอเตน วิจยสทฺทสฺส กตฺตุนิทฺเทสตํ ทสฺเสติ. กินฺติ ปนตฺถสฺส หารสฺส วิสโย ปุจฺฉิโตติ ตํ ตสฺส วิสยํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปทํ วิจินตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปทํ วิจินตีติ อาทิโต ปฏฺาย ยาว นิคมนา สุตฺตสฺส สพฺพํ ปทํ วิจินติ. อยฺจ วิจโย ทุวิโธ สทฺทโต อตฺถโต จ. เตสุ ‘‘อิทํ นามปทํ, อิทํ อาขฺยาตปทํ, อิทํ อุปสคฺคปทํ, อิทํ นิปาตปทํ, อิทํ อิตฺถิลิงฺคํ, อิทํ ปุริสลิงฺคํ, อิทํ นปุํสกลิงฺคํ, อิทํ อตีตกาลํ, อิทํ อนาคตกาลํ, อิทํ วตฺตมานกาลํ, อิทํ กตฺตุสาธนํ, อิทํ กรณสาธนํ, อิทํ กมฺมสาธนํ, อิทํ อธิกรณสาธนํ, อิทํ ปจฺจตฺตวจนํ, อิทํ อุปโยควจนํ, ยาว อิทํ ภุมฺมวจนํ, อิทํ เอกวจนํ, อิทํ อเนกวจน’’นฺติ เอวมาทิวิภาควจนํ, อยํ สทฺทโต ปทวิจโย. โส ปนายํ ปทวิจโย อวิปรีตสภาวนิรุตฺติสลฺลกฺขเณเนว สมฺปชฺชตีติ ทฏฺพฺพํ. อตฺถโต ปน วิจโย เตน เตน ปเทน วตฺตพฺพอตฺถสํวณฺณนา. สเจ ปน ปทํ ปุจฺฉาทิวเสน ปวตฺตํ, ตสฺส ตทตฺถสฺส จ ปุจฺฉาทิภาโว วิเจตพฺโพติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฺหํ วิจินตี’’ติอาทิมาห.

ยสฺมา จ สพฺโพ เทสนาหาโร วิจยหารสฺส วิสโย สุตฺตสฺส วิจโยติ กตฺวา, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘อสฺสาทํ วิจินตี’’ติอาทิ. ยสฺมา ปน อนุคีตีติ เอตฺถ อนุรูปา คีติ อนุคีตีติ อยมฺปิ อตฺโถ อิจฺฉิโต, ตสฺมา วิจิยมานสฺส สุตฺตปทสฺส อนุรูปโต สุตฺตนฺตรปทานิปิ อตฺถุทฺธารวเสน วา ปทุทฺธารวเสน วา อาเนตฺวา วิเจตพฺพานีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สพฺเพ นว สุตฺตนฺเต วิจินตี’’ติ อาห. นว สุตฺตนฺเตติ สุตฺตเคยฺยาทิเก นว สุตฺเต, ยถาสมฺภวโตติ อธิปฺปาโย. อยํ วิจยหารสฺส ปทตฺถนิทฺเทโส.

เอวํ นิทฺเทสวาเร วิจยหาโร สงฺเขปโต นิทฺทิฏฺโติ ตํ วิภาเคน นิทฺทิสิตฺวา ปฏินิทฺเทสวเสน วิภชนฺโต ยสฺมา ปทวิจโย สุตฺตสฺส อนุปทํ ปวตฺเตตพฺพตาย อติภาริโก น สุกโร จาติ ตํ อนามสิตฺวา ปฺหวิสฺสชฺชนวิจเย ตาว ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา กึ ภเว’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยถา กึ ภเวติ เยน ปกาเรน โส วิจโย ปวตฺเตตพฺโพ, ตํ ปการชาตํ กึ ภเว, กีทิสํ ภเวยฺยาติ อตฺโถ. ‘‘ยถา กึ ภเวยฺยา’’ติปิ ปาโ. ปุน ยถาติ นิปาตมตฺตํ. อายสฺมาติ ปิยวจนํ อชิโตติ พาวรีพฺราหฺมณสฺส ปริจารกภูตานํ โสฬสนฺนํ อฺตโร. ปารายเนติ ปารํ วุจฺจติ นิพฺพานํ, ตสฺส อธิคมูปายเทสนตฺตา กิฺจาปิ สพฺพํ ภควโต วจนํ ‘‘ปารายน’’นฺติ วตฺตพฺพตํ อรหติ, สงฺคีติกาเรหิ ปน วตฺถุคาถานุคีติคาถาทีหิ สทฺธึ อชิตสุตฺตาทีนํ (สุ. นิ. ๑๐๓๘ อาทโย; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉา ๕๗ อาทโย, อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑ อาทโย) โสฬสนฺนํ สุตฺตานํ อิทํ นามํ กตนฺติ เตสฺเว ปารายนสมฺาติ อาห ‘‘ปารายเน’’ติ. เกจิ ‘‘ปารายนิโก’’ติ ปนฺติ. เต กิร ตาปสปพฺพชฺชูปคมนโต ปุพฺเพ ปารายนํ อธียนฺตา วิจรึสุ. ตสฺมา อยมฺปิ ปารายนํ วตฺเตตีติ ปารายนิโกติ วุตฺโต. ปุจฺฉตีติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ปุจฺฉานิพฺพตฺตตฺตา อตีตาติ? สจฺจเมตํ, ปุจฺฉนาการํ ปน พุทฺธิยํ วิปริวตฺตมานํ กตฺวา เอวมาห.

ปุจฺฉา จ นาเมสา อทิฏฺโชตนาปุจฺฉา ทิฏฺสํสนฺทนา วิมติจฺเฉทนา อนุมติปุจฺฉา กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา เอกํสพฺยากรณียา วิภชฺชพฺยากรณียา ปฏิปุจฺฉาพฺยากรณียา ปนียา ธมฺมาธิฏฺานา สตฺตาธิฏฺานาติ อเนกวิธา. ตสฺมา ‘‘กิมยํ ปุจฺฉา อทิฏฺโชตนา’’ติอาทินา ยถาสมฺภวํ ปุจฺฉา วิเจตพฺพา. ยถา เจตฺถ ปุจฺฉาวิภาโค, เอวํ วิสฺสชฺชนวิภาโคปิ วิสฺสชฺชนวิจเย ยถาสมฺภวํ วตฺตพฺโพ. ปุจฺฉาสภาเคน หิ วิสฺสชฺชนนฺติ. อิธ ปน วิมติจฺเฉทนํ สตฺตาธิฏฺานํ ปุจฺฉํ อุทาหริตฺวา ตตฺถ วิจยนาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ เกนาติ กตฺตริ กรณวจนํ. สูติ นิปาตมตฺตํ, สูติ วา สํสเย นิปาโต, เตนสฺส ปฺหสฺส วิมติจฺเฉทนปุจฺฉาภาวํ ทสฺเสติ. นิวุโตติ ปฏิจฺฉาทิโต. โลโกติ สตฺตโลโก. อิจฺจายสฺมา อชิโตติ สงฺคีติการกวจนํ. นปฺปกาสตีติ น ปฺายติ. กิสฺสาภิเลปนํ พฺรูสีติ กึ อสฺส โลกสฺส อภิเลปนํ วทสิ. ‘‘กึ สฺวาภิเลปน’’นฺติปิ ปาโ, ตสฺส กึ สุ อภิเลปนนฺติ ปทวิภาโค.

ปทานีติ ปชฺชติ เอเตหิ อตฺโถติ ปทานิ, วากฺยานิ. ปุจฺฉิตานีติ ปุจฺฉาภาเวน วุตฺตานีติ อตฺโถ. เอโก ปฺโหติ ยทิปิ จตฺตาริ ปทานิ ปุจฺฉนวเสน วุตฺตานิ, าตุํ อิจฺฉิโต ปน อตฺโถ เอโก เอวาติ ‘‘เอโก ปฺโห’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ การณมาห ‘‘เอกวตฺถุปริคฺคหา’’ติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กิฺจาปิ นิวารณอปฺปกาสนอภิเลปนมหาภยสงฺขาตา ปุจฺฉาย คหิตา จตฺตาโร เอเต อตฺถา, เต ปเนกํ โลกํ ปติคุณภูตา, โลโก ปธานภาเวน คหิโตติ ตพฺพเสน เอโกวายํ ปฺโหติ. เตเนวาห ‘‘โลกาธิฏฺาน’’นฺติอาทิ. โก ปน โส โลโกติ? อาห ‘‘โลโก ติวิโธ’’ติอาทิ.

ตตฺถ ราคาทิกิเลสพหุลตาย กามาวจรสตฺตา กิเลสโลโก. ฌานาภิฺาปริพุทฺธิยา รูปาวจรสตฺตา ภวโลโก. อาเนฺชสมาธิพหุลตาย วิสทินฺทฺริยตฺตา อรูปาวจรสตฺตา อินฺทฺริยโลโก. อถ วา กิลิสฺสนํ กิเลโส, วิปากทุกฺขนฺติ อตฺโถ. ตสฺมา ทุกฺขพหุลตาย อปาเยสุ สตฺตา กิเลสโลโก. ตทฺเ สตฺตา สมฺปตฺติภวภาวโต ภวโลโก. ตตฺถ เย วิมุตฺติปริปาจเกหิ อินฺทฺริเยหิ สมนฺนาคตา สตฺตา, โส อินฺทฺริยโลโกติ เวทิตพฺพํ. ปริยาปนฺนธมฺมวเสน โลกสมฺาติ อริยปุคฺคลา อิธ น สงฺคยฺหนฺติ.

อวิชฺชาย นิวุโต โลโกติ จตุรงฺคสมนฺนาคเตน อนฺธกาเรน วิย รถฆฏาทิธมฺมสภาวปฺปฏิจฺฉาทนลกฺขณาย อวิชฺชาย นิวุโต ปฏิจฺฉาทิโต โลโก. วิวิจฺฉาติ วิจิกิจฺฉาเหตุ. ‘‘วิวิจฺฉา มจฺฉริย’’นฺติ สงฺคเห วุตฺตํ. ปมาทาติ ปมาทเหตุ. ชปฺปาภิเลปนนฺติ ชปฺปา ตณฺหา อสฺส โลกสฺส มกฺกฏาเลโป วิย มกฺกฏสฺส อภิเลปนํ สิเลโสติ พฺรูมิ. ทุกฺขนฺติ ชาติอาทิกํ วฏฺฏทุกฺขนฺติ อยํ ปทตฺโถ. เสสํ ปาฬิยา เอว วิฺายติ. อิมานิ จตฺตาริ ปทานิ ปุจฺฉาคาถายํ วุตฺตานิ ‘‘อิเมหี’’ติ วิสฺสชฺชนคาถายํ วุตฺเตหิ อิเมหิ จตูหิ ปเทหิ วิสฺสชฺชิตานิ. กถนฺติ อาห ‘‘ปม’’นฺติอาทึ. เตน ยถากฺกมํ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานิ เวทิตพฺพานีติ ทสฺเสติ.

อิทานิ ตํ ยถากฺกมํ ปุจฺฉํ วิสฺสชฺชนฺจ สรูปโต ทสฺเสตุํ คาถาย จ อตฺถํ วิวริตุํ ‘‘เกนสฺสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘นีวรเณหี’’ติ ปเทน วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อวิชฺชานีวรณา หิ สพฺเพ สตฺตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ‘‘ยถาหา’’ติอาทินา สุตฺตนฺตรทสฺสเนน อิมสฺมึ ปฺหวิสฺสชฺชนวิจเย อนุคีติวิจยํ ทสฺเสตีติ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ ปริยายโตติ การณโต. นีวรณสงฺขาตานํ กามจฺฉนฺทาทีนมฺปิ การณภาวโต ปฏิจฺฉาทนภาวโต จ เอกํเยว นีวรณํ วทามิ, น ปน อฺเสํ นีวรณสภาวานํ อภาวาติ อตฺโถ. ยถา จ อวิชฺชาย สติ นีวรณานํ ภาโว, เอวํ อวิชฺชาย อสติ น สนฺติ นีวรณานีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺพโส’’ติอาทิ วุตฺตํ.

เตนาติ ‘‘อวิชฺชาย นิวุโต โลโก’’ติ ปเทน. ปมสฺส ปทสฺสาติ ‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก’’ติ ปทสฺส. ยุตฺตาติ โยชิตา, อนุรูปาติ วา อตฺโถ. เอเตน ปุจฺฉานุรูปตา วิสฺสชฺชนสฺส ทสฺสิตาติ ปุพฺพาปรวิจโย วุตฺโตติ เวทิตพฺพํ. ‘‘โย ปุคฺคโล นีวรเณหิ นิวุโต’’ติอาทินา วิวิจฺฉาปมาทานํ อวิชฺชาย ปจฺจยภาวํ ทสฺเสติ. นิวุโต เอว หิ นปฺปกาสติ. วิวิจฺฉาติ วิจิกิจฺฉา. เตเนวาห – ‘‘วิวิจฺฉา นาม วุจฺจติ วิจิกิจฺฉา’’ติ. ตตฺรายํ ปทสิทฺธิ – ยถา มิจฺฉาทิฏฺิสมฺมาทิฏฺิโย ‘‘นิจฺจํ อนิจฺจ’’นฺติอาทินา เอกํสคฺคาหภาเวน ปวตฺตนฺติ, น เอวมยํ. อยํ ปน อเนกํสคฺคาหภาวโต ‘‘นิจฺจํ นุ โข อนิจฺจํ นุ โข’’ติอาทินา วิวิธํ วิรุทฺธํ วา อิจฺฉติ เอสตีติ วิวิจฺฉาติ. ‘‘โส วิจิกิจฺฉนฺโต’’ติอาทินา อปฺปกาสนสฺส วิวิจฺฉาปมาทานํ การณภาวํ วิวรติ. สุกฺเก ธมฺเม น อุปฺปาทิยตีติ น สมาทาย วตฺตติ. นปฺปกาสนฺตีติ เต อตฺตโน สนฺตาเน อนุปฺปาทิยมานา กุสลา ธมฺมา ตํ ปุคฺคลํ ปกาสํ โลเก อภิฺาตํ น กโรนฺตีติ อตฺโถ. อภิลิมฺปตีติ มกฺกฏาเลโป วิย มกฺกฏํ ทารุสิลาทีสุ ปุริสํ รูปาทิวิสเย อลฺลียาเปตีติ อตฺโถ. อาสตฺติพหุลสฺสาติ อาสงฺคพหุลสฺส. เอวํ อภิชปฺปาติ กริตฺวาติ เอวํ ปริยุฏฺานฏฺายินีติ อิมินา การเณน. ตตฺถาติ ตาย ตณฺหาย. โลโก อภิลิตฺโต สิเลเสน มกฺขิโต วิย โหตีติ อตฺโถ.

ภายติ เอตสฺมาติ ภยํ. มหนฺตํ ภยํ มหพฺภยํ. เตเนวาห – ‘‘ทุกฺขมสฺส มหพฺภย’’นฺติ. ทุกฺขํ โทมนสฺสนฺติ ทุกฺขเมว วิภตฺตนฺติ สพฺพํ ทุกฺขํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ติสฺโส ทุกฺขตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. โอธโสติ กทาจิ อตฺตูปกฺกมมูลาย กทาจิ ปรูปกฺกมมูลายาติอาทินา วิภาเคน ทุกฺขทุกฺขตาย มุจฺจนกา วิเสเสน รูปาวจรา. ตถาติ โอธโส กทาจิ กรหจีติ เอวํ อากฑฺฒติ. วิปริณามทุกฺขตาย มุจฺจนกา อุเปกฺขาสมาปตฺติพหุลา วิเสเสน อรูปาวจรสตฺตา. อปฺปาพาธาติ ปทํ ทุกฺขทุกฺขตาย มุจฺจนสฺส การณวจนํ. ทีฆายุกาติ วิปริณามทุกฺขตาย. อรูปเทวา หิ โลเก วิเสสโต ทีฆายุกาติ. อิทฺจ มุจฺจนมจฺจนฺติกํ. ยสฺมา จ ทุกฺขา เวทนาปิ สงฺขตตฺตา อนิจฺจตาทิสงฺขารทุกฺขสภาวา เอว, ตสฺมา ยโต มุจฺจนมจฺจนฺติกํ, ตํ อนวเสสปริยาทานวเสน สงฺคณฺหิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺขารทุกฺขตาย ปนา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ อุปาทิยตีติ อุปาทิ, วิปากกฺขนฺธา กฏตฺตา จ รูปํ. อุปาทิสฺส เสสํ อุปาทิเสสํ, ตํ นตฺถิ เอติสฺสาติ อนุปาทิเสสา, นิพฺพานธาตุ, ตาย อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา, อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ จายํ กรณนิทฺเทโส. นิพฺพานธาตูติ จ นิพฺพายนมตฺตํ. ตสฺมาติ ยสฺมา สกลโลกพฺยาปินี สพฺพสงฺคาหินี จ สงฺขารทุกฺขตา, ตสฺมา. โลกสฺสาติ สมฺพนฺเธ สามิวจนํ. เตน ‘‘ทุกฺขมสฺสา’’ติ ปทสฺส อตฺถํ ทสฺเสติ. เอวเมตฺถ โลกสฺส นีวรณาทีนิ อชานนฺเตน, สมยนฺตรปริจเยน วา ตตฺถ สํสยปกฺขนฺเทน เอกํเสเนว พฺยากาตพฺพตฺตา สตฺตาธิฏฺานา ปุจฺฉา กตา, สา จ อชานนสฺส, สํสยสฺส วา นีวรณาทิวิสยตาย จตุพฺพิธา. ปาฬิยํ ปน นีวรณาทีนํ โลโก อาธารภาเวน คาถายํ วุตฺโตติ เอโก ปฺโหติ ทสฺสิตนฺติ. อยเมตฺถ ปุจฺฉาวิจโย. วิสฺสชฺชนวิจโยปิ อทิฏฺโชตินี วิสฺสชฺชนา วิมติจฺเฉทินี จาติอาทินา ปุจฺฉาวิจเย วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺโพ.

เอวํ เอกาธารํ ปุจฺฉํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อเนกาธารํ ทสฺเสตุํ ‘‘สวนฺติ สพฺพธี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สวนฺตีติ สนฺทนฺติ. สพฺพธีติ สพฺเพสุ รูปาทีสุ อายตเนสุ. โสตาติ ตณฺหาทิโสตา. กึ นิวารณนฺติ เตสํ กึ อาวรณํ กา รกฺขา. สํวรํ พฺรูหีติ ตํ เนสํ นีวรณสงฺขาตํ สํวรํ กเถหิ. เกน โสตา ปิธียเรติ เกน ธมฺเมน ตณฺหาทิโสตา ปิธิยฺยนฺติ ปจฺฉิชฺชนฺตีติ อยเมตฺถ ปทตฺโถ. เสสํ ปาฬิวเสเนว อาวิ ภวิสฺสติ.

เต ทฺเว ปฺหาติ ยทิปิ อิมิสฺสา คาถาย ปุจฺฉาวเสน ปวตฺตาย จตฺตาริ ปทานิ จตฺตาริ วากฺยานิ. าตุํ อิจฺฉิตสฺส ปน อตฺถสฺส ทุวิธตฺตา เต ทฺเว ปฺหา. กสฺมาติ เจ? ‘‘อิเมหิ พหฺวาธิวจเนน ปุจฺฉิตา’’ติ อาห. ตตฺถายํ สงฺเขปตฺโถ – อิเม เอตาย คาถาย คหิตา อตฺถา ยสฺมา พหูนิ อธิกิจฺจ ปวตฺตวจเนน ปุจฺฉิตา, ตสฺมา เต ทฺเว ปฺหาติ. เอกโต อุปริ พหูติ หิ สาสนโวหาโร, ตเมว ปุจฺฉาย ทุวิธตฺถวิสยตํ วิวริตุํ ‘‘เอว’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ – ยาหิ าติพฺยสนาทิสงฺขาตาหิ ปาณวธาทีหิ เอว วา ทุคฺคติเหตุภูตาหิ อาปทาหิ สมํ สห, สพฺพถา วา อยํ โลโก อาปนฺโน อชฺโฌตฺถโฏ. ตํนิมิตฺเตหิ ทสหิ กิเลสวตฺถูหิ สํกิลิฏฺโ จ, ตสฺส ตํ อาปนฺนาการํ สํกิลิฏฺาการฺจ พุทฺธิยํ กตฺวา อาห – ‘‘เอวํ สมาปนฺนสฺส เอวํ สํกิลิฏฺสฺสา’’ติ. โวทายติ สุชฺฌติ เอเตนาติ โวทานํ, สมถวิปสฺสนา. วุฏฺาติ เอเตน นิมิตฺตโต ปวตฺตโต จาติ วุฏฺานํ, อริยมคฺโค.

อสมาหิตสฺสาติ นานารมฺมเณสุ วิกฺขิตฺตจิตฺตสฺส. สวนฺตีติ ปวตฺตนฺติ. อภิชฺฌาติอาทิ อสมาธานเหตุทสฺสนํ. เตเนวาห – ‘‘เอวํ อสมาหิตสฺสา’’ติ. ‘‘ยถาห ภควา’’ติอาทินา อิธาปิ อนุคีติวิจยํ ทสฺเสติ. โสตานํ สวนํ เยภุยฺเยน อนุโรธวเสเนวาติ อาห – ‘‘สวติ มนาปิเกสุ รูเปสู’’ติ. เอตฺถ จ จกฺขาทโย โสตานํ ทฺวารภาเวน ปวตฺตมานา อุปจารวเสน สยํ สวนฺตา วิย วุตฺตา. อิตีติ เอวํ. สพฺพาติ สพฺพสฺมา. สพฺพถาติ สพฺพปฺปกาเรน. อิทํ โวทานนฺติ อิทํ ‘‘ปริยุฏฺานวิฆาต’’นฺติ วุตฺตํ ปริยุฏฺานปฺปหานํ โวทานํ.

วิสฺสชฺชนคาถาย สติ เตสํ นิวารณนฺติ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สติ กุสลากุสลานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเวสมานา เตสํ โสตานํ นิวารณนฺติ. โสตานํ สํวรํ พฺรูมีติ ตเมว สตึ โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ. ปฺาเยเต ปิธียเรติ รูปาทีสุ อนิจฺจตาทิปฏิเวธสาธิกาย มคฺคปฺาย เอเต โสตา สพฺพโส ปิธิยฺยนฺติ, อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทานวเสน สมุจฺฉิชฺชนฺตีติ อตฺโถ.

นาวิฺฉตีติ อภิชฺฌาทิปฺปวตฺติทฺวารภาเวน จิตฺตสนฺตานํ, ปุคฺคลํ วา นากฑฺฒติ. อนุสยปฺปหานํ อิธ ปิธานํ อธิปฺเปตนฺติ อาห – ‘‘ปฺาย อนุสยา ปหียนฺตี’’ติ. ยสฺมา อนุสยนิมิตฺตํ ปริยุฏฺานํ อนุสยาภาเว น โหตีติ อาห ‘‘อนุสเยสู’’ติอาทิ. อิทานิ ตเมวตฺถํ อุปมาย วิภาเวนฺโต ‘‘ตํ ยถา ขนฺธวนฺตสฺสา’’ติอาทิมาห. เอตฺถาปิ โสตานํ นิวารณสงฺขาตํ สํวรํ ปิธานฺจ อชานนฺเตน ตตฺถ วา สํสยิเตน เอกํสิกตฺตา ธมฺมาธิฏฺานา ปุจฺฉา กตาติ อิธ ปุจฺฉาวิจโย วุตฺตนเยเนว วิสฺสชฺชนวิจโย จ เวทิตพฺโพ.

เอตฺถ จ เยน อธิปฺปาเยน ‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก’’ติ คาถาย (สุ. นิ. ๑๐๓๘; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉา ๕๗, อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑; เนตฺติ. ๔๕) สติปิ นิวารณาทีนํ จตุนฺนํ ปุจฺฉิตพฺพภาเว เอโก ปฺโหติ วุตฺตํ. เตน ตาว โสตานํเยว สํวโร ปิธานฺจ ปุจฺฉิตนฺติ โสเต เอกตฺถวเสน คเหตฺวา ปุจฺฉาย เอกาธิฏฺานภาวโต เอโก ปฺโหติ วตฺตพฺพํ สิยา. โสตานํ วา พหุภาวโต พหูติ ยตฺตกา โสตา, ตตฺตกา ปฺหาติ. เยน ปน อธิปฺปาเยน ‘‘สวนฺติ สพฺพธิ โสตา’’ติ คาถายํ (สุ. นิ. ๑๐๔๐; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉา ๕๙, อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๓; เนตฺติ. ๔๕) โสเต อนามสิตฺวา สํวรปิธานานํ วเสน ‘‘ทฺเว ปฺหา’’ติ วุตฺตํ. เตน ปมคาถายํ สติปิ นิวารณาทีนํ โลกาธารภาเว โลกํ อนามสิตฺวา นิวารณาทีนํ วิภาเคน จตฺตาโร ปฺหาติปิ วตฺตพฺพนฺติ อยํ นโย ทสฺสิโตติ ทฏฺพฺพํ.

อิทานิ ยสฺมา ปุจฺฉนฺโต น เกวลํ ปุพฺเพ อตฺตนา รจิตนิยาเมเนว ปุจฺฉติ, อถ โข เทสนากาเล วุตฺตธมฺมสฺส อนุสนฺธึ คเหตฺวาปิ ปุจฺฉติ, ตสฺมา ตสฺส อนุสนฺธึ ปุจฺฉาย วิเจตพฺพาการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยานิ โสตานี’’ติ คาถาย อนนฺตรํ ‘‘ปฺา เจว สติ จา’’ติ คาถมาห. ตสฺสายํ สงฺเขปตฺโถ – ยายํ ภควตา วุตฺตา ปฺา, ยา จ สติ ยฺจ ตทวเสสํ นามรูปํ, เอตํ สพฺพมฺปิ กตฺถ นิรุชฺฌติ, เอตํ เม ปุฏฺโ ปพฺรูหีติ.

วิสฺสชฺชนคาถายํ ปนสฺส ยสฺมา ปฺาสติโย นาเมเนว สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, ตสฺมา ตา วิสุํ น วุตฺตา. อยฺเจตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ยํ มํ ตฺวํ, อชิต, เอตํ ปฺหํ อปุจฺฉิ – ‘‘กตฺเถตํ อุปรุชฺฌตี’’ติ อนนฺตรคาถายํ (สุ. นิ. ๑๐๔๒; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉา ๖๑, อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๕; เนตฺติ. ๑๑, ๔๕), ยตฺถ ตํ อเสสํ อุปรุชฺฌติ, ตํ เต วทามิ. ตสฺส ตสฺส หิ วิฺาณสฺส นิโรเธน สเหว อปุพฺพํ อจริมํ เอตฺเถตํ อุปรุชฺฌติ, เอตฺเถว วิฺาณสฺส นิโรเธน นิรุชฺฌติ, เอตํ วิฺาณนิโรธํ ตสฺส นิโรโธ นาติวตฺตตีติ วุตฺตํ โหตีติ. อยํ ปฺเห อนุสนฺธึ ปุจฺฉตีติ อนนฺตรคาถายํ โสตานํ ปริยุฏฺานานุสยปฺปหานกิจฺเจน สทฺธึ สติ ปฺา จ วุตฺตา, ตํ สุตฺวา ตปฺปหาเน ปฺาสตีสุ ติฏฺนฺตีสุ ตาสํ สนฺนิสฺสเยน นามรูเปน ภวิตพฺพํ, ตถา จ สติ วฏฺฏติ เอว. กตฺถ นุ โข อิมาสํ สนิสฺสยานํ ปฺาสตีนํ อเสสนิโรโธติ อิมินา อธิปฺปาเยน อยํ ปุจฺฉา กตาติ อาห – ‘‘อยํ ปฺเห…เป… ธาตุ’’นฺติ. ตตฺถ อนุสนฺธียติ เทสนา เอตายาติ อนุสนฺธิ.

ยาย ปฏิปทาย อนุปาทิเสสํ นิพฺพานธาตุํ อธิคจฺฉนฺติ, ตํ จตุสจฺจกมฺมฏฺานภาวนาสงฺขาตํ ปฏิปทํ สห วิสเยน ทสฺเสตุํ ‘‘ตีณิ จ สจฺจานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สงฺขตานีติ สเมจฺจ สมฺภูย ปจฺจเยหิ กตานีติ สงฺขตานิ. นิโรธธมฺมานีติ นิรุชฺฌนสภาวานิ. ทุกฺขํ สมุทโย มคฺโคติ เตสํ สรูปทสฺสนํ. นิโรโธ ปน กถนฺติ อาห ‘‘นิโรโธ อสงฺขโต’’ติ. โส หิ เกนจิ ปจฺจเยน น สงฺขโตติ อสงฺขโต. สห วิสเยน ปหาตพฺพปหายกสภาเวสุ อริยสจฺเจสุ ปหายกวิภาคมุเขน ปหาตพฺพวิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ สมุทโย’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ อวิชฺชาวเสสาติ ทสฺสนมคฺเคน ปหีนาวเสสา อวิชฺชาติ อตฺโถ. อยฺจ เสส-สทฺโท กามจฺฉนฺโท พฺยาปาโท มาโน อุทฺธจฺจนฺติ เอตฺถาปิ โยเชตพฺโพ. ยถา หิ อวิชฺชา, เอวํ เอเตปิ ธมฺมา อปายคมนียสภาวา ปมมคฺเคน ปหียนฺติ เอวาติ. ‘‘อวิชฺชานิรวเสสา’’ติปิ ปาโ, เอตฺถาปิ ยถาวุตฺเตสุ กามจฺฉนฺทาทิปเทสุปิ นิรวเสส-สทฺโท โยเชตพฺโพ. สาวเสสฺหิ ปุริมมคฺคทฺวเยน กามจฺฉนฺทาทโย ปหียนฺติ, อิตเรหิ ปน นิรวเสสนฺติ. เตธาตุเก อิมานิ ทส สํโยชนานีติ เอตฺถ เตธาตุเกติ สํโยชนานํ วิสยทสฺสนํ. ตตฺถ หิ ตานิ สํโยชนวเสน ปวตฺตนฺติ.

๑๒. อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ อธิฏฺายาติ ตํ ปหายกํ ปตฺวา. ยํ ปนาติ เอตฺถ นฺติ เหตุอตฺเถ นิปาโต. อิทํ ขเย าณนฺติ เยน าเณน เหตุภูเตน ‘‘ขีณา เม ชาตี’’ติ อตฺตโน ชาติยา ขีณภาวํ ชานาติ, อิทํ เอวํ ปจฺจเวกฺขณสฺส นิมิตฺตภูตํ อรหตฺตผลาณํ ขเย าณํ นาม. นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาตีติ เอตฺถาปิ นฺติ อาเนตพฺพํ ‘‘ยํ นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาตี’’ติ. อิทํ อนุปฺปาเท าณนฺติ อิธาปิ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว อรหตฺตผลาณวเสน อตฺโถ โยเชตพฺโพ. อฏฺสาลินิยํ (ธ. ส. อฏฺ. จิตฺตุปฺปาทกฺกณฺฑ ๑๓๕-๑๔๒) ปน ‘‘ขเย าณํ กิเลสกฺขยกเร อริยมคฺเค าณนฺติ วุตฺตํ. อนุปฺปาเท าณํ ปฏิสนฺธิวเสน อนุปฺปาทภูเต ตํตํมคฺควชฺฌกิเลสานํ อนุปฺปาทปริโยสาเน อุปฺปนฺเน อริยผเล าณ’’นฺติ วุตฺตํ. อิธ ปน อุภยมฺปิ อรหตฺตผลาณวเสเนว วิภตฺตํ. เตเนวาห – ‘‘อิมานิ ทฺเว าณานิ อฺาตาวินฺทฺริย’’นฺติ, ‘‘อารมฺมณสงฺเกเตน ทฺเว นามานิ ลพฺภนฺตี’’ติ จ.

อฺินฺทฺริยํ เหฏฺิเมสุ ตีสุ ผเลสุ, อุปริเมสุ จ ตีสุ มคฺเคสุ อุปฺปตฺติยา ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชมานมฺปิ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ วิย ปมผลุปฺปตฺติยา อคฺคผลุปฺปตฺติยา อนุปฺปาทนิโรเธน นิรุชฺฌตีติ อาห – ‘‘ยฺจ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริย’’นฺติอาทิ. เอเตน ปหาตพฺพธมฺมา วิย ทสฺสนภาวนาหิ อคฺคผลุปฺปตฺติยา ตทวเสสผลธมฺมาปิ อนุปฺปาทนิโรเธน นิรุชฺฌนฺติ. โก ปน วาโท เตภูมกธมฺมานนฺติ ทสฺเสติ, เอกา ปฺา อฺาตาวินฺทฺริยตฺตา. ยทิ เอกา, กถํ ทฺวิธา วุตฺตาติ อาห ‘‘อปิ จา’’ติอาทิ. อารมฺมณสงฺเกเตนาติ ขเย อนุปฺปาเทติ อิมาย อารมฺมณสมฺาย. สา ปชานนฏฺเน ปฺาติ ยา ปุพฺเพ โสตานํ ปิธานกิจฺจา วุตฺตา ปฺา, สา ปชานนสภาเวน ปฺา. อิตรา ปน ยถาทิฏฺํ ยถาคหิตํ อารมฺมณํ อปิลาปนฏฺเน โอคาหนฏฺเน สตีติ.

๑๓. เอวํ ‘‘ปฺา เจว สติ จา’’ติ ปทสฺส อตฺถํ วิวริตฺวา อิทานิ ‘‘นามรูป’’นฺติ ปทสฺส อตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘ตตฺถ เย ปฺจุปาทานกฺขนฺธา, อิทํ นามรูป’’นฺติ อาห. นามรูปฺจ วิภาเคน ทสฺเสนฺโต สุขคฺคหณตฺถํ ปากฏนามรูปเมว วิภาเวตุํ ‘‘ตตฺถ เย’’ติอาทิมาห. ตคฺคหเณเนว หิ สหจรณาทินา ตทฺเ จิตฺตเจตสิกา รูปธมฺมา จ คหิตา โหนฺตีติ. นามคฺคหเณน เจตฺถ ขนฺธตฺตยเมว คหิตนฺติ ‘‘นามรูปํ วิฺาณสมฺปยุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ตํ ปน รูปํ สมฺปยุตฺตนฺติ? นยิทํ สมฺปยุตฺตปจฺจยวเสน วุตฺตํ. ปจุรชนสฺส ปน อวิภาเคน คหณียสภาวํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

คาถาย อนุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ ปุจฺฉิตาติ ตํ จตุริทฺธิปาทมุเขน อริยมคฺคาธิคเมน ปตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต อิทฺธิปาทภาวนามูลภูตานิ อินฺทฺริยานิ สติปฺาหิ นิทฺธาเรตุํ ‘‘ตตฺถ สติ จ ปฺา จ จตฺตาริ อินฺทฺริยานี’’ติ อาห. กุสลากุสลานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเวสมานา สติ สิชฺฌนฺตี เอกนฺเตน สมาธึ นิปฺผาเทติ. สติคฺคหเณน เจตฺถ ปริยุฏฺานปฺปหานํ อิธาธิปฺเปตนฺติ อาห – ‘‘สติ ทฺเว อินฺทฺริยานิ, สตินฺทฺริยฺจ สมาธินฺทฺริยฺจา’’ติ. ตถา อนุสยสมุคฺฆาตวิธายินี ปฺา สิชฺฌมานา น วินา จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานวีริยํ สิชฺฌตีติ วุตฺตํ – ‘‘ปฺา ทฺเว อินฺทฺริยานิ ปฺินฺทฺริยฺจ วีริยินฺทฺริยฺจา’’ติ.

ยา อิเมสุ จตูสุ อินฺทฺริเยสูติ อิเมสุ สติอาทีสุ จตูสุ อินฺทฺริเยสุ นิสฺสยปจฺจยตาย อธิฏฺานภูเตสุ ตํสหชาตา เอว ยา สทฺทหนา. ‘‘อิเมหิ จตูหิ อินฺทฺริเยหี’’ติปิ ปาฬิ, ตสฺสา อิเมหิ จตูหิ อินฺทฺริเยหิ สมฺปยุตฺตาติ วจนเสโส, อารมฺมเณ อภิปฺปสาทลกฺขณา สทฺธา กตฺตุกามตาสภาวสฺส ฉนฺทสฺส วิเสสปจฺจโย โหตีติ อาห – ‘‘ยา สทฺธาธิปเตยฺยา จิตฺเตกคฺคตา, อยํ ฉนฺทสมาธี’’ติ. สมาหิเต จิตฺเตติ วิปสฺสนาสมาธินา สมาหิเต จิตฺเต. อิทํ ปหานนฺติ วิกฺขมฺภนปฺปหานสาธโก สมาธิ ปหานนฺติ วุตฺโต ปชหติ เอเตนาติ กตฺวา. ‘‘ปธาน’’นฺติปิ ปาโ, อคฺโคติ อตฺโถ. ตถา หิ ‘‘สมาธิ เอโกที’’ติ วุจฺจติ.

‘‘อสฺสาสปสฺสาสา’’ติอาทินา กายวจีจิตฺตสงฺขารสีเสน ตํสมุฏฺาปกา วีริยสงฺขาราว คหิตา. เต หิ ยาว ภาวนานิปฺผตฺติ ตาว เอกรเสน สรณโต สงฺกปฺเปตพฺพโต จ สรสงฺกปฺปา’’ติ วุตฺตา ‘‘เอวํ เม ภาวนา โหตู’’ติ ยถา อิจฺฉิตา, ตถา ปวตฺติยา เหตุภาวโต. ตทุภยนฺติ ฉนฺทสมาธิสงฺขาตฺจ ปธานสงฺขารสงฺขาตฺจ วีริยนฺติ ตํ อุภยํ. อุภยเมว หิ อุปจารวเสน อฺํ วิย กตฺวา ‘‘ฉนฺทสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาท’’นฺติ วุตฺตํ. อภินฺนมฺปิ หิ อุปจารวเสน ภินฺนํ วิย กตฺวา โวหรนฺติ, ยถา ‘‘สิลาปุตฺตกสฺส สรีร’’นฺติ.

ตตฺถ อิชฺฌตีติ อิทฺธิ, สมิชฺฌติ นิปฺผชฺชตีติ อตฺโถ. อิชฺฌนฺติ วา ตาย สตฺตา อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติ อิทฺธิ, ปชฺชติ เอเตนาติ ปาโท, ปเมน อตฺเถน อิทฺธิ เอว ปาโท อิทฺธิปาโท, อิทฺธิโกฏฺาโสติ อตฺโถ. ทุติเยน อตฺเถน อิทฺธิยา ปาโท ปติฏฺา อธิคมูปาโยติ อิทฺธิปาโท. เตน หิ อุปรูปริวิเสสสงฺขาตํ อิทฺธึ ปชฺชนฺติ ปาปุณนฺติ. วิเวกนิสฺสิตนฺติ ตทงฺควิเวกนิสฺสิตํ สมุจฺเฉทวิเวกนิสฺสิตํ นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตฺจ อิทฺธิปาทํ ภาเวตีติ อตฺโถ. ตถา หิ อยํ อิทฺธิปาทภาวนานุยุตฺโต โยคี วิปสฺสนากฺขเณ กิจฺจโต ตทงฺควิเวกนิสฺสิตํ อชฺฌาสยโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตํ. มคฺคกฺขเณ ปน กิจฺจโต สมุจฺเฉทวิเวกนิสฺสิตํ อารมฺมณโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวตีติ. เอส นโย วิราคนิสฺสิตนฺติอาทีสุ.

วิเวกตฺตา เอว หิ วิราคาทโย, เกวลฺเจตฺถ โวสฺสคฺโค ทุวิโธ ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค จ ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโค จาติ. ตตฺถ ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค วิปสฺสนากฺขเณ ตทงฺควเสน, มคฺคกฺขเณ สมุจฺเฉทวเสน กิเลสปฺปหานํ. ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโค วิปสฺสนากฺขเณ ตนฺนินฺนภาเวน, มคฺคกฺขเณ อารมฺมณกรณวเสน นิพฺพานปกฺขนฺทนํ. ตทุภยมฺปิ อิมสฺมึ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสเก อตฺถสํวณฺณนานเย ยุชฺชติ. ตถา หิ อยํ ปมิทฺธิปาโท ยถาวุตฺเตน ปกาเรน กิเลเส ปริจฺจชติ นิพฺพานฺจ ปกฺขนฺทติ. โวสฺสคฺคปริณามินฺติ อิมินา ปน วจเนน โวสฺสคฺคตฺถํ ปริณมนฺตํ ปริณตฺจ ปริปจฺจนฺตํ ปริปกฺกฺจาติ อตฺโถ. อยฺหิ อิทฺธิปาทภาวนานุยุตฺโต โยคี ยถา ปโม อิทฺธิปาโท กิเลสปริจฺจาคโวสฺสคฺคตฺถํ นิพฺพานปกฺขนฺทนโวสฺสคฺคตฺถฺจ ปริปจฺจติ, ยถา จ ปริปกฺโก โหติ, ตถา นํ ภาเวตีติ. เสสิทฺธิปาเทสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – ยถา ฉนฺทํ เชฏฺกํ กตฺวา ปวตฺติโต สมาธิ ฉนฺทสมาธิ. เอวํ วีริยํ จิตฺตํ วีมํสํ เชฏฺกํ กตฺวา ปวตฺติโต สมาธิ วีมํสาสมาธีติ.

๑๔. น เกวลํ จตุตฺถอิทฺธิปาโท เอว สมาธิาณมูลโก, อถ โข สพฺโพปีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺโพ สมาธิ าณมูลโก าณปุพฺพงฺคโม าณานุปริวตฺตี’’ติ วุตฺตํ. ยทิ เอวํ กสฺมา โส เอว วีมํสาสมาธีติ วุตฺโตติ? วีมํสํ เชฏฺกํ กตฺวา ปวตฺติตตฺตาติ วุตฺโตวายมตฺโถ. ตตฺถ ปุพฺพภาคปฺาย าณมูลโก. อธิคมปฺาย าณปุพฺพงฺคโม. ปจฺจเวกฺขณปฺาย าณานุปริวตฺติ. อถ วา ปุพฺพภาคปฺาย าณมูลโก. อุปจารปฺาย าณปุพฺพงฺคโม. อปฺปนาปฺาย าณานุปริวตฺติ. อุปจารปฺาย วา าณมูลโก. อปฺปนาปฺาย าณปุพฺพงฺคโม. อภิฺาปฺาย าณานุปริวตฺตีติ เวทิตพฺพํ.

ยถา ปุเรติ ยถา สมาธิสฺส ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณานุปริวตฺติภาเวน ปุเร ปุพฺเพ อตีตาสุ ชาตีสุ อสงฺขฺเยยฺเยสุปิ สํวฏฺฏวิวฏฺเฏสุ อตฺตโน ปเรสฺจ ขนฺธํ ขนฺธูปนิพทฺธฺจ ทุปฺปฏิวิชฺฌํ นาม นตฺถิ, ตถา ปจฺฉา สมาธิสฺส อนาคตํสาณานุปริวตฺติภาเวน อนาคตาสุ ชาตีสุ อสงฺขฺเยยฺเยสุปิ สํวฏฺฏวิวฏฺเฏสุ อตฺตโน ปเรสฺจ ขนฺธํ ขนฺธูปนิพทฺธฺจ ทุปฺปฏิวิชฺฌํ นาม นตฺถีติ อตฺโถ.

ยถา ปจฺฉาติ ยถา สมาธิสฺส เจโตปริยาณานุปริวตฺติภาเวน อนาคเตสุ สตฺตสุ ทิวเสสุ ปรสตฺตานํ จิตฺตํ ทุปฺปฏิวิชฺฌํ นาม นตฺถิ, ตถา ปุเร อตีเตสุ สตฺตสุ ทิวเสสุ ปรสตฺตานํ จิตฺตํ ทุปฺปฏิวิชฺฌํ นาม นตฺถีติ อตฺโถ. ยถา ทิวาติ ยถา ทิวสภาเค สูริยาโลเกน อนฺธการสฺส วิธมิตตฺตา จกฺขุมนฺตานํ สตฺตานํ อาปาถคตํ จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํ สุวิฺเยฺยํ. ตถา รตฺตินฺติ ตถา รตฺติภาเค จตุรงฺคสมนฺนาคเตปิ อนฺธกาเร วตฺตมาเน สมาธิสฺส ทิพฺพจกฺขุาณานุปริวตฺติตาย ทุปฺปฏิวิชฺฌํ รูปายตนํ นตฺถิ.

ยถา รตฺตึ ตถา ทิวาติ ยถา จ รตฺติยํ ตถา ทิวาปิ อติสุขุมํ เกนจิ ติโรหิตํ ยฺจ อติทูเร, ตํ สพฺพรูปํ ทุปฺปฏิวิชฺฌํ นาม นตฺถิ. ยถา จ รูปายตเน วุตฺตํ, ตถา สมาธิสฺส ทิพฺพโสตาณานุปริวตฺติตาย สทฺทายตเน จ เนตพฺพํ. เตเนวาห ‘‘อิติ วิวเฏน เจตสา’’ติอาทิ. ตตฺถ อปริโยนทฺเธนาติ อภิฺาาณสฺส ปาริพนฺธกกิเลเสหิ อนชฺโฌตฺถเฏน, อปริโยนทฺธตฺตา เอว สปฺปภาสํ จิตฺตํ. เอเตเนว สมาธิสฺส อิทฺธิวิธาณานุปริวตฺติตาปิ วุตฺตา เอวาติ ทฏฺพฺพํ. ปฺจินฺทฺริยานีติ อิทฺธิปาทสมฺปยุตฺตานิ เสกฺขสฺส ปฺจินฺทฺริยานิ อธิปฺเปตานีติ อาห ‘‘กุสลานี’’ติ. จิตฺตสหภูนีติอาทิ เตสํ วิฺาณนิโรเธน นิโรธทสฺสนตฺถํ อารทฺธํ. ตถา ‘‘นามรูปฺจา’’ติอาทิ. เตเนตํ ทสฺเสติ ‘‘น เกวลํ ปฺจินฺทฺริยานิ เอว, อถ โข นามรูปฺจ วิฺาณเหตุกํ วิฺาณสฺส นิโรธา นิรุชฺฌตี’’ติ.

ตสฺสาติ วิฺาณสฺส. เหตูติ ตณฺหาอวิชฺชาทิโก. อนาหารนฺติ ปทสฺส อตฺถวิวรณํ. อนภินนฺทิตนฺติ อภินนฺทนภูตาย ตณฺหาย ปหีนตฺตา เอว อปตฺถิตํ. ตโต เอว อปฺปฏิสนฺธิกํ วิฺาณํ ตํ นิรุชฺฌติ. ยถา จ วิฺาณํ, เอวํ นามรูปมฺปิ วิฺาณสงฺขาตสฺส เหตุโน ปจฺจยสฺส จ อภาวา ตปฺปจฺจยานํ สงฺขาราทีนํ อภาวา อเหตุ อปฺปจฺจยํ. เสสํ ปากฏเมว. ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนวิจโยปิ วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺโพ.

เอวํ อนุสนฺธิปุจฺฉมฺปิ ทสฺเสตฺวา เหฏฺา สตฺตาธิฏฺานา ธมฺมาธิฏฺานา จ ปุจฺฉา วิสุํ วิสุํ ทสฺสิตาติ อิทานิ ตา สห ทสฺเสตุํ ‘‘เย จ สงฺขาตธมฺมาเส’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถายํ ปทตฺโถ – สงฺขาตธมฺมาติ อนิจฺจาทิวเสน ปริวีมํสิตธมฺมา, อรหตํ เอตํ อธิวจนํ. เสกฺขาติ สีลาทีนิ สิกฺขมานา อวเสสา อริยปุคฺคลา. ปุถูติ พหู สตฺตชนา. เตสํ เม นิปโก อิริยํ, ปุฏฺโ ปพฺรูหีติ เตสํ เสขาเสขานํ นิปโก ปณฺฑิโต ตฺวํ ภควา ปฏิปตฺตึ ปุฏฺโ เม พฺรูหีติ. เสสํ ปาฬิวเสเนว วิฺายติ.

๑๕. กิสฺสาติ กิสฺส เหตุ, เกน การเณนาติ อตฺโถ. เสขาเสขวิปสฺสนา ปุพฺพงฺคมปฺปหานโยเคนาติ เสเข อเสเข วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมปฺปหาเน จ ปุจฺฉนโยเคน, ปุจฺฉาวิธินาติ อตฺโถ.

วิสฺสชฺชนคาถายํ กาเมสุ นาภิคิชฺเฌยฺยาติ วตฺถุกาเมสุ กิเลสกาเมน น อภิคิชฺเฌยฺย. มนสานาวิโล สิยาติ พฺยาปาทวิตกฺกาทโย กายทุจฺจริตาทโย จ มนโส อาวิลภาวกเร ธมฺเม ปชหนฺโต จิตฺเตน อนาวิโล ภเวยฺย. ยสฺมา ปน อเสกฺโข อนิจฺจตาทิวเสน สพฺพธมฺมานํ ปริตุลิตตฺตา กุสโล สพฺพธมฺเมสุ กายานุปสฺสนาสติอาทีหิ จ สโต สพฺพกิเลสานํ ภินฺนตฺตา อุตฺตมภิกฺขุภาวํ ปตฺโต จ หุตฺวา สพฺพอิริยาปเถสุ ปวตฺตติ, ตสฺมา ‘‘กุสโล…เป… ปริพฺพเช’’ติ อาหาติ อยํ สงฺเขปตฺโถ.

ตตฺถ ยํ ปุจฺฉาคาถายํ ‘‘นิปโก’’ติ ปทํ วุตฺตํ, ตํ ภควนฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, ภควโต จ เนปกฺกํ อุกฺกํสปารมิปฺปตฺตํ อนาวรณาณทสฺสเนน ทีเปตพฺพนฺติ อนาวรณาณํ ตาว กมฺมทฺวารเภเทหิ วิภชิตฺวา เสขาเสขปฏิปทํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภควโต สพฺพํ กายกมฺม’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เตน สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตาณทสฺสเนน ตถาคตสฺส เสขาเสขปฏิปตฺติเทสนาโกสลฺลเมว วิภาเวติ. ตตฺถ โก จาติ กฺว จ, กสฺมึ วิสเยติ อตฺโถ. ตํ วิสยํ ทสฺเสติ ‘‘ยํ อนิจฺเจ ทุกฺเข อนตฺตนิ จา’’ติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – าณทสฺสนํ นาม อุปฺปชฺชมานํ ‘‘สพฺพํ สงฺขตํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา’’ติ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ปน ตสฺมึ วิสเย เยน อปฺปวตฺติ, โส ปฏิฆาโตติ, เอเตน ลกฺขณตฺตยปฺปฏิเวธสฺส ทุรภิสมฺภวตํ อนฺสาธารณตฺจ ทสฺเสติ. ลกฺขณตฺตยวิภาวเนน หิ ภควโต จตุสจฺจปฺปฏิเวธํ สมฺมาสมฺโพธิฺจ ปณฺฑิตา ปฏิชานนฺติ.

อฺาณํ อทสฺสนนฺติ ตํ ปฏิฆาตํ สรูปโต ทสฺเสติ. ฉฬารมฺมณสภาวปฺปฏิจฺฉาทโก หิ สมฺโมโห าณทสฺสนสฺส ปฏิฆาโตติ. ยสฺมึ วิสเย าณทสฺสนํ อุปฺปตฺติรหํ, ตตฺเถว ตสฺส ปฏิฆาเตน ภวิตพฺพนฺติ อาห – ‘‘ยํ อนิจฺเจ ทุกฺเข อนตฺตนิ จา’’ติ. ยถา อิธ ปุริโสติอาทิ อุปมาทสฺสนํ. ตตฺริทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – ปุริโส วิย สพฺโพ โลโก, ตารกรูปานิ วิย ฉ อารมฺมณานิ, ตสฺส ปุริสสฺส ตารกรูปานํ ทสฺสนํ วิย โลกสฺส จกฺขุวิฺาณาทีหิ ยถารหํ ฉฬารมฺมณชานนํ, ตสฺส ปุริสสฺส ตารกรูปานิ ปสฺสนฺตสฺสาปิ ‘‘เอตฺตกานิ สตานิ, เอตฺตกานิ สหสฺสานี’’ติอาทินา คณนสงฺเกเตน อชานนํ วิย โลกสฺส รูปาทิอารมฺมณํ กถฺจิ ชานนฺตสฺสาปิ อนิจฺจาทิลกฺขณตฺตยานวโพโธติ. เสสํ ปากฏเมว.

อิทานิ เยหิ ปเทหิ ภควตา อายสฺมโต อชิตสฺส เสขาเสขปฏิปทา วุตฺตา, เตสํ ปทานํ อตฺถํ วิภชิตุํ ‘‘ตตฺถ เสเขนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตตฺถาติ นิปาตมตฺตํ, ตสฺมึ วา วิสฺสชฺชเน. เสเขนาติ สิกฺขา เอตสฺส สีลนฺติ เสโข, เตน เสเขน. ทฺวีสุ ธมฺเมสูติ ทุวิเธสุ ธมฺเมสูติ อธิปฺปาโย. ปริยุฏฺานีเยสูติ โทเสน ปริยุฏฺิเตน ยตฺถ ปริวตฺติตพฺพํ, เตสุ อาฆาตวตฺถูสูติ อตฺโถ. ‘‘ปฏิฆฏฺานีเยสู’’ติปิ ปาโ, โสเยวตฺโถ.

เอตฺถ จ เคธปฏิเสธโจทนายํ เคธนิมิตฺโต โทโส เคเธ สติ โหตีติ ตโตปิ จิตฺตสฺส รกฺขิตพฺพตา นิทฺธาเรตฺวา วุตฺตา. ยสฺมา ปน ภควตา ‘‘กาเมสุ นาภิคิชฺเฌยฺยา’’ติ (สุ. นิ. ๑๐๔๕; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉา ๖๔, อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘; เนตฺติ. ๑๕-๑๗) วุตฺตํ, ตสฺมา ‘‘ตตฺถ ยา อิจฺฉา’’ติอาทินา เคธวเสน นิทฺเทโส กโต. อถ วา โทสโต จิตฺตสฺส รกฺขิตพฺพตา คาถาย ทุติยปาเทน วุตฺตาเยวาติ ทฏฺพฺพา. ทุติยปาเทน หิ เสสกิเลสโวทานธมฺมา ทสฺสิตา. ตถา หิ อุปฺปนฺนานุปฺปนฺนเภทโต สมฺมาวายามสฺส วิสยภาเวน สพฺเพ สํกิเลสโวทานธมฺเม จตุธา วิภชิตฺวา สมฺมปฺปธานมุเขน เสขปฏิปทํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เสโข อภิคิชฺฌนฺโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อนาวิลสงฺกปฺโปติ อาวิลานํ กามสงฺกปฺปาทีนํ อภาเวน อนาวิลสงฺกปฺโป. ตโต เอว จ อนภิคิชฺฌนฺโต วายมติ, วีริยํ ปวตฺเตติ. กถํ วายมตีติ อาห – ‘‘โส อนุปฺปนฺนาน’’นฺติอาทิ.

ตตฺถ โสติ อุตฺตริวิเสสตฺถาย ปฏิปชฺชมาโน เสกฺโข. อนุปฺปนฺนานนฺติ อนิพฺพตฺตานํ. ปาปกานนฺติ ลามกานํ. อกุสลานํ ธมฺมานนฺติ อโกสลฺลสมฺภูตานํ ธมฺมานํ. อนุปฺปาทายาติ น อุปฺปาทนตฺถาย. ฉนฺทํ ชเนตีติ กตฺตุกมฺยตาสงฺขาตํ กุสลจฺฉนฺทํ อุปฺปาเทติ. วายมตีติ ปโยคปรกฺกมํ กโรติ. วีริยํ อารภตีติ กายิกเจตสิกวีริยํ กโรติ. จิตฺตํ ปคฺคณฺหาตีติ เตเนว สหชาตวีริเยน จิตฺตํ อุกฺขิปติ. ปทหตีติ ปธานวีริยํ กโรติ. วายมตีติอาทีนิ ปน จตฺตาริ ปทานิ อาเสวนาภาวนาพหุลีกมฺมสาตจฺจกิริยาหิ โยเชตพฺพานิ. อุปฺปนฺนานํ ปาปกานนฺติ อนุปฺปนฺนาติ อวตฺตพฺพตํ อาปนฺนานํ ปาปธมฺมานํ. ปหานายาติ ปชหนตฺถาย. อนุปฺปนฺนานํ กุสลานนฺติ อนิพฺพตฺตานํ โกสลฺลสมฺภูตานํ ธมฺมานํ. อุปฺปาทายาติ อุปฺปาทนตฺถาย. อุปฺปนฺนานนฺติ นิพฺพตฺตานํ. ิติยาติ ิตตฺถํ. อสมฺโมสายาติ อนสฺสนตฺถํ. ภิยฺโยภาวายาติ ปุนปฺปุนํ ภาวาย. เวปุลฺลายาติ วิปุลภาวาย. ภาวนายาติ วฑฺฒิยา. ปาริปูริยาติ ปริปูรณตฺถายาติ อยํ ตาว ปทตฺโถ.

๑๖. ‘‘กตเม อนุปฺปนฺนา’’ติอาทิ อกุสลธมฺมา กุสลธมฺมา จ ยาทิสา อนุปฺปนฺนา ยาทิสา จ อุปฺปนฺนา, เต ทสฺเสตุํ อารทฺธํ. ตตฺถ อิเม อนุปฺปนฺนาติ อิเม กามวิตกฺกาทโย อสมุทาจารวเสน วา อนนุภูตารมฺมณวเสน วา อนุปฺปนฺนา นาม. อฺถา หิ อนมตคฺเค สํสาเร อนุปฺปนฺนา นาม อกุสลา ธมฺมา นตฺถิ. วิตกฺกตฺตยคฺคหณฺเจตฺถ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ. อกุสลมูลานีติ อนุสยา เอว สพฺเพสํ อกุสลานํ มูลภาวโต เอวํ วุตฺตา, น โลภาทโย เอว. อิเม อุปฺปนฺนา อนุสยา ภูมิลทฺธุปฺปนฺนา อสมุคฺฆาฏิตุปฺปนฺนาติอาทิอุปฺปนฺนปริยายสพฺภาวโต นามวเสน อุปฺปนฺนา นาม, น วตฺตมานภาเวนาติ อตฺโถ. อิเม อนุปฺปนฺนา กุสลา ธมฺมาติ อิเม โสตาปนฺนสฺส สทฺธาทโย โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนสฺส อนุปฺปนฺนา กุสลา ธมฺมา นาม, โก ปน วาโท ปุถุชฺชนานนฺติ ทสฺเสติ. กุสลสทฺโท เจตฺถ พาหิติกสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๓๕๘ อาทโย) วิย อนวชฺชปริยาโย ทฏฺพฺโพ. อิเม อุปฺปนฺนา กุสลา ธมฺมาติ อิเม ปมมคฺเค สทฺธาทโย โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนสฺส อุปฺปนฺนา กุสลา ธมฺมา นาม.

สติปฏฺานภาวนาย สุนิคฺคหิโต กามวิตกฺโกติ อาห – ‘‘เยน กามวิตกฺกํ วาเรติ, อิทํ สตินฺทฺริย’’นฺติ. อนวชฺชสุขปทฏฺาเนน อวิกฺเขเปน เจโตทุกฺขสนฺนิสฺสโย วิกฺเขปปจฺจโย พฺยาปาทวิตกฺโก สุนิคฺคหิโตติ วุตฺตํ – ‘‘เยน พฺยาปาทวิตกฺกํ วาเรติ, อิทํ สมาธินฺทฺริย’’นฺติ. กุสเลสุ ธมฺเมสุ อารทฺธวีริโย ปราปราธํ สุเขน สหตีติ วีริเยน วิหึสาวิตกฺโก สุนิคฺคหิโตติ อาห – ‘‘เยน วิหึสาวิตกฺกํ วาเรติ, อิทํ วีริยินฺทฺริย’’นฺติ. สมาธิอาทีนมฺปิ ยถาสกํปฏิปกฺขปฺปหานํ ปฺวนฺตสฺเสว อิชฺฌตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘เยน อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน’’ติอาทิ.

เอเตสํ ยถานิทฺธาริตานํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ สวิสเย เชฏฺกภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘สทฺธินฺทฺริยํ กตฺถ ทฏฺพฺพ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตํ สุวิฺเยฺยเมว. อิเมสฺจ สทฺธาทีนํ เสขานํ อินฺทฺริยานํ นิพฺพตฺติยา สพฺเพปิ เสขา ธมฺมา มตฺถกปฺปตฺตา โหนฺตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอวํ เสโข’’ติอาทินา เสขปฏิปทํ นิคเมติ.

๑๗. เอวํ เสขปฏิปทํ วิภชิตฺวา อิทานิ อเสขปฏิปทํ วิภชิตุํ ‘‘กุสโล สพฺพธมฺมาน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ สพฺพธมฺมานนฺติ อิมินา ปเทน วุตฺตธมฺเม ตาว วิภชิตฺวา ตตฺถ อเสกฺขสฺส โกสลฺลํ ทสฺเสตุํ ‘‘โลโก นามา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตํ วุตฺตตฺถเมว. กิเลสโลเกน ภวโลโก สมุทาคจฺฉตีติ กามาวจรธมฺมํ นิสฺสาย รูปารูปาวจรธมฺเม สมุทาคเมตีติ อตฺโถ. โสติ โส มหคฺคตธมฺเมสุ, ปริตฺตมหคฺคตธมฺเมสุ วา ิโต. อินฺทฺริยานิ นิพฺพตฺเตตีติ สีลสมาธโย นิพฺเพธภาคิเย กตฺวา วิมุตฺติปริปาจนียานิ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ อุปฺปาเทติ. อินฺทฺริเยสุ ภาวิยมาเนสูติ ยถาวุตฺตอินฺทฺริเยสุ วฑฺฒิยมาเนสุ รูปารูปปริคฺคหาทิวเสน เนยฺยสฺส ปริฺา ภวติ.

ทสฺสนปริฺาติ าตปริฺา. ภาวนาปริฺาติ ตีรณปริฺา ปหานปริฺา จ. ‘‘สา ทุวิเธนา’’ติอาทินา สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ ‘‘ยทา หิ เสโข’’ติอาทินา วิวรติ. ตตฺถ ‘‘นิพฺพิทาสหคเตหิ สฺามนสิกาเรหี’’ติ อิมินา พลววิปสฺสนํ ทสฺเสติ. ยทา หิ เสโขติ เจตฺถ สิกฺขนสีลตาย กลฺยาณปุถุชฺชโนปิ เสขปเทน สงฺคหิโตติ กตฺวา ‘‘ทฺเว ธมฺมา โกสลฺลํ คจฺฉนฺติ ทสฺสนโกสลฺลฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อยเมตฺถ อธิปฺปาโย – ยทา กลฺยาณปุถุชฺชโน ปุพฺพภาคสิกฺขํ สิกฺขนฺโต นิพฺพิทาสหคเตหิ สฺามนสิกาเรหิ เยฺยํ ปริชานาติ, ตทา ตสฺส เต วิปสฺสนาธมฺมา ทสฺสนโกสลฺลํ ปมมคฺคาณํ คจฺฉนฺติ สมฺปาปุณนฺติ เตน สทฺธึ ฆเฏนฺติ. ยทา ปน โสตาปนฺนาทิเสโข วุตฺตนเยน เนยฺยํ ปริชานาติ, ตทา ตสฺส เต วิปสฺสนาธมฺมา ภาวนาโกสลฺลํ คจฺฉนฺตีติ.

ตํ าณนฺติ ยา ปุพฺเพ เนยฺยสฺส ปริฺา วุตฺตา, ตํ เนยฺยปริชานนาณํ. ปฺจวิเธน เวทิตพฺพนฺติ วิสยเภเทน ตสฺส เภทํ ทสฺเสติ. ธมฺมานํ สลกฺขเณ าณนฺติ รูปารูปธมฺมานํ กกฺขฬผุสนาทิสลกฺขเณ าณํ. ตํ ปน ยสฺมา สพฺพํ เนยฺยํ เหตุเหตุผลเภทโต ทุวิธเมว โหติ, ตสฺมา ‘‘ธมฺมปฏิสมฺภิทา จ อตฺถปฏิสมฺภิทา จา’’ติ นิทฺทิฏฺํ.

ปริฺาติ ตีรณปริฺา อธิปฺเปตา. ยสฺมา ปนสฺส รูปารูปธมฺเม สลกฺขณโต ปจฺจยโต จ อภิชานิตฺวา กุสลาทิวิภาเคหิ เต ปริคฺคเหตฺวา อนิจฺจาทิวเสน ชานนา โหติ, ตสฺมา ‘‘เอวํ อภิชานิตฺวา ยา ปริชานนา, อิทํ กุสล’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอวํคหิตาติ เอวํ อนิจฺจาทิโต กลาปสมฺมสนาทิวเสน คหิตา สมฺมสิตา. อิทํ ผลํ นิพฺพตฺเตนฺตีติ อิทํ อุทยพฺพยาณาทิกํ ผลํ ปฏิปาฏิยา อุปฺปาเทนฺติ, นิมิตฺตสฺส กตฺตุภาเวน อุปจรณโต ยถา อริยภาวกรานิ สจฺจานิ อริยสจฺจานีติ. เตสนฺติ อุทยพฺพยาณาทีนํ. เอวํคหิตานนฺติ เอวํปวตฺติตานํ. อยํ อตฺโถติ อยํ สจฺจานํ อนุโพธปฏิเวโธ อตฺโถ. ยถา หิ ปริฺาปฺา สมฺมสิตพฺพธมฺเม สมฺมสนธมฺเม ตตฺถ สมฺมสนาการํ ปริชานาติ, เอวํ สมฺมสนผลมฺปิ ปริชานาตีติ กตฺวา อยํ นโย ทสฺสิโต.

เย อกุสลาติ สมุทยสจฺจมาห. สพฺเพ หิ อกุสลา สมุทยปกฺขิยาติ. เย กุสลาติ มคฺคธมฺมา สมฺมาทิฏฺิอาทโย. ยทิปิ ผลธมฺมาปิ สจฺฉิกาตพฺพา, จตุสจฺจปฺปฏิเวธสฺส ปน อธิปฺเปตตฺตา ‘‘กตเม ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา, ยํ อสงฺขต’’นฺติ วุตฺตํ. อตฺถกุสโลติ ปจฺจยุปฺปนฺเนสุ อตฺเถสุ กุสโล. ธมฺมกุสโลติ ปจฺจยธมฺเมสุ กุสโล. ปาฬิอตฺถปาฬิธมฺมา วา อตฺถธมฺมา. กลฺยาณตากุสโลติ ยุตฺตตากุสโล, จตุนยโกวิโทติ อตฺโถ, เทสนายุตฺติกุสโล วา. ผลตากุสโลติ ขีณาสวผลกุสโล. ‘‘อายกุสโล’’ติอาทีสุ อาโยติ วฑฺฒิ. สา อนตฺถหานิโต อฏฺุปฺปตฺติโต จ ทุวิธา. อปายาติ อวฑฺฒิ. สาปิ อตฺถหานิโต อนฏฺุปฺปตฺติโต จ ทุวิธา. อุปาโยติ สตฺตานํ อจฺจายิเก กิจฺเจ วา ภเย วา อุปฺปนฺเน ตสฺส ติกิจฺฉนสมตฺถํ านุปฺปตฺติการณํ, ตตฺถ กุสโลติ อตฺโถ. ขีณาสโว หิ สพฺพโส อวิชฺชาย ปหีนตฺตา ปฺาเวปุลฺลปฺปตฺโต เอเตสุ อายาทีสุ กุสโลติ. เอวํ อเสขสฺส โกสลฺลํ เอกเทเสน วิภาเวตฺวา ปุน อนวเสสโต ทสฺเสนฺโต ‘‘มหตา โกสลฺเลน สมนฺนาคโต’’ติ อาห.

ปรินิฏฺิตสิกฺขสฺส อเสขสฺส สโตการิตาย อฺํ ปโยชนํ นตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถ’’นฺติ. อิทานิ ยถานิทฺทิฏฺํ เสขาเสขปฏิปทํ นิคเมนฺโต ‘‘อิมา ทฺเว จริยา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ โพชฺฌนฺติ พุชฺฌิตพฺพํ. ตํ จตุพฺพิธนฺติ ตํ โพชฺฌํ จตุพฺพิธํ, จตุสจฺจภาวโต. เอวํ ชานาตีติ เอวํ ปริฺาภิสมยาทิวเสน โย ชานาติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ อเสโข สติเวปุลฺลปฺปตฺโต นิปฺปริยาเยน ‘‘สโต อภิกฺกมตี’’ติอาทินา วุจฺจตีติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว. อิธาปิ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนวิจยา ปุพฺเพ วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพา.

เอตฺตาวตา จ มหาเถโร วิจยหารํ วิภชนฺโต อชิตสุตฺตวเสน (สุ. นิ. ๑๐๓ อาทโย; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉา ๕๗ อาทโย, อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑ อาทโย) ปุจฺฉาวิจยํ วิสฺสชฺชนวิจยฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สุตฺตนฺตเรสุปิ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนวิจยานํ นยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอวํ ปุจฺฉิตพฺพํ, เอวํ วิสฺสชฺชิตพฺพ’’นฺติ อาห. ตตฺถ เอวนฺติ อิมินา นเยน. ปุจฺฉิตพฺพนฺติ ปุจฺฉา กาตพฺพา, อาจิกฺขิตพฺพา วา, วิเวเจตพฺพาติ อตฺโถ. เอวํ วิสฺสชฺชิตนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สุตฺตสฺส จาติอาทิ อนุคีติวิจยนิทสฺสนํ. อนุคีติ อตฺถโต จ พฺยฺชนโต จ สมาเนตพฺพาติ สุตฺตนฺตรเทสนาสงฺขาตา อนุคีติ อตฺถโต พฺยฺชนโต จ สํวณฺณิยมาเนน สุตฺเตน สมานา สทิสี กาตพฺพา, ตสฺมึ วา สุตฺเต สมฺมา อาเนตพฺพา. อตฺถาปคตนฺติ อตฺถโต อเปตํ, อสมฺพนฺธตฺถํ วา ทสทาฬิมาทิวจนํ วิย. เตเนวาห ‘‘สมฺผปฺปลาปํ ภวตี’’ติ. เอเตน อตฺถสฺส สมาเนตพฺพตาย การณมาห. ทุนฺนิกฺขิตฺตสฺสาติ อสมฺมาวุตฺตสฺส. ทุนฺนโยติ ทุกฺเขน เนตพฺโพ, เนตุํ วา อสกฺกุเณยฺโย. พฺยฺชนุเปตนฺติ สภาวนิรุตฺติสมุเปตํ.

เอวํ อนุคีติวิจยํ ทสฺเสตฺวา นิทฺเทสวาเร ‘‘สุตฺตสฺส โย ปวิจโย’’ติ สํขิตฺเตน วุตฺตมตฺถํ วิภชิตุํ ‘‘สุตฺตฺจ ปวิจินิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ตสฺส วิจินนาการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กึ อิทํ สุตฺตํ อาหจฺจวจน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อาหจฺจวจนนฺติ ภควโต านกรณานิ อาหจฺจ อภิหนฺตฺวา ปวตฺตวจนํ, สมฺมาสมฺพุทฺเธน สามํ เทสิตสุตฺตนฺติ อตฺโถ. อนุสนฺธิวจนนฺติ สาวกภาสิตํ. ตฺหิ ภควโต วจนํ อนุสนฺเธตฺวา ปวตฺตนโต ‘‘อนุสนฺธิวจน’’นฺติ วุตฺตนฺติ. นีตตฺถนฺติ ยถารุตวเสน าตพฺพตฺถํ. เนยฺยตฺถนฺติ นิทฺธาเรตฺวา คเหตพฺพตฺถํ. สํกิเลสภาคิยนฺติอาทีนํ ปทานํ อตฺโถ ปฏฺานวารวณฺณนายํ อาวิ ภวิสฺสติ. ยสฺมา ปน ภควโต เทสนา โสฬสวิเธ สาสนปฏฺาเน เอกํ ภาคํ อภชนฺตี นาม นตฺถิ, ตสฺมา โสปิ นโย วิเจตพฺพภาเวน อิธ นิกฺขิตฺโต.

กุหึ อิมสฺส สุตฺตสฺสาติ อิมสฺส สุตฺตสฺส กสฺมึ ปเทเส อาทิมชฺฌปริโยสาเนสุ. สพฺพานิ สจฺจานิ ปสฺสิตพฺพานีติ ทุกฺขสจฺจํ สุตฺตสฺส ‘‘กุหึ กสฺมึ ปเทเส กสฺมึ วา ปเท ปสฺสิตพฺพํ นิทฺธาเรตฺวา วิเจตุํ, สมุทยสจฺจํ นิโรธสจฺจํ มคฺคสจฺจํ กุหึ ปสฺสิตพฺพํ ทฏฺพฺพํ นิทฺธาเรตฺวา วิเจตุ’’นฺติ เอวํ สพฺพานิ สจฺจานิ อุทฺธริตฺวา วิเจตพฺพานีติ อธิปฺปาโย. อาทิมชฺฌปริโยสาเนติ เอวํ สุตฺตํ ปวิเจตพฺพนฺติ อาทิโต มชฺฌโต ปริโยสานโต จ เอวํ อิมินา ปุจฺฉาวิจยาทินเยน สุตฺตํ ปวิจิตพฺพนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนปุพฺพาปรานุคีติวิจยา ปาฬิยํ สรูเปเนว ทสฺสิตา. อสฺสาทาทิวิจโย ปน สจฺจนิทฺธารณมุเขน นยโต ทสฺสิโต, โส นิทฺเทสวาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ตพฺพิจเยเนว จ ปทวิจโย สิทฺโธติ.

วิจยหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ยุตฺติหารวิภงฺควณฺณนา

๑๘. ตตฺถ กตโม ยุตฺติหาโรติอาทิ ยุตฺติหารวิภงฺโค. ตตฺถ กึ โยชยตีติ ยุตฺติหารสฺส วิสยํ ปุจฺฉติ. โก ปเนตสฺส วิสโย? อตถากาเรน คยฺหมานา สุตฺตตฺถา วิสโย, เต หิ เตน สาติสยํ ยาถาวโต ยุตฺตินิทฺธารเณน โยเชตพฺพา. อิตเรสุปิ อยํ หาโร อิจฺฉิโต เอว. ตํ ปน ภูตกถนมตฺตํ โหติ. ยสฺมา ปนายํ ยุตฺติคเวสนา นาม น มหาปเทเสน วินา, ตสฺมา ยุตฺติหารํ วิภชนฺโต ตสฺส ลกฺขณํ ตาว อุปทิสิตุํ ‘‘จตฺตาโร มหาปเทสา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ มหาปเทสาติ มหาอปเทสา, พุทฺธาทโย มหนฺเต อปทิสิตฺวา วุตฺตานิ มหาการณานีติ อตฺโถ. อถ วา มหาปเทสาติ มหาโอกาสา, มหนฺตานิ ธมฺมสฺส ปติฏฺานานีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – อปทิสฺสตีติ อปเทโส, พุทฺโธ อปเทโส เอตสฺสาติ พุทฺธาปเทโส. เอส นโย เสเสสุปิ. ‘‘สมฺมุขา เมตํ ภควโต สุต’’นฺติอาทินา เกนจิ อาภตสฺส คนฺถสฺส ธมฺโมติ วา อธมฺโมติ วา วินิจฺฉยเน การณํ. กึ ปน ตนฺติ? ตสฺส ตถา อาภตสฺส สุตฺโตตรณาทิ เอว. ยทิ เอวํ กถํ จตฺตาโรติ? อปทิสิตปฺปเภทโต. ธมฺมสฺส หิ ทฺเว สมฺปทาโย ภควา สาวกา จ. เตสุ สาวกา สงฺฆคณปุคฺคลวเสน ติวิธา. ‘‘เอวมมุมฺหา มยายํ ธมฺโม ปฏิคฺคหิโต’’ติ อปทิสิตพฺพานํ เภเทน จตฺตาโร. เตนาห – ‘‘พุทฺธาปเทโส…เป… เอกตฺเถราปเทโส’’ติ. ตานิ ปทพฺยฺชนานีติ เกนจิ อาภตสุตฺตสฺส ปทานิ พฺยฺชนานิ จ, อตฺถปทานิ เจว พฺยฺชนปทานิ จาติ อตฺโถ. สํวณฺณเกน วา สํวณฺณนาวเสน อาหริยมานานิ ปทพฺยฺชนานิ. สุตฺเต โอตารยิตพฺพานีติ สุตฺเต อนุปฺปเวสิตพฺพานิ. สนฺทสฺสยิตพฺพานีติ สํสนฺเทตพฺพานิ. อุปนิกฺขิปิตพฺพานีติ ปกฺขิปิตพฺพานิ.

สุตฺตาทีนิ ทสฺเสตุํ ‘‘กตมสฺมิ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺมา ภควโต วจนํ เอกคาถามตฺตมฺปิ สจฺจวินิมุตฺตํ นตฺถิ, ตสฺมา สุตฺเตติ ปทสฺส อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘จตูสุ อริยสจฺเจสู’’ติ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน ตีณิ ปิฏกานิ สุตฺตนฺติ วุตฺตํ, ตํ อิมินา เนตฺติวจเนน อฺทตฺถุ สํสนฺทติ เจว สเมติ จาติ ทฏฺพฺพํ. ยาวเทว อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถา ภควโต เทสนา, สา เอกนฺเตน ราคาทิกิเลสวูปสมํ วทตีติ วินเยติปทสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ราควินเย’’ติอาทิมาห. วินโยติ หิ การณํ ราคาทิวูปสมนิมิตฺตํ อิธาธิปฺเปตํ. ยถาห –

‘‘เย โข ตฺวํ, โคตมิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ, อิเม ธมฺมา สราคาย สํวตฺตนฺติ โน วิราคาย, สฺโคาย สํวตฺตนฺติ โน วิสฺโคาย, อาจยาย สํวตฺตนฺติ โน อปจยาย, มหิจฺฉตาย สํวตฺตนฺติ โน อปฺปิจฺฉตาย, อสนฺตุฏฺิยา สํวตฺตนฺติ โน สนฺตุฏฺิยา, สงฺคณิกาย สํวตฺตนฺติ โน ปวิเวกาย, โกสชฺชาย สํวตฺตนฺติ โน วีริยารมฺภาย, ทุพฺภรตาย สํวตฺตนฺติ โน สุภรตาย, เอกํเสน โคตมิ ธาเรยฺยาสิ ‘เนโส ธมฺโม, เนโส วินโย, เนตํ สตฺถุสาสน’นฺติ. เย จ โข ตฺวํ, โคตมิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ อิเม ธมฺมา วิราคาย สํวตฺตนฺติ โน สราคาย, วิสฺโคาย สํวตฺตนฺติ โน สฺโคาย, อปจยาย สํวตฺตนฺติ โน อาจยาย, อปฺปิจฺฉตาย สํวตฺตนฺติ โน มหิจฺฉตาย, สนฺตุฏฺิยา สํวตฺตนฺติ โน อสนฺตุฏฺิยา ปวิเวกาย สํวตฺตนฺติ โน สงฺคณิกาย, วีริยารมฺภาย สํวตฺตนฺติ โน โกสชฺชาย, สุภรตาย สํวตฺตนฺติ โน ทุพฺภรตาย, เอกํเสน โคตมิ ธาเรยฺยาสิ ‘เอโส ธมฺโม, เอโส วินโย, เอตํ สตฺถุสาสน’’’นฺติ (จูฬว. ๔๐๖).

ธมฺมตายนฺติปทสฺส อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาเท’’ติ วุตฺตํ. ปฏิจฺจสมุปฺปาโท หิ ิตาว สา ธาตุ ธมฺมฏฺิตตา ธมฺมนิยามตาติ (อ. นิ. ๓.๑๓๗) วุตฺโต. ‘‘ธมฺมตายํ อุปนิกฺขิปิตพฺพานี’’ติ อิทํ ปาฬิยํ นตฺถิ, อตฺถทสฺสนวเสน ปน อิธ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ ปวตฺตึ นิวตฺตึ ตทุปายฺจ พาธกาทิภาเว นิยตํ ปริทีเปนฺโต สุตฺเต โอตรติ นาม. เอกนฺเตน ราคาทิกิเลสวินยํ วทนฺโต วินเย สนฺทิสฺสติ นาม. ตถา สสฺสตํ อุจฺเฉทฺจ วชฺเชตฺวา เอกตฺตนยาทิปริทีปเนน สภาวธมฺมานํ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาวํ วิภาเวนฺโต ธมฺมตํ น วิโลเมติ นาม.

เอวํวิโธ จ กามาสวาทิกํ อาสวํ น อุปฺปาเทตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยทิ จตูสุ อริยสจฺเจสู’’ติอาทิมาห. นนุ จ อนุโลมโต ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ปวตฺติ, ปฏิโลมโต นิวตฺตีติ โส จตฺตาริ อริยสจฺจานิ อนุปวิฏฺโ กสฺมา อิธ วิสุํ คหิโตติ? สจฺจเมตํ. อิธ ปน วิสุํ คหณํ ธมฺมานํ ปจฺจยายตฺตวุตฺติทสฺสเนน อนิจฺจปจฺจยลกฺขณํ อสมตฺถปจฺจยลกฺขณํ นิรีหปจฺจยลกฺขณฺจ วิภาเวตฺวา เตสํ อุทยวนฺตตา ตโต เอว วยวนฺตตา ตทุภเยน อนิจฺจตา อุทยพฺพยปฏิปีฬเนน ทุกฺขตา อนตฺตตาติ ติลกฺขณสมาโยคปริทีปนี สพฺพทิฏฺิคตกุมติวิทฺธํสนี อนฺสาธารณา สาสนสมฺปตฺติ ปกาสิตา โหตีติ ทสฺสนตฺถํ.

เอตฺถ จ สุตฺตํ สุตฺตานุโลมํ อาจริยวาโท อตฺตโนมตีติ อิทํ จตุกฺกํ เวทิตพฺพํ – ตตฺถ สุตฺตํ นาม ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺหานิ ตีณิ ปิฏกานิ. สุตฺตานุโลมํ นาม มหาปเทสา, ยํ ‘‘อนุโลมกปฺปิย’’นฺติ วุจฺจติ. อาจริยวาโท นาม อฏฺกถา. อตฺตโนมติ นาม นยคฺคาเหน อนุพุทฺธิยา อตฺตโน ปฏิภานํ. ตตฺถ สุตฺตํ อปฺปฏิพาหิยํ, ตํ ปฏิพาหนฺเตน สตฺถาว ปฏิพาหิโต โหติ. อนุโลมกปฺปิยํ ปน สุตฺเตน สเมนฺตเมว คเหตพฺพํ, น อิตรํ. อาจริยวาโทปิ สุตฺเตน สเมนฺโต เอว คเหตพฺโพ, น อิตโร. ตถา อตฺตโนมติ, สา ปน สพฺพทุพฺพลาติ.

อิทานิ ยทตฺถํ อิธ จตฺตาโร มหาปเทสา อาภตา, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘จตูหิ มหาปเทเสหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยํ ยนฺติ ยํ ยํ อตฺถชาตฺจ ธมฺมชาตฺจ. ยุชฺชตีติ ยถาวุตฺเตหิ จตูหิ มหาปเทเสหิ ยุชฺชติ. เยน เยนาติ เยน เยน การเณน. ยถา ยถาติ เยน เยน ปกาเรน. ตํ ตํ คเหตพฺพนฺติ สํวณฺณิยมาเน สุตฺเต อาภเตน การเณน ปสงฺเคน ปกาเรน จ สุตฺตโต อุทฺธริตฺวา สํวณฺณนาวเสน คเหตพฺพนฺติ อตฺโถ. เตน จตุมหาปเทสาวิรุทฺธาย ยุตฺติยา สุตฺตโต อตฺเถ นิทฺธาเรตฺวา ยุตฺติหารโยชนา กาตพฺพาติ ทสฺเสติ.

๑๙. อิทานิ ตํ ยุตฺตินิทฺธารณํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฺหํ ปุจฺฉิเตนา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กติ ปทานีติ กิตฺตกานิ ปทานิ. ปริโยคาหิตพฺพนฺติ ปทสฺส อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิเจตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ยตฺตกานิ ปทานิ ยถาธิปฺเปตํ อตฺถํ อภิวทนฺติ, ตตฺตกานิ ปทานิ ตทตฺถสฺเสกสฺส าตุํ อิจฺฉิตตฺตา ‘‘เอโก ปฺโห’’ติ วุจฺจติ, ตานิ ปน เอกคาถายํ ยทิ วา สพฺพานิ ปทานิ ยาว ยทิ วา เอกํ ปทํ เอกํ อตฺถํ อภิวทติ, เอโกเยว โส ปฺโหติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘ยทิ สพฺพานี’’ติอาทินา. นฺติ ตํ ปฺหํ. อฺาตพฺพนฺติ อาชานิตพฺพํ. กึ อิเม ธมฺมาติอาทิ อาชานนาการทสฺสนํ. ตตฺถ ธมฺมาติ ปริยตฺติธมฺมา. นานตฺถาติ นานา อตฺถา.

ปุจฺฉาคาถายํ อยํ ปทตฺโถ – เกนสฺสุพฺภาหโต โลโกติ อยํ สตฺตโลโก โจโร วิย โจรฆาตเกน เกน อภิหโต วธียตีติ อตฺโถ. เกนสฺสุ ปริวาริโตติ มาลุวลตาย วิย นิสฺสิตรุกฺโข เกน โลโก อชฺโฌตฺถโฏ. เกน สลฺเลน โอติณฺโณติ เกน วิสปีตขุรปฺเปน วิย สรีรพฺภนฺตรนิมุคฺเคน สลฺเลน อนุปวิฏฺโ. กิสฺส ธูปายิโตติ กิสฺส เกน การเณน ธูปายิโต สนฺตาปิโต โลโก. สทาติ ปทํ สพฺพตฺถ โยเชตพฺพํ. เตติ จตฺตาริ ปทานิ. ปฺหสทฺทาเปกฺขาย ปุลฺลิงฺคนิทฺเทโส. ‘‘วิสฺสชฺเชตี’’ติ เอเตน วิสฺสชฺชนโต ตโย ปฺหาติ ายตีติ ทสฺเสติ.

๒๐. ตตฺถาติ วิสฺสชฺชนคาถายํ ทุติยปาเท วุตฺตา ชรา จ ปมปาเท วุตฺตํ มรณฺจาติ อิมานิ ทฺเว สงฺขตสฺส ปฺจกฺขนฺธสฺส ‘‘สงฺขโต’’ติ ลกฺขียติ เอเตหีติ สงฺขตลกฺขณานิ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, สงฺขตสฺส สงฺขตลกฺขณานิ. กตมานิ ตีณิ? อุปฺปาโท ปฺายติ, วโย ปฺายติ, ิตสฺส อฺถตฺตํ ปฺายตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๔๗; กถา. ๒๑๔). เตน วุตฺตํ – ‘‘ชรายํ ิตสฺส อฺถตฺตํ, มรณํ วโย’’ติ. เอตฺถ จ ‘‘ิตสฺส อฺถตฺต’’นฺติ เอเตน ขนฺธปฺปพนฺธสฺส ปุพฺพาปรวิเสโส อิธ ชรา, น ขณฏฺิตีติ ทสฺเสติ. ‘‘มรณํ วโย’’ติ อิมินา จ ‘‘ติสฺโส มโต, ผุสฺโส มโต’’ติ เอวํ โลเก วุตฺตํ สมฺมุติมรณํ ทสฺเสติ, น ขณิกมรณํ, สมุจฺเฉทมรณํ วา.

อิทานิ ‘‘เต ตโย ปฺหา’’ติ วุตฺตมตฺถํ ยุตฺติวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘ชราย จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เยภุยฺเยน ชิณฺณสฺส มรณทสฺสนโต ชรามรณานํ นานตฺตํ อสมฺปฏิจฺฉมานํ ปติ เตสํ นานตฺตทสฺสนตฺถํ ‘‘คพฺภคตาปิ หิ มียนฺตี’’ติ วุตฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถาธิปฺเปตชราวิรหิตสฺส มรณสฺส ทสฺสนโต อฺา ชรา อฺํ มรณนฺติ. เตเนวาห – ‘‘น จ เต ชิณฺณา ภวนฺตี’’ติ. กิฺจ ภิยฺโย? เกวลสฺส มรณสฺส ทิฏฺตฺตา อฺาว ชรา อฺํ มรณํ, ยถา ตํ เทวานนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘อตฺถิ จ เทวาน’’นฺติอาทินา. อนุตฺตริมนุสฺสธมฺเมน จ ติกิจฺฉเนน สกฺกา ชราย ปฏิการํ กาตุํ, น ตถา มรณสฺสาติ เอวมฺปิ ชรามรณานํ อตฺถโต นานตฺตํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘สกฺกเตวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สกฺกเตติ สกฺยเต, สกฺกาติ อตฺโถ. ปฏิกมฺมนฺติ ปฏิกรณํ. นนุ จ มรณสฺสาปิ ปฏิการํ กาตุํ สกฺกา อิทฺธิปาทภาวนาย วสิภาเว สตีติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห – ‘‘อฺตฺเรว อิทฺธิมนฺตานํ อิทฺธิวิสยา’’ติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘ยสฺส กสฺสจิ, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๖๖, ๑๘๒; สํ. นิ. ๕.๘๒๒; กถา. ๖๒๓; อุทา. ๕๑).

โก ปเนตฺถ กปฺโป, โก วา กปฺปาวเสโสติ? กปฺโปติ อายุกปฺโป, ยสฺมึ ตสฺมิฺหิ กาเล ยํ มนุสฺสานํ อายุปฺปมาณํ, ตํ ปริปุณฺณํ กโรนฺโต กปฺปํ ติฏฺติ นาม. ‘‘อปฺปํ วา ภิยฺโย’’ติ (ที. นิ. ๒.๗; อ. นิ. ๗.๗๔) วุตฺตํ ปน วสฺสสตาทิโต อติเรกํ ติฏฺนฺโต กปฺปาวเสสํ ติฏฺติ นาม. ยทิ เอวํ กสฺมา อิทฺธิมนฺโต เจโตวสิปฺปตฺตา ขีณาสวา โลกหิตตฺถํ ตถา น ติฏฺนฺตีติ? ขนฺธสงฺขาตสฺส ทุกฺขภารสฺส ปริฺาตตฺตา อนุสฺสุกฺกตาย จ. ปฏิปฺปสฺสทฺธสพฺพุสฺสุกฺกา หิ เต อุตฺตมปุริสาติ. วุตฺตฺเหตํ ธมฺมเสนาปตินา –

‘‘นาภินนฺทามิ มรณํ, นาภิกงฺขามิ ชีวิตํ;

กาลฺจ ปฏิกงฺขามิ, เวตนํ ภตโก ยถา’’ติ. (เถรคา. ๖๕๔; มิ. ป. ๒.๒.๔);

ยถา ชรามรณานํ อฺมฺํ อตฺถโต นานตฺตํ, เอวํ เตหิ ตณฺหาย จ นานตฺเต ทสฺสิเต ‘‘ตโย ปฺหา’’ติ อิทํ สิชฺฌตีติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ ปนา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ยสฺมา ตณฺหาย อภาเวปิ สติ ชรามรณํ ลพฺภติ ขีณาสวสนฺตาเน, ตสฺมา อฺํ ชรามรณํ อฺา ตณฺหาติ อิมมตฺถมาห ‘‘ทิสฺสนฺติ วีตราคา ชีรนฺตาปิ มียนฺตาปี’’ติ. นนุ จ ตณฺหาปิ ชีรณภิชฺชนสภาวาติ? สจฺจํ, น อิทํ ชรามรณํ อิธาธิปฺเปตนฺติ วุตฺโตวายมตฺโถ. ‘‘ยทิ จา’’ติอาทินา ชรามรณโต ตณฺหาย อนฺตฺเต โทสํ ทสฺเสติ. โยพฺพนฏฺาปิ วิคตตณฺหา สิยุํ, น อิทํ ยุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. ชรามรณมฺปิ สิยา ทุกฺขสฺส สมุทโย ตณฺหาย อนฺตฺเต สตีติ อธิปฺปาโย. น จ สิยา ตณฺหา ทุกฺขสฺส สมุทโย ชรามรณโต อนฺตฺเต สตีติ ภาโว. น หิ ชรามรณํ ทุกฺขสฺส สมุทโย, ตณฺหา ทุกฺขสฺส สมุทโย, ตสฺมา เวทิตพฺพํ เอเตสมตฺถโต นานตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. ยถา จ ตณฺหา มคฺควชฺฌา, เอวํ ชรามรณมฺปิ สิยา มคฺควชฺฌํ ตณฺหาย อนฺตฺเต สติ. ยถา จ ชรามรณํ น มคฺควชฺฌํ, ตถา ตณฺหาปิ สิยาติ อยมฺปิ นโย วุตฺโต เอวาติ ทฏฺพฺพํ. อิมาย ยุตฺติยาติ อิมาย ยถาวุตฺตาย อุปปตฺติยา. อฺมฺเหีติ อฺาหิ อฺาหิ การณูปปตฺตีหิ อตฺถโต เจ อฺตฺตํ, ตทฺมฺปิ พฺยฺชนโต คเวสิตพฺพนฺติ อตฺโถ.

อิเมสํ ธมฺมานํ อตฺถโต เอกตฺตนฺติ อิมเมวตฺถํ ‘‘น หิ ยุชฺชตี’’ติอาทินา วิวรติ. ตณฺหาย อธิปฺปาเย อปริปูรมาเนติ อิจฺฉิตาลาภมาห. เตน อิจฺฉาตณฺหานํ อตฺถโต เอกตฺตํ วุตฺตํ โหตีติ. เอเตน น หิ ยุชฺชติ อิจฺฉาย จ ตณฺหาย จ อตฺถโต อฺตฺตนฺติ. ยถา อิทํ วจนํ สมตฺถนํ โหติ, เอวํ อิจฺฉาวิปริยาเย อาฆาตวตฺถูสุ โกโธ จ อุปนาโห จ อุปฺปชฺชตีติ อิทมฺปิ สมตฺถนํ โหติ, น ตถา ชรามรณวิปริยาเยติ ชรามรณตณฺหานํ อตฺถโต อฺตฺตมฺปิ สมตฺถิตํ โหตีติ เอตมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘อิมาย ยุตฺติยา’’ติอาทินา.

ยทิ อิจฺฉาตณฺหานํ อตฺถโต อนฺตฺตํ, อถ กสฺมา ภควตา อิมิสฺสา คาถาย ทฺวิธา วุตฺตาติ? ตตฺถ ปริหารมาห ‘‘ยํ ปนิท’’นฺติอาทินา. ตตฺถ นฺติ กิริยาปรามสนํ. อภิลปิตนฺติ วุตฺตํ ยํ อิทํ อภิลปนํ, อิทํ พาหิรานํ รูปาทีนํ วตฺถูนํ อารมฺมณวเสน, อารมฺมณกรณวเสน วา โยเชตพฺพํ. ทฺวีหิ ธมฺเมหีติ ทฺวีหิ ปกตีหิ. กา ปน ตา ปกติโยติ? อปฺปตฺตสฺส วิสยสฺส เอสนวเสน อิจฺฉา, ปตฺตสฺส อปฺปตฺตสฺส วา ปาตุกามตาวเสน ตณฺหา, อยเมตาสํ วิเสโส. ยทิปิ เอวํ, ตถาปิ สพฺพา ตณฺหา รูปาทิวิสยํ คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา คหเณน เอกสภาวา เอวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สพฺพา หิ ตณฺหา อชฺโฌสานลกฺขเณน เอกลกฺขณา’’ติ อาห. อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาย ปกาเสนฺโต ‘‘สพฺโพ อคฺคี’’ติอาทิมาห, ตํ สุวิฺเยฺยเมว.

อยํ ปน น เกวลํ ตณฺหา อารมฺมเณ ปวตฺติวิเสเสน ทฺวีหิ เอว นาเมหิ วุตฺตา, อถ โข อเนเกหิปิ ปริยาเยหีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อิจฺฉาอิติปี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ อิจฺฉนฺติ ตาย อารมฺมณานีติ อิจฺฉา. ตณฺหายนฏฺเน ตณฺหา. ปีฬาชนนโต ทุรุทฺธารณโต จ วิสปีตํ สลฺลํ วิยาติ สลฺลํ. สนฺตาปนฏฺเน ธูปายนา. อากฑฺฒนฏฺเน สีฆโสตา สริตา วิยาติ สริตา, อลฺลฏฺเน วา สริตา, ‘‘สริตานิ สิเนหิตานิ จ, โสมนสฺสานิ ภวนฺติ ชนฺตุโน’’ติ (ธ. ป. ๓๔๑) หิ วุตฺตํ. อลฺลานิ เจว สินิทฺธานิ จาติ อยเมตฺถ อตฺโถ. วิสตฺติกาติ วิสตาติ วิสตฺติกา. วิสฏาติ วิสตฺติกา. วิสมาติ วิสตฺติกา. วิสาลาติ วิสตฺติกา. วิสกฺกตีติ วิสตฺติกา. วิสํวาทิกาติ วิสตฺติกา. วิสํหรตีติ วิสตฺติกา. วิสมูลาติ วิสตฺติกา. วิสผลาติ วิสตฺติกา. วิสปริโภคาติ วิสตฺติกา. วิสตา วา ปน สา ตณฺหา รูเป สทฺเท คนฺเธ รเส โผฏฺพฺเพ ธมฺเม กุเล คเณ วิสตา วิตฺถตาติ วิสตฺติกา.

สิเนหนวเสน สิเนโห. นานาคตีสุ กิลมถุปฺปาทเนน กิลมโถ. ปลิเวนฏฺเน ลตา วิยาติ ลตา. ‘‘ลตา อุปฺปชฺช ติฏฺตี’’ติ (ธ. ป. ๓๔๐) หิ วุตฺตํ. มมนฺติ มฺนวเสน มฺนา. ทูรคตมฺปิ อากฑฺฒิตฺวา พนฺธนฏฺเน พนฺโธ. อาสีสนฏฺเน อาสา. อารมฺมณรสํ ปาตุกามตาวเสน ปิปาสา. อภินนฺทนฏฺเน อภินนฺทนา. อิตีติ เอวํ อารมฺมเณ ปวตฺติวิเสเสน อเนเกหิ นาเมหิ คยฺหมานาปิ สพฺพา ตณฺหา อชฺโฌสานลกฺขเณน เอกลกฺขณาติ ยถาวุตฺตมตฺถํ นิคเมติ.

ปุน ตณฺหาย อเนเกหิ นาเมหิ คหิตภาวเมว ‘‘ยถา จา’’ติอาทินา อุปจเยน ทสฺเสติ. ตตฺถ เววจเนติ เววจนหารวิภงฺเค. ‘‘อาสา จ ปิหา’’ติ คาถาย (เนตฺติ. ๓๗; เปฏโก. ๑๑) อตฺถํ ตตฺเถว วณฺณยิสฺสาม. อวิคตราคสฺสาติอาทีสุ รฺชนฏฺเน ราโค, ฉนฺทนฏฺเน ฉนฺโท, ปิยายนฏฺเน เปมํ, ปริทหนฏฺเน ปริทาโหติ ตณฺหาว วุตฺตา. เตเนวาห – ‘‘ตณฺหาเยตํ เววจน’’นฺติ. เอวํ ยุชฺชตีติ เอวํ อิจฺฉาตณฺหานํ อตฺถโต อนฺตฺตา ‘‘ตโย ปฺหา’’ติ ยํ วุตฺตํ, ตํ ยุชฺชติ ยุตฺติยา สงฺคจฺฉตีติ อตฺโถ.

๒๑. เอวํ ‘‘เกนสฺสุพฺภาหโต โลโก’’ติ (สํ. นิ. ๑.๖๖) คาถาย ‘‘ตโย ปฺหา’’ติ ปฺหตฺตยภาเว ยุตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อฺเหิ ปกาเรหิ ยุตฺติคเวสนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สพฺโพ ทุกฺขูปจาโร’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ทุกฺขูปจาโรติ ทุกฺขปฺปวตฺติ. กามตณฺหาสงฺขารมูลโกติ กามตณฺหาปจฺจยสงฺขารเหตุโกติ ยุชฺชตีติ อธิปฺปาโย. นิพฺพิทูปจาโรติ นิพฺพิทาปวตฺติ กามานํ วิปริณามฺถาภาวา อุปฺปชฺชมานา อนภิรติ าณนิพฺพิทา จ. กามตณฺหาปริกฺขารมูลโกติ กามตณฺหาย ปริกฺขารภูตวตฺถุกามเหตุโก. ตตฺถ อนภิรติสงฺขาตา นิพฺพิทา กามตณฺหาปริกฺขารมูลิกา, น าณนิพฺพิทาติ สพฺโพ นิพฺพิทูปจาโร กามตณฺหาปริกฺขารมูลโกติ น ปน ยุชฺชตีติ วุตฺตํ. อิมาย ยุตฺติยาติ นยํ ทสฺเสติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา ปฺหตฺตยภาเว ยุตฺติ วุตฺตา, ยถา จ ทุกฺขูปจารนิพฺพิทูปจาเรสุ, เอวํ อิมาย ยุตฺติยา อิมินา โยเคน นเยน อฺมฺเหิ การเณหิ ตํตํปาฬิปฺปเทเส อนุรูเปหิ อฺถา อฺเหิ เหตูหิ ยุตฺติ คเวสิตพฺพาติ.

อิทานิ ตํ นยทสฺสนํ สํขิตฺตนฺติ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หิ ภควา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถายํ สงฺเขปตฺโถ – ราคโทสโมหจริตานํ ยถากฺกมํ อสุภเมตฺตาปจฺจยาการกถา ราคาทิวินยนโต สปฺปายาติ อยํ สาสนยุตฺติ. เอวมวฏฺิเต ยทิ ราคจริตสฺส เมตฺตาเจโตวิมุตฺตึ เทเสยฺย, สา เทสนา น ยุชฺชติ อสปฺปายภาวโต. ตถา สุขาปฏิปทาทโยติ. นนุ จ สุขาปฏิปทาทโย ปฏิปตฺติยา สมฺภวนฺติ, น เทสนายาติ? สจฺจเมตํ, อิธ ปน ราคจริโตติ ติพฺพกิเลโส ราคจริโตติ อธิปฺเปโต. ตสฺส ทุกฺขาย ปฏิปทาย ภาวนา สมิชฺฌติ. ยสฺส จ ทุกฺขาย ปฏิปทาย ภาวนา สมิชฺฌติ, ตสฺส ครุตรา อสุภเทสนา สปฺปายา, ยสฺส ครุตรา อสุภเทสนา สปฺปายา, น ตสฺส มนฺทกิเลสสฺส วิย ลหุกตราติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘สุขํ วา ปฏิปทํ…เป… เทเสยฺย น ยุชฺชติ เทสนา’’ติ. อิมินา นเยน เสสปเทสุปิ ยถาสมฺภวํ อตฺโถ วตฺตพฺโพ. เอตฺถ จ อยุตฺตปริหาเรน ยุตฺติสมธิคโมติ ยุตฺติวิจารณาย อยุตฺติปิ คเวสิตพฺพาติ วุตฺตํ – ‘‘ยทิ หิ…เป… น ยุชฺชติ เทสนา’’ติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. เอวํ ยํ กิฺจีติอาทิ ยุตฺติหารโยชนาย นยทสฺสนเมว.

ตตฺถ เอวนฺติ อิมินา นเยน. ยํ กิฺจีติ อฺมฺปิ ยํ กิฺจิ. อนุโลมปฺปหานนฺติ ปหานสฺส อนุรูปํ, ปหานสมตฺถนฺติ อตฺโถ. สุตฺเต อนวเสสานํ ปทตฺถานํ อนุปทวิจารณา วิจโย หาโร, วิจยหารสํวณฺณนาย นิทฺธาริเตสุ อตฺเถสุ ยุตฺติคเวสนํ สุกรนฺติ อาห – ‘‘สพฺพํ ตํ วิจเยน หาเรน วิจินิตฺวา ยุตฺติหาเรน โยเชตพฺพ’’นฺติ. ยาวติกา าณสฺส ภูมีติ สํวณฺเณนฺตสฺส อาจริยสฺส ยํ าณํ ยํ ปฏิภานํ, ตสฺส ยตฺตโก วิสโย, ตตฺตโก ยุตฺติหารวิจาโรติ อตฺโถ. ตํ กิสฺส เหตุ? อนนฺตนโย สมนฺตภทฺทโก วิมทฺทกฺขโม วิจิตฺตเทสโน จ สทฺธมฺโมติ.

เอวํ นยทสฺสนวเสเนว ยุตฺติหารโยชนา ทสฺสิตาติ ตํ พฺรหฺมวิหารผลสมาปตฺตินวานุปุพฺพสมาปตฺติวสิภาเวหิ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เมตฺตาวิหาริสฺส สโต’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เมตฺตาวิหาริสฺสาติ เมตฺตาวิหารลาภิโน. สโตติ สมานสฺส, ตถาภูตสฺสาติ อตฺโถ. พฺยาปาโทติ ปโทโส. จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสตีติ จิตฺตํ อภิภวิสฺสติ. ยสฺมา ปน กุสลากุสลานํ ธมฺมานํ อปุพฺพํ อจริมํ ปวตฺติ นาม นตฺถิ, ตสฺมา สมาปตฺติโต วุฏฺานสฺส อปรภาเคติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘สฺสตี’’ติ วุตฺตํ. น ยุชฺชติ เทสนาติ พฺยาปาทปฏิปกฺขตฺตา เมตฺตาย ตาทิสี กถา น ยุตฺตาติ อตฺโถ. พฺยาปาโท ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉตีติ ยุชฺชติ เทสนาติ ยถาวุตฺตการณโต เอว อยํ กถา ยุตฺตาติ. เสสวาเรสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อนุตฺตานํ เอว วณฺณยิสฺสาม.

อนิมิตฺตวิหาริสฺสาติ อนิจฺจานุปสฺสนามุเขน ปฏิลทฺธผลสมาปตฺติวิหารสฺส. นิมิตฺตานุสารีติ สงฺขารนิมิตฺตานุสารี. เตน เตเนวาติ นิจฺจาทีสุ ยํ ยํ ปหีนํ, เตน เตเนว นิมิตฺเตน. อสฺมีติ วิคตนฺติ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ทิฏฺิมานวเสน ยํ อสฺมีติ มฺิตํ, ตํ วิคตํ. ตเมวตฺถํ วิวรติ ‘‘อยมหมสฺมีติ น สมนุปสฺสามี’’ติ. วิจิกิจฺฉากถํกถาสลฺลนฺติ วินยกุกฺกุจฺจสฺสาปิ กถํ กถนฺติ ปวตฺติสพฺภาวโต วิจิกิจฺฉาปเทน วิเสสิตํ. น ยุชฺชติ เทสนาติ วิจิกิจฺฉาย ปหาเนกฏฺภาวโต น ยุตฺตายํ กถา.

ปมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺสาติ ปมชฺฌานสมงฺคิโน. กามราคพฺยาปาทา วิเสสาย สํวตฺตนฺตีติ น ยุชฺชตีติ ยสฺมา นีวรเณสุ อปฺปหีเนสุ ปมชฺฌานสฺส อุปจารมฺปิ น สมฺปชฺชติ, ปเคว ฌานํ, ตสฺมา กามราคพฺยาปาทา วิเสสาย ทุติยชฺฌานาย สํวตฺตนฺตีติ น ยุตฺตายํ กถา. ยถาลทฺธสฺส ปน ปมชฺฌานสฺส กามราคพฺยาปาทา ปริยุฏฺานปฺปตฺตา หานาย สํวตฺตนฺตีติ ยุชฺชติ เทสนา ยุตฺตา กถาติ, เอวํ สพฺพตฺถ โยเชตพฺพํ. อวิตกฺกสหคตา สฺามนสิการา นาม สห อุปจาเรน ทุติยชฺฌานธมฺมา, อารมฺมณกรณตฺโถ เหตฺถ สหคต-สทฺโท. หานายาติ ปมชฺฌานโต ปริหานาย. วิเสสายาติ ทุติยชฺฌานาย. อิมินา นเยน ตตฺถ ตตฺถ หานนฺติ, วิเสโสติ จ วุตฺตธมฺมา เวทิตพฺพา. วิตกฺกวิจารสหคตาติ ปมชฺฌานธมฺมา, กามาวจรธมฺมา เอว วา. อุเปกฺขาสุขสหคตาติ อุปจาเรน สทฺธึ ทุติยชฺฌานธมฺมา, ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา หิ อิธ อุเปกฺขาติ อธิปฺเปตา. ปีติสุขสหคตาติ สห อุปจาเรน ตติยชฺฌานธมฺมา. อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิสหคตาติ จตุตฺถชฺฌานธมฺมา.

สฺูปจาราติ ปฏุสฺากิจฺจํ กโรนฺตา เอว เย เกจิ จิตฺตุปฺปาทา, ‘‘อากิฺจฺายตนธมฺมา’’ติปิ วทนฺติ. สฺาเวทยิตนิโรธสหคตาติ ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามี’’ติ ตสฺส ปริกมฺมวเสน ปวตฺตธมฺมา. เต ปน ยสฺมา เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยํ ิเตเนว สกฺกา สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ, น ตโต ปริหีเนน, ตสฺมา เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา หานาย สํวตฺตนฺตีติ น ยุตฺตา กถา. วิเสสาย สํวตฺตนฺตีติ ปน ยุตฺตา กถาติ อาห – ‘‘หานาย…เป… เทสนา’’ติ. กลฺลตาปริจิตนฺติ สมตฺถภาเวน ปริจิตํ, ยถาวุตฺตสมาปตฺตีสุ วสิภาเวน ปริจิตนฺติ อตฺโถ. เตเนวาห – ‘‘อภินีหารํ ขมตี’’ติ. เสสํ สพฺพํ อุตฺตานเมว.

อปิ เจตฺถ อปฺปฏิกฺกูลสฺามุเขน กามจฺฉนฺโท วฺเจตีติ ยุชฺชติ. ปฏิกฺกูลสฺาปติรูปตาย พฺยาปาโท วฺเจตีติ ยุชฺชติ. สมาธิมุเขน ถินมิทฺธํ วฺเจตีติ ยุชฺชติ. วีริยารมฺภมุเขน อุทฺธจฺจํ วฺเจตีติ ยุชฺชติ. สิกฺขากามตามุเขน กุกฺกุจฺจํ วฺเจตีติ ยุชฺชติ. อุภยปกฺขสนฺตีรณมุเขน วิจิกิจฺฉา วฺเจตีติ ยุชฺชติ. อิฏฺานิฏฺสมุเปกฺขนมุเขน สมฺโมโห วฺเจตีติ ยุชฺชติ. อตฺตฺุตามุเขน อตฺตนิ อปริภวเน มาโน วฺเจตีติ ยุชฺชติ. วีมํสามุเขน เหตุปติรูปกปริคฺคเหน มิจฺฉาทิฏฺิ วฺเจตีติ ยุชฺชติ. วิรตฺตตาปติรูปเกน สตฺเตสุ อทยาปนฺนตา วฺเจตีติ ยุชฺชติ. อนุฺาตปฏิเสวนปติรูปตาย กามสุขลฺลิกานุโยโค วฺเจตีติ ยุชฺชติ. อาชีวปาริสุทฺธิปติรูปตาย อสํวิภาคสีลตา วฺเจตีติ ยุชฺชติ. สํวิภาคสีลตาปติรูปตาย มิจฺฉาชีโว วฺเจตีติ ยุชฺชติ. อสํสคฺควิหาริตาปติรูปตาย อสงฺคหสีลตา วฺเจตีติ ยุชฺชติ. สงฺคหสีลตาปติรูปตาย อนนุโลมิกสํสคฺโค วฺเจตีติ ยุชฺชติ. สจฺจวาทิตาปติรูปตาย ปิสุณวาจา วฺเจตีติ ยุชฺชติ. อปิสุณวาทิตาปติรูปตาย อนตฺถกามตา วฺเจตีติ ยุชฺชติ. ปิยวาทิตาปติรูปตาย จาฏุกมฺยตา วฺเจตีติ ยุชฺชติ. มิตภาณิตาปติรูปตาย อสมฺโมทนสีลตา วฺเจตีติ ยุชฺชติ. สมฺโมทนสีลตาปติรูปตาย มายา สาเยฺยฺจ วฺเจตีติ ยุชฺชติ. นิคฺคยฺหวาทิตาปติรูปตาย ผรุสวาจตา วฺเจตีติ ยุชฺชติ. ปาปครหิตาปติรูปตาย ปรวชฺชานุปสฺสิตา วฺเจตีติ ยุชฺชติ. กุลานุทฺธยตาปติรูปตาย กุลมจฺฉริยํ วฺเจตีติ ยุชฺชติ. อาวาสจิรฏฺิติกามตามุเขน อาวาสมจฺฉริยํ วฺเจตีติ ยุชฺชติ. ธมฺมปริพนฺธปริหรณมุเขน ธมฺมมจฺฉริยํ วฺเจตีติ ยุชฺชติ. ธมฺมเทสนาภิรติมุเขน ภสฺสารามตา วฺเจตีติ ยุชฺชติ. อผรุสวาจตาคณานุคฺคหกรณมุเขน สงฺคณิการามตา วฺเจตีติ ยุชฺชติ. ปุฺกามตาปติรูปตาย กมฺมารามตา วฺเจตีติ ยุชฺชติ. สํเวคปติรูเปน จิตฺตสนฺตาโป วฺเจตีติ ยุชฺชติ. สทฺธาลุตาปติรูปตาย อปริกฺขตา วฺเจตีติ ยุชฺชติ. วีมํสนาปติรูเปน อสฺสทฺธิยํ วฺเจตีติ ยุชฺชติ. อตฺตาธิปเตยฺยปติรูเปน ครูนํ อนุสาสนิยา อปฺปทกฺขิณคฺคาหิตา วฺเจตีติ ยุชฺชติ. ธมฺมาธิปเตยฺยปติรูเปน สพฺรหฺมจารีสุ อคารวํ วฺเจตีติ ยุชฺชติ. โลกาธิปเตยฺยปติรูเปน อตฺตนิ ธมฺเม จ ปริภโว วฺเจตีติ ยุชฺชติ. เมตฺตายนามุเขน ราโค วฺเจตีติ ยุชฺชติ. กรุณายนาปติรูเปน โสโก วฺเจตีติ ยุชฺชติ. มุทิตาวิหารปติรูเปน ปหาโส วฺเจตีติ ยุชฺชติ. อุเปกฺขาวิหารปติรูเปน กุสเลสุ ธมฺเมสุ นิกฺขิตฺตฉนฺทตา วฺเจตีติ ยุชฺชติ. เอวํ อาคมปติรูปกอธิคมปติรูปกาทีนมฺปิ ตถา ตถา วฺจนสภาโว ยุตฺติโต เวทิตพฺโพ. เอวํ อาคมานุสาเรน ยุตฺติคเวสนา กาตพฺพาติ.

ยุตฺติหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปทฏฺานหารวิภงฺควณฺณนา

๒๒. ตตฺถ กตโม ปทฏฺาโน หาโรติอาทิ ปทฏฺานหารวิภงฺโค. ตตฺถ ยสฺมา ‘‘อิทํ อิมสฺส ปทฏฺานํ, อิทํ อิมสฺส ปทฏฺาน’’นฺติ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ ปทฏฺานภูตธมฺมวิภาวนลกฺขโณ ปทฏฺาโน หาโร, ตสฺมา ปวตฺติยา มูลภูตํ อวิชฺชํ อาทึ กตฺวา สภาวธมฺมานํ ปทฏฺานํ อาสนฺนการณํ นิทฺธาเรนฺโต อวิชฺชาย สภาวํ นิทฺทิสติ ‘‘สพฺพธมฺมยาถาวอสมฺปฏิเวธลกฺขณา อวิชฺชา’’ติ. ตสฺสตฺโถ – สพฺเพสํ ธมฺมานํ อวิปรีตสภาโว น สมฺปฏิวิชฺฌียติ เอเตนาติ สพฺพธมฺมยาถาวอสมฺปฏิเวโธ. โส ลกฺขณํ เอติสฺสาติ สา ตถา วุตฺตา. เอเตน ธมฺมสภาวปฺปฏิจฺฉาทนลกฺขณา อวิชฺชาติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา สมฺมา ปฏิเวโธ สมฺปฏิเวโธ. ตสฺส ปฏิปกฺโข อสมฺปฏิเวโธ. กตฺถ ปน โส สมฺปฏิเวธสฺส ปฏิปกฺโขติ อาห – ‘‘สพฺพ…เป… ลกฺขณา’’ติ. ยสฺมา ปน อสุเภ สุภนฺติอาทิวิปลฺลาเส สติ ตตฺถ สมฺโมโห อุปรูปริ ชายติเยว น หายติ, ตสฺมา ‘‘ตสฺสา วิปลฺลาสา ปทฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ.

ปิยรูปํ สาตรูปนฺติ ปิยายิตพฺพชาติยํ อิฏฺชาติยฺจ ปทฏฺานํ. ‘‘ยํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๔๐๐; ม. นิ. ๑.๑๓๓; วิภ. ๒๐๓) หิ วุตฺตํ. อทินฺนาทานนฺติ อทินฺนาทานเจตนา. สา หิ เอกวารํ อุปฺปนฺนาปิ อนาทีนวทสฺสิตาย โลภสฺส อุปฺปตฺติการณํ โหตีติ ตสฺส ปทฏฺานํ วุตฺตํ. โทสสฺส ปาณาติปาโต ปทฏฺานํ, โมหสฺส มิจฺฉาปฏิปทา ปทฏฺานนฺติ เอตฺถาปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. วณฺณสณฺานพฺยฺชนคฺคหณลกฺขณาติ นิมิตฺตานุพฺยฺชนคฺคหณลกฺขณา. สุขสฺาย ผสฺสสฺส อุปคมนลกฺขณตา ผสฺสปจฺจยตาว วุตฺตา. ‘‘ผุฏฺโ สฺชานาตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๓) หิ วุตฺตํ. อสฺสาโทติ ตณฺหา. สงฺขตลกฺขณานิ อุปฺปาทวยฺถตฺตานิ. เยภุยฺเยน นิจฺจคฺคหณํ วิฺาณาธีนนฺติ นิจฺจสฺาย วิฺาณปทฏฺานตา วุตฺตา. ตถา หิ โส ภิกฺขุ ตํเยว วิฺาณํ สนฺธาวติ สํสรตีติ วิฺาณวิสยเมว อตฺตโน นิจฺจคฺคาหํ ปเวเทสิ. ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ ยทิ อนิจฺจตา ทุกฺขตา จ สุทิฏฺา, อตฺตสฺา สุขสฺา อนวกาสาติ อาห – ‘‘อนิจฺจสฺาทุกฺขสฺาอสมนุปสฺสนลกฺขณา อตฺตสฺา’’ติ. ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ, ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๕) หิ วุตฺตํ.

เยภุยฺเยน อตฺตาภินิเวโส อรูปธมฺเมสูติ อาห – ‘‘ตสฺสา นามกาโย ปทฏฺาน’’นฺติ. สพฺพํ เนยฺยนฺติ จตฺตาริ สจฺจานิ จตุสจฺจวินิมุตฺตสฺส เยฺยสฺส อภาวโต. จิตฺตวิกฺเขปปฏิสํหรณํ อุทฺธจฺจวิกฺขมฺภนํ. อสุภาติ อสุภานุปสฺสนา, ปฏิภาคนิมิตฺตภูตา อสุภา เอว วา, ตณฺหาปฏิปกฺขตฺตา สมถสฺส อสุภา ปทฏฺานนฺติ วุตฺตํ. อภิชฺฌาย ตนุกรณโต อทินฺนาทานาเวรมณี อโลภสฺส ปทฏฺานนฺติ วุตฺตา. ตถา พฺยาปาทสฺส ตนุกรณโต ปาณาติปาตาเวรมณี อโทสสฺส ปทฏฺานนฺติ วุตฺตา. วตฺถุอวิปฺปฏิปตฺติ วิสยสภาวปฏิเวโธ, สมฺมาปฏิปตฺติ สีลสมาธิสมฺปทานํ นิพฺพิทาาเณน อนภิรติาณเมว วา ตถา ปวตฺตํ. สพฺพาปิ เวทนา ทุกฺขทุกฺขตาทิภาวโต ทุกฺขนฺติ กตฺวา วุตฺตํ – ‘‘ทุกฺขสฺาย เวทนา ปทฏฺาน’’นฺติ. ธมฺมสฺาติ ธมฺมมตฺตนฺติ สฺา.

สตฺตานํ กาเย อวีตราคตา ปฺจนฺนํ อชฺฌตฺติกายตนานํ วเสน โหตีติ อาห – ‘‘ปฺจินฺทฺริยานิ รูปีนิ รูปราคสฺส ปทฏฺาน’’นฺติ. กาโย หิ อิธ รูปนฺติ อธิปฺเปโต. วิเสสโต ฌานนิสฺสยภูเต มนายตเน จ นิกนฺติ โหตีติ อาห – ‘‘ฉฏฺายตนํ ภวราคสฺส ปทฏฺาน’’นฺติ. เอทิสํ มา รูปํ นิพฺพตฺตตุ, มา เอทิสี เวทนาติ เอวํ ปวตฺตา รูปาทิอภินนฺทนา นิพฺพตฺตภวานุปสฺสิตา. าณทสฺสนสฺสาติ กมฺมสฺสกตฺาณทสฺสนสฺส. โยนิโสมนสิการวโต หิ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติ กมฺมสฺสกตฺาณสฺส การณํ โหติ, น อโยนิโส อุมฺมุชฺชนฺตสฺส. อิมสฺส จ อตฺถสฺส วิภาวนตฺถํ มหานารทกสฺสปชาตกํ (ชา. ๒.๒๒.๑๑๕๓ อาทโย), พฺรหฺมชาเล (ที. นิ. ๑.๓๘ อาทโย) เอกจฺจสสฺสตวาโท จ อุทาหริตพฺโพ. ‘‘โอกปฺปนลกฺขณา’’ติอาทินา สทฺธาปสาทานํ วิเสสํ ทสฺเสติ. โส ปน สทฺธายเยว อวตฺถาวิเสโส ทฏฺพฺโพ. ตตฺถ โอกปฺปนํ สทฺทหนวเสน อารมฺมณสฺส โอคาหณํ นิจฺฉโย. อนาวิลตา อสฺสทฺธิยาปคเมน จิตฺตสฺส อกาลุสฺสิยตา. อภิปตฺถิยนา สทฺทหนเมว. อเวจฺจปสาโท ปฺาสหิโต อายตนคโต อภิปฺปสาโท. อปิลาปนํ อสมฺโมโส นิมุชฺชิตฺวา วิย อารมฺมณสฺส โอคาหณํ วา, เอตฺถ จ สทฺธาทีนํ ปสาทสทฺธาสมฺมปฺปธานสติปฏฺานฌานงฺคานิ ยถากฺกมํ ปทฏฺานนฺติ วทนฺเตน อวตฺถาวิเสสวเสน ปทฏฺานภาโว วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ. สติสมาธีนํ วา กายาทโย สติปฏฺานาติ. วิตกฺกาทโย จ ฌานานีติ ปทฏฺานภาเวน วุตฺตา.

อสฺสาทมนสิกาโร สํโยชนีเยสุ ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิตา. ปุนพฺภววิโรหณาติ ปุนพฺภวาย วิโรหณา, ปุนพฺภวนิพฺพตฺตนารหตา วิปากธมฺมตาติ อตฺโถ. โอปปจฺจยิกนิพฺพตฺติลกฺขณนฺติ อุปปตฺติภวภาเวน นิพฺพตฺตนสภาวํ. นามกายรูปกายสงฺฆาตลกฺขณนฺติ อรูปรูปกายานํ สมูหิยภาวํ. อินฺทฺริยววตฺถานนฺติ จกฺขาทีนํ ฉนฺนํ อินฺทฺริยานํ ววตฺถิตภาโว. โอปปจฺจยิกนฺติ อุปปตฺติกฺขนฺธนิพฺพตฺตกํ. อุปธีติ อตฺตภาโว. อตฺตโน ปิยสฺส มรณํ จินฺเตนฺตสฺส พาลสฺส เยภุยฺเยน โสโก อุปฺปชฺชตีติ มรณํ โสกสฺส ปทฏฺานนฺติ วุตฺตํ. อุสฺสุกฺกํ เจตโส สนฺตาโป. โอทหนนฺติ อวทหนํ. อตฺตโน นิสฺสยสฺส สนฺตปนเมว ภวสฺสาติ วุตฺตํ ภวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิมานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ภวสฺส องฺคานิ ภวสงฺขาตานิ จ องฺคานิ ภวงฺคานิ. เตสุ กิเลสา ภวสฺส องฺคานิ. กมฺมวิปากวฏฺฏํ ภวสงฺขาตานิ องฺคานิ. สมคฺคานีติ สพฺพานิ. ขนฺธายตนาทีนํ อปราปรุปฺปตฺติสํสรณํ สํสาโร. ตสฺส ปุริมปุริมชาตินิปฺผนฺนํ กิเลสาทิวฏฺฏํ การณนฺติ อาห – ‘‘ภโว สํสารสฺส ปทฏฺาน’’นฺติ. สมฺปาปกเหตุภาวํ สนฺธาย ‘‘มคฺโค นิโรธสฺส ปทฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ.

กมฺมฏฺาโนคาหกสฺส โอตรณฏฺานตาย พหุสฺสุโต ติตฺถํ นาม, ตสฺส สมฺมาปยิรุปาสนา ติตฺถฺุตา. ธมฺมูปสฺหิตํ ปาโมชฺชํ ปีตํ นาม, สปฺปายธมฺมสฺสวเนน ตํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฏฺานสฺส พฺรูหนา ปีตฺุตา, ภาวนาย โถกมฺปิ ลยาปตฺติยา อุทฺธํปตฺติยา จ ชานนา ปตฺตฺุตา. อตฺตโน ปฺจหิ ปธานิยงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ชานนา อตฺตฺุตา, เตสุ ปุริมานํ ปุริมานํ ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส ปทฏฺานภาโว สุวิฺเยฺโย เอว. กตปุฺสฺเสว ปติรูปเทสวาโส สมฺภวติ, น อิตรสฺสาติ ‘‘ปุพฺเพกตปุฺตา ปติรูปเทสวาสสฺส ปทฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. ยถาภูตาณทสฺสนํ สห อธิฏฺาเนน ตรุณวิปสฺสนา. นิพฺพิทาติ พลววิปสฺสนา. วิราโคติ มคฺโค. วิมุตฺตีติ ผลํ. เอวนฺติ ยทิทํ ‘‘ตสฺสา วิปลฺลาสา ปทฏฺาน’’นฺติอาทินา อวิชฺชาทีนํ ปทฏฺานํ ทสฺสิตํ, อิมินา นเยน อถาปิ โย โกจิ อุปนิสฺสโย พลวปจฺจโยติ โย โกจิ อวเสสปจฺจโย, สพฺโพ โส ปทฏฺานํ การณนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘เอวํ ยา กาจิ อุปนิสา โยคโต จ ปจฺจยโต จา’’ติปิ ปนฺติ. ตตฺถ อุปนิสาติ การณํ, โยคโตติ ยุตฺติโต, ปจฺจยโตติ ปจฺจยภาวมตฺตโตติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมว.

ปทฏฺานหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ลกฺขณหารวิภงฺควณฺณนา

๒๓. ตตฺถ กตโม ลกฺขโณ หาโรติอาทิ ลกฺขณหารวิภงฺโค. ตตฺถ กึ ลกฺขยตีติ ลกฺขณหารสฺส วิสยํ ปุจฺฉติ. ‘‘เย ธมฺมา’’ติอาทินา ลกฺขณหารํ สงฺเขปโต ทสฺเสตฺวา ตํ อุทาหรเณหิ วิภชิตุํ ‘‘จกฺขุ’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ‘‘วธกฏฺเน เอกลกฺขณานี’’ติ อิมินา อนวฏฺิตภาวาทินาปิ เอกลกฺขณตา วุตฺตา เอวาติ ทฏฺพฺพํ.

เอวํ อายตนวเสน เอกลกฺขณตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ขนฺธาทิวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘อตีเต, ราธ, รูเป อนเปกฺโข โหตี’’ติอาทิ สุตฺตํ อาภตํ. ยมโกวาทสุตฺเต (สํ. นิ. ๓.๘๕) วธกฏฺเน เอกลกฺขณา วุตฺตาติ ตสฺมึ สุตฺเต ‘‘วธกํ รูปํ วธกํ รูปนฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาตี’’ติอาทินา อาคตตฺตา วุตฺตํ. อิตีติ เอวํ, อิมิสฺสํ คาถายํ กายคตาย สติยา วุตฺตาย สติ เวทนาคตา สติ จิตฺตคตา สติ ธมฺมคตา จ สติ วุตฺตา ภวติ สติปฏฺานภาเวน เอกลกฺขณตฺตาติ อธิปฺปาโย. ทิฏฺนฺติอาทีนํ อตฺถํ ปรโต วณฺณยิสฺสาม.

กาเย กายานุปสฺสี วิหราหีติ เอตฺถ กาเยติ รูปกาเย. รูปกาโย หิ อิธ องฺคปจฺจงฺคานํ เกสาทีนฺจ สมูหฏฺเน กาโยติ อธิปฺเปโต. ยถา จ สมูหฏฺเน, เอวํ กุจฺฉิตานํ อายฏฺเน. กุจฺฉิตานฺหิ ปรมเชคุจฺฉานํ โส อาโยติปิ กาโย, อาโยติ อุปฺปตฺติเทโส. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – อายนฺติ ตโตติ อาโย. เก อายนฺติ? กุจฺฉิตา เกสาทโย, อิติ กุจฺฉิตานํ อาโยติ กาโย.

กายานุปสฺสีติ กายํ อนุปสฺสนสีโล, กายํ วา อนุปสฺสมาโน. ‘‘กาเย’’ติ จ วตฺวา ปุน ‘‘กายานุปสฺสี’’ติ ทุติยํ กายคฺคหณํ อสมฺมิสฺสโต ววตฺถานฆนวินิพฺโภคาทิทสฺสนตฺถํ. เตน น กาเย เวทนานุปสฺสี จิตฺตธมฺมานุปสฺสี วา, อถ โข กายานุปสฺสี เอวาติ กายสงฺขาเต วตฺถุสฺมึ กายานุปสฺสนาการสฺเสว ทสฺสเนน อสมฺมิสฺสโต ววตฺถานํ ทสฺสิตํ โหติ. ตถา น กาเย องฺคปจฺจงฺควินิมุตฺตเอกธมฺมานุปสฺสี, นาปิ เกสโลมาทิวินิมุตฺตอิตฺถิปุริสานุปสฺสี.

โยปิ เจตฺถ เกสโลมาทิโก ภูตุปาทายสมูหสงฺขาโต กาโย, ตตฺถปิ น ภูตุปาทายวินิมุตฺตเอกธมฺมานุปสฺสี, อถ โข รถสมฺภารานุปสฺสโก วิย องฺคปจฺจงฺคสมูหานุปสฺสี, นคราวยวานุปสฺสโก วิย เกสโลมาทิสมูหานุปสฺสี, กทลิกฺขนฺธปตฺตวฏฺฏิวินิพฺภุชฺชโก วิย ริตฺตมุฏฺิวินิเวโก วิย จ ภูตุปาทายสมูหานุปสฺสี เอวาติ นานปฺปการโต สมูหวเสเนว กายสงฺขาตสฺส วตฺถุโน ทสฺสเนน ฆนวินิพฺโภโค ทสฺสิโต โหติ. น เหตฺถ ยถาวุตฺตสมูหวินิมุตฺโต กาโย วา อฺโ วา โกจิ ธมฺโม ทิสฺสติ, ยถาวุตฺตธมฺมสมูหมตฺเต เอว ปน ตถา ตถา สตฺตา มิจฺฉาภินิเวสํ กโรนฺติ. เตนาหุ โปราณา –

‘‘ยํ ปสฺสติ น ตํ ทิฏฺํ, ยํ ทิฏฺํ ตํ น ปสฺสติ;

อปสฺสํ พชฺฌเต มูฬฺโห, พชฺฌมาโน น มุจฺจตี’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๓; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๖; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๑.๑.๓๖; มหานิ. อฏฺ. ๓);

ฆนวินิพฺโภคาทิทสฺสนตฺถนฺติ อาทิสทฺเทน อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยฺหิ เอตสฺมึ กาเย กายานุปสฺสีเยว, น อฺธมฺมานุปสฺสี.

อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา อนุทกภูตายปิ มรีจิยา อุทกานุปสฺสิโน โหนฺติ, น เอวํ อนิจฺจทุกฺขานตฺตอสุภภูเต เอว อิมสฺมึ กาเย นิจฺจสุขอตฺตสุภภาวานุปสฺสี, อถ โข กายานุปสฺสี อนิจฺจทุกฺขอนตฺตอสุภาการสมูหานุปสฺสีติ อตฺโถ. อถ วา ยฺวายํ มหาสติปฏฺาเน (ที. นิ. ๒.๓๗๔ อาทโย) อสฺสาสปสฺสาสาทิจุณฺณิกชาตอฏฺิกปริโยสาโน กาโย วุตฺโต, โย จ ‘‘อิเธกจฺโจ ปถวีกายํ อนิจฺจโต อนุปสฺสติ, อาโปกายํ เตโชกายํ วาโยกายํ เกสกายํ…เป… อฏฺิมิฺชกาย’’นฺติ ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๓.๓๔ อาทโย) กาโย วุตฺโต, ตสฺส สพฺพสฺส อิมสฺมึเยว กาเย อนุปสฺสนโต กาเย กายานุปสฺสีติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

อถ วา กาเย อหนฺติ วา มมนฺติ วา คเหตพฺพสฺส กสฺสจิ อนนุปสฺสนโต, ตสฺส ปน เกสโลมาทิกสฺส นานาธมฺมสมูหสฺส อนุปสฺสนโต กาเย เกสาทิธมฺมสมูหสงฺขาเต กายานุปสฺสีติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อปิ จ ‘‘อิมสฺมึ กาเย อนิจฺจโต อนุปสฺสติ โน นิจฺจโต’’ติอาทินา อนุกฺกเมน ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๓.๓๔ อาทโย) อาคตนยสฺส สพฺพสฺเสว อนิจฺจลกฺขณาทิกสฺส อาการสมูหสงฺขาตสฺส กายสฺส อนุปสฺสนโต กาเย กายานุปสฺสีติ อตฺโถ.

วิหราหีติ วตฺตาหิ. อาตาปีติ ตีสุ ภเวสุ กิเลเส อาตาเปตีติ อาตาโป, โส อสฺส อตฺถีติ อาตาปี. สมฺปชาโนติ สมฺปชฺสงฺขาเตน าเณน สมนฺนาคโต. สติมาติ กายปริคฺคาหิกาย สติยา สมนฺนาคโต. อยํ ปน ยสฺมา สติยา อารมฺมณํ ปริคฺคเหตฺวา ปฺาย อนุปสฺสติ, น หิ สติวิรหิตา อนุปสฺสนา อตฺถิ, เตเนวาห – ‘‘สติฺจ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, สพฺพตฺถิกํ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔). อนาตาปิโน จ อนฺโต สงฺโกโจ อนฺตรายกโร โหติ, กมฺมฏฺานํ น สมฺปชฺชติ. ตสฺมา เยสํ ธมฺมานํ อานุภาเวน ตํ สมฺปชฺชติ, ตํ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อาตาปี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ วิเนยฺยาติ ตทงฺควินเยน วา วิกฺขมฺภนวินเยน วา วินยิตฺวา. โลเกติ ตสฺมึเยว กาเย. กาโย หิ อิธ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโกติ อธิปฺเปโต. อภิชฺฌาคฺคหเณน เจตฺถ กามจฺฉนฺโท, โทมนสฺสคฺคหเณน พฺยาปาโท คหิโตติ นีวรเณสุ พลวธมฺมทฺวยปฺปหานทสฺสเนน นีวรณปฺปหานํ วุตฺตนฺติ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานสฺส ปหานงฺคํ ทสฺสิตํ. ‘‘อาตาปี’’ติอาทินา ปน สมฺปโยคงฺคํ ทสฺสิตนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อาตาปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อภิชฺฌาโทมนสฺสานํ สมโถ อุชุปฏิปกฺโขติ อภิชฺฌาโทมนสฺสวินโย วุจฺจมาโน สมาธินฺทฺริยํ ทีเปตีติ อาห – ‘‘วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสนฺติ สมาธินฺทฺริย’’นฺติ (สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๓๖๗). เอกลกฺขณตฺตา จตุนฺนํ อินฺทฺริยานนฺติ ยถา วีริยปฺาสมาธินฺทฺริเยหิ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ อิชฺฌติ, เอวํ เวทนาจิตฺตธมฺมานุปสฺสนาสติปฏฺานานิปิ เตหิ อิชฺฌนฺตีติ จตุสติปฏฺานสาธเน อิเมสํ อินฺทฺริยานํ สภาวเภทาภาวโต สมานลกฺขณตฺตา อิตรานิ สติปฏฺานานิปิ วุตฺตานิ เอว โหนฺตีติ อตฺโถ.

๒๔. อิทานิ สติปฏฺาเนสุ คหิเตสุ สพฺเพสํ โพธิปกฺขิยธมฺมานํ คหิตภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘จตูสุ สติปฏฺาเนสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โพธงฺคมาติ โพธํ อริยมคฺคาณํ คจฺฉนฺตีติ โพธงฺคมา. ยถาวุตฺตสฺส โพธสฺส ปกฺเข ภวาติ โพธิปกฺขิยา. เนยฺยานิกลกฺขเณนาติ เอตฺถ นิมิตฺตโต ปวตฺตโต จ วุฏฺานํ นิยฺยานํ, นิยฺยาเน นิยุตฺตาติ เนยฺยานิกา, ยถา โทวาริโกติ. นิยฺยานสงฺขาตํ วา ผลํ อรหนฺตีติ เนยฺยานิกา. นิยฺยานํ ปโยชนํ เอเตสนฺติ วา เนยฺยานิกา. ‘‘นิยฺยานิกา’’ติปิ ปาโ, ตตฺถ นิยฺยานํ เอเตสํ อตฺถีติ นิยฺยานิกาติ อตฺโถ. ‘‘นิยฺยานิยา’’ติปิ ปาโ, ตสฺส นิยฺยนฺตีติ นิยฺยานิยาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. นิยฺยานิกลกฺขเณนาติ นิยฺยานิกสภาเวน.

เอวํ อกุสลาปิ ธมฺมาติ ยถา กุสลา ธมฺมา เอกลกฺขณภาเวน นิทฺธาริตา, เอวํ อกุสลาปิ ธมฺมา เอกลกฺขณฏฺเน นิทฺธาเรตพฺพา. กถํ? ปหาเนกฏฺตาวเสนาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺตี’’ติ อาห. อิทานิ ตํ ปหานํ ทสฺเสตุํ ‘‘จตูสุ สติปฏฺาเนสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กายานุปสฺสนาทีสุ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ ภาวิยมาเนสุ อสุเภ สุภนฺติอาทโย จตฺตาโร วิปลฺลาสา ปหียนฺติ, กพฬีการาหาราทโย จตฺตาโร อาหารา จสฺส ปริฺํ คจฺฉนฺติ, เตสํ ปริชานนสฺส ปริพนฺธิโน กามราคาทโย พฺยนฺตีกตา โหนฺตีติ อตฺโถ, กสฺมา? เตหิ ปหาตพฺพภาเวน เอกลกฺขณตฺตาติ. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ โยเชตพฺโพ. เตเนวาห – ‘‘เอวํ อกุสลาปิ ธมฺมา เอกลกฺขณตฺตา ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺตี’’ติ.

อิทานิ อฺเนปิ ปริยาเยน ลกฺขณหารสฺส อุทาหรณานิ ทสฺเสตุํ ‘‘ยตฺถ วา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยตฺถาติ ยสฺสํ เทสนายํ. วา-สทฺโท วิกปฺปตฺโถ. ปนาติ ปทปูรโณ. รูปินฺทฺริยนฺติ รุปฺปนสภาวํ อฏฺวิธํ อินฺทฺริยํ. ตตฺถาติ ตสฺสํ เทสนายํ. รูปธาตูติ รุปฺปนสภาวา ทส ธาตุโย. รูปายตนนฺติ รุปฺปนสภาวํ ทสายตนํ, รูปีนิ ทสายตนานีติ อตฺโถ. รุปฺปนลกฺขเณน เอกลกฺขณตฺตา อิมานิ เทสิตานีติ อธิปฺปาโย. เทสิตํ ตตฺถ สุขินฺทฺริยํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ สุขเวทนาภาเวน เอกลกฺขณตฺตาติ อธิปฺปาโย.

ทุกฺขสมุทโย จ อริยสจฺจนฺติ อิทํ อกุสลสฺส โสมนสฺสสฺส วเสน วุตฺตํ, สาสวกุสลสฺสาปิ วเสน ยุชฺชติ เอว. สพฺโพ จ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท เทสิโตติ สมฺพนฺโธ. อวิชฺชานุสยิตตฺตา อทุกฺขมสุขาย เวทนาย. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชานุสโย อนุเสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕). ตถา จ วุตฺตํ ‘‘อทุกฺขมสุขาย หิ เวทนาย อวิชฺชา อนุเสตี’’ติ. เอเตน อทุกฺขมสุขาเวทนาคฺคหเณน อวิชฺชา คหิตาติ ทสฺเสติ. สติ จ อวิชฺชาคฺคหเณ สพฺโพ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท เทสิโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทิ วุตฺตํ. โส จาติ เอตฺถ -สทฺโท พฺยติเรกตฺโถ, เตน โส ปฏิจฺจสมุปฺปาโท อนุโลมปฏิโลมวเสน ทุวิโธติ อิมํ วกฺขมานวิเสสํ โชเตติ. เตสุ อนุโลมโต ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ยถาทสฺสิโต สราคสโทสสโมหสํกิเลสปกฺเขน หาตพฺโพติ วุตฺโต, ปฏิโลมโต ปน ปฏิจฺจสมุปฺปาโท โย ‘‘อวิชฺชายตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา’’ติอาทินา ปาฬิยํ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; มหาว. ๑) วุตฺโต, ตํ สนฺธาย ‘‘วีตราควีตโทสวีตโมหอริยธมฺเมหิ หาตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ.

อิทานิ เอกลกฺขณตาวิภาวเนน ลกฺขณหารโยชนาย นยํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ เย ธมฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กิจฺจโตติ ปถวีอาทีนํ ผสฺสาทีนฺจ รูปารูปธมฺมานํ สนฺธารณสงฺฆฏฺฏนาทิกิจฺจโต, เตสํ เตสํ วา ปจฺจยธมฺมานํ ตํตํปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมสฺส ปจฺจยภาวสงฺขาตกิจฺจโต. ลกฺขณโตติ กกฺขฬผุสนาทิสภาวโต. สามฺโตติ รุปฺปนนมนาทิโต อนิจฺจตาทิโต ขนฺธายตนาทิโต จ. จุตูปปาตโตติ สงฺขตธมฺมานํ ภงฺคโต อุปฺปาทโต จ, สมานนิโรธโต สมานุปฺปาทโต จาติ อตฺโถ. เอตฺถ จ สหจรณํ สมานเหตุตา สมานผลตา สมานภูมิตา สมานวิสยตา สมานารมฺมณตาติ เอวมาทโยปิ -สทฺเทน สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพํ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.

ลกฺขณหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. จตุพฺยูหหารวิภงฺควณฺณนา

๒๕. ตตฺถ กตโม จตุพฺยูโห หาโรติ จตุพฺยูหหารวิภงฺโค. ตตฺถ พฺยฺชเนน สุตฺตสฺส เนรุตฺตฺจ อธิปฺปาโย จ นิทานฺจ ปุพฺพาปรสนฺธิ จ คเวสิตพฺโพติ สงฺเขเปน ตาว จตุพฺยูหํ ทสฺเสติ. ‘‘พฺยฺชเนนา’’ติ อิมินา หารานํ สุตฺตสฺส พฺยฺชนวิจยภาวโต พฺยฺชนมุเขเนว เอเต จตุพฺยูหหารปทตฺถา นิทฺธาเรตพฺพาติ ทสฺเสติ. เนรุตฺตนฺติ นิรุตฺตํ นิพฺพจนนฺติ อตฺโถ. นิรุตฺตเมว เนรุตฺตํ. เตเนวาห – ‘‘ยา นิรุตฺติปทสํหิตา’’ติ. ตสฺสตฺโถ – ยา นิรุตฺติ, อิทํ เนรุตฺตํ. กา ปน สา นิรุตฺติ? ปทสํหิตาติ ปเทสุ สํหิตา ยุตฺตา, ลิงฺควจนกาลสาธนปุริสาทิวิเสสโยเคน โย โย อตฺโถ ยถา ยถา วตฺตพฺโพ, ตถา ตถา ปวตฺตสภาวนิรุตฺตีติ อตฺโถ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ยํ ธมฺมานํ นามโส าณ’’นฺติ.

ตตฺถ นฺติ เหตุอตฺเถ นิปาโต, ยาย การณภูตายาติ อตฺโถ. ธมฺมานนฺติ เยฺยธมฺมานํ. นามโสติ ปถวี ผสฺโส ขนฺธา ธาตุ ติสฺโส ผุสฺโสติ เอวมาทินามวิเสเสน าณํ ปวตฺตติ, อยํ สภาวนิรุตฺติ นาม. ปถวีติ หิ เอวมาทิกํ สทฺทํ คเหตฺวา ตโต ปรํ สงฺเกตทฺวาเรน ตทตฺถปฏิปตฺติ ตํตํอนิยตนามปฺตฺติคฺคหณวเสเนว โหตีติ. อถ วา ปทสํหิตาติ ปเทน สํหิตา. ปทโต หิ ปทตฺถาวโพโธ. โส ปนสฺส อตฺเถ ปวตฺตินิมิตฺตภูตาย ปฺตฺติยา คหิตาย เอว โหตีติ สา ปน ปฺตฺติ นิรุตฺติสงฺขาตปเทน สํหิตา ปทตฺถํ โพเธตีติ ปทสํหิตาติ วุตฺตา. ‘‘ยทา หิ ภิกฺขู’’ติอาทินา ‘‘ธมฺมานํ นามโส าณ’’นฺติ ปทสฺส อตฺถํ วิวรติ.

ตตฺถ อตฺถสฺสาติ สทฺทาภิเธยฺยสฺส อตฺถสฺส. นามํ ชานาตีติ นามปฺตฺติวเสน อยํ นามาติ นามํ ชานาติ. ธมฺมสฺสาติ สภาวธมฺมสฺส. ตถา ตถา นํ อภินิโรเปตีติ โย โย อตฺโถ ธมฺโม จ ยถา ยถา จ โวหริตพฺโพ, ตถา ตถา นํ นามํ โวหารํ อภินิโรเปติ เทเสตีติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา จ อยํ ภิกฺขุ อตฺถกุสโล ยาว อเนกาธิวจนกุสโลติ วุจฺจตีติ สมฺพนฺธิตพฺพํ.

ตตฺถ อตฺถกุสโลติ ปาฬิอตฺเถ กุสโล. ธมฺมกุสโลติ ปาฬิยํ กุสโล. พฺยฺชนกุสโลติ อกฺขเรสุ จ วากฺเยสุ จ กุสโล. นิรุตฺติกุสโลติ นิพฺพจเน กุสโล. ปุพฺพาปรกุสโลติ เทสนาย ปุพฺพาปรกุสโล. เทสนากุสโลติ ธมฺมสฺส เทสนาย กุสโล. อตีตาธิวจนกุสโลติ อตีตปฺตฺติกุสโล. เอส นโย เสเสสุปิ. เอวํ สพฺพานิ กาตพฺพานิ, ชนปทนิรุตฺตานีติ ยตฺตกานิ สตฺตโวหารปทานิ, ตานิ สพฺพานิ ยถาสมฺภวํ สุตฺเต นิพฺพจนวเสน กาตพฺพานิ วตฺตพฺพานีติ อตฺโถ. สพฺพา จ ชนปทนิรุตฺติโยติ สพฺพา จ โลกสมฺาโย ยถารหํ กาตพฺพา. ‘‘สมฺํ นาติธาเวยฺยา’’ติ หิ วุตฺตํ. ตถา หิ สมฺมุติสจฺจมุเขเนว ปรมตฺถสจฺจาธิคโม โหตีติ.

๒๖. อธิปฺปายกณฺเฑ อนุตฺตานํ นาม นตฺถิ.

๒๗. นิทานกณฺเฑ อิมินา วตฺถุนาติ อิมินา ปุตฺตควาทิกิตฺตนสงฺขาเตน การเณน. การณฺเหตฺถ วตฺถุ นิทานนฺติ จ วุตฺตํ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ นิทานนิทฺธารณํ เวทิตพฺพํ.

กามนฺธาติ กิเลสกาเมน อนฺธา. ชาลสฺฉนฺนาติ ตณฺหาชาลปลิคุณฺิตา. ตณฺหาฉทนฉาทิตาติ ตณฺหาสงฺขาเตน อนฺธกาเรน ปิหิตา. พนฺธนาพทฺธาติ กามคุณสงฺขาเตน พนฺธเนน พทฺธา. ‘‘ปมตฺตพนฺธนา’’ติปิ ปาโ, ปมาเทนาติ อตฺโถ. ปุพฺพาปเรนาติ ปุพฺเพน วา อปเรน วา เทสนนฺตเรนาติ อธิปฺปาโย. ยุชฺชตีติ โยคํ อุเปติ, สเมตีติ อตฺโถ. อิเมหิ ปเทหิ ปริยุฏฺาเนหีติ อิเมหิ ยถาวุตฺเตหิ คาถาปเทหิ ตณฺหาปริยุฏฺานทีปเกหิ. สาเยว ตณฺหาติ ยา ปุริมคาถาย วุตฺตา, สาเยว ตณฺหา. ‘‘ยฺจาหา’’ติอาทินา ทฺวินฺนมฺปิ คาถานํ อตฺถสํสนฺทเนน ปุพฺพาปรํ วิภาเวติ. ปโยเคนาติ สมุทาจาเรน. ตสฺมาติ ยตฺถ สยํ อุปฺปนฺนา, ตํ สนฺตานํ นิสฺสริตุํ อเทนฺตี นานารมฺมเณหิ ปโลภยมานา กิเลเสหิ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺติ. ตสฺมา กิเลสวเสน จ ปริยุฏฺานวเสน จ ตณฺหาพนฺธนํ วุตฺตา.

ปปฺเจนฺติ สํสาเร จิรํ เปนฺตีติ ปปฺจา. ติฏฺนฺติ เอตาหีติ ิตี. พนฺธนฏฺเน สนฺทานํ วิยาติ สนฺทานํ. นิพฺพานนครปฺปเวสสฺส ปฏิเสธนโต ปลิฆํ วิยาติ ปลิฆํ. อนวเสสตณฺหาปหาเนน นิตฺตณฺโห. อตฺตหิตปรหิตานํ อิธโลกปรโลกานฺจ มุนนโต มุนีติ เอวํ คาถาย ปทตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปปฺจาทิอตฺถา ปน ปาฬิยํ วิภตฺตา เอวาติ. ตตฺถ ยสฺเสเต ปปฺจาทโย อพฺภตฺถํ คตา, ตสฺส ตณฺหาย เลโสปิ น ภวติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘โย เอตํ สพฺพํ สมติกฺกนฺโต, อยํ วุจฺจติ นิตฺตณฺโห’’ติ.

๒๘. ปริยุฏฺานนฺติ ‘‘ตณฺหาย ปริยุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตานิ ตณฺหาวิจริตานิ. สงฺขาราติ ‘‘ตทภิสงฺขตา สงฺขารา’’ติ วุตฺตา ตณฺหาทิฏฺิมานเหตุกา สงฺขารา. เต ปน ยสฺมา สตฺตสุ ชวนเจตนาสุ ปมเจตนา สติ ปจฺจยสมวาเย อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ผลํ เทติ. ปจฺฉิมเจตนา อนนฺตเร อตฺตภาเว. อุภินฺนํ เวมชฺฌเจตนา ยตฺถ กตฺถจิ ผลํ เทติ, ตสฺมา วิปจฺจโนกาสวเสน วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ทิฏฺธมฺมเวทนียา วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ตํตํเจตนาสมฺปยุตฺตา ตณฺหาปิ เจตนา วิย ทิฏฺธมฺมเวทนียาทิวเสน ติธา โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘เอวํ ตณฺหา ติวิธํ ผลํ เทตี’’ติ. ปุพฺพาปเรน ยุชฺชตีติ ยํ ปุพฺพํ ปุริมํ สงฺขารานํ ทิฏฺธมฺมเวทนียตาทิวจนํ วุตฺตํ, ตํ อิมินา อปเรน กมฺมสฺส ทิฏฺธมฺมเวทนียตาทิวจเนน ยุชฺชติ คงฺโคทกํ วิย ยมุโนทเกน สํสนฺทติ สเมตีติ อตฺโถ.

สงฺขารา ทสฺสนพเลนาติ จตูสุ ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺเตสุ วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺเต จาติ ปฺจสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ สงฺขารา ปมมคฺคปฺาพเลน. ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานิ ภาวนาพเลนาติ ปมมคฺเคน ปหีนาวเสสวเสน วุตฺตํ, น สพฺเพสํ วเสน.

อนุพนฺโธติ ตณฺหาทีนํ อนุปฺปพนฺเธน ปวตฺติ. โย จาปิ ปปฺโจติอาทินา ‘‘ปปฺเจตี’’ติอาทินา วุตฺตํ ราธสุตฺตฺจสํสนฺทติ. เตเนวาห – ‘‘อิทํ เอกตฺถ’’นฺติ. ยทิปิ อตฺถโต เอกํ, เทสนาย ปน วิเสโส วิชฺชตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอวนฺติ อิมินา วุตฺตปฺปกาเรน. สุตฺเตนาติ สํวณฺณิยมาเนน สุตฺเตน. สุตฺตนฺติ สุตฺตนฺตรํ. สํสนฺทยิตฺวาติ วิมิสฺสิตฺวา อตฺถโต อภินฺนํ กตฺวา. ปุพฺพาปเรน สทฺธึ โยชยิตฺวาติ ปุพฺเพน วา อปเรน วา สุตฺเตน สทฺธึ อตฺถโต สมฺพนฺธํ โยเชตฺวา. วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏํ กโรติ เตน สุตฺตสฺส อตฺโถ นิทฺทิฏฺโ โหติ วิตฺถาริโต สุตฺตนฺตรทสฺสเนน.

น เกวลํ สุตฺตนฺตรสํสนฺทนเมว ปุพฺพาปรสนฺธิ, อถ โข อฺโปิ อตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘โส จาย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อตฺถสนฺธีติ กิริยาการกาทิวเสน อตฺถสฺส สมฺพนฺโธ. โส ปน ยสฺมา สงฺกาสนาทีนํ ฉนฺนํ อตฺถปทานํเยว โหติ, สพฺพสฺสาปิ ปทตฺถสฺส ตทวโรธโต.

สมฺพนฺโธ จ นาม น โกจิ อตฺโถ. ตสฺมา ‘‘อตฺถสนฺธิ ฉปฺปทานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. พฺยฺชนสนฺธีติ ปทสฺส ปทนฺตเรน สมฺพนฺโธ. ยสฺมา ปน สพฺพมฺปิ นามาทิปทํ ฉหิ พฺยฺชนปเทหิ อสงฺคหิตํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘พฺยฺชนสนฺธิ ฉปฺปทานี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

เทสนาสนฺธีติ ยถาวุตฺตเทสนนฺตเรน เทสนาย สํสนฺทนํ. น จ ปถวึ นิสฺสายาติ ปถวึ วิสยสงฺขาตํ นิสฺสยํ กตฺวา, ปถวึ อาลมฺพิตฺวาติ อตฺโถ. ฌายีติ ผลสมาปตฺติฌาเนน ฌายี. โส หิ สพฺพสงฺขารนิสฺสฏํ นิพฺพานํ อาลมฺพิตฺวา สมาปชฺชนวเสน ฌายติ, น ปถวึ นิสฺสาย ฌายตีติ วุตฺโต. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ จตูหิ มหาภูเตหิ รูปปฺปฏิพทฺธวุตฺติตาย สพฺโพ กามภโว รูปภโว จ คหิตา. อรูปภโว ปน สรูเปเนว คหิโตติ สพฺพํ โลกํ ปริยาทิยิตฺวา ปุน อฺเนปิ ปริยาเยน ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘น จ อิมํ โลก’’นฺติอาทิมาห. สพฺโพ หิ โลโก อิธโลโก ปรโลโก จาติ ทฺเวว โกฏฺาสา โหนฺติ. ยสฺมา ปน ‘‘อิธโลโก’’ติ วิเสสโต ทิฏฺธมฺมภูโต สตฺตสนฺตาโน วุจฺจติ. ‘‘ปรโลโก’’ติ ภวนฺตรสงฺเขปคโต สตฺตสนฺตาโน ตทุภยวินิมุตฺโต อนินฺทฺริยพทฺโธ รูปสนฺตาโน. ตสฺมา ตํ สนฺธาย ‘‘ยมิทํ อุภยมนฺตเรนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

เย ปน ‘‘อุภยมนฺตเรนา’’ติ วจนํ คเหตฺวา อนฺตราภวํ อิจฺฉนฺติ, เตสํ ตํ มิจฺฉา. อนฺตราภโว หิ อภิธมฺเม ปฏิกฺขิตฺโตติ. ทิฏฺนฺติ รูปายตนํ. สุตนฺติ สทฺทายตนํ. มุตนฺติ ปตฺวา คเหตพฺพโต คนฺธายตนํ รสายตนํ โผฏฺพฺพายตนฺจ. วิฺาตนฺติ อวสิฏฺํ ธมฺมารมฺมณปริยาปนฺนรูปํ. ปตฺตนฺติ ปริเยสิตฺวา วา อปริเยสิตฺวา วา ปตฺตํ. ปริเยสิตนฺติ ปตฺตํ วา อปฺปตฺตํ วา ปริเยสิตํ. วิตกฺกิตํ วิจาริตนฺติ วิตกฺกนวเสน อนุมชฺชนวเสน จ อาลมฺพิตํ. มนสานุจินฺติตนฺติ จิตฺเตน อนุ อนุ จินฺติตํ. อยํ สเทวเก…เป… อนิสฺสิเตน จิตฺเตน น ายติ ฌายนฺโตติ อยํ ขีณาสโว ผลสมาปตฺติฌาเนน ฌายนฺโต ปุพฺเพว ตณฺหาทิฏฺินิสฺสยานํ สุฏฺุ ปหีนตฺตา สเทวเก โลเก…เป… มนุสฺสาย ยตฺถ กตฺถจิปิ อนิสฺสิเตน จิตฺเตน ฌายติ นาม. ตโต เอว โลเก เกนจิปิ น ายติ ‘‘อยํ อิทํ นาม นิสฺสาย ฌายตี’’ติ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;

ยสฺส เต นาภิชานาม, กึ ตฺวํ นิสฺสาย ฌายสี’’ติ. (เนตฺติ. ๑๐๔);

อิทานิ ขีณาสวจิตฺตสฺส กตฺถจิปิ อนิสฺสิตภาวํ โคธิกสุตฺเตน (สํ. นิ. ๑.๑๕๙) วกฺกลิสุตฺเตน (สํ. นิ. ๓.๘๗) จ วิภาเวตุํ ‘‘ยถา มาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิฺาณํ สมนฺเวสนฺโตติ ปรินิพฺพานโต อุทฺธํ วิฺาณํ ปริเยสนฺโต. ‘‘ปปฺจาตีโต’’ติอาทินา อทสฺสนสฺส การณมาห. อนิสฺสิตจิตฺตา น ายนฺติ ฌายมานาติ น เกวลํ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ขีณาสวสฺส จิตฺตคตึ มาราทโย น ชานนฺติ, อปิ จ โข สอุปาทิเสสายปิ นิพฺพานธาตุยา ตสฺส ตํ น ชานนฺตีติ อตฺโถ. อยํ เทสนาสนฺธีติ โคธิกสุตฺตวกฺกลิสุตฺตานํ วิย สุตฺตนฺตานํ อฺมฺอตฺถสํสนฺทนา เทสนาสนฺธิ นาม.

นิทฺเทสสนฺธีติ นิทฺเทสสฺส สนฺธิ นิทฺเทสสนฺธิ, นิทฺเทเสน วา สนฺธิ นิทฺเทสสนฺธิ. ปุริเมน สุตฺตสฺส นิทฺเทเสน ตสฺเสว ปจฺฉิมสฺส นิทฺเทสสฺส, ปจฺฉิเมน วา ปุริมสฺส สมฺพนฺธนนฺติ อตฺโถ. ตํ ทสฺเสตุํ ยสฺมา ภควา เยภุยฺเยน ปมํ วฏฺฏํ ทสฺเสตฺวา ปจฺฉา วิวฏฺฏํ ทสฺเสติ, ตสฺมา ‘‘นิสฺสิตจิตฺตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นิสฺสิตํ จิตฺตํ เอเตสนฺติ นิสฺสิตจิตฺตา, ปุคฺคลา, นิทฺทิสิตพฺพา ปุคฺคลาธิฏฺานาย เทสนายาติ อธิปฺปาโย. ธมฺมาธิฏฺานาย ปน นิสฺสิตํ จิตฺตํ เอตฺถาติ นิสฺสิตจิตฺตา, นิสฺสิตจิตฺตวนฺโต ตณฺหาทิฏฺินิสฺสยวเสน ปวตฺตา สุตฺตปเทสา. เสสเมตฺถ สพฺพํ ปากฏเมว.

จตุพฺยูหหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อาวฏฺฏหารวิภงฺควณฺณนา

๒๙. ตตฺถ กตโม อาวฏฺโฏ หาโรติ อาวฏฺฏหารวิภงฺโค. ตตฺถ อารมฺภถาติ อารมฺภธาตุสงฺขาตํ วีริยํ กโรถ. นิกฺกมถาติ โกสชฺชปกฺขโต นิกฺขนฺตตฺตา นิกฺกมธาตุสงฺขาตํ ตทุตฺตริวีริยํ กโรถ. ยุฺชถ พุทฺธสาสเนติ ยสฺมา สีลสํวโร อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา โภชเน มตฺตฺุตา สติสมฺปชฺนฺติ อิเมสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺิตานํ ชาคริยานุโยควเสน อารมฺภนิกฺกมธาตุโย สมฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา ตถาภูตสมถวิปสฺสนาสงฺขาเต ภควโต สาสเน ยุตฺตปฺปยุตฺตา โหถ. ธุนาถ มจฺจุโน เสนํ, นฬาคารํว กุฺชโรติ เอวํ ปฏิปชฺชนฺตา จ เตธาตุอิสฺสรสฺส มจฺจุราชสฺส วสํ สตฺเต เนตีติ ตสฺส เสนาสงฺขาตํ อพลํ ทุพฺพลํ ยถา นาม พลูปปนฺโน กุฺชโร นเฬหิ กตํ อคารํ ขเณเนว วิทฺธํเสติ, เอวเมว กิเลสคณํ ธุนาถ วิธมถ วิทฺธํเสถาติ อตฺโถ (สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑๘๕).

อิทานิ ยทตฺถํ อยํ คาถา นิกฺขิตฺตา, ตํ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อารมฺภถ นิกฺกมถาติ วีริยสฺส ปทฏฺาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อารมฺภถ นิกฺกมถาติ อิทํ วจนํ วีริยสฺส ปทฏฺานํ วีริยปโยคสฺส การณํ วีริยารมฺเภ นิโยชนโต, ‘‘โยคา เว ชายตี ภูรี’’ติ (ธ. ป. ๒๘๒) วจนโต โยโค ภาวนา. ตตฺถ วิปสฺสนาภาวนาย วกฺขมานตฺตา สมาธิภาวนา อิธาธิปฺเปตาติ วุตฺตํ – ‘‘ยุฺชถ พุทฺธสาสเนติ สมาธิสฺส ปทฏฺาน’’นฺติ. ‘‘มจฺจุโน เสน’’นฺติ วุตฺตาย กิเลสเสนาย สมฺมา ธุนนํ าเณเนว โหตีติ อาห – ‘‘ธุนาถ…เป… ปทฏฺาน’’นฺติ. ปุน ยถาวุตฺตวีริยสมาธิปฺาสมฺปยุตฺเตสุ อาธิปจฺจกิจฺจตาย ปปฺจปฺปหานสมตฺถา วฏฺฏมูลํ ฉินฺทิตฺวา วิวฏฺฏํ ปาเปนฺติ จาติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อารมฺภถ นิกฺกมถาติ วีริยินฺทฺริยสฺส ปทฏฺาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อิมานิ ปทฏฺานานิ เทสนาติ ‘‘ยานิมานิ วีริยสฺส ปทฏฺาน’’นฺติอาทินา วีริยาทีนํ ปทฏฺานานิ วุตฺตานิ, สา อารมฺภถ นิกฺกมถาติ อาทิเทสนา, น วีริยารมฺภวตฺถุอาทีนีติ อตฺโถ. ตถา เจว สํวณฺณิตํ.

เอวํ ยถานิกฺขิตฺตาย เทสนาย ปทฏฺานวเสน อตฺถํ นิทฺธาเรตฺวา อิทานิ ตํ สภาควิสภาคธมฺมวเสน อาวฏฺเฏตุกาโม ตสฺส ภูมึ ทสฺเสตุํ ‘‘อยุฺชนฺตานํ วา สตฺตานํ โยเค ยุฺชนฺตานํ วา อารมฺโภ’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – โยเค ภาวนายํ ตํ อยุฺชนฺตานํ วา สตฺตานํ อปริปกฺกาณานํ วาสนาภาเคน อายตึ วิชานนตฺถํ อยํ เทสนารมฺโภ ยุฺชนฺตานํ วา ปริปกฺกาณานนฺติ.

โส ปมาโท ทุวิโธติ เยน ปมาเทน ภาวนํ นานุยุฺชนฺติ, โส ปมาโท อตฺตโน การณเภเทน ทุวิโธ. อฺาเณนาติ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ สลกฺขณสามฺลกฺขณปฏิจฺฉาทเกน สมฺโมเหน. นิวุโตติ ฉาทิโต. เยฺยฏฺานนฺติ เยฺยฺจ ตํ ‘‘อิติ รูปํ, อิติ รูปสฺส สมุทโย’’ติอาทินา าณสฺส ปวตฺตนฏฺานฺจาติ เยฺยฏฺานํ. อเนกเภทตฺตา ปาปธมฺมานํ ตพฺพเสน อเนกเภโทปิ ปมาโท มูลภูตาย อวิชฺชาย วเสน เอโก เอวาติ อาห – ‘‘เอกวิโธ อวิชฺชายา’’ติ. ลาภวินิจฺฉยปริคฺคหมจฺฉริยานิ ปริเยสนาอารกฺขาปริโภเคสุ อนฺโตคธานิ. ฉนฺทราคชฺโฌสานา ตณฺหา เอวาติ ตณฺหามูลเกปิ ธมฺเม เอตฺเถว ปกฺขิปิตฺวา ‘‘ติวิโธ ตณฺหายา’’ติ วุตฺตํ.

รูปีสุ ภเวสูติ รูปธมฺเมสุ. อชฺโฌสานนฺติ ตณฺหาภินิเวโส. เอเตน ‘‘ตณฺหาย รูปกาโย ปทฏฺาน’’นฺติ ปทสฺส อตฺถํ วิวรติ. อนาทิมติ หิ สํสาเร อิตฺถิปุริสา อฺมฺรูปาภิรามา, อยฺจตฺโถ จิตฺตปริยาทานสุตฺเตน (อ. นิ. ๑.๑-๑๐) ทีเปตพฺโพ. อรูปีสุ สมฺโมโหติ ผสฺสาทีนํ อติสุขุมสภาวตฺตา สนฺตติสมูหกิจฺจารมฺมณฆนวินิพฺโภคสฺส ทุกฺกรตฺตา จ อรูปธมฺเมสุ สมฺโมโห, สตฺตานํ ปติฏฺิโตติ วจนเสโส. เอวํ นิทฺธาริเต รูปกายนามกายสงฺขาเต อุปาทานกฺขนฺธปฺจเก อารมฺมณกรณวเสน ปวตฺตํ ตณฺหฺจ อวิชฺชฺจ อวิเสเสน วุตฺตํ จตุปาทานานํ วเสน วิภชิตฺวา เตสํ ขนฺธานํ อุปาทานานฺจ ทุกฺขสมุทยภาเวน สหปริฺเยฺยปหาตพฺพภาวํ ทสฺเสติ ‘‘ตตฺถ รูปกาโย’’ติอาทินา.

๓๐. เอวํ ปมาทมุเขน ปุริมสจฺจทฺวยํ นิทฺธาเรตฺวา ปมาทมุเขเนว อปรมฺปิ สจฺจทฺวยํ นิทฺธาเรตุํ ‘‘ตตฺถ โย’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตสฺสาติ ตสฺส ปมาทสฺส. สมฺปฏิเวเธนาติ สมฺมา ปริชานเนน อสฺสาทาทีนํ ชานเนน. รกฺขณา ปฏิสํหรณาติ อตฺตโน จิตฺตสฺส รกฺขณสงฺขาตา ปมาทสฺส ปฏิสํหรณา, ตปฺปฏิปกฺเขน สงฺโกจนา อปฺปมาทานุโยเคน ยา เขปนา. อยํ สมโถติ กิจฺเจน สมาธึ ทสฺเสติ. อยํ โวทานปกฺขวิสภาคธมฺมวเสน อาวฏฺฏนา. ‘‘ยทา ชานาติ กามานํ…เป… อานิสํส’’นฺติ อิมินา สมถาธิคมสฺส อุปายํ ทสฺเสติ.

ตตฺถ กามานนฺติ วตฺถุกามานฺจ กิเลสกามานฺจ. อสฺสาทฺจ อสฺสาทโตติ กาเม ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชมานํ สุขโสมนสฺสสงฺขาตํ อสฺสาทํ อสฺสาทตาย อสฺสาทมตฺตโต. อาทีนวนฺติ ‘‘อปฺปสฺสาทา กามา พหุทุกฺขา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๓๖) วุตฺตํ อาทีนวํ โทสํ. นิสฺสรณนฺติ ปมชฺฌานํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘กามานเมตํ นิสฺสรณํ ยทิทํ เนกฺขมฺม’’นฺติ (อิติวุ. ๗๒). โอการนฺติ ลามกภาวํ. สํกิเลสนฺติ สํกิลิสฺสนํ. กามเหตุ หิ สตฺตา สํกิลิสฺสนฺติ. โวทานนฺติ วิสุชฺฌนํ. เนกฺขมฺเม จ อานิสํสนฺติ นีวรณปฺปหานาทิคุณวิเสสโยคํ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ยถาวุตฺเต สมเถ สติ. ยา วีมํสาติ ยา ปฺา. ‘‘สมาหิโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๗๑) หิ วุตฺตํ. ยถา ตณฺหาสหิตาว อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโย, เอวํ อวิชฺชาสหิตาว ตณฺหา อุปาทานานํ ปจฺจโย. ตาสุ นิรุทฺธาสุ อุปาทานาทีนํ อภาโว เอวาติ ตณฺหาอวิชฺชาปหาเนน สกลวฏฺฏทุกฺขนิโรธํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิเมสุ ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ปหีเนสู’’ติอาทิมาห. อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ วิสภาคสภาคธมฺมาวฏฺฏนวเสน นิทฺธาริตานีติ อธิปฺปาโย.

เอวํ โวทานปกฺขํ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺส วิสภาคธมฺมวเสน สภาคธมฺมวเสน จ อาวฏฺฏนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สํกิเลสปกฺขํ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺส วิสภาคธมฺมวเสน สภาคธมฺมวเสน จ อาวฏฺฏนํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถาปิ มูเล’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ยถา นาม ปติฏฺาเหตุภาเวน มูลนฺติ ลทฺธโวหาเร ภูมิคเต รุกฺขสฺส อวยเว ผรสุเฉทาทิอนฺตรายาภาเวน อนุปทฺทเว ตโต เอว ทฬฺเห ถิเร สติ ขนฺเธ ฉินฺเนปิ อสฺสตฺถาทิรุกฺโข รุหติ, เอวเมว ตณฺหานุสยสงฺขาเต อตฺตภาวรุกฺขสฺส มูเล มคฺคาณผรสุนา อนุปจฺฉินฺเน ตยิทํ ทุกฺขํ ปุนปฺปุนํ อปราปรภาเวน นิพฺพตฺตติ น นิรุชฺฌตีติ. กามตณฺหาทินิวตฺตนตฺถํ ‘‘ภวตณฺหายา’’ติ วุตฺตํ. เอตสฺส ธมฺมสฺส ปจฺจโยติ เอตสฺส ภวตณฺหาสงฺขาตสฺส ธมฺมสฺส ภเวสุ อาทีนวปฺปฏิจฺฉาทนาทิวเสน อสฺสาทคฺคหณสฺส ปจฺจโย. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘สํโยชนีเยสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน ตณฺหา ปวฑฺฒตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๕๗). เตเนวาห – ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา หิ ภวตณฺหา’’ติ. อิธ สมโถ วิปสฺสนา จ มคฺคสมาธิ มคฺคปฺา จ อธิปฺเปตาติ อาห – ‘‘เยน ตณฺหานุสยํ สมูหนตี’’ติอาทิ. อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานีติ วิสภาคสภาคธมฺมาวฏฺฏนวเสน นิทฺธาริตานีติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

อิทานิ น เกวลํ นิทฺธาริเตเหว วิสภาคสภาคธมฺเมหิ อาวฏฺฏนํ, อถ โข ปาฬิอาคเตหิปิ เตหิ อาวฏฺฏนํ อาวฏฺฏหาโรติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณ’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ สพฺพปาปสฺสาติ สพฺพากุสลสฺส. อกรณนฺติ อนุปฺปาทนํ. กุสลสฺสาติ จตุภูมกกุสลสฺส. อุปสมฺปทาติ ปฏิลาโภ. สจิตฺตปริโยทาปนนฺติ อตฺตโน จิตฺตโวทานํ, ตํ ปน อรหตฺเตน โหติ. อิติ สีลสํวเรน สพฺพปาปํ ปหาย สมถวิปสฺสนาหิ กุสลํ สมฺปาเทตฺวา อรหตฺตผเลน จิตฺตํ ปริโยทเปตพฺพนฺติ เอตํ พุทฺธาน สาสนํ โอวาโท อนุสิฏฺีติ อยํ สงฺเขปตฺโถ, วิตฺถารโต ปน อตฺโถ ปาฬิโต เอว วิฺายติ.

ตตฺถ ‘‘สพฺพปาปํ นามา’’ติอาทีสุ โทสสมุฏฺานนฺติ โทโส สมุฏฺานเมว เอตสฺสาติ โทสสมุฏฺานํ, น โทโส เอว สมุฏฺานนฺติ. โลภสมุฏฺานายปิ ปิสุณวาจาย สมฺภวโต. กายทุจฺจริตนฺติ ปทํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘โทสสมุฏฺาน’’นฺติ นปุํสกนิทฺเทโส. โลภสมุฏฺานํ โมหสมุฏฺานนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สมฺผปฺปลาโป อุทฺธจฺจจิตฺเตน ปวตฺตยตีติ อธิปฺปาเยน ตสฺส โมหสมุฏฺานตา วุตฺตา.

เอวํ ทุจฺจริตอกุสลกมฺมปถกมฺมวิภาเคน ‘‘สพฺพปาป’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตปาปํ วิภชิตฺวา อิทานิสฺส อกุสลมูลวเสน อคติคมนวิภาคมฺปิ ทสฺเสตุํ ‘‘อกุสลมูล’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อกุสลมูลํ ปโยคํ คจฺฉนฺตนฺติ โลภาทิอกุสลานิ กายวจีปโยคํ คจฺฉนฺตานิ, กายวจีปโยคํ สมุฏฺาเปนฺตานีติ อตฺโถ. ฉนฺทาติ ฉนฺทเหตุ. ยํ ฉนฺทา อคตึ คจฺฉติ, อิทํ โลภสมุฏฺานนฺติ ฉนฺทา อคตึ คจฺฉตีติ ยเทตํ อคติคมนํ, อิทํ โลภสมุฏฺานนฺติ. เอวํ เสเสสุปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอตฺตาวตา ‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณ’’นฺติ เอตฺถ ปาปํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตสฺส อกรณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โลโภ…เป… ปฺายา’’ติ ตีหิ กุสลมูเลหิ ติณฺณํ อกุสลมูลานํ ปหานวเสน สพฺพปาปสฺส อกรณํ อนุปฺปาทนมาห. ตถา โลโภ อุเปกฺขายาติอาทินา พฺรหฺมวิหาเรหิ. ตตฺถ อรตึ วูปสเมนฺตี มุทิตา ตสฺสา มูลภูตํ โมหํ ปชหตีติ กตฺวา วุตฺตํ – ‘‘โมโห มุทิตาย ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉตี’’ติ.

๓๑. อิทานิ อฺเนปิ ปริยาเยน ปาปํ ตสฺส อกรณฺจ ทสฺเสตฺวา เสสปทานฺจ อตฺถวิภาวนมุเขน สภาควิสภาคธมฺมาวฏฺฏนํ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺพปาปํ นาม อฏฺ มิจฺฉตฺตานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อกิริยา อกรณํ อนชฺฌาจาโรติ ตีหิปิ ปเทหิ มิจฺฉตฺตานํ อนุปฺปาทนเมว วทติ. ตถา กิริยา กรณํ อชฺฌาจาโรติ ตีหิปิ ปเทหิ อุปฺปาทนเมว วทติ. อชฺฌาจาโรติ อธิฏฺหิตฺวา อาจรณํ. อตีตสฺสาติ จิรกาลปฺปวตฺติวเสน ปุราณสฺส. มคฺคสฺสาติ อริยมคฺคสฺส. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ปุราณมคฺคํ ปุราณํ อฺชสนฺติ โข อริยสฺเสตํ อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺส อธิวจน’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๖๕ อตฺถโต สมานํ). อตีเตน วา วิปสฺสินา ภควตา ยถาธิคตํ เทสิตภาวํ สนฺธาย ‘‘อตีตสฺส มคฺคสฺสา’’ติ วุตฺตํ. วิปสฺสิโน หิ อยํ ภควโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปาติโมกฺขุทฺเทสคาถาติ.

ยํ ปฏิเวเธนาติ ยสฺส ปริฺาภิสมเยน. ยํ ปริโยทาปิตํ, อยํ นิโรโธติ ยทิปิ อสงฺขตา ธาตุ เกนจิ สํกิเลเสน น สํกิลิสฺสติ, อธิคจฺฉนฺตสฺส ปน ปุคฺคลสฺส วเสน เอวํ วุตฺตํ. ตสฺส หิ ยาว สํกิเลสา น วิคจฺฉนฺติ, ตาว อสงฺขตา ธาตุ อปริโยทปิตาติ วุจฺจติ. ยถา นิพฺพานาธิคเมน เย ขนฺธา วูปสเมตพฺพา, เตสํ เสสภาเวน อเสสภาเวน จ ‘‘สอุปาทิเสสา’’ติ จ, ‘‘อนุปาทิเสสา’’ติ จ วุจฺจติ, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.

อิมานิ ปาฬิอาคตธมฺมานํ สภาควิสภาคธมฺมาวฏฺฏนวเสน นิทฺธาริตานิ จตฺตาริ สจฺจานิ ปุนปิ ปาฬิอาคตธมฺมานํ สภาควิสภาคธมฺมาวฏฺฏเนน อาวฏฺฏหารํ ทสฺเสตุํ ‘‘ธมฺโม หเว รกฺขตี’’ติ คาถมาห. ตสฺสา ปทตฺโถ ปุพฺเพ วุตฺโต เอว. ธมฺโมติ ปุฺธมฺโม อิธาธิปฺเปโต. ตํ วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ธมฺโม นาม ทุวิโธ อินฺทฺริยสํวโร มคฺโค จา’’ติ อาห. อินฺทฺริยสํวรสีเสน เจตฺถ สพฺพมฺปิ สีลํ คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สพฺพา อุปปตฺติโย ทุคฺคติ ทุกฺขทุกฺขตาทิโยเคน ทุกฺขา คติโยติ กตฺวา. ยถาวุตฺเต ทุวิเธ ธมฺเม ปโม ธมฺโม ยถา สุจิณฺโณ โหติ, ยโต จ โส รกฺขติ, ยตฺถ จ ปติฏฺาเปติ, ตํ สพฺพํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ยา สํวรสีเล อขณฺฑการิตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิทานิ ตสฺส ธมฺมสฺส อปายโต รกฺขเณ เอกนฺติกภาวํ วิภาเวตุํ คามณิสํยุตฺเต (สํ. นิ. ๔.๓๕๘) อสิพนฺธกปุตฺตสุตฺตํ อาภตํ.

ตตฺถ เอวนฺติ ปกาเรน. -สทฺโท สมฺปิณฺฑเน, อิมินาปิ ปกาเรน อยมตฺโถ เวทิตพฺโพติ อธิปฺปาโย. อสิพนฺธกปุตฺโตติ อสิพนฺธกสฺส นาม ปุตฺโต. คาเม เชฏฺกตาย คามณี. ปจฺฉาภูมกาติ ปจฺฉาภูมิวาสิโน. กามณฺฑลุกาติ สกมณฺฑลุโน. เสวาลมาลิกาติ ปาโตว อุทกโต เสวาลฺเจว อุปฺปลาทีนิ จ คเหตฺวา อุทกสุทฺธิภาวชานนตฺถํ มาลํ กตฺวา ปิฬนฺธนกา. อุทโกโรหกาติ สายํ ปาตํ อุทกํ โอโรหณกา. อุยฺยาเปนฺตีติ อุปริยาเปนฺติ. สฺาเปนฺตีติ สมฺมา ยาเปนฺติ. สคฺคํ นาม โอกฺกาเมนฺตีติ ปริวาเรตฺวา ิตาว ‘‘คจฺฉ, โภ, พฺรหฺมโลกํ, คจฺฉ, โภ, พฺรหฺมโลก’’นฺติ วทนฺตา สคฺคํ ปเวเสนฺติ.

อนุปริสกฺเกยฺยาติ อนุปริคจฺเฉยฺย. อุมฺมุชฺชาติ อุฏฺห. อุปฺลวาติ ชลสฺส อุปริปฺลว. ถลมุปฺลวาติ ถลํ อภิรุห. ตตฺร ยาสฺสาติ ตตฺร ยํ อสฺส, ยํ ภเวยฺย. สกฺขรกลนฺติ สกฺขรา วา กลา วา. สา อโธคามี อสฺสาติ สา อโธ คจฺเฉยฺย, เหฏฺาคามี ภเวยฺย. อโธ คจฺเฉยฺยาติ เหฏฺา คจฺเฉยฺย. มคฺคสฺสาติ อริยมคฺคสฺส. ติกฺขตาติ ติขิณตา. สา จ โข น สตฺถกสฺส วิย นิสิตกรณตา, อถ โข อินฺทฺริยานํ ปฏุภาโวติ ทสฺเสตุํ ‘‘อธิมตฺตตา’’ติ อาห. นนุ จ อริยมคฺโค อตฺตนา ปหาตพฺพกิเลเส อนวเสสํ สมุจฺฉินฺทตีติ อติขิโณ นาม นตฺถีติ? สจฺจเมตํ, ตถาปิ โน จ โข ‘‘ยถา ทิฏฺิปฺปตฺตสฺสา’’ติ วจนโต สทฺธาวิมุตฺตทิฏฺิปฺปตฺตานํ กิเลสปฺปหานํ ปติ อตฺถิ กาจิ วิเสสมตฺตาติ สกฺกา วตฺตุํ. อยํ ปน วิเสโส น อิธาธิปฺเปโต, สพฺพุปปตฺติสมติกฺกมนสฺส อธิปฺเปตตฺตา. ยสฺมา ปน อริยมคฺเคน โอธิโส กิเลสา ปหียนฺติ, ตฺจ เนสํ ตถาปหานํ มคฺคธมฺเมสุ อินฺทฺริยานํ อปาฏวปาฏวตรปาฏวตมภาเวน โหตีติ โย วชิรูปมธมฺเมสุ มตฺถกปฺปตฺตานํ อคฺคมคฺคธมฺมานํ ปฏุตมภาโว. อยํ อิธ มคฺคสฺส ติกฺขตาติ อธิปฺเปตา. เตเนวาห – ‘‘อยํ ธมฺโม สุจิณฺโณ สพฺพาหิ อุปปตฺตีหิ รกฺขตี’’ติ. ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติอาทินา สุตฺตนฺตเรน (อุทา. ๓๒) สุคติสฺิตานมฺปิ อุปปตฺตีนํ ทุคฺคติภาวํ สาเธติ.

๓๒. อิทานิ ยถาวุตฺตสฺส ธมฺมสฺส วิสภาคธมฺมานํ ตณฺหาวิชฺชาทีนํ สภาคธมฺมานฺจ สมถวิปสฺสนาทีนํ นิทฺธารณวเสน อาวฏฺฏหารํ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ทุคฺคตีนํ เหตุ ตณฺหา จ อวิชฺชา จา’’ติอาทิมาห. ตํ ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตา สุวิฺเยฺยเมว. อิทํ วุจฺจติ พฺรหฺมจริยนฺติ อิทํ อริยํ สมถวิปสฺสนาสงฺขาตํ มคฺคพฺรหฺมจริยนฺติ วุจฺจติ. ยํ รกฺขตีติ สพฺพาหิ ทุคฺคตีหิ รกฺขนฺตสฺส อริยมคฺคสฺส อารมฺมณภูโต นิโรโธ รกฺขนฺโต วิย วุตฺโต, นิมิตฺตสฺส กตฺตุภาเวน อุปจริตตฺตา. อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ วิสภาคสภาคธมฺมาวฏฺฏนวเสน นิทฺธาริตานีติ อธิปฺปาโย.

อาวฏฺฏหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. วิภตฺติหารวิภงฺควณฺณนา

๓๓. ตตฺถ กตโม วิภตฺติหาโรติ วิภตฺติหารวิภงฺโค. ตตฺถ ธมฺมวิภตฺติภูมิวิภตฺติปทฏฺานวิภตฺตีติ ติวิธา วิภตฺติ. ตาสุ ยสฺมา ธมฺเมสุ วิภาคโต นิทฺทิฏฺเสุ ตตฺถ ลพฺภมาโน ภูมิวิภาโค ปทฏฺานวิภาโค จ นิทฺทิสิยมาโน สุวิฺเยฺโย โหติ, ตสฺมา ธมฺมวิภตฺตึ ตาว นิทฺทิสนฺโต โสฬสวิเธ ปฏฺาเน เยสํ สุตฺตานํ วเสน วิเสสโต วิภชิตพฺพา, ตานิ สุตฺตานิ ทสฺเสตุํ ‘‘ทฺเว สุตฺตานิ วาสนาภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ วาสนา ปุฺภาวนา, ตสฺสา ภาโค โกฏฺาโส วาสนาภาโค, ตสฺส หิตนฺติ วาสนาภาคิยํ, สุตฺตํ. นิพฺพิชฺฌนํ โลภกฺขนฺธาทีนํ ปทาลนํ นิพฺเพโธ, ตสฺส ภาโคติ เสสํ ปุริมสทิสเมว. ยสฺมึ สุตฺเต ตีณิ ปุฺกิริยวตฺถูนิ เทสิตานิ, ตํ สุตฺตํ วาสนาภาคิยํ. ยสฺมึ ปน เสกฺขาเสกฺขา เทสิตา, ตํ นิพฺเพธภาคิยํ. อยฺจ อตฺโถ ปาฬิยํเยว อาคมิสฺสติ.

ปุฺภาคิยาติ ปุฺภาเค ภวา. ตถา ผลภาคิยา เวทิตพฺพา. ผลนฺติ ปน สามฺผลํ. สํวรสีลนฺติ ปาติโมกฺขสํวโร, สติสํวโร, าณสํวโร, ขนฺติสํวโร, วีริยสํวโรติ ปฺจ สํวรา สํวรสีลํ. ปหานสีลนฺติ ตทงฺคปฺปหานํ, วิกฺขมฺภนปฺปหานํ, สมุจฺเฉทปฺปหานํ, ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ, นิสฺสรณปฺปหานนฺติ ปฺจปฺปหานานิ. เตสุ นิสฺสรณปฺปหานวชฺชานํ ปหานานํ วเสน ปหานสีลํ เวทิตพฺพํ. โสติ โย วาสนาภาคิยสุตฺตสมฺปฏิคฺคาหโก, โส. เตน พฺรหฺมจริเยนาติ เตน สํวรสีลสงฺขาเตน เสฏฺจริเยน การณภูเตน พฺรหฺมจารี ภวติ. เอตฺถ จ อฏฺสมาปตฺติพฺรหฺมจริยสฺส น ปฏิกฺเขโป, เกจิ ปน ‘‘เตเนว พฺรหฺมจริเยนา’’ติ ปนฺติ, เตสํ มเตน สิยา ตสฺส ปฏิกฺเขโป.

ปหานสีเล ิโตติ สมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานานํ วเสน ปหานสีเล ิโต. เตน พฺรหฺมจริเยนาติ เตน ปหานสีเลน วิเสสภูเตน มคฺคพฺรหฺมจริเยน. เย ปน ‘‘เตเนว พฺรหฺมจริเยนา’’ติ ปนฺติ, เตสํ อยํ ปาโ ‘‘วาสนาภาคิยํ นาม สุตฺตํ ทานกถา, สีลกถา, สคฺคกถา, ปุฺวิปากกถา’’ติ. เย ปน ‘‘เตน พฺรหฺมจริเยนา’’ติ ปนฺติ, เตสํ อยํ ปาโ – ‘‘วาสนาภาคิยํ นาม สุตฺตํ ทานกถา, สีลกถา, สคฺคกถา กามานํ อาทีนโว เนกฺขมฺเม อานิสํโส’’ติ. ตตฺถ กตโม ปาโ ยุตฺตตโรติ? ปจฺฉิโม ปาโติ นิฏฺํ คนฺตพฺพํ. ยสฺมา ‘‘นิพฺเพธภาคิยํ นาม สุตฺตํ ยา จตุสจฺจปฺปกาสนา’’ติ วกฺขติ, น หิ มหาเถโร สาวเสสํ กตฺวา ธมฺมํ เทเสสีติ.

‘‘นตฺถิ ปชานนา’’ติอาทินา อุภินฺนํ สุตฺตานํ สาติสยํ อสงฺกรการณํ ทสฺเสติ. ตตฺถ ปชานนาติ อริยมคฺคสฺส ปทฏฺานภูตา วุฏฺานคามินี วิปสฺสนาปฺา. อิมานิ จตฺตาริ สุตฺตานีติ อิเมสํ สุตฺตานํ วาสนาภาคิยนิพฺเพธภาคิยานํ วกฺขมานานฺจ สํกิเลสภาคิยอเสกฺขภาคิยานํ วเสน จตฺตาริ สุตฺตานิ. เทสนายาติ เทสนานเยน. สพฺพโต วิจเยน หาเรน วิจินิตฺวาติ สพฺพโตภาเคน เอกาทสสุ าเนสุ ปกฺขิปิตฺวา วิจเยน หาเรน วิจินิตฺวา. ‘‘ยุตฺติหาเรน โยเชตพฺพานี’’ติ เอเตน วิจยหารยุตฺติหารา วิภตฺติหารสฺส ปริกมฺมฏฺานนฺติ ทสฺเสติ. ‘‘ยาวติกา าณสฺส ภูมี’’ติ อิมินา วิภตฺติหารสฺส มหาวิสยตํ ทสฺเสติ.

๓๔. เอวํ วาสนาภาคิยนิพฺเพธภาคิยภาเวหิ ธมฺเม เอกเทเสน วิภชิตฺวา อิทานิ เตสํ กิเลสภาคิยอเสกฺขภาคิยภาเวหิ สาธารณาสาธารณภาเวหิ วิภชิตุํ ‘‘ตตฺถ กตเม ธมฺมา สาธารณา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กตเม ธมฺมาติ กตเม สภาวธมฺมา. สาธารณาติ อวิสิฏฺา, สมานาติ อตฺโถ. ทฺเว ธมฺมาติ ทุเว ปกติโย. ปกติอตฺโถ หิ อยํ ธมฺม-สทฺโท ‘‘ชาติธมฺมานํ สตฺตาน’’นฺติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๓๓) วิย. นามสาธารณาติ นาเมน สาธารณา, กุสลากุสลาติ สมานนามาติ อตฺโถ. วตฺถุสาธารณาติ วตฺถุนา นิสฺสเยน สาธารณา, เอกสนฺตติปติตตาย สมานวตฺถุกาติ อตฺโถ. วิเสสโต สํกิเลสปกฺเข ปหาเนกฏฺา นามสาธารณา, สหเชกฏฺา วตฺถุสาธารณา. อฺมฺปิ เอวํ ชาติยนฺติ กิจฺจปจฺจยปฏิปกฺขาทีหิ สมานํ สงฺคณฺหาติ. มิจฺฉตฺตนิยตานํ อนิยตานนฺติ อิทํ ปุถุชฺชนานํ อุปลกฺขณํ. ตสฺมา สสฺสตวาทา อุจฺเฉทวาทาติ อาทิโก สพฺโพ ปุถุชฺชนเภโท อาหริตฺวา วตฺตพฺโพ. ทสนปฺปหาตพฺพา กิเลสา สาธารณา มิจฺฉตฺตนิยตานํ อนิยตานํ เอว จ สมฺภวโต สมฺมตฺตนิยตานํ อสมฺภวโต จ. อิมินา นเยน เสสปเทสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อริยสาวโกติ เสกฺขํ สนฺธาย วทติ. สพฺพา สา อวีตราเคหิ สาธารณาติ โลกิยสมาปตฺติ รูปาวจรา อรูปาวจรา ทิพฺพวิหาโร พฺรหฺมวิหาโร ปมชฺฌานสมาปตฺตีติ เอวมาทีหิ ปริยาเยหิ สาธารณา. กุสลสมาปตฺติ ปน อิมินา ปริยาเยน สิยา อสาธารณา, อิมํ ปน โทสํ ปสฺสนฺตา เกจิ ‘‘ยํ กิฺจิ…เป… สพฺพา สา อวีตราเคหิ สาธารณา’’ติ ปนฺติ. กถํ เต โอธิโส คหิตา, อถ โอธิโส คเหตพฺพา, กถํ สาธารณาติ? อนุโยคํ มนสิกตฺวา ตํ วิโสเธนฺโต อาห – ‘‘สาธารณา หิ ธมฺมา เอวํ อฺมฺ’’นฺติอาทิ. ตสฺสตฺโถ – ยถา มิจฺฉตฺตนิยตานํ อนิยตานฺจ สาธารณาติ วุตฺตํ, เอวํ สาธารณา ธมฺมา น สพฺพสตฺตานํ สาธารณตาย สาธารณา, กสฺมา? ยสฺมา อฺมฺํ ปรํ ปรํ สกํ สกํ วิสยํ นาติวตฺตนฺติ. ปฏินิยตฺหิ เตสํ ปวตฺติฏฺานํ, อิตรถา ตถา โวหาโร เอว น สิยาติ อธิปฺปาโย. ยสฺมา จ เอเต เอว ธมฺมา เอวํ นิยตา วิสยา, ตสฺมา ‘‘โยปิ อิเมหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต น โส ตํ ธมฺมํ อุปาติวตฺตตี’’ติ อาห. น หิ มิจฺฉตฺตนิยตานํ อนิยตานฺจ ทสฺสเนน ปหาตพฺพา กิเลสา น สนฺติ, อฺเสํ วา สนฺตีติ เอวํ เสเสปิ วตฺตพฺพํ.

อสาธารโณ นาม ธมฺโม ตสฺส ตสฺส ปุคฺคลสฺส ปจฺจตฺตนิยโต อริเยสุ เสกฺขาเสกฺขธมฺมวเสน อนริเยสุ สพฺพาภพฺพปหาตพฺพวเสน คเวสิตพฺโพ, อิตรสฺส ตถา นิทฺทิสิตพฺพภาวาภาวโต. โส จ โข สาธารณาวิธุรตาย ตํ ตํ อุปาทาย ตถาวุตฺตเทสนานุสาเรนาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘กตเม ธมฺมา อสาธารณา ยาว เทสนํ อุปาทาย คเวสิตพฺพา เสกฺขาเสกฺขา ภพฺพาภพฺพา’’ติ อิมินา. อฏฺมกสฺสาติ โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนสฺส. ธมฺมตาติ ธมฺมสภาโว ปมสฺส มคฺคฏฺตา ทุติยสฺส ผลฏฺตา. ปมสฺส วา ปหียมานกิเลสตา. ทุติยสฺส ปหีนกิเลสตา. ปุน อฏฺมกสฺสาติ อนาคามิมคฺคฏฺสฺส. นามนฺติ เสกฺขาติ นามํ. ธมฺมตาติ ตํตํมคฺคฏฺตา เหฏฺิมผลฏฺตา จ. ปฏิปนฺนกานนฺติ มคฺคสมงฺคีนํ. นามนฺติ ปฏิปนฺนกาติ นามํ. เอวํ ‘‘อฏฺมกสฺสา’’ติอาทินา อริยปุคฺคเลสุ อสาธารณธมฺมํ ทสฺเสตฺวา อิตเรสุ นยทสฺสนตฺถํ ‘‘เอวํ วิเสสานุปสฺสินา’’ติอาทิ วุตฺตํ. โลกิยธมฺเมสุ เอว หิ หีนาทิภาโว. ตตฺถ วิเสสานุปสฺสินาติ อสาธารณธมฺมานุปสฺสินา. มิจฺฉตฺตนิยตานํ อนิยตา ธมฺมา สาธารณา มิจฺฉตฺตนิยตา ธมฺมา อสาธารณา. มิจฺฉตฺตนิยเตสุปิ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิกานํ อนิยตา ธมฺมา สาธารณา. นิยตมิจฺฉาทิฏฺิ อสาธารณาติ อิมินา นเยน วิเสสานุปสฺสินา เวทิตพฺพา.

เอวํ นานานเยหิ ธมฺมวิภตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ภูมิวิภตฺตึ ปทฏฺานวิภตฺติฺจ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ทสฺสนภูมี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ทสฺสนภูมีติ ปมมคฺโค. ยสฺมา ปน ปมมคฺคกฺขเณ อริยสาวโก สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมนฺโต นาม โหติ, ตโต ปรํ โอกฺกนฺโต, ตสฺมา ‘‘ทสฺสนภูมิ นิยามาวกฺกนฺติยา ปทฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. กิฺจาปิ เหฏฺิโม เหฏฺิโม มคฺโค อุปริอุปริมคฺคาธิคมสฺส การณํ โหติ, สกฺกายทิฏฺิอาทีนิ อปฺปหาย กามราคพฺยาปาทาทิปฺปหานสฺส อสกฺกุเณยฺยตฺตา. ตถาปิ อริยมคฺโค อตฺตโน ผลสฺส วิเสสการณํ อาสนฺนการณฺจาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ภาวนาภูมิ อุตฺตริกานํ ผลานํ ปตฺติยา ปทฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา าณุตฺตรสฺส ตถาวิธปจฺจยสมาโยเค จ โหตีติ สา วิปสฺสนาย ปทฏฺานนฺติ วุตฺตา. อิตรา ปน ติสฺโสปิ ปฏิปทา สมถํ อาวหนฺติ เอว. ตาสุ สพฺพมุทุตาย ทสฺสิตาย เสสาปิ ทสฺสิตา เอวาติ อาห – ‘‘ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา สมถสฺส ปทฏฺาน’’นฺติ.

ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถูติ ทานเมว ทานมยํ, ปุชฺชผลนิพฺพตฺตนฏฺเน ปุฺํ, ตเทว กตฺตพฺพโต กิริยา, ปโยคสมฺปตฺติยาทีนํ อธิฏฺานภาวโต วตฺถุ จาติ ทานมยปุฺกิริยวตฺถุ. ปรโตโฆสสฺสาติ ธมฺมสฺสวนสฺส. สาธารณนฺติ น พีชํ วิย องฺกุรสฺส, ทสฺสนภูมิอาทโย วิย วา นิยามาวกฺกนฺติอาทีนํ อาเวณิกํ, อถ โข สาธารณํ, ตทฺการเณหิปิ ปรโตโฆสสฺส ปวตฺตนโตติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ เกจิ ทายกสฺส ทานานุโมทนํ อาจิณฺณนฺติ ทานํ ปรโตโฆสสฺส การณนฺติ วทนฺติ. ทายโก ปน ทกฺขิณาวิสุทฺธึ อากงฺขนฺโต ทานสีลาทิคุณวิเสสานํ สวเน ยุตฺตปฺปยุตฺโต โหตีติ ทานํ ธมฺมสฺสวนสฺส การณํ วุตฺตํ.

สีลสมฺปนฺโน วิปฺปฏิสาราภาเวน สมาหิโต ธมฺมจินฺตาสมตฺโถ โหตีติ สีลํ จินฺตามยาณสฺส การณนฺติ อาห ‘‘สีลมย’’นฺติอาทิ. ภาวนามยนฺติ สมถสงฺขาตํ ภาวนามยํ. ภาวนามยิยาติ อุปริฌานสงฺขาตาย วิปสฺสนาสงฺขาตาย จ ภาวนามยิยา. ปุริมํ ปุริมฺหิ ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส ปทฏฺานํ. อิทานิ ยสฺมา ทานํ สีลํ โลกิยภาวนา จ น เกวลํ ยถาวุตฺตปรโตโฆสาทีนํเยว, อถ โข ยถากฺกมํ ปริยตฺติพาหุสจฺจกมฺมฏฺานานุโยคมคฺคสมฺมาทิฏฺีนมฺปิ ปจฺจยา โหนฺติ, ตสฺมา ตมฺปิ นยํ ทสฺเสตุํ ปุน ‘‘ทานมย’’นฺติอาทินา เทสนํ วฑฺเฒสิ. ตถา ปติรูปเทสวาสาทโย กายวิเวกจิตฺตวิเวกาทีนํ การณํ โหตีติ อิมํ นยํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปติรูปเทสวาโส’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กุสลวีมํสายาติ ปฏิสงฺขานุปสฺสนาย. อกุสลปริจฺจาโคติ อิมินา ปหานปริฺา วุตฺตาติ. สมาธินฺทฺริยสฺสาติ มคฺคสมาธินฺทฺริยสฺส. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

วิภตฺติหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ปริวตฺตนหารวิภงฺควณฺณนา

๓๕. ตตฺถ กตโม ปริวตฺตโน หาโรติ ปริวตฺตนหารวิภงฺโค. ตตฺถ ยสฺมา สํวณฺณิยมาเน สุตฺเต ยถานิทฺทิฏฺานํ กุสลากุสลธมฺมานํ ปฏิปกฺขภูเต อกุสลกุสลธมฺเม ปหาตพฺพภาวาทิวเสน นิทฺธารณํ ปฏิปกฺขโต ปริวตฺตนํ, ตสฺมา ‘‘สมฺมาทิฏฺิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส มิจฺฉาทิฏฺิ นิชฺชิณฺณา ภวตี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ สมฺมา ปสตฺถา, สุนฺทรา ทิฏฺิ เอตสฺสาติ สมฺมาทิฏฺิ, ตสฺส. สา ปนสฺส สมฺมาทิฏฺิตา ปุพฺพภาคสมฺมาทิฏฺิยา วา โลกุตฺตรสมฺมาทิฏฺิยา วา เวทิตพฺพา. มิจฺฉาทิฏฺิ นิชฺชิณฺณา ภวตีติ ปุริมนเย วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺิยา ปหีนา โหติ, วิกฺขมฺภิตาติ อตฺโถ. ปจฺฉิมนเย ปมมคฺคสมฺมาทิฏฺิยา ปหีนา สมุจฺฉินฺนาติ อตฺโถ.

เย จสฺส มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยาติ มิจฺฉาภินิเวสเหตุ เย อริยานํ อทสฺสนกามตาทโย โลภาทโย ปาณาติปาตาทโย จ อเนเก ลามกฏฺเน ปาปกา อโกสลฺลสมฺภูตฏฺเน อกุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺเชยฺยุํ. อิมสฺส อารทฺธวิปสฺสกสฺส อริยสฺส จ. ธมฺมาติ สมถวิปสฺสนาธมฺมา, สตฺตตฺตึสโพธิปกฺขิยธมฺมา วา อนุปฺปนฺนา วา สมฺภวนฺติ อุปฺปนฺนา, ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. สมฺมาสงฺกปฺปสฺสาติอาทีนมฺปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – สมฺมาวิมุตฺติอาทีนํ มิจฺฉาวิมุตฺติ อวิมุตฺตาว สมานา ‘‘วิมุตฺตา มย’’นฺติ เอวํสฺิโน อวิมุตฺติยํ วา วิมุตฺติสฺิโน. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – มิจฺฉา ปาปิกา วิมุตฺติ วิโมกฺโข เอตสฺสาติ มิจฺฉาวิมุตฺติ. อฏฺงฺคา จ มิจฺฉาวิมุตฺติ ยถาวุตฺเตนากาเรน มิจฺฉาภินิเวสวเสน จ ปวตฺตา อนฺตทฺวยลกฺขณา. สมฺมาวิมุตฺติ ปน ผลธมฺมา, มิจฺฉาทิฏฺิเก สมาเสวโต มิจฺฉาวิโมกฺโข วา มิจฺฉาวิมุตฺติ. มิจฺฉาวิมุตฺติาณทสฺสนํ ปน มิจฺฉาวิโมกฺเข มิจฺฉาทิฏฺิยา จ สารนฺติ คหณวเสน ปวตฺโต อกุสลจิตฺตุปฺปาโท อนฺตมโส ปาปํ กตฺวา ‘‘สุกตํ มยา’’ติ ปจฺจเวกฺขโต อุปฺปนฺนโมโห จ. สมฺมาวิมุตฺติาณทสฺสนสฺสาติ เอตฺถ เสกฺขานํ ปจฺจเวกฺขณาณํ สมฺมาวิมุตฺติาณทสฺสนนฺติ อธิปฺเปตํ. ตฺหิ อุตฺตริภาวนาปาริปูริยา สํวตฺตติ.

๓๖. เอวํ สมฺมาทิฏฺิอาทิมุเขน มิจฺฉาทิฏฺิอาทึ ทสฺเสตฺวา ปุน ปาณาติปาตอทินฺนาทานกาเมสุมิจฺฉาจาราทิโต เวรมณิยาทีหิ ปาณาติปาตาทีนํ ปริวตฺตนํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺสา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กาลวาทิสฺสาติ ลกฺขณวจนํ. กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวตึ อตฺถสฺหิตนฺติ โส สมฺผปฺปลาปสฺส ปหานาย ปฏิปนฺโน โหตีติ วุตฺตํ.

ปุน ‘‘เย จ โข เกจี’’ติอาทินา สมฺมาทิฏฺิอาทิมุเขเนว มิจฺฉาทิฏฺิอาทีหิ เอว ปริวตฺตนํ ปการนฺตเรน ทสฺเสติ. ตตฺถ สนฺทิฏฺิกาติ ปจฺจกฺขา. สหธมฺมิกาติ สการณา. คารยฺหาติ ครหิตพฺพยุตฺตา. วาทานุวาทาติ วาทา เจว อนุวาทา จ. ‘‘วาทานุปาตา’’ติปิ ปาโ, วาทานุปวตฺติโยติ อตฺโถ. ปุชฺชาติ ปูชนียา. ปาสํสาติ ปสํสิตพฺพา.

ปุน ‘‘เย จ โข เกจี’’ติอาทินา มชฺฌิมาย ปฏิปตฺติยา อนฺตทฺวยปริวตฺตนํ ทสฺเสติ. ตตฺถ ภุฺชิตพฺพาติอาทีนิ จตฺตาริ ปทานิ วตฺถุกามวเสน โยเชตพฺพานิ. ภาวยิตพฺพา พหุลีกาตพฺพาติ ปททฺวยํ กิเลสกามวเสน. เตสํ อธมฺโมติ ภาเวตพฺโพ นาม ธมฺโม สิยา, กามา จ เตสํ ภาเวตพฺพา อิจฺฉิตา, กาเมหิ จ เวรมณี กามานํ ปฏิปกฺโข, อิติ สา เตสํ อธมฺโม อาปชฺชตีติ อธิปฺปาโย.

นิยฺยานิโก ธมฺโมติ สห วิปสฺสนาย อริยมคฺโค. ทุกฺโขติ ปาปํ นิชฺชราเปสฺสามาติ ปวตฺติตํ สรีรตาปนํ วทติ. สุโขติ อนวชฺชปจฺจยปริโภคสุขํ. เอเตสุปิ วาเรสุ วุตฺตนเยเนว อธมฺมภาวาปตฺติ วตฺตพฺพา. อิทานิ อสุภสฺาทิมุเขน สุภสฺาทิปริวตฺตนํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา วา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อารทฺธวิปสฺสกสฺส กิเลสาสุจิปคฺฆรณวเสน เตภูมกสงฺขารา อสุภโต อุปฏฺหนฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘สพฺพสงฺขาเรสุ อสุภานุปสฺสิโน วิหรโต’’ติ. ‘‘ยํ ยํ วา ปนา’’ติอาทินา ปฏิปกฺขสฺส ลกฺขณํ วิภาเวติ. ตตฺถ อชฺฌาปนฺโนติ อธิอาปนฺโน, อภิอุปคโต ปริฺาโตติ อตฺโถ.

ปริวตฺตนหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. เววจนหารวิภงฺควณฺณนา

๓๗. ตตฺถ กตโม เววจโน หาโรติ เววจนหารวิภงฺโค. ตตฺถ ยถา เววจนนิทฺเทโส โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกํ ภควา ธมฺมํ อฺมฺเหิ เววจเนหิ นิทฺทิสตี’’ติ วุตฺตํ. เววจเนหีติ ปริยายสทฺเทหีติ อตฺโถ. ปทตฺโถ ปุพฺเพ วุตฺโต เอว. กสฺมา ปน ภควา เอกํ ธมฺมํ อเนกปริยาเยหิ นิทฺทิสตีติ? วุจฺจเต – เทสนากาเล อายติฺจ กสฺสจิ กถฺจิ ตทตฺถปฏิโพโธ สิยาติ ปริยายวจนํ, ตสฺมึ ขเณ วิกฺขิตฺตจิตฺตานํ อฺวิหิตานํ อฺเน ปริยาเยน ตทตฺถาวโพธนตฺถํ ปริยายวจนํ. เตเนว ปเทน ปุน วจเน ตทฺเสํ ตตฺถ อธิคตตา สิยาติ มนฺทพุทฺธีนํ ปุนปฺปุนํ ตทตฺถสลฺลกฺขเณ อสมฺโมสนตฺถํ ปริยายวจนํ. อเนเกปิ อตฺถา สมานพฺยฺชนา โหนฺตีติ ยา อตฺถนฺตรปริกปฺปนา สิยา, ตสฺสา ปริวชฺชนตฺถมฺปิ ปริยายวจนํ อนฺสฺส วจเน อเนกาหิ ตาหิ ตาหิ สฺาหิ เตสํ เตสํ อตฺถานํ าปนตฺถมฺปิ ปริยายวจนํ เสยฺยถาปิ นิฆณฺฏุสตฺเถ. ธมฺมกถิกานํ ตนฺติอตฺถุปนิพนฺธนปราวโพธนานํ สุขสิทฺธิยาปิ ปริยายวจนํ. อตฺตโน ธมฺมนิรุตฺติปฏิสมฺภิทาปฺปตฺติยา วิภาวนตฺถํ, เวเนยฺยานํ ตตฺถ พีชาวาปนตฺถํ วา ปริยายวจนํ ภควา นิทฺทิสติ.

กึ พหุนา ยสฺสา ธมฺมธาตุยา สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺธา ยถา สพฺพสฺมึ อตฺเถ อปฺปฏิหตาณาจารา, ตถา สพฺพสฺมึ สทฺทโวหาเรติ เอกมฺปิ อตฺถํ อเนเกหิ ปริยาเยหิ โพเธติ, น ตตฺถ ทนฺธายิตตฺตํ วิตฺถายิตตฺตํ อตฺถสฺส. นาปิ ธมฺมเทสนาหานิ, อาเวณิโกวายํ พุทฺธธมฺโมติ ปริยายเทสนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อาสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อาสา นาม วุจฺจติ ยา ภวิสฺสสฺส อตฺถสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ภวิสฺสสฺส อตฺถสฺสาติ อนาคตสฺส อิจฺฉิตพฺพสฺส อตฺถสฺส. ‘‘อวสฺสํ อาคมิสฺสตี’’ติอาทินา ตสฺสา ปวตฺติยาการํ ทสฺเสติ. อนาคตตฺถวิสยา ตณฺหา อาสา. อนาคตปจฺจุปฺปนฺนตฺถวิสยา ตณฺหา ปิหาติ อยเมตาสํ วิเสโส.

อตฺถนิปฺผตฺติปฏิปาลนาติ ยาย อิจฺฉิตสฺส อตฺถสฺส นิปฺผตฺตึ ปฏิปาเลติ อาคเมติ, ยาย วา นิปฺผนฺนํ อตฺถํ ปฏิปาเลติ รกฺขติ. อยํ อภินนฺทนา นาม, ยถาลทฺธสฺส อตฺถสฺส เกลายนา นามาติ อตฺโถ. ตํ อตฺถนิปฺผตฺตึ สตฺตสงฺขารวเสน วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ปิยํ วา าติ’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ธมฺมนฺติ รูปาทิอารมฺมณธมฺมํ, อติอิฏฺารมฺมณํ อภินนฺทติ, อนิฏฺารมฺมเณหิปิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปฺปฏิกฺกูลโต วา อภินนฺทตี’’ติ วุตฺตํ. ปฏิกฺกูเลปิ หิ วิปลฺลาสวเสน สตฺตํ, สงฺขารํ วา อปฺปฏิกฺกูลโต อภินนฺทติ.

ยาสุ อเนกธาตูสุ ปวตฺติยา ตณฺหา ‘‘อเนกธาตูสุ สรา’’ติ วุตฺตา, ตา ธาตุโย วิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘จกฺขุธาตู’’ติอาทิ วุตฺตํ. กิฺจาปิ ธาตุวิภงฺคาทีสุ (วิภ. ๑๗๒ อาทโย) กามธาตุอาทโย อฺาปิ อเนกธาตุโย อาคตา, ตาสมฺปิ เอตฺเถว สมวโรโธติ ทสฺสนตฺถํ อฏฺารเสเวตฺถ ทสฺสิตา. เกจิ รูปาธิมุตฺตาติอาทิ ตาสุ ธาตูสุ ตณฺหาย ปวตฺติทสฺสนํ. ตตฺถ ยสฺมา ปฺจ อชฺฌตฺติกา ธาตุโย สตฺต จ วิฺาณธาตุโย ธมฺมธาตุ จ ธมฺมารมฺมเณเนว สงฺคหิตา, ตสฺมา อฏฺารส ธาตุโย อุทฺทิสิตฺวา ฉเฬว ตณฺหาย ปวตฺติฏฺานานิ วิภตฺตานีติ ทฏฺพฺพํ. ตณฺหาปกฺขา เนกฺขมฺมสฺสิตาปิ โทมนสฺสุปวิจารา ตสฺส อนุตฺตเรสุ วิโมกฺเขสุ ปิหํ อุปฏฺาปยโต อุปฺปชฺชติ ‘‘ปิหปจฺจยา โทมนสฺส’’นฺติ วจนโต, โก ปน วาโท เคหสฺสิเตสุ โทมนสฺสุปวิจาเรสูติ อิมานิ จตุวีสติ ปทานิ ‘‘ตณฺหาปกฺโข’’ติ วุตฺตํ. เคหสฺสิตา ปน อุเปกฺขา อฺาณุเปกฺขตาย ยถาภินิเวสสฺส ปจฺจโย โหตีติ ‘‘ยา ฉ อุเปกฺขา เคหสฺสิตา, อยํ ทิฏฺิปกฺโข’’ติ วุตฺตํ.

๓๘. อิทานิ เตสํ อุปวิจารานํ ตณฺหาปริยายํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สาเยว ปตฺถนากาเรน ธมฺมนนฺที’’ติอาทิมาห. ปุน จิตฺตํ ปฺา ภควา ธมฺโม สงฺโฆ สีลํ จาโคติ อิเมสํ ปริยายวจนนิทฺธารเณน เววจนหารํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘จิตฺตํ มโน วิฺาณ’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ‘‘อฺมฺปิ เอวํ ชาติย’’นฺติ อิมินา ปฺา ปชานนา วิจโย ปวิจโย ธมฺมวิจโย สลฺลกฺขณา อุปลกฺขณา ปจฺจุปลกฺขณา ปณฺฑิจฺจํ โกสลฺลํ เนปุฺํ เวภพฺยา จินฺตา อุปปริกฺขา ภูรี เมธา ปริณายิกา วิปสฺสนา สมฺปชฺํ ปโตโท ปฺา ปฺินฺทฺริยํ ปฺาพลํ ปฺาสตฺถํ ปฺาปาสาโท ปฺาอาโลโก ปฺาโอภาโส ปฺาปชฺโชโต ปฺารตนํ อโมโหติ (มหานิ. ๑๔๙) เอวมาทีนมฺปิ ปฺาย ปริยายสทฺทานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

ปฺจินฺทฺริยานิ โลกุตฺตรานีติ ขเย าณนฺติอาทีนิ ปฺจินฺทฺริยานิ โลกุตฺตรานิ, โลกุตฺตรปฺาย เววจนานีติ อตฺโถ. สพฺพา ปฺาติ อิตเรหิ เววจเนหิ วุตฺตา สพฺพา ปฺา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสิกาติ อตฺโถ. ‘‘อปิ จา’’ติอาทินา อิมินาปิ ปริยาเยน เววจนํ วตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. อาธิปเตยฺยฏฺเนาติ อธิโมกฺขลกฺขเณ อาธิปเตยฺยฏฺเน. ยถา จ พุทฺธานุสฺสติยํ วุตฺตนฺติ ยถา พุทฺธานุสฺสตินิทฺเทเส (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๓) ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินา ปาฬิยา โส ภควา อิติปิ อรหํ…เป… อิติปิ ภควาติ อเนเกหิ เววจเนหิ ภควา อนุสฺสริตพฺโพติ วุตฺตํ. อิมินาว นเยน พลนิปฺผตฺติคโต เวสารชฺชปฺปตฺโต ยาว ธมฺโมภาสปชฺโชตกโรติ, เอเตหิ ปริยาเยหิ พุทฺธสฺส ภควโต เววจนํ พุทฺธานุสฺสติยํ วตฺตพฺพนฺติ ปทํ อาหริตฺวา สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. เอตานิปิ กติปยานิ เอว ภควโต เววจนานิ. อสงฺขฺเยยฺยา หิ พุทฺธคุณา คุณเนมิตฺตกานิ จ ภควโต นามานิ. วุตฺตฺเหตํ ธมฺมเสนาปตินา –

‘‘อสงฺขฺเยยฺยานิ นามานิ, สคุเณน มเหสิโน;

คุเณน นามมุทฺเธยฺยํ, อปิ นาม สหสฺสโต’’ติ. (อุทา. อฏฺ. ๕๓);

ธมฺมานุสฺสติยํ ‘‘อสงฺขต’’นฺติอาทีสุ น เกนจิ ปจฺจเยน สงฺขตนฺติ อสงฺขตํ. นตฺถิ เอตสฺส อนฺโต วินาโสติ อนนฺตํ. อาสวานํ อนารมฺมณโต อนาสวํ. อวิปรีตสภาวตฺตา สจฺจํ. สํสารสฺส ปรตีรภาวโต ปารํ. นิปุณาณวิสยตฺตา สุขุมสภาวตฺตา จ นิปุณ. อนุปจิตาณสมฺภาเรหิ ทฏฺุํ น สกฺกาติ สุทุทฺทสํ. อุปฺปาทชราหิ อนพฺภาหตตฺตา อชชฺชรํ. ถิรภาเวน ธุวํ. ชรามรเณหิ อปลุชฺชนโต อปโลกิตํ. มํสจกฺขุนา ทิพฺพจกฺขุนา จ อปสฺสิตพฺพตฺตา อนิทสฺสนํ. ราคาทิปปฺจาภาเวน นิปฺปปฺจํ. กิเลสาภิสงฺขารานํ วูปสมเหตุตาย สนฺตํ.

อมตเหตุตาย ภงฺคาภาวโต จ อมตํ. อุตฺตมฏฺเน อตปฺปกฏฺเน จ ปณีตํ. อสิวานํ กมฺมกิเลสวิปากวฏฺฏานํ อภาเวน สิวํ. จตูหิ โยเคหิ อนุปทฺทวภาเวน เขมํ. ตณฺหา ขียติ เอตฺถาติ ตณฺหกฺขโย. กตปุฺเหิปิ กทาจิเทว ปสฺสิตพฺพตฺตา อจฺฉริยํ. อภูตปุพฺพตฺตา อพฺภุตํ. อนนฺตรายตฺตา อนีติกํ. อนนฺตรายภาวเหตุโต อนีติกธมฺมํ (สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๓๗๗-๔๐๙).

อนิพฺพตฺติสภาวตฺตา อชาตํ. ตโต เอว อภูตํ. อุภเยนาปิ อุปฺปาทรหิตนฺติ วุตฺตํ โหติ. เกนจิ อนุปทฺทุตตฺตา อนุปทฺทวํ. น เกนจิ ปจฺจเยน กตนฺติ อกตํ. นตฺถิ เอตฺถ โสโกติ อโสกํ. โสกเหตุวิคเมน วิโสกํ. เกนจิ อนุปสชฺชิตพฺพตฺตา อนุปสคฺคํ. อนุปสคฺคภาวเหตุโต อนุปสคฺคธมฺมํ.

คมฺภีราณโคจรโต คมฺภีรํ. สมฺมาปฏิปตฺตึ วินา ปสฺสิตุํ ปตฺตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา ทุปฺปสฺสํ. สพฺพโลกํ อุตฺตริตฺวา ิตนฺติ อุตฺตรํ. นตฺถิ เอตสฺส อุตฺตรนฺติ อนุตฺตรํ. สมสฺส สทิสสฺส อภาเวน อสมํ. ปฏิภาคาภาเวน อปฺปฏิสมํ. อุตฺตมฏฺเน เชฏฺํ, ปาสํสตมตฺตา วา เชฏฺํ. สํสารทุกฺขฏฺฏิเตหิ เลตพฺพโต เลณํ. ตโต รกฺขณโต ตาณํ. รณาภาเวน อรณํ. องฺคณาภาเวน อนงฺคณํ. นิทฺโทสตาย อกาจํ. ราคาทิมลาปคเมน วิมลํ. จตูหิ โอเฆหิ อนชฺโฌตฺถรณียโต ทีโป. สํสารวูปสมสุขตาย สุขํ. ปมาณกรธมฺมาภาวโต อปฺปมาณํ, คเณตุํ เอตสฺส น สกฺกาติ จ อปฺปมาณํ. สํสารสมุทฺเท อโนสีทนฏฺานตาย ปติฏฺา. ราคาทิกิฺจนาภาเวน ปริคฺคหาภาเวน จ อกิฺจนนฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

สงฺฆานุสฺสติยํ สตฺตานํ สาโรติ สีลสาราทิสารคุณโยคโต สตฺเตสุ สารภูโต. สตฺตานํ มณฺโฑติ โครเสสุ สปฺปิมณฺโฑ วิย สตฺเตสุ มณฺฑภูโต. สารคุณวเสเนว สตฺเตสุ อุทฺธริตพฺพโต สตฺตานํ อุทฺธาโร. นิจฺจลคุณตาย สตฺตานํ เอสิกา. คุณโสภาสุรภิภาเวน สตฺตานํ ปสูนํ สุรภิ กุสุมนฺติ อตฺโถ.

คุเณสุ อุตฺตมงฺคํ ปฺา ตสฺสา อุปโสภาเหตุตาย สีลํ อุตฺตมงฺโคปโสภนํ วุตฺตํ. สีเลสุ ปริปูรการิโน อนิชฺฌนฺตา นาม คุณา นตฺถีติ ‘‘นิธานฺจ สีลํ สพฺพโทภคฺคสมติกฺกมนฏฺเนา’’ติ วุตฺตํ. อยฺจ อตฺโถ อากงฺเขยฺยสุตฺเตน (ม. นิ. ๑.๖๔ อาทโย) ทีเปตพฺโพ. อปรมฺปิ วุตฺตํ – ‘‘อิชฺฌติ, ภิกฺขเว, สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตา’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๓๗; สํ. นิ. ๔.๓๕๒; อ. นิ. ๘.๓๕). สิปฺปนฺติ ธนุสิปฺปํ. ธฺนฺติ ธนายิตพฺพํ. ธมฺมโวโลกนตายาติ สมถวิปสฺสนาทิธมฺมสฺส โวโลกนภาเวน. โวโลกนฏฺเนาติ สตฺตภูมกาทิปาสาเท วิย สีเล ตฺวา อภิฺาจกฺขุนา โลกสฺส โวโลเกตุํ สกฺกาติ วุตฺตํ. สพฺพภูมานุปริวตฺติ จ สีลํ จตุภูมกกุสลสฺสาปิ ตทนุวตฺตนโต. เสสํ อุตฺตานเมวาติ.

เววจนหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. ปฺตฺติหารวิภงฺควณฺณนา

๓๙. ตตฺถ กตโม ปฺตฺติหาโรติ ปฺตฺติหารวิภงฺโค. ตตฺถ กา ปนายํ ปฺตฺตีติ? อาห ‘‘ยา ปกติกถาย เทสนา’’ติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยา เทสนาหาราทโย วิย อสฺสาทาทิปทตฺถวิเสสนิทฺธารณํ อกตฺวา ภควโต สาภาวิกธมฺมกถาย เทสนา. ยา ตสฺสา ปฺาปนา, อยํ ปฺตฺติหาโร. ยสฺมา ปน สา ภควโต ตถา ตถา เวเนยฺยสนฺตาเน ยถาธิปฺเปตมตฺถํ นิกฺขิปตีติ นิกฺเขโป. ตสฺส จายํ หาโร ทุกฺขาทิสงฺขาเต ภาเค ปกาเรหิ าเปติ, อสงฺกรโต วา เปติ, ตสฺมา ‘‘นิกฺเขปปฺตฺตี’’ติ วุตฺโต. อิติ ปกติกถาย เทสนาติ สงฺเขเปน วุตฺตมตฺถํ วิตฺถาเรน วิภชิตุํ ‘‘กา จ ปกติกถาย เทสนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘จตฺตาริ สจฺจานี’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ อิทํ ทุกฺขนฺติ อยํ ปฺตฺตีติ กกฺขฬผุสนาทิสภาเว รูปารูปธมฺเม อตีตาทิวเสน อเนกเภทภินฺเน อภินฺทิตฺวา ปีฬนสงฺขตสนฺตาปวิปริณามฏฺตาสามฺเน ยา กุจฺฉิตภาวาทิมุเขน เอกชฺฌํ คหณสฺส การณภูตา ปฺตฺติ, กา ปน สาติ? นามปฺตฺตินิพนฺธนา ตชฺชาปฺตฺติ. ‘‘วิฺตฺติวิการสหิโต สทฺโท เอวา’’ติ อปเร. อิมินา นเยน ตตฺถ ตตฺถ ปฺตฺติอตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘ปฺจนฺนํ ขนฺธาน’’นฺติอาทินา ตสฺสา ปฺตฺติยา อุปาทานํ ทสฺเสติ. ทสนฺนํ อินฺทฺริยานนฺติ อฏฺ รูปินฺทฺริยานิ มนินฺทฺริยํ เวทนินฺทฺริยนฺติ เอวํ ทสนฺนํ. อนุภวนสามฺเน หิ เวทนา เอกมินฺทฺริยํ กตา, ตถา สทฺธาทโย จ มคฺคปกฺขิยาติ.

กพฬํ กรียตีติ กพฬีกาโรติ วตฺถุวเสน อยํ นิทฺเทโส. ยาย โอชาย สตฺตา ยาเปนฺติ, ตสฺสาเยตํ อธิวจนํ. สา หิ โอชฏฺมกสฺส รูปสฺส อาหรณโต อาหาโร. อตฺถีติ มคฺเคน อสมุจฺฉินฺนตาย วิชฺชติ. ราโคติ รฺชนฏฺเน ราโค. นนฺทนฏฺเน นนฺที. ตณฺหายนฏฺเน ตณฺหา. สพฺพาเนตานิ โลภสฺเสว นามานิ. ปติฏฺิตํ ตตฺถ วิฺาณํ วิรุฬฺหนฺติ กมฺมํ ชวาเปตฺวา ปฏิสนฺธิอากฑฺฒนสมตฺถตาย ปติฏฺิตฺเจว วิฺาณํ วิรุฬฺหฺจ. ยตฺถาติ เตภูมกวฏฺเฏ ภุมฺมํ, สพฺพตฺถ วา ปุริมปุริมปเท เอตํ ภุมฺมํ. อตฺถิ ตตฺถ สงฺขารานํ วุทฺธีติ เย อิมสฺมึ วิปากวฏฺเฏ ิตสฺส อายตึ วฑฺฒนเหตุกา สงฺขารา, เต สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ยตฺถ อตฺถิ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺตี’’ติ ยสฺมึ าเน อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ อตฺถิ. อตฺถิ ตตฺถ อายตึ ชาติชรามรณนฺติ ยตฺถ ปฏิสนฺธิคฺคหณํ, ตตฺถ ขนฺธานํ อภินิพฺพตฺติลกฺขณา ชาติ, ปริปากลกฺขณา ชรา, เภทนลกฺขณํ มรณฺจ อตฺถิ. อยํ ปภาวปฺตฺติ ทุกฺขสฺส จ สมุทยสฺส จาติ อยํ ยถาวุตฺตา เทสนา ทุกฺขสจฺจสฺส สมุทยสจฺจสฺส จ สมุฏฺานปฺตฺติ, วิปากวฏฺฏสฺส สงฺขารานฺจ ตณฺหาปจฺจยนิทฺเทสโตติ อธิปฺปาโย.

นตฺถิ ราโคติ อคฺคมคฺคภาวนาย สมุจฺฉินฺนตฺตา นตฺถิ เจ ราโค. อปฺปติฏฺิตํ ตตฺถ วิฺาณํ อวิรุฬฺหนฺติ กมฺมํ ชวาเปตฺวา ปฏิสนฺธิอากฑฺฒนสมตฺถตายาภาเวน อปฺปติฏฺิตฺเจว อวิรุฬฺหฺจาติ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

‘‘อยํ ปริฺาปฺตฺตี’’ติอาทินา เอกาภิสมยวเสเนว มคฺคสมฺมาทิฏฺิ จตูสุ อริยสจฺเจสุ ปวตฺตตีติ ทสฺเสติ. อยํ ภาวนาปฺตฺตีติ อยํ ทฺวารารมฺมเณหิ ฉทฺวารปฺปวตฺตนธมฺมานํ อนิจฺจานุปสฺสนา มคฺคสฺส ภาวนาปฺตฺติ. นิโรธปฺตฺติ นิโรธสฺสาติ โรธสงฺขาตาย ตณฺหาย มคฺเคน อนวเสสนิโรธปฺตฺติ. อุปฺปาทปฺตฺตีติ อุปฺปนฺนสฺส ปฺาปนา. โอกาสปฺตฺตีติ านสฺส ปฺาปนา. อาหฏนาปฺตฺตีติ นีหรณปฺตฺติ. อาสาฏิกานนฺติ คุนฺนํ วเณสุ นีลมกฺขิกาหิ ปิตอณฺฑกา อาสาฏิกา นาม. เอตฺถ ยสฺส อุปฺปนฺนา, ตสฺส สตฺตสฺส อนยพฺยสนเหตุตาย อาสาฏิกา วิยาติ อาสาฏิกา, กิเลสา, เตสํ อาสาฏิกานํ. อภินิฆาตปฺตฺตีติ สมุคฺฆาตปฺตฺติ.

๔๑. เอวํ วฏฺฏวิวฏฺฏมุเขน สมฺมสนอุปาทานกฺขนฺธมุเขเนว สจฺเจสุ ปฺตฺติวิภาคํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตปริวฏฺฏวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘อิทํ ‘ทุกฺข’นฺติ เม, ภิกฺขเว’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ทสฺสนฏฺเน จกฺขุ. ยถาสภาวโต ชานนฏฺเน าณํ. ปฏิวิชฺฌนฏฺเน ปฺา. วิทิตกรณฏฺเน วิชฺชา. โอภาสนฏฺเน อาโลโก. สพฺพํ ปฺาเววจนเมว. อยํ เววจนปฺตฺติ. สจฺฉิกิริยาปฺตฺตีติ ปจฺจกฺขกรณปฺตฺติ.

ตุลมตุลฺจาติ คาถาย ปจุรชนานํ ปจฺจกฺขภาวโต ตุลิตํ ปริจฺฉินฺนนฺติ ตุลํ, กามาวจรํ. น ตุลนฺติ อตุลํ, ตุลํ วา สทิสมสฺส อฺํ โลกิยกมฺมํ นตฺถีติ อตุลํ, มหคฺคตกมฺมํ. กามาวจรรูปาวจรกมฺมํ วา ตุลํ, อรูปาวจรํ อตุลํ, อปฺปวิปากํ วา ตุลํ. พหุวิปากํ อตุลํ. สมฺภวติ เอเตนาติ สมฺภวํ, สมฺภวเหตุภูตํ. ภวสงฺขารํ ปุนพฺภวสงฺขรณกํ. อวสฺสชีติ วิสฺสชฺเชสิ. มุนีติ พุทฺธมุนิ. อชฺฌตฺตรโตติ นิยกชฺฌตฺตรโต. สมาหิโตติ อุปจารปฺปนาสมาธิวเสน สมาหิโต. อภินฺทิ กวจมิวาติ กวจํ วิย ภินฺทิ. อตฺตสมฺภวนฺติ อตฺตนิ สฺชาตํ กิเลสํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สวิปากฏฺเน สมฺภวํ ภวาภิสงฺขรณฏฺเน ภวสงฺขารนฺติ จ ลทฺธนามํ ตุลาตุลสงฺขาตํ โลกิยกมฺมฺจ โอสฺสชิ, สงฺคามสีเส มหาโยโธ กวจํ วิย อตฺตสมฺภวํ กิเลสฺจ อชฺฌตฺตรโต สมาหิโต หุตฺวา อภินฺทีติ.

อถ วา ตุลนฺติ ตุลยนฺโต ตีเรนฺโต. อตุลฺจ สมฺภวนฺติ นิพฺพานฺเจว สมฺภวฺจ. ภวสงฺขารนฺติ ภวคามิกมฺมํ. อวสฺสชิ มุนีติ ‘‘ปฺจกฺขนฺธา อนิจฺจา, เตสํ นิโรโธ นิพฺพานํ นิจฺจ’’นฺติอาทินา (ปฏิ. ม. ๓.๓๘ อตฺถโต สมานํ) นเยน ตุลยนฺโต พุทฺธมุนิ ภเว อาทีนวํ นิพฺพาเน อานิสํสฺจ ทิสฺวา ตํ ขนฺธานํ มูลภูตํ ภวสงฺขารํ กมฺมกฺขยกเรน อริยมคฺเคน อวสฺสชิ. กถํ? อชฺฌตฺตรโต. โส หิ วิปสฺสนาวเสน อชฺฌตฺตรโต สมถวเสน สมาหิโต กวจมิว อตฺตภาวํ ปริโยนนฺธิตฺวา ิตํ อตฺตนิ สมฺภวตฺตา ‘‘อตฺตสมฺภว’’นฺติ ลทฺธนามํ สพฺพํ กิเลสชาตํ อภินฺทิ, กิเลสาภาเว กมฺมํ อปฺปฏิสนฺธิกตฺตา อวสฺสฏฺํ นาม โหติ, กิเลสาภาเวน กมฺมํ ชหีติ อตฺโถ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๑๖๙; อุทา. อฏฺ. ๕๑).

สงฺขตาสงฺขตธาตุวินิมุตฺตสฺส อภิฺเยฺยสฺส อภาวโต วุตฺตํ ‘‘ตุล…เป… ธมฺมาน’’นฺติ. เตน ธมฺมปฏิสมฺภิทา วุตฺตา โหตีติ อาห – ‘‘นิกฺเขปปฺตฺติ ธมฺมปฏิสมฺภิทายา’’ติ. ภวสงฺขาเร สมุทยปกฺขิยํ สนฺธายาห ‘‘ปริจฺจาคปฺตฺตี’’ติ. ทุกฺขสจฺจปกฺขิยวเสน ‘‘ปริฺาปฺตฺตี’’ติ. สมาธานวิสิฏฺสฺส อชฺฌตฺตรตภาวสฺส วเสน ‘‘ภาวนาปฺตฺติ กายคตาย สติยา’’ติ วุตฺตํ. อชฺฌตฺตรตตาวิสิฏฺสฺส ปน สมาธานสฺส วเสน ‘‘ิติปฺตฺติ จิตฺเตกคฺคตายา’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อภินิพฺพิทาปฺตฺติ จิตฺตสฺสาติ อายุสงฺขาโรสฺสชฺชนวเสน จิตฺตสฺส อภินีหรณปฺตฺติ. อุปาทานปฺตฺตีติ คหณปฺตฺติ. สพฺพฺุตายาติ สมฺมาสมฺพุทฺธภาวสฺส. เอเตน อสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อายุสงฺขาโรสฺสชฺชนํ นตฺถีติ ทสฺเสติ. กิเลสาภาเวน ภควา กมฺมํ ชหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปทาลนาปฺตฺติ อวิชฺชณฺฑโกสาน’’นฺติ อาห.

โย ทุกฺขมทฺทกฺขิ ยโตนิทานนฺติ โย อารทฺธวิปสฺสโก สพฺพํ เตภูมกํ ทุกฺขํ อทกฺขิ ปสฺสิ, ตฺจ ยโตนิทานํ ยํ เหตุกํ, ตมฺปิสฺส การณภาเวน ตณฺหํ ปสฺสิ. กาเมสุ โส ชนฺตุ กถํ นเมยฺยาติ โส เอวํ ปฏิปนฺโน ปุริโส สวตฺถุกาเมสุ กิเลสกาเมสุ เยน ปกาเรน นเมยฺย อภินเมยฺย, โส ปกาโร นตฺถิ. กสฺมา? กามา หิ โลเก สงฺโคติ ตฺวา. ยสฺมา อิมสฺมึ โลเก กามสทิสํ พนฺธนํ นตฺถิ. วุตฺตฺเจตํ ภควตา ‘‘น ตํ ทฬฺหํ พนฺธนมาหุ ธีรา’’ติอาทิ (ธ. ป. ๓๔๕; สํ. นิ. ๑.๑๒๑; เนตฺติ. ๑๐๖; เปฏโก ๑๕), ตสฺมา สงฺขาเร อาสชฺชนฏฺเน สงฺโคติ วิทิตฺวา. เตสํ สตีมา วินยาย สิกฺเขติ กายคตาสติโยเคน สติมา เตสํ กามานํ วูปสมาย ตีสุปิ สิกฺขาสุ อปฺปมตฺโต สิกฺเขยฺยาติ อตฺโถ.

เววจนปฺตฺตีติ ขนฺธาทีนํ เววจนปฺตฺติ. อทกฺขีติ ปน ปเทน สมฺพนฺธตฺตา วุตฺตํ – ‘‘ทุกฺขสฺส ปริฺาปฺตฺติ จา’’ติ. ปจฺจตฺถิกโต ทสฺสนปฺตฺตีติ อนตฺถชนนโต ปจฺจตฺถิกโต ทสฺสนปฺตฺติ. ปาวกกปฺปาติ ชลิตอคฺคิกฺขนฺธสทิสา. ปปาตอุรโคปมาติ ปปาตูปมาอุรโคปมา จ.

โมหสมฺพนฺธโน โลโกติ อยํ โลโก อวิชฺชาเหตุเกหิ สํโยชเนหิ พนฺโธ. ภพฺพรูโปว ทิสฺสตีติ วิปนฺนชฺฌาสโยปิ มายาย สาเยฺเยน จ ปฏิจฺฉาทิตสภาโว ภพฺพชาติกํ วิย อตฺตานํ ทสฺเสติ. อุปธิพนฺธโน พาโล, ตมสา ปริวาริโตติ ตสฺส ปน พาลสฺส ตถา ทสฺสเน สมฺโมหตมสา ปริวาริตตฺตา กามคุเณสุ อนาทีนวทสฺสิตาย กิเลสาภิสงฺขาเรหิ พนฺธตฺตา. ตถา ภูโต จายํ พาโล ปณฺฑิตานํ อสฺสิรี วิย ขายติ อลกฺขิโก เอว หุตฺวา อุปฏฺาติ. ตยิทํ สพฺพํ พาลสฺส สโต ราคาทิกิฺจนโต. ปณฺฑิตสฺส ปน ปฺาจกฺขุนา ปสฺสโต นตฺถิ กิฺจนนฺติ อยํ สงฺเขปตฺโถ. โมหสีเสน วิปลฺลาสา คหิตาติ อาห – ‘‘เทสนาปฺตฺติ วิปลฺลาสาน’’นฺติ. วิปรีตปฺตฺตีติ วิปรีตากาเรน อุปฏฺหมานสฺส ปฺาปนา.

อตฺถิ นิพฺพานนฺติ สมณพฺราหฺมณานํ วาจาวตฺถุมตฺตเมว. นตฺถิ นิพฺพานนฺติ ปรมตฺถโต อลพฺภมานสภาวตฺตาติ วิปฺปฏิปนฺนานํ มิจฺฉาวาทํ ภฺชิตุํ ภควตา วุตฺตํ – ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขต’’นฺติ. ตตฺถ เหตุํ ทสฺเสตุํ ‘‘โน เจตํ, ภิกฺขเว’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ – ภิกฺขเว, ยทิ อสงฺขตา ธาตุ น อภวิสฺส, น อิธ สพฺพสฺส สงฺขตสฺส นิสฺสรณํ สิยา. นิพฺพานฺหิ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตมานา สมฺมาทิฏฺิอาทโย มคฺคธมฺมา อนวเสสกิเลเส สมุจฺฉินฺทนฺติ, ตโต ติวิธสฺสปิ วฏฺฏสฺส อปฺปวตฺตีติ.

ตตฺถายมธิปฺปาโย – ยถา ปริฺเยฺยตาย สอุตฺตรานํ กามานํ รูปานฺจ ปฏิปกฺขภูตํ ตพฺพิธุรสภาวํ นิสฺสรณํ ปฺายติ, เอวํ ตํสภาวานํ สงฺขภธมฺมานํ ปฏิปกฺขภูเตน ตพฺพิธุรตาสภาเวน นิสฺสรเณน ภวิตพฺพํ, ยฺจ ตํ นิสฺสรณํ. สา อสงฺขตา ธาตุ. กิฺจ ภิยฺโย? สงฺขตธมฺมารมฺมณํ วิปสฺสนาาณํ. อปิ จ อนุโลมาณํ กิเลเส น สมุจฺเฉทวเสน ปชหิตุํ สกฺโกติ. สมฺมุติสจฺจารมฺมณมฺปิ ปมชฺฌานาทีสุ าณํ วิกฺขมฺภนมตฺตเมว กโรติ, กิเลสานํ น สมุจฺเฉทํ, สมุจฺเฉทปฺปหานกรฺจ อริยมคฺคาณํ, ตสฺส สงฺขตธมฺมสมฺมุติสจฺจวิปรีเตน อารมฺมเณน ภวิตพฺพํ, สา อสงฺขตา ธาตุ. ตถา นิพฺพาน-สทฺโท กตฺถจิ วิสเย อวิปรีตตฺโถ เวทิตพฺโพ, อุปจารวุตฺติสพฺภาวโต, ยถา ตํ ‘‘สีหสทฺโท’’ติ.

อถ วา ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขต’’นฺติ (อุทา. ๗๓) วจนํ อวิปรีตตฺถํ, ภควตา ภาสิตตฺตา. ยฺหิ ภควตา ภาสิตํ, ตํ อวิปรีตตฺถํ. ยถา ตํ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา, สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา, สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๕๓, ๓๕๖; กถา. ๗๕๓; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๔; ปฏิ. ม. ๑.๓๑; เนตฺติ. ๕; ธ. ป. ๒๗๗-๒๗๙), เอวมฺปิ ยุตฺติวเสน อสงฺขตาย ธาตุยา ปรมตฺถโต สพฺภาโว เวทิตพฺโพ. กึ วา เอตาย ยุตฺติจินฺตาย? ยสฺมา ภควตา ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขตนฺติ (อุทา. ๗๓), อปฺปจฺจยา ธมฺมา อสงฺขตา ธมฺมาติ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๗-๘) จ, อสงฺขตฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ อสงฺขตคามินิฺจ ปฏิปท’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๔.๓๖๖-๓๖๗, ๓๗๗) จ อเนเกหิ สุตฺตปเทหิ นิพฺพานธาตุยา ปรมตฺถโต สพฺภาโว เทสิโตติ. ตตฺถ อุปนยนปฺตฺตีติ ปฏิปกฺขโต เหตุอุปนยนสฺส ปฺาปนา. โชตนาปฺตฺตีติ ปฏิฺาตสฺส อตฺถสฺส สิทฺธิยา ปกาสนาปฺตฺติ. เสสํ สพฺพํ สุวิฺเยฺยเมว.

ปฺตฺติหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. โอตรณหารวิภงฺควณฺณนา

๔๒. ตตฺถ กตโม โอตรโณ หาโรติ โอตรณหารวิภงฺโค. ตตฺถ อเสกฺขา วิมุตฺตีติ อยํ เตธาตุเก วีตราคตา อเสกฺขา ผลวิมุตฺติ. ตานิเยวาติ ตานิ อเสกฺขายํ วิมุตฺติยํ สทฺธาทีนิ. อยํ อินฺทฺริเยหิ โอตรณาติ อเสกฺขาย วิมุตฺติยา นิทฺธาริเตหิ สทฺธาทีหิ อินฺทฺริเยหิ สํวณฺณนาย โอตรณา.

ปฺจินฺทฺริยานิ วิชฺชาติ สมฺมาสงฺกปฺโป วิย สมฺมาทิฏฺิยา อุปการกตฺตา ปฺากฺขนฺเธ สทฺธาทีนิ จตฺตาริ อินฺทฺริยานิ วิชฺชาย อุปการกตฺตา สงฺคณฺหนวเสน วุตฺตานิ. สงฺขารปริยาปนฺนานีติ ปฺจสุ ขนฺเธสุ สงฺขารกฺขนฺเธ อนฺโตคธานิ. เย สงฺขารา อนาสวาติ ตํ สงฺขารกฺขนฺธํ วิเสเสติ, อคฺคผลสฺส อธิปฺเปตตฺตา. ตโต เอว จ โน ภวงฺคา. ธมฺมธาตุสงฺคหิตาติ อฏฺารสธาตูสุ ธมฺมธาตุสงฺคหิตา. ยทิปิ ปุพฺเพ วีตราคตา อเสกฺขา วิมุตฺติ ทสฺสิตา, ตสฺสา ปน ปฏิปตฺติทสฺสนตฺถํ ‘‘อยํ อหมสฺมีติ อนานุปสฺสี’’ติ ทสฺสนมคฺโค อิธ วุตฺโตติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อยํ อหมสฺมีติ อนานุปสฺสี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สพฺพํ วุตฺตนยเมว.

๔๓. นิสฺสิตสฺส จลิตนฺติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน กมฺมํ อนวฏฺานํ. จุตูปปาโตติ อปราปรํ จวนํ อุปปตนฺจ. นิสฺสิตปเท ลพฺภมานํ นิสฺสยนํ อุทฺธรนฺโต อาห – ‘‘นิสฺสโย นามา’’ติ. ตณฺหานิสฺสโยติ ตณฺหาภินิเวโส. โส หิ ตณฺหาจริตสฺส ปติฏฺาภาเวน ตถา วุตฺโต. เอวํ ทิฏฺินิสฺสโยปิ ทฏฺพฺโพ. รตฺตสฺส เจตนาติ เจตนาปธานตฺตา สงฺขารกฺขนฺธธมฺมานํ เจตนาสีเสน ตณฺหํ เอว วทติ. เตเนวาห – ‘‘อยํ ตณฺหานิสฺสโย’’ติ. ยสฺมา ปน วิปรีตาภินิเวโส โมหสฺส พลวภาเว เอว โหติ, ตสฺมา ‘‘ยา มูฬฺหสฺส เจตนา, อยํ ทิฏฺินิสฺสโย’’ติ วุตฺตํ.

เอวํ เจตนาสีเสน ตณฺหาทิฏฺิโย วตฺวา อิทานิ ตตฺถ นิปฺปริยาเยน เจตนํเยว คณฺหนฺโต ‘‘เจตนา ปน สงฺขารา’’ติ อาห. ยา รตฺตสฺส เวทนา, อยํ สุขา เวทนาติ สุขาย เวทนาย ราโค อนุเสตีติ กตฺวา วุตฺตํ. ตถา อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชา อนุเสตีติ อาห – ‘‘ยา สมฺมูฬฺหสฺส เวทนา, อยํ อทุกฺขมสุขา เวทนา’’ติ. อิธ เวทนาสีเสน เจตนา วุตฺตา. ตณฺหายาติ ตณฺหํ. ทิฏฺิยาติ ทิฏฺึ. ยถา วา เสสธมฺมานํ ตณฺหาย นิสฺสยภาเว ปุคฺคโล ตณฺหาย นิสฺสิโตติ วุจฺจติ. เอวํ ตณฺหาย เสสธมฺมานํ ปจฺจยภาเว ปุคฺคโล ตณฺหาย นิสฺสิโตติ วุจฺจตีติ อาห – ‘‘ตณฺหาย อนิสฺสิโต’’ติ.

ปสฺสทฺธีติ ทรถปฏิปฺปสฺสมฺภนา. กายิกาติ กรชกายสนฺนิสฺสิตา. เจตสิกาติ จิตฺตสนฺนิสฺสิตา. ยสฺมา ปน สา ทรถปฏิปฺปสฺสทฺธิ กายจิตฺตานํ สุเข สติ ปากฏา โหติ, ตสฺมา ‘‘ยํ กายิกํ สุข’’นฺติอาทินา ผลูปจาเรน วุตฺตาย ปสฺสทฺธิยา นติอภาวสฺส การณภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปสฺสทฺธกาโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. โสติ เอวํ วิมุตฺตจิตฺโต ขีณาสโว. รูปสงฺขเย วิมุตฺโตติ รูปานํ สงฺขยสงฺขาเต นิพฺพาเน วิมุตฺโต. อตฺถีติปิ น อุเปตีติ สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จาติปิ ตณฺหาทิฏฺิอุปเยน น อุเปติ น คณฺหาติ. นตฺถีติ อสสฺสโตติ. อตฺถิ นตฺถีติ เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตนฺติ. เนวตฺถิ โน นตฺถีติ อมราวิกฺเขปวเสน. คมฺภีโรติ อุตฺตานภาวเหตูนํ กิเลสานํ อภาเวน คมฺภีโร. นิพฺพุโตติ อตฺถีติอาทินา อุปคมนกิเลสานํ วูปสเมน ปรินิพฺพุโต สีติภูโต.

อิธาคตีติ ปรโลกโต อิธ อาคติ. คตีติ อิธโลกโต ปรโลกคมนํ. ตํ ปน ปุนพฺภโวติ อาห ‘‘เปจฺจภโว’’ติ. อิธ หุรนฺติ ทฺวารารมฺมณธมฺมา ทสฺสิตาติ ‘‘อุภยมนฺตเรนา’’ติ ปเทน ทฺวารปฺปวตฺตธมฺเม ทสฺเสนฺโต ‘‘ผสฺสสมุทิเตสุ ธมฺเมสู’’ติ อาห. ตสฺสตฺโถ – ผสฺเสน สทฺธึ ผสฺเสน การณภูเตน จ สมุทิเตสุ สมฺภูเตสุ วิฺาณเวทนาสฺาเจตนาวิตกฺกวิจาราทิธมฺเมสุ. อตฺตานํ น ปสฺสตีติ เตสํ ธมฺมานํ อนตฺตภาเวเนว ตตฺถ อตฺตานํ น ปสฺสติ. วิรชฺชติ วิราคา วิมุจฺจตีติ ปเทหิ โลกุตฺตรธมฺมานํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทภาวํ ทสฺเสนฺโต ตทตฺถตาย สีลาทีนมฺปิ ปริยาเยน ตพฺภาวมาห ‘‘โลกุตฺตโร’’ติอาทินา.

๔๔. นามสมฺปยุตฺโตติ นาเมน มิสฺสิโต. สอุปาทิเสสา นิพฺพานธาตูติ อรหตฺตผลํ อธิปฺเปตํ. ตฺจ ปฺาปธานนฺติ อาห – ‘‘สอุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ วิชฺชาติ. เสสํ สพฺพํ อุตฺตานเมว.

โอตรณหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๓. โสธนหารวิภงฺควณฺณนา

๔๕. ตตฺถ กตโม โสธโน หาโรติ โสธนหารวิภงฺโค. ตตฺถ ภควา ปทํ โสเธตีติ ‘‘อวิชฺชาย นิวุโต โลโก’’ติ (สุ. นิ. ๑๐๓๙; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉา ๕๘, อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๒) วทนฺโต ภควา – ‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก’’ติ (สุ. นิ. ๑๐๓๘; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉา ๕๗, อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑) อายสฺมตา อชิเตน ปุจฺฉาวเสน วุตฺตํ ปทํ โสเธติ นาม, ตทตฺถสฺส วิสฺสชฺชนโต. โน จ อารมฺภนฺติ น ตาว อารมฺภํ โสเธติ, าตุํ อิจฺฉิตสฺส อตฺถสฺส อปริโยสิตตฺตา. สุทฺโธ อารมฺโภติ าตุํ อิจฺฉิตสฺส อตฺถสฺส ปโพธิตตฺตา โสธิโต อารมฺโภติ อตฺโถ. อฺาณปกฺขนฺทานํ ทฺเวฬฺหกชาตานํ วา ปุจฺฉนกาเล ปุจฺฉิตานํ ปุจฺฉาวิสโย อวิชฏํ มหาคหนํ วิย มหาทุคฺคํ วิย จ อนฺธการํ อวิภูตํ โหติ. ยทา จ ภควตา ปณฺฑิเตหิ วา ภควโต สาวเกหิ อปเท ปทํ ทสฺเสนฺเตหิ นิชฺชฏํ นิคุมฺพํ กตฺวา ปฺเห วิสฺสชฺชิเต มหตา คนฺธหตฺถินา อภิภวิตฺวา โอภคฺคปทาลิโต คหนปฺปเทโส วิย วิคตนฺธกาโร วิภูโต อุปฏฺหมาโน วิโสธิโต นาม โหติ.

โสธนหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๔. อธิฏฺานหารวิภงฺควณฺณนา

๔๖. ตตฺถ กตโม อธิฏฺาโน หาโรติ อธิฏฺานหารวิภงฺโค. ตตฺถ ตถา ธารยิตพฺพาติ เอกตฺตเวมตฺตตาสงฺขาตสามฺวิเสสมตฺตโต ธารยิตพฺพา, น ปน ตตฺถ กิฺจิ วิกปฺเปตพฺพาติ อธิปฺปาโย. อวิกปฺเปตพฺพตาย การณํ นิทฺเทสวารวณฺณนายํ วุตฺตเมว. ตํ ตํ ผลํ มคฺคติ คเวสตีติ มคฺโค, ตทตฺถิเกหิ มคฺคียติ คเวสียตีติ วา มคฺโค. นิรติยฏฺเน นิรสฺสาทฏฺเน จ นิรโย. อุทฺธํ อนุคนฺตฺวา ติริยํ อฺจิตาติ ติรจฺฉานา. ติรจฺฉานาว ติรจฺฉานโยนิ. เปตตาย เปตฺติ, อิโต เปจฺจ คตภาโวติ อตฺโถ. เปตฺติ เอว เปตฺติวิสโย. น สุรนฺติ น ภาสนฺติ น ทิพฺพนฺตีติ อสุรา. อสุรา เอว อสุรโยนิ. ทิพฺเพหิ รูปาทีหิ สุฏฺุ อคฺคาติ สคฺคา. มนสฺส อุสฺสนฺนตาย มนุสฺสา. วานํ วุจฺจติ ตณฺหา, ตํ ตตฺถ นตฺถีติ นิพฺพานํ. นิรยํ คจฺฉตีติ นิรยคามี. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อสุรโยนิโยติ อสุรโยนิยา หิโต, อสุรชาตินิพฺพตฺตนโกติ อตฺโถ. สคฺคํ คเมตีติ สคฺคคามิโย. มนุสฺสคามีติ มนุสฺสโลกคามี. ปฏิสงฺขานิโรโธติ ปฏิสงฺขาย ปฏิปกฺขภาวนาย นิโรโธ, ปฏิปกฺเข วา ตถา อปฺปวตฺเต อุปฺปชฺชนารหสฺส ปฏิปกฺขวุตฺติยา อนุปฺปาโท. อปฺปฏิสงฺขานิโรโธติ สงฺขตธมฺมานํ สรสนิโรโธ, ขณิกนิโรโธติ อตฺโถ.

๔๗. รูปนฺติ เอกตฺตตา. ภูตานํ อุปาทายาติ เวมตฺตตา. อุปาทารูปนฺติ เอกตฺตตา. จกฺขายตนํ…เป… กพฬีกาโร อาหาโรติ เวมตฺตตา. ตถา ภูตรูปนฺติ เอกตฺตตา. ปถวีธาตุ …เป… วาโยธาตูติ เวมตฺตตา. ปถวีธาตูติ เอกตฺตตา. วีสติ อาการา เวมตฺตตา. อาโปธาตูติ เอกตฺตตา. ทฺวาทส อาการา เวมตฺตตา. เตโชธาตูติ เอกตฺตตา. จตฺตาโร อาการา เวมตฺตตา. วาโยธาตูติ เอกตฺตตา. ฉ อาการา เวมตฺตตาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทฺวีหิ อากาเรหิ ธาตุโย ปริคฺคณฺหาตี’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ เกสาติ เกสา นาม อุปาทินฺนกสรีรฏฺกา กกฺขฬลกฺขณา อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก ปถวีธาตุโกฏฺาโส. โลมา นาม…เป… มตฺถลุงฺคํ นาม สรีรฏฺกํ กกฺขฬลกฺขณํ อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโสติ อยํ เวมตฺตตา. อาโปธาตูติอาทิโกฏฺาเสสุ ปิตฺตาทีสุ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – เยน จาติ เยน เตโชธาตุนา กุปิเตน. สนฺตปฺปตีติ อยํ กาโย สนฺตปฺปติ เอกาหิกชราทิภาเวน อุสุมชาโต โหติ. เยน จ ชีรียตีติ เยน อยํ กาโย ชรียติ. อินฺทฺริยเวกลฺลตํ พลกฺขยํ วลิตฺตจปลิตาทิฺจ ปาปุณาติ. เยน จ ปริฑยฺหตีติ เยน กุปิเตน อยํ กาโย ฑยฺหติ, โส จ ปุคฺคโล ‘‘ฑยฺหามิ ฑยฺหามี’’ติ กนฺทนฺโต สตโธตสปฺปิโคสีตจนฺทนาทิเลปนํ ตาลวณฺฏวาตฺจ ปจฺจาสีสติ. เยน จ อสิตปีตขายิตสายิตํ สมฺมา ปริณามํ คจฺฉตีติ อสิตํ วา โอทนาทิ, ปีตํ วา ปานกาทิ, ขายิตํ วา ปิฏฺขชฺชกาทิ, สายิตํ วา อมฺพปกฺกมธุผาณิตาทิ สมฺมา ปริปากํ คจฺฉติ, รสาทิภาเวน วิเวกํ คจฺฉตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ปุริมา ตโย เตโชธาตู จตุสมุฏฺานา. ปจฺฉิโม กมฺมสมุฏฺาโนว.

อุทฺธงฺคมา วาตาติ อุคฺคารหิกฺการาทิปวตฺตกา อุทฺธํ อาโรหนวาตา. อโธคมา วาตาติ อุจฺจารปสฺสาวาทินีหรณกา อโธ โอโรหนวาตา. กุจฺฉิสยา วาตาติ อนฺตานํ พหิวาตา. โกฏฺาสยา วาตาติ อนฺตานํ อนฺโตวาตา. องฺคมงฺคานุสาริโน วาตาติ ธมนิชาลานุสาเรน สกลสรีเร องฺคมงฺคานิ อนุสฏา สมิฺชนปสารณาทินิพฺพตฺตกา วาตา. อสฺสาโสติ อนฺโตปวิสนนาสิกวาโต. ปสฺสาโสติ พหินิกฺขมนนาสิกวาโต. เอตฺถ จ ปุริมา สพฺเพ จตุสมุฏฺานา. อสฺสาสปสฺสาสา จิตฺตสมุฏฺานา เอว. เอวํ เวมตฺตตาทสฺสนวเสน วิภาเคน อุทาหฏา จตสฺโส ธาตุโย ปฏิกฺกูลมนสิการวเสน อุปสํหรนฺโต ‘‘อิเมหิ ทฺวาจตฺตาลีสาย อากาเรหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ น คยฺหูปคนฺติ น คหณโยคฺคํ. สภาวภาวโตติ สภาวลกฺขณโต.

เอวํ ปฏิกฺกูลมนสิการํ ทสฺเสตฺวา ปุน ตตฺถ สมฺมสนจารํ ปาฬิวเสเนว ทสฺเสตุํ ‘‘เตนาห ภควา ยา เจว โข ปนา’’ติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ สุวิฺเยฺยํ.

๔๘. เอวํ สจฺจมคฺครูปธมฺมวเสน อธิฏฺานหารํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อวิชฺชาวิชฺชาทีนมฺปิ วเสน ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อวิชฺชาติ เอกตฺตตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘ทุกฺเข อฺาณ’’นฺติอาทีสุ ยสฺมา อวิชฺชา ทุกฺขสจฺจสฺส ยาถาวสรสลกฺขณํ ชานิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทติ ฉาเทตฺวา ปริโยนนฺธิตฺวา ติฏฺติ, ตสฺมา ‘‘ทุกฺเข อฺาณ’’นฺติ วุจฺจติ. ตถา ยสฺมา ทุกฺขสมุทยสฺส ทุกฺขนิโรธสฺส ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย ยาถาวสรสลกฺขณํ ชานิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทติ ฉาเทตฺวา ปริโยนนฺธิตฺวา ติฏฺติ, ตสฺมา ‘‘ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย อฺาณ’’นฺติ วุจฺจติ. ปุพฺพนฺโต อตีตทฺธภูตา ขนฺธายตนธาตุโย. อปรนฺโต อนาคตทฺธภูตา. ปุพฺพนฺตาปรนฺโต ตทุภยํ. อิทปฺปจฺจยตา สงฺขาราทีนํ การณานิ อวิชฺชาทีนิ. ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ธมฺมา อวิชฺชาทีหิ นิพฺพตฺตา สงฺขาราทิธมฺมา.

ตตฺถายํ อวิชฺชา ยสฺมา อตีตานํ ขนฺธาทีนํ ยาว ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนานํ ธมฺมานํ ยาถาวสรสลกฺขณํ ชานิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทติ ฉาเทตฺวา ปริโยนนฺธิตฺวา ติฏฺติ, ตสฺมา ‘‘ปุพฺพนฺเต อฺาณํ ยาว ปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ อฺาณ’’นฺติ วุจฺจติ, เอวายํ อวิชฺชา กิจฺจโต ชาติโตปิ กถิตา. อยฺหิ อิมานิ อฏฺ านานิ ชานิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทตีติ กิจฺจโต กถิตา. อุปฺปชฺชมานาปิ อิเมสุ อฏฺสุ าเนสุ อุปฺปชฺชตีติ ชาติโต กถิตา. เอวํ กิจฺจโต ชาติโต จ กถิตาปิ ลกฺขณโต กถิเต เอว สุกถิตา โหตีติ ลกฺขณโต ทสฺเสตุํ ‘‘อฺาณ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ าณํ อตฺถานตฺถํ การณาการณํ จตุสจฺจธมฺมํ วิทิตํ ปากฏํ กโรติ. อยํ ปน อวิชฺชา อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ วิทิตํ ปากฏํ กาตุํ น เทตีติ าณปจฺจนีกโต อฺาณํ. ทสฺสนนฺติปิ ปฺา, สา หิ ตํ อาการํ ปสฺสติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ปสฺสิตุํ น เทตีติ อทสฺสนํ. อภิสมโยติปิ ปฺา, สา ตํ อาการํ อภิสเมติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ อภิสเมตุํ น เทตีติ อนภิสมโย. อนุโพโธ สมฺโพโธ ปฏิเวโธติปิ ปฺา, สา ตํ อาการํ อนุพุชฺฌติ สมฺพุชฺฌติ ปฏิวิชฺฌติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ อนุพุชฺฌิตุํ สมฺพุชฺฌิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทตีติ อนนุโพโธ อสมฺโพโธ อปฺปฏิเวโธ. ตถา สลฺลกฺขณํ อุปลกฺขณํ ปจฺจุปลกฺขณํ สมเปกฺขณนฺติปิ ปฺา, สา ตํ อาการํ สลฺลกฺขติ อุปลกฺขติ ปจฺจุปลกฺขติ สมํ สมฺมา จ อเปกฺขติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตสฺส ตถา กาตุํ น เทตีติ อสลฺลกฺขณํ อนุปลกฺขณํ อปจฺจุปลกฺขณํ อสมเปกฺขณนฺติ จ วุจฺจติ.

นาสฺส กิฺจิ ปจฺจกฺขกมฺมํ อตฺถิ, สยฺจ อปฺปจฺจเวกฺขิตฺวา กตกมฺมนฺติ อปฺปจฺจกฺขกมฺมํ. ทุมฺเมธานํ ภาโว ทุมฺเมชฺฌํ. พาลานํ ภาโว พาลฺยํ. สมฺปชฺนฺติ ปฺา, สา อตฺถานตฺถํ การณาการณํ จตุสจฺจธมฺมํ สมฺปชานาติ. อวิชฺชา ปน อุปฺปชฺชิตฺวา ตํ การณํ ปชานิตุํ น เทตีติ อสมฺปชฺํ. โมหนวเสน โมโห. ปโมหนวเสน ปโมโห. สมฺโมหนวเสน สมฺโมโห. อวินฺทิยํ วินฺทติ, วินฺทิยํ น วินฺทตีติ อวิชฺชา. วฏฺฏสฺมึ โอหนติ โอตรตีติ อวิชฺโชโฆ. วฏฺฏสฺมึ โยเชตีติ อวิชฺชาโยโค. อปฺปหีนฏฺเน เจว ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต จ อวิชฺชานุสโย. มคฺเค ปริยุฏฺิตโจรา วิย อทฺธิเก กุสลจิตฺตํ ปริยุฏฺาติ วิลุปฺปตีติ อวิชฺชาปริยุฏฺานํ. ยถา นครทฺวาเร ปลิฆสงฺขาตาย ลงฺคิยา ปติตาย มนุสฺสานํ นครปฺปเวโส ปจฺฉิชฺชติ, เอวเมว ยสฺส สกฺกายนคเร อยํ ปติตา, ตสฺส นิพฺพานสมฺปาปกํ าณคมนํ ปจฺฉิชฺชตีติ อวิชฺชาลงฺคี นาม โหติ. อกุสลฺจ ตํ มูลฺจ, อกุสลานํ วา มูลนฺติ อกุสลมูลํ. ตํ ปน น อฺํ, อิธาธิปฺเปโต โมโหติ โมโห อกุสลมูลนฺติ อยํ เอกปทิโก อวิชฺชาย อตฺถุทฺธาโร. อยํ เวมตฺตตาติ อยํ อวิชฺชาย เวมตฺตตา.

วิชฺชาติ วินฺทิยํ วินฺทตีติ วิชฺชา, วิชฺฌนฏฺเน วิชฺชา, วิทิตกรณฏฺเน วิชฺชา. ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทีสุ ทุกฺขสจฺจสฺส ยาถาวสรสลกฺขณํ ชานาติ ปสฺสติ ปฏิวิชฺฌตีติ ทุกฺเข อริยสจฺเจ วิสยภูเต าณํ ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติ วุตฺตํ. เอส นโย เสเสสุปิ. ปฺาติ ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส ปากฏกรณสงฺขาเตน ปฺาปนฏฺเน ปฺา, เตน เตน วา อนิจฺจาทินา ปกาเรน ธมฺเม ชานาตีติ ปฺา. ปชานนากาโร ปชานนา. อนิจฺจาทีนิ วิจินตีติ วิจโย. ปกาเรหิ วิจินตีติ ปวิจโย. จตุสจฺจธมฺเม วิจินตีติ ธมฺมวิจโย. อนิจฺจาทีนํ สลฺลกฺขณวเสน สลฺลกฺขณา. เตสํเยว ปติ ปติ อุปลกฺขณวเสน ปจฺจุปลกฺขณา. ปณฺฑิตภาโว ปณฺฑิจฺจํ. กุสลภาโว โกสลฺลํ. นิปุณภาโว เนปุฺํ. อนิจฺจาทีนํ วิภาวนวเสน เวภพฺยา. เตสํเยว จินฺตนวเสน จินฺตา. อนิจฺจาทีนิ อุปปริกฺขตีติ อุปปริกฺขา. ภูรีติ ปถวิยา นามํ, อยมฺปิ สณฺหฏฺเน วิตฺถตฏฺเน จ ภูรี วิยาติ ภูรี. เตน วุตฺตํ – ‘‘ภูรี วุจฺจติ ปถวี, ตาย ปถวิสมาย วิตฺถตาย ปฺาย สมนฺนาคโตติ ภูริปฺโ’’ติ (มหานิ. ๒๗). อปิ จ ภูรีติ ปฺาเยเวตํ อธิวจนํ. ภูเต อตฺเถ รมตีติ ภูรี.

กิเลเส เมธติ หึสตีติ เมธา, ขิปฺปํ คหณธารณฏฺเน วา เมธา. ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ สตฺตํ หิตปฏิปตฺติยํ สมฺปยุตฺตํ วา ยาถาวลกฺขณปฏิเวเธ ปริเณตีติ ปริณายิกา. อนิจฺจาทิวเสน ธมฺเม วิปสฺสตีติ วิปสฺสนา. สมฺมา ปกาเรหิ อนิจฺจาทีนิ ชานาตีติ สมฺปชฺํ. อุปฺปถปฏิปนฺเน สินฺธเว วีถิอาโรปนตฺถํ ปโตโท วิย อุปฺปเถ ธาวนกูฏจิตฺตํ วีถิอาโรปนตฺถํ วิชฺฌตีติ ปโตโท วิยาติ ปโตโท. ทสฺสนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, ปฺาสงฺขาตํ อินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ. อวิชฺชาย น กมฺปตีติ ปฺาพลํ. กิเลสจฺเฉทนฏฺเน ปฺาว สตฺถํ ปฺาสตฺถํ. อจฺจุคฺคตฏฺเน ปฺาว ปาสาโท ปฺาปาสาโท. อาโลกนฏฺเน ปฺาว อาโลโก ปฺาอาโลโก.

โอภาสนฏฺเน ปฺาว โอภาโส ปฺาโอภาโส. ปชฺโชตนฏฺเน ปฺาว ปชฺโชโต ปฺาปชฺโชโต. รติกรณฏฺเน รติทายกฏฺเน รติชนกฏฺเน จิตฺตีกตฏฺเน ทุลฺลภปาตุภาวฏฺเน อตุลฏฺเน อโนมสตฺตปริโภคฏฺเน จ ปฺาว รตนํ ปฺารตนํ. น เตน สตฺตา มุยฺหนฺติ, สยํ วา อารมฺมเณ น มุยฺหตีติ อโมโห. ธมฺมวิจยปทํ วุตฺตตฺถเมว. กสฺมา ปเนตํ ปุน วุตฺตนฺติ? อโมหสฺส โมหปฏิปกฺขภาวทีปนตฺถํ. เตเนตํ ทีเปติ – ยฺวายํ อโมโห, โส น เกวลํ โมหโต อฺโ ธมฺโม, โมหสฺส ปฏิปกฺโข ธมฺมวิจยสงฺขาโต อโมโหว อิธาธิปฺเปโตติ. สมฺมาทิฏฺีติ ยาถาวนิยฺยานิกกุสลทิฏฺิ. ธมฺมวิจยสงฺขาโต ปสตฺโถ สุนฺทโร วา โพชฺฌงฺโคติ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค. มคฺคงฺคนฺติ อริยมคฺคสฺส องฺคํ การณนฺติ มคฺคงฺคํ. อริยมคฺคสฺส อนฺโตคธตฺตา มคฺคปริยาปนฺนนฺติ.

อสฺาสมาปตฺตีติ สฺาวิราคภาวนาวเสน ปวตฺติตา อสฺภวูปปตฺตินิพฺพตฺตนสมาปตฺติ. อนุปฺปนฺเน หิ พุทฺเธ เอกจฺเจ ติตฺถายตเน ปพฺพชิตฺวา วาโยกสิเณ ปริกมฺมํ กตฺวา จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานา วุฏฺาย สฺาย โทสํ ปสฺสนฺติ, สฺาย สติ หตฺถจฺเฉทาทิทุกฺขฺเจว สพฺพภยานิ จ โหนฺติ, ‘‘อลํ อิมาย สฺาย, สฺาภาโว สนฺโต’’ติ เอวํ สฺาย โทสํ ปสฺสิตฺวา สฺาวิราควเสน จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา อปริหีนชฺฌานา กาลํ กตฺวา อสฺีสุ นิพฺพตฺตนฺติ. จิตฺตํ เนสํ จุติจิตฺตนิโรเธเนว อิธ นิวตฺตติ, รูปกฺขนฺธมตฺตเมว ตตฺถ นิพฺพตฺตติ.

เต ยถา นาม ชิยาเวคุกฺขิตฺโต สโร ยตฺตโก ชิยาเวโค, ตตฺตกเมว อากาเส คจฺฉติ, เอวเมวํ ฌานเวคุกฺขิตฺตา อุปปชฺชิตฺวา ยตฺตโก ฌานเวโค, ตตฺตกเมว กาลํ ติฏฺนฺติ. ฌานเวเค ปน ปริกฺขีเณ ตตฺถ รูปกฺขนฺโธ อนฺตรธายติ, อิธ ปฏิสนฺธิสฺา อุปฺปชฺชติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อสฺภวูปปตฺตินิพฺพตฺตนสมาปตฺตี’’ติ. วิภูตสฺาสมาปตฺตีติ วิฺาณฺจายตนสมาปตฺติ. สา หิ ปมารุปฺปวิฺาณสฺส ปมารุปฺปสฺายปิ วิภาวนโต ‘‘วิภูตสฺา’’ติ วุจฺจติ. เกจิ ‘‘วิภูตรูปสฺา’’ติ ปนฺติ, เตสํ มเตน วิภูตรูปสมาปตฺติ นาม เสสารุปฺปสมาปตฺติโย. เสสา สมาปตฺติโย สุวิฺเยฺยาว.

เนวเสกฺขนาเสกฺโข ฌายีติ ฌานลาภี ปุถุชฺชโน. อาชานิโย ฌายีติ อรหา, สพฺเพปิ วา อริยปุคฺคลา. อสฺสขลุงฺโก ฌายีติ ขลุงฺกสฺสสทิโส ฌายี. ตถา หิ ขลุงฺโก อสฺโส ทมถํ น อุเปติ อิโต จิโต จ ยถารุจิ ธาวติ, เอวเมวํ โย ปุถุชฺชโน อภิฺาลาภี, โส อภิฺา อสฺสาเทตฺวา ‘‘อลเมตฺตาวตา, กตเมตฺตาวตา’’ติ อุตฺตริทมถาย อปริสกฺกนฺโต อภิฺาจิตฺตวเสน อิโต จิโต จ ธาวติ ปวตฺตติ, โส ‘‘อสฺสขลุงฺโก ฌายี’’ติ วุตฺโต. ทิฏฺุตฺตโร ฌายีติ ฌานลาภี ทิฏฺิคติโก. ปฺุตฺตโร ฌายีติ ลกฺขณูปนิชฺฌาเนน ฌายี, สพฺโพ เอว วา ปฺาธิโก ฌายี.

สรโณ สมาธีติ อกุสลจิตฺเตกคฺคตา, สพฺโพปิ วา สาสโว สมาธิ. อรโณ สมาธีติ สพฺโพ กุสลาพฺยากโต สมาธิ, โลกุตฺตโร เอว วา. สเวโร สมาธีติ ปฏิฆจิตฺเตสุ เอกคฺคตา. อเวโร สมาธีติ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ. อนนฺตรทุเกปิ เอเสว นโย. สามิโส สมาธีติ โลกิยสมาธิ. โส หิ อนติกฺกนฺตวฏฺฏามิสโลกามิสตาย สามิโส. นิรามิโส สมาธีติ โลกุตฺตโร สมาธิ. สสงฺขาโร สมาธีติ ทุกฺขาปฏิปโท ทนฺธาภิฺโ สุขาปฏิปโท จ ทนฺธาภิฺโ. โส หิ สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน จิตฺเตน ปจฺจนีกธมฺเม กิจฺเฉน กสิเรน นิคฺคเหตฺวา อธิคนฺตพฺโพ. อิตโร อสงฺขาโร สมาธิ. เอกํสภาวิโต สมาธีติ สุกฺขวิปสฺสกสฺส สมาธิ. อุภยํสภาวิโต สมาธีติ สมถยานิกสฺส สมาธิ. อุภยโต ภาวิตภาวโน สมาธีติ กายสกฺขิโน อุภโตภาควิมุตฺตสฺส จ สมาธิ. โส หิ อุภยโต ภาเคหิ อุภยโต ภาวิตภาวโน.

อาคาฬฺหปฏิปทาติ กามานํ โอโรหนปฏิปตฺติ, กามสุขานุโยโคติ อตฺโถ. นิชฺฌามปฏิปทาติ กามสฺส นิชฺฌาปนวเสน เขทนวเสน ปวตฺตา ปฏิปตฺติ, อตฺตกิลมถานุโยโคติ อตฺโถ. อกฺขมา ปฏิปทาติอาทีสุ ปธานกรณกาเล สีตาทีนิ อสหนฺตสฺส ปฏิปทา, ตานิ นกฺขมตีติ อกฺขมา. สหนฺตสฺส ปน ตานิ ขมตีติ ขมา. ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๖; อ. นิ. ๔.๑๔; ๖.๕๘) นเยน มิจฺฉาวิตกฺเก สเมตีติ สมา. มนจฺฉฏฺานิ อินฺทฺริยานิ ทเมตีติ ทมา ปฏิปทา.

เอวนฺติ อิมินา วุตฺตนเยน. โย ธมฺโมติ โย โกจิ ชาติอาทิธมฺโม. ยสฺส ธมฺมสฺสาติ ตโต อฺสฺส ชราทิธมฺมสฺส. สมานภาโวติ ทุกฺขาทิภาเวน สมานภาโว. เอกตฺตตายาติ สมานตาย ทุกฺขาทิภาวานํ เอกีภาเวน. เอกี ภวตีติ อเนโกปิ ‘‘ทุกฺข’’นฺติอาทินา เอกสทฺทาภิเธยฺยตาย เอกี ภวติ. เอเตน เอกตฺตตาย ลกฺขณมาห. เยน เยน วา ปน วิลกฺขโณติ โย ธมฺโม ยสฺส ธมฺมสฺส เยน เยน ภาเวน วิสทิโส. เตน เตน เวมตฺตํ คจฺฉตีติ เตน เตน ภาเวน โส ธมฺโม ตสฺส ธมฺมสฺส เวมตฺตตํ วิสทิสตฺตํ คจฺฉติ, ทุกฺขภาเวน สมาโนปิ ชาติอาทิโก อภินิพฺพตฺติอาทิภาเวน ชราทิกสฺส วิสิฏฺตํ คจฺฉตีติ อตฺโถ. อิมินา เวมตฺตตาย ลกฺขณมาห.

อิทานิ ตาว เอกตฺตเวมตฺตตาวิสเย นิโยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘สุตฺเต วา เวยฺยากรเณ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปุจฺฉิตนฺติ ปุจฺฉาวเสน เทสิตสุตฺตวเสน วุตฺตํ, น ปน อธิฏฺานหารสฺส ปุจฺฉาวิสยตาย. เสสํ อุตฺตานเมว.

อธิฏฺานหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๕. ปริกฺขารหารวิภงฺควณฺณนา

๔๙. ตตฺถ กตโม ปริกฺขาโร หาโรติ ปริกฺขารหารวิภงฺโค. ตตฺถ โย ธมฺโม ยํ ธมฺมํ ชนยติ, ตสฺส โส ปริกฺขาโรติ สงฺเขปโต ปริกฺขารลกฺขณํ วตฺวา ตํ วิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘กึลกฺขโณ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ หิโนติ อตฺตโน ผลํ ปฏิการณภาวํ คจฺฉตีติ เหตุ. ปฏิจฺจ เอตสฺมา ผลํ เอตีติ ปจฺจโย. กิฺจาปิ เหตุปจฺจยสทฺเทหิ การณเมว วุจฺจติ, ตถาปิ ตตฺถ วิเสสํ วิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘อสาธารณลกฺขโณ’’ติอาทิ วุตฺตํ. สภาโว เหตูติ สมานภาโว พีชํ เหตุ. นนุ จ พีชํ องฺกุราทิสทิสํ น โหตีติ? โน น โหติ, อฺโต หิ ตาทิสสฺส อนุปฺปชฺชนโต.

‘‘ยถา วา ปนา’’ติอาทินาปิ อุทาหรณนฺตรทสฺสเนน เหตุปจฺจยานํ วิเสสเมว วิภาเวติ. ตตฺถ ทุทฺธนฺติ ขีรํ. ทธิ ภวตีติ เอกตฺตนเยน อเภโทปจาเรน วา วุตฺตํ, น อฺถา. น หิ ขีรํ ทธิ โหติ. เตเนวาห – ‘‘น จตฺถิ เอกกาลสมวธานํ ทุทฺธสฺส จ ทธิสฺส จา’’ติ. อถ วา ฆเฏ ทุทฺธํ ปกฺขิตฺตํ ทธิ ภวติ, ทธิ ตตฺถ กาลนฺตเร ชายติ ปจฺจยนฺตรสมาโยเคน, ตสฺมา น จตฺถิ เอกกาลสมวธานํ ทุทฺธสฺส จ ทธิสฺส จ รสขีรวิปากาทีหิ ภินฺนสภาวตฺตา. เอวเมวนฺติ ยถา เหตุภูตสฺส ขีรสฺส ผลภูเตน ทธินา น เอกกาลสมวธานํ, เอวมฺสฺสาปิ เหตุสฺส ผเลน น เอกกาลสมวธานํ, น ตถา ปจฺจยสฺส, น หิ ปจฺจโย เอกนฺเตน ผเลน ภินฺนกาโล เอวาติ. เอวมฺปิ เหตุปจฺจยานํ วิเสโส เวทิตพฺโพติ อธิปฺปาโย.

เอวํ พาหิรํ เหตุปจฺจยวิภาคํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อชฺฌตฺติกํ ทสฺเสตุํ ‘‘อยฺหิ สํสาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘อวิชฺชา อวิชฺชาย เหตู’’ติ วุตฺเต กึ เอกสฺมึ จิตฺตุปฺปาเท อเนกา อวิชฺชา วิชฺชนฺตีติ? อาห ‘‘ปุริมิกา อวิชฺชา ปจฺฉิมิกาย อวิชฺชาย เหตู’’ติ. เตน เอกสฺมึ กาเล เหตุผลานํ สมวธานํ นตฺถีติ เอตเมวตฺถํ สมตฺเถติ. ตตฺถ ‘‘ปุริมิกา อวิชฺชา’’ติอาทินา เหตุผลภูตานํ อวิชฺชานํ วิภาคํ ทสฺเสติ. ‘‘พีชงฺกุโร วิยา’’ติอาทินา อิมมตฺถํ ทสฺเสติ – ยถา พีชํ องฺกุรสฺส เหตุ โหนฺตํ สมนนฺตรเหตุตาย เหตุ โหติ. ยํ ปน พีชโต ผลํ นิพฺพตฺตติ, ตสฺส พีชํ ปรมฺปรเหตุตาย เหตุ โหติ. เอวํ อวิชฺชายปิ เหตุภาเว ทฏฺพฺพนฺติ.

ปุน ‘‘ยถา วา ปนา’’ติอาทินาปิ เหตุปจฺจยวิภาคเมว ทสฺเสติ. ตตฺถ ถาลกนฺติ ทีปกปลฺลิกา. อนคฺคิกนฺติ อคฺคึ วินา. ทีเปตุนฺติ ชาเลตุํ. อิติ สภาโว เหตูติ เอวํ ปทีปุชฺชาลนาทีสุ อคฺคิอาทิปทีปสทิสํ การณํ สภาโว เหตุ. ปรภาโว ปจฺจโยติ ตตฺเถว กปลฺลิกาวฏฺฏิเตลาทิสทิโส อคฺคิโต อฺโ สภาโว ปจฺจโย. อชฺฌตฺติโกติ นิยกชฺฌตฺติโก นิยกชฺฌตฺเต ภโว. พาหิโรติ ตโต พหิภูโต. ชนโกติ นิพฺพตฺตโก. ปริคฺคาหโกติ อุปตฺถมฺภโก. อสาธารโณติ อาเวณิโก. สาธารโณติ อฺเสมฺปิ ปจฺจยุปฺปนฺนานํ สมาโน.

อิทานิ ยสฺมา การณํ ‘‘ปริกฺขาโร’’ติ วุตฺตํ, การณภาโว จ ผลาเปกฺขาย, ตสฺมา การณสฺส โย การณภาโว ยถา จ โส โหติ, ยฺจ ผลํ โย จ ตสฺส วิเสโส, โย จ การณผลานํ สมฺพนฺโธ, ตํ สพฺพํ วิภาเวตุํ ‘‘อวุปจฺเฉทตฺโถ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ การณผลภาเวน สมฺพนฺธตา สนฺตติ. โก จ ตตฺถ สมฺพนฺโธ, โก การณผลภาโว จ? โส เอว อวุปจฺเฉทตฺโถ. โย ผลภูโต อฺสฺส อการณํ หุตฺวา นิรุชฺฌติ, โส วุปจฺฉินฺโน นาม โหติ, ยถา ตํ อรหโต จุติจิตฺตํ. โย ปน อตฺตโน อนุรูปสฺส ผลสฺส เหตุ หุตฺวา นิรุชฺฌติ, โส อนุปจฺฉินฺโน เอว นาม โหติ, เหตุผลสมฺพนฺธสฺส วิชฺชมานตฺตาติ อาห – ‘‘อวุปจฺเฉทตฺโถ สนฺตติอตฺโถ’’ติ.

ยสฺมา จ การณโต นิพฺพตฺตํ ผลํ นาม, น อนิพฺพตฺตํ, ตสฺมา ‘‘นิพฺพตฺติอตฺโถ ผลตฺโถ’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ปุริมภเวน อนนฺตรภวปฏิสนฺธานวเสน ปวตฺตา อุปปตฺติกฺขนฺธา ปุนพฺภโว, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘ปฏิสนฺธิอตฺโถ ปุนพฺภวตฺโถ’’ติ. ตถา ยสฺส ปุคฺคลสฺส กิเลสา อุปฺปชฺชนฺติ, ตํ ปลิพุนฺเธนฺติ สมฺมา ปฏิปชฺชิตุํ น เทนฺติ. ยาว จ มคฺเคน อสมุคฺฆาติตา, ตาว อนุเสนฺติ นาม, เตน วุตฺตํ – ‘‘ปลิโพธตฺโถ ปริยุฏฺานตฺโถ, อสมุคฺฆาตตฺโถ อนุสยตฺโถ’’ติ. ปริฺาภิสมยวเสน ปริฺาเต น กทาจิ ตํ นามรูปงฺกุรสฺส การณํ เหสฺสตีติ อาห – ‘‘อปริฺาตตฺโถ วิฺาณสฺส พีชตฺโถ’’ติ. ยตฺถ อวุปจฺเฉโท ตตฺถ สนฺตตีติ ยตฺถ รูปารูปปฺปวตฺติยํ ยถาวุตฺโต อวุปจฺเฉโท, ตตฺถ สนฺตติโวหาโร. ยตฺถ สนฺตติ ตตฺถ นิพฺพตฺตีติอาทิ ปจฺจยปรมฺปรทสฺสนํ เหตุผลสมฺพนฺธวิภาวนเมว.

‘‘ยถา วา ปน จกฺขุฺจ ปฏิจฺจา’’ติอาทินา ‘‘สภาโว เหตู’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเคน ทสฺเสติ. ตตฺถ สนฺนิสฺสยตายาติ อุปนิสฺสยปจฺจยตาย. มนสิกาโรติ กิริยามโนธาตุ. สา หิ จกฺขุวิฺาณสฺส วิฺาณภาเวน สมานชาติตาย สภาโว เหตุ. สงฺขารา วิฺาณสฺส ปจฺจโย สภาโว เหตูติ ปุฺาทิอภิสงฺขารา ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส ปจฺจโย, ตตฺถ โย สภาโว, โส เหตูติ. สงฺขาราติ เจตฺถ สพฺโพ โลกิโย กุสลากุสลจิตฺตุปฺปาโท อธิปฺเปโต. อิมินา นเยน เสสปเทสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวํ โย โกจิ อุปนิสฺสโย สพฺโพ โส ปริกฺขาโรติ ยถาวุตฺตปฺปเภโท โย โกจิ ปจฺจโย, โส สพฺโพ อตฺตโน ผลสฺส ปริกฺขรณโต อภิสงฺขรณโต ปริกฺขาโร. ตสฺส นิทฺธาเรตฺวา กถนํ ปริกฺขาโร หาโรติ.

ปริกฺขารหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๖. สมาโรปนหารวิภงฺควณฺณนา

๕๐. ตตฺถ กตโม สมาโรปโน หาโรติ สมาโรปนหารวิภงฺโค. ตตฺถ เอกสฺมึ ปทฏฺาเนติ ยสฺมึ กิสฺมิฺจิ เอกสฺมึ การณภูเต ธมฺเม สุตฺเตน คหิเต. ยตฺตกานิ ปทฏฺานานิ โอตรนฺตีติ ยตฺตกานิ อฺเสํ การณภูตานิ ตสฺมึ ธมฺเม สโมสรนฺติ. สพฺพานิ ตานิ สมาโรปยิตพฺพานีติ สพฺพานิ ตานิ ปทฏฺานานิ ปทฏฺานภูตา ธมฺมา สมฺมา นิทฺธารณวเสน อาเนตฺวา เทสนาย อาโรเปตพฺพา, เทสนารุฬฺเห วิย กตฺวา กเถตพฺพาติ อตฺโถ. ยถา อาวฏฺเฏ หาเร ‘‘เอกมฺหิ ปทฏฺาเน, ปริเยสติ เสสกํ ปทฏฺาน’’นฺติ (เนตฺติ. ๔ นิทฺเทสวาร) วจนโต อเนเกสํ ปทฏฺานานํ ปริเยสนา วุตฺตา, เอวมิธาปิ พหูนํ ปทฏฺานานํ สมาโรปนา กาตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา อาวฏฺเฏ หาเร’’ติ อาห. น เกวลํ ปทฏฺานวเสเนว สมาโรปนา, อถ โข เววจนภาวนาปหานวเสนปิ สมาโรปนา กาตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ สมาโรปนา จตุพฺพิธา’’ติอาทิมาห.

กสฺมา ปเนตฺถ ปทฏฺานเววจนานิ คหิตานิ, นนุ ปทฏฺานเววจนหาเร เอว อยมตฺโถ วิภาวิโตติ? สจฺจเมตํ, อิธ ปน ปทฏฺานเววจนคฺคหณํ ภาวนาปหานานํ อธิฏฺานวิสยทสฺสนตฺถฺเจว เตสํ อธิวจนวิภาคทสฺสนตฺถฺจ. เอวฺหิ ภาวนาปหานานิ สุวิฺเยฺยานิ โหนฺติ สุกรานิ จ ปฺาเปตุํ. อิทํ ปทฏฺานนฺติ อิทํ ติวิธํ สุจริตํ พุทฺธานํ สาสนสฺส โอวาทสฺส วิสยาธิฏฺานภาวโต ปทฏฺานํ. ตตฺถ ‘‘กายิก’’นฺติอาทินา ตีหิ สุจริเตหิ สีลาทโย ตโย ขนฺเธ สมถวิปสฺสนา ตติยจตุตฺถผลานิ จ นิทฺธาเรตฺวา ทสฺเสติ, ตํ สุวิฺเยฺยเมว. วนียตีติ วนํ, วนติ, วนุเต อิติ วา วนํ. ตตฺถ ยสฺมา ปฺจ กามคุณา กามตณฺหาย, นิมิตฺตคฺคาโห อนุพฺยฺชนคฺคาหสฺส, อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิ ตปฺปฏิพนฺธฉนฺทราคาทีนํ, อนุสยา จ ปริยุฏฺานานํ การณานิ โหนฺติ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฺจ กามคุณา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๕๑. อยํ เววจเนน สมาโรปนาติ โย ‘‘ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ เสกฺขผลํ, อนาคามิผลํ, กามธาตุสมติกฺกมน’’นฺติ เอเตหิ ปริยายวจเนหิ ตติยผลสฺส นิทฺเทโส, ตถา โย ‘‘อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺติ อเสกฺขผลํ, อคฺคผลํ อรหตฺตํ, เตธาตุกสมติกฺกมน’’นฺติ เอเตหิ ปริยายวจเนหิ จตุตฺถผลสฺส นิทฺเทโส, โย จ ‘‘ปฺินฺทฺริย’’นฺติอาทีหิ ปริยายวจเนหิ ปฺาย นิทฺเทโส, อยํ เววจเนหิ จ สมาโรปนา.

ตสฺมาติห ตฺวํ, ภิกฺขุ, กาเย กายานุปสฺสี วิหราหีติอาทิ ลกฺขณหารวิภงฺควณฺณนายํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. เกวลํ ตตฺถ เอกลกฺขณตฺตา อวุตฺตานมฺปิ วุตฺตภาวทสฺสนวเสเนว อาคตํ, อิธ ภาวนาสมาโรปนวเสนาติ อยเมว วิเสโส. กายานุปสฺสนา วิเสสโต อสุภานุปสฺสนา เอว กามราคตเทกฏฺกิเลสานํ เอกนฺตปฏิปกฺขาติ อสุภสฺา กพฬีการาหารปริฺาย ปริพนฺธกิเลสา กามุปาทานํ กามโยโค อภิชฺฌากายคนฺโถ กามาสโว กาโมโฆ ราคสลฺลํ รูปธมฺมปริฺาย ปฏิปกฺขกิเลสา รูปธมฺเมสุ ราโค ฉนฺทาคติคมนนฺติ เอเตสํ ปาปธมฺมานํ ปหานาย สํวตฺตตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘กาเย กายานุปสฺสี วิหรนฺโต’’ติอาทินา.

ตถา เวทนานุปสฺสนา วิเสสโต ทุกฺขานุปสฺสนาติ, สา –

‘‘โย สุขํ ทุกฺขโต อทฺท, ทุกฺขมทฺทกฺขิ สลฺลโต;

อทุกฺขมสุขํ สนฺตํ, อทกฺขิ นํ อนิจฺจโต’’ติ. (สํ. นิ. ๔.๒๕๓; อิติวุ. ๕๓) –

อาทิวจนโต สพฺพํ เวทนํ ‘‘ทุกฺข’’นฺติ ปสฺสนฺตี สุขสฺาย เวทนาเหตุปริฺาย ปริพนฺธกิเลสานํ โคสีลาทีหิ ภวสุทฺธิ โหตีติ เวทนาสฺสาเทน ปวตฺตสฺส ภวุปาทานสงฺขาตสฺส สีลพฺพตุปาทานสฺส เวทนาวเสน ‘‘อนตฺถํ เม อจรี’’ติอาทินยปฺปวตฺตสฺส (ที. นิ. ๓.๓๔๐; อ. นิ. ๙.๒๙; ๑๐.๗๙; ธ. ส. ๑๒๓๗; วิภ. ๙๐๙, ๙๖๐) พฺยาปาทกายคนฺถสฺส โทสสลฺลสฺส เวทนาสฺสาทวเสเนว ปวตฺตสฺส ภวโยคภวาภวภโวฆสงฺขาตสฺส ภวราคสฺส ภวปริฺาย ปริพนฺธกกิเลสานํ เวทนาวิสยสฺส ราคสฺส โทสาคติคมนสฺส จ ปหานาย สํวตฺตตีติ เอตมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี’’ติอาทินา.

ตถา จิตฺตานุปสฺสนา วิเสสโต อนิจฺจานุปสฺสนาติ, สา จิตฺตํ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ ปสฺสนฺตี ตตฺถ เยภุยฺเยน สตฺตา นิจฺจสฺิโนติ นิจฺจสฺาย วิฺาณาหารปริฺาย ปริพนฺธกิเลสานํ นิจฺจาภินิเวสปฏิปกฺขโต เอว ทิฏฺุปาทานํ ทิฏฺิโยคสีลพฺพตปรามาสกายคนฺถทิฏฺาสวทิฏฺโฆสงฺขาตาย ทิฏฺิยา นิจฺจสฺานิมิตฺตสฺส ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทินยปฺปวตฺตสฺส (ธ. ส. ๑๒๓๙; วิภ. ๘๓๒, ๘๖๖, ๙๖๒) มานสลฺลสฺส สฺาปริฺาย ปฏิปกฺขกิเลสานํ สฺาย ราคสฺส ทิฏฺาภินิเวสสฺส อปฺปหีนตฺตา อุปฺปชฺชนกสฺส ภยาคติคมนสฺส จ ปหานาย สํวตฺตตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี’’ติอาทินา.

ตถา ธมฺมานุปสฺสนา วิเสสโต อนตฺตสฺาติ, สา สงฺขาเรสุ อตฺตสฺาย มโนสฺเจตนาหารปริฺาย ปฏิปกฺขกิเลสานํ สกฺกายทิฏฺิยา ‘‘อิทเมว สจฺจ’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๑๘๗, ๒๐๒-๒๐๓; ๓.๒๗) ปวตฺตสฺส มิจฺฉาภินิเวสสฺส มิจฺฉาภินิเวสเหตุกาย อวิชฺชาโยคอวิชฺชาสวอวิชฺโชฆโมหสลฺลสงฺขาตาย อวิชฺชาย สงฺขารปริฺาย ปริพนฺธกิเลสานํ สงฺขาเรสุ ราคสฺส โมหาคติคมนสฺส จ ปหานาย สํวตฺตตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรนฺโต’’ติอาทินา. เสสํ อุตฺตานเมว.

สมาโรปนหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิตา จ หารวิภงฺควณฺณนา.

๑. เทสนาหารสมฺปาตวณฺณนา

เอวํ สุปริกมฺมกตาย ภูมิยา นานาวณฺณานิ มุตฺตปุปฺผานิ ปกิรนฺโต วิย สุสิกฺขิตสิปฺปาจริยวิจาริเตสุ สุรตฺตสุวณฺณาลงฺกาเรสุ นานาวิธรํสิชาลสมุชฺชลานิ วิวิธานิ มณิรตนานิ พนฺธนฺโต วิย มหาปถวึ ปริวตฺเตตฺวา ปปฺปฏโกชํ ขาทาเปนฺโต วิย โยชนิกมธุคณฺฑํ ปีเฬตฺวา สุมธุรสํ ปาเยนฺโต วิย จ อายสฺมา มหากจฺจาโน นานาสุตฺตปเทเส อุทาหรนฺโต โสฬส หาเร วิภชิตฺวา อิทานิ เต เอกสฺมึเยว สุตฺเต โยเชตฺวา ทสฺเสนฺโต หารสมฺปาตวารํ อารภิ. อารภนฺโต จ ยายํ นิทฺเทสวาเร –

๕๒.

‘‘โสฬส หารา ปมํ, ทิสโลจนโต ทิสา วิโลเกตฺวา;

สงฺขิปิย องฺกุเสน หิ, นเยหิ ตีหิ นิทฺทิเส สุตฺต’’นฺติ. –

คาถา วุตฺตา. ยสฺมา ตํ หารวิภงฺควาโร นปฺปโยเชติ, วิปฺปกิณฺณวิสยตฺตา, นยวิจารสฺส จ อนฺตริตตฺตา. อเนเกหิ สุตฺตปเทเสหิ หารานํ วิภาคทสฺสนเมว หิ หารวิภงฺควาโร. หารสมฺปาตวาโร ปน ตํ ปโยเชติ, เอกสฺมึเยว สุตฺตปเทเส โสฬส หาเร โยเชตฺวาว ตทนนฺตรํ นยสมุฏฺานสฺส กถิตตฺตา. ตสฺมา ‘‘โสฬส หารา ปม’’นฺติ คาถํ ปจฺจามสิตฺวา ‘‘ตสฺสา นิทฺเทโส กุหึ ทฏฺพฺโพ, หารสมฺปาเต’’ติ อาห. ตสฺสตฺโถ – ‘‘ตสฺสา คาถาย นิทฺเทโส กตฺถ ทฏฺพฺโพ’’ติ. เอเตน สุตฺเตสุ หารานํ โยชนานยทสฺสนํ หารสมฺปาตวาโรติ ทสฺเสติ. หารสมฺปาตปทสฺส อตฺโถ วุตฺโต เอว.

อรกฺขิเตน จิตฺเตนาติ จกฺขุทฺวาราทีสุ สติอารกฺขาภาเวน อคุตฺเตน จิตฺเตน. มิจฺฉาทิฏฺิหเตนาติ สสฺสตาทิมิจฺฉาภินิเวสทูสิเตน. ถินมิทฺธาภิภูเตนาติ จิตฺตสฺส กายสฺส จ อกลฺยตาลกฺขเณหิ ถินมิทฺเธหิ อชฺโฌตฺถเฏน. วสํ มารสฺส คจฺฉตีติ กิเลสมาราทีนํ ยถากามํ กรณีโย โหตีติ อยํ ตาว คาถาย ปทตฺโถ.

ปมาทนฺติ ‘‘อรกฺขิเตน จิตฺเตนา’’ติ อิทํ ปทํ ฉสุ ทฺวาเรสุ สติโวสคฺคลกฺขณํ ปมาทํ กเถติ. ตํ มจฺจุโน ปทนฺติ ตํ ปมชฺชนํ คุณมารณโต มจฺจุสงฺขาตสฺส มารสฺส วสวตฺตนฏฺานํ, เตน ‘‘อรกฺขิเตน จิตฺเตน, วสํ มารสฺส คจฺฉตี’’ติ ปมปาทํ จตุตฺถปาเทน สมฺพนฺธิตฺวา ทสฺเสติ. โส วิปลฺลาโสติ ยํ อนิจฺจสฺส ขนฺธปฺจกสฺส ‘‘นิจฺจ’’นฺติ ทสฺสนํ, โส วิปลฺลาโส วิปริเยสคฺคาโห. เตเนวาห – ‘‘วิปรีตคฺคาหลกฺขโณ วิปลฺลาโส’’ติ. สพฺพํ วิปลฺลาสสามฺเน คเหตฺวา ตสฺส อธิฏฺานํ ปุจฺฉติ ‘‘กึ วิปลฺลาสยตี’’ติ. สามฺสฺส จ วิเสโส อธิฏฺานภาเวน โวหรียตีติ อาห – ‘‘สฺํ จิตฺตํ ทิฏฺิมิตี’’ติ. ตํ ‘‘วิปลฺลาสยตี’’ติ ปเทน สมฺพนฺธิตพฺพํ. เตสุ สฺาวิปลฺลาโส สพฺพมุทุโก, อนิจฺจาทิกสฺส วิสยสฺส มิจฺฉาวเสน อุปฏฺิตาการคฺคหณมตฺตํ มิคโปตกานํ ติณปุริสเกสุ ปุริโสติ อุปฺปนฺนสฺา วิย. จิตฺตวิปลฺลาโส ตโต พลวตโร, อมณิอาทิเก วิสเย มณิอาทิอากาเรน อุปฏฺหนฺเต ตถา สนฺนิฏฺานํ วิย นิจฺจาทิโต สนฺนิฏฺานมตฺตํ. ทิฏฺิวิปลฺลาโส ปน สพฺพพลวตโร ยํ ยํ อารมฺมณํ ยถา ยถา อุปฏฺาติ, ตถา ตถา นํ สสฺสตาทิวเสน ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ อภินิวิสนฺโต ปวตฺตติ. ตตฺถ สฺาวิปลฺลาโส จิตฺตวิปลฺลาสสฺส การณํ, จิตฺตวิปลฺลาโส ทิฏฺิวิปลฺลาสสฺส การณํ โหติ.

อิทานิ วิปลฺลาสานํ ปวตฺติฏฺานํ วิสยํ ทสฺเสตุํ ‘‘โส กุหึ วิปลฺลาสยติ, จตูสุ อตฺตภาววตฺถูสู’’ติ อาห. ตตฺถ อตฺตภาววตฺถูสูติ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ. เต หิ อาหิโต อหํ มาโน เอตฺถาติ อตฺตา, ‘‘อตฺตา’’ติ ภวติ เอตฺถ พุทฺธิ โวหาโร จาติ อตฺตภาโว, โส เอว สุภาทีนํ วิปลฺลาสสฺส จ อธิฏฺานภาวโต วตฺถุ จาติ ‘‘อตฺตภาววตฺถู’’ติ วุจฺจติ. ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติอาทินา เตสํ สพฺพวิปลฺลาสมูลภูตาย สกฺกายทิฏฺิยา ปวตฺติฏฺานภาเวน อตฺตภาววตฺถุตํ ทสฺเสตฺวา ปุน วิปลฺลาสานํ ปวตฺติอากาเรน สทฺธึ วิสยํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘รูปํ ปมํ วิปลฺลาสวตฺถุ อสุเภ สุภ’’นฺติ วุตฺตํ. ตํ สพฺพํ สุวิฺเยฺยํ. ปุน มูลการณวเสน วิปลฺลาเส วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ทฺเว ธมฺมา จิตฺตสฺส สํกิเลสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กิฺจาปิ อวิชฺชารหิตา ตณฺหา นตฺถิ, อวิชฺชา จ สุภสุขสฺานมฺปิ ปจฺจโย เอว, ตถาปิ ตณฺหา เอตาสํ สาติสยํ ปจฺจโยติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตณฺหานิวุตํ…เป… ทุกฺเข สุข’’นฺติ วุตฺตํ. ทิฏฺินิวุตนฺติ ทิฏฺิสีเสน อวิชฺชา วุตฺตาติ อวิชฺชานิวุตนฺติ อตฺโถ. กามฺเจตฺถ ตณฺหารหิตา ทิฏฺิ นตฺถิ, ตณฺหาปิ ทิฏฺิยา ปจฺจโย เอว. ตณฺหาปิ ‘‘นิจฺจํ อตฺตา’’ติ อโยนิโส อุมฺมุชฺชนฺตานํ ตถาปวตฺตมิจฺฉาภินิเวสสฺส โมโห วิเสสปจฺจโยติ ทสฺเสตุํ ‘‘ทิฏฺินิวุตํ…เป… อตฺตา’’ติ วุตฺตํ.

โย ทิฏฺิวิปลฺลาโสติ ‘‘อนิจฺเจ นิจฺจํ, อนตฺตนิ อตฺตา’’ติ ปวตฺตมฺปิ วิปลฺลาสทฺวยํ สนฺธายาห – ‘‘โส อตีตํ รูปํ…เป… อตีตํ วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติ. เอเตน อฏฺารสวิโธปิ ปุพฺพนฺตานุกปฺปิกวาโท ปจฺฉิมานํ ทฺวินฺนํ วิปลฺลาสานํ วเสน โหตีติ ทสฺเสติ. ตณฺหาวิปลฺลาโสติ ตณฺหามูลโก วิปลฺลาโส. ‘‘อสุเภ สุภํ, ทุกฺเข สุข’’นฺติ เอตํ วิปลฺลาสทฺวยํ สนฺธาย วทติ. อนาคตํ รูปํ อภินนฺทตีติ อนาคตํ รูปํ ทิฏฺาภินนฺทนวเสน อภินนฺทติ. อนาคตํ เวทนํ, สฺํ, สงฺขาเร, วิฺาณํ อภินนฺทตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เอเตน จตุจตฺตาลีสวิโธปิ อปรนฺตานุกปฺปิกวาโท เยภุยฺเยน ปุริมานํ ทฺวินฺนํ วิปลฺลาสานํ วเสน โหตีติ ทสฺเสติ. ทฺเว ธมฺมา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสาติ เอวํ ปรมสาวชฺชสฺส วิปลฺลาสสฺส มูลการณนฺติ วิเสสโต ทฺเว ธมฺมา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา ตณฺหา จ อวิชฺชา จาติ เต สรูปโต ทสฺเสติ. ตาหิ วิสุชฺฌนฺตํ จิตฺตํ วิสุชฺฌตีติ ปฏิปกฺขวเสนปิ ตาสํ อุปกฺกิเลสภาวํเยว วิภาเวติ, น หิ ตณฺหาอวิชฺชาสุ ปหีนาสุ โกจิ สํกิเลสธมฺโม น ปหียตีติ. ยถา จ วิปลฺลาสานํ มูลการณํ ตณฺหาวิชฺชา, เอวํ สกลสฺสาปิ วฏฺฏสฺส มูลการณนฺติ ยถานุสนฺธินาว คาถํ นิฏฺเปตุํ ‘‘เตส’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เตสนฺติ เยสํ อรกฺขิตํ จิตฺตํ มิจฺฉาทิฏฺิหตฺจ, เตสํ. ‘‘อวิชฺชานีวรณาน’’นฺติอาทินา มารสฺส วสคมเนน อนาทิมติสํสาเร สํสรณนฺติ ทสฺเสติ.

ถินมิทฺธาภิภูเตนาติ เอตฺถ ‘‘ถินํ นามา’’ติอาทินา ถินมิทฺธานํ สรูปํ ทสฺเสติ. เตหิ จิตฺตสฺส อภิภูตตา สุวิฺเยฺยาวาติ ตํ อนามสิตฺวา กิเลสมารคฺคหเณเนว ตํนิมิตฺตา อภิสงฺขารมารขนฺธมารมจฺจุมารา คหิตา เอวาติ ‘‘กิเลสมารสฺส จ สตฺตมารสฺส จา’’ติ -สทฺเทน วา เตสมฺปิ คหณํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. โส หิ นิวุโต สํสาราภิมุโขติ โส มารวสํ คโต, ตโต เอว นิวุโต กิเลเสหิ ยาว น มารพนฺธนํ ฉิชฺชติ, ตาว สํสาราภิมุโขว โหติ, น วิสงฺขาราภิมุโขติ อธิปฺปาโย. อิมานิ ภควตา ทฺเว สจฺจานิ เทสิตานิ. กถํ เทสิตานิ?

ตตฺถ ทุวิธา กถา อภิธมฺมนิสฺสิตา จ สุตฺตนฺตนิสฺสิตา จ. ตาสุ อภิธมฺมนิสฺสิตา นาม อรกฺขิเตน จิตฺเตนาติ รตฺตมฺปิ จิตฺตํ อรกฺขิตํ, ทุฏฺมฺปิ จิตฺตํ อรกฺขิตํ, มูฬฺหมฺปิ จิตฺตํ อรกฺขิตํ. ตตฺถ รตฺตํ จิตฺตํ อฏฺนฺนํ โลภสหคตจิตฺตุปฺปาทานํ วเสน เวทิตพฺพํ, ทุฏฺํ จิตฺตํ ทฺวินฺนํ ปฏิฆจิตฺตุปฺปาทานํ วเสน เวทิตพฺพํ, มูฬฺหํ จิตฺตํ ทฺวินฺนํ โมมูหจิตฺตุปฺปาทานํ วเสน เวทิตพฺพํ. ยาว อิเมสํ จิตฺตุปฺปาทานํ วเสน อินฺทฺริยานํ อคุตฺติ อโคปายนา อปาลนา อนารกฺขา สติโวสคฺโค ปมาโท จิตฺตสฺส อสํวโร, เอวํ อรกฺขิตํ จิตฺตํ โหติ. มิจฺฉาทิฏฺิหตํ นาม จิตฺตํ จตุนฺนํ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทานํ วเสน เวทิตพฺพํ, ถินมิทฺธาภิภูตํ นาม จิตฺตํ ปฺจนฺนํ สสงฺขาริกากุสลจิตฺตุปฺปาทานํ วเสน เวทิตพฺพํ. เอวํ สพฺเพปิ อคฺคหิตคฺคหเณน ทฺวาทส อกุสลจิตฺตุปฺปาทา โหนฺติ. เต ‘‘กตเม ธมฺมา อกุสลา? ยสฺมึ สมเย อกุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติอาทินา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ (ธ. ส. ๓๖๕) อกุสลจิตฺตุปฺปาทเทสนาวเสน วิตฺถารโต วตฺตพฺพา. มารสฺสาติ เอตฺถ ปฺจ มารา. เตสุ กิเลสมารสฺส จตุนฺนํ อาสวานํ จตุนฺนํ โอฆานํ จตุนฺนํ โยคานํ จตุนฺนํ คนฺถานํ จตุนฺนํ อุปาทานานํ อฏฺนฺนํ นีวรณานํ ทสนฺนํ กิเลสวตฺถูนํ วเสน อาสวโคจฺฉกาทีสุ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๑๔-๑๙, ๑๑๐๒) วุตฺตนเยน, ตถา ‘‘ชาติมโท โคตฺตมโท อาโรคฺยมโท’’ติอาทินา ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺเค (วิภ. ๘๓๒) อาคตานํ สตฺตนฺนํ กิเลสานฺจ วเสน วิภาโค วตฺตพฺโพ. อยํ ตาเวตฺถ อภิธมฺมนิสฺสิตา กถา.

สุตฺตนฺตนิสฺสิตา (ม. นิ. ๑.๓๔๗; อ. นิ. ๑๑.๑๗) ปน อรกฺขิเตน จิตฺเตนาติ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา นิมิตฺตคฺคาหี โหติ อนุพฺยฺชนคฺคาหี, ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย น ปฏิปชฺชติ, น รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย น สํวรํ อาปชฺชติ. โสเตน …เป… ฆาเนน… ชิวฺหาย… กาเยน… มนสา…เป… มนินฺทฺริเยน สํวรํ อาปชฺชติ (ม. นิ. ๑.๓๔๗, ๔๑๑, ๔๒๑; ๒.๔๑๙; ๓.๑๕, ๗๕). เอวํ อรกฺขิตํ จิตฺตํ โหติ. มิจฺฉาทิฏฺิหเตน จาติ มิจฺฉาทิฏฺิหตํ นาม จิตฺตํ ปุพฺพนฺตกปฺปนวเสน วา อปรนฺตกปฺปนวเสน วา ปุพฺพนฺตาปรนฺตกปฺปนวเสน วา มิจฺฉาภินิวิสนฺตสฺส อโยนิโส อุมฺมุชฺชนฺตสฺส ‘‘สสฺสโต โลโกติ วา…เป… เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ (วิภ. ๙๓๗; ปฏิ. ม. ๑.๑๔๐) วา ยา ทิฏฺิ, ตาย หตํ อุปหตํ. ยา จ โข ‘‘อิมา จตฺตาโร สสฺสตวาทา…เป… ปฺจ ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา’’ติ พฺรหฺมชาเล (ที. นิ. ๑.๓๐ อาทโย) ปฺจตฺตเย (ม. นิ. ๓.๒๑ อาทโย) จ อาคตา ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย, ตาสํ วเสน จิตฺตสฺส มิจฺฉาทิฏฺิหตภาโว กเถตพฺโพ.

ถินมิทฺธาภิภูเตนาติ ถินํ นาม จิตฺตสฺส อกมฺมฺตา. มิทฺธํ นาม เวทนาทิกฺขนฺธตฺตยสฺส อกมฺมฺตา. ตถา ถินํ อนุสฺสาหสํหนนํ. มิทฺธํ อสตฺติวิฆาโต. อิติ ถิเนน มิทฺเธน จ จิตฺตํ อภิภูตํ อชฺโฌตฺถฏํ อุปทฺทุตํ สงฺโกจนปฺปตฺตํ ลยาปนฺนํ. วสํ มารสฺส คจฺฉตีติ วโส นาม อิจฺฉา โลโภ อธิปฺปาโย รุจิ อากงฺขา อาณา อาณตฺติ. มาโรติ ปฺจ มารา – ขนฺธมาโร อภิสงฺขารมาโร มจฺจุมาโร เทวปุตฺตมาโร กิเลสมาโรติ. คจฺฉตีติ เตสํ วสํ อิจฺฉํ…เป… อาณตฺตึ คจฺฉติ อุปคจฺฉติ อุเปติ วตฺตติ อนุวตฺตติ นาติกฺกมตีติ. เตน วุจฺจติ – ‘‘วสํ มารสฺส คจฺฉตี’’ติ.

ตตฺถ ยถาวุตฺตา อกุสลา ธมฺมา, ตณฺหาวิชฺชา เอว วา สมุทยสจฺจํ. โย โส ‘‘วสํ มารสฺส คจฺฉตี’’ติ วุตฺโต, โส เย ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ อุปาทาย ปฺตฺโต, เต ปฺจกฺขนฺธา ทุกฺขสจฺจํ. เอวํ ภควตา อิธ ทฺเว สจฺจานิ เทสิตานิ. เตเนวาห – ‘‘ทุกฺขํ สมุทโย จา’’ติ. เตสํ ภควา ปริฺาย จ ปหานาย จ ธมฺมํ เทเสตีติ วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘ทุกฺขสฺส ปริฺาย สมุทยสฺส ปหานายา’’ติ วุตฺตํ. กถํ เทเสตีติ เจ –

‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร;

สมฺมาทิฏฺึ ปุรกฺขตฺวา, ตฺวาน อุทยพฺพยํ;

ถินมิทฺธาภิภู ภิกฺขุ, สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห’’ติ. (อุทา. ๓๒) –

คาถาย. ตสฺสตฺโถ – ยสฺมา อรกฺขิเตน จิตฺเตน วสํ มารสฺส คจฺฉติ, ตสฺมา สติสํวเรน มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ รกฺขเณน รกฺขิตจิตฺโต อสฺส. สมฺมาสงฺกปฺปโคจโรติ ยสฺมา กามสงฺกปฺปาทิมิจฺฉาสงฺกปฺปโคจโร ตถา ตถา อโยนิโส วิกปฺเปตฺวา นานาวิธานิ มิจฺฉาทสฺสนานิ คณฺหาติ. ตโต เอว จ มิจฺฉาทิฏฺิหเตน จิตฺเตน วสํ มารสฺส คจฺฉติ, ตสฺมา โยนิโสมนสิกาเรน กมฺมํ กโรนฺโต เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทิสมฺมาสงฺกปฺปโคจโร อสฺส. สมฺมาทิฏฺึ ปุรกฺขตฺวาติ สมฺมาสงฺกปฺปโคจรตาย วิธุตมิจฺฉาทสฺสโน กมฺมสฺสกตาลกฺขณํ ยถาภูตาณลกฺขณฺจ สมฺมาทิฏฺึ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา สีลสมาธีสุ ยุตฺตปฺปยุตฺโต. ตโต เอว จ ตฺวาน อุทยพฺพยํ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ สมปฺาสาย อากาเรหิ อุปฺปาทํ นิโรธฺจ ตฺวา วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อนุกฺกเมน อริยมคฺเค คณฺหนฺโต อคฺคมคฺเคน ถินมิทฺธาภิภู ภิกฺขุ สพฺพา ทุคฺคติโย ชเหติ เอวํ สพฺพโส ภินฺนกิเลสตฺตา ภิกฺขุ ขีณาสโว ยถาสมฺภวํ ติวิธทุกฺขตาโยเคน ทุคฺคติสงฺขาตา สพฺพาปิ คติโย ชเหยฺย, ตาสํ ปรภาเค นิพฺพาเน ติฏฺเยฺยาติ อตฺโถ.

ยํ ตณฺหาย อวิชฺชาย จ ปหานํ, อยํ นิโรโธติ ปหานสฺส นิโรธสฺส ปจฺจยภาวโต อสงฺขตธาตุ ปหานํ นิโรโธติ จ วุตฺตา. อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานีติ ปุริมคาถาย ปุริมานิ ทฺเว, ปจฺฉิมคาถาย ปจฺฉิมานิ ทฺเวติ ทฺวีหิ คาถาหิ ภาสิตานิ อิมานิ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ. เตสุ สมุทเยน อสฺสาโท, ทุกฺเขน อาทีนโว, มคฺคนิโรเธหิ นิสฺสรณํ, สพฺพคติชหนํ ผลํ, รกฺขิตจิตฺตตาทิโก อุปาโย, อรกฺขิตจิตฺตตาทินิเสธนมุเขน รกฺขิตจิตฺตตาทีสุ นิโยชนํ ภควโต อาณตฺตีติ. เอวํ เทสนาหารปทตฺถา อสฺสาทาทโย นิทฺธาเรตพฺพา. เตเนวาห – ‘‘นิยุตฺโต เทสนาหารสมฺปาโต’’ติ.

เทสนาหารสมฺปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. วิจยหารสมฺปาตวณฺณนา

๕๓. เอวํ เทสนาหารสมฺปาตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิจยหารสมฺปาตํ ทสฺเสนฺโต ยสฺมา เทสนาหารปทตฺถวิจโย วิจยหาโร, ตสฺมา เทสนาหาเร วิปลฺลาสเหตุภาเวน นิทฺธาริตาย ตณฺหาย กุสลาทิวิภาคปวิจยมุเขน วิจยหารสมฺปาตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ตณฺหา ทุวิธา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กุสลาติ กุสลธมฺมารมฺมณา. กุสล-สทฺโท เจตฺถ พาหิติกสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๓๕๘ อาทโย) วิย อนวชฺชตฺเถ ทฏฺพฺโพ. กสฺมา ปเนตฺถ ตณฺหา กุสลปริยาเยน อุทฺธฏา? เหฏฺา เทสนาหาเร วิปลฺลาสเหตุภาเวน ตณฺหํ อุทฺธริตฺวา ตสฺสา วเสน สํกิเลสปกฺโข ทสฺสิโต. วิจิตฺตปฏิภานตาย ปน อิธาปิ ตณฺหามุเขเนว โวทานปกฺขํ ทสฺเสตุํ กุสลปริยาเยน ตณฺหา อุทฺธฏา. ตตฺถ สํสารํ คเมตีติ สํสารคามินี, สํสารนายิกาติ อตฺโถ. อปจยํ นิพฺพานํ คเมตีติ อปจยคามินี. กถํ ปน ตณฺหา อปจยคามินีติ? อาห ‘‘ปหานตณฺหา’’ติ. ตทงฺคาทิปฺปหานสฺส เหตุภูตา ตณฺหา. กถํ ปน เอกนฺตสาวชฺชาย ตณฺหาย กุสลภาโวติ? เสวิตพฺพภาวโต. ยถา ตณฺหา, เอวํ มาโนปิ ทุวิโธ กุสโลปิ อกุสโลปิ, น ตณฺหา เอวาติ ตณฺหาย นิทสฺสนภาเวน มาโน วุตฺโต.

ตตฺถ มานสฺส ยถาธิปฺเปตํ กุสลาทิภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ มานํ นิสฺสายา’’ติอาทิมาห. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘มานมหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี’’ติอาทิ. ยํ เนกฺขมฺมสฺสิตํ โทมนสฺสนฺติอาทิ ‘‘กุสลา’’ติ วุตฺตตณฺหาย สรูปทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ เนกฺขมฺมสฺสิตํ โทมนสฺสํ นาม –

‘‘ตตฺถ กตมานิ ฉ เนกฺขมฺมสฺสิตานิ โทมนสฺสานิ? รูปานํตฺเวว อนิจฺจตํ วิทิตฺวา วิปริณามวิราคนิโรธํ ‘ปุพฺเพ เจว รูปา เอตรหิ จ, สพฺเพเต รูปา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา อนุตฺตเรสุ วิโมกฺเขสุ ปิหํ อุปฏฺาเปติ ‘กุทาสฺสุ นามาหํ ตทายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามิ, ยทริยา เอตรหิ อายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตี’ติ. อิติ อนุตฺตเรสุ วิโมกฺเขสุ ปิหํ อุปฏฺาปยโต อุปฺปชฺชติ ปิหา, ปิหาปจฺจยา โทมนสฺสํ. ยํ เอวรูปํ โทมนสฺสํ, อิทํ วุจฺจติ เนกฺขมฺมสฺสิตํ โทมนสฺส’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๓๐๗) –

เอวํ ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺารมฺมเณ อาปาถคเต อนุตฺตรวิโมกฺขสงฺขาตอริยผลธมฺเมสุ ปิหํ อุปฏฺาเปตฺวา ตทธิคมาย อนิจฺจาทิวเสน วิปสฺสนํ อุปฏฺาเปตฺวา อุสฺสุกฺกาเปตุํ อสกฺโกนฺตสฺส ‘‘อิมมฺปิ ปกฺขํ อิมมฺปิ มาสํ, อิมมฺปิ สํวจฺฉรํ, วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อริยภูมึ สมฺปาปุณิตุํ นาสกฺขิ’’นฺติ อนุโสจโต อุปฺปนฺนํ โทมนสฺสํ เนกฺขมฺมวเสน วิปสฺสนาวเสน อนุสฺสติวเสน ปมชฺฌานาทิวเสน ปฏิปตฺติยา เหตุภาเวน อุปฺปชฺชนโต เนกฺขมฺมสฺสิตํ โทมนสฺสํ นาม. อยํ ตณฺหา กุสลาติ อยํ ‘‘ปิหา’’ติ วุตฺตา ตณฺหา กุสลา. กถํ? ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ, ตทารมฺมณา กุสลาติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ, น สภาเวน กุสลา, อนวชฺชฏฺเน กุสลา. ตํ อุทฺทิสฺส ปวตฺติยา ตทารมฺมณา ปน ตณฺหา กุสลารมฺมณตาย กุสลาติ. อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺติ อนวชฺชฏฺเน กุสลา. ตสฺสาติ ปฺาวิมุตฺติยา. ยาย วเสน ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติ คาถายํ ‘‘สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห’’ติ วุตฺตํ.

อิติ จิรตรํ วิปสฺสนาปริวาสํ ปริวสิตฺวา ทุกฺขาปฏิปทาทนฺธาภิฺาย อธิคตาย ปฺาวิมุตฺติยา วเสน วิจยหารสมฺปาตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺสา โก ปวิจโย’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยสฺมา ปฺาวิมุตฺติ อริยมคฺคมูลิกา, ตสฺมา จตุตฺถชฺฌานปาทเก อริยมคฺคธมฺเม อุทฺทิสิตฺวา เตสํ อาคมนปฏิปทํ ทสฺเสตุํ ‘‘กตฺถ ทฏฺพฺโพ, จตุตฺเถ ฌาเน’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปารมิตายาติ อุกฺกํสคตาย จตุตฺถชฺฌานภาวนาย. เยหิ อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตํ จตุตฺถชฺฌานจิตฺตํ วุตฺตํ, ตานิ องฺคานิ ทสฺเสตุํ ‘‘ปริสุทฺธ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิภาเวน ปริสุทฺธํ. ปริสุทฺธตฺตา เอว ปริโยทาตํ, ปภสฺสรนฺติ วุตฺตํ โหติ. สุขาทีนํ ปจฺจยฆาเตน วีตราคาทิองฺคณตฺตา อนงฺคณํ. อนงฺคณตฺตา เอว วิคตูปกฺกิเลสํ, องฺคเณน หิ จิตฺตํ อุปกฺกิลิสฺสติ, สุภาวิตตฺตา มุทุภูตํ วสิภาวปฺปตฺตนฺติ อตฺโถ. วเส วตฺตมานฺหิ จิตฺตํ ‘‘มุทู’’ติ วุจฺจติ. มุทุตฺตา เอว จ กมฺมนิยํ, กมฺมกฺขมํ กมฺมโยคฺคนฺติ อตฺโถ. มุทุฺหิ จิตฺตํ กมฺมนิยํ โหติ, เอวํ ภาวิตํ มุทุฺจ โหติ กมฺมนิยฺจ, ยถยิทํ, ภิกฺขเว, จิตฺต’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๒๒). เอเตสุ ปริสุทฺธภาวาทีสุ ิตตฺตา ิตํ. ิตตฺตาเยว อาเนฺชปฺปตฺตํ, อจลํ นิริฺชนนฺติ อตฺโถ. มุทุกมฺมฺภาเวน วา อตฺตโน วเส ิตตฺตา ิตํ. สทฺธาทีหิ ปริคฺคหิตตฺตา อาเนฺชปฺปตฺตํ. สทฺธาปริคฺคหิตฺหิ จิตฺตํ อสฺสทฺธิเยน น อิฺชติ, วีริยปริคฺคหิตํ โกสชฺเชน น อิฺชติ, สติปริคฺคหิตํ ปมาเทน น อิฺชติ, สมาธิปริคฺคหิตํ อุทฺธจฺเจน น อิฺชติ, ปฺาปริคฺคหิตํ อวิชฺชาย น อิฺชติ, โอภาสคตํ กิเลสนฺธกาเรน น อิฺชติ. อิเมหิ ฉหิ ธมฺเมหิ ปริคฺคหิตํ อาเนฺชปฺปตฺตํ โหติ. เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ จิตฺตํ อภินีหารกฺขมํ โหติ. อภิฺาสจฺฉิกรณียานํ ธมฺมานํ อภิฺาสจฺฉิกิริยาย.

อปโร นโย – จตุตฺถชฺฌานสมาธินา สมาหิตํ จิตฺตํ นีวรณทูรีภาเวน ปริสุทฺธํ. วิตกฺกาทิสมติกฺกเมน ปริโยทาตํ. ฌานปฏิลาภปจฺจนีกานํ ปาปกานํ อิจฺฉาวจรานํ อภาเวน อนงฺคณํ. อิจฺฉาวจรานนฺติ อิจฺฉาย อวจรานํ อิจฺฉาวเสน โอติณฺณานํ ปวตฺตานํ นานปฺปการานํ โกปอปจฺจยานนฺติ อตฺโถ. อภิชฺฌาทีนํ จิตฺตุปกฺกิเลสานํ วิคเมน วิคตูปกฺกิเลสํ. อุภยมฺปิ เจตํ อนงฺคณสุตฺตวตฺถสุตฺตานํ (ม. นิ. ๑.๕๗ อาทโย; ๗๐ อาทโย) วเสน เวทิตพฺพํ. วสิปฺปตฺติยา มุทุภูตํ. อิทฺธิปาทภาวูปคเมน กมฺมนิยํ. ภาวนาปาริปูริยา ปณีตภาวูปคเมน ิตํ อาเนฺชปฺปตฺตํ. ยถา อาเนฺชภาวปฺปตฺตํ อาเนฺชปฺปตฺตํ โหติ, เอวํ ิตนฺติ อตฺโถ. เอวมฺปิ อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ จิตฺตํ อภินีหารกฺขมํ โหติ. อภิฺาสจฺฉิกรณียานํ ธมฺมานํ อภิฺาสจฺฉิกิริยาย ปาทกํ ปทฏฺานภูตํ. เตเนวาห – ‘‘โส ตตฺถ อฏฺวิธํ อธิคจฺฉติ ฉ อภิฺา ทฺเว จ วิเสเส’’ติ.

ตตฺถ โสติ อธิคตจตุตฺถชฺฌาโน โยคี. ตตฺถาติ ตสฺมึ จตุตฺถชฺฌาเน อธิฏฺานภูเต. อฏฺวิธํ อธิคจฺฉตีติ อฏฺวิธํ คุณํ อธิคจฺฉติ. โก ปน โส อฏฺวิโธ คุโณติ? อาห ‘‘ฉ อภิฺา ทฺเว จ วิเสเส’’ติ. มโนมยิทฺธิ วิปสฺสนาาณฺจ. ตํ จิตฺตนฺติ จตุตฺถชฺฌานจิตฺตํ. ‘‘ยโต ปริสุทฺธํ, ตโต ปริโยทาต’’นฺติอาทินา ปุริมํ ปุริมํ ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส การณวจนนฺติ ทสฺเสติ. ตทุภยนฺติ เยสํ ราคาทิองฺคณานํ อภิชฺฌาทิอุปกฺกิเลสานฺจ อภาเวน ‘‘อนงฺคณํ วิคตูปกฺกิเลส’’นฺติ จ วุตฺตํ. ตานิ องฺคณานิ อุปกฺกิเลสา จาติ ตํ อุภยํ. ตทุภยํ ตณฺหาสภาวตฺตา ตณฺหาย อนุโลมนโต จ ตณฺหาปกฺโข. ยา จ อิฺชนาติ ยา จ จิตฺตสฺส อสมาทาเนน ผนฺทนา. อฏฺิตีติ อนวฏฺานํ. อยํ ทิฏฺิปกฺโขติ ยา อิฺชนา อฏฺิติ จ, อยํ มิจฺฉาภินิเวสเหตุตาย ทิฏฺิปกฺโข.

‘‘จตฺตาริ อินฺทฺริยานี’’ติอาทินา เวทนาโตปิ จตุตฺถชฺฌานํ วิภาเวติ. เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ จตุตฺถชฺฌานจิตฺตํ อุปริ อภิฺาธิคมาย อภินีหารกฺขมํ โหติ. สา จ อภินีหารกฺขมตา จุทฺทสหิ อากาเรหิ จิณฺณวสิภาวสฺเสว โหติ. โส จ วสิภาโว อฏฺสมาปตฺติลาภิโน, น รูปาวจรชฺฌานมตฺตลาภิโนติ อารุปฺปสมาปตฺติยา มนสิการวิธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘โส อุปริมํ สมาปตฺตึ สนฺตโต มนสิกโรตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อุปริมํ สมาปตฺตินฺติ อากาสานฺจายตนสมาปตฺตึ. สนฺตโต มนสิกโรตีติ องฺคสนฺตตายปิ อารมฺมณสนฺตตายปิ ‘‘สนฺตา’’ติ มนสิกโรติ. ยโต ยโต หิ อารุปฺปสมาปตฺตึ สนฺตโต มนสิกโรติ, ตโต ตโต รูปาวจรชฺฌานํ อวูปสนฺตํ หุตฺวา อุปฏฺาติ. เตเนวาห – ‘‘ตสฺส อุปริมํ…เป… สณฺหตี’’ติ. อุกฺกณฺา จ ปฏิฆสฺาติ ปฏิฆสฺาสงฺขาตาสุ ปฺจวิฺาณสฺาสุ อนภิรติ สณฺหติ. ‘‘โส สพฺพโส’’ติอาทินา เอกเทเสน อารุปฺปสมาปตฺตึ ทสฺเสติ. อภิฺาภินีหาโร รูปสฺาติ รูปาวจรสฺา นาเมตา ยาวเทว อภิฺตฺถาภินีหารมตฺตํ, น ปน อรูปาวจรสมาปตฺติโย วิย สนฺตาติ อธิปฺปาโย. โวกาโร นานตฺตสฺาติ นานตฺตสฺา นาเมตา นานารมฺมเณสุ โวกาโร, ตตฺถ จิตฺตสฺส อากุลปฺปวตฺตีติ อตฺโถ. สมติกฺกมตีติ เอวํ ตตฺถ อาทีนวทสฺสี หุตฺวา ตา สมติกฺกมติ. ปฏิฆสฺา จสฺส อพฺภตฺถํ คจฺฉตีติ อสฺส อากาสานฺจายตนสมาปตฺตึ อธิคจฺฉนฺตสฺส โยคิโน ทสปิ ปฏิฆสฺา วิคจฺฉนฺติ. อิมินา ปมารุปฺปสมาปตฺติมาห.

เอวํ สมาหิตสฺสาติ เอวํ อิมินา วุตฺตนเยน รูปาวจรชฺฌาเน จิตฺเตกคฺคตายปิ สมติกฺกเมน สมาหิตสฺส. สมาหิตสฺสาติ อารุปฺปสมาธินา สนฺตวุตฺตินา สมาหิตสฺส. โอภาโสติ โย ปุเร รูปาวจรชฺฌาโนภาโส. อนฺตรธายตีติ โส รูปาวจรชฺฌาโนภาโส อรูปาวจรชฺฌานสมาปชฺชนกาเล วิคจฺฉติ. ทสฺสนฺจาติ รูปาวจรชฺฌานจกฺขุนา ทสฺสนฺจ อนฺตรธายติ. โส สมาธีติ โส ยถาวุตฺโต รูปารูปสมาธิ. ฉฬงฺคสมนฺนาคโตติ อุปการกปริกฺขารสภาวภูเตหิ ฉหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต. ปจฺจเวกฺขิตพฺโพติ ปติ อเวกฺขิตพฺโพ, ปุนปฺปุนํ จินฺเตตพฺโพติ อตฺโถ. ปจฺจเวกฺขณาการํ สห วิสเยน ทสฺเสตุํ ‘‘อนภิชฺฌาสหคต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สพฺพโลเกติ สพฺพสฺมึ ปิยรูเป สาตรูเป สตฺตโลเก สงฺขารโลเก จ. เตน กามจฺฉนฺทสฺส ปหานมาห. ตถา ‘‘อพฺยาปนฺน’’นฺติอาทินา พฺยาปาทโกสชฺชสารมฺภสาเยฺยวิกฺเขปสมฺโมสานํ ปหานํ. ปุน ตานิ ฉ องฺคานิ สมถวิปสฺสนาวเสน วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ยฺจ อนภิชฺฌาสหคต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตํ สพฺพํ สุวิฺเยฺยํ.

๕๔. เอตฺตาวตา ‘‘ปฺาวิมุตฺตี’’ติ วุตฺตสฺส อรหตฺตผลสฺส สมาธิมุเขน ปุพฺพภาคปฏิปทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อรหตฺตผลสมาธึ ทสฺเสตุํ ‘‘โส สมาธี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โส สมาธีติ โย โส สมฺมาสมาธิ. ปุพฺเพ วุตฺตสฺส อริยมคฺคสมาธิสฺส ผลภูโต สมาธิ ปฺจวิเธน เวทิตพฺโพ อิทานิ วุจฺจมาเนหิ ปฺจหิ ปจฺจเวกฺขณาเณหิ อตฺตโน ปจฺจเวกฺขิตพฺพาการสงฺขาเตน ปฺจวิเธน เวทิตพฺโพ. ‘‘อยํ สมาธิ ปจฺจุปฺปนฺนสุโข’’ติอาทีสุ อรหตฺตผลสมาธิ อปฺปิตปฺปิตกฺขเณ สุขตฺตา ปจฺจุปฺปนฺนสุโข. ปุริโม ปุริโม ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส สมาธิสุขสฺส ปจฺจยตฺตา อายตึ สุขวิปาโก. กิเลเสหิ อารกตฺตา อริโย. กามามิสวฏฺฏามิสโลกามิสานํ อภาวา นิรามิโส. พุทฺธาทีหิ มหาปุริเสหิ เสวิตตฺตา อกาปุริสเสวิโต. องฺคสนฺตตาย สพฺพกิเลสทรถสนฺตตาย จ สนฺโต. อติตฺติกรฏฺเน ปณีโต. กิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธิยา ลทฺธตฺตา, กิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธิภาเวน วา ลทฺธตฺตา ปฏิปฺปสฺสทฺธิลทฺโธ. ปสฺสทฺธํ ปสฺสทฺธีติ หิ อิทํ อตฺถโต เอกํ. ปฏิปฺปสฺสทฺธิกิเลเสน วา อรหตา ลทฺธตฺตาปิ ปฏิปฺปสฺสทฺธิลทฺโธ. เอโกทิภาเวน อธิคตตฺตา, เอโกทิภาวเมว วา อธิคตตฺตา เอโกทิภาวาธิคโต. อปฺปคุณสาสวสมาธิ วิย สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน ปจฺจนีกธมฺเม นิคฺคยฺห กิเลเส วาเรตฺวา อนธิคตตฺตา นสสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโตติ.

ยโต ยโต ภาคโต ตฺจ สมาธึ สมาปชฺชนฺโต, ตโต วา วุฏฺหนฺโต สติเวปุลฺลปฺปตฺโต สโตว สมาปชฺชติ สโตว วุฏฺหติ, ยถาปริจฺฉินฺนกาลวเสน วา สโต สมาปชฺชติ สโต วุฏฺหติ. ตสฺมา ยเทตฺถ ‘‘อยํ สมาธิ ปจฺจุปฺปนฺนสุโข เจว อายติฺจ สุขวิปาโก’’ติ เอวํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ปจฺจตฺตเมว อปรปฺปจฺจยาณํ อุปฺปชฺชติ, อยเมโก อากาโร. เอส นโย เสเสสุปิ. เอวเมเตสํ ปฺจนฺนํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพาการานํ วเสน สมาธิ ปฺจวิเธน เวทิตพฺโพ.

ปุน ‘‘โย จ สมาธี’’ติอาทินา อรหตฺตผเล สมถวิปสฺสนาวิภาคํ ทสฺเสติ. ตตฺถ สมาธิสุขสฺส ‘‘สุข’’นฺติ อธิปฺเปตตฺตา ‘‘โย จ สมาธิ ปจฺจุปฺปนฺนสุโข, โย จ สมาธิ อายตึ สุขวิปาโก, อยํ สมโถ’’ติ วุตฺตํ. อริยนิรามิสาทิภาโว ปน ปฺานุภาเวน นิปฺผชฺชตีติ อาห – ‘‘โย จ สมาธิ อริโย…เป… อยํ วิปสฺสนา’’ติ.

เอวํ อรหตฺตผลสมาธึ วิภาเคน ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทํ สมาธิวิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘โส สมาธี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ โส สมาธีติ โย โส อรหตฺตผลสมาธิสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทายํ วุตฺโต รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานสมาธิ, โส สมาธิ. ปฺจวิเธนาติ วกฺขมาเนน ปฺจปฺปกาเรน เวทิตพฺโพ. ‘‘ปีติผรณตา’’ติอาทีสุ ปีตึ ผรมานา อุปฺปชฺชตีติ ทฺวีสุ ฌาเนสุ ปฺา ปีติผรณตา นาม. สุขํ ผรมานา อุปฺปชฺชตีติ ตีสุ ฌาเนสุ ปฺา สุขผรณตา นาม. ปเรสํ เจโต ผรมานา อุปฺปชฺชตีติ เจโตปริยปฺา เจโตผรณตา นาม. อาโลกผรเณ อุปฺปชฺชตีติ ทิพฺพจกฺขุปฺา อาโลกผรณตา นาม. ปจฺจเวกฺขณาณํ ปจฺจเวกฺขณานิมิตฺตํ นาม. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ทฺวีสุ ฌาเนสุ ปฺา ปีติผรณตา, ตีสุ ฌาเนสุ ปฺา สุขผรณตา, ปรจิตฺเต าณํ เจโตผรณตา, ทิพฺพจกฺขุ อาโลกผรณตา, ตมฺหา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺิตสฺส ปจฺจเวกฺขณาณํ ปจฺจเวกฺขณนิมิตฺต’’นฺติ (วิภ. ๘๐๔).

อิธ สมถวิปสฺสนาวิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘โย จ ปีติผรโณ’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ปฺาสีเสน เทสนา กตาติ ปฺาวเสน สํวณฺณนา กตา. ปฺา ปีติผรณตาติอาทีสุ สมาธิสหคตา เอวาติ ตตฺถ สมาธิวเสน สมโถ อุทฺธโฏ. ตสฺมา ปีติสุขเจโตผรณตา วิเสสโต สมาธิวิปฺผารวเสน อิชฺฌนฺตีติ ตา ‘‘สมโถ’’ติ วุตฺตา. อิตรานิ าณวิปฺผารวเสนาติ ตานิ ‘‘วิปสฺสนา’’ติ วุตฺตานิ.

๕๕. อิทานิ ตํ สมาธึ อารมฺมณวเสน วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ทส กสิณายตนานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กสิณชฺฌานสงฺขาตานิ กสิณานิ จ ตานิ โยคิโน สุขวิเสสานํ อธิฏฺานภาวโต, มนายตนธมฺมายตนภาวโต จ อายตนานิ จาติ กสิณายตนานิ. ปถวีกสิณนฺติ กตปริกมฺมํ ปถวีมณฺฑลมฺปิ, ตตฺถ ปวตฺตํ อุคฺคหปฏิภาคนิมิตฺตมฺปิ, ตสฺมึ นิมิตฺเต อุปฺปนฺนชฺฌานมฺปิ วุจฺจติ. เตสุ ฌานํ อิธาธิปฺเปตํ. อากาสกสิณนฺติ กสิณุคฺฆาฏิมากาเส ปวตฺตปมารุปฺปชฺฌานํ. วิฺาณกสิณนฺติ ปมารุปฺปวิฺาณารมฺมณํ ทุติยารุปฺปชฺฌานํ. ปถวีกสิณาทิเก สุทฺธสมถภาวนาวเสน ปวตฺติเต สนฺธาย ‘‘อิมานิ อฏฺ กสิณานิ สมโถ’’ติ วุตฺตํ. เสสกสิณทฺวยํ วิปสฺสนาธิฏฺานภาเวน ปวตฺตํ ‘‘วิปสฺสนา’’ติ วุตฺตํ.

เอวนฺติ อิมินา นเยน. สพฺโพ อริยมคฺโคติ สมฺมาทิฏฺิอาทิภาเวน อภินฺโนปิ อริยมคฺโค สติปฏฺานาทิปุพฺพภาคปฏิปทาเภเทน อเนกเภทภินฺโน นิรวเสโส อริยมคฺโค. เยน เยน อากาเรนาติ อนภิชฺฌาทีสุ, ปจฺจุปฺปนฺนสุขตาทีสุ จ อากาเรสุ เยน เยน อากาเรน วุตฺโต. เตน เตนาติ เตสุ เตสุ อากาเรสุ เย เย สมถวเสน, เย จ เย จ วิปสฺสนาวเสน โยเชตุํ สมฺภวนฺติ, เตน เตน อากาเรน สมถวิปสฺสนาหิ อริยมคฺโค วิจินิตฺวา โยเชตพฺโพ. เตติ สมถาธิฏฺานวิปสฺสนาธมฺมา. ตีหิ ธมฺเมหิ สงฺคหิตาติ ตีหิ อนุปสฺสนาธมฺเมหิ สงฺคหิตา, คณนํ คตาติ อตฺโถ. กตเมหิ ตีหีติ? อาห ‘‘อนิจฺจตาย ทุกฺขตาย อนตฺตตายา’’ติ. อนิจฺจตาย สหจรณโต วิปสฺสนา ‘‘อนิจฺจตา’’ติ วุตฺตา. เอส นโย เสเสสุปิ.

โส สมถวิปสฺสนํ ภาวยมาโน ตีณิ วิโมกฺขมุขานิ ภาวยตีติ โส อริยมคฺคาธิคมาย ยุตฺตปฺปยุตฺโต โยคี กาเลน สมถํ สมาปชฺชนวเสน กาเลน วิปสฺสนํ สมฺมสนวเสน วฑฺฒยมาโน อนิมิตฺตวิโมกฺขมุขาทิสงฺขาตา ติสฺโส อนุปสฺสนา พฺรูเหติ. ตโย ขนฺเธ ภาวยตีติ ติสฺโส อนุปสฺสนา อุปรูปริวิเสสํ ปาเปนฺโต สีลกฺขนฺโธ สมาธิกฺขนฺโธ ปฺากฺขนฺโธติ เอเต ตโย ขนฺเธ วฑฺเฒติ. ยสฺมา ปน ตีหิ ขนฺเธหิ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค สงฺคหิโต, ตสฺมา ‘‘ตโย ขนฺเธ ภาวยนฺโต อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาวยตี’’ติ วุตฺตํ.

อิทานิ เยสํ ปุคฺคลานํ ยตฺถ สิกฺขนฺตานํ วิเสสโต นิยฺยานมุขานิ เยสฺจ กิเลสานํ ปฏิปกฺขภูตานิ ตีณิ วิโมกฺขมุขานิ, เตหิ สทฺธึ ตานิ ทสฺเสตุํ ‘‘ราคจริโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อนิมิตฺเตน วิโมกฺขมุเขนาติ อนิจฺจานุปสฺสนาย. สา หิ นิจฺจนิมิตฺตาทิสมุคฺฆาฏเนน อนิมิตฺโต, ราคาทีนํ สมุจฺเฉทวิมุตฺติยา วิโมกฺโขติ ลทฺธนามสฺส อริยมคฺคสฺส มุขภาวโต ทฺวารภาวโต ‘‘อนิมิตฺตวิโมกฺขมุข’’นฺติ วุจฺจติ. อธิจิตฺตสิกฺขายาติ สมาธิสฺมึ. สุขเวทนียํ ผสฺสํ อนุปคจฺฉนฺโตติ สุขเวทนาย หิตํ สุขเวทนาการณโต ผสฺสํ ตณฺหาย อนุปคจฺฉนฺโต. สุขํ เวทนํ ปริชานนฺโตติ ‘‘อยํ สุขา เวทนา วิปริณามาทินา ทุกฺขา’’ติ ปริชานนฺโต, สวิสยํ ราคํ สมติกฺกนฺโต. ‘‘ราคมลํ ปวาเหนฺโต’’ติอาทินา เตหิ ปริยาเยหิ ราคสฺเสว ปหานมาห. ‘‘โทสจริโต ปุคฺคโล’’ติอาทีสุปิ วุตฺตนยานุสาเรน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ปฺาธิกสฺส สนฺตติสมูหกิจฺจารมฺมณาทิฆนวินิพฺโภเคน สงฺขาเรสุ อตฺตสุฺตา ปากฏา โหตีติ วิเสสโต อนตฺตานุปสฺสนา ปฺาปธานาติ อาห – ‘‘สุฺตวิโมกฺขมุขํ ปฺากฺขนฺโธ’’ติ. ตถา สงฺขารานํ สรสปภงฺคุตาย อิตฺตรขณตฺตา อุปฺปนฺนานํ ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชนํ สมฺมา สมาหิตสฺเสว ปากฏํ โหตีติ วิเสสโต อนิจฺจานุปสฺสนา สมาธิปฺปธานาติ อาห – ‘‘อนิมิตฺตวิโมกฺขมุขํ สมาธิกฺขนฺโธ’’ติ. ตถา สีเลสุ ปริปูรการิโน ขนฺติพหุลสฺส อุปฺปนฺนํ ทุกฺขํ อรติฺจ อภิภุยฺย วิหรโต สงฺขารานํ ทุกฺขตา วิภูตา โหตีติ ทุกฺขานุปสฺสนา สีลปฺปธานาติ อาห – ‘‘อปฺปณิหิตวิโมกฺขมุขํ สีลกฺขนฺโธ’’ติ. อิติ ตีหิ วิโมกฺขมุเขหิ ติณฺณํ ขนฺธานํ สงฺคหิตตฺตา วุตฺตํ – ‘‘โส ตีณิ วิโมกฺขมุขานิ ภาวยนฺโต ตโย ขนฺเธ ภาวยตี’’ติ. ยสฺมา จ ตีหิ จ ขนฺเธหิ อริยสฺส อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺส สงฺคหิตตฺตา ตโย ขนฺเธ ภาวยนฺโต ‘‘อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาวยตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา เตหิ ตสฺส สงฺคหํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยา จ สมฺมาวาจา’’ติอาทิมาห.

ปุน ติณฺณํ ขนฺธานํ สมถวิปสฺสนาภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘สีลกฺขนฺโธ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สีลกฺขนฺธสฺส ขนฺติปธานตฺตา, สมาธิสฺส พหูปการตฺตา จ สมถปกฺขภชนํ ทฏฺพฺพํ. ภวงฺคานีติ อุปปตฺติภวสฺส องฺคานิ. ทฺเว ปทานีติ ทฺเว ปาทา. เยภุยฺเยน หิ ปฺจทส จรณธมฺมา สีลสมาธิสงฺคหิตาติ. ภาวิตกาโยติ อาภิสมาจาริกสีลสฺส ปาริปูริยา ภาวิตกาโย. อาทิพฺรหฺมจริยกสีลสฺส ปาริปูริยา ภาวิตสีโล. อถ วา ภาวิตกาโยติ อินฺทฺริยสํวเรน ภาวิตปฺจทฺวารกาโย. ภาวิตสีโลติ อวสิฏฺสีลวเสน ภาวิตสีโล. สมฺมา กายภาวนาย สติ อจฺจนฺตํ กายทุจฺจริตปฺปหานํ อนวชฺชฺจ อุฏฺานํ สมฺปชฺชติ. ตถา อนุตฺตเร สีเล สิชฺฌมาเน อนวเสสโต มิจฺฉาวาจาย มิจฺฉาชีวสฺส จ ปหานํ สมฺปชฺชติ. จิตฺตปฺาสุ จ ภาวิตาสุ สมฺมาสติสมฺมาสมาธิสมฺมาทิฏฺิสมฺมาสงฺกปฺปา ภาวนาปาริปูรึ คตา เอว โหนฺติ ตํสภาวตฺตา ตทุภยการณตฺตา จาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘กาเย ภาวิยมาเน’’ติอาทินา.

ปฺจวิธํ อธิคมํ คจฺฉตีติ อริยมคฺคาธิคมเมว อวตฺถาวิเสสวเสน ปฺจธา วิภชิตฺวา ทสฺเสติ. อริยมคฺโค หิ ขิปฺปํ สกึ เอกจิตฺตกฺขเณเนว จตูสุ สจฺเจสุ อตฺตนา อธิคนฺตพฺพํ อธิคจฺฉตีติ น ตสฺส โลกิยสมาปตฺติยา วิย วสิภาวนากิจฺจํ อตฺถีติ ขิปฺปาธิคโม จ โหติ. ปชหิตพฺพานํ อจฺจนฺตวิมุตฺติวเสน ปชหนโต วิมุตฺตาธิคโม จ. โลกิเยหิ มหนฺตานํ สีลกฺขนฺธาทีนํ อธิคมนภาวโต มหาธิคโม จ. เตสํเยว วิปุลผลานํ อธิคมนโต วิปุลาธิคโม จ. อตฺตนา กตฺตพฺพสฺส กสฺสจิ อนวเสสโต อนวเสสาธิคโม จ โหตีติ. เก ปเนเต อธิคมา? เกจิ สมถานุภาเวน, เกจิ วิปสฺสนานุภาเวนาติ อิมํ วิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ สมเถนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๕๖. อิติ มหาเถโร ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติ คาถาย วเสน อรหตฺตผลวิมุตฺติมุเขน วิจยหารสมฺปาตํ นิทฺทิสนฺโต เทสนากุสลตาย อเนเกหิ สุตฺตปฺปเทเสหิ ตสฺสา ปุพฺพภาคปฏิปทาย ภาวนาวิเสสานํ ภาวนานิสํสานฺจ วิภชนวเสน นานปฺปการโต วิจยหารํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ทสนฺนํ ตถาคตพลานมฺปิ วเสน ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ โย เทสยตี’’ติอาทิมาห. โอวาเทน สาวเก น วิสํวาทยตีติ อตฺตโน อนุสิฏฺิยา ธมฺมสฺส สวนโต ‘‘สาวกา’’ติ ลทฺธนาเม เวเนยฺเย น วิปฺปลมฺเภติ น วฺเจติ, วิสํวาทนเหตูนํ ปาปธมฺมานํ อริยมคฺเคน โพธิมูเล เอว สุปฺปหีนตฺตา. ติวิธนฺติ ติปฺปการํ, ตีหิ อากาเรหีติ อตฺโถ. อิทํ กโรถาติ อิมํ สรณคมนํ สีลาทิฺจ อุปสมฺปชฺช วิหรถ. อิมินา อุปาเยน กโรถาติ อเนนปิ วิธินา สรณานิ โสเธนฺตา สีลาทีนิ ปริปูเรนฺตา สมฺปาเทถ. อิทํ โว กุรุมานานนฺติ อิทํ สรณคมนํ สีลาทิฺจ ตุมฺหากํ อนุติฏฺนฺตานํ ทิฏฺธมฺมสมฺปรายนิพฺพานานํ วเสน หิตาย สุขาย จ ภวิสฺสติ, ตานิ สมฺปาเทถาติ อตฺโถ.

เอวํ โอวทนาการํ ทสฺเสตฺวา ยํ วุตฺตํ – ‘‘โอวาเทน สาวเก น วิสํวาทยตี’’ติ, ตํ ตถาคตพเลหิ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘โส ตถา โอวทิโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตถาติ เตน ปกาเรน ‘‘อิทํ กโรถ, อิมินา อุปาเยน กโรถา’’ติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรน. โอวทิโตติ ธมฺมเทสนาย สาสิโต. อนุสิฏฺโติ ตสฺเสว เววจนํ. ตถา กโรนฺโตติ ยถานุสิฏฺํ ตถา กโรนฺโต. ตํ ภูมินฺติ ยสฺสา ภูมิยา อธิคมตฺถาย โอวทิโต, ตํ ทสฺสนภูมิฺจ ภาวนาภูมิฺจ. เนตํ านํ วิชฺชตีติ เอตํ การณํ น วิชฺชติ. การณฺหิ ติฏฺติ เอตฺถ ผลํ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ ‘‘าน’’นฺติ วุจฺจติ. ทุติยวาเร ภูมินฺติ สีลกฺขนฺเธน ปตฺตพฺพํ สมฺปตฺติภวสงฺขาตํ ภูมึ.

อิทานิ ยสฺมา ภควโต จตุเวสารชฺชานิปิ อวิปรีตสภาวตาย ปมผลาณสฺส วิสยวิเสโส โหติ, ตสฺมา ตานิปิ ตสฺส วิสยภาเวน ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต สโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต สโตติ อหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, มยา สพฺเพ ธมฺมา อภิสมฺพุทฺธาติ ปฏิชานเนน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต สโต. อิเม ธมฺมา อนภิสมฺพุทฺธาติ เนตํ านํ วิชฺชตีติ ‘‘อิเม นาม ตยา ธมฺมา อนภิสมฺพุทฺธา’’ติ โกจิ สหธมฺเมน สเหตุนา สการเณน วจเนน, สุนกฺขตฺโต (ที. นิ. ๓.๑ อาทโย; ม. นิ. ๑.๑๔๖ อาทโย) วิย วิปฺปลปนฺตา ปน อปฺปมาณํ. ตสฺมา สหธมฺเมน ปฏิโจเทสฺสตีติ เอตํ การณํ น วิชฺชติ. เอส นโย เสสปเทสุปิ. ยสฺส เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโตติ ราคาทีสุ ยสฺส ยสฺส ปหานตฺถาย อสุภภาวนาทิธมฺโม กถิโต. ตกฺกรสฺสาติ ตถา ปฏิปนฺนสฺส. วิเสสาธิคมนฺติ อภิฺาปฏิสมฺภิทาทิวิเสสาธิคมํ.

อนฺตรายิกาติ อนฺตรายกรณํ อนฺตราโย, โส สีลํ เอเตสนฺติ อนฺตรายิกา. อนฺตราเย นิยุตฺตา, อนฺตรายํ วา ผลํ อรหนฺติ, อนฺตรายปฺปโยชนาติ วา อนฺตรายิกา. เต ปน กมฺมกิเลสาทิเภเทน ปฺจวิธา. อนิยฺยานิกาติ อริยมคฺควชฺชา สพฺเพ ธมฺมา.

ทิฏฺิสมฺปนฺโนติ มคฺคทิฏฺิยา สมฺปนฺโน โสตาปนฺโน อริยสาวโก. สุหตนฺติ อติวธิตํ. อิทมฺปิ เอกเทสกถนเมว. มตกเปตาทิทานมฺปิ โส น กโรติ เอว. ปุถุชฺชโนติ ปุถูนํ กิเลสาภิสงฺขาราทีนํ ชนนาทีหิ การเณหิ ปุถุชฺชโน. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ปุถูนํ ชนนาทีหิ, การเณหิ ปุถุชฺชโน;

ปุถุชฺชนนฺโตคธตฺตา, ปุถุวายํ ชโน อิตี’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๗; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๕๑; ธ. ส. อฏฺ. ๑๐๐๗; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๓๐);

‘‘มาตร’’นฺติอาทีสุ ชนิกา มาตา. ชนโก จ ปิตา. มนุสฺสภูโต ขีณาสโว อรหาติ อธิปฺเปโต. กึ ปน อริยสาวโก อฺเ ชีวิตา โวโรเปยฺยาติ? เอตมฺปิ อฏฺานํ. สเจปิ ภวนฺตรคตํ อริยสาวกํ อตฺตโน อริยสาวกภาวํ อชานนฺตมฺปิ โกจิ เอวํ วเทยฺย ‘‘อิทํ กุนฺถกิปิลฺลิกํ ชีวิตา โวโรเปตฺวา สกลจกฺกวาฬคพฺเภ จกฺกวตฺติรชฺชํ ปฏิปชฺชาหี’’ติ, เนว โส นํ ชีวิตา โวโรเปยฺย. อถาปิ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘‘สเจ อิมํ น ฆาเตสฺสสิ, สีสํ เต ฉินฺทิสฺสามา’’ติ, สีสเมวสฺส ฉินฺเทยฺยุํ, เนว โส ตํ ฆาเตยฺย. ปุถุชฺชนภาวสฺส ปน มหาสาวชฺชภาวทสฺสนตฺถํ อริยภาวสฺส จ พลทีปนตฺถํ เอวํ วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – สาวชฺโช วต ปุถุชฺชนภาโว. ยตฺร หิ นาม มาตุฆากาทีนิปิ อานนฺตริยานิ กริสฺสติ, มหาพโลว จ อริยภาโว, โย เอตานิ กมฺมานิ น กโรตีติ.

สงฺฆํ ภินฺเทยฺยาติ สมานสํวาสกํ สมานสีมายํ ิตํ ปฺจหิ การเณหิ สงฺฆํ ภินฺเทยฺย. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ปฺจหุปาลิ, อากาเรหิ สงฺโฆ ภิชฺชติ กมฺเมน อุทฺเทเสน โวหรนฺโต อนุสฺสาวเนน สลากคฺคาเหนา’’ติ (ปริ. ๔๕๘).

ตตฺถ กมฺเมนาติ อปโลกนาทีสุ จตูสุ กมฺเมสุ อฺตรกมฺเมน. อุทฺเทเสนาติ ปฺจสุ ปาติโมกฺขุทฺเทเสสุ อฺตเรน อุทฺเทเสน. โวหรนฺโตติ กถยนฺโต, ตาหิ ตาหิ อุปปตฺตีหิ ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติอาทีนิ อฏฺารสเภทกรวตฺถูนิ ทีปยนฺโต. อนุสฺสาวเนนาติ ‘‘นนุ ตุมฺเห ชานาถ มยฺหํ อุจฺจกุลา ปพฺพชิตภาวํ พหุสฺสุตภาวฺจ, มาทิโส นาม อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุสาสนํ คาเหยฺยาติ กึ ตุมฺหากํ จิตฺตมฺปิ อุปฺปาเทตุํ ยุตฺตํ, กิมหํ อปายโต น ภายามี’’ติอาทินา นเยน กณฺณมูเล วจีเภทํ กตฺวา อนุสฺสาวเนน. สลากคฺคาเหนาติ เอวํ อนุสฺสาเวตฺวา เตสํ จิตฺตํ อุปตฺถมฺเภตฺวา อนิวตฺติธมฺมํ กตฺวา ‘‘คณฺหถ อิมํ สลาก’’นฺติ สลากคฺคาเหน.

เอตฺถ จ กมฺมเมว อุทฺเทโส วา ปมาณํ, โวหารานุสฺสาวนสลากคฺคาหาปนํ ปน ปุพฺพภาโค. อฏฺารสวตฺถุทีปนวเสน หิ โวหรนฺเตน ตตฺถ รุจิชนนตฺถํ อนุสฺสาเวตฺวา สลากาย คาหิตายปิ อภินฺโน เอว โหติ สงฺโฆ. ยทา ปน เอวํ จตฺตาโร วา อติเรกา วา สลากํ คาเหตฺวา อาเวณิกํ กมฺมํ วา อุทฺเทสํ วา กโรนฺติ, ตทา สงฺโฆ ภินฺโน นาม โหติ. เอวํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สงฺฆํ ภินฺเทยฺย สงฺฆราชึ วา ชเนยฺยาติ เนตํ านํ วิชฺชตีติ.

ทุฏฺจิตฺโตติ วธกจิตฺเตน ปทุฏฺจิตฺโต. โลหิตํ อุปฺปาเทยฺยาติ ชีวมานกสรีเร ขุทฺทกมกฺขิกาย ปิวนมตฺตมฺปิ โลหิตํ อุปฺปาเทยฺย. เอตฺตาวตา หิ มาตุฆาตาทีนิ ปฺจานนฺตริยกมฺมานิ ทสฺสิตานิ โหนฺติ. ยานิ ปุถุชฺชโน กโรติ, น อริยสาวโก. ทุฏฺจิตฺโตติ วินาสจิตฺเตน ปทุฏฺจิตฺโต. ถูปนฺติ เจติยํ. ภินฺเทยฺยาติ นาเสยฺย.

อฺํ สตฺถารนฺติ ‘‘อยํ เม สตฺถา สตฺถุ กิจฺจํ กาตุํ สมตฺโถ’’ติ ภวนฺตเรปิ อฺํ ติตฺถกรํ. อปทิเสยฺยาติ ‘‘อยํ เม สตฺถา’’ติ เอวํ คณฺเหยฺยาติ เนตํ านํ วิชฺชติ. อิโต พหิทฺธา อฺํ ทกฺขิเณยฺยํ ปริเยเสยฺยาติ สาสนโต พหิทฺธา อฺํ พาหิรกํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ‘‘อยํ ทกฺขิณารโห, อิมสฺมึ กตา การา มหปฺผลา ภวิสฺสนฺตี’’ติ อธิปฺปาเยน ตสฺมึ ปฏิปชฺเชยฺยาติ อตฺโถ. กุตูหลมงฺคเลน สุทฺธึ ปจฺเจยฺยาติ ‘‘อิมินา อิทํ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ ปวตฺตตฺตา กุตูหลสงฺขาเตน ทิฏฺสุตมุตมงฺคเลน อตฺตโน สุทฺธึ โวทานํ สทฺทเหยฺย.

๕๗. อิตฺถี ราชา จกฺกวตฺตี สิยาติ เนตํ านํ วิชฺชตีติ ยสฺมา อิตฺถิยา โกโสหิตวตฺถคุยฺหาทีนํ อภาเวน ลกฺขณานิ น ปริปูรนฺติ, อิตฺถิรตนาภาเวน จ สตฺตรตนสมงฺคิตา น สมฺปชฺชติ. สพฺพมนุสฺสานมฺปิ จ น อธิโก อตฺตภาโว โหติ, ตสฺมา ‘‘อิตฺถี…เป… วิชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา สกฺกตฺตาทีนิ ตีณิ านานิ อุตฺตมานิ, อิตฺถิลิงฺคฺจ หีนํ, ตสฺมา ตสฺสา สกฺกตฺตาทีนิปิ ปฏิสิทฺธานีติ. นนุ จ ยถา อิตฺถิลิงฺคํ, เอวํ ปุริสลิงฺคมฺปิ พฺรหฺมโลเก นตฺถิ, ตสฺมา ปุริโส มหาพฺรหฺมา สิยาติ น วตฺตพฺพนฺติ? โน น วตฺตพฺพํ. กสฺมา? อิธ ปุริสสฺส ตตฺถ นิพฺพตฺตนโต. อิตฺถิโย หิ อิธ ฌานํ ภาเวตฺวา กาลํ กตฺวา พฺรหฺมปาริสชฺชานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชนฺติ, น มหาพฺรหฺมานํ. ปุริโส ปน กตฺถจิ น อุปฺปชฺชตีติ น วตฺตพฺโพ. สมาเนปิ ตตฺถ อุภยลิงฺคาภาเว ปุริสสณฺานาว ตตฺถ พฺรหฺมาโน, น อิตฺถิสณฺานา, ตสฺมา สุวุตฺตเมตํ. อิตฺถี ตถาคโตติ เอตฺถ ติฏฺตุ ตาว สพฺพฺุคุเณ นิพฺพตฺเตตฺวา โลกานํ ตารณสมตฺโถ พุทฺธภาโว, ปณิธานมตฺตมฺปิ อิตฺถิยา น สมฺปชฺชติ.

‘‘มนุสฺสตฺตํ ลิงฺคสมฺปตฺติ, เหตุ สตฺถารทสฺสนํ;

ปพฺพชฺชา คุณสมฺปตฺติ, อธิกาโร จ ฉนฺทตา;

อฏฺธมฺมสโมธานา, อภินีหาโร สมิชฺฌตี’’ติ. (พุ. วํ. ๒.๕๙) –

อิมานิ หิ ปณิธานสมฺปตฺติการณานิ. อิติ ปณิธานมตฺตมฺปิ สมฺปาเทตุํ อสมตฺถาย อิตฺถิยา กุโต พุทฺธภาโวติ ‘‘อิตฺถี ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ สิยาติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. สพฺพาการปริปูโร ปุฺุสฺสโย สพฺพาการปริปูรเมว อตฺตภาวํ นิพฺพตฺเตตีติ ปุริโสว อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ.

เอกิสฺสา โลกธาตุยาติ ทสสหสฺสิโลกธาตุยา, ยา ชาติเขตฺตนฺติ วุจฺจติ. สา หิ ตถาคตสฺส คพฺโภกฺกนฺติกาลาทีสุ กมฺปติ. อาณาเขตฺตํ ปน โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬํ. ยา เอกโต สํวฏฺฏติ จ วิวฏฺฏติ จ, ยตฺถ จ อาฏานาฏิยปริตฺตาทีนํ (ที. นิ. ๓.๒๗๗ อาทโย) อาณา ปวตฺตติ. วิสยเขตฺตสฺส ปริมาณํ นตฺถิ. พุทฺธานฺหิ ‘‘ยาวตกํ าณํ ตาวตกํ เนยฺยํ, ยาวตกํ เนยฺยํ ตาวตกํ าณํ, เนยฺยปริยนฺติกํ าณํ, าณปริยนฺติกํ เนยฺย’’นฺติ (มหานิ. ๖๙; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕; ปฏิ. ม. ๓.๕) วจนโต อวิสโย นาม นตฺถิ. อิติ อิเมสุ ตีสุ เขตฺเตสุ ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺเห เตปิฏเก พุทฺธวจเน ‘‘เปตฺวา อิมํ จกฺกวาฬํ อฺสฺมึ จกฺกวาเฬ พุทฺธา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ สุตฺตํ นตฺถิ, น อุปฺปชฺชนฺตีติ ปน อตฺถิ.

อปุพฺพํ อจริมนฺติ อปุเร อปจฺฉา เอกโต น อุปฺปชฺชนฺติ, ปุเร วา ปจฺฉา วา อุปฺปชฺชนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ คพฺโภกฺกนฺติโต ปุพฺเพ ปุเรติ เวทิตพฺพํ. ตโต ปฏฺาย หิ ทสสหสฺสิจกฺกวาฬกมฺปเนน เขตฺตปริคฺคโห กโต นาม โหติ, อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ นตฺถิ. ธาตุปรินิพฺพานโต ปรํ ปน ปจฺฉา, ตโต เหฏฺาปิ อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ นตฺถิ, อุทฺธํ น วาริตา.

กสฺมา ปน อปุพฺพํ อจริมํ น อุปฺปชฺชนฺตีติ? อนจฺฉริยตฺตา. อจฺฉริยมนุสฺสา หิ พุทฺธา ภควนฺโต. ยถาห – ‘‘เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว, โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ อจฺฉริยมนุสฺโส’’ติอาทิ (อ. นิ. ๑.๑๗๑). ยทิ จ อเนเก พุทฺธา เอกโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ, อนจฺฉริยา ภเวยฺยุํ. เทสนาย จ วิเสสาภาวโต. ยฺหิ สติปฏฺานาทิเภทํ ธมฺมํ เอโก เทเสติ, อฺเนปิ โส เอว เทเสตพฺโพ สิยา, วิวาทภาวโต จ. พหูสุ หิ พุทฺเธสุ เอกโต อุปฺปนฺเนสุ พหูนํ อาจริยานํ อนฺเตวาสิกา วิย ‘‘อมฺหากํ พุทฺโธ ปาสาทิโก’’ติอาทินา เตสํ สาวกา วิวเทยฺยุํ. กึ วา เอเตน การณคเวสเนน, ธมฺมตาเวสา ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว ตถาคตา เอกโต น อุปฺปชฺชนฺตีติ (มิ. ป. ๕.๑.๑).

ยถา นิมฺพพีชโกสาตกิพีชาทีนิ มธุรํ ผลํ น นิพฺพตฺเตนฺติ, อสาตํ อมธุรเมว ผลํ นิพฺพตฺเตนฺติ, เอวํ กายทุจฺจริตาทีนิ มธุรวิปากํ น นิพฺพตฺเตนฺติ อมธุรเมว นิพฺพตฺเตนฺติ. ยถา จ อุจฺฉุพีชสาลิพีชาทีนิ มธุรํ สาทุรสเมว ผลํ นิพฺพตฺเตนฺติ น อสาตํ กฏุกํ. เอวํ กายสุจริตาทีนิ มธุรเมว วิปากํ นิพฺพตฺเตนฺติ น อมธุรํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ยาทิสํ วปเต พีชํ, ตาทิสํ หรเต ผลํ;

กลฺยาณการี กลฺยาณํ, ปาปการี จ ปาปก’’นฺติ. (สํ. นิ. ๑.๒๕๖; เนตฺติ. ๑๒๒);

ตสฺมา ‘‘ติณฺณํ ทุจฺจริตาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

อฺตโร สมโณ วา พฺราหฺมโณ วาติ โย โกจิ ปพฺพชฺชามตฺเตน สมโณ วา ชาติมตฺเตน พฺราหฺมโณ วา. ปาปิจฺโฉ สมฺภาวนาธิปฺปาเยน วิมฺหาปนโต กุหโก. ปจฺจยสนฺนิสฺสิตาย ปยุตฺตวาจาย วเสน ลปโก. ปจฺจยนิพฺพตฺตกนิมิตฺตาวจรโต เนมิตฺตโก. กุหนลปนเนมิตฺตกตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวาติ กุหนาทิภาวเมว ปุรกฺขตฺวา สนฺตินฺทฺริโย สนฺตมานโส วิย จรนฺโต. ปฺจ นีวรเณติ กามจฺฉนฺทาทิเก ปฺจ นีวรเณ. อปฺปหาย อสมุจฺฉินฺทิตฺวา, เจตโส อุปกฺกิเลเสติ นีวรเณ. นีวรณา หิ จิตฺตํ อุปกฺกิเลเสนฺติ กิลิฏฺํ กโรนฺติ วิพาเธนฺติ อุปตาเปนฺติ จ. ตสฺมา ‘‘เจตโส อุปกฺกิเลสา’’ติ วุจฺจนฺติ. ปฺาย ทุพฺพลีกรเณติ นีวรเณ. นีวรณา หิ อุปฺปชฺชมานา อนุปฺปนฺนาย ปฺาย อุปฺปชฺชิตุํ น เทนฺติ. ตสฺมา ‘‘ปฺาย ทุพฺพลีกรณา’’ติ วุจฺจนฺติ. อนุปฏฺิตสฺสตีติ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ น อุปฏฺิตสฺสติ. อภาวยิตฺวาติ อวฑฺฒยิตฺวา. อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธินฺติ อรหตฺตปทฏฺานํ สพฺพฺุตฺาณํ.

ปจฺฉิมวาเร อฺตโร สมโณ วา พฺราหฺมโณ วาติ สพฺพฺุโพธิสตฺตํ สนฺธาย วทติ. ตตฺถ สพฺพโทสาปคโตติ สพฺเพหิ ปารมิตาปฏิปกฺขภูเตหิ โทเสหิ อปคโต. เอเตน ปริปูริตปารมิภาวํ ทสฺเสติ. สติปฏฺานานิ วิปสฺสนา, โพชฺฌงฺโค มคฺโค, อนุตฺตรา สมฺมาสมฺโพธิ อรหตฺตํ. สติปฏฺานานิ วา วิปสฺสนา, โพชฺฌงฺคา มิสฺสกา, สมฺมาสมฺโพธิ อรหตฺตเมว. เสสํ อนนฺตรวาเร วุตฺตปฏิปกฺขโต เวทิตพฺพํ. ยํ เอตฺถ าณนฺติ ยํ เอตสฺมึ ยถาวุตฺเต าเน จ านํ, อฏฺาเน จ อฏฺานนฺติ ปวตฺตํ าณํ. เหตุโสติ ตสฺส านสฺส อฏฺานสฺส จ เหตุโต. านโสติ ตงฺขเณ เอว อาวชฺชนสมนนฺตรํ. อโนธิโสติ โอธิอภาเวน, กิฺจิ อนวเสเสตฺวาติ อตฺโถ.

อิติ านาฏฺานคตาติอาทีสุ เอวํ านาฏฺานภาวํ คตา. สพฺเพติ ขยวยวิรชฺชนนิรุชฺฌนสภาวา สงฺขตธมฺมา, เต เอว จ สตฺตปฺตฺติยา อุปาทานภูตา เกจิ สคฺคูปคา เย ธมฺมจาริโน, เกจิ อปายูปคา เย อธมฺมจาริโน, เกจิ นิพฺพานูปคา เย กมฺมกฺขยกรํ อริยมคฺคํ ปฏิปนฺนา.

๕๘. อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘สพฺเพ สตฺตา มริสฺสนฺตี’’ติ คาถาทฺวยมาห. ตสฺส อตฺถํ ‘‘สพฺเพ สตฺตาติ อริยา จ อนริยา จา’’ติอาทินา สยเมว นิทฺทิสติ. ตตฺถ ชีวิตปริยนฺโต มรณปริยนฺโตติ ชีวิตสฺส ปริยนฺโต นาม มรณสงฺขาโต อนฺโต. ยถากมฺมํ คมิสฺสนฺตีติ เอตฺถ ยเทตํ สตฺตานํ ยถากมฺมํ คมนํ, อยํ กมฺมสฺสกตาติ อตฺโถ. กมฺมานํ ผลทสฺสาวิตา จ อวิปฺปวาโส จาติ ‘‘ปุฺปาปผลูปคา’’ติ อิมินา วจเนน กมฺมานํ ผลสฺส ปจฺจกฺขการิตา, กตูปจิตานํ กมฺมานํ อตฺตโน ผลสฺส อปฺปทานาภาโว จ ทสฺสิโตติ อตฺโถ.

กมฺมเมว กมฺมนฺตํ, ปาปํ กมฺมนฺตํ เอเตสนฺติ ปาปกมฺมนฺตา, ตสฺส อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปุฺสงฺขารา’’ติ วุตฺตํ. อปุฺโ สงฺขาโร เอเตสนฺติ อปุฺสงฺขารา. ปาปกมฺมนฺตาติ วา นิสฺสกฺกวจนํ, ปาปกมฺมนฺตเหตูติ อตฺโถ. ตถา ปุฺสงฺขาราติอาทีสุปิ. ปุน ‘‘นิรยํ ปาปกมฺมนฺตา’’ติอาทินา อนฺตทฺวเยน สทฺธึ มชฺฌิมปฏิปทํ ทสฺเสติ. ตถา ‘‘อยํ สํกิเลโส’’ติอาทินา วฏฺฏวิวฏฺฏวเสน อาทีนวสฺสาทนิสฺสรณวเสน เหตุผลวเสน จ คาถายํ ตโย อตฺถวิกปฺปา ทสฺสิตา. ปุน ‘‘นิรยํ ปาปกมฺมนฺตาติ อยํ สํกิเลโส’’ติอาทินา โวทานวเสน คาถาย อตฺถํ ทสฺเสติ.

๕๙. เตน เตนาติ เตน เตน อชฺโฌสิตวตฺถุนา รูปภวอรูปภวาทินา. ฉตฺตึสาติ กามตณฺหา ตาว รูปาทิวิสยเภเทน ฉ, ตถา ภวตณฺหา วิภวตณฺหา จาติ อฏฺารส. ตา เอว อชฺฌตฺติเกสุ รูปาทีสุ อฏฺารส, พาหิเรสุ รูปาทีสุ อฏฺารสาติ เอวํ ฉตฺตึส. เยน เยนาติ ‘‘สุภํ สุข’’นฺติอาทินา.

โวทานํ ติวิธํ ขนฺธตฺตยวเสนาติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตณฺหาสํกิเลโส’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปุน ‘‘สพฺเพ สตฺตา มริสฺสนฺตี’’ติอาทิ ปฏิปทาวิภาเคน คาถานมตฺถํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถ คามินีติ ตตฺถ ตตฺเถว นิพฺพาเน คามินี, นิพฺพานสฺส คมนสีลาติ อตฺโถ.

ปุน ตตฺถตตฺถคามินีสพฺพตฺถคามินีนํ ปฏิปทานํ วิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตโย ราสี’’ติอาทิ วุตฺตํ. นฺติ ยํ นิรยาทิ. ตํ ตํ านํ ยถารหํ คเมตีติ สพฺพตฺถคามินี. ปฏิปทาสงฺขาเต อปุฺกมฺเม ปุฺกมฺเม จ กมฺมกฺขยกรณกมฺเม จ วิภาคโส ภควโต ปวตฺตนาณํ. อิทํ สพฺพตฺถคามินี ปฏิปทาาณํ นาม ตถาคตพลํ. อิมินา หิ าเณน ภควา สพฺพมฺปิ ปฏิปทํ ยถาภูตํ ปชานาติ.

กถํ? สกลคามวาสิเกสุปิ เอกํ สูกรํ วา มิคํ วา มาเรนฺเตสุ สพฺเพสํ เจตนา ปรสฺส ชีวิตินฺทฺริยารมฺมณาว โหติ, ตํ ปน กมฺมํ เตสํ อายูหนกฺขเณเยว นานา โหติ. เตสุ หิ เอโก อาทเรน กโรติ, เอโก ‘‘ตฺวมฺปิ กโรหี’’ติ ปเรหิ นิปฺปีฬิโต กโรติ, เอโก สมานจฺฉนฺโท วิย หุตฺวา อปฺปฏิพาหมาโน วิจรติ. เตสุ เอโก เตเนว กมฺเมน นิรเย นิพฺพตฺตติ, เอโก ติรจฺฉานโยนิยํ, เอโก เปตฺติวิสเย, ตํ ตถาคโต อายูหนกฺขเณ เอว ‘‘อิมินา นีหาเรน อายูหิตตฺตา เอส นิรเย นิพฺพตฺติสฺสติ, เอส ติรจฺฉานโยนิยํ, เอส เปตฺติวิสเย’’ติ ชานาติ. นิรเย นิพฺพตฺตนกมฺปิ ‘‘เอส อฏฺสุ มหานิรเยสุ นิพฺพตฺติสฺสติ, เอส โสฬสสุ อุสฺสเทสู’’ติ ชานาติ. ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺตนกมฺปิ ‘‘เอส อปาทโก ภวิสฺสติ, เอส ทฺวิปาทโก, เอส จตุปฺปาทโก, เอส พหุปฺปาทโก’’ติ ชานาติ. เปตฺติวิสเย นิพฺพตฺตนกมฺปิ ‘‘เอส นิชฺฌามตณฺหิโก ภวิสฺสติ, เอส ขุปฺปิปาสิโก, เอส ปรทตฺตูปชีวี’’ติ ชานาติ.

‘‘เตสุ จ กมฺเมสุ อิทํ กมฺมํ ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒิสฺสติ, อิทํ นากฑฺฒิสฺสติ ทุพฺพลํ ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา อุปธิเวปกฺกมตฺตํ ภวิสฺสตี’’ติ ชานาติ. ตถา สกลคามวาสิเกสุ เอกโต ทานํ ททมาเนสุ สพฺเพสมฺปิ เจตนา เทยฺยธมฺมารมฺมณาว โหติ, ตํ ปน กมฺมํ เตสํ อายูหนกฺขเณ เอว นานํ โหติ. เตสุ หิ เกจิ เทวโลเก นิพฺพตฺตนฺติ, เกจิ มนุสฺสโลเก, ตํ ตถาคโต อายูหนกฺขเณ เอว ‘‘อิมินา นีหาเรน อายูหิตตฺตา เอส มนุสฺสโลเก นิพฺพตฺติสฺสติ, เอส เทวโลเก’’ติ ชานาติ. ตตฺถปิ ‘‘เอส ปรนิมฺมิตวสวตฺตีสุ นิพฺพตฺติสฺสติ, เอส ภุมฺมเทเวสุ นิพฺพตฺติสฺสติ, เอส เชฏฺกเทวราชา หุตฺวา, เอส ตสฺส ทุติยํ ตติยํ วา านนฺตรํ กโรนฺโต ปริจารโก หุตฺวา นิพฺพตฺติสฺสตี’’ติ ชานาติ.

‘‘เตสุ จ กมฺเมสุ อิทํ ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒิตุํ สกฺขิสฺสติ, อิทํ น สกฺขิสฺสติ ทุพฺพลํ ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา อุปธิเวปกฺกมตฺตํ ภวิสฺสตี’’ติ ชานาติ. ตถา ‘‘วิปสฺสนํ ปฏฺเปนฺเตสุ จ เอส อิมินา นีหาเรน วิปสฺสนาย อารทฺธตฺตา อรหา ภวิสฺสติ, เอส อนาคามี, เอส สกทาคามี, เอส โสตาปนฺโน, เอกพีชี โกลํโกโล สตฺตกฺขตฺตุปรโม, เอส มคฺคํ ปตฺตุํ น สกฺขิสฺสติ ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนายเมว สฺสติ, เอส ปจฺจยปริคฺคเห, เอส นามรูปปริคฺคเห, อรูปปริคฺคเห จ สฺสติ, เอส มหาภูตมตฺตเมว ววตฺถเปสฺสติ, เอส กิฺจิ สลฺลกฺเขตุํ น สกฺขิสฺสตี’’ติ ชานาติ. ‘‘กสิณปริกมฺมํ กโรนฺเตสุปิ เอส ปริกมฺมมตฺเต เอว สฺสติ, เอส นิมิตฺตํ อุปฺปาเทตุํ สกฺขิสฺสติ, น อปฺปนํ. เอส อปฺปนมฺปิ อุปฺปาเทสฺสติ, เอส ฌานํ อธิคมิสฺสติ, น อุปริวิเสสํ. เอส อุปริวิเสสมฺปิ อธิคมิสฺสตี’’ติ ชานาติ.

อเนกธาตูติ อเนกา จกฺขาทโย ปถวาทโย จ ธาตุโย เอตสฺสาติ อเนกธาตุ, พหุธาตูติ อตฺโถ. โลโกติ ขนฺธายตนาทิโลโก. จกฺขุธาตูติอาทิ ยาหิ ธาตูหิ ‘‘อเนกธาตู’’ติ โลโก วุตฺโต, ตาสํ สรูปโต ทสฺสนํ. ตตฺถ สภาวฏฺเน นิสฺสตฺตฏฺเน จ ธาตุ. จกฺขุ เอว ธาตุ จกฺขุธาตุ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. กามธาตูติ เอตฺถ ทฺเว กามา กิเลสกาโม จ วตฺถุกาโม จ. กิเลสกามปกฺเข กามปฏิสํยุตฺโต ธาตุ กามธาตุ, กามวิตกฺกสฺเสตํ นามํ. วตฺถุกามปกฺเข ปน กามาวจรธมฺมา กาโม อุตฺตรปทโลเปน, กาโม จ โส ธาตุ จาติ กามธาตุ. พฺยาปาทปฏิสํยุตฺโต ธาตุ พฺยาปาทธาตุ, พฺยาปาทวิตกฺกสฺเสตํ นามํ. พฺยาปาโทว ธาตุ พฺยาปาทธาตุ, ทสอาฆาตวตฺถุวิสยสฺส ปฏิฆสฺเสตํ นามํ. วิหึสาปฏิสํยุตฺโต ธาตุ วิหึสาธาตุ, วิหึสาวิตกฺโก. วิหึสา เอว วา ธาตุ วิหึสาธาตุ, ปรสตฺตวิเหสนสฺเสตํ นามํ. เนกฺขมฺมอพฺยาปาทอวิหึสาธาตุโย เนกฺขมฺมวิตกฺกาทโย สพฺพกุสลธมฺมา เมตฺตากรุณา จาติ เวทิตพฺพํ. รูปธาตูติ รูปภโว, สพฺเพ วา รูปธมฺมา. อรูปธาตูติ อรูปภโว, อรูปธมฺมา วา. นิโรธธาตูติ นิโรธตณฺหา. สงฺขารธาตูติ สพฺเพ สงฺขตธมฺมา. เสสํ สุวิฺเยฺยํ.

อฺมฺวิลกฺขณตฺตา นานปฺปการา ธาตุโย เอตสฺมินฺติ นานาธาตุ, โลโก. เตเนวาห – ‘‘อฺา จกฺขุธาตุ ยาว อฺา นิพฺพานธาตู’’ติ, ยถา จ อิทํ าณํ จกฺขุธาตุอาทิเภเทน อุปาทินฺนกสงฺขารโลกสฺส วเสน อเนกธาตุนานาธาตุโลกํ ปชานาติ, เอวํ อนุปาทินฺนกสงฺขารโลกสฺสปิ วเสน ตํ ปชานาติ. ปจฺเจกพุทฺธา หิ ทฺเว จ อคฺคสาวกา อุปาทินฺนกสงฺขารโลกสฺเสว นานตฺตํ ชานนฺติ, ตมฺปิ เอกเทเสเนว, น นิปฺปเทสโต. อนุปาทินฺนกสงฺขารโลกสฺส ปน นานตฺตํ น ชานนฺติ. ภควา ปน ‘‘อิมาย นาม ธาตุยา อุสฺสนฺนาย อิมสฺส รุกฺขสฺส ขนฺโธ เสโต โหติ, อิมสฺส กาโฬ, อิมสฺส มฏฺโ, อิมสฺส ผรุโส, อิมสฺส พหโล, อิมสฺส ตนุตฺตโจ. อิมาย นาม ธาตุยา อุสฺสนฺนาย อิมสฺส รุกฺขสฺส ปตฺตํ วณฺณสณฺานาทิวเสน เอวรูปํ นาม โหติ, อิมาย นาม ธาตุยา อุสฺสนฺนตฺตา อิมสฺส รุกฺขสฺส ปุปฺผํ นีลํ โหติ ปีตกํ โลหิตกํ โอทาตํ สุคนฺธํ ทุคฺคนฺธํ, อิมาย นาม ธาตุยา อุสฺสนฺนาย ผลํ ขุทฺทกํ มหนฺตํ ทีฆํ วฏฺฏํ สุสณฺานํ ทุสฺสณฺานํ มฏฺํ ผรุสํ สุคนฺธํ ทุคฺคนฺธํ ติตฺตํ มธุรํ กฏุกํ อมฺพิลํ กสาวํ โหติ, อิมาย นาม ธาตุยา อุสฺสนฺนาย อิมสฺส รุกฺขสฺส กณฺฏโก ติขิโณ โหติ, อติขิโณ อุชุโก กุฏิโล กณฺโห นีโล โอทาโต โหตี’’ติ เอวํ อนุปาทินฺนสงฺขารโลกสฺสาปิ วเสน อเนกธาตุนานาธาตุภาวํ ชานาติ. สพฺพฺุพุทฺธานํ เอว หิ เอตํ พลํ, น อฺเสํ.

๖๐. ยํ ยเทว ธาตุนฺติ ยํ กิฺจิ หีนาทิสภาวํ. ยสฺมา อธิมุตฺติ นาม อชฺฌาสยธาตุ, ตสฺมา อธิมุจฺจนํ อชฺฌาสยสฺส หีนาทิสภาเวน ปวตฺตนํ. ตํ ปน ตสฺส ตํ ตํ อธิฏฺหนํ อภินิวิสนฺจ โหตีติ อาห – ‘‘อธิมุจฺจนฺติ, ตํ ตเทว อธิฏฺหนฺติ อภินิวิสนฺตี’’ติ. อธิมุจฺจนสฺส วิสยํ วิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘เกจิ รูปาธิมุตฺตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตํ สุวิฺเยฺยเมว. นานาธิมุตฺติกตาาณนฺติ หีนาทิวเสน นานาธิมุตฺติกตาย าณํ.

เต ยถาธิมุตฺตา จ ภวนฺตีติ เต หีนาธิมุตฺติกา ปณีตาธิมุตฺติกา สตฺตา ยถา ยถา อธิมุตฺตา โหนฺติ. ตํ ตํ กมฺมสมาทานํ สมาทิยนฺตีติ อธิมุตฺติอนุรูปํ ตํ ตํ อตฺตนา สมาทิยิตพฺพํ กตฺตพฺพํ กมฺมํ กโรนฺติ, ตานิ กมฺมสมาทานานิ สมุฏฺานวเสน วิภชนฺโต ‘‘เต ฉพฺพิธํ กมฺม’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ เกจิ โลภวเสน กมฺมํ สมาทิยนฺตีติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. เอส นโย เสเสสุปิ. ตํ วิภชฺชมานนฺติ ตํ สมุฏฺานวเสน ฉพฺพิธํ ปุน ปวตฺตินิวตฺติวเสน วิภชฺชมานํ ทุวิธํ.

ยํ โลภวเสน โทสวเสน โมหวเสน จ กมฺมํ กโรตีติ ทสอกุสลกมฺมปถกมฺมํ สนฺธาย วทติ. ตฺหิ สํกิลิฏฺตาย กาฬกนฺติ กณฺหํ. อปาเยสุ นิพฺพตฺตาปนโต กาฬกวิปากนฺติ กณฺหวิปากํ. ยํ สทฺธาวเสน กมฺมํ กโรตีติ ทสกุสลกมฺมปถกมฺมํ. ตฺหิ อสํกิลิฏฺตฺตา ปณฺฑรนฺติ สุกฺกํ. สคฺเค นิพฺพตฺตาปนโต ปณฺฑรวิปากตฺตา สุกฺกวิปากํ. ยํ โลภวเสน โทสวเสน โมหวเสน สทฺธาวเสน จ กมฺมํ กโรติ, อิทํ กณฺหสุกฺกนฺติ โวมิสฺสกกมฺมํ. กณฺหสุกฺกวิปากนฺติ สุขทุกฺขวิปากํ. มิสฺสกกมฺมฺหิ กตฺวา อกุสลวเลน ติรจฺฉานโยนิยํ มงฺคลหตฺถิภาวํ อุปปนฺโน กุสเลน ปวตฺเต สุขํ อนุภวติ, กุสเลน ราชกุเล นิพฺพตฺโตปิ อกุสเลน ทุกฺขํ เวทยติ. ยํ วีริยวเสน ปฺาวเสน จ กมฺมํ กโรติ, อิทํ กมฺมํ อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากนฺติ กมฺมกฺขยกรา จตุมคฺคเจตนา. ตฺหิ ยทิ กณฺหํ ภเวยฺย, กณฺหวิปากํ ทเทยฺย. ยทิ สุกฺกํ ภเวยฺย, สุกฺกอุปปตฺติปริยาปนฺนํ วิปากํ ทเทยฺย. อุภยวิปากสฺส ปน อปฺปทานโต อกณฺหอสุกฺกวิปากนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ.

กมฺมสมาทาเน ปมํ อเจลกปฏิปทา กาเมสุ ปาตพฺยตา, ทุติยํ ติพฺพกิเลสสฺส อสฺสุมุขสฺสาปิ รุทโต ปริสุทฺธพฺรหฺมจริยจรณํ, ตติยํ กาเมสุ อปาตพฺยตา อเจลกปฏิปทา, จตุตฺถํ ปจฺจเย อลภมานสฺสาปิ ฌานวิปสฺสนาสุขสมงฺคิโน สาสนพฺรหฺมจริยจรณํ. ยํ เอวํ ชาติยํ กมฺมสมาทานนฺติ ยํ อฺมฺปิ เอวํปการํ กมฺมํ. อิมินา ปุคฺคเลนาติอาทิ ตสฺมึ กมฺมวิปาเก ภควโต าณสฺส ปวตฺตนาการทสฺสนํ. ตตฺถ อุปจิตนฺติ ยถา กตํ กมฺมํ ผลทานสมตฺถํ โหติ, ตถา กตํ อุปจิตํ. อวิปกฺกนฺติ น วิปกฺกวิปากํ. วิปากาย ปจฺจุปฏฺิตนฺติ วิปากทานาย กโตกาสํ. น จ ภพฺโพ อภินิพฺพิธา คนฺตุนฺติ กิเลสาภิสงฺขารานํ อภินิพฺพิชฺฌนโต อภินิพฺพิธาสงฺขาตํ อริยมคฺคํ อธิคนฺตุํ น จ ภพฺโพ. ตํ ภควา น โอวทตีติ ตํ วิปากาวรเณน นิวุตํ ปุคฺคลํ ภควา สจฺจปฏิเวธํ ปุรกฺขตฺวา น โอวทติ, วาสนตฺถํ ปน ตาทิสานมฺปิ ธมฺมํ เทเสติ เอว, อชาตสตฺตุอาทีนํ วิย.

อุปจิตนฺติ กาตุํ อารทฺธํ. เตเนวาห – ‘‘น จ ตาว ปาริปูรึ คต’’นฺติ. เตน มิจฺฉตฺตนิยามสฺส อสมตฺถตํ ทสฺเสติ. ปุรา ปาริปูรึ คจฺฉตีติ ปาริปูรึ ผลนิปฺผาทนสมตฺถตํ คจฺฉติ ปุรา อธิคจฺเฉยฺย. มิจฺฉตฺตนิยตตาย สชฺชุกํ ผลธมฺมสฺส อภาชนภาวํ นิพฺพตฺตยติ ปุรา. เตเนวาห – ‘‘ปุรา เวเนยฺยตฺตํ สมติกฺกมตี’’ติ. ‘‘ปุรา อนิยตํ สมติกฺกมตี’’ติปิ ปาโ, โส เอวตฺโถ. อสมตฺเตติ กมฺเม อสมฺปุณฺเณ, เต อสมฺปุณฺเณ วา.

๖๑. เอวํ กิเลสนฺตรายมิสฺสกํ กมฺมนฺตรายํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อมิสฺสกํ กมฺมนฺตรายํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิมสฺส จ ปุคฺคลสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตํ วุตฺตนยเมว.

สพฺเพสนฺติ อิมสฺมึ พลนิทฺเทเส วุตฺตานํ สพฺเพสํ กมฺมานํ. มุทุมชฺฌาธิมตฺตตาติ มุทุมชฺฌติพฺพภาโว. กมฺมานฺหิ มุทุอาทิภาเวน ตํวิปากานํ มุทุมชฺฌติกฺขภาโว วิฺายตีติ อธิปฺปาโย. ทิฏฺธมฺมเวทนียนฺติอาทีสุ ทิฏฺธมฺเม อิมสฺมึ อตฺตภาเว เวทิตพฺพํ ผลํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ. อุปปชฺเช อนนฺตเร อตฺตภาเว เวทิตพฺพํ ผลํ อุปปชฺชเวทนียํ. อปรสฺมึ อตฺตภาเว อิโต อฺสฺมึ ยสฺมึ กสฺมิฺจิ อตฺตภาเว เวทิตพฺพํ ผลํ อปราปริยเวทนียํ. เอกชวนวารสฺมิฺหิ สตฺตสุ เจตนาสุ ปมเจตนา ทิฏฺธมฺมเวทนียํ นาม. ปริโยสานเจตนา อุปปชฺชเวทนียํ นาม. มชฺเฌ ปฺจ เจตนา อปราปริยเวทนียํ นาม. วิปากเวมตฺตตาาณนฺติ วิปากเวมตฺตตาย วิปากวิเสเส าณํ. อิมสฺส ปน กมฺมวิปากสฺส คติสมฺปตฺติ คติวิปตฺติ, อุปธิสมฺปตฺติ อุปธิวิปตฺติ, กาลสมฺปตฺติ กาลวิปตฺติ, ปโยคสมฺปตฺติ ปโยควิปตฺติโย การณํ. โส จ เนสํ การณภาโว ‘‘อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ คติสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺตี’’ติอาทิปาฬิวเสน (วิภ. ๘๑๐) เวทิตพฺโพ.

๖๒. อนนฺตรพลนิทฺเทเส วุตฺตกมฺมสมาทานปเทเนว ฌานาทีนิ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ตถา สมาทินฺนานํ กมฺมาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เสกฺขปุถุชฺชนสนฺตาเนสุ ปวตฺตานิ ฌานาทีนิ กมฺมํ โหนฺติ. ตตฺถ ตถา สมาทินฺนานนฺติ ‘‘สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขํ, อายตึ สุขวิปาก’’นฺติ เอวมาทิปฺปกาเรหิ สมาทินฺเนสุ กมฺเมสุ. สํกิเลโสติ ปฏิปกฺขธมฺมวเสน กิลิฏฺภาโว. โวทานํ ปฏิปกฺขธมฺเมหิ วิสุชฺฌนํ. วุฏฺานํ ปคุณโวทานํ ภวงฺควุฏฺานฺจ. เอวํ สํกิลิสฺสตีติอาทีสุ อยเมวตฺโถ – อิมินา อากาเรน ฌานาทิ สํกิลิสฺสติ โวทายติ วุฏฺหตีติ ชานนาณํ ภควโต อนาวรณาณํ, น ตสฺส อาวรณํ อตฺถีติ.

กติ ฌานานีติอาทิ ฌานาทโย วิภาเคน ทสฺเสตุํ อารทฺธํ. จตฺตาริ ฌานานีติ จตุกฺกนยวเสน รูปาวจรชฺฌานานิ สนฺธายาห. เอกาทสาติ ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๑๒๙, ๑๗๔; ๓.๓๓๙, ๓๕๘; ม. นิ. ๒.๒๔๘; ๓.๓๑๒) อฏฺนฺนํ ติณฺณฺจ สุฺตวิโมกฺขาทีนํ วเสน วุตฺตํ. อฏฺาติ เตสุ เปตฺวา โลกุตฺตเร วิโมกฺเข อฏฺ. สตฺตาติ เตสุ เอว นิโรธสมาปตฺตึ เปตฺวา สตฺต. ตโยติ สุตฺตนฺตปริยาเยน สุฺตวิโมกฺขาทโย ตโย. ทฺเวติ อภิธมฺมปริยาเยน อนิมิตฺตวิโมกฺขสฺสาสมฺภวโต อวเสสา ทฺเว. เอตฺถ จ ปฏิปาฏิยา สตฺต อปฺปิตปฺปิตกฺขเณ วิกฺขมฺภนวเสน ปจฺจนีกธมฺเมหิ วิมุจฺจนโต, อารมฺมเณ อธิมุจฺจนโต จ วิโมกฺขา. นิโรธสมาปตฺติ ปน สพฺพโส สฺาเวทยิเตหิ วิมุตฺตตฺตา อปคมวิโมกฺโข นาม. โลกุตฺตรา จ ตํตํมคฺควชฺฌกิเลเสหิ สมุจฺเฉทวเสน วิมุตฺตตฺตา วิโมกฺโขติ อยํ วิเสโส เวทิตพฺโพ.

สมาธีสุ จตุกฺกนยปฺจกนเยสุ ปมชฺฌานสมาธิ สวิตกฺโก สวิจาโร สมาธิ นาม. ปฺจกนเย ทุติยชฺฌานสมาธิ อวิตกฺโก วิจารมตฺโต สมาธิ นาม. จตุกฺกนเย ปฺจกนเยปิ เสสฌาเนสุ สมาธิ อวิตกฺโก อวิจาโร สมาธิ นาม.

สมาปตฺตีสุ ปฏิปาฏิยา อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ ‘‘สมาธี’’ติปิ นามํ ‘‘สมาปตฺตี’’ติปิ. กสฺมา? จิตฺเตกคฺคตาสพฺภาวโต. นิโรธสมาปตฺติยา ตทภาวโต น ‘‘สมาธี’’ติ นามํ. สฺาสมาปตฺติอาทิ เหฏฺา วุตฺตเมว.

หานภาคิโย สมาธีติ อปฺปคุเณหิ ปมชฺฌานาทีหิ วุฏฺิตสฺส สฺามนสิการานํ กามาทิอนุปกฺขนฺทนํ ปมชฺฌานาทิสมาธิสฺส หานภาคิยตา. ‘‘ปมชฺฌานสฺส กามราคพฺยาปาทา สํกิเลโส’’ติ วุตฺตตฺตา ทุติยชฺฌานาทิวเสน โยเชตพฺพํ. กุกฺกุฏํ วุจฺจติ อชฺาชิคุจฺฉนมุเขน ตปฺปรมตา. กุกฺกุฏฌายีติ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน ฌานานิ วุตฺตานิ, ทฺเว ปมทุติยชฺฌานานีติ วุตฺตํ โหติ. โย ปมํ ทุติยํ วา ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ‘‘อลเมตฺตาวตา’’ติ สงฺโกจํ อาปชฺชติ, อุตฺตริ น วายมติ, ตสฺส ตานิ ฌานานิ จตฺตาริปิ ‘‘กุกฺกุฏฌานานี’’ติ วุจฺจนฺติ, ตํสมงฺคิโน จ กุกฺกุฏฌายี. เตสุ ปุริมานิ ทฺเว อาสนฺนพลวปจฺจตฺถิกตฺตา วิเสสภาคิยตาภาวโต จ สํกิเลสภาเวน วุตฺตานิ. อิตรานิ ปน วิเสสภาคิยตาภาเวปิ มนฺทปจฺจตฺถิกตฺตา โวทานภาเวน วุตฺตานีติ ทฏฺพฺพํ.

วิเสสภาคิโย สมาธีติ ปคุเณหิ ปมชฺฌานาทีหิ วุฏฺิตสฺส สฺามนสิการานํ ทุติยชฺฌานาทิปกฺขนฺทนํ, ปคุณโวทานํ ภวงฺควุฏฺานฺจ ‘‘วุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. เหฏฺิมํ เหฏฺิมฺหิ ปคุณชฺฌานํ อุปริมสฺส อุปริมสฺส ปทฏฺานํ โหติ. ตสฺมา โวทานมฺปิ ‘‘วุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. ภวงฺควเสน สพฺพฌาเนหิ วุฏฺานํ โหตีติ ภวงฺคฺจ โวทานํ วุฏฺานํ. ยสฺมา ปน วุฏฺานวสิภาเวน ยถาปริจฺฉินฺนกาลํ สมาปตฺติโต วุฏฺานํ โหติ, ตสฺมา สมาปตฺติวุฏฺานโกสลฺลํ อิธ ‘‘วุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ.

๖๓. ตสฺเสว สมาธิสฺสาติ ตสฺส อนนฺตรพลนิทฺเทเส ฌานาทิปริยาเยหิ วุตฺตสมาธิสฺส. ปริวาราติ ปริกฺขารา. อินฺทฺริยานีติ สทฺธาสติปฺินฺทฺริยานิ. พลานีติ หิโรตฺตปฺเปหิ สทฺธึ ตานิเยว. วีริยสฺส วิสุํ คหณํ พลานํ พหูปการทสฺสนตฺถํ. วีริยุปตฺถมฺเภน หิ สทฺธาทโย ปฏิปกฺเขน อกมฺปนียา โหนฺติ. เตเนวาห – ‘‘วีริยวเสน พลานิ ภวนฺตี’’ติ. เตสนฺติ อินฺทฺริยานํ. มุทุมชฺฌาธิมตฺตตาติ อวิสทํ มุทุ. นาติวิสทํ มชฺฌํ. อติวิสทํ อธิมตฺตํ พลวํ ‘‘ติกฺข’’นฺติ วุจฺจติ.

เวเนยฺยานํ อินฺทฺริยานุรูปํ ภควโต เทสนาปวตฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สํขิตฺตวิตฺถาเรนาติ สํขิตฺตสฺส วิตฺถาเรน. อถ วา สํขิตฺเตนาติ อุทฺทิฏฺมตฺเตน. สํขิตฺตวิตฺถาเรนาติ อุทฺเทเสน นิทฺเทเสน จ. วิตฺถาเรนาติ อุทฺเทสนิทฺเทสปฏินิทฺเทเสหิ. มุทุกนฺติ ลหุกํ อปายภยวฏฺฏภยาทีหิ สนฺตชฺชนวเสน ภาริยํ อกตฺวา. มุทุติกฺขนฺติ นาติติกฺขํ. สํเวควตฺถูหิ สํเวคชนนาทิวเสน ภาริยํ กตฺวา. สมถํ อุปทิสตีติ สมถํ อธิกํ กตฺวา อุปทิสติ, น ตถา วิปสฺสนนฺติ อธิปฺปาโย. น หิ เกวเลน สมเถน สจฺจปฺปฏิเวโธ สมฺภวติ. สมถวิปสฺสนนฺติ สมธุรํ สมถวิปสฺสนํ. วิปสฺสนนฺติ สาติสยํ วิปสฺสนํ อุปทิสติ. ยสฺมา เจตฺถ ติกฺขินฺทฺริยาทโย อุคฺฆฏิตฺุอาทโยว, ตสฺมา ‘‘ติกฺขินฺทฺริยสฺส นิสฺสรณํ อุปทิสตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อธิปฺาสิกฺขายาติ อธิปฺาสิกฺขํ.

ยํ เอตฺถ าณนฺติ เอตฺถ อินฺทฺริยานํ มุทุมชฺฌาธิมตฺตตาย ยํ าณํ, อิทํ วุจฺจติ ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตเวมตฺตตาาณนฺติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตสฺส าณสฺส ปวตฺตนาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘อยํ อิมํ ภูมิ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อยํ อิมํ ภูมึ ภาวนฺจ คโตติ อยํ ปุคฺคโล เอวมิมํ สํกิเลสวาสนํ โวทานํ ภวงฺคฺจ คโต คจฺฉติ คมิสฺสติ จ, กาลวจนิจฺฉาย อภาวโต, ยถา ทุทฺธนฺติ. อิมาย เวลาย อิมสฺมึ สมเย อิมาย มุทุมชฺฌติกฺขเภทาย อนุสาสนิยา. เอวํธาตุโกติ หีนาทิวเสน เอวํอชฺฌาสโย เอวํอธิมุตฺติโก. อยฺจสฺส อาสโยติ อิมสฺส ปุคฺคลสฺส อยํ สสฺสตุจฺเฉทปฺปกาโร, ยถาภูตาณานุโลมขนฺติปฺปกาโร วา อาสโย. อิทฺหิ จตุพฺพิธํ อาสยนฺติ เอตฺถ สตฺตา วสนฺตีติ อาสโยติ วุจฺจติ. อิมํ ปน ภควา สตฺตานํ อาสยํ ชานนฺโต เตสํ ทิฏฺิคตานํ วิปสฺสนาาณกมฺมสฺสกตฺาณานฺจ อปฺปวตฺติกฺขเณปิ ชานาติ เอว. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘กามํ เสวนฺตฺเว ชานาติ ‘อยํ ปุคฺคโล กามครุโก กามาสโย กามาธิมุตฺโต’ติ. กามํ เสวนฺตฺเว ชานาติ ‘อยํ ปุคฺคโล เนกฺขมฺมครุโก เนกฺขมฺมาสโย เนกฺขมฺมาธิมุตฺโต’ติ. เนกฺขมฺมํ เสวนฺตฺเว ชานาติ… พฺยาปาทํ… อพฺยาปาทํ… ถินมิทฺธํ… อาโลกสฺํ เสวนฺตฺเว ชานาติ ‘อยํ ปุคฺคโล ถินมิทฺธครุโก ถินมิทฺธาสโย ถินมิทฺธาธิมุตฺโต’’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๓).

อยํ อนุสโยติ อยํ อิมสฺส ปุคฺคลสฺส กามราคาทิโก อปฺปหีโนเยว อนุสยิตกิเลโส. อปฺปหีโนเยว หิ ถามคโต กิเลโส อนุสโย. ปรสตฺตานนฺติ ปธานสตฺตานํ. ปรปุคฺคลานนฺติ ตโต ปเรสํ สตฺตานํ, หีนสตฺตานนฺติ อตฺโถ. เอกตฺถเมว วา เอตํ ปททฺวยํ เวเนยฺยวเสน ทฺวิธา วุตฺตํ. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตเวมตฺตตาาณนฺติ ปรภาโว จ อปรภาโว จ ปโรปริยตฺตํ อ-การสฺส โอการํ กตฺวา, ตสฺส เวมตฺตตา ปโรปริยตฺตเวมตฺตตา. สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ ปโรปริยตฺตเวมตฺตตาย าณํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตเวมตฺตตาาณนฺติ ปทวิภาโค เวทิตพฺโพ.

ตตฺถ นฺติ ยํ อเนกวิหิตสฺส ปุพฺเพนิวาสสฺส อนุสฺสรณวเสน ภควโต าณํ, อิทํ อฏฺมํ ตถาคตพลนฺติ สมฺพนฺโธ. อเนกวิหิตนฺติ อเนกวิธํ, อเนเกหิ วา ปกาเรหิ ปวตฺติตํ. ปุพฺเพนิวาสนฺติ อนุสฺสริตุํ อิจฺฉิตํ อตฺตโน ปเรสฺจ สมนนฺตราตีตํ ภวํ อาทึ กตฺวา ตตฺถ ตตฺถ นิวุตฺถสนฺตานํ. อนุสฺสรตีติ ‘‘เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย’’ติ เอวํ ชาติปฏิปาฏิยา อนุคนฺตฺวา สรติ, อนุเทว วา สรติ, จิตฺเต อภินินฺนามิตมตฺเต เอว สรตีติ อตฺโถ. ภควโต หิ ปริกมฺมกิจฺจํ นตฺถิ, อาวชฺชนมตฺเตเนว สรติ. เสยฺยถิทนฺติ อารทฺธปฺปการนิทสฺสนตฺเถ นิปาโต. เอกมฺปิ ชาตินฺติ เอกมฺปิ ปฏิสนฺธิมูลํ จุติปริโยสานํ เอกภวปริยาปนฺนํ ขนฺธสนฺตานํ. เอส นโย ทฺเวปิ ชาติโยติอาทีสุปิ.

อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเปติอาทีสุ ปน ปริหายมาโน กปฺโป สํวฏฺฏกปฺโป, วฑฺฒมาโน วิวฏฺฏกปฺโปติ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ สํวฏฺเฏน สํวฏฺฏฏฺายี คหิโต ตํมูลตฺตา, วิวฏฺเฏน จ วิวฏฺฏฏฺายี. เอวฺหิ สติ ยานิ ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, กปฺปสฺส อสงฺขฺเยยฺยานิ. กตมานิ จตฺตาริ? สํวฏฺโฏ สํวฏฺฏฏฺายี วิวฏฺโฏ วิวฏฺฏฏฺายี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๕๖) วุตฺตานิ, ตานิ สพฺพานิ ปริคฺคหิตานิ โหนฺติ. อมุตฺราสินฺติอาทิ สรณาการทสฺสนํ. ตตฺถ อมุตฺราสินฺติ อมุมฺหิ สํวฏฺฏกปฺเป, อมุมฺหิ ภเว วา โยนิยํ วา คติยํ วา วิฺาณฏฺิติยํ วา สตฺตาวาเส วา สตฺตนิกาเย วา. เอวํนาโมติ ติสฺโส วา ผุสฺโส วา. เอวํโคตฺโตติ ภคฺคโว วา โคตโม วา. เอวํวณฺโณติ โอทาโต วา สาโม วา. เอวมาหาโรติ สาลิมํโสทนาหาโร วา ปวตฺตผลโภชโน วา. เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวทีติ อเนกปฺปกาเรน กายิกเจตสิกานํ สามิสนิรามิสปฺปเภทานํ วา สุขทุกฺขานํ ปฏิสํเวที. เอวมายุปริยนฺโตติ เอวํ วสฺสสตปรมายุปริยนฺโต วา จตุราสีติกปฺปสหสฺสปรมายุปริยนฺโต วา. โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทินฺติ โส ตโต ภวโต, สตฺตนิกายโต วา จุโต ปุน อมุกสฺมึ นาม สตฺตนิกาเย อุทปาทึ. อถ วา ตตฺราปิ ภเว วา สตฺตนิกาเย วา อโหสึ. เอวํนาโมติอาทิ วุตฺตตฺถเมว.

๖๔. ทิพฺเพนาติอาทีสุ ทิพฺพสทิสตฺตา ทิพฺพํ. เทวตานฺหิ สุจริตกมฺมนิพฺพตฺตมฺปิ ปิตฺตเสมฺหรุหิราทีหิ อปลิพุทฺธํ อุปกฺกิเลสวิมุตฺตตฺตา ทูเรปิ อารมฺมณคฺคหณสมตฺถํ ทิพฺพํ ปสาทจกฺขุ โหติ. อิทมฺปิ วีริยภาวนาพลนิพฺพตฺตํ าณจกฺขุ ตาทิสเมวาติ ทิพฺพสทิสตฺตา ทิพฺพํ, ทิพฺพวิหารวเสน วา ปฏิลทฺธตฺตา, อตฺตนา จ ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสิตตฺตาปิ ทิพฺพํ, อาโลกปริคฺคเหน มหาชุติกตฺตาปิ ทิพฺพํ, ติโรกุฏฺฏาทิคตรูปทสฺสเนน มหาคติกตฺตาปิ ทิพฺพํ. ตํ สพฺพํ สทฺทสตฺถานุสาเรน เวทิตพฺพํ. ทสฺสนฏฺเน จกฺขุ. จกฺขุกิจฺจกรเณน จกฺขุมิวาติปิ จกฺขุ. จุตูปปาตทสฺสเนน ทิฏฺิวิสุทฺธิเหตุตฺตา วิสุทฺธํ. โย หิ จุติมตฺตเมว ปสฺสติ, น อุปปาตํ, โส อุจฺเฉททิฏฺึ คณฺหาติ. โย อุปปาตมตฺตเมว ปสฺสติ น จุตึ, โส นวสตฺตปาตุภาวทิฏฺึ คณฺหาติ. โย ปน ตทุภยํ ปสฺสติ, โส ยสฺมา ทุวิธมฺปิ ตํ ทิฏฺิคตํ อติวตฺตติ. ตสฺมาสฺส ตํ ทสฺสนํ ทิฏฺิวิสุทฺธิเหตุ โหติ. ตทุภยฺจ ภควา ปสฺสติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘จุตูปปาตทสฺสเนน ทิฏฺิวิสุทฺธิเหตุตฺตา วิสุทฺธ’’นฺติ.

เอกาทสอุปกฺกิเลสวิรหโต วา วิสุทฺธํ. ยถาห –

‘‘โส โข อหํ อนุรุทฺธา ‘วิจิกิจฺฉา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ อิติ วิทิตฺวา วิจิกิจฺฉํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหึ. ‘อมนสิกาโร จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส… ถินมิทฺธํ… ฉมฺภิตตฺตํ… อุปฺปิลํ… ทุฏฺุลฺลํ… อจฺจารทฺธวีริยํ… อติลีนวีริยํ… อภิชปฺปา… นานตฺตสฺา… อตินิชฺฌายิตตฺตํ รูปานํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ อิติ วิทิตฺวา อตินิชฺฌายิตตฺตํ รูปานํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหิ’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๒๔๒) เอวมาทิ.

ตเทวํ เอกาทสอุปกฺกิเลสวิรหโต วา วิสุทฺธํ. มนุสฺสูปจารํ อติกฺกมิตฺวา รูปทสฺสเนน อติกฺกนฺตมานุสกํ, มํสจกฺขุํ อติกฺกนฺตตฺตา วา อติกฺกนฺตมานุสกํ. เตน ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน.

สตฺเต ปสฺสตีติ มนุสฺโส มนุสฺสํ มํสจกฺขุนา วิย สตฺเต ปสฺสติ โอโลเกติ. จวมาเน อุปปชฺชมาเนติ เอตฺถ จุติกฺขเณ อุปปตฺติกฺขเณ วา ทิพฺพจกฺขุนาปิ ทฏฺุํ น สกฺกา. เย ปน อาสนฺนจุติกา อิทานิ จวิสฺสนฺติ, เย จ คหิตปฏิสนฺธิกา สมฺปติ นิพฺพตฺตา, เต ‘‘จวมานา อุปปชฺชมานา’’ติ อธิปฺเปตา. เต เอวรูเป จวมาเน อุปปชฺชมาเน. หีเนติ โมหนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา หีนชาติกุลโภคาทิวเสน หีฬิเต ปริภูเต. ปณีเตติ อโมหนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา ตพฺพิปรีเต. สุวณฺเณติ อโทสนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา อิฏฺกนฺตมนาปวณฺณยุตฺเต. ทุพฺพณฺเณติ โทสนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา อนิฏฺากนฺตามนาปวณฺณยุตฺเต อภิรูเป วิรูเป วาติ อตฺโถ. สุคเตติ สุคติคเต, อโลภนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา วา อฑฺเฒ มหทฺธเน. ทุคฺคเตติ ทุคฺคติคเต, โลภนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา วา ทลิทฺเท อปฺปนฺนปานโภชเน. ยถากมฺมูปเคติ ยํ ยํ กมฺมํ อุปจิตํ, เตน เตน อุปคเต. ตตฺถ ปุริเมหิ ‘‘จวมาเน’’ติอาทีหิ ทิพฺพจกฺขุกิจฺจํ วุตฺตํ. อิมินา ปน ปเทน ยถากมฺมูปคาณกิจฺจํ. ยถากมฺมูปคาณอนาคตํสาณานิ จ ทิพฺพจกฺขุปาทกาเนว ทิพฺพจกฺขุนา สเหว อิชฺฌนฺติ.

กายทุจฺจริเตนาติอาทีสุ ทุฏฺุ จริตํ, ทุฏฺํ วา จริตํ กิเลสปูติกตฺตา ทุจฺจริตํ. กาเยน ทุจฺจริตํ, กายโต วา ปวตฺตํ ทุจฺจริตํ กายทุจฺจริตํ. เอวํ วจีมโนทุจฺจริตานิปิ ทฏฺพฺพานิ. สมนฺนาคตาติ สมงฺคีภูตา. อริยานํ อุปวาทกาติ พุทฺธาทีนํ อริยานํ, อนฺตมโส คิหิโสตาปนฺนานมฺปิ อนฺติมวตฺถุนา วา คุณปริธํสเนน วา อุปวาทกา อกฺโกสกา ครหกา. มิจฺฉาทิฏฺิกาติ วิปรีตทสฺสนา. มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานาติ มิจฺฉาทิฏฺิเหตุภูตสมาทินฺนนานาวิธกมฺมา. เย จ มิจฺฉาทิฏฺิมูลเกสุ กายกมฺมาทีสุ อฺเปิ สมาทเปนฺติ. ตตฺถ วจีมโนทุจฺจริตคฺคหเณน อริยูปวาทมิจฺฉาทิฏฺีสุ คหิตาสุปิ เตสํ ปุน วจนํ มหาสาวชฺชภาวทสฺสนตฺถํ. มหาสาวชฺโช หิ อริยูปวาโท อานนฺตริยสทิโส. ยถาห –

‘‘เสยฺยถาปิ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน สมาธิสมฺปนฺโน ปฺาสมฺปนฺโน ทิฏฺเว ธมฺเม อฺํ อาราเธยฺย, เอวํสมฺปทมิทํ, สาริปุตฺต, วทามิ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๔๙).

มิจฺฉาทิฏฺิโต จ มหาสาวชฺชตรํ นาม อฺํ นตฺถิ. ยถาห –

‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกธมฺมมฺปิ สมนุปสฺสามิ เอวํ มหาสาวชฺชตรํ, ยถยิทํ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฏฺิ. มิจฺฉาทิฏฺิปรมานิ, ภิกฺขเว, วชฺชานี’’ติ (อ. นิ. ๑.๓๑๐).

กายสฺส เภทาติ อุปาทินฺนกฺขนฺธปริจฺจาคา. ปรํ มรณาติ ตทนนฺตรํ อภินิพฺพตฺตกฺขนฺธคฺคหเณ. อถ วา กายสฺส เภทาติ ชีวิตินฺทฺริยสฺส อุปจฺเฉทา. ปรํ มรณาติ จุติโต อุทฺธํ. อปายนฺติอาทิ สพฺพํ นิรยเววจนํ. นิรโย หิ สคฺคโมกฺขเหตุภูตา ปุฺสมฺมตา อยา อเปตตฺตา, สุขานํ วา อายสฺส อภาวา อปาโย. ทุกฺขสฺส คติ ปฏิสรณนฺติ ทุคฺคติ, โทสพหุลตาย วา ทุฏฺเน กมฺมุนา นิพฺพตฺตา คติ ทุคฺคติ. วิวสา นิปตนฺติ ตตฺถ ทุกฺกฏการิโนติ วินิปาโต. นตฺถิ เอตฺถ อสฺสาทสฺิโต อโยติ นิรโย.

อถ วา อปายคฺคหเณน ติรจฺฉานโยนึ ทีเปติ, ติรจฺฉานโยนิ หิ อปาโย, สุคติโต อเปตตฺตา. น ทุคฺคติ, มเหสกฺขานํ นาคราชาทีนํ สมฺภวโต. ทุคฺคติคฺคหเณน เปตฺติวิสยํ ทีเปติ, โส หิ อปาโย เจว ทุคฺคติ จ สุคติโต อเปตตฺตา, ทุกฺขสฺส จ คติภูตตฺตา. น ตุ วินิปาโต อสุรสทิสํ อวินิปติตตฺตา. เปตมหิทฺธิกานฺหิ วิมานานิปิ นิพฺพตฺตนฺติ. วินิปาตคฺคหเณน อสุรกายํ ทีเปติ, โส หิ ยถาวุตฺเตนตฺเถน อปาโย เจว ทุคฺคติ จ สุขสมุสฺสเยหิ วินิปาตตฺตา วินิปาโตติ วุจฺจติ. นิรยคฺคหเณน อวีจิอาทิอเนกปฺปการํ นิรยเมว ทีเปติ. อุปปนฺนาติ อุปคตา, ตตฺถ อภินิพฺพตฺตาติ อธิปฺปาโย. วุตฺตวิปริยาเยน สุกฺกปกฺโข เวทิตพฺโพ.

อยํ ปน วิเสโส – เอตฺถ สุคติคฺคหเณน มนุสฺสคติมฺปิ สงฺคณฺหาติ. สคฺคคฺคหเณน เทวคตึ เอว. ตตฺถ สุนฺทรา คตีติ สุคติ. รูปาทีหิ วิสเยหิ สุฏฺุ อคฺโคติ สคฺโค. โส สพฺโพปิ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโกติ อยํ วจนตฺโถ. อมุกาย กปฺปโกฏิยํ อุปจิตํ เตนายํ เอตรหิ, อนาคเต วา สคฺคูปโค อปายูปโค จาติ อฏฺมนวมพลาณกิจฺจํ เอกชฺฌํ กตฺวา ทสฺสิตํ. ตถา กปฺปสตสหสฺเสวาติอาทีสุปิ. เตเนวาห – ‘‘อิมานิ ภควโต ทฺเว าณานี’’ติ.

นิหโต มาโร โพธิมูเลติ นิหโต สมุจฺฉินฺโน กิเลสมาโร โพธิรุกฺขมูเล. อิทํ ภควโต ทสมํ พลนฺติ อิทํ กิเลสมารสฺส หนนํ สมุจฺฉินฺทนํ ภควโต ทสมํ พลํ. เตเนวาห – ‘‘สพฺพาสวปริกฺขยํ าณ’’นฺติ. ยสฺมา ปน ยทา อรหตฺตมคฺเคน สวาสนา สพฺเพ อาสวา เขปิตา, ตทา ภควตา สพฺพฺุตฺาณํ อธิคตํ นาม, ตสฺมา ‘‘ยํ สพฺพฺุตา ปตฺตา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

อยํ ตาเวตฺถ อาจริยานํ สมานตฺถกถา. ปรวาที ปนาห – ‘‘ทสพลาณํ นาม ปาฏิเอกฺกํ นตฺถิ, ยสฺมา ‘สพฺพฺุตา ปตฺตา วิทิตา สพฺพธมฺมา’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา สพฺพฺุตฺาณสฺเสวายํ ปเภโท’’ติ, ตํ น ตถา ทฏฺพฺพํ. อฺเมว หิ ทสพลาณํ, อฺํ สพฺพฺุตฺาณํ. ทสพลาณฺหิ สกสกกิจฺจเมว ชานาติ, สพฺพฺุตฺาณํ ตมฺปิ ตโต อวเสสมฺปิ ชานาติ. ทสพลาเณสุ หิ ปมํ การณาการณเมว ชานาติ. ทุติยํ กมฺมปริจฺเฉทเมว, ตติยํ ธาตุนานตฺตการณเมว, จตุตฺถํ อชฺฌาสยาธิมุตฺติเมว, ปฺจมํ กมฺมวิปากนฺตรเมว, ฉฏฺํ ฌานาทีหิ สทฺธึ เตสํ สํกิเลสาทิเมว, สตฺตมํ อินฺทฺริยานํ ติกฺขมุทุภาวเมว, อฏฺมํ ปุพฺเพนิวุตฺถกฺขนฺธสนฺตติเมว, นวมํ สตฺตานํ จุตูปปาตเมว, ทสมํ สจฺจปริจฺเฉทเมว. สพฺพฺุตฺาณํ ปน เอเตหิ ชานิตพฺพฺจ ตโต อุตฺตริฺจ ปชานาติ. เอเตสํ ปน กิจฺจํ สพฺพํ น กโรติ. ตฺหิ ฌานํ หุตฺวา อปฺเปตุํ น สกฺโกติ, อิทฺธิ หุตฺวา วิกุพฺพิตุํ น สกฺโกติ, มคฺโค หุตฺวา กิเลเส เขเปตุํ น สกฺโกติ.

อปิจ ปรวาที เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘ทสพลาณํ นาเมตํ สวิตกฺกสวิจารํ อวิตกฺกวิจารมตฺตํ อวิตกฺกอวิจารํ กามาวจรํ รูปาวจรํ อรูปาวจรํ โลกิยํ โลกุตฺตร’’นฺติ. ชานนฺโต ‘‘ปฏิปาฏิยา สตฺต สวิตกฺกสวิจารานี’’ติ วกฺขติ, ตโต ปรานิ ทฺเว อวิตกฺกอวิจารานีติ, อาสวกฺขยาณํ สิยา สวิตกฺกสวิจารํ, สิยา อวิตกฺกวิจารมตฺตํ, สิยา อวิตกฺกอวิจารนฺติ. ตถา ปฏิปาฏิยา สตฺต กามาวจรานิ, ตโต ทฺเว รูปาวจรานิ, อวสาเน เอกํ โลกุตฺตรนฺติ วกฺขติ. สพฺพฺุตฺาณํ ปน สวิตกฺกสวิจารเมว กามาวจรเมว โลกิยเมวาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.

วิจยหารสมฺปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ยุตฺติหารสมฺปาตวณฺณนา

๖๕. เอวํ นานานเยหิ วิจยหารสมฺปาตํ วิตฺถาเรตฺวา อิทานิ ยุตฺติหารสมฺปาตาทีนิ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ กตโม ยุตฺติหารสมฺปาโต’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติ คาถาย ปทตฺโถ วิตฺถาริโตเยว. รกฺขิตจิตฺตสฺส สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร ภวิสฺสตีติ ยุชฺชตีติ มนจฺฉฏฺานิ ทฺวารานิ สติกวาเฏน ปิทหิตฺวา วิหรนฺตสฺส กามวิตกฺกาทีนํ มิจฺฉาสงฺกปฺปานํ อวสโร เอว นตฺถีติ เนกฺขมฺมวิตกฺกาทิโก สมฺมาสงฺกปฺโป เอว ตสฺส โคจโร ปวตฺติฏฺานํ ภวิสฺสตีติ อยมตฺโถ ยุชฺชติ. ยุตฺติยา ฆเฏติ สํสนฺทติ สเมตีติ อตฺโถ. สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร สมฺมาทิฏฺิ ภวิสฺสตีติ วุตฺตนเยน สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร ปุคฺคโล อวิปรีตเมว วิตกฺกโต สมฺมาทิฏฺิ ภวิสฺสติ. สมฺมาทิฏฺิสงฺขาตํ วิปสฺสนาาณํ ปุรกฺขตฺวา วิหรนฺโต มคฺคาเณน ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ อสมฺโมหโต ปฏิวิชฺฌิสฺสติ. ตถา ปฏิวิชฺฌนฺโต จ ทุกฺขสภาวตฺตา ทุคฺคติสงฺขาตา สพฺพา ภวคติโย ชหิสฺสติ, ตโต เอว สพฺพํ วินิปาตภยํ สํสารภยฺจ สมติกฺกมิสฺสตีติ สพฺโพปิ จายมตฺโถ ยุตฺโต เอวาติ.

ยุตฺติหารสมฺปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปทฏฺานหารสมฺปาตวณฺณนา

๖๖. สกสมฺปตฺติยา วิย สุสํวิหิตสงฺกปฺโป ภวติ. อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา สุจริตปาริปูริยา อาสนฺนการณนฺติ อาห – ‘‘รกฺขิตจิตฺตสฺสาติ ติณฺณํ สุจริตานํ ปทฏฺาน’’นฺติ. ตสฺสตฺโถ – ‘‘รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติ อิทํ ติณฺณํ สุจริตานํ ปทฏฺานวจนนฺติ. เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทิพหุลสฺส กามจฺฉนฺทาทินีวรณปฺปหานํ สุกรนฺติ เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทโย สมถสฺส อาสนฺนการณนฺติ อาห – ‘‘สมฺมาสงฺกปฺปโคจโรติ สมถสฺส ปทฏฺาน’’นฺติ. กมฺมสฺสกตาสมฺมาทิฏฺิยํ สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสนสมฺมาทิฏฺิยฺจ ิโต อตฺตาธีนํ สํสารทุกฺขํ ปสฺสนฺโต ตทติกฺกมนุปายํ วิปสฺสนํ อารภตีติ สมฺมาทิฏฺิวิปสฺสนาย วิเสสการณนฺติ อาห – ‘‘สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโรติ วิปสฺสนาย ปทฏฺาน’’นฺติ. อุทยพฺพยทสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปนฺโต สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมตีติ ตํ ปมมคฺคาธิคมสฺส การณนฺติ อาห – ‘‘ตฺวาน อุทยพฺพยนฺติ ทสฺสนภูมิยา ปทฏฺาน’’นฺติ. อาโลกสฺามนสิการาทีหิ ถินมิทฺธสฺส อภิภวนํ วีริยสฺส อาสนฺนการณนฺติ อาห – ‘‘ถินมิทฺธาภิภู ภิกฺขูติ วีริยสฺส ปทฏฺาน’’นฺติ. ยทิปิ อริยมคฺคกฺขเณ ปหานภาวนา สมานกาลา เอกาภิสมยสฺส อิจฺฉิตตฺตา, ตถาปิ ปหาตพฺพสฺส ปหานาภาเว ภาวนาปาริปูรี นตฺถีติ ปหานนิมิตฺตา วิย กตฺวา ภาวนา วุตฺตา ‘‘สพฺพา ทุคฺคติโย ชเหติ ภาวนาย ปทฏฺาน’’นฺติ. อถ วา ‘‘สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห’’ติ อิทํ ภควโต วจนํ โยคีนํ อุสฺสาหชนนตฺถํ อานิสํสกิตฺตนํ โหตีติ ภาวนาย วิเสสการณนฺติ วุตฺตํ ‘‘สพฺพา…เป… ปทฏฺาน’’นฺติ.

ปทฏฺานหารสมฺปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ลกฺขณหารสมฺปาตวณฺณนา

๖๗. อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา สติสํวโร, สติพเลน จ เนกฺขมฺมวิตกฺกาทิพหุโล โหตีติ วุตฺตํ – ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส สมฺมาสงฺกปฺปโคจโรติ อิทํ สตินฺทฺริย’’นฺติ. ตสฺสตฺโถ – ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ เอตฺถ รกฺขิตจิตฺตตาย จ สมฺมาสงฺกปฺปโคจรตา การณูปจาเรน อิทํ สตินฺทฺริยํ, คหิตานิ ภวนฺติ ปฺจินฺทฺริยานิ อินฺทฺริยลกฺขเณน วิมุตฺติปริปาจนภาเวน วา เอกลกฺขณตฺตาติ อธิปฺปาโย. คหิโต ภวตีติ เอตฺถ มคฺคลกฺขเณน คหณํ สุวิฺเยฺยนฺติ ตํ เปตฺวา การณโต คหณํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺมาทิฏฺิโต หิ สมฺมาสงฺกปฺโป ปภวตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตโต เอว คหิโต ภวติ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโคติ วตฺวา วิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนานิปิ วุตฺตานิ.

ลกฺขณหารสมฺปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. จตุพฺยูหหารสมฺปาตวณฺณนา

๖๘. รกฺขียตีติ รกฺขิตํ. อิทํ ปทวเสน นิพฺพจนํ. ยสฺมา ปน อตฺถวเสน นิพฺพจเน วุตฺเต ปทวเสน นิพฺพจนํ วุตฺตเมว โหติ, ตสฺมา ‘‘รกฺขิตํ ปริปาลียตีติ เอสา นิรุตฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อิติ-สทฺโท อาทฺยตฺโถ, ปกาเร วา. เตน เอวมาทิกา เอวํปการา วา เอสา นิรุตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมา จินฺเตตีติ จิตฺตํ. อตฺตโน สนฺตานํ จิโนตีติ จิตฺตํ, ปจฺจเยหิ จิตนฺติ จิตฺตํ, จิตฺตวิจิตฺตฏฺเน จิตฺตํ, จิตฺตกรณฏฺเน จิตฺตํ. สมฺมา สงฺกปฺเปตีติ สมฺมาสงฺกปฺโปติอาทินา นิรุตฺติ เวทิตพฺพา.

อยํ เอตฺถ ภควโต อธิปฺปาโยติ ‘‘รกฺขิตจิตฺโต อสฺสา’’ติอาทินา อินฺทฺริยสํวราทโย ทุคฺคติปหานฺจ วทโต ภควโต เอตฺถ คาถายํ อธิปฺปาโย. โกกาลิโก หีติอาทิ นิทานนิทฺเทโส. ตตฺถ หิ-สทฺโท การเณ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยสฺมา โกกาลิโก (สํ. นิ. ๑.๑๘๑; อ. นิ. ๑๐.๘๙; สุ. นิ. โกกาลิกสุตฺต) อรกฺขิตจิตฺตตาย อคฺคสาวเกสุ จิตฺตํ ปโทเสตฺวา ปทุมนิรยํ อุปปนฺโน, ตสฺมา ทุคฺคติโย ชหิตุกาโม รกฺขิตจิตฺโต อสฺสาติ ภควา สติอารกฺเขน เจตสา สมนฺนาคโต สพฺพา ทุคฺคติโย ชหตีติ อตฺโถ. สุตฺตมฺหิ วุตฺตํ ‘‘สติยา จิตฺตํ รกฺขิตพฺพ’’นฺติ เทสนานุสนฺธิทสฺสนํ.

จตุพฺยูหหารสมฺปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อาวฏฺฏหารสมฺปาตวณฺณนา

๖๙. เนกฺขมฺมสงฺกปฺปพหุโล กสิณวเสน เมตฺตาทิวเสน วา ลทฺธาย จิตฺเตกคฺคตาสงฺขาตาย จิตฺตมฺชูสาย จิตฺตํ เปตฺวา สมาธึเยว วา ยถาลทฺธํ สํกิเลสโต รกฺขิตจิตฺโต นาม โหตีติ วุตฺตํ – ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส สมฺมาสงฺกปฺปโคจโรติ อยํ สมโถ’’ติ. ปฺาปธานา วิปสฺสนาติ อาห – ‘‘สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโรติ อยํ วิปสฺสนา’’ติ. อริยมคฺเคน ทุกฺขสจฺเจ ปริฺาเต อุทยพฺพยทสฺสนํ มตฺถกปฺปตฺตํ นาม โหตีติ วุตฺตํ – ‘‘ตฺวาน อุทยพฺพยนฺติ ทุกฺขปริฺา’’ติ. ‘‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ หิ มคฺคาณสฺส ปวตฺติทสฺสนาติ. อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานีติ จตุสจฺจธมฺมวเสน อาวฏฺฏนํ นิฏฺเปติ. ตตฺถ ปุริเมน สจฺจทฺวยฏฺปเนน วิสภาคธมฺมวเสน, ปจฺฉิเมน สภาคธมฺมวเสน อาวฏฺฏนนฺติ ทฏฺพฺพํ.

อาวฏฺฏหารสมฺปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. วิภตฺติหารสมฺปาตวณฺณนา

๗๐. กุสลปกฺโข กุสลปกฺเขน นิทฺทิสิตพฺโพติ รกฺขิตจิตฺตสฺสาติ สติสํวโร, โส ฉพฺพิโธ ทฺวารวเสน จกฺขุทฺวารสํวโร ยาว มโนทฺวารสํวโรติ. สมฺมาสงฺกปฺโป ติวิโธ – เนกฺขมฺมสงฺกปฺโป, อพฺยาปาทสงฺกปฺโป, อวิหึสาสงฺกปฺโปติ. สมฺมาทิฏฺิ อฏฺวิธา ทุกฺเข าณํ…เป… อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ าณนฺติ. อุทยพฺพยาณํ ปฺาสวิธํ อวิชฺชาสมุทยา รูปสมุทโย…เป… วิปริณามลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ วิฺาณกฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสติ. ถินมิทฺธาภิภวนํ จตุพฺพิธํ จตุมคฺควเสน. ตตฺถ สติสํวโร โลกิยโลกุตฺตรวเสน ทุวิโธ. เตสุ โลกิโย กามาวจโรว, โลกุตฺตโร ทสฺสนภาวนาเภทโต ทุวิโธ. เอกเมโก เจตฺถ จตุสติปฏฺานเภทโต จตุพฺพิโธ. เอส นโย สมฺมาสงฺกปฺปาทีสุปิ.

อยํ ปน วิเสโส – สมฺมาสงฺกปฺโป ปมชฺฌานวเสน รูปาวจโรติปิ นีหริตพฺโพ. ปทฏฺานวิภาโค ปทฏฺานหารสมฺปาเต วุตฺตนเยน วตฺตพฺโพ. อกุสลปกฺเข อสํวโร จกฺขุอสํวโร…เป… กายอสํวโร, โจปนกายอสํวโร, วาจาอสํวโร, มโนอสํวโรติ อฏฺวิโธ. มิจฺฉาสงฺกปฺโป กามวิตกฺกาทิวเสน ติวิโธ. อฺาณํ ‘‘ทุกฺเข อฺาณ’’นฺติอาทินา อฏฺวิธา วิภตฺตํ. สมฺมาทิฏฺิปฏิปกฺขโต มิจฺฉาทิฏฺิ ทฺวาสฏฺิวิเธน เวทิตพฺพา. ถินมิทฺธํ อุปฺปตฺติภูมิโต ปฺจวิธนฺติ เอวํ อกุสลปกฺเข วิภตฺติ เวทิตพฺพา.

วิภตฺติหารสมฺปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ปริวตฺตนหารสมฺปาตวณฺณนา

๗๑. ปริวตฺตนหาเร อาวฏฺฏหาเร วุตฺตนเยน สมถวิปสฺสนานิทฺธารณํ อกตฺวา ‘‘สมถวิปสฺสนาย ภาวิตายา’’ติ อาห. โลกิยา เจตฺถ สมถวิปสฺสนา ทฏฺพฺพา. ปฏิปกฺเขนาติ ‘‘อรกฺขิเตน จิตฺเตนา’’ติ คาถาย ปฏิปกฺเขนาติ อธิปฺปาโย. อถ วา วิภตฺติหาเร นิทฺทิฏฺสฺส อกุสลปกฺขสฺส ปฏิปกฺเขนาติ อตฺโถ.

ปริวตฺตนหารสมฺปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. เววจนหารสมฺปาตวณฺณนา

๗๒. ‘‘มานสํ หทยํ ปณฺฑรํ วิฺาณํ วิฺาณกฺขนฺโธ มโนวิฺาณธาตู’’ติ (ธ. ส. ๖) จ จิตฺตสฺส เววจนํ. ‘‘ตกฺโก วิตกฺโก สงฺกปฺโป อปฺปนา พฺยปฺปนา เจตโส อภินิโรปนา’’ติ จ สมฺมาสงฺกปฺปสฺส. ‘‘ปฺา ปชานนา วิจโย ปวิจโย’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๖) สมฺมาทิฏฺิยา. ‘‘ถินํ ถิยนา ถิยิตตฺตํ จิตฺตสฺส อกลฺลตา อกมฺมฺตา โอนาโห ปรินาโห อนฺโตสงฺโกโจ’’ติ ถินสฺส. ‘‘อกลฺลตา อกมฺมฺตา กายาลสิยํ สุปฺยํ สุปฺยนา สุปิตตฺต’’นฺติ (ธ. ส. ๑๑๖๓) มิทฺธสฺส. ‘‘ภิกฺขโก ภิกฺขู’’ติอาทินา (ปารา. ๔๕) ภิกฺขุปทสฺส. ‘‘ทุคฺคติ อปาโย วินิปาโต วฏฺฏทุกฺขํ สํสาโร’’ติอาทินา ทุคฺคติยา เววจนํ เวทิตพฺพํ.

เววจนหารสมฺปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. ปฺตฺติหารสมฺปาตวณฺณนา

๗๓. อธิฏฺหิตฺวา รกฺขนฺติยา สติยา รกฺขิยมานํ จิตฺตํ ตสฺสา อธิฏฺานํ วิย โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ – ‘‘รกฺขิตจิตฺตสฺสาติ ปทฏฺานปฺตฺติ สติยา’’ติ. เสสํ อิมสฺมึ ปฺตฺติหารสมฺปาเต อิโต ปเรสุ โอตรณโสธนหารสมฺปาเตสุปิ อปุพฺพํ นตฺถิ. เหฏฺา วุตฺตนยเมว.

ปฺตฺติหารสมฺปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๔. อธิฏฺานหารสมฺปาตวณฺณนา

๗๖. อธิฏฺานหารสมฺปาเต สมฺมาทิฏฺิ นาม ยํ ทุกฺเข าณนฺติอาทินา จตุสจฺจเหตุเหตุสมุปฺปนฺนปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนสงฺขาตสฺส วิสยสฺส วเสน เวมตฺตตํ ทสฺเสตฺวา ปุน ยํ ตตฺถ ตตฺถ ยถาภูตํ าณทสฺสนนฺติ ปาฬิปาฬิอตฺถานํ อวสิฏฺวิสยวเสเนว เวมตฺตตํ ทีเปติ. ตตฺถ ยํ สจฺจาคมนนฺติ ยํ สจฺจโต อวิปรีตโต วิสยสฺส อาคมนํ, อธิคโมติ อตฺโถ. ‘‘ยํ ปจฺจาคมน’’นฺติปิ ปาโ, ตสฺส ยํ ปฏิปาฏิวิสยสฺส อาคมนํ, ตํตํวิสยาธิคโมติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ ปริกฺขารสมาโรปนหารสมฺปาเตสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมว.

อธิฏฺานหารสมฺปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

มิสฺสกหารสมฺปาตวณฺณนา

อปิ เจตฺถ หารสมฺปาตนิทฺเทโส อิมินาปิ นเยน เวทิตพฺโพ –

‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา, มโนเสฏฺา มโนมยา;

มนสา เจ ปสนฺเนน, ภาสติ วา กโรติ วา;

ตโต นํ สุขมนฺเวติ, ฉายาว อนปายินี’’ติ. (ธ. ป. ๒);

ตตฺถ กตโม เทสนาหารสมฺปาโต? มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมาติ มโนติ ขนฺธววตฺถาเนน วิฺาณกฺขนฺธํ เทเสติ. อายตนววตฺถาเนน มนายตนํ, ธาตุววตฺถาเนน วิฺาณธาตุํ, อินฺทฺริยววตฺถาเนน มนินฺทฺริยํ. กตเม ธมฺมา ปุพฺพงฺคมา? ฉ ธมฺมา ปุพฺพงฺคมา, กุสลานํ กุสลมูลานิ, อกุสลานํ อกุสลมูลานิ, สาธิปติกานํ อธิปติ, สพฺพจิตฺตุปฺปาทานํ อินฺทฺริยานิ. อปิ จ อิมสฺมึ สุตฺเต มโน อธิปฺเปโต. ยถา พลคฺคสฺส ราชา ปุพฺพงฺคโม, เอวเมวํ ธมฺมานํ มโน ปุพฺพงฺคโม. ตตฺถ ติวิเธน มโน ปุพฺพงฺคโม เนกฺขมฺมฉนฺเทน อพฺยาปาทฉนฺเทน อวิหึสาฉนฺเทน. ตตฺถ อโลภสฺส เนกฺขมฺมฉนฺเทน มโนปุพฺพงฺคมํ, อโทสสฺส อพฺยาปาทฉนฺเทน มโนปุพฺพงฺคมํ, อโมหสฺส อวิหึสาฉนฺเทน มโนปุพฺพงฺคมํ.

มโนเสฏฺาติ มโน เตสํ ธมฺมานํ เสฏฺํ วิสิฏฺํ อุตฺตมํ ปวรํ มูลํ ปมุขํ ปาโมกฺขํ, เตน วุจฺจติ ‘‘มโนเสฏฺา’’ติ. มโนมยาติ มเนน กตา, มเนน นิมฺมิตา, มเนน นิพฺพตฺตา, มโน เตสํ ปจฺจโย, เตน วุจฺจติ ‘‘มโนมยา’’ติ. เต ปน ธมฺมา ฉนฺทสมุทานิตา อนาวิลสงฺกปฺปสมุฏฺานา ผสฺสสโมธานา เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ. มนสา เจ ปสนฺเนนาติ ยา สทฺธา สทฺทหนา โอกปฺปนา อภิปฺปสาโท. อิติ อิมินา ปสาเทน อุเปโต สมุเปโต อุปคโต สมุปคโต สมฺปนฺโน สมนฺนาคโต, เตน วุจฺจติ ‘‘ปสนฺเนนา’’ติ อิทํ มโนกมฺมํ. ภาสติ วาติ วจีกมฺมํ. กโรติ วาติ กายกมฺมํ. อิติ ทสกุสลกมฺมปถา ทสฺสิตา.

ตโตติ ทสวิธสฺส กุสลกมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา. นฺติ โย โส กตปุฺโ กตกุสโล กตภีรุตฺตาโณ, ตํ ปุคฺคลํ. สุขนฺติ ทุวิธํ สุขํ กายิกํ เจตสิกฺจ. อนฺเวตีติ อนุคจฺฉติ.

อิธสฺสุ ปุริโส อปฺปหีนานุสโย สํโยชนิเยสุ ธมฺเมสุ อสฺสาทํ อนุปสฺสติ, โส สํโยชนิเยสุ ธมฺเมสุ อสฺสาทํ อนุปสฺสนฺโต ยถาทิฏฺํ ยถาสุตํ สมฺปตฺติภวํ ปตฺเถติ. อิจฺจสฺส อวิชฺชา จ ภวตณฺหา จ อนุพทฺธา โหนฺติ, โส ยถาทิฏฺํ ยถาสุตํ สมฺปตฺติภวํ ปตฺเถนฺโต ปสาทนียวตฺถุสฺมึ จิตฺตํ ปสาเทติ สทฺทหติ โอกปฺเปติ. โส ปสนฺนจิตฺโต ติวิธํ ปุฺกิริยวตฺถุํ อนุติฏฺติ ทานมยํ สีลมยํ ภาวนามยํ กาเยน วาจาย มนสา. โส ตสฺส วิปากํ ปจฺจนุโภติ ทิฏฺเว ธมฺเม อุปปชฺเช วา อปราปเร วา ปริยาเย. อิติ โข ปนสฺส อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, สฬายตนปจฺจยา สุขเวทนีโย ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนาติ เอวํ สนฺตํ ตํ สุขมนฺเวติ. ตสฺเสวํ เวทนาย อปราปรํ ปริวตฺตมานาย อุปฺปชฺชติ ตณฺหา. ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ…เป… สมุทโย โหตีติ.

ตตฺถ ยํ มโน, เย จ มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา, ยฺจ สุขํ, อิเม วุจฺจนฺติ ปฺจกฺขนฺธา, เต ทุกฺขสจฺจํ. เตสํ ปุริมการณภูตา อวิชฺชา ภวตณฺหา จ สมุทยสจฺจํ. เตสํ ปริฺาย ปหานาย ภควา ธมฺมํ เทเสติ, ทุกฺขสฺส ปริฺาย สมุทยสฺส ปหานาย. เยน ปริชานาติ, เยน ปชหติ, อยํ มคฺโค. ยตฺถ จ มคฺโค ปวตฺตติ, อยํ นิโรโธ. อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ เอวํ อายตนธาตุอินฺทฺริยมุเขนาปิ นิทฺธาเรตพฺพานิ. ตตฺถ สมุทเยน อสฺสาโท, ทุกฺเขน อาทีนโว, มคฺคนิโรเธหิ นิสฺสรณํ, สุขสฺส อนฺวโย ผลํ, มนสา ปสนฺเนน กายวจีสมีหา อุปาโย, มโนปุพฺพงฺคมตฺตา ธมฺมานํ อตฺตโน สุขกาเมน ปสนฺเนน มนสา วจีกมฺมํ กายกมฺมฺจ ปวตฺเตตพฺพนฺติ อยํ ภควโต อาณตฺติ. อยํ เทสนาหารสมฺปาโต.

ตตฺถ กตโม วิจยหารสมฺปาโต? มนนโต อารมฺมณวิชานนโต มโน. มนนลกฺขเณ สมฺปยุตฺเตสุ อาธิปจฺจกรณโต ปุพฺพงฺคโม อีหาภาวโต นิสฺสตฺตนิชฺชีวฏฺเน ธมฺมา. คาเมสุ คามณิ วิย ปธานฏฺเน มโน เสฏฺโ เอเตสนฺติ มโนเสฏฺา. สหชาตาทิปจฺจยภูเตน มนสา นิพฺพตฺตาติ มโนมยา. อกาลุสฺสิยโต, อารมฺมณสฺส โอกปฺปนโต จ ปสนฺเนน วจีวิฺตฺติวิปฺผารโต ตถา สาทิยนโต จ ภาสติ. โจปนกายวิปฺผารโต ตถา สาทิยนโต จ กโรติ. ตถา ปสุตตฺตา อนฺตฺตา จ ‘‘ตโต’’ติ วุตฺตํ. สุขนโต สาตภาวโต อิฏฺภาวโต จ ‘‘สุข’’นฺติ วุตฺตํ. กตูปจิตตฺตา อวิปกฺกวิปากตฺตา จ ‘‘อนฺเวตี’’ติ วุตฺตํ. การณายตฺตวุตฺติโต อสงฺกนฺติโต จ ‘‘ฉายาว อนปายินี’’ติ วุตฺตํ. อยํ อนุปทวิจยโต วิจยหารสมฺปาโต.

ตตฺถ กตโม ยุตฺติหารสมฺปาโต? มนสฺส ธมฺมานํ อาธิปจฺจโยคโต ปุพฺพงฺคมตา ยุชฺชติ. ตโต เอว เตสํ มนสฺส อนุวตฺตนโต ธมฺมานํ มโนเสฏฺตา ยุชฺชติ. สหชาตาทิปจฺจยวเสน มนสา นิพฺพตฺตตฺตา ธมฺมานํ มโนมยตา ยุชฺชติ. มนสา ปสนฺเนน สมุฏฺานานํ กายวจีกมฺมานํ กุสลภาโว ยุชฺชติ. เยน กุสลกมฺมํ อุปจิตํ, ตํ ฉายา วิย สุขํ อนฺเวตีติ ยุชฺชติ. อยํ ยุตฺติหารสมฺปาโต.

ตตฺถ กตโม ปทฏฺาโน หารสมฺปาโต? มโน มโนปวิจารานํ ปทฏฺานํ. มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา สพฺพสฺส กุสลปกฺขสฺส ปทฏฺานํ. ‘‘ภาสตี’’ติ สมฺมาวาจา, ‘‘กโรตี’’ติ สมฺมากมฺมนฺโต, เต สมฺมาอาชีวสฺส ปทฏฺานํ. สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายามสฺส ปทฏฺานํ. สมฺมาวายาโม สมฺมาสติยา ปทฏฺานํ. สมฺมาสติ สมฺมาสมาธิสฺส ปทฏฺานํ. ‘‘มนสา ปสนฺเนนา’’ติ เอตฺถ ปสาโท สทฺธินฺทฺริยํ, ตํ สีลสฺส ปทฏฺานํ. สีลํ สมาธิสฺส ปทฏฺานํ. สมาธิ ปฺายาติ ยาว วิมุตฺติาณทสฺสนา โยเชตพฺพํ. อยํ ปทฏฺานหารสมฺปาโต.

ตตฺถ กตโม ลกฺขโณ หารสมฺปาโต? ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ มโนปุพฺพงฺคมตาวจเนน ธมฺมานํ ฉนฺทปุพฺพงฺคมตาปิ วีริยปุพฺพงฺคมตาปิ วีมํสาปุพฺพงฺคมตาปิ วุตฺตา โหติ อาธิปเตยฺยลกฺขเณน ฉนฺทาทีนํ มนสา เอกลกฺขณตฺตา. ตถา เนสํ สทฺธาทิปุพฺพงฺคมตาปิ วุตฺตา โหติ อินฺทฺริยลกฺขเณน สทฺธาทีนํ มนสา เอกลกฺขณตฺตา. ‘‘มนสา เจ ปสนฺเนนา’’ติ ยถา มนสฺส ปสาทสมนฺนาคโม ตํสมุฏฺานานํ กายวจีกมฺมานํ อนวชฺชภาวลกฺขณํ. เอวํ จิตฺตสฺส สติอาทิสมนฺนาคโมปิ เนสํ อนวชฺชภาวลกฺขณํ โยนิโสมนสิการสมุฏฺานภาเวน เอกลกฺขณตฺตา. ‘‘สุขมนฺเวตี’’ติ สุขานุคมนวจเนน สุขสฺส ปจฺจยภูตานํ มนาปิยรูปาทีนํ อนุคโม วุตฺโต โหติ เตสมฺปิ กมฺมปจฺจยตาย เอกลกฺขณตฺตาติ. อยํ ลกฺขณหารสมฺปาโต.

ตตฺถ กตโม จตุพฺยูโห หารสมฺปาโต? ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา’’ติอาทีสุ ‘‘มโน’’ติอาทีนํ ปทานํ นิพฺพจนํ นิรุตฺตํ, ตํ ปทตฺถนิทฺเทสวเสน เวทิตพฺพํ. ปทตฺโถ จ วุตฺตนเยน สุวิฺเยฺโยว. เย สุเขน อตฺถิกา, เตหิ ปสนฺเนน มนสา กายวจีมโนกมฺมานิ ปวตฺเตตพฺพานีติ อยเมตฺถ ภควโต อธิปฺปาโย. ปุฺกิริยาย อฺเสมฺปิ ปุพฺพงฺคมา หุตฺวา ตตฺถ เตสํ สมฺมา อุปเนตาโร อิมิสฺสา เทสนาย นิทานํ. ‘‘ฉทฺวาราธิปตี ราชา (ธ. ป. อฏฺ. ๒.๑๘๑ เอรกปตฺตนาคราชวตฺถุ), จิตฺตานุปริวตฺติโน ธมฺมา (ธ. ส. ทุกมาติกา ๖๒; ๑๒๐๕-๑๒๐๖), จิตฺตสฺส เอกธมฺมสฺส, สพฺเพว วสมนฺวคู’’ติ (สํ. นิ. ๑.๖๒) เอวมาทิสมานยเนน อิมิสฺสา เทสนาย สํสนฺทนา เทสนานุสนฺธิ. ปทานุสนฺธิโย ปน สุวิฺเยฺยาวาติ. อยํ จตุพฺยูโห หารสมฺปาโต.

ตตฺถ กตโม อาวฏฺโฏ หารสมฺปาโต? ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ ตตฺถ ยานิ ตีณิ กุสลมูลานิ, ตานิ อฏฺนฺนํ สมฺมตฺตานํ เหตุ. เย สมฺมตฺตา, อยํ อฏฺงฺคิโก มคฺโค. ยํ มโนสหชนามรูปํ, อิทํ ทุกฺขํ. อสมุจฺฉินฺนา ปุริมนิปฺผนฺนา อวิชฺชา ภวตณฺหา, อยํ สมุทโย. ยตฺถ เตสํ ปหานํ, อยํ นิโรโธติ อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ. อยํ อาวฏฺโฏ หารสมฺปาโต.

ตตฺถ กตโม วิภตฺติหารสมฺปาโต? ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา, มนสา เจ ปสนฺเนน, ตโต นํ สุขมนฺเวตี’’ติ นยิทํ ยถารุตวเสน คเหตพฺพํ. โย หิ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปาณาติปาติมฺหิ มิจฺฉาทิฏฺิเก มิจฺฉาปฏิปนฺเน สกํ จิตฺตํ ปสาเทติ, ปสนฺเนน จ จิตฺเตน อภูตคุณาภิตฺถวนวเสน ภาสติ วา นิปจฺจการํ วาสฺส ยํ กโรติ, น ตโต นํ สุขมนฺเวติ. ทุกฺขเมว ปน ตํ ตโต จกฺกํว วหโต ปทมนฺเวติ. อิติ หิ อิทํ วิภชฺชพฺยากรณียํ. ยํ มนสา เจ ปสนฺเนน ภาสติ วา กโรติ วา, ตฺเจ วจีกมฺมํ กายกมฺมฺจ สุขเวทนียนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? สมฺมตฺตคเตหิ สุขเวทนียํ มิจฺฉาคเตหิ ทุกฺขเวทนียนฺติ. กถํ ปนายํ ปสาโท ทฏฺพฺโพ? นายํ ปสาโท, ปสาทปติรูปโก ปน มิจฺฉาธิโมกฺโขติ วทามิ. อยํ วิภตฺติหารสมฺปาโต.

ตตฺถ กตโม ปริวตฺตโน หารสมฺปาโต? มโนปุพฺพงฺคมาติอาทิ. ยํ มนสา ปทุฏฺเน ภาสติ วา กโรติ วา ทุกฺขสฺสานุคามี. อิทฺหิ สุตฺตํ เอตสฺส อุชุปฏิปกฺโข. อยํ ปริวตฺตโน หารสมฺปาโต.

ตตฺถ กตโม เววจโน หารสมฺปาโต? ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา’’ติ มโน จิตฺตํ มนายตนํ มนินฺทฺริยํ มโนวิฺาณํ มโนวิฺาณธาตูติ ปริยายวจนํ. ปุพฺพงฺคมา ปุเรจาริโน ปุเรคามิโนติ ปริยายวจนํ. ธมฺมา อตฺตา สภาวาติ ปริยายวจนํ. เสฏฺํ ปธานํ ปวรนฺติ ปริยายวจนํ. มโนมยา มโนนิพฺพตฺตา มโนสมฺภูตาติ ปริยายวจนํ. ปสนฺเนน สทฺทหนฺเตน โอกปฺเปนฺเตนาติ ปริยายวจนํ. สุขํ สาตํ เวทยิตนฺติ ปริยายวจนํ. อนฺเวติ อนุคจฺฉติ อนุพนฺธตีติ ปริยายวจนํ. อยํ เววจโน หารสมฺปาโต.

ตตฺถ กตโม ปฺตฺติหารสมฺปาโต? มโนปุพฺพงฺคมาติ อยํ มนโส กิจฺจปฺตฺติ. ธมฺมาติ สภาวปฺตฺติ, กุสลกมฺมปถปฺตฺติ. มโนเสฏฺาติ ปธานปฺตฺติ. มโนมยาติ สหชาตปฺตฺติ. ปสนฺเนนาติ สทฺธินฺทฺริเยน สมนฺนาคตปฺตฺติ, อสฺสทฺธิยสฺส ปฏิกฺเขปปฺตฺติ. ภาสติ วา กโรติ วาติ สมฺมาวาจาสมฺมากมฺมนฺตานํ นิกฺเขปปฺตฺติ. ตโต นํ สุขมนฺเวตีติ กมฺมสฺส ผลานุพนฺธปฺตฺติ, กมฺมสฺส อวินาสปฺตฺตีติ. อยํ ปฺตฺติหารสมฺปาโต.

ตตฺถ กตโม โอตรโณ หารสมฺปาโต? มโนติ วิฺาณกฺขนฺโธ. ธมฺมาติ เวทนาสฺาสงฺขารกฺขนฺธา. ภาสติ วา กโรติ วาติ กายวจีวิฺตฺติโย. ตาสํ นิสฺสยา จตฺตาโร มหาภูตาติ รูปกฺขนฺโธติ อยํ ขนฺเธหิ โอตรโณ. มโนติ อภิสงฺขารวิฺาณนฺติ มโนคฺคหเณน อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา คหิตาติ. สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ…เป… สมุทโย โหตีติ อยํ ปฏิจฺจสมุปฺปาเทน โอตรโณติ. อยํ โอตรโณ หารสมฺปาโต.

ตตฺถ กตโม โสธโน หารสมฺปาโต? มโนติ อารมฺโภ เนว ปทสุทฺธิ, น อารมฺภสุทฺธิ. มโนปุพฺพงฺคมาติ ปทสุทฺธิ, น อารมฺภสุทฺธิ. ตถา ธมฺมาติ ยาว สุขนฺติ ปทสุทฺธิ, น อารมฺภสุทฺธิ. สุขมนฺเวตีติ ปน ปทสุทฺธิ เจว อารมฺภสุทฺธิ จาติ. อยํ โสธโน หารสมฺปาโต.

ตตฺถ กตโม อธิฏฺาโน หารสมฺปาโต? มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา, มโนเสฏฺา มโนมยาติ เอกตฺตตา. มนสา เจ ปสนฺเนนาติ เวมตฺตตา, ตถา มนสา เจ ปสนฺเนนาติ เอกตฺตตา. ภาสติ วา กโรติ วาติ เวมตฺตตา, ตถา มนสา เจ ปสนฺเนนาติ เอกตฺตตา. โส ปสาโท ทุวิโธ อชฺฌตฺตฺจ พฺยาปาทวิกฺขมฺภนโต, พหิทฺธา จ โอกปฺปนโต. ตถา สมฺปตฺติภวเหตุภูโตปิ วฑฺฒิเหตุภูโตวาติ อยํ เวมตฺตตา. ตยิทํ สุตฺตํ ทฺวีหิ อากาเรหิ อธิฏฺาตพฺพํ เหตุนา จ โย ปสนฺนมานโส, วิปาเกน จ โย สุขเวทนีโยติ. อยํ อธิฏฺาโน หารสมฺปาโต.

ตตฺถ กตโม ปริกฺขาโร หารสมฺปาโต? มโนปุพฺพงฺคมาติ เอตฺถ มโนติ กุสลวิฺาณํ. ตสฺส จ าณสมฺปยุตฺตสฺส อโลโภ อโทโส อโมโหติ ตโย สมฺปยุตฺตา เหตู, าณวิปฺปยุตฺตสฺส อโลโภ อโทโสติ ทฺเว สมฺปยุตฺตา เหตู. สพฺเพสํ อวิเสเสน โยนิโสมนสิกาโร เหตุ, จตฺตาริ สมฺปตฺติจกฺกานิ ปจฺจโย. ตถา สทฺธมฺมสฺสวนํ, ตสฺส จ ทานาทิวเสน ปวตฺตมานสฺส เทยฺยธมฺมาทโย ปจฺจโย. ธมฺมาติ เจตฺถ เวทนาทีนํ อิฏฺารมฺมณาทโย. ตถา ตโย วิฺาณสฺส, เวทนาทโย ปสาทสฺส, สทฺเธยฺยวตฺถุกุสลาภิสงฺขาโร วิปากสุขสฺส ปจฺจโยติ. อยํ ปริกฺขาโร หารสมฺปาโต.

ตตฺถ กตโม สมาโรปโน หารสมฺปาโต? มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมาติ มโนติ ปุฺจิตฺตํ, ตํ ติวิธํ – ทานมยํ, สีลมยํ, ภาวนามยนฺติ. ตตฺถ ทานมยสฺส อโลโภ ปทฏฺานํ, สีลมยสฺส อโทโส ปทฏฺานํ, ภาวนามยสฺส อโมโห ปทฏฺานํ. สพฺเพสํ อภิปฺปสาโท ปทฏฺานํ, ‘‘สทฺธาชาโต อุปสงฺกมติ, อุปสงฺกมนฺโต ปยิรุปาสตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๘๓) สุตฺตํ วิตฺถาเรตพฺพํ. กุสลจิตฺตํ สุขสฺส อิฏฺวิปากสฺส ปทฏฺานํ. โยนิโสมนสิกาโร กุสลจิตฺตสฺส ปทฏฺานํ. โยนิโส หิ มนสิ กโรนฺโต กุสลจิตฺตํ อธิฏฺาติ กุสลจิตฺตํ ภาเวติ, โส อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ, อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ…เป… ปทหติ. ตสฺเสวํ จตูสุ สมฺมปฺปธาเนสุ ภาวิยมาเนสุ จตฺตาโร สติปฏฺานา ยาว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉตีติ อยํ ภาวนาย สมาโรปนา. สติ จ ภาวนาย ปหานฺจ สิทฺธเมวาติ. อยํ สมาโรปโน หารสมฺปาโต.

ตถา –

‘‘ททโต ปุฺํ ปวฑฺฒติ, สํยมโต เวรํ น จียติ;

กุสโล จ ชหาติ ปาปกํ, ราคโทสโมหกฺขยา ส นิพฺพุโต’’ติ. (ที. นิ. ๒.๑๙๗; อุทา. ๗๕; เปฏโก. ๑๖);

ตตฺถ ททโต ปุฺํ ปวฑฺฒตีติ ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ วุตฺตํ. สํยมโต เวรํ น จียตีติ สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ วุตฺตํ. กุสโล จ ชหาติ ปาปกนฺติ โลภสฺส จ โทสสฺส จ โมหสฺส จ ปหานมาห. เตน ภาวนามยํ ปุฺกิริยวตฺถุ วุตฺตํ. ราคโทสโมหกฺขยา ส นิพฺพุโตติ อนุปาทาปรินิพฺพานมาห.

ททโต ปุฺํ ปวฑฺฒตีติ อโลโภ กุสลมูลํ. สํยมโต เวรํ น จียตีติ อโทโส กุสลมูลํ. กุสโล จ ชหาติ ปาปกนฺติ อโมโห กุสลมูลํ. ราคโทสโมหกฺขยา ส นิพฺพุโตติ เตสํ นิสฺสรณํ วุตฺตํ.

ททโต ปุฺํ ปวฑฺฒตีติ สีลกฺขนฺธสฺส ปทฏฺานํ. สํยมโต เวรํ น จียตีติ สมาธิกฺขนฺธสฺส ปทฏฺานํ. กุสโล จ ชหาติ ปาปกนฺติ ปฺากฺขนฺธสฺส วิมุตฺติกฺขนฺธสฺส ปทฏฺานํ. ทาเนน โอฬาริกานํ กิเลสานํ ปหานํ, สีเลน มชฺฌิมานํ, ปฺาย สุขุมานํ. ราคโทสโมหกฺขยา ส นิพฺพุโตติ กตาวีภูมึ ทสฺเสติ.

ททโต ปุฺํ…เป… ชหาติ ปาปกนฺติ เสกฺขภูมิ ทสฺสิตา. ราคโทสโมหกฺขยา ส นิพฺพุโตติ อคฺคผลํ วุตฺตํ.

ตถา ททโต ปุฺํ…เป… น จียตีติ โลกิยกุสลมูลํ วุตฺตํ. กุสโล จ ชหาติ ปาปกนฺติ โลกุตฺตรกุสลมูลํ วุตฺตํ. ราคโทสโมหกฺขยา ส นิพฺพุโตติ โลกุตฺตรสฺส กุสลมูลสฺส ผลํ วุตฺตํ.

ททโต…เป… น จียตีติ ปุถุชฺชนภูมิ ทสฺสิตา. กุสโล จ ชหาติ ปาปกนฺติ เสกฺขภูมิ ทสฺสิตา. ราคโทสโมหกฺขยา ส นิพฺพุโตติ อเสกฺขภูมิ ทสฺสิตา.

ททโต …เป… น จียตีติ สคฺคคามินี ปฏิปทา วุตฺตา. กุสโล จ ชหาติ ปาปกนฺติ เสกฺขวิมุตฺติ. ราคโทสโมหกฺขยา ส นิพฺพุโตติ อเสกฺขวิมุตฺติ วุตฺตา.

ททโต…เป… น จียตีติ ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ โลกิยานํ ธมฺมานํ เทสนมาห. กุสโล จ ชหาติ ปาปกนฺติ โลเก อาทีนวานุปสฺสนาย สทฺธึ สามุกฺกํสิกํ ธมฺมเทสนมาห. ราคโทสโมหกฺขยา ส นิพฺพุโตติ ตสฺสา เทสนาย ผลมาห.

ททโต ปุฺํ ปวฑฺฒตีติ ธมฺมทานํ อามิสทานฺจ วทติ. สํยมโต เวรํ น จียตีติ ปาณาติปาตา เวรมณิยา สตฺตานํ อภยทานํ วทติ. เอวํ สพฺพานิปิ สิกฺขาปทานิ วิตฺถาเรตพฺพานิ. เตน จ สีลสํยเมน สีเล ปติฏฺิโต จิตฺตํ สํยเมติ, ตสฺส สมโถ ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวํ โส สมเถ ิโต วิปสฺสนาโกสลฺลโยคโต กุสโล จ ชหาติ ปาปกํ ราคํ ชหาติ, โทสํ ชหาติ, โมหํ ชหาติ, อริยมคฺเคน สพฺเพปิ ปาปเก อกุสเล ธมฺเม ชหาติ. เอวํ ปฏิปนฺโน จ ราคโทสโมหกฺขยา ส นิพฺพุโตติ ราคาทีนํ ปริกฺขยา ทฺเวปิ วิมุตฺติโย อธิคจฺฉตีติ อยํ สุตฺตนิทฺเทโส.

ตตฺถ กตโม เทสนาหารสมฺปาโต? อิมสฺมึ สุตฺเต กึ เทสิตํ? ทฺเว สุคติโย เทวา จ มนุสฺสา จ, ทิพฺพา จ ปฺจ กามคุณา, มานุสกา จ ปฺจ กามคุณา, ทิพฺพา จ ปฺจุปาทานกฺขนฺธา, มานุสกา จ ปฺจุปาทานกฺขนฺธา. อิทํ วุจฺจติ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ. ตสฺส การณภาเวน ปุริมปุริมนิปฺผนฺนา ตณฺหา สมุทโย อริยสจฺจํ. ตยิทํ วุจฺจติ อสฺสาโท จ อาทีนโว จ. สพฺพสฺส ปุริเมหิ ทฺวีหิ ปเทหิ นิทฺเทโส ‘‘ททโต…เป… น จียตี’’ติ. กุสโล จ ชหาติ ปาปกนฺติ มคฺโค วุตฺโต. ราคโทสโมหกฺขยา ส นิพฺพุโตติ ทฺเว นิพฺพานธาตุโย สอุปาทิเสสา จ อนุปาทิเสสา จ. อิทํ นิสฺสรณํ. ผลาทีนิ ปน ยถารหํ เวทิตพฺพานีติ. อยํ เทสนาหารสมฺปาโต.

วิจโยติ ‘‘ททโต ปุฺํ ปวฑฺฒตี’’ติ อิมินา ปเมน ปเทน ติวิธมฺปิ ทานมยํ สีลมยํ ภาวนามยํ ปุฺกิริยวตฺถุ วุตฺตํ. ทสวิธสฺสปิ เทยฺยธมฺมสฺส ปริจฺจาโค วุตฺโต. ตถา ฉพฺพิธสฺสปิ รูปาทิอารมฺมณสฺส. ‘‘สํยมโต เวรํ น จียตี’’ติ ทุติเยน ปเทน อเวรา อสปตฺตา อพฺยาปาทา จ ปฏิปทา วุตฺตา. ‘‘กุสโล จ ชหาติ ปาปก’’นฺติ ตติเยน ปเทน าณุปฺปาโท อฺาณนิโรโธ สพฺโพปิ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค สพฺเพปิ โพธิปกฺขิยา ธมฺมา วุตฺตา. ‘‘ราคโทสโมหกฺขยา ส นิพฺพุโต’’ติ ราคกฺขเยน ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ, โมหกฺขเยน อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺติ วุตฺตาติ. อยํ วิจโย หารสมฺปาโต.

ยุตฺตีติ ทาเน ิโต อุภยํ ปริปูเรติ มจฺฉริยปฺปหานฺจ ปุฺาภิสนฺทฺจาติ อตฺเถสา ยุตฺติ. สีลสํยเม ิโต อุภยํ ปริปูเรติ อุปจารสมาธึ อปฺปนาสมาธิฺจาติ อตฺเถสา ยุตฺติ. ปาปเก ธมฺเม ปชหนฺโต ทุกฺขํ ปริชานาติ, นิโรธํ สจฺฉิกโรติ, มคฺคํ ภาเวตีติ อตฺเถสา ยุตฺติ. ราคโทสโมเหสุ สพฺพโส ปริกฺขีเณสุ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายตีติ อตฺเถสา ยุตฺตีติ. อยํ ยุตฺติหารสมฺปาโต.

ปทฏฺานนฺติ ททโต ปุฺํ ปวฑฺฒตีติ จาคาธิฏฺานสฺส ปทฏฺานํ. สํยมโต เวรํ น จียตีติ สจฺจาธิฏฺานสฺส ปทฏฺานํ. กุสโล จ ชหาติ ปาปกนฺติ ปฺาธิฏฺานสฺส ปทฏฺานํ. ราคโทสโมหกฺขยา ส นิพฺพุโตติ อุปสมาธิฏฺานสฺส ปทฏฺานนฺติ. อยํ ปทฏฺาโน หารสมฺปาโต.

ลกฺขโณติ ‘‘ททโต’’ติ เอเตน เปยฺยวชฺชํ อตฺถจริยํ สมานตฺตตา จ ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา สงฺคหวตฺถุภาเวน เอกลกฺขณตฺตา. ‘‘สํยมโต’’ติ เอเตน ขนฺติเมตฺตาอวิหึสาอนุทฺทยาทโย ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา เวรานุปฺปาทนลกฺขเณน เอกลกฺขณตฺตา. ‘‘เวรํ น จียตี’’ติ เอเตน หิรีโอตฺตปฺปอปฺปิจฺฉตาสนฺตุฏฺิตาทโย ทสฺสิตา เวราวฑฺฒเนน เอกลกฺขณตฺตา. ตถา อหิรีกาโนตฺตปฺปาทโย อเจตพฺพภาเวน เอกลกฺขณตฺตา. ‘‘กุสโล’’ติ เอเตน โกสลฺลทีปเนน สมฺมาสงฺกปฺปาทโย ทสฺสิตา มคฺคงฺคาทิภาเวน เอกลกฺขณตฺตา. ‘‘ชหาติ ปาปก’’นฺติ เอเตน ปริฺาภิสมยาทโยปิ ทสฺสิตา อภิสมยลกฺขเณน เอกลกฺขณตฺตา. ‘‘ราคโทสโมหกฺขยา’’ติ เอเตน อวสิฏฺกิเลสาทีนมฺปิ ขยา ทสฺสิตา เขเปตพฺพภาเวน เอกลกฺขณตฺตาติ อยํ ลกฺขโณ.

จตุพฺยูโหติ ททโตติ คาถายํ ภควโต โก อธิปฺปาโย? เย มหาโภคตํ ปตฺถยิสฺสนฺติ, เต ทานํ ทสฺสนฺติ ทาลิทฺทิยปฺปหานาย. เย อเวรตํ อิจฺฉนฺติ, เต ปฺจ เวรานิ ปชหิสฺสนฺติ. เย กุสลธมฺเมหิ ฉนฺทกามา, เต อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวสฺสนฺติ. เย นิพฺพายิตุกามา, เต ราคโทสโมหํ ปชหิสฺสนฺตีติ อยเมตฺถ ภควโต อธิปฺปาโย. เอวํ นิพฺพจนนิทานสนฺธโย วตฺตพฺพาติ. อยํ จตุพฺยูโห.

อาวฏฺโฏติ ยฺจ อททโต มจฺฉริยํ, ยฺจ อสํยมโต เวรํ, ยฺจ อกุสลสฺส ปาปสฺส อปฺปหานํ, อยํ ปฏิปกฺขนิทฺเทเสน สมุทโย. ตสฺส อโลเภน จ อโทเสน จ อโมเหน จ ทานาทีหิ ปหานํ, อิมานิ ตีณิ กุสลมูลานิ. เตสํ ปจฺจโย อฏฺ สมฺมตฺตานิ, อยํ มคฺโค. โย ราคโทสโมหานํ ขโย, อยํ นิโรโธติ. อยํ อาวฏฺโฏ.

วิภตฺตีติ ททโต ปุฺํ ปวฑฺฒตีติ เอกํเสน โย ภยเหตุ เทติ, ราคเหตุ เทติ, อามิสกิฺจิกฺขเหตุ เทติ, น ตสฺส ปุฺํ วฑฺฒติ. ยฺจ ทณฺฑทานํ สตฺถทานํ ปรวิเหนตฺถํ อปุฺํ อสฺส ปวฑฺฒติ. ยํ ปน กุสเลน จิตฺเตน อนุกมฺปนฺโต วา อปจายมาโน วา อนฺนํ เทติ, ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถํ ปทีเปยฺยํ เทติ, สพฺพสตฺตานํ วา อภยทานํ เทติ, เมตฺตจิตฺโต หิตชฺฌาสโย นิสฺสรณสฺี ธมฺมํ เทเสติ. สํยมโต เวรํ น จียตีติ เอกํเสน อภยูปรตสฺส จียติ, กึการณํ? ยํ อสมตฺโถ, ภยูปรโต ทิฏฺธมฺมิกสฺส ภายติ ‘‘มา มํ ราชาโน คเหตฺวา หตฺถํ วา ฉินฺเทยฺยุํ…เป… ชีวนฺตมฺปิ สูเล อุตฺตาเสยฺยุ’’นฺติ, เตน สํยเมน อเวรํ จียติ. โย ปน เอวํ สมาโน เวรํ น จียติ. โย ปน เอวํ สมาทิยติ, ปาณาติปาตสฺส ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปราเย จ, เอวํ สพฺพสฺส อกุสลสฺส, โส ตโต อารมติ, อิมินา สํยเมน เวรํ น จียติ. สํยโม นาม สีลํ. ตํ จตุพฺพิธํ เจตนา สีลํ, เจตสิกํ สีลํ, สํวโร สีลํ, อวีติกฺกโม สีลนฺติ. กุสโล จ ชหาติ ปาปกนฺติ ปาปปหายกา สตฺตตฺตึส โพธิปกฺขิยา ธมฺมา วตฺตพฺพาติ. อยํ วิภตฺติ.

ปริวตฺตโนติ ททโต ปุฺํ ปวฑฺฒติ, อททโตปิ ปุฺํ ปวฑฺฒติ, น ทานมยิกํ. สํยมโต เวรํ น จียติ อสํยมโตปิ เวรํ น จียติ, ยํ ทาเนน ปฏิสงฺขานพเลน ภาวนาพเลน. กุสโล จ ชหาติ ปาปกํ, อกุสโล ปน น ชหาติ. ราคโทสโมหกฺขยา ส นิพฺพุโต, เตสํ อปริกฺขยา นตฺถิ นิพฺพุตีติ. อยํ ปริวตฺตโน.

เววจโนติ ททโต ปุฺํ ปวฑฺฒติ. ปริจฺจาคโต กุสลํ อุปจียติ. อนุโมทโตปิ ปุฺํ ปวฑฺฒติ จิตฺตปฺปสาทโตปิ เวยฺยาวจฺจกิริยายปิ. สํยมโตติ สีลสํวรโต โสรจฺจโต. เวรํ น จียตีติ ปาปํ น วฑฺฒติ, อกุสลํ น วฑฺฒติ. กุสโลติ ปณฺฑิโต นิปุโณ เมธาวี ปริกฺขโก. ชหาตีติ สมุจฺฉินฺทติ สมุคฺฆาเฏติ. อยํ เววจโน.

ปฺตฺตีติ ททโต ปุฺํ ปวฑฺฒตีติ โลภสฺส ปฏินิสฺสคฺคปฺตฺติ, อโลภสฺส นิกฺเขปปฺตฺติ. สํยมโต เวรํ น จียตีติ โทสสฺส วิกฺขมฺภนปฺตฺติ, อโทสสฺส นิกฺเขปปฺตฺติ. กุสโล จ ชหาติ ปาปกนฺติ โมหสฺส สมุคฺฆาตปฺตฺติ, อโมหสฺส ภาวนาปฺตฺติ. ราคโทสโมหสฺส ปหานปฺตฺติ, อโลภาโทสาโมหสฺส ภาวนาปฺตฺติ. ราคโทสโมหกฺขยา ส นิพฺพุโตติ กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺตฺติ, นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยปฺตฺตีติ. อยํ ปฺตฺติ.

โอตรโณติ ททโต ปุฺํ ปวฑฺฒตีติ ทานํ นาม สทฺธาทีหิ อินฺทฺริเยหิ โหตีติ อยํ อินฺทฺริเยหิ โอตรโณ. สํยมโต เวรํ น จียตีติ สํยโม นาม สีลกฺขนฺโธติ อยํ ขนฺเธหิ โอตรโณ. กุสโล จ ชหาติ ปาปกนฺติ ปาปปฺปหานํ นาม ตีหิ วิโมกฺเขหิ โหติ. เตสํ อุปายภูตานิ ตีณิ วิโมกฺขมุขานีติ อยํ วิโมกฺขมุเขหิ โอตรโณ. ราคโทสโมหกฺขยา ส นิพฺพุโตติ วิมุตฺติกฺขนฺโธ. โส จ ธมฺมธาตุ ธมฺมายตนฺจาติ อยํ ธาตูหิ จ อายตเนหิ จ โอตรโณติ. อยํ โอตรโณ.

โสธโนติ ททโตติอาทิกา ปทสุทฺธิ, โน อารมฺภสุทฺธิ. ราคโทสโมหกฺขยา ส นิพฺพุโตติ อยํ ปทสุทฺธิ จ อารมฺภสุทฺธิ จาติ. อยํ โสธโน.

อธิฏฺาโนติ ททโตติ อยํ เอกตฺตตา, จาโค ปริจฺจาโค ธมฺมทานํ อามิสทานํ อภยทานํ, อฏฺ ทานานิ วิตฺถาเรตพฺพานิ. อยํ เวมตฺตตา. สํยโมติ อยํ เอกตฺตตา. ปาติโมกฺขสํวโร สติสํวโรติ อยํ เวมตฺตตา. กุสโล จ ชหาติ ปาปกนฺติ อยํ เอกตฺตตา. สกฺกายทิฏฺึ ปชหติ วิจิกิจฺฉํ ปชหตีติอาทิกา อยํ เวมตฺตตา. ราคโทสโมหกฺขยา ส นิพฺพุโตติ อยํ เอกตฺตตา. สอุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ อนุปาทิเสสา นิพฺพานธาตูติ อยํ เวมตฺตตาติ. อยํ อธิฏฺาโน.

ปริกฺขาโรติ ทานสฺส ปาโมชฺชํ ปจฺจโย. อโลโภ เหตุ, สํยมสฺส หิโรตฺตปฺปาทโย ปจฺจโย. โยนิโสมนสิกาโร อโทโส จ เหตุ, ปาปปฺปหานสฺส สมาธิ ยถาภูตาณทสฺสนฺจ ปจฺจโย. ติสฺโส อนุปสฺสนา เหตุ, นิพฺพุติยา มคฺคสมฺมาทิฏฺิ เหตุ, สมฺมาสงฺกปฺปาทโย ปจฺจโยติ. อยํ ปริกฺขาโร.

สมาโรปโน หารสมฺปาโตติ ททโต ปุฺํ ปวฑฺฒตีติ ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ, ตํ สีลสฺส ปทฏฺานํ. สํยมโต เวรํ น จียตีติ สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ, ตํ สมาธิสฺส ปทฏฺานํ. สีเลน หิ ฌาเนนปิ ราคาทิกิเลสา น จียนฺติ. เยปิสฺส ตปฺปจฺจยา อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, เตปิสฺส น โหนฺติ. กุสโล จ ชหาติ ปาปกนฺติ ปหานปริฺา, ตํ ภาวนามยํ ปุฺกิริยวตฺถุ. ราคโทสโมหกฺขยา ส นิพฺพุโตติ ราคสฺสปิ ขยา โทสสฺสปิ ขยา โมหสฺสปิ ขยา. ตตฺถ ราโคติ โย ราโค สาราโค เจตโส สารชฺชนา โลโภ ลุพฺภนา ลุพฺภิตตฺตํ อภิชฺฌา โลโภ อกุสลมูลํ. โทโสติ โย โทโส ทุสฺสนา ทุสฺสิตตฺตํ พฺยาปาโท เจตโส พฺยาปชฺชนา โทโส อกุสลมูลํ. โมโหติ ยํ อฺาณํ อทสฺสนํ อนภิสมโย อสมฺโพโธ อปฺปฏิเวโธ ทุมฺเมชฺฌํ พาลฺยํ อสมฺปชฺํ โมโห อกุสลมูลํ. อิติ อิเมสํ ราคาทีนํ ขโย นิโรโธ ปฏินิสฺสคฺโค นิพฺพุติ นิพฺพายนา ปรินิพฺพานํ สอุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ อนุปาทิเสสา นิพฺพานธาตูติ. อยํ สมาโรปโน หารสมฺปาโต.

มิสฺสกหารสมฺปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

นยสมุฏฺานวารวณฺณนา

๗๙. เอวํ นานาสุตฺตวเสน เอกสุตฺตวเสน จ หารวิจารํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นยวิจารํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ กตมํ นยสมุฏฺาน’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. กสฺมา ปเนตฺถ ยถา ‘‘ตตฺถ กตโม เทสนาหาโร, อสฺสาทาทีนวตาติ คาถา. อยํ เทสนาหาโร กึ เทสยตี’’ติอาทินา หารนิทฺเทโส อารทฺโธ, เอวํ ‘‘ตตฺถ กตโม นนฺทิยาวฏฺโฏ, ตณฺหฺจ อวิชฺชมฺปิ จาติ คาถา, อยํ นนฺทิยาวฏฺโฏ กึ นยตี’’ติอาทินา อนารภิตฺวา สมุฏฺานมุเขน อารทฺธนฺติ? วุจฺจเต – หารนยานํ วิสยเภทโต. ยถา หิ หารา พฺยฺชนมุเขน สุตฺตสฺส อตฺถสํวณฺณนา, น เอวํ นยา. นยา ปน นานาสุตฺตโต นิทฺธาริเตหิ ตณฺหาวิชฺชาทีหิ มูลปเทหิ จตุสจฺจโยชนาย นยโต อนุพุชฺฌิยมาโน ทุกฺขาทิอตฺโถ. โส หิ มคฺคาณํ นยติ สมฺปาเปตีติ นโย. ปฏิวิชฺฌนฺตานํ ปน อุคฺฆฏิตฺุอาทีนํ ติณฺณํ เวเนยฺยานํ วเสน มูลปทวิภาคโต ติธา วิภตฺตา. เอกเมโก เจตฺถ ยโต เนติ, ยฺจ เนติ, เตสํ สํกิเลสโวทานานํ วิภาคโต ทฺวิสงฺคโห จตุฉอฏฺทิโส จาติ ภินฺโน หารนยานํ วิสโย. ตถา หิ วุตฺตํ – ‘‘หารา พฺยฺชนวิจโย, สุตฺตสฺส นยา ตโย จ สุตฺตตฺโถ’’ติ (เนตฺติ. สงฺคหวาร). เอวํ วิสิฏฺวิสยตฺตา หารนยานํ หาเรหิ อฺถา นเย นิทฺทิสนฺโต ‘‘ตตฺถ กตมํ นยสมุฏฺาน’’นฺติอาทิมาห.

ตตฺถายํ วจนตฺโถ – สมุฏฺหนฺติ เอเตนาติ สมุฏฺานํ. เก สมุฏฺหนฺติ? นยา. นยานํ สมุฏฺานํ นยสมุฏฺานํ. กึ ปน ตํ? ตํตํมูลปเทหิ จตุสจฺจโยชนา. สา หิ นนฺทิยาวฏฺฏาทีนํ นยานํ อุปฺปตฺติฏฺานตาย สมุฏฺานํ ภูมีติ จ วุจฺจติ. ตถา จ วกฺขติ – ‘‘อยํ วุจฺจติ นนฺทิยาวฏฺฏสฺส นยสฺส ภูมี’’ติ (เนตฺติ. ๘๑). ปุพฺพา โกฏิ น ปฺายติ อวิชฺชาย จ ภวตณฺหาย จาติอาทิ นนฺทิยาวฏฺฏสฺส นยสฺส ภูมิทสฺสนํ. ตตฺถ ปุพฺพา โกฏิ น ปฺายตีติ อสุกสฺส นาม พุทฺธสฺส ภควโต, อสุกสฺส วา จกฺกวตฺติโน กาเล อวิชฺชา ภวตณฺหา จ อุปฺปนฺนา. ตโต ปุพฺเพ นาโหสีติ เอวํ อวิชฺชาภวตณฺหานํ น กาจิ ปุริมา มริยาทา อุปลพฺภติ. กสฺมา? อนมตคฺคตฺตา สํสารสฺส. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อนมตคฺโคยํ, ภิกฺขเว, สํสาโร, ปุพฺพา โกฏิ น ปฺายตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๒๔; กถา. ๗๕) วิตฺถาโร. ตตฺถาติ อวิชฺชาภวตณฺหาสุ. ยทิปิ อวิชฺชาย สํโยชนภาโว, ตณฺหาย จ นีวรณภาโว ปาฬิยํ วุตฺโต, ตถาปิ อวิชฺชาย ปฏิจฺฉาทิตาทีนเวหิ ภเวหิ ตณฺหา สํโยเชตีติ อิมสฺส อตฺถสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘อวิชฺชานีวรณํ ตณฺหาสํโยชน’’นฺติ วุตฺตํ.

อวิชฺชาสํยุตฺตาติ อวิชฺชาย มิสฺสิตา, อวิชฺชาย วา อภินิเวสวตฺถูสุ พทฺธา. อวิชฺชาปกฺเขน วิจรนฺตีติ อวิชฺชาปกฺเขน อวิชฺชาสหาเยน ทฺวาทสวิเธน วิปลฺลาเสน อภินิเวสวตฺถุภูเต อารมฺมเณ ปวตฺตนฺติ. เต วุจฺจนฺติ ทิฏฺิจริตาติ เต อวิชฺชาภิภูตา รูปาทีนิ นิจฺจาทิโต อภินิวิสนฺตา ทิฏฺิจริตาติ วุจฺจนฺติ, ทิฏฺิจริตา นามาติ อตฺโถ. ตณฺหาปกฺเขนาติ อฏฺสตตณฺหาวิจริเตน. ทิฏฺิวิจริเต ตณฺหาวิจริเต จ ปฏิปตฺติยา วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ทิฏฺิจริตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อตฺตกิลมถานุโยคนฺติ อตฺตโน กายสฺส กิลิสฺสนปโยคํ อตฺตปริตาปนปฏิปตฺตึ. กามสุขลฺลิกานุโยคนฺติ กามสุขสฺส อลฺลียนปโยคํ กาเมสุ ปาตพฺยตํ.

ยทิปิ พาหิรกา ‘‘ทุกฺขํ ตณฺหา’’ติ จ ชานนฺติ ‘‘อิทํ ทุกฺขํ, เอตฺตกํ ทุกฺข’’นฺติ, ‘‘อยํ ตณฺหา, อยํ ตสฺสา วิราโค’’ติ ปริฺเยฺยปหาตพฺพภาเวน ปน น ชานนฺติ, อิติ ปวตฺติปวตฺติเหตุมตฺตมฺปิ น ชานนฺติ. กา ปน กถา นิวตฺตินิวตฺติเหตูสูติ อาห – ‘‘อิโต พหิทฺธา นตฺถิ สจฺจววตฺถาน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ สจฺจปฺปกาสนาติ สจฺจเทสนา. สมถวิปสฺสนาโกสลฺลนฺติ สมถวิปสฺสนาสุ ภาวนาโกสลฺลํ, ตาสุ อุคฺคหปริปุจฺฉาสวนมนสิการโกสลฺลํ วา. วิปสฺสนาธิฏฺานฺเจตฺถ สมถํ อธิปฺเปตํ. อุปสมสุขปฺปตฺตีติ กิเลสานํ วูปสมสุขาธิคโม. วิปรีตเจตาติ มิจฺฉาภินิวิฏฺเจตา. นตฺถิ สุเขน สุขนฺติ ยํ อนวชฺชปจฺจยปริโภคสุเขน กายํ จิตฺตฺจ ปฏิปฺปสฺสทฺธทรถํ กตฺวา อริเยหิ ปตฺตพฺพํ อุปสมสุขํ, ตํ ปฏิกฺขิปติ. ทุกฺเขนาติ กายเขทนทุกฺเขน.

โส โลกํ วฑฺฒยตีติ โส กาเม ปฏิเสเวนฺโต อตฺตภาวสงฺขาตํ โลกํ วฑฺเฒติ ปีเนติ. ปุตฺตนตฺตุปรมฺปราย วา สํสารสฺส อนุปจฺเฉทนโต สตฺตโลกํ วฑฺเฒติ. พหุํ ปุฺํ ปสวตีติ อตฺตโน ปฺจหิ กามคุเณหิ สนฺตปฺปเนน ปุตฺตมุขทสฺสเนน จ พหุํ ปุฺํ อุปฺปาเทติ. อภินิเวสสฺส นาติทฬฺหตาย เอวํสฺี. ทฬฺหตาย เอวํทิฏฺี ทุกฺเขน สุขํ ปตฺถยมานา อตฺตกิลมถานุโยคมนุยุตฺตา กาเมสุ ปุฺสฺี กามสุขลฺลิกานุโยคมนุยุตฺตา จ วิหรนฺตีติ โยเชตพฺพํ.

ตทภิฺา สนฺตาติ ตถาสฺิโน สมานา. โรคเมว วฑฺฒยนฺตีติ อตฺตภาวโรคเมว กิเลสโรคเมว วา อปราปรํ วฑฺเฒนฺติ. คณฺฑสลฺเลสุปิ เอเสว นโย. โรคาภิตุนฺนาติ ยถาวุตฺตโรคพฺยาธิตา. คณฺฑปฏิปีฬิตาติ ยถาวุตฺตคณฺฑพาธิตา. สลฺลานุวิทฺธาติ ยถาวุตฺตสลฺเลน อนุปวิฏฺา. อุมฺมุชฺชนิมุชฺชานีติ อุปปชฺชนจวนานิ. อุคฺฆาตนิคฺฆาตนฺติ อุจฺจาวจภาวํ. โรคคณฺฑสลฺลเภสชฺชนฺติ ยถาวุตฺตโรคาทิติกิจฺฉนํ, สมถวิปสฺสนํ สนฺธาย วทติ. เตเนวาห – ‘‘สมถวิปสฺสนา โรคนิคฺฆาตกเภสชฺช’’นฺติ. ตตฺถ โรคนิคฺฆาตกนฺติ โรควูปสมนํ. ‘‘สํกิเลโส ทุกฺข’’นฺติอาทินา สจฺจานิ เตสํ ปริฺเยฺยาทิภาเวน กเถติ.

ตตฺถ สํกิเลโส ทุกฺขนฺติ อตฺตกิลมถานุโยคกามสุขลฺลิกานุโยคสํกิเลสวนฺโต, เตหิ วา สํกิลิสฺสมาโน รูปารูปกาโย ทุกฺขํ อริยสจฺจํ. ตทภิสงฺโค ตณฺหาติ ตตฺถ อภิสงฺโค อาสงฺโคติ ลทฺธนามา ตณฺหา.

๘๐. อิทานิ ทิฏฺิจริตตณฺหาจริตานํ สกฺกายทิฏฺิทสฺสเน ปวตฺติเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทิฏฺิจริตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ทิฏฺิจริตา รูปํ อตฺตโต อุปคจฺฉนฺตีติ ทิฏฺิจริตา ทิฏฺาภินิเวสสฺส พลวภาวโต รูปํ ‘‘อตฺตา’’ติ คณฺหนฺติ. เตสฺหิ อตฺตาภินิเวโส พลวา, น ตถา อตฺตนิยาภินิเวโส. เอส นโย เวทนนฺติอาทีสุปิ. ตณฺหาจริตา รูปวนฺตํ อตฺตานนฺติ ตณฺหาจริตา ตณฺหาภินิเวสสฺส พลวภาวโต รูปํ อตฺตโน กิฺจนปลิโพธภาเว เปตฺวา อวเสสํ เวทนาทึ ‘‘อตฺตา’’ติ คณฺหนฺติ. อตฺตนิ วา รูปนฺติ อตฺตาธารํ วา รูปํ. รูปสฺมึ วา อตฺตานนฺติ รูปาธารํ วา อตฺตานํ. เวทนาวนฺตนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เอเตสฺหิ อตฺตนิยาภินิเวโส พลวา, น ตถา อตฺตาภินิเวโส. ตสฺมา ยถาลทฺธํ อตฺตนิยนฺติ กปฺเปตฺวา ตทฺํ ‘‘อตฺตา’’ติ คณฺหนฺติ. อยํ วุจฺจติ วีสติวตฺถุกา สกฺกายทิฏฺีติ อยํ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ เอเกกสฺมึ จตุนฺนํ จตุนฺนํ คาหานํ วเสน วีสติวตฺถุกา สติ วิชฺชมาเน ขนฺธปฺจกสงฺขาเต กาเย, สตี วา วิชฺชมานา ตตฺถ ทิฏฺีติ สกฺกายทิฏฺิ.

โลกุตฺตรา สมฺมาทิฏฺีติ ปมมคฺคสมฺมาทิฏฺิ. อนฺวายิกาติ สมฺมาทิฏฺิยา อนุคามิโน. ยทา สมฺมาทิฏฺิ สกฺกายทิฏฺิยา ปชหนวเสน ปวตฺตา, ตทา ตสฺสา อนุคุณภาเวน ปวตฺตมานกาติ อตฺโถ. เก ปน เตติ? อาห ‘‘สมฺมาสงฺกปฺโป’’ติอาทิ. ‘‘เต ตโย ขนฺธา’’ติอาทินา อริยมคฺคโต ขนฺธมุเขน สมถวิปสฺสนา นิทฺธาเรติ. ‘‘ตตฺถ สกฺกาโย’’ติอาทิ จตุสจฺจนิทฺธารณํ. ตํ สพฺพํ สุวิฺเยฺยเมว.

ปุน ‘‘ตตฺถ เย รูปํ อตฺตโต อุปคจฺฉนฺตี’’ติอาทินา สกฺกายทสฺสนมุเขน อุจฺเฉทาทิอนฺตทฺวยํ, มชฺฌิมฺจ ปฏิปทํ นิทฺธาเรติ. ตตฺถ อิเม วุจฺจนฺติ อุจฺเฉทวาทิโนติ อิเม รูปาทิเก ปฺจกฺขนฺเธ อตฺตโต อุปคจฺฉนฺตา รูปาทีนํ อนิจฺจภาวโต อุจฺฉิชฺชติ อตฺตา วินสฺสติ น โหติ ปรํ มรณาติ เอวํ อภินิวิสนโต ‘‘อุจฺเฉทวาทิโน’’ติ วุจฺจนฺติ. อิเม วุจฺจนฺติ สสฺสตวาทิโนติ อิเม ‘‘รูปวนฺตํ วา อตฺตาน’’นฺติอาทินา รูปาทิวินิมุตฺโต อฺโ โกจิ อตฺตาติ อุปคจฺฉนฺตา ‘‘โส นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต’’ติ อภินิวิสนโต ‘‘สสฺสตวาทิโน’’ติ วุจฺจนฺติ. ‘‘อุจฺเฉทสสฺสตวาทา อุโภ อนฺตา, อยํ สํสารปวตฺตี’’ติอาทิ สจฺจนิทฺธารณํ, ตํ สุวิฺเยฺยํ.

อุจฺเฉทสสฺสตํ สมาสโต วีสติวตฺถุกา สกฺกายทิฏฺีติ อตฺตา อุจฺฉิชฺชติ อตฺตา นิจฺโจติ จ อาทิปฺปวตฺตนโต อุจฺเฉทสสฺสตทสฺสนํ สงฺเขปโต วีสติวตฺถุกา สกฺกายทิฏฺิ เอว โหติ. สพฺโพปิ หิ อตฺตวาโท สกฺกายทิฏฺิอนฺโตคโธ เอวาติ. วิตฺถารโต ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานีติ อุจฺเฉทสสฺสตทสฺสนํ วิตฺถาเรน พฺรหฺมชาเล (ที. นิ. ๑.๒๘ อาทโย) อาคตานิ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ. เตสนฺติ เอวํ สงฺเขปวิตฺถารวนฺตานํ อุจฺเฉทสสฺสตทสฺสนานํ. ปฏิปกฺโขติ ปหายกปฏิปกฺโข. เตจตฺตาลีสํ โพธิปกฺขิยา ธมฺมาติ อนิจฺจสฺา ทุกฺขสฺา อนตฺตสฺา ปหานสฺา วิราคสฺา นิโรธสฺา จตฺตาโร สติปฏฺานา…เป… อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโคติ เอเต เตจตฺตาลีสํ โพธิปกฺขิยา ธมฺมา.

เอวํ วิปสฺสนาวเสน ปฏิปกฺขํ ทสฺเสตฺวา ปุน สมถวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘อฏฺ วิโมกฺขา ทส จ กสิณายตนานี’’ติ วุตฺตํ. ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ โมหชาลนฺติ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ โมหชาลเหตุกตฺตา โมหชาลฺจ. อนาทิอนิธนปฺปวตฺตนฺติ ปุริมาย โกฏิยา อภาวโต อนาทิ. อสติ ปฏิปกฺขาธิคเม สนฺตานวเสน อนุปจฺเฉเทน ปวตฺตนโต อนิธนปฺปวตฺตํ. ยสฺมา ปน โมหชาลเหตุกานิ ทิฏฺิคตานิ โมหชาเล ปทาลิเต ปทาลิตานิ โหนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘เตจตฺตาลีสํ โพธิปกฺขิยา ธมฺมา าณวชิรํ โมหชาลปฺปทาลน’’นฺติ.

ตตฺถ าณวชิรนฺติ วชิรูปมาณํ. อฏฺ สมาปตฺติโย สมาปชฺชิตฺวา เตเชตฺวา ติกฺขสภาวํ อาปาทิตํ วิปสฺสนาาณํ มคฺคาณฺจ าณวชิรํ. อิทเมว หิ าณํ ภควโต ปวตฺตํ ‘‘มหาวชิราณ’’นฺติ วุจฺจติ. ตํ ปน สสมฺภารํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘เตจตฺตาลีสํ โพธิปกฺขิยา ธมฺมา’’ติ อาห. โมหชาลปฺปทาลนนฺติ ปุพฺพภาเค วิกฺขมฺภนวเสน มคฺคกฺขเณ สมุจฺเฉทวเสน อวิชฺชาภวตณฺหานํ ปทาลนํ. อตีตาทิเภทภินฺเนสุ รูปาทีสุ สกอตฺตภาวาทีสุ จ สํสิพฺพนวเสน ปวตฺตนโต ชาลํ ภวตณฺหา. ตสฺสา หิ ตณฺหา ชาลินี สิพฺพินี ชาลนฺติ จ อธิวจนนฺติ. เอวํ อตฺตกิลมถานุโยคกามสุขลฺลิกานุโยคทิฏฺิตณฺหาภินิเวสสสฺสตุจฺเฉทานํ นิทฺธารณวเสน โมหชาลปริยายวิเสสโต อวิชฺชาตณฺหา วิภชิตฺวา ยถานุสนฺธินา สํกิเลสปกฺขํ นิคเมนฺโต ‘‘เตน วุจฺจติ ปุพฺพา โกฏิ น ปฺายติ อวิชฺชาย จ ภวตณฺหาย จา’’ติ อาห.

๘๑. ‘‘ตตฺถ ทิฏฺิจริโต’’ติอาทินา โวทานปกฺขํ ทสฺเสติ. ตตฺถ สลฺเลขานุสนฺตตวุตฺตีติ อนุปทฺทุตสลฺเลขวุตฺติ. กสฺมา? ยสฺมา สลฺเลเข ติพฺพคารโว. ทิฏฺิจริโต หิ ตโปชิคุจฺฉาทินา อนุปาเยนปิ เยภุยฺเยน กิเลสานํ สลฺเลขนาธิปฺปาเยน จรติ, ตสฺมา โส สาสเน ปพฺพชิโต ธุตธมฺมวเสน สลฺเลขปฏิปทํ ปูเรติ. สิกฺขานุสนฺตตวุตฺตีติ อจฺฉิทฺทจตุปาริสุทฺธิสีลวุตฺติ. ทิฏฺิยา สวิสเย ปฺาสทิสี ปวตฺตีติ โส วิสุชฺฌมาโน ปฺาธิโก โหตีติ อาห – ‘‘ทิฏฺิจริโต สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมนฺโต ธมฺมานุสารี ภวตี’’ติ. ตณฺหาวเสน มิจฺฉาวิโมกฺโข โหตีติ ตณฺหาจริโต วิสุชฺฌมาโน สทฺธาธิโกว โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘ตณฺหาจริโต สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมนฺโต สทฺธานุสารี ภวตี’’ติ. ทิฏฺิจริโต สุขาย ปฏิปทายาติอาทิ ปฏิปทานิทฺเทโส เหฏฺา เทสนาหารวิภงฺเค (เนตฺติ. ๕ อาทโย) อาคโต เอว, อตฺโถปิ ตตฺถ สพฺพปฺปการโต วุตฺโต เอว.

อปุพฺพปเทสุ ปน วิเวจิยมาโนติ วิโมจิยมาโน. ปฏินิสฺสรตีติ นิยฺยาติ วิมุจฺจตีติ อตฺโถ. ทนฺธฺจ ธมฺมํ อาชานาตีติ ตณฺหาจริตสฺส มนฺทปฺสฺส วเสน วุตฺตํ. ติกฺขปฺโ ปน ขิปฺปํ ธมฺมํ อาชานาตีติ. ‘‘สตฺตาปิ ทุวิธา’’ติอาทินา อินฺทฺริยวิภาเคน ปุน ปฏิปทาวิภาคํ ทสฺเสติ, ตํ สุวิฺเยฺยํ.

‘‘เย หิ เกจี’’ติอาทินา ตาสํ ปฏิปทานํ นิยฺยาเน ตีสุปิ กาเลสุ เอกนฺติกภาวํ ทสฺเสติ. ตตฺถ อิมาหิ เอว จตูหิ ปฏิปทาหีติ อิมาหิ เอว จตูหิ ปฏิปทาหิ, ตพฺพินิมุตฺตาย อฺาย ปฏิปทาย อภาวโต. จตุกฺกมคฺคนฺติ ปฏิปทาจตุกฺกํ, ปฏิปทา หิ มคฺโคติ. อถ วา จตุกฺกมคฺคนฺติ นนฺทิยาวฏฺฏสฺส จตุทฺทิสาสงฺขาตํ มคฺคํ. ตา ปน จตสฺโส ทิสา ทิสาโลจนนเย อาคมิสฺสนฺติ. กิมตฺถํ ปน จตุกฺกมคฺคํ ปฺเปนฺตีติ อาห ‘‘อพุธชนเสวิตายา’’ติอาทิ. ตตฺถ อพุธชนเสวิตายาติ อปณฺฑิตชนเสวิตาย. พาลกนฺตายาติ พาลชนกามิตาย. รตฺตวาสินิยาติ รตฺเตสุ ราคาภิภูเตสุ วสตีติ รตฺตวาสินี, ตสฺสา. นนฺทิยาติ ตตฺร ตตฺราภินนฺทนฏฺเน นนฺทีสงฺขาตาย. อวฏฺฏนตฺถนฺติ สมุจฺฉินฺทนตฺถํ. อยํ วุจฺจติ นนฺทิยาวฏฺฏสฺส นยสฺส ภูมีติ อยํ ตณฺหาวิชฺชานํ วเสน สํกิเลสปกฺเข ทฺเว ทิสา สมถวิปสฺสนานํ วเสน โวทานปกฺเขปิ ทฺเว ทิสา จตุสจฺจโยชนา นนฺทิยาวฏฺฏสฺส นยสฺส สมุฏฺานตาย ภูมีติ.

๘๒. เอวํ นนฺทิยาวฏฺฏสฺส นยสฺส ภูมึ นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ ตสฺส ทิสาภูตธมฺเม นิทฺทิสนฺเตน ยสฺมา จสฺส ทิสาภูตธมฺเมสุ วุตฺเตสุ ทิสาโลจนนโย วุตฺโตเยว โหติ, ตสฺมา ‘‘เวยฺยากรเณสุ หิ เย กุสลากุสลา’’ติ ทิสาโลจนลกฺขณํ เอกเทเสน ปจฺจามสิตฺวา ‘‘เต ทุวิธา อุปปริกฺขิตพฺพา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เตติ ทิสาภูตธมฺมา. ทุวิธาติ ‘‘อิเม สํกิเลสธมฺมา, อิเม โวทานธมฺมา’’ติ เอวํ ทุวิเธน. อุปปริกฺขิตพฺพาติ อุปปตฺติโต ปริโต อิกฺขิตพฺพา, ธมฺมยุตฺติโต ตํตํทิสาภาเวน เปกฺขิตพฺพา อาโลจิตพฺพาติ อตฺโถ.

ยํ ปการํ สนฺธาย ‘‘ทุวิธา อุปปริกฺขิตพฺพา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ทสฺเสติ ‘‘โลกวฏฺฏานุสารี จ โลกวิวฏฺฏานุสารี จา’’ติ. ตสฺสตฺโถ – โลโก เอว วฏฺฏํ โลกวฏฺฏํ. โลกวฏฺฏภาเวน อนุสรติ ปวตฺตตีติ โลกวฏฺฏานุสารี, สํกิเลสธมฺโมติ อตฺโถ. โลกสฺส, โลกโต วา วิวฏฺฏํ โลกวิวฏฺฏํ, นิพฺพานํ. ตํ อนุสรติ อนุโลมนวเสน คจฺฉตีติ โลกวิวฏฺฏานุสารี, โวทานธมฺโมติ อตฺโถ. เตเนวาห – ‘‘วฏฺฏํ นาม สํสาโร, วิวฏฺฏํ นิพฺพาน’’นฺติ.

ตํ กถํ ทฏฺพฺพนฺติ ตํ กถํ เกน ปกาเรน ทฏฺพฺพนฺติ เจ? อุปจเยน. ยถา กตํ กมฺมํ ผลทานสมตฺถํ โหติ, ตถา กตํ อุปจิตนฺติ วุจฺจติ. เอวํ อุปจิตภาเว กมฺมํ นาม โหติ, วิปากวฏฺฏสฺส การณํ โหตีติ อตฺโถ. สพฺเพปิ กิเลสา จตูหิ วิปลฺลาเสหิ นิทฺทิสิตพฺพา, ทสนฺนมฺปิ กิเลสานํ วิปลฺลาสเหตุภาวโต. เต กตฺถ ทฏฺพฺพาติ เต ปน วิปลฺลาสา กตฺถ ปสฺสิตพฺพาติ อาห – ‘‘ทส วตฺถุเก กิเลสปุฺเช’’ติ. ทสวิธการเณ กิเลสสมูเหติ อตฺโถ. ตตฺถ กิเลสาปิ กิเลสวตฺถุ, กิเลสานํ ปจฺจยธมฺมาปิ กิเลสวตฺถุ. เตสุ การณภาเวน ปุริมสิทฺธา กิเลสา ปรโต ปเรสํ กิเลสานํ ปจฺจยภาวโต กิเลสาปิ กิเลสวตฺถุ. อโยนิโสมนสิกาโร, อโยนิโสมนสิการปริกฺขตา จ ธมฺมา กิเลสุปฺปตฺติเหตุภาวโต กิเลสปฺปจฺจยาปิ กิเลสวตฺถูติ ทฏฺพฺพํ.

จตฺตาโร อาหาราติ เอตฺถ อาหารสีเสน ตพฺพิสยา กิเลสาปิ อธิปฺเปตา. จตสฺโส วิฺาณฏฺิติโยติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ‘‘ปเม อาหาเร’’ติอาทินา ทสวตฺถุเก กิเลสปุฺเช ปุริมํ ปุริมํ ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส การณนฺติ ทสฺเสติ. ตตฺถ ปเม อาหาเรติ วิสยภูเต ปเม อาหาเร ปโม วิปลฺลาโส ปวตฺตตีติ อตฺโถ. เสสาหาเรสุปิ เอเสว นโย. ปเม วิปลฺลาเสติ ปเม วิปลฺลาเส อปฺปหีเน สติ ปมํ อุปาทานํ ปวตฺตตีติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ นิทฺเทเสเยว กถยิสฺสาม.

๘๓. อิทานิ ทสวตฺถุกํ กิเลสปุฺชํ ตณฺหาวิชฺชาวเสน ทฺเว โกฏฺาเส กโรนฺโต ‘‘โย จ กพฬีกาโร อาหาโร’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กพฬีการาหารํ ผสฺสาหารฺจ อปริชานนฺตสฺส ตณฺหาจริตสฺส ยถากฺกมํ กายเวทนาสุ ติพฺโพ ฉนฺทราโค โหติ, อิติ อุปกฺกิเลสสฺส ฉนฺทราคสฺส เหตุภาวโต โย จ กพฬีกาโร อาหาโร, โย จ ผสฺโส อาหาโร, อิเม ตณฺหาจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสาติ วุตฺตา. ตถา มโนสฺเจตนาหารํ วิฺาณาหารฺจ อปริชานนฺโต ทิฏฺิจริโต เตสุ อตฺตสฺี นิจฺจสฺี จ โหตีติ วุตฺตนเยเนว เต ทิฏฺิจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสาติ วุตฺตา. ตถา ปุริมกา ทฺเว วิปลฺลาสา ปุริมกานิ เอว จ ทฺเว ทฺเวอุปาทานโยคคนฺถาสวโอฆสลฺลวิฺาณฏฺิติอคติคมนานิ ตณฺหาปธานตฺตา ตณฺหาสภาวตฺตา ตณฺหาวิสยตฺตา จ ตณฺหาจริตสฺส อุปกฺกิเลสาติ วุตฺตา. ปจฺฉิมกานิ ปน ตานิ ทิฏฺิปธานตฺตา ทิฏฺิสภาวตฺตา ทิฏฺิวิสยตฺตา จ ทิฏฺิจริตสฺส อุปกฺกิเลสาติ วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา.

๘๔. กพฬีกาเร อาหาเร ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ วิปลฺลาโสติ จตูสุ อาหาเรสุ กพฬีกาเร อาหาเร จตูสุ จ วิปลฺลาเสสุ ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ วิปลฺลาโส ทฏฺพฺโพ กพฬีการาหารสฺส อสุภสภาวตฺตา อสุภสมุฏฺานตฺตา จ. ตถา ผสฺสาหารสฺส ทุกฺขสภาวตฺตา ทุกฺขปจฺจยตฺตา จ วิเสสโต ตตฺถ ‘‘ทุกฺเข สุข’’นฺติ วิปลฺลาโส. ตถา เยภุยฺเยน สตฺตา วิฺาเณ นิจฺจสฺิโน, สงฺขาเรสุ จ อตฺตสฺิโน, เจตนาปธานา จ สงฺขาราติ วุตฺตํ – ‘‘วิฺาเณ อาหาเร…เป… อตฺตาติ วิปลฺลาโส’’ติ. ปเม วิปลฺลาเส ิโต กาเม อุปาทิยตีติ ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ วิปริเยสคฺคาหี กิเลสกาเมน วตฺถุกาเม ทฬฺหํ คณฺหาติ. อิทํ วุจฺจติ กามุปาทานนฺติ ยํ ตถา กามานํ คหณํ, อิทํ วุจฺจติ กามุปาทานํ. ‘‘ทุกฺเข สุข’’นฺติ วิปริเยสคฺคาหี ‘‘สีลพฺพเตหิ อนาคเต ภววิสุทฺธีติ ตํ นิพฺพุติสุข’’นฺติ ทฬฺหํ คณฺหาติ. ‘‘อนิจฺเจ นิจฺจ’’นฺติ วิปริเยสคฺคาหี ‘‘สพฺเพ ภวา นิจฺจา ธุวา สสฺสตา อวิปริณามธมฺมา’’ติ สํสาราภินนฺทินึ ภวทิฏฺึ ทฬฺหํ คณฺหาติ. ‘‘อนตฺตนิ อตฺตา’’ติ วิปริเยสคฺคาหี ‘‘อสติ อตฺตนิ กสฺสิทํ กมฺมผลํ, ตสฺมา โส กโรติ, โส ปฏิสํเวเทตี’’ติ อตฺตทิฏฺึ ทฬฺหํ คณฺหาตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘ทุติเย วิปลฺลาเส ิโต’’ติอาทินา.

อยํ วุจฺจติ กามโยโคติ เยน กามราคสงฺขาเตน กามุปาทาเนน วตฺถุกาเมหิ สห สตฺโต สํโยชียติ, อยํ กามราโค ‘‘กามโยโค’’ติ วุจฺจติ. อยํ วุจฺจติ ภวโยโคติ ยโต สีลพฺพตุปาทานสงฺขาเตน ภวุปาทาเนน ภเวน สห สตฺโต สํโยชียติ, อยํ ภวราโค ‘‘ภวโยโค’’ติ วุจฺจติ. อยํ วุจฺจติ ทิฏฺิโยโคติ ยาย อเหตุกทิฏฺิอาทิสงฺขาตาย ปาปิกาย ทิฏฺิยา, สกฺกายทิฏฺิอาทิอวสิฏฺทิฏฺิยา จ สตฺโต ทุกฺเขน สห สํโยชียติ, อยํ ปาปิกา ทิฏฺิ ‘‘ทิฏฺิโยโค’’ติ วุจฺจติ. อยํ วุจฺจติ อวิชฺชาโยโคติ ยาย อตฺตวาทุปาทาเนน สกลวฏฺฏทุกฺเขน จ สห สตฺโต สํโยชียติ, อยํ อวิชฺชา ‘‘อวิชฺชาโยโค’’ติ วุจฺจติ.

ยสฺมา ปน กามโยคาทโย อภิชฺฌากายคนฺถาทีนํ ปจฺจยา โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘ปเม โยเค ิโต อภิชฺฌาย กายํ คนฺถตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อภิชฺฌาย กายํ คนฺถตีติ ปราภิชฺฌายนลกฺขณาย อภิชฺฌาย นามกายํ คนฺถติ ฆฏฺเฏตีติ อตฺโถ. ตถา ภวปตฺถนาย อปฺปหีนตฺตา ภวทิฏฺิภวราควเสน อาฆาตวตฺถูสุ สตฺตา จิตฺตานิ ปทูเสนฺตีติ อาห – ‘‘ทุติเย โยเค ิโต พฺยาปาเทน กายํ คนฺถตี’’ติ. ตถา ทิฏฺิวเสน อวิชฺชาวเสน จ สีลพฺพเตหิ สุชฺฌติ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ จ อภินิวิสตีติ อาห – ‘‘ตติเย…เป… อิทํสจฺจาภินิเวเสน กายํ คนฺถตี’’ติ.

ตสฺสาติ ตสฺส อภิชฺฌาทีหิ สมนฺนาคตสฺส ปุคฺคลสฺส. เอวํ คนฺถิตาติ เอวํ อภิชฺฌายนาทิวเสน นามกายํ คนฺถิตฺวา ิตา. อาสวนฺตีติ อาสวภาเวน ปวตฺตนฺติ. กุโต จ วุจฺจติ อาสวนฺตีติ กุโต ปน เหตุโต เต กิเลสา อาสวนฺตีติ อาสวเหตุํ ปุจฺฉติ. ยสฺมา ปน กิเลสา กุสลปฺปวตฺตึ นิวาเรตฺวา จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺตา, มคฺเคน อสมุจฺฉินฺนา เอว วา อาสวานํ อุปฺปตฺติเหตุ โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘อนุสยโต วา ปริยุฏฺานโต วา’’ติ วุตฺตํ. อภิชฺฌากายคนฺเถน กามาสโวติ อภิชฺฌากายคนฺเถน สิทฺเธน กามราคสภาวตฺตา กามาสโว สิทฺโธ โหติ. กตฺถจิเทว วิสเย โทมนสฺสิโต ตปฺปฏิปกฺเข วิสเย ตพฺพิสยพหุเล จ ภเว ปตฺเถตีติ อาห – ‘‘พฺยาปาทกายคนฺเถน ภวาสโว’’ติ. ปรามาสกายคนฺเถน ทิฏฺาสโวติ สีลพฺพตปรามาสกายคนฺเถน สิทฺเธน ตํสภาวตฺตา อปราปรํ วา ทิฏฺิโย คนฺเถนฺตสฺส ทิฏฺาสโว สิทฺโธ โหติ. อิทํสจฺจาภินิเวสกายคนฺเถน อวิชฺชาสโวติ ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ อภินิวิสนฺตสฺส อโยนิโสมนสิการโต อเนเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สทฺธึ อวิชฺชาสโว อุปฺปชฺชติ, สพฺเพสํ วา อกุสลธมฺมานํ อวิชฺชาปุพฺพงฺคมตฺตา อิทํสจฺจาภินิเวสกายคนฺเถน สิทฺเธน ตสฺส เหตุภูโต อวิชฺชาสโว สิทฺโธ โหติ.

ยสฺมา ปน อาสวา เอว ปริพุทฺธา วฏฺฏสฺมึ โอหนนฺติ โอสาเทนฺตีติ ‘‘โอฆา’’ติ วุจฺจนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘ตสฺส อิเม จตฺตาโร อาสวา’’ติอาทิ.

อนุสยสหคตาติ อนุสยภาวํ อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา คตา ปวตฺตา, อนุสยภูตา วา. อชฺฌาสยนฺติ จิตฺตํ. อนุปวิฏฺาติ โอคาฬฺหา. หทยํ อาหจฺจ ติฏฺนฺตีติ จิตฺตสฺส อพฺภนฺตรสงฺขาตํ หทยํ อาหนฺตฺวา ติฏฺนฺติ. ตถา หิ วุตฺตํ อฏฺสาลินิยํ (ธ. ส. อฏฺ. ๕) ‘‘อพฺภนฺตรฏฺเน หทย’’นฺติ. เตน วุจฺจนฺติ สลฺลาติ ยสฺมา อชฺฌาสยํ อนุปวิฏฺา หทยํ อาหจฺจ ติฏฺนฺติ, เตน วุจฺจนฺติ ‘‘สลฺลา’’ติ. ปีฬาชนนํ ทุรุทฺธรณตา จ สลฺลฏฺโ. ‘‘เอโส เม อตฺตา’’ติ คหณมุเขน ‘‘เอโสหมสฺมี’’ติ คหณํ โหตีติ ทิฏฺึ นิสฺสายปิ มานํ ชปฺเปนฺตีติ อาห ‘‘ทิฏฺโเฆน มานสลฺโล’’ติ.

ปริยาทินฺนนฺติ อฺสฺส โอกาสํ อทตฺวา สมนฺตโต คหิตํ. จตูสุ ธมฺเมสุ สณฺหตีติ อารมฺมณปจฺจยตาย อารมฺมณภูเตสุ จตูสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺหติ. ตานิ สรูปโต ทสฺเสติ ‘‘รูเป เวทนาย สฺาย สงฺขาเรสู’’ติ. นนฺทูปเสจเนนาติ โลภสหคตสฺส สมฺปยุตฺตา นนฺที สหชาตโกฏิยา, อิตรสฺส อุปนิสฺสยโกฏิยา อุปเสจนนฺติ นนฺทูปเสจนํ, เตน นนฺทูปเสจเนน. เกน ปน ตํ นนฺทูปเสจนนฺติ อาห – ‘‘ราคสลฺเลน นนฺทูปเสจเนน วิฺาเณนา’’ติ.

ตตฺถ ราคสลฺเลนาติ ราคสลฺเลน เหตุภูเตน นนฺทูปเสจเนน วิฺาเณนาติ อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ กรณวจนํ. รูปูปคา วิฺาณฏฺิตีติ รูปเมว อารมฺมณกรณวเสน อุปคนฺตพฺพโต, วิฺาณสฺส ปติฏฺาภาวโต จ รูปูปคา วิฺาณฏฺิติ. ติฏฺติ เอตฺถาติ ิติ. ปฺจโวการภวสฺมิฺหิ อภิสงฺขารวิฺาณํ รูปกฺขนฺธํ นิสฺสาย ติฏฺติ. โทสสลฺเลนาติ สหชาเตน โทสสลฺเลน. ยทา เวทนูปคา วิฺาณฏฺิติ วุจฺจติ, ตทา อุปนิสฺสยโกฏิยาว นนฺทิยา อุปสิตฺตํ วิฺาณํ ทฏฺพฺพํ. เวทนาปิ โทมนสฺสเวทนาว. ยทา จ อุปนิสฺสยปจฺจยภูเตน โทสสลฺเลน เวทนูปคา วิฺาณฏฺิติ วุจฺจติ, ตทา สหชาตโกฏิยา, อุปนิสฺสยโกฏิยา วา นนฺทิยา อุปสิตฺตํ วิฺาณํ ทฏฺพฺพํ. เวทนา ปน ติสฺโสปิ ติสฺสนฺนํ เวทนานํ อารมฺมณูปนิสฺสยภาวโต. ตตฺถ ปมนโย โทมนสฺสารมฺมณสฺส อภิสงฺขารวิฺาณสฺส วเสน วุตฺโต. ทุติโย สพฺพเวทนารมฺมณสฺส วเสนาปิ ทฏฺพฺพํ.

มานสลฺเลนาติ มานสลฺเลน สหชาเตน, อุปนิสฺสยภูเตน วา. โมหสลฺเลนาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ อนาทิมติสํสาเร อิตฺถิปุริสา รูปาภิรามาติ ราคสลฺลวเสน ปมา วิฺาณฏฺิติ โยชิตา. สพฺพายปิ เวทนาย ทุกฺขปริยายสพฺภาวโต ทุกฺขาย จ โทโส อนุเสตีติ โทสสลฺลวเสน ทุติยา, สฺาวเสน ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มฺนา โหตีติ มานสลฺลวเสน ตติยา, สงฺขาเรสุ สมูหฆนํ ทุพฺพินิพฺโภคนฺติ โมหสลฺลวเสน จตุตฺถี วิฺาณฏฺิติ โยชิตาติ ทฏฺพฺพา.

อุปตฺถทฺธนฺติ โอลุพฺภารมฺมณภูตาหิ วิฺาณฏฺิตีหิ อุปตฺถมฺภิตํ. ตฺจ กมฺมนฺติ ยํ ‘‘เจตนา เจตสิก’’นฺติ ปุพฺเพ (เนตฺติ. ๘๒) วุตฺตํ. อิเม จ กิเลสาติ อิเม จ ทสวตฺถุกา กิเลสา. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

๘๕. อิทานิ อาหาราทโย นยานํ สํกิเลสปกฺเข ทิสาภาเวน ววตฺถเปตุํ ‘‘อิมา จตสฺโส ทิสา’’ติอาทิ อารทฺธํ, ตํ อุตฺตานเมว. ปุน กพฬีกาโร อาหาโรติอาทิ อาหาราทีสุเยว ยสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา, ตํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ อารทฺธํ. ตตฺถ ทสนฺนํ สุตฺตานนฺติ เอกเทเสสุ สมุทายโวหาเรน วุตฺตํ. สมุทาเยสุ หิ ปวตฺตา สมฺา อวยเวสุปิ ทิสฺสติ, ‘‘ยถา ปโฏ ทฑฺโฒ, สมุทฺโท ทิฏฺโ’’ติ จ. เอโก อตฺโถติ เอกสฺส อตฺถสฺส นิปฺผาทนโต วุตฺตํ. พฺยฺชนเมว นานนฺติ เอตฺถ พฺยฺชนคฺคหเณน พฺยฺชนตฺโถปิ คหิโตติ ทฏฺพฺพํ. ทสหิปิ สุตฺตปเทหิ สวตฺถุกา ตณฺหา วุตฺตา. ตณฺหา จ ราคจริตํ ปุคฺคลํ ขิปฺปํ ทูเสตีติ อาห – ‘‘อิเม ราคจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา’’ติ. ยถา จ ปมทิสาภาเวน วุตฺตธมฺมา ราคจริตสฺส อุปกฺกิเลสา, เอวํ ทุติยทิสาภาเวน วุตฺตธมฺมา โทสจริตสฺส. ตติยจตุตฺถทิสาภาเวน วุตฺตธมฺมา ยถากฺกมํ ทิฏฺิจริตสฺส มนฺทสฺส ติกฺขสฺส จ อุปกฺกิเลสา วุตฺตา. เตสํ อุปกฺกิเลสภาโว วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺโพ.

อาหารวิปลฺลาสาทโย ยทิปิ สพฺเพหิ ตีหิ วิโมกฺขมุเขหิ ปุพฺพภาเค ยถารหํ ปริฺเยฺยา ปหาตพฺพา จ. ยสฺส ปน ทุกฺขานุปสฺสนา ปุริเม อาหารทฺวเย ทุกฺขากาเรน พหุลํ ปวตฺตติ, ตสฺส วเสน โย จ กพฬีกาโร อาหาโร, โย จ ผสฺโส อาหาโร, อิเม อปฺปณิหิเตน วิโมกฺขมุเขน ปริฺํ คจฺฉนฺตีติ วุตฺตํ. เอส นโย เสเสสุ. เอวฺเจตํ, น อฺถา. น หิ อริยมคฺคานํ วิย ปหาตพฺเพสุ วิโมกฺขมุขานํ ปริฺเยฺยปหาตพฺเพสุ โกจิ นิยโม สมฺภวติ. อิติ สพฺเพ โลกวฏฺฏานุสาริโน ธมฺมา นิยฺยนฺติ, เต โลกา ตีหิ วิโมกฺขมุเขหีติ นิคมนํ. ตสฺสตฺโถ – อิติ เอวํ วุตฺตปฺปการา สพฺเพ อาหาราทโย โลกสงฺขาตวฏฺฏานุสาริโน ธมฺมา เต โลกภูตา วฏฺฏโต นิยฺยนฺติ อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ ตีหิ วิโมกฺขมุเขหีติ.

๘๖. เอวํ สํกิเลสปกฺเข ทิสาภูตธมฺเม นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ โวทานปกฺเข ทิสาภูตธมฺเม ทสฺเสตุํ ‘‘จตสฺโส ปฏิปทา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ทิพฺพพฺรหฺมอริยอาเนฺชวิหาโรติ จตฺตาโร วิหารา. มานปฺปหานอาลยสมุคฺฆาตอวิชฺชาปหานภวูปสมา จตฺตาโร อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา. สจฺจาธิฏฺานาทีนิ จตฺตาริ อธิฏฺานานิ. ฉนฺทสมาธิภาวนาทโย จตสฺโส สมาธิภาวนา. อินฺทฺริยสํวโร ตปสงฺขาโต ปุฺธมฺโม โพชฺฌงฺคภาวนา สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺคสงฺขาตํ นิพฺพานฺจาติ จตฺตาโร สุขภาคิยา ธมฺมา เวทิตพฺพาติ.

ปมา ปฏิปทาติอาทิ ปฏิปทาสติปฏฺานาทีนํ อเภทสนฺทสฺสนํ. ยทิ เอวํ กสฺมา วิสุํ คหณํ กตนฺติ? ทสวตฺถุกสฺส กิเลสปุฺชสฺส ปฏิปกฺขภาวทสฺสนตฺถํ ปฏิปทาทิทสกนิทฺเทโส. ตถา หิ วกฺขติ – ‘‘จตฺตาโร อาหารา เตสํ ปฏิปกฺโข จตสฺโส ปฏิปทา’’ติอาทิ (เนตฺติ. ๘๗). กิฺจาปิ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ ‘‘อิทํ นาม สติปฏฺานํ อิมาย เอว ปฏิปทาย อิชฺฌตี’’ติ นิยโม นตฺถิ, ตถาปิ ปมาย ปฏิปทาย ปมํ สติปฏฺานํ สมฺภวตีติ สมฺภววเสน เอวํ วุตฺตํ – ‘‘ปมา ปฏิปทา, ปมํ สติปฏฺาน’’นฺติ. ยสฺมา ปน อาหารวิปลฺลาสาทีนํ วิย ปฏิปทาสติปฏฺานาทีนํ อตฺถโต นานตฺตํ นตฺถิ. สติปฏฺานานิเยว หิ ตถา ตถา ปฏิปชฺชมานานิ ทุกฺขาปฏิปทาทนฺธาภิฺาทินามกานิ โหนฺติ, ตสฺมา ยถา สํกิเลสปกฺเข ‘‘ปเม อาหาเร ปโม วิปลฺลาโส’’ติอาทินา อธิกรณเภเทน วุตฺตํ, เอวํ อธิกรณเภทํ อกตฺวา ‘‘ปมา ปฏิปทา, ปมํ สติปฏฺาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.

อนฺธสฺส ปพฺพตาโรหนํ วิย กทาจิเทว อุปฺปชฺชนกํ อจฺฉริยํ, อจฺฉราโยคฺคํ อจฺฉริยนฺติ โปราณา. อภูตปุพฺพํ ภูตนฺติ อพฺภุตํ. อุภยมฺเปตํ วิมฺหยาวหสฺส อธิวจนํ. น หิ มานปฺปหานาทิโต อฺํ ทุรภิสมฺภวตรํ วิมฺหนียฺจ อุปลพฺภตีติ อธิติฏฺติ เอเตน, เอตฺถ วา อธิฏฺานมตฺตเมว วา ตนฺติ อธิฏฺานํ. สจฺจฺจ ตํ อธิฏฺานฺจ, สจฺจสฺส วา อธิฏฺานํ, สจฺจํ อธิฏฺานํ เอตสฺสาติ วา สจฺจาธิฏฺานํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. สมาธิ เอว ภาเวตพฺพตาย สมาธิภาวนา. สุขํ ภชตีติ สุขภาคิโย, สุขภาคสฺส วา สุขโกฏฺาสสฺส หิโตติ สุขภาคิโย. เอกสฺสปิ สตฺตสฺส อสุภภาวนาทโย วิย เอกเทเส อวตฺติตฺวา อนวเสสปริยาทานโต นตฺถิ เอติสฺสา ปมาณนฺติ อปฺปมฺา.

ปมา ปฏิปทา ภาวิตา พหุลีกตา ปมํ สติปฏฺานํ ปริปูเรตีติ ปมาย ปฏิปทาย ภาวนาพหุลีกาโร ปมสฺส สติปฏฺานสฺส ภาวนาปาริปูรีติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ยถา หิ อริยมคฺเค ภาวิเต สติปฏฺานาทโย โพธิปกฺขิยธมฺมา สพฺเพปิ ภาวิตา เอว โหนฺติ, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.

กายานุปสฺสนาย กามราคสฺส อุชุวิปจฺจนีกภาวโต ‘‘ปโม สติปฏฺาโน ภาวิโต พหุลีกโต กามปฏิปกฺขํ ปมํ ฌานํ ปริปูเรตี’’ติ วุตฺตํ. ตถา ปีติปฏิสํเวทนาทิวเสน ปวตฺตมานํ ทุติยํ สติปฏฺานํ, สปฺปีติกสฺส ทุติยชฺฌานสฺส จิตฺตสฺส อภิปฺปโมทนวเสน ปวตฺตมานํ ตติยํ สติปฏฺานํ อุกฺกํสคตสุขสฺส ตติยชฺฌานสฺส อนิจฺจวิราคาทิวเสน ปวตฺติยา สงฺขาเรสุ อุเปกฺขกํ จตุตฺถํ สติปฏฺานํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิภาวโต จตุตฺถชฺฌานสฺส ปาริปูริยา สํวตฺตติ.

ยสฺมา ปน รูปาวจรปมชฺฌานํ รูปาวจรสมาปตฺตีนํ, ทุติยชฺฌานํ พฺยาปาทวิตกฺกาทิทูรีภาเวน พฺรหฺมวิหารานํ, ตติยชฺฌานํ ปีติวิราเคน สุเขน วิปสฺสนาย อธิฏฺานภูตํ อริยวิหารานํ, จตุตฺถชฺฌานํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิอาเนฺชปฺปตฺตํ อาเนฺชวิหารานํ วิเสสโต ปจฺจโย โหติ, ตสฺมา ‘‘ปมํ ฌานํ ภาวิตํ พหุลีกตํ ปมํ วิหารํ ปริปูเรตี’’ติอาทิ วุตฺต