📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

ขุทฺทกนิกาเย

เนตฺติปฺปกรณ-ฏีกา

คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา

สํวณฺณนารมฺเภ (ที. นิ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; ม. นิ. ฏี. ๑.๑ คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑ คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา) รตนตฺตยวนฺทนา สํวณฺเณตพฺพสฺส ธมฺมสฺส ปภวนิสฺสยวิสุทฺธิปฏิเวทนตฺถํ, ตํ ปน ธมฺมสํวณฺณนาสุ วิฺูนํ พหุมานุปฺปาทนตฺถํ, ตํ สมฺมเทว เตสํ อุคฺคหณธารณาทิกฺกมลทฺธพฺพาย สมฺมาปฏิปตฺติยา สพฺพหิตสุขนิปฺผาทนตฺถํ. อถ วา มงฺคลภาวโต, สพฺพกิริยาสุ ปุพฺพกิจฺจภาวโต, ปณฺฑิเตหิ สมฺมาจริตภาวโต, อายตึ ปเรสํ ทิฏฺานุคติอาปชฺชนโต จ สํวณฺณนายํ รตนตฺตยปณามกิริยา. อถ วา รตนตฺตยปณามกรณํ ปูชนียปูชาปุฺวิเสสนิพฺพตฺตนตฺถํ, ตํ อตฺตโน ยถาลทฺธสมฺปตฺตินิมิตฺตสฺส กมฺมสฺส พลานุปฺปทานตฺถํ, อนฺตรา จ ตสฺส อสงฺโกจนตฺถํ, ตทุภยํ อนนฺตราเยน อฏฺกถาย ปริสมาปนตฺถํ. อิทเมว จ ปโยชนํ อาจริเยน อิธาธิปฺเปตํ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘วนฺทนาชนิตํ…เป… ตสฺส เตชสา’’ติ. วตฺถุตฺตยปูชา หิ นิรติสยปุฺกฺเขตฺตสมฺพุทฺธิยา อปริเมยฺยปฺปภาโว ปุฺาติสโยติ พหุวิธนฺตราเยปิ โลกสนฺนิวาเส อนฺตรายนิพนฺธนสกลสํกิเลสวิทฺธํสนาย ปโหติ, ภยาทิอุปทฺทวฺจ นิวาเรติ. ยถาห –

‘‘ปูชารเห ปูชยโต, พุทฺเธ ยทิ ว สาวเก’’ติ. (ธ. ป. ๑๙๕; อป. เถร ๑.๑๐.๑) จ,

ตถา

‘‘เย, ภิกฺขเว, พุทฺเธ ปสนฺนา, อคฺเค เต ปสนฺนา, อคฺเค โข ปน ปสนฺนานํ อคฺโค วิปาโก โหตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐) จ,

ตถา –

‘‘‘พุทฺโธ’ติ กิตฺตยนฺตสฺส, กาเย ภวติ ยา ปีติ;

วรเมว หิ สา ปีติ, กสิเณนปิ ชมฺพุทีปสฺส;

‘‘‘ธมฺโม’ติ…เป… ‘สงฺโฆ’ติ…เป… ทีปสฺสา’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๖; อิติวุ. อฏฺ ๙๐; ที. นิ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; ม. นิ. ฏี. ๑.๑; อ. นิ. ฏี. ๒.๔.๓๔) จ,

ตถา –

‘‘ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทส…เป… น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๖.๑๐; ๑๑.๑๑) จ,

ตถา –

‘‘อรฺเ รุกฺขมูเล วา…เป…;

ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา, โลมหํโส น เหสฺสตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๔๙) จ;

ตตฺถ ยสฺส รตนตฺตยสฺส วนฺทนํ กตฺตุกาโม, ตสฺส คุณาติสยโยคสนฺทสฺสนตฺถํ ‘‘มหาการุณิก’’นฺติอาทินา คาถาตฺตยมาห. คุณาติสยโยเคน หิ วนฺทนารหภาโว, วนฺทนารเห จ กตา วนฺทนา ยถาธิปฺเปตปฺปโยชนํ สาเธตีติ. ตตฺถ ยสฺสา สํวณฺณนํ กตฺตุกาโม, สา เนตฺติ วิเสสโต ยถานุโลมสาสนสนฺนิสฺสยา, ตสฺส จ วิจิตฺตาการปฺปวตฺติวิภาวินี. ตถา หิ สุตฺตนฺตเทสนา น วินยเทสนา วิย กรุณาปฺปธานา, นาปิ อภิธมฺมเทสนา วิย ปฺาปฺปธานา, อถ โข กรุณาปฺาปฺปธานาติ ตทุภยปฺปธานเทสนาวิเสสวิภาวนํ ตาว สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส โถมนํ กาตุํ ตมฺมูลกตฺตา เสสรตนานํ ‘‘มหาการุณิกํ นาถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ กิรตีติ (ที. นิ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; ม. นิ. ฏี. ๑.๑; สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑; อ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑) กรุณา, ปรทุกฺขํ วิกฺขิปติ อปเนตีติ อตฺโถ. อถ วา กิณาตีติ กรุณา, ปรทุกฺเข สติ การุณิกํ หึสติ วิพาธตีติ อตฺโถ. กมฺปนํ กโรตีติ วา กรุณา, ปรทุกฺเข สติ สาธูนํ หทยเขทํ กโรตีติ อตฺโถ. กมิติ วา สุขํ, ตํ รุนฺธตีติ กรุณา. เอสา หิ ปรทุกฺขาปนยนกามตาลกฺขณา, อตฺตสุขนิรเปกฺขตาย การุณิกานํ สุขํ รุนฺธติ วิพนฺธตีติ อตฺโถ. กิริยติ ทุกฺขิเตสุ ปสาริยตีติ วา กรุณา, กรุณาย นิยุตฺโตติ การุณิโก ยถา ‘‘โทวาริโก’’ติ (อ. นิ. ๗.๖๗). ยถา หิ ทฺวารฏฺานโต อฺตฺถ วตฺตมาโนปิ ทฺวารปฏิพทฺธชีวิโก ปุริโส ทฺวารานติวตฺตวุตฺติตาย ทฺวาเร นิยุตฺโตติ ‘‘โทวาริโก’’ติ วุจฺจติ, เอวํ ภควา เมตฺตาทิวเสน กรุณาวิหารโต อฺตฺถ วตฺตมาโนปิ กรุณานติวตฺตวุตฺติตาย กรุณาย นิยุตฺโตติ ‘‘การุณิโก’’ติ วุจฺจติ. มหาภินีหารโต ปฏฺาย หิ ยาว มหาปรินิพฺพานา โลกหิตตฺถเมว โลกนาถา ติฏฺนฺตีติ. มหนฺโต การุณิโกติ มหาการุณิโก. สติปิ ภควโต ตทฺคุณานมฺปิ วเสน มหนฺตภาเว การุณิกสทฺทสนฺนิธาเนน วุตฺตตฺตา กรุณาวเสเนเวตฺถ มหนฺตภาโว เวทิตพฺโพ ยถา ‘‘มหาเวยฺยากรโณ’’ติ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘มหาการุณิโก’’ติ อิมินา ปเทน ปุคฺคลาธิฏฺาเนน สตฺถุ มหากรุณา วุตฺตา โหติ.

อปโร นโย – อตฺถสาธนโต กรุณํ กรุณายนํ กรุณาสมฺปวตฺตนํ อรหตีติ การุณิโก. ภควโต หิ สพฺพฺุตาย อนวเสสโต สตฺตานํ หิตํ, หิตุปายฺจ ชานโต, ตตฺถ จ อกิลาสุโน หิเตสิตา สตฺถิกา, น ตถา อฺเสนฺติ. อถ วา กรุณา กรุณายนํ สีลํ ปกติ สภาโว เอตสฺสาติ การุณิโก. ภควา หิ ปถวีผสฺสาทโย วิย กกฺขฬผุสนาทิสภาวา กรุณาสภาโว สภาวภูตกรุโณติ อตฺโถ. เสสํ ปุริมสทิสเมว. อถ วา มหาวิสยตาย, มหานุภาวตาย, มหปฺผลตาย จ มหตี กรุณาติ มหากรุณา. ภควโต หิ กรุณา นิรวเสเสสุ สตฺเตสุ ปวตฺตติ, ปวตฺตมานา จ อนฺสาธารณา ปวตฺตติ, ทิฏฺธมฺมิกาทิเภทฺจ มหนฺตเมว สตฺตานํ หิตสุขํ เอกนฺตโต นิปฺผาเทติ, มหากรุณาย นิยุตฺโตติ มหาการุณิโก, ตํ มหาการุณิกํ. เสสํ สพฺพํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. สุมาคธาทิปทานํ วิย เจตฺถ สทฺทสิทฺธิ เวทิตพฺพา.

นาถตีติ นาโถ, เวเนยฺยานํ หิตสุขํ อาสีสติ ปตฺเถตีติ อตฺโถ, เมตฺตายนวเสน เจตฺถ หิตสุขาสีสนํ เวทิตพฺพํ, น กรุณายนวเสน ปมปเทน วุตฺตตฺตา. อถ วา นาถติ เวเนยฺยคตํ กิเลสพฺยสนํ อุปตาเปตีติ นาโถ, นาถตีติ วา นาโถ, ยาจตีติ อตฺโถ. ภควา หิ ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ อตฺตสมฺปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตา’’ติอาทินา (อ. นิ. ๘.๗, ๘) สตฺตานํ ตํ ตํ หิตปฺปฏิปตฺตึ ยาจิตฺวาปิ มหากรุณาย สมุสฺสาหิโต เต ตตฺถ นิโยเชติ. ปรเมน วา จิตฺติสฺสริเยน สมนฺนาคโต, สพฺพสตฺเต วา สีลาทิคุเณหิ อีสติ อภิภวตีติ ปรมิสฺสโร ภควา ‘‘นาโถ’’ติ วุจฺจติ, ตํ นาถํ.

าตพฺพนฺติ เยฺยํ, อตีตาทิเภทภินฺนํ สพฺพํ สงฺขตํ, อสงฺขตฺจ. สงฺครณฏฺเน สาคโร, ปติตปติตานํ อตฺตโน ปุถุลคมฺภีรภาเวหิ สํสีทนํ นิมฺมุชฺชนํ กโรตีติ อตฺโถ. สํ-สทฺทสฺส เจตฺถ ‘‘สาภาโว, สาราโค’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๓๘๙, ๓๙๑) วิย นิรุตฺตินเยน ทฏฺพฺโพ. สงฺครณฏฺเนาติ วา สงฺครกรณฏฺเน, ิตธมฺมตาย ‘‘อยํ เม มริยาทา, อิมํ เวลํ นาติกฺกมามี’’ติ โลเกน สงฺครํ สงฺเกตํ กโรนฺโต วิย โหตีติ อตฺโถ. สงฺครณํ วา สมนฺตโต คลนํ สนฺทนํ อุทเกน กโรตีติ สาคโร. กปฺปวุฏฺานกาเล หิ มหาสมุทฺโท อิโต จิโต จ ปคฺฆริตฺวา สกลํ โลกธาตุํ เอโกฆํ กโรตีติ. โลกิยา ปน วทนฺติ ‘‘สาครสฺส รฺโ ปุตฺเตหิ สาคเรหิ นิพฺพตฺติโต ขโตติ สาคโร, ปุรตฺถิโม สมุทฺทปฺปเทโส, ตํสมฺพนฺธตาย รุฬฺหิวเสน สพฺโพปิ สมุทฺโท ตถา โวหรียตี’’ติ. สาครสทิสตฺตา สาคโร, เยฺยเมว สาคโรติ เยฺยสาคโร. สทิสตา เจตฺถ ปุถุลทุตฺตรคมฺภีรานาทิกาลิกตาหิ เวทิตพฺพา, นิหีนํ เจตโมปมฺมํ. ตถา หิ เยฺยสฺเสว สาติสยา ปุถุลตา อปริมาณโลกธาตุพฺยาปนโต, สพฺพฺุตฺาณสฺเสว ตรณียตาย ทุตฺตรตา, คมฺภีรตา, อาทิโกฏิรหิตา จ ปวตฺติ, น อิตรสฺส ปริจฺฉินฺนเทสตฺตา พาหิรกวีตราเคหิปิ อิตฺตเรน ขเณน อติกฺกมิตพฺพตฺตา, ปริมิตคมฺภีรตฺตา, ปริมิตกาลตฺตา จ. เยฺยสาครสฺส ปารํ ปริยนฺตํ คโตติ เยฺยสาครปารคู, ตํ เยฺยสาครปารคุํ.

คมนฺเจตฺถ าณคมนเมว, น อิตรํ เยฺยคฺคหณโต, ตํ ปน าณํ ทุวิธํ สมฺมสนปฏิเวธเภทโต, ตถา เหตุผลเภทโต. ตตฺถ ‘‘กิจฺฉํ วตายํ โลโก อาปนฺโน’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๕๗; สํ. นิ. ๒.๔, ๑๐; เปฏโก. ๒๓) กรุณายนวเสเนว อภินิวิสิตฺวา อเนกาการโวกาเร สงฺขาเร สมฺมสนฺตํ ภควโต สมฺมสนาณํ ฉตฺตึสโกฏิสตสหสฺสมุเขน เยฺยสาครํ อชฺโฌคาเหตฺวา ตสฺส ปารํ ปริยนฺตํ อคมาสิ, ยํ ‘‘มหาวชิราณ’’นฺติ วุจฺจติ. ปฏิเวธาณํ ปน สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานํ อาสวกฺขยาณํ, อาสวกฺขยาณปทฏฺานฺจ สพฺพฺุตฺาณํ, ยํ ‘‘มหาโพธี’’ติ วุจฺจติ. ปารคมนฺจ ตสฺส กิจฺจสิทฺธิยา, สมตฺถตาย จ เวทิตพฺพํ. ตถา ยถาวุตฺตํ สมฺมสนาณํ เหตุ, อิตรํ ผลํ. สห สมฺมสนาเณน วา อาสวกฺขยาณํ เหตุ, สพฺพฺุตฺาณํ ผลํ ตทานิสํสภาวโตติ เวทิตพฺพํ.

วนฺเทติ นมามิ, อภิตฺถวามิ วา. สณฺหฏฺเน นิปุณา, อนุปจิตาณสมฺภารานํ อคาธฏฺเน คมฺภีรา, เอกตฺตาทิเภทโต นนฺทิยาวฏฺฏาทิวิภาคโต จ วิจิตฺรา วิสิฏฺา นานาวิธา นยา เอติสฺสาติ นิปุณคมฺภีรวิจิตฺรนยา, นิปุณคมฺภีรวิจิตฺรนยา เทสนา อสฺสาติ นิปุณคมฺภีรวิจิตฺรนยเทสโน, ตํ นิปุณ…เป… เทสนํ. นยตีติ วา นโย, ปาฬิคติ, สา จ วุตฺตนเยน อตฺถโต นิปุณา, อตฺถโต พฺยฺชนโต จ คมฺภีรา, สงฺเขปวิตฺถารานุโลมาทิปฺปวตฺติยา นานาวิธตาย วิจิตฺรา. ตถา หิ ปฺตฺติอนุปฺตฺติอาทิวเสน, สํกิเลสภาคิยาทิโลกิยาทิตทุภยโวมิสฺสตาทิวเสน, กุสลาทิขนฺธาทิสงฺคหาทิสมยวิมุตฺตาทิปนาทิกุสลมูลาทิติกปฏฺานาทิวเสน จ อเนกวิธา ปาฬิคตีติ.

ตตฺถ (ที. นิ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา) ทฺวีหากาเรหิ ภควโต โถมนา เวทิตพฺพา อตฺตหิตสมฺปตฺติโต, ปรหิตปฺปฏิปตฺติโต จ. เตสุ อตฺตหิตสมฺปตฺติ อนาวรณาณาธิคมโต, สวาสนานํ สพฺเพสํ กิเลสานํ อจฺจนฺตปฺปหานโต จ เวทิตพฺพา, ปรหิตปฺปฏิปตฺติ ลาภสกฺการาทินิรเปกฺขจิตฺตสฺส สพฺพทุกฺขนิยฺยานิกธมฺมเทสนโต, ปฏิวิรุทฺเธสุปิ นิจฺจํ หิตชฺฌาสยาณปริปากกาลาคมนโต จ เวทิตพฺพา. สา ปเนตฺถ ปโยคโต, อาสยโต จ ทุวิธา, ปรหิตปฺปฏิปตฺติ, ยถาวุตฺตเภทา ทุวิธา จ อตฺตหิตสมฺปตฺติ ปกาสิตา โหติ. กถํ? ‘‘มหาการุณิก’’นฺติ อิมินา อาสยโต, ‘‘นิปุณ…เป… เทสน’’นฺติ อิมินา ปโยคโต, ‘‘นาถ’’นฺติ อิมินา ปน อุภยถาปิ ภควโต ปรหิตปฺปฏิปตฺติ ปกาสิตา กรุณากิจฺจทีปนโต, ‘‘เยฺยสาครปารคุ’’นฺติ อิมินา สาติสยํ อตฺตหิตสมฺปตฺติ ปรมุกฺกํสคตาณกิจฺจทีปนโต.

อถ วา ตีหากาเรหิ ภควโต โถมนา เวทิตพฺพา เหตุโต, ผลโต, อุปการโต จ. ตตฺถ เหตุ มหากรุณา, สา ปน ปมปเทน สรูเปเนว ทสฺสิตา. ผลํ จตุพฺพิธํ าณสมฺปทา ปหานสมฺปทา อานุภาวสมฺปทา รูปกายสมฺปทา จาติ. ตาสุ ปธานภูตา าณปหานสมฺปทา ‘‘เยฺยสาครปารคุ’’นฺติ อิมินา ปเทน ปกาสิตา. ปธาเน หิ ทสฺสิเต อวินาภาวโต อิตรมฺปิ ทฺวยํ ทสฺสิตเมว โหติ. น หิ พุทฺธานํ อานุภาวรูปกายสมฺปตฺตีหิ วินา กทาจิปิ ธมฺมกายสิรี วตฺตตีติ. อุปกาโร อนนฺตรํ อพาหิรํ กตฺวา ติวิธยานมุเขน วิมุตฺติธมฺมเทสนา, สา ‘‘นาถํ, นิปุณ…เป… เทสน’’นฺติ ปททฺวเยน ปกาสิตาติ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ (ที. นิ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา) ‘‘มหาการุณิก’’นฺติ เอเตน สมฺมาสมฺโพธิยา มูลํ ทสฺเสติ. มหากรุณาสฺโจทิตมานโส หิ ภควา สํสารปงฺกโต สตฺตานํ สมุทฺธรณตฺถํ กตาภินีหาโร อนุปุพฺเพน ปารมิโย ปูเรตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อธิคโตติ กรุณา สมฺมาสมฺโพธิยา มูลํ. ‘‘เยฺยสาครปารคุ’’นฺติ เอเตน ปุพฺพภาคปฺปฏิปตฺติยา สทฺธึ สมฺมาสมฺโพธึ ทสฺเสติ. อนาวรณาณปทฏฺานฺหิ มคฺคาณํ, มคฺคาณปทฏฺานฺจ อนาวรณาณํ ‘‘สมฺมาสมฺโพธี’’ติ วุจฺจติ. วุตฺตปฺปเภทํ ปน สมฺมสนาณํ สห ปฺาปารมิยา ตสฺสา ปุพฺพภาคปฏิปทา. ตสฺสา หิ อานุภาเวน ลีนุทฺธจฺจปติฏฺานายูหนกามสุขลฺลิกตฺตกิลมถานุโยคสสฺสตุจฺเฉทาทิอนฺตทฺวยวิรหิตา อุกฺกํสปารมิปฺปตฺตา มชฺฌิมา ปฏิปทา ภาวนาปาริปูรึ คตา. ‘‘นาถ’’นฺติ อิมินา สมฺมาสมฺโพธิยา ผลํ ทสฺเสติ โลกตฺตยนายกภาวทีปนโต. ตถา หิ สพฺพานตฺถปริหารปุพฺพงฺคมาย นิรวเสสหิตสุขวิธานตปฺปราย นิรติสยาย ปโยคสมฺปตฺติยา, สเทวมนุสฺสาย ปชาย อจฺจนฺตุปการิตาย อปริมิตนิรุปมภาวคุณวิเสสสมงฺคิตาย จ สพฺพสตฺตุตฺตโม ภควา อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อปริมาณานํ สตฺตานํ อนุตฺตรคารวฏฺานภูตตาย จ ‘‘นาโถ’’ติ วุจฺจตีติ. ‘‘นิปุณ…เป… เทสน’’นฺติ อิมินา สมฺมาสมฺโพธิยา ปโยชนํ ทสฺเสติ. สํสารมโหฆโต สตฺตสนฺตารณตฺถฺหิ ภควตา สมฺมาสมฺโพธิ อภิปตฺถิตา, ตฺจ สตฺตสนฺตารณํ ยถาวุตฺตเทสนาสมฺปตฺติยา สมิชฺฌติ ตทวินาภาวโต. อิมินา ภควโต สาติสยา ปรหิตปฺปฏิปตฺติ ทสฺสิตา, อิตเรหิ อตฺตหิตสมฺปตฺตีติ ตทุภเยน อตฺตหิตาย ปฏิปนฺนาทีสุ จตูสุ ปุคฺคเลสุ ภควโต จตุตฺถปุคฺคลภาวํ ทีเปติ, เตน จ อนุตฺตรทกฺขิเณยฺยภาวํ, อุตฺตมวนฺทนียภาวํ, อตฺตโน จ วนฺทนกิริยาย เขตฺตงฺคตภาวํ ทีเปติ.

เอตฺถ จ ยถา ‘‘มหาการุณิก’’นฺติ อิมินา ปเทน ภควโต มหากรุณา ทสฺสิตา, เอวํ ‘‘เยฺยสาครปารคุ’’นฺติ เอเตน มหาปฺา ทสฺสิตา. เตสุ กรุณาคฺคหเณน โลกิเยสุ มหคฺคตภาวปฺปตฺตาสาธารณคุณทีปนโต ภควโต สพฺพโลกิยคุณสมฺปตฺติ ทสฺสิตา โหติ, ปฺาคฺคหเณน สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานมคฺคาณทีปนโต สพฺพโลกุตฺตรคุณสมฺปตฺติ. ตทุภยคฺคหณสิทฺโธ เอว จตฺโถ นาถสทฺเทน ปกาสียติ. กรุณาวจเนน อุปคมนํ นิรุปกฺกิเลสํ ทสฺเสติ, ปฺาวจเนน อปคมนํ. ตถา กรุณาคฺคหเณน โลกสมฺานุรูปํ ภควโต ปวตฺตึ ทสฺเสติ โลกโวหารวิสยตฺตา กรุณาย, ปฺาคฺคหเณน สมฺาย อนติธาวนํ. สภาวานวโพเธน หิ ธมฺมานํ สมฺํ อติธาวิตฺวา สตฺตาทิสมฺมสนํ โหตีติ. ตถา กรุณาคฺคหเณน มหากรุณาสมาปตฺติวิหารํ ทสฺเสติ, ปฺาคฺคหเณน ตีสุ กาเลสุ อปฺปฏิหตาณํ, จตุสจฺจาณํ, จตุปฏิสมฺภิทาาณํ, จตุเวสารชฺชาณํ. กรุณาคฺคหเณน มหากรุณาสมาปตฺติาณสฺส คหิตตฺตา เสสาสาธารณาณานิ, ฉ อภิฺา, อฏฺสุ ปริสาสุ (ม. นิ. ๑.๑๕๑, ๑๗๘) อกมฺปนาณานิ, ทส พลานิ, จุทฺทส พุทฺธาณานิ, โสฬส าณจริยา, อฏฺารส พุทฺธธมฺมา (มหานิ. ๖๙, ๑๕๖; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕; ปฏิ. ม. ๓.๕; ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๐๕; วิภ. มูลฏี. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา; ที. นิ. ฏี. ๓.๑๔๑), จตุจตฺตาลีส าณวตฺถูนิ สตฺตสตฺตติ าณวตฺถูนีติ (สํ. นิ. ๒.๓๔) เอวมาทีนํ อเนเกสํ ปฺาปฺปเภทานํ วเสน าณจารํ ทสฺเสติ.

ตถา กรุณาคฺคหเณน จรณสมฺปตฺติ, ปฺาคฺคหเณน วิชฺชาสมฺปตฺติ. กรุณาคฺคหเณน สตฺตาธิปติตา, ปฺาคฺคหเณน ธมฺมาธิปติตา. กรุณาคฺคหเณน โลกนาถภาโว, ปฺาคฺคหเณน อตฺตนาถภาโว. ตถา กรุณาคฺคหเณน ปุพฺพการิภาโว, ปฺาคฺคหเณน กตฺุตา. กรุณาคฺคหเณน อปรนฺตปตา, ปฺาคฺคหเณน อนตฺตนฺตปตา. กรุณาคฺคหเณน วา พุทฺธกรธมฺมสิทฺธิ, ปฺาคฺคหเณน พุทฺธภาวสิทฺธิ. ตถา กรุณาคฺคหเณน ปเรสํ ตารณํ, ปฺาคฺคหเณน สยํ ตารณํ. ตถา กรุณาคฺคหเณน สพฺพสตฺเตสุ อนุคฺคหจิตฺตตา, ปฺาคฺคหเณน สพฺพธมฺเมสุ วิรตฺตจิตฺตตา ทสฺสิตา โหติ. สพฺเพสฺจ พุทฺธคุณานํ กรุณา อาทิ ตํนิทานภาวโต, ปฺา ปริโยสานํ ตโต อุตฺตริ กรณียาภาวโต, อิติ อาทิปริโยสานทสฺสเนน สพฺเพ พุทฺธคุณา ทสฺสิตา โหนฺติ. ตถา กรุณาวจเนน สีลกฺขนฺธปุพฺพงฺคโม สมาธิกฺขนฺโธ ทสฺสิโต โหติ. กรุณานิทานฺหิ สีลํ ตโต ปาณาติปาตาทิวิรติปฺปวตฺติโต, สา จ ฌานตฺตยสมฺปโยคินีติ. ปฺาวจเนน ปฺากฺขนฺโธ. สีลฺจ สพฺพพุทฺธคุณานํ อาทิ, สมาธิ มชฺเฌ, ปฺา ปริโยสานนฺติ เอวมฺปิ อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณา สพฺเพ พุทฺธคุณา ทสฺสิตา โหนฺติ นยโต ทสฺสิตตฺตา. เอโส เอว หิ นิรวเสสโต พุทฺธคุณานํ ทสฺสนุปาโย, ยทิทํ นยคฺคาหณํ, อฺถา โก นาม สมตฺโถ ภควโต คุเณ อนุปทํ นิรวเสสโต ทสฺเสตุํ. เตเนวาห –

‘‘พุทฺโธปิ พุทฺธสฺส ภเณยฺย วณฺณํ, กปฺปมฺปิ เจ อฺมภาสมาโน;

ขีเยถ กปฺโป จิรทีฆมนฺตเร, วณฺโณ น ขีเยถ ตถาคตสฺสา’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๓๐๔; ๓.๑๔๑; ม. นิ. อฏฺ. ๓.๔๒๕; อุทา. อฏฺ. ๕๓; อป. อฏฺ. ๒.๗.๒๐; พุ. วํ. อฏฺ. ๔.๔; จริยา. อฏฺ. นิทานกถา, ปกิณฺณกกถา; ที. นิ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; ม. นิ. ฏี. ๑.๑; สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑; อ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑; วชิร. ฏี. คนฺถารมฺภกถา; สารตฺถ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา);

เตเนว จ อายสฺมตา สาริปุตฺตตฺเถเรนาปิ พุทฺธคุณปริจฺเฉทนํ ปติ อนุยุตฺเตน ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๔๕) ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘อปิจ เม, ภนฺเต, ธมฺมนฺวโย วิทิโต’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๔๖) วุตฺตํ.

เอวํ สงฺเขเปน สกลสพฺพฺุคุเณหิ ภควนฺตํ อภิตฺถวิตฺวา อิทานิ สทฺธมฺมํ โถเมตุํ ‘‘วิชฺชาจรณสมฺปนฺนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิชฺชาจรณสมฺปนฺนา หุตฺวาติ วจนเสโส. วินฺทิยํ ธมฺมานํ สลกฺขณํ, สามฺลกฺขณฺจ วินฺทตีติ วิชฺชา, โลภกฺขนฺธาทีนิ วา วิชฺฌนฏฺเน วิชฺชา, จตุนฺนํ วา อริยสจฺจานํ วิทิตกรณฏฺเน วิชฺชาติ เอวํ ตาเวตฺถ วจนตฺถโต วิชฺชา เวทิตพฺพา. ปเภทโต ปน ติสฺโสปิ วิชฺชา วิชฺชา ภยเภรวสุตฺเต อาคตนิยาเมเนว, อฏฺปิ วิชฺชา วิชฺชา อมฺพฏฺสุตฺตาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๗๘ อาทโย) อาคตนิยาเมเนว. จรนฺติ เตหีติ จรณานิ, สีลสํวราทโย ปฺจทส ธมฺมา, อิติ อิมาหิ วิชฺชาหิ, อิเมหิ จ จรเณหิ สมฺปนฺนา สมฺปนฺนาคตาติ วิชฺชาจรณสมฺปนฺนา.

เยนาติ เยน ธมฺเมน กรณภูเตน, เหตุภูเตน จ. ตตฺถ มคฺคธมฺมสฺส กรณตฺโถ เวทิตพฺโพ นิยฺยานกิริยาสาธกตมภาวโต, นิพฺพานธมฺมสฺส เหตุอตฺโถ อารมฺมณปจฺจยภาวโต. ปจฺจยตฺโถ หิ อยํ เหตฺวตฺโถ. ปริยตฺติธมฺมสฺสปิ เหตุอตฺโถ ยุชฺชเตว ปรมฺปราย เหตุภาวโต. ผลธมฺเม ปน อุภยมฺปิ สมฺภวติ. กถํ? ‘‘ตาย สทฺธาย อวูปสนฺตายา’’ติ วจนโต มคฺเคน สมุจฺฉินฺนานํ กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานกิจฺจตาย ผลสฺส นิยฺยานานุคุณตา, นิยฺยานปริโยสานตา จาติ อิมินา ปริยาเยน สิยา กรณตฺโถ นิยฺยานกิริยาย. สกทาคามิมคฺควิปสฺสนาทีนํ ปน อุปนิสฺสยปจฺจยภาวโต สิยา เหตุอตฺโถ. เอวฺจ กตฺวา อคฺคปฺปสาทสุตฺตาทีสุ (อิติวุ. ๙๐) อคฺคาทิภาเวน อคฺคหิตาปิ ผลปริยตฺติธมฺมา ฉตฺตมาณวกวิมานาทีสุ (วิ. ว. ๘๘๖ อาทโย) สรณียภาเวน คหิตาติ เตสํ มคฺคนิพฺพานานํ วิย มหาอฏฺกถายํ สรณภาโว อุทฺธโฏ. วิเสสโต เจตฺถ มคฺคปริยาปนฺนา เอว วิชฺชาจรณธมฺมา เวทิตพฺพา. เต หิ นิปฺปริยาเยน นิยฺยานกิริยาย สาธกตมภูตา, น อิตเร. อิตเรสํ ปน นิยฺยานตฺถตาย นิยฺยานตา. ยทิ เอวํ กสฺมา ‘‘วิชฺชาจรณสมฺปนฺนา หุตฺวา’’ติ วุตฺตํ, นิยฺยานสมกาลเมว หิ ยถาวุตฺตวิชฺชาจรณสมฺปตฺติสมธิคโมติ? นายํ วิโรโธ สมานกาลตาย เอว อธิปฺเปตตฺตา ยถา ‘‘จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณ’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๐๔, ๔๐๐; ๓.๔๒๑, ๔๒๕, ๔๒๖; สํ. นิ. ๒.๔๓-๔๕; ๔.๖๐; กถา. ๔๖๕, ๔๖๗). สมฺปนฺนาติ วา ปทสฺส วตฺตมานกาลตฺถตา เวทิตพฺพา ‘‘อุปฺปนฺนา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ติกมาติกา ๑๗) เอตฺถ อุปฺปนฺนสทฺทสฺส วิย. เอวฺจ กตฺวา วจนเสสมนฺตเรเนว ปทโยชนา สิทฺธา โหติ. ‘‘เยนา’’ติ จ ปทํ อุภยตฺถ สมฺพนฺธิตพฺพํ ‘‘เยน ธมฺเมน วิชฺชาจรณสมฺปนฺนา, เยน ธมฺเมน นิยฺยนฺตี’’ติ.

โลกโตติ ขนฺธาทิโลกโต, วฏฺฏโตติ อตฺโถ. นฺติ ตํ มคฺคนิพฺพานผลปริยตฺติเภทํ ธมฺมํ. อุตฺตมนฺติ เสฏฺํ. ตถา เหส อตฺตนา อุตฺตริตรสฺส อภาเวน ‘‘อนุตฺตโร’’ติ วุจฺจติ. ตตฺถ มคฺคสฺส นิยฺยานเหตุอาทิอตฺเถน, นิพฺพานสฺส นิสฺสรณวิเวกาทิอตฺเถน, ผลสฺส อริยสนฺตภาวาทิอตฺเถน จ เสฏฺตา เวทิตพฺพา. สฺวายมตฺโถ ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อิติวุ. ๙๐; อ. นิ. ๔.๓๔) อาทิสุตฺตปทานุสาเรน วิภาเวตพฺโพ.

ธมฺมนฺติ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน อปายโต, สํสารโต จ อปตมาเน กตฺวา ธาเรตีติ ธมฺโม. สมฺมา, สามฺจ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺโธ, สพฺพฺุตาอนาวรณาโณ สมนฺตจกฺขุ ภควา, เตน ยถา สมฺมาสมฺโพธิสมธิคเมเนว สพฺเพ พุทฺธคุณา สมฺปาปุณียนฺติ, เอวํ สมฺมเทว อาเสวนาย ภาวนาย พหุลีกิริยาย สมฺมาปฏิปตฺติยา สมฺมเทว ปจฺจเวกฺขณาย สกฺกจฺจํ ธมฺมเทสนาย เวเนยฺยสนฺตาเนสุ ปติฏฺาปเนน –

‘‘อริยํ, โว ภิกฺขเว, สมฺมาสมาธึ เทเสสฺสามิ (ม. นิ. ๓.๑๓๖; เปฏโก. ๒๔). มคฺคานฏฺงฺคิโก เสฏฺโ (ธ. ป. ๒๗๓; เนตฺติ. ๑๗๐; เปฏโก. ๓๐). ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ อคฺคมกฺขายติ (อิติวุ. ๙๐; อ. นิ. ๔.๓๔). เอกายโน อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา (ที. นิ. ๒.๓๗๓; ม. นิ. ๑.๑๐๖; สํ. นิ. ๕.๓๖๗, ๓๘๔). ธมฺมํ, โว ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อาทิกลฺยาณ’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๔๒๐; เนตฺติ. ๕) –

อาทิวจเนหิ, อภิตฺถวเนน จ ปูชิโต มานิโต อปจิโตติ สมฺมาสมฺพุทฺธปูชิโต, ตํ สมฺมาสมฺพุทฺธปูชิตํ ธมฺมํ วนฺเทติ สมฺพนฺโธ.

อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ยสฺส ธมฺมสฺส อธิคมเน วิชฺชาสมฺปนฺนา เจว โหนฺติ จรณสมฺปนฺนา จ, สพฺพวฏฺฏทุกฺขโต จ นิยฺยนฺติ, ตเมว อริยานํ สกลคุณสมงฺคิภาวนิมิตฺตํ, อนวเสสทุกฺขนิสฺสรณเหตุภูตฺจ อุตฺตมํ ปวรํ สทฺธึ ปริยตฺติธมฺเมน นววิธํ โลกุตฺตรธมฺมํ ภควตาปิ สมฺมาปฏิปตฺติอาทิวิธินา ปูชิตํ นมามิ, อภิตฺถวามิ วาติ.

เอตฺถ จ ‘‘เยน โลกโต นิยฺยนฺติ, วิชฺชาจรณสมฺปนฺนา จ โหนฺตี’’ติ ปททฺวเยน ยถากฺกมํ ธมฺมสฺส ภาเวตพฺพภาโว, สจฺฉิกาตพฺพภาโว จ วุตฺโต. เตสุ ปเมน วิชฺชาสมฺปตฺติยา ธมฺมํ โถเมติ, ทุติเยน วิมุตฺติสมฺปตฺติยา. ตถา ปเมน ฌานสมฺปทาย, ทุติเยน วิโมกฺขสมฺปทาย. ปเมน วา สมาธิสมฺปทาย, ทุติเยน สมาปตฺติสมฺปทาย. ปเมน วา ขยาณภาเวน, ทุติเยน อนุปฺปาทาณภาเวน. อถ วา ปุริเมน วิชฺชูปมตาย, ทุติเยน วชิรูปมตาย. ปุริเมน วา วิราคสมฺปตฺติยา, ทุติเยน นิโรธสมฺปตฺติยา. ตถา ปเมน นิยฺยานภาเวน, ทุติเยน นิสฺสรณภาเวน. ปเมน วา เหตุภาเวน, ทุติเยน อสงฺขตภาเวน. ปเมน วา ทสฺสนภาเวน, ทุติเยน วิเวกภาเวน. ปเมน วา อธิปติภาเวน, ทุติเยน อมตภาเวน ธมฺมํ โถเมติ. อถ วา ปเมน นิยฺยานิกภาวทสฺสนโต สฺวากฺขาตตาย ธมฺมํ โถเมติ, ทุติเยน สจฺฉิกาตพฺพภาวโต สนฺทิฏฺิกตาย. ตถา ปุริเมน อกาลิกตาย, ปจฺฉิเมน เอหิปสฺสิกตาย. ปุริเมน วา โอปเนยฺยิกตาย, ปจฺฉิเมน ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพตาย ธมฺมํ โถเมติ.

‘‘อุตฺตม’’นฺติ จ เอเตน อฺสฺส วิสิฏฺสฺส อภาวทีปเนน ปริปุณฺณตาย ธมฺมํ โถเมติ, ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธปูชิต’’นฺติ เอเตน ปริสุทฺธตาย. สพฺพโทสาปคเมน หิสฺส ปูชนียตา. ปริสุทฺธตาย จสฺส ปหานสมฺปทา, ปริปุณฺณตาย ปภวสมฺปทา. ปหานสมฺปตฺติยา จ ภาวนาปาริปูรี อนวเสสโทสสมุคฺฆาฏนโต, ปภวสมฺปตฺติยา สจฺฉิกิริยนิพฺพตฺติ ตตุตฺตริ กรณียาภาวโต. อนฺสาธารณตาย หิ อุตฺตโมติ. ตถา ภาเวตพฺพภาเวนสฺส สห ปุพฺพภาคสีลาทีหิ เสกฺขา สีลสมาธิปฺากฺขนฺธา, สจฺฉิกาตพฺพภาเวน สห อสงฺขตาย ธาตุยา อเสกฺขา สีลสมาธิปฺากฺขนฺธา ทสฺสิตา โหนฺตีติ.

เอวํ สงฺเขเปน สพฺพสทฺธมฺมคุเณหิ สทฺธมฺมํ โถเมตฺวา อิทานิ อริยสงฺฆํ โถเมตุํ ‘‘สีลาทิคุณสมฺปนฺโน’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สีลาทิคุณสมฺปนฺโนติ สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติยาทิคุเณหิ สมฺปนฺโน สมนฺนาคโต, สมฺปนฺนสีลาทิคุโณ วา. อริยานฺหิ ตํตํมคฺควชฺฌกิเลสปฺปหาเนน หตปฏิปกฺขา สุวิสุทฺธา สีลาทโย ‘‘สมฺปนฺนา’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหนฺติ, น ปุถูชฺชนานํ, ยโต ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๗๔; อ. นิ. ๖.๑๐; อุทา. ๑๘) อริยสงฺโฆ โถมียติ. อถ วา สีลาทิคุณสมฺปนฺโนติ ปริปุณฺณสีลาทิคุโณ. อริยปุคฺคลานฺหิ อริยสจฺจปฺปฏิเวเธน สเหว ยถารหํ เสกฺขาเสกฺขา สีลาทิธมฺมกฺขนฺธา ปาริปูรึ คจฺฉนฺตีติ. ิโต มคฺคผเลสูติ มคฺเคสุ, ผเลสุ จ ิโต, มคฺคฏฺโ, ผลฏฺโ จาติ อตฺโถ. โยติ อนิยมโต อริยสงฺฆํ นิทฺทิสติ, ตสฺส ‘‘ต’’นฺติ อิมินา นิยมํ เวทิตพฺพํ.

นนุ จ อริยสงฺเฆ น สพฺเพ อริยปุคฺคลา มคฺคฏฺา, นาปิ สพฺเพ ผลฏฺาติ? สจฺจเมตํ, อวยวธมฺเมน ปน สมุทายํ นิทฺทิสนฺโต เอวมาห ยถา ‘‘สมํ จุณฺณ’’นฺติ. ยถา หิ โยคจุณฺณสฺส อวยเวสุ ลพฺภมาโน สมภาโว สมุทาเย อปทิสียติ ‘‘สมํ จุณฺณ’’นฺติ, เอวํ อริยสงฺฆสฺส อวยวภูเตสุ อริยปุคฺคเลสุ ลพฺภมาโน มคฺคฏฺผลฏฺภาโว สมุทายภูเต อริยสงฺเฆ ิโต ‘‘มคฺคผเลสู’’ติ อปทิฏฺโติ เวทิตพฺพํ.

อารกตฺตา กิเลเสหิ, อนเย น อิริยนโต, อเย จ อิริยนโต, สเทวเกน จ โลเกน ‘‘สรณ’’นฺติ อรณียโต อริโย, ทิฏฺิสีลสามฺเน สํหตตฺตา สงฺโฆ, อริโย จ โส สงฺโฆ จาติ อริยสงฺโฆ, ตํ อริยสงฺฆํ. ปุชฺชภวผลนิพฺพตฺตนโต อตฺตโน สนฺตานํ ปุนาตีติ วา ปุฺํ, ขิตฺตํ วุตฺตํ พีชํ วิรุหนฏฺานตาย ตายติ รกฺขตีติ เขตฺตํ เกทาราทิ, เขตฺตํ วิยาติ เขตฺตํ, สตฺตานํ ปุฺสฺส มหปฺผลภาวกรเณน วิรุหนฏฺานตาย เขตฺตนฺติ ปุฺกฺเขตฺตํ. อนุตฺตรํ วนฺเทติ สมฺพนฺโธ.

เอตฺถ จ ‘‘สีลาทิคุณสมฺปนฺโน’’ติ เอเตน อริยสงฺฆสฺส ภควโต อนุชาตปุตฺตตํ ทสฺเสติ, เตนสฺส ปภวสมฺปทา ทีปิตา โหติ. ‘‘ิโต มคฺคผเลสู’’ติ เอเตน ปหานสมฺปทํ, าณสมฺปทฺจ ทสฺเสติ กิเลสานํ สมุจฺเฉทปฺปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานทีปนโต, มคฺคผลาณาธิคมทีปนโต จ. ‘‘อริยสงฺฆ’’นฺติ เอเตน ปภวสมฺปทํ สพฺพสงฺฆานํ อคฺคภาวทีปนโต, สเทวเกน จ โลเกน อรณียภาวทีปนโต. ‘‘ปุฺกฺเขตฺตํ อนุตฺตร’’นฺติ เอเตน โลกสฺส พหูปการตํ ทสฺเสติ อคฺคทกฺขิเณยฺยภาวทีปนโต.

ตถา ‘‘สีลาทิคุณสมฺปนฺโน’’ติ อิทํ อริยสงฺฆสฺส สมฺมาอุชุายสามีจิปฺปฏิปนฺนภาวทีปนํ. ‘‘ิโต มคฺคผเลสู’’ติ อิทํ สติปิ สนฺตานวิภาเคน อเนกภาเว จตุปุริสยุคอฏฺปุริสปุคฺคลภาวทีปนํ. ‘‘อริยสงฺฆ’’นฺติ อิทํ อาหุเนยฺยาทิภาวทีปนํ. ‘‘ปุฺกฺเขตฺตํ อนุตฺตร’’นฺติ อิทํ โลกสฺส หิตสุขาย ปฏิปนฺนตาทีปนํ. ตถา ‘‘ิโต มคฺคผเลสู’’ติ อิทํ อริยสงฺฆสฺส โลกุตฺตรสรณคมนสพฺภาวทีปนํ, เตนสฺส ภควโต โอรสปุตฺตภาโว ทสฺสิโต โหติ. ‘‘สีลาทิคุณสมฺปนฺโน’’ติ อิมินา ปนสฺส วิหตวิธสฺตกิเลสา อนวเสสา เสกฺขาเสกฺขา สีลาทิธมฺมกฺขนฺธา ทสฺสิตา. ‘‘อริยสงฺฆํ ปุฺกฺเขตฺตํ อนุตฺตร’’นฺติ อิมินา เตสํ เตสฺเว ยถาวุตฺตคุณวิเสสานํ สุปริสุทฺธตํ ทีเปติ. เตนสฺส มหานุภาวตํ, อนุตฺตรทกฺขิเณยฺยภาวํ, วนฺทนารหภาวํ, อตฺตโน จ วนฺทนากิริยาย เขตฺตงฺคตภาวํ ทีเปติ. สรณคมนฺจ สาวกานํ สพฺพคุณานํ อาทิ, สปุพฺพภาคปฺปฏิปทา เสกฺขา สีลกฺขนฺธาทโย มชฺเฌ, อเสกฺขา สีลกฺขนฺธาทโย ปริโยสานนฺติ อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณา สพฺเพ อริยสงฺฆคุณา อิมาย คาถาย ปกาสิตาติ เวทิตพฺพํ.

เอวํ คาถาตฺตเยน สงฺเขปโต สกลคุณสํกิตฺตนมุเขน รตนตฺตยสฺส ปณามํ กตฺวา อิทานิ ตํ นิปจฺจการํ ยถาธิปฺเปเต ปโยชเน ปริณาเมนฺโต ‘‘วนฺทนาชนิต’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ วนฺทนาชนิตนฺติ วนฺทนากาเรน นิพฺพตฺติตํ, รตนตฺตยคุณาภิตฺถวนวเสน, นิปจฺจการวเสน วา อุปฺปาทิตนฺติ อตฺโถ. อิตีติ เอวํ ‘‘มหาการุณิก’’นฺติอาทิปฺปกาเรน. รติชนนฏฺเน รตนํ, พุทฺธธมฺมสงฺฆา, จิตฺตีกตาทิภาโว วา รตนฏฺโ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘จิตฺตีกตํ มหคฺฆฺจ, อตุลํ ทุลฺลภทสฺสนํ;

อโนมสตฺตปริโภคํ, รตนํ เตน วุจฺจตี’’ติ. (ขุ. ปา. อฏฺ. ๖.๓; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๓; สํ. นิ. ๕.๒๒๓; สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๒๒๖; มหานิ. อฏฺ. ๕๐; ที. นิ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถา; ม. นิ. ฏี. ๑.๔; สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๔; อ. นิ. ฏี. ๑.๑.๔; สารตฺถ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา);

จิตฺตีกตภาวาทโย จ อนฺสาธารณา พุทฺธาทีสุ เอว ลพฺภนฺติ, รตนานํ ตยํ รตนตฺตยํ, ตสฺมึ รตนตฺตเย. หตนฺตราโยติ วิธสฺตอุปทฺทโว หุตฺวาติ สมฺพนฺโธ, เอเตน อตฺตโน ปสาทสมฺปตฺติยา, รตนตฺตยสฺส จ เขตฺตภาวสมฺปตฺติยา ตสฺส ปุฺสฺส อตฺถสํวณฺณนาย อุปฆาตกอุปทฺทวานํ วิหนเน สมตฺถตํ ทสฺเสติ. สพฺพตฺถาติ สพฺพสฺมึ อนฺโต เจว พหิ จ, อชฺฌตฺติกพาหิรวตฺถูสูติ อตฺโถ. สพฺพตฺถาติ วา สพฺพสฺมึ กาเล, สํวณฺณนาย อาทิมชฺฌปริโยสานกาเลสูติ วุตฺตํ โหติ. หุตฺวาติ ปุพฺพกาลกิริยา, ตสฺส ‘‘กริสฺสามตฺถวณฺณน’’นฺติ เอเตน สมฺพนฺโธ. ตสฺสาติ ยํ รตนตฺตเย วนฺทนาชนิตํ ปุฺํ, ตสฺส. เตชสาติ อานุภาเวน พเลน.

เอวํ รตนตฺตยวนฺทนาย ปโยชนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เนตฺติปฺปกรณสฺส คมฺภีรตฺถตฺตา อตฺถสํวณฺณนาย ทุกฺกรภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ิติ’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ิตินฺติ านํ อนนฺตรธานํ อวิจฺเฉทปฺปวตฺตึ. อากงฺขมาเนนาติ อิจฺฉมาเนน ปตฺถยนฺเตน, ‘‘อโหวตายํ สทฺธมฺมเนตฺติ จิรํ ติฏฺเยฺยา’’ติ เอวํ ปตฺถยนฺเตนาติ วุตฺตํ โหติ. จิรนฺติ ทีฆกาลํ, ปฺจวสฺสสหสฺสปริมาณํ กาลนฺติ อตฺโถ. สทฺธมฺมเนตฺติยาติ สทฺธมฺมสงฺขาตาย เนตฺติยา. สทฺธมฺโม หิ เวเนยฺยสนฺตาเนสุ อริยคุณานํ นยนโต เนตฺติ, สทฺธมฺมสฺส วา เนตฺติ สทฺธมฺมเนตฺติ, ตสฺสา สทฺธมฺมเนตฺติยา, สฺวายมตฺโถ อฏฺกถายํ วิจาริโต เอว. เถเรนาติ ถิรคุณยุตฺเตน. อภิยาจิโตติ อาทรคารเวน ยาจิโต. อภิมุขํ วา ยาจิโต, อนุตฺตรํ กตฺวา ยาจิโตติ อตฺโถ. อุทฺทิสฺส วา ยาจิโต, ครุตรํ กตฺวา ยาจิโตติ อตฺโถ, ‘‘กโรตุ อายสฺมา เนตฺติปฺปกรณสฺส กฺจิ อตฺถสํวณฺณน’’นฺติ เอวํ เนตฺติยา อตฺถสํวณฺณนํ ปติ อชฺเฌสิโตติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ จ สทฺธมฺมสฺส จิรํ ิติกาเมน อชฺฌาสยสมฺปนฺเนน สาสเน ถิรคุณยุตฺเตน สพฺรหฺมจารินา อาทรคารเวน, อภิมุขํ วา ยาจิเตน เม น สกฺกา ตสฺส อภิยาจนํ ปฏิกฺขิปิตุนฺติ ทสฺเสติ ‘‘ิตึ อากงฺขมาเนนา’’ติ คาถาย.

ปทุมุตฺตรนาถสฺสาติ ปทุมุตฺตรสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. ปสฺสตาติ ปุพฺเพนิวาสจกฺขุนา, สมนฺตจกฺขุนา เอว วา หตฺถตเล ปิตอามลกํ วิย อภินีหารํ ปสฺสนฺเตน. ตาทินาติ ตาทิภาวยุตฺเตน, สพฺพตฺถ วา นิพฺพิกาเรน, ‘‘อมฺหากํ ภควตา’’ติ วจนเสโส. ยสฺสาติ อายสฺมโต มหากจฺจานตฺเถรสฺส. ปิโตติ –

‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชนฺตานํ ยทิทํ มหากจฺจาโน’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๘, ๑๙๗) –

เอวํ ปิโต. สีลาทิคุณวิเสเสหิ มหนฺตา สาวกาติ มหาสาวกา (เถรคา. อฏฺ. ๒.๑๒๘๘; อ. นิ. ฏี. ๒.๓.๕๙), มหากสฺสปาทโย, เตสุ อยมายสฺมา อฺตโรติ, มหาสาวโก จ โส คุณวิเสสโยคโต อุตฺตโม จาติ มหาสาวกุตฺตโม.

ฌานาทีสุ สาติสยานํ อาวชฺชนาทิวสีภาวานํ, อริยิทฺธิวเสน ปรมสฺส จ เจโตวสีภาวสฺส อธิคตตฺตา วสิปฺปตฺโต. อตฺถาทีสุ สวิเสสเภทคตปฏิสมฺภิทาาณตฺตา ปภินฺนปฏิสมฺภิโท. ‘‘ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, มหากจฺจาโน, มหาปฺโ, ภิกฺขเว, มหากจฺจาโน’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๐๕) อเนเกสุ าเนสุ ภควตา ปสํสิตตฺตา สมฺพุทฺเธน ปสํสิโต. เตน วุตฺตํ ‘‘สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต สํภาวิโต, วิฺูนฺจ สพฺรหฺมจาริน’’นฺติ.

อนุโมทิตาติ ‘‘สาธุ สาธุ, กจฺจาน, สาธุ โข, ตฺวํ กจฺจาน, อิมํ ธมฺมสํวณฺณนํ อภาสี’’ติ เอวํ อนุโมทิตา. เอกสฺมึ กิร สมเย อยํ มหาเถโร ชมฺพุวนสณฺเฑ วิหรนฺโต อตฺตโน สนฺติกาวจรานํ ภิกฺขูนํ อิมํ หารนยปฏิมณฺฑิตํ ปกรณํ อภาสิ. ภาสิตฺวา จ ภควโต สนฺติกํ อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน ยถาภาสิตํ อิมํ ปกรณํ ภควโต นิเวเทสิ. ตํ สุตฺวา ภควา ‘‘สาธุ สาธู’’ติอาทินา อนุโมทิตฺวา ‘‘ตสฺมาติห, ตฺวํ กจฺจาน, อิมํ ธมฺมสํวณฺณนํ ธมฺมเนตฺติตฺเวว ธาเรหี’’ติ นามคฺคหณํ อกาสีติ วทนฺติ. เทสนาหาราทินนฺทิยาวฏฺฏนยาทิหารนยานุสาเรเนว สพฺพธมฺมสํวณฺณนานํ คติโยติ อาห ‘‘สาสนสฺส สทายตฺตา, นวงฺคสฺสตฺถวณฺณนา’’ติ.

คมฺภีราเณหีหิ คมฺภีเรหิ าเณหิ, น สทฺธามตฺตเกน, คมฺภีราเณหิ วา มหาปฺเหิ อริเยหิ. ปกรณสฺส คมฺภีรตฺถตํ, อตฺตโน จ าณสฺส นาติวิสยตํ วิทิตฺวา สํวณฺณนารมฺเภ สํสีทนฺตมฺปิ มํ สาสนคุณาทิอุปนิสฺสยสมฺปทา อุสฺสาเหสีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘กิฺจาปี’’ติอาทินา.

‘‘ปฺจปิ นิกาเย โอคาเหตฺวา’’ติ อิมินา เนตฺติยา ปฺจปิ มหานิกาเย อนุปวิสิตฺวา อวฏฺานํ, เตสํ สํวณฺณนาภาวฺจ ทีเปติ. ตตฺถ ‘‘กตโม อสฺสาโท จ อาทีนโว จา’’ติอาทิเปฏโกปเทสปาฬึ (เปฏโก. ๒๓) อาเนตฺวา อิธ เทสนาหาราทีนํ ปทตฺถวินิจฺฉโย เปฏเกน สํสนฺทนํ นาม. ‘‘ยถาพล’’นฺติ อิมินา สพฺพถา สพฺพภาเคนาปิ เนตฺติยา สํวณฺณนา มยา น สุกรา กาตุํ, อตฺตโน ปน าณพลานุรูปํ กริสฺสามีติ นิรติมานตํ ทีเปติ.

สุวิสุทฺธนฺติ สุฏฺุ วิสุทฺธํ, นิกายนฺตรลทฺธิโทเสหิ อนฺตรนฺตรา อนุปฺปเวสิเตหิ อสมฺมิสฺสนฺติ อธิปฺปาโย. อสํกิณฺณนฺติ สนิกาเยปิ ปทตฺถนฺตรปริกปฺปนาทินา อสํกิณฺณํ ตาทิสสงฺกรรหิตํ อนากุลํ สุปริจฺฉินฺนํ. วิวิเธหิ อากาเรหิ นิจฺฉิโนตีติ วินิจฺฉโย. อตฺถานํ วินิจฺฉโย อตฺถวินิจฺฉโย. คณฺิฏฺานภูเตสุ อตฺเถสุ ขิลมทฺทนากาเรน ปวตฺตา วิมติจฺเฉทกถา, นิปุโณ สุขุโม สณฺโห อตฺถวินิจฺฉโย เอตสฺสาติ นิปุณตฺถวินิจฺฉโย. อถ วา อตฺเถ วินิจฺฉิโนตีติ อตฺถวินิจฺฉโย, ยถาวุตฺตอตฺถวิสยาณํ, นิปุโณ เฉโก อตฺถวินิจฺฉโย เอตสฺสาติ นิปุณตฺถวินิจฺฉโย, ตํ นิปุณตฺถวินิจฺฉยํ. สมยนฺติ สิทฺธนฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาวิหารวาสีนํ สิทฺธนฺโต วุตฺตนเยน สุปริสุทฺโธ, อนากุโล, สณฺหสุขุมวินิจฺฉโย จ, สิทฺธนฺตํ ตํ อวิโลเมนฺโต อนุกูลโต ตตฺถ สิทฺธํเยว ธมฺมเนตฺตึ ปกาสยนฺโต เนตฺติปฺปกรณสฺส อตฺถสํวณฺณนํ กริสฺสามีติ.

ปมาทเลขนฺติ อปรภาเค โปตฺถการุฬฺหกาเล ปมชฺชิตฺวา ลิขนวเสน ปวตฺตปฺปมาทปาํ. วชฺเชตฺวาติ อปเนตฺวา. ปาฬึ สมฺมา นิโยชยนฺติ ตํ ตํ เนตฺติปาฬึ ตตฺถ ตตฺถ อุทาหรณภาเวน อานีตสุตฺเต สมฺมเทว นิโยเชนฺโต, อตฺถสํวณฺณนาย วา ตํ ตํ อุทาหรณสุตฺตสงฺขาตํ ปาฬึ ตสฺมึ ตสฺมึ ลกฺขณภูเต เนตฺติคนฺเถ สมฺมเทว นิโยเชนฺโต. อุปเทสนฺติ เนตฺติอุปนิสํ เนตฺติหทยํ. ยฺวายํ สปฏฺานวิภาคสฺส เตตฺตึสวิธสฺส เนตฺติปทตฺถสฺส สห นิมิตฺตวิภาเคน อสงฺกรโต ววตฺถิโต วิสโย, ตํ. วิภาเวนฺโต ปกาเสนฺโต. ตสฺสา เนตฺติยา กริสฺสามิ อตฺถวณฺณนนฺติ สมฺพนฺโธ.

เอตฺถ จ ‘‘อภิยาจิโต’’ติ อิมินา อตฺถสํวณฺณนาย นิมิตฺตํ ทสฺเสติ, ‘‘ิตึ อากงฺขมาเนน จิรํ สทฺธมฺมเนตฺติยา’’ติ อิมินา ปโยชนํ, ‘‘กริสฺสามตฺถวณฺณน’’นฺติ อิมินา ปิณฺฑตฺถํ. สํวณฺณิยมานา หิ ปกรณตฺถา สํวณฺณนาย ปิณฺฑตฺโถ. ‘‘ตมุปนิสฺสายา’’ติอาทินา กรณปฺปการํ.

อิทานิ สํวณฺณนาย สวเน นิโยเชนฺโต ‘‘อิติ อตฺถ’’นฺติ โอสานคาถมาห. ตตฺถ ‘‘สกฺกจฺจ’’นฺติ ปทํ อุภยตฺถ โยเชตพฺพํ ‘‘สกฺกจฺจํ วิภชนฺตสฺส, สกฺกจฺจํ นิสามยถา’’ติ.

คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิทานกถาวณฺณนา

วจนตฺถชานเนน วิทิตปฺปกรณตฺถสามฺตฺถสฺส ปกรณกถา วุจฺจมานา โสเภยฺยาติ เนตฺติปทตฺถปริชานนเมว อาทิมฺหิ ยุตฺตรูปนฺติ ตทตฺถํ ปุจฺฉติ ‘‘ตตฺถ เกนฏฺเน เนตฺตี’’ติ. ตตฺถ ตตฺถาติ ‘‘ตสฺสา เนตฺติยา กริสฺสามตฺถวณฺณน’’นฺติ ยทิทํ วุตฺตํ, ตสฺมึ; ยสฺสา กริสฺสามตฺถวณฺณนนฺติ ปฏิฺาตํ, สา เนตฺติ เกนฏฺเน เนตฺตีติ อตฺโถ. ตตฺถาติ วา ‘‘เนตฺติปฺปกรณสฺสา’’ติ เอตสฺมึ วจเน ยา เนตฺติ วุตฺตา, สา เกนฏฺเน เนตฺตีติ อตฺโถ. ‘‘นยนฏฺเนา’’ติ อิทํ กตฺตุกรณาธิกรณสาธนานํ สาธารณวจนนฺติ ‘‘อริยธมฺมํ นยตี’’ติ กตฺตุสาธนวเสน ตาว เนตฺติสทฺทสฺส อตฺถํ วตฺวา อิทานิ กรณาธิกรณสาธนวเสน วตฺตุํ ‘‘นยนฺติ ตายา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตถา หิ วุตฺตนฺติ เนตฺติอุปเทสาธีนตฺตา เอว สุตฺตาวโพธสฺส วุตฺตํ. เปฏเก ‘‘ตสฺมา นิพฺพายิตุกาเมน สุตมเยน อตฺถา ปริเยสิตพฺพา, ตตฺถ ปริเยสนาย อยํ อนุปุพฺพี ภวติ โสฬส หารา ปฺจ นยา อฏฺารส มูลปทานี’’ติอาทิ (เปฏโก. ๓). หารนยวิจารณา วินิมุตฺโต อตฺถสํวณฺณนาวิเสโส นตฺถีติ อาห ‘‘สุตฺตสฺส อตฺถสํวณฺณนา เนตฺติอุปเทสายตฺตา’’ติ. สฺวายมตฺโถ ปรโต ปกิณฺณกกถายํ อาวิ ภวิสฺสติ. เอวํ มหาวิสยา จายํ เนตฺติ กุโต ปภวาติ อาห ‘‘สุตฺตปฺปภวา’’ติ, เอเตน เนตฺติยา ปมาณภูตตํ ทสฺเสติ. อิทฺจ สุตฺตสฺส เนตฺติสนฺนิสฺสยตาปริทีปนปรํ, น เถรปฺปภวตาปฏิกฺเขปปรํ. เถโร หิ ปฺจ มหานิกาเย โอคาเหตฺวา ตํสนฺนิสฺสเยเนว เตสํ สํวณฺณนาภูตํ อิมํ ปกรณํ อภาสิ, ตสฺมา อยเมว สํวณฺณนาธมฺโม, ยทิทํ สํวณฺเณตพฺพธมฺมสนฺนิสฺสยตา.

ปกรณปริจฺเฉทโตติ ปกรณสฺส วิภาคโต. หารวิจาราทโย หิ ตโย เนตฺติปฺปกรณสฺส วิภาคา, ปกรณภูตปริจฺเฉทโต วา. ตีณิ หิ เอตานิ ปกรณานิ ตโย อธิการา, ยทิทํ หารวิจาราทโย. ปาฬิววตฺถานโตติ ปาสนฺนิเวสโต.

‘‘สพฺโพ หิ ปกรณตฺโถ’’ติอาทินา สงฺคหวารสฺส อนฺวตฺถสฺตํ ทสฺเสติ. ‘‘นนุ เจตฺถ ปฏฺานํ อสงฺคหิต’’นฺติ โจทโก พฺยภิจารมาห. อิตโร ยทิปิ สรูปโต อสงฺคหิตํ, อตฺถโต ปน สงฺคหิตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘นยิทเมว’’ติอาทินา ปริหรติ. ปุน ‘‘ตถา หี’’ติอาทินา ตเมวตฺถํ ปาฬิยา ปากฏตรํ กโรติ. อตฺถนยา นนฺทิยาวฏฺฏาทโย. สงฺขารตฺติกา ปุฺาภิสงฺขาราทโย, กายสงฺขาราทโย จ. เตสุ อตฺถนยานํ อฺมฺสงฺคโห ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. อิตเร ปน กามาวจรา, รูปาวจรา จ กุสลา เจตนา ปุฺาภิสงฺขาโร, อกุสลา เจตนา อปุฺาภิสงฺขาโร, อรูปาวจรา กุสลา เจตนา อาเนฺชาภิสงฺขาโร. ปุฺาภิสงฺขาโร จ อปุฺาภิสงฺขาโร จ กายทฺวารปฺปวตฺโต กายสงฺขาโร, โส เอว วจีทฺวารปฺปวตฺโต วจีสงฺขาโร, มโนทฺวารปฺปวตฺโต ปน ติวิโธปิ จิตฺตสงฺขาโร. อิติ ชาติวเสน ปุริมตฺติเก วุตฺตา เอว ธมฺมา ทฺวารวเสน ทุติยตฺติเก วุตฺตา, เต เอว จ ปุริมตฺติเกติ อฺมฺสงฺคโห เวทิตพฺโพ.

ยตฺถาติ ยสฺมึ วาเร. เปฏเกติ เปฏโกปเทเส. สมฺปตมานาติ สํวณฺณนาวเสน สนฺนิปตนฺตา. ‘‘พฺยฺชนวิธิปุถุตฺตา’’ติ อิทํ เอกสฺมึ สุตฺเต อเนเกสํ หารานํ สนฺนิปตนสฺส การณวจนํ. ตถา หิ ‘‘อเนกสามตฺถิยนิจิตา สทฺทา’’ติ อกฺขรจินฺตกา วทนฺติ.

‘‘น สรูปโต’’ติ อิมินา สงฺคหวาเร วิย อุทฺเทสนิทฺเทสวาเรสุปิ ปฏฺานสฺส อตฺถโต อุทฺธฏตํ ทสฺเสติ. มูลปทคฺคหเณเนว คหิตตฺตา อุทฺเทสวาเร ตาว เอวํ โหตุ, นิทฺเทสวาเร ปน กถนฺติ? ตตฺถาปิ นยคฺคหเณเนว มูลปทานิปิ คหิตานีติ เวทิตพฺพํ. น หิ มูลปเทหิ วินา กาจิ นยโยชนา สมฺภวติ. อปเร ปน ‘‘หารนยา วิย ปฏฺานํ น สุตฺตสฺส สํวณฺณนาวิเสโส, อถ โข ตสฺมึ ตสฺมึ สุตฺเต สํกิเลสภาคิยตาทิลพฺภมานวิเสสมตฺตนฺติ น ตสฺส ปกรณสฺส ปทตฺถสงฺคโห. เอวฺจ กตฺวา เตตฺตึสาย เนตฺติปทตฺเถสุ ปฏฺานํ อสงฺคหิตํ, อุทฺเทสนิทฺเทสวาเรสุ จ อนุทฺธฏเมวา’’ติ วทนฺติ.

‘‘ปาฬิโต เอว วิฺายตี’’ติ วุตฺตมตฺถํ สมตฺเถนฺโต ‘‘ตถา หิ…เป… อาภต’’นฺติ อาห, เตน เถเรน ภาสิตภาโว วิย ภควตา อนุโมทิตภาโวปิ ปาฬิอนุคโต เอวาติ ทสฺเสติ. สาวกภาสิตตฺตา นิทานํ น วุตฺตนฺติ น สกฺกา วตฺตุนฺติ โจเทนฺโต ‘‘สาวก…เป… ภาสิต’’นฺติ อาห. นยิทํ เอกนฺติกนฺติ จ สาวกภาสิตพุทฺธภาสิตภาโว นิทานาวจนสฺส, นิทานวจนสฺส จ อการณํ อุภยตฺถาปิ อุภยสฺส ทสฺสนโต. ตสฺมา นิทานาวจเนน เนตฺติยา อสาวกภาสิตตา น สิชฺฌตีติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘น จ ตาวตา ตานิ อปฺปมาณํ, เอวมิธาปิ ทฏฺพฺพ’’นฺติ.

เยเนว การเณน นิทานาวจนสฺส ปมาณภาวสาธนตา, เตเนว การเณน อิมสฺส ปกรณสฺส ปมาณภาวสิทฺธีติ ทสฺเสติ ‘‘นิทานฺจ นามา’’ติอาทินา. อิทานิ ‘‘อถ วา’’ติอาทินา เนตฺติยา นิทานาวจเนน อพฺยภิจารเหตุมาห. อยฺเหตฺถ ปโยโค น เนตฺติยา นิทานํ วตฺตพฺพํ ปาฬิยา อตฺถสํวณฺณนาภาวโต. ยา หิ ปาฬิยา อตฺถสํวณฺณนา น ตสฺสา นิทานวจนํ ทิฏฺํ ยถา ปฏิสมฺภิทามคฺคสฺส, นิทฺเทสาทีนฺจาติ.

‘‘อยํ วิภาโค’’ติอาทินา เอกวิธโต ปฏฺาย ยาว จตุราสีติสหสฺสปฺปเภทา, ตาว ยถาทสฺสิตสฺส ปกรณวิภาคสฺส ปุน ‘‘อาทินา นเยน ปกรณวิภาโค เวทิตพฺโพ’’ติ อิทํ นิคมนํ. ตตฺถ อาทินา นเยนาติ อาทิสทฺเทน อภิฺเยฺยธมฺมนิทฺเทสโต ปฺตฺติปฺเปตพฺพธมฺมวิภชนโต ติยทฺธปริยาปนฺนธมฺมวิจารโต จตุโรฆนิตฺถรณตฺถโต ปฺจาภินนฺทนาทิปฺปหานโต ฉตณฺหากายุปสมนโต สงฺคหวาราทิสตฺตวารสงฺคหโต อฏฺมิจฺฉตฺตสมุคฺฆาตทีปนโตติ เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

๑. สงฺคหวารวณฺณนา

นฺติ อนิยมตฺโถ สพฺพนามสทฺโท กมฺมสาธนวเสน วุตฺโต. อตฺถาวโพธนตฺโถ สทฺทปฺปโยโค อตฺถปราธีโน เกวโล อตฺถปทตฺถโก, โส ปทตฺถวิปริเยสการินา อิติ-สทฺเทน ปรภูเตน สทฺทปทตฺถโก ชายตีติ อาห ‘‘ยนฺติ อนิยมโต อุปโยคนิทฺเทโส’’ติ. โลโกติ กตฺตุนิทฺเทโสติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

เอวํ ‘‘ย’’นฺติอาทีนํ คาถาปทานํ กมฺมกตฺตุกิริยากตฺตุวิเสสนาทิทสฺสนวเสน อตฺถํ วตฺวา อิทานิ อวยวโชตนวเสน ปทตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘โลกิยนฺติ เอตฺถา’’ติอาทิมาห. โลกสทฺโท อิธ สามตฺถิยโต สตฺตโลกวจโน ทฏฺพฺโพ. เตนาห ‘‘ปูชนกิริยาโยคฺยภูตตาวเสนา’’ติ. สาสนนฺตรธานโต ปรํ ปูชนา อฺพุทฺธุปฺปาเทน เวทิตพฺพา, ยเถตรหิ วิปสฺสีอาทิสมฺมาสมฺพุทฺธานํ. ‘‘ทีปงฺกโร’’ติอาทินา ยทิปิ พุทฺธวํสเทสนายํ (พุ. วํ. ๒.๗๕) ภควตาว วุตฺตํ, สุเมธปณฺฑิตตฺตภาเวน ปน ปวตฺตึ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยถาห ภควา สุเมธภูโต’’ติ.

ปริฺากฺกเมนาติ าตปริฺาทิปฏิปาฏิยา. ลกฺขณาวโพธปฺปฏิปตฺติยาติ วิปสฺสนาย. เตน วุตฺตํ ‘‘สุฺตมุขาทีหี’’ติ. ตถา จ วุตฺตนฺติ วิฺูหิ เวทนียตาย เอว สาสนวรสฺส วุตฺตํ ภควตา –

‘‘เอตุ วิฺู ปุริโส อสโ อมายาวี อุชุชาติโก, อหมนุสาสามิ, อหํ ธมฺมํ เทเสมิ, ยถานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมาโน น จิรสฺเสว สามฺเว อุสฺสติ, สามํ ทกฺขิตี’’ติอาทิ (ม. นิ. ๒.๒๘๑).

ยํ-สทฺโท สาสนวิสโย, โลกปาลสทฺโท สตฺถุวิสโยปิ โลกํ ปติ คุณีภูโตติ ‘‘ตสฺสา’’ติ ปฏินิทฺเทสสฺส กถํ สตฺถุวิสยตาติ โจทนํ มนสิกตฺวา อาห ‘‘สโลกปาโลติ เจตฺถา’’ติอาทิ, คุณีภูโตปิ โลกปาลสทฺโท ปธานภูโต วิย ปฏินิทฺเทสํ อรหติ. อฺโ หิ สทฺทกฺกโม, อฺโ อตฺถกฺกโมติ.

ธมฺมคารเวน ภควา ธมฺมํ ปูเชนฺโต เวเนยฺยพนฺธเว อจินฺเตตฺวา สมาปตฺติสมาปชฺชนธมฺมปจฺจเวกฺขณาหิ สตฺตสตฺตาหํ วีตินาเมสีติ อาห ‘‘ภควโต…เป… ทีเปตพฺพา’’ติ. ตตฺถ อาทิสทฺเทน สาวเกหิ ธมฺมสฺสวนสฺส, เตสํ ปจฺจุคฺคมนาทีนฺจ สงฺคโห เวทิตพฺโพ.

อิจฺจสฺสาติ อิติ อสฺส, เอวํ ภควโต อวิปรีตอนนฺตรายิกนิยฺยานิกธมฺมเทสนาย สพฺพฺุตานาวรณภาวทีปเนนาติ อตฺโถ. เตนาติ จตุเวสารชฺชโยเคน. ตทวินาภาวินา ทสพล…เป… ปกาสิตา โหติ. อาเวณิกพุทฺธธมฺมาทีติ เอตฺถ อาทิสทฺเทน ตีสุ กาเลสุ อปฺปฏิหตาณานิ, จตุสจฺจาณานิ, จตุปฏิสมฺภิทาาณานิ, ปฺจคติปริจฺเฉทกาณานิ, ฉ อภิฺาาณานิ, สตฺต อริยธนานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อฏฺ วิชฺชา, อฏฺสุ ปริสาสุ อกมฺปนาณานิ, อฏฺ วิโมกฺขา, นว สมาธิจริยา, นว อนุปุพฺพวิหารา, ทส นาถกรณา ธมฺมา, ทส อริยวาสา, ทฺวาทส ธมฺมจกฺกาการา, เตรส ธุตธมฺมา, จุทฺทส พุทฺธาณานิ, ปนฺนรส จรณธมฺมา, โสฬส าณจริยา, โสฬส อานาปานสฺสตี, เอกูนวีสติ ปจฺจเวกฺขณาณานิ, จตุวีสติ ปจฺจยวิภาวนาณานิ, จตุจตฺตารีส าณวตฺถูนิ, สตฺตสตฺตติ าณวตฺถูนิ, จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสมาปตฺติสฺจาริมหาวชิราณํ, อนนฺตนยสมนฺตปฏฺานปวิจยเทสนาการปฺปวตฺตาณานิ จาติ เอวมาทีนํ ภควโต คุณวิเสสานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

อปโร นโย – คุณวิสิฏฺตํ ทีเปติ, สา จ คุณวิสิฏฺตา มหากรุณามหาปฺาหิ เวทิตพฺพา ตาหิ สตฺถุสมฺปตฺติสิทฺธิโต. ตตฺถ มหากรุณาย ปวตฺติเภโท ‘‘พหุเกหิ อากาเรหิ ปสฺสนฺตานํ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ สตฺเตสุ มหากรุณา โอกฺกมตี’’ติอาทินา ปฏิสมฺภิทามคฺเค (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๗) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. มหาปฺาย ปน ปวตฺติเภโท วุตฺโต เอว. ตตฺถ กรุณาย ภควโต จรณสมฺปตฺติ, ปฺาย วิชฺชาสมฺปตฺติ. กรุณาย สตฺตาธิปติตา, ปฺาย ธมฺมาธิปติตา. กรุณาย โลกนาถตา, ปฺาย อตฺตนาถตา. กรุณาย ปุพฺพการิตา, ปฺาย กตฺุตา. กรุณาย อปรนฺตปตา, ปฺาย อนตฺตนฺตปตา. กรุณาย พุทฺธกรธมฺมสิทฺธิ, ปฺาย พุทฺธภาวสิทฺธิ. กรุณาย ปเรสํ ตารณํ, ปฺาย สยํ ตารณํ. กรุณาย สพฺพสตฺเตสุ อนุคฺคหจิตฺตตา, ปฺาย สพฺพธมฺเมสุ วิรตฺตจิตฺตตา ปกาสิตา โหตีติ อนวเสสโต ปรหิตปฏิปตฺติยา, อตฺตหิตสมฺปตฺติยา จ ปาริปูรี เวทิตพฺพา. ตีสุปิ อวตฺถาสูติ เหตุผลสตฺตูปการาวตฺถาสุ.

อภิสมโย ปฏิเวธสาสนสฺส, มนสิกรณํ ปฏิปตฺติสาสนสฺส, สวนาทีหิ ปริจยกรณํ ปริยตฺติสาสนสฺสาติ ติณฺณมฺปิ วเสน โยเชตพฺโพ. เตนาห ‘‘ยถารห’’นฺติ. ‘‘สกฺกจฺจํ ธมฺมเทสเนนา’’ติ อิมินา อิธ ‘‘สาสน’’นฺติ วุตฺตสฺส ติวิธสฺสาปิ สทฺธมฺมสฺส อวิเสเสน เทสนาปูชํ วตฺวา โถมนาปูชนสฺส วเสน ตํ วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อริยํ, โว ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘โถมเนนา’’ติ ปเทนาปิ ‘‘สกฺกจฺจ’’นฺติ ปทํ โยเชตพฺพํ. ปูชนาทฺวยสฺสาปิ วา วเสน อิธาปิ ปทโยชนา เวทิตพฺพา. อริยภาวาทโยติ อริยเสฏฺอคฺคภาวาทโย. นิยฺยานาทโยติ นิยฺยานเหตุทสฺสนาทโย. สฺวากฺขาตตาทโยติ สฺวากฺขาตสนฺทิฏฺิกตาทโย.

อิทานิ อริยสงฺฆคุณานมฺปิ อิมาย คาถาย ปกาสิตภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. พาลฺยาทิสมติกฺกมนโตติ พาลอพฺยตฺตภาวาทิสมติกฺกมนโต.

าณวิเสโส สุตจินฺตาภาวนามยาณานิ. โสตพฺพมนสิกาตพฺพปฏิวิชฺฌิตพฺพาวตฺถา อวตฺถาเภโท. อุภยนฺติ พฺยฺชนปทํ, อตฺถปทฺจ. อุภยถาติ กรณกมฺมสาธนวเสน ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ปฏิปชฺชิตพฺพตฺตาติ าตพฺพตฺตา.

‘‘อยฺจ คาถา’’ติอาทิ เกสฺจิ วาโท. ตถา หิ อปเร ‘‘เถเรเนวายํ คาถา ภาสิตา’’ติ วทนฺติ. อตฺตูปนายิกาปิ หิ กทาจิ ธมฺมเทสนา โหติ เอว ยถา ‘‘ทสพลสมนฺนาคโต, ภิกฺขเว, ตถาคโต จตุเวสารชฺชวิสารโท’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๒๑-๒๒). เอวฺจ กตฺวา ‘‘กตเม โสฬส หารา’’ติอาทิวจนํ สมตฺถิตํ โหติ.

ยถาวุตฺตอตฺถมุเขเนวาติ มูลปทสงฺขาตอตฺถุทฺธาเรเนว. ปรโต อาคมิสฺสตีติ นิทฺเทสวารสฺส ปริโยสาเน อาคมิสฺสติ ‘‘ตีณิ จ นยา อนูนา’’ติอาทินา (เนตฺติ. ๔ ทฺวาทสปท).

วุจฺจตีติ กตฺตริ กมฺมนิทฺเทโสติ อาห ‘‘วทตี’’ติ. อถ วา วุจฺจตีติ กมฺมกตฺตุนิทฺเทโสยํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – หารา, นยา จาติ อุภยํ ปริคฺคหิตํ สํวณฺณเกน สพฺพถา คหิตฺเจ, วุจฺจติ สุตฺตํ, สยเมว สุตฺตํ สํวณฺเณตีติ, เอเตน หารนเยสุ วสีภาเวน สุตฺตสํวณฺณนาย สุกรตํ ทสฺเสติ.

ปการนฺตเรนาติ ปุพฺเพ ‘‘สาสน’’นฺติ วุตฺตมตฺถํ ‘‘เทสนา, เทสิต’’นฺติ ตโต อฺเน ปกาเรน. นิยเมตฺวาติ ตสฺส เอกนฺตโต วิฺเยฺยตํ อวธาเรตฺวา. วิฺเยฺยตา วิสิฏฺเสุ เทสนาเทสิเตสุ วิฺเยฺยปเท ลพฺภมานา วิชานนกิริยา.

เทสนาเทสิตานิ จ ยาวเทว วิชานนตฺถานีติ วิชานนํ ปธานนฺติ ตเมว นิทฺธาเรนฺโต ‘‘ตตฺราติ ตสฺมึ วิชานเน’’ติ อาห.

เอตฺถาหาติ นวงฺคสาสนนววิธสุตฺตนฺตาติ เอตสฺมึ อตฺถวจเน อาห โจทโก. ตสฺสายํ อธิปฺปาโย – นวหิ องฺเคหิ ววตฺถิเตหิ อฺมฺสงฺกรรหิเตหิ ภวิตพฺพํ, ตถา จ สติ อสุตฺตสภาวาเนว เคยฺยงฺคาทีนีติ นววิธสุตฺตนฺตวจนํ วิรุชฺเฌยฺย. อถ สุตฺตสภาวานิ เคยฺยงฺคาทีนิ, เอวํ สติ ‘‘สุตฺต’’นฺติ วิสุํ สุตฺตงฺคํ น สิยา, เอวํ สนฺเต อฏฺงฺคสาสนํ อาปชฺชตีติ. เตนาห ‘‘กถํ ปนา’’ติอาทิ. เคยฺยงฺคาทีสุ กติปยานมฺปิ สุตฺตภาเว ยถาวุตฺตโทสานติวตฺติ, ปเคว สพฺเพสนฺติ ทสฺเสติ ‘‘ยฺจา’’ติอาทินา. สงฺคเหสูติ อฏฺกถาสุ. โปราณฏฺกถานฺหิ สงฺเขปภูตา อิทานิ อฏฺกถา ‘‘สงฺคหา’’ติ วุตฺตา. สุตฺตํ นาม สคาถกํ วา สิยา, นิคฺคาถกํ วาติ องฺคทฺวเยเนว ตทุภยงฺคํ กตนฺติ วิสุํ สุตฺตงฺคสฺส อสมฺภโว ตทุภยวินิมุตฺตสฺส สุตฺตสฺส อภาวโต. เตน วุตฺตํ ‘‘สุตฺตงฺคเมว น สิยา’’ติ. อถาปิ กถฺจิ. สิยาติ วกฺขมานํ สามฺวิธึ สนฺธายาห. เอวมฺปิ อยํ โทโสติ ทสฺเสนฺโต ‘‘มงฺคลสุตฺตาทีน’’นฺติอาทิมาห.

ตพฺภาวนิมิตฺตนฺติ เคยฺยงฺคภาวนิมิตฺตํ. เวยฺยากรณสฺส ตพฺภาวนิมิตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. โจทโก ‘‘คาถาวิรเห’’ติ วจนํ อคฺคณฺหนฺโต ‘‘ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ พฺยากรณ’’นฺติ วจนมตฺตเมว คเหตฺวา ‘‘เอวํ สนฺเต’’ติอาทินา โจเทติ. อิตโร ปน โอกาสวิธิโต อโนกาโส วิธิ พลวาติ ายํ คาถาวิรหิตํเยว เวยฺยากรณนฺติ, อิธาธิปฺเปตนฺติ จ ทสฺเสนฺโต ‘‘นาปชฺชตี’’ติอาทินา ปริหรติ. ตถา หีติ เตเนว การเณน, สติปิ สฺนฺตรนิมิตฺตโยเค อโนกาสสฺานํ พลวภาเวเนวาติ อตฺโถ.

สงฺคหวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อุทฺเทสวารวณฺณนา

. วิภาเคนาติ สรูปวิภาเคน. อทิฏฺํ โชตียติ เอตายาติ อทิฏฺโชตนา. ทิฏฺํ สํสนฺทียติ เอตายาติ ทิฏฺสํสนฺทนา, สํสนฺทนํ เจตฺถ สากจฺฉาวเสน วินิจฺฉยกรณํ. วิมติ ฉิชฺชติ เอตายาติ วิมติจฺเฉทนา. อนุมติยา ปุจฺฉา อนุมติปุจฺฉา. ‘‘ตํ กึ มฺถา’’ติ หิ กา ตุมฺหากํ อนุมตีติ อนุมติ ปุจฺฉิตา. กเถตุกมฺยตาติ กเถตุกมฺยตาย.

‘‘หรียนฺติ เอเตหี’’ติอาทินา กรณาธิกรณกตฺตุภาวกมฺมสาธนานํ วเสน หาร-สทฺทสฺส อตฺถํ วตฺวา สทิสกปฺปนาวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘หารา วิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปุน คนฺถกรณาทิอตฺเถน คนฺถาทิสทฺทานํ วิย หารกรณาทิอตฺเถน หารสทฺทสิทฺธึ ทสฺเสตุํ ‘‘หารยนฺตี’’ติอาทิมาห. ‘‘หรณโต, รมณโต จา’’ติ อิมินา มโนหรา มโนรมา เจเต สํวณฺณนาวิเสสาติ ทสฺเสติ.

อุปปตฺติสาธนยุตฺตีติ ลกฺขณเหตุ. วุตฺตนเยนาติ ‘‘นนุ จ อฺเปิ หารา ยุตฺติสหิตา เอวา’’ติอาทินา เทสนาหาเร วุตฺตนยานุสาเรน.

จตุนฺนํ พฺยูโห เอตฺถาติ ภินฺนาธิกรณานมฺปิ ปทานํ อฺปทตฺถสมาโส ลพฺภติ ‘‘อุรสิโลโม’’ติอาทีนํ (ที. นิ. ฏี. ๓.๕๔, ๓๐๓) วิยาติ วุตฺตํ.

เสสนฺติ ‘‘วิวจนเมว เววจน’’นฺติ เอวมาทิ.

อนุปฺปเวสียนฺตีติ อวคาหียนฺติ. สมาธียนฺตีติ ปริหรียนฺติ. วินา วิกปฺเปนาติ ชาติ สามฺํ, เภโท สามฺํ, สมฺพนฺโธ สามฺนฺติอาทินา ปทตฺถนฺตรภาววิกปฺปนมนฺตเรน.

ปทฏฺานาทิมุเขนาติ ปทฏฺานเววจนภาวนาปหานมุเขน. เกจีติ ปทฏฺานปริกฺขารอาวฏฺฏปริวตฺตนปฺตฺติโอตรเณ สนฺธาย วทติ.

. สมฺพนฺโธติ เหตุผลภาวโยโค. ตถาภูตานฺหิ ธมฺมานํ เอกสนฺตานสิทฺธตา เอกตฺตนโย. วิภาโค สติปิ เนสํ เหตุผลภาเว วิภตฺตสภาวตา. อฺโ เอว หิ เหตุ, อฺํ ผลนฺติ. พฺยาปารวิรโห นิรีหตา. น หิ เหตุผลานํ เอวํ โหติ ‘‘อหํ อิมํ นิพฺพตฺเตมิ, อิมินาหํ นิพฺพตฺโต’’ติ. อนุรูปผลตา ปจฺจยุปฺปนฺนานํ ปจฺจยานุกูลตา. สมูหาทึ อุปาทาย โลกสงฺเกตสิทฺธา โวหารมตฺตตา สมฺมุติสภาโว. ปถวีผสฺสาทีนํ กกฺขฬผุสนาทิลกฺขณํ ปรมตฺถสภาโว. อยฺเหตฺถ สงฺเขโป – ยสฺมึ ภินฺเน, อิตราโปเห วา จิตฺเตน กเตน ตถา พุทฺธิ, อิทํ สมฺมุติสจฺจํ ยถา ฆเฏ, สสมฺภารชเล จ, ตพฺพิปริยาเยน ปรมตฺถสจฺจนฺติ. ปรมตฺถสจฺจปฺปฏิเวธายาติ นิพฺพานาธิคมาย.

อนฺโตติ อพฺภนฺตโร. ปธานาวยเวนาติ มูลภาเวน. ‘‘นนฺที ทุกฺขสฺส มูล’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๓) ตณฺหา ‘‘นนฺที’’ติ วุตฺตา. ‘‘สงฺคาเม จ นนฺทึ จรตี’’ติอาทีสุ ปโมโทติ อาห ‘‘ตณฺหาย, ปโมทสฺส วา’’ติ.

. ชาติเภทโตติ กุสลา, อกุสลาติ อิมสฺมา วิเสสา. ยุชฺชนฺตีติ เอตฺถ เหตุอตฺโถ อนฺโตนีโต เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘โยชียนฺตี’’ติ. เกหิ โยชียนฺติ? สํวณฺณนเกหีติ อธิปฺปาโย. ยุชฺชนฺตีติ วา ยุตฺตา โหนฺติ, เตหิ สมานโยคกฺขมา ตคฺคหเณเนว คหิตา โหนฺตีติ อตฺโถ ตเทกฏฺภาวโต. อิมสฺมึ อตฺเถ ‘‘นวหิ ปเทหี’’ติ สหโยเค กรณวจนํ, ปุริมสฺมึ กรเณ. ‘‘เอเต โข’’ติ จ ปาโ. ตตฺถ โข-สทฺทสฺส ปทปูรณตา, อวธารณตฺถตา วา เวทิตพฺพา. เอเต เอวาติ เอเต ตณฺหาทโย เอว, น อิโต อฺเติ อตฺโถ. อฏฺารเสว น ตโต อุทฺธํ, อโธ วาติ. ปุริมสฺมึ ปกฺเข มูลปทนฺตราภาโว, ทุติยสฺมึ เตสํ อนูนาธิกตา ทีปิตา โหติ.

อุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. นิทฺเทสวารวณฺณนา

. นิทฺเทสวาเร สามฺโตติ สาธารณโต. วิเสเสนาติ อสาธารณโต. ปทตฺโถติ สทฺทตฺโถ. ลกฺขณนฺติ สภาโว. กโมติ อนุปุพฺพี. เอตฺตาวตาติ เอตฺตกปฺปมาณภาโว. เหตฺวาทีติ เหตุผลภูมิอุปนิสาสภาควิสภาคลกฺขณนยา. วิเสสโต ปน ลกฺขณนฺติ สมฺพนฺโธ.

หารสงฺเขปวณฺณนา

. ยํ, ภิกฺขเวติ เอตฺถ นฺติ ปจฺจตฺตวจนํ, ตฺจ สุขํ, โสมนสฺสนฺติ ทฺวเยน สมานาธิกรณนฺติ กตฺวา ‘‘อสฺสาทียตีติ อสฺสาโท, สุขํ, โสมนสฺสฺจา’’ติ วุตฺตํ. สุขาทิเวทนา วิย มนาปิยรูปาทิปิ อวีตราคสฺส อสฺสาเทตพฺพนฺติ อาห ‘‘เอวํ อิฏฺารมฺมณมฺปี’’ติ. ‘‘อสฺสาเทติ เอตายาติ วา อสฺสาโท, ตณฺหา’’ติ เอเตน ‘‘ย’’นฺติ เหตุอตฺเถ นิปาโตติ ทสฺเสติ. ตตฺรายมตฺโถ – เยน เหตุนา ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ ปฏิจฺจ อสฺสาทนียภาเวน อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อยํ ตณฺหาสงฺขาโต อสฺสาโท อสฺสาทนกิริยาย การณนฺติ. อิติ กตฺวา อยมตฺโถ ทิฏฺาภินนฺทนาทิภาวโต วิปลฺลาเสสุปิ สมฺภวตีติ อาห ‘‘เอวํ วิปลฺลาสาปี’’ติ. อนิฏฺมฺปีติ ปิ-สทฺเทน อิฏฺมฺปีติ โยเชตพฺพํ, อนวเสสา สาสวา ธมฺมา อิธ อารมฺมณคฺคหเณน คหิตาติ อาห ‘‘สพฺเพสํ เตภูมกสงฺขาราน’’นฺติ.

ทุกฺขาทุกฺขมสุขเวทนานนฺติ เอตฺถ ทุกฺขสภาวา เอว อทุกฺขมสุขา เวทนา คหิตา อนิฏฺารมฺมณสฺส อธิปฺเปตตฺตา, น สุขสภาวา. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ยายํ, ภนฺเต, อทุกฺขมสุขา เวทนา, สนฺตสฺมึ เอสา ปณีเต สุเข วุตฺตา ภควตา’’ติ (ม. นิ. ๒.๘๘; สํ. นิ. ๔.๒๖๗). ‘‘สุขปริยายสพฺภาวโต’’ติ อิมินา อิฏฺตามตฺตโตปิ เลเสน สตฺตานํ อารมฺมณสฺส อสฺสาทนียตา สมฺภวตีติ ทสฺเสติ.

อาทีนโว โทสนิสฺสนฺทนตาย โทโส, สฺวายํ ปีฬนวุตฺติยา เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘อาทีนโว ทุกฺขา เวทนา, ติสฺโสปิ วา ทุกฺขตา’’ติ. เอวํ โทสตฺถตํ อาทีนวสฺส ทสฺเสตฺวา อิทานิ กปณตฺถตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยโตติ ยสฺมา โทสกปณสภาวตฺตาติ วุตฺตํ โหติ.

นิสฺสรตีติ วิวิตฺติ, สพฺพสงฺขารวิเวโกติ อตฺโถ. สามฺนิทฺเทเสนาติ นิสฺสรณสทฺทวจนียตาสามฺเน. ปุริมานนฺติ อสฺสาทาทีนวตานํ. อุปาโย จาติอาทีสุ -สทฺโท ปทปูรณมตฺตนฺติ กตฺวา อาห ‘‘ปจฺฉิมานฺจา’’ติ, ผลาทีนนฺติ อตฺโถ. ตทนฺโตคธเภทานนฺติ อริยมคฺคปริยาปนฺนวิเสสานํ.

กามภวาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน น รูปารูปภวา เอว คหิตา, อถ โข เต จ สฺีภวาทโย จ เอกโวการภวาทโย จ คหิตา. เตนาห ‘‘ติณฺณํ ติณฺณํ ภวาน’’นฺติ.

ยาวเทว อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถา ภควโต เทสนาติ อาห ‘‘นนุ จ…เป… นิปฺผาทียตี’’ติ. ‘‘วุตฺตเมวา’’ติ อิมินา ปุนรุตฺติโทสํ โจเทติ. อิตโร ‘‘สจฺจเมต’’นฺติ อนุชานิตฺวา ‘‘ตฺจ โข’’ติอาทินา ปริหรติ. ‘‘ปรมฺปรายา’’ติ เอเตน อชฺฌตฺตํ โยนิโสมนสิกาโร วิย น ปรโตโฆโส อาสนฺนการณํ ธมฺมาธิคมสฺส ธมฺมสฺส ปจฺจตฺตํ เวทนียตฺตาติ ทสฺเสติ. ตถา หิ ‘‘อกฺขาตาโร ตถาคตา, ปฏิปนฺนา ปโมกฺขนฺติ, ฌายิโน มารพนฺธนา’’ติ (ธ. ป. ๒๗๖) วุตฺตํ. ตทธิคมการณํ อริยมคฺคาธิคมการณํ สิยา. กึ ปน ตนฺติ อาห ‘‘สมฺปตฺติภวเหตู’’ติ, เตน จริมตฺตภาวเหตุภูตํ ปุฺสมฺปตฺตึ วทติ.

‘‘อตฺตานุทิฏฺึ อูหจฺจ, เอวํ มจฺจุตโร สิยา’’ติ อิทํ อริยมคฺคสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทาย ผลภาวสาธนํ. เยน หิ วิธินา อตฺตานุทิฏฺิสมุคฺฆาโต, มจฺจุตรณฺจ สิยา, โส ‘‘เอว’’นฺติ อิมินา ปกาสิโตติ. อตฺตานุทิฏฺิสมุคฺฆาตมจฺจุตรณานํ ผลภาเว วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.

‘‘ธมฺโม หเว’’ติ ปน คาถายํ โลกิยสฺส ปุฺผลสฺส วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อิทํ ผล’’นฺติ. ยํ นิพฺพตฺเตตพฺพํ, ตํ ผลํ. ยํ นิพฺพตฺตกํ, โส อุปาโย. อยเมตฺถ วินิจฺฉโย. เตนาห ‘‘เอเตน นเยนา’’ติอาทิ. อุปธิสมฺปตฺตีติ อตฺตภาวโสภา.

วิสุทฺธีติ าณทสฺสนวิสุทฺธิ อธิปฺเปตาติ อาห – ‘‘เอตฺถาปิ…เป… วิฺาตุ’’นฺติ. ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทินาปิ ตเมวตฺถํ วจนนฺตเร ปากฏตรํ กโรติ.

สรูปโต อาคตานิ ‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๒๖-๒๘). เอกเทเสน อาคตานิ ‘‘สํโยชนิเยสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน วิหรโต (สํ. นิ. ๒.๕๓), พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย (ม. นิ. ๑.๑๑๗), สงฺขารานเมตํ นิสฺสรณํ, ยทิทํ นิพฺพาน’’นฺติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๒๔; ๓.๔๑). น สรูเปน อาคตานิ ยถา สามฺผลสุตฺตาทีสุ. อตฺถวเสนาติ อสฺสาเทตพฺพาทิอตฺถวเสน. น ปปฺจิโตติ น วิตฺถาริโต.

. เอเสว นโยติ อติเทเสน วิจิยมานวจนเสโส อติทิฏฺโ. ภาวตฺเถ โตหิ อาห ‘‘วิสฺสชฺชิตนฺติ วิสฺสชฺชนา’’ติ. สุตฺเต อาคตํ น อตฺถสํวณฺณนาวเสน อฏฺกถายํ อาคตนฺติ อธิปฺปาโย. ปุจฺฉานุรูปตา อิธ ปุพฺพาปรนฺติ จตุพฺยูหปุพฺพาปรโต อิมํ วิเสเสตฺวา ทสฺเสติ. ปุจฺฉานุสนฺธีติ ปุจฺฉาย วิสฺสชฺชเนน อนุสนฺธานํ. อฏฺกถายํ ปน เหฏฺิมเทสนาย ปุจฺฉานิมิตฺตปวตฺตอุปริเทสนาย สมฺพนฺโธ ‘‘ปุจฺฉานุสนฺธี’’ติ วุตฺตํ. ปุพฺพาเปกฺขนฺติ ปุจฺฉิตวิสฺสชฺชิตปทาเปกฺขํ. ‘‘สุตฺตสฺสา’’ติ วา อิมินา ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนาอนุคีติโย เปตฺวา เสโส วิจยหารปทตฺโถ สงฺคหิโตติ ปทสฺสาปิ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ ปกฺเข คาถายํ -สทฺโท ปทปูรณมตฺเต ทฏฺพฺโพ.

‘‘จกฺขุ อนิจฺจ’’นฺติ ปุฏฺเ ‘‘อาม, จกฺขุ อนิจฺจเมวา’’ติ เอกนฺตโต วิสฺสชฺชนํ เอกํสพฺยากรณํ. ‘‘อฺินฺทฺริยํ ภาเวตพฺพํ, สจฺฉิกาตพฺพฺจา’’ติ ปุฏฺเ ‘‘มคฺคปริยาปนฺนํ ภาเวตพฺพํ, ผลปริยาปนฺนํ สจฺฉิกาตพฺพ’’นฺติ วิภชิตฺวา วิสฺสชฺชนํ วิภชฺชพฺยากรณํ. ‘‘อฺินฺทฺริยํ กุสล’’นฺติ ปุฏฺเ ‘‘กึ อนวชฺชฏฺโ กุสลฏฺโ, อุทาหุ สุขวิปากฏฺโ’’ติ ปฏิปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ ปฏิปุจฺฉาพฺยากรณํ. ‘‘สสฺสโต อตฺตา, อสสฺสโต วา’’ติ วุตฺเต ‘‘อพฺยากตเมต’’นฺติอาทินา อวิสฺสชฺชนํ ปนํ. ‘‘กึ ปเนเต กุสลาติ วา ธมฺมาติ วา เอกตฺถา, อุทาหุ นานตฺถา’’ติ อิทํ ปุจฺฉนํ สาวเสสํ. วิสฺสชฺชนสฺส ปน สาวเสสตา เวเนยฺยชฺฌาสยวเสน เทสนายํ เวทิตพฺพา. อปฺปาฏิหีรกํ สอุตฺตรํ. สปฺปาฏิหีรกํ นิรุตฺตรํ. เสสํ วิจยหารนิทฺเทเส สุวิฺเยฺยเมว.

เอตฺถ จ อสฺสาโท อสฺสาทเหตุ ยาว อาณตฺติเหตูติ เอวํ เหตูนมฺปิ อสฺสาทาทโย เวทิตพฺพา. ตตฺถ สงฺเขปโต สุขสุขปจฺจยลกฺขโณ อสฺสาโท, โส วิเสสโต สคฺคสมฺปตฺติยา ทีเปตพฺโพ. สา หิ ตสฺส อุกฺกํโส, เสสา ปเนตฺถ ภวสมฺปตฺติ ตทนฺวายิกา เวทิตพฺพา. ตสฺส เหตุ ทานมยํ, สีลมยฺจ ปุฺกิริยวตฺถุ. ทุกฺขทุกฺขปจฺจยลกฺขโณ อาทีนโว. วิปริณามสงฺขารทุกฺขตานํ ตทวโรธโต วฏฺฏทุกฺขสฺสาปิ เอตฺถ สงฺคโห. วิเสสโต ปน กามานํ โอกาโรติ ทฏฺพฺโพ, สฺวายํ สํกิเลสวตฺถุนา, อิตฺตรปจฺจุปฏฺานตาทีหิ จ วิภาเวตพฺโพ, ตสฺส เหตุ ทส อกุสลกมฺมปถา. เนกฺขมฺมํ นิสฺสรณํ, ตสฺส เหตุ ยถารหํ ตทนุจฺฉวิกา ปุพฺพภาคปฺปฏิปทา. ผลํ เทสนาผลเมว, ตสฺส เหตุ เทสนา. อุปาโย ยถาวุตฺตอุปาโยว, ตสฺส เหตุ จตฺตาริ จกฺกานิ. อาณตฺติ อุปเทโส, ตสฺส ราคคฺคิอาทีหิ โลกสฺส อาทิตฺตตา, สตฺถุ มหากรุณาโยโค จ เหตุ.

ตถา จตูสุ อริยสจฺเจสุ สมุทเยน อสฺสาโท, ทุกฺเขน อาทีนโว, มคฺคนิโรเธหิ นิสฺสรณํ, มคฺโค วา อุปาโย, ตทุปเทโส อาณตฺติ, อนุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ ผลํ. อิติ อนุปุพฺพกถาย สทฺธึ พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกาย ธมฺมเทสนาย นิทฺธารณภาเวน วิจโย เวทิตพฺโพ. ปทสฺส ปทตฺถสมฺพนฺโธ เหตุ. โส หิ ตสฺส ปวตฺตินิมิตฺตํ, ปฺหสฺส าตุกามตา, กเถกุกามตา จ. อทิฏฺโชตนาทีนฺหิ จตุนฺนํ าตุกามตา, อิตรสฺส อิตรา. วิสฺสชฺชนสฺส ปฺโห เหตุ. เอวํ เสสานมฺปิ ยถารหํ วตฺตพฺพํ.

. พฺยฺชนตฺถานํ ยุตฺตายุตฺตปริกฺขาติ พฺยฺชนคฺคหเณน ปทํ คหิตํ, อตฺถคฺคหเณน ปฺหาทีหิ สทฺธึ อสฺสาทาทโย คหิตา. วิจยหารปทตฺถา เอว หิ ยุตฺตายุตฺตาทิวิเสสสหิตา ยุตฺติหาราทีนํ ปทตฺถา. ตถา หิ ปทฏฺานปทฏฺานิกภาววิสิฏฺา เตเยว ปทฏฺานหารสฺส ปทตฺถา. ลกฺขณลกฺขิตพฺพตาวิสิฏฺา, นิทฺธาริตา จ ลกฺขณหารสฺส, นิพฺพจนาทิวิภาวนาวิสิฏฺา จตุพฺยูหหารสฺส, สภาคธมฺมวเสน, วิสภาคธมฺมวเสน จ อาวฏฺฏนวิสิฏฺา อาวฏฺฏหารสฺส, ภูมิวิภาคาทิวิสิฏฺา วิภตฺติหารสฺส, ปฏิปกฺขโต ปริวตฺตนวิสิฏฺา ปริวตฺตนหารสฺส, ปริยายเววจนวิสิฏฺา เววจนหารสฺส, ปภวาทิปฺาปนวิสิฏฺา ปฺตฺติหารสฺส, ขนฺธาทิมุเขหิ โอตรณวิสิฏฺา โอตรณหารสฺส, ปทปทตฺถปฺหารมฺภโสธนวิสิฏฺา โสธนหารสฺส, สามฺวิเสสนิทฺธารณวิสิฏฺา อธิฏฺานหารสฺส, ปจฺจยธมฺเมหิ ปริกฺขรณวิสิฏฺา ปริกฺขารหารสฺส, ปหาตพฺพภาเวตพฺพตานิทฺธารณวิสิฏฺา สมาโรปนหารสฺส ปทตฺถา. ‘‘พฺยฺชนสฺส สภาวนิรุตฺติตา, อตฺถสฺส สุตฺตาทีหิ อวิโลมนํ ยุตฺตภาโว’’ติ อิมินา อสภาวนิรุตฺติตา, สุตฺตาทีหิ วิโลมนฺจ อยุตฺตภาโวติ ทีเปติ, เตน ยุตฺตายุตฺตีนํ เหตุํ ทสฺเสติ.

. โยนิโสมนสิการาทีติ อาทิสทฺเทน สทฺธมฺมสฺสวนสปฺปุริสูปนิสฺสยาทิสาธารณํ, อสาธารณฺจ เทยฺยปฏิคฺคาหกาทึ สงฺคณฺหาติ. สมฺภวโตติ ยถารหํ ตสฺส ธมฺมสฺส อนุรูปํ. ยาว สพฺพธมฺมาติ เอตฺถ สพฺพํ นาม ปเทสสพฺพํ, น สพฺพสพฺพนฺติ. อยฺหิ สพฺพสทฺโท ยถา ปมวิกปฺเป สุตฺเต อาคตธมฺมวเสน ปเทสวิสโย, เอวํ ทุติยวิกปฺเป ปทฏฺานปทฏฺานิกนิทฺธารเณน ตํตํปกรณปริจฺฉินฺนธมฺมคฺคหณโต ปเทสวิสโย เอว, น อนวเสสธมฺมวิสโยติ. สุตฺตาคตธมฺมานํ ยานิ ปทฏฺานานิ, เตสฺจ ยานีติ เอวํ การณปรมฺปรานิทฺธารณลกฺขโณ ปทฏฺานหาโร, ปริกฺขารหาโร ปน สุตฺตาคตธมฺมานํ ตํตํปจฺจยุปฺปนฺนานํ ปฏิเหตุปจฺจยตาวิเสสวิภาวนลกฺขโณติ สติปิ การณวิจารณภาเว อยํ ปทฏฺานหารปริกฺขารหารานํ วิเสโส.

. ยถา ‘‘สมานาธิกรณสมานปเท’’ติอาทีสุ เอกสทฺทสฺส อตฺโถ สมานสทฺโท, เอวํ เอกรสฏฺเน ภาวนา ‘‘เอกุปฺปาทา’’ติอาทีสุ (กถา. ๔๗๓) วิย เอกลกฺขณาติ เอตฺถ เอกสทฺโท สมานตฺโถติ อาห ‘‘สมานลกฺขณา’’ติ. สํวณฺณนาวเสนาติ เอตฺถ กมฺมตฺเถ อน-สทฺโท, สํวณฺเณตพฺพตาวเสนาติ อตฺโถ. ลกฺขณาติ อุปลกฺขณา. ‘‘นานตฺตกายนานตฺตสฺิโน (ที. นิ. ๓.๓๔๑, ๓๕๗, ๓๕๙; อ. นิ. ๙.๒๔), นานตฺตสฺานํ อมนสิการา’’ติอาทีสุ สหจาริตา ทฏฺพฺพา. สฺาสหคตา หิ ธมฺมา ตตฺถ สฺาคฺคหเณน คหิตา. ‘‘ททํ มิตฺตานิ คนฺถตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๒๔๖; สุ. นิ. ๑๘๙) สมานกิจฺจตา. ปิยวจนตฺถจริยา สมานตฺตตาปิ หิ ตตฺถ มิตฺตคนฺถนกิจฺเจน สมานกิจฺจา คยฺหนฺติ สงฺคหวตฺถุภาวโต. ‘‘ผสฺสปจฺจยา เวทนา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; สํ. นิ. ๒.๑, ๓๙; มหาว. ๑; วิภ. ๒๒๕; อุทา. ๑; เนตฺติ. ๒๔) สมานเหตุตา. ยถา หิ ผสฺโส เวทนาย, เอวํ สฺาทีนมฺปิ สหชาตาทินา ปจฺจโย โหติ เอวาติ เตปิ สมานเหตุตาย วุตฺตา เอว โหนฺติ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ตชฺชามโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชา เจตนา’’ติ (ธ. ส. ๕), ‘‘ผุฏฺโ สฺชานาติ, ผุฏฺโ เจเตตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๔.๙๓). เอวํ ‘‘ตณฺหาปจฺจยา อุปาทาน’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; สํ. นิ. ๒.๑, ๓๙; มหาว. ๑; วิภ. ๒๒๕; อุทา. ๑; เนตฺติ. ๒๔) เอวมาทิปิ อุทาหริตพฺพํ. ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; สํ. นิ. ๒.๑, ๓๙; มหาว. ๑; วิภ. ๒๒๕; อุทา. ๑; เนตฺติ. ๒๔) สมานผลตา ทฏฺพฺพา. ยถา หิ สงฺขารา อวิชฺชาย ผลํ, เอวํ ตณฺหุปาทาทีนมฺปีติ เตปิ ตตฺถ คหิตาว โหนฺติ. เตนาห ‘‘ปุริมกมฺมภวสฺมึ โมโห อวิชฺชา อายูหนา สงฺขารา นิกนฺติ ตณฺหา อุปคมนํ อุปาทาน’’นฺติ. ‘‘รูปํ อสฺสาเทติ อภินนฺทติ, ตํ อารพฺภ ราโค อุปฺปชฺชตี’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๔) วุตฺเต ตํสมฺปยุตฺตา เวทนาทโย วุตฺตา เอว โหนฺติ สมานารมฺมณภาวโต. น หิ เตหิ วินา ตสฺส อุปฺปตฺติ อตฺถิ. เอวมาทีหีติ เอตฺถ อาทิสทฺเทน อตฺถปฺปกรณลิงฺคสทฺทนฺตรสนฺนิธานสามตฺถิยาทีนมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อตฺถาทิวเสนปิ หิ สุตฺเต อวุตฺตานมฺปิ วุตฺตานํ วิย นิทฺธารณํ สมฺภวตีติ. วุตฺตปฺปกาเรนาติ ‘‘วธกฏฺเน เอกลกฺขณานี’’ติอาทินา ปาฬิยํ, ‘‘สหจาริตา’’ติอาทินา อฏฺกถายฺจ วุตฺเตน ปกาเรน.

. ‘‘ผุสนฏฺเน ผสฺโส’’ติอาทินา นิทฺธาเรตฺวา วจนํ นิพฺพจนํ, ตํ ปน ปทสฺเสว, น วากฺยสฺสาติ อาห ‘‘ปทนิพฺพจน’’นฺติ. อธิปฺปายนิทานานิเปตฺถ พฺยฺชนมุเขเนว นิทฺธาเรตพฺพานิ. นิพฺพจนปุพฺพาปรสนฺธีสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อาห ‘‘วิเสสโต พฺยฺชนทฺวาเรเนว อตฺถปริเยสนา’’ติ. ปวตฺตินิมิตฺตํ อชฺฌาสยาทิ.

. ‘‘ปทฏฺาเน’’ติ อิทํ สุตฺเต อาคตธมฺมานํ การณภูเตปิ ธมฺเม นิทฺธาเรตฺวา สภาคโต, วิสภาคโต จ อาวฏฺฏนํ กาตพฺพนฺติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น ตนฺติวเสน. ตสฺมา ปทฏฺานนิทฺธารณาย วินาปิ อาวฏฺฏนํ ยุตฺตเมวาติ สิทฺธํ โหติ. ปทสฺส วา สทฺทปวตฺติฏฺานํ ปทฏฺานํ ปทตฺโถ. เอตสฺมึ ปกฺเข ‘‘อารมฺภถ นิกฺกมถาติ (สํ. นิ. ๑.๑๘๕; เนตฺติ. ๒๙; เปฏโก. ๓๘; มิ. ป. ๕.๑.๔) วีริยสฺส ปทฏฺาน’’นฺติ (เนตฺติ. ๒๙) เอตฺถ ยฺวายมารมฺภธาตุอาทิโก อตฺโถ วุตฺโต, ตํ วีริยสทฺทสฺส ปวตฺติฏฺานํ วีริยสทฺทาภิเธยฺโย อตฺโถติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. เสสกํ นามคหิตโต อิตรํ, ตํ ปน ตสฺส ปฏิปกฺขภูตํ วา สิยา, อฺํ วาติ อาห ‘‘วิสภาคตาย อคฺคหเณน วา’’ติ. สํวณฺณนาย โยเชนฺโตติ ยถาวุตฺตวิสภาคธมฺมนิทฺธารณภูเตน อตฺถกถเนน ปาฬิยํ โยเชนฺโต. เตนาห ‘‘เทสน’’นฺติ. ‘‘ปฏิปกฺเข’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ สภาคธมฺมวเสนปิ อาวฏฺฏนสฺส อิจฺฉิตตฺตา.

. นามวเสนาติ สาธารณนามวเสน. ปาฬิยํ ปน ‘‘มิจฺฉตฺตนิยตานํ สตฺตานํ, อนิยตานฺจ สตฺตานํ ทสฺสนปหาตพฺพา กิเลสา สาธารณา’’ติอาคตตฺตา (เนตฺติ. ๓๔) ‘‘ทสฺสนปหาตพฺพาทินามวเสนา’’ติ วุตฺตํ. วตฺถุวเสนาติ สตฺตสนฺตานวเสน. โส หิ ธมฺมานํ ปวตฺติฏฺานตาย อิธ ‘‘วตฺถู’’ติ อธิปฺเปโต. เตนาห – ‘‘ปุถุชฺชนสฺส, โสตาปนฺนสฺส จ กามราคพฺยาปาทา สาธารณา’’ติอาทิ (เนตฺติ. ๓๔). วุตฺตวิปริยาเยนาติ นามโต, วตฺถุโต จ อาเวณิกตาย. ตํตํมคฺคผลฏฺานฺหิ ตํตํมคฺคผลฏฺตา, ภพฺพานํ ภพฺพตา, อภพฺพานํ อภพฺพตา อสาธารณา.

. ‘‘ภาวิเต’’ติ อิทํ ภาวนากิริยาย อุปลกฺขณํ, น เอตฺถ กาลวจนิจฺฉาติ อาห ‘‘ภาเวตพฺเพติ อตฺโถ’’ติ. ภาวนา เจตฺถ อาเสวนาติ, กุสลสทฺโทปิ อนวชฺชฏฺโติ เวทิตพฺโพ. ปฏิปกฺขโตติ วิปกฺขโต. วิสทิสูทาหรเณน พฺยติเรกโต ยถาธิปฺเปตธมฺมปฺปติฏฺานา เหสา.

๑๐. ปทตฺถสฺสาติ ปทาภิเธยฺยสฺส อตฺถสฺส, สภาวธมฺมสฺส วา.

๑๑.

นิกฺเขโป เทสนา. ปภโว สมุทโย.

๑๒. ‘‘อวุตฺตานมฺปิ สงฺคโห’’ติ อิมินา อวุตฺตสมุจฺจยตฺโถ -สทฺโทติ ทสฺเสติ.

๑๓. ‘‘คาถารุฬฺเห’’ติ อิมินา ปาฬิอาคโตว ปฺโห เวทิตพฺโพ, น อิตโรติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘พุทฺธาทีหิ พฺยากเต’’ติ. ตสฺส อตฺถสฺสาติ อารทฺธสฺส อตฺถสฺส, เตน อารมฺภโสธนสฺส วิสยมาห. เอตฺถ จ อตฺถทฺวาเรเนว ปทปุจฺฉาโสธนมฺปิ กรียตีติ ปุน ‘‘ตสฺส อตฺถสฺสา’’ติ วุตฺตํ. อถ วา วิสฺสชฺชิตมฺหีติ วิสฺสชฺชเน. วิสฺสชฺชนโสธเนน หิ ปฺหาโสธนํ. ปฺเหติ ปุจฺฉายํ. คาถายนฺติ อุปลกฺขณํ, เตน คาถายํ, สุตฺตเคยฺยาทีสุ จาติ วุตฺตํ โหติ. ยมารพฺภาติ ยํ สีลาทิมารพฺภ คาถาทีสุ เทสิตํ, ตสฺมึ อารมฺเภติ อตฺโถ. ปุจฺฉิตาติ ปุจฺฉาการินี, ‘‘กา เอตฺถ ปทสุทฺธิ, กา ปฺหาสุทฺธิ, กา อารมฺภสุทฺธี’’ติ เอวํ ปุจฺฉาการินี ปุจฺฉํ กตฺวา ปวตฺติตา สุทฺธาสุทฺธปริกฺขาติ โยชนา.

๑๔. น วิกปฺปยิตพฺพาติ ยถา โลเก ‘‘ชาติ สามฺํ, เภโท สามฺํ, สมฺพนฺโธ สามฺ’’นฺติอาทินา สามฺํ ชาติอาทึ, ตพฺพิธุรฺจ วิเสสํ วิกปฺเปนฺติ ปริกปฺเปนฺติ, เอวํ น วิกปฺปยิตพฺพาติ อตฺโถ. ยทา โย กาลวิเสโส ‘‘สฺเว’’ติ ลทฺธโวหาโร, ตทา โส ตํทิวสาติกฺกเม ‘‘อชฺชา’’ติ, ปุน ตํทิวสาติกฺกเม ‘‘หิยฺโย’’ติ โวหรียตีติ อนวฏฺิตสภาวา เอเต กาลวิเสสา. ทิสายปิ ‘‘เอกํ อวธึ อเปกฺขิตฺวา ปุรตฺถิมา ทิสา, ตโต อฺํ อเปกฺขิตฺวา ปจฺฉิมา นาม โหตี’’ติอาทินา อนวฏฺิตสภาวตา เวทิตพฺพา. ชาติอาทิอเปกฺขายาติ ชาติอาทิทุกฺขวิเสสาเปกฺขาย. สจฺจาเปกฺขายาติ สจฺจสามฺาเปกฺขาย. ‘‘ตณฺหา’’ติ วุจฺจมานํ กามตณฺหาทิอเปกฺขาย สามฺมฺปิ สมานํ สจฺจาเปกฺขาย วิเสโส โหตีติ เอวมาทึ สนฺธายาห ‘‘เอส นโย สมุทยาทีสุปี’’ติ.

๑๖. เอตฺถาติ เอตสฺมึ พุทฺธวจเน. เตนาห ‘‘สิกฺขตฺตยสงฺขาตสฺสา’’ติอาทิ. ยถารุตํ ยถากถิตํ สทฺทโต อธิคตํ นิทฺธาริตํ, น อตฺถปฺปกรณลิงฺคสทฺทนฺตรสนฺนิธานาทิปฺปมาณนฺตราธิคตํ. ‘‘อตฺถโต ทสฺสิตา’’ติ อิทํ ยสฺมึ สุตฺเต ภาวนาว กถิตา, น ปหานํ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ.

นยสงฺเขปวณฺณนา

๑๗. ตณฺหาวิชฺชาหิ กรณภูตาหิ. สํกิเลโส ปกฺโข เอตสฺสาติ สํกิเลสปกฺโข, สํกิเลสปกฺขิโก สุตฺตตฺโถ, ตสฺส นยนลกฺขโณติ โยชนา. โวทานปกฺขสฺส สุตฺตตฺถสฺสาติ สมฺพนฺโธ. วุฏฺานคามินิยา, พลววิปสฺสนาย จ ทุกฺขาทีสุ ปริฺเยฺยตาทีนิ มคฺคานุคุโณ คหณากาโร อนุคาหณนโย. ยทิ เอวํ กถํ นโยติ อาห ‘‘ตสฺส ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘นยโวหาโร’’ติ อิมินา นยาธิฏฺานํ นโยติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ.

๑๘. พาธกาทิภาวโตติ พาธกปภวสนฺตินิยฺยานภาวโต. อฺถาภาวาภาเวนาติ อพาธกอปฺปภวอสนฺติ อนิยฺยานภาวาภาเวน. สจฺจสภาวตฺตาติ อมุสาสภาวตฺตา. อวิสํวาทนโตติ อริยสภาวาทิภาวสฺส น วิสํวาทนโต เอกนฺติกตฺตาติ อตฺโถ.

๑๙. สํกิลิฏฺธมฺมาติ สํกิเลสสมนฺนาคตา ธมฺมา สทฺธมฺมนยโกวิทาติ สจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิธมฺมนยกุสลา, เอกตฺตาทินยกุสลา วา.

๒๐. อตฺถวิสฺสชฺชเนสูติ ‘‘อิเม ธมฺมา กุสลา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑) สุตฺเต กตปฺหวิสฺสชฺชเนสุ เจว อฏฺกถาย กตอตฺถสํวณฺณนาสุ จ. ‘‘โวทานิยา’’ติ อิมินา อนวชฺชธมฺมา อิธ กุสลาติ อธิปฺเปตา, น สุขวิปากาติ ทสฺเสติ. ตสฺส ตสฺส อตฺถนยสฺส โยชนตฺถํ มนสา โวโลกยเตติ โยชนา.

๒๑. ยทิ กรณภูตํ, กถํ ตสฺส อตฺถนฺตราภาโวติ อาห ‘‘เยน หี’’ติอาทิ. ทิสาภูตธมฺมานํ โวโลกยนสมานยนภาวโต โวหารภูโต, กมฺมภูโต จ นโย, น นนฺทิยาวฏฺฏาทโย วิย อตฺถภูโตติ ‘‘โวหารนโย, กมฺมนโย’’ติ จ วุจฺจติ.

ทฺวาทสปทวณฺณนา

๒๓. อปริโยสิเต ปเทติ อุจฺจารณเวลายํ ปเท อสมตฺเต, วิปฺปกเตติ อตฺโถ. ปริโยสิเต หิ ‘‘ปท’’นฺตฺเว สมฺา สิยา, น ‘‘อกฺขร’’นฺติ อธิปฺปาโย. ปทสฺส เววจนตาย อตฺถวเสน ปริยายํ ขรนฺตํ สฺจรนฺตํ วิย โหติ, น เอวํ วณฺโณ อเววจนตฺตาติ อาห ปริยายวเสน อกฺขรณโต’’ติ. น หิ วณฺณสฺส ปริยาโย วิชฺชตี’’ติ อิทํ อการาทิวณฺณวิเสสํ สนฺธาย วทติ, น วณฺณสามฺํ. ตสฺส หิ วณฺโณ อกฺขรนฺติ ปริยาโย วุตฺโต เอวาติ.

อกฺขรสทฺทสฺส อตฺถํ วตฺวา ตปฺปสงฺเคน วณฺณสทฺทสฺสปิ วตฺตุํ ‘‘เกนฏฺเน วณฺโณ’’ติอาทิมาห. ตตฺถ นนุ ปเทน, วากฺเยน วา อตฺโถ สํวณฺณียติ, น อกฺขเรนาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘วณฺโณ เอว หี’’ติอาทิ. ปทาทิภาเวนาติ ปทวากฺยภาเวน. ยถาสมฺพนฺธนฺติ ยถาสงฺเกตํ. อยํ-สทฺโท อิมสฺสตฺถสฺส วาจโก, อยํ อตฺโถ อิมสฺส สทฺทสฺส วจนีโยติ ยถาคหิตสงฺเกตานุรูปํ สทฺทตฺถานํ วาจกวจนียภาโว. อถ วา ยฺวายํ สทฺทตฺถานํ อฺมฺํ อวินาภาโว, โส สมฺพนฺโธ. ตทนุรูปํ เอกกฺขรํ นามปทํ ‘‘มา เอวํ มฺสี’’ติอาทีสุ มา-การาทิ. เกจีติ อภยคิริวาสิโน. เต หิ อภิธมฺมเทสนํ ‘‘มนสาเทสนา’’ติ วทนฺติ, ยโต ราหุลาจริโย ‘‘วิสุทฺธกรุณานํ มนสาเทสนา วาจาย อกฺขรณโต อกฺขรสฺิตา’’ติ อาห.

สตฺวปฺปธานนฺติ ทฺรพฺยปฺปธานํ. นามปเท หิ ทฺรพฺยมาวิภูตรูปํ, กิริยา อนาวิภูตรูปา ยถา ‘‘ผสฺโส’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; สํ. นิ. ๒.๑, ๓๙; มหาว. ๑; วิภ. ๒๒๕; อุทา. ๑; เนตฺติ. ๒๔). อาขฺยาตปเท ปน กิริยา อาวิภูตรูปา, ทฺรพฺยมนาวิภูตรูปํ ยถา ‘‘ผุสตี’’ติ. เตน เนสํ สตฺวกิริยาปฺปธานตา วุตฺตา. กิริยาวิเสสคฺคหณนิมิตฺตนฺติ กิริยาวิเสสาวโพธเหตุ กิริยาวิเสสทีปนโต, ยถา ‘‘จิรปฺปวาสิ’’นฺติ (ธ. ป. ๒๑๙) เอตฺถ -สทฺโท วสนกิริยาย วิโยควิสิฏฺตํ ทีเปติ. ‘‘เอวํ มนสิ กโรถ, มา เอวํ มนสากตฺถา’’ติอาทีสุ กิริยาวิเสสสฺส โชตโก เอวํ-สทฺโท. ‘‘เอวํสีลา (ที. นิ. ๓.๑๔๒) เอวํธมฺมา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๑๓; ม. นิ. ๓. ๑๙๘; สํ. นิ. ๕.๓๗๘) สตฺววิเสสสฺส. เอวํ เสสนิปาตปทานมฺปีติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘กิริยาย…เป… นิปาตปท’’นฺติ.

สงฺเขปโต วุตฺตํ, กึ ปน ตนฺติ อาห ‘‘ปทาภิหิต’’นฺติ. อถ วา สงฺเขปโต วุตฺตํ, โย อกฺขเรหิ สงฺกาสิโตติ วุจฺจติ. ปทาภิหิตํ ปเทหิ กถิตํ, โย ปเทหิ ปกาสิโตติ วุจฺจติ. ตทุภยํ, ยทิ ปทสมุทาโย วากฺยํ, ตสฺส โก ปริจฺเฉโท. ยาวตา อธิปฺเปตตฺถปริโยสานํ, ตาวตา เอกวากฺยนฺติปิ วทนฺติ, พหูเปตฺถ ปกาเร วณฺเณนฺติ. กึ เตหิ, สาขฺยาตํ สาพฺยยํ สการกํ สวิเสสนํ ‘‘วากฺย’’นฺติ ทฏฺพฺพํ. นนุ จ ปเทนปิ อตฺโถ พฺยฺชียตีติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘ปทมตฺตสวเนปิ หี’’ติอาทิ. อากาเรสุ วากฺยวิภาเคสุ อภิหิตํ กถิตํ นิพฺพจนํ อาการาภิหิตํ นิพฺพจนํ. ‘‘อภิหิตนฺติ จ ปาฬิอาคต’’นฺติ วทนฺติ.

‘‘นิพฺพานํ มคฺคติ, นิพฺพานตฺถิเกหิ วา มคฺคียติ, กิเลเส วา มาเรนฺโต คจฺฉตีติ มคฺโค’’ติอาทินา (ธ. ส. อฏฺ. ๑๖) นิพฺพจนานํ วิตฺถาโร. ตํนิทฺเทสกถนตฺตา นิทฺเทโสติ อิมมตฺถมาห ‘‘นิพฺพจนวิตฺถาโร นิรวเสสเทสนตฺตา นิทฺเทโส’’ติ. ปเทหีติ วากฺยาวยวภูเตหิ, วากฺยโต วิภชฺชมาเนหิ วา อาขฺยาตาทิปเทหิ. เตนาห ‘‘วากฺยสฺส วิภาโค’’ติ, ตถา จาห ‘‘อปริโยสิเต’’ติอาทิ. อปเร ปน ‘‘ปกติปจฺจยโลปาเทสาทิวเสน อกฺขรวิภาโค อากาโร, นิรุตฺตินเยน ปทวิภาโค นิพฺพจนํ, วากฺยวิภาโค นิทฺเทโส. วณฺณปทวากฺยานิ หิ อวิภตฺตานิ, วิภตฺตานิ จ ฉ พฺยฺชนปทานี’’ติ วทนฺติ. ฉฏฺํ วจนนฺติ ฉฏฺํ ปทํ. กาตพฺพนฺติ ‘‘อกฺขรํ ปทํ พฺยฺชนํ อากาโร ตเถว นิรุตฺติ นิทฺเทโส ฉฏฺวจน’’นฺติ คาถายํ เอวํ กตฺตพฺพํ, สํวณฺณนาวเสน วา อาการปทํ จตุตฺถํ กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. สพฺโพ สทฺทโวหาโร วิภตฺเตหิ, อวิภตฺเตหิ จ อกฺขรปทวากฺเยเหว, ตทฺปฺปกาโร นตฺถีติ อาห ‘‘ยานิมานี’’ติอาทิ.

๒๔. กาสนาสทฺโท กมฺมตฺโถติ ทสฺเสตุํ ‘‘กาสียตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปเทหิ ตาว อตฺถสฺส สงฺกาสนา, ปกาสนา จ โหตุ, ปทาวธิกาปิ สํวณฺณนา อิจฺฉิตาติ อกฺขเรหิ ปน กถนฺติ อาห ‘‘อกฺขเรหิ สุยฺยมาเนหี’’ติอาทิ. ปทตฺถสมฺปฏิปตฺตีติ ปทาภิเธยฺยอตฺถาวโพโธ. ‘‘อกฺขเรหิ สงฺกาเสตี’’ติอาทินา อกฺขรกรณํ สงฺกาสนภูตํ อุคฺฆฏนกิริยํ วทนฺเตน ยถาวุตฺโต อตฺโถ สาธิโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

วิภชนุตฺตานีกมฺมปฺตฺตีติ เอกตฺตนิทฺเทโส สมาหาโรติ อยํ ทฺวนฺทสมาโส. อุภเยนาติ ‘‘วิวรณา, วิภชนา’’ติ อิมินา ทฺวเยน. เอเตหีติ เอตฺถ เอว-กาโร ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ อาห ‘‘เอเตหิ เอวา’’ติ. ‘‘สงฺกาสนา…เป… อภาวโต’’ติ อิมินา ยถาธิปฺเปตอนูนาวธารณผลํ ทสฺเสติ. อุคฺฆฏนาทีติ อาทิสทฺเทน วิปฺจนนยานิ สงฺคณฺหาติ.

๒๕. สมฺมา ยุตฺโตติ สมฺมา อวิปรีตํ, อนวเสสโต จ ยุตฺโต สหิโต. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘อนูนา’’ติ. สพฺโพ หิ ปาฬิอตฺโถ อตฺถปทอตฺถนเยหิ อนวเสสโต สงฺคหิโต. เตนาห ‘‘สพฺพสฺส หี’’ติอาทิ.

๒๖. กสฺมา ปเนตฺถ มูลปทปทฏฺานานิ อสงฺคหิตานีติ? ปทตฺถนฺตราภาวโต. มูลปทานิ หิ นยานํ สมุฏฺานมตฺตตฺตา ปทฏฺานานีติ ทสฺสิโตยํ นโย. เตน วุตฺตํ ‘‘อิโต วินิมุตฺโต โกจิ เนตฺติปทตฺโถ นตฺถี’’ติ.

เนตฺติยา การณภูตาย. หารา สํวณฺเณตพฺพาติ สุตฺตสฺส อตฺถสํวณฺณนาวเสน หารา วิตฺถาเรตพฺพา. สฺวายนฺติ โส อยํ สํวณฺณนากฺกโม. เยน อนุกฺกเมน เนตฺติยํ เทสิตา, เตเนว สุตฺเต อตฺถสํวณฺณนาวเสน โยเชตพฺพาติ. เอวํ สิทฺเธติ เทสนากฺกเมเนว สิทฺเธ. อยํ อารมฺโภติ ‘‘โสฬส หารา ปม’’นฺติ เอวํ ปวตฺโต อารมฺโภ. อิมมตฺถนฺติ อิมํ วุจฺจมานนิยมสงฺขาตํ อตฺถํ.

ยทิ เทสิตกฺกเมเนว หารนยา สุตฺเต โยเชตพฺพา สิยุํ, กึ โส กโม การณนิรเปกฺโข, อุทาหุ การณสาเปกฺโขติ? กิฺเจตฺถ – ยทิ ตาว การณนิรเปกฺโข หารนยานํ อนุกฺกโม, อเนเก อตฺถา วุจฺจมานา อวสฺสํ เอเกน กเมน วุจฺจนฺตีติ. เอวํ สนฺเต เยน เกนจิ กเมน สุตฺเต โยเชตพฺพา สิยุํ, ตถา สติ นิยโม นิรตฺถโก สิยา. อถ การณสาเปกฺโข, กึ ตํ การณนฺติ? อิตโร การณคเวสนํ อกตฺวา อตฺโถ เอเวตฺถ คเวสิตพฺโพติ อธิปฺปาเยน ‘‘นายมนุโยโค น กตฺถจิ อนุกฺกเม นิวิสตี’’ติ วตฺวา ‘‘น ปน มยํ เทวานํปิยสฺส มโนรถวิฆาตาย เจเตมา’’ติ กมการณํ วิจาเรนฺโต ‘‘อปิจา’’ติอาทินา เทสนาหารสฺส ตาว อาทิโต เทสนาย การณํ ปติฏฺเปติ. ตตฺถ ธมฺมเทสนาย นิสฺสโย อสฺสาทาทีนวนิสฺสรณานิ, สรีรํ อาณตฺติ. ปกติยา สภาเวน. นิทฺธารเณน วินาปิ ปติฏฺาภาวโต นิสฺสยภาวโต.

‘‘ตถา หิ วกฺขตี’’ติอาทินา ยถาวุตฺตํ อตฺถํ ปากฏตรํ กโรติ. เอส นโย อิตเรสุปิ.

วิจยานนฺตรนฺติ วิจยหารานนฺตรํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ตถา หีติ ลกฺขณหารวิภงฺเค ยุตฺตายุตฺตานํ การณปรมฺปราย ปริคฺคหิตสภาวานํ อวุตฺตานมฺปิ เอกลกฺขณตาย คหณํ วุตฺตํ.

อตฺถโต นิทฺธาริตานนฺติ อตฺถุทฺธารปุพฺพาปรานุสนฺธิอาทิอตฺถโต สุตฺตนฺตรโต อุทฺธฏานํ สํวณฺณิยมานสุตฺเต อานีตานํ ปาฬิธมฺมานํ. สทฺทโต, ปมาณนฺตรโต จ ลทฺธานํ อิธ วิจาเรตพฺพตฺตา อาห ‘‘นิรวเสสโต’’ติ. อตฺถสฺสาติ อภิเธยฺยตฺถสฺส. ธมฺมสฺสาติ สภาวธมฺมสฺส. ตตฺถ ตตฺถ ตํ อภินิโรเปตีติ ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺเถ, ธมฺเม จ ตํ นามํ อภินิโรเปติ, ‘‘อยเมวํนาโม’’ติ โวหรติ. ‘‘อตฺถสฺส, ธมฺมสฺสา’’ติ ปททฺวเยน สามฺโต อตฺโถ, ธมฺโม จ อนวเสเสตฺวา คหิโตติ อาห ‘‘อนวเสสปริยาทาน’’นฺติ, ยโต วุตฺตํ ‘‘ตตฺถ ตตฺถา’’ติ. ตถาติ ยถา อนวเสสตฺถาวโพธทีปกํ อนวเสสปริยาทานํ กตํ จตุพฺยูหปาฬิยํ, เอวํ ปุนปฺปุนํ คพฺภมุเปตีติ เอตฺถ อสทฺทวตี อตฺถา ปวตฺติวเสน ลพฺภมานา สมฺมาปฏิปตฺติ อุทฺธฏาติ อุปสํหารตฺโถ ตถา-สทฺโท.

เตเนวาติ สุตฺตนฺตรสํสนฺทนสฺส สภาควิสภาคธมฺมนฺตราวฏฺฏนูปายภาวโต เอว. ยโตติ สภาควิสภาคธมฺมาวฏฺฏนสฺส สาธารณาทิธมฺมวิภชนูปายตฺตา. ปฏิวิภตฺตสภาเวติ ปฏิภาคภาเวน วิภตฺตสภาเว.

เต ธมฺมาติ ปฏิปกฺขโต ปริวตฺติตธมฺมา. น ปริยายวิภาวนา ปฺตฺติวิภาคปริคฺคาหิกาติ อาห ‘‘ปริยา…เป… สุโพธนฺจา’’ติ.

ปุจฺฉาวิโสธนํ วิสฺสชฺชนํ. อารมฺภวิโสธนํ เทสนาย อตฺถกถนํ. ตทุภยวิจาโร ธาตาทีสุ อสมฺมุยฺหนฺตสฺเสว สมฺภวตีติ อาห ‘‘ธาตายตนา…เป… สมฺปาเทตุ’’นฺติ. สุทฺโธ อารมฺโภติอาทิปาฬินิทสฺสเนนปิ อยเมวตฺโถ อุทาหโฏติ เวทิตพฺพํ.

‘‘การณากาโร’’ติ ปทฏฺานํ สนฺธาย วทติ. ปเภทโต เทสนากาโรติ เววจนํ. นิทฺธาเรตฺวา วุจฺจมานานีติ อุทฺธริตฺวา สมาโรปิยมานานีติ อธิปฺปาโย. สุตฺตสฺส อตฺถํ ตถตฺตาวโพธายาติ สุตฺตสฺส ปทตฺถาวคมมุเขน จตุสจฺจาภิสมยาย.

เวเนยฺยตฺตยยุตฺโต อตฺถนยตฺตยูปเทโส ‘‘เวเนยฺยตฺตยปฺปโยชิโต’’ติ วุตฺโต. เวเนยฺยตฺตยฺหิ ปจฺจยสมวาเย ตทุปเทสผลํ อธิคจฺฉนฺตํ อตฺถํ ปโยเชติ นามาติ. ตทนุกฺกเมเนวาติ เตสํ อุคฺฆฏิตฺุอาทีนํ เทสนานุกฺกเมเนว. เตติ ตโย อตฺถนยา. เตสนฺติ อุคฺฆฏิตฺุอาทีนํ. ยถา อุทฺเทสาทีนํ สงฺเขปมชฺฌิมวิตฺถารวุตฺติยา ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อุปการตา, เอวํ เตสํ อตฺถนยานํ. ตสฺสาติ อตฺถนยตฺถสฺส. ตตฺถาติ ตสฺสํ ตสฺสํ ภูมิยํ.

สมุฏฺานํ นิทานํ. อเนกธา สทฺทนยโต, นิรุตฺตินยโต จาติ อเนกปฺปการํ. ปทตฺโถ สทฺทตฺโถ. วิธิ อนุวาโทติ อิทเมตฺถ วิธิวจนํ, อยมนุวาโทติ อยํ วิภาโค เวทิตพฺโพ. สมาธาตพฺโพติ ปริหริตพฺโพ. อนุสนฺธียา อนุรูปํ นิคเมตพฺพนฺติ ยาย อนุสนฺธิยา สุตฺเต อุปริ เทสนา ปวตฺตา, ตทนุรูปํ สํวณฺณนา นิคเมตพฺพา. ปโยชนนฺติ ผลํ. ปิณฺฑตฺโถติ สงฺเขปตฺโถ. อนุสนฺธีติ ปุจฺฉานุสนฺธิอาทิอนุสนฺธิ. อุโปคฺฆาโฏติ นิทสฺสนํ. จาลนาติ โจทนา. ปจฺจุปฏฺานํ ปริหาโร.

ปกติอาทิปทาวยวํ ภินฺทิตฺวา กถนํ เภทกถา ยถา ‘‘ทิพฺพนฺตีติ เทวา’’ติ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๕๓). ปทสฺส อตฺถกถนํ ตตฺวกถา ยถา ‘‘พุทฺโธติ โย โส ภควา สยมฺภู อนาจริยโก’’ติ (มหานิ. ๑๙๒; จูฬนิ. ปารายนตฺถุติคาถานิทฺเทส ๙๗; ปฏิ. ม. ๑.๑๖๑). ปริยายวจนํ เววจนคฺคหณํ ยถา ‘‘ปฺา ปชานนา’’ติ (ธ. ส. ๑๖). วิจยยุตฺติจตุพฺยูหปริวตฺตนหาเรกเทสสงฺคหิตา, เววจนหารสงฺคหิตา จาติ อาห ‘‘เต อิธ กติปยหารสงฺคหิตา’’ติ.

อตฺตโน ผลํ ธาเรตีติ ธมฺโมติ เหตุโน ธมฺมภาโว เวทิตพฺโพ. าปกเหตูปิ าณกรณฏฺเน การเก ปกฺขิปิตฺวา อาห ‘‘การโก สมฺปาปโกติ ทุวิโธ’’ติ. ปุน จกฺขุพีชาทินิพฺพตฺตกเมว การณํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ปุน…เป… ติวิโธ’’ติอาทิมาห. ‘‘ตโย กุสลเหตู’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๐๕๙-๑๐๖๐) อาคตา อโลภาทโย, โลภาทโย จ เหตุเหตุ นาม. ‘‘จตฺตาโร โข, ภิกฺขเว, มหาภูตา เหตุ, จตฺตาโร มหาภูตา ปจฺจโย รูปกฺขนฺธสฺส ปฺาปนายา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๓.๘๖) อาคโต ปจฺจยเหตุ นาม. กุสลากุสลํ กมฺมํ อตฺตโน วิปากํ ปติ อุตฺตมเหตุ นาม. จกฺขาทิพีชาทิ จกฺขุวิฺาณองฺกุราทีนํ อสาธารณเหตุ นาม. กุสลากุสลานํ สติปิ ปจฺจยธมฺมภาเว อิฏฺานิฏฺผลวิเสสเหตุภาวทสฺสนตฺถํ วิสุํ คหณํ, สทฺทมคฺคานํ ปน าปกสมฺปาปกเหตุภาวทสฺสนตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ. องฺกุราทิกสฺส อสาธารณเหตุ พีชาทิสมานชาติยเหตุตาย สภาคเหตุ. สาธารณเหตุ ภุสสลิลาทิอสมานชาติยตาย อสภาคเหตุ. อินฺทฺริยพทฺธสนฺตานิโก อชฺฌตฺติกเหตุ, อิตโร พาหิรเหตุ. เกจิ ปน ‘‘สสนฺตานิโก อชฺฌตฺติกเหตุ, อิตโร พาหิรเหตู’’ติ วทนฺติ. ปริคฺคาหโก อุปตฺถมฺภโก. ปรมฺปรเหตุ อุปนิสฺสยปจฺจโย.

นิพฺพานสฺส อนิพฺพตฺตนิเยปิ สมุทยปฺปหานสมุทยนิโรธานํ อธิคมาธิคนฺตพฺพภาวโต นิพฺพานํ ปติ มคฺคสฺส เหตุภาโว วิย มคฺคํ ปติ นิพฺพานสฺส ผลภาโว อุปจารสิทฺโธติ อาห ‘‘ผลปริยาโย ลพฺภตี’’ติ.

ปฏิปชฺชมานภูมิ มคฺคธมฺมา. ปฏิปนฺนภูมิ ผลธมฺมา.

กิจฺจโตติ สรสโต. ลกฺขณโตติ อุปลกฺขณโต. สามฺโตติ สมานภาวโต. เตน สมานเหตุตา, สมานผลตา, สมานารมฺมณตา จ คหิตา โหตีติ. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา ลกฺขณหารนิทฺเทสวณฺณนายํ วุตฺตเมว.

อปิเจตฺถ สมฺปโยควิปฺปโยควิโรธปกรณลิงฺคสทฺทนฺตรสนฺนิธานสามตฺถิยาทีนมฺปิ วเสน นยวิภาโค เวทิตพฺโพ. ตตฺถ สมฺปโยคโต ตาวนยวิภาโค – ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกธมฺมมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํ ลหุปริวตฺตํ, ยถยิทํ จิตฺต’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๔๘) จิตฺตสฺส ลหุปริวตฺติตา คหิตา, ตํสมฺปโยคโต เจตสิกานมฺปิ คหิตาว โหติ อฺตฺถ เนสํ จิตฺเตน สมฺปโยคทีปนโต. อถ วา ‘‘สฺิโน’’ติ. สฺาสหิตตาวจเนน หิ เนสํ เวทนาเจตนาทิวนฺตตาปิ สมฺปโยคโต ทีปิตา โหติ.

วิปฺปโยคโต – ‘‘อเหตุกา’’ติ. เหตุสมฺปยุตฺตา หิ ธมฺมา ‘‘สเหตุกา’’ติ วุตฺตาติ ตพฺพิธุรา ธมฺมา วิปฺปโยคโต ‘‘อเหตุกา’’ติ วุตฺตาติ วิฺายติ. อถ วา ‘‘อสฺิโน’’ติ. สฺาวิปฺปยุตฺตา หิ ธมฺมปวตฺติ อิธาธิปฺเปตา, น สฺาย อภาวมตฺตนฺติ วิฺายติ.

วิโรธโต – ‘‘อฏฺมโก (ยม. ๓.อินฺทฺริยยมกปาฬิ.๔๓๙), สทฺธานุสารี’’ติ (ปุ. ป. มาติกา ๗.๓๖) จ วุตฺเต ตํ สนฺตติยํ สํโยชนตฺตยปฺปหานํ วิฺายติ, ตถา ‘‘สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตา’’ติ (ที. นิ. ๒.๔๐๔; ม. นิ. ๑.๑๓๗) วุตฺเต ปฺโจรมฺภาคิยสํโยชนปฺปหานํ, ‘‘ทิฏฺเว ธมฺเม อฺา’’ติ (ที. นิ. ๒.๔๐๔; ม. นิ. ๑.๑๓๗) วุตฺเต อนวเสสสํโยชนปฺปหานํ วิฺายติ.

ปกรณโต – ‘‘อพฺยากตา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. มาติกา). อธิการโต หิ กุสลากุสลภาเวน น กถิตาติ ายติ. ‘‘อุปธี หิ นรสฺส โสจนา’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๒, ๑๔๔) จ. พาหิรา หิ ธมฺมา อิธ ‘‘อุปธี’’ติ อธิปฺเปตาติ วิฺายติ.

ลิงฺคโต – ‘‘สีเตนปิ รุปฺปติ, อุณฺเหนปิ รุปฺปตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๓.๗๙). สีตาทิคฺคหเณน หิ ลิงฺเคน ภูตุปาทายปฺปการสฺเสว ธมฺมสฺส รูปภาโว, น อิตรสฺส.

สทฺทนฺตรสนฺนิธานโต – ‘‘กายปสฺสทฺธิ, กายายตน’’นฺติ. ‘‘ยา เวทนากฺขนฺธสฺสา’’ติอาทิวจนโต หิ ปุริโม กายสทฺโท สมูหวาจี, อิตโร อายตนสทฺทสนฺนิธานโต ปสาทวาจี.

สามตฺถิยโต – ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อาทิตฺตํ (สํ. นิ. ๔.๒๘; มหาว. ๕๔), สพฺเพ ตสนฺติ ทณฺฑสฺสา’’ติ (ธ. ป. ๑๒๙) จ, ตถา ‘‘สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา…เป… ผริตฺวา วิหรตี’’ติอาทิ (ที. นิ. ๑.๕๕๖; ๓.๓๐๘; ม. นิ. ๑.๗๗, ๒๓๒, ๔๕๙, ๕๐๙; ๒.๓๐๙; ๓.๒๓๐; วิภ. ๖๔๒). เอตฺถ หิ สติปิ สพฺพสทฺทสฺส อนวเสสสตฺตวาจกตฺเต อาทิตฺตตา สาเปกฺขสฺเสว อตฺถสฺส วาจกตฺตา ปเทสวาจี สพฺพสทฺโท, โลกสทฺโทปิ สตฺตวาจี. สตฺตารมฺมณา หิ อปฺปมฺาติ. ตถา ‘‘มาตรํ ปิตรํ หนฺตฺวา’’ติ (ธ. ป. ๒๙๔-๒๙๕) สพฺเพน สพฺพํ หิ สปฏิกฺเขปโต, มาตุปิตุฆาตกมฺมสฺส จ มหาสาวชฺชตาปเวทนโต, อิธ จ ตทนุฺาย กตาย มาตุปิตุฏฺานิยา ตาทิสา เกจิ ปาปธมฺมา เวเนยฺยวเสน คหิตา วิฺายติ. เก ปน เตติ? ตณฺหามานา. ตณฺหา หิ ชนนี สตฺตานํ. ‘‘ตณฺหา ชเนติ ปุริส’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๕๕-๕๗) หิ วุตฺตํ. ปิตุฏฺานิโย มาโน ตํ นิสฺสาย อตฺตสมฺปคฺคณฺหโต ‘‘อหํ อสุกสฺส รุฺโ, ราชมหามตฺตสฺส วา ปุตฺโต’’ติ ยถา. สามตฺถิยาทีนนฺติ อาทิสทฺเทน เทสปกติอาทโย สงฺคยฺหนฺติ.

ลพฺภมานปทตฺถนิทฺธารณมุเขนาติ ตสฺมึ ตสฺมึ สุตฺเต ลพฺภมานอสฺสาทาทิหารปทตฺถนิทฺธารณทฺวาเรน. ยถาลกฺขณนฺติ ยํ ยํ ลกฺขณํ, ลกฺขณานุรูปํ วา ยถาลกฺขณํ. เหตุผลาทีนิ อุปธาเรตฺวา โยเชตพฺพานิ เตสํ วเสนาติ อธิปฺปาโย. อิทานิ เหตุผลาทโย เย ยสฺมึ หาเร สวิเสสํ อิจฺฉิตพฺพา, เต ทสฺเสตุํ ‘‘วิเสสโต ปนา’’ติอาทิมาห. ตํ สุวิฺเยฺยเมว.

นิทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปฏินิทฺเทสวารวณฺณนา

๑. เทสนาหารวิภงฺควณฺณนา

. อนฺวตฺถสฺตนฺติ อตฺถานุคตสฺภาวํ, ‘‘เทสนาหาโร’’ติ อยํ สฺา อนฺวตฺถา อตฺถานุคตาติ อตฺโถ.

อวุตฺตเมวาติ ปุพฺเพ อสํวณฺณิตปทเมว. ‘‘ธมฺมํ โว’’ติอาทิ (ม. นิ. ๓.๔๒๐) วจนสฺส สมฺพนฺธํ ทสฺเสตุํ ‘‘กตฺถ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตปิฏกสฺส หิ พุทฺธวจนสฺส สํวณฺณนาลกฺขณํ เนตฺติปฺปกรณํ, ตฺจ ปริยตฺติธมฺมสงฺคาหเก สุตฺตปเท สํวณฺเณตพฺพภาเวน คหิเต คหิตเมว โหติ. เตนาห ‘‘เทสนาหาเรน…เป… ทสฺเสตี’’ติ.

เยสํ อสฺสาทาทีนํ วิภชนลกฺขโณ เทสนาหาโร, เต คาถาย, อิธาปิ จ อาคเต ‘‘อสฺสาทํ อาทีนว’’นฺติอาทินา อุทาหรณวเสน วิภชิตุํ ‘‘ตตฺถ กตโม อสฺสาโท’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺสํ ‘‘อสฺสาทาทีนวตา’’ติ คาถายํ วุตฺโต กตโม อสฺสาโท. อถ วา ‘‘อสฺสาทํ อาทีนว’’นฺติอาทินา โย อิธ อสฺสาทาทีนํ อุทฺเทโส, ตตฺถ กตโม อสฺสาโทติ เจติ อตฺโถ. เอส นโย เสเสสุปิ. กมฺมกรณตฺถภินฺนสฺส วิสยวิสยิตาลกฺขณสฺส อสฺสาททฺวยสฺส นิทสฺสนตฺถํ คาถาทฺวยุทาหรณํ, ตถา กามวิปริณามลกฺขณสฺส, วฏฺฏทุกฺขลกฺขณสฺส จาติ ทุวิธสฺสาปิ อาทีนวสฺส นิทสฺสนตฺถํ ‘‘อริยมคฺโค นิพฺพาน’’นฺติ ทุวิธสฺสาปิ นิสฺสรณสฺส นิทสฺสนนิทสฺสนตฺถฺจ ทฺเว ทฺเว คาถา อุทาหฏา.

ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารินฺติ (ชา. ๑.๑๐.๑๐๒-๑๐๓; เนตฺติ. ๕, ๒๖, ๓๑; เปฏโก. ๒๒) เอตฺถ ธมฺมจาริโน มคฺคผลนิพฺพาเนหิ สาติสยารกฺขา สมฺภวติ, สมฺปตฺติภวสฺสาปิ วิปริณามสงฺขารทุกฺขตาหิ ทุคฺคติภาโว อิจฺฉิโตวาติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘นิสฺสรณํ อนามสิตฺวา’’ติ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘นิพฺพานํ วา อุปนิธาย สพฺพา อุปปตฺติโย ทุคฺคตี’’ติ.

อเวกฺขสฺสูติ วิธานํ. ตสฺสา ปน อเวกฺขาย ปวตฺติอากาโร, วิสโย, กตฺตา จ ‘‘สุฺโต, โลกํ, โมฆราชา’’ติ ปทตฺตเยน วุตฺตาติ อาห – ‘‘สุฺโต…เป… อาณตฺตี’’ติ. ตตฺถ สงฺขารานํ สุฺตา อนตฺตสภาวตาย, อตฺตสุฺตาย จ สิยา. ยโต เต น วสวตฺติโน, อตฺตสารวิรหิตา จ, ยโต เต อนตฺตา, ริตฺตา, ตุจฺฉา จ อตฺตนา, ตทุภยํ ทสฺเสติ ‘‘อวสวตฺติตา’’ติอาทินา. เอวํ มจฺจุตโร สิยาติ เอวํ ปฏิปตฺติยา มจฺจุตโร ภเวยฺยาติ อตฺโถ. ปริกปฺเปตฺวา วิธิยมานสฺส มจฺจุตรณสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทา เทสนาย ปจฺจกฺขโต สิชฺฌมานํ สาติสยํ ผลนฺติ อาห ‘‘ตสฺส ยํ…เป… ผล’’นฺติ.

. อุทาหรณวเสนาติ นิทสฺสนวเสน. ตตฺถ ‘‘ปุคฺคลวิภาเคนา’’ติ อิมินา อุคฺฆฏิตฺุอาทิปุคฺคลปโยชิโต อสฺสาทาทีสุ ภควโต เทสนาวิเสโสติ ทสฺเสติ.

ฆฏิตมตฺตนฺติ โสตทฺวารานุสาเรน มโนทฺวาริกวิฺาณสนฺตาเนน อาลมฺพิตมตฺตํ. สสฺสตาทิอาการสฺสาติ สสฺสตุจฺเฉทาการสฺส. อิทฺหิ ทฺวยํ ธมฺมเทสนาย จาเลตพฺพํ, น อนุโลมิกขนฺติ, ยถาภูตาณํ วา. เอตสฺมิฺหิ จตุกฺเก อาสยสามฺตา. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘สสฺสตุจฺเฉททิฏฺี จ, ขนฺติ เจวานุโลมิกา;

ยถาภูตฺจ ยํ าณํ, เอตํ อาสยสฺิต’’นฺติ. (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๑๓๖; ที. นิ. ฏี. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนา; สารตฺถ. ฏี. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนา, เวรฺชกณฺฑวณฺณนา; วิ. วิ. ฏี. ๑.เวรฺชกณฺฑวณฺณนา);

จลนายาติ วิกฺขมฺภนาย. ปรานุวตฺติยาติ สมุจฺเฉทนาย. อุคฺฆฏิเต ชานาตีติ อุคฺฆฏิตฺูติ มูลวิภุชาทิปกฺเขเปน สทฺทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. วิปฺจิตนฺติ ‘‘วิสมํ จนฺทิมสูริยา ปริวตฺตนฺตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๗๐) วิย ภาวนปุํสกนิทฺเทโสติ อาห ‘‘มนฺทํ สณิก’’นฺติ. นิสฺสรณอาทีนวนิสฺสรณอสฺสาทาทีนวนิสฺสรณานํ วิภาวนา เวเนยฺยตฺตยวินยนสมตฺถา.

จตฺตาโรติ อสฺสาโท จ อาทีนโว จ อสฺสาโท อาทีนโว จ อสฺสาโท นิสฺสรณฺจาติ เอเต จตฺตาโร. ยทิ นิสฺสรณวิภาวนา เวเนยฺยวินยนสมตฺถา, กสฺมา ปฺจโม น คหิโตติ อาห ‘‘อาทีนวาวจนโต’’ติ. ยทิ หิ อุคฺฆฏิตฺุํ สนฺธาย อยํ นโย วุจฺจติ, นิสฺสรณมตฺเตน สิทฺธํ สิยา. อถ วิปฺจิตฺุํ, เนยฺยํ วา, อาทีนโว จ นิสฺสรณฺจ อสฺสาโท จ อาทีนโว นิสฺสรณฺจ วตฺตพฺโพ สิยา? ตถา อปฺปวตฺตตฺตา น คหิโต. เตนาห ‘‘อาทีนวาวจนโต’’ติอาทิ. เทสนนฺติ สามฺโต คหิตํ ‘‘สุตฺเตกเทสํ คาถํ วา’’ติ วิเสเสติ. ปทปรมอคฺคหณฺเจตฺถ สอุปายสฺส นิสฺสรณสฺส อนามฏฺตฺตา.

‘‘กลฺยาณ’’นฺติ อิมินา อิฏฺวิปาโก, ‘‘ปาปก’’นฺติ อนิฏฺวิปาโก อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘อยํ อสฺสาโท, อยํ อาทีนโว’’ติ. ลาภาทีนํ ปุฺผลตฺตา ตทนุโรธํ วา สนฺธาย ‘‘อยํ อสฺสาโท’’ติ วุตฺตํ. ตพฺพิปริยาเยน อลาภาทีนํ อาทีนวตา เวทิตพฺพา.

กามาติ กิเลสกามสหิตา วตฺถุกามา. วิรูปรูเปนาติ อปฺปติรูปากาเรน. มเถนฺตีติ มทฺทนฺติ. ปพฺพชิโตมฺหีติ ปพฺพชฺชํ อุปคโต อมฺหิ. อปณฺณกนฺติ อวิรชฺฌนกํ. สามฺนฺติ สมณภาโว. สมิตปาปภาโวเยว เสยฺโย สุนฺทรตโร.

ตตฺถ ‘‘กามา หิ จิตฺรา มธุรา มโนรมา’’ติ อยํ อสฺสาโท, ‘‘วิรูปรูเปน มเถนฺติ จิตฺต’’นฺติ อยํ อาทีนโว, ‘‘อปณฺณกํ สามฺ’’นฺติ อิทํ นิสฺสรณนฺติ อาห ‘‘อยํ…เป… นิสฺสรณฺจา’’ติ.

ผลาทีนํ เอกกวเสน จ ติกวเสน จ ปาฬิยํ อุทาหฏตฺตา วุตฺตํ ‘‘ทุกวเสนปี’’ติ.

สุขา ปฏิปทา, ทุกฺขา ปฏิปทาติ ยา ทฺเว ปฏิปทา, ตาสุ เอเกกา ทนฺธขิปฺปาภิฺตาย ทฺเว ทฺเว โหนฺตีติ อาห ‘‘ปฏิปทาภิฺากโต วิภาโค ปฏิปทากโต โหตี’’ติ. กตปุพฺพกิจฺจสฺส ปถวีกสิณาทีสุ สพฺพปมํ ‘‘ปถวี’’ติอาทินา ปวตฺตมนสิกาโร ปมสมนฺนาหาโร. อุปจารนฺติ อุปจารชฺฌานํ. ปฏิปชฺชิตพฺพตาย ฌานมฺปิ ‘‘ปฏิปทา’’ติ วุจฺจติ. ตทฺา เหฏฺิมปฺโต อธิกา ปฺาติ กตฺวา ‘‘อภิฺา’’ติ วุจฺจติ.

กิเลเสติ นีวรณปฺปกาเร, ตํสหคตกิเลเส จ. องฺคปาตุภาวนฺติ วิตกฺกาทิฌานงฺคปฏิลาภํ.

อภินิวิสนฺโตติ ปฏฺเปนฺโต. รูปารูปํ ปริคฺคณฺหนฺโตติ รูปารูปธมฺเม ลกฺขณาทีหิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺโต. ปริคฺคหิตรูปารูปสฺส มคฺคปาตุภาวทนฺธตา จ นามรูปววตฺถานาทีนํ กิจฺฉสิทฺธิยา สิยาติ น รูปารูปปริคฺคหกิจฺฉตาย เอว ทุกฺขาปฏิปทตา วตฺตพฺพาติ เจ? น, นามรูปววตฺถาปนาทีนํ ปจฺจนีกกิเลสมนฺทตาย สุขสิทฺธิยมฺปิ ตถาสิทฺธวิปสฺสนาสหคตานํ อินฺทฺริยานํ มนฺทตาย มคฺคปาตุภาวโต. รูปารูปํ ปริคฺคเหตฺวาติ อกิจฺเฉนปิ ปริคฺคเหตฺวา, กิจฺเฉน ปริคฺคหิเต วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. เอวํ เสเสสุปิ. นามรูปํ ววตฺถาเปนฺโตติ ‘‘นามรูปมตฺตเมตํ, น อฺโ โกจิ สตฺตาทิโก’’ติ ววตฺถาปนํ กโรนฺโต. กตโร ปเนตฺถ วาโร ยุตฺตรูโปติ? โย โกจิ สกึ, ทฺวิกฺขตฺตุํ, อเนกสตกฺขตฺตุนฺติ เอวมาทีสุ หิ วิกฺขมฺภนวาเรสุ สกึ, ทฺวิกฺขตฺตุฺจ วิกฺขมฺภนวาโร สุขา ปฏิปทา เอว, น ตโต อุทฺธํ สุขา ปฏิปทา โหติ, ตสฺมา ติกฺขตฺตุํ วิกฺขมฺภนวารโต ปฏฺาย ทุกฺขา ปฏิปทา เวทิตพฺพา. อปิจ กลาปสมฺมสนาวสาเน อุทยพฺพยานุปสฺสนาย อุปฺปนฺนสฺส วิปสฺสนุปกฺกิเลสสฺส ติกฺขตฺตุํ วิกฺขมฺภเนน กิจฺฉตาวาโร ทุกฺขา ปฏิปทา เวทิตพฺพา. เอตฺถ ทนฺธตฺตา ปฏิปทาย เอตสฺส อกิจฺฉตฺเตปิ ปุริมานํ กิจฺฉตฺเต ทุกฺขาปฏิปทตา วุตฺตนยาว. ยสฺส ปน สพฺพตฺถ อกิจฺฉตา, ตสฺส ปรมุกฺกํสคตา สุขา ปฏิปทา เวทิตพฺพา.

ยถา นามรูปปริคฺคหกิจฺฉตาย มคฺคปาตุภาวทนฺธตาย ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา วุตฺตา, ตถา ตพฺพิปริยาเยน จตุตฺถี, ตทุภยโวมิสฺสตาวเสน ทุติยา, ตติยา จ าตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อิมินา…เป… เวทิตพฺพา’’ติ. วฏฺฏทุกฺขโต นิยฺยานสฺส อธิปฺเปตตฺตา ‘‘วิปสฺสนาปกฺขิกา เอวา’’ติ วุตฺตํ.

เหตุปายผเลหีติ เอตฺถ ตณฺหาจริตตา, มนฺทปฺตา จ ปมาย ปฏิปทาย เหตุ, ตณฺหาจริตตา, อุทตฺถปฺตา จ ทุติยาย, ทิฏฺิจริตตา, มนฺทปฺตา จ ตติยาย, ทิฏฺิจริตตา, อุทตฺถปฺตา จ จตุตฺถิยา. อุปาโย ปน ยถากฺกมํ สติสมาธิวีริยปฺินฺทฺริยานิ, สติปฏฺานฌานสมฺมปฺปธานสจฺจานิ จ อุปนิสฺสยภูตานิ. ผลํ วฏฺฏทุกฺขโต นิยฺยานํ.

สมาธิมุเขนาติ สมาธิมุเขน ภาวนานุโยเคน. เตเนวาห ‘‘สมถปุพฺพงฺคมาย วิปสฺสนายา’’ติ. อิธาติ อิมสฺมึ เนตฺติปฺปกรเณ. วกฺขติ ‘‘ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ เสกฺขผล’’นฺติ, ‘‘ราควิราคา เจโตวิมุตฺติกามธาตุสมติกฺกม’’นฺติ จ. โสติ อนาคามี.

เตนาติ ปฏิปกฺเขน. ตโตติ ปฏิปกฺขโต. สมานาธิกรณวเสน จ เจโตวิมุตฺติสทฺทานํ สมาสํ กตฺวา ภินฺนาธิกรณวเสน วตฺตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปุน ‘‘เจตโส วา’’ติอาทินา อฺปทตฺถวเสน เจโตวิมุตฺติปทานํ สมาสํ ทสฺเสติ. วิฺาณปริยาเยน เจโต-สทฺเทน วุตฺตโยชนา น สมฺภวตีติ อาห ‘‘ยถาสมฺภว’’นฺติ.

หา-สทฺโท คติอตฺโถ, คติ เจตฺถ าณคติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘หาตพฺพาติ คเมตพฺพา’’ติ. เนตพฺพาติ าเปตพฺพา.

. นฺติ ปุคฺคลวิภาคํ. าณวิภาเคนาติ สุตมยาทิาณปฺปเภเทน. นิพฺพตฺตนนฺติ อุปฺปาทนํ. ตตฺถาติ ตสฺมึ อุคฺฆฏิตฺุตาติอาทิปุคฺคลวิภาคภูเต เทสนาภาชเน. เทสนายนฺติ สุตฺเต. ตํ ทสฺเสตุนฺติ ตํ ปุคฺคลวิภาคํ ทสฺเสตุํ. ‘‘สฺวายํ หาโร กถํ สมฺภวตี’’ติ เกจิ ปนฺติ.

สาติ วุตฺตปฺปการธมฺมตฺถานํ วีมํสนปฺา. อธิการโตติ ‘‘สตฺถา วา ธมฺมํ เทสยตี’’ติอาทิอธิการโต. สามตฺถิยโต อุคฺฆฏิตฺุอาทิเวเนยฺยวินยนสมตฺถภาวโต. ปริยตฺติธมฺมสฺส อุปธารณนฺติ เอตฺถาปิ ‘‘อธิการโต สามตฺถิยโต วา’’ติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ.

‘‘วีมํสาทิปริยายวตี ปมวิกปฺปวเสน, วีมํสาทิวิภาควตี ทุติยวิกปฺปวเสน, จินฺตาย เหตุภูตาย นิพฺพตฺตา จินฺตามยี’’ติ เอวมาทิวุตฺตนยานุสาเรน สกฺกา โยเชตุนฺติ อาห ‘‘เสสํ วุตฺตนยเมวา’’ติ.

สุตจินฺตามยาเณสูติ สุตมยาเณ จ จินฺตามยาเณ จ สุตจินฺตามยาเณสุ จ สุตจินฺตามยาเณสูติ เอกเทสสรูเปกเสโส เวทิตพฺโพ. จินฺตามยาเณเยว หิ ปติฏฺิตา มหาโพธิสตฺตา จริมภเว วิปสฺสนํ อารภนฺติ, อิตเร สุตจินฺตามยาเณสูติ. เตหีติ ตถา ปนฺเตหิ. วุตฺตนเยนาติ ‘‘อุปาทารูปํ ปริคฺคณฺหาติ, อรูปํ ปริคฺคณฺหาตี’’ติอาทินา ปฏิปทากถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๕) วุตฺตนเยน.

. ปรโต โฆโส ปจฺจยภูโต เอติสฺสาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ปจฺจตฺตสมุฏฺิเตน จ โยนิโสมนสิกาเรนา’’ติ อิทํ อาวุตฺตินเยน ทุติยํ อาวฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. เตน สาวกานํ ภาวนามยาณุปฺปตฺติ สงฺคหิตา โหติ. สาวกานเมว วา าณุปฺปตฺติ อิธาธิปฺเปตา อุคฺฆฏิตฺุอาทิวิภาคกถนโต. เอตสฺมึ ปกฺเข ปุพฺเพ วุตฺตเอกเสสนโยปิ ปฏิกฺขิตฺโต ทฏฺพฺโพ. ‘‘อาสยปโยคปโพธสฺส นิปฺผาทิตตฺตา’’ติ เอเตน ปจฺฉิมจกฺกทฺวยปริยาปนฺนานิ ปุพฺพเหตุสงฺคหานิ สุตจินฺตามยาณานิ สนฺธาย ‘‘อิมา ทฺเว ปฺา อตฺถี’’ติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. อตฺถิภาโว เจตาสํ ปฏิปกฺเขน อนุปทฺทุตตา เวทิตพฺพา. อปริกฺขตตฺตา อนภิสงฺขตตฺตา. สุตมยาณสฺสาปิ ปุริมสิทฺธสฺส.

. เทสนาปฏิปทาาณวิภาเคหีติ นิสฺสรณเทสนาทิเทสนาวิภาเคหิ, ทุกฺขาปฏิปทาทิปฏิปทาวิภาเคหิ, สุตมยาณาทิาณวิภาเคหิ.

อวสิฏฺปาริสชฺเชนาติ ขตฺติยคหปติปริสปริยาปนฺเนน. อฏฺนฺนนฺติ ขตฺติยปริสา พฺราหฺมณคหปติสมณจาตุมหาราชิกตาวตึสมารพฺรหฺมปริสาติ อิมาสํ อฏฺนฺนํ.

สมตฺเถตีติ สมตฺถํ สมฺพนฺธตฺถํ กโรติ.

ตเมว ทฺวาทสปทภาวํ ทีเปตฺวาติ สมฺพนฺโธ. ตทตฺถสฺสาติ ฉฉกฺกปริยายตฺถสฺส (ม. นิ. ๓.๔๒๐ อาทโย). สพฺพปริยตฺติธมฺมสงฺคาหกตฺตา ฉฉกฺกปริยายสฺส, ตทตฺถสฺส จ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺเตน สุตฺเตน (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๓; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) สงฺคหิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘สพฺพสฺสาปิ…เป… วิภาเวนฺโต’’ติ. วิสยิภาเวน พฺยฺชนปทานํ, วิสยภาเวน อตฺถปทานํ สมฺพนฺธํ สนฺธายาห ‘‘เตสํ…เป… สมฺพนฺธภาว’’นฺติ.

ปทาวยโว อกฺขรานิ. ปทตฺโถติ ปทตฺถาวยโว. ปทตฺถคฺคหณสฺสาติ ปทตฺถาวโพธสฺส. วิเสสาธานํ วิเสสุปฺปตฺติ. วากฺยเภเทติ วากฺยวิเสเส. จิตฺตปริโตสนํ จิตฺตาราธนํ. พุทฺธินิสานํ ปฺาย เตชนํ ติกฺขภาวกรณํ. นานาวากฺยวิสยตาปิ สิทฺธา โหติ ปทาทีหิปิ สงฺกาสนสฺส สิทฺธตฺตา. เอกวากฺยวิสยตาย หิ อตฺถปทานํ สงฺกาสนาทโย ยถากฺกมํ อกฺขราทิวิสยา เอวาติ นิยโม สิยา. เอเตนาติ อตฺถปทานํ นานาวากฺยวิสยตฺเถน.

อุคฺฆฏนาทิอตฺถานีติ อุคฺฆฏนวิปฺจนนยนปฺปโยชนานิ.

๑๐. อุปติฏฺติ เอตฺถาติ อุปฏฺิตนฺติ อุปฏฺิตสทฺทสฺส อธิกรณตฺถตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุปติฏฺนฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ ยถา ‘‘ปทกฺกนฺต’’นฺติ. เตนาห ‘‘อิทํ เนส’’นฺติอาทิ. ปฏิปตฺติเทสนาคมเนหีติ ปฏิปตฺติคมนเทสนาคมเนหิ. ‘‘กิจฺฉํ วตายํ โลโก อาปนฺโน ชายติ จ…เป… ชรามรณสฺสา’’ติอาทินา ชรามรณโต ปฏฺาย ปฏิจฺจสมุปฺปาทมุเขน วิปสฺสนํ อภินิวิสิตฺวา มหาคหนํ ฉินฺทิตุํ นิสานสิลายํ ผรสุํ นิเสนฺโต วิย กิเลสคหนํ ฉินฺทิตุํ โลกนาโถ าณผรสุํ เตเชนฺโต พุทฺธภาวาย เหตุสมฺปตฺติยา ปริปากคตตฺตา สพฺพฺุตฺาณาธิคมาย วิปสฺสนาคพฺภํ คณฺหาเปนฺโต อนฺตรนฺตรา นานาสมาปตฺติโย สมาปชฺชิตฺวา อนุปทธมฺมวิปสฺสนาวเสน อเนกาการโวการสงฺขาเร สมฺมสนฺโต ฉตฺตึสโกฏิสตสหสฺสมุเขน ยํ าณํ ปวตฺเตสิ, ตํ ‘‘มหาวชิราณ’’นฺติ วทนฺติ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสมาปตฺติสฺจาริมหาวชิราณ’’นฺติ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๑๔๑) อาคตํ, ตํ เทวสิกํ วฬฺชนกสมาปตฺตีนํ ปุเรจรานุจราณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ ปน วกฺขติ ‘‘าณวชิรโมหชาลปทาลน’’นฺติ, ตํ สห วิปสฺสนาย มคฺคาณํ เวทิตพฺพํ. เอตํ พฺรหฺมจริยนฺติ สาสนพฺรหฺมจริยํ อธิปฺเปตนฺติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘พฺรหฺมุโน’’ติอาทิมาห.

เทสนายาติ กรณตฺเถ อิทํ กรณวจนํ. นิยุตฺโตติ เอตฺถ เหตุอตฺโถ อนฺโตนีโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘นิทฺธาเรตฺวา โยชิโต’’ติ อาห.

เทสนาหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. วิจยหารวิภงฺควณฺณนา

๑๑. ชาติลิงฺคกาลสาธนวิภตฺติสงฺขฺยาวิเสสาทิโต สทฺทโต ปทวิจโย กาตพฺโพ. ตตฺถ กริยมาโน จ ยถาสภาวนิรุตฺติยา เอว กโต สุกโต โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทํ นามปทํ …เป… อยํ สทฺทโต ปทวิจโย’’ติ วตฺวา ‘‘โส ปนาย’’นฺติอาทิมาห. วตฺตพฺพอตฺถสํวณฺณนาติ ตํตํปทวจนียสฺส อตฺถสฺส เภทํ วตฺวา ปริยาเยหิ วิวริตฺวา กถนํ.

วิจิยมานสฺส สุตฺตปทสฺสาติ ปุจฺฉาวเสน ปวตฺตสุตฺตปทสฺส. ‘‘สุตฺตนฺตรปทานิปิ ปุจฺฉาวเสเนว ปวตฺตานี’’ติ วทนฺติ ‘‘น สพฺพมฺปิ สุตฺตปท’’นฺติ. เอกสฺเสว ปทสฺส สมฺภวนฺตานํ อเนเกสํ อตฺถานํ อุทฺธาโร อตฺถุทฺธาโร. เอกสฺเสว ปน อตฺถสฺส สมฺภวนฺตานํ อเนเกสํ ปทานํ อุทฺธาโร ปทุทฺธาโร. สพฺเพ หิ สํวณฺณิยมาเน สุตฺเต ลพฺภมาเน สพฺเพ ปทตฺเถ. นว สุตฺตนฺเตติ สุตฺตเคยฺยาทิวเสน นวปฺปกาเร สุตฺตสฺมึ อาเนตฺวา วิจินตีติ โยชนา. อถ วา ‘‘สพฺเพ นว สุตฺตนฺเต’’ติ อิมินา ปวิจยลกฺขเณน หาเรน สุตฺตเคยฺยาทีนิ สพฺพานิปิ นวปฺปการานิ สุตฺตานิ วิจินตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘สุตฺตเคยฺยาทิเก’’ติอาทิ.

‘‘โกสลานํ ปุรา รมฺมา’’ติอาทิกา (สุ. นิ. ๙๘๒) ฉปฺาส คาถา วตฺถุคาถา. ‘‘ปารายนมนุคายิสฺส’’นฺติ (สุ. นิ. ๑๑๓๗ อาทโย) ปน อาทิกา เอกูนวีสติ คาถา อนุคีติคาถา. อิทํ นามํ กตนฺติ อิทํ ‘‘ปารายน’’นฺติ นามํ กตํ. เตนาห ‘‘ปารํ คมนียา อิเม ธมฺมา, ตสฺมา อิมสฺส ธมฺมปริยายสฺส ‘ปารายนนฺตฺเวว อธิวจน’’’นฺติ (สุ. นิ. ปารายนตฺถุติคาถา; จูฬนิ. ปารายนตฺถุติคาถา ๑๔๙ อาทโย). พุทฺธิยํ วิปริวตฺตมานนฺติ อิมสฺส วิจยหารวิภงฺคสฺส เทสนากาเล อายสฺมา มหากจฺจาโน อตฺตโน พุทฺธิยํ วตฺตมานํ กตฺวา เอวมาหาติ โยชนา.

เอกํสพฺยากรณสฺส อยนฺติ เอกํสพฺยากรณียา, เอกํเสน วา พฺยากาตพฺพตฺตา เอกํสพฺยากรณียา, เอกํสพฺยากรณโยคฺคาติ อตฺโถ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ปนียาติ เปตพฺพตฺตา อพฺยากรณียาติ อตฺโถ. สมยนฺตรปริจเยน นิวารณธมฺมํ ปติ สํสยปกฺขนฺโท ปุจฺฉตีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘วิมติจฺเฉทน’’นฺติ. ปกติยา ปน นิวารณธมฺมํ อชานนฺโต าตุกามตาย ปุจฺฉตีติ อทิฏฺโชตนาย ปุจฺฉาปิ สิยา. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘โลกสฺส นิวารณาทีนิ อชานนฺเตนา’’ติ.

เอกวตฺถุปริคฺคหาติ เอกสฺส อภิเธยฺยตฺถสฺส คหณโต.

วิมุตฺติปริปาจกอินฺทฺริยานิ วิวฏฺฏปกฺเข ิตสฺส สทฺธาทโย ธมฺมา, กึ ปเนตฺถ อริยานมฺปิ อินฺทฺริยโลเกน สงฺคโห โหตีติ อาห ‘‘ปริยาปนฺนธมฺมวเสนา’’ติอาทิ.

กาฬปกฺขจาตุทฺทสีฆนวนสณฺฑเมฆปฏลจฺฉาทนอฑฺฒรตฺตีนํ วเสน จตุรงฺคสมนฺนาคเตน. วิวิจฺฉาติ วิจิกิจฺฉาย. เตนาห ‘‘วิจิกิจฺฉาเหตู’’ติ. ทุกฺขมสฺส มหพฺภยนฺติ เอตฺถ วุตฺตํ ‘‘อสฺสา’’ติ ปทํ ‘‘ชปฺปาภิเลปนํ อสฺส พฺรูมี’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ชปฺปา ตณฺหา อสฺส โลกสฺสา’’ติ อาห. ‘‘สพฺพสตฺตาน’’นฺติอาทินา, ‘‘สพฺพโสวา’’ติอาทินา จ อนฺวยโต, พฺยติเรกโต จ สาติสยํ อวิชฺชาย นีวรณภาวํ ทสฺเสติ. ‘‘ทูเร สนฺโต ปกาสนฺติ (ธ. ป. ๓๐๔; เนตฺติ. ๑๑), รตฺโต อตฺถํ น ชานาตี’’ติ (เนตฺติ. ๑๑, ๒๗) คาถาทฺวเยนาปิ อนุคีติวิจยํ ทสฺเสตีติ โยเชตพฺพํ.

รูปาวจราติ รูปาวจรสตฺตา. วิปริณามทุกฺขตาย มุจฺจนสฺส การณวจนนฺติ สมฺพนฺโธ. ยโต วฏฺฏทุกฺขโต มุจฺจนํ. ตํ วฏฺฏทุกฺขํ อนวเสสปริยาทานวเสน สงฺขารทุกฺขตาคหเณน.

เอกาธารนฺติ เอกวตฺถุ อธิฏฺานํ. นิวารณํ วิกฺขมฺภนํ ปิธานํ สมุจฺเฉโทติ อตฺถทฺวยสฺส ปุจฺฉิตตฺตา ‘‘อเนกาธารํ ทสฺเสตุ’’นฺติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘นิวารณสงฺขาตํ สํวรํ…เป… ปิธิยฺยนฺติ ปจฺฉิชฺชนฺตี’’ติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๒.๑๐๔๑; จูฬนิ. อฏฺ. ๓). ตสฺสตฺโถ ‘‘นิวารณสงฺขาตํ วิกฺขมฺภนํ, สํวรํ, ปิธานฺจ กเถหี’’ติ.

‘‘โวทาน’’นฺติ อิมินา โสตานํ วิกฺขมฺภนวิสุทฺธิ, ‘‘วุฏฺาน’’นฺติ อิมินา สมุจฺเฉทวิสุทฺธิ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘ปุจฺฉาย ทุวิธตฺถวิสยตํ วิวริตุํ ‘เอว’นฺติอาทิ วุตฺต’’นฺติ. ตถา จาห ‘‘โวทายติ…เป… อริยมคฺโค’’ติ.

ทิฏฺิมานาวิชฺชาโสตาปิ ตณฺหาโสตานุคาติ อาห ‘‘เยภุยฺเยน อนุโรธวเสนา’’ติ. อุปจารวเสนาติ นิสฺสิตุปจารวเสน. สพฺพสฺมาติ จกฺขุโต ยาว มนโตติ สพฺพสฺมา ทฺวารโต. สพฺพปฺปกาเรนาตฺติ ตณฺหายนมิจฺฉาภินิเวสนอุนฺนมนาทิปฺปกาเรน.

ตเมว สตินฺติ ยายํ สติ ปุพฺพภาเค โสตานํ วิกฺขมฺภนวเสน วุตฺตา, ตเมว สตึ. มคฺคกฺขเณ โสตานํ สํวรํ ปิธานํ พฺรูมิ. ยสฺมา ปน ปิธายิกาปิ สติ มคฺคกฺขเณ ปฺานุคา, ปฺากิจฺจเมเวตฺถ อธิกํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ.

สํวรปิธานานนฺติ เอตฺถ สํวรสทฺเทน นิวารณํ วุตฺตํ.

ยสฺมึ ยสฺมึ อริยมคฺเค อนธิคเต ยํ ยํ อภิสงฺขารวิฺาณํ อุปฺปชฺชนารหํ, ตสฺมึ ตสฺมึ อธิคเต ตํ ตํ วิฺาณํ อนุปฺปาทนิโรเธน นิรุชฺฌติ สทฺธึ อตฺตนา สมฺปยุตฺตนามรูเปนาติ อาห ‘‘ตสฺส ตสฺส วิฺาณสฺส นิโรเธน สเหวา’’ติ. อนุปฺปาทนิโรโธ หิ เอตฺถ ‘‘นิโรโธ’’ติ อธิปฺเปโต อนุปาทิเสสนิพฺพานสฺส อธิปฺเปตตฺตาติ. อนุสนฺธียติ เอเตนาติ อนุสนฺธิ, อิธ ปุจฺฉิยมาโน อตฺโถ.

สห วิสเยน ทสฺเสตุนฺติ เอตฺถ สจฺจานิ เอว วิสโย. ปหาตพฺพสภาวํ สมุทยสจฺจํ, ตสฺส วิสโย ทุกฺขสจฺจํ. ‘‘สํโยชนิเยสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน วิหรโต ตณฺหา ปวฑฺฒตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๕๓, ๕๗) หิ วุตฺตํ. ปหายกสภาวํ มคฺคสจฺจํ, ตสฺส วิสโย นิโรธสจฺจนฺติ อาห ‘‘สห วิสเยน…เป… สจฺเจสู’’ติ. กามฺเจตฺถ ‘‘สมุทโย ทฺวีสุ ภูมีสุ ปหียตี’’ติ อารทฺธํ, ‘‘ทสฺสเนน ตีณิ สํโยชนานิ ปหียนฺติ, ภาวนาย สตฺต สํโยชนานิ ปหียนฺตี’’ติ ปน วิภาควจนเมว วตฺตนฺติ อาห ‘‘ปหายกวิภาคมุเขน ปหาตพฺพวิภาคํ ทสฺเสตุ’’นฺติ.

นิรวเสสกามราคพฺยาปาทา ตติยมคฺเคน ปหียนฺติ, อิตเร จตุตฺถมคฺเคนาติ วุตฺตํ ‘‘อิตเรหิ ปน นิรวเสส’’นฺติ. ตตฺถาติ กมฺมวิปากวฏฺฏปฺปเภเทน เตธาตุเก ภวตฺตเย. สํโยชนวเสนาติ สพฺพทา โยชนวเสน พนฺธนวเสน.

๑๒. อคฺคผลาณตาย เอกมฺปิ สมานํ ตนฺนิมิตฺตสฺส ขยานุปฺปาทารมฺมณสฺส ปจฺจเวกฺขณาณสฺส วเสน ผลโวหาเรน ทฺเว นามานิ ลภติ.

โสมนสฺสนามลาโภ อิมินา อารมฺมณสงฺเกเตนาติ ตทตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘ขเย…เป… สมฺายา’’ติ อาห.

๑๓. ตคฺคหเณเนวาติ ผสฺสปฺจมกปฺจรูปินฺทฺริยคฺคหเณเนว. สหจรณาทินาติ สหชาตาทิอนนฺตราทิปจฺจยภาเวน เจว นิสฺสยารมฺมณาทินา จ. ‘‘สมฺปยุตฺต’’นฺติ อิมินา สหิตตา อวิสิฏฺตา อิธาธิปฺเปตาติ อาห ‘‘อวิภาเคน คหณียภาวํ สนฺธายา’’ติ.

กถํ สมาธินฺทฺริยํ อุปฺปาเทตีติ อาห ‘‘สติคฺคหเณน เจตฺถ ปริยุฏฺานปฺปหานํ อิธาธิปฺเปต’’นฺติ. น หิ สมาธินา ปริยุฏฺานปฺปหานํ สมฺภวติ.

ปทหติ เอเตนาติ ปธานํ, วีริยํ. เตติ วีริยสงฺขารา. เอกรเสนาติ ยถา อินฺทฺริยานิ เอกรสานิ โหนฺติ, เอวํ เอกรสภาเวน สรณโต ปวตฺตนโต. ตถา ปวตฺติยา เอว สุฏฺุ วต วีริยํ วาเหสีติ โยคินา สงฺกปฺเปตพฺพโต ตทุปควีริยวาหนฏฺเน ‘‘สมฺปหํสนา’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘เอวํ เม…เป… เหตุภาวโต’’ติ.

อิทฺธิสทฺทสฺส ปโม กตฺตุอตฺโถ, ทุติโย กรณตฺโถ วุตฺโต, ปาทสทฺทสฺส เอโก กรณตฺโถ เอว. ปชฺชิตพฺพา จ อิทฺธี วุตฺตา, น จ อิชฺฌนฺติ. ปชฺชิตพฺพา จ อิทฺธี ปชฺชนกรเณน ปาเทน สมานาธิกรณา น โหนฺตีติ ‘‘ปเมน อตฺเถน อิทฺธิ เอว ปาโท’’ติ กถํ สกฺกา วตฺตุํ, ตถา อิทฺธิกิริยากรเณน สาเธตพฺพา พุทฺธิสงฺขาตา อิทฺธิ ปชฺชนกิริยากรเณน ปชฺชิตพฺพาติ ทฺวินฺนํ กรณานํ น สมานาธิกรณตา สมฺภวตีติ ‘‘ทุติเยน อตฺเถน อิทฺธิยา ปาโท’’ติ กถํ สกฺกา วตฺตุนฺติ เจ? สกฺกา, ปาทสฺส อิชฺฌมานโกฏฺาส อิชฺฌนกรณูปายภาวโต. อถ วา ‘‘ปเมน อตฺเถน อิทฺธิยา ปาโท, ทุติเยน อตฺเถน อิทฺธิ เอว ปาโท อิทฺธิปาโท’’ติ เอวํ โยชนโต. กถํ? อนนฺตรตฺโถ ปจฺจาสตฺติาเยน อิธ ปโมติ อธิปฺเปโต, ตโต ปุริโม ทุติโยติ.

‘‘ฉนฺทํ เจ ภิกฺขุ อธิปตึ กริตฺวา ลภติ สมาธิ’’นฺติอาทิ (วิภ. ๔๓๒) วจนโต ฉนฺทสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวตีติ เอตฺถาปิ ฉนฺทาธิปติ สมาธิ ฉนฺทสมาธีติ อธิปติสทฺทโลปํ กตฺวา สมาโส วุตฺโตติ วิฺายติ. อธิปติสทฺทตฺถทสฺสนวเสเนว ปน ‘‘ฉนฺทเหตุโก, ฉนฺทาธิโก วา สมาธี’’ติ สมฺโมหวิโนทนิยํ (วิภ. อฏฺ. ๔๓๑) วุตฺตํ, ตสฺมา อิธาปิ ฉนฺทาธิปติ สมาธิ ฉนฺทสมาธีติ เวทิตพฺโพ. ตํ ปน ฉนฺทํ วุตฺตนเยน สทฺธาสีเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘สทฺธาธิปเตยฺยา จิตฺเตกคฺคตา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อิทํ ปธาน’’นฺติ วา วีริยํ วุตฺตํ. วีริยสทฺทาเปกฺขาสหิตํ เอกวจเนน วตฺวา จตุพฺพิธสฺสปิ วีริยสฺส อธิปฺเปตตฺตา นิพฺพตฺเตตพฺพธมฺมวิภาเคน จ ‘‘อิเม สงฺขารา’’ติ วุตฺตํ. เตน ปธานภูตา สงฺขาราติ เอวํ สมาโส เวทิตพฺโพ. สงฺขตสงฺขาราทินิวตฺตนตฺถฺเจตฺถ ปธานคฺคหณํ. อถ วา ตํ ตํ วิเสสํ สงฺขโรตีติ สงฺขาโร, สพฺพมฺปิ วีริยํ. ตตฺถ จตุกิจฺจสาธกโต อฺสฺส นิวตฺตนตฺถํ ปธานคฺคหณนฺติ ปธานภูตา เสฏฺภูตาติ อตฺโถ.

วีริยิทฺธิปาทนิทฺเทเส ‘‘วีริยสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคต’’นฺติ (วิภ. ๔๓๕) ทฺวิกฺขตฺตุํ วีริยํ อาคตํ. ตตฺถ ปุริมํ สมาธิวิเสสนํ ‘‘วีริยาธิปติ สมาธิ วีริยสมาธี’’ติ, ทุติยํ สมนฺนาคมงฺคทสฺสนตฺถํ. ทฺเว เอว หิ สพฺพตฺถ สมนฺนาคมงฺคานิ สมาธิ, ปธานสงฺขาโร จ. ฉนฺทาทโย สมาธิวิเสสนานิ. ปธานสงฺขาโร ปน ปธานวจเนเนว วิเสสิโต, น ฉนฺทาทีหีติ น อิธ วีริยาธิปติตา ปธานสงฺขารสฺส วุตฺตา โหติ. วีริยฺจ สมาธึ วิเสเสตฺวา ิตเมว สมนฺนาคมงฺควเสน ปธานสงฺขารวจเนน วุตฺตนฺติ นาปิ ทฺวีหิ วีริเยหิ สมนฺนาคโม วุตฺโต โหติ. ยสฺมา ปน ฉนฺทาทีหิ วิสิฏฺโ สมาธิ ตถา วิสิฏฺเเนว เตน สมฺปยุตฺโต ปธานสงฺขาโร, เสสธมฺมา จ, ตสฺมา สมาธิวิเสสนานํ วเสน ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา’’ติ วุตฺตา. วิเสสนภาโว จ ฉนฺทาทีนํ ตํตํอปสฺสยนวเสน โหตีติ ฉนฺทสมาธิ…เป… อิทฺธิปาทนฺติ เอตฺถ นิสฺสยตฺเถปิ ปาทสทฺเทน อุปายตฺเถน ฉนฺทาทีนํ อิทฺธิปาทตา วุตฺตา โหติ. ตถา หิ อภิธมฺเม อุตฺตรจูฬภาชนีเย ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ฉนฺทิทฺธิปาโท’’ติอาทินา (วิภ. ๔๕๗) ฉนฺทาทีนเมว อิทฺธิปาทตา วุตฺตา. ปฺหาปุจฺฉเก จ ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา – อิธ ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธี’’ติ (วิภ. ๔๖๒) อารภิตฺวาปิ ปุน ฉนฺทาทีนํเยว กุสลาทิภาโว วิภตฺโต. อุปายิทฺธิปาททสฺสนตฺถเมว หิ นิสฺสยิทฺธิปาททสฺสนํ กตํ. อฺถา จตุพฺพิธตาว น โหตีติ. อยเมตฺถ ปาฬิวเสน อตฺถวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

ตทงฺคสมุจฺเฉทนิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตตฺตํ วตฺวา ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวกนิสฺสิตสฺส อวจนํ ‘‘ฉนฺทสมาธิ…เป… อิทฺธิปาทํ ภาเวตี’’ติ (วิภ. ๔๓๒) ภาเวตพฺพานํ อิทฺธิปาทานํ วุตฺตตฺตา. ภาวิติทฺธิปาทสฺส หิ สจฺฉิกาตพฺพา ผลปริยาปนฺนา อิทฺธิปาทาติ.

โวสฺสคฺคสทฺโท ปริจฺจาคตฺโถ, ปกฺขนฺทนตฺโถ จาติ โวสฺสคฺคสฺส ทุวิธตา วุตฺตา. ยถาวุตฺเตน ปกาเรนาติ ตทงฺคสมุจฺเฉทปฺปกาเรน, ตนฺนินฺนภาวารมฺมณปฺปกาเรน จ. ปริณมนฺตํ วิปสฺสนกฺขเณ.

๑๔. ปุพฺพภาคปฺายาติ เอกาวชฺชนนานาวชฺชนวีถีสุ ปวตฺตอุปจารปฺาย. อธิคมปฺายาติ อปฺปนาปฺาย. ปุน ปุพฺพภาคปฺายาติ นานาวชฺชนุปจารปฺาย, ปฏิสนฺธิปฺาย วา. อุปจารปฺายาติ เอกาวชฺชเน, สพฺพตฺถ วา ปวตฺตอุปจารปฺาย.

ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนวิจโยปีติ ยถาวุตฺตาย ปุจฺฉาย วิสฺสชฺชนวิจโยปิ. วุตฺตนยานุสาเรนาติ อทิฏฺโชตนา, วิมติจฺเฉทนา จาติ เหฏฺา วุตฺตนยานุคมเนน.

๑๕. เสเข อเสเขติ เสกฺเข อริยปุคฺคเล, อเสกฺเข อริยปุคฺคเล. วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมปฺปหาเนติ วิปสฺสนํ ปุเรจาริกํ กตฺวา ปวตฺตกิเลสปฺปหาเน, ปหานาภิสมเยติ อตฺโถ.

‘‘ยํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’’ติ ปาฬึ ทสฺเสตฺวา ปุน ‘‘ยํ อนิจฺเจ ทุกฺเข อนตฺตนี’’ติ วจนํ เอวมฺเปตฺถ ปนฺตีติ ทสฺเสตุํ.

เสสสํกิเลสโวทานธมฺมาติ เคธโต อวสิฏฺสํกิเลสธมฺมา จ สพฺพโวทานธมฺมา จ. อภาเวนาติ อภาวเนน อภาวกรเณน.

ปโยคปรกฺกมนฺติ ภุสํ โยโค ปโยโค, ปโยโคว ปรกฺกโม ปโยคปรกฺกโม, จิตฺตํ. อุกฺขิปตีติ โกสชฺชปกฺเข ปติตุํ อเทนฺโต กุสลปกฺเข อุทฺธํ ขิเปนฺโต วิย ปวตฺตติ. ปธานวีริยนฺติ อกุสลานํ อนุปฺปาทนฏฺเน อุตฺตมวีริยํ. โยเชตพฺพานีติ ‘‘อาเสวมาโน วายมตี’’ติอาทินา โยเชตพฺพานิ. อนุปฺปนฺนาติ อวตฺตพฺพตํ อาปนฺนานนฺติ ภูมิลทฺธารมฺมณาธิคฺคหิตาวิกฺขมฺภิตาสมุคฺฆาฏิตุปฺปนฺนานํ.

๑๖. ‘‘อฏฺมกสฺส อินฺทฺริยานี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ปมมคฺเค สทฺธาทโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. อินฺทฺริยคฺคหณฺจ ปาฬิยํ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ.

อสุภานุปสฺสนา กายานุปสฺสนาสติปฏฺานนฺติ อาห ‘‘สติปฏฺานภาวนาย สุนิคฺคหิโต กามวิตกฺโก’’ติ. สมาธิ อุปฺปชฺชมาโน กามวิตกฺกมฺปิ นิคฺคเหตฺวา เอว อุปฺปชฺชตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนวชฺชสุขปทฏฺาเนนา’’ติอาทิมาห. ‘‘กุสเลสุ ธมฺเมสุ อารทฺธวีริโย’’ติอาทินา ธมฺมจฺฉนฺทโต อุปฺปชฺชมาโน วีริยจฺฉนฺโท ขนฺตึ ปริพฺรูเหตีติ ทสฺเสติ. อนวชฺชธมฺมานํ อุปการกธมฺมาเสวนํ วิย อนุปการกธมฺมปริวชฺชนมฺปิ ปฺานิเสวเนเนว โหตีติ อาห ‘‘สมาธิอาทีน’’นฺติอาทิ.

๑๗. สพฺพธมฺมาธิฏฺานํ เทสนํ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน วิภชิตุํ ‘‘โลโก นามา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สพฺพธมฺมานนฺติ…เป… ทสฺเสตุ’’นฺติ อาห. มหคฺคตธมฺเมสุ านํ ตํสมฺปาทนาว. ตถา เสเสสุ. วฑฺฒิยมาเนสูติ ยถา วิมุตฺตึ ปริปาจยนฺติ, เอวํ พฺรูหิยมาเนสุ.

ทสฺสนปริฺาติ รูปารูปธมฺมานํ สลกฺขณโต, ปจฺจยโต จ ปริชานนา. เตนาห ‘‘าตปริฺา’’ติ. ปฏิปกฺขวิธมเนน สทฺธึ ลกฺขณตฺตยวิภาวนา อิธ ‘‘ภาวนาปริฺา’’ติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘ภาวนา…เป… ปริฺา จา’’ติ. ทสฺสนตฺถา ปริฺา ทสฺสนปริฺา, ภาวนตฺถา ปริฺา ภาวนาปริฺาติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

กกฺขฬผุสนาทีติ กกฺขฬาทิผุสนาทิ. อภิชานิตฺวาติ อภิฺาย ปฺาย ชานิตฺวา, ิตสฺส อภิชานนเหตุ วาติ อตฺโถ. อตฺโถติ ผลํ. นโยติ วุตฺตนโย.

‘‘ยํ อสงฺขต’’นฺติปิ ปนฺติ. จตุนยโกวิโทติ เอกตฺตนานตฺตาทินยจตุกฺเก นิปุโณ. เทสนายุตฺติกุสโลติ ธมฺมานํ เทสนาวิธิมฺหิ กุสโล.

สทิสี กาตพฺพา สํสนฺทนวเสนาติ อธิปฺปาโย. อาเนตพฺพา ‘‘อยํ เทสนา อิมาย เทสนาย เอวํ สํสนฺทตี’’ติ. อตฺถโต อเปตนฺติ อยุตฺตตฺถํ. อสมฺพนฺธตฺถนฺติ อฺมฺํ อสมฺพนฺธปทตฺถํ. นนุ ปฏฺานวิจาโร นยวิจาโร วิย หาเรหิ อสมฺมิสฺโส วิจารณนฺตโรติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ. อิธ นิกฺขิตฺโตติ อิธ สุตฺตวิจเย สุตฺตตฺถวิจารภาวโต นิกฺขิตฺโต, เอเตน วา ปฏฺานสฺส หารนฺโตคธภาวทสฺสเนเนว มูลปทานํ วิย ปฏฺานสฺส ปทตฺถนฺตราภาโว ทสฺสิโตติ เวทิตพฺพํ.

อิมสฺส สุตฺตสฺสาติ สํวณฺณิยมานสุตฺตํ สนฺธายาห. กสฺมึ วา ปเทติ สํวณฺณิยมานํ คาถํ สนฺธายาห. ตพฺพิจเยนาติ ปุจฺฉาทิวิจเยน, อสฺสาทาทิวิจเยน จ.

วิจยหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ยุตฺติหารวิภงฺควณฺณนา

๑๘. เอวเมตสฺส สุตฺตสฺส อตฺโถ น คเหตพฺโพ, เอวํ ปน คเหตพฺโพติ อคฺคเหตพฺพคเหตพฺพานํ อตฺถานํ วิชหนคฺคหณตฺถาย ยุตฺตายุตฺติวิจารณายํ วชฺเชตพฺเพสุ ตาว ปมํ ปฏิปตฺตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อตถากาเรน คยฺหมานา สุตฺตตฺถา วิสโย’’ติ ยถา ‘‘วามํ มุฺจ, ทกฺขิณํ คณฺหา’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๙๘; วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๑๔; สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๒๑๓). วชฺเชตพฺพภาวโต หิ สุตฺตปเทหิ สุตฺตตฺเถ วิเวจิเต คเหตพฺพภาโว จ อวสิฏฺโ โหติ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘เมตฺตาวิหารสฺส สโต พฺยาปาโท จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสตี’ติ น ยุชฺชติ เทสนา, ‘พฺยาปาโท ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉตี’ติ ยุชฺชติ เทสนา’’ติ (เนตฺติ. ๒๑).

ยุตฺตินิทฺธารเณน อยถาสภาวโต วิเวจิตฺวา ยถาสภาวโต ธมฺมสฺส คหณการณานิ กเถนฺโต ‘‘มหนฺตา อปทิสิตพฺพา เอเตสนฺติ มหาปเทสา’’ติ อิมมตฺถมาห ‘‘พุทฺธาทโย’’ติอาทินา. ปติฏฺานานีติ ปติฏฺานสาธนานิ. เสเสสูติ สงฺฆาปเทสาทีสุ. ปมตฺโถ เอว หิ อิธ ปาฬิ อาคโต, วินิจฺฉยเน การณํ มหาปเทโสติ อธิปฺปาโย. สุตฺโตตรณาทีติ อาทิสทฺเทน สุตฺตาโนตรณาทิปิ สงฺคยฺหติ. สุตฺโตตรณวินยสนฺทสฺสนานิ หิ เกนจิ ยถาภตสฺส คนฺถสฺส ‘‘ธมฺโม’’ติ วินิจฺฉยเน การณํ. สุตฺตาโนตรณวินยาสนฺทสฺสนานิ ‘‘อธมฺโม’’ติ. ยทิ เอวนฺติ ยทิ ยถาภตสฺส คนฺถสฺส สุตฺตวินเยหิ สํสนฺทนํ ‘‘ธมฺโม’’ติ, อสํสนฺทนํ ‘‘อธมฺโม’’ติ วินิจฺฉยการณํ, เอวํ สนฺเตติ อตฺโถ. สมฺปทียติ าปียติ ธมฺโม เอเตหีติ สมฺปทายา, อกฺขาตาโร.

วินียนฺติ ราคาทโย เอเตนาติ วินโย, การณํ. เตนาห ‘‘ราคาทิวูปสมนิมิตฺต’’นฺติ. กึ ปน ตํ? สาธิฏฺานสมถวิปสฺสนาทิธมฺมา. เย ปรโต ‘‘เตจตฺตาลีสํ โพธงฺคมา ธมฺมา’’ติ (เนตฺติ. ๒๔) วกฺขติ.

วินยมหาปเทสา กปฺปิยานุโลมโต อนุโลมกปฺปิยํ นาม, ตํสทิสตาย สุตฺตนฺตมหาปเทสาปิ อนุโลมกปฺปิยนฺติ อฏฺกถาโวหาโร. เตน วุตฺตํ ‘‘ยํ อนุโลมกปฺปิยนฺติ วุจฺจตี’’ติ.

ยทิปิ ตตฺถ ตตฺถ ปวตฺตา ภควโต ปกิณฺณกเทสนา อฏฺกถา, สา ปน ธมฺมสงฺคาหเกหิ เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ สงฺคายิตฺวา ตสฺส อตฺถสํวณฺณนานุรูเปน วาจนามคฺคํ อาโรปิตตฺตา อาจริยวาโท นาม. เตน วุตฺตํ ‘‘อาจริยวาโท นาม อฏฺกถา’’ติ. ติสฺโสปิ สงฺคีติโย อารุฬฺโห เอว หิ พุทฺธวจนสฺส อตฺถสํวณฺณนาภูโต กถามคฺโค ปจฺฉา ตมฺพปณฺณิเยหิ มหาเถเรหิ สีหฬภาสาย ปิโต. อตฺตโนมติ เถรวาโท. สเมนฺตเมว คเหตพฺพนฺติ ยถา ปาฬิยา สํสนฺทติ, เอวํ มหาปเทสโต อตฺถา อุทฺธริตพฺพาติ ทสฺเสติ. ปมาทปาวเสน อาจริยวาทสฺส กทาจิ ปาฬิยา อสํสนฺทนาปิ สิยา, โส น คเหตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘สุตฺเตน สเมนฺโต เอว คเหตพฺโพ’’ติ.

จตูหิ มหาปเทเสหิ ยุชฺชตีติ จตูหิ มหาปเทเสหิ น วิรุชฺฌติ. อิทานิ ตํ อวิรุชฺฌนาการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เยน เยนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สุตฺโตตรณาทิ เอว เหตฺถ การณํ. ตสฺส จ อเนกาการตาย ‘‘ปกาเรนา’’ติ วุตฺโต. สํวณฺณิยมาเน สุตฺเต สํวณฺณนาวเสน คเหตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. อาภเตนาติ อานีเตน. สุตฺตโตติ สุตฺตนฺตรโต. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – เกนจิ ปสงฺเคน สุตฺตนฺตรโต อุทฺธริตฺวา อานีเตน สุตฺตปเทน สุตฺโตตรณาทินา, การณปฺปกาเรน จ จตุมหาปเทสาวิโรเธน สํวณฺณิยมาเน สุตฺเต สํวณฺณนาวเสน อตฺถชาตํ คเหตพฺพนฺติ. เตนาห ‘‘เตน…เป… กาตพฺพา’’ติ. ตตฺถ ยุตฺติหารโยชนา กาตพฺพาติ ยุตฺตินิทฺธารณวเสน อยํ ยุตฺติหาโร โยเชตพฺโพ. อถ วา ยุตฺติหารโยชนา กาตพฺพาติ อิมินา หาเรน วกฺขมานนเยน ยุตฺติคเวสนํ กตฺวา ตาย ยุตฺติยา สพฺพหารโยชนา กาตพฺพาติ อตฺโถ. ลกฺขณฺเหตํ ยุตฺติคเวสนาย, ยทิทํ ยุตฺติหาโร. เตนาห ‘‘สพฺเพสํ หารานํ, ยา ภูมี, โย จ โคจโร เตสํ. ‘‘ยุตฺตายุตฺตปริกฺขา’’ติ (เนตฺติ. ๔), ‘‘อิมาย ยุตฺติยา อฺมฺเหิ การเณหิ คเวสิตพฺพ’’นฺติ (เนตฺติ. ๒๐) จ.

๑๙. ยทิ วา สพฺพานิ ปทานิ เอกํ อตฺถํ อภิวทนฺตีติ โยชนา.

๒๐. ชรายํ ิตสฺส อฺถตฺตนฺติ ิตสฺส ยํ อฺถตฺตํ อฺถาภาโว, อยํ ชรา นาม. ขณิกมรณํ ขณิกนิโรโธ. สมุจฺเฉทมรณํ ขีณาสวานํ ขนฺธปรินิพฺพานํ.

เกวลสฺสาติ ชราย อมิสฺสสฺส. อฺาว ชรา, อฺํ มรณนฺติ ‘‘ปฏิฺาตสฺส เกวลสฺส มรณสฺส ทิฏฺตฺตา’’ติ เหตุ. ยถา ตํ เทวานนฺติ สทิสูทาหรณํ, วิสทิสูทาหรณํ ปน อิทฺธิปาทาทโย, อนฺวยพฺยติเรกา คเหตฺวา โยเชตพฺพา.

เตหีติ ชรามรเณหิ.

‘‘ชีรณภิชฺชนสภาวา’’ติ อิมินา เลเสน ตณฺหาชรามรณานํ อนฺตฺตํ โยเชติ. ยทิปิ ‘‘อฺา ตณฺหา, อฺา ชรา, อฺํ มรณ’’นฺติ สิทฺโธวายมตฺโถ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘น อิท’’นฺติอาทิ, ตถาปิ สกฺกุเณยฺยปริหารายํ โจทนาติ อชฺฌารุฬฺหํ ตตฺถ โทสํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยทิ จ ยถา ชรามรณ’’นฺติ ปาฬิปวตฺตานิ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยทิ…เป… ทสฺเสตี’’ติ อาห. ภาโวติ อธิปฺปาโย. เอเตสนฺติ ตณฺหาชรามรณานํ.

‘‘อิมาย ยุตฺติยา อฺมฺเหิ การเณหิ คเวสิตพฺพ’’นฺติ จ เกจิ ปนฺติ, พฺยฺชนโตปิ คเวสิตพฺพํ, อฺตฺถ อตฺถโต อฺตฺถมฺปีติ อธิปฺปาโย. ตเมว พฺยฺชนโต อฺตฺถํ ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ ‘‘สลฺโลติ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิเมสนฺติ สลฺลธูปายนานํ. อิจฺฉาวิปริยาเยติ อิจฺฉิตาลาเภ, อปฺปจฺจยสมวาเย วา. อิทมฺปิ สมตฺถนํ โหติ ยถาธิปฺเปตสฺส อฺตฺถสฺส พฺยติเรกทสฺสนภาวโต. ชรามรณวิปริยาเยติ ชรามรเณ อสติ. น หิ ยถาธิปฺเปตชรามรณาภาเว ตณฺหา น โหตีติ.

ทฺวิธา วุตฺตาติ ทฺวิปฺปกาเรน วุตฺตา, ทฺวิกฺขตฺตุํ วา วุตฺตา. ยํ อิทํ…เป… อารมฺมณกรณวเสน วา อภิลปนนฺติ เอวํ กิริยาปรามสนํ โยเชตพฺพนฺติ เวทิตพฺพํ. วิเสโสติ อยํ เอตาสํ อิจฺฉาตณฺหานํ ปกติสงฺขาโต วิเสโส. ‘‘ทฺวีหิ นาเมหี’’ติปิ ปาฬิ. ยทิปิ เอวนฺติ กามํ วิสยวิเสเสสุ เอวํ ยถาวุตฺตอวตฺถาวิเสเสน อิจฺฉาตณฺหานํ อตฺถิ กาจิ เภทมตฺตาติ อตฺโถ. สภาวโต ปน เภโท นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตถาปี’’ติ อาห.

อิจฺฉนฺตีติ กาเมนฺติ. ตณฺหายนา ปาตุกามตา. สนฺตาปนฏฺเนาติ ปริทหนภาเวน. อากฑฺฒนฏฺเนาติ อวหรณฏฺเน. สริตานีติ ราควเสน อลฺลานิ. ตํสมฺปยุตฺตปีติวเสน สินิทฺธานิ สิเนหิตานิ. วิสตฺติกาติ วิตฺถตา รูปาทีสุ เตภูมกธมฺเมสุ พฺยาปนวเสน. วิสฏาติ ปุริมเววจนเมว ต-การสฺส ฏ-การํ กตฺวา วุตฺตํ. วิสาลาติ วิปุลา. วิสกฺกตีติ ปริสกฺกติ สหติ. รตฺโต หิ ราควตฺถุนา ปาเทน ตาฬิยมาโนปิ สหติ. ‘‘โอสกฺกนํ, วิปฺผนฺทนํ วา วิสกฺกน’’นฺติ วทนฺติ. อนิจฺจาทิกํ นิจฺจาทิโต คณฺหนฺตี วิสํวาทิกา โหติ. วิสํหรตีติ ตถา ตถา กาเมสุ อานิสํสํ ทสฺเสนฺตี วิวิเธหิ อากาเรหิ เนกฺขมฺมาภิมุขปฺปวตฺติโต จิตฺตํ สํหรติ สํขิปติ. วิสํ วา ทุกฺขํ, ตํ หรติ, วหตีติ อตฺโถ. ทุกฺขนิพฺพตฺตกสฺส กมฺมสฺส เหตุภาวโต วิสมูลา, วิสํ วา ทุกฺขาทิเภทา เวทนา มูลํ เอตายาติ วิสมูลา, ทุกฺขสมุทยตฺตา วิสํ ผลํ เอติสฺสาติ วิสผลา. รูปาทิทุกฺขสฺเสว ปริโภโค เอตาย, น อมตสฺสาติ วิสปริโภคา. สพฺพตฺถ นิรุตฺติวเสน ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. โย ปเนตฺถ ปธาโน อตฺโถ, ตํ ทสฺเสตุํ ปุน ‘‘วิสตา วา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

สิเนหนํ เปมกรณํ. พนฺธนฏฺเนาติ สํโยชนฏฺเน. อาสีสนฏฺเนาติ อิจฺฉนฏฺเน. อภินนฺทนฏฺเนาติ อสฺสาทนฏฺเน, สมฺปฏิจฺฉนฏฺเน วา.

๒๑. อนภิรตีติ อุกฺกณฺา. าณนิพฺพิทาติ นิพฺพิทานุปสฺสนา. ยถา จ ทุกฺขู…เป… จาเรสุ ยุตฺติ วุตฺตาติ โยชนา.

สุขาปฏิปทาทนฺธาภิฺา สุขาปฏิปทาขิปฺปาภิฺา สุขาปฏิปทาทโย. โย ทุกฺขาย ปฏิปทาย วิเสสํ อธิคนฺตุํ ภพฺโพ, ตสฺส สุขาปฏิปทาโยคฺยสฺส วิย กริยมานา ธมฺมเทสนา วิเสสาวหา น โหติ, ตสฺมา สา น ยุตฺตาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘ราคจริโต’’ติอาทินา. ราคจริตสฺส ตถา ตถา กามานํ อาทีนวํ, โอการํ, สํกิเลสํ, เนกฺขมฺเม อานิสํสฺจ อวิภาเวตฺวา อาทิโต วิปสฺสนากถาว กริยมานา น วิเสสาวหา โหติ อาสยสฺส อโสธิตตฺตาติ เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ปาฬิยํ ‘‘วิปสฺสนา…เป… เทสนา’’ติ อาหาติ เวทิตพฺพํ. เสสปเทสุปีติ ยถา ‘‘ราคจริตสฺสา’’ติอาทินา ราคจริตโกฏฺาสวเสน ปาฬิยํ เทสนาย อยุตฺติ วุตฺตา, อิมินา นเยน เสสปเทสุปิ โทสจริตโกฏฺาสาทีสุปิ ‘‘โทสจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อสุภํ เทเสยฺยา’’ติอาทินา ปาฬิยํ อวุตฺโตปิ ยถาสมฺภวมตฺโถ นิทฺธาเรตฺวา วตฺตพฺโพ. กสฺมา ปน ยุตฺติหาเร อยุตฺตินิทฺธารณา กตาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ. เสเสสุปิ เอเสว นโยติ เสเสสุปิ โทสจริตาทิวเสน นิทฺธาริเตสุ อยุตฺติคเวสเนสุ อยเมว อุปาโย. อนุโลมปฺปหาน’’นฺติปิ ปาฬิ, โส เอวตฺโถ.

‘‘ยาวติกา าณสฺส ภูมี’’ติ เอเตน ยุตฺติหารสฺส มหาวิสยตํ ทสฺเสติ. กสฺมา ปนายํ มหาวิสโยติ? ยุตฺติวิจารภาวโต, สํวณฺเณตพฺพสฺส จ ธมฺมสฺส นานานยนิปุณาทิคุณวิเสสโยคโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตํ กิสฺส เหตู’’ติ อาห.

อปรภาเคติ ปจฺฉาภาเค. เมตฺตาวิหาริภาคสฺส อปริหีนตาวจนโต อโยโค วุตฺโต. เตนาห ‘‘สโต’’ติ. ยถาวุตฺตการณโต เอวาติ ปฏิปกฺขตฺตา เอว.

ปหาเนกฏฺภาวโต ทิฏฺิมฺิตสฺส. อาทีนวทสฺสเนน วิตกฺกํ ชิคุจฺฉนฺตา ทุติยชฺฌานสฺส อาสนฺนอุปจารชฺฌานธมฺมาปิ วิตกฺการมฺมณา น โหนฺติ, ปเคว ทุติยชฺฌานธมฺมาติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อารมฺมณกรณตฺโถ เหตฺถ สหคตสทฺโท’’ติ.

เอวํ ยุตฺติหารลกฺขณํ อาคมโต ยุตฺตายุตฺตวิจารํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อาคมานุคตาย ยุตฺติยาปิ ตํ ทสฺเสตุํ คุณมุเขน โทสวิภชนํ วิภชนฺโต ‘‘อปิเจตฺถา’’ติอาทิมาห. ตํ อุตฺตานตฺถเมว.

ยุตฺติหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปทฏฺานหารวิภงฺควณฺณนา

๒๒. เตสํ เตสนฺติ อนวเสสปริยาทานํ, เตน เย สุตฺเต วุตฺตา จ ธมฺมา, เย จ เตสํ การณภูตํ, เตสํ สพฺเพสมฺปีติ วุตฺตํ โหติ. สพฺพธมฺมยาถาวอสมฺปฏิเวโธติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘กตฺถ ปน โส’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ปิยายิตพฺพชาติยนฺติ เปมนียสภาวํ. มิจฺฉาปฏิปทาติ ปมาทาปตฺติ, มิจฺฉาภินิเวโส วา. เอกวารํ อุปฺปนฺนาปิ ปาณาติปาตเจตนา เวรปฺปสวนโต โทสสฺส, เอกวารํ อุปฺปนฺนาปิ ปมาทาปตฺติ, มิจฺฉาภินิเวโส วา โมหสฺส อุปฺปตฺติการณนฺติ ปาฬิยํ อวุตฺตมฺปิ นยโต นิทฺธาเรตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โทสสฺส…เป… อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ’’ติ อาห. นิมิตฺตตฺถคฺคหณลกฺขณํ วณฺณสณฺานํ, อนุพฺยฺชนตฺถคฺคหณลกฺขณํ อนุพฺยฺชนนฺติ ‘‘นิมิตฺตานุพฺยฺชนคฺคหณลกฺขณา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถ นิมิตฺตํ อิตฺถิปุริสนิมิตฺตํ. อนุพฺยฺชนํ หตฺถปาทหสิตกถิตาทิ. ผสฺโส ปจฺจโย เอติสฺสาติ ผสฺสปจฺจยา, ตํภาโว ผสฺสปจฺจยตา. อสฺสาเทติ เอตายาติ อสฺสาโท, ตณฺหา.

วตฺถูนิ เยฺยธมฺโมติ อาห ‘‘วตฺถุอวิปฺปฏิปตฺติ วิสยสภาวปฏิเวโธ’’ติ. อิธาธิปฺเปตํ สมฺมาปฏิปตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘สีลสมาธิสมฺปทาน’’นฺติ วุตฺตํ. เอกเทสุปลกฺขณวเสน, วณฺณคนฺธราคิสปฺปายวเสน วา ปาฬิยํ ‘‘วินีลกวิปุพฺพกคฺคหณลกฺขณา อสุภสฺา’’ติ วตฺวา ‘‘ตสฺสา นิพฺพิทาปทฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ นิพฺพิทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นิพฺพิทา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปริตสฺสนโต วิเสเสตุํ ‘‘าเณนา’’ติ วิเสสิตํ. ตถา ปวตฺตนฺติ นิพฺพิทนากาเรน ปวตฺตนํ.

โยนิโส อุมฺมุชฺชนฺติยา วิเทหรฺโ ธีตาย รุจาย ชาติสฺสราณํ กมฺมสฺสกตฺาณสฺส การณํ อโหสิ, น ปน อสปฺปุริสูปนิสฺสยโต, อโยนิโส อุมฺมุชฺชนฺตสฺส ตสฺเสว รฺโ เสนาปติโน อลาตสฺส พีชกสฺส ทาสสฺสาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมสฺส จ…เป… อุทาหริตพฺโพ’’ติ อาห. โสติ ปสาโท. อวตฺถาวิเสโสติ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อนาวิลภาวลกฺขิโต อวตฺถาเภโท. อายตนคโตติ านคโต, รตนตฺตยวิสโยติ อตฺโถ. ‘‘กาโย’’ติอาทินา อวตฺถาวิเสเสน วินา สภาวสิทฺธเมว ปทฏฺานํ ทสฺเสติ.

อิมสฺมึ จ าเน ปาฬิยํ ปุพฺเพ เยสํ ธมฺมานํ ปทฏฺานํ นิทฺธาริตํ, เต ธมฺมา เยสํ ธมฺมานํ ปทฏฺานานิ โหนฺติ, เต ทสฺเสตุํ ‘‘อปโร นโย’’ติอาทิ อารทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ. อสฺสาทมนสิกาโร อโยนิโสมนสิการลกฺขโณ วุตฺโต นิทสฺสนมตฺตอตฺโถติ เวทิตพฺโพ, เยภุยฺเยน สตฺตานํ โลภวเสน อโยนิโสมนสิการา สํวตฺตนฺตีตฺติ ทสฺสนตฺถํ วา เอวํ วุตฺตํ. อุปปตฺติ เอว โอปปจฺจยํ, ตสฺส ภาโว โอปปจฺจยิกนฺติ อาห ‘‘อุปปตฺติภวภาเวนา’’ติ. ววตฺถิตภาโวติ ววตฺถิตภาโว รูปสฺส ทสฺสนาทิปฏินิยตารมฺมณกิจฺจตา. ภวสฺส องฺคานีติ ภวสฺส การณานิ. ทุติเย องฺคานีติ อวยวา, กมฺมวฏฺฏมฺปิ วา การณงฺคภาเวน โยเชตพฺพํ.

กมฺมฏฺานสฺสาติ ภาวนาย พฺรูหนา วฑฺฒนา. เตสูติ ติตฺถฺุตาทีสุ. กลฺยาณมิตฺตสฺส สมฺมเทว ปยิรุปาสนายปีติ ตํ นิสฺสาย ลทฺเธน สพฺพาย ธมฺมสฺสวเนน ธมฺมุปสํหิตํ ปาโมชฺชํ โหตีติ ติตฺถฺุตา ปีตฺุตาย ปทฏฺานํ. เอวํ ยาย วิมุตฺติยา สติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ โหตีติ สา ตสฺส ปทฏฺานนฺติ อยมตฺโถ ปากโฏติ อาห ‘‘ปุริมานํ…เป… สุวิฺเยฺโย เอวา’’ติ. สห อธิฏฺาเนนาติ าตปริฺาย สทฺธึ. าตปริฺา หิ ตีรณปริฺาย อธิฏฺานํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

ปทฏฺานหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ลกฺขณหารวิภงฺควณฺณนา

๒๓. ‘‘ลกฺขณหารสฺส วิสยํ ปุจฺฉตี’’ติ วุตฺตํ, ‘‘โก ปน ตสฺส วิสโย’’ติ วุตฺเต สมานลกฺขณา อวุตฺตธมฺมา. กายานุปสฺสนาย สมารทฺธาย เวทนานุปสฺสนาทโย สุเขเนว สิชฺฌนฺตีติ ตพฺพจเนน เวทนาคตาสติอาทีนํ วุตฺตภาโว ทสฺสิโต สติปฏฺานภาเวน เอกลกฺขณตฺตาติ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานสฺส สทฺธานุคฺคหิตานิ วีริยสติสมาธิปฺินฺทฺริยานิ สาธนํ, เอวํ อิตเรสมฺปีติ กตฺวา วุตฺตํ. อยํ อตฺโถ อฏฺกถายเมว (เนตฺติ. อฏฺ. ๕๑) ปรโต อาคมิสฺสติ. อิมินา นเยน เสเสสุปิ เอกลกฺขณตานิทฺเทเสสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปรโตติ จตุพฺยูหหารวณฺณนายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๒๐).

อสมฺมิสฺสโตติ เวทนาทโยปิ เอตฺถ สิตา เอตฺถ ปฏิสนฺธาติ กาเย เวทนาทิอนุปสฺสนาปสงฺเคปิ อาปนฺเน ตทสมฺมิสฺสโตติ อตฺโถ.

อวยวิคาหสมฺาติธาวนสาราทานาภินิเวสนิเสธนตฺถํ กายํ องฺคปจฺจงฺเคหิ, ตานิ จ เกสาทีหิ, เกสาทิเก จ ภูตุปาทายรูเปหิ วินิพฺภุชิตุํ ‘‘ตถา น กาเย’’ติอาทิมาห. ปาสาทาทินคราวยวสมูเห อวยวิวาทิโนปิ อวยวิคาหณํ กโรนฺติ. นครํ นาม โกจิ อตฺโถ อตฺถีติ ปน เกสฺจิ สมฺาติธาวนํ สิยาติ อิตฺถิปุริสาทิสมฺาติธาวเน นครนิทสฺสนํ วุตฺตํ. อฺโ โกจิ สตฺตาทิโก. ยํ ปสฺสติ อิตฺถึ, ปุริสํ วา. นนุ จกฺขุนา อิตฺถิปุริสทสฺสนํ นตฺถีติ? สจฺจํ นตฺถิ, ‘‘อิตฺถึ ปสฺสามิ, ปุริสํ ปสฺสามี’’ติ ปน ปวตฺตสมฺาวเสน ‘‘ยํ ปสฺสตี’’ติ วุตฺตํ. มิจฺฉาทสฺสเนน วา ทิฏฺิยา ยํ ปสฺสติ, น ตํ ทิฏฺํ รูปายตนํ โหติ, รูปายตนํ วา ตํ น โหตีติ อตฺโถ. อถ วา ตํ โกสาทิภูตุปาทายสมูหสงฺขาตํ ทิฏฺํ น โหติ, ทิฏฺํ วา ยถาวุตฺตํ น โหตีติ อตฺโถ. ยํ ทิฏฺํ ตํ น ปสฺสตีติ ยํ รูปายตนํ, เกสาทิภูตุปาทายสมูหสงฺขาตํ วา ทิฏฺํ, ตํ ปฺาจกฺขุนา ภูตโต น ปสฺสตีติ อตฺโถ.

น อฺธมฺมานุปสฺสีติ น อฺสภาวานุปสฺสี, อสุภาทิโต อฺาการานุปสฺสี น โหตีติ วุตฺตํ โหติ.

ปถวีกายนฺติ เกสาทึ ปถวีธมฺมสมูหตฺตา ‘‘กาโย’’ติ วทติ, ลกฺขณปถวิเมว วา อเนกเภทภินฺนํ สกลสรีรคตํ ปุพฺพาปริยภาเวน ปวตฺตมานํ สมูหวเสน คเหตฺวา ‘‘กาโย’’ติ วทติ. เอวํ อฺตฺถาปิ.

อาการสมูหสงฺขาตสฺสาติ อนิจฺจตาทิอาการสมุทายปริยายสฺส.

ตีสุ ภเวสุ กิเลเสติ ภวตฺตยวิสยกิเลเส. สพฺพตฺถิกนฺติ สพฺพตฺถ ลีเน, อุทฺธเต จ จิตฺเต อิจฺฉิตพฺพตฺถา, สพฺเพ วา ลีเน, อุทฺธเต จ ภาเวตพฺพา โพชฺฌงฺคา อตฺถิกา เอตายาติ สพฺพตฺถิกา. อนฺโต สงฺโกโจติ อนฺโต โอลียนา, โกสชฺชนฺติ อตฺโถ.

๒๔. คหิเตสูติ ภาวนาคฺคหเณน คหิเตสุ, ภาวิเตสูติ อตฺโถ, วจเนน วา คหิเตสุ. ภาวนาคฺคหณทีปนตฺถตฺตา ปน วจเนน คหณสฺส ภาวนาคฺคหณเมตฺถ ปธานํ. ยสฺส สติปฏฺานา ภาวิตา, ตสฺส สมฺมปฺปธานาทโย โพธิปกฺขิยธมฺมา น ภาวิตาติ เนตํ านํ วิชฺชตีติ จ สมานลกฺขณตาปเทเสน อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ ‘‘จตูสุ สติปฏฺาเนสุ ภาวิยมาเนสุ จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺตี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

วิปลฺลาสา ปหียนฺติ อุชุวิปจฺจนีกภาวโต. ‘‘อาหารสมุทยา กายสฺส สมุทโย, ผสฺสสมุทยา เวทนานํ สมุทโย (สํ. นิ. ๕.๔๐๘), สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๑, ๓๙; ม. นิ. ๓.๑๒๖; มหาว. ๑; อุทา. ๑; วิภ. ๒๒๕) วจนโต กายาทีนํ สมุทยภูตา กพฬีการาหารผสฺสมโนสฺเจตนาวิฺาณาหารากายาทีนํ ปริชานเนน ปริฺาตา โหนฺติ ตปฺปฏิปกฺขปฺปหานโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘จตฺตาโร อาหารา’’ติอาทิมาห. สพฺพตฺถาติ ‘‘อุปาทาเนหิ อนุปาทาโน ภวตี’’ติ เอวมาทีสุ.

ตตฺถ ยสฺมา ปฺจ กามคุณา สวิเสสา กาเย ลพฺภนฺตีติ วิเสเสน กาโย กามุปาทานสฺส วตฺถุ, สุขเวทนสฺสาทวเสน ปรโลกนิรเปกฺโข ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิ (ที. นิ. ๑.๑๗๑; ม. นิ. ๑.๔๔๕; ๒.๙๔-๙๕, ๒๒๕; ๓.๙๑, ๑๑๖; สํ. นิ. ๓.๒๑๐; ธ. ส. ๑๒๒๑; วิภ. ๙๓๘) ปรามาสํ อุปฺปาเทตีติ ทิฏฺุปาทานสฺส เวทนา, จิตฺเต นิจฺจคฺคหณวเสน สสฺสตสฺส ‘‘อตฺตโน สีลาทิวเสน ปริสุทฺธปรามสนํ โหตี’’ติ สีลพฺพตุปาทานสฺส จิตฺตํ, นามรูปปริจฺเฉเทน ภูตํ ภูตโต อปสฺสนฺตสฺส ‘‘อตฺตาภินิเวโส โหตี’’ติ อตฺตวาทุปาทานสฺส ธมฺมา วตฺถุ, ตสฺมา ‘‘จตูสุ สติปฏฺาเนสุ ภาวิยมาเนสุ อุปาทาเนหิ อนุปาทาโน ภวตี’’ติ วุตฺตํ.

ยสฺมา ปน วุตฺตนเยเนว กาโย กามโยคสฺส วตฺถุ, ภเวสุ สุขคฺคหณวเสน ภวสฺสาโท โหตีติ ภวโยคสฺส เวทนา, สนฺตติฆนคฺคหณวเสน จิตฺเต อตฺตาภินิเวโส โหตีติ ทิฏฺิโยคสฺสจิตฺตํ, ธมฺมวินิพฺโภคสฺส ทุกฺกรตฺตา, ธมฺมานํ ธมฺมมตฺตตาย จ ทุปฺปฏิวิชฺฌตฺตา สมฺโมโห โหตีติ อวิชฺชาโยคสฺส ธมฺมา, วตฺถุ, ตสฺมา จตุสติปฏฺานภาวนาย เตสุ เตสํ ปหานสิทฺธิโต โยเคหิ วิสํยุตฺตตา วุตฺตา. เอเตเนว อาสเวหิ อนาสวตา, โอเฆหิ นิตฺติณฺณตา จ สํวณฺณิตา โหติ กามราคาทีนํ เอว กามโยคกามาสวกาโมฆาทิภาวโต.

วุตฺตนเยเนว กาโย อภิชฺฌากายคนฺถสฺส วตฺถุ, ‘‘ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสโย อนุเสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕) ทุกฺขทุกฺขวิปริณามทุกฺขสงฺขารทุกฺขภูตา เวทนา วิเสเสน พฺยาปาทกายคนฺถสฺส วตฺถุ, จิตฺเต นิจฺจาภินิเวสวเสน สสฺสตสฺส ‘‘อตฺตโน สีเลน สุทฺธี’’ติอาทิปรามสนํ โหตีติ สีลพฺพตปรามาสสฺส จิตฺตํ วตฺถุ, สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสนาภาวโต ภววิภวทิฏฺิสงฺขาโต อิทํสจฺจาภินิเวโส โหตีติ ตสฺส ธมฺมา วตฺถูติ จตุสติปฏฺานาติ โยเชตพฺพํ.

วุตฺตนเยเนว วิเสสโต กาโย ราคสลฺลสฺส วตฺถุ, เวทนา โทสสลฺลสฺส, ‘‘จิตฺตํ นิจฺจคฺคหณวเสน อตฺตาภินิเวสํ อตฺตานํ เสยฺยาทิโต ทหตี’’ติ จิตฺตํ มานสลฺลสฺส, วุตฺตนเยเนว ธมฺมา โมหสลฺลสฺส วตฺถูติ จตุสติปฏฺานาติ โยเชตพฺพํ.

ยสฺมา ปน กายานุปสฺสนาทีหิ กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ ปริฺาเตสุ รูปเวทนาสฺาสงฺขารกฺขนฺธา ปริฺาตา โหนฺติ, จิตฺเต หิ ปริฺาเต สฺาปิ ปริฺาตาว โหติ, ตสฺมา ‘‘วิฺาณฏฺิติโย จสฺส ปริฺํ คจฺฉนฺตี’’ติ วุตฺตํ.

ตถา วิเสสโต กาเย สาเปกฺขา ฉนฺทาคตึ คจฺฉตีติ กาโย ฉนฺทาคติยา วตฺถุ, วุตฺตนเยเนว เวทนา พฺยาปาทสฺส นิมิตฺตนฺติ สา โทสาคติยา วตฺถุ, สนฺตติฆนคฺคหณวเสน สราคาทิจิตฺเต สมฺโมโห โหตีติ โมหาคติยา จิตฺตํ, ธมฺมสภาวานวโพเธน ภยํ โหตีติ ภยาคติยา ธมฺมา วตฺถูติ จตุสติปฏฺานภาวนาย อคติคมนปฺปหานํ โหตีติ อาห ‘‘อคติคมเนหิ จ น อคตึ คจฺฉตี’’ติ.

‘‘อกุสลสฺส โสมนสฺสสฺส วเสนา’’ติ อิทํ ‘‘อยมฺปิ อตฺโถ สมฺภวตี’’ติ กตฺวา วุตฺตํ. ‘‘สุขาย เวทนาย ราคานุสโย อนุเสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕) ปน วจนโต สุขเวทนาคฺคหเณน ตตฺถานุสยเนน สมุทยสจฺจํ เทสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. เทสิตํ ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติ ทุกฺขทุกฺขคฺคหเณน สาติสยํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ปกาสิตํ โหตีติ ปาฬิยํ ‘‘ทุกฺขํ อริยสจฺจํ เทสิต’’นฺติ วุตฺตํ. สหจรณาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา นิทฺเทสวารวณฺณนายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๕ อาทโย) วุตฺตํ.

ลกฺขณหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. จตุพฺยูหหารวิภงฺควณฺณนา

๒๕. หารานนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ. หาเรสุ อิมสฺส จตุพฺยูหหารสฺส วิเสสโต สุตฺตสฺส พฺยฺชนวิจยภาวโตติ โยชนา. เตน วุตฺตํ ‘‘พฺยฺชน…เป… ทสฺเสตี’’ติ. ยายาติ นิรุตฺติยา.

ยถารหนฺติ สํวณฺณิยมาเน สุตฺเต ยํ ยํ อรหติ นิพฺพจนํ วตฺตุํ, ตํตํโลกสมฺานุโรเธเนว. ปุพฺพภาคปฏิปทา สมฺปาเทตฺวา ปจฺฉา สจฺจาภิสมยํ ปาปุณาตีติ อาห ‘‘สมฺมุติ…เป… โหตี’’ติ, ตํตํปฺตฺติคฺคหณมุเขน ปรมตฺถคฺคหณํ โหตีติ เอวํ วา อิมินา สมฺพนฺโธ.

ยมิทํ อนินฺทฺริยพทฺธรูปสนฺตานํ สนฺธาย ‘‘อุภยมนฺตเรนา’’ติ อิธ วุตฺตํ. โอตรณหาเร (เนตฺติ. อฏฺ. ๔๒ อาทโย) ปนสฺส ทฺวารปฺปวตฺตผสฺสาทิธมฺเม สนฺธาย วุตฺตภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุภยมนฺตเรนาติ ผสฺสสมุทิเตสุ ธมฺเมสู’’ติ อตฺโถ วุตฺโต. อฏฺกถาจริยา ปนาหุ ‘‘อนฺตเรนาติ วจนํ ปน วิกปฺปนฺตรทีปน’’นฺติ. ตสฺมา อยเมตฺถ อตฺโถ – น อิมํ โลกํ, น หุรํ โลกํ, อถ โข อุภยมนฺตเรนาติ. อปโร วิกปฺโป – อุภยมนฺตเรนาติ วา วจนํ วิกปฺปนฺตราภาวทีปนํ. ตสฺสตฺโถ – น อิมํ โลกํ, น หุรํ โลกํ นิสฺสาย ฌายติ ฌายี, อุภยมนฺตเรน ปน อฺํ านํ อตฺถีติ.

เยปิ จ ‘‘อนฺตราปรินิพฺพายี, สมฺภเวสี’’ติ จ อิเมสํ สุตฺตปทานํ อตฺถํ มิจฺฉา คเหตฺวา อตฺถิ เอว อนฺตราภโวติ วทนฺติ, เตปิ ยสฺมา อวิหาทีสุ ตตฺถ ตตฺถ อายุเวมชฺฌํ อนติกฺกมิตฺวา อนฺตรา อคฺคมคฺคาธิคเมน อนวเสสกิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายนฺตีติ อนฺตราปรินิพฺพายี, น อนฺตราภวภูโตติ ปุริมสฺส สุตฺตปทสฺส อตฺโถ. ปจฺฉิมสฺส จ เย ภูตา เอว, น ปุน ภวิสฺสนฺติ, เต หิ (กถา. อนุฏี. ๕๐๗) ขีณาสวา, ปุริมปเทหิ ‘‘ภูตา’’ติ วุตฺตา. ตพฺพิปรีตตาย สมฺภวํ เอสนฺตีติ สมฺภเวสิโน. อปฺปหีนภวสํโยชนตฺตา เสกฺขา, ปุถุชฺชนา จ. จตูสุ วา โยนีสุ อณฺฑชชลาพุชสตฺตา ยาว อณฺฑโกสํ, วตฺถิโกสฺจ น ภินฺทนฺติ, ตาว สมฺภเวสี นาม. อณฺฑโกสโต, วตฺถิโกสโต จ พหิ นิกฺขนฺตา ภูตา นาม. สํเสทชโอปปาติกา จ ปมจิตฺตกฺขเณ สมฺภเวสี นาม, ทุติยจิตฺตกฺขณโต ปฏฺาย ภูตา นาม. เยน วา อิริยาปเถน ชายนฺติ, ยาว ตโต อฺํ น ปาปุณนฺติ, ตาว สมฺภเวสี, ตโต ปรํ ภูตาติ อตฺโถ, ตสฺมา นตฺถีติ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ. สติ หิ อุชุเก ปาฬิอนุคเต อตฺเถ กึ อนิทฺธาริตสามตฺถิเยน อนฺตราภเวน อตฺตภาวปริกปฺปิเตน ปโยชนนฺติ.

ยํ ปน เย ‘‘สนฺตานวเสน ปวตฺตมานานํ ธมฺมานํ อวิจฺเฉเทน เทสนฺตเรสุ ปาตุภาโว ทิฏฺโ. ยถา ตํ วีหิอาทิอวิฺาณกสนฺตาเน, เอวํ สวิฺาณกสนฺตาเนปิ อวิจฺเฉเทน เทสนฺตเรสุ ปาตุภาเวน ภวิตพฺพํ. อยฺจ นโย สติ อนฺตราภเว ยุชฺชติ, นาฺถา’’ติ ยุตฺตึ วทนฺติ. เตหิ อิทฺธิมโต เจโตวสิปฺปตฺตสฺส จิตฺตานุคติกํ กายํ อธิฏฺหนฺตสฺส ขเณน พฺรหฺมโลกโต อิธูปสงฺกมเน, อิโต วา พฺรหฺมโลกคมเน ยุตฺติ วตฺตพฺพา. ยทิ สพฺพตฺเถว วิจฺฉินฺนเทเส ธมฺมานํ ปวตฺติ น อิจฺฉิตา, ยทิปิ สิยา ‘‘อิทฺธิวิสโย อจินฺเตยฺโย’’ติ, ตํ อิธาปิ สมานํ ‘‘กมฺมวิปาโก อจินฺเตยฺโย’’ติ วจนโต, ตสฺมา ตํ เตสํ มติมตฺตเมว. อจินฺเตยฺยสภาวา หิ สภาวธมฺมา, เต กตฺถจิ ปจฺจยวิเสเสน วิจฺฉินฺนเทเส ปาตุภวนฺติ, กตฺถจิ อวิจฺฉินฺนเทเส จ. ตถา หิ มุขโฆสาทีหิ อฺสฺมึ เทเส อาทาสปพฺพตปฺปเทสาทิเก ปฏิพิมฺพปฏิโฆสาทิกํ ปจฺจยุปฺปนฺนํ นิพฺพตฺตมานํ ทิสฺสติ, ตสฺมา น สพฺพํ สพฺพตฺถ อุปเนตพฺพนฺติ อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปน ปฏิพิมฺพสฺส อุทาหรณภาวสาธนาทิโก อนฺตราภววิจาโร กถาวตฺถุปฺปกรณสฺสฏีกายํ (กถา. อนุฏี. ๕๐๗) คเหตพฺโพ.

อปเร ปน ‘‘อิธาติ กามภโว, หุรนฺติ อรูปภโว, อุภยมนฺตเรนาติ รูปภโว วุตฺโต’’ติ วทนฺติ, ‘‘อิธาติ ปจฺจยธมฺมา, หุรนฺติ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมา, อุภยมนฺตเรนาติ ปณฺณตฺติธมฺมา วุตฺตา’’ติ จ วทนฺติ, ตํ สพฺพอฏฺกถาสุ นตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อวสิฏฺํ รูปนฺติ อาโปธาตุอากาสธาตูหิ สทฺธึ ลกฺขณรูปานิ, โอชฺจ สนฺธายาห อนินฺทฺริยพทฺธรูปสฺส อธิปฺเปตตฺตา. ตสฺส ขีณาสวสฺส ตํ นิพฺพานารมฺมณํ จิตฺตํ น ชานนฺติ น ายนฺติ ‘‘ฌายมานา’’ติ วุตฺตตฺตา. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

จตุพฺยูหหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อาวฏฺฏหารวิภงฺควณฺณนา

๒๙. อกุสลานํ ธมฺมานํ วิทฺธํสนสภาวตฺตา, อกุสลานํ วา ปชหเน กุสลานํ สมฺปาทเน ปฏฺปนสภาวตฺตา อารมฺภธาตุ. ตถาภูตาติ สีลาทีหิ สมงฺคีภูตา. กามธาตุอาทิกา ติธาตุโยว เตธาตุ. ตสฺส อภิภวนโต เตธาตุอิสฺสโร มจฺจุราชา. อนาทิมติสํสาเร จิรกาลํ ลทฺธปติฏฺาปิ อจิรกาลํ ภาวิเตหิ กุสเลหิ ธมฺเมหิ สมุจฺฉินฺทนียตฺตา อพลา กิเลสาติ วุตฺตํ ‘‘อพลํ ทุพฺพล’’นฺติ. เตนาห ‘‘อพลา นํ พลียนฺตี’’ติ.

อิทํ วจนํ อยํ คาถาปาโท. สมาธิสฺส ปทฏฺานนฺติ เอตฺถ สมาธิสฺส การณํ สมตานุโยเค นิโยชนโตติ โยเชตพฺพํ. เอส นโย เสเสสุปิ. ปปฺจาติ ราคาทโยว. ตถา เจว สํวณฺณิตนฺติ เทสนาย ปทฏฺานภาเวเนว อตฺถสํวณฺณนา กตาติ อตฺโถ.

นฺติ ตํ เทสนํ. ตสฺสาติ สภาคาทิวเสน อาวฏฺฏนสฺส. ปริปกฺกาณานํ วิเสสาธิคมาย. ลาภวินิจฺฉยปริคฺคหมจฺฉริยานีติอาทีสุ ลาโภติ รูปาทิอารมฺมณปฺปฏิลาโภ. โส ปริเยสนาย สติ โหตีติ ปริเยสนาคฺคหเณน คหิโต. วินิจฺฉโยติ ‘‘เอตฺตกํ เม รูปารมฺมณตฺถาย ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ สทฺทาทิอารมฺมณตฺถาย, เอตฺตกํ มยฺหํ, เอตฺตกํ ปรสฺส, เอตฺตกํ ปริภุฺชิสฺสามิ, เอตฺตกํ นิทหิสฺสามี’’ติ เอวํ ปวตฺโต วิตกฺโก วินิจฺฉโย. โส ลาปิตเหตุกตฺตา ปริเยสนมูลกตาย ปริเยสนาคฺคหเณเนว คหิโต, ตถา ปริคฺคหมจฺฉริยานิ. ตตฺถ ปริคฺคโห ‘‘มม อิท’’นฺติ ปริคฺคณฺหนํ. มจฺฉริยํ ‘‘มยฺเหว โหตู’’ติ ปเรหิ สาธารณภาวาสหนํ. เตเนวสฺส โปราณา เอวํ วจนตฺถํ วทนฺติ ‘‘มยฺเหวิทมจฺฉริยํ โหตุ, มา อฺเสํ อจฺฉริยํ โหตูติ ปวตฺตตฺตา มจฺฉริยนฺติ วุจฺจตี’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๑๐๓; อ. นิ. อฏฺ. ๓.๙.๒๓). ปริโภคตฺถานํ ปน วินิจฺฉยาทีนํ ปริโภคนฺโตคธตา เวทิตพฺพา. ฉนฺทราโค ทุพฺพลราโค. อชฺโฌสานํ ‘‘มม อิท’’นฺติ ตณฺหาวเสน พลวสนฺนิฏฺานนฺติ อาห ‘‘ฉนฺทราคอชฺโฌสานา ตณฺหา เอวา’’ติ. อารกฺขนิมิตฺตํ ทฺวารปิทหนมฺชูสาโคปนาทินา สุฏฺุ รกฺขณนิมิตฺตํ. ปาปานิ กโรนฺโต ปริโภคนิมิตฺตํ รตฺโต คิทฺโธ คธิโต มุจฺฉิโต หุตฺวา มิโคว ปริภุฺชนนิมิตฺตํ ปมาทํ อาปชฺชตีติ เอวํ ปริเยนารกฺขา ปริโภคนิมิตฺตํ. ปมาโท ติวิโธ ตณฺหาย วเสน กถิโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ติวิโธ ตณฺหายาติ วุตฺต’’นฺติ อาห.

อวิเสเสน วุตฺตนฺติ ‘‘กตเมน อุปาทาเนน สอุปาทานา’’ติ วิภาเคน ปุจฺฉิตฺวาปิ ‘‘อวิชฺชาย จ ตณฺหาย จา’’ติ อวินิพฺภุชิตฺวา วุตฺตํ. ตณฺหฺจ อวิชฺชฺจ จตุรุปาทานํ วเสนาติ กามุปาทานาทีนํ จตุนฺนํ อุปาทานานํ วเสน วิภชิตฺวา ขนฺธานํ ทุกฺขภาเวน ทุกฺขสจฺจภาเวน สห ปริฺเยฺยภาวํ, อุปาทานานํ สมุทยภาเวน สมุทยสจฺจภาเวน สห ปหาตพฺพภาวํ ทสฺเสตีติ โยชนา.

๓๐. ‘‘โย’’ติอาทินา วุตฺโต ติวิโธ ปมาโท ปริเยสติ, อารกฺขณฺจ กโรติ, ปริโภคนิมิตฺตฺจาติ สมฺพนฺโธ. ปมาโท หิ ปมชฺชนฺตสฺส ปุคฺคลสฺส โภคานํ ปริเยสนาย, อารกฺขณาย จ เหตุภูโต กตฺตุภาเวน อุปจริโต, ปริโภคสฺส ปน นิมิตฺตํ. ‘‘ตปฺปฏิปกฺเขนา’’ติ ปทสฺส อตฺถํ วิวรติ ‘‘อปฺปมาทานุโยเคนา’’ติ, เตน สมถภาวํ ทสฺเสติ. เขปนาติ ขยปาปนา. โวทานปกฺขวิสภาคธมฺมวเสนาติ โวทานปกฺโข จ โส ปมาทสฺส วิสภาคธมฺโม จาติ โวทาน…เป… ธมฺโม, สมโถ, ตสฺส วเสน.

สมเถ สตีติ อธิฏฺานภูเต ฌาเน สติ, ตํ ปาทกํ กตฺวาติ อตฺโถ. ยา ปฺาติ นามรูปปริจฺเฉทาทิวเสน ปวตฺตปฺา. เตนาห ‘‘อยํ วิปสฺสนา’’ติ. ปหีเนสูติ ปหียมาเนสุ.

โวทานปกฺขนฺติ อารมฺภธาตุอาทิโวทานปกฺขํ นิกฺขิปิตฺวา. วิสภาคธมฺมวเสนาติ ปมาทวเสเนว. สภาคธมฺมวเสนาติ ปุพฺเพ นิกฺขิตฺตสฺส อารมฺภธาตุอาทิโวทานธมฺมสฺส สมถาทิสภาคธมฺมวเสน.

ปุน อปริโยทาปนิยํ สิขาปฺปตฺตปริโยทาปนํ อิธาธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘ตํ ปน อรหตฺเตน โหตี’’ติ.

โมหสมุฏฺานตา วุตฺตา ‘‘โมโห เอว สมุฏฺาน’’นฺติ กตฺวา. อฺถา ปิสุณาวาจาย โทสสมุฏฺานตา มุสาวาทสฺส วิย โมหสมุฏฺานภาวา วตฺตพฺพา สิยา.

กมฺมปถภาวํ ปตฺตานํ, อปฺปตฺตานฺจ อกุสลธมฺมานํ ‘‘สพฺพปาป’’นฺติ ปเทน ปริคฺคหิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘กมฺมปถกมฺมวิภาเคนา’’ติ.

๓๑. เสสปทานนฺติ ‘‘กุสลสฺส อุปสมฺปทา’’ติอาทีนํ (ที. นิ. ๒.๙๐; ธ. ป. ๑๘๓; เนตฺติ. ๓๐, ๕๐, ๑๑๖, ๑๒๔; เปฏโก. ๒๙) คาถาย อวสิฏฺปทานํ. ยถาธิคตนฺติ อตฺตนา อธิคตปฺปการํ, ปจฺฉา ภูมิทิสา.

อุปริ ยาเปนฺตีติ มนุสฺสโลกโต อุปริฏฺิมํ เทวโลกํ คเมนฺติ.

๓๒. ยถาวุตฺตสฺส ธมฺมสฺสาติ สีลสฺส จ มคฺคสฺส จ. ตณฺหาวิชฺชาทีนนฺติ อาทิสทฺเทน ตเทกฏฺกิเลสา คยฺหนฺติ, เตสํ ปทฏฺานธมฺมา จ. สมถวิปสฺสนาทีนนฺติ อาทิสทฺเทน สามฺผลานํ สงฺคโห. ยทคฺเคน เจตฺถ ‘‘นิโรโธ รกฺขตี’’ติ วุตฺโต, ตทคฺเคน มคฺโค รกฺขณกิริยาย กรณํ วุตฺตํ ‘‘เยน รกฺขตี’’ติ. วิสภาคธมฺมวเสน ปุริมานิ สภาคธมฺมาวฏฺฏนวเสน ปจฺฉิมานิ สจฺจานิ นิทฺธาริตานีติ โยเชตพฺพํ.

อาวฏฺฏหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. วิภตฺติหารวิภงฺควณฺณนา

๓๓. ธมฺเมสูติ ปุฺาทิทานาทิเภทภินฺเนสุ สภาวธมฺเมสุ. ตตฺถ ลพฺภมาโนติ เตสุ ยถาวุตฺเตสุ ธมฺเมสุ ลพฺภมาโน. ภูมิวิภาโคติ กามาวจราทิทสฺสนาทิภูมิปฺปเภโท. ปทฏฺานวิภาโคติ เต ปุฺาทิธมฺมา เยสํ ปทฏฺานํ, เตสํ วา เย ธมฺมา ปทฏฺานํ, ตพฺพิภาโค. เยสํ สุตฺตานนฺติ มูลปทฏฺานภูตานํ สํกิเลสภาคิยาทีนํ จตุนฺนํ สุตฺตานํ วเสน. อสงฺกรววตฺถาเนน หิ เอเตสุ สุตฺเตสุ สาติสยํ ธมฺมา วิภตฺตา นาม โหนฺติ. เตนาห ‘‘วิเสสโต’’ติ. ยทิ เอวํ กสฺมา วาสนาภาคิยนิพฺเพธภาคิยสุตฺตานิ เอเวตฺถ คหิตานีติ? นยิทเมวํ นิกฺขมนปริโยสานภาเวน อิตเรสมฺปิ คหิตตฺตา. ยโต หิ นิสฺสฏา วาสนาภาคิยา ธมฺมา, เต สํกิเลสภาคิยา. ยํปริโยสานา นิพฺเพธภาคิยา ธมฺมา, เต อเสกฺขภาคิยาติ ทฺวยคฺคหเณเนว อิตรมฺปิ ทฺวยํ คหิตเมว โหติ. เตนาห ‘‘อิเมสํ จตุนฺนํ สุตฺตานํ เทสนายา’’ติ. อิมานิ จตฺตาริ สุตฺตานีติ ปาฬิยา, วกฺขมานาย เทสนาย วา อิตรทฺวยสงฺคโห ทฏฺพฺโพ, น ปฏิกฺเขโป.

เตเนวาติ นิยมสฺส อกตตฺตา, ตโต จ เตน ตนฺนิสฺสิเตน จ พฺรหฺมจารี ภวตีติ สิทฺธํ โหติ. เอว-สทฺโท วา สมุจฺจยตฺโถ ทฏฺพฺโพ. สิยา ตสฺส ปฏิกฺเขโปติ ตสฺส อฏฺสมาปตฺติพฺรหฺมจริยสฺส สิยา ปฏิกฺเขโป. เอวํ สติ สาวเสสา เทสนา สิยา.

ตทงฺคาทิปฺปหานทฺวยํ ปทฏฺานภูตํ อิธ คณนูปคํ น โหตีติ ‘‘สมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานานํ วเสนา’’ติ วุตฺตํ. ตถา เหตฺถ เกจิ ‘‘เตเนวา’’ติ ปนฺติ. ‘‘เตเนว พฺรหฺมจริเยนาติ ปนฺตี’’ติ อิทํ ‘‘สํวรสีเล ิโต’’ติ (เนตฺติ. ๓๓) เอตฺถ วุตฺตํ ปาฬิวิกปฺปํ สนฺธาย วทติ. ‘‘ยสฺมา…เป… วกฺขตี’’ติ อิทํ ปจฺฉิมปาสฺเสว ยุตฺตตาย การณวจนํ.

กถํ มนฺตาติ? อนิพฺเพธสภาวตฺตา มหคฺคตปุฺานํ น นิพฺเพธภาคิยสุตฺเตน สงฺคโห, วาสนาภาคิยตฺตา ปน วาสนาภาคิยสุตฺเตเนว สงฺคโหติ. ตทุปสงฺคา หิ ปจฺฉิโม เอว ปาโ ยุตฺตตโร. อิตรถา สาวเสสา เทสนา ภเวยฺย. เตนาห ‘‘น หิ…เป… เทเสตี’’ติ.

สํกิเลสภาคิยอเสกฺขภาคิยานํ ปรโต วกฺขมานตฺตา วุตฺตํ ‘‘วกฺขมานานํ…เป… วเสนา’’ติ. ‘‘สพฺพโต’’ติ อิทํ ปุพฺพปราเปกฺขํ. ตสฺส ปราเปกฺขตาย ‘‘สพฺพโตภาเคน เอกาทสสุ าเนสุ ปกฺขิปิตฺวา’’ติ อฏฺกถายํ โยชิตํ. ตตฺถ ปทาทิเก วิจยหารปทตฺเถ สนฺธาย ‘‘เอกาทสสุ าเนสู’’ติ วุตฺตํ. ปุพฺพเปกฺขตาย ปน ‘‘สพฺพโตภาเคน เทสนาย ผเลนา’’ติอาทินา โยเชตพฺพํ.

สํกิเลสภาคิยานํ ตณฺหาสํกิเลสาทินา เทสนานโย เวทิตพฺโพ. ผลํ อปายทุกฺเขน มนุสฺเสสุ โทภคฺคิเยน. อเสกฺขภาคิยานํ อเสกฺเขหิ สีลกฺขนฺธาทีหิ เทสนานโย. ผลํ อคฺคผเลน จ อนุปาทิเสสาย จ นิพฺพานธาตุยา เวทิตพฺพํ. อิตเรสํ ปาฬิยํ วุตฺตเมว. กามราคพฺยาปาทอุทฺธมฺภาคิยสํโยชนคฺคหเณน สํกิเลสภาคิยานํ, วิราคคฺคหเณน อเสกฺขคฺคหเณเนว จ อเสกฺขภาคิยานํ วกฺขมานตฺตา วุตฺตํ ‘‘วกฺขมานานํ…เป… วเสนา’’ติ. ปทปทตฺถวิจารยุตฺตินิทฺธารณมุเขน ธมฺมวิภตฺติอาทิวิจาโร กาตพฺโพติ ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ ‘‘วิจเยน…เป… ตพฺพานี’’ติ วุตฺตนฺติ อฏฺกถายํ ‘‘วิจเยน…เป… ทสฺเสตี’’ติ วุตฺตํ.

๓๔. เอวนฺติ อิติ. ธมฺเมติ วุตฺตสภาคธมฺเม. สาธารณาสาธารณภาเวหีติ สามฺวิเสเสน วิสิฏฺเหิ. ทฺเว ธมฺมา สาธารณาติ ทฺเว อิเม ธมฺมา เยหิ สภาคธมฺมา สาธารณา นาม โหนฺติ. กตเม ทฺเว? นามํ, วตฺถุ จ. ตตฺถ นามํ นามปฺตฺติ, ตํมุเขเนว สทฺทโต ตทตฺถาวคโม. สทฺเทน จ สามฺรูเปเนว ตถารูปสฺส อตฺถสฺส คหณํ, น วิเสสรูเปน, ตสฺมา สทฺทวจนียา อตฺถา สาธารณรูปนามายตฺตคหณียตาย นามสาธารณา วุตฺตา. วตฺถูติ ปวตฺติฏฺานํ. ยตฺถ หิ เย ธมฺมา ปวตฺตนฺติ, เตสํ สพฺเพสํ เต ธมฺมา สาธารณาติ ปวตฺติฏฺานสงฺขาตานํ วตฺถูนํ สาธารณา. ยสฺมา ปนิทํ ทฺวยํ เตสํ ธมฺมานํ สาธารณภาเว ปกติภูตํ สภาวภูตํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ทฺเว ธมฺมาติ ทุเว ปกติโย’’ติ. เอกสนฺตติปติตตายาติ สมานสนฺตติปวตฺติยา. เตนาห ‘‘สมานวตฺถุกา’’ติ. ทสฺสนปหาตพฺพานฺหิ ยถา มิจฺฉตฺตนิยตสตฺตา ปวตฺติฏฺานํ, เอวํ อนิยตาปีติ อุภเย หิ เต สมานวตฺถุกา. เอส นโย อิตเรสุปิ. สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสา หิ ภินฺนสภาวาเปเต ธมฺมา ทสฺสเนน ปหาตพฺพตํ นาติวตฺตนฺตีติ เต นามสามฺตํ ปตฺตา, รูปราคาทโย จ ภาวนาย ปหาตพฺพตนฺติ อาห ‘‘ปหาเนกฏฺา นามสาธารณา’’ติ. ยถา ปน ‘‘วตฺถูนํ สาธารณา วตฺถุสาธารณา’’ติ อยมตฺโถ ลพฺภติ, เอวํ ‘‘วตฺถุนา สาธารณา วตฺถุสาธารณา’’ติ อยมฺปิ อตฺโถ ลพฺภตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สหเชกฏฺา วตฺถุสาธารณา’’ติ อาห. เต หิ อฺมฺํ ผุสนาทิสภาวโต ภินฺนาปิ ยสฺมึ ปวตฺตนฺติ, เตน วตฺถุนา สาธารณา นาม โหนฺติ. เอตฺถ จ ลพฺภมานมฺปิ กุสลาทินามสาธารณํ อนามสิตฺวา วตฺถุสาธารณา ตาว โยชิตาติ เวทิตพฺพา. ปฏิปกฺขาทีหีติ อาทิสทฺเทน สมานผลตาสหพฺยตาทิเก สงฺคณฺหาติ. เสสปเทสูติ ‘‘ปุถุชฺชนสฺสา’’ติอาทิวากฺเยสุ. กถํ? ตตฺถ หิ ปุถุชฺชนสฺส, โสตาปนฺนสฺส จ สมฺภวโต อนาคามิโน, อรหโต จ อสมฺภวโตติอาทินา โยเชตพฺพํ.

กถํ เต โอธิโส คหิตาติ เกนากาเรน เต ‘‘สาธารณา’’ติ วุตฺตธมฺมา ภาคโส คหิตา. ‘‘อมุกสฺส, อมุกสฺส จา’’ติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. สามฺภูตา ธมฺมา สาธารณา นาม, เอวํ สนฺเต กถํ เตสํ มิจฺฉตฺตนิยตานิยตาทิวเสน วิภาเคน ปวตฺติฏฺานตา วุจฺจติ, น วตฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. อถ วิภาเคน ตํ วตฺตพฺพํ, นนุ เต สาธารณาติ น วตฺตพฺพเมวาติ? เอวํ สาธารณาติ มิจฺฉตฺตนิยตานํ, อนิยตานนฺติ อิเมสํ อุภเยสํเยว เต ธมฺมา สาธารณา. เตนาห – ‘‘น สพฺพสตฺตานํ สาธารณตาย สาธารณา’’ติ. ‘‘ยสฺมา’’ติอาทินา ตตฺถ การณมาห, เตเนตํ ทสฺเสติ ‘‘เกจิ ธมฺมา เกสฺจิเทว ธมฺมานํ สาธารณา โหนฺติ, อฺเสํ อสาธารณา’’ติ. เตนาห ‘‘ปฏินิยตฺหิ เตสํ ปวตฺติฏฺาน’’นฺติ.

อิตรถาติ อนิยตปวตฺติฏฺานตาย สพฺเพสํ สาธารณา, อสาธารณา วา สิยุํ, ตถา สติ. ตถา โวหาโรติ ‘‘สาธารณา, อสาธารณา’’ติ จ อยํ โวหาโร สามฺา เอว น ภเวยฺย. เอเต เอว ธมฺมาติ ‘‘สาธารณา’’ติ วุตฺตธมฺมา เอว. เอวนฺติ ‘‘มิจฺฉตฺตนิยตาน’’นฺติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรน. นิยตวิสยา ปริจฺฉินฺนปฺปวตฺติฏฺานา. ‘‘โยปี’’ติอาทิ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส ปากฏกรณํ. ‘‘น หี’’ติอาทินา อนฺวยโต, พฺยติเรกโต จ ตเมวตฺถํ วิภาเวติ. เสเสปีติ ‘‘ภาวนาปหาตพฺพา’’ติ เอวมาทิมฺหิปิ.

ปจฺจตฺตนิยโตติ ปาฏิปุคฺคลิโก. อิตรสฺสาติ อปจฺจตฺตนิยตสฺส. ตถาติ อสาธารณภาเวน. โกจิ ธมฺโม กฺจิ ธมฺมํ อุปาทาย สาธารโณปิ สมาโน ตทฺํ อุปาทาย อสาธารโณปิ โหตีติ อาห ‘‘สาธารณาวิธุรตายา’’ติ. เตนาห ‘‘ตํ ตํ อุปาทายา’’ติอาทิ. ตถา หิ ‘‘ธมฺมตา’’ติ วุตฺตปมมคฺคฏฺตา ทีปิตา, ตาทิสานํ เอว อเนเกสํ อริยานํ วเสน สาธารณาติ. ปมสฺสาติ อฏฺมกสฺส. ทุติยสฺสาติ โสตาปนฺนสฺส. ปุน อฏฺมกสฺสาติ ‘‘อฏฺมกสฺส, อนาคามิสฺส จา’’ติ เอตฺถ วุตฺตอฏฺมกสฺส. เตนาห ‘‘อนาคามิมคฺคฏฺสฺสา’’ติ. อคฺคผลฏฺโต ปฏฺาย ปฏิโลมโต คณิยมาโน ปมมคฺคฏฺโ อฏฺมโก, มคฺคฏฺตาย, ปหียมานกิเลสตาย จ สพฺเพปิ มคฺคฏฺา อฏฺมกา วิยาติ อฏฺมกา, ‘‘เอกจิตฺตกฺขณโต อุทฺธํ น ติฏฺตีติ อฏฺมโก’’ติ อปเร นิรุตฺตินเยน. ‘‘เสกฺขา’’ติ นามํ สาธารณนฺติ สมฺพนฺโธ. อิตเรสูติ ‘‘ภพฺพาภพฺพา’’ติ วุตฺเตสุ อนริเยสุ. เตนาห ปาฬิยํ ‘‘หีนุกฺกฏฺมชฺฌิมํ อุปาทายา’’ติ.

นิยามาวกฺกนฺติยาติ อวกฺกนฺตนิยามตาย. าณุตฺถรสฺสาติ าณาธิกสฺส. ตถาวิธปจฺจยสมาโยเคติ าณวิเสสปจฺจยสมวาเย. ยถา หิ าณพเลน ทนฺธาภิฺตา น โหติ, เอวํ ปฏิปทาปฏิปนฺโนปิ สุเขน วิโสสียตีติ. สา หิ สุขาปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา ตํสมงฺคิโน าณุตฺตรตฺตา วิปสฺสนาย ปทฏฺานนฺติ วุตฺตา.

ธมฺมโต อนเปตา จินฺตา ธมฺมจินฺตา, โยนิโสมนสิกาเรน ปวตฺติตตฺตา ธมฺเมสุ จินฺตา, ธมฺโม วา าณํ, ตสฺมา ธมฺมาวหา จินฺตา ธมฺมจินฺตา, จินฺตามยาณสฺส เหตุภูตา จินฺตาติ อตฺโถ.

ปาฬิยํ สุตมยปฺาคฺคหเณน ‘‘เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา…เป… ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺตี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๘.๒) สุตฺตปทสงฺคโห อตฺโถ ปริคฺคหิโต, ตถา โยนิโสมนสิการคฺคหเณน ‘‘โส ‘อนิจฺจ’นฺติ โยนิโส มนสิ กโรตี’’ติอาทินา วุตฺโต อุปายมนสิกาโร ปริคฺคหิโต. สมฺมาทิฏฺิคฺคหเณน ‘‘สมฺมาทิฏฺึ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิต’’นฺติอาทินา วุตฺตา สมฺมาทิฏฺิ ปริคฺคหิตาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อถ โข…เป… ทสฺเสตุ’’นฺติ. เสสนฺติ ‘‘ธมฺมสฺวากฺขาตตา’’ติ เอวมาทิ.

ยสฺส จ ปุพฺเพ อตฺโถ น สํวณฺณิโต, ตตฺถ กลฺยาณมิตฺตตาย อายตนคโต ปสาโท, จิตฺตวูปสโม จ ผลนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สปฺปุริส…เป… ปทฏฺาน’’นฺติ อาห. อตฺตสมฺมาปณิหิตตฺตา ปาปเชคุจฺฉินิพฺพิทาทิพหุโลว โหตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อตฺถ…เป… ปทฏฺาน’’นฺติ. ธมฺโม สฺวากฺขาโต อาทิโต ปฏฺาย ยาว ปริโยสานา สพฺพสมฺปตฺติปาริปูริเหตูติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ธมฺมสฺวากฺขาตตา…เป… ปทฏฺาน’’นฺติ อาห. กุสลมูลโรปนา หิ สมาปตฺติปริโยสานาติ. สงฺฆสุฏฺุตาย สงฺฆสฺส สุฏฺุภาวาย สงฺฆสฺส สปฺปติสฺสตาย ‘‘สุฏฺุ, ภนฺเต’’ติ วจนสมฺปฏิจฺฉนภาวาย. อิตรํ สุวิฺเยฺยเมว.

วิภตฺติหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ปริวตฺตนหารวิภงฺควณฺณนา

๓๕. สมฺมาทิฏฺิสฺส…เป… นิชฺชิณฺณา ภวตีติ เอตฺถ ยถา มคฺคสมฺมาทิฏฺิวเสนตฺโถ วุตฺโต, เอวํ กมฺมสฺสกตากมฺมปถสมฺมาทิฏฺีนมฺปิ วเสน อตฺโถ ลพฺภเตว. กมฺมปถกถา เหสา. ยถาวุตฺเตนากาเรนาติ ‘‘อวิมุตฺตาว สมานา’’ติ, ‘‘อวิมุตฺติย’’นฺติ จ วุตฺตปฺปกาเรน. มิจฺฉาภินิเวสวเสนาติ อสมฺมาสมฺพุทฺธํ เอว สมฺมาสมฺพุทฺโธติ, อนิยฺยานิกํ เอว นิยฺยานิโกติ, อสนฺตํ เอว ปน สนฺตนฺติ, อนริยํ เอว อริโยติ วิปรีตาภินิเวสวเสน. มิจฺฉาธิโมกฺโขติ อยาถาวปสาโท, อยาถาวสนฺนิฏฺานํ วา. อุปฺปนฺนโมโห มิจฺฉาวิมุตฺติาณทสฺสนนฺติ สมฺพนฺโธ.

๓๖. วาทานํ วา อนุวาทา วาทานุวาทา, เตสํ วาทานํ อุปาทาติ อตฺโถ. วาทานุปวตฺติโยติ วาทานํ โทสานํ อนุปวตฺติโย.

อนฺตทฺวยปริวตฺตนนฺติ กามสุขอตฺตกิลมถานุโยคสงฺขาตสฺส อนฺตทฺวยสฺส ปฏิปกฺขวเสน ปริวตฺตนํ.

เอเตสุปิ วาเรสูติ ‘‘นิยฺยานิโก ธมฺโม เตสํ อธมฺโม, สุโข เตสํ อธมฺโม’’ติ จ อิเมสุ วาเรสุ. วุตฺตนเยนาติ ยทิ อตฺตปริตาปนํ อตฺตโน ทุกฺขาปนํ ธมฺโม, ธมฺมสฺส ปฏิวิรุทฺโธ อธมฺโม สิยา, ทุกฺขสฺส จ สุขปฏิวิรุทฺธนฺติ ฌานมคฺคผลสุขสฺส, อนวชฺชปจฺจยปริโภคสุขสฺส จ เตสํ อธมฺมภาโว อาปชฺชตีติ เอวํ วตฺตพฺพา. ‘‘ยํ ยํ วา ปนาติอาทินา’’ติ อิทํ อวเสสปาามสนํ. เอตฺถ ยํ ยํ วา ปน ธมฺมนฺติ ยํ วา ตํ วา ธมฺมํ, กุสลํ วา อกุสลํ วา อิฏฺํ วา อนิฏฺํ วาติ วุตฺตํ โหติ. โรจยติ วา อุปคจฺฉติ วาติ จิตฺเตน โรจติ, ทิฏฺิยา อุปคจฺฉตีติ. ตสฺส ตสฺส ธมฺมสฺส โย ปฏิปกฺโขติ ตสฺส ตสฺส รุจิตสฺส, อุปคตสฺส วา ธมฺมสฺส โย ปฏิปกฺโข นาม. สฺวสฺส อนิฏฺโต อชฺฌาปนฺโน ภวตีติ โย ธมฺโม อสฺส รุจิตสฺส, อุปคตสฺส วา ธมฺมสฺส อนิฏฺโต ปจฺจนีกโต อพฺภุปคโต โหติ, เตน ปฏิปกฺเขน เทสนาย ปริวตฺตนํ ปริวตฺตโน หาโรติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปฏิปกฺขสฺส ลกฺขณํ วิภาเวตี’’ติ.

ปริวตฺตนหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. เววจนหารวิภงฺควณฺณนา

๓๗. อฺมฺเหีติ อฺเหิ อฺเหิ. อายตินฺติ ปจฺจเวกฺขณกาเล. กถฺจีติ เยน เกนจิ ปกาเรน, ปมํ วุตฺเตน ปริยาเยน อปฺปฏิวิชฺฌนฺโต อปเรน ปริยาเยน ปฏิวิชฺเฌยฺยาติ อธิปฺปาโย. ปริยายวจนํ นิทฺทิสตีติ สมฺพนฺโธ. เอวํ สพฺพตฺถ. ตสฺมึ ขเณติ ปริยายวจนสฺส วุตฺตกฺขเณ. วิกฺขิตฺตจิตฺตานนฺติ อารมฺมณนฺตเรหิ วิวิธขิตฺตจิตฺตานํ. อฺวิหิตานนฺติ อฺํ จินฺเตนฺตานํ. กสฺมา ปน อฺเน ปริยาเยน ตทตฺถาวโพธนํ, นนุ เตน วุตฺเต ทฬฺหีกรณํ โหตีติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘เตเนวา’’ติอาทิ. ตตฺถ ตทฺเสนฺติ เตหิ วิกฺขิตฺตจิตฺตาทีหิ อฺเสํ, เยหิ ปมํ วจนํ สมฺมเทว คหิตํ. ตตฺถาติ วุตฺตวจเนเนว ปุนปฺปุนํ วจเน. อธิคตอนฺวตฺถตาย ปุนรุตฺติ ปริวชฺชนตฺถํ วิเสสนภาเวน ตาหิ ตาหิ สฺาหิปิ อยมฺปิ สทฺโท อิมสฺสตฺถสฺส วาจโก, อยมฺปิ สทฺโท อิมสฺสตฺถสฺส วาจโกติ ปฺาปเนหิ. เทเสตพฺพสฺส ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส อตฺตโน จิตฺเต อุปนิพนฺธนํ ปนํ. ตตฺถาติ ธมฺมนิรุตฺติปฏิสมฺภิทายํ. พีชาวาปนํ เหตุสมฺปาทนํ.

เอวํ ภควโต ปริยายเทสนายํ อเนกานิ ปโยชนานิ วตฺวา อิทานิ อตฺตโน สมฺมาสมฺพุทฺธตาย เอวํ ตถาคตา พุทฺธลีลาย อเนเกหิ ปริยาเยหิ ธมฺมํ เทเสนฺตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กึ พหุนา’’ติอาทิมาห.

ปาฬิยํ ‘‘ปิหา นาม ยา วตฺตมานสฺส อตฺถสฺส ปตฺถนา’’ติ ปจฺจุปฺปนฺนวิสยตํ ทสฺเสตฺวา ปุน อนาคตวิสยตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เสยฺยตรํ วา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ ‘‘อนาคตปจฺจุปฺปนฺนตฺถวิสยา ตณฺหา ปิหา’’ติ อาห.

อตฺถนิปฺผตฺติปฏิปาลนาติ อิมสฺมึ วา ปเท ปิหาย เอวตฺถวเสน อนาคตปจฺจุปฺปนฺนตฺถวิสยภาวทีปนโต.

ธมฺมารมฺมเณเนว สงฺคหิตา ‘‘ธมฺมารมฺมณ’’นฺตฺเวว คหณํ คตา. จตุวีสติ ปทานีติ เอตฺถ เคหสิตโทมนสฺสูปวิจาราทีนํ จตุนฺนํ ฉกฺกานํ วเสน จตุวีส โกฏฺาสา.

๓๘. สาเยว ปตฺถนากาเรน ธมฺมนนฺทีติอาทิมาหาติ เอตฺถ อยมตฺโถ – สา เอว ปตฺถนากาเรน ปวตฺติยา อาสาทิปริยาเยน วุตฺตา ตณฺหา รูปาทิธมฺเมสุ นนฺทนฏฺเน ธมฺมนนฺที. เตสํ เอว ปิยายนฏฺเน ธมฺมเปมํ. คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา านโต ธมฺมชฺโฌสานนฺติ.

อิมินาปีติ น เกวลํ ‘‘ปฺา ปชานนา’’ติอาทิอาเวณิกปริยาเยเนว เววจนํ วตฺตพฺพํ, อถ โข อิมินา อาธิปเตยฺยาทิสาธารณปริยาเยนปิ เววจนํ วตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. อิมินาว นเยนาติ เอเตน ปริยายวจเนน. น หิ เทสนตฺถสาธนํ ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทิปาฬินยทสฺสนนฺติ ทสฺเสติ. พลนิปฺผตฺติคโตติอาทีสุ ทสสุ ตถาคตพเลสุ นิปฺผตฺตึ ปาริปูรึ คโต. สมฺโพธิปหานนฺตรายเทสนา วิเสสโจทนาสุ วิสารทภาวสงฺขาตานิ จตฺตาริ าณานิ ปตฺโต อธิคโตติ เวสารชฺชปฺปตฺโต.

โลภชฺฌาสยาทิอชฺฌาสยํ วิเสเสน อติวตฺโตติ อชฺฌาสยวีติวตฺโต. อตีตเหตุสงฺเขปาทิสงฺเขปวิรหิตตาย อสงฺเขปสงฺขาตํ นิพฺพานํ, อกุปฺปธมฺมตาย คุเณหิ วา อสงฺเขปํ อสงฺขฺเยยฺยํ คโต อุปคโตติ อสงฺเขปคโต. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. อุทฺเธยฺยนฺติ อุทฺธริตพฺพํ.

ธมฺมานุสฺสติยํ เอวํ อตฺโถ ทฏฺพฺโพติ สมฺพนฺโธ. สํสารทุกฺขโต ปาติ, สนฺเตน สุเขน รเมติ จาติ วา ปารํ.

อภูตปุพฺพตฺตาติ อนุปฺปนฺนปุพฺพตฺตา, เตนสฺส นิจฺจตํว วิภาเวติ เกนจิ เทวโตปสคฺคาทินา อนุปสชฺชนียตฺตา อนุปสฏฺตฺตา.

‘‘ทุปฺปสฺส’’นฺติปิ ปาฬิ, ทุรธิคมนฺติ อตฺโถ. คุณโสภาสุรภิภาเวนาติ คุเณหิ โสภาย, สุคนฺธิภาเวน จ.

ยถา อกฺขณเวธี ปุคฺคโล สิปฺปนิปฺผตฺติยา รตฺตนฺธการติมิสาย อจิรกฺขณาโลเกน อติสุขุมมฺปิ ทูรคตํ ลกฺขํ วิชฺฌติ, เอวํ อริยสาวโก สีลสมฺปตฺติยา อติสุขุมํ นิพฺพานํ จตุสจฺจธมฺมํ เอกปฏิเวเธเนว ปฏิวิชฺฌตีติ อาห ‘‘สิปฺปฺจ สีลํ อกฺขณเวธิตายา’’ติ. โลกิกนฺติ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ โลกุตฺตรธมฺมโอโลกนสฺสาปิ อธิฏฺานภาวโต.

เววจนหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. ปฺตฺติหารวิภงฺควณฺณนา

๓๙. ภควโต สาภาวิกธมฺมกถายาติ อตฺตโน ภาโว สภาโว, สภาเวน นิพฺพตฺตา, ตโต วา อาคตาติ สาภาวิกา, สา เอว ธมฺมกถาติ สาภาวิกธมฺมกถา, พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกธมฺมกถาติ อตฺโถ, ตาย กรณภูตาย ธมฺมเทสนาย อนฺตฺเตปิ กถาเทสนานํ อุปจารสิทฺเธน เภเทเนวํ วุตฺตํ, อวยวสมุทายวิภาเคน วา. เตนาห ‘‘กา จ ปกติกถาย เทสนา? จตฺตาริ สจฺจานี’’ติ. อิทฺหิ อตฺถสฺส เทสนาย อเภโทปจารํ กตฺวา วุตฺตํ. ตสฺสา เทสนาย ปฺาปนา. อยํ ปฺตฺติหาโรติ สงฺเขเปเนว ปฺตฺติหารสฺส สรูปมาห. สาติ ยถาวุตฺตเทสนา. ตถา ตถาติ ยถา ยถา สจฺจานิ เทเสตพฺพานิ, ตถา ตถา. กถฺเจตานิ เทเสตพฺพานิ? ปริฺเยฺยาทิปฺปกาเรน. ยถาธิปฺเปตนฺติ อธิปฺเปตานุรูปํ, โพธเนยฺยพนฺธวานํ โพธนาธิปฺปายานุกูลนฺติ อตฺโถ. อตฺถนฺติ เทเสตพฺพตฺถํ, ทุกฺขาทิอตฺถเมว วา. นิกฺขิปตีติ ปติฏฺาเปติ. ยโต ‘‘จตฺตาโร สุตฺตนิกฺเขปา’’ติอาทิ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.มูลปริยายสุตฺตวณฺณนา) อฏฺกถาสุ วุจฺจติ.

ตตฺถาติ นิกฺเขปเทสนายนฺติ อตฺโถ. มคฺคปกฺขิยาติ ทุกฺขสจฺจโต พหิกตาติ อธิปฺปาโย.

ยสฺมึ าเนติ ยสฺมึ ภวาทิสงฺขาเต าเน. ยถาวุตฺตา เทสนาติ จตุราหารปฏิพทฺธราคาทิมุเขน วฏฺฏทีปนี วุตฺตปฺปการา เทสนา.

๔๑. เตปริวฏฺฏวเสนาติ เอตฺถาปิ ‘‘สจฺเจสู’’ติ โยเชตพฺพํ. ปริฺาปฺตฺตีติ อาหาติ สมฺพนฺโธ. อชฺฌตฺตรโต, สมาหิโตติ ปททฺวเยน สมาธานวิสิฏฺํ อชฺฌตฺตรตตาภาวนํ ทีเปติ โคจรชฺฌตฺตตาทีปนโต. เกวโล หิ อชฺฌตฺตสทฺโท อชฺฌตฺตชฺฌตฺตโคจรชฺฌตฺเตสุปิ วตฺตติ. อชฺฌตฺตรตตาวิสิฏฺฺจ สมาธานํ สาติสยํ จิตฺตฏฺิตึ ทีเปตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘สมาธานวิสิฏฺสฺสา’’ติอาทินา.

อาสชฺชนฏฺเนาติ อาสงฺคนฏฺเน. ตถา ทสฺสนนฺติ อตถาภูตสฺสาปิ ภพฺพรูปสฺส วิย อตฺตโน วิทํสนํ. อลกฺขิโกติ วิลกฺขิโก.

กามานนฺติ กามาวจรธมฺมานํ. รูปานนฺติ รูปาวจรธมฺมานํ. นิสฺสรณนฺติ กามานํ รูปาวจรธมฺมา นิสฺสรณํ, เตสํ อรูปาวจรธมฺมา นิสฺสรณํ. เอวํ ตํสภาวานนฺติ สอุตฺตรสภาวานํ. ตถาติ ยถา สงฺขตธมฺมานํ นิสฺสรณภาวโต, กิเลสสมุจฺเฉทกสฺส อริยมคฺคสฺส อารมฺมณภาวโต จ อตฺเถว อสงฺขตา ธาตุ, ตถา วุจฺจมาเนนาปิ การเณน อตฺเถว อสงฺขตา ธาตูติ ทสฺเสติ. กตฺถจิ วิสเยติ อสงฺขตธาตุํ สนฺธาย วทติ. อวิปรีตตฺโถติ ภูตตฺโถ. ‘‘ยโต โข โภ อยํ อตฺตา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรติ, เอตฺตาวตา โข โภ อยํ อตฺตา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานปฺปตฺโต โหติ (ที. นิ. ๑.๙๔), สปกฏฺนิพฺพานภาวิโน’’ติ จ เอวมาทีสุ อุปจารวุตฺติสพฺภาวโต. ยถา ตํ สีหสทฺโทติ ยถา ‘‘สีโห มาณวโก’’ติอาทินา มาณวกาทีสุ อุปจารวุตฺตินา วตฺตมาโน มิคราเช ภูตตฺถวิสเย ทิฏฺโ, เอวํ นิพฺพานสทฺโทปิ กามคุณรูปชฺฌานสมงฺคิตาสุ อุปจารวุตฺติยา วตฺตมาโน กตฺถจิ วิสเย อวิปรีตตฺโถ. ยตฺถ จ วิสเย อวิปรีตตฺโถ, สา อสงฺขตา ธาตุ. หตฺถตเล สอามลกํ วิย เยฺยํ ปจฺจกฺขโต ปสฺสนฺตสฺส เอกปฺปมาณสฺส สตฺถุวจนเมเวตฺถ ปมาณนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กึ วา เอตาย ยุตฺติจินฺตายา’’ติอาทิมาห. ‘‘ปฏิฺาตสฺส อตฺถสฺส สิทฺธิยา ปกาสนาปฺตฺตี’’ติ นิคมํ สนฺธายาหาติ.

ปฺตฺติหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. โอตรณหารวิภงฺควณฺณนา

๔๒. อินฺทฺริเยหีติ กรเณ กรณวจนํ ‘‘มคฺเคน คจฺฉตี’’ติอาทีสุ วิย, ‘‘ผรสุนา ฉินฺทตี’’ติ เอวมาทีสุ วิย จ. โอตรณาติ อนุปฺปเวสนา.

ปฺากฺขนฺเธ สงฺคณฺหนวเสน สมฺมาสงฺกปฺโป วิยาติ โยชนา. อธิจิตฺตอนุยุตฺตานํ สทฺทหนุสฺสหนุปฏฺานสมาทหเนหิ สทฺธาทีสุ อุปกโรนฺเตสุ เอว ปฺา ทสฺสนกิจฺจํ สาเธตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สทฺธา..เป… วุตฺตานี’’ติ อาห. โน จ ภวงฺคาติ เตสํ สงฺขารานํ ปวตฺติการณตาภาวํ ทสฺเสติ.

๔๓. ตถา วุตฺโตติ ‘‘นิสฺสโย’’ติ วุตฺโต. เจตนาสีเสน ตณฺหํ เอว วทติ เจตนาสหจรณโต.

รตฺตสฺสาติ มคฺเคน อสมุจฺฉินฺนราคสฺส. เยน ปุคฺคโล ‘‘รตฺโต’’ติ วุจฺจติ, ตสฺส ราคสฺส สมฺพนฺธินี สุขา เวทนา วุตฺตา ตตฺถ ตสฺส อนุสยนโต. เตนาห ‘‘สุขาย…เป… วุตฺต’’นฺติ. เอส นโย เสเสสุปิ. เตนาห ‘‘ตถา’’ติอาทิ.

ตานิ เอว อินฺทฺริยานีติ สุขโสมนสฺสุเปกฺขินฺทฺริยานิ. ‘‘สงฺขารปริยาปนฺนานี’’ติ วจนํ สนฺธายาห ‘‘อิธ เวทนาสีเสน เจตนา วุตฺตา’’ติ. น หิ เวทนา สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนา โหติ. ตณฺหาย, ทิฏฺิยาติ จ อุปโยเค กรณวจนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตณฺหายา’’ติอาทิมาห. อิทานิ อุปโยควเสเนว ‘‘ตณฺหายา’’ติอาทีนํ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา วา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เสสธมฺมานนฺติ ตณฺหาวชฺชิตอวิสิฏฺธมฺมานํ. ตณฺหาย นิสฺสยภาเวติ ยทา ตณฺหา เตสํ นิสฺสโย โหติ.

ตณฺหาย เสสธมฺมานํ ปจฺจยภาเวติ ยทา เสสธมฺมา ตณฺหาปจฺจยา โหนฺติ. ‘‘กรชกายสนฺนิสฺสิตา’’ติ อิมินา เวทนาทิกฺขนฺธตฺตยนิสฺสิตาปิ คหิตา กายปฺปสฺสทฺธิภาวโต. การณภาวนฺติ ปรมฺปรเหตุภาวํ. ตณฺหาทิฏฺิอุปเยนาติ ทิฏฺิอุปเยน จ ทิฏฺิสหคตตณฺหาอุปเยน จ.

‘‘อาคตีติ อิธาคติ, คตีติ เปจฺจภโว’’ติ ปททฺวเยน วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ปาฬิยํ ‘‘อาคติคตีปิ น ภวนฺตี’’ติ วุตฺตํ. อิธ หุรนฺติ ทฺวารารมฺมณธมฺมา ทสฺสิตา อาสนฺนทูรภาเวหิ ทฺวารารมฺมเณหิ วินิวตฺเตตฺวา คหิตตฺตา. อิธ ทฺวารปฺปวตฺตธมฺมา ‘‘อุภยมนฺตเรนา’’ติ ปทสฺส อตฺถภาเวน วุตฺตา. จตุพฺยูหหาเร ปน อนินฺทฺริยพทฺธรูปธมฺมา ตถา วุตฺตา. การณภูเตน อนนฺตรปจฺจยภูเตน, อุปนิสฺสยปจฺจยภูเตน จ. เย ธมฺมา อุปาทาย ‘‘อตฺตา’’ติ สมฺา, เตสํ วิฺาณาทิธมฺมานํ อภาเวน อนุปฺปาทธมฺมตํ อาปาทิตตฺตาติ อตฺโถ. ‘‘อนิสฺสิตสฺส จลิตํ นตฺถี’’ติอาทินา ปฏิโลมโต ปจฺจยภาโว ทสฺสิโตติ ทสฺเสนฺโต ปาฬิยํ ‘‘เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสาติ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท’’ติ วตฺวา นนุ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทิโก ปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ โจทนํ สนฺธาย ยถาวุตฺตสฺส ปฏิจฺจสมุปฺปาทภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘โส ทุวิโธ’’ติอาทินา โลกิยโลกุตฺตรวเสน ปฏิจฺจสมุปฺปาโท วิภตฺโต. ตทตฺถตายาติ วีตราควิมุตฺติอตฺถตาย. ตพฺภาวนฺติ โลกุตฺตรปฏิจฺจสมุปฺปาทภาวํ.

โอตรณหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๓. โสธนหารวิภงฺควณฺณนา

๔๕. โสเธติ นามาติ ปุจฺฉิตมตฺถํ หตฺถตเล ปิตอามลกํ วิย ปจฺจกฺขโต ทสฺเสนฺโต นิคฺคุมฺพํ นิชฺชฏํ กตฺวา วิวรนฺโต ตพฺพิสยอฺาณสํสยาทิมลาปนยเนน โสเธติ, เอวํ โสเธนฺโต จ ปทสฺส อตฺเถน อเภโทปจารํ กตฺวา ‘‘ปทํ โสเธติ’’จฺเจว วุจฺจติ. เตนาห ‘‘ปทํ โสเธติ นามา’’ติ. ปุจฺฉาย วิสฺสชฺชนเมเวตฺถ โสธนนฺติ อาห ‘‘ตทตฺถสฺส วิสฺสชฺชนโต’’ติ. อารภียตีติ อารมฺโภ, เทสนาย ปกาสิยมาโน อตฺโถ. เตนาห ‘‘น ตาว…เป… ปโพธิตตฺตา’’ติ. อิธ โสธนํ นาม ปฏิจฺฉนฺนรูปสฺส อตฺถสฺส เทสนานุภาเวน วิวฏภาวกรณนฺติ ตมตฺถํ อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘อฺาณปกฺขนฺทาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

โสธนหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๔. อธิฏฺานหารวิภงฺควณฺณนา

๔๖. ธารยิตพฺพาติ อุปธาเรตพฺพา, อุปลกฺขิตพฺพาติ อตฺโถ. วุตฺตเมว ‘‘สามฺวิเสสกปฺปนาย โวหารภาเวน อนวฏฺานโต’’ติอาทินา (เนตฺติ. อฏฺ. ๑๔).

ตํ ตํ ผลนฺติ นิรยาทึ ตํ ตํ ผลํ. อฺจิตาติ คตา. โยนีติ เอกชาติ. สมานวเสน มิสฺสีภวติ เอตายาติ หิ โยนิ, อุปปตฺติ. เปจฺจาติ มริตฺวา. อุสฺสนฺนตายาติ วิตกฺกพหุลตาย. ‘‘อุสฺสนฺนตฺตา’’ติปิ วทนฺติ. สสฺสตาทีหิ วา อุสฺสนฺนตฺตา. อสุรชาติยา นิพฺพตฺตาปนโก อสุรชาตินิพฺพตฺตนโก.

สงฺขาติ ปฺา. ปฺาปธานา จ ภาวนาติ อาห ‘‘ปฏิสงฺขาย ปฏิปกฺขภาวนายา’’ติ.

๔๗. ปตฺถฏภาเวน ปถวี. สภาวธารณฏฺเน, นิสฺสตฺตนิชฺชีวฏฺเน จ ธาตุ. อาปียติ, อปฺปายตีติ วา อาโป. เตชนวเสน ติกฺขตาวเสน, ทหนวเสน วา เตโช. วายนวเสน เวคคมนวเสน, สมุทีรณวเสน วา วาโย. วีสติ อาการาติ เกสาทโย วีสติ โกฏฺาสา, ปการา วา. กกฺขฬลกฺขณาธิกตาย เกสาที กกฺขฬลกฺขณา วุตฺตา.

ปาฏิเยกฺโก ปถวีธาตุโกฏฺาโสติ ปถวีโกฏฺาสมตฺโต, อตฺตสุฺธมฺมมตฺโตติ อตฺโถ. สนฺตปฺปตีติ เอตฺถ สรีรปกติมติกฺกมิตฺวา อุณฺหภาโว สนฺตาโป, สรีรทหนวเสน ปวตฺโต มหาทาโห, อยเมเตสํ วิเสโส. เยน จ ชีรียตีติ เอกาหิกาทิชราโรเคน ชรียตีติ จ อตฺโถ ยุชฺชติ. ‘‘สตวารํ ตาเปตฺวา ตาเปตฺวา อุทเก ปกฺขิปิตฺวา อุทฺธฏสปฺปิ สตโธตสปฺปี’’ติ วทนฺติ. รสรุธิรมํสเมทนฺหารุอฏฺิอฏฺิมิฺชา รสาทโย. เกจิ นฺหารุํ อปเนตฺวา สุกฺกํ สตฺตมํ ธาตุํ วทนฺติ. วิเวกนฺติ วิสุํภาวํ, วิสทิสภาวนฺติ อตฺโถ. วตฺถุสงฺขาโต หิ อาหาโร ปริณามํ คจฺฉนฺโต ปาณภกฺขคหณิปทนิย มุตฺตกรีสภาเวหิ วิย อตฺตนาปิ วิสทิสรสสงฺขาตํ วิสุํภาวํ นิพฺพตฺเตนฺโต ตพฺภาวํ คจฺฉตีติ วุจฺจติ, ตถา รสาทโยปิ รุธิราทิโกฏฺาสํ. เตนาห ‘‘รสาทิภาเวน วิเวกํ คจฺฉตี’’ติ.

สภาวลกฺขณโตติ อสุจิภาเวน ลกฺขิตพฺพโต.

๔๘. ยาถาวสรสลกฺขณนฺติ รสิตพฺโพติ รโส, ปฏิวิชฺฌิตพฺโพ สภาโว, อตฺตโน รโส สรโส, ยาถาโว สรโส, ยาถาวสรโส ยาถาวสรโส เอว ลกฺขิตพฺพตฺตา ลกฺขณนฺติ ยาถาวสรสลกฺขณํ. อถ วา ยาถาวสรสลกฺขณนฺติ อวิปรีตํ อตฺตโน ปวตฺติสงฺขาตํ กิจฺจฺเจว ปีฬนสงฺขาตํ ลกฺขณฺจ. ‘‘อิทํ กิจฺจํ, อิทํ ลกฺขณ’’นฺติ อวิชฺชาเหตุ าตุํ น สกฺโกติ, ตพฺพิสยาณุปฺปตฺตึ นิวาเรนฺตี ฉาเทตฺวา ปริโยนนฺธิตฺวา ติฏฺตีติ วุตฺตา. เตน วุตฺตํ ‘‘ชานิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทตี’’ติ. ตยิทมสฺสา กิจฺจนฺติ กิจฺจโต กถิตา. กถิตาติ จ วุตฺตา, ยโต จ อวิชฺชา อสมฺปฏิเวธรสาติ วุจฺจติ. ชายติ เอตฺถาติ ชาติ, อุปฺปตฺติฏฺานํ. ยทิปิ นิโรธมคฺเค อวิชฺชา อารมฺมณํ น กโรติ, เต ปน ชานิตุกามสฺส ตปฺปฏิจฺฉาทนวเสน อนิโรธมคฺเคสุ นิโรธมคฺคคฺคหณสฺส การณภาเวน ปวตฺตมานา ตตฺถ อุปฺปชฺชตีติ วุจฺจติ, เตสมฺปิ อวิชฺชาย อุปฺปตฺติฏฺานตา โหติ, อิตเรสํ อารมฺมณภาเวน จาติ.

อตฺถานตฺถนฺติ หิตาหิตํ. สมฺโมหวิโนทนิยํ ปน ‘‘อตฺถตฺถ’’นฺติ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๖) วุตฺตํ, ตตฺถ อตฺโถ เอว อตฺถตฺโถติ อตฺถสฺส อวิปรีตตาทสฺสนตฺถํ ทุติเยน อตฺถสทฺเทน วิเสสนํ. น หิ าณํ อนตฺเถ ‘‘อตฺโถ’’ติ คณฺหาตีติ. การณาการณนฺติ เอตฺถาปิ เอวํ ทฏฺพฺพํ. อตฺถตฺถนฺติ วา อาเมฑิตวจนํ สพฺเพสํ อตฺถานํ ปากฏกรณภาวปฺปกาสนตฺถํ, ผลํ ผลนฺติ อตฺโถ, หิตปริยาเยปิ เอเสว นโย. นฺติ อตฺถานตฺถาทิกํ. อาการนฺติ อตฺถาทิการณเมว.

ปฏิวิทฺธสฺส ปุน อเวกฺขนา ปจฺจเวกฺขณา. ทุจินฺติตจินฺติตาทิลกฺขณสฺส พาลสฺส ภาโว พาลฺยํ. สมฺปชานาตีติ สมํ ปกาเรหิ ชานาติ. พลวโมโห ปโมโห. สมนฺตโต โมหนํ สมฺโมโห. ทุคฺคติคามิกมฺมสฺส วิเสสปจฺจยตฺตา อวินฺทิยํ. วินฺทตีติ ลภติ. อนวชฺชธมฺมานํ วิชฺชา วิย วิเสสปจฺจโย น โหตีติ วินฺทิยํ น วินฺทติ. อยํ อวิชฺชาย เวมตฺตตาติ อยํ ‘‘ทุกฺเข อฺาณ’’นฺติอาทินา กิจฺจชาติลกฺขเณหิ วุตฺโต อวิชฺชาย อวิเสโส. วิชฺชาติอาทีนํ วุตฺตนยานสาเรน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ปาสาณสกฺขรวาลิกาวิรหิตา ภูมิ สณฺหาติ ‘‘สณฺหฏฺเนา’’ติ วุตฺตํ.

ตตฺตกเมว กาลนฺติ ปฺจกปฺปสตานิ. วิภูตํ สมตฺติกฺกนฺตํ รูปสฺาสงฺขาตํ รูปํ เอตายาติ วิภูตรูปํ, สมาปตฺตินฺติ ปทตฺโถ. น หิ กาจิ อรูปสมาปตฺติ รูปสฺาสหคตา ปวตฺตีติ. นิโรธสมาปตฺติยํ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, ตตฺถ เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา วิสุํ คหิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘เสสารุปฺปสมาปตฺติโย’’ติ.

ทมถํ อนุปคจฺฉนฺโต ทุฏฺสฺโส ขลุงฺกสฺโส. อุตฺตริทมถายาติ อริยมคฺคทมถาย.

อิตโรติ ทุกฺขาปฏิปโท ขิปฺปาภิฺโ, สุขาปฏิปโท จ ขิปฺปาภิฺโ. อุภยโตภาเคหีติ รูปกายนามกายภาเคหิ. อุภยโตติ วิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทวิมุตฺติวเสน.

อเนโกปีติ สภาเวน อเนโกปิ. เอกสทฺทาภิเธยฺยตายาติ สามฺสทฺทาภิเธยฺยตาย.

อธิฏฺานหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๕. ปริกฺขารหารวิภงฺควณฺณนา

๔๙. ‘‘หิโนตี’’ติ ปทสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘การณภาวํ คจฺฉตี’’ติ อาห อเนกตฺถตฺตา ธาตูนํ. เอตีติ อาคจฺฉติ, อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ.

อวิชฺชายปิ เหตุภาเวติ เอตฺถ อวิชฺชา อนนฺตราย อวิชฺชาย อนนฺตรสมนนฺตรูปนิสฺสยนตฺถิวิคตาเสวนปจฺจเยหิ, อนนฺตราย ปน สหชาตาย สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตเหตุปจฺจเยหิ, อสหชาตาย อุปนิสฺสยโกฏิยา เอว ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพํ. อตฺตโน ผลํ กโรตีติ การณนฺติ อาห ‘‘การณภาโว จ ผลาเปกฺขายา’’ติ.

นิพฺพตฺติอตฺโถ ผลตฺโถ ผลสงฺขาโต อตฺโถ.

โย สภาโวติ ปุฺาทิอภิสงฺขารานํ โย อภิสงฺขรณสภาโว, โส เหตุ. เสสปเทสูติ วิฺาณาทิปเทสุ. ยถาวุตฺตปฺปเภโทติ ‘‘อสาธารณลกฺขโณ เหตู’’ติอาทินา วุตฺตปฺปเภโท. โย โกจิ ปจฺจโยติ ชนกาทิเภทํ ยํ กิฺจิ การณํ. อภิสงฺขรณโตติ ปจฺจกฺขโต, ปรมฺปราย จ นิพฺพตฺตนโต.

ปริกฺขารหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๖. สมาโรปนหารวิภงฺควณฺณนา

๕๐. สุตฺเตน คหิเตติ สุตฺเต วุตฺเต. ปทฏฺานคฺคหณํ อธิฏฺานวิสยทสฺสนตฺถํ, เววจนคฺคหณํ อธิวจนวิภาคทสฺสนตฺถนฺติ โยชนา. วิสยาธิฏฺานภาวโตติ วิสยสงฺขาตปวตฺติฏฺานภาวโต. วนียตีติ ภชียติ. วนตีติ ภชติ เสวติ. วนุเตติ ยาจติ, ปตฺเถตีติ อตฺโถ. ปฺจ กามคุณา กามตณฺหาย การณํ โหติ อารมฺมณปจฺจยตาย. นิมิตฺตคฺคาโห อนุพฺยฺชนคฺคาหสฺส การณํ โหติ อุปนิสฺสยตายาติ เอวํ เสเสสุปิ ยถารหํ การณตา วตฺตพฺพา.

๕๑. ‘‘กาเย กายานุปสฺสี วิหราหี’’ติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา ลกฺขณหารวิภงฺควณฺณนายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๒๓) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – รูปธมฺมปริฺายาติ รูปูปิกวิฺาณฏฺิติปริฺาย.

‘‘ทุกฺข’’นฺติ ปสฺสนฺตี สา เวทนานุปสฺสนาติ โยเชตพฺพํ. เวทนาเหตุปริฺายาติ ผสฺสปริฺาย. ‘‘เวทนาวเสนา’’ติ ปเทน อตฺตนา อุปฺปาทิตทุกฺขวเสน. เวทนาปริฺายาติ เวทนูปิกวิฺาณฏฺิติปริฺาย. นิจฺจาภินิเวสปฏิปกฺขโต อนิจฺจานุปสฺสนายาติ อธิปฺปาโย. นิจฺจสฺานิมิตฺตสฺสาติ นิจฺจสฺาเหตุกสฺส. สฺาปริฺายาติ สฺูปิกวิฺาณฏฺิติปริฺาย. ปมมคฺควชฺฌตฺตา อคติคมนสฺส วุตฺตํ ‘‘ทิฏฺาภินิเวสสฺส…เป… อคติคมนสฺส จา’’ติ.

สงฺขารปริฺายาติ สงฺขารูปิกวิฺาณฏฺิติปริฺาย.

สมาโรปนหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิตา จ หารวิภงฺควณฺณนา.

๑. เทสนาหารสมฺปาตวณฺณนา

‘‘เอว’’นฺติอาทิ หารสมฺปาตเทสนาย สมฺพนฺธทสฺสนํ. ตตฺถ ปุริเมน อุปมาทฺวเยน สุปริกมฺมกตมณิโกฏฺฏิมสทิสี, สุวิรจิตชมฺพุนทาภรณสทิสี จ ปาฬิ. ตตฺถ กตนานาวณฺณปุปฺผูปหารสทิสี, วิวิธรํสิชาลาสมุชฺชลพทฺธนานารตนาวลิสทิสี จ หารวิภงฺคเทสนาติ ทสฺเสติ. ปจฺฉิเมน ตสฺส ปณีตมหารเห ชฏาหิ สทฺธึ ทุกฺกรตรตํ ทีเปติ. ยายํ คาถา วุตฺตาติ โยชนา.

๕๒. ยสฺมายํ หารวิภงฺควาโร นปฺปโยเชติ ยถาวุตฺเตน การเณน, ตสฺมา สา หารวิภงฺควารสฺส อาทิมฺหิ น ปจฺจามฏฺาติ อธิปฺปาโย. หารสมฺปาตวาโร ปน ตํ ปโยเชตีติ ยสฺมา ปน หารสมฺปาตวาโร ตํ คาถํ ปโยเชติ ยถาวุตฺเตเนว การเณน, ตสฺมา ‘‘โสฬส…เป… อาหา’’ติ อาห. โยชนานยทสฺสนนฺติ โยชนาย นยทสฺสนํ.

เตนาติ ‘‘ตํ มจฺจุโน ปท’’นฺติ วจเนน. สพฺพํ วิปลฺลาสนฺติ ทฺวาทสวิธมฺปิ วิปลฺลาสํ. สามฺสฺส…เป… โวหรียติ ยตฺถ ปติฏฺิตํ สามฺํ, โส วิเสโส. อตฺถโต ปน สฺาทโย เอว รูปาทิวิสยํ วิปรีตากาเรน คณฺหนฺเต วิปลฺลาโสติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สฺาวิปลฺลาโส’’ติอาทิมาห.

อินฺทชาลาทิวเสน มณิอาทิอากาเรน อุปฏฺหนฺเต อุปาทานกฺขนฺธปฺจเก อหํมมาทิการณตาย นิรุตฺตินเยน ‘‘อตฺตา’’ติ วุจฺจมาโน ตํพุทฺธิโวหารปฺปวตฺตินิมิตฺตตาย อตฺตภาโว สุขาทีนํ วตฺถุตาย ‘‘อตฺตภาววตฺถู’’ติ ปวุจฺจตีติ อาห ‘‘เตหี’’ติอาทิ. เตสนฺติ อุปาทานกฺขนฺธานํ. วิปลฺลาสานํ ปวตฺติอากาโร ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติอาทิ. วิสโย กายเวทนาจิตฺตธมฺมา. อวิชฺชา จ…เป… เอว สมฺโมหปุพฺพกตฺตา สพฺพวิปลฺลาสานํ. -สทฺโท สุภสุขสฺานนฺติ เอตฺถาปิ อาเนตฺวา โยเชตพฺโพ.

ตตฺถายํ โยชนา – ‘‘อวิชฺชา จ สุภสุขสฺานํ ปจฺจโย เอว, น ตณฺหา เอว, อวิชฺชา สุภสุขสฺานฺจ ปจฺจโย, น นิจฺจอตฺตสฺานํ เอวา’’ติ. เอวํ สนฺเตปิ ปุริมานํ ทฺวินฺนํ วิปรีตสฺานํ ตณฺหา, ปจฺฉิมานํ อวิชฺชา วิเสสปจฺจโยติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตถาปี’’ติอาทิ. อวิชฺชาสีเสน เจตฺถ ทิฏฺิยา คหณํ เวทิตพฺพํ. เตนาห ‘‘ทิฏฺินิวุตํ จิตฺต’’นฺติ, ‘‘โย ทิฏฺิวิปลฺลาโส’’ติ จ อาทิ, ยถา จ อวิชฺชาสีเสน ทิฏฺิยา คหณํ, เอวํ ทิฏฺิสีเสน อวิชฺชายปิ คหณํ สิยาติ อาห ‘‘ทิฏฺิสีเสน อวิชฺชา วุตฺตา’’ติ. ตณฺหาวิชฺชาสุ สุภสุขสฺานํ ยถา ตณฺหา วิเสสปจฺจโย, น เอวํ อวิชฺชา. นิจฺจอตฺตสฺานํ ปน ยถา อวิชฺชา วิเสสปจฺจโย, น ตถา ตณฺหาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โมโห วิเสสปจฺจโย’’ติ อาห.

ปจฺฉิมานํ ทฺวินฺนํ…เป… โหตีติ อตีตํเส ตณฺหาภินิเวสสฺส พลวภาวาภาวโต. เตเนว หิ ‘‘โส อตีตํ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ’’จฺเจว วุตฺตํ, น ‘‘อภินนฺทตี’’ติ. ตณฺหาวิปลฺลาโสติ ตณฺหํ อุปนิสฺสาย ปวตฺโต วิปลฺลาโส, น หิ ตณฺหา สยํ วิปลฺลาโส. เตนาห ‘‘ตณฺหามูลโก วิปลฺลาโส’’ติ. ทิฏฺาภินนฺทนวเสนาติ ตณฺหุปนิสฺสยทิฏฺาภินนฺทนวเสน, ยโต โส ‘‘ตณฺหาวิปลฺลาโส’’ติ วุตฺโต. เอเตนาติ ‘‘โย ตณฺหาวิปลฺลาโส’’ติอาทิปาเน. โสฬส สฺีวาทา, อฏฺ อสฺีวาทา, อฏฺ เนวสฺีนาสฺีวาทา, ปฺจ ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา จ, ยถา อตฺตโน คตาย, นิพฺพานปฺปตฺติยา จ ปริกปฺปวเสน สุภสุขาการคฺคาหิโน, น เอวํ สตฺต อุจฺเฉทวาทาติ อาห ‘‘เยภุยฺเยนา’’ติ. ปฏิปกฺขวเสนปีติ วิสุทฺธิวเสนปิ. ยาว หิ อุปกฺกิเลสา, ตาว จิตฺตํ น วิสุชฺฌเตว. ยทา จ เต ปหีนา, ตทา วิสุทฺธเมว. เตนาห ‘‘น หี’’ติอาทิ. ‘‘อรกฺขิเตน จิตฺเตนา’’ติ ปาฬึ นิกฺขิปิตฺวา วิปลฺลาสมุเขเนว เทสนาย นิทฺธาริยมานตฺตา วุตฺตํ ‘‘ยถานุสนฺธินาว คาถํ นิฏฺเปตุ’’นฺติ.

มารสฺสาติ กิเลสมารสฺส. ตสฺส หิ วเส ิโต เสสมารานํ หตฺถคโต เอวาติ. เตนาห ‘‘กิเลสมารคฺคหเณเนวา’’ติอาทิ.

มารพนฺธนนฺติ สตฺตมารปกฺเข มารสฺส พนฺธนนฺติ มารพนฺธนํ. โส หิ กิเลสพนฺธนภูเต อตฺตโน สมารกปริเส มฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อนฺตลิ…เป… โมกฺขสี’’ติ (มหาว. ๓๓). อิตรมารปกฺเข มาโรว พนฺธนนฺติ มารพนฺธนํ. วิสงฺขาโร นิพฺพานํ.

โมหสมฺปโยคโต จิตฺตํ ‘‘มูฬฺห’’นฺติ วุตฺตนฺติ รตฺตทุฏฺานมฺปิ มูฬฺหตาย สพฺภาเว ‘‘มูฬฺห’’นฺติ วิสุํ วจนํ อาเวณิกโมหวเสน วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทฺวินฺนํ โมมูหจิตฺตุปฺปาทานํ วเสนา’’ติ อาห. เอวนฺติ เอวํ ราคาทิอกุสลปฺปตฺติยา กุสลภณฺฑจฺเฉทนโต อรกฺขิตํ จิตฺตํ โหติ, สพฺโพปิ มิจฺฉาภินิเวโส เอตฺเถว สงฺคหํ สโมสรณํ คจฺฉตีติ อาห ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิ …เป… เวทิตพฺพ’’นฺติ. สพฺเพปีติ ‘‘อรกฺขิตํ, มิจฺฉาทิฏฺิหตํ, ถินมิทฺธาภิภูต’’นฺติ ตีหิปิ ปเทหิ วุตฺตธมฺมา.

จกฺขุนาติ ทฺวาเรน. รูปนฺติ วิสภาควตฺถุสนฺนิสฺสิตํ รูปายตนํ. นิมิตฺตคฺคาหีติ ‘‘อิตฺถี’’ติ วา ปุริโส’’ติ วา ‘‘สุภ’’นฺติ วา ‘‘อสุภ’’นฺติ วา ปริกปฺปิตนิมิตฺตํ คณฺหาติ, ตสฺส วา คหณสีโล. อนุพฺยฺชนคฺคาหีติ หตฺถปาทหสิตกถิตาทิปฺปเภเท กิเลสานํ อนุ อนุ พฺยฺชนโต อนุพฺยฺชนสฺิเต อากาเร คณฺหาติ, เตสํ วา คหณสีโล. ยตฺวาธิกรณนฺติ ยํ นิมิตฺตํ, นิมิตฺตานุพฺยฺชนคฺคหณนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. เอวํ ‘‘จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺต’’นฺติ, โย ‘‘นิมิตฺตคฺคาหี, อนุพฺยฺชนคฺคาหี’’ติ จ วุตฺโต ปุคฺคโล, ตเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ จกฺขุทฺวารํ อสํวุตํ สติกวาเฏน อปิหิตํ กตฺวา วตฺตนฺตํ, ตสฺส จ รูปสฺส อิฏฺาการคฺคหเณ อภิชฺฌา, อนิฏฺาการคฺคหเณ โทมนสฺสํ, อสมเปกฺขเน โมโห มิจฺฉาภินิเวเส มิจฺฉาทิฏฺีติ เอวํ อภิชฺฌาพฺยาปาทา, อฺเ จ ลามกฏฺเน ปาปกา อโกสลฺลสมฺภูตฏฺเน อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ อนุ อนุ ปวตฺเตยฺยุํ.

ตสฺส สํวราย น ปฏิปชฺชตีติ ตสฺส จกฺขุทฺวารสฺส สํวราย สติกวาเฏน ปิทหนตฺถํ น ปฏิปชฺชติ. สา ปน อปฺปฏิปตฺติ จกฺขุนฺทฺริยสฺส อนารกฺขาสํวรสฺส อนุปฺปาโทติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น รกฺขติ…เป… อาปชฺชตี’’ติ อาห. ชวเน อุปฺปชฺชมาโนปิ หิ อสํวโร เตน ทฺวาเรน ปวตฺตนโต ‘‘จกฺขุนฺทฺริยาสํวโร’’ตฺเวว วุจฺจตีติ. เสสทฺวาเรสุปิ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘ปุพฺพนฺตกปฺปนวเสน จา’’ติอาทินา สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต ‘‘สงฺเขปโต จ วิตฺถาโร อฺโ’’ติ กตฺวา ตํ สมุจฺจินนฺโต ‘‘ยา จ โข อิมา’’ติอาทิมาห.

ยถาวุตฺตา อกุสลา ธมฺมาติ ทฺวาทส อกุสลจิตฺตุปฺปาทธมฺมา, เตสํ วตฺถูนิ วา. เต หิ สมุทยวชฺชา ปฺจุปาทานกฺขนฺธา. ‘‘เอว’’นฺติ อิมินา เนตฺติปาฬิยํ, อฏฺกถายฺจ นิทฺธาริตปฺปกาเรน. อิธาติ อิมิสฺสํ ‘‘อรกฺขิเตน จิตฺเตนา’’ติ คาถายํ.

ยทิปิ เทสนาหารสมฺปาตปาฬิยํ ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติ คาถา สรูปโต น คหิตา, อตฺถโต ปน ‘‘เตสํ ภควา ปริฺายา’’ติอาทินา คหิตา เอวาติ ตสฺสา คหิตภาวํ วิภาเวตุํ ‘‘กถํ เทเสตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติ คาถํ อุทฺธริ.

โยนิโสมนสิกาเรน กมฺมํ กโรนฺโตติ ‘‘โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ โยนิโส มนสิ กโรตี’’ติอาทินา นเยน วิปสฺสนาสงฺขาเตน โยนิโสมนสิกาเรน ภาวนากมฺมํ กโรนฺโต, ภาเวนฺโตติ อตฺโถ. ยถาภูตาณนฺติ าตปริฺาย ปุพฺพภาควิปสฺสนาย ‘‘อวิชฺชาสมุทยา รูปสมุทโย, อวิชฺชานิโรธา รูปนิโรโธ’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๕๐) สมปฺาสาย อากาเรหิ. นิรยคติยํ ทุกฺขทุกฺขตา, สุคติวิเสเส พฺรหฺมโลเกกเทเส สงฺขารทุกฺขตา, อิตรตฺถ ทฺเว ติสฺโสปีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ยถาสมฺภวํ ติวิธทุกฺขตาโยเคนา’’ติ.

เทสนาหารสมฺปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. วิจยหารสมฺปาตวณฺณนา

๕๓. กุสลธมฺมารมฺมณาติ กุสลธมฺเม อุทฺทิสฺส ปวตฺติมตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น เตสํ อารมฺมณปจฺจยตํ อิธ ‘‘กุสลา ธมฺมา’’ติ โลกุตฺตรธมฺมานํ อธิปฺเปตตฺตา. น หิ กทาจิ อนุปาทานิยา ธมฺมา อุปาทานารมฺมณา โหนฺติ. ผลธมฺเม อุทฺทิสฺส ปวตฺตาย ตณฺหาย คหิตตฺตา ‘‘กุสล…เป… ทฏฺพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. เทสนาหาเรติ เทสนาหารสมฺปาเต. กถํ ปน กุสลภาโวติ ‘‘กุสลา’’ติ วจนมตฺตํ คเหตฺวา โจเทติ, ตฺจ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ, ปหานเหตุภาโวปิสฺสา สิยา โจทเกน สมฺปฏิจฺฉิโตว. ‘‘มาโนปิ ทุวิโธ’’ติอาทินา มานสฺส จ ตสฺสา ตณฺหาย จ เสวิตพฺพภาโว อกุสลานํ ปหานาย, กุสลานํ อุปฺปตฺติยา จ ปจฺจยภาวโต.

เนกฺขมฺมสฺสิตํ โทมนสฺสํ นาม ‘‘อริยภูมึ ปาปุณิตุํ นาสกฺขิ’’นฺติ อนุโสจโต อุปฺปนฺนํ โทมนสฺสนฺติ สมฺพนฺโธ. เอวนฺติ อิมินา ปาฬิยํ วุตฺตปฺปกาเรน, ปิหํ อุปฏฺเปตฺวา ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺารมฺมเณ อาปาถคเต อนิจฺจาทิวเสน วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวาติ โยชนา. อิฏฺารมฺมณฺเจตฺถ ยถาวุตฺตอนุโสจนโทมนสฺสุปฺปตฺตีนํ ยถาภินิวิฏฺสฺส อารมฺมณสฺส อนิฏฺตายาติ ทสฺสนตฺถํ. ‘‘กถํ เนกฺขมฺมวเสนา’’ติ ปทสฺส อตฺถํ วิวริตุํ ‘‘วิปสฺสนาวเสนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิปสฺสนาทิวินิมุตฺตา วา ปมชฺฌานาทิวเสน วุตฺตา กุสลา ธมฺมา อิธ เนกฺขมฺมํ. อนุสฺสติคฺคหเณน อุปจารชฺฌานเมว คหิตนฺติ ‘‘ปมชฺฌานาทิวเสนา’’ติ วุตฺตํ. อาทิสทฺเทน ทุติยชฺฌานโต ปฏฺาย ยาว อคฺคผลา อุปริวิเสสา สงฺคหิตา. ยาย ปฺาวิมุตฺติยา.

อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิภาเวนาติ อุเปกฺขาชนิตสติปาริสุทฺธิสพฺภาเวน. กมฺมโยคฺคนฺติ วิปสฺสนาภาวนาทิกมฺมสฺส โยคฺคํ อนุรูปํ อนุจฺฉวิกํ. อสฺสทฺธิเยติ อสฺสทฺธิยเหตุ, ‘‘อสฺสทฺธิเยนา’’ติปิ ปนฺติ, โส เอวตฺโถ. โอภาสคตนฺติ าโณภาสคตํ. กามํ ปุพฺเพปิ ปฺา วุตฺตา, อสฺสทฺธิยาทีหิ ปน อฺเสํ กิเลสานํ วิธมนมฺปิ ปฺาย เอว โหติ, สา จ เอวํภูตาติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘โอภาสคตํ กิเลสนฺธกาเร น อิฺชตี’’ติ วุตฺตํ.

โกโป โกโธ. อปฺปจฺจโย โทมนสฺสํ. อิทฺธิวิธาณาทิกา ฉ อภิฺา ปากฏา เอวาติ ‘‘ทฺเว จ วิเสเส’’ติ วุตฺตธมฺเม ทสฺเสตุํ ‘‘มโนมยิทฺธิ, วิปสฺสนาาณฺจา’’ติ อาห. องฺคณานิ ราคาทโย. อุปกฺกิเลสา อภิชฺฌาวิสมโลภาทโย. อนุโลมนํ ตเทกฏฺตา. ผนฺทนา ทุพฺพลา วิกฺเขปปฺปวตฺติ. พลวตี อนวฏฺานํ. สพฺโพ มิจฺฉาภินิเวโส อโยนิโสมนสิกาเรน โหติ, มิจฺฉาวิตกฺเกน จ. ตตฺถ อโยนิโสมนสิกาโร อกุสลจิตฺตุปฺปาโท ตปฺปริยาปนฺโน มิจฺฉาวิตกฺโก วิกฺเขปสหิโต เอวาติ วุตฺตํ ‘‘มิจฺฉาภินิเวสเหตุตาย ทิฏฺิปกฺโข’’ติ วุตฺตฺเหตํ ‘‘วิตกฺโกปิ ทิฏฺิฏฺานํ, อโยนิโส มนสิกาโรปิ ทิฏฺิฏฺาน’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๒๔).

อถ วา อิฺชนาติ ผนฺทนา, ทิฏฺปริตฺตาโส. ยถาห ‘‘ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมวา’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๐๕ อาทโย). อฏฺิตีติ อนวฏฺานํ, ทิฏฺิวิตกฺโก. เตน หิ ปุถุชฺชโน กาเล สสฺสตํ, กาเล อุจฺเฉทนฺติ ตํ ตํ ทิฏฺิคฺคหณํ ปกฺขนฺทนฺโต สตฺตโต ปริพฺภฏฺอนฺโธ วิย, สมุทฺเท วิสฺสฏฺวาหนิกา วิย, ยนฺเต ยุตฺตโคโณ วิย จ ตถา ตถา ปริพฺภมติ. เตนาห ‘‘ทิฏฺิโยปิ ทิฏฺิฏฺานํ, วิตกฺโกปิ ทิฏฺิฏฺาน’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๒๔) จ. เอตสฺมิฺจ ปกฺเข มิจฺฉาภินิเวสตาย, มิจฺฉาภินิเวสเหตุตาย จ ตสฺสา ทฺเว ปกฺขาติ เอกเทสสรูเปกเสโส กโตติ เวทิตพฺพํ.

‘‘เอว’’นฺติอาทินา ‘‘โส อุปริม’’นฺติอาทิปาฬิยํ สมฺพนฺธํ ทสฺเสติ. ปฏิฆสฺาติ ภุมฺมตฺเถ ปจฺจตฺตวจนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฏิฆ…เป… สฺาสู’’ติ อาห. รูปาวจรสฺาติ สฺาสีเสน รูปาวจรชฺฌานานิ วทติ. นานตฺตสฺาติ นานาสภาวา, นานาสภาเว วา อารมฺมเณ สฺา. เปตฺวา ปฏิฆสฺา อวสิฏฺกามาวจรสฺา เหตา. ตา สมติกฺกมตีติ ตา รูปสฺานานตฺตสฺาโย อารมฺมเณหิ สทฺธึ สมฺมเทว อติกฺกมติ.

รูปาวจรชฺฌาโนภาโสปิ กสิณารมฺมณา. กสิณนิสฺสนฺโท หิ อารุปฺปชฺฌานุปฺปตฺติ. ทสฺสนนฺติ กสิณรูปานํ ทสฺสนํ. อภิชฺฌาพฺยาปาทปฺปหาเนน สทฺธึ วีริยารมฺโภ อุปการโก สมโถ สติปสฺสทฺธิโย ปริกฺขารงฺคตา วุตฺตา เอว. สติรหิตํ สมฺมสนํ นาม นตฺถีติ ‘‘ยา อุปฏฺิตา สติ อสมฺมุฏฺา, อยํ วิปสฺสนา’’ติ วุตฺตํ. เตน สติสีเสน วิปสฺสนา คหิตาติ ทสฺเสติ. สมฺโมสานํ ปหานมาหาติ สมฺพนฺโธ.

๕๔. ปจฺจุปฺปนฺนสุขอายติสุขวิปากกิริยนิรามิสอกาปุริสเสวิตภาเวหิ เอว เสสา ปาฬิยํ เอตสฺส สมาธิสฺส สนฺตปณีตตาทิวิเสสา วุตฺตา, เตปิ อิธ สงฺคหิตาติ เตสํ ปทานํ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘องฺคสนฺตตายา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ องฺคสนฺตตายาติ ผลฌานงฺคานํ อุปสนฺตตาย. กิเลสทรถสนฺตตายาติ กิเลสทรถปฏิปฺปสฺสทฺธิยา. ปณีโตติ อุฬาโร. เอโกทิภาเวนาติ มคฺคสมาธิสงฺขาเตน เอโกทิภาเวน. เอโกทิภาวนฺติ สมาธานํ. โลกิยสมาธิสฺส ปจฺจนีกนีวรณปมชฺฌานนิกนฺติอาทีนิ นิคฺคเหตพฺพานิ, อฺเ จ กิเลสา วาเรตพฺพา. อิมสฺส ปน อรหตฺตสมาธิสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธกิเลสตฺตา น นิคฺคเหตพฺพํ, วาเรตพฺพฺจ อตฺถีติ โส มคฺคานนฺตรํ สมาปตฺติกฺขเณว อปฺปโยเคเนว อธิคตตฺตา, ิตตฺตา จ อปริหานิวเสน วา อธิคตตฺตา นสสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต.

‘‘สติเวปุลฺลปฺปตฺโต’’ติ เอเตน อปฺปวตฺตมานายปิ สติยา สติพหุลตาย สโต เอว นามาติ ทสฺเสติ. ‘‘ยถาปริจฺฉินฺนกาลวเสนา’’ติ เอเตน ปริจฺฉินฺนสติยา สโตติ ทสฺเสติ.

วกฺขมาเนนาติ ‘‘ปีติผรณา’’ติอาทินา อนนฺตรํ วกฺขมาเนน. ‘‘ปีติผรณตา’’ติ ปน ปาฬิ อาคตา. ตํ ‘‘ปฺจงฺคิโก สมฺมาสมาธี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๕๕) สมาธิองฺคภาเวน ปฺา อุทฺทิฏฺาติ กตฺวา วุตฺตํ. ตโต เอว อฏฺกถายํ ‘‘ปีติผรณตา’’ติอาทีนฺจ อตฺถสํวณฺณนา กตา. ตตฺถ ‘‘โส อิมเมว กายํ วิเวกเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๒๖) นเยน ปีติยา, สุขสฺส จ ผรณํ เวทิตพฺพํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

สมาธิวเสน สมโถ อุทฺธโฏติ สภาววเสน สมโถ อุทฺธโฏ, น อุปการกธมฺมวเสนาติ อธิปฺปาโย.

๕๕. ราคปฏิปกฺขตฺตา สมาธิสฺส ‘‘อธิจิตฺตสิกฺขาย สิกฺขนฺโต’’ติ วุตฺตํ. วุตฺตนยานุสาเรนาติ ‘‘สุขปณิธิอาทิสมุคฺฆาฏเนน อปฺปณิหิโต’’ติอาทินา. เอตฺถ จ สงฺขารานํ ขณภงฺคุรตํ สมฺมเทว ปสฺสนฺตสฺส น ราโค ปติฏฺํ ลภตีติ อนิจฺจานุปสฺสนา ราคจริตสฺส สปฺปายา วุตฺตา, ตถา สงฺขารานํ สภาวทุกฺขตํ สมฺมเทว ปสฺสนฺตสฺส ปกติยาปิ ทุกฺขิเตสุ ทุกฺขุปฺปาทนํ วเณ ขาโรทกเสกสทิสนฺติ น โทโส ปติฏฺํ ลภตีติ ทุกฺขานุปสฺสนา โทสจริตสฺส สปฺปายา วุตฺตา, ตถา สงฺขาเรสุ สมฺมเทว ฆนวินิพฺโภเค กเต อตฺตสุฺตาย อุปฏฺหมานาย น โมโห ปติฏฺํ ลภตีติ อนตฺตานุปสฺสนา โมหจริตสฺส สปฺปายา วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. ราคปฏิปกฺขตฺตา สมาธิสฺส ‘‘อธิจิตฺตสิกฺขาย สิกฺขนฺโต’’ติ วุตฺตํ. เอส นโย อิตเรสุ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ.

ขนฺติพหุโล อุปฺปนฺนํ อรตึ อนภิรตึ อภิภุยฺย วิหรนฺโต สุเขน สมาธึ อธิคจฺฉตีติ ขนฺติปฺปธานตาปิ สมถปกฺขภชนสฺส การณํ วุตฺตา. อุฏฺานํ สมฺปชฺชตีติ สมฺปนฺนกายิกวีริยํ. สมฺมากมฺมนฺตวายามานํ โย กายิกาทิวิกปฺโป วุตฺโต ปาฬิยํ, โส เนสํ กายิกสฺส ปโยคสฺส สมุฏฺานวเสน เวทิตพฺโพ.

‘‘ขิปฺปาธิคโม’’ติ อิมินา มคฺคาเสวนภาวํ ทสฺเสติ. ‘‘วิปสฺสนาย วิมุตฺตาธิคโม’’ติ อิมินา วิปสฺสนานุภาเวน สมุจฺเฉทวิมุตฺติ วิกฺขมฺภนวิมุตฺติ วิย สมถานุภาเวนาติ ทสฺเสติ. โลกิเยหีติ นิสฺสกฺกวจนํ. มหนฺตานนฺติ อุฬารานํ, ปณีตานนฺติ อตฺโถ.

๕๖. นฺติ วิจยหารํ. วิสํวาทนเหตูนํ โลภาทีนํ ปาปธมฺมานํ. โสเธนฺโตติ ยถา สรณาทิวิสยา อฺาณาทิสํกิเลสา น ปวตฺตนฺติ, เอวํ โสเธนฺโต. ปริปูเรนฺตาติ ยถา สีลํ อขณฺฑาทิภาเวน ปริปุณฺณํ โหติ อนูนํ, เอวํ ปริปูเรนฺตา.

‘‘ตถา ปฏิปชฺชนฺโต’’ติ อิมินา สตฺถุ มหาปติการภาโว ปริปุณฺโณ ทสฺสิโตติ ปมวาเท ‘‘ทสฺสนาภูมิฺจ ภาวนาภูมิฺจา’’ติ วุตฺตํ.

ยสฺส อตฺถายาติ ยสฺส ยสฺส ปหานตฺถาย. ตถา ปฏิปนฺนสฺสาติ ยถา อสุภชฺฌานาทึ ปาทกํ กตฺวา อนาคามิมคฺคาทิอธิคโม โหติ, ตถา ปฏิปนฺนสฺส.

วธิตนฺติ ฆาติตํ.

‘‘มนุสฺสภูโต’’ติ อิทํ ปุพฺพาปราเปกฺขํ กตฺวา ‘‘ปิตา มนุสฺสภูโต ขีณาสโว’’ติ จ ตถา ‘‘มาตา มนุสฺสภูตา’’ติ โยเชตพฺพํ. เภทานุรูปสฺส สาวนํ อนุสฺสาวนํ, เภทานุรูเปน วา วจเนน วิฺาปนํ.

๕๗. มนุสฺสตฺตนฺติ มนุสฺสชาติตา. ลิงฺคสมฺปตฺตีติ ปุริสภาโว. เหตูติ มโนวจีปณิธานสิทฺธิยา สทฺธึ ปุพฺพเหตุสมฺปทา. สตฺถารทสฺสนนฺติ สตฺถุ สมฺมุขีภาโว. คุณสมฺปตฺตีติ อภิฺาสมาปตฺติลาโภ. อธิกาโรติ อตฺตโน สรีรนิรเปกฺขํ สตฺถุ อุปการกรณํ. ฉนฺทตาติ พุทฺธภาวาย ทฬฺหจฺฉนฺทตา อนิวตฺติธมฺมตา.

น อุปฺปชฺชนฺตีติ ปน อตฺถีติ ‘‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชตี’’ติอาทิ (ม. นิ. ๑.๒๘๕; ๒.๓๔๑; กถา. ๔๐๕; มหาว. ๑๑; มิ. ป. ๔.๕.๑๑) อิมิสฺสา โลกธาตุยา ตฺวา วทนฺเตน ภควตา ‘‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, อตฺเถตรหิ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ภควโต สมสโม สมฺโพธิยนฺติ เอวํ ปุฏฺโ อหํ, ภนฺเต, ‘โน’ติ วเทยฺย’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๑๖๑) วตฺวา ตสฺส การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส, ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๖๑; อ. นิ. ๑.๒๗๗) อิมํ สุตฺตํ ทสฺเสนฺเตน ธมฺมเสนาปตินาว พุทฺธเขตฺตภูตํ อิมํ โลกธาตุํ เปตฺวา อฺตฺถ อนุปฺปตฺติ วุตฺตา โหตีติ อธิปฺปาโย.

เขตฺตปริคฺคโห กโต นาม โหติ ‘‘อิทํ พุทฺธเขตฺตํ นามา’’ติ.

เอวํ านาฏฺานภาวํ คตาติ วุตฺตปฺปกาเรน านภูตา, วุตฺตนเยน วา อฺเปิ ยถารหํ านาฏฺานภาเวน ปวตฺตา. สตฺตปฺตฺติยา อุปาทานภูตาติ อินฺทฺริยพทฺเธ ขนฺเธ สนฺธาย วทติ.

๕๘. ผลสฺส ปจฺจกฺขการิตาติ ‘‘อิมสฺส กมฺมสฺส อิทํ ผล’’นฺติ ตํตํกมฺมผลาวโพโธ. อปฺปทานาภาโวติ ปจฺจยสมวาเย กมฺมสฺส เอกนฺตโต ผลุปฺปาทนํ. เตนาห ‘‘กตูปจิตาน’’นฺติ.

๕๙. อชฺโฌสิตวตฺถุนาติ ตณฺหาภินิเวสวเสน อภินิวิฏฺวตฺถุนา. รูปภวอรูปภวาทินาติ ภวตณฺหา วิย สยํ ทสฺเสติ.

ขนฺธตฺตยวเสนาติ สีลาทิกฺขนฺธตฺตยวเสน. ปฏิปทาวิภาเคนาติ ‘‘สพฺพตฺถคามินี’’ติ อาทิปฏิปทาย เภเทน.

ตตฺถตตฺถคามินีติ นิรยาทินิพฺพานนฺติ ทฺวีสุ คนฺธพฺพฏฺาเนสุ ตตฺถ ตตฺเถว คมนสีลา. สพฺพตฺถคามินีติ ยถาวุตฺเตสุ สพฺพฏฺาเนสุ จ คมนสีลา.

สฺชีโว กาฬสุตฺตํ สงฺฆาโต โรรุโว มหาโรรุโว ตาปโน มหาตาปโน อวีจีติ เอเต อฏฺ มหานิรยา. เอเกกสฺส จตฺตาริ จตฺตาริ ทฺวารานิ, เอเกกสฺมึ ทฺวาเร จตฺตาโร จตฺตาโร คูถนิรยาทโยติ เอวํ โสฬส อุสฺสทนิรเย วณฺเณนฺติ.

สกฺกสุยามาทิโก เชฏฺกเทวราชา. ปชาปติวรุณอีสานาทโย วิย ทุติยาทิฏฺานนฺตรการโก ปริจารโก.

กิเลสกามปกฺเขติ ‘‘สงฺกปฺโป กาโม, ราโค กาโม, สงฺกปฺปราโค กาโมติ (มหานิ. ๑) เอตฺถ วุตฺตสงฺกปฺปวเสน วุตฺตํ. โสปิ หิ วิพาธติ, อุปตาเปติ จาติ กิเลสตฺตสมฺภวโต กิเลสกาโม วุตฺโต, น กิเลสวตฺถุภาวโต. กามปฏิสํยุตฺโตติ กามราคสงฺขาเตน กาเมน สมฺปยุตฺโต, กามปฏิพทฺโธ วา. อฺเสุ จ กามปฏิสํยุตฺเตสุ ธมฺเมสุ วิชฺชมาเนสุ วิตกฺเก เอว กามสทฺโท ธาตุสทฺโท นิรุฬฺโหติ เวทิตพฺโพ วิตกฺกสฺส กามสงฺกปฺปวุตฺติยา สาติสยตฺตา. เอส นโย พฺยาปาทธาตุอาทีสุ. ปรสฺส, อตฺตโน จ ทุกฺขาปนํ วิหึสา. ตํ ตุ มิจฺฉาหิ วิหึสา.

พีชาทิธาตุนานตฺตวเสน ขนฺธาทินานตฺตํ เวทิตพฺพํ. ขนฺโธติ ทฺวิธาภูตคฺโค.

๖๐. อชฺฌาสยธาตูติ อชฺฌาสยสภาโว. ยถา คูถาทีนํ สภาโว เอโส ยํ คูถาทีเหว สํสนฺทติ, เอวํ ปุคฺคลานํ อชฺฌาสยสฺเสเวส สภาโว, ยํ ทุสฺสีลาทโย ทุสฺสีลาทิเกเหว สํสนฺทนฺติ.

สทฺธามูลกตฺตา กุสลกิริยาย วุตฺตํ ‘‘ยํ สทฺธาวเสนา’’ติอาทิ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘สทฺธา พีช’’นฺติ (สุ. นิ. ๗๗). ยํ โลภวเสน, สทฺธาวเสน จ โทสวเสน, สทฺธาวเสน จ โมหวเสน, สทฺธาวเสน จาติ โยเชตพฺพํ. วีริยวเสนาติ สมฺมปฺปธานวีริยวเสน. ปฺาวเสนาติ มคฺคสมฺมาทิฏฺิวเสน.

อกุสลสฺส กมฺมสฺส กโตกาสตาย ปาฬิยํ วุตฺตตฺตา ‘‘วิปากาวรเณน นิวุต’’นฺติ วุตฺตํ. ตํ ปน นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ กมฺมาวรณาทีหิปิ นิวุตตาย อิจฺฉิตตฺตา. ตถา หิ ยถา เทวทตฺตํ โกกาลิกํ สุนกฺขตฺตํ ลิจฺฉวิปุตฺตนฺติ อุทาหฏํ, ยทิปิ ภควา ปฏิเวธสฺส อฏฺานตํ ทิสฺวา นิพฺเพธภาคิยเทสนํ น เทเสติ, วาสนาภาคิยํ ปน ตถารูปสฺส เทเสติ เอวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สจฺจปฺปฏิเวธ’’นฺติอาทิมาห. อชาตสตฺตุอาทีนนฺติ อาทิสทฺเทน สจฺจกาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ตสฺสาปิ ภควา อนาคเต วาสนตฺถาย ธมฺมํ เทเสสิ. สตฺถา หิ ‘‘อนาคเต ตมฺพปณฺณิทีเป สาสนํ ปติฏฺหิสฺสตี’’ติ ตตฺถายํ กุลฆเร นิพฺพตฺโต ปพฺพชิตฺวา กาฬพุทฺธรกฺขิตตฺเถโร นาม ปภินฺนปฏิสมฺภิโท มหาขีณาสโว ภวิสฺสตีติ อิทํ ทิสฺวา ธมฺมํ เทเสสิ, โส จ ตถา อโหสีติ.

อสมฺปุณฺเณติ เอกนฺตโต วิปากทานสมตฺถตาวเสน ปาริปูรึ อนุปคเต. ทิฏฺุปนิสฺสยทิฏฺิสหคตสฺส กมฺมํ สนฺธาย ‘‘กมฺเม อสมฺปุณฺเณ’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘กิเลสนฺตราย มิสฺสกํ กมฺมนฺตรายํ ทสฺเสตฺวา’’ติ.

๖๑. ทิฏฺิ ปเนตฺถ ปธานภาเวน ปาฬิยํ คหิตา สีลพฺพตปรามาสสฺส อธิปฺเปตตฺตา. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ยถา ปุณฺณฺจ โควติกํ, อเจลฺจ กุกฺกุรวติก’’นฺติ. อสมฺปุณฺณตฺตา เอว หิ ตสฺส มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานสฺส เตสํ ภควา ‘‘จตฺตาริมานิ, ปุณฺณ, กมฺมานี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๒.๘๑) ธมฺมํ เทเสสิ. ตาย จ เทสนาย เต ตํ ทิฏฺึ ปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมฺมตฺเต ปติฏฺหึสุ.

๖๒. ปคุณตาย โวทานํ ปคุณโวทานํ. ตเทว ปมชฺฌานาทีหิ วุฏฺหิตฺวา ทุติยชฺฌานาทิอธิคมสฺส ปจฺจยตฺตา วุฏฺานํ นาม โหตีติ อาห ‘‘วุฏฺานํ ปคุณโวทาน’’นฺติ. ภวงฺควุฏฺานํ ภวงฺคุปฺปตฺติ. ภวงฺคจิตฺเต หิ อุปฺปนฺเน ตํสมงฺคิสมาปตฺติโต วุฏฺิโต นาม โหติ. สฺาเวทยิตอปคโม เอว อปคมวิโมกฺโข.

อิทํ วุฏฺานนฺติ อิทํ ยถาวุตฺตํ โกสลฺลํ วุฏฺานเหตุภาวโต วุฏฺานํ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘โวทานมฺปิ ตมฺหา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺาน’’นฺติ (วิภ. ๘๒๘). อิมาย ปน วุฏฺานปาฬิยา อสงฺคหิตตฺตา ‘‘นิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺานํ ปาฬิมุตฺตกวุฏฺานํ นามา’’ติ สมฺโมหวิโนทนิยํ (วิภ. อฏฺ. ๘๒๘) วุตฺตํ. เย ปน ‘‘นิโรธโต ผลสมาปตฺติยา วุฏฺาน’’นฺติ ปาฬิยํ นตฺถีติ วเทยฺยุํ, เต ‘‘นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส เนวสฺานาสฺายตนํ ผลสมาปตฺติยา อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๗) อิมาย ปาฬิยา ปฏิเสเธตพฺพา.

๖๓. อยํ จสฺส อาสโยติ เอตฺถ อาสยชานนาทินา เยหิ อินฺทฺริเยหิ เยหิ ปโรปเรหิ สตฺตา กลฺยาณปาปาสยาทิกา โหนฺติ, เตสํ ปชานนํ วิภาเวตีติ เวทิตพฺพํ. เอวฺจ กตฺวา อินฺทฺริยปโรปริยตฺตอาสยานุสยาณานํ วิสุํ อสาธารณตา, อินฺทฺริยปโรปริยตฺตนานาธิมุตฺติกตาาณานํ วิสุํ พลตา จ สิทฺธา โหติ.

ถามคโตติ เอตฺถ ถามคมนํ นาม อฺเสํ อสาธารโณ กามราคาทีนํ เอว อาเวณิโก สภาโว เวทิตพฺโพ, ยโต ‘‘ถามคโต อนุสยํ ปชหตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๓.๒๑) วุตฺตํ.

อาวชฺชนมตฺเตเนว สรติ อากงฺขายตฺตวุตฺติกตฺตา. วุตฺตฺหิ ‘‘อากงฺขปฏิพทฺธํ พุทฺธสฺส ภควโต าณํ, มนสิการปฏิพทฺธํ พุทฺธสฺส ภควโต าณ’’นฺติอาทิ (มหานิ. ๑๕๖; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕; ปฏิ. ม. ๓.๕). สพฺพฺุตฺาณํ วิย หิ สพฺพํ ภควโต าณํ ปริกมฺมนิรเปกฺขนฺติ.

๖๔. อุปกฺกิเลสวิมุตฺตตฺตาติ เอตฺถ จิตฺตาทิ เอว อุปกฺกิเลสา, นิพฺพตฺตกสฺส วา กมฺมสฺส ปาริพนฺธกิเลสา. กสิณกมฺมปริกมฺมฌานนิพฺพตฺตนกสิณภาโว จุทฺทสวิเธน จิตฺตปริทมนํ อภิฺาภินีหาโรติ สพฺพตฺถาปิ วีริยพลสฺส พหูปการตฺตา วุตฺตํ ‘‘วีริยภาวนาพลนิพฺพตฺต’’นฺติ. ทิพฺพสทิสตฺตาติ ทิพฺเพ ภวนฺติ ทิพฺพํ, ยถาวุตฺตํ ปสาทจกฺขุ, ทิพฺพํ วิยาติ ทิพฺพํ, อคฺคตํ อภิฺาณํ. ทิพฺพวิหาโร จตฺตาริ รูปาวจรชฺฌานานิ. เตสํ วเสน นิพฺพตฺติตฺวา ปฏิลทฺธพฺพตฺตา ทิพฺพํ, เตน ทิพฺพเหตุกตฺตา ทิพฺพนฺติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสิตตฺตาติ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌาเนน นิสฺสยปจฺจเยน นิพฺพตฺตตฺตา, เตน ทิพฺพนิสฺสิตํ ทิพฺพนฺติ ทสฺเสติ. ทิวุสทฺทํ อกฺขรจินฺตกา กีฬาทีสุ ปนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘ตํ สพฺพํ สทฺทสตฺถานุสาเรน เวทิตพฺพ’’นฺติ. ปุริมา หิ ตโย อตฺถา กีฬตฺถสฺส วเสน, อิตเร ชุติคติอตฺถวเสเนว ทสฺสิตาติ.

มนุสฺสูปจารนฺติ มนุสฺสโคจรํ. ทฏฺุํ น สกฺกา อิตฺตรขณตฺตา ขณปจฺจุปฺปนฺนสฺส. ‘‘อาสนฺนจุติกา’’ติอาทินา สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนวเสน ‘‘จวมาเน อุปปชฺชมาเน’’ติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. ‘‘โมหนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา’’ติอาทินา สตฺตานํ หีนปณีตตฺตาทิภาวสฺส โมหาทิกมฺมนิทานเหตุกตํ, นิสฺสนฺทผลตฺจ ทสฺเสติ. ทิพฺพจกฺขุสฺส ปาทกํ เอเตสนฺติ ทิพฺพจกฺขุปาทกานิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ทิพฺพจกฺขุนา สเหว อิชฺฌนฺตี’’ติ. ตานิ หิสฺส ปริภณฺฑาณานิ.

สมาทียนฺตีติ สมาทานานิ, กมฺมานิ สมาทานานิ เอเตสนฺติ กมฺมสมาทานา. สมาทาตพฺพนานาวิธกมฺมาติ อตฺโถ ปุริเม อตฺเถ, ทุติเย ปน กมฺมานิ สมาทาเปนฺตีติ กมฺมสมาทานา, มิจฺฉาทิฏฺิยา กมฺมสมาทานา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เหตุอตฺเถ เจตํ กรณวจนํ.

ตํ วาจนฺติ ตํ อริยานํ อุปวทนวาจํ. ตํ จิตฺตนฺติ สมุฏฺาปกจิตฺตํ. ตํ ทิฏฺินฺติ เยน มิจฺฉาคาเหน อริเย อนุทฺธํเสติ, มิจฺฉาภินิเวสํ. อยมฺเปตฺถ อตฺโถ – ยถา นาม เหตุสมฺปนฺนสฺส ภิกฺขุโน วิสุทฺธํ สีลํ, สมาธิฺจ สมฺปาเทตฺวา ิตสฺส ทนฺโธ สตุปฺปาโท ขิปฺปาภิฺาย ทิฏฺเว ธมฺเม อฺา, สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตา. เอวเมวํ โย อริยูปวาที ยถาวุตฺตจิตฺตทิฏฺีหิ อปกฺกมิตฺวา อปฺปติรูปํ สภาวํ ‘‘มยา, ภนฺเต, ตุมฺหากํ อุปริ วุตฺต’นฺติ อจฺจยเทสนาย เต น ขมาเปติ, โส กายสฺส เภทา นิรเย เอวาติ. เตสุ ปสนฺนจิตฺตสฺส ขมาปนฺเหตฺถ เตสํ วาจาทีนํ ปหานํ ปฏินิสฺสคฺโคว. อิโต สาวชฺชตรํ นาม อฺํ นตฺถิ สพฺพานตฺถวิธานโต, สพฺพหิตสุขปริธํสนโต จ.

กายสฺส เภทาติ อิธ กายสทฺโท อตฺตภาวปริยาโยติ อาห ‘‘อุปาทินฺนกฺขนฺธปริจฺจาคา’’ติ. ตทนนฺตรนฺติ ตสฺส มรณสงฺขาตสฺส ขนฺธปริจฺจาคสฺส อนนฺตรํ. อภินิพฺพตฺตกฺขนฺธตฺโถ ปรสทฺโท, อโนริมภูตวตฺถุวิสโย วา สิยา, อวธิวิเสสนมตฺตํ วา. เตสุ ปุริมํ สนฺธายาห ‘‘อภินิพฺพตฺตกฺขนฺธคฺคหเณ’’ติ, ปจฺฉิมสฺส ปน วเสน ‘‘จุติโต อุทฺธ’’นฺติ.

วุตฺตวิปริยาเยนาติ ‘‘สุฏฺุ จริตํ, โสภนํ วา จริต’’นฺติอาทินา. หนนนฺติ ฆาตนํ.

การณาการณนฺติ านาฏฺานํ. เจตนาเจตนาสมฺปยุตฺตธมฺเม นิรยาทินิพฺพานคามิปฏิปทาภูเต กมฺมนฺติ คเหตฺวา อาห ‘‘กมฺมปริจฺเฉทเมวา’’ติ. กมฺมวิปากนฺตรํ กมฺมวิปากวิเสโส กมฺมวิปากสฺส วิภาโค. อปฺเปตุํ น สกฺโกติ อฏฺมนวมพลานิ วิย, ตํสทิสํ อิทฺธิวิธาณํ วิย วิกุพฺพิตุํ, เอเตนสฺส พลสทิสตฺจ นิวาเรติ. ฌานาทิาณํ วิย วา อปฺเปตุํ, วิกุพฺพิตุฺจ. ยทิปิ หิ ฌานาทิปจฺจเวกฺขณาาณํ อิธ ฉฏฺํ พลนฺติ ตสฺส สวิตกฺกสวิจารตา วุตฺตา, ตถาปิ ฌานาทีหิ วินา ปจฺจเวกฺขณา นตฺถีติ ฌานาทิสหคตํ าณํ ตทนฺโตคธํ กตฺวา เอวํ วุตฺตํ. อถ วา สพฺพฺุตฺาณํ ฌานาทิกิจฺจํ วิย น สพฺพํ พลกิจฺจํ กาตุํ สกฺโกตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ฌานํ หุตฺวา อปฺเปตุํ, อิทฺธิ หุตฺวา วิกุพฺพิตุฺจ น สกฺโกตี’’ติ (วิภ. มูลฏี. ๘๓๑) วุตฺตํ, น ปน กสฺสจิ พลสฺส ฌานอิทฺธิภาโวติ ทฏฺพฺพํ.

วิจยหารสมฺปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ยุตฺติหารสมฺปาตวณฺณนา

๖๕. ปฏิปกฺขปฏิพาฬฺหา กุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชิตุเมว น สกฺโกนฺติ, อุปฺปนฺนาปิ สมฺมเทว อตฺตโน กิจฺจํ กาตุํ อสมตฺถตาย อนุปฺปนฺนสทิสาติ ปฏิปกฺขนิวารเณน กุสลานํ ธมฺมานํ กิจฺจกรณภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘มนจฺฉฏฺานิ…เป… ภวิสฺสตี’’ติ วุตฺตํ. วิหรนฺตสฺสาติ วิหรณเหตุ. วิหรนฺโตติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย, เตน รกฺขิตจิตฺตตา วุตฺตนเยน เอกนฺตโต สมฺมาสงฺกปฺปโคจรตาย จ สํวตฺตตีติ ทสฺเสติ. วุตฺตนเยนาติ มิจฺฉาสงฺกปฺปานํ อวสรํ อทตฺวา วิโสธิตเนกฺขมฺมาทิวิตกฺกตาย. อวิปรีตเมวาติ กายาทิอสุภาทิโต อาทานํ. วินิปาตภยนฺติ ทุคฺคติภยํ. สพฺโพปิ จายมตฺโถติ ‘‘สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร สมฺมาทิฏฺิ ภวิสฺสตี’’ติอาทีสุ อตฺโถ ยุตฺติยา ยุตฺโต เอว อนรูปการณภาวโต.

ยุตฺติหารสมฺปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปทฏฺานหารสมฺปาตาทิวณฺณนา

๖๖. ยสฺมา วา สํกิเลสโต รกฺขิตจิตฺตสฺส ตีณิ สุจริตานิ ปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสาติ เอตฺถ ยายํ รกฺขิตจิตฺตตา, สา กายสุจริตาทีนํ ติณฺณํ สุจริตานํ ปทฏฺานนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อตฺตาธีนนฺติ อตฺตปราธีนํ.

ตโต เอวาติ การณคฺคหเณน ผลสฺส คหิตตฺตา เอว.

๖๘. ตตฺถ อิติสทฺโทติ ‘‘ปริปาลียตี’’ติ อิติสทฺโท.

๗๓-๔. ปาฬิยํ ปฺจินฺทฺริยานิ ตีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิตานีติ เอตฺถ สทฺธาวีริยสตินฺทฺริเยหิ ปาติโมกฺขาทิ ติวิธํ สีลํ คหิตํ โสเธตพฺพตฺตา. เตสนฺติ เตหิ สีลกฺขนฺโธ สงฺคหิโต. สมาธิปฺินฺทฺริเยหิ สมาธิปฺากฺขนฺธา คหิตาติ ปากโฏยมตฺโถ, ตถา เสสมฺปีติ อาห ‘‘อิโต ปเรสุ…เป… วุตฺตนยเมวา’’ติ.

๗๖. เหตุเหตุสมุปฺปนฺนปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนสงฺขาตสฺสาติ เอตฺถ เหตุปจฺจยวิภาโค เหฏฺา วุตฺโตเยว.

ปทฏฺานหารสมฺปาตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

มิสฺสกหารสมฺปาตวณฺณนา

อิทานิ ยสฺมา สุตฺเตสุ หารานํ โยชนานยทสฺสนตฺตา หารสมฺปาตเทสนา หารวิภงฺคเทสนา วิย น หารสรูปมตฺตทสฺสนตฺตา, ตสฺมา เปฏโกปเทเส อาคตนยานุสาเรน อปเรหิ วิปริยาเยหิ หารสมฺปาตโยชนาวิธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิชฺชาวิชฺชาย กุสลากุสลจิตฺตปฺปวตฺติยา อโลภาโทสโลภโทสาปิ ปรมฺปรภาเวน ปวตฺตนฺติ นิทานภาวโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ฉ ธมฺมา…เป… มูลานี’’ติ อาห. ยถา จ นิทานภาเวน ปุพฺพงฺคมตา, เอวํ อตฺตโน วเสวตฺตเนนาปิ ปุพฺพงฺคมตา ลพฺภเตวาติ วุตฺตํ ‘‘สาธิปติกานํ อธิปติ, สพฺพจิตฺตุปฺปาทานํ อินฺทฺริยานี’’ติ. อโลภสฺสาติ อโลภยุตฺตสฺส จิตฺตุปฺปาทสฺส. เนกฺขมฺมจฺฉนฺเทนาติ กุสลจฺฉนฺเทน. เนกฺขมฺมสทฺโท ปพฺพชฺชาทีสุ นิรุฬฺโห. วุตฺตฺหิ –

‘‘ปพฺพชฺชา ปมํ ฌานํ, นิพฺพานฺจ วิปสฺสนา;

สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา, ‘เนกฺขมฺม’นฺติ ปวุจฺจเร’’ติ. (อิติวุ. อฏฺ. ๑๐๙; ที. นิ. ฏี. ๒.๓๕๙; อ. นิ. ฏี. ๒.๒.๖๖) –

เตสุ อิธ กุสลา ธมฺมา อธิปฺเปตา. เตน วุตฺตํ ‘‘กุสลจฺฉนฺเทนา’’ติ. เนกฺขมฺมจฺฉนฺเทน อุปนิสฺสยภูเตน, น อธิปติภูเตน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อโลภปฺปธาโน เจ จิตฺตุปฺปาโท โหติ, เนกฺขมฺมจฺฉนฺเทน อุปนิสฺสยภูเตน มโน ตสฺส ปุพฺพงฺคโม โหติ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย.

ยทคฺเคน เตสํ ธมฺมานํ มโน ปุพฺพงฺคมํ, ตทคฺเคน เตสํ เชฏฺํ, ปธานฺจาติ วุตฺตํ ‘‘มโนเสฏฺาติ มโน เตสํ ธมฺมาน’’นฺติอาทิ. มโนมยตา มเนน กตาทิภาโว, โส จ มนสฺส เตสํ สหชาตาทินา ปจฺจยภาโว เอวาติ วุตฺตํ ‘‘มโนมยาติ…เป… ปจฺจโย’’ติ. เต ปนาติ เอตฺถ ปน-สทฺโท วิเสสตฺถทีปโก, เตเนตํ ทสฺเสติ – ยทิปิ เตสํ ธมฺมานํ ฉนฺทาทโยปิ ปจฺจยา เอว, อินฺทฺริยาทิปจฺจเยน ปน สวิเสสํ ปจฺจยภูตสฺส มนสฺเสว วเสเนว วุตฺตํ ‘‘มโนมยา’’ติ. ตตฺถ ฉนฺทสมุทานีตาติ ยถาวุตฺตเนกฺขมฺมาทิฉนฺเทน สมฺมา อุทฺธมุทฺธํ นีตา, ตโต สมุทาคตาติ อตฺโถ. ตโต เอว เนกฺขมฺมวิตกฺกาทิโต สมุปฺปนฺนตฺตา อนาวิลสงฺกปฺปสมุฏฺานา. ตชฺชามโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺเสน สหาธิฏฺานโต ผสฺสสโมธานา. ‘‘ผุฏฺโ, ภิกฺขเว, เวเทติ, ผุฏฺโ สฺชานาติ, ผุฏฺโ เจเตตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๓) หิ วุตฺตํ. อิทํ มโนกมฺมนฺติ กายงฺควาจงฺคโจปนํ อกตฺวา สทฺธาสมนฺนาคเตน ปสนฺเนน มนสา ปวตฺตํ อิทํ กุสลํ มโนกมฺมํ. ตํ ปน อนภิชฺฌาสหคตํ, อพฺยาปาทสหคตํ, สมฺมาทิฏฺิสหคตนฺติ ติวิธํ โหติ.

ภาสตีติ อวิสํวาทนาทินา วาจงฺคโจปนาวเสน ปวตฺเตนฺติยา วจีวิฺตฺติยา สาเธตพฺพํ สาเธตีติ อตฺโถ, เตน กายทฺวารโต ปวตฺตกุสลวจีกมฺมมฺปิ สงฺคหิตํ โหติ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘วจีวิฺตฺติวิปฺผารโต, ตถา สาทิยนโต จ ภาสตี’’ติ. สพฺพมฺปิ วจีกมฺมํ สจฺจาทิวเสน จตุพฺพิธํ. กโรตีติ อตฺตโน, ปเรสฺจ หิตาหิตานิ การณาการเณหิ กายงฺคโจปนาวเสน ปวตฺเตนฺติยา กายวิฺตฺติยา สาเธตพฺพํ สาเธตีติ อตฺโถ, เตน วจีทฺวารโต ปวตฺตกุสลกายกมฺมมฺปิ สงฺคหิตํ โหติ. ตถา จ วกฺขติ ‘‘กายวิฺตฺติวิปฺผารโต, ตถา สาทิยนโต จ กโรตี’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๗๖ มิสฺสกหารสมฺปาตวณฺณนา). กมฺมปถวเสน คยฺหมาเน ปาณาติปาตาทิวเสน ตํ ติวิธํ โหติ. เตนาห ‘‘อิติ ทสกุสลกมฺมปถาทสฺสิตา’’ติ. ทสปุฺกิริยวตฺถุวเสนาปิ คาถาย อตฺโถ ยุชฺชติ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘โส ปสนฺนจิตฺโต’’ติอาทิ. ภาสติ วา กโรติ วา เกวลํ มนสา ปวตฺตตีติ อนิยมตฺโถ วา-สทฺโท. ตถา เจว สํวณฺณิตํ.

ทสวิธสฺส กุสลกมฺมสฺสาติ ทสวิธสฺส กุสลกมฺมปถกมฺมสฺส, วกฺขมานนเยน วา ทสปุฺกิริยวตฺถุสงฺขาตสฺส กุสลกมฺมสฺส. นนุ ตตฺถ ทานาทิมยํ ติวิธเมว ปุฺกิริยวตฺถุ วุตฺตนฺติ? สจฺจํ, ตํ ปน อิตเรสํ ตทนฺโตคธตฺตา.

‘‘สุขมนฺเวตี’’ติ สงฺเขเปน วุตฺตํ สุขานุคมํ วิตฺถาเรน ทสฺเสนฺโต ‘‘อิธสฺสุ ปุริโส’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เอวํ สนฺตนฺติ เอวํ ภูตํ, อปฺปหีนานุสโย หุตฺวา สุขเวทนียผสฺสสมฺภูตนฺติ อตฺโถ.

ตตฺถ ‘‘ยํ มโน’’ติอาทินา คาถาตฺถวเสน จตุสจฺจํ นิทฺธาเรติ. อาทิโต ววตฺถาปิเตสุ ขนฺธาทีสุ ขนฺธมุเขน สจฺจานํ กถิตตฺตา สตฺตานํ ภินฺนรุจิภาวโต นานานเยหิ วิปสฺสนาภูมิโกสลฺลตฺถํ, ปุพฺพาปรสมฺพนฺธทสฺสนตฺถฺจ เอวํ วุตฺตํ ‘‘เอวํ…เป… นิทฺธาเรตพฺพานี’’ติ. สจฺจมุเขน อสฺสาทาทิเก นิทฺธาเรตฺวา เทสนาหารสมฺปาตํ โยเชตุํ ‘‘ตตฺถ สมุทเยนา’’ติอาทิมาห, ตํ วุตฺตนยเมว. ยฺเหตฺถ อฺมฺปิ อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา, อุตฺตานตฺถตฺตา จาติ เวทิตพฺพํ.

มนนลกฺขเณติ มนนลกฺขณเหตุ. ‘‘มนนลกฺขเณนา’’ติ วา ปาโ. อีหาภาวโต พฺยาปาราภาวโต. เยน ปสาเทน สมนฺนาคตตฺตา มโน ‘‘ปสนฺโน’’ติ วุตฺโต, ตสฺส ปสาทสฺส กิจฺจํ มเน อาโรเปตฺวา อาห ‘‘อกาลุสิยโต, อารมฺมณสฺส โอกปฺปนโต จ ปสนฺเนนา’’ติ. ตถา สาทิยนโตติ วาจาย วตฺตพฺพํ อวตฺวาว ผสฺสสาทิยนโต อนุชานโต. ทุติเย ตถา สาทิยนโตติ กาเยน กาตพฺพํ ยถา กตํ โหติ, ตถา วาจาย สํวิธานโต. ตถา ปสุตตฺตาติ ยถา สุขมนฺเวติ, ตถา อุปจิตตฺตา เอวาติ อตฺโถ. ตโตติ ตโต การณา, มนสา ปสนฺเนน, ภาสเนน, กรเณน จ เหตุนาติ วุตฺตํ โหติ. อนฺตฺถาติ เอตสฺมึ ปน อตฺเถ. ตโตติ ตโต เอว. โย หิ ปสนฺนมโน เตน ยํ ภาสนํ, กรณฺจ, ตโต เอว นํ สุขมนฺเวตีติ วุตฺตํ โหติ. สาตภาวโตติ สาตเวทนาภาวโต. อิฏฺภาวโตติ มนาปภาวโต. กมฺมโต วิปากุปฺปตฺติผลทานสมตฺถภาเวน กมฺมสฺส นิพฺพตฺตตฺตา วิปากสฺเสว อนิพฺพตฺตตฺตาติ อาห ‘‘กตู…เป… อนฺเวตีติ วุตฺต’’นฺติ การณายตฺต วุตฺติโตติ กตภาวเหตุกตฺตา กมฺมสฺสาติ อธิปฺปาโย. อสงฺกนฺติโตติ ยสฺมึ สนฺตาเน กมฺมํ นิพฺพตฺตํ, ตทฺสนฺตานา สงฺกมนโต.

อาธิปจฺจโยคโตติ สหชาตาธิปติวเสน อาธิปจฺจยุตฺตตฺตา. สหชาตธมฺมานฺหิ ตํสมฺปยุตฺตสฺส มนสฺส วเสน ปุพฺพงฺคมตา อิธาธิปฺเปตา. ตโต เอวาติ อาธิปจฺจโยคโต เอว. มนสฺสาติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. เตสํ ธมฺมานนฺติ สมฺพนฺโธ. กุสลภาโว ยุชฺชติ ปสาทสฺส โยนิโสมนสิการเหตุกตฺตา. นนุ วิภชฺชพฺยากรเณสุ เตสํ สาวกานํ สทฺธา อุปฺปชฺชตีติ? นายํ สทฺธา, ตทาการา ปน อกุสลา ธมฺมา ตถา วุจฺจนฺตีติ เวทิตพฺพํ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘นายํ ปสาโท’’ติอาทิ (เนตฺติ. อฏฺ. ๗๖ มิสฺสกหารสมฺปาตวณฺณนา). สุขํ อนฺเวตีติ ยุชฺชติ กมฺมสฺส ผลทาเน สมตฺถภาวโต. ยถา หิ กตํ กมฺมํ ผลทานสมตฺถํ โหติ, ตถา กตํ อุปจิตนฺติ วุจฺจตีติ.

มโนปวิจารา อิธ เนกฺขมฺมสิตา โสมนสฺสูปวิจารา, อุเปกฺขูปวิจารา จ เวทิตพฺพา กุสลาธิการตฺตา. เต ปน ยสฺมา จิตฺตํ นิสฺสาเยว ปวตฺตนฺติ, นานิสฺสาย, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘มโน มโนปวิจารานํ ปทฏฺาน’’นฺติ. กุสลปกฺขสฺส ปทฏฺานนฺติ เอตฺถ กุสโล ตาว ผสฺโส กุสลสฺส เวทนากฺขนฺธสฺส สฺากฺขนฺธสฺส สงฺขารกฺขนฺธสฺส สหชาตาทินา ปจฺจโย โหติ. ‘‘ผุฏฺโ, ภิกฺขเว, เวเทติ, ผุฏฺโ สฺชานาติ, ผุฏฺโ เจเตตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๓) วุตฺตํ. เอวํ เวทนาทีนมฺปิ เวทิตพฺพํ. สทฺธาทีนมฺปิ ปจฺจยภาเว วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. สพฺพสฺสาติ จตุภูมกสฺส. กามาวจรา หิ กุสลา ธมฺมา ยถารหํ จตุภูมกสฺสาปิ กุสลสฺส ปจฺจยา โหนฺติ, เอวํ อิตรภูมกาปิ.

‘‘ปสนฺเนน มนสา ภาสตี’’ติ วุตฺตตฺตา วิเสสโต สมฺมาวาจาปจฺจยํ ภาสนํ อิธาธิปฺเปตนฺติ วุตฺตํ ‘‘ภาสตีติ สมฺมาวาจา’’ติ. ตตฺถายมธิปฺปาโย ‘‘ภาสตีติ ยมิทํ ปทํ, อิมินา สมฺมาวาจา คหิตา โหตี’’ติ. กโรตีติ สมฺมากมฺมนฺโตติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สุปริสุทฺเธ กายวจีกมฺเม ิตสฺส อาชีวปาริสุทฺธิ, น อิตรสฺสาติ วุตฺตํ ‘‘เต สมฺมาอาชีวสฺส ปทฏฺาน’’นฺติ. ตตฺถ เตติ สมฺมาวาจากมฺมนฺตา. ยสฺมา ปน อาชีวฏฺมเก สีเล ปติฏฺิตสฺส อุปฺปนฺนานุปฺปนฺนานํ อกุสลธมฺมานํ ปหานานุปฺปาทนานิ, อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ กุสลธมฺมานํ อุปฺปาทนปาริปูริยา จ สมฺภวนฺติ, ตถา สมฺมาวายาเม ิตสฺเสว กายาทีสุ สุภสฺาทิวิทฺธํสินี สมฺมาสติ สมฺภวติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สมฺมาอาชีโว…เป…ปทฏฺาน’’นฺติ. เชฏฺกสีลํ ปาติโมกฺขสํวโร, สทฺธาสาธโน จ โสติ อาห ‘‘ตํ สีลสฺส ปทฏฺาน’’นฺติ.

เตสนฺติ กายวจีกมฺมานํ. กมฺมปจฺจยตายาติ กุสลกมฺมเหตุกตาย.

ปทตฺโถ จ วุตฺตนเยนาติ ‘‘มนนโต อารมฺมณวิชานนโต’’ติอาทินา.

อยํ อาวฏฺโฏติ อยํ สภาควิสภาคธมฺมาวฏฺฏนวเสน อาวฏฺโฏ. เอตฺถ หิ กุสลมูลสมฺมตฺตมคฺคาทินิทฺธารณา สภาคธมฺมาวฏฺฏนา. อวิชฺชาภวตณฺหานํ นิทฺธารณา วิสภาคธมฺมาวฏฺฏนา.

วิภตฺติหาเร ปทฏฺานภูมิวิภาคา วุตฺตนยา, สุวิฺเยฺยา จาติ ธมฺมวิภาคเมว ทสฺเสนฺโต ‘‘นยิท’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘นยิทํ ยถารุตวเสน คเหตพฺพ’’นฺติ สุตฺตสฺส เนยฺยตฺถตํ วตฺวา ‘‘โยหี’’ติอาทินา ตํ วิวรติ. ‘‘ทุกฺขเมว อนฺเวตี’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ยตฺถ กตฺถจิ หิเตสิตา กุสลเมวาติ? นยิทมีทิสํ สนฺธาย วุตฺตํ, อธมฺมํ ปน ธมฺโมติ, ธมฺมฺจ ปน อธมฺโมติ ทีปเนน โลกสฺส สพฺพานตฺถพีชภูเตสุ สกลหิตสุขุปายปฏิกฺเขปเกสุ ติตฺถกเรสุ อสนฺตคุณสมฺภาวนวเสน ปวตฺตมิจฺฉาธิโมกฺขํ สนฺธาย วุตฺตํ. โย หิ โลเก อปฺปมตฺตกมฺปิ ปุฺํ กาตุกามํ ปาปิกํ ทิฏฺึ นิสฺสาย ปฏิพาหติ, โสปิ คารยฺโห, กิมงฺคํ ปน อริยวินเย สมฺมาปฏิปตฺตึ ปฏิพาหนฺเตสูติ ทุกฺขผลาว ตตฺถ สมฺภาวนาปสํสา ปยิรุปาสนา. ตถา หิ วุตฺตํ – ‘‘น โข อหํ, โมฆปุริส, อรหตฺตสฺส มจฺฉรายามิ, อปิจ ตุยฺเหเวตํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ…เป… ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๗), ‘‘โย นินฺทิยํ ปสํสติ (สุ. นิ. ๖๖๓; สํ. นิ. ๑.๑๘๐, ๑๘๑; อ. นิ. ๔.๓; เนตฺติ. ๙๒), สพฺพสฺสาปิ อนตฺถสฺส มูลํ พาลูปเสวนา’’ติ จ.

อิทฺหิ สุตฺตนฺติ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา…เป…ปท’’นฺติ (ธ. ป. ๑, ๒) ปมํ คาถํ สนฺธาย วทติ. เอตสฺสาติ สํวณฺณิยมานสุตฺตสฺส.

กิจฺจปฺตฺตีติ อธิปติปจฺจยสงฺขาตสฺส กิจฺจสฺส ปฺาปนํ. ปธานปฺตฺตีติ ปธานภาวสฺส ปฺาปนา. สหชาตปฺตฺตีติ เตสํ ธมฺมานํ มนสา สหภาวปฺาปนา.

มหาภูตาตีติ อิติสทฺโท อาทิอตฺโถ, เตน มหาภูตาวินาภาวี สพฺโพ รูปธมฺโม สงฺคยฺหติ.

‘‘มโนปุพฺพงฺคมา’’ติ สมาสปเท ‘‘มโน’’ติ ปทํ ตทวยวมตฺตนฺติ อาห ‘‘เนว ปทสุทฺธี’’ติ. เตเนวาห ‘‘มโนปุพฺพงฺคมาติ ปทสุทฺธี’’ติ. ‘‘ฉายาว อนปายินี’’ติ อิทํ สุขานุคมสฺส อุทาหรณมตฺตํ, น ยถาธิปฺเปตตฺถปริสมาปนํ. ‘‘สุขมนฺเวตี’’ติ ปน ยถาธิปฺเปตตฺถปริสมาปนนฺติ วุตฺตํ ‘‘ปทสุทฺธิ เจว อารมฺภสุทฺธิ จา’’ติ.

เอกตฺตตาติ มโนปุพฺพงฺคมาทิสามฺํ สนฺธาย วทติ. เอวํ เสเสสุปิ. เวมตฺตตา ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา’’ติอาทินา สามฺโต วุตฺตธมฺเม ปสาโท ธารณาย นิวตฺเตตฺวา ปสนฺนสงฺขาเต วิเสเส อวฏฺาปนโต. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ปสาโท สิเนหสภาโว, อสฺสทฺธิยํ วิย ลูขสภาวํ โทสํ วิโนเทตีติ อาห ‘‘พฺยาปาทวิกฺขมฺภนโต’’ติ. พหิทฺธาติ สทฺเธยฺยวตฺถุํ สนฺธายาห. โอกปฺปนโตติ อารมฺมณํ อนุปวิสิตฺวา อนุปกฺขนฺทิตฺวา สทฺทหนโต.

เทยฺยธมฺมาทโยติ เอตฺถ อาทิสทฺเทน สํเวคหิโรตฺตปฺปกสิณมณฺฑลาทโย สงฺคยฺหนฺติ. อิฏฺารมฺมณาทโยติ อาทิสทฺเทน อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมณา, ทฺวารธมฺมา, มนสิกาโรติ เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ตถา ผสฺโสติ ยถา เวทนาทีนํ อิฏฺารมฺมณาทโย ปจฺจโย, เอวํ ผสฺโสปีติ ปจฺจยตาสามฺเมว อุปสํหรติ ตถา-สทฺโท. เวทนาทีนนฺติ หิ เวทนาทโย ตโย ขนฺธา คหิตา. วิฺาณสฺส เวทนาทโยติ นามรูปํ สนฺธาย วทติ.

‘‘สีลมยสฺส อโทโส ปทฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ ขนฺติปธานตฺตา สีลสฺส. อธิฏฺาตีติ อนุยุฺชติ อุปฺปาเทติ. โสติ เอวํ กุสลจิตฺตํ ภาเวนฺโต. ‘‘อนุปฺปนฺนาน’’นฺติอาทินา ภาวนาปหานสมาโรปนานิ ทสฺเสนฺโต นิพฺเพธภาคิยวเสน คาถาย อตฺถํ วิจินิตฺวา สมาโรเปติ, เอวมฺปิ สกฺกา โยเชตุนฺติ วาสนาภาคิยวเสน ปทฏฺานนิทฺเทเส อุทาหรียติ.

เอวํ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ คาถาย วเสน หารสมฺปาตโยชนาวิธึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ คาถานฺตเรน ทสฺเสตุํ ‘‘ตถา ททโต ปุฺ’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ภาวนามยนฺติ ปฺาภาวนามยํ.

‘‘อโลโภ กุสลมูล’’นฺติอาทิ ทานาทีนํ อโลภาทิปธานตฺตา วุตฺตํ, สพฺพตฺถ จ ‘‘วุตฺต’’นฺติ ปทํ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. เตสนฺติ ราคาทีนํ. นิสฺสรณนฺติ จ ปรินิพฺพานเมว สนฺธาย วทติ.

ปริจฺจาคสีโล อโลภชฺฌาสโย กาเมสุ อาทีนวทสฺสาวี สมฺมเทว สีลํ ปริปูเรตีติ อาห ‘‘ททโต…เป… ปทฏฺาน’’นฺติ. อิธ โอฬาริกา นาม กิเลสา วีติกฺกมาวตฺถานํ, ตปฺปหานํ ตทงฺคปฺปหาเนน เวทิตพฺพํ. มชฺฌิมานนฺติ ปริยุฏฺานาวตฺถานํ. สุขุมานนฺติ อนุสยาวตฺถานํ. กตาวีภูมิ นฺติ ขีณาสวภูมึ.

ททโตติ มคฺคสหคเตน อโลเภน สเทวกสฺส โลกสฺส อภยทานํ ททโต. ปุฺนฺติ โลกุตฺตรกุสลํ. สํยมโตติ มคฺคปริยาปนฺเนหิ สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีเวหิ ทิฏฺเกฏฺาทิสํกิเลสโต มคฺคสํยเมน สํยมนฺตสฺส. เวรนฺติ ปาณาติปาตาทิปาปํ. กุสโลติ มคฺคสมฺมาทิฏฺิยา กุสโล วิจกฺขโณ. ชหาติ ปาปกนฺติ เตหิ เตหิ มคฺเคหิ ตํ ตํ ปหาตพฺพํ ปาปธมฺมํ โอธิโส ชหาติ สมุจฺฉินฺทติ. เตนาห ‘‘มคฺโค วุตฺโต’’ติ.

‘‘ททโต’’ติอาทินา ปุพฺเพ อวิภาเคน กุสลมูลานิ อุทฺธฏานีติ อิทานิ วิภาเคน ตานิ อุทฺธรนฺโต ‘‘โลกิยกุสลมูล’’นฺติอาทิมาห.

ปุถุชฺชนภูมิ เสกฺขภูมิ ทสฺสิตา ปหานสฺส วิปฺปกตภาวทีปนโต. อเสกฺขภูมิ ทสฺสิตา อนุปาทาปรินิพฺพานทีปนโต.

สคฺคคามินี ปฏิปทา ปุพฺพภาคปฺปฏิปตฺติ.

ปุฺเ กถิเต ปุฺผลมฺปิ กถิตเมว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ททโต…เป… เทสนมาหา’’ติ. สจฺจกมฺมฏฺาเนน วินา สํกิเลสปฺปหานํ นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘กุสโล…เป… เทสนมาหา’’ติ.

เวรสทฺโท อทินฺนาทานาทิปาปธมฺเมสุปิ นิรุฬฺโหติ วุตฺตํ ‘‘เอวํ สพฺพานิปิ สิกฺขาปทานิ วิตฺถาเรตพฺพานี’’ติ. ทฺเวปิ วิมุตฺติโย เสกฺขาเสกฺขวิมุตฺติโย, สอุปาทิเสสอนุปาทิเสสวิมุตฺติโย จ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘นิพฺพุโตติ ทฺเว นิพฺพานธาตุโย’’ติอาทิ (เนตฺติ. อฏฺ. ๗๖).

การณูปจาเรน, การณคฺคหเณน วา ผลํ คหิตนฺติ อาห ‘‘ทฺเว สุคติโย’’ติอาทิ. วฏฺฏวิวฏฺฏสมฺปตฺติโย อิมิสฺสา เทสนาย ผลํ, ตสฺส ทานํ สีลํ ภาวนา อุปาโย, ‘‘สมฺปตฺติทฺวยํ อิจฺฉนฺเตน ทานาทีสุ อปฺปมตฺเตน ภวิตพฺพ’’นฺติ อยเมตฺถ ภควโต อาณตฺตีติ อิมมตฺถํ สนฺธายาห ‘‘ผลาทีนิ ยถารหํ เวทิตพฺพานี’’ติ.

วิจโยติ วิจยหารสมฺปาโต, โส วุจฺจตีติ อตฺโถ. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ. ‘‘ติวิธมฺปิ ทานมย’’นฺติอาทินา ปทตฺถวิจยํ ทสฺเสติ, เตน อสฺสาทาทโย, อิตเร จ วิจยหารปทตฺถา อตฺถโต วิจิตา เอว โหนฺตีติ. รูปาทิอารมฺมณสฺส ปริจฺจาโค วุตฺโตติ สมฺพนฺโธ. สพฺโพติ สกโล อนวเสสโต กิจฺจสฺส วุตฺตตฺตา.

ทานาภิรตสฺส จาคาธิฏฺานํ ปาริปูรึ คจฺฉตีติ วุตฺตํ ‘‘ททโต…เป… ปทฏฺาน’’นฺติ. วิรติสจฺเจ, วจีสจฺเจ จ ติฏฺโต สจฺจาธิฏฺานํ ปาริปูรึ คจฺฉตีติ วุตฺตํ ‘‘สํยม…เป… ปทฏฺาน’’นฺติ. โกสลฺลโยคโต จ ปาปปฺปหานโต จ ปฺาปาริปูรึ คจฺฉตีติ วุตฺตํ ‘‘กุสโล…เป… ปทฏฺาน’’นฺติ. อนวเสสราคาทีสุ ปหีเนสุ อุปสโม อุปฏฺิโต นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ราค…เป… ปทฏฺาน’’นฺติ.

กุสโลติ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน โกสลฺลสมฺมาทิฏฺิ วุตฺตาติ อาห ‘‘กุสโล…เป… มคฺคงฺคาทิภาเวน เอกลกฺขณตฺตา’’ติ. อาทิสทฺเทน โพธิปกฺขิยภาวาทึ สงฺคณฺหาติ. เขเปตพฺพภาเวนาติ ปหาตพฺพภาเวน.

อเวรตนฺติ อสปตฺตตํ. กุสลธมฺเมหีติ อนวชฺชธมฺเมหิ, ผลนิพฺพาเนหีติ อธิปฺปาโย. ทานสฺส มหปฺผลตา, สีลาทิคุเณหิ สตฺถุ อนุตฺตรทกฺขิเณยฺยภาโว, อนุปาทาปรินิพฺพานนฺติ อิเมสํ ปจฺจเวกฺขณา อิมสฺส ทานสฺส นิทานนฺติ อยมตฺโถ ปาฬิยํ นิรุฬฺโหว. นิพฺพจนนิทานสนฺธโย สุวิฺเยฺยาวาติ อาห ‘‘นิพฺพจนนิทานสนฺธโย วตฺตพฺพา’’ติ.

ปฏิปกฺขนิทฺเทเสน สมุทโยติ เทสนตฺถํ ปฏิปกฺขนิทฺเทสเนน นิทฺธาริโต อยํ มจฺฉริยาทิสํกิเลสปกฺขิโก สมุทโย. อโลเภน…เป… ทานาทีหีติ เยหิ อโลภาทีหิ ทานาทโย ธมฺมา สมฺภวนฺติ, ตานิ ทานาทิคฺคหเณเนว คหิตานีติ กุสลมูลานิ นิทฺธาเรติ ‘‘อิมานิ ตีณิ กุสลานี’’ติ. เตสนฺติ กุสลมูลานํ.

ภยเหตุ เทติ ปณฺณาการาทิวเสน. ราคเหตุ เทติ สภาควตฺถุสฺส. อามิสกิฺจิกฺขเหตุ เทติ ลฺชาทิวเสน. อนุกมฺปนฺโต วา กรุณาเขตฺเต. อปจยมาโน คุณเขตฺเต, อุปการเขตฺเต วา. ภยูปรโตติ ภเยน โอรโต. เตน ตถารูเปน สํยเมน เวรํ น จิยเตว. เอวํ สพฺพสฺส อกุสลสฺส ปาปโก วิปาโกติ โยชนา.

‘‘ททโต’’ติอาทินา ยถา ทานปฏิกฺเขเปน ปริวตฺตนํ ทสฺสิตํ, เอวํ ปหานปฏิกฺเขเปนปิ ปริวตฺตนํ ทสฺเสตพฺพนฺติ วุตฺตํ ‘‘อกุสโล ปน น ชหาตี’’ติ.

กมฺมผลํ สทฺทหนฺโต ทานกิริยายํ ปทหนฺโต เยน วิธินา ทานํ ทาตพฺพํ, ตตฺถ สตึ อุปฏฺเปนฺโต จิตฺตํ สมาทหนฺโต สมฺมาทิฏฺึ ปุรกฺขโรนฺโต ทาเน สมฺมาปฏิปนฺโน โหตีติ อาห ‘‘ทานํ นาม…เป… โหตี’’ติ.

ภาวนาปหานสมาโรปนานิ ปาฬิยํ สรูปโต วิฺายนฺตีติ ปทฏฺานเววจนสมาโรปนานิ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ สีลสฺส ปทฏฺาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยํ. อฺฺจ ยเทตฺถ อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตํ วุตฺตนยตฺตา, อุตฺตานตฺถตฺตา จาติ เวทิตพฺพํ.

หารสมฺปาตวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

นยสมุฏฺานวารวณฺณนา

๗๙. ‘‘วิสยเภทโต’’ติ สงฺเขเปน วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต วิวริตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ นยโตติ นยคฺคาหโต. หิ ปฏิเวธาณํ วิย วิปสฺสนาาณํ ปจฺจกฺขโต ปวตฺตตีติ. อนุพุชฺฌิยมาโนติ อภิสมยาณสฺส อนุรูปํ พุชฺฌิยมาโน. ยถา เอกปฏิเวเธเนว มคฺคาณํ ปวตฺตติ, เอวํ ตทนุจฺฉวิกํ วิปสฺสนาาเณน คยฺหมาโนติ อตฺโถ. เอวฺจ กตฺวา นนฺทิยาวฏฺฏาทีนํ ติณฺณํ อตฺถนยภาโว สมตฺถิโต โหตีติ. ตถา หิ อตฺถวิเสสสรูปตาย ตโย นยา ‘‘สุตฺตตฺโถ’’ติ วุตฺตา, ปทตฺถวิจารภาเวปิ ปน หารา ‘‘พฺยฺชนวิจโย’’ติ. ยทิ เอวํ กถํ ตโยติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ปฏิวิชฺฌนฺตานํ ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ เอกเมโก สํกิเลสโวทานานํ วิภาคโต ทฺวิสงฺคโหติ โยชนา. จตุฉอฏฺทิโส จาติ น ปจฺเจกํ เต นนฺทิยาวฏฺฏาทโย จตุฉอฏฺทิสา, อถ โข ยถากฺกมนฺติ. ‘‘เอว’’นฺติอาทิ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส นิคมนํ.

ตถา จาติ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส อุปจเยน สมตฺถนา. ปุพฺพา โกฏิ น ปฺายตีติ เอตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรโต ปฏฺานกถายํ อาวิ ภวิสฺสติ. ‘‘อนฺธํ ตมํ ตทา โหติ, ยํ โลโภ สหเต นร’’นฺติอาทิ (จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๒๘) วจนโต กามตณฺหาปิ ปฏิจฺฉาทนสภาวา, ยโต กามจฺฉนฺทํ ‘‘นีวรณ’’นฺติ วุตฺตํ. อวิชฺชาย ปน ภเวสุ อาทีนวปฺปฏิจฺฉาทนํ สาติสยนฺติ. ตถา อวิชฺชาปิ สํโยชนสภาวา, ยโต สา พหิทฺธา สํโยชนภาเวน วุตฺตา. เอวํ สนฺเตปิ ตณฺหาย พนฺธนฏฺโ สาติสโย อเปกฺขิตภาวโตติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตถาปิ…เป… วุตฺต’’นฺติ อาห.

‘‘สํยุตฺตา’’ติ ปทสฺส สมฺปยุตฺตาติ อตฺโถติ อาห ‘‘มิสฺสิตา’’ติ. ‘‘อวิชฺชาภิภูตา…เป… อภินิวิสนฺตา’’ติ เอเตน อวิชฺชาย อยาถาวคหณเหตุตํ ทสฺเสติ, ตโต โส อวินฺทิยํ วินฺทตีติ อวิชฺชาติ วุจฺจติ. กิลิสฺสนํ อุปตาปนนฺติ อาห ‘‘กิลิสฺสนปฺปโยคํ อตฺตปริตาปนปฏิปตฺติ’’นฺติ. อลฺลียนํ เสวนํ.

ทุกฺขนฺติ …เป… ชานนฺตีติ อตฺตนา อนุภูยมานํ ตถา ตถา อุปฏฺิตํ กายิกเจตสิกทุกฺขํ, อิตรมฺปิ วา เอกเทสํ ชานนฺติ. ตณฺหายปิ เอเสว นโย. สภาควิสภาคปฏิปชฺชิตพฺพาการโต ตตฺถ เตสํ าณํ นตฺเถวาติทสฺเสนฺโต ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติอาทิมาห. ปวตฺติปวตฺติเหตุมตฺตมฺปีติ ‘‘ปวตฺติ ปวตฺติเหตู’’ติ เอตฺตกมฺปิ. กา ปน กถาติ ปจุรชนสาธารเณ โลกิเยปิ นาม อตฺเถ เยสํ าณสฺส ปฏิฆาโต, ปรมคมฺภีเร อริยานํ เอว วิสยภูเต โลกุตฺตเร นิวตฺตินิวตฺติเหตุสงฺขาเต อตฺเถ กา นาม กถา, ฉินฺนา กถาติ อตฺโถ. อฏฺสมาปตฺติปเภทสฺส เกวลสฺส สมถสฺส ตาทิเส กาเล พาหิรกานฺจ อิชฺฌนโต ‘‘วิปสฺสนาธิฏฺาน’’นฺติ วิเสสิตํ. วูปสโม สมุจฺเฉโท, ปฏิปฺปสฺสทฺธิ จ.

‘‘สํสารสฺส อนุปจฺเฉทนโต’’ติ อิทํ ทิฏฺิคตานํ ทิฏฺิคติกมตทสฺสนํ. โส หิ ปุตฺตมุขทสฺสเน อสติ สํสาโร อุจฺฉิชฺเชยฺยาติ ภายติ. ยโต วุตฺตํ –

‘‘คณฺฑุปฺปาโท กิกี เจว, กุนฺตี พฺราหฺมณธมฺมิโก;

เอเต อภยํ ภายนฺติ, สมฺมูฬฺหา จตุโร ชนา’’ติ. (สุ. นิ. อฏฺ. ๒.๒๙๓; อ. นิ. ฏี. ๓.๕.๑๙๒);

ตทภิฺาติ ตํ ยถาวุตฺตอนฺตทฺวยํ อภิชานนฺติ คุณํ อาโรเปตฺวา ชานนฺตีติ ตทภิฺา. อตฺถภฺชนโต, โรคคณฺฑสลฺลสทิสตาย อตฺตภาวสํกิเลสานฺจ โรคคณฺฑสลฺลตา.

สกฺกายทสฺสเนติ เอตฺถ ทิฏฺิทสฺสนํ, สกฺกาโยว ทสฺสนํ สกฺกายทสฺสนนฺติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เตสนฺติ ทิฏฺิจริตานํ. อตฺตาภินิเวโส พลวา. ตสฺมา ยถาอุปฏฺิตํ รูปํ ‘‘อตฺตา’’อิจฺเจว คณฺหนฺตีติ อธิปฺปาโย. ตถา เวทนาทึ. ตณฺหาจริโต ปน ยถาอุปฏฺิตํ รูปํ ตณฺหาวตฺถุํ กตฺวา อตฺตนิยาภินิเวเสน อภินิวิสนฺตา ตทฺเมว อตฺตโต สมนุปสฺสนฺติ. เอวํ เวทนาทีสุ. เตนาห ‘‘ตณฺหาจริตา’’ติอาทิ. วิชฺชมาเนติ ปรมตฺถโต อุปลพฺภมาเน. กาเยติ สมูเห. ทิฏฺิยา ปริกปฺปิโต อตฺตาทิ เอว ปรมตฺถโต นุปลพฺภติ, ทิฏฺิ ปน ลพฺภเตวาติ อาห ‘‘สตี วา วิชฺชมานา’’ติ.

สกฺกายทสฺสนมุเขนาติ สกฺกายทิฏฺิมุเขน.

อุจฺเฉทสสฺสตนฺติ ตํสหจรณโต อุจฺเฉทสสฺสตทิฏฺิ วุตฺตา. ‘‘อุจฺเฉทสสฺสตวาทา’’ติปิ ปาโ.

กสิณายตนานีติ กสิณชฺฌานานิ.

เตเชตฺวาติ นิสาเนตฺวา.

๘๑. เอตฺตาวตา นนฺทิยาวฏฺฏสฺส ภูมิรจนวเสน สํกิเลสปกฺโข ทสฺสิโตติ อาห ‘‘ตตฺถ ทิฏฺิจริโตติอาทินา โวทานปกฺขํ ทสฺเสตี’’ติ. ‘‘ยสฺมา สลฺเลเข ติพฺพคารโว’’ติ อิมินา ตตฺถ ติพฺพคารวตฺตา สํเลขานุสนฺตตวุตฺตินา ภวตีติ ทสฺเสติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. มิจฺฉาธิโมกฺโข สทฺธาปติรูปโก อวตฺถุสฺมึ ปสาโท.

ปุคฺคลาธิฏฺาเนน ธมฺมเมว วิภชตีติ อาห ‘‘สตฺตาปิ…เป… ทสฺเสตี’’ติ.

เย หิ เกจีติ เอตฺถ หิ-สทฺโท นิปาตมตฺตํ. ‘‘อิมาหิ เอว จตูหิ ปฏิปทาหี’’ติปิ ปาฬิ. ทุกฺขาปฏิปทาทิวิภาเคน มคฺโค เอว อิธ วุตฺโตติ อาห ‘‘ปฏิปทา หิ มคฺโค’’ติ จตุทฺทิสาสงฺขาตํ มคฺคนฺติ จตุทฺทิสาสงฺขาตํ ปวตฺตนุปายํ. ทฺเว ทิสา เอติสฺสาติ ทฺวิทิสา. นนฺทิยาวฏฺฏสฺสาติ นนฺทิยาวฏฺฏนยสฺส.

๘๒. วิวตฺตติ วฏฺฏํ เอตฺถาติ วิวตฺตํ, วิวตฺตํ เอว วิวฏฺฏํ, อสงฺขตธาตุ, นิพฺพุติ เอว วา. เตน วุตฺตํ ‘‘นิพฺพาน’’นฺติ.

‘‘กตฺถ ทฏฺพฺพ’’นฺติ วา ปาฬิ. อุปจเยติ อุปจยาวตฺถายนฺติ อตฺโถ. ทสนฺนนฺติ โลภาทิกิเลสวตฺถูนํ. วิปลฺลาสเหตุภาวโตติ สุภสฺาทิวิปลฺลาสเหตุกภาวโต. วิปริเยสคฺคาหวเสน หิ อาทีนเวสุ เอว สํโยชนิเยสุ ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิตา. น หิ ยถาภูตาเณ สติ ตถา สมฺภโว. เตน วุตฺตํ ‘‘ทสนฺนํ…เป… ภาวโต’’ติ. ทสวิธการเณติ ทสวิเธ การเณ, ทสวิธสฺส วา การเณ. อโยนิโสมนสิการปริกฺขตา ธมฺมา สุภารมฺมณาทโย.

ตพฺพิสยา กิเลสาติ อาหารปริฺาปริพนฺธภูตา กิเลสา. วิฺาณฏฺิตีสุปิ เอเสว นโย. กาเย ปวตฺตมาโน ปโม วิปลฺลาโส กายสมุทาเย, กาเยกเทเส จ กพฬีกาเร อาหาเร ปวตฺโต เอว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ปเม อาหาเร วิสยภูเต ปโม วิปลฺลาโส ปวตฺตตี’’ติ. ตถา เวทนายํ ปวตฺตมาโน ทุติยวิปลฺลาโส ตปฺปจฺจเย ผสฺสาหาเร, จิตฺเต ปวตฺตมาโน ตติยวิปลฺลาโส ตปฺปจฺจเย มโนสฺเจตนาหาเร, ธมฺเมสุ ปวตฺตมาโน จตุตฺถวิปลฺลาโส ตปฺปจฺจเย วิฺาณาหาเร ปวตฺโต เอว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘จตุตฺเถ อาหาเร จตุตฺโถ วิปลฺลาโส’’ติ. เตนาห ‘‘เสสาหาเรสุปิ เอเสว นโย’’ติ. อาหารสีเสน วา อาหารปฏิพทฺโธ ฉนฺทราโค คหิโต. วิฺาณฏฺิตีสุปิ เอเสว นโย. เตเนวาห ‘‘อาหารสีเสน ตพฺพิสยา กิเลสา อธิปฺเปตา’’ติ. ปเม อาหาเร วิสยภูเตติ จ ปเม อาหาเร ฉนฺทราคสฺส วิสยภาวํ ปตฺเต, ตพฺภาวํ อนติกฺกนฺเตติ อตฺโถ. อปฺปหีนจฺฉนฺทราคสฺส หิ ตตฺถ วิปลฺลาสา สมฺภวนฺติ, น อิตรสฺส. ตถา ทุติยวิปลฺลาสาทีสุ อปฺปหีเนสุ. อิตเร อุปาทานานิ ปวตฺตนฺเตว อปฺปหีนตฺตาติ อาห ‘‘เสสปเทสุปิ เอเสว นโย’’ติ. ยสฺมา จ อุปาทานาทีสุ อปฺปหีเนสุปิ โยคาทโย ปวตฺตนฺเตว ยถารหํ ตํสภาวตฺตา, ตเทกฏฺสภาวโต จ, ตสฺมา วุตฺตํ ปาฬิยํ ‘‘ปเม อุปาทาเน ปโม โยโค’’ติอาทิ. เตนาห ‘‘เสสปเทสุปิ เอเสว นโย’’ติ.

๘๓. อปริชานนฺตสฺสาติ าตปริฺาย, ตีรณปริฺาย, ปหานปริฺายาติ ตีหิ ปริฺาหิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา อชานนฺตสฺส, เตสํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ อนวพุชฺฌนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ติพฺโพ พหโล ฉนฺทราโค โหติ ตณฺหาจริตภาวโตติ อธิปฺปาโย. อิติ อุปกฺกิเลสสฺส ทิฏฺาภินิเวสสฺส เหตุภาวโตติ อิมมตฺถํ สนฺธายาห ‘‘วุตฺตนเยเนวา’’ติ. สุภสุขสฺากามุปาทานกามภวโยคอภิชฺฌากายคนฺถกามภวาสว- กามภโวฆราคสลฺลฉนฺทาคติคมนานิ ตณฺหาปกฺขิกตาย, ตณฺหาสภาวตาย จ ตณฺหาปธานานิ. สีลพฺพตุปาทานพฺยาปาทกายคนฺถโทสสลฺลโทสาคติคมนานิ ปน ตณฺหาภาเว ภาวโต, วิฺาณฏฺิติโย ตณฺหาวิสยโต, สพฺเพสํ วา ตณฺหาวิสยโต ตณฺหาปธานตา ลพฺภเตว. ปจฺฉิมกานํ ทิฏฺิปธานตา วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพา.

๘๔. กพฬีกาเร อาหาเรติ กพฬีการาหารวิสเย ฉนฺทราเค. ‘‘อปฺปหีเน’’ติอาทิกํ ปริยายกถํ มุฺจิตฺวา นิปฺปริยายเมว ทสฺเสนฺโต กพฬีการาหารสฺส ‘‘อสุภสภาวตฺตา, อสุภสมุฏฺานตฺตา จา’’ติ วุตฺตํ. ลพฺภมาเน หิ อุชุเก อตฺเถ กึ ปริยายกถายาติ. ฉนฺทราโค วา ตตฺถ อตฺถสิทฺโธติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ วุตฺโต. น หิ ตตฺถ อสติ ฉนฺทราเค วิปลฺลาโส สมฺภวติ. ทุกฺขสภาวตฺตาติ สงฺขารทุกฺขตาย ทุกฺขสภาวตฺตา. ทุกฺขปจฺจยตฺตาติ ติวิธทุกฺขตาลกฺขณสฺส ทุกฺขสฺส การณโต. วิฺาเณ นิจฺจสฺิโน. ตถา หิ สาติ นาม ภิกฺขุ เกวฏฺฏปุตฺโต ‘‘ตํเยว วิฺาณํ สนฺธาวติ สํสรตี’’ติ ตตฺถ นิจฺจาภินิเวสํ สํเวเทสิ. เยภุยฺเยน สงฺขาเรสุ อตฺตสฺิตา ทิฏฺิคติกานํ ‘‘เจตนา อตฺตา’’ติอาทิทิฏฺิปริทีปเนสุ เวทิตพฺพา. ‘‘ภววิสุทฺธี’’ติ ปทสฺส อตฺถวจนํ ‘‘นิพฺพุติสุข’’นฺติ. ‘‘สีลพฺพเตหิ…เป… สุขนฺติ ทฬฺหํ คณฺหาตี’’ติ อิมินา สีลพฺพตุปาทานํ อิธ ภวุปาทานนฺติ ทสฺเสติ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘สีลพฺพตุปาทานสงฺขาเตน ภวุปาทาเนนา’’ติ.

ปจฺจยา โหนฺติ อุปนิสฺสยปจฺจยาทินา. ปเม โยเค ิโตติ ปเม โยเค ปติฏฺิโต. อปฺปหีนา หิ กิเลสา กมฺมวฏฺฏาทีนํ การณภูตา ตํสมงฺคิโน สตฺตสฺส ปติฏฺาติ วุจฺจนฺติ. ปรสฺส อภิชฺฌายนํ ปราภิชฺฌายนํ. ภวปตฺถนาย ภวทิฏฺิภวราควเสน ปิยายิตสฺส วตฺถุโน วิปริณามฺถาภาเว โทมนสฺสุปฺปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ภวราค…เป… ปทูเสนฺตี’’ติ.

คนฺถิตฺวาติ คนฺถึ กตฺวา. ทฺวิธาภูตํ รชฺชุอาทิเก วิย คนฺถิกรณฺหิ คนฺถนํ. จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺตา อาสวานํ อุปฺปตฺติเหตุ โหนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ปริยุฏฺานปฺปตฺตา เอกจฺเจ กิเลสา วิเสสโต อาสวุปฺปตฺติเหตุ โหนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ อฏฺกถายํ อุปฺปฏิปาฏิวจนํ. ตปฺปฏิปกฺเข วิสเย ปตฺเถตีติ โยชนา. ตพฺพิสยพหุเล ภเว ปตฺเถตีติ ยถา มานุสเกหิ กาเมหิ นิพฺพินฺนรูปา เทวูปปตฺติ. ตํสภาวตฺตาติ ทิฏฺิสภาวตฺตา. อปราปรนฺติ อฺมฺํ. เอกจฺจา หิ ทิฏฺิ เอกจฺจสฺส ทิฏฺาภินิเวสสฺส การณํ โหติ, ยถา สกฺกายทิฏฺิ อิตราสํ. อภินิวิสนฺตสฺสาติ อภินิเวสนเหตุ. ‘‘อโยนิโสมนสิการโต…เป… อวิชฺชาสโว อุปฺปชฺชตี’’ติ อิทํ สจฺจาภินิเวสสฺส ผลภูตํ อวิชฺชาสวํ ทสฺเสติ เอกนฺตวสฺสิเมฆวุฏฺาเนน วิย มโหฆปฺปวตฺติ. อวิชฺชาสโว สิทฺโธ โหติ วุฏฺิเหตุกมโหฆสิทฺธิยา อุปริเมฆวุฏฺานํ วิย.

‘‘นนฺทีราคสหคตา’’ติอาทีสุ (มหาว. ๑๔) วิย ตพฺภาวตฺโถ สหคตสทฺโทติ อาห ‘‘อนุสย…เป… ภูตา วา’’ติ. จิตฺตสฺส อพฺภนฺตรสงฺขาตํ หทยนฺติ วิปากจิตฺตปฺปวตฺตึ สนฺธาย วทติ. วิปากวฏฺเฏปิ กิเลสวาสนาหิตา อตฺถิ กาจิ วิเสสมตฺตา.

โลภสหคตสฺส วิฺาณสฺส. อิตรสฺส โทสสหคตาทิกสฺส. พฺยฺชเนน วิย โภชนสฺส อารมฺมณสฺส อภิสงฺขรณํ วิเสสาปาทนํ อุปเสจนํ, นนฺที สปฺปีติกตณฺหา อุปเสจนํ เอตสฺสาติ นนฺทูปเสจนํ อุปเสจนภูตายปิ นนฺทิยา ราคสลฺลอุปนิสโต. อุปสิตฺเต ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสตุํ ปาฬิยา ‘‘ราคสลฺเลน นนฺทูปเสจเนน วิฺาเณนา’’ติ วุตฺตนฺติ ตมตฺถํ ปากฏํ กาตุํ ‘‘เกน ปน ตํ นนฺทูปเสจน’’นฺติ ปุจฺฉติ.

ราคสลฺเลนาติ เหตุมฺหิ กรณวจนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ราคสลฺเลน เหตุภูเตนา’’ติ อาห. อุปนิสฺสยปจฺจยตฺโถ เจตฺถ เหตฺวตฺโถ. อุปคนฺตพฺพโต วิฺาเณนาติ วิภตฺตึ ปริณาเมตฺวา โยเชตพฺพํ. ‘‘ปติฏฺาภาวโต’’ติ อิมินา วิฺาณสฺส นิสฺสยาทิปจฺจยตํ วทติ. เตนาห ‘‘รูปกฺขนฺธํ นิสฺสาย ติฏฺตี’’ติ. เอวํ ทุติยาทิวิฺาณฏฺิตีสุปิ นิสฺสยาทิปจฺจยตา วตฺตพฺพา ปติฏฺาวจนโต.

๘๕. ยทิปิ อกุสลมูลาทิเก ติปุกฺขลสฺส, ตณฺหาทิเก นนฺทิยาวฏฺฏสฺส ทิสาภาเวน วกฺขติ, ตถาปิ อฺมฺานุปฺปเวสโต เอกสฺมึ นเย สิทฺเธ อิตเรปิ สิทฺธา เอว โหนฺตีติ อิมสฺส วิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘อาหาราทโย…เป… ววตฺถเปตุ’’นฺติ วุตฺตํ. วกฺขมาเน วา อกุสลมูลตณฺหาทิเก อาทิสทฺเทน สงฺคเหตฺวา ‘‘อาหาราทโย’’ติ วทนฺโต ‘‘นยาน’’นฺติ พหุวจนมาห. เอกสฺส อตฺถสฺสาติ ราคจริตสฺส อุปกฺกิเลสตาสงฺขาตสฺส เอกสฺส ปโยชนสฺส. พฺยฺชนตฺโถปิ คหิโต, น พฺยฺชนเมว คหิตนฺติ สุตฺตปทานิ อฺมฺปริยายวจนานิ ยถารหํ ตณฺหาวตฺถูนํ ตตฺถ กถิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘สวตฺถุกา ตณฺหา วุตฺตา’’ติ. โทสวตฺถูนํ, ทิฏฺิวตฺถูนฺจ ตตฺถ กถิตตฺตา ‘‘สวตฺถุโก โทโส, สวตฺถุกา ทิฏฺิ จ วุตฺตา’’ติ อิมมตฺถํ สนฺธายาห ‘‘วุตฺตนยานุสาเรนา’’ติ.

ทุกฺขากาเรน สห ทุกฺขาการํ คเหตฺวาติ อตฺโถ. เอวฺเจตนฺติ ยทิ ตํตํอนุปสฺสนาพหุลสฺส วเสน ปุริมาหารทฺวยาทีสุ วิโมกฺขมุขวิเสสนิทฺธารณํ กตํ, เอตํ เอวเมว เวทิตพฺพํ, น อฺถา. ตตฺถ การณํ วทนฺโต ‘‘น หี’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – ยถา อริยมคฺคานํ โอธิโส กิเลสปฺปชหนโต ปหาตพฺเพสุ ธมฺเมสุ นิยโม อตฺถิ, น เอวํ วิปสฺสนาย ปริฺาปหานานํ อนิจฺจนฺติกตฺตาติ.

อปเร ปนาหุ – ปุริเม อาหารทฺวเย ปริกิเลสภาเวน, ทุกฺขปจฺจยตฺตา จ ทุกฺขลกฺขณํ สุปากฏํ. ตตฺถ ปุริเม วิฺาณฏฺิติทฺวยวิฺาณาหาเร ตติยวิฺาณฏฺิติยํ อนิจฺจลกฺขณํ, มโนสฺเจตนาหาเร จตุตฺถวิฺาณฏฺิติยํ อนตฺตลกฺขณํ สุปากฏนฺติ ติสฺสนฺนํ อนุปสฺสนานํ ปวตฺติมุขตาย เตหิ อปฺปณิหิตาทิวิโมกฺขมุเขหิ ปริฺํ คจฺฉนฺตีติ. ตถา วิปลฺลาสาทีสุ ปุริมทฺวยํ ทุกฺขานุปสฺสนาย อุชุวิปจฺจนีกํ, อิตรทฺวยํ อนิจฺจานตฺตานุปสฺสนานํ. อิติ ปวตฺติมุขตาย จ อุชุวิปจฺจนีกตาย จ อิเม ธมฺมา ยถารหํ อปฺปณิหิตาทิวิโมกฺขมุเขหิ ปริฺเยฺยา, ปหาตพฺพา จ วุตฺตา. ตตฺถ สุภสุขสฺากามุปาทานสีลพฺพตุปาทานกามโยคภวโยคอภิชฺฌากาย คนฺถกามาสวกาโมฆ ภโวฆ ราคสลฺลฉนฺทอคติคมนานิ สุขสฺสาทวเสน ปวตฺตนโต ทุกฺขานุปสฺสนาย ปฏิปกฺขภาวโต พฺยาปาทกายคนฺถโทสสลฺลโทสอคติคมนานิ ปวตฺติมุขตาย อปฺปณิหิตวิโมกฺขมุเขน ปหาตพฺพานิ. ตติยสฺาทโย นิจฺจาภินิเวสตนฺนิมิตฺตาหิ อนิจฺจานุปสฺสนาย ปฏิปกฺขภาวโต อนิมิตฺตวิโมกฺขมุเขน ปหาตพฺพา. จตุตฺถสฺาทโย อตฺตาภินิเวสตนฺนิตฺตาหิ อนตฺตานุปสฺสนาย ปฏิปกฺขภาวโต สุฺตวิโมกฺขมุเขน ปหาตพฺพา. ตตฺถ มานสลฺลภยอคติคมนานํ นิจฺจาภินิเวสนิมิตฺตตา เวทิตพฺพา. น หิ อนิจฺจโต ปสฺสโต มานชปฺปนํ, ภยํ วา สมฺภวติ. อวิชฺชาโยคาทีนํ อตฺตาภินิเวสนิมิตฺตตา ปากฏา เอวาติ.

๘๖. อปฺปมฺาวชฺชา รูปาวจรสมาปตฺติโย ทิพฺพวิหารา ‘‘เทวูปปตฺติสํวตฺตนิกกุสลสมาปตฺติโย จา’’ติ กตฺวา, สติปิ ตพฺภาเว ปรหิตปฏิปตฺติโต, นิทฺโทสตาย จ เสฏฺา วิหาราติ จตสฺโส อปฺปมฺา พฺรหฺมวิหารา, จตสฺโส ผลสมาปตฺติโย อริยวิหารา ‘‘อารกา กิเลเสหิ อริยานํ วิหารา’’ติ. จตสฺโส อารุปฺปสมาปตฺติโย อาเนฺชวิหารา, สติปิ เทวูปปตฺติสํวตฺตนิกกุสลสมาปตฺติภาเว อาเนฺชสนฺตตาหิ โลกิเยสุ สิขาปฺปตฺติโต.

อธิกรณเภเทนาติ วตฺถุเภเทน.

ยํ อภิณฺหํ น ปวตฺตติ, ตํ อจฺฉริยนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อนฺธสฺส…เป… อุปฺปชฺชนก’’นฺติ วุตฺตํ. อธิติฏฺติ สีลาทิ เอเตน สจฺเจน, เอตฺถ วา สจฺเจ นิมิตฺตภูเต, อธิฏฺานมตฺตเมว วา ตํ สจฺจนฺติ เอวํ กรณาธิกรณภาวตฺถา ปจฺจยวเสน เวทิตพฺพา สมานาธิกรณสมาสปกฺเข. ตถา อฺปทตฺถสมาสปกฺเข. อิตรสฺมึ ปน สมาเส กรณาธิกรณตฺถา เอว, เต จ โข สีลาทิวเสน จ เวทิตพฺพา. สุขนฺติ ฌานวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพานสุขํ. โลกิยวิปากสุขมฺปิ ลพฺภเตว. ‘‘นาฺตฺร โพชฺฌา…เป… ปาณิน’’นฺติ (สํ. นิ. ๑. ๙๘) หิ อิมาย คาถาย สงฺคหิตา อนตฺตปริหารมุเขน สตฺตานํ อภยา นิพฺพานสมฺปตฺติสุขาวหา จตฺตาโร ธมฺมา อิธ ‘‘สุขภาคิยา’’ติ วุตฺตาติ. อนวเสสปริยาทานโตติ ผรณวเสน อนวเสสคฺคหณโต.

ปมสฺส สติปฏฺานสฺส ปมปฏิปทาวเสน ปวตฺตสฺสาติ อธิปฺปาโย. เอวํ เสเสสุปิ. ‘‘ยถา หี’’ติอาทินา ยถาวุตฺตปฏิปทาสติปฏฺานานํ นานนฺตริยกตํ อุปมาย วิภาเวติ. สติปิ จ สพฺพาหิ ปฏิปทาหิ สพฺเพสํ สติปฏฺานานํ นิยมาภาเว นานนฺตริกภาเวน เทสนากฺกเมเนเวตฺถ เนสํ อยมนุกฺกโม กโตติ เวทิตพฺโพ. อถ วา กายเวทนาสุ สุภสุขสฺานํ ทุพฺพินิเวิยตาย อสุภทุกฺขานุปสฺสนานํ กิจฺจสิทฺธิโต ปุริเมน ปฏิปทาทฺวเยน ปุริมํ สติปฏฺานทฺวยํ โยชิตํ ตทภาวโต. อิตเรน อิตรํ. ตานิ หิ ปุริเมสุ สติปฏฺาเนสุ กตกมฺมสฺส อิจฺฉิตพฺพานิ. อถ วา ยถา ตณฺหาจริตทิฏฺิจริตานํ มนฺทติกฺขปฺานํ วเสน จตสฺโส ปฏิปทา โยชิตา, เอวํ จตฺตาริ สติปฏฺานานิ สมฺภวนฺตีติ ทสฺเสตุํ ปฏิปทาสติปฏฺานานํ อยมนุกฺกโม กโต.

‘‘ตถา’’ติ อิมินา ยถา สมานปฏิปกฺขตาย ปมสฺส สติปฏฺานสฺส ภาวนา ปมสฺส ฌานสฺส วิเสสาวหา, เอวํ ปีติสหคตาทิสมานตาย ทุติยสติปฏฺานาทิภาวนา ทุติยชฺฌานาทีนํ วิเสสาวหาติ อิมมตฺถํ อุปสํหรติ. ปีติปฏิสํเวทนาทีติ อาทิสทฺเทน สุขปฏิสํเวทนํ, จิตฺตสงฺขารปฏิสํเวทนํ, ปสฺสมฺภนฺจ สงฺคณฺหาติ. จิตฺตสฺส อภิปฺปโมทนคฺคหณฺเจตฺถ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ ปฏิสํเวทนสมาทหนวิโมจนานมฺปิ วเสน ปวตฺติยา อิจฺฉิตพฺพตฺตา. อนิจฺจวิราคาทีติ อาทิสทฺเทน นิโรธปฏินิสฺสคฺคา สงฺคยฺหนฺติ.

รูปาวจรสมาปตฺตีนนฺติ เอตฺถ ปฏิลทฺธมตฺตํ ปมชฺฌานํ ปมชฺฌานสมาปตฺติยา ปคุณวสีภาวาปาทนสฺส ปจฺจโย โหติ, น อิตราสํ. อิตราสํ ปน อธิฏฺานภาเวน ปรมฺปราย ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพํ. พฺยาปาทวิหึสาวิตกฺกอรติราคา พฺยาปาทวิตกฺกาทโย. สุเขนาติ อกิจฺเฉน, อกสิเรนาติ อตฺโถ.

ทิพฺพวิหาราทิเก จตฺตาโร วิหาเร ปทฏฺานํ กตฺวา นานาสนฺตาเนสุ อุปฺปนฺนาย วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาย ยถากฺกมํ อนุปฺปนฺนากุสลานุปฺปาทนาทิวเสน ปวตฺตวิสยํ สนฺธาย ปาฬิยํ ‘‘ปโม วิหาโร ภาวิโต พหุลีกโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. สมฺมปฺปธานสทิสฺเหตฺถ สมฺมปฺปธานํ วุตฺตํ. อริยวิหาเร จ เหฏฺิเม นิสฺสาย อุปริมคฺคาธิคมาย วายมนฺตสฺส อยํ นโย ลพฺภติ. มคฺคปริยาปนฺนสฺเสว วา สมฺมปฺปธานสฺส นานาสนฺตานิกสฺส ยถาวุตฺตวิปสฺสนาคมเนน ตํตํกิจฺจาทิกสฺส วเสเนตํ วุตฺตํ. สกฺกา หิ วิปสฺสนาคมเนน สทฺธินฺทฺริยาทิติกฺขตาวิเสโส วิย วีริยสฺส กิจฺจวิเสสวิสโย มคฺโค วิฺาตุํ.

ตถา สิขาปฺปตฺตอุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิทิพฺพวิหารํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ ปมํ สมฺมปฺปธานํ มานปฺปหานํ อุกฺกํเสติ, พฺรหฺมวิหารสนฺนิสฺสเย อุปฺปนฺนํ ทุติยํ สมฺมปฺปธานํ กามาลยสมุคฺฆาตํ, อริยวิหารสนฺนิสฺสเยน อุปฺปนฺนํ ตติยํ สมฺมปฺปธานํ อวิชฺชาปหานํ, สนฺตวิโมกฺขสนฺนิสฺสเยน อุปฺปนฺนํ จตุตฺถํ สมฺมปฺปธานํ ภวูปสมํ อุกฺกํเสตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปมํ สมฺมปฺปธาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

ปหีนมาโน น วิสํวาเทยฺยาติ มานปฺปหานํ สจฺจาธิฏฺานํ วฑฺเฒติ วิสํวาทนนิมิตฺตสฺเสว อภาวโต. อปฺปหีนมาโน หิ มานนิสฺสเยน กิฺจิ วิสํวาเทยฺย. กามาลเย, ทิฏฺาลเย จ สมุคฺฆาฏิเต จาคปฏิปกฺขสฺส อวสโร เอว นตฺถีติ อาลยสมุคฺฆาโต จาคาธิฏฺานํ วฑฺเฒติ. อวิชฺชาย สมุจฺฉินฺนาย ปฺาพุทฺธิยา ปริพนฺโธว นตฺถิ, ภวสงฺขาเรสุ โอสฺสฏฺเสุ อภวูปสมสฺส โอกาโสว นตฺถีติ มานปฺปหานาทโย สจฺจาธิฏฺานาทิเก สํวฑฺเฒนฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘มานปฺปหาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

อวิสํวาทนสีโล ธมฺมจฺฉนฺทพหุโล ฉนฺทาธิปเตยฺยํ สมาธึ นิพฺพตฺเตติ. จาคาธิมุตฺโต เนกฺขมฺมชฺฌาสโย อโกสชฺชพหุลตาย วีริยาธิปเตยฺยํ, าณุตฺตโร จิตฺตํ อตฺตโน วเส วตฺเตนฺโต จิตฺตาธิปเตยฺยํ, วูปสนฺตสภาโว อุปสมเหตุภูตาย วีมํสาย วีมํสยโต วีมํสาธิปเตยฺยํ สมาธึ นิพฺพตฺเตตีติ สจฺจาธิฏฺานาทิปาริสุทฺธิฉนฺทสมาธิอาทีนํ ปาริปูริยา สํวตฺตตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สจฺจาธิฏฺานํ ภาวิต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

ธมฺมจฺฉนฺทพหุโล ฉนฺทสมาธิมฺหิ ิโต อิฏฺานิฏฺฉฬารมฺมณาปาเต อนวชฺชเสวี โหติ. อารทฺธวีริโย วีริยสมาธิมฺหิ ิโต สํกิเลสปกฺขสฺส สนฺตปนวเสเนว ปุฺํ ปริปูเรติ. จิตฺตํ อตฺตโน วเส วตฺเตนฺโต จิตฺตสมาธิมฺหิ ิโต ปฺาย อุปการานุปการเก ธมฺเม ปริคฺคณฺหนฺโต พุทฺธึ ผาตึ คมิสฺสติ. วีมํสาสมาธิมฺหิ ิโต ธมฺมวิจยพหุโล อุปธิปฏินิสฺสคฺคาวหเมว ปฏิปตฺตึ พฺรูเหตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ฉนฺทสมาธิ ภาวิโต’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ทูราทูรปจฺจตฺถิกนิวารเณ พหูปกาโร อินฺทฺริยสํวโร เมตฺตาย วิเสสุปฺปตฺติเหตุโต เมตฺตํ วฑฺเฒติ. ตเปน สํกิเลสธมฺเม วิกฺขมฺเภนฺโต วีริยาธิโก ปรทุกฺขาปนยนกามตํ สาหตฺถิกํ กโรตีติ ตโป กรุณํ สํวฑฺเฒติ. ปฺา ปริโยทาปิตา สาวชฺชานวชฺชธมฺเม ปริคฺคณฺหนฺตี ปหาสนิปาตโต มุทิตํ รกฺขนฺตี ปริพฺรูเหติ. อุปธินิสฺสคฺโค ปกฺขนฺโท นินฺนโปณปพฺภาโรว สมฺมเทว สตฺตสงฺขาเรสุ อุทาสิโน โหตีติ โส อุเปกฺขาวิหารํ ปริวฑฺเฒตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อินฺทฺริยสํวโร ภาวิโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘โย ยสฺส วิเสสปจฺจโย, โส ตํ ปริปูเรตีติ วุตฺโต’’ติ.

๘๗. ทิสาภาเวนาติ นยานํ ทิสาภาเวนาติ โยเชตพฺพํ. อตฺโถปิสฺส ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. เยน จตุกฺเกน ยสฺส ราคจริตาทิปุคฺคลสฺส โวทานํ วิสุทฺธิ. ยถา อปริฺาตา, อปฺปหีนา จ ปมาหารวิปลฺลาสาทโย ราคจริตาทีนํ ปุคฺคลานํ อุปกฺกิเลสา, เอวํ ปมปฏิปทาทโย ภาวิตา พหุลีกตา เนสํ วิสุทฺธิโย โหนฺตีติ วุตฺตนยานุสาเรน สกฺกา วิฺาตุนฺติ อาห ‘‘เหฏฺา วุตฺตนยเมวา’’ติ.

อถ วา ปุริมาหิ ทฺวีหิ ปฏิปทาหิ สิชฺฌมานา วิปสฺสนา อตฺตโน กิจฺจวุตฺติสงฺขาตํ ปวตฺติทุกฺขมฺปิ สงฺคณฺหนฺตี ทุกฺขานุปสฺสนาพาหุลฺลวิเสสโต ทุกฺขลกฺขณํ ปฏิวิชฺฌนฺตี ‘‘อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตา. ตติยาย ปฏิปทาย สิชฺฌมานา สุขปฺปวตฺติกตาย สมฺมเทว สนฺตติฆนํ ภินฺทิตฺวา อนิจฺจลกฺขณํ วิภาเวนฺตี ‘‘อนิมิตฺตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตา. จตุตฺถาย ปน ปฏิปทาย สิชฺฌมานา สุขปฺปวตฺติกตาย, วิสทาณตาย จ สมูหกิจฺจารมฺมณฆนํ ภินฺทิตฺวา สมฺมเทว อนตฺตลกฺขณํ วิภาเวนฺตี ‘‘สุฺตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตา.

ตถา กายเวทนานุปสฺสนา วิเสสโต ทุกฺขลกฺขณํ วิภาเวนฺตี, จิตฺตานุปสฺสนา อนิจฺจลกฺขณํ, ธมฺมานุปสฺสนา อนตฺตลกฺขณนฺติ ตา ยถากฺกมํ ‘‘อปฺปณิหิตาทิวิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตา.

สปฺปีติกตาย อสฺสาทานิ ปมทุติยชฺฌานานิ วิรชฺชนวเสน วิเสสโต ทุกฺขโต ปสฺสนฺติยา วิปสฺสนาย วเสน ‘‘อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตานิ. ตติยํ สนฺตสุขตาย พาหิรกานํ นิจฺจาภินิเวสวตฺถุภูตํ สภาวโต ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ ปสฺสนฺติยา วิปสฺสนาย วเสน ‘‘อนิมิตฺตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตํ. จตุตฺถํ อุปกฺกิเลสวิคมาทีหิ ปริสุทฺธํ สุสมาหิตํ ยถา ปเรสํ, เอวํ อตฺตโน จ ยถาภูตสภาวาวโพธเหตุตาย สมฺมเทว ‘‘สุฺ’’นฺติ ปสฺสนฺติยา วิปสฺสนาย วเสน ‘‘สุฺตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตํ.

เอวํ วิหารานํ วิปสฺสนาวเสเนว วิโมกฺขมุขตา, ตตฺถ ‘‘ทิพฺพพฺรหฺมวิหารานํ สนฺตสุขตาย อสฺสาทนียตา’’ติอาทินา อปฺปณิหิตวิโมกฺขมุขตา โยเชตพฺพา. อริยวิหารสฺส ปฺาธิกตฺตา วิเสสโต อนตฺตานุปสฺสนาสนฺนิสฺสยตาย สุฺตวิโมกฺขตา. อาเนฺชวิหารสฺส สนฺตวิโมกฺขตาย อนิจฺจลกฺขณปฺปฏิเวธสฺส วิเสสปจฺจยสภาวโต อนิมิตฺตวิโมกฺขมุขตา โยเชตพฺพา.

ตถา ปุริมานํ ทฺวินฺนํ สมฺมปฺปธานานํ สํกิเลสวิสยตฺตา กิเลสทุกฺขวีติกฺกมสฺส ทุกฺขานุปสฺสนาพาหุลฺลตฺตา อปฺปณิหิตวิโมกฺขมุขตา. ตติยสฺส อนุปฺปนฺนกุสลุปฺปาทเนน ธมฺมานํ อุทยวยวนฺตตาวิภาวนโต อนิจฺจลกฺขณํ ปากฏนฺติ อนิมิตฺตวิโมกฺขมุขตา. จตุตฺถสฺส อุปฺปนฺนานํ ิตตฺตํ พฺยาปาราปชฺชเนน ธมฺมานํ อวสวตฺติตาทีปนโต อนตฺตลกฺขณํ สุปากฏนฺติ สุฺตวิโมกฺขมุขตา.

มานปฺปหานาลยสมุคฺฆาตานํ สหายตณฺหาปหานตาย ตณฺหาปณิธิวิโสธนโต อปฺปณิหิตวิโมกฺขมุขตา. อวิชฺชาปหานสฺส ปฺากิจฺจาธิกตาย สุฺตวิโมกฺขมุขตา. ภวูปสมสฺส สงฺขารนิมิตฺตปฏิปกฺขตาย อนิมิตฺตวิโมกฺขมุขตา.

ปกติยา ทุกฺขสภาเว สงฺขาเร าณสจฺเจน อวิสํวาเทนฺโต ทุกฺขโต เอว ปสฺสติ, จาคาธิวิมุตฺตตาย ตณฺหํ วิทูรีกโรนฺโต ราคปฺปณิธึ วิโสเสตีติ ปุริมํ อธิฏฺานทฺวยํ ‘‘อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตํ. อิตรสฺส ปน อธิฏฺานทฺวยสฺส สุฺตานิมิตฺตวิโมกฺขมุขตา วุตฺตนยา เอว.

ฉนฺทาธิปเตยฺยา จิตฺเตกคฺคตา วิเสสโต ธมฺมจฺฉนฺทวโต เนกฺขมฺมวิตกฺกพหุลสฺส โหติ, วีริยาธิปเตยฺยา ปน กามวิตกฺกาทิเก วิโนเทนฺตสฺสาติ ตทุภยํ นิสฺสาย ปวตฺตา วิปสฺสนา วิเสสโต ราคาทิปฺปณิธีนํ วิโสสนโต ‘‘อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตา. จิตฺตาธิปเตยฺยํ, วีมํสาธิปเตยฺยฺจ นิสฺสาย ปวตฺตา ยถากฺกมํ อนิจฺจานตฺตานุปสฺสนาพาหุลฺลโต ‘‘อนิมิตฺตํ วิโมกฺขมุขํ, อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ จ วุตฺตา.

อภิชฺฌาวินยโน อินฺทฺริยสํวโร, กามสงฺกปฺปาทิวิโนทโน ตโป จ วุตฺตนเยเนว ปณิธิปฏิปกฺขโต อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุขํ, พุทฺธิ อนตฺตานุปสฺสนานิมิตฺตํ, อุปธิปฏินิสฺสคฺโค นิมิตฺตคฺคาหปฏิปกฺโขติ ตทุภยสนฺนิสฺสยา วิปสฺสนา ยถากฺกมํ ‘‘สุฺตํ, อนิมิตฺตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตา.

อาสนฺนปจฺจตฺถิกราคํ ปฏิพาหนฺตี เมตฺตา ราคปณิธิยา ปฏิปกฺโข, กรุณา ปรทุกฺขาปนยนาการวุตฺติกา ทุกฺขสหคตาย ทุกฺขานุปสฺสนาย วิเสสปจฺจโยติ ตทุภยสนฺนิสฺสยา วิปสฺสนา ‘‘อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตา. มุทิตา สตฺตานํ โมทคฺคหณพหุลา ตทนิจฺจตาทสฺสนโต อนิจฺจานุปสฺสนาย วิเสสปจฺจโยติ ตนฺนิสฺสยา วิปสฺสนา อนิมิตฺตํ วิโมกฺขมุขํ. อุเปกฺขา าณกิจฺจาธิกตาย อนตฺตานุปสฺสนาย วิเสสปจฺจโยติ ตนฺนิสฺสยา วิปสฺสนา ‘‘สุฺตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตาติ เอวเมตฺถ ปวตฺติอาการโต วิปสฺสโต นิสฺสยโต, กิจฺจโต จ ภินฺทิตฺวา วิโมกฺขมุขานิ โยชิตานีติ.

สมติกฺกมนํ ปริฺาปหานฺจ. สปรสนฺตาเนติ อตฺตโน, ปเรสฺจ สนฺตาเน, เตน กายิโก, วาจสิโก จ วิหาโร ‘‘วิกฺกีฬิต’’นฺติ วุตฺโตติ ทสฺเสติ ‘‘วิวิโธ หาโร’’ติ กตฺวา. ตสฺส ปน วิภาวนา อิธ อธิปฺเปตา นยสฺส ภูมิภาวโต. เยน ปฏิปกฺขภาเวน. เตสํ ปฏิปกฺขภาโวติ เตสํ อาหาราทีนํ ปฏิปกฺขภาโว ปหาตพฺพภาโว ปฏิปทาทีนํ ปฏิปกฺขภาโว ปหายกภาโวติ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ ปฏิปทาคฺคหเณน วิปสฺสนา กถิตา. วิปสฺสนา จ จตฺตาโร อาหาเร ปริชานนฺตี ตปฺปฏิพทฺธฉนฺทราคํ ปชหตีติ อุชุกเมว เตสํ ปฏิปกฺขตา, เอวํ ฌานาทีนมฺปิ อุปาทานาทิปฏิปกฺขตา เวทิตพฺพา ตทุปเทเสน วิปสฺสนาย กถิตตฺตา. วิปลฺลาสสติปฏฺานานํ ปฏิปกฺขภาโว ปากโฏ เอว. นฺติ สีหวิกฺกีฬิตํ. วีสติยา จตุกฺเกหิ วิสภาคโต วิตฺถาเรน วิภตฺตนฺติ ตีหิ ปเทหิ สงฺคเหตฺวา กถิกตฺตา วุตฺตํ ‘‘สงฺเขเปน ทสฺเสนฺโต’’ติ.

อินฺทฺริยานนฺติ สทฺธาทิอินฺทฺริยานํ. ทสนฺนํ จตุกฺกานํ นิทฺธารณาติ โยชนา.

๘๘. นิคฺคจฺฉตีติ นิกฺขมติ. ตโต นิทฺธาเรตฺวา วุจฺจมาโน หิ นิคฺคจฺฉนฺโต วิย โหตีติ. จตฺตาโร ปุคฺคเลติ ‘‘ตณฺหาจริโต มนฺโท’’ติอาทินา (เนตฺติ. ๖) วุตฺเต จตฺตาโร ปุคฺคเล. ปุคฺคลาธิฏฺาเนน เจตฺถ ธมฺโม วุตฺโตติ อาห ‘‘ภูมึ นิทฺทิสิตฺวา’’ติ. ตโต เอวาติ ยถาวุตฺตปุคฺคลจตุกฺกโต เอว. อิตรตฺถาปีติ ‘‘สุขาย…เป… ปุคฺคลา’’ติ เอตฺถาปิ. สาธารณายาติ ปมจตุตฺถาหิปิ วิมิสฺสาย. ยถาวุตฺตาสูติ ทุติยตติยาสุ.

เหฏฺาติ เทสนาหารวิภงฺควิจยหารสมฺปาตวณฺณนาสุ.

เอเสว นโยติ กุสลมูลาทิทฺวาทสติกสงฺคโห อนวชฺชปกฺโข. ‘‘โวทายติ สุชฺฌติ เอเตนาติ โวทาน’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๑๑) วํ เนตพฺพตํ สนฺธายาห.

ยถา หารอุทฺเทโส กโต, เอวํ นยานํ อกรเณ การณํ, ปโยชนฺจ วิภาเวตุกาโม ‘‘กสฺมา ปนา’’ติอาทิมาห. นเยหิ นยนฺตเรหิ. สมฺภวทสฺสนตฺถนฺติ อุปปตฺติทสฺสนตฺถํ. ตตฺถ สมฺภโว อนุทฺเทสกฺกเมน นิทฺทิสเน กรณํ ทสฺสนํ ปโยชนํ. ยทิ หิ อิเม นยา อุปฺปตฺติฏฺานวเสน อสํกิณฺณา ภเวยฺยุํ, หารา วิย อุทฺเทสานุกฺกเมเนว นิทฺทิสิตพฺพา สิยุํ. ตถา หิ วุตฺตํ หารานํ อุทฺเทสาวสาเน ‘‘เอเต โสฬส หารา ปกิตฺติตา อตฺถโต อสํกิณฺณา’’ติ (เนตฺติ. ๑).

ยสฺมา ปเนเต มูลปเทหิ มูลปทนฺตรนิทฺธารเณน อฺมฺํ เต นิคฺคจฺฉนฺติ, ตสฺมา เอกสฺมึ นิทฺทิฏฺเ อิตโรปิ อตฺถโต นิทฺทิฏฺโเยว นาม โหตีติ อิมสฺส อตฺถสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘อุทฺเทสานุกฺกเมน นิทฺเทโส น กโต’’ติ.

อิทานิ ตเมว สงฺเขเปน วุตฺตมตฺถํ วิตฺถาเรน ทสฺเสตุํ ‘‘ปมนยโต หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตณฺหาทิฏฺิจริตวเสน ทฺวิธา ปุคฺคเล วิภชิตฺวา เตสํ วเสน นนฺทิยาวฏฺฏนยํ นีหริตฺวา ปุน เต เอว ตณฺหาทิฏฺิจริเต จตุปฺปฏิปทาวิภาเคน วิภชิตฺวา สีหวิกฺกีฬิตสฺส นยสฺส สมฺภโว ทสฺสิโต, เต เอว จตุปฺปฏิปทาเภทภินฺเน ปุคฺคเล ปุน อุคฺฆฏิตฺุอาทิวิภาเคน ติธา วิภชิตฺวา ติปุกฺขลสฺส นยสฺส สมฺภโว ทสฺสิโต. ตํ สนฺธายาห ‘‘ปมนยโต…เป… นิทฺทิฏฺโ’’ติ.

ยสฺมา สุภสุขสฺาหิ โลโภ, นิจฺจสฺาย โทโส ‘‘อิมินา เม อนตฺโถ กโต’’ติ อาฆาตุปฺปตฺติโต, อตฺตสฺาย โมโห คหิโต โหติ. ตถา อสุภสฺาทีหิ อโลภาทโย, ตสฺมา ธมฺมาธิฏฺานวเสน ตติยนยโต ทุติยนยสฺส สมฺภโว. ยสฺมา ปน โลเภ สติ สมฺภวโต โลภคฺคหเณเนว โทโส คยฺหติ. โลโภ จ ตณฺหา, โมโห อวิชฺชา, ตปฺปฏิปกฺขโต อโลภาโทเสหิ สมโถ คยฺหติ, อโมเหน วิปสฺสนา, ตสฺมา ธมฺมาธิฏฺานวเสเนว ทุติยนยโต ปมนยสฺส สมฺภโวติ อิมํ วิเสสํ ทีเปตุํ อุทฺเทสานุกฺกเมน นิทฺเทโส น กโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ธมฺมาธิฏฺานวเสน ปนา’’ติอาทิมาห.

เตเนวาติ ตติยนยโต ทุติยนยสฺส วิย ทุติยนยโต ปมนยสฺสปิ สมฺภวโต. เอวํ ปาฬิยํ ปุคฺคลาธิฏฺานวเสน อาคตํ นิสฺสาย อฏฺกถายํ ธมฺมาธิฏฺานวเสเนว นยนิคฺคโม นิทฺธาริโตติ อยเมว วิเสโส. ยทิ เอวนฺติ ปาฬิยํ อาคตปฺปการโต อฺเนปิ ปกาเรน นยา นิทฺธาเรตพฺพา, เอวํ สนฺเต ยถา ปุคฺคลาธิฏฺานวเสน ปมนยโต ตติยนยสฺส, ตติยนยโต ทุติยนยสฺส สมฺภโว ทสฺสิโต, เอวํ ธมฺมาธิฏฺานวเสเนว ปมนยโต ตติยนยทุติยนยานํ, ธมฺมาธิฏฺานวเสเนว ทุติยนยโต ตติยนยสฺส สมฺภโว ทีเปตพฺโพติ อิมมตฺถมาห ‘‘ทฺเว หุตฺวา…เป… สิยา’’ติ.

ตตฺถ นโยติ ปจฺฉา วุตฺตทุติยนโย. อตฺถโตติ อตฺถาปตฺติโต, อตฺถโต ลพฺภมานตฺตา เอว สรูเปน น กถิโตติ อตฺโถ. อิทานิ ตํ อตฺถาปตฺตึ เอกนฺติกํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อนุปฺปเวโส อิจฺฉิโต ตํตํนยมูลปทานํ นยนฺตรมูลปเทสุ สมวรุชฺฌนโต. ตถา หิ ‘‘ยตฺถ สพฺโพ อกุสลปกฺโข สงฺคหํ สโมสรณํ คจฺฉติ, ยตฺถ สพฺโพ กุสลปกฺโข สงฺคหํ สโมสรณํ คจฺฉตี’’ติ (เนตฺติ. ๓) จ วุตฺตํ. อยฺจ อตฺโถติ ‘‘นยานํ อฺมฺอนุปฺปเวโส นิคฺคโม’’ติ อยํ ทุวิโธ อตฺโถ. ปิฏกานํ อตฺถกถนํ เปฏกํ, โส เอว อุปเทโสติ เปฏโกปเทโส, อุปเทสภูตา ปริยตฺติสํวณฺณนาติ อตฺโถ.

อาทิโต ปฏฺายาติ นยานํ อฺมฺอนุปฺปเวสนิคฺคมมตฺตเมว อวิภาเวตฺวา นยวิจารสฺส ปมาวยวโต ปภุติ วิภาวนา ทีปนา ปกาสนา.

โทสทิฏฺีติ อปฺปสฺสาทตาทิโทสคาหิกทิฏฺี, โทสทสฺสิโนติ อตฺโถ. เต หิ อสมูหตานุสยา, กาเมสุ จ อาทีนวทสฺสิโน. อิทฺหิ เนสํ องฺคทฺวยํ อตฺตกิลมถานุโยคสฺส การณํ วุตฺตํ. นตฺถิ อตฺโถติ โย ราคาภิภูเตหิ อนฺธพาเลหิ ปริกปฺปิโต ทิฏฺธมฺมิโก กาเมหิ อตฺโถ, โส มธุพินฺทุคิทฺธสฺส มธุลิตฺตสตฺถธาราวเลหนสทิโส อปฺปสฺสาโท พหุทุกฺโข พหุปายาโส พหุอาทีนโว สวิฆาโต สปริฬาโห สมฺปรายิโก ตเถวาติ สพฺพทาปิ วิฺูชาติกสฺส กาเมหิ ปโยชนํ น วิชฺชติ. อนชฺโฌสิตาติ อนภิภูตา วิหรนฺติ. เตน วุจฺจติ สุขา ปฏิปทาติ เตน มนฺทกิเลสภาเวน เตสํ ปุคฺคลานํ อกิจฺเฉน สิชฺฌมานา วิปสฺสนา ปฏิปทา ‘‘สุขา ปฏิปทา’’ติ วุจฺจติ. อชฺโฌสิตาติ อภินิวิฏฺา. อิเม สพฺเพ สตฺตาติ อิเม ตณฺหาทิฏฺิจริตภาเวน ทฺวิธา วุตฺตา อปริมาณปฺปเภทา สพฺเพปิ ปฏิปชฺชนฺตา สตฺตา.

สุเขน ปฏินิสฺสชฺชนฺตีติ กิเลเส อกิจฺเฉน ปชหนฺติ. ‘‘อิมา จตสฺโส ปฏิปทา’’ติอาทิ ปฏิปทานํ เอตฺตาวตายํ, วิสยภาวกิจฺเจสุ จ พฺยภิจาราภาวทสฺสนํ. อยํ ปฏิปทาติ นิคมนํ, อยํ ปฏิปทา ยาย วเสน สีหวิกฺกีฬิตสฺส นยสฺส ภูมิทสฺสนตฺถํ จตฺตาโร ปุคฺคลา นิทฺธาริตาติ อธิปฺปาโย. จตุกฺกมคฺเคน กิเลเส นิทฺทิสตีติ อนนฺตรํ วกฺขมาเนน อาหาราทิจตุกฺกมคฺเคน ทสวตฺถุเก กิเลสสมูเห นิทฺทิสติ. จตุกฺกมคฺเคน อริยธมฺเมสุ นิทฺทิสิตพฺพาติ ตปฺปฏิปกฺเขน ปฏิปทาทิจตุกฺกมคฺเคน อริยธมฺเมสุ โพธิปกฺขิเยสุ วิสยภูเตสุ นิทฺธาเรตฺวา กเถตพฺพา.

อิทฺจ ปมาณํ จตฺตาโร อาหาราติ อิเมสํ วิปลฺลาสานํ ปวตฺติยา ปมาณํ, ยทิทํ จตฺตาโร อาหารา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยาวเทว จตฺตาโร อาหารา ปริฺํ น คจฺฉนฺติ, ตาวเทว จตฺตาโร วิปลฺลาเส วิภชนฺติ. ยาวเทว จตฺตาโร วิปลฺลาสา อปฺปหีนา, ตาวเทว จตฺตาริ อุปาทานานิ ปริพฺรูหนฺตีติ. เอวํ สพฺพตฺถ ยถารหํ วตฺตพฺพํ. เตนาห ‘‘เอวํ อิมานิ สพฺพานิ ทส ปทานี’’ติ. ‘‘โยเชตพฺพานี’’ติ จ วจนเสโส.

‘‘อภิชฺฌาย คนฺถตี’’ติ อิมินา อภิชฺฌายนเมว คนฺถนนฺติ ทสฺเสติ. เอส นโย เสเสสุปิ. ปปฺเจนฺโตติ ทิฏฺาภินิเวสํ วิตฺถาเรนฺโต.

วิปฺปฏิสารุปฺปตฺติเหตุภาโว กิเลสานํ อาสวนนฺติ อาห ‘‘อาสวนฺตี’’ติ. กึ วิปฺปฏิสาราติ เตน กิเลสานํ วีติกฺกมวตฺถุํ วทติ. ยสฺมา อปฺปหีนานุสยสฺเสว วิปฺปฏิสารา, น อิตรสฺส, ตสฺมา ‘‘เย วิปฺปฏิสารา, เต อนุสยา’’ติ วุตฺตํ. ปททฺวเยนปิ ผลูปจาเรน การณํ วุตฺตํ.

ปเมน ปเทนาติ ยถาวุตฺเตสุ ทสสุ สุตฺตปเทสุ ปเมน ปเทน. ปมาย ทิสายาติ ตทตฺถสงฺขาตาย สีหวิกฺกีฬิตสฺส สํกิเลสปกฺเข ปมาย ทิสาย.

อิตีติ เอวํ, วุตฺตนเยนาติ อตฺโถ. กุสลากุสลานนฺติ ยถาวุตฺตอนวชฺชสาวชฺชธมฺมานํ. ปกฺขปฏิปกฺขวเสนาติ โวทานปกฺขตปฺปฏิปกฺขวเสน. โยชนาติ ปมทิสาทิภาเวน ยุตฺเต กตฺวา มนสานุเปกฺขนา. ‘‘มนสา โวโลกยเต’’ติ (เนตฺติ. ๔) หิ วุตฺตํ.

ตสฺสาติ ทิสาโลกนสฺส. โสตาปตฺติผลาทีนํ ปริโยสานตา อินฺทฺริยวเสน เวทิตพฺพา. เยสฺหิ สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ วเสน สติปฏฺานาทีนิ สิชฺฌนฺติ, เตสํ วเสน โสตาปตฺติผลาทีนํ ปริโยสานตา. ตตฺถ โสตาปตฺติผเล สทฺธินฺทฺริยํ ปาริปูรึ คจฺฉติ. โสตาปนฺโน หิ สทฺธาย ปริปูริการี. สกทาคามิผเล วีริยินฺทฺริยํ ปาริปูรึ คจฺฉติ. สกทาคามี หิ อารทฺธวีริโย อุปริมคฺคาธิคมาย. อนาคามิผเล สมาธินฺทฺริยํ ปาริปูรึ คจฺฉติ. อนาคามี สมาธิสฺมึ ปริปูริการี. อคฺคผเล อรหตฺเต สตินฺทฺริยฺจ ปฺินฺทฺริยฺจ ปาริปูรึ คจฺฉติ. อรหา หิ สติเวปุลฺลปฺปตฺโต, ปฺาเวปุลฺลปฺปตฺโต จาติ.

อปเร ปนาหุ – สทฺธาพเลน สุภสฺาย ปหานํ. สทฺทหนฺโต หิ ปฏิกฺกูลมนสิกาเร กมฺมํ กโรติ. วีริยพเลน สุขสฺาย ปหานํ. วีริยวา หิ สุขสฺสาทํ อภิภวิตฺวา โยนิโสมนสิการมนุยุฺชติ. สมาธิพเลน นิจฺจสฺาย ปหานํ. สมาหิโต หิ สงฺขารานํ อุทยพฺพยํ ปริคฺคณฺหนฺโต อนิจฺจสฺํ ปฏิลภติ. ปฺาพเลน อตฺตสฺาย ปหานํ. ปฺวา หิ สงฺขารานํ อวสวตฺติตํ สลฺลกฺเขนฺโต อตฺตสุฺตํ ปฏิวิชฺฌติ. สติ ปน สพฺพตฺถาปิ อิจฺฉิตพฺพา. เตนาห ‘‘สตึ จ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, สพฺพตฺถิกํ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔; มิ. ป. ๒.๑.๑๓). เอวํ จตุวิปลฺลาสปฺปหายีนํ จตุนฺนํ อินฺทฺริยานํ ปาริปูริฏฺานํ จตฺตาริ สามฺผลานิ จตุวิปลฺลาสมุขานํ จตุนฺนํ ทิสานํ ปริโยสานานิ วุตฺตานีติ.

‘‘โลโภ อกุสลมูล’’นฺติอาทิ โลภาทีนํ เหตุผลภาเวน สมฺปยุตฺตตาย ทสฺสนํ.

ตตฺถ มนาปิเกนาติ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ. อมนาปิเกนาปิ หิ อารมฺมเณน วิปริเยสวเสน โลโภ อุปฺปชฺชติ. มนาปิเกนาติ วา มนาปิกากาเรน. ผสฺสเวทนูปวิจารราควิตกฺกปริฬาหา สหชาตาปิ ลพฺภนฺติ, อสหชาตาปิ. ‘‘อุปฺปาโท’’ติ เอเตน อุปฺปชฺชมานสงฺขารคฺคหณนฺติ ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. อุปฺปาทลกฺขณสฺเสว ปน คหเณ ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ น วตฺตพฺพํ สิยา. น หิ อุปฺปาโท อุปฺปชฺชติ, ราคชปริฬาหเหตุกตา จ เตสํ ราคสฺส ตณฺหาสภาวตฺตา. ตณฺหา หิ ทุกฺขสฺส สมุทโย, ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ ทุกฺขนฺติ. ตถา จ วุตฺตํ ‘‘ตณฺหาสหชาตเวทนาย ปน โลโภ สหชาตาทิปจฺจเยหิ จ ปจฺจโย’’ติ. เอวํ อิฏฺารมฺมเณ อุปฺปนฺนโลภสหคตสุขเวทนาย อุทโย อิธ ‘‘อุปฺปาโท สงฺขตลกฺขณ’’นฺติ วุตฺโต, ตสฺสา วิปริณาโม ‘‘วิปริณามทุกฺขตา’’ติ. วิปริณามาวตฺถา จ อุทยาวตฺถํ วินา น โหตีติ สา ตํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนฺตี วิย วุตฺตา ‘‘อุปฺปาทํ…เป… ทุกฺขตา’’ติ.

โทโส อกุสลมูลนฺติอาทีสุปิ วุตฺตนยานุสาเรน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – ิตสฺส อฺถตฺตํ นาม ชรา, ตํ นิสฺสาย โทมนสฺสสฺส อุปฺปชฺชนโต วุตฺตํ ‘‘ิตสฺส…เป… ทุกฺขทุกฺขตา’’ติ. โทสชปริฬาหเหตุกตา ชราย โทสพหุลสฺส ปุคฺคลสฺส นจิเรน ชีรณโต เวทิตพฺพา.

วโยติ สงฺขารานํ นิโรโธ. อนิจฺจตาวเสน จ สงฺขตธมฺมานํ สงฺขารทุกฺขตาติ วุตฺตํ ‘‘วย…เป… สงฺขารทุกฺขตา’’ติ. เตนาห ภควา ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๑๕, ๔๕, ๗๖; ปฏิ. ม. ๒.๑๐). โมหชปริฬาหเหตุกตา วยลกฺขณสฺส เยภุยฺเยน สมฺโมหนิมิตฺตตฺตา, มรณสฺส อวิชฺชาปจฺจยตฺตา จ สํสารปฺปวตฺติยา เวทิตพฺพา.

อโลภาทีนํ ปฺาทิปาริปูริเหตุกตา ยถารหํ อุปนิสฺสยโกฏิสหชาตโกฏิยา จ ปจฺจยภาเวน เวทิตพฺพา. สพฺเพ หิ กุสลา ธมฺมา สพฺเพสํ กุสลานํ ธมฺมานํ ยถาสมฺภวํ ปจฺจยวิเสสา โหนฺติ เอวาติ. อพฺยาปาทวิตกฺกสนฺนิสฺสโย อุปวิจาโร อพฺยาปาทูปวิจาโร. อวิหึสูปจาเรปิ เอเสว นโย.

อยํ ติปุกฺขโล นาม ทุติโย นโย สทฺธึ ทิสาโลกนนเยน นิทฺทิฏฺโติ วจนเสโส. ‘‘อิเม จตฺตาโร’’ติอาทิ ปุคฺคลาธิฏฺาเนเนว นนฺทิยาวฏฺฏสฺส นยสฺส ภูมิทสฺสนตฺถํ อารทฺธํ. อิเม ยถาวุตฺตปฏิปทาจตุกฺกสฺส วเสน จตุพฺพิธา. วิเสเสนาติ ทิฏฺิตณฺหาสนฺนิสฺสยตาวิเสเสน. ทิฏฺิจริโต หิ ติกฺขปฺโ, มนฺทปฺโ จ สุขาย ปฏิปทาย ขิปฺปาภิฺาย จ ทนฺธาภิฺาย จ นิยฺยาตีติ ทฺวิธา วุตฺโตติ. ตถา ตณฺหาจริโต ทุกฺขาย ปฏิปทาย ขิปฺปาภิฺาย จ ทนฺธาภิฺาย จ นิยฺยาตีติ ทฺวิธา วุตฺโตติ ทสฺสิโต จายมตฺโถ. เตนาห ‘‘ทฺเว โหนฺติ ทิฏฺิจริโต จ ตณฺหาจริโต จา’’ติ.

จตฺตาโร หุตฺวาติ สีหวิกฺกีฬิตสฺส นยสฺส ภูมิทสฺสเน จตฺตาโร หุตฺวา ิตา, จตุปฺปฏิปทาวเสน จตฺตาโร กตฺวา วุตฺตาติ อตฺโถ. ตโย โหนฺตีติ ติปุกฺขลสฺส นยสฺส ภูมิทสฺสเน อุคฺฆฏิตฺุอาทิวเสน ตโย ภวนฺติ. ตโย หุตฺวาติ ตถา ตโย หุตฺวา ิตา ตโย กตฺวา กถิตา. ทฺเว โหนฺตีติ อิทานิ นนฺทิยาวฏฺฏสฺส นยสฺส ภูมิทสฺสเน ทฺเว ภวนฺติ. อชฺโฌสานนฺติ ทิฏฺิอชฺโฌสานํ. อภินิเวโสติ ตณฺหาภินิเวโส. อหํกาโรติ อหํมาโน ‘‘อห’’นฺติ วา กรณํ อหํกาโร. ทิฏฺิมานมฺนานํ วเสน ‘‘อหมสฺมี’’ติ สมนุปสฺสนา มมํกาโร, มมายนํ ตณฺหาคฺคาโห.

ทสปทานิ ‘‘ปมา ทิสา’’ติ กาตพฺพานีติ นนฺทิยาวฏฺฏสฺส นยสฺส ‘‘ปมา ทิสา’’ติ กรณียานิ, ‘‘ปมา ทิสา’’ติ ววตฺถเปตพฺพานีติ อตฺโถ. สํขิตฺเตน…เป… ปกฺขสฺสาติ อเนกปฺปเภทสฺสปิ กณฺหปกฺขสฺส สํกิเลสปกฺขสฺส อตฺถํ สํขิตฺเตน สงฺเขเปน ปฏิปกฺเข วตฺตมาเน โวทานธมฺเม อุทฺทิสฺส าเปนฺติ ปกาเสนฺติ, ปมา กาตพฺพาติ โยชนา. ทส ปทานิ ทุติยกานีติ ตณฺหาทิกา ทส โกฏฺาสา ‘‘ทุติยา ทิสา’’ติ กาตพฺพา. ‘‘สํขิตฺเตน…เป… กณฺหปกฺขสฺสา’’ติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ.

โยนิโสติ อุปายโส. โยนิโส มนสิกาโร อนิจฺจาทิวเสน ปมมนสิกาโร. ปฺาติ สุตจินฺตามยี ปฺา, ฌานาภิฺา จ. นิพฺพิทาติ นิพฺเพธาณํ. โสมนสฺสธมฺมูปสฺหิตํ ปโมทาทิสหคตํ เจตสิกสุขํ.

กุสลปกฺเข จาติ -สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ, เตน อุภยปกฺขโต สมุจฺจยวเสน จตสฺโส ทิสา, น ปจฺเจกนฺติ ทสฺเสติ.

เตสนฺติ ตณฺหาทีนํ, ตณฺหาย, ตณฺหาปกฺขิกานฺจาติ อตฺโถ. สติปิ อนวเสสโต ราเค ปหียมาเน อนวเสสโต อวิชฺชาปิ ปหียเตว, ราคสฺส ปน เจโตวิมุตฺติ อุชุปฏิปกฺโขติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ราควิราคา’’ติ วุตฺตํ. อวิชฺชาวิราคาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อยฺจ อตฺโถ ‘‘อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺติ’’นฺติอาทินา (ม. นิ. ๑.๔๓๘) อาคตปาฬิยา อตฺถวณฺณนาวเสน วุตฺตา, อิธ ปน ‘‘ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ เสกฺขผลํ, อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺติ อเสกฺขผล’’นฺติอาทินา (เนตฺติ. ๕๑) เววจนสมาโรปเน อาคตตฺตา ปุริมา อนาคามิผลํ. ตฺหิ กามราคสฺส อุชุวิปจฺจนีกโต สมาธิปาริปูริยาว วิเสสโต ‘‘ราควิราคา เจโตวิมุตฺตี’’ติ วุจฺจติ, ปจฺฉิมา อรหตฺตผลํ ตณฺหาย, อวิชฺชาย จ อนวเสสปฺปหานโต, ปฺาปาริปูริยา จ ‘‘อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺตี’’ติ วุจฺจติ.

ตตฺถาติ นนฺทิยาวฏฺฏนเย. เตสูติ ‘‘จตฺตาริ ปทานี’’ติ วุตฺเตสุ ตณฺหาทีสุ จตูสุ มูลปเทสุ. อิธ สโมสรณนฺติ สงฺคโห วุตฺโต, โส จ สภาวโต, สภาคโต จ โหตีติ ตณฺหาทีนิ จตฺตาริ ทสฺเสตฺวา ‘‘เตสุ อฏฺารส มูลปทานิ สโมสรนฺตี’’ติ วุตฺตํ. สมถํ ภชนฺติ สภาวโต, สภาคโต จาติ อธิปฺปาโย. วิปสฺสนํ ภชนฺตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. นยาธิฏฺานานํ นยาธิฏฺาเน อนุปฺปเวโส นยานํ นเยสุ อนุปฺปเวโส เอว นาม โหตีติ อาห ‘‘ติปุกฺขโล…เป… อนุปฺปวิสนฺตี’’ติ.

อโลภาโมหปกฺขํ อภชาเปตฺวา อโทสปกฺขํ ภชาเปตพฺพสฺส นนฺทิยาวฏฺฏสีหวิกฺกีฬิตมูลปทสฺส อภาวโต อโทโส เอกสุตฺตโกฏิยา เอกโกว โหตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อโทโส อโทโส เอวา’’ติ. โทโส โทโส เอวาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สโมสรนฺติ สภาคโต จ สภาวโต จ สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ.

ภูมิ โคจโรติ จ มูลปทานิ เอว สนฺธาย วทติ. เอเกกํ นยํ อนุปฺปวิสติ ตํตํมูลปทานุปฺปเวสโต. กุสเล วา วิฺาเต อกุสโล ปฏิปกฺโข, อกุสเล วา กุสโล ปฏิปกฺโข อนฺเวสิตพฺโพ สํวณฺณิยมานสุตฺตปทานุรูปโต อุปปริกฺขิตพฺโพ. อนฺเวสนา อุปปริกฺขา ‘‘ทิสาโลกน’’นฺติ วุจฺจติ. โส นโย นิทฺทิสิตพฺโพติ ตถา อนฺเวสิตฺวา เตหิ ธมฺเมหิ ทิสา ววตฺถเปตฺวา โส โส นโย นิทฺธาเรตฺวา โยเชตพฺโพ. ยถา มูลปเทสุ มูลปทานํ อนุปฺปเวโส สํวณฺณิโต, อิมินาว นเยน มูลปทโต มูลปทานํ นิทฺธารณาติ เวทิตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา เอกมฺหิ…เป… นิทฺทิสิตพฺพานี’’ติ อาห. ‘‘เอเกกสฺมิฺหี’’ติอาทิ การณวจนํ.

ตตฺถ ตตฺถาติ เอเกกสฺมึ นเย. เอกสฺมึ ธมฺเม วิฺาเตติ ตณฺหาทิเก เอกสฺมึ มูลปทธมฺเม สรูปโต, นิทฺธารณวเสน วา วิฺาเต. สพฺเพ ธมฺมา วิฺาตา โหนฺตีติ ตทฺมูลปทภูตา สพฺเพ โลภาทโย วิฺาตา นยสฺส ภูมิจรณาโยคฺยตาย ปกาสา ปากฏา โหนฺติ. ‘‘อิเมส’’นฺติอาทิ นยตฺตยทิสาภูตธมฺมานํ มตฺถกปาปเนน ติณฺณํ นยานํ กูฏคฺคหณํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.

ปุน ‘‘อิเมสู’’ติอาทิ กมฺมนยทฺวยสฺส วิภาควิภาวนํ, ตํ วิฺเยฺยเมว.

นยสมุฏฺานวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

สาสนปฏฺานวารวณฺณนา

๘๙. สงฺคหวาราทีสูติ สงฺคหวารอุทฺเทสนิทฺเทสวาเรสุ. สรูปโต น ทสฺสิตํ, อตฺถโต ปน ทสฺสิตเมวาติ อธิปฺปาโย. ตเมว หิ อตฺถโต ทสฺสนตฺถํ อุทาหรณภาเวน นิกฺขิปติ, ยถา มูลปเทหิ ปฏฺานํ นิทฺธาเรตพฺพนฺติ. ‘‘อฺมฺสงฺคโห’’ติ อิทํ มูลปทปฏฺานานํ อฺมฺโต นิทฺธาเรตพฺพตาย การณวจนํ ‘‘สติ อนุปฺปเวเส ตโต วินิคฺคาโม สิยา’’ติ. ปฏฺานนฺติ เอตฺถ -อิติ อุปสคฺคปทํ, ตํ ปน ‘‘วิภตฺเตสุ ธมฺเมสุ ยํ เสฏฺํ, ตทุปาคมุ’’นฺติอาทีสุ วิย ปการตฺถโชตกนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปกาเรหิ าน’’นฺติอาทีสุ วิย ปการตฺถโชตกนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปกาเรหิ าน’’นฺติ อาห. อิธาติ อิมสฺมึ เนตฺติปฺปกรเณ. ตสฺสาติ เทสนาสงฺขาตสฺส ปริยตฺติสาสนสฺส. ตถาภาวทีปนนฺติ เวเนยฺยชฺฌาสยานุรูเปน ปวตฺติตตฺตา สํกิเลสภาคิยตาทิปฺปกาเรหิ ิตภาเวน ทีเปตพฺพตฺตา ‘‘ทีปิสฺสตีติ ทีปน’’นฺติ กตฺวา. ปติฏฺหนฺติ อธิสีลสิกฺขาทโย สมุทายรูเปน คหิตา. เอเตหิ สํกิเลสธมฺมาทีหิ, สํกิเลสธมฺมาทีนํ อธิสีลสิกฺขาทีนํ ปวตฺตนุปายตา อนุปุพฺพิกถาย สามุกฺกํสิกาย ธมฺมเทสนาย ทีเปตพฺพา. เตสนฺติ สํกิเลสธมฺมาทีนํ. ปุน เตสนฺติ สุตฺตานิ สนฺธายาห.

โคฏฺาติ วชา. ปฏฺิตคาโวติ คตคาโว. อาคตฏฺานสฺมินฺติ สีหนาทสุตฺตํ (ม. นิ. ๑.๑๕๖) วทติ. ปวตฺตคมนตฺตา เอตฺถาติ วจนเสโส. อถ วา คจฺฉติ เอตฺถาติ คมนํ, เทสนาาณสฺส นิสฺสงฺควเสน ปวตฺตคมนเทสภาวโต ปฏฺานํ นามาติ อตฺโถ. โวมิสฺสาติ ‘‘สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจา’’ติอาทินา ทุกติกจตุกฺกภาเวน มิสฺสิตา.

สํกิเลสภาเว าเปตพฺเพ ปวตฺตํ, ตํ วิสยํ กตฺวา เทสิตนฺติ อตฺโถ, อตฺถมตฺตวจนฺเจตํ, สํกิเลสภาเค ภวนฺติ สทฺทนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘สํกิเลสภาคิก’’นฺติปิ ปาโ, ตสฺส สํกิเลสภาโค เอตสฺส อตฺถิ, สํกิเลสภาเค วา นิยุตฺตํ, สํกิเลสภาคสฺส วา ปโพธนสีลํ สํกิเลสภาคิกํ, ตเทว สํกิเลสภาคิยนฺติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปทาลนํ สมุจฺฉินฺทนํ, ปทาลนสนฺนิสฺสยตา เจตฺถ ปทาลนคฺคหเณน คหิตาติ ทฏฺพฺพํ. อเสกฺเขติ อเสกฺขธมฺเม. เตสํ โวมิสฺสกนยวเสนาติ เตสํ สํกิเลสภาคิยาทีนํ จตุนฺนํ ปฏิกฺเขปาปฏิกฺเขปโวมิสฺสกนยวเสน.

‘‘ตานิ ปน ฉ ทุกา’’ติอาทินา ปทานํ คหณปริจฺเฉทโต ววตฺถาปนตํ วตฺวา ปรโต ‘‘สาธารณานิ กตานี’’ติ ปทสฺส อตฺถสํวณฺณนาย สยเมว สรูปโต ทสฺเสสฺสติ. ‘‘อนุทฺธรเณ การณํ นตฺถี’ติ วตฺวา อุทฺธรเณ ปน การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตถา หิ วกฺขตี’’ติอาทินา ปาฬิมาหริ. โวทานํ นาม สํกิเลสโต โหติ สํกิลิฏฺสฺเสว โวทานสฺส อิจฺฉิตตฺตา. ยสฺมา โวทานํ ตทงฺคาทิวเสน สํกิเลสโต วิสุชฺฌนํ, ตสฺมา ‘‘ตํ ปน อตฺถโต วาสนาภาคิยาทิ เอว โหตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ตทงฺควิกฺขมฺภเนหิ โวทานํ วาสนาภาคิยาทิวเสน โหติ, สมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธีหิ โวทานํ นิพฺเพธภาคิยวเสน, อเสกฺขภาคิยวเสน โวทานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา เอว เวทิตพฺพํ. ยายํ เทสนา ราคาทิภาคินี สิยา, สา สํกิเลสภาคิยา. ยายํ เทสนา จาคาทิภาคินี สิยา, สา วาสนาภาคิยา. ยา ปน อาปตฺติวิจฺเฉทนี สาวเสสํ, อนวเสสฺจ, สา นิพฺเพธภาคิยา, อเสกฺขภาคิยา จ.

‘‘ตณฺหาสํกิเลสภาคิยํ สุตฺต’’นฺติอาทินา ปมเมว สํกิเลสภาคสฺส ทสฺสิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘สํกิเลโส ติวิโธ…เป… วิสยทสฺสนตฺถํ อารทฺธ’’นฺติ. ภวราโค ภวปตฺถนา. อุปฺปชฺชตีติ น วิคจฺฉติ. ตตฺร ตตฺร ภเวติ ยทิ วา กามภเว, ยทิ วา รูปภเว, ยทิ วา อรูปภเว. ปทนฺตรสํโยชนวเสนาติ ทุกนเยเนว ปทนฺตเรน โยชนวเสน. มิสฺสิตานิ กตานีติ สํสฏฺานิ กตานิ.

เอกกจตุกฺกวเสน ทสฺสิตพฺพานิ ปทานิ เอว คเหตฺวา อาวุตฺตินยทสฺสนวเสน มิสฺเสตฺวา อวสิฏฺทุกวเสน, ติกจตุกฺกวเสน จ อิตเร อฏฺ ปฏฺานภาคา ทสฺสิตาติ อาห ‘‘ตานิเยว ยถาวุตฺตานิ อฏฺ สุตฺตานี’’ติอาทิ. จตฺตาโร เอกกาเยว ปาฬิยํ อาทิโต ทสฺสิตา. ฉทุกา ปาฬิยํ อาคตา จตฺตาโร, อฏฺกถายํ ทฺเวติ. จตฺตาโร ติกา ปาฬิยํ อาคตา ทฺเว, อฏฺกถายํ ทฺเวติ. ทฺเว จตุกฺกา ปน อฏฺกถายเมว อาคตา. ‘‘ปาฬิยํ อนาคตา’’ติ อิทํ สรูปโต อนาคมนํ สนฺธาย วุตฺตํ, นยโต ปน อาคตภาโว ทสฺสิโต เอว. เย ปเนตฺถ ปาฬิยํ อนาคตา, เตสํ อุทาหรณานิ ปรโต ทสฺสยิสฺสาม.

โสฬสหีติ โสฬสวิเธหิ. น หิ ตานิ สุตฺตานิ โสฬเสว, อถ โข โสฬสปฺปการานีติ มูลคณนํ เปตฺวา การณสุตฺตลทฺเธน สงฺขารคพฺเภน ตทนุรูโป โย คณนวิตฺถาโร, ตสฺส ปตฺถรณวิธิ ปฏฺานนโย. อิมินา…เป… นตฺถีติ ยถาวุตฺตปฏฺานวินิมุตฺโต ปริยตฺติสาสนปฺปเทโส น วิชฺชติ ยถารหํ ตํตํปฏฺานภาเวน ปวตฺตตฺตาติ ทสฺเสติ. ยทิ สุตฺตเคยฺยาทิ นววิธํ ปริยตฺติสาสนํ ยถาวุตฺตปฏฺานวเสเนว ปวตฺตํ, ตตฺถ กถมิธ อนิทสฺสิตานํ คาถาทีนํ สํกิเลสภาคิยาทิภาโว คเหตพฺโพติ ปฺหํ สนฺธาย ‘‘คาถาย คาถา อนุมินิตพฺพา’’ติอาทิปาฬิ ปวตฺตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘กถํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ อยํ คาถา วิยาติ ‘‘กามนฺธา ชาลสฺฉนฺนา, มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา, อุทฺธํ อโธ สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโต, ยสฺส เสลูปมํ จิตฺต’’นฺติอาทินา อิธ อุทาหฏคาถา วิย. คาถาติ อฺาปิ เตปิฏเก พุทฺธวจเน อาคตา อิธ อนุทาหฏา. สํวณฺณนากาเล สมฺมุขีภาเวน ‘‘อยํ คาถา วิยา’’ติ วุตฺตา ยา กาจิ คาถา ‘‘สํกิเลสภาคิยา’’ติ วา ‘‘สํกิเลสวาสนานิพฺเพธอเสกฺขภาคิยา’’ติ วา อนุมินิตพฺพา นยคฺคาเหน าเปตพฺพาติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ ‘‘สํกิเลส…เป… ชานิตพฺพาติ อตฺโถ’’ติ. วา-สทฺโท หิ อิธ อวุตฺตวิกปฺปนตฺโถ. เสสปเทสูติ เวยฺยากรณสุตฺตปเทสุ.

๙๐. อริยานํ ธมฺมนฺติ จาริตฺตวาริตฺตเภทํ สีลาจารํ. เอกนฺตกรณียสฺส อกรณมฺปิ วีติกฺกโม เอว.

อวิชฺชาทิเก สํกิเลสธมฺเม ตทงฺคาทิวเสน ธุนาตีติ โธนา วุจฺจติ ปฺา. ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุฺชนปฺาติ ปน ปกรเณน อวจฺฉินฺนตฺตา วุตฺตํ. ตํ อติกฺกมิตฺวา จรนฺโตติ ปจฺจยานํ อปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจยปริโภเค อาทีนวํ อปสฺสนฺโต อิณปริโภควเสน ปริภุฺชนฺโต น ปริมุจฺจติ นิรยาทิทุกฺขโต, วฏฺฏทุกฺขโต จ.

กุกฺกุชนกํ นาม กทลิยา ปุปฺผนาฬิ. ปราภวายาติ วินาสาย. ตถาติ ยถา ผลปากนฺตา กทลี, เอวํ เวฬุนฬาปิ โอสธิชาติกตฺตาติ อุปสํหารตฺโถ ตถา-สทฺโท. เตนาห ‘‘ผลํ เวฬุํ ผลํ นฬ’’นฺติ.

สุเขตฺเตปีติ ปิ-สทฺเทน โก ปน วาโท อูสราทิโทสทุฏฺเสุ เขตฺเตสูติ ทสฺเสติ. ‘‘ฉกณ…เป… อตฺโถ’’ติ เอเตน ยถาวุตฺตอภิสงฺขรณาภาเวน พีชโทสทุฏฺนฺติ ทสฺเสติ.

๙๑. สชฺชิตนฺติ สฺชิตํ. อปริกฺขเตติ ปฏิปกฺเขหิ ธมฺเมหิ อวิกฺขมฺภิเต อโรเค.

ยาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘กึ สุตํ มยา, กึ วา สุณามี’’ติ กุสลํ คเวสี จรติ, สา ธมฺโมชปฺา กิสฺสวา นาม. ทุพฺภาสิตาติ ทุฏฺุ ภาสิตา, อิสฺสามจฺฉริยโทสาทีหิ ทุฏฺา วา ภาสิตา.

๙๒. วิจินาตีติ วิเสสโต จินาติ ปสวติ.

วิคตภูตาติ วิคตสจฺจ. เตนาห ‘‘อลีกวาที’’ติ.

อวชาตปุตฺตาติ ลามกปุตฺต. ภควโต สาสเน ปพฺพชิตฺวา นิหีนวุตฺติตํ สนฺธาย วทติ. เนรยิโกติ นิรเย นิพฺพตฺตนโก. ปาปกมฺมิโน ปปตนฺติ เอตฺถาติ ปปตํ, นรกํ.

ตณฺหาทีนํ สภาวเภทโตติ ตณฺหาทิฏฺิทุจฺจริตานํ ตณฺหายนวิปรีตทสฺสนทุฏฺจริตตาสงฺขาตสภาววิภาคโต. อวตฺถาเภทโตติ ตณฺหาย ฉนฺทเปมโลภราคนนฺทีปิปาสามุจฺฉาทโย, ทิฏฺิยา คาหปรามาสมิจฺฉาภินิเวสวิสุกวิปฺผนฺทิตวิปรีตทสฺสนาทโย, ทุจฺจริตสฺส ติรจฺฉานเปตฺติวิสยอสุรโยนิคามิตาทโย อวตฺถาวิเสสา. -สทฺเทน เตสํ กามตณฺหาทิรูปตณฺหาทิอตฺตานุทิฏฺาทิสสฺสตคาหาทิกายทุจฺจริตาทิ- ปาณาติปาตาทิปฺปการเภโท สงฺคยฺหติ.

๙๓. วิปุลนฺติ อุฬารํ, เตลาทีหิ เจว ธนธฺาทีหิ จ ปหูตสนฺนิจยนฺติ อตฺโถ. สมฺพาธาติ ชนสํมทฺทสงฺฆฏา.

ทณฺเฑน น หึสตีติ เอตฺถ วุตฺตํ ยํ ทณฺฑนิธานํ, ตํ วฏฺฏวิวฏฺฏนิสฺสิตํ. ตทุภยสฺสาปิ ผลํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โส ปุคฺคโล’’ติอาทิมาห.

๙๔. กิฺจติ ตํสมงฺคินํ วิมทฺทตีติ กิฺจนํ, ราคาทิ, ปลิพุนฺธติ กุสลปฺปวตฺตึ นิวาเรตีติ ปลิโพโธ, ราคาทิเยว, กิฺจนเมว ปลิโพโธ กิฺจนปลิโพโธ. อถ วา กิฺจนฺจ ปลิโพโธ จ กิฺจนปลิโพโธ, อามิสกิฺจิกฺขฺจ ราคาทิสํกิเลโส จาติ อตฺโถ.

วิเสสิตนฺติ วิโลมํ, วิสมํ กิริยนฺติ อตฺโถ. ราชภณฺฑนฺติ โอโรเธ สนฺธาย วทนฺติ.

ยาจโยโคติ ยาจนโยโค, ยาจกานํ มโนรถปริปูรณโต. เตนาห ‘‘ยาจิตพฺพยุตฺโต’’ติ. ทานยุตฺโตติ สตตํ ทานกิริยาสมงฺคี. ทานสํวิภาครโตติ เอตฺถ ทานํ นาม อตฺถิกานํ ยถาธิปฺปายปฏิยตฺตปริจฺจาโค, สํวิภาโค อตฺตนา ปริภุฺชิตพฺพโต อปฺปมตฺตกโตปิ สํวิภชนํ. อิเมหิ โข…เป… โหตีติ เอตฺถ โหติสทฺเทน ‘‘สมนฺนาคโต’’ติ ปทํ สมฺพนฺธิตพฺพํ, น ‘‘โสตาปนฺโน’’ติ ทสฺเสตุํ ‘‘โสตาปนฺโน…เป… โหตี’’ติ วุตฺตํ. เตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโม หิ อิธ วิธียติ, น โสตาปนฺนภาโว, เตน โสตาปนฺนลกฺขณเมเต ธมฺมา, น โสตาปนฺนภาวลกฺขณนฺติ ทสฺเสติ. ตถา หิ ‘‘โสตาปนฺเนน…เป… ลพฺภมานตํ ทสฺเสตี’’ติ วุตฺตํ.

๙๕. ลปติ กเถติ เอเตนาติ ลปนํ, โอฏฺํ.

๙๗. มุทิโตติ ทิพฺพสมฺปตฺติยา ปมุทิโต.

๙๙. กิฺจาปิ อุทตารีติ ตรณกิริยา อตีตภาเวน วุตฺตา, ตรณเมว ปน คเหตฺวา อาห ‘‘โอฆตรณสฺส อริยมคฺคกิจฺจตฺตา’’ติ. เอวํ วิปฺปมุตฺโต, วิมุตฺโตติ จ เอตฺถ มุจฺจนกิริยายปิ วตฺตพฺพํ.

๑๐๐. ปาตุ-สทฺทปุพฺพโก ภวนฺติ-สทฺโท สิยา อุปฺปาทปริยาโย สิยา อาวิภาวปริยาโยติ ‘‘ปาตุภวนฺตี’’ติ ปทสฺส ‘‘อุปฺปชฺชนฺติ, ปกาเสนฺติ จา’’ติ อตฺโถ วุตฺโต. ปาตุภูตธมฺมสฺสาติ อุปฺปนฺนโพธิปกฺขิยธมฺมสฺส, วิภูตจตุสจฺจธมฺมสฺส วา. โน กลฺโลติ น ยุตฺโต. สเหตุธมฺมนฺติ เอตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมาว คหิตา, น ปจฺจยธมฺมาติ? นยิทเมวํ ทฏฺพฺพํ ปจฺจยธมฺมานมฺปิ ปจฺจยุปฺปนฺนภาวานติวตฺตนโต. อถ วา สเหตุธมฺมนฺติ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺโม ปธานภาเวน วุตฺโต, ปจฺจยธมฺโม ปน คุณภาเวนาติ เอวเมตฺถ อุภเยสํ วุตฺตภาโว เวทิตพฺโพ.

อารฺกนฺติ อารฺกงฺคสมนฺนาคตํ. อฺาโตติ ปริจยวเสน น าโต, อสํสฏฺโติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘นิจฺจนโว’’ติ.

พฺยาปาทวิหึสาวิตกฺกวิรเห เวริปริสงฺกาย อภาเว อกิตฺติปริมุตฺตีติ เอวมาทีหิปิ การเณหิ โกธปฺปหาเนน สุขํ สุปติ. โกธปริฬาหาภาโว ปน ปากฏตโรติ อาห ‘‘โกธ…เป… สยตี’’ติ. วิสมูลสฺสาติ เอตฺถ วิสสริกฺขตาย ‘‘วิส’’นฺติ ทุกฺขํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘ทุกฺขวิปากสฺสา’’ติ. สุขนฺติ เจตสิกสุขํ. อกฺกุฏฺสฺส ปจฺจกฺโกสิตฺวา จ ปจฺจกฺโกสนเหตุ อุปฺปชฺชตีติ โยชนา.

๑๐๑. สลฺลุพฺพาหนํ สลฺลุทฺธรณํ.

วิสยเภเทน, ปวตฺติอาการเภเทน จ อเนกเภทตฺตา กามสฺาย วุตฺตํ ‘‘ยาย กายจี’’ติ.

ทานมุเขนาติ ทาเนน มุขภูเตน, ทานํ ปมุขํ กตฺวาติ อตฺโถ.

‘‘อริยมคฺคสมฺปาปนวเสนา’’ติ อิมินา อนุกมฺปานุทฺทยานํ เอกนฺตานวชฺชตเมว วิภาเวติ. ‘‘อนุกมฺปา’’ติ ปทสฺสตฺถวิวรณํ ‘‘กรุณายนา’’ติ, อิตรสฺส ‘‘เมตฺตายนา’’ติ.

๑๐๒. ปกติอาทีติ อาทิสทฺเทน อณุอิสฺสรปชาปติปุริสกาลาธิฏฺายการิอาทิเก สงฺคณฺหาติ.

กาเมสูติ กามคุเณสุ รูปาทิวิสเยสุ.

พหลกิเลสตายาติ พหุลกิเลสภาเวน. ปุพฺพเหตุมนฺทตายาติ วิวฏฺฏูปนิสฺสยสฺส กุสลสฺส อกตตฺตา.

จิตฺตวูปสมภาวนายาติ จิตฺตวูปสมกรภาวนาย สมถวิปสฺสนาย.

ปริสฺสยา สีลาทิปริปูรณสฺส ปริพนฺธภูตา กิเลสา เอว. อนริยา ปฺาสีสํ อุกฺขิปิตฺวา าตุเมว น สกฺโกนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘าณสิเรน อโธสิรา หุตฺวา’’ติ.

๑๐๓. ภควโต, ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ วสนโยคฺยภาโว, เตหิ นิวุตฺถภาโว จ ตสฺส สาติสโย วณฺโณติ วุตฺตํ ‘‘ปมคาถาย เชตวนสฺส วณฺณํ กเถตฺวา’’ติ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘คาเม วา ยทิ วารฺเ, นินฺเน วา ยทิ วา ถเล;

ยตฺถ อรหนฺโต วิหรนฺติ, ตํ ภูมิรามเณยฺยก’’นฺติ. (ธ. ป. ๙๘; เถรคา. ๙๙๑);

อิธ ธมฺมสทฺโท สมาธิปริยาโย ‘‘เอวํธมฺมา เต ภควนฺโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๑๓; ม. นิ. ๓.๑๙๘; สํ. นิ. ๕.๓๗๘) วิยาติ อาห ‘‘ธมฺโมติ สมาธี’’ติ สมาธิปกฺขิกา ธมฺมา สติวายามา.

นานุคจฺเฉยฺยาติ นานุตเสยฺย. อนุตสนเมว หิ ตณฺหาทิฏฺีหิ อนุคมนํ. ปฏิวิปสฺเสยฺยาติ วิปสฺสนาสมฺมสนมาห. ยมกโต, หิ ขณิกโต, ปฏิปาฏิโต จ สมฺมสนํ วิปสฺสนายปิ สมฺมสนโต ปฏิวิปสฺสนา นาม. สา หิ วิปสฺสนาย ทิฏฺิอุคฺฆาฏนมานสมุคฺฆาฏนนิกนฺติปริยาทานเหตุตาย วิเสสโต ปฏิปกฺเขน อสํหีรอสํกุปฺปนเหตุภูตา ปริพฺรูหนา โหติ. ‘‘ปุนปฺปุนํ…เป… อปฺเปนฺโต’’ติ เอเตน นิพฺพานารมฺมณธมฺมานุพฺรูหนํ ยถา ‘‘พฺรูเหตา สุฺาคาราน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๖๔) ทสฺเสติ.

ยํ กิฺจิ อปทิสิตฺวา ปฏิฺาทานํ สงฺคโร. โส ปน อตฺตโน กิจฺจวิเสสํ อปทิสิตฺวา มิตฺตสนฺถววเสน วา กาลาคมนํ อปทิสิตฺวา กิฺจิกฺขานุปฺปทาเนน วา ปฏิพาหกรณํ อปทิสิตฺวา พลคฺคโพธวเสน วา สิยาติ ตสฺส มิตฺตกรณาทิปริยายตํ สนฺธายาห ‘‘สงฺคโรติ…เป… นาม’’นฺติ. เอวํ ปฏิปนฺนตฺตาติ เอวํ อนิจฺจสฺามุเขน ติยทฺธเกสุ สงฺขาเรสุ อปฺปมาทปฺปฏิปตฺติยา ปฏิปนฺนตฺตา.

ทิพฺพจกฺขุ สุวิสุทฺธนฺติ สาวเสสา เทสนาติ อาห ‘‘ยํ สจฺฉิกโรตี’’ติ. รูปายตนฺเหตฺถ อธิปฺเปตํ.

๑๐๔. อนฺตนฺติ สงฺขารานํ ปาริมนฺตภูตํ. เวทานนฺติ มคฺคาณเวทานเมว. อรหตฺตาธิคเมน อนฺตํ ปริโยสานํ คตตฺตา. กมฺมวิปากวฏฺฏานํ, กิเลสวฏฺฏสฺสาปิ จ อุสฺสเทน อุปจเยน อุสฺสทา, ราคาทโย.

สุกฺโกภาสตาย สุกฺกา, อภิวิสิฏฺคฺคหา. สพฺพานิ วา ตารกรูปานิ สุกฺกา. วินฺทตีติ อุปลภติ, ปฏิวิชฺฌตีติ อตฺโถ.

‘‘อชฺฌตฺตํ วิปสฺสนาภินิเวโส โหตี’’ติ อิทํ ‘‘สเกสุ ธมฺเมสู’’ติ ปารคุภาวสฺส วิเสสิตตฺตา วุตฺตํ, ตฺจ โข อภินิเวเสเนว เทสิตํ. ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อภิฺเยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๔๖; ปฏิ. ม. ๑.๓) วุตฺตํ. ปารคุตา จ เตสํ ขนฺธานํ ปริฺาภิสมยวเสน โหติ. ตโต จ เนสํ เหตุภูตสมุทเย, ตทปฺปวตฺติลกฺขเณ นิโรเธ, นิโรธคามินิยา ปฏิปทาย จ ปหานสจฺฉิกิริยาภาวนาภิสมยปาริปูริวเสน อิตรสจฺเจสุปิ ปารคุภาโว วุตฺโต เอว โหติ. สพฺพโส หิ สกอตฺตภาวโพเธนปิ จตุสจฺจาภิสมโย โหติเยว. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อิมสฺมึเยว พฺยามมตฺเต กเฬวเร สสฺิมฺหิ สมนเก โลกฺจ ปฺเปมิ, โลกสมุทยฺจา’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๑.๑๐๗; อ. นิ. ๔.๔๕). อถ วา สเกสุ ธมฺเมสูติ อตฺตโน ธมฺเมสุ. อตฺตธมฺมา นาม อตฺถกามสฺส กุลปุตฺตสฺส สีลาทิธมฺมา. สีลสมาธิปฺาทโย หิ โวทานธมฺมา เอกนฺตหิตสุขสมฺปาทนโต ปุริสสฺส สกธมฺมา นาม, น อนตฺถาวหา สํกิเลสธมฺมา วิย ปรธมฺมา. เตสํ สีลาทีนํ ปาริปูริยา ปารํ ปริยนฺตํ คโตติ ปารคู. ‘‘อกฺกุล ปกฺกุล’’อิติ เอวํ วิหึสนกปโยคํ. อชกลาเปน (อุทา. ๗) หิ ตทา ภควนฺตํ ภีสาเปตุกาเมน กตํ ยกฺขคชฺชิตํ ‘‘อกฺกุล ปกฺกุล’’ อิติ อิมินา อากาเรน สตฺตานํ โสตปถํ อคมาสิ, ตสฺมา ตํ ‘‘อกฺกุลํ ปกฺกุลกรณ’’นฺติ วุตฺตํ.

นาภินนฺทตีติ ‘‘อยํ มํ ทฏฺุํ อาคตา’’ติ น ตุสฺสติ. ยสฺมา ปน ‘‘ภควโต ภาสิตํ อภินนฺที’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๘๘) วิย สมฺปฏิจฺฉนตฺโถปิ อภินนฺทสทฺโท โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘จิตฺเตน น สมฺปฏิจฺฉตี’’ติ. น โสจตีติ ‘‘มยา อสมฺโมทิตา คจฺฉตี’’ติ น จิตฺตสนฺตาปํ อาปชฺชติ. ‘‘สงฺคา สงฺคามชึ มุตฺต’’นฺติ อิทํ อภินนฺทโสจนานํ อภาวสฺส การณวจนํ.

เตนาติ อุทเก นฺหาเนน. เตเนวาห ‘‘น อุทเกน สุจี โหตี’’ติ. ตสฺสตฺโถ – อุทกุมฺมุชฺชนาทินา เนว สตฺตานํ สุจิ ปาปโต สุทฺธิ นาม โหตีติ. อุทกุมฺมุชฺชนาทีนิ หิ อิธ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘อุทก’’นฺติ วุตฺตํ. อุทเกนาติ วา อุมฺมุชฺชนาทิกิริยาสาธนภูเตน อุทเกน สตฺตานํ สุจิ ปาปสุทฺธิ น โหตีติ. อถ วา สุจิเตน ยถาวุตฺเตน อุทเกน ปาปมลโต สุทฺโธ นาม สตฺโต น โหตีติ. ยทิ สิยา, สพฺเพสเมว มจฺฉพนฺธานํ ปาปสุทฺธิ สิยา. เตนาห ‘‘พหฺเวตฺถ นฺหายตี ชโน’’ติ. มาตุฆาตาทิปาปกมฺมการีนํ, อฺเสฺจ โคมหึสาทีนํ อุทกํ โอโรหนฺตานํ อนฺตมโส มจฺฉกจฺฉเป อุปาทาย สพฺเพสมฺปิ ปาปสุทฺธิ สิยา, น ปเนวํ โหติ. กสฺมา? นฺหานียปาปเหตูนํ อปฺปฏิปกฺขภาวโต. ยฺหิ ยํ วินาเสติ, โส ตสฺส ปฏิปกฺโข. ยถา อาโลโก อนฺธการสฺส, วิชฺชา อวิชฺชาย, น เอวํ นฺหานํ ปาปสฺส, ตสฺมา นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ ‘‘น อุทเกน สุจี โหตี’’ติ. เยน ปน สุจิ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยมฺหิ สจฺจฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สจฺจนฺติ วจีสจฺจฺจ วิรติสจฺจฺจ. อถ วา สจฺจนฺติ าณสจฺจฺเจว ปรมตฺถสจฺจฺจ. ธมฺโมติ เสโส อริยธมฺโม. สจฺจสฺส ปเนตฺถ วิสุํ คหณํ ตสฺส พหุการตาทสฺสนตฺถํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

ชาติพลนิเสธกนฺติ ชาติมตฺตพฺราหฺมณานํ โภวาทิกานํ ปฏิเสธกํ. ชาติวาทสฺส วา นิเสธกํ, ‘‘น ชจฺจา พฺราหฺมโณ โหตี’’ติ (สุ. นิ. ๖๕๕) หิ วุตฺตํ. เถโร หิ ตถาวาเทน เต อนิคฺคณฺหนฺโตปิ นิคฺคณฺหนฺโต วิย โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ.

๑๐๕. วิมุตฺติยนฺติ อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุยํ.

สวาสนนฺติ เอตฺถ ขีณาสวสฺสาปิ อขีณาสวสทิสกายวจีปโยคเหตุภูตา สนฺตาเน กิเลสภาวนา วาสนา นาม อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๑๕; ธ. ป. อฏฺ. ๒.ปิลินฺทวจฺฉตฺเถรวตฺถุ) วสลโวหาโร วิย, สห วาสนายาติ สวาสนํ, ภาวนปุํสกฺเจตํ ‘‘วิสมํ จนฺทิมสูริยา ปริวตฺตนฺตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๗๐) วิย. ยถาวุตฺตวาสนมฺปิ อเสเสตฺวาติ อตฺโถ. กุมฺมคฺคปริหรณวเสน มคฺคสมฺปฏิปตฺตีติ มคฺเค กุสโล อมคฺเคปิ กุสโล เอว โหติ. ภควา ปน สพฺพฺุตาย สพฺพตฺเถว กุสโลติ อาห ‘‘มคฺเค จ อมคฺเค จ โกวิโท’’ติ.

๑๐๖. ตเมน ยุตฺโตติ ยถาวุตฺตตโม ตสฺส อตฺถีติ ตโม, ปุคฺคโล. อปฺปกาสภาเวน ิตา ขนฺธาว ตโม. อาโลกภูโตติ ชาติคุณาโลโก, ปากฏคุโณติ อตฺโถ.

กิเลสมยํ พนฺธนํ ‘‘ทฬฺห’’นฺติ วทนฺติ. ยโต สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌนฺตา พุทฺธาว นํ ฉินฺทนฺติ, น อฺเ.

ทุจฺเฉทนตฺเถน สติปิ ทฬฺหภาเว สิถิลวุตฺติตํ ตสฺส ทีเปตุํ ‘‘พนฺธนภาวมฺปี’’ติอาทิมาห. เตน ‘‘อโห สุขุมตรํ โข, ภิกฺขเว, มารพนฺธน’’นฺติ วุตฺตํ.

๑๐๗. ยทิปิ เจตนา กุสลากุสลสาธารณา, อปุฺาภิสงฺขาโร อิธาธิปฺเปโตติ ตสฺส วเสน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อกุสลเจตนาวเสน เจเตตี’’ติ อาห. เจตนํ อภิสนฺทหนํ, จิตฺตสฺส พฺยาปาราปตฺติภาเวน ปวตฺตีติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน เจตนา ยทา วิฺตฺตึ สมุฏฺาเปติ, ตทา ทิคุณุสฺสาหาทิคุณวายามา วิย หุตฺวา ปากฏํ ปโยคํ นิปฺผาเทติ, ตสฺมา ‘‘ปกปฺเปตี’’ติ วุตฺตา. ปากฏปฺปโยคกปฺปนฺเหตฺถ ปกปฺปนํ อธิปฺเปตํ. เตนาห ‘‘ตเมว ปกปฺเปตี’’ติ. ปจฺจยฏฺโ อิธ อารมฺมณตฺโถติ วุตฺตํ ‘‘ปวตฺติยา ปจฺจโย โหตี’’ติ.

๑๐๘. ยถา ชลสมุทฺทสฺส วีจิสมุฏฺานวเสน ลพฺภมาโน เวโค ‘‘วีจิมโย’’ติ วุจฺจติ, เอวํ จกฺขุสมุทฺทสฺสาปิ รูปาวภาสนวเสน ลพฺภมาโน เวโค ‘‘รูปมโย’’ติ วุตฺโต. เอเสว นโย เสเสสุปิ. อาวิฺฉนโตติ อากฑฺฒนโต, อากฑฺฒนฺเจตฺถ สนฺตานสฺส ตนฺนินฺนภาวเหตุตาย ทฏฺพฺพํ.

สมุทนํ กิเลสเตมนํ, อวสฺสวเหตุตา, กิเลสานํ อูมิอาทิสทิสตา สมาวฏฺฏเนน สตฺตานํ อนตฺถาวหตาย เวทิตพฺพา. อุปรูปริเวคุปฺปตฺติยา อุปคตสฺส อุฏฺาตุํ อปฺปทาเนน, คุณสารวินาสเนน จ โกธุปนาหาทีนํ อูมิอาทิสทิสตา ทฏฺพฺพา.

อภิมุโข นนฺทตีติ ตทารมฺมณํ สุขํ โสมนสฺสํ สาทิยนฺโต สมฺปฏิจฺฉติ. อภิวทตีติ ตณฺหาภินิเวสวเสน อภินิวิสฺส วทติ. ตฺหิสฺส อภินิเวสํ ทีเปตุํ ‘‘อโห สุข’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อชฺโฌสานํ อธิมุจฺจนภูตาย ตณฺหาย ตณฺหาวตฺถุกสฺส อนุปวิสิตฺวา อาเวณิกตากรณนฺติ อาห ‘‘อชฺโฌสาย ติฏฺตีติ คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา’’ติ.

๑๐๙. ‘‘กสฺมา’’ติอาทินา สนฺตาปทุกฺขานํ อสุปฺปติการตํ อาห ‘‘เยน วา ปกาเรนา’’ติ. เยนาติ เยน วา กามชฺโฌสานทิฏฺิชฺโฌสานภูเตน มิจฺฉาภินิเวสปฺปกาเรน. คหฏฺปพฺพชิตา ตถารูปํ กตฺวา อตฺตโน วฑฺฒิฺจ มฺนฺติ. อวฑฺฒิ เอว ปน โหติ ตสฺส ปการสฺส วฑฺฒิยํ อนุปายภาวโต จ อุปายภาวโต จ อวฑฺฒิยํ. ตถาปีติ ตตฺถ ตตฺถ อิจฺฉาวิฆาตํ ปาปุณนฺโตปิ. ยสฺมา อิโต พาหิรกา สพฺเพน สพฺพํ ภวนิสฺสรณํ อปฺปชานนฺโต มนฺทกิเลสํ ทีฆายุกํ สุขพหุลํ เอกจฺจํ ภวํ เตเนว มนฺทกิเลสาทิภาเวน ‘‘นิพฺพาน’’นฺติ สมนุปสฺสนฺติ, ตสฺมา ภเวน ภววิปฺปโมกฺขํ วทนฺตีติ.

ภวทิฏฺิสหคตา ตณฺหา ปุริมปเท อุตฺตรปทโลเปน ภวตณฺหาติ วุตฺตาติ อาห ‘‘ภวตณฺหาติอาทีสุ วิยา’’ติ.

ยตฺถาติ ยสฺมึ ภเว.

ตโต เอวาติ ภูตรติยา เอว. อฺมฺฺหิ สตฺตานํ ฉนฺทราโค พลวา โหติ. อนวเสสโตติ อนวเสเสน, น กิฺจิ เสเสตฺวา.

สํสารโสตสฺส อนุกูลภาเวน คจฺฉตีติ อนุโสตคามี. ตสฺเสว ปฏิกฺกูลวเสน นิพฺพิทานุปสฺสนาทีหิ ปวตฺตตีติ ปฏิโสตคามี, อจลปฺปสาทาทิสมนฺนาคเมน ิตสภาโวติ อตฺโถ.

๑๑๐. ‘‘ปลพฺภติ, นิขชฺชตี’’ติอาทีสุ วิย อุปสคฺโค ปทวฑฺฒนมตฺตนฺติ อาห ‘‘อภิชาติโกติ ชาติโย’’ติ. กณฺหธมฺมสมนฺนาคตตฺตา วา กณฺโห. ปมวเยปิ มชฺฌิมวเยปิ ปาปสมงฺคี หุตฺวา ิโต กณฺหธมฺเม อภิชายติ, ปจฺฉาปิ ปาปํ ปสวตีติ อตฺโถ. สุกฺโกติ วา เอตฺถ วุตฺตวิปริยาเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๑๑๑. ปุริมสฺมินฺติ ปุริมสฺมึ ปเท. วิสเย ภุมฺมํ ตตฺถ เทยฺยธมฺมสฺส ปติฏฺาปนโต. ทุติเย อธิกรเณ, ตทธิกรณฺหิ นิพฺพานนฺติ. คหฏฺปพฺพชิตกิจฺเจสุ วา วิสิฏฺธมฺมทสฺสนตฺถํ ปจฺจยทานารหตฺตานํ สมธุรตานิทฺเทโส. อถ วา เยน เยน ปน วตฺถุนาติ รูปารูปนิโรธาทินา ตณฺหาวตฺถุนา. อมราวิกฺเขปวตฺถุอาทินาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน สุภสุขาทิมิจฺฉาภินิเวสวตฺถุํ สงฺคณฺหาติ. ยถา วา ตณฺหาทิฏฺิทุจฺจริตานํ วเสน สํกิเลสภาคิยสฺส สุตฺตสฺส วิภาโค, เอวํ สมถวิปสฺสนาสุจริตวเสน ตณฺหาโวทานภาคิยาทิสุตฺตวิภาโคติ ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ ‘‘ตณฺหา…เป… นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ.

อิทํ เอวํ ปวตฺตนฺติ ยถา ทุจินฺติตาทิวเสน พาโล โหติ ปุคฺคโล, เอวํ ตสฺส ทุจินฺติตจินฺติตาทิภาวนาวเสน ปวตฺตํ อิทํ สํกิเลสภาคิยํ นาม สุตฺตนฺติ ปุพฺเพ สํกิเลสธมฺมวิภาเคน วุตฺตํ อิทานิ สามฺโต สงฺคเหตฺวา วทติ. อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตนฺติ เอตฺถาปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

กิเลสฏฺาเนหีติ กิเลสานํ ปวตฺติฏฺาเนหิ. กิเลสาวตฺถาหีติ กิเลสานํ ปวตฺติอาการวิเสเสหิ. กามราคาทีหิ สํยุชฺชติ กามราคาทิเหตุ กมฺมวิปากาทินา. สติปิ เตสํ กาลนฺตรวุตฺติยํ สํยุตฺโต นาม โหติ, ยโต กามราคาทโย ‘‘สํโยชน’’นฺติ วุจฺจนฺติ. อุปาทิยตีติ ทฬฺหํ คณฺหาติ ปวตฺเตติ. เสสํ วุตฺตนยตฺตา, อุตฺตานตฺตา จ สํวณฺณิตํ.

๑๑๒. อุทาหรณวเสนาติ นิทสฺสนวเสน, เอกเทสทสฺสนวเสนาติ อตฺโถ. สกลสฺส หิ ปริยตฺติสาสนสฺส โสฬสหิ ปฏฺานภาเคหิ คหิตตฺตา. ยถา ตเทกเทสานํ โสฬสนฺนมฺปิ ปฏฺานภาคานํ คหณํ อุทาหรณมตฺตํ, เตสํ ปน โสฬสนฺนํ เอกเทสคฺคหณํ อุทาหรณนฺติ กิเมตฺถ วตฺตพฺพํ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอกเทสทสฺสนวเสนาติ อตฺโถ’’ติ. กสฺมา ปเนตฺถ ปาฬิยํ ปฏฺานสฺส เอกเทโสว อุทาหโฏ, น อวเสโสติ? นยนิทสฺสนตฺถํ. อิมินา นเยน อวเสโสปิ ปฏฺานภาโว เวทิตพฺโพติ.

ตตฺถ ‘‘อปฺปมฺปิ เจ สํหิต ภาสมาโน…เป… ส ภาควา สามฺสฺส โหตี’’ติ (ธ. ป. ๒๐) อิทํ วาสนาภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ. เอตฺถ หิ ‘‘อปฺปมฺปิ เจ สํหิต ภาสมาโน’’ติ อิทํ วาสนาภาคิยํ, ‘‘ส ภาควา สามฺสฺส โหตี’’ติ อิทํ อเสกฺขภาคิยํ.

ตถา มฆเทวสุตฺตํ. ตตฺถ หิ ‘‘ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, อิมิสฺสาเยว มิถิลายํ มฆเทโว นาม ราชา อโหสิ ธมฺมิโก ธมฺมราชา ธมฺเม ิโต มหาธมฺมราชา, ธมฺมํ จรติ พฺราหฺมณคหปติเกสุ เนคเมสุ เจว ชนปเทสุ จ, อุโปสถฺจ อุปวสติ จาตุทฺทสึ, ปฺจทสึ, อฏฺมิฺจ ปกฺขสฺสา’’ติอาทิ (ม. นิ. ๒.๓๐๘), อิทํ วาสนาภาคิยํ. ‘‘อิทํ โข ปนานนฺท, เอตรหิ มยา กลฺยาณํ วตฺตํ นีหริตํ เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๘๙) อิทํ อเสกฺขภาคิยํ. ‘‘ปมาทํ อปฺปมาเทน, ยทา นุทติ ปณฺฑิโต’’ติ (ธ. ป. ๒๘) อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ. ‘‘ปฺาปาสาท…เป… อเวกฺขตี’’ติ (ธ. ป. ๒๘) อิทํ อเสกฺขภาคิยนฺติ อิทํ นิพฺเพธภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ.

ตถา ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๔๙๓) สุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานิ. กตมานิ ตีณีติ? อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ อฺินฺทฺริย’’นฺติ อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ, ‘‘อฺาตาวินฺทฺริย’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๔๙๓) อิทํ อเสกฺขภาคิยํ.

รฏฺปาลสุตฺตํ (ม. นิ. ๒.๒๙๓ อาทโย) สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ. ตตฺถ หิ ‘‘อูโน โลโก อติตฺโต ตณฺหาทาโส’’ติอาทินา (ม. นิ. ๒.๓๐๖) สํกิเลโส วิภตฺโต, ‘‘เอโก วูปกฏฺโ’’ติอาทินา (ม. นิ. ๒.๒๙๙) อเสกฺขธมฺมา, อิตเรน วาสนาธมฺมาติ.

‘‘ธมฺเม จ เย อริยปเวทิเต รตา, อนุตฺตโร เต วจสา มนสา กมฺมุนา จ;

เต สนฺติโสรจฺจสมาธิสณฺิตา, สุตสฺส ปฺาย จ สารมชฺฌคู’’ติ. (สุ. นิ. ๓๓๒);

อิทํ วาสนาภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ. เอตฺถ หิ ‘‘ธมฺเม จ เย อริยปเวทิเต รตา’’ติ อยํ วาสนา, ‘‘อนุตฺตรา…เป… สณฺิตา’’ติ อยํ นิพฺเพโธ, ‘‘สุตสฺส ปฺาย จ สารมชฺฌคู’’ติ อเสกฺขธมฺมา.

ตถา ‘‘สทฺโธ สุตวา นิยามทสฺสี’’ติ คาถา (สุ. นิ. ๓๗๓). ตตฺถ หิ ‘‘สทฺโธ สุตวา’’ติ วาสนา, ‘‘นิยามทสฺสี วคฺคคเตสุ น วคฺคสาริ ธีโร, โลภํ โทสํ วิเนยฺย ปฏิฆ’’นฺติ นิพฺเพโธ, ‘‘สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺยา’’ติ อเสกฺขธมฺมา.

สพฺพาสวสํวโร ปริสฺสยาทีนํ วเสน สพฺพภาคิยํ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ หิ สํกิเลสธมฺมา, โลกิยสุจริตธมฺมา, เสกฺขธมฺมา, อเสกฺขธมฺมา จ วิภตฺตา. อสพฺพภาคิยํ ปน ‘‘ปสฺสํ ปสฺสตี’’ติอาทิกํ (ม. นิ. ๑.๒๐๓) อุทกาทิอนุวาทนวจนํ เวทิตพฺพํ. เอวเมตสฺมึ โสฬสวิเธ สาสนปฏฺาเน เอเต ตณฺหาทิวเสน ตโย สํกิเลสภาคา, โวทานาทิวเสน ตโย วาสนาภาคา, เสกฺขานํ สีลกฺขนฺธาทีนํ วเสน ตโย นิพฺเพธภาคา, อเสกฺขานํ สีลกฺขนฺธาทีนํ เอว วเสน ตโย อเสกฺขภาคา, เตสํ วเสน มูลปฏฺานานิ เอว ทฺวาทส โหนฺติ. ตานิ ปน วิตฺถารนเยน วิภชิยมานานิ ฉนฺนวุตาธิกานิ จตฺตาริ สหสฺสานิ โหนฺติ. ยถาทสฺสนํ ปเนตานิ อุทฺธริตพฺพานิ. ตานิ ปน ยสฺมา สงฺคหโต กามตณฺหาทิวเสน ตโย ตณฺหาสํกิเลสภาคา, สสฺสตุจฺเฉทวเสน ทฺเว ทิฏฺิสํกิเลสภาคา, กายทุจฺจริตาทิวเสน ตโย ทุจฺจริตสํกิเลสภาคาติ อฏฺ สํกิเลสภาคา. ธมฺมามิสาภยทานวเสน ติวิธํ ทานมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ, กายสุจริตาทิวเสน ติวิธํ สีลมยํ ปุฺกิริยวตฺถุ, สมถวิปสฺสนาวเสน ทุวิธํ ภาวนามยํ ปุฺกิริยวตฺถูติ อฏฺเว วาสนาภาคา.

สทฺธานุสารี สทฺธาวิมุตฺโต ธมฺมานุสารี ทิฏฺิปฺปตฺโต กายสกฺขีติ (ปุ. ป. มาติกา ๗.๓๒-๓๖; ปุ. ป. ๒๖-๓๐) ปฺจนฺนํ เสกฺขานํ ปจฺเจกํ ตโย สีลาทิกฺขนฺธาติ ปนฺนรส นิพฺเพธภาคา, สุฺตานิมิตฺตาปณิหิตเภทา ปฺาวิมุตฺตานํ ตโย อคฺคผลธมฺมา, เตสุ ปจฺเจกํ ตโย ตโย สีลาทิกฺขนฺธา, ตถา อุภโตภาควิมุตฺตานนฺติ อฏฺารส, สิกฺขิตพฺพาภาวสามฺเน อสงฺขตธาตุํ ปกฺขิปิตฺวา เอกูนวีสติ อเสกฺขภาคา, อิติ ปุริมานิ เอกตึส, อิมานิ เอกูนวีสตีติ สมปฺาส สํกิเลสภาคิยาทิธมฺมา โหนฺติ. ตสฺมา อิเมสํ สมปฺาสาย สํกิเลสภาคิยาทิธมฺมานํ วเสน สมปฺาส สุตฺตานิ โหนฺติ.

ยสฺมา จ เต ปฺาวิมุตฺตา อุภโตภาควิมุตฺตวิภาคํ อกตฺวา อสงฺขตาย ธาตุยา อคฺคหเณน นิปฺปริยาเยน อเสกฺขภาคาภาวโต นเวว อเสกฺขภาคาติ สมจตฺตาลีส โหนฺติ, ตสฺมา เปฏเก ‘‘จตฺตารีสาย อากาเรหิ ปริเยสิตพฺพํ, ปฺาสาย อากาเรหิ สาสนปฏฺานํ นิทฺทิฏฺ’’นฺติ (เปฏโก. ๒๑) จ วุตฺตํ. สงฺคหโต เอว ปน ปุพฺเพ วุตฺตวิตฺถารนเยน โสฬส โหนฺติ, ปุน ติวิธสํกิเลสภาคิยาทิวเสน ทฺวาทส โหนฺติ, ปุน ตณฺหาทิฏฺิทุจฺจริตสํกิเลสตณฺหาทิฏฺิทุจฺจริตโวทานภาเวน ฉ โหนฺติ, ปุน สํกิเลสภาคิยํ วาสนาภาคิยํ ทสฺสนภาคิยํ วาสนาภาคิยํ อเสกฺขภาคิยนฺติ ปฺจ โหนฺติ, ปุน มูลปฏฺานวเสน จตฺตาริ โหนฺติ, ปุถุชฺชนภาคิยเสกฺขภาคิยอเสกฺขภาคิยภาเวน ตีณิ โหนฺติ, ปุน สํกิเลสภาคิยโวทานภาคิยภาเวน ทฺเว เอว โหนฺติ. ปฏฺานภาเวน ปน เอกวิธเมว, อิติ ปฏฺานภาเวน เอกวิธมฺปิ สํกิเลสโวทานภาคิยภาเวน ทุวิธนฺติ วิภาคโต ยาว ฉนฺนวุตาธิกํ จตุสหสฺสปฺปเภทํ โหติ, ตาว เนตพฺพํ. เอวเมตํ ปฏฺานํ สงฺคหโต, วิภาคโต จ เวทิตพฺพํ.

อิมสฺสาปิ ปฏฺานวิภาคสฺส, น ปุริมสฺเสวาติ อธิปฺปาโย. โลกิกํ อสฺสตฺถีติ, โลกิกสหจรณโต วา โลกิยํ, สุตฺตํ ปเทเสนาติ เอกเทเสน. สพฺพปเทสูติ ตํตํติกานํ ตติยปเทสุ. พุทฺธาทีนนฺติ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกานํ. ธมฺโม ปเนตฺถ พุทฺธาทิคฺคหเณน เวทิตพฺโพ, อาทิสทฺเทน วา.

ปริณมตีติ ปริปจฺจติ. ธรนฺตีติ ปพนฺธวเสน ปวตฺตนฺติ. นฺติ ปาปกมฺมํ. เตติ กุสลาภินิพฺพตฺตกฺขนฺธา. รกฺขนฺติ วิปากทานโต วิปจฺจิตุํ โอกาสํ น เทนฺตีติ อตฺโถ. อยฺจ อตฺโถ อุปปชฺชเวทนีเยสุ ยุชฺชติ, อิตรสฺมิมฺปิ ยถารหํ ลพฺภเตว. เตนาห ‘‘ทุติเย วา ตติเย วา อตฺตภาเว’’ติ.

๑๑๓. อตฺตโน อนวชฺชสุขาวหํ ปฏิปตฺตึ ปฏิปชฺชนฺโต ปรมตฺถโต อตฺตกาโม นามาติ อาห ‘‘อตฺตโน สุขกาโม’’ติ. สุขานุพนฺธฺหิ สุขํ กาเมนฺโต สุขเมว กาเมตีติ จ สุขกาโมติ.

วิตฺถตฏฺเนาติ สุวิปฺผารทิฏฺีนํ ปวตฺตนฏฺานตาสงฺขาเตน วิตฺถารฏฺเน.

๑๑๔. ทิฏฺเ ทุกฺขาทิธมฺเมติ ภาเวนภาวลกฺขเณ ภุมฺมํ, ทุกฺขาทิธมฺเม ทิฏฺเ าเตติ อตฺโถ.

‘‘อุทฺธ’’นฺติอาทิ กาลเทสานํ อนวเสสปริยาทานนฺติ อาห ‘‘อุทฺธนฺติ อนาคตํ, อุปริ จา’’ติอาทิ. คมเนนาติ จุตูปปาตคมเนน.

๑๑๕. นครทฺวารถิรกรณตฺถนฺติ นครสฺส ทฺวารพาหถิรกรณตฺถํ. คมฺภีรเนมตายาติ ‘‘เนมํ’’วุจฺจติ นิขาตถมฺภาทีนํ ปถวึ อนุปวิสิตฺวา ิตปฺปเทโส, คมฺภีรํ เนมํ เอตสฺสาติ คมฺภีรเนโม, ตสฺส ภาโว คมฺภีรเนมตา, ตาย. กมฺปนํ ยถาิตสฺส อิโต จิโต จ สฺโจปนํ, จาลนํ ิตฏฺานโต จาวนํ. อชฺโฌคาเหตฺวาติ อวิปรีตสภาวาภิสมยวเสน อนุปวิสิตฺวา, อนุปวิฏฺโ วิย หุตฺวาติ อตฺโถ.

สํโยชนานํ ปชหนวเสนาติ คาถาย วจนเสสํ อาเนตฺวา ทสฺเสติ. อถ วา ปหาตพฺพสฺส ปหาเนน วินา น ภาวนาสิทฺธีติ อตฺถสิทฺธํ ปหาตพฺพปหานํ อชฺฌตฺตํ, พหิทฺธาติ ปททฺวเยน โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ อชฺฌตฺตํ พหิทฺธาติ โอรมฺภาคิยอุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานํ วิสํโยคคหิโตติ อิมมตฺถํ ปาฬิยา สมตฺเถตุํ ‘‘เตนาห สพฺพโลเก’’ติ วุตฺตํ.

อโลภสีเสนาติ อโลเภน ปุพฺพงฺคเมน, ยโต โยคาวจโร ‘‘เนกฺขมฺมจฺฉนฺโท’’ติ วุจฺจติ. อสุภสฺา ราคปฺปฏิปกฺขตาย ‘‘วิเสสโต อโลภปฺปธานา’’ติ วุตฺตา, ทสาสุภวเสน วา. อธิคตชฺฌานาทีนีติ อาทิสทฺเทน วิปสฺสนาทีนิ สงฺคณฺหาติ. วิหึสารติราคานํ พฺยาปาทเหตุกโต จตฺตาโรปิ พฺรหฺมวิหารา อพฺยาปาทปธานาติ อาห ‘‘จตุ…เป… อพฺยาปาโท ธมฺมปท’’นฺติ. อธิคตานิ ฌานาทีนีติ โยชนา. ทสานุสฺสติ…เป… อธิคตานิ สมฺมาสติ ธมฺมปทํ สติสีเสน เตสํ อธิคนฺตพฺพตฺตาติ อธิปฺปาโย. อานาปานภาวนายํ สมาธิปิ ปธาโน, น สติ เอวาติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ทสกสิณ…เป… สมฺมาสมาธิ ธมฺมปท’’นฺติ วุตฺตํ. จตุธาตุววตฺถานวเสน อธิคตานมฺปิ เอตฺเถว สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

๑๑๖. อุปลกฺขณการณานีติ สฺชานนนิมิตฺตานิ.

ปาปเมว ปาปิโยติ อาห ‘‘ปาปํ โหตี’’ติ, ‘‘ปาปิโย’’ติ จ ลิงฺควิปลฺลาสวเสน วุตฺตํ. เอกวจเน พหุวจนนฺติ เอกวจเน วตฺตพฺเพ พหุวจนํ วุตฺตํ.

๑๑๗. โอลียนตณฺหาภินิเวสวเสนาติ ภวตณฺหาภวทิฏฺิวเสน. ตา หิ ภเวสุ สตฺเต อลฺลียาเปนฺติ. อติธาวนาภินิเวสวเสนาติ อุจฺเฉททิฏฺิวเสน. สา หิ อวฏฺฏุปจฺเฉทเมว วฏฺฏุปจฺเฉทํ กตฺวา อภินิวิสนโต อติธาวนาภินิเวโส นาม. โอลียนฺตีติ สมฺมาปฏิปตฺติโต สงฺโกจํ อาปชฺชนฺติ. อภิธาวนฺตีติ สมฺมาปฏิปตฺตึ อติกฺกมนฺติ.

เตสฺจาติ เตสํ อุภินฺนํ อภินิเวสานํ, ตทฺเสฺจ สพฺพมฺิตานํ.

๑๑๘. อิทํ อิฏฺวิปากํ อนิฏฺวิปากนฺติ อิทํ อิฏฺวิปากสงฺขาตํ อนิฏฺวิปากสงฺขาตํ ผลํ.

‘‘อกงฺขโต น ชาเนยฺยุ’’นฺติ เอเตน ‘‘อากงฺขโต’’ติ อิมินา ปเทน สทฺธึ สมฺพนฺธทสฺสนมุเขน ‘‘น ชฺา’’ติ ปทสฺส อตฺถํ ทสฺเสติ.

น อุปลพฺภตีติ นตฺถีติ อตฺโถ.

๑๒๐. ตานีติ กมฺมกมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตานิ. ปตฺถรณากาโรเยว เหส, ยทิทํ ฉายานํ โวลมฺพนํ. เอวํ โหตีติ ‘‘อกตํ วต เม กลฺยาณ’’นฺติอาทิปฺปกาเรน วิปฺปฏิสาโร โหติ.

๑๒๒. เอสเกหีติ คเวสเกหิ สปรสนฺตาเน สมฺปาทเกหิ. ทุกฺขุทฺรยนฺติ ทุกฺขผลํ. ตีหิ การเณหีติ กายวาจาจิตฺเตหิ. ตานิ หิ ตํตํสํวรานํ ทฺวารภาเวน การณานีติ วุตฺตานิ. ตีหิ าเนหีติ วา ตีหิ อุปฺปตฺติฏฺาเนหิ. ปิหิตนฺติ ปิธายกํ.

‘‘อุฏฺานฏฺานสงฺขาต’’นฺติ อิทํ ปาสาณภาวสามฺํ คเหตฺวา วุตฺตํ.

๑๒๓. รชมิสฺสกนฺติ ปุปฺผรชมิสฺสกํ. ตสฺสาติ ตสฺส เสกฺขาเสกฺขมุนิโน. มหิจฺฉาทีนํ วิย คาเม จรณปฺปจฺจยา คามวาสีนํ สทฺธาหานิ วา โภคหานิ วา น โหติ, อถ โข อุปรูปริ วุทฺธิเยว โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปากติกเมว โหตี’’ติ อาห. อชฺฌตฺติกกมฺมฏฺานนฺติ จตุสจฺจกมฺมฏฺานํ.

เตนาติ กุสเลน กายวจีกมฺเมน. ถิรภาโว ถามํ นามาติ ตสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ถามวาติ ิติมา’’ติ อาห.

อตฺตสํนิสฺสยํ เปมํ อตฺตาติ คเหตฺวา ‘‘อตฺตสม’’นฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อตฺตเปเมน สมํ เปมํ นตฺถี’’ติ. ภควโต วิปสฺสนาาโณภาสปฺปวตฺตึ สนฺธายาห ‘‘ปฺา ปน…เป… สกฺโกตี’’ติ. สพฺพฺุตฺาณํ, ปน อภิฺาาณานิ จ อนนฺตาปริมาณํ โลกธาตุํ โอภาเสนฺติ.

๑๒๔. กิสฺส ภีตาติ เกน การเณน ภีตา.

เปตฺวาติ ปวตฺเตตฺวา. วจนีโย ยาจกานนฺติ โยชนา, ยาจิตพฺพยุตฺโตติ อตฺโถ. ยฺอุปกฺขโรติ ยฺโปกรณํ. ‘‘เอเตสุ ธมฺเมสุ ิโต จตูสู’’ติ วุตฺตํ จตุกฺกํ ววตฺถเปตุํ ‘‘สทฺโธติ เอกํ องฺค’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

คาถายํ วุตฺตธมฺเม ทฺเว ทฺเว เอกํ กตฺวา องฺคกรณํ ทุกนโย.

ชาติธมฺมนฺติ ปวตฺติธมฺมํ สนฺธาย วทติ.

๑๒๕. สจฺเจกเทสโต สจฺจสมุทาโย อนวเสสปริยาทานโต วิสิฏฺโติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปรมตฺถสจฺจํ วา โหตู’’ติ อาห. จตุโร ปทาติ จตฺตาริ ปทานิ, ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ, จตฺตาโร ธมฺมโกฏฺาสาติ อตฺโถ. เกวลํ สตฺตวิภาคทสฺสนตฺถเมว จตุปทคฺคหณํ, น อธิคตธมฺมานุรูปตาย.

นิมฺมทาติ น มทา.

‘‘สจฺจวาที ชิโน โรโม’’ติปิ ปาโ. ตตฺถ โรโมติ ทิฏฺิราครตฺตานํ ติตฺถิยานํ, ติตฺถกรานฺจ อธมฺมวาทีนํ ราควิปรีตธมฺมเทสนโต ภยชนโก, อธมฺมวาทีนํ วา ตตฺถ อาทีนวทสฺสเนน ภายิตพฺโพ, อปฺปหีนาสํวรานํ วา ทุรุปสงฺกมนโต ทุราสโทติ อตฺโถ.

สจฺโจ จ โส ธมฺโม จาติ สจฺจธมฺโม. เตนาห ‘‘เอกนฺตนิสฺสรณภาเวนา’’ติอาทิ.

เอกายนภาวนฺติ เอกมคฺคภาวํ, อฺมคฺคภาวนฺติ อตฺโถ.

ทสฺสนภาคิยํ ภาวนาภาคิยนฺติ นิพฺเพธภาคิยเมว ทฺวิธา วิภชิตฺวา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘สํกิเลสภาคิยาทีหิ จตูหิ ปเทหี’’ติ. เสสตฺติกานนฺติ สตฺตาธิฏฺานตฺติกาทีนํ อฏฺนฺนํ ติกานํ. เสสปทานฺจาติ สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจาติอาทิมิสฺสกปทานฺจ. -สทฺเทน สํกิเลสภาคิยาทิปทานิ จ สงฺคณฺหาติ. โลกิยตฺติกสฺเสว หิ ‘‘เสสปทานี’’ติ วุตฺเตหิ มิสฺสกปเทหิ เอวํ สํสนฺทเน นยทสฺสนํ, อิตเรสํ ปน ติกานํ สํกิเลสภาคิยาทิปเทหิ เจว เสสปเทหิ จ สํสนฺทเน อิทํ นยทสฺสนนฺติ ‘‘วุตฺตนยานุสาเรน สุวิฺเยฺย’’นฺติ วุตฺตํ. สมติกฺกมนนฺติ ปหานํ. สติปิ วาสนาภาคิยสํกิเลสภาคิยธมฺมานํ โลกิยภาเว ปุริเมหิ ปน ปจฺฉิมา ปหาตพฺพา ตทงฺควเสน, วิกฺขมฺภนวเสน จ. เอวํ ปชหนสมตฺถตาย ปหานนฺติ วุตฺตํ ‘‘วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ สํกิเลสภาคิยสฺส สมติกฺกมาย โหตี’’ติ. สํกิเลสธมฺมานํ สมติกฺกเมน อธิคนฺตพฺพา โวทานธมฺมา วิยาติ โยชนา. ภาวนา นาม ติวิธา ฌานภาวนา, วิปสฺสนาภาวนา, มคฺคภาวนาติ. ตาสุ มคฺคภาวนาย คหิตาย วิปสฺสนาภาวนา คหิตา เอว โหตีติ ตํ อนามสิตฺวา อิตรา ทฺเว เอว คหิตา. ตถาปิ ‘‘ภาวนาภาคิยสฺส สุตฺตสฺส ปฏินิสฺสคฺคายา’’ติ วุตฺเต กึ สพฺเพน สพฺพํ อเสกฺขสฺส ฌานภาวนาปิ ปฏินิสฺสฏฺาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา ปาฬิยํ ‘‘อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถ’’นฺติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อเสกฺขธมฺเมสุ อุปฺปนฺเนสุ มคฺคภาวนากิจฺจํ นาม นตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘ฌานภาวนาปิ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถา เอวา’’ติ อาห.

เอกํ เอว ภวพีชํ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ เอกพีชํ, ตํ อสฺส อตฺถีติ เอกพีชี. สนฺธาวิตฺวา สมาคนฺตฺวา, นิพฺพตฺตนวเสน อุปคนฺตฺวาติ อตฺโถ. สํสริตฺวาติ ตสฺเสว เววจนํ. กุลํ กุลํ คจฺฉตีติ โกลํโกโล. ปุริมปเท อนุนาสิกโลปํ อกตฺวา นิทฺเทโส.

เตสํ โสตาปนฺนานํ. เอตํ ปเภทนฺติ เอกพีชิอาทิวิภาคํ. ปุริมภวสิทฺธํ วิวฏฺฏูปนิสฺสยปุฺกมฺมํ อิธ ปุพฺพเหตุ นาม. โย ‘‘กตปุฺตา’’ติ วุจฺจติ, โส ปมมคฺเค สาธิเต จริตตฺถตาย วิปกฺกวิปากํ วิย กมฺมํ อุปริมมคฺคานํ อุปนิสฺสโย น สิยาติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อุปริ…เป… อาปชฺชตี’’ติ. ติณฺณํ มคฺคานํ นิรตฺถกตา อาปชฺชติ ปมมคฺเคเนว เตหิ กาตพฺพกิจฺจสฺส สาธิตตฺตา. ปมมคฺเค…เป… อาปชฺชตีติ อนุปฺปนฺนสฺส อตฺถกิริยาสมฺภวโต. เอวํ ติณฺณํ วาทานํ ยุตฺติอภาวํ ทสฺเสตฺวา จตุตฺถวาโท เอเวตฺถ ยุตฺโตติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วิปสฺสนา…เป… ยุชฺชตี’’ติ. ‘‘สเจ หี’’ติอาทินา ตํ ยุตฺตึ วิภาเวติ. วิมุตฺติปริปาจนียานํ ธมฺมานํ ปริปกฺกตาย อินฺทฺริยานํ ติกฺขตาย าณสฺส วิสทตาย วิปสฺสนาย พลวภาโว เวทิตพฺโพ. โส หิ โวมิสฺสกนเยน สํสรณโก อิธาธิปฺเปโต ‘‘เทเว เจว มานุเส จ สนฺธาวิตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา. อิธ กามภเว ิโต อิธฏฺโก. มนุสฺสเทวโลกูปปชฺชนโต โอกาเรน โวกิณฺโณ. อริยสาวกสฺส ตํตํสตฺตนิกายุปปตฺติ ตสฺส ตสฺส โสธนสทิสํ กิเลสมลาทิอนตฺถาปนยนโตติ อาห ‘‘ฉ เทวโลเก โสเธตฺวา’’ติ. ‘‘อกนิฏฺเ ตฺวา’’ติ เอเตน เหฏฺาพฺรหฺมโลกโสธนํ วุตฺตเมวาติ เวทิตพฺพํ.

สทฺธํ ธุรํ กตฺวาติ สทฺธํ ธุรํ เชฏฺกํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา. สทฺธาย อนุสฺสติ ปฏิปตฺติ, สทฺธํ วา ปุพฺพภาคิยํ อนุสฺสติ, สทฺธาย วา อนุสรณสีโลติ สทฺธานุสารี. ธมฺมานุสารีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ธมฺโมติ ปเนตฺถ ปฺา เวทิตพฺพา. สทฺทหนฺโต วิมุตฺโตติ สทฺธาวิมุตฺโต. ยทิปิ สพฺพถา อวิมุตฺโต, สทฺธามตฺเตน ปน วิมุตฺโตติ อตฺโถ. สทฺธาย วา อธิมุตฺโตติ สทฺธาวิมุตฺโต. วุตฺตนเยนาติ อุปริมคฺควิปสฺสนาย พลวมนฺทมนฺทตรภาเวน. ทิฏฺิยา ปตฺโตติ ทิฏฺิปฺปตฺโต, จตุสจฺจทสฺสนสงฺขาตาย ทิฏฺิยา นิโรธปฺปตฺโตติ อตฺโถ. ทิฏฺนฺตํ วา ปตฺโตติ ทิฏฺิปฺปตฺโต, ทสฺสนสงฺขาตสฺส โสตาปตฺติมคฺคาณสฺส อนนฺตรปฺปวตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. ปมผลโต ปฏฺาย หิ ยาว อคฺคมคฺคา ทิฏฺิปฺปตฺตาติ. อิทนฺติ ยถาวุตฺตโสตาปนฺนานํ สทฺธาวิมุตฺตทิฏฺิปฺปตฺตตาวจนํ. อฏฺนฺนํ วิโมกฺขานนฺติ จตสฺโส รูปาวจรสมาปตฺติโย, จตสฺโส อรูปาวจรสมาปตฺติโยติ อฏฺ วิโมกฺขา, เตสํ.

ผุฏฺนฺตํ สจฺฉิกโรตีติ กายสกฺขี, ผุฏฺานํ อนฺโต ผุฏฺนฺโต, ผุฏฺานํ อรูปชฺฌานานํ อนนฺตโร กาโลติ อธิปฺปาโย. อจฺจนฺตสํโยเค เจตํ อุปโยควจนํ, ผุฏฺานนฺตรกาลเมว สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกโรตีติ วุตฺตํ โหติ, ‘‘วิสมํ จนฺทิมสูริยา ปริวตฺตนฺตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๗๐) วิย วา ภาวนปุํสกนฺติ เอตํ ทฏฺพฺพํ. โย หิ อรูปชฺฌาเนน รูปกายโต, นามกาเยกเทสโต จ วิกฺขมฺภนวิโมกฺเขน วิมุตฺโต, เตน นิโรธสงฺขาโต วิโมกฺโข อาโลจิโต ปกาสิโต วิย โหติ, น กาเยน สจฺฉิกโต, นิโรธํ ปน อารมฺมณํ กตฺวา เอกจฺเจสุ อาสเวสุ เขปิเตสุ เตน โส สจฺฉิกโต โหติ. ตสฺมา โส สจฺฉิกาตพฺพํ นิโรธํ ยถาอาโลจิตํ นามกาเยน สจฺฉิกโรตีติ ‘‘กายสกฺขี’’ติ วุจฺจติ, น ตุ วิมุตฺโต เอกจฺจานํ เอว อาสวานํ อปริกฺขีณตฺตา.

อเภเทนาติ อนฺตราปรินิพฺพายิอาทิเภเทน วินา. ‘‘อเภเทนา’’ติ จ อิทํ ‘‘สทฺธาวิมุตฺตทิฏฺิปฺปตฺตกายสกฺขิโน’’ติ อิธาปิ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. ยเถว หิ อนฺตราปรินิพฺพายิอาทิเภทานามสเนเนว เอโก อนาคามี โหติ, เอวํ ยถาวุตฺตเภทอามสเนเนว สทฺธาวิมุตฺโต, ทิฏฺิปฺปตฺโต, กายสกฺขีติ ตโย อนาคามิโน โหนฺติ. อยฺจ อนาคามิโน ตาทิสมวตฺถาเภทํ คเหตฺวา คณนา กตาติ เวทิตพฺพํ. ‘‘อวิหาทีสู’’ติอาทิ สุวิฺเยฺยเมว.

ปฺาย เอว วิมุตฺโต, น เจโตวิมุตฺติภูเตน สาติสเยน สมาธินาปีติ ปฺาวิมุตฺโต. อุภโตภาควิมุตฺโตติ อุโภหิ ภาเคหิ อุภโตภาคโต วิมุตฺโต. กิเลสานํ วิกฺขมฺภนสมุจฺฉินฺเนหิ รูปกายนามกายโต วิมุตฺโตติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิกฺขมฺภน…เป… วิมุตฺโต นามา’’ติ อาห. อรูปสมาปตฺติยา รูปกายโต, อคฺคมคฺเคน อรูปกายโต วิมุตฺตํ. ยถาห –

‘‘อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา, เต กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อุภโตภาควิมุตฺโต’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๘๒).

ยํ ปน มหานิทานสุตฺเต ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทิเก (ที. นิ. ๒.๑๒๙) นิโรธสมาปตฺติอนฺเต อฏฺ วิโมกฺเข วตฺวา –

‘‘ยโต โข, อานนฺท, ภิกฺขุ อิเม อฏฺ วิโมกฺเข อนุโลมมฺปิ สมาปชฺชติ…เป… อยํ วุจฺจตานนฺท, ภิกฺขุ อุภโตภาควิมุตฺโต, อิมาย จ, อานนฺท, อุภโตภาควิมุตฺติยา อฺา อุภโตภาควิมุตฺติ อุตฺตริตรา วา ปณีตตรา วา นตฺถี’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๓๐) –

วุตฺตํ, ตํ อุภโตภาควิมุตฺตเสฏฺวเสน วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺมา อารุปฺปสมาปตฺตีสุ เอกายปิ รูปกาโย วิกฺขมฺภิโต เอว นาม โหติ, ตสฺมา จตุนฺนํ อารุปฺปสมาปตฺตีนํ, นิโรธสมาปตฺติยา จ ลาภีนํ วเสน ปฺจ อุภโตภาควิมุตฺตา เวทิตพฺพา. เอส นโย กายสกฺขิมฺหิปิ. อฏฺวิโมกฺเขกเทเสปิ หิ อฏฺวิโมกฺขสมฺา ยถา ‘‘โลเก สตฺตา’’ติ.

เตรสสุ สีเสสุ ปลิโพธสีสาทีนิ, ปวตฺตสีสฺจ ปริยาทิยิตพฺพานิ, อธิโมกฺขสีสาทีนิ ปริยาทกานิ, โคจรสีสํ ปริยาทกผลํ. ตฺหิ วิสยชฺฌตฺตํ ผลํ, วิโมกฺโข ปริยาทกสฺส มคฺคสฺส, ผลสฺส จ อารมฺมณํ. สงฺขารสีสํ สงฺขารวิเวกภูโต นิโรโธติ ปริยาทิยิตพฺพานํ, ปริยาทกผลานฺจ สห วิสยสํสิทฺธิทสฺสเนน สมสีสิภาวํ ทสฺเสตุํ ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๘๗) เตรส สีสานิ วุตฺตานิ. อิธ ปน ‘‘ยสฺส ปุคฺคลสฺส อปุพฺพํ อจริมํ อาสวปริยาทานฺจ โหติ ชีวิตปริยาทานฺจา’’ติ (ปุ. ป. ๑๖) ปุคฺคลปฺตฺติยํ อาคตตฺตา เตสุ กิเลสปวตฺตสีสานํ เอว วเสน โยชนํ กโรนฺโต ‘‘กิเลสสีส’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปวตฺตสีสมฺปิ มคฺโค ปวตฺติโต วุฏฺหนฺโต จุติโต อุทฺธํ อปฺปวตฺติกรเณน ยทิปิ ปริยาทิยติ, ยาว ปน จุติ, ตาว ปวตฺติสมฺภวโต ‘‘ปวตฺตสีสํ ชีวิตินฺทฺริยํ จุติจิตฺตํ ปริยาทิยตี’’ติ อาห.

กิเลสปริยาทาเนน อตฺตโน อนนฺตรํ วิย นิปฺผาเทตพฺพา, ปจฺจเวกฺขณวารา จ กิเลสปริยาทานสฺเสว วาราติ วตฺตพฺพตํ อรหนฺติ. ‘‘วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๗๘; สํ. นิ. ๓.๑๒, ๑๔) หิ วจนโต ปจฺจเวกฺขณปริสมาปเนน กิเลสปริยาทานํ สมาปิตํ นาม โหติ. ตํ ปน ปริสมาปนํ ยทิ จุติจิตฺเตน โหติ, เตเนว ชีวิตปริสมาปนฺจ โหตีติ อิมาย วารจุติสมตาย กิเลสปริยาทานชีวิตปริยาทานานํ อปุพฺพาจริมตา โหตีติ อาห ‘‘วารสมตายา’’ติ. ภวงฺคํ โอตริตฺวา ปรินิพฺพายโตติ เอตฺถ ปรินิพฺพานจิตฺตเมว ภงฺโคตฺตรณภาเวน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

จริตนฺติ จริตา กายวจีมนปฺปวตฺติ. เอตฺถ จ เยน ราคาธิกภาเวน ปุคฺคโล ‘‘ราคจริโต’’ติ ลกฺขียติ, ตยิทํ ลกฺขณํ. เตนาห ‘‘ราคชฺฌาสโย ราคาธิโกติ อตฺโถ’’ติ, เตน อปฺปหีนภาเวน สนฺตาเน ถามคตสฺส ราคสฺส พลภาโว ลกฺขียตีติ ทฏฺพฺพํ. เอเสว นโย เสเสสุปิ.

สีลวนฺเตหีติ อาทิสทฺทสฺส โลปํ กตฺวา นิทฺเทโส กโตติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สีลวนฺตาทีหี’’ติ. อาทิสทฺเทน ทายกาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

อารมฺมณภูตา เยฺยนฺติ อารมฺมณภูตาว เยฺยํ.

ปุถุชฺชนภูมิอาทีสูติ ปุถุชฺชนเสกฺขาเสกฺขภูมีสุ. ตตฺถ ปุถุชฺชนภูมิวเสน สํวโร, เสกฺขภูมิวเสน ปหานภาวนา, อเสกฺขภูมิวเสน สจฺฉิกิริยา, ปุถุชฺชนภูมิเสกฺขภูมิวเสน วา ยถารหํ สํวรปหานภาวนา. ปุพฺพภาคิยา หิ สํวรปหานภาวนา ปุถุชฺชนสฺส สมฺภวนฺติ, อิตรา เสกฺขสฺส, อเสกฺขภูมิวเสน สจฺฉิกิริยา. นยโต ทสฺสิตนฺติ ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ น กปฺปตี’ติ อปฺปฏิกฺขิตฺตํ, ตํ เจ กปฺปิยํ อนุโลเมติ, อกปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว กปฺปตี’’ติอาทินา (มหาว. ๓๐๕) นยทสฺสนวเสน ปกาสิตํ. สราคาทิสํวตฺตนนฺติ สราคาทิภาวาย สํวตฺตนํ.

อฺมฺํ สํสคฺคโตติ ‘‘สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจา’’ติอาทินา สํกิเลสภาคิยาทีนํ ปทานํ อฺมฺสํสคฺคโต. อเนกวิโธติ ทฺวาทสวิโธ ยาว ทฺวานวุตาธิกจตุสหสฺสวิโธปิ อเนกปฺปกาโร. โลกิยสตฺตาธิฏฺานาทิสํสคฺคโตติ อาทิสทฺเทน โลกิยํ าณํ, โลกุตฺตรํ าณํ, โลกิยฺจ โลกุตฺตรฺจ าณํ, โลกิยํ เยฺยํ, โลกุตฺตรํ เยฺยํ, โลกิยฺจ โลกุตฺตรฺจ เยฺยํ, โลกิยํ าณฺจ เยฺยฺจ, โลกุตฺตรํ าณฺจ เยฺยฺจ, โลกิยฺจ โลกุตฺตรฺจ าณฺจ เยฺยฺจาติอาทิโก สมฺภวนฺโต ปฏฺานเภโท สงฺคหิโต. อุภยตฺถาติ สํกิเลสภาคิยาทิเก, โลกิยาทิเก จ. ยถารหนฺติ โย โย สํสคฺควเสน โยชนํ อรหติ, โส โส ธมฺโม. สมฺภวาวิโรเธเนว หิ โยชนา. น หิ ‘‘โลกิยํ นิพฺเพธภาคิย’’นฺติอาทินา โยชนา สมฺภวติ.

ตีสุ ปิฏเกสุ ลพฺภมานสฺสาติ ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺเห เตปิฏเก พุทฺธวจเน อุปลพฺภมานสฺส วิชฺชมานสฺส, เอเตน น เกวลํ สงฺคโห เอว ยถาวุตฺตเภทานํ ปฏฺานภาคานํ นิทฺธารณาย การณํ, อถ โข ปาฬิยํ ทสฺสนฺจาติ วิภาเวติ. เตนาห ‘‘ยํ ทิสฺสติ ตาสุ ตาสุ ภูมีสู’’ติ. ‘‘เตเนว หี’’ติอาทินา ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส ปาานุคมํ ทสฺเสติ.

สาสนปฏฺานวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิคมนกถาวณฺณนา

สทฺธมฺมาวตรฏฺาเนติ เทสนฺตรโต อาคนฺตฺวา สทฺธมฺมสฺส อวตรโณกาสภูเต สทฺธมฺมสฺสวนธารณปริจยปริปุจฺฉามนสิการพหุลานํ นิวาสฏฺานตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ, อตฺตโน วา สนฺตาเน ปริยตฺติสทฺธมฺมสฺส อนุปฺปเวสนฏฺานตาย เอวํ วุตฺตํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.

เนตฺติอฏฺกถาย ลีนตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.

เนตฺติปฺปกรณ-ฏีกา นิฏฺิตา.