📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

ขุทฺทกนิกาเย

เนตฺติปฺปกรณปาฬิ

๑. สงฺคหวาโร

ยํ โลโก ปูชยเต, สโลกปาโล สทา นมสฺสติ จ;

ตสฺเสต สาสนวรํ, วิทูหิ เยฺยํ นรวรสฺส.

ทฺวาทส ปทานิ สุตฺตํ, ตํ สพฺพํ พฺยฺชนฺจ อตฺโถ จ;

ตํ วิฺเยฺยํ อุภยํ, โก อตฺโถ พฺยฺชนํ กตมํ.

โสฬสหารา เนตฺติ [เนตฺตี (ก.)], ปฺจนยา สาสนสฺส ปริเยฏฺิ;

อฏฺารสมูลปทา, มหกจฺจาเนน [มหากจฺจาเนน (สี.)] นิทฺทิฏฺา.

หารา พฺยฺชนวิจโย, สุตฺตสฺส นยา ตโย จ สุตฺตตฺโถ;

อุภยํ ปริคฺคหีตํ, วุจฺจติ สุตฺตํ ยถาสุตฺตํ.

ยา เจว เทสนา ยฺจ, เทสิตํ อุภยเมว วิฺเยฺยํ;

ตตฺรายมานุปุพฺพี, นววิธสุตฺตนฺตปริเยฏฺีติ.

สงฺคหวาโร.

๒. อุทฺเทสวาโร

. ตตฺถ กตเม โสฬส หารา? เทสนา วิจโย ยุตฺติ ปทฏฺาโน ลกฺขโณ จตุพฺยูโห อาวฏฺโฏ วิภตฺติ ปริวตฺตโน เววจโน ปฺตฺติ โอตรโณ โสธโน อธิฏฺาโน ปริกฺขาโร สมาโรปโน อิติ.

ตสฺสานุคีติ

เทสนา วิจโย ยุตฺติ, ปทฏฺาโน จ ลกฺขโณ;

จตุพฺยูโห จ อาวฏฺโฏ, วิภตฺติ ปริวตฺตโน.

เววจโน จ ปฺตฺติ, โอตรโณ จ โสธโน;

อธิฏฺาโน ปริกฺขาโร, สมาโรปโน โสฬโส [โสฬส (สี.)].

เอเต โสฬส หารา, ปกิตฺติตา อตฺถโต อสํกิณฺณา;

เอเตสฺเจว ภวติ, วิตฺถารตยา นยวิภตฺตีติ.

. ตตฺถ กตเม ปฺจ นยา? นนฺทิยาวฏฺโฏ ติปุกฺขโล สีหวิกฺกีฬิโต ทิสาโลจโน องฺกุโส อิติ.

ตสฺสานุคีติ

ปโม นนฺทิยาวฏฺโฏ, ทุติโย จ ติปุกฺขโล;

สีหวิกฺกีฬิโต นาม, ตติโย นยลฺชโก [นยลฺฉโก (สี.)].

ทิสาโลจนมาหํสุ, จตุตฺถํ นยมุตฺตมํ;

ปฺจโม องฺกุโส นาม, สพฺเพ ปฺจ นยา คตาติ.

. ตตฺถ กตมานิ อฏฺารส มูลปทานิ? นว ปทานิ กุสลานิ นว ปทานิ อกุสลานิ. ตตฺถ กตมานิ นว ปทานิ อกุสลานิ, ตณฺหา อวิชฺชา โลโภ โทโส โมโห สุภสฺา สุขสฺา นิจฺจสฺา อตฺตสฺาติ, อิมานิ นว ปทานิ อกุสลานิ, ยตฺถ สพฺโพ อกุสลปกฺโข สงฺคหํ สโมสรณํ คจฺฉติ.

ตตฺถ กตมานิ นว ปทานิ กุสลานิ? สมโถ วิปสฺสนา อโลโภ อโทโส อโมโห อสุภสฺา ทุกฺขสฺา อนิจฺจสฺา อนตฺตสฺาติ, อิมานิ นว ปทานิ กุสลานิ, ยตฺถ สพฺโพ กุสลปกฺโข สงฺคหํ สโมสรณํ คจฺฉติ.

ตตฺริทํ อุทฺทานํ

ตณฺหา จ อวิชฺชาปิ จ, โลโภ โทโส ตเถว โมโห จ;

จตุโร จ วิปลฺลาสา, กิเลสภูมี นว ปทานิ.

สมโถ จ วิปสฺสนา จ, กุสลานิ จ ยานิ ตีณิ มูลานิ;

จตุโร สติปฏฺานา, อินฺทฺริยภูมี นว ปทานิ.

นวหิ จ ปเทหิ กุสลา, นวหิ จ ยุชฺชนฺติ อกุสลปกฺขา;

เอเต โข มูลปทา, ภวนฺติ อฏฺารส ปทานีติ.

อุทฺเทสวาโร.

๓. นิทฺเทสวาโร

. ตตฺถ สงฺเขปโต เนตฺติ กิตฺติตา.

หารสงฺเขโป

.

อสฺสาทาทีนวตา, นิสฺสรณมฺปิ จ ผลํ อุปาโย จ;

อาณตฺตี จ ภควโต, โยคีนํ เทสนาหาโร.

.

ยํ ปุจฺฉิตฺจ วิสฺสชฺชิตฺจ, สุตฺตสฺส ยา จ อนุคีติ;

สุตฺตสฺส โย ปวิจโย, หาโร วิจโยติ นิทฺทิฏฺโ.

.

สพฺเพสํ หารานํ, ยา ภูมี โย จ โคจโร เตสํ;

ยุตฺตายุตฺตปริกฺขา, หาโร ยุตฺตีติ นิทฺทิฏฺโ.

.

ธมฺมํ เทเสติ ชิโน, ตสฺส จ ธมฺมสฺส ยํ ปทฏฺานํ;

อิติ ยาว สพฺพธมฺมา, เอโส หาโร ปทฏฺาโน.

.

วุตฺตมฺหิ เอกธมฺเม, เย ธมฺมา เอกลกฺขณา เกจิ;

วุตฺตา ภวนฺติ สพฺเพ, โส หาโร ลกฺขโณ นาม.

.

เนรุตฺตมธิปฺปาโย, พฺยฺชนมถ เทสนานิทานฺจ;

ปุพฺพาปรานุสนฺธี, เอโส หาโร จตุพฺยูโห.

.

เอกมฺหิ ปทฏฺาเน, ปริเยสติ เสสกํ ปทฏฺานํ;

อาวฏฺฏติ ปฏิปกฺเข, อาวฏฺโฏ นาม โส หาโร.

.

ธมฺมฺจ ปทฏฺานํ, ภูมิฺจ วิภชฺชเต อยํ หาโร;

สาธารเณ อสาธารเณ จ เนยฺโย วิภตฺตีติ.

.

กุสลากุสเล ธมฺเม, นิทฺทิฏฺเ ภาวิเต ปหีเน จ;

ปริวตฺตติ ปฏิปกฺเข, หาโร ปริวตฺตโน นาม.

๑๐.

เววจนานิ พหูนิ ตุ, สุตฺเต วุตฺตานิ เอกธมฺมสฺส;

โย ชานาติ สุตฺตวิทู, เววจโน นาม โส หาโร.

๑๑.

เอกํ ภควา ธมฺมํ, ปฺตฺตีหิ วิวิธาหิ เทเสติ;

โส อากาโร เยฺโย, ปฺตฺตี นาม หาโรติ.

๑๒.

โย จ ปฏิจฺจุปฺปาโท, อินฺทฺริยขนฺธา จ ธาตุ อายตนา;

เอเตหิ โอตรติ โย, โอตรโณ นาม โส หาโร.

๑๓.

วิสฺสชฺชิตมฺหิ ปฺเห, คาถายํ ปุจฺฉิตายมารพฺภ;

สุทฺธาสุทฺธปริกฺขา, หาโร โส โสธโน นาม.

๑๔.

เอกตฺตตาย ธมฺมา, เยปิ จ เวมตฺตตาย นิทฺทิฏฺา;

เตน วิกปฺปยิตพฺพา, เอโส หาโร อธิฏฺาโน.

๑๕.

เย ธมฺมา ยํ ธมฺมํ, ชนยนฺติปฺปจฺจยา ปรมฺปรโต;

เหตุมวกฑฺฒยิตฺวา, เอโส หาโร ปริกฺขาโร.

๑๖.

เย ธมฺมา ยํ มูลา, เย เจกตฺถา ปกาสิตา มุนินา;

เต สมโรปยิตพฺพา, เอส สมาโรปโน หาโร.

นยสงฺเขโป

๑๗.

ตณฺหฺจ อวิชฺชมฺปิ จ, สมเถน วิปสฺสนา โย เนติ;

สจฺเจหิ โยชยิตฺวา, อยํ นโย นนฺทิยาวฏฺโฏ.

๑๘.

โย อกุสเล สมูเลหิ, เนติ กุสเล จ กุสลมูเลหิ;

ภูตํ ตถํ อวิตถํ, ติปุกฺขลํ ตํ นยํ อาหุ.

๑๙.

โย เนติ วิปลฺลาเสหิ, กิเลเส อินฺทฺริเยหิ สทฺธมฺเม;

เอตํ นยํ นยวิทู, สีหวิกฺกีฬิตํ อาหุ.

๒๐.

เวยฺยากรเณสุ หิ เย, กุสลากุสลา ตหึ ตหึ วุตฺตา;

มนสา โวโลกยเต, ตํ ขุ ทิสาโลจนํ อาหุ.

๒๑.

โอโลเกตฺวา ทิสโลจเนน, อุกฺขิปิย ยํ สมาเนติ;

สพฺเพ กุสลากุสเล, อยํ นโย องฺกุโส นาม.

๒๒.

โสฬส หารา ปมํ, ทิสโลจนโต [ทิสโลจเนน (ก.)] ทิสา วิโลเกตฺวา;

สงฺขิปิย องฺกุเสน หิ, นเยหิ ตีหิ นิทฺทิเส สุตฺตํ.

ทฺวาทสปท

๒๓.

อกฺขรํ ปทํ พฺยฺชนํ, นิรุตฺติ ตเถว นิทฺเทโส;

อาการฉฏฺวจนํ, เอตฺตาว พฺยฺชนํ สพฺพํ.

๒๔.

สงฺกาสนา ปกาสนา, วิวรณา วิภชนุตฺตานีกมฺมปฺตฺติ;

เอเตหิ ฉหิ ปเทหิ, อตฺโถ กมฺมฺจ นิทฺทิฏฺํ.

๒๕.

ตีณิ จ นยา อนูนา, อตฺถสฺส จ ฉปฺปทานิ คณิตานิ;

นวหิ ปเทหิ ภควโต, วจนสฺสตฺโถ สมายุตฺโต.

๒๖.

อตฺถสฺส นวปฺปทานิ, พฺยฺชนปริเยฏฺิยา จตุพฺพีส;

อุภยํ สงฺกลยิตฺวา [สงฺเขปยโต (ก.)], เตตฺตึสา เอตฺติกา เนตฺตีติ.

นิทฺเทสวาโร.

๔. ปฏินิทฺเทสวาโร

๑. เทสนาหารวิภงฺโค

. ตตฺถ กตโม เทสนาหาโร? ‘‘อสฺสาทาทีนวตา’’ติ คาถา อยํ เทสนาหาโร. กึ เทสยติ? อสฺสาทํ อาทีนวํ นิสฺสรณํ ผลํ อุปายํ อาณตฺตึ. ธมฺมํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสสฺสามีติ.

ตตฺถ กตโม อสฺสาโท?

‘‘กามํ [กามมาทิกา อิมา ฉ คาถา สุ. นิ. ๗๗๒ ปสฺสิตพฺพา] กามยมานสฺส, ตสฺส เจตํ สมิชฺฌติ;

อทฺธา ปีติมโน โหติ, ลทฺธา มจฺโจ ยทิจฺฉตี’’ติ.

อยํ อสฺสาโท.

ตตฺถ กตโม อาทีนโว?

‘‘ตสฺส เจ กามยานสฺส, ฉนฺทชาตสฺส ชนฺตุโน;

เต กามา ปริหายนฺติ, สลฺลวิทฺโธว รุปฺปตี’’ติ.

อยํ อาทีนโว.

ตตฺถ กตมํ นิสฺสรณํ?

‘‘โย กาเม ปริวชฺเชติ, สปฺปสฺเสว ปทา สิโร;

โสมํ วิสตฺติกํ โลเก, สโต สมติวตฺตตี’’ติ.

อิทํ นิสฺสรณํ.

ตตฺถ กตโม อสฺสาโท?

‘‘เขตฺตํ วตฺถุํ หิรฺํ วา, ควาสฺสํ ทาสโปริสํ;

ถิโย พนฺธู ปุถู กาเม, โย นโร อนุคิชฺฌตี’’ติ.

อยํ อสฺสาโท.

ตตฺถ กตโม อาทีนโว?

‘‘อพลา นํ พลียนฺติ, มทฺทนฺเต นํ ปริสฺสยา;

ตโต นํ ทุกฺขมนฺเวติ, นาวํ ภินฺนมิโวทก’’นฺติ.

อยํ อาทีนโว.

ตตฺถ กตมํ นิสฺสรณํ?

‘‘ตสฺมา ชนฺตุ สทา สโต, กามานิ ปริวชฺชเย;

เต ปหาย ตเร โอฆํ, นาวํ สิตฺวาว ปารคู’’ติ.

อิทํ นิสฺสรณํ.

ตตฺถ กตมํ ผลํ?

‘‘ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ, ฉตฺตํ มหนฺตํ ยถ วสฺสกาเล;

เอสานิสํโส ธมฺเม สุจิณฺเณ, น ทุคฺคตึ คจฺฉติ ธมฺมจารี’’ติ.

อิทํ ผลํ.

ตตฺถ กตโม อุปาโย?

‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติ…เป…

‘‘สพฺเพ สงฺขารา [ปสฺส ธ. ป. ๒๗๗] ทุกฺขา’’ติ…เป…

‘‘สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา’’ติ, ยทา ปฺาย ปสฺสติ;

อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข, เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา’’ติ.

อยํ อุปาโย.

ตตฺถ กตมา อาณตฺติ?

‘‘จกฺขุมา [ปสฺส อุทา. ๔๓] วิสมานีว, วิชฺชมาเน ปรกฺกเม;

ปณฺฑิโต ชีวโลกสฺมึ, ปาปานิ ปริวชฺชเย’’ติ.

อยํ อาณตฺติ.

‘‘‘สุฺโต โลกํ อเวกฺขสฺสุ,

โมฆราชา’ติ อาณตฺติ, ‘สทา สโต’ติ อุปาโย;

‘อตฺตานุทิฏฺึ อูหจฺจ [อุหจฺจ (ก.) ปสฺส สุ. นิ. ๑๑๒๕], เอวํ มจฺจุตโร สิยา’’’.

อิทํ ผลํ.

. ตตฺถ ภควา อุคฺฆฏิตฺุสฺส ปุคฺคลสฺส นิสฺสรณํ เทสยติ, วิปฺจิตฺุสฺส ปุคฺคลสฺส อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ เทสยติ, เนยฺยสฺส ปุคฺคลสฺส อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ เทสยติ.

ตตฺถ จตสฺโส ปฏิปทา, จตฺตาโร ปุคฺคลา. ตณฺหาจริโต มนฺโท สตินฺทฺริเยน ทุกฺขาย ปฏิปทาย ทนฺธาภิฺาย นิยฺยาติ สติปฏฺาเนหิ นิสฺสเยหิ. ตณฺหาจริโต อุทตฺโต [อุทตฺโถ (สี.) อุ + อา + ทา + ต] สมาธินฺทฺริเยน ทุกฺขาย ปฏิปทาย ขิปฺปาภิฺาย นิยฺยาติ ฌาเนหิ นิสฺสเยหิ. ทิฏฺิจริโต มนฺโท วีริยินฺทฺริเยน สุขาย ปฏิปทาย ทนฺธาภิฺาย นิยฺยาติ สมฺมปฺปธาเนหิ นิสฺสเยหิ. ทิฏฺิจริโต อุทตฺโต ปฺินฺทฺริเยน สุขาย ปฏิปทาย ขิปฺปาภิฺาย นิยฺยาติ สจฺเจหิ นิสฺสเยหิ.

อุโภ ตณฺหาจริตา สมถปุพฺพงฺคมาย วิปสฺสนา นิยฺยนฺติ ราควิราคาย เจโตวิมุตฺติยา. อุโภ ทิฏฺิจริตา วิปสฺสนาปุพฺพงฺคเม สมเถน นิยฺยนฺติ อวิชฺชาวิราคาย ปฺาวิมุตฺติยา.

ตตฺถ เย สมถปุพฺพงฺคมาหิ ปฏิปทาหิ นิยฺยนฺติ, เต นนฺทิยาวฏฺเฏน นเยน หาตพฺพา, เย วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมาหิ ปฏิปทาหิ นิยฺยนฺติ, เต สีหวิกฺกีฬิเตน นเยน หาตพฺพา.

. สฺวายํ หาโร กตฺถ สมฺภวติ, ยสฺส สตฺถา วา ธมฺมํ เทสยติ อฺตโร วา ครุฏฺานีโย สพฺรหฺมจารี, โส ตํ ธมฺมํ สุตฺวา สทฺธํ ปฏิลภติ. ตตฺถ ยา วีมํสา อุสฺสาหนา ตุลนา อุปปริกฺขา, อยํ สุตมยี ปฺา. ตถา สุเตน นิสฺสเยน ยา วีมํสา ตุลนา อุปปริกฺขา มนสานุเปกฺขณา, อยํ จินฺตามยี ปฺา. อิมาหิ ทฺวีหิ ปฺาหิ มนสิการสมฺปยุตฺตสฺส ยํ าณํ อุปฺปชฺชติ ทสฺสนภูมิยํ วา ภาวนาภูมิยํ วา, อยํ ภาวนามยี ปฺา.

. ปรโตโฆสา สุตมยี ปฺา. ปจฺจตฺตสมุฏฺิตา โยนิโส มนสิการา จินฺตามยี ปฺา. ยํ ปรโต จ โฆเสน ปจฺจตฺตสมุฏฺิเตน จ โยนิโสมนสิกาเรน าณํ อุปฺปชฺชติ, อยํ ภาวนามยี ปฺา. ยสฺส อิมา ทฺเว ปฺา อตฺถิ สุตมยี จินฺตามยี จ, อยํ อุคฺฆฏิตฺู. ยสฺส สุตมยี ปฺา อตฺถิ, จินฺตามยี นตฺถิ, อยํ วิปฺจิตฺู [วิปจฺจิตฺู (สี.)]. ยสฺส เนว สุตมยี ปฺา อตฺถิ น จินฺตามยี, อยํ เนยฺโย.

. สายํ ธมฺมเทสนา กึ เทสยติ? จตฺตาริ สจฺจานิ ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺคํ. อาทีนโว จ ผลฺจ ทุกฺขํ, อสฺสาโท สมุทโย, นิสฺสรณํ นิโรโธ, อุปาโย อาณตฺติ จ มคฺโค. อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ. อิทํ ธมฺมจกฺกํ.

ยถาห ภควา – ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ เม, ภิกฺขเว, พาราณสิยํ อิสิปตเน มิคทาเย อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ อปฺปฏิวตฺติยํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ, สพฺพํ ธมฺมจกฺกํ.

ตตฺถ อปริมาณา ปทา, อปริมาณา อกฺขรา, อปริมาณา พฺยฺชนา, อปริมาณา อาการา เนรุตฺตา นิทฺเทสา. เอตสฺเสว อตฺถสฺส สงฺกาสนา ปกาสนา วิวรณา วิภชนา อุตฺตานีกมฺมํ [อุตฺตานิกมฺมํ (ก.)] ปฺตฺติ, อิติปิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ.

‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ เม, ภิกฺขเว, พาราณสิยํ อิสิปตเน มิคทาเย อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ…เป… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ เม, ภิกฺขเว…เป… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ เม, ภิกฺขเว, พาราณสิยํ อิสิปตเน มิคทาเย อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ อปฺปฏิวตฺติยํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ.

ตตฺถ อปริมาณา ปทา, อปริมาณา อกฺขรา, อปริมาณา พฺยฺชนา, อปริมาณา อาการา เนรุตฺตา นิทฺเทสา. เอตสฺเสว อตฺถสฺส สงฺกาสนา ปกาสนา วิวรณา วิภชนา อุตฺตานีกมฺมํ ปฺตฺติ อิติปิทํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ.

ตตฺถ ภควา อกฺขเรหิ สงฺกาเสติ, ปเทหิ ปกาเสติ, พฺยฺชเนหิ วิวรติ, อากาเรหิ วิภชติ, นิรุตฺตีหิ อุตฺตานีกโรติ [อุตฺตานึ กโรติ (ก.)], นิทฺเทเสหิ ปฺเปติ. ตตฺถ ภควา อกฺขเรหิ จ ปเทหิ จ อุคฺฆเฏติ [อุคฺฆาเฏติ (สี.)], พฺยฺชเนหิ จ อากาเรหิ จ วิปฺจยติ, นิรุตฺตีหิ จ นิทฺเทเสหิ จ วิตฺถาเรติ. ตตฺถ อุคฺฆฏนา [อุคฺฆาฏนา (สี.)] อาทิ, วิปฺจนา มชฺเฌ, วิตฺถารณา ปริโยสานํ. โสยํ ธมฺมวินโย อุคฺฆฏียนฺโต อุคฺฆฏิตฺูปุคฺคลํ วิเนติ, เตน นํ อาหุ ‘‘อาทิกลฺยาโณ’’ติ. วิปฺจียนฺโต วิปฺจิตฺูปุคฺคลํ วิเนติ, เตน นํ อาหุ ‘‘มชฺเฌกลฺยาโณ’’ติ. วิตฺถารียนฺโต เนยฺยํ ปุคฺคลํ วิเนติ, เตน นํ อาหุ ‘‘ปริโยสานกลฺยาโณ’’ติ.

๑๐. ตตฺถ ฉปฺปทานิ อตฺโถ สงฺกาสนา ปกาสนา วิวรณา วิภชนา อุตฺตานีกมฺมํ ปฺตฺติ, อิมานิ ฉปฺปทานิ อตฺโถ. ฉปฺปทานิ พฺยฺชนํ อกฺขรํ ปทํ พฺยฺชนํ อากาโร นิรุตฺติ นิทฺเทโส, อิมานิ ฉปฺปทานิ พฺยฺชนํ. เตนาห ภควา ‘‘ธมฺมํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชน’’นฺติ.

เกวลนฺติ โลกุตฺตรํ, น มิสฺสํ โลกิเยหิ ธมฺเมหิ. ปริปุณฺณนฺติ ปริปูรํ อนูนํ อนติเรกํ. ปริสุทฺธนฺติ นิมฺมลํ สพฺพมลาปคตํ ปริโยทาตํ อุปฏฺิตํ สพฺพวิเสสานํ, อิทํ วุจฺจติ ตถาคตปทํอิติปิ ตถาคตนิเสวิตํอิติปิ ตถาคตารฺชิตํอิติปิ, อโตเจตํ พฺรหฺมจริยํ ปฺายติ. เตนาห ภควา ‘‘เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสสฺสามี’’ติ.

เกสํ อยํ ธมฺมเทสนา, โยคีนํ. เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน –

‘‘อสฺสาทาทีนวตา, นิสฺสรณมฺปิ จ ผลํ อุปาโย จ;

อาณตฺตี จ ภควโต, โยคีนํ เทสนาหาโร’’ติ.

นิยุตฺโต เทสนาหาโร.

๒. วิจยหารวิภงฺโค

๑๑. ตตฺถ กตโม วิจโย หาโร? ‘‘ยํ ปุจฺฉิตฺจ วิสฺสชฺชิตฺจา’’ติ คาถา, อยํ วิจโย หาโร.

กึ วิจินติ? ปทํ วิจินติ, ปฺหํ วิจินติ, วิสชฺชนํ [วิสฺสชฺชนํ (สี. ก.)] วิจินติ, ปุพฺพาปรํ วิจินติ, อสฺสาทํ วิจินติ, อาทีนวํ วิจินติ, นิสฺสรณํ วิจินติ, ผลํ วิจินติ, อุปายํ วิจินติ, อาณตฺตึ วิจินติ, อนุคีตึ วิจินติ, สพฺเพ นว สุตฺตนฺเต วิจินติ. ยถา กึ ภเว, ยถา อายสฺมา อชิโต ปารายเน ภควนฺตํ ปฺหํ ปุจฺฉติ –

‘‘เกนสฺสุ [ปสฺส สุ. นิ. ๑๐๓๘] นิวุโต โลโก, [อิจฺจายสฺมา อชิโต,]

เกนสฺสุ นปฺปกาสติ;

กิสฺสาภิเลปนํ พฺรูสิ, กึ สุ ตสฺส มหพฺภย’’นฺติ.

อิมานิ จตฺตาริ ปทานิ ปุจฺฉิตานิ, โส เอโก ปฺโห. กสฺมา? เอกวตฺถุ ปริคฺคหา, เอวฺหิ อาห ‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก’’ติ โลกาธิฏฺานํ ปุจฺฉติ, ‘‘เกนสฺสุ นปฺปกาสตี’’ติ โลกสฺส อปฺปกาสนํ ปุจฺฉติ, ‘‘กิสฺสาภิเลปนํ พฺรูสี’’ติ โลกสฺส อภิเลปนํ ปุจฺฉติ, ‘‘กึสุ ตสฺส มหพฺภย’’นฺติ ตสฺเสว โลกสฺส มหาภยํ ปุจฺฉติ. โลโก ติวิโธ กิเลสโลโก ภวโลโก อินฺทฺริยโลโก.

ตตฺถ วิสชฺชนา –

‘‘อวิชฺชาย นิวุโต โลโก, [อชิตาติ ภควา,]

วิวิจฺฉา [เววิจฺฉา (สุ. นิ. ๑๐๓๙)] ปมาทา นปฺปกาสติ;

ชปฺปาภิเลปนํ พฺรูมิ, ทุกฺขมสฺส มหพฺภย’’นฺติ.

อิมานิ จตฺตาริ ปทานิ อิเมหิ จตูหิ ปเทหิ วิสชฺชิตานิ ปมํ ปเมน, ทุติยํ ทุติเยน, ตติยํ ตติเยน, จตุตฺถํ จตุตฺเถน.

‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก’’ติ ปฺเห ‘‘อวิชฺชาย นิวุโต โลโก’’ติ วิสชฺชนา. นีวรเณหิ นิวุโต โลโก, อวิชฺชานีวรณา หิ สพฺเพ สตฺตา. ยถาห ภควา ‘‘สพฺพสตฺตานํ, ภิกฺขเว, สพฺพปาณานํ สพฺพภูตานํ ปริยายโต เอกเมว นีวรณํ วทามิ ยทิทํ อวิชฺชา, อวิชฺชานีวรณา หิ สพฺเพ สตฺตา. สพฺพโสว, ภิกฺขเว, อวิชฺชาย นิโรธา จาคา ปฏินิสฺสคฺคา นตฺถิ สตฺตานํ นีวรณนฺติ วทามี’’ติ. เตน จ ปมสฺส ปทสฺส วิสชฺชนา ยุตฺตา.

‘‘เกนสฺสุ นปฺปกาสตี’’ติ ปฺเห ‘‘วิวิจฺฉา ปมาทา นปฺปกาสตี’’ติ วิสชฺชนา. โย ปุคฺคโล นีวรเณหิ นิวุโต, โส วิวิจฺฉติ. วิวิจฺฉา นาม วุจฺจติ วิจิกิจฺฉา. โส วิจิกิจฺฉนฺโต นาภิสทฺทหติ, น อภิสทฺทหนฺโต วีริยํ นารภติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย กุสลานํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยาย. โส อิธปฺปมาทมนุยุตฺโต วิหรติ ปมตฺโต, สุกฺเก ธมฺเม น อุปฺปาทิยติ, ตสฺส เต อนุปฺปาทิยมานา นปฺปกาสนฺติ, ยถาห ภควา –

‘‘ทูเร สนฺโต ปกาสนฺติ [ปกาเสนฺติ ธ. ป. ๓๐๔], หิมวนฺโตว ปพฺพโต;

อสนฺเตตฺถ น ทิสฺสนฺติ, รตฺตึ ขิตฺตา [รตฺติ ขิตฺตา (สี.), ปสฺส ธ. ป. ๓๐๔] ยถา สรา;

เต คุเณหิ ปกาสนฺติ, กิตฺติยา จ ยเสน จา’’ติ.

เตน จ ทุติยสฺส ปทสฺส วิสชฺชนา ยุตฺตา.

‘‘กิสฺสาภิเลปนํ พฺรูสี’’ติ ปฺเห ‘‘ชปฺปาภิเลปนํ พฺรูมี’’ติ วิสชฺชนา. ชปฺปา นาม วุจฺจติ ตณฺหา. สา กถํ อภิลิมฺปติ? ยถาห ภควา –

‘‘รตฺโต อตฺถํ น ชานาติ, รตฺโต ธมฺมํ น ปสฺสติ;

อนฺธนฺตมํ [อนฺธตมํ (ก.)] ตทา โหติ, ยํ ราโค สหเต นร’’นฺติ.

สายํ ตณฺหา อาสตฺติพหุลสฺส ปุคฺคลสฺส ‘‘เอวํ อภิชปฺปา’’ติ กริตฺวา ตตฺถ โลโก อภิลิตฺโต นาม ภวติ, เตน จ ตติยสฺส ปทสฺส วิสชฺชนา ยุตฺตา.

‘‘กึ สุ ตสฺส มหพฺภย’’นฺติ ปฺเห ‘‘ทุกฺขมสฺส มหพฺภย’’นฺติ วิสชฺชนา. ทุวิธํ ทุกฺขํ – กายิกฺจ เจตสิกฺจ. ยํ กายิกํ อิทํ ทุกฺขํ, ยํ เจตสิกํ อิทํ โทมนสฺสํ. สพฺเพ สตฺตา หิ ทุกฺขสฺส อุพฺพิชฺชนฺติ, นตฺถิ ภยํ ทุกฺเขน สมสมํ, กุโต วา ปน ตสฺส อุตฺตริตรํ? ติสฺโส ทุกฺขตา – ทุกฺขทุกฺขตา สงฺขารทุกฺขตา วิปริณามทุกฺขตา. ตตฺถ โลโก โอธโส กทาจิ กรหจิ ทุกฺขทุกฺขตาย มุจฺจติ. ตถา วิปริณามทุกฺขตาย. ตํ กิสฺส เหตุ? โหนฺติ โลเก อปฺปาพาธาปิ ทีฆายุกาปิ. สงฺขารทุกฺขตาย ปน โลโก อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา มุจฺจติ, ตสฺมา สงฺขารทุกฺขตา ทุกฺขํ โลกสฺสาติ กตฺวา ทุกฺขมสฺส มหพฺภยนฺติ. เตน จ จตุตฺถสฺส ปทสฺส วิสชฺชนา ยุตฺตา. เตนาห ภควา ‘‘อวิชฺชาย นิวุโต โลโก’’ติ.

สวนฺติ สพฺพธิ โสตา, [อิจฺจายสฺมา อชิโต,]

โสตานํ กึ นิวารณํ;

โสตานํ สํวรํ พฺรูหิ, เกน โสตา ปิธียเร [ปิถียเร (สี.), ปิธิยฺยเร (ก.), ปสฺส สุ. นิ. ๑๐๔๐].

อิมานิ จตฺตาริ ปทานิ ปุจฺฉิตานิ. เต ทฺเว ปฺหา. กสฺมา? อิเมหิ พตฺวาธิวจเนน ปุจฺฉิตา. เอวํ สมาปนฺนสฺส โลกสฺส เอวํ สํกิลิฏฺสฺส กึ โลกสฺส โวทานํ วุฏฺานมิติ, เอวฺหิ อาห.

สวนฺติ สพฺพธิ โสตาติ. อสมาหิตสฺส สวนฺติ อภิชฺฌาพฺยาปาทปฺปมาทพหุลสฺส. ตตฺถ ยา อภิชฺฌา อยํ โลโภ อกุสลมูลํ, โย พฺยาปาโท อยํ โทโส อกุสลมูลํ, โย ปมาโท อยํ โมโห อกุสลมูลํ. ตสฺเสวํ อสมาหิตสฺส ฉสุ อายตเนสุ ตณฺหา สวนฺติ รูปตณฺหา สทฺทตณฺหา คนฺธตณฺหา รสตณฺหา โผฏฺพฺพตณฺหา ธมฺมตณฺหา, ยถาห ภควา –

‘‘สวตี’’ติ จ โข, ภิกฺขเว, ฉนฺเนตํ อชฺฌตฺติกานํ อายตนานํ อธิวจนํ. จกฺขุ สวติ มนาปิเกสุ รูเปสุ, อมนาปิเกสุ [อมนาปิเยสุ (ก.)] ปฏิหฺตีติ. โสตํ…เป… ฆานํ… ชิวฺหา… กาโย… มโน สวติ มนาปิเกสุ ธมฺเมสุ อมนาปิเกสุ ปฏิหฺตีติ. อิติ สพฺพา จ สวติ, สพฺพถา จ สวติ. เตนาห ‘‘สวนฺติ สพฺพธิ โสตา’’ติ.

‘‘โสตานํ กึ นิวารณ’’นฺติ ปริยุฏฺานวิฆาตํ ปุจฺฉติ, อิทํ โวทานํ. ‘‘โสตานํ สํวรํ พฺรูหิ, เกน โสตา ปิธียเร’’ติ อนุสยสมุคฺฆาตํ ปุจฺฉติ, อิทํ วุฏฺานํ.

ตตฺถ วิสชฺชนา –

‘‘ยานิ โสตานิ โลกสฺมึ, [อชิตาติ ภควา,]

สติ เตสํ นิวารณํ;

โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ, ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ.

กายคตาย สติยา ภาวิตาย พหุลีกตาย จกฺขุ นาวิฺฉติ มนาปิเกสุ รูเปสุ, อมนาปิเกสุ น ปฏิหฺติ, โสตํ…เป… ฆานํ… ชิวฺหา… กาโย… มโน นาวิฺฉติ มนาปิเกสุ ธมฺเมสุ, อมนาปิเกสุ น ปฏิหฺติ. เกน การเณน? สํวุตนิวาริตตฺตา อินฺทฺริยานํ. เกน เต สํวุตนิวาริตา? สติอารกฺเขน. เตนาห ภควา – ‘‘สติ เตสํ นิวารณ’’นฺติ.

ปฺาย อนุสยา ปหียนฺติ, อนุสเยสุ ปหีเนสุ ปริยุฏฺานา ปหียนฺติ. กิสฺส [ตสฺส (สี.)], อนุสยสฺส ปหีนตฺตา? ตํ ยถา ขนฺธวนฺตสฺส รุกฺขสฺส อนวเสสมูลุทฺธรเณ กเต ปุปฺผผลปลฺลวงฺกุรสนฺตติ สมุจฺฉินฺนา ภวติ. เอวํ อนุสเยสุ ปหีเนสุ ปริยุฏฺานสนฺตติ สมุจฺฉินฺนา ภวติ ปิทหิตา ปฏิจฺฉนฺนา. เกน? ปฺาย. เตนาห ภควา ‘‘ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ.

‘‘ปฺา เจว สติ จ, [อิจฺจายสฺมา อชิโต,]

นามรูปฺจ มาริส;

เอตํ เม ปุฏฺโ ปพฺรูหิ, กตฺเถตํ อุปรุชฺฌตี’’ติ.

‘‘ยเมตํ ปฺหํ อปุจฺฉิ [มํ ปุจฺฉิ (ก.), ปสฺส สุ. นิ. ๑๐๔๓], อชิต ตํ วทามิ เต;

ยตฺถ นามฺจ รูปฺจ, อเสสํ อุปรุชฺฌติ;

วิฺาณสฺส นิโรเธน, เอตฺเถตํ อุปรุชฺฌตี’’ติ.

อยํ ปฺเห [ปฺโห (สี. ก.) เนตฺติวิภาวนี ปสฺสิตพฺพา] อนุสนฺธึ ปุจฺฉติ. อนุสนฺธึ ปุจฺฉนฺโต กึ ปุจฺฉติ? อนุปาทิเสสํ นิพฺพานธาตุํ. ตีณิ จ สจฺจานิ สงฺขตานิ นิโรธธมฺมานิ ทุกฺขํ สมุทโย มคฺโค, นิโรโธ อสงฺขโต. ตตฺถ สมุทโย ทฺวีสุ ภูมีสุ ปหียติ ทสฺสนภูมิยา จ ภาวนาภูมิยา จ. ทสฺสเนน ตีณิ สํโยชนานิ ปหียนฺติ สกฺกายทิฏฺิ วิจิกิจฺฉา สีลพฺพตปรามาโส, ภาวนาย สตฺต สํโยชนานิ ปหียนฺติ กามจฺฉนฺโท พฺยาปาโท รูปราโค อรูปราโค มาโน อุทฺธจฺจํ อวิชฺชาวเสสา [อวิชฺชา จ นิรวเสสา (สี. ก.)]. เตธาตุเก อิมานิ ทส สํโยชนานิ ปฺโจรมฺภาคิยานิ ปฺจุทฺธมฺภาคิยานิ.

๑๒. ตตฺถ ตีณิ สํโยชนานิ สกฺกายทิฏฺิ วิจิกิจฺฉา สีลพฺพตปรามาโส อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ อธิฏฺาย นิรุชฺฌนฺติ. สตฺต สํโยชนานิ กามจฺฉนฺโท พฺยาปาโท รูปราโค อรูปราโค มาโน อุทฺธจฺจํ อวิชฺชาวเสสา อฺินฺทฺริยํ อธิฏฺาย นิรุชฺฌนฺติ. ยํ ปน เอวํ ชานาติ ‘‘ขีณา เม ชาตี’’ติ, อิทํ ขเย าณํ. ‘‘นาปรํ อิตฺถตฺตายา’’ติ ปชานาติ, อิทํ อนุปฺปาเท าณํ. อิมานิ ทฺเว าณานิ อฺาตาวินฺทฺริยํ. ตตฺถ ยฺจ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ ยฺจ อฺินฺทฺริยํ, อิมานิ อคฺคผลํ อรหตฺตํ ปาปุณนฺตสฺส นิรุชฺฌนฺติ, ตตฺถ ยฺจ ขเย าณํ ยฺจ อนุปฺปาเท าณํ, อิมานิ ทฺเว าณานิ เอกปฺา.

อปิ จ อารมฺมณสงฺเกเตน ทฺเว นามานิ ลพฺภนฺติ, ‘‘ขีณา เม ชาตี’’ติ ปชานนฺตสฺส ขเย าณนฺติ นามํ ลภติ, ‘‘นาปรํ อิตฺถตฺตายา’’ติ ปชานนฺตสฺส อนุปฺปาเท าณนฺติ นามํ ลภติ. สา ปชานนฏฺเน ปฺา, ยถาทิฏฺํ อปิลาปนฏฺเน สติ.

๑๓. ตตฺถ เย ปฺจุปาทานกฺขนฺธา, อิทํ นามรูปํ. ตตฺถ เย ผสฺสปฺจมกา ธมฺมา, อิทํ นามํ. ยานิ ปฺจินฺทฺริยานิ รูปานิ, อิทํ รูปํ. ตทุภยํ นามรูปํ วิฺาณสมฺปยุตฺตํ ตสฺส นิโรธํ ภควนฺตํ ปุจฺฉนฺโต อายสฺมา อชิโต ปารายเน เอวมาห –

‘‘ปฺา เจว สติ จ, นามรูปฺจ มาริส;

เอตํ เม ปุฏฺโ ปพฺรูหิ, กตฺเถตํ อุปรุชฺฌตี’’ติ.

ตตฺถ สติ จ ปฺา จ จตฺตาริ อินฺทฺริยานิ, สติ ทฺเว อินฺทฺริยานิ สตินฺทฺริยฺจ สมาธินฺทฺริยฺจ, ปฺา ทฺเว อินฺทฺริยานิ ปฺินฺทฺริยฺจ วีริยินฺทฺริยฺจ. ยา อิเมสุ จตูสุ อินฺทฺริเยสุ สทฺทหนา โอกปฺปนา, อิทํ สทฺธินฺทฺริยํ. ตตฺถ ยา สทฺธาธิปเตยฺยา จิตฺเตกคฺคตา, อยํ ฉนฺทสมาธิ. สมาหิเต จิตฺเต กิเลสานํ วิกฺขมฺภนตาย ปฏิสงฺขานพเลน วา ภาวนาพเลน วา, อิทํ ปหานํ. ตตฺถ เย อสฺสาสปสฺสาสา วิตกฺกวิจารา สฺาเวทยิตา สรสงฺกปฺปา, อิเม สงฺขารา. อิติ ปุริมโก จ ฉนฺทสมาธิ, กิเลสวิกฺขมฺภนตาย จ ปหานํ อิเม จ สงฺขารา, ตทุภยํ ฉนฺทสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ. ตตฺถ ยา วีริยาธิปเตยฺยา จิตฺเตกคฺคตา, อยํ วีริยสมาธิ…เป… ตตฺถ ยา จิตฺตาธิปเตยฺยา จิตฺเตกคฺคตา, อยํ จิตฺตสมาธิ…เป… ตตฺถ ยา วีมํสาธิปเตยฺยา จิตฺเตกคฺคตา, อยํ วีมํสาสมาธิ. สมาหิเต จิตฺเต กิเลสานํ วิกฺขมฺภนตาย ปฏิสงฺขานพเลน วา ภาวนาพเลน วา, อิทํ ปหานํ. ตตฺถ เย อสฺสาสปสฺสาสา วิตกฺกวิจารา สฺาเวทยิตา สรสงฺกปฺปา, อิเม สงฺขารา. อิติ ปุริมโก จ วีมํสาสมาธิ, กิเลสวิกฺขมฺภนตาย จ ปหานํ อิเม จ สงฺขารา, ตทุภยํ วีมํสาสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ.

๑๔. สพฺโพ สมาธิ าณมูลโก าณปุพฺพงฺคโม าณานุปริวตฺติ.

ยถา ปุเร ตถา ปจฺฉา, ยถา ปจฺฉา ตถา ปุเร;

ยถา ทิวา ตถา รตฺตึ [รตฺติ (ก.) อยํ คาถา เถรคา. ๓๙๗ ทิสฺสติ], ยถา รตฺตึ ตถา ทิวา.

อิติ วิวเฏน เจตสา อปริโยนทฺเธน สปฺปภาสํ จิตฺตํ ภาเวติ. ปฺจินฺทฺริยานิ กุสลานิ จิตฺตสหภูนิ จิตฺเต อุปฺปชฺชมาเน อุปฺปชฺชนฺติ, จิตฺเต นิรุชฺฌมาเน นิรุชฺฌนฺติ. นามรูปฺจ วิฺาณเหตุกํ วิฺาณปจฺจยา นิพฺพตฺตํ, ตสฺส มคฺเคน เหตุ อุปจฺฉินฺโน, วิฺาณํ อนาหารํ อนภินนฺทิตํ อปฺปฏิสนฺธิกํ ตํ นิรุชฺฌติ. นามรูปมปิ อเหตุ อปฺปจฺจยํ ปุนพฺภวํ น นิพฺพตฺตยติ [นิพฺพตฺติยติ (ก.)]. เอวํ วิฺาณสฺส นิโรธา ปฺา จ สติ จ นามรูปฺจ นิรุชฺฌติ. เตนาห ภควา –

‘‘ยเมตํ ปฺหํ อปุจฺฉิ, อชิต ตํ วทามิ เต;

ยตฺถ นามฺจ รูปฺจ, อเสสํ อุปรุชฺฌติ;

วิฺาณสฺส นิโรเธน, เอตฺเถตํ อุปรุชฺฌตี’’ติ.

‘‘เย จ [อยํ คาถา สุ. นิ. ๑๐๔๔ อฺถา ทิสฺสติ] สงฺขาตธมฺมาเส, [อิจฺจายสฺมา อชิโต]

เย จ เสกฺขา ปุถู อิธ;

เตสํ เม นิปโก อิริยํ, ปุฏฺโ ปพฺรูหิ มาริสา’’ติ.

๑๕. อิมานิ ตีณิ ปทานิ ปุจฺฉิตานิ, เต ตโย ปฺหา. กิสฺส? เสขาเสขวิปสฺสนาปุพฺพงฺคมปฺปหานโยเคน, เอวฺหิ อาห. ‘‘เย จ สงฺขาตธมฺมาเส’’ติ อรหตฺตํ ปุจฺฉติ, ‘‘เย จ เสขา ปุถู อิธา’’ติ เสขํ ปุจฺฉติ, ‘‘เตสํ เม นิปโก อิริยํ, ปุฏฺโ ปพฺรูหิ มาริสา’’ติ วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมํ ปหานํ ปุจฺฉติ.

ตตฺถ วิสชฺชนา –

‘‘กาเมสุ นาภิคิชฺเฌยฺย, [อชิตาติ ภควา]

มนสานาวิโล สิยา;

กุสโล สพฺพธมฺมานํ, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ.

ภควโต สพฺพํ กายกมฺมํ าณปุพฺพงฺคมํ าณานุปริวตฺติ, สพฺพํ วจีกมฺมํ าณปุพฺพงฺคมํ าณานุปริวตฺติ, สพฺพํ มโนกมฺมํ าณปุพฺพงฺคมํ าณานุปริวตฺติ. อตีเต อํเส อปฺปฏิหตาณทสฺสนํ, อนาคเต อํเส อปฺปฏิหตาณทสฺสนํ, ปจฺจุปฺปนฺเน อํเส อปฺปฏิหตาณทสฺสนํ.

โก จ าณทสฺสนสฺส ปฏิฆาโต? ยํ อนิจฺเจ ทุกฺเข อนตฺตนิ จ อฺาณํ อทสฺสนํ, อยํ าณทสฺสนสฺส ปฏิฆาโต. ยถา อิธ ปุริโส ตารกรูปานิ ปสฺเสยฺย, โน จ คณนสงฺเกเตน ชาเนยฺย, อยํ าณทสฺสนสฺส ปฏิฆาโต.

ภควโต ปน อปฺปฏิหตาณทสฺสนํ, อนาวรณาณทสฺสนา หิ พุทฺธา ภควนฺโต. ตตฺถ เสเขน ทฺวีสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ รกฺขิตพฺพํ เคธา จ รชนีเยสุ ธมฺเมสุ, โทสา จ ปริยุฏฺานีเยสุ. ตตฺถ ยา อิจฺฉา มุจฺฉา ปตฺถนา ปิยายนา กีฬนา, ตํ ภควา นิวาเรนฺโต เอวมาห ‘‘กาเมสุ นาภิคิชฺเฌยฺยา’’ติ.

‘‘มนสานาวิโล สิยา’’ติ ปริยุฏฺานวิฆาตํ อาห. ตถา หิ เสโข อภิคิชฺฌนฺโต อสมุปฺปนฺนฺจ กิเลสํ อุปฺปาเทติ, อุปฺปนฺนฺจ กิเลสํ ผาตึ กโรติ. โย ปน อนาวิลสงฺกปฺโป อนภิคิชฺฌนฺโต วายมติ, โส อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. โส อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. โส อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. โส อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา อสมฺโมสาย ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ.

๑๖. กตเม [กตเม จ (อฏฺ.)] อนุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา? กามวิตกฺโก พฺยาปาทวิตกฺโก วิหึสาวิตกฺโก, อิเม อนุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา. กตเม อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา? อนุสยา อกุสลมูลานิ, อิเม อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา. กตเม อนุปฺปนฺนา กุสลา ธมฺมา? ยานิ โสตาปนฺนสฺส อินฺทฺริยานิ, อิเม อนุปฺปนฺนา กุสลา ธมฺมา. กตเม อุปฺปนฺนา กุสลา ธมฺมา? ยานิ อฏฺมกสฺส อินฺทฺริยานิ, อิเม อุปฺปนฺนา กุสลา ธมฺมา.

เยน กามวิตกฺกํ วาเรติ, อิทํ สตินฺทฺริยํ. เยน พฺยาปาทวิตกฺกํ วาเรติ, อิทํ สมาธินฺทฺริยํ. เยน วิหึสาวิตกฺกํ วาเรติ, อิทํ วีริยินฺทฺริยํ.

เยน อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ นาธิวาเสติ, อิทํ ปฺินฺทฺริยํ. ยา อิเมสุ จตูสุ อินฺทฺริเยสุ สทฺทหนา โอกปฺปนา, อิทํ สทฺธินฺทฺริยํ.

ตตฺถ สทฺธินฺทฺริยํ กตฺถ ทฏฺพฺพํ? จตูสุ โสตาปตฺติยงฺเคสุ. วีริยินฺทฺริยํ กตฺถ ทฏฺพฺพํ? จตูสุ สมฺมปฺปธาเนสุ. สตินฺทฺริยํ กตฺถ ทฏฺพฺพํ? จตูสุ สติปฏฺาเนสุ. สมาธินฺทฺริยํ กตฺถ ทฏฺพฺพํ? จตูสุ ฌาเนสุ. ปฺินฺทฺริยํ กตฺถ ทฏฺพฺพํ? จตูสุ อริยสจฺเจสุ. เอวํ เสโข สพฺเพหิ กุสเลหิ ธมฺเมหิ อปฺปมตฺโต วุตฺโต ภควตา อนาวิลตาย มนสา. เตนาห ภควา ‘‘มนสานาวิโลสิยา’’ติ.

๑๗. ‘‘กุสโล สพฺพธมฺมาน’’นฺติ โลโก นาม ติวิโธ กิเลสโลโก ภวโลโก อินฺทฺริยโลโก. ตตฺถ กิเลสโลเกน ภวโลโก สมุทาคจฺฉติ, โส อินฺทฺริยานิ นิพฺพตฺเตติ, อินฺทฺริเยสุ ภาวิยมาเนสุ เนยฺยสฺส ปริฺา ภวติ. สา ทุวิเธน อุปปริกฺขิตพฺพา ทสฺสนปริฺาย จ ภาวนาปริฺาย จ. ยทา หิ เสโข เยฺยํ ปริชานาติ, ตทา นิพฺพิทาสหคเตหิ สฺามนสิกาเรหิ เนยฺยํ ปริฺาตํ ภวติ. ตสฺส ทฺเว ธมฺมา โกสลฺลํ คจฺฉนฺติ – ทสฺสนโกสลฺลฺจ ภาวนาโกสลฺลฺจ.

ตํ าณํ ปฺจวิเธน เวทิตพฺพํः อภิฺา ปริฺา ปหานํ ภาวนา สจฺฉิกิริยา. ตตฺถ กตมา อภิฺา? ยํ ธมฺมานํ สลกฺขเณ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา จ อตฺถปฏิสมฺภิทา จ, อยํ อภิฺา.

ตตฺถ กตมา ปริฺา? เอวํ อภิชานิตฺวา ยา ปริชานนา ‘‘อิทํ กุสลํ, อิทํ อกุสลํ, อิทํ สาวชฺชํ, อิทํ อนวชฺชํ, อิทํ กณฺหํ, อิทํ สุกฺกํ, อิทํ เสวิตพฺพํ, อิทํ น เสวิตพฺพํ, อิเม ธมฺมา เอวํคหิตา, อิทํ ผลํ นิพฺพตฺเตนฺติ [นิพฺพตฺตาเปนฺติ (ก.)], เตสํ เอวํคหิตานํ อยํ อตฺโถ’’ติ, อยํ ปริฺา.

เอวํ ปริชานิตฺวา ตโย ธมฺมา อวสิฏฺา ภวนฺติ ปหาตพฺพา ภาเวตพฺพา สจฺฉิกาตพฺพา จ. ตตฺถ กตเม ธมฺมา ปหาตพฺพา? เย อกุสลา. ตตฺถ กตเม ธมฺมา ภาเวตพฺพา? เย กุสลา. ตตฺถ กตเม ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา? ยํ อสงฺขตํ. โย เอวํ ชานาติ อยํ วุจฺจติ อตฺถกุสโล ธมฺมกุสโล กลฺยาณตากุสโล ผลตากุสโล, อายกุสโล อปายกุสโล อุปายกุสโล มหตา โกสลฺเลน สมนฺนาคโตติ, เตนาห ภควา ‘‘กุสโล สพฺพธมฺมาน’’นฺติ.

‘‘สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ เตน ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถํ อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต อาโลกิเต วิโลกิเต สมิฺชิเต [สมฺมิฺชิเต (สี.)] ปสาริเต สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม คเต ิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหิภาเว สเตน สมฺปชาเนน วิหาตพฺพํ. อิมา ทฺเว จริยา อนุฺาตา ภควตา เอกา วิสุทฺธานํ, เอกา วิสุชฺฌนฺตานํ. เก วิสุทฺธา? อรหนฺโต. เก วิสุชฺฌนฺตา? เสกฺขา. กตกิจฺจานิ หิ อรหโต อินฺทฺริยานิ. ยํ โพชฺฌํ, ตํ จตุพฺพิธํ ทุกฺขสฺส ปริฺาภิสมเยน สมุทยสฺส ปหานาภิสมเยน มคฺคสฺส ภาวนาภิสมเยน นิโรธสฺส สจฺฉิกิริยาภิสมเยน, อิทํ จตุพฺพิธํ โพชฺฌํ โย เอวํ ชานาติ, อยํ วุจฺจติ สโต อภิกฺกมติ สโต ปฏิกฺกมติ ขยา ราคสฺส ขยา โทสสฺส ขยา โมหสฺส. เตนาห ภควา ‘‘สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ, เตนาห –

‘‘กาเมสุ นาภิคิชฺเฌยฺย, [อชิตาติ ภควา]

มนสานาวิโล สิยา;

กุสโล สพฺพธมฺมานํ, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ.

เอวํ ปุจฺฉิตพฺพํ, เอวํ วิสชฺชิตพฺพํ. สุตฺตสฺส จ อนุคีติ อตฺถโต จ พฺยฺชนโต จ สมาเนตพฺพา [สมานยิตพฺพา (สี. ก.)]. อตฺถาปคตํ หิ พฺยฺชนํ สมฺผปฺปลาปํ ภวติ. ทุนฺนิกฺขิตฺตสฺส ปทพฺยฺชนสฺส อตฺโถปิ ทุนฺนโย ภวติ, ตสฺมา อตฺถพฺยฺชนูเปตํ สงฺคายิตพฺพํ. สุตฺตฺจ ปวิจินิตพฺพํ. กึ อิทํ สุตฺตํ อาหจฺจ วจนํ อนุสนฺธิวจนํ นีตตฺถํ เนยฺยตฺถํ สํกิเลสภาคิยํ นิพฺเพธภาคิยํ อเสกฺขภาคิยํ? กุหึ อิมสฺส สุตฺตสฺส สพฺพานิ สจฺจานิ ปสฺสิตพฺพานิ, อาทิมชฺฌปริโยสาเนติ? เอวํ สุตฺตํ ปวิเจตพฺพํ. เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน – ‘‘ยํ ปุจฺฉิตฺจ วิสฺสชฺชิตฺจ, สุตฺตสฺส ยา จ อนุคีตี’’ติ.

นิยุตฺโต วิจโย หาโร.

๓. ยุตฺติหารวิภงฺโค

๑๘. ตตฺถ กตโม ยุตฺติหาโร? ‘‘สพฺเพสํ หาราน’’นฺติ, อยํ ยุตฺติหาโร. กึ โยชยติ [โยเชติ (สี.)]? จตฺตาโร มหาปเทสา พุทฺธาปเทโส สงฺฆาปเทโส สมฺพหุลตฺเถราปเทโส [สมฺปหุล… (ก.)] เอกตฺเถราปเทโส. อิเม จตฺตาโร มหาปเทสา, ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สุตฺเต โอตารยิตพฺพานิ, วินเย สนฺทสฺสยิตพฺพานิ, ธมฺมตายํ อุปนิกฺขิปิตพฺพานิ.

กตมสฺมึ สุตฺเต โอตารยิตพฺพานิ? จตูสุ อริยสจฺเจสุ. กตมสฺมึ วินเย สนฺทสฺสยิตพฺพานิ? ราควินเย โทสวินเย โมหวินเย. กตมิสฺสํ [กตมิยํ (สี.)] ธมฺมตายํ อุปนิกฺขิปิตพฺพานิ? ปฏิจฺจสมุปฺปาเท. ยทิ จตูสุ อริยสจฺเจสุ อวตรติ, กิเลสวินเย สนฺทิสฺสติ, ธมฺมตฺจ น วิโลเมติ, เอวํ อาสเว น ชเนติ. จตูหิ มหาปเทเสหิ ยํ ยํ ยุชฺชติ, เยน เยน ยุชฺชติ, ยถา ยถา ยุชฺชติ, ตํ ตํ คเหตพฺพํ.

๑๙. ปฺหํ ปุจฺฉิเตน กติ ปทานิ ปฺเหติ ปทโส ปริโยคาหิตพฺพํ วิเจตพฺพํ? ยทิ สพฺพานิ ปทานิ เอกํ อตฺถํ อภิวทนฺติ, เอโก ปฺโห. อถ จตฺตาริ ปทานิ เอกํ อตฺถํ อภิวทนฺติ, เอโก ปฺโห. อถ ตีณิ ปทานิ เอกํ อตฺถํ อภิวทนฺติ, เอโก ปฺโห. อถ ทฺเว ปทานิ เอกํ อตฺถํ อภิวทนฺติ, เอโก ปฺโห. อถ เอกํ ปทํ เอกํ อตฺถํ อภิวทติ, เอโก ปฺโห. ตํ อุปปริกฺขมาเนน อฺาตพฺพํ กึ อิเม ธมฺมา นานตฺถา นานาพฺยฺชนา, อุทาหุ อิเมสํ ธมฺมานํ เอโก อตฺโถ พฺยฺชนเมว นานนฺติ. ยถา กึ ภเว? ยถา สา เทวตา ภควนฺตํ ปฺหํ ปุจฺฉติ.

‘‘เกนสฺสุพฺภาหโต [ปสฺส ส. นิ. ๑.๖๖] โลโก, เกนสฺสุ ปริวาริโต;

เกน สลฺเลน โอติณฺโณ, กิสฺส ธูปายิโต สทา’’ติ.

อิมานิ จตฺตาริ ปทานิ ปุจฺฉิตานิ. เต ตโย ปฺหา กถํ ายติ? ภควา หิ เทวตาย วิสชฺเชติ.

‘‘มจฺจุนาพฺภาหโต [มจฺจุนพฺภาหโต (ก.) เถรคา. ๔๔๘; สํ. นิ. ๑.๖๖ ปสฺสิตพฺพํ] โลโก, ชราย ปริวาริโต;

ตณฺหาสลฺเลน โอติณฺโณ, อิจฺฉาธูปายิโต สทา’’ติ.

๒๐. ตตฺถ ชรา จ มรณฺจ อิมานิ ทฺเว สงฺขตสฺส สงฺขตลกฺขณานิ. ชรายํ ิตสฺส อฺถตฺตํ, มรณํ วโย. ตตฺถ ชราย จ มรณสฺส จ อตฺถโต นานตฺตํ. เกน การเณน, คพฺภคตาปิ หิ มียนฺติ, น จ เต ชิณฺณา ภวนฺติ. อตฺถิ จ เทวานํ มรณํ, น จ เตสํ สรีรานิ ชีรนฺติ. สกฺกเตว ชราย ปฏิกมฺมํ กาตุํ, น ปน สกฺกเต มรณสฺส ปฏิกมฺมํ กาตุํ อฺตฺเรว อิทฺธิมนฺตานํ อิทฺธิวิสยา. ยํ ปนาห ตณฺหาสลฺเลน โอติณฺโณติ ทิสฺสนฺติ วีตราคา ชีรนฺตาปิ มียนฺตาปิ. ยทิ จ ยถา ชรามรณํ, เอวํ ตณฺหาปิ สิยา. เอวํ สนฺเต สพฺเพ โยพฺพนฏฺาปิ วิคตตณฺหา สิยุํ. ยถา จ ตณฺหา ทุกฺขสฺส สมุทโย, เอวํ ชรามรณมฺปิ สิยา ทุกฺขสฺส สมุทโย, น จ สิยา ตณฺหา ทุกฺขสฺส สมุทโย, น หิ ชรามรณํ ทุกฺขสฺส สมุทโย, ตณฺหา ทุกฺขสฺส สมุทโย. ยถา จ ตณฺหา มคฺควชฺฌา, เอวํ ชรามรณมฺปิ สิยา มคฺควชฺฌํ. อิมาย ยุตฺติยา อฺมฺเหิ การเณหิ คเวสิตพฺพํ. ยทิ จ สนฺทิสฺสติ ยุตฺติสมารูฬฺหํ อตฺถโต จ อฺตฺตํ, พฺยฺชนโตปิ คเวสิตพฺพํ.

สลฺโลติ วา ธูปายนนฺติ วา อิเมสํ ธมฺมานํ อตฺถโต เอกตฺตํ. น หิ ยุชฺชติ อิจฺฉาย จ ตณฺหาย จ อตฺถโต อฺตฺตํ. ตณฺหาย อธิปฺปาเย อปริปูรมาเน นวสุ อาฆาตวตฺถูสุ โกโธ จ อุปนาโห จ อุปฺปชฺชติ. อิมาย ยุตฺติยา ชราย จ มรณสฺส จ ตณฺหาย จ อตฺถโต อฺตฺตํ.

ยํ ปนิทํ ภควตา ทฺวีหิ นาเมหิ อภิลปิตํ อิจฺฉาติปิ ตณฺหาติปิ, อิทํ ภควตา พาหิรานํ วตฺถูนํ อารมฺมณวเสน ทฺวีหิ นาเมหิ อภิลปิตํ อิจฺฉาติปิ ตณฺหาติปิ, สพฺพา หิ ตณฺหา อชฺโฌสานลกฺขเณน เอกลกฺขณา. ยถา สพฺโพ อคฺคิ อุณฺหตฺตลกฺขเณน เอกลกฺขโณ, อปิ จ อุปาทานวเสน อฺมฺานิ นามานิ ลภติ, กฏฺคฺคีติปิ ติณคฺคีติปิ สกลิกคฺคีติปิ โคมยคฺคีติปิ ถุสคฺคีติปิ สงฺการคฺคีติปิ, สพฺโพ หิ อคฺคิ อุณฺหตฺตลกฺขโณว. เอวํ สพฺพา ตณฺหา อชฺโฌสานลกฺขเณน เอกลกฺขณา, อปิ ตุ อารมฺมณอุปาทานวเสน อฺมฺเหิ นาเมหิ อภิลปิตา อิจฺฉาอิติปิ ตณฺหาอิติปิ สลฺโลอิติปิ ธูปายนาอิติปิ สริตาอิติปิ วิสตฺติกาอิติปิ สิเนโหอิติปิ กิลมโถอิติปิ ลตาอิติปิ มฺนาอิติปิ พนฺโธอิติปิ อาสาอิติปิ ปิปาสาอิติปิ อภินนฺทนาอิติปิ, อิติ สพฺพา ตณฺหา อชฺโฌสานลกฺขเณน เอกลกฺขณา. ยถา จ เววจเน วุตฺตา.

‘‘อาสา จ ปิหา อภินนฺทนา จ, อเนกธาตูสุ สรา ปติฏฺิตา;

อฺาณมูลปฺปภวา ปชปฺปิตา, สพฺพา มยา พฺยนฺติกตา สมูลกา’’ติ [สมูลิกา (สี.)].

ตณฺหาเยตํ เววจนํ. ยถาห ภควา – รูเป ติสฺส อวิคตราคสฺส อวิคตจฺฉนฺทสฺส อวิคตเปมสฺส อวิคตปิปาสสฺส อวิคตปริฬาหสฺส. เอวํ เวทนาย สฺาย สงฺขาเรสุ วิฺาเณ อวิคตราคสฺส อวิคตจฺฉนฺทสฺส อวิคตเปมสฺส อวิคตปิปาสสฺส อวิคตปริฬาหสฺส สพฺพํ สุตฺตํ วิตฺถาเรตพฺพํ. ตณฺหาเยตํ เววจนํ. เอวํ ยุชฺชติ.

๒๑. สพฺโพ ทุกฺขูปจาโร กามตณฺหาสงฺขารมูลโก, น ปน ยุชฺชติ สพฺโพ นิพฺพิทูปจาโร กามตณฺหาปริกฺขารมูลโก. อิมาย ยุตฺติยา อฺมฺเหิ การเณหิ คเวสิตพฺพํ.

ยถา หิ [ยถาห (สี.)] ภควา ราคจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อสุภํ เทสยติ, โทสจริตสฺส ภควา ปุคฺคลสฺส เมตฺตํ เทสยติ. โมหจริตสฺส ภควา ปุคฺคลสฺส ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ เทสยติ. ยทิ หิ ภควา ราคจริตสฺส ปุคฺคลสฺส เมตฺตํ เจโตวิมุตฺตึ เทเสยฺย. สุขํ วา ปฏิปทํ ทนฺธาภิฺํ สุขํ วา ปฏิปทํ ขิปฺปาภิฺํ วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมํ วา ปหานํ เทเสยฺย, น ยุชฺชติ เทสนา. เอวํ ยํ กิฺจิ ราคสฺส อนุโลมปฺปหานํ โทสสฺส อนุโลมปฺปหานํ โมหสฺส อนุโลมปฺปหานํ. สพฺพํ ตํ วิจเยน หาเรน วิจินิตฺวา ยุตฺติหาเรน โยเชตพฺพํ. ยาวติกา าณสฺส ภูมิ.

เมตฺตาวิหาริสฺส สโต พฺยาปาโท จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, พฺยาปาโท ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉตีติ ยุชฺชติ เทสนา. กรุณาวิหาริสฺส สโต วิเหสา จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, วิเหสา ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉตีติ ยุชฺชติ เทสนา. มุทิตา วิหาริสฺส สโต อรติ จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, อรติ ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉตีติ ยุชฺชติ เทสนา. อุเปกฺขาวิหาริสฺส สโต ราโค จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, ราโค ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉตีติ ยุชฺชติ เทสนา. อนิมิตฺตวิหาริสฺส สโต นิมิตฺตานุสารี เตน เตเนว วิฺาณํ ปวตฺตตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, นิมิตฺตํ ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉตีติ ยุชฺชติ เทสนา. อสฺมีติ วิคตํ อยมหมสฺมีติ น สมนุปสฺสามิ. อถ จ ปน เม กิสฺมีติ กถสฺมีติ วิจิกิจฺฉา กถํกถาสลฺลํ จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, วิจิกิจฺฉา กถํกถาสลฺลํ ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉตีติ ยุชฺชติ เทสนา.

ยถา วา ปน ปมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส สโต กามราคพฺยาปาทา วิเสสาย สํวตฺตนฺตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, หานาย สํวตฺตนฺตีติ ยุชฺชติ เทสนา. วิตกฺกสหคตา วา สฺามนสิการา หานาย สํวตฺตนฺตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, วิเสสาย สํวตฺตนฺตีติ ยุชฺชติ เทสนา. ทุติยํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส สโต วิตกฺกวิจารสหคตา สฺามนสิการา วิเสสาย สํวตฺตนฺตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, หานาย สํวตฺตนฺตีติ ยุชฺชติ เทสนา. อุเปกฺขาสุขสหคตา วา สฺามนสิการา หานาย สํวตฺตนฺตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, วิเสสาย สํวตฺตนฺตีติ ยุชฺชติ เทสนา. ตติยํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส สโต ปีติสุขสหคตา สฺามนสิการา วิเสสาย สํวตฺตนฺตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, หานาย สํวตฺตนฺตีติ ยุชฺชติ เทสนา, อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิสหคตา วา สฺามนสิการา หานาย สํวตฺตนฺตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, วิเสสาย สํวตฺตนฺตีติ ยุชฺชติ เทสนา. จตุตฺถํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส สโต อุเปกฺขาสหคตา สฺามนสิการา วิเสสาย สํวตฺตนฺตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, หานาย สํวตฺตนฺตีติ ยุชฺชติ เทสนา. อากาสานฺจายตนสหคตา วา สฺามนสิการา หานาย สํวตฺตนฺตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, วิเสสาย สํวตฺตนฺตีติ ยุชฺชติ เทสนา.

อากาสานฺจายตนํ สมาปนฺนสฺส สโต รูปสหคตา สฺามนสิการา วิเสสาย สํวตฺตนฺตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, หานาย สํวตฺตนฺตีติ ยุชฺชติ เทสนา. วิฺาณฺจายตนสหคตา วา สฺามนสิการา หานาย สํวตฺตนฺตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, วิเสสาย สํวตฺตนฺตีติ ยุชฺชติ เทสนา. วิฺาณฺจายตนํ สมาปนฺนสฺส สโต อากาสานฺจายตนสหคตา สฺามนสิการา วิเสสาย สํวตฺตนฺตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, หานาย สํวตฺตนฺตีติ ยุชฺชติ เทสนา. อากิฺจฺายตนสหคตา วา สฺามนสิการา หานาย สํวตฺตนฺตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, วิเสสาย สํวตฺตนฺตีติ ยุชฺชติ เทสนา.

อากิฺจฺายตนํ สมาปนฺนสฺส สโต วิฺาณฺจายตนสหคตา สฺามนสิการา วิเสสาย สํวตฺตนฺตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, หานาย สํวตฺตนฺตีติ ยุชฺชติ เทสนา. เนวสฺานาสฺายตนสหคตา วา สฺามนสิการา หานาย สํวตฺตนฺตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, วิเสสาย สํวตฺตนฺตีติ ยุชฺชติ เทสนา. เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปนฺนสฺส สโต สฺูปจารา วิเสสาย สํวตฺตนฺตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, หานาย สํวตฺตนฺตีติ ยุชฺชติ เทสนา. สฺาเวทยิตนิโรธสหคตา วา สฺามนสิการา หานาย สํวตฺตนฺตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, วิเสสาย สํวตฺตนฺตีติ ยุชฺชติ เทสนา. กลฺลตาปริจิตํ จิตฺตํ น จ อภินีหารํ ขมตีติ น ยุชฺชติ เทสนา, กลฺลตาปริจิตํ จิตฺตํ อถ จ อภินีหารํ ขมตีติ ยุชฺชติ เทสนา.

เอวํ สพฺเพ นวสุตฺตนฺตา ยถาธมฺมํ ยถาวินยํ ยถาสตฺถุสาสนํ สพฺพโต วิจเยน หาเรน วิจินิตฺวา ยุตฺติหาเรน โยเชตพฺพาติ. เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน ‘‘สพฺเพสํ หารานํ ยา ภูมิ โย จ โคจโร เตส’’นฺติ.

นิยุตฺโต ยุตฺติ หาโร.

๔. ปทฏฺานหารวิภงฺโค

๒๒. ตตฺถ กตโม ปทฏฺาโน หาโร? ‘‘ธมฺมํ เทเสติ ชิโน’’ติ, อยํ ปทฏฺาโน หาโร. กึ เทเสติ? สพฺพธมฺมยาถาวอสมฺปฏิเวธลกฺขณา อวิชฺชา, ตสฺสา วิปลฺลาสา ปทฏฺานํ. อชฺโฌสานลกฺขณา ตณฺหา, ตสฺสา ปิยรูปํ สาตรูปํ ปทฏฺานํ. ปตฺถนลกฺขโณ โลโภ, ตสฺส อทินฺนาทานํ ปทฏฺานํ. วณฺณสณฺานพฺยฺชนคฺคหณลกฺขณา สุภสฺา, ตสฺสา อินฺทฺริยา สํวโร ปทฏฺานํ. สาสวผสฺสอุปคมนลกฺขณา สุขสฺา, ตสฺสา อสฺสาโท ปทฏฺานํ. สงฺขตลกฺขณานํ ธมฺมานํ อสมนุปสฺสนลกฺขณา นิจฺจสฺา, ตสฺสา วิฺาณํ ปทฏฺานํ. อนิจฺจสฺาทุกฺขสฺาอสมนุปสฺสนลกฺขณา อตฺตสฺา, ตสฺสา นามกาโย ปทฏฺานํ. สพฺพธมฺมสมฺปฏิเวธลกฺขณา วิชฺชา, ตสฺสา สพฺพํ เนยฺยํ ปทฏฺานํ. จิตฺตวิกฺเขปปฏิสํหรณลกฺขโณ สมโถ, ตสฺส อสุภา ปทฏฺานํ. อิจฺฉาวจรปฏิสํหรณลกฺขโณ อโลโภ, ตสฺส อทินฺนาทานา เวรมณี [เวรมณิ (ก.)] ปทฏฺานํ. อพฺยาปชฺชลกฺขโณ อโทโส, ตสฺส ปาณาติปาตา เวรมณี ปทฏฺานํ. วตฺถุอวิปฺปฏิปตฺติลกฺขโณ [วตฺถุอวิปฺปฏิปาทานลกฺขโณ (สี. ก.)] อโมโห, ตสฺส สมฺมาปฏิปตฺติ ปทฏฺานํ. วินีลกวิปุพฺพกคหณลกฺขณา อสุภสฺา, ตสฺสา นิพฺพิทา ปทฏฺานํ. สาสวผสฺสปริชานนลกฺขณา ทุกฺขสฺา, ตสฺสา เวทนา ปทฏฺานํ. สงฺขตลกฺขณานํ ธมฺมานํ สมนุปสฺสนลกฺขณา อนิจฺจสฺา, ตสฺสา อุปฺปาทวยา ปทฏฺานํ. สพฺพธมฺมอภินิเวสลกฺขณา อนตฺตสฺา, ตสฺสา ธมฺมสฺา ปทฏฺานํ.

ปฺจ กามคุณา กามราคสฺส ปทฏฺานํ, ปฺจินฺทฺริยานิ รูปีนิ รูปราคสฺส ปทฏฺานํ, ฉฏฺายตนํ ภวราคสฺส ปทฏฺานํ, นิพฺพตฺตภวานุปสฺสิตา ปฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ ปทฏฺานํ, ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณทสฺสนสฺส ปทฏฺานํ. โอกปฺปนลกฺขณา สทฺธา อธิมุตฺติปจฺจุปฏฺานา จ, อนาวิลลกฺขโณ ปสาโท สมฺปสีทนปจฺจุปฏฺาโน จ. อภิปตฺถิยนลกฺขณา สทฺธา, ตสฺสา อเวจฺจปสาโท ปทฏฺานํ. อนาวิลลกฺขโณ ปสาโท, ตสฺส สทฺธา ปทฏฺานํ. อารมฺภลกฺขณํ วีริยํ, ตสฺส สมฺมปฺปธานํ ปทฏฺานํ. อปิลาปนลกฺขณา สติ, ตสฺสา สติปฏฺานํ ปทฏฺานํ. เอกคฺคลกฺขโณ สมาธิ, ตสฺส ฌานานิ ปทฏฺานํ. ปชานนลกฺขณา ปฺา, ตสฺสา สจฺจานิ ปทฏฺานํ.

อปโร นโย, อสฺสาทมนสิการลกฺขโณ อโยนิโสมนสิกาโร, ตสฺส อวิชฺชา ปทฏฺานํ. สจฺจสมฺโมหนลกฺขณา อวิชฺชา, สา สงฺขารานํ ปทฏฺานํ. ปุนพฺภววิโรหณลกฺขณา สงฺขารา, เต [ตํ (ก.)] วิฺาณสฺส ปทฏฺานํ. โอปปจฺจยิกนิพฺพตฺติลกฺขณํ วิฺาณํ, ตํ นามรูปสฺส ปทฏฺานํ. นามกายรูปกายสงฺฆาตลกฺขณํ นามรูปํ, ตํ ฉฬายตนสฺส ปทฏฺานํ. อินฺทฺริยววตฺถานลกฺขณํ ฉฬายตนํ, ตํ ผสฺสสฺส ปทฏฺานํ. จกฺขุรูปวิฺาณสนฺนิปาตลกฺขโณ ผสฺโส, โส เวทนาย ปทฏฺานํ. อิฏฺานิฏฺอนุภวนลกฺขณา เวทนา, สา ตณฺหาย ปทฏฺานํ. อชฺโฌสานลกฺขณา ตณฺหา, สา อุปาทานสฺส ปทฏฺานํ. โอปปจฺจยิกํ อุปาทานํ, ตํ ภวสฺส ปทฏฺานํ. นามกายรูปกายสมฺภวนลกฺขโณ ภโว, โส ชาติยา ปทฏฺานํ. ขนฺธปาตุภวนลกฺขณา ชาติ, สา ชราย ปทฏฺานํ. อุปธิปริปากลกฺขณา ชรา, สา มรณสฺส ปทฏฺานํ. ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทลกฺขณํ มรณํ, ตํ โสกสฺส ปทฏฺานํ. อุสฺสุกฺกการโก โสโก, โส ปริเทวสฺส ปทฏฺานํ. ลาลปฺปการโก ปริเทโว, โส ทุกฺขสฺส ปทฏฺานํ. กายสํปีฬนํ ทุกฺขํ, ตํ โทมนสฺสสฺส ปทฏฺานํ. จิตฺตสํปีฬนํ โทมนสฺสํ, ตํ อุปายาสสฺส ปทฏฺานํ. โอทหนการโก อุปายาโส, โส ภวสฺส ปทฏฺานํ. อิมานิ ภวงฺคานิ ยทา สมคฺคานิ นิพฺพตฺตานิ ภวนฺติ โส ภโว, ตํ สํสารสฺส ปทฏฺานํ. นิยฺยานิกลกฺขโณ มคฺโค, โส นิโรธสฺส ปทฏฺานํ.

ติตฺถฺุตา ปีตฺุตาย ปทฏฺานํ, ปีตฺุตา ปตฺตฺุตาย [มตฺตฺุตาย (สี. ก.)] ปทฏฺานํ, ปตฺตฺุตา อตฺตฺุตาย ปทฏฺานํ, อตฺตฺุตา ปุพฺเพกตปุฺตาย ปทฏฺานํ, ปุพฺเพกตปุฺตา ปติรูปเทสวาสสฺส ปทฏฺานํ, ปติรูปเทสวาโส สปฺปุริสูปนิสฺสยสฺส ปทฏฺานํ, สปฺปุริสูปนิสฺสโย อตฺตสมฺมาปณิธานสฺส ปทฏฺานํ, อตฺตสมฺมาปณิธานํ สีลานํ ปทฏฺานํ, สีลานิ อวิปฺปฏิสารสฺส ปทฏฺานํ, อวิปฺปฏิสาโร ปาโมชฺชสฺส ปทฏฺานํ, ปาโมชฺชํ ปีติยา ปทฏฺานํ, ปีติ ปสฺสทฺธิยา ปทฏฺานํ, ปสฺสทฺธิ สุขสฺส ปทฏฺานํ, สุขํ สมาธิสฺส ปทฏฺานํ, สมาธิ ยถาภูตาณทสฺสนสฺส ปทฏฺานํ, ยถาภูตาณทสฺสนํ นิพฺพิทาย ปทฏฺานํ, นิพฺพิทา วิราคสฺส ปทฏฺานํ, วิราโค วิมุตฺติยา ปทฏฺานํ. วิมุตฺติ วิมุตฺติาณทสฺสนสฺส ปทฏฺานํ. เอวํ โย โกจิ อุปนิสฺสโย โย โกจิ ปจฺจโย, สพฺโพ โส ปทฏฺานํ. เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน ‘‘ธมฺมํ เทเสติ ชิโน’’ติ.

นิยุตฺโต ปทฏฺาโน หาโร.

๕. ลกฺขณหารวิภงฺโค

๒๓. ตตฺถ กตโม ลกฺขโณ หาโร? ‘‘วุตฺตมฺหิ เอกธมฺเม’’ติ, อยํ ลกฺขโณ หาโร. กึ ลกฺขยติ? เย ธมฺมา เอกลกฺขณา, เตสํ ธมฺมานํ เอกสฺมึ ธมฺเม วุตฺเต อวสิฏฺา ธมฺมา วุตฺตา ภวนฺติ. ยถา กึ ภเว? ยถาห ภควา –

‘‘จกฺขุํ, ภิกฺขเว, อนวฏฺิตํ อิตฺตรํ ปริตฺตํ ปภงฺคุ ปรโต ทุกฺขํ พฺยสนํ จลนํ [จลํ (สี.)] กุกฺกุฬํ สงฺขารํ [สสงฺขารํ (ก.)] วธกํ อมิตฺตมชฺเฌ. อิมสฺมึ จกฺขุสฺมึ วุตฺเต อวสิฏฺานิ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ วุตฺตานิ ภวนฺติ. เกน การเณน? สพฺพานิ หิ ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ วธกฏฺเน เอกลกฺขณานิ. ยถา จาห ภควา –

‘‘อตีเต, ราธ, รูเป อนเปกฺโข โหหิ, อนาคตํ รูปํ มา อภินนฺทิ [อภินนฺท (ก.)], ปจฺจุปฺปนฺนสฺส รูปสฺส นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย จาคาย ปฏินิสฺสคฺคาย ปฏิปชฺช. อิมสฺมึ รูปกฺขนฺเธ วุตฺเต อวสิฏฺา ขนฺธา วุตฺตา ภวนฺติ. เกน การเณน? สพฺเพ หิ ปฺจกฺขนฺธา ยมโกวาทสุตฺเต [ปสฺส สํ. นิ. ๓.๘๔] วธกฏฺเน เอกลกฺขณา วุตฺตา. ยถา จาห ภควา –

‘‘เยสฺจ [ปสฺส ธ. ป. ๒๙๓] สุสมารทฺธา, นิจฺจํ กายคตาสติ;

อกิจฺจํ เต น เสวนฺติ, กิจฺเจ สาตจฺจการิโน’’.

อิติ กายคตาย สติยา วุตฺตาย วุตฺตา ภวนฺติ เวทนาคตา สติ จิตฺตคตา ธมฺมคตา จ. ตถา ยํ กิฺจิ ทิฏฺํ วา สุตํ วา มุตํ วาติ วุตฺเต วุตฺตํ ภวติ วิฺาตํ. ยถา จาห ภควา –

ตสฺมาติห ตฺวํ ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหราหิ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. ‘‘อาตาปี’’ติ วีริยินฺทฺริยํ, ‘‘สมฺปชาโน’’ติ ปฺินฺทฺริยํ, ‘‘สติมา’’ติ สตินฺทฺริยํ, ‘‘วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺส’’นฺติ สมาธินฺทฺริยํ, เอวํ กาเย กายานุปสฺสิโน วิหรโต จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. เกน การเณน, เอกลกฺขณตฺตา จตุนฺนํ อินฺทฺริยานํ.

๒๔. จตูสุ สติปฏฺาเนสุ ภาวิยมาเนสุ จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, จตูสุ สมฺมปฺปธาเนสุ ภาวิยมาเนสุ จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิยมาเนสุ ปฺจินฺทฺริยานิ ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, จตูสุ อิทฺธิปาเทสุ ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, ปฺจสุ อินฺทฺริเยสุ ภาวิยมาเนสุ ปฺจ พลานิ ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, ปฺจสุ พเลสุ ภาวิยมาเนสุ สตฺต โพชฺฌงฺคา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, สตฺตสุ โพชฺฌงฺเคสุ ภาวิยมาเนสุ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ, สพฺเพว [สพฺเพ จ (สี. ก.)] โพธงฺคมา ธมฺมา โพธิปกฺขิยา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. เกน การเณน, สพฺเพ หิ โพธงฺคมา โพธิปกฺขิยา เนยฺยานิกลกฺขเณน เอกลกฺขณา, เต เอกลกฺขณตฺตา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.

เอวํ อกุสลาปิ ธมฺมา เอกลกฺขณตฺตา ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ. จตูสุ สติปฏฺาเนสุ ภาวิยมาเนสุ วิปลฺลาสา ปหียนฺติ, อาหารา จสฺส ปริฺํ คจฺฉนฺติ, อุปาทาเนหิ อนุปาทาโน ภวติ, โยเคหิ จ วิสํยุตฺโต ภวติ, คนฺเถหิ จ วิปฺปยุตฺโต ภวติ, อาสเวหิ จ อนาสโว ภวติ, โอเฆหิ จ นิตฺถิณฺโณ ภวติ, สลฺเลหิ จ วิสลฺโล ภวติ, วิฺาณฏฺิติโย จสฺส ปริฺํ คจฺฉนฺติ, อคติคมเนหิ น อคตึ คจฺฉติ, เอวํ อกุสลาปิ ธมฺมา เอกลกฺขณตฺตา ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ.

ยตฺถ วา ปน รูปินฺทฺริยํ เทสิตํ, เทสิตา ตตฺเถว รูปธาตุ รูปกฺขนฺโธ รูปฺจายตนํ. ยตฺถ วา ปน สุขา เวทนา เทสิตา, เทสิตํ ตตฺถ สุขินฺทฺริยํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ ทุกฺขสมุทโย จ อริยสจฺจํ. ยตฺถ วา ปน ทุกฺขา เวทนา เทสิตา, เทสิตํ ตตฺถ ทุกฺขินฺทฺริยํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ ทุกฺขฺจ อริยสจฺจํ. ยตฺถ วา ปน อทุกฺขมสุขา เวทนา เทสิตา, เทสิตํ ตตฺถ อุเปกฺขินฺทฺริยํ สพฺโพ จ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท. เกน การเณน, อทุกฺขมสุขาย หิ เวทนาย อวิชฺชา อนุเสติ. อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ, เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติ. โส จ สราคสโทสสโมหสํกิเลสปกฺเขน หาตพฺโพ, วีตราควีตโทสวีตโมหอริยธมฺเมหิ หาตพฺโพ.

เอวํ เย ธมฺมา เอกลกฺขณา กิจฺจโต จ ลกฺขณโต จ สามฺโต จ จุตูปปาตโต จ, เตสํ ธมฺมานํ เอกสฺมึ ธมฺเม วุตฺเต อวสิฏฺา ธมฺมา วุตฺตา ภวนฺติ. เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน ‘‘วุตฺตมฺหิ เอกธมฺเม’’ติ.

นิยุตฺโต ลกฺขโณ หาโร.

๖. จตุพฺยูหหารวิภงฺโค

๒๕. ตตฺถ กตโม จตุพฺยูโห หาโร? ‘‘เนรุตฺตมธิปฺปาโย’’ติ อยํ. พฺยฺชเนน สุตฺตสฺส เนรุตฺตฺจ อธิปฺปาโย จ นิทานฺจ ปุพฺพาปรสนฺธิ จ คเวสิตพฺโพ. ตตฺถ กตมํ เนรุตฺตํ, ยา นิรุตฺติปทสํหิตา, ยํ ธมฺมานํ นามโส าณํ. ยทา หิ ภิกฺขุ อตฺถสฺส จ นามํ ชานาติ, ธมฺมสฺส จ นามํ ชานาติ, ตถา ตถา นํ อภินิโรเปติ. อยฺจ วุจฺจติ อตฺถกุสโล ธมฺมกุสโล พฺยฺชนกุสโล นิรุตฺติกุสโล ปุพฺพาปรกุสโล เทสนากุสโล อตีตาธิวจนกุสโล อนาคตาธิวจนกุสโล ปจฺจุปฺปนฺนาธิวจนกุสโล อิตฺถาธิวจนกุสโล ปุริสาธิวจนกุสโล นปุํสกาธิวจนกุสโล เอกาธิวจนกุสโล อเนกาธิวจนกุสโล, เอวํ สพฺพานิ กาตพฺพานิ ชนปทนิรุตฺตานิ สพฺพา จ ชนปทนิรุตฺติโย. อยํ นิรุตฺติปทสํหิตา.

๒๖. ตตฺถ กตโม อธิปฺปาโย?

‘‘ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ, ฉตฺตํ มหนฺตํ ยถ วสฺสกาเล [วิย วสฺสกาเล ชา. ๑.๑๐.๑๐๓];

เอสานิสํโส ธมฺเม สุจิณฺเณ, น ทุคฺคตึ คจฺฉติ ธมฺมจารี’’ติ.

อิธ ภควโต โก อธิปฺปาโย? เย อปาเยหิ ปริมุจฺจิตุกามา ภวิสฺสนฺติ, เต ธมฺมจาริโน ภวิสฺสนฺตีติ อยํ เอตฺถ ภควโต อธิปฺปาโย.

‘‘โจโร ยถา สนฺธิมุเข คหีโต, สกมฺมุนา หฺติ [หฺเต (สี.)] พชฺฌเต จ;

เอวํ อยํ เปจฺจ ปชา ปรตฺถ, สกมฺมุนา หฺติ [หฺเต (สี.)] พชฺฌเต จา’’ติ.

อิธ ภควโต โก อธิปฺปาโย? สฺเจตนิกานํ กตานํ กมฺมานํ อุปจิตานํ ทุกฺขเวทนียานํ อนิฏฺํ อสาตํ วิปากํ ปจฺจนุภวิสฺสตีติ อยํ เอตฺถ ภควโต อธิปฺปาโย.

‘‘สุขกามานิ [ปสฺส ธ. ป. ๑๓๑-๑๓๒] ภูตานิ, โย ทณฺเฑน วิหึสติ;

อตฺตโน สุขเมสาโน, เปจฺจ โส น ลภเต สุข’’นฺติ.

อิธ ภควโต โก อธิปฺปาโย? เย สุเขน อตฺถิกา ภวิสฺสนฺติ, เต ปาปกมฺมํ [ปาปกํ กมฺมํ (ก.)] น กริสฺสนฺตีติ อยํ เอตฺถ ภควโต อธิปฺปาโย.

‘‘มิทฺธี [ปสฺส ธ. ป. ๓๒๕] ยทา โหติ มหคฺฆโส จ, นิทฺทายิตา สมฺปริวตฺตสายี;

มหาวราโหว นิวาปปุฏฺโ, ปุนปฺปุนํ คพฺภมุเปติ มนฺโท’’ติ.

อิธ ภควโต โก อธิปฺปาโย? เย ชรามรเณน อฏฺฏิยิตุกามา ภวิสฺสนฺติ, เต ภวิสฺสนฺติ โภชเน มตฺตฺุโน อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารา ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตํ ชาคริยานุโยคมนุยุตฺตา วิปสฺสกา กุสเลสุ ธมฺเมสุ สคารวา จ สพฺรหฺมจารีสุ เถเรสุ นเวสุ มชฺฌิเมสูติ อยํ เอตฺถ ภควโต อธิปฺปาโย.

‘‘อปฺปมาโท อมตปทํ [อมตํ ปทํ (ก.) ปสฺส ธ. ป. ๒๑], ปมาโท มจฺจุโน ปทํ;

อปฺปมตฺตา น มียนฺติ, เย ปมตฺตา ยถา มตา’’ติ.

อิธ ภควโต โก อธิปฺปาโย? เย อมตปริเยสนํ ปริเยสิตุกามา ภวิสฺสนฺติ, เต อปฺปมตฺตา วิหริสฺสนฺตีติ อยํ เอตฺถ ภควโต อธิปฺปาโย. อยํ อธิปฺปาโย.

๒๗. ตตฺถ กตมํ นิทานํ? ยถา โส ธนิโย โคปาลโก ภควนฺตํ อาห –

‘‘นนฺทติ ปุตฺเตหิ ปุตฺติมา, โคมา [โคมิโก (สี.), โคปิโก (ก.) สุ. นิ. ๓๓; สํ. นิ. ๑.๑๔๔ ปสฺสิตพฺพํ] โคหิ ตเถว นนฺทติ;

อุปธี หิ นรสฺส นนฺทนา, น หิ โส นนฺทติ โย นิรูปธี’’ติ.

ภควา อาห –

‘‘โสจติ ปุตฺเตหิ ปุตฺติมา, โคปิโก [โคมิโก (สี.)] โคหิ ตเถว โสจติ;

อุปธี หิ นรสฺส โสจนา, น หิ โส โสจติ โย นิรูปธี’’ติ.

อิมินา วตฺถุนา อิมินา นิทาเนน เอวํ ายติ ‘‘อิธ ภควา พาหิรํ ปริคฺคหํ อุปธิ อาหา’’ติ. ยถา จ มาโร ปาปิมา คิชฺฌกูฏา ปพฺพตา ปุถุสิลํ ปาเตสิ, ภควา อาห –

‘‘สเจปิ เกวลํ สพฺพํ, คิชฺฌกูฏํ จเลสฺสสิ [จเลยฺยาสิ (ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๑.๑๔๗];

เนว สมฺมาวิมุตฺตานํ, พุทฺธานํ อตฺถิ อิฺชิตํ.

นภํ ผเลยฺยปฺปถวี จเลยฺย, สพฺเพว ปาณา อุท สนฺตเสยฺยุํ;

สลฺลมฺปิ เจ อุรสิ กมฺปเยยฺยุํ [ปกมฺปเยยฺยุํ (สี.), กปฺปเยยฺยุํ (ก.)], อุปธีสุ ตาณํ น กโรนฺติ พุทฺธา’’ติ.

อิมินา วตฺถุนา อิมินา นิทาเนน เอวํ ายติ ‘‘อิธ ภควา กายํ อุปธึ อาหา’’ติ. ยถา จาห –

‘‘น ตํ ทฬฺหํ พนฺธนมาหุ ธีรา, ยทายสํ ทารุชปพฺพชฺจ [ทารุชํ พพฺพชฺจ (สี.) ปสฺส ธ. ป. ๓๔๕];

สารตฺตรตฺตา มณิกุณฺฑเลสุ, ปุตฺเตสุ ทาเรสุ จ ยา อเปกฺขา’’ติ.

อิมินา วตฺถุนา อิมินา นิทาเนน เอวํ ายติ ‘‘อิธ ภควา พาหิเรสุ วตฺถูสุ ตณฺหํ อาหา’’ติ. ยถา จาห –

‘‘เอตํ ทฬฺหํ พนฺธนมาหุ ธีรา, โอหารินํ สิถิลํ ทุปฺปมุฺจํ;

เอตมฺปิ เฉตฺวาน ปริพฺพชนฺติ, อนเปกฺขิโน กามสุขํ ปหายา’’ติ.

อิมินา วตฺถุนา อิมินา นิทาเนน เอวํ ายติ ‘‘อิธ ภควา พาหิรวตฺถุกาย ตณฺหาย ปหานํ อาหา’’ติ. ยถา จาห –

‘‘อาตุรํ อสุจึ ปูตึ, ทุคฺคนฺธํ เทหนิสฺสิตํ;

ปคฺฆรนฺตํ ทิวา รตฺตึ, พาลานํ อภินนฺทิต’’นฺติ.

อิมินา วตฺถุนา อิมินา นิทาเนน เอวํ ายติ ‘‘อิธ ภควา อชฺฌตฺติกวตฺถุกาย ตณฺหาย ปหานํ อาหา’’ติ. ยถา จาห –

‘‘อุจฺฉินฺท [ปสฺส ธ. ป. ๒๘๕] สิเนหมตฺตโน, กุมุทํ สารทิกํว ปาณินา;

สนฺติมคฺคเมว พฺรูหย, นิพฺพานํ สุคเตน เทสิต’’นฺติ.

อิมินา วตฺถุนา อิมินา นิทาเนน เอวํ ายติ ‘‘อิธ ภควา อชฺฌตฺติกวตฺถุกาย ตณฺหาย ปหานํ อาหา’’ติ. อิทํ นิทานํ.

ตตฺถ กตโม ปุพฺพาปรสนฺธิ. ยถาห –

‘‘กามนฺธา ชาลสฺฉนฺนา, ตณฺหาฉทนฉาทิตา;

ปมตฺตพนฺธนา [ปมตฺตพนฺธุนา อุทา. ๖๔] พทฺธา [พนฺธา (ก.) ปสฺส อุทา. ๖๔], มจฺฉาว กุมินามุเข;

ชรามรณมนฺเวนฺติ, วจฺโฉ ขีรปโกว มาตร’’นฺติ.

อยํ กามตณฺหา วุตฺตา. สา กตเมน ปุพฺพาปเรน ยุชฺชติ? ยถาห –

‘‘รตฺโต อตฺถํ น ชานาติ, รตฺโต ธมฺมํ น ปสฺสติ;

อนฺธนฺตมํ ตทา โหติ, ยํ ราโค สหเต นร’’นฺติ.

อิติ อนฺธตาย จ สฺฉนฺนตาย จ สาเยว ตณฺหา อภิลปิตา. ยฺจาห กามนฺธา ชาลสฺฉนฺนา, ตณฺหาฉทนฉาทิตาติ. ยฺจาห รตฺโต อตฺถํ น ชานาติ, รตฺโต ธมฺมํ น ปสฺสตีติ, อิเมหิ ปเทหิ ปริยุฏฺาเนหิ สาเยว ตณฺหา อภิลปิตา. ยํ อนฺธการํ, อยํ ทุกฺขสมุทโย, ยา จ ตณฺหา โปโนภวิกา, ยฺจาห กามาติ อิเม กิเลสกามา. ยฺจาห ชาลสฺฉนฺนาติ เตสํ เยว กามานํ ปโยเคน ปริยุฏฺานํ ทสฺเสติ, ตสฺมา กิเลสวเสน จ ปริยุฏฺานวเสน จ ตณฺหาพนฺธนํ วุตฺตํ. เย เอทิสิกา, เต ชรามรณํ อนฺเวนฺติ, อยํ ภควตา ยถานิกฺขิตฺตคาถาพเลน ทสฺสิตา ชรามรณมนฺเวนฺตีติ.

‘‘ยสฺส ปปฺจา ิตี จ นตฺถิ, สนฺทานํ ปลิฆฺจ [ปฬิฆฺจ (สี.) ปสฺส อุทา. ๖๗] วีติวตฺโต;

ตํ นิตฺตณฺหํ มุนึ จรนฺตํ, น วิชานาติ สเทวโกปิ โลโก’’ติ.

ปปฺจา นาม ตณฺหาทิฏฺิมานา, ตทภิสงฺขตา จ สงฺขารา. ิติ นาม อนุสยา. สนฺทานํ นาม ตณฺหาย ปริยุฏฺานํ, ยานิ ฉตฺตึสตณฺหาย ชาลินิยา วิจริตานิ. ปลิโฆ นาม โมโห. เย จ ปปฺจา สงฺขารา ยา จ ิติ ยํ สนฺทานฺจ ยํ ปลิฆฺจ โย เอตํ สพฺพํ สมติกฺกนฺโต, อยํ วุจฺจติ นิตฺตณฺโห อิติ.

๒๘. ตตฺถ ปริยุฏฺานสงฺขารา ทิฏฺธมฺมเวทนียา วา อุปปชฺชเวทนียา วา อปราปริยเวทนียา วา, เอวํ ตณฺหา ติวิธํ ผลํ เทติ ทิฏฺเ วา ธมฺเม อุปปชฺเช วา อปเร วา ปริยาเย. เอวํ ภควา อาห ‘‘ยํ โลภปกตํ กมฺมํ กโรติ กาเยน วา วาจาย วา มนสา วา, ตสฺส วิปากํ อนุโภติ ทิฏฺเ วา ธมฺเม อุปปชฺเช วา อปเร วา ปริยาเย’’ติ. อิทํ ภควโต ปุพฺพาปเรน ยุชฺชติ. ตตฺถ ปริยุฏฺานํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ วา กมฺมํ อุปปชฺชเวทนียํ วา กมฺมํ อปราปริยายเวทนียํ [อปราปริยเวทนียํ (สี.)] วา กมฺมํ, เอวํ กมฺมํ ติธา วิปจฺจติ ทิฏฺเ วา ธมฺเม อุปปชฺเช วา อปเร วา ปริยาเย. ยถาห –

‘‘ยฺเจ พาโล อิธ ปาณาติปาตี โหติ…เป… มิจฺฉาทิฏฺิ โหติ, ตสฺส ทิฏฺเ วา ธมฺเม วิปากํ ปฏิสํเวเทติ อุปปชฺเช วา อปเร วา ปริยาเย’’ติ. อิทํ ภควโต ปุพฺพาปเรน ยุชฺชติ. ตตฺถ ปริยุฏฺานํ ปฏิสงฺขานพเลน ปหาตพฺพํ, สงฺขารา ทสฺสนพเลน, ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานิ ภาวนาพเลน ปหาตพฺพานีติ เอวํ ตณฺหาปิ ติธา ปหียติ. ยา นิตฺตณฺหาตา อยํ สอุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ. เภทา กายสฺส อยํ อนุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ.

ปปฺโจ นาม วุจฺจติ อนุพนฺโธ. ยฺจาห ภควา ‘‘ปปฺเจติ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํ อารพฺภา’’ติ. ยฺจาห ภควา – ‘‘อตีเต, ราธ, รูเป อนเปกฺโข โหหิ, อนาคตํ รูปํ มา อภินนฺทิ, ปจฺจุปฺปนฺนสฺส รูปสฺส นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย ปฏินิสฺสคฺคาย ปฏิปชฺชา’’ติ. อิทํ ภควโต ปุพฺพาปเรน ยุชฺชติ. โย จาปิ ปปฺโจ เย จ สงฺขารา ยา จ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนสฺส อภินนฺทนา, อิทํ เอกตฺถํ. อปิ จ อฺมฺเหิ ปเทหิ อฺมฺเหิ อกฺขเรหิ อฺมฺเหิ พฺยฺชเนหิ อปริมาณา ธมฺมเทสนา วุตฺตา ภควตา. เอวํ สุตฺเตน สุตฺตํ สํสนฺทยิตฺวา ปุพฺพาปเรน สทฺธึ โยชยิตฺวา สุตฺตํ นิทฺทิฏฺํ ภวติ.

โส จายํ [ส จายํ (สี.)] ปุพฺพาปโร สนฺธิ จตุพฺพิโธ อตฺถสนฺธิ พฺยฺชนสนฺธิ เทสนาสนฺธิ นิทฺเทสสนฺธีติ.

ตตฺถ อตฺถสนฺธิ ฉปฺปทานิ สงฺกาสนา ปกาสนา วิวรณา วิภชนา อุตฺตานีกมฺมตา ปฺตฺตีติ.

พฺยฺชนสนฺธิ ฉปฺปทานิ อกฺขรํ ปทํ พฺยฺชนํ อากาโร นิรุตฺติ นิทฺเทโสติ.

เทสนาสนฺธิ น จ ปถวึ นิสฺสาย ฌายติ ฌายี ฌายติ จ. น จ อาปํ นิสฺสาย ฌายติ ฌายี ฌายติ จ, น จ เตชํ นิสฺสาย ฌายติ ฌายี ฌายติ จ, น จ วายุํ นิสฺสาย ฌายติ ฌายี ฌายติ จ. น จ อากาสานฺจายตนํ นิสฺสาย…เป… น จ วิฺาณฺจายตนํ นิสฺสาย…เป… น จ อากิฺจฺายตนํ นิสฺสาย…เป… น จ เนวสฺานาสฺายตนํ นิสฺสาย…เป… น จ อิมํ โลกํ นิสฺสาย…เป… น จ ปรโลกํ นิสฺสาย ฌายติ ฌายี ฌายติ จ. ยมิทํ อุภยมนฺตเรน ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ วิตกฺกิตํ วิจาริตํ มนสานุจินฺติตํ, ตมฺปิ นิสฺสาย น ฌายติ ฌายี ฌายติ จ. อยํ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อนิสฺสิเตน จิตฺเตน น ายติ ฌายนฺโต.

ยถา มาโร ปาปิมา โคธิกสฺส กุลปุตฺตสฺส [ปสฺส สํ. นิ. ๑.๑๕๙] วิฺาณํ สมนฺเวสนฺโต น ชานาติ น ปสฺสติ. โส หิ ปปฺจาตีโต ตณฺหาปหาเนน ทิฏฺินิสฺสโยปิสฺส นตฺถิ. ยถา จ โคธิกสฺส, เอวํ วกฺกลิสฺส สเทวเกน โลเกน สมารเกน สพฺรหฺมเกน สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อนิสฺสิตจิตฺตา น ายนฺติ ฌายมานา. อยํ เทสนาสนฺธิ.

ตตฺถ กตมา นิทฺเทสสนฺธิ? นิสฺสิตจิตฺตา อกุสลปกฺเขน นิทฺทิสิตพฺพา, อนิสฺสิตจิตฺตา กุสลปกฺเขน นิทฺทิสิตพฺพา. นิสฺสิตจิตฺตา กิเลเสน นิทฺทิสิตพฺพา, อนิสฺสิตจิตฺตา โวทาเนน นิทฺทิสิตพฺพา. นิสฺสิตจิตฺตา สํสารปฺปวตฺติยา นิทฺทิสิตพฺพา, อนิสฺสิตจิตฺตา สํสารนิวตฺติยา นิทฺทิสิตพฺพา. นิสฺสิตจิตฺตา ตณฺหาย จ อวิชฺชาย จ นิทฺทิสิตพฺพา, อนิสฺสิตจิตฺตา สมเถน จ วิปสฺสนาย จ นิทฺทิสิตพฺพา. นิสฺสิตจิตฺตา อหิริเกน จ อโนตฺตปฺเปน จ นิทฺทิสิตพฺพา, อนิสฺสิตจิตฺตา หิริยา จ โอตฺตปฺเปน จ นิทฺทิสิตพฺพา. นิสฺสิตจิตฺตา อสติยา จ อสมฺปชฺเน จ นิทฺทิสิตพฺพา, อนิสฺสิตจิตฺตา สติยา จ สมฺปชฺเน จ นิทฺทิสิตพฺพา. นิสฺสิตจิตฺตา อโยนิยา จ อโยนิโสมนสิกาเรน จ นิทฺทิสิตพฺพา, อนิสฺสิตจิตฺตา โยนิยา จ โยนิโสมนสิกาเรน จ นิทฺทิสิตพฺพา. นิสฺสิตจิตฺตา โกสชฺเชน จ โทวจสฺเสน จ นิทฺทิสิตพฺพา, อนิสฺสิตจิตฺตา วีริยารมฺเภน จ โสวจสฺเสน จ นิทฺทิสิตพฺพา. นิสฺสิตจิตฺตา อสฺสทฺธิเยน จ ปมาเทน จ นิทฺทิสิตพฺพา, อนิสฺสิตจิตฺตา สทฺธาย จ อปฺปมาเทน จ นิทฺทิสิตพฺพา. นิสฺสิตจิตฺตา อสทฺธมฺมสฺสวเนน จ อสํวรเณน จ นิทฺทิสิตพฺพา, อนิสฺสิตจิตฺตา สทฺธมฺมสฺสวเนน จ สํวเรน จ นิทฺทิสิตพฺพา. นิสฺสิตจิตฺตา อภิชฺฌาย จ พฺยาปาเทน จ นิทฺทิสิตพฺพา, อนิสฺสิตจิตฺตา อนภิชฺฌาย จ อพฺยาปาเทน จ นิทฺทิสิตพฺพา. นิสฺสิตจิตฺตา นีวรเณหิ จ สํโยชนิเยหิ จ นิทฺทิสิตพฺพา, อนิสฺสิตจิตฺตา ราควิราคาย จ เจโตวิมุตฺติยา อวิชฺชาวิราคาย จ ปฺาวิมุตฺติยา นิทฺทิสิตพฺพา. นิสฺสิตจิตฺตา อุจฺเฉททิฏฺิยา จ สสฺสตทิฏฺิยา จ นิทฺทิสิตพฺพา, อนิสฺสิตจิตฺตา สอุปาทิเสสาย จ อนุปาทิเสสาย จ นิพฺพานธาตุยา นิทฺทิสิตพฺพา. อยํ นิทฺเทสสนฺธิ. เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน ‘‘เนรุตฺตมธิปฺปาโย’’ติ.

นิยุตฺโต จตุพฺยูโห หาโร.

๗. อาวฏฺฏหารวิภงฺโค

๒๙. ตตฺถ กตโม อาวฏฺโฏ หาโร? ‘‘เอกมฺหิ ปทฏฺาเน’’ติ อยํ.

‘‘อารมฺภถ [อารพฺภถ (สี.) สํ. นิ. ๑.๑๘๕; เถรคา. ๒๕๖ ปสฺสิตพฺพํ] นิกฺกมถ, ยุฺชถ พุทฺธสาสเน;

ธุนาถ มจฺจุโน เสนํ, นฬาคารํว กุฺชโร’’ติ.

‘‘อารมฺภถ นิกฺกมถา’’ติ วีริยสฺส ปทฏฺานํ. ‘‘ยุฺชถ พุทฺธสาสเน’’ติ สมาธิสฺส ปทฏฺานํ. ‘‘ธุนาถ มจฺจุโน เสนํ, นฬาคารํว กุฺชโร’’ติ ปฺาย ปทฏฺานํ. ‘‘อารมฺภถ นิกฺกมถา’’ติ วีริยินฺทฺริยสฺส ปทฏฺานํ. ‘‘ยุฺชถ พุทฺธสาสเน’’ติ สมาธินฺทฺริยสฺส ปทฏฺานํ. ‘‘ธุนาถ มจฺจุโน เสนํ, นฬาคารํว กุฺชโร’’ติ ปฺินฺทฺริยสฺส ปทฏฺานํ. อิมานิ ปทฏฺานานิ เทสนา.

อยุฺชนฺตานํ วา สตฺตานํ โยเค, ยุฺชนฺตานํ วา อารมฺโภ.

ตตฺถ เย น ยุฺชนฺติ, เต ปมาทมูลกา น ยุฺชนฺติ. โส ปมาโท ทุวิโธ ตณฺหามูลโก อวิชฺชามูลโก จ. ตตฺถ อวิชฺชามูลโก เยน อฺาเณน นิวุโต เยฺยฏฺานํ นปฺปชานาติ ปฺจกฺขนฺธา อุปฺปาทวยธมฺมาติ, อยํ อวิชฺชามูลโก. โย ตณฺหามูลโก, โส ติวิโธ อนุปฺปนฺนานํ โภคานํ อุปฺปาทาย ปริเยสนฺโต ปมาทํ อาปชฺชติ, อุปฺปนฺนานํ โภคานํ อารกฺขนิมิตฺตํ ปริโภคนิมิตฺตฺจ ปมาทํ อาปชฺชติ อยํ โลเก จตุพฺพิโธ ปมาโท เอกวิโธ อวิชฺชาย ติวิโธ ตณฺหาย. ตตฺถ อวิชฺชาย นามกาโย ปทฏฺานํ. ตณฺหาย รูปกาโย ปทฏฺานํ. ตํ กิสฺส เหตุ, รูปีสุ ภเวสุ อชฺโฌสานํ, อรูปีสุ สมฺโมโห? ตตฺถ รูปกาโย รูปกฺขนฺโธ นามกาโย จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธา. อิเม ปฺจกฺขนฺธา กตเมน อุปาทาเนน สอุปาทานา, ตณฺหาย จ อวิชฺชาย จ? ตตฺถ ตณฺหา ทฺเว อุปาทานานิ กามุปาทานฺจ สีลพฺพตุปาทานฺจ. อวิชฺชา ทฺเว อุปาทานานิ ทิฏฺุปาทานฺจ อตฺตวาทุปาทานฺจ. อิเมหิ จตูหิ อุปาทาเนหิ เย สอุปาทานา ขนฺธา, อิทํ ทุกฺขํ. จตฺตาริ อุปาทานานิ, อยํ สมุทโย. ปฺจกฺขนฺธา ทุกฺขํ. เตสํ ภควา ปริฺาย ปหานาย จ ธมฺมํ เทเสติ ทุกฺขสฺส ปริฺาย สมุทยสฺส ปหานาย.

๓๐. ตตฺถ โย ติวิโธ ตณฺหามูลโก ปมาโท อนุปฺปนฺนานํ โภคานํ อุปฺปาทาย ปริเยสติ, อุปฺปนฺนานํ โภคานํ อารกฺขณฺจ กโรติ ปริโภคนิมิตฺตฺจ, ตสฺส สมฺปฏิเวเธน รกฺขณา ปฏิสํหรณา, อยํ สมโถ.

โส กถํ ภวติ? ยทา ชานาติ กามานํ อสฺสาทฺจ อสฺสาทโต อาทีนวฺจ อาทีนวโต นิสฺสรณฺจ นิสฺสรณโต โอการฺจ สํกิเลสฺจ โวทานฺจ เนกฺขมฺเม จ อานิสํสํ. ตตฺถ ยา วีมํสา อุปปริกฺขา อยํ วิปสฺสนา. อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ สมโถ จ วิปสฺสนา จ. อิเมสุ ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ภาวิยมาเนสุ ทฺเว ธมฺมา ปหียนฺติ ตณฺหา จ อวิชฺชา จ, อิเมสุ ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ปหีเนสุ จตฺตาริ อุปาทานานิ นิรุชฺฌนฺติ. อุปาทานนิโรธา ภวนิโรโธ, ภวนิโรธา ชาตินิโรโธ, ชาตินิโรธา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา นิรุชฺฌนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหติ. อิติ ปุริมกานิ จ ทฺเว สจฺจานิ ทุกฺขํ สมุทโย จ, สมโถ จ วิปสฺสนา จ มคฺโค. ภวนิโรโธ นิพฺพานํ อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ. เตนาห ภควา ‘‘อารมฺภถ นิกฺกมถา’’ติ.

ยถาปิ มูเล อนุปทฺทเว ทฬฺเห, ฉินฺโนปิ รุกฺโข ปุนเรว [ปุนเทว (ก.) ปสฺส ธ. ป. ๓๓๘] รูหติ;

เอวมฺปิ ตณฺหานุสเย อนูหเต, นิพฺพตฺตตี ทุกฺขมิทํ ปุนปฺปุนํ.

อยํ ตณฺหานุสโย. กตมสฺสา ตณฺหาย? ภวตณฺหาย. โย เอตสฺส ธมฺมสฺส ปจฺจโย อยํ อวิชฺชา. อวิชฺชาปจฺจยา หิ ภวตณฺหา. อิเม ทฺเว กิเลสา ตณฺหา จ อวิชฺชา จ. ตานิ จตฺตาริ อุปาทานานิ เตหิ จตูหิ อุปาทาเนหิ เย สอุปาทานา ขนฺธา, อิทํ ทุกฺขํ. จตฺตาริ อุปาทานานิ อยํ สมุทโย. ปฺจกฺขนฺธา ทุกฺขํ. เตสํ ภควา ปริฺาย จ ปหานาย จ ธมฺมํ เทเสติ ทุกฺขสฺส ปริฺาย สมุทยสฺส ปหานาย.

เยน ตณฺหานุสยํ สมูหนติ [สมูหนฺติ (สี.)], อยํ สมโถ. เยน ตณฺหานุสยสฺส ปจฺจยํ อวิชฺชํ วารยติ, อยํ วิปสฺสนา. อิเม ทฺเว ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ สมโถ จ วิปสฺสนา จ. ตตฺถ สมถสฺส ผลํ ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ, วิปสฺสนาย ผลํ อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺติ. อิติ ปุริมกานิ จ ทฺเว สจฺจานิ ทุกฺขํ สมุทโย จ, สมโถ วิปสฺสนา จ มคฺโค, ทฺเว จ วิมุตฺติโย นิโรโธ. อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ. เตนาห ภควา ‘‘ยถาปิ มูเล’’ติ.

‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณํ, กุสลสฺส อุปสมฺปทา;

สจิตฺตปริโยทาปนํ [ปริโยทปนํ (สี.) ธ. ป. ๑๘๓; ที. นิ. ๒.๙๐ ปสฺสิตพฺพํ], เอตํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติ.

สพฺพปาปํ นาม ตีณิ ทุจฺจริตานิ กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ มโนทุจฺจริตํ, เต ทส อกุสลกมฺมปถา ปาณาติปาโต อทินฺนาทานํ กาเมสุมิจฺฉาจาโร มุสาวาโท ปิสุณา วาจา ผรุสา วาจา สมฺผปฺปลาโป อภิชฺฌา พฺยาปาโท มิจฺฉาทิฏฺิ, ตานิ ทฺเว กมฺมานิ เจตนา เจตสิกฺจ. ตตฺถ โย จ ปาณาติปาโต ยา จ ปิสุณา วาจา ยา จ ผรุสา วาจา, อิทํ โทสสมุฏฺานํ. ยฺจ อทินฺนาทานํ โย จ กาเมสุมิจฺฉาจาโร โย จ มุสาวาโท, อิทํ โลภสมุฏฺานํ, โย สมฺผปฺปลาโป, อิทํ โมหสมุฏฺานํ. อิมานิ สตฺต การณานิ เจตนากมฺมํ. ยา อภิชฺฌา, อยํ โลโภ อกุสลมูลํ. โย พฺยาปาโท, อยํ โทโส อกุสลมูลํ. ยา มิจฺฉาทิฏฺิ, อยํ มิจฺฉามคฺโค. อิมานิ ตีณิ การณานิ เจตสิกกมฺมํ. เตนาห ‘‘เจตนากมฺมํ เจตสิกกมฺม’’นฺติ.

อกุสลมูลํ ปโยคํ คจฺฉนฺตํ จตุพฺพิธํ อคตึ คจฺฉติ ฉนฺทา โทสา ภยา โมหา. ตตฺถ ยํ ฉนฺทา อคตึ คจฺฉติ, อิทํ โลภสมุฏฺานํ. ยํ โทสา อคตึ คจฺฉติ, อิทํ โทสสมุฏฺานํ. ยํ ภยา จ โมหา จ อคตึ คจฺฉติ, อิทํ โมหสมุฏฺานํ. ตตฺถ โลโภ อสุภาย ปหียติ. โทโส เมตฺตาย. โมโห ปฺาย. ตถา โลโภ อุเปกฺขาย ปหียติ. โทโส เมตฺตาย จ กรุณาย จ. โมโห มุทิตาย ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉติ. เตนาห ภควา ‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณ’’นฺติ.

๓๑. สพฺพปาปํ นาม อฏฺ มิจฺฉตฺตานิ มิจฺฉาทิฏฺิ มิจฺฉาสงฺกปฺโป มิจฺฉาวาจา มิจฺฉากมฺมนฺโต มิจฺฉาอาชีโว มิจฺฉาวายาโม มิจฺฉาสติ มิจฺฉาสมาธิ, อิทํ วุจฺจติ สพฺพปาปํ. อิเมสํ อฏฺนฺนํ มิจฺฉตฺตานํ ยา อกิริยา อกรณํ อนชฺฌาจาโร, อิทํ วุจฺจติ สพฺพปาปสฺส อกรณํ.

อฏฺสุ มิจฺฉตฺเตสุ ปหีเนสุ อฏฺ สมฺมตฺตานิ สมฺปชฺชนฺติ. อฏฺนฺนํ สมฺมตฺตานํ ยา กิริยา กรณํ สมฺปาทนํ, อยํ วุจฺจติ กุสลสฺส อุปสมฺปทา. สจิตฺตปริโยทาปนนฺติ อตีตสฺส มคฺคสฺส ภาวนากิริยํ ทสฺสยติ, จิตฺเต ปริโยทาปิเต [ปริโยทปิเต (สี. ก.)] ปฺจกฺขนฺธา ปริโยทาปิตา ภวนฺติ, เอวฺหิ ภควา อาห ‘‘เจโตวิสุทฺธตฺถํ, ภิกฺขเว, ตถาคเต พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ. ทุวิธา หิ ปริโยทาปนา นีวรณปฺปหานฺจ อนุสยสมุคฺฆาโต จ. ทฺเว ปริโยทาปนภูมิโย ทสฺสนภูมิ จ, ภาวนาภูมิ จ, ตตฺถ ยํ ปฏิเวเธน ปริโยทาเปติ, อิทํ ทุกฺขํ. ยโต ปริโยทาเปติ, อยํ สมุทโย. เยน ปริโยทาเปติ, อยํ มคฺโค. ยํ ปริโยทาปิตํ, อยํ นิโรโธ. อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ. เตนาห ภควา ‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณ’’นฺติ.

‘‘ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ, ฉตฺตํ มหนฺตํ ยถ วสฺสกาเล;

เอสานิสํโส ธมฺเม สุจิณฺเณ, น ทุคฺคตึ คจฺฉติ ธมฺมจารี’’ติ.

ธมฺโม นาม ทุวิโธ อินฺทฺริยสํวโร มคฺโค จ. ทุคฺคติ นาม ทุวิธา เทวมนุสฺเส วา อุปนิธาย อปายา ทุคฺคติ, นิพฺพานํ วา อุปนิธาย สพฺพา อุปปตฺติโย ทุคฺคติ. ตตฺถ ยา สํวรสีเล อขณฺฑการิตา, อยํ ธมฺโม สุจิณฺโณ อปาเยหิ รกฺขติ. เอวํ ภควา อาห – ทฺเวมา, ภิกฺขเว, สีลวโต คติโย เทวา จ มนุสฺสา จ. เอวฺจ นาฬนฺทายํ นิคเม อสิพนฺธกปุตฺโต คามณิ ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘พฺราหฺมณา, ภนฺเต, ปจฺฉาภูมกา กามณฺฑลุกา เสวาลมาลิกา อุทโกโรหกา อคฺคิปริจารกา, เต มตํ กาลงฺกตํ อุยฺยาเปนฺติ นาม, สฺาเปนฺติ นาม, สคฺคํ นาม โอกฺกาเมนฺติ [อุคฺคเมนฺติ (สี.) ปสฺส สํ. นิ. ๔.๓๕๘]. ภควา ปน, ภนฺเต, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปโหติ ตถา กาตุํ, ยถา สพฺโพ โลโก กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺยา’’ติ.

‘‘เตน หิ, คามณิ, ตฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ, ยถา เต ขเมยฺย, ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสีติ.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, คามณิ, อิธสฺส ปุริโส ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาโจ ผรุสวาโจ สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลุ พฺยาปนฺนจิตฺโต มิจฺฉาทิฏฺิโก, ตเมนํ มหาชนกาโย สงฺคมฺม สมาคมฺม อายาเจยฺย โถเมยฺย ปฺชลิโก อนุปริสกฺเกยฺย ‘อยํ ปุริโส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชตู’ติ. ตํ กึ มฺสิ, คามณิ, อปิ นุ โส ปุริโส มหโต ชนกายสฺส อายาจนเหตุ วา โถมนเหตุวา ปฺชลิกํ [ปฺชลิกา สํ. นิ. ๔.๓๕๘] อนุปริสกฺกนเหตุ วา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺยา’’ติ. ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.

‘‘เสยฺยถาปิ, คามณิ, ปุริโส มหตึ ปุถุสิลํ คมฺภีเร อุทกรหเท [อุทกทเห (ก.)] ปกฺขิเปยฺย, ตเมนํ มหาชนกาโย สงฺคมฺม สมาคมฺม อายาเจยฺย โถเมยฺย ปฺชลิโก อนุปริสกฺเกยฺย ‘อุมฺมุชฺช, โภ, ปุถุสิเล, อุปฺลว โภ ปุถุสิเล, ถลมุปฺลว, โภ ปุถุสิเล’ติ. ตํ กึ มฺสิ คามณิ, อปิ นุ สา มหตี ปุถุสิลา มหโต ชนกายสฺส อายาจนเหตุ วา โถมนเหตุ วา ปฺชลิกํ อนุปริสกฺกนเหตุ วา อุมฺมุชฺเชยฺย วา อุปฺลเวยฺย วา ถลํ วา อุปฺลเวยฺยา’’ติ. ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, คามณิ, โย โส ปุริโส ปาณาติปาตี…เป… มิจฺฉาทิฏฺิโก, กิฺจาปิ นํ มหาชนกาโย สงฺคมฺม สมาคมฺม อายาเจยฺย โถเมยฺย ปฺชลิโก อนุปริสกฺเกยฺย ‘อยํ ปุริโส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชตู’ติ. อถ โข โส ปุริโส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺย.

‘‘ตํ กึ มฺสิ, คามณิ, อิธสฺส ปุริโส ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต มุสาวาทา ปฏิวิรโต ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต อนภิชฺฌาลุ อพฺยาปนฺนจิตฺโต สมฺมาทิฏฺิโก, ตเมนํ มหาชนกาโย สงฺคมฺม สมาคมฺม อายาเจยฺย โถเมยฺย ปฺชลิโก อนุปริสกฺเกยฺย ‘อยํ ปุริโส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชตู’ติ. ตํ กึ มฺสิ, คามณิ, อปิ นุ โส ปุริโส มหโต ชนกายสฺส อายาจนเหตุ วา โถมนเหตุ วา ปฺชลิกํ อนุปริสกฺกนเหตุ วา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺยา’’ติ. ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.

‘‘เสยฺยถาปิ, คามณิ, ปุริโส สปฺปิกุมฺภํ วา เตลกุมฺภํ วา คมฺภีเร [คมฺภีรํ (สี. ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๔.๓๕๘] อุทกรหเท โอคาเหตฺวา ภินฺเทยฺย. ตตฺร ยาสฺส สกฺขรา วา กลา [กถลา (ก.)], สา อโธคามี อสฺส. ยฺจ ขฺวสฺส ตตฺร สปฺปิ วา เตลํ วา, ตํ อุทฺธํคามิ อสฺส. ตเมนํ มหาชนกาโย สงฺคมฺม สมาคมฺม อายาเจยฺย โถเมยฺย ปฺชลิโก อนุปริสกฺเกยฺย ‘โอสีท, โภ สปฺปิเตล, สํสีท, โภ สปฺปิเตล, อโธ คจฺฉ [อวํคจฺฉ (สี. ก.)]‘โภ สปฺปิเตลา’ติ. ตํ กึ มฺสิ คามณิ, อปิ นุ ตํ สปฺปิเตลํ มหโต ชนกายสฺส อายาจนเหตุ วา โถมนเหตุ วา ปฺชลิกํ อนุปริสกฺกนเหตุ วา ‘โอสีเทยฺย วา สํสีเทยฺย วา อโธ วา คจฺเฉยฺยา’ติ. ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.

‘‘เอวเมว โข, คามณิ, โย โส ปุริโส ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต…เป… สมฺมาทิฏฺิโก, กิฺจาปิ นํ มหาชนกาโย สงฺคมฺม สมาคมฺม อายาเจยฺย โถเมยฺย ปฺชลิโก อนุปริสกฺเกยฺย ‘อยํ ปุริโส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชตู’’’ติ. อถ โข โส ปุริโส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺย. อิติ ธมฺโม สุจิณฺโณ อปาเยหิ รกฺขติ. ตตฺถ ยา มคฺคสฺส ติกฺขตา อธิมตฺตตา, อยํ ธมฺโม สุจิณฺโณ สพฺพาหิ อุปปตฺตีหิ รกฺขติ. เอวํ ภควา อาห –

‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส [ปสฺส อุทา. ๓๒], สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร;

สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโร, ตฺวาน อุทยพฺพยํ;

ถินมิทฺธาภิภู ภิกฺขุ, สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห’’ติ.

๓๒. ตตฺถ ทุคฺคตีนํ เหตุ ตณฺหา จ อวิชฺชา จ, ตานิ จตฺตาริ อุปาทานานิ, เตหิ จตูหิ อุปาทาเนหิ เย สอุปาทานา ขนฺธา, อิทํ ทุกฺขํ. จตฺตาริ อุปาทานานิ, อยํ สมุทโย. ปฺจกฺขนฺธา ทุกฺขํ, เตสํ ภควา ปริฺาย จ ปหานาย จ ธมฺมํ เทเสติ ทุกฺขสฺส ปริฺาย สมุทยสฺส ปหานาย. ตตฺถ ตณฺหาย ปฺจินฺทฺริยานิ รูปีนิ ปทฏฺานํ. อวิชฺชาย มนินฺทฺริยํ ปทฏฺานํ. ปฺจินฺทฺริยานิ รูปีนิ รกฺขนฺโต สมาธึ ภาวยติ, ตณฺหฺจ นิคฺคณฺหาติ. มนินฺทฺริยํ รกฺขนฺโต วิปสฺสนํ ภาวยติ, อวิชฺชฺจ นิคฺคณฺหาติ. ตณฺหานิคฺคเหน ทฺเว อุปาทานานิ ปหียนฺติ กามุปาทานฺจ สีลพฺพตุปาทานฺจ. อวิชฺชานิคฺคเหน ทฺเว อุปาทานานิ ปหียนฺติ ทิฏฺุปาทานฺจ อตฺตวาทุปาทานฺจ. จตูสุ อุปาทาเนสุ ปหีเนสุ ทฺเว ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ สมโถ จ วิปสฺสนา จ. อิทํ วุจฺจติ พฺรหฺมจริยนฺติ.

ตตฺถ พฺรหฺมจริยสฺส ผลํ จตฺตาริ สามฺผลานิ โสตาปตฺติผลํ สกทาคามิผลํ อนาคามิผลํ อรหตฺตํ [อรหตฺตผลํ (ก.)] อคฺคผลํ. อิมานิ จตฺตาริ พฺรหฺมจริยสฺส ผลานิ [พฺรหฺมจริยผลานีติ (สี.)]. อิติ ปุริมกานิ จ ทฺเว สจฺจานิ ทุกฺขํ สมุทโย จ. สมโถ จ วิปสฺสนา จ พฺรหฺมจริยฺจ มคฺโค, พฺรหฺมจริยสฺส ผลานิ จ ตทารมฺมณา จ อสงฺขตาธาตุ นิโรโธ. อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ. เตนาห ภควา ‘‘ธมฺโม หเว รกฺขตี’’ติ.

ตตฺถ ยํ ปฏิเวเธน รกฺขติ, อิทํ ทุกฺขํ. ยโต รกฺขติ, อยํ สมุทโย. เยน รกฺขติ, อยํ มคฺโค. ยํ รกฺขติ, อยํ นิโรโธ. อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ. เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน ‘‘เอกมฺหิ ปทฏฺาเน’’ติ.

นิยุตฺโต อาวฏฺโฏ หาโร.

๘. วิภตฺติหารวิภงฺโค

๓๓. ตตฺถ กตโม วิภตฺติหาโร? ‘‘ธมฺมฺจ ปทฏฺานํ ภูมิฺจา’’ติ.

ทฺเว สุตฺตานิ วาสนาภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ. ทฺเว ปฏิปทา ปุฺภาคิยา จ ผลภาคิยา จ. ทฺเว สีลานิ สํวรสีลฺจ ปหานสีลฺจ, ตตฺถ ภควา วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ ปุฺภาคิยาย ปฏิปทาย เทสยติ, โส สํวรสีเล ิโต เตน พฺรหฺมจริเยน พฺรหฺมจารี ภวติ, ตตฺถ ภควา นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ ผลภาคิยาย ปฏิปทาย เทสยติ, โส ปหานสีเล ิโต เตน พฺรหฺมจริเยน พฺรหฺมจารี ภวติ.

ตตฺถ กตมํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ? วาสนาภาคิยํ นาม สุตฺตํ ทานกถา สีลกถา สคฺคกถา กามานํ อาทีนโว เนกฺขมฺเม อานิสํโสติ.

ตตฺถ กตมํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ? นิพฺเพธภาคิยํ นาม สุตฺตํ ยา จตุสจฺจปฺปกาสนา, วาสนาภาคิเย สุตฺเต นตฺถิ ปชานนา, นตฺถิ มคฺโค, นตฺถิ ผลํ. นิพฺเพธภาคิเย สุตฺเต อตฺถิ ปชานนา, อตฺถิ มคฺโค, อตฺถิ ผลํ. อิมานิ จตฺตาริ สุตฺตานิ. อิเมสํ จตุนฺนํ สุตฺตานํ เทสนาย ผเลน สีเลน พฺรหฺมจริเยน สพฺพโต วิจเยน หาเรน วิจินิตฺวา ยุตฺติหาเรน โยชยิตพฺพา ยาวติกา าณสฺส ภูมิ.

๓๔. ตตฺถ กตเม ธมฺมา สาธารณา? ทฺเว ธมฺมา สาธารณา นามสาธารณา วตฺถุสาธารณา จ. ยํ วา ปน กิฺจิ อฺมฺปิ เอวํ ชาติยํ, มิจฺฉตฺตนิยตานํ สตฺตานํ อนิยตานฺจ สตฺตานํ ทสฺสนปฺปหาตพฺพา กิเลสา สาธารณา, ปุถุชฺชนสฺส โสตาปนฺนสฺส จ กามราคพฺยาปาทา สาธารณา, ปุถุชฺชนสฺส อนาคามิสฺส จ อุทฺธํภาคิยา สํโยชนา สาธารณา, ยํ กิฺจิ อริยสาวโก โลกิยํ สมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, สพฺพา สา อวีตราเคหิ [อวิคตราเคหิ (ก.)] สาธารณา, สาธารณา หิ ธมฺมา เอวํ อฺมฺํ ปรํ ปรํ สกํ สกํ วิสยํ นาติวตฺตนฺติ. โยปิ อิเมหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต น โส ตํ ธมฺมํ อุปาติวตฺตติ. อิเม ธมฺมา สาธารณา.

ตตฺถ กตเม ธมฺมา อสาธารณา? ยาว เทสนํ อุปาทาย คเวสิตพฺพา เสกฺขาเสกฺขา ภพฺพาภพฺพาติ, อฏฺมกสฺส โสตาปนฺนสฺส จ กามราคพฺยาปาทา สาธารณา ธมฺมตา อสาธารณา, อฏฺมกสฺส อนาคามิสฺส จ อุทฺธมฺภาคิยา สํโยชนา สาธารณา ธมฺมตา อสาธารณา. สพฺเพสํ เสกฺขานํ นามํ สาธารณํ ธมฺมตา อสาธารณา. สพฺเพสํ ปฏิปนฺนกานํ นามํ สาธารณํ ธมฺมตา อสาธารณา. สพฺเพสํ เสกฺขานํ เสกฺขสีลํ สาธารณํ ธมฺมตา อสาธารณา. เอวํ วิเสสานุปสฺสินา หีนุกฺกฏฺมชฺฌิมํ อุปาทาย คเวสิตพฺพํ.

ทสฺสนภูมิ นิยามาวกฺกนฺติยา ปทฏฺานํ, ภาวนาภูมิ อุตฺตริกานํ ผลานํ ปตฺติยา ปทฏฺานํ, ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา สมถสฺส ปทฏฺานํ, สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา วิปสฺสนาย ปทฏฺานํ, ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ ปรโต โฆสสฺส สาธารณํ ปทฏฺานํ, สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ จินฺตามยิยา ปฺาย สาธารณํ ปทฏฺานํ, ภาวนามยํ ปุฺกิริยวตฺถุ ภาวนามยิยา ปฺาย สาธารณํ ปทฏฺานํ. ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ ปรโต จ โฆสสฺส สุตมยิยา จ ปฺาย สาธารณํ ปทฏฺานํ สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ จินฺตามยิยา จ ปฺาย โยนิโส จ มนสิการสฺส สาธารณํ ปทฏฺานํ, ภาวนามยํ ปุฺกิริยวตฺถุ ภาวนามยิยา จ ปฺาย สมฺมาทิฏฺิยา จ สาธารณํ ปทฏฺานํ. ปติรูปเทสวาโส วิเวกสฺส จ สมาธิสฺส จ สาธารณํ ปทฏฺานํ, สปฺปุริสูปนิสฺสโย ติณฺณฺจ อเวจฺจปฺปสาทานํ สมถสฺส จ สาธารณํ ปทฏฺานํ, อตฺตสมฺมาปณิธานํ หิริยา จ วิปสฺสนาย จ สาธารณํ ปทฏฺานํ, อกุสลปริจฺจาโค กุสลวีมํสาย จ สมาธินฺทฺริยสฺส จ สาธารณํ ปทฏฺานํ, ธมฺมสฺวากฺขาตตา กุสลมูลโรปนาย จ ผลสมาปตฺติยา จ สาธารณํ ปทฏฺานํ, สงฺฆสุปฺปฏิปนฺนตา สงฺฆสุฏฺุตาย สาธารณํ ปทฏฺานํ, สตฺถุสมฺปทา อปฺปสนฺนานฺจ ปสาทาย ปสนฺนานฺจ ภิยฺโยภาวาย สาธารณํ ปทฏฺานํ, อปฺปฏิหตปาติโมกฺขตา ทุมฺมงฺกูนฺจ ปุคฺคลานํ นิคฺคหาย เปสลานฺจ ปุคฺคลานํ ผาสุวิหาราย สาธารณํ ปทฏฺานํ. เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน ‘‘ธมฺมฺจ ปทฏฺาน’’นฺติ.

นิยุตฺโต วิภตฺติ หาโร.

๙. ปริวตฺตนหารวิภงฺโค

๓๕. ตตฺถ กตโม ปริวตฺตโน หาโร? ‘‘กุสลากุสเล ธมฺเม’’ติ. สมฺมาทิฏฺิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส มิจฺฉาทิฏฺิ นิชฺชิณฺณา ภวติ. เย จสฺส มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อุปฺปชฺเชยฺยุํ อเนเก [อเนกา (ก.)] ปาปกา อกุสลา ธมฺมา, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ. สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จสฺส อเนเก กุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. สมฺมาสงฺกปฺปสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส มิจฺฉาสงฺกปฺโป นิชฺชิณฺโณ ภวติ. เย จสฺส มิจฺฉาสงฺกปฺปปจฺจยา อุปฺปชฺเชยฺยุํ อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ. สมฺมาสงฺกปฺปปจฺจยา จสฺส อเนเก กุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ. เต จสฺส ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. เอวํ สมฺมาวาจสฺส สมฺมากมฺมนฺตสฺส สมฺมาอาชีวสฺส สมฺมาวายามสฺส สมฺมาสติสฺส สมฺมาสมาธิสฺส สมฺมาวิมุตฺตสฺส สมฺมาวิมุตฺติาณทสฺสนสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส มิจฺฉาวิมุตฺติาณทสฺสนํ นิชฺชิณฺณํ ภวติ. เย จสฺส มิจฺฉาวิมุตฺติาณทสฺสนปจฺจยา อุปฺปชฺเชยฺยุํ อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา, เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติ. สมฺมาวิมุตฺติาณทสฺสนปจฺจยา จสฺส อเนเก กุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, เต จสฺส ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.

๓๖. ยสฺส วา ปาณาติปาตา ปฏิวิรตสฺส ปาณาติปาโต ปหีโน โหติ. อทินฺนาทานา ปฏิวิรตสฺส อทินฺนาทานํ ปหีนํ โหติ. พฺรหฺมจาริสฺส อพฺรหฺมจริยํ ปหีนํ โหติ. สจฺจวาทิสฺส มุสาวาโท ปหีโน โหติ. อปิสุณวาจสฺส ปิสุณา วาจา ปหีนา โหติ. สณฺหวาจสฺส ผรุสา วาจา ปหีนา โหติ. กาลวาทิสฺส สมฺผปฺปลาโป ปหีโน โหติ. อนภิชฺฌาลุสฺส [อนภิชฺฌามนสฺส (ก.)] อภิชฺฌา ปหีนา โหติ. อพฺยาปนฺนจิตฺตสฺส พฺยาปาโท ปหีโน โหติ. สมฺมาทิฏฺิสฺส มิจฺฉาทิฏฺิ ปหีนา โหติ.

เย จ โข เกจิ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ครหนฺติ, เนสํ สนฺทิฏฺิกา สหธมฺมิกา คารยฺหา วาทานุวาทา อาคจฺฉนฺติ. สมฺมาทิฏฺิฺจ เต ภวนฺโต ธมฺมํ ครหนฺติ. เตน หิ เย มิจฺฉาทิฏฺิกา, เตสํ ภวนฺตานํ ปุชฺชา จ ปาสํสา จ. เอวํ สมฺมาสงฺกปฺปํ สมฺมาวาจํ สมฺมากมฺมนฺตํ สมฺมาอาชีวํ สมฺมาวายามํ สมฺมาสตึ สมฺมาสมาธึ สมฺมาวิมุตฺตึ สมฺมาวิมุตฺติาณทสฺสนฺจ เต ภวนฺโต ธมฺมํ ครหนฺติ. เตน หิ เย มิจฺฉาวิมุตฺติาณทสฺสนา, เตสํ ภวนฺตานํ ปุชฺชา จ ปาสํสา จ.

เย จ โข เกจิ เอวมาหํสุ ‘‘ภุฺชิตพฺพา กามา, ปริภุฺชิตพฺพา กามา, อาเสวิตพฺพา กามา, นิเสวิตพฺพา กามา, ภาวยิตพฺพา กามา, พหุลีกาตพฺพา กามา’’ติ. กาเมหิ เวรมณี เตสํ อธมฺโม.

เย วา ปน เกจิ เอวมาหํสุ ‘‘อตฺตกิลมถานุโยโค ธมฺโม’’ติ. นิยฺยานิโก เตสํ ธมฺโม อธมฺโม. เย จ โข เกจิ เอวมาหํสุ ‘‘ทุกฺโข ธมฺโม’’ติ. สุโข เตสํ ธมฺโม อธมฺโม. ยถา วา ปน ภิกฺขุโน สพฺพสงฺขาเรสุ อสุภานุปสฺสิโน วิหรโต สุภสฺา ปหียนฺติ. ทุกฺขานุปสฺสิโน วิหรโต สุขสฺา ปหียนฺติ. อนิจฺจานุปสฺสิโน วิหรโต นิจฺจสฺา ปหียนฺติ. อนตฺตานุปสฺสิโน วิหรโต อตฺตสฺา ปหียนฺติ. ยํ ยํ วา ปน ธมฺมํ โรจยติ วา อุปคจฺฉติ วา, ตสฺส ตสฺส ธมฺมสฺส โย ปฏิปกฺโข, สฺวสฺส อนิฏฺโต อชฺฌาปนฺโน ภวติ. เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน ‘‘กุสลากุสลธมฺเม’’ติ.

นิยุตฺโต ปริวตฺตโน หาโร.

๑๐. เววจนหารวิภงฺโค

๓๗. ตตฺถ กตโม เววจโน หาโร? ‘‘เววจนานิ พหูนี’’ติ. ยถา เอกํ ภควา ธมฺมํ อฺมฺเหิ เววจเนหิ นิทฺทิสติ. ยถาห ภควา –

‘‘อาสา จ ปิหา อภินนฺทนา จ, อเนกธาตูสุ สรา ปติฏฺิตา;

อฺาณมูลปฺปภวา ปชปฺปิตา, สพฺพา มยา พฺยนฺติกตา สมูลิกา’’ติ.

อาสา นาม วุจฺจติ ยา ภวิสฺสสฺส อตฺถสฺส อาสีสนา [อาสึสนา (สี.)] อวสฺสํ อาคมิสฺสตีติ อาสาสฺส อุปฺปชฺชติ. ปิหา นาม ยา วตฺตมานสฺส [วตฺตมานกสฺส (สี.)] อตฺถสฺส ปตฺถนา, เสยฺยตรํ วา ทิสฺวา ‘‘เอทิโส ภเวยฺย’’นฺติ ปิหาสฺส อุปฺปชฺชติ. อตฺถนิปฺผตฺติปฏิปาลนา อภินนฺทนา นาม, ปิยํ วา าตึ อภินนฺทติ, ปิยํ วา ธมฺมํ อภินนฺทติ, อปฺปฏิกูลโต วา อภินนฺทติ.

อเนกธาตูติ จกฺขุธาตุ รูปธาตุ จกฺขุวิฺาณธาตุ, โสตธาตุ สทฺทธาตุ โสตวิฺาณธาตุ, ฆานธาตุ คนฺธธาตุ ฆานวิฺาณธาตุ, ชิวฺหาธาตุ รสธาตุ ชิวฺหาวิฺาณธาตุ, กายธาตุ โผฏฺพฺพธาตุ กายวิฺาณธาตุ, มโนธาตุ ธมฺมธาตุ มโนวิฺาณธาตุ.

สราติ เกจิ รูปาธิมุตฺตา เกจิ สทฺทาธิมุตฺตา เกจิ คนฺธาธิมุตฺตา เกจิ รสาธิมุตฺตา เกจิ โผฏฺพฺพาธิมุตฺตา เกจิ ธมฺมาธิมุตฺตา. ตตฺถ ยานิ ฉ เคหสิตานิ โทมนสฺสานิ ยานิ จ ฉ เคหสิตานิ โสมนสฺสานิ ยานิ จ ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ โทมนสฺสานิ ยานิ จ ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ โสมนสฺสานิ, อิมานิ จตุวีสปทานิ ตณฺหาปกฺโข, ตณฺหาย เอตํ เววจนํ. ยา ฉ อุเปกฺขา เคหสิตา, อยํ ทิฏฺิปกฺโข.

๓๘. สาเยว ปตฺถนากาเรน ธมฺมนนฺที ธมฺมเปมํ ธมฺมชฺโฌสานนฺติ ตณฺหาย เอตํ เววจนํ. จิตฺตํ มโน วิฺาณนฺติ จิตฺตสฺส เอตํ เววจนํ. มนินฺทฺริยํ มโนธาตุ มนายตนํ วิชานนาติ มนสฺเสตํ เววจนํ. ปฺินฺทฺริยํ ปฺาพลํ อธิปฺา สิกฺขา ปฺา ปฺากฺขนฺโธ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค าณํ สมฺมาทิฏฺิ ตีรณา วิปสฺสนา ธมฺเม าณํ อตฺเถ าณํ อนฺวเย าณํ ขเย าณํ อนุปฺปาเท าณํ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ อฺินฺทฺริยํ อฺาตาวินฺทฺริยํ จกฺขุ วิชฺชา พุทฺธิ ภูริ เมธา อาโลโก, ยํ วา ปน ยํ กิฺจิ อฺํปิ เอวํ ชาติยํ, ปฺาย เอตํ เววจนํ. ปฺจินฺทฺริยานิ โลกุตฺตรานิ, สพฺพา ปฺา. อปิ จ อาธิปเตยฺยฏฺเน สทฺธา, อารมฺภฏฺเน วีริยํ, อปิลาปนฏฺเน สติ, อวิกฺเขปฏฺเน สมาธิ, ปชานนฏฺเน ปฺา.

ยถา จ พุทฺธานุสฺสติยํ วุตฺตํ อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. พลนิปฺผตฺติคโต เวสารชฺชปฺปตฺโต อธิคตปฺปฏิสมฺภิโท จตุโยควิปฺปหีโน อคติคมนวีติวตฺโต อุทฺธฏสลฺโล นิรูฬฺหวโณ มทฺทิตกณฺฑโก นิพฺพาปิตปริยุฏฺาโน [นิพฺพาหิต … (ก.)] พนฺธนาตีโต คนฺถวินิเวโน อชฺฌาสยวีติวตฺโต ภินฺนนฺธกาโร จกฺขุมา โลกธมฺมสมติกฺกนฺโต อนุโรธวิโรธวิปฺปยุตฺโต อิฏฺานิฏฺเสุ ธมฺเมสุ อสงฺเขปคโต พนฺธนาติวตฺโต ปิตสงฺคาโม อภิกฺกนฺตตโร อุกฺกาธโร อาโลกกโร ปชฺโชตกโร ตโมนุโท รณฺชโห อปริมาณวณฺโณ อปฺปเมยฺยวณฺโณ อสงฺเขยฺยวณฺโณ อาภํกโร ปภํกโร ธมฺโมภาสปชฺโชตกโรติ จ พุทฺธา ภควนฺโตติ จ พุทฺธานุสฺสติยา เอตํ เววจนํ.

ยถา จ ธมฺมานุสฺสติยํ วุตฺตํ สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก [โอปนยิโก (สี.)] ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหิ. ยทิทํ มทนิมฺมทโน ปิปาสวินโย อาลยสมุคฺฆาโฏ วฏฺฏูปจฺเฉโท สุฺโต อติทุลฺลโภ ตณฺหกฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานํ.

‘‘อสงฺขตํ อนตํ [อสงฺขตํ นนฺต … (สี.) ปสฺส สํ. นิ. ๔.๔๐๙] อนาสวฺจ, สจฺจฺจ ปารํ นิปุณํ สุทุทฺทสํ;

อชชฺชรํ ธุวํ อปโลกิตํ [อปโลกิยํ (สี. ก.)], อนิทสฺสนํ นิปฺปปฺจ สนฺตํ.

‘‘อมตํ ปณีตฺจ สิวฺจ เขมํ, ตณฺหากฺขโย อจฺฉริยฺจ อพฺภุตํ;

อนีติกํ อนีติกธมฺมํ [นีติกธมฺมเมว วา (สี. ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๔.๔๐๙], นิพฺพานเมตํ สุคเตน เทสิตํ.

‘‘อชาตํ อภูตํ อนุปทฺทวฺจ, อกตํ อโสกฺจ อโถ วิโสกํ;

อนูปสคฺคํนุปสคฺคธมฺมํ, นิพฺพานเมตํ สุคเตน เทสิตํ.

‘‘คมฺภีรฺเจว ทุปฺปสฺสํ, อุตฺตรฺจ อนุตฺตรํ;

อสมํ อปฺปฏิสมํ, เชฏฺํ เสฏฺนฺติ วุจฺจติ.

‘‘เลณฺจ ตาณํ อรณํ อนงฺคณํ, อกาจ เมตํ วิมลนฺติ วุจฺจติ;

ทีโป สุขํ อปฺปมาณํ ปติฏฺา, อกิฺจนํ อปฺปปฺจนฺติ วุตฺต’’นฺติ.

ธมฺมานุสฺสติยา เอตํ เววจนํ.

ยถา จ สงฺฆานุสฺสติยํ วุตฺตํ สุปฺปฏิปนฺโน อุชุปฺปฏิปนฺโน ายปฺปฏิปนฺโน สามีจิปฺปฏิปนฺโน ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส, สีลสมฺปนฺโน สมาธิสมฺปนฺโน ปฺาสมฺปนฺโน วิมุตฺติสมฺปนฺโน วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺโน สตฺตานํ สาโร สตฺตานํ มณฺโฑ สตฺตานํ อุทฺธาโร สตฺตานํ เอสิกา [เอสิโก (ก.)] สตฺตานํ สุรภิปสูนํ ปุชฺโช เทวานฺจ มนุสฺสานฺจาติ สงฺฆานุสฺสติยา เอตํ เววจนํ.

ยถา จ สีลานุสฺสติยํ วุตฺตํ ยานิ ตานิ สีลานิ อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ อริยานิ อริยกนฺตานิ ภุชิสฺสานิ วิฺุปฺปสตฺถานิ อปรามฏฺานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ, อลงฺกาโร จ สีลํ อุตฺตมงฺโคปโสภณตาย, นิธานฺจ สีลํ สพฺพโทภคฺคสมติกฺกมนฏฺเน, สิปฺปฺจ สีลํ อกฺขณเวธิตาย, เวลา จ สีลํ อนติกฺกมนฏฺเน, ธฺฺจ สีลํ ทลิทฺโทปจฺเฉทนฏฺเน [ทฬิทฺโท… (สี.)], อาทาโส จ สีลํ ธมฺมโวโลกนตาย, ปาสาโท จ สีลํ โวโลกนฏฺเน, สพฺพภูมานุปริวตฺติ จ สีลํ อมตปริโยสานนฺติ สีลานุสฺสติยา เอตํ เววจนํ.

ยถา จ จาคานุสฺสติยํ วุตฺตํ ยสฺมึ สมเย อริยสาวโก อคารํ อชฺฌาวสติ มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสฺสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโตติ จาคานุสฺสติยา เอตํ เววจนํ. เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน ‘‘เววจนานิ พหูนี’’ติ.

นิยุตฺโต เววจโน หาโร.

๑๑. ปฺตฺติหารวิภงฺโค

๓๙. ตตฺถ กตโม ปฺตฺติหาโร? ‘‘เอกํ ภควา ธมฺมํ ปฺตฺตีหิ วิวิธาหิ เทเสตี’’ติ.

ยา ปกติกถาย เทสนา. อยํ นิกฺเขปปฺตฺติ. กา จ ปกติกถาย เทสนา, จตฺตาริ สจฺจานิ. ยถา ภควา อาห ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ อยํ ปฺตฺติ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ ฉนฺนํ ธาตูนํ อฏฺารสนฺนํ ธาตูนํ ทฺวาทสนฺนํ อายตนานํ ทสนฺนํ อินฺทฺริยานํ นิกฺเขปปฺตฺติ.

กพฬีกาเร เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร อตฺถิ ราโค อตฺถิ นนฺที [นนฺทิ (สี.) ปสฺส สํ. นิ. ๒.๖๔)] อตฺถิ ตณฺหา, ปติฏฺิตํ ตตฺถ วิฺาณํ วิรูฬฺหํ. ยตฺถ ปติฏฺิตํ วิฺาณํ วิรูฬฺหํ, อตฺถิ ตตฺถ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ. ยตฺถ อตฺถิ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ, อตฺถิ ตตฺถ สงฺขารานํ วุทฺธิ [พุทฺธิ (ก.)]. ยตฺถ อตฺถิ สงฺขารานํ วุทฺธิ, อตฺถิ ตตฺถ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ. ยตฺถ อตฺถิ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ, อตฺถิ ตตฺถ อายตึ ชาติชรามรณํ. ยตฺถ อตฺถิ อายตึ ชาติชรามรณํ, สโสกํ ตํ, ภิกฺขเว, สทรํ สอุปายาสนฺติ วทามิ.

ผสฺเส เจ…เป… มโนสฺเจตนาย เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร. วิฺาเณ เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร อตฺถิ ราโค อตฺถิ นนฺที อตฺถิ ตณฺหา, ปติฏฺิตํ ตตฺถ วิฺาณํ วิรูฬฺหํ. ยตฺถ ปติฏฺิตํ วิฺาณํ วิรูฬฺหํ, อตฺถิ ตตฺถ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ. ยตฺถ อตฺถิ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ, อตฺถิ ตตฺถ สงฺขารานํ วุทฺธิ. ยตฺถ อตฺถิ สงฺขารานํ วุทฺธิ, อตฺถิ ตตฺถ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ. ยตฺถ อตฺถิ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ, อตฺถิ ตตฺถ อายตึ ชาติชรามรณํ. ยตฺถ อตฺถิ อายตึ ชาติชรามรณํ, สโสกํ ตํ, ภิกฺขเว, สทรํ สอุปายาสนฺติ วทามิ. อยํ ปภวปฺตฺติ ทุกฺขสฺส จ สมุทยสฺส จ.

กพฬีกาเร เจ, ภิกฺขเว [ปสฺส สํ. นิ. ๒.๖๔], อาหาเร นตฺถิ ราโค นตฺถิ นนฺที นตฺถิ ตณฺหา, อปฺปติฏฺิตํ ตตฺถ วิฺาณํ อวิรูฬฺหํ. ยตฺถ อปฺปติฏฺิตํ วิฺาณํ อวิรูฬฺหํ, นตฺถิ ตตฺถ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ. ยตฺถ นตฺถิ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ, นตฺถิ ตตฺถ สงฺขารานํ วุทฺธิ. ยตฺถ นตฺถิ สงฺขารานํ วุทฺธิ, นตฺถิ ตตฺถ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ. ยตฺถ นตฺถิ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ, นตฺถิ ตตฺถ อายตึ ชาติชรามรณํ. ยตฺถ นตฺถิ อายตึ ชาติชรามรณํ, อโสกํ ตํ, ภิกฺขเว, อทรํ อนุปายาสนฺติ วทามิ.

ผสฺเส เจ…เป… มโนสฺเจตนาย เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร. วิฺาเณ เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร นตฺถิ ราโค นตฺถิ นนฺที นตฺถิ ตณฺหา, อปฺปติฏฺิตํ ตตฺถ วิฺาณํ อวิรูฬฺหํ. ยตฺถ อปฺปติฏฺิตํ วิฺาณํ อวิรูฬฺหํ, นตฺถิ ตตฺถ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ. ยตฺถ นตฺถิ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ, นตฺถิ ตตฺถ สงฺขารานํ วุทฺธิ. ยตฺถ นตฺถิ สงฺขารานํ วุทฺธิ, นตฺถิ ตตฺถ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ. ยตฺถ นตฺถิ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ, นตฺถิ ตตฺถ อายตึ ชาติชรามรณํ. ยตฺถ นตฺถิ อายตึ ชาติชรามรณํ, อโสกํ ตํ, ภิกฺขเว, อทรํ อนุปายาสนฺติ วทามิ.

อยํ ปริฺาปฺตฺติ ทุกฺขสฺส, ปหานปฺตฺติ สมุทยสฺส, ภาวนาปฺตฺติ มคฺคสฺส, สจฺฉิกิริยาปฺตฺติ นิโรธสฺส.

๔๐. สมาธึ, ภิกฺขเว, ภาเวถ. อปฺปมตฺโต นิปโก สโต, สมาหิโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยถาภูตํ ปชานาติ. กิฺจ ยถาภูตํ ปชานาติ? ‘‘จกฺขุ [จกฺขุํ (ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๔.๙๙] อนิจฺจ’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ‘‘รูปา อนิจฺจา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ ‘‘จกฺขุวิฺาณํ อนิจฺจ’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ‘‘จกฺขุสมฺผสฺโส อนิจฺโจ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปิทํ [ยมิทํ (สี. ก.)] จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, ตมฺปิ อนิจฺจนฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ.

โสตํ …เป… ฆานํ…เป… ชิวฺหา…เป… กาโย…เป… ‘‘มโน อนิจฺโจ’’ติ [อนิจฺจ’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๑๐๐)] ยถาภูตํ ปชานาติ. ‘‘ธมฺมา อนิจฺจา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ‘‘มโนวิฺาณํ อนิจฺจ’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ‘‘มโนสมฺผสฺโส อนิจฺโจ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปิทํ มโนสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, ตมฺปิ อนิจฺจนฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ.

อยํ ภาวนาปฺตฺติ มคฺคสฺส, ปริฺาปฺตฺติ ทุกฺขสฺส, ปหานปฺตฺติ สมุทยสฺส, สจฺฉิกิริยาปฺตฺติ นิโรธสฺส.

รูปํ, ราธ, วิกิรถ วิธมถ วิทฺธํเสถ วิกีฬนิยํ [วิกีฬนิกํ (สี. ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๓.๑๖๙] กโรถ, ปฺาย ตณฺหกฺขยาย ปฏิปชฺชถ. ตณฺหกฺขยา ทุกฺขกฺขโย, ทุกฺขกฺขยา นิพฺพานํ. เวทนํ…เป…. สฺํ…เป… สงฺขาเร วิฺาณํ วิกิรถ วิธมถ วิทฺธํเสถ วิกีฬนิยํ กโรถ, ปฺาย ตณฺหกฺขยาย ปฏิปชฺชถ. ตณฺหกฺขยา ทุกฺขกฺขโย, ทุกฺขกฺขยา นิพฺพานํ.

อยํ นิโรธปฺตฺติ นิโรธสฺส, นิพฺพิทาปฺตฺติ อสฺสาทสฺส, ปริฺาปฺตฺติ ทุกฺขสฺส, ปหานปฺตฺติ สมุทยสฺส, ภาวนาปฺตฺติ มคฺคสฺส, สจฺฉิกิริยาปฺตฺติ นิโรธสฺส.

‘‘โส อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ.

อยํ ปฏิเวธปฺตฺติ สจฺจานํ, นิกฺเขปปฺตฺติ ทสฺสนภูมิยา, ภาวนาปฺตฺติ มคฺคสฺส, สจฺฉิกิริยาปฺตฺติ โสตาปตฺติผลสฺส. ‘‘โส อิเม อาสวา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ อาสวสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ อาสวนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ‘‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ‘‘อิเม อาสวา อเสสํ นิรุชฺฌนฺตี’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ.

อยํ อุปฺปาทปฺตฺติ ขเย าณสฺส, โอกาสปฺตฺติ อนุปฺปาเท าณสฺส, ภาวนาปฺตฺติ มคฺคสฺส, ปริฺาปฺตฺติ ทุกฺขสฺส, ปหานปฺตฺติ สมุทยสฺส, อารมฺภปฺตฺติ วีริยินฺทฺริยสฺส, อาสาฏนปฺตฺติ อาสาฏิกานํ, นิกฺเขปปฺตฺติ ภาวนาภูมิยา, อภินิฆาตปฺตฺติ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ.

๔๑. อิทํ ‘‘ทุกฺข’’นฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาทิ, ปฺา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ. อยํ ‘‘ทุกฺขสมุทโย’’ติ เม, ภิกฺขเว…เป… อยํ ‘‘ทุกฺขนิโรโธ’’ติ เม, ภิกฺขเว…เป…. อยํ ‘‘ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ เม, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาทิ, ปฺา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ.

อยํ เทสนาปฺตฺติ สจฺจานํ, นิกฺเขปปฺตฺติ สุตมยิยา ปฺาย สจฺฉิกิริยาปฺตฺติ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยสฺส, ปวตฺตนาปฺตฺติ ธมฺมจกฺกสฺส.

‘‘ตํ โข ปนิทํ ทุกฺขํ ปริฺเยฺย’’นฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาทิ, ปฺา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ. ‘‘โส โข ปนายํ ทุกฺขสมุทโย ปหาตพฺโพ’’ติ เม, ภิกฺขเว…เป… ‘‘โส โข ปนายํ ทุกฺขนิโรโธ สจฺฉิกาตพฺโพ’’ติ เม, ภิกฺขเว…เป… ‘‘สา โข ปนายํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา ภาเวตพฺพา’’ติ เม, ภิกฺขเว ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาทิ, ปฺา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ.

อยํ ภาวนาปฺตฺติ มคฺคสฺส, นิกฺเขปปฺตฺติ จินฺตามยิยา ปฺาย, สจฺฉิกิริยาปฺตฺติ อฺินฺทฺริยสฺส.

‘‘ตํ โข ปนิทํ ทุกฺขํ ปริฺาต’’นฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาทิ, ปฺา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ. ‘‘โส โข ปนายํ ทุกฺขสมุทโย ปหีโน’’ติ เม, ภิกฺขเว…เป… ‘‘โส โข ปนายํ ทุกฺขนิโรโธ สจฺฉิกโต’’ติ เม, ภิกฺขเว…เป… ‘‘สา โข ปนายํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา ภาวิตา’’ติ เม, ภิกฺขเว ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาทิ, ปฺา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ. อยํ ภาวนาปฺตฺติ มคฺคสฺส, นิกฺเขปปฺตฺติ ภาวนามยิยา ปฺาย, สจฺฉิกิริยาปฺตฺติ อฺาตาวิโน อินฺทฺริยสฺส, ปวตฺตนาปฺตฺติ ธมฺมจกฺกสฺส.

‘‘ตุลมตุลฺจ สมฺภวํ, ภวสงฺขารมวสฺสชิ มุนิ;

อชฺฌตฺตรโต สมาหิโต, อภินฺทิ [อภิทา (สี. ก.) ปสฺส ที. นิ. ๒.๑๖๙] กวจมิวตฺตสมฺภว’’นฺติ.

‘‘ตุล’’นฺติ สงฺขารธาตุ. ‘‘อตุล’’นฺติ นิพฺพานธาตุ, ‘‘ตุลมตุลฺจ สมฺภว’’นฺติ อภิฺาปฺตฺติ สพฺพธมฺมานํ. นิกฺเขปปฺตฺติ ธมฺมปฏิสมฺภิทาย. ‘‘ภวสงฺขารมวสฺสชิ มุนี’’ติ ปริจฺจาคปฺตฺติ สมุทยสฺส. ปริฺาปฺตฺติ ทุกฺขสฺส. ‘‘อชฺฌตฺตรโต สมาหิโต’’ติ ภาวนาปฺตฺติ กายคตาย สติยา. ิติปฺตฺติ จิตฺเตกคฺคตาย. ‘‘อภินฺทิ กวจมิวตฺตสมฺภว’’นฺติ อภินิพฺพิทาปฺตฺติ จิตฺตสฺส, อุปาทานปฺตฺติ สพฺพฺุตาย, ปทาลนาปฺตฺติ อวิชฺชณฺฑโกสานํ. เตนาห ภควา ‘‘ตุลมตุลฺจ สมฺภว’’นฺติ.

โย ทุกฺขมทฺทกฺขิ ยโตนิทานํ, กาเมสุ โส ชนฺตุ กถํ นเมยฺย;

กามา หิ โลเก สงฺโคติ ตฺวา, เตสํ สตีมา วินยาย สิกฺเขติ.

‘‘โย ทุกฺข’’นฺติ เววจนปฺตฺติ จ ทุกฺขสฺส ปริฺาปฺตฺติ จ. ‘‘ยโตนิทาน’’นฺติ ปภวปฺตฺติ จ สมุทยสฺส ปหานปฺตฺติ จ. ‘‘อทฺทกฺขี’’ติ เววจนปฺตฺติ จ าณจกฺขุสฺส ปฏิเวธปฺตฺติ จ. ‘‘กาเมสุ โส ชนฺตุกถํ นเมยฺยา’’ติ เววจนปฺตฺติ จ กามตณฺหาย อภินิเวสปฺตฺติ จ. ‘‘กามา หิ โลเก สงฺโคติ ตฺวา’’ติ ปจฺจตฺถิกโต ทสฺสนปฺตฺติ กามานํ. กามา หิ องฺคารกาสูปมา มํสเปสูปมา ปาวกกปฺปา ปปาตอุรโคปมา จ. ‘‘เตสํ สตีมา’’ติ อปจยปฺตฺติ ปหานาย, นิกฺเขปปฺตฺติ กายคตาย สติยา, ภาวนาปฺตฺติ มคฺคสฺส. ‘‘วินยาย สิกฺเข’’ติ ปฏิเวธปฺตฺติ ราควินยสฺส โทสวินยสฺส โมหวินยสฺส. ‘‘ชนฺตู’’ติ เววจนปฺตฺติ โยคิสฺส. ยทา หิ โยคี กามา สงฺโคติ ปชานาติ. โส กามานํ อนุปฺปาทาย กุสเล ธมฺเม อุปฺปาทยติ, โส อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย วายมติ. อยํ วายามปฺตฺติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา. นิกฺเขปปฺตฺติ โอรมตฺติกาย อสนฺตุฏฺิยา. ตตฺถ โส อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา วายมตีติ อยํ อปฺปมาทปฺตฺติ ภาวนาย, นิกฺเขปปฺตฺติ วีริยินฺทฺริยสฺส, อารกฺขปฺตฺติ กุสลานํ ธมฺมานํ, ิติปฺตฺติ อธิจิตฺตสิกฺขาย. เตนาห ภควา ‘‘โย ทุกฺขมทฺทกฺขิ ยโตนิทาน’’นฺติ.

‘‘โมหสมฺพนฺธโน โลโก, ภพฺพรูโปว ทิสฺสติ;

อุปธิพนฺธโน [อุปธิสมฺพนฺธโน (สี.) ปสฺส อุทา. ๗๐] พาโล, ตมสา ปริวาริโต;

อสฺสิรี วิย [สสฺสโตริว (อุทา. ๗๐)] ขายติ, ปสฺสโต นตฺถิ กิฺจน’’นฺติ.

‘‘โมหสมฺพนฺธโน โลโก’’ติ เทสนาปฺตฺติ วิปลฺลาสานํ. ‘‘ภพฺพรูโปว ทิสฺสตี’’ติ วิปรีตปฺตฺติ โลกสฺส. ‘‘อุปธิพนฺธโน พาโล’’ติ ปภวปฺตฺติ ปาปกานํ อิจฺฉาวจรานํ, กิจฺจปฺตฺติ ปริยุฏฺานานํ. พลวปฺตฺติ กิเลสานํ. วิรูหนาปฺตฺติ สงฺขารานํ. ‘‘ตมสา ปริวาริโต’’ติ เทสนาปฺตฺติ อวิชฺชนฺธการสฺส เววจนปฺตฺติ จ. ‘‘อสฺสิรี วิย ขายตี’’ติ ทสฺสนปฺตฺติ ทิพฺพจกฺขุสฺส, นิกฺเขปปฺตฺติ ปฺาจกฺขุสฺส. ‘‘ปสฺสโต นตฺถิ กิฺจน’’นฺติ ปฏิเวธปฺตฺติ สตฺตานํ, ราโค กิฺจนํ โทโส กิฺจนํ โมโห กิฺจนํ. เตนาห ภควา ‘‘โมหสมฺพนฺธโน โลโก’’ติ.

‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขตํ, โน เจตํ, ภิกฺขเว, อภวิสฺส อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขตํ. นยิธ [น อิธ (สี. ก.) ปสฺส อุทา. ๗๓] ชาตสฺส ภูตสฺส กตสฺส สงฺขตสฺส นิสฺสรณํ ปฺาเยถ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, อตฺถิ อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขตํ, ตสฺมา ชาตสฺส ภูตสฺส กตสฺส สงฺขตสฺส นิสฺสรณํ ปฺายตี’’ติ.

‘‘โน เจตํ, ภิกฺขเว, อภวิสฺส อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขต’’นฺติ เทสนาปฺตฺติ นิพฺพานสฺส เววจนปฺตฺติ จ. ‘‘นยิธ ชาตสฺส ภูตสฺส กตสฺส สงฺขตสฺส นิสฺสรณํ ปฺาเยถา’’ติ เววจนปฺตฺติ สงฺขตสฺส อุปนยนปฺตฺติ จ. ‘‘ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, อตฺถิ อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขต’’นฺติ เววจนปฺตฺติ นิพฺพานสฺส โชตนาปฺตฺติ จ. ‘‘ตสฺมา ชาตสฺส ภูตสฺส กตสฺส สงฺขตสฺส นิสฺสรณํ ปฺายตี’’ติ อยํ เววจนปฺตฺติ นิพฺพานสฺส, นิยฺยานิกปฺตฺติ มคฺคสฺส, นิสฺสรณปฺตฺติ สํสารโต. เตนาห ภควา ‘‘โน เจตํ, ภิกฺขเว, อภวิสฺสา’’ติ. เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน ‘‘เอกํ ภควา ธมฺมํ, ปฺตฺตีหิ วิวิธาหิ เทเสตี’’ติ.

นิยุตฺโต ปฺตฺติ หาโร.

๑๒. โอตรณหารวิภงฺโค

๔๒. ตตฺถ กตโม โอตรโณ หาโร? ‘‘โย จ ปฏิจฺจุปฺปาโท’’ติ.

‘‘อุทฺธํ อโธ สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโต, อยํ อหสฺมีติ [อยมหมสฺมีติ (สี.) ปสฺส อุทา. ๖๑] อนานุปสฺสี;

เอวํ วิมุตฺโต อุทตาริ โอฆํ, อติณฺณปุพฺพํ อปุนพฺภวายา’’ติ.

‘‘อุทฺธ’’นฺติ รูปธาตุ จ อรูปธาตุ จ. ‘‘อโธ’’ติ กามธาตุ. ‘‘สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโต’’ติ เตธาตุเก อยํ อเสกฺขาวิมุตฺติ. ตานิเยว อเสกฺขานิ ปฺจินฺทฺริยานิ, อยํ อินฺทฺริเยหิ โอตรณา.

ตานิเยว อเสกฺขานิ ปฺจินฺทฺริยานิ วิชฺชา, วิชฺชุปฺปาทา อวิชฺชานิโรโธ, อวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธ, สงฺขารนิโรธา วิฺาณนิโรโธ, วิฺาณนิโรธา นามรูปนิโรโธ, นามรูปนิโรธา สฬายตนนิโรโธ, สฬายตนนิโรธา ผสฺสนิโรโธ, ผสฺสนิโรธา เวทนานิโรโธ, เวทนานิโรธา ตณฺหานิโรโธ, ตณฺหานิโรธา อุปาทานนิโรโธ, อุปาทานนิโรธา ภวนิโรโธ, ภวนิโรธา ชาตินิโรโธ, ชาตินิโรธา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา นิรุชฺฌนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหติ. อยํ ปฏิจฺจสมุปฺปาเทหิ โอตรณา.

ตานิเยว อเสกฺขานิ ปฺจินฺทฺริยานิ ตีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิตานิ – สีลกฺขนฺเธน สมาธิกฺขนฺเธน ปฺากฺขนฺเธน, อยํ ขนฺเธหิ โอตรณา.

ตานิเยว อเสกฺขานิ ปฺจินฺทฺริยานิ สงฺขารปริยาปนฺนานิ เย สงฺขารา อนาสวา, โน จ ภวงฺคา, เต สงฺขารา ธมฺมธาตุสงฺคหิตา. อยํ ธาตูหิ โอตรณา.

สา ธมฺมธาตุ ธมฺมายตนปริยาปนฺนา, ยํ อายตนํ อนาสวํ, โน จ ภวงฺคํ. อยํ อายตเนหิ โอตรณา.

‘‘อยํ อหสฺมีติ อนานุปสฺสี’’ติ อยํ สกฺกายทิฏฺิยา สมุคฺฆาโต, สา เสกฺขาวิมุตฺติ, ตานิเยว เสกฺขานิ ปฺจินฺทฺริยานิ. อยํ อินฺทฺริเยหิ โอตรณา.

ตานิเยว เสกฺขานิ ปฺจินฺทฺริยานิ วิชฺชา, วิชฺชุปฺปาทา อวิชฺชานิโรโธ, อวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธ, เอวํ สพฺโพ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท. อยํ ปฏิจฺจสมุปฺปาเทหิ โอตรณา.

สาเยว วิชฺชา ปฺากฺขนฺโธ. อยํ ขนฺเธหิ โอตรณา.

สาเยว วิชฺชา สงฺขารปริยาปนฺนา, เย สงฺขารา อนาสวา, โน จ ภวงฺคา, เต สงฺขารา ธมฺมธาตุสงฺคหิตา, อยํ ธาตูหิ โอตรณา.

สา ธมฺมธาตุ ธมฺมายตนปริยาปนฺนา, ยํ อายตนํ อนาสวํ, โน จ ภวงฺคํ, อยํ อายตเนหิ โอตรณา.

เสกฺขาย จ วิมุตฺติยา อเสกฺขาย จ วิมุตฺติยา วิมุตฺโต อุทตาริ โอฆํ อติณฺณปุพฺพํ อปุนพฺภวาย. เตนาห ภควา ‘‘อุทฺธํ อโธ’’ติ.

๔๓. ‘‘นิสฺสิตสฺส [ปสฺส อุทา. ๗๔] จลิตํ, อนิสฺสิตสฺส จลิตํ นตฺถิ, จลิเต อสติ ปสฺสทฺธิ, ปสฺสทฺธิยา สติ นติ น โหติ, นติยา อสติ อาคติคติ น โหติ, อาคติคติยา อสติ จุตูปปาโต น โหติ, จุตูปปาเต อสติ เนวิธ น หุรํ น อุภยมนฺตเรน เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสา’’ติ.

‘‘นิสฺสิตสฺส จลิต’’นฺติ นิสฺสโย นาม ทุวิโธ ตณฺหานิสฺสโย จ ทิฏฺินิสฺสโย จ. ตตฺถ ยา รตฺตสฺส เจตนา, อยํ ตณฺหานิสฺสโย; ยา มูฬฺหสฺส เจตนา, อยํ ทิฏฺินิสฺสโย. เจตนา ปน สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, เอวํ สพฺโพ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท. อยํ ปฏิจฺจสมุปฺปาเทหิ โอตรณา.

ตตฺถ ยา รตฺตสฺส เวทนา, อยํ สุขา เวทนา. ยา สมฺมูฬฺหสฺส เวทนา, อยํ อทุกฺขมสุขา เวทนา, อิมา ทฺเว เวทนา เวทนากฺขนฺโธ. อยํ ขนฺเธหิ โอตรณา.

ตตฺถ สุขา เวทนา ทฺเว อินฺทฺริยานิ สุขินฺทฺริยํ โสมนสฺสินฺทฺริยฺจ, อทุกฺขมสุขา เวทนา อุเปกฺขินฺทฺริยํ. อยํ อินฺทฺริเยหิ โอตรณา.

ตานิเยว อินฺทฺริยานิ สงฺขารปริยาปนฺนานิ, เย สงฺขารา สาสวา ภวงฺคา, เต สงฺขารา ธมฺมธาตุสงฺคหิตา. อยํ ธาตูหิ โอตรณา.

สา ธมฺมธาตุ ธมฺมายตนปริยาปนฺนา, ยํ อายตนํ สาสวํ ภวงฺคํ, อยํ อายตเนหิ โอตรณา.

‘‘อนิสฺสิตสฺส จลิตํ นตฺถี’’ติ สมถวเสน วา ตณฺหาย อนิสฺสิโต วิปสฺสนาวเส วา ทิฏฺิยา อนิสฺสิโต. ยา วิปสฺสนา อยํ วิชฺชา, วิชฺชุปฺปาทา อวิชฺชานิโรโธ, อวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธ, สงฺขารนิโรธา วิฺาณนิโรโธ, เอวํ สพฺโพ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท. อยํ ปฏิจฺจสมุปฺปาเทหิ โอตรณา.

สาเยว วิปสฺสนา ปฺากฺขนฺโธ. อยํ ขนฺเธหิ โอตรณา.

สาเยว วิปสฺสนา ทฺเว อินฺทฺริยานิ – วีริยินฺทฺริยฺจ ปฺินฺทฺริยฺจ. อยํ อินฺทฺริเยหิ โอตรณา.

สาเยว วิปสฺสนา สงฺขารปริยาปนฺนา, เย สงฺขารา อนาสวา, โน จ ภวงฺคา, เต สงฺขารา ธมฺมธาตุสงฺคหิตา. อยํ ธาตูหิ โอตรณา.

สา ธมฺมธาตุ ธมฺมายตนปริยาปนฺนา, ยํ อายตนํ อนาสวํ, โน จ ภวงฺคํ. อยํ อายตเนหิ โอตรณา.

‘‘ปสฺสทฺธิยา สตี’’ติ ทุวิธา ปสฺสทฺธิ กายิกา จ เจตสิกา จ. ยํ กายิกํ สุขํ, อยํ กายปสฺสทฺธิ. ยํ เจตสิกํ สุขํ, อยํ เจตสิกา ปสฺสทฺธิ. ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ [เวทยติ (ก.)], สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ, สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาติ, ยถาภูตํ ปชานนฺโต นิพฺพินฺทติ, นิพฺพินฺทนฺโต วิรชฺชติ, วิราคา วิมุจฺจติ, วิมุตฺตสฺมึ ‘‘วิมุตฺต’’มิติ [วิมุตฺตมฺหีติ (สี. ก.)] าณํ โหติ, ‘‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’’ติ ปชานาติ. โส น นมติ รูเปสุ, น สทฺเทสุ, น คนฺเธสุ, น รเสสุ, น โผฏฺพฺเพสุ, น ธมฺเมสุ ขยา ราคสฺส ขยา โทสสฺส ขยา โมหสฺส เยน รูเปน ตถาคตํ ติฏฺนฺตํ จรนฺตํ ปฺาปยมาโน ปฺาเปยฺย, ตสฺส รูปสฺส ขยา วิราคา นิโรธา จาคา ปฏินิสฺสคฺคา รูปสงฺขเย วิมุตฺโต, ตถาคโต อตฺถีติปิ น อุเปติ, นตฺถีติปิ น อุเปติ, อตฺถิ นตฺถีติปิ น อุเปติ, เนวตฺถิ โน นตฺถีติปิ น อุเปติ. อถ โข คมฺภีโร อปฺปเมยฺโย อสงฺเขยฺโย นิพฺพุโตติเยว สงฺขํ คจฺฉติ ขยา ราคสฺส, ขยา โทสสฺส, ขยา โมหสฺส.

ยาย เวทนาย…เป… ยาย สฺาย. เยหิ สงฺขาเรหิ. เยน วิฺาเณน ตถาคตํ ติฏฺนฺตํ จรนฺตํ ปฺาปยมาโน ปฺาเปยฺย, ตสฺส วิฺาณสฺส ขยา วิราคา นิโรธา จาคา ปฏินิสฺสคฺคา วิฺาณสงฺขเย วิมุตฺโต, ตถาคโต อตฺถีติปิ น อุเปติ, นตฺถีติปิ น อุเปติ, อตฺถิ นตฺถีติปิ น อุเปติ, เนวตฺถิ โน นตฺถีติปิ น อุเปติ. อถ โข คมฺภีโร อปฺปเมยฺโย อสงฺเขยฺโย นิพฺพุโตติเยว สงฺขํ คจฺฉติ ขยา ราคสฺส, ขยา โทสสฺส, ขยา โมหสฺส. ‘‘อาคตี’’ติ อิธาคติ. ‘‘คตี’’ติ เปจฺจภโว. อาคติคตีปิ น ภวนฺติ, ‘‘เนวิธา’’ติ ฉสุ อชฺฌตฺติเกสุ อายตเนสุ. ‘‘น หุร’’นฺติ ฉสุ พาหิเรสุ อายตเนสุ. ‘‘น อุภยมนฺตเรนา’’ติ ผสฺสสมุทิเตสุ ธมฺเมสุ อตฺตานํ น ปสฺสติ. ‘‘เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสา’’ติ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท. โส ทุวิโธ โลกิโย จ โลกุตฺตโร จ. ตตฺถ โลกิโย อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, ยาว ชรามรณา. โลกุตฺตโร สีลวโต อวิปฺปฏิสาโร ชายติ, ยาว นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาติ. เตนาห ภควา ‘‘นิสฺสิตสฺส จลิตํ อนิสฺสิตสฺส จลิตํ นตฺถิ…เป… เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสา’’ติ.

๔๔.

‘‘เย เกจิ โสกา ปริเทวิตา วา, ทุกฺขา [ทุกฺขํ (สี. ก.) ปสฺส อุทา. ๗๘] จ โลกสฺมิมเนกรูปา;

ปิยํ ปฏิจฺจปฺปภวนฺติ เอเต, ปิเย อสนฺเต น ภวนฺติ เอเต.

ตสฺมา หิ เต สุขิโน วีตโสกา, เยสํ ปิยํ นตฺถิ กุหิฺจิ โลเก;

ตสฺมา อโสกํ วิรชํ ปตฺถยาโน, ปิยํ น กยิราถ กุหิฺจิ โลเก’’ติ.

‘‘เย เกจิ โสกา ปริเทวิตา วา, ทุกฺขา จ โลกสฺมิมเนกรูปา ปิยํ ปฏิจฺจปฺปภวนฺติ เอเต’’ติ – อยํ ทุกฺขา เวทนา. ‘‘ปิเย อสนฺเต น ภวนฺติ เอเต’’ติ – อยํ สุขา เวทนา. เวทนา เวทนากฺขนฺโธ. อยํ ขนฺเธหิ โอตรณา.

เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ, เอวํ สพฺพํ. อยํ ปฏิจฺจสมุปฺปาเทหิ โอตรณา.

ตตฺถ สุขา เวทนา ทฺเว อินฺทฺริยานิ – สุขินฺทฺริยํ โสมนสฺสินฺทฺริยฺจ. ทุกฺขา เวทนา ทฺเว อินฺทฺริยานิ – ทุกฺขินฺทฺริยํ โทมนสฺสินฺทฺริยฺจ. อยํ อินฺทฺริเยหิ โอตรณา.

ตานิเยว อินฺทฺริยานิ สงฺขารปริยาปนฺนานิ, เย สงฺขารา สาสวา ภวงฺคา, เต สงฺขารา ธมฺมธาตุสงฺคหิตา. อยํ ธาตูหิ โอตรณา.

สา ธมฺมธาตุ ธมฺมายตนปริยาปนฺนา, ยํ อายตนํ สาสวํ ภวงฺคํ. อยํ อายตเนหิ โอตรณา.

ตสฺมา หิ เต สุขิโน วีตโสกา, เยสํ ปิยํ นตฺถิ กุหิฺจิ โลเก;

ตสฺมา อโสกํ วิรชํ ปตฺถยาโน, ปิยํ น กยิราถ กุหิฺจิ โลเกติ.

อิทํ ตณฺหาปหานํ. ตณฺหานิโรธา อุปาทานนิโรโธ, อุปาทานนิโรธา ภวนิโรโธ, เอวํ สพฺพํ. อยํ ปฏิจฺจสมุปฺปาเทหิ โอตรณา.

ตํเยว ตณฺหาปหานํ สมโถ. โส สมโถ ทฺเว อินฺทฺริยานิ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยฺจ. อยํ อินฺทฺริเยหิ โอตรณา.

โสเยว สมโถ สมาธิกฺขนฺโธ. อยํ ขนฺเธหิ โอตรณา.

โสเยว สมโถ สงฺขารปริยาปนฺโน, เย สงฺขารา อนาสวา, โน จ ภวงฺคา, เต สงฺขารา ธมฺมธาตุสงฺคหิตา. อยํ ธาตูหิ โอตรณา.

สา ธมฺมธาตุ ธมฺมายตนปริยาปนฺนา, ยํ อายตนํ อนาสวํ, โน จ ภวงฺคํ. อยํ อายตเนหิ โอตรณา. เตนาห ภควา ‘‘เย เกจิ โสกา’’ติ.

กามํ กามยมานสฺส, ตสฺส เจ ตํ สมิชฺฌติ;

อทฺธา ปีติมโน โหติ, ลทฺธา มจฺโจ ยทิจฺฉติ.

ตสฺส เจ กามยานสฺส, ฉนฺทชาตสฺส ชนฺตุโน;

เต กามา ปริหายนฺติ, สลฺลวิทฺโธว รุปฺปติ.

โย กาเม ปริวชฺเชติ, สปฺปสฺเสว [สพฺพสฺเสว (ก.) ปสฺส สุ. นิ. ๗๗๔] ปทา สิโร;

โสมํ วิสตฺติกํ โลเก, สโต สมติวตฺตตีติ.

ตตฺถ ยา ปีติมนตา, อยํ อนุนโย. ยทาห สลฺลวิทฺโธว รุปฺปตีติ, อิทํ ปฏิฆํ. อนุนยํ ปฏิฆฺจ ปน ตณฺหาปกฺโข, ตณฺหาย จ ปน ทสรูปีนิ อายตนานิ ปทฏฺานํ. อยํ อายตเนหิ โอตรณา.

ตานิเยว ทส รูปีนิ รูปกาโย นามสมฺปยุตฺโต, ตทุภยํ นามรูปํ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, เอวํ สพฺพํ. อยํ ปฏิจฺจสมุปฺปาเทหิ โอตรณา.

ตเทว นามรูปํ ปฺจกฺขนฺโธ; อยํ ขนฺเธหิ โอตรณา;

ตเทว นามรูปํ อฏฺารส ธาตุโย; อยํ ธาตูหิ โอตรณา;

ตตฺถ โย รูปกาโย อิมานิ ปฺจ รูปีนิ อินฺทฺริยานิ, โย นามกาโย อิมานิ ปฺจ อรูปีนิ อินฺทฺริยานิ, อิมานิ ทส อินฺทฺริยานิ. อยํ อินฺทฺริเยหิ โอตรณา.

ตตฺถ ยทาห –

‘‘โย กาเม ปริวชฺเชติ, สปฺปสฺเสว ปทา สิโร;

โสมํ วิสตฺติกํ โลเก, สโต สมติวตฺตตี’’ติ.

อยํ สอุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ, อยํ ธาตูหิ โอตรณา.

สาเยว สอุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ วิชฺชา, วิชฺชุปฺปาทา อวิชฺชานิโรโธ, อวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธ, เอวํ สพฺพํ. อยํ ปฏิจฺจสมุปฺปาเทหิ โอตรณา.

สาเยว วิชฺชา ปฺากฺขนฺโธ. อยํ ขนฺเธหิ โอตรณา.

สาเยว วิชฺชา ทฺเว อินฺทฺริยานิ – วีริยินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยฺจ. อยํ อินฺทฺริเยหิ โอตรณา.

สาเยว วิชฺชา สงฺขารปริยาปนฺนา, เย สงฺขารา อนาสวา, โน จ ภวงฺคา, เต สงฺขารา ธมฺมธาตุสงฺคหิตา. อยํ ธาตูหิ โอตรณา.

สา ธมฺมธาตุ ธมฺมายตนปริยาปนฺนา, ยํ อายตนํ อนาสวํ, โน จ ภวงฺคํ. อยํ อายตเนหิ โอตรณา. เตนาห ภควา ‘‘กามํ กามยมานสฺสา’’ติ.

เอตฺตาวตา ปฏิจฺจ อินฺทฺริยขนฺธธาตุอายตนานิ สโมสรโณตรณานิ ภวนฺติ. เอวํ ปฏิจฺจ อินฺทฺริยขนฺธธาตุอายตนานิ โอตาเรตพฺพานิ. เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน ‘‘โย จ ปฏิจฺจุปฺปาโท’’ติ.

นิยุตฺโต โอตรโณ หาโร.

๑๓. โสธนหารวิภงฺโค

๔๕. ตตฺถ กตโม โสธโน หาโร? ‘‘วิสฺสชฺชิตมฺหิ ปฺเห’’ติคาถา. ยถา อายสฺมา อชิโต ปารายเน ภควนฺตํ ปฺหํ ปุจฺฉติ –

‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก, เกนสฺสุ นปฺปกาสติ;

กิสฺสาภิเลปนํ พฺรูสิ, กึสุ ตสฺส มหพฺภย’’นฺติ.

‘‘อวิชฺชาย นิวุโต โลโก, [อชิตาติ ภควา]

วิวิจฺฉา ปมาทา นปฺปกาสติ;

ชปฺปาภิเลปนํ พฺรูมิ, ทุกฺขมสฺส มหพฺภย’’นฺติ.

‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก’’ติ ปฺเห ‘‘อวิชฺชาย นิวุโต โลโก’’ติ ภควา ปทํ โสเธติ, โน จ อารมฺภํ. ‘‘เกนสฺสุ นปฺปกาสตี’’ติ ปฺเห ‘‘วิวิจฺฉา ปมาทา นปฺปกาสตี’’ติ ภควา ปทํ โสเธติ, โน จ อารมฺภํ. ‘‘กิสฺสาภิเลปนํ พฺรูสี’’ติ ปฺเห ‘‘ชปฺปาภิเลปนํ พฺรูมี’’ติ ภควา ปทํ โสเธติ, โน จ อารมฺภํ. ‘‘กึสุ ตสฺส มหพฺภย’’นฺติ ปฺเห ‘‘ทุกฺขมสฺส มหพฺภย’’นฺติ สุทฺโธ อารมฺโภ. เตนาห ภควา ‘‘อวิชฺชาย นิวุโต โลโก’’ติ.

‘‘สวนฺติ สพฺพธิ โสตา, [อิจฺจายสฺมา อชิโต]

โสตานํ กึ นิวารณํ;

โสตานํ สํวรํ พฺรูหิ, เกน โสตา ปิธียเร’’ติ.

‘‘ยานิ โสตานิ โลกสฺมึ, [อชิตาติ ภควา]

สติ เตสํ นิวารณํ;

โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ, ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ.

‘‘สวนฺติ สพฺพธิ โสตา, โสตานํ กึ นิวารณ’’นฺติ ปฺเห ‘‘ยานิ โสตานิ โลกสฺมึ, สติ เตสํ นิวารณ’’นฺติ ภควา ปทํ โสเธติ, โน จ อารมฺภํ. ‘‘โสตานํ สํวรํ พฺรูหิ, เกน โสตา ปิธียเร’’ติ ปฺเห ‘‘โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ, ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ สุทฺโธ อารมฺโภ. เตนาห ภควา ‘‘ยานิ โสตานิ โลกสฺมิ’’นฺติ.

‘‘ปฺา เจว สติ จ, [อิจฺจายสฺมา อชิโต]

นามรูปฺจ [นามํ รูปฺจ (ก.) ปสฺส สุ. นิ. ๑๐๔๒] มาริส;

เอตํ เม ปุฏฺโ ปพฺรูหิ, กตฺเถตํ อุปรุชฺฌตี’’ติ.

ปฺเห

‘‘ยเมตํ ปฺหํ อปุจฺฉิ, อชิต ตํ วทามิ เต;

ยตฺถ นามฺจ รูปฺจ, อเสสํ อุปรุชฺฌติ;

วิฺาณสฺส นิโรเธน, เอตฺเถตํ อุปรุชฺฌตี’’ติ.

สุทฺโธ อารมฺโภ. เตนาห ภควา ‘‘ยเมตํ ปฺหํ อปุจฺฉี’’ติ. ยตฺถ เอวํ สุทฺโธ อารมฺโภ, โส ปฺโห วิสชฺชิโต ภวติ. ยตฺถ ปน อารมฺโภ อสุทฺโธ, น ตาว โส ปฺโห วิสชฺชิโต ภวติ. เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน ‘‘วิสฺสชฺชิตมฺหิ ปฺเห’’ติ.

นิยุตฺโต โสธโน หาโร.

๑๔. อธิฏฺานหารวิภงฺโค

๔๖. ตตฺถ กตโม อธิฏฺาโน หาโร? ‘‘เอกตฺตตาย ธมฺมา, เยปิ จ เวมตฺตตาย นิทฺทิฏฺา’’ติ.

เย ตตฺถ นิทฺทิฏฺา, ตถา เต ธารยิตพฺพา.

‘‘ทุกฺข’’นฺติ เอกตฺตตา. ตตฺถ กตมํ ทุกฺขํ? ชาติ ทุกฺขา, ชรา ทุกฺขา, พฺยาธิ ทุกฺโข, มรณํ ทุกฺขํ, อปฺปิเยหิ สมฺปโยโค ทุกฺโข, ปิเยหิ วิปฺปโยโค ทุกฺโข, ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ, สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา, รูปา ทุกฺขา, เวทนา ทุกฺขา, สฺา ทุกฺขา, สงฺขารา ทุกฺขา, วิฺาณํ ทุกฺขํ. อยํ เวมตฺตตา.

‘‘ทุกฺขสมุทโย’’ติ เอกตฺตตา. ตตฺถ กตโม ทุกฺขสมุทโย? ยายํ ตณฺหา โปโนภวิกา [โปโนพฺภวิกา (ก.)] นนฺทีราคสหคตา ตตฺรตตฺราภินนฺทินี. เสยฺยถิทํ, กามตณฺหา ภวตณฺหา วิภวตณฺหา. อยํ เวมตฺตตา.

‘‘ทุกฺขนิโรโธ’’ติ เอกตฺตตา. ตตฺถ กตโม ทุกฺขนิโรโธ? โย ตสฺสาเยว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ จาโค ปฏินิสฺสคฺโค มุตฺติ อนาลโย. อยํ เวมตฺตตา.

‘‘ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ เอกตฺตตา. ตตฺถ กตมา ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา? อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค. เสยฺยถิทํ, สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธิ. อยํ เวมตฺตตา.

‘‘มคฺโค’’ติ เอกตฺตตา. ตตฺถ กตโม มคฺโค? นิรยคามี มคฺโค ติรจฺฉานโยนิคามี มคฺโค เปตฺติวิสยคามี มคฺโค อสุรโยนิโย [อสุรโยนิคามิโย (สี.), อสุรโยนิคามีนิโย (ก.)] มคฺโค สคฺคคามิโย มคฺโค มนุสฺสคามี มคฺโค นิพฺพานคามี มคฺโค. อยํ เวมตฺตตา.

‘‘นิโรโธ’’ติ เอกตฺตตา. ตตฺถ กตโม นิโรโธ? ปฏิสงฺขานิโรโธ อปฺปฏิสงฺขานิโรโธ อนุนยนิโรโธ ปฏิฆนิโรโธ มานนิโรโธ มกฺขนิโรโธ ปฬาสนิโรโธ อิสฺสานิโรโธ มจฺฉริยนิโรโธ สพฺพกิเลสนิโรโธ. อยํ เวมตฺตตา.

‘‘รูป’’นฺติ เอกตฺตตา. ตตฺถ กตมํ รูปํ? จาตุมหาภูติกํ [จาตุมฺมหาภูติกํ (สี.)] รูปํ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย รูปสฺส ปฺตฺติ. ตตฺถ กตมานิ จตฺตาริ มหาภูตานิ? ปถวีธาตุ [ปวีธาตุ (สี.)] อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตุ.

๔๗. ทฺวีหิ อากาเรหิ ธาตุโย ปริคฺคณฺหาติ สงฺเขเปน จ วิตฺถาเรน จ. กถํ วิตฺถาเรน ธาตุโย ปริคฺคณฺหาติ? วีสติยา อากาเรหิ ปถวีธาตุํ วิตฺถาเรน ปริคฺคณฺหาติ, ทฺวาทสหิ อากาเรหิ อาโปธาตุํ วิตฺถาเรน ปริคฺคณฺหาติ, จตูหิ อากาเรหิ เตโชธาตุํ วิตฺถาเรน ปริคฺคณฺหาติ, ฉหิ อากาเรหิ วาโยธาตุํ วิตฺถาเรน ปริคฺคณฺหาติ.

กตเมหิ วีสติยา อากาเรหิ ปถวีธาตุํ วิตฺถาเรน ปริคฺคณฺหาติ? อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ, มํสํ นฺหารุ อฏฺิ อฏฺิมิฺชํ [อฏฺิมิฺชา (สี.)] วกฺกํ, หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาสํ, อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ มตฺถเก มตฺถลุงฺคนฺติ อิเมหิ วีสติยา อากาเรหิ ปถวีธาตุํ วิตฺถาเรน ปริคฺคณฺหาติ.

กตเมหิ ทฺวาทสหิ อากาเรหิ อาโปธาตุํ วิตฺถาเรน ปริคฺคณฺหาติ? อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุพฺโพ โลหิตํ เสโท เมโท อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺตนฺติ อิเมหิ ทฺวาทสหิ อากาเรหิ อาโปธาตุํ วิตฺถาเรน ปริคฺคณฺหาติ.

กตเมหิ จตูหิ อากาเรหิ เตโชธาตุํ วิตฺถาเรน ปริคฺคณฺหาติ? เยน จ สนฺตปฺปติ, เยน จ ชีรียติ [ชีรติ (สี.), ชีรยติ (ก.), ปสฺส ม. นิ. ๓.๓๕๑], เยน จ ปริฑยฺหติ, เยน จ อสิตปีตขายิตสายิตํ สมฺมา ปริณามํ คจฺฉติ, อิเมหิ จตูหิ อากาเรหิ เตโชธาตุํ วิตฺถาเรน ปริคฺคณฺหาติ.

กตเมหิ ฉหิ อากาเรหิ วาโยธาตุํ วิตฺถาเรน ปริคฺคณฺหาติ? อุทฺธงฺคมา วาตา, อโธคมา วาตา, กุจฺฉิสยา วาตา, โกฏฺาสยา [โกฏฺสยา (สี.)] วาตา, องฺคมงฺคานุสาริโน วาตา, อสฺสาโส ปสฺสาโส อิติ, อิเมหิ ฉหิ อากาเรหิ วาโยธาตุํ วิตฺถาเรน ปริคฺคณฺหาติ.

เอวํ อิเมหิ ทฺวาจตฺตาลีสาย อากาเรหิ วิตฺถาเรน ธาตุโย สภาวโต อุปลกฺขยนฺโต ตุลยนฺโต ปริวีมํสนฺโต ปริโยคาหนฺโต ปจฺจเวกฺขนฺโต น กิฺจิ คยฺหูปคํ ปสฺสติ กายํ วา กายปเทสํ วา, ยถา จนฺทนิกํ ปวิจินนฺโต น กิฺจิ คยฺหูปคํ ปสฺเสยฺย, ยถา สงฺการฏฺานํ ปวิจินนฺโต น กิฺจิ คยฺหูปคํ ปสฺเสยฺย, ยถา วจฺจกุฏึ ปวิจินนฺโต น กิฺจิ คยฺหูปคํ ปสฺเสยฺย, ยถา สิวถิกํ [สีวถิกํ (สี.)] ปวิจินนฺโต น กิฺจิ คยฺหูปคํ ปสฺเสยฺย. เอวเมว อิเมหิ ทฺวาจตฺตาลีสาย อากาเรหิ เอวํ วิตฺถาเรน ธาตุโย สภาวโต อุปลกฺขยนฺโต ตุลยนฺโต ปริวีมํสนฺโต ปริโยคาหนฺโต ปจฺจเวกฺขนฺโต น กิฺจิ คยฺหูปคํ ปสฺสติ กายํ วา กายปเทสํ วา. เตนาห ภควา ยา เจว โข ปน อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ [เนเวสาหํ (สี. ก.) ปสฺส ม. นิ. ๓.๓๔๙], ยา จ พาหิรา ปถวีธาตุ, ปถวีธาตุเรเวสา. ตํ ‘‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ, เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา ปถวีธาตุยา นิพฺพินฺทติ, ปถวีธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ. ยา เจว โข ปน อชฺฌตฺติกา อาโปธาตุ, ยา จ พาหิรา อาโปธาตุ…เป… ยา เจว โข ปน อชฺฌตฺติกา เตโชธาตุ, ยา จ พาหิรา เตโชธาตุ…เป… ยา เจว โข ปน อชฺฌตฺติกา วาโยธาตุ, ยา จ พาหิรา วาโยธาตุ, วาโยธาตุเรเวสา. ตํ ‘‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ, เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา วาโยธาตุยา นิพฺพินฺทติ, วาโยธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ. อยํ เวมตฺตตา.

๔๘. ‘‘อวิชฺชา’’ติ เอกตฺตตา. ตตฺถ กตมา อวิชฺชา? ทุกฺเข อฺาณํ, ทุกฺขสมุทเย อฺาณํ, ทุกฺขนิโรเธ อฺาณํ, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย อฺาณํ, ปุพฺพนฺเต อฺาณํ, อปรนฺเต อฺาณํ, ปุพฺพนฺตาปรนฺเต อฺาณํ, อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ อฺาณํ, ยํ เอวรูปํ อฺาณํ อทสฺสนํ อนภิสมโย อนนุโพโธ อสมฺโพโธ อปฺปฏิเวโธ อสลฺลกฺขณา อนุปลกฺขณา อปจฺจุปลกฺขณา อสมเวกฺขณํ [อสมเวกฺขนํ (ก.)] อปจฺจกฺขกมฺมํ ทุมฺเมชฺฌํ พาลฺยํ อสมฺปชฺํ โมโห ปโมโห สมฺโมโห อวิชฺชา อวิชฺโชโฆ อวิชฺชาโยโค อวิชฺชานุสโย อวิชฺชาปริยุฏฺานํ อวิชฺชาลงฺคี โมโห อกุสลมูลํ. อยํ เวมตฺตตา.

‘‘วิชฺชา’’ติ เอกตฺตตา. ตตฺถ กตมา วิชฺชา? ทุกฺเข าณํ, ทุกฺขสมุทเย าณํ, ทุกฺขนิโรเธ าณํ, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย าณํ, ปุพฺพนฺเต าณํ, อปรนฺเต าณํ, ปุพฺพนฺตาปรนฺเต าณํ, อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ าณํ, ยา เอวรูปา ปฺา ปชานนา วิจโย ปวิจโย ธมฺมวิจโย สํลกฺขณา อุปลกฺขณา ปจฺจุปลกฺขณา ปณฺฑิจฺจํ โกสลฺลํ เนปุฺํ เวภพฺยา [เวภวฺยา (สี.)] จินฺตา อุปปริกฺขา ภูรี เมธา ปริณายิกา วิปสฺสนา สมฺปชฺํ ปโตโท ปฺา ปฺินฺทฺริยํ ปฺาพลํ ปฺาสตฺถํ ปฺาปาสาโท ปฺาอาโลโก ปฺาโอภาโส ปฺาปชฺโชโต ปฺารตนํ อโมโห ธมฺมวิจโย สมฺมาทิฏฺิ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺนํ. อยํ เวมตฺตตา.

‘‘สมาปตฺตี’’ติ เอกตฺตตา. ตตฺถ กตมา สมาปตฺติ? สฺาสมาปตฺติ อสฺาสมาปตฺติ, เนวสฺานาสฺาสมาปตฺติ. วิภูตสฺาสมาปตฺติ นิโรธสมาปตฺตีติ. อยํ เวมตฺตตา.

‘‘ฌายี’’ติ เอกตฺตตา. ตตฺถ กตโม ฌายี? อตฺถิ เสกฺโข ฌายี, อตฺถิ อเสกฺโข ฌายี, เนวเสกฺขนาเสกฺโข ฌายี, อาชานิโย ฌายี, อสฺสขลุงฺโก ฌายี, ทิฏฺุตฺตโร ฌายี, ตณฺหุตฺตโร ฌายี, ปฺุตฺตโร ฌายี. อยํ เวมตฺตตา.

‘‘สมาธี’’ติ เอกตฺตตา. ตตฺถ กตโม สมาธิ? สรโณ สมาธิ, อรโณ สมาธิ, สเวโร สมาธิ, อเวโร สมาธิ, สพฺยาปชฺโช [สพฺยาปชฺโฌ (สี.)] สมาธิ, อพฺยาปชฺโช สมาธิ, สปฺปีติโก สมาธิ, นิปฺปีติโก สมาธิ, สามิโส สมาธิ, นิรามิโส สมาธิ, สสงฺขาโร สมาธิ, อสงฺขาโร สมาธิ, เอกํสภาวิโต สมาธิ, อุภยํสภาวิโต สมาธิ, อุภยโต ภาวิตภาวโน สมาธิ, สวิตกฺกสวิจาโร สมาธิ, อวิตกฺกวิจารมตฺโต สมาธิ, อวิตกฺกอวิจาโร สมาธิ, หานภาคิโย สมาธิ, ิติภาคิโย สมาธิ, วิเสสภาคิโย สมาธิ, นิพฺเพธภาคิโย สมาธิ, โลกิโย สมาธิ, โลกุตฺตโร สมาธิ, มิจฺฉาสมาธิ, สมฺมาสมาธิ. อยํ เวมตฺตตา.

‘‘ปฏิปทา’’ติ เอกตฺตตา. ตตฺถ กตมา ปฏิปทา? อาคาฬฺหปฏิปทา [อาคฬฺหา ปฏิปทา (สี.) อฏฺกถา โอโลเกตพฺพา], นิชฺฌามปฏิปทา, มชฺฌิมปฏิปทา, อกฺขมา ปฏิปทา, ขมา ปฏิปทา, สมา ปฏิปทา, ทมา ปฏิปทา, ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, ทุกฺขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺาติ. อยํ เวมตฺตตา.

‘‘กาโย’’ติ เอกตฺตตา. ตตฺถ กตโม กาโย? นามกาโย รูปกาโย จ. ตตฺถ กตโม รูปกาโย? เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ มํสํ นฺหารุ [นหารุ (สี.)] อฏฺิ อฏฺิมิฺชํ วกฺกํ หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาสํ อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุพฺโพ โลหิตํ เสโท เมโท อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺตํ มตฺถลุงฺคนฺติ – อยํ รูปกาโย. นามกาโย นาม เวทนา สฺา เจตนา จิตฺตํ ผสฺโส มนสิกาโรติ – อยํ นามกาโยติ. อยํ เวมตฺตตา.

เอวํ โย ธมฺโม ยสฺส ธมฺมสฺส สมานภาโว, โส ธมฺโม ตสฺส ธมฺมสฺส เอกตฺตตาย เอกี ภวติ. เยน เยน วา ปน วิลกฺขโณ, เตน เตน เวมตฺตํ คจฺฉติ. เอวํ สุตฺเต วา เวยฺยากรเณ วา คาถายํ วา ปุจฺฉิเตน วีมํสยิตพฺพํ, กึ เอกตฺตตาย ปุจฺฉติ, อุทาหุ เวมตฺตตายาติ. ยทิ เอกตฺตตาย ปุจฺฉิตํ, เอกตฺตตาย วิสชฺชยิตพฺพํ. ยทิ เวมตฺตตาย ปุจฺฉิตํ, เวมตฺตตาย วิสชฺชยิตพฺพํ. ยทิ สตฺตาธิฏฺาเนน ปุจฺฉิตํ, สตฺตาธิฏฺาเนน วิสชฺชยิตพฺพํ. ยทิ ธมฺมาธิฏฺาเนน ปุจฺฉิตํ, ธมฺมาธิฏฺาเนน วิสชฺชยิตพฺพํ. ยถา ยถา วา ปน ปุจฺฉิตํ, ตถา ตถา วิสชฺชยิตพฺพํ. เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน ‘‘เอกตฺตตาย ธมฺมา’’ติ.

นิยุตฺโต อธิฏฺาโน หาโร.

๑๕. ปริกฺขารหารวิภงฺโค

๔๙. ตตฺถ กตโม ปริกฺขาโร หาโร? ‘‘เย ธมฺมา ยํ ธมฺมํ ชนยนฺตี’’ติ.

โย ธมฺโม ยํ ธมฺมํ ชนยติ, ตสฺส โส ปริกฺขาโร. กึลกฺขโณ ปริกฺขาโร? ชนกลกฺขโณ ปริกฺขาโร. ทฺเว ธมฺมา ชนยนฺติ เหตุ จ ปจฺจโย จ. ตตฺถ กึลกฺขโณ เหตุ, กึลกฺขโณ ปจฺจโย? อสาธารณลกฺขโณ เหตุ, สาธารณลกฺขโณ ปจฺจโย. ยถา กึ ภเว? ยถา องฺกุรสฺส นิพฺพตฺติยา พีชํ อสาธารณํ, ปถวี อาโป จ สาธารณา. องฺกุรสฺส หิ ปถวี อาโป จ ปจฺจโย สภาโว เหตุ. ยถา วา ปน ฆเฏ ทุทฺธํ ปกฺขิตฺตํ ทธิ ภวติ, น จตฺถิ เอกกาลสมวธานํ ทุทฺธสฺส จ ทธิสฺส จ. เอวเมวํ นตฺถิ เอกกาลสมวธานํ เหตุสฺส จ ปจฺจยสฺส จ.

อยฺหิ สํสาโร สเหตุ สปฺปจฺจโย นิพฺพตฺโต. วุตฺตํ หิ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, เอวํ สพฺโพ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท. อิติ อวิชฺชา อวิชฺชาย เหตุ อโยนิโส มนสิกาโร ปจฺจโย. ปุริมิกา อวิชฺชา ปจฺฉิมิกาย อวิชฺชาย เหตุ. ตตฺถ ปุริมิกา อวิชฺชา อวิชฺชานุสโย ปจฺฉิมิกา อวิชฺชา อวิชฺชาปริยุฏฺานํ, ปุริมิโก อวิชฺชานุสโย ปจฺฉิมิกสฺส อวิชฺชาปริยุฏฺานสฺส เหตุภูโต ปริพฺรูหนาย, พีชงฺกุโร วิย สมนนฺตรเหตุตาย. ยํ ปน ยตฺถ ผลํ นิพฺพตฺตติ, อิทมสฺส ปรมฺปรเหตุตาย เหตุภูตํ. ทุวิโธ หิ เหตุ สมนนฺตรเหตุ ปรมฺปรเหตุ จ, เอวํ อวิชฺชายปิ ทุวิโธ เหตุ สมนนฺตรเหตุ ปรมฺปรเหตุ จ.

ยถา วา ปน ถาลกฺจ วฏฺฏิ จ เตลฺจ ปทีปสฺส ปจฺจยภูตํ น สภาวเหตุ, น หิ สกฺกา ถาลกฺจ วฏฺฏิฺจ เตลฺจ อนคฺคิกํ ทีเปตุํ ปทีปสฺส ปจฺจยภูตํ. ปทีโป วิย สภาโว เหตุ โหติ. อิติ สภาโว เหตุ, ปรภาโว ปจฺจโย. อชฺฌตฺติโก เหตุ, พาหิโร ปจฺจโย. ชนโก เหตุ, ปริคฺคาหโก ปจฺจโย. อสาธารโณ เหตุ, สาธารโณ ปจฺจโย.

อวุปจฺเฉทตฺโถ สนฺตติ อตฺโถ, นิพฺพตฺติ อตฺโถ ผลตฺโถ, ปฏิสนฺธิ อตฺโถ ปุนพฺภวตฺโถ, ปลิโพธตฺโถ ปริยุฏฺานตฺโถ, อสมุคฺฆาตตฺโถ อนุสยตฺโถ, อสมฺปฏิเวธตฺโถ อวิชฺชตฺโถ, อปริฺาตตฺโถ วิฺาณสฺส พีชตฺโถ. ยตฺถ อวุปจฺเฉโท ตตฺถ สนฺตติ, ยตฺถ สนฺตติ ตตฺถ นิพฺพตฺติ, ยตฺถ นิพฺพตฺติ ตตฺถ ผลํ, ยตฺถ ผลํ ตตฺถ ปฏิสนฺธิ, ยตฺถ ปฏิสนฺธิ ตตฺถ ปุนพฺภโว, ยตฺถ ปุนพฺภโว ตตฺถ ปลิโพโธ, ยตฺถ ปลิโพโธ ตตฺถ ปริยุฏฺานํ, ยตฺถ ปริยุฏฺานํ ตตฺถ อสมุคฺฆาโต. ยตฺถ อสมุคฺฆาโต ตตฺถ อนุสโย, ยตฺถ อนุสโย ตตฺถ อสมฺปฏิเวโธ, ยตฺถ อสมฺปฏิเวโธ ตตฺถ อวิชฺชา, ยตฺถ อวิชฺชา ตตฺถ สาสวํ วิฺาณํ อปริฺาตํ, ยตฺถ สาสวํ วิฺาณํ อปริฺาตํ ตตฺถ พีชตฺโถ.

สีลกฺขนฺโธ สมาธิกฺขนฺธสฺส ปจฺจโย, สมาธิกฺขนฺโธ ปฺากฺขนฺธสฺส ปจฺจโย, ปฺากฺขนฺโธ วิมุตฺติกฺขนฺธสฺส ปจฺจโย, วิมุตฺติกฺขนฺโธ วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺธสฺส ปจฺจโย. ติตฺถฺุตา ปีตฺุตาย ปจฺจโย, ปีตฺุตา ปตฺตฺุตาย ปจฺจโย, ปตฺตฺุตา อตฺตฺุตาย ปจฺจโย.

ยถา วา ปน จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ. ตตฺถ จกฺขุ อาธิปเตยฺยปจฺจยตาย ปจฺจโย, รูปา อารมฺมณปจฺจยตาย ปจฺจโย. อาโลโก สนฺนิสฺสยตาย ปจฺจโย, มนสิกาโร สภาโว เหตุ. สงฺขารา วิฺาณสฺส ปจฺจโย, สภาโว เหตุ. วิฺาณํ นามรูปสฺส ปจฺจโย, สภาโว เหตุ. นามรูปํ สฬายตนสฺส ปจฺจโย, สภาโว เหตุ. สฬายตนํ ผสฺสสฺส ปจฺจโย, สภาโว เหตุ. ผสฺโส เวทนาย ปจฺจโย, สภาโว เหตุ. เวทนา ตณฺหาย ปจฺจโย, สภาโว เหตุ. ตณฺหา อุปาทานสฺส ปจฺจโย, สภาโว เหตุ. อุปาทานํ ภวสฺส ปจฺจโย, สภาโว เหตุ. ภโว ชาติยา ปจฺจโย, สภาโว เหตุ. ชาติ ชรามรณสฺส ปจฺจโย, สภาโว เหตุ. ชรามรณํ โสกสฺส ปจฺจโย, สภาโว เหตุ. โสโก ปริเทวสฺส ปจฺจโย, สภาโว เหตุ. ปริเทโว ทุกฺขสฺส ปจฺจโย, สภาโว เหตุ. ทุกฺขํ โทมนสฺสสฺส ปจฺจโย, สภาโว เหตุ. โทมนสฺสํ อุปายาสสฺส ปจฺจโย, สภาโว เหตุ. เอวํ โย โกจิ อุปนิสฺสโย สพฺโพ โส ปริกฺขาโร. เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน ‘‘เย ธมฺมา ยํ ธมฺมํ ชนยนฺตี’’ติ.

นิยุตฺโต ปริกฺขาโร หาโร.

๑๖. สมาโรปนหารวิภงฺโค

๕๐. ตตฺถ กตโม สมาโรปโน หาโร? ‘‘เย ธมฺมา ยํมูลา, เย เจกตฺถา ปกาสิตา มุนินา’’ติ.

เอกสฺมึ ปทฏฺาเน ยตฺตกานิ ปทฏฺานานิ โอตรนฺติ, สพฺพานิ ตานิ สมาโรปยิตพฺพานิ. ยถา อาวฏฺเฏ หาเร พหุกานิ ปทฏฺานานิ โอตรนฺตีติ. ตตฺถ สมาโรปนา จตุพฺพิธา ปทฏฺานํ, เววจนํ, ภาวนา, ปหานมิติ.

ตตฺถ กตมา ปทฏฺาเนน สมาโรปนา?

‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณํ, กุสลสฺส อุปสมฺปทา;

สจิตฺตปริโยทปนํ, เอตํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติ.

ตสฺส กึ ปทฏฺานํ? ตีณิ สุจริตานิ – กายสุจริตํ วจีสุจริตํ มโนสุจริตํ – อิทํ ปทฏฺานํ; ตตฺถ ยํ กายิกฺจ วาจสิกฺจ สุจริตํ, อยํ สีลกฺขนฺโธ. มโนสุจริเต ยา อนภิชฺฌา อพฺยาปาโท จ, อยํ สมาธิกฺขนฺโธ. ยา สมฺมาทิฏฺิ, อยํ ปฺากฺขนฺโธ. อิทํ ปทฏฺานํ, ตตฺถ สีลกฺขนฺโธ จ สมาธิกฺขนฺโธ จ สมโถ, ปฺากฺขนฺโธ วิปสฺสนา. อิทํ ปทฏฺานํ, ตตฺถ สมถสฺส ผลํ ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ, วิปสฺสนา ผลํ อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺติ. อิทํ ปทฏฺานํ.

วนํ วนถสฺส ปทฏฺานํ. กิฺจ วนํ? โก จ วนโถ? วนํ นาม ปฺจ กามคุณา, ตณฺหา วนโถ. อิทํ ปทฏฺานํ. วนํ นาม นิมิตฺตคฺคาโห ‘‘อิตฺถี’’ติ วา ‘‘ปุริโส’’ติ วา. วนโถ นาม เตสํ เตสํ องฺคปจฺจงฺคานํ อนุพฺยฺชนคฺคาโห ‘‘อโห จกฺขุ, อโห โสตํ, อโห ฆานํ, อโห ชิวฺหา, อโห กาโย, อิติ. อิทํ ปทฏฺานํ. วนํ นาม ฉ อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิ อปริฺาตานิ. ยํ ตทุภยํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สํโยชนํ, อยํ วนโถ. อิทํ ปทฏฺานํ. วนํ นาม อนุสโย. วนโถ นาม ปริยุฏฺานํ. อิทํ ปทฏฺานํ. เตนาห ภควา ‘‘เฉตฺวา วนฺจ วนถฺจา’’ติ. อยํ ปทฏฺาเนน สมาโรปนา.

๕๑. ตตฺถ กตมา เววจเนน สมาโรปนา? ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ เสกฺขผลํ; อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺติ อเสกฺขผลํ. อิทํ เววจนํ. ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ อนาคามิผลํ; อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺติ อคฺคผลํ อรหตฺตํ. อิทํ เววจนํ. ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ กามธาตุสมติกฺกมนํ; อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺติ เตธาตุสมติกฺกมนํ. อิทํ เววจนํ. ปฺินฺทฺริยํ, ปฺาพลํ, อธิปฺาสิกฺขา, ปฺากฺขนฺโธ, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค, อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค, าณํ, สมฺมาทิฏฺิ, ตีรณา, สนฺตีรณา, หิรี, วิปสฺสนา, ธมฺเม าณํ, สพฺพํ, อิทํ เววจนํ. อยํ เววจเนน สมาโรปนา.

ตตฺถ กตมา ภาวนาย สมาโรปนา? ยถาห ภควา ‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหราหิ, อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ’’. อาตาปีติ วีริยินฺทฺริยํ. สมฺปชาโนติ ปฺินฺทฺริยํ. สติมาติ สตินฺทฺริยํ. วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสนฺติ สมาธินฺทฺริยํ. เอวํ กาเย กายานุปสฺสิโน วิหรโต จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. เกน การเณน? เอกลกฺขณตฺตา จตุนฺนํ อินฺทฺริยานํ. จตูสุ สติปฏฺาเนสุ ภาวิยมาเนสุ จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. จตูสุ สมฺมปฺปธาเนสุ ภาวิยมาเนสุ จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. จตูสุ อิทฺธิปาเทสุ ภาวิยมาเนสุ ปฺจินฺทฺริยานิ ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. เอวํ สพฺเพ. เกน การเณน? สพฺเพ หิ โพธงฺคมา ธมฺมา โพธิปกฺขิยา นิยฺยานิกลกฺขเณน เอกลกฺขณา, เต เอกลกฺขณตฺตา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. อยํ ภาวนาย สมาโรปนา.

ตตฺถ กตมา ปหาเนน สมาโรปนา? กาเย กายานุปสฺสี วิหรนฺโต ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ วิปลฺลาสํ ปชหติ, กพฬีกาโร จสฺส อาหาโร ปริฺํ คจฺฉติ, กามุปาทาเนน จ อนุปาทาโน ภวติ, กามโยเคน จ วิสํยุตฺโต ภวติ, อภิชฺฌากายคนฺเถน จ วิปฺปยุชฺชติ, กามาสเวน จ อนาสโว ภวติ, กาโมฆฺจ อุตฺติณฺโณ ภวติ, ราคสลฺเลน จ วิสลฺโล ภวติ, รูปูปิกา [รูปุปิกา (ก.) เอวมุปริปิ] จสฺส วิฺาณฏฺิติ ปริฺํ คจฺฉติ, รูปธาตุยํ จสฺส ราโค ปหีโน ภวติ, น จ ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ.

เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรนฺโต ‘‘ทุกฺเข สุข’’นฺติ วิปลฺลาสํ ปชหติ, ผสฺโส จสฺส อาหาโร ปริฺํ คจฺฉติ, ภวูปาทาเนน จ อนุปาทาโน ภวติ, ภวโยเคน จ วิสํยุตฺโต ภวติ, พฺยาปาทกายคนฺเถน จ วิปฺปยุชฺชติ, ภวาสเวน จ อนาสโว ภวติ, ภโวฆฺจ อุตฺติณฺโณ ภวติ, โทสสลฺเลน จ วิสลฺโล ภวติ, เวทนูปิกา จสฺส วิฺาณฏฺิติ ปริฺํ คจฺฉติ, เวทนาธาตุยํ จสฺส ราโค ปหีโน ภวติ, น จ โทสาคตึ คจฺฉติ.

จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรนฺโต ‘‘อนิจฺเจ นิจฺจ’’นฺติ วิปลฺลาสํ ปชหติ, วิฺาณํ จสฺส อาหาโร ปริฺํ คจฺฉติ, ทิฏฺุปาทาเนน จ อนุปาทาโน ภวติ, ทิฏฺิโยเคน จ วิสํยุตฺโต ภวติ, สีลพฺพตปรามาสกายคนฺเถน จ วิปฺปยุชฺชติ, ทิฏฺาสเวน จ อนาสโว ภวติ, ทิฏฺโฆฺจ อุตฺติณฺโณ ภวติ, มานสลฺเลน จ วิสลฺโล ภวติ, สฺูปิกา จสฺส วิฺาณฏฺิติ ปริฺํ คจฺฉติ, สฺาธาตุยํ จสฺส ราโค ปหีโน ภวติ, น จ ภยาคตึ คจฺฉติ.

ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรนฺโต ‘‘อนตฺตนิ [อนตฺตนิเย (สี.) ปสฺส อ. นิ. ๔.๔๙] อตฺตา’’ติ วิปลฺลาสํ ปชหติ, มโนสฺเจตนา จสฺส อาหาโร ปริฺํ คจฺฉติ, อตฺตวาทุปาทาเนน จ อนุปาทาโน ภวติ, อวิชฺชาโยเคน จ วิสํยุตฺโต ภวติ, อิทํสจฺจาภินิเวสกายคนฺเถน จ วิปฺปยุชฺชติ, อวิชฺชาสเวน จ อนาสโว ภวติ, อวิชฺโชฆฺจ อุตฺติณฺโณ ภวติ, โมหสลฺเลน จ วิสลฺโล ภวติ, สงฺขารูปิกา จสฺส วิฺาณฏฺิติ ปริฺํ คจฺฉติ, สงฺขารธาตุยํ จสฺส ราโค ปหีโน ภวติ, น จ โมหาคตึ คจฺฉติ. อยํ ปหาเนน สมาโรปนา.

เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน –

‘‘เย ธมฺมา ยํ มูลา, เย เจกตฺถา ปกาสิตา มุนินา;

เต สมาโรปยิตพฺพา, เอส สมาโรปโน หาโร’’ติ.

นิยุตฺโต สมาโรปโน หาโร.

นิฏฺิโต จ หารวิภงฺโค.

๑. เทสนาหารสมฺปาโต

๕๒.

‘‘โสฬส หารา ปมํ, ทิสโลจนโต ทิสา วิโลเกตฺวา;

สงฺขิปิย องฺกุเสน หิ, นเยหิ ตีหิ นิทฺทิเส สุตฺต’’นฺติ.

วุตฺตา, ตสฺสา นิทฺเทโส กุหึ ทฏฺพฺโพ? หารสมฺปาเต. ตตฺถ กตโม เทสนาหารสมฺปาโต?

‘‘อรกฺขิเตน จิตฺเตน [กาเยน (อุทา. ๓๒)], มิจฺฉาทิฏฺิหเตน จ;

ถินมิทฺธาภิภูเตน, วสํ มารสฺส คจฺฉตี’’ติ.

อรกฺขิเตน จิตฺเตนาติ กึ เทสยติ, ปมาทํ ตํ มจฺจุโน ปทํ. มิจฺฉาทิฏฺิหเตน จาติ มิจฺฉาทิฏฺิหตํ นาม วุจฺจติ ยทา ‘‘อนิจฺเจ นิจฺจ’’นฺติ ปสฺสติ, โส วิปลฺลาโส. โส ปน วิปลฺลาโส กึลกฺขโณ? วิปรีตคฺคาหลกฺขโณ วิปลฺลาโส. โส กึ วิปลฺลาสยติ? ตโย ธมฺเม สฺํ จิตฺตํ ทิฏฺิมิติ. โส กุหึ วิปลฺลาสยติ? จตูสุ อตฺตภาววตฺถูสุ, รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมึ วา อตฺตานํ. เอวํ เวทนํ…เป… สฺํ…เป… สงฺขาเร…เป… วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, วิฺาณวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา วิฺาณํ, วิฺาณสฺมึ วา อตฺตานํ.

ตตฺถ รูปํ ปมํ วิปลฺลาสวตฺถุ ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ. เวทนา ทุติยํ วิปลฺลาสวตฺถุ ‘‘ทุกฺเข สุข’’นฺติ. สฺา สงฺขารา จ ตติยํ วิปลฺลาสวตฺถุ ‘‘อนตฺตนิ อตฺตา’’ติ. วิฺาณํ จตุตฺถํ วิปลฺลาสวตฺถุ ‘‘อนิจฺเจ นิจฺจ’’นฺติ. ทฺเว ธมฺมา จิตฺตสฺส สํกิเลสา – ตณฺหา จ อวิชฺชา จ. ตณฺหานิวุตํ จิตฺตํ ทฺวีหิ วิปลฺลาเสหิ วิปลฺลาสียติ ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ ‘‘ทุกฺเข สุข’’นฺติ. ทิฏฺินิวุตํ จิตฺตํ ทฺวีหิ วิปลฺลาเสหิ วิปลฺลาสียติ ‘‘อนิจฺเจ นิจฺจ’’นฺติ ‘‘อนตฺตนิ อตฺตา’’ติ.

ตตฺถ โย ทิฏฺิวิปลฺลาโส, โส อตีตํ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, อตีตํ เวทนํ…เป… อตีตํ สฺํ, อตีเต สงฺขาเร…เป… อตีตํ วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ. ตตฺถ โย ตณฺหาวิปลฺลาโส, โส อนาคตํ รูปํ อภินนฺทติ, อนาคตํ เวทนํ…เป… อนาคตํ สฺํ, อนาคเต สงฺขาเร, อนาคตํ วิฺาณํ อภินนฺทติ. ทฺเว ธมฺมา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา – ตณฺหา จ อวิชฺชา จ. ตาหิ วิสุชฺฌนฺตํ จิตฺตํ วิสุชฺฌติ. เตสํ อวิชฺชานีวรณานํ ตณฺหาสํโยชนานํ ปุพฺพา โกฏิ น ปฺายติ สนฺธาวนฺตานํ สํสรนฺตานํ สกึ นิรยํ สกึ ติรจฺฉานโยนึ สกึ เปตฺติวิสยํ สกึ อสุรกายํ สกึ เทเว สกึ มนุสฺเส.

ถินมิทฺธาภิภูเตนาติ. ถินํ [ถีนํ (สี.)] นาม ยา จิตฺตสฺส อกลฺลตา อกมฺมนิยตา; มิทฺธํ นาม ยํ กายสฺส ลีนตฺตํ. วสํ มารสฺส คจฺฉตีติ กิเลสมารสฺส จ สตฺตมารสฺส จ วสํ คจฺฉติ, โส หิ นิวุโต สํสาราภิมุโข โหติ. อิมานิ ภควตา ทฺเว สจฺจานิ เทสิตานิ ทุกฺขํ สมุทโย จ. เตสํ ภควา ปริฺาย จ ปหานาย จ ธมฺมํ เทเสติ ทุกฺขสฺส ปริฺาย สมุทยสฺส ปหานาย. เยน จ ปริชานาติ เยน จ ปชหติ, อยํ มคฺโค. ยํ ตณฺหาย อวิชฺชาย จ ปหานํ, อยํ นิโรโธ. อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ. เตนาห ภควา ‘‘อรกฺขิเตน จิตฺเตนา’’ติ. เตนาหายสฺมา มหากจฺจายโน ‘‘อสฺสาทาทีนวตา’’ติ.

นิยุตฺโต เทสนา หารสมฺปาโต.

๒. วิจยหารสมฺปาโต

๕๓. ตตฺถ กตโม วิจโย หารสมฺปาโต? ตตฺถ ตณฺหา ทุวิธา กุสลาปิ อกุสลาปิ. อกุสลา สํสารคามินี, กุสลา อปจยคามินี ปหานตณฺหา. มาโนปิ ทุวิโธ กุสโลปิ อกุสโลปิ. ยํ มานํ นิสฺสาย มานํ ปชหติ, อยํ มาโน กุสโล. โย ปน มาโน ทุกฺขํ นิพฺพตฺตยติ, อยํ มาโน อกุสโล. ตตฺถ ยํ เนกฺขมฺมสิตํ โทมนสฺสํ กุทาสฺสุนามาหํ ตํ อายตนํ สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสํ ยํ อริยา สนฺตํ อายตนํ สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตีติ ตสฺส อุปฺปชฺชติ ปิหา, ปิหาปจฺจยา โทมนสฺสํ, อยํ ตณฺหา กุสลา ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ, ตทารมฺมณา กุสลา อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺติ.

ตสฺสา โก ปวิจโย? อฏฺ มคฺคงฺคานิ สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธิ. โส กตฺถ ทฏฺพฺโพ? จตุตฺเถ ฌาเน ปารมิตาย. จตุตฺเถ หิ ฌาเน อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ จิตฺตํ ภาวยติ ปริสุทฺธํ ปริโยทาตํ อนงฺคณํ วิคตูปกฺกิเลสํ มุทุ กมฺมนิยํ ิตํ อาเนฺชปฺปตฺตํ. โส ตตฺถ อฏฺวิธํ อธิคจฺฉติ ฉ อภิฺา ทฺเว จ วิเสเส, ตํ จิตฺตํ ยโต ปริสุทฺธํ, ตโต ปริโยทาตํ, ยโต ปริโยทาตํ, ตโต อนงฺคณํ, ยโต อนงฺคณํ, ตโต วิคตูปกฺกิเลสํ, ยโต วิคตูปกฺกิเลสํ, ตโต มุทุ, ยโต มุทุ, ตโต กมฺมนิยํ, ยโต กมฺมนิยํ, ตโต ิตํ, ยโต ิตํ, ตโต อาเนฺชปฺปตฺตํ. ตตฺถ องฺคณา จ อุปกฺกิเลสา จ ตทุภยํ ตณฺหาปกฺโข. ยา จ อิฺชนา ยา จ จิตฺตสฺส อฏฺิติ, อยํ ทิฏฺิปกฺโข.

จตฺตาริ อินฺทฺริยานิ ทุกฺขินฺทฺริยํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ สุขินฺทฺริยํ โสมนสฺสินฺทฺริยฺจ จตุตฺถชฺฌาเน นิรุชฺฌนฺติ, ตสฺส อุเปกฺขินฺทฺริยํ อวสิฏฺํ ภวติ. โส อุปริมํ สมาปตฺตึ สนฺตโต มนสิกโรติ, ตสฺส อุปริมํ สมาปตฺตึ สนฺตโต มนสิกโรโต จตุตฺถชฺฌาเน โอฬาริกา สฺา สณฺหติ อุกฺกณฺา จ ปฏิฆสฺา, โส สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘‘อนนฺตํ อากาส’’นฺติ อากาสานฺจายตนสมาปตฺตึ สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อภิฺาภินีหาโร รูปสฺา โวกาโร นานตฺตสฺา สมติกฺกมติ ปฏิฆสฺา จสฺส อพฺภตฺถํ คจฺฉติ, เอวํ สมาธิ ตสฺส สมาหิตสฺส โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ, โส สมาธิ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต ปจฺจเวกฺขิตพฺโพ. อนภิชฺฌาสหคตํ เม มานสํ สพฺพโลเก, อพฺยาปนฺนํ เม จิตฺตํ สพฺพสตฺเตสุ, อารทฺธํ เม วีริยํ ปคฺคหิตํ, ปสฺสทฺโธ เม กาโย อสารทฺโธ, สมาหิตํ เม จิตฺตํ อวิกฺขิตฺตํ, อุปฏฺิตา เม สติ อสมฺมุฏฺา [อปฺปมฺมุฏฺา (สี.)], ตตฺถ ยฺจ อนภิชฺฌาสหคตํ มานสํ สพฺพโลเก ยฺจ อพฺยาปนฺนํ จิตฺตํ สพฺพสตฺเตสุ ยฺจ อารทฺธํ วีริยํ ปคฺคหิตํ ยฺจ สมาหิตํ จิตฺตํ อวิกฺขิตฺตํ, อยํ สมโถ. โย ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ, อยํ สมาธิปริกฺขาโร. ยา อุปฏฺิตา สติ อสมฺมุฏฺา อยํ วิปสฺสนา.

๕๔. โส สมาธิ ปฺจวิเธน เวทิตพฺโพ. อยํ สมาธิ ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนสุโข’’ติ อิติสฺส ปจฺจตฺตเมว าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิตํ ภวติ, อยํ สมาธิ ‘‘อายตึ สุขวิปาโก’’ติ อิติสฺส ปจฺจตฺตเมว าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิตํ ภวติ, อยํ สมาธิ ‘‘อริโย นิรามิโส’’ติ อิติสฺส ปจฺจตฺตเมว าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิตํ ภวติ, อยํ สมาธิ ‘‘อกาปุริสเสวิโต’’ติ อิติสฺส ปจฺจตฺตเมว าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิตํ ภวติ, อยํ สมาธิ ‘‘สนฺโต เจว ปณีโต จ ปฏิปฺปสฺสทฺธิลทฺโธ จ เอโกทิภาวาธิคโต จ น สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต [สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตวโต (สี.), สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริวาวโฏ (ก.)] จา’’ติ อิติสฺส ปจฺจตฺตเมว าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิตํ ภวติ. ตํ โข ปนิมํ สมาธึ ‘‘สโต สมาปชฺชามิ สโต วุฏฺหามี’’ติ อิติสฺส ปจฺจตฺตเมว าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิตํ ภวติ. ตตฺถ โย จ สมาธิ ปจฺจุปฺปนฺนสุโข โย จ สมาธิ อายตึ สุขวิปาโก อยํ สมโถ. โย จ สมาธิ อริโย นิรามิโส, โย จ สมาธิ อกาปุริสเสวิโต, โย จ สมาธิ สนฺโต เจว ปณีโต ปฏิปฺปสฺสทฺธิลทฺโธ จ เอโกทิภาวาธิคโต จ น สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต จ ยฺจาหํ ตํ โข ปนิมํ สมาธึ สโต สมาปชฺชามิ สโต วุฏฺหามีติ, อยํ วิปสฺสนา.

โส สมาธิ ปฺจวิเธน เวทิตพฺโพ ปีติผรณตา สุขผรณตา เจโตผรณตา อาโลกผรณตา ปจฺจเวกฺขณานิมิตฺตํ. ตตฺถ โย จ ปีติผรโณ โย จ สุขผรโณ โย จ เจโตผรโณ, อยํ สมโถ. โย จ อาโลกผรโณ ยฺจ ปจฺจเวกฺขณานิมิตฺตํ. อยํ วิปสฺสนา.

๕๕. ทส กสิณายตนานิ ปถวีกสิณํ อาโปกสิณํ เตโชกสิณํ วาโยกสิณํ นีลกสิณํ ปีตกสิณํ โลหิตกสิณํ โอทาตกสิณํ อากาสกสิณํ วิฺาณกสิณํ. ตตฺถ ยฺจ ปถวีกสิณํ ยฺจ อาโปกสิณํ เอวํ สพฺพํ, ยฺจ โอทาตกสิณํ. อิมานิ อฏฺ กสิณานิ สมโถ. ยฺจ อากาสกสิณํ ยฺจ วิฺาณกสิณํ, อยํ วิปสฺสนา. เอวํ สพฺโพ อริโย มคฺโค เยน เยน อากาเรน วุตฺโต, เตน เตน สมถวิปสฺสเนน โยชยิตพฺโพ. เต ตีหิ ธมฺเมหิ สงฺคหิตา อนิจฺจตาย ทุกฺขตาย อนตฺตตาย. โส สมถวิปสฺสนํ ภาวยมาโน ตีณิ วิโมกฺขมุขานิ ภาวยติ. ตีณิ วิโมกฺขมุขานิ ภาวยนฺโต ตโย ขนฺเธ ภาวยติ. ตโย ขนฺเธ ภาวยนฺโต อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาวยติ.

ราคจริโต ปุคฺคโล อนิมิตฺเตน วิโมกฺขมุเขน นิยฺยาติ [นียาติ (สี.)] อธิจิตฺตสิกฺขาย สิกฺขนฺโต โลภํ อกุสลมูลํ ปชหนฺโต สุขเวทนียํ ผสฺสํ อนุปคจฺฉนฺโต สุขํ เวทนํ ปริชานนฺโต ราคมลํ ปวาเหนฺโต ราครชํ นิทฺธุนนฺโต ราควิสํ วเมนฺโต ราคคฺคึ นิพฺพาเปนฺโต ราคสลฺลํ อุปฺปาเฏนฺโต ราคชฏํ วิชเฏนฺโต. โทสจริโต ปุคฺคโล อปฺปณิหิเตน วิโมกฺขมุเขน นิยฺยาติ อธิสีลสิกฺขาย สิกฺขนฺโต โทสํ อกุสลมูลํ ปชหนฺโต ทุกฺขเวทนียํ ผสฺสํ อนุปคจฺฉนฺโต ทุกฺขเวทนํ ปริชานนฺโต โทสมลํ ปวาเหนฺโต โทสรชํ นิทฺธุนนฺโต โทสวิสํ วเมนฺโต โทสคฺคึ นิพฺพาเปนฺโต โทสสลฺลํ อุปฺปาเฏนฺโต โทสชฏํ วิชเฏนฺโต. โมหจริโต ปุคฺคโล สุฺตวิโมกฺขมุเขน นิยฺยาติ อธิปฺาสิกฺขาย สิกฺขนฺโต โมหํ อกุสลมูลํ ปชหนฺโต อทุกฺขมสุขเวทนียํ ผสฺสํ อนุปคจฺฉนฺโต อทุกฺขมสุขํ เวทนํ ปริชานนฺโต โมหมลํ ปวาเหนฺโต โมหรชํ นิทฺธุนนฺโต โมหวิสํ วเมนฺโต โมหคฺคึ นิพฺพาเปนฺโต โมหสลฺลํ อุปฺปาเฏนฺโต โมหชฏํ วิชเฏนฺโต.

ตตฺถ สุฺตวิโมกฺขมุขํ ปฺากฺขนฺโธ, อนิมิตฺตวิโมกฺขมุขํ สมาธิกฺขนฺโธ, อปฺปณิหิตวิโมกฺขมุขํ สีลกฺขนฺโธ. โส ตีณิ วิโมกฺขมุขานิ ภาวยนฺโต ตโย ขนฺเธ ภาวยติ, ตโย ขนฺเธ ภาวยนฺโต อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาวยติ. ตตฺถ ยา จ สมฺมาวาจา โย จ สมฺมากมฺมนฺโต โย จ สมฺมาอาชีโว, อยํ สีลกฺขนฺโธ, โย จ สมฺมาวายาโม ยา จ สมฺมาสติ โย จ สมฺมาสมาธิ, อยํ สมาธิกฺขนฺโธ, ยา จ สมฺมาทิฏฺิ โย จ สมฺมาสงฺกปฺโป, อยํ ปฺากฺขนฺโธ.

ตตฺถ สีลกฺขนฺโธ จ สมาธิกฺขนฺโธ จ สมโถ, ปฺากฺขนฺโธ วิปสฺสนา. โย สมถวิปสฺสนํ ภาเวติ, ตสฺส ทฺเว ภวงฺคานิ ภาวนํ คจฺฉนฺติ กาโย จิตฺตฺจ, ภวนิโรธคามินี ปฏิปทา ทฺเว ปทานิ สีลํ สมาธิ จ. โส โหติ ภิกฺขุ ภาวิตกาโย ภาวิตสีโล ภาวิตจิตฺโต ภาวิตปฺโ. กาเย ภาวิยมาเน ทฺเว ธมฺมา ภาวนํ คจฺฉนฺติ สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาวายาโม จ, สีเล ภาวิยมาเน ทฺเว ธมฺมา ภาวนํ คจฺฉนฺติ สมฺมาวาจา สมฺมาอาชีโว จ, จิตฺเต ภาวิยมาเน ทฺเว ธมฺมา ภาวนํ คจฺฉนฺติ สมฺมาสติ สมฺมาสมาธิ จ, ปฺาย ภาวิยมานาย ทฺเว ธมฺมา ภาวนํ คจฺฉนฺติ สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺโป จ.

ตตฺถ โย จ สมฺมากมฺมนฺโต โย จ สมฺมาวายาโม สิยา กายิโก สิยา เจตสิโก, ตตฺถ โย กายสงฺคโห, โส กาเย ภาวิเต ภาวนํ คจฺฉติ, โย จิตฺตสงฺคโห, โส จิตฺเต ภาวิเต ภาวนํ คจฺฉติ. โส สมถวิปสฺสนํ ภาวยนฺโต ปฺจวิธํ อธิคมํ คจฺฉติ [อธิคจฺฉติ (สี.)] ขิปฺปาธิคโม จ โหติ, วิมุตฺตาธิคโม จ โหติ, มหาธิคโม จ โหติ, วิปุลาธิคโม จ โหติ, อนวเสสาธิคโม จ โหติ. ตตฺถ สมเถน ขิปฺปาธิคโม จ มหาธิคโม จ วิปุลาธิคโม จ โหติ, วิปสฺสนาย วิมุตฺตาธิคโม จ อนวเสสาธิคโม จ โหติ.

๕๖. ตตฺถ โย เทสยติ, โส ทสพลสมนฺนาคโต สตฺถา โอวาเทน สาวเก น วิสํวาทยติ. โส ติวิธํ อิทํ กโรถ อิมินา อุปาเยน กโรถ อิทํ โว กุรุมานานํ หิตาย สุขาย ภวิสฺสติ, โส ตถา โอวทิโต ตถานุสิฏฺโ ตถากโรนฺโต ตถาปฏิปชฺชนฺโต ตํ ภูมึ น ปาปุณิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โส ตถา โอวทิโต ตถานุสิฏฺโ สีลกฺขนฺธํ อปริปูรยนฺโต ตํ ภูมึ อนุปาปุณิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โส ตถา โอวทิโต ตถานุสิฏฺโ สีลกฺขนฺธํ ปริปูรยนฺโต ตํ ภูมึ อนุปาปุณิสฺสตีติ านเมตํ วิชฺชติ.

สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต สโต อิเม ธมฺมา อนภิสมฺพุทฺธาติ เนตํ านํ วิชฺชติ. สพฺพาสวปริกฺขีณสฺส เต สโต อิเม อาสวา อปริกฺขีณาติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ยสฺส เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโต, โส น นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายาติ เนตํ านํ วิชฺชติ. สาวโก โข ปน เต ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี โส ปุพฺเพน อปรํ อุฬารํ วิเสสาธิคมํ น สจฺฉิกริสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

เย โข ปน ธมฺมา อนฺตรายิกา, เต ปฏิเสวโต นาลํ อนฺตรายายาติ เนตํ านํ วิชฺชติ. เย โข ปน ธมฺมา อนิยฺยานิกา, เต นิยฺยนฺติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายาติ เนตํ านํ วิชฺชติ. เย โข ปน ธมฺมา นิยฺยานิกา, เต นิยฺยนฺติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายาติ านเมตํ วิชฺชติ. สาวโก โข ปน เต สอุปาทิเสโส อนุปาทิเสสํ นิพฺพานธาตุํ อนุปาปุณิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

ทิฏฺิสมฺปนฺโน มาตรํ ชีวิตา โวโรเปยฺย หตฺเถหิ วา ปาเทหิ วา สุหตํ กเรยฺยาติ เนตํ านํ วิชฺชติ, ปุถุชฺชโน มาตรํ ชีวิตา โวโรเปยฺย หตฺเถหิ วา ปาเทหิ วา สุหตํ กเรยฺยาติ านเมตํ วิชฺชติ. เอวํ ปิตรํ, อรหนฺตํ, ภิกฺขุํ. ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สงฺฆํ ภินฺเทยฺย สงฺเฆ วา สงฺฆราชึ ชเนยฺยาติ เนตํ านํ วิชฺชติ, ปุถุชฺชโน สงฺฆํ ภินฺเทยฺย สงฺเฆ วา สงฺฆราชึ ชเนยฺยาติ านเมตํ วิชฺชติ, ทิฏฺิสมฺปนฺโน ตถาคตสฺส ทุฏฺจิตฺโต โลหิตํ อุปฺปาเทยฺย, ปรินิพฺพุตสฺส วา ตถาคตสฺส ทุฏฺจิตฺโต ถูปํ ภินฺเทยฺยาติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส ทุฏฺจิตฺโต โลหิตํ อุปฺปาเทยฺย, ปรินิพฺพุตสฺส วา ตถาคตสฺส ทุฏฺจิตฺโต ถูปํ ภินฺเทยฺยาติ านเมตํ วิชฺชติ. ทิฏฺิสมฺปนฺโน อฺํ สตฺถารํ อปทิเสยฺย อปิ ชีวิตเหตูติ เนตํ านํ วิชฺชติ, ปุถุชฺชโน อฺํ สตฺถารํ อปทิเสยฺยาติ านเมตํ วิชฺชติ. ทิฏฺิสมฺปนฺโน อิโต พหิทฺธา อฺํ ทกฺขิเณยฺยํ ปริเยเสยฺยาติ เนตํ านํ วิชฺชติ, ปุถุชฺชโน อิโต พหิทฺธา อฺํ ทกฺขิเณยฺยํ ปริเยเสยฺยาติ านเมตํ วิชฺชติ, ทิฏฺิสมฺปนฺโน กุตูหลมงฺคเลน สุทฺธึ ปจฺเจยฺยาติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ปุถุชฺชโน กุตูหลมงฺคเลน สุทฺธึ ปจฺเจยฺยาติ านเมตํ วิชฺชติ.

๕๗. อิตฺถี ราชา จกฺกวตฺตี สิยาติ เนตํ านํ วิชฺชติ, ปุริโส ราชา จกฺกวตฺตี สิยาติ านเมตํ วิชฺชติ; อิตฺถี สกฺโก เทวานมินฺโท สิยาติ เนตํ านํ วิชฺชติ, ปุริโส สกฺโก เทวานมินฺโท สิยาติ านเมตํ วิชฺชติ; อิตฺถี มาโร ปาปิมา สิยาติ เนตํ านํ วิชฺชติ, ปุริโส มาโร ปาปิมา สิยาติ านเมตํ วิชฺชติ; อิตฺถี มหาพฺรหฺมา สิยาติ เนตํ านํ วิชฺชติ, ปุริโส มหาพฺรหฺมา สิยาติ านเมตํ วิชฺชติ; อิตฺถี ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ สิยาติ เนตํ านํ วิชฺชติ, ปุริโส ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ สิยาติ านเมตํ วิชฺชติ.

ทฺเว ตถาคตา อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา อปุพฺพํ อจริมํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา อุปฺปชฺเชยฺยุํ วา ธมฺมํ วา เทเสยฺยุนฺติ เนตํ านํ วิชฺชติ, เอโกว ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอกิสฺสา โลกธาตุยา อุปฺปชฺชิสฺสติ วา ธมฺมํ วา เทเสสฺสตีติ านเมตํ วิชฺชติ.

ติณฺณํ ทุจฺจริตานํ อิฏฺโ กนฺโต ปิโย มนาโป วิปาโก ภวิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ, ติณฺณํ ทุจฺจริตานํ อนิฏฺโ อกนฺโต อปฺปิโย อมนาโป วิปาโก ภวิสฺสตีติ านเมตํ วิชฺชติ. ติณฺณํ สุจริตานํ อนิฏฺโ อกนฺโต อปฺปิโย อมนาโป วิปาโก ภวิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ, ติณฺณํ สุจริตานํ อิฏฺโ กนฺโต ปิโย มนาโป วิปาโก ภวิสฺสตีติ านเมตํ วิชฺชติ.

อฺตโร สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา กุหโก ลปโก เนมิตฺตโก กุหนลปนเนมิตฺตกตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา ปฺจ นีวรเณ อปฺปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ อนุปฏฺิตสฺสติ [อนุปฏฺิตสติ (สี.)] วิหรนฺโต สตฺต โพชฺฌงฺเค อภาวยิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ, อฺตโร สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา สพฺพโทสาปคโต ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ อุปฏฺิตสฺสติ วิหรนฺโต สตฺต โพชฺฌงฺเค ภาวยิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌิสฺสตีติ านเมตํ วิชฺชติ. ยํ เอตฺถ าณํ เหตุโส านโส อโนธิโส อิทํ วุจฺจติ านาฏฺานาณํ ปมํ ตถาคตพลํ.

อิติ านาฏฺานคตา สพฺเพ ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมา เกจิ สคฺคูปคา เกจิ อปายูปคา เกจิ นิพฺพานูปคา, เอวํ ภควา อาห –

๕๘.

สพฺเพ สตฺตา [ปสฺส สํ. นิ. ๑.๑๓๓] มริสฺสนฺติ, มรณนฺตํ หิ ชีวิตํ;

ยถากมฺมํ คมิสฺสนฺติ, ปุฺปาปผลูปคา;

นิรยํ ปาปกมฺมนฺตา, ปุฺกมฺมา จ สุคฺคตึ;

อปเร จ มคฺคํ ภาเวตฺวา, ปรินิพฺพนฺตินาสวาติ [ปรินิพฺพนฺติ อนาสวาติ (สี. ก.)].

สพฺเพ สตฺตาติ อริยา จ อนริยา จ สกฺกายปริยาปนฺนา จ สกฺกายวีติวตฺตา จ. มริสฺสนฺตีติ ทฺวีหิ มรเณหิ ทนฺธมรเณน จ อทนฺธมรเณน จ, สกฺกายปริยาปนฺนานํ อทนฺธมรณํ สกฺกายวีติวตฺตานํ ทนฺธมรณํ. มรณนฺตํ หิ ชีวิตนฺติ ขยา อายุสฺส อินฺทฺริยานํ อุปโรธา ชีวิตปริยนฺโต มรณปริยนฺโต. ยถากมฺมํ คมิสฺสนฺตีติ กมฺมสฺสกตา. ปุฺปาปผลูปคาติ กมฺมานํ ผลทสฺสาวิตา จ อวิปฺปวาโส จ.

นิรยํ ปาปกมฺมนฺตาติ อปุฺสงฺขารา. ปุฺกมฺมา จ สุคฺคตินฺติ ปุฺสงฺขารา สุคตึ คมิสฺสนฺติ. อปเร จ มคฺคํ ภาเวตฺวา, ปรินิพฺพนฺตินาสวาติ สพฺพสงฺขารานํ สมติกฺกมนํ. เตนาห ภควา – ‘‘สพฺเพ…เป… นาสวา’’ติ.

‘‘สพฺเพ สตฺตา มริสฺสนฺติ, มรณนฺตํ หิ ชีวิตํ. ยถากมฺมํ คมิสฺสนฺติ, ปุฺปาปผลูปคา. นิรยํ ปาปกมฺมนฺตา’’ติ อาคาฬฺหา จ นิชฺฌามา จ ปฏิปทา. ‘‘อปเร จ มคฺคํ ภาเวตฺวา, ปรินิพฺพนฺตินาสวา’’ติ มชฺฌิมา ปฏิปทา. ‘‘สพฺเพ สตฺตา มริสฺสนฺติ, มรณนฺตํ หิ ชีวิตํ, ยถากมฺมํ คมิสฺสนฺติ, ปุฺปาปผลูปคา, นิรยํ ปาปกมฺมนฺตา’’ติ อยํ สํกิเลโส. เอวํ สํสารํ นิพฺพตฺตยติ. ‘‘สพฺเพ สตฺตา มริสฺสนฺติ…เป… นิรยํ ปาปกมฺมนฺตา’’ติ อิเม ตโย วฏฺฏา ทุกฺขวฏฺโฏ กมฺมวฏฺโฏ กิเลสวฏฺโฏ. ‘‘อปเร จ มคฺคํ ภาเวตฺวา, ปรินิพฺพนฺตินาสวา’’ติ ติณฺณํ วฏฺฏานํ วิวฏฺฏนา. ‘‘สพฺเพ สตฺตา มริสฺสนฺติ…เป… นิรยํ ปาปกมฺมนฺตา’’ติ อาทีนโว, ‘‘ปุฺกมฺมา จ สุคฺคติ’’นฺติ อสฺสาโท, ‘‘อปเร จ มคฺคํ ภาเวตฺวา, ปรินิพฺพนฺตินาสวา’’ติ นิสฺสรณํ. ‘‘สพฺเพ สตฺตา มริสฺสนฺติ…เป… นิรยํ ปาปกมฺมนฺตา’’ติ เหตุ จ ผลฺจ, ปฺจกฺขนฺธา ผลํ, ตณฺหา เหตุ, ‘‘อปเร จ มคฺคํ ภาเวตฺวา, ปรินิพฺพนฺตินาสวา’’ติ มคฺโค จ ผลฺจ. ‘‘สพฺเพ สตฺตา มริสฺสนฺติ, มรณนฺตํ หิ ชีวิตํ. ยถากมฺมํ คมิสฺสนฺติ, ปุฺปาปผลูปคา, นิรยํ ปาปกมฺมนฺตา’’ติ อยํ สํกิเลโส, โส สํกิเลโส ติวิโธ ตณฺหาสํกิเลโส ทิฏฺิสํกิเลโส ทุจฺจริตสํกิเลโสติ.

๕๙. ตตฺถ ตณฺหาสํกิเลโส ตีหิ ตณฺหาหิ นิทฺทิสิตพฺโพ – กามตณฺหาย ภวตณฺหาย วิภวตณฺหาย. เยน เยน วา ปน วตฺถุนา อชฺโฌสิโต, เตน เตเนว นิทฺทิสิตพฺโพ, ตสฺสา วิตฺถาโร ฉตฺตึสาย ตณฺหาย ชาลินิยา วิจริตานิ. ตตฺถ ทิฏฺิสํกิเลโส อุจฺเฉทสสฺสเตน นิทฺทิสิตพฺโพ, เยน เยน วา ปน วตฺถุนา ทิฏฺิวเสน อภินิวิสติ, ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ เตน เตเนว นิทฺทิสิตพฺโพ, ตสฺสา วิตฺถาโร ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ. ตตฺถ ทุจฺจริตสํกิเลโส เจตนา เจตสิกกมฺเมน นิทฺทิสิตพฺโพ, ตีหิ ทุจฺจริเตหิ กายทุจฺจริเตน วจีทุจฺจริเตน มโนทุจฺจริเตน, ตสฺสา วิตฺถาโร ทส อกุสลกมฺมปถา. อปเร จ มคฺคํ ภาเวตฺวา, ปรินิพฺพนฺตินาสวาติ อิทํ โวทานํ.

ตยิทํ โวทานํ ติวิธํ; ตณฺหาสํกิเลโส สมเถน วิสุชฺฌติ, โส สมโถ สมาธิกฺขนฺโธ, ทิฏฺิสํกิเลโส วิปสฺสนาย วิสุชฺฌติ, สา วิปสฺสนา ปฺากฺขนฺโธ, ทุจฺจริตสํกิเลโส สุจริเตน วิสุชฺฌติ, ตํ สุจริตํ สีลกฺขนฺโธ.

‘‘สพฺเพ สตฺตา มริสฺสนฺติ, มรณนฺตํ หิ ชีวิตํ, ยถากมฺมํ คมิสฺสนฺติ, ปุฺปาปผลูปคา, นิรยํ ปาปกมฺมนฺตา’’ติ อปุฺปฺปฏิปทา, ‘‘ปุฺกมฺมา จ สุคฺคติ’’นฺติ ปุฺปฺปฏิปทา, ‘‘อปเร จ มคฺคํ ภาเวตฺวา, ปรินิพฺพนฺตินาสวา’’ติ ปุฺปาปสมติกฺกมปฺปฏิปทา, ตตฺถ ยา จ ปุฺปฺปฏิปทา ยา จ อปุฺปฺปฏิปทา, อยํ เอกา ปฏิปทา สพฺพตฺถคามินี เอกา อปาเยสุ, เอกา เทเวสุ, ยา จ ปุฺปาปสมติกฺกมา ปฏิปทา อยํ ตตฺถ ตตฺถ คามินี ปฏิปทา.

ตโย ราสี – มิจฺฉตฺตนิยโต ราสิ, สมฺมตฺตนิยโต ราสิ, อนิยโต ราสิ, ตตฺถ โย จ มิจฺฉตฺตนิยโต ราสิ โย จ สมฺมตฺตนิยโต ราสิ เอกา ปฏิปทา ตตฺถ ตตฺถ คามินี, ตตฺถ โย อนิยโต ราสิ, อยํ สพฺพตฺถคามินี ปฏิปทา. เกน การเณน? ปจฺจยํ ลภนฺโต นิรเย อุปปชฺเชยฺย, ปจฺจยํ ลภนฺโต ติรจฺฉานโยนีสุ อุปปชฺเชยฺย, ปจฺจยํ ลภนฺโต เปตฺติวิสเยสุ อุปปชฺเชยฺย, ปจฺจยํ ลภนฺโต อสุเรสุ อุปปชฺเชยฺย, ปจฺจยํ ลภนฺโต เทเวสุ อุปปชฺเชยฺย, ปจฺจยํ ลภนฺโต มนุสฺเสสุ อุปปชฺเชยฺย, ปจฺจยํ ลภนฺโต ปรินิพฺพาเยยฺย, ตสฺมายํ สพฺพตฺถคามินี ปฏิปทา, ยํ เอตฺถ าณํ เหตุโส านโส อโนธิโส, อิทํ วุจฺจติ สพฺพตฺถคามินี ปฏิปทา าณํ ทุติยํ ตถาคตพลํ.

อิติ สพฺพตฺถคามินี ปฏิปทา อเนกธาตุโลโก, ตตฺถ ตตฺถ คามินี ปฏิปทา นานาธาตุโลโก. ตตฺถ กตโม อเนกธาตุโลโก? จกฺขุธาตุ รูปธาตุ จกฺขุวิฺาณธาตุ, โสตธาตุ สทฺทธาตุ โสตวิฺาณธาตุ, ฆานธาตุ คนฺธธาตุ ฆานวิฺาณธาตุ, ชิวฺหาธาตุ รสธาตุ ชิวฺหาวิฺาณธาตุ, กายธาตุ โผฏฺพฺพธาตุ กายวิฺาณธาตุ, มโนธาตุ ธมฺมธาตุ มโนวิฺาณธาตุ, ปถวีธาตุ, อาโปธาตุ, เตโชธาตุ, วาโยธาตุ, อากาสธาตุ, วิฺาณธาตุ, กามธาตุ, พฺยาปาทธาตุ, วิหึสาธาตุ, เนกฺขมฺมธาตุ, อพฺยาปาทธาตุ, อวิหึสาธาตุ, ทุกฺขธาตุ, โทมนสฺสธาตุ, อวิชฺชาธาตุ, สุขธาตุ, โสมนสฺสธาตุ, อุเปกฺขาธาตุ, รูปธาตุ, อรูปธาตุ, นิโรธธาตุ, สงฺขารธาตุ, นิพฺพานธาตุ, อยํ อเนกธาตุโลโก.

ตตฺถ กตโม นานาธาตุโลโก? อฺา จกฺขุธาตุ, อฺา รูปธาตุ, อฺา จกฺขุวิฺาณธาตุ. เอวํ สพฺพา. อฺา นิพฺพานธาตุ. ยํ เอตฺถ าณํ เหตุโส านโส อโนธิโส, อิทํ วุจฺจติ อเนกธาตุ นานาธาตุ าณํ ตติยํ ตถาคตพลํ.

๖๐. อิติ อเนกธาตุ นานาธาตุกสฺส โลกสฺส ยํ ยเทว ธาตุํ สตฺตา อธิมุจฺจนฺติ, ตํ ตเทว อธิฏฺหนฺติ อภินิวิสนฺติ, เกจิ รูปาธิมุตฺตา, เกจิ สทฺทาธิมุตฺตา, เกจิ คนฺธาธิมุตฺตา, เกจิ รสาธิมุตฺตา, เกจิ โผฏฺพฺพาธิมุตฺตา, เกจิ ธมฺมาธิมุตฺตา, เกจิ อิตฺถาธิมุตฺตา, เกจิ ปุริสาธิมุตฺตา, เกจิ จาคาธิมุตฺตา, เกจิ หีนาธิมุตฺตา, เกจิ ปณีตาธิมุตฺตา, เกจิ เทวาธิมุตฺตา, เกจิ มนุสฺสาธิมุตฺตา, เกจิ นิพฺพานาธิมุตฺตา. ยํ เอตฺถ าณํ เหตุโส านโส อโนธิโส, อยํ เวเนยฺโย, อยํ น เวเนยฺโย, อยํ สคฺคคามี, อยํ ทุคฺคติคามีติ, อิทํ วุจฺจติ สตฺตานํ นานาธิมุตฺติกตา าณํ จตุตฺถํ ตถาคตพลํ.

อิติ เต ยถาธิมุตฺตา จ ภวนฺติ, ตํ ตํ กมฺมสมาทานํ สมาทิยนฺติ. เต ฉพฺพิธํ กมฺมํ สมาทิยนฺติ – เกจิ โลภวเสน, เกจิ โทสวเสน, เกจิ โมหวเสน, เกจิ สทฺธาวเสน, เกจิ วีริยวเสน, เกจิ ปฺาวเสน. ตํ วิภชฺชมานํ ทุวิธํ – สํสารคามิ จ นิพฺพานคามิ จ.

ตตฺถ ยํ โลภวเสน โทสวเสน โมหวเสน จ กมฺมํ กโรติ, อิทํ กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ. ตตฺถ ยํ สทฺธาวเสน กมฺมํ กโรติ, อิทํ กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ. ตตฺถ ยํ โลภวเสน โทสวเสน โมหวเสน สทฺธาวเสน จ กมฺมํ กโรติ, อิทํ กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ. ตตฺถ ยํ วีริยวเสน ปฺาวเสน จ กมฺมํ กโรติ, อิทํ กมฺมํ อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมุตฺตมํ กมฺมเสฏฺํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ.

จตฺตาริ กมฺมสมาทานานิ. อตฺถิ กมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขํ อายตึ ทุกฺขวิปากํ, อตฺถิ กมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขํ อายตึ สุขวิปากํ, อตฺถิ กมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนทุกฺขฺเจว อายตึ จ ทุกฺขวิปากํ, อตฺถิ กมฺมสมาทานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขฺเจว อายตึ จ สุขวิปากํ. ยํ เอวํ ชาติยํ กมฺมสมาทานํ, อิมินา ปุคฺคเลน อกุสลกมฺมสมาทานํ อุปจิตํ อวิปกฺกํ วิปากาย ปจฺจุปฏฺิตํ น จ ภพฺโพ อภินิพฺพิธา คนฺตุนฺติ ตํ ภควา น โอวทติ. ยถา เทวทตฺตํ โกกาลิกํ สุนกฺขตฺตํ ลิจฺฉวิปุตฺตํ, เย วา ปนฺเปิ สตฺตา มิจฺฉตฺตนิยตา อิเมสฺจ ปุคฺคลานํ อุปจิตํ อกุสลํ น จ ตาว ปาริปูรึ คตํ, ปุรา ปาริปูรึ คจฺฉติ. ปุรา ผลํ นิพฺพตฺตยติ, ปุรา มคฺคมาวารยติ, ปุรา เวเนยฺยตฺตํ สมติกฺกมตีติ เต ภควา อสมตฺเต โอวทติ. ยถา ปุณฺณฺจ โควติกํ อเจลฺจ กุกฺกุรวติกํ.

๖๑. อิมสฺส จ ปุคฺคลสฺส อกุสลกมฺมสมาทานํ ปริปูรมานํ มคฺคํ อาวารยิสฺสติ ปุรา ปาริปูรึ คจฺฉติ, ปุรา ผลํ นิพฺพตฺตยติ, ปุรา มคฺคมาวารยติ, ปุรา เวเนยฺยตฺตํ สมติกฺกมตีติ ตํ ภควา อสมตฺตํ โอวทติ. ยถา อายสฺมนฺตํ องฺคุลิมาลํ.

สพฺเพสํ มุทุมชฺฌาธิมตฺตตา. ตตฺถ มุทุ อาเนฺชาภิสงฺขารา มชฺฌํ อวเสสกุสลสงฺขารา, อธิมตฺตํ อกุสลสงฺขารา, ยํ เอตฺถ าณํ เหตุโส านโส อโนธิโส, อิทํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ, อิทํ อุปปชฺชเวทนียํ, อิทํ อปราปริยเวทนียํ, อิทํ นิรยเวทนียํ, อิทํ ติรจฺฉานเวทนียํ, อิทํ เปตฺติวิสยเวทนียํ, อิทํ อสุรเวทนียํ, อิทํ เทวเวทนียํ, อิทํ มนุสฺสเวทนียนฺติ, อิทํ วุจฺจติ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมสมาทานานํ เหตุโส านโส อโนธิโส วิปากเวมตฺตตา าณํ ปฺจมํ ตถาคตพลํ.

๖๒. อิติ ตถา สมาทินฺนานํ กมฺมานํ สมาทินฺนานํ ฌานานํ วิโมกฺขานํ สมาธีนํ สมาปตฺตีนํ อยํ สํกิเลโส, อิทํ โวทานํ, อิทํ วุฏฺานํ, เอวํ สํกิลิสฺสติ, เอวํ โวทายติ, เอวํ วุฏฺหตีติ าณํ อนาวรณํ.

ตตฺถ กติ ฌานานิ? จตฺตาริ ฌานานิ. กติ วิโมกฺขา? เอกาทส จ อฏฺ จ สตฺต จ ตโย จ ทฺเว จ. กติ สมาธี? ตโย สมาธี – สวิตกฺโก สวิจาโร สมาธิ, อวิตกฺโก วิจารมตฺโต สมาธิ, อวิตกฺโก อวิจาโร สมาธิ. กติ สมาปตฺติโย? ปฺจ สมาปตฺติโย – สฺาสมาปตฺติ อสฺาสมาปตฺติ เนวสฺานาสฺาสมาปตฺติ วิภูตสฺาสมาปตฺติ [วิภูตสมาปตฺติ (สี. ก.)] นิโรธสมาปตฺติ.

ตตฺถ กตโม สํกิเลโส? ปมชฺฌานสฺส กามราคพฺยาปาทา สํกิเลโส. เย จ กุกฺกุฏฌายี ทฺเว ปมกา โย วา ปน โกจิ หานภาคิโย สมาธิ, อยํ สํกิเลโส. ตตฺถ กตมํ โวทานํ, นีวรณปาริสุทฺธิ, ปมสฺส ฌานสฺส เย จ กุกฺกุฏฌายี ทฺเว ปจฺฉิมกา โย วา ปน โกจิ วิเสสภาคิโย สมาธิ, อิทํ โวทานํ. ตตฺถ กตมํ วุฏฺานํ? ยํ สมาปตฺติวุฏฺานโกสลฺลํ, อิทํ วุฏฺานํ. ยํ เอตฺถ าณํ เหตุโส านโส อโนธิโส, อิทํ วุจฺจติ สพฺเพสํ ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนํ สํกิเลสโวทานวุฏฺานาณํ ฉฏฺํ ตถาคตพลํ.

๖๓. อิติ ตสฺเสว สมาธิสฺส ตโย ธมฺมา ปริวารา อินฺทฺริยานิ พลานิ วีริยมิติ, ตานิเยว อินฺทฺริยานิ วีริยวเสน พลานิ ภวนฺติ, อาธิปเตยฺยฏฺเน อินฺทฺริยานิ, อกมฺปิยฏฺเน พลานิ, อิติ เตสํ มุทุมชฺฌาธิมตฺตตา อยํ มุทินฺทฺริโย อยํ มชฺฌินฺทฺริโย อยํ ติกฺขินฺทฺริโยติ. ตตฺถ ภควา ติกฺขินฺทฺริยํ สํขิตฺเตน โอวาเทน โอวทติ, มชฺฌินฺทฺริยํ ภควา สํขิตฺตวิตฺถาเรน โอวทติ, มุทินฺทฺริยํ ภควา วิตฺถาเรน โอวทติ. ตตฺถ ภควา ติกฺขินฺทฺริยสฺส มุทุกํ ธมฺมเทสนํ อุปทิสติ, มชฺฌินฺทฺริยสฺส ภควา มุทุติกฺขธมฺมเทสนํ อุปทิสติ, มุทินฺทฺริยสฺส ภควา ติกฺขํ ธมฺมเทสนํ อุปทิสติ. ตตฺถ ภควา ติกฺขินฺทฺริยสฺส สมถํ อุปทิสติ, มชฺฌินฺทฺริยสฺส ภควา สมถวิปสฺสนํ อุปทิสติ, มุทินฺทฺริยสฺส ภควา วิปสฺสนํ อุปทิสติ. ตตฺถ ภควา ติกฺขินฺทฺริยสฺส นิสฺสรณํ อุปทิสติ, มชฺฌินฺทฺริยสฺส ภควา อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ อุปทิสติ, มุทินฺทฺริยสฺส ภควา อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ อุปทิสติ. ตตฺถ ภควา ติกฺขินฺทฺริยสฺส อธิปฺาสิกฺขาย ปฺาปยติ, มชฺฌินฺทฺริยสฺส ภควา อธิจิตฺตสิกฺขาย ปฺาปยติ, มุทินฺทฺริยสฺส ภควา อธิสีลสิกฺขาย ปฺาปยติ.

ยํ เอตฺถ าณํ เหตุโส านโส อโนธิโส อยํ อิมํ ภูมึ ภาวนฺจ คโต, อิมาย เวลาย อิมาย อนุสาสนิยา เอวํ ธาตุโก จายํ อยํ จสฺส อาสโย อยฺจ อนุสโย อิติ, อิทํ วุจฺจติ ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตเวมตฺตตา าณํ สตฺตมํ ตถาคตพลํ.

อิติ ตตฺถ ยํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เสยฺยถิทํ, เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตารีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนกานิปิ ชาติสตานิ อเนกานิปิ ชาติสหสฺสานิ อเนกานิปิ ชาติสตสหสฺสานิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป. อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ. ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโนติ, อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.

๖๔. ตตฺถ สคฺคูปเคสุ จ สตฺเตสุ มนุสฺสูปเคสุ จ สตฺเตสุ อปายูปเคสุ จ สตฺเตสุ อิมสฺส ปุคฺคลสฺส โลภาทโย อุสฺสนฺนา อโลภาทโย มนฺทา, อิมสฺส ปุคฺคลสฺส อโลภาทโย อุสฺสนฺนา โลภาทโย มนฺทา, เย วา ปน อุสฺสนฺนา เย วา ปน มนฺทา อิมสฺส ปุคฺคลสฺส อิมานิ อินฺทฺริยานิ อุปจิตานิ อิมสฺส ปุคฺคลสฺส อิมานิ อินฺทฺริยานิ อนุปจิตานิ อมุกาย วา กปฺปโกฏิยํ กปฺปสตสหสฺเส วา กปฺปสหสฺเส วา กปฺปสเต วา กปฺเป วา อนฺตรกปฺเป วา อุปฑฺฒกปฺเป วา สํวจฺฉเร วา อุปฑฺฒสํวจฺฉเร วา มาเส วา ปกฺเข วา ทิวเส วา มุหุตฺเต วา อิมินา ปมาเทน วา ปสาเทน วาติ. ตํ ตํ ภวํ ภควา อนุสฺสรนฺโต อเสสํ ชานาติ, ตตฺถ ยํ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา.

อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา, ตตฺถ สคฺคูปเคสุ จ สตฺเตสุ มนุสฺสูปเคสุ จ สตฺเตสุ อปายูปเคสุ จ สตฺเตสุ อิมินา ปุคฺคเลน เอวรูปํ กมฺมํ อมุกาย กปฺปโกฏิยํ อุปจิตํ กปฺปสตสหสฺเส วา กปฺปสหสฺเส วา กปฺปสเต วา กปฺเป วา อนฺตรกปฺเป วา อุปฑฺฒกปฺเป วา สํวจฺฉเร วา อุปฑฺฒสํวจฺฉเร วา มาเส วา ปกฺเข วา ทิวเส วา มุหุตฺเต วา อิมินา ปมาเทน วา ปสาเทน วาติ. อิมานิ ภควโต ทฺเว าณานิ – ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณฺจ ทิพฺพจกฺขุ จ อฏฺมํ นวมํ ตถาคตพลํ.

อิติ ตตฺถ ยํ สพฺพฺุตา ปตฺตา วิทิตา สพฺพธมฺมา วิรชํ วีตมลํ อุปฺปนฺนํ สพฺพฺุตาณํ นิหโต มาโร โพธิมูเล, อิทํ ภควโต ทสมํ พลํ สพฺพาสวปริกฺขยํ าณํ. ทสพลสมนฺนาคตา หิ พุทฺธา ภควนฺโตติ.

นิยุตฺโต วิจโย หารสมฺปาโต.

๓. ยุตฺติหารสมฺปาโต

๖๕.

ตตฺถ กตโม ยุตฺติหารสมฺปาโต?

‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร;

สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโร, ตฺวาน อุทยพฺพยํ;

ถินมิทฺธาภิภู ภิกฺขุ, สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห’’ติ.

‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ รกฺขิตจิตฺตสฺส สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร ภวิสฺสตีติ ยุชฺชติ, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร สมฺมาทิฏฺิ ภวิสฺสตีติ ยุชฺชติ, สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโร วิหรนฺโต อุทยพฺพยํ ปฏิวิชฺฌิสฺสตีติ ยุชฺชติ, อุทยพฺพยํ ปฏิวิชฺฌนฺโต สพฺพา ทุคฺคติโย ชหิสฺสตีติ ยุชฺชติ. สพฺพา ทุคฺคติโย ชหนฺโต สพฺพานิ ทุคฺคติวินิปาตภยานิ สมติกฺกมิสฺสตีติ ยุชฺชตีติ.

นิยุตฺโต ยุตฺติหารสมฺปาโต.

๔. ปทฏฺานหารสมฺปาโต

๖๖. ตตฺถ กตโม ปทฏฺาโน หารสมฺปาโต?

‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ คาถา. ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติ ติณฺณํ สุจริตานํ ปทฏฺานํ. ‘‘สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ สมถสฺส ปทฏฺานํ. ‘‘สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโร’’ติ วิปสฺสนาย ปทฏฺานํ. ‘‘ตฺวาน อุทยพฺพย’’นฺติ ทสฺสนภูมิยา ปทฏฺานํ. ‘‘ถินมิทฺธาภิภู ภิกฺขู’’ติ วีริยสฺส ปทฏฺานํ. ‘‘สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห’’ติ ภาวนาย ปทฏฺานํ.

นิยุตฺโต ปทฏฺาโน หารสมฺปาโต.

๕. ลกฺขณหารสมฺปาโต

๖๗. ตตฺถ กตโม ลกฺขโณ หารสมฺปาโต?

‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ คาถา. ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ อิทํ สตินฺทฺริยํ, สตินฺทฺริเย คหิเต คหิตานิ ภวนฺติ ปฺจินฺทฺริยานิ. ‘‘สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโร’’ติ สมฺมาทิฏฺิยา คหิตาย คหิโต ภวติ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค. ตํ กิสฺส เหตุ? สมฺมาทิฏฺิโต หิ สมฺมาสงฺกปฺโป ปภวติ, สมฺมาสงฺกปฺปโต สมฺมาวาจา ปภวติ, สมฺมาวาจาโต สมฺมากมฺมนฺโต ปภวติ, สมฺมากมฺมนฺตโต สมฺมาอาชีโว ปภวติ, สมฺมาอาชีวโต สมฺมาวายาโม ปภวติ, สมฺมาวายามโต สมฺมาสติ ปภวติ, สมฺมาสติโต สมฺมาสมาธิ ปภวติ, สมฺมาสมาธิโต สมฺมาวิมุตฺติ ปภวติ, สมฺมาวิมุตฺติโต สมฺมาวิมุตฺติาณทสฺสนํ ปภวติ.

นิยุตฺโต ลกฺขโณ หารสมฺปาโต.

๖. จตุพฺยูหหารสมฺปาโต

๖๘. ตตฺถ กตโม จตุพฺยูโห หารสมฺปาโต.

‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ คาถา. ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติ รกฺขิตํ ปริปาลียตีติ เอสา นิรุตฺติ. อิธ ภควโต โก อธิปฺปาโย? เย ทุคฺคตีหิ ปริมุจฺจิตุกามา ภวิสฺสนฺติ, เต ธมฺมจาริโน ภวิสฺสนฺตีติ อยํ เอตฺถ ภควโต อธิปฺปาโย. โกกาลิโก หิ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ เถเรสุ จิตฺตํ ปโทสยิตฺวา มหาปทุมนิรเย อุปปนฺโน. ภควา จ สติอารกฺเขน เจตสา สมนฺนาคโต, สุตฺตมฺหิ วุตฺตํ ‘‘สติยา จิตฺตํ รกฺขิตพฺพ’’นฺติ.

นิยุตฺโต จตุพฺยูโห หารสมฺปาโต.

๗. อาวฏฺฏหารสมฺปาโต

๖๙. ตตฺถ กตโม อาวฏฺโฏ หารสมฺปาโต?

‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ คาถา. ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ สมโถ [อยํ สมโถ (สี. ก.)]. ‘‘สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโร’’ติ วิปสฺสนา. ‘‘ตฺวาน อุทยพฺพย’’นฺติ ทุกฺขปริฺา. ‘‘ถินมิทฺธาภิภู ภิกฺขู’’ติ สมุทยปหานํ. ‘‘สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห’’ติ นิโรโธ [อยํ นิโรโธ (สี. ก.)]. อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ.

นิยุตฺโต อาวฏฺโฏ หารสมฺปาโต.

๘. วิภตฺติหารสมฺปาโต

๗๐. ตตฺถ กตโม วิภตฺติหารสมฺปาโต?

‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ คาถา. กุสลปกฺโข กุสลปกฺเขน นิทฺทิสิตพฺโพ. อกุสลปกฺโข อกุสลปกฺเขน นิทฺทิสิตพฺโพ.

นิยุตฺโต วิภตฺติหารสมฺปาโต.

๙. ปริวตฺตนหารสมฺปาโต

๗๑. ตตฺถ กตโม ปริวตฺตโน หารสมฺปาโต?

‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ คาถา. สมถวิปสฺสนาย ภาวิตาย นิโรโธ ผลํ, ปริฺาตํ ทุกฺขํ, สมุทโย ปหีโน, มคฺโค ภาวิโต ปฏิปกฺเขน.

นิยุตฺโต ปริวตฺตโน หารสมฺปาโต.

๑๐. เววจนหารสมฺปาโต

๗๒. ตตฺถ กตโม เววจโน หารสมฺปาโต?

‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ คาถา. ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติ จิตฺตํ มโน วิฺาณํ มนินฺทฺริยํ มนายตนํ วิชานนา วิชานิตตฺตํ, อิทํ เววจนํ. ‘‘สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ เนกฺขมฺมสงฺกปฺโป อพฺยาปาทสงฺกปฺโป อวิหึสาสงฺกปฺโป, อิทํ เววจนํ. ‘‘สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโร’’ติ สมฺมาทิฏฺิ นาม ปฺาสตฺถํ ปฺาขคฺโค ปฺารตนํ ปฺาปชฺโชโต ปฺาปโตโท ปฺาปาสาโท, อิทํ เววจนํ.

นิยุตฺโต เววจโน หารสมฺปาโต.

๑๑. ปฺตฺติหารสมฺปาโต

๗๓. ตตฺถ กตโม ปฺตฺติหารสมฺปาโต?

‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ คาถา. ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติ ปทฏฺานปฺตฺติ สติยา. ‘‘สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ ภาวนาปฺตฺติ สมถสฺส. ‘‘สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโร, ตฺวาน อุทยพฺพย’’นฺติ ทสฺสนภูมิยา นิกฺเขปปฺตฺติ. ‘‘ถินมิทฺธาภิภู ภิกฺขู’’ติ สมุทยสฺส อนวเสสปฺปหานปฺตฺติ, ‘‘สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห’’ติ ภาวนาปฺตฺติ มคฺคสฺส.

นิยุตฺโต ปฺตฺติหารสมฺปาโต.

๑๒. โอตรณหารสมฺปาโต

๗๔. ตตฺถ กตโม โอตรโณ หารสมฺปาโต?

‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ คาถา. ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’. ‘‘สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโร’’ติ สมฺมาทิฏฺิยา คหิตาย คหิตานิ ภวนฺติ ปฺจินฺทฺริยานิ, อยํ อินฺทฺริเยหิ โอตรณา.

ตานิเยว อินฺทฺริยานิ วิชฺชา, วิชฺชุปฺปาทา อวิชฺชานิโรโธ, อวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธ, สงฺขารนิโรธา วิฺาณนิโรโธ, เอวํ สพฺพํ, อยํ ปฏิจฺจสมุปฺปาเทน โอตรณา.

ตานิเยว ปฺจินฺทฺริยานิ ตีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิตานิ – สีลกฺขนฺเธน สมาธิกฺขนฺเธน ปฺากฺขนฺเธน. อยํ ขนฺเธหิ โอตรณา.

ตานิ เยว ปฺจินฺทฺริยานิ สงฺขารปริยาปนฺนานิ. เย สงฺขารา อนาสวา โน จ ภวงฺคา, เต สงฺขารา ธมฺมธาตุสงฺคหิตา, อยํ ธาตูหิ โอตรณา.

สา ธมฺมธาตุ ธมฺมายตนปริยาปนฺนา, ยํ อายตนํ อนาสวํ โน จ ภวงฺคํ, อยํ อายตเนหิ โอตรณา.

นิยุตฺโต โอตรโณ หารสมฺปาโต.

๑๓. โสธนหารสมฺปาโต

๗๕. ตตฺถ กตโม โสธโน หารสมฺปาโต?

‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ คาถา. ยตฺถ อารมฺโภ สุทฺโธ, โส ปฺโห วิสชฺชิโต ภวติ. ยตฺถ ปน อารมฺโภ น สุทฺโธ, น ตาว โส ปฺโห วิสชฺชิโต ภวติ.

นิยุตฺโต โสธโน หารสมฺปาโต.

๑๔. อธิฏฺานหารสมฺปาโต

๗๖. ตตฺถ กตโม อธิฏฺาโน หารสมฺปาโต?

ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโรติ คาถา. ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสาติ เอกตฺตตา. จิตฺตํ มโน วิฺาณํ, อยํ เวมตฺตตา. สมฺมาสงฺกปฺปโคจโรติ เอกตฺตตา. เนกฺขมฺมสงฺกปฺโป อพฺยาปาทสงฺกปฺโป อวิหึสาสงฺกปฺโป อยํ เวมตฺตตา. สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโรติ เอกตฺตตา. สมฺมาทิฏฺิ นาม ยํ ทุกฺเข าณํ ทุกฺขสมุทเย าณํ ทุกฺขนิโรเธ าณํ ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย าณํ มคฺเค าณํ เหตุมฺหิ าณํ เหตุสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ าณํ ปจฺจเย าณํ ปจฺจยสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ าณํ, ยํ ตตฺถ ตตฺถ ยถาภูตํ าณทสฺสนํ อภิสมโย สมฺปฏิเวโธ สจฺจาคมนํ, อยํ เวมตฺตตา. ตฺวาน อุทยพฺพยนฺติ เอกตฺตตา, อุทเยน อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, เอวํ สพฺพํ สมุทโย ภวติ. วเยน อวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธ, เอวํ สพฺพํ นิโรโธ โหติ, อยํ เวมตฺตตา. ถินมิทฺธาภิภู ภิกฺขูติ เอกตฺตตา, ถินํ นาม ยา จิตฺตสฺส อกลฺลตา อกมฺมนิยตา, มิทฺธํ นาม ยํ กายสฺส ลีนตฺตํ, อยํ เวมตฺตตา. สพฺพา ทุคฺคติโย ชเหติ เอกตฺตตา, เทวมนุสฺเส วา อุปนิธาย อปายา ทุคฺคติ, นิพฺพานํ วา อุปนิธาย สพฺพา อุปปตฺติโย ทุคฺคติ, อยํ เวมตฺตตา.

นิยุตฺโต อธิฏฺาโน หารสมฺปาโต.

๑๕. ปริกฺขารหารสมฺปาโต

๗๗. ตตฺถ กตโม ปริกฺขาโร หารสมฺปาโต?

‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ คาถา. อยํ สมถวิปสฺสนาย ปริกฺขาโร.

นิยุตฺโต ปริกฺขาโร หารสมฺปาโต.

๑๖. สมาโรปนหารสมฺปาโต

๗๘. ตตฺถ กตโม สมาโรปโน หารสมฺปาโต?

‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร;

สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโร, ตฺวาน อุทยพฺพยํ;

ถินมิทฺธาภิภู ภิกฺขุ, สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห’’ติ.

ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสาติ ติณฺณํ สุจริตานํ ปทฏฺานํ, จิตฺเต รกฺขิเต ตํ รกฺขิตํ ภวติ กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมํ. สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโรติ สมฺมาทิฏฺิยา ภาวิตาย ภาวิโต ภวติ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค. เกน การเณน? สมฺมาทิฏฺิโต หิ สมฺมาสงฺกปฺโป ปภวติ, สมฺมาสงฺกปฺปโต สมฺมาวาจา ปภวติ, สมฺมาวาจาโต สมฺมากมฺมนฺโต ปภวติ, สมฺมากมฺมนฺตโต สมฺมาอาชีโว ปภวติ, สมฺมาอาชีวโต สมฺมาวายาโม ปภวติ, สมฺมาวายามโต สมฺมาสติ ปภวติ, สมฺมาสติโต สมฺมาสมาธิ ปภวติ, สมฺมาสมาธิโต สมฺมาวิมุตฺติ ปภวติ, สมฺมาวิมุตฺติโต สมฺมาวิมุตฺติาณทสฺสนํ ปภวติ. อยํ อนุปาทิเสโส ปุคฺคโล อนุปาทิเสสา จ นิพฺพานธาตุ.

นิยุตฺโต สมาโรปโน หารสมฺปาโต.

เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน –

‘‘โสฬส หารา ปมํ, ทิสโลจนโต ทิสา วิโลเกตฺวา;

สงฺขิปิย องฺกุเสน หิ, นเยหิ ตีหิ นิทฺทิเส สุตฺต’’นฺติ.

นิยุตฺโต หารสมฺปาโต.

นยสมุฏฺานํ

๗๙. ตตฺถ กตมํ นยสมุฏฺานํ? ปุพฺพา โกฏิ น ปฺายติ อวิชฺชายจ ภวตณฺหาย จ, ตตฺถ อวิชฺชานีวรณํ ตณฺหาสํโยชนํ. อวิชฺชานีวรณา สตฺตา อวิชฺชาสํยุตฺตา [อวิชฺชาย สํยุตฺตา (สี. ก.)] อวิชฺชาปกฺเขน วิจรนฺติ, เต วุจฺจนฺติ ทิฏฺิจริตาติ. ตณฺหาสํโยชนา สตฺตา ตณฺหาสํยุตฺตา ตณฺหาปกฺเขน วิจรนฺติ, เต วุจฺจนฺติ ตณฺหาจริตาติ. ทิฏฺิจริตา อิโต พหิทฺธา ปพฺพชิตา อตฺตกิลมถานุโยคมนุยุตฺตา วิหรนฺติ. ตณฺหาจริตา อิโต พหิทฺธา ปพฺพชิตา กาเมสุ กามสุขลฺลิกานุโยคมนุยุตฺตา วิหรนฺติ.

ตตฺถ กึการณํ ยํ ทิฏฺิจริตา อิโต พหิทฺธา ปพฺพชิตา อตฺตกิลมถานุโยคมนุยุตฺตา วิหรนฺติ, ตณฺหาจริตา อิโต พหิทฺธา ปพฺพชิตา กาเมสุ กามสุขลฺลิกานุโยคมนุยุตฺตา วิหรนฺติ? อิโต พหิทฺธา นตฺถิ สจฺจววตฺถานํ, กุโต จตุสจฺจปฺปกาสนา วา สมถวิปสฺสนาโกสลฺลํ วา อุปสมสุขปฺปตฺติ วา! เต อุปสมสุขสฺส อนภิฺา วิปรีตเจตา เอวมาหํสุ ‘‘นตฺถิ สุเขน สุขํ, ทุกฺเขน นาม สุขํ อธิคนฺตพฺพ’’นฺติ. โย กาเม ปฏิเสวติ, โส โลกํ วฑฺฒยติ, โย โลกํ วฑฺฒยติ, โส พหุํ ปุฺํ ปสวตีติ เต เอวํสฺี เอวํทิฏฺี ทุกฺเขน สุขํ ปตฺถยมานา กาเมสุ ปุฺสฺี อตฺตกิลมถานุโยคมนุยุตฺตา จ วิหรนฺติ กามสุขลฺลิกานุโยคมนุยุตฺตา จ, เต ตทภิฺา สนฺตา โรคเมว วฑฺฒยนฺติ, คณฺฑเมว วฑฺฒยนฺติ, สลฺลเมว วฑฺฒยนฺติ, เต โรคาภิตุนฺนา คณฺฑปฏิปีฬิตา สลฺลานุวิทฺธา นิรยติรจฺฉานโยนิเปตาสุเรสุ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชานิ กโรนฺตา อุคฺฆาตนิคฺฆาตํ ปจฺจนุโภนฺตา โรคคณฺฑสลฺลเภสชฺชํ น วินฺทนฺติ. ตตฺถ อตฺตกิลมถานุโยโค กามสุขลฺลิกานุโยโค จ สํกิเลโส, สมถวิปสฺสนา โวทานํ. อตฺตกิลมถานุโยโค กามสุขลฺลิกานุโยโค จ โรโค, สมถวิปสฺสนา โรคนิคฺฆาตกเภสชฺชํ. อตฺตกิลมถานุโยโค กามสุขลฺลิกานุโยโค จ คณฺโฑ, สมถวิปสฺสนา คณฺฑนิคฺฆาตกเภสชฺชํ. อตฺตกิลมถานุโยโค กามสุขลฺลิกานุโยโค จ สลฺโล, สมถวิปสฺสนา สลฺลุทฺธรณเภสชฺชํ.

ตตฺถ สํกิเลโส ทุกฺขํ, ตทภิสงฺโค ตณฺหา สมุทโย, ตณฺหานิโรโธ ทุกฺขนิโรโธ, สมถวิปสฺสนา ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา, อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ. ทุกฺขํ ปริฺเยฺยํ, สมุทโย ปหาตพฺโพ, มคฺโค ภาเวตพฺโพ, นิโรโธ สจฺฉิกาตพฺโพ.

๘๐. ตตฺถ ทิฏฺิจริตา รูปํ อตฺตโต อุปคจฺฉนฺติ. เวทนํ…เป… สฺํ…เป… สงฺขาเร…เป… วิฺาณํ อตฺตโต อุปคจฺฉนฺติ. ตณฺหาจริตา รูปวนฺตํ อตฺตานํ อุปคจฺฉนฺติ. อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมึ วา อตฺตานํ, เวทนาวนฺตํ…เป… สฺาวนฺตํ…เป… สงฺขารวนฺตํ…เป… วิฺาณวนฺตํ อตฺตานํ อุปคจฺฉนฺติ, อตฺตนิ วา วิฺาณํ, วิฺาณสฺมึ วา อตฺตานํ, อยํ วุจฺจติ วีสติวตฺถุกา สกฺกายทิฏฺิ.

ตสฺสา ปฏิปกฺโข โลกุตฺตรา สมฺมาทิฏฺิ, อนฺวายิกา สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธิ, อยํ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค. เต ตโย ขนฺธา สีลกฺขนฺโธ สมาธิกฺขนฺโธ ปฺากฺขนฺโธ. สีลกฺขนฺโธ สมาธิกฺขนฺโธ จ สมโถ, ปฺากฺขนฺโธ วิปสฺสนา. ตตฺถ สกฺกาโย ทุกฺขํ, สกฺกายสมุทโย ทุกฺขสมุทโย, สกฺกายนิโรโธ ทุกฺขนิโรโธ, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา, อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ. ทุกฺขํ ปริฺเยฺยํ, สมุทโย ปหาตพฺโพ, มคฺโค ภาเวตพฺโพ, นิโรโธ สจฺฉิกาตพฺโพ.

ตตฺถ เย รูปํ อตฺตโต อุปคจฺฉนฺติ. เวทนํ…เป… สฺํ…เป… สงฺขาเร…เป… วิฺาณํ อตฺตโต อุปคจฺฉนฺติ. อิเม วุจฺจนฺติ ‘‘อุจฺเฉทวาทิโน’’ติ. เย รูปวนฺตํ อตฺตานํ อุปคจฺฉนฺติ. อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมึ วา อตฺตานํ. เย เวทนาวนฺตํ…เป… เย สฺาวนฺตํ…เป… เย สงฺขารวนฺตํ…เป… เย วิฺาณวนฺตํ อตฺตานํ อุปคจฺฉนฺติ, อตฺตนิ วา วิฺาณํ, วิฺาณสฺมึ วา อตฺตานํ. อิเม วุจฺจนฺติ ‘‘สสฺสตวาทิโน’’ติ, ตตฺถ อุจฺเฉทสสฺสตวาทา อุโภ อนฺตา, อยํ สํสารปวตฺติ. ตสฺส ปฏิปกฺโข มชฺฌิมา ปฏิปทา อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, อยํ สํสารนิวตฺติ. ตตฺถ ปวตฺติ ทุกฺขํ, ตทภิสงฺโค ตณฺหา สมุทโย, ตณฺหานิโรโธ ทุกฺขนิโรโธ, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา, อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ. ทุกฺขํ ปริฺเยฺยํ, สมุทโย ปหาตพฺโพ, มคฺโค ภาเวตพฺโพ, นิโรโธ สจฺฉิกาตพฺโพ.

ตตฺถ อุจฺเฉทสสฺสตํ สมาสโต วีสติวตฺถุกา สกฺกายทิฏฺิ, วิตฺถารโต ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ, เตสํ ปฏิปกฺโข เตจตฺตาลีสํ โพธิปกฺขิยา ธมฺมา อฏฺ วิโมกฺขา ทส กสิณายตนานิ. ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ โมหชาลํ อนาทิอนิธนปฺปวตฺตํ. เตจตฺตาลีสํ [เตตาลีสํ (สี.)] โพธิปกฺขิยา ธมฺมา าณวชิรํ โมหชาลปฺปทาลนํ. ตตฺถ โมโห อวิชฺชา, ชาลํ ภวตณฺหา, เตน วุจฺจติ ‘‘ปุพฺพา โกฏิ น ปฺายติ อวิชฺชาย จ ภวตณฺหาย จา’’ติ.

๘๑. ตตฺถ ทิฏฺิจริโต อสฺมึ สาสเน ปพฺพชิโต สลฺเลขานุสนฺตตวุตฺติ ภวติ สลฺเลเข ติพฺพคารโว. ตณฺหาจริโต อสฺมึ สาสเน ปพฺพชิโต สิกฺขานุสนฺตตวุตฺติ ภวติ สิกฺขาย ติพฺพคารโว. ทิฏฺิจริโต สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมนฺโต ธมฺมานุสารี ภวติ. ตณฺหาจริโต สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมนฺโต สทฺธานุสารี ภวติ, ทิฏฺิจริโต สุขาย ปฏิปทาย ทนฺธาภิฺาย ขิปฺปาภิฺาย จ นิยฺยาติ. ตณฺหาจริโต ทุกฺขาย ปฏิปทาย ทนฺธาภิฺาย ขิปฺปาภิฺาย จ นิยฺยาติ.

ตตฺถ กึการณํ, ยํ ตณฺหาจริโต ทุกฺขาย ปฏิปทาย ทนฺธาภิฺาย ขิปฺปาภิฺาย จ นิยฺยาติ, ตสฺส หิ กามา อปริจฺจตฺตา ภวนฺติ, โส กาเมหิ วิเวจิยมาโน ทุกฺเขน ปฏินิสฺสรติ ทนฺธฺจ ธมฺมํ อาชานาติ? โย ปนายํ ทิฏฺิจริโต อยํ อาทิโตเยว กาเมหิ อนตฺถิโก ภวติ. โส ตโต วิเวจิยมาโน ขิปฺปฺจ ปฏินิสฺสรติ, ขิปฺปฺจ ธมฺมํ อาชานาติ. ทุกฺขาปิ ปฏิปทา ทุวิธา ทนฺธาภิฺา จ ขิปฺปาภิฺา จ. สุขาปิ ปฏิปทา ทุวิธา ทนฺธาภิฺา จ ขิปฺปาภิฺา จ. สตฺตาปิ ทุวิธา มุทินฺทฺริยาปิ ติกฺขินฺทฺริยาปิ. เย มุทินฺทฺริยา, เต ทนฺธฺจ ปฏินิสฺสรนฺติ ทนฺธฺจ ธมฺมํ อาชานนฺติ. เย ติกฺขินฺทฺริยา, เต ขิปฺปฺจ ปฏินิสฺสรนฺติ, ขิปฺปฺจ ธมฺมํ อาชานนฺติ, อิมา จตสฺโส ปฏิปทา. เย หิ เกจิ นิยฺยึสุ วา นิยฺยนฺติ วา นิยฺยิสฺสนฺติ วา, เต อิมาหิ เอว จตูหิ ปฏิปทาหิ. เอวํ อริยา จตุกฺกมคฺคํ ปฺาเปนฺติ อพุธชนเสวิตาย พาลกนฺตาย รตฺตวาสินิยา นนฺทิยา ภวตณฺหาย อวฏฺฏนตฺถํ [อาวฏฺฏนตฺถํ (สี. ก.)]. อยํ วุจฺจติ นนฺทิยาวฏฺฏสฺส นยสฺส ภูมีติ, เตนาห ‘‘ตณฺหฺจ อวิชฺชมฺปิ จ สมเถนา’’ติ.

๘๒. เวยฺยากรเณสุ หิ เย กุสลากุสลาติ เต ทุวิธา อุปปริกฺขิตพฺพา – โลกวฏฺฏานุสารี จ โลกวิวฏฺฏานุสารี จ. วฏฺฏํ นาม สํสาโร. วิวฏฺฏํ นิพฺพานํ. กมฺมกิเลสา เหตุ สํสารสฺส. ตตฺถ กมฺมํ เจตนา เจตสิกฺจ นิทฺทิสิตพฺพํ. ตํ กถํ ทฏฺพฺพํ? อุปจเยน สพฺเพปิ กิเลสา จตูหิ วิปลฺลาเสหิ นิทฺทิสิตพฺพา. เต กตฺถ ทฏฺพฺพา? ทส วตฺถุเก กิเลสปุฺเช. กตมานิ ทส วตฺถูนิ? จตฺตาโร อาหารา, จตฺตาโร วิปลฺลาสา, จตฺตาริ อุปาทานานิ, จตฺตาโร โยคา, จตฺตาโร คนฺถา, จตฺตาโร อาสวา, จตฺตาโร โอฆา, จตฺตาโร สลฺลา, จตสฺโส วิฺาณฏฺิติโย จตฺตาริ อคติคมนานิ. ปเม อาหาเร ปโม วิปลฺลาโส, ทุติเย อาหาเร ทุติโย วิปลฺลาโส, ตติเย อาหาเร ตติโย วิปลฺลาโส, จตุตฺเถ อาหาเร จตุตฺโถ วิปลฺลาโส. ปเม วิปลฺลาเส ปมํ อุปาทานํ. ทุติเย วิปลฺลาเส ทุติยํ อุปาทานํ, ตติเย วิปลฺลาเส ตติยํ อุปาทานํ, จตุตฺเถ วิปลฺลาเส จตุตฺถํ อุปาทานํ. ปเม อุปาทาเน ปโม โยโค, ทุติเย อุปาทาเน ทุติโย โยโค, ตติเย อุปาทาเน ตติโย โยโค, จตุตฺเถ อุปาทาเน จตุตฺโถ โยโค. ปเม โยเค ปโม คนฺโถ, ทุติเย โยเค ทุติโย คนฺโถ, ตติเย โยเค ตติโย คนฺโถ, จตุตฺเถ โยเค จตุตฺโถ คนฺโถ, ปเม คนฺเถ ปโม อาสโว, ทุติเย คนฺเถ ทุติโย อาสโว, ตติเย คนฺเถ ตติโย อาสโว, จตุตฺเถ คนฺเถ จตุตฺโถ อาสโว. ปเม อาสเว ปโม โอโฆ, ทุติเย อาสเว ทุติโย โอโฆ, ตติเย อาสเว ตติโย โอโฆ, จตุตฺเถ อาสเว จตุตฺโถ โอโฆ. ปเม โอเฆ ปโม สลฺโล, ทุติเย โอเฆ ทุติโย สลฺโล, ตติเย โอเฆ ตติโย สลฺโล, จตุตฺเถ โอเฆ จตุตฺโถ สลฺโล. ปเม สลฺเล ปมา วิฺาณฏฺิติ, ทุติเย สลฺเล ทุติยา วิฺาณฏฺิติ, ตติเย สลฺเล ตติยา วิฺาณฏฺิติ, จตุตฺเถ สลฺเล จตุตฺถี [จตุตฺถา (สี.)] วิฺาณฏฺิติ, ปมายํ วิฺาณฏฺิติยํ ปมํ อคติคมนํ. ทุติยายํ วิฺาณฏฺิติยํ ทุติยํ อคติคมนํ. ตติยายํ วิฺาณฏฺิติยํ ตติยํ อคติคมนํ, จตุตฺถิยํ [จตุตฺถายํ (สี.)] วิฺาณฏฺิติยํ จตุตฺถํ อคติคมนํ.

๘๓. ตตฺถ โย จ กพฬีกาโร อาหาโร ผสฺโส อาหาโร, อิเม ตณฺหาจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา. โย จ มโนสฺเจตนาหาโร โย จ วิฺาณาหาโร, อิเม ทิฏฺิจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา. ตตฺถ โย จ ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ วิปลฺลาโส, โย จ ‘‘ทุกฺเข สุข’’นฺติ วิปลฺลาโส, อิเม ตณฺหาจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา. โย จ ‘‘อนิจฺเจ นิจฺจ’’นฺติ วิปลฺลาโส, โย จ ‘‘อนตฺตนิ อตฺตา’’ติ วิปลฺลาโส, อิเม ทิฏฺิจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา. ตตฺถ ยฺจ กามุปาทานํ ยฺจ ภวุปาทานํ, อิเม ตณฺหาจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา. ยฺจ ทิฏฺุปาทานํ ยฺจ อตฺตวาทุปาทานํ, อิเม ทิฏฺิจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา. ตตฺถ โย จ กามโยโค, โย จ ภวโยโค, อิเม ตณฺหาจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา. โย จ ทิฏฺิโยโค, โย จ อวิชฺชาโยโค, อิเม ทิฏฺิจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา. ตตฺถ โย จ อภิชฺฌากายคนฺโถ, โย จ พฺยาปาโท กายคนฺโถ, อิเม ตณฺหาจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา. โย จ ปรามาสกายคนฺโถ, โย จ อิทํสจฺจาภินิเวสกายคนฺโถ, อิเม ทิฏฺิจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา. ตตฺถ โย จ กามาสโว, โย จ ภวาสโว, อิเม ตณฺหาจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา. โย จ ทิฏฺาสโว, โย จ อวิชฺชาสโว, อิเม ทิฏฺิจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา. ตตฺถ โย จ กาโมโฆ, โย จ ภโวโฆ, อิเม ตณฺหาจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา. โย จ ทิฏฺโโฆ, โย จ อวิชฺโชโฆ, อิเม ทิฏฺิจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา. ตตฺถ โย จ ราคสลฺโล, โย จ โทสสลฺโล, อิเม ตณฺหาจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา. โย จ มานสลฺโล, โย จ โมหสลฺโล, อิเม ทิฏฺิจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา. ตตฺถ ยา จ รูปูปคา วิฺาณฏฺิติ, ยา จ เวทนูปคา วิฺาณฏฺิติ, อิเม ตณฺหาจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา. ยา จ สฺูปคา วิฺาณฏฺิติ, ยา จ สงฺขารูปคา วิฺาณฏฺิติ, อิเม ทิฏฺิจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา. ตตฺถ ยฺจ ฉนฺทา อคติคมนํ ยฺจ โทสา อคติคมนํ, อิเม ตณฺหาจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา. ยฺจ ภยา อคติคมนํ, ยฺจ โมหา อคติคมนํ, อิเม ทิฏฺิจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา.

๘๔. ตตฺถ กพฬีกาเร อาหาเร ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ วิปลฺลาโส, ผสฺเส อาหาเร ‘‘ทุกฺเข สุข’’นฺติ วิปลฺลาโส, วิฺาเณ อาหาเร ‘‘อนิจฺเจ นิจฺจ’’นฺติ วิปลฺลาโส, มโนสฺเจตนาย อาหาเร ‘‘อนตฺตนิ อตฺตา’’ติ วิปลฺลาโส. ปเม วิปลฺลาเส ิโต กาเม อุปาทิยติ, อิทํ วุจฺจติ กามุปาทานํ; ทุติเย วิปลฺลาเส ิโต อนาคตํ ภวํ อุปาทิยติ, อิทํ วุจฺจติ ภวุปาทานํ; ตติเย วิปลฺลาเส ิโต สํสาราภินนฺทินึ ทิฏฺึ อุปาทิยติ, อิทํ วุจฺจติ ทิฏฺุปาทานํ; จตุตฺเถ วิปลฺลาเส ิโต อตฺตานํ กปฺปิยํ อุปาทิยติ, อิทํ วุจฺจติ อตฺตวาทุปาทานํ.

กามุปาทาเนน กาเมหิ สํยุชฺชติ, อยํ วุจฺจติ กามโยโค; ภวุปาทาเนน ภเวหิ สํยุชฺชติ, อยํ วุจฺจติ ภวโยโค; ทิฏฺุปาทาเนน ปาปิกาย ทิฏฺิยา สํยุชฺชติ, อยํ วุจฺจติ ทิฏฺิโยโค; อตฺตวาทุปาทาเนน อวิชฺชาย สํยุชฺชติ, อยํ วุจฺจติ อวิชฺชาโยโค.

ปเม โยเค ิโต อภิชฺฌาย กายํ คนฺถติ, อยํ วุจฺจติ อภิชฺฌากายคนฺโถ; ทุติเย โยเค ิโต พฺยาปาเทน กายํ คนฺถติ, อยํ วุจฺจติ พฺยาปาทกายคนฺโถ; ตติเย โยเค ิโต ปรามาเสน กายํ คนฺถติ, อยํ วุจฺจติ ปรามาสกายคนฺโถ; จตุตฺเถ โยเค ิโต อิทํสจฺจาภินิเวเสน กายํ คนฺถติ, อยํ วุจฺจติ อิทํสจฺจาภินิเวสกายคนฺโถ.

ตสฺส เอวํคนฺถิตา กิเลสา อาสวนฺติ. กุโต จ วุจฺจติ อาสวนฺตีติ? อนุสยโต วา ปริยุฏฺานโต วา. ตตฺถ อภิชฺฌากายคนฺเถน กามาสโว, พฺยาปาทกายคนฺเถน ภวาสโว, ปรามาสกายคนฺเถน ทิฏฺาสโว, อิทํสจฺจาภินิเวสกายคนฺเถน อวิชฺชาสโว.

ตสฺส อิเม จตฺตาโร อาสวา เวปุลฺลํ คตา โอฆา ภวนฺติ. อิติ อาสวเวปุลฺลา โอฆเวปุลฺลํ. ตตฺถ กามาสเวน กาโมโฆ, ภวาสเวน ภโวโฆ, ทิฏฺาสเวน ทิฏฺโโฆ, อวิชฺชาสเวน อวิชฺโชโฆ.

ตสฺส อิเม จตฺตาโร โอฆา อนุสยสหคตา อชฺฌาสยํ อนุปวิฏฺา หทยํ อาหจฺจ ติฏฺนฺติ, เตน วุจฺจนฺติ สลฺลาอิติ. ตตฺถ กาโมเฆน ราคสลฺโล, ภโวเฆน โทสสลฺโล, ทิฏฺโเฆน มานสลฺโล, อวิชฺโชเฆน โมหสลฺโล.

ตสฺส อิเมหิ จตูหิ สลฺเลหิ ปริยาทินฺนํ [ปริยาทิณฺณํ (ก.)] วิฺาณํ จตูสุ ธมฺเมสุ สณฺหติ รูเป เวทนาย สฺาย สงฺขาเรสุ. ตตฺถ ราคสลฺเลน นนฺทูปเสจเนน วิฺาเณน รูปูปคา วิฺาณฏฺิติ, โทสสลฺเลน นนฺทูปเสจเนน วิฺาเณน เวทนูปคา วิฺาณฏฺิติ, มานสลฺเลน นนฺทูปเสจเนน วิฺาเณน สฺูปคา วิฺาณฏฺิติ, โมหสลฺเลน นนฺทูปเสจเนน วิฺาเณน สงฺขารูปคา วิฺาณฏฺิติ.

ตสฺส อิมาหิ จตูหิ วิฺาณฏฺิตีหิ อุปตฺถทฺธํ วิฺาณํ จตูหิ ธมฺเมหิ อคตึ คจฺฉติ ฉนฺทา โทสา ภยา โมหา. ตตฺถ ราเคน ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ, โทเสน โทสาคตึ คจฺฉติ, ภเยน ภยาคตึ คจฺฉติ, โมเหน โมหาคตึ คจฺฉติ. อิติ โข ตฺจ กมฺมํ อิเม จ กิเลสา, เอส เหตุ สํสารสฺส, เอวํ สพฺเพ กิเลสา จตูหิ วิปลฺลาเสหิ นิทฺทิสิตพฺพา.

๘๕. ตตฺถ อิมา จตสฺโส ทิสา กพฬีกาโร อาหาโร ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ วิปลฺลาโส, กามุปาทานํ, กามโยโค, อภิชฺฌากายคนฺโถ, กามาสโว, กาโมโฆ, ราคสลฺโล, รูปูปคา วิฺาณฏฺิติ, ฉนฺทา อคติคมนนฺติ ปมา ทิสา.

ผสฺโส อาหาโร, ‘‘ทุกฺเข สุข’’นฺติ วิปลฺลาโส, ภวุปาทานํ, ภวโยโค, พฺยาปาทกายคนฺโถ, ภวาสโว, ภโวโฆ, โทสสลฺโล, เวทนูปคา วิฺาณฏฺิติ, โทสา อคติคมนนฺติ ทุติยา ทิสา.

วิฺาณาหาโร ‘‘อนิจฺเจ นิจฺจ’’นฺติ วิปลฺลาโส, ทิฏฺุปาทานํ, ทิฏฺิโยโค ปรามาสกายคนฺโถ, ทิฏฺาสโว, ทิฏฺโโฆ, มานสลฺโล, สฺูปคา วิฺาณฏฺิติ, ภยา อคติคมนนฺติ ตติยา ทิสา.

มโนสฺเจตนาหาโร ‘‘อนตฺตนิ อตฺตา’’ติ วิปลฺลาโส, อตฺตวาทุปาทานํ, อวิชฺชาโยโค, อิทํสจฺจาภินิเวสกายคนฺโถ, อวิชฺชาสโว, อวิชฺโชโฆ, โมหสลฺโล, สงฺขารูปคา วิฺาณฏฺิติ, โมหา อคติคมนนฺติ จตุตฺถี ทิสา.

ตตฺถ โย จ กพฬีกาโร อาหาโร โย จ ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ วิปลฺลาโส, กามุปาทานํ, กามโยโค, อภิชฺฌากายคนฺโถ, กามาสโว, กาโมโฆ, ราคสลฺโล, รูปูปคา วิฺาณฏฺิติ ฉนฺทา อคติคมนนฺติ, อิเมสํ ทสนฺนํ สุตฺตานํ เอโก อตฺโถ, พฺยฺชนเมว นานํ. อิเม ราคจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา.

ตตฺถ โย จ ผสฺโส อาหาโร โย จ ‘‘ทุกฺเข สุข’’นฺติ วิปลฺลาโส, ภวุปาทานํ, ภวโยโค, พฺยาปาทกายคนฺโถ, ภวาสโว, ภโวโฆ, โทสสลฺโล, เวทนูปคา วิฺาณฏฺิติ, โทสา อคติคมนนฺติ อิเมสํ ทสนฺนํ สุตฺตานํ เอโก อตฺโถ พฺยฺชนเมว นานํ, อิเม โทสจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา.

ตตฺถ โย จ วิฺาณาหาโร โย จ ‘‘อนิจฺเจ นิจฺจ’’นฺติ วิปลฺลาโส, ทิฏฺุปาทานํ, ทิฏฺิโยโค, ปรามาสกายคนฺโถ, ทิฏฺาสโว, ทิฏฺโโฆ, มานสลฺโล, สฺูปคา วิฺาณฏฺิติ, ภยา อคติคมนนฺติ อิเมสํ ทสนฺนํ สุตฺตานํ เอโก อตฺโถ, พฺยฺชนเมว นานํ. อิเม ทิฏฺิจริตสฺส มนฺทสฺส อุปกฺกิเลสา.

ตตฺถ โย จ มโนสฺเจตนาหาโร โย จ ‘‘อนตฺตนิ อตฺตา’’ติ วิปลฺลาโส, อตฺตวาทุปาทานํ, อวิชฺชาโยโค, อิทํสจฺจาภินิเวสกายคนฺโถ, อวิชฺชาสโว, อวิชฺโชโฆ, โมหสลฺโล, สงฺขารูปคา วิฺาณฏฺิติ, โมหา อคติคมนนฺติ, อิเมสํ ทสนฺนํ สุตฺตานํ เอโก อตฺโถ, พฺยฺชนเมว นานํ. อิเม ทิฏฺิจริตสฺส อุทตฺตสฺส [อุทตฺถสฺส (สี. ก.)] อุปกฺกิเลสา.

ตตฺถ โย จ กพฬีกาโร อาหาโร โย จ ผสฺโส อาหาโร, อิเม อปฺปณิหิเตน วิโมกฺขมุเขน ปริฺํ คจฺฉนฺติ, วิฺาณาหาโร สุฺตาย, มโนสฺเจตนาหาโร อนิมิตฺเตน, ตตฺถ โย จ ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ วิปลฺลาโส, โย จ ‘‘ทุกฺเข สุข’’นฺติ วิปลฺลาโส, อิเม อปฺปณิหิเตน วิโมกฺขมุเขน ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ. ‘‘อนิจฺเจ นิจฺจ’’นฺติ วิปลฺลาโส สุฺตาย, ‘‘อนตฺตนิ อตฺตา’’ติ วิปลฺลาโส อนิมิตฺเตน. ตตฺถ กามุปาทานฺจ ภวุปาทานฺจ อปฺปณิหิเตน วิโมกฺขมุเขน ปหานํ คจฺฉนฺติ. ทิฏฺุปาทานํ สุฺตาย, อตฺตวาทุปาทานํ อนิมิตฺเตน. ตตฺถ กามโยโค จ ภวโยโค จ อปฺปณิหิเตน วิโมกฺขมุเขน ปหานํ คจฺฉนฺติ, ทิฏฺิโยโค สุฺตาย, อวิชฺชาโยโค อนิมิตฺเตน. ตตฺถ อภิชฺฌากายคนฺโถ จ พฺยาปาทกายคนฺโถ จ อปฺปณิหิเตน วิโมกฺขมุเขน ปหานํ คจฺฉนฺติ, ปรามาสกายคนฺโถ สุฺตาย, อิทํสจฺจาภินิเวสกายคนฺโถ อนิมิตฺเตน.

ตตฺถ กามาสโว จ ภวาสโว จ อปฺปณิหิเตน วิโมกฺขมุเขน ปหานํ คจฺฉนฺติ, ทิฏฺาสโว สุฺตาย, อวิชฺชาสโว อนิมิตฺเตน. ตตฺถ กาโมโฆ จ ภโวโฆ จ อปฺปณิหิเตน วิโมกฺขมุเขน ปหานํ คจฺฉนฺติ, ทิฏฺโโฆ สุฺตาย, อวิชฺโชโฆ อนิมิตฺเตน. ตตฺถ ราคสลฺโล จ โทสสลฺโล จ อปฺปณิหิเตน วิโมกฺขมุเขน ปหานํ คจฺฉนฺติ, มานสลฺโล สุฺตาย, โมหสลฺโล อนิมิตฺเตน. ตตฺถ รูปูปคา จ วิฺาณฏฺิติ เวทนูปคา จ วิฺาณฏฺิติ อปฺปณิหิเตน วิโมกฺขมุเขน ปริฺํ คจฺฉนฺติ, สฺูปคา สุฺตาย, สงฺขารูปคา อนิมิตฺเตน.

ตตฺถ ฉนฺทา จ อคติคมนํ โทสา จ อคติคมนํ อปฺปณิหิเตน วิโมกฺขมุเขน ปหานํ คจฺฉนฺติ, ภยา อคติคมนํ สุฺตาย, โมหา อคติคมนํ อนิมิตฺเตน วิโมกฺขมุเขน ปหานํ คจฺฉนฺติ. อิติ สพฺเพ โลกวฏฺฏานุสาริโน ธมฺมา นิยฺยนฺติ. เต โลกา ตีหิ วิโมกฺขมุเขหิ.

๘๖. ตตฺริทํ นิยฺยานํ –

จตสฺโส ปฏิปทา, จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาริ ฌานานิ, จตฺตาโร วิหารา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, จตฺตาริ อธิฏฺานานิ, จตสฺโส สมาธิภาวนา, จตฺตาโร สุขภาคิยา ธมฺมา, จตสฺโส อปฺปมาณา.

ปมา ปฏิปทา ปมํ สติปฏฺานํ, ทุติยา ปฏิปทา ทุติยํ สติปฏฺานํ, ตติยา ปฏิปทา ตติยํ สติปฏฺานํ, จตุตฺถี ปฏิปทา จตุตฺถํ สติปฏฺานํ. ปมํ สติปฏฺานํ ปมํ ฌานํ, ทุติยํ สติปฏฺานํ ทุติยํ ฌานํ, ตติยํ สติปฏฺานํ ตติยํ ฌานํ. จตุตฺถํ สติปฏฺานํ จตุตฺถํ ฌานํ. ปมํ ฌานํ ปโม วิหาโร, ทุติยํ ฌานํ ทุติโย วิหาโร, ตติยํ ฌานํ ตติโย วิหาโร, จตุตฺถํ ฌานํ จตุตฺโถ วิหาโร. ปโม วิหาโร ปมํ สมฺมปฺปธานํ, ทุติโย วิหาโร ทุติยํ สมฺมปฺปธานํ, ตติโย วิหาโร ตติยํ สมฺมปฺปธานํ, จตุตฺโถ วิหาโร จตุตฺถํ สมฺมปฺปธานํ. ปมํ สมฺมปฺปธานํ ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ทุติยํ ทุติโย, ตติยํ ตติโย, จตุตฺถํ สมฺมปฺปธานํ จตุตฺโถ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม. ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม ปมํ อธิฏฺานํ, ทุติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม ทุติยํ อธิฏฺานํ, ตติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม ตติยํ อธิฏฺานํ, จตุตฺโถ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม จตุตฺถํ อธิฏฺานํ. ปมํ อธิฏฺานํ ปมา สมาธิภาวนา, ทุติยํ อธิฏฺานํ ทุติยา สมาธิภาวนา, ตติยํ อธิฏฺานํ ตติยา สมาธิภาวนา, จตุตฺถํ อธิฏฺานํ จตุตฺถี สมาธิภาวนา. ปมา สมาธิภาวนา ปโม สุขภาคิโย ธมฺโม, ทุติยา สมาธิภาวนา ทุติโย สุขภาคิโย ธมฺโม, ตติยา สมาธิภาวนา ตติโย สุขภาคิโย ธมฺโม, จตุตฺถี สมาธิภาวนา จตุตฺโถ สุขภาคิโย ธมฺโม. ปโม สุขภาคิโย ธมฺโม ปมํ อปฺปมาณํ, ทุติโย สุขภาคิโย ธมฺโม ทุติยํ อปฺปมาณํ, ตติโย สุขภาคิโย ธมฺโม ตติยํ อปฺปมาณํ, จตุตฺโถ สุขภาคิโย ธมฺโม จตุตฺถํ อปฺปมาณํ. ปมา ปฏิปทา ภาวิตา พหุลีกตา [พหุลิกตา (ก.)] ปมํ สติปฏฺานํ ปริปูเรติ, ทุติยา ปฏิปทา ภาวิตา พหุลีกตา ทุติยํ สติปฏฺานํ ปริปูเรติ, ตติยา ปฏิปทา ภาวิตา พหุลีกตา ตติยํ สติปฏฺานํ ปริปูเรติ, จตุตฺถี ปฏิปทา ภาวิตา พหุลีกตา จตุตฺถํ สติปฏฺานํ ปริปูเรติ. ปโม สติปฏฺาโน ภาวิโต พหุลีกโต ปมํ ฌานํ ปริปูเรติ, ทุติโย สติปฏฺาโน ภาวิโต พหุลีกโต ทุติยํ ฌานํ ปริปูเรติ, ตติโย สติปฏฺาโน ภาวิโต พหุลีกโต ตติยํ ฌานํ ปริปูเรติ, จตุตฺโถ สติปฏฺาโน ภาวิโต พหุลีกโต จตุตฺถํ ฌานํ ปริปูเรติ.

ปมํ ฌานํ ภาวิตํ พหุลีกตํ ปมํ วิหารํ ปริปูเรติ, ทุติยํ ฌานํ ภาวิตํ พหุลีกตํ ทุติยํ วิหารํ ปริปูเรติ, ตติยํ ฌานํ ภาวิตํ พหุลีกตํ ตติยํ วิหารํ ปริปูเรติ, จตุตฺถํ ฌานํ ภาวิตํ พหุลีกตํ จตุตฺถํ วิหารํ ปริปูเรติ. ปโม วิหาโร ภาวิโต พหุลีกโต อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทํ ปริปูเรติ, ทุติโย วิหาโร ภาวิโต พหุลีกโต อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานํ ปริปูเรติ, ตติโย วิหาโร ภาวิโต พหุลีกโต อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทํ ปริปูเรติ, จตุตฺโถ วิหาโร ภาวิโต พหุลีกโต อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิตึ อสมฺโมสํ ภิยฺโยภาวํ ปริปูเรติ. ปมํ สมฺมปฺปธานํ ภาวิตํ พหุลีกตํ มานปฺปหานํ ปริปูเรติ, ทุติยํ สมฺมปฺปธานํ ภาวิตํ พหุลีกตํ อาลยสมุคฺฆาตํ ปริปูเรติ, ตติยํ สมฺมปฺปธานํ ภาวิตํ พหุลีกตํ อวิชฺชาปหานํ ปริปูเรติ, จตุตฺถํ สมฺมปฺปธานํ ภาวิตํ พหุลีกตํ ภวูปสมํ ปริปูเรติ. มานปฺปหานํ ภาวิตํ พหุลีกตํ สจฺจาธิฏฺานํ ปริปูเรติ, อาลยสมุคฺฆาโต ภาวิโต พหุลีกโต จาคาธิฏฺานํ ปริปูเรติ, อวิชฺชาปหานํ ภาวิตํ พหุลีกตํ ปฺาธิฏฺานํ ปริปูเรติ, ภวูปสโม ภาวิโต พหุลีกโต อุปสมาธิฏฺานํ ปริปูเรติ. สจฺจาธิฏฺานํ ภาวิตํ พหุลีกตํ ฉนฺทสมาธึ ปริปูเรติ, จาคาธิฏฺานํ ภาวิตํ พหุลีกตํ วีริยสมาธึ ปริปูเรติ, ปฺาธิฏฺานํ ภาวิตํ พหุลีกตํ จิตฺตสมาธึ ปริปูเรติ, อุปสมาธิฏฺานํ ภาวิตํ พหุลีกตํ วีมํสาสมาธึ ปริปูเรติ. ฉนฺทสมาธิ ภาวิโต พหุลีกโต อินฺทฺริยสํวรํ ปริปูเรติ, วีริยสมาธิ ภาวิโต พหุลีกโต ตปํ ปริปูเรติ, จิตฺตสมาธิ ภาวิโต พหุลีกโต พุทฺธึ ปริปูเรติ, วีมํสาสมาธิ ภาวิโต พหุลีกโต สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺคํ ปริปูเรติ. อินฺทฺริยสํวโร ภาวิโต พหุลีกโต เมตฺตํ ปริปูเรติ, ตโป ภาวิโต พหุลีกโต กรุณํ ปริปูเรติ, พุทฺธิ ภาวิตา พหุลีกตา มุทิตํ ปริปูเรติ, สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ภาวิโต พหุลีกโต อุเปกฺขํ ปริปูเรติ.

๘๗. ตตฺถ อิมา จตสฺโส ทิสา ปมา ปฏิปทา ปโม สติปฏฺาโน ปมํ ฌานํ ปโม วิหาโร ปโม สมฺมปฺปธาโน ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สจฺจาธิฏฺานํ ฉนฺทสมาธิ อินฺทฺริยสํวโร เมตฺตา อิติ ปมา ทิสา.

ทุติยา ปฏิปทา ทุติโย สติปฏฺาโน ทุติโย วิหาโร ทุติโย สมฺมปฺปธาโน ทุติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม ภวาธิฏฺานํ วีริยสมาธิ ตโป กรุณา อิติ ทุติยา ทิสา.

ตติยา ปฏิปทา ตติโย สติปฏฺาโน ตติยํ ฌานํ ตติโย วิหาโร ตติโย สมฺมปฺปธาโน ตติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม ปฺาธิฏฺานํ จิตฺตสมาธิ พุทฺธิ มุทิตา อิติ ตติยา ทิสา.

จตุตฺถี ปฏิปทา จตุตฺโถ สติปฏฺาโน จตุตฺถํ ฌานํ จตุตฺโถ วิหาโร จตุตฺโถ สมฺมปฺปธาโน จตุตฺโถ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม อุปสมาธิฏฺานํ วีมํสาสมาธิ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค อุเปกฺขา อิติ จตุตฺถี ทิสา.

ตตฺถ ปมา ปฏิปทา ปโม สติปฏฺาโน ปมํ ฌานํ ปโม วิหาโร ปโม สมฺมปฺปธาโน ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สจฺจาธิฏฺานํ ฉนฺทสมาธิ อินฺทฺริยสํวโร, เมตฺตา อิติ อิเมสํ ทสนฺนํ สุตฺตานํ เอโก อตฺโถ, พฺยฺชนเมว นานํ. อิทํ ราคจริตสฺส ปุคฺคลสฺส เภสชฺชํ.

ทุติยา ปฏิปทา ทุติโย สติปฏฺาโน ทุติยํ ฌานํ ทุติโย วิหาโร ทุติโย สมฺมปฺปธาโน ทุติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม จาคาธิฏฺานํ วีริยสมาธิ ตโป กรุณา อิติ อิเมสํ ทสนฺนํ สุตฺตานํ เอโก อตฺโถ, พฺยฺชนเมว นานํ. อิทํ โทสจริตสฺส ปุคฺคลสฺส เภสชฺชํ.

ตติยา ปฏิปทา ตติโย สติปฏฺาโน ตติยํ ฌานํ ตติโย วิหาโร ตติโย สมฺมปฺปธาโน ตติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม ปฺาธิฏฺานํ จิตฺตสมาธิ พุทฺธิ มุทิตา อิติ อิเมสํ ทสนฺนํ สุตฺตานํ เอโก อตฺโถ, พฺยฺชนเมว นานํ. อิทํ ทิฏฺิจริตสฺส มนฺทสฺส เภสชฺชํ.

จตุตฺถี ปฏิปทา จตุตฺโถ สติปฏฺาโน จตุตฺถํ ฌานํ จตุตฺโถ วิหาโร จตุตฺโถ สมฺมปฺปธาโน จตุตฺโถ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม อุปสมาธิฏฺานํ วีมํสาสมาธิ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค อุเปกฺขา อิติ อิเมสํ ทสนฺนํ สุตฺตานํ เอโก อตฺโถ, พฺยฺชนเมว นานํ. อิทํ ทิฏฺิจริตสฺส อุทตฺตสฺส เภสชฺชํ.

ตตฺถ ทุกฺขา จ ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา ทุกฺขา จ ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุขํ, สุขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา สุฺตํ วิโมกฺขมุขํ, สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา อนิมิตฺตํ วิโมกฺขมุขํ.

ตตฺถ กาเย กายานุปสฺสิตา สติปฏฺานฺจ เวทนาสุ เวทนานุปสฺสิตา สติปฏฺานฺจ อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุขํ, จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสิตา สุฺตํ วิโมกฺขมุขํ. ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสิตา อนิมิตฺตํ วิโมกฺขมุขํ.

ตตฺถ ปมฺจ ฌานํ ทุติยฺจ ฌานํ อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุขํ, ตติยํ ฌานํ สุฺตํ วิโมกฺขมุขํ, จตุตฺถํ ฌานํ อนิมิตฺตํ วิโมกฺขมุขํ.

ตตฺถ ปโม จ วิหาโร ทุติโย จ วิหาโร อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุขํ, ตติโย วิหาโร สุฺตํ วิโมกฺขมุขํ, จตุตฺโถ วิหาโร อนิมิตฺตํ วิโมกฺขมุขํ.

ยตฺถ ปมฺจ สมฺมปฺปธานํ ทุติยฺจ สมฺมปฺปธานํ อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุขํ, ตติยํ สมฺมปฺปธานํ สุฺตํ วิโมกฺขมุขํ, จตุตฺถํ สมฺมปฺปธานํ อนิมิตฺตํ วิโมกฺขมุขํ.

ตตฺถ มานปฺปหานฺจ อาลยสมุคฺฆาโต จ อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุขํ, อวิชฺชาปหานํ สุฺตํ วิโมกฺขมุขํ, ภวูปสโม อนิมิตฺตํ วิโมกฺขมุขํ.

ตตฺถ สจฺจาธิฏฺานฺจ จาคาธิฏฺานฺจ อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุขํ, ปฺาธิฏฺานํ สุฺตํ วิโมกฺขมุขํ, อุปสมาธิฏฺานํ อนิมิตฺตํ วิโมกฺขมุขํ.

ตตฺถ ฉนฺทสมาธิ จ วีริยสมาธิ จ อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุขํ, จิตฺตสมาธิ สุฺตํ วิโมกฺขมุขํ, วีมํสาสมาธิ อนิมิตฺตํ วิโมกฺขมุขํ.

ตตฺถ อินฺทฺริยสํวโร จ ตโป จ อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุขํ, พุทฺธิ สุฺตํ วิโมกฺขมุขํ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค อนิมิตฺตํ วิโมกฺขมุขํ.

ตตฺถ เมตฺตา จ กรุณา จ อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุขํ, มุทิตา สุฺตํ วิโมกฺขมุขํ อุเปกฺขา อนิมิตฺตํ วิโมกฺขมุขํ.

เตสํ วิกฺกีฬิตํ. จตฺตาโร อาหารา เตสํ ปฏิปกฺโข จตสฺโส ปฏิปทา…เป… จตฺตาโร วิปลฺลาสา เตสํ ปฏิปกฺโข จตฺตาโร สติปฏฺานา. จตฺตาริ อุปาทานานิ เตสํ ปฏิปกฺโข จตฺตาริ ฌานานิ. จตฺตาโร โยคา เตสํ ปฏิปกฺโข จตฺตาโร วิหารา. จตฺตาโร คนฺถา เตสํ ปฏิปกฺโข จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา. จตฺตาโร อาสวา เตสํ ปฏิปกฺโข จตฺตาโร อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา. จตฺตาโร โอฆา เตสํ ปฏิปกฺโข จตฺตาริ อธิฏฺานานิ. จตฺตาโร สลฺลา เตสํ ปฏิปกฺโข จตสฺโส สมาธิภาวนา. จตสฺโส วิฺาณฏฺิติโย ตาสํ ปฏิปกฺโข จตฺตาโร สุขภาคิยา ธมฺมา. จตฺตาริ อคติคมนานิ เตสํ ปฏิปกฺโข จตสฺโส อปฺปมาณา.

สีหา พุทฺธา ปจฺเจกพุทฺธา สาวกา จ หตราคโทสโมหา, เตสํ วิกฺกีฬิตํ ภาวนา สจฺฉิกิริยา พฺยนฺตีกิริยา จ. วิกฺกีฬิตํ อินฺทฺริยาธิฏฺานํ วิกฺกีฬิตํ วิปริยาสานธิฏฺานฺจ. อินฺทฺริยานิ สทฺธมฺมโคจโร วิปริยาสา กิเลสโคจโร. อยํ วุจฺจติ สีหวิกฺกีฬิตสฺส จ นยสฺส ทิสาโลจนสฺส จ นยสฺส ภูมีติ. เตนาห ‘‘โย เนติ วิปลฺลาเสหิ สํกิเลเส’’ติ. เวยฺยากรเณสุ หิ เย ‘‘กุสลากุสลา’’ติ จ.

ตตฺถ เย ทุกฺขาย ปฏิปทาย ทนฺธาภิฺาย ขิปฺปาภิฺาย จ นิยฺยนฺติ, อิเม ทฺเว ปุคฺคลา; เย สุขาย ปฏิปทาย ทนฺธาภิฺาย ขิปฺปาภิฺาย จ นิยฺยนฺติ, อิเม ทฺเว ปุคฺคลา. เตสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อยํ สํกิเลโส, จตฺตาโร อาหารา, จตฺตาโร วิปลฺลาสา, จตฺตาริ อุปาทานานิ, จตฺตาโร โยคา, จตฺตาโร คนฺถา, จตฺตาโร อาสวา, จตฺตาโร โอฆา, จตฺตาโร สลฺลา, จตสฺโส วิฺาณฏฺิติโย, จตฺตาริ อคติคมนานีติ. เตสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อิทํ โวทานํ, จตสฺโส ปฏิปทา, จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาริ ฌานานิ, จตฺตาโร วิหารา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, จตฺตาริ อธิฏฺานานิ, จตสฺโส สมาธิภาวนา, จตฺตาโร สุขภาคิยา ธมฺมา, จตสฺโส อปฺปมาณา อิติ.

๘๘. ตตฺถ เย ทุกฺขาย ปฏิปทาย ทนฺธาภิฺาย ขิปฺปาภิฺาย จ นิยฺยนฺติ อิเม ทฺเว ปุคฺคลา. เย สุขาย ปฏิปทาย ทนฺธาภิฺาย ขิปฺปาภิฺาย จ นิยฺยนฺติ, อิเม ทฺเว ปุคฺคลา. ตตฺถ โย สุขาย ปฏิปทาย ขิปฺปาภิฺาย นิยฺยาติ, อยํ อุคฺฆฏิตฺู. โย สาธารณาย, อยํ วิปฺจิตฺู. โย ทุกฺขาย ปฏิปทาย ทนฺธาภิฺาย นิยฺยาติ, อยํ เนยฺโย.

ตตฺถ ภควา อุคฺฆฏิตฺุสฺส ปุคฺคลสฺส สมถํ อุปทิสติ, เนยฺยสฺส วิปสฺสนํ, สมถวิปสฺสนํ วิปฺจิตฺุสฺส. ตตฺถ ภควา อุคฺฆฏิตฺุสฺส ปุคฺคลสฺส มุทุกํ ธมฺมเทสนํ อุปทิสติ, ติกฺขํ เนยฺยสฺส, มุทุติกฺขํ วิปฺจิตฺุสฺส, ตตฺถ ภควา อุคฺฆฏิตฺุสฺส ปุคฺคลสฺส สํขิตฺเตน ธมฺมํ เทสยติ, สํขิตฺตวิตฺถาเรน วิปฺจิตฺุสฺส, วิตฺถาเรน เนยฺยสฺส. ตตฺถ ภควา อุคฺฆฏิตฺุสฺส ปุคฺคลสฺส นิสฺสรณํ อุปทิสติ, วิปฺจิตฺุสฺส อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ อุปทิสติ, เนยฺยสฺส อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ อุปทิสติ. ตตฺถ ภควา อุคฺฆฏิตฺุสฺส อธิปฺาสิกฺขํ ปฺาปยติ, อธิจิตฺตํ วิปฺจิตฺุสฺส, อธิสีลํ เนยฺยสฺส.

ตตฺถ เย ทุกฺขาย ปฏิปทาย ทนฺธาภิฺาย ขิปฺปาภิฺาย จ นิยฺยนฺติ, อิเม ทฺเว ปุคฺคลา. เย สุขาย ปฏิปทาย ทนฺธาภิฺาย ขิปฺปาภิฺาย จ นิยฺยนฺติ. อิเม ทฺเว ปุคฺคลา. อิติ โข จตฺตาริ หุตฺวา ตีณิ ภวนฺติ อุคฺฆฏิตฺู วิปฺจิตฺู เนยฺโยติ.

เตสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อยํ สํกิเลโส, ตีณิ อกุสลมูลานิ โลโภ อกุสลมูลํ โทโส อกุสลมูลํ โมโห อกุสลมูลํ, ตีณิ ทุจฺจริตานิ – กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ มโนทุจฺจริตํ; ตโย อกุสลวิตกฺกา – กามวิตกฺโก พฺยาปาทวิตกฺโก วิหึสาวิตกฺโก; ติสฺโส อกุสลสฺา – กามสฺา พฺยาปาทสฺา วิหึสาสฺา; ติสฺโส วิปรีตสฺา – นิจฺจสฺา สุขสฺา อตฺตสฺา; ติสฺโส เวทนา – สุขา เวทนา ทุกฺขา เวทนา อทุกฺขมสุขา เวทนา; ติสฺโส ทุกฺขตา – ทุกฺขทุกฺขตา สงฺขารทุกฺขตา วิปริณามทุกฺขตา; ตโย อคฺคี – ราคคฺคิ โทสคฺคิ โมหคฺคิ; ตโย สลฺลา – ราคสลฺโล โทสสลฺโล โมหสลฺโล; ติสฺโส ชฏา – ราคชฏา โทสชฏา โมหชฏา; ติสฺโส อกุสลูปปริกฺขา – อกุสลํ กายกมฺมํ อกุสลํ วจีกมฺมํ อกุสลํ มโนกมฺมํ. ติสฺโส วิปตฺติโย – สีลวิปตฺติ ทิฏฺิวิปตฺติ อาจารวิปตฺตีติ. เตสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อิทํ โวทานํ. ตีณิ กุสลมูลานิ – อโลโภ กุสลมูลํ อโทโส กุสลมูลํ อโมโห กุสลมูลํ. ตีณิ สุจริตานิ – กายสุจริตํ วจีสุจริตํ มโนสุจริตํ. ตโย กุสลวิตกฺกา – เนกฺขมฺมวิตกฺโก อพฺยาปาทวิตกฺโก อวิหึสาวิตกฺโก. ตโย สมาธี – สวิตกฺโก สวิจาโร สมาธิ อวิตกฺโก วิจารมตฺโต สมาธิ อวิตกฺโก อวิจาโร สมาธิ. ติสฺโส กุสลสฺา – เนกฺขมฺมสฺา อพฺยาปาทสฺา อวิหึสาสฺา. ติสฺโส อวิปรีตสฺา – อนิจฺจสฺา ทุกฺขสฺา อนตฺตสฺา. ติสฺโส กุสลูปปริกฺขา – กุสลํ กายกมฺมํ กุสลํ วจีกมฺมํ กุสลํ มโนกมฺมํ. ตีณิ โสเจยฺยานิ – กายโสเจยฺยํ วจีโสเจยฺยํ มโนโสเจยฺยํ; ติสฺโส สมฺปตฺติโย – สีลสมฺปตฺติ สมาธิสมฺปตฺติ ปฺาสมฺปตฺติ. ติสฺโส สิกฺขา – อธิสีลสิกฺขา อธิจิตฺตสิกฺขา อธิปฺาสิกฺขา; ตโย ขนฺธา – สีลกฺขนฺโธ สมาธิกฺขนฺโธ ปฺากฺขนฺโธ. ตีณิ วิโมกฺขมุขานิ – สุฺตํ อนิมิตฺตํ อปฺปณิหิตนฺติ.

อิติ โข จตฺตาริ หุตฺวา ตีณิ ภวนฺติ, ตีณิ หุตฺวา ทฺเว ภวนฺติ ตณฺหาจริโต จ ทิฏฺิจริโต จ.

เตสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ อยํ สํกิเลโส, ตณฺหา จ อวิชฺชา จ อหิริกฺจ อโนตฺตปฺปฺจ อสฺสติ จ อสมฺปชฺฺจ อโยนิโส มนสิกาโร จ โกสชฺชฺจ โทวจสฺสฺจ อหํกาโร จ มมํกาโร จ อสฺสทฺธา จ ปมาโท จ อสทฺธมฺมสฺสวนฺจ อสํวโร จ อภิชฺฌา จ พฺยาปาโท จ นีวรณฺจ สํโยชนฺจ โกโธ จ อุปนาโห จ มกฺโข จ ปลาโส จ อิสฺสา จ มจฺเฉรฺจ มายา จ สาเยฺยฺจ สสฺสตทิฏฺิ จ อุจฺเฉททิฏฺิจาติ.

เตสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ อิทํ โวทานํ, สมโถ จ วิปสฺสนา จ หิรี จ โอตฺตปฺปฺจ สติ จ สมฺปชฺฺจ โยนิโส มนสิกาโร จ วีริยารมฺโภ จ โสวจสฺสฺจ ธมฺเม าณฺจ อนฺวเย าณฺจ ขเย าณฺจ อนุปฺปาเท าณฺจ สทฺธา จ อปฺปมาโท จ สทฺธมฺมสฺสวนฺจ สํวโร จ อนภิชฺฌา จ อพฺยาปาโท จ ราควิราคา จ เจโตวิมุตฺติ อวิชฺชาวิราคา จ ปฺาวิมุตฺติ อภิสมโย จ อปฺปิจฺฉตา จ สนฺตุฏฺิ จ อกฺโกโธ จ อนุปนาโห จ อมกฺโข จ อปลาโส จ อิสฺสาปหานฺจ มจฺฉริยปฺปหานฺจ วิชฺชา จ วิมุตฺติ จ สงฺขตารมฺมโณ จ วิโมกฺโข อสงฺขตารมฺมโณ จ วิโมกฺโข สอุปาทิเสสา จ นิพฺพานธาตุ อนุปาทิเสสา จ นิพฺพานธาตูติ.

อยํ วุจฺจติ ติปุกฺขลสฺส จ นยสฺส องฺกุสสฺส จ นยสฺส ภูมีติ. เตนาห ‘‘โย อกุสเล สมูเลหิ เนตี’’ติ ‘‘โอโลเกตฺวา ทิสโลจเนนา’’ติ จ.

นิยุตฺตํ นยสมุฏฺานํ.

สาสนปฏฺานํ

๘๙. ตตฺถ อฏฺารส มูลปทา กุหึ ทฏฺพฺพา? สาสนปฏฺาเน. ตตฺถ กตมํ สาสนปฏฺานํ? สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ, วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ, นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ, อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ, สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ สุตฺตํ, สํกิเลสภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺตํ, สํกิเลสภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ สุตฺตํ, สํกิเลสภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ สุตฺตํ, สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺตํ, วาสนาภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺตํ, ตณฺหาสํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ, ทิฏฺิสํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ, ทุจฺจริตสํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ, ตณฺหาโวทานภาคิยํ สุตฺตํ, ทิฏฺิโวทานภาคิยํ สุตฺตํ, ทุจฺจริตโวทานภาคิยํ สุตฺตํ.

ตตฺถ สํกิเลโส ติวิโธ – ตณฺหาสํกิเลโส ทิฏฺิสํกิเลโส ทุจฺจริตสํกิเลโส. ตตฺถ ตณฺหาสํกิเลโส สมเถน วิสุชฺฌติ, โส สมโถ สมาธิกฺขนฺโธ. ทิฏฺิสํกิเลโส วิปสฺสนาย วิสุชฺฌติ, สา วิปสฺสนา ปฺากฺขนฺโธ. ทุจฺจริตสํกิเลโส สุจริเตน วิสุชฺฌติ, ตํ สุจริตํ สีลกฺขนฺโธ. ตสฺส สีเล ปติฏฺิตสฺส ยทิ อาสตฺติ อุปฺปชฺชติ ภเวสุ, เอวํ สายํ สมถวิปสฺสนา ภาวนามยํ ปุฺกฺริยวตฺถุ ภวติ ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตติ. อิมานิ จตฺตาริ สุตฺตานิ, สาธารณานิ กตานิ อฏฺ ภวนฺติ, ตานิเยว อฏฺ สุตฺตานิ สาธารณานิ กตานิ โสฬส ภวนฺติ.

อิเมหิ โสฬสหิ สุตฺเตหิ ภินฺเนหิ นววิธํ สุตฺตํ ภินฺนํ ภวติ. คาถาย คาถา อนุมินิตพฺพา, เวยฺยากรเณน เวยฺยากรณํ อนุมินิตพฺพํ. สุตฺเตน สุตฺตํ อนุมินิตพฺพํ.

๙๐. ตตฺถ กตมํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ?

‘‘กามนฺธา ชาลสฺฉนฺนา, ตณฺหาฉทนฉาทิตา;

ปมตฺตพนฺธนา [ปมตฺตพนฺธุนา (อุทา. ๗๔)] พทฺธา, มจฺฉาว กุมินามุเข;

ชรามรณมนฺเวนฺติ, วจฺโฉ ขีรปโกว [ขีรูปโกว (ก.) ปสฺส อุทา. ๖๔] มาตร’’นฺติ.

อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อคติคมนานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ฉนฺทาคตึ [ฉนฺทา อคตึ (สี. ก.) ปสฺส อ. นิ. ๔.๑๗] คจฺฉติ, โทสาคตึ คจฺฉติ, โมหาคตึ คจฺฉติ, ภยาคตึ คจฺฉติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อคติคมนานิ. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต, อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

‘‘ฉนฺทา โทสา ภยา โมหา, โย ธมฺมํ อติวตฺตติ;

นิหียติ ตสฺส ยโส, กาฬปกฺเขว จนฺทิมา’’ติ.

อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา, มโนเสฏฺา มโนมยา;

มนสา เจ ปทุฏฺเน, ภาสติ วา กโรติ วา;

ตโต นํ ทุกฺขมนฺเวติ, จกฺกํว วหโต ปท’’นฺติ.

อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘มิทฺธี [ปสฺส ธ. ป. ๓๒๕] ยทา โหติ มหคฺฆโส จ, นิทฺทายิตา สมฺปริวตฺตสายี;

มหาวราโหว นิวาปปุฏฺโ, ปุนปฺปุนํ คพฺภมุเปติ มนฺโท’’ติ.

อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘อยสาว มลํ สมุฏฺิตํ, ตตุฏฺาย [ตทุฏฺาย (สี.) ปสฺส ธ. ป. ๒๔๐] ตเมว ขาทติ;

เอวํ อติโธนจารินํ, สานิ [ตานิ (สี.) ปสฺส ธ. ป. ๒๔๐] กมฺมานิ นยนฺติ ทุคฺคติ’’นฺติ.

อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘โจโร ยถา สนฺธิมุเข คหีโต, สกมฺมุนา หฺติ พชฺฌเต จ;

เอวํ อยํ เปจฺจ ปชา ปรตฺถ, สกมฺมุนา หฺติ พชฺฌเต จา’’ติ.

อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘สุขกามานิ ภูตานิ, โย ทณฺเฑน วิหึสติ;

อตฺตโน สุขเมสาโน, เปจฺจ โส น ลภเต [ลเภ (ก.) ปสฺส ธ. ป. ๑๓๑] สุข’’นฺติ.

อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘คุนฺนํ เจ ตรมานานํ, ชิมฺหํ คจฺฉติ ปุงฺคโว;

สพฺพา ตา ชิมฺหํ คจฺฉนฺติ, เนตฺเต ชิมฺหํ คเต [ชิมฺหคเต (สี. ก.) ปสฺส อ. นิ. ๔.๗๐] สติ.

‘‘เอวเมว มนุสฺเสสุ, โย โหติ เสฏฺสมฺมโต;

โส เจ อธมฺมํ จรติ, ปเคว อิตรา ปชา;

สพฺพํ รฏฺํ ทุกฺขํ เสติ, ราชา เจ โหติ อธมฺมิโก’’ติ.

อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘สุกิจฺฉรูปาวติเม มนุสฺสา, กโรนฺติ ปาปํ อุปธีสุ รตฺตา;

คจฺฉนฺติ เต พหุชนสนฺนิวาสํ, นิรยํ อวีจึ กฏุกํ ภยานก’’นฺติ.

อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘ผลํ เว [ปสฺส อ. นิ. ๔.๖๘] กทลึ หนฺติ, ผลํ เวฬุํ ผลํ นฬํ;

สกฺกาโร กาปุริสํ หนฺติ, คพฺโภ อสฺสตรึ ยถา’’ติ.

อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘โกธมกฺขครุ ภิกฺขุ, ลาภสกฺการคารโว [ลาภสกฺการการณา (สี. ก.) ปสฺส อ. นิ. ๔.๔๓];

สุเขตฺเต ปูติพีชํว, สทฺธมฺเม น วิรูหตี’’ติ.

อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

๙๑. ‘‘อิธาหํ, ภิกฺขเว, เอกจฺจํ ปุคฺคลํ ปทุฏฺจิตฺตํ เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ, (ยถา โข อยํ ปุคฺคโล อิริยติ, ยฺจ ปฏิปทํ ปฏิปนฺโน, ยฺจ มคฺคํ สมารูฬฺโห) [( ) นตฺถิ อ. นิ. ๑.๔๓-๔๔; อิติวุ. ๒๐]. อิมมฺหิ จายํ สมเย กาลํ กเรยฺย, ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต, เอวํ นิรเย. ตํ กิสฺส เหตุ? จิตฺตํ หิสฺส, ภิกฺขเว, ปทุฏฺํ [ปโทสิตํ (สี. ก.) อ. นิ. ๑.๔๓; อิติวุ. ๒๐ ปสฺสิตพฺพํ], เจโตปโทสเหตุ [จิตฺตปโทสเหตุ (สี. ก.)] โข ปน, ภิกฺขเว, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ, ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ปทุฏฺจิตฺตํ ตฺวาน, เอกจฺจํ อิธ ปุคฺคลํ;

เอตมตฺถฺจ พฺยากาสิ, พุทฺโธ [สตฺถา (สี. ก.)] ภิกฺขูน สนฺติเก;

อิมมฺหิ จายํ สมเย, กาลํ กยิราถ ปุคฺคโล;

นิรยํ อุปปชฺเชยฺย, จิตฺตํ หิสฺส ปทูสิตํ;

เจโตปโทสเหตุ หิ, สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ.

ยถาภตํ นิกฺขิเปยฺย, เอวเมว ตถาวิโธ;

กายสฺส เภทา ทุปฺปฺโ, นิรยํ โสปปชฺชตี’’ติ.

อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา อิติ เม สุตนฺติ.

อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘สเจ ภายถ ทุกฺขสฺส, สเจ โว ทุกฺขมปฺปิยํ;

มากตฺถ ปาปกํ กมฺมํ, อาวิ [อาวี (สี.) ปสฺส อุทา. ๔๔] วา ยทิ วา รโห.

‘‘สเจ จ ปาปกํ กมฺมํ, กริสฺสถ กโรถ วา;

น โว ทุกฺขา ปมุตฺยตฺถิ, อุเปจฺจปิ ปลายต’’นฺติ.

อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘อธมฺเมน ธนํ ลทฺธา, มุสาวาเทน จูภยํ;

มเมติ พาลา มฺนฺติ, ตํ กถํ นุ ภวิสฺสติ.

‘‘อนฺตรายา สุ ภวิสฺสนฺติ, สมฺภตสฺส วินสฺสติ;

มตา สคฺคํ น คจฺฉนฺติ, นนุ เอตฺตาวตา หตา’’ติ.

อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘กถํ ขณติ อตฺตานํ, กถํ มิตฺเตหิ ชีรติ;

กถํ วิวฏฺฏเต ธมฺมา, กถํ สคฺคํ น คจฺฉติ.

‘‘โลภา ขณติ อตฺตานํ, ลุทฺโธ มิตฺเตหิ ชีรติ;

โลภา วิวฏฺฏเต ธมฺมา, โลภา สคฺคํ น คจฺฉตี’’ติ.

อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘จรนฺติ พาลา ทุมฺเมธา, อมิตฺเตเนว อตฺตนา;

กโรนฺตา ปาปกํ กมฺมํ, ยํ โหติ กฏุกปฺผลํ [กฏกํ ผลํ (ก.) ปสฺส ธ. ป. ๖๖].

‘‘น ตํ กมฺมํ กตํ สาธุ, ยํ กตฺวา อนุตปฺปติ;

ยสฺส อสฺสุมุโข โรทํ, วิปากํ ปฏิเสวตี’’ติ.

อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘ทุกฺกรํ ทุตฺติติกฺขฺจ, อพฺยตฺเตน จ [อวิยตฺเตน (สี. ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๑.๑๗] สามฺํ;

พหู หิ ตตฺถ สมฺพาธา, ยตฺถ พาโล วิสีทติ.

‘‘โย หิ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ, ภาสมาเน ตถาคเต;

มนํ ปโทสเย พาโล, โมฆํ โข ตสฺส ชีวิตํ.

‘‘เอตฺจาหํ อรหามิ, ทุกฺขฺจ อิโต จ ปาปิยตรํ ภนฺเต;

โย อปฺปเมยฺเยสุ ตถาคเตสุ, จิตฺตํ ปโทเสมิ อวีตราโค’’ติ.

อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘อปฺปเมยฺยํ ปมินนฺโต, โกธ วิทฺวา วิกปฺปเย;

อปฺปเมยฺยํ ปมายินํ [ปมายนฺตํ (สี. ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๑.๑๗๙], นิวุตํ ตํ มฺเ อกิสฺสว’’นฺติ.

อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘ปุริสสฺส หิ ชาตสฺส, กุารี [กุธารี (ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๑.๑๘๐] ชายเต มุเข;

ยาย ฉินฺทติ อตฺตานํ, พาโล ทุพฺภาสิตํ ภณํ.

‘‘น หิ สตฺถํ สุนิสิตํ, วิสํ หลาหลํ อิว;

เอวํ วิรทฺธํ ปาเตติ, วาจา ทุพฺภาสิตา ยถา’’ติ.

อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

๙๒.

‘‘โย นินฺทิยํ ปสํสติ, ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโย;

วิจินาติ มุเขน โส กลึ, กลินา เตน สุขํ น วินฺทติ.

‘‘อปฺปมตฺโต อยํ กลิ, โย อกฺเขสุ ธนปราชโย;

สพฺพสฺสาปิ สหาปิ อตฺตนา, อยเมว มหนฺตตโร [มหตฺตโร (ก.) ปสฺส อ. นิ. ๔.๓; สํ. นิ. ๑.๑๘๐] กลิ;

โย สุคเตสุ มนํ ปโทสเย.

‘‘สตํ สหสฺสานํ นิรพฺพุทานํ, ฉตฺตึสตี ปฺจ จ อพฺพุทานิ;

ยมริยครหี นิรยํ อุเปติ, วาจํ มนฺจ ปณิธาย ปาปก’’นฺติ.

อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘โย โลภคุเณ อนุยุตฺโต, โส วจสา [วจสา จ (ก.) ปสฺส สุ. นิ. ๖๖๘] ปริภาสติ อฺเ;

อสฺสทฺโธ กทริโย [อนริโย (สี. ก.)] อวทฺู, มจฺฉริ เปสุณิยํ อนุยุตฺโต.

‘‘มุขทุคฺค วิภูต อนริย, ภูนหุ ปาปก ทุกฺกฏการิ;

ปุริสนฺต กลี อวชาตปุตฺต [อวชาตกปุตฺต (สี. ก.) ปสฺส สุ. นิ. ๖๖๙], มา พหุภาณิธ เนรยิโกสิ.

‘‘รชมากิรสี อหิตาย, สนฺเต ครหสิ กิพฺพิสการี;

พหูนิ ทุจฺจริตานิ จริตฺวา, คจฺฉสิ โข ปปตํ จิรรตฺต’’นฺติ.

อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

ตตฺถ กตมํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ?

‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา, มโนเสฏฺา มโนมยา;

มนสา เจ ปสนฺเนน, ภาสติ วา กโรติ วา;

ตโต นํ สุขมนฺเวติ, ฉายาว อนปายินี’’ติ [อนุปายินีติ (ก.) ปสฺส ธ. ป. ๒].

อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.

๙๓. มหานาโม สกฺโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ, ภนฺเต, กปิลวตฺถุ อิทฺธฺเจว ผีตฺจ พาหุชฺํ [พหุชนํ (สี. ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๕.๑๐๑๘] อากิณฺณมนุสฺสํ สมฺพาธพฺยูหํ, โส โข อหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ วา ปยิรุปาสิตฺวา มโนภาวนีเย วา ภิกฺขู สายนฺหสมยํ กปิลวตฺถุํ ปวิสนฺโต ภนฺเตนปิ หตฺถินา สมาคจฺฉามิ, ภนฺเตนปิ อสฺเสน สมาคจฺฉามิ, ภนฺเตนปิ รเถน สมาคจฺฉามิ, ภนฺเตนปิ สกเฏน สมาคจฺฉามิ, ภนฺเตนปิ ปุริเสน สมาคจฺฉามิ, ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, ตสฺมึ สมเย มุสฺสเตว ภควนฺตํ อารพฺภ สติ, มุสฺสติ ธมฺมํ อารพฺภ สติ, มุสฺสติ สงฺฆํ อารพฺภ สติ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ ‘อิมมฺหิ จาหํ สายนฺหสมเย กาลํ กเรยฺยํ, กา มยฺหํ [มมสฺส (สี. ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๕.๑๐๑๘] คติ, โก อภิสมฺปราโย’’’ติ.

‘‘มา ภายิ, มหานาม, มา ภายิ, มหานาม, อปาปกํ เต มรณํ ภวิสฺสติ, อปาปิกา [อปาปิกา เต (สี.)] กาลงฺกิริยา. จตูหิ โข, มหานาม, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก นิพฺพานนินฺโน โหติ นิพฺพานโปโณ นิพฺพานปพฺภาโร. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, มหานาม, อริยสาวโก พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ, อิติปิ โส ภควา อรหํ…เป… พุทฺโธ ภควาติ. ธมฺเม…เป… สงฺเฆ…เป… อริยกนฺเตหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต โหติ อขณฺเฑหิ…เป… สมาธิสํวตฺตนิเกหิ. เสยฺยถาปิ, มหานาม, รุกฺโข ปาจีนนินฺโน ปาจีนโปโณ ปาจีนปพฺภาโร, โส มูลจฺฉินฺโน [มูเลหิ ฉินฺโน (สี. ก.)] กตเมน ปปเตยฺยา’’ติ? ‘‘เยน, ภนฺเต, นินฺโน เยน โปโณ เยน ปพฺภาโร’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหานาม, อิเมหิ จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก นิพฺพานนินฺโน โหติ นิพฺพานโปโณ นิพฺพานปพฺภาโร. มา ภายิ, มหานาม, มา ภายิ, มหานาม, อปาปกํ เต มรณํ ภวิสฺสติ, อปาปิกา กาลงฺกิริยา’’ติ.

อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘สุขกามานิ ภูตานิ, โย ทณฺเฑน น หึสติ;

อตฺตโน สุขเมสาโน, เปจฺจ โส ลภเต สุข’’นฺติ.

อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘คุนฺนฺเจ ตรมานานํ, อุชุํ คจฺฉติ ปุงฺคโว;

สพฺพา ตา อุชุํ คจฺฉนฺติ, เนตฺเต อุชุํ คเต สติ.

‘‘เอวเมว มนุสฺเสสุ, โย โหติ เสฏฺสมฺมโต;

โส สเจ [โส เจว (สี.) ปสฺส (สี.) ปสฺส อ. นิ. ๔.๗๐] ธมฺมํ จรติ, ปเคว อิตรา ปชา;

สพฺพํ รฏฺํ สุขํ เสติ, ราชา เจ โหติ ธมฺมิโก’’ติ.

อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.

๙๔. ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู ภควโต จีวรกมฺมํ กโรนฺติ ‘‘นิฏฺิตจีวโร ภควา เตมาสจฺจเยน จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี’’ติ. เตน โข ปน สมเยน อิสิทตฺตปุราณา ถปตโย สาเกเต [สาธุเก (สํ. นิ. ๕.๑๐๐๒)] ปฏิวสนฺติ เกนจิ เทว กรณีเยน. อสฺโสสุํ โข อิสิทตฺตปุราณา ถปตโย ‘‘สมฺพหุลา กิร ภิกฺขู ภควโต จีวรกมฺมํ กโรนฺติ. นิฏฺิตจีวโร ภควา เตมาสจฺจเยน จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี’’ติ.

อถ โข อิสิทตฺตปุราณา ถปตโย มคฺเค ปุริสํ เปสุํ ‘‘ยทา ตฺวํ อมฺโภ ปุริส ปสฺเสยฺยาสิ ภควนฺตํ อาคจฺฉนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ, อถ อมฺหากํ อาโรเจยฺยาสี’’ติ. ทฺวีหตีหํ ิโต โข โส ปุริโส อทฺทส ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวาน เยน อิสิทตฺตปุราณา ถปตโย เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อิสิทตฺตปุราเณ ถปตโย เอตทโวจ ‘‘อยํ โส ภนฺเต [อยํ ภนฺเต (สี. ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๕.๑๐๐๒] ภควา อาคจฺฉติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ยสฺสทานิ กาลํ มฺถา’’ติ.

อถ โข อิสิทตฺตปุราณา ถปตโย เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธึสุ. อถ โข ภควา มคฺคา โอกฺกมฺม เยน อฺตรํ รุกฺขมูลํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อิสิทตฺตปุราณา ถปตโย ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ, เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข อิสิทตฺตปุราณา ถปตโย ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –

‘‘ยทา มยํ ภนฺเต ภควนฺตํ สุโณม ‘สาวตฺถิยา โกสเลสุ จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี’ติ, โหติ โน ตสฺมึ สมเย อนตฺตมนตา โหติ โทมนสฺสํ ‘ทูเร โน ภควา ภวิสฺสตี’ติ. ยทา ปน มยํ ภนฺเต ภควนฺตํ สุโณม ‘สาวตฺถิยา โกสเลสุ จาริกํ ปกฺกนฺโต’ติ, โหติ โน ตสฺมึ สมเย อนตฺตมนตา โหติ โทมนสฺสํ ‘ทูเร โน ภควา’ติ…เป….

‘‘ยทา ปน มยํ ภนฺเต ภควนฺตํ สุโณม ‘กาสีสุ มคเธสุ [กาสีหิ มาคเธ (สํ. นิ. ๕.๑๐๐๒)] จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี’ติ, โหติ โน ตสฺมึ สมเย อนตฺตมนตา โหติ โทมนสฺสํ ‘ทูเร โน ภควา ภวิสฺสตี’ติ. ยทา ปน มยํ ภนฺเต ภควนฺตํ สุโณม ‘กาสีสุ มคเธสุ จาริกํ ปกฺกนฺโต’ติ, อนปฺปกา โน ตสฺมึ สมเย อนตฺตมนตา โหติ อนปฺปกํ โทมนสฺสํ ‘ทูเร โน ภควา’ติ.

‘‘ยทา ปน มยํ ภนฺเต ภควนฺตํ สุโณม ‘มคเธสุ กาสีสุ จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี’ติ, โหติ โน ตสฺมึ สมเย อตฺตมนตา โหติ โสมนสฺสํ ‘อาสนฺเน โน ภควา ภวิสฺสตี’ติ. ยทา ปน มยํ ภนฺเต ภควนฺตํ สุโณม ‘มคเธสุ กาสีสุ จาริกํ ปกฺกนฺโต’ติ, โหติ โน ตสฺมึ สมเย อตฺตมนตา โหติ โสมนสฺสํ ‘อาสนฺเน โน ภควา’ติ…เป….

‘‘ยทา ปน มยํ ภนฺเต ภควนฺตํ สุโณม ‘โกสเลสุ สาวตฺถึ [สาวตฺถิยํ (สี. ก.)] จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี’ติ. โหติ โน ตสฺมึ สมเย อตฺตมนตา โหติ โสมนสฺสํ ‘อาสนฺเน โน ภควา ภวิสฺสตี’ติ.

‘‘ยทา ปน มยํ ภนฺเต ภควนฺตํ สุโณม ‘สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม’ติ โหติ อนปฺปกา โน ตสฺมึ สมเย อตฺตมนตา, โหติ อนปฺปกํ โสมนสฺสํ ‘อาสนฺเน โน ภควา’’’ติ.

‘‘ตสฺมาติห, ถปตโย, สมฺพาโธ ฆราวาโส รชาปโถ, อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา, อลฺจ ปน โว, ถปตโย, อปฺปมาทายา’’ติ. ‘‘อตฺถิ โข โน, ภนฺเต, เอตมฺหา สมฺพาธา อฺโ สมฺพาโธ สมฺพาธตโร เจว สมฺพาธสงฺขาตตโร จา’’ติ? ‘‘กตโม ปน โว, ถปตโย, เอตมฺหา สมฺพาธา อฺโ สมฺพาโธ สมฺพาธตโร เจว สมฺพาธสงฺขาตตโร จา’’ติ?

‘‘อิธ มยํ, ภนฺเต, ยทา ราชา ปเสนทิ โกสโล อุยฺยานภูมึ นิยฺยาตุกาโม [คนฺตุกาโม (สี. ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๕.๑๐๐๒] โหติ, เย เต รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส นาคา โอปวยฺหา, เต กปฺเปตฺวา ยา ตา รฺโ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส ปชาปติโย ปิยา มนาปา, ตา [ตาสํ (สี. ก.)] เอกํ ปุรโต เอกํ ปจฺฉโต นิสีทาเปม, ตาสํ โข ปน, ภนฺเต, ภคินีนํ เอวรูโป คนฺโธ โหติ. เสยฺยถาปิ นาม คนฺธกรณฺฑกสฺส ตาวเทว วิวริยมานสฺส, ยถา ตํ ราชกฺานํ [ราชารเหน (สี. ก.)] คนฺเธน วิภูสิตานํ. ตาสํ โข ปน, ภนฺเต, ภคินีนํ เอวรูโป กายสมฺผสฺโส โหติ, เสยฺยถาปิ นาม ตูลปิจุโน วา กปฺปาหปิจุโน วา, ยถา ตํ ราชกฺานํ สุเขธิตานํ. ตสฺมึ โข ปน, ภนฺเต, สมเย นาโคปิ รกฺขิตพฺโพ โหติ. ตาปิ ภคินิโย รกฺขิตพฺพา โหติ. อตฺตาปิ รกฺขิตพฺพา โหติ. น โข ปน มยํ, ภนฺเต, อภิชานาม ตาสุ ภคีนิสุ ปาปกํ จิตฺตํ ปฺปาเทนฺตา, อยํ โข โน, ภนฺเต, เอตมฺหา สมฺพาธา อฺโ สมฺพาโธ สมฺพาธตโร เจว สมฺพาธสงฺฆาตตโร จาติ.

‘‘ตสฺมาติห, ถปตโย, สมฺพาโธ ฆราวาโส รชาปโถ, อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา. อลฺจ ปน โว, ถปตโย, อปฺปมาทาย. จตูหิ โข ถปตโย, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ.

‘‘กตเมหิ จตูหิ? อิธ, ถปตโย, สุตวา อริยสาวโก พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ อิติปิ โส ภควา อรหํ…เป… พุทฺโธ ภควาติ, ธมฺเม…เป… สงฺเฆ…เป… วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ, มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสฺสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต อปฺปฏิวิภตฺตํ. อิเมหิ โข, ถปตโย, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ.

‘‘ตุมฺเห โข, ถปตโย, พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา อิติปิ โส ภควา อรหํ…เป… พุทฺโธ ภควาติ, ธมฺเม…เป… สงฺเฆ…เป… ยํ โข ปน กิฺจิ กุเล เทยฺยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ อปฺปฏิวิภตฺตํ สีลวนฺเตหิ กลฺยาณธมฺเมหิ, ตํ กึ มฺถ, ถปตโย, กติวิธา เต โกสเลสุ มนุสฺสา เย ตุมฺหากํ สมสมา ยทิทํ ทานสํวิภาเคหี’’ติ? ‘‘ลาภา โน, ภนฺเต, สุลทฺธํ โน, ภนฺเต, เยสํ โน ภควา เอวํ ปชานาตี’’ติ.

อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.

๙๕.

‘‘เอกปุปฺผํ จชิตฺวาน [ยชิตฺวาน (ก.) ปสฺส เถรคา. ๙๖], สหสฺสํ กปฺปโกฏิโย;

เทเว เจว มนุสฺเส จ, เสเสน ปรินิพฺพุโต’’ติ.

อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘อสฺสตฺเถ หริโตภาเส, สํวิรูฬฺหมฺหิ ปาทเป;

เอกํ พุทฺธคตํ [พุทฺธกตํ (ก.) ปสฺส เถรคา. ๒๑๗] สฺํ, อลภึตฺถํ [อลภึหํ (สี. ก.)] ปติสฺสโต.

‘‘อชฺช ตึสํ ตโต กปฺปา, นาภิชานามิ ทุคฺคตึ;

ติสฺโส วิชฺชา สจฺฉิกตา, ตสฺสา สฺาย วาสนา’’ติ.

อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘ปิณฺฑาย โกสลํ ปุรํ, ปาวิสิ อคฺคปุคฺคโล;

อนุกมฺปโก ปุเรภตฺตํ, ตณฺหานิฆาตโก มุนิ.

‘‘ปุริสสฺส วฏํสโก หตฺเถ, สพฺพปุปฺเผหิลงฺกโต;

โส อทฺทสาสิ สมฺพุทฺธํ, ภิกฺขุสงฺฆปุรกฺขตํ.

‘‘ปวิสนฺตํ ราชมคฺเคน, เทวมานุสปูชิตํ;

หฏฺโ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, สมฺพุทฺธมุปสงฺกมิ.

‘‘โส ตํ วฏํสกํ สุรภึ, วณฺณวนฺตํ มโนรมํ;

สมฺพุทฺธสฺสุปนาเมสิ, ปสนฺโน เสหิ ปาณิภิ.

‘‘ตโต อคฺคิสิขา วณฺณา, พุทฺธสฺส ลปนนฺตรา;

สหสฺสรํสิ วิชฺชุริว, โอกฺกา นิกฺขมิ อานนา.

‘‘ปทกฺขิณํ กริตฺวาน, สีเส อาทิจฺจพนฺธุโน;

ติกฺขตฺตุํ ปริวฏฺเฏตฺวา, มุทฺธนนฺตรธายถ.

‘‘อิทํ ทิสฺวา อจฺฉริยํ, อพฺภุตํ โลมหํสนํ;

เอกํสํ จีวรํ กตฺวา, อานนฺโท เอตทพฺรวิ.

‘‘‘โก เหตุ สิตกมฺมสฺส, พฺยากโรหิ มหามุเน;

ธมฺมาโลโก ภวิสฺสติ, กงฺขํ วิตร โน มุเน.

‘‘‘ยสฺส ตํ สพฺพธมฺเมสุ, สทา าณํ ปวตฺตติ;

กงฺขึ เวมติกํ เถรํ, อานนฺทํ เอตทพฺรวิ.

‘‘‘โย โส อานนฺท ปุริโส, มยิ จิตฺตํ ปสาทยิ;

จตุราสีติกปฺปานิ, ทุคฺคตึ น คมิสฺสติ.

‘‘‘เทเวสุ เทวโสภคฺคํ, ทิพฺพํ รชฺชํ ปสาสิย;

มนุเชสุ มนุชินฺโท, ราชา รฏฺเ ภวิสฺสติ.

‘‘‘โส จริมํ ปพฺพชิตฺวา, สจฺฉิกตฺวาน [สจฺฉิกตฺวา จ (ก.)] ธมฺมตํ;

ปจฺเจกพุทฺโธ ธุตราโค, วฏํสโก นาม ภวิสฺสติ.

‘‘‘นตฺถิ จิตฺเต [ปสฺส วิ. ว. ๘๐๔] ปสนฺนมฺหิ, อปฺปกา นาม ทกฺขิณา;

ตถาคเต วา สมฺพุทฺเธ, อถ วา ตสฺส สาวเก.

‘‘‘เอวํ อจินฺติยา [ปสฺส อป. เถร ๑.๑.๘๒] พุทฺธา, พุทฺธธมฺมา อจินฺติยา;

อจินฺติเย ปสนฺนานํ, วิปาโก โหติ อจินฺติโย’’’ติ.

อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.

๙๖. ‘‘อิธาหํ, ภิกฺขเว, เอกจฺจํ ปุคฺคลํ ปสนฺนจิตฺตํ เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ ‘‘(ยถา โข อยํ ปุคฺคโล อิริยติ, ยฺจ ปฏิปทํ ปฏิปนฺโน, ยฺจ มคฺคํ สมารูฬฺโห) [( ) นตฺถิ อ. นิ. ๑.๔๓-๔๔; อิติวุ. ๒๑]. อิมมฺหิ จายํ สมเย กาลํ กเรยฺย, ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. ตํ กิสฺส เหตุ? จิตฺตํ หิสฺส, ภิกฺขเว, ปสนฺนํ, เจโตปสาทเหตุ [จิตฺตปฺปสาทเหตุ (สี. ก.)] โข ปน เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ, ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –

‘‘ปสนฺนจิตฺตํ ตฺวาน, เอกจฺจํ อิธ ปุคฺคลํ;

เอตมตฺถฺจ พฺยากาสิ, พุทฺโธ [สตฺถา (สี. ก.) ปสฺส อิติวุ. ๒๑] ภิกฺขูน สนฺติเก.

‘‘อิมมฺหิ จายํ สมเย, กาลํ กยิราถ ปุคฺคโล;

สคฺคมฺหิ อุปปชฺเชยฺย, จิตฺตํ หิสฺส ปสาทิตํ.

‘‘เจโตปสาทเหตุ หิ, สตฺตา คจฺฉนฺติ สุคฺคตึ;

ยถาภตํ นิกฺขิเปยฺย, เอวเมวํ ตถาวิโธ;

กายสฺส เภทา สปฺปฺโ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตี’’ติ.

‘‘อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา อิติ เม สุต’’นฺติ.

อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘สุวณฺณจฺฉทนํ นาวํ, นาริ อารุยฺห ติฏฺสิ;

โอคาหสิ [โอคาหเส (สี. ก.) ปสฺส วิ. ว. ๕๓] โปกฺขรณึ, ปทฺมํ ฉินฺทสิ ปาณินา.

‘‘เกน เต ตาทิโส วณฺโณ, อานุภาโว ชุติ จ เต;

อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนสิจฺฉิตา.

‘‘ปุจฺฉิตา เทวเต สํส, กิสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ;

สา เทวตา อตฺตมนา, เทวราเชน ปุจฺฉิตา.

‘‘ปฺหํ ปุฏฺา วิยากาสิ, สกฺกสฺส อิติ เม สุตํ;

อทฺธานํ ปฏิปนฺนาหํ, ทิสฺวา ถูปํ มโนรมํ.

‘‘ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทสึ, กสฺสปสฺส ยสสฺสิโน;

ปทฺธปุปฺเผหิ ปูเชสึ, ปสนฺนา เสหิ ตสฺเสว;

กมฺมสฺส ผลํ วิปาโก, เอตาทิสํ กตปุฺา ลภนฺตี’’ติ.

อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘ทานกถา สีลกถา สคฺคกถา ปุฺกถา ปุฺวิปากกถา’’ติ;

อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘อปิจาปิ ปํสุถูเปสุ อุทฺทิสฺสกเตสุ ทสพลธรานํ ตตฺถปิ การํ กตฺวา สคฺเคสุ นรา ปโมทนฺตี’’ติ.

อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.

๙๗.

‘‘เทวปุตฺตสรีรวณฺณา, สพฺเพ สุภคสณฺิตี;

อุทเกน ปํสุํ เตเมตฺวา, ถูปํ วฑฺเฒถ กสฺสปํ.

‘‘อยํ สุคตฺเต สุคตสฺส ถูโป, มเหสิโน ทสพลธมฺมธาริโน;

ตสฺมึ [ยสฺมึ (สี.)] อิเม เทวมนุชา ปสนฺนา, การํ กโรนฺตา ชรามรณา ปมุจฺจเร’’ติ.

อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘อุฬารํ วต ตํ อาสิ, ยาหํ ถูปํ มเหสิโน;

อุปฺปลานิ จ จตฺตาริ, มาลฺจ อภิโรปยึ.

‘‘อชฺช ตึสํ ตโต กปฺปา, นาภิชานามิ ทุคฺคตึ;

วินิปาตํ น คจฺฉามิ, ถูปํ ปูเชตฺว [ปูเชตฺวา (ก.)] สตฺถุโน’’ติ.

อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘พาตฺตึสลกฺขณธรสฺส, วิชิตวิชยสฺส โลกนาถสฺส;

สตสหสฺสํ กปฺเป, มุทิโต ถูปํ อปูเชสิ.

‘‘ยํ มยา ปสุตํ ปุฺํ, เตน จ ปุฺเน เทว โสภคฺคํ;

รชฺชานิ จ การิตานิ, อนาคนฺตุน วินิปาตํ.

‘‘ยํ จกฺขุ อทนฺตทมกสฺส, สาสเน ปณิหิตํ ตถา;

จิตฺตํ ตํ เม สพฺพํ, ลทฺธํ วิมุตฺตจิตฺตมฺหิ วิธูตลโต’’ติ.

อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.

๙๘.

‘‘สามากปตฺโถทนมตฺตเมว หิ, ปจฺเจกพุทฺธมฺหิ อทาสิ ทกฺขิณํ;

วิมุตฺตจิตฺเต อขิเล อนาสเว, อรณวิหาริมฺหิ อสงฺคมานเส.

‘‘ตสฺมิฺจ โอกปฺปยิ ธมฺมมุตฺตมํ, ตสฺมิฺจ ธมฺเม ปณิเธสึ มานสํ;

เอวํ วิหารีหิ เม สงฺคโม สิยา, ภเว กุทาสุปิ จ มา อเปกฺขวา.

‘‘ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากโต อหํ, สหสฺสกฺขตฺตุํ กุรุสูปปชฺชถ [กุรูสูปปชฺชถ (สี.)];

ทีฆายุเกสุ อมเมสุ ปาณิสุ, วิเสสคามีสุ อหีนคามิสุ.

‘‘ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากโต อหํ, สหสฺสกฺขตฺตุํ ติทโสปปชฺชถ;

วิจิตฺรมาลาภรณานุเลปิสุ, วิสิฏฺกายูปคโต ยสสฺสิสุ.

‘‘ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากโต อหํ, วิมุตฺตจิตฺโต อขิโล อนาสโว;

อิเมหิ เม อนฺติมเทหธาริภิ, สมาคโม อาสิหิ ตาหิ ตาสิหิ.

‘‘ปจฺจกฺขํ ขฺวิมํ อวจ ตถาคโต ชิโน, สมิชฺฌเต สีลวโต ยทิจฺฉติ;

ยถา ยถา เม มนสา วิจินฺติตํ, ตถา สมิทฺธํ อยมนฺติโม ภโว’’ติ.

อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘เอกตึสมฺหิ กปฺปมฺหิ ชิโน อเนโช, อนนฺตทสฺสี ภควา สิขีติ;

ตสฺสาปิ ราชา ภาตา สิขิทฺเธ [สิขณฺฑิ (สี.)], พุทฺเธ จ ธมฺเม จ อภิปฺปสนฺโน.

‘‘ปรินิพฺพุเต โลกวินายกมฺหิ, ถูปํ สกาสิ วิปุลํ มหนฺตํ;

สมนฺตโต คาวุติกํ มเหสิโน, เทวาติเทวสฺส นรุตฺตมสฺส.

‘‘ตสฺมึ มนุสฺโส พลิมาภิหารี, ปคฺคยฺห ชาติสุมนํ ปหฏฺโ;

วาเตน ปุปฺผํ ปติตสฺส เอกํ, ตาหํ คเหตฺวาน ตสฺเสว ทาสิ.

‘‘โส มํ อโวจาภิปสนฺนจิตฺโต, ตุยฺหเมว เอตํ ปุปฺผํ ททามิ;

ตาหํ คเหตฺวา อภิโรปเยสึ, ปุนปฺปุนํ พุทฺธมนุสฺสรนฺโต.

‘‘อชฺช ตึสํ ตโต กปฺปา, นาภิชานามิ ทุคฺคตึ;

วินิปาตฺจ น คจฺฉามิ, ถูปปูชายิทํ ผล’’นฺติ.

อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘กปิลํ นาม นครํ, สุวิภตฺตํ มหาปถํ;

อากิณฺณมิทฺธํ ผีตฺจ, พฺรหฺมทตฺตสฺส ราชิโน.

‘‘กุมฺมาสํ วิกฺกิณึ ตตฺถ, ปฺจาลานํ ปุรุตฺตเม;

โสหํ อทฺทสึ สมฺพุทฺธํ, อุปริฏฺํ ยสสฺสินํ.

‘‘หฏฺโ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, นิมนฺเตสึ นรุตฺตมํ;

อริฏฺํ ธุวภตฺเตน, ยํ เม เคหมฺหิ วิชฺชถ.

‘‘ตโต จ กตฺติโก ปุณฺโณ [กตฺติกา ปุณฺณา (ก.)], ปุณฺณมาสี อุปฏฺิตา;

นวํ ทุสฺสยุคํ คยฺห, อริฏฺสฺโสปนามยึ.

‘‘ปสนฺนจิตฺตํ ตฺวาน, ปฏิคฺคณฺหิ นรุตฺตโม;

อนุกมฺปโก การุณิโก, ตณฺหานิฆาตโก มุนิ.

‘‘ตาหํ กมฺมํ กริตฺวาน, กลฺยาณํ พุทฺธวณฺณิตํ;

เทเว เจว มนุสฺเส จ, สนฺธาวิตฺวา ตโต จุโต.

‘‘พาราณสิยํ นคเร, เสฏฺิสฺส เอกปุตฺตโก;

อฑฺเฒ กุลสฺมึ อุปฺปชฺชึ, ปาเณหิ จ ปิยตโร.

‘‘ตโต จ วิฺุตํ ปตฺโต, เทวปุตฺเตน โจทิโต;

ปาสาทา โอรูหิตฺวาน, สมฺพุทฺธมุปสงฺกมึ.

‘‘โส เม ธมฺมมเทสยิ, อนุกมฺปาย โคตโม;

ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ.

‘‘อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํ;

จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, มุนิ ธมฺมมเทสยิ.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, วิหรึ สาสเน รโต;

สมถํ ปฏิวิชฺฌาหํ, รตฺตินฺทิวมตนฺทิโต.

‘‘อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ, เย เม วิชฺชึสุ [วิชฺฌึสุ (สี.)] อาสวา;

สพฺเพ อาสุํ สมุจฺฉินฺนา, น จ อุปฺปชฺชเร ปุน.

‘‘ปริยนฺตกตํ ทุกฺขํ, จริโมยํ สมุสฺสโย;

ชาติมรณสํสาโร, นตฺถิทานิ ปุนพฺภโว’’ติ.

อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.

๙๙. ตตฺถ กตมํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ?

‘‘อุทฺธํ อโธ สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโต, อยํ อหสฺมีติ [อยมหมสฺมีติ (สี.) ปสฺส อุทา. ๖๑] อนานุปสฺสี;

เอวํ วิมุตฺโต อุทตาริ โอฆํ, อติณฺณปุพฺพํ อปุนพฺภวายา’’ติ.

อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘สีลวโต, อานนฺท, น เจตนา [เจตนาย (อ. นิ. ๑๑.๒)] กรณียา ‘กินฺติ เม อวิปฺปฏิสาโร ชาเยยฺยา’ติ. ธมฺมตา เอสา, อานนฺท, ยํ สีลวโต อวิปฺปฏิสาโร ชาเยยฺย. อวิปฺปฏิสารินา, อานนฺท, น เจตนา กรณียา ‘กินฺติ เม ปาโมชฺชํ ชาเยยฺยา’ติ. ธมฺมตา เอสา, อานนฺท, ยํ อวิปฺปฏิสาริโน ปาโมชฺชํ ชาเยยฺย. ปมุทิเตน, อานนฺท, น เจตนา กรณียา ‘กินฺติ เม ปีติ ชาเยยฺยา’ติ. ธมฺมตา เอสา, อานนฺท, ยํ ปมุทิตสฺส ปีติ ชาเยยฺย. ปีติมนสฺส, อานนฺท, น เจตนา กรณียา ‘กินฺติ เม กาโย ปสฺสมฺเภยฺยา’ติ. ธมฺมตา เอสา, อานนฺท, ยํ ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺเภยฺย. ปสฺสทฺธกายสฺส อานนฺท, น เจตนา กรณียา ‘กินฺตาหํ สุขํ เวทิเยยฺย’นฺติ. ธมฺมตา เอสา, อานนฺท, ยํ ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิเยยฺย. สุขิโน อานนฺท, น เจตนา กรณียา ‘กินฺติ เม สมาธิ ชาเยยฺยา’ติ. ธมฺมตา เอสา, อานนฺท, ยํ สุขิโน สมาธิ ชาเยยฺย. สมาหิตสฺส อานนฺท, น เจตนา กรณียา ‘กินฺตาหํ ยถาภูตํ ปชาเนยฺย’นฺติ. ธมฺมตา เอสา, อานนฺท, ยํ สมาหิโต ยถาภูตํ ปชาเนยฺย. ยถาภูตํ ปชานตา, อานนฺท, น เจตนา กรณียา ‘กินฺติ เม นิพฺพิทา ชาเยยฺยา’ติ. ธมฺมตา เอสา, อานนฺท, ยํ ยถาภูตํ ปชานนฺโต นิพฺพินฺเทยฺย. นิพฺพินฺทนฺเตน, อานนฺท, น เจตนา กรณียา ‘กินฺติ เม วิราโค ชาเยยฺยา’ติ. ธมฺมตา เอสา, อานนฺท, ยํ นิพฺพินฺทนฺโต วิรชฺเชยฺย. วิรชฺชนฺเตน อานนฺท น เจตนา กรณียา ‘กินฺติ เม วิมุตฺติ ชาเยยฺยา’ติ. ธมฺมตา เอสา, อานนฺท, ยํ วิรชฺชนฺโต วิมุจฺเจยฺย. วิมุตฺเตน, อานนฺท, น เจตนา กรณียา ‘กินฺติ เม วิมุตฺติาณทสฺสนํ อุปฺปชฺเชยฺยา’ติ. ธมฺมตา เอสา, อานนฺท, ยํ วิมุตฺตสฺส วิมุตฺติาณทสฺสนํ อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ.

อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.

๑๐๐.

‘‘ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา, อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส;

อถสฺส กงฺขา วปยนฺติ สพฺพา, ยโต ปชานาติ สเหตุธมฺม’’นฺติ.

อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา, อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส;

อถสฺส กงฺขา วปยนฺติ สพฺพา, ยโต ขยํ ปจฺจยานํ อเวที’’ติ.

อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘กึนุ [ปสฺส สํ. นิ. ๒.๒๔๓] กุชฺฌสิ มา กุชฺฌิ, อกฺโกโธ ติสฺส เต วรํ;

โกธมานมกฺขวินยตฺถํ หิ, ติสฺส พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ.

อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘กทาหํ นนฺทํ ปสฺเสยฺยํ, อารฺํ [อรฺํ (ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๒.๒๔๒] ปํสุกูลิกํ;

อฺาตุฺเฉน ยาเปนฺตํ, กาเมสุ อนเปกฺขิน’’นฺติ.

อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘กึสุ เฉตฺวา สุขํ เสติ, กึสุ เฉตฺวา น โสจติ;

กิสฺสสฺสุ [กิสฺสสฺส (สี. ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๑.๑๘๗] เอกธมฺมสฺส, วธํ โรเจสิ โคตมาติ.

‘‘โกธํ เฉตฺวา สุขํ เสติ, โกธํ เฉตฺวา น โสจติ;

โกธสฺส วิสมูลสฺส, มธุรคฺคสฺส พฺราหฺมณ;

วธํ อริยา ปสํสนฺติ, ตํ หิ เฉตฺวา น โสจตี’’ติ.

อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘กึสุ หเน อุปฺปติตํ, กึสุ ชาตํ วิโนทเย;

กิฺจสฺสุ ปชเห ธีโร, กิสฺสาภิสมโย สุโข.

‘‘โกธํ หเน อุปฺปติตํ, ราคํ ชาตํ วิโนทเย;

อวิชฺชํ ปชเห ธีโร, สจฺจาภิสมโย สุโข’’ติ.

อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.

๑๐๑.

‘‘สตฺติยา วิย โอมฏฺโ, ฑยฺหมาโนว [ทยฺหมาเนว (ก.) สํ. นิ. ๑.๒๑; เถรคา. ๓๙ ปสฺสิตพฺพํ] มตฺถเก;

กามราคปฺปหานาย, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช.

‘‘สตฺติยา วิย โอมฏฺโ, ฑยฺหมาโนว มตฺถเก;

สกฺกายทิฏฺิปฺปหานาย, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ.

อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘สพฺเพ ขยนฺตา นิจยา, ปตนนฺตา สมุสฺสยา;

สพฺเพสํ มรณมาคมฺม, สพฺเพสํ ชีวิตมทฺธุวํ;

เอตํ ภยํ มรเณ [มรณํ (ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๑.๑๐๐] เปกฺขมาโน, ปุฺานิ กยิราถ สุขาวหานิ.

‘‘สพฺเพ ขยนฺตา นิจยา, ปตนนฺตา สมุสฺสยา;

สพฺเพสํ มรณมาคมฺม, สพฺเพสํ ชีวิตมทฺธุวํ;

เอตํ ภยํ มรเณ เปกฺขมาโน, โลกามิสํ ปชเห สนฺติเปกฺโข’’ติ.

อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘สุขํ สยนฺติ มุนโย, น เต โสจนฺติ มาวิธ;

เยสํ ฌานรตํ จิตฺตํ, ปฺวา สุสมาหิโต;

อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต, โอฆํ ตรติ ทุตฺตรํ.

‘‘วิรโต กามสฺาย, สพฺพสํโยชนาตีโต [สพฺพสํโยชนาติโค (สี.) ปสฺส สํ. นิ. ๑.๙๖];

นนฺทิภวปริกฺขีโณ [นนฺทีราคปริกฺขีโณ (ก.) สํ. นิ. ๑.๙๖], โส คมฺภีเร น สีทตี’’ติ.

อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘สทฺทหาโน อรหตํ, ธมฺมํ นิพฺพานปตฺติยา;

สุสฺสูสํ ลภเต ปฺํ, อปฺปมตฺโต วิจกฺขโณ.

ปติรูปการี ธุรวา, อุฏฺาตา วินฺทเต ธนํ;

สจฺเจน กิตฺตึ ปปฺโปติ, ททํ มิตฺตานิ คนฺถติ;

อสฺมา โลกา ปรํ โลกํ, เอวํ [สเว (สี.) ปสฺส สํ. นิ. ๑.๒๔๖] เปจฺจ น โสจตี’’ติ.

อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘สพฺพคนฺถปหีนสฺส, วิปฺปมุตฺตสฺส เต สโต;

สมณสฺส น ตํ สาธุ, ยทฺมนุสาสสีติ.

‘‘เยน เกนจิ วณฺเณน, สํวาโส สกฺก ชายติ;

น ตํ อรหติ สปฺปฺโ, มนสา อนุกมฺปิตุํ [อนนุกมฺปิตํ (สี. ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๑.๒๓๖].

‘‘มนสา เจ ปสนฺเนน, ยทฺมนุสาสติ;

น เตน โหติ สํยุตฺโต, ยานุกมฺปา อนุทฺทยา’’ติ.

อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.

๑๐๒.

‘‘ราโค จ โทโส จ กุโตนิทานา, อรตี รตี [อรติ รติ (ก.) สํ. นิ. ๑.๒๓๗; สุ. นิ. ๒๗๓ ปสฺสิตพฺพํ] โลมหํโส กุโตชา;

กุโต สมุฏฺาย มโนวิตกฺกา, กุมารกา ธงฺกมิโวสฺสชนฺติ.

‘‘ราโค จ โทโส จ อิโตนิทานา, อรตี รตี โลมหํโส อิโตชา;

อิโต สมุฏฺาย มโนวิตกฺกา, กุมารกา ธงฺกมิโวสฺสชนฺติ.

‘‘สฺเนหชา อตฺตสมฺภูตา, นิคฺโรธสฺเสว ขนฺธชา;

ปุถุ วิสตฺตา กาเมสุ, มาลุวาว วิตตา วเน.

‘‘เย นํ ปชานนฺติ ยโตนิทานํ, เต นํ วิโนเทนฺติ สุโณหิ ยกฺข;

เต ทุตฺตรํ โอฆมิมํ ตรนฺติ, อติณฺณปุพฺพํ อปุนพฺภวายา’’ติ.

อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘ทุกฺกรํ ภควา สุทุกฺกรํ ภควา’’ติ;

‘‘ทุกฺกรํ วาปิ กโรนฺติ, [กามทาติ ภควา]

เสกฺขา สีลสมาหิตา;

ิตตฺตา อนคาริยุเปตสฺส, ตุฏฺิ โหติ สุขาวหา’’ติ.

‘‘ทุลฺลภา [ทุลฺลภํ (สี. ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๑.๘๗] ภควา ยทิทํ ตุฏฺี’’ติ;

‘‘ทุลฺลภํ วาปิ ลภนฺติ, [กามทาติ ภควา]

จิตฺตวูปสเม รตา;

เยสํ ทิวา จ รตฺโต จ, ภาวนาย รโต มโน’’ติ.

‘‘ทุสฺสมาทหํ ภควา ยทิทํ จิตฺต’’นฺติ;

‘‘ทุสฺสมาทหํ วาปิ สมาทหนฺติ, [กามทาติ ภควา]

อินฺทฺริยูปสเม รตา;

เต เฉตฺวา มจฺจุโน ชาลํ, อริยา คจฺฉนฺติ กามทา’’ติ.

‘‘ทุคฺคโม ภควา วิสโม มคฺโค’’ติ;

‘‘ทุคฺคเม วิสเม วาปิ, อริยา คจฺฉนฺติ กามท [กามทา (ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๑.๘๗];

อนริยา วิสเม มคฺเค, ปปตนฺติ อวํสิรา;

อริยานํ สโม มคฺโค, อริยา หิ วิสเม สมา’’ติ.

อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.

๑๐๓.

‘‘อิทํ หิ [ปสฺส สํ. นิ. ๑.๑๐๑] ตํ เชตวนํ, อิสิสงฺฆนิเสวิตํ;

อาวุตฺถํ ธมฺมราเชน, ปีติสฺชนนํ มม.

‘‘กมฺมํ วิชฺชา จ ธมฺโม จ, สีลํ ชีวิตมุตฺตมํ;

เอเตน มจฺจา สุชฺฌนฺติ, น โคตฺเตน ธเนน วา.

‘‘ตสฺมา หิ ปณฺฑิโต โปโส, สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน;

โยนิโส วิจิเน ธมฺมํ, เอวํ ตตฺถ วิสุชฺฌติ.

‘‘สาริปุตฺโตว ปฺาย, สีเลน อุปสเมน จ;

โยปิ ปารงฺคโต ภิกฺขุ, เอตาวปรโม สิยา’’ติ.

อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘อตีตํ นานฺวาคเมยฺย, นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ;

ยทตีตํ ปหีนํ [ปหีณํ (สี.) ปสฺส ม. นิ. ๓.๒๗๒] ตํ, อปฺปตฺตฺจ อนาคตํ.

‘‘ปจฺจุปฺปนฺนฺจ โย ธมฺมํ, ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ;

อสํหีรํ อสํกุปฺปํ, ตํ วิทฺวา มนุพฺรูหเย.

‘‘อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ [กิจฺจํ อาตปฺปํ (สี.)], โก ชฺา มรณํ สุเว;

น หิ โน สงฺครํ เตน, มหาเสเนน มจฺจุนา.

‘‘เอวํ วิหารึ อาตาปึ, อโหรตฺตมตนฺทิตํ;

ตํ เว ‘‘ภทฺเทกรตฺโต’’ติ, สนฺโต อาจิกฺขเต มุนี’’ติ.

อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, สจฺฉิกาตพฺพานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อตฺถิ, ภิกฺขเว, ธมฺมา จกฺขุนา ปฺาย จ สจฺฉิกาตพฺพา, อตฺถิ ธมฺมา สติยา ปฺาย จ สจฺฉิกาตพฺพา, อตฺถิ ธมฺมา กาเยน ปฺาย จ สจฺฉิกาตพฺพา, อตฺถิ ธมฺมา ปฺาย เวทิตพฺพา, ปฺาย จ สจฺฉิกาตพฺพา.

‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา จกฺขุนา ปฺาย จ สจฺฉิกาตพฺพา? ทิพฺพจกฺขุ สุวิสุทฺธํ อติกฺกนฺตมานุสกํ จกฺขุนา ปฺาย จ สจฺฉิกาตพฺพํ.

‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา สติยา ปฺาย จ สจฺฉิกาตพฺพา? ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติ สติยา ปฺาย จ สจฺฉิกาตพฺพา.

‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา กาเยน ปฺาย จ สจฺฉิกาตพฺพา? อิทฺธิวิธา นิโรธา กาเยน ปฺาย จ สจฺฉิกาตพฺพา.

‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา ปฺาย เวทิตพฺพา, ปฺาย สจฺฉิกาตพฺพา? อาสวานํ ขเย าณํ ปฺาย เวทิตพฺพํ, ปฺาย จ สจฺฉิกาตพฺพ’’นฺติ.

อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.

๑๐๔. ตตฺถ กตมํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ?

‘‘ยสฺส เสลูปมํ จิตฺตํ, ิตํ นานุปกมฺปติ;

วิรตฺตํ รชนีเยสุ, โกปเนยฺเย น กุปฺปติ;

ยสฺเสวํ ภาวิตํ จิตฺตํ, กุโต นํ [ตํ (อุทา. ๓๔)] ทุกฺขเมสฺสตี’’ติ.

อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.

อายสฺมโต จ สาริปุตฺตสฺส จาริกาทสมํ เวยฺยากรณํ กาตพฺพนฺติ.

อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘โย พฺราหฺมโณ พาหิตปาปธมฺโม, นิหุํหุงฺโก [นิหุหุงฺโก (สี.) ปสฺส อุทา. ๔] นิกฺกสาโว ยตตฺโต;

เวทนฺตคู วูสิตพฺรหฺมจริโย, ธมฺเมน โส พฺรหฺมวาทํ วเทยฺย;

ยสฺสุสฺสทา นตฺถิ กุหิฺจิ โลเก’’ติ.

อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘พาหิตฺวา ปาปเก ธมฺเม, เย จรนฺติ สทา สตา;

ขีณสํโยชนา พุทฺธา, เต เว โลกสฺมิ [โลกสฺมึ (สี. ก.) ปสฺส อุทา. ๕] พฺราหฺมณา’’ติ.

อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘ยตฺถ อาโป จ ปถวี, เตโช วาโย น คาธติ;

น ตตฺถ สุกฺกา โชตนฺติ, อาทิจฺโจ นปฺปกาสติ;

น ตตฺถ จนฺทิมา ภาติ, ตโม ตตฺถ น วิชฺชติ.

‘‘ยทา จ อตฺตนาเวทิ [เวที (สี.) ปสฺส อุทา. ๑๐], มุนิ โมเนน พฺราหฺมโณ;

อถ รูปา อรูปา จ, สุขทุกฺขา ปมุจฺจตี’’ติ.

อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘ยทา สเกสุ [ปสฺส อุทา. ๗] ธมฺเมสุ, ปารคู โหติ พฺราหฺมโณ;

อถ เอตํ ปิสาจฺจ, ปกฺกุลฺจาติวตฺตตี’’ติ.

อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘นาภินนฺทติ อายนฺตึ [อายนฺตึ นาภินนฺทติ (อุทา. ๘)], ปกฺกมนฺตึ น โสจติ;

สงฺคา สงฺคามชึ มุตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณ’’นฺติ.

อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘น อุทเกน สุจี [สุจิ (สี. ก.) ปสฺส อุทา. ๙] โหติ, พหฺเวตฺถ นฺหายตี [นหายติ (สี.)] ชโน;

ยมฺหิ สจฺจฺจ ธมฺโม จ, โส สุจี โส จ พฺราหฺมโณ’’ติ.

อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา, อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส;

วิธูปยํ ติฏฺติ มารเสนํ, สูริโยว โอภาสยมนฺตลิกฺข’’นฺติ.

อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘สนฺตินฺทฺริยํ ปสฺสถ อิริยมานํ, เตวิชฺชปตฺตํ อปหานธมฺมํ;

สพฺพานิ โยคานิ อุปาติวตฺโต, อกิฺจโน อิริยติ ปํสุกูลิโก.

‘‘ตํ เทวตา สมฺพหุลา อุฬารา, พฺรหฺมวิมานํ อุปสงฺกมิตฺวา;

อาชานิยํ ชาติพลํ นิเสธํ, นิธ นมสฺสนฺติ ปสนฺนจิตฺตา.

‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;

ยสฺส เต นาภิชานาม, กึ ตฺวํ นิสฺสาย ฌายสี’’ติ.

อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘สหายา วติเม ภิกฺขู, จิรรตฺตํ สเมติกา;

สเมติ เนสํ สทฺธมฺโม, ธมฺเม พุทฺธปฺปเวทิเต’’.

‘‘สุวินีตา กปฺปิเนน, ธมฺเม อริยปฺปเวทิเต;

ธาเรนฺติ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหินิ’’นฺติ [สวาหน’’นฺติ (ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๒.๒๔๖].

อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘นยิทํ สิถิลมารพฺภ, นยิทํ อปฺเปน ถามสา;

นิพฺพานํ อธิคนฺตพฺพํ, สพฺพทุกฺขปฺปโมจนํ [สพฺพคนฺตปโมจนํ (ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๒.๒๓๘].

‘‘อยฺจ ทหโร ภิกฺขุ, อยมุตฺตมปุริโส;

ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหินิ’’นฺติ.

อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.

‘‘ทุพฺพณฺณโก ลูขจีวโร, โมฆราชา สทา สโต;

ขีณาสโว วิสํยุตฺโต, กตกิจฺโจ อนาสโว.

‘‘เตวิชฺโช อิทฺธิปฺปตฺโต จ, เจโตปริยโกวิโท [เจโตปริยายโกวิโท (สี.)];

ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหินิ’’นฺติ.

อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.

๑๐๕. ‘‘ตถาคโต, ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ รูปสฺส นิพฺพิทา วิราคา นิโรธา อนุปาทา วิมุตฺโต สมฺมาสมฺพุทฺโธติ วุจฺจติ. ภิกฺขุปิ, ภิกฺขเว, ปฺาวิมุตฺโต รูปสฺส นิพฺพิทา วิราคา นิโรธา อนุปาทา วิมุตฺโต ปฺาวิมุตฺโตติ วุจฺจติ.

‘‘ตถาคโต, ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เวทนาย…เป… สฺาย…เป… สงฺขารานํ…เป… วิฺาณสฺส นิพฺพิทา วิราคา นิโรธา อนุปาทา วิมุตฺโต สมฺมาสมฺพุทฺโธติ วุจฺจติ. ภิกฺขุปิ, ภิกฺขเว, ปฺาวิมุตฺโต วิฺาณสฺส นิพฺพิทา วิราคา นิโรธา อนุปาทา วิมุตฺโต ปฺาวิมุตฺโตติ วุจฺจติ.

‘‘ตตฺร โข, ภิกฺขเว, โก วิเสโส โก อธิปฺปยาโส [อธิปฺปาโย (ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๓.๕๘] กึ นานากรณํ ตถาคตสฺส อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปฺาวิมุตฺเตน ภิกฺขุนาติ? ภควํมูลกา โน, ภนฺเต, ธมฺมา…เป…

‘‘ตถาคโต, ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา, อสฺชาตสฺส มคฺคสฺส สฺชเนตา, อนกฺขาตสฺส มคฺคสฺส อกฺขาตา, มคฺคฺู มคฺควิทู มคฺคโกวิโท, มคฺคานุคา จ, ภิกฺขเว, เอตรหิ สาวกา วิหรนฺติ ปจฺฉาสมนฺนาคตา. อยํ โข, ภิกฺขเว, วิเสโส, อยํ อธิปฺปยาโส, อิทํ นานากรณํ ตถาคตสฺส อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปฺาวิมุตฺเตน ภิกฺขุนา’’ติ.

อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.

๑๐๖. ตตฺถ กตมํ สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ สุตฺตํ?

‘‘ฉนฺนมติวสฺสติ [ปสฺส อุทา. ๔๕], วิวฏํ นาติวสฺสติ;

ตสฺมา ฉนฺนํ วิวเรถ, เอวํ ตํ นาติวสฺสตี’’ติ.

‘‘ฉนฺนมติวสฺสตี’’ติ สํกิเลโส, ‘‘วิวฏํ นาติวสฺสตี’’ติ วาสนา, ‘‘ตสฺมา ฉนฺนํ วิวเรถ, เอวํ ตํ นาติวสฺสตี’’ติ อยํ สํกิเลโส จ วาสนา จ. อิทํ สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ สุตฺตํ.

‘‘จตฺตาโรเม, มหาราช [ภิกฺขเว (อ. นิ. ๔.๘๕)], ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร? ตโม ตมปรายโณ ตโม โชติปรายโณ โชติ ตมปรายโณ โชติ โชติปรายโณ’’ติ. ตตฺถ โย จ ปุคฺคโล โชติ ตมปรายโณ โย จ ปุคฺคโล ตโม ตมปรายโณ, อิเม ทฺเว ปุคฺคลา สํกิเลสภาคิยา, โย จ ปุคฺคโล ตโม โชติปรายโณ โย จ ปุคฺคโล โชติ โชติปรายโณ, อิเม ทฺเว ปุคฺคลา วาสนาภาคิยา. อิทํ สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ สุตฺตํ.

ตตฺถ กตมํ สํกิเลสภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺตํ?

‘‘น ตํ ทฬฺหํ พนฺธนมาหุ ธีรา, ยทายสํ ทารุชปพฺพชฺจ [ทารุชํ ปพฺพชฺจ (สํ. นิ. ๑.๑๒๑)];

สารตฺตรตฺตา มณิกุณฺฑเลสุ, ปุตฺเตสุ ทาเรสุ จ ยา อเปกฺขา’’ติ;

อยํ สํกิเลโส.

‘‘เอตํ ทฬฺหํ พนฺธนมาหุ ธีรา, โอหารินํ สิถิลํ ทุปฺปมุฺจํ;

เอตมฺปิ เฉตฺวาน ปริพฺพชนฺติ, อนเปกฺขิโน กามสุขํ ปหายา’’ติ.

อยํ นิพฺเพโธ. อิทํ สํกิเลสภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺตํ.

๑๐๗. ‘‘ยฺจ, ภิกฺขเว, เจเตติ, ยฺจ ปกปฺเปติ, ยฺจ อนุเสติ. อารมฺมณเมตํ โหติ วิฺาณสฺส ิติยา, อารมฺมเณ สติ ปติฏฺา วิฺาณสฺส โหติ, ตสฺมึ ปติฏฺิเต วิฺาเณ วิรูฬฺเห อายตึ [อายติ (สี. ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๒.๓๘] ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ โหติ, อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติยา สติ อายตึ [อายติ (สี. ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๒.๓๘] ชาติชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ, เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติ.

‘‘โน เจ, ภิกฺขเว, เจเตติ, โน เจ ปกปฺเปติ, อถ เจ อนุเสติ. อารมฺมณเมตํ โหติ วิฺาณสฺส ิติยา, อารมฺมเณ สติ ปติฏฺา วิฺาณสฺส [ตสฺส วิฺาณสฺส (สี. ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๒.๓๘] โหติ, ตสฺมึ ปติฏฺิเต วิฺาเณ วิรูฬฺเห อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ โหติ, อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติยา สติ อายตึ ชาติชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ, เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี’’ติ. อยํ สํกิเลโส.

‘‘ยโต จ โข, ภิกฺขเว, โน เจว [จ (สี. ก.)] เจเตติ, โน จ ปกปฺเปติ, โน จ อนุเสติ. อารมฺมณเมตํ น โหติ วิฺาณสฺส ิติยา, อารมฺมเณ อสติ ปติฏฺา วิฺาณสฺส น โหติ, ตสฺมึ อปฺปติฏฺิเต วิฺาเณ อวิรูฬฺเห อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ น โหติ, อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติยา อสติ อายตึ ชาติชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา นิรุชฺฌนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหตี’’ติ, อยํ นิพฺเพโธ. อิทํ สํกิเลสภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺตํ.

๑๐๘. ตตฺถ กตมํ สํกิเลสภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ สุตฺตํ?

‘‘‘สมุทฺโท สมุทฺโท’ติ โข, ภิกฺขเว, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน ภาสติ, เนโส, ภิกฺขเว, อริยสฺส วินเย สมุทฺโท, มหา เอโส ภิกฺขเว, อุทกราสิ มหาอุทกณฺณโว. จกฺขุ, ภิกฺขเว, ปุริสสฺส สมุทฺโท, ตสฺส รูปมโย เวโค. อยํ สํกิเลโส.

‘‘โย ตํ รูปมยํ เวคํ สหติ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อตริ [อตาริ (สี. ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๔.๒๒๘] จกฺขุสมุทฺทํ สอูมึ สาวฏฺฏํ สคหํ [สคาหํ (สํ. นิ. ๔.๒๒๘)] สรกฺขสํ ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ’’ติ. อยํ อเสกฺโข.

‘‘‘โสตํ, ภิกฺขเว…เป… ฆานํ…เป… ชิวฺหา…เป… กาโย…เป… มโน, ภิกฺขเว, ปุริสสฺส สมุทฺโท ตสฺส ธมฺมมโย เวโคติ. อยํ สํกิเลโส.

‘‘โย ตํ ธมฺมมยํ เวคํ สหติ, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อตริ มโนสมุทฺทํ สอูมึ สาวฏฺฏํ สคหํ สรกฺขสํ ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ’’ติ. อยํ อเสกฺโข. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต, อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

‘‘โย อิมํ สมุทฺทํ สคหํ สรกฺขสํ,

สอูมึ สาวฏฺฏํ สภยํ ทุตฺตรํ อจฺจตริ;

ส เวทนฺตคู วุสิตพฺรหฺมจริโย, โลกนฺตคู ปารคโตติ วุจฺจตี’’ติ.

อยํ อเสกฺโข. อิทํ สํกิเลสภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ สุตฺตํ.

‘‘ฉยิเม, ภิกฺขเว, พฬิสา โลกสฺมึ อนยาย สตฺตานํ พฺยาพาธาย [วธาย (สํ. นิ. ๔.๒๓๐)] ปาณีนํ. กตเม ฉ? สนฺติ, ภิกฺขเว, จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, ตฺเจ ภิกฺขุ อภินนฺทติ อภิวทติ อชฺโฌสาย ติฏฺติ, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คิลิตพฬิโส [คิลพฬิโส (สี. ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๔.๒๓๐] มารสฺส อนยํ อาปนฺโน, พฺยสนํ อาปนฺโน, ยถากามํ กรณีโย ปาปิมโต.

‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, โสตวิฺเยฺยา สทฺทา…เป… ฆานวิฺเยฺยา คนฺธา…เป… ชิวฺหาวิฺเยฺยา รสา…เป… กายวิฺเยฺยา โผฏฺพฺพา…เป… มโนวิฺเยฺยา ธมฺมา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, ตฺเจ ภิกฺขุ อภินนฺทติ อภิวทติ อชฺโฌสาย ติฏฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คิลิตพฬิโส มารสฺส อนยํ อาปนฺโน, พฺยสนํ อาปนฺโน, ยถากามํ กรณีโย [ยถากามกรณีโย (สี.) สํ. นิ. ๔.๒๓๐] ปาปิมโต’’ติ. อยํ สํกิเลโส.

‘‘สนฺติ จ, ภิกฺขเว, จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, ตฺเจ ภิกฺขุ นาภินนฺทติ นาภิวทติ นาชฺโฌสาย ติฏฺติ, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น คิลิตพฬิโส มารสฺส, อเภทิ พฬิสํ, ปริเภทิ พฬิสํ, น อนยํ อาปนฺโน, น พฺยสนํ อาปนฺโน, น ยถากามํ กรณีโย ปาปิมโต.

‘‘สนฺติ จ, ภิกฺขเว, โสตวิฺเยฺยา สทฺทา…เป… มโนวิฺเยฺยา ธมฺมา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, ตฺเจ ภิกฺขุ นาภินนฺทติ นาภิวทติ, นาชฺโฌสาย ติฏฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น คิลิตพฬิโส มารสฺส, อเภทิ พฬิสํ, ปริเภทิ พฬิสํ, น อนยํ อาปนฺโน, น พฺยสนํ อาปนฺโน, น ยถากามํ กรณีโย ปาปิมโต’’ติ. อยํ อเสกฺโข. อิทํ สํกิเลสภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ สุตฺตํ.

๑๐๙. ตตฺถ กตมํ สํกิเลสภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ สุตฺตํ?

‘‘อยํ โลโก สนฺตาปชาโต, ผสฺสปเรโต โรคํ วทติ อตฺตโต [อตฺตโน (สี. ก.) ปสฺส อุทา. ๓๐];

เยน เยน หิ มฺติ [มฺนฺติ (สี. ก.)], ตโต ตํ โหติ อฺถา.

‘‘อฺถาภาวี ภวสตฺโต โลโก, ภวปเรโต ภวเมวาภินนฺทติ;

ยทภินนฺทติ ตํ ภยํ;

ยสฺส ภายติ ตํ ทุกฺข’’นฺติ; อยํ สํกิเลโส.

‘‘ภววิปฺปหานาย โข ปนิทํ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ; อยํ นิพฺเพโธ;

‘‘เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ภเวน ภวสฺส วิปฺปโมกฺขมาหํสุ, สพฺเพ เต ‘อวิปฺปมุตฺตา ภวสฺมา’ติ วทามิ. เย วา ปน เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา วิภเวน ภวสฺส นิสฺสรณมาหํสุ, สพฺเพ เต ‘อนิสฺสฏา ภวสฺมา’ติ วทามิ. อุปธึ [อุปธิ (สี. ก.) ปสฺส อุทา. ๓๐] หิ ปฏิจฺจ ทุกฺขมิทํ สมฺโภตี’’ติ. อยํ สํกิเลโส.

‘‘สพฺพุปาทานกฺขยา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโว’’ติ. อยํ นิพฺเพโธ.

‘‘โลกมิมํ ปสฺส, ปุถู อวิชฺชาย ปเรตา ภูตา ภูตรตา, ภวา อปริมุตฺตา, เย หิ เกจิ ภวา สพฺพธิ สพฺพตฺถตาย, สพฺเพ เต ภวา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา’’ติ. อยํ สํกิเลโส.

‘‘เอวเมตํ ยถาภูตํ, สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต;

ภวตณฺหา ปหียติ, วิภวํ นาภินนฺทติ;

สพฺพโส ตณฺหานํ ขยา, อเสสวิราคนิโรโธ นิพฺพาน’’นฺติ;

อยํ นิพฺเพโธ.

‘‘ตสฺส นิพฺพุตสฺส ภิกฺขุโน, อนุปาทา ปุนพฺภโว น โหติ;

อภิภูโต มาโร วิชิตสงฺคาโม, อุปจฺจคา สพฺพภวานิ ตาที’’ติ.

อยํ อเสกฺโข. อิทํ สํกิเลสภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ สุตฺตํ.

‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว [ปสฺส อ. นิ. ๔.๕], ปุคฺคลา. กตเม จตฺตาโร? อนุโสตคามี ปฏิโสตคามี ิตตฺโต ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ’’ติ. ตตฺถ โยยํ ปุคฺคโล อนุโสตคามี, อยํ ปุคฺคโล สํกิเลสภาคิโย. ตตฺถ โยยํ ปุคฺคโล ปฏิโสตคามี โย จ ิตตฺโต, อิเม ทฺเว ปุคฺคลา นิพฺเพธภาคิยา. ตตฺถ โยยํ ปุคฺคโล ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ, อยํ อเสกฺโข. อิทํ สํกิเลสภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ สุตฺตํ.

๑๑๐. ตตฺถ กตมํ สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺตํ?

ฉฬาภิชาติโก อตฺถิ ปุคฺคโล กณฺโห กณฺหาภิชาติโก กณฺหํ ธมฺมํ อภิชายติ, อตฺถิ ปุคฺคโล กณฺโห กณฺหาภิชาติโก สุกฺกํ ธมฺมํ อภิชายติ, อตฺถิ ปุคฺคโล กณฺโห กณฺหาภิชาติโก อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ อจฺจนฺตทิฏฺํ [อนฺตํ นิฏฺํ (สี.)] นิพฺพานํ อาราเธติ, อตฺถิ ปุคฺคโล สุกฺโก สุกฺกาภิชาติโก กณฺหํ ธมฺมํ อภิชายติ, อตฺถิ ปุคฺคโล สุกฺโก สุกฺกาภิชาติโก สุกฺกํ ธมฺมํ อภิชายติ, อตฺถิ ปุคฺคโล สุกฺโก สุกฺกาภิชาติโก อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ อจฺจนฺตทิฏฺํ นิพฺพานํ อาราเธติ.

ตตฺถ โย จ ปุคฺคโล กณฺโห กณฺหาภิชาติโก กณฺหํ ธมฺมํ อภิชายติ, โย จ ปุคฺคโล สุกฺโก สุกฺกาภิชาติโก กณฺหํ ธมฺมํ อภิชายติ, อิเม ทฺเว ปุคฺคลา สํกิเลสภาคิยา.

ตตฺถ โย จ ปุคฺคโล กณฺโห กณฺหาภิชาติโก สุกฺกํ ธมฺมํ อภิชายติ, โย จ ปุคฺคโล สุกฺโก สุกฺกาภิชาติโก สุกฺกํ ธมฺมํ อภิชายติ, อิเม ทฺเว ปุคฺคลา วาสนาภาคิยา.

ตตฺถ โย จ ปุคฺคโล กณฺโห กณฺหาภิชาติโก อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ อจฺจนฺตทิฏฺํ นิพฺพานํ อาราเธติ, โย จ ปุคฺคโล สุกฺโก สุกฺกาภิชาติโก อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ อจฺจนฺตทิฏฺํ นิพฺพานํ อาราเธติ, อิเม ทฺเว ปุคฺคลา นิพฺเพธภาคิยา, อิทํ สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺตํ.

‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว [ปสฺส อ. นิ. ๔.๒๓๒-๒๓๓], กมฺมานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อตฺถิ กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ, อตฺถิ กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ, อตฺถิ กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ, อตฺถิ กมฺมํ อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมุตฺตมํ กมฺมเสฏฺํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ’’.

ตตฺถ ยฺจ กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ, ยฺจ กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ, อยํ สํกิเลโส. ยฺจ กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ, อยํ วาสนา. ยฺจ กมฺมํ อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมุตฺตมํ กมฺมเสฏฺํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ, อยํ นิพฺเพโธ. อิทํ สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺตํ.

๑๑๑. ตตฺถ กตมํ วาสนาภาคิยฺจ, นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺตํ?

‘‘ลทฺธาน มานุสตฺตํ ทฺเว, กิจฺจํ อกิจฺจเมว จ;

สุกิจฺจํ เจว ปุฺานิ, สํโยชนวิปฺปหานํ วา’’ติ.

‘‘สุกิจฺจํ เจว ปุฺานี’’ติ วาสนา. ‘‘สํโยชนวิปฺปหานํ วา’’ติ นิพฺเพโธ.

‘‘ปุฺานิ กริตฺวาน, สคฺคา สคฺคํ วชนฺติ กตปุฺา;

สํโยชนปฺปหานา, ชรามรณา วิปฺปมุจฺจนฺตี’’ติ.

‘‘ปุฺานิ กริตฺวาน, สคฺคา สคฺคํ วชนฺติ กตปุฺา’’ติ วาสนา. ‘‘สํโยชนปฺปหานา ชรามรณา วิปฺปมุจฺจนฺตี’’ติ นิพฺเพโธ. อิทํ วาสนาภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺตํ.

‘‘ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, ปธานานิ [ปสฺส อ. นิ. ๒.๒]. กตมานิ ทฺเว? โย จ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิเตสุ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปริจฺจชติ, โย จ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิเตสุ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหกฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’’นฺติ. ตตฺถ โย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิเตสุ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปริจฺจชติ, อยํ วาสนา.

โย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิเตสุ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหกฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานํ, อยํ นิพฺเพโธ. อิทํ วาสนาภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺตํ.

ตตฺถ ตณฺหาสํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ ตณฺหาปกฺเขเนว นิทฺทิสิตพฺพํ ตีหิ ตณฺหาหิ – กามตณฺหาย ภวตณฺหาย วิภวตณฺหาย. เยน เยน วา ปน วตฺถุนา อชฺโฌสิตา, เตน เตเนว นิทฺทิสิตพฺพํ, ตสฺสา วิตฺถาโร ฉตฺตึสตณฺหาชาลินิยาวิจริตานิ.

ตตฺถ ทิฏฺิสํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ ทิฏฺิปกฺเขเนว นิทฺทิสิตพฺพํ อุจฺเฉทสสฺสเตน, เยน เยน วา ปน วตฺถุนา ทิฏฺิวเสน อภินิวิสติ ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ, เตน เตเนว นิทฺทิสิตพฺพํ, ตสฺสา วิตฺถาโร ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตานิ.

ตตฺถ ทุจฺจริตสํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ เจตนาย เจตสิกกมฺเมน นิทฺทิสิตพฺพํ ตีหิ ทุจฺจริเตหิ – กายทุจฺจริเตน วจีทุจฺจริเตน มโนทุจฺจริเตน, ตสฺส วิตฺถาโร ทสอกุสลกมฺมปถา.

ตตฺถ ตณฺหาโวทานภาคิยํ สุตฺตํ สมเถน นิทฺทิสิตพฺพํ, ทิฏฺิโวทานภาคิยํ สุตฺตํ วิปสฺสนา นิทฺทิสิตพฺพํ, ทุจฺจริตโวทานภาคิยํ สุตฺตํ สุจริเตน นิทฺทิสิตพฺพํ. ตีณิ อกุสลมูลานิ. ตํ กิสฺส เหตุ? สํสารสฺส นิพฺพตฺติยา. ตถา นิพฺพตฺเต สํสาเร กายทุจฺจริตํ กายสุจริตํ วจีทุจฺจริตํ วจีสุจริตํ มโนทุจฺจริตํ มโนสุจริตํ อิมินา อสุเภน กมฺมวิปาเกน อิทํ พาลลกฺขณํ นิพฺพตฺตตีติ. อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

อิมินา สุเภน กมฺมวิปาเกน อิทํ มหาปุริสลกฺขณํ นิพฺพตฺตตีติ. อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.

ตตฺถ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ จตูหิ กิเลสภูมีหิ นิทฺทิสิตพฺพํ – อนุสยภูมิยา ปริยุฏฺานภูมิยา สํโยชนภูมิยา อุปาทานภูมิยา. สานุสยสฺส ปริยุฏฺานํ ชายติ, ปริยุฏฺิโต สํยุชฺชติ, สํยุชฺชนฺโต อุปาทิยติ, อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ, เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติ. อิมาหิ จตูหิ กิเลสภูมีหิ สพฺเพ กิเลสา สงฺคหํ สโมสรณํ คจฺฉนฺติ, อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.

วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ ตีหิ สุจริเตหิ นิทฺทิสิตพฺพํ, นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ จตูหิ สจฺเจหิ นิทฺทิสิตพฺพํ, อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ ตีหิ ธมฺเมหิ นิทฺทิสิตพฺพํ – พุทฺธธมฺเมหิ ปจฺเจกพุทฺธธมฺเมหิ สาวกภูมิยา. ฌายิวิสเย นิทฺทิสิตพฺพนฺติ.

๑๑๒. ตตฺถ กตเม อฏฺารส มูลปทา? โลกิยํ โลกุตฺตรํ โลกิยฺจ โลกุตฺตรฺจ, สตฺตาธิฏฺานํ ธมฺมาธิฏฺานํ สตฺตาธิฏฺานฺจ ธมฺมาธิฏฺานฺจ, าณํ เยฺยํ าณฺจ เยฺยฺจ, ทสฺสนํ ภาวนา ทสฺสนฺจ ภาวนา จ, สกวจนํ ปรวจนํ สกวจนฺจ ปรวจนฺจ, วิสชฺชนียํ อวิสชฺชนียํ วิสชฺชนียฺจ อวิสชฺชนียฺจ, กมฺมํ วิปาโก กมฺมฺจ วิปาโก จ, กุสลํ อกุสลํ กุสลฺจ อกุสลฺจ, อนุฺาตํ ปฏิกฺขิตฺตํ อนุฺาตฺจ ปฏิกฺขิตฺตฺจ, ถโว จาติ.

ตตฺถ กตมํ โลกิยํ?

‘‘น หิ ปาปํ กตํ กมฺมํ, สชฺชุขีรํว มุจฺจติ;

ฑหนฺตํ [ทหนฺตํ (สี. ก.) ปสฺส ธ. ป. ๗๑] พาลมนฺเวติ, ภสฺมจฺฉนฺโนว [ภสฺมาฉนฺโนว (ก.)] ปาวโกติ.

อิทํ โลกิยํ.

‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อคติคมนานิ สพฺพํ…เป… นิหียเต ตสฺส ยโส กาฬปกฺเขว จนฺทิมา’’ติ. อิทํ โลกิยํ.

‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, โลกธมฺมา [ปสฺส อ. นิ. ๘.๖]. กตเม อฏฺ? ลาโภ อลาโภ, ยโส อยโส, นินฺทา ปสํสา, สุขํ ทุกฺขํ. อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ โลกธมฺมา’’ติ. อิทํ โลกิยํ.

ตตฺถ กตมํ โลกุตฺตรํ?

‘‘ยสฺสินฺทฺริยานิ สมถงฺคตานิ [สมถํ คตานิ (สี.) ปสฺส ธ. ป. ๙๔]; อสฺสา ยถา สารถินา สุทนฺตา;

ปหีนมานสฺส อนาสวสฺส, เทวาปิ ตสฺส ปิหยนฺติ ตาทิโน’’ติ.

อิทํ โลกุตฺตรํ.

‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานิ โลกุตฺตรานิ. กตมานิ ปฺจ? สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจินฺทฺริยานิ โลกุตฺตรานี’’ติ. อิทํ โลกุตฺตรํ.

ตตฺถ กตมํ โลกิยฺจ โลกุตฺตรฺจ?

‘‘ลทฺธาน มานุสตฺตํ ทฺเว, กิจฺจํ อกิจฺจเมว จา’’ติ ทฺเว คาถา. ยํ อิห ‘‘สุกิจฺจํ เจว ปุฺานี’’ติ จ ‘‘ปุฺานิ กริตฺวาน, สคฺคา สคฺคํ วชนฺติ กตปุฺา’’ติ จ. อิทํ โลกิยํ.

ยํ อิห ‘‘สํโยชนวิปฺปหานํ วา’’ติ จ ‘‘สํโยชนปฺปหานา, ชรามรณา วิปฺปมุจฺจนฺตี’’ติ จ, อิทํ โลกุตฺตรํ. อิทํ โลกิยฺจ โลกุตฺตรฺจ.

‘‘วิฺาเณ เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร สติ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ โหติ, นามรูปสฺส อวกฺกนฺติยา สติ ปุนพฺภโว โหติ, ปุนพฺภเว สติ ชาติ โหติ, ชาติยา สติ ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว [ปสฺส สํ. นิ. ๒.๕๕], มหารุกฺโข, ตสฺส ยานิ เจว มูลานิ อโธคมานิ ยานิ จ ติริยํ คมานิ, สพฺพานิ ตานิ อุทฺธํ โอชํ อภิหรนฺติ. เอวํ หิ โส, ภิกฺขเว, มหารุกฺโข ตทาหาโร ตทุปาทาโน จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺเยฺย. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, วิฺาเณ อาหาเร สติ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ โหติ สพฺพํ…เป… เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี’’ติ. อิทํ โลกิยํ.

‘‘วิฺาเณ เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร อสติ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ น โหติ, นามรูปสฺส อวกฺกนฺติยา อสติ ปุนพฺภโว น โหติ, ปุนพฺภเว อสติ ชาติ น โหติ, ชาติยา อสติ ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา นิรุชฺฌนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหารุกฺโข อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย กุทฺทาลปิฏกํ [กุทาลปิฏกํ (ก.)] อาทาย, โส ตํ รุกฺขํ มูเล ฉินฺเทยฺย, มูเล [มูลํ (สํ. นิ. ๒.๕๕)] เฉตฺวา ปลิขเณยฺย, ปลิขณิตฺวา มูลานิ อุทฺธเรยฺย อนฺตมโส อุสีรนาฬิมตฺตานิปิ. โส ตํ รุกฺขํ ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺเทยฺย, ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺทิตฺวา [ฉิตฺวา (สี. ก.)] ผาเลยฺย, ผาเลตฺวา สกลิกํ สกลิกํ กเรยฺย, สกลิกํ สกลิกํ กริตฺวา วาตาตเป วิโสเสยฺย, วาตาตเป วิโสเสตฺวา อคฺคินา ฑเหยฺย, อคฺคินา ฑเหตฺวา มสึ กเรยฺย, มสึ กริตฺวา มหาวาเต วา โอผุเนยฺย, นทิยา วา สีฆโสตาย ปวาเหยฺย, เอวํ หิ โส, ภิกฺขเว, มหารุกฺโข อุจฺฉินฺนมูโล อสฺส ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต [อนภาวํคโต (สี.)] อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, วิฺาเณ อาหาเร อสติ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ น โหติ, นามรูปสฺส อวกฺกนฺติยา อสติ สพฺพํ…เป… เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหตี’’ติ. อิทํ โลกุตฺตรํ. อิทํ โลกิยฺจ โลกุตฺตรฺจ.

๑๑๓. ตตฺถ กตมํ สตฺตาธิฏฺานํ?

‘‘สพฺพา ทิสา อนุปริคมฺม เจตสา, เนวชฺฌคา ปิยตรมตฺตนา กฺวจิ;

เอวํ ปิโย ปุถุ อตฺตา ปเรสํ, ตสฺมา น หึเส ปรมตฺตกาโม’’ติ [ปรํ อตฺตกาโมติ (สี.) สํ. นิ. ๑.๑๑๙; อุทา. ๔๑ ปสฺสิตพฺพํ].

อิทํ สตฺตาธิฏฺานํ.

‘‘เย เกจิ ภูตา ภวิสฺสนฺติ เย วาปิ [จ (สี. ก.) ปสฺส อุทา. ๔๒], สพฺเพ คมิสฺสนฺติ ปหาย เทหํ;

ตํ สพฺพชานึ กุสโล วิทิตฺวา, อาตาปิโย [อาตาปี โส (สี. ก.) ปสฺส อุทา. ๔๒] พฺรหฺมจริยํ จเรยฺยา’’ติ.

อิทํ สตฺตาธิฏฺานํ.

‘‘สตฺตหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ กลฺยาณมิตฺตํ อปิ วิเวจิยมาเนน ปณามิยมาเนน คเล ปิสนมชฺชมาเนน [คเลปิ ปมชฺชมาเนน (สี.)] ยาวชีวํ น วิชหิตพฺพํ. กตเมหิ สตฺตหิ? ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จ วตฺตา จ วจนกฺขโม จ คมฺภีรฺจ กถํ กตฺตา โหติ, โน จ อฏฺาเน [น จ อฏฺาเน (สี. ก.) ปสฺส อ. นิ. ๗.๓๗] นิโยเชติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ…เป… น วิชหิตพฺพํ. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต. อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

‘‘ปิโย ครุ ภาวนีโย, วตฺตา จ วจนกฺขโม;

คมฺภีรฺจ กถํ กตฺตา, น จฏฺาเน นิโยชโก;

ตํ มิตฺตํ มิตฺตกาเมน, ยาวชีวมฺปิ เสวิย’’นฺติ.

อิทํ สตฺตาธิฏฺานํ.

ตตฺถ กตมํ ธมฺมาธิฏฺานํ?

‘‘ยฺจ กามสุขํ โลเก, ยฺจิทํ ทิวิยํ สุขํ;

ตณฺหกฺขยสุขสฺเสเต [ตณฺหกฺขยา สุขสฺเสเต (สี.) ปสฺส อุทา. ๑๒], กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสิ’’นฺติ.

อิทํ ธมฺมาธิฏฺานํ.

‘‘สุสุขํ [ปสฺส เถรคา. ๒๒๗] วต นิพฺพานํ, สมฺมาสมฺพุทฺธเทสิตํ;

อโสกํ วิรชํ เขมํ, ยตฺถ ทุกฺขํ นิรุชฺฌตี’’ติ.

อิทํ ธมฺมาธิฏฺานํ.

ตตฺถ กตมํ สตฺตาธิฏฺานฺจ ธมฺมาธิฏฺานฺจ

‘‘มาตรํ ปิตรํ หนฺตฺวา, ราชาโน ทฺเว จ ขตฺติเย;

รฏฺํ สานุจรํ หนฺตฺวา’’ติ อิทํ ธมฺมาธิฏฺานํ.

‘‘อนีโฆ ยาติ พฺราหฺมโณ’’ติ; อิทํ สตฺตาธิฏฺานํ;

อิทํ สตฺตาธิฏฺานฺจ ธมฺมาธิฏฺานฺจ.

‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อิทฺธิปาทา [ปสฺส อิทฺธิปาทสํยุตฺเต]. กตเม จตฺตาโร? ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคโต อิทฺธิปาโท, วีริย…เป… จิตฺต. วีมํสาสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคโต อิทฺธิปาโท’’ติ. อิทํ ธมฺมาธิฏฺานํ.

โส กาเยปิ จิตฺตํ สโมทหติ, จิตฺเตปิ กายํ สโมทหติ, กาเย สุขสฺฺจ ลหุสฺฺจ โอกฺกมิตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทํ สตฺตาธิฏฺานํ, อิทํ สตฺตาธิฏฺานฺจ ธมฺมาธิฏฺานฺจ.

๑๑๔. ตตฺถ กตมํ าณํ?

‘‘ยํ ตํ โลกุตฺตรํ าณํ, สพฺพฺู เยน วุจฺจติ;

น ตสฺส ปริหานตฺถิ, สพฺพกาเล ปวตฺตตี’’ติ.

อิทํ าณํ.

‘‘ปฺา หิ เสฏฺา โลกสฺมึ, ยายํ นิพฺพานคามินี [นิพฺเพธคามินี (อิติวุ. ๔๑)];

ยาย สมฺมา ปชานาติ, ชาติมรณสงฺขย’’นฺติ.

อิทํ าณํ.

ตตฺถ กตมํ เยฺยํ?

‘‘กิตฺตยิสฺสามิ เต [โว (สี. ก.) ปสฺส สุ. นิ. ๑๐๗๒] สนฺตึ, [โธตกาติ ภควา,]

ทิฏฺเ ธมฺเม อนีติหํ;

ยํ วิทิตฺวา สโต จรํ, ตเร โลเก วิสตฺติกํ.

‘‘ตฺจาหํ อภินนฺทามิ, มเหสิ สนฺติมุตฺตมํ;

ยํ วิทิตฺวา สโต จรํ, ตเร โลเก วิสตฺติกํ.

‘‘ยํ กิฺจิ สมฺปชานาสิ, [โธตกาติ ภควา]

อุทฺธํ อโธ ติริยฺจาปิ มชฺเฌ;

เอตํ วิทิตฺวา สงฺโคติ โลเก,

ภวาภวาย มากาสิ ตณฺห’’นฺติ.

อิทํ เยฺยํ.

‘‘จตุนฺนํ, ภิกฺขเว, อริยสจฺจานํ อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ…เป… ตยิทํ, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ อริยสจฺจํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, ทุกฺขสมุทยํ [ทุกฺขสมุทโย (สี. ก.) ปสฺส ที. นิ. ๒.๑๕๕] อริยสจฺจํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, ทุกฺขนิโรธํ [ทุกฺขนิโรโธ (สี. ก.)] อริยสจฺจํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ. อุจฺฉินฺนา ภวตณฺหา, ขีณา ภวเนตฺติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต, อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

‘‘จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ, ยถาภูตํ อทสฺสนา;

สํสิตํ [สํสริตํ (สี.)] ทีฆมทฺธานํ, ตาสุ ตาสฺเวว ชาติสุ.

‘‘ตานิ เอตานิ ทิฏฺานิ, ภวเนตฺติ สมูหตา;

อุจฺฉินฺนํ มูลํ ทุกฺขสฺส, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ.

อิทํ เยฺยํ.

ตตฺถ กตมํ าณฺจ เยฺยฺจ? รูปํ อนิจฺจํ, เวทนา อนิจฺจา, สฺา อนิจฺจา, สงฺขารา อนิจฺจา, วิฺาณํ อนิจฺจนฺติ. อิทํ เยฺยํ.

เอวํ ชานํ เอวํ ปสฺสํ อริยสาวโก ‘‘รูปํ อนิจฺจ’’นฺติ ปสฺสติ, ‘‘เวทนา อนิจฺจา’’ติ ปสฺสติ, ‘‘สฺํ…เป… สงฺขาเร…เป… วิฺาณํ อนิจฺจ’’นฺติ ปสฺสตีติ. อิทํ าณํ.

โส ปริมุจฺจติ รูเปน, ปริมุจฺจติ เวทนาย, ปริมุจฺจติ สฺาย, ปริมุจฺจติ สงฺขาเรหิ, ปริมุจฺจติ วิฺาณมฺหา, ปริมุจฺจติ ทุกฺขสฺมาติ วทามีติ. อิทํ าณฺจ เยฺยฺจ.

‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติ อิทํ เยฺยํ. ‘‘ยทา ปฺาย ปสฺสตี’’ติ อิทํ าณํ. ‘‘อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา’’ติ อิทํ าณฺจ เยฺยฺจ.

‘‘สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา’’ติ อิทํ เยฺยํ. ‘‘ยทา ปฺาย ปสฺสตี’’ติ อิทํ าณํ. ‘‘อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา’’ติ อิทํ าณฺจ เยฺยฺจ.

‘‘สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา’’ติ อิทํ เยฺยํ. ‘‘ยทา ปฺาย ปสฺสตี’’ติ อิทํ าณํ. ‘‘อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา’’ติ อิทํ าณฺจ เยฺยฺจ.

‘‘เย หิ เกจิ, โสณ [ปสฺส สํ. นิ. ๓.๔๙], สมณา วา พฺราหฺมณา วา อนิจฺเจน รูเปน ทุกฺเขน วิปริณามธมฺเมน ‘เสยฺโยหมสฺมี’ติ วา สมนุปสฺสนฺติ, ‘สทิโสหมสฺมี’ติ วา สมนุปสฺสนฺติ, ‘หีโนหมสฺมี’ติ วา สมนุปสฺสนฺติ. กิมฺตฺร ยถาภูตสฺส อทสฺสนา. อนิจฺจาย เวทนาย…เป… อนิจฺจาย สฺาย…เป… อนิจฺเจหิ สงฺขาเรหิ…เป… อนิจฺเจน วิฺาเณน ทุกฺเขน วิปริณามธมฺเมน ‘เสยฺโยหมสฺมี’ติ วา สมนุปสฺสนฺติ, ‘สทิโสหมสฺมี’ติ วา สมนุปสฺสนฺติ, ‘หีโนหมสฺมี’ติ วา สมนุปสฺสนฺติ, กิมฺตฺร ยถาภูตสฺส อทสฺสนา’’ติ. อิทํ เยฺยํ.

‘‘เย จ โข เกจิ, โสณ, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อนิจฺเจน รูเปน ทุกฺเขน วิปริณามธมฺเมน ‘เสยฺโยหมสฺมี’ติปิ น สมนุปสฺสนฺติ, ‘สทิโสหมสฺมี’ติปิ น สมนุปสฺสนฺติ, ‘หีโนหมสฺมี’ติปิ น สมนุปสฺสนฺติ, กิมฺตฺร ยถาภูตสฺส ทสฺสนา. อนิจฺจาย เวทนาย…เป… อนิจฺจาย สฺาย…เป… อนิจฺเจหิ สงฺขาเรหิ…เป… อนิจฺเจน วิฺาเณน ทุกฺเขน วิปริณามธมฺเมน ‘เสยฺโยหมสฺมี’ติปิ น สมนุปสฺสนฺติ, ‘สทิโสหมสฺมี’ติปิ น สมนุปสฺสนฺติ, ‘หีโนหมสฺมี’ติปิ น สมนุปสฺสนฺติ, กิมฺตฺร ยถาภูตสฺส ทสฺสนาติ. อิทํ าณํ.

อิทํ าณฺจ เยฺยฺจ.

ตตฺถ กตมํ ทสฺสนํ?

๑๑๕.

‘‘เย อริยสจฺจานิ วิภาวยนฺติ, คมฺภีรปฺเน สุเทสิตานิ;

กิฺจาปิ เต โหนฺติ ภุสํ ปมตฺตา [ภุสปฺปมตฺตา (สี.) ปสฺส ขุ. ปา. ๖๐๙], น เต ภวํ อฏฺมมาทิยนฺตี’’ติ.

อิทํ ทสฺสนํ.

‘‘ยถินฺทขีโล ปถวิสฺสิโต สิยา, จตุพฺภิ วาเตหิ อสมฺปกมฺปิโย;

ตถูปมํ สปฺปุริสํ วทามิ, โย อริยสจฺจานิ อเวจฺจ ปสฺสตี’’ติ.

อิทํ ทสฺสนํ.

‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก อากงฺขมาโน อตฺตนาว อตฺตานํ พฺยากเรยฺย ‘ขีณนิรโยมฺหิ, ขีณติรจฺฉานโยนิ, ขีณเปตฺติวิสโย, ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโต, โสตาปนฺโนหมสฺมิ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ, สตฺตกฺขตฺตุปรมํ [สตฺตกฺขตฺตุปรโม (สี.)] เทเว จ มนุสฺเส จ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสามี’ติ. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวกสฺส ตถาคเต สทฺธา นิวิฏฺา ปติฏฺิตา วิรูฬฺหา มูลชาตา อสํหาริยา สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมึ สห ธมฺเมน, ธมฺเม โข ปน นิฏฺํ คโต โหติ, สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหิ, ยทิทํ มทนิมฺมทโน…เป… นิโรโธ นิพฺพานํ, สห ธมฺมิยา โข ปนสฺส โหนฺติ อิฏฺา กนฺตา ปิยา มนาปา คิหี เจว ปพฺพชิตา จ. อริยกนฺเตหิ โข ปน สีเลหิ สมนฺนาคโต โหติ อขณฺเฑหิ อจฺฉิทฺเทหิ อสพเลหิ อกมฺมาเสหิ ภุชิสฺเสหิ วิฺุปฺปสฏฺเหิ อปรามฏฺเหิ สมาธิสํวตฺตนิเกหิ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก อากงฺขมาโน อตฺตนาว อตฺตานํ พฺยากเรยฺย ‘ขีณนิรโยมฺหิ, ขีณติรจฺฉานโยนิ, ขีณเปตฺติวิสโย, ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโต, โสตาปนฺโนหมสฺมิ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ, สตฺตกฺขตฺตุปรมํ เทเว จ มนุสฺเส จ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสามี’’’ติ.

อิทํ ทสฺสนํ.

ตตฺถ กตมา ภาวนา?

‘‘ยสฺสินฺทฺริยานิ ภาวิตานิ [สุภาวิตานิ (สี. ก.) ปสฺส สุ. นิ. ๕๑๒], อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ สพฺพโลเก;

นิพฺพิชฺฌ อิมํ ปรฺจ โลกํ, กาลํ กงฺขติ ภาวิโต สทนฺโต’’ติ.

อยํ ภาวนา.

‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ธมฺมปทานิ [ปสฺส อ. นิ. ๔.๒๙]. กตมานิ จตฺตาริ? อนภิชฺฌา ธมฺมปทํ, อพฺยาปาโท ธมฺมปทํ, สมฺมาสติ ธมฺมปทํ, สมฺมาสมาธิ ธมฺมปทํ, อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ธมฺมปทานี’’ติ. อยํ ภาวนา.

ตตฺถ กตมํ ทสฺสนฺจ ภาวนา จ? ‘‘ปฺจ ฉินฺเท ปฺจ ชเห’’ติ อิทํ ทสฺสนํ. ‘‘ปฺจ จุตฺตริ ภาวเย. ปฺจ สงฺคาติโค ภิกฺขุ, โอฆติณฺโณติ วุจฺจตี’’ติ อยํ ภาวนา. อิทํ ทสฺสนฺจ ภาวนา จ.

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานิ [ปสฺส สํ. นิ. ๕.๔๙๓]. กตมานิ ตีณิ, อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ อฺินฺทฺริยํ อฺาตาวินฺทฺริยํ. กตมฺจ, ภิกฺขเว, อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อนภิสเมตสฺส ทุกฺขสฺส อริยสจฺจสฺส อภิสมยาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ, อนภิสเมตสฺส ทุกฺขสมุทยสฺส อริยสจฺจสฺส…เป… ทุกฺขนิโรธสฺส…เป… ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย อริยสจฺจสฺส อภิสมยาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. อิทํ, ภิกฺขเว, อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริย’’นฺติ. อิทํ ทสฺสนํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, อฺินฺทฺริยํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ…เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. อิทํ, ภิกฺขเว, อฺินฺทฺริยํ.

‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, อฺาตาวินฺทฺริยํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาติ. อิทํ, ภิกฺขเว, อฺาตาวินฺทฺริย’’นฺติ. อยํ ภาวนา.

อิทํ ทสฺสนฺจ ภาวนา จ.

๑๑๖. ตตฺถ กตมํ สกวจนํ?

‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณํ, กุสลสฺส อุปสมฺปทา;

สจิตฺตปริโยทาปนํ, เอตํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติ.

อิทํ สกวจนํ.

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, พาลสฺส พาลลกฺขณานิ พาลนิมิตฺตานิ พาลาปทานานิ, เยหิ พาลํ พาโลติ ปเร สฺชานนฺติ. กตมานิ ตีณิ? พาโล, ภิกฺขเว, ทุจฺจินฺติตจินฺตี จ โหติ, ทุพฺภาสิตภาสี จ โหติ, ทุกฺกฏกมฺมการี [ทุกฺกตกมฺมการี (สี.) ม. นิ. ๓.๒๔๖; อ. นิ. ๓.๓ ปสฺสิตพฺพํ] จ โหติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ พาลสฺส พาลลกฺขณานิ พาลนิมิตฺตานิ พาลาปทานานิ.

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตสฺส ปณฺฑิตลกฺขณานิ ปณฺฑิตนิมิตฺตานิ ปณฺฑิตาปทานานิ, เยหิ ปณฺฑิตํ ปณฺฑิโตติ ปเร สฺชานนฺติ. กตมานิ ตีณิ? ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, สุจินฺติตจินฺตี จ โหติ, สุภาสิตภาสี จ โหติ, สุกตกมฺมการี จ โหติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ ปณฺฑิตสฺส ปณฺฑิตลกฺขณานิ ปณฺฑิตนิมิตฺตานิ ปณฺฑิตาปทานานี’’ติ.

อิทํ สกวจนํ.

ตตฺถ กตมํ ปรวจนํ?

‘‘ปถวีสโม นตฺถิ วิตฺถโต, นินฺโน ปาตาลสโม น วิชฺชติ;

เมรุสโม นตฺถิ อุนฺนโต, จกฺกวตฺติสทิโส นตฺถิ โปริโส’’ติ.

อิทํ ปรวจนํ.

‘‘‘โหตุ, เทวานมินฺท, สุภาสิเตน ชโยติ. โหตุ, เวปจิตฺติ สุภาสิเตน ชโยติ. ภณ, เวปจิตฺติ, คาถ’นฺติ. อถ โข, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุรินฺโท อิมํ คาถํ อภาสิ –

‘‘ภิยฺโย พาลา ปภิชฺเชยฺยุํ [ปกุชฺเฌยฺยุํ (สี. ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๑.๒๕๑], โน จสฺส ปฏิเสธโก;

ตสฺมา ภุเสน ทณฺเฑน, ธีโร พาลํ นิเสธเย’’ติ.

‘‘ภาสิตาย โข ปน, ภิกฺขเว, เวปจิตฺตินา อสุรินฺเทน คาถาย อสุรา อนุโมทึสุ, เทวา ตุณฺหี อเหสุํ. อถ โข, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุรินฺโท สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ ‘ภณ, เทวานมินฺท, คาถ’นฺติ. เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท อิมํ คาถํ อภาสิ –

‘‘เอตเทว อหํ มฺเ, พาลสฺส ปฏิเสธนํ;

ปรํ สงฺกุปิตํ ตฺวา, โย สโต อุปสมฺมตี’’ติ.

‘‘ภาสิตาย โข ปน, ภิกฺขเว, สกฺเกน เทวานมินฺเทน คาถาย เทวา อนุโมทึสุ, อสุรา ตุณฺหี อเหสุํ. อถ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท เวปจิตฺตึ อสุรินฺทํ เอตทโวจ ‘ภณ, เวปจิตฺติ, คาถ’นฺติ. เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุรินฺโท อิมํ คาถํ อภาสิ –

‘‘เอตเทว ติติกฺขาย, วชฺชํ ปสฺสามิ วาสว;

ยทา นํ มฺติ [มฺตี (สี.) ปสฺส สํ. นิ. ๑.๒๕๑] พาโล, ภยา มฺยายํ ติติกฺขติ;

อชฺฌารุหติ ทุมฺเมโธ, โคว ภิยฺโย ปลายิน’’นฺติ.

‘‘ภาสิตาย โข ปน, ภิกฺขเว, เวปจิตฺตินา อสุรินฺเทน คาถาย อสุรา อนุโมทึสุ, เทวา ตุณฺหี อเหสุํ. อถ โข เวปจิตฺติ อสุรินฺโท สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ ‘ภณ, เทวานมินฺท, คาถ’นฺติ. เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท อิมา คาถาโย อภาสิ –

‘‘กามํ มฺตุ วา มา วา, ภยา มฺยายํ ติติกฺขติ;

สทตฺถปรมา อตฺถา, ขนฺตา ภิยฺโย น วิชฺชติ.

‘‘โย หเว พลวา สนฺโต, ทุพฺพลสฺส ติติกฺขติ;

ตมาหุ ปรมํ ขนฺตึ, นิจฺจํ ขมติ ทุพฺพโล.

‘‘อพลํ ตํ พลํ อาหุ, ยสฺส พาลพลํ พลํ;

พลสฺส ธมฺมคุตฺตสฺส, ปฏิวตฺตา น วิชฺชติ.

‘‘ตสฺเสว เตน ปาปิโย, โย กุทฺธํ ปฏิกุชฺฌติ;

กุทฺธํ อปฺปฏิกุชฺฌนฺโต, สงฺคามํ เชติ ทุชฺชยํ.

‘‘อุภินฺนมตฺถํ จรติ, อตฺตโน จ ปรสฺส จ;

ปรํ สงฺกุปิตํ ตฺวา, โย สโต อุปสมฺมติ.

‘‘อุภินฺนํ ติกิจฺฉนฺตานํ, อตฺตโน จ ปรสฺส จ;

ชนา มฺนฺติ พาโลติ, เย ธมฺมสฺส อโกวิทา’’ติ.

‘‘ภาสิตาสุ โข ปน, ภิกฺขเว, สกฺเกน เทวานมินฺเทน คาถาสุ เทวา อนุโมทึสุ, อสุรา ตุณฺหี อเหสุ’’นฺติ. อิทํ ปรวจนํ.

๑๑๗. ตตฺถ กตมํ สกวจนฺจ ปรวจนฺจ?

ยฺจ ปตฺตํ ยฺจ ปตฺตพฺพํ อุภยเมตํ รชานุกิณฺณํ อาตุรสฺสานุสิกฺขโต. เย จ สิกฺขาสารา สีลํ วตํ ชีวิตํ พฺรหฺมจริยํ อุปฏฺานสารา, อยเมโก อนฺโต. เย จ เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน ‘‘นตฺถิ กาเมสุ โทโส’’ติ, อยํ ทุติโย อนฺโต. อิจฺเจเต อุโภ อนฺตา กฏสิวฑฺฒนา กฏสิโย ทิฏฺึ วฑฺเฒนฺติ. เอเต อุโภ อนฺเต อนภิฺาย โอลียนฺติ เอเก อติธาวนฺติ เอเกติ. อิทํ ปรวจนํ.

เย จ โข เต อุโภ อนฺเต อภิฺาย ตตฺร จ น อเหสุํ, เตน จ อมฺึสุ, วฏฺฏํ เตสํ นตฺถิ ปฺาปนายาติ. อิทํ สกวจนํ. อยํ อุทาโน สกวจนฺจ ปรวจนฺจ.

ราชา ปเสนทิ [ปสฺเสนทิ (ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๑.๑๑๓] โกสโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ ‘‘เกสํ นุ โข ปิโย อตฺตา, เกสํ อปฺปิโย อตฺตา’’ติ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ ‘‘เย จ โข เกจิ กาเยน ทุจฺจริตํ จรนฺติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรนฺติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรนฺติ, เตสํ อปฺปิโย อตฺตา. กิฺจาปิ เต เอวํ วเทยฺยุํ ‘ปิโย โน อตฺตา’ติ, อถ โข เตสํ อปฺปิโย อตฺตา. ตํ กิสฺส เหตุ? ยํ หิ อปฺปิโย อปฺปิยสฺส กเรยฺย, ตํ เต อตฺตนาว อตฺตโน กโรนฺติ, ตสฺมา เตสํ อปฺปิโย อตฺตา. เย จ โข เกจิ กาเยน สุจริตํ จรนฺติ, วาจาย สุจริตํ จรนฺติ, มนสา สุจริตํ จรนฺติ, เตสํ ปิโย อตฺตา. กิฺจาปิ เต เอวํ วเทยฺยุํ ‘อปฺปิโย โน อตฺตา’ติ, อถ โข เตสํ ปิโย อตฺตา. ตํ กิสฺส เหตุ? ยํ หิ ปิโย ปิยสฺส กเรยฺย. ตํ เต อตฺตนาว อตฺตโน กโรนฺติ. ตสฺมา เตสํ ปิโย อตฺตา’’ติ.

‘‘เอวเมตํ, มหาราช, เอวเมตํ, มหาราช, เย หิ เกจิ, มหาราช, กาเยน ทุจฺจริตํ จรนฺติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรนฺติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรนฺติ ตสฺมา เตสํ อปฺปิโย อตฺตา. กิฺจาปิ เต เอวํ วเทยฺยุํ ‘ปิโย โน อตฺตา’ติ, อถ โข เตสํ อปฺปิโย อตฺตา. ตํ กิสฺส เหตุ? ยํ หิ, มหาราช, อปฺปิโย อปฺปิยสฺส กเรยฺย, ตํ เต อตฺตนาว อตฺตโน กโรนฺติ, ตสฺมา เตสํ อปฺปิโย อตฺตา. เย จ โข เกจิ มหาราช กาเยน สุจริตํ จรนฺติ, วาจาย สุจริตํ จรนฺติ, มนสา สุจริตํ จรนฺติ, เตสํ ปิโย อตฺตา. กิฺจาปิ เต เอวํ วเทยฺยุํ ‘อปฺปิโย โน อตฺตา’ติ, อถ โข เตสํ ปิโย อตฺตา. ตํ กิสฺส เหตุ? ยํ หิ, มหาราช, ปิโย ปิยสฺส กเรยฺย, ตํ เต อตฺตนาว อตฺตโน กโรนฺติ, ตสฺมา เตสํ ปิโย อตฺตาติ. อิทมโวจ ภควา…เป… สตฺถา –

‘‘อตฺตานฺเจ ปิยํ ชฺา, น นํ ปาเปน สํยุเช;

น หิ ตํ สุลภํ โหติ, สุขํ ทุกฺกฏการินา.

‘‘อนฺตเกนาธิปนฺนสฺส [มรเณนาภิภูตสฺส (ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๑.๑๑๕], ชหโต มานุสํ ภวํ;

กึ หิ ตสฺส สกํ โหติ, กิฺจ อาทาย คจฺฉติ;

กิฺจสฺส อนุคํ โหติ, ฉายาว อนปายินี.

‘‘อุโภ ปุฺฺจ ปาปฺจ, ยํ มจฺโจ กุรุเต อิธ;

ตฺหิ ตสฺส สกํ โหติ, ตํว อาทาย คจฺฉติ;

ตํวสฺส อนุคํ โหติ, ฉายาว อนปายินี.

‘‘ตสฺมา กเรยฺย กลฺยาณํ, นิจยํ สมฺปรายิกํ;

ปุฺานิ ปรโลกสฺมึ, ปติฏฺา โหนฺติ ปาณิน’’นฺติ.

อิทํ สุตฺตํ ปรวจนํ. อนุคีติ สกวจนํ. อิทํ สกวจนฺจ ปรวจนฺจ.

๑๑๘. ตตฺถ กตมํ วิสชฺชนียํ?

ปฺเห ปุจฺฉิเต อิทํ อภิฺเยฺยํ, อิทํ ปริฺเยฺยํ, อิทํ ปหาตพฺพํ, อิทํ ภาเวตพฺพํ, อิทํ สจฺฉิกาตพฺพํ, อิเม ธมฺมา เอวํคหิตา อิทํ ผลํ นิพฺพตฺตยนฺติ. เตสํ เอวํคหิตานํ อยมตฺโถ อิติ อิทํ วิสชฺชนียํ. ‘‘อุฬาโร พุทฺโธ ภควา’’ติ พุทฺธอุฬารตํ ธมฺมสฺวากฺขาตตํ สงฺฆสุปฺปฏิปตฺติฺจ เอกํเสเนว นิทฺทิเส. ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา’’ติ ‘‘สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา’’ติ เอกํเสเนว นิทฺทิเส. ยํ วา ปนฺมฺปิ เอวํ ชาติยํ. อิทํ วิสชฺชนียํ.

ตตฺถ กตมํ อวิสชฺชนียํ?

‘‘อากงฺขโต เต นรทมฺมสารถิ [นรทมฺมสารถี (สี.)], เทวา มนุสฺสา มนสา วิจินฺติตํ;

สพฺเพ น ชฺา กสิณาปิ ปาณิโน, สนฺตํ สมาธึ อรณํ นิเสวโต;

กินฺตํ ภควา อากงฺขตี’’ติ.

อิทํ อวิสชฺชนียํ.

เอตฺตโก ภควา สีลกฺขนฺเธ สมาธิกฺขนฺเธ ปฺากฺขนฺเธ วิมุตฺติกฺขนฺเธ วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธ อิริยายํ ปภาเว หิเตสิตายํ กรุณายํ อิทฺธิยนฺติ. อิทํ อวิสชฺชนียํ.

‘‘ตถาคตสฺส, ภิกฺขเว, อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส โลเก อุปฺปาทา ติณฺณํ รตนานํ อุปฺปาโท พุทฺธรตนสฺส ธมฺมรตนสฺส สงฺฆรตนสฺส’’. กึ ปมาณานิ ตีณิ รตนานีติ? อิทํ อวิสชฺชนียํ.

พุทฺธวิสโย อวิสชฺชนีโย. ปุคฺคลปโรปรฺุตา อวิสชฺชนียา. ‘‘ปุพฺพา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํ ตณฺหาสํโยชนานํ สกึ นิรยํ สกึ ติรจฺฉานโยนึ สกึ เปตฺติวิสยํ สกึ อสุรโยนึ สกึ เทเว สกึ มนุสฺเส สนฺธาวิตํ สํสริตํ’’. กตมา ปุพฺพา โกฏีติ อวิสชฺชนียํ. น ปฺายตีติ สาวกานํ าณเวกลฺเลน. ทุวิธา พุทฺธานํ ภควนฺตานํ เทสนา อตฺตูปนายิกา จ ปรูปนายิกา จ. น ปฺายตีติ ปรูปนายิกา. นตฺถิ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ อวิชานนาติ [อปฺปชานนาติ (สี.)] อตฺตูปนายิกา. ยถา ภควา โกกาลิกํ ภิกฺขุํ อารพฺภ อฺตรํ ภิกฺขุํ เอวมาห –

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติขาริโก โกสลโก ติลวาโห…เป… น ตฺเวว เอโก อพฺพุโท นิรโย. เสยฺยถาปิ ภิกฺขุ, วีสติ อพฺพุทา นิรยา, เอวเมโก นิรพฺพุโท นิรโย [นิรพฺพุทนิรโย (สํ. นิ. ๑.๑๘๑)]. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ นิรพฺพุทา นิรยา, เอวเมโก อพโพ นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อพพา นิรยา, เอวเมโก อฏโฏ นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อฏฏา นิรยา, เอวเมโก อหโห นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อหหา นิรยา, เอวเมโก กุมุโท นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ กุมุทา นิรยา, เอวเมโก โสคนฺธิโก นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ โสคนฺธิกา นิรยา, เอวเมโก อุปฺปลโก นิรโย [อุปฺปลนิรโย (สํ. นิ. ๑.๑๘๑)]. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อุปฺปลกา นิรยา, เอวเมโก ปุณฺฑรีโก นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ ปุณฺฑรีกา นิรยา, เอวเมโก ปทุโม นิรโย. ปทุเม ปน, ภิกฺขุ, นิรเย โกกาลิโก ภิกฺขุ อุปปนฺโน สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ อาฆาเตตฺวา’’ติ. ยํ วา ปน กิฺจิ ภควา อาห ‘‘อยํ อปฺปเมยฺโย อสงฺขฺเยโย’’ติ. สพฺพํ ตํ อวิสชฺชนียํ. อิทํ อวิสชฺชนียํ.

๑๑๙. ตตฺถ กตมํ วิสชฺชนียฺจ อวิสชฺชนียฺจ, ยทา โส อุปโก อาชีวโก ภควนฺตํ อาห ‘‘กุหึ, อาวุโส โคตม, คมิสฺสสี’’ติ. ภควา อาห –

‘‘พาราณสึ คมิสฺสามิ, อหํ ตํ อมตทุนฺทุภึ;

ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตุํ, โลเก อปฺปฏิวตฺติย’’นฺติ.

อุปโก อาชีวโก อาห ‘‘‘ชิโน’ติ โข อาวุโส, โภ โคตม, ปฏิชานาสี’’ติ. ภควา อาห –

‘‘มาทิสา เว ชินา [ชินา เว มาทิสา (สี. ก.) ปสฺส ม. นิ. ๒.๓๔๑] โหนฺติ, เย ปตฺตา อาสวกฺขยํ;

ชิตา เม ปาปกา ธมฺมา, ตสฺมาหํ อุปกา ชิโน’’ติ.

กถํ ชิโน เกน ชิโนติ วิสชฺชนียํ. กตโม ชิโนติ อวิสชฺชนียํ. กตโม อาสวกฺขโย, ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติ วิสชฺชนียํ. กิตฺตโก อาสวกฺขโยติ อวิสชฺชนียํ. อิทํ วิสชฺชนียฺจ อวิสชฺชนียฺจ.

อตฺถิ ตถาคโตติ วิสชฺชนียํ. อตฺถิ รูปนฺติ วิสชฺชนียํ. รูปํ ตถาคโตติ อวิสชฺชนียํ. รูปวา ตถาคโตติ อวิสชฺชนียํ. รูเป ตถาคโตติ อวิสชฺชนียํ. ตถาคเต รูปนฺติ อวิสชฺชนียํ. เอวํ อตฺถิ เวทนา…เป… สฺา…เป… สงฺขารา…เป… อตฺถิ วิฺาณนฺติ วิสชฺชนียํ. วิฺาณํ ตถาคโตติ อวิสชฺชนียํ. วิฺาณวา ตถาคโตติ อวิสชฺชนียํ. วิฺาเณ ตถาคโตติ อวิสชฺชนียํ. ตถาคเต วิฺาณนฺติ อวิสชฺชนียํ. อฺตฺร รูเปน ตถาคโตติ อวิสชฺชนียํ. อฺตฺร เวทนาย…เป… สฺาย…เป… สงฺขาเรหิ…เป… วิฺาเณน ตถาคโตติ อวิสชฺชนียํ. อยํ โส ตถาคโต อรูปโก…เป… อเวทนโก…เป… อสฺโก…เป… อสงฺขารโก…เป… อวิฺาณโกติ อวิสชฺชนียํ. อิทํ วิสชฺชนียฺจ อวิสชฺชนียฺจ.

ปสฺสติ ภควา ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต จวมาเน อุปปชฺชมาเน เอวํ สพฺพํ…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาตีติ วิสชฺชนียํ. กตเม สตฺตา, กตโม ตถาคโตติ อวิสชฺชนียํ. อิทํ วิสชฺชนียฺจ อวิสชฺชนียฺจ.

อตฺถิ ตถาคโตติ วิสชฺชนียํ. อตฺถิ ตถาคโต ปรํ มรณาติ อวิสชฺชนียํ. อิทํ วิสชฺชนียฺจ อวิสชฺชนียฺจ.

๑๒๐. ตตฺถ กตมํ กมฺมํ?

‘‘อนฺตเกนาธิปนฺนสฺส, ชหโต มานุสํ ภวํ;

กึ หิ ตสฺส สกํ โหติ, กิฺจ อาทาย คจฺฉติ;

กิฺจสฺส อนุคํ โหติ, ฉายาว อนปายินี.

‘‘อุโภ ปุฺฺจ ปาปฺจ, ยํ มจฺโจ กุรุเต อิธ;

ตฺหิ ตสฺส สกํ โหติ, ตํว [ตฺจ (สี. ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๑.๑๑๕] อาทาย คจฺฉติ;

ตํวสฺส อนุคํ โหติ, ฉายาว อนปายินี’’ติ.

อิทํ กมฺมํ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, พาลํ ปีสมารูฬฺหํ วา มฺจสมารูฬฺหํ วา ฉมายํ [ฉมาย (สี. ก.) ปสฺส ม. นิ. ๓.๒๔๘] วา เสมานํ ยานิสฺส ปุพฺเพ ปาปกานิ กมฺมานิ กตานิ กาเยน ทุจฺจริตานิ วาจาย ทุจฺจริตานิ มนสา ทุจฺจริตานิ, ตานิสฺส ตมฺหิ สมเย โอลมฺพนฺติ อชฺโฌลมฺพนฺติ อภิปฺปลมฺพนฺติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหตํ ปพฺพตกูฏานํ ฉายา สายนฺหสมยํ ปถวิยํ โอลมฺพนฺติ อชฺโฌลมฺพนฺติ อภิปฺปลมฺพนฺติ. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, พาลํ ปีสมารูฬฺหํ วา มฺจสมารูฬฺหํ วา ฉมายํ วา เสมานํ ยานิสฺส ปุพฺเพ ปาปกานิ กมฺมานิ กตานิ กาเยน ทุจฺจริตานิ วาจาย ทุจฺจริตานิ มนสา ทุจฺจริตานิ, ตานิสฺส ตมฺหิ สมเย โอลมฺพนฺติ อชฺโฌลมฺพนฺติ อภิปฺปลมฺพนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, พาลสฺส เอวํ โหติ ‘อกตํ วต เม กลฺยาณํ, อกตํ กุสลํ, อกตํ ภีรุตฺตาณํ. กตํ ปาปํ, กตํ ลุทฺทํ, กตํ กิพฺพิสํ, ยาวตา โภ อกตกลฺยาณานํ อกตกุสลานํ อกตภีรุตฺตาณานํ กตปาปานํ กตลุทฺทานํ กตกิพฺพิสานํ คติ, ตํ คตึ เปจฺจ คจฺฉามี’ติ, โส โสจติ กิลมติ ปริเทวติ อุรตฺตาฬึ กนฺทติ สมฺโมหํ อาปชฺชตี’’ติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตํ ปีสมารูฬฺหํ วา มฺจสมารูฬฺหํ วา ฉมายํ วา เสมานํ ยานิสฺส ปุพฺเพ กลฺยาณานิ กมฺมานิ กตานิ กาเยน สุจริตานิ วาจาย สุจริตานิ มนสา สุจริตานิ, ตานิสฺส ตมฺหิ สมเย โอลมฺพนฺติ อชฺโฌลมฺพนฺติ อภิปฺปลมฺพนฺติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหตํ ปพฺพตกูฏานํ ฉายา สายนฺหสมยํ ปถวิยํ โอลมฺพนฺติ อชฺโฌลมฺพนฺติ อภิปฺปลมฺพนฺติ. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตํ ปีสมารูฬฺหํ วา มฺจสมารูฬฺหํ วา ฉมายํ วา เสมานํ ยานิสฺส ปุพฺเพ กลฺยาณานิ กมฺมานิ กตานิ กาเยน สุจริตานิ วาจาย สุจริตานิ มนสา สุจริตานิ, ตานิสฺส ตมฺหิ สมเย โอลมฺพนฺติ อชฺโฌลมฺพนฺติ อภิปฺปลมฺพนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตสฺส ‘เอวํ โหติ อกตํ วต เม ปาปํ, อกตํ ลุทฺทํ, อกตํ กิพฺพิสํ. กตํ กลฺยาณํ, กตํ กุสลํ, กตํ ภีรุตฺตาณํ, ยาวตา โภ อกตปาปานํ อกตลุทฺทานํ อกตกิพฺพิสานํ กตกลฺยาณานํ กตกุสลานํ กตภีรุตฺตาณานํ คติ, ตํ คตึ เปจฺจ คจฺฉามี’ติ, โส น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ น อุรตฺตาฬึ กนฺทติ น สมฺโมหํ อาปชฺชติ, ‘กตํ เม ปุฺํ, อกตํ ปาปํ, ยา ภวิสฺสติ คติ อกตปาปสฺส อกตลุทฺทสฺส อกตกิพฺพิสสฺส กตปุฺสฺส กตกุสลสฺส กตภีรุตฺตาณสฺส, ตํ เปจฺจ ภเว คตึ ปจฺจนุภวิสฺสามี’ติ วิปฺปฏิสาโร น ชายติ. อวิปฺปฏิสาริโน โข, ภิกฺขเว, อิตฺถิยา วา ปุริสสฺส วา คิหิโน วา ปพฺพชิตสฺส วา ภทฺทกํ มรณํ ภทฺทิกา กาลงฺกิริยาติ วทามี’’ติ. อิทํ กมฺมํ.

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ทุจฺจริตานิ. กตมานิ ตีณิ, กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ มโนทุจฺจริตํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ ทุจฺจริตานิ. ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, สุจริตานิ. กตมานิ ตีณิ? กายสุจริตํ วจีสุจริตํ มโนสุจริตํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ สุจริตานิ. อิทํ กมฺมํ.

ตตฺถ กตโม วิปาโก?

‘‘ลาภา โว, ภิกฺขเว, สุลทฺธํ โว, ภิกฺขเว, ขโณ โว, ภิกฺขเว, ปฏิลทฺโธ พฺรหฺมจริยวาสาย. ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, ฉ ผสฺสายตนิกา นาม นิรยา. ตตฺถ ยํ กิฺจิ จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ อนิฏฺรูปํเยว ปสฺสติ, โน อิฏฺรูปํ. อกนฺตรูปํเยว ปสฺสติ, โน กนฺตรูปํ. อมนาปรูปํเยว ปสฺสติ, โน มนาปรูปํ.

ยํ กิฺจิ โสเตน สทฺทํ สุณาติ…เป… ฆาเนน…เป… ชิวฺหาย…เป… กาเยน…เป… ยํ กิฺจิ มนสา ธมฺมํ วิชานาติ อนิฏฺธมฺมํเยว วิชานาติ, โน อิฏฺธมฺมํ. อกนฺตธมฺมํเยว วิชานาติ, โน กนฺตธมฺมํ. อมนาปธมฺมํเยว วิชานาติ, โน มนาปธมฺมํ. ลาภา โว, ภิกฺขเว, สุลทฺธํ โว, ภิกฺขเว, ขโณ โว, ภิกฺขเว, ปฏิลทฺโธ พฺรหฺมจริยวาสาย.

‘‘ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, ฉ ผสฺสายตนิกา นาม สคฺคา. ตตฺถ ยํ กิฺจิ จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ อิฏฺรูปํเยว ปสฺสติ, โน อนิฏฺรูปํ. กนฺตรูปํเยว ปสฺสติ, โน อกนฺตรูปํ. มนาปรูปํเยว ปสฺสติ, โน อมนาปรูปํ. ยํ กิฺจิ โสเตน สทฺทํ สุณาติ…เป… ฆาเนน …เป… ชิวฺหาย…เป… กาเยน…เป… มนสา ธมฺมํ วิชานาติ อิฏฺธมฺมํเยว วิชานาติ, โน อนิฏฺธมฺมํ. กนฺตธมฺมํเยว วิชานาติ, โน อกนฺตธมฺมํ. มนาปธมฺมํเยว วิชานาติ, โน อมนาปธมฺมํ. ลาภา โว, ภิกฺขเว, สุลทฺธํ โว, ภิกฺขเว, ขโณ โว, ภิกฺขเว, ปฏิลทฺโธ พฺรหฺมจริยวาสายา’’ติ. อยํ วิปาโก.

‘‘สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;

นิรเย ปจฺจมานานํ [ปจฺจมานสฺส (ก.) ปสฺส เป. ว. ๘๐๒], กทา อนฺโต ภวิสฺสติ.

‘‘นตฺถิ อนฺโต กุโต อนฺโต, น อนฺโต ปฏิทิสฺสติ [ปติทิสฺสติ (สี.) ชา. ๑.๔.๕๕];

ตทา หิ ปกตํ ปาปํ, ตุยฺหํ มยฺหฺจ มาริสา’’ติ.

อยํ วิปาโก.

๑๒๑. ตตฺถ กตมํ กมฺมฺจ วิปาโก จ?

‘‘อธมฺมจารี หิ นโร ปมตฺโต, ยหึ ยหึ คจฺฉติ ทุคฺคตึ โย;

โส นํ อธมฺโม จริโต หนาติ, สยํ คหีโต ยถา กณฺหสปฺโป.

‘‘น หิ [ปสฺส เถรคา. ๓๐๔] ธมฺโม อธมฺโม จ, อุโภ สมวิปากิโน;

อธมฺโม นิรยํ เนติ, ธมฺโม ปาเปติ สุคฺคติ’’นฺติ.

อิทํ กมฺมฺจ วิปาโก จ.

‘‘มา, ภิกฺขเว, ปุฺานํ ภายิตฺถ, สุขสฺเสตํ, ภิกฺขเว, อธิวจนํ อิฏฺสฺส กนฺตสฺส ปิยสฺส มนาปสฺส ยทิทํ ปุฺานิ. อภิชานามิ โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, ทีฆรตฺตํ กตานํ ปุฺานํ อิฏฺํ [ทีฆรตฺตํ อิฏฺํ (สี. ก.) ปสฺส อิติวุ. ๒๒] กนฺตํ ปิยํ มนาปํ วิปากํ ปจฺจนุภูตํ, สตฺต วสฺสานิ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวตฺวา สตฺต สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป น อิมํ [น ยิมํ (อิติวุ. ๒๒)] โลกํ ปุนราคมาสึ. สํวฏฺฏมาเน สุทาหํ, ภิกฺขเว, กปฺเป อาภสฺสรูปโค โหมิ. วิวฏฺฏมาเน กปฺเป สุฺํ พฺรหฺมวิมานํ อุปปชฺชามิ. ตตฺร สุทาหํ [สุทํ (อิติวุ. ๒๒)], ภิกฺขเว, พฺรหฺมา โหมิ มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี. ฉตฺตึสกฺขตฺตุํ โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, สกฺโก อโหสึ เทวานมินฺโท, อเนกสตกฺขตฺตุํ ราชา อโหสึ จกฺกวตฺตี [จกฺกวตฺติ (ก.)] ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต, โก ปน วาโท ปเทสรชฺชสฺส? ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ ‘กิสฺส นุ โข เม อิทํ กมฺมสฺส ผลํ, กิสฺส กมฺมสฺส วิปาโก, เยนาหํ เอตรหิ เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว’ติ. ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ ‘ติณฺณํ โข เม อิทํ กมฺมานํ ผลํ, ติณฺณํ กมฺมานํ วิปาโก. เยนาหํ เอตรหิ เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว’ติ. เสยฺยถิทํ, ทานสฺส ทมสฺส สํยมสฺสา’’ติ. ตตฺถ ยฺจ ทานํ โย จ ทโม โย จ สํยโม, อิทํ กมฺมํ. โย ตปฺปจฺจยา วิปาโก ปจฺจนุภูโต, อยํ วิปาโก. ตถา จูฬกมฺมวิภงฺโค วตฺตพฺโพ.

ยํ สุภสฺส มาณวสฺส โตเทยฺยปุตฺตสฺส เทสิตํ. ตตฺถ เย ธมฺมา อปฺปายุกทีฆายุกตาย สํวตฺตนฺติ พหฺวาพาธอปฺปาพาธตาย อปฺเปสกฺขมเหสกฺขตาย ทุพฺพณฺณสุวณฺณตาย นีจกุลิกอุจฺจกุลิกตาย อปฺปโภคมหาโภคตาย ทุปฺปฺปฺวนฺตตาย จ สํวตฺตนฺติ, อิทํ กมฺมํ. ยา ตตฺถ อปฺปายุกทีฆายุกตา…เป… ทุปฺปฺปฺวนฺตตา, อยํ วิปาโก. อิทํ กมฺมฺจ วิปาโก จ.

๑๒๒. ตตฺถ กตมํ กุสลํ?

‘‘วาจานุรกฺขี มนสา สุสํวุโต, กาเยน จ นากุสลํ กยิรา [อกุสลํ น กยิรา (สี.) ปสฺส ธ. ป. ๒๘๑];

เอเต ตโย กมฺมปเถ วิโสธเย, อาราธเย มคฺคมิสิปฺปเวทิต’’นฺติ.

อิทํ กุสลํ.

‘‘ยสฺส กาเยน วาจาย, มนสา นตฺถิ ทุกฺกฏํ;

สํวุตํ ตีหิ าเนหิ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณ’’นฺติ.

อิทํ กุสลํ.

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, กุสลมูลานิ. กตมานิ ตีณิ? อโลโภ กุสลมูลํ, อโทโส กุสลมูลํ, อโมโห กุสลมูลํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ กุสลมูลานิ. อิทํ กุสลํ. ‘‘วิชฺชา, ภิกฺขเว [วิชฺชา จ โข ภิกฺขเว (สํยุตฺตนิกาเย)], ปุพฺพงฺคมา กุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา อนุเทว [อนฺวเทว (สี. ก.), สฺยาทิกณฺเฑ (โมคฺคลฺลาเน) ๑๑ สุตฺตํ ปสฺสิตพฺพํ] หิรี โอตฺตปฺปฺจา’’ติ. อิทํ กุสลํ.

ตตฺถ กตมํ อกุสลํ?

‘‘ยสฺส อจฺจนฺต ทุสฺสีลฺยํ, มาลุวา สาลมิโวตฺถตํ;

กโรติ โส ตถตฺตานํ, ยถา นํ อิจฺฉตี ทิโส’’ติ.

อิทํ อกุสลํ.

‘‘อตฺตนา หิ กตํ ปาปํ, อตฺตชํ อตฺตสมฺภวํ;

อภิมตฺถติ [อภิมนฺถติ (สี.) ปสฺส ธ. ป. ๑๖๑] ทุมฺเมธํ, วชิรํวสฺมมยํ มณิ’’นฺติ.

อิทํ อกุสลํ.

‘‘ทส กมฺมปเถ นิเสวิย, อกุสลากุสเลหิ วิวชฺชิตา;

ครหา จ ภวนฺติ เทวเต, พาลมตี นิรเยสุ ปจฺจเร’’ติ.

อิทํ อกุสลํ.

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อกุสลมูลานิ [ปสฺส อ. นิ. ๓.๗๐], กตมานิ ตีณิ? โลโภ อกุสลมูลํ, โทโส อกุสลมูลํ, โมโห อกุสลมูลํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ อกุสลมูลานิ’’. อิทํ อกุสลํ.

ตตฺถ กตมํ กุสลฺจ อกุสลฺจ?

‘‘ยาทิสํ [สํ. นิ. ๑.๒๕๖] วปเต พีชํ, ตาทิสํ หรเต ผลํ;

กลฺยาณการี กลฺยาณํ, ปาปการี จ ปาปก’’นฺติ.

ตตฺถ ยํ อาห ‘‘กลฺยาณการี กลฺยาณ’’นฺติ, อิทํ กุสลํ. ยํ อาห ‘‘ปาปการี จ ปาปก’’นฺติ, อิทํ อกุสลํ. อิทํ กุสลฺจ อกุสลฺจ.

‘‘สุเภน กมฺเมน วชนฺติ สุคฺคตึ, อปายภูมึ อสุเภน กมฺมุนา;

ขยา จ กมฺมสฺส วิมุตฺตเจตโส, นิพฺพนฺติ เต โชติริวินฺธนกฺขยา’’.

ตตฺถ ยํ อาห ‘‘สุเภน กมฺเมน วชนฺติ สุคฺคติ’’นฺติ, อิทํ กุสลํ. ยํ อาห ‘‘อปายภูมึ อสุเภน กมฺมุนา’’ติ, อิทํ อกุสลํ. อิทํ กุสลฺจ อกุสลฺจ.

๑๒๓. ตตฺถ กตมํ อนุฺาตํ?

‘‘ยถาปิ ภมโร ปุปฺผํ, วณฺณคนฺธมเหยํ [วณฺณคนฺธํ อเหยํ (สี.) ปสฺส ธ. ป. ๔๙];

ปเลติ [ปเฬติ (ก.)] รสมาทาย, เอวํ คาเม มุนี จเร’’ติ.

อิทํ อนุฺาตํ.

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ กรณียานิ. กตมานิ ตีณิ, อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ, กายกมฺมวจีกมฺเมน สมนฺนาคโต กุสเลน ปริสุทฺธาชีโว. อารทฺธวีริโย โข ปน โหติ ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย กุสลานํ ธมฺมานํ ภาวนาย สจฺฉิกิริยาย. ปฺวา โข ปน โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ตีณิ กรณียานี’’ติ. อิทํ อนุฺาตํ.

‘‘ทสยิเม [ทส อิเม (สี. ก.) ปสฺส อ. นิ. ๑๐.๔๘], ภิกฺขเว, ธมฺมา ปพฺพชิเตน อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพา. กตเม ทส? ‘เววณฺณิยมฺหิ อชฺฌุปคโต’ติ ปพฺพชิเตน อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ…เป… อิเม โข ภิกฺขเว ทส ธมฺมา ปพฺพชิเตน อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพา’’ติ. อิทํ อนุฺาตํ.

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, กรณียานิ. กตมานิ ตีณิ? กายสุจริตํ วจีสุจริตํ มโนสุจริตนฺติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ กรณียานี’’ติ. อิทํ อนุฺาตํ.

ตตฺถ กตมํ ปฏิกฺขิตฺตํ?

‘‘นตฺถิ ปุตฺตสมํ เปมํ, นตฺถิ โคสมิตํ [โคณสมํ (ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๑.๑๓] ธนํ;

นตฺถิ สูริยสมา [สุริยสมา (สี.)] อาภา, สมุทฺทปรมา สรา’’ติ.

ภควา อาห –

‘‘นตฺถิ อตฺตสมํ เปมํ, นตฺถิ ธฺสมํ ธนํ;

นตฺถิ ปฺาสมา อาภา, วุฏฺิเวปรมา สรา’’ติ.

เอตฺถ ยํ ปุริมกํ, อิทํ ปฏิกฺขิตฺตํ.

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเวऋ อกรณียานิ. กตมานิ ตีณิ? กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ มโนทุจฺจริตนฺติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ อกรณียานี’’ติ. อิทํ ปฏิกฺขิตฺตํ.

๑๒๔. ตตฺถ กตมํ อนุฺาตฺจ ปฏิกฺขิตฺตฺจ?

‘‘กึสูธ ภีตา ชนตา อเนกา, มคฺโค จเนกายตโน ปวุตฺโต [จเนกายตนปฺปวุตฺตา (สํ. นิ. ๑.๗๕)];

ปุจฺฉามิ ตํ โคตม ภูริปฺ, กิสฺมึ ิโต ปรโลกํ น ภาเยติ.

‘‘วาจํ มนฺจ ปณิธาย สมฺมา, กาเยน ปาปานิ อกุพฺพมาโน;

พหฺวนฺนปานํ ฆรมาวสนฺโต, สทฺโธ มุทู สํวิภาคี วทฺู;

เอเตสุ ธมฺเมสุ ิโต จตูสุ, ธมฺเม ิโต ปรโลกํ น ภาเย’’ติ.

ตตฺถ ยํ อาห ‘‘วาจํ มนฺจ ปณิธาย สมฺมา’’ติ, อิทํ อนุฺาตํ. ‘‘กาเยน ปาปานิ อกุพฺพมาโน’’ติ, อิทํ ปฏิกฺขิตฺตํ. ‘‘พหฺวนฺนปานํ ฆรมาวสนฺโต, สทฺโธ มุทู สํวิภาคี วทฺู. เอเตสุ ธมฺเมสุ ิโต จตูสุ, ธมฺเม ิโต ปรโลกํ น ภาเย’’ติ, อิทํ อนุฺาตํ. อิทํ อนุฺาตฺจ ปฏิกฺขิตฺตฺจ.

‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณํ, กุสลสฺส อุปสมฺปทา;

สจิตฺตปริโยทาปนํ, เอตํ พุทฺธานสาสนํ’’.

ตตฺถ ยํ อาห ‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณ’’นฺติ, อิทํ ปฏิกฺขิตฺตํ, ยํ อาห ‘‘กุสลสฺส อุปสมฺปทา’’ติ, อิทํ อนุฺาตํ. อิทํ อนุฺาตฺจ ปฏิกฺขิตฺตฺจ.

‘‘กายสมาจารมฺปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปิ. วจีสมาจารมฺปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปิ. มโนสมาจารมฺปาหํ เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ…เป… ปริเยสนมฺปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปิ’’.

‘‘กายสมาจารมฺปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี’’ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. ยถารูปฺจ โข กายสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูโป กายสมาจาโร น เสวิตพฺโพ. ตตฺถ ยํ ชฺา กายสมาจารํ ‘‘อิมํ [อิทํ (ก.) ปสฺส ที. นิ. ๒.๓๖๔] โข เม กายสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’’ติ, เอวรูโป กายสมาจาโร เสวิตพฺโพ. ‘‘กายสมาจารมฺปาหํ เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี’’ติ อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. ‘‘วจีสมาจารํ…เป… ‘‘ปริเยสนมฺปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี’’ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. ยถารูปฺจ โข ปริเยสนํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูปา ปริเยสนา น เสวิตพฺพา. ตตฺถ ยํ ชฺา ปริเยสนํ ‘‘อิมํ โข เม ปริเยสนํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’’ติ, เอวรูปา ปริเยสนา เสวิตพฺพา. ‘‘ปริเยสนมฺปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี’’ติ อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

ตตฺถ ยํ อาห ‘‘เสวิตพฺพมฺปี’’ติ, อิทํ อนุฺาตํ. ยํ อาห ‘‘น เสวิตพฺพมฺปี’’ติ, อิทํ ปฏิกฺขิตฺตํ. อิทํ อนุฺาตฺจ ปฏิกฺขิตฺตฺจ.

๑๗๐. ตตฺถ กตโม ถโว?

‘‘มคฺคานฏฺงฺคิโก [ปสฺส ธ. ป. ๒๗๓] เสฏฺโ, สจฺจานํ จตุโร ปทา;

วิราโค เสฏฺโ ธมฺมานํ, ทฺวิปทานฺจ จกฺขุมา’’ติ.

อยํ ถโว.

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อคฺคานิ. กตมานิ ตีณิ? ยาวตา, ภิกฺขเว, สตฺตา อปทา วา ทฺวิปทา วา จตุปฺปทา วา พหุปฺปทา วา รูปิโน วา อรูปิโน วา สฺิโน วา อสฺิโน วา เนวสฺีนาสฺิโน วา, ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายติ เสฏฺมกฺขายติ ปวรมกฺขายติ, ยทิทํ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ [อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๘๑ ปสฺสิตพฺพํ] ปณฺณตฺติสงฺขตานํ วา อสงฺขตานํ วา, วิราโค เตสํ ธมฺมานํ อคฺคมกฺขายติ เสฏฺมกฺขายติ ปวรมกฺขายติ, ยทิทํ มทนิมฺมทโน…เป… นิโรโธ นิพฺพานํ. ยาวตา, ภิกฺขเว, สงฺฆานํ ปณฺณตฺติ คณานํ ปณฺณตฺติ มหาชนสนฺนิปาตานํ ปณฺณตฺติ, ตถาคตสาวกสงฺโฆ เตสํ อคฺคมกฺขายติ เสฏฺมกฺขายติ ปวรมกฺขายติ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา…เป… ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสาติ.

‘‘สพฺพโลกุตฺตโร สตฺถา, ธมฺโม จ กุสลกฺขโต [กุสลมกฺขโต (ก.)];

คโณ จ นรสีหสฺส, ตานิ ตีณิ วิสฺสิสฺสเร.

‘‘สมณปทุมสฺจโย คโณ, ธมฺมวโร จ วิทูนํ สกฺกโต;

นรวรทมโก จ จกฺขุมา, ตานิ ตีณิ โลกสฺส อุตฺตริ.

‘‘สตฺถา จ อปฺปฏิสโม, ธมฺโม จ สพฺโพ นิรุปทาโห;

อริโย จ คณวโร, ตานิ ขลุ วิสฺสิสฺสเร ตีณิ.

‘‘สจฺจนาโม ชิโน เขโม สพฺพาภิภู, สจฺจธมฺโม นตฺถฺโ ตสฺส อุตฺตริ;

อริยสงฺโฆ นิจฺจํ วิฺูนํ ปูชิโต, ตานิ ตีณิ โลกสฺส อุตฺตริ.

‘‘เอกายนํ ชาติขยนฺตทสฺสี, มคฺคํ ปชานาติ หิตานุกมฺปี;

เอเตน มคฺเคน ตรึสุ ปุพฺเพ, ตริสฺสนฺติ เย จ [เย จาปิ (สี. ก.) ปสฺส สํ. นิ. ๕.๓๘๔] ตรนฺติ โอฆํ.

‘‘ตํ ตาทิสํ เทวมนุสฺสเสฏฺํ;

สตฺตา นมสฺสนฺติ วิสุทฺธิเปกฺขา’’ติ.

อยํ ถโวติ.

ตตฺถ โลกิยํ สุตฺตํ ทฺวีหิ สุตฺเตหิ นิทฺทิสิตพฺพํ สํกิเลสภาคิเยน จ วาสนาภาคิเยน จ. โลกุตฺตรํปิ สุตฺตํ ตีหิ สุตฺเตหิ นิทฺทิสิตพฺพํ ทสฺสนภาคิเยน จ ภาวนาภาคิเยน จ อเสกฺขภาคิเยน จ. โลกิยฺจ โลกุตฺตรฺจ. ยสฺมึ สุตฺเต ยํ ยํ ปทํ ทิสฺสติ สํกิเลสภาคิยํ วา วาสนาภาคิยํ วา, เตน เตน โลกิยนฺติ นิทฺทิสิตพฺพํ, ทสฺสนภาคิยํ วา ภาวนาภาคิยํ วา อเสกฺขภาคิยํ วา ยํ ยํ ปทํ ทิสฺสติ เตน เตน โลกุตฺตรนฺติ นิทฺทิสิตพฺพํ.

วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ สํกิเลสภาคิยสฺส สุตฺตสฺส นิคฺฆาตาย, ทสฺสนภาคิยํ สุตฺตํ วาสนาภาคิยสฺส สุตฺตสฺส นิคฺฆาตาย, ภาวนาภาคิยํ สุตฺตํ ทสฺสนภาคิยสฺส สุตฺตสฺส ปฏินิสฺสคฺคาย, อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ ภาวนาภาคิยสฺส สุตฺตสฺส ปฏินิสฺสคฺคาย, อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถํ.

โลกุตฺตรํ สุตฺตํ สตฺตาธิฏฺานํ ฉพฺพีสติยา ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ, เต ตีหิ สุตฺเตหิ สมนฺเวสิตพฺพา ทสฺสนภาคิเยน ภาวนาภาคิเยน อเสกฺขภาคิเยน จาติ.

ตตฺถ ทสฺสนภาคิยํ สุตฺตํ ปฺจหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ เอกพีชินา โกลํโกเลน สตฺตกฺขตฺตุปรเมน สทฺธานุสารินา ธมฺมานุสารินา จาติ, ทสฺสนภาคิยํ สุตฺตํ อิเมหิ ปฺจหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ. ภาวนาภาคิยํ สุตฺตํ ทฺวาทสหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺเนน, สกทาคามินา, อนาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺเนน, อนาคามินา, อนฺตรา ปรินิพฺพายินา, อุปหจฺจ ปรินิพฺพายินา, อสงฺขารปรินิพฺพายินา, สสงฺขารปรินิพฺพายินา, อุทฺธํโสเตน อกนิฏฺคามินา, สทฺธาวิมุตฺเตน, ทิฏฺิปฺปตฺเตน, กายสกฺขินา จาติ, ภาวนาภาคิยํ สุตฺตํ อิเมหิ ทฺวาทสหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ. อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ นวหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ สทฺธาวิมุตฺเตน, ปฺาวิมุตฺเตน, สุฺตวิมุตฺเตน, อนิมิตฺตวิมุตฺเตน, อปฺปณิหิตวิมุตฺเตน, อุภโตภาควิมุตฺเตน สมสีสินา ปจฺเจกพุทฺธสมฺมาสมฺพุทฺเธหิ จาติ, อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ อิเมหิ นวหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ. เอวํ โลกุตฺตรํ สุตฺตํ สตฺตาธิฏฺานํ อิเมหิ ฉพฺพีสติยา ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ.

โลกิยํ สุตฺตํ สตฺตาธิฏฺานํ เอกูนวีสติยา ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ. เต จริเตหิ นิทฺทิฏฺา สมนฺเวสิตพฺพา เกจิ ราคจริตา, เกจิ โทสจริตา, เกจิ โมหจริตา, เกจิ ราคจริตา จ โทสจริตา จ, เกจิ ราคจริตา จ โมหจริตา จ, เกจิ โทสจริตา จ โมหจริตา จ, เกจิ ราคจริตา จ โทสจริตา จ โมหจริตา จ, ราคมุเข ิโต ราคจริโต, ราคมุเข ิโต โทสจริโต, ราคมุเข ิโต โมหจริโต, ราคมุเข ิโต ราคจริโต จ โทสจริโต จ โมหจริโต จ, โทสมุเข ิโต โทสจริโต, โทสมุเข ิโต โมหจริโต, โทสมุเข ิโต ราคจริโต, โทสมุเข ิโต ราคจริโต จ โทสจริโต จ โมหจริโต จ, โมหมุเข ิโต โมหจริโต, โมหมุเข ิโต ราคจริโต โมหมุเข ิโต โทสจริโต, โมหมุเข ิโต ราคจริโต จ โทสจริโต จ โมหจริโต จาติ, โลกิยํ สุตฺตํ สตฺตาธิฏฺานํ อิเมหิ เอกูนวีสติยา ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ.

วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ สีลวนฺเตหิ นิทฺทิสิตพฺพํ, เต สีลวนฺโต ปฺจ ปุคฺคลา ปกติสีลํ สมาทานสีลํ จิตฺตปฺปสาโท สมโถ วิปสฺสนา จาติ, วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ อิเมหิ ปฺจหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ.

โลกุตฺตรํ สุตฺตํ ธมฺมาธิฏฺานํ ตีหิ สุตฺเตหิ นิทฺทิสิตพฺพํ ทสฺสนภาคิเยน ภาวนาภาคิเยน อเสกฺขภาคิเยน จ.

โลกิยฺจ โลกุตฺตรฺจ สตฺตาธิฏฺานฺจ ธมฺมาธิฏฺานฺจ อุภเยน นิทฺทิสิตพฺพํ, าณํ ปฺาย นิทฺทิสิตพฺพํ ปฺินฺทฺริเยน ปฺาพเลน อธิปฺาสิกฺขาย ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺเคน สมฺมาทิฏฺิยา ตีรณาย สนฺตีรณาย ธมฺเม าเณน อนฺวเย าเณน ขเย าเณน อนุปฺปาเท าเณน อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริเยน อฺินฺทฺริเยน อฺาตาวินฺทฺริเยน จกฺขุนา วิชฺชาย พุทฺธิยา ภูริยา เมธาย, ยํ ยํ วา ปน ลพฺภติ, เตน เตน ปฺาธิวจเนน นิทฺทิสิตพฺพํ.

เยฺยํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเนหิ อชฺฌตฺติกพาหิเรหิ หีนปฺปณีเตหิ ทูรสนฺติเกหิ สงฺขตาสงฺขเตหิ กุสลากุสลาพฺยากเตหิ สงฺเขปโต วา ฉหิ อารมฺมเณหิ นิทฺทิสิตพฺพํ. าณฺจ เยฺยฺจ ตทุภเยน นิทฺทิสิตพฺพํ, ปฺาปิ อารมฺมณภูตา เยฺยํ, ยํ กิฺจิ อารมฺมณภูตํ อชฺฌตฺติกํ วา พาหิรํ วา, สพฺพํ ตํ สงฺขเตน อสงฺขเตน จ นิทฺทิสิตพฺพํ.

ทสฺสนํ ภาวนา [ทสฺสนา ภาวนา (สี.)] สกวจนํ ปรวจนํ วิสชฺชนียํ อวิสชฺชนียํ กมฺมํ วิปาโกติ สพฺพตฺถ ตทุภยํ สุตฺเต ยถา นิทฺทิฏฺํ, ตถา อุปธารยิตฺวา ลพฺภมานโต นิทฺทิสิตพฺพํ, ยํ วา ปน กิฺจิ ภควา อฺตรวจนํ ภาสติ, สพฺพํ ตํ ยถานิทฺทิฏฺํ ธารยิตพฺพํ.

ทุวิโธ เหตุ ยฺจ กมฺมํ เย จ กิเลสา, สมุทโย กิเลสา. ตตฺถ กิเลสา สํกิเลสภาคิเยน สุตฺเตน นิทฺทิสิตพฺพา. สมุทโย สํกิเลสภาคิเยน จ วาสนาภาคิเยน จ สุตฺเตน นิทฺทิสิตพฺโพ. ตตฺถ กุสลํ จตูหิ สุตฺเตหิ นิทฺทิสิตพฺพํ วาสนาภาคิเยน ทสฺสนภาคิเยน ภาวนาภาคิเยน อเสกฺขภาคิเยน จ. อกุสลํ สํกิเลสภาคิเยน สุตฺเตน นิทฺทิสิตพฺพํ. กุสลฺจ อกุสลฺจ ตทุภเยน [ตทุภเยหิ (สี.)] นิทฺทิสิตพฺพํ. อนุฺาตํ ภควโต อนุฺาตาย นิทฺทิสิตพฺพํ, ตํ ปฺจวิธํ สํวโร ปหานํ ภาวนา สจฺฉิกิริยา กปฺปิยานุโลโมติ, ยํ ทิสฺสติ ตาสุ ตาสุ ภูมีสุ, ตํ กปฺปิยานุโลเมน นิทฺทิสิตพฺพํ. ปฏิกฺขิตฺตํ ภควตา ปฏิกฺขิตฺตการเณน นิทฺทิสิตพฺพํ. อนุฺาตฺจ ปฏิกฺขิตฺตฺจ ตทุภเยน นิทฺทิสิตพฺพํ. ถโว ปสํสาย นิทฺทิสิตพฺโพ. โส ปฺจวิเธน เวทิตพฺโพ ภควโต ธมฺมสฺส อริยสงฺฆสฺส อริยธมฺมานํ สิกฺขาย โลกิยคุณสมฺปตฺติยาติ. เอวํ ถโว ปฺจวิเธน นิทฺทิสิตพฺโพ.

อินฺทฺริยภูมิ นวหิ ปเทหิ นิทฺทิสิตพฺพา, กิเลสภูมิ นวหิ ปเทหิ นิทฺทิสิตพฺพา, เอวเมตานิ อฏฺารส ปทานิ โหนฺติ นว ปทานิ กุสลานิ นว ปทานิ อกุสลานีติ, ตถาหิ วุตฺตํ ‘‘อฏฺารส มูลปทา กุหึ ทฏฺพฺพา, สาสนปฺปฏฺาเน’’ติ. เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน –

‘‘นวหิ จ ปเทหิ กุสลา, นวหิ จ ยุชฺชนฺติ อกุสลปฺปกฺขา;

เอเต ขลุ มูลปทา, ภวนฺติ อฏฺารส ปทานี’’ติ.

นิยุตฺตํ สาสนปฺปฏฺานํ.

เอตฺตาวตา สมตฺตา เนตฺติ ยา อายสฺมตา มหากจฺจายเนน ภาสิตา ภควตา อนุโมทิตา มูลสงฺคีติยํ สงฺคีตาติ.

เนตฺติปฺปกรณํ นิฏฺิตํ.