📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

วินยปิฏเก

ปาราชิกกณฺฑ-อฏฺกถา (ปโม ภาโค)

คนฺถารมฺภกถา

โย กปฺปโกฏีหิปิ อปฺปเมยฺยํ;

กาลํ กโรนฺโต อติทุกฺกรานิ;

เขทํ คโต โลกหิตาย นาโถ;

นโม มหาการุณิกสฺส ตสฺส.

อสมฺพุธํ พุทฺธนิเสวิตํ ยํ;

ภวาภวํ คจฺฉติ ชีวโลโก;

นโม อวิชฺชาทิกิเลสชาล-

วิทฺธํสิโน ธมฺมวรสฺส ตสฺส.

คุเณหิ โย สีลสมาธิปฺา-

วิมุตฺติาณปฺปภุตีหิ ยุตฺโต;

เขตฺตํ ชนานํ กุสลตฺถิกานํ;

ตมริยสงฺฆํ สิรสา นมามิ.

อิจฺเจวมจฺจนฺตนมสฺสเนยฺยํ;

นมสฺสมาโน รตนตฺตยํ ยํ;

ปุฺาภิสนฺทํ วิปุลํ อลตฺถํ;

ตสฺสานุภาเวน หตนฺตราโย.

ยสฺมึ ิเต สาสนมฏฺิตสฺส;

ปติฏฺิตํ โหติ สุสณฺิตสฺส;

ตํ วณฺณยิสฺสํ วินยํ อมิสฺสํ;

นิสฺสาย ปุพฺพาจริยานุภาวํ.

กามฺจ ปุพฺพาจริยาสเภหิ;

าณมฺพุนิทฺโธตมลาสเวหิ;

วิสุทฺธวิชฺชาปฏิสมฺภิเทหิ;

สทฺธมฺมสํวณฺณนโกวิเทหิ.

สลฺเลขิเย โนสุลภูปเมหิ;

มหาวิหารสฺส ธชูปเมหิ;

สํวณฺณิโตยํ วินโย นเยหิ;

จิตฺเตหิ สมฺพุทฺธวรนฺวเยหิ.

สํวณฺณนา สีหฬทีปเกน;

วากฺเยน เอสา ปน สงฺขตตฺตา;

กิฺจิ อตฺถํ อภิสมฺภุณาติ;

ทีปนฺตเร ภิกฺขุชนสฺส ยสฺมา.

ตสฺมา อิมํ ปาฬินยานุรูปํ;

สํวณฺณนํ ทานิ สมารภิสฺสํ;

อชฺเฌสนํ พุทฺธสิริวฺหยสฺส;

เถรสฺส สมฺมา สมนุสฺสรนฺโต.

สํวณฺณนํ ตฺจ สมารภนฺโต;

ตสฺสา มหาอฏฺกถํ สรีรํ;

กตฺวา มหาปจฺจริยํ ตเถว;

กุรุนฺทินามาทิสุ วิสฺสุตาสุ.

วินิจฺฉโย อฏฺกถาสุ วุตฺโต;

โย ยุตฺตมตฺถํ อปริจฺจชนฺโต;

ตโตปิ อนฺโตคธเถรวาทํ;

สํวณฺณนํ สมฺม สมารภิสฺสํ.

ตํ เม นิสาเมนฺตุ ปสนฺนจิตฺตา;

เถรา จ ภิกฺขู นวมชฺฌิมา จ;

ธมฺมปฺปทีปสฺส ตถาคตสฺส;

สกฺกจฺจ ธมฺมํ ปติมานยนฺตา.

พุทฺเธน ธมฺโม วินโย จ วุตฺโต;

โย ตสฺส ปุตฺเตหิ ตเถว าโต;

โส เยหิ เตสํ มติมจฺจชนฺตา;

ยสฺมา ปุเร อฏฺกถา อกํสุ.

ตสฺมา หิ ยํ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ;

ตํ วชฺชยิตฺวาน ปมาทเลขํ;

สพฺพมฺปิ สิกฺขาสุ สคารวานํ;

ยสฺมา ปมาณํ อิธ ปณฺฑิตานํ.

ตโต จ ภาสนฺตรเมว หิตฺวา;

วิตฺถารมคฺคฺจ สมาสยิตฺวา;

วินิจฺฉยํ สพฺพมเสสยิตฺวา;

ตนฺติกฺกมํ กิฺจิ อโวกฺกมิตฺวา.

สุตฺตนฺติกานํ วจนานมตฺถํ;

สุตฺตานุรูปํ ปริทีปยนฺตี;

ยสฺมา อยํ เหสฺสติ วณฺณนาปิ;

สกฺกจฺจ ตสฺมา อนุสิกฺขิตพฺพาติ.

พาหิรนิทานกถา

ตตฺถ ตํ วณฺณยิสฺสํ วินยนฺติ วุตฺตตฺตา วินโย ตาว ววตฺถเปตพฺโพ. เตเนตํ วุจฺจติ – ‘‘วินโย นาม อิธ สกลํ วินยปิฏกํ อธิปฺเปต’’นฺติ. สํวณฺณนตฺถํ ปนสฺส อยํ มาติกา

วุตฺตํ เยน ยทา ยสฺมา, ธาริตํ เยน จาภตํ;

ยตฺถปฺปติฏฺิตเจตเมตํ วตฺวา วิธึ ตโต.

เตนาติอาทิปาสฺส, อตฺถํ นานปฺปการโต;

ทสฺสยนฺโต กริสฺสามิ, วินยสฺสตฺถวณฺณนนฺติ.

ตตฺถ วุตฺตํ เยน ยทา ยสฺมาติ อิทํ ตาว วจนํ ‘‘เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา เวรฺชายํ วิหรตี’’ติ เอวมาทิวจนํ สนฺธาย วุตฺตํ. อิทฺหิ พุทฺธสฺส ภควโต อตฺตปจฺจกฺขวจนํ น โหติ, ตสฺมา วตฺตพฺพเมตํ ‘‘อิทํ วจนํ เกน วุตฺตํ, กทา วุตฺตํ, กสฺมา จ วุตฺต’’นฺติ? อายสฺมตา อุปาลิตฺเถเรน วุตฺตํ, ตฺจ ปน ปมมหาสงฺคีติกาเล.

ปมมหาสงฺคีติกถา

ปมมหาสงฺคีติ นาม เจสา กิฺจาปิ ปฺจสติกสงฺคีติกฺขนฺธเก วุตฺตา, นิทานโกสลฺลตฺถํ ปน อิธาปิ อิมินา นเยน เวทิตพฺพา. ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนฺหิ อาทึ กตฺวา ยาว สุภทฺทปริพฺพาชกวินยนา กตพุทฺธกิจฺเจ กุสินารายํ อุปวตฺตเน มลฺลานํ สาลวเน ยมกสาลานมนฺตเร วิสาขปุณฺณมทิวเส ปจฺจูสสมเย อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุเต ภควติ โลกนาเถ, ภควโต ปรินิพฺพาเน สนฺนิปติตานํ สตฺตนฺนํ ภิกฺขุสตสหสฺสานํ สงฺฆตฺเถโร อายสฺมา มหากสฺสโป สตฺตาหปรินิพฺพุเต ภควติ, สุภทฺเทน วุฑฺฒปพฺพชิเตน ‘‘อลํ, อาวุโส, มา โสจิตฺถ, มา ปริเทวิตฺถ, สุมุตฺตา มยํ เตน มหาสมเณน; อุปทฺทุตา จ โหม – ‘อิทํ โว กปฺปติ, อิทํ โว น กปฺปตี’ติ! อิทานิ ปน มยํ ยํ อิจฺฉิสฺสาม ตํ กริสฺสาม, ยํ น อิจฺฉิสฺสาม น ตํ กริสฺสามา’’ติ (จูฬว. ๔๓๗; ที. นิ. ๒.๒๓๒) วุตฺตวจนมนุสฺสรนฺโต ‘‘านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ ปาปภิกฺขู อตีตสตฺถุกํ ปาวจนนฺติ มฺมานา ปกฺขํ ลภิตฺวา นจิรสฺเสว สทฺธมฺมํ อนฺตรธาเปยฺยุํ, ยาว จ ธมฺมวินโย ติฏฺติ ตาว อนตีตสตฺถุกเมว ปาวจนํ โหติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘โย โว, อานนฺท, มยา ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต ปฺตฺโต, โส โว มมจฺจเยน สตฺถา’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๖).

‘‘ยํนูนาหํ ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคาเยยฺยํ, ยถยิทํ สาสนํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺิติกํ.

ยํ จาหํ ภควตา –

‘ธาเรสฺสสิ ปน เม ตฺวํ, กสฺสป, สาณานิ ปํสุกูลานิ นิพฺพสนานี’ติ วตฺวา จีวเร สาธารณปริโภเคน เจว,

‘อหํ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขามิ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ; กสฺสโปปิ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขติ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’ติ –

เอวมาทินา นเยน นวานุปุพฺพวิหารฉฬภิฺาปฺปเภเท อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม อตฺตนา สมสมฏฺปเนน จ อนุคฺคหิโต, ตสฺส กิมฺํ อาณณฺยํ ภวิสฺสติ; นนุ มํ ภควา ราชา วิย สกกวจอิสฺสริยานุปฺปทาเนน อตฺตโน กุลวํสปฺปติฏฺาปกํ ปุตฺตํ ‘สทฺธมฺมวํสปฺปติฏฺาปโก เม อยํ ภวิสฺสตี’ติ มนฺตฺวา อิมินา อสาธารเณน อนุคฺคเหน อนุคฺคเหสี’’ติ จินฺตยนฺโต ธมฺมวินยสงฺคายนตฺถํ ภิกฺขูนํ อุสฺสาหํ ชเนสิ. ยถาห –

‘‘อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘เอกมิทาหํ, อาวุโส, สมยํ ปาวาย กุสินารํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๓๑) สพฺพํ สุภทฺทกณฺฑํ วิตฺถารโต เวทิตพฺพํ.

ตโต ปรํ อาห –

‘‘หนฺท มยํ, อาวุโส, ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคาเยยฺยาม. ปุเร อธมฺโม ทิปฺปติ, ธมฺโม ปฏิพาหิยฺยติ; อวินโย ทิปฺปติ, วินโย ปฏิพาหิยฺยติ. ปุเร อธมฺมวาทิโน พลวนฺโต โหนฺติ, ธมฺมวาทิโน ทุพฺพลา โหนฺติ; อวินยวาทิโน พลวนฺโต โหนฺติ, วินยวาทิโน ทุพฺพลา โหนฺตี’’ติ (จูฬว. ๔๓๗).

ภิกฺขู อาหํสุ – ‘‘เตน หิ, ภนฺเต, เถโร ภิกฺขู อุจฺจินตู’’ติ. เถโร สกลนวงฺคสตฺถุสาสนปริยตฺติธเร ปุถุชฺชน-โสตาปนฺน-สกทาคามิ-อนาคามิ-สุกฺขวิปสฺสกขีณาสวภิกฺขู อเนกสเต อเนกสหสฺเส จ วชฺเชตฺวา ติปิฏกสพฺพปริยตฺติปฺปเภทธเร ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺเต มหานุภาเว เยภุยฺเยน ภควตา เอตทคฺคํ อาโรปิเต เตวิชฺชาทิเภเท ขีณาสวภิกฺขูเยว เอกูนปฺจสเต ปริคฺคเหสิ. เย สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป เอเกนูนาปฺจอรหนฺตสตานิ อุจฺจินี’’ติ (จูฬว. ๔๓๗).

กิสฺส ปน เถโร เอเกนูนมกาสีติ? อายสฺมโต อานนฺทตฺเถรสฺส โอกาสกรณตฺถํ. เตน หายสฺมตา สหาปิ วินาปิ น สกฺกา ธมฺมสงฺคีติ กาตุํ, โส หายสฺมา เสกฺโข สกรณีโย, ตสฺมา สหาปิ น สกฺกา; ยสฺมา ปนสฺส กิฺจิ ทสพลเทสิตํ สุตฺตเคยฺยาทิกํ ภควโต อสมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา วินาปิ น สกฺกา. ยทิ เอวํ เสกฺโขปิ สมาโน ธมฺมสงฺคีติยา พหุการตฺตา เถเรน อุจฺจินิตพฺโพ อสฺส. อถ กสฺมา น อุจฺจินิโตติ? ปรูปวาทวิวชฺชนโต. เถโร หิ อายสฺมนฺเต อานนฺเท อติวิย วิสฺสตฺโถ อโหสิ, ตถา หิ นํ สิรสฺมึ ปลิเตสุ ชาเตสุปิ ‘‘น วายํ กุมารโก มตฺตมฺาสี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔) กุมารกวาเทน โอวทติ. สกฺยกุลปฺปสุโต จายํ อายสฺมา ตถาคตสฺส ภาตา จูฬปิตุปุตฺโต. ตตฺร หิ ภิกฺขู ฉนฺทาคมนํ วิย มฺมานา ‘‘พหู อเสกฺขปฏิสมฺภิทาปฺปตฺเต ภิกฺขู เปตฺวา อานนฺทํ เสกฺขปฏิสมฺภิทาปฺปตฺตํ เถโร อุจฺจินี’’ติ อุปวเทยฺยุํ, ตํ ปรูปวาทํ ปริวชฺเชนฺโต ‘‘อานนฺทํ วินา สงฺคีติ น สกฺกา กาตุํ, ภิกฺขูนํเยว อนุมติยา คเหสฺสามี’’ติ น อุจฺจินิ.

อถ สยเมว ภิกฺขู อานนฺทสฺสตฺถาย เถรํ ยาจึสุ. ยถาห –

‘‘ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ เอตทโวจุํ – ‘อยํ, ภนฺเต, อายสฺมา อานนฺโท กิฺจาปิ เสกฺโข อภพฺโพ ฉนฺทา โทสา โมหา ภยา อคตึ คนฺตุํ, พหุ จาเนน ภควโต สนฺติเก ธมฺโม จ วินโย จ ปริยตฺโต; เตน หิ, ภนฺเต, เถโร อายสฺมนฺตมฺปิ อานนฺทํ อุจฺจินตู’ติ. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป อายสฺมนฺตมฺปิ อานนฺทํ อุจฺจินี’’ติ (จูฬว. ๔๓๗).

เอวํ ภิกฺขูนํ อนุมติยา อุจฺจินิเตน เตนายสฺมตา สทฺธึ ปฺจ เถรสตานิ อเหสุํ.

อถ โข เถรานํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กตฺถ นุ โข มยํ ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคาเยยฺยามา’’ติ. อถ โข เถรานํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘ราชคหํ โข มหาโคจรํ ปหูตเสนาสนํ, ยํนูน มยํ ราชคเห วสฺสํ วสนฺตา ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคาเยยฺยาม, น อฺเ ภิกฺขู ราชคเห วสฺสํ อุปคจฺเฉยฺยุ’’นฺติ. กสฺมา ปน เนสํ เอตทโหสิ? อิทํ อมฺหากํ ถาวรกมฺมํ, โกจิ วิสภาคปุคฺคโล สงฺฆมชฺฌํ ปวิสิตฺวา อุกฺโกเฏยฺยาติ. อถายสฺมา มหากสฺสโป ตฺติทุติเยน กมฺเมน สาเวสิ, ตํ สงฺคีติกฺขนฺธเก วุตฺตนเยเนว าตพฺพํ.

อถ ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานโต สตฺตสุ สาธุกีฬนทิวเสสุ สตฺตสุ จ ธาตุปูชาทิวเสสุ วีติวตฺเตสุ ‘‘อฑฺฒมาโส อติกฺกนฺโต, อิทานิ คิมฺหานํ ทิยฑฺโฒ มาโส เสโส, อุปกฏฺา วสฺสูปนายิกา’’ติ มนฺตฺวา มหากสฺสปตฺเถโร ‘‘ราชคหํ, อาวุโส, คจฺฉามา’’ติ อุปฑฺฒํ ภิกฺขุสงฺฆํ คเหตฺวา เอกํ มคฺคํ คโต. อนุรุทฺธตฺเถโรปิ อุปฑฺฒํ คเหตฺวา เอกํ มคฺคํ คโต. อานนฺทตฺเถโร ปน ภควโต ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต สาวตฺถึ คนฺตฺวา ราชคหํ คนฺตุกาโม เยน สาวตฺถิ เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อานนฺทตฺเถเรน คตคตฏฺาเน มหาปริเทโว อโหสิ – ‘‘ภนฺเต อานนฺท, กุหึ สตฺถารํ เปตฺวา อาคโตสี’’ติ. อนุปุพฺเพน ปน สาวตฺถึ อนุปฺปตฺเต เถเร ภควโต ปรินิพฺพานทิวเส วิย มหาปริเทโว อโหสิ.

ตตฺร สุทํ อายสฺมา อานนฺโท อนิจฺจตาทิปฏิสํยุตฺตาย ธมฺมิยา กถาย ตํ มหาชนํ สฺาเปตฺวา เชตวนํ ปวิสิตฺวา ทสพเลน วสิตคนฺธกุฏิยา ทฺวารํ วิวริตฺวา มฺจปีํ นีหริตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา คนฺธกุฏึ สมฺมชฺชิตฺวา มิลาตมาลากจวรํ ฉฑฺเฑตฺวา มฺจปีํ อติหริตฺวา ปุน ยถาาเน เปตฺวา ภควโต ิตกาเล กรณียํ วตฺตํ สพฺพมกาสิ. อถ เถโร ภควโต ปรินิพฺพานโต ปภุติ านนิสชฺชพหุลตฺตา อุสฺสนฺนธาตุกํ กายํ สมสฺสาเสตุํ ทุติยทิวเส ขีรวิเรจนํ ปิวิตฺวา วิหาเรเยว นิสีทิ. ยํ สนฺธาย สุเภน มาณเวน ปหิตํ มาณวกํ เอตทโวจ –

‘‘อกาโล โข, มาณวก, อตฺถิ เม อชฺช เภสชฺชมตฺตา ปีตา, อปฺเปว นาม สฺเวปิ อุปสงฺกเมยฺยามา’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๔๗).

ทุติยทิวเส เจตกตฺเถเรน ปจฺฉาสมเณน คนฺตฺวา สุเภน มาณเวน ปุฏฺโ ทีฆนิกาเย สุภสุตฺตํนาม ทสมํ สุตฺตมภาสิ.

อถ เถโร เชตวนวิหาเร ขณฺฑผุลฺลปฺปฏิสงฺขรณํ การาเปตฺวา อุปกฏฺาย วสฺสูปนายิกาย ราชคหํ คโต. ตถา มหากสฺสปตฺเถโร อนุรุทฺธตฺเถโร จ สพฺพํ ภิกฺขุสงฺฆํ คเหตฺวา ราชคหเมว คโต.

เตน โข ปน สมเยน ราชคเห อฏฺารส มหาวิหารา โหนฺติ. เต สพฺเพปิ ฉฑฺฑิตปติตอุกฺลาปา อเหสุํ. ภควโต หิ ปรินิพฺพาเน สพฺเพ ภิกฺขู อตฺตโน อตฺตโน ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา วิหาเร จ ปริเวเณ จ ฉฑฺเฑตฺวา อคมํสุ. ตตฺถ เถรา ภควโต วจนปูชนตฺถํ ติตฺถิยวาทปริโมจนตฺถฺจ ‘‘ปมํ มาสํ ขณฺฑผุลฺลปฺปฏิสงฺขรณํ กโรมา’’ติ จินฺเตสุํ. ติตฺถิยา หิ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘‘สมณสฺส โคตมสฺส สาวกา สตฺถริ ิเตเยว วิหาเร ปฏิชคฺคึสุ, ปรินิพฺพุเต ฉฑฺเฑสุ’’นฺติ. เตสํ วาทปริโมจนตฺถฺจ จินฺเตสุนฺติ วุตฺตํ โหติ. วุตฺตมฺปิ เหตํ –

‘‘อถ โข เถรานํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘ภควตา โข, อาวุโส, ขณฺฑผุลฺลปฺปฏิสงฺขรณํ วณฺณิตํ. หนฺท มยํ, อาวุโส, ปมํ มาสํ ขณฺฑผุลฺลปฺปฏิสงฺขรณํ กโรม, มชฺฌิมํ มาสํ สนฺนิปติตฺวา ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคายิสฺสามา’’ติ (จูฬว. ๔๓๘).

เต ทุติยทิวเส คนฺตฺวา ราชทฺวาเร อฏฺํสุ. อชาตสตฺตุ ราชา อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘กึ, ภนฺเต, อาคตตฺถา’’ติ อตฺตนา กตฺตพฺพกิจฺจํ ปฏิปุจฺฉิ. เถรา อฏฺารส มหาวิหารปฏิสงฺขรณตฺถาย หตฺถกมฺมํ ปฏิเวเทสุํ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ ราชา หตฺถกมฺมการเก มนุสฺเส อทาสิ. เถรา ปมํ มาสํ สพฺพวิหาเร ปฏิสงฺขราเปตฺวา รฺโ อาโรเจสุํ – ‘‘นิฏฺิตํ, มหาราช, วิหารปฏิสงฺขรณํ. อิทานิ ธมฺมวินยสงฺคหํ กโรมา’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต, วิสฺสตฺถา กโรถ. มยฺหํ อาณาจกฺกํ, ตุมฺหากํ ธมฺมจกฺกํ โหตุ. อาณาเปถ, ภนฺเต, กึ กโรมี’’ติ? ‘‘สงฺคหํ กโรนฺตานํ ภิกฺขูนํ สนฺนิสชฺชฏฺานํ, มหาราชา’’ติ. ‘‘กตฺถ กโรมิ, ภนฺเต’’ติ? ‘‘เวภารปพฺพตปสฺเส สตฺตปณฺณิคุหาทฺวาเร กาตุํ ยุตฺตํ, มหาราชา’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ โข ราชา อชาตสตฺตุ วิสฺสกมฺมุนา นิมฺมิตสทิสํ สุวิภตฺตภิตฺติตฺถมฺภโสปานํ นานาวิธมาลากมฺมลตอากมฺมวิจิตฺตํ อภิภวนฺตมิว ราชภวนวิภูตึ อวหสนฺตมิว เทววิมานสิรึ สิริยา นิเกตมิว เอกนิปาตติตฺถมิว จ เทวมนุสฺสนยนวิหงฺคานํ โลกรามเณยฺยกมิว สมฺปิณฺฑิตํ ทฏฺพฺพสารมณฺฑํ มณฺฑปํ การาเปตฺวา วิวิธกุสุมทาม-โอลมฺพก-วินิคฺคลนฺตจารุวิตานํ รตนวิจิตฺตมณิโกฏฺฏิมตลมิว จ นํ นานาปุปฺผูปหารวิจิตฺตสุปรินิฏฺิตภูมิกมฺมํ พฺรหฺมวิมานสทิสํ อลงฺกริตฺวา ตสฺมึ มหามณฺฑเป ปฺจสตานํ ภิกฺขูนํ อนคฺฆานิ ปฺจ กปฺปิยปจฺจตฺถรณสตานิ ปฺาเปตฺวา ทกฺขิณภาคํ นิสฺสาย อุตฺตราภิมุขํ เถราสนํ มณฺฑปมชฺเฌ ปุรตฺถาภิมุขํ พุทฺธสฺส ภควโต อาสนารหํ ธมฺมาสนํ ปฺาเปตฺวา ทนฺตขจิตํ พีชนิฺเจตฺถ เปตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส อาโรจาเปสิ – ‘‘นิฏฺิตํ, ภนฺเต, มม กิจฺจ’’นฺติ.

ตสฺมึ โข ปน สมเย เอกจฺเจ ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ สนฺธาย เอวมาหํสุ – ‘‘อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ เอโก ภิกฺขุ วิสฺสคนฺธํ วายนฺโต วิจรตี’’ติ. เถโร ตํ สุตฺวา ‘‘อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ อฺโ วิสฺสคนฺธํ วายนฺโต วิจรณกภิกฺขุ นาม นตฺถิ, อทฺธา เอเต มํ สนฺธาย วทนฺตี’’ติ สํเวคํ อาปชฺชิ. เอกจฺเจ ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อาหํสุ – ‘‘สฺเว, อาวุโส, สนฺนิปาโต ตฺวฺจ เสกฺโข สกรณีโย, เตน เต น ยุตฺตํ สนฺนิปาตํ คนฺตุํ, อปฺปมตฺโต โหหี’’ติ.

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท – ‘‘สฺเว สนฺนิปาโต, น โข ปน เมตํ ปติรูปํ ยฺวาหํ เสกฺโข สมาโน สนฺนิปาตํ คจฺเฉยฺย’’นฺติ พหุเทว รตฺตึ กายคตายสติยา วีตินาเมตฺวา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ จงฺกมา โอโรหิตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘นิปชฺชิสฺสามี’’ติ กายํ อาวชฺเชสิ. ทฺเว ปาทา ภูมิโต มุตฺตา, อปฺปตฺตฺจ สีสํ พิมฺโพหนํ, เอตสฺมึ อนฺตเร อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจิ. อยฺหิ อายสฺมา จงฺกเมน พหิ วีตินาเมตฺวา วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโต จินฺเตสิ – ‘‘นนุ มํ ภควา เอตทโวจ – ‘กตปุฺโสิ ตฺวํ, อานนฺท, ปธานมนุยุฺช; ขิปฺปํ โหหิสิ อนาสโว’ติ (ที. นิ. ๒.๒๐๗). พุทฺธานฺจ กถาโทโส นาม นตฺถิ. มม อจฺจารทฺธํ วีริยํ เตน เม จิตฺตํ อุทฺธจฺจาย สํวตฺตติ. หนฺทาหํ วีริยสมถํ โยเชมี’’ติ จงฺกมา โอโรหิตฺวา ปาทโธวนฏฺาเน ตฺวา ปาเท โธวิตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา มฺจเก นิสีทิตฺวา ‘‘โถกํ วิสฺสมิสฺสามี’’ติ กายํ มฺจเก อุปนาเมสิ. ทฺเว ปาทา ภูมิโต มุตฺตา, สีสฺจ พิมฺโพหนํ อสมฺปตฺตํ. เอตสฺมึ อนฺตเร อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺตํ, จตุอิริยาปถวิรหิตํ เถรสฺส อรหตฺตํ อโหสิ. เตน อิมสฺมึ สาสเน อนิปนฺโน อนิสินฺโน อฏฺิโต อจงฺกมนฺโต ‘‘โก ภิกฺขุ อรหตฺตํ ปตฺโต’’ติ วุตฺเต ‘‘อานนฺทตฺเถโร’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

อถ โข เถรา ภิกฺขู ทุติยทิวเส กตภตฺตกิจฺจา ปตฺตจีวรํ ปฏิสาเมตฺวา ธมฺมสภายํ สนฺนิปติตา. อานนฺทตฺเถโร ปน อตฺตโน อรหตฺตปฺปตฺตึ าเปตุกาโม ภิกฺขูหิ สทฺธึ น คโต. ภิกฺขู ยถาวุฑฺฒํ อตฺตโน อตฺตโน ปตฺตาสเน นิสีทนฺตา อานนฺทตฺเถรสฺส อาสนํ เปตฺวา นิสินฺนา. ตตฺถ เกหิจิ ‘‘เอตมาสนํ กสฺสา’’ติ วุตฺเต ‘‘อานนฺทตฺเถรสฺสา’’ติ. ‘‘อานนฺโท ปน กุหึ คโต’’ติ? ตสฺมึ สมเย เถโร จินฺเตสิ – ‘‘อิทานิ มยฺหํ คมนกาโล’’ติ. ตโต อตฺตโน อานุภาวํ ทสฺเสนฺโต ปถวิยํ นิมุชฺชิตฺวา อตฺตโน อาสเนเยว อตฺตานํ ทสฺเสสิ. อากาเสนาคนฺตฺวา นิสีทีติปิ เอเก.

เอวํ นิสินฺเน ตสฺมึ อายสฺมนฺเต มหากสฺสปตฺเถโร ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส, กึ ปมํ สงฺคายาม, ธมฺมํ วา วินยํ วา’’ติ? ภิกฺขู อาหํสุ – ‘‘ภนฺเต มหากสฺสป, วินโย นาม พุทฺธสาสนสฺส อายุ, วินเย ิเต สาสนํ ิตํ โหติ; ตสฺมา ปมํ วินยํ สงฺคายามา’’ติ,. ‘‘กํ ธุรํ กตฺวา’’ติ? ‘‘อายสฺมนฺตํ อุปาลิ’’นฺติ. ‘‘กึ อานนฺโท นปฺปโหตี’’ติ? ‘‘โน นปฺปโหติ; อปิ จ โข ปน สมฺมาสมฺพุทฺโธ ธรมาโนเยว วินยปริยตฺตึ นิสฺสาย อายสฺมนฺตํ อุปาลึ เอตทคฺเค เปสิ – ‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ วินยธรานํ ยทิทํ อุปาลี’ติ (อ. นิ. ๑.๒๑๙, ๒๒๘). ตสฺมา อุปาลิตฺเถรํ ปุจฺฉิตฺวา วินยํ สงฺคายามา’’ติ. ตโต เถโร วินยํ ปุจฺฉนตฺถาย อตฺตนาว อตฺตานํ สมฺมนฺนิ. อุปาลิตฺเถโรปิ วิสฺสชฺชนตฺถาย สมฺมนฺนิ. ตตฺรายํ ปาฬิ –

‘‘อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป สงฺฆํ าเปสิ –

‘‘สุณาตุ เม, อาวุโส, สงฺโฆ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อุปาลึ วินยํ ปุจฺเฉยฺย’นฺติ.

‘‘อายสฺมาปิ อุปาลิ สงฺฆํ าเปสิ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อายสฺมตา มหากสฺสเปน วินยํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชยฺย’’นฺติ.

เอวํ อตฺตนาว อตฺตานํ สมฺมนฺนิตฺวา อายสฺมา อุปาลิ อุฏฺายาสนา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา เถเร ภิกฺขู วนฺทิตฺวา ธมฺมาสเน นิสีทิ, ทนฺตขจิตํ พีชนึ คเหตฺวา. ตโต อายสฺมา มหากสฺสโป เถราสเน นิสีทิตฺวา อายสฺมนฺตํ อุปาลึ วินยํ ปุจฺฉิ – ‘‘ปมํ, อาวุโส อุปาลิ, ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺต’’นฺติ? ‘‘เวสาลิยํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กํ อารพฺภา’’ติ? ‘‘สุทินฺนํ กลนฺทปุตฺตํ อารพฺภา’’ติ. ‘‘กิสฺมึ วตฺถุสฺมิ’’นฺติ? ‘‘เมถุนธมฺเม’’ติ.

อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป อายสฺมนฺตํ อุปาลึ ปมสฺส ปาราชิกสฺส วตฺถุมฺปิ ปุจฺฉิ, นิทานมฺปิ ปุจฺฉิ, ปุคฺคลมฺปิ ปุจฺฉิ, ปฺตฺติมฺปิ ปุจฺฉิ, อนุปฺตฺติมฺปิ ปุจฺฉิ, อาปตฺติมฺปิ ปุจฺฉิ, อนาปตฺติมฺปิ ปุจฺฉิ; ยถา จ ปมสฺส ตถา ทุติยสฺส ตถา ตติยสฺส ตถา จตุตฺถสฺส ปาราชิกสฺส วตฺถุมฺปิ ปุจฺฉิ…เป… อนาปตฺติมฺปิ ปุจฺฉิ. ปุฏฺโ ปุฏฺโ อุปาลิตฺเถโร วิสฺสชฺเชสิ. ตโต อิมานิ จตฺตาริ ปาราชิกานิ ‘‘ปาราชิกกณฺฑํ นาม อิท’’นฺติ สงฺคหํ อาโรเปตฺวา เปสุํ. เตรส สงฺฆาทิเสสานิ ‘‘เตรสก’’นฺติ เปสุํ. ทฺเว สิกฺขาปทานิ ‘‘อนิยตานี’’ติ เปสุํ. ตึส สิกฺขาปทานิ ‘‘นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยานี’’ติ เปสุํ. ทฺเวนวุติ สิกฺขาปทานิ ‘‘ปาจิตฺติยานี’’ติ เปสุํ. จตฺตาริ สิกฺขาปทานิ ‘‘ปาฏิเทสนียานี’’ติ เปสุํ. ปฺจสตฺตติ สิกฺขาปทานิ ‘‘เสขิยานี’’ติ เปสุํ. สตฺต ธมฺเม ‘‘อธิกรณสมถา’’ติ เปสุํ.

เอวํ มหาวิภงฺคํ สงฺคหํ อาโรเปตฺวา ภิกฺขุนีวิภงฺเค อฏฺ สิกฺขาปทานิ ‘‘ปาราชิกกณฺฑํ นาม อิท’’นฺติ เปสุํ. สตฺตรส สิกฺขาปทานิ ‘‘สตฺตรสก’’นฺติ เปสุํ. ตึส สิกฺขาปทานิ ‘‘นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยานี’’ติ เปสุํ. ฉสฏฺิสตสิกฺขาปทานิ ‘‘ปาจิตฺติยานี’’ติ เปสุํ. อฏฺ สิกฺขาปทานิ ‘‘ปาฏิเทสนียานี’’ติ เปสุํ. ปฺจสตฺตติ สิกฺขาปทานิ ‘‘เสขิยานี’’ติ เปสุํ. สตฺต ธมฺเม ‘‘อธิกรณสมถา’’ติ เปสุํ. เอวํ ภิกฺขุนีวิภงฺคํ สงฺคหํ อาโรเปตฺวา เอเตเนว อุปาเยน ขนฺธกปริวาเรปิ อาโรเปสุํ. เอวเมตํ สอุภโตวิภงฺคขนฺธกปริวารํ วินยปิฏกํ สงฺคหมารูฬฺหํ สพฺพํ มหากสฺสปตฺเถโร ปุจฺฉิ, อุปาลิตฺเถโร วิสฺสชฺเชสิ. ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนปริโยสาเน ปฺจ อรหนฺตสตานิ สงฺคหํ อาโรปิตนเยเนว คณสชฺฌายมกํสุ. วินยสงฺคหาวสาเน อุปาลิตฺเถโร ทนฺตขจิตํ พีชนึ นิกฺขิปิตฺวา ธมฺมาสนา โอโรหิตฺวา วุฑฺเฒ ภิกฺขู วนฺทิตฺวา อตฺตโน ปตฺตาสเน นิสีทิ.

วินยํ สงฺคายิตฺวา ธมฺมํ สงฺคายิตุกาโม อายสฺมา มหากสฺสโป ภิกฺขู ปุจฺฉิ – ‘‘ธมฺมํ สงฺคายนฺเตหิ กํ ปุคฺคลํ ธุรํ กตฺวา ธมฺโม สงฺคายิตพฺโพ’’ติ? ภิกฺขู ‘‘อานนฺทตฺเถรํ ธุรํ กตฺวา’’ติ อาหํสุ.

อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป สงฺฆํ าเปสิ –

‘‘สุณาตุ เม, อาวุโส, สงฺโฆ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อานนฺทํ ธมฺมํ ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ.

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท สงฺฆํ าเปสิ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อายสฺมตา มหากสฺสเปน ธมฺมํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชยฺย’’นฺติ.

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท อุฏฺายาสนา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา เถเร ภิกฺขู วนฺทิตฺวา ธมฺมาสเน นิสีทิ ทนฺตขจิตํ พีชนึ คเหตฺวา. อถ มหากสฺสปตฺเถโร อานนฺทตฺเถรํ ธมฺมํ ปุจฺฉิ – ‘‘พฺรหฺมชาลํ, อาวุโส อานนฺท, กตฺถ ภาสิต’’นฺติ? ‘‘อนฺตรา จ, ภนฺเต, ราชคหํ อนฺตรา จ นาฬนฺทํ ราชาคารเก อมฺพลฏฺิกาย’’นฺติ. ‘‘กํ อารพฺภา’’ติ? ‘‘สุปฺปิยฺจ ปริพฺพาชกํ, พฺรหฺมทตฺตฺจ มาณว’’นฺติ. ‘‘กิสฺมึ วตฺถุสฺมิ’’นฺติ? ‘‘วณฺณาวณฺเณ’’ติ. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ พฺรหฺมชาลสฺส นิทานมฺปิ ปุจฺฉิ, ปุคฺคลมฺปิ ปุจฺฉิ, วตฺถุมฺปิ ปุจฺฉิ. ‘‘สามฺผลํ ปนาวุโส อานนฺท, กตฺถ ภาสิต’’นฺติ? ‘ราชคเห, ภนฺเต, ชีวกมฺพวเน’’ติ. ‘‘เกน สทฺธิ’’นฺติ? ‘‘อชาตสตฺตุนา เวเทหิปุตฺเตน สทฺธิ’’นฺติ. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ สามฺผลสฺส นิทานมฺปิ ปุจฺฉิ, ปุคฺคลมฺปิ ปุจฺฉิ. เอเตเนว อุปาเยน ปฺจ นิกาเย ปุจฺฉิ.

ปฺจนิกายา นาม – ทีฆนิกาโย, มชฺฌิมนิกาโย, สํยุตฺตนิกาโย, องฺคุตฺตรนิกาโย, ขุทฺทกนิกาโยติ. ตตฺถ ขุทฺทกนิกาโย นาม – จตฺตาโร นิกาเย เปตฺวา, อวเสสํ พุทฺธวจนํ. ตตฺถ วินโย อายสฺมตา อุปาลิตฺเถเรน วิสฺสชฺชิโต, เสสขุทฺทกนิกาโย จตฺตาโร จ นิกายา อานนฺทตฺเถเรน. ตเทตํ สพฺพมฺปิ พุทฺธวจนํ รสวเสน เอกวิธํ, ธมฺมวินยวเสน ทุวิธํ, ปมมชฺฌิมปจฺฉิมวเสน ติวิธํ; ตถา ปิฏกวเสน, นิกายวเสน ปฺจวิธํ, องฺควเสน นววิธํ, ธมฺมกฺขนฺธวเสน จตุราสีติสหสฺสวิธนฺติ เวทิตพฺพํ.

กถํ รสวเสน เอกวิธํ? ยฺหิ ภควตา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌิตฺวา ยาว อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ, เอตฺถนฺตเร ปฺจจตฺตาลีสวสฺสานิ เทวมนุสฺสนาคยกฺขาทโย อนุสาสนฺเตน ปจฺจเวกฺขนฺเตน วา วุตฺตํ, สพฺพํ ตํ เอกรสํ วิมุตฺติรสเมว โหติ. เอวํ รสวเสน เอกวิธํ.

กถํ ธมฺมวินยวเสน ทุวิธํ? สพฺพเมว เจตํ ธมฺโม เจว วินโย จาติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ตตฺถ วินยปิฏกํ วินโย, อวเสสํ พุทฺธวจนํ ธมฺโม; เตเนวาห – ‘‘ยํนูน มยํ, อาวุโส, ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคาเยยฺยามา’’ติ. ‘‘อหํ อุปาลึ วินยํ ปุจฺเฉยฺยํ, อานนฺทํ ธมฺมํ ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ จ เอวํ ธมฺมวินยวเสน ทุวิธํ.

กถํ ปมมชฺฌิมปจฺฉิมวเสน ติวิธํ? สพฺพเมว หิทํ ปมพุทฺธวจนํ, มชฺฌิมพุทฺธวจนํ, ปจฺฉิมพุทฺธวจนนฺติ ติปฺปเภทํ โหติ. ตตฺถ –

‘‘อเนกชาติสํสารํ, สนฺธาวิสฺสํ อนิพฺพิสํ;

คหการํ คเวสนฺโต, ทุกฺขา ชาติ ปุนปฺปุนํ.

‘‘คหการก ทิฏฺโสิ, ปุน เคหํ น กาหสิ;

สพฺพา เต ผาสุกา ภคฺคา, คหกูฏํ วิสงฺขตํ;

วิสงฺขารคตํ จิตฺตํ, ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา’’ติ. (ธ. ป. ๑๕๓-๑๕๔);

อิทํ ปมพุทฺธวจนํ.

เกจิ ‘‘ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา’’ติ ขนฺธเก อุทานคาถํ อาหุ. เอสา ปน ปาฏิปททิวเส สพฺพฺุภาวปฺปตฺตสฺส โสมนสฺสมยาเณน ปจฺจยาการํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อุปฺปนฺนา อุทานคาถาติ เวทิตพฺพา.

ยํ ปน ปรินิพฺพานกาเล อภาสิ – ‘‘หนฺท ทานิ, ภิกฺขเว, อามนฺตยามิ โว, วยธมฺมา สงฺขารา, อปฺปมาเทน สมฺปาเทถา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๘) อิทํ ปจฺฉิมพุทฺธวจนํ.

อุภินฺนมนฺตเร ยํ วุตฺตํ เอตํ มชฺฌิมพุทฺธวจนนฺติ. เอวํ ปมมชฺฌิมปจฺฉิมวเสน ติวิธํ.

กถํ ปิฏกวเสน ติวิธํ? สพฺพมฺปิ เหตํ วินยปิฏกํ สุตฺตนฺตปิฏกํ อภิธมฺมปิฏกนฺติ ติปฺปเภทเมว โหติ. ตตฺถ ปมสงฺคีติยํ สงฺคีตฺจ อสงฺคีตฺจ สพฺพมฺปิ สโมธาเนตฺวา อุภยานิ ปาติโมกฺขานิ, ทฺเว วิภงฺคานิ, ทฺวาวีสติ ขนฺธกานิ, โสฬสปริวาราติ อิทํ วินยปิฏกํ นาม.

พฺรหฺมชาลาทิ จตุตฺตึสสุตฺตสงฺคโห ทีฆนิกาโย, มูลปริยายสุตฺตาทิ ทิยฑฺฒสตทฺเวสุตฺตสงฺคโห มชฺฌิมนิกาโย, โอฆตรณสุตฺตาทิ สตฺตสุตฺตสหสฺส สตฺตสต ทฺวาสฏฺิสุตฺตสงฺคโห สํยุตฺตนิกาโย, จิตฺตปริยาทานสุตฺตาทิ นวสุตฺตสหสฺส ปฺจสต สตฺตปฺาสสุตฺตสงฺคโห องฺคุตฺตรนิกาโย, ขุทฺทกปา-ธมฺมปท-อุทาน-อิติวุตฺตก-สุตฺตนิปาต-วิมานวตฺถุ-เปตวตฺถุ-เถรคาถา-เถรีคาถา-ชาตกนิทฺเทส-ปฏิสมฺภิทา-อปทาน-พุทฺธวํส-จริยาปิฏกวเสน ปนฺนรสปฺปเภโท ขุทฺทกนิกาโยติ อิทํ สุตฺตนฺตปิฏกํ นาม.

ธมฺมสงฺคโห, วิภงฺโค, ธาตุกถา, ปุคฺคลปฺตฺติ, กถาวตฺถุ, ยมกํ, ปฏฺานนฺติ อิทํ อภิธมฺมปิฏกํ นาม. ตตฺถ –

วิวิธวิเสสนยตฺตา, วินยนโต เจว กายวาจานํ;

วินยตฺถวิทูหิ อยํ, วินโย วินโยติ อกฺขาโต.

วิวิธา หิ เอตฺถ ปฺจวิธ ปาติโมกฺขุทฺเทส ปาราชิกาทิ สตฺตอาปตฺติกฺขนฺธมาติกา วิภงฺคาทิปฺปเภทา นยา, วิเสสภูตา จ ทฬฺหีกมฺมสิถิลกรณปฺปโยชนา อนุปฺตฺตินยา, กายิกวาจสิกอชฺฌาจารนิเสธนโต เจส กายํ วาจฺจ วิเนติ, ตสฺมา วิวิธนยตฺตา วิเสสนยตฺตา กายวาจานฺจ วินยนโต ‘‘วินโย’’ติ อกฺขาโต. เตเนตเมตสฺส วจนตฺถโกสลฺลตฺถํ วุตฺตํ –

‘‘วิวิธวิเสสนยตฺตา, วินยนโต เจว กายวาจานํ;

วินยตฺถวิทูหิ อยํ, วินโย วินโยติ อกฺขาโต’’ติ.

อิตรํ ปน –

อตฺถานํ สูจนโต, สุวุตฺตโต สวนโตถ สูทนโต;

สุตฺตาณา สุตฺตสภาคโต จ, สุตฺตนฺติ อกฺขาตํ.

ตฺหิ อตฺตตฺถปรตฺถาทิเภเท อตฺเถ สูเจติ, สุวุตฺตา เจตฺถ อตฺถา เวเนยฺยชฺฌาสยานุโลเมน วุตฺตตฺตา. สวติ เจตํ อตฺเถ สสฺสมิว ผลํ ปสวตีติ วุตฺตํ โหติ. สูทติ เจตํ เธนุวิย ขีรํ, ปคฺฆรตีติ วุตฺตํ โหติ. สุฏฺุ จ เน ตายติ รกฺขตีติ วุตฺตํ โหติ. สุตฺตสภาคฺเจตํ, ยถา หิ ตจฺฉกานํ สุตฺตํ ปมาณํ โหติ; เอวเมตมฺปิ วิฺูนํ. ยถา จ สุตฺเตน สงฺคหิตานิ ปุปฺผานิ น วิกิริยนฺติ น วิทฺธํสิยนฺติ; เอวเมเตน สงฺคหิตา อตฺถา. เตเนตเมตสฺส วจนตฺถโกสลฺลตฺถํ วุตฺตํ –

‘‘อตฺถานํ สูจนโต, สุวุตฺตโต สวนโตถ สูทนโต;

สุตฺตาณา สุตฺตสภาคโต จ, สุตฺตนฺติ อกฺขาต’’นฺติ.

อิตโร ปน –

ยํ เอตฺถ วุฑฺฒิมนฺโต, สลกฺขณา ปูชิตา ปริจฺฉินฺนา;

วุตฺตาธิกา จ ธมฺมา, อภิธมฺโม เตน อกฺขาโต.

อยฺหิ อภิสทฺโท วุฑฺฒิลกฺขณปูชิตปริจฺฉินฺนาธิเกสุ ทิสฺสติ. ตถาเหส – ‘‘พาฬฺหา เม อาวุโส ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ โน ปฏิกฺกมนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๓๘๙; สํ. นิ. ๕.๑๙๕) วุฑฺฒิยํ อาคโต. ‘‘ยา ตา รตฺติโย อภิฺาตา อภิลกฺขิตา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๔๙) ลกฺขเณ. ‘‘ราชาภิราชา มนุชินฺโท’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๓๙๙; สุ. นิ. ๕๕๘) ปูชิเต. ‘‘ปฏิพโล วิเนตุํ อภิธมฺเม อภิวินเย’’ติอาทีสุ (มหาว. ๘๕) ปริจฺฉินฺเน. อฺมฺสงฺกรวิรหิเต ธมฺเม จ วินเย จาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อภิกฺกนฺเตน วณฺเณนา’’ติอาทีสุ (วิ. ว. ๗๕) อธิเก.

เอตฺถ จ ‘‘รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ, เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๖๐ อาทโย) นเยน วุฑฺฒิมนฺโตปิ ธมฺมา วุตฺตา. ‘‘รูปารมฺมณํ วา สทฺทารมฺมณํ วา’’ติอาทินา นเยน อารมฺมณาทีหิ ลกฺขณียตฺตา สลกฺขณาปิ. ‘‘เสกฺขา ธมฺมา, อเสกฺขา ธมฺมา, โลกุตฺตรา ธมฺมา’’ติอาทินา นเยน ปูชิตาปิ ปูชารหาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ผสฺโส โหติ เวทนา โหตี’’ติอาทินา นเยน สภาวปริจฺฉินฺนตฺตา ปริจฺฉินฺนาปิ. ‘‘มหคฺคตา ธมฺมา, อปฺปมาณา ธมฺมา, อนุตฺตรา ธมฺมา’’ติอาทินา นเยน อธิกาปิ ธมฺมา วุตฺตา. เตเนตเมตสฺส วจนตฺถโกสลฺลตฺถํ วุตฺตํ –

‘‘ยํ เอตฺถ วุฑฺฒิมนฺโต, สลกฺขณา ปูชิตา ปริจฺฉินฺนา;

วุตฺตาธิกา จ ธมฺมา, อภิธมฺโม เตน อกฺขาโต’’ติ.

ยํ ปเนตฺถ อวิสิฏฺํ, ตํ –

ปิฏกํ ปิฏกตฺถวิทู, ปริยตฺติพฺภาชนตฺถโต อาหุ;

เตน สโมธาเนตฺวา, ตโยปิ วินยาทโย เยฺยา.

ปริยตฺติปิ หิ ‘‘มา ปิฏกสมฺปทาเนนา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๖๖) ปิฏกนฺติ วุจฺจติ. ‘‘อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย กุทาลปิฏกํ อาทายา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๒๘; อ. นิ. ๓.๗๐) ยํ กิฺจิ ภาชนมฺปิ. ตสฺมา ปิฏกํ ปิฏกตฺถวิทู, ปริยตฺติพฺภาชนตฺถโต อาหุ.

อิทานิ เตน สโมธาเนตฺวา ตโยปิ วินยาทโย เยฺยาติ. เตน เอวํ ทุวิธตฺเถน ปิฏกสทฺเทน สห สมาสํ กตฺวา วินโย จ โส ปิฏกฺจ ปริยตฺติภาวโต ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส ภาชนโต จาติ วินยปิฏกํ, ยถาวุตฺเตเนว นเยน สุตฺตนฺตฺจ ตํ ปิฏกฺจาติ สุตฺตนฺตปิฏกํ, อภิธมฺโม จ โส ปิฏกฺจาติ อภิธมฺมปิฏกนฺติ เอวเมเต ตโยปิ วินยาทโย เยฺยา.

เอวํ ตฺวา จ ปุนปิ เตสฺเวว ปิฏเกสุ นานปฺปการโกสลฺลตฺถํ –

เทสนาสาสนกถา, เภทํ เตสุ ยถารหํ;

สิกฺขาปหานคมฺภีร, ภาวฺจ ปริทีปเย.

ปริยตฺติเภทํ สมฺปตฺตึ, วิปตฺตึ จาปิ ยํ ยหึ;

ปาปุณาติ ยถา ภิกฺขุ, ตมฺปิ สพฺพํ วิภาวเย.

ตตฺรายํ ปริทีปนา วิภาวนา จ, เอตานิ หิ ตีณิ ปิฏกานิ ยถากฺกมํ อาณา โวหาร ปรมตฺถเทสนา ยถาปราธ-ยถานุโลม-ยถาธมฺมสาสนานิ, สํวราสํวรทิฏฺิวินิเวนามรูปปริจฺเฉทกถาติ จ วุจฺจนฺติ.

เอตฺถ หิ วินยปิฏกํ อาณารเหน ภควตา อาณาพาหุลฺลโต เทสิตตฺตา อาณาเทสนา, สุตฺตนฺตปิฏกํ โวหารกุสเลน ภควตา โวหารพาหุลฺลโต เทสิตตฺตา โวหารเทสนา, อภิธมฺมปิฏกํ ปรมตฺถกุสเลน ภควตา ปรมตฺถพาหุลฺลโต เทสิตตฺตา ปรมตฺถเทสนาติ วุจฺจติ.

ตถา ปมํ เย เต ปจุราปราธา สตฺตา เต ยถาปราธํ เอตฺถ สาสิตาติ ยถาปราธสาสนํ, ทุติยํ อเนกชฺฌาสยานุสยจริยาธิมุตฺติกา สตฺตา ยถานุโลมํ เอตฺถ สาสิตาติ ยถานุโลมสาสนํ, ตติยํ ธมฺมปุฺชมตฺเต ‘‘อหํ มมา’’ติ สฺิโน สตฺตา ยถาธมฺมํ เอตฺถ สาสิตาติ ยถาธมฺมสาสนนฺติ วุจฺจติ.

ตถา ปมํ อชฺฌาจารปฏิปกฺขภูโต สํวราสํวโร เอตฺถ กถิโตติ สํวราสํวรกถา, ทุติยํ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิปฏิปกฺขภูตา ทิฏฺิวินิเวนา เอตฺถ กถิตาติ ทิฏฺิวินิเวนกถา, ตติยํ ราคาทิปฏิปกฺขภูโต นามรูปปริจฺเฉโท เอตฺถ กถิโตติ นามรูปปริจฺเฉทกถาติ วุจฺจติ.

ตีสุปิ จ เจเตสุ ติสฺโส สิกฺขา, ตีณิ ปหานานิ, จตุพฺพิโธ จ คมฺภีรภาโว เวทิตพฺโพ. ตถา หิ – วินยปิฏเก วิเสเสน อธิสีลสิกฺขา วุตฺตา, สุตฺตนฺตปิฏเก อธิจิตฺตสิกฺขา, อภิธมฺมปิฏเก อธิปฺาสิกฺขา.

วินยปิฏเก จ วีติกฺกมปฺปหานํ กิเลสานํ, วีติกฺกมปฏิปกฺขตฺตา สีลสฺส. สุตฺตนฺตปิฏเก ปริยุฏฺานปฺปหานํ, ปริยุฏฺานปฏิปกฺขตฺตา สมาธิสฺส. อภิธมฺมปิฏเก อนุสยปฺปหานํ อนุสยปฏิปกฺขตฺตา ปฺาย.

ปเม จ ตทงฺคปฺปหานํ กิเลสานํ, อิตเรสุ วิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฺปหานานิ. ปเม จ ทุจฺจริตสํกิเลสสฺส ปหานํ, อิตเรสุ ตณฺหาทิฏฺิสํกิเลสานํ.

เอกเมกสฺมิฺเจตฺถ จตุพฺพิโธปิ ธมฺมตฺถเทสนาปฏิเวธคมฺภีรภาโว เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ธมฺโมติ ปาฬิ. อตฺโถติ ตสฺสาเยวตฺโถ. เทสนาติ ตสฺสา มนสาววตฺถาปิตาย ปาฬิยา เทสนา. ปฏิเวโธติ ปาฬิยา ปาฬิอตฺถสฺส จ ยถาภูตาวโพโธ. ตีสุปิ เจเตสุ เอเต ธมฺมตฺถเทสนาปฏิเวธา ยสฺมา สสาทีหิ วิย มหาสมุทฺโท มนฺทพุทฺธีหิ ทุกฺโขคาหา อลพฺภเนยฺยปติฏฺา จ, ตสฺมา คมฺภีรา. เอวํ เอกเมกสฺมึ เอตฺถ จตุพฺพิโธปิ คมฺภีรภาโว เวทิตพฺโพ.

อปโร นโย – ธมฺโมติ เหตุ. วุตฺตํ เหตํ – ‘‘เหตุมฺหิ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติ. อตฺโถติ เหตุผลํ. วุตฺตํ เหตํ – ‘‘เหตุผเล าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติ. เทสนาติ ปฺตฺติ, ยถาธมฺมํ ธมฺมาภิลาโปติ อธิปฺปาโย. ปฏิเวโธติ อภิสมโย, โส จ โลกิยโลกุตฺตโร วิสยโต อสมฺโมหโต จ อตฺถานุรูปํ ธมฺเมสุ, ธมฺมานุรูปํ อตฺเถสุ, ปฺตฺติปถานุรูปํ ปฺตฺตีสุ อวโพโธ.

อิทานิ ยสฺมา เอเตสุ ปิฏเกสุ ยํ ยํ ธมฺมชาตํ วา อตฺถชาตํ วา, ยา จายํ ยถา ยถา าเปตพฺโพ อตฺโถ โสตูนํ าณสฺส อภิมุโข โหติ, ตถา ตถา ตทตฺถโชติกา เทสนา, โย เจตฺถ อวิปรีตาวโพธสงฺขาโต ปฏิเวโธ สพฺพเมตํ อนุปจิตกุสลสมฺภาเรหิ ทุปฺปฺเหิ สสาทีหิ วิย มหาสมุทฺโท ทุกฺโขคาหํ อลพฺภเนยฺยปติฏฺฺจ, ตสฺมา คมฺภีรํ. เอวมฺปิ เอกเมกสฺมึ เอตฺถ จตุพฺพิโธปิ คมฺภีรภาโว เวทิตพฺโพ.

เอตฺตาวตา จ –

‘‘เทสนา-สาสนกถา, เภทํ เตสุ ยถารหํ;

สิกฺขาปหานคมฺภีรภาวฺจ ปริทีปเย’’ติ.

อยํ คาถา วุตฺตตฺถา โหติ.

‘‘ปริยตฺติเภทํ สมฺปตฺตึ, วิปตฺติฺจาปิ ยํ ยหึ;

ปาปุณาติ ยถา ภิกฺขุ, ตมฺปิ สพฺพํ วิภาวเย’’ติ.

เอตฺถ ปน ตีสุ ปิฏเกสุ ติวิโธ ปริยตฺติเภโท ทฏฺพฺโพ. ติสฺโส หิ ปริยตฺติโย – อลคทฺทูปมา, นิสฺสรณตฺถา, ภณฺฑาคาริกปริยตฺตีติ.

ตตฺถ ยา ทุคฺคหิตา อุปารมฺภาทิเหตุ ปริยาปุฏา, อยํ อลคทฺทูปมา. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส อลคทฺทตฺถิโก อลคทฺทคเวสี อลคทฺทปริเยสนํ จรมาโน, โส ปสฺเสยฺย มหนฺตํ อลคทฺทํ. ตเมนํ โภเค วา นงฺคุฏฺเ วา คณฺเหยฺย. ตสฺส โส อลคทฺโท ปฏิปริวตฺติตฺวา หตฺเถ วา พาหาย วา อฺตรสฺมึ วา องฺคปจฺจงฺเค ฑํเสยฺย. โส ตโตนิทานํ มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย, มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ. ตํ กิสฺส เหตุ? ทุคฺคหิตตฺตา, ภิกฺขเว, อลคทฺทสฺส. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อิเธกจฺเจ โมฆปุริสา ธมฺมํ ปริยาปุณนฺติ สุตฺตํ…เป… เวทลฺลํ. เต ตํ ธมฺมํ ปริยาปุณิตฺวา เตสํ ธมฺมานํ ปฺาย อตฺถํ น อุปปริกฺขนฺติ. เตสํ เต ธมฺมา ปฺาย อตฺถํ อนุปปริกฺขตํ น นิชฺฌานํ ขมนฺติ. เต อุปารมฺภานิสํสา เจว ธมฺมํ ปริยาปุณนฺติ อิติวาทปฺปโมกฺขานิสํสา จ. ยสฺส จตฺถาย ธมฺมํ ปริยาปุณนฺติ, ตฺจสฺส อตฺถํ นานุโภนฺติ. เตสํ เต ธมฺมา ทุคฺคหิตา ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ทุคฺคหิตตฺตา, ภิกฺขเว, ธมฺมาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๓๘).

ยา ปน สุคฺคหิตา สีลกฺขนฺธาทิปาริปูรึเยว อากงฺขมาเนน ปริยาปุฏา น อุปารมฺภาทิ เหตุ, อยํ นิสฺสรณตฺถา. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘เตสํ เต ธมฺมา สุคฺคหิตา ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? สุคฺคหิตตฺตา, ภิกฺขเว, ธมฺมาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๓๙).

ยํ ปน ปริฺาตกฺขนฺโธ ปหีนกิเลโส ภาวิตมคฺโค ปฏิวิทฺธากุปฺโป สจฺฉิกตนิโรโธ ขีณาสโว เกวลํ ปเวณีปาลนตฺถาย วํสานุรกฺขณตฺถาย ปริยาปุณาติ, อยํ ภณฺฑาคาริกปอยตฺตีติ.

วินเย ปน สุปฺปฏิปนฺโน ภิกฺขุ สีลสมฺปตฺตึ นิสฺสาย ติสฺโส วิชฺชา ปาปุณาติ, ตาสํเยว จ ตตฺถ ปเภทวจนโต. สุตฺเต สุปฺปฏิปนฺโน สมาธิสมฺปทํ นิสฺสาย ฉ อภิฺา ปาปุณาติ, ตาสํเยว จ ตตฺถ ปเภทวจนโต. อภิธมฺเม สุปฺปฏิปนฺโน ปฺาสมฺปทํ นิสฺสาย จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา ปาปุณาติ, ตาสฺจ ตตฺเถว ปเภทวจนโต. เอวเมเตสุ สุปฺปฏิปนฺโน ยถากฺกเมน อิมํ วิชฺชาตฺตยฉฬภิฺาจตุปฏิสมฺภิทาเภทํ สมฺปตฺตึ ปาปุณาติ.

วินเย ปน ทุปฺปฏิปนฺโน อนุฺาตสุขสมฺผสฺสอตฺถรณปาวุรณาทิผสฺสสามฺโต ปฏิกฺขิตฺเตสุ อุปาทินฺนผสฺสาทีสุ อนวชฺชสฺี โหติ. วุตฺตมฺปิ เหตํ – ‘‘ตถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, ยถา เยเม อนฺตรายิกา ธมฺมา วุตฺตา ภควตา, เต ปฏิเสวโต นาลํ อนฺตรายายา’’ติ (ปาจิ. ๔๑๗; ม. นิ. ๑.๒๓๔) ตโต ทุสฺสีลภาวํ ปาปุณาติ. สุตฺเต ทุปฺปฏิปนฺโน ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๕) อธิปฺปายํ อชานนฺโต ทุคฺคหิตํ คณฺหาติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อตฺตนา ทุคฺคหิเตน อมฺเห เจว อพฺภาจิกฺขติ, อตฺตานฺจ ขนติ, พหุฺจ อปุฺํ ปสวตี’’ติ (ปาจิ. ๔๑๗; ม. นิ. ๑.๒๓๖) ตโต มิจฺฉาทิฏฺิตํ ปาปุณาติ. อภิธมฺเม ทุปฺปฏิปนฺโน ธมฺมจินฺตํ อติธาวนฺโต อจินฺเตยฺยานิปิ จินฺเตติ, ตโต จิตฺตกฺเขปํ ปาปุณาติ. วุตฺตํ เหตํ – ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อจินฺเตยฺยานิ น จินฺเตตพฺพานิ, ยานิ จินฺเตนฺโต อุมฺมาทสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺสา’’ติ (อ. นิ. ๔.๗๗). เอวเมเตสุ ทุปฺปฏิปนฺโน ยถากฺกเมน อิมํ ทุสฺสีลภาวมิจฺฉาทิฏฺิตา จิตฺตกฺเขปเภทํ วิปตฺตึ ปาปุณาตีติ.

เอตฺตาวตา จ –

‘‘ปริยตฺติเภทํ สมฺปตฺตึ, วิปตฺตึ จาปิ ยํ ยหึ;

ปาปุณาติ ยถา ภิกฺขุ, ตมฺปิ สพฺพํ วิภาวเย’’ติ.

อยมฺปิ คาถา วุตฺตตฺถา โหติ. เอวํ นานปฺปการโต ปิฏกานิ ตฺวา เตสํ วเสเนตํ พุทฺธวจนํ ติวิธนฺติ าตพฺพํ.

กถํ นิกายวเสน ปฺจวิธํ? สพฺพเมว เจตํ ทีฆนิกาโย, มชฺฌิมนิกาโย, สํยุตฺตนิกาโย, องฺคุตฺตรนิกาโย, ขุทฺทกนิกาโยติ ปฺจปฺปเภทํ โหติ. ตตฺถ กตโม ทีฆนิกาโย? ติวคฺคสงฺคหานิ พฺรหฺมชาลาทีนิ จตุตฺตึส สุตฺตานิ.

จตุตฺตึเสว สุตฺตนฺตา, ติวคฺโค ยสฺส สงฺคโห;

เอส ทีฆนิกาโยติ, ปโม อนุโลมิโก.

กสฺมา ปเนส ทีฆนิกาโยติ วุจฺจติ? ทีฆปฺปมาณานํ สุตฺตานํ สมูหโต นิวาสโต จ, สมูหนิวาสา หิ นิกาโยติ วุจฺจนฺติ. ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกนิกายมฺปิ สมนุปสฺสามิ เอวํ จิตฺตํ; ยถยิทํ, ภิกฺขเว, ติรจฺฉานคตา ปาณา; โปณิกนิกาโย, จิกฺขลฺลิกนิกาโย’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๐๐) เอวมาทีนิ เจตฺถ สาธกานิ สาสนโต จ โลกโต จ. เอวํ เสสานมฺปิ นิกายภาเว วจนตฺโถ เวทิตพฺโพ.

กตโม มชฺฌิมนิกาโย? มชฺฌิมปฺปมาณานิ ปฺจทสวคฺคสงฺคหานิ มูลปริยายสุตฺตาทีนิ ทิยฑฺฒสตํ ทฺเว จ สุตฺตานิ.

ทิยฑฺฒสตํ สุตฺตนฺตา, ทฺเว จ สุตฺตานิ ยตฺถ โส;

นิกาโย มชฺฌิโม ปฺจ-ทสวคฺคปริคฺคโห.

กตโม สํยุตฺตนิกาโย? เทวตาสํยุตฺตาทิวเสน ิตานิ โอฆตรณาทีนิ สตฺต สุตฺตสหสฺสานิ สตฺต จ สุตฺตสตานิ ทฺวาสฏฺิ จ สุตฺตานิ.

สตฺต สุตฺตสหสฺสานิ, สตฺต สุตฺตสตานิ จ;

ทฺวาสฏฺิ เจว สุตฺตนฺตา, เอโส สํยุตฺตสงฺคโห.

กตโม องฺคุตฺตรนิกาโย? เอเกกองฺคาติเรกวเสน ิตานิ จิตฺตปริยาทานาทีนิ นว สุตฺตสหสฺสานิ ปฺจ สุตฺตสตานิ สตฺตปฺาสฺจ สุตฺตานิ.

นว สุตฺตสหสฺสานิ, ปฺจ สุตฺตสตานิ จ;

สตฺตปฺาส สุตฺตานิ, สงฺขฺยา องฺคุตฺตเร อยํ.

กตโม ขุทฺทกนิกาโย? สกลํ วินยปิฏกํ อภิธมฺมปิฏกํ ขุทฺทกปาาทโย จ ปุพฺเพ นิทสฺสิตา ปนฺนรสเภทา เปตฺวา จตฺตาโร นิกาเย อวเสสํ พุทฺธวจนนฺติ.

เปตฺวา จตุโรเปเต, นิกาเย ทีฆอาทิเก;

ตทฺํ พุทฺธวจนํ, นิกาโย ขุทฺทโก มโตติ.

เอวํ นิกายวเสน ปฺจวิธํ.

กถํ องฺควเสน นววิธํ? สพฺพเมว หิทํ สุตฺตํ, เคยฺยํ, เวยฺยากรณํ, คาถา, อุทานํ, อิติวุตฺตกํ, ชาตกํ, อพฺภุตธมฺมํ, เวทลฺลนฺติ นวปฺปเภทํ โหติ. ตตฺถ อุภโตวิภงฺคนิทฺเทสขนฺธกปริวารา สุตฺตนิปาเต มงฺคลสุตฺต-รตนสุตฺต-นาลกสุตฺต-ตุวฏฺฏกสุตฺตานิ อฺมฺปิ จ สุตฺตนามกํ ตถาคตวจนํ สุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สพฺพมฺปิ สคาถกํ สุตฺตํ เคยฺยนฺติ เวทิตพฺพํ. วิเสเสน สํยุตฺตเก สกโลปิ สคาถาวคฺโค, สกลํ อภิธมฺมปิฏกํ, นิคฺคาถกํ สุตฺตํ, ยฺจ อฺมฺปิ อฏฺหิ องฺเคหิ อสงฺคหิตํ พุทฺธวจนํ ตํ เวยฺยากรณนฺติ เวทิตพฺพํ. ธมฺมปทํ, เถรคาถา, เถรีคาถา, สุตฺตนิปาเต โนสุตฺตนามิกา สุทฺธิกคาถา จ คาถาติ เวทิตพฺพา. โสมนสฺสาณมยิกคาถาปฏิสํยุตฺตา ทฺวาสีติ สุตฺตนฺตา อุทานนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘วุตฺตฺเหตํ ภควตา’’ติอาทินยปฺปวตฺตา ทสุตฺตรสตสุตฺตนฺตา อิติวุตฺตกนฺติ เวทิตพฺพํ. อปณฺณกชาตกาทีนิ ปฺาสาธิกานิ ปฺจ ชาตกสตานิ ชาตกนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา อานนฺเท’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๐๙) -อาทินยปฺปวตฺตา สพฺเพปิ อจฺฉริยอพฺภุตธมฺมปฏิสํยุตฺตา สุตฺตนฺตา อพฺภุตธมฺมนฺติ เวทิตพฺพํ. จูฬเวทลฺล-มหาเวทลฺล-สมฺมาทิฏฺิ-สกฺกปฺห-สงฺขารภาชนิย-มหาปุณฺณมสุตฺตาทโย สพฺเพปิ เวทฺจ ตุฏฺิฺจ ลทฺธา ลทฺธา ปุจฺฉิตสุตฺตนฺตา เวทลฺลนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ องฺควเสน นววิธํ.

กถํ ธมฺมกฺขนฺธวเสน จตุราสีติสหสฺสวิธํ? สพฺพเมว เจตํ พุทฺธวจนํ –

‘‘ทฺวาสีติ พุทฺธโต คณฺหึ, ทฺเว สหสฺสานิ ภิกฺขุโต;

จตุราสีติ สหสฺสานิ, เย เม ธมฺมา ปวตฺติโน’’ติ. (เถรคา. ๑๐๒๗);

เอวํ ปริทีปิตธมฺมกฺขนฺธวเสน จตุราสีติสหสฺสปฺปเภทํ โหติ. ตตฺถ เอกานุสนฺธิกํ สุตฺตํ เอโก ธมฺมกฺขนฺโธ. ยํ อเนกานุสนฺธิกํ ตตฺถ อนุสนฺธิวเสน ธมฺมกฺขนฺธคณนา. คาถาพนฺเธสุ ปฺหาปุจฺฉนํ เอโก ธมฺมกฺขนฺโธ, วิสฺสชฺชนํ เอโก. อภิธมฺเม เอกเมกํ ติก-ทุก-ภาชนํ, เอกเมกฺจ จิตฺตวารภาชนํ, เอโก ธมฺมกฺขนฺโธ. วินเย อตฺถิ วตฺถุ, อตฺถิ มาติกา, อตฺถิ ปทภาชนียํ, อตฺถิ อนฺตราปตฺติ, อตฺถิ อาปตฺติ, อตฺถิ อนาปตฺติ, อตฺถิ ปริจฺเฉโท; ตตฺถ เอกเมโก โกฏฺาโส, เอกเมโก ธมฺมกฺขนฺโธติ เวทิตพฺโพ. เอวํ ธมฺมกฺขนฺธวเสน จตุราสีติสหสฺสวิธํ.

เอวเมตํ อเภทโต รสวเสน เอกวิธํ, เภทโต ธมฺมวินยาทิวเสน ทุวิธาทิเภทํ พุทฺธวจนํ สงฺคายนฺเตน มหากสฺสปปฺปมุเขน วสีคเณน ‘‘อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย; อิทํ ปมพุทฺธวจนํ, อิทํ มชฺฌิมพุทฺธวจนํ, อิทํ ปจฺฉิมพุทฺธวจนํ; อิทํ วินยปิฏกํ, อิทํ สุตฺตนฺตปิฏกํ, อิทํ อภิธมฺมปิฏกํ; อยํ ทีฆนิกาโย…เป… อยํ ขุทฺทกนิกาโย; อิมานิ สุตฺตาทีนิ นวงฺคานิ, อิมานิ จตุราสีติธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานี’’ติ อิมํ ปเภทํ ววตฺถเปตฺวาว สงฺคีตํ. น เกวลฺจ เอตฺตกเมว, อฺมฺปิ อุทฺทานสงฺคห-วคฺคสงฺคหเปยฺยาลสงฺคห-เอกกนิปาต-ทุกนิปาตาทินิปาตสงฺคห-สํยุตฺตสงฺคห-ปณฺณาสสงฺคหาทิอเนกวิธํ ตีสุ ปิฏเกสุ สนฺทิสฺสมานํ สงฺคหปฺปเภทํ ววตฺถเปตฺวาเอว สตฺตหิ มาเสหิ สงฺคีตํ. สงฺคีติปริโยสาเน จสฺส – ‘‘อิทํ มหากสฺสปตฺเถเรน ทสพลสฺส สาสนํ ปฺจวสฺสสหสฺสปริมาณํ กาลํ ปวตฺตนสมตฺถํ กต’’นฺติ สฺชาตปฺปโมทา สาธุการํ วิย ททมานา อยํ มหาปถวี อุทกปริยนฺตํ กตฺวา อเนกปฺปการํ กมฺปิ สงฺกมฺปิ สมฺปกมฺปิ สมฺปเวธิ, อเนกานิ จ อจฺฉริยานิ ปาตุรเหสุนฺติ อยํ ปมมหาสงฺคีตินาม. ยา โลเก –

สเตหิ ปฺจหิ กตา, เตน ปฺจสตาติ จ;

เถเรเหว กตตฺตา จ, เถริกาติ ปวุจฺจตีติ.

อิมิสฺสา ปน ปมมหาสงฺคีติยา ปวตฺตมานาย วินยํ ปุจฺฉนฺเตน อายสฺมตา มหากสฺสเปน ‘‘ปมํ, อาวุโส อุปาลิ, ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺต’’นฺติ เอวมาทิวจนปริโยสาเน ‘‘วตฺถุมฺปิ ปุจฺฉิ, นิทานมฺปิ ปุจฺฉิ, ปุคฺคลมฺปิ ปุจฺฉี’’ติ เอตฺถ นิทาเน ปุจฺฉิเต ตํ นิทานํ อาทิโต ปภุติ วิตฺถาเรตฺวา เยน จ ปฺตฺตํ, ยสฺมา จ ปฺตฺตํ, สพฺพเมตํ กเถตุกาเมน อายสฺมตา อุปาลิตฺเถเรน วุตฺตํ ‘‘เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา เวรฺชายํ วิหรตี’’ติ สพฺพํ วตฺตพฺพํ. เอวมิทํ อายสฺมตา อุปาลิตฺเถเรน วุตฺตํ, ตฺจ ปน ‘‘ปมมหาสงฺคีติกาเล วุตฺต’’นฺติ เวทิตพฺพํ. เอตฺตาวตา จ ‘‘อิทํ วจนํ เกน วุตฺตํ, กทา วุตฺต’’นฺติ เอเตสํ ปทานํ อตฺโถ ปกาสิโต โหติ.

อิทานิ กสฺมา วุตฺตนฺติ เอตฺถ วุจฺจเต, ยสฺมา อยมายสฺมตา มหากสฺสปตฺเถเรน นิทานํ ปุฏฺโ ตสฺมาเนน ตํ นิทานํ อาทิโต ปภุติ วิตฺถาเรตุํ วุตฺตนฺติ. เอวมิทํ อายสฺมตา อุปาลิตฺเถเรน ปมมหาสงฺคีติกาเล วทนฺเตนาปิ อิมินา การเณน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอตฺตาวตา จ วุตฺตํ เยน ยทา ยสฺมาติ อิเมสํ มาติกาปทานํ อตฺโถ ปกาสิโต โหติ.

อิทานิ ธาริตํ เยน จาภตํ, ยตฺถปฺปติฏฺิตํ เจตเมตํ วตฺวา วิธึ ตโตติ เอเตสํ อตฺถปฺปกาสนตฺถํ อิทํ วุจฺจติ. ตํ ปเนตํ ‘‘เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา เวรฺชายํ วิหรตี’’ติ เอวมาทิวจนปฏิมณฺฑิตนิทานํ วินยปิฏกํ เกน ธาริตํ, เกนาภตํ, กตฺถ ปติฏฺิตนฺติ? วุจฺจเต – อาทิโต ตาว อิทํ ภควโต สมฺมุขา อายสฺมตา อุปาลิตฺเถเรน ธาริตํ, ตสฺส สมฺมุขโต อปรินิพฺพุเต ตถาคเต ฉฬภิฺาทิเภเทหิ อเนเกหิ ภิกฺขุสหสฺเสหิ ปรินิพฺพุเต ตถาคเต มหากสฺสปปฺปมุเขหิ ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ. เกนาภตนฺติ? ชมฺพุทีเป ตาว อุปาลิตฺเถรมาทึ กตฺวา อาจริยปรมฺปราย ยาว ตติยสงฺคีติ ตาว อาภตํ. ตตฺรายํ อาจริยปรมฺปรา

อุปาลิ ทาสโก เจว, โสณโก สิคฺคโว ตถา;

ติสฺโส โมคฺคลิปุตฺโต จ, ปฺเจเต วิชิตาวิโน.

ปรมฺปราย วินยํ, ทีเป ชมฺพุสิริวฺหเย;

อจฺฉิชฺชมานมาเนสุํ, ตติโย ยาว สงฺคโห.

อายสฺมา หิ อุปาลิ อิมํ วินยวํสํ วินยตนฺตึ วินยปเวณึ ภควโต

สมฺมุขา อุคฺคเหตฺวา พหูนํ ภิกฺขูนํ หทเย ปติฏฺาเปสิ. ตสฺส หายสฺมโต สนฺติเก วินยวํสํ อุคฺคเหตฺวา วินเย ปกตฺุตํ ปตฺเตสุ ปุคฺคเลสุ ปุถุชฺชน-โสตาปนฺน-สกทาคามิ-อนาคามิโน คณนปถํ วีติวตฺตา, ขีณาสวานํ สหสฺสเมกํ อโหสิ. ทาสกตฺเถโรปิ ตสฺเสว สทฺธิวิหาริโก อโหสิ, โส อุปาลิตฺเถรสฺส สมฺมุขา อุคฺคเหตฺวา ตเถว วินยํ วาเจสิ. ตสฺสาปิ อายสฺมโต สนฺติเก อุคฺคเหตฺวา วินเย ปกตฺุตํ ปตฺตา ปุถุชฺชนาทโย คณนปถํ วีติวตฺตา, ขีณาสวานํ สหสฺสเมว อโหสิ. โสณกตฺเถโรปิ ทาสกตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริโก อโหสิ, โสปิ อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส ทาสกตฺเถรสฺส สมฺมุขา อุคฺคเหตฺวา ตเถว วินยํ วาเจสิ. ตสฺสาปิ อายสฺมโต สนฺติเก อุคฺคเหตฺวา วินเย ปกตฺุตํ ปตฺตา ปุถุชฺชนาทโย คณนปถํ วีติวตฺตา, ขีณาสวานํ สหสฺสเมว อโหสิ. สิคฺควตฺเถโรปิ โสณกตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริโก อโหสิ, โสปิ อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส โสณกตฺเถรสฺส สนฺติเก วินยํ อุคฺคเหตฺวา อรหนฺตสหสฺสสฺส ธุรคฺคาโห อโหสิ. ตสฺส ปนายสฺมโต สนฺติเก อุคฺคเหตฺวา วินเย ปกตฺุตํ ปตฺตา ปุถุชฺชน-โสตาปนฺนสกทาคามิ-อนาคามิโนปิ ขีณาสวาปิ เอตฺตกานิ สตานีติ วา เอตฺตกานิ สหสฺสานีติ วา อปริจฺฉินฺนา อเหสุํ. ตทา กิร ชมฺพุทีเป อติมหาภิกฺขุสมุทาโย อโหสิ. โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถรสฺส ปน อานุภาโว ตติยสงฺคีติยํ ปากโฏ ภวิสฺสติ. เอวมิทํ วินยปิฏกํ ชมฺพุทีเป ตาว อิมาย อาจริยปรมฺปราย ยาว ตติยสงฺคีติ ตาว อาภตนฺติ เวทิตพฺพํ.

ปมมหาสงฺคีติกถา นิฏฺิตา.

ทุติยสงฺคีติกถา

ทุติยสงฺคีติวิชานนตฺถํ ปน อยมนุกฺกโม เวทิตพฺโพ. ยทา หิ –

สงฺคายิตฺวาน สทฺธมฺมํ, โชตยิตฺวา จ สพฺพธิ;

ยาว ชีวิตปริยนฺตํ, ตฺวา ปฺจสตาปิ เต.

ขีณาสวา ชุตีมนฺโต, เถรา กสฺสปอาทโย;

ขีณสฺเนหปทีปาว, นิพฺพายึสุ อนาลยา.

อถานุกฺกเมน คจฺฉนฺเตสุ รตฺตินฺทิเวสุ วสฺสสตปรินิพฺพุเต ภควติ เวสาลิกา วชฺชิปุตฺตกา ภิกฺขู เวสาลิยํ ‘‘กปฺปติ สิงฺคีโลณกปฺโป, กปฺปติ ทฺวงฺคุลกปฺโป, กปฺปติ คามนฺตรกปฺโป, กปฺปติ อาวาสกปฺโป, กปฺปติ อนุมติกปฺโป, กปฺปติ อาจิณฺณกปฺโป, กปฺปติ อมถิตกปฺโป, กปฺปติ ชโฬคึ ปาตุํ, กปฺปติ อทสกํ นิสีทนํ, กปฺปติ ชาตรูปรชต’’นฺติ อิมานิ ทส วตฺถูนิ ทีเปสุํ. เตสํ สุสุนาคปุตฺโต กาฬาโสโก นาม ราชา ปกฺโข อโหสิ.

เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ยโส กากณฺฑกปุตฺโต วชฺชีสุ จาริกํ จรมาโน ‘‘เวสาลิกา กิร วชฺชิปุตฺตกา ภิกฺขู เวสาลิยํ ทส วตฺถูนิ ทีเปนฺตี’’ติ สุตฺวา ‘‘น โข ปเนตํ ปติรูปํ ยฺวาหํ ทสพลสฺส สาสนวิปตฺตึ สุตฺวา อปฺโปสฺสุกฺโก ภเวยฺยํ. หนฺทาหํ อธมฺมวาทิโน นิคฺคเหตฺวา ธมฺมํ ทีเปมี’’ติ จินฺเตนฺโต เยน เวสาลี ตทวสริ. ตตฺร สุทํ อายสฺมา ยโส กากณฺฑกปุตฺโต เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ.

เตน โข ปน สมเยน เวสาลิกา วชฺชิปุตฺตกา ภิกฺขู ตทหุโปสเถ กํสปาตึ อุทเกน ปูเรตฺวา มชฺเฌ ภิกฺขุสงฺฆสฺส เปตฺวา อาคตาคเต เวสาลิเก อุปาสเก เอวํ วทนฺติ – ‘‘เทถาวุโส, สงฺฆสฺส กหาปณมฺปิ อฑฺฒมฺปิ ปาทมฺปิ มาสกรูปมฺปิ, ภวิสฺสติ สงฺฆสฺส ปริกฺขาเรน กรณีย’’นฺติ สพฺพํ ตาว วตฺตพฺพํ, ยาว ‘‘อิมาย ปน วินยสงฺคีติยา สตฺต ภิกฺขุสตานิ อนูนานิ อนธิกานิ อเหสุํ, ตสฺมา อยํ ทุติยสงฺคีติ สตฺตสติกาติ วุจฺจตี’’ติ.

เอวํ ตสฺมิฺจ สนฺนิปาเต ทฺวาทส ภิกฺขุสตสหสฺสานิ สนฺนิปตึสุ อายสฺมตา ยเสน สมุสฺสาหิตา. เตสํ มชฺเฌ อายสฺมตา เรวเตน ปุฏฺเน สพฺพกามิตฺเถเรน วินยํ วิสฺสชฺเชนฺเตน ตานิ ทส วตฺถูนิ วินิจฺฉิตานิ, อธิกรณํ วูปสมิตํ. อถ เถรา ‘‘ปุน ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคายิสฺสามา’’ติ ติปิฏกธเร ปตฺตปฏิสมฺภิเท สตฺตสเต ภิกฺขู อุจฺจินิตฺวา เวสาลิยํ วาลิการาเม สนฺนิปติตฺวา มหากสฺสปตฺเถเรน สงฺคายิตสทิสเมว สพฺพํ สาสนมลํ โสเธตฺวา ปุน ปิฏกวเสน นิกายวเสน องฺควเสน ธมฺมกฺขนฺธวเสน จ สพฺพํ ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคายึสุ. อยํ สงฺคีติ อฏฺหิ มาเสหิ นิฏฺิตา. ยา โลเก –

สเตหิ สตฺตหิ กตา, เตน สตฺตสตาติ จ;

ปุพฺเพ กตํ อุปาทาย, ทุติยาติ จ วุจฺจตีติ.

สา ปนายํ –

เยหิ เถเรหิ สงฺคีตา, สงฺคีติ เตสุ วิสฺสุตา;

สพฺพกามี จ สาฬฺโห จ, เรวโต ขุชฺชโสภิโต.

ยโส จ สาณสมฺภูโต, เอเต สทฺธิวิหาริกา;

เถรา อานนฺทเถรสฺส, ทิฏฺปุพฺพา ตถาคตํ.

สุมโน วาสภคามี จ, เยฺยา สทฺธิวิหาริกา;

ทฺเว อิเม อนุรุทฺธสฺส, ทิฏฺปุพฺพา ตถาคตํ.

ทุติโย ปน สงฺคีโต, เยหิ เถเรหิ สงฺคโห;

สพฺเพปิ ปนฺนภารา เต, กตกิจฺจา อนาสวาติ.

อยํ ทุติยสงฺคีติ.

เอวมิมํ ทุติยสงฺคีตึ สงฺคายิตฺวา เถรา ‘‘อุปฺปชฺชิสฺสติ นุ โข อนาคเตปิ สาสนสฺส เอวรูปํ อพฺพุท’’นฺติ โอโลกยมานา อิมํ อทฺทสํสุ – ‘‘อิโต วสฺสสตสฺส อุปริ อฏฺารสเม วสฺเส ปาฏลิปุตฺเต ธมฺมาโสโก นาม ราชา อุปฺปชฺชิตฺวา สกลชมฺพุทีเป รชฺชํ กาเรสฺสติ. โส พุทฺธสาสเน ปสีทิตฺวา มหนฺตํ ลาภสกฺการํ ปวตฺตยิสฺสติ. ตโต ติตฺถิยา ลาภสกฺการํ ปตฺถยมานา สาสเน ปพฺพชิตฺวา สกํ สกํ ทิฏฺึ ปริทีเปสฺสนฺติ. เอวํ สาสเน มหนฺตํ อพฺพุทํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ. อถ เนสํ เอตทโหสิ – ‘‘กินฺนุ โข มยํ เอตสฺมึ อพฺพุเท อุปฺปนฺเน สมฺมุขา ภวิสฺสาม, น ภวิสฺสามา’’ติ. อถ เต สพฺเพว ตทา อตฺตโน อสมฺมุขภาวํ ตฺวา ‘‘โก นุ โข ตํ อธิกรณํ วูปสเมตุํ สมตฺโถ ภวิสฺสตี’’ติ สกลํ มนุสฺสโลกํ ฉกามาวจรเทวโลกฺจ โอโลเกนฺตา น กฺจิ ทิสฺวา พฺรหฺมโลเก ติสฺสํ นาม มหาพฺรหฺมานํ อทฺทสํสุ ปริตฺตายุกํ อุปริพฺรหฺมโลกูปปตฺติยา ภาวิตมคฺคํ. ทิสฺวาน เนสํ เอตทโหสิ – ‘‘สเจ มยํ เอตสฺส พฺรหฺมุโน มนุสฺสโลเก นิพฺพตฺตนตฺถาย อุสฺสาหํ กเรยฺยาม, อทฺธา เอส โมคฺคลิพฺราหฺมณสฺส เคเห ปฏิสนฺธึ คเหสฺสติ. ตโต จ มนฺเตหิ ปโลภิโต นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิสฺสติ. โส เอวํ ปพฺพชิตฺวา สกลํ พุทฺธวจนํ อุคฺคเหตฺวา อธิคตปฏิสมฺภิโท หุตฺวา ติตฺถิเย มทฺทิตฺวา ตํ อธิกรณํ วินิจฺฉิตฺวา สาสนํ ปคฺคณฺหิสฺสตี’’ติ.

เต พฺรหฺมโลกํ คนฺตฺวา ติสฺสํ มหาพฺรหฺมานํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิโต วสฺสสตสฺส อุปริ อฏฺารสเม วสฺเส สาสเน มหนฺตํ อพฺพุทํ อุปฺปชฺชิสฺสติ. มยฺจ สกลํ มนุสฺสโลกํ ฉกามาวจรเทวโลกฺจ โอโลกยมานา กฺจิ สาสนํ ปคฺคเหตุํ สมตฺถํ อทิสฺวา พฺรหฺมโลกํ วิจินนฺตา ภวนฺตเมว อทฺทสาม. สาธุ, สปฺปุริส, มนุสฺสโลเก นิพฺพตฺติตฺวา ทสพลสฺส สาสนํ ปคฺคณฺหิตุํ ปฏิฺํ เทหี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต มหาพฺรหฺมา, ‘‘อหํ กิร สาสเน อุปฺปนฺนํ อพฺพุทํ โสเธตฺวา สาสนํ ปคฺคเหตุํ สมตฺโถ ภวิสฺสามี’’ติ หฏฺปหฏฺโ อุทคฺคุทคฺโค หุตฺวา, ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา ปฏิฺํ อทาสิ. เถรา พฺรหฺมโลเก ตํ กรณียํ ตีเรตฺวา ปุน ปจฺจาคมึสุ.

เตน โข ปน สมเยน สิคฺควตฺเถโร จ จณฺฑวชฺชิตฺเถโร จ ทฺเวปิ นวกา โหนฺติ ทหรภิกฺขู ติปิฏกธรา ปตฺตปฏิสมฺภิทา ขีณาสวา, เต ตํ อธิกรณํ น สมฺปาปุณึสุ. เถรา ‘‘ตุมฺเห, อาวุโส, อมฺหากํ อิมสฺมึ อธิกรเณ โน สหายกา อหุวตฺถ, เตน โว อิทํ ทณฺฑกมฺมํ โหตุ – ‘ติสฺโส นาม พฺรหฺมา โมคฺคลิพฺราหฺมณสฺส เคเห ปฏิสนฺธึ คณฺหิสฺสติ, ตํ ตุมฺหากํ เอโก นีหริตฺวา ปพฺพาเชตุ, เอโก พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหาเปตู’’’ติ วตฺวา สพฺเพปิ ยาวตายุกํ ตฺวา –

สพฺพกามิปฺปภุตโย, เตปิ เถรา มหิทฺธิกา;

อคฺคิกฺขนฺธาว โลกมฺหิ, ชลิตฺวา ปรินิพฺพุตา.

ทุติยํ สงฺคหํ กตฺวา, วิโสเธตฺวาน สาสนํ;

อนาคเตปิ กตฺวาน, เหตุํ สทฺธมฺมสุทฺธิยา.

ขีณาสวา วสิปฺปตฺถา, ปภินฺนปฏิสมฺภิทา;

อนิจฺจตาวสํ เถรา, เตปิ นาม อุปาคตา.

เอวํ อนิจฺจตํ ชมฺมึ, ตฺวา ทุรภิสมฺภวํ;

ตํ ปตฺตุํ วายเม ธีโร, ยํ นิจฺจํ อมตํ ปทนฺติ.

เอตฺตาวตา สพฺพากาเรน ทุติยสงฺคีติวณฺณนา นิฏฺิตา โหติ.

ทุติยสงฺคีติกถา นิฏฺิตา

ตติยสงฺคีติกถา

ติสฺโสปิ โข มหาพฺรหฺมา พฺรหฺมโลกโต จวิตฺวา โมคฺคลิพฺราหฺมณสฺส เคเห ปฏิสนฺธึ อคฺคเหสิ. สิคฺควตฺเถโรปิ ตสฺส ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปภุติ สตฺต วสฺสานิ พฺราหฺมณสฺส เคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. เอกทิวสมฺปิ อุฬุงฺกมตฺตํ วา ยาคุํ กฏจฺฉุมตฺตํ วา ภตฺตํ นาลตฺถ. สตฺตนฺนํ ปน วสฺสานํ อจฺจเยน เอกทิวสํ ‘‘อติจฺฉถ, ภนฺเต’’ติ วจนมตฺตํ อลตฺถ. ตํทิวสเมว พฺราหฺมโณปิ พหิทฺธา กิฺจิ กรณียํ กตฺวา อาคจฺฉนฺโต ปฏิปเถ เถรํ ทิสฺวา, ‘‘โภ ปพฺพชิต, อมฺหากํ เคหํ อคมิตฺถา’’ติ อาห. ‘‘อาม, พฺราหฺมณ, อคมิมฺหา’’ติ. ‘‘อปิ กิฺจิ ลภิตฺถา’’ติ? ‘‘อาม, พฺราหฺมณ, ลภิมฺหา’’ติ. โส เคหํ คนฺตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘ตสฺส ปพฺพชิตสฺส กิฺจิ อทตฺถา’’ติ? ‘‘น กิฺจิ อทมฺหา’’ติ. พฺราหฺมโณ ทุติยทิวเส ฆรทฺวาเรเยว นิสีทิ ‘‘อชฺช ปพฺพชิตํ มุสาวาเทน นิคฺคเหสฺสามี’’ติ. เถโร ทุติยทิวเส พฺราหฺมณสฺส ฆรทฺวารํ สมฺปตฺโต. พฺราหฺมโณ เถรํ ทิสฺวาว เอวมาห – ‘‘ตุมฺเห หิยฺโย อมฺหากํ เคเห กิฺจิ อลทฺธาเยว ‘ลภิมฺหา’ติ อโวจุตฺถ. วฏฺฏติ นุ โข ตุมฺหากํ มุสาวาโท’’ติ! เถโร อาห – ‘‘มยํ, พฺราหฺมณ, ตุมฺหากํ เคเห สตฺต วสฺสานิ ‘อติจฺฉถา’ติ วจนมตฺตมฺปิ อลภิตฺวา หิยฺโย ‘อติจฺฉถา’ติ วจนมตฺตํ ลภิมฺห; อเถตํ ปฏิสนฺถารํ อุปาทาย เอวมโวจุมฺหา’’ติ.

พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ – ‘‘อิเม ปฏิสนฺถารมตฺตมฺปิ ลภิตฺวา ‘ลภิมฺหา’ติ ปสํสนฺติ, อฺํ กิฺจิ ขาทนียํ โภชนียํ ลภิตฺวา กสฺมา น ปสํสนฺตี’’ติ ปสีทิตฺวา อตฺตโน อตฺถาย ปฏิยาทิตภตฺตโต กฏจฺฉุมตฺตํ ภิกฺขํ ตทุปิยฺจ พฺยฺชนํ ทาเปตฺวา ‘‘อิมํ ภิกฺขํ สพฺพกาลํ ตุมฺเห ลภิสฺสถา’’ติ อาห. โส ปุนทิวสโต ปภุติ อุปสงฺกมนฺตสฺส เถรสฺส อุปสมํ ทิสฺวา ภิยฺโยโสมตฺตาย ปสีทิตฺวา เถรํ นิจฺจกาลํ อตฺตโน ฆเร ภตฺตวิสฺสคฺคกรณตฺถาย ยาจิ. เถโร อธิวาเสตฺวา ทิวเส ทิวเส ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา คจฺฉนฺโต โถกํ โถกํ พุทฺธวจนํ กเถตฺวา คจฺฉติ. โสปิ โข มาณวโก โสฬสวสฺสุทฺเทสิโกเยว ติณฺณํ เวทานํ ปารคู อโหสิ. พฺรหฺมโลกโต อาคตสุทฺธสตฺตสฺส อาสเน วา สยเน วา อฺโ โกจิ นิสชฺชิตา วา นิปชฺชิตา วา นตฺถิ. โส ยทา อาจริยฆรํ คจฺฉติ, ตทาสฺส มฺจปีํ เสเตน วตฺเถน ปฏิจฺฉาเทตฺวา ลคฺเคตฺวา เปนฺติ. เถโร จินฺเตสิ – ‘‘สมโย ทานิ มาณวกํ ปพฺพาเชตุํ, จิรฺจ เม อิธาคจฺฉนฺตสฺส, น จ กาจิ มาณวเกน สทฺธึ กถา อุปฺปชฺชติ. หนฺท ทานิ อิมินา อุปาเยน ปลฺลงฺกํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ เคหํ คนฺตฺวา ยถา ตสฺมึ เคเห เปตฺวา มาณวกสฺส ปลฺลงฺกํ อฺํ น กิฺจิ อาสนํ ทิสฺสติ ตถา อธิฏฺาสิ. พฺราหฺมณสฺส เคหชโน เถรํ ทิสฺวา อฺํ กิฺจิ อาสนํ อปสฺสนฺโต มาณวกสฺส ปลฺลงฺกํ อตฺถริตฺวา เถรสฺส อทาสิ. นิสีทิ เถโร ปลฺลงฺเก. มาณวโกปิ โข ตงฺขณฺเว อาจริยฆรา อาคมฺม เถรํ อตฺตโน ปลฺลงฺเก นิสินฺนํ ทิสฺวา กุปิโต อนตฺตมโน ‘‘โก มม ปลฺลงฺกํ สมณสฺส ปฺเปสี’’ติ อาห.

เถโร ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา วูปสนฺเต มาณวกสฺส จณฺฑิกฺกภาเว เอวมาห – ‘‘กึ ปน ตฺวํ, มาณวก, กิฺจิ มนฺตํ ชานาสี’’ติ? มาณวโก ‘‘โภ ปพฺพชิต, มยิ ทานิ มนฺเต อชานนฺเต อฺเ เก ชานิสฺสนฺตี’’ติ วตฺวา, เถรํ ปุจฺฉิ – ‘‘ตุมฺเห ปน มนฺตํ ชานาถา’’ติ? ‘‘ปุจฺฉ, มาณวก, ปุจฺฉิตฺวา สกฺกา ชานิตุ’’นฺติ. อถ โข มาณวโก ตีสุ เวเทสุ สนิฆณฺฑุเกฏุเภสุ สากฺขรปฺปเภเทสุ อิติหาสปฺจเมสุ ยานิ ยานิ คณฺิฏฺานานิ, เยสํ เยสํ นยํ เนว อตฺตนา ปสฺสติ นาปิสฺส อาจริโย อทฺทส, เตสุ เตสุ เถรํ ปุจฺฉิ. เถโร ‘‘ปกติยาปิ ติณฺณํ เวทานํ ปารคู, อิทานิ ปน ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺโต, เตนสฺส นตฺถิ เตสํ ปฺหานํ วิสฺสชฺชเน ภาโร’’ติ ตาวเทว เต ปฺเห วิสฺสชฺเชตฺวา มาณวกํ อาห – ‘‘มาณวก, อหํ ตยา พหุํ ปุจฺฉิโต; อหมฺปิ ทานิ ตํ เอกํ ปฺหํ ปุจฺฉามิ, พฺยากริสฺสสิ เม’’ติ? ‘‘อาม, โภ ปพฺพชิต, ปุจฺฉ พฺยากริสฺสามี’’ติ. เถโร จิตฺตยมเก อิมํ ปฺหํ ปุจฺฉิ –

‘‘ยสฺส จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ น นิรุชฺฌติ ตสฺส จิตฺตํ นิรุชฺฌิสฺสติ นุปฺปชฺชิสฺสติ; ยสฺส วา ปน จิตฺตํ นิรุชฺฌิสฺสติ นุปฺปชฺชิสฺสติ ตสฺส จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ น นิรุชฺฌตี’’ติ?

มาณโว อุทฺธํ วา อโธ วา หริตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘กึ นาม, โภ ปพฺพชิต, อิท’’นฺติ อาห. ‘‘พุทฺธมนฺโต นามายํ, มาณวา’’ติ. ‘‘สกฺกา ปนายํ, โภ, มยฺหมฺปิ ทาตุ’’นฺติ. ‘‘สกฺกา มาณว, อมฺเหหิ คหิตปพฺพชฺชํ คณฺหนฺตสฺส ทาตุ’’นฺติ. ตโต มาณโว มาตาปิตโร อุปสงฺกมิตฺวา อาห – ‘‘อยํ ปพฺพชิโต พุทฺธมนฺตํ นาม ชานาติ, น จ อตฺตโน สนฺติเก อปพฺพชิตสฺส เทติ, อหํ เอตสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา มนฺตํ อุคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ.

อถสฺส มาตาปิตโร ‘‘ปพฺพชิตฺวาปิ โน ปุตฺโต มนฺเต คณฺหตุ, คเหตฺวา ปุนาคมิสฺสตี’’ติ มฺมานา ‘‘อุคฺคณฺห, ปุตฺตา’’ติ อนุชานึสุ. เถโร ทารกํ ปพฺพาเชตฺวา ทฺวตฺตึสาการกมฺมฏฺานํ ตาว อาจิกฺขิ. โส ตตฺถ ปริกมฺมํ กโรนฺโต นจิรสฺเสว โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตโต เถโร จินฺเตสิ – ‘‘สามเณโร โสตาปตฺติผเล ปติฏฺิโต, อภพฺโพ ทานิ สาสนโต นิวตฺติตุํ. สเจ ปนสฺสาหํ กมฺมฏฺานํ วฑฺเฒตฺวา กเถยฺยํ, อรหตฺตํ ปาปุเณยฺย, อปฺโปสฺสุกฺโก ภเวยฺย พุทฺธวจนํ คเหตุํ, สมโย ทานิ นํ จณฺฑวชฺชิตฺเถรสฺส สนฺติกํ เปเสตุ’’นฺติ. ตโต อาห – ‘‘เอหิ ตฺวํ, สามเณร, เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺห. มม วจเนน ตฺจ อาโรคฺยํ ปุจฺฉ; เอวฺจ วเทหิ – ‘อุปชฺฌาโย มํ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ สนฺติกํ ปหิณี’ติ. ‘โก นาม เต อุปชฺฌาโย’ติ จ วุตฺเต ‘สิคฺควตฺเถโร นาม, ภนฺเต’ติ วเทยฺยาสิ. ‘อหํ โก นามา’ติ วุตฺเต เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘มม อุปชฺฌาโย, ภนฺเต, ตุมฺหากํ นามํ ชานาตี’’’ติ.

‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข ติสฺโส สามเณโร เถรํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา อนุปุพฺเพน จณฺฑวชฺชิตฺเถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เถโร สามเณรํ ปุจฺฉิ – ‘‘กุโต อาคโตสี’’ติ? ‘‘อุปชฺฌาโย มํ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ สนฺติกํ ปหิณี’’ติ. ‘‘โก นาม เต อุปชฺฌาโย’’ติ? ‘‘สิคฺควตฺเถโร นาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อหํ โก นามา’’ติ? ‘‘มม อุปชฺฌาโย, ภนฺเต, ตุมฺหากํ นามํ ชานาตี’’ติ. ‘‘ปตฺตจีวรํ ทานิ ปฏิสาเมหี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ สามเณโร ปตฺตจีวรํ ปฏิสาเมตฺวา ปุนทิวเส ปริเวณํ สมฺมชฺชิตฺวา อุทกทนฺตโปนํ อุปฏฺาเปสิ. เถโร ตสฺส สมฺมชฺชิตฏฺานํ ปุน สมฺมชฺชิ. ตํ อุทกํ ฉฑฺเฑตฺวา อฺํ อุทกํ อาหริ. ตฺจ ทนฺตกฏฺํ อปเนตฺวา อฺํ ทนฺตกฏฺํ คณฺหิ. เอวํ สตฺต ทิวสานิ กตฺวา สตฺตเม ทิวเส ปุน ปุจฺฉิ. สามเณโร ปุนปิ ปุพฺเพ กถิตสทิสเมว กเถสิ. เถโร ‘‘โส วตายํ พฺราหฺมโณ’’ติ สฺชานิตฺวา ‘‘กิมตฺถํ อาคโตสี’’ติ อาห. ‘‘พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหตฺถาย, ภนฺเต’’ติ. เถโร ‘‘อุคฺคณฺห ทานิ, สามเณรา’’ติ วตฺวา ปุน ทิวสโต ปภุติ พุทฺธวจนํ ปฏฺเปสิ. ติสฺโส สามเณโรว หุตฺวา, เปตฺวา วินยปิฏกํ สพฺพํ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิ สทฺธึ อฏฺกถาย. อุปสมฺปนฺนกาเล ปน อวสฺสิโกว สมาโน ติปิฏกธโร อโหสิ. อาจริยุปชฺฌายา โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถรสฺส หตฺเถ สกลํ พุทฺธวจนํ ปติฏฺาเปตฺวา ยาวตายุกํ ตฺวา ปรินิพฺพายึสุ. โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโรปิ อปเรน สมเยน กมฺมฏฺานํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตปฺปตฺโต พหูนํ ธมฺมวินยํ วาเจสิ.

เตน โข ปน สมเยน พินฺทุสารสฺส รฺโ เอกสตปุตฺตา อเหสุํ. เต สพฺเพ อโสโก อตฺตนา สทฺธึ เอกมาติกํ ติสฺสกุมารํ เปตฺวา ฆาเตสิ. ฆาเตนฺโต จ จตฺตาริ วสฺสานิ อนภิสิตฺโตว รชฺชํ กาเรตฺวา จตุนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานโต ทฺวินฺนํ วสฺสสตานํ อุปริ อฏฺารสเม วสฺเส สกลชมฺพุทีเป เอกรชฺชาภิเสกํ ปาปุณิ. อภิเสกานุภาเวน จสฺส อิมา ราชิทฺธิโย อาคตา – มหาปถวิยา เหฏฺา โยชนปฺปมาเณ อาณา ปวตฺตติ; ตถา อุปริ อากาเส อโนตตฺตทหโต อฏฺหิ กาเชหิ โสฬส ปานียฆเฏ ทิวเส ทิวเส เทวตา อาหรนฺติ, ยโต สาสเน อุปฺปนฺนสทฺโธ หุตฺวา อฏฺ ฆเฏ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อทาสิ, ทฺเว ฆเฏ สฏฺิมตฺตานํ ติปิฏกธรภิกฺขูนํ, ทฺเว ฆเฏ อคฺคมเหสิยา อสนฺธิมิตฺตาย, จตฺตาโร ฆเฏ อตฺตนา ปริภุฺชิ; เทวตาเอว หิมวนฺเต นาคลตาทนฺตกฏฺํ นาม อตฺถิ สินิทฺธํ มุทุกํ รสวนฺตํ ตํ ทิวเส ทิวเส อาหรนฺติ, เยน รฺโ จ มเหสิยา จ โสฬสนฺนฺจ นาฏกิตฺถิสหสฺสานํ สฏฺิมตฺตานฺจ ภิกฺขุสหสฺสานํ เทวสิกํ ทนฺตโปนกิจฺจํ นิปฺปชฺชติ. เทวสิกเมว จสฺส เทวตา อคทามลกํ อคทหรีตกํ สุวณฺณวณฺณฺจ คนฺธรสสมฺปนฺนํ อมฺพปกฺกํ อาหรนฺติ. ตถา ฉทฺทนฺตทหโต ปฺจวณฺณนิวาสนปาวุรณํ ปีตกวณฺณหตฺถปุจฺฉนปฏกํ ทิพฺพฺจ ปานกํ อาหรนฺติ. เทวสิกเมว ปนสฺส นฺหานคนฺธํ อนุวิเลปนคนฺธํ ปารุปนตฺถาย อสุตฺตมยิกํ สุมนปุปฺผปฏํ มหารหฺจ อฺชนํ นาคภวนโต นาคราชาโน อาหรนฺติ. ฉทฺทนฺตทเหว อุฏฺิตสฺส สาลิโน นว วาหสหสฺสานิ ทิวเส ทิวเส สุกา อาหรนฺติ. มูสิกา นิตฺถุสกเณ กโรนฺติ, เอโกปิ ขณฺฑตณฺฑุโล น โหติ, รฺโ สพฺพฏฺาเนสุ อยเมว ตณฺฑุโล ปริโภคํ คจฺฉติ. มธุมกฺขิกา มธุํ กโรนฺติ. กมฺมารสาลาสุ อจฺฉา กูฏํ ปหรนฺติ. กรวีกสกุณา อาคนฺตฺวา มธุรสฺสรํ วิกูชนฺตา รฺโ พลิกมฺมํ กโรนฺติ.

อิมาหิ อิทฺธีหิ สมนฺนาคโต ราชา เอกทิวสํ สุวณฺณสงฺขลิกพนฺธนํ เปเสตฺวา จตุนฺนํ พุทฺธานํ อธิคตรูปทสฺสนํ กปฺปายุกํ กาฬํ นาม นาคราชานํ อานยิตฺวา เสตจฺฉตฺตสฺส เหฏฺา มหารเห ปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา อเนกสตวณฺเณหิ ชลช ถลชปุปฺเผหิ สุวณฺณปุปฺเผหิ จ ปูชํ กตฺวา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิเตหิ โสฬสหิ นาฏกิตฺถิสหสฺเสหิ สมนฺตโต ปริกฺขิปิตฺวา ‘‘อนนฺตาณสฺส ตาว เม สทฺธมฺมวรจกฺกวตฺติโน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส รูปํ อิเมสํ อกฺขีนํ อาปาถํ กโรหี’’ติ วตฺวา เตน นิมฺมิตํ สกลสรีรวิปฺปกิณฺณปุฺปฺปภาวนิพฺพตฺตาสีตานุพฺยฺชนปฏิมณฺฑิตทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณสสฺสิรีกตาย วิกสิตกมลุปฺปลปุณฺฑรีกปฏิมณฺฑิตมิว สลิลตลํ ตาราคณรสฺมิชาลวิสทวิปฺผุริตโสภาสมุชฺชลิตมิว คคนตลํ นีลปีตโลหิตาทิเภทวิจิตฺรวณฺณรํสิวินทฺธพฺยามปฺปภาปริกฺเขปวิลาสิตาย สฺจาปฺปภานุราคอินฺทธนุวิชฺชุลตาปริกฺขิตฺตมิว กนกคิริสิขรํ นานาวิราควิมลเกตุมาลาสมุชฺชลิตจารุมตฺถกโสภํ นยนรสายตนมิว พฺรหฺมเทวมนุชนาคยกฺขคณานํ พุทฺธรูปํ ปสฺสนฺโต สตฺต ทิวสานิ อกฺขิปูชํ นาม อกาสิ.

ราชา กิร อภิเสกํ ปาปุณิตฺวา ตีณิเยว สํวจฺฉรานิ พาหิรกปาสณฺฑํ ปริคฺคณฺหิ. จตุตฺเถ สํวจฺฉเร พุทฺธสาสเน ปสีทิ. ตสฺส กิร ปิตา พินฺทุสาโร พฺราหฺมณภตฺโต อโหสิ, โส พฺราหฺมณานฺจ พฺราหฺมณชาติยปาสณฺฑานฺจ ปณฺฑรงฺคปริพฺพาชกาทีนํ สฏฺิสหสฺสมตฺตานํ นิจฺจภตฺตํ ปฏฺเปสิ. อโสโกปิ ปิตรา ปวตฺติตํ ทานํ อตฺตโน อนฺเตปุเร ตเถว ททมาโน เอกทิวสํ สีหปฺชเร ิโต เต อุปสมปริพาหิเรน อาจาเรน ภุฺชมาเน อสํยตินฺทฺริเย อวินีตอิริยาปเถ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อีทิสํ ทานํ อุปปริกฺขิตฺวา ยุตฺตฏฺาเน ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. เอวํ จินฺเตตฺวา อมจฺเจ อาห – ‘‘คจฺฉถ, ภเณ, อตฺตโน อตฺตโน สาธุสมฺมเต สมณพฺราหฺมเณ อนฺเตปุรํ อติหรถ, ทานํ ทสฺสามา’’ติ. อมจฺจา ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ รฺโ ปฏิสฺสุณิตฺวา เต เต ปณฺฑรงฺคปริพฺพาชกาชีวกนิคณฺาทโย อาเนตฺวา ‘‘อิเม, มหาราช, อมฺหากํ อรหนฺโต’’ติ อาหํสุ.

อถ ราชา อนฺเตปุเร อุจฺจาวจานิ อาสนานิ ปฺเปตฺวา ‘‘อาคจฺฉนฺตู’’ติ วตฺวา อาคตาคเต อาห – ‘‘อตฺตโน อตฺตโน ปติรูเป อาสเน นิสีทถา’’ติ. เตสุ เอกจฺเจ ภทฺทปีเกสุ, เอกจฺเจ ผลกปีเกสุ นิสีทึสุ. เต ทิสฺวา ราชา ‘‘นตฺถิ เนสํ อนฺโต สาโร’’ติ ตฺวา เตสํ อนุรูปํ ขาทนียํ โภชนียํ ทตฺวา อุยฺโยเชสิ.

เอวํ คจฺฉนฺเต กาเล เอกทิวสํ ราชา สีหปฺชเร ิโต อทฺทส นิคฺโรธสามเณรํ ราชงฺคเณน คจฺฉนฺตํ ทนฺตํ คุตฺตํ สนฺตินฺทฺริยํ อิริยาปถสมฺปนฺนํ. โก ปนายํ นิคฺโรโธ นาม? พินฺทุสารรฺโ เชฏฺปุตฺตสฺส สุมนราชกุมารสฺส ปุตฺโต.

ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา

พินฺทุสารรฺโ กิร ทุพฺพลกาเลเยว อโสกกุมาโร อตฺตนา ลทฺธํ อุชฺเชนีรชฺชํ ปหาย อาคนฺตฺวา สพฺพนครํ อตฺตโน หตฺถคตํ กตฺวา สุมนราชกุมารํ อคฺคเหสิ. ตํทิวสเมว สุมนสฺส ราชกุมารสฺส สุมนา นาม เทวี ปริปุณฺณคพฺภา อโหสิ. สา อฺาตกเวเสน นิกฺขมิตฺวา อวิทูเร อฺตรํ จณฺฑาลคามํ สนฺธาย คจฺฉนฺตี เชฏฺกจณฺฑาลสฺส เคหโต อวิทูเร อฺตรสฺมึ นิคฺโรธรุกฺเข อธิวตฺถาย เทวตาย ‘‘อิโต เอหิ, สุมเน’’ติ วทนฺติยา สทฺทํ สุตฺวา ตสฺสา สมีปํ คตา. เทวตา อตฺตโน อานุภาเวน เอกํ สาลํ นิมฺมินิตฺวา ‘‘เอตฺถ วสาหี’’ติ อทาสิ. สา ตํ สาลํ ปาวิสิ. คตทิวเสเยว จ ปุตฺตํ วิชายิ. สา ตสฺส นิคฺโรธเทวตาย ปริคฺคหิตตฺตา ‘‘นิคฺโรโธ’’ ตฺเวว นามํ อกาสิ. เชฏฺกจณฺฑาโล ทิฏฺทิวสโต ปภุติ ตํ อตฺตโน สามิธีตรํ วิย มฺมาโน นิพทฺธวตฺตํ ปฏฺเปสิ. ราชธีตา ตตฺถ สตฺต วสฺสานิ วสิ. นิคฺโรธกุมาโรปิ สตฺตวสฺสิโก ชาโต. ตทา มหาวรุณตฺเถโร นาม เอโก อรหา ทารกสฺส เหตุสมฺปทํ ทิสฺวา รกฺขิตฺวา ตตฺถ วิหรมาโน ‘‘สตฺตวสฺสิโก ทานิ ทารโก, กาโล นํ ปพฺพาเชตุ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ราชธีตาย อาโรจาเปตฺวา นิคฺโรธกุมารํ ปพฺพาเชสิ. กุมาโร ขุรคฺเคเยว อรหตฺตํ ปาปุณิ. โส เอกทิวสํ ปาโตว สรีรํ ชคฺคิตฺวา อาจริยุปชฺฌายวตฺตํ กตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ‘‘มาตุอุปาสิกาย เคหทฺวารํ คจฺฉามี’’ติ นิกฺขมิ. มาตุนิวาสนฏฺานฺจสฺส ทกฺขิณทฺวาเรน นครํ ปวิสิตฺวา นครมชฺเฌน คนฺตฺวา ปาจีนทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา คนฺตพฺพํ โหติ.

เตน จ สมเยน อโสโก ธมฺมราชา ปาจีนทิสาภิมุโข สีหปฺชเร จงฺกมติ. ตงฺขณฺเว นิคฺโรโธ ราชงฺคณํ สมฺปาปุณิ สนฺตินฺทฺริโย สนฺตมานโส ยุคมตฺตํ เปกฺขมาโน. เตน วุตฺตํ – ‘‘เอกทิวสํ ราชา สีหปฺชเร ิโต อทฺทส นิคฺโรธสามเณรํ ราชงฺคเณน คจฺฉนฺตํ ทนฺตํ คุตฺตํ สนฺตินฺทฺริยํ อิริยาปถสมฺปนฺน’’นฺติ. ทิสฺวา ปนสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยํ ชโน สพฺโพปิ วิกฺขิตฺตจิตฺโต ภนฺตมิคปฺปฏิภาโค. อยํ ปน ทารโก อวิกฺขิตฺตจิตฺโต อติวิย จสฺส อาโลกิตวิโลกิตํ สมิฺชนปสารณฺจ โสภติ. อทฺธา เอตสฺส อพฺภนฺตเร โลกุตฺตรธมฺโม ภวิสฺสตี’’ติ รฺโ สห ทสฺสเนเนว สามเณเร จิตฺตํ ปสีทิ, เปมํ สณฺหิ. กสฺมา? ปุพฺเพ หิ กิร ปุฺกรณกาเล เอส รฺโ เชฏฺภาตา วาณิชโก อโหสิ. วุตฺตมฺปิ เหตํ –

‘‘ปุพฺเพ ว สนฺนิวาเสน, ปจฺจุปฺปนฺนหิเตน วา;

เอวํ ตํ ชายเต เปมํ, อุปฺปลํ ว ยโถทเก’’ติ. (ชา. ๑.๒.๑๗๔);

อถ ราชา สฺชาตเปโม สพหุมาโน ‘‘เอตํ สามเณรํ ปกฺโกสถา’’ติ อมจฺเจ เปเสสิ. ‘‘เต อติจิรายนฺตี’’ติ ปุน ทฺเว ตโย เปเสสิ – ‘‘ตุริตํ อาคจฺฉตู’’ติ. สามเณโร อตฺตโน ปกติยา เอว อคมาสิ. ราชา ปติรูปมาสนํ ตฺวา ‘‘นิสีทถา’’ติ อาห. โส อิโต จิโต จ วิโลเกตฺวา ‘‘นตฺถิ ทานิ อฺเ ภิกฺขู’’ติ สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺตํ ราชปลฺลงฺกํ อุปสงฺกมิตฺวา ปตฺตคฺคหณตฺถาย รฺโ อาการํ ทสฺเสสิ. ราชา ตํ ปลฺลงฺกสมีปํ อุปคจฺฉนฺตํเยว ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อชฺเชว ทานิ อยํ สามเณโร อิมสฺส เคหสฺส สามิโก ภวิสฺสตี’’ติ สามเณโร รฺโ หตฺเถ ปตฺตํ ทตฺวา ปลฺลงฺกํ อภิรุหิตฺวา นิสีทิ. ราชา อตฺตโน อตฺถาย สมฺปาทิตํ สพฺพํ ยาคุขชฺชกภตฺตวิกตึ อุปนาเมสิ. สามเณโร อตฺตโน ยาปนียมตฺตกเมว สมฺปฏิจฺฉิ. ภตฺตกิจฺจาวสาเน ราชา อาห – ‘‘สตฺถารา ตุมฺหากํ ทินฺโนวาทํ ชานาถา’’ติ? ‘‘ชานามิ, มหาราช, เอกเทเสนา’’ติ. ‘‘ตาต, มยฺหมฺปิ นํ กเถหี’’ติ. ‘‘สาธุ, มหาราชา’’ติ รฺโ อนุรูปํ ธมฺมปเท อปฺปมาทวคฺคํ อนุโมทนตฺถาย อภาสิ.

ราชา ปน ‘‘อปฺปมาโท อมตปทํ, ปมาโท มจฺจุโน ปท’’นฺติ สุตฺวาว ‘‘อฺาตํ, ตาต, ปริโยสาเปหี’’ติ อาห. อนุโมทนาวสาเน จ ‘‘อฏฺ เต, ตาต, ธุวภตฺตานิ ทมฺมี’’ติ อาห. สามเณโร อาห – ‘‘เอตานิ อหํ อุปชฺฌายสฺส ทมฺมิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘โก อยํ, ตาต, อุปชฺฌาโย นามา’’ติ? ‘‘วชฺชาวชฺชํ ทิสฺวา โจเทตา สาเรตา จ, มหาราชา’’ติ. ‘‘อฺานิปิ เต, ตาต, อฏฺ ทมฺมี’’ติ. ‘‘เอตานิ อาจริยสฺส ทมฺมิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘โก อยํ, ตาต, อาจริโย นามา’’ติ? ‘‘อิมสฺมึ สาสเน สิกฺขิตพฺพกธมฺเมสุ ปติฏฺาเปตา, มหาราชา’’ติ. ‘‘สาธุ, ตาต, อฺานิปิ เต อฏฺ ทมฺมี’’ติ. ‘‘เอตานิปิ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทมฺมิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘โก อยํ, ตาต, ภิกฺขุสงฺโฆ นามา’’ติ? ‘‘ยํ นิสฺสาย, มหาราช, อมฺหากํ อาจริยุปชฺฌายานฺจ มม จ ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จา’’ติ. ราชา ภิยฺโยโส มตฺตาย ตุฏฺจิตฺโต อาห – ‘‘อฺานิปิ เต, ตาต, อฏฺ ทมฺมี’’ติ. สามเณโร ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปุนทิวเส ทฺวตฺตึส ภิกฺขู คเหตฺวา ราชนฺเตปุรํ ปวิสิตฺวา ภตฺตกิจฺจมกาสิ. ราชา ‘‘อฺเปิ ทฺวตฺตึส ภิกฺขู ตุมฺเหหิ สทฺธึ สฺเว ภิกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ เอเตเนว อุปาเยน ทิวเส ทิวเส วฑฺฒาเปนฺโต สฏฺิสหสฺสานํ พฺราหฺมณปริพฺพาชกาทีนํ ภตฺตํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา อนฺโตนิเวสเน สฏฺิสหสฺสานํ ภิกฺขูนํ นิจฺจภตฺตํ ปฏฺเปสิ นิคฺโรธตฺเถเร คเตเนว ปสาเทน. นิคฺโรธตฺเถโรปิ ราชานํ สปริสํ ตีสุ สรเณสุ ปฺจสุ จ สีเลสุ ปติฏฺาเปตฺวา พุทฺธสาสเน โปถุชฺชนิเกน ปสาเทน อจลปฺปสาทํ กตฺวา ปติฏฺาเปสิ. ปุน ราชา อโสการามํ นาม มหาวิหารํ กาเรตฺวา สฏฺิสหสฺสานํ ภิกฺขูนํ นิจฺจภตฺตํ ปฏฺเปสิ. สกลชมฺพุทีเป จตุราสีติยา นครสหสฺเสสุ จตุราสีติวิหารสหสฺสานิ การาเปสิ จตุราสีติสหสฺสเจติยปฏิมณฺฑิตานิ ธมฺเมเนว, โน อธมฺเมน.

เอกทิวสํ กิร ราชา อโสการาเม มหาทานํ ทตฺวา สฏฺิสหสฺสภิกฺขุสงฺฆสฺส มชฺเฌ นิสชฺช สงฺฆํ จตูหิ ปจฺจเยหิ ปวาเรตฺวา อิมํ ปฺหํ ปุจฺฉิ – ‘‘ภนฺเต, ภควตา เทสิตธมฺโม นาม กิตฺตโก โหตี’’ติ? ‘‘องฺคโต, มหาราช, นวงฺคานิ, ขนฺธโต จตุราสีติธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานี’’ติ. ราชา ธมฺเม ปสีทิตฺวา ‘‘เอเกกํ ธมฺมกฺขนฺธํ เอเกกวิหาเรน ปูเชสฺสามี’’ติ เอกทิวสเมว ฉนฺนวุติโกฏิธนํ วิสชฺเชตฺวา อมจฺเจ อาณาเปสิ – ‘‘เอถ, ภเณ, เอกเมกสฺมึ นคเร เอกเมกํ วิหารํ การาเปนฺตา จตุราสีติยา นครสหสฺเสสุ จตุราสีติวิหารสหสฺสานิ การาเปถา’’ติ. สยฺจ อโสการาเม อโสกมหาวิหารตฺถาย กมฺมํ ปฏฺเปสิ. สงฺโฆ อินฺทคุตฺตตฺเถรํ นาม มหิทฺธิกํ มหานุภาวํ ขีณาสวํ นวกมฺมาธิฏฺายกํ อทาสิ. เถโร ยํ ยํ น นิฏฺาติ ตํ ตํ อตฺตโน อานุภาเวน นิฏฺาเปสิ. เอวมฺปิ ตีหิ สํวจฺฉเรหิ วิหารกมฺมํ นิฏฺาเปสิ. เอกทิวสเมว สพฺพนคเรหิ ปณฺณานิ อาคมึสุ.

อมจฺจา รฺโ อาโรเจสุํ – ‘‘นิฏฺิตานิ, เทว, จตุราสีติวิหารสหสฺสานี’’ติ. ราชา นคเร เภรึ จราเปสิ – ‘‘อิโต สตฺตนฺนํ ทิวสานํ อจฺจเยน วิหารมโห ภวิสฺสติ. สพฺเพ อฏฺ สีลงฺคานิ สมาทิยิตฺวา อนฺโตนคเร จ พหินคเร จ วิหารมหํ ปฏิยาเทนฺตู’’ติ. ตโต สตฺตนฺนํ ทิวสานํ อจฺจเยน สพฺพาลงฺการวิภูสิตาย อเนกสตสหสฺสสงฺขฺยาย จตุรงฺคินิยา เสนาย ปริวุโต เทวโลเก อมรวติยา ราชธานิยา สิริโต อธิกตรสสฺสิรีกํ วิย นครํ กาตุกาเมน อุสฺสาหชาเตน มหาชเนน อลงฺกตปฏิยตฺตํ นครํ อนุวิจรนฺโต วิหารํ คนฺตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส มชฺเฌ อฏฺาสิ.

ตสฺมิฺจ ขเณ สนฺนิปติตา อสีติ ภิกฺขุโกฏิโย อเหสุํ, ภิกฺขุนีนฺจ ฉนฺนวุติสตสหสฺสานิ. ตตฺถ ขีณาสวภิกฺขูเยว สตสหสฺสสงฺขฺยา อเหสุํ. เตสํ เอตทโหสิ – ‘‘สเจ ราชา อตฺตโน อธิการํ อนวเสสํ ปสฺเสยฺย อติวิย พุทฺธสาสเน ปสีเทยฺยา’’ติ. ตโต โลกวิวรณํ นาม ปาฏิหาริยํ อกํสุ. ราชา อโสการาเม ิโตว จตุทฺทิสา อนุวิโลเกนฺโต สมนฺตโต สมุทฺทปริยนฺตํ ชมฺพุทีปํ ปสฺสติ จตุราสีติฺจ วิหารสหสฺสานิ อุฬาราย วิหารมหปูชาย วิโรจมานานิ. โส ตํ วิภูตึ ปสฺสมาโน อุฬาเรน ปีติปาโมชฺเชน สมนฺนาคโต ‘‘อตฺถิ ปน อฺสฺสปิ กสฺสจิ เอวรูปํ ปีติปาโมชฺชํ อุปฺปนฺนปุพฺพ’’นฺติ จินฺเตนฺโต ภิกฺขุสงฺฆํ ปุจฺฉิ – ‘‘ภนฺเต, อมฺหากํ โลกนาถสฺส ทสพลสฺส สาสเน โก มหาปริจฺจาคํ ปริจฺจชิ. กสฺส ปริจฺจาโค มหนฺโตติ? ภิกฺขุสงฺโฆ โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถรสฺส ภารํ อกาสิ. เถโร อาห – ‘‘มหาราช, ทสพลสฺส สาสเน ปจฺจยทายโก นาม ตยา สทิโส ธรมาเนปิ ตถาคเต น โกจิ อโหสิ, ตเวว ปริจฺจาโค มหา’’ติ. ราชา เถรสฺส วจนํ สุตฺวา อุฬาเรน ปีติปาโมชฺเชน นิรนฺตรํ ผุฏฺสรีโร หุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘นตฺถิ กิร มยา สทิโส ปจฺจยทายโก, มยฺหํ กิร ปริจฺจาโค มหา, อหํ กิร เทยฺยธมฺเมน สาสนํ ปคฺคณฺหามิ. กึ ปนาหํ เอวํ สติ สาสนสฺส ทายาโท โหมิ, น โหมี’’ติ. ตโต ภิกฺขุสงฺฆํ ปุจฺฉิ – ‘‘ภวามิ นุ โข อหํ, ภนฺเต, สาสนสฺส ทายาโท’’ติ?

ตโต โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโร รฺโ อิทํ วจนํ สุตฺวา ราชปุตฺตสฺส มหินฺทสฺส อุปนิสฺสยสมฺปตฺตึ สมฺปสฺสมาโน ‘‘สเจ อยํ กุมาโร ปพฺพชิสฺสติ สาสนสฺส อติวิย วุฑฺฒิ ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ราชานํ เอตทโวจ – ‘‘น โข, มหาราช, เอตฺตาวตา สาสนสฺส ทายาโท โหติ; อปิจ โข ปจฺจยทายโกติ วา อุปฏฺาโกติ วา สงฺขฺยํ คจฺฉติ. โยปิ หิ, มหาราช, ปถวิโต ยาว พฺรหฺมโลกปริมาณํ ปจฺจยราสึ ทเทยฺย โสปิ ‘สาสเน ทายาโท’ติ สงฺขฺยํ น คจฺฉตี’’ติ. ‘‘อถ กถํ จรหิ, ภนฺเต, สาสนสฺส ทายาโท โหตี’’ติ? ‘‘โย หิ โกจิ, มหาราช, อฑฺโฒ วา ทลิทฺโท วา อตฺตโน โอรสํ ปุตฺตํ ปพฺพาเชติ – อยํ วุจฺจติ, มหาราช, ทายาโท สาสนสฺสา’’ติ.

เอวํ วุตฺเต อโสโก ราชา ‘‘อหํ กิร เอวรูปํ ปริจฺจาคํ กตฺวาปิ เนว สาสนสฺส ทายาทภาวํ ปตฺโต’’ติ สาสเน ทายาทภาวํ ปตฺถยมาโน อิโต จิโต จ วิโลเกตฺวา อทฺทส มหินฺทกุมารํ อวิทูเร ิตํ. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กิฺจาปิ อหํ อิมํ กุมารํ ติสฺสกุมารสฺส ปพฺพชิตกาลโต ปภุติ โอปรชฺเช เปตุกาโม, อถ โข โอปรชฺชโตปิ ปพฺพชฺชาว อุตฺตมา’’ติ. ตโต กุมารํ อาห – ‘‘สกฺขสิ ตฺวํ, ตาต, ปพฺพชิตุ’’นฺติ? กุมาโร ปกติยาปิ ติสฺสกุมารสฺส ปพฺพชิตกาลโต ปภุติ ปพฺพชิตุกาโมว รฺโ วจนํ สุตฺวา อติวิย ปาโมชฺชชาโต หุตฺวา อาห – ‘‘ปพฺพชามิ, เทว, มํ ปพฺพาเชตฺวา ตุมฺเห สาสนทายาทา โหถา’’ติ.

เตน จ สมเยน ราชธีตา สงฺฆมิตฺตาปิ ตสฺมึเยว าเน ิตา โหติ. ตสฺสา จ สามิโก อคฺคิพฺรหฺมา นาม กุมาโร ยุวราเชน ติสฺสกุมาเรน สทฺธึ ปพฺพชิโต โหติ. ราชา ตํ ทิสฺวา อาห – ‘‘ตฺวมฺปิ, อมฺม, ปพฺพชิตุํ สกฺขสี’’ติ? ‘‘สาธุ, ตาต, สกฺโกมี’’ติ. ราชา ปุตฺตานํ มนํ ลภิตฺวา ปหฏฺจิตฺโต ภิกฺขุสงฺฆํ เอตทโวจ – ‘‘ภนฺเต, อิเม ทารเก ปพฺพาเชตฺวา มํ สาสเน ทายาทํ กโรถา’’ติ. สงฺโฆ รฺโ วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา กุมารํ โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถเรน อุปชฺฌาเยน มหาเทวตฺเถเรน จ อาจริเยน ปพฺพาเชสิ. มชฺฌนฺติกตฺเถเรน อาจริเยน อุปสมฺปาเทสิ. ตทา กิร กุมาโร ปริปุณฺณวีสติวสฺโสว โหติ. โส ตสฺมึเยว อุปสมฺปทสีมมณฺฑเล สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. สงฺฆมิตฺตายปิ ราชธีตาย อาจริยา อายุปาลิตฺเถรี นาม, อุปชฺฌายา ปน ธมฺมปาลิตฺเถรี นาม อโหสิ. ตทา สงฺฆมิตฺตา อฏฺารสวสฺสา โหติ. ตํ ปพฺพชิตมตฺตํ ตสฺมึเยว สีมมณฺฑเล สิกฺขาย ปติฏฺาเปสุํ. อุภินฺนํ ปพฺพชิตกาเล ราชา ฉพฺพสฺสาภิเสโก โหติ.

อถ มหินฺทตฺเถโร อุปสมฺปนฺนกาลโต ปภุติ อตฺตโน อุปชฺฌายสฺเสว สนฺติเก ธมฺมฺจ วินยฺจ ปริยาปุณนฺโต ทฺเวปิ สงฺคีติโย อารูฬฺหํ ติปิฏกสงฺคหิตํ สาฏฺกถํ สพฺพํ เถรวาทํ ติณฺณํ วสฺสานํ อพฺภนฺตเร อุคฺคเหตฺวา อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส อนฺเตวาสิกานํ สหสฺสมตฺตานํ ภิกฺขูนํ ปาโมกฺโข อโหสิ. ตทา อโสโก ธมฺมราชา นววสฺสาภิเสโก โหติ. รฺโ ปน อฏฺวสฺสาภิเสกกาเลเยว โกนฺตปุตฺตติสฺสตฺเถโร พฺยาธิปฏิกมฺมตฺถํ ภิกฺขาจารวตฺเตน อาหิณฺฑนฺโต ปสตมตฺตํ สปฺปึ อลภิตฺวา พฺยาธิพเลน ปริกฺขีณายุสงฺขาโร ภิกฺขุสงฺฆํ อปฺปมาเทน โอวทิตฺวา อากาเส ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายิ. ราชา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา เถรสฺส สกฺการํ กตฺวา ‘‘มยิ นาม รชฺชํ กาเรนฺเต เอวํ ภิกฺขูนํ ปจฺจยา ทุลฺลภา’’ติ นครสฺส จตูสุ ทฺวาเรสุ โปกฺขรณิโย การาเปตฺวา เภสชฺชสฺส ปูราเปตฺวา ทาเปสิ.

เตน กิร สมเยน ปาฏลิปุตฺตสฺส จตูสุ ทฺวาเรสุ จตฺตาริ สตสหสฺสานิ, สภายํ สตสหสฺสนฺติ ทิวเส ทิวเส ปฺจสตสหสฺสานิ รฺโ อุปฺปชฺชนฺติ. ตโต ราชา นิคฺโรธตฺเถรสฺส เทวสิกํ สตสหสฺสํ วิสชฺเชสิ. พุทฺธสฺส เจติเย คนฺธมาลาทีหิ ปูชนตฺถาย สตสหสฺสํ. ธมฺมสฺส สตสหสฺสํ, ตํ ธมฺมธรานํ พหุสฺสุตานํ จตุปจฺจยตฺถาย อุปนียติ. สงฺฆสฺส สตสหสฺสํ, จตูสุ ทฺวาเรสุ เภสชฺชตฺถาย สตสหสฺสํ. เอวํ สาสเน อุฬาโร ลาภสกฺกาโร นิพฺพตฺติ.

ติตฺถิยา ปริหีนลาภสกฺการา อนฺตมโส ฆาสจฺฉาทนมฺปิ อลภนฺตา ลาภสกฺการํ ปตฺถยมานา สาสเน ปพฺพชิตฺวา สกานิ สกานิ ทิฏฺิคตานิ ‘‘อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย’’ติ ทีเปนฺติ. ปพฺพชฺชํ อลภมานาปิ สยเมว มุณฺเฑตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา วิหาเรสุ วิจรนฺตา อุโปสถมฺปิ ปวารณมฺปิ สงฺฆกมฺมมฺปิ คณกมฺมมฺปิ ปวิสนฺติ. ภิกฺขู เตหิ สทฺธึ อุโปสถํ น กโรนฺติ. ตทา โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโร ‘‘อุปฺปนฺนํ ทานิ อิทํ อธิกรณํ, ตํ นจิรสฺเสว กกฺขฬํ ภวิสฺสติ. น โข ปเนตํ สกฺกา อิเมสํ มชฺเฌ วสนฺเตน วูปสเมตุ’’นฺติ มหินฺทตฺเถรสฺส คณํ นียฺยาเตตฺวา อตฺตนา ผาสุวิหาเรน วิหริตุกาโม อโหคงฺคปพฺพตํ อคมาสิ. เตปิ โข ติตฺถิยา ภิกฺขุสงฺเฆน ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน นิคฺคยฺหมานาปิ ธมฺมวินยานุโลมาย ปฏิปตฺติยา อสณฺหนฺตา อเนกรูปํ สาสนสฺส อพฺพุทฺจ มลฺจ กณฺฏกฺจ สมุฏฺาเปสุํ. เกจิ อคฺคึ ปริจรนฺติ, เกจิ ปฺจาตเปน ตาเปนฺติ, เกจิ อาทิจฺจํ อนุปริวตฺตนฺติ, เกจิ ‘‘ธมฺมฺจ วินยฺจ โวภินฺทิสฺสามา’’ติ ปคฺคณฺหึสุ. ตทา ภิกฺขุสงฺโฆ น เตหิ สทฺธึ อุโปสถํ วา ปวารณํ วา อกาสิ. อโสการาเม สตฺตวสฺสานิ อุโปสโถ อุปจฺฉิชฺชิ. รฺโปิ เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ราชา เอกํ อมจฺจํ อาณาเปสิ – ‘‘วิหารํ คนฺตฺวา อธิกรณํ วูปสเมตฺวา อุโปสถํ การาเปหี’’ติ. อมจฺโจ ราชานํ ปฏิปุจฺฉิตุํ อวิสหนฺโต อฺเ อมจฺเจ อุปสงฺกมิตฺวา อาห – ‘‘ราชา มํ ‘วิหารํ คนฺตฺวา อธิกรณํ วูปสเมตฺวา อุโปสถํ การาเปหี’ติ ปหิณิ. กถํ นุ โข อธิกรณํ วูปสมฺมตี’’ติ? เต อาหํสุ – ‘‘มยํ เอวํ สลฺลกฺเขม – ‘ยถา นาม ปจฺจนฺตํ วูปสเมนฺตา โจเร ฆาเตนฺติ, เอวเมว เย อุโปสถํ น กโรนฺติ, เต มาเรตุกาโม ราชา ภวิสฺสตี’’’ติ. อถ โส อมจฺโจ วิหารํ คนฺตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา อาห – ‘‘อหํ รฺา ‘อุโปสถํ การาเปหี’ติ เปสิโต. กโรถ ทานิ, ภนฺเต, อุโปสถ’’นฺติ. ภิกฺขู ‘‘น มยํ ติตฺถิเยหิ สทฺธึ อุโปสถํ กโรมา’’ติ อาหํสุ. อถ อมจฺโจ เถราสนโต ปฏฺาย อสินา สีสานิ ปาเตตุํ อารทฺโธ.

อทฺทสา โข ติสฺสตฺเถโร ตํ อมจฺจํ ตถา วิปฺปฏิปนฺนํ. ติสฺสตฺเถโร นาม น โย วา โส วา, รฺโ เอกมาติโก ภาตา ติสฺสกุมาโร นาม, ตํ กิร ราชา ปตฺตาภิเสโก โอปรชฺเช เปสิ. โส เอกทิวสํ วนจารํ คโต อทฺทส มหนฺตํ มิคสงฺฆํ จิตฺตกีฬาย กีฬนฺตํ. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิเม ตาว ติณภกฺขา มิคา เอวํ กีฬนฺติ, อิเม ปน สมณา ราชกุเล ปณีตานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา มุทุกาสุ เสยฺยาสุ สยมานา กึ นาม กีฬิตํ น กีฬิสฺสนฺตี’’ติ! โส ตโต อาคนฺตฺวา อิมํ อตฺตโน วิตกฺกํ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ‘‘อฏฺาเน กุกฺกุจฺจายิตํ กุมาเรน! หนฺท, นํ เอวํ สฺาเปสฺสามี’’ติ เอกทิวสํ เกนจิ การเณน กุทฺโธ วิย หุตฺวา ‘‘เอหิ สตฺตทิวเสน รชฺชํ สมฺปฏิจฺฉ, ตโต ตํ ฆาเตสฺสามี’’ติ มรณภเยน ตชฺเชตฺวา ตมตฺถํ สฺาเปสิ. โส กิร กุมาโร ‘‘สตฺตเม มํ ทิวเส มาเรสฺสตี’’ติ น จิตฺตรูปํ นฺหายิ, น ภุฺชิ, น สุปิ, อติวิย ลูขสรีโร อโหสิ. ตโต นํ ราชา ปุจฺฉิ – ‘‘กิสฺส ตฺวํ เอวรูโป ชาโต’’ติ? ‘‘มรณภเยน, เทวา’’ติ. ‘‘อเร, ตฺวํ นาม ปริจฺฉินฺนมรณํ สมฺปสฺสมาโน วิสฺสตฺโถ น กีฬสิ? ภิกฺขู อสฺสาสปสฺสาสนิพทฺธํ มรณํ เปกฺขมานา กถํ กีฬิสฺสนฺตี’’ติ! ตโต ปภุติ กุมาโร สาสเน ปสีทิ.

โส ปุน เอกทิวสํ มิควํ นิกฺขมิตฺวา อรฺเ อนุวิจรมาโน อทฺทส โยนกมหาธมฺมรกฺขิตตฺเถรํ อฺตเรน หตฺถินาเคน สาลสาขํ คเหตฺวา พีชิยมานํ นิสินฺนํ. ทิสฺวา ปาโมชฺชชาโต จินฺเตสิ – ‘‘กทา นุ โข อหมฺปิ อยํ มหาเถโร วิย ปพฺพเชยฺยํ! สิยา นุ โข โส ทิวโส’’ติ. เถโร ตสฺสาสยํ วิทิตฺวา ตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว อากาเส อุปฺปติตฺวา อโสการาเม โปกฺขรณิยา อุทกตเล ตฺวา จีวรฺจ อุตฺตราสงฺคฺจ อากาเส ลคฺเคตฺวา นฺหายิตุํ อารทฺโธ.

กุมาโร เถรสฺสานุภาวํ ทิสฺวา อติวิย ปสนฺโน ‘‘อชฺเชว ปพฺพชิสฺสามี’’ติ นิวตฺติตฺวา รฺโ อาโรเจสิ – ‘‘ปพฺพชิสฺสามหํ, เทวา’’ติ. ราชา อเนกปฺปการํ ยาจิตฺวาปิ ตํ นิวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโต อโสการามคมนียมคฺคํ อลงฺการาเปตฺวา กุมารํ ฉณเวสํ คาหาเปตฺวา อลงฺกตาย เสนาย ปริวาราเปตฺวา วิหารํ เนสิ. ‘‘ยุวราชา กิร ปพฺพชิสฺสตี’’ติ สุตฺวา พหู ภิกฺขู ปตฺตจีวรานิ ปฏิยาเทสุํ. กุมาโร ปธานฆรํ คนฺตฺวา มหาธมฺมรกฺขิตตฺเถรสฺเสว สนฺติเก ปพฺพชิ สทฺธึ ปุริสสตสหสฺเสน. กุมารสฺส ปน อนุปพฺพชิตานํ คณนปริจฺเฉโท นตฺถิ. กุมาโร รฺโ จตุวสฺสาภิเสกกาเล ปพฺพชิโต. อถฺโปิ รฺโ ภาคิเนยฺโย สงฺฆมิตฺตาย สามิโก อคฺคิพฺรหฺมา นาม กุมาโร อตฺถิ. สงฺฆมิตฺตา ตํ ปฏิจฺจ เอกเมว ปุตฺตํ วิชายิ. โสปิ ‘‘ยุวราชา ปพฺพชิโต’’ติ สุตฺวา ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา – ‘‘อหมฺปิ, เทว, ปพฺพชิสฺสามี’’ติ ยาจิ. ‘‘ปพฺพช, ตาตา’’ติ จ รฺา อนุฺาโต ตํทิวสเมว ปพฺพชิ.

เอวํ อนุปพฺพชิโต, อุฬารวิภเวน ขตฺติยชเนน;

รฺโ กนิฏฺภาตา, ติสฺสตฺเถโรติ วิฺเยฺโย.

โส ตํ อมจฺจํ ตถา วิปฺปฏิปนฺนํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘น ราชา เถเร มาราเปตุํ ปหิเณยฺย; อทฺธา อิมสฺเสเวตํ อมจฺจสฺส ทุคฺคหิตํ ภวิสฺสตี’’ติ คนฺตฺวา สยํ ตสฺส อาสนฺเน อาสเน นิสีทิ. โส เถรํ สฺชานิตฺวา สตฺถํ นิปาเตตุํ อวิสหนฺโต คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ – ‘‘อหํ, เทว, อุโปสถํ กาตุํ อนิจฺฉนฺตานํ เอตฺตกานํ นาม ภิกฺขูนํ สีสานิ ปาเตสึ; อถ อยฺยสฺส ติสฺสตฺเถรสฺส ปฏิปาฏิ สมฺปตฺตา, กินฺติ กโรมี’’ติ? ราชา สุตฺวาว – ‘‘อเร! กึ ปน, ตฺวํ, มยา ภิกฺขู ฆาเตตุํ เปสิโต’’ติ ตาวเทว สรีเร อุปฺปนฺนทาโห หุตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา เถเร ภิกฺขู ปุจฺฉิ – ‘‘อยํ, ภนฺเต, อมจฺโจ มยา อนาณตฺโตว เอวํ อกาสิ, กสฺส นุ โข อิมินา ปาเปน ภวิตพฺพ’’นฺติ? เอกจฺเจ เถรา, ‘‘อยํ ตว วจเนน อกาสิ, ตุยฺเหตํ ปาป’’นฺติ อาหํสุ. เอกจฺเจ ‘‘อุภินฺนมฺปิ โว เอตํ ปาป’’นฺติ อาหํสุ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘กึ ปน เต, มหาราช, อตฺถิ จิตฺตํ ‘อยํ คนฺตฺวา ภิกฺขู ฆาเตตู’’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต, กุสลาธิปฺปาโย อหํ เปเสสึ – ‘สมคฺโค ภิกฺขุสงฺโฆ อุโปสถํ กโรตู’’’ติ. ‘‘สเจ ตฺวํ กุสลาธิปฺปาโย, นตฺถิ ตุยฺหํ ปาปํ, อมจฺจสฺเสเวตํ ปาป’’นฺติ. ราชา ทฺเวฬฺหกชาโต อาห – ‘‘อตฺถิ นุ โข, ภนฺเต, โกจิ ภิกฺขุ มเมตํ ทฺเวฬฺหกํ ฉินฺทิตฺวา สาสนํ ปคฺคเหตุํ สมตฺโถ’’ติ? ‘‘อตฺถิ, มหาราช, โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโร นาม, โส เต อิมํ ทฺเวฬฺหกํ ฉินฺทิตฺวา สาสนํ ปคฺคณฺหิตุํ สมตฺโถ’’ติ. ราชา ตทเหว จตฺตาโร ธมฺมกถิเก เอเกกภิกฺขุสหสฺสปริวาเร, จตฺตาโร จ อมจฺเจ เอเกกปุริสสหสฺสปริวาเร ‘‘เถรํ คณฺหิตฺวา อาคจฺฉถา’’ติ เปเสสิ. เต คนฺตฺวา ‘‘ราชา ปกฺโกสตี’’ติ อาหํสุ. เถโร นาคจฺฉิ. ทุติยมฺปิ โข ราชา อฏฺ ธมฺมกถิเก, อฏฺ จ อมจฺเจ สหสฺสสหสฺสปริวาเรเยว เปเสสิ – ‘‘‘ราชา, ภนฺเต, ปกฺโกสตี’ติ วตฺวา คณฺหิตฺวาว อาคจฺฉถา’’ติ. เต ตเถว อาหํสุ. ทุติยมฺปิ เถโร นาคจฺฉิ. ราชา เถเร ปุจฺฉิ – ‘‘อหํ, ภนฺเต, ทฺวิกฺขตฺตุํ ปหิณึ; กสฺมา เถโร นาคจฺฉตี’’ติ? ‘‘‘ราชา ปกฺโกสตี’ติ วุตฺตตฺตา, มหาราช, นาคจฺฉติ. เอวํ ปน วุตฺเต อาคจฺเฉยฺย ‘สาสนํ, ภนฺเต, โอสีทติ, อมฺหากํ สาสนํ ปคฺคหตฺถาย สหายกา โหถา’’’ติ. อถ ราชา ตถา วตฺวา โสฬส ธมฺมกถิเก, โสฬส จ อมจฺเจ สหสฺสสหสฺสปริวาเร เปเสสิ. ภิกฺขู จ ปฏิปุจฺฉิ – ‘‘มหลฺลโก นุ โข, ภนฺเต, เถโร ทหโร นุ โข’’ติ? ‘‘มหลฺลโก, มหาราชา’’ติ. ‘‘วยฺหํ วา สิวิกํ วา อภิรุหิสฺสติ, ภนฺเต’’ติ? ‘‘นาภิรุหิสฺสติ, มหาราชา’’ติ. ‘‘กุหึ, ภนฺเต, เถโร วสตี’’ติ? ‘‘อุปริ คงฺคาย, มหาราชา’’ติ. ราชา อาห – ‘‘เตน หิ, ภเณ, นาวาสงฺฆาฏํ พนฺธิตฺวา ตตฺเถว เถรํ นิสีทาเปตฺวา ทฺวีสุปิ ตีเรสุ อารกฺขํ สํวิธาย เถรํ อาเนถา’’ติ. ภิกฺขู จ อมจฺจา จ เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา รฺโ สาสนํ อาโรเจสุํ.

เถโร สุตฺวา ‘‘ยํ โข อหํ มูลโต ปฏฺาย สาสนํ ปคฺคณฺหิสฺสามีติ ปพฺพชิโตมฺหิ. อยํ ทานิ เม โส กาโล อนุปฺปตฺโต’’ติ จมฺมขณฺฑํ คณฺหิตฺวาว อุฏฺหิ. อถ ‘‘เถโร สฺเว ปาฏลิปุตฺตํ สมฺปาปุณิสฺสตี’’ติ รตฺติภาเค ราชา สุปินํ อทฺทส. เอวรูโป สุปิโน อโหสิ – ‘‘สพฺพเสโต หตฺถินาโค อาคนฺตฺวา ราชานํ สีสโต ปฏฺาย ปรามสิตฺวา ทกฺขิณหตฺเถ อคฺคเหสี’’ติ. ปุนทิวเส ราชา สุปินชฺฌายเก ปุจฺฉิ – ‘‘มยา เอวรูโป สุปิโน ทิฏฺโ, กึ เม ภวิสฺสตี’’ติ? เอโก ตํ, ‘‘มหาราช, สมณนาโค ทกฺขิณหตฺเถ คณฺหิสฺสตี’’ติ. อถ ราชา ตาวเทว ‘‘เถโร อาคโต’’ติ สุตฺวา คงฺคาตีรํ คนฺตฺวา นทึ โอตริตฺวา อพฺภุคฺคจฺฉนฺโต ชาณุมตฺเต อุทเก เถรํ สมฺปาปุณิตฺวา เถรสฺส นาวาโต โอตรนฺตสฺส หตฺถํ อทาสิ. เถโร ราชานํ ทกฺขิณหตฺเถ อคฺคเหสิ. ตํ ทิสฺวา อสิคฺคาหา ‘‘เถรสฺส สีสํ ปาเตสฺสามา’’ติ โกสโต อสึ อพฺพาหึสุ. กสฺมา? เอตํ กิร จาริตฺตํ ราชกุเลสุ – ‘‘โย ราชานํ หตฺเถ คณฺหติ ตสฺส อสินา สีสํ ปาเตตพฺพ’’นฺติ. ราชา ฉายํเยว ทิสฺวา อาห – ‘‘ปุพฺเพปิ อหํ ภิกฺขูสุ วิรทฺธการณา อสฺสาทํ น วินฺทามิ, มา โข เถเร วิรชฺฌิตฺถา’’ติ. เถโร ปน กสฺมา ราชานํ หตฺเถ อคฺคเหสีติ? ยสฺมา รฺา ปฺหํ ปุจฺฉนตฺถาย ปกฺโกสาปิโต ตสฺมา ‘‘อนฺเตวาสิโก เม อย’’นฺติ อคฺคเหสิ.

ราชา เถรํ อตฺตโน อุยฺยานํ เนตฺวา พาหิรโต ติกฺขตฺตุํ ปริวาราเปตฺวา อารกฺขํ เปตฺวา สยเมว เถรสฺส ปาเท โธวิตฺวา เตเลน มกฺเขตฺวา เถรสฺส สนฺติเก นิสีทิตฺวา ‘‘ปฏิพโล นุ โข เถโร มม กงฺขํ ฉินฺทิตฺวา อุปฺปนฺนํ อธิกรณํ วูปสเมตฺวา สาสนํ ปคฺคณฺหิตุ’’นฺติ วีมํสนตฺถาย ‘‘อหํ, ภนฺเต, เอกํ ปาฏิหาริยํ ทฏฺุกาโม’’ติ อาห. ‘‘กตรํ ปาฏิหาริยํ ทฏฺุกาโมสิ, มหาราชา’’ติ? ‘‘ปถวีกมฺปนํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘สกลปถวีกมฺปนํ ทฏฺุกาโมสิ, มหาราช, ปเทสปถวีกมฺปน’’นฺติ? ‘‘กตรํ ปเนตฺถ, ภนฺเต, ทุกฺกร’’นฺติ? ‘‘กึ นุ โข, มหาราช, กํสปาติยา อุทกปุณฺณาย สพฺพํ อุทกํ กมฺเปตุํ ทุกฺกรํ; อุทาหุ อุปฑฺฒ’’นฺติ? ‘‘อุปฑฺฒํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ปเทสปถวีกมฺปนํ ทุกฺกร’’นฺติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต, ปเทสปถวีกมฺปนํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, สมนฺตโต โยชเน ปุรตฺถิมาย ทิสาย เอเกน จกฺเกน สีมํ อกฺกมิตฺวา รโถ ติฏฺตุ; ทกฺขิณาย ทิสาย ทฺวีหิ ปาเทหิ สีมํ อกฺกมิตฺวา อสฺโส ติฏฺตุ; ปจฺฉิมาย ทิสาย เอเกน ปาเทน สีมํ อกฺกมิตฺวา ปุริโส ติฏฺตุ; อุตฺตราย ทิสาย อุปฑฺฒภาเคน สีมํ อกฺกมิตฺวา เอกา อุทกปาติ ติฏฺตู’’ติ. ราชา ตถา การาเปสิ. เถโร อภิฺาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺาย ‘‘ราชา ปสฺสตู’’ติ โยชนปฺปมาณปถวีจลนํ อธิฏฺหิ. ปุรตฺถิมาย ทิสาย รถสฺส อนฺโตสีมาย ิโต ปาโทว จลิ, อิตโร น จลิ. เอวํ ทกฺขิณปจฺฉิมทิสาสุ อสฺสปุริสานํ อนฺโตสีมาย ิตปาทาเยว จลึสุ, อุปฑฺฒุปฑฺฒํ สรีรฺจ. อุตฺตรทิสาย อุทกปาติยาปิ อนฺโตสีมาย ิตํ อุปฑฺฒภาคคตเมว อุทกํ จลิ, อวเสสํ นิจฺจลมโหสีติ. ราชา ตํ ปาฏิหาริยํ ทิสฺวา ‘‘สกฺขติ ทานิ เถโร สาสนํ ปคฺคณฺหิตุ’’นฺติ นิฏฺํ คนฺตฺวา อตฺตโน กุกฺกุจฺจํ ปุจฺฉิ – ‘‘อหํ, ภนฺเต, เอกํ อมจฺจํ ‘วิหารํ คนฺตฺวา อธิกรณํ วูปสเมตฺวา อุโปสถํ การาเปหี’ติ ปหิณึ, โส วิหารํ คนฺตฺวา เอตฺตเก ภิกฺขู ชีวิตา โวโรเปสิ, เอตํ ปาปํ กสฺส โหตี’’ติ?

‘‘กึ ปน เต, มหาราช, อตฺถิ จิตฺตํ ‘อยํ วิหารํ คนฺตฺวา ภิกฺขู ฆาเตตู’’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘สเจ เต, มหาราช, นตฺถิ เอวรูปํ จิตฺตํ, นตฺถิ ตุยฺหํ ปาป’’นฺติ. อถ เถโร ราชานํ เอตมตฺถํ อิมินา สุตฺเตน สฺาเปสิ – ‘‘เจตนาหํ, ภิกฺขเว, กมฺมํ วทามิ. เจตยิตฺวา กมฺมํ กโรติ – กาเยน วาจาย มนสา’’ติ (อ. นิ. ๖.๖๓).

ตเมวตฺถํ ปริทีเปตุํ ติตฺติรชาตกํ (ชา. ๑.๔.๗๕) อาหริ – ‘‘อตีเต, มหาราช, ทีปกติตฺติโร ตาปสํ ปุจฺฉิ –

‘าตโก โน นิสินฺโนติ, พหุ อาคจฺฉตี ชโน;

ปฏิจฺจ กมฺมํ ผุสติ, ตสฺมึ เม สงฺกเต มโน’ติ.

ตาปโส อาห – ‘อตฺถิ ปน เต จิตฺตํ มม สทฺเทน จ รูปทสฺสเนน จ อาคนฺตฺวา เอเต ปกฺขิโน พชฺฌนฺตุ วา หฺนฺตุ วา’ติ? ‘นตฺถิ, ภนฺเต’ติ ติตฺติโร อาห. ตโต นํ ตาปโส สฺาเปสิ – ‘สเจ เต นตฺถิ จิตฺตํ, นตฺถิ ปาปํ; เจตยนฺตเมว หิ ปาปํ ผุสติ, นาเจตยนฺตํ.

‘น ปฏิจฺจ กมฺมํ ผุสติ, มโน เจ นปฺปทุสฺสติ;

อปฺโปสฺสุกฺกสฺส ภทฺรสฺส, น ปาปมุปลิมฺปตี’’’ติ.

เอวํ เถโร ราชานํ สฺาเปตฺวา ตตฺเถว ราชุยฺยาเน สตฺต ทิวสานิ วสนฺโต ราชานํ สมยํ อุคฺคณฺหาเปสิ. ราชา สตฺตเม ทิวเส อโสการาเม ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา สาณิปาการํ ปริกฺขิปาเปตฺวา สาณิปาการนฺตเร นิสินฺโน เอกลทฺธิเก เอกลทฺธิเก ภิกฺขู เอกโต เอกโต การาเปตฺวา เอกเมกํ ภิกฺขุสมูหํ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘กึวาที สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ? ตโตสสฺสตวาทิโน ‘‘สสฺสตวาที’’ติ อาหํสุ. เอกจฺจสสฺสติกา…เป… อนฺตานนฺติกา… อมราวิกฺเขปิกา… อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา… สฺีวาทา… อสฺีวาทา… เนวสฺีนาสฺีวาทา … อุจฺเฉทวาทา… ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา ‘‘ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาที’’ติ อาหํสุ. ราชา ปมเมว สมยสฺส อุคฺคหิตตฺตา ‘‘นยิเม ภิกฺขู, อฺติตฺถิยา อิเม’’ติ ตฺวา เตสํ เสตกานิ วตฺถานิ ทตฺวา อุปฺปพฺพาเชสิ. เต สพฺเพปิ สฏฺิสหสฺสา อเหสุํ.

อถฺเ ภิกฺขู ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘กึวาที, ภนฺเต, สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ? ‘‘วิภชฺชวาที, มหาราชา’’ติ. เอวํ วุตฺเต ราชา เถรํ ปุจฺฉิ – ‘‘วิภชฺชวาที, ภนฺเต, สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ? ‘‘อาม, มหาราชา’’ติ. ตโต ราชา ‘‘สุทฺธํ ทานิ, ภนฺเต, สาสนํ; กโรตุ ภิกฺขุสงฺโฆ อุโปสถ’’นฺติ อารกฺขํ ทตฺวา นครํ ปาวิสิ.

สมคฺโค สงฺโฆ สนฺนิปติตฺวา อุโปสถํ อกาสิ. ตสฺมึ สนฺนิปาเต สฏฺิ ภิกฺขุสตสหสฺสานิ อเหสุํ. ตสฺมึ สมาคเม โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโร ปรปฺปวาทํ มทฺทมาโน กถาวตฺถุปฺปกรณํ อภาสิ. ตโต สฏฺิสตสหสฺสสงฺขฺเยสุ ภิกฺขูสุ อุจฺจินิตฺวา ติปิฏกปริยตฺติธรานํ ปภินฺนปฏิสมฺภิทานํ เตวิชฺชาทิเภทานํ ภิกฺขูนํ สหสฺสเมกํ คเหตฺวา ยถา มหากสฺสปตฺเถโร จ กากณฺฑกปุตฺโต ยสตฺเถโร จ ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคายึสุ; เอวเมว ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคายนฺโต สพฺพํ สาสนมลํ วิโสเธตฺวา ตติยสงฺคีตึ อกาสิ. สงฺคีติปริโยสาเน อเนกปฺปการํ ปถวี อกมฺปิตฺถ. อยํ สงฺคีติ นวหิ มาเสหิ นิฏฺิตา. ยา โลเก –

กตา ภิกฺขุสหสฺเสน, ตสฺมา สหสฺสิกาติ จ;

ปุริมา ทฺเว อุปาทาย, ตติยาติ จ วุจฺจตีติ.

อยํ ตติยสงฺคีติ.

เอตฺตาวตา จ ‘‘เกนาภต’’นฺติ เอตสฺส ปฺหสฺส วิสฺสชฺชนตฺถํ ยํ อโวจุมฺห – ‘‘ชมฺพุทีเป ตาว อุปาลิตฺเถรมาทึ กตฺวา อาจริยปรมฺปราย ยาว ตติยสงฺคีติ ตาว อาภตํ. ตตฺรายํ อาจริยปรมฺปรา

‘‘อุปาลิ ทาสโก เจว, โสณโก สิคฺคโว ตถา;

ติสฺโส โมคฺคลิปุตฺโต จ, ปฺเจเต วิชิตาวิโน.

‘‘ปรมฺปราย วินยํ, ทีเป ชมฺพุสิริวฺหเย;

อจฺฉิชฺชมานมาเนสุํ, ตติโย ยาว สงฺคโห’’ติ.

ตสฺสตฺโถ ปกาสิโตว โหติ.

ตติยสงฺคหโต ปน อุทฺธํ อิมํ ทีปํ มหินฺทาทีหิ อาภตํ. มหินฺทโต อุคฺคเหตฺวา กฺจิ กาลํ อริฏฺตฺเถราทีหิ อาภตํ. ตโต ยาวชฺชตนา เตสํเยว อนฺเตวาสิกปรมฺปรภูตาย อาจริยปรมฺปราย อาภตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยถาหุ โปราณา –

‘‘ตโต มหินฺโท อิฏฺฏิโย, อุตฺติโย สมฺพโล ตถา;

ภทฺทนาโม จ ปณฺฑิโต.

‘‘เอเต นาคา มหาปฺา, ชมฺพุทีปา อิธาคตา;

วินยํ เต วาจยึสุ, ปิฏกํ ตมฺพปณฺณิยา.

‘‘นิกาเย ปฺจ วาเจสุํ, สตฺต เจว ปกรเณ;

ตโต อริฏฺโ เมธาวี, ติสฺสทตฺโต จ ปณฺฑิโต.

‘‘วิสารโท กาฬสุมโน, เถโร จ ทีฆนามโก;

ทีฆสุมโน จ ปณฺฑิโต.

‘‘ปุนเทว กาฬสุมโน, นาคตฺเถโร จ พุทฺธรกฺขิโต;

ติสฺสตฺเถโร จ เมธาวี, เทวตฺเถโร จ ปณฺฑิโต.

‘‘ปุนเทว สุมโน เมธาวี, วินเย จ วิสารโท;

พหุสฺสุโต จูฬนาโค, คโชว ทุปฺปธํสิโย.

‘‘ธมฺมปาลิตนาโม จ, โรหเณ สาธุปูชิโต;

ตสฺส สิสฺโส มหาปฺโ, เขมนาโม ติเปฏโก.

‘‘ทีเป ตารกราชาว, ปฺาย อติโรจถ;

อุปติสฺโส จ เมธาวี, ผุสฺสเทโว มหากถี.

‘‘ปุนเทว สุมโน เมธาวี, ปุปฺผนาโม พหุสฺสุโต;

มหากถี มหาสิโว, ปิฏเก สพฺพตฺถ โกวิโท.

‘‘ปุนเทว อุปาลิ เมธาวี, วินเย จ วิสารโท;

มหานาโค มหาปฺโ, สทฺธมฺมวํสโกวิโท.

‘‘ปุนเทว อภโย เมธาวี, ปิฏเก สพฺพตฺถ โกวิโท;

ติสฺสตฺเถโร จ เมธาวี, วินเย จ วิสารโท.

‘‘ตสฺส สิสฺโส มหาปฺโ, ปุปฺผนาโม พหุสฺสุโต;

สาสนํ อนุรกฺขนฺโต, ชมฺพุทีเป ปติฏฺิโต.

‘‘จูฬาภโย จ เมธาวี, วินเย จ วิสารโท;

ติสฺสตฺเถโร จ เมธาวี, สทฺธมฺมวํสโกวิโท.

‘‘จูฬเทโว จ เมธาวี, วินเย จ วิสารโท;

สิวตฺเถโร จ เมธาวี, วินเย สพฺพตฺถ โกวิโท.

‘‘เอเต นาคา มหาปฺา, วินยฺู มคฺคโกวิทา;

วินยํ ทีเป ปกาเสสุํ, ปิฏกํ ตมฺพปณฺณิยา’’ติ.

ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโร กิร อิมํ ตติยธมฺมสงฺคีตึ กตฺวา เอวํ จินฺเตสิ – ‘‘กตฺถ นุ โข อนาคเต สาสนํ สุปฺปติฏฺิตํ ภเวยฺยา’’ติ? อถสฺส อุปปริกฺขโต เอตทโหสิ – ‘‘ปจฺจนฺติเมสุ โข ชนปเทสุ สุปฺปติฏฺิตํ ภวิสฺสตี’’ติ. โส เตสํ เตสํ ภิกฺขูนํ ภารํ กตฺวา เต เต ภิกฺขู ตตฺถ ตตฺถ เปเสสิ. มชฺฌนฺติกตฺเถรํ กสฺมีรคนฺธารรฏฺํ เปเสสิ – ‘‘ตฺวํ เอตํ รฏฺํ คนฺตฺวา เอตฺถ สาสนํ ปติฏฺาเปหี’’ติ. มหาเทวตฺเถรํ ตเถว วตฺวา มหึสกมณฺฑลํ เปเสสิ. รกฺขิตตฺเถรํ วนวาสึ. โยนกธมฺมรกฺขิตตฺเถรํ อปรนฺตกํ. มหาธมฺมรกฺขิตตฺเถรํ มหารฏฺํ. มหารกฺขิตตฺเถรํ โยนกโลกํ. มชฺฌิมตฺเถรํ หิมวนฺตเทสภาคํ. โสณตฺเถรฺจ อุตฺตรตฺเถรฺจ สุวณฺณภูมึ. อตฺตโน สทฺธิวิหาริกํ มหินฺทตฺเถรํ อิฏฺฏิยตฺเถเรน อุตฺติยตฺเถเรน สมฺพลตฺเถเรน ภทฺทสาลตฺเถเรน จ สทฺธึ ตมฺพปณฺณิทีปํ เปเสสิ – ‘‘ตุมฺเห ตมฺพปณฺณิทีปํ คนฺตฺวา เอตฺถ สาสนํ ปติฏฺาเปถา’’ติ. สพฺเพปิ ตํ ตํ ทิสาภาคํ คจฺฉนฺตา อตฺตปฺจมา อคมํสุ ‘‘ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ ปฺจวคฺโค คโณ อลํ อุปสมฺปทกมฺมายา’’ติ มฺมานา.

เตน โข ปน สมเยน กสฺมีรคนฺธารรฏฺเ สสฺสปากสมเย อรวาโฬ นาม นาคราชา กรกวสฺสํ นาม วสฺสาเปตฺวา สสฺสํ หราเปตฺวา มหาสมุทฺทํ ปาเปติ. มชฺฌนฺติกตฺเถโร ปน ปาฏลิปุตฺตโต เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา หิมวติ อรวาฬทหสฺส อุปริ โอตริตฺวา อรวาฬทหปิฏฺิยํ จงฺกมติปิ ติฏฺติปิ นิสีทติปิ เสยฺยมฺปิ กปฺเปติ. นาคมาณวกา ตํ ทิสฺวา อรวาฬสฺส นาคราชสฺส อาโรเจสุํ – ‘‘มหาราช, เอโก ฉินฺนภินฺนปฏธโร ภณฺฑุ กาสาววสโน อมฺหากํ อุทกํ ทูเสตี’’ติ. นาคราชา ตาวเทว โกธาภิภูโต นิกฺขมิตฺวา เถรํ ทิสฺวา มกฺขํ อสหมาโน อนฺตลิกฺเข อเนกานิ ภึสนกานิ นิมฺมินิ. ตโต ตโต ภุสา วาตา วายนฺติ, รุกฺขา ฉิชฺชนฺติ, ปพฺพตกูฏานิ ปตนฺติ, เมฆา คชฺชนฺติ, วิชฺชุลตา นิจฺฉรนฺติ, อสนิโย ผลนฺติ, ภินฺนํ วิย คคนตลํ อุทกํ ปคฺฆรติ. ภยานกรูปา นาคกุมารา สนฺนิปตนฺติ. สยมฺปิ ธูมายติ, ปชฺชลติ, ปหรณวุฏฺิโย วิสฺสชฺเชติ. ‘‘โก อยํ มุณฺฑโก ฉินฺนภินฺนปฏธโร’’ติอาทีหิ ผรุสวจเนหิ เถรํ สนฺตชฺเชสิ. ‘‘เอถ คณฺหถ หนถ นิทฺธมถ อิมํ สมณ’’นฺติ นาคพลํ อาณาเปสิ. เถโร สพฺพํ ตํ ภึสนกํ อตฺตโน อิทฺธิพเลน ปฏิพาหิตฺวา นาคราชานํ อาห –

‘‘สเทวโกปิ เจ โลโก, อาคนฺตฺวา ตาสเยยฺย มํ;

น เม ปฏิพโล อสฺส, ชเนตุํ ภยเภรวํ.

‘‘สเจปิ ตฺวํ มหึ สพฺพํ, สสมุทฺทํ สปพฺพตํ;

อุกฺขิปิตฺวา มหานาค, ขิเปยฺยาสิ มมูปริ.

‘‘เนว เม สกฺกุเณยฺยาสิ, ชเนตุํ ภยเภรวํ;

อฺทตฺถุ ตเววสฺส, วิฆาโต อุรคาธิปา’’ติ.

เอวํ วุตฺเต นาคราชา วิหตานุภาโว นิปฺผลวายาโม ทุกฺขี ทุมฺมโน อโหสิ. ตํ เถโร ตงฺขณานุรูปาย ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา ตีสุ สรเณสุ ปฺจสุ จ สีเลสุ ปติฏฺาเปสิ สทฺธึ จตุราสีติยา นาคสหสฺเสหิ. อฺเปิ พหู หิมวนฺตวาสิโน ยกฺขา จ คนฺธพฺพา จ กุมฺภณฺฑา จ เถรสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺหึสุ. ปฺจโกปิ ยกฺโข สทฺธึ ภริยาย ยกฺขินิยา ปฺจหิ จ ปุตฺตสเตหิ ปเม ผเล ปติฏฺิโต. อถายสฺมา มชฺฌนฺติกตฺเถโร สพฺเพปิ นาคยกฺขรกฺขเส อามนฺเตตฺวา เอวมาห –

‘‘มา ทานิ โกธํ ชนยิตฺถ, อิโต อุทฺธํ ยถา ปุเร;

สสฺสฆาตฺจ มา กตฺถ, สุขกามา หิ ปาณิโน;

กโรถ เมตฺตํ สตฺเตสุ, วสนฺตุ มนุชา สุข’’นฺติ.

เต สพฺเพปิ ‘‘สาธุ ภนฺเต’’ติ เถรสฺส ปฏิสฺสุณิตฺวา ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชึสุ. ตํทิวสเมว จ นาคราชสฺส ปูชาสมโย โหติ. อถ นาคราชา อตฺตโน รตนมยํ ปลฺลงฺกํ อาหราเปตฺวา เถรสฺส ปฺเปสิ. นิสีทิ เถโร ปลฺลงฺเก. นาคราชาปิ เถรํ พีชยมาโน สมีเป อฏฺาสิ. ตสฺมึ ขเณ กสฺมีรคนฺธารรฏฺวาสิโน อาคนฺตฺวา เถรํ ทิสฺวา ‘‘อมฺหากํ นาคราชโตปิ เถโร มหิทฺธิกตโร’’ติ เถรเมว วนฺทิตฺวา นิสินฺนา. เถโร เตสํ อาสีวิโสปมสุตฺตํ กเถสิ. สุตฺตปริโยสาเน อสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ, กุลสตสหสฺสํ ปพฺพชิ. ตโต ปภุติ จ กสฺมีรคนฺธารา ยาวชฺชตนา กาสาวปชฺโชตา อิสิวาตปฏิวาตา เอว.

คนฺตฺวา กสฺมีรคนฺธารํ, อิสิ มชฺฌนฺติโก ตทา;

ทุฏฺํ นาคํ ปสาเทตฺวา, โมเจสิ พนฺธนา พหูติ.

มหาเทวตฺเถโรปิ มหึสกมณฺฑลํ คนฺตฺวา เทวทูตสุตฺตํ กเถสิ. สุตฺตปริโยสาเน จตฺตาลีส ปาณสหสฺสานิ ธมฺมจกฺขุํ ปฏิลภึสุ, จตฺตาลีสํเยว ปาณสหสฺสานิ ปพฺพชึสุ.

คนฺตฺวาน รฏฺํ มหึสํ, มหาเทโว มหิทฺธิโก;

โจเทตฺวา เทวทูเตหิ, โมเจสิ พนฺธนา พหูติ.

รกฺขิตตฺเถโร ปน วนวาสึ คนฺตฺวา อากาเส ตฺวา อนมตคฺคปริยายกถาย วนวาสิเก ปสาเทสิ. กถาปริโยสาเน ปนสฺส สฏฺิสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ. สตฺตติสหสฺสมตฺตา ปพฺพชึสุ, ปฺจวิหารสตานิ ปติฏฺหึสุ. เอวํ โส ตตฺถ สาสนํ ปติฏฺาเปสิ.

คนฺตฺวาน รกฺขิตตฺเถโร, วนวาสึ มหิทฺธิโก;

อนฺตลิกฺเข ิโต ตตฺถ, เทเสสิ อนมตคฺคิยนฺติ.

โยนกธมฺมรกฺขิตตฺเถโรปิ อปรนฺตกํ คนฺตฺวา อคฺคิกฺขนฺโธปมสุตฺตนฺตกถาย อปรนฺตเก ปสาเทตฺวา สตฺตติ ปาณสหสฺสานิ ธมฺมามตํ ปาเยสิ. ขตฺติยกุลโต เอว ปุริสสหสฺสานิ ปพฺพชึสุ, สมธิกานิ จ ฉ อิตฺถิสหสฺสานิ. เอวํ โส ตตฺถ สาสนํ ปติฏฺาเปสิ.

อปรนฺตํ วิคาหิตฺวา, โยนโก ธมฺมรกฺขิโต;

อคฺคิกฺขนฺโธปเมเนตฺถ, ปสาเทสิ ชเน พหูติ.

มหาธมฺมรกฺขิตตฺเถโร ปน มหารฏฺํ คนฺตฺวา มหานารทกสฺสปชาตกกถาย มหารฏฺเก ปสาเทตฺวา จตุราสีติ ปาณสหสฺสานิ มคฺคผเลสุ ปติฏฺาเปสิ. เตรสสหสฺสานิ ปพฺพชึสุ. เอวํ โส ตตฺถ สาสนํ ปติฏฺาเปสิ.

มหารฏฺํ อิสิ คนฺตฺวา, โส มหาธมฺมรกฺขิโต;

ชาตกํ กถยิตฺวาน, ปสาเทสิ มหาชนนฺติ.

มหารกฺขิตตฺเถโรปิ โยนกรฏฺํ คนฺตฺวา กาฬการามสุตฺตนฺตกถาย โยนกโลกํ ปสาเทตฺวา สตฺตติสหสฺสาธิกสฺส ปาณสตสหสฺสสฺส มคฺคผลาลงฺการํ อทาสิ. สนฺติเก จสฺส ทสสหสฺสานิ ปพฺพชึสุ. เอวํ โสปิ ตตฺถ สาสนํ ปติฏฺาเปสิ.

โยนรฏฺํ ตทา คนฺตฺวา, โส มหารกฺขิโต อิสิ;

กาฬการามสุตฺเตน เต ปสาเทสิ โยนเกติ.

มชฺฌิมตฺเถโร ปน กสฺสปโคตฺตตฺเถเรน อฬกเทวตฺเถเรน ทุนฺทุภิสฺสรตฺเถเรน มหาเทวตฺเถเรน จ สทฺธึ หิมวนฺตเทสภาคํ คนฺตฺวา ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตนฺตกถาย ตํ เทสํ ปสาเทตฺวา อสีติปาณโกฏิโย มคฺคผลรตนานิ ปฏิลาเภสิ. ปฺจปิ จ เถรา ปฺจ รฏฺานิ ปสาเทสุํ. เอกเมกสฺส สนฺติเก สตสหสฺสมตฺตา ปพฺพชึสุ. เอวํ เต ตตฺถ สาสนํ ปติฏฺาเปสุํ.

คนฺตฺวาน มชฺฌิมตฺเถโร, หิมวนฺตํ ปสาทยิ;

ยกฺขเสนํ ปกาเสนฺโต, ธมฺมจกฺกปวตฺตนนฺติ.

โสณตฺเถโรปิ สทฺธึ อุตฺตรตฺเถเรน สุวณฺณภูมึ อคมาสิ. เตน จ สมเยน ตตฺถ เอกา รกฺขสี สมุทฺทโต นิกฺขมิตฺวา ราชกุเล ชาเต ชาเต ทารเก ขาทติ. ตํทิวสเมว จ ราชกุเล เอโก ทารโก ชาโต โหติ. มนุสฺสา เถรํ ทิสฺวา ‘‘รกฺขสานํ สหายโก เอโส’’ติ มฺมานา อาวุธานิ คเหตฺวา เถรํ ปหริตุกามา อาคจฺฉนฺติ. เถโร ‘‘กึ ตุมฺเห อาวุธหตฺถา อาคจฺฉถา’’ติ อาห. เต อาหํสุ – ‘‘ราชกุเล ชาเต ชาเต ทารเก รกฺขสา ขาทนฺติ, เตสํ ตุมฺเห สหายกา’’ติ. เถโร ‘‘น มยํ รกฺขสานํ สหายกา, สมณา นาม มยํ วิรตา ปาณาติปาตา…เป… วิรตา มชฺชปานา เอกภตฺติกา สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา’’ติ อาห. ตสฺมึเยว จ ขเณ สา รกฺขสี สปริวารา สมุทฺทโต นิกฺขมิ ‘‘ราชกุเล ทารโก ชาโต ตํ ขาทิสฺสามี’’ติ. มนุสฺสา ตํ ทิสฺวา ‘‘เอสา, ภนฺเต, รกฺขสี อาคจฺฉตี’’ติ ภีตา วิรวึสุ. เถโร รกฺขเสหิ ทิคุเณ อตฺตภาเว นิมฺมินิตฺวา เตหิ อตฺตภาเวหิ ตํ รกฺขสึ สปริสํ มชฺเฌ กตฺวา อุโภสุ ปสฺเสสุ ปริกฺขิปิ. ตสฺสา สปริสาย เอตทโหสิ – ‘‘อทฺธา อิเมหิ อิทํ านํ ลทฺธํ ภวิสฺสติ. มยํ ปน อิเมสํ ภกฺขา ภวิสฺสามา’’ติ. สพฺเพ รกฺขสา ภีตา เวคสา ปลายึสุ. เถโรปิ เต ยาว อทสฺสนํ ตาว ปลาเปตฺวา ทีปสฺส สมนฺตโต รกฺขํ เปสิ. ตสฺมิฺจ สมเย สนฺนิปติตํ มหาชนกายํ พฺรหฺมชาลสุตฺตนฺตกถาย ปสาเทตฺวา สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺาเปสิ. สฏฺิสหสฺสานํ ปเนตฺถ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ. กุลทารกานํ อฑฺฒุฑฺฒานิ สหสฺสานิ ปพฺพชึสุ, กุลธีตานํ ทิยฑฺฒสหสฺสํ. เอวํ โส ตตฺถ สาสนํ ปติฏฺาเปสิ. ตโต ปภุติ ราชกุเล ชาตทารกานํ โสณุตฺตรนามเมว กโรนฺติ.

สุวณฺณภูมึ คนฺตฺวาน, โสณุตฺตรา มหิทฺธิกา;

ปิสาเจ นิทฺธเมตฺวาน, พฺรหฺมชาลํ อเทสิสุนฺติ.

มหินฺทตฺเถโร ปน ‘‘ตมฺพปณฺณิทีปํ คนฺตฺวา สาสนํ ปติฏฺาเปหี’’ติ อุปชฺฌาเยน จ ภิกฺขุสงฺเฆน จ อชฺฌิฏฺโ จินฺเตสิ – ‘‘กาโล นุ โข เม ตมฺพปณฺณิทีปํ คนฺตุํ โน’’ติ. อถสฺส วีมํสโต ‘‘น ตาว กาโล’’ติ อโหสิ. กึ ปนสฺส ทิสฺวา เอตทโหสิ? มุฏสิวรฺโ มหลฺลกภาวํ. ตโต จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ราชา มหลฺลโก, น สกฺกา อิมํ คณฺหิตฺวา สาสนํ ปคฺคเหตุํ. อิทานิ ปนสฺส ปุตฺโต เทวานํปิยติสฺโส รชฺชํ กาเรสฺสติ. ตํ คณฺหิตฺวา สกฺกา ภวิสฺสติ สาสนํ ปคฺคเหตุํ. หนฺท ยาว โส สมโย อาคจฺฉติ, ตาว าตเก โอโลเกม. ปุน ทานิ มยํ อิมํ ชนปทํ อาคจฺเฉยฺยาม วา น วา’’ติ. โส เอวํ จินฺเตตฺวา อุปชฺฌายฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ วนฺทิตฺวา อโสการามโต นิกฺขมฺม เตหิ อิฏฺฏิยาทีหิ จตูหิ เถเรหิ สงฺฆมิตฺตาย ปุตฺเตน สุมนสามเณเรน ภณฺฑุเกน จ อุปาสเกน สทฺธึ ราชคหนครปริวตฺตเกน ทกฺขิณาคิริชนปเท จาริกํ จรมาโน าตเก โอโลเกนฺโต ฉ มาเส อติกฺกาเมสิ. อถานุปุพฺเพน มาตุ นิเวสนฏฺานํ เวทิสนครํ นาม สมฺปตฺโต. อโสโก กิร กุมารกาเล ชนปทํ ลภิตฺวา อุชฺเชนึ คจฺฉนฺโต เวทิสนครํ ปตฺวา เวทิสเสฏฺิสฺส ธีตรํ อคฺคเหสิ. สา ตํทิวสเมว คพฺภํ คณฺหิตฺวา อุชฺเชนิยํ มหินฺทกุมารํ วิชายิ. กุมารสฺส จุทฺทสวสฺสกาเล ราชา อภิเสกํ ปาปุณิ. สา ตสฺส มาตา เตน สมเยน าติฆเร วสติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถานุปุพฺเพน มาตุ นิเวสนฏฺานํ เวฏิสนครํ นาม สมฺปตฺโต’’ติ.

สมฺปตฺตฺจ ปน เถรํ ทิสฺวา เถรมาตา เทวี ปาเทสุ สิรสา วนฺทิตฺวา ภิกฺขํ ทตฺวา เถรํ อตฺตนา กตํ เวทิสคิริมหาวิหารํ นาม อาโรเปสิ. เถโร ตสฺมึ วิหาเร นิสินฺโน จินฺเตสิ – ‘‘อมฺหากํ อิธ กตฺตพฺพกิจฺจํ นิฏฺิตํ, สมโย นุ โข อิทานิ ลงฺกาทีปํ คนฺตุ’’นฺติ. ตโต จินฺเตสิ – ‘‘อนุภวตุ ตาว เม ปิตรา เปสิตํ อภิเสกํ เทวานํปิยติสฺโส, รตนตฺตยคุณฺจ สุณาตุ, ฉณตฺถฺจ นครโต นิกฺขมิตฺวา มิสฺสกปพฺพตํ อภิรุหตุ, ตทา ตํ ตตฺถ ทกฺขิสฺสามา’’ติ. อถาปรํ เอกมาสํ ตตฺเถว วาสํ กปฺเปสิ. มาสาติกฺกเมน จ เชฏฺมูลมาสปุณฺณมายํ อุโปสถทิวเส สนฺนิปติตา สพฺเพปิ – ‘‘กาโล นุ โข อมฺหากํ ตมฺพปณฺณิทีปํ คมนาย, อุทาหุ โน’’ติ มนฺตยึสุ. เตนาหุ โปราณา –

‘‘มหินฺโท นาม นาเมน, สงฺฆตฺเถโร ตทา อหุ;

อิฏฺฏิโย อุตฺติโย เถโร, ภทฺทสาโล จ สมฺพโล.

‘‘สามเณโร จ สุมโน, ฉฬภิฺโ มหิทฺธิโก;

ภณฺฑุโก สตฺตโม เตสํ, ทิฏฺสจฺโจ อุปาสโก;

อิติ เหเต มหานาคา, มนฺตยึสุ รโหคตา’’ติ.

ตทา สกฺโก เทวานมินฺโท มหินฺทตฺเถรํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจ – ‘‘กาลงฺกโต, ภนฺเต, มุฏสิวราชา; อิทานิ เทวานํปิยติสฺสมหาราชา รชฺชํ กาเรติ. สมฺมาสมฺพุทฺเธน จ ตุมฺเห พฺยากตา – ‘อนาคเต มหินฺโท นาม ภิกฺขุ ตมฺพปณฺณิทีปํ ปสาเทสฺสตี’ติ. ตสฺมาติห โว, ภนฺเต, กาโล ทีปวรํ คมนาย; อหมฺปิ โว สหาโย ภวิสฺสามี’’ติ. กสฺมา ปน สกฺโก เอวมาห? ภควา กิรสฺส โพธิมูเลเยว พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกตฺวา อนาคเต อิมสฺส ทีปสฺส สมฺปตฺตึ ทิสฺวา เอตมตฺถํ อาโรเจสิ – ‘‘ตทา ตฺวมฺปิ สหาโย ภเวยฺยาสี’’ติ จ อาณาเปสิ. ตสฺมา เอวมาห. เถโร ตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อตฺตสตฺตโม เวฏิสกปพฺพตา เวหาสํ อุปฺปติตฺวา อนุราธปุรสฺส ปุรตฺถิมทิสาย มิสฺสกปพฺพเต ปติฏฺหิ. ยํ ปเนตรหิ ‘‘เจติยปพฺพโต’’ติปิ สฺชานนฺติ. เตนาหุ โปราณา –

‘‘เวฏิสคิริมฺหิ ราชคเห, วสิตฺวา ตึสรตฺติโย;

กาโลว คมนสฺสาติ, คจฺฉาม ทีปมุตฺตมํ.

‘‘ปฬีนา ชมฺพุทีปา เต, หํสราชาว อมฺพเร;

เอวมุปฺปติตา เถรา, นิปตึสุ นคุตฺตเม.

‘‘ปุรโต ปุรเสฏฺสฺส, ปพฺพเต เมฆสนฺนิเภ;

ปตึสุ สีลกูฏมฺหิ, หํสาว นคมุทฺธนี’’ติ.

เอวํ อิฏฺฏิยาทีหิ สทฺธึ อาคนฺตฺวา ปติฏฺหนฺโต จ อายสฺมา มหินฺทตฺเถโร สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปรินิพฺพานโต ทฺวินฺนํ วสฺสสตานํ อุปริ ฉตฺตึสติเม วสฺเส อิมสฺมึ ทีเป ปติฏฺหีติ เวทิตพฺโพ. อชาตสตฺตุสฺส หิ อฏฺเม วสฺเส สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปรินิพฺพายิ. ตสฺมึเยว วสฺเส สีหกุมารสฺส ปุตฺโต ตมฺพปณฺณิทีปสฺส อาทิราชา วิชยกุมาโร อิมํ ทีปมาคนฺตฺวา มนุสฺสาวาสํ อกาสิ. ชมฺพุทีเป อุทยภทฺทสฺส จุทฺทสเม วสฺเส อิธ วิชโย กาลมกาสิ. อุทยภทฺทสฺส ปฺจทสเม วสฺเส ปณฺฑุวาสุเทโว นาม อิมสฺมึ ทีเป รชฺชํ ปาปุณิ. ตตฺถ นาคทาสกรฺโ วีสติเม วสฺเส อิธ ปณฺฑุวาสุเทโว กาลมกาสิ. ตสฺมึเยว จ วสฺเส อภโย นาม ราชกุมาโร อิมสฺมึ ทีเป รชฺชํ ปาปุณิ. ตตฺถ สุสุนาครฺโ สตฺตรสเม วสฺเส อิธ อภยรฺโ วีสติวสฺสานิ ปริปูรึสุ. อถ อภยสฺส วีสติเม วสฺเส ปณฺฑุกาภโย นาม ทามริโก รชฺชํ อคฺคเหสิ. ตตฺถ กาฬาโสกสฺส โสฬสเม วสฺเส อิธ ปณฺฑุกสฺส สตฺตรสวสฺสานิ ปริปูรึสุ. ตานิ เหฏฺา เอเกน วสฺเสน สห อฏฺารส โหนฺติ. ตตฺถ จนฺทคุตฺตสฺส จุทฺทสเม วสฺเส อิธ ปณฺฑุกาภโย กาลมกาสิ. มุฏสิวราชา รชฺชํ ปาปุณิ. ตตฺถ อโสกธมฺมราชสฺส สตฺตรสเม วสฺเส อิธ มุฏสิวราชา กาลมกาสิ. เทวานมฺปิยติสฺโส รชฺชํ ปาปุณิ. ปรินิพฺพุเต จ สมฺมาสมฺพุทฺเธ อชาตสตฺตุ จตุวีสติ วสฺสานิ รชฺชํ กาเรสิ. อุทยภทฺโท โสฬส, อนุรุทฺโธ จ มุณฺโฑ จ อฏฺ, นาคทาสโก จตุวีสติ, สุสุนาโค อฏฺารส, ตสฺเสว ปุตฺโต กาฬาโสโก อฏฺวีสติ, ตโต ตสฺส ปุตฺตกา ทส ภาตุกราชาโน ทฺเววีสติ วสฺสานิ รชฺชํ กาเรสุํ. เตสํ ปจฺฉโต นว นนฺทา ทฺเววีสติเมว, จนฺทคุตฺโต จตุวีสติ, พินฺทุสาโร อฏฺวีสติ. ตสฺสาวสาเน อโสโก รชฺชํ ปาปุณิ. ตสฺส ปุเร อภิเสกา จตฺตาริ อภิเสกโต อฏฺารสเม วสฺเส อิมสฺมึ ทีเป มหินฺทตฺเถโร ปติฏฺิโต. เอวเมเตน ราชวํสานุสาเรน เวทิตพฺพเมตํ – ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปรินิพฺพานโต ทฺวินฺนํ วสฺสสตานํ อุปริ ฉตฺตึสติเม วสฺเส อิมสฺมึ ทีเป ปติฏฺหี’’ติ.

ตสฺมิฺจ ทิวเส ตมฺพปณฺณิทีเป เชฏฺมูลนกฺขตฺตํ นาม โหติ. ราชา นกฺขตฺตํ โฆสาเปตฺวา ‘‘ฉณํ กโรถา’’ติ อมจฺเจ จ อาณาเปตฺวา จตฺตาลีสปุริสสหสฺสปริวาโร นครมฺหา นิกฺขมิตฺวา เยน มิสฺสกปพฺพโต เตน ปายาสิ มิควํ กีฬิตุกาโม. อถ ตสฺมึ ปพฺพเต อธิวตฺถา เอกา เทวตา ‘‘รฺโ เถเร ทสฺเสสฺสามี’’ติ โรหิตมิครูปํ คเหตฺวา อวิทูเร ติณปณฺณานิ ขาทมานา วิย จรติ. ราชา ตํ ทิสฺวา ‘‘อยุตฺตํ ทานิ ปมตฺตํ วิชฺฌิตุ’’นฺติ ชิยํ โผเฏสิ. มิโค อมฺพตฺถลมคฺคํ คเหตฺวา ปลายิตุํ อารภิ. ราชา ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธนฺโต อมฺพตฺถลเมว อภิรุหิ. มิโคปิ เถรานํ อวิทูเร อนฺตรธายิ. มหินฺทตฺเถโร ราชานํ อวิทูเร อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘มมํเยว ราชา ปสฺสตุ, มา อิตเร’’ติ อธิฏฺหิตฺวา ‘‘ติสฺส, ติสฺส, อิโต เอหี’’ติ อาห. ราชา สุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อิมสฺมึ ทีเป ชาโต มํ ‘ติสฺสา’ติ นามํ คเหตฺวา อาลปิตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. อยํ ปน ฉินฺนภินฺนปฏธโร ภณฺฑุ กาสาววสโน มํ นาเมน อาลปติ, โก นุ โข อยํ ภวิสฺสติ มนุสฺโส วา อมนุสฺโส วา’’ติ? เถโร อาห –

‘‘สมณา มยํ มหาราช, ธมฺมราชสฺส สาวกา;

ตเวว อนุกมฺปาย, ชมฺพุทีปา อิธาคตา’’ติ.

เตน จ สมเยน เทวานมฺปิยติสฺสมหาราชา จ อโสกธมฺมราชา จ อทิฏฺสหายกา โหนฺติ. เทวานมฺปิยติสฺสมหาราชสฺส จ ปุฺานุภาเวน ฉาตปพฺพตปาเท เอกมฺหิ เวฬุคุมฺเพ ติสฺโส เวฬุยฏฺิโย รถยฏฺิปฺปมาณา อุปฺปชฺชึสุ – เอกา ลตายฏฺิ นาม, เอกา ปุปฺผยฏฺิ นาม, เอกา สกุณยฏฺิ นาม. ตาสุ ลตายฏฺิ รชตวณฺณา โหติ, ตํ อลงฺกริตฺวา อุปฺปนฺนลตา กฺจนวณฺณา ขายติ. ปุปฺผยฏฺิยํ ปน นีลปีตโลหิโตทาตกาฬวณฺณานิ ปุปฺผานิ สุวิภตฺตวณฺฏปตฺตกิฺชกฺขานิ หุตฺวา ขายนฺติ. สกุณยฏฺิยํ หํสกุกฺกุฏชีวชีวกาทโย สกุณา นานปฺปการานิ จ จตุปฺปทานิ สชีวานิ วิย ขายนฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ทีปวํเส

‘‘ฉาตปพฺพตปาทมฺหิ, เวฬุยฏฺี ตโย อหุ;

เสตา รชตยฏฺีว, ลตา กฺจนสนฺนิภา.

‘‘นีลาทิ ยาทิสํ ปุปฺผํ, ปุปฺผยฏฺิมฺหิ ตาทิสํ;

สกุณา สกุณยฏฺิมฺหิ, สรูเปเนว สณฺิตา’’ติ.

สมุทฺทโตปิสฺส มุตฺตามณิเวฬุริยาทิ อเนกวิหิตํ รตนํ อุปฺปชฺชิ. ตมฺพปณฺณิยํ ปน อฏฺ มุตฺตา อุปฺปชฺชึสุ – หยมุตฺตา, คชมุตฺตา, รถมุตฺตา, อามลกมุตฺตา, วลยมุตฺตา, องฺคุลิเวกมุตฺตา, กกุธผลมุตฺตา, ปากติกมุตฺตาติ. โส ตา จ ยฏฺิโย ตา จ มุตฺตา อฺฺจ พหุํ รตนํ อโสกสฺส ธมฺมรฺโ ปณฺณาการตฺถาย เปเสสิ. อโสโก ปสีทิตฺวา ตสฺส ปฺจ ราชกกุธภณฺฑานิ ปหิณิ – ฉตฺตํ, จามรํ, ขคฺคํ, โมฬึ, รตนปาทุกํ, อฺฺจ อภิเสกตฺถาย พหุวิธํ ปณฺณาการํ; เสยฺยถิทํ – สงฺขํ, คงฺโคทกํ, วฑฺฒมานํ, วฏํสกํ, ภิงฺคารํ, นนฺทิยาวฏฺฏํ, สิวิกํ, กฺํ, กฏจฺฉุํ, อโธวิมํ ทุสฺสยุคํ, หตฺถปุฺฉนํ, หริจนฺทนํ, อรุณวณฺณมตฺติกํ, อฺชนํ, หรีตกํ, อามลกนฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ทีปวํเส

‘‘วาลพีชนิมุณฺหีสํ, ฉตฺตํ ขคฺคฺจ ปาทุกํ;

เวนํ สารปามงฺคํ, ภิงฺคารํ นนฺทิวฏฺฏกํ.

‘‘สิวิกํ สงฺขํ วฏํสฺจ, อโธวิมํ วตฺถโกฏิกํ;

โสวณฺณปาตึ กฏจฺฉุํ, มหคฺฆํ หตฺถปุฺฉนํ.

‘‘อโนตตฺโตทกํ กฺํ, อุตฺตมํ หริจนฺทนํ;

อรุณวณฺณมตฺติกํ, อฺชนํ นาคมาหฏํ.

‘‘หรีตกํ อามลกํ, มหคฺฆํ อมโตสธํ;

สฏฺิวาหสตํ สาลึ, สุคนฺธํ สุวกาหฏํ;

ปุฺกมฺมาภินิพฺพตฺตํ, ปาเหสิ อโสกวฺหโย’’ติ.

น เกวลฺเจตํ อามิสปณฺณาการํ, อิมํ กิร ธมฺมปณฺณาการมฺปิ เปเสสิ –

‘‘อหํ พุทฺธฺจ ธมฺมฺจ, สงฺฆฺจ สรณํ คโต;

อุปาสกตฺตํ เทเสสึ, สกฺยปุตฺตสฺส สาสเน.

‘‘อิเมสุ ตีสุ วตฺถูสุ, อุตฺตเม ชินสาสเน;

ตฺวมฺปิ จิตฺตํ ปสาเทหิ, สทฺธา สรณมุเปหี’’ติ.

สฺวายํ ราชา ตํ ทิวสํ อโสกรฺา เปสิเตน อภิเสเกน เอกมาสาภิสิตฺโต โหติ.

วิสาขปุณฺณมายํ หิสฺส อภิเสกมกํสุ. โส อจิรสฺสุตํ – ตํ สาสนปฺปวตฺตึ อนุสฺสรมาโน ตํ เถรสฺส ‘‘สมณา มยํ มหาราช ธมฺมราชสฺส สาวกา’’ติ วจนํ สุตฺวา ‘‘อยฺยา นุ โข อาคตา’’ติ ตาวเทว อาวุธํ นิกฺขิปิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ สมฺโมทนียํ กถํ กถยมาโน. ยถาห –

‘‘อาวุธํ นิกฺขิปิตฺวาน, เอกมนฺตํ อุปาวิสิ;

นิสชฺช ราชา สมฺโมทิ, พหุํ อตฺถูปสฺหิต’’นฺติ.

สมฺโมทนียกถฺจ กุรุมาเนเยว ตสฺมึ ตานิปิ จตฺตาลีสปุริสสหสฺสานิ อาคนฺตฺวา สมฺปริวาเรสุํ. ตทา เถโร อิตเรปิ ฉ ชเน ทสฺเสสิ. ราชา ทิสฺวา ‘‘อิเม กทา อาคตา’’ติ อาห. ‘‘มยา สทฺธึเยว, มหาราชา’’ติ. ‘‘อิทานิ ปน ชมฺพุทีเป อฺเปิ เอวรูปา สมณา สนฺตี’’ติ? ‘‘สนฺติ, มหาราช; เอตรหิ ชมฺพุทีโป กาสาวปชฺโชโต อิสิวาตปฏิวาโต. ตสฺมึ –

‘‘เตวิชฺชา อิทฺธิปตฺตา จ, เจโตปริยายโกวิทา;

ขีณาสวา อรหนฺโต, พหู พุทฺธสฺส สาวกาติ.

‘‘ภนฺเต, เกน อาคตตฺถา’’ติ? ‘‘เนว, มหาราช, อุทเกน น ถเลนา’’ติ. ‘‘ราชา อากาเสน อาคตา’’ติ อฺาสิ. เถโร ‘‘อตฺถิ นุ โข รฺโ ปฺาเวยตฺติย’’นฺติ วีมํสนตฺถาย อาสนฺนํ อมฺพรุกฺขํ อารพฺภ ปฺหํ ปุจฺฉิ – ‘‘กึ นาโม อยํ, มหาราช, รุกฺโข’’ติ? ‘‘อมฺพรุกฺโข นาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อิมํ ปน, มหาราช, อมฺพํ มุฺจิตฺวา อฺโ อมฺโพ อตฺถิ, นตฺถี’’ติ? ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต, อฺเปิ พหู อมฺพรุกฺขา’’ติ. ‘‘อิมฺจ อมฺพํ เต จ อมฺเพ มุฺจิตฺวา อตฺถิ นุ โข, มหาราช, อฺเ รุกฺขา’’ติ? ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต, เต ปน น อมฺพรุกฺขา’’ติ. ‘‘อฺเ อมฺเพ จ อนมฺเพ จ มุฺจิตฺวา อตฺถิ ปน อฺโ รุกฺโข’’ติ? ‘‘อยเมว, ภนฺเต, อมฺพรุกฺโข’’ติ. ‘‘สาธุ, มหาราช, ปณฺฑิโตสิ. อตฺถิ ปน เต, มหาราช, าตกา’’ติ? ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต, พหู ชนา’’ติ. ‘‘เต มุฺจิตฺวา อฺเ เกจิ อฺาตกาปิ อตฺถิ, มหาราชา’’ติ? ‘‘อฺาตกา, ภนฺเต, าตเกหิ พหุตรา’’ติ. ‘‘ตว าตเก จ อฺาตเก จ มุฺจิตฺวา อตฺถฺโ โกจิ, มหาราชา’’ติ? ‘‘อหเมว, อฺาตโก’’ติ. อถ เถโร ‘‘ปณฺฑิโต ราชา สกฺขิสฺสติ ธมฺมํ อฺาตุ’’นฺติ จูฬหตฺถิปโทปมสุตฺตํ กเถสิ. กถาปริโยสาเน ราชา ตีสุ สรเณสุ ปติฏฺหิ สทฺธึ จตฺตาลีสาย ปาณสหสฺเสหิ.

ตํ ขณฺเว จ รฺโ ภตฺตํ อาหริยิตฺถ. ราชา จ สุตฺตนฺตํ สุณนฺโต เอว อฺาสิ – ‘‘น อิเมสํ อิมสฺมึ กาเล โภชนํ กปฺปตี’’ติ. ‘‘อปุจฺฉิตฺวา ปน ภุฺชิตุํ อยุตฺต’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘ภุฺชิสฺสถ, ภนฺเต’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘น, มหาราช, อมฺหากํ อิมสฺมึ กาเล โภชนํ กปฺปตี’’ติ. ‘‘กสฺมึ กาเล, ภนฺเต, กปฺปตี’’ติ? ‘‘อรุณุคฺคมนโต ปฏฺาย ยาว มชฺฌนฺหิกสมยา, มหาราชา’’ติ. ‘‘คจฺฉาม, ภนฺเต, นคร’’นฺติ? ‘‘อลํ, มหาราช, อิเธว วสิสฺสามา’’ติ. ‘‘สเจ, ภนฺเต, ตุมฺเห วสถ, อยํ ทารโก อาคจฺฉตู’’ติ. ‘‘มหาราช, อยํ ทารโก อาคตผโล วิฺาตสาสโน ปพฺพชฺชาเปกฺโข อิทานิ ปพฺพชิสฺสตี’’ติ. ราชา ‘‘เตน หิ, ภนฺเต, สฺเว รถํ เปเสสฺสามิ; ตํ อภิรุหิตฺวา อาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ วตฺวา วนฺทิตฺวา ปกฺกามิ.

เถโร อจิรปกฺกนฺตสฺส รฺโ สุมนสามเณรํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, สุมน, ธมฺมสวนสฺส กาลํ โฆเสหี’’ติ. ‘‘ภนฺเต, กิตฺตกํ านํ สาเวนฺโต โฆเสมี’’ติ? ‘‘สกลํ ตมฺพปณฺณิทีป’’นฺติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ สามเณโร อภิฺาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อธิฏฺหิตฺวา สมาหิเตน จิตฺเตน สกลํ ตมฺพปณฺณิทีปํ สาเวนฺโต ติกฺขตฺตุํ ธมฺมสวนสฺส กาลํ โฆเสสิ. ราชา ตํ สทฺทํ สุตฺวา เถรานํ สนฺติกํ เปเสสิ – ‘‘กึ, ภนฺเต, อตฺถิ โกจิ อุปทฺทโว’’ติ. ‘‘นตฺถมฺหากํ โกจิ อุปทฺทโว, ธมฺมสวนสฺส กาลํ โฆสาปยิมฺห พุทฺธวจนํ กเถตุกามมฺหา’’ติ. ตฺจ ปน สามเณรสฺส สทฺทํ สุตฺวา ภุมฺมา เทวตา สทฺทมนุสฺสาเวสุํ. เอเตนุปาเยน ยาว พฺรหฺมโลกา สทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉิ. เตน สทฺเทน มหา เทวตาสนฺนิปาโต อโหสิ. เถโร มหนฺตํ เทวตาสนฺนิปาตํ ทิสฺวา สมจิตฺตสุตฺตนฺตํ กเถสิ. กถาปริโยสาเน อสงฺขฺเยยฺยานํ เทวตานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ. พหู นาคา จ สุปณฺณา จ สรเณสุ ปติฏฺหึสุ. ยาทิโสว สาริปุตฺตตฺเถรสฺส อิมํ สุตฺตนฺตํ กถยโต เทวตาสนฺนิปาโต อโหสิ, ตาทิโส มหินฺทตฺเถรสฺสาปิ ชาโต. อถ ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ราชา เถรานํ รถํ เปเสสิ. สารถี รถํ เอกมนฺเต เปตฺวา เถรานํ อาโรเจสิ – ‘‘อาคโต, ภนฺเต, รโถ; อภิรุหถ คจฺฉิสฺสามา’’ติ. เถรา ‘‘น มยํ รถํ อภิรุหาม; คจฺฉ ตฺวํ, ปจฺฉา มยํ อาคจฺฉิสฺสามา’’ติ วตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อนุราธปุรสฺส ปุรตฺถิมทิสายํ ปมกเจติยฏฺาเน โอตรึสุ. ตฺหิ เจติยํ เถเรหิ ปมํ โอติณฺณฏฺาเน กตตฺตาเยว ‘‘ปมกเจติย’’นฺติ วุจฺจติ.

ราชาปิ สารถึ เปเสตฺวา ‘‘อนฺโตนิเวสเน มณฺฑปํ ปฏิยาเทถา’’ติ อมจฺเจ อาณาเปสิ. ตาวเทว สพฺเพ หฏฺตุฏฺา อติวิย ปาสาทิกํ มณฺฑปํ ปฏิยาเทสุํ. ปุน ราชา จินฺเตสิ – ‘‘หิยฺโย เถโร สีลกฺขนฺธํ กถยมาโน ‘อุจฺจาสยนมหาสยนํ น กปฺปตี’ติ อาห; ‘นิสีทิสฺสนฺติ นุ โข อยฺยา อาสเนสุ, น นิสีทิสฺสนฺตี’’’ติ? ตสฺเสวํ จินฺตยนฺตสฺเสว โส สารถิ นครทฺวารํ สมฺปตฺโต. ตโต อทฺทส เถเร ปมตรํ อาคนฺตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา จีวรํ ปารุปนฺเต. ทิสฺวา อติวิย ปสนฺนจิตฺโต หุตฺวา อาคนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ – ‘‘อาคตา, เทว, เถรา’’ติ. ราชา ‘‘รถํ อารูฬฺหา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘น อารูฬฺหา, เทว, อปิ จ มม ปจฺฉโต นิกฺขมิตฺวา ปมตรํ อาคนฺตฺวา ปาจีนทฺวาเร ิตา’’ติ. ราชา ‘‘รถมฺปิ นาภิรูหึสู’’ติ สุตฺวา ‘‘น ทานิ อยฺยา อุจฺจาสยนมหาสยนํ สาทิยิสฺสนฺตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘เตน หิ, ภเณ, เถรานํ ภูมตฺถรณสงฺเขเปน อาสนานิ ปฺเปถา’’ติ วตฺวา ปฏิปถํ อคมาสิ. อมจฺจา ปถวิยํ ตฏฺฏิกํ ปฺเปตฺวา อุปริ โกชวกาทีนิ จิตฺตตฺถรณานิ ปฺเปสุํ. อุปฺปาตปากา ทิสฺวา ‘‘คหิตา ทานิ อิเมหิ ปถวี, อิเม ตมฺพปณฺณิทีปสฺส สามิกา ภวิสฺสนฺตี’’ติ พฺยากรึสุ. ราชาปิ คนฺตฺวา เถเร วนฺทิตฺวา มหินฺทตฺเถรสฺส หตฺถโต ปตฺตํ คเหตฺวา มหติยา ปูชาย จ สกฺกาเรน จ เถเร นครํ ปเวเสตฺวา อนฺโตนิเวสนํ ปเวเสสิ. เถโร อาสนปฺตฺตึ ทิสฺวา ‘‘อมฺหากํ สาสนํ สกลลงฺกาทีเป ปถวี วิย ปตฺถฏํ นิจฺจลฺจ หุตฺวา ปติฏฺหิสฺสตี’’ติ จินฺเตนฺโต นิสีทิ. ราชา เถเร ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา ‘‘อนุฬาเทวีปมุขานิ ปฺจ อิตฺถิสตานิ เถรานํ อภิวาทนํ ปูชาสกฺการฺจ กโรนฺตู’’ติ ปกฺโกสาเปตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เถโร ภตฺตกิจฺจาวสาเน รฺโ สปริชนสฺส ธมฺมรตนวสฺสํ วสฺเสนฺโต เปตวตฺถุํ วิมานวตฺถุํ สจฺจสํยุตฺตฺจ กเถสิ. ตํ เถรสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ตานิ ปฺจปิ อิตฺถิสตานิ โสตาปตฺติผลํ สจฺฉากํสุ.

เยปิ เต มนุสฺสา ปุริมทิวเส มิสฺสกปพฺพเต เถเร อทฺทสํสุ, เต เตสุ เตสุ าเนสุ เถรานํ คุเณ กเถนฺติ. เตสํ สุตฺวา มหาชนกาโย ราชงฺคเณ สนฺนิปติตฺวา มหาสทฺทํ อกาสิ. ราชา ‘‘กึ เอโส สทฺโท’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘นาครา, เทว, ‘เถเร ทฏฺุํ น ลภามา’ติ วิรวนฺตี’’ติ. ราชา ‘‘สเจ อิธ ปวิสิสฺสนฺติ, โอกาโส น ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘คจฺฉถ, ภเณ, หตฺถิสาลํ ปฏิชคฺคิตฺวา วาลุกํ อากิริตฺวา ปฺจวณฺณานิ ปุปฺผานิ วิกิริตฺวา เจลวิตานํ พนฺธิตฺวา มงฺคลหตฺถิฏฺาเน เถรานํ อาสนานิ ปฺเปถา’’ติ อาห. อมจฺจา ตถา อกํสุ. เถโร ตตฺถ คนฺตฺวา นิสีทิตฺวา เทวทูตสุตฺตนฺตํ กเถสิ. กถาปริโยสาเน ปาณสหสฺสํ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตโต ‘‘หตฺถิสาลา อติสมฺพาธา’’ติ ทกฺขิณทฺวาเร นนฺทนวนุยฺยาเน อาสนํ ปฺเปสุํ. เถโร ตตฺถ นิสีทิตฺวา อาสีวิโสปมสุตฺตํ กเถสิ. ตมฺปิ สุตฺวา ปาณสหสฺสํ โสตาปตฺติผลํ ปฏิลภิ.

เอวํ อาคตทิวสโต ทุติยทิวเส อฑฺฒเตยฺยสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ. เถรสฺส นนฺทนวเน อาคตาคตาหิ กุลิตฺถีหิ กุลสุณฺหาหิ กุลกุมารีหิ สทฺธึ สมฺโมทมานสฺเสว สายนฺหสมโย ชาโต. เถโร กาลํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘คจฺฉาม ทานิ มิสฺสกปพฺพต’’นฺติ อุฏฺหิ. อมจฺจา – ‘‘กตฺถ, ภนฺเต, คจฺฉถา’’ติ? ‘‘อมฺหากํ นิวาสนฏฺาน’’นฺติ. เต รฺโ สํวิทิตํ กตฺวา ราชานุมเตน อาหํสุ – ‘‘อกาโล, ภนฺเต, อิทานิ ตตฺถ คนฺตุํ; อิทเมว นนฺทนวนุยฺยานํ อยฺยานํ อาวาสฏฺานํ โหตู’’ติ. ‘‘อลํ, คจฺฉามา’’ติ. ปุน รฺโ วจเนนาหํสุ – ‘‘ราชา, ภนฺเต, อาห – ‘เอตํ เมฆวนํ นาม อุยฺยานํ มม ปิตุ สนฺตกํ นครโต นาติทูรํ นาจฺจาสนฺนํ คมนาคมนสมฺปนฺนํ, เอตฺถ เถรา วาสํ กปฺเปนฺตู’’’ติ. วสึสุ เถรา เมฆวเน อุยฺยาเน.

ราชาปิ โข ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน เถรสฺส สมีปํ คนฺตฺวา สุขสยิตภาวํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘กปฺปติ, ภนฺเต, ภิกฺขุสงฺฆสฺส อาราโม’’ติ ปุจฺฉิ. เถโร ‘‘กปฺปติ, มหาราชา’’ติ วตฺวา อิมํ สุตฺตํ อาหริ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาราม’’นฺติ. ราชา ตุฏฺโ สุวณฺณภิงฺคารํ คเหตฺวา เถรสฺส หตฺเถ อุทกํ ปาเตตฺวา มหาเมฆวนุยฺยานํ อทาสิ. สห อุทกปาเตน ปถวี กมฺปิ. อยํ มหาวิหาเร ปโม ปถวีกมฺโป อโหสิ. ราชา ภีโต เถรํ ปุจฺฉิ – ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, ปถวี กมฺปตี’’ติ? ‘‘มา ภายิ, มหาราช, อิมสฺมึ ทีเป ทสพลสฺส สาสนํ ปติฏฺหิสฺสติ; อิทฺจ ปมํ วิหารฏฺานํ ภวิสฺสติ, ตสฺเสตํ ปุพฺพนิมิตฺต’’นฺติ. ราชา ภิยฺโยโสมตฺตาย ปสีทิ. เถโร ปุนทิวเสปิ ราชเคเหเยว ภุฺชิตฺวา นนฺทนวเน อนมตคฺคิยานิ กเถสิ. ปุนทิวเส อคฺคิกฺขนฺโธปมสุตฺตํ กเถสิ. เอเตเนวุปาเยน สตฺต ทิวสานิ กเถสิ. เทสนาปริโยสาเน อฑฺฒนวมานํ ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ. ตโต ปฏฺาย จ นนฺทนวนํ สาสนสฺส โชติปาตุภาวฏฺานนฺติ กตฺวา ‘‘โชติวน’’นฺติ นามํ ลภิ. สตฺตเม ปน ทิวเส เถรา อนฺเตปุเร รฺโ อปฺปมาทสุตฺตํ กถยิตฺวา เจติยคิริเมว อคมํสุ.

อถ โข ราชา อมจฺเจ ปุจฺฉิ – ‘‘เถโร, อมฺเห คาฬฺเหน โอวาเทน โอวทติ; คจฺเฉยฺย นุ โข’’ติ? อมจฺจา ‘‘ตุมฺเหหิ, เทว, เถโร อยาจิโต สยเมว อาคโต; ตสฺมา ตสฺส อนาปุจฺฉาว คมนมฺปิ ภเวยฺยา’’ติ อาหํสุ. ตโต ราชา รถํ อภิรุหิตฺวา ทฺเว จ เทวิโย อาโรเปตฺวา เจติยคิรึ อคมาสิ มหฺจราชานุภาเวน. คนฺตฺวา เทวิโย เอกมนฺตํ อปกฺกมาเปตฺวา สยเมว เถรานํ สมีปํ อุปสงฺกมนฺโต อติวิย กิลนฺตรูโป หุตฺวา อุปสงฺกมิ. ตโต นํ เถโร อาห – ‘‘กสฺมา ตฺวํ, มหาราช, เอวํ กิลมมาโน อาคโต’’ติ? ‘‘‘ตุมฺเห มม คาฬฺหํ โอวาทํ ทตฺวา อิทานิ คนฺตุกามา นุ โข’ติ ชานนตฺถํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘น มยํ, มหาราช, คนฺตุกามา; อปิจ วสฺสูปนายิกกาโล นามายํ มหาราช, ตตฺร สมเณน วสฺสูปนายิกฏฺานํ าตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ตํทิวสเมว อริฏฺโ นาม อมจฺโจ ปฺจปณฺณาสาย เชฏฺกนิฏฺภาตุเกหิ สทฺธึ รฺโ สมีเป ิโต อาห – ‘‘อิจฺฉามหํ, เทว, เถรานํ สนฺติเก ปพฺพชิตุ’’นฺติ. ‘‘สาธุ, ภเณ, ปพฺพชสฺสู’’ติ ราชา อนุชานิตฺวา เถรํ สมฺปฏิจฺฉาเปสิ. เถโร ตทเหว ปพฺพาเชสิ. สพฺเพ ขุรคฺเคเยว อรหตฺตํ ปาปุณึสุ.

ราชาปิ โข ตงฺขเณเยว กณฺฏเกน เจติยงฺคณํ ปริกฺขิปิตฺวา ทฺวาสฏฺิยา เลเณสุ กมฺมํ ปฏฺเปตฺวา นครเมว อคมาสิ. เตปิ เถรา ทสภาติกสมากุลํ ราชกุลํ ปสาเทตฺวา มหาชนํ โอวทมานา เจติยคิริมฺหิ วสฺสํ วสึสุ. ตทาปิ เจติยคิริมฺหิ ปมํ วสฺสํ อุปคตา ทฺวาสฏฺิ อรหนฺโต อเหสุํ. อถายสฺมา มหามหินฺโท วุตฺถวสฺโส ปวาเรตฺวา กตฺติกปุณฺณมายํ อุโปสถทิวเส ราชานํ เอตทโวจ – ‘‘มหาราช, อมฺเหหิ จิรทิฏฺโ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, อนาถวาสํ วสิมฺห, อิจฺฉาม มยํ ชมฺพุทีปํ คนฺตุ’’นฺติ. ราชา อาห – ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺเห จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺหามิ, อยฺจ มหาชโน ตุมฺเห นิสฺสาย ตีสุ สรเณสุ ปติฏฺิโต, กสฺมา ตุมฺเห อุกฺกณฺิตตฺถา’’ติ? ‘‘จิรทิฏฺโ โน, มหาราช, สมฺมาสมฺพุทฺโธ, อภิวาทนปจฺจุฏฺานอฺชลิกมฺมสามีจิกมฺมกรณฏฺานํ นตฺถิ, เตนมฺห อุกฺกณฺิตา’’ติ. ‘‘นนุ, ภนฺเต, ตุมฺเห อโวจุตฺถ – ‘ปรินิพฺพุโต สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’’ติ. ‘‘กิฺจาปิ, มหาราช, ปรินิพฺพุโต; อถ ขฺวสฺส สรีรธาตุโย ติฏฺนฺตี’’ติ. ‘‘อฺาตํ, ภนฺเต, ถูปปติฏฺานํ ตุมฺเห อากงฺขถาติ. กโรมิ, ภนฺเต, ถูปํ, ภูมิภาคํ ทานิ วิจินาถ; อปิจ, ภนฺเต, ธาตุโย กุโต ลจฺฉามา’’ติ? ‘‘สุมเนน สทฺธึ มนฺเตหิ, มหาราชา’’ติ.

‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ ราชา สุมนํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘กุโต ทานิ, ภนฺเต, ธาตุโย ลจฺฉามา’’ติ? สุมโน อาห – ‘‘อปฺโปสฺสุกฺโก ตฺวํ, มหาราช, วีถิโย โสธาเปตฺวา ธชปฏากปุณฺณฆฏาทีหิ อลงฺการาเปตฺวา สปริชโน อุโปสถํ สมาทิยิตฺวา สพฺพตาฬาวจเร อุปฏฺาเปตฺวา มงฺคลหตฺถึ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ การาเปตฺวา อุปริ จสฺส เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา สายนฺหสมเย มหานาควนุยฺยานาภิมุโข ยาหิ. อทฺธา ตสฺมึ าเน ธาตุโย ลจฺฉสี’’ติ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. เถรา เจติยคิริเมว อคมํสุ. ตตฺรายสฺมา มหินฺทตฺเถโร สุมนสามเณรํ อาห – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, สามเณร, ชมฺพุทีเป ตว อยฺยกํ อโสกํ ธมฺมราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน เอวํ วเทหิ – ‘สหาโย โว, มหาราช, เทวานมฺปิยติสฺโส พุทฺธสาสเน ปสนฺโน ถูปํ ปติฏฺาเปตุกาโม, ตุมฺหากํ กิร หตฺเถ ธาตุ อตฺถิ ตํ เม เทถา’ติ. ตํ คเหตฺวา สกฺกํ เทวราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทหิ – ‘ตุมฺหากํ กิร, มหาราช, หตฺเถ ทฺเว ธาตุโย อตฺถิ – ทกฺขิณทาา จ ทกฺขิณกฺขกฺจ; ตโต ตุมฺเห ทกฺขิณทาํ ปูเชถ, ทกฺขิณกฺขกํ ปน มยฺหํ เทถา’ติ. เอวฺจ นํ วเทหิ – ‘กสฺมา ตฺวํ, มหาราช, อมฺเห ตมฺพปณฺณิทีปํ ปหิณิตฺวา ปมชฺชสี’’’ติ?

‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ โข สุมโน เถรสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตาวเทว ปตฺตจีวรมาทาย เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ปาฏลิปุตฺตทฺวาเร โอรุยฺห รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. ราชา ตุฏฺโ สามเณรสฺส หตฺถโต ปตฺตํ คเหตฺวา คนฺเธหิ อุพฺพฏฺเฏตฺวา วรมุตฺตสทิสานํ ธาตูนํ ปูเรตฺวา อทาสิ. โส ตํ คเหตฺวา สกฺกํ เทวราชานํ อุปสงฺกมิ. สกฺโก เทวราชา สามเณรํ ทิสฺวาว ‘‘กึ, ภนฺเต สุมน, อาหิณฺฑสี’’ติ อาห. ‘‘ตฺวํ, มหาราช, อมฺเห ตมฺพปณฺณิทีปํ เปเสตฺวา กสฺมา ปมชฺชสี’’ติ? ‘‘นปฺปมชฺชามิ, ภนฺเต, วเทหิ – ‘กึ กโรมี’’’ติ? ‘‘ตุมฺหากํ กิร หตฺเถ ทฺเว ธาตุโย อตฺถิ – ทกฺขิณทาา จ ทกฺขิณกฺขกฺจ; ตโต ตุมฺเห ทกฺขิณทาํ ปูเชถ, ทกฺขิณกฺขกํ ปน มยฺหํ เทถา’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ โข สกฺโก เทวานมินฺโท โยชนปฺปมาณํ มณิถูปํ อุคฺฆาเฏตฺวา ทกฺขิณกฺขกธาตุํ นีหริตฺวา สุมนสฺส อทาสิ. โส ตํ คเหตฺวา เจติยคิริมฺหิเยว ปติฏฺาสิ.

อถ โข มหินฺทปมุขา สพฺเพปิ เต มหานาคา อโสกธมฺมราเชน ทินฺนธาตุโย เจติยคิริมฺหิเยว ปติฏฺาเปตฺวา ทกฺขิณกฺขกํ อาทาย วฑฺฒมานกจฺฉายาย มหานาควนุยฺยานมคมํสุ. ราชาปิ โข สุมเนน วุตฺตปฺปการํ ปูชาสกฺการํ กตฺวา หตฺถิกฺขนฺธวรคโต สยํ มงฺคลหตฺถิมตฺถเก เสตจฺฉตฺตํ ธารยมาโน มหานาควนํ สมฺปาปุณิ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สเจ อยํ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ธาตุ, ฉตฺตํ อปนมตุ, มงฺคลหตฺถี ชณฺณุเกหิ ภูมิยํ ปติฏฺหตุ, ธาตุจงฺโกฏกํ มยฺหํ มตฺถเก ปติฏฺาตู’’ติ. สห รฺโ จิตฺตุปฺปาเทน ฉตฺตํ อปนมิ, หตฺถี ชณฺณุเกหิ ปติฏฺหิ, ธาตุจงฺโกฏกํ รฺโ มตฺถเก ปติฏฺหิ. ราชา อมเตเนว อภิสิตฺตคตฺโต วิย ปรเมน ปีติปาโมชฺเชน สมนฺนาคโต หุตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘ธาตุํ, ภนฺเต, กึ กโรมา’’ติ? ‘‘หตฺถิกุมฺภมฺหิเยว ตาว, มหาราช, เปหี’’ติ. ราชา ธาตุจงฺโกฏกํ คเหตฺวา หตฺถิกุมฺเภ เปสิ. ปมุทิโต นาโค โกฺจนาทํ นทิ. มหาเมโฆ อุฏฺหิตฺวา โปกฺขรวสฺสํ วสฺสิ. อุทกปริยนฺตํ กตฺวา มหาภูมิจาโล อโหสิ. ‘‘ปจฺจนฺเตปิ นาม สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ธาตุ ปติฏฺหิสฺสตี’’ติ เทวมนุสฺสา ปโมทึสุ. เอวํ อิทฺธานุภาวสิริยา เทวมนุสฺสานํ ปีตึ ชนยนฺโต –

ปุณฺณมายํ มหาวีโร, จาตุมาสินิยา อิธ;

อาคนฺตฺวา เทวโลกมฺหา, หตฺถิกุมฺเภ ปติฏฺิโตติ.

อถสฺส โส หตฺถินาโค อเนกตาฬาวจรปริวาริโต อติวิย อุฬาเรน ปูชาสกฺกาเรน สกฺกริยมาโน ปจฺฉิมทิสาภิมุโขว หุตฺวา, อปสกฺกนฺโต ยาว นครสฺส ปุรตฺถิมทฺวารํ ตาว คนฺตฺวา ปุรตฺถิเมน ทฺวาเรน นครํ ปวิสิตฺวา สกลนาคเรน อุฬาราย ปูชาย กรียมานาย ทกฺขิณทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา ถูปารามสฺส ปจฺฉิมทิสาภาเค มเหชวตฺถุ นาม กิร อตฺถิ, ตตฺถ คนฺตฺวา ปุน ถูปารามาภิมุโขเยว ปฏินิวตฺติ. เตน จ สมเยน ถูปาราเม ปุริมกานํ ติณฺณํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ ปริโภคเจติยฏฺานํ โหติ.

อตีเต กิร อยํ ทีโป โอชทีโป นาม อโหสิ, ราชา อภโย นาม, นครํ อภยปุรํ นาม, เจติยปพฺพโต เทวกูฏปพฺพโต นาม, ถูปาราโม ปฏิยาราโม นาม. เตน โข ปน สมเยน กกุสนฺโธ ภควา โลเก อุปฺปนฺโน โหติ. ตสฺส สาวโก มหาเทโว นาม เถโร ภิกฺขุสหสฺเสน สทฺธึ เทวกูเฏ ปติฏฺาสิ, มหินฺทตฺเถโร วิย เจติยปพฺพเต. เตน โข ปน สมเยน โอชทีเป สตฺตา ปชฺชรเกน อนยพฺยสนํ อาปชฺชนฺติ. อทฺทสา โข กกุสนฺโธ ภควา พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โอโลเกนฺโต เต สตฺเต อนยพฺยสนมาปชฺชนฺเต. ทิสฺวา จตฺตาลีสาย ภิกฺขุสหสฺเสหิ ปริวุโต อคมาสิ. ตสฺสานุภาเวน ตาวเทว ปชฺชรโก วูปสนฺโต. โรเค วูปสนฺเต ภควา ธมฺมํ เทเสสิ. จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ. ภควา ธมกรณํ ทตฺวา ปกฺกามิ. ตํ อนฺโต ปกฺขิปิตฺวา ปฏิยาราเม เจติยํ อกํสุ. มหาเทโว ทีปํ อนุสาสนฺโต วิหาสิ.

โกณาคมนสฺส ปน ภควโต กาเล อยํ ทีโป วรทีโป นาม อโหสิ, ราชา สเมณฺฑี นาม, นครํ วฑฺฒมานํ นาม, ปพฺพโต สุวณฺณกูโฏ นาม. เตน โข ปน สมเยน วรทีเป ทุพฺพุฏฺิกา โหติ ทุพฺภิกฺขํ ทุสฺสสฺสํ. สตฺตา ฉาตกโรเคน อนยพฺยสนํ อาปชฺชนฺติ. อทฺทสา โข โกณาคมโน ภควา พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โอโลเกนฺโต เต สตฺเต อนยพฺยสนํ อาปชฺชนฺเต. ทิสฺวา ตึสภิกฺขุสหสฺสปริวุโต อคมาสิ. พุทฺธานุภาเวน เทโว สมฺมาธารํ อนุปฺปเวจฺฉิ. สุภิกฺขํ อโหสิ. ภควา ธมฺมํ เทเสสิ. จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ. ภควา ภิกฺขุสหสฺสปริวารํ มหาสุมนํ นาม เถรํ ทีเป เปตฺวา กายพนฺธนํ ทตฺวา ปกฺกามิ. ตํ อนฺโต ปกฺขิปิตฺวา เจติยํ อกํสุ.

กสฺสปสฺส ปน ภควโต กาเล อยํ ทีโป มณฺฑทีโป นาม อโหสิ, ราชา ชยนฺโต นาม, นครํ วิสาลํ นาม, ปพฺพโต สุภกูโฏ นาม. เตน โข ปน สมเยน มณฺฑทีเป มหาวิวาโท โหติ. พหู สตฺตา กลหวิคฺคหชาตา อนยพฺยสนํ อาปชฺชนฺติ. อทฺทสา โข กสฺสโป ภควา พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โอโลเกนฺโต เต สตฺเต อนยพฺยสนํ อาปชฺชนฺเต. ทิสฺวา วีสติภิกฺขุสหสฺสปริวุโต อาคนฺตฺวา วิวาทํ วูปสเมตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ. จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ. ภควา ภิกฺขุสหสฺสปริวารํ สพฺพนนฺทํ นาม เถรํ ทีเป ปติฏฺาเปตฺวา อุทกสาฏกํ ทตฺวา ปกฺกามิ. ตํ อนฺโต ปกฺขิปิตฺวา เจติยํ อกํสุ. เอวํ ถูปาราเม ปุริมกานํ ติณฺณํ พุทฺธานํ เจติยานิ ปติฏฺหึสุ. ตานิ สาสนนฺตรธาเนน นสฺสนฺติ, านมตฺตํ อวสิสฺสติ. ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘เตน จ สมเยน ถูปาราเม ปุริมกานํ ติณฺณํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ ปริโภคเจติยฏฺานํ โหตี’’ติ. ตเทตํ วินฏฺเสุ เจติเยสุ เทวตานุภาเวน กณฺฏกสมากิณฺณสาเขหิ นานาคจฺเฉหิ ปริวุตํ ติฏฺติ – ‘‘มา นํ โกจิ อุจฺฉิฏฺาสุจิมลกจวเรหิ ปทูเสสี’’ติ.

อถ ขฺวสฺส หตฺถิโน ปุรโต ปุรโต คนฺตฺวา ราชปุริสา สพฺพคจฺเฉ ฉินฺทิตฺวา ภูมึ โสเธตฺวา ตํ หตฺถตลสทิสํ อกํสุ. หตฺถินาโค คนฺตฺวา ตํ านํ ปุรโต กตฺวา ตสฺส ปจฺฉิมทิสาภาเค โพธิรุกฺขฏฺาเน อฏฺาสิ. อถสฺส มตฺถกโต ธาตุํ โอโรเปตุํ อารภึสุ. นาโค โอโรเปตุํ น เทติ. ราชา เถรํ ปุจฺฉิ – ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, นาโค ธาตุํ โอโรเปตุํ น เทตี’’ติ? ‘‘อารูฬฺหํ, มหาราช, โอโรเปตุํ น วฏฺฏตี’’ติ. ตสฺมิฺจ กาเล อภยวาปิยา อุทกํ ฉินฺนํ โหติ. สมนฺตา ภูมิ ผลิตา โหติ, สุอุทฺธรา มตฺติกาปิณฺฑา. ตโต มหาชโน สีฆํ สีฆํ มตฺติกํ อาหริตฺวา หตฺถิกุมฺภปฺปมาณํ วตฺถุมกาสิ. ตาวเทว จ ถูปกรณตฺถํ อิฏฺกา กาตุํ อารภึสุ. น ยาว อิฏฺกา ปรินิฏฺนฺติ ตาว หตฺถินาโค กติปาหํ ทิวา โพธิรุกฺขฏฺาเน หตฺถิสาลายํ ติฏฺติ, รตฺตึ ถูปปติฏฺานภูมึ ปริยายติ. อถ วตฺถุํ จินาเปตฺวา ราชา เถรํ ปุจฺฉิ – ‘‘กีทิโส, ภนฺเต, ถูโป กาตพฺโพ’’ติ? ‘‘วีหิราสิสทิโส, มหาราชา’’ติ.

‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ ราชา ชงฺฆปฺปมาณํ ถูปํ จินาเปตฺวา ธาตุโอโรปนตฺถาย มหาสกฺการํ กาเรสิ. สกลนครฺจ ชนปโท จ ธาตุมหทสฺสนตฺถํ สนฺนิปติ. สนฺนิปติเต จ ปน ตสฺมึ มหาชนกาเย ทสพลสฺส ธาตุ หตฺถิกุมฺภโต สตฺตตาลปฺปมาณํ เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ยมกปาฏิหาริยํ ทสฺเสสิ. เตหิ เตหิ ธาตุปฺปเทเสหิ ฉนฺนํ วณฺณานํ อุทกธารา จ อคฺคิกฺขนฺธา จ ปวตฺตนฺติ, สาวตฺถิยํ กณฺฑมฺพมูเล ภควตา ทสฺสิตปาฏิหาริยสทิสเมว ปาฏิหาริยํ อโหสิ. ตฺจ โข เนว เถรานุภาเวน, น เทวตานุภาเวน; อปิจ โข พุทฺธานุภาเวเนว. ภควา กิร ธรมาโนว อธิฏฺาสิ – ‘‘มยิ ปรินิพฺพุเต ตมฺพปณฺณิทีเป อนุราธปุรสฺส ทกฺขิณทิสาภาเค ปุริมกานํ ติณฺณํ พุทฺธานํ ปริโภคเจติยฏฺาเน มม ทกฺขิณกฺขกธาตุ ปติฏฺานทิวเส ยมกปาฏิหาริยํ โหตู’’ติ.

‘‘เอวํ อจินฺติยา พุทฺธา, พุทฺธธมฺมา อจินฺติยา;

อจินฺติเย ปสนฺนานํ, วิปาโก โหติ อจินฺติโย’’ติ. (อป. เถร ๑.๑.๘๒);

สมฺมาสมฺพุทฺโธ กิร อิมํ ทีปํ ธรมานกาเลปิ ติกฺขตฺตุํ อาคมาสิ. ปมํ – ยกฺขทมนตฺถํ เอกโกว อาคนฺตฺวา ยกฺเข ทเมตฺวา ‘‘มยิ ปรินิพฺพุเต อิมสฺมึ ทีเป สาสนํ ปติฏฺหิสฺสตี’’ติ ตมฺพปณฺณิทีเป รกฺขํ กโรนฺโต ติกฺขตฺตุํ ทีปํ อาวิชฺชิ. ทุติยํ – มาตุลภาคิเนยฺยานํ นาคราชูนํ ทมนตฺถาย เอกโกว อาคนฺตฺวา เต ทเมตฺวา อคมาสิ. ตติยํ – ปฺจภิกฺขุสตปริวาโร อาคนฺตฺวา มหาเจติยฏฺาเน จ ถูปารามเจติยฏฺาเน จ มหาโพธิปติฏฺิตฏฺาเน จ มหิยงฺคณเจติยฏฺาเน จ มุติยงฺคณเจติยฏฺาเน จ ทีฆวาปิเจติยฏฺาเน จ กลฺยาณิยเจติยฏฺาเน จ นิโรธสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา นิสีทิ. อิทมสฺส จตุตฺถํ ธาตุสรีเรน อาคมนํ.

ธาตุสรีรโต จ ปนสฺส นิกฺขนฺตอุทกผุสิเตหิ สกลตมฺพปณฺณิตเล น โกจิ อผุฏฺโกาโส นาม อโหสิ. เอวมสฺส ตํ ธาตุสรีรํ อุทกผุสิเตหิ ตมฺพปณฺณิตลสฺส ปริฬาหํ วูปสเมตฺวา มหาชนสฺส ปาฏิหาริยํ ทสฺเสตฺวา โอตริตฺวา รฺโ มตฺถเก ปติฏฺาสิ. ราชา สผลํ มนุสฺสปฏิลาภํ มฺมาโน มหนฺตํ สกฺการํ กริตฺวา ธาตุํ ปติฏฺาเปสิ. สห ธาตุปติฏฺาปเนน มหาภูมิจาโล อโหสิ. ตสฺมิฺจ ปน ธาตุปาฏิหาริเย จิตฺตํ ปสาเทตฺวา รฺโ ภาตา อภโย นาม ราชกุมาโร ปุริสสหสฺเสน สทฺธึ ปพฺพชิ. เจตรฏฺคามโต ปฺจ ทารกสตานิ ปพฺพชึสุ, ตถา ทฺวารมณฺฑลาทีหิ คามเกหิ นิกฺขมิตฺวา ปฺจปฺจ ทารกสตานิ สพฺพานิปิ อนฺโตนครโต จ พหินครโต จ ปพฺพชิตานิ ตึสภิกฺขุสหสฺสานิ อเหสุํ. นิฏฺิเต ปน ถูปสฺมึ ราชา จ ราชภาติกา จ เทวิโย จ เทวนาคยกฺขานมฺปิ วิมฺหยกรํ ปจฺเจกํ ปจฺเจกํ ปูชํ อกํสุ. นิฏฺิตาย ปน ธาตุปูชาย ปติฏฺิเต ธาตุวเร มหินฺทตฺเถโร เมฆวนุยฺยานเมว คนฺตฺวา วาสํ กปฺเปสิ.

ตสฺมึ โข ปน สมเย อนุฬา เทวี ปพฺพชิตุกามา หุตฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ตสฺสา วจนํ สุตฺวา เถรํ เอตทโวจ – ‘‘อนุฬา, ภนฺเต, เทวี ปพฺพชิตุกามา, ปพฺพาเชถ น’’นฺติ. ‘‘น, มหาราช, อมฺหากํ มาตุคามํ ปพฺพาเชตุํ กปฺปติ. ปาฏลิปุตฺเต ปน มยฺหํ ภคินี สงฺฆมิตฺตตฺเถรี นาม อตฺถิ, ตํ ปกฺโกสาเปหิ. อิมสฺมิฺจ ปน, มหาราช, ทีเป ปุริมกานํ ติณฺณํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ โพธิ ปติฏฺาสิ. อมฺหากมฺปิ ภควโต สรสรํสิชาลวิสฺสชฺชนเกน โพธินา อิธ ปติฏฺาตพฺพํ, ตสฺมา ตถา สาสนํ ปหิเณยฺยาสิ ยถา สงฺฆมิตฺตา โพธึ คเหตฺวา อาคจฺเฉยฺยา’’ติ.

‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ ราชา เถรสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อมจฺเจหิ สทฺธึ มนฺเตนฺโต อริฏฺํ นาม อตฺตโน ภาคิเนยฺยํ อาห – ‘‘สกฺขิสฺสสิ ตฺวํ, ตาต, ปาฏลิปุตฺตํ คนฺตฺวา มหาโพธินา สทฺธึ อยฺยํ สงฺฆมิตฺตตฺเถรึ อาเนตุ’’นฺติ? ‘‘สกฺขิสฺสามิ, เทว, สเจ เม ปพฺพชฺชํ อนุชานิสฺสสี’’ติ. ‘‘คจฺฉ, ตาต, เถรึ อาเนตฺวา ปพฺพชาหี’’ติ. โส รฺโ จ เถรสฺส จ สาสนํ คเหตฺวา เถรสฺส อธิฏฺานวเสน เอกทิวเสเนว ชมฺพุโกลปฏฺฏนํ คนฺตฺวา นาวํ อภิรุหิตฺวา สมุทฺทํ อติกฺกมิตฺวา ปาฏลิปุตฺตเมว อคมาสิ. อนุฬาปิ โข เทวี ปฺจหิ กฺาสเตหิ ปฺจหิ จ อนฺเตปุริกาสเตหิ สทฺธึ ทส สีลานิ สมาทิยิตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา นครสฺส เอกเทเส อุปสฺสยํ การาเปตฺวา นิวาสํ กปฺเปสิ. อริฏฺโปิ ตํทิวสเมว รฺโ สาสนํ อปฺเปสิ, เอวฺจ อโวจ – ‘‘ปุตฺโต เต, เทว, มหินฺทตฺเถโร เอวมาห – ‘สหายกสฺส กิร เต เทวานมฺปิยติสฺสสฺส รฺโ ภาตุ ชายา อนุฬา นาม เทวี ปพฺพชิตุกามา, ตํ ปพฺพาเชตุํ อยฺยํ สงฺฆมิตฺตตฺเถรึ ปหิณถ, อยฺยาเยว จ สทฺธึ มหาโพธิ’’’นฺติ. เถรสฺส สาสนํ อาโรเจตฺวา สงฺฆมิตฺตตฺเถรึ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาห – ‘‘อยฺเย, ตุมฺหากํ ภาตา มหินฺทตฺเถโร มํ ตุมฺหากํ สนฺติกํ เปเสสิ, เทวานมฺปิยติสฺสสฺส รฺโ ภาตุ ชายา อนุฬา นาม เทวี ปฺจหิ กฺาสเตหิ, ปฺจหิ จ อนฺเตปุริกาสเตหิ สทฺธึ ปพฺพชิตุกามา, ตํ กิร อาคนฺตฺวา ปพฺพาเชถา’’ติ. สา ตาวเทว ตุริตตุริตา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา เอวมาห – ‘‘มหาราช, มยฺหํ ภาตา มหินฺทตฺเถโร เอวํ ปหิณิ, ‘รฺโ กิร ภาตุ ชายา อนุฬา นาม เทวี ปฺจหิ กฺาสเตหิ ปฺจหิ จ อนฺเตปุริกาสเตหิ สทฺธึ ปพฺพชิตุกามา มยฺหํ อาคมนํ อุทิกฺขติ’. คจฺฉามหํ, มหาราช, ตมฺพปณฺณิทีป’’นฺติ.

ราชา อาห – ‘‘อมฺม, ปุตฺโตปิ เม มหินฺทตฺเถโร นตฺตา จ เม สุมนสามเณโร มํ ฉินฺนหตฺถํ วิย กโรนฺตา ตมฺพปณฺณิทีปํ คตา. ตสฺส มยฺหํ เตปิ อปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺโน โสโก ตว มุขํ ปสฺสนฺตสฺส วูปสมฺมติ! อลํ, อมฺม, มา ตฺวํ อคมาสี’’ติ. ‘‘ภาริยํ เม, มหาราช, ภาตุ วจนํ; อนุฬาปิ ขตฺติยา อิตฺถิสหสฺสปริวุตา ปพฺพชฺชาปุเรกฺขารา มํ ปฏิมาเนติ; คจฺฉามหํ, มหาราชา’’ติ. ‘‘เตน หิ, อมฺม, มหาโพธึ คเหตฺวา คจฺฉาหี’’ติ. กุโต รฺโ มหาโพธิ? ราชา กิร ตโต ปุพฺเพ เอว ธาตุคฺคหณตฺถาย อนาคเต สุมเน ลงฺกาทีปํ มหาโพธึ เปเสตุกาโม, ‘‘กถํ นุ โข อสตฺถฆาตารหํ มหาโพธึ เปเสสฺสามี’’ติ อุปายํ อปสฺสนฺโต มหาเทวํ นาม อมจฺจํ ปุจฺฉิ. โส อาห – ‘‘สนฺติ, เทว, พหู ปณฺฑิตา ภิกฺขู’’ติ. ตํ สุตฺวา ราชา ภิกฺขุสงฺฆสฺส ภตฺตํ ปฏิยาเทตฺวา ภตฺตกิจฺจาวสาเน สงฺฆํ ปุจฺฉิ – ‘‘คนฺตพฺพํ นุ โข, ภนฺเต, ภควโต มหาโพธินา ลงฺกาทีปํ โน’’ติ? สงฺโฆ โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถรสฺส ภารํ อกาสิ.

เถโร ‘‘คนฺตพฺพํ, มหาราช, มหาโพธินา ลงฺกาทีป’’นฺติ วตฺวา ภควโต ปฺจ มหาอธิฏฺานานิ กเถสิ. กตมานิ ปฺจ? ภควา กิร มหาปรินิพฺพานมฺเจ นิปนฺโน ลงฺกาทีเป มหาโพธิปติฏฺาปนตฺถาย ‘‘อโสกมหาราชา มหาโพธิคฺคหณตฺถํ คมิสฺสติ, ตทา มหาโพธิสฺส ทกฺขิณสาขา สยเมว ฉิชฺชิตฺวา สุวณฺณกฏาเห ปติฏฺาตู’’ติ อธิฏฺาสิ – อิทเมกมธิฏฺานํ.

ตตฺถ ปติฏฺานกาเล จ ‘‘มหาโพธิ หิมวลาหกคพฺภํ ปวิสิตฺวา ปติฏฺาตู’’ติ อธิฏฺาสิ – อิทํ ทุติยมธิฏฺานํ.

‘‘สตฺตเม ทิวเส หิมวลาหกคพฺภโต โอรุยฺห สุวณฺณกฏาเห ปติฏฺหนฺโต ปตฺเตหิ จ ผเลหิ จ ฉพฺพณฺณรํสิโย มุฺจตู’’ติ อธิฏฺาสิ – อิทํ ตติยมธิฏฺานํ.

‘‘ถูปาราเม ทกฺขิณกฺขกธาตุ เจติยมฺหิ ปติฏฺานทิวเส ยมกปาฏิหาริยํ กโรตู’’ติ อธิฏฺาสิ – อิทํ จตุตฺถํ อธิฏฺานํ.

ลงฺกาทีปมฺหิเยว เม โทณมตฺตา ธาตุโย มหาเจติยมฺหิ ปติฏฺานกาเล พุทฺธเวสํ คเหตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ยมกปาฏิหาริยํ กโรนฺตู’’ติ อธิฏฺาสิ – อิทํ ปฺจมํ อธิฏฺานนฺติ.

ราชา อิมานิ ปฺจ มหาอธิฏฺานานิ สุตฺวา ปสนฺนจิตฺโต ปาฏลิปุตฺตโต ยาว มหาโพธิ ตาว มคฺคํ ปฏิชคฺคาเปตฺวา สุวณฺณกฏาหตฺถาย พหุํ สุวณฺณํ นีหราเปสิ. ตาวเทว จ รฺโ จิตฺตํ ตฺวา วิสฺสกมฺมเทวปุตฺโต กมฺมารวณฺณํ นิมฺมินิตฺวา ปุรโต อฏฺาสิ. ราชา ตํ ทิสฺวา ‘‘ตาต, อิมํ สุวณฺณํ คเหตฺวา กฏาหํ กโรหี’’ติ อาห. ‘‘ปมาณํ, เทว, ชานาถา’’ติ? ‘‘ตฺวเมว, ตาต, ตฺวา กโรหี’’ติ. ‘‘สาธุ, เทว, กริสฺสามี’’ติ สุวณฺณํ คเหตฺวา อตฺตโน อานุภาเวน หตฺเถน ปริมชฺชิตฺวา สุวณฺณกฏาหํ นิมฺมินิ นวหตฺถปริกฺเขปํ ปฺจหตฺถุพฺเพธํ ติหตฺถวิกฺขมฺภํ อฏฺงฺคุลพหลํ หตฺถิโสณฺฑปฺปมาณมุขวฏฺฏึ. อถ ราชา สตฺตโยชนายามาย ติโยชนวิตฺถาราย มหติยา เสนาย ปาฏลิปุตฺตโต นิกฺขมิตฺวา อริยสงฺฆมาทาย มหาโพธิสมีปํ อคมาสิ. เสนา สมุสฺสิตธชปฏากํ นานารตนวิจิตฺตํ อเนกาลงฺการปอมณฺฑิตํ นานาวิธกุสุมสมากิณฺณํ อเนกตูริยสงฺฆุฏฺํ มหาโพธึ ปริกฺขิปิ. ราชา สหสฺสมตฺเต คณปาโมกฺเข มหาเถเร คเหตฺวา สกลชมฺพุทีเป ปตฺตาภิเสกานํ ราชูนํ สหสฺเสน อตฺตานฺจ มหาโพธิฺจ ปริวาราเปตฺวา มหาโพธิมูเล ตฺวา มหาโพธึ อุลฺโลเกสิ. มหาโพธิสฺส ขนฺธฺจ ทกฺขิณมหาสาขาย จตุหตฺถปฺปมาณปฺปเทสฺจ เปตฺวา อวเสสํ อทสฺสนํ อคมาสิ.

ราชา ตํ ปาฏิหาริยํ ทิสฺวา อุปฺปนฺนปีติปาโมชฺโช ‘‘อหํ, ภนฺเต, อิมํ ปาฏิหาริยํ ทิสฺวา ตุฏฺโ มหาโพธึ สกลชมฺพุทีปรชฺเชน ปูเชมี’’ติ ภิกฺขุสงฺฆสฺส วตฺวา อภิเสกํ อทาสิ. ตโต ปุปฺผคนฺธาทีหิ ปูเชตฺวา ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อฏฺสุ าเนสุ วนฺทิตฺวา อุฏฺาย อฺชลึ ปคฺคยฺห ตฺวา สจฺจวจนกิริยาย โพธึ คณฺหิตุกาโม ภูมิโต ยาว มหาโพธิสฺส ทกฺขิณสาขา ตาว อุจฺจํ กตฺวา ปิตสฺส สพฺพรตนมยปีสฺส อุปริ สุวณฺณกฏาหํ ปาเปตฺวา รตนปีํ อารุยฺห สุวณฺณตุลิกํ คเหตฺวา มโนสิลาย เลขํ กตฺวา ‘‘ยทิ มหาโพธินา ลงฺกาทีเป ปติฏฺาตพฺพํ, ยทิ จาหํ พุทฺธสาสเน นิพฺเพมติโก ภเวยฺยํ, มหาโพธิ สยเมว อิมสฺมึ สุวณฺณกฏาเห โอรุยฺห ปติฏฺาตู’’ติ สจฺจวจนกิริยมกาสิ. สห สจฺจกิริยาย โพธิสาขา มโนสิลาย ปริจฺฉินฺนฏฺาเน ฉิชฺชิตฺวา คนฺธกลลปูรสฺส สุวณฺณกฏาหสฺส อุปริ อฏฺาสิ. ตสฺส อุพฺเพเธน ทสหตฺโถ ขนฺโธ โหติ จตุหตฺถา ปฺจ มหาสาขา ปฺจหิเยว ผเลหิ ปฏิมณฺฑิตา, ขุทฺทกสาขานํ ปน สหสฺสํ. อถ ราชา มูลเลขาย อุปริ ติวงฺคุลปฺปเทเส อฺํ เลขํ ปริจฺฉินฺทิ. ตโต ตาวเทว ปุปฺผุฬกา หุตฺวา ทส มหามูลานิ นิกฺขมึสุ. ปุน อุปรูปริ ติวงฺคุเล ติวงฺคุเล อฺา นว เลขา ปริจฺฉินฺทิ. ตาหิปิ ทส ทส ปุปฺผุฬกา หุตฺวา นวุติ มูลานิ นิกฺขมึสุ. ปมกา ทส มหามูลา จตุรงฺคุลมตฺตํ นิกฺขนฺตา. อิตเรปิ ควกฺขชาลสทิสํ อนุสิพฺพนฺตา นิกฺขนฺตา. เอตฺตกํ ปาฏิหาริยํ ราชา รตนปีมตฺถเก ิโตเยว ทิสฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห มหานาทํ นทิ. อเนกานิ ภิกฺขุสหสฺสานิ สาธุการมกํสุ. สกลราชเสนา อุนฺนาทินี อโหสิ. เจลุกฺเขปสตสหสฺสานิ ปวตฺตยึสุ. ภูมฏฺกเทเว อาทึ กตฺวา ยาว พฺรหฺมกายิกา เทวา ตาว สาธุการํ ปวตฺตยึสุ. รฺโ อิมํ ปาฏิหาริยํ ปสฺสนฺตสฺส ปีติยา นิรนฺตรํ ผุฏสรีรสฺส อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ิตสฺเสว มหาโพธิ มูลสเตน สุวณฺณกฏาเห ปติฏฺาสิ. ทส มหามูลานิ สุวณฺณกฏาหตลํ อาหจฺจ อฏฺํสุ. อวเสสานิ นวุติ ขุทฺทกมูลานิ อนุปุพฺเพน วฑฺฒนกานิ หุตฺวา คนฺธกลเล โอรุยฺห ิตานิ.

เอวํ สุวณฺณกฏาเห ปติฏฺิตมตฺเต มหาโพธิมฺหิ มหาปถวี จลิ. อากาเส เทวทุนฺทุภิโย ผลึสุ. ปพฺพตานํ นจฺเจหิ เทวานํ สาธุกาเรหิ ยกฺขานํ หิงฺกาเรหิ อสุรานํ ถุติชปฺเปหิ พฺรหฺมานํ อปฺโผฏเนหิ เมฆานํ คชฺชิเตหิ จตุปฺปทานํ รเวหิ ปกฺขีนํ รุเตหิ สพฺพตาฬาวจรานํ สกสกปฏิภาเนหิ ปถวีตลโต ยาว พฺรหฺมโลกา ตาว เอกโกลาหลํ เอกนินฺนาทํ อโหสิ. ปฺจสุ สาขาสุ ผลโต ผลโต ฉพฺพณฺณรํสิโย นิกฺขมิตฺวา สกลจกฺกวาฬํ รตนโคปานสีวินทฺธํ วิย กุรุมานา ยาว พฺรหฺมโลกา อพฺภุคฺคจฺฉึสุ. ตํ ขณโต จ ปน ปภุติ สตฺต ทิวสานิ มหาโพธิ หิมวลาหกคพฺภํ ปวิสิตฺวา อฏฺาสิ. น โกจิ มหาโพธึ ปสฺสติ. ราชา รตนปีโต โอรุยฺห สตฺต ทิวสานิ มหาโพธิปูชํ กาเรสิ. สตฺตเม ทิวเส สพฺพทิสาหิ หิมา จ ฉพฺพณฺณรํสิโย จ อาวตฺติตฺวา มหาโพธิเมว ปวิสึสุ. วิคตหิมวลาหเก วิปฺปสนฺเน จกฺกวาฬคพฺเภ มหาโพธิ ปริปุณฺณขนฺธสาขาปสาโข ปฺจผลปฏิมณฺฑิโต สุวณฺณกฏาเห ปติฏฺิโตว ปฺายิตฺถ. ราชา มหาโพธึ ทิสฺวา เตหิ ปาฏิหาริเยหิ สฺชาตปีติปาโมชฺโช ‘‘สกลชมฺพุทีปรชฺเชน ตรุณมหาโพธึ ปูเชสฺสามี’’ติ อภิเสกํ ทตฺวา สตฺต ทิวสานิ มหาโพธิฏฺาเนเยว อฏฺาสิ.

มหาโพธิ ปุพฺพกตฺติกปวารณาทิวเส สายนฺหสมเย ปมํ สุวณฺณกฏาเห ปติฏฺหิ. ตโต หิมคพฺภสตฺตาหํ อภิเสกสตฺตาหฺจ วีตินาเมตฺวา กาฬปกฺขสฺส อุโปสถทิวเส ราชา เอกทิวเสเนว ปาฏลิปุตฺตํ ปวิสิตฺวา กตฺติกชุณฺหปกฺขสฺส ปาฏิปททิวเส มหาโพธึ ปาจีนมหาสาลมูเล เปสิ. สุวณฺณกฏาเห ปติฏฺิตทิวสโต สตฺตรสเม ทิวเส มหาโพธิสฺส อภินวงฺกุรา ปาตุรเหสุํ. เต ทิสฺวาปิ ปสนฺโน ราชา ปุน มหาโพธึ รชฺเชน ปูเชนฺโต สกลชมฺพุทีปาภิเสกมทาสิ. ตทา สุมนสามเณโร กตฺติกปุณฺณมทิวเส ธาตุคฺคหณตฺถํ คโต มหาโพธิสฺส กตฺติกฉณปูชํ อทฺทส. เอวํ มหาโพธิมณฺฑโต อาเนตฺวา ปาฏลิปุตฺเต ปิตํ มหาโพธึ สนฺธาย อาห – ‘‘เตน หิ, อมฺม, มหาโพธึ คเหตฺวา คจฺฉาหี’’ติ. สา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ.

ราชา มหาโพธิรกฺขณตฺถาย อฏฺารส เทวตากุลานิ, อฏฺ อมจฺจกุลานิ, อฏฺ พฺราหฺมณกุลานิ, อฏฺ กุฏุมฺพิยกุลานิ, อฏฺ โคปกกุลานิ, อฏฺ ตรจฺฉกุลานิ, อฏฺ จ กาลิงฺคกุลานิ ทตฺวา อุทกสิฺจนตฺถาย จ อฏฺ สุวณฺณฆเฏ, อฏฺ จ รชตฆเฏ ทตฺวา อิมินา ปริวาเรน มหาโพธึ คงฺคาย นาวํ อาโรเปตฺวา สยมฺปิ นครโต นิกฺขมิตฺวา วิชฺฌาฏวึ สมติกฺกมฺม อนุปุพฺเพน สตฺตหิ ทิวเสหิ ตามลิตฺตึ อนุปฺปตฺโต. อนฺตรามคฺเค เทวนาคมนุสฺสา อุฬารํ มหาโพธิปูชํ อกํสุ. ราชาปิ สมุทฺทตีเร สตฺต ทิวสานิ มหาโพธึ เปตฺวา สกลชมฺพุทีปมหารชฺชํ อทาสิ. อิทมสฺส ตติยํ ชมฺพุทีปรชฺชสมฺปทานํ โหติ.

เอวํ มหารชฺเชน ปูเชตฺวา มาคสิรมาสสฺส ปมปาฏิปททิวเส อโสโก ธมฺมราชา มหาโพธึ อุกฺขิปิตฺวา คลปฺปมาณํ อุทกํ โอรุยฺห นาวายํ ปติฏฺาเปตฺวา สงฺฆมิตฺตตฺเถริมฺปิ สปริวารํ นาวํ อาโรเปตฺวา อริฏฺํ อมจฺจํ เอตทโวจ – ‘‘อหํ, ตาต, มหาโพธึ ติกฺขตฺตุํ สกลชมฺพุทีปรชฺเชน ปูเชตฺวา คลปฺปมาณํ อุทกํ โอรุยฺห มม สหายกสฺส เปเสสึ, โสปิ เอวเมว มหาโพธึ ปูเชตู’’ติ. เอวํ สหายกสฺส สาสนํ ทตฺวา ‘‘คจฺฉติ วตเร, ทสพลสฺส สรสรํสิชาลํ วิมุฺจนฺโต มหาโพธิรุกฺโข’’ติ วนฺทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา อสฺสูนิ ปวตฺตยมาโน อฏฺาสิ. สาปิ โข มหาโพธิสมารูฬฺหา นาวา ปสฺสโต ปสฺสโต มหาราชสฺส มหาสมุทฺทตลํ ปกฺขนฺตา. มหาสมุทฺเทปิ สมนฺตา โยชนํ วีจิโย วูปสนฺตา; ปฺจ วณฺณานิ ปทุมานิ ปุปฺผิตานิ; อนฺตลิกฺเข ทิพฺพานิ ตูริยานิ ปวชฺชึสุ; อากาเส ชลชถลชรุกฺขาทิสนฺนิสฺสิตาหิ เทวตาหิ ปวตฺติตา อติวิย อุฬารา ปูชา อโหสิ. สงฺฆมิตฺตตฺเถรีปิ สุปณฺณรูเปน มหาสมุทฺเท นาคกุลานิ สนฺตาเสสิ. เต จ อุตฺรสฺตรูปา นาคา อาคนฺตฺวา ตํ วิภูตึ ปสฺสิตฺวา เถรึ ยาจิตฺวา มหาโพธึ นาคภวนํ อติหริตฺวา สตฺต ทิวสานิ นาครชฺเชน ปูเชตฺวา ปุน นาวายํ ปติฏฺาเปสุํ. ตํทิวสเมว นาวา ชมฺพุโกลปฏฺฏนํ อคมาสิ. อโสกมหาราชาปิ มหาโพธิวิโยคทุกฺขิโต กนฺทิตฺวา โรทิตฺวา ยาว ทสฺสนวิสยํ โอโลเกตฺวา ปฏินิวตฺติ.

เทวานมฺปิยติสฺโส มหาราชาปิ โข สุมนสามเณรสฺส วจเนน มาคสิรมาสสฺส ปมปาฏิปททิวสโต ปภุติ อุตฺตรทฺวารโต ปฏฺาย ยาว ชมฺพุโกลปฏฺฏนํ ตาว มคฺคํ โสธาเปตฺวา อลงฺการาเปตฺวา นครโต นิกฺขมนทิวเส อุตฺตรทฺวารสมีเป สมุทฺทสาลวตฺถุสฺมึ ิโตเยว ตาย วิภูติยา มหาสมุทฺเท อาคจฺฉนฺตํเยว มหาโพธึ เถรสฺส อานุภาเวน ทิสฺวา ตุฏฺมานโส นิกฺขมิตฺวา สพฺพํ มคฺคํ ปฺจวณฺเณหิ ปุปฺเผหิ โอกิราเปนฺโต อนฺตรนฺตเร ปุปฺผอคฺฆิยานิ เปนฺโต เอกาเหเนว ชมฺพุโกลปฏฺฏนํ คนฺตฺวา สพฺพตาฬาวจรปริวุโต ปุปฺผธูมคนฺธวาสาทีหิ ปูชยมาโน คลปฺปมาณํ อุทกํ โอรุยฺห ‘‘อาคโต วตเร, ทสพลสฺส สรสรํสิชาลวิสฺสชฺชนโก มหาโพธิรุกฺโข’’ติ ปสนฺนจิตฺโต มหาโพธึ อุกฺขิปิตฺวา อุตฺตมงฺเค สิรสฺมึ ปติฏฺาเปตฺวา มหาโพธึ ปริวาเรตฺวา อาคเตหิ โสฬสหิ ชาติสมฺปนฺนกุเลหิ สทฺธึ สมุทฺทโต ปจฺจุตฺตริตฺวา สมุทฺทตีเร มหาโพธึ เปตฺวา ตีณิ ทิวสานิ สกลตมฺพปณฺณิทีปรชฺเชน ปูเชสิ, โสฬสนฺนํ ชาติสมฺปนฺนกุลานํ รชฺชํ วิจาเรสิ. อถ จตุตฺเถ ทิวเส มหาโพธึ อาทาย อุฬารํ ปูชํ กุรุมาโน อนุปุพฺเพน อนุราธปุรํ สมฺปตฺโต. อนุราธปุเรปิ มหาสกฺการํ กตฺวา จาตุทฺทสีทิวเส วฑฺฒมานกจฺฉายาย มหาโพธึ อุตฺตรทฺวาเรน ปเวเสตฺวา นครมชฺเฌน อติหรนฺโต ทกฺขิณทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา ทกฺขิณทฺวารโต ปฺจธนุสติเก าเน ยตฺถ อมฺหากํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ นิโรธสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา นิสีทิ, ปุริมกา จ ตโย สมฺมาสมฺพุทฺธา สมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา นิสีทึสุ, ยตฺถ กกุสนฺธสฺส ภควโต มหาสิรีสโพธิ, โกนาคมนสฺส ภควโต อุทุมฺพรโพธิ, กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส จ นิคฺโรธโพธิ ปติฏฺาสิ, ตสฺมึ มหาเมฆวนุยฺยานสฺส ติลกภูเต สุมนสามเณรสฺส วจเนน ปมเมว กตภูมิปริกมฺเม ราชวตฺถุทฺวารโกฏฺกฏฺาเน มหาโพธึ ปติฏฺาเปสิ.

กถํ? ตานิ กิร โพธึ ปริวาเรตฺวา อาคตานิ โสฬส ชาติสมฺปนฺนกุลานิ ราชเวสํ คณฺหึสุ. ราชา โทวาริกเวสํ คณฺหิ. โสฬส กุลานิ มหาโพธึ คเหตฺวา โอโรปยึสุ. มหาโพธิ เตสํ หตฺถโต มุตฺตสมนนฺตรเมว อสีติหตฺถปฺปมาณํ เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ฉพฺพณฺณรํสิโย มุฺจิ. รํสิโย สกลทีปํ ปตฺถริตฺวา อุปริ พฺรหฺมโลกํ อาหจฺจ อฏฺํสุ. มหาโพธิปาฏิหาริยํ ทิสฺวา สฺชาตปฺปสาทานิ ทสปุริสสหสฺสานิ อนุปุพฺพวิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา ปพฺพชึสุ. ยาว สูริยตฺถงฺคมา มหาโพธิ อนฺตลิกฺเข อฏฺาสิ. อตฺถงฺคมิเต ปน สูริเย โรหิณินกฺขตฺเตน ปถวิยํ ปติฏฺาสิ. สห โพธิปติฏฺานา อุทกปริยนฺตํ กตฺวา มหาปถวี อกมฺปิ. ปติฏฺหิตฺวา จ ปน มหาโพธิ สตฺต ทิวสานิ หิมคพฺเภ สนฺนิสีทิ. โลกสฺส อทสฺสนํ อคมาสิ. สตฺตเม ทิวเส วิคตวลาหกํ นภํ อโหสิ. ฉพฺพณฺณรํสิโย ชลนฺตา วิปฺผุรนฺตา นิจฺฉรึสุ. มหาโพธิสฺส ขนฺโธ จ สาขาโย จ ปตฺตานิ จ ปฺจ ผลานิ จ ทสฺสึสุ. มหินฺทตฺเถโร จ สงฺฆมิตฺตตฺเถรี จ ราชา จ สปริวารา มหาโพธิฏฺานเมว อคมํสุ. เยภุยฺเยน จ สพฺเพ ทีปวาสิโน สนฺนิปตึสุ. เตสํ ปสฺสนฺตานํเยว อุตฺตรสาขโต เอกํ ผลํ ปจฺจิตฺวา สาขโต มุจฺจิ. เถโร หตฺถํ อุปนาเมสิ. ผลํ เถรสฺส หตฺเถ ปติฏฺาสิ. ตํ เถโร ‘‘โรปย, มหาราชา’’ติ รฺโ อทาสิ. ราชา คเหตฺวา สุวณฺณกฏาเห มธุรปํสุํ อากิริตฺวา คนฺธกลลํ ปูเรตฺวา โรเปตฺวา มหาโพธิอาสนฺนฏฺาเน เปสิ. สพฺเพสํ ปสฺสนฺตานํเยว จตุหตฺถปฺปมาณา อฏฺ ตรุณโพธิรุกฺขา อุฏฺหึสุ. ราชา ตํ อจฺฉริยํ ทิสฺวา อฏฺ ตรุณโพธิรุกฺเข เสตจฺฉตฺเตน ปูเชตฺวา อภิเสกํ อทาสิ. ตโต เอกํ โพธิรุกฺขํ อาคมนกาเล มหาโพธินา ปมปติฏฺิโตกาเส ชมฺพุโกลปฏฺฏเน โรปยึสุ, เอกํ ตวกฺกพฺราหฺมณสฺส คามทฺวาเร, เอกํ ถูปาราเม, เอกํ อิสฺสรนิมฺมานวิหาเร, เอกํ ปมเจติยฏฺาเน, เอกํ เจติยปพฺพเต, เอกํ โรหณชนปทมฺหิ กาชรคาเม, เอกํ โรหณชนปทมฺหิเยว จนฺทนคาเม. อิตเรสํ จตุนฺนํ ผลานํ พีเชหิ ชาเต ทฺวตฺตึส โพธิตรุเณ โยชนิยอาราเมสุ ปติฏฺาเปสุํ.

เอวํ ปุตฺตนตฺตุปรมฺปราย สมนฺตา ทีปวาสีนํ หิตาย สุขาย ปติฏฺิเต ทสพลสฺส ธมฺมธชภูเต มหาโพธิมฺหิ อนุฬา เทวี ปฺจหิ กฺาสเตหิ ปฺจหิ จ อนฺเตปุริกาสเตหีติ มาตุคามสหสฺเสน สทฺธึ สงฺฆมิตฺตตฺเถริยา สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา นจิรสฺเสว สปริวารา อรหตฺเต ปติฏฺาสิ. อริฏฺโปิ โข รฺโ ภาคิเนยฺโย ปฺจหิ ปุริสสเตหิ สทฺธึ เถรสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา นจิรสฺเสว สปริวาโร อรหตฺเต ปติฏฺาสิ.

อเถกทิวสํ ราชา มหาโพธึ วนฺทิตฺวา เถเรน สทฺธึ ถูปารามํ คจฺฉติ. ตสฺส โลหปาสาทฏฺานํ สมฺปตฺตสฺส ปุริสา ปุปฺผานิ อภิหรึสุ. ราชา เถรสฺส ปุปฺผานิ อทาสิ. เถโร ปุปฺเผหิ โลหปาสาทฏฺานํ ปูเชสิ. ปุปฺเผสุ ภูมิยํ ปติตมตฺเตสุ มหาภูมิจาโล อโหสิ. ราชา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, ภูมิ จลิตา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อิสฺมึ, มหาราช, โอกาเส สงฺฆสฺส อนาคเต อุโปสถาคารํ ภวิสฺสติ, ตสฺเสตํ ปุพฺพนิมิตฺต’’นฺติ.

ราชา ปุน เถเรน สทฺธึ คจฺฉนฺโต อมฺพงฺคณฏฺานํ ปตฺโต. ตตฺถสฺส วณฺณคนฺธสมฺปนฺนํ อติมธุรรสํ เอกํ อมฺพปกฺกํ อาหรียิตฺถ. ราชา ตํ เถรสฺส ปริโภคตฺถาย อทาสิ. เถโร ตตฺเถว ปริภุฺชิตฺวา ‘‘อิทํ เอตฺเถว โรเปถา’’ติ อาห. ราชา ตํ อมฺพฏฺึ คเหตฺวา ตตฺเถว โรเปตฺวา อุทกํ อาสิฺจิ. สห อมฺพพีชโรปเนน ปถวี อกมฺปิ. ราชา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, ปถวี กมฺปิตฺถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อิมสฺมึ, มหาราช, โอกาเส สงฺฆสฺส อนาคเต ‘อมฺพงฺคณํ’ นาม สนฺนิปาตฏฺานํ ภวิสฺสติ, ตสฺเสตํ ปุพฺพนิมิตฺต’’นฺติ.

ราชา ตตฺถ อฏฺ ปุปฺผมุฏฺิโย โอกิริตฺวา วนฺทิตฺวา ปุน เถเรน สทฺธึ คจฺฉนฺโต มหาเจติยฏฺานํ ปตฺโต. ตตฺถสฺส ปุริสา จมฺปกปุปฺผานิ อภิหรึสุ. ตานิ ราชา เถรสฺส อทาสิ. เถโร มหาเจติยฏฺานํ ปุปฺเผหิ ปูเชตฺวา วนฺทิ. ตาวเทว มหาปถวี สงฺกมฺปิ. ราชา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, ปถวี กมฺปิตฺถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อิมสฺมึ, มหาราช, โอกาเส อนาคเต พุทฺธสฺส ภควโต อสทิโส มหาถูโป ภวิสฺสติ, ตสฺเสตํ ปุพฺพนิมิตฺต’’นฺติ. ‘‘อหเมว กโรมิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อลํ, มหาราช, ตุมฺหากํ อฺํ พหุกมฺมํ อตฺถิ, ตุมฺหากํ ปน นตฺตา ทุฏฺคามณี อภโย นาม กาเรสฺสตี’’ติ. อถ ราชา ‘‘สเจ, ภนฺเต, มยฺหํ นตฺตา กริสฺสติ, กตํเยว มยา’’ติ ทฺวาทสหตฺถํ ปาสาณตฺถมฺภํ อาหราเปตฺวา ‘‘เทวานมฺปิยติสฺสสฺส รฺโ นตฺตา ทุฏฺคามณี อภโย นาม อิมสฺมึ ปเทเส ถูปํ กโรตู’’ติ อกฺขรานิ ลิขาเปตฺวา ปติฏฺาเปตฺวา วนฺทิตฺวา เถรํ ปุจฺฉิ – ‘‘ปติฏฺิตํ นุ โข, ภนฺเต, ตมฺพปณฺณิทีเป สาสน’’นฺติ? ‘‘ปติฏฺิตํ, มหาราช, สาสนํ; มูลานิ ปนสฺส น ตาว โอตรนฺตี’’ติ. ‘‘กทา ปน, ภนฺเต มูลานิ โอติณฺณานิ นาม ภวิสฺสนฺตี’’ติ? ‘‘ยทา, มหาราช, ตมฺพปณฺณิทีปกานํ มาตาปิตูนํ ตมฺพปณฺณิทีเป ชาโต ทารโก ตมฺพปณฺณิทีเป ปพฺพชิตฺวา ตมฺพปณฺณิทีปมฺหิเยว วินยํ อุคฺคเหตฺวา ตมฺพปณฺณิทีเป วาเจสฺสติ, ตทา สาสนสฺส มูลานิ โอติณฺณานิ นาม ภวิสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, ภนฺเต, เอทิโส ภิกฺขู’’ติ? ‘‘อตฺถิ, มหาราช, มหาอริฏฺโ ภิกฺขุ ปฏิพโล เอตสฺมึ กมฺเม’’ติ. ‘‘มยา เอตฺถ, ภนฺเต, กึ กตฺตพฺพ’’นฺติ? ‘‘มณฺฑปํ, มหาราช, กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ ราชา เมฆวณฺณาภยสฺส อมจฺจสฺส ปริเวณฏฺาเน มหาสงฺคีติกาเล อชาตสตฺตุมหาราเชน กตมณฺฑปปฺปการํ ราชานุภาเวน มณฺฑปํ กาเรตฺวา สพฺพตาฬาวจเร สกสกสิปฺเปสุ ปโยเชตฺวา ‘‘สาสนสฺส มูลานิ โอตรนฺตานิ ปสฺสิสฺสามี’’ติ อเนกปุริสสหสฺสปริวุโต ถูปารามํ อนุปฺปตฺโต.

เตน โข ปน สมเยน ถูปาราเม อฏฺสฏฺิ ภิกฺขุสหสฺสานิ สนฺนิปตึสุ. มหามหินฺทตฺเถรสฺส อาสนํ ทกฺขิณาภิมุขํ ปฺตฺตํ โหติ. มหาอริฏฺตฺเถรสฺส ธมฺมาสนํ อุตฺตราภิมุขํ ปฺตฺตํ โหติ. อถ โข มหาอริฏฺตฺเถโร มหินฺทตฺเถเรน อชฺฌิฏฺโ อตฺตโน อนุรูเปน ปตฺตานุกฺกเมน ธมฺมาสเน นิสีทิ. มหินฺทตฺเถรปมุขา อฏฺสฏฺิ มหาเถรา ธมฺมาสนํ ปริวาเรตฺวา นิสีทึสุ. รฺโปิ กนิฏฺภาตา มตฺตาภยตฺเถโร นาม ‘‘ธุรคฺคาโห หุตฺวา วินยํ อุคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ มหาอริฏฺตฺเถรสฺส ธมฺมาสนเมว ปริวาเรตฺวา นิสีทิ. อวเสสาปิ ภิกฺขู สราชิกา จ ปริสา อตฺตโน อตฺตโน ปตฺตาสเน นิสีทึสุ.

อถายสฺมา มหาอริฏฺตฺเถโร เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา เวรฺชายํ วิหรติ นเฬรุปุจิมนฺทมูเลติ วินยนิทานํ อภาสิ. ภาสิเต จ ปนายสฺมตา อริฏฺตฺเถเรน วินยนิทาเน อากาสํ มหาวิรวํ รวิ. อกาลวิชฺชุลตา นิจฺฉรึสุ. เทวตา สาธุการํ อทํสุ. มหาปถวี อุทกปริยนฺตํ กตฺวา สงฺกมฺปิ. เอวํ อเนเกสุ ปาฏิหาริเยสุ วตฺตมาเนสุ อายสฺมา อริฏฺตฺเถโร มหามหินฺทปมุเขหิ อฏฺสฏฺิยา ปจฺเจกคณีหิ ขีณาสวมหาเถเรหิ ตทฺเหิ จ อฏฺสฏฺิภิกฺขุสหสฺเสหิ ปริวุโต ปมกตฺติกปวารณาทิวเส ถูปารามวิหารมชฺเฌ สตฺถุ กรุณาคุณทีปกํ ภควโต อนุสิฏฺิกรานํ กายกมฺมวจีกมฺมวิปฺผนฺทิตวินยนํ วินยปิฏกํ ปกาเสสิ. ปกาเสตฺวา จ ยาวตายุกํ ติฏฺมาโน พหูนํ วาเจตฺวา พหูนํ หทเย ปติฏฺาเปตฺวา อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิ. เตปิ โข มหามหินฺทปฺปมุขา ตสฺมึ สมาคเม –

‘‘อฏฺสฏฺิ มหาเถรา, ธุรคฺคาหา สมาคตา;

ปจฺเจกคณิโน สพฺเพ, ธมฺมราชสฺส สาวกา.

‘‘ขีณาสวา วสิปฺปตฺตา, เตวิชฺชา อิทฺธิโกวิทา;

อุตฺตมตฺถมภิฺาย, อนุสาสึสุ ราชิโน.

‘‘อาโลกํ ทสฺสยิตฺวาน, โอภาเสตฺวา มหึ อิมํ;

ชลิตฺวา อคฺคิกฺขนฺธาว, นิพฺพายึสุ มเหสโย’’.

เตสํ ปรินิพฺพานโต อปรภาเค อฺเปิ เตสํ เถรานํ อนฺเตวาสิกา ติสฺสทตฺตกาฬสุมน-ทีฆสุมนาทโย จ มหาอริฏฺตฺเถรสฺส อนฺเตวาสิกา, อนฺเตวาสิกานํ อนฺเตวาสิกา จาติ เอวํ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการา อาจริยปรมฺปรา อิมํ วินยปิฏกํ ยาวชฺชตนา อาเนสุํ. เตน วุตฺตํ –

‘‘ตติยสงฺคหโต ปน อุทฺธํ อิมํ ทีปํ มหินฺทาทีหิ อาภตํ, มหินฺทโต อุคฺคเหตฺวา กฺจิ กาลํ อริฏฺตฺเถราทีหิ อาภตํ, ตโต ยาวชฺชตนา เตสํเยว อนฺเตวาสิกปรมฺปรภูตาย อาจริยปรมฺปราย อาภต’’นฺติ.

กตฺถ ปติฏฺิตนฺติ? เยสํ ปาฬิโต จ อตฺถโต จ อนูนํ วตฺตติ, มณิฆเฏ ปกฺขิตฺตเตลมิว อีสกมฺปิ น ปคฺฆรติ, เอวรูเปสุ อธิมตฺตสติ-คติ-ธิติ-มนฺเตสุ ลชฺชีสุ กุกฺกุจฺจเกสุ สิกฺขากาเมสุ ปุคฺคเลสุ ปติฏฺิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตสฺมา วินยปติฏฺาปนตฺถํ วินยปริยตฺติยา อานิสํสํ สลฺลกฺเขตฺวา สิกฺขากาเมน ภิกฺขุนา วินโย ปริยาปุณิตพฺโพ.

ตตฺรายํ วินยปริยตฺติยา อานิสํโส – วินยปริยตฺติกุสโล หิ ปุคฺคโล สาสเน ปฏิลทฺธสทฺธานํ กุลปุตฺตานํ มาตาปิตุฏฺานิโย โหติ, ตทายตฺตา หิ เนสํ ปพฺพชฺชา อุปสมฺปทา วตฺตานุวตฺตปฏิปตฺติ อาจารโคจรกุสลตา. อปิ จสฺส วินยปริยตฺตึ นิสฺสาย อตฺตโน สีลกฺขนฺโธ สุคุตฺโต โหติ สุรกฺขิโต; กุกฺกุจฺจปกตานํ ภิกฺขูนํ ปฏิสรณํ โหติ; วิสารโท สงฺฆมชฺเฌ โวหรติ; ปจฺจตฺถิเก สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคณฺหาติ; สทฺธมฺมฏฺิติยา ปฏิปนฺโน โหติ. เตนาห ภควา – ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อานิสํสา วินยธเร ปุคฺคเล; อตฺตโน สีลกฺขนฺโธ สุคุตฺโต โหติ สุรกฺขิโต…เป… สทฺธมฺมฏฺิติยา ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ (ปริ. ๓๒๕).

เย จาปิ สํวรมูลกา กุสลา ธมฺมา วุตฺตา ภควตา, วินยธโร ปุคฺคโล เตสํ ทายาโท; วินยมูลกตฺตา เตสํ ธมฺมานํ. วุตฺตมฺปิ เหตํ ภควตา – ‘‘วินโย สํวรตฺถาย, สํวโร อวิปฺปฏิสารตฺถาย, อวิปฺปฏิสาโร ปาโมชฺชตฺถาย, ปาโมชฺชํ ปีตตฺถาย, ปีติ ปสฺสทฺธตฺถาย, ปสฺสทฺธิ สุขตฺถาย, สุขํ สมาธตฺถาย, สมาธิ ยถาภูตาณทสฺสนตฺถาย, ยถาภูตาณทสฺสนํ นิพฺพิทตฺถาย, นิพฺพิทา วิราคตฺถาย, วิราโค วิมุตฺตตฺถาย, วิมุตฺติ วิมุตฺติาณทสฺสนตฺถาย, วิมุตฺติาณทสฺสนํ อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถาย. เอตทตฺถา กถา, เอตทตฺถา มนฺตนา, เอตทตฺถา อุปนิสา, เอตทตฺถํ โสตาวธานํ – ยทิทํ อนุปาทาจิตฺตสฺส วิโมกฺโข’’ติ (ปริ. ๓๖๖). ตสฺมา วินยปริยตฺติยา อาโยโค กรณีโยติ.

เอตฺตาวตา จ ยา สา วินยสํวณฺณนตฺถํ มาติกา ปิตา ตตฺถ –

‘‘วุตฺตํ เยน ยทา ยสฺมา, ธาริตํ เยน จาภตํ;

ยตฺถปฺปติฏฺิตํ เจตเมตํ, วตฺวา วิธึ ตโต’’ติ.

อิมิสฺสา ตาว คาถาย อตฺโถ ปกาสิโต วินยสฺส จ พาหิรนิทานวณฺณนา ยถาธิปฺปายํ สํวณฺณิตา โหตีติ.

ตติยสงฺคีติกถา นิฏฺิตา.

พาหิรนิทานกถา นิฏฺิตา.

เวรฺชกณฺฑวณฺณนา

. อิทานิ

‘‘เตนาติอาทิปาสฺส, อตฺถํ นานปฺปการโต;

ทสฺสยนฺโต กริสฺสามิ, วินยสฺสตฺถวณฺณน’’นฺติ.

วุตฺตตฺตา เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติอาทีนํ อตฺถวณฺณนํ กริสฺสามิ. เสยฺยถิทํ – เตนาติ อนิยมนิทฺเทสวจนํ. ตสฺส สรูเปน อวุตฺเตนปิ อปรภาเค อตฺถโต สิทฺเธน เยนาติ อิมินา วจเนน ปฏินิทฺเทโส กาตพฺโพ. อปรภาเค หิ วินยปฺตฺติยาจนเหตุภูโต อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปริวิตกฺโก สิทฺโธ. ตสฺมา เยน สมเยน โส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ, เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา เวรฺชายํ วิหรตีติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อยฺหิ สพฺพสฺมิมฺปิ วินเย ยุตฺติ, ยทิทํ ยตฺถ ยตฺถ ‘‘เตนา’’ติ วุจฺจติ ตตฺถ ตตฺถ ปุพฺเพ วา ปจฺฉา วา อตฺถโต สิทฺเธน ‘‘เยนา’’ติ อิมินา วจเนน ปฏินิทฺเทโส กาตพฺโพติ.

ตตฺริทํ มุขมตฺตนิทสฺสนํ – ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสามิ, เยน สุทินฺโน เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิ; ยสฺมา ปฏิเสวิ, ตสฺมา ปฺเปสฺสามี’’ติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ ตาว ปุพฺเพ อตฺถโต สิทฺเธน เยนาติ อิมินา วจเนน ปฏินิทฺเทโส ยุชฺชติ. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา ราชคเห วิหรติ, เยน สมเยน ธนิโย กุมฺภการปุตฺโต รฺโ ทารูนิ อทินฺนํ อาทิยีติ เอวํ ปจฺฉา อตฺถโต สิทฺเธน เยนาติ อิมินา วจเนน ปฏินิทฺเทโส ยุชฺชตีติ วุตฺโต เตนาติ วจนสฺส อตฺโถ. สมเยนาติ เอตฺถ ปน สมยสทฺโท ตาว –

สมวาเย ขเณ กาเล, สมูเห เหตุ-ทิฏฺิสุ;

ปฏิลาเภ ปหาเน จ, ปฏิเวเธ จ ทิสฺสติ.

ตถา หิสฺส – ‘‘อปฺเปว นาม สฺเวปิ อุปสงฺกเมยฺยาม กาลฺจ สมยฺจ อุปาทายา’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๔๗) เอวมาทีสุ สมวาโย อตฺโถ. ‘‘เอโกว โข, ภิกฺขเว, ขโณ จ สมโย จ พฺรหฺมจริยวาสายา’’ติ (อ. นิ. ๘.๒๙) เอวมาทีสุ ขโณ. ‘‘อุณฺหสมโย ปริฬาหสมโย’’ติ (ปาจิ. ๓๕๘) เอวมาทีสุ กาโล. ‘‘มหาสมโย ปวนสฺมิ’’นฺติ เอวมาทีสุ สมูโห. ‘‘สมโยปิ โข เต, ภทฺทาลิ, อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสิ – ‘ภควา โข สาวตฺถิยํ วิหรติ, ภควาปิ มํ ชานิสฺสติ – ภทฺทาลิ นาม ภิกฺขุ สตฺถุสาสเน สิกฺขาย อปริปูรการี’ติ อยมฺปิ โข เต, ภทฺทาลิ, สมโย อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสี’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๓๕) เอวมาทีสุ เหตุ. ‘‘เตน โข ปน สมเยน อุคฺคหมาโน ปริพฺพาชโก สมณมุณฺฑิกาปุตฺโต สมยปฺปวาทเก ตินฺทุกาจีเร เอกสาลเก มลฺลิกาย อาราเม ปฏิวสตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๖๐) เอวมาทีสุ ทิฏฺิ.

‘‘ทิฏฺเ ธมฺเม จ โย อตฺโถ, โย จตฺโถ สมฺปรายิโก;

อตฺถาภิสมยา ธีโร, ปณฺฑิโตติ ปวุจฺจตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๒๙);

เอวมาทีสุ ปฏิลาโภ. ‘‘สมฺมา มานาภิสมยา อนฺตมกาสิ ทุกฺขสฺสา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘) เอวมาทีสุ ปหานํ. ‘‘ทุกฺขสฺส ปีฬนฏฺโ สงฺขตฏฺโ สนฺตาปฏฺโ วิปริณามฏฺโ อภิสมยฏฺโ’’ติ (ปฏิ. ม. ๒.๘) เอวมาทีสุ ปฏิเวโธ อตฺโถ. อิธ ปนสฺส กาโล อตฺโถ. ตสฺมา เยน กาเลน อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส วินยปฺตฺติยาจนเหตุภูโต ปริวิตกฺโก อุทปาทิ, เตน กาเลนาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

เอตฺถาห – ‘‘อถ กสฺมา ยถา สุตฺตนฺเต ‘เอกํ สมย’นฺติ อุปโยควจเนน นิทฺเทโส กโต, อภิธมฺเม จ ‘ยสฺมึ สมเย กามาวจร’นฺติ ภุมฺมวจเนน, ตถา อกตฺวา อิธ ‘เตน สมเยนา’ติ กรณวจเนน นิทฺเทโส กโต’’ติ? ตตฺถ ตถา, อิธ จ อฺถา อตฺถสมฺภวโต. กถํ? สุตฺตนฺเต ตาว อจฺจนฺตสํโยคตฺโถ สมฺภวติ. ยฺหิ สมยํ ภควา พฺรหฺมชาลาทีนิ สุตฺตนฺตานิ เทเสสิ, อจฺจนฺตเมว ตํ สมยํ กรุณาวิหาเรน วิหาสิ; ตสฺมา ตทตฺถโชตนตฺถํ ตตฺถ อุปโยคนิทฺเทโส กโต. อภิธมฺเม จ อธิกรณตฺโถ ภาเวนภาวลกฺขณตฺโถ จ สมฺภวติ. อธิกรณฺหิ กาลตฺโถ สมูหตฺโถ จ สมโย, ตตฺถ วุตฺตานํ ผสฺสาทิธมฺมานํ ขณสมวายเหตุสงฺขาตสฺส จ สมยสฺส ภาเวน เตสํ ภาโว ลกฺขิยติ. ตสฺมา ตทตฺถโชตนตฺถํ ตตฺถ ภุมฺมวจเนน นิทฺเทโส กโต. อิธ ปน เหตุอตฺโถ กรณตฺโถ จ สมฺภวติ. โย หิ โส สิกฺขาปทปฺตฺติสมโย สาริปุตฺตาทีหิปิ ทุพฺพิฺเยฺโย, เตน สมเยน เหตุภูเตน กรณภูเตน จ สิกฺขาปทานิ ปฺาปยนฺโต สิกฺขาปทปฺตฺติเหตุฺจ อเปกฺขมาโน ภควา ตตฺถ ตตฺถ วิหาสิ; ตสฺมา ตทตฺถโชตนตฺถํ อิธ กรณวจเนน นิทฺเทโส กโตติ เวทิตพฺโพ. โหติ เจตฺถ –

‘‘อุปโยเคน ภุมฺเมน, ตํ ตํ อตฺถมเปกฺขิย;

อฺตฺร สมโย วุตฺโต, กรเณเนว โส อิธา’’ติ.

โปราณา ปน วณฺณยนฺติ – ‘เอกํ สมย’นฺติ วา ‘ยสฺมึ สมเย’ติ วา ‘เตน สมเยนา’ติ วา อภิลาปมตฺตเภโท เอส, สพฺพตฺถ ภุมฺมเมว อตฺโถ’’ติ. ตสฺมา เตสํ ลทฺธิยา ‘‘เตน สมเยนา’’ติ วุตฺเตปิ ‘‘ตสฺมึ สมเย’’ติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

พุทฺโธ ภควาติ อิเมสํ ปทานํ ปรโต อตฺถํ วณฺณยิสฺสาม. เวรฺชายํ วิหรตีติ เอตฺถ ปน เวรฺชาติ อฺตรสฺส นครสฺเสตํ อธิวจนํ, ตสฺสํ เวรฺชายํ; สมีปตฺเถ ภุมฺมวจนํ. วิหรตีติ อวิเสเสน อิริยาปถทิพฺพพฺรหฺมอริยวิหาเรสุ อฺตรวิหารสมงฺคีปริทีปนเมตํ, อิธ ปน านคมนนิสชฺชาสยนปฺปเภเทสุ อิริยาปเถสุ อฺตรอิริยาปถสมาโยคปริทีปนํ, เตน ิโตปิ คจฺฉนฺโตปิ นิสินฺโนปิ สยาโนปิ ภควา วิหรติจฺเจว เวทิตพฺโพ. โส หิ เอกํ อิริยาปถพาธนํ อฺเน อิริยาปเถน วิจฺฉินฺทิตฺวา อปริปตนฺตํ อตฺตภาวํ หรติ ปวตฺเตติ, ตสฺมา ‘‘วิหรตี’’ติ วุจฺจติ.

นเฬรุปุจิมนฺทมูเลติ เอตฺถ นเฬรุ นาม ยกฺโข, ปุจิมนฺโทติ นิมฺพรุกฺโข, มูลนฺติ สมีปํ. อยฺหิ มูลสทฺโท ‘‘มูลานิ อุทฺธเรยฺย อนฺตมโส อุสีรนาฬิมตฺตานิปี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๙๕) -อาทีสุ มูลมูเล ทิสฺสติ. ‘‘โลโภ อกุสลมูล’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๓๐๕) -อาทีสุ อสาธารณเหตุมฺหิ. ‘‘ยาว มชฺฌนฺหิเก กาเล ฉายา ผรติ, นิวาเต ปณฺณานิ ปตนฺติ, เอตฺตาวตา รุกฺขมูล’’นฺติอาทีสุ สมีเป. อิธ ปน สมีเป อธิปฺเปโต, ตสฺมา นเฬรุยกฺเขน อธิคฺคหิตสฺส ปุจิมนฺทสฺส สมีเปติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. โส กิร ปุจิมนฺโท รมณีโย ปาสาทิโก อเนเกสํ รุกฺขานํ อาธิปจฺจํ วิย กุรุมาโน ตสฺส นครสฺส อวิทูเร คมนาคมนสมฺปนฺเน าเน อโหสิ. อถ ภควา เวรฺชํ คนฺตฺวา ปติรูเป าเน วิหรนฺโต ตสฺส รุกฺขสฺส สมีเป เหฏฺาภาเค วิหาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เวรฺชายํ วิหรติ นเฬรุปุจิมนฺทมูเล’’ติ.

ตตฺถ สิยา ยทิ ตาว ภควา เวรฺชายํ วิหรติ, ‘‘นเฬรุปุจิมนฺทมูเล’’ติ น วตฺตพฺพํ, อถ ตตฺถ วิหรติ, ‘‘เวรฺชาย’’นฺติ น วตฺตพฺพํ, น หิ สกฺกา อุภยตฺถ เตเนว สมเยน อปุพฺพํ อจริมํ วิหริตุนฺติ? น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ, นนุ อโวจุมฺห ‘‘สมีปตฺเถ ภุมฺมวจน’’นฺติ. ตสฺมา ยถา คงฺคายมุนาทีนํ สมีเป โคยูถานิ จรนฺตานิ ‘‘คงฺคาย จรนฺติ, ยมุนาย จรนฺตี’’ติ วุจฺจนฺติ; เอวมิธาปิ ยทิทํ เวรฺชาย สมีเป นเฬรุปุจิมนฺทมูลํ ตตฺถ วิหรนฺโต วุจฺจติ ‘‘เวรฺชายํ วิหรติ นเฬรุปุจิมนฺทมูเล’’ติ. โคจรคามนิทสฺสนตฺถํ หิสฺส เวรฺชาวจนํ. ปพฺพชิตานุรูปนิวาสนฏฺานนิทสฺสนตฺถํ นเฬรุปุจิมนฺทมูลวจนํ.

ตตฺถ เวรฺชากิตฺตเนน อายสฺมา อุปาลิตฺเถโร ภควโต คหฏฺานุคฺคหกรณํ ทสฺเสติ, นเฬรุปุจิมนฺทมูลกิตฺตเนน ปพฺพชิตานุคฺคหกรณํ, ตถา ปุริเมน ปจฺจยคฺคหณโต อตฺตกิลมถานุโยควิวชฺชนํ, ปจฺฉิเมน วตฺถุกามปฺปหานโต กามสุขลฺลิกานุโยควิวชฺชนุปายทสฺสนํ; ปุริเมน จ ธมฺมเทสนาภิโยคํ, ปจฺฉิเมน วิเวกาธิมุตฺตึ; ปุริเมน กรุณาย อุปคมนํ, ปจฺฉิเมน ปฺาย อปคมนํ; ปุริเมน สตฺตานํ หิตสุขนิปฺผาทนาธิมุตฺตตํ, ปจฺฉิเมน ปรหิตสุขกรเณ นิรุปเลปนํ; ปุริเมน ธมฺมิกสุขาปริจฺจาคนิมิตฺตํ ผาสุวิหารํ, ปจฺฉิเมน อุตฺตริมนุสฺสธมฺมานุโยคนิมิตฺตํ; ปุริเมน มนุสฺสานํ อุปการพหุลตํ, ปจฺฉิเมน เทวตานํ; ปุริเมน โลเก ชาตสฺส โลเก สํวฑฺฒภาวํ, ปจฺฉิเมน โลเกน อนุปลิตฺตตํ; ปุริเมน ‘‘เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว, โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตโม เอกปุคฺคโล? ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๗๐) วจนโต ยทตฺถํ ภควา อุปฺปนฺโน ตทตฺถปรินิปฺผาทนํ, ปจฺฉิเมน ยตฺถ อุปฺปนฺโน ตทนุรูปวิหารํ. ภควา หิ ปมํ ลุมฺพินีวเน, ทุติยํ โพธิมณฺเฑติ โลกิยโลกุตฺตราย อุปฺปตฺติยา วเนเยว อุปฺปนฺโน, เตนสฺส วเนเยว วิหารํ ทสฺเสตีติ เอวมาทินา นเยเนตฺถ อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา.

มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธินฺติ เอตฺถ มหตาติ คุณมหตฺเตนปิ มหตา; สงฺขฺยามหตฺเตนปิ, โส หิ ภิกฺขุสงฺโฆ คุเณหิปิ มหา อโหสิ, ยสฺมา โย ตตฺถ ปจฺฉิมโก โส โสตาปนฺโน; สงฺขฺยายปิ มหา ปฺจสตสงฺขฺยตฺตา. ภิกฺขูนํ สงฺเฆน ภิกฺขุสงฺเฆน; ทิฏฺิสีลสามฺสงฺขาตสงฺฆาเตน สมณคเณนาติ อตฺโถ. สทฺธินฺติ เอกโต. ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหีติ ปฺจ มตฺตา เอเตสนฺติ ปฺจมตฺตานิ. มตฺตาติ ปมาณํ วุจฺจติ. ตสฺมา ยถา ‘‘โภชเน มตฺตฺู’’ติ วุตฺเต โภชเน มตฺตํ ชานาติ, ปมาณํ ชานาตีติ อตฺโถ โหติ; เอวมิธาปิ เตสํ ภิกฺขุสตานํ ปฺจ มตฺตา ปฺจปฺปมาณนฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ภิกฺขูนํ สตานิ ภิกฺขุสตานิ, เตหิ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ. เอเตน ยํ วุตฺตํ – ‘‘มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิ’’นฺติ, เอตฺถ ตสฺส มหโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส สงฺขฺยามหตฺตํ ทสฺสิตํ โหติ. ปรโต ปนสฺส ‘‘นิรพฺพุโท หิ, สาริปุตฺต ภิกฺขุสงฺโฆ นิราทีนโว อปคตกาฬโก สุทฺโธ สาเร ปติฏฺิโต. อิเมสฺหิ, สาริปุตฺต, ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ โย ปจฺฉิมโก โส โสตาปนฺโน’’ติ วจเนน คุณมหตฺตํ อาวิภวิสฺสติ.

อสฺโสสิ โข เวรฺโช พฺราหฺมโณติ อสฺโสสีติ สุณิ อุปลภิ, โสตทฺวารสมฺปตฺตวจนนิคฺโฆสานุสาเรน อฺาสิ. โขติ ปทปูรณมตฺเต อวธารณตฺเถ วา นิปาโต. ตตฺถ อวธารณตฺเถน อสฺโสสิ เอว, นาสฺส โกจิ สวนนฺตราโย อโหสีติ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปทปูรเณน ปน พฺยฺชนสิลิฏฺตามตฺตเมว. เวรฺชายํ ชาโต, เวรฺชายํ ภโว, เวรฺชา วา อสฺส นิวาโสติ เวรฺโช. มาตาปิตูหิ กตนามวเสน ปนายํ ‘‘อุทโย’’ติ วุจฺจติ. พฺรหฺมํ อณตีติ พฺราหฺมโณ, มนฺเต สชฺฌายตีติ อตฺโถ. อิทเมว หิ ชาติพฺราหฺมณานํ นิรุตฺติวจนํ. อริยา ปน พาหิตปาปตฺตา ‘‘พฺราหฺมณา’’ติ วุจฺจนฺติ.

อิทานิ ยมตฺถํ เวรฺโช พฺราหฺมโณ อสฺโสสิ, ตํ ปกาเสนฺโต สมโณ ขลุ โภ โคตโมติอาทิมาห. ตตฺถ สมิตปาปตฺตา สมโณติ เวทิตพฺโพ. วุตฺตํ เหตํ – ‘‘พาหิตปาโปติ พฺราหฺมโณ (ธ. ป. ๓๘๘), สมิตปาปตฺตา สมโณติ วุจฺจตี’’ติ (ธ. ป. ๒๖๕). ภควา จ อนุตฺตเรน อริยมคฺเคน สมิตปาโป, เตนสฺส ยถาภุจฺจคุณาธิคตเมตํ นามํ ยทิทํ สมโณติ. ขลูติ อนุสฺสวนตฺเถ นิปาโต. โภติ พฺราหฺมณชาติกานํ ชาติสมุทาคตํ อาลปนมตฺตํ. วุตฺตมฺปิ เหตํ –

‘‘โภวาที นามโส โหติ, สเจ โหติ สกิฺจโน’’ติ. (ธ. ป. ๓๙๖; สุ. นิ. ๖๒๕). โคตโมติ ภควนฺตํ โคตฺตวเสน ปริกิตฺเตติ, ตสฺมา ‘‘สมโณ ขลุ โภ โคตโม’’ติ เอตฺถ สมโณ กิร โภ โคตมโคตฺโตติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. สกฺยปุตฺโตติ อิทํ ปน ภควโต อุจฺจากุลปริทีปนํ. สกฺยกุลา ปพฺพชิโตติ สทฺธาปพฺพชิตภาวปริทีปนํ, เกนจิ ปาริชุฺเน อนภิภูโต อปริกฺขีณํเยว, ตํ กุลํ ปหาย สทฺธาย ปพฺพชิโตติ วุตฺตํ โหติ. ตโต ปรํ วุตฺตตฺถเมว. ตํ โข ปนาติ อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ อุปโยควจนํ, ตสฺส โข ปน โภโต โคตมสฺสาติ อตฺโถ. กลฺยาโณติ กลฺยาณคุณสมนฺนาคโต; เสฏฺโติ วุตฺตํ โหติ. กิตฺติสทฺโทติ กิตฺติ เอว, ถุติโฆโส วา.

อิติปิ โส ภควาติอาทีสุ ปน อยํ ตาว โยชนา – โส ภควา อิติปิ อรหํ, อิติปิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… อิติปิ ภควาติ อิมินา จ อิมินา จ การเณนาติ วุตฺตํ โหติ.

อิทานิ วินยธรานํ สุตฺตนฺตนยโกสลฺลตฺถํ วินยสํวณฺณนารมฺเภ พุทฺธคุณปฏิสํยุตฺตาย ธมฺมิยา กถาย จิตฺตสมฺปหํสนตฺถฺจ เอเตสํ ปทานํ วิตฺถารนเยน วณฺณนํ กริสฺสามิ. ตสฺมา ยํ วุตฺตํ – ‘‘โส ภควา อิติปิ อรห’’นฺติอาทิ; ตตฺถ อารกตฺตา, อรีนํ อรานฺจ หตตฺตา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวาติ อิเมหิ ตาว การเณหิ โส ภควา อรหนฺติ เวทิตพฺโพ. อารกา หิ โส สพฺพกิเลเสหิ สุวิทูรวิทูเร ิโต, มคฺเคน สวาสนานํ กิเลสานํ วิทฺธํสิตตฺตาติ อารกตฺตา อรหํ; เต จาเนน กิเลสารโย มคฺเคน หตาติ อรีนํ หตตฺตาปิ อรหํ. ยฺเจตํ อวิชฺชาภวตณฺหามยนาภิปุฺาทิอภิสงฺขารารํ ชรามรณเนมิ อาสวสมุทยมเยน อกฺเขน วิชฺฌิตฺวา ติภวรเถ สมาโยชิตํ อนาทิกาลปฺปวตฺตํ สํสารจกฺกํ, ตสฺสาเนน โพธิมณฺเฑ วีริยปาเทหิ สีลปถวิยํ ปติฏฺาย สทฺธาหตฺเถน กมฺมกฺขยกรํ าณผรสุํ คเหตฺวา สพฺเพ อรา หตาติ อรานํ หตตฺตาปิ อรหํ.

อถ วา สํสารจกฺกนฺติ อนมตคฺคสํสารวฏฺฏํ วุจฺจติ, ตสฺส จ อวิชฺชา นาภิ, มูลตฺตา; ชรามรณํ เนมิ, ปริโยสานตฺตา; เสสา ทส ธมฺมา อรา, อวิชฺชามูลกตฺตา ชรามรณปริยนฺตตฺตา จ. ตตฺถ ทุกฺขาทีสุ อฺาณํ อวิชฺชา, กามภเว จ อวิชฺชา กามภเว สงฺขารานํ ปจฺจโย โหติ. รูปภเว อวิชฺชา รูปภเว สงฺขารานํ ปจฺจโย โหติ. อรูปภเว อวิชฺชา อรูปภเว สงฺขารานํ ปจฺจโย โหติ. กามภเว สงฺขารา กามภเว ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส ปจฺจยา โหนฺติ. เอส นโย อิตเรสุ. กามภเว ปฏิสนฺธิวิฺาณํ กามภเว นามรูปสฺส ปจฺจโย โหติ, ตถา รูปภเว. อรูปภเว นามสฺเสว ปจฺจโย โหติ. กามภเว นามรูปํ กามภเว สฬายตนสฺส ปจฺจโย โหติ. รูปภเว นามรูปํ รูปภเว ติณฺณํ อายตนานํ ปจฺจโย โหติ. อรูปภเว นามํ อรูปภเว เอกสฺสายตนสฺส ปจฺจโย โหติ. กามภเว สฬายตนํ กามภเว ฉพฺพิธสฺส ผสฺสสฺส ปจฺจโย โหติ. รูปภเว ตีณิ อายตนานิ รูปภเว ติณฺณํ ผสฺสานํ; อรูปภเว เอกมายตนํ อรูปภเว เอกสฺส ผสฺสสฺส ปจฺจโย โหติ. กามภเว ฉ ผสฺสา กามภเว ฉนฺนํ เวทนานํ ปจฺจยา โหนฺติ. รูปภเว ตโย ตตฺเถว ติสฺสนฺนํ; อรูปภเว เอโก ตตฺเถว เอกิสฺสา เวทนาย ปจฺจโย โหติ. กามภเว ฉ เวทนา กามภเว ฉนฺนํ ตณฺหากายานํ ปจฺจยา โหนฺติ. รูปภเว ติสฺโส ตตฺเถว ติณฺณํ; อรูปภเว เอกา เวทนา อรูปภเว เอกสฺส ตณฺหากายสฺส ปจฺจโย โหติ. ตตฺถ ตตฺถ สา สา ตณฺหา ตสฺส ตสฺส อุปาทานสฺส ปจฺจโย; อุปาทานาทโย ภวาทีนํ.

กถํ? อิเธกจฺโจ ‘‘กาเม ปริภุฺชิสฺสามี’’ติ กามุปาทานปจฺจยา กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย มนสา ทุจฺจริตํ จรติ; ทุจฺจริตปาริปูริยา อปาเย อุปปชฺชติ. ตตฺถสฺส อุปปตฺติเหตุภูตํ กมฺมํ กมฺมภโว, กมฺมนิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว, ขนฺธานํ นิพฺพตฺติ ชาติ, ปริปาโก ชรา, เภโท มรณํ.

อปโร ‘‘สคฺคสมฺปตฺตึ อนุภวิสฺสามี’’ติ ตเถว สุจริตํ จรติ; สุจริตปาริปูริยา สคฺเค อุปปชฺชติ. ตตฺถสฺส อุปปตฺติเหตุภูตํ กมฺมํ กมฺมภโวติ โส เอว นโย.

อปโร ปน ‘‘พฺรหฺมโลกสมฺปตฺตึ อนุภวิสฺสามี’’ติ กามุปาทานปจฺจยา เอว เมตฺตํ ภาเวติ, กรุณํ… มุทิตํ… อุเปกฺขํ ภาเวติ, ภาวนาปาริปูริยา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตติ. ตตฺถสฺส นิพฺพตฺติเหตุภูตํ กมฺมํ กมฺมภโวติ โสเยว นโย.

อปโร ‘‘อรูปวภสมฺปตฺตึ อนุภวิสฺสามี’’ติ ตเถว อากาสานฺจายตนาทิสมาปตฺติโย ภาเวติ, ภาวนาปาริปูริยา ตตฺถ นิพฺพตฺตติ. ตตฺถสฺส นิพฺพตฺติเหตุภูตํ กมฺมํ กมฺมภโว, กมฺมนิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว, ขนฺธานํ นิพฺพตฺติ ชาติ, ปริปาโก ชรา, เภโท มรณนฺติ. เอส นโย เสสุปาทานมูลิกาสุปิ โยชนาสุ.

เอวํ ‘‘อยํ อวิชฺชา เหตุ, สงฺขารา เหตุสมุปฺปนฺนา, อุโภเปเต เหตุสมุปฺปนฺนาติ ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา ธมฺมฏฺิติาณํ; อตีตมฺปิ อทฺธานํ, อนาคตมฺปิ อทฺธานํ; อวิชฺชา เหตุ, สงฺขารา เหตุสมุปฺปนฺนา, อุโภเปเต เหตุสมุปฺปนฺนาติ ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา ธมฺมฏฺิติาณ’’นฺติ เอเตน นเยน สพฺพปทานิ วิตฺถาเรตพฺพานิ. ตตฺถ อวิชฺชา สงฺขารา เอโก สงฺเขโป, วิฺาณ-นามรูป-สฬายตน-ผสฺส-เวทนา เอโก, ตณฺหุปาทานภวา เอโก, ชาติ-ชรา-มรณํ เอโก. ปุริมสงฺเขโป เจตฺถ อตีโต อทฺธา, ทฺเว มชฺฌิมา ปจฺจุปฺปนฺโน, ชาติชรามรณํ อนาคโต. อวิชฺชาสงฺขารคฺคหเณน เจตฺถ ตณฺหุปาทานภวา คหิตาว โหนฺตีติ อิเม ปฺจ ธมฺมา อตีเต กมฺมวฏฺฏํ; วิฺาณาทโย ปฺจ ธมฺมา เอตรหิ วิปากวฏฺฏํ. ตณฺหุปาทานภวคฺคหเณน อวิชฺชาสงฺขารา คหิตาว โหนฺตีติ อิเม ปฺจ ธมฺมา เอตรหิ กมฺมวฏฺฏํ; ชาติชรามรณาปเทเสน วิฺาณาทีนํ นิทฺทิฏฺตฺตา อิเม ปฺจ ธมฺมา อายตึ วิปากวฏฺฏํ. เต อาการโต วีสติวิธา โหนฺติ. สงฺขารวิฺาณานฺเจตฺถ อนฺตรา เอโก สนฺธิ, เวทนาตณฺหานมนฺตรา เอโก, ภวชาตีนมนฺตรา เอโก. อิติ ภควา เอวํ จตุสงฺเขปํ, ติยทฺธํ, วีสตาการํ, ติสนฺธึ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ สพฺพาการโต ชานาติ ปสฺสติ อฺาติ ปฏิวิชฺฌติ. ตํ าตฏฺเน าณํ, ปชานนฏฺเน ปฺา. เตน วุจฺจติ – ‘‘ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา ธมฺมฏฺิติาณ’’นฺติ. อิมินา ธมฺมฏฺิติาเณน ภควา เต ธมฺเม ยถาภูตํ ตฺวา เตสุ นิพฺพินฺทนฺโต วิรชฺชนฺโต วิมุจฺจนฺโต วุตฺตปฺปการสฺส อิมสฺส สํสารจกฺกสฺส อเร หนิ วิหนิ วิทฺธํเสสิ. เอวมฺปิ อรานํ หตตฺตา อรหํ.

อคฺคทกฺขิเณยฺยตฺตา จ จีวราทิปจฺจเย อรหติ ปูชาวิเสสฺจ; เตเนว จ อุปฺปนฺเน ตถาคเต เย เกจิ มเหสกฺขา เทวมนุสฺสา น เต อฺตฺถ ปูชํ กโรนฺติ. ตถา หิ พฺรหฺมา สหมฺปติ สิเนรุมตฺเตน รตนทาเมน ตถาคตํ ปูเชสิ, ยถาพลฺจ อฺเปิ เทวา มนุสฺสา จ พิมฺพิสารโกสลราชาทโย. ปรินิพฺพุตมฺปิ จ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส ฉนฺนวุติโกฏิธนํ วิสชฺเชตฺวา อโสกมหาราชา สกลชมฺพุทีเป จตุราสีติวิหารสหสฺสานิ ปติฏฺาเปสิ. โก ปน วาโท อฺเสํ ปูชาวิเสสานนฺติ! เอวํ ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตาปิ อรหํ. ยถา จ โลเก เกจิ ปณฺฑิตมานิโน พาลา อสิโลกภเยน รโห ปาปํ กโรนฺติ; เอวเมส น กทาจิ กโรตีติ ปาปกรเณ รหาภาวโตปิ อรหํ. โหติ เจตฺถ –

‘‘อารกตฺตา หตตฺตา จ, กิเลสารีน โส มุนิ;

หตสํสารจกฺกาโร, ปจฺจยาทีน จารโห;

น รโห กโรติ ปาปานิ, อรหํ เตน วุจฺจตี’’ติ.

สมฺมา สามฺจ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา ปน สมฺมาสมฺพุทฺโธ. ตถา เหส สพฺพธมฺเม สมฺมา สามฺจ พุทฺโธ, อภิฺเยฺเย ธมฺเม อภิฺเยฺยโต พุทฺโธ, ปริฺเยฺเย ธมฺเม ปริฺเยฺยโต, ปหาตพฺเพ ธมฺเม ปหาตพฺพโต, สจฺฉิกาตพฺเพ ธมฺเม สจฺฉิกาตพฺพโต, ภาเวตพฺเพ ธมฺเม ภาเวตพฺพโต. เตเนว จาห –

‘‘อภิฺเยฺยํ อภิฺาตํ, ภาเวตพฺพฺจ ภาวิตํ;

ปหาตพฺพํ ปหีนํ เม, ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ พฺราหฺมณา’’ติ. (ม. นิ. ๒.๓๙๙; สุ. นิ. ๕๖๓);

อปิจ จกฺขุ ทุกฺขสจฺจํ, ตสฺส มูลการณภาเวน ตํสมุฏฺาปิกา ปุริมตณฺหา สมุทยสจฺจํ, อุภินฺนมปฺปวตฺติ นิโรธสจฺจํ, นิโรธปฺปชานนา ปฏิปทา มคฺคสจฺจนฺติ เอวํ เอเกกปทุทฺธาเรนาปิ สพฺพธมฺเม สมฺมา สามฺจ พุทฺโธ. เอส นโย โสต-ฆาน-ชิวฺหา-กายมเนสุปิ. เอเตเนว นเยน รูปาทีนิ ฉ อายตนานิ, จกฺขุวิฺาณาทโย ฉ วิฺาณกายา, จกฺขุสมฺผสฺสาทโย ฉ ผสฺสา, จกฺขุสมฺผสฺสชาทโย ฉ เวทนา, รูปสฺาทโย ฉ สฺา, รูปสฺเจตนาทโย ฉ เจตนา, รูปตณฺหาทโย ฉ ตณฺหากายา, รูปวิตกฺกาทโย ฉ วิตกฺกา, รูปวิจาราทโย ฉ วิจารา, รูปกฺขนฺธาทโย ปฺจกฺขนฺธา, ทส กสิณานิ, ทส อนุสฺสติโย, อุทฺธุมาตกสฺาทิวเสน ทส สฺา, เกสาทโย ทฺวตฺตึสาการา, ทฺวาทสายตนานิ, อฏฺารส ธาตุโย, กามภวาทโย นว ภวา, ปมาทีนิ จตฺตาริ ฌานานิ, เมตฺตาภาวนาทโย จตสฺโส อปฺปมฺา, จตสฺโส อรูปสมาปตฺติโย, ปฏิโลมโต ชรามรณาทีนิ, อนุโลมโต อวิชฺชาทีนิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานิ จ โยเชตพฺพานิ.

ตตฺรายํ เอกปทโยชนา – ‘‘ชรามรณํ ทุกฺขสจฺจํ, ชาติ สมุทยสจฺจํ, อุภินฺนมฺปิ นิสฺสรณํ นิโรธสจฺจํ, นิโรธปฺปชานนา ปฏิปทา มคฺคสจฺจ’’นฺติ. เอวํ เอเกกปทุทฺธาเรน สพฺพธมฺเม สมฺมา สามฺจ พุทฺโธ อนุพุทฺโธ ปฏิวิทฺโธ. เตน วุตฺตํ – สมฺมา สามฺจ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา ปน สมฺมาสมฺพุทฺโธติ.

วิชฺชาหิ ปน จรเณน จ สมฺปนฺนตฺตา วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน; ตตฺถ วิชฺชาติ ติสฺโสปิ วิชฺชา, อฏฺปิ วิชฺชา. ติสฺโส วิชฺชา ภยเภรวสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๓๔ อาทโย) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา, อฏฺ วิชฺชา อมฺพฏฺสุตฺเต (ที. นิ. ๑.๒๗๘ อาทโย). ตตฺร หิ วิปสฺสนาาเณน มโนมยิทฺธิยา จ สห ฉ อภิฺา ปริคฺคเหตฺวา อฏฺ วิชฺชา วุตฺตา. จรณนฺติ สีลสํวโร, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา, โภชเน มตฺตฺุตา, ชาคริยานุโยโค, สตฺต สทฺธมฺมา, จตฺตาริ รูปาวจรชฺฌานานีติ อิเม ปนฺนรส ธมฺมา เวทิตพฺพา. อิเมเยว หิ ปนฺนรส ธมฺมา, ยสฺมา เอเตหิ จรติ อริยสาวโก คจฺฉติ อมตํ ทิสํ ตสฺมา, จรณนฺติ วุตฺตา. ยถาห – ‘‘อิธ, มหานาม, อริยสาวโก สีลวา โหตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๔) วิตฺถาโร. ภควา อิมาหิ วิชฺชาหิ อิมินา จ จรเณน สมนฺนาคโต, เตน วุจฺจติ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโนติ. ตตฺถ วิชฺชาสมฺปทา ภควโต สพฺพฺุตํ ปูเรตฺวา ิตา, จรณสมฺปทา มหาการุณิกตํ. โส สพฺพฺุตาย สพฺพสตฺตานํ อตฺถานตฺถํ ตฺวา มหาการุณิกตาย อนตฺถํ ปริวชฺเชตฺวา อตฺเถ นิโยเชติ, ยถา ตํ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน. เตนสฺส สาวกา สุปฺปฏิปนฺนา โหนฺติ โน ทุปฺปฏิปนฺนา, วิชฺชาจรณวิปนฺนานฺหิ สาวกา อตฺตนฺตปาทโย วิย.

โสภนคมนตฺตา, สุนฺทรํ านํ คตตฺตา, สมฺมาคตตฺตา, สมฺมา จ คทตฺตา สุคโต. คมนมฺปิ หิ คตนฺติ วุจฺจติ, ตฺจ ภควโต โสภนํ ปริสุทฺธมนวชฺชํ. กึ ปน ตนฺติ? อริยมคฺโค. เตน เหส คมเนน เขมํ ทิสํ อสชฺชมาโน คโตติ โสภนคมนตฺตา สุคโต. สุนฺทรํ เจส านํ คโต อมตํ นิพฺพานนฺติ สุนฺทรํ านํ คตตฺตาปิ สุคโต. สมฺมา จ คโต เตน เตน มคฺเคน ปหีเน กิเลเส ปุน อปจฺจาคจฺฉนฺโต. วุตฺตฺเจตํ – ‘‘โสตาปตฺติมคฺเคน เย กิเลสา ปหีนา, เต กิเลเส น ปุเนติ น ปจฺเจติ น ปจฺจาคจฺฉตีติ สุคโต…เป… อรหตฺตมคฺเคน เย กิเลสา ปหีนา, เต กิเลเส น ปุเนติ น ปจฺเจติ น ปจฺจาคจฺฉตีติ สุคโต’’ติ (มหานิ. ๓๘). สมฺมา วา อาคโต ทีปงฺกรปาทมูลโต ปภุติ ยาว โพธิมณฺโฑ ตาว สมตึสปารมิปูริตาย สมฺมาปฏิปตฺติยา สพฺพโลกสฺส หิตสุขเมว กโรนฺโต สสฺสตํ อุจฺเฉทํ กามสุขํ อตฺตกิลมถนฺติ อิเม จ อนฺเต อนุปคจฺฉนฺโต อาคโตติ สมฺมาคตตฺตาปิ สุคโต. สมฺมา เจส คทติ, ยุตฺตฏฺาเน ยุตฺตเมว วาจํ ภาสตีติ สมฺมา คทตฺตาปิ สุคโต.

ตตฺริทํ สาธกสุตฺตํ – ‘‘ยํ ตถาคโต วาจํ ชานาติ อภูตํ อตจฺฉํ อนตฺถสํหิตํ, สา จ ปเรสํ อปฺปิยา อมนาปา, น ตํ ตถาคโต วาจํ ภาสติ. ยมฺปิ ตถาคโต วาจํ ชานาติ ภูตํ ตจฺฉํ อนตฺถสํหิตํ, สา จ ปเรสํ อปฺปิยา อมนาปา, ตมฺปิ ตถาคโต วาจํ น ภาสติ. ยฺจ โข ตถาคโต วาจํ ชานาติ ภูตํ ตจฺฉํ อตฺถสํหิตํ, สา จ ปเรสํ อปฺปิยา อมนาปา, ตตฺร กาลฺู ตถาคโต โหติ ตสฺสา วาจาย เวยฺยากรณาย. ยํ ตถาคโต วาจํ ชานาติ อภูตํ อตจฺฉํ อนตฺถสํหิตํ, สา จ ปเรสํ ปิยา มนาปา, น ตํ ตถาคโต วาจํ ภาสติ. ยมฺปิ ตถาคโต วาจํ ชานาติ ภูตํ ตจฺฉํ อนตฺถสํหิตํ, สา จ ปเรสํ ปิยา มนาปา, ตมฺปิ ตถาคโต วาจํ น ภาสติ. ยฺจ โข ตถาคโต วาจํ ชานาติ ภูตํ ตจฺฉํ อตฺถสํหิตํ, สา จ ปเรสํ ปิยา มนาปา, ตตฺร กาลฺู ตถาคโต โหติ ตสฺสา วาจาย เวยฺยากรณายา’’ติ (ม. นิ. ๒.๘๖). เอวํ สมฺมา คทตฺตาปิ สุคโตติ เวทิตพฺโพ.

สพฺพถา วิทิตโลกตฺตา ปน โลกวิทู. โส หิ ภควา สภาวโต สมุทยโต นิโรธโต นิโรธูปายโตติ สพฺพถา โลกํ อเวทิ อฺาสิ ปฏิวิชฺฌิ. ยถาห – ‘‘ยตฺถ โข, อาวุโส, น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ, นาหํ ตํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ าเตยฺยํ ทฏฺเยฺยํ ปตฺเตยฺยนฺติ วทามิ; น จาหํ, อาวุโส, อปฺปตฺวาว โลกสฺส อนฺตํ ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยํ วทามิ. อปิ จาหํ, อาวุโส, อิมสฺมึเยว พฺยามมตฺเต กเฬวเร สสฺิมฺหิ สมนเก โลกฺจ ปฺเปมิ โลกสมุทยฺจ โลกนิโรธฺจ โลกนิโรธคามินิฺจ ปฏิปทํ.

‘‘คมเนน น ปตฺตพฺโพ, โลกสฺสนฺโต กุทาจนํ;

น จ อปฺปตฺวา โลกนฺตํ, ทุกฺขา อตฺถิ ปโมจนํ.

‘‘ตสฺมา หเว โลกวิทู สุเมโธ;

โลกนฺตคู วุสิตพฺรหฺมจริโย;

โลกสฺส อนฺตํ สมิตาวิ ตฺวา;

นาสีสตี โลกมิมํ ปรฺจา’’ติ. (อ. นิ. ๔.๔๕; สํ. นิ. ๑.๑๐๗);

อปิจ ตโย โลกา – สงฺขารโลโก, สตฺตโลโก, โอกาสโลโกติ; ตตฺถ ‘‘เอโก โลโก – สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๒) อาคตฏฺาเน สงฺขารโลโก เวทิตพฺโพ. ‘‘สสฺสโต โลโกติ วา อสสฺสโต โลโกติ วา’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๒๑) อาคตฏฺาเน สตฺตโลโก.

‘‘ยาวตา จนฺทิมสูริยา, ปริหรนฺติ ทิสา ภนฺติ วิโรจนา;

ตาว สหสฺสธา โลโก, เอตฺถ เต วตฺตตี วโส’’ติ. (ม. นิ. ๑.๕๐๓) –

อาคตฏฺาเน โอกาสโลโก, ตมฺปิ ภควา สพฺพถา อเวทิ. ตถา หิสฺส – ‘‘เอโก โลโก – สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา. ทฺเว โลกา – นามฺจ รูปฺจ. ตโย โลกา – ติสฺโส เวทนา. จตฺตาโร โลกา – จตฺตาโร อาหารา. ปฺจ โลกา – ปฺจุปาทานกฺขนฺธา. ฉ โลกา – ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ. สตฺต โลกา สตฺต วิฺาณฏฺิติโย. อฏฺ โลกา – อฏฺ โลกธมฺมา. นว โลกา – นว สตฺตาวาสา. ทส โลกา – ทสายตนานิ. ทฺวาทส โลกา – ทฺวาทสายตนานิ. อฏฺารส โลกา – อฏฺารส ธาตุโย’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๒). อยํ สงฺขารโลโกปิ สพฺพถา วิทิโต.

ยสฺมา ปเนส สพฺเพสมฺปิ สตฺตานํ อาสยํ ชานาติ, อนุสยํ ชานาติ, จริตํ ชานาติ, อธิมุตฺตึ ชานาติ, อปฺปรชกฺเข มหารชกฺเข ติกฺขินฺทฺริเย มุทินฺทฺริเย สฺวากาเร ทฺวากาเร สุวิฺาปเย ทุวิฺาปเย ภพฺเพ อภพฺเพ สตฺเต ชานาติ, ตสฺมาสฺส สตฺตโลโกปิ สพฺพถา วิทิโต. ยถา จ สตฺตโลโก เอวํ โอกาสโลโกปิ. ตถา เหส เอกํ จกฺกวาฬํ อายามโต จ วิตฺถารโต จ โยชนานํ ทฺวาทส สตสหสฺสานิ ตีณิ สหสฺสานิ จตฺตาริ สตานิ ปฺาสฺจ โยชนานิ. ปริกฺเขปโต –

สพฺพํ สตสหสฺสานิ, ฉตฺตึส ปริมณฺฑลํ;

ทสฺเจว สหสฺสานิ, อฑฺฒุฑฺฒานิ สตานิ จ.

ตตฺถ –

ทุเว สตสหสฺสานิ, จตฺตาริ นหุตานิ จ;

เอตฺตกํ พหลตฺเตน, สงฺขาตายํ วสุนฺธรา.

ตสฺสา เอว สนฺธารกํ –

จตฺตาริ สตสหสฺสานิ, อฏฺเว นหุตานิ จ;

เอตฺตกํ พหลตฺเตน, ชลํ วาเต ปติฏฺิตํ.

ตสฺสาปิ สนฺธารโก –

นวสตสหสฺสานิ, มาลุโต นภมุคฺคโต;

สฏฺิ เจว สหสฺสานิ, เอสา โลกสฺส สณฺิติ.

เอวํ สณฺิเต เจตฺถ โยชนานํ –

จตุราสีติ สหสฺสานิ, อชฺโฌคาฬฺโห มหณฺณเว;

อจฺจุคฺคโต ตาวเทว, สิเนรุปพฺพตุตฺตโม.

ตโต อุปฑฺฒุปฑฺเฒน, ปมาเณน ยถากฺกมํ;

อชฺโฌคาฬฺหุคฺคตา ทิพฺพา, นานารตนจิตฺติตา.

ยุคนฺธโร อีสธโร, กรวีโก สุทสฺสโน;

เนมินฺธโร วินตโก, อสฺสกณฺโณ คิรี พฺรหา.

เอเต สตฺต มหาเสลา, สิเนรุสฺส สมนฺตโต;

มหาราชานมาวาสา, เทวยกฺขนิเสวิตา.

โยชนานํ สตานุจฺโจ, หิมวา ปฺจ ปพฺพโต;

โยชนานํ สหสฺสานิ, ตีณิ อายตวิตฺถโต;

จตุราสีติสหสฺเสหิ, กูเฏหิ ปฏิมณฺฑิโต.

ติปฺจโยชนกฺขนฺธ, ปริกฺเขปา นควฺหยา;

ปฺาส โยชนกฺขนฺธ, สาขายามา สมนฺตโต.

สตโยชนวิตฺถิณฺณา, ตาวเทว จ อุคฺคตา;

ชมฺพู ยสฺสานุภาเวน, ชมฺพุทีโป ปกาสิโต.

ทฺเว อสีติ สหสฺสานิ, อชฺโฌคาฬฺโห มหณฺณเว;

อจฺจุคฺคโต ตาวเทว, จกฺกวาฬสิลุจฺจโย;

ปริกฺขิปิตฺวา ตํ สพฺพํ, โลกธาตุมยํ ิโต.

ตตฺถ จนฺทมณฺฑลํ เอกูนปฺาสโยชนํ, สูริยมณฺฑลํ ปฺาสโยชนํ, ตาวตึสภวนํ ทสสหสฺสโยชนํ; ตถา อสุรภวนํ, อวีจิมหานิรโย, ชมฺพุทีโป จ. อปรโคยานํ สตฺตสหสฺสโยชนํ; ตถา ปุพฺพวิเทโห. อุตฺตรกุรุ อฏฺสหสฺสโยชโน, เอกเมโก เจตฺถ มหาทีโป ปฺจสตปฺจสตปริตฺตทีปปริวาโร; ตํ สพฺพมฺปิ เอกํ จกฺกวาฬํ, เอกา โลกธาตุ, ตทนฺตเรสุ โลกนฺตริกนิรยา. เอวํ อนนฺตานิ จกฺกวาฬานิ อนนฺตา โลกธาตุโย ภควา อนนฺเตน พุทฺธาเณน อเวทิ, อฺาสิ, ปฏิวิชฺฌิ. เอวมสฺส โอกาสโลโกปิ สพฺพถา วิทิโต. เอวมฺปิ สพฺพถา วิทิตโลกตฺตา โลกวิทู.

อตฺตโน ปน คุเณหิ วิสิฏฺตรสฺส กสฺสจิ อภาวา นตฺถิ เอตสฺส อุตฺตโรติ อนุตฺตโร. ตถา เหส สีลคุเณนาปิ สพฺพํ โลกมภิภวติ, สมาธิ…เป… ปฺา… วิมุตฺติ… วิมุตฺติาณทสฺสนคุเณนาปิ, สีลคุเณนาปิ อสโม อสมสโม อปฺปฏิโม อปฺปฏิภาโค อปฺปฏิปุคฺคโล…เป… วิมุตฺติาณทสฺสนคุเณนาปิ. ยถาห – ‘‘น โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, สมนุปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก…เป… สเทวมนุสฺสาย อตฺตนา สีลสมฺปนฺนตร’’นฺติ วิตฺถาโร.

เอวํ อคฺคปฺปสาทสุตฺตาทีนิ (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐) ‘‘น เม อาจริโย อตฺถี’’ติอาทิกา คาถาโย (ม. นิ. ๑.๒๘๕; มหาว. ๑๑) จ วิตฺถาเรตพฺพา.

ปุริสทมฺเม สาเรตีติ ปุริสทมฺมสารถิ, ทเมติ วิเนตีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ ปุริสทมฺมาติ อทนฺตา ทเมตุํ ยุตฺตา ติรจฺฉานปุริสาปิ มนุสฺสปุริสาปิ อมนุสฺสปุริสาปิ. ตถา หิ ภควตา ติรจฺฉานปุริสาปิ อปลาโฬ นาคราชา, จูโฬทโร, มโหทโร, อคฺคิสิโข, ธูมสิโข, ธนปาลโก หตฺถีติ เอวมาทโย ทมิตา, นิพฺพิสา กตา, สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺาปิตา. มนุสฺสปุริสาปิ สจฺจกนิคณฺปุตฺต-อมฺพฏฺมาณว-โปกฺขรสาติ-โสณทณฺฑกูฏทนฺตาทโย. อมนุสฺสปุริสาปิ อาฬวก-สูจิโลม-ขรโลม-ยกฺข-สกฺกเทวราชาทโย ทมิตา วินีตา วิจิตฺเรหิ วินยนูปาเยหิ. ‘‘อหํ โข, เกสิ, ปุริสทมฺมํ สณฺเหนปิ วิเนมิ, ผรุเสนปิ วิเนมิ, สณฺหผรุเสนปิ วิเนมี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๑๑) อิทฺเจตฺถ สุตฺตํ วิตฺถาเรตพฺพํ. อถ วา วิสุทฺธสีลาทีนํ ปมชฺฌานาทีนิ โสตาปนฺนาทีนฺจ อุตฺตริมคฺคปฏิปทํ อาจิกฺขนฺโต ทนฺเตปิ ทเมติเยว.

อถ วา อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถีติ เอกเมวิทํ อตฺถปทํ. ภควา หิ ตถา ปุริสทมฺเม สาเรติ, ยถา เอกปลฺลงฺเกเนว นิสินฺนา อฏฺ ทิสา อสชฺชมานา ธาวนฺติ. ตสฺมา ‘‘อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถี’’ติ วุจฺจติ. ‘‘หตฺถิทมเกน, ภิกฺขเว, หตฺถิทมฺโม สาริโต เอกํเยว ทิสํ ธาวตี’’ติ อิทฺเจตฺถ สุตฺตํ (ม. นิ. ๓.๓๑๒) วิตฺถาเรตพฺพํ.

ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ ยถารหํ อนุสาสตีติ สตฺถา. อปิจ สตฺถา วิยาติ สตฺถา, ภควา สตฺถวาโห. ‘‘ยถา สตฺถวาโห สตฺเถ กนฺตารํ ตาเรติ, โจรกนฺตารํ ตาเรติ, วาฬกนฺตารํ ตาเรติ, ทุพฺภิกฺขกนฺตารํ ตาเรติ, นิรุทกกนฺตารํ ตาเรติ, อุตฺตาเรติ นิตฺตาเรติ ปตาเรติ เขมนฺตภูมึ สมฺปาเปติ; เอวเมว ภควา สตฺถา สตฺถวาโห สตฺเต กนฺตารํ ตาเรติ ชาติกนฺตารํ ตาเรตี’’ติอาทินา (มหานิ. ๑๙๐) นิทฺเทสนเยนเปตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เทวมนุสฺสานนฺติ เอวานฺจ มนุสฺสานฺจ อุกฺกฏฺปริจฺเฉทวเสเนตํ วุตฺตํ, ภพฺพปุคฺคลปริจฺเฉทวเสน จ. ภควา ปน ติรจฺฉานคตานมฺปิ อนุสาสนิปฺปทาเนน สตฺถาเยว. เตปิ หิ ภควโต ธมฺมสวเนน อุปนิสฺสยสมฺปตฺตึ ปตฺวา ตาย เอว อุปนิสฺสยสมฺปตฺติยา ทุติเย ตติเย วา อตฺตภาเว มคฺคผลภาคิโน โหนฺติ. มณฺฑูกเทวปุตฺตาทโย เจตฺถ นิทสฺสนํ. ภควติ กิร คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเร จมฺปานครวาสีนํ ธมฺมํ เทสยมาเน เอโก มณฺฑูโก ภควโต สเร นิมิตฺตํ อคฺคเหสิ. ตํ เอโก วจฺฉปาลโก ทณฺฑโมลุพฺภ ติฏฺนฺโต ตสฺส สีเส สนฺนิรุมฺภิตฺวา อฏฺาสิ. โส ตาวเทว กาลํ กตฺวา ตาวตึสภวเน ทฺวาทสโยชนิเก กนกวิมาเน นิพฺพตฺติ. สุตฺตปฺปพุทฺโธ วิย จ ตตฺถ อจฺฉราสงฺฆปริวุตํ อตฺตานํ ทิสฺวา ‘‘อเร, อหมฺปิ นาม อิธ นิพฺพตฺโตสฺมิ! กึ นุ โข กมฺมํ อกาสิ’’นฺติ อาวชฺเชนฺโต นาฺํ กิฺจิ อทฺทส, อฺตฺร ภควโต สเร นิมิตฺตคฺคาหา. โส อาวเทว สห วิมาเนน อาคนฺตฺวา ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทิ. ภควา ชานนฺโตว ปุจฺฉิ –

‘‘โก เม วนฺทติ ปาทานิ, อิทฺธิยา ยสสา ชลํ;

อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, สพฺพา โอภาสยํ ทิสา’’ติ.

‘‘มณฺฑูโกหํ ปุเร อาสึ, อุทเก วาริโคจโร;

ตว ธมฺมํ สุณนฺตสฺส, อวธิ วจฺฉปาลโก’’ติ. (วิ. ว. ๘๕๗-๘๕๘);

ภควา ตสฺส ธมฺมํ เทเสสิ. เทสนาวสาเน จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ. เทวปุตฺโตปิ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาย สิตํ กตฺวา ปกฺกามีติ.

ยํ ปน กิฺจิ อตฺถิ เยฺยํ นาม, ตสฺส สพฺพสฺส พุทฺธตฺตา วิโมกฺขนฺติกาณวเสน พุทฺโธ. ยสฺมา วา จตฺตาริ สจฺจานิ อตฺตนาปิ พุชฺฌิ, อฺเปิ สตฺเต โพเธสิ; ตสฺมา เอวมาทีหิปิ การเณหิ พุทฺโธ. อิมสฺส จตฺถสฺส วิฺาปนตฺถํ ‘‘พุชฺฌิตา สจฺจานีติ พุทฺโธ, โพเธตา ปชายาติ พุทฺโธ’’ติ เอวํ ปวตฺโต สพฺโพปิ นิทฺเทสนโย (มหานิ. ๑๙๒) ปฏิสมฺภิทานโย (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๒) วา วิตฺถาเรตพฺโพ.

ภควาติ อิทํ ปนสฺส คุณวิสิฏฺสตฺตุตฺตมครุคารวาธิวจนํ. เตนาหุ โปราณา –

‘‘ภควาติ วจนํ เสฏฺํ, ภควาติ วจนมุตฺตมํ;

ครุ คารวยุตฺโต โส, ภควา เตน วุจฺจตี’’ติ.

จตุพฺพิธฺหิ นามํ – อาวตฺถิกํ, ลิงฺคิกํ, เนมิตฺติกํ, อธิจฺจสมุปฺปนฺนนฺติ. อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ นาม โลกิยโวหาเรน ‘‘ยทิจฺฉก’’นฺติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ ‘‘วจฺโฉ ทมฺโม พลิพทฺโท’’ติ เอวมาทิ อาวตฺถิกํ. ‘‘ทณฺฑี ฉตฺตี สิขี กรี’’ติ เอวมาทิ ลิงฺคิกํ. ‘‘เตวิชฺโช ฉฬภิฺโ’’ติ เอวมาทิ เนมิตฺติกํ. ‘‘สิริวฑฺฒโก ธนวฑฺฒโก’’ติ เอวมาทิ วจนตฺถมนเปกฺขิตฺวา ปวตฺตํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ. อิทํ ปน ภควาติ นามํ เนมิตฺติกํ, น มหามายาย น สุทฺโธทนมหาราเชน น อสีติยา าติสหสฺเสหิ กตํ, น สกฺกสนฺตุสิตาทีหิ เทวตาวิเสเสหิ. วุตฺตฺเหตํ ธมฺมเสนาปตินา – ‘‘ภควาติ เนตํ นามํ มาตรา กตํ…เป… วิโมกฺขนฺติกเมตํ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ โพธิยา มูเล สห สพฺพฺุตฺาณสฺส ปฏิลาภา สจฺฉิกาปฺตฺติ, ยทิทํ ภควา’’ติ (มหานิ. ๘๔).

ยํคุณเนมิตฺติกฺเจตํ นามํ, เตสํ คุณานํ ปกาสนตฺถํ อิมํ คาถํ วทนฺติ –

‘‘ภคี ภชี ภาคี วิภตฺตวา อิติ;

อกาสิ ภคฺคนฺติ ครูติ ภาคฺยวา;

พหูหิ าเยหิ สุภาวิตตฺตโน;

ภวนฺตโค โส ภควาติ วุจฺจตี’’ติ.

นิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เจตฺถ เตสํ เตสํ ปทานมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

อยํ ปน อปโร นโย –

‘‘ภาคฺยวา ภคฺควา ยุตฺโต, ภเคหิ จ วิภตฺตวา;

ภตฺตวา วนฺตคมโน, ภเวสุ ภควา ตโต’’ติ.

ตตฺถ วณฺณาคโม วณฺณวิปริยโยติ เอตํ นิรุตฺติลกฺขณํ คเหตฺวา สทฺทนเยน วา ปิโสทราทิปกฺเขปลกฺขณํ คเหตฺวา ยสฺมา โลกิยโลกุตฺตรสุขาภินิพฺพตฺตกํ ทานสีลาทิปารปฺปตฺตํ ภาคฺยมสฺส อตฺถิ, ตสฺมา ‘‘ภาคฺยวา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ภควา’’ติ วุจฺจตีติ าตพฺพํ. ยสฺมา ปน โลภ-โทส-โมห-วิปรีตมนสิการ-อหิริกาโนตฺตปฺป-โกธูปนาห-มกฺข-ปฬาสอิสฺสา-มจฺฉริย-มายาสาเยฺย-ถมฺภ-สารมฺภ-มานาติมาน-มท-ปมาท-ตณฺหาวิชฺชา ติวิธากุสลมูล-ทุจฺจริต-สํกิเลส-มล-วิสมสฺา-วิตกฺก-ปปฺจ-จตุพฺพิธวิปริเยสอาสว-คนฺถ-โอฆ-โยคาคติ-ตณฺหุปฺปาทุปาทาน-ปฺจเจโตขีล-วินิพนฺธ-นีวรณาภินนฺทนฉวิวาทมูล-ตณฺหากาย-สตฺตานุสย-อฏฺมิจฺฉตฺต-นวตณฺหามูลก-ทสากุสลกม ทิฏฺิคต-อฏฺสตตณฺหาวิจริตปฺปเภท-สพฺพทรถ-ปริฬาห-กิเลสสตสหสฺสานิ, สงฺเขปโต วา ปฺจ กิเลส-อภิสงฺขารขนฺธมจฺจุ-เทวปุตฺต-มาเร อภฺชิ, ตสฺมา ภคฺคตฺตา เอเตสํ ปริสฺสยานํ ภคฺควาติ วตฺตพฺเพ ภควาติ วุจฺจติ. อาห เจตฺถ –

‘‘ภคฺคราโค ภคฺคโทโส, ภคฺคโมโห อนาสโว;

ภคฺคาสฺส ปาปกา ธมฺมา, ภควา เตน วุจฺจตี’’ติ.

ภาคฺยวนฺตตาย จสฺส สตปุฺชลกฺขณธรสฺส รูปกายสมฺปตฺติทีปิตา โหติ, ภคฺคโทสตาย ธมฺมกายสมฺปตฺติ. ตถา โลกิยปริกฺขกานํ พหุมตภาโว, คหฏฺปพฺพชิเตหิ อภิคมนียตา, อภิคตานฺจ เนสํ กายจิตฺตทุกฺขาปนยเน ปฏิพลภาโว, อามิสทานธมฺมทาเนหิ อุปการิตา, โลกิยโลกุตฺตรสุเขหิ จ สมฺปโยชนสมตฺถตา ทีปิตา โหติ.

ยสฺมา จ โลเก อิสฺสริย-ธมฺม-ยส-สิรี-กาม-ปยตฺเตสุ ฉสุ ธมฺเมสุ ภคสทฺโท วตฺตติ, ปรมฺจสฺส สกจิตฺเต อิสฺสริยํ, อณิมา ลฆิมาทิกํ วา โลกิยสมฺมตํ สพฺพาการปริปูรํ อตฺถิ ตถา โลกุตฺตโร ธมฺโม โลกตฺตยพฺยาปโก ยถาภุจฺจคุณาธิคโต อติวิย ปริสุทฺโธ ยโส, รูปกายทสฺสนพฺยาวฏชนนยนปฺปสาทชนนสมตฺถา สพฺพาการปริปูรา สพฺพงฺคปจฺจงฺคสิรี, ยํ ยํ เอเตน อิจฺฉิตํ ปตฺถิตํ อตฺตหิตํ ปรหิตํ วา, ตสฺส ตสฺส ตเถว อภินิปฺผนฺนตฺตา อิจฺฉิติจฺฉิ, ตตฺถ นิปฺผตฺติสฺิโต กาโม, สพฺพโลกครุภาวปฺปตฺติเหตุภูโต สมฺมาวายามสงฺขาโต ปยตฺโต จ อตฺถิ; ตสฺมา อิเมหิ ภเคหิ ยุตฺตตฺตาปิ ภคา อสฺส สนฺตีติ อิมินา อตฺเถน ภควาติ วุจฺจติ.

ยสฺมา ปน กุสลาทีหิ เภเทหิ สพฺพธมฺเม, ขนฺธายตน-ธาตุสจฺจ-อินฺทฺริยปฏิจฺจสมุปฺปาทาทีหิ วา กุสลาทิธมฺเม, ปีฬน-สงฺขต-สนฺตาปวิปริณามฏฺเน วา ทุกฺขมริยสจฺจํ, อายูหน-นิทาน-สํโยค-ปลิโพธฏฺเน สมุทยํ, นิสฺสรณวิเวกาสงฺขต-อมตฏฺเน นิโรธํ, นิยฺยาน-เหตุ-ทสฺสนาธิปเตยฺยฏฺเน มคฺคํ วิภตฺตวา, วิภชิตฺวา วิวริตฺวา เทสิตวาติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมา วิภตฺตวาติ วตฺตพฺเพ ภควาติ วุจฺจติ.

ยสฺมา จ เอส ทิพฺพพฺรหฺมอริยวิหาเร กายจิตฺตอุปธิวิเวเก สุฺตปฺปณิหิตานิมิตฺตวิโมกฺเข อฺเ จ โลกิยโลกุตฺตเร อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม ภชิ เสวิ พหุลมกาสิ, ตสฺมา ภตฺตวาติ วตฺตพฺเพ ภควาติ วุจฺจติ.

ยสฺมา ปน ตีสุ ภเวสุ ตณฺหาสงฺขาตํ คมนมเนน วนฺตํ, ตสฺมา ภเวสุ วนฺตคมโนติ วตฺตพฺเพ ภวสทฺทโต ภการํ, คมนสทฺทโต คการํ, วนฺตสทฺทโต วการฺจ ทีฆํ กตฺวา อาทาย ภควาติ วุจฺจติ. ยถา โลเก ‘‘เมหนสฺส ขสฺส มาลา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘เมขลา’’ติ วุจฺจติ.

โส อิมํ โลกนฺติ โส ภควา อิมํ โลกํ. อิทานิ วตฺตพฺพํ นิทสฺเสติ. สเทวกนฺติ สห เทเวหิ สเทวกํ; เอวํ สห มาเรน สมารกํ; สห พฺรหฺมุนา สพฺรหฺมกํ; สห สมณพฺราหฺมเณหิ สสฺสมณพฺราหฺมณึ; ปชาตตฺตา ปชา, ตํ ปชํ; สห เทวมนุสฺเสหิ สเทวมนุสฺสํ. ตตฺถ สเทวกวจเนน ปฺจกามาวจรเทวคฺคหณํ เวทิตพฺพํ, สมารกวจเนน ฉฏฺกามาวจรเทวคฺคหณํ, สพฺรหฺมกวจเนน พฺรหฺมกายิกาทิพฺรหฺมคฺคหณํ, สสฺสมณพฺราหฺมณีวจเนน สาสนสฺส ปจฺจตฺถิกปจฺจามิตฺตสมณพฺราหฺมณคฺคหณํ, สมิตปาป-พาหิตปาป-สมณพฺราหฺมณคฺคหณฺจ, ปชาวจเนน สตฺตโลกคฺคหณํ, สเทวมนุสฺสวจเนน สมฺมุติเทวอวเสสมนุสฺสคฺคหณํ. เอวเมตฺถ ตีหิ ปเทหิ โอกาสโลโก, ทฺวีหิ ปชาวเสน สตฺตโลโก คหิโตติ เวทิตพฺโพ.

อปโร นโย – สเทวกคฺคหเณน อรูปาวจรเทวโลโก คหิโต, สมารกคฺคหเณน ฉกามาวจรเทวโลกา, สพฺรหฺมกคฺคหเณน รูปีพฺรหฺมโลโก, สสฺสมณพฺราหฺมณาทิคฺคหเณน จตุปริสวเสน สมฺมุติเทเวหิ วา สห มนุสฺสโลโก, อวเสสสพฺพสตฺตโลโก วา.

อปิเจตฺถ สเทวกวจเนน อุกฺกฏฺปริจฺเฉทโต สพฺพสฺสาปิ โลกสฺส สจฺฉิกตภาวํ สาเธนฺโต ตสฺส ภควโต กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต. ตโต เยสํ สิยา – ‘‘มาโร มหานุภาโว ฉกามาวจริสฺสโร วสวตฺตี; กึ โสปิ เอเตน สจฺฉิกโต’’ติ? เตสํ วิมตึ วิธมนฺโต สมารกนฺติ อพฺภุคฺคโต. เยสํ ปน สิยา – ‘‘พฺรหฺมา มหานุภาโว เอกงฺคุลิยา เอกสฺมึ จกฺกวาฬสหสฺเส อาโลกํ ผรติ, ทฺวีหิ…เป… ทสหิ องฺคุลีหิ ทสสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ อาโลกํ ผรติ, อนุตฺตรฺจ ฌานสมาปตฺติสุขํ ปฏิสํเวเทติ, กึ โสปิ สจฺฉิกโต’’ติ? เตสํ วิมตึ วิธมนฺโต สพฺรหฺมกนฺติ อพฺภุคฺคโต. ตโต เยสํ สิยา – ‘‘ปุถูสมณพฺราหฺมณา สาสนปจฺจตฺถิกา, กึ เตปิ สจฺฉิกตา’’ติ? เตสํ วิมตึ วิธมนฺโต สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชนฺติ อพฺภุคฺคโต. เอวํ อุกฺกฏฺุกฺกฏฺานํ สจฺฉิกตภาวํ ปกาเสตฺวา อถ สมฺมุติเทเว อวเสสมนุสฺเส จ อุปาทาย อุกฺกฏฺปริจฺเฉทวเสน เสสสตฺตโลกสฺส สจฺฉิกตภาวํ ปกาเสนฺโต สเทวมนุสฺสนฺติ อพฺภุคฺคโต. อยเมตฺถานุสนฺธิกฺกโม.

สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทตีติ เอตฺถ ปน สยนฺติ สามํ, อปรเนยฺโย หุตฺวา; อภิฺาติ อภิฺาย, อธิเกน าเณน ตฺวาติ อตฺโถ. สจฺฉิกตฺวาติ ปจฺจกฺขํ กตฺวา, เอเตน อนุมานาทิปฏิกฺเขโป กโต โหติ. ปเวเทตีติ โพเธติ าเปติ ปกาเสติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ…เป… ปริโยสานกลฺยาณนฺติ โส ภควา สตฺเตสุ การุฺตํ ปฏิจฺจ หิตฺวาปิ อนุตฺตรํ วิเวกสุขํ ธมฺมํ เทเสติ. ตฺจ โข อปฺปํ วา พหุํ วา เทเสนฺโต อาทิกลฺยาณาทิปฺปการเมว เทเสติ.

กถํ? เอกคาถาปิ หิ สมนฺตภทฺรกตฺตา ธมฺมสฺส ปมปาเทน อาทิกลฺยาณา, ทุติยตติยปาเทหิ มชฺเฌกลฺยาณา, ปจฺฉิมปาเทน ปริโยสานกลฺยาณา. เอกานุสนฺธิกํ สุตฺตํ นิทาเนน อาทิกลฺยาณํ, นิคมเนน ปริโยสานกลฺยาณํ, เสเสน มชฺเฌกลฺยาณํ. นานานุสนฺธิกํ สุตฺตํ ปมานุสนฺธินา อาทิกลฺยาณํ, ปจฺฉิเมน ปริโยสานกลฺยาณํ, เสเสหิ มชฺเฌกลฺยาณํ. สกโลปิ สาสนธมฺโม อตฺตโน อตฺถภูเตน สีเลน อาทิกลฺยาโณ, สมถวิปสฺสนามคฺคผเลหิ มชฺเฌกลฺยาโณ, นิพฺพาเนน ปริโยสานกลฺยาโณ. สีลสมาธีหิ วา อาทิกลฺยาโณ, วิปสฺสนามคฺเคหิ มชฺเฌกลฺยาโณ, ผลนิพฺพาเนหิ ปริโยสานกลฺยาโณ. พุทฺธสุโพธิตาย วา อาทิกลฺยาโณ, ธมฺมสุธมฺมตาย มชฺเฌกลฺยาโณ, สงฺฆสุปฺปฏิปตฺติยา ปริโยสานกลฺยาโณ. ตํ สุตฺวา ตถตฺตาย ปฏิปนฺเนน อธิคนฺตพฺพาย อภิสมฺโพธิยา วา อาทิกลฺยาโณ, ปจฺเจกโพธิยา มชฺเฌกลฺยาโณ, สาวกโพธิยา ปริโยสานกลฺยาโณ. สุยฺยมาโน เจส นีวรณวิกฺขมฺภนโต สวเนนปิ กลฺยาณเมว อาวหตีติ อาทิกลฺยาโณ, ปฏิปชฺชิยมาโน สมถวิปสฺสนาสุขาวหนโต ปฏิปตฺติยาปิ กลฺยาณเมว อาวหตีติ มชฺเฌกลฺยาโณ, ตถา ปฏิปนฺโน จ ปฏิปตฺติผเล นิฏฺิเต ตาทิภาวาวหนโต ปฏิปตฺติผเลนปิ กลฺยาณเมว อาวหตีติ ปริโยสานกลฺยาโณ. นาถปฺปภวตฺตา จ ปภวสุทฺธิยา อาทิกลฺยาโณ, อตฺถสุทฺธิยา มชฺเฌกลฺยาโณ, กิจฺจสุทฺธิยา ปริโยสานกลฺยาโณ. ตสฺมา เอโส ภควา อปฺปํ วา พหุํ วา เทเสนฺโต อาทิกลฺยาณาทิปฺปการเมว เทเสตีติ เวทิตพฺโพ.

สาตฺถํ สพฺยฺชนนฺติ เอวมาทีสุ ปน ยสฺมา อิมํ ธมฺมํ เทเสนฺโต สาสนพฺรหฺมจริยํ มคฺคพฺรหฺมจริยฺจ ปกาเสติ, นานานเยหิ ทีเปติ; ตฺจ ยถานุรูปํ อตฺถสมฺปตฺติยา สาตฺถํ, พฺยฺชนสมฺปตฺติยา สพฺยฺชนํ. สงฺกาสนปกาสน-วิวรณ-วิภชน-อุตฺตานีกรณ-ปฺตฺติ-อตฺถปทสมาโยคโต สาตฺถํ, อกฺขรปท-พฺยฺชนาการนิรุตฺตินิทฺเทสสมฺปตฺติยา สพฺยฺชนํ. อตฺถคมฺภีรตา-ปฏิเวธคมฺภีรตาหิ สาตฺถํ, ธมฺมคมฺภีรตาเทสนาคมฺภีรตาหิ สพฺยฺชนํ. อตฺถปฏิภานปฏิสมฺภิทาวิสยโต สาตฺถํ, ธมฺมนิรุตฺติปฏิสมฺภิทาวิสยโต สพฺยฺชนํ. ปณฺฑิตเวทนียโต ปริกฺขกชนปฺปสาทกนฺติ สาตฺถํ, สทฺเธยฺยโต โลกิยชนปฺปสาทกนฺติ สพฺยฺชนํ. คมฺภีราธิปฺปายโต สาตฺถํ, อุตฺตานปทโต สพฺยฺชนํ. อุปเนตพฺพสฺส อภาวโต สกลปริปุณฺณภาเวน เกวลปริปุณฺณํ; อปเนตพฺพสฺส อภาวโต นิทฺโทสภาเวน ปริสุทฺธํ; สิกฺขตฺตยปริคฺคหิตตฺตา พฺรหฺมภูเตหิ เสฏฺเหิ จริตพฺพโต เตสฺจ จริยภาวโต พฺรหฺมจริยํ. ตสฺมา ‘‘สาตฺถํ สพฺยฺชนํ…เป… พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตี’’ติ วุจฺจติ.

อปิจ ยสฺมา สนิทานํ สอุปฺปตฺติกฺจ เทเสนฺโต อาทิกลฺยาณํ เทเสติ, เวเนยฺยานํ อนุรูปโต อตฺถสฺส อวิปรีตตาย จ เหตุทาหรณยุตฺตโต จ มชฺเฌกลฺยาณํ, โสตูนํ สทฺธาปฏิลาเภน นิคมเนน จ ปริโยสานกลฺยาณํ เทเสติ. เอวํ เทเสนฺโต จ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. ตฺจ ปฏิปตฺติยา อธิคมพฺยตฺติโต สาตฺถํ, ปริยตฺติยา อาคมพฺยตฺติโต สพฺยฺชนํ, สีลาทิปฺจธมฺมกฺขนฺธยุตฺตโต เกวลปริปุณฺณํ, นิรุปกฺกิเลสโต นิตฺถรณตฺถาย ปวตฺติโต โลกามิสนิรเปกฺขโต จ ปริสุทฺธํ, เสฏฺฏฺเน พฺรหฺมภูตานํ พุทฺธ-ปจฺเจกพุทฺธ-พุทฺธสาวกานํ จริยโต ‘‘พฺรหฺมจริย’’นฺติ วุจฺจติ. ตสฺมาปิ ‘‘โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ…เป… พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตี’’ติ วุจฺจติ.

สาธุ โข ปนาติ สุนฺทรํ โข ปน อตฺถาวหํ สุขาวหนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตถารูปานํ อรหตนฺติ ยถารูโป โส ภว โคตโม, เอวรูปานํ ยถาภุจฺจคุณาธิคเมน โลเก อรหนฺโตติ ลทฺธสทฺทานํ อรหตํ. ทสฺสนํ โหตีติ ปสาทโสมฺมานิ อกฺขีนิ อุมฺมีลิตฺวา ‘‘ทสฺสนมตฺตมฺปิ สาธุ โหตี’’ติ เอวํ อชฺฌาสยํ กตฺวา อถ โข เวรฺโช พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ.

. เยนาติ ภุมฺมตฺเถ กรณวจนํ. ตสฺมา ยตฺถ ภควา ตตฺถ อุปสงฺกมีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เยน วา การเณน ภควา เทวมนุสฺเสหิ อุปสงฺกมิตพฺโพ, เตน การเณน อุปสงฺกมีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เกน จ การเณน ภควา อุปสงฺกมิตพฺโพ? นานปฺปการคุณวิเสสาธิคมาธิปฺปาเยน, สาทุผลูปโภคาธิปฺปาเยน ทิชคเณหิ นิจฺจผลิตมหารุกฺโข วิย. อุปสงฺกมีติ จ คโตติ วุตฺตํ โหติ. อุปสงฺกมิตฺวาติ อุปสงฺกมนปริโยสานทีปนํ. อถ วา เอวํ คโต ตโต อาสนฺนตรํ านํ ภควโต สมีปสงฺขาตํ คนฺตฺวาติปิ วุตฺตํ โหติ.

ภควตา สทฺธึ สมฺโมทีติ ยถา ขมนียาทีนิ ปุจฺฉนฺโต ภควา เตน, เอวํ โสปิ ภควตา สทฺธึ สมปฺปวตฺตโมโท อโหสิ, สีโตทกํ วิย อุณฺโหทเกน สมฺโมทิตํ เอกีภาวํ อคมาสิ. ยาย จ ‘‘กจฺจิ, โภ, โคตม, ขมนียํ; กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ โภโต โคตมสฺส, จ สาวกานฺจ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหาโร’’ติอาทิกาย กถาย สมฺโมทิ, ตํ ปีติปาโมชฺชสงฺขาตํ สมฺโมทํ ชนนโต สมฺโมทิตุํ ยุตฺตภาวโต จ สมฺโมทนียํ. อตฺถพฺยฺชนมธุรตาย สุจิรมฺปิ กาลํ สาเรตุํ นิรนฺตรํ ปวตฺเตตุํ อรหรูปโต สริตพฺพภาวโต จ สารณียํ, สุยฺยมานสุขโต วา สมฺโมทนียํ, อนุสฺสริยมานสุขโต สารณียํ. ตถา พฺยฺชนปริสุทฺธตาย สมฺโมทนียํ, อตฺถปริสุทฺธตาย สารณียนฺติ. เอวํ อเนเกหิ ปริยาเยหิ สมฺโมทนียํ สารณียํ กถํ วีติสาเรตฺวา ปริโยสาเปตฺวา นิฏฺาเปตฺวา เยนตฺเถน อาคโต ตํ ปุจฺฉิตุกาโม เอกมนฺตํ นิสีทิ.

เอกมนฺตนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส ‘‘วิสมํ จนฺทิมสูริยา ปริวตฺตนฺตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๗๐) วิย. ตสฺมา ยถา นิสินฺโน เอกมนฺตํ นิสินฺโน โหติ ตถา นิสีทีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ภุมฺมตฺเถ วา เอตํ อุปโยควจนํ. นิสีทีติ อุปาวิสิ. ปณฺฑิตา หิ ปุริสา ครุฏฺานิยํ อุปสงฺกมิตฺวา อาสนกุสลตาย เอกมนฺตํ นิสีทนฺติ. อยฺจ เตสํ อฺตโร, ตสฺมา เอกมนฺตํ นิสีทิ.

กถํ นิสินฺโน ปน เอกมนฺตํ นิสินฺโน โหตีติ? ฉ นิสชฺชโทเส วชฺเชตฺวา. เสยฺยถิทํ – อติทูรํ, อจฺจาสนฺนํ, อุปริวาตํ, อุนฺนตปฺปเทสํ, อติสมฺมุขํ, อติปจฺฉาติ. อติทูเร นิสินฺโน หิ สเจ กเถตุกาโม โหติ อุจฺจาสทฺเทน กเถตพฺพํ โหติ. อจฺจาสนฺเน นิสินฺโน สงฺฆฏฺฏนํ กโรติ. อุปริวาเต นิสินฺโน สรีรคนฺเธน พาธติ. อุนฺนตปฺปเทเส นิสินฺโน อคารวํ ปกาเสติ. อติสมฺมุขา นิสินฺโน สเจ ทฏฺุกาโม โหติ, จกฺขุนา จกฺขุํ อาหจฺจ ทฏฺพฺพํ โหติ. อติปจฺฉา นิสินฺโน สเจ ทฏฺุกาโม โหติ คีวํ ปสาเรตฺวา ทฏฺพฺพํ โหติ. ตสฺมา อยมฺปิ เอเต ฉ นิสชฺชโทเส วชฺเชตฺวา นิสีทิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เอกมนฺตํ นิสีที’’ติ.

เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข เวรฺโช พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจาติ เอตนฺติ อิทานิ วตฺตพฺพมตฺถํ ทสฺเสติ. ทกาโร ปทสนฺธิกโร. อโวจาติ อภาสิ. สุตํ เมตนฺติ สุตํ เม เอตํ, เอตํ มยา สุตนฺติ อิทานิ วตฺตพฺพมตฺถํ ทสฺเสติ. โภ โคตมาติ ภควนฺตํ โคตฺเตน อาลปติ.

อิทานิ ยํ เตน สุตํ – ตํ ทสฺเสนฺโต น สมโณ โคตโมติ เอวมาทิมาห. ตตฺรายํ อนุตฺตานปทวณฺณนา – พฺราหฺมเณติ ชาติพฺราหฺมเณ. ชิณฺเณติ ชชฺชรีภูเต ชราย ขณฺฑิจฺจาทิภาวํ อาปาทิเต. วุฑฺเฒติ องฺคปจฺจงฺคานํ วุฑฺฒิมริยาทปฺปตฺเต. มหลฺลเกติ ชาติมหลฺลกตาย สมนฺนาคเต, จิรกาลปฺปสุเตติ วุตฺตํ โหติ. อทฺธคเตติ อทฺธานํ คเต, ทฺเว ตโย ราชปริวฏฺเฏ อตีเตติ อธิปฺปาโย. วโย อนุปฺปตฺเตติ ปจฺฉิมวยํ สมฺปตฺเต, ปจฺฉิมวโย นาม วสฺสสตสฺส ปจฺฉิโม ตติยภาโค.

อปิจ – ชิณฺเณติ โปราเณ, จิรกาลปฺปวตฺตกุลนฺวเยติ วุตฺตํ โหติ. วุฑฺเฒติ สีลาจาราทิคุณวุฑฺฒิยุตฺเต. มหลฺลเกติ วิภวมหตฺตตาย สมนฺนาคเต มหทฺธเน มหาโภเค. อทฺธคเตติ มคฺคปฺปฏิปนฺเน, พฺราหฺมณานํ วตจริยาทิมริยาทํ อวีติกฺกมฺม จรมาเน. วโยอนุปฺปตฺเตติ ชาติวุฑฺฒภาวํ อนฺติมวยํ อนุปฺปตฺเตติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา.

อิทานิ อภิวาเทตีติ เอวมาทีนิ ‘‘น สมโณ โคตโม’’ติ เอตฺถ วุตฺตนกาเรน โยเชตฺวา เอวมตฺถโต เวทิตพฺพานิ – ‘‘น วนฺทติ วา, นาสนา วุฏฺหติ วา, นาปิ ‘อิธ โภนฺโต นิสีทนฺตู’ติ เอวํ อาสเนน วา อุปนิมนฺเตตี’’ติ. เอตฺถ หิ วา สทฺโท วิภาวเน นาม อตฺเถ, ‘‘รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติอาทีสุ วิย. เอวํ วตฺวา อถ อตฺตโน อภิวาทนาทีนิ อกโรนฺตํ ภควนฺตํ ทิสฺวา อาห – ‘‘ตยิทํ โภ โคตม ตเถวา’’ติ. ยํ ตํ มยา สุตํ – ตํ ตเถว, ตํ สวนฺจ เม ทสฺสนฺจ สํสนฺทติ สเมติ, อตฺถโต เอกีภาวํ คจฺฉติ. ‘‘น หิ ภวํ โคตโม…เป… อาสเนน วา นิมนฺเตตี’’ติ เอวํ อตฺตนา สุตํ ทิฏฺเน นิคเมตฺวา นินฺทนฺโต อาห – ‘‘ตยิทํ โภ โคตม น สมฺปนฺนเมวา’’ติ ตํ อภิวาทนาทีนํ อกรณํ น ยุตฺตเมว.

อถสฺส ภควา อตฺตุกฺกํสนปรวมฺภนโทสํ อนุปคมฺม กรุณาสีตลหทเยน ตํ อฺาณํ วิธมิตฺวา ยุตฺตภาวํ ทสฺเสตุกาโม อาห – ‘‘นาหํ ตํ พฺราหฺมณ …เป… มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยา’’ติ. ตตฺรายํ สงฺเขปตฺโถ – ‘‘อหํ, พฺราหฺมณ, อปฺปฏิหเตน สพฺพฺุตฺาณจกฺขุนา โอโลเกนฺโตปิ ตํ ปุคฺคลํ เอตสฺมึ สเทวกาทิเภเท โลเก น ปสฺสามิ, ยมหํ อภิวาเทยฺยํ วา ปจฺจุฏฺเยฺยํ วา อาสเนน วา นิมนฺเตยฺยํ. อนจฺฉริยํ วา เอตํ, ยฺวาหํ อชฺช สพฺพฺุตํ ปตฺโต เอวรูปํ นิปจฺจการารหํ ปุคฺคลํ น ปสฺสามิ. อปิจ โข ยทาปาหํ สมฺปติชาโตว อุตฺตราภิมุโข สตฺตปทวีติหาเรน คนฺตฺวา สกลํ ทสสหสฺสิโลกธาตุํ โอโลเกสึ; ตทาปิ เอตสฺมึ สเทวกาทิเภเท โลเก ตํ ปุคฺคลํ น ปสฺสามิ, ยมหํ อภิวาเทยฺยํ วา ปจฺจุฏฺเยฺยํ วา อาสเนน วา นิมนฺเตยฺยํ. อถ โข มํ โสฬสกปฺปสหสฺสายุโก ขีณาสวมหาพฺรหฺมาปิ อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘ตฺวํ โลเก มหาปุริโส, ตฺวํ สเทวกสฺส โลกสฺส อคฺโค จ เชฏฺโ จ เสฏฺโ จ, นตฺถิ ตยา อุตฺตริตโร’’ติ สฺชาตโสมนสฺโส ปตินาเมสิ; ตทาปิ จาหํ อตฺตนา อุตฺตริตรํ อปสฺสนฺโต อาสภึ วาจํ นิจฺฉาเรสึ – ‘‘อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส, เชฏฺโหมสฺมิ โลกสฺส, เสฏฺโหมสฺมิ โลกสฺสา’’ติ. เอวํ สมฺปติชาตสฺสปิ มยฺหํ อภิวาทนาทิรโห ปุคฺคโล นตฺถิ, สฺวาหํ อิทานิ สพฺพฺุตํ ปตฺโต กํ อภิวาเทยฺยํ วา…เป… อาสเนน วา นิมนฺเตยฺยํ. ตสฺมา ตฺวํ, พฺราหฺมณ, มา ตถาคเต เอวรูปํ นิปจฺจการํ ปตฺถยิตฺถ. ยฺหิ, พฺราหฺมณ, ตถาคโต อภิวาเทยฺย วา…เป… อาสเนน วา นิมนฺเตยฺย, มุทฺธาปิ ตสฺส ปุคฺคลสฺส รตฺติปริโยสาเน ปริปากสิถิลพนฺธนํ วณฺฏา ปวุตฺตตาลผลมิว คีวโต ปจฺฉิชฺชิตฺวา สหสาว ภูมิยํ วิปเตยฺยาติ.

. เอวํ วุตฺเตปิ พฺราหฺมโณ ทุปฺปฺตาย ตถาคตสฺส โลเก เชฏฺภาวํ อสลฺลกฺเขนฺโต เกวลํ ตํ วจนํ อสหมาโน อาห – ‘‘อรสรูโป ภวํ โคตโม’’ติ. อยํ กิรสฺส อธิปฺปาโย – ยํ โลเก อภิวาทนปจฺจุฏฺานอฺชลิกมฺมสามีจิกมฺมํ ‘‘สามคฺคิรโส’’ติ วุจฺจติ, ตํ โภโต โคตมสฺส นตฺถิ, ตสฺมา อรสรูโป ภวํ โคตโม, อรสชาติโก อรสสภาโวติ. อถสฺส ภควา จิตฺตมุทุภาวชนนตฺถํ อุชุวิปจฺจนีกภาวํ ปริหรนฺโต อฺถา ตสฺส วจนสฺสตฺถํ อตฺตนิ สนฺทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺถิ ขฺเวส พฺราหฺมณ ปริยาโย’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ปริยาโยติ การณํ; อยฺหิ ปริยายสทฺโท เทสนา-วาร-การเณสุ วตฺตติ. ‘‘มธุปิณฺฑิกปริยาโยตฺเวว นํ ธาเรหี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๐๕) หิ เอส เทสนายํ วตฺตติ. ‘‘กสฺส นุ โข, อานนฺท, อชฺช ปริยาโย ภิกฺขุนิโย โอวทิตุ’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๓๙๘) วาเร. ‘‘สาธุ, ภนฺเต, ภควา อฺํ ปริยายํ อาจิกฺขตุ, ยถายํ ภิกฺขุสงฺโฆ อฺาย สณฺเหยฺยา’’ติอาทีสุ (ปารา. ๑๖๔) การเณ. สฺวายมิธ การเณ วตฺตติ. ตสฺมา เอตฺถ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ – อตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอตํ การณํ; เยน การเณน มํ ‘‘อรสรูโป ภวํ โคตโม’’ติ วทมาโน ปุคฺคโล สมฺมา วเทยฺย, อวิตถวาทีติ สงฺขฺยํ คจฺเฉยฺย. กตโม ปน โสติ? เย เต พฺราหฺมณ รูปรสา…เป… โผฏฺพฺพรสา เต ตถาคตสฺส ปหีนาติ. กึ วุตฺตํ โหติ? เย เต ชาติวเสน วา อุปปตฺติวเสน วา เสฏฺสมฺมตานมฺปิ ปุถุชฺชนานํ รูปารมฺมณาทีนิ อสฺสาเทนฺตานํ อภินนฺทนฺตานํ รชฺชนฺตานํ อุปฺปชฺชนฺติ กามสุขสฺสาทสงฺขาตา รูปรสสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพรสา, เย อิมํ โลกํ คีวาย พนฺธิตฺวา วิย อาวิฺฉนฺติ, วตฺถารมฺมณาทิสามคฺคิยฺจ อุปฺปนฺนตฺตา สามคฺคิรสาติ วุจฺจนฺติ, เต สพฺเพปิ ตถาคตสฺส ปหีนาติ. มยฺหํ ปหีนาติ วตฺตพฺเพปิ มมากาเรน อตฺตานํ อนุกฺขิปนฺโต ธมฺมํ เทเสติ. เทสนาวิลาโส วา เอส ภควโต.

ตตฺถ ปหีนาติ จิตฺตสนฺตานโต วิคตา ชหิตา วา. เอตสฺมึ ปนตฺเถ กรเณ สามิวจนํ ทฏฺพฺพํ. อริยมคฺคสตฺเถน อุจฺฉินฺนํ ตณฺหาวิชฺชามยํ มูลเมเตสนฺติ อุจฺฉินฺนมูลา. ตาลวตฺถุ วิย เนสํ วตฺถุ กตนฺติ ตาลาวตฺถุกตา. ยถา หิ ตาลรุกฺขํ สมูลํ อุทฺธริตฺวา ตสฺส วตฺถุมตฺเต ตสฺมึ ปเทเส กเต น ปุน ตสฺส ตาลสฺส อุปฺปตฺติ ปฺายติ; เอวํ อริยมคฺคสตฺเถน สมูเล รูปาทิรเส อุทฺธริตฺวา เตสํ ปุพฺเพ อุปฺปนฺนปุพฺพภาเวน วตฺถุมตฺเต จิตฺตสนฺตาเน กเต สพฺเพปิ เต ‘‘ตาลาวตฺถุกตา’’ติ วุจฺจนฺติ. อวิรูฬฺหิธมฺมตฺตา วา มตฺถกจฺฉินฺนตาโล วิย กตาติ ตาลาวตฺถุกตา. ยสฺมา ปน เอวํ ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา โหนฺติ, ยถา เนสํ ปจฺฉาภาโว น โหติ, ตถา กตา โหนฺติ; ตสฺมา อาห – ‘‘อนภาวํกตา’’ติ. อยฺเหตฺถ ปทจฺเฉโท – อนุอภาวํ กตา อนภาวํกตาติ. ‘‘อนภาวํ คตา’’ติปิ ปาโ, ตสฺส อนุอภาวํ คตาติ อตฺโถ. ตตฺถ ปทจฺเฉโท อนุอภาวํ คตา อนภาวํ คตาติ, ยถา อนุอจฺฉริยา อนจฺฉริยาติ. อายตึ อนุปฺปาทธมฺมาติ อนาคเต อนุปฺปชฺชนกสภาวา. เย หิ อภาวํ คตา, เต ปุน กถํ อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ? เตนาห – ‘‘อนภาวํ คตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา’’ติ.

อยํ โข พฺราหฺมณ ปริยาโยติ อิทํ โข, พฺราหฺมณ, การณํ เยน มํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย ‘‘อรสรูโป สมโณ โคตโม’’ติ. โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสีติ ยฺจ โข ตฺวํ สนฺธาย วเทสิ, โส ปริยาโย น โหติ. กสฺมา ปน ภควา เอวมาห? นนุ เอวํ วุตฺเต โย พฺราหฺมเณน วุตฺโต สามคฺคิรโส ตสฺส อตฺตนิ วิชฺชมานตา อนุฺาตา โหตีติ. วุจฺจเต, น โหติ. โย หิ ตํ สามคฺคิรสํ กาตุํ ภพฺโพ หุตฺวา น กโรติ, โส ตทภาเวน อรสรูโปติ วตฺตพฺโพ ภเวยฺย. ภควา ปน อภพฺโพว เอตํ กาตุํ, เตนสฺส กรเณ อภพฺพตํ ปกาเสนฺโต อาห – ‘‘โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสี’’ติ. ยํ ปริยายํ สนฺธาย ตฺวํ มํ ‘‘อรสรูโป’’ติ วเทสิ, โส อมฺเหสุ เนว วตฺตพฺโพติ.

. เอวํ พฺราหฺมโณ อตฺตนา อธิปฺเปตํ อรสรูปตํ อาโรเปตุํ อสกฺโกนฺโต อถาปรํ นิพฺโภโค ภวํ โคตโมติอาทิมาห. สพฺพปริยาเยสุ เจตฺถ วุตฺตนเยเนว โยชนกฺกมํ วิทิตฺวา สนฺธาย ภาสิตมตฺตํ เอวํ เวทิตพฺพํ. พฺราหฺมโณ ตเมว วโยวุฑฺฒานํ อภิวาทนกมฺมาทึ โลเก สามคฺคิปริโภโคติ มฺมาโน ตทภาเวน ภควนฺตํ นิพฺโภโคติ อาห. ภควา ปน ยฺวายํ รูปาทีสุ สตฺตานํ ฉนฺทราคปริโภโค ตทภาวํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน อปรมฺปิ ปริยายํ อนุชานาติ.

. ปุน พฺราหฺมโณ ยํ โลเก วโยวุฑฺฒานํ อภิวาทนาทิกุลสมุทาจารกมฺมํ โลกิยา กโรนฺติ ตสฺส อกิริยํ สมฺปสฺสมาโน ภควนฺตํ อกิริยวาโทติ อาห. ภควา ปน, ยสฺมา กายทุจฺจริตาทีนํ อกิริยํ วทติ ตสฺมา, ตํ อกิริยวาทํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน อปรมฺปิ ปริยายํ อนุชานาติ. ตตฺถ จ กายทุจฺจริตนฺติ ปาณาติปาต-อทินฺนาทาน-มิจฺฉาจารเจตนา เวทิตพฺพา. วจีทุจฺจริตนฺติ มุสาวาท-ปิสุณวาจา-ผรุสวาจา-สมฺผปฺปลาปเจตนา เวทิตพฺพา. มโนทุจฺจริตนฺติ อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทิฏฺิโย เวทิตพฺพา. เปตฺวา เต ธมฺเม, อวเสสา อกุสลา ธมฺมา ‘‘อเนกวิหิตา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา’’ติ เวทิตพฺพา.

. ปุน พฺราหฺมโณ ตเมว อภิวาทนาทิกมฺมํ ภควติ อปสฺสนฺโต อิมํ ‘‘อาคมฺม อยํ โลกตนฺติ โลกปเวณี อุจฺฉิชฺชตี’’ติ มฺมาโน ภควนฺตํ อุจฺเฉทวาโทติ อาห. ภควา ปน ยสฺมา อฏฺสุ โลภสหคตจิตฺเตสุ ปฺจกามคุณิกราคสฺส ทฺวีสุ อกุสลจิตฺเตสุ อุปฺปชฺชมานกโทสสฺส จ อนาคามิมคฺเคน อุจฺเฉทํ วทติ. สพฺพากุสลสมฺภวสฺส ปน นิรวเสสสฺส โมหสฺส อรหตฺตมคฺเคน อุจฺเฉทํ วทติ. เปตฺวา เต ตโย, อวเสสานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ยถานุรูปํ จตูหิ มคฺเคหิ อุจฺเฉทํ วทติ; ตสฺมา ตํ อุจฺเฉทวาทํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน อปรมฺปิ ปริยายํ อนุชานาติ.

. ปุน พฺราหฺมโณ ‘‘ชิคุจฺฉติ มฺเ สมโณ โคตโม อิทํ วโยวุฑฺฒานํ อภิวาทนาทิกุลสมุทาจารกมฺมํ, เตน ตํ น กโรตี’’ติ มฺมาโน ภควนฺตํ เชคุจฺฉีติ อาห. ภควา ปน ยสฺมา ชิคุจฺฉติ กายทุจฺจริตาทีหิ; กึ วุตฺตํ โหติ? ยฺจ ติวิธํ กายทุจฺจริตํ, ยฺจ จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ, ยฺจ ติวิธํ มโนทุจฺจริตํ, ยา จ เปตฺวา ตานิ ทุจฺจริตานิ อวเสสานํ ลามกฏฺเน ปาปกานํ อโกสลฺลสมฺภูตฏฺเน อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติ สมาปชฺชนา สมงฺคิภาโว, ตํ สพฺพมฺปิ คูถํ วิย มณฺฑนกชาติโย ปุริโส ชิคุจฺฉติ หิรียติ, ตสฺมา ตํ เชคุจฺฉิตํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน อปรมฺปิ ปริยายํ อนุชานาติ. ตตฺถ ‘‘กายทุจฺจริเตนา’’ติ อุปโยคตฺเถ กรณวจนํ ทฏฺพฺพํ.

. ปุน พฺราหฺมโณ ตเมว อภิวาทนาทิกมฺมํ ภควติ อปสฺสนฺโต ‘‘อยํ อิมํ โลกเชฏฺกกมฺมํ วิเนติ วินาเสติ, อถ วา ยสฺมา เอตํ สามีจิกมฺมํ น กโรติ ตสฺมา อยํ วิเนตพฺโพ นิคฺคณฺหิตพฺโพ’’ติ มฺมาโน ภควนฺตํ เวนยิโกติ อาห. ตตฺรายํ ปทตฺโถ – วินยตีติ วินโย, วินาเสตีติ วุตฺตํ โหติ. วินโย เอว เวนยิโก, วินยํ วา อรหตีติ เวนยิโก, นิคฺคหํ อรหตีติ วุตฺตํ โหติ. ภควา ปน, ยสฺมา ราคาทีนํ วินยาย วูปสมาย ธมฺมํ เทเสติ, ตสฺมา เวนยิโก โหติ. อยเมว เจตฺถ ปทตฺโถ – วินยาย ธมฺมํ เทเสตีติ เวนยิโก. วิจิตฺรา หิ ตทฺธิตวุตฺติ! สฺวายํ ตํ เวนยิกภาวํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน อปรมฺปิ ปริยายํ อนุชานาติ.

. ปุน พฺราหฺมโณ ยสฺมา อภิวาทนาทีนิ สามีจิกมฺมานิ กโรนฺตา วโยวุฑฺเฒ โตเสนฺติ หาเสนฺติ, อกโรนฺตา ปน ตาเปนฺติ วิเหเสนฺติ โทมนสฺสํ เนสํ อุปฺปาเทนฺติ, ภควา จ ตานิ น กโรติ; ตสฺมา ‘‘อยํ วโยวุฑฺเฒ ตปตี’’ติ มฺมาโน สปฺปุริสาจารวิรหิตตฺตา วา ‘‘กปณปุริโส อย’’นฺติ มฺมาโน ภควนฺตํ ตปสฺสีติ อาห. ตตฺรายํ ปทตฺโถ – ตปตีติ ตโป, โรเสติ วิเหเสตีติ วุตฺตํ โหติ, สามีจิกมฺมากรณสฺเสตํ นามํ. ตโป อสฺส อตฺถีติ ตปสฺสี. ทุติเย อตฺถวิกปฺเป พฺยฺชนานิ อวิจาเรตฺวา โลเก กปณปุริโส ‘‘ตปสฺสี’’ติ วุจฺจติ. ภควา ปน เย อกุสลา ธมฺมา โลกํ ตปนโต ตปนียาติ วุจฺจนฺติ, เตสํ ปหีนตฺตา ยสฺมา ตปสฺสีติ สงฺขฺยํ คโต, ตสฺมา ตํ ตปสฺสิตํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน อปรมฺปิ ปริยายํ อนุชานาติ. ตตฺรายํ ปทตฺโถ – ตปนฺตีติ ตปา, อกุสลธมฺมานเมตํ อธิวจนํ. วุตฺตมฺปิ เหตํ – ‘‘อิธ ตปฺปติ เปจฺจ ตปฺปตี’’ติ. ตถา เต ตเป อสฺสิ นิรสฺสิ ปหาสิ วิทฺธํเสสีติ ตปสฺสี.

๑๐. ปุน พฺราหฺมโณ ตํ อภิวาทนาทิกมฺมํ เทวโลกคพฺภสมฺปตฺติยา เทวโลกปฏิสนฺธิปฏิลาภาย สํวตฺตตีติ มฺมาโน ภควติ จสฺส อภาวํ ทิสฺวา ภควนฺตํ อปคพฺโภติ อาห. โกธวเสน วา ภควโต มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธิคฺคหเณ โทสํ ทสฺเสนฺโตปิ เอวมาห. ตตฺรายํ ปทตฺโถ – คพฺภโต อปคโตติ อปคพฺโภ, อภพฺโพ เทวโลกูปปตฺตึ ปาปุณิตุนฺติ อธิปฺปาโย. หีโน วา คพฺโภ อสฺสาติ อปคพฺโภ, เทวโลกคพฺภปริพาหิรตฺตา อายตึ หีนคพฺภปฏิลาภภาคีติ, หีโน วาสฺส มาตุกุจฺฉิมฺหิ คพฺภวาโส อโหสีติ อธิปฺปาโย. ภควโต ปน ยสฺมา อายตึ คพฺภเสยฺยา อปคตา, ตสฺมา โส ตํ อปคพฺภตํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน อปรมฺปิ ปริยายํ อนุชานาติ. ตตฺร จ ยสฺส โข พฺราหฺมณ อายตึ คพฺภเสยฺยา ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ ปหีนาติ เอเตสํ ปทานํ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ – พฺราหฺมณ, ยสฺส ปุคฺคลสฺส อนาคเต คพฺภเสยฺยา, ปุนพฺภเว จ อภินิพฺพตฺติ อนุตฺตเรน มคฺเคน วิหตการณตฺตา ปหีนาติ. คพฺภเสยฺยคฺคหเณน เจตฺถ ชลาพุชโยนิ คหิตา. ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติคฺคหเณน อิตรา ติสฺโสปิ.

อปิจ คพฺภสฺส เสยฺยา คพฺภเสยฺยา, ปุนพฺภโว เอว อภินิพฺพตฺติ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยถา จ วิฺาณฏฺิตีติ วุตฺเตปิ น วิฺาณโต อฺา ิติ อตฺถิ, เอวมิธาปิ น คพฺภโต อฺา เสยฺยาติ เวทิตพฺพา. อภินิพฺพตฺติ จ นาม ยสฺมา ปุนพฺภวภูตาปิ อปุนพฺภวภูตาปิ อตฺถิ, อิธ จ ปุนพฺภวภูตา อธิปฺเปตา. ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘ปุนพฺภโว เอว อภินิพฺพตฺติ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺตี’’ติ.

๑๑. เอวํ อาคตกาลโต ปฏฺาย อรสรูปตาทีหิ อฏฺหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสนฺตมฺปิ พฺราหฺมณํ ภควา ธมฺมิสฺสโร ธมฺมราชา ธมฺมสฺสามี ตถาคโต อนุกมฺปาย สีตเลเนว จกฺขุนา โอโลเกนฺโต ยํ ธมฺมธาตุํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา เทสนาวิลาสปฺปตฺโต โหติ, ตสฺสา ธมฺมธาตุยา สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา วิคตวลาหเก อนฺตลิกฺเข สมพฺภุคฺคโต ปุณฺณจนฺโท วิย สรทกาเล สูริโย วิย จ พฺราหฺมณสฺส หทยนฺธการํ วิธมนฺโต ตานิเยว อกฺโกสวตฺถูนิ เตน เตน ปริยาเยน อฺถา ทสฺเสตฺวา, ปุนปิ อตฺตโน กรุณาวิปฺผารํ อฏฺหิ โลกธมฺเมหิ อกมฺปิยภาเวน ปฏิลทฺธํ, ตาทิคุณลกฺขณํ ปถวีสมจิตฺตตํ อกุปฺปธมฺมตฺจ ปกาเสนฺโต ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ เกวลํ ปลิตสิรขณฺฑทนฺตวลิตฺตจตาทีหิ อตฺตโน วุฑฺฒภาวํ สฺชานาติ, โน จ โข ชานาติ อตฺตานํ ชาติยา อนุคตํ ชราย อนุสฏํ พฺยาธินา อภิภูตํ มรเณน อพฺภาหตํ วฏฺฏขาณุภูตํ อชฺช มริตฺวา ปุน สฺเวว อุตฺตานสยนทารกภาวคมนียํ. มหนฺเตน โข ปน อุสฺสาเหน มม สนฺติกํ อาคโต, ตทสฺส อาคมนํ สาตฺถกํ โหตู’’ติ จินฺเตตฺวา อิมสฺมึ โลเก อตฺตโน อปฺปฏิสมํ ปุเรชาตภาวํ ทสฺเสนฺโต เสยฺยถาปิ พฺราหฺมณาติอาทินา นเยน พฺราหฺมณสฺส ธมฺมเทสนํ วฑฺเฒสิ.

ตตฺถ เสยฺยถาติ โอปมฺมตฺเถ นิปาโต; ปีติ สมฺภาวนตฺเถ; อุภเยนาปิ ยถา นาม พฺราหฺมณาติ ทสฺเสติ. กุกฺกุฏิยา อณฺฑานิ อฏฺ วา ทส วา ทฺวาทส วาติ เอตฺถ ปน กิฺจาปิ กุกฺกุฏิยา วุตฺตปฺปการโต อูนาธิกานิปิ อณฺฑานิ โหนฺติ, อถ โข วจนสิลิฏฺตาย เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวฺหิ โลเก สิลิฏฺวจนํ โหติ. ตานสฺสูติ ตานิ อสฺสุ, ภเวยฺยุนฺติ วุตฺตํ โหติ. กุกฺกุฏิยา สมฺมา อธิสยิตานีติ ตาย ชเนตฺติยา กุกฺกุฏิยา ปกฺเข ปสาเรตฺวา เตสํ อุปริ สยนฺติยา สมฺมา อธิสยิตานิ. สมฺมา ปริเสทิตานีติ กาเลน กาลํ อุตุํ คณฺหาเปนฺติยา สุฏฺุ สมนฺตโต เสทิตานิ, อุสฺมีกตานีติ วุตฺตํ โหติ. สมฺมา ปริภาวิตานีติ กาเลน กาลํ สุฏฺุ สมนฺตโต ภาวิตานิ, กุกฺกุฏคนฺธํ คาหาปิตานีติ วุตฺตํ โหติ.

อิทานิ ยสฺมา ตาย กุกฺกุฏิยา เอวํ ตีหิ ปกาเรหิ ตานิ อณฺฑานิ ปริปาลิยมานานิ น ปูตีนิ โหนฺติ. โยปิ เนสํ อลฺลสิเนโห โส ปริยาทานํ คจฺฉติ. กปาลํ ตนุกํ โหติ, ปาทนขสิขา จ มุขตุณฺฑกฺจ ขรํ โหติ, กุกฺกุฏโปตกา ปริปากํ คจฺฉนฺติ, กปาลสฺส ตนุกตฺตา พหิทฺธา อาโลโก อนฺโต ปฺายติ. อถ เต กุกฺกุฏโปตกา ‘‘จิรํ วต มยํ สงฺกุฏิตหตฺถปาทา สมฺพาเธ สยิมฺห, อยฺจ พหิ อาโลโก ทิสฺสติ, เอตฺถ ทานิ โน สุขวิหาโร ภวิสฺสตี’’ติ นิกฺขมิตุกามา หุตฺวา กปาลํ ปาเทน ปหรนฺติ, คีวํ ปสาเรนฺติ. ตโต ตํ กปาลํ ทฺเวธา ภิชฺชติ, กุกฺกุฏโปตกา ปกฺเข วิธุนนฺตา ตงฺขณานุรูปํ วิรวนฺตา นิกฺขมนฺติ. เอวํ นิกฺขมนฺตานฺจ เนสํ โย ปมตรํ นิกฺขมติ โส ‘เชฏฺโ’ติ วุจฺจติ. ตสฺมา ภควา ตาย อุปมาย อตฺตโน เชฏฺกภาวํ สาเธตุกาโม พฺราหฺมณํ ปุจฺฉิ – ‘‘โย นุ โข เตสํ กุกฺกุฏจฺฉาปกานํ…เป… กินฺติ สฺวสฺส วจนีโย’’ติ. ตตฺถ กุกฺกุฏจฺฉาปกานนฺติ กุกฺกุฏโปตกานํ. กินฺติ สฺวสฺส วจนีโยติ โส กินฺติ วจนีโย อสฺส, กินฺติ วตฺตพฺโพ ภเวยฺย เชฏฺโ วา กนิฏฺโ วาติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.

ตโต พฺราหฺมโณ อาห – ‘‘เชฏฺโติสฺส โภ โคตม วจนีโย’’ติ. โภ, โคตม, โส เชฏฺโ อิติ อสฺส วจนีโย. กสฺมาติ เจ? โส หิ เนสํ เชฏฺโ, ตสฺมา โส เนสํ วุฑฺฒตโรติ อตฺโถ. อถสฺส ภควา โอปมฺมํ สมฺปฏิปาเทนฺโต อาห – ‘‘เอวเมว โข อหํ พฺราหฺมณา’’ติอาทิ. ยถา โส กุกฺกุฏจฺฉาปโก เชฏฺโติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ; เอวํ อหมฺปิ อวิชฺชาคตาย ปชาย. อวิชฺชาคตายาติ อวิชฺชา วุจฺจติ อฺาณํ, ตตฺถ คตาย. ปชายาติ สตฺตาธิวจนเมตํ. ตสฺมา เอตฺถ อวิชฺชณฺฑโกสสฺส อนฺโต ปวิฏฺเสุ สตฺเตสูติ เอวํ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อณฺฑภูตายาติ อณฺเฑ ภูตาย ชาตาย สฺชาตาย. ยถา หิ อณฺเฑ นิพฺพตฺตา เอกจฺเจ สตฺตา อณฺฑภูตาติ วุจฺจนฺติ; เอวมยํ สพฺพาปิ ปชา อวิชฺชณฺฑโกเส นิพฺพตฺตตฺตา อณฺฑภูตาติ วุจฺจติ. ปริโยนทฺธายาติ เตน อวิชฺชณฺฑโกเสน สมนฺตโต โอนทฺธาย พทฺธาย เวิตาย. อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวาติ ตํ อวิชฺชามยํ อณฺฑโกสํ ภินฺทิตฺวา. เอโกว โลเกติ สกเลปิ โลกสนฺนิวาเส อหเมว เอโก อทุติโย. อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ อนุตฺตรนฺติ อุตฺตรวิรหิตํ สพฺพเสฏฺํ. สมฺมาสมฺโพธินฺติ สมฺมา สามฺจ โพธึ; อถ วา ปสตฺถํ สุนฺทรฺจ โพธึ; โพธีติ รุกฺโขปิ มคฺโคปิ สพฺพฺุตฺาณมฺปิ นิพฺพานมฺปิ วุจฺจติ. ‘‘โพธิรุกฺขมูเล ปมาภิสมฺพุทฺโธ’’ติ (มหาว. ๑; อุทา. ๑) จ ‘‘อนฺตรา จ คยํ อนฺตรา จ โพธิ’’นฺติ (มหาว. ๑๑; ม. นิ. ๑.๒๘๕) จ อาคตฏฺาเนสุ หิ รุกฺโข โพธีติ วุจฺจติ. ‘‘โพธิ วุจฺจติ จตูสุ มคฺเคสุ าณ’’นฺติ (จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๒๑) อาคตฏฺาเน มคฺโค. ‘‘ปปฺโปติ โพธึ วรภูริเมธโส’’ติ (ที. นิ. ๓.๒๑๗) อาคตฏฺาเน สพฺพฺุตฺาณํ. ‘‘ปตฺวาน โพธึ อมตํ อสงฺขต’’นฺติ อาคตฏฺาเน นิพฺพานํ. อิธ ปน ภควโต อรหตฺตมคฺคาณํ อธิปฺเปตํ. สพฺพฺุตฺาณนฺติปิ วทนฺติ. อฺเสํ อรหตฺตมคฺโค อนุตฺตรา โพธิ โหติ, น โหตีติ? น โหติ. กสฺมา? อสพฺพคุณทายกตฺตา. เตสฺหิ กสฺสจิ อรหตฺตมคฺโค อรหตฺตผลเมว เทติ, กสฺสจิ ติสฺโส วิชฺชา, กสฺสจิ ฉ อภิฺา, กสฺสจิ จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา, กสฺสจิ สาวกปารมิาณํ. ปจฺเจกพุทฺธานมฺปิ ปจฺเจกโพธิาณเมว เทติ. พุทฺธานํ ปน สพฺพคุณสมฺปตฺตึ เทติ, อภิเสโก วิย รฺโ สพฺพโลกิสฺสริยภาวํ. ตสฺมา อฺสฺส กสฺสจิปิ อนุตฺตรา โพธิ น โหตีติ. อภิสมฺพุทฺโธติ อพฺภฺาสึ ปฏิวิชฺฌึ; ปตฺโตมฺหิ อธิคโตมฺหีติ วุตฺตํ โหติ.

อิทานิ ยเทตํ ภควตา ‘‘เอวเมว โข อหํ พฺราหฺมณา’’ติ อาทินา นเยน วุตฺตํ โอปมฺมสมฺปฏิปาทนํ, ตํ เอวมตฺเถน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา เวทิตพฺพํ. ยถา หิ ตสฺสา กุกฺกุฏิยา อตฺตโน อณฺเฑสุ อธิสยนาทิติวิธกิริยากรณํ; เอวํ โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺนสฺส โพธิสตฺตภูตสฺส ภควโต อตฺตโน จิตฺตสนฺตาเน อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ ติวิธานุปสฺสนากรณํ. กุกฺกุฏิยา ติวิธกิริยาสมฺปาทเนน อณฺฑานํ อปูติภาโว วิย โพธิสตฺตภูตสฺส ภควโต ติวิธานุปสฺสนาสมฺปาทเนน วิปสฺสนาาณสฺส อปริหานิ. กุกฺกุฏิยา ติวิธกิริยากรเณน อณฺฑานํ อลฺลสิเนหปริยาทานํ วิย โพธิสตฺตภูตสฺส ภควโต ติวิธานุปสฺสนาสมฺปาทเนน ภวตฺตยานุคตนิกนฺติสิเนหปริยาทานํ. กุกฺกุฏิยา ติวิธกิริยากรเณน อณฺฑกปาลานํ ตนุภาโว วิย โพธิสตฺตภูตสฺส ภควโต ติวิธานุปสฺสนาสมฺปาทเนน อวิชฺชณฺฑโกสสฺส ตนุภาโว. กุกฺกุฏิยา ติวิธกิริยากรเณน กุกฺกุฏจฺฉาปกสฺส ปาทนขสิขาตุณฺฑกานํ ถทฺธขรภาโว วิย โพธิสตฺตภูตสฺส ภควโต ติวิธานุปสฺสนาสมฺปาทเนน วิปสฺสนาาณสฺส ติกฺขขรวิปฺปสนฺนสูรภาโว. กุกฺกุฏิยา ติวิธกิริยากรเณน กุกฺกุฏจฺฉาปกสฺส ปริปากกาโล วิย โพธิสตฺตภูตสฺส ภควโต ติวิธานุปสฺสนาสมฺปาทเนน วิปสฺสนาาณสฺส ปริปากกาโล วฑฺฒิตกาโล คพฺภคฺคหณกาโล เวทิตพฺโพ.

ตโต กุกฺกุฏิยา ติวิธกิริยากรเณน กุกฺกุฏจฺฉาปกสฺส ปาทนขสิขาย วา มุขตุณฺฑเกน วา อณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ปกฺเข ปปฺโผเฏตฺวา โสตฺถินา อภินิพฺภิทากาโล วิย โพธิสตฺตภูตสฺส ภควโต ติวิธานุปสฺสนาสมฺปาทเนน วิปสฺสนาาณํ คพฺภํ คณฺหาเปตฺวา อนุปุพฺพาธิคเตน อรหตฺตมคฺเคน อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา อภิฺาปกฺเข ปปฺโผเฏตฺวา โสตฺถินา สกลพุทฺธคุณสจฺฉิกตกาโล เวทิตพฺโพติ.

สฺวาหํ พฺราหฺมณ เชฏฺโ เสฏฺโ โลกสฺสาติ โส อหํ พฺราหฺมณ ยถา เตสํ กุกฺกุฏโปตกานํ ปมตรํ อณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา อภินิพฺภิโท กุกฺกุฏโปตโก เชฏฺโ โหติ; เอวํ อวิชฺชาคตาย ปชาย ตํ อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ปมตรํ อริยาย ชาติยา ชาตตฺตา เชฏฺโ วุฑฺฒตโรติ สงฺขฺยํ คโต. สพฺพคุเณหิ ปน อปฺปฏิสมตฺตา เสฏฺโติ.

เอวํ ภควา อตฺตโน อนุตฺตรํ เชฏฺเสฏฺภาวํ พฺราหฺมณสฺส ปกาเสตฺวา อิทานิ ยาย ปฏิปทาย ตํ อธิคโต ตํ ปฏิปทํ ปุพฺพภาคโต ปภุติ ทสฺเสตุํ ‘‘อารทฺธํ โข ปน เม พฺราหฺมณา’’ติอาทิมาห. อิมํ วา ภควโต อนุตฺตรํ เชฏฺเสฏฺภาวํ สุตฺวา พฺราหฺมณสฺส จิตฺตเมวมุปฺปนฺนํ – ‘‘กาย นุ โข ปฏิปทาย อิมํ ปตฺโต’’ติ. ตสฺส จิตฺตมฺาย ‘‘อิมายาหํ ปฏิปทาย อิมํ อนุตฺตรํ เชฏฺเสฏฺภาวํ ปตฺโต’’ติ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. ตตฺถ อารทฺธํ โข ปน เม พฺราหฺมณ วีริยํ อโหสีติ พฺราหฺมณ, น มยา อยํ อนุตฺตโร เชฏฺเสฏฺภาโว กุสีเตน มุฏฺสฺสตินา สารทฺธกาเยน วิกฺขิตฺตจิตฺเตน อธิคโต, อปิจ โข ตทธิคมาย อารทฺธํ โข ปน เม วีริยํ อโหสิ, โพธิมณฺเฑ นิสินฺเนน มยา จตุรงฺคสมนฺนาคตํ วีริยํ อารทฺธํ อโหสิ, ปคฺคหิตํ อสิถิลปฺปวตฺติตนฺติ วุตฺตํ โหติ. อารทฺธตฺตาเยว จ เม ตํ อสลฺลีนํ อโหสิ. น เกวลฺจ วีริยเมว, สติปิ เม อารมฺมณาภิมุขีภาเวน อุปฏฺิตา อโหสิ. อุปฏฺิตตฺตาเยว จ อสมฺมุฏฺา. ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธติ กายจิตฺตปสฺสทฺธิวเสน กาโยปิ เม ปสฺสทฺโธ อโหสิ. ตตฺถ ยสฺมา นามกาเย ปสฺสทฺเธ รูปกาโยปิ ปสฺสทฺโธเยว โหติ, ตสฺมา นามกาโย รูปกาโยติ อวิเสเสตฺวาว ปสฺสทฺโธ กาโยติ วุตฺตํ. อสารทฺโธติ โส จ โข ปสฺสทฺธตฺตาเยว อสารทฺโธ, วิคตทรโถติ วุตฺตํ โหติ. สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺคนฺติ จิตฺตมฺปิ เม สมฺมา อาหิตํ สุฏฺุ ปิตํ อปฺปิตํ วิย อโหสิ; สมาหิตตฺตา เอว จ เอกคฺคํ อจลํ นิปฺผนฺทนนฺติ. เอตฺตาวตา ฌานสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทา กถิตา โหติ.

ปมชฺฌานกถา

อิทานิ อิมาย ปฏิปทาย อธิคตํ ปมชฺฌานํ อาทึ กตฺวา วิชฺชตฺตยปริโยสานํ วิเสสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โส โข อห’’นฺติ อาทิมาห. ตตฺถ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหีติอาทีนํ กิฺจาปิ ‘‘ตตฺถ กตเม กามา? ฉนฺโท กาโม, ราโค กาโม, ฉนฺทราโค กาโม; สงฺกปฺโป กาโม, ราโค กาโม, สงฺกปฺปราโค กาโม – อิเม วุจฺจนฺติ กามา. ตตฺถ กตเม อกุสลา ธมฺมา? กามจฺฉนฺโท…เป… วิจิกิจฺฉา – อิเม วุจฺจนฺติ อกุสลา ธมฺมา. อิติ อิเมหิ จ กาเมหิ อิเมหิ จ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ วิวิตฺโต โหติ ปวิวิตฺโต, เตน วุจฺจติ – ‘วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’’’ติอาทินา (วิภ. ๕๖๔) นเยน วิภงฺเคเยว อตฺโถ วุตฺโต. ตถาปิ อฏฺกถานยํ วินา น สุฏฺุ ปากโฏติ อฏฺกถานเยเนว นํ ปกาสยิสฺสาม.

เสยฺยถิทํ – วิวิจฺเจว กาเมหีติ กาเมหิ วิวิจฺจิตฺวา วินา หุตฺวา อปสกฺเกตฺวา. โย ปนายเมตฺถ เอวกาโร, โส นิยมตฺโถติ เวทิตพฺโพ. ยสฺมา จ นิยมตฺโถ, ตสฺมา ตสฺมึ ปมชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรณสมเย อวิชฺชมานานมฺปิ กามานํ ตสฺส ปมชฺฌานสฺส ปฏิปกฺขภาวํ กามปริจฺจาเคเนว จสฺส อธิคมํ ทีเปติ. กถํ? ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติ เอวฺหิ นิยเม กริยมาเน อิทํ ปฺายติ. นูนิมสฺส ฌานสฺส กามา ปฏิปกฺขภูตา, เยสุ สติ อิทํ น ปวตฺตติ, อนฺธกาเร สติ ปทีโป วิย, เตสํ ปริจฺจาเคเนว จสฺส อธิคโม โหติ, โอริมตีรปริจฺจาเคน ปาริมตีรสฺเสว, ตสฺมา นิยมํ กโรตีติ.

ตตฺถ สิยา – ‘‘กสฺมา ปเนส ปุพฺพปเทเยว วุตฺโต น อุตฺตรปเท, กึ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อวิวิจฺจาปิ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยา’’ติ? น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ. ตนฺนิสฺสรณโต หิ ปุพฺพปเทเอว เอส วุตฺโต. กามธาตุสมติกฺกมนโต หิ กามราคปฏิปกฺขโต จ อิทํ ฌานํ กามานเมว นิสฺสรณํ. ยถาห – ‘‘กามานเมตํ นิสฺสรณํ, ยทิทํ เนกฺขมฺม’’นฺติ (อิติวุ. ๗๒). อุตฺตรปเทปิ ปน ยถา ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, ปโม สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙) เอตฺถ เอวกาโร อาเนตฺวา วุจฺจติ, เอวํ วตฺตพฺโพ. น หิ สกฺกา อิโต อฺเหิปิ นีวรณสงฺขาเตหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อวิวิจฺจ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. ตสฺมา ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺเจว อกุสเลหิ ธมฺเมหี’’ติ เอวํ ปททฺวเยปิ เอส ทฏฺพฺโพ. ปททฺวเยปิ จ กิฺจาปิ ‘‘วิวิจฺจา’’ติ อิมินา สาธารณวจเนน ตทงฺควิเวกาทโย กายวิเวกาทโย จ สพฺเพปิ วิเวกา สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ตถาปิ กายวิเวโก, จิตฺตวิเวโก, วิกฺขมฺภนวิเวโกติ ตโย เอว อิธ ทฏฺพฺพา. ‘‘กาเมหี’’ติ อิมินา ปน ปเทน เย จ นิทฺเทเส ‘‘กตเม วตฺถุกามา มนาปิยา รูปา’’ติอาทินา (มหานิ. ๑; วิภ. ๙๖๔) นเยน วตฺถุกามา วุตฺตา, เย จ ตตฺเถว วิภงฺเค จ ‘‘ฉนฺโท กาโม’’ติอาทินา (มหานิ. ๑) นเยน กิเลสกามา วุตฺตา, เต สพฺเพปิ สงฺคหิตา อิจฺเจว ทฏฺพฺพา. เอวฺหิ สติ ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติ วตฺถุกาเมหิปิ วิวิจฺเจวาติ อตฺโถ ยุชฺชติ. เตน กายวิเวโก วุตฺโต โหติ.

วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหีติ กิเลสกาเมหิ สพฺพากุสเลหิ ธมฺเมหิ วา วิวิจฺจาติ อตฺโถ ยุชฺชติ. เตน จิตฺตวิเวโก วุตฺโต โหติ. ปุริเมน เจตฺถ วตฺถุกาเมหิ วิเวกวจนโตเยว กามสุขปริจฺจาโค, ทุติเยน กิเลสกาเมหิ วิเวกวจนโต เนกฺขมฺมสุขปริคฺคโห วิภาวิโต โหติ. เอวํ วตฺถุกามกิเลสกามวิเวกวจนโตเยว จ เอเตสํ ปเมน สํกิเลสวตฺถุปฺปหานํ, ทุติเยน สํกิเลสปฺปหานํ; ปเมน โลลภาวสฺส เหตุปริจฺจาโค, ทุติเยน พาลภาวสฺส; ปเมน จ ปโยคสุทฺธิ, ทุติเยน อาสยโปสนํ วิภาวิตํ โหตีติ วิฺาตพฺพํ. เอส ตาว นโย ‘‘กาเมหี’’ติ เอตฺถ วุตฺตกาเมสุ วตฺถุกามปกฺเข.

กิเลสกามปกฺเข ปน ฉนฺโทติ จ ราโคติ จ เอวมาทีหิ อเนกเภโท กามจฺฉนฺโทเยว กาโมติ อธิปฺเปโต. โส จ อกุสลปริยาปนฺโนปิ สมาโน, ‘‘ตตฺถ กตโม กามฉนฺโท กาโม’’ติอาทินา นเยน วิภงฺเค ฌานปฏิปกฺขโต วิสุํ วุตฺโต. กิเลสกามตฺตา วา ปุริมปเท วุตฺโต, อกุสลปริยาปนฺนตฺตา ทุติยปเท. อเนกเภทโต จสฺส กามโตติ อวตฺวา กาเมหีติ วุตฺตํ. อฺเสมฺปิ จ ธมฺมานํ อกุสลภาเว วิชฺชมาเน ‘‘ตตฺถ กตเม อกุสลา ธมฺมา กามจฺฉนฺโท’’ติอาทินา นเยน วิภงฺเค (วิภ. ๕๖๔) อุปริฌานงฺคปจฺจนีกปฏิปกฺขภาวทสฺสนโต นีวรณาเนว วุตฺตานิ. นีวรณานิ หิ ฌานงฺคปจฺจนีกานิ, เตสํ ฌานงฺคาเนว ปฏิปกฺขานิ, วิทฺธํสกานีติ วุตฺตํ โหติ. ตถา หิ ‘‘สมาธิ กามจฺฉนฺทสฺส ปฏิปกฺโข, ปีติ พฺยาปาทสฺส, วิตกฺโก ถินมิทฺธสฺส, สุขํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส, วิจาโร วิจิกิจฺฉายา’’ติ เปฏเก วุตฺตํ.

เอวเมตฺถ ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติ อิมินา กามจฺฉนฺทสฺส วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต โหติ. ‘‘วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’’ติ อิมินา ปฺจนฺนมฺปิ นีวรณานํ. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน ปเมน กามจฺฉนฺทสฺส, ทุติเยน เสสนีวรณานํ. ตถา ปเมน ตีสุ อกุสลมูเลสุ ปฺจกามคุณเภทวิสยสฺส โลภสฺส, ทุติเยน อาฆาตวตฺถุเภทาทิวิสยานํ โทสโมหานํ. โอฆาทีสุ วา ธมฺเมสุ ปเมน กาโมฆ-กามโยค-กามาสว-กามุปาทาน-อภิชฺฌากายคนฺถ-กามราค-สํโยชนานํ, ทุติเยน อวเสสโอฆ-โยคาสว-อุปาทาน-คนฺถ-สํโยชนานํ. ปเมน จ ตณฺหาย ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ, ทุติเยน อวิชฺชาย ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ. อปิจ ปเมน โลภสมฺปยุตฺตอฏฺจิตฺตุปฺปาทานํ, ทุติเยน เสสานํ จตุนฺนํ อกุสลจิตฺตุปฺปาทานํ วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต โหตีติ เวทิตพฺโพ. อยํ ตาว ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’’ติ เอตฺถ อตฺถปฺปกาสนา.

เอตฺตาวตา จ ปมสฺส ฌานสฺส ปหานงฺคํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สมฺปโยคงฺคํ ทสฺเสนฺโต สวิตกฺกํ สวิจารนฺติอาทิมาห. ตตฺถ วิตกฺกนํ วิตกฺโก, อูหนนฺติ วุตฺตํ โหติ. สฺวายํ อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อภินิโรปนลกฺขโณ, อาหนนปริยาหนนรโส. ตถา หิ ‘‘เตน โยคาวจโร อารมฺมณํ วิตกฺกาหตํ วิตกฺกปริยาหตํ กโรตี’’ติ วุจฺจติ. อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อานยนปจฺจุปฏฺาโน. วิจรณํ วิจาโร, อนุสฺจรณนฺติ วุตฺตํ โหติ. สฺวายํ อารมฺมณานุมชฺชนลกฺขโณ, ตตฺถ สหชาตานุโยชนรโส, จิตฺตสฺส อนุปฺปพนฺธนปจฺจุปฏฺาโน. สนฺเตปิ จ เนสํ กตฺถจิ อวิปฺปโยเค โอฬาริกฏฺเน ฆณฺฏาภิฆาตสทฺโท วิย เจตโส ปมาภินิปาโต วิตกฺโก, สุขุมฏฺเน อนุรโว วิย อนุปฺปพนฺโธ วิจาโร. วิปฺผารวา เจตฺถ วิตกฺโก ปริปฺผนฺทนภาโว จิตฺตสฺส, อากาเส อุปฺปติตุกามสฺส ปกฺขิโน ปกฺขวิกฺเขโป วิย ปทุมาภิมุขปาโต วิย จ คนฺธานุพนฺธเจตโส ภมรสฺส. สนฺตวุตฺติ วิจาโร นาติปริปฺผนฺทนภาโว จิตฺตสฺส, อากาเส อุปฺปติตสฺส ปกฺขิโน ปกฺขปฺปสารณํ วิย ปริพฺภมนํ วิย จ ปทุมาภิมุขปติตสฺส ภมรสฺส ปทุมสฺส อุปริภาเค. โส ปน เนสํ วิเสโส ปม-ทุติยชฺฌาเนสุ ปากโฏ โหติ. อิติ อิมินา จ วิตกฺเกน อิมินา จ วิจาเรน สห วตฺตติ รุกฺโข วิย ปุปฺเผน จ ผเลน จาติ อิทํ ฌานํ ‘‘สวิตกฺกํ สวิจาร’’นฺติ วุจฺจติ. วิภงฺเค ปน ‘‘อิมินา จ วิตกฺเกน อิมินา จ วิจาเรน อุเปโต โหติ สมุเปโต’’ติอาทินา (วิภ. ๕๖๕) นเยน ปุคฺคลาธิฏฺานา เทสนา กตา. อตฺโถ ปน ตตฺราปิ เอวเมว ทฏฺพฺโพ.

วิเวกชนฺติ เอตฺถ วิวิตฺติ วิเวโก, นีวรณวิคโมติ อตฺโถ. วิวิตฺโตติ วา วิเวโก, นีวรณวิวิตฺโต ฌานสมฺปยุตฺตธมฺมราสีติ อตฺโถ. ตสฺมา วิเวกา, ตสฺมึ วา วิเวเก ชาตนฺติ วิเวกชํ. ปีติสุขนฺติ เอตฺถ ปินยตีติ ปีติ, สา สมฺปิยายนลกฺขณา กายจิตฺตปีนนรสา, ผรณรสา วา, โอทคฺยปจฺจุปฏฺานา. สุขนํ สุขํ, สุฏฺุ วา ขาทติ ขนติ จ กายจิตฺตาพาธนฺติ สุขํ, ตํ สาตลกฺขณํ, สมฺปยุตฺตกานํ อุปพฺรูหนรสํ, อนุคฺคหปจฺจุปฏฺานํ. สติปิ จ เนสํ กตฺถจิ อวิปฺปโยเค อิฏฺารมฺมณปฏิลาภตุฏฺิ ปีติ, ปฏิลทฺธรสานุภวนํ สุขํ. ยตฺถ ปีติ ตตฺถ สุขํ, ยตฺถ สุขํ ตตฺถ น นิยมโต ปีติ. สงฺขารกฺขนฺธสงฺคหิตา ปีติ, เวทนากฺขนฺธสงฺคหิตํ สุขํ. กนฺตารขินฺนสฺส วนนฺโตทกทสฺสนสวเนสุ วิย ปีติ, วนจฺฉายปฺปเวสนอุทกปริโภเคสุ วิย สุขํ. ตสฺมึ ตสฺมึ สมเย ปากฏภาวโต เจตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อยฺจ ปีติ, อิทฺจ สุขํ, อสฺส ฌานสฺส, อสฺมึ วา ฌาเน อตฺถีติ อิทํ ฌานํ ‘‘ปีติสุข’’นฺติ วุจฺจติ.

อถ วา ปีติ จ สุขฺจ ปีติสุขํ, ธมฺมวินยาทโย วิย. วิเวกชํ ปีติสุขมสฺส ฌานสฺส, อสฺมึ วา ฌาเน อตฺถีติ เอวมฺปิ วิเวกชํปีติสุขํ. ยเถว หิ ฌานํ, เอวํ ปีติสุขํ เปตฺถ วิเวกชเมว โหติ, ตฺจสฺส อตฺถีติ ตสฺมา เอกปเทเนว ‘‘วิเวกชํ ปีติสุข’’นฺติปิ วตฺตุํ ยุชฺชติ. วิภงฺเค ปน ‘‘อิทํ สุขํ อิมาย ปีติยา สหคต’’นฺติอาทินา (วิภ. ๕๖๗) นเยเนตํ วุตฺตํ. อตฺโถ ปน ตตฺราปิ เอวเมว ทฏฺพฺโพ.

ปมนฺติ คณนานุปุพฺพตา ปมํ, อิทํ ปมํ สมาปชฺชตีติปิ ปมํ. ปจฺจนีกธมฺเม ฌาเปตีติ ฌานํ, อิมินา โยคิโน ฌายนฺตีติปิ ฌานํ, ปจฺจนีกธมฺเม ฑหนฺติ โคจรํ วา จินฺเตนฺตีติ อตฺโถ. สยํ วา ตํ ฌายติ อุปนิชฺฌายตีติ ฌานํ, เตเนว อุปนิชฺฌายนลกฺขณนฺติ วุจฺจติ. ตเทตํ อารมฺมณูปนิชฺฌานํ, ลกฺขณูปนิชฺฌานนฺติ ทุวิธํ โหติ. ตตฺถ อารมฺมณูปนิชฺฌานนฺติ สห อุปจาเรน อฏฺ สมาปตฺติโย วุจฺจนฺติ. กสฺมา? กสิณาทิอารมฺมณูปนิชฺฌายนโต. ลกฺขณูปนิชฺฌานนฺติ วิปสฺสนามคฺคผลานิ วุจฺจนฺติ. กสฺมา? ลกฺขณูปนิชฺฌายนโต. เอตฺถ หิ วิปสฺสนา อนิจฺจลกฺขณาทีนิ อุปนิชฺฌายติ, วิปสฺสนาย อุปนิชฺฌายนกิจฺจํ ปน มคฺเคน สิชฺฌตีติ มคฺโค ลกฺขณูปนิชฺฌานนฺติ วุจฺจติ. ผลํ ปน นิโรธสฺส ตถลกฺขณํ อุปนิชฺฌายตีติ ลกฺขณูปนิชฺฌานนฺติ วุจฺจติ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ อารมฺมณูปนิชฺฌานเมว ฌานนฺติ อธิปฺเปตํ.

เอตฺถาห – ‘‘กตมํ ปน ตํ ฌานํ นาม, ยํ สวิตกฺกํ สวิจารํ…เป… ปีติสุขนฺติ เอวํ อปเทสํ อรหตี’’ติ? วุจฺจเต – ยถา สธโน สปริชโนติอาทีสุ เปตฺวา ธนฺจ ปริชนฺจ อฺโ อปเทสารโห โหติ, เอวํ เปตฺวา วิตกฺกาทิธมฺเม อฺํ อปเทสารหํ นตฺถิ. ยถา ปน สรถา สปตฺติ เสนาติ วุตฺเต เสนงฺเคสุเยว เสนาสมฺมุติ, เอวมิธ ปฺจสุ องฺเคสุเยว ฌานสมฺมุติ เวทิตพฺพา. กตเมสุ ปฺจสุ? วิตกฺโก, วิจาโร, ปีติ, สุขํ, จิตฺเตกคฺคตาติ เอเตสุ. เอตาเนว หิสฺส ‘‘สวิตกฺกํ สวิจาร’’นฺติอาทินา นเยน องฺคภาเวน วุตฺตานิ. อวุตฺตตฺตา เอกคฺคตา องฺคํ น โหตีติ เจ ตฺจ น. กสฺมา? วุตฺตตฺตา เอว. สาปิ หิ วิภงฺเค ‘‘ฌานนฺติ วิตกฺโก วิจาโร ปีติ สุขํ จิตฺตสฺเสกคฺคตา’’ติ เอวํ วุตฺตาเยว. ตสฺมา ยถา สวิตกฺกํ สวิจารนฺติ, เอวํ สจิตฺเตกคฺคตนฺติ อิธ อวุตฺเตปิ อิมินา วิภงฺควจเนน จิตฺเตกคฺคตาปิ องฺคเมวาติ เวทิตพฺพา. เยน หิ อธิปฺปาเยน ภควตา อุทฺเทโส กโต, โส เอว เตน วิภงฺเคปิ ปกาสิโตติ.

อุปสมฺปชฺชาติ อุปคนฺตฺวา, ปาปุณิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อุปสมฺปาทยิตฺวา วา, นิปฺผาเทตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. วิภงฺเค ปน ‘‘อุปสมฺปชฺชาติ ปมสฺส ฌานสฺส ลาโภ ปฏิลาโภ ปตฺติ สมฺปตฺติ ผุสนา สมฺผุสนา สจฺฉิกิริยา อุปสมฺปทา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺสาปิ เอวเมวตฺโถ เวทิตพฺโพ. วิหาสินฺติ โพธิมณฺเฑ นิสชฺชสงฺขาเตน อิริยาปถวิหาเรน อิติวุตฺตปฺปการฌานสมงฺคี หุตฺวา อตฺตภาวสฺส อิริยํ วุตฺตึ ปาลนํ ยปนํ ยาปนํ จารํ วิหารํ อภินิปฺผาเทสินฺติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ วิภงฺเค – ‘‘วิหรตีติ อิริยติ วตฺตติ ปาเลติ ยเปติ ยาเปติ จรติ วิหรติ, เตน วุจฺจติ วิหรตี’’ติ (วิภ. ๕๑๒).

กึ ปน กตฺวา ภควา อิมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหาสีติ? กมฺมฏฺานํ ภาเวตฺวา. กตรํ? อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ. อฺเน ตทตฺถิเกน กึ กาตพฺพนฺติ? อฺเนปิ เอตํ วา กมฺมฏฺานํ ปถวีกสิณาทีนํ วา อฺตรํ ภาเวตพฺพํ. เตสํ ภาวนานโย วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๕๕) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อิธ ปน วุจฺจมาเน อติภาริยํ วินยนิทานํ โหติ, ตสฺมา ปาฬิยา อตฺถปฺปกาสนมตฺตเมว กโรมาติ.

ปมชฺฌานกถา นิฏฺิตา.

ทุติยชฺฌานกถา

วิตกฺกวิจารานํ วูปสมาติ วิตกฺกสฺส จ วิจารสฺส จาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ วูปสมา สมติกฺกมา; ทุติยชฺฌานกฺขเณ อปาตุภาวาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ กิฺจาปิ ทุติยชฺฌาเน สพฺเพปิ ปมชฺฌานธมฺมา น สนฺติ, อฺเเยว หิ ปมชฺฌาเน ผสฺสาทโย, อฺเ อิธ; โอฬาริกสฺส ปน โอฬาริกสฺส องฺคสฺส สมติกฺกมา ปมชฺฌานโต ปเรสํ ทุติยชฺฌานาทีนํ อธิคโม โหตีติ ทีปนตฺถํ ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’’ติ เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อชฺฌตฺตนฺติ อิธ นิยกชฺฌตฺตมธิปฺเปตํ. วิภงฺเค ปน ‘‘อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺต’’นฺติ (วิภ. ๕๗๓) เอตฺตกเมว วุตฺตํ. ยสฺมา ปน นิยกชฺฌตฺตํ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา อตฺตนิ ชาตํ อตฺตโน สนฺตาเน นิพฺพตฺตนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ.

สมฺปสาทนนฺติ สมฺปสาทนํ วุจฺจติ สทฺธา. สมฺปสาทนโยคโต ฌานมฺปิ สมฺปสาทนํ, นีลวณฺณโยคโต นีลวตฺถํ วิย. ยสฺมา วา ตํ ฌานํ สมฺปสาทนสมนฺนาคตตฺตา วิตกฺกวิจารกฺโขภวูปสมเนน เจโต สมฺปสาทยติ, ตสฺมาปิ สมฺปสาทนนฺติ วุตฺตํ. อิมสฺมิฺจ อตฺถวิกปฺเป สมฺปสาทนํ เจตโสติ เอวํ ปทสมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ปุริมสฺมึ ปน อตฺถวิกปฺเป เจตโสติ เอตํ เอโกทิภาเวน สทฺธึ โยเชตพฺพํ. ตตฺรายํ อตฺถโยชนา – เอโก อุเทตีติ เอโกทิ, วิตกฺกวิจาเรหิ อนชฺฌารูฬฺหตฺตา อคฺโค เสฏฺโ หุตฺวา อุเทตีติ อตฺโถ. เสฏฺโปิ หิ โลเก เอโกติ วุจฺจติ. วิตกฺกวิจารวิรหโต วา เอโก อสหาโย หุตฺวาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อถ วา สมฺปยุตฺตธมฺเม อุทายตีติ อุทิ, อุฏฺาเปตีติ อตฺโถ. เสฏฺฏฺเน เอโก จ โส อุทิ จาติ เอโกทิ, สมาธิสฺเสตํ อธิวจนํ. อิติ อิมํ เอโกทึ ภาเวติ วฑฺฒยตีติ อิทํ ทุติยชฺฌานํ เอโกทิภาวํ. โส ปนายํ เอโกทิ ยสฺมา เจตโส, น สตฺตสฺส น ชีวสฺส, ตสฺมา เอตํ เจตโส เอโกทิภาวนฺติ วุตฺตํ.

นนุ จายํ สทฺธา ปมชฺฌาเนปิ อตฺถิ, อยฺจ เอโกทินามโก สมาธิ; อถ กสฺมา อิทเมว สมฺปสาทนํ ‘‘เจตโส เอโกทิภาวฺจา’’ติ วุตฺตนฺติ? วุจฺจเต – อทุฺหิ ปมชฺฌานํ วิตกฺกวิจารกฺโขเภน วีจิตรงฺคสมากุลมิว ชลํ น สุปฺปสนฺนํ โหติ, ตสฺมา สติยาปิ สทฺธาย สมฺปสาทนนฺติ น วุตฺตํ. น สุปฺปสนฺนตฺตาเยว เจตฺถ สมาธิปิ น สุฏฺุ ปากโฏ, ตสฺมา เอโกทิภาวนฺติปิ น วุตฺตํ. อิมสฺมึ ปน ฌาเน วิตกฺกวิจารปลิโพธาภาเวน ลทฺโธกาสา พลวตี สทฺธา, พลวสทฺธาสหายปฺปฏิลาเภเนว จ สมาธิปิ ปากโฏ; ตสฺมา อิทเมว เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. วิภงฺเค ปน ‘‘สมฺปสาทนนฺติ ยา สทฺธา สทฺทหนา โอกปฺปนา อภิปฺปสาโท, เจตโส เอโกทิภาวนฺติ ยา จิตฺตสฺส ิติ…เป… สมฺมาสมาธี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. เอวํ วุตฺเตน ปเนเตน สทฺธึ อยํ อตฺถวณฺณนา ยถา น วิรุชฺฌติ อฺทตฺถุ สํสนฺทติ เจว สเมติ จ เอวํ เวทิตพฺพา.

อวิตกฺกํ อวิจารนฺติ ภาวนาย ปหีนตฺตา เอตสฺมึ เอตสฺส วา วิตกฺโก นตฺถีติ อวิตกฺกํ. อิมินาว นเยน อวิจารํ. วิภงฺเคปิ (วิภ. ๕๗๖) วุตฺตํ ‘‘อิติ อยฺจ วิตกฺโก อยฺจ วิจาโร สนฺตา โหนฺติ สมิตา วูปสนฺตา อตฺถงฺคตา อพฺภตฺถงฺคตา อปฺปิตา พฺยปฺปิตา โสสิตา วิโสสิตา พฺยนฺตีกตา, เตน วุจฺจติ อวิตกฺกํ อวิจาร’’นฺติ.

เอตฺถาห – นนุ จ ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมาติ อิมินาปิ อยมตฺโถ สิทฺโธ, อถ กสฺมา ปุน วุตฺตํ อวิตกฺกํ อวิจาร’’นฺติ? วุจฺจเต – เอวเมตํ สิทฺโธ วายมตฺโถ, น ปเนตํ ตทตฺถทีปกํ; นนุ อโวจุมฺห – ‘‘โอฬาริกสฺส ปน โอฬาริกสฺส องฺคสฺส สมติกฺกมา ปมชฺฌานโต ปเรสํ ทุติยชฺฌานาทีนํ อธิคโม โหตีติ ทีปนตฺถํ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมาติ เอวํ วุตฺต’’นฺติ.

อปิจ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อิทํ สมฺปสาทนํ, น กิเลสกาลุสิยสฺส. วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมา เอโกทิภาวํ น อุปจารชฺฌานมิว นีวรณปฺปหานา, น ปมชฺฌานมิว จ องฺคปาตุภาวาติ เอวํ สมฺปสาทนเอโกทิภาวานํ เหตุปริทีปกมิทํ วจนํ. ตถา วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อิทํ อวิตกฺกอวิจารํ, น ตติยจตุตฺถชฺฌานานิ วิย จกฺขุวิฺาณาทีนิ วิย จ อภาวาติ เอวํ อวิตกฺกอวิจารภาวสฺส เหตุปริทีปกฺจ, น วิตกฺกวิจาราภาวมตฺตปริทีปกํ. วิตกฺกวิจาราภาวมตฺตปริทีปกเมว ปน ‘‘อวิตกฺกํ อวิจาร’’นฺติ อิทํ วจนํ, ตสฺมา ปุริมํ วตฺวาปิ ปุน วตฺตพฺพเมวาติ.

สมาธิชนฺติ ปมชฺฌานสมาธิโต สมฺปยุตฺตสมาธิโต วา ชาตนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ กิฺจาปิ ปมมฺปิ สมฺปยุตฺตสมาธิโต ชาตํ, อถ โข อยเมว ‘‘สมาธี’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหติ วิตกฺกวิจารกฺโขภวิรเหน อติวิย อจลตฺตา สุปฺปสนฺนตฺตา จ. ตสฺมา อิมสฺส วณฺณภณนตฺถํ อิทเมว ‘‘สมาธิช’’นฺติ วุตฺตํ. ปีติสุขนฺติ อิทํ วุตฺตนยเมว.

ทุติยนฺติ คณนานุปุพฺพโต ทุติยํ, อิทํ ทุติยํ สมาปชฺชตีติปิ ทุติยํ. ฌานนฺติ เอตฺถ ปน ยถา ปมชฺฌานํ วิตกฺกาทีหิ ปฺจงฺคิกํ โหติ, เอวมิทํ สมฺปสาทาทีหิ ‘‘จตุรงฺคิก’’นฺติ เวทิตพฺพํ. ยถาห – ‘‘ฌานนฺติ สมฺปสาโท, ปีติ, สุขํ, จิตฺตสฺเสกคฺคตา’’ติ (วิภ. ๕๘๐). ปริยาโยเยว เจโส. สมฺปสาทนํ ปน เปตฺวา นิปฺปริยาเยน ติวงฺคิกเมเวตํ โหติ. ยถาห – ‘‘กตมํ ตสฺมึ สมเย ติวงฺคิกํ ฌานํ โหติ? ปีติ, สุขํ, จิตฺตสฺเสกคฺคตา’’ติ (ธ. ส. ๑๖๑). เสสํ วุตฺตนยเมวาติ.

ทุติยชฺฌานกถา นิฏฺิตา.

ตติยชฺฌานกถา

ปีติยา จ วิราคาติ เอตฺถ วุตฺตตฺถาเยว ปีติ. วิราโคติ ตสฺสา ชิคุจฺฉนํ วา สมติกฺกโม วา. อุภินฺนมนฺตรา ‘‘จ’’ สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ, โส หิ วูปสมํ วา สมฺปิณฺเฑติ วิตกฺกวิจารวูปสมํ วา. ตตฺถ ยทา วูปสมเมว สมฺปิณฺเฑติ, ตทา ปีติยา วิราคา จ, กิฺจ ภิยฺโย วูปสมา จาติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. อิมิสฺสา จ โยชนายํ วิราโค ชิคุจฺฉนตฺโถ โหติ. ตสฺมา ปีติยา ชิคุจฺฉนา จ วูปสมา จาติ อยมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยทา ปน วิตกฺกวิจารวูปสมํ สมฺปิณฺเฑติ, ตทา ปีติยา จ วิราคา, กิฺจ ภิยฺโย วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมาติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. อิมิสฺสา จ โยชนายํ วิราโค สมติกฺกมนตฺโถ โหติ. ตสฺมา ปีติยา จ สมติกฺกมา, วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมาติ อยมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

กามฺเจเต วิตกฺกวิจารา ทุติยชฺฌาเนเยว วูปสนฺตา อิมสฺส ปน ฌานสฺส มคฺคปริทีปนตฺถํ วณฺณภณนตฺถฺเจตํ วุตฺตํ. ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’’ติ หิ วุตฺเต อิทํ ปฺายติ – ‘‘นูน วิตกฺกวิจารวูปสโม มคฺโค อิมสฺส ฌานสฺสา’’ติ. ยถา จ ตติเย อริยมคฺเค อปฺปหีนานมฺปิ สกฺกายทิฏฺาทีนํ ‘‘ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปหานา’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๓๒) เอวํ ปหานํ วุจฺจมานํ วณฺณภณนํ โหติ ตทธิคมาย อุสฺสุกานํ อุสฺสาหชนกํ; เอวเมวํ อิธ อวูปสนฺตานมฺปิ วิตกฺกวิจารานํ วูปสโม วุจฺจมาโน วณฺณภณนํ โหติ. เตนายมตฺโถ วุตฺโต – ‘‘ปีติยา จ สมติกฺกมา, วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมา’’ติ.

อุเปกฺขโก จ วิหาสินฺติ เอตฺถ อุปปตฺติโต อิกฺขตีติ อุเปกฺขา, สมํ ปสฺสติ, อปกฺขปติตาว หุตฺวา ปสฺสตีติ อตฺโถ. ตาย วิสทาย วิปุลาย ถามคตาย สมนฺนาคตตฺตา ตติยชฺฌานสมงฺคี ‘‘อุเปกฺขโก’’ติ วุจฺจติ. อุเปกฺขา ปน ทสวิธา โหติ – ฉฬงฺคุเปกฺขา, พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา, โพชฺฌงฺคุเปกฺขา, วีริยุเปกฺขา, สงฺขารุเปกฺขา, เวทนุเปกฺขา, วิปสฺสนุเปกฺขา, ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา, ฌานุเปกฺขา, ปาริสุทฺธุเปกฺขาติ. เอวมยํ ทสวิธาปิ ตตฺถ ตตฺถ อาคตนยโต ภูมิปุคฺคลจิตฺตารมฺมณโต, ขนฺธสงฺคห-เอกกฺขณกุสลตฺติกสงฺเขปวเสน จ อฏฺสาลินิยา ธมฺมสงฺคหฏฺกถาย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. อิธ ปน วุจฺจมานา วินยนิทานํ อติภาริยํ กโรตีติ น วุตฺตา. ลกฺขณาทิโต ปน อิธ อธิปฺเปตุเปกฺขา มชฺฌตฺตลกฺขณา, อนาโภครสา, อพฺยาปารปจฺจุปฏฺานา, ปีติวิราคปทฏฺานาติ.

เอตฺถาห – นนุ จายํ อตฺถโต ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาว โหติ, สา จ ปมทุติยชฺฌาเนสุปิ อตฺถิ, ตสฺมา ตตฺราปิ ‘‘อุเปกฺขโก จ วิหาสิ’’นฺติ เอวมยํ วตฺตพฺพา สิยา, สา กสฺมา น วุตฺตาติ? อปริพฺยตฺตกิจฺจโต. อปริพฺยตฺตฺหิ ตสฺสา ตตฺถ กิจฺจํ, วิตกฺกาทีหิ อภิภูตตฺตา. อิธ ปนายํ วิตกฺกวิจารปีตีหิ อนภิภูตตฺตา อุกฺขิตฺตสิรา วิย หุตฺวา ปริพฺยตฺตกิจฺจา ชาตา, ตสฺมา วุตฺตาติ.

นิฏฺิตา ‘‘อุเปกฺขโก จ วิหาสิ’’นฺติ เอตสฺส สพฺพโส อตฺถวณฺณนา.

อิทานิ สโต จ สมฺปชาโนติ เอตฺถ สรตีติ สโต, สมฺปชานาตีติ สมฺปชาโน. ปุคฺคเลน สติ จ สมฺปชฺฺจ วุตฺตํ. ตตฺถ สรณลกฺขณา สติ, อสมฺมุสฺสนรสา, อารกฺขปจฺจุปฏฺานา; อสมฺโมหลกฺขณํ สมฺปชฺํ, ตีรณรสํ, ปวิจยปจฺจุปฏฺานํ. ตตฺถ กิฺจาปิ อิทํ สติสมฺปชฺํ ปุริมชฺฌาเนสุปิ อตฺถิ, มุฏฺสฺสติสฺส หิ อสมฺปชานสฺส อุปจารชฺฌานมตฺตมฺปิ น สมฺปชฺชติ, ปเคว อปฺปนา; โอฬาริกตฺตา ปน เตสํ ฌานานํ ภูมิยํ วิย ปุริสสฺส จิตฺตสฺส คติ สุขา โหติ, อพฺยตฺตํ ตตฺถ สติสมฺปชฺกิจฺจํ. โอฬาริกงฺคปฺปหาเนน ปน สุขุมตฺตา อิมสฺส ฌานสฺส ปุริสสฺส ขุรธารายํ วิย สติสมฺปชฺกิจฺจปริคฺคหิตาเยว จิตฺตสฺส คติ อิจฺฉิตพฺพาติ อิเธว วุตฺตํ. กิฺจ ภิยฺโย? ยถาปิ เธนุปโค วจฺโฉ เธนุโต อปนีโต อรกฺขิยมาโน ปุนเทว เธนุํ อุปคจฺฉติ; เอวมิทํ ตติยชฺฌานสุขํ ปีติโต อปนีตมฺปิ สติสมฺปชฺารกฺเขน อรกฺขิยมานํ ปุนเทว ปีตึ อุปคจฺเฉยฺย ปีติสมฺปยุตฺตเมว สิยา. สุเข วาปิ สตฺตา รชฺชนฺติ, อิทฺจ อติมธุรํ สุขํ, ตโต ปรํ สุขาภาวา. สติสมฺปชฺานุภาเวน ปเนตฺถ สุเข อสารชฺชนา โหติ, โน อฺถาติ อิมมฺปิ อตฺถวิเสสํ ทสฺเสตุํ อิทํ อิเธว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อิทานิ สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทสินฺติ เอตฺถ กิฺจาปิ ตติยชฺฌานสมงฺคิโน สุขปฺปฏิสํเวทนาโภโค นตฺถิ, เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา ตสฺส นามกาเยน สมฺปยุตฺตํ สุขํ, ยํ วา ตํ นามกายสมฺปยุตฺตํ สุขํ, ตํสมุฏฺาเนนสฺส ยสฺมา อติปณีเตน รูเปน รูปกาโย ผุโฏ, ยสฺส ผุฏตฺตา ฌานา วุฏฺิโตปิ สุขํ ปฏิสํเวเทยฺย, ตสฺมา เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทสิ’’นฺติ อาห.

อิทานิ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารีติ เอตฺถ ยํฌานเหตุ ยํฌานการณา ตํ ตติยชฺฌานสมงฺคีปุคฺคลํ พุทฺธาทโย อริยา อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺติ ปฺเปนฺติ ปฏฺเปนฺติ วิวรนฺติ วิภชนฺติ อุตฺตานีกโรนฺติ ปกาเสนฺติ, ปสํสนฺตีติ อธิปฺปาโย. กินฺติ? ‘‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’’ติ. ตํ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหาสินฺติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา.

กสฺมา ปน ตํ เต เอวํ ปสํสนฺตีติ? ปสํสารหโต. อยฺหิ ยสฺมา อติมธุรสุเข สุขปารมิปฺปตฺเตปิ ตติยชฺฌาเน อุเปกฺขโก, น ตตฺถ สุขาภิสงฺเคน อากฑฺฒียติ, ยถา จ ปีติ น อุปฺปชฺชติ; เอวํ อุปฏฺิตสฺสติตาย สติมา. ยสฺมา จ อริยกนฺตํ อริยชนเสวิตเมว จ อสํกิลิฏฺํ สุขํ นามกาเยน ปฏิสํเวเทติ, ตสฺมา ปสํสารโห. อิติ ปสํสารหโต นํ อริยา เต เอวํ ปสํสาเหตุภูเต คุเณ ปกาเสนฺตา ‘‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’’ติ เอวํ ปสํสนฺตีติ เวทิตพฺพํ.

ตติยนฺติ คณนานุปุพฺพโต ตติยํ. อิทํ ตติยํ สมาปชฺชตีติปิ ตติยํ. ฌานนฺติ เอตฺถ จ ยถา ทุติยํ สมฺปสาทาทีหิ จตุรงฺคิกํ; เอวมิทํ อุเปกฺขาทีหิ ปฺจงฺคิกํ. ยถาห – ‘‘ฌานนฺติ อุเปกฺขา สติ สมฺปชฺํ สุขํ จิตฺตสฺส เอกคฺคตา’’ติ (วิภ. ๕๙๑). ปริยาโยเยว เจโส. อุเปกฺขาสติสมฺปชฺานิ ปน เปตฺวา นิปฺปริยาเยน ทุวงฺคิกเมเวตํ โหติ. ยถาห – ‘‘กตมํ ตสฺมึ สมเย ทุวงฺคิกํ ฌานํ โหติ? สุขํ, จิตฺตสฺเสกคฺคตา’’ติ (ธ. ส. ๑๖๓). เสสํ วุตฺตนยเมวาติ.

ตติยชฺฌานกถา นิฏฺิตา.

จตุตฺถชฺฌานกถา

สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานาติ กายิกสุขสฺส จ กายิกทุกฺขสฺส จ ปหานา. ปุพฺเพวาติ ตฺจ โข ปุพฺเพว, น จตุตฺถชฺฌานกฺขเณ. โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาติ เจตสิกสุขสฺส จ เจตสิกทุกฺขสฺส จาติ อิเมสมฺปิ ทฺวินฺนํ ปุพฺเพว อตฺถงฺคมา ปหานา อิจฺเจว วุตฺตํ โหติ. กทา ปน เนสํ ปหานํ โหติ? จตุนฺนํ ฌานานํ อุปจารกฺขเณ. โสมนสฺสฺหิ จตุตฺถชฺฌานสฺส อุปจารกฺขเณเยว ปหียติ, ทุกฺขโทมนสฺสสุขานิ ปมทุติยตติยานํ อุปจารกฺขเณสุ. เอวเมเตสํ ปหานกฺกเมน อวุตฺตานํ, อินฺทฺริยวิภงฺเค ปน อินฺทฺริยานํ อุทฺเทสกฺกเมเนว อิธาปิ วุตฺตานํ สุขทุกฺขโสมนสฺส โทมนสฺสานํ ปหานํ เวทิตพฺพํ.

ยทิ ปเนตานิ ตสฺส ตสฺส ฌานสฺสุปจารกฺขเณเยว ปหียนฺติ, อถ กสฺมา ‘‘กตฺถ จุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, เอตฺถุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ. กตฺถ จุปฺปนฺนํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ… สุขินฺทฺริยํ… โสมนสฺสินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, เอตฺถุปฺปนฺนํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๕๑๐) เอวํ ฌาเนสฺเวว นิโรโธ วุตฺโตติ? อติสยนิโรธตฺตา. อติสยนิโรโธ หิ เนสํ ปมชฺฌานาทีสุ, น นิโรโธเยว; นิโรโธเยว ปน อุปจารกฺขเณ, นาติสยนิโรโธ. ตถา หิ นานาวชฺชเน ปมชฺฌานูปจาเร นิรุทฺธสฺสาปิ ทุกฺขินฺทฺริยสฺส ฑํสมกสาทิสมฺผสฺเสน วา วิสมาสนุปตาเปน วา สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว อนฺโตอปฺปนายํ. อุปจาเร วา นิรุทฺธมฺเปตํ น สุฏฺุ นิรุทฺธํ โหติ; ปฏิปกฺเขน อวิหตตฺตา. อนฺโตอปฺปนายํ ปน ปีติผรเณน สพฺโพ กาโย สุโขกฺกนฺโต โหติ. สุโขกฺกนฺตกายสฺส จ สุฏฺุ นิรุทฺธํ โหติ ทุกฺขินฺทฺริยํ; ปฏิปกฺเขน วิหตตฺตา. นานาวชฺชเน เอว จ ทุติยชฺฌานูปจาเร ปหีนสฺส โทมนสฺสินฺทฺริยสฺส ยสฺมา เอตํ วิตกฺกวิจารปฺปจฺจเยปิ กายกิลมเถ จิตฺตุปฆาเต จ สติ อุปฺปชฺชติ, วิตกฺกวิจาราภาเว เนว อุปฺปชฺชติ. ยตฺถ ปน อุปฺปชฺชติ ตตฺถ วิตกฺกวิจารภาเว. อปฺปหีนา เอว จ ทุติยชฺฌานูปจาเร วิตกฺกวิจาราติ ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺติ; อปฺปหีนปจฺจยตฺตา. น ตฺเวว ทุติยชฺฌาเน; ปหีนปจฺจยตฺตา. ตถา ตติยชฺฌานูปจาเร ปหีนสฺสาปิ สุขินฺทฺริยสฺส ปีติสมุฏฺานปณีตรูปผุฏกายสฺส สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว ตติยชฺฌาเน. ตติยชฺฌาเน หิ สุขสฺส ปจฺจยภูตา ปีติ สพฺพโส นิรุทฺธาติ. ตถา จตุตฺถชฺฌานูปจาเร ปหีนสฺสาปิ โสมนสฺสินฺทฺริยสฺส อาสนฺนตฺตา, อปฺปนาปฺปตฺตาย อุเปกฺขาย อภาเวน สมฺมา อนติกฺกนฺตตฺตา จ สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว จตุตฺถชฺฌาเน. ตสฺมา เอว จ ‘‘เอตฺถุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตี’’ติ ตตฺถ ตตฺถ อปริเสสคฺคหณํ กตนฺติ.

เอตฺถาห – ‘‘อเถวํ ตสฺส ตสฺส ฌานสฺสูปจาเร ปหีนาปิ เอตา เวทนา อิธ กสฺมา สมาหรี’’ติ? สุขคฺคหณตฺถํ. ยา หิ อยํ ‘‘อทุกฺขมสุข’’นฺติ เอตฺถ อทุกฺขมสุขา เวทนา วุตฺตา, สา สุขุมา อติทุพฺพิฺเยฺยา น สกฺกา สุเขน คเหตุํ. ตสฺมา ยถา นาม ทุฏฺสฺส ยถา วา ตถา วา อุปสงฺกมิตฺวา คเหตุํ อสกฺกุเณยฺยสฺส โคณสฺส คหณตฺถํ โคโป เอกสฺมึ วเช สพฺเพ คาโว สมาหรติ, อเถเกกํ นีหรนฺโต ปฏิปาฏิยา อาคตํ ‘‘อยํ โส, คณฺหถ น’’นฺติ ตมฺปิ คาหาปยติ; เอวเมว ภควา สุขคฺคหณตฺถํ สพฺพา เอตา สมาหริ. เอวฺหิ สมาหฏา เอตา ทสฺเสตฺวา ‘‘ยํ เนว สุขํ น ทุกฺขํ น โสมนสฺสํ น โทมนสฺสํ, อยํ อทุกฺขมสุขา เวทนา’’ติ สกฺกา โหติ เอสา คาหยิตุํ.

อปิจ อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา ปจฺจยทสฺสนตฺถฺจาปิ เอตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. สุขปฺปหานาทโย หิ ตสฺสา ปจฺจยา. ยถาห – ‘‘จตฺตาโร โข, อาวุโส, ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา. อิธาวุโส, ภิกฺขุ, สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเม โข, อาวุโส, จตฺตาโร ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๘). ยถา วา อฺตฺถ ปหีนาปิ สกฺกายทิฏฺิอาทโย ตติยมคฺคสฺส วณฺณภณนตฺถํ ตตฺถ ปหีนาติ วุตฺตา; เอวํ วณฺณภณนตฺถมฺเปตสฺส ฌานสฺเสตา อิธ วุตฺตาติปิ เวทิตพฺพา. ปจฺจยฆาเตน วา เอตฺถ ราคโทสานํ อติทูรภาวํ ทสฺเสตุมฺเปตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. เอตาสุ หิ สุขํ โสมนสฺสสฺส ปจฺจโย, โสมนสฺสํ ราคสฺส, ทุกฺขํ โทมนสฺสสฺส, โทมนสฺสํ โทสสฺส. สุขาทิฆาเตน จ เต สปฺปจฺจยา ราคโทสา หตาติ อติทูเร โหนฺตีติ.

อทุกฺขมสุขนฺติ ทุกฺขาภาเวน อทุกฺขํ, สุขาภาเวน อสุขํ. เอเตเนตฺถ ทุกฺขสุขปฏิปกฺขภูตํ ตติยเวทนํ ทีเปติ, น ทุกฺขสุขาภาวมตฺตํ. ตติยเวทนา นาม – อทุกฺขมสุขา, อุเปกฺขาติปิ วุจฺจติ. สา อิฏฺานิฏฺวิปรีตานุภวนลกฺขณา, มชฺฌตฺตรสา, อวิภูตปจฺจุปฏฺานา, สุขนิโรธปทฏฺานาติ เวทิตพฺพา. อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธินฺติ อุเปกฺขาย ชนิตสติปาริสุทฺธึ. อิมสฺมิฺหิ ฌาเน สุปริสุทฺธา สติ. ยา จ ตสฺสา สติยา ปาริสุทฺธิ, สา อุเปกฺขาย กตา น อฺเน; ตสฺมา เอตํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธินฺติ วุจฺจติ. วิภงฺเคปิ วุตฺตํ – ‘‘อยํ สติ อิมาย อุเปกฺขาย วิสทา โหติ ปริสุทฺธา ปริโยทาตา, เตน วุจฺจติ – ‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิ’’’นฺติ (วิภ. ๕๙๗). ยาย จ อุเปกฺขาย เอตฺถ สติยา ปาริสุทฺธิ โหติ, สา อตฺถโต ตตฺรมชฺฌตฺตตา เวทิตพฺพา. น เกวลฺเจตฺถ ตาย สติเยว ปริสุทฺธา, อปิจ โข สพฺเพปิ สมฺปยุตฺตธมฺมา; สติสีเสน ปน เทสนา วุตฺตา.

ตตฺถ กิฺจาปิ อยํ อุเปกฺขา เหฏฺาปิ ตีสุ ฌาเนสุ วิชฺชติ, ยถา ปน ทิวา สูริยปฺปภาภิภวา โสมฺมภาเวน จ อตฺตโน อุปการกตฺเตน วา สภาคาย รตฺติยา อลาภา ทิวา วิชฺชมานาปิ จนฺทเลขา อปริสุทฺธา โหติ อปริโยทาตา; เอวมยมฺปิ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาจนฺทเลขา วิตกฺกวิจาราทิปจฺจนีกธมฺมเตชาภิภวา สภาคาย จ อุเปกฺขาเวทนารตฺติยา อลาภา วิชฺชมานาปิ ปมาทิชฺฌานเภเทสุ อปริสุทฺธา โหติ. ตสฺสา จ อปริสุทฺธาย ทิวา อปริสุทฺธจนฺทเลขาย ปภา วิย สหชาตาปิ สติอาทโย อปริสุทฺธาว โหนฺติ; ตสฺมา เตสุ เอกมฺปิ ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิ’’นฺติ น วุตฺตํ. อิธ ปน วิตกฺกาทิปจฺจนีกธมฺมเตชาภิภวาภาวา สภาคาย จ อุเปกฺขาเวทนารตฺติยา ปฏิลาภา อยํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาจนฺทเลขา อติวิย ปริสุทฺธา, ตสฺสา ปริสุทฺธตฺตา ปริสุทฺธจนฺทเลขาย ปภา วิย สหชาตาปิ สติอาทโย ปริสุทฺธา โหนฺติ ปริโยทาตา, ตสฺมา อิทเมว อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธินฺติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

จตุตฺถนฺติ คณนานุปุพฺพโต จตุตฺถํ. อิทํ จตุตฺถํ สมาปชฺชตีติปิ จตุตฺถํ. ฌานนฺติ เอตฺถ ยถา ตติยํ อุเปกฺขาทีหิ ปฺจงฺคิกํ; เอวมิทํ อุเปกฺขาทีหิ ติวงฺคิกํ. ยถาห – ‘‘ฌานนฺติ อุเปกฺขา, สติ จิตฺตสฺเสกคฺคตา’’ติ. ปริยาโย เอว เจโส. เปตฺวา ปน สตึ อุเปกฺเขกคฺคตเมว คเหตฺวา นิปฺปริยาเยน ทุวงฺคิกเมเวตํ โหติ. ยถาห – ‘‘กตมํ ตสฺมึ สมเย ทุวงฺคิกํ ฌานํ โหติ? อุเปกฺขา, จิตฺตสฺเสกคฺคตา’’ติ (ธ. ส. ๑๖๕). เสสํ วุตฺตนยเมวาติ.

จตุตฺถชฺฌานกถา นิฏฺิตา.

ปุพฺเพนิวาสกถา

๑๒. อิติ อิมานิ จตฺตาริ ฌานานิ เกสฺจิ จิตฺเตกคฺคตตฺถานิ โหนฺติ, เกสฺจิ วิปสฺสนาปาทกานิ, เกสฺจิ อภิฺาปาทกานิ, เกสฺจิ นิโรธปาทกานิ, เกสฺจิ ภโวกฺกมนตฺถานิ. ตตฺถ ขีณาสวานํ จิตฺเตกคฺคตตฺถานิ โหนฺติ, เต หิ สมาปชฺชิตฺวา ‘‘เอกคฺคจิตฺตา สุขํ ทิวสํ วิหริสฺสามา’’ติ อิจฺเจวํ กสิณปริกมฺมํ กตฺวา อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตนฺติ. เสกฺขปุถุชฺชนานํ ‘‘สมาปตฺติโต วุฏฺาย สมาหิเตน จิตฺเตน วิปสฺสิสฺสามา’’ติ นิพฺพตฺเตนฺตานํ วิปสฺสนาปาทกานิ โหนฺติ. เย ปน อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา อภิฺาปาทกํ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา สมาปตฺติโต วุฏฺาย ‘‘เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหตี’’ติ วุตฺตนยา อภิฺาโย ปตฺเถนฺตา นิพฺพตฺเตนฺติ, เตสํ อภิฺาปาทกานิ โหนฺติ. เย ปน อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา ‘‘นิโรธสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา สตฺตาหํ อจิตฺตกา หุตฺวา ทิฏฺเว ธมฺเม นิโรธํ นิพฺพานํ ปตฺวา สุขํ วิหริสฺสามา’’ติ นิพฺพตฺเตนฺติ, เตสํ นิโรธปาทกานิ โหนฺติ. เย ปน อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา ‘‘อปริหีนชฺฌานา หุตฺวา พฺรหฺมโลเก อุปฺปชฺชิสฺสามา’’ติ นิพฺพตฺเตนฺติ, เตสํ ภโวกฺกมนตฺถานิ โหนฺติ.

ภควตา ปนิทํ จตุตฺถชฺฌานํ โพธิรุกฺขมูเล นิพฺพตฺติตํ, ตํ ตสฺส วิปสฺสนาปาทกฺเจว อโหสิ อภิฺาปาทกฺจ นิโรธปาทกฺจ สพฺพกิจฺจสาธกฺจ สพฺพโลกิยโลกุตฺตรคุณทายกนฺติ เวทิตพฺพํ. เยสฺจ คุณานํ ทายกํ อโหสิ, เตสํ เอกเทสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ โสติ โส อหํ. เอวนฺติ จตุตฺถชฺฌานกฺกมนิทสฺสนเมตํ. อิมินา กเมน จตุตฺถชฺฌานํ ปฏิลภิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. สมาหิเตติ อิมินา จตุตฺถชฺฌานสมาธินา สมาหิเต. ปริสุทฺเธติอาทีสุ ปน อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิภาเวน ปริสุทฺเธ. ปริสุทฺธตฺตาเยว ปริโยทาเต, ปภสฺสเรติ วุตฺตํ โหติ. สุขาทีนํ ปจฺจยานํ ฆาเตน วิหตราคาทิองฺคณตฺตา อนงฺคเณ. อนงฺคณตฺตาเยว จ วิคตูปกฺกิเลเส; องฺคเณน หิ จิตฺตํ อุปกฺกิลิสฺสติ. สุภาวิตตฺตา มุทุภูเต, วสีภาวปฺปตฺเตติ วุตฺตํ โหติ. วเส วตฺตมานฺหิ จิตฺตํ มุทูติ วุจฺจติ. มุทุตฺตาเยว จ กมฺมนิเย, กมฺมกฺขเม กมฺมโยคฺเคติ วุตฺตํ โหติ. มุทุ หิ จิตฺตํ กมฺมนิยํ โหติ สุธนฺตมิว สุวณฺณํ, ตทุภยมฺปิ จ สุภาวิตตฺตา เอว. ยถาห – ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกธมฺมมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํ ภาวิตํ พหุลีกตํ มุทุ จ โหติ กมฺมนิยฺจ, ยถยิทํ, ภิกฺขเว, จิตฺต’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๒๒).

เอเตสุ ปริสุทฺธภาวาทีสุ ิตตฺตา ิเต. ิตตฺตาเยว อาเนฺชปฺปตฺเต, อจเล นิริฺชเนติ วุตฺตํ โหติ. มุทุกมฺมฺภาเวน วา อตฺตโน วเส ิตตฺตา ิเต, สทฺธาทีหิ ปริคฺคหิตตฺตา อาเนฺชปฺปตฺเต. สทฺธาปริคฺคหิตฺหิ จิตฺตํ อสฺสทฺธิเยน น อิฺชติ, วีริยปริคฺคหิตํ โกสชฺเชน น อิฺชติ, สติปริคฺคหิตํ ปมาเทน น อิฺชติ, สมาธิปริคฺคหิตํ อุทฺธจฺเจน น อิฺชติ, ปฺาปริคฺคหิตํ อวิชฺชาย น อิฺชติ, โอภาสคตํ กิเลสนฺธกาเรน น อิฺชติ. อิเมหิ ฉหิ ธมฺเมหิ ปริคฺคหิตํ อาเนฺชปฺปตฺตํ จิตฺตํ โหติ. เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ จิตฺตํ อภินีหารกฺขมํ โหติ อภิฺาสจฺฉิกรณียานํ ธมฺมานํ อภิฺาสจฺฉิกิริยาย.

อปโร นโย – จตุตฺถชฺฌานสมาธินา สมาหิเต. นีวรณทูรีภาเวน ปริสุทฺเธ. วิตกฺกาทิสมติกฺกเมน ปริโยทาเต. ฌานปฺปฏิลาภปจฺจยานํ ปาปกานํ อิจฺฉาวจรานํ อภาเวน อนงฺคเณ. อภิชฺฌาทีนํ จิตฺตูปกฺกิเลสานํ วิคเมน วิคตูปกฺกิเลเส. อุภยมฺปิ เจตํ อนงฺคณวตฺถสุตฺตานุสาเรน (ม. นิ. ๑.๕๗ อาทโย) เวทิตพฺพํ. วสิปฺปตฺติยา มุทุภูเต. อิทฺธิปาทภาวูปคเมน กมฺมนิเย. ภาวนาปาริปูริยา ปณีตภาวูปคเมน ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต. ยถา อาเนฺชปฺปตฺตํ โหติ; เอวํ ิเตติ อตฺโถ. เอวมฺปิ อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ จิตฺตํ อภินีหารกฺขมํ โหติ อภิฺาสจฺฉิกรณียานํ ธมฺมานํ อภิฺาสจฺฉิกิริยาย, ปาทกํ ปทฏฺานภูตนฺติ อตฺโถ.

ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณายาติ เอวํ อภิฺาปาทเก ชาเต เอตสฺมึ จิตฺเต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติมฺหิ ยํ าณํ ตทตฺถาย. ตตฺถ ปุพฺเพนิวาโสติ ปุพฺเพ อตีตชาตีสุ นิวุตฺถกฺขนฺธา. นิวุตฺถาติ อชฺฌาวุตฺถา อนุภูตา อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธา นิวุตฺถธมฺมา วา นิวุตฺถา, โคจรนิวาเสน นิวุตฺถา, อตฺตโน วิฺาเณน วิฺาตา ปริจฺฉินฺนา, ปรวิฺาณวิฺาตาปิ วา ฉินฺนวฏุมกานุสฺสรณาทีสุ. ปุพฺเพนิวาสานุสฺสตีติ ยาย สติยา ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, สา ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติ. าณนฺติ ตาย สติยา สมฺปยุตฺตาณํ. เอวมิมสฺส ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส อตฺถาย ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณาย เอตสฺส าณสฺส อธิคมาย ปตฺติยาติ วุตฺตํ โหติ. อภินินฺนาเมสินฺติ อภินีหรึ.

โสติ โส อหํ. อเนกวิหิตนฺติ อเนกวิธํ, อเนเกหิ วา ปกาเรหิ ปวตฺติตํ สํวณฺณิตนฺติ อตฺโถ. ปุพฺเพนิวาสนฺติ สมนนฺตราตีตํ ภวํ อาทึ กตฺวา ตตฺถ ตตฺถ นิวุตฺถสนฺตานํ. อนุสฺสรามีติ ‘‘เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย’’ติ เอวํ ชาติปฏิปาฏิยา อนุคนฺตฺวา อนุคนฺตฺวา สรามิ, อนุเทว วา สรามิ, จิตฺเต อภินินฺนามิตมตฺเต เอว สรามีติ ทสฺเสติ. ปูริตปารมีนฺหิ มหาปุริสานํ ปริกมฺมกรณํ นตฺถิ, เตน เต จิตฺตํ อภินินฺนาเมตฺวาว สรนฺติ. อาทิกมฺมิกกุลปุตฺตา ปน ปริกมฺมํ กตฺวาว สรนฺติ, ตสฺมา เตสํ วเสน ปริกมฺมํ วตฺตพฺพํ สิยา. ตํ ปน วุจฺจมานํ อติภาริยํ วินยนิทานํ กโรติ, ตสฺมา ตํ น วทาม. อตฺถิเกหิ ปน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๔๐๒ อาทโย) วุตฺตนเยเนว คเหตพฺพํ. อิธ ปน ปาฬิเมว วณฺณยิสฺสาม.

เสยฺยถิทนฺติ อารทฺธปฺปการทสฺสนตฺเถ นิปาโต. เตเนว ยฺวายํ ปุพฺเพนิวาโส อารทฺโธ, ตสฺส ปการปฺปเภทํ ทสฺเสนฺโต เอกมฺปิ ชาตินฺติอาทิมาห. ตตฺถ เอกมฺปิ ชาตินฺติ เอกมฺปิ ปฏิสนฺธิมูลํ จุติปริโยสานํ เอกภวปริยาปนฺนํ ขนฺธสนฺตานํ. เอส นโย ทฺเวปิ ชาติโยติอาทีสุ. อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเปติอาทีสุ ปน ปริหายมาโน กปฺโป สํวฏฺฏกปฺโป, วฑฺฒมาโน วิวฏฺฏกปฺโปติ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ จ สํวฏฺเฏน สํวฏฺฏฏฺายี คหิโต โหติ ตมฺมูลกตฺตา. วิวฏฺเฏน จ วิวฏฺฏฏฺายี. เอวฺหิ สติ ยานิ ตานิ ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, กปฺปสฺส อสงฺขฺเยยฺยานิ. กตมานิ จตฺตาริ? สํวฏฺโฏ สํวฏฺฏฏฺายี, วิวฏฺโฏ วิวฏฺฏฏฺายี’’ติ วุตฺตานิ ตานิ สพฺพานิ ปริคฺคหิตานิ โหนฺติ.

ตตฺถ ตโย สํวฏฺฏา – เตโชสํวฏฺโฏ, อาโปสํวฏฺโฏ, วาโยสํวฏฺโฏติ. ติสฺโส สํวฏฺฏสีมา – อาภสฺสรา, สุภกิณฺหา, เวหปฺผลาติ. ยทา กปฺโป เตเชน สํวฏฺฏติ, อาภสฺสรโต เหฏฺา อคฺคินา ฑยฺหติ. ยทา อุทเกน สํวฏฺฏติ, สุภกิณฺหโต เหฏฺา อุทเกน วิลียติ. ยทา วาเตน สํวฏฺฏติ, เวหปฺผลโต เหฏฺา วาเตน วิทฺธํสิยติ. วิตฺถารโต ปน สทาปิ เอกํ พุทฺธกฺเขตฺตํ วินสฺสติ.

พุทฺธกฺเขตฺตํ นาม ติวิธํ โหติ – ชาติกฺเขตฺตํ, อาณากฺเขตฺตํ, วิสยกฺเขตฺตฺจ. ตตฺถ ชาติกฺเขตฺตํ ทสสหสฺสจกฺกวาฬปริยนฺตํ โหติ, ยํ ตถาคตสฺส ปฏิสนฺธิอาทีสุ กมฺปติ. อาณากฺเขตฺตํ โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬปริยนฺตํ โหติ. ยตฺถ รตนปริตฺตํ, ขนฺธปริตฺตํ, ธชคฺคปริตฺตํ, อาฏานาฏิยปริตฺตํ, โมรปริตฺตนฺติ อิเมสํ ปริตฺตานํ อานุภาโว ปวตฺตติ. วิสยกฺเขตฺตํ ปน อนนฺตํ อปริมาณํ, ‘‘ยํ ยาวตา วา ปน อากงฺเขยฺยา’’ติ (อ. นิ. ๓.๘๑) วุตฺตํ ยตฺถ ยํ ยํ อากงฺขติ ตํ ตํ อนุสฺสรติ. เอวเมเตสุ ตีสุ พุทฺธกฺเขตฺเตสุ เอกํ อาณากฺเขตฺตํ วินสฺสติ. ตสฺมึ ปน วินสฺสนฺเต ชาติกฺเขตฺตมฺปิ วินฏฺเมว โหติ; วินสฺสนฺตฺจ เอกโตว วินสฺสติ, สณฺหนฺตมฺปิ เอกโตว สณฺหติ. ตสฺส วินาโส จ สณฺหนฺจ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๔๐๔) วุตฺตํ. อตฺถิเกหิ ตโต คเหตพฺพํ.

เย ปเนเต สํวฏฺฏวิวฏฺฏา วุตฺตา, เอเตสุ ภควา โพธิมณฺเฑ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌนตฺถาย นิสินฺโน อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป สริ. กถํ? ‘‘อมุตฺราสิ’’นฺติอาทินา นเยน. ตตฺถ อมุตฺราสินฺติ อมุมฺหิ สํวฏฺฏกปฺเป อหํ อมุมฺหิ ภเว วา โยนิยา วา คติยา วา วิฺาณฏฺิติยา วา สตฺตาวาเส วา สตฺตนิกาเย วา อโหสึ. เอวํนาโมติ เวสฺสนฺตโร วา โชติปาโล วา. เอวํโคตฺโตติ ภคฺคโว วา โคตโม วา. เอวํวณฺโณติ โอทาโต วา สาโม วา. เอวมาหาโรติ สาลิมํโสทนาหาโร วา ปวตฺตผลโภชโน วา. เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวทีติ อเนกปฺปกาเรน กายิกเจตสิกานํ สามิสนิรามิสาทิปฺปเภทานํ วา สุขทุกฺขานํ ปฏิสํเวที. เอวมายุปริยนฺโตติ เอวํ วสฺสสตปรมายุปริยนฺโต วา จตุราสีติกปฺปสหสฺสปรมายุปริยนฺโต วา.

โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทินฺติ โส อหํ ตโต ภวโต โยนิโต คติโต วิฺาณฏฺิติโต สตฺตาวาสโต สตฺตนิกายโต วา จุโต, ปุน อมุกสฺมึ นาม ภเว โยนิยา คติยา วิฺาณฏฺิติยา สตฺตาวาเส สตฺตนิกาเย วา อุทปาทึ. ตตฺราปาสินฺติ อถ ตตฺราปิ ภเว โยนิยา คติยา วิฺาณฏฺิติยา สตฺตาวาเส สตฺตนิกาเย วา ปุน อโหสึ. เอวํนาโมติอาทิ วุตฺตนยเมว.

อถ วา ยสฺมา อมุตฺราสินฺติ อิทํ อนุปุพฺเพน อาโรหนฺตสฺส ยาวทิจฺฉกํ สรณํ. โส ตโต จุโตติ ปฏินิวตฺตนฺตสฺส ปจฺจเวกฺขณํ. ตสฺมา อิธูปปนฺโนติ อิมิสฺสา อิธูปปตฺติยา อนนฺตรํ อมุตฺร อุทปาทินฺติ ตุสิตภวนํ สนฺธายาหาติ เวทิตพฺพํ. ตตฺราปาสึ เอวํนาโมติ ตตฺราปิ ตุสิตภวเน เสตเกตุ นาม เทวปุตฺโต อโหสึ. เอวํโคตฺโตติ ตาหิ เทวตาหิ สทฺธึ เอกโคตฺโต. เอวํวณฺโณติ สุวณฺณวณฺโณ. เอวมาหาโรติ ทิพฺพสุธาหาโร. เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวทีติ เอวํ ทิพฺพสุขปฺปฏิสํเวที. ทุกฺขํ ปน สงฺขารทุกฺขมตฺตเมว. เอวมายุปริยนฺโตติ เอวํ สตฺตปฺาสวสฺสโกฏิสฏฺิวสฺสสตสหสฺสายุปริยนฺโต. โส ตโต จุโตติ โส อหํ ตโต ตุสิตภวนโต จุโต. อิธูปปนฺโนติ อิธ มหามายาย เทวิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺโต.

อิตีติ เอวํ. สาการํ สอุทฺเทสนฺติ นามโคตฺตวเสน สอุทฺเทสํ, วณฺณาทิวเสน สาการํ. นามโคตฺตวเสน หิ สตฺโต ‘‘ทตฺโต, ติสฺโส, โคตโม’’ติ อุทฺทิสียติ; วณฺณาทีหิ โอทาโต, สาโมติ นานตฺตโต ปฺายติ; ตสฺมา นามโคตฺตํ อุทฺเทโส, อิตเร อาการา. กึ ปน พุทฺธาเยว ปุพฺเพนิวาสํ สรนฺตีติ? วุจฺจเต – น พุทฺธาเยว, ปจฺเจกพุทฺธ-พุทฺธสาวก-ติตฺถิยาปิ, โน จ โข อวิเสเสน. ติตฺถิยา หิ จตฺตาลีสํเยว กปฺเป สรนฺติ, น ตโต ปรํ. กสฺมา? ทุพฺพลปฺตฺตา. เตสฺหิ นามรูปปริจฺเฉทวิรหโต ทุพฺพลา ปฺา โหติ. สาวเกสุ ปน อสีติมหาสาวกา กปฺปสตสหสฺสํ สรนฺติ; ทฺเว อคฺคสาวกา เอกมสงฺขฺเยยฺยํ สตสหสฺสฺจ. ปจฺเจกพุทฺธา ทฺเว อสงฺขฺเยยฺยานิ สตสหสฺสฺจ. เอตฺตโก หิ เตสํ อภินีหาโร. พุทฺธานํ ปน ปริจฺเฉโท นตฺถิ, ยาว อิจฺฉนฺติ ตาว สรนฺติ. ติตฺถิยา จ ขนฺธปฏิปาฏิเมว สรนฺติ. ปฏิปาฏึ มุฺจิตฺวา จุติปฏิสนฺธิวเสน สริตุํ น สกฺโกนฺติ. เตสฺหิ อนฺธานํ วิย อิจฺฉิตปฺปเทโสกฺกมนํ นตฺถิ. สาวกา อุภยถาปิ สรนฺติ; ตถา ปจฺเจกพุทฺธา. พุทฺธา ปน ขนฺธปฏิปาฏิยาปิ จุติปฏิสนฺธิวเสนปิ สีโหกฺกนฺตวเสนปิ อเนกาสุ กปฺปโกฏีสุ เหฏฺา วา อุปริ วา ยํ ยํ านํ อากงฺขนฺติ, ตํ สพฺพํ สรนฺติเยว.

อยํ โข เม พฺราหฺมณาติอาทีสุ เมติ มยา. วิชฺชาติ วิทิตกรณฏฺเน วิชฺชา. กึ วิทิตํ กโรติ? ปุพฺเพนิวาสํ. อวิชฺชาติ ตสฺเสว ปุพฺเพนิวาสสฺส อวิทิตกรณฏฺเน ตปฺปฏิจฺฉาทกโมโห วุจฺจติ. ตโมติ สฺเวว โมโห ตปฺปฏิจฺฉาทกฏฺเน ‘‘ตโม’’ติ วุจฺจติ. อาโลโกติ สาเยววิชฺชา โอภาสกรณฏฺเน ‘‘อาโลโก’’ติ วุจฺจติ. เอตฺถ จ วิชฺชา อธิคตาติ อยํ อตฺโถ, เสสํ ปสํสาวจนํ. โยชนา ปเนตฺถ – อยํ โข เม วิชฺชา อธิคตา, ตสฺส เม อธิคตวิชฺชสฺส อวิชฺชา วิหตา, วินฏฺาติ อตฺโถ. กสฺมา? ยสฺมา วิชฺชา อุปฺปนฺนา. เอส นโย อิตรสฺมิมฺปิ ปททฺวเย.

ยถา ตนฺติ เอตฺถ ยถาติ โอปมฺมตฺเถ. นฺติ นิปาโต. สติยา อวิปฺปวาเสน อปฺปมตฺตสฺส. วีริยาตาเปน อาตาปิโน. กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺขตาย ปหิตตฺตสฺส, เปสิตจิตฺตสฺสาติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต อวิชฺชา วิหฺเยฺย วิชฺชา อุปฺปชฺเชยฺย, ตโม วิหฺเยฺย อาโลโก อุปฺปชฺเชยฺย; เอวเมว มม อวิชฺชา วิหตา วิชฺชา อุปฺปนฺนา, ตโม วิหโต อาโลโก อุปฺปนฺโน. เอตสฺส เม ปธานานุโยคสฺส อนุรูปเมว ผลํ ลทฺธนฺติ.

อยํ โข เม พฺราหฺมณ ปมา อภินิพฺภิทา อโหสิ กุกฺกุฏจฺฉาปกสฺเสว อณฺฑโกสมฺหาติ อยํ โข มม พฺราหฺมณ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณมุขตุณฺฑเกน ปุพฺเพ นิวุตฺถกฺขนฺธปฏิจฺฉาทกํ อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ปมา อภินิพฺภิทา ปมา นิกฺขนฺติ ปมา อริยาชาติ อโหสิ, กุกฺกุฏจฺฉาปกสฺเสว มุขตุณฺฑเกน วา ปาทนขสิขาย วา อณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ตมฺหา อณฺฑโกสมฺหา อภินิพฺภิทา นิกฺขนฺติ กุกฺกุฏนิกาเย ปจฺจาชาตีติ.

ปุพฺเพนิวาสกถา นิฏฺิตา.

ทิพฺพจกฺขุาณกถา

๑๓. โส เอวํ…เป… จุตูปปาตาณายาติ จุติยา จ อุปปาเต จ าณาย; เยน าเณน สตฺตานํ จุติ จ อุปปาโต จ ายติ, ตทตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. จิตฺตํ อภินินฺนาเมสินฺติ ปริกมฺมจิตฺตํ นีหรึ. โส ทิพฺเพน…เป… ปสฺสามีติ เอตฺถ ปน ปูริตปารมีนํ มหาสตฺตานํ ปริกมฺมกรณํ นตฺถิ. เต หิ จิตฺเต อภินินฺนามิตมตฺเต เอว ทิพฺเพน จกฺขุนา สตฺเต ปสฺสนฺติ, อาทิกมฺมิกกุลปุตฺตา ปน ปริกมฺมํ กตฺวา. ตสฺมา เตสํ วเสน ปริกมฺมํ วตฺตพฺพํ สิยา. ตํ ปน วุจฺจมานํ อติภาริยํ วินยนิทานํ กโรติ; ตสฺมา ตํ น วทาม. อตฺถิเกหิ ปน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๔๑๑) วุตฺตนเยน คเหตพฺพํ. อิธ ปน ปาฬิเมว วณฺณยิสฺสาม.

โสติ โส อหํ. ทิพฺเพนาติอาทีสุ ทิพฺพสทิสตฺตา ทิพฺพํ. เทวตานฺหิ สุจริตกมฺมนิพฺพตฺตํ ปิตฺตเสมฺหรุหิราทีหิ อปลิพุทฺธํ อุปกฺกิเลสวินิมุตฺตตาย ทูเรปิ อารมฺมณสมฺปฏิจฺฉนสมตฺถํ ทิพฺพํ ปสาทจกฺขุ โหติ. อิทฺจาปิ วีริยภาวนาพลนิพฺพตฺตํ าณจกฺขุ ตาทิสเมวาติ ทิพฺพสทิสตฺตา ทิพฺพํ, ทิพฺพวิหารวเสน ปฏิลทฺธตฺตา อตฺตนา จ ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสิตตฺตาปิ ทิพฺพํ, อาโลกปริคฺคเหน มหาชุติกตฺตาปิ ทิพฺพํ, ติโรกุฏฺฏาทิคตรูปทสฺสเนน มหาคติกตฺตาปิ ทิพฺพํ. ตํ สพฺพํ สทฺทสตฺถานุสาเรน เวทิตพฺพํ. ทสฺสนฏฺเน จกฺขุ. จกฺขุกิจฺจกรเณน จกฺขุมิวาติปิ จกฺขุ. จุตูปปาตทสฺสเนน ทิฏฺิวิสุทฺธิเหตุตฺตา วิสุทฺธํ. โย หิ จุติมตฺตเมว ปสฺสติ น อุปปาตํ, โส อุจฺเฉททิฏฺึ คณฺหาติ. โย อุปปาตมตฺตเมว ปสฺสติ น จุตึ, โส นวสตฺตปาตุภาวทิฏฺึ คณฺหาติ. โย ปน ตทุภยํ ปสฺสติ, โส ยสฺมา ทุวิธมฺปิ ตํ ทิฏฺิคตํ อติวตฺตติ, ตสฺมาสฺส ตํ ทสฺสนํ ทิฏฺิวิสุทฺธิเหตุ โหติ. ตทุภยฺจ ภควา อทฺทส. เตเนตํ วุตฺตํ – ‘‘จุตูปปาตทสฺสเนน ทิฏฺิวิสุทฺธิเหตุตฺตา วิสุทฺธ’’นฺติ.

เอกาทสอุปกฺกิเลสวิรหโต วา วิสุทฺธํ. ภควโต หิ เอกาทสปกฺกิเลสวิรหิตํ ทิพฺพจกฺขุ. ยถาห – ‘‘โส โข อหํ, อนุรุทฺธ, ‘วิจิกิจฺฉา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ อิติ วิทิตฺวา วิจิกิจฺฉํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหึ. อมนสิกาโร…เป… ถินมิทฺธํ… ฉมฺภิตตฺตํ… อุปฺปิลํ… ทุฏฺุลฺลํ… อจฺจารทฺธวีริยํ… อติลีนวีริยํ… อภิชปฺปา… นานตฺตสฺา… ‘อตินิชฺฌายิตตฺตํ รูปานํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ อิติ วิทิตฺวา อตินิชฺฌายิตตฺตํ รูปานํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหึ. โส โข อหํ, อนุรุทฺธ, อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต โอภาสฺหิ โข สฺชานามิ, น จ รูปานิ ปสฺสามิ. รูปานิ หิ โข ปสฺสามิ, น จ โอภาสํ สฺชานามี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๔๒-๒๔๓) เอวมาทิ. ตเทวํ เอกาทสุปกฺกิเลสวิรหโต วิสุทฺธํ.

มนุสฺสูปจารํ อติกฺกมิตฺวา รูปทสฺสเนน อติกฺกนฺตมานุสกํ; มานุสกํ วา มํสจกฺขุํ อติกฺกนฺตตฺตา อติกฺกนฺตมานุสกนฺติ เวทิตพฺพํ. เตน ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน.

สตฺเต ปสฺสามีติ มนุสฺสมํสจกฺขุนา วิย สตฺเต ปสฺสามิ ทกฺขามิ โอโลเกมิ. จวมาเน อุปปชฺชมาเนติ เอตฺถ จุติกฺขเณ วา อุปปตฺติกฺขเณ วา ทิพฺพจกฺขุนา ทฏฺุํ น สกฺกา, เย ปน อาสนฺนจุติกา อิทานิ จวิสฺสนฺติ เต จวมานา. เย จ คหิตปฏิสนฺธิกา สมฺปตินิพฺพตฺตา วา, เต อุปปชฺชมานาติ อธิปฺเปตา. เต เอวรูเป จวมาเน อุปปชฺชมาเน จ ปสฺสามีติ ทสฺเสติ. หีเนติ โมหนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา หีนานํ ชาติกุลโภคาทีนํ วเสน หีฬิเต โอหีฬิเต อุฺาเต อวฺาเต. ปณีเตติ อโมหนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา ตพฺพิปรีเต. สุวณฺเณติ อโทสนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา อิฏฺกนฺตมนาปวณฺณยุตฺเต. ทุพฺพณฺเณติ โทสนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา อนิฏฺากนฺตอมนาปวณฺณยุตฺเต; อภิรูเป วิรูเปติปิ อตฺโถ. สุคเตติ สุคติคเต, อโลภนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา วา อฑฺเฒ มหทฺธเน. ทุคฺคเตติ ทุคฺคติคเต, โลภนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา วา ทลิทฺเท อปฺปนฺนปาเน. ยถากมฺมูปเคติ ยํ ยํ กมฺมํ อุปจิตํ เตน เตน อุปคเต. ตตฺถ ปุริเมหิ ‘‘จวมาเน’’ติอาทีหิ ทิพฺพจกฺขุกิจฺจํ วุตฺตํ; อิมินา ปน ปเทน ยถากมฺมูปคาณกิจฺจํ.

ตสฺส จ าณสฺส อยมุปฺปตฺติกฺกโม – โส เหฏฺา นิรยาภิมุขํ อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา เนรยิกสตฺเต ปสฺสติ มหนฺตํ ทุกฺขมนุภวมาเน, ตํ ทสฺสนํ ทิพฺพจกฺขุกิจฺจเมว. โส เอวํ มนสิ กโรติ – ‘‘กินฺนุ โข กมฺมํ กตฺวา อิเม สตฺตา เอตํ ทุกฺขมนุภวนฺตี’’ติ? อถสฺส ‘‘อิทํ นาม กตฺวา’’ติ ตํ กมฺมารมฺมณํ าณํ อุปฺปชฺชติ. ตถา อุปริ เทวโลกาภิมุขํ อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา นนฺทนวน-มิสฺสกวน-ผารุสกวนาทีสุ สตฺเต ปสฺสติ มหาสมฺปตฺตึ อนุภวมาเน. ตมฺปิ ทสฺสนํ ทิพฺพจกฺขุกิจฺจเมว. โส เอวํ มนสิ กโรติ – ‘‘กินฺนุ โข กมฺมํ กตฺวา อิเม สตฺตา เอตํ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺตี’’ติ? อถสฺส ‘‘อิทํ นาม กตฺวา’’ติ ตํกมฺมารมฺมณํ าณํ อุปฺปชฺชติ. อิทํ ยถากมฺมูปคาณํ นาม. อิมสฺส วิสุํ ปริกมฺมํ นาม นตฺถิ. ยถา จิมสฺส, เอวํ อนาคตํสาณสฺสปิ. ทิพฺพจกฺขุปาทกาเนว หิ อิมานิ ทิพฺพจกฺขุนา สเหว อิชฺฌนฺติ.

กายทุจฺจริเตนาติอาทีสุ ทุฏฺุ จริตํ ทุฏฺํ วา จริตํ กิเลสปูติกตฺตาติ ทุจฺจริตํ; กาเยน ทุจฺจริตํ, กายโต วา อุปฺปนฺนํ ทุจฺจริตนฺติ กายทุจฺจริตํ. เอวํ วจีมโนทุจฺจริตานิปิ ทฏฺพฺพานิ. สมนฺนาคตาติ สมงฺคีภูตา. อริยานํ อุปวาทกาติ พุทฺธ-ปจฺเจกพุทฺธ-พุทฺธสาวกานํ อริยานํ อนฺตมโส คิหิโสตาปนฺนานมฺปิ อนตฺถกามา หุตฺวา อนฺติมวตฺถุนา วา คุณปริธํสเนน วา อุปวาทกา; อกฺโกสกา, ครหกาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ ‘‘นตฺถิ อิเมสํ สมณธมฺโม, อสฺสมณา เอเต’’ติ วทนฺโต อนฺติมวตฺถุนา อุปวทติ. ‘‘นตฺถิ อิเมสํ ฌานํ วา วิโมกฺโข วา มคฺโค วา ผลํ วา’’ติ วทนฺโต คุณปริธํสเนน อุปวทตีติ เวทิตพฺโพ. โส จ ชานํ วา อุปวเทยฺย อชานํ วา, อุภยถาปิ อริยูปวาโทว โหติ. ภาริยํ กมฺมํ สคฺคาวรณํ มคฺคาวรณฺจ, สเตกิจฺฉํ ปน โหติ. ตสฺส จ อาวิภาวตฺถํ อิทํ วตฺถุมุทาหรนฺติ –

‘‘อฺตรสฺมึ กิร คาเม เอโก เถโร จ ทหรภิกฺขุ จ ปิณฺฑาย จรนฺติ. เต ปมฆเรเยว อุฬุงฺกมตฺตํ อุณฺหยาคุํ ลภึสุ. เถรสฺส จ กุจฺฉิวาโต อตฺถิ. โส จินฺเตสิ – ‘อยํ ยาคุ มยฺหํ สปฺปายา, ยาว น สีตลา โหติ ตาว นํ ปิวามี’ติ. โส มนุสฺเสหิ อุมฺมารตฺถาย อาหเฏ ทารุกฺขนฺเธ นิสีทิตฺวา ตํ ปิวิ. อิตโร ตํ ชิคุจฺฉิ – ‘อติจฺฉาโต วตายํ มหลฺลโก อมฺหากํ ลชฺชิตพฺพกํ อกาสี’ติ. เถโร คาเม จริตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ทหรภิกฺขุํ อาห – ‘อตฺถิ เต, อาวุโส, อิมสฺมึ สาสเน ปติฏฺา’ติ? ‘อาม, ภนฺเต, โสตาปนฺโน อห’นฺติ. ‘เตน หาวุโส, อุปริมคฺคตฺถาย วายามํ มา อกาสิ, ขีณาสโว ตยา อุปวทิโต’ติ. โส ตํ ขมาเปสิ. เตนสฺส ตํ ปากติกํ อโหสิ’’. ตสฺมา โย อฺโปิ อริยํ อุปวทติ, เตน คนฺตฺวา สเจ อตฺตนา วุฑฺฒตโร โหติ, ‘‘อหํ อายสฺมนฺตํ อิทฺจิทฺจ อวจํ, ตํ เม ขมาหี’’ติ ขมาเปตพฺโพ. สเจ นวกตโร โหติ, วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต ตุมฺเห อิทฺจิทฺจ อวจํ, ตํ เม ขมถา’’ติ ขมาเปตพฺโพ. สเจ โส นกฺขมติ ทิสาปกฺกนฺโต วา โหติ, เย ตสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู วสนฺติ เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา สเจ อตฺตนา วุฑฺฒตโร โหติ ิตเกเนว, สเจ นวกตโร อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, อสุกํ นาม อายสฺมนฺตํ อิทฺจิทฺจ อวจํ, ขมตุ เม โส อายสฺมา’’ติ เอวํ วทนฺเตน ขมาเปตพฺโพ. สเจ โส ปรินิพฺพุโต โหติ, ปรินิพฺพุตมฺจฏฺานํ คนฺตฺวา ยาว สิวถิกํ คนฺตฺวาปิ ขมาเปตพฺโพ. เอวํ กเต สคฺคาวรณฺจ มคฺคาวรณฺจ น โหติ, ปากติกเมว โหติ.

มิจฺฉาทิฏฺิกาติ วิปรีตทสฺสนา. มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานาติ มิจฺฉาทิฏฺิวเสน สมาทินฺนนานาวิธกมฺมา, เย จ มิจฺฉาทิฏฺิมูลเกสุ กายกมฺมาทีสุ อฺเปิ สมาทเปนฺติ. ตตฺถ วจีทุจฺจริตคฺคหเณเนว อริยูปวาเท, มโนทุจฺจริตคฺคหเณน จ มิจฺฉาทิฏฺิยา สงฺคหิตายปิ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปุน วจนํ มหาสาวชฺชภาวทสฺสนตฺถนฺติ เวทิตพฺพํ. มหาสาวชฺโช หิ อริยูปวาโท อานนฺตริยสทิโส. ยถาห – ‘‘เสยฺยถาปิ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน สมาธิสมฺปนฺโน ปฺาสมฺปนฺโน ทิฏฺเว ธมฺเม อฺํ อาราเธยฺย; เอวํสมฺปทมิทํ, สาริปุตฺต, วทามิ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต, เอวํ นิรเย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๔๙).

มิจฺฉาทิฏฺิโต จ มหาสาวชฺชตรํ นาม อฺํ นตฺถิ. ยถาห – ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกธมฺมมฺปิ สมนุปสฺสามิ, เอวํ มหาสาวชฺชตรํ, ยถยิทํ, มิจฺฉาทิฏฺิ. มิจฺฉาทิฏฺิปรมานิ, ภิกฺขเว, วชฺชานี’’ติ (อ. นิ. ๑.๓๑๐).

กายสฺส เภทาติ อุปาทินฺนกฺขนฺธปริจฺจาคา. ปรํ มรณาติ ตทนนฺตรํ อภินิพฺพตฺตกฺขนฺธคฺคหเณ. อถวา กายสฺส เภทาติ ชีวิตินฺทฺริยสฺสุปจฺเฉทา. ปรํ มรณาติ จุติจิตฺตโต อุทฺธํ. อปายนฺติ เอวมาทิ สพฺพํ นิรยเววจนํ. นิรโย หิ สคฺคโมกฺขเหตุภูตา ปุฺสมฺมตา อยา อเปตตฺตา, สุขานํ วา อายสฺส อภาวา อปาโย. ทุกฺขสฺส คติ ปฏิสรณนฺติ ทุคฺคติ; โทสพหุลตาย วา ทุฏฺเน กมฺมุนา นิพฺพตฺตา คตีติ ทุคฺคติ. วิวสา นิปตนฺติ เอตฺถ ทุกฺกฏการิโนติ วินิปาโต; วินสฺสนฺตา วา เอตฺถ นิปตนฺติ สมฺภิชฺชมานงฺคปจฺจงฺคาติ วินิปาโต. นตฺถิ เอตฺถ อสฺสาทสฺิโต อโยติ นิรโย.

อถ วา อปายคฺคหเณน ติรจฺฉานโยนึ ทีเปติ. ติรจฺฉานโยนิ หิ อปาโย, สุคติยา อเปตตฺตา; น ทุคฺคติ, มเหสกฺขานํ นาคราชาทีนํ สมฺภวโต. ทุคฺคติคฺคหเณน เปตฺติวิสยํ ทีเปติ. โส หิ อปาโย เจว ทุคฺคติ จ สุคติโต อเปตตฺตา, ทุกฺขสฺส จ คติภูตตฺตา; น ตุ วินิปาโต อสุรสทิสํ อวินิปติตตฺตา. เปตมหิทฺธิกานฺหิ วิมานานิปิ นิพฺพตฺตนฺติ. วินิปาตคฺคหเณน อสุรกายํ ทีเปติ. โส หิ ยถาวุตฺเตนตฺเถน อปาโย เจว ทุคฺคติ จ สพฺพสมุสฺสเยหิ จ วินิปติตตฺตา วินิปาโตติ วุจฺจติ. นิรยคฺคหเณน อวีจิ-อาทิอเนกปฺปการํ นิรยเมว ทีเปติ. อุปปนฺนาติ อุปคตา, ตตฺถ อภินิพฺพตฺตาติ อธิปฺปาโย. วุตฺตวิปริยาเยน สุกฺกปกฺโข เวทิตพฺโพ.

อยํ ปน วิเสโส – เอตฺถ สุคติคฺคหเณน มนุสฺสคติปิ สงฺคยฺหติ. สคฺคคฺคหเณน เทวคติเยว. ตตฺถ สุนฺทรา คตีติ สุคติ. รูปาทิวิสเยหิ สุฏฺุ อคฺโคติ สคฺโค. โส สพฺโพปิ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโกติ อยํ วจนตฺโถ. วิชฺชาติ ทิพฺพจกฺขุาณวิชฺชา. อวิชฺชาติ สตฺตานํ จุติปฏิสนฺธิปฏิจฺฉาทิกา อวิชฺชา. เสสํ วุตฺตนยเมว. อยเมว เหตฺถ วิเสโส – ยถา ปุพฺเพนิวาสกถายํ ‘‘ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณมุขตุณฺฑเกน ปุพฺเพนิวุตฺถกฺขนฺธปอจฺฉาทกํ อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา’’ติ วุตฺตํ; เอวมิธ ‘‘จุตูปปาตาณมุขตุณฺฑเกน จุตูปปาตปฏิจฺฉาทกํ อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา’’ติ วตฺตพฺพนฺติ.

ทิพฺพจกฺขุาณกถา นิฏฺิตา.

อาสวกฺขยาณกถา

๑๔. โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเตติ อิธ วิปสฺสนาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานจิตฺตํ เวทิตพฺพํ. อาสวานํ ขยาณายาติ อรหตฺตมคฺคาณตฺถาย. อรหตฺตมคฺโค หิ อาสววินาสนโต อาสวานํ ขโยติ วุจฺจติ. ตตฺร เจตํ าณํ ตปฺปริยาปนฺนตฺตาติ. จิตฺตํ อภินินฺนาเมสินฺติ วิปสฺสนาจิตฺตํ อภินีหรึ. โส อิทํ ทุกฺขนฺติ เอวมาทีสุ ‘‘เอตฺตกํ ทุกฺขํ, น อิโต ภิยฺโย’’ติ สพฺพมฺปิ ทุกฺขสจฺจํ สรสลกฺขณปฏิเวเธน ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ ชานึ ปฏิวิชฺฌึ. ตสฺส จ ทุกฺขสฺส นิพฺพตฺติกํ ตณฺหํ ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ, ตทุภยมฺปิ ยํ านํ ปตฺวา นิรุชฺฌติ ตํ เตสํ อปฺปวตฺตึ นิพฺพานํ ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ, ตสฺส จ สมฺปาปกํ อริยมคฺคํ ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ สรสลกฺขณปฏิเวเธน ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ ชานึ ปฏิวิชฺฌินฺติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เอวํ สรูปโต สจฺจานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ กิเลสวเสน ปริยายโต ทสฺเสนฺโต ‘‘อิเม อาสวา’’ติอาทิมาห. ตสฺส เม เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโตติ ตสฺส มยฺหํ เอวํ ชานนฺตสฺส เอวํ ปสฺสนฺตสฺส สห วิปสฺสนาย โกฏิปฺปตฺตํ มคฺคํ กเถติ. กามาสวาติ กามาสวโต. วิมุจฺจิตฺถาติ อิมินา ผลกฺขณํ ทสฺเสติ. มคฺคกฺขเณ หิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ผลกฺขเณ วิมุตฺตํ โหติ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณนฺติ อิมินา ปจฺจเวกฺขณาณํ ทสฺเสติ. ขีณา ชาตีติอาทีหิ ตสฺส ภูมึ. เตน หิ าเณน ภควา ปจฺจเวกฺขนฺโต ‘‘ขีณา ชาตี’’ติอาทีนิ อพฺภฺาสึ. กตมา ปน ภควโต ชาติ ขีณา, กถฺจ นํ อพฺภฺาสีติ? วุจฺจเต – น ตาวสฺส อตีตา ชาติ ขีณา, ปุพฺเพว ขีณตฺตา; น อนาคตา, อนาคเต วายามาภาวโต; น ปจฺจุปฺปนฺนา, วิชฺชมานตฺตา. ยา ปน มคฺคสฺส อภาวิตตฺตา อุปฺปชฺเชยฺย เอกจตุปฺจโวการภเวสุ เอกจตุปฺจกฺขนฺธปฺปเภทา ชาติ, สา มคฺคสฺส ภาวิตตฺตา อนุปฺปาทธมฺมตํ อาปชฺชเนน ขีณา; ตํ โส มคฺคภาวนาย ปหีนกิเลเส ปจฺจเวกฺขิตฺวา ‘‘กิเลสาภาเว วิชฺชมานมฺปิ กมฺมํ อายตึ อปฺปฏิสนฺธิกํ โหตี’’ติ ชานนฺโต อพฺภฺาสึ.

วุสิตนฺติ วุตฺถํ ปริวุตฺถํ, กตํ จริตํ นิฏฺิตนฺติ อตฺโถ. พฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ, ปุถุชฺชนกลฺยาณเกน หิ สทฺธึ สตฺต เสกฺขา พฺรหฺมจริยวาสํ วสนฺติ นาม, ขีณาสโว วุตฺถวาโส. ตสฺมา ภควา อตฺตโน พฺรหฺมจริยวาสํ ปจฺจเวกฺขนฺโต ‘‘วุสิตํ พฺรหฺมจริย’’นฺติ อพฺภฺาสึ. กตํ กรณียนฺติ จตูสุ สจฺเจสุ จตูหิ มคฺเคหิ ปริฺาปหานสจฺฉิกิริยาภาวนาภิสมยวเสน โสฬสวิธมฺปิ กิจฺจํ นิฏฺาปิตนฺติ อตฺโถ. ปุถุชฺชนกลฺยาณกาทโย หิ เอตํ กิจฺจํ กโรนฺติ, ขีณาสโว กตกรณีโย. ตสฺมา ภควา อตฺตโน กรณียํ ปจฺจเวกฺขนฺโต ‘‘กตํ กรณีย’’นฺติ อพฺภฺาสึ. นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ อิทานิ ปุน อิตฺถภาวาย เอวํ โสฬสกิจฺจภาวาย กิเลสกฺขยาย วา มคฺคภาวนากิจฺจํ เม นตฺถีติ อพฺภฺาสึ.

อิทานิ เอวํ ปจฺจเวกฺขณาณปริคฺคหิตํ ตํ อาสวานํ ขยาณาธิคมํ พฺราหฺมณสฺส ทสฺเสนฺโต อยํ โข เม พฺราหฺมณาติอาทิมาห. ตตฺถ วิชฺชาติ อรหตฺตมคฺคาณวิชฺชา. อวิชฺชาติ จตุสจฺจปฏิจฺฉาทิกา อวิชฺชา. เสสํ วุตฺตนยเมว. อยํ ปน วิเสโส – อยํ โข เม พฺราหฺมณ ตติยา อภินิพฺภิทา อโหสีติ เอตฺถ อยํ โข มม พฺราหฺมณ อาสวานํ ขยาณมุขตุณฺฑเกน จตุสจฺจปฏิจฺฉาทกํ อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ตติยา อภินิพฺภิทา ตติยา นิกฺขนฺติ ตติยา อริยชาติ อโหสิ, กุกฺกุฏจฺฉาปกสฺเสว มุขตุณฺฑเกน วา ปาทนขสิขาย วา อณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ตมฺหา อณฺฑโกสมฺหา อภินิพฺภิทา นิกฺขนฺติ กุกฺกุฏนิกาเย ปจฺจาชาตีติ.

เอตฺตาวตา กึ ทสฺเสตีติ? โส หิ พฺราหฺมณ กุกฺกุฏจฺฉาปโก อณฺฑโกสํ

ปทาเลตฺวา ตโต นิกฺขมนฺโต สกิเมว ชายติ, อหํ ปน ปุพฺเพ-นิวุตฺถกฺขนฺธปฏิจฺฉาทกํ อวิชฺชณฺฑโกสํ ภินฺทิตฺวา ปมํ ตาว ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณวิชฺชาย ชาโต, ตโต สตฺตานํ จุติปฏิสนฺธิปฏิจฺฉาทกํ อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ทุติยํ ทิพฺพจกฺขุาณวิชฺชาย ชาโต, ปุน จตุสจฺจปฏิจฺฉาทกํ อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ตติยํ อาสวานํ ขยาณวิชฺชาย ชาโต; เอวํ ตีหิ วิชฺชาหิ ติกฺขตฺตุํ ชาโต. สา จ เม ชาติ อริยา สุปริสุทฺธาติ อิทํ ทสฺเสสิ. เอวํ ทสฺเสนฺโต จ ปุพฺเพนิวาสาเณน อตีตํสาณํ, ทิพฺพจกฺขุนา ปจฺจุปฺปนฺนานาคตํสาณํ, อาสวกฺขเยน สกลโลกิยโลกุตฺตรคุณนฺติ เอวํ ตีหิ วิชฺชาหิ สพฺเพปิ สพฺพฺุคุเณ ปกาเสตฺวา อตฺตโน อริยาย ชาติยา เชฏฺเสฏฺภาวํ พฺราหฺมณสฺส ทสฺเสสีติ.

อาสวกฺขยาณกถา นิฏฺิตา.

เทสนานุโมทนกถา

๑๕. เอวํ วุตฺเต เวรฺโช พฺราหฺมโณติ เอวํ ภควตา โลกานุกมฺปเกน พฺราหฺมณํ อนุกมฺปมาเนน วินิคูหิตพฺเพปิ อตฺตโน อริยาย ชาติยา เชฏฺเสฏฺภาเว วิชฺชตฺตยปกาสิกาย ธมฺมเทสนาย วุตฺเต ปีติวิปฺผารปริปุณฺณคตฺตจิตฺโต เวรฺโช พฺราหฺมโณ ตํ ภควโต อริยาย ชาติยา เชฏฺเสฏฺภาวํ วิทิตฺวา ‘‘อีทิสํ นามาหํ สพฺพโลกเชฏฺเสฏฺํ สพฺพคุณสมนฺนาคตํ สพฺพฺุํ ‘อฺเสํ อภิวาทนาทิกมฺมํ น กโรตี’ติ อวจํ – ‘ธีรตฺถุ วตเร อฺาณ’’’นฺติ อตฺตานํ ครหิตฺวา ‘‘อยํ ทานิ โลเก อริยาย ชาติยา ปุเรชาตฏฺเน เชฏฺโ, สพฺพคุเณหิ อปฺปฏิสมฏฺเน เสฏฺโ’’ติ นิฏฺํ คนฺตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เชฏฺโ ภวํ โคตโม เสฏฺโ ภวํ โคตโม’’ติ. เอวฺจ ปน วตฺวา ปุน ตํ ภควโต ธมฺมเทสนํ อพฺภนุโมทมาโน ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตมา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถายํ อภิกฺกนฺตสทฺโท ขยสุนฺทราภิรูปอพฺภนุโมทเนสุ ทิสฺสติ. ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ; นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม, จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๘.๒๐) หิ ขเย ทิสฺสติ. ‘‘อยํ เม ปุคฺคโล ขมติ, อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๑๐๐) สุนฺทเร.

‘‘โก เม วนฺทติ ปาทานิ, อิทฺธิยา ยสสา ชลํ;

อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, สพฺพา โอภาสยํ ทิสา’’ติ. –

อาทีสุ (วิ. ว. ๘๕๗) อภิรูเป. ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๕๐) อพฺภนุโมทเน. อิธาปิ อพฺภนุโมทเนเยว. ยสฺมา จ อพฺภนุโมทเน, ตสฺมา ‘‘สาธุ สาธุ, โภ โคตมา’’ติ วุตฺตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.

‘‘ภเย โกเธ ปสํสายํ, ตุริเต โกตูหลจฺฉเร;

หาเส โสเก ปสาเท จ, กเร อาเมฑิตํ พุโธ’’ติ.

อิมินา จ ลกฺขเณน อิธ ปสาทวเสน ปสํสาวเสน จายํ ทฺวิกฺขตฺตุํ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

อถ วา อภิกฺกนฺตนฺติ อติอิฏฺํ อติมนาปํ อติสุนฺทรนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ เอเกน อภิกฺกนฺตสทฺเทน เทสนํ โถเมติ, เอเกน อตฺตโน ปสาทํ. อยฺหิ เอตฺถ อธิปฺปาโย – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, ยทิทํ โภโต โคตมสฺส ธมฺมเทสนา, อภิกฺกนฺตํ ยทิทํ โภโต โคตมสฺส ธมฺมเทสนํ อาคมฺม มม ปสาโท’’ติ. ภควโตเยว วา วจนํ ทฺเว ทฺเว อตฺเถ สนฺธาย โถเมติ – โภโต โคตมสฺส วจนํ อภิกฺกนฺตํ โทสนาสนโต อภิกฺกนฺตํ คุณาธิคมนโต, ตถา สทฺธาชนนโต ปฺาชนนโต, สาตฺถโต สพฺยฺชนโต, อุตฺตานปทโต คมฺภีรตฺถโต, กณฺณสุขโต หทยงฺคมโต, อนตฺตุกฺกํสนโต อปรวมฺภนโต, กรุณาสีตลโต ปฺาวทาตโต, อปาถรมณียโต วิมทฺทกฺขมโต, สุยฺยมานสุขโต วีมํสิยมานหิตโตติ เอวมาทีหิ โยเชตพฺพํ.

ตโต ปรมฺปิ จตูหิ อุปมาหิ เทสนํเยว โถเมติ. ตตฺถ นิกฺกุชฺชิตนฺติ อโธมุขปิตํ, เหฏฺามุขชาตํ วา. อุกฺกุชฺเชยฺยาติ อุปริมุขํ กเรยฺย. ปฏิจฺฉนฺนนฺติ ติณปณฺณาทิปฏิจฺฉาทิตํ. วิวเรยฺยาติ อุคฺฆาเฏยฺย. มูฬฺหสฺสาติ ทิสามูฬฺหสฺส. มคฺคํ อาจิกฺเขยฺยาติ หตฺเถ คเหตฺวา เอส มคฺโคติ วเทยฺย. อนฺธกาเรติ กาฬปกฺขจาตุทฺทสี อฑฺฒรตฺต-ฆนวนสณฺฑ-เมฆปฏเลหิ จตุรงฺเค ตมสิ. อยํ ตาว อนุตฺตานปทตฺโถ. อยํ ปน อธิปฺปายโยชนา – ยถา โกจิ นิกฺกุชฺชิตํ อุกฺกุชฺเชยฺย, เอวํ สทฺธมฺมวิมุขํ อสทฺธมฺเม ปติฏฺิตํ มํ อสทฺธมฺมา วุฏฺาเปนฺเตน; ยถา ปฏิจฺฉนฺนํ วิวเรยฺย, เอวํ กสฺสปสฺส ภควโต สาสนนฺตรธานา ปภุติ มิจฺฉาทิฏฺิคหนปฏิจฺฉนฺนํ สาสนํ วิวรนฺเตน; ยถา มูฬฺหสฺส มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, เอวํ กุมฺมคฺคมิจฺฉามคฺคปฺปฏิปนฺนสฺส เม สคฺคโมกฺขมคฺคํ อาจิกฺขนฺเตน; ยถา อนฺธกาเร เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย, เอวํ โมหนฺธกาเร นิมุคฺคสฺส เม พุทฺธาทิรตนตฺตยรูปานิ อปสฺสโต ตปฺปฏิจฺฉาทกโมหนฺธการวิทฺธํสกเทสนาปชฺโชตํ ธาเรนฺเตน, มยฺหํ โภตา โคตเมน เอเตหิ ปริยาเยหิ ปกาสิตตฺตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโตติ.

เทสนานุโมทนกถา นิฏฺิตา.

ปสนฺนาการกถา

เอวํ เทสนํ โถเมตฺวา อิมาย เทสนาย รตนตฺตเย ปสนฺนจิตฺโต ปสนฺนาการํ กโรนฺโต ‘‘เอสาห’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ เอสาหนฺติ เอโส อหํ. ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามีติ ภวนฺตํ โคตมํ สรณนฺติ คจฺฉามิ; ภวํ เม โคตโม สรณํ, ปรายณํ, อฆสฺส ตาตา, หิตสฺส จ วิธาตาติ อิมินา อธิปฺปาเยน ภวนฺตํ โคตมํ คจฺฉามิ ภชามิ เสวามิ ปยิรุปาสามิ, เอวํ วา ชานามิ พุชฺฌามีติ. เยสฺหิ ธาตูนํ คติอตฺโถ, พุทฺธิปิ เตสํ อตฺโถ; ตสฺมา ‘‘คจฺฉามี’’ติ อิมสฺส ชานามิ พุชฺฌามีติ อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต. ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจาติ เอตฺถ ปน อธิคตมคฺเค สจฺฉิกตนิโรเธ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน จ จตูสุ อปาเยสุ อปตมาเน ธาเรตีติ ธมฺโม; โส อตฺถโต อริยมคฺโค เจว นิพฺพานฺจ. วุตฺตํ เหตํ – ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๔) วิตฺถาโร. น เกวลฺจ อริยมคฺโค เจว นิพฺพานฺจ, อปิ จ โข อริยผเลหิ สทฺธึ ปริยตฺติธมฺโมปิ. วุตฺตมฺปิ เหตํ ฉตฺตมาณวกวิมาเน

‘‘ราควิราคมเนชมโสกํ, ธมฺมมสงฺขตมปฺปฏิกูลํ;

มธุรมิมํ ปคุณํ สุวิภตฺตํ, ธมฺมมิมํ สรณตฺถมุเปหี’’ติ. (วิ. ว. ๘๘๗);

เอตฺถ หิ ราควิราโคติ มคฺโค กถิโต. อเนชมโสกนฺติ ผลํ. ธมฺมมสงฺขตนฺติ นิพฺพานํ. อปฺปฏิกูลํ มธุรมิมํ ปคุณํ สุวิภตฺตนฺติ ปิฏกตฺตเยน วิภตฺตา สพฺพธมฺมกฺขนฺธาติ. ทิฏฺิสีลสงฺฆาเตน สํหโตติ สงฺโฆ, โส อตฺถโต อฏฺอริยปุคฺคลสมูโห. วุตฺตฺเหตํ ตสฺมึเยว วิมาเน

‘‘ยตฺถ จ ทินฺนมหปฺผลมาหุ, จตูสุ สุจีสุ ปุริสยุเคสุ;

อฏฺ จ ปุคฺคลธมฺมทสา เต, สงฺฆมิมํ สรณตฺถมุเปหี’’ติ. (วิ. ว. ๘๘๘);

ภิกฺขูนํ สงฺโฆ ภิกฺขุสงฺโฆ. เอตฺตาวตา จ พฺราหฺมโณ ตีณิ สรณคมนานิ ปฏิเวเทสิ.

ปสนฺนาการกถา นิฏฺิตา.

สรณคมนกถา

อิทานิ เตสฺเวว ตีสุ สรณคมเนสุ โกสลฺลตฺถํ สรณํ, สรณคมนํ, โย สรณํ คจฺฉติ,

สรณคมนปฺปเภโท, สรณคมนผลํ, สํกิเลโส, เภโทติ อยํ วิธิ เวทิ ตพฺโพ. โส ปน อิธ วุจฺจมาโน อติภาริยํ วินยนิทานํ กโรตีติ น วุตฺโต. อตฺถิเกหิ ปน ปปฺจสูทนิยํ วา มชฺฌิมฏฺกถายํ ภยเภรวสุตฺตวณฺณนโต (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๕๖) สุมงฺคลวิลาสินิยํ วา ทีฆนิกายฏฺกถายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๕๐) สรณวณฺณนโต คเหตพฺโพติ.

สรณคมนกถา นิฏฺิตา.

อุปาสกตฺตปฏิเวทนากถา

อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตูติ มํ ภวํ โคตโม ‘‘อุปาสโก อย’’นฺติ เอวํ ธาเรตูติ อตฺโถ. อุปาสกวิธิโกสลฺลตฺถํ ปเนตฺถ โก อุปาสโก, กสฺมา อุปาสโกติ วุจฺจติ, กิมสฺส สีลํ, โก อาชีโว, กา วิปตฺติ, กา สมฺปตฺตีติ อิทํ ปกิณฺณกํ เวทิตพฺพํ. ตํ อติภาริยกรณโต อิธ น วิภตฺตํ, อตฺถิเกหิ ปน ปปฺจสูทนิยํ มชฺฌิมฏฺกถายํ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๕๖) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อชฺชตคฺเคติ เอตฺถ อยํ อคฺคสทฺโท อาทิโกฏิโกฏฺาสเสฏฺเสุ ทิสฺสติ. ‘‘อชฺชตคฺเค, สมฺม โทวาริก, อาวรามิ ทฺวารํ นิคณฺานํ นิคณฺีน’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๗๐) หิ อาทิมฺหิ ทิสฺสติ. ‘‘เตเนว องฺคุลคฺเคน ตํ องฺคุลคฺคํ ปรามเสยฺย (กถา. ๔๔๑), อุจฺฉคฺคํ เวฬคฺค’’นฺติอาทีสุ โกฏิยํ. ‘‘อมฺพิลคฺคํ วา มธุรคฺคํ วา ติตฺตกคฺคํ วา (สํ. นิ. ๕.๓๗๔) อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วิหารคฺเคน วา ปริเวณคฺเคน วา ภาเชตุ’’นฺติอาทีสุ (จูฬว. ๓๑๘) โกฏฺาเส. ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, สตฺตา อปทา วา ทฺวิปทา วา…เป… ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๓๔) เสฏฺเ. อิธ ปนายํ อาทิมฺหิ ทฏฺพฺโพ. ตสฺมา อชฺชตคฺเคติ อชฺชตํ อาทึ กตฺวาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อชฺชตนฺติ อชฺชภาวนฺติ วุตฺตํ โหติ. อชฺชทคฺเค อิจฺเจว วา ปาโ, ทกาโร ปทสนฺธิกโร, อชฺช อคฺคํ กตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ปาณุเปตนฺติ ปาเณหิ อุเปตํ, ยาว เม ชีวิตํ ปวตฺตติ, ตาว อุเปตํ อนฺสตฺถุกํ ตีหิ สรณคมเนหิ สรณคตํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ ชานาตุ, อหฺหิ สเจปิ เม ติขิเณน อสินา สีสํ ฉินฺเทยฺยุํ, เนว พุทฺธํ ‘‘น พุทฺโธ’’ติ วา, ธมฺมํ ‘‘น ธมฺโม’’ติ วา, สงฺฆํ ‘‘น สงฺโฆ’’ติ วา วเทยฺยนฺติ. เอตฺถ จ พฺราหฺมโณ ปาณุเปตํ สรณคตนฺติ ปุน สรณคมนํ วทนฺโต อตฺตสนฺนิยฺยาตนํ ปกาเสตีติ เวทิตพฺโพ.

เอวํ อตฺตานํ นิยฺยาเตตฺวา ภควนฺตํ สปริสํ อุปฏฺาตุกาโม อาห – ‘‘อธิวาเสตุ จ เม ภวํ โคตโม เวรฺชายํ วสฺสาวาสํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. กึ วุตฺตํ โหติ – อุปาสกฺจ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ, อธิวาเสตุ จ เม เวรฺชายํ วสฺสาวาสํ, ตโย มาเส เวรฺชํ อุปนิสฺสาย มม อนุคฺคหตฺถํ วาสํ สมฺปฏิจฺฉตูติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนาติ อถสฺส วจนํ สุตฺวา ภควา กายงฺคํ วา วาจงฺคํ วา อโจเปตฺวา อพฺภนฺตเรเยว ขนฺตึ จาเรตฺวา ตุณฺหีภาเวน อธิวาเสสิ; พฺราหฺมณสฺส อนุคฺคหตฺถํ มนสาว สมฺปฏิจฺฉีติ วุตฺตํ โหติ.

อถ โข เวรฺโช พฺราหฺมโณ ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวาติ อถ เวรฺโช พฺราหฺมโณ สเจ เม สมโณ โคตโม นาธิวาเสยฺย, กาเยน วา วาจาย วา ปฏิกฺขิเปยฺย. ยสฺมา ปน อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา อพฺภนฺตเร ขนฺตึ ธาเรสิ, ตสฺมา เม มนสาว อธิวาเสสีติ เอวํ อาการสลฺลกฺขณกุสลตาย ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา, อตฺตโน นิสินฺนาสนโต วุฏฺาย จตูสุ ทิสาสุ ภควนฺตํ สกฺกจฺจํ วนฺทิตฺวา ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อาคตกาลโต ปภุติ ชาติมหลฺลกพฺราหฺมณานํ อภิวาทนาทีนิ น กโรตีติ วิครหิตฺวาปิ อิทานิ วิฺาตพุทฺธคุโณ กาเยน วาจาย มนสา จ อเนกกฺขตฺตุํ วนฺทนฺโตปิ อติตฺโตเยว หุตฺวา ทสนขสโมธานสมุชฺชลํ อฺชลึ ปคฺคยฺห สิรสฺมึ ปติฏฺาเปตฺวา ยาว ทสฺสนวิสโย ตาว ปฏิมุโขเยว อปกฺกมิตฺวา ทสฺสนวิสยํ วิชหนฏฺาเน วนฺทิตฺวา ปกฺกามิ.

อุปาสกตฺตปฏิเวทนากถา นิฏฺิตา.

ทุพฺภิกฺขกถา

๑๖. เตน โข ปน สมเยน เวรฺชา ทุพฺภิกฺขา โหตีติ ยสฺมึ สมเย เวรฺเชน พฺราหฺมเณน ภควา เวรฺชํ อุปนิสฺสาย วสฺสาวาสํ ยาจิโต, เตน สมเยน เวรฺชา ทุพฺภิกฺขา โหติ. ทุพฺภิกฺขาติ ทุลฺลภภิกฺขา; สา ปน ทุลฺลภภิกฺขตา ยตฺถ มนุสฺสา อสฺสทฺธา โหนฺติ อปฺปสนฺนา, ตตฺถ สุสสฺสกาเลปิ อติสมคฺเฆปิ ปุพฺพณฺณาปรณฺเณ โหติ. เวรฺชายํ ปน ยสฺมา น ตถา อโหสิ, อปิจ โข ทุสสฺสตาย ฉาตกโทเสน อโหสิ ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ทฺวีหิติกาติอาทิมาห. ตตฺถ ทฺวีหิติกาติ ทฺวิธา ปวตฺตอีหิติกา. อีหิตํ นาม อิริยา ทฺวิธา ปวตฺตา – จิตฺตอิริยา, จิตฺตอีหา. ‘‘เอตฺถ ลจฺฉาม นุ โข กิฺจิ ภิกฺขมานา น ลจฺฉามา’’ติ, ‘‘ชีวิตุํ วา สกฺขิสฺสาม นุ โข โน’’ติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.

อถ วา ทฺวีหิติกาติ ทุชฺชีวิกา, อีหิตํ อีหา อิริยนํ ปวตฺตนํ ชีวิตนฺติอาทีนิ ปทานิ เอกตฺถานิ. ตสฺมา ทุกฺเขน อีหิตํ เอตฺถ ปวตฺตตีติ ทฺวีหิติกาติ อยเมตฺถ ปทตฺโถ. เสตฏฺิกาติ เสตกานิ อฏฺีนิ เอตฺถาติ เสตฏฺิกา. ทิวสมฺปิ ยาจิตฺวา กิฺจิ อลทฺธา มตานํ กปณมนุสฺสานํ อหิจฺฉตฺตกวณฺเณหิ อฏฺีหิ ตตฺร ตตฺร ปริกิณฺณาติ วุตฺตํ โหติ. เสตฏฺฏิกาติปิ ปาโ. ตสฺสตฺโถ – เสตา อฏฺฏิ เอตฺถาติ เสตฏฺฏิกา. อฏฺฏีติ อาตุรตา พฺยาธิ โรโค. ตตฺถ จ สสฺสานํ คพฺภคฺคหณกาเล เสตกโรเคน อุปหตเมว ปจฺฉินฺนขีรํ อคฺคหิตตณฺฑุลํ ปณฺฑรปณฺฑรํ สาลิสีสํ วา ยวโคธูมสีสํ วา นิกฺขมติ, ตสฺมา ‘‘เสตฏฺฏิกา’’ติ วุจฺจติ.

วปฺปกาเล สุฏฺุ อภิสงฺขริตฺวาปิ วุตฺตสสฺสํ ตตฺถ สลากา เอว สมฺปชฺชตีติ สลากาวุตฺตา; สลากาย วา ตตฺถ ชีวิตํ ปวตฺเตนฺตีติ สลากาวุตฺตา. กึ วุตฺตํ โหติ? ตตฺถ กิร ธฺวิกฺกยกานํ สนฺติกํ กยเกสุ คเตสุ ทุพฺพลมนุสฺเส อภิภวิตฺวา พลวมนุสฺสาว ธฺํ กิณิตฺวา คจฺฉนฺติ. ทุพฺพลมนุสฺสา อลภมานา มหาสทฺทํ กโรนฺติ. ธฺวิกฺกยกา ‘‘สพฺเพสํ สงฺคหํ กริสฺสามา’’ติ ธฺกรณฏฺาเน ธฺมาปกํ นิสีทาเปตฺวา เอกปสฺเส วณฺณชฺฌกฺขํ นิสีทาเปสุํ. ธฺตฺถิกา วณฺณชฺฌกฺขสฺส สนฺติกํ คจฺฉนฺติ. โส อาคตปฏิปาฏิยา มูลํ คเหตฺวา ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส เอตฺตกํ ทาตพฺพ’’นฺติ สลากํ ลิขิตฺวา เทติ, เต ตํ คเหตฺวา ธฺมาปกสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ทินฺนปฏิปาฏิยา ธฺํ คณฺหนฺติ. เอวํ สลากาย ตตฺถ ชีวิตํ ปวตฺเตนฺตีติ สลากาวุตฺตา.

สุกรา อุฺเฉน ปคฺคเหน ยาเปตุนฺติ ปคฺคเหน โย อุฺโฉ, เตน ยาเปตุํ น สุกรา. ปตฺตํ คเหตฺวา ยํ อริยา อุฺฉํ กโรนฺติ, ภิกฺขาจริยํ จรนฺติ, เตน อุฺเฉน ยาเปตุํ น สุกราติ วุตฺตํ โหติ. ตทา กิร ตตฺถ สตฺตฏฺคาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา เอกทิวสมฺปิ ยาปนมตฺตํ น ลภนฺติ.

เตน โข ปน สมเยน อุตฺตราปถกา อสฺสวาณิชา…เป… อสฺโสสิ โข ภควา อุทุกฺขลสทฺทนฺติ – เตนาติ ยสฺมึ สมเย ภควา เวรฺชํ อุปนิสฺสาย วสฺสาวาสํ อุปคโต เตน สมเยน. อุตฺตราปถวาสิกา อุตฺตราปถโต วา อาคตตฺตา เอวํ ลทฺธโวหารา อสฺสวาณิชา อุตฺตราปเถ อสฺสานํ อุฏฺานฏฺาเน ปฺจ อสฺสสตานิ คเหตฺวา ทิคุณํ ติคุณํ ลาภํ ปตฺถยมานา เทสนฺตรํ คจฺฉนฺตา เตหิ อตฺตโน วิกฺกายิกภณฺฑภูเตหิ ปฺจมตฺเตหิ อสฺสสเตหิ เวรฺชํ วสฺสาวาสํ อุปคตา โหนฺติ. กสฺมา? น หิ สกฺกา ตสฺมึ เทเส วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส อทฺธานํ ปฏิปชฺชิตุํ. อุปคจฺฉนฺตา จ พหินคเร อุทเกน อนชฺโฌตฺถรณีเย าเน อตฺตโน จ วาสาคารานิ อสฺสานฺจ มนฺทิรํ การาเปตฺวา วติยา ปริกฺขิปึสุ. ตานิ เตสํ วสนฏฺานานิ ‘‘อสฺสมณฺฑลิกาโย’’ติ ปฺายึสุ. เตนาห – ‘‘เตหิ อสฺสมณฺฑลิกาสุ ภิกฺขูนํ ปตฺถปตฺถปุลกํ ปฺตฺตํ โหตี’’ติ. ปตฺถปตฺถปุลกนฺติ เอกเมกสฺส ภิกฺขุโน ปตฺถปตฺถปมาณํ ปุลกํ. ปตฺโถ นาม นาฬิมตฺตํ โหติ, เอกสฺส ปุริสสฺส อลํ ยาปนาย. วุตฺตมฺปิ เหตํ – ‘‘ปตฺโถทโน นาลมยํ ทุวินฺน’’นฺติ (ชา. ๒.๒๑.๑๙๒). ปุลกํ นาม นิตฺถุสํ กตฺวา อุสฺเสเทตฺวา คหิตยวตณฺฑุลา วุจฺจนฺติ. ยทิ หิ สถุสา โหนฺติ, ปาณกา วิชฺฌนฺติ, อทฺธานกฺขมา น โหนฺติ. ตสฺมา เต วาณิชา อทฺธานกฺขมํ กตฺวา ยวตณฺฑุลมาทาย อทฺธานํ ปฏิปชฺชนฺติ ‘‘ยตฺถ อสฺสานํ ขาทนียํ ติณํ ทุลฺลภํ ภวิสฺสติ, ตตฺเถตํ อสฺสภตฺตํ ภวิสฺสตี’’ติ.

กสฺมา ปน เตหิ ตํ ภิกฺขูนํ ปฺตฺตนฺติ? วุจฺจเต – ‘‘น หิ เต ทกฺขิณาปถมนุสฺสา วิย อสฺสทฺธา อปฺปสนฺนา, เต ปน สทฺธา ปสนฺนา พุทฺธมามกา, ธมฺมมามกา, สงฺฆมามกา; เต ปุพฺพณฺหสมยํ เกนจิเทว กรณีเยน นครํ ปวิสนฺตา ทฺเว ตโย ทิวเส อทฺทสํสุ สตฺตฏฺ ภิกฺขู สุนิวตฺเถ สุปารุเต อิริยาปถสมฺปนฺเน สกลมฺปิ นครํ ปิณฺฑาย จริตฺวา กิฺจิ อลภมาเน. ทิสฺวาน เนสํ เอตทโหสิ – ‘‘อยฺยา อิมํ นครํ อุปนิสฺสาย วสฺสํ อุปคตา; ฉาตกฺจ วตฺตติ, น จ กิฺจิ ลภนฺติ, อติวิย กิลมนฺติ. มยฺจมฺห อาคนฺตุกา, น สกฺโกม เนสํ เทวสิกํ ยาคุฺจ ภตฺตฺจ ปฏิยาเทตุํ. อมฺหากํ ปน อสฺสา สายฺจ ปาโต จ ทฺวิกฺขตฺตุํ ภตฺตํ ลภนฺติ. ยํนูน มยํ เอกเมกสฺส อสฺสสฺส ปาตราสภตฺตโต เอกเมกสฺส ภิกฺขุโน ปตฺถปตฺถปุลกํ ทเทยฺยาม. เอวํ อยฺยา จ น กิลมิสฺสนฺติ, อสฺสา จ ยาเปสฺสนฺตี’’ติ. เต ภิกฺขูนํ สนฺติกํ คนฺตฺวา เอตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห ปตฺถปตฺถปุลกํ ปฏิคฺคเหตฺวา ยํ วา ตํ วา กตฺวา ปริภุฺชถา’’ติ ยาจิตฺวา เทวสิกํ ปตฺถปตฺถปุลกํ ปฺเปสุํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เตหิ อสฺสมณฺฑลิกาสุ ภิกฺขูนํ ปตฺถปตฺถปุลกํ ปฺตฺตํ โหตี’’ติ.

ปฺตฺตนฺติ นิจฺจภตฺตสงฺเขเปน ปิตํ. อิทานิ ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวาติอาทีสุ ปุพฺพณฺหสมยนฺติ ทิวสสฺส ปุพฺพภาคสมยํ, ปุพฺพณฺหสมเยติ อตฺโถ. ปุพฺพณฺเห วา สมยํ ปุพฺพณฺหสมยํ, ปุพฺพณฺเห เอกํ ขณนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ ลพฺภติ. นิวาเสตฺวาติ ปริทหิตฺวา, วิหารนิวาสนปริวตฺตนวเสเนตํ เวทิตพฺพํ. น หิ เต ตโต ปุพฺเพ อนิวตฺถา อเหสุํ. ปตฺตจีวรมาทายาติ ปตฺตํ หตฺเถหิ จีวรํ กาเยน อาทิยิตฺวา สมฺปฏิจฺฉาเทตฺวา, ธาเรตฺวาติ อตฺโถ. เยน วา เตน วา หิ ปกาเรน คณฺหนฺตา อาทายอิจฺเจว วุจฺจนฺติ, ยถา ‘‘สมาทาเยว ปกฺกมตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๑). ปิณฺฑํ อลภมานาติ สกลมฺปิ เวรฺชํ จริตฺวา ติฏฺตุ ปิณฺโฑ, อนฺตมโส ‘‘อติจฺฉถา’’ติ วาจมฺปิ อลภมานา.

ปตฺถปตฺถปุลกํ อารามํ อาหริตฺวาติ คตคตฏฺาเน ลทฺธํ เอกเมกํ ปตฺถปตฺถปุลกํ คเหตฺวา อารามํ เนตฺวา. อุทุกฺขเล โกฏฺเฏตฺวา โกฏฺเฏตฺวา ปริภุฺชนฺตีติ เถรานํ โกจิ กปฺปิยการโก นตฺถิ, โย เนสํ ตํ คเหตฺวา ยาคุํ วา ภตฺตํ วา ปเจยฺย. สามมฺปิ ปจนํ สมณสารุปฺปํ น โหติ น จ วฏฺฏติ. เต เอวํ โน สลฺลหุกวุตฺติตา จ ภวิสฺสติ, สามปากปริโมจนฺจาติ อฏฺ อฏฺ ชนา วา ทส ทส ชนา วา เอกโต หุตฺวา อุทุกฺขเล โกฏฺเฏตฺวา โกฏฺเฏตฺวา สกํ สกํ ปฏิวีสํ อุทเกน เตเมตฺวา ปริภุฺชนฺติ. เอวํ ปริภุฺชิตฺวา อปฺโปสฺสุกฺกา สมณธมฺมํ กโรนฺติ. ภควโต ปน เต อสฺสวาณิชา ปตฺถปุลกฺจ เทนฺติ, ตทุปิยฺจ สปฺปิมธุสกฺกรํ. ตํ อายสฺมา อานนฺโท อาหริตฺวา สิลายํ ปิสติ. ปุฺวตา ปณฺฑิตปุริเสน กตํ มนาปเมว โหติ. อถ นํ ปิสิตฺวา สปฺปิอาทีหิ สมฺมา โยเชตฺวา ภควโต อุปนาเมสิ. อเถตฺถ เทวตา ทิพฺโพชํ ปกฺขิปนฺติ. ตํ ภควา ปริภุฺชติ. ปริภุฺชิตฺวา ผลสมาปตฺติยา กาลํ อตินาเมติ. น ตโต ปฏฺาย ปิณฺฑาย จรติ.

กึ ปนานนฺทตฺเถโร ตทา ภควโต อุปฏฺาโก โหตีติ? โหติ, โน จ โข อุปฏฺากฏฺานํ ลทฺธา. ภควโต หิ ปมโพธิยํ วีสติวสฺสนฺตเร นิพทฺธุปฏฺาโก นาม นตฺถิ. กทาจิ นาคสมาลตฺเถโร ภควนฺตํ อุปฏฺาสิ, กทาจิ นาคิตตฺเถโร, กทาจิ เมฆิยตฺเถโร, กทาจิ อุปวาณตฺเถโร, กทาจิ สาคตตฺเถโร, กทาจิ สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต. เต อตฺตโน รุจิยา อุปฏฺหิตฺวา ยทา อิจฺฉนฺติ ตทา ปกฺกมนฺติ. อานนฺทตฺเถโร เตสุ เตสุ อุปฏฺหนฺเตสุ อปฺโปสฺสุกฺโก โหติ, ปกฺกนฺเตสุ สยเมว วตฺตปฏิปตฺตึ กโรติ. ภควาปิ กิฺจาปิ เม าติเสฏฺโ อุปฏฺากฏฺานํ น ตาว ลภติ, อถ โข เอวรูเปสุ าเนสุ อยเมว ปติรูโปติ อธิวาเสสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อายสฺมา ปนานนฺโท ปตฺถปุลกํ สิลายํ ปิสิตฺวา ภควโต อุปนาเมสิ, ตํ ภควา ปริภุฺชตี’’ติ.

นนุ จ มนุสฺสา ทุพฺภิกฺขกาเล อติวิย อุสฺสาหชาตา ปุฺานิ กโรนฺติ, อตฺตนา อภุฺชิตฺวาปิ ภิกฺขูนํ ทาตพฺพํ มฺนฺติ. เต ตทา กสฺมา กฏจฺฉุภิกฺขมฺปิ น อทํสุ? อยฺจ เวรฺโช พฺราหฺมโณ มหตา อุสฺสาเหน ภควนฺตํ วสฺสาวาสํ ยาจิ, โส กสฺมา ภควโต อตฺถิภาวมฺปิ น ชานาตีติ? วุจฺจเต – มาราวฏฺฏนาย. เวรฺชฺหิ พฺราหฺมณํ ภควโต สนฺติกา ปกฺกนฺตมตฺตเมว สกลฺจ นครํ สมนฺตา จ โยชนมตฺตํ ยตฺถ สกฺกา ปุเรภตฺตํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺจาคนฺตุํ, ตํ สพฺพํ มาโร อาวฏฺเฏตฺวา โมเหตฺวา สพฺเพสํ อสลฺลกฺขณภาวํ กตฺวา ปกฺกามิ. ตสฺมา น โกจิ อนฺตมโส สามีจิกมฺมมฺปิ กตฺตพฺพํ มฺิตฺถ.

กึ ปน ภควาปิ มาราวฏฺฏนํ อชานิตฺวาว ตตฺถ วสฺสํ อุปคโตติ? โน อชานิตฺวา. อถ กสฺมา จมฺปา-สาวตฺถิ-ราชคหาทีนํ อฺตรสฺมึ น อุปคโตติ? ติฏฺนฺตุ จมฺปา-สาวตฺถิ-ราชคหาทีนิ, สเจปิ ภควา ตสฺมึ สํวจฺฉเร อุตฺตรกุรุํ วา ติทสปุรํ วา คนฺตฺวา วสฺสํ อุปคจฺเฉยฺย, ตมฺปิ มาโร อาวฏฺเฏยฺย. โส กิร ตํ สํวจฺฉรํ อติวิย อาฆาเตน ปริยุฏฺิตจิตฺโต อโหสิ. อิธ ปน ภควา อิมํ อติเรกการณํ อทฺทส – ‘‘อสฺสวาณิชา ภิกฺขูนํ สงฺคหํ กริสฺสนฺตี’’ติ. ตสฺมา เวรฺชายเมว วสฺสํ อุปคจฺฉิ.

กึ ปน มาโร วาณิชเก อาวฏฺเฏตุํ น สกฺโกตีติ? โน น สกฺโกติ, เต ปน อาวฏฺฏิตปริโยสาเน อาคมึสุ. ปฏินิวตฺติตฺวา กสฺมา น อาวฏฺเฏตีติ? อวิสหตาย. น หิ โส ตถาคตสฺส อภิหฏภิกฺขาย นิพทฺธทานสฺส อปฺปิตวตฺตสฺส อนฺตรายํ กาตุํ วิสหติ. จตุนฺนฺหิ น สกฺกา อนฺตราโย กาตุํ. กตเมสํ จตุนฺนํ? ตถาคตสฺส อภิหฏภิกฺขาสงฺเขเปน วา นิพทฺธทานสฺส อปฺปิตวตฺตสงฺเขเปน วา ปริจฺจตฺตานํ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ น สกฺกา เกนจิ อนฺตราโย กาตุํ. พุทฺธานํ ชีวิตสฺส น สกฺกา เกนจิ อนฺตราโย กาตุํ. อสีติยา อนุพฺยฺชนานํ พฺยามปฺปภาย วา น สกฺกา เกนจิ อนฺตราโย กาตุํ. จนฺทิมสูริยเทวพฺรหฺมานมฺปิ หิ ปภา ตถาคตสฺส อนุพฺยฺชนพฺยามปฺปภาปฺปเทสํ ปตฺวา วิหตานุภาวา โหนฺติ. พุทฺธานํ สพฺพฺุตฺาณสฺส น สกฺกา เกนจิ อนฺตราโย กาตุนฺติ อิเมสํ จตุนฺนํ น สกฺกา เกนจิ อนฺตราโย กาตุํ. ตสฺมา มาเรน อกตนฺตรายํ ภิกฺขํ ภควา สสาวกสงฺโฆ ตทา ปริภุฺชตีติ เวทิตพฺโพ.

เอวํ ปริภุฺชนฺโต จ เอกทิวสํ อสฺโสสิ โข ภควา อุทุกฺขลสทฺทนฺติ ภควา ปตฺถปตฺถปุลกํ โกฏฺเฏนฺตานํ ภิกฺขูนํ มุสลสงฺฆฏฺฏชนิตํ อุทุกฺขลสทฺทํ สุณิ. ตโต ปรํ ชานนฺตาปิ ตถาคตาติ เอวมาทิ ยํ ปรโต ‘‘กินฺนุ โข โส, อานนฺท, อุทุกฺขลสทฺโท’’ติ ปุจฺฉิ, ตสฺส ปริหารทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺรายํ สงฺเขปวณฺณนา – ตถาคตา นาม ชานนฺตาปิ สเจ ตาทิสํ ปุจฺฉาการณํ โหติ, ปุจฺฉนฺติ. สเจ ปน ตาทิสํ ปุจฺฉาการณํ นตฺถิ, ชานนฺตาปิ น ปุจฺฉนฺติ. ยสฺมา ปน พุทฺธานํ อชานนํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา อชานนฺตาปีติ น วุตฺตํ. กาลํ วิทิตฺวา ปุจฺฉนฺตีติ สเจ ตสฺสา ปุจฺฉาย โส กาโล โหติ, เอวํ ตํ กาลํ วิทิตฺวา ปุจฺฉนฺติ; สเจ น โหติ, เอวมฺปิ กาลํ วิทิตฺวาว น ปุจฺฉนฺติ. เอวํ ปุจฺฉนฺตาปิ จ อตฺถสํหิตํ ตถาคตา ปุจฺฉนฺติ, ยํ อตฺถนิสฺสิตํ การณนิสฺสิตํ, ตเทว ปุจฺฉนฺติ, โน อนตฺถสํหิตํ. กสฺมา? ยสฺมา อนตฺถสํหิเต เสตุฆาโต ตถาคตานํ. เสตุ วุจฺจติ มคฺโค, มคฺเคเนว ตาทิสสฺส วจนสฺส ฆาโต, สมุจฺเฉโทติ วุตฺตํ โหติ.

อิทานิ อตฺถสํหิตนฺติ เอตฺถ ยํ อตฺถสนฺนิสฺสิตํ วจนํ ตถาคตา ปุจฺฉนฺติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทฺวีหากาเรหี’’ติ อาทิมาห. ตตฺถ อากาเรหีติ การเณหิ. ธมฺมํ วา เทเสสฺสามาติ อฏฺุปฺปตฺติยุตฺตํ สุตฺตํ วา ปุพฺพจริตการณยุตฺตํ ชาตกํ วา กถยิสฺสาม. สาวกานํ วา สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสามาติ สาวกานํ วา ตาย ปุจฺฉาย วีติกฺกมํ ปากฏํ กตฺวา ครุกํ วา ลหุกํ วา สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสาม อาณํ เปสฺสามาติ.

อถ โข ภควา…เป… เอตมตฺถํ อาโรเจสีติ เอตฺถ นตฺถิ กิฺจิ วตฺตพฺพํ. ปุพฺเพ วุตฺตเมว หิ ภิกฺขูนํ ปตฺถปตฺถปุลกปฏิลาภํ สลฺลหุกวุตฺติตํ สามปากปริโมจนฺจ อาโรเจนฺโต เอตมตฺถํ อาโรเจสีติ วุจฺจติ. ‘‘สาธุ สาธุ, อานนฺทา’’ติ อิทํ ปน ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ สมฺปหํเสนฺโต อาห. สาธุการํ ปน ทตฺวา ทฺวีสุ อากาเรสุ เอกํ คเหตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อาห – ‘‘ตุมฺเหหิ, อานนฺท, สปฺปุริเสหิ วิชิตํ, ปจฺฉิมา ชนตา สาลิมํโสทนํ อติมฺิสฺสตี’’ติ. ตตฺรายมธิปฺปาโย – ตุมฺเหหิ, อานนฺท, สปฺปุริเสหิ เอวํ ทุพฺภิกฺเข ทุลฺลภปิณฺเฑ อิมาย สลฺลหุกวุตฺติตาย อิมินา จ สลฺเลเขน วิชิตํ. กึ วิชิตนฺติ? ทุพฺภิกฺขํ วิชิตํ, โลโภ วิชิโต, อิจฺฉาจาโร วิชิโต. กถํ? ‘‘อยํ เวรฺชา ทุพฺภิกฺขา, สมนฺตโต ปน อนนฺตรา คามนิคมา ผลภารนมิตสสฺสา สุภิกฺขา สุลภปิณฺฑา. เอวํ สนฺเตปิ ภควา อิเธว อมฺเห นิคฺคณฺหิตฺวา วสตี’’ติ เอกภิกฺขุสฺสปิ จินฺตา วา วิฆาโต วา นตฺถิ. เอวํ ตาว ทุพฺภิกฺขํ วิชิตํ อภิภูตํ อตฺตโน วเส วตฺติตํ.

กถํ โลโภ วิชิโต? ‘‘อยํ เวรฺชา ทุพฺภิกฺขา, สมนฺตโต ปน อนนฺตรา คามนิคมา ผลภารนมิตสสฺสา สุภิกฺขา สุลภปิณฺฑา. หนฺท มยํ ตตฺถ คนฺตฺวา ปริภุฺชิสฺสามา’’ติ โลภวเสน เอกภิกฺขุนาปิ รตฺติจฺเฉโท วา ‘‘ปจฺฉิมิกาย ตตฺถ วสฺสํ อุปคจฺฉามา’’ติ วสฺสจฺเฉโท วา น กโต. เอวํ โลโภ วิชิโต.

กถํ อิจฺฉาจาโร วิชิโต? อยํ เวรฺชา ทุพฺภิกฺขา, อิเม จ มนุสฺสา อมฺเห ทฺเว ตโย มาเส วสนฺเตปิ น กิสฺมิฺจิ มฺนฺติ. ยํนูน มยํ คุณวาณิชฺชํ กตฺวา ‘‘อสุโก ภิกฺขุ ปมสฺส ฌานสฺส ลาภี…เป… อสุโก ฉฬภิฺโติ เอวํ มนุสฺสานํ อฺมฺํ ปกาเสตฺวา กุจฺฉึ ปฏิชคฺคิตฺวา ปจฺฉา สีลํ อธิฏฺเหยฺยามา’’ติ เอกภิกฺขุนาปิ เอวรูปา อิจฺฉา น อุปฺปาทิตา. เอวํ อิจฺฉาจาโร วิชิโต อภิภูโต อตฺตโน วเส วตฺติโตติ.

อนาคเต ปน ปจฺฉิมา ชนตา วิหาเร นิสินฺนา อปฺปกสิเรเนว ลภิตฺวาปิ ‘‘กึ อิทํ อุตฺตณฺฑุลํ อติกิลินฺนํ อโลณํ อติโลณํ อนมฺพิลํ อจฺจมฺพิลํ, โก อิมินา อตฺโถ’’ติ อาทินา นเยน สาลิมํโสทนํ อติมฺิสฺสติ, โอฺาตํ อวฺาตํ กริสฺสติ. อถ วา ชนปโท นาม น สพฺพกาลํ ทุพฺภิกฺโข โหติ. เอกทา ทุพฺภิกฺโข โหติ, เอกทา สุภิกฺโข โหติ. สฺวายํ ยทา สุภิกฺโข ภวิสฺสติ, ตทา ตุมฺหากํ สปฺปุริสานํ อิมาย ปฏิปตฺติยา ปสนฺนา มนุสฺสา ภิกฺขูนํ ยาคุขชฺชกาทิปฺปเภเทน อเนกปฺปการํ สาลิวิกตึ มํโสทนฺจ ทาตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ. ตํ ตุมฺเห นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ สกฺการํ ตุมฺหากํ สพฺรหฺมจารีสงฺขาตา ปจฺฉิมา ชนตา ตุมฺหากํ อนฺตเร นิสีทิตฺวา อนุภวมานาว อติมฺิสฺสติ, ตปฺปจฺจยํ มานฺจ โอมานฺจ กริสฺสติ. กถํ? กสฺมา เอตฺตกํ ปกฺกํ, กึ ตุมฺหากํ ภาชนานิ นตฺถิ, ยตฺถ อตฺตโน สนฺตกํ ปกฺขิปิตฺวา เปยฺยาถาติ.

ทุพฺภิกฺขกถา นิฏฺิตา.

มหาโมคฺคลฺลานสฺสสีหนาทกถา

๑๗. อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโนติอาทีสุ อายสฺมาติ ปิยวจนเมตํ, ครุคารวสปฺปติสฺสาธิวจนเมตํ. มหาโมคฺคลฺลาโนติ มหา จ โส คุณมหนฺตตาย โมคฺคลฺลาโน จ โคตฺเตนาติ มหาโมคฺคลฺลาโน. เอตทโวจาติ เอตํ อโวจ. อิทานิ วตฺตพฺพํ ‘‘เอตรหิ ภนฺเต’’ติอาทิวจนํ ทสฺเสติ. กสฺมา อโวจ? เถโร กิร ปพฺพชิตฺวา สตฺตเม ทิวเส สาวกปารมิาณสฺส มตฺถกํ ปตฺโต, สตฺถาราปิ มหิทฺธิกตาย เอตทคฺเค ปิโต. โส ตํ อตฺตโน มหิทฺธิกตํ นิสฺสาย จินฺเตสิ – ‘‘อยํ เวรฺชา ทุพฺภิกฺขา, ภิกฺขู จ กิลมนฺติ, ยํนูนาหํ ปถวึ ปริวตฺเตตฺวา ภิกฺขู ปปฺปฏโกชํ โภเชยฺย’’นฺติ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สเจ ปนาหํ ภควโต สนฺติเก วิหรนฺโต ภควนฺตํ อยาจิตฺวา เอวํ กเรยฺยํ, น เมตํ อสฺส ปติรูปํ; ยุคคฺคาโห วิย ภควตา สทฺธึ กโต ภเวยฺยา’’ติ. ตสฺมา ยาจิตุกาโม อาคนฺตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ.

เหฏฺิมตลํ สมฺปนฺนนฺติ ปถวิยา กิร เหฏฺิมตเล ปถวิมณฺโฑ ปถโวโช ปถวิ-ปปฺปฏโก อตฺถิ, ตํ สนฺธาย วทติ. ตตฺถ สมฺปนฺนนฺติ มธุรํ, สาทุรสนฺติ อตฺโถ. ยเถว หิ ‘‘ตตฺรสฺส รุกฺโข สมฺปนฺนผโล จ อุปปนฺนผโล จา’’ติ (ม. นิ. ๒.๔๘) เอตฺถ มธุรผโลติ อตฺโถ; เอวมิธาปิ สมฺปนฺนนฺติ มธุรํ สาทุรสนฺติ เวทิตพฺพํ. เสยฺยถาปิ ขุทฺทมธุํ อนีฬกนฺติ อิทํ ปนสฺส มธุรตาย โอปมฺมนิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ขุทฺทมธุนฺติ ขุทฺทกมกฺขิกาหิ กตมธุ. อนีฬกนฺติ นิมฺมกฺขิกํ นิมฺมกฺขิกณฺฑกํ ปริสุทฺธํ. เอตํ กิร มธุ สพฺพมธูหิ อคฺคฺจ เสฏฺฺจ สุรสฺจ โอชวนฺตฺจ. เตนาห – ‘‘เสยฺยถาปิ ขุทฺทมธุํ อนีฬกํ เอวมสฺสาท’’นฺติ.

สาธาหํ, ภนฺเตติ สาธุ อหํ, ภนฺเต. เอตฺถ สาธูติ อายาจนวจนเมตํ. ปถวิปริวตฺตนํ อายาจนฺโต หิ เถโร ภควนฺตํ เอวมาห. ปริวตฺเตยฺยนฺติ อุกฺกุชฺเชยฺยํ, เหฏฺิมตลํ อุปริมํ กเรยฺยํ. กสฺมา? เอวฺหิ กเต สุเขน ภิกฺขู ปปฺปฏโกชํ ปถวิมณฺฑํ ปริภุฺชิสฺสนฺตีติ. อถ ภควา อนนุฺาตุกาโมปิ เถรํ สีหนาทํ นทาเปตุํ ปุจฺฉิ – ‘‘เย ปน เต, โมคฺคลฺลาน, ปถวินิสฺสิตา ปาณา เต กถํ กริสฺสสี’’ติ. เย ปถวินิสฺสิตา คามนิคมาทีสุ ปาณา, เต ปถวิยา ปริวตฺติยมานาย อากาเส สณฺาตุํ อสกฺโกนฺเต กถํ กริสฺสสิ, กตฺถ เปสฺสสีติ? อถ เถโร ภควตา เอตทคฺเค ปิตภาวานุรูปํ อตฺตโน อิทฺธานุภาวํ ปกาเสนฺโต ‘‘เอกาหํ, ภนฺเต’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – เอกํ อหํ ภนฺเต หตฺถํ ยถา อยํ มหาปถวี เอวํ อภินิมฺมินิสฺสามิ, ปถวิสทิสํ กริสฺสามิ. เอวํ กตฺวา เย ปถวินิสฺสิตา ปาณา เต เอกสฺมึ หตฺถตเล ิเต ปาเณ ตโต ทุติยหตฺถตเล สงฺกาเมนฺโต วิย ตตฺถ สงฺกาเมสฺสามีติ.

อถสฺส ภควา อายาจนํ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘อลํ โมคฺคลฺลานา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อลนฺติ ปฏิกฺเขปวจนํ. วิปลฺลาสมฺปิ สตฺตา ปฏิลเภยฺยุนฺติ วิปรีตคฺคาหมฺปิ สตฺตา สมฺปาปุเณยฺยุํ. กถํ? อยํ นุ โข ปถวี, อุทาหุ น อยนฺติ. อถ วา อมฺหากํ นุ โข อยํ คาโม, อุทาหุ อฺเส’’นฺติ. เอวํ นิคมชนปทเขตฺตารามาทีสุ. น วา เอส วิปลฺลาโส, อจินฺเตยฺโย หิ อิทฺธิมโต อิทฺธิวิสโย. เอวํ ปน วิปลฺลาสํ ปฏิลเภยฺยุํ – อิทํ ทุพฺภิกฺขํ นาม น อิทานิเยว โหติ, อนาคเตปิ ภวิสฺสติ. ตทา ภิกฺขู ตาทิสํ อิทฺธิมนฺตํ สพฺรหฺมจารึ กุโต ลภิสฺสนฺติ? เต โสตาปนฺน-สกทาคามิ-อนาคามิ-สุกฺขวิปสฺสก-ฌานลาภิ-ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺตขีณาสวาปิ สมานา อิทฺธิพลาภาวา ปรกุลานิ ปิณฺฑาย อุปสงฺกมิสฺสนฺติ. ตตฺร มนุสฺสานํ เอวํ ภวิสฺสติ – ‘‘พุทฺธกาเล ภิกฺขู สิกฺขาสุ ปริปูรการิโน อเหสุํ. เต คุเณ นิพฺพตฺเตตฺวา ทุพฺภิกฺขกาเล ปถวึ ปริวตฺเตตฺวา ปปฺปฏโกชํ ปริภุฺชึสุ. อิทานิ ปน สิกฺขาย ปริปูรการิโน นตฺถิ. ยทิ สิยุํ, ตเถว กเรยฺยุํ. น อมฺหากํ ยํ กิฺจิ ปกฺกํ วา อามํ วา ขาทิตุํ ทเทยฺยุ’’นฺติ. เอวํ เตสุเยว อริยปุคฺคเลสุ ‘‘นตฺถิ อริยปุคฺคลา’’ติ อิมํ วิปลฺลาสํ ปฏิลเภยฺยุํ. วิปลฺลาสวเสน จ อริเย ครหนฺตา อุปวทนฺตา อปายุปคา ภเวยฺยุํ. ตสฺมา มา เต รุจฺจิ ปถวึ ปริวตฺเตตุนฺติ.

อถ เถโร อิมํ ยาจนํ อลภมาโน อฺํ ยาจนฺโต ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติอาทิมาห. ตมฺปิสฺส ภควา ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘อลํ โมคฺคลฺลานา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กิฺจาปิ น วุตฺตํ ‘‘วิปลฺลาสมฺปิ สตฺตา ปฏิลเภยฺยุ’’นฺติ, อถ โข ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว คเหตพฺพํ; อตฺโถปิ จสฺส วุตฺตสทิสเมว เวทิตพฺโพ. ยทิ ปน ภควา อนุชาเนยฺย, เถโร กึ กเรยฺยาติ? มหาสมุทฺทํ เอเกน ปทวีติหาเรน อติกฺกมิตพฺพํ มาติกามตฺตํ อธิฏฺหิตฺวา นเฬรุปุจิมนฺทโต อุตฺตรกุรุอภิมุขํ มคฺคํ นีหริตฺวา อุตฺตรกุรุํ คมนาคมนสมฺปนฺเน าเน กตฺวา ทสฺเสยฺย, ยถา ภิกฺขู โคจรคามํ วิย ยถาสุขํ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา นิกฺขเมยฺยุนฺติ.

นิฏฺิตา มหาโมคฺคลฺลานสฺส สีหนาทกถา.

วินยปฺตฺติยาจนกถาวณฺณนา

๑๘. อิทานิ อายสฺมา อุปาลิ วินยปฺตฺติยา มูลโต ปภุติ นิทานํ ทสฺเสตุํ สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สิกฺขาปทปฏิสํยุตฺตํ วิตกฺกุปฺปาทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ โข อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ รโหคตสฺสาติ รหสิ คตสฺส. ปฏิสลฺลีนสฺสาติ สลฺลีนสฺส เอกีภาวํ คตสฺส. กตเมสานนฺติ อตีเตสุ วิปสฺสีอาทีสุ พุทฺเธสุ กตเมสํ. จิรํ อสฺส ิติ, จิรา วา อสฺส ิตีติ จิรฏฺิติกํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานปทตฺถเมว.

กึ ปน เถโร อิมํ อตฺตโน ปริวิตกฺกํ สยํ วินิจฺฉินิตุํ น สกฺโกตีติ? วุจฺจเต – สกฺโกติ จ น สกฺโกติ จ. อยฺหิ อิเมสํ นาม พุทฺธานํ สาสนํ น จิรฏฺิติกํ อโหสิ, อิเมสํ จิรฏฺิติกนฺติ เอตฺตกํ สกฺโกติ วินิจฺฉินิตุํ. อิมินา ปน การเณน น จิรฏฺิติกํ อโหสิ, อิมินา จิรฏฺิติกนฺติ เอตํ น สกฺโกติ. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘เอตมฺปิ โสฬสวิธาย ปฺาย มตฺถกํ ปตฺตสฺส อคฺคสาวกสฺส น ภาริยํ, สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปน สทฺธึ เอกฏฺาเน วสนฺตสฺส สยํ วินิจฺฉยกรณํ ตุลํ ฉฑฺเฑตฺวา หตฺเถน ตุลนสทิสํ โหตีติ ภควนฺตํเยว อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉี’’ติ. อถสฺส ภควา ตํ วิสฺสชฺเชนฺโต ‘‘ภควโต จ สาริปุตฺต วิปสฺสิสฺสา’’ติอาทิมาห. ตํ อุตฺตานตฺถเมว.

๑๙. ปุน เถโร การณํ ปุจฺฉนฺโต โก นุ โข, ภนฺเต, เหตูติอาทิมาห. ตตฺถ โก นุ โข ภนฺเตติ การณปุจฺฉา, ตสฺส กตโม นุ โข ภนฺเตติ อตฺโถ. เหตุ ปจฺจโยติ อุภยเมตํ การณาธิวจนํ; การณฺหิ ยสฺมา เตน ตสฺส ผลํ หิโนติ ปวตฺตติ, ตสฺมา เหตูติ วุจฺจติ. ยสฺมา ตํ ปฏิจฺจ เอติ ปวตฺตติ, ตสฺมา ปจฺจโยติ วุจฺจติ. เอวํ อตฺถโต เอกมฺปิ โวหารวเสน จ วจนสิลิฏฺตาย จ ตตฺร ตตฺร เอตํ อุภยมฺปิ วุจฺจติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

อิทานิ ตํ เหตุฺจ ปจฺจยฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘ภควา จ สาริปุตฺต วิปสฺสี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กิลาสุโน อเหสุนฺติ น อาลสิยกิลาสุโน, น หิ พุทฺธานํ อาลสิยํ วา โอสนฺนวีริยตา วา อตฺถิ. พุทฺธา หิ เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา สกลจกฺกวาฬสฺส วา ธมฺมํ เทเสนฺตา สมเกเนว อุสฺสาเหน ธมฺมํ เทเสนฺติ, น ปริสาย อปฺปภาวํ ทิสฺวา โอสนฺนวีริยา โหนฺติ, นาปิ มหนฺตภาวํ ทิสฺวา อุสฺสนฺนวีริยา. ยถา หิ สีโห มิคราชา สตฺตนฺนํ ทิวสานํ อจฺจเยน โคจราย ปกฺกนฺโต ขุทฺทเก วา มหนฺเต วา ปาเณ เอกสทิเสเนว เวเคน ธาวติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘‘มา เม ชโว ปริหายี’’ติ. เอวํ พุทฺธา อปฺปกาย วา มหติยา วา ปริสาย สมเกเนว อุสฺสาเหน ธมฺมํ เทเสนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ‘‘มา โน ธมฺมครุตา ปริหายี’’ติ. ธมฺมครุโน หิ พุทฺธา ธมฺมคารวาติ.

ยถา ปน อมฺหากํ ภควา มหาสมุทฺทํ ปูรยมาโน วิย วิตฺถาเรน ธมฺมํ เทเสสิ, เอวํ เต น เทเสสุํ. กสฺมา? สตฺตานํ อปฺปรชกฺขตาย. เตสํ กิร กาเล ทีฆายุกา สตฺตา อปฺปรชกฺขา อเหสุํ. เต จตุสจฺจปฏิสํยุตฺตํ เอกคาถมฺปิ สุตฺวา ธมฺมํ อภิสเมนฺติ, ตสฺมา น วิตฺถาเรน ธมฺมํ เทเสสุํ. เตเนว การเณน อปฺปกฺจ เนสํ อโหสิ สุตฺตํ…เป… เวทลฺลนฺติ. ตตฺถ สุตฺตาทีนํ นานตฺตํ ปมสงฺคีติวณฺณนายํ วุตฺตเมว.

อปฺตฺตํ สาวกานํ สิกฺขาปทนฺติ สาวกานํ นิทฺโทสตาย โทสานุรูปโต ปฺเปตพฺพํ สตฺตาปตฺติกฺขนฺธวเสน อาณาสิกฺขาปทํ อปฺตฺตํ. อนุทฺทิฏฺํ ปาติโมกฺขนฺติ อนฺวทฺธมาสํ อาณาปาติโมกฺขํ อนุทฺทิฏฺํ อโหสิ. โอวาทปาติโมกฺขเมว เต อุทฺทิสึสุ; ตมฺปิ จ โน อนฺวทฺธมาสํ. ตถา หิ วิปสฺสี ภควา ฉนฺนํ ฉนฺนํ วสฺสานํ สกึ สกึ โอวาทปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ; ตฺจ โข สามํเยว. สาวกา ปนสฺส อตฺตโน อตฺตโน วสนฏฺาเนสุ น อุทฺทิสึสุ. สกลชมฺพุทีเป เอกสฺมึเยว าเน พนฺธุมติยา ราชธานิยา เขเม มิคทาเย วิปสฺสิสฺส ภควโต วสนฏฺาเน สพฺโพปิ ภิกฺขุสงฺโฆ อุโปสถํ อกาสิ. ตฺจ โข สงฺฆุโปสถเมว; น คณุโปสถํ, น ปุคฺคลุโปสถํ, น ปาริสุทฺธิอุโปสถํ, น อธิฏฺานุโปสถํ.

ตทา กิร ชมฺพุทีเป จตุราสีติวิหารสหสฺสานิ โหนฺติ. เอกเมกสฺมึ วิหาเร อพฺโพกิณฺณานิ ทสปิ วีสติปิ ภิกฺขุสหสฺสานิ วสนฺติ, ภิยฺโยปิ วสนฺติ. อุโปสถาโรจิกา เทวตา ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา อาโรเจนฺติ – ‘‘มาริสา, เอกํ วสฺสํ อติกฺกนฺตํ, ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ วสฺสานิ อติกฺกนฺตานิ, อิทํ ฉฏฺํ วสฺสํ, อาคามินิยา ปุณฺณมาสิยา พุทฺธทสฺสนตฺถํ อุโปสถกรณตฺถฺจ คนฺตพฺพํ! สมฺปตฺโต โว สนฺนิปาตกาโล’’ติ. ตโต สานุภาวา ภิกฺขู อตฺตโน อตฺตโน อานุภาเวน คจฺฉนฺติ, อิตเร เทวตานุภาเวน. กถํ? เต กิร ภิกฺขู ปาจีนสมุทฺทนฺเต วา ปจฺฉิมอุตฺตรทกฺขิณสมุทฺทนฺเต วา ิตา คมิยวตฺตํ ปูเรตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ‘‘คจฺฉามา’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทนฺติ; สห จิตฺตุปฺปาทา อุโปสถคฺคํ คตาว โหนฺติ. เต วิปสฺสึ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา นิสีทนฺติ. ภควาปิ สนฺนิสินฺนาย ปริสาย อิมํ โอวาทปาติโมกฺขํ อุทฺทิสติ.

‘‘ขนฺตี ปรมํ ตโป ติติกฺขา;

นิพฺพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทฺธา;

น หิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตี;

น สมโณ โหติ ปรํ วิเหยนฺโต.

‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณํ, กุสลสฺส อุปสมฺปทา;

สจิตฺตปริโยทปนํ, เอตํ พุทฺธาน สาสนํ.

‘‘อนุปวาโท อนุปฆาโต, ปาติโมกฺเข จ สํวโร;

มตฺตฺุตา จ ภตฺตสฺมึ, ปนฺตฺจ สยนาสนํ;

อธิจิตฺเต จ อาโยโค, เอตํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติ. (ที. นิ. ๒.๙๐; ธ. ป. ๑๘๓-๑๘๕);

เอเตเนว อุปาเยน อิตเรสมฺปิ พุทฺธานํ ปาติโมกฺขุทฺเทโส เวทิตพฺโพ. สพฺพพุทฺธานฺหิ อิมา ติสฺโสว โอวาทปาติโมกฺขคาถาโย โหนฺติ. ตา ทีฆายุกพุทฺธานํ ยาว สาสนปริยนฺตา อุทฺเทสมาคจฺฉนฺติ; อปฺปายุกพุทฺธานํ ปมโพธิยํเยว. สิกฺขาปทปฺตฺติกาลโต ปน ปภุติ อาณาปาติโมกฺขเมว อุทฺทิสียติ. ตฺจ โข ภิกฺขู เอว อุทฺทิสนฺติ, น พุทฺธา. ตสฺมา อมฺหากมฺปิ ภควา ปมโพธิยํ วีสติวสฺสมตฺตเมว อิทํ โอวาทปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ. อเถกทิวสํ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท นิสินฺโน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น ทานาหํ, ภิกฺขเว, อิโต ปรํ อุโปสถํ กริสฺสามิ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิสฺสามิ, ตุมฺเหว ทานิ ภิกฺขเว อิโต ปรํ อุโปสถํ กเรยฺยาถ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยาถ. อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส ยํ ตถาคโต อปริสุทฺธาย ปริสาย อุโปสถํ กเรยฺย, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยา’’ติ (จูฬว. ๓๘๖). ตโต ปฏฺาย ภิกฺขู อาณาปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ. อิทํ อาณาปาติโมกฺขํ เตสํ อนุทฺทิฏฺํ อโหสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อนุทฺทิฏฺํ ปาติโมกฺข’’นฺติ.

เตสํ พุทฺธานนฺติ เตสํ วิปสฺสีอาทีนํ ติณฺณํ พุทฺธานํ. อนฺตรธาเนนาติ ขนฺธนฺตรธาเนน; ปรินิพฺพาเนนาติ วุตฺตํ โหติ. พุทฺธานุพุทฺธานนฺติ เย เตสํ พุทฺธานํ อนุพุทฺธา สมฺมุขสาวกา เตสฺจ ขนฺธนฺตรธาเนน. เย เต ปจฺฉิมา สาวกาติ เย เตสํ สมฺมุขสาวกานํ สนฺติเก ปพฺพชิตา ปจฺฉิมา สาวกา. นานานามาติ ‘‘พุทฺธรกฺขิโต, ธมฺมรกฺขิโต’’ติอาทิ นามวเสน วิวิธนามา. นานาโคตฺตาติ ‘‘โคตโม, โมคฺคลฺลาโน’’ติอาทิ โคตฺตวเสน วิวิธโคตฺตา. นานาชจฺจาติ ‘‘ขตฺติโย, พฺราหฺมโณ’’ติอาทิชาติวเสน นานาชจฺจา. นานากุลา ปพฺพชิตาติ ขตฺติยกุลาทิวเส เนว อุจฺจนีจอุฬารุฬารโภคาทิกุลวเสน วา วิวิธกุลา นิกฺขมฺม ปพฺพชิตา.

เต ตํ พฺรหฺมจริยนฺติ เต ปจฺฉิมา สาวกา ยสฺมา เอกนามา เอกโคตฺตา เอกชาติกา เอกกุลา ปพฺพชิตา ‘‘อมฺหากํ สาสนํ ตนฺติ ปเวณี’’ติ อตฺตโน ภารํ กตฺวา พฺรหฺมจริยํ รกฺขนฺติ, จิรํ ปริยตฺติธมฺมํ ปริหรนฺติ. อิเม จ ตาทิสา น โหนฺติ. ตสฺมา อฺมฺํ วิเหเนฺตา วิโลมํ คณฺหนฺตา ‘‘อสุโก เถโร ชานิสฺสติ, อสุโก เถโร ชานิสฺสตี’’ติ สิถิลํ กโรนฺตา ตํ พฺรหฺมจริยํ ขิปฺปฺเว อนฺตรธาเปสุํ, สงฺคหํ อาโรเปตฺวา น รกฺขึสุ. เสยฺยถาปีติ ตสฺสตฺถสฺส โอปมฺมนิทสฺสนํ. วิกิรตีติ วิกฺขิปติ. วิธมตีติ านนฺตรํ เนติ. วิทฺธํเสตีติ ิตฏฺานโต อปเนติ. ยถา ตํ สุตฺเตน อสงฺคหิตตฺตาติ ยถา สุตฺเตน อสงฺคหิตตฺตา อคนฺถิตตฺตา อพทฺธตฺตา เอวํ วิกิรติ ยถา สุตฺเตน อสงฺคหิตานิ วิกิริยนฺติ, เอวํ วิกิรตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวเมว โขติ โอปมฺมสมฺปฏิปาทนํ. อนฺตรธาเปสุนฺติ วคฺคสงฺคห-ปณฺณาสสงฺคหาทีหิ อสงฺคณฺหนฺตา ยํ ยํ อตฺตโน รุจฺจติ, ตํ ตเทว คเหตฺวา เสสํ วินาเสสุํ อทสฺสนํ นยึสุ.

อกิลาสุโน จ เต ภควนฺโต อเหสุํ สาวเก เจตสา เจโต ปริจฺจ โอวทิตุนฺติ อปิจ สาริปุตฺต เต พุทฺธา อตฺตโน เจตสา สาวกานํ เจโต ปริจฺจ ปริจฺฉินฺทิตฺวา โอวทิตุํ อกิลาสุโน อเหสุํ, ปรจิตฺตํ ตฺวา อนุสาสนึ น ภาริยโต น ปปฺจโต อทฺทสํสุ. ภูตปุพฺพํ สาริปุตฺตาติอาทิ เตสํ อกิลาสุภาวปฺปกาสนตฺถํ วุตฺตํ. ภึสนเกติ ภยานเก ภยชนนเก. เอวํ วิตกฺเกถาติ เนกฺขมฺมวิตกฺกาทโย ตโย วิตกฺเก วิตกฺเกถ. มา เอวํ วิตกฺกยิตฺถาติ กามวิตกฺกาทโย ตโย อกุสลวิตกฺเก มา วิตกฺกยิตฺถ. เอวํ มนสิ กโรถาติ ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา อสุภ’’นฺติ มนสิ กโรถ. มา เอวํ มนสา กตฺถาติ ‘‘นิจฺจํ สุขํ อตฺตา สุภ’’นฺติ มา มนสิ อกริตฺถ. อิทํ ปชหถาติ อกุสลํ ปชหถ. อิทํ อุปสมฺปชฺช วิหรถาติ กุสลํ อุปสมฺปชฺช ปฏิลภิตฺวา นิปฺผาเทตฺวา วิหรถ.

อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสูติ อคฺคเหตฺวา วิมุจฺจึสุ. เตสฺหิ จิตฺตานิ เยหิ อาสเวหิ วิมุจฺจึสุ, น เต ตานิ คเหตฺวา วิมุจฺจึสุ. อนุปฺปาทนิโรเธน ปน นิรุชฺฌมานา อคฺคเหตฺวา วิมุจฺจึสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสู’’ติ. สพฺเพปิ เต อรหตฺตํ ปตฺวา สูริยรสฺมิสมฺผุฏฺมิว ปทุมวนํ วิกสิตจิตฺตา อเหสุํ. ตตฺร สุทํ สาริปุตฺต ภึสนกสฺส วนสณฺฑสฺส ภึสนกตสฺมึ โหตีติ ตตฺราติ ปุริมวจนาเปกฺขํ; สุทนฺติ ปทปูรณมตฺเต นิปาโต; สาริปุตฺตาติ อาลปนํ. อยํ ปเนตฺถ อตฺถโยชนา – ตตฺราติ ยํ วุตฺตํ ‘‘อฺตรสฺมึ ภึสนเก วนสณฺเฑ’’ติ, ตตฺร โย โส ภึสนโกติ วนสณฺโฑ วุตฺโต, ตสฺส ภึสนกสฺส วนสณฺฑสฺส ภึสนกตสฺมึ โหติ, ภึสนกิริยาย โหตีติ อตฺโถ. กึ โหติ? อิทํ โหติ – โย โกจิ อวีตราโค…เป… โลมานิ หํสนฺตีติ.

อถ วา ตตฺราติ สามิอตฺเถ ภุมฺมํ. สุอิติ นิปาโต; ‘‘กึ สุ นาม เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๔๖๙) วิย. อิทนฺติ อธิปฺเปตมตฺถํ ปจฺจกฺขํ วิย กตฺวา ทสฺสนวจนํ. สุอิทนฺติ สุทํ, สนฺธิวเสน อิการโลโป เวทิตพฺโพ. ‘‘จกฺขุนฺทฺริยํ, อิตฺถินฺทฺริยํ, อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ (วิภ. ๒๑๙), ‘‘กึ สูธ วิตฺต’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๗๓, ๒๔๖; สุ. นิ. ๑๘๓) วิย. อยํ ปเนตฺถ อตฺถโยชนา – ตสฺส สาริปุตฺต ภึสนกสฺส วนสณฺฑสฺส ภึสนกตสฺมึ อิทํสุ โหติ. ภึสนกตสฺมินฺติ ภึสนกภาเวติ อตฺโถ. เอกสฺส ตการสฺส โลโป ทฏฺพฺโพ. ภึสนกตฺตสฺมินฺติเยว วา ปาโ. ‘‘ภึสนกตาย’’ อิติ วา วตฺตพฺเพ ลิงฺควิปลฺลาโส กโต. นิมิตฺตตฺเถ เจตํ ภุมฺมวจนํ, ตสฺมา เอวํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ – ภึสนกภาเว อิทํสุ โหติ, ภึสนกภาวนิมิตฺตํ ภึสนกภาวเหตุ ภึสนกภาวปจฺจยา อิทํสุ โหติ. โย โกจิ อวีตราโค ตํ วนสณฺฑํ ปวิสติ, เยภุยฺเยน โลมานิ หํสนฺตีติ พหุตรานิ โลมานิ หํสนฺติ อุทฺธํ มุขานิ สูจิสทิสานิ กณฺฏกสทิสานิ จ หุตฺวา ติฏฺนฺติ, อปฺปานิ น หํสนฺติ. พหุตรานํ วา สตฺตานํ หํสนฺติ. อปฺปกานํ อติสูรปุริสานํ น หํสนฺติ.

อิทานิ อยํ โข, สาริปุตฺต, เหตูติอาทิ นิคมนํ. ยฺเจตฺถ อนฺตรนฺตรา น วุตฺตํ, ตํ อุตฺตานตฺถเมว. ตสฺมา ปาฬิกฺกเมเนว เวทิตพฺพํ. ยํ ปน วุตฺตํ น จิรฏฺิติกํ อโหสีติ, ตํ ปุริสยุควเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. วสฺสคณนาย หิ วิปสฺสิสฺส ภควโต อสีติวสฺสสหสฺสานิ อายุ, สมฺมุขสาวกานมฺปิสฺส ตตฺตกเมว. เอวมสฺส ยฺวายํ สพฺพปจฺฉิมโก สาวโก, เตน สห ฆเฏตฺวา สตสหสฺสํ สฏฺิมตฺตานิ จ วสฺสสหสฺสานิ พฺรหฺมจริยํ อฏฺาสิ. ปุริสยุควเสน ปน ยุคปรมฺปราย อาคนฺตฺวา ทฺเวเยว ปุริสยุคานิ อฏฺาสิ. ตสฺมา น จิรฏฺิติกนฺติ วุตฺตํ. สิขิสฺส ปน ภควโต สตฺตติวสฺสสหสฺสานิ อายุ. สมฺมุขสาวกานมฺปิสฺส ตตฺตกเมว. เวสฺสภุสฺส ภควโต สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ อายุ. สมฺมุขสาวกานมฺปิสฺส ตตฺตกเมว. เอวํ เตสมฺปิ เย สพฺพปจฺฉิมกา สาวกา เตหิ สห ฆเฏตฺวา สตสหสฺสโต อุทฺธํ จตฺตาลีสมตฺตานิ วีสติมตฺตานิ จ วสฺสสหสฺสานิ พฺรหฺมจริยํ อฏฺาสิ. ปุริสยุควเสน ปน ยุคปรมฺปราย อาคนฺตฺวา ทฺเว ทฺเวเยว ปุริสยุคานิ อฏฺาสิ. ตสฺมา น จิรฏฺิติกนฺติ วุตฺตํ.

๒๐. เอวํ อายสฺมา สาริปุตฺโต ติณฺณํ พุทฺธานํ พฺรหฺมจริยสฺส น จิรฏฺิติการณํ สุตฺวา อิตเรสํ ติณฺณํ พฺรหฺมจริยสฺส จิรฏฺิติการณํ โสตุกาโม ปุน ภควนฺตํ ‘‘โก ปน ภนฺเต เหตู’’ติ อาทินา นเยน ปุจฺฉิ. ภควาปิสฺส พฺยากาสิ. ตํ สพฺพํ วุตฺตปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺพํ. จิรฏฺิติกภาเวปิ เจตฺถ เตสํ พุทฺธานํ อายุปริมาณโตปิ ปุริสยุคโตปิ อุภยถา จิรฏฺิติกตา เวทิตพฺพา. กกุสนฺธสฺส หิ ภควโต จตฺตาลีสวสฺสสหสฺสานิ อายุ, โกณาคมนสฺส ภควโต ตึสวสฺสสหสฺสานิ, กสฺสปสฺส ภควโต วีสติวสฺสสหสฺสานิ; สมฺมุขสาวกานมฺปิ เนสํ ตตฺตกเมว. พหูนิ จ เนสํ สาวกยุคานิ ปรมฺปราย พฺรหฺมจริยํ ปวตฺเตสุํ. เอวํ เตสํ อายุปริมาณโตปิ สาวกยุคโตปิ อุภยถา พฺรหฺมจริยํ จิรฏฺิติกํ อโหสิ.

อมฺหากํ ปน ภควโต กสฺสปสฺส ภควโต อุปฑฺฒายุกปฺปมาเณ ทสวสฺสสหสฺสายุกกาเล อุปฺปชฺชิตพฺพํ สิยา. ตํ อสมฺภุณนฺเตน ปฺจวสฺสสหสฺสายุกกาเล, เอกวสฺสสหสฺสายุกกาเล, ปฺจวสฺสสตายุกกาเลปิ วา อุปฺปชฺชิตพฺพํ สิยา. ยสฺมา ปนสฺส พุทฺธตฺตการเก ธมฺเม เอสนฺตสฺส ปริเยสนฺตสฺส าณํ ปริปาเจนฺตสฺส คพฺภํ คณฺหาเปนฺตสฺส วสฺสสตายุกกาเล าณํ ปริปากมคมาสิ. ตสฺมา อติปริตฺตายุกกาเล อุปฺปนฺโน. เตนสฺส สาวกปรมฺปราวเสน จิรฏฺิติกมฺปิ พฺรหฺมจริยํ อายุปริมาณวเสน วสฺสคณนาย นจิรฏฺิติกเมวาติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

๒๑. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโตติ โก อนุสนฺธิ? เอวํ ติณฺณํ พุทฺธานํ พฺรหฺมจริยสฺส จิรฏฺิติการณํ สุตฺวา สิกฺขาปทปฺตฺติเยว จิรฏฺิติกภาวเหตูติ นิฏฺํ คนฺตฺวา ภควโตปิ พฺรหฺมจริยสฺส จิรฏฺิติกภาวํ อิจฺฉนฺโต อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ สิกฺขาปทปฺตฺตึ ยาจิ. ตสฺสา ยาจนวิธิทสฺสนตฺถเมตํ วุตฺตํ – อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต อุฏฺายาสนา …เป… จิรฏฺิติกนฺติ. ตตฺถ อทฺธนิยนฺติ อทฺธานกฺขมํ; ทีฆกาลิกนฺติ วุตฺตํ โหติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.

อถสฺส ภควา ‘‘น ตาวายํ สิกฺขาปทปฺตฺติกาโล’’ติ ปกาเสนฺโต ‘‘อาคเมหิ ตฺวํ สาริปุตฺตา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อาคเมหิ ตฺวนฺติ ติฏฺ ตาว ตฺวํ; อธิวาเสหิ ตาว ตฺวนฺติ วุตฺตํ โหติ. อาทรตฺถวเสเนเวตฺถ ทฺวิกฺขตฺตุํ วุตฺตํ. เอเตน ภควา สิกฺขาปทปฺตฺติยา สาวกานํ วิสยภาวํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘พุทฺธวิสโยว สิกฺขาปทปฺตฺตี’’ติ อาวิกโรนฺโต ‘‘ตถาคโต วา’’ติอาทิมาห. เอตฺถ จ ตตฺถาติ สิกฺขาปทปฺตฺติยาจนาเปกฺขํ ภุมฺมวจนํ. ตตฺรายํ โยชนา – ยํ วุตฺตํ ‘‘สิกฺขาปทํ ปฺเปยฺยา’’ติ, ตตฺถ ตสฺสา สิกฺขาปทปฺตฺติยา ตถาคโตเยว กาลํ ชานิสฺสตีติ. เอวํ วตฺวา อกาลํ ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘น ตาว สาริปุตฺตา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ อาสวา ติฏฺนฺติ เอเตสูติ อาสวฏฺานียา. เยสุ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกา ทุกฺขาสวา กิเลสาสวา จ ปรูปวาทวิปฺปฏิสารวธพนฺธนาทโย เจว อปายทุกฺขวิเสสภูตา จ อาสวา ติฏฺนฺติเยว, ยสฺมา เนสํ เต การณํ โหนฺตีติ อตฺโถ. เต อาสวฏฺานียา วีติกฺกมธมฺมา ยาว น สงฺเฆ ปาตุภวนฺติ, น ตาว สตฺถา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปตีติ อยเมตฺถ โยชนา. ยทิ หิ ปฺเปยฺย, ปรูปวาทา ปรูปารมฺภา ครหโทสา น ปริมุจฺเจยฺย.

กถํ? ปฺเปนฺเตน หิ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺยา’’ติอาทิ สพฺพํ ปฺเปตพฺพํ ภเวยฺย. อทิสฺวาว วีติกฺกมโทสํ อิมํ ปฺตฺตึ ตฺวา ปเร เอวํ อุปวาทฺจ อุปารมฺภฺจ ครหฺจ ปวตฺเตยฺยุํ – ‘‘กถฺหิ นาม สมโณ โคตโม ภิกฺขุสงฺโฆ เม อนฺวายิโก วจนกโรติ เอตฺตาวตา สิกฺขาปเทหิ ปลิเวเสฺสติ, ปาราชิกํ ปฺเปสฺสติ? นนุ อิเม กุลปุตฺตา มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ มหนฺตฺจ าติปริวฏฺฏํ หตฺถคตานิ จ รชฺชานิปิ ปหาย ปพฺพชิตา, ฆาสจฺฉาทนปรมตาย สนฺตุฏฺา, สิกฺขาย ติพฺพคารวา, กาเย จ ชีวิเต จ นิรเปกฺขา วิหรนฺติ. เตสุ นาม โก โลกามิสภูตํ เมถุนํ วา ปฏิเสวิสฺสติ, ปรภณฺฑํ วา หริสฺสติ, ปรสฺส วา อิฏฺํ กนฺตํ อติมธุรํ ชีวิตํ อุปจฺฉินฺทิสฺสติ, อภูตคุณกถาย วา ชีวิตํ กปฺเปสฺสติ! นนุ ปาราชิเก อปฺตฺเตปิ ปพฺพชฺชาสงฺเขเปเนเวตํ ปากฏํ กต’’นฺติ. ตถาคตสฺส จ ถามฺจ พลฺจ สตฺตา น ชาเนยฺยุํ. ปฺตฺตมฺปิ สิกฺขาปทํ กุปฺเปยฺย, น ยถาาเน ติฏฺเยฺย. เสยฺยถาปิ นาม อกุสโล เวชฺโช กฺจิ อนุปฺปนฺนคณฺฑํ ปุริสํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘เอหิ โภ ปุริส, อิมสฺมึ เต สรีรปฺปเทเส มหาคณฺโฑ อุปฺปชฺชิตฺวา อนยพฺยสนํ ปาเปสฺสติ, ปฏิกจฺเจว นํ ติกิจฺฉาเปหี’’ติ วตฺวา ‘‘สาธาจริย, ตฺวํเยว นํ ติกิจฺฉสฺสู’’ติ วุตฺโต ตสฺส อโรคํ สรีรปฺปเทสํ ผาเลตฺวา โลหิตํ นีหริตฺวา อาเลปนพนฺธนโธวนาทีหิ ตํ ปเทสํ สฺฉวึ กตฺวา ตํ ปุริสํ วเทยฺย – ‘‘มหาโรโค เต มยา ติกิจฺฉิโต, เทหิ เม เทยฺยธมฺม’’นฺติ. โส ตํ ‘‘กิมยํ พาลเวชฺโช วทติ? กตโร กิร เม อิมินา โรโค ติกิจฺฉิโต? นนุ เม อยํ ทุกฺขฺจ ชเนติ, โลหิตกฺขยฺจ มํ ปาเปตี’’ติ เอวํ อุปวเทยฺย เจว อุปารมฺเภยฺย จ ครเหยฺย จ, น จสฺส คุณํ ชาเนยฺย. เอวเมว ยทิ อนุปฺปนฺเน วีติกฺกมโทเส สตฺถา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปยฺย, ปรูปวาทาทีหิ จ น ปริมุจฺเจยฺย, น จสฺส ถามํ วา พลํ วา สตฺตา ชาเนยฺยุํ, ปฺตฺตมฺปิ สิกฺขาปทํ กุปฺเปยฺย, น ยถาาเน ติฏฺเยฺย. ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘น ตาว สาริปุตฺต สตฺถา สาวกานํ…เป… ปาตุภวนฺตี’’ติ.

เอวํ อกาลํ ทสฺเสตฺวา ปุน กาลํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยโต จ โข สาริปุตฺตา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยโตติ ยทา; ยสฺมึ กาเลติ วุตฺตํ โหติ. เสสํ วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ. อยํ วา เหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ยสฺมึ สมเย ‘‘อาสวฏฺานียา ธมฺมา’’ติ สงฺขฺยํ คตา วีติกฺกมโทสา สงฺเฆ ปาตุภวนฺติ, ตทา สตฺถา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปติ, อุทฺทิสติ ปาติโมกฺขํ. กสฺมา? เตสํเยว ‘‘อาสวฏฺานียา ธมฺมา’’ติ สงฺขฺยํ คตานํ วีติกฺกมโทสานํ ปฏิฆาตาย. เอวํ ปฺเปนฺโต ยถา นาม กุสโล เวชฺโช อุปฺปนฺนํ คณฺฑํ ผาลนเลปนพนฺธนโธวนาทีหิ ติกิจฺฉนฺโต โรคํ วูปสเมตฺวา สฺฉวึ กตฺวา น ตฺเวว อุปวาทาทิรโห โหติ, สเก จ อาจริยเก วิทิตานุภาโว หุตฺวา สกฺการํ ปาปุณาติ; เอวํ น จ อุปวาทาทิรโห โหติ, สเก จ สพฺพฺุวิสเย วิทิตานุภาโว หุตฺวา สกฺการํ ปาปุณาติ. ตฺจสฺส สิกฺขาปทํ อกุปฺปํ โหติ, ยถาาเน ติฏฺตีติ.

เอวํ อาสวฏฺานียานํ ธมฺมานํ อนุปฺปตฺตึ สิกฺขาปทปฺตฺติยา อกาลํ อุปฺปตฺติฺจ กาลนฺติ วตฺวา อิทานิ เตสํ ธมฺมานํ อนุปฺปตฺติกาลฺจ อุปฺปตฺติกาลฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘น ตาว สาริปุตฺต อิเธกจฺเจ’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อุตฺตานตฺถานิ ปทานิ ปาฬิวเสเนว เวทิตพฺพานิ. อยํ ปน อนุตฺตานปทวณฺณนา – รตฺติโย ชานนฺตีติ รตฺตฺู, อตฺตโน ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺาย พหุกา รตฺติโย ชานนฺติ, จิรปพฺพชิตาติ วุตฺตํ โหติ. รตฺตฺูหิ มหตฺตํ รตฺตฺุมหตฺตํ; จิรปพฺพชิเตหิ มหนฺตภาวนฺติ อตฺโถ. ตตฺร รตฺตฺุมหตฺตํ ปตฺเต สงฺเฆ อุปเสนํ วงฺคนฺตปุตฺตํ อารพฺภ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. โส หายสฺมา อูนทสวสฺเส ภิกฺขู อุปสมฺปาเทนฺเต ทิสฺวา เอกวสฺโส สทฺธิวิหาริกํ อุปสมฺปาเทสิ. อถ ภควา สิกฺขาปทํ ปฺเปสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, อูนทสวสฺเสน อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๗๕). เอวํ ปฺตฺเต สิกฺขาปเท ปุน ภิกฺขู ‘‘ทสวสฺสามฺห ทสวสฺสามฺหา’’ติ พาลา อพฺยตฺตา อุปสมฺปาเทนฺติ. อถ ภควา อปรมฺปิ สิกฺขาปทํ ปฺาเปสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, พาเลน อพฺยตฺเตน อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน ทสวสฺเสน วา อติเรกทสวสฺเสน วา อุปสมฺปาเทตุ’’นฺติ (มหาว. ๗๖) รตฺตฺุมหตฺตํ ปตฺตกาเล ทฺเว สิกฺขาปทานิ ปฺตฺตานิ.

เวปุลฺลมหตฺตนฺติ วิปุลภาเวน มหตฺตํ. สงฺโฆ หิ ยาว น เถรนวมชฺฌิมานํ วเสน เวปุลฺลมหตฺตํ ปตฺโต โหติ, ตาว เสนาสนานิ ปโหนฺติ. สาสเน เอกจฺเจ อาสวฏฺานียา ธมฺมา น อุปฺปชฺชนฺติ. เวปุลฺลมหตฺตํ ปน ปตฺเต เต อุปฺปชฺชนฺติ. อถ สตฺถา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปติ. ตตฺถ เวปุลฺลมหตฺตํ ปตฺเต สงฺเฆ ปฺตฺตสิกฺขาปทานิ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อนุปสมฺปนฺเนน อุตฺตริ ทิรตฺตติรตฺตํ สหเสยฺยํ กปฺเปยฺย, ปาจิตฺติยํ’’ (ปาจิ. ๕๑); ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อนุวสฺสํ วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติยํ’’ (ปาจิ. ๑๑๗๑); ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี เอกํ วสฺสํ ทฺเว วุฏฺาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๗๕) อิมินา นเยน เวทิตพฺพานิ.

ลาภคฺคมหตฺตนฺติ ลาภสฺส อคฺคมหตฺตํ; โย ลาภสฺส อคฺโค อุตฺตโม มหนฺตภาโว, ตํ ปตฺโต โหตีติ อตฺโถ. ลาเภน วา อคฺคมหตฺตมฺปิ, ลาเภน เสฏฺตฺตฺจ มหนฺตตฺตฺจ ปตฺโตติ อตฺโถ. สงฺโฆ หิ ยาว น ลาภคฺคมหตฺตํ ปตฺโต โหติ, ตาว น ลาภํ ปฏิจฺจ อาสวฏฺานียา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ. ปตฺเต ปน อุปฺปชฺชนฺติ, อถ สตฺถา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปติ – ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อเจลกสฺส วา ปริพฺพาชกสฺส วา ปริพฺพาชิกาย วา สหตฺถา ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ทเทยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๒๗๐). อิทฺหิ ลาภคฺคมหตฺตํ ปตฺเต สงฺเฆ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ.

พาหุสจฺจมหตฺตนฺติ พาหุสจฺจสฺส มหนฺตภาวํ. สงฺโฆ หิ ยาว น พาหุสจฺจมหตฺตํ ปตฺโต โหติ, ตาว น อาสวฏฺานียา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ. พาหุสจฺจมหตฺตํ ปตฺเต ปน ยสฺมา เอกมฺปิ นิกายํ, ทฺเวปิ…เป… ปฺจปิ นิกาเย อุคฺคเหตฺวา อโยนิโส อุมฺมุชฺชมานา ปุคฺคลา รเสน รสํ สํสนฺทิตฺวา อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุสาสนํ ทีเปนฺติ. อถ สตฺถา ‘‘โย ปน ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ตถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ…เป… สมณุทฺเทโสปิ เจ เอวํ วเทยฺยา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๔๑๘) นเยน สิกฺขาปทํ ปฺเปตีติ.

เอวํ ภควา อาสวฏฺานียานํ ธมฺมานํ อนุปฺปตฺติกาลฺจ อุปฺปตฺติกาลฺจ ทสฺเสตฺวา ตสฺมึ สมเย สพฺพโสปิ เตสํ อภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นิรพฺพุโท หิ สาริปุตฺตา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ นิรพฺพุโทติ อพฺพุทวิรหิโต; อพฺพุทา วุจฺจนฺติ โจรา, นิจฺโจโรติ อตฺโถ. โจราติ จ อิมสฺมึ อตฺเถ ทุสฺสีลาว อธิปฺเปตา. เต หิ อสฺสมณาว หุตฺวา สมณปฏิฺตาย ปเรสํ ปจฺจเย โจเรนฺติ. ตสฺมา นิรพฺพุโทติ นิจฺโจโร, นิทฺทุสฺสีโลติ วุตฺตํ โหติ. นิราทีนโวติ นิรุปทฺทโว นิรุปสคฺโค; ทุสฺสีลาทีนวรหิโตเยวาติ วุตฺตํ โหติ. อปคตกาฬโกติ กาฬกา วุจฺจนฺติ ทุสฺสีลาเยว; เต หิ สุวณฺณวณฺณาปิ สมานา กาฬกธมฺมโยคา กาฬกาตฺเวว เวทิตพฺพา. เตสํ อภาวา อปคตกาฬโก. อปหตกาฬโกติปิ ปาโ. สุทฺโธติ อปคตกาฬกตฺตาเยว สุทฺโธ ปริโยทาโต ปภสฺสโร. สาเร ปติฏฺิโตติ สาโร วุจฺจนฺติ สีล-สมาธิ-ปฺาวิมุตฺติ-วิมุตฺติาณทสฺสนคุณา, ตสฺมึ สาเร ปติฏฺิตตฺตา สาเร ปติฏฺิโต.

เอวํ สาเร ปติฏฺิตภาวํ วตฺวา ปุน โส จสฺส สาเร ปติฏฺิตภาโว เอวํ เวทิตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต อิเมสฺหิ สาริปุตฺตาติ อาทิมาห. ตตฺรายํ สงฺเขปวณฺณนา – ยานิมานิ เวรฺชายํ วสฺสาวาสํ อุปคตานิ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ, อิเมสํ โย คุณวเสน ปจฺฉิมโก สพฺพปริตฺตคุโณ ภิกฺขุ, โส โสตาปนฺโน. โสตาปนฺโนติ โสตํ อาปนฺโน; โสโตติ จ มคฺคสฺเสตํ อธิวจนํ. โสตาปนฺโนติ เตน สมนฺนาคตสฺส ปุคฺคลสฺส. ยถาห –

‘‘โสโต โสโตติ หิทํ, สาริปุตฺต, วุจฺจติ; กตโม นุ โข, สาริปุตฺต, โสโตติ? อยเมว หิ, ภนฺเต, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธี’’ติ. ‘‘โสตาปนฺโน โสตาปนฺโนติ หิทํ, สาริปุตฺต, วุจฺจติ; กตโม นุ โข, สาริปุตฺต, โสตาปนฺโน’’ติ? ‘‘โย หิ, ภนฺเต, อิมินา อริเยน อฏฺงฺคิเกน มคฺเคน สมนฺนาคโต, อยํ วุจฺจติ – โสตาปนฺโน. โสยมายสฺมา เอวํนาโม เอวํโคตฺโต’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๐๑). อิธ ปน มคฺเคน ผลสฺส นามํ ทินฺนํ. ตสฺมา ผลฏฺโ ‘‘โสตาปนฺโน’’ติ เวทิตพฺโพ.

อวินิปาตธมฺโมติ วินิปาเตตีติ วินิปาโต; นาสฺส วินิปาโต ธมฺโมติ อวินิปาตธมฺโม, น อตฺตานํ อปาเยสุ วินิปาตนสภาโวติ วุตฺตํ โหติ. กสฺมา? เย ธมฺมา อปายคมนียา, เตสํ ปริกฺขยา. วินิปตนํ วา วินิปาโต, นาสฺส วินิปาโต ธมฺโมติ อวินิปาตธมฺโม, อปาเยสุ วินิปาตนสภาโว อสฺส นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. สมฺมตฺตนิยาเมน มคฺเคน นิยตตฺตา นิยโต. สมฺโพธิ ปรํ อยนํ ปรา คติ อสฺสาติ สมฺโพธิปรายโณ. อุปริ มคฺคตฺตยํ อวสฺสํ สมฺปาปโกติ อตฺโถ. กสฺมา? ปฏิลทฺธปมมคฺคตฺตาติ.

วินยปฺตฺติยาจนกถา นิฏฺิตา.

พุทฺธาจิณฺณกถา

๒๒. เอวํ ธมฺมเสนาปตึ สฺาเปตฺวา เวรฺชายํ ตํ วสฺสาวาสํ วีตินาเมตฺวา วุตฺถวสฺโส มหาปวารณาย ปวาเรตฺวา อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ. อามนฺเตสีติ อาลปิ อภาสิ สมฺโพเธสิ. กินฺติ? อาจิณฺณํ โข ปเนตนฺติ เอวมาทิ. อาจิณฺณนฺติ จริตํ วตฺตํ อนุธมฺมตา. ตํ โข ปเนตํ อาจิณฺณํ ทุวิธํ โหติ – พุทฺธาจิณฺณํ, สาวกาจิณฺณนฺติ. กตมํ พุทฺธาจิณฺณํ? อิทํ ตาว เอกํ – เยหิ นิมนฺติตา วสฺสํ วสนฺติ, น เต อนปโลเกตฺวา อนาปุจฺฉิตฺวา ชนปทจาริกํ ปกฺกมนฺติ. สาวกา ปน อปโลเกตฺวา วา อนปโลเกตฺวา วา ยถาสุขํ ปกฺกมนฺติ.

อปรมฺปิ พุทฺธาจิณฺณํ – วุตฺถวสฺสา ปวาเรตฺวา ชนสงฺคหตฺถาย ชนปทจาริกํ ปกฺกมนฺติเยว. ชนปทจาริกํ จรนฺตา จ มหามณฺฑลํ มชฺฌิมมณฺฑลํ อนฺติมมณฺฑลนฺติ อิเมสํ ติณฺณํ มณฺฑลานํ อฺตรสฺมึ มณฺฑเล จรนฺติ. ตตฺถ มหามณฺฑลํ นวโยชนสติกํ, มชฺฌิมมณฺฑลํ ฉโยชนสติกํ, อนฺติมมณฺฑลํ ติโยชนสติกํ. ยทา มหามณฺฑเล จาริกํ จริตุกามา โหนฺติ, ตทา มหาปวารณาย ปวาเรตฺวา ปาฏิปททิวเส มหาภิกฺขุสงฺฆปริวารา นิกฺขมิตฺวา คามนิคมาทีสุ มหาชนํ อามิสปฏิคฺคเหน อนุคฺคณฺหนฺตา ธมฺมทาเนน จสฺส วิวฏฺฏุปนิสฺสิตํ กุสลํ วฑฺเฒนฺตา นวหิ มาเสหิ ชนปทจาริกํ ปริโยสาเปนฺติ. สเจ ปน อนฺโตวสฺเส ภิกฺขูนํ สมถวิปสฺสนา ตรุณา โหนฺติ, มหาปวารณาย อปฺปวาเรตฺวา ปวารณาสงฺคหํ ทตฺวา กตฺติกปุณฺณมายํ ปวาเรตฺวา มาคสิรสฺส ปมทิวเส มหาภิกฺขุสงฺฆปริวารา นิกฺขมิตฺวา วุตฺตนเยเนว มชฺฌิมมณฺฑเล อฏฺหิ มาเสหิ จาริกํ ปริโยสาเปนฺติ. สเจ ปน เนสํ วุตฺถวสฺสานํ อปริปากินฺทฺริยา เวเนยฺยสตฺตา โหนฺติ, เตสํ อินฺทฺริยปริปากํ อาคเมนฺตา มาคสิรมาสมฺปิ ตตฺเถว วสิตฺวา ผุสฺสมาสสฺส ปมทิวเส มหาภิกฺขุสงฺฆปริวารา นิกฺขมิตฺวา วุตฺตนเยเนว อนฺติมมณฺฑเล สตฺตหิ มาเสหิ จาริกํ ปริโยสาเปนฺติ. เตสุ จ มณฺฑเลสุ ยตฺถ กตฺถจิ วิจรนฺตาปิ เต เต สตฺเต กิเลเสหิ วิโยเชนฺตา โสตาปตฺติผลาทีหิ ปโยเชนฺตา เวเนยฺยวเสเนว นานาวณฺณานิ ปุปฺผานิ โอจินนฺตา วิย จรนฺติ.

อปรมฺปิ พุทฺธานํ อาจิณฺณํ – เทวสิกํ ปจฺจูสสมเย สนฺตํ สุขํ นิพฺพานารมฺมณํ กตฺวา ผลสมาปตฺติสมาปชฺชนํ, ผลสมาปตฺติยา วุฏฺหิตฺวา เทวสิกํ มหากรุณาสมาปตฺติยา สมาปชฺชนํ, ตโต วุฏฺหิตฺวา ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ โพธเนยฺยสตฺตสมวโลกนํ.

อปรมฺปิ พุทฺธานํ อาจิณฺณํ – อาคนฺตุเกหิ สทฺธึ ปมตรํ ปฏิสนฺถารกรณํ, อฏฺุปฺปตฺติวเสน ธมฺมเทสนา, โอติณฺเณ โทเส สิกฺขาปทปฺาปนนฺติ อิทํ พุทฺธาจิณฺณํ.

กตมํ สาวกาจิณฺณํ? พุทฺธสฺส ภควโต กาเล ทฺวิกฺขตฺตุํ สนฺนิปาโต ปุเร วสฺสูปนายิกาย จ กมฺมฏฺานคฺคหณตฺถํ, วุตฺถวสฺสานฺจ อธิคตคุณาโรจนตฺถํ อุปริ กมฺมฏฺานคฺคหณตฺถฺจ. อิทํ สาวกาจิณฺณํ. อิธ ปน พุทฺธาจิณฺณํ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘อาจิณฺณํ โข ปเนตํ, อานนฺท, ตถาคตาน’’นฺติ.

อายามาติ อาคจฺฉ ยาม. อปโลเกสฺสามาติ จาริกํ จรณตฺถาย อาปุจฺฉิสฺสาม. เอวนฺติ สมฺปฏิจฺฉนตฺเถ นิปาโต. ภนฺเตติ คารวาธิวจนเมตํ; สตฺถุโน ปฏิวจนทานนฺติปิ วฏฺฏติ. ภควโต ปจฺจสฺโสสีติ ภควโต วจนํ ปฏิอสฺโสสิ, อภิมุโข หุตฺวา สุณิ สมฺปฏิจฺฉิ. เอวนฺติ อิมินา วจเนน ปฏิคฺคเหสีติ วุตฺตํ โหติ.

อถ โข ภควา นิวาเสตฺวาติ อิธ ปุพฺพณฺหสมยนฺติ วา สายนฺหสมยนฺติ วา น วุตฺตํ. เอวํ สนฺเตปิ ภควา กตภตฺตกิจฺโจ มชฺฌนฺหิกํ วีตินาเมตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ปจฺฉาสมณํ กตฺวา นครทฺวารโต ปฏฺาย นครวีถิโย สุวณฺณรสปิฺชราหิ รํสีหิ สมุชฺโชตยมาโน เยน เวรฺชสฺส พฺราหฺมณสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ. ฆรทฺวาเร ิตมตฺตเมว จสฺส ภควนฺตํ ทิสฺวา ปริชโน อาโรเจสิ. พฺราหฺมโณ สตึ ปฏิลภิตฺวา สํเวคชาโต สหสา วุฏฺาย มหารหํ อาสนํ ปฺเปตฺวา ภควนฺตํ ปจฺจุคฺคมฺม ‘‘อิโต, ภควา, อุปสงฺกมตู’’ติ อาห. ภควา อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข เวรฺโช พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ อุปนิสีทิตุกาโม อตฺตนา ิตปเทสโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. อิโต ปรํ อุตฺตานตฺถเมว.

ยํ ปน พฺราหฺมโณ อาห – ‘‘อปิจ โย เทยฺยธมฺโม, โส น ทินฺโน’’ติ. ตตฺรายมธิปฺปาโย – มยา นิมนฺติตานํ วสฺสํวุตฺถานํ ตุมฺหากํ เตมาสํ ทิวเส ทิวเส ปาโต ยาคุขชฺชกํ, มชฺฌนฺหิเก ขาทนียโภชนียํ, สายนฺเห อเนกวิธ ปานวิกติ คนฺธปุปฺผาทีหิ ปูชาสกฺกาโรติ เอวมาทิโก โย เทยฺยธมฺโม ทาตพฺโพ อสฺส, โส น ทินฺโนติ. ตฺจ โข โน อสนฺตนฺติ เอตฺถ ปน ลิงฺควิปลฺลาโส เวทิตพฺโพ. โส จ โข เทยฺยธมฺโม อมฺหากํ โน อสนฺโตติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. อถ วา ยํ ทานวตฺถุํ มยํ ตุมฺหากํ ทเทยฺยาม, ตฺจ โข โน อสนฺตนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

โนปิ อทาตุกมฺยตาติ อทาตุกามตาปิ โน นตฺถิ, ยถา ปหูตวิตฺตูปกรณานํ มจฺฉรีนํ. ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา พหุกิจฺจา ฆราวาสาติ ตตฺรายํ โยชนา – ยสฺมา พหุกิจฺจา ฆราวาสา, ตสฺมา เอตฺถ สนฺเตปิ เทยฺยธมฺเม ทาตุกมฺยตาย จ ตํ กุโต ลพฺภา กุโต ตํ สกฺกา ลทฺธุํ, ยํ มยํ ตุมฺหากํ เทยฺยธมฺมํ ทเทยฺยามาติ ฆราวาสํ ครหนฺโต อาห. โส กิร มาเรน อาวฏฺฏิตภาวํ น ชานาติ, ‘‘ฆราวาสปลิโพเธน เม สติสมฺโมโส ชาโต’’ติ มฺิ, ตสฺมา เอวมาห. อปิจ – ตํ กุเตตฺถ ลพฺภาติ อิมสฺมึ เตมาสพฺภนฺตเร ยมหํ ตุมฺหากํ ทเทยฺยํ, ตํ กุโต ลพฺภา? พหุกิจฺจา หิ ฆราวาสาติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา.

อถ พฺราหฺมโณ ‘‘ยํนูนาหํ ยํ เม ตีหิ มาเสหิ ทาตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ เอกทิวเสเนว ทเทยฺย’’นฺติ จินฺเตตฺวา อธิวาเสตุ เม ภวํ โคตโมติอาทิมาห. ตตฺถ สฺวาตนายาติ ยํ เม ตุมฺเหสุ สกฺการํ กโรโต สฺเว ภวิสฺสติ ปุฺฺเจว ปีติปาโมชฺชฺจ, ตทตฺถาย. อถ ตถาคโต ‘‘สเจ อหํ นาธิวาเสยฺยํ, ‘อยํ เตมาสํ กิฺจิ อลทฺธา กุปิโต มฺเ, เตน เม ยาจิยมาโน เอกภตฺตมฺปิ น ปฏิคฺคณฺหาติ, นตฺถิ อิมสฺมึ อธิวาสนขนฺติ, อสพฺพฺู อย’นฺติ เอวํ พฺราหฺมโณ จ เวรฺชาวาสิโน จ ครหิตฺวา พหุํ อปุฺํ ปสเวยฺยุํ, ตํ เตสํ มา อโหสี’’ติ เตสํ อนุกมฺปาย อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน.

อธิวาเสตฺวา จ อถ โข ภควา เวรฺชํ พฺราหฺมณํ ‘‘อลํ ฆราวาสปลิโพธจินฺตายา’’ติ สฺาเปตฺวา ตงฺขณานุรูปาย ธมฺมิยา กถาย ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกํ อตฺถํ สนฺทสฺเสตฺวา กุสเล ธมฺเม สมาทเปตฺวา คณฺหาเปตฺวา ตตฺถ จ นํ สมุตฺเตเชตฺวา สอุสฺสาหํ กตฺวา ตาย สอุสฺสาหตาย อฺเหิ จ วิชฺชมานคุเณหิ สมฺปหํเสตฺวา ธมฺมรตนวสฺสํ วสฺเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. ปกฺกนฺเต จ ปน ภควติ เวรฺโช พฺราหฺมโณ ปุตฺตทารํ อามนฺเตสิ – ‘‘มยํ, ภเณ, ภควนฺตํ เตมาสํ นิมนฺเตตฺวา เอกทิวสํ เอกภตฺตมฺปิ นาทมฺห. หนฺท, ทานิ ตถา ทานํ ปฏิยาเทถ ยถา เตมาสิโกปิ เทยฺยธมฺโม สฺเว เอกทิวเสเนว ทาตุํ สกฺกา โหตี’’ติ. ตโต ปณีตํ ทานํ ปฏิยาทาเปตฺวา ยํ ทิวสํ ภควา นิมนฺติโต, ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน อาสนฏฺานํ อลงฺการาเปตฺวา มหารหานิ อาสนานิ ปฺเปตฺวา คนฺธธูมวาสกุสุมวิจิตฺรํ มหาปูชํ สชฺเชตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข เวรฺโช พฺราหฺมโณ ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน…เป… นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ.

๒๓. ภควา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ตตฺถ อคมาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข ภควา…เป… นิสีทิ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อถ โข เวรฺโช พฺราหฺมโณ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆนฺติ พุทฺธปฺปมุขนฺติ พุทฺธปริณายกํ; พุทฺธํ สงฺฆตฺเถรํ กตฺวา นิสินฺนนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปณีเตนาติ อุตฺตเมน. สหตฺถาติ สหตฺเถน. สนฺตปฺเปตฺวาติ สุฏฺุ ตปฺเปตฺวา, ปริปุณฺณํ สุหิตํ ยาวทตฺถํ กตฺวา. สมฺปวาเรตฺวาติ สุฏฺุ ปวาเรตฺวา ‘อล’นฺติ หตฺถสฺาย มุขสฺาย วจีเภเทน จ ปฏิกฺขิปาเปตฺวา. ภุตฺตาวินฺติ ภุตฺตวนฺตํ. โอนีตปตฺตปาณินฺติ ปตฺตโต โอนีตปาณึ; อปนีตหตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. ติจีวเรน อจฺฉาเทสีติ ติจีวรํ ภควโต อทาสิ. อิทํ ปน โวหารวจนมตฺตํ โหติ ‘‘ติจีวเรน อจฺฉาเทสี’’ติ, ตสฺมิฺจ ติจีวเร เอกเมโก สาฏโก สหสฺสํ อคฺฆติ. อิติ พฺราหฺมโณ ภควโต ติสหสฺสคฺฆนกํ ติจีวรมทาสิ อุตฺตมํ กาสิกวตฺถสทิสํ. เอกเมกฺจ ภิกฺขุํ เอกเมเกน ทุสฺสยุเคนาติ เอกเมเกน ทุสฺสยุคเฬน. ตตฺร เอกสาฏโก ปฺจสตานิ อคฺฆติ. เอวํ ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ ปฺจสตสหสฺสคฺฆนกานิ ทุสฺสานิ อทาสิ. พฺราหฺมโณ เอตฺตกมฺปิ ทตฺวา อตุฏฺโ ปุน สตฺตฏฺสหสฺสคฺฆนเก อเนกรตฺตกมฺพเล จ ปฏฺฏุณฺณปตฺตปเฏ จ ผาเลตฺวา ผาเลตฺวา อาโยคอํสพทฺธกกายพนฺธนปริสฺสาวนาทีนํ อตฺถาย อทาสิ. สตปากสหสฺสปากานฺจ เภสชฺชเตลานํ ตุมฺพานิ ปูเรตฺวา เอกเมกสฺส ภิกฺขุโน อพฺภฺชนตฺถาย สหสฺสคฺฆนกํ เตลมทาสิ. กึ พหุนา, จตูสุ ปจฺจเยสุ น โกจิ ปริกฺขาโร สมณปริโภโค อทินฺโน นาม อโหสิ. ปาฬิยํ ปน จีวรมตฺตเมว วุตฺตํ.

เอวํ มหายาคํ ยชิตฺวา สปุตฺตทารํ วนฺทิตฺวา นิสินฺนํ อถ โข ภควา เวรฺชํ พฺราหฺมณํ เตมาสํ มาราวฏฺฏเนน ธมฺมสวนามตรสปริโภคปริหีนํ เอกทิวเสเนว ธมฺมามตวสฺสํ วสฺเสตฺวา ปุริปุณฺณสงฺกปฺปํ กุรุมาโน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา…เป… อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. พฺราหฺมโณปิ สปุตฺตทาโร ภควนฺตฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ วนฺทิตฺวา ‘‘ปุนปิ, ภนฺเต, อมฺหากํ อนุคฺคหํ กเรยฺยาถา’’ติ เอวมาทีนิ วทนฺโต อนุพนฺธิตฺวา อสฺสูนิ ปวตฺตยมาโน นิวตฺติ.

อถ โข ภควา เวรฺชายํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวาติ ยถาชฺฌาสยํ ยถารุจิตํ วาสํ วสิตฺวา เวรฺชาย นิกฺขมิตฺวา มหามณฺฑเล จาริกาย จรณกาเล คนฺตพฺพํ พุทฺธวีถิ ปหาย ทุพฺภิกฺขโทเสน กิลนฺตํ ภิกฺขุสงฺฆํ อุชุนาว มคฺเคน คเหตฺวา คนฺตุกาโม โสเรยฺยาทีนิ อนุปคมฺม ปยาคปติฏฺานํ คนฺตฺวา ตตฺถ คงฺคํ นทึ อุตฺตริตฺวา เยน พาราณสี ตทวสริ. เตน อวสริ ตทวสริ. ตตฺราปิ ยถาชฺฌาสยํ วิหริตฺวา เวสาลึ อคมาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อนุปคมฺม โสเรยฺยํ…เป… เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลาย’’นฺติ.

พุทฺธาจิณฺณกถา นิฏฺิตา.

สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย

เวรฺชกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตตฺริทํ สมนฺตปาสาทิกาย สมนฺตปาสาทิกตฺตสฺมึ –

อาจริยปรมฺปรโต, นิทานวตฺถุปฺปเภททีปนโต;

ปรสมยวิวชฺชนโต, สกสมยวิสุทฺธิโต เจว.

พฺยฺชนปริโสธนโต, ปทตฺถโต ปาฬิโยชนกฺกมโต;

สิกฺขาปทนิจฺฉยโต, วิภงฺคนยเภททสฺสนโต.

สมฺปสฺสตํ น ทิสฺสติ, กิฺจิ อปาสาทิกํ ยโต เอตฺถ;

วิฺูนมยํ ตสฺมา, สมนฺตปาสาทิกาตฺเวว.

สํวณฺณนา ปวตฺตา, วินยสฺส วิเนยฺยทมนกุสเลน;

วุตฺตสฺส โลกนาเถน, โลกมนุกมฺปมาเนนาติ.

เวรฺชกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑. ปาราชิกกณฺฑํ

๑. ปมปาราชิกํ

สุทินฺนภาณวารวณฺณนา

๒๔. อิโต ปรํ เตน โข ปน สมเยน เวสาลิยา อวิทูเรติอาทิ เยภุยฺเยน อุตฺตานตฺถํ. ตสฺมา อนุปทวณฺณนํ ปหาย ยตฺถ ยตฺถ วตฺตพฺพํ อตฺถิ, ตํ ตเทว วณฺณยิสฺสาม. กลนฺทคาโมติ กลนฺทกา วุจฺจนฺติ กาฬกา, เตสํ วเสน ลทฺธนาโม คาโม. กลนฺทปุตฺโตติ คามวเสน ลทฺธนามสฺส ราชสมฺมตสฺส จตฺตาลีสโกฏิวิภวสฺส กลนฺทเสฏฺิโน ปุตฺโต. ยสฺมา ปน ตสฺมึ คาเม อฺเปิ กลนฺทนามกา มนุสฺสา อตฺถิ, ตสฺมา กลนฺทปุตฺโตติ วตฺวา ปุน เสฏฺิปุตฺโตติ วุตฺตํ. สมฺพหุเลหีติ พหุเกหิ. สหายเกหีติ สุขทุกฺขานิ สห อายนฺติ อุปคจฺฉนฺตีติ สหายา, สหายา เอว สหายกา, เตหิ สหายเกหิ. สทฺธินฺติ เอกโต. เกนจิเทว กรณีเยนาติ เกนจิเทว ภณฺฑปฺปโยชนอุทฺธารสารณาทินา กิจฺเจน; กตฺติกนกฺขตฺตกีฬากิจฺเจนาติปิ วทนฺติ. ภควา หิ กตฺติกชุณฺหปกฺเข เวสาลึ สมฺปาปุณิ. กตฺติกนกฺขตฺตกีฬา เจตฺถ อุฬารา โหติ. ตทตฺถํ คโตติ เวทิตพฺโพ.

อทฺทส โขติ กถํ อทฺทส? โส กิร นครโต ภุตฺตปาตราสํ สุทฺธุตฺตราสงฺคํ มาลาคนฺธวิเลปนหตฺถํ พุทฺธทสฺสนตฺถํ ธมฺมสวนตฺถฺจ นิกฺขมนฺตํ มหาชนํ ทิสฺวา ‘‘กฺว คจฺฉถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘พุทฺธทสฺสนตฺถํ ธมฺมสวนตฺถฺจา’’ติ. เตน หิ ‘‘อหมฺปิ คจฺฉามี’’ติ คนฺตฺวา จตุพฺพิธาย ปริสาย ปริวุตํ พฺรหฺมสฺสเรน ธมฺมํ เทเสนฺตํ ภควนฺตํ อทฺทส. เตน วุตฺตํ – ‘‘อทฺทส โข…เป… เทเสนฺต’’นฺติ. ทิสฺวานสฺสาติ ทิสฺวาน อสฺส. เอตทโหสีติ ปุพฺเพ กตปุฺตาย โจทิยมานสฺส ภพฺพกุลปุตฺตสฺส เอตํ อโหสิ. กึ อโหสิ? ยํนูนาหมฺปิ ธมฺมํ สุเณยฺยนฺติ. ตตฺถ ยนฺนูนาติ ปริวิตกฺกทสฺสนเมตํ. เอวํ กิรสฺส ปริวิตกฺโก อุปฺปนฺโน ‘‘ยมยํ ปริสา เอกคฺคจิตฺตา ธมฺมํ สุณาติ, อโห วตาหมฺปิ ตํ สุเณยฺย’’นฺติ.

อถ โข สุทินฺโน กลนฺทปุตฺโต เยน สา ปริสาติ อิธ กสฺมา ‘‘เยน ภควา’’ติ อวตฺวา ‘‘เยน สา ปริสา’’ติ วุตฺตนฺติ เจ. ภควนฺตฺหิ ปริวาเรตฺวา อุฬารุฬารชนา มหตี ปริสา นิสินฺนา, ตตฺร น สกฺกา อิมินา ปจฺฉา อาคเตน ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา นิสีทิตุํ. ปริสาย ปน เอกสฺมึ ปเทเส สกฺกาติ โส ตํ ปริสํเยว อุปสงฺกมนฺโต. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข สุทินฺโน กลนฺทปุตฺโต เยน สา ปริสา’’ติ. เอกมนฺตํ นิสินฺนสฺส โข สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส เอตทโหสีติ น นิสินฺนมตฺตสฺเสว อโหสิ, อถ โข ภควโต สิตฺตยูปสํหิตํ โถกํ ธมฺมกถํ สุตฺวา; ตํ ปนสฺส ยสฺมา เอกมนฺตํ นิสินฺนสฺเสว อโหสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เอกมนฺตํ นิสินฺนสฺส โข สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส เอตทโหสี’’ติ. กึ อโหสีติ? ยถา ยถา โขติอาทิ.

ตตฺรายํ สงฺเขปกถา – อหํ โข เยน เยน อากาเรน ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, เตน เตน เม อุปปริกฺขโต เอวํ โหติ ยเทตํ สิตฺตยพฺรหฺมจริยํ เอกมฺปิ ทิวสํ อขณฺฑํ กตฺวา จริมกจิตฺตํ ปาเปตพฺพตาย เอกนฺตปริปุณฺณํ จริตพฺพํ, เอกทิวสมฺปิ จ กิเลสมเลน อมลีนํ กตฺวา จริมกจิตฺตํ ปาเปตพฺพตาย เอกนฺตปริสุทฺธํ. สงฺขลิขิตํ ลิขิตสงฺขสทิสํ โธตสงฺขสปฺปฏิภาคํ จริตพฺพํ. อิทํ น สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา อคารมชฺเฌ วสนฺเตน เอกนฺตปริปุณฺณํ…เป… จริตุํ. ยํนูนาหํ เกเส จ มสฺสุฺจ โอหาเรตฺวา กสายรสปีตตาย กาสายานิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตานํ อนุจฺฉวิกานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา ปริทหิตฺวา อคารสฺมา นิกฺขมิตฺวา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺยนฺติ. เอตฺถ จ ยสฺมา อคารสฺส หิตํ กสิวาณิชฺชาทิกมฺมํ อคาริยนฺติ วุจฺจติ, ตฺจ ปพฺพชฺชาย นตฺถิ; ตสฺมา ปพฺพชฺชา ‘‘อนคาริยา’’ติ าตพฺพา. ตํ อนคาริยํ ปพฺพชฺชํ. ปพฺพเชยฺยนฺติ ปริพฺพเชยฺยํ.

๒๕. อจิรวุฏฺิตาย ปริสาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ สุทินฺโน อวุฏฺิตาย ปริสาย น ภควนฺตํ ปพฺพชฺชํ ยาจิ. กสฺมา? ตตฺรสฺส พหู าติสาโลหิตา มิตฺตามจฺจา สนฺติ, เต ‘‘‘ตฺวํ มาตาปิตูนํ เอกปุตฺตโก, น ลพฺภา ตยา ปพฺพชิตุ’นฺติ พาหายมฺปิ คเหตฺวา อากฑฺเฒยฺยุํ, ตโต ปพฺพชฺชาย อนฺตราโย ภวิสฺสตี’’ติ สเหว ปริสาย อุฏฺหิตฺวา โถกํ คนฺตฺวา ปุน เกนจิ สรีรกิจฺจเลเสน นิวตฺติตฺวา ภควนฺตํ อุปสงฺกมฺม ปพฺพชฺชํ ยาจิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข สุทินฺโน กลนฺทปุตฺโต อจิรวุฏฺิตาย ปริสาย…เป… ปพฺพาเชตุ มํ ภควา’’ติ.

ภควา ปน ยสฺมา ราหุลกุมารสฺส ปพฺพชิตโต ปภุติ มาตาปิตูหิ อนนุฺาตํ ปุตฺตํ น ปพฺพาเชติ, ตสฺมา นํ ปุจฺฉิ – ‘‘อนุฺาโตสิ ปน ตฺวํ สุทินฺน มาตาปิตูหิ…เป… ปพฺพชฺชายา’’ติ.

๒๖. อิโต ปรํ ปาานุสาเรเนว คนฺตฺวา ตํ กรณียํ ตีเรตฺวาติ เอตฺถ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ – ธุรนิกฺเขเปเนว ตํ กรณียํ นิฏฺาเปตฺวาติ; น หิ ปพฺพชฺชาย ติพฺพจฺฉนฺทสฺส ภณฺฑปฺปโยชนอุทฺธารสารณาทีสุ วา นกฺขตฺตกีฬายํ วา จิตฺตํ นมติ. อมฺม ตาตาติ เอตฺถ ปน อมฺมาติ มาตรํ อาลปติ; ตาตาติ ปิตรํ. ตฺวํ โขสีติ ตฺวํ โข อสิ. เอกปุตฺตโกติ เอโกว ปุตฺตโก; อฺโ เต เชฏฺโ วา กนิฏฺโ วา นตฺถิ. เอตฺถ จ ‘‘เอกปุตฺโต’’ติ วตฺตพฺเพ อนุกมฺปาวเสน ‘‘เอกปุตฺตโก’’ติ วุตฺตํ. ปิโยติ ปีติชนนโก. มนาโปติ มนวฑฺฒนโก. สุเขธิโตติ สุเขน เอธิโต; สุขสํวฑฺฒิโตติ อตฺโถ. สุขปริหโตติ สุเขน ปริหโต; ชาตกาลโต ปภุติ ธาตีหิ องฺกโต องฺกํ หริตฺวา ธาริยมาโน อสฺสกรถกาทีหิ พาลกีฬนเกหิ กีฬมาโน สาทุรสโภชนํ โภชิยมาโน สุเขน ปริหโต.

น ตฺวํ, ตาต สุทินฺน, กิฺจิ ทุกฺขสฺส ชานาสีติ ตฺวํ ตาต สุทินฺน กิฺจิ อปฺปมตฺตกมฺปิ กลภาคํ ทุกฺขสฺส น ชานาสิ; อถ วา กิฺจิ ทุกฺเขน นานุโภสีติ อตฺโถ. กรณตฺเถ สามิวจนํ, อนุภวนตฺเถ จ ชานนา; อถ วา กิฺจิ ทุกฺขํ นสฺสรสีติ อตฺโถ. อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ, สรณตฺเถ จ ชานนา. วิกปฺปทฺวเยปิ ปุริมปทสฺส อุตฺตรปเทน สมานวิภตฺติโลโป ทฏฺพฺโพ. ตํ สพฺพํ สทฺทสตฺถานุสาเรน าตพฺพํ. มรเณนปิ มยํ เต อกามกา วินา ภวิสฺสามาติ สเจปิ ตว อมฺเหสุ ชีวมาเนสุ มรณํ ภเวยฺย, เตน เต มรเณนปิ มยํ อกามกา อนิจฺฉกา น อตฺตโน รุจิยา, วินา ภวิสฺสาม; ตยา วิโยคํ วา ปาปุณิสฺสามาติ อตฺโถ. กึ ปน มยํ ตนฺติ เอวํ สนฺเต กึ ปน กึ นาม ตํ การณํ เยน มยํ ตํ ชีวนฺตํ อนุชานิสฺสาม; อถ วา กึ ปน มยํ ตนฺติ เกน ปน การเณน มยํ ตํ ชีวนฺตํ อนุชานิสฺสามาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

๒๗. ตตฺเถวาติ ยตฺถ นํ ิตํ มาตาปิตโร นานุชานึสุ, ตตฺเถว าเน. อนนฺตรหิตายาติ เกนจิ อตฺถรเณน อนตฺถตาย.

๒๘. ปริจาเรหีติ คนฺธพฺพนฏนาฏกาทีนิ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา ตตฺถ สหายเกหิ สทฺธึ ยถาสุขํ อินฺทฺริยานิ จาเรหิ สฺจาเรหิ; อิโต จิโต จ อุปเนหีติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ปริจาเรหีติ คนฺธพฺพนฏนาฏกาทีนิ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา ตตฺถ สหายเกหิ สทฺธึ ลฬ, อุปลฬ, รม, กีฬสฺสูติปิ วุตฺตํ โหติ. กาเม ปริภุฺชนฺโตติ อตฺตโน ปุตฺตทาเรหิ สทฺธึ โภเค ภุฺชนฺโต. ปุฺานิ กโรนฺโตติ พุทฺธฺจ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ อารพฺภ ทานปฺปทานาทีนิ สุคติมคฺคโสธกานิ กุสลกมฺมานิ กโรนฺโต. ตุณฺหี อโหสีติ กถานุปฺปพนฺธวิจฺเฉทนตฺถํ นิราลาปสลฺลาโป อโหสิ. อถสฺส มาตาปิตโร ติกฺขตฺตุํ วตฺวา ปฏิวจนมฺปิ อลภมานา สหายเก ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘เอส โว สหายโก ปพฺพชิตุกาโม, นิวาเรถ น’’นฺติ อาหํสุ. เตปิ ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ติกฺขตฺตุํ อโวจุํ, เตสมฺปิ ตุณฺหี อโหสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส สหายกา…เป… ตุณฺหี อโหสี’’ติ.

๒๙. อถสฺส สหายกานํ เอตทโหสิ – ‘‘สเจ อยํ ปพฺพชฺชํ อลภมาโน มริสฺสติ น โกจิ คุโณ ภวิสฺสติ. ปพฺพชิตํ ปน นํ มาตาปิตโรปิ กาเลน กาลํ ปสฺสิสฺสนฺติ. มยมฺปิ ปสฺสิสฺสาม. ปพฺพชฺชาปิ จ นาเมสา ภาริยา, ทิวเส ทิวเส มตฺติกาปตฺตํ คเหตฺวา ปิณฺฑาย จริตพฺพํ. เอกเสยฺยํ เอกภตฺตํ พฺรหฺมจริยํ อติทุกฺกรํ. อยฺจ สุขุมาโล นาคริกชาติโย, โส ตํ จริตุํ อสกฺโกนฺโต ปุน อิเธว อาคมิสฺสติ. หนฺทสฺส มาตาปิตโร อนุชานาเปสฺสามา’’ติ. เต ตถา อกํสุ. มาตาปิตโรปิ นํ อนุชานึสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส สหายกา เยน สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส มาตาปิตโร…เป… อนุฺาโตสิ มาตาปิตูหิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติ.

๓๐. หฏฺโติ ตุฏฺโ. อุทคฺโคติ ปีติวเสน อพฺภุนฺนตกายจิตฺโต. กติปาหนฺติ กติปยานิ ทิวสานิ. พลํ คาเหตฺวาติ สปฺปายโภชนานิ ภุฺชนฺโต, อุจฺฉาทนนฺหาปนาทีหิ จ กายํ ปริหรนฺโต, กายพลํ ชเนตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา อสฺสุมุขํ าติปริวฏฺฏํ ปหาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ…เป… ปพฺพาเชตุ มํ ภนฺเต ภควาติ. ภควา สมีเป ิตํ อฺตรํ ปิณฺฑจาริกํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘เตน หิ ภิกฺขุ สุทินฺนํ ปพฺพาเชหิ เจว อุปสมฺปาเทหิ จา’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ปฏิสฺสุณิตฺวา สุทินฺนํ กลนฺทปุตฺตํ ชินทตฺติยํ สทฺธิวิหาริกํ ลทฺธา ปพฺพาเชสิ เจว อุปสมฺปาเทสิ จ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อลตฺถ โข สุทินฺโน กลนฺทปุตฺโต ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปท’’นฺติ.

เอตฺถ ปน ตฺวา สพฺพอฏฺกถาสุ ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ กถิตา. มยํ ปน ยถาิตปาฬิวเสเนว ขนฺธเก กถยิสฺสาม. น เกวลฺเจตํ, อฺมฺปิ ยํ ขนฺธเก วา ปริวาเร วา กเถตพฺพํ อฏฺกถาจริเยหิ วิภงฺเคกถิตํ, ตํ สพฺพํ ตตฺถ ตตฺเถว กถยิสฺสาม. เอวฺหิ กถิยมาเน ปาฬิกฺกเมเนว วณฺณนา กตา โหติ. ตโต เตน เตน วินิจฺฉเยน อตฺถิกานํ ปาฬิกฺกเมเนว อิมํ วินยสํวณฺณนํ โอโลเกตฺวา โส โส วินิจฺฉโย สุวิฺเยฺโย ภวิสฺสตีติ.

อจิรูปสมฺปนฺโนติ อจิรํ อุปสมฺปนฺโน หุตฺวา; อุปสมฺปทโต นจิรกาเลเยวาติ วุตฺตํ โหติ. เอวรูเปติ เอวํวิเธ เอวํชาติเก. ธุตคุเณติ กิเลสนิทฺธุนนเก คุเณ. สมาทาย วตฺตตีติ สมาทิยิตฺวา คณฺหิตฺวา วตฺตติ จรติ วิหรติ. อารฺิโก โหตีติ คามนฺตเสนาสนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อารฺิกธุตงฺควเสน อรฺวาสิโก โหติ. ปิณฺฑปาติโกติ อติเรกลาภปฏิกฺเขเปน จุทฺทส ภตฺตานิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปิณฺฑปาติกธุตงฺควเสน ปิณฺฑปาติโก โหติ. ปํสุกูลิโกติ คหปติจีวรํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปํสุกูลิกธุตงฺควเสน ปํสุกูลิโก โหติ. สปทานจาริโกติ โลลุปฺปจารํ ปฏิกฺขิปิตฺวา สปทานจาริกธุตงฺควเสน สปทานจาริโก โหติ; ฆรปฏิปาฏิยา ภิกฺขาย ปวิสติ. วชฺชิคามนฺติ วชฺชีนํ คามํ วชฺชีสุ วา คามํ.

อฑฺฒา มหทฺธนาติอาทีสุ อุปโภคปริโภคูปกรณมหนฺตตาย อฑฺฒา; เย หิ เตสํ อุปโภคา ยานิ จ อุปโภคูปกรณานิ, ตานิ มหนฺตานิ พหุลานิ สารกานีติ วุตฺตํ โหติ. นิเธตฺวา ปิตธนมหนฺตตาย มหทฺธนา. มหาโภคาติ ทิวสปริพฺพยสงฺขาตโภคมหนฺตตาย มหาโภคา. อฺเหิ อุปโภเคหิ ชาตรูปรชตสฺเสว ปหูตตาย ปหูตชาตรูปรชตา. อลงฺการภูตสฺส วิตฺตูปกรณสฺส ปีติปาโมชฺชกรณสฺส ปหูตตาย ปหูตวิตฺตูปกรณา. โวหารวเสน ปริวตฺเตนฺตสฺส ธนธฺสฺส ปหูตตาย ปหูตธนธฺาติ เวทิตพฺพา.

เสนาสนํ สํสาเมตฺวาติ เสนาสนํ ปฏิสาเมตฺวา; ยถา น วินสฺสติ ตถา นํ สุฏฺุ เปตฺวาติ อตฺโถ. สฏฺิมตฺเต ถาลิปาเกติ คณนปริจฺเฉทโต สฏฺิถาลิปาเก. เอกเมโก เจตฺถ ถาลิปาโก ทสนฺนํ ภิกฺขูนํ ภตฺตํ คณฺหาติ. ตํ สพฺพมฺปิ ฉนฺนํ ภิกฺขุสตานํ ภตฺตํ โหติ. ภตฺตาภิหารํ อภิหรึสูติ เอตฺถ อภิหรียตีติ อภิหาโร. กึ อภิหรียติ? ภตฺตํ. ภตฺตเมว อภิหาโร ภตฺตาภิหาโร, ตํ ภตฺตาภิหารํ. อภิหรึสูติ อภิมุขา หรึสุ. ตสฺส สนฺติกํ คเหตฺวา อาคมํสูติ อตฺโถ. เอตสฺส กึ ปมาณนฺติ? สฏฺิ ถาลิปากา. เตน วุตฺตํ – ‘‘สฏฺิมตฺเต ถาลิปาเก ภตฺตาภิหารํ อภิหรึสู’’ติ. ภิกฺขูนํ วิสฺสชฺเชตฺวาติ สยํ อุกฺกฏฺปิณฺฑปาติกตฺตา สปทานจารํ จริตุกาโม ภิกฺขูนํ ปริโภคตฺถาย ปริจฺจชิตฺวา ทตฺวา. อยํ หิ อายสฺมา ‘‘ภิกฺขู จ ลาภํ ลจฺฉนฺติ อหฺจ ปิณฺฑเกน น กิลมิสฺสามี’’ติ เอตทตฺถเมว อาคโต. ตสฺมา อตฺตโน อาคมนานุรูปํ กโรนฺโต ภิกฺขูนํ วิสฺสชฺเชตฺวา สยํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ.

๓๑. าติทาสีติ าตกานํ ทาสี. อาภิโทสิกนฺติ ปาริวาสิกํ เอกรตฺตาติกฺกนฺตํ ปูติภูตํ. ตตฺรายํ ปทตฺโถ – ปูติภาวโทเสน อภิภูโตติ อภิโทโส, อภิโทโสว อาภิโทสิโก, เอกรตฺตาติกฺกนฺตสฺส วา นามสฺา เอสา, ยทิทํ อาภิโทสิโกติ, ตํ อาภิโทสิกํ. กุมฺมาสนฺติ ยวกุมฺมาสํ. ฉฑฺเฑตุกามา โหตีติ ยสฺมา อนฺตมโส ทาสกมฺมกรานมฺปิ โครูปานมฺปิ อปริโภคารโห, ตสฺมา ตํ กจวรํ วิย พหิ ฉฑฺเฑตุกามา โหติ. สเจตนฺติ สเจ เอตํ. ภคินีติ อริยโวหาเรน าติทาสึ อาลปติ. ฉฑฺฑนียธมฺมนฺติ ฉฑฺเฑตพฺพสภาวํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ภคินิ, เอตํ สเจ พหิ ฉฑฺฑนียธมฺมํ นิสฺสฏฺปริคฺคหํ, ตํ อิธ เม ปตฺเต อากิรา’’ติ.

กึ ปน เอวํ วตฺตุํ ลพฺภติ, วิฺตฺติ วา ปยุตฺตวาจา วา น โหตีติ? น โหติ. กสฺมา? นิสฺสฏฺปริคฺคหตฺตา. ยฺหิ ฉฑฺฑนียธมฺมํ นิสฺสฏฺปริคฺคหํ, ยตฺถ สามิกา อนาลยา โหนฺติ, ตํ สพฺพํ ‘‘เทถ อาหรถ อิธ อากิรถา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ตถา หิ อคฺคอริยวํสิโก อายสฺมา รฏฺปาโลปิ ‘‘ฉฑฺฑนียธมฺมํ กุมฺมาสํ อิธ เม ปตฺเต อากิรา’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๙๙) อวจ. ตสฺมา ยํ เอวรูปํ ฉฑฺฑนียธมฺมํ อฺํ วา อปริคฺคหิตํ วนมูลผลเภสชฺชาทิกํ ตํ สพฺพํ ยถาสุขํ อาหราเปตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ, น กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ. หตฺถานนฺติ ภิกฺขาคฺคหณตฺถํ ปตฺตํ อุปนามยโต มณิพนฺธโต ปภุติ ทฺวินฺนมฺปิ หตฺถานํ. ปาทานนฺติ นิวาสนนฺตโต ปฏฺาย ทฺวินฺนมฺปิ ปาทานํ. สรสฺสาติ ‘‘สเจตํ ภคินี’’ติ วาจํ นิจฺฉารยโต สรสฺส จ. นิมิตฺตํ อคฺคเหสีติ คิหิกาเล สลฺลกฺขิตปุพฺพํ อาการํ อคฺคเหสิ สฺชานิ สลฺลกฺเขสิ. สุทินฺโน หิ ภควโต ทฺวาทสเม วสฺเส ปพฺพชิโต วีสติเม วสฺเส าติกุลํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺโ สยํ ปพฺพชฺชาย อฏฺวสฺสิโก หุตฺวา; เตน นํ สา าติทาสี ทิสฺวาว น สฺชานิ, นิมิตฺตํ ปน อคฺคเหสีติ.

สุทินฺนสฺส มาตรํ เอตทโวจาติ อติครุนา ปพฺพชฺชูปคเตน สามิปุตฺเตน สทฺธึ ‘‘ตฺวํ นุ โข เม, ภนฺเต, อยฺโย สุทินฺโน’’ติอาทิวจนํ วตฺตุํ อวิสหนฺตี เวเคน ฆรํ ปวิสิตฺวา สุทินฺนสฺส มาตรํ เอตํ อโวจ. ยคฺเฆติ อาโรจนตฺเถ นิปาโต. สเจ เช สจฺจนฺติ เอตฺถ เชติ อาลปเน นิปาโต. เอวฺหิ ตสฺมึ เทเส ทาสิชนํ อาลปนฺติ, ตสฺมา ‘‘ตฺวํ, โภติ ทาสิ, สเจ สจฺจํ ภณสี’’ติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

๓๒. อฺตรํ กุฏฺฏมูลนฺติ ตสฺมึ กิร เทเส ทานปตีนํ ฆเรสุ สาลา โหนฺติ, อาสนานิ เจตฺถ ปฺตฺตานิ โหนฺติ, อุปฏฺาปิตํ อุทกกฺชิยํ; ตตฺถ ปพฺพชิตา ปิณฺฑาย จริตฺวา นิสีทิตฺวา ภุฺชนฺติ. สเจ อิจฺฉนฺติ, ทานปตีนมฺปิ สนฺตกํ คณฺหนฺติ. ตสฺมา ตมฺปิ อฺตรสฺส กุลสฺส อีทิสาย สาลาย อฺตรํ กุฏฺฏมูลนฺติ เวทิตพฺพํ. น หิ ปพฺพชิตา กปณมนุสฺสา วิย อสารุปฺเป าเน นิสีทิตฺวา ภุฺชนฺตีติ.

อตฺถิ นาม ตาตาติ เอตฺถ อตฺถีติ วิชฺชมานตฺเถ; นามาติ ปุจฺฉนตฺเถ มฺนตฺเถ จ นิปาโต. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อตฺถิ นุ โข, ตาต สุทินฺน, อมฺหากํ ธนํ, น มยํ นิทฺธนาติ วตฺตพฺพา, เยสํ โน ตฺวํ อีทิเส าเน นิสีทิตฺวา อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ ปริภุฺชิสฺสสิ’’; ตถา ‘‘อตฺถิ นุ โข, ตาต สุทินฺน, อมฺหากํ ชีวิตํ, น มยํ มตาติ วตฺตพฺพา, เยสํ โน ตฺวํ อีทิเส าเน นิสีทิตฺวา อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ ปริภุฺชิสฺสสิ’’; ตถา ‘‘อตฺถิ มฺเ, ตาต สุทินฺน, ตว อพฺภนฺตเร สาสนํ นิสฺสาย ปฏิลทฺโธ สมณคุโณ, ยํ ตฺวํ สุโภชนรสสํวฑฺฒิโตปิ อิมํ ชิคุจฺฉเนยฺยํ อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ อมตมิว นิพฺพิกาโร ปริภุฺชิสฺสสี’’ติ.

โส ปน คหปติ ทุกฺขาภิตุนฺนตาย เอตมตฺถํ ปริปุณฺณํ กตฺวา วตฺตุมสกฺโกนฺโต ‘‘อตฺถิ นาม, ตาต สุทินฺน, อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ ปริภุฺชิสฺสสี’’ติ เอตฺตกเมว อโวจ. อกฺขรจินฺตกา ปเนตฺถ อิมํ ลกฺขณํ วทนฺติ – อโนกปฺปนามริสนตฺถวเสน เอตํ อตฺถินามสทฺเท อุปปเท ‘‘ปริภุฺชิสฺสสี’’ติ อนาคตวจนํ กตํ. ตสฺสายมตฺโถ – อตฺถิ นาม…เป… ปริภุฺชิสฺสสิ, อิทํ ปจฺจกฺขมฺปิ อหํ น สทฺทหามิ น มริสยามีติ. ตตายํ อาภิโทสิโกติ ตโต ตว เคหโต อยํ อาภิโทสิโก กุมฺมาโส ลทฺโธติ อตฺโถ. ตโตยนฺติปิ ปาโ. ตทายนฺติปิ ปนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. เยน สกปิตุ นิเวสนนฺติ เยน สกสฺส ปิตุ อตฺตโน ปิตุ นิเวสนนฺติ อตฺโถ; เถโร ปิตริ เปเมเนว สุพฺพโจ หุตฺวา อคมาสิ. อธิวาเสสีติ เถโร อุกฺกฏฺปิณฺฑปาติโกปิ สมาโน ‘‘สเจ เอกภตฺตมฺปิ น คเหสฺสามิ, อติวิย เนสํ โทมนสฺสํ ภวิสฺสตี’’ติ าตีนํ อนุกมฺปาย อธิวาเสสิ.

๓๓. โอปุฺชาเปตฺวาติ อุปลิมฺปาเปตฺวา. เอกํ หิรฺสฺสาติ เอตฺถ หิรฺนฺติ กหาปโณ เวทิตพฺโพ. ปุริโสติ นาติทีโฆ นาติรสฺโส มชฺฌิมปฺปมาโณ เวทิตพฺโพ. ติโรกรณียนฺติ กรณตฺเถ ภุมฺมํ; สาณิปากาเรน ปริกฺขิปิตฺวาติ อตฺโถ. อถ วา ติโร กโรนฺติ เอเตนาติ ติโรกรณียํ, ตํ ปริกฺขิปิตฺวา; สมนฺตโต กตฺวาติ อตฺโถ. เตน หีติ ยสฺมา อชฺช สุทินฺโน อาคมิสฺสติ เตน การเณน. หิ อิติ ปทปูรณมตฺเต นิปาโต. เตนาติ อยมฺปิ วา อุยฺโยชนตฺเถ นิปาโตเยว.

๓๔. ปุพฺพณฺหสมยนฺติ เอตฺถ กิฺจาปิ ปาฬิยํ กาลาโรจนํ น วุตฺตํ, อถ โข อาโรจิเตเยว กาเล อคมาสีติ เวทิตพฺโพ. อิทํ เต ตาตาติ ทฺเว ปุฺเช ทสฺเสนฺโต อาห. มาตูติ ชเนตฺติยา. มตฺติกนฺติ มาติโต อาคตํ; อิทํ เต มาตามหิยา มาตุ อิมํ เคหํ อาคจฺฉนฺติยา ทินฺนธนนฺติ อตฺโถ. อิตฺถิกาย อิตฺถิธนนฺติ หีเฬนฺโต อาห. อิตฺถิกาย นาม อิตฺถิปริโภคานํเยว นฺหานจุณฺณาทีนํ อตฺถาย ลทฺธํ ธนํ กิตฺตกํ ภเวยฺย. ตสฺสาปิ ตาว ปริมาณํ ปสฺส. อถ วา อิทํ เต ตาต สุทินฺน มาตุ ธนํ, ตฺจ โข มตฺติกํ, น มยา ทินฺนํ, ตว มาตุเยว สนฺตกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตํ ปเนตํ น กสิยา น วณิชฺชาย สมฺภูตํ, อปิจ โข อิตฺถิกาย อิตฺถิธนํ. ยํ อิตฺถิกาย าติกุลโต สามิกกุลํ คจฺฉนฺติยา ลทฺธพฺพํ นฺหานจุณฺณาทีนํ อตฺถาย อิตฺถิธนํ, ตํ ตาว เอตฺตกนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

อฺํ เปตฺติกํ อฺํ ปิตามหนฺติ ยํ ปน เต ปิตุ จ ปิตามหานฺจ สนฺตกํ, ตํ อฺํเยว. นิหิตฺจ ปยุตฺตฺจ อติวิย พหุ; เอตฺถ จ ปิตามหนฺติ ตทฺธิตโลปํ กตฺวา เวทิตพฺพํ. เปตามหนฺติ วา ปาโ. ลพฺภา ตาต สุทินฺน หีนายาวตฺติตฺวาติ ตาต, สุทินฺน, อุตฺตมํ อริยทฺธชํ ปพฺพชิตลิงฺคํ ปหาย หีนาย คิหิภาวาย อาวตฺติตฺวา ลพฺภา โภคา ภุฺชิตุํ, นาลพฺภา ภุฺชิตุํ, น ตฺวํ ราชภีโต ปพฺพชิโต, น อิณายิเกหิ ปลิพุทฺโธ หุตฺวาติ. ตาต น อุสฺสหามีติ เอตฺถ ปน ตาตาติ วจนํ เคหสิตเปเมน อาห, น สมณเตเชน. น อุสฺสหามีติ น สกฺโกมิ. น วิสหามีติ นปฺปโหมิ, น สมตฺโถมฺหิ.

‘‘วเทยฺยาม โข ตํ คหปตี’’ติ อิทํ ปน วจนํ สมณเตเชนาห. นาติกฑฺเฒยฺยาสีติ ยํ เต มยิ เปมํ ปติฏฺิตํ, ตํ โกธวเสน น อติกฑฺเฒยฺยาสิ; สเจ น กุชฺเฌยฺยาสีติ วุตฺตํ โหติ. ตโต เสฏฺิ ‘‘ปุตฺโต เม สงฺคหํ มฺเ กตฺตุกาโม’’ติ อุทคฺคจิตฺโต อาห – ‘‘วเทหิ ตาต สุทินฺนา’’ติ. เตนหีติ อุยฺโยชนตฺเถ วิภตฺติปติรูปโก นิปาโต. ตโตนิทานนฺติ ตํนิทานํ ตํเหตุกนฺติ ปจฺจตฺตวจนสฺส โต-อาเทโส เวทิตพฺโพ; สมาเส จสฺส โลปาภาโว. ภยํ วาติ ‘‘กินฺติ เม โภเค เนว ราชาโน หเรยฺยุ’’นฺติอาทินา นเยน วุตฺตํ ราชาทิภยํ; จิตฺตุตฺราโสติ อตฺโถ. ฉมฺภิตตฺตนฺติ ราชูหิ วา โจเรหิ วา ‘‘ธนํ เทหี’’ติ กมฺมการณํ การิยมานสฺส กายิฺชนํ กายกมฺโป หทยมํสจลนํ. โลมหํโสติ อุปฺปนฺเน ภเย โลมานํ หํสนํ อุทฺธคฺคภาโว. อารกฺโขติ อนฺโต จ พหิ จ รตฺติฺจ ทิวา จ อารกฺขณํ.

๓๕. เตน หิ วธูติ เสฏฺิ คหปติ ธนํ ทสฺเสตฺวา ปุตฺตํ อตฺตนา คิหิภาวตฺถาย ปโลเภตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘มาตุคามสทิสํ ทานิ ปุริสานํ พนฺธนํ นตฺถี’’ติ มฺิตฺวา ตสฺส ปุราณทุติยิกํ อามนฺเตสิ – ‘‘เตน หิ วธู’’ติ. ปุราณทุติยิกนฺติ ปุราณํ ทุติยิกํ ปุพฺเพ คิหิกาเล ทุติยิกํ, เคหสิตสุขุปโภคสหายิกํ ภูตปุพฺพภริยนฺติ อตฺโถ. เตน หีติ เยน การเณน มาตุคามสทิสํ พนฺธนํ นตฺถิ. ปาเทสุ คเหตฺวาติ ปาเท คเหตฺวา; อุปโยคตฺเถ ภุมฺมวจนํ, ปาเทสุ วา ตํ คเหตฺวา. ‘‘กีทิสา นาม ตา อยฺยปุตฺต อจฺฉราโย’’ติ กสฺมา เอวมาห? ตทา กิร สมฺพหุเล ขตฺติยกุมาเรปิ พฺราหฺมณกุมาเรปิ เสฏฺิปุตฺเตปิ มหาสมฺปตฺติโย ปหาย ปพฺพชนฺเต ทิสฺวา ปพฺพชฺชาคุณํ อชานนฺตา กถํ สมุฏฺาเปนฺติ – ‘‘กสฺมา เอเต ปพฺพชนฺตี’’ติ. อถฺเ วทนฺติ – ‘‘เทวจฺฉรานํ เทวนาฏกานํ การณา’’ติ. สา กถา วิตฺถาริกา อโหสิ. ตํ คเหตฺวา อยํ เอวมาหาติ. เถโร ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต น โข อหํ ภคินีติ อาห. สมุทาจรตีติ โวหรติ วเทติ. ตตฺเถว มุจฺฉิตา ปปตาติ นํ ภคินิวาเทน สมุทาจรนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อนตฺถิโก ทานิ มยา อยํ โย มํ ปชาปตึ สมานํ อตฺตนา สทฺธึ เอกมาตุกุจฺฉิยา สยิตทาริกํ วิย มฺตี’’ติ สมุปฺปนฺนพลวโสกา หุตฺวา ตสฺมึเยว ปเทเส มุจฺฉิตา ปปตา; ปติตาติ อตฺโถ.

มา โน วิเหยิตฺถาติ มา อมฺเห ธนํ ทสฺเสตฺวา มาตุคามฺจ อุยฺโยเชตฺวา วิเหยิตฺถ; วิเหสา เหสา ปพฺพชิตานนฺติ. เตน หิ ตาต สุทินฺน พีชกมฺปิ เทหีติ เอตฺถ เตน หีติ อภิรติยํ อุยฺโยเชติ. สเจ ตฺวํ อภิรโต พฺรหฺมจริยํ จรสิ, จริตฺวา อากาเส นิสีทิตฺวา ปรินิพฺพายิตา โหหิ, อมฺหากํ ปน กุลวํสพีชกํ เอกํ ปุตฺตํ เทหิ. มา โน อปุตฺตกํ สาปเตยฺยํ ลิจฺฉวโย อติหราเปสุนฺติ มยฺหิ ลิจฺฉวีนํ คณราชูนํ รชฺเช วสาม, เต เต ปิตุโน อจฺจเยน อิมํ สาปเตยฺยํ เอวํ มหนฺตํ อมฺหากํ วิภวํ อปุตฺตกํ กุลธนรกฺขเกน ปุตฺเตน วิรหิตํ อตฺตโน ราชนฺเตปุรํ อติหราเปยฺยุนฺติ, ตํ เต มา อติหราเปสุํ, มา อติหราเปนฺตูติ.

เอตํ โข เม, อมฺม, สกฺกา กาตุนฺติ กสฺมา เอวมาห? โส กิร จินฺเตสิ – ‘‘เอเตสํ สาปเตยฺยสฺส อหเมว สามี, อฺโ นตฺถิ. เต มํ สาปเตยฺยรกฺขณตฺถาย นิจฺจํ อนุพนฺธิสฺสนฺติ; เตนาหํ น ลจฺฉามิ อปฺโปสฺสุกฺโก สมณธมฺมํ กาตุํ, ปุตฺตกํ ปน ลภิตฺวา โอรมิสฺสนฺติ, ตโต อหํ ยถาสุขํ สมณธมฺมํ กริสฺสามี’’ติ อิมํ นยํ ปสฺสนฺโต เอวมาหาติ.

๓๖. ปุปฺผนฺติ อุตุกาเล อุปฺปนฺนโลหิตสฺส นามํ. มาตุคามสฺส หิ อุตุกาเล คพฺภปติฏฺานฏฺาเน โลหิตวณฺณา ปิฬกา สณฺหิตฺวา สตฺต ทิวสานิ วฑฺฒิตฺวา ภิชฺชนฺติ, ตโต โลหิตํ ปคฺฆรติ, ตสฺเสตํ นามํ ‘‘ปุปฺผ’’นฺติ. ตํ ปน ยาว พลวํ โหติ พหุ ปคฺฆรติ, ตาว ทินฺนาปิ ปฏิสนฺธิ น ติฏฺติ, โทเสเนว สทฺธึ ปคฺฆรติ; โทเส ปน ปคฺฆริเต สุทฺเธ วตฺถุมฺหิ ทินฺนา ปฏิสนฺธิ ขิปฺปํ ปติฏฺาติ. ปุปฺผํสา อุปฺปชฺชีติ ปุปฺผํ อสฺสา อุปฺปชฺชิ; อการโลเปน สนฺธิ ปุราณทุติยิกาย พาหายํ คเหตฺวาติ ปุราณทุติยิกาย ยา พาหา, ตตฺร นํ คเหตฺวาติ อตฺโถ.

อปฺตฺเต สิกฺขาปเทติ ปมปาราชิกสิกฺขาปเท อฏฺปิเต. ภควโต กิร ปมโพธิยํ วีสติ วสฺสานิ ภิกฺขู จิตฺตํ อาราธยึสุ, น เอวรูปํ อชฺฌาจารมกํสุ. ตํ สนฺธาเยว อิทํ สุตฺตมาห – ‘‘อาราธยึสุ วต เม, ภิกฺขเว, ภิกฺขู เอกํ สมยํ จิตฺต’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๒๕). อถ ภควา อชฺฌาจารํ อปสฺสนฺโต ปาราชิกํ วา สงฺฆาทิเสสํ วา น ปฺเปสิ. ตสฺมึ ตสฺมึ ปน วตฺถุสฺมึ อวเสเส ปฺจ ขุทฺทกาปตฺติกฺขนฺเธ เอว ปฺเปสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อปฺตฺเต สิกฺขาปเท’’ติ.

อนาทีนวทสฺโสติ ยํ ภควา อิทานิ สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺโต อาทีนวํ ทสฺเสสฺสติ, ตํ อปสฺสนฺโต อนวชฺชสฺี หุตฺวา. สเจ หิ ‘‘อยํ อิทํ น กรณียนฺติ วา มูลจฺเฉชฺชาย วา สํวตฺตตี’’ติ ชาเนยฺย, สทฺธาปพฺพชิโต กุลปุตฺโต ตโตนิทานํ ชีวิตกฺขยํ ปาปุณนฺโตปิ น กเรยฺย. เอตฺถ ปน อาทีนวํ อปสฺสนฺโต นิทฺโทสสฺี อโหสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อนาทีนวทสฺโส’’ติ. ปุราณทุติยิกายาติ ภุมฺมวจนํ. อภิวิฺาเปสีติ ปวตฺเตสิ; ปวตฺตนาปิ หิ กายวิฺตฺติโจปนโต ‘‘วิฺาปนา’’ติ วุจฺจติ. ติกฺขตฺตุํ อภิวิฺาปนฺเจส คพฺภสณฺานสนฺนิฏฺานตฺถมกาสีติ เวทิตพฺโพ.

สา เตน คพฺภํ คณฺหีติ สา จ เตเนว อชฺฌาจาเรน คพฺภํ คณฺหิ, น อฺถา. กึ ปน อฺถาปิ คพฺภคฺคหณํ โหตีติ? โหติ. กถํ? กายสํสคฺเคน, โจฬคฺคหเณน, อสุจิปาเนน, นาภิปรามสเนน, รูปทสฺสเนน, สทฺเทน, คนฺเธน. อิตฺถิโย หิ เอกจฺจา อุตุสมเย ฉนฺทราครตฺตา ปุริสานํ หตฺถคฺคาห-เวณิคฺคาห-องฺคปจฺจงฺคปรามสนํ สาทิยนฺติโยปิ คพฺภํ คณฺหนฺติ. เอวํ กายสํสคฺเคน คพฺภคฺคหณํ โหติ.

อุทายิตฺเถรสฺส ปน ปุราณทุติยิกา ภิกฺขุนี ตํ อสุจึ เอกเทสํ มุเขน อคฺคเหสิ, เอกเทสํ โจฬเกเนว สทฺธึ องฺคชาเต ปกฺขิปิ. สา เตน คพฺภํ คณฺหิ. เอวํ โจฬคฺคหเณน คพฺภคฺคหณํ โหติ.

มิคสิงฺคตาปสสฺส มาตา มิคี อุตุสมเย ตาปสสฺส ปสฺสาวฏฺานํ อาคนฺตฺวา สสมฺภวํ ปสฺสาวํ ปิวิ. สา เตน คพฺภํ คณฺหิตฺวา มิคสิงฺคํ วิชายิ. เอวํ อสุจิปาเนน คพฺภคฺคหณํ โหติ.

สามสฺส ปน โพธิสตฺตสฺส มาตาปิตูนํ จกฺขุปริหานึ ตฺวา สกฺโก ปุตฺตํ ทาตุกาโม ทุกูลปณฺฑิตํ อาห – ‘‘วฏฺฏติ ตุมฺหากํ เมถุนธมฺโม’’ติ? ‘‘อนตฺถิกา มยํ เอเตน, อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตามฺหา’’ติ. ‘‘เตน หิ อิมิสฺสา อุตุสมเย องฺคุฏฺเน นาภึ ปรามเสยฺยาถา’’ติ. โส ตถา อกาสิ. สา เตน คพฺภํ คณฺหิตฺวา สามํ ตาปสทารกํ วิชายิ. เอวํ นาภิปรามสเนน คพฺภคฺคหณํ โหติ. เอเตเนว นเยน มณฺฑพฺยสฺส จ จณฺฑปชฺโชตสฺส จ วตฺถุ เวทิตพฺพํ.

กถํ รูปทสฺสเนน โหติ? อิเธกจฺจา อิตฺถี อุตุสมเย ปุริสสํสคฺคํ อลภมานา ฉนฺทราควเสน อนฺโตเคหคตาว ปุริสํ อุปนิชฺฌายติ ราโชโรธา วิย, สา เตน คพฺภํ คณฺหาติ. เอวํ รูปทสฺสเนน คพฺภคฺคหณํ โหติ.

พลากาสุ ปน ปุริโส นาม นตฺถิ, ตา อุตุสมเย เมฆสทฺทํ สุตฺวา คพฺภํ คณฺหนฺติ. กุกฺกุฏิโยปิ กทาจิ เอกสฺส กุกฺกุฏสฺส สทฺทํ สุตฺวา พหุกาปิ คพฺภํ คณฺหนฺติ. ตถา คาวี อุสภสฺส. เอวํ สทฺเทน คพฺภคฺคหณํ โหติ.

คาวี เอว จ กทาจิ อุสภคนฺเธน คพฺภํ คณฺหนฺติ. เอวํ คนฺเธน คพฺภคฺคหณํ โหติ.

อิธ ปนายํ อชฺฌาจาเรน คพฺภํ คณฺหิ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺติ, มาตา จ อุตุนี โหติ, คนฺธพฺโพ จ ปจฺจุปฏฺิโต โหติ, เอวํ ติณฺณํ สนฺนิปาตา คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๐๘).

ภุมฺมา เทวา สทฺทมนุสฺสาเวสุนฺติ ยสฺมา นตฺถิ โลเก รโห นาม ปาปกมฺมํ ปกุพฺพโต. สพฺพปมํ หิสฺส ตํ ปาปํ อตฺตนา ชานาติ, ตโต อารกฺขเทวตา, อถฺาปิ ปรจิตฺตวิทุนิโย เทวตา. ตสฺมาสฺส ปรจิตฺตวิทู สกลวนสณฺฑนิสฺสิตา ภุมฺมา เทวา ตํ อชฺฌาจารํ ทิสฺวา สทฺทํ อนุสฺสาเวสุํ. ยถา อฺเปิ เทวา สุณนฺติ, ตถา นิจฺฉาเรสุํ. กินฺติ? นิรพฺพุโท วต, โภ…เป… อาทีนโว อุปฺปาทิโตติ. ตสฺสตฺโถ เวรฺชกณฺเฑ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

ภุมฺมานํ เทวานํ สทฺทํ สุตฺวา จาตุมหาราชิกาติ เอตฺถ ปน ภุมฺมานํ เทวานํ สทฺทํ อากาสฏฺเทวตา อสฺโสสุํ; อากาสฏฺานํ จาตุมหาราชิกาติ อยมนุกฺกโม เวทิตพฺโพ. พฺรหฺมกายิกาติ อสฺสตฺเต จ อรูปาวจเร จ เปตฺวา สพฺเพปิ พฺรหฺมาโน อสฺโสสุํ; สุตฺวา จ สทฺทมนุสฺสาเวสุนฺติ เวทิตพฺโพ. อิติห เตน ขเณนาติ เอวํ เตน สุทินฺนสฺส อชฺฌาจารกฺขเณน. เตน มุหุตฺเตนาติ อชฺฌาจารมุหุตฺเตเนว. ยาว พฺรหฺมโลกาติ ยาว อกนิฏฺพฺรหฺมโลกา. อพฺภุคฺคจฺฉีติ อภิอุคฺคจฺฉิ อพฺภุฏฺาสิ เอกโกลาหลมโหสีติ.

ปุตฺตํ วิชายีติ สุวณฺณพิมฺพสทิสํ ปจฺฉิมภวิกสตฺตํ ชเนสิ. พีชโกติ นามมกํสูติ น อฺํ นามํ กาตุมทํสุ, ‘‘พีชกมฺปิ เทหี’’ติ มาตามหิยา วุตฺตภาวสฺส ปากฏตฺตา ‘‘พีชโก ตฺเววสฺส นามํ โหตู’’ติ ‘‘พีชโก’’ติ นามมกํสุ. ปุตฺตสฺส ปน นามวเสเนว จ มาตาปิตูนมฺปิสฺส นามมกํสุ. เต อปเรน สมเยนาติ พีชกฺจ พีชกมาตรฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. พีชกสฺส กิร สตฺตฏฺวสฺสกาเล ตสฺส มาตา ภิกฺขุนีสุ โส จ ภิกฺขูสุ ปพฺพชิตฺวา กลฺยาณมิตฺเต อุปนิสฺสาย อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อุโภ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉากํสู’’ติ.

๓๗. เอวํ มาตาปุตฺตานํ ปพฺพชฺชา สผลา อโหสิ. ปิตา ปน วิปฺปฏิสาราภิภูโต วิหาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺสอหุเทว กุกฺกุจฺจ’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อหุเทวาติ อหุ เอว, ทกาโร ปทสนฺธิกโร. อโหสิเยวาติ อตฺโถ. กุกฺกุจฺจนฺติ อชฺฌาจารเหตุโก ปจฺฉานุตาโป. วิปฺปฏิสาโรติปิ ตสฺเสว นามํ. โส หิ วิฺูหิ อกตฺตพฺพตาย กุจฺฉิตกิริยภาวโต กุกฺกุจฺจํ. กตํ อชฺฌาจารํ นิวตฺเตตุํ อสมตฺถตาย ตํ ปฏิจฺจ วิรูปํ สรณภาวโต วิปฺปฏิสาโรติ วุจฺจติ. อลาภา วต เมติ มยฺหํ วต อลาภา; เย ฌานาทีนํ คุณานํ อลาภา นาม, เต มยฺหํ, น อฺสฺสาติ อธิปฺปาโย. น วต เม ลาภาติ เยปิ เม ปฏิลทฺธา ปพฺพชฺชสรณคมนสิกฺขาสมาทานคุณา, เตปิ เนว มยฺหํ ลาภา อชฺฌาจารมลีนตฺตา. ทุลฺลทฺธํ วต เมติ อิทํ สาสนํ ลทฺธมฺปิ เม ทุลฺลทฺธํ. น วต เม สุลทฺธนฺติ ยถา อฺเสํ กุลปุตฺตานํ, เอวํ น วต เม สุลทฺธํ. กสฺมา? ยมหํ เอวํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย…เป… พฺรหฺมจริยํ จริตุนฺติ. พฺรหฺมจริยนฺติ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ มคฺคพฺรหฺมจริยํ. กิโส อโหสีติ ขาทิตุํ วา ภุฺชิตุํ วา อสกฺโกนฺโต ตนุโก อโหสิ อปฺปมํสโลหิโต. อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโตติ สฺชาตุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกภาโว ปณฺฑุปลาสปฺปฏิภาโค. ธมนิสนฺถตคตฺโตติ ปริยาทินฺนมํสโลหิตตฺตา สิราชาเลเนว สนฺถริตคตฺโต. อนฺโตมโนติ อนุโสจนวเสน อพฺภนฺตเรเยว ิตจิตฺโต. หทยวตฺถุํ นิสฺสาย ปวตฺตนวเสน ปน สพฺเพปิ อนฺโตมนาเยว. ลีนมโนติ อุทฺเทเส ปริปุจฺฉาย กมฺมฏฺาเน อธิสีเล อธิจิตฺเต อธิปฺาย วตฺตปฏิปตฺติปูรเณ จ นิกฺขิตฺตธุโร อวิปฺผาริโก อฺทตฺถุ โกสชฺชวเสเนว ลีโน สงฺกุจิโต มโน อสฺสาติ ลีนมโน. ทุกฺขีติ เจโตทุกฺเขน ทุกฺขี. ทุมฺมโนติ โทเสน ทุฏฺมโน, วิรูปมโน วา โทมนสฺสาภิภูตตาย. ปชฺฌายีติ วิปฺปฏิสารวเสน วหจฺฉินฺโน วิย คทฺรโภ ตํ ตํ จินฺตยิ.

๓๘. สหายกา ภิกฺขูติ ตํ เอวํภูตํ คณสงฺคณิกาปปฺเจน วีตินาเมนฺตํ ทิสฺวา ยสฺส วิสฺสาสิกา กถาผาสุกา ภิกฺขู เต นํ เอตทโวจุํ. ปีณินฺทฺริโยติ ปสาทปติฏฺาโนกาสสฺส สมฺปุณฺณตฺตา ปริปุณฺณจกฺขุอาทิอินฺทฺริโย. โส ทานิ ตฺวนฺติ เอตฺถ ทานีติ นิปาโต, โส ปน ตฺวนฺติ วุตฺตํ โหติ. กจฺจิโน ตฺวนฺติ กจฺจิ นุ ตฺวํ. อนภิรโตติ อุกฺกณฺิโต; คิหิภาวํ ปตฺถยมาโนติ อตฺโถ. ตสฺมา ตเมว อนภิรตึ ปฏิกฺขิปนฺโต อาห – ‘‘น โข อหํ, อาวุโส, อนภิรโต’’ติ. อธิกุสลานํ ปน ธมฺมานํ ภาวนาย อภิรโตว อหนฺติ. อตฺถิ เม ปาปกมฺมํ กตนฺติ มยา กตํ เอกํ ปาปกมฺมํ อตฺถิ อุปลพฺภติ สํวิชฺชติ, นิจฺจกาลํ อภิมุขํ วิย เม ติฏฺติ. อถ นํ ปกาเสนฺโต ‘‘ปุราณทุติยิกายา’’ติอาทิมาห.

อลฺหิ เต, อาวุโส สุทินฺน, กุกฺกุจฺจายาติ อาวุโส สุทินฺน, ตุยฺเหตํ ปาปกมฺมํ อลํ สมตฺถํ กุกฺกุจฺจาย; ปฏิพลํ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปาเทตุนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยํ ตฺวนฺติ อาทิมฺหิ เยน ปาเปน ตฺวํ น สกฺขิสฺสสิ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ, ตํ เต ปาปํ อลํ กุกฺกุจฺจายาติ เอวํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อถ นํ อนุสาสนฺตา ‘‘นนุ อาวุโส ภควตา’’ติอาทิมาหํสุ. ตตฺถ นนูติ อนุมติคฺคหณตฺเถ นิปาโต. อเนกปริยาเยนาติ อเนกการเณน. วิราคายาติ วิราคตฺถาย. โน สราคายาติ โน ราเคน รชฺชนตฺถาย. ภควตา หิ ‘‘อิมํ เม ธมฺมํ สุตฺวา สตฺตา สพฺพภวโภเคสุ วิรชฺชิสฺสนฺติ, โน รชฺชิสฺสนฺตี’’ เอตทตฺถาย ธมฺโม เทสิโตติ อธิปฺปาโย. เอส นโย สพฺพปเทสุ. อิทํ ปเนตฺถ ปริยายวจนมตฺตํ. วิสํโยคายาติ กิเลเสหิ วิสํยุชฺชนตฺถาย. โน สํโยคายาติ น สํยุชฺชนตฺถาย. อนุปาทานายาติ อคฺคหณตฺถาย. โน สอุปาทานายาติ น สงฺคหณตฺถาย.

ตตฺถ นาม ตฺวนฺติ ตสฺมึ นาม ตฺวํ. สราคาย เจเตสฺสสีติ สห ราเคน วตฺตมานาย เมถุนธมฺมาย เจเตสฺสสิ กปฺเปสฺสสิ ปกปฺเปสฺสสิ; เอตทตฺถํ วายมิสฺสสีติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ. ปุน ราควิราคาทีนิ นว ปทานิ นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรนิพฺพานเมว สนฺธาย วุตฺตานิ. ตสฺมา ราควิราคายาติ วา มทนิมฺมทนายาติ วา วุตฺเตปิ ‘‘นิพฺพานตฺถายา’’ติ เอวเมว อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. นิพฺพานฺหิ ยสฺมา ตํ อาคมฺม อารพฺภ ปฏิจฺจ ราโค วิรชฺชติ น โหติ, ตสฺมา ราควิราโคติ วุจฺจติ. ยสฺมา ปน ตํ อาคมฺม มานมท-ปุริสมทาทโย มทา นิมฺมทา อมทา โหนฺติ วินสฺสนฺติ, ตสฺมา มทนิมฺมทนนฺติ วุจฺจติ. ยสฺมา จ ตํ อาคมฺม สพฺพาปิ กามปิปาสา วินยํ อพฺภตฺถํ ยาติ, ตสฺมา ปิปาสวินโยติ วุจฺจติ. ยสฺมา ปน ตํ อาคมฺม ปฺจ กามคุณาลยา สมุคฺฆาตํ คจฺฉนฺติ, ตสฺมา อาลยสมุคฺฆาโตติ วุจฺจติ. ยสฺมา จ ตํ อาคมฺม เตภูมกวฏฺฏํ อุปจฺฉิชฺชติ, ตสฺมา วฏฺฏุปจฺเฉโทติ วุจฺจติ. ยสฺมา ปน ตํ อาคมฺม สพฺพโส ตณฺหา ขยํ คจฺฉติ วิรชฺชติ นิรุชฺฌติ จ, ตสฺมา ตณฺหกฺขโย วิราโค นิโรโธติ วุจฺจติ. ยสฺมา ปเนตํ จตสฺโส โยนิโย, ปฺจ คติโย, สตฺต วิฺาณฏฺิติโย, นว จ สตฺตาวาเส, อปราปรภาวาย วินนโต อาพนฺธนโต สํสิพฺพนโต วานนฺติ ลทฺธโวหาราย ตณฺหาย นิกฺขนฺตํ นิสฺสฏํ วิสํยุตฺตํ, ตสฺมา นิพฺพานนฺติ วุจฺจตีติ.

กามานํ ปหานํ อกฺขาตนฺติ วตฺถุกามานํ, กิเลสกามานฺจ ปหานํ วุตฺตํ. กามสฺานํ ปริฺาติ สพฺพาสมฺปิ กามสฺานํ าตตีรณปหานวเสน ติวิธา ปริฺา อกฺขาตา. กามปิปาสานนฺติ กาเมสุ ปาตพฺยตานํ กาเม วา ปาตุมิจฺฉานํ. กามวิตกฺกานนฺติ กามุปสฺหิตานํวิตกฺกานํ. กามปริฬาหานนฺติ ปฺจกามคุณิกราควเสน อุปฺปนฺนปริฬาหานํ อนฺโตทาหานํ. อิเมสุ ปฺจสุ าเนสุ กิเลสกฺขยกโร โลกุตฺตรมคฺโคว กถิโต. สพฺพปเมสุ ปน ตีสุ าเนสุ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสโก มคฺโค กถิโตติ เวทิตพฺโพ.

เนตํ อาวุโสติ น เอตํ อาวุโส, ตว ปาปกมฺมํ อปฺปสนฺนานฺจ ปสาทาย เอวรูปานํ ปสาทตฺถาย น โหติ. อถ ขฺเวตนฺติ อถ โข เอตํ. อถ โข ตนฺติปิ ปาโ. อฺถตฺตายาติ ปสาทฺถาภาวาย วิปฺปฏิสาราย โหติ. เย มคฺเคน อนาคตสทฺธา, เตสํ วิปฺปฏิสารํ กโรติ – ‘‘อีทิเสปิ นาม ธมฺมวินเย มยํ ปสนฺนา, ยตฺเถวํ ทุปฺปฏิปนฺนา ภิกฺขู’’ติ. เย ปน มคฺเคนาคตสทฺธา, เตสํ สิเนรุ วิย วาเตหิ อจโล ปสาโท อีทิเสหิ วตฺถูหิ อิโต วา ทารุณตเรหิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เอกจฺจานํ อฺถตฺตายา’’ติ.

๓๙. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุนฺติ ภควโต เอตํ อตฺถํ อาจิกฺขึสุ ปฏิเวทยึสุ. อาโรจยมานา จ เนว ปิยกมฺยตาย น เภทปุเรกฺขารตาย, น ตสฺสายสฺมโต อวณฺณปกาสนตฺถาย, น กลิสาสนาโรปนตฺถาย, นาปิ ‘‘อิทํ สุตฺวา ภควา อิมสฺส สาสเน ปติฏฺํ น ทสฺสติ, นิกฺกฑฺฒาเปสฺสติ น’’นฺติ มฺมานา อาโรเจสุํ. อถ โข ‘‘อิมํ สาสเน อุปฺปนฺนํ อพฺพุทํ ตฺวา ภควา สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสติ, เวลํ มริยาทํ อาณํ เปสฺสตี’’ติ อาโรเจสุํ.

เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณติ เอตฺถ สุทินฺนสฺส อชฺฌาจารวีติกฺกโม สิกฺขาปทปฺตฺติยา การณตฺตา นิทานฺเจว ปกรณฺจาติ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. การณฺหิ ยสฺมา นิเทติ อตฺตโน ผลํ ‘‘คณฺหาถ น’’นฺติ ทสฺเสนฺตํ วิย อปฺเปติ, ปกโรติ จ นํ กตฺตุํ อารภติ, กโรติเยว วา; ตสฺมา นิทานฺเจว ปกรณฺจาติ วุจฺจติ. วิครหิ พุทฺโธ ภควาติ พุทฺโธ ภควา วิครหิ นินฺทิ; ยถา ตํ วณฺณาวณฺณารหานํ วณฺณฺจ อวณฺณฺจ ภณนฺเตสุ อคฺคปุคฺคโล. น หิ ภควโต สีลวีติกฺกมกรํ ปุคฺคลํ ทิสฺวา ‘‘อยํ ชาติยา วา โคตฺเตน วา โกลปุตฺติเยน วา คนฺเถน วา ธุตงฺเคน วา าโต ยสสฺสี อีทิสํ ปุคฺคลํ รกฺขิตุํ วฏฺฏตี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, นาปิ เปสลํ คุณวนฺตํ ทิสฺวา ตสฺส คุณํ ปฏิจฺฉาเทตุํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อถ โข ครหิตพฺพํ ครหติ เอว, ปสํสิตพฺพฺจ ปสํสติ เอว, อยฺจ ครหิตพฺโพ; ตสฺมา ตํ ตาทิลกฺขเณ ิโต อวิกมฺปมาเนน จิตฺเตน วิครหิ พุทฺโธ ภควา ‘‘อนนุจฺฉวิก’’นฺติอาทีหิ วจเนหิ.

ตตฺถายํ อตฺถวณฺณนา – ยทิทํ ตยา, โมฆปุริส, ตุจฺฉมนุสฺส กมฺมํ กตํ, ตํ สมณกรณานํ ธมฺมานํ มคฺคผลนิพฺพานสาสนานํ วา น อนุจฺฉวิกํ, เตสํ ฉวึ ฉายํ สุนฺทรภาวํ น อนฺเวติ นานุคจฺฉติ, อถ โข อารกาว เตหิ ธมฺเมหิ. อนนุจฺฉวิกตฺตา เอว จ อนนุโลมิกํ, เตสํ น อนุโลเมติ; อถ โข วิโลมํ ปจฺจนีกภาเว ิตํ. อนนุโลมิกตฺตา เอว จ อปฺปติรูปํ, ปติรูปํ สทิสํ ปฏิภาคํ น โหติ, อถ โข อสทิสํ อปฺปฏิภาคเมว. อปฺปติรูปตฺตา เอว จ อสฺสามณกํ, สมณานํ กมฺมํ น โหติ. อสฺสามณกตฺตา อกปฺปิยํ. ยฺหิ สมณกมฺมํ น โหติ, ตํ เตสํ น กปฺปติ. อกปฺปิยตฺตา อกรณียํ. น หิ สมณา ยํ น กปฺปติ, ตํ กโรนฺติ. ตฺเจตํ ตยา กตํ, ตสฺมา อนนุจฺฉวิกํ เต, โมฆปุริส, กตํ…เป… อกรณียนฺติ. กถฺหิ นามาติ เกน นาม การเณน, กึ นาม การณํ ปสฺสนฺโตติ วุตฺตํ โหติ. ตโต การณาภาวํ ทสฺเสนฺโต ปรโต ‘‘นนุ มยา โมฆปุริสา’’ติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ วุตฺตตฺถเมว.

อิทานิ ยสฺมา ยํ เตน ปาปกมฺมํ กตํ, ตํ วิปจฺจมานํ อติวิย ทุกฺขวิปากํ โหติ, ตสฺมาสฺส ตํ วิปากํ ทสฺเสตุํ กตาปราธํ วิย ปุตฺตํ อนุกมฺปกา มาตาปิตโร ทยาลุเกน จิตฺเตน สุทินฺนํ ปริภาสนฺโต ‘‘วรํ เต โมฆปุริสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อาสุ สีฆํ เอตสฺส วิสํ อาคจฺฉตีติ อาสีวิโส. โฆรํ จณฺฑมสฺส วิสนฺติ โฆรวิโส, ตสฺส อาสีวิสสฺส โฆรวิสสฺส. ‘‘ปกฺขิตฺต’’นฺติ เอตสฺส ‘‘วร’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อีทิสสฺส อาสีวิสสฺส โฆรวิสสฺส มุเข องฺคชาตํ วรํ ปกฺขิตฺตํ; สเจ ปกฺขิตฺตํ ภเวยฺย, วรํ สิยา; สุนฺทรํ สาธุ สุฏฺุ สิยาติ อตฺโถ. น ตฺเววาติ น ตุ เอว วรํ น สุนฺทรเมว น สาธุเมว น สุฏฺุเมว. เอส นโย สพฺพตฺถ. กณฺหสปฺปสฺสาติ กาฬสปฺปสฺส. องฺคารกาสุยาติ องฺคารปุณฺณกูเป, องฺคารราสิมฺหิ วา. อาทิตฺตายาติ ปทิตฺตาย คหิตอคฺคิวณฺณาย. สมฺปชฺชลิตายาติ สมนฺตโต ปชฺชลิตาย อจฺจิโย มุจฺจนฺติยา. สโชติภูตายาติ สปฺปภาย. สมนฺตโต อุฏฺิตาหิ ชาลาหิ เอกปฺปภาสมุทยภูตายาติ วุตฺตํ โหติ.

ตํ กิสฺส เหตูติ ยํ มยา วุตฺตํ ‘‘วร’’นฺติ ตํ กิสฺส เหตุ, กตเรน การเณนาติ เจ? มรณํ วา นิคจฺเฉยฺยาติ โย ตตฺถ องฺคชาตํ ปกฺขิเปยฺย, โส มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ. อิโตนิทานฺจ โข…เป… อุปปชฺเชยฺยาติ ยํ อิทํ มาตุคามสฺส องฺคชาเต องฺคชาตปกฺขิปนํ, อิโตนิทานํ ตสฺส การโก ปุคฺคโล นิรยํ อุปปชฺเชยฺย; เอวํ กมฺมสฺส มหาสาวชฺชตํ ปสฺสนฺโต ตํ ครหิ, น ตสฺส ทุกฺขาคมํ อิจฺฉมาโน. ตตฺถ นาม ตฺวนฺติ ตสฺมึ นาม เอวรูเป กมฺเม เอวํ มหาสาวชฺเช สมาเนปิ ตฺวํ. ยํ ตฺวนฺติ เอตฺถ นฺติ หีฬนตฺเถ นิปาโต. ตฺวนฺติ ตํ-สทฺทสฺส เววจนํ; ทฺวีหิปิ ยํ วา ตํ วา หีฬิตมวฺาตนฺติ วุตฺตํ โหติ. อสทฺธมฺมนฺติ อสตํ นีจชนานํ ธมฺมํ; เตหิ เสวิตพฺพนฺติ อตฺโถ. คามธมฺมนฺติ คามานํ ธมฺมํ; คามวาสิกมนุสฺสานํ ธมฺมนฺติ วุตฺตํ โหติ. วสลธมฺมนฺติ ปาปธมฺเม วสนฺติ ปคฺฆรนฺตีติ วสลา, เตสํ วสลานํ หีนปุริสานํ ธมฺมํ, วสลํ วา กิเลสปคฺฆรณกํ ธมฺมํ. ทุฏฺุลฺลนฺติ ทุฏฺุ จ กิเลสทูสิตํ ถูลฺจ อสุขุมํ, อนิปุณนฺติ วุตฺตํ โหติ. โอทกนฺติกนฺติ อุทกกิจฺจํ อนฺติกํ อวสานํ อสฺสาติ โอทกนฺติโก, ตํ โอทกนฺติกํ. รหสฺสนฺติ รโหภวํ, ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเส อุปฺปชฺชนกํ. อยฺหิ ธมฺโม ชิคุจฺฉนียตฺตา น สกฺกา อาวิ อฺเสํ ทสฺสนวิสเย กาตุํ, เตน วุตฺตํ – ‘‘รหสฺส’’นฺติ. ทฺวยํทฺวยสมาปตฺตินฺติ ทฺวีหิ ทฺวีหิ สมาปชฺชิตพฺพํ, ทฺวยํ ทฺวยํ สมาปตฺตินฺติปิ ปาโ. ทยํ ทยํ สมาปตฺตินฺติปิ ปนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. สมาปชฺชิสฺสสีติ เอตํ ‘‘ตตฺถ นาม ตฺว’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตนามสทฺเทน โยเชตพฺพํ ‘‘สมาปชฺชิสฺสสิ นามา’’ติ.

พหูนํ โข…เป… อาทิกตฺตา ปุพฺพงฺคโมติ สาสนํ สนฺธาย วทติ. อิมสฺมึ สาสเน ตฺวํ พหูนํ ปุคฺคลานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อาทิกตฺตา, สพฺพปมํ กรณโต; ปุพฺพงฺคโม สพฺพปมํ เอตํ มคฺคํ ปฏิปนฺนตฺตา; ทฺวารํทโท, อุปายทสฺสโกติ วุตฺตํ โหติ. อิมฺหิ เลสํ ลทฺธา ตว อนุสิกฺขมานา พหู ปุคฺคลา นานปฺปการเก มกฺกฏิยา เมถุนปฏิเสวนาทิเก อกุสลธมฺเม กริสฺสนฺตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.

อเนกปริยาเยนาติ อิเมหิ ‘‘อนนุจฺฉวิก’’นฺติอาทินา นเยน วุตฺเตหิ, พหูหิ การเณหิ. ทุพฺภรตาย…เป… โกสชฺชสฺส อวณฺณํ ภาสิตฺวาติ ทุพฺภรตาทีนํ วตฺถุภูตสฺส อสํวรสฺส อวณฺณํ นินฺทํ ครหํ ภาสิตฺวาติ อตฺโถ. ยสฺมา หิ อสํวเร ิตสฺส ปุคฺคลสฺส อตฺตา ทุพฺภรตฺเจว ทุปฺโปสตฺจ อาปชฺชติ, ตสฺมา อสํวโร ‘‘ทุพฺภรตา, ทุปฺโปสตา’’ติ จ วุจฺจติ. ยสฺมา ปน อสํวเร ิตสฺส อตฺตา จตูสุ ปจฺจเยสุ มหิจฺฉตํ สิเนรุปฺปมาเณปิ จ ปจฺจเย ลทฺธา อสนฺตุฏฺิตํ อาปชฺชติ, ตสฺมา อสํวโร ‘‘มหิจฺฉตา, อสนฺตุฏฺิตา’’ติ จ วุจฺจติ. ยสฺมา จ อสํวเร ิตสฺส อตฺตา คณสงฺคณิกาย เจว กิเลสสงฺคณิกาย จ สํวตฺตติ, โกสชฺชานุคโต จ โหติ อฏฺกุสีตวตฺถุปาริปูริยา สํวตฺตติ, ตสฺมา อสํวโร ‘‘สงฺคณิกา, เจว โกสชฺชฺจา’’ติ วุจฺจติ.

สุภรตาย…เป… วีริยารมฺภสฺส วณฺณํ ภาสิตฺวาติ สุภรตาทีนํ วตฺถุภูตสฺส สํวรสฺส วณฺณํ ภาสิตฺวาติ อตฺโถ. ยสฺมา หิ อสํวรํ ปหาย สํวเร ิตสฺส อตฺตา สุภโร โหติ สุโปโส, จตูสุ จ ปจฺจเยสุ อปฺปิจฺฉตํ นิตฺตณฺหภาวํ อาปชฺชติ, เอกเมกสฺมิฺจ ปจฺจเย ยถาลาภ-ยถาพล-ยถาสารุปฺปวเสน ติปฺปเภทาย สนฺตุฏฺิยา สํวตฺตติ, ตสฺมา สํวโร ‘‘สุภรตา เจว สุโปสตา จ อปฺปิจฺโฉ จ สนฺตุฏฺโ จา’’ติ วุจฺจติ.

ยสฺมา ปน อสํวรํ ปหาย สํวเร ิตสฺส อตฺตา กิเลสสลฺเลขนตาย เจว นิทฺธุนนตาย จ สํวตฺตติ, ตสฺมา สํวโร ‘‘สลฺเลโข จ ธุโต จา’’ติ วุจฺจติ.

ยสฺมา จ อสํวรํ ปหาย สํวเร ิตสฺส อตฺตา กายวาจานํ อปฺปาสาทิกํ อปฺปสาทนียํ อสนฺตํ อสารุปฺปํ กายวจีทุจฺจริตํ จิตฺตสฺส อปฺปาสาทิกํ อปฺปสาทนียํ อสนฺตํ อสารุปฺปํ อกุสลวิตกฺกตฺตยฺจ อนุปคมฺม ตพฺพิปรีตสฺส กายวจีสุจริตสฺส เจว กุสลวิตกฺกตฺตยสฺส จ ปาสาทิกสฺส ปสาทนียสฺส สนฺตสฺส สารุปฺปสฺส ปาริปูริยา สํวตฺตติ, ตสฺมา สํวโร ‘‘ปาสาทิโก’’ติ วุจฺจติ.

ยสฺมา ปน อสํวรํ ปหาย สํวเร ิตสฺส อตฺตา สพฺพกิเลสาปจยภูตาย, วิวฏฺฏาย, อฏฺวีริยารมฺภวตฺถุปาริปูริยา จ สํวตฺตติ, ตสฺมา สํวโร ‘‘อปจโย เจว วีริยารมฺโภ จา’’ติ วุจฺจตีติ.

ภิกฺขูนํ ตทนุจฺฉวิกํ ตทนุโลมิกนฺติ ตตฺถ สนฺนิปติตานํ ภิกฺขูนํ ยํ อิทานิ สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสติ, ตสฺส อนุจฺฉวิกฺเจว อนุโลมิกฺจ. โย วา อยํ สุภรตาทีหิ สํวโร วุตฺโต, ตสฺส อนุจฺฉวิกฺเจว อนุโลมิกฺจ สํวรปฺปหานปฏิสํยุตฺตํ อสุตฺตนฺตวินิพทฺธํ ปาฬิวินิมุตฺตํ โอกฺกนฺติกธมฺมเทสนํ กตฺวาติ อตฺโถ. ภควา กิร อีทิเสสุ าเนสุ ปฺจวณฺณกุสุมมาลํ กโรนฺโต วิย, รตนทามํ สชฺเชนฺโต วิย, จ เย ปฏิกฺขิปนาธิปฺปายา อสํวราภิรตา เต สมฺปรายิเกน วฏฺฏภเยน ตชฺเชนฺโต อเนกปฺปการํ อาทีนวํ ทสฺเสนฺโต, เย สิกฺขากามา สํวเร ิตา เต อปฺเปกจฺเจ อรหตฺเต ปติฏฺเปนฺโต อปฺเปกจฺเจ อนาคามิ-สกทาคามิ-โสตาปตฺติผเลสุ อุปนิสฺสยวิรหิเตปิ สคฺคมคฺเค ปติฏฺเปนฺโต ทีฆนิกายปฺปมาณมฺปิ มชฺฌิมนิกายปฺปมาณมฺปิ ธมฺมเทสนํ กโรติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ – ‘‘ภิกฺขูนํ ตทนุจฺฉวิกํ ตทนุโลมิกํ ธมฺมึ กถํ กตฺวา’’ติ.

เตน หีติ เตน สุทินฺนสฺส อชฺฌาจาเรน การณภูเตน. สิกฺขาปทนฺติ เอตฺถ สิกฺขิตพฺพาติ สิกฺขา, ปชฺชเต อิมินาติ ปทํ, สิกฺขาย ปทํ สิกฺขาปทํ; สิกฺขาย อธิคมุปาโยติ อตฺโถ. อถ วา มูลํ นิสฺสโย ปติฏฺาติ วุตฺตํ โหติ. เมถุนวิรติยา เมถุนสํวรสฺเสตํ อธิวจนํ. เมถุนสํวโร หิ ตทฺเสํ สิกฺขาสงฺขาตานํ สีลวิปสฺสนาฌานมคฺคธมฺมานํ วุตฺตตฺถวเสน ปทตฺตา อิธ ‘‘สิกฺขาปท’’นฺติ อธิปฺเปโต. อยฺจ อตฺโถ สิกฺขาปทวิภงฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อปิจ ตสฺสตฺถสฺส ทีปกํ วจนมฺปิ ‘‘สิกฺขาปท’’นฺติ เวทิตพฺพํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘สิกฺขาปทนฺติ โย ตตฺถ นามกาโย ปทกาโย นิรุตฺติกาโย พฺยฺชนกาโย’’ติ. อถ วา ยถา ‘‘อนภิชฺฌา ธมฺมปท’’นฺติ วุตฺเต อนภิชฺฌา เอโก ธมฺมโกฏฺาโสติ อตฺโถ โหติ, เอวมิธาปิ ‘‘สิกฺขาปท’’นฺติ สิกฺขาโกฏฺาโส สิกฺขาย เอโก ปเทโสติปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ทส อตฺถวเส ปฏิจฺจาติ ทส การณวเส สิกฺขาปทปฺตฺติเหตุ อธิคมนีเย หิตวิเสเส ปฏิจฺจ อาคมฺม อารพฺภ, ทสนฺนํ หิตวิเสสานํ นิปฺผตฺตึ สมฺปสฺสมาโนติ วุตฺตํ โหติ. อิทานิ เต ทส อตฺถวเส ทสฺเสนฺโต ‘‘สงฺฆสุฏฺุตายา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สงฺฆสุฏฺุตา นาม สงฺฆสฺส สุฏฺุภาโว, ‘‘สุฏฺุ เทวา’’ติ อาคตฏฺาเน วิย ‘‘สุฏฺุ, ภนฺเต’’ติ วจนสมฺปฏิจฺฉนภาโว. โย จ ตถาคตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉติ, ตสฺส ตํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย โหติ, ตสฺมา สงฺฆสฺส ‘‘สุฏฺุ, ภนฺเต’’ติ มม วจนสมฺปฏิจฺฉนตฺถํ ปฺเปสฺสามิ, อสมฺปฏิจฺฉเน อาทีนวํ สมฺปฏิจฺฉเน จ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา, น พลกฺกาเรน อภิภวิตฺวาติ เอตมตฺถํ อาวิกโรนฺโต อาห – ‘‘สงฺฆสุฏฺุตายา’’ติ. สงฺฆผาสุตายาติ สงฺฆสฺส ผาสุภาวาย; สหชีวิตาย สุขวิหารตฺถายาติ อตฺโถ.

ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหายาติ ทุมฺมงฺกู นาม ทุสฺสีลปุคฺคลา; เย มงฺกุตํ อาปาทิยมานาปิ ทุกฺเขน อาปชฺชนฺติ, วีติกฺกมํ กโรนฺตา วา กตฺวา วา น ลชฺชนฺติ, เตสํ นิคฺคหตฺถาย; เต หิ สิกฺขาปเท อสติ ‘‘กึ ตุมฺเหหิ ทิฏฺํ, กึ สุตํ – กึ อมฺเหหิ กตํ; กตรสฺมึ วตฺถุสฺมึ กตมํ อาปตฺตึ อาโรเปตฺวา อมฺเห นิคฺคณฺหถา’’ติ สงฺฆํ วิเหเสฺสนฺติ, สิกฺขาปเท ปน สติ เต สงฺโฆ สิกฺขาปทํ ทสฺเสตฺวา ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน นิคฺคเหสฺสติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหายา’’ติ.

เปสลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุวิหารายาติ เปสลานํ ปิยสีลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุวิหารตฺถาย. ปิยสีลา หิ ภิกฺขู กตฺตพฺพากตฺตพฺพํ สาวชฺชานวชฺชํ เวลํ มริยาทํ อชานนฺตา สิกฺขตฺตยปาริปูริยา ฆฏมานา กิลมนฺติ, สนฺทิฏฺมานา อุพฺพาฬฺหา โหนฺติ. กตฺตพฺพากตฺตพฺพํ ปน สาวชฺชานวชฺชํ เวลํ มริยาทํ ตฺวา สิกฺขตฺตยปาริปูริยา ฆฏมานา น กิลมนฺติ, สนฺทิฏฺมานา น อุพฺพาฬฺหา โหนฺติ. เตน เนสํ สิกฺขาปทปฺาปนา ผาสุวิหาราย สํวตฺตติ. โย วา ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคโห, สฺเวว เอเตสํ ผาสุวิหาโร. ทุสฺสีลปุคฺคเล นิสฺสาย หิ อุโปสโถ น ติฏฺติ, ปวารณา น ติฏฺติ, สงฺฆกมฺมานิ นปฺปวตฺตนฺติ, สามคฺคี น โหติ, ภิกฺขู อเนกคฺคา อุทฺเทสปริปุจฺฉากมฺมฏฺานาทีนิ อนุยุฺชิตุํ น สกฺโกนฺติ. ทุสฺสีเลสุ ปน นิคฺคหิเตสุ สพฺโพปิ อยํ อุปทฺทโว น โหติ. ตโต เปสลา ภิกฺขู ผาสุ วิหรนฺติ. เอวํ ‘‘เปสลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุ วิหารายา’’ติ เอตฺถ ทฺวิธา อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวรายาติ ทิฏฺธมฺมิกา อาสวา นาม อสํวเร ิเตน ตสฺมิฺเว อตฺตภาเว ปตฺตพฺพา ปาณิปฺปหาร-ทณฺฑปฺปหาร-หตฺถจฺเฉท-ปาทจฺเฉท-อกิตฺติ-อยสวิปฺปฏิสาราทโย ทุกฺขวิเสสา. อิติ อิเมสํ ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย ปิธานาย อาคมนมคฺคถกนายาติ อตฺโถ.

สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตายาติ สมฺปรายิกา อาสวา นาม อสํวเร ิเตน กตปาปกมฺมมูลกา สมฺปราเย นรกาทีสุ ปตฺตพฺพา ทุกฺขวิเสสา, เตสํ ปฏิฆาตตฺถาย ปฏิปฺปสฺสมฺภนตฺถาย วูปสมตฺถายาติ วุตฺตํ โหติ.

อปฺปสนฺนานํ ปสาทายาติ สิกฺขาปทปฺตฺติยา หิ สติ สิกฺขาปทปฺตฺตึ ตฺวา วา ยถาปฺตฺตํ ปฏิปชฺชมาเน ภิกฺขู ทิสฺวา วา เยปิ อปฺปสนฺนา ปณฺฑิตมนุสฺสา, เต ‘‘ยานิ วต โลเก มหาชนสฺส รชฺชน-ทุสฺสน-มุยฺหนฏฺานานิ, เตหิ อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา อารกา วิรตา วิหรนฺติ, ทุกฺกรํ วต กโรนฺติ, ภาริยํ วต กโรนฺตี’’ติ ปสาทํ อาปชฺชนฺติ, วินยปิฏเก โปตฺถกํ ทิสฺวา มิจฺฉาทิฏฺิก-ติเวที พฺราหฺมโณ วิย. เตน วุตฺตํ – ‘‘อปฺปสนฺนานํ ปสาทายา’’ติ.

ปสนฺนานํ ภิยฺโยภาวายาติ เยปิ สาสเน ปสนฺนา กุลปุตฺตา เตปิ สิกฺขาปทปฺตฺตึ ตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฏิปชฺชมาเน ภิกฺขู วา ทิสฺวา ‘‘อโห อยฺยา ทุกฺกรการิโน, เย ยาวชีวํ เอกภตฺตํ พฺรหฺมจริยํ วินยสํวรํ อนุปาเลนฺตี’’ติ ภิยฺโย ภิยฺโย ปสีทนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปสนฺนานํ ภิยฺโยภาวายา’’ติ.

สทฺธมฺมฏฺิติยาติ ติวิโธ สทฺธมฺโม – ปริยตฺติสทฺธมฺโม, ปฏิปตฺติสทฺธมฺโม, อธิคมสทฺธมฺโมติ. ตตฺถ ปิฏกตฺตยสงฺคหิตํ สพฺพมฺปิ พุทฺธวจนํ ‘‘ปริยตฺติสทฺธมฺโม’’ นาม. เตรส ธุตคุณา, จุทฺทส ขนฺธกวตฺตานิ, ทฺเวอสีติ มหาวตฺตานิ, สีลสมาธิวิปสฺสนาติ อยํ ‘‘ปฏิปตฺติสทฺธมฺโม’’ นาม. จตฺตาโร อริยมคฺคา จตฺตาริ จ สามฺผลานิ นิพฺพานฺจาติ อยํ ‘‘อธิคมสทฺธมฺโม’’ นาม. โส สพฺโพปิ ยสฺมา สิกฺขาปทปฺตฺติยา สติ ภิกฺขู สิกฺขาปทฺจ ตสฺส วิภงฺคฺจ ตทตฺถโชตนตฺถํ อฺฺจ พุทฺธวจนํ ปริยาปุณนฺติ, ยถาปฺตฺตฺจ ปฏิปชฺชมานา ปฏิปตฺตึ ปูเรตฺวา ปฏิปตฺติยา อธิคนฺตพฺพํ โลกุตฺตรธมฺมํ อธิคจฺฉนฺติ, ตสฺมา สิกฺขาปทปฺตฺติยา จิรฏฺิติโก โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สทฺธมฺมฏฺิติยา’’ติ.

วินยานุคฺคหายาติ สิกฺขาปทปฺตฺติยา หิ สติ สํวรวินโย จ ปหานวินโย จ สมถวินโย จ ปฺตฺติวินโย จาติ จตุพฺพิโธปิ วินโย อนุคฺคหิโต โหติ อุปตฺถมฺภิโต สูปตฺถมฺภิโต. เตน วุตฺตํ – ‘‘วินยานุคฺคหายา’’ติ.

สพฺพาเนว เจตานิ ปทานิ ‘‘สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสามี’’ติ อิมินา วจเนน สทฺธึ โยเชตพฺพานิ. ตตฺรายํ ปมปจฺฉิมปทโยชนา – ‘‘สงฺฆสุฏฺุตาย สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสามิ, วินยานุคฺคหาย สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสามี’’ติ.

อปิ เจตฺถ ยํ สงฺฆสุฏฺุ ตํ สงฺฆผาสุ, ยํ สงฺฆผาสุ ตํ ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหายาติ เอวํ สงฺขลิกนยํ; ยํ สงฺฆสุฏฺุ ตํ สงฺฆผาสุ, ยํ สงฺฆสุฏฺุ ตํ ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหายาติ เอวฺจ เอเกกปทมูลิกํ ทสกฺขตฺตุํ โยชนํ กตฺวา ยํ วุตฺตํ ปริวาเร (ปริ. ๓๓๔) –

‘‘อตฺถสตํ ธมฺมสตํ, ทฺเว จ นิรุตฺติสตานิ;

จตฺตาริ าณสตานิ, อตฺถวเส ปกรเณ’’ติ.

ตํ สพฺพํ เวทิตพฺพํ. ตํ ปเนตํ ยสฺมา ปริวาเรเยว อาวิ ภวิสฺสติ, ตสฺมา อิธ น วณฺณิตนฺติ.

เอวํ สิกฺขาปทปฺตฺติยา อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา ตสฺมึ สิกฺขาปเท ภิกฺขูหิ กตฺตพฺพกิจฺจํ ทีเปนฺโต ‘‘เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถา’’ติ อาห. กึ วุตฺตํ โหติ? ภิกฺขเว, อิมํ ปน มยา อิติ สนฺทสฺสิตานิสํสํ สิกฺขาปทํ เอวํ ปาติโมกฺขุทฺเทเส อุทฺทิเสยฺยาถ จ ปริยาปุเณยฺยาถ จ ธาเรยฺยาถ จ อฺเสฺจ วาเจยฺยาถาติ. อติเรกานยนตฺโถ หิ เอตฺถ จ สทฺโท, เตนายมตฺโถ อานีโต โหตีติ.

อิทานิ ยํ วุตฺตํ ‘‘อิมํ สิกฺขาปท’’นฺติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โย ปน ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺย, ปาราชิโก โหติ อสํวาโส’’ติ อาห. เอวํ มูลจฺเฉชฺชวเสน ทฬฺหํ กตฺวา ปมปาราชิเก ปฺตฺเต อปรมฺปิ อนุปฺตฺตตฺถาย มกฺกฏีวตฺถุ อุทปาทิ. ตสฺสุปฺปตฺติทีปนตฺถเมตํ วุตฺตํ – เอวฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ โหตีติ. ตสฺสตฺโถ – ภควตา ภิกฺขูนํ อิทํ สิกฺขาปทํ เอวํ ปฺตฺตํ โหติ จ, อิทฺจ อฺํ วตฺถุ อุทปาทีติ.

ปมปฺตฺติกถา นิฏฺิตา.

สุทินฺนภาณวารํ นิฏฺิตํ.

มกฺกฏีวตฺถุกถา

๔๐. อิทานิ ยํ ตํ อฺํ วตฺถุ อุปฺปนฺนํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เตน โข ปน สมเยนา’’ติอาทิมาห. ตตฺรายํ อนุตฺตานปทวณฺณนา – มกฺกฏึ อามิเสนาติ มหาวเน ภิกฺขูนํ ขนฺติเมตฺตาทิคุณานุภาเวน นิราสงฺกจิตฺตา พหู มิคโมรกุกฺกุฏมกฺกฏาทโย ติรจฺฉานา ปธานาคารฏฺาเนสุ วิจรนฺติ. ตตฺร เอกํ มกฺกฏึ อามิเสน ยาคุภตฺตขชฺชกาทินา อุปลาเปตฺวา, สงฺคณฺหิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺสาติ ภุมฺมวจนํ. ปฏิเสวตีติ ปจุรปฏิเสวโน โหติ; ปจุรตฺเถ หิ วตฺตมานวจนํ. โส ภิกฺขูติ โส เมถุนธมฺมปฏิเสวนโก ภิกฺขุ. เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑนฺตาติ เต ภิกฺขู อาคนฺตุกา พุทฺธทสฺสนาย อาคตา ปาโตว อาคนฺตุกภตฺตานิ ลภิตฺวา กตภตฺตกิจฺจา ภิกฺขูนํ นิวาสนฏฺานานิ ปสฺสิสฺสามาติ วิจรึสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑนฺตา’’ติ. เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมีติ ติรจฺฉานคตา นาม เอกภิกฺขุนา สทฺธึ วิสฺสาสํ กตฺวา อฺเสุปิ ตาทิสฺเว จิตฺตํ อุปฺปาเทนฺติ. ตสฺมา สา มกฺกฏี เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา จ อตฺตโน วิสฺสาสิกภิกฺขุสฺเสว เตสมฺปิ ตํ วิการํ ทสฺเสสิ.

เฉปฺปนฺติ นงฺคุฏฺํ. โอฑฺฑีติ อภิมุขํ เปสิ. นิมิตฺตมฺปิ อกาสีติ เยน นิยาเมน ยาย กิริยาย เมถุนาธิปฺปายํ เต ชานนฺติ ตํ อกาสีติ อตฺโถ. โส ภิกฺขูติ ยสฺสายํ วิหาโร. เอกมนฺตํ นิลียึสูติ เอกสฺมึ โอกาเส ปฏิจฺฉนฺนา อจฺฉึสุ.

๔๑. สจฺจํ, อาวุโสติ สโหฑฺฒคฺคหิโต โจโร วิย ปจฺจกฺขํ ทิสฺวา โจทิตตฺตา ‘‘กึ วา มยา กต’’นฺติอาทีนิ วตฺตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘สจฺจํ, อาวุโส’’ติ อาห. นนุ, อาวุโส, ตเถว ตํ โหตีติ อาวุโส ยถา มนุสฺสิตฺถิยา, นนุ ติรจฺฉานคติตฺถิยาปิ ตํ สิกฺขาปทํ ตเถว โหติ. มนุสฺสิตฺถิยาปิ หิ ทสฺสนมฺปิ คหณมฺปิ อามสนมฺปิ ผุสนมฺปิ ฆฏฺฏนมฺปิ ทุฏฺุลฺลเมว. ติรจฺฉานคติตฺถิยาปิ ตํ สพฺพํ ทุฏฺุลฺลเมว. โก เอตฺถ วิเสโส? อเลสฏฺาเน ตฺวํ เลสํ โอฑฺเฑสีติ.

๔๒. อนฺตมโส ติรจฺฉานคตายปิ ปาราชิโก โหติ อสํวาโสติ ติรจฺฉานคตายปิ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตฺวา ปาราชิโก เยว โหตีติ ทฬฺหตรํ สิกฺขาปทมกาสิ. ทุวิธฺหิ สิกฺขาปทํ – โลกวชฺชํ, ปณฺณตฺติวชฺชฺจ. ตตฺถ ยสฺส สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว โหติ, ตํ โลกวชฺชํ นาม. เสสํ ปณฺณตฺติวชฺชํ. ตตฺถ โลกวชฺเช อนุปฺตฺติ อุปฺปชฺชมานา รุนฺธนฺตี ทฺวารํ ปิทหนฺตี โสตํ ปจฺฉินฺทมานา คาฬฺหตรํ กโรนฺตี อุปฺปชฺชติ, อฺตฺร อธิมานา, อฺตฺร สุปินนฺตาติ อยํ ปน วีติกฺกมาภาวา อพฺโพหาริกตฺตา จ วุตฺตา. ปณฺณตฺติวชฺเช อกเต วีติกฺกเม อุปฺปชฺชมานา สิถิลํ กโรนฺตี โมเจนฺตี ทฺวารํ ททมานา อปราปรมฺปิ อนาปตฺตึ กุรุมานา อุปฺปชฺชติ, คณโภชนปรมฺปรโภชนาทีสุ อนุปฺตฺติโย วิย. ‘‘อนฺตมโส ตงฺขณิกายปี’’ติ เอวรูปา ปน กเต วีติกฺกเม อุปฺปนฺนตฺตา ปฺตฺติคติกาว โหติ. อิทํ ปน ปมสิกฺขาปทํ ยสฺมา โลกวชฺชํ, น ปณฺณตฺติวชฺชํ; ตสฺมา อยมนุปฺตฺติ รุนฺธนฺตี ทฺวารํ ปิทหนฺตี โสตํ ปจฺฉินฺทมานา คาฬฺหตรํ กโรนฺตี อุปฺปชฺชิ.

เอวํ ทฺเวปิ วตฺถูนิ สมฺปิณฺเฑตฺวา มูลจฺเฉชฺชวเสน ทฬฺหตรํ กตฺวา ปมปาราชิเก ปฺตฺเต อปรมฺปิ อนุปฺตฺตตฺถาย วชฺชิปุตฺตกวตฺถุ อุทปาทิ. ตสฺสุปฺปตฺติทสฺสนตฺถเมตํ วุตฺตํ – ‘‘เอวฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ โหตี’’ติ. ตสฺสตฺโถ – ภควตา ภิกฺขูนํ อิทํ สิกฺขาปทํ เอวํ ปฺตฺตํ โหติ จ อิทฺจ อฺมฺปิ วตฺถุ อุทปาทีติ.

มกฺกฏีวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

สนฺถตภาณวาโร

วชฺชิปุตฺตกวตฺถุวณฺณนา

๔๓-๔๔. อิทานิ ยํ ตํ อฺมฺปิ วตฺถุ อุปฺปนฺนํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เตน โข ปน สมเยนา’’ติอาทิมาห. ตตฺราปิ อยมนุตฺตานปทวณฺณนา – เวสาลิกาติ เวสาลิวาสิโน. วชฺชิปุตฺตกาติ วชฺชิรฏฺเ เวสาลิยํ กุลานํ ปุตฺตา. สาสเน กิร โย โย อุปทฺทโว อาทีนโว อพฺพุทมุปฺปชฺชิ, สพฺพํ ตํ วชฺชิปุตฺตเก นิสฺสาย. ตถา หิ เทวทตฺโตปิ วชฺชิปุตฺตเก ปกฺเข ลภิตฺวา สงฺฆํ ภินฺทิ. วชฺชิปุตฺตกา เอว จ วสฺสสตปรินิพฺพุเต ภควติ อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุสาสนํ ทีเปสุํ. อิเมปิ เตสํ เยว เอกจฺเจ เอวํ ปฺตฺเตปิ สิกฺขาปเท ยาวทตฺถํ ภุฺชึสุ…เป… เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวึสูติ.

าติพฺยสเนนปีติ เอตฺถ อสนํ พฺยสนํ วิกฺเขโป วิทฺธํสนํ วินาโสติ สพฺพเมตํ เอกตฺถํ. าตีนํ พฺยสนํ าติพฺยสนํ, เตน าติพฺยสเนน, ราชทณฺฑพฺยาธิมรณวิปฺปวาสนิมิตฺเตน าติวินาเสนาติ อตฺโถ. เอส นโย ทุติยปเทปิ. ตติยปเท ปน อาโรคฺยวินาสโก โรโค เอว โรคพฺยสนํ. โส หิ อาโรคฺยํ พฺยสติ วิกฺขิปติ วินาเสตีติ พฺยสนํ. โรโคว พฺยสนํ โรคพฺยสนํ, เตน โรคพฺยสเนน. ผุฏฺาติ อธิปนฺนา อภิภูตา สมนฺนาคตาติ อตฺโถ.

น มยํ, ภนฺเต อานนฺท, พุทฺธครหิโนติ ภนฺเต อานนฺท, มยํ น พุทฺธํ ครหาม, น พุทฺธสฺส โทสํ เทม. น ธมฺมครหิโน, น สงฺฆครหิโน. อตฺตครหิโน มยนฺติ อตฺตานเมว มยํ ครหาม, อตฺตโน โทสํ เทม. อลกฺขิกาติ นิสฺสิริกา. อปฺปปุฺาติ ปริตฺตปุฺา. วิปสฺสกา กุสลานํ ธมฺมานนฺติ เย อฏฺตึสารมฺมเณสุ วิภตฺตา กุสลา ธมฺมา, เตสํ วิปสฺสกา; ตโต ตโต อารมฺมณโต วุฏฺาย เตว ธมฺเม วิปสฺสมานาติ อตฺโถ. ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตนฺติ รตฺติยา ปุพฺพํ ปุพฺพรตฺตํ, รตฺติยา อปรํ อปรรตฺตํ, ปมยามฺจ ปจฺฉิมยามฺจาติ วุตฺตํ โหติ. โพธิปกฺขิกานนฺติ โพธิสฺส ปกฺเข ภวานํ, อรหตฺตมคฺคาณสฺส อุปการกานนฺติ อตฺโถ. ภาวนานุโยคนฺติ วฑฺฒนานุโยคํ. อนุยุตฺตา วิหเรยฺยามาติ คิหิปลิโพธํ อาวาสปลิโพธฺจ ปหาย วิวิตฺเตสุ เสนาสเนสุ ยุตฺตปยุตฺตา อนฺกิจฺจา วิหเรยฺยาม.

เอวมาวุโสติ เถโร เอเตสํ อาสยํ อชานนฺโต อิทํ เนสํ มหาคชฺชิตํ สุตฺวา ‘‘สเจ อิเม อีทิสา ภวิสฺสนฺติ, สาธู’’ติ มฺมาโน ‘‘เอวมาวุโส’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. อฏฺานเมตํ อนวกาโสติ อุภยมฺเปตํ การณปฏิกฺเขปวจนํ. การณฺหิ ยสฺมา ตตฺถ ตทายตฺตวุตฺติภาเวน ผลํ ติฏฺติ. ยสฺมา จสฺส ตํ โอกาโส โหติ ตทายตฺตวุตฺติภาเวน, ตสฺมา ‘‘านฺจ อวกาโส จา’’ติ วุจฺจติ, ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต อาห – ‘‘อฏฺานเมตํ, อานนฺท, อนวกาโส’’ติ. เอตํ านํ วา โอกาโส วา นตฺถิ. ยํ ตถาคโตติ เยน ตถาคโต วชฺชีนํ วา…เป… สมูหเนยฺย, ตํ การณํ นตฺถีติ อตฺโถ. ยทิ หิ ภควา เอเตสํ ‘‘ลเภยฺยาม อุปสมฺปท’’นฺติ ยาจนฺตานํ อุปสมฺปทํ ทเทยฺย, เอวํ สนฺเต ‘‘ปาราชิโก โหติ อสํวาโส’’ติ ปฺตฺตํ สมูหเนยฺย. ยสฺมา ปเนตํ น สมูหนติ, ตสฺมา ‘‘อฏฺานเมต’’นฺติอาทิมาห.

โส อาคโต น อุปสมฺปาเทตพฺโพติ ‘‘ยทิ หิ เอวํ อาคโต อุปสมฺปทํ ลเภยฺย, สาสเน อคารโว ภเวยฺย. สามเณรภูมิยํ ปน ิโต สคารโว จ ภวิสฺสติ, อตฺตตฺถฺจ กริสฺสตี’’ติ ตฺวา อนุกมฺปมาโน ภควา อาห – ‘‘โส อาคโต น อุปสมฺปาเทตพฺโพ’’ติ. โส อาคโต อุปสมฺปาเทตพฺโพติ เอวํ อาคโต ภิกฺขุภาเว ตฺวา อวิปนฺนสีลตาย สาสเน สคารโว ภวิสฺสติ, โส สติ อุปนิสฺสเย นจิรสฺเสว อุตฺตมตฺถํ ปาปุณิสฺสตีติ ตฺวา อุปสมฺปาเทตพฺโพติ อาห.

เอวํ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตฺวา อาคเตสุ อนุปสมฺปาเทตพฺพฺจ อุปสมฺปาเทตพฺพฺจ ทสฺเสตฺวา ตีณิปิ วตฺถูนิ สโมธาเนตฺวา ปริปุณฺณํ กตฺวา สิกฺขาปทํ ปฺเปตุกาโม ‘‘เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถา’’ติ วตฺวา ‘‘โย ปน ภิกฺขุ…เป… อสํวาโส’’ติ ปริปุณฺณํ สิกฺขาปทํ ปฺเปสิ.

วชฺชิปุตฺตกวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุพฺพิธวินยกถา

๔๕. อิทานิสฺส อตฺถํ วิภชนฺโต ‘‘โย ปนาติ, โย ยาทิโส’’ติอาทิมาห. ตสฺมึ ปน สิกฺขาปเท จ สิกฺขาปทวิภงฺเค จ สกเล จ วินยวินิจฺฉเย โกสลฺลํ ปตฺถยนฺเตน จตุพฺพิโธ วินโย ชานิตพฺโพ –

จตุพฺพิธฺหิ วินยํ, มหาเถรา มหิทฺธิกา;

นีหริตฺวา ปกาเสสุํ, ธมฺมสงฺคาหกา ปุรา.

กตมํ จตุพฺพิธํ? สุตฺตํ, สุตฺตานุโลมํ, อาจริยวาทํ, อตฺตโนมตินฺติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อาหจฺจปเทน รเสน อาจริยวํเสน อธิปฺปายา’’ติ, เอตฺถ หิ อาหจฺจปทนฺติ สุตฺตํ อธิปฺเปตํ, รโสติ สุตฺตานุโลมํ, อาจริยวํโสติ อาจริยวาโท, อธิปฺปาโยติ อตฺตโนมติ.

ตตฺถ สุตฺตํนาม สกเล วินยปิฏเก ปาฬิ.

สุตฺตานุโลมํ นาม จตฺตาโร มหาปเทสา; เย ภควตา เอวํ วุตฺตา – ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ น กปฺปตี’ติ อปฺปฏิกฺขิตฺตํ, ตํ เจ อกปฺปิยํ อนุโลเมติ; กปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว น กปฺปติ. ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ น กปฺปตี’ติ อปฺปฏิกฺขิตฺตํ, ตํ เจ กปฺปิยํ อนุโลเมติ; อกปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว กปฺปติ. ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ กปฺปตี’ติ อนนุฺาตํ, ตํ เจ อกปฺปิยํ อนุโลเมติ, กปฺปิยํ ปฏิพาหติ; ตํ โว น กปฺปติ. ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ กปฺปตี’ติ อนนุฺาตํ, ตํ เจ กปฺปิยํ อนุโลเมติ, อกปฺปิยํ ปฏิพาหติ; ตํ โว กปฺปตี’’ติ (มหาว. ๓๐๕).

อาจริยวาโท นาม ธมฺมสงฺคาหเกหิ ปฺจหิ อรหนฺตสเตหิ ปิตา ปาฬิวินิมุตฺตา โอกฺกนฺตวินิจฺฉยปฺปวตฺตา อฏฺกถาตนฺติ.

อตฺตโนมติ นาม สุตฺต-สุตฺตานุโลม-อาจริยวาเท มุฺจิตฺวา อนุมาเนน อตฺตโน อนุพุทฺธิยา นยคฺคาเหน อุปฏฺิตาการกถนํ.

อปิจ สุตฺตนฺตาภิธมฺมวินยฏฺกถาสุ อาคโต สพฺโพปิ เถรวาโท ‘‘อตฺตโนมติ’’ นาม. ตํ ปน อตฺตโนมตึ คเหตฺวา กเถนฺเตน น ทฬฺหคฺคาหํ คเหตฺวา โวหริตพฺพํ. การณํ สลฺลกฺเขตฺวา อตฺเถน ปาฬึ, ปาฬิยา จ อตฺถํ สํสนฺทิตฺวา กเถตพฺพํ. อตฺตโนมติ อาจริยวาเท โอตาเรตพฺพา. สเจ ตตฺถ โอตรติ เจว สเมติ จ, คเหตพฺพา. สเจ เนว โอตรติ น สเมติ, น คเหตพฺพา. อยฺหิ อตฺตโนมติ นาม สพฺพทุพฺพลา. อตฺตโนมติโต อาจริยวาโท พลวตโร.

อาจริยวาโทปิ สุตฺตานุโลเม โอตาเรตพฺโพ. ตตฺถ โอตรนฺโต สเมนฺโตเยว คเหตพฺโพ, อิตโร น คเหตพฺโพ. อาจริยวาทโต หิ สุตฺตานุโลมํ พลวตรํ.

สุตฺตานุโลมมฺปิ สุตฺเต โอตาเรตพฺพํ. ตตฺถ โอตรนฺตํ สเมนฺตเมว คเหตพฺพํ, อิตรํ น คเหตพฺพํ. สุตฺตานุโลมโต หิ สุตฺตเมว พลวตรํ. สุตฺตฺหิ อปฺปฏิวตฺติยํ การกสงฺฆสทิสํ พุทฺธานํ ิตกาลสทิสํ. ตสฺมา ยทา ทฺเว ภิกฺขู สากจฺฉนฺติ, สกวาที สุตฺตํ คเหตฺวา กเถติ, ปรวาที สุตฺตานุโลมํ. เตหิ อฺมฺํ เขปํ วา ครหํ วา อกตฺวา สุตฺตานุโลมํ สุตฺเต โอตาเรตพฺพํ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพํ. โน เจ, น คเหตพฺพํ; สุตฺตสฺมึเยว าตพฺพํ. อถายํ สุตฺตํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อาจริยวาทํ. เตหิปิ อฺมฺํ เขปํ วา ครหํ วา อกตฺวา อาจริยวาโท สุตฺเต โอตาเรตพฺโพ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺโพ. อโนตรนฺโต อสเมนฺโต จ คารยฺหาจริยวาโท น คเหตพฺโพ; สุตฺตสฺมึเยว าตพฺพํ.

อถายํ สุตฺตํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อตฺตโนมตึ. เตหิปิ อฺมฺํ เขปํ วา ครหํ วา อกตฺวา อตฺตโนมติ สุตฺเต โอตาเรตพฺพา. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพา. โน เจ, น คเหตพฺพา. สุตฺตสฺมึ เยว าตพฺพํ.

อถ ปนายํ สุตฺตานุโลมํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตํ. สุตฺตํ สุตฺตานุโลเม โอตาเรตพฺพํ. สเจ โอตรติ สเมติ, ติสฺโส สงฺคีติโย อารูฬฺหํ ปาฬิอาคตํ ปฺายติ, คเหตพฺพํ. โน เจ ตถา ปฺายติ น โอตรติ น สเมติ, พาหิรกสุตฺตํ วา โหติ สิโลโก วา อฺํ วา คารยฺหสุตฺตํ คุฬฺหเวสฺสนฺตรคุฬฺหวินยเวทลฺลาทีนํ อฺตรโต อาคตํ, น คเหตพฺพํ. สุตฺตานุโลมสฺมึเยว าตพฺพํ.

อถายํ สุตฺตานุโลมํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อาจริยวาทํ. อาจริยวาโท สุตฺตานุโลเม โอตาเรตพฺโพ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺโพ. โน เจ, น คเหตพฺโพ. สุตฺตานุโลเมเยว าตพฺพํ.

อถายํ สุตฺตานุโลมํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อตฺตโนมตึ. อตฺตโนมติ สุตฺตานุโลเม โอตาเรตพฺพา. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพา. โน เจ, น คเหตพฺพา. สุตฺตานุโลเมเยว าตพฺพํ.

อถ ปนายํ อาจริยวาทํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตํ. สุตฺตํ อาจริยวาเท โอตาเรตพฺพํ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพํ. อิตรํ คารยฺหสุตฺตํ น คเหตพฺพํ. อาจริยวาเทเยว าตพฺพํ.

อถายํ อาจริยวาทํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตานุโลมํ. สุตฺตานุโลมํ อาจริยวาเท โอตาเรตพฺพํ. โอตรนฺตํ สเมนฺตเมว คเหตพฺพํ, อิตรํ น คเหตพฺพํ. อาจริยวาเทเยว าตพฺพํ.

อถายํ อาจริยวาทํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อตฺตโนมตึ. อตฺตโนมติ อาจริยวาเท โอตาเรตพฺพา. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพา. โน เจ, น คเหตพฺพา. อาจริยวาเทเยว าตพฺพํ.

อถ ปนายํ อตฺตโนมตึ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตํ. สุตฺตํ อตฺตโนมติยํ โอตาเรตพฺพํ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพํ. อิตรํ คารยฺหสุตฺตํ น คเหตพฺพํ. อตฺตโนมติยเมว าตพฺพํ.

อถายํ อตฺตโนมตึ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตานุโลมํ. สุตฺตานุโลมํ อตฺตโนมติยํ โอตาเรตพฺพํ. โอตรนฺตํ สเมนฺตเมว คเหตพฺพํ, อิตรํ น คเหตพฺพํ. อตฺตโนมติยเมว าตพฺพํ.

อถายํ อตฺตโนมตึ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อาจริยวาทํ. อาจริยวาโท อตฺตโนมติยํ โอตาเรตพฺโพ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺโพ; อิตโร คารยฺหาจริยวาโท น คเหตพฺโพ. อตฺตโนมติยเมว าตพฺพํ. อตฺตโน คหณเมว พลิยํ กาตพฺพํ. สพฺพฏฺาเนสุ จ เขโป วา ครหา วา น กาตพฺพาติ.

อถ ปนายํ ‘‘กปฺปิย’’นฺติ คเหตฺวา กเถติ, ปโร ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ. สุตฺเต จ สุตฺตานุโลเม จ โอตาเรตพฺพํ. สเจ กปฺปิยํ โหติ, กปฺปิเย าตพฺพํ. สเจ อกปฺปิยํ, อกปฺปิเย าตพฺพํ.

อถายํ ตสฺส กปฺปิยภาวสาธกํ สุตฺตโต พหุํ การณฺจ วินิจฺฉยฺจ ทสฺเสติ, ปโร การณํ น วินฺทติ. กปฺปิเยว าตพฺพํ. อถ ปโร ตสฺส อกปฺปิยภาวสาธกํ สุตฺตโต พหุํ การณฺจ วินิจฺฉยฺจ ทสฺเสติ, อเนน อตฺตโน คหณนฺติ กตฺวา ทฬฺหํ อาทาย น าตพฺพํ. ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อกปฺปิเยว าตพฺพํ. อถ ทฺวินฺนมฺปิ การณจฺฉายา ทิสฺสติ, ปฏิกฺขิตฺตภาโวเยว สาธุ, อกปฺปิเย าตพฺพํ. วินยฺหิ ปตฺวา กปฺปิยากปฺปิยวิจารณมาคมฺม รุนฺธิตพฺพํ, คาฬฺหํ กตฺตพฺพํ, โสตํ ปจฺฉินฺทิตพฺพํ, ครุกภาเวเยว าตพฺพํ.

อถ ปนายํ ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ คเหตฺวา กเถติ, ปโร ‘‘กปฺปิย’’นฺติ. สุตฺเต จ สุตฺตานุโลเม จ โอตาเรตพฺพํ. สเจ กปฺปิยํ โหติ, กปฺปิเย าตพฺพํ. สเจ อกปฺปิยํ, อกปฺปิเย าตพฺพํ.

อถายํ พหูหิ สุตฺตวินิจฺฉยการเณหิ อกปฺปิยภาวํ ทสฺเสติ, ปโร การณํ น วินฺทติ, อกปฺปิเย าตพฺพํ. อถ ปโร พหูหิ สุตฺตวินิจฺฉยการเณหิ กปฺปิยภาวํ ทสฺเสติ, อยํ การณํ น วินฺทติ, กปฺปิเย าตพฺพํ. อถ ทฺวินฺนมฺปิ การณจฺฉายา ทิสฺสติ, อตฺตโน คหณํ น วิสฺสชฺเชตพฺพํ. ยถา จายํ กปฺปิยากปฺปิเย อกปฺปิยกปฺปิเย จ วินิจฺฉโย วุตฺโต; เอวํ อนาปตฺติอาปตฺติวาเท อาปตฺตานาปตฺติวาเท จ, ลหุกครุกาปตฺติวาเท ครุกลหุกาปตฺติวาเท จาปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. นามมตฺตํเยว หิ เอตฺถ นานํ, โยชนานเย นานํ นตฺถิ, ตสฺมา น วิตฺถาริตํ.

เอวํ กปฺปิยากปฺปิยาทิวินิจฺฉเย อุปฺปนฺเน โย สุตฺต-สุตฺตานุโลมอาจริยวาทอตฺตโนมตีสุ อติเรกการณํ ลภติ, ตสฺส วาเท าตพฺพํ. สพฺพโส ปน การณํ วินิจฺฉยํ อลภนฺเตน สุตฺตํ น ชหิตพฺพํ, สุตฺตสฺมึเยว าตพฺพนฺติ. เอวํ ตสฺมึ สิกฺขาปเท จ สิกฺขาปทวิภงฺเค จ สกเล จ วินยวินิจฺฉเย โกสลฺลํ ปตฺถยนฺเตน อยํ จตุพฺพิโธ วินโย ชานิตพฺโพ.

อิมฺจ ปน จตุพฺพิธํ วินยํ ตฺวาปิ วินยธเรน ปุคฺคเลน ติลกฺขณสมนฺนาคเตน ภวิตพฺพํ. ตีณิ หิ วินยธรสฺส ลกฺขณานิ อิจฺฉิตพฺพานิ. กตมานิ ตีณิ? ‘‘สุตฺตฺจสฺส สฺวาคตํ โหติ สุปฺปวตฺติ สุวินิจฺฉิตํ สุตฺตโต อนุพฺยฺชนโต’’ติ อิทเมกํ ลกฺขณํ. ‘‘วินเย โข ปน ิโต โหติ อสํหีโร’’ติ อิทํ ทุติยํ. ‘‘อาจริยปรมฺปรา โข ปนสฺส สุคฺคหิตา โหติ สุมนสิกตา สูปธาริตา’’ติ อิทํ ตติยํ.

ตตฺถ สุตฺตํ นาม สกลํ วินยปิฏกํ. ตฺจสฺส สฺวาคตํ โหตีติ สุฏฺุ อาคตํ. สุปฺปวตฺตีติ สุฏฺุ ปวตฺตํ ปคุณํ วาจุคฺคตํ สุวินิจฺฉิตํ. สุตฺตโต อนุพฺยฺชนโตติ ปาฬิโต จ ปริปุจฺฉโต จ อฏฺกถาโต จ สุวินิจฺฉิตํ โหติ, กงฺขจฺเฉทํ กตฺวา อุคฺคหิตํ.

วินเย โข ปน ิโต โหตีติ วินเย ลชฺชีภาเวน ปติฏฺิโต โหติ. อลชฺชี หิ พหุสฺสุโตปิ สมาโน ลาภครุตาย ตนฺตึ วิสํวาเทตฺวา อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุสาสนํ ทีเปตฺวา สาสเน มหนฺตํ อุปทฺทวํ กโรติ. สงฺฆเภทมฺปิ สงฺฆราชิมฺปิ อุปฺปาเทติ. ลชฺชี ปน กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม ชีวิตเหตุปิ ตนฺตึ อวิสํวาเทตฺวา ธมฺมเมว วินยเมว จ ทีเปติ, สตฺถุสาสนํ ครุํ กตฺวา เปติ. ตถา หิ ปุพฺเพ มหาเถรา ติกฺขตฺตุํ วาจํ นิจฺฉาเรสุํ – ‘‘อนาคเต ลชฺชี รกฺขิสฺสติ, ลชฺชี รกฺขิสฺสติ, ลชฺชี รกฺขิสฺสตี’’ติ. เอวํ โย ลชฺชี, โส วินยํ อวิชหนฺโต อโวกฺกมนฺโต ลชฺชีภาเวน วินเย ิโต โหติ สุปฺปติฏฺิโตติ. อสํหีโรติ สํหีโร นาม โย ปาฬิยํ วา อฏฺกถายํ วา เหฏฺโต วา อุปริโต วา ปทปฏิปาฏิยา วา ปุจฺฉิยมาโน วิตฺถุนติ วิปฺผนฺทติ สนฺติฏฺิตุํ น สกฺโกติ; ยํ ยํ ปเรน วุจฺจติ ตํ ตํ อนุชานาติ; สกวาทํ ฉฑฺเฑตฺวา ปรวาทํ คณฺหาติ. โย ปน ปาฬิยํ วา อฏฺกถาย วา เหฏฺุปริเยน วา ปทปฏิปาฏิยา วา ปุจฺฉิยมาโน น วิตฺถุนติ น วิปฺผนฺทติ, เอเกกโลมํ สณฺฑาเสน คณฺหนฺโต วิย ‘‘เอวํ มยํ วทาม; เอวํ โน อาจริยา วทนฺตี’’ติ วิสฺสชฺเชติ; ยมฺหิ ปาฬิ จ ปาฬิวินิจฺฉโย จ สุวณฺณภาชเน ปกฺขิตฺตสีหวสา วิย ปริกฺขยํ ปริยาทานํ อคจฺฉนฺโต ติฏฺติ, อยํ วุจฺจติ ‘‘อสํหีโร’’ติ.

อาจริยปรมฺปรา โข ปนสฺส สุคฺคหิตา โหตีติ เถรปรมฺปรา วํสปรมฺปรา จสฺส สุฏฺุ คหิตา โหติ. สุมนสิกตาติ สุฏฺุ มนสิกตา; อาวชฺชิตมตฺเต อุชฺชลิตปทีโป วิย โหติ. สูปธาริตาติ สุฏฺุ อุปธาริตา ปุพฺพาปรานุสนฺธิโต อตฺถโต การณโต จ อุปธาริตา; อตฺตโน มตึ ปหาย อาจริยสุทฺธิยา วตฺตา โหติ ‘‘มยฺหํ อาจริโย อสุกาจริยสฺส สนฺติเก อุคฺคณฺหิ, โส อสุกสฺสา’’ติ เอวํ สพฺพํ อาจริยปรมฺปรํ เถรวาทงฺคํ อาหริตฺวา ยาว อุปาลิตฺเถโร สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก อุคฺคณฺหีติ ปาเปตฺวา เปติ. ตโตปิ อาหริตฺวา อุปาลิตฺเถโร สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก อุคฺคณฺหิ, ทาสกตฺเถโร อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส อุปาลิตฺเถรสฺส, โสณกตฺเถโร อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส ทาสกตฺเถรสฺส, สิคฺควตฺเถโร อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส โสณกตฺเถรสฺส, โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโร อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส สิคฺควตฺเถรสฺส จณฺฑวชฺชิตฺเถรสฺส จาติ. เอวํ สพฺพํ อาจริยปรมฺปรํ เถรวาทงฺคํ อาหริตฺวา อตฺตโน อาจริยํ ปาเปตฺวา เปติ. เอวํ อุคฺคหิตา หิ อาจริยปรมฺปรา สุคฺคหิตา โหติ. เอวํ อสกฺโกนฺเตน ปน อวสฺสํ ทฺเว ตโย ปริวฏฺฏา อุคฺคเหตพฺพา. สพฺพปจฺฉิเมน หิ นเยน ยถา อาจริโย จ อาจริยาจริโย จ ปาฬิฺจ ปริปุจฺฉฺจ วทนฺติ, ตถา าตุํ วฏฺฏติ.

อิเมหิ จ ปน ตีหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคเตน วินยธเรน วตฺถุวินิจฺฉยตฺถํ สนฺนิปติเต สงฺเฆ โอติณฺเณ วตฺถุสฺมึ โจทเกน จ จุทิตเกน จ วุตฺเต วตฺตพฺเพ สหสา อวินิจฺฉินิตฺวาว ฉ านานิ โอโลเกตพฺพานิ. กตมานิ ฉ? วตฺถุ โอโลเกตพฺพํ, มาติกา โอโลเกตพฺพา, ปทภาชนียํ โอโลเกตพฺพํ, ติกปริจฺเฉโท โอโลเกตพฺโพ, อนฺตราปตฺติ โอโลเกตพฺพา, อนาปตฺติ โอโลเกตพฺพาติ.

วตฺถุํ โอโลเกนฺโตปิ หิ ‘‘ติเณน วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาคนฺตพฺพํ, น ตฺเวว นคฺเคน อาคนฺตพฺพํ; โย อาคจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๑๗) เอวํ เอกจฺจํ อาปตฺตึ ปสฺสติ. โส ตํ สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.

มาติกํ โอโลเกนฺโตปิ ‘‘สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติย’’นฺติอาทินา (ปาจิ. ๒) นเยน ปฺจนฺนํ อาปตฺตีนํ อฺตรํ อาปตฺตึ ปสฺสติ, โส ตํ สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.

ปทภาชนียํ โอโลเกนฺโตปิ ‘‘อกฺขยิเต สรีเร เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส. เยภุยฺเยน ขยิเต สรีเร เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติอาทินา (ปารา. ๕๙ อาทโย, อตฺถโต สมานํ) นเยน สตฺตนฺนํ อาปตฺตีนํ อฺตรํ อาปตฺตึ ปสฺสติ, โส ปทภาชนียโต สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.

ติกปริจฺเฉทํ โอโลเกนฺโตปิ ติกสงฺฆาทิเสสํ วา ติกปาจิตฺติยํ วา ติกทุกฺกฏํ วา อฺตรํ วา อาปตฺตึ ติกปริจฺเฉเท ปสฺสติ, โส ตโต สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.

อนฺตราปตฺตึ โอโลเกนฺโตปิ ‘‘ปฏิลาตํ อุกฺขิปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๕๕) เอวํ ยา สิกฺขาปทนฺตเรสุ อนฺตราปตฺติ โหติ ตํ ปสฺสติ, โส ตํ สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.

อนาปตฺตึ โอโลเกนฺโตปิ ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ อสาทิยนฺตสฺส, อเถยฺยจิตฺตสฺส, น มรณาธิปฺปายสฺส, อนุลฺลปนาธิปฺปายสฺส, น โมจนาธิปฺปายสฺส, อสฺจิจฺจ, อสฺสติยา, อชานนฺตสฺสา’’ติ (ปารา. ๗๒ อาทโย) เอวํ ตสฺมึ ตสฺมึ สิกฺขาปเท นิทฺทิฏฺํ อนาปตฺตึ ปสฺสติ, โส ตํ สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.

โย หิ ภิกฺขุ จตุพฺพิธวินยโกวิโท ติลกฺขณสมฺปนฺโน อิมานิ ฉ านานิ โอโลเกตฺวา อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ, ตสฺส วินิจฺฉโย อปฺปฏิวตฺติโย, พุทฺเธน สยํ นิสีทิตฺวา วินิจฺฉิตสทิโส โหติ. ตํ เจวํ วินิจฺฉยกุสลํ ภิกฺขุํ โกจิ กตสิกฺขาปทวีติกฺกโม ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา อตฺตโน กุกฺกุจฺจํ ปุจฺเฉยฺย; เตน สาธุกํ สลฺลกฺเขตฺวา สเจ อนาปตฺติ โหติ, ‘‘อนาปตฺตี’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ปน อาปตฺติ โหติ, ‘‘อาปตฺตี’’ติ วตฺตพฺพํ. สา เทสนาคามินี เจ, ‘‘เทสนาคามินี’’ติ วตฺตพฺพํ. วุฏฺานคามินี เจ, ‘‘วุฏฺานคามินี’’ติ วตฺตพฺพํ. อถสฺส ปาราชิกจฺฉายา ทิสฺสติ, ‘‘ปาราชิกาปตฺตี’’ติ น ตาว วตฺตพฺพํ. กสฺมา? เมถุนธมฺมวีติกฺกโม หิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมวีติกฺกโม จ โอฬาริโก. อทินฺนาทานมนุสฺสวิคฺคหวีติกฺกมา ปน สุขุมา จิตฺตลหุกา. เต สุขุเมเนว อาปชฺชติ, สุขุเมน รกฺขติ, ตสฺมา วิเสเสน ตํวตฺถุกํ กุกฺกุจฺจํ ปุจฺฉิยมาโน ‘‘อาปตฺตี’’ติ อวตฺวา สจสฺส อาจริโย ธรติ, ตโต เตน โส ภิกฺขุ ‘‘อมฺหากํ อาจริยํ ปุจฺฉา’’ติ เปเสตพฺโพ. สเจ โส ปุน อาคนฺตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ อาจริโย สุตฺตโต นยโต โอโลเกตฺวา ‘สเตกิจฺโฉ’ติ มํ อาหา’’ติ วทติ, ตโต อเนน โส ‘‘สาธุ สุฏฺุ ยํ อาจริโย ภณติ ตํ กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. อถ ปนสฺส อาจริโย นตฺถิ, สทฺธึ อุคฺคหิตตฺเถโร ปน อตฺถิ, ตสฺส สนฺติกํ เปเสตพฺโพ – ‘‘อมฺเหหิ สห อุคฺคหิตตฺเถโร คณปาโมกฺโข, ตํ คนฺตฺวา ปุจฺฉา’’ติ. เตนาปิ ‘‘สเตกิจฺโฉ’’ติ วินิจฺฉิเต ‘‘สาธุ สุฏฺุ ตสฺส วจนํ กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. อถ สทฺธึ อุคฺคหิตตฺเถโรปิ นตฺถิ, อนฺเตวาสิโก ปณฺฑิโต อตฺถิ, ตสฺส สนฺติกํ เปเสตพฺโพ – ‘‘อสุกทหรํ คนฺตฺวา ปุจฺฉา’’ติ. เตนาปิ ‘‘สเตกิจฺโฉ’’ติ วินิจฺฉิเต ‘‘สาธุ สุฏฺุ ตสฺส วจนํ กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. อถ ทหรสฺสาปิ ปาราชิกจฺฉายาว อุปฏฺาติ, เตนาปิ ‘‘ปาราชิโกสี’’ติ น วตฺตพฺโพ. ทุลฺลโภ หิ พุทฺธุปฺปาโท, ตโต ทุลฺลภตรา ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ. เอวํ ปน วตฺตพฺโพ – ‘‘วิวิตฺตํ โอกาสํ สมฺมชฺชิตฺวา ทิวาวิหารํ นิสีทิตฺวา สีลานิ โสเธตฺวา ทฺวตฺตึสาการํ ตาว มนสิ กโรหี’’ติ. สเจ ตสฺส อโรคํ สีลํ กมฺมฏฺานํ ฆฏยติ, สงฺขารา ปากฏา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ, อุปจารปฺปนาปฺปตฺตํ วิย จิตฺตมฺปิ เอกคฺคํ โหติ, ทิวสํ อติกฺกนฺตมฺปิ น ชานาติ. โส ทิวสาติกฺกเม อุปฏฺานํ อาคโต เอวํ วตฺตพฺโพ – ‘‘กีทิสา เต จิตฺตปฺปวตฺตี’’ติ. อาโรจิตาย จิตฺตปฺปวตฺติยา วตฺตพฺโพ – ‘‘ปพฺพชฺชา นาม จิตฺตวิสุทฺธตฺถาย, อปฺปมตฺโต สมณธมฺมํ กโรหี’’ติ.

ยสฺส ปน สีลํ ภินฺนํ โหติ, ตสฺส กมฺมฏฺานํ น ฆฏยติ, ปโตทาภิตุนฺนํ วิย จิตฺตํ วิกมฺปติ, วิปฺปฏิสารคฺคินา ฑยฺหติ, ตตฺตปาสาเณ นิสินฺโน วิย ตงฺขณฺเว วุฏฺาติ. โส อาคโต ‘‘กา เต จิตฺตปฺปวตฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ. อาโรจิตาย จิตฺตปฺปวตฺติยา ‘‘นตฺถิ โลเก รโห นาม ปาปกมฺมํ ปกุพฺพโต. สพฺพปมฺหิ ปาปํ กโรนฺโต อตฺตนา ชานาติ, อถสฺส อารกฺขเทวตา ปรจิตฺตวิทู สมณพฺราหฺมณา อฺา จ เทวตา ชานนฺติ, ตฺวํเยว ทานิ ตว โสตฺถึ ปริเยสาหี’’ติ วตฺตพฺโพ.

นิฏฺิตา จตุพฺพิธวินยกถา

วินยธรสฺส จ ลกฺขณาทิกถา.

ภิกฺขุปทภาชนียวณฺณนา

อิทานิ สิกฺขาปทวิภงฺคสฺส อตฺถํ วณฺณยิสฺสาม. ยํ วุตฺตํ โย ปนาติ โย ยาทิโสติอาทิ. เอตฺถ โย ปนาติ วิภชิตพฺพปทํ; โย ยาทิโสติอาทีนิ ตสฺส วิภชนปทานิ. เอตฺถ จ ยสฺมา ปนาติ นิปาตมตฺตํ; โยติ อตฺถปทํ; ตฺจ อนิยเมน ปุคฺคลํ ทีเปติ, ตสฺมา ตสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อนิยเมน ปุคฺคลทีปกํ โย สทฺทเมว อาห. ตสฺมา เอตฺถ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ – โย ปนาติ โย โยโกจีติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺมา ปน โย โยโกจิ นาม, โส อวสฺสํ ลิงฺค-ยุตฺต-ชาติ-นาม-โคตฺต-สีล-วิหาร-โคจรวเยสุ เอเกนากาเรน ปฺายติ, ตสฺมา ตํ ตถา าเปตุํ ตํ ปเภทํ ปกาเสนฺโต ‘‘ยาทิโส’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยาทิโสติ ลิงฺควเสน ยาทิโส วา ตาทิโส วา โหตุ; ทีโฆ วา รสฺโส วา กาโฬ วา โอทาโต วา มงฺคุรจฺฉวิ วา กิโส วา ถูโล วาติ อตฺโถ. ยถายุตฺโตติ โยควเสน เยน วา เตน วา ยุตฺโต โหตุ; นวกมฺมยุตฺโต วา อุทฺเทสยุตฺโต วา วาสธุรยุตฺโต วาติ อตฺโถ. ยถาชจฺโจติ ชาติวเสน ยํชจฺโจ วา ตํชจฺโจ วา โหตุ; ขตฺติโย วา พฺราหฺมโณ วา เวสฺโส วา สุทฺโท วาติ อตฺโถ. ยถานาโมติ นามวเสน ยถานาโม วา ตถานาโม วา โหตุ; พุทฺธรกฺขิโต วา ธมฺมรกฺขิโต วา สงฺฆรกฺขิโต วาติ อตฺโถ. ยถาโคตฺโตติ โคตฺตวเสน ยถาโคตฺโต วา ตถาโคตฺโต วา เยน วา เตน วา โคตฺเตน โหตุ; กจฺจายโน วา วาสิฏฺโ วา โกสิโย วาติ อตฺโถ. ยถาสีโลติ สีเลสุ ยถาสีโล วา ตถาสีโล วา โหตุ; นวกมฺมสีโล วา อุทฺเทสสีโล วา วาสธุรสีโล วาติ อตฺโถ. ยถาวิหารีติ วิหาเรสุปิ ยถาวิหารี วา ตถาวิหารี วา โหตุ; นวกมฺมวิหารี วา อุทฺเทสวิหารี วา วาสธุรวิหารี วาติ อตฺโถ. ยถาโคจโรติ โคจเรสุปิ ยถาโคจโร วา ตถาโคจโร วา โหตุ; นวกมฺมโคจโร วา อุทฺเทสโคจโร วา วาสธุรโคจโร วาติ อตฺโถ. เถโร วาติ อาทีสุ วโยวุฑฺฒาทีสุ โย วา โส วา โหตุ; ปริปุณฺณทสวสฺสตาย เถโร วา อูนปฺจวสฺสตาย นโว วา อติเรกปฺจวสฺสตาย มชฺฌิโม วาติ อตฺโถ. อถ โข สพฺโพว อิมสฺมึ อตฺเถ เอโส วุจฺจติ ‘‘โย ปนา’’ติ.

ภิกฺขุนิทฺเทเส ภิกฺขตีติ ภิกฺขโก; ลภนฺโต วา อลภนฺโต วา อริยาย ยาจนาย ยาจตีติ อตฺโถ. พุทฺธาทีหิ อชฺฌุปคตํ ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคตตฺตา ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโต นาม. โย หิ โกจิ อปฺปํ วา มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต, โส กสิโครกฺขาทีหิ ชีวิกกปฺปนํ หิตฺวา ลิงฺคสมฺปฏิจฺฉเนเนว ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโตติ ภิกฺขุ. ปรปฏิพทฺธชีวิกตฺตา วา วิหารมชฺเฌ กาชภตฺตํ ภุฺชมาโนปิ ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโตติ ภิกฺขุ; ปิณฺฑิยาโลปโภชนํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชาย อุสฺสาหชาตตฺตา วา ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโตติ ภิกฺขุ. อคฺฆผสฺสวณฺณเภเทน ภินฺนํ ปฏํ ธาเรตีติ ภินฺนปฏธโร. ตตฺถ สตฺถกจฺเฉทเนน อคฺฆเภโท เวทิตพฺโพ. สหสฺสคฺฆนโกปิ หิ ปโฏ สตฺถเกน ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺโน ภินฺนคฺโฆ โหติ. ปุริมคฺฆโต อุปฑฺฒมฺปิ น อคฺฆติ. สุตฺตสํสิพฺพเนน ผสฺสเภโท เวทิตพฺโพ. สุขสมฺผสฺโสปิ หิ ปโฏ สุตฺเตหิ สํสิพฺพิโต ภินฺนผสฺโส โหติ. ขรสมฺผสฺสตํ ปาปุณาติ. สูจิมลาทีหิ วณฺณเภโท เวทิตพฺโพ. สุปริสุทฺโธปิ หิ ปโฏ สูจิกมฺมโต ปฏฺาย สูจิมเลน, หตฺถเสทมลชลฺลิกาหิ, อวสาเน รชนกปฺปกรเณหิ จ ภินฺนวณฺโณ โหติ; ปกติวณฺณํ วิชหติ. เอวํ ตีหากาเรหิ ภินฺนปฏธารณโต ภินฺนปฏธโรติ ภิกฺขุ. คิหิวตฺถวิสภาคานํ วา กาสาวานํ ธารณมตฺเตเนว ภินฺนปฏธโรติ ภิกฺขุ.

สมฺายาติ ปฺตฺติยา โวหาเรนาติ อตฺโถ. สมฺาย เอว หิ เอกจฺโจ ‘‘ภิกฺขู’’ติ ปฺายติ. ตถา หิ นิมนฺตนาทิมฺหิ ภิกฺขูสุ คณิยมาเนสุ สามเณเรปิ คเหตฺวา ‘‘สตํ ภิกฺขู สหสฺสํ ภิกฺขู’’ติ วทนฺติ. ปฏิฺายาติ อตฺตโน ปฏิชานเนน ปฏิฺายปิ หิ เอกจฺโจ ‘‘ภิกฺขู’’ติ ปฺายติ. ตสฺส ‘‘โก เอตฺถาติ? อหํ, อาวุโส, ภิกฺขู’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๙๖) เอวมาทีสุ สมฺภโว ทฏฺพฺโพ. อยํ ปน อานนฺทตฺเถเรน วุตฺตา ธมฺมิกา ปฏิฺา. รตฺติภาเค ปน ทุสฺสีลาปิ ปฏิปถํ อาคจฺฉนฺตา ‘‘โก เอตฺถา’’ติ วุตฺเต อธมฺมิกาย ปฏิฺาย อภูตาย ‘‘มยํ ภิกฺขู’’ติ วทนฺติ.

เอหิ ภิกฺขูติ เอหิ ภิกฺขุ นาม ภควโต ‘‘เอหิ ภิกฺขู’’ติ วจนมตฺเตน ภิกฺขุภาวํ เอหิภิกฺขูปสมฺปทํ ปตฺโต. ภควา หิ เอหิภิกฺขุภาวาย อุปนิสฺสยสมฺปนฺนํ ปุคฺคลํ ทิสฺวา รตฺตปํสุกูลนฺตรโต สุวณฺณวณฺณํ ทกฺขิณหตฺถํ นีหริตฺวา พฺรหฺมโฆสํ นิจฺฉาเรนฺโต ‘‘เอหิ, ภิกฺขุ, จร พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ วทติ. ตสฺส สเหว ภควโต วจเนน คิหิลิงฺคํ อนฺตรธายติ, ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ รุหติ. ภณฺฑุ กาสายวสโน โหติ. เอกํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา เอกํ อํเส เปตฺวา วามํสกูเฏ อาสตฺตนีลุปฺปลวณฺณมตฺติกาปตฺโต –

‘‘ติจีวรฺจ ปตฺโต จ, วาสิ สูจิ จ พนฺธนํ;

ปริสฺสาวเนน อฏฺเเต, ยุตฺตโยคสฺส ภิกฺขุโน’’ติ.

เอวํ วุตฺเตหิ อฏฺหิ ปริกฺขาเรหิ สรีเร ปฏิมุกฺเกหิเยว สฏฺิวสฺสิกตฺเถโร วิย อิริยาปถสมฺปนฺโน พุทฺธาจริยโก พุทฺธุปชฺฌายโก สมฺมาสมฺพุทฺธํ วนฺทมาโนเยว ติฏฺติ. ภควา หิ ปมโพธิยํ เอกสฺมึ กาเล เอหิภิกฺขูปสมฺปทาย เอว อุปสมฺปาเทติ. เอวํ อุปสมฺปนฺนานิ จ สหสฺสุปริ เอกจตฺตาลีสุตฺตรานิ ตีณิ ภิกฺขุสตานิ อเหสุํ; เสยฺยถิทํ – ปฺจ ปฺจวคฺคิยตฺเถรา, ยโส กุลปุตฺโต, ตสฺส ปริวารา จตุปณฺณาส สหายกา, ตึส ภทฺทวคฺคิยา, สหสฺสปุราณชฏิลา, สทฺธึ ทฺวีหิ อคฺคสาวเกหิ อฑฺฒเตยฺยสตา ปริพฺพาชกา, เอโก องฺคุลิมาลตฺเถโรติ. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ

‘‘ตีณิ สตํ สหสฺสฺจ, จตฺตาลีสํ ปุนาปเร;

เอโก จ เถโร สปฺปฺโ, สพฺเพ เต เอหิภิกฺขุกา’’ติ.

น เกวลฺจ เอเต เอว, อฺเปิ พหู สนฺติ. เสยฺยถิทํ – ติสตปริวาโร เสโล พฺราหฺมโณ, สหสฺสปริวาโร มหากปฺปิโน, ทสสหสฺสา กปิลวตฺถุวาสิโน กุลปุตฺตา, โสฬสสหสฺสา ปารายนิกพฺราหฺมณาติ เอวมาทโย. เต ปน วินยปิฏเก ปาฬิยํ น นิทฺทิฏฺตฺตา น วุตฺตา. อิเม ตตฺถ นิทฺทิฏฺตฺตา วุตฺตาติ.

‘‘สตฺตวีส สหสฺสานิ, ตีณิเยว สตานิ จ;

เอเตปิ สพฺเพ สงฺขาตา, สพฺเพ เต เอหิภิกฺขุกา’’ติ.

ตีหิ สรณคมเนหิ อุปสมฺปนฺโนติ ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติอาทินา นเยน ติกฺขตฺตุํ วาจํ ภินฺทิตฺวา วุตฺเตหิ ตีหิ สรณคมเนหิ อุปสมฺปนฺโน. อยฺหิ อุปสมฺปทา นาม อฏฺวิธา – เอหิภิกฺขูปสมฺปทา, สรณคมนูปสมฺปทา, โอวาทปฏิคฺคหณูปสมฺปทา, ปฺหพฺยากรณูปสมฺปทา, ครุธมฺมปฏิคฺคหณูปสมฺปทา, ทูเตนูปสมฺปทา, อฏฺวาจิกูปสมฺปทา, ตฺติจตุตฺถกมฺมูปสมฺปทาติ. ตตฺถ เอหิภิกฺขูปสมฺปทา, สรณคมนูปสมฺปทา จ วุตฺตา เอว.

โอวาทปฏิคฺคหณูปสมฺปทา นาม ‘‘ตสฺมาติห เต, กสฺสป, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘ติพฺพํ เม หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺิตํ ภวิสฺสติ เถเรสุ นเวสุ มชฺฌิเมสุ จา’ติ. เอวฺหิ เต, กสฺสป, สิกฺขิตพฺพํ. ตสฺมาติห เต, กสฺสป, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘ยํ กิฺจิ ธมฺมํ โสสฺสามิ กุสลูปสํหิตํ, สพฺพํ ตํ อฏฺึ กตฺวา มนสิ กตฺวา สพฺพเจตสา สมนฺนาหริตฺวา โอหิตโสโต ธมฺมํ โสสฺสามี’ติ. เอวํ หิ เต, กสฺสป, สิกฺขิตพฺพํ. ตสฺมาติห เต, กสฺสป, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘สาตสหคตา จ เม กายคตาสติ น วิชหิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, กสฺสป, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔) อิมินา โอวาทปฏิคฺคหเณน มหากสฺสปตฺเถรสฺส อนุฺาตอุปสมฺปทา.

ปฺหพฺยากรณูปสมฺปทา นาม โสปากสฺส อนุฺาตอุปสมฺปทา. ภควา กิร ปุพฺพาราเม อนุจงฺกมนฺตํ โสปากสามเณรํ ‘‘‘อุทฺธุมาตกสฺา’ติ วา, โสปาก, ‘รูปสฺา’ติ วา อิเม ธมฺมา นานตฺถา นานาพฺยฺชนา, อุทาหุ เอกตฺถา, พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ ทส อสุภนิสฺสิเต ปฺเห ปุจฺฉิ. โส เต พฺยากาสิ. ภควา ตสฺส สาธุการํ ทตฺวา ‘‘กติวสฺโสสิ ตฺวํ, โสปากา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘สตฺตวสฺโสหํ, ภควา’’ติ. ‘‘โสปาก, ตฺวํ มม สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา ปฺเห พฺยากาสี’’ติ อารทฺธจิตฺโต อุปสมฺปทํ อนุชานิ. อยํ ปฺหพฺยากรณูปสมฺปทา.

ครุธมฺมปฏิคฺคหณูปสมฺปทา นาม มหาปชาปติยา อฏฺครุธมฺมสฺส ปฏิคฺคหเณน อนุฺาตอุปสมฺปทา.

ทูเตนูปสมฺปทา นาม อฑฺฒกาสิยา คณิกาย อนุฺาตอุปสมฺปทา.

อฏฺวาจิกูปสมฺปทา นาม ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุนิสงฺฆโต ตฺติจตุตฺเถน ภิกฺขุสงฺฆโต ตฺติจตุตฺเถนาติ อิเมหิ ทฺวีหิ กมฺเมหิ อุปสมฺปทา.

ตฺติจตุตฺถกมฺมูปสมฺปทา นาม ภิกฺขูนํ เอตรหิ อุปสมฺปทา. อิมาสุ อฏฺสุ อุปสมฺปทาสุ ‘‘ยา สา, ภิกฺขเว, มยา ตีหิ สรณคมเนหิ อุปสมฺปทา อนุฺาตา, ตํ อชฺชตคฺเค ปฏิกฺขิปามิ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน อุปสมฺปาเทตุ’’นฺติ (มหาว. ๖๙) เอวํ อนุฺาตาย อิมาย อุปสมฺปทาย อุปสมฺปนฺโนติ วุตฺตํ โหติ.

ภทฺโรติ อปาปโก. กลฺยาณปุถุชฺชนาทโย หิ ยาว อรหา, ตาว ภทฺเรน สีเลน สมาธินา ปฺาย วิมุตฺติยา วิมุตฺติาณทสฺสเนน จ สมนฺนาคตตฺตา ‘‘ภทฺโร ภิกฺขู’’ติ สงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ. สาโรติ เตหิเยว สีลสาราทีหิ สมนฺนาคตตฺตา นีลสมนฺนาคเมน นีโล ปโฏ วิย ‘‘สาโร ภิกฺขู’’ติ เวทิตพฺโพ. วิคตกิเลสเผคฺคุภาวโต วา ขีณาสโวว ‘‘สาโร’’ติ เวทิตพฺโพ. เสโขติ ปุถุชฺชนกลฺยาณเกน สทฺธึ สตฺต อริยา ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขนฺตีติ เสขา. เตสุ โย โกจิ ‘‘เสโข ภิกฺขู’’ติ เวทิตพฺโพ. น สิกฺขตีติ อเสโข. เสกฺขธมฺเม อติกฺกมฺม อคฺคผเล ิโต, ตโต อุตฺตริ สิกฺขิตพฺพาภาวโต ขีณาสโว ‘‘อเสโข’’ติ วุจฺจติ. สมคฺเคน สงฺเฆนาติ สพฺพนฺติเมน ปริยาเยน ปฺจวคฺคกรณีเย กมฺเม ยาวติกา ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา, เตสํ อาคตตฺตา ฉนฺทารหานํ ฉนฺทสฺส อาหฏตฺตา, สมฺมุขีภูตานฺจ อปฺปฏิกฺโกสนโต เอกสฺมึ กมฺเม สมคฺคภาวํ อุปคเตน. ตฺติจตุตฺเถนาติ ตีหิ อนุสฺสาวนาหิ เอกาย จ ตฺติยา กาตพฺเพน. กมฺเมนาติ ธมฺมิเกน วินยกมฺเมน. อกุปฺเปนาติ วตฺถุ-ตฺติ-อนุสฺสาวน-สีมา-ปริสสมฺปตฺติสมฺปนฺนตฺตา อโกเปตพฺพตํ อปฺปฏิกฺโกสิตพฺพตฺจ อุปคเตน. านารเหนาติ การณารเหน สตฺถุสาสนารเหน. อุปสมฺปนฺโน นาม อุปริภาวํ สมาปนฺโน, ปตฺโตติ อตฺโถ. ภิกฺขุภาโว หิ อุปริภาโว, ตฺเจส ยถาวุตฺเตน กมฺเมน สมาปนฺนตฺตา ‘‘อุปสมฺปนฺโน’’ติ วุจฺจติ. เอตฺถ จ ตฺติจตุตฺถกมฺมํ เอกเมว อาคตํ. อิมสฺมึ ปน าเน ตฺวา จตฺตาริ สงฺฆกมฺมานิ นีหริตฺวา วิตฺถารโต กเถตพฺพานีติ สพฺพอฏฺกถาสุ วุตฺตํ. ตานิ จ ‘‘อปโลกนกมฺมํ ตฺติกมฺมํ ตฺติทุติยกมฺมํ ตฺติจตุตฺถกมฺม’’นฺติ ปฏิปาฏิยา เปตฺวา วิตฺถาเรน ขนฺธกโต ปริวาราวสาเน กมฺมวิภงฺคโต จ ปาฬึ อาหริตฺวา กถิตานิ. ตานิ มยํ ปริวาราวสาเน กมฺมวิภงฺเคเยว วณฺณยิสฺสาม. เอวฺหิ สติ ปมปาราชิกวณฺณนา จ น ภาริยา ภวิสฺสติ; ยถาิตาย จ ปาฬิยา วณฺณนา สุวิฺเยฺยา ภวิสฺสติ. ตานิ จ านานิ อสุฺานิ ภวิสฺสนฺติ; ตสฺมา อนุปทวณฺณนเมว กโรม.

ตตฺราติ เตสุ ‘‘ภิกฺขโก’’ติอาทินา นเยน วุตฺเตสุ ภิกฺขูสุ. ยฺวายํ ภิกฺขูติ โย อยํ ภิกฺขุ. สมคฺเคน สงฺเฆน…เป… อุปสมฺปนฺโนติ อฏฺสุ อุปสมฺปทาสุ ตฺติจตุตฺเถเนว กมฺเมน อุปสมฺปนฺโน. อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปโต ภิกฺขูติ อยํ อิมสฺมึ ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตฺวา ปาราชิโก โหตี’’ติ อตฺเถ ‘‘ภิกฺขู’’ติ อธิปฺเปโต. อิตเร ปน ‘‘ภิกฺขโก’’ติ อาทโย อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตา. เตสุ จ ‘‘ภิกฺขโก’’ติ อาทโย นิรุตฺติวเสน วุตฺตา, ‘‘สมฺาย ภิกฺขุ, ปฏิฺาย ภิกฺขู’’ติ อิเม ทฺเว อภิลาปวเสน วุตฺตา, ‘‘เอหิ ภิกฺขู’’ติ พุทฺเธน อุปชฺฌาเยน ปฏิลทฺธอุปสมฺปทาวเสน วุตฺโต. สรณคมนภิกฺขุ อนุปฺปนฺนาย กมฺมวาจาย อุปสมฺปทาวเสน วุตฺโต, ‘‘ภทฺโร’’ติอาทโย คุณวเสน วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.

ภิกฺขุปทภาชนียํ นิฏฺิตํ.

สิกฺขาสาชีวปทภาชนียวณฺณนา

อิทานิ ‘‘ภิกฺขูน’’นฺติ อิทํ ปทํ วิเสสตฺถาภาวโต อวิภชิตฺวาว ยํ สิกฺขฺจ สาชีวฺจ สมาปนฺนตฺตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน โหติ, ตํ ทสฺเสนฺโต สิกฺขาติอาทิมาห. ตตฺถ สิกฺขิตพฺพาติ สิกฺขา. ติสฺโสติ คณนปริจฺเฉโท. อธิสีลสิกฺขาติ อธิกํ อุตฺตมํ สีลนฺติ อธิสีลํ; อธิสีลฺจ ตํ สิกฺขิตพฺพโต สิกฺขา จาติ อธิสีลสิกฺขา. เอส นโย อธิจิตฺต-อธิปฺาสิกฺขาสุ.

กตมํ ปเนตฺถ สีลํ, กตมํ อธิสีลํ, กตมํ จิตฺตํ, กตมํ อธิจิตฺตํ, กตมา ปฺา, กตมา อธิปฺาติ? วุจฺจเต – ปฺจงฺคทสงฺคสีลํ ตาว สีลเมว. ตฺหิ พุทฺเธ อุปฺปนฺเนปิ อนุปฺปนฺเนปิ โลเก ปวตฺตติ. อุปฺปนฺเน พุทฺเธ ตสฺมึ สีเล พุทฺธาปิ สาวกาปิ มหาชนํ สมาทเปนฺติ. อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ ปจฺเจกพุทฺธา จ กมฺมวาทิโน จ ธมฺมิกา สมณพฺราหฺมณา จกฺกวตฺตี จ มหาราชาโน มหาโพธิสตฺตา จ สมาทเปนฺติ. สามมฺปิ ปณฺฑิตา สมณพฺราหฺมณา สมาทิยนฺติ. เต ตํ กุสลํ ธมฺมํ ปริปูเรตฺวา เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ สมฺปตฺตึ อนุโภนฺติ. ปาติโมกฺขสํวรสีลํ ปน ‘‘อธิสีล’’นฺติ วุจฺจติ, ตฺหิ สูริโย วิย ปชฺโชตานํ สิเนรุ วิย ปพฺพตานํ สพฺพโลกิยสีลานํ อธิกฺเจว อุตฺตมฺจ, พุทฺธุปฺปาเทเยว จ ปวตฺตติ, น วินา พุทฺธุปฺปาทา. น หิ ตํ ปฺตฺตึ อุทฺธริตฺวา อฺโ สตฺโต เปตุํ สกฺโกติ, พุทฺธาเยว ปน สพฺพโส กายวจีทฺวารอชฺฌาจารโสตํ ฉินฺทิตฺวา ตสฺส ตสฺส วีติกฺกมสฺส อนุจฺฉวิกํ ตํ สีลสํวรํ ปฺเปนฺติ. ปาติโมกฺขสํวรโตปิ จ มคฺคผลสมฺปยุตฺตเมว สีลํ อธิสีลํ, ตํ ปน อิธ อนธิปฺเปตํ. น หิ ตํ สมาปนฺโน ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวติ.

กามาวจรานิ ปน อฏฺ กุสลจิตฺตานิ, โลกิยอฏฺสมาปตฺติจิตฺตานิ จ เอกชฺฌํ กตฺวา จิตฺตเมวาติ เวทิตพฺพานิ. พุทฺธุปฺปาทานุปฺปาเท จสฺส ปวตฺติ, สมาทปนํ สมาทานฺจ สีเล วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. วิปสฺสนาปาทกํ อฏฺสมาปตฺติจิตฺตํ ปน ‘‘อธิจิตฺต’’นฺติ วุจฺจติ. ตฺหิ อธิสีลํ วิย สีลานํ สพฺพโลกิยจิตฺตานํ อธิกฺเจว อุตฺตมฺจ, พุทฺธุปฺปาเทเยว จ โหติ, น วินา พุทฺธุปฺปาทา. ตโตปิ จ มคฺคผลจิตฺตเมว อธิจิตฺตํ, ตํ ปน อิธ อนธิปฺเปตํ. น หิ ตํ สมาปนฺโน ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวติ.

‘‘อตฺถิ ทินฺนํ, อตฺถิ ยิฏฺ’’นฺติ (ธ. ส. ๑๓๗๑; วิภ. ๗๙๓; ม. นิ. ๓.๙๒) -อาทินยปฺปวตฺตํ ปน กมฺมสฺสกตาณํ ปฺา, สา หิ พุทฺเธ อุปฺปนฺเนปิ อนุปฺปนฺเนปิ โลเก ปวตฺตติ. อุปฺปนฺเน พุทฺเธ ตสฺสา ปฺาย พุทฺธาปิ พุทฺธสาวกาปิ มหาชนํ สมาทเปนฺติ. อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ ปจฺเจกพุทฺธา จ กมฺมวาทิโน จ ธมฺมิกา สมณพฺราหฺมณา จกฺกวตฺตี จ มหาราชาโน มหาโพธิสตฺตา จ สมาทเปนฺติ. สามมฺปิ ปณฺฑิตา สตฺตา สมาทิยนฺติ. ตถา หิ องฺกุโร ทสวสฺสสหสฺสานิ มหาทานํ อทาสิ. เวลาโม, เวสฺสนฺตโร, อฺเ จ พหู ปณฺฑิตมนุสฺสา มหาทานานิ อทํสุ. เต ตํ กุสลํ ธมฺมํ ปริปูเรตฺวา เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ สมฺปตฺตึ อนุภวึสุ. ติลกฺขณาการปริจฺเฉทกํ ปน วิปสฺสนาาณํ ‘‘อธิปฺา’’ติ วุจฺจติ. สา หิ อธิสีล-อธิจิตฺตานิ วิย สีลจิตฺตานํ สพฺพโลกิยปฺานํ อธิกา เจว อุตฺตมา จ, น จ วินา พุทฺธุปฺปาทา โลเก ปวตฺตติ. ตโตปิ จ มคฺคผลปฺาว อธิปฺา, สา ปน อิธ อนธิปฺเปตา. น หิ ตํ สมาปนฺโน ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวตีติ.

ตตฺราติ ตาสุ ตีสุ สิกฺขาสุ. ยายํ อธิสีลสิกฺขาติ ยา อยํ ปาติโมกฺขสีลสงฺขาตา อธิสีลสิกฺขา. เอตํ สาชีวํ นามาติ เอตํ สพฺพมฺปิ ภควตา วินเย ปิตํ สิกฺขาปทํ, ยสฺมา เอตฺถ นานาเทสชาติโคตฺตาทิเภทภินฺนา ภิกฺขู สห ชีวนฺติ เอกชีวิกา สภาคชีวิกา สภาควุตฺติโน โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘สาชีว’’นฺติ วุจฺจติ. ตสฺมึ สิกฺขตีติ ตํ สิกฺขาปทํ จิตฺตสฺส อธิกรณํ กตฺวา ‘‘ยถาสิกฺขาปทํ นุ โข สิกฺขามิ น สิกฺขามี’’ติ จิตฺเตน โอโลเกนฺโต สิกฺขติ. น เกวลฺจายเมตสฺมึ สาชีวสงฺขาเต สิกฺขาปเทเยว สิกฺขติ, สิกฺขายปิ สิกฺขติ, ‘‘เอตํ สาชีวํ นามา’’ติ อิมสฺส ปน อนนฺตรสฺส ปทสฺส วเสน ‘‘ตสฺมึ สิกฺขตี’’ติ วุตฺตํ. กิฺจาปิ ตํ เอวํ วุตฺตํ, อถ โข อยเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ – ตสฺสา จ สิกฺขาย สิกฺขํ ปริปูเรนฺโต สิกฺขติ, ตสฺมิฺจ สิกฺขาปเท อวีติกฺกมนฺโต สิกฺขตีติ. เตน วุจฺจติ สาชีวสมาปนฺโนติ อิทมฺปิ อนนฺตรสฺส สาชีวปทสฺเสว วเสน วุตฺตํ. ยสฺมา ปน โส สิกฺขมฺปิ สมาปนฺโน, ตสฺมา สิกฺขาสมาปนฺโนติปิ อตฺถโต เวทิตพฺโพ. เอวฺหิ สติ ‘‘สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน’’ติ เอตสฺส ปทสฺส ปทภาชนมฺปิ ปริปุณฺณํ โหติ.

สิกฺขาสาชีวปทภาชนียํ นิฏฺิตํ.

สิกฺขาปจฺจกฺขานวิภงฺควณฺณนา

สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวาติ สิกฺขฺจ อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา ทุพฺพลภาวฺจ อปฺปกาเสตฺวา. ยสฺมา จ ทุพฺพลฺเย อาวิกเตปิ สิกฺขา อปฺปจฺจกฺขาตาว โหติ, สิกฺขาย ปน ปจฺจกฺขาตาย ทุพฺพลฺยํ อาวิกตเมว โหติ. ตสฺมา ‘‘ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา’’ติ อิมินา ปเทน น โกจิ วิเสสตฺโถ ลพฺภติ. ยถา ปน ‘‘ทิรตฺตติรตฺตํ สหเสยฺยํ กปฺเปยฺยา’’ติ วุตฺเต ทิรตฺตวจเนน น โกจิ วิเสสตฺโถ ลพฺภติ, เกวลํ โลกโวหารวเสน พฺยฺชนสิลิฏฺตาย มุขารูฬฺหตาย เอตํ วุตฺตํ. เอวมิทมฺปิ โวหารวเสน พฺยฺชนสิลิฏฺตาย มุขารูฬฺหตาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

ยสฺมา วา ภควา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ ธมฺมํ เทเสติ, ตสฺมา ‘‘สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขายา’’ติ อิมินา อตฺถํ สมฺปาเทตฺวา ‘‘ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา’’ติ อิมินา พฺยฺชนํ สมฺปาเทติ. ปริวารกปทวิรหิตฺหิ เอกเมว อตฺถปทํ วุจฺจมานํ ปริวารวิรหิโต ราชา วิย, วตฺถาลงฺการวิรหิโต วิย จ ปุริโส น โสภติ; ปริวารเกน ปน อตฺถานุโลเมน สหายปเทน สทฺธึ ตํ โสภตีติ.

ยสฺมา วา สิกฺขาปจฺจกฺขานสฺส เอกจฺจํ ทุพฺพลฺยาวิกมฺมํ อตฺโถ โหติ, ตสฺมา ตํ สนฺธาย ‘‘สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขายา’’ติปทสฺส อตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา’’ติ อาห.

ตตฺถ สิยา ยสฺมา น สพฺพํ ทุพฺพลฺยาวิกมฺมํ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ, ตสฺมา ‘‘ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา’’ติ ปมํ วตฺวา ตสฺส อตฺถนิยมนตฺถํ ‘‘สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขายา’’ติ วตฺตพฺพนฺติ, ตฺจ น; กสฺมา? อตฺถานุกฺกมาภาวโต. ‘‘สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน’’ติ หิ วุตฺตตฺตา ยํ สิกฺขํ สมาปนฺโน, ตํ อปฺปจฺจกฺขายาติ วุจฺจมาโน อนุกฺกเมเนว อตฺโถ วุตฺโต โหติ, น อฺถา. ตสฺมา อิทเมว ปมํ วุตฺตนฺติ.

อปิจ อนุปฏิปาฏิยาปิ เอตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. กถํ? ‘‘สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน’’ติ เอตฺถ ยํ สิกฺขํ สมาปนฺโน ตํ อปฺปจฺจกฺขาย ยฺจ สาชีวํ สมาปนฺโน ตตฺถ ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวาติ.

อิทานิ สิกฺขาปจฺจกฺขานทุพฺพลฺยาวิกมฺมานํ วิเสสาวิเสสํ สิกฺขาปจฺจกฺขานลกฺขณฺจ ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺถิ ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อตฺถิ ภิกฺขเวติอาทีนิ ทฺเว มาติกาปทานิ; ตานิ วิภชนฺโต ‘‘กถฺจ ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. ตตฺรายํ อนุตฺตานปทวณฺณนา – กถนฺติ เกน อากาเรน. ทุพฺพลฺยาวิกมฺมฺจาติ ทุพฺพลฺยสฺส อาวิกมฺมฺจ. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. อุกฺกณฺิโตติ อนภิรติยา อิมสฺมึ สาสเน กิจฺฉชีวิกปฺปตฺโต. อถ วา อชฺช ยามิ, สฺเว ยามิ, อิโต ยามิ, เอตฺถ ยามีติ อุทฺธํ กณฺํ กตฺวา วิหรมาโน, วิกฺขิตฺโต อเนกคฺโคติ วุตฺตํ โหติ. อนภิรโตติ สาสเน อภิรติวิรหิโต.

สามฺา จวิตุกาโมติ สมณภาวโต อปคนฺตุกาโม. ภิกฺขุภาวนฺติ ภิกฺขุภาเวน. กรณตฺเถ อุปโยควจนํ. ‘‘กณฺเ อาสตฺเตน อฏฺฏีเยยฺยา’’ติอาทีสุ (ปารา. ๑๖๒) ปน ยถาลกฺขณํ กรณวจเนเนว วุตฺตํ. อฏฺฏียมาโนติ อฏฺฏํ ปีฬิตํ ทุกฺขิตํ วิย อตฺตานํ อาจรมาโน; เตน วา ภิกฺขุภาเวน อฏฺโฏ กริยมาโน ปีฬิยมาโนติ อตฺโถ. หรายมาโนติ ลชฺชมาโน. ชิคุจฺฉมาโนติ อสุจึ วิย ตํ ชิคุจฺฉนฺโต. คิหิภาวํ ปตฺถยมาโนติอาทีนิ อุตฺตานตฺถานิเยว. ยํนูนาหํ พุทฺธํ ปจฺจกฺเขยฺยนฺติ เอตฺถ ยํนูนาติ ปริวิตกฺกทสฺสเน นิปาโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘สจาหํ พุทฺธํ ปจฺจกฺเขยฺยํ, สาธุ วต เม สิยา’’ติ. วทติ วิฺาเปตีติ อิมมตฺถํ เอเตหิ วา อฺเหิ วา พฺยฺชเนหิ วจีเภทํ กตฺวา วทติ เจว, ยสฺส จ วทติ, ตํ วิฺาเปติ ชานาเปติ. เอวมฺปีติ อุปริมตฺถสมฺปิณฺฑนตฺโต ปิกาโร. เอวมฺปิ ทุพฺพลฺยาวิกมฺมฺเจว โหติ สิกฺขา จ อปฺปจฺจกฺขาตา, อฺถาปิ.

อิทานิ ตํ อฺถาปิ ทุพฺพลฺยาวิกมฺมํ สิกฺขาย จ อปฺปจฺจกฺขานํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ วา ปนา’’ติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ อตฺถโต อุตฺตานเมว. ปทโต ปเนตฺถ อาทิโต ปฏฺาย ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺเขยฺยํ, ธมฺมํ, สงฺฆํ, สิกฺขํ, วินยํ, ปาติโมกฺขํ, อุทฺเทสํ, อุปชฺฌายํ, อาจริยํ, สทฺธิวิหาริกํ, อนฺเตวาสิกํ, สมานุปชฺฌายกํ, สมานาจริยกํ, สพฺรหฺมจารึ ปจฺจกฺเขยฺย’’นฺติ อิมานิ จุทฺทส ปทานิ ปจฺจกฺขานากาเรน วุตฺตานิ.

คิหี อสฺสนฺติอาทีนิ ‘‘คิหี, อุปาสโก, อารามิโก, สามเณโร, ติตฺถิโย, ติตฺถิยสาวโก, อสฺสมโณ, อสกฺยปุตฺติโย อสฺส’’นฺติ อิมานิ อฏฺ ปทานิ ‘‘อสฺส’’นฺติ อิมินา ภาววิกปฺปากาเรน วุตฺตานิ. เอวํ ‘‘ยํนูนาห’’นฺติ อิมินา ปฏิสํยุตฺตานิ ทฺวาวีสติ ปทานิ.

๔๖. ยถา จ เอตานิ, เอวํ ‘‘ยทิ ปนาหํ, อปาหํ, หนฺทาหํ, โหติ เม’’ติ อิเมสุ เอกเมเกน ปฏิสํยุตฺตานิ ทฺวาวีสตีติ สพฺพาเนว สตฺจ ทส จ ปทานิ โหนฺติ.

๔๗. ตโต ปรํ สริตพฺพวตฺถุทสฺสนนเยน ปวตฺตานิ ‘‘มาตรํ สรามี’’ติอาทีนิ สตฺตรส ปทานิ. ตตฺถ เขตฺตนฺติ สาลิเขตฺตาทึ. วตฺถุนฺติ ติณปณฺณสากผลาผลสมุฏฺานฏฺานํ. สิปฺปนฺติ กุมฺภการเปสการสิปฺปาทิกํ.

๔๘. ตโต ปรํ สกิฺจนสปลิโพธภาวทสฺสนวเสน ปวตฺตานิ ‘‘มาตา เม อตฺถิ, สา มยา โปเสตพฺพา’’ติอาทีนิ นว ปทานิ.

๔๙. ตโต ปรํ สนิสฺสยสปฺปติฏฺภาวทสฺสนวเสน ปวตฺตานิ ‘‘มาตา เม อตฺถิ, สา มํ โปเสสฺสตี’’ติอาทีนิ โสฬส ปทานิ.

๕๐. ตโต ปรํ เอกภตฺตเอกเสยฺยพฺรหฺมจริยานํ ทุกฺกรภาวทสฺสนวเสน ปวตฺตานิ ‘‘ทุกฺกร’’นฺติอาทีนิ อฏฺ ปทานิ.

ตตฺถ ทุกฺกรนฺติ เอกภตฺตาทีนํ กรเณ ทุกฺกรตํ ทสฺเสติ. น สุกรนฺติ สุกรภาวํ ปฏิกฺขิปติ. เอวํ ทุจฺจรํ น สุจรนฺติ เอตฺถ. น อุสฺสหามีติ ตตฺถ อุสฺสาหาภาวํ อสกฺกุเณยฺยตํ ทสฺเสติ. น วิสหามีติ อสยฺหตํ ทสฺเสติ. น รมามีติ รติยา อภาวํ ทสฺเสติ. นาภิรมามีติ อภิรติยา อภาวํ ทสฺเสติ. เอวํ อิมานิ จ ปฺาส, ปุริมานิ จ ทสุตฺตรสตนฺติ สฏฺิสตํ ปทานิ ทุพฺพลฺยาวิกมฺมวาเร วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ.

๕๑. สิกฺขาปจฺจกฺขานวาเรปิ ‘‘กถฺจ ภิกฺขเว’’ติ อาทิ สพฺพํ อตฺถโต อุตฺตานเมว. ปทโต ปเนตฺถาปิ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามิ, ธมฺมํ, สงฺฆํ, สิกฺขํ, วินยํ, ปาติโมกฺขํ, อุทฺเทสํ, อุปชฺฌายํ, อาจริยํ, สทฺธิวิหาริกํ, อนฺเตวาสิกํ, สมานุปชฺฌายกํ, สมานาจริยกํ, สพฺรหฺมจารึ ปจฺจกฺขามี’’ติ อิมานิ จุทฺทส ปทานิ สิกฺขาปจฺจกฺขานวจนสมฺพนฺเธน ปวตฺตานิ. สพฺพปเทสุ จ ‘‘วทติ วิฺาเปตี’’ติ วจนสฺส อยมตฺโถ – วจีเภทํ กตฺวา วทติ, ยสฺส จ วทติ ตํ เตเนว วจีเภเทน ‘‘อยํ สาสนํ ชหิตุกาโม สาสนโต มุจฺจิตุกาโม ภิกฺขุภาวํ จชิตุกาโม อิมํ วากฺยเภทํ กโรตี’’ติ วิฺาเปติ สาเวติ ชานาเปติ.

สเจ ปนายํ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติ วตฺตุกาโม ปทปจฺจาภฏฺํ กตฺวา ‘‘ปจฺจกฺขามิ พุทฺธ’’นฺติ วา วเทยฺย. มิลกฺขภาสาสุ วา อฺตรภาสาย ตมตฺถํ วเทยฺย. ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติ วตฺตุกาโม อุปฺปฏิปาฏิยา ‘‘ธมฺมํ ปจฺจกฺขามี’’ติ วา ‘‘สพฺรหฺมจารึ ปจฺจกฺขามี’’ติ วา วเทยฺย, เสยฺยถาปิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมวิภงฺเค ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติ วตฺตุกาโม ‘‘ทุติยํ ฌาน’’นฺติ วทติ, สเจ ยสฺส วทติ โส ‘‘อยํ ภิกฺขุภาวํ จชิตุกาโม เอตมตฺถํ วทตี’’ติ เอตฺตกมตฺตมฺปิ ชานาติ, วิรทฺธํ นาม นตฺถิ; เขตฺตเมว โอติณฺณํ, ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. สกฺกตฺตา วา พฺรหฺมตฺตา วา จุตสตฺโต วิย จุโตว โหติ สาสนา.

สเจ ปน ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขิ’’นฺติ วา, ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขิสฺสามี’’ติ วา, ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺเขยฺย’’นฺติ วาติ อตีตานาคตปริกปฺปวจเนหิ วทติ, ทูตํ วา ปหิณาติ, สาสนํ วา เปเสติ, อกฺขรํ วา ฉินฺทติ, หตฺถมุทฺทาย วา ตมตฺถํ อาโรเจติ, อปฺปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนํ ปน หตฺถมุทฺทายปิ สีสํ เอติ. สิกฺขาปจฺจกฺขานํ มนุสฺสชาติกสตฺตสฺส สนฺติเก จิตฺตสมฺปยุตฺตํ วจีเภทํ กโรนฺตสฺเสว สีสํ เอติ. วจีเภทํ กตฺวา วิฺาเปนฺโตปิ จ ยทิ ‘‘อยเมว ชานาตู’’ติ เอกํ นิยเมตฺวา อาโรเจติ, ตฺจ โสเยว ชานาติ, ปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา. อถ โส น ชานาติ, อฺโ สมีเป ิโต ชานาติ, อปฺปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา. อถ ทฺวินฺนํ ิตฏฺาเน ทฺวินฺนมฺปิ นิยเมตฺวา ‘‘เอเตสํ อาโรเจมี’’ติ วทติ, เตสุ เอกสฺมึ ชานนฺเตปิ ทฺวีสุ ชานนฺเตสุปิ ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. เอวํ สมฺพหุเลสุปิ เวทิตพฺพํ.

สเจ ปน อนภิรติยา ปีฬิโต สภาเค ภิกฺขู ปริสงฺกมาโน ‘‘โย โกจิ ชานาตู’’ติ อุจฺจสทฺทํ กโรนฺโต ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติ วทติ, ตฺจ อวิทูเร ิโต นวกมฺมิโก วา อฺโ วา สมยฺู ปุริโส สุตฺวา ‘‘อุกฺกณฺิโต อยํ สมโณ คิหิภาวํ ปตฺเถติ, สาสนโต จุโต’’ติ ชานาติ, ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. ตงฺขณฺเว ปน อปุพฺพํ อจริมํ ทุชฺชานํ, สเจ อาวชฺชนสมเย ชานาติ; ยถา ปกติยา โลเก มนุสฺสา วจนํ สุตฺวา ชานนฺติ, ปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา. อถ อปรภาเค ‘‘กึ อิมินา วุตฺต’’นฺติ กงฺขนฺโต จิเรน ชานาติ, อปฺปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา. อิทฺหิ สิกฺขาปจฺจกฺขานฺจ อุปริ อภูตาโรจนทุฏฺุลฺลวาจา-อตฺตกามทุฏฺโทสภูตา-โรจนสิกฺขาปทานิ จ เอกปริจฺเฉทานิ. อาวชฺชนสมเย าเต เอว สีสํ เอนฺติ, ‘‘กึ อยํ ภณตี’’ติ กงฺขตา จิเรน าเต สีสํ น เอนฺติ. ยถา จายํ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติ ปเท วินิจฺฉเย วุตฺโต; เอวํ สพฺพปเทสุ เวทิตพฺโพ.

ยสฺมา จ ยทา สิกฺขา ปจฺจกฺขาตา โหติ, ตทา ‘‘ยํนูนาหํ พุทฺธํ ปจฺจกฺเขยฺย’’นฺติอาทีนิ อวทตาปิ ทุพฺพลฺยํ อาวิกตเมว โหติ; ตสฺมา สพฺเพสํ ปทานํ อวสาเน วุตฺตํ – ‘‘เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ทุพฺพลฺยาวิกมฺมฺเจว โหติ สิกฺขา จ ปจฺจกฺขาตา’’ติ.

ตโต ปรํ คิหีติ มํ ธาเรหีติ เอตฺถ สเจปิ ‘‘คิหี ภวิสฺสามี’’ติ วา ‘‘คิหี โหมี’’ติ วา ‘‘คิหี ชาโตมฺหี’’ติ วา ‘‘คิหิมฺหี’’ติ วา วทติ, อปฺปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา. สเจ ปน ‘‘อชฺช ปฏฺาย คิหีติ มํ ธาเรหี’’ติ วา ‘‘ชานาหี’’ติ วา ‘‘สฺชานาหี’’ติ วา ‘‘มนสิ กโรหี’’ติ วา วทติ, อริยเกน วา วทติ มิลกฺขเกน วา; เอวเมตสฺมึ อตฺเถ วุตฺเต ยสฺส วทติ, สเจ โส ชานาติ, ปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา. เอส นโย เสเสสุปิ ‘‘อุปาสโก’’ติอาทีสุ สตฺตสุ ปเทสุ. เอวํ อิมานิ จ อฏฺ, ปุริมานิ จ จุทฺทสาติ ทฺวาวีสติ ปทานิ โหนฺติ.

๕๒. อิโต ปรํ ปุริมาเนว จุทฺทส ปทานิ ‘‘อลํ เม, กินฺนุ เม, น มมตฺโถ, สุมุตฺตาห’’นฺติ อิเมหิ จตูหิ โยเชตฺวา วุตฺตานิ ฉปฺปฺาส โหนฺติ. ตตฺถ อลนฺติ โหตุ, ปริยตฺตนฺติ อตฺโถ. กึนุ เมติ กึ มยฺหํ กิจฺจํ, กึ กรณียํ, กึ สาเธตพฺพนฺติ อตฺโถ. น มมตฺโถติ นตฺถิ มม อตฺโถ. สุมุตฺตาหนฺติ สุมุตฺโต อหํ. เสสเมตฺถ วุตฺตนยเมว. เอวํ อิมานิ จ ฉปฺปฺาส ปุริมานิ จ ทฺวาวีสตีติ อฏฺสตฺตติ ปทานิ สรูเปเนว วุตฺตานิ.

๕๓. ยสฺมา ปน เตสํ เววจเนหิปิ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, ตสฺมา ‘‘ยานิ วา ปนฺานิปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยานิ วา ปนฺานิปีติ ปาฬิยํ ‘‘พุทฺธ’’นฺติอาทีนิ อาคตปทานิ เปตฺวา ยานิ อฺานิ อตฺถิ. พุทฺธเววจนานิ วาติ พุทฺธสฺส วา ปริยายนามานิ…เป… อสกฺยปุตฺติยสฺส วา. ตตฺถ วณฺณปฏฺาเน อาคตํ นามสหสฺสํ อุปาลิคาถาสุ (ม. นิ. ๒.๗๖) นามสตํ อฺานิ จ คุณโต ลพฺภมานานิ นามานิ ‘‘พุทฺธเววจนานี’’ติ เวทิตพฺพานิ. สพฺพานิปิ ธมฺมสฺส นามานิ ธมฺมเววจนานีติ เวทิตพฺพานิ. เอส นโย สพฺพตฺถ.

อยํ ปเนตฺถ โยชนา – พุทฺธํ ปจฺจกฺขามีติ น เวววจเนน ปจฺจกฺขานํ ยถารุตเมว. ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธํ ปจฺจกฺขามิ, อนนฺตพุทฺธึ, อโนมพุทฺธึ, โพธิปฺาณํ, ธีรํ, วิคตโมหํ, ปภินฺนขีลํ, วิชิตวิชยํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวมาทิพุทฺธเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ.

ธมฺมํ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ, ยถารุตเมว. ‘‘สฺวากฺขาตํ ธมฺมํ ปจฺจกฺขามิ, สนฺทิฏฺิกํ, อกาลิกํ, เอหิปสฺสิกํ, โอปเนยฺยิกํ, ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพํ วิฺูหิ ธมฺมํ ปจฺจกฺขามิ. อสงฺขตํ ธมฺมํ ปจฺจกฺขามิ; วิราคํ, นิโรธํ, อมตํ ธมฺมํ ปจฺจกฺขามิ, ทีฆนิกายํ ปจฺจกฺขามิ, พฺรหฺมชาลํ มชฺฌิมนิกายํ, มูลปริยายํ, สํยุตฺตนิกายํ, โอฆตรณํ, องฺคุตฺตรนิกายํ, จิตฺตปริยาทานํ, ขุทฺทกนิกายํ, ชาตกํ, อภิธมฺมํ, กุสลํ ธมฺมํ, อกุสลํ ธมฺมํ, อพฺยากตํ ธมฺมํ, สติปฏฺานํ, สมฺมปฺปธานํ, อิทฺธิปาทํ, อินฺทฺริยํ, พลํ, โพชฺฌงฺคํ, มคฺคํ, ผลํ, นิพฺพานํ ปจฺจกฺขามี’’ติ จตุราสีติธมฺมกฺขนฺธสหสฺเสสุ เอกธมฺมกฺขนฺธสฺสปิ นามํ ธมฺมเววจนเมว. เอวํ ธมฺมเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.

สงฺฆํ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘สุปฺปฏิปนฺนํ สงฺฆํ ปจฺจกฺขามิ, อุชุปฺปฏิปนฺนํ, ายปฺปฏิปนฺนํ, สามีจิปฺปฏิปนฺนํ สงฺฆํ, จตุปุริสยุคํ สงฺฆํ, อฏฺปุริสปุคฺคลํ สงฺฆํ, อาหุเนยฺยํ สงฺฆํ, ปาหุเนยฺยํ, ทกฺขิเณยฺยํ, อฺชลิกรณียํ, อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ สงฺฆํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ สงฺฆเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.

สิกฺขํ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘ภิกฺขุสิกฺขํ ปจฺจกฺขามิ, ภิกฺขุนีสิกฺขํ, อธิสีลสิกฺขํ, อธิจิตฺตสิกฺขํ, อธิปฺาสิกฺขํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ สิกฺขาเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.

วินยํ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘ภิกฺขุวินยํ ปจฺจกฺขามิ, ภิกฺขุนีวินยํ, ปมํ ปาราชิกํ, ทุติยํ ตติยํ จตุตฺถํ ปาราชิกํ, สงฺฆาทิเสสํ, ถุลฺลจฺจยํ, ปาจิตฺติยํ, ปาฏิเทสนียํ, ทุกฺกฏํ, ทุพฺภาสิตํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวมาทิวินยเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.

ปาติโมกฺขํ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘ภิกฺขุปาติโมกฺขํ ภิกฺขุนีปาติโมกฺขํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ ปาติโมกฺขเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.

อุทฺเทสํ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘ภิกฺขุปาติโมกฺขุทฺเทสํ, ภิกฺขุนีปาติโมกฺขุทฺเทสํ, ปมํ ปาติโมกฺขุทฺเทสํ, ทุติยํ ตติยํ จตุตฺถํ ปฺจมํ ปาติโมกฺขุทฺเทสํ, สมฺมาสมฺพุทฺธุทฺเทสํ, อนนฺตพุทฺธิอุทฺเทสํ, อโนมพุทฺธิอุทฺเทสํ, โพธิปฺาณุทฺเทสํ, ธีรุทฺเทสํ, วิคตโมหุทฺเทสํ, ปภินฺนขีลุทฺเทสํ, วิชิตวิชยุทฺเทสํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวมาทิอุทฺเทสเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.

อุปชฺฌายํ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘โย มํ ปพฺพาเชสิ, โย มํ อุปสมฺปาเทสิ, ยสฺส มูเลนาหํ ปพฺพชิโต, ยสฺส มูเลนาหํ อุปสมฺปนฺโน, ยสฺสมูลิกา มยฺหํ ปพฺพชฺชา, ยสฺสมูลิกา มยฺหํ อุปสมฺปทา ตาหํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ อุปชฺฌายเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.

อาจริยํ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘โย มํ ปพฺพาเชสิ, โย มํ อนุสฺสาเวสิ, ยาหํ นิสฺสาย วสามิ, ยาหํ อุทฺทิสาเปมิ, ยาหํ ปริปุจฺฉามิ, โย มํ อุทฺทิสติ, โย มํ ปริปุจฺฉาเปติ ตาหํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ อาจริยเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.

สทฺธิวิหาริกํ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘ยาหํ ปพฺพาเชสึ, ยาหํ อุปสมฺปาเทสึ, มยฺหํ มูเลน โย ปพฺพชิโต, มยฺหํ มูเลน โย อุปสมฺปนฺโน, มยฺหํมูลิกา ยสฺส ปพฺพชฺชา, มยฺหํ มูลิกา ยสฺส อุปสมฺปทา ตาหํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ สทฺธิวิหาริกเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.

อนฺเตวาสิกํ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘ยาหํ ปพฺพาเชสึ, ยาหํ อนุสฺสาเวสึ, โย มํ นิสฺสาย วสติ, โย มํ อุทฺทิสาเปติ, โย มํ ปริปุจฺฉติ, ยสฺสาหํ อุทฺทิสามิ, ยาหํ ปริปุจฺฉาเปมิ ตํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ อนฺเตวาสิกเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.

สมานุปชฺฌายกํ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘มยฺหํ อุปชฺฌาโย ยํ ปพฺพาเชสิ, ยํ อุปสมฺปาเทสิ, โย ตสฺส มูเลน ปพฺพชิโต, โย ตสฺส มูเลน อุปสมฺปนฺโน, ยสฺส ตมฺมูลิกา ปพฺพชฺชา, ยสฺส ตมฺมูลิกา อุปสมฺปทา ตํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ สมานุปชฺฌายกเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.

สมานาจริยกํ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘มยฺหํ อาจริโย ยํ ปพฺพาเชสิ, ยํ อนุสฺสาเวสิ, โย ตํ นิสฺสาย วสติ, โย ตํ อุทฺทิสาเปติ ปริปุจฺฉติ, ยสฺส เม อาจริโย อุทฺทิสติ, ยํ ปริปุจฺฉาเปติ ตํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ สมานาจริยกเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.

สพฺรหฺมจารึ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘เยนาหํ สทฺธึ อธิสีลํ สิกฺขามิ, อธิจิตฺตํ อธิปฺํ สิกฺขามิ ตํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ สพฺรหฺมจาริเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.

คิหีติ มํ ธาเรหีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘อาคาริโกติ มํ ธาเรหิ, กสฺสโก, วาณิโช, โครกฺโข, โอกลฺลโก, โมฬิพทฺโธ, กามคุณิโกติ มํ ธาเรหี’’ติ เอวํ คิหิเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.

อุปาสโกติ มํ ธาเรหีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘ทฺเววาจิโก อุปาสโกติ มํ ธาเรหิ, เตวาจิโก อุปาสโก, พุทฺธํ สรณคมนิโก, ธมฺมํ สงฺฆํ สรณคมนิโก, ปฺจสิกฺขาปทิโก ทสสิกฺขาปทิโก อุปาสโกติ มํ ธาเรหี’’ติ เอวํ อุปาสกเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.

อารามิโกติ มํ ธาเรหีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘กปฺปิยการโกติ มํ ธาเรหิ, เวยฺยาวจฺจกโร, อปฺปหริตการโก, ยาคุภาชโก, ผลภาชโก, ขชฺชกภาชโกติ มํ ธาเรหี’’ติ เอวํ อารามิกเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.

สามเณโรติ มํ ธาเรหีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘กุมารโกติ มํ ธาเรหิ, เจลฺลโก, เจฏโก, โมฬิคลฺโล, สมณุทฺเทโส’ติ มํ ธาเรหี’’ติ เอวํ สามเณรเวจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.

ติตฺถิโยติ มํ ธาเรหีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘นิคณฺโติ มํ ธาเรหิ, อาชีวโก, ตาปโส, ปริพฺพาชโก, ปณฺฑรงฺโคติ มํ ธาเรหี’’ติ เอวํ ติตฺถิยเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.

ติตฺถิยสาวโกติ มํ ธาเรหีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘นิคณฺสาวโกติ มํ ธาเรหิ’’ อาชีวก ตาปส ปริพฺพาชก ปณฺฑรงฺคสาวโกติ มํ ธาเรหีติ เอวํ ติตฺถิยสาวกเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.

อสฺสมโณติ มํ ธาเรหีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘ทุสฺสีโลติ มํ ธาเรหิ, ปาปธมฺโม, อสุจิสงฺกสฺสรสมาจาโร, ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโต, อสฺสมโณ สมณปฏิฺโ, อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ, อนฺโตปูติ, อวสฺสุโต, กสมฺพุชาโต, โกณฺโ’ติ มํ ธาเรหี’’ติ เอวํ อสฺสมณเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.

อสกฺยปุตฺติโยติ มํ ธาเรหีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘น สมฺมาสมฺพุทฺธปุตฺโตติ มํ ธาเรหิ, น อนนฺตพุทฺธิปุตฺโต, น อโนมพุทฺธิปุตฺโต, น โพธิปฺาณปุตฺโต, น ธีรปุตฺโต, น วิคตโมหปุตฺโต, น ปภินฺนขีลปุตฺโต, น วิชิตวิชยปุตฺโตติ มํ ธาเรหี’’ติ เอวมาทิอสกฺยปุตฺติยเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.

เตหิ อากาเรหิ เตหิ ลิงฺเคหิ เตหิ นิมิตฺเตหีติ เตหิ ‘‘พุทฺธเววจนานิ วา’’ติอาทินา นเยน วุตฺเตหิ พุทฺธาทีนํ เววจเนหิ. เววจนานิ หิ สิกฺขาปจฺจกฺขานสฺส การณตฺตา อาการานิ, พุทฺธาทีนํ สณฺานทีปนตฺตา สิกฺขาปจฺจกฺขานสณฺานตฺตา เอว วา ลิงฺคานิ, สิกฺขาปจฺจกฺขานสฺส สฺชานนเหตุโต มนุสฺสานํ ติลกาทีนิ วิย นิมิตฺตานีติ วุจฺจนฺติ. เอวํ โข ภิกฺขเวติ อิโต ปรํ อฺสฺส สิกฺขาปจฺจกฺขานการณสฺส อภาวโต นิยเมนฺโต อาห. อยฺเหตฺถ อตฺโถ, เอวเมว ทุพฺพลฺยาวิกมฺมฺเจว โหติ สิกฺขาปจฺจกฺขานฺจ, น อิโต ปรํ การณมตฺถีติ.

๕๔. เอวํ สิกฺขาปจฺจกฺขานลกฺขณํ ทสฺเสตฺวา อปฺปจฺจกฺขาเน อสมฺโมหตฺถํ ตสฺเสว จ สิกฺขาปจฺจกฺขานลกฺขณสฺส ปุคฺคลาทิวเสน วิปตฺติทสฺสนตฺถํ ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อปฺปจฺจกฺขาตา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เยหิ อากาเรหีติอาทิ วุตฺตนยเมว. อุมฺมตฺตโกติ ยกฺขุมฺมตฺตโก วา ปิตฺตุมฺมตฺตโก วา โย โกจิ วิปรีตสฺโ, โส สเจ ปจฺจกฺขาติ, อปฺปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา. อุมฺมตฺตกสฺสาติ ตาทิสสฺเสว อุมฺมตฺตกสฺส; ตาทิสสฺส หิ สนฺติเก สเจ ปกตตฺโต สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, อุมฺมตฺตโก น ชานาติ, อปฺปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. ขิตฺตจิตฺโตติ ยกฺขุมฺมตฺตโก วุจฺจติ. ปุริมปเท ปน อุมฺมตฺตกสามฺเน วุตฺตํ ‘‘ยกฺขุมฺมตฺตโก วา ปิตฺตุมฺมตฺตโก วา’’ติ. อุภินฺนมฺปิ วิเสโส อนาปตฺติวาเร อาวิ ภวิสฺสติ. เอวํ ขิตฺตจิตฺโต สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, อปฺปจฺจกฺขาตาว โหติ. ตสฺส สนฺติเก ปจฺจกฺขาตาปิ ตมฺหิ อชานนฺเต อปฺปจฺจกฺขาตาว โหติ.

เวทนาฏฺโฏติ พลวติยา ทุกฺขเวทนาย ผุฏฺโ มุจฺฉาปเรโต; เตน วิลปนฺเตน ปจฺจกฺขาตาปิ อปฺปจฺจกฺขาตาว โหติ. ตสฺส สนฺติเก ปจฺจกฺขาตาปิ ตมฺหิ อชานนฺเต อปฺปจฺจกฺขาตา โหติ.

เทวตาย สนฺติเกติ ภุมฺมเทวตํ อาทึ กตฺวา ยาว อกนิฏฺเทวตาย สนฺติเก ปจฺจกฺขาตาปิ อปฺปจฺจกฺขาตาว โหติ. ติรจฺฉานคตสฺสาติ นาคมาณวกสฺส วา สุปณฺณมาณวกสฺส วา กินฺนร-หตฺถิ-มกฺกฏาทีนํ วา ยสฺส กสฺสจิ สนฺติเก ปจฺจกฺขาตาปิ อปฺปจฺจกฺขาตาว โหติ. ตตฺร อุมฺมตฺตกาทีนํ สนฺติเก อชานนภาเวน อปฺปจฺจกฺขาตาติ อาห. เทวตาย สนฺติเก อติขิปฺปํ ชานนภาเวน. เทวตา นาม มหาปฺา ติเหตุกปฏิสนฺธิกา อติขิปฺปํ ชานนฺติ, จิตฺตฺจ นาเมตํ ลหุปริวตฺตํ. ตสฺมา จิตฺตลหุกสฺส ปุคฺคลสฺส จิตฺตวเสเนว ‘‘มา อติขิปฺปํ วินาโส อโหสี’’ติ เทวตาย สนฺติเก สิกฺขาปจฺจกฺขานํ ปฏิกฺขิปิ.

มนุสฺเสสุ ปน นิยโม นตฺถิ. ยสฺส กสฺสจิ สภาคสฺส วา วิสภาคสฺส วา คหฏฺสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา วิฺุสฺส สนฺติเก ปจฺจกฺขาตา ปจฺจกฺขาตาว โหติ. สเจ ปน โส น ชานาติ, อปฺปจฺจกฺขาตาว โหตีติ เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อริยเกนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อริยกํ นาม อริยโวหาโร, มาคธภาสา. มิลกฺขกํ นาม โย โกจิ อนริยโก อนฺธทมิฬาทิ. โส จ น ปฏิวิชานาตีติ ภาสนฺตเร วา อนภิฺตาย, พุทฺธสมเย วา อโกวิทตาย ‘‘อิทํ นาม อตฺถํ เอส ภณตี’’ติ นปฺปฏิวิชานาติ. ทวายาติ สหสา อฺํ ภณิตุกาโม สหสา ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติ ภณติ. รวายาติ รวาภฺเน, ‘‘อฺํ ภณิสฺสามี’’ติ อฺํ ภณนฺโต. ปุริเมน โก วิเสโสติ เจ? ปุริมํ ปณฺฑิตสฺสาปิ สหสาวเสน อฺภณนํ. อิทํ ปน มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา อปกตฺุตฺตา ปกฺขลนฺตสฺส ‘‘อฺํ ภณิสฺสามี’’ติ อฺภณนํ.

อสาเวตุกาโม สาเวตีติ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส ปาฬึ วาเจติ ปริปุจฺฉติ อุคฺคณฺหาติ สชฺฌายํ กโรติ วณฺเณติ, อยํ วุจฺจติ ‘‘อสาเวตุกาโม สาเวตี’’ติ. สาเวตุกาโม น สาเวตีติ ทุพฺพลภาวํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขนฺโต วจีเภทํ น กโรติ, อยํ วุจฺจติ ‘‘สาเวตุกาโม น สาเวตี’’ติ. อวิฺุสฺส สาเวตีติ มหลฺลกสฺส วา โปตฺถกรูปสทิสสฺส, ครุเมธสฺส วา สมเย อโกวิทสฺส, คามทารกานํ วา อวิฺุตํ ปตฺตานํ สาเวติ. วิฺุสฺส น สาเวตีติ ปณฺฑิตสฺส าตุํ สมตฺถสฺส น สาเวติ. สพฺพโส วา ปนาติ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทีสุ เยน เยน ปริยาเยน สิกฺขา ปจฺจกฺขาตา โหติ, ตโต เอกมฺปิ วจีเภทํ กตฺวา น สาเวติ. เอวํ โขติ อปฺปจฺจกฺขานลกฺขณํ นิยเมติ. อยํ เหตฺถ อตฺโถ – ‘‘เอวเมว สิกฺขา อปฺปจฺจกฺขาตา โหติ, น อฺเน การเณนา’’ติ.

สิกฺขาปจฺจกฺขานวิภงฺคํ นิฏฺิตํ.

มูลปฺตฺติวณฺณนา

๕๕. อิทานิ ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺยา’’ติอาทีนํ อตฺถทสฺสนตฺถํ ‘‘เมถุนธมฺโม นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เมถุนธมฺโม นามาติ อิทํ นิทฺทิสิตพฺพสฺส เมถุนธมฺมสฺส อุทฺเทสปทํ. อสทฺธมฺโมติ อสตํ นีจชนานํ ธมฺโม. คามธมฺโมติ คามวาสีนํ เสวนธมฺโม. วสลธมฺโมติ วสลานํ ธมฺโม; กิเลสวสฺสนโต วา สยเมว วสโล ธมฺโมติ วสลธมฺโม. ทุฏฺุลฺลนฺติ ทุฏฺุฺจ กิเลเสหิ ทุฏฺตฺตา, ถูลฺจ อนิปุณภาวโตติ ทุฏฺุลฺลํ. อิโต ปฏฺาย จ ตีสุ ปเทสุ ‘‘โย โส’’ติ อิทํ ปริวตฺเตตฺวา ‘‘ยํ ต’’นฺติ กตฺวา โยเชตพฺพํ – ‘‘ยํ ตํ ทุฏฺุลฺลํ, ยํ ตํ โอทกนฺติกํ, ยํ ตํ รหสฺส’’นฺติ. เอตฺถ จ ยสฺมา ตสฺส กมฺมสฺส ปริวารภูตํ ทสฺสนมฺปิ คหณมฺปิ อามสนมฺปิ ผุสนมฺปิ ฆฏฺฏนมฺปิ ทุฏฺุลฺลํ, ตสฺมาปิ ตํ กมฺมํ ทุฏฺุลฺลํ. ยํ ตํ ทุฏฺุลฺลํ โส เมถุนธมฺโม. อุทกํ อสฺส อนฺเต สุทฺธตฺถํ อาทียตีติ อุทกนฺตํ, อุทกนฺตเมว โอทกนฺติกํ; ยํ ตํ โอทกนฺติกํ, โส เมถุนธมฺโม. รโห ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเส กตฺตพฺพตาย รหสฺสํ. ยํ ตํ รหสฺสํ, โส เมถุนธมฺโมติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา.

ทฺวเยน ทฺวเยน สมาปชฺชิตพฺพโต ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติ. ตตฺถ โยชนา – ‘‘ยา สา ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติ โส เมถุนธมฺโม นามา’’ติ. อิธ ปน ตํ สพฺพํ เอกชฺฌํ นิคเมนฺโต อาห ‘‘เอโส เมถุนธมฺโม นามา’’ติ. กึ การณา วุจฺจติ เมถุนธมฺโมติ? อุภินฺนํ รตฺตานํ สารตฺตานํ อวสฺสุตานํ ปริยุฏฺิตานํ อุภินฺนํ สทิสานํ ธมฺโมติ, ตํ การณา วุจฺจติ เมถุนธมฺโมติ.

ปฏิเสวติ นามาติ อิทํ ‘‘ปฏิเสเวยฺยา’’ติ เอตฺถ เยนากาเรน ปฏิเสเวยฺยาติ วุจฺจติ, ตสฺสาการสฺส ทสฺสนตฺถํ มาติกาปทํ. โย นิตฺเตน นิมิตฺตนฺติอาทีสุ โย ภิกฺขุ อิตฺถิยา นิมิตฺเตน อตฺตโน นิมิตฺตํ, อิตฺถิยา องฺคชาเตน อตฺตโน องฺคชาตํ สพฺพนฺติเมน ปมาเณน เอกติลพีชมตฺตมฺปิ วาเตน อสมฺผุฏฺเ อลฺโลกาเส ปเวเสติ, เอโส ปฏิเสวติ นาม; เอตฺตเกน สีลเภทํ ปาปุณาติ, ปาราชิโก โหติ.

เอตฺถ จ อิตฺถินิมิตฺเต จตฺตาริ ปสฺสานิ, เวมชฺฌฺจาติ ปฺจ านานิ ลพฺภนฺติ. ปุริสนิมิตฺเต จตฺตาริ ปสฺสานิ, มชฺฌํ, อุปริจาติ ฉ. ตสฺมา อิตฺถินิมิตฺเต เหฏฺา ปเวเสนฺโตปิ ปาราชิโก โหติ. อุปริโต ปเวเสนฺโตปิ, อุโภหิ ปสฺเสหิ ปเวเสนฺโตปิ จตฺตาริ านานิ มุฺจิตฺวา มชฺเฌน ปเวเสนฺโตปิ ปาราชิโก โหติ. ปุริสนิมิตฺตํ ปน เหฏฺาภาเคน ฉุปนฺตํ ปเวเสนฺโตปิ ปาราชิโก โหติ. อุปริภาเคน ฉุปนฺตํ ปเวเสนฺโตปิ, อุโภหิ ปสฺเสหิ ฉุปนฺตํ ปเวเสนฺโตปิ, มชฺเฌเนว ฉุปนฺตํ ปเวเสนฺโตปิ สมฺฉิตงฺคุลึ วิย มชฺฌิมปพฺพปิฏฺิยา สงฺโกเจตฺวา อุปริภาเคน ฉุปนฺตํ ปเวเสนฺโตปิ ปาราชิโก โหติ. ตตฺถ ตุลาทณฺฑสทิสํ ปเวเสนฺตสฺสาปิ จตฺตาริ ปสฺสานิ, มชฺฌฺจาติ ปฺจ านานิ; สงฺโกเจตฺวา ปเวเสนฺตสฺสาปิ จตฺตาริ ปสฺสานิ, อุปริภาคมชฺฌฺจาติ ปฺจ านานิ – เอวํ สพฺพานิปิ ปุริสนิมิตฺเต ทส านานิ โหนฺติ.

นิมิตฺเต ชาตํ อนฏฺกายปฺปสาทํ จมฺมขีลํ วา ปิฬกํ วา ปเวเสติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส. นฏฺกายปฺปสาทํ มตจมฺมํ วา สุกฺขปิฬกํ วา ปเวเสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. เมถุนสฺสาเทน โลมํ วา องฺคุลิ-องฺคุฏฺพีชาทีนิ วา ปเวเสนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว. อยฺจ เมถุนกถา นาม ยสฺมา ทุฏฺุลฺลา กถา อสพฺภิกถา, ตสฺมา เอตํ วา อฺํ วา วินเย อีทิสํ านํ กเถนฺเตน ปฏิกฺกูลมนสิการฺจ สมณสฺฺจ หิโรตฺตปฺปฺจ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา สมฺมาสมฺพุทฺเธ คารวํ อุปฺปาเทตฺวา อสมการุณิกสฺส โลกนาถสฺส กรุณาคุณํ อาวชฺเชตฺวา กเถตพฺพํ. โส หิ นาม ภควา สพฺพโส กาเมหิ วินิวตฺตมานโสปิ สตฺตานุทฺทยาย โลกานุกมฺปาย สตฺเตสุ การุฺตํ ปฏิจฺจ สิกฺขาปทปฺาปนตฺถาย อีทิสํ กถํ กเถสิ. ‘‘อโห สตฺถุ กรุณาคุโณ’’ติ เอวํ โลกนาถสฺส กรุณาคุณํ อาวชฺเชตฺวา กเถตพฺพํ.

อปิจ ยทิ ภควา สพฺพากาเรน อีทิสํ กถํ น กเถยฺย, โก ชาเนยฺย ‘‘เอตฺตเกสุ

าเนสุ ปาราชิกํ, เอตฺตเกสุ ถุลฺลจฺจยํ, เอตฺตเกสุ ทุกฺกฏ’’นฺติ. ตสฺมา สุณนฺเตนปิ กเถนฺเตนปิ พีชเกน มุขํ อปิธาย ทนฺตวิทํสกํ หสมาเนน น นิสีทิตพฺพํ. ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺเธนาปิ อีทิสํ กถิต’’นฺติ ปจฺจเวกฺขิตฺวา คพฺภิเตน หิโรตฺตปฺปสมฺปนฺเนน สตฺถุปฏิภาเคน หุตฺวา กเถตพฺพนฺติ.

มูลปฺตฺตํ นิฏฺิตํ.

อนุปฺตฺติวาเร อนฺตมโสติ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน. ติรจฺฉานคตายปีติ ปฏิสนฺธิวเสน ติรจฺฉาเนสุ คตายปิ. ปเคว มนุสฺสิตฺถิยาติ ปมตรํ มนุสฺสชาติกาย อิตฺถิยา. ปาราชิกวตฺถุภูตา เอว เจตฺถ ติรจฺฉานคติตฺถี ติรจฺฉานคตาติ คเหตพฺพา, น สพฺพา. ตตฺรายํ ปริจฺเฉโท –

อปทานํ อหิ มจฺฉา, ทฺวิปทานฺจ กุกฺกุฏี;

จตุปฺปทานํ มชฺชารี, วตฺถุ ปาราชิกสฺสิมาติ.

ตตฺถ อหิคฺคหเณน สพฺพาปิ อชครโคนสาทิเภทา ทีฆชาติ สงฺคหิตา. ตสฺมา ทีฆชาตีสุ ยตฺถ ติณฺณํ มคฺคานํ อฺตรสฺมึ สกฺกา ติลผลมตฺตมฺปิ ปเวเสตุํ, สา ปาราชิกวตฺถุ. อวเสสา ทุกฺกฏวตฺถูติ เวทิตพฺพา. มจฺฉคฺคหเณน สพฺพาปิ มจฺฉกจฺฉปมณฺฑูกาทิเภทา โอทกชาติ สงฺคหิตา. ตตฺราปิ ทีฆชาติยํ วุตฺตนเยเนว ปาราชิกวตฺถุ จ ทุกฺกฏวตฺถุ จ เวทิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – ปตงฺคมุขมณฺฑูกา นาม โหนฺติ เตสํ มุขสณฺานํ มหนฺตํ, ฉิทฺทํ อปฺปกํ, ตตฺถ ปเวสนํ นปฺปโหติ; มุขสณฺานํ ปน วณสงฺเขปํ คจฺฉติ, ตสฺมา ตํ ถุลฺลจฺจยวตฺถูติ เวทิตพฺพํ. กุกฺกุฏิคฺคหเณน สพฺพาปิ กากกโปตาทิเภทา ปกฺขิชาติ สงฺคหิตา. ตตฺราปิ วุตฺตนเยเนว ปาราชิกวตฺถุ จ ทุกฺกฏวตฺถุ จ เวทิตพฺพํ. มชฺชาริคฺคหเณน สพฺพาปิ รุกฺขสุนข-มุงฺคุส-โคธาทิเภทา จตุปฺปทชาติ สงฺคหิตา. ตตฺราปิ วุตฺตนเยเนว ปาราชิกวตฺถุ จ ทุกฺกฏวตฺถุ จ เวทิตพฺพํ.

ปาราชิโกติ ปราชิโต, ปราชยํ อาปนฺโน. อยฺหิ ปาราชิกสทฺโท สิกฺขาปทาปตฺติปุคฺคเลสุ วตฺตติ. ตตฺถ ‘‘อฏฺานเมตํ, อานนฺท, อนวกาโส ยํ ตถาคโต วชฺชีนํ วา วชฺชิปุตฺตกานํ วา การณา สาวกานํ ปาราชิกํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ สมูหเนยฺยา’’ติ (ปารา. ๔๓) เอวํ สิกฺขาปเท วตฺตมาโน เวทิตพฺโพ. ‘‘อาปตฺตึ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปนฺโน ปาราชิก’’นฺติ (ปารา. ๖๗) เอวํ อาปตฺติยํ. ‘‘น มยํ ปาราชิกา, โย อวหโฏ โส ปาราชิโก’’ติ (ปารา. ๑๕๕) เอวํ ปุคฺคเล วตฺตมาโน เวทิตพฺโพ. ‘‘ปาราชิเกน ธมฺเมน อนุทฺธํเสยฺยา’’ติอาทีสุ (ปารา. ๓๘๔) ปน ธมฺเม วตฺตตีติ วทนฺติ. ยสฺมา ปน ตตฺถ ธมฺโมติ กตฺถจิ อาปตฺติ, กตฺถจิ สิกฺขาปทเมว อธิปฺเปตํ, ตสฺมา โส วิสุํ น วตฺตพฺโพ. ตตฺถ สิกฺขาปทํ โย ตํ อติกฺกมติ, ตํ ปราเชติ, ตสฺมา ‘‘ปาราชิก’’นฺติ วุจฺจติ. อาปตฺติ ปน โย นํ อชฺฌาปชฺชติ, ตํ ปราเชติ, ตสฺมา ‘‘ปาราชิกา’’ติ วุจฺจติ. ปุคฺคโล ยสฺมา ปราชิโต ปราชยมาปนฺโน, ตสฺมา ‘‘ปาราชิโก’’ติ วุจฺจติ. เอตเมว หิ อตฺถํ สนฺธาย ปริวาเรปิ

‘‘ปาราชิกนฺติ ยํ วุตฺตํ, ตํ สุโณหิ ยถาตถํ;

จุโต ปรทฺโธ ภฏฺโ จ, สทฺธมฺมา หิ นิรงฺกโต;

สํวาโสปิ ตหึ นตฺถิ, เตเนตํ อิติ วุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. (ปริ. ๓๓๙);

อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ‘‘ตํ สิกฺขาปทํ วีติกฺกมนฺโต อาปตฺติฺจ อาปนฺโน ปุคฺคโล จุโต โหตีติ สพฺพํ โยเชตพฺพํ. เตน วุจฺจตีติ เยน การเณน อสฺสมโณ โหติ อสกฺยปุตฺติโย ปริภฏฺโ ฉินฺโน ปราชิโต สาสนโต, เตน วุจฺจติ. กินฺติ? ‘‘ปาราชิโก โหตี’’ติ.

สห วสนฺติ เอตฺถาติ สํวาโส, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สํวาโส นามา’’ติ วตฺวา ‘‘เอกกมฺม’’นฺติอาทิมาห. ตตฺรายํ สทฺธึ โยชนาย วณฺณนา – จตุพฺพิธมฺปิ สงฺฆกมฺมํ สีมาปริจฺฉินฺเนหิ ปกตตฺเตหิ ภิกฺขูหิ เอกโต กตฺตพฺพตฺตา เอกกมฺมํ นาม. ตถา ปฺจวิโธปิ ปาติโมกฺขุทฺเทโส เอกโต อุทฺทิสิตพฺพตฺตา เอกุทฺเทโส นาม. ปฺตฺตํ ปน สิกฺขาปทํ สพฺเพหิปิ ลชฺชีปุคฺคเลหิ สมํ สิกฺขิตพฺพภาวโต สมสิกฺขตา นาม. เอตฺถ ยสฺมา สพฺเพปิ ลชฺชิโน เอเตสุ กมฺมาทีสุ สห วสนฺติ, น เอโกปิ ตโต พหิทฺธา สนฺทิสฺสติ, ตสฺมา ตานิ สพฺพานิปิ คเหตฺวา ‘‘เอโส สํวาโส นามา’’ติ อาห. โส จ วุตฺตปฺปกาโร สํวาโส เตน ปุคฺคเลน สทฺธึ นตฺถิ, เตน การเณน โส ปาราชิโก ปุคฺคโล อสํวาโสติ วุจฺจตีติ.

๕๖. เอวํ อุทฺทิฏฺสิกฺขาปทํ ปทานุกฺกเมน วิภชิตฺวา อิทานิ ยํ ตํ ‘‘ปฏิเสเวยฺยา’’ติ เอตฺถ เยนากาเรน ปฏิเสเวยฺยาติ วุจฺจติ, ตสฺสาการสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘ปฏิเสวติ นามา’’ติ อิทํ มาติกาปทํ เปตฺวา ‘‘นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ องฺคชาเตน องฺคชาต’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺมา น เกวลํ อิตฺถิยา เอว นิมิตฺตํ ปาราชิกวตฺถุ, น จ มนุสฺสิตฺถิยา เอว, สุวณฺณรชตาทิมยานฺจ อิตฺถีนมฺปิ นิมิตฺตํ วตฺถุเมว น โหติ; ตสฺมา ยํ ยํ วตฺถุ โหติ, ตํ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ติสฺโส อิตฺถิโย’’ติอาทินา นเยน เยสํ นิมิตฺตานิ วตฺถูนิ โหนฺติ, เต สตฺเต วตฺวา ‘‘มนุสฺสิตฺถิยา ตโย มคฺเค’’ติอาทินา นเยน ตานิ วตฺถูนิ อาห.

ตตฺถ ติสฺโส อิตฺถิโย, ตโย อุภโตพฺยฺชนกา, ตโย ปณฺฑกา, ตโย ปุริสาติ ปาราชิกวตฺถูนํ นิมิตฺตานํ นิสฺสยา ทฺวาทส สตฺตา โหนฺติ. เตสุ อิตฺถิปุริสา ปากฏา เอว. ปณฺฑกอุภโตพฺยฺชนกเภโท ปพฺพชฺชาขนฺธกวณฺณนายํ ปากโฏ ภวิสฺสติ.

มนุสฺสิตฺถิยา ตโย มคฺเค เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺสาติ เอตฺถ จ มนุสฺสิตฺถิยา ตีสุ มคฺเคสูติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวํ สพฺพตฺถ. สพฺเพ เอว เจเต มนุสฺสิตฺถิยา ตโย มคฺคา, อมนุสฺสิตฺถิยา ตโย, ติรจฺฉานคติตฺถิยา ตโยติ นว; มนุสฺสอุภโตพฺยฺชนกาทีนํ นว; มนุสฺสปณฺฑกาทีนํ ทฺเว ทฺเว กตฺวา ฉ; ตถา มนุสฺสปุริสาทีนนฺติ สมตึส มคฺคา โหนฺติ. เอเตสุ นิมิตฺตสงฺขาเตสุ ยตฺถ กตฺถจิ อตฺตโน องฺคชาตํ ติลผลมตฺตมฺปิ ปเวเสตฺวา เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺโต ปาราชิกํ อาปชฺชติ.

ปมจตุกฺกกถาวณฺณนา

๕๗. อาปชฺชนฺโต ปน ยสฺมา เสวนจิตฺเตเนว อาปชฺชติ, น วินา เตน; ตสฺมา ตํ ลกฺขณํ ทสฺเสนฺโต ภควา ‘‘ภิกฺขุสฺส เสวนจิตฺตํ อุปฏฺิเต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ภิกฺขุสฺสาติ เมถุนเสวนกสฺส ภิกฺขุสฺส. เสวนจิตฺตํ อุปฏฺิเตติ ภุมฺมตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ, เสวนจิตฺเต ปจฺจุปฏฺิเตติ อตฺโถ. วจฺจมคฺคํ องฺคชาตํ ปเวเสนฺตสฺสาติ เยน มคฺเคน วจฺจํ นิกฺขมติ ตํ มคฺคํ อตฺตโน องฺคชาตํ ปุริสนิมิตฺตํ ติลผลมตฺตมฺปิ ปเวเสนฺตสฺส. อาปตฺติ ปาราชิกสฺสาติ อาปตฺติ ปาราชิกา อสฺส โหตีติ อตฺโถ. อถ วา อาปตฺตีติ อาปชฺชนํ โหติ. ปาราชิกสฺสาติ ปาราชิกธมฺมสฺส. เอส นโย สพฺพตฺถ.

๕๘. เอวํ เสวนจิตฺเตเนว ปเวเสนฺตสฺส อาปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยสฺมา ตํ ปเวสนํ นาม น เกวลํ อตฺตูปกฺกเมเนว, ปรูปกฺกเมนาปิ โหติ. ตตฺราปิ จ สาทิยนฺตสฺเสว อาปตฺติ ปฏิเสวนจิตฺตสมงฺคิสฺส, น อิตรสฺส. ตสฺมา เย สทฺธาปพฺพชิตา กุลปุตฺตา สมฺมาปฏิปนฺนกา ปรูปกฺกเมน ปเวสเนปิ สติ น สาทิยนฺติ, เตสํ รกฺขณตฺถํ ‘‘ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสิตฺถิ’’นฺติอาทิมาห.

ตตฺถ ปฏิปกฺขํ อตฺถยนฺติ อิจฺฉนฺตีติ ปจฺจตฺถิกา, ภิกฺขู เอว ปจฺจตฺถิกา ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา; วิสภาคานํ เวริภิกฺขูนเมตํ อธิวจนํ. มนุสฺสิตฺถึ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวาติ อิสฺสาปกตา ตํ ภิกฺขุํ นาเสตุกามา อามิเสน วา อุปลาเปตฺวา มิตฺตสนฺถววเสน วา ‘‘อิทํ อมฺหากํ กิจฺจํ กโรหี’’ติ วตฺวา กฺจิ มนุสฺสิตฺถึ รตฺติภาเค ตสฺส ภิกฺขุสฺส วสโนกาสํ อาเนตฺวา. วจฺจมคฺเคน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺตีติ ตํ ภิกฺขุํ หตฺถปาทสีสาทีสุ สุคฺคหิตํ นิปฺปริปฺผนฺทํ คเหตฺวา อิตฺถิยา วจฺจมคฺเคน ตสฺส ภิกฺขุโน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติ; สมฺปโยเชนฺตีติ อตฺโถ.

โส เจติอาทีสุ โส เจ ภิกฺขุ วจฺจมคฺคพฺภนฺตรํ อตฺตโน องฺคชาตสฺส ปเวสนํ สาทิยติ อธิวาเสติ ตสฺมึ ขเณ เสวนจิตฺตํ อุปฏฺาเปติ. ปวิฏฺํ สาทิยติ อธิวาเสติ, ปวิฏฺกาเล เสวนจิตฺตํ อุปฏฺาเปติ. ิตํ สาทิยติ อธิวาเสติ, านปฺปตฺตกาเล สุกฺกวิสฺสฏฺิสมเย เสวนจิตฺตํ อุปฏฺาเปติ. อุทฺธรณํ สาทิยติ อธิวาเสติ, นีหรณกาเล ปฏิเสวนจิตฺตํ อุปฏฺาเปติ. เอวํ จตูสุ าเนสุ สาทิยนฺโต ‘‘มม เวริสมเณหิ อิทํ กต’’นฺติ วตฺตุํ น ลภติ, ปาราชิกาปตฺติเมว อาปชฺชติ. ยถา จ อิมานิ จตฺตาริ สาทิยนฺโต อาปชฺชติ; เอวํ ปุริมํ เอกํ อสาทิยิตฺวา ตีณิ สาทิยนฺโตปิ, ทฺเว อสาทิยิตฺวา ทฺเว สาทิยนฺโตปิ, ตีณิ อสาทิยิตฺวา เอกํ สาทิยนฺโตปิ อาปชฺชติเยว. สพฺพโส ปน อสาทิยนฺโต อาสีวิสมุขํ วิย องฺคารกาสุํ วิย จ ปวิฏฺํ องฺคชาตํ มฺมาโน นาปชฺชติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปเวสนํ น สาทิยติ…เป… อุทฺธรณํ น สาทิยติ, อนาปตฺตี’’ติ. อิมฺหิ เอวรูปํ อารทฺธวิปสฺสกํ กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺขํ เอกาทสหิ อคฺคีหิ สมฺปชฺชลิตานิ จ สพฺพายตนานิ อุกฺขิตฺตาสิเก วิย จ วธเก ปฺจ กามคุเณ ปสฺสนฺตํ ปุคฺคลํ รกฺขนฺโต ภควา ปจฺจตฺถิกานฺจสฺส มโนรถวิฆาตํ กโรนฺโต อิมํ ‘‘ปเวสนํ น สาทิยตี’’ติอาทิกํ จตุกฺกํ นีหริตฺวา เปสีติ.

ปมจตุกฺกกถา นิฏฺิตา.

เอกูนสตฺตติทฺวิสตจตุกฺกกถา

๕๙-๖๐. เอวํ ปมจตุกฺกํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยสฺมา ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา อิตฺถึ อาเนตฺวา น เกวลํ วจฺจมคฺเคเนว อภินิสีเทนฺติ, อถ โข ปสฺสาวมคฺเคนปิ มุเขนปิ. อิตฺถึ อาเนตฺวาปิ จ เกจิ ชาครนฺตึ อาเนนฺติ, เกจิ สุตฺตํ, เกจิ มตฺตํ, เกจิ อุมฺมตฺตํ, เกจิ ปมตฺตํ อฺวิหิตํ วิกฺขิตฺตจิตฺตนฺติ อตฺโถ. เกจิ มตํ อกฺขายิตํ, โสณสิงฺคาลาทีหิ อกฺขายิตนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. เกจิ มตํ เยภุยฺเยน อกฺขายิตํ, เยภุยฺเยน อกฺขายิตา นาม ยสฺสา นิมิตฺเต วจฺจมคฺเค ปสฺสาวมคฺเค มุเข วา พหุตโร โอกาโส อกฺขายิโต โหติ. เกจิ มตํ เยภุยฺเยน ขายิตํ, เยภุยฺเยน ขายิตา นาม ยสฺสา วจฺจมคฺคาทิเก นิมิตฺเต พหุํ ขายิตํ โหติ, อปฺปํ อกฺขายิตํ. น เกวลฺจ มนุสฺสิตฺถิเมว อาเนนฺติ, อถ โข อมนุสฺสิตฺถิมฺปิ ติรจฺฉานคติตฺถิมฺปิ. น เกวลฺจ วุตฺตปฺปการํ อิตฺถิเมว, อุภโตพฺยฺชนกมฺปิ ปณฺฑกมฺปิ ปุริสมฺปิ อาเนนฺติ. ตสฺมา เตสํ วเสน อฺานิปิ จตุกฺกานิ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสิตฺถึ ชาครนฺติ’’นฺติอาทิมาห.

ตตฺถ ปาฬิยา อสมฺโมหตฺถํ วุตฺตจตุกฺกานิ เอวํ สงฺขฺยาโต เวทิตพฺพานิ – มนุสฺสิตฺถิยา ติณฺณํ มคฺคานํ วเสน ตีณิ สุทฺธิกจตุกฺกานิ, ตีณิ ชาครนฺตีจตุกฺกานิ, ตีณิ สุตฺตจตุกฺกานิ, ตีณิ มตฺตจตุกฺกานิ, ตีณิ อุมฺมตฺตจตุกฺกานิ, ตีณิ ปมตฺตจตุกฺกานิ, ตีณิ มตอกฺขายิตจตุกฺกานิ, ตีณิ เยภุยฺเยน อกฺขายิตจตุกฺกานิ, ตีณิ เยภุยฺเยน ขายิตจตุกฺกานีติ สตฺตวีสติ จตุกฺกานิ. ตถา อมนุสฺสิตฺถิยา; ตถา ติรจฺฉานคติตฺถิยาติ อิตฺถิวาเร เอกาสีติ จตุกฺกานิ. ยถา จ อิตฺถิวาเร เอวํ อุภโตพฺยฺชนกวาเร. ปณฺฑกปุริสวาเรสุ ปน ทฺวินฺนํ มคฺคานํ วเสน จตุปณฺณาส จตุปณฺณาส โหนฺติ. เอวํ สพฺพานิปิ ทฺเวสตานิ, สตฺตติ จ จตุกฺกานิ โหนฺติ, ตานิ อุตฺตานตฺถานิเยว.

สพฺพวาเรสุ ปเนตฺถ ‘‘มตํ เยภุยฺเยน อกฺขายิตํ ขายิต’’นฺติ เอตสฺมึ าเน อยํ วินิจฺฉโย – ตมฺพปณฺณิทีเป กิร ทฺเว วินยธรา สมานาจริยกา เถรา อเหสุํ – อุปติสฺสตฺเถโร จ, ผุสฺสเทวตฺเถโร จ. เต มหาภเย อุปฺปนฺเน วินยปิฏกํ ปริหรนฺตา รกฺขึสุ. เตสุ อุปติสฺสตฺเถโร พฺยตฺตตโร. ตสฺสาปิ ทฺเว อนฺเตวาสิกา อเหสุํ – มหาปทุมตฺเถโร จ มหาสุมตฺเถโร จ. เตสุ มหาสุมตฺเถโร นกฺขตฺตุํ วินยปิฏกํ อสฺโสสิ, มหาปทุมตฺเถโร เตน สทฺธึ นวกฺขตฺตุํ, วิสุฺจ เอกโกว นวกฺขตฺตุนฺติ อฏฺารสกฺขตฺตุํ อสฺโสสิ; อยเมว เตสุ พฺยตฺตตโร. เตสุ มหาสุมตฺเถโร นวกฺขตฺตุํ วินยปิฏกํ สุตฺวา อาจริยํ มุฺจิตฺวา อปรคงฺคํ อคมาสิ. ตโต มหาปทุมตฺเถโร อาห – ‘‘สูโร วต, เร, เอส วินยธโร โย ธรมานกํเยว อาจริยํ มุฺจิตฺวา อฺตฺถ วสิตพฺพํ มฺติ. นนุ อาจริเย ธรมาเน วินยปิฏกฺจ อฏฺกถา จ อเนกกฺขตฺตุํ คเหตฺวาปิ น วิสฺสชฺเชตพฺพํ, นิจฺจกาลํ โสตพฺพํ, อนุสํวจฺฉรํ สชฺฌายิตพฺพ’’นฺติ.

เอวํ วินยครุกานํ ภิกฺขูนํ กาเล เอกทิวสํ อุปติสฺสตฺเถโร มหาปทุมตฺเถรปฺปมุขานํ ปฺจนฺนํ อนฺเตวาสิกสตานํ ปมปาราชิกสิกฺขาปเท อิมํ ปเทสํ วณฺเณนฺโต นิสินฺโน โหติ. ตํ อนฺเตวาสิกา ปุจฺฉึสุ – ‘‘ภนฺเต, เยภุยฺเยน อกฺขายิเต ปาราชิกํ, เยภุยฺเยน ขายิเต ถุลฺลจฺจยํ, อุปฑฺฒกฺขายิเต เกน ภวิตพฺพ’’นฺติ? เถโร อาห – ‘‘อาวุโส, พุทฺธา นาม ปาราชิกํ ปฺเปนฺตา น สาวเสสํ กตฺวา ปฺเปนฺติ, อนวเสสํเยว กตฺวา สพฺพํ ปริยาทิยิตฺวา โสตํ ฉินฺทิตฺวา ปาราชิกวตฺถุสฺมึ ปาราชิกเมว ปฺเปนฺติ. อิทฺหิ สิกฺขาปทํ โลกวชฺชํ, น ปณฺณตฺติวชฺชํ. ตสฺมา ยทิ อุปฑฺฒกฺขายิเต ปาราชิกํ ภเวยฺย, ปฺเปยฺย สมฺมาสมฺพุทฺโธ. ปาราชิกจฺฉายา ปเนตฺถ น ทิสฺสติ, ถุลฺลจฺจยเมว ทิสฺสตี’’ติ.

อปิจ มตสรีเร ปาราชิกํ ปฺเปนฺโต ภควา เยภุยฺเยน อกฺขายิเต เปสิ ‘‘ตโต ปรํ ปาราชิกํ นตฺถี’’ติ ทสฺเสตุํ. ถุลฺลจฺจยํ ปฺเปนฺโต เยภุยฺเยน ขายิเต เปสิ ‘‘ตโต ปรํ ถุลฺลจฺจยํ นตฺถี’’ติ ทสฺเสตุนฺติปิ เวทิตพฺพํ. ขายิตาขายิตฺจ นาเมตํ มตสรีรสฺมึเยว เวทิตพฺพํ, น ชีวมาเน. ชีวมาเน หิ นขปิฏฺิปฺปมาเณปิ ฉวิมํเส วา นฺหารุมฺหิ วา สติ ปาราชิกเมว โหติ. ยทิปิ นิมิตฺตํ สพฺพโส ขายิตํ ฉวิจมฺมํ นตฺถิ, นิมิตฺตสณฺานํ ปฺายติ, ปเวสนํ ชายติ, ปาราชิกเมว. นิมิตฺตสณฺานํ ปน อนวเสเสตฺวา สพฺพสฺมึ นิมิตฺเต ฉินฺทิตฺวา สมนฺตโต ตจฺเฉตฺวา อุปฺปาฏิเต วณสงฺเขปวเสน ถุลฺลจฺจยํ. นิมิตฺตโต ปติตาย มํสเปสิยา อุปกฺกมนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. มตสรีเร ปน ยทิปิ สพฺพํ สรีรํ ขายิตํ โหติ, ยทิปิ อกฺขายิตํ, ตโย ปน มคฺคา อกฺขายิตา, เตสุ อุปกฺกมนฺตสฺส ปาราชิกํ. เยภุยฺเยน อกฺขายิเต ปาราชิกเมว. อุปฑฺฒกฺขายิเต จ เยภุยฺเยน ขายิเต จ ถุลฺลจฺจยํ.

มนุสฺสานํ ชีวมานกสรีเร อกฺขินาสกณฺณจฺฉิทฺทวตฺถิโกเสสุ สตฺถกาทีหิ กตวเณ วา เมถุนราเคน ติลผลมตฺตมฺปิ องฺคชาตํ ปเวเสนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยเมว. อวเสสสรีเร อุปกจฺฉกาทีสุ ทุกฺกฏํ. มเต อลฺลสรีเร ปาราชิกกฺเขตฺเต ปาราชิกํ, ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเต ถุลฺลจฺจยํ, ทุกฺกฏกฺเขตฺเต ทุกฺกฏํ. ยทา ปน สรีรํ อุทฺธุมาตกํ โหติ กุถิตํ นีลมกฺขิกสมากิณฺณํ กิมิกุลสมากุลํ นวหิ วณมุเขหิ ปคฺคฬิตปุพฺพกุณปภาเวน อุปคนฺตุมฺปิ อสกฺกุเณยฺยํ, ตทา ปาราชิกวตฺถุฺจ ถุลฺลจฺจยวตฺถุฺจ วิชหติ; ตาทิเส สรีเร ยตฺถ กตฺถจิ อุปกฺกมโต ทุกฺกฏเมว. ติรจฺฉานคตานํ หตฺถิ-อสฺส-โคณ-คทฺรภ-โอฏฺมหึสาทีนํ นาสาย ถุลฺลจฺจยํ. วตฺถิโกเส ถุลฺลจฺจยเมว. สพฺเพสมฺปิ ติรจฺฉานคตานํ อกฺขิกณฺณวเณสุ ทุกฺกฏํ, อวเสสสรีเรปิ ทุกฺกฏเมว. มตานํ อลฺลสรีเร ปาราชิกกฺเขตฺเต ปาราชิกํ, ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเต ถุลฺลจฺจยํ, ทุกฺกฏกฺเขตฺเต ทุกฺกฏํ.

กุถิตกุณเป ปน ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว สพฺพตฺถ ทุกฺกฏํ. กายสํสคฺคราเคน วา เมถุนราเคน วา ชีวมานกปุริสสฺส วตฺถิโกสํ อปฺปเวเสนฺโต นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฉุปติ, ทุกฺกฏํ. เมถุนราเคน อิตฺถิยา อปฺปเวเสนฺโต นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฉุปติ, ถุลฺลจฺจยํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘อิตฺถินิมิตฺตํ เมถุนราเคน มุเขน ฉุปติ ถุลฺลจฺจย’’นฺติ วุตฺตํ. จมฺมกฺขนฺธเก ‘‘ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อจิรวติยา นทิยา คาวีนํ ตรนฺตีนํ วิสาเณสุปิ คณฺหนฺติ, กณฺเณสุปิ คณฺหนฺติ, คีวายปิ คณฺหนฺติ, เฉปฺปายปิ คณฺหนฺติ, ปิฏฺิมฺปิ อภิรุหนฺติ, รตฺตจิตฺตาปิ องฺคชาตํ ฉุปนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๕๒) อิมิสฺสา อฏฺุปฺปตฺติยา อวิเสเสน วุตฺตํ – ‘‘น จ, ภิกฺขเว, รตฺตจิตฺเตน องฺคชาตํ ฉุปิตพฺพํ, โย ฉุเปยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๒). ตํ สพฺพมฺปิ สํสนฺทิตฺวา ยถา น วิรุชฺฌติ ตถา คเหตพฺพํ. กถฺจ น วิรุชฺฌติ? ยํ ตาว มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘เมถุนราเคน มุเขน ฉุปตี’’ติ. ตตฺร กิร นิมิตฺตมุขํ มุขนฺติ อธิปฺเปตํ. ‘‘เมถุนราเคนา’’ติ จ วุตฺตตฺตาปิ อยเมว ตตฺถ อธิปฺปาโยติ เวทิตพฺโพ. น หิ อิตฺถินิมิตฺเต ปกติมุเขน เมถุนุปกฺกโม โหติ. ขนฺธเกปิ เย ปิฏฺึ อภิรุหนฺตา เมถุนราเคน องฺคชาเตน องฺคชาตํ ฉุปึสุ, เต สนฺธาย ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิตรถา หิ ทุกฺกฏํ สิยา. เกจิ ปนาหุ ‘‘ขนฺธเกปิ มุเขเนว ฉุปนํ สนฺธาย โอฬาริกตฺตา กมฺมสฺส ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ. อฏฺกถายมฺปิ ตํ สนฺธายภาสิตํ คเหตฺวาว เมถุนราเคน มุเขน ฉุปติ ถุลฺลจฺจยนฺติ วุตฺต’’นฺติ. ตสฺมา สุฏฺุ สลฺลกฺเขตฺวา อุโภสุ วินิจฺฉเยสุ โย ยุตฺตตโร โส คเหตพฺโพ. วินยฺู ปน ปุริมํ ปสํสนฺติ. กายสํสคฺคราเคน ปน ปกติมุเขน วา นิมิตฺตมุเขน วา อิตฺถินิมิตฺตํ ฉุปนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส. ติรจฺฉานคติตฺถิยา ปสฺสาวมคฺคํ นิมิตฺตมุเขน ฉุปนฺตสฺส วุตฺตนเยเนว ถุลฺลจฺจยํ. กายสํสคฺคราเคน ทุกฺกฏนฺติ.

เอกูนสตฺตติทฺวิสตจตุกฺกกถา นิฏฺิตา.

สนฺถตจตุกฺกเภทกถา

๖๑-๖๒. เอวํ ภควา ปฏิปนฺนกสฺส ภิกฺขุโน รกฺขณตฺถํ สตฺตติทฺวิสตจตุกฺกานิ นีหริตฺวา ‘‘อิทานิ เย อนาคเต ปาปภิกฺขู ‘สนฺถตํ อิมํ น กิฺจิ อุปาทินฺนกํ อุปาทินฺนเกน ผุสติ, โก เอตฺถ โทโส’ติ สฺจิจฺจ เลสํ โอฑฺเฑสฺสนฺติ, เตสํ สาสเน ปติฏฺา เอว น ภวิสฺสตี’’ติ ทิสฺวา เตสุ สตฺตติทฺวิสตจตุกฺเกสุ เอกเมกํ จตุกฺกํ จตูหิ สนฺถตาทิเภเทหิ ภินฺทิตฺวา ทสฺเสนฺโต ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสิตฺถึ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมคฺเคน ปสฺสาวมคฺเคน มุเขน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติ สนฺถตาย อสนฺถตสฺสาติอาทิมาห.

ตตฺถ สนฺถตาย อสนฺถตสฺสาติอาทีสุ สนฺถตาย อิตฺถิยา วจฺจมคฺเคน ปสฺสาวมคฺเคน มุเขน อสนฺถตสฺส ภิกฺขุสฺส องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺตีติ อิมินา นเยน โยชนา เวทิตพฺพา. ตตฺถ สนฺถตา นาม ยสฺสา ตีสุ มคฺเคสุ โย โกจิ มคฺโค ปลิเวเตฺวา วา อนฺโต วา ปเวเสตฺวา เยน เกนจิ วตฺเถน วา ปณฺเณน วา วากปฏฺเฏน วา จมฺเมน วา ติปุสีสาทีนํ ปฏฺเฏน วา ปฏิจฺฉนฺโน. สนฺถโต นาม ยสฺส องฺคชาตํ เตสํเยว วตฺถาทีนํ เยน เกนจิ ปฏิจฺฉนฺนํ. ตตฺถ อุปาทินฺนเกน วา อนุปาทินฺนกํ ฆฏฺฏิยตุ, อนุปาทินฺนเกน วา อุปาทินฺนกํ, อนุปาทินฺนเกน วา อนุปาทินฺนกํ, อุปาทินฺนเกน วา อุปาทินฺนกํ, สเจ ยตฺตเก ปวิฏฺเ ปาราชิกํ โหตีติ วุตฺตํ, ตตฺตกํ ปวิสติ, สพฺพตฺถ สาทิยนฺตสฺส ปาราชิกกฺเขตฺเต ปาราชิกํ; ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเต ถุลฺลจฺจยํ, ทุกฺกฏกฺเขตฺเต ทุกฺกฏเมว โหติ. สเจ อิตฺถินิมิตฺตํ ขาณุํ กตฺวา สนฺถตํ, ขาณุํ ฆฏฺเฏนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. สเจ ปุริสนิมิตฺตํ ขาณุํ กตฺวา สนฺถตํ, ขาณุํ ปเวเสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. สเจ อุภยํ ขาณุํ กตฺวา สนฺถตํ, ขาณุนา ขาณุํ ฆฏฺเฏนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. สเจ อิตฺถินิมิตฺเต เวฬุนฬปพฺพาทีนํ กิฺจิ ปกฺขิตฺตํ, ตสฺส เหฏฺาภาคํ เจปิ ผุสนฺโต ติลผลมตฺตํ ปเวเสติ, ปาราชิกํ. อุปริภาคํ เจปิ อุโภสุ ปสฺเสสุ เอกปสฺสํ เจปิ ผุสนฺโต ปเวเสติ, ปาราชิกํ. จตฺตาริปิ ปสฺสานิ อผุสนฺโต ปเวเสตฺวา ตสฺส ตลํ เจปิ ผุสติ, ปาราชิกํ. ยทิ ปน ปสฺเสสุ วา ตเล วา อผุสนฺโต อากาสคตเมว กตฺวา ปเวเสตฺวา นีหรติ, ทุกฺกฏํ. พหิทฺธา ขาณุเก ผุสติ ทุกฺกฏเมว. ยถา จ อิตฺถินิมิตฺเต วุตฺตํ, เอวํ สพฺพตฺถ ลกฺขณํ เวทิตพฺพนฺติ.

สนฺถตจตุกฺกเภทกถา นิฏฺิตา.

ภิกฺขุปจฺจตฺถิกจตุกฺกเภทวณฺณนา

๖๓-๖๔. เอวํ สนฺถตจตุกฺกเภทํ วตฺวา อิทานิ ยสฺมา น เกวลํ มนุสฺสิตฺถิอาทิเก ภิกฺขุสฺส เอว สนฺติเก อาเนนฺติ. อถ โข ภิกฺขุมฺปิ ตาสํ สนฺติเก อาเนนฺติ, ตสฺมา ตปฺปเภทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา ภิกฺขุํ มนุสฺสิตฺถิยา สนฺติเก’’ติ อาทินา นเยน สพฺพานิ ตานิ จตุกฺกานิ ปุนปิ นีหริตฺวา ทสฺเสสิ. เตสุ วินิจฺฉโย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ.

ภิกฺขุปจฺจตฺถิกวเสน จตุกฺกเภทวณฺณนา นิฏฺิตา.

ราชปจฺจตฺถิกาทิจตุกฺกเภทกถา

๖๕. ยสฺมา ปน น ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา เอว เอวํ กโรนฺติ, ราชปจฺจตฺถิกาทโยปิ กโรนฺติ. ตสฺมา ตมฺปิ ปเภทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ราชปจฺจตฺถิกา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ราชาโน เอว ปจฺจตฺถิกา ราชปจฺจตฺถิกา. เต จ สยํ อาเนนฺตาปิ อฺเหิ อาณาเปนฺตาปิ อาเนนฺติเยวาติ เวทิตพฺพา. โจรา เอว ปจฺจตฺถิกา โจรปจฺจตฺถิกา. ธุตฺตาติ เมถุนุปสํหิตขิฑฺฑาปสุตา นาคริกเกราฏิยปุริสา, อิตฺถิธุตฺตสุราธุตฺตาทโย วา; ธุตฺตา เอว ปจฺจตฺถิกา ธุตฺตปจฺจตฺถิกา. คนฺธนฺติ หทยํ วุจฺจติ, ตํ อุปฺปาเฏนฺตีติ อุปฺปลคนฺธา, อุปฺปลคนฺธา เอว ปจฺจตฺถิกา อุปฺปลคนฺธปจฺจตฺถิกา. เอเต กิร น กสิวณิชฺชาทีหิ ชีวนฺติ, ปนฺถฆาตคามฆาตาทีนิ กตฺวา ปุตฺตทารํ โปเสนฺติ. เต กมฺมสิทฺธึ ปตฺถยมานา เทวตานํ อายาเจตฺวา ตาสํ พลิกมฺมตฺถํ มนุสฺสานํ หทยํ อุปฺปาเฏนฺติ. สพฺพกาเล จ มนุสฺสา ทุลฺลภา. ภิกฺขู ปน อรฺเ วิหรนฺตา สุลภา โหนฺติ. เต สีลวนฺตํ ภิกฺขุํ คเหตฺวา ‘‘สีลวโต วโธ นาม ภาริโย โหตี’’ติ มฺมานา ตสฺส สีลวินาสนตฺถํ มนุสฺสิตฺถิอาทิเก วา อาเนนฺติ; ตํ วา ตตฺถ เนนฺติ. อยเมตฺถ วิเสโส. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ภิกฺขุปจฺจตฺถิกวาเร วุตฺตนเยเนว จ อิเมสุ จตูสุปิ วาเรสุ จตุกฺกานิ เวทิตพฺพานิ. ปาฬิยํ ปน สํขิตฺเตน วุตฺตานิ.

สพฺพากาเรน จตุกฺกเภทกถา นิฏฺิตา.

อาปตฺตานาปตฺติวารวณฺณนา

๖๖. อิทานิ ยํ วุตฺตํ ‘‘มนุสฺสิตฺถิยา ตโย มคฺเค เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺสา’’ติอาทิ, เอตฺถ อสมฺโมหตฺถํ ‘‘มคฺเคน มคฺค’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ มคฺเคน มคฺคนฺติ อิตฺถิยา ตีสุ มคฺเคสุ อฺตเรน มคฺเคน อตฺตโน องฺคชาตํ ปเวเสติ อถ วา สมฺภินฺเนสุ ทฺวีสุ มคฺเคสุ ปสฺสาวมคฺเคน วจฺจมคฺคํ วจฺจมคฺเคน วา ปสฺสาวมคฺคํ ปเวเสติ. มคฺเคน อมคฺคนฺติ ปสฺสาวาทิมคฺเคน ปเวเสตฺวา ตสฺส สามนฺตา วเณน นีหรติ. อมคฺเคน มคฺคนฺติ มคฺคสามนฺเตน วเณน ปเวเสตฺวา มคฺเคน นีหรติ. อมคฺเคน อมคฺคนฺติ ทฺวีสุ สมฺภินฺนวเณสุ เอเกน วเณน ปเวเสตฺวา ทุติเยน นีหรติ. อิมสฺส สุตฺตสฺส อนุโลมวเสน สพฺพตฺถ วณสงฺเขเป ถุลฺลจฺจยํ เวทิตพฺพํ.

อิทานิ ยํ ปรโต วกฺขติ ‘‘อนาปตฺติ อชานนฺตสฺส อสาทิยนฺตสฺสา’’ติ, ตตฺถ อสมฺโมหตฺถํ ‘‘ภิกฺขุ สุตฺตภิกฺขุมฺหี’’ติอาทิมาห. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – โย ปฏิพุทฺโธ สาทิยติ โส ‘‘สุตฺตมฺหิ มยิ เอโส วิปฺปฏิปชฺชิ, นาหํ ชานามี’’ติ น มุจฺจติ. อุโภ นาเสตพฺพาติ เจตฺถ ทฺเวปิ ลิงฺคนาสเนน นาเสตพฺพา. ตตฺร ทูสกสฺส ปฏิฺากรณํ นตฺถิ, ทูสิโต ปุจฺฉิตฺวา ปฏิฺาย นาเสตพฺโพ. สเจ น สาทิยติ, น นาเสตพฺโพ. เอส นโย สามเณรวาเรปิ.

เอวํ ตตฺถ ตตฺถ ตํ ตํ อาปตฺติฺจ อนาปตฺติฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนาปตฺติเมว ทสฺเสนฺโต ‘‘อนาปตฺติ อชานนฺตสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อชานนฺโต นาม โย มหานิทฺทํ โอกฺกนฺโต ปเรน กตํ อุปกฺกมมฺปิ น ชานาติ เวสาลิยํ มหาวเน ทิวาวิหารคโต ภิกฺขุ วิย. เอวรูปสฺส อนาปตฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘‘นาหํ ภควา ชานามี’ติ; ‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, อชานนฺตสฺสา’’’ติ (ปารา. ๗๕). อสาทิยนฺโต นาม โย ชานิตฺวาปิ น สาทิยติ, ตตฺเถว สหสา วุฏฺิตภิกฺขุ วิย. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘‘นาหํ ภควา สาทิยิ’นฺติ. ‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, อสาทิยนฺตสฺสา’’ติ.

อุมฺมตฺตโก นาม ปิตฺตุมฺมตฺตโก. ทุวิธฺหิ ปิตฺตํ – พทฺธปิตฺตํ, อพทฺธปิตฺตฺจาติ. ตตฺถ อพทฺธปิตฺตํ โลหิตํ วิย สพฺพงฺคคตํ, ตมฺหิ กุปิเต สตฺตานํ กณฺฑุกจฺฉุสรีรกมฺปาทีนิ โหนฺติ. ตานิ เภสชฺชกิริยาย วูปสมนฺติ. พทฺธปิตฺตํ ปน ปิตฺตโกสเก ิตํ. ตมฺหิ กุปิเต สตฺตา อุมฺมตฺตกา โหนฺติ วิปลฺลตฺถสฺา หิโรตฺตปฺปํ ฉฑฺเฑตฺวา อสารุปฺปาจารํ จรนฺติ. ลหุกครุกานิ สิกฺขาปทานิ มทฺทนฺตาปิ น ชานนฺติ. เภสชฺชกิริยายปิ อเตกิจฺฉา โหนฺติ. เอวรูปสฺส อุมฺมตฺตกสฺส อนาปตฺติ.

ขิตฺตจิตฺโต นาม วิสฺสฏฺจิตฺโต ยกฺขุมฺมตฺตโก วุจฺจติ. ยกฺขา กิร เภรวานิ วา อารมฺมณานิ ทสฺเสตฺวา มุเขน หตฺถํ ปเวเสตฺวา หทยรูปํ วา มทฺทนฺตา สตฺเต วิกฺขิตฺตจิตฺเต วิปลฺลตฺถสฺเ กโรนฺติ. เอวรูปสฺส ขิตฺตจิตฺตสฺส อนาปตฺติ. เตสํ ปน อุภินฺนํ อยํ วิเสโส – ปิตฺตุมฺมตฺตโก นิจฺจเมว อุมฺมตฺตโก โหติ, ปกติสฺํ น ลภติ. ยกฺขุมฺมตฺตโก อนฺตรนฺตรา ปกติสฺํ ปฏิลภตีติ. อิธ ปน ปิตฺตุมฺมตฺตโก วา โหตุ ยกฺขุมฺมตฺตโก วา, โย สพฺพโส มุฏฺสฺสติ กิฺจิ น ชานาติ, อคฺคิมฺปิ สุวณฺณมฺปิ คูถมฺปิ จนฺทนมฺปิ เอกสทิสํ มทฺทนฺโตว วิจรติ, เอวรูปสฺส อนาปตฺติ. อนฺตรนฺตรา สฺํ ปฏิลภิตฺวา ตฺวา กโรนฺตสฺส ปน อาปตฺติเยว.

เวทนาฏฺโฏ นาม โย อธิมตฺตาย ทุกฺขเวทนาย อาตุโร กิฺจิ น ชานาติ, เอวรูปสฺส อนาปตฺติ.

อาทิกมฺมิโก นาม โย ตสฺมึ ตสฺมึ กมฺเม อาทิภูโต. อิธ ปน สุทินฺนตฺเถโร อาทิกมฺมิโก, ตสฺส อนาปตฺติ. อวเสสานํ มกฺกฏีสมณวชฺชิปุตฺตกาทีนํ อาปตฺติเยวาติ.

ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปกิณฺณกกถา

อิมสฺมึ ปน สิกฺขาปเท โกสลฺลตฺถํ อิทํ ปกิณฺณกํเวทิตพฺพํ –

‘‘สมุฏฺานฺจ กิริยา, อโถ สฺา สจิตฺตกํ;

โลกวชฺชฺจ กมฺมฺจ, กุสลํ เวทนาย จา’’ติ.

ตตฺถ ‘‘สมุฏฺาน’’นฺติ สพฺพสงฺคาหกวเสน ฉ สิกฺขาปทสมุฏฺานานิ. ตานิ ปริวาเร อาวิ ภวิสฺสนฺติ. สมาสโต ปน สิกฺขาปทํ นาม – อตฺถิ ฉสมุฏฺานํ, อตฺถิ จตุสมุฏฺานํ, อตฺถิ ติสมุฏฺานํ, อตฺถิ กถินสมุฏฺานํ, อตฺถิ เอฬกโลมสมุฏฺานํ, อตฺถิ ธุรนิกฺเขปาทิสมุฏฺานนฺติ.

ตตฺราปิ กิฺจิ กิริยโต สมุฏฺาติ, กิฺจิ อกิริยโต สมุฏฺาติ, กิฺจิ กิริยากิริยโต สมุฏฺาติ, กิฺจิ สิยา กิริยโต, สิยา อกิริยโต สมุฏฺาติ, กิฺจิ สิยา กิริยโต สิยา กิริยากิริยโต สมุฏฺาติ.

ตตฺราปิ อตฺถิ สฺาวิโมกฺขํ, อตฺถิ โนสฺาวิโมกฺขํ. ตตฺถ ยํ จิตฺตงฺคํ ลภติเยว, ตํ สฺาวิโมกฺขํ; อิตรํ โนสฺาวิโมกฺขํ.

ปุน อตฺถิ สจิตฺตกํ, อตฺถิ อจิตฺตกํ. ยํ สเหว จิตฺเตน อาปชฺชติ, ตํ สจิตฺตกํ; ยํ วินาปิ จิตฺเตน อาปชฺชติ, ตํ อจิตฺตกํ. ตํ สพฺพมฺปิ โลกวชฺชํ ปณฺณตฺติวชฺชนฺติ ทุวิธํ. เตสํ ลกฺขณํ วุตฺตเมว.

กมฺมกุสลเวทนาวเสนาปิ เจตฺถ อตฺถิ สิกฺขาปทํ กายกมฺมํ, อตฺถิ วจีกมฺมํ. ตตฺถ ยํ กายทฺวาริกํ, ตํ กายกมฺมํ; ยํ วจีทฺวาริกํ, ตํ วจีกมฺมนฺติ เวทิตพฺพํ. อตฺถิ ปน สิกฺขาปทํ กุสลํ, อตฺถิ อกุสลํ, อตฺถิ อพฺยากตํ. ทฺวตฺตึเสว หิ อาปตฺติสมอุฏฺาปกจิตฺตานิ – อฏฺ กามาวจรกุสลานิ, ทฺวาทส อกุสลานิ, ทส กามาวจรกิริยจิตฺตานิ, กุสลโต จ กิริยโต จ ทฺเว อภิฺาจิตฺตานีติ. เตสุ ยํ กุสลจิตฺเตน อาปชฺชติ, ตํ กุสลํ; อิตเรหิ อิตรํ. อตฺถิ จ สิกฺขาปทํ ติเวทนํ, อตฺถิ ทฺวิเวทนํ, อตฺถิ เอกเวทนํ. ตตฺถ ยํ อาปชฺชนฺโต ตีสุ เวทนาสุ อฺตรเวทนาสมงฺคี หุตฺวา อาปชฺชติ, ตํ ติเวทนํ; ยํ อาปชฺชนฺโต สุขสมงฺคี วา อุเปกฺขาสมงฺคี วา อาปชฺชติ, ตํ ทฺวิเวทนํ; ยํ อาปชฺชนฺโต ทุกฺขเวทนาสมงฺคีเยว อาปชฺชติ, ตํ เอกเวทนนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ –

‘‘สมุฏฺานฺจ กิริยา, อโถ สฺา สจิตฺตกํ;

โลกวชฺชฺจ กมฺมฺจ, กุสลํ เวทนาย จา’’ติ.

อิมํ ปกิณฺณกํ วิทิตฺวา เตสุ สมุฏฺานาทีสุ อิทํ สิกฺขาปทํ สมุฏฺานโต เอกสมุฏฺานํ. องฺควเสน ทุกสมุฏฺานํ, กายจิตฺตโต สมุฏฺาติ. กิริยสมุฏฺานฺจ กโรนฺโตเยว หิ เอตํ อาปชฺชติ. เมถุนปฏิสํยุตฺตาย กามสฺาย อภาเวน มุจฺจนโต สฺาวิโมกฺขํ. ‘‘อนาปตฺติ อชานนฺตสฺส อสาทิยนฺตสฺสา’’ติ หิ วุตฺตํ. เมถุนจิตฺเตเนว นํ อาปชฺชติ, น วินา จิตฺเตนาติ สจิตฺตกํ. ราควเสเนว อาปชฺชิตพฺพโต โลกวชฺชํ. กายทฺวาเรเนว สมุฏฺานโต กายกมฺมํ. จิตฺตํ ปเนตฺถ องฺคมตฺตํ โหติ, น ตสฺส วเสน กมฺมภาโว ลพฺภติ. โลภจิตฺเตน อาปชฺชิตพฺพโต อกุสลจิตฺตํ. สุขสมงฺคี วา อุเปกฺขาสมงฺคี วา ตํ อาปชฺชตีติ ทฺวิเวทนนฺติ เวทิตพฺพํ. สพฺพฺเจตํ อาปตฺติยํ ยุชฺชติ. สิกฺขาปทสีเสน ปน สพฺพอฏฺกถาสุเทสนา อารูฬฺหา, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ.

ปกิณฺณกกถา นิฏฺิตา.

วินีตวตฺถุวณฺณนา

มกฺกฏี วชฺชิปุตฺตา จ…เป… วุฑฺฒปพฺพชิโต มิโคติ อิทํ กึ? อิมา วินีตวตฺถูนํ ภควตา สยํ วินิจฺฉิตานํ เตสํ เตสํ วตฺถูนํ อุทฺทานคาถา นาม. ตานิ วตฺถูนิ ‘‘สุขํ วินยธรา อุคฺคณฺหิสฺสนฺตี’’ติ ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปิตานิ. วตฺถุคาถา ปน ธรมาเนเยว ภควติ อุปาลิตฺเถเรน ปิตา ‘‘อิมินา ลกฺขเณน อายตึ วินยธรา วินยํ วินิจฺฉินิสฺสนฺตี’’ติ. ตสฺมา เอตฺถ วุตฺตลกฺขณํ สาธุกํ สลฺลกฺเขตฺวา ปมสิกฺขาปทํ วินิจฺฉินิตพฺพํ. ทุติยาทีนฺจ วินีตวตฺถูสุ วุตฺตลกฺขเณน ทุติยาทีนิ. วินีตวตฺถูนิ หิ สิปฺปิกานํ ปฏิจฺฉนฺนกรูปานิ วิย วินยธรานํ ปฏิจฺฉนฺนกวตฺถูนิ โหนฺตีติ.

๖๗. ตตฺถ ปุริมานิ ทฺเว วตฺถูนิ อนุปฺตฺติยํเยว วุตฺตตฺถานิ. ตติเย วตฺถุมฺหิ คิหิลิงฺเคนาติ คิหิเวเสน โอทาตวตฺโถ หุตฺวา. จตุตฺเถ นตฺถิ กิฺจิ วตฺตพฺพํ. ตโต ปเรสุ สตฺตสุ วตฺถูสุ กุสจีรนฺติ กุเส คนฺเถตฺวา กตจีรํ. วากจีรํ นาม ตาปสานํ วกฺกลํ. ผลกจีรํ นาม ผลกสณฺานานิ ผลกานิ สิพฺพิตฺวา กตจีรํ. เกสกมฺพโลติ เกเสหิ ตนฺเต วายิตฺวา กตกมฺพโล. วาลกมฺพโลติ จมรวาเลหิ วายิตฺวา กตกมฺพโล. อุลูกปกฺขิกนฺติ อุลูกสกุณสฺส ปกฺเขหิ กตนิวาสนํ. อชินกฺขิปนฺติ สโลมํ สขุรํ อชินมิคจมฺมํ. ทฺวาทสเม วตฺถุมฺหิ สารตฺโตติ กายสํสคฺคราเคน สารตฺโต; ตํ ราคํ ตฺวา ภควา ‘‘อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ อาห.

๖๘. เตรสเม วตฺถุมฺหิ อุปฺปลวณฺณาติ สา เถรี สาวตฺถิยํ เสฏฺิธีตา สตสหสฺสกปฺเป อภินีหารสมฺปนฺนา. ตสฺสา ปกติยาปิ อติทสฺสนียา นีลุปฺปลวณฺณา กายจฺฉวิ, อพฺภนฺตเร ปน กิเลสสนฺตาปสฺส อภาเวน อติวิย วิโรจติ. สา ตาเยว วณฺณโปกฺขรตาย ‘‘อุปฺปลวณฺณา’’ติ นามํ ลภิ. ปฏิพทฺธจิตฺโตติ คิหิกาลโต ปฏฺาย รตฺตจิตฺโต; โส กิร ตสฺสา าติทารโก โหติ. อถ โขติ อนนฺตรตฺเถ นิปาโต; มฺจเก นิสินฺนานนฺตรเมวาติ วุตฺตํ โหติ. ทิวา พาหิรโต อาคนฺตฺวา ทฺวารํ ปิธาย นิสินฺนานฺหิ ปมํ อนฺธการํ โหติ. โส ยาวสฺสา ตํ อนฺธการํ น นสฺสติ, ตาวเทว เอวมกาสีติ อตฺโถ. ทูเสสีติ ปธํเสสิ. เถรี ปน อนวชฺชา อตฺตโน สมณสฺํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา อสาทิยนฺตี นิสีทิ อสทฺธมฺมาธิปฺปาเยน ปรามฏฺา อคฺคิกฺขนฺธ-สิลาถมฺภ-ขทิรสารขาณุกา วิย. โสปิ อตฺตโน มโนรถํ ปูเรตฺวา คโต. ตสฺสา เถริยา ทสฺสนปถํ วิชหนฺตสฺเสว อยํ มหาปถวี สิเนรุปพฺพตํ ธาเรตุํ สมตฺถาปิ ตํ ปาปปุริสํ พฺยามมตฺตกเฬวรํ ธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี วิย ภิชฺชิตฺวา วิวรมทาสิ. โส ตงฺขณฺเว อวีจิชาลานํ อินฺธนภาวํ อคมาสิ. ภควา ตํ สุตฺวา ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, อสาทิยนฺติยา’’ติ วตฺวา เถรึ สนฺธาย ธมฺมปเท อิมํ คาถํ อภาสิ –

‘‘วาริ โปกฺขรปตฺเตว, อารคฺเคริว สาสโป;

โย น ลิมฺปติ กาเมสุ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณ’’นฺติ. (ธ. ป. ๔๐๑);

๖๙. จุทฺทสเม วตฺถุมฺหิ อิตฺถิลิงฺคํ ปาตุภูตนฺติ รตฺติภาเค นิทฺทํ โอกฺกนฺตสฺส ปุริสสณฺานํ มสฺสุทาิกาทิ สพฺพํ อนฺตรหิตํ อิตฺถิสณฺานํ อุปฺปนฺนํ. ตเมว อุปชฺฌํ ตเมว อุปสมฺปทนฺติ ปุพฺเพ คหิตอุปชฺฌายเมว ปุพฺเพ กตอุปสมฺปทเมว อนุชานามิ. ปุน อุปชฺฌา น คเหตพฺพา; อุปสมฺปทา น กาตพฺพาติ อตฺโถ. ตานิเยว วสฺสานีติ ภิกฺขุอุปสมฺปทโต ปภุติ ยาว วสฺสคณนา, ตํเยว วสฺสคณนํ อนุชานามิ. น อิโต ปฏฺาย วสฺสคณนา กาตพฺพาติ อตฺโถ. ภิกฺขุนีหิ สงฺคมิตุนฺติ ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ สงฺคมิตุํ สงฺคนฺตุํ สมงฺคี ภวิตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อปฺปติรูปํ ทานิสฺสา ภิกฺขูนํ มชฺเฌ วสิตุํ, ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ วสตูติ. ยา อาปตฺติโย ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีหิ สาธารณาติ ยา เทสนาคามินิโย วา วุฏฺานคามินิโย วา อาปตฺติโย ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ สาธารณา. ตา อาปตฺติโย ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก วุฏฺาตุนฺติ ตา สพฺพาปิ ภิกฺขุนีหิ กาตพฺพํ วินยกมฺมํ กตฺวา ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก วุฏฺาตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. ตาหิ อาปตฺตีหิ อนาปตฺตีติ ยา ปน ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีหิ อสาธารณา สุกฺกวิสฺสฏฺิ-อาทิกา อาปตฺติโย, ตาหิ อนาปตฺติ. ลิงฺคปริวตฺตเนน ตา อาปตฺติโย วุฏฺิตาว โหนฺติ. ปุน ปกติลิงฺเค อุปฺปนฺเนปิ ตาหิ อาปตฺตีหิ ตสฺส อนาปตฺติเยวาติ อยํ ตาเวตฺถ ปาฬิวินิจฺฉโย.

อยํ ปน ปาฬิมุตฺโต โอกฺกนฺติกวินิจฺฉโย – อิเมสุ ตาว ทฺวีสุ ลิงฺเคสุ ปุริสลิงฺคํ อุตฺตมํ, อิตฺถิลิงฺคํ หีนํ; ตสฺมา ปุริสลิงฺคํ พลวอกุสเลน อนฺตรธายติ. อิตฺถิลิงฺคํ ทุพฺพลกุสเลน ปติฏฺาติ. อิตฺถิลิงฺคํ ปน อนฺตรธายนฺตํ ทุพฺพลอกุสเลน อนฺตรธายติ. ปุริสลิงฺคํ พลวกุสเลน ปติฏฺาติ. เอวํ อุภยมฺปิ อกุสเลน อนฺตรธายติ, กุสเลน ปฏิลพฺภติ.

ตตฺถ สเจ ทฺวินฺนํ ภิกฺขูนํ เอกโต สชฺฌายํ วา ธมฺมสากจฺฉํ วา กตฺวา เอกาคาเร นิปชฺชิตฺวา นิทฺทํ โอกฺกนฺตานํ เอกสฺส อิตฺถิลิงฺคํ ปาตุภวติ, อุภินฺนมฺปิ สหเสยฺยาปตฺติ โหติ. โส เจ ปฏิพุชฺฌิตฺวา อตฺตโน ตํ วิปฺปการํ ทิสฺวา ทุกฺขี ทุมฺมโน รตฺติภาเคเยว อิตรสฺส อาโรเจยฺย, เตน สมสฺสาเสตพฺโพ – ‘‘โหตุ, มา จินฺตยิตฺถ. วฏฺฏสฺเสเวโส โทโส. สมฺมาสมฺพุทฺเธน ทฺวารํ ทินฺนํ, ภิกฺขุ วา โหตุ ภิกฺขุนี วา, อนาวโฏ ธมฺโม อวาริโต สคฺคมคฺโค’’ติ. สมสฺสาเสตฺวา จ เอวํ วตฺตพฺพํ – ‘‘ตุมฺเหหิ ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตุํ วฏฺฏติ. อตฺถิ โว กาจิ สนฺทิฏฺา ภิกฺขุนิโย’’ติ. สจสฺสา โหนฺติ ตาทิสา ภิกฺขุนิโย อตฺถีติ, โน เจ โหนฺติ นตฺถีติ วตฺวา โส ภิกฺขุ วตฺตพฺโพ – ‘‘มม สงฺคหํ กโรถ; อิทานิ มํ ปมํ ภิกฺขุนุปสฺสยํ เนถา’’ติ. เตน ภิกฺขุนา ตํ คเหตฺวา ตสฺสา วา สนฺทิฏฺานํ อตฺตโน วา สนฺทิฏฺานํ ภิกฺขุนีนํ สนฺติกํ คนฺตพฺพํ. คจฺฉนฺเตน จ น เอกเกน คนฺตพฺพํ. จตูหิ ปฺจหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ โชติกฺจ กตฺตรทณฺฑฺจ คเหตฺวา สํวิทหนํ ปริโมเจตฺวา ‘‘มยํ อสุกํ นาม านํ คจฺฉามา’’ติ คนฺตพฺพํ. สเจ พหิคาเม ทูเร วิหาโร โหติ, อนฺตรามคฺเค คามนฺตร-นทีปาร-รตฺติวิปฺปวาส-คณโอหียนาปตฺตีหิ อนาปตฺติ. ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ตา ภิกฺขุนิโย วตฺตพฺพา – ‘‘อสุกํ นาม ภิกฺขุํ ชานาถา’’ติ? ‘‘อาม, อยฺยา’’ติ. ‘‘ตสฺส อิตฺถิลิงฺคํ ปาตุภูตํ, สงฺคหํ ทานิสฺส กโรถา’’ติ. ตา เจ ‘‘สาธุ, อยฺยา, อิทานิ มยมฺปิ สชฺฌายิสฺสาม, ธมฺมํ โสสฺสาม, คจฺฉถ ตุมฺเห’’ติ วตฺวา สงฺคหํ กโรนฺติ, อาราธิกา จ โหนฺติ สงฺคาหิกา ลชฺชินิโย, ตา โกเปตฺวา อฺตฺถ น คนฺตพฺพํ. คจฺฉติ เจ, คามนฺตร-นทีปาร-รตฺติวิปฺปวาส-คณโอหียนาปตฺตีหิ น มุจฺจติ. สเจ ปน ลชฺชินิโย โหนฺติ, น สงฺคาหิกาโย; อฺตฺถ คนฺตุํ ลพฺภติ. สเจปิ อลชฺชินิโย โหนฺติ, สงฺคหํ ปน กโรนฺติ; ตาปิ ปริจฺจชิตฺวา อฺตฺถ คนฺตุํ ลพฺภติ. สเจ ลชฺชินิโย จ สงฺคาหิกา จ, าติกา น โหนฺติ, อาสนฺนคาเม ปน อฺา าติกาโย โหนฺติ ปฏิชคฺคนิกา, ตาสมฺปิ สนฺติกํ คนฺตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. คนฺตฺวา สเจ ภิกฺขุภาเวปิ นิสฺสยปฏิปนฺโน, ปติรูปาย ภิกฺขุนิยา สนฺติเก นิสฺสโย คเหตพฺโพ. มาติกา วา วินโย วา อุคฺคหิโต สุคฺคหิโต, ปุน อุคฺคณฺหนการณํ นตฺถิ. สเจ ภิกฺขุภาเว ปริสาวจโร, ตสฺส สนฺติเกเยว อุปสมฺปนฺนา สูปสมฺปนฺนา. อฺสฺส สนฺติเก นิสฺสโย คเหตพฺโพ. ปุพฺเพ ตํ นิสฺสาย วสนฺเตหิปิ อฺสฺส สนฺติเกเยว นิสฺสโย คเหตพฺโพ. ปริปุณฺณวสฺสสามเณเรนาปิ อฺสฺส สนฺติเกเยว อุปชฺฌา คเหตพฺพา.

ยํ ปนสฺส ภิกฺขุภาเว อธิฏฺิตํ ติจีวรฺจ ปตฺโต จ, ตํ อธิฏฺานํ วิชหติ, ปุน อธิฏฺาตพฺพํ. สงฺกจฺจิกา จ อุทกสาฏิกา จ คเหตพฺพา. ยํ อติเรกจีวรํ วา อติเรกปตฺโต วา วินยกมฺมํ กตฺวา ปิโต โหติ, ตํ สพฺพมฺปิ วินยกมฺมํ วิชหติ, ปุน กาตพฺพํ. ปฏิคฺคหิตเตลมธุผาณิตาทีนิปิ ปฏิคฺคหณํ วิชหนฺติ. สเจ ปฏิคฺคหณโต สตฺตเม ทิวเส ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ วฏฺฏติ. ยํ ปน ภิกฺขุกาเล อฺสฺส ภิกฺขุโน สนฺตกํ ปฏิคฺคหิตํ, ตํ ปฏิคฺคหณํ น วิชหติ. ยํ อุภินฺนํ สาธารณํ อวิภชิตฺวา ปิตํ, ตํ ปกตตฺโต รกฺขติ. ยํ ปน วิภตฺตํ เอตสฺเสว สนฺตกํ, ตํ ปฏิคฺคหณํ วิชหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ปริวาเร

‘‘เตลํ มธุํ ผาณิตฺจาปิ สปฺปึ;

สามํ คเหตฺวาน นิกฺขิเปยฺย;

อวีติวตฺเต สตฺตาเห;

สติ ปจฺจเย ปริภุฺชนฺตสฺส อาปตฺติ;

ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๘๐);

อิทฺหิ ลิงฺคปริวตฺตนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปฏิคฺคหณํ นาม ลิงฺคปริวตฺตเนน, กาลํกิริยาย, สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน, หีนายาวตฺตเนน, อนุปสมฺปนฺนสฺส ทาเนน, อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนน, อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณน จ วิชหติ. ตสฺมา สเจปิ หรีตกขณฺฑมฺปิ ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตมตฺถิ, สพฺพมสฺส ปฏิคฺคหณํ วิชหติ. ภิกฺขุวิหาเร ปน ยํกิฺจิสฺสา สนฺตกํ ปฏิคฺคเหตฺวา วา อปฺปฏิคฺคเหตฺวา วา ปิตํ, สพฺพสฺส สาว อิสฺสรา, อาหราเปตฺวา คเหตพฺพํ. ยํ ปเนตฺถ ถาวรํ ตสฺสา สนฺตกํ เสนาสนํ วา อุปโรปกา วา, เต ยสฺสิจฺฉติ ตสฺส ทาตพฺพา. เตรสสุ สมฺมุตีสุ ยา ภิกฺขุกาเล ลทฺธา สมฺมุติ, สพฺพา สา ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. ปุริมิกาย เสนาสนคฺคาโห ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ปจฺฉิมิกาย เสนาสเน คหิเต ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, ภิกฺขุนิสงฺโฆ จสฺสา อุปฺปนฺนํ ลาภํ ทาตุกาโม โหติ, อปโลเกตฺวา ทาตพฺโพ. สเจ ภิกฺขุนีหิ สาธารณาย ปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวสนฺตสฺส ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, ปกฺขมานตฺตเมว ทาตพฺพํ. สเจ มานตฺตํ จรนฺตสฺส ปริวตฺตติ, ปุน ปกฺขมานตฺตเมว ทาตพฺพํ. สเจ จิณฺณมานตฺตสฺส ปริวตฺตติ, ภิกฺขุนีหิ อพฺภานกมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ อกุสลวิปาเก ปริกฺขีเณ ปกฺขมานตฺตกาเล ปุนเทว ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, ฉารตฺตํ มานตฺตเมว ทาตพฺพํ. สเจ จิณฺเณ ปกฺขมานตฺเต ปริวตฺตติ, ภิกฺขูหิ อพฺภานกมฺมํ กาตพฺพนฺติ.

อนนฺตเร ภิกฺขุนิยา ลิงฺคปริวตฺตนวตฺถุมฺหิ อิธ วุตฺตนเยเนว สพฺโพ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – สเจปิ ภิกฺขุนิกาเล อาปนฺนา สฺจริตฺตาปตฺติ ปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ปริวาสทานํ นตฺถิ, ฉารตฺตํ มานตฺตเมว ทาตพฺพํ. สเจ ปกฺขมานตฺตํ จรนฺติยา ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, น เตนตฺโถ, ฉารตฺตํ มานตฺตเมว ทาตพฺพํ. สเจ จิณฺณมานตฺตาย ปริวตฺตติ, ปุน มานตฺตํ อทตฺวา ภิกฺขูหิ อพฺเภตพฺโพ. อถ ภิกฺขูหิ มานตฺเต อทินฺเน ปุน ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, ภิกฺขุนีหิ ปกฺขมานตฺตเมว ทาตพฺพํ. อถ ฉารตฺตํ มานตฺตํ จรนฺตสฺส ปุน ปริวตฺตติ, ปกฺขมานตฺตเมว ทาตพฺพํ. จิณฺณมานตฺตสฺส ปน ลิงฺคปริวตฺเต ชาเต ภิกฺขุนีหิ อพฺภานกมฺมํ กาตพฺพํ. ปุน ปริวตฺเต จ ลิงฺเค ภิกฺขุนิภาเว ิตายปิ ยา อาปตฺติโย ปุพฺเพ ปฏิปฺปสฺสทฺธา, ตา สุปฺปฏิปฺปสฺสทฺธา เอวาติ.

๗๐. อิโต ปรานิ ‘‘มาตุยา เมถุนํ ธมฺม’’นฺติอาทีนิ จตฺตาริ วตฺถูนิ อุตฺตานตฺถานิเยว.

๗๑. มุทุปิฏฺิกวตฺถุมฺหิ โส กิร ภิกฺขุ นฏปุพฺพโก. ตสฺส สิปฺปโกสลฺลตฺถํ ปริกมฺมกตา ปิฏฺิ มุทุกา อโหสิ. ตสฺมา เอวํ กาตุํ อสกฺขิ.

ลมฺพีวตฺถุมฺหิ ตสฺส ภิกฺขุสฺส องฺคชาตํ ทีฆํ โหติ ลมฺพติ, ตสฺมา ลมฺพีติ วุตฺโต.

อิโต ปรานิ ทฺเว วณวตฺถูนิ อุตฺตานาเนว. เลปจิตฺตวตฺถุมฺหิ เลปจิตฺตํ นาม จิตฺตกมฺมรูปํ.

ทารุธีตลิกวตฺถุมฺหิ ทารุธีตลิกา นาม กฏฺรูปํ. ยถา จ อิเมสุ ทฺวีสุ เอวํ อฺเสุปิ ทนฺตรูป-โปตฺถกรูป-โลหรูปาทีสุ อนุปาทินฺนเกสุ อิตฺถิรูเปสุ นิมิตฺเต เมถุนราเคน อุปกฺกมนฺตสฺส อสุจิ มุจฺจตุ วา มา วา, ทุกฺกฏเมว. กายสํสคฺคราเคน อุปกฺกมนฺตสฺสาปิ ตเถว ทุกฺกฏํ. โมจนราเคน ปน อุปกฺกมนฺตสฺส มุตฺเต สงฺฆาทิเสโส, อมุตฺเต ถุลฺลจฺจยนฺติ.

๗๒. สุนฺทรวตฺถุมฺหิ อยํ สุนฺทโร นาม ราชคเห กุลทารโก สทฺธาย ปพฺพชิโต; อตฺตภาวสฺส อภิรูปตาย ‘‘สุนฺทโร’’ติ นามํ ลภิ. ตํ รถิกาย คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา สมุปฺปนฺนฉนฺทราคา สา อิตฺถี อิมํ วิปฺปการํ อกาสิ. เถโร ปน อนาคามี. ตสฺมา โส น สาทิยิ. อฺเสํ ปน อวิสโย เอโส.

อิโต ปเรสุ จตูสุ วตฺถูสุ เต ภิกฺขู ชฬา ทุมฺเมธา มาตุคามสฺส วจนํ คเหตฺวา ตถา กตฺวา ปจฺฉา กุกฺกุจฺจายึสุ.

๗๓. อกฺขายิตาทีนิ ตีณิ วตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว. ทฺวีสุ ฉินฺนสีสวตฺถูสุ อยํ วินิจฺฉโย – วฏฺฏกเต มุเข วิวเฏ องฺคชาตํ ปเวเสนฺโต สเจ เหฏฺา วา อุปริ วา อุภยปสฺเสหิ วา ฉุปนฺตํ ปเวเสติ, ปาราชิกํ. จตูหิปิ ปสฺเสหิ อฉุปนฺตํ ปเวเสตฺวา อพฺภนฺตเร ตาลุกํ ฉุปติ, ปาราชิกเมว. จตฺตาริ ปสฺสานิ ตาลุกฺจ อฉุปนฺโต อากาสคตเมว กตฺวา ปเวเสติ จ นีหรติ จ, ทุกฺกฏํ. ยทิ ปน ทนฺตา สุผุสิตา, อนฺโตมุเข โอกาโส นตฺถิ, ทนฺตา จ พหิ โอฏฺมํเสน ปฏิจฺฉนฺนา, ตตฺถ วาเตน อสมฺผุฏฺํ อลฺโลกาสํ ติลผลมตฺตมฺปิ ปเวเสนฺตสฺส ปาราชิกเมว. อุปฺปาฏิเต ปน โอฏฺมํเส ทนฺเตสุเยว อุปกฺกมนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ. โยปิ ทนฺโต พหิ นิกฺขมิตฺวา ติฏฺติ, น สกฺกา โอฏฺเหิ ปิทหิตุํ. ตตฺถ อุปกฺกมนฺเตปิ พหิ นิกฺขนฺตชิวฺหาย อุปกฺกมนฺเตปิ ถุลฺลจฺจยเมว. ชีวมานกสรีเรปิ พหิ นิกฺขนฺตชิวฺหาย ถุลฺลจฺจยเมว. ยทิ ปน พหิชิวฺหาย ปลิเวเตฺวา อนฺโตมุขํ ปเวเสติ, ปาราชิกเมว. อุปริคีวาย ฉินฺนสีสสฺสปิ อโธภาเคน องฺคชาตํ ปเวเสตฺวา ตาลุกํ ฉุปนฺตสฺส ปาราชิกเมว.

อฏฺิกวตฺถุมฺหิ สุสานํ คจฺฉนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏํ. อฏฺิกานิ สงฺกฑฺฒนฺตสฺสาปิ, นิมิตฺเต เมถุนราเคน อุปกฺกมนฺตสฺสาปิ, กายสํสคฺคราเคน อุปกฺกมนฺตสฺสาปิ, มุจฺจตุ วา มา วา, ทุกฺกฏเมว. โมจนราเคน ปน อุปกฺกมนฺตสฺส มุจฺจนฺเต สงฺฆาทิเสโส, อมุจฺจนฺเต ถุลฺลจฺจยเมว.

นาคีวตฺถุมฺหิ นาคมาณวิกา วา โหตุ กินฺนรีอาทีนํ วา อฺตรา, สพฺพตฺถ ปาราชิกํ.

ยกฺขีวตฺถุมฺหิ สพฺพาปิ เทวตา ยกฺขีเยว.

เปตีวตฺถุมฺหิ นิชฺฌามตณฺหิกาทิเปติโย อลฺลียิตุมฺปิ น สกฺกา. วิมานเปติโย ปน อตฺถิ; ยาสํ กาฬปกฺเข อกุสลํ วิปจฺจติ, ชุณฺหปกฺเข เทวตา วิย สมฺปตฺตึ อนุโภนฺติ. เอวรูปาย เปติยา วา ยกฺขิยา วา สเจ ทสฺสน-คหณ-อามสน-ผุสน-ฆฏฺฏนานิ ปฺายนฺติ, ปาราชิกํ. อถาปิ ทสฺสนํ นตฺถิ, อิตรานิ ปฺายนฺติ, ปาราชิกเมว. อถ ทสฺสนคหณานิ น ปฺายนฺติ, อามสนผุสนฆฏฺฏเนหิ ปฺายมาเนหิ ตํ ปุคฺคลํ วิสฺํ กตฺวา อตฺตโน มโนรถํ ปูเรตฺวา คจฺฉติ, อยํ อวิสโย นาม. ตสฺมา เอตฺถ อวิสยตฺตา อนาปตฺติ. ปณฺฑกวตฺถุ ปากฏเมว.

อุปหตินฺทฺริยวตฺถุมฺหิ อุปหตินฺทฺริโยติ อุปหตกายปฺปสาโท ขาณุกณฺฏกมิว สุขํ วา ทุกฺขํ วา น เวทยติ. อเวทยนฺตสฺสาปิ เสวนจิตฺตวเสน อาปตฺติ.

ฉุปิตมตฺตวตฺถุสฺมึ โย ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิสฺสามี’’ติ มาตุคามํ คณฺหิตฺวา เมถุเน วิรชฺชิตฺวา วิปฺปฏิสารี โหติ, ทุกฺกฏเมวสฺส โหติ. เมถุนธมฺมสฺส หิ ปุพฺพปโยคา หตฺถคฺคาหาทโย ยาว สีสํ น ปาปุณาติ, ตาว ทุกฺกเฏ ติฏฺนฺติ. สีเส ปตฺเต ปาราชิกํ โหติ. ปมปาราชิกสฺส หิ ทุกฺกฏเมว สามนฺตํ. อิตเรสํ ติณฺณํ ถุลฺลจฺจยํ. อยํ ปน ภิกฺขุ เมถุนธมฺเม วิรชฺชิตฺวา กายสํสคฺคํ สาทิยีติ เวทิตพฺโพ. เตนาห ภควา – ‘‘อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ.

๗๔. ภทฺทิยวตฺถุสฺมึ ภทฺทิยํ นาม ตํ นครํ. ชาติยาวนํ นาม ชาติปุปฺผคุมฺพานํ อุสฺสนฺนตาย เอวํ ลทฺธนามํ; ตํ ตสฺส นครสฺส อุปจาเร วนํ โหติ. โส ตตฺถ นิปนฺโน เตน วาตุปตฺถมฺเภน มหานิทฺทํ โอกฺกมิ. เอกรสํ ภวงฺคเมว วตฺตติ. กิลินฺนํ ปสฺสิตฺวาติ อสุจิกิลิฏฺํ ปสฺสิตฺวา.

๗๕. อิโต ปรานิ สาทิยนปฏิสํยุตฺตานิ จตฺตาริ วตฺถูนิ, อชานนวตฺถุ จาติ ปฺจ อุตฺตานตฺถาเนว.

๗๖. ทฺวีสุ อสาทิยนวตฺถูสุ สหสา วุฏฺาสีติ อาสีวิเสน ทฏฺโ วิย อคฺคินา ทฑฺโฒ วิย จ ตุริตํ วุฏฺาสิ. อกฺกมิตฺวา ปวตฺเตสีติ อปฺปมตฺโต ภิกฺขุ อารทฺธวิปสฺสโก อุปฏฺิตสฺสติ ขิปฺปํ วุฏฺหนฺโตว อกฺกมิตฺวา ภูมิยํ วฏฺเฏนฺโต ปริวฏฺเฏนฺโต วิเหเนฺโต ปาเตสิ. ปุถุชฺชนกลฺยาณเกน หิ เอวรูเปสุ าเนสุ จิตฺตํ รกฺขิตพฺพํ. อยฺจ เตสํ อฺตโร สงฺคามสีสโยโธ ภิกฺขุ.

๗๗. ทฺวารํ วิวริตฺวา นิปนฺนวตฺถุมฺหิ ทิวา ปฏิสลฺลียนฺเตนาติ ทิวา นิปชฺชนฺเตน. ทฺวารํ สํวริตฺวา ปฏิสลฺลียิตุนฺติ ทฺวารํ ปิทหิตฺวา นิปชฺชิตุํ. เอตฺถ จ กิฺจาปิ ปาฬิยํ ‘‘อยํ นาม อาปตฺตี’’ติ น วุตฺตา. วิวริตฺวา นิปนฺนโทเสน ปน อุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมึ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทิวา ปฏิสลฺลียนฺเตน ทฺวารํ สํวริตฺวา ปฏิสลฺลียิตุ’’นฺติ วุตฺตตฺตา อสํวริตฺวา ปฏิสลฺลียนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. ภควโต หิ อธิปฺปายํ ตฺวา อุปาลิตฺเถราทีหิ อฏฺกถา ปิตา. ‘‘อตฺถาปตฺติ ทิวา อาปชฺชติ โน รตฺติ’’นฺติ (ปริ. ๓๒๓) อิมินาปิ เจตํ สิทฺธํ.

กีทิสํ ปน ทฺวารํ สํวริตพฺพํ, กีทิสํ น สํวริตพฺพํ? รุกฺขปทรเวฬุปทรกิลฺชปณฺณาทีนํ เยน เกนจิ กวาฏํ กตฺวา เหฏฺา อุทุกฺขเล อุปริ อุตฺตรปาสเก จ ปเวเสตฺวา กตํ ปริวตฺตกทฺวารเมว สํวริตพฺพํ. อฺํ โครูปานํ วเชสุ วิย รุกฺขสูจิกณฺฏกทฺวารํ, คามถกนกํ จกฺกลกยุตฺตทฺวารํ, ผลเกสุ วา กิฏิกาสุ วา ทฺเว ตีณิ จกฺกลกานิ โยเชตฺวา กตํ สํสรณกิฏิกทฺวารํ, อาปเณสุ วิย กตํ อุคฺฆาฏนกิฏิกทฺวารํ, ทฺวีสุ ตีสุ าเนสุ เวณุสลากา โคปฺเผตฺวา ปณฺณกุฏีสุ กตํ สลากหตฺถกทฺวารํ, ทุสฺสสาณิทฺวารนฺติ เอวรูปํ ทฺวารํ น สํวริตพฺพํ. ปตฺตหตฺถสฺส กวาฏปฺปณามเน ปน เอกํ ทุสฺสสาณิทฺวารเมว อนาปตฺติกรํ, อวเสสานิ ปณาเมนฺตสฺส อาปตฺติ. ทิวา ปฏิสลฺลียนฺตสฺส ปน ปริวตฺตกทฺวารเมว อาปตฺติกรํ, เสสานิ สํวริตฺวา วา อสํวริตฺวา วา นิปนฺนสฺส อาปตฺติ นตฺถิ. สํวริตฺวา ปน นิปชฺชิตพฺพํ, เอตํ วตฺตํ.

ปริวตฺตกทฺวารํ ปน กิตฺตเกน สํวุตํ โหติ? สูจิฆฏิกาทีสุ ทินฺนาสุ สํวุตเมว โหติ. อปิจ โข สูจิมตฺเตปิ ทินฺเน วฏฺฏติ. ฆฏิกมตฺเตปิ ทินฺเน วฏฺฏติ. ทฺวารพาหํ ผุสิตฺวา ปิหิตมตฺเตปิ วฏฺฏติ. อีสกํ อผุสิเตปิ วฏฺฏติ. สพฺพนฺติเมน วิธินา ยาวตา สีสํ นปฺปวิสติ ตาวตา อผุสิเตปิ วฏฺฏตีติ. สเจ พหูนํ วฬฺชนฏฺานํ โหติ, ภิกฺขุํ วา สามเณรํ วา ‘‘ทฺวารํ, อาวุโส, ชคฺคาหี’’ติ วตฺวาปิ นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. อถ ภิกฺขู จีวรกมฺมํ วา อฺํ วา กิฺจิ กโรนฺตา นิสินฺนา โหนฺติ, ‘‘เอเต ทฺวารํ ชคฺคิสฺสนฺตี’’ติ อาโภคํ กตฺวาปิ นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. กุรุนฺทฏฺกถายํ ปน ‘‘อุปาสกมฺปิ อาปุจฺฉิตฺวา วา, ‘เอส ชคฺคิสฺสตี’ติ อาโภคํ กตฺวา วา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. เกวลํ ภิกฺขุนึ วา มาตุคามํ วา อาปุจฺฉิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อถ ทฺวารสฺส อุทุกฺขลํ วา อุตฺตรปาสโก วา ภินฺโน วา โหติ อฏฺปิโต วา, สํวริตุํ น สกฺโกติ, นวกมฺมตฺถํ วา ปน อิฏฺกปุฺโช วา มตฺติกาทีนํ วา ราสิ อนฺโตทฺวาเร กโต โหติ, อฏฺฏํ วา พนฺธนฺติ, ยถา สํวริตุํ น สกฺโกติ; เอวรูเป อนฺตราเย สติ อสํวริตฺวาปิ นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. ยทิ ปน กวาฏํ นตฺถิ, ลทฺธกปฺปเมว. อุปริ สยนฺเตน นิสฺเสณึ อาโรเปตฺวา นิปชฺชิตพฺพํ. สเจ นิสฺเสณิมตฺถเก ถกนกํ โหติ, ถเกตฺวาปิ นิปชฺชิตพฺพํ. คพฺเภ นิปชฺชนฺเตน คพฺภทฺวารํ วา ปมุขทฺวารํ วา ยํกิฺจิ สํวริตฺวา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ เอกกุฏฺฏเก เคเห ทฺวีสุ ปสฺเสสุ ทฺวารานิ กตฺวา วฬฺชนฺติ, ทฺเวปิ ทฺวารานิ ชคฺคิตพฺพานิ.

ติภูมเกปิ ปาสาเท ทฺวารํ ชคฺคิตพฺพเมว. สเจ ภิกฺขาจารา ปฏิกฺกมฺม โลหปาสาทสทิสํ ปาสาทํ พหู ภิกฺขู ทิวาวิหารตฺถํ ปวิสนฺติ, สงฺฆตฺเถเรน ทฺวารปาลสฺส ‘‘ทฺวารํ ชคฺคาหี’’ติ วตฺวา วา ‘‘ทฺวารชคฺคนํ เอตสฺส ภาโร’’ติ อาโภคํ กตฺวา วา ปวิสิตฺวา นิปชฺชิตพฺพํ. ยาว สงฺฆนวเกน เอวเมว กตฺตพฺพํ. ปุเร ปวิสนฺตานํ ‘‘ทฺวารชคฺคนํ นาม ปจฺฉิมานํ ภาโร’’ติ เอวํ อาโภคํ กาตุมฺปิ วฏฺฏติ. อนาปุจฺฉา วา อาโภคํ วา อกตฺวา อนฺโตคพฺเภ วา อสํวุตทฺวาเร พหิ วา นิปชฺชนฺตานํ อาปตฺติ. คพฺเภ วา พหิ วา นิปชฺชนกาเลปิ ‘‘ทฺวารชคฺคนํ นาม มหาทฺวาเร ทฺวารปาลสฺส ภาโร’’ติ อาโภคํ กตฺวา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติเยว. โลหปาสาทาทีสุ อากาสตเล นิปชฺชนฺเตนาปิ ทฺวารํ สํวริตพฺพเมว.

อยฺเหตฺถ สงฺเขโป – อิทํ ทิวาปฏิสลฺลียนํ เยน เกนจิ ปริกฺขิตฺเต สทฺวารพนฺเธ าเน กถิตํ. ตสฺมา อพฺโภกาเส วา รุกฺขมูเล วา มณฺฑเป วา ยตฺถ กตฺถจิ สทฺวารพนฺเธ นิปชฺชนฺเตน ทฺวารํ สํวริตฺวาว นิปชฺชิตพฺพํ. สเจ มหาปริเวณํ โหติ, มหาโพธิยงฺคณโลหปาสาทงฺคณสทิสํ พหูนํ โอสรณฏฺานํ, ยตฺถ ทฺวารํ สํวุตมฺปิ สํวุตฏฺาเน น ติฏฺติ, ทฺวารํ อลภนฺตา ปาการํ อารุหิตฺวาปิ วิจรนฺติ, ตตฺถ สํวรณกิจฺจํ นตฺถิ. รตฺตึ ทฺวารํ วิวริตฺวา นิปนฺโน อรุเณ อุคฺคเต อุฏฺหติ, อนาปตฺติ. สเจ ปพุชฺฌิตฺวา ปุน สุปติ, อาปตฺติ. โย ปน ‘‘อรุเณ อุคฺคเต วุฏฺหิสฺสามี’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวาว ทฺวารํ อสํวริตฺวา รตฺตึ นิปชฺชติ, ยถาปริจฺเฉทเมว จ น วุฏฺาติ, ตสฺส อาปตฺติเยว. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘เอวํ นิปชฺชนฺโต อนาทริยทุกฺกฏาปิ น มุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ.

โย ปน พหุเทว รตฺตึ ชคฺคิตฺวา อทฺธานํ วา คนฺตฺวา ทิวา กิลนฺตรูโป มฺเจ นิสินฺโน ปาเท ภูมิโต อโมเจตฺวาว นิทฺทาวเสน นิปชฺชติ, ตสฺส อนาปตฺติ. สเจ โอกฺกนฺตนิทฺโท อชานนฺโตปิ ปาเท มฺจกํ อาโรเปติ, อาปตฺติเยว. นิสีทิตฺวา อปสฺสาย สุปนฺตสฺส อนาปตฺติ. โยปิ จ ‘‘นิทฺทํ วิโนเทสฺสามี’’ติ จงฺกมนฺโต ปติตฺวา สหสาว วุฏฺาติ, ตสฺสาปิ อนาปตฺติ. โย ปน ปติตฺวา ตตฺเถว สยติ, น วุฏฺาติ, ตสฺส อาปตฺติ.

โก มุจฺจติ, โก น มุจฺจตีติ? มหาปจฺจริยํ ตาว ‘‘เอกภงฺเคน นิปนฺนโกเยว มุจฺจติ. ปาเท ปน ภูมิโต โมเจตฺวา นิปนฺโน ยกฺขคหิตโกปิ วิสฺีภูโตปิ น มุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. กุรุนฺทฏฺกถายํ ปน ‘‘พนฺธิตฺวา นิปชฺชาปิโตว มุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘โย จงฺกมนฺโต มุจฺจิตฺวา ปติโต ตตฺเถว สุปติ, ตสฺสาปิ อวิสยตฺตา อาปตฺติ น ทิสฺสติ. อาจริยา ปน เอวํ น กถยนฺติ. ตสฺมา อาปตฺติเยวาติ มหาปทุมตฺเถเรน วุตฺตํ. ทฺเว ปน ชนา อาปตฺติโต มุจฺจนฺติเยว, โย จ ยกฺขคหิตโก, โย จ พนฺธิตฺวา นิปชฺชาปิโต’’ติ.

๗๘. ภารุกจฺฉกวตฺถุมฺหิ อนาปตฺติ สุปินนฺเตนาติ ยสฺมา สุปินนฺเต อวิสยตฺตา เอวํ โหติ, ตสฺมา อุปาลิตฺเถโร ภควตา อวินิจฺฉิตปุพฺพมฺปิ อิมํ วตฺถุํ นยคฺคาเหน วินิจฺฉินิ. ภควาปิ จ สุตฺวา ‘‘สุกถิตํ, ภิกฺขเว, อุปาลินา; อปเท ปทํ กโรนฺโต วิย, อากาเส ปทํ ทสฺเสนฺโต วิย อุปาลิ อิมํ ปฺหํ กเถสี’’ติ วตฺวา เถรํ เอตทคฺเค เปสิ – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ วินยธรานํ ยทิทํ อุปาลี’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๑๙, ๒๒๘). อิโต ปรานิ สุปพฺพาทีนิ วตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

๘๐. ภิกฺขุนีสมฺปโยชนาทีสุ เต ลิจฺฉวิกุมารกา ขิฑฺฑาปสุตา อตฺตโน อนาจาเรน เอวํ อกํสุ. ตโต ปฏฺาย จ ลิจฺฉวีนํ วินาโส เอว อุทปาทิ.

๘๒. วุฑฺฒปพฺพชิตวตฺถุมฺหิ ทสฺสนํ อคมาสีติ อนุกมฺปาย ‘‘ตํ ทกฺขิสฺสามี’’ติ เคหํ อคมาสิ. อถสฺส สา อตฺตโน จ ทารกานฺจ นานปฺปกาเรหิ อนาถภาวํ สํวณฺเณสิ. อนเปกฺขฺจ นํ ตฺวา กุปิตา ‘‘เอหิ วิพฺภมาหี’’ติ พลกฺกาเรน อคฺคเหสิ. โส อตฺตานํ โมเจตุํ ปฏิกฺกมนฺโต ชราทุพฺพลตาย อุตฺตาโน ปริปติ. ตโต สา อตฺตโน มนํ อกาสิ. โส ปน ภิกฺขุ อนาคามี สมุจฺฉินฺนกามราโค ตสฺมา น สาทิยีติ.

๘๓. มิคโปตกวตฺถุ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

วินีตวตฺถุ นิฏฺิตํ.

สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย

ปมปาราชิกวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตตฺริทํ สมนฺตปาสาทิกาย สมนฺตปาสาทิกตฺตสฺมึ –

อาจริยปรมฺปรโต, นิทานวตฺถุปฺปเภททีปนโต;

ปรสมยวิวชฺชนโต, สกสมยวิสุทฺธิโต เจว.

พฺยฺชนปริโสธนโต, ปทตฺถโต ปาฬิโยชนกฺกมโต;

สิกฺขาปทนิจฺฉยโต, วิภงฺคนยเภททสฺสนโต.

สมฺปสฺสตํ น ทิสฺสติ, กิฺจิ อปาสาทิกํ ยโต เอตฺถ;

วิฺูนมยํ ตสฺมา, สมนฺตปาสาทิกาตฺเวว.

สํวณฺณนา ปวตฺตา, วินยสฺส วิเนยฺยทมนกุสเลน;

วุตฺตสฺส โลกนาเถน, โลกมนุกมฺปมาเนนาติ.

ปมปาราชิกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยปาราชิกํ

ทุติยํ อทุติเยน, ยํ ชิเนน ปกาสิตํ;

ปาราชิกํ ตสฺส ทานิ, ปตฺโต สํวณฺณนากฺกโม.

ยสฺมา ตสฺมา สุวิฺเยฺยํ, ยํ ปุพฺเพ จ ปกาสิตํ;

ตํ สพฺพํ วชฺชยิตฺวาน, โหติ สํวณฺณนา อยํ.

ธนิยวตฺถุวณฺณนา

๘๔. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเตติ ตตฺถ ราชคเหติ เอวํนามเก นคเร, ตฺหิ มนฺธาตุ-มหาโควินฺทาทีหิ ปริคฺคหิตตฺตา ‘‘ราชคห’’นฺติ วุจฺจติ. อฺเเปตฺถ ปกาเร วณฺณยนฺติ. กึ เตหิ! นามเมตํ ตสฺส นครสฺส. ตํ ปเนตํ พุทฺธกาเล จ จกฺกวตฺติกาเล จ นครํ โหติ. เสสกาเล สุฺํ โหติ ยกฺขปริคฺคหิตํ, เตสํ วสนฺตวนํ หุตฺวา ติฏฺติ. เอวํ โคจรคามํ ทสฺเสตฺวา นิวาสนฏฺานมาห – คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเตติ. โส จ คิชฺฌา ตสฺส กูเฏสุ วสึสุ, คิชฺฌสทิสานิ วา ตสฺส กูฏานิ; ตสฺมา คิชฺฌกูโฏติ วุจฺจตีติ เวทิตพฺโพ.

สมฺพหุลาติ วินยปริยาเยน ตโย ชนา สมฺพหุลาติ วุจฺจนฺติ, ตโต ปรํ สงฺโฆ. สุตฺตนฺตปริยาเยน ตโย ตโย เอว, ตโต ปฏฺาย สมฺพหุลา. อิธ ปน เต สุตฺตนฺตปริยาเยน สมฺพหุลาติ เวทิตพฺพา. สนฺทิฏฺาติ นาติวิสฺสาสิกา น ทฬฺหมิตฺตา; ตตฺถ ตตฺถ สงฺคมฺม ทิฏฺตฺตา หิ เต สนฺทิฏฺาติ วุจฺจนฺติ. สมฺภตฺตาติ อติวิสฺสาสิกา ทฬฺหมิตฺตา; เต หิ สุฏฺุ ภตฺตา ภชมานา เอกสมฺโภคปริโภคาติ กตฺวา ‘‘สมฺภตฺตา’’ติ วุจฺจนฺติ. อิสิคิลิปสฺเสติ อิสิคิลิ นาม ปพฺพโต, ตสฺส ปสฺเส. ปุพฺเพ กิร ปฺจสตมตฺตา ปจฺเจกพุทฺธา กาสิโกสลาทีสุ ชนปเทสุ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ตสฺมึ ปพฺพเต สนฺนิปติตฺวา สมาปตฺติยา วีตินาเมนฺติ. มนุสฺสา เต ปวิสนฺเตว ปสฺสนฺติ น นิกฺขมนฺเต. ตโต อาหํสุ – ‘‘อยํ ปพฺพโต อิเม อิสโย คิลตี’’ติ. ตทุปาทาย ตสฺส ‘‘อิสิคิลิ’’ตฺเวว สมฺา อุทปาทิ, ตสฺส ปสฺเส ปพฺพตปาเท.

ติณกุฏิโย กริตฺวาติ ติณจฺฉทนา สทฺวารพนฺธา กุฏิโย กตฺวา. วสฺสํ อุปคจฺฉนฺเตน หิ นาลกปฏิปทํ ปฏิปนฺเนนาปิ ปฺจนฺนํ ฉทนานํ อฺตเรน ฉนฺเนเยว สทฺวารพนฺเธ เสนาสเน อุปคนฺตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘น, ภิกฺขเว, อเสนาสนิเกน วสฺสํ อุปคนฺตพฺพํ. โย อุปคจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๐๔). ตสฺมา วสฺสกาเล สเจ เสนาสนํ ลภติ, อิจฺเจตํ กุสลํ; โน เจ ลภติ, หตฺถกมฺมํ ปริเยสิตฺวาปิ กาตพฺพํ. หตฺถกมฺมํ อลภนฺเตน สามมฺปิ กาตพฺพํ. น ตฺเวว อเสนาสนิเกน วสฺสํ อุปคนฺตพฺพํ. อยมนุธมฺมตา. ตสฺมา เต ภิกฺขู ติณกุฏิโย กริตฺวา รตฺติฏฺานทิวาฏฺานาทีนิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา กติกวตฺตานิ จ ขนฺธกวตฺตานิ จ อธิฏฺาย ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขมานา วสฺสํ อุปคจฺฉึสุ.

อายสฺมาปิ ธนิโยติ น เกวลํ เต เถราว อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส อาทิกมฺมิโก อายสฺมา ธนิโยปิ. กุมฺภการปุตฺโตติ กุมฺภการสฺส ปุตฺโต; ตสฺส หิ นามํ ธนิโย, ปิตา กุมฺภกาโร, เตน วุตฺตํ – ‘‘ธนิโย กุมฺภการปุตฺโต’’ติ. วสฺสํ อุปคจฺฉีติ เตหิ เถเรหิ สทฺธึ เอกฏฺาเนเยว ติณกุฏิกํ กริตฺวา วสฺสํ อุปคจฺฉิ. วสฺสํวุตฺถาติ ปุริมิกาย อุปคตา มหาปวารณาย ปวาริตา ปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ‘‘วุตฺถวสฺสา’’ติ วุจฺจนฺติ. เอวํ วสฺสํวุตฺถา หุตฺวา.

ติณกุฏิโย ภินฺทิตฺวาติ น ทณฺฑมุคฺคราทีหิ จุณฺณวิจุณฺณํ กตฺวา, วตฺตสีเสน ปน ติณฺจ ทารุวลฺลิ-อาทีนิ จ โอโรเปตฺวาติ อตฺโถ. เยน หิ วิหารปจฺจนฺเต กุฏิ กตา โหติ, เตน สเจ อาวาสิกา ภิกฺขู โหนฺติ, เต อาปุจฺฉิตพฺพา. ‘‘สเจ อิมํ กุฏึ ปฏิชคฺคิตฺวา โกจิ วสิตุํ อุสฺสหติ, ตสฺส เทถา’’ติ วตฺวา ปกฺกมิตพฺพํ. เยน อรฺเ วา กตา โหติ, ปฏิชคฺคนกํ วา น ลภติ, เตน ‘‘อฺเสมฺปิ ปริโภคํ ภวิสฺสตี’’ติ ปฏิสาเมตฺวา คนฺตพฺพํ. เต ปน ภิกฺขู อรฺเ กุฏิโย กตฺวา ปฏิชคฺคนกํ อลภนฺตา ติณฺจ กฏฺฺจ ปฏิสาเมตฺวา สงฺโคเปตฺวาติ อตฺโถ. ยถา จ ปิตํ ตํ อุปจิกาหิ น ขชฺชติ, อโนวสฺสกฺจ โหติ, ตถา เปตฺวา ‘‘อิทํ านํ อาคนฺตฺวา วสิตุกามานํ สพฺรหฺมจารีนํ อุปการาย ภวิสฺสตี’’ติ คมิยวตฺตํ ปูเรตฺวา.

ชนปทจาริกํ ปกฺกมึสูติ อตฺตโน อตฺตโน จิตฺตานุกูลํ ชนปทํ อคมํสุ. อายสฺมา ปน ธนิโย กุมฺภการปุตฺโต ตตฺเถว วสฺสํ วสีติอาทิ อุตฺตานตฺถเมว. ยาวตติยกนฺติ ยาวตติยวารํ. อนวโยติ อนุอวโย, สนฺธิวเสน อุการโลโป. อนุ อนุ อวโย, ยํ ยํ กุมฺภกาเรหิ กตฺตพฺพํ นาม อตฺถิ, สพฺพตฺถ อนูโน ปริปุณฺณสิปฺโปติ อตฺโถ. สเกติ อตฺตโน สนฺตเก. อาจริยเกติ อาจริยกมฺเม. กุมฺภการกมฺเมติ กุมฺภการานํ กมฺเม; กุมฺภกาเรหิ กตฺตพฺพกมฺเมติ อตฺโถ. เอเตน สกํ อาจริยกํ สรูปโต ทสฺสิตํ โหติ. ปริโยทาตสิปฺโปติ ปริสุทฺธสิปฺโป. อนวยตฺเตปิ สติ อฺเหิ อสทิสสิปฺโปติ วุตฺตํ โหติ.

สพฺพมตฺติกามยนฺติ ปิฏฺสงฺฆาฏกกวาฏสูจิฆฏิกวาตปานกวาฏมตฺตํ เปตฺวา อวเสสํ ภิตฺติฉทนิฏฺกถมฺภาทิเภทํ สพฺพํ เคหสมฺภารํ มตฺติกามยเมว กตฺวาติ อตฺโถ. ติณฺจ กฏฺฺจ โคมยฺจ สงฺกฑฺฒิตฺวา ตํ กุฏิกํ ปจีติ ตํ สพฺพมตฺติกามยํ กตฺวา ปาณิกาย ฆํสิตฺวา สุกฺขาเปตฺวา เตลตมฺพมตฺติกาย ปริมชฺชิตฺวา อนฺโต จ พหิ จ ติณาทีหิ ปูเรตฺวา ยถา ปกฺกา สุปกฺกา โหติ, เอวํ ปจิ. เอวํ ปกฺกา จ ปน สา อโหสิ กุฏิกา. อภิรูปาติ สุรูปา. ปาสาทิกาติ ปสาทชนิกา. โลหิติกาติ โลหิตวณฺณา. กิงฺกณิกสทฺโทติ กิงฺกณิกชาลสฺส สทฺโท. ยถา กิร นานารตเนหิ กตสฺส กิงฺกณิกชาลสฺส สทฺโท โหติ, เอวํ ตสฺสา กุฏิกาย วาตปานนฺตริกาทีหิ ปวิฏฺเน วาเตน สมาหตาย สทฺโท อโหสิ. เอเตนสฺสา อนฺโต จ พหิ จ สุปกฺกภาโว ทสฺสิโต โหติ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘กิงฺกณิกา’’ติ กํสภาชนํ, ตสฺมา ยถา อภิหตสฺส กํสภาชนสฺส สทฺโท, เอวมสฺสา วาตปฺปหตาย สทฺโท อโหสี’’ติ วุตฺตํ.

๘๕. กึ เอตํ, ภิกฺขเวติ เอตฺถ ชานนฺโตว ภควา กถาสมุฏฺาปนตฺถํ ปุจฺฉิ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุนฺติ สพฺพมตฺติกามยาย กุฏิกาย กรณภาวํ อาทิโต ปฏฺาย ภควโต อาโรเจสุํ. กถฺหิ นาม โส, ภิกฺขเว…เป… กุฏิกํ กริสฺสตีติ อิทํ อตีตตฺเถ อนาคตวจนํ; อกาสีติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺส ลกฺขณํ สทฺทสตฺถโต ปริเยสิตพฺพํ. น หิ นาม, ภิกฺขเว, ตสฺส โมฆปุริสสฺส ปาเณสุ อนุทฺทยา อนุกมฺปา อวิเหสา ภวิสฺสตีติ เอตฺถ อนุทฺทยาติ อนุรกฺขณา; เอเตน เมตฺตาปุพฺพภาคํ ทสฺเสติ. อนุกมฺปาติ ปรทุกฺเขน จิตฺตกมฺปนา. อวิเหสาติ อวิหึสนา; เอเตหิ กรุณาปุพฺพภาคํ ทสฺเสติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ภิกฺขเว, ตสฺส โมฆปุริสสฺส ปถวีขณนจิกฺขลฺลมทฺทนอคฺคิทาเนสุ พหู ขุทฺทานุขุทฺทเก ปาเณ พฺยาพาเธนฺตสฺส วินาเสนฺตสฺส เตสุ ปาเณสุ เมตฺตากรุณานํ ปุพฺพภาคมตฺตาปิ อนุทฺทยา อนุกมฺปา อวิเหสา น หิ นาม ภวิสฺสติ อปฺปมตฺตกาปิ นาม น ภวิสฺสตี’’ติ. มา ปจฺฉิมา ชนตา ปาเณสุ ปาตพฺยตํ อาปชฺชีติ ปจฺฉิโม ชนสมูโห ปาเณสุ ปาตพฺยภาวํ มา อาปชฺชิ. ‘‘พุทฺธกาเลปิ ภิกฺขูหิ เอวํ กตํ, อีทิเสสุ าเนสุ ปาณาติปาตํ กโรนฺตานํ นตฺถิ โทโส’’ติ มฺิตฺวา อิมสฺส ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชมานา ปจฺฉิมา ชนตา มา ปาเณสุ ปาตพฺเย ฆํสิตพฺเพ เอวํ มฺีติ วุตฺตํ โหติ.

เอวํ ธนิยํ ครหิตฺวา น จ, ภิกฺขเว, สพฺพมตฺติกามยา กุฏิกา กาตพฺพาติ อายตึ ตาทิสาย กุฏิกาย กรณํ ปฏิกฺขิปิ; ปฏิกฺขิปิตฺวา จ ‘‘โย กเรยฺย อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ สพฺพมตฺติกามยกุฏิกากรเณ อาปตฺตึ เปสิ. ตสฺมา โยปิ ปถวีขณนาทินา ปาเณสุ ปาตพฺยตํ อนาปชฺชนฺโต ตาทิสํ กุฏิกํ กโรติ, โสปิ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. ปถวีขณนาทีหิ ปน ปาเณสุ ปาตพฺยตํ อาปชฺชนฺโต ยํ ยํ วตฺถุํ วีติกฺกมติ, ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตเมว อาปตฺตึ อาปชฺชติ. ธนิยตฺเถรสฺส อาทิกมฺมิกตฺตา อนาปตฺติ. เสสานํ สิกฺขาปทํ อติกฺกมิตฺวา กโรนฺตานมฺปิ กตํ ลภิตฺวา ตตฺถ วสนฺตานมฺปิ ทุกฺกฏเมว. ทพฺพสมฺภารมิสฺสกา ปน ยถา วา ตถา วา มิสฺสา โหตุ, วฏฺฏติ. สุทฺธมตฺติกามยาว น วฏฺฏติ. สาปิ อิฏฺกาหิ คิฺชกาวสถสงฺเขเปน กตา วฏฺฏติ. เอวํ ภนฺเตติ โข…เป… ตํ กุฏึ ภินฺทึสูติ ภควโต วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา กฏฺเหิ จ ปาสาเณหิ จ ตํ กุฏิกํ วิกิรนฺตา ภินฺทึสุ.

อถ โข อายสฺมา ธนิโยติอาทิมฺหิ อยํ สงฺเขปตฺโถ – ธนิโย เอกปสฺเส ทิวาวิหารํ นิสินฺโน เตน สทฺเทน อาคนฺตฺวา เต ภิกฺขู ‘‘กิสฺส เม ตุมฺเห, อาวุโส, กุฏึ ภินฺทถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ภควา เภทาเปตี’’ติ สุตฺวา สุพฺพจตาย สมฺปฏิจฺฉิ.

กสฺมา ปน ภควา อิมินา อติมหนฺเตน อุสฺสาเหน อตฺตโน วสนตฺถํ กตํ กุฏิกํ เภทาเปสิ, นนุ เอตสฺเสตฺถ วยกมฺมมฺปิ อตฺถีติ? กิฺจาปิ อตฺถิ, อถ โข นํ ภควา อกปฺปิยาติ ภินฺทาเปสิ, ติตฺถิยธโชติ ภินฺทาเปสิ. อยเมตฺถ วินิจฺฉโย. อฏฺกถายํ ปน อฺานิปิ การณานิ วุตฺตานิ – สตฺตานุทฺทยาย, ปตฺตจีวรคุตฺตตฺถาย, เสนาสนพาหุลฺลปอเสธนายาติอาทีนิ. ตสฺมา อิทานิปิ โย ภิกฺขุ พหุสฺสุโต วินยฺู อฺํ ภิกฺขุํ อกปฺปิยํ ปริกฺขารํ คเหตฺวา วิจรนฺตํ ทิสฺวา ตํ ฉินฺทาเปยฺย วา ภินฺทาเปยฺย วา อนุปวชฺโช, โส เนว โจเทตพฺโพ น สาเรตพฺโพ; น ตํ ลพฺภา วตฺตุํ ‘‘มม ปริกฺขาโร ตยา นาสิโต, ตํ เม เทหี’’ติ.

ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย

ตตฺรายํ ปาฬิมุตฺตโก กปฺปิยากปฺปิยปริกฺขารวินิจฺฉโย – เกจิ ตาลปณฺณจฺฉตฺตํ อนฺโต วา พหิ วา ปฺจวณฺเณน สุตฺเตน สิพฺพนฺตา วณฺณมฏฺํ กโรนฺติ, ตํ น วฏฺฏติ. เอกวณฺเณน ปน นีเลน วา ปีตเกน วา เยน เกนจิ สุตฺเตน อนฺโต วา พหิ วา สิพฺพิตุํ ฉตฺตทณฺฑคฺคาหกํ สลากปฺชรํ วา วินนฺธิตุํ วฏฺฏติ. ตฺจ โข ถิรกรณตฺถํ, น วณฺณมฏฺตฺถาย. ฉตฺตปณฺณเกสุ มกรทนฺตกํ วา อฑฺฒจนฺทกํ วา ฉินฺทิตุํ น วฏฺฏติ. ฉตฺตทณฺเฑ เคหถมฺเภสุ วิย ฆฏโก วา วาฬรูปกํ วา น วฏฺฏติ. สเจปิ สพฺพตฺถ อารคฺเคน เลขา ทินฺนา โหติ, สาปิ น วฏฺฏติ. ฆฏกมฺปิ วาฬรูปมฺปิ ภินฺทิตฺวา ธาเรตพฺพํ. เลขาปิ ฆํสิตฺวา วา อปเนตพฺพา, สุตฺตเกน วา ทณฺโฑ เวเตพฺโพ. ทณฺฑพุนฺเท ปน อหิจฺฉตฺตกสณฺานํ วฏฺฏติ. วาตปฺปหาเรน อจลนตฺถํ ฉตฺตมณฺฑลิกํ รชฺชุเกหิ คาเหตฺวา ทณฺเฑ พนฺธนฺติ, ตสฺมึ พนฺธนฏฺาเน วลยมิว อุกฺกิริตฺวา เลขํ เปนฺติ, สา วฏฺฏติ.

จีวรมณฺฑนตฺถาย นานาสุตฺตเกหิ สตปทีสทิสํ สิพฺพนฺตา อาคนฺตุกปฏฺฏํ เปนฺติ, อฺมฺปิ ยํกิฺจิ สูจิกมฺมวิการํ กโรนฺติ, ปฏฺฏมุเข วา ปริยนฺเต วา เวณึ วา สงฺขลิกํ วา, เอวมาทิ สพฺพํ น วฏฺฏติ, ปกติสูจิกมฺมเมว วฏฺฏติ. คณฺิกปฏฺฏกฺจ ปาสกปฏฺฏฺจ อฏฺโกณมฺปิ โสฬสโกณมฺปิ กโรนฺติ, ตตฺถ อคฺฆิยคยมุคฺคราทีนิ ทสฺเสนฺติ, กกฺกฏกฺขีนิ อุกฺกิรนฺติ, สพฺพํ น วฏฺฏติ, จตุโกณเมว วฏฺฏติ. โกณสุตฺตปิฬกา จ จีวเร รตฺเต ทุวิฺเยฺยรูปา วฏฺฏนฺติ. กฺชิกปิฏฺขลิอาทีสุ จีวรํ ปกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ. จีวรกมฺมกาเล ปน หตฺถมลสูจิมลาทีนํ โธวนตฺถํ กิลิฏฺกาเล จ โธวนตฺถํ วฏฺฏติ. คนฺธํ วา ลาขํ วา เตลํ วา รชเน ปกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ.

จีวรํ รชิตฺวา สงฺเขน วา มณินา วา เยน เกนจิ น ฆฏฺเฏตพฺพํ. ภูมิยํ ชาณุกานิ นิหนฺตฺวา หตฺเถหิ คเหตฺวา โทณิยมฺปิ น ฆํสิตพฺพํ. โทณิยํ วา ผลเก วา เปตฺวา อนฺเต คาหาเปตฺวา หตฺเถหิ ปหริตุํ ปน วฏฺฏติ; ตมฺปิ มุฏฺินา น กาตพฺพํ. โปราณกตฺเถรา ปน โทณิยมฺปิ น เปสุํ. เอโก คเหตฺวา ติฏฺติ; อปโร หตฺเถ กตฺวา หตฺเถน ปหรติ. จีวรสฺส กณฺณสุตฺตกํ น วฏฺฏติ, รชิตกาเล ฉินฺทิตพฺพํ. ยํ ปน ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กณฺณสุตฺตก’’นฺติ (มหาว. ๓๔๔) เอวํ อนุฺาตํ, ตํ อนุวาเต ปาสกํ กตฺวา พนฺธิตพฺพํ รชนกาเล ลคฺคนตฺถาย. คณฺิเกปิ โสภากรณตฺถํ เลขา วา ปิฬกา วา น วฏฺฏติ, นาเสตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ.

ปตฺเต วา ถาลเก วา อารคฺเคน เลขํ กโรนฺติ, อนฺโต วา พหิ วา น วฏฺฏติ. ปตฺตํ ภมํ อาโรเปตฺวา มชฺชิตฺวา ปจนฺติ – ‘‘มณิวณฺณํ กริสฺสามา’’ติ, น วฏฺฏติ; เตลวณฺโณ ปน วฏฺฏติ. ปตฺตมณฺฑเล ภิตฺติกมฺมํ น วฏฺฏติ, มกรทนฺตกํ ปน วฏฺฏติ.

ธมกรณฉตฺตกสฺส อุปริ วา เหฏฺา วา ธมกรณกุจฺฉิยํ วา เลขา น วฏฺฏติ, ฉตฺตมุขวฏฺฏิยํ ปนสฺส เลขา วฏฺฏติ.

กายพนฺธนสฺส โสภนตฺถํ ตหึ ตหึ ทิคุณํ สุตฺตํ โกฏฺเฏนฺติ, กกฺกฏจฺฉีนิ อุฏฺเปนฺติ, น วฏฺฏติ. อุโภสุ ปน อนฺเตสุ ทสามุขสฺส ถิรภาวาย ทิคุณํ โกฏฺเฏตุํ วฏฺฏติ. ทสามุเข ปน ฆฏกํ วา มกรมุขํ วา เทฑฺฑุภสีสํ วา ยํกิฺจิ วิการรูปํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ตตฺถ ตตฺถ อจฺฉีนิ ทสฺเสตฺวา มาลากมฺมลตากมฺมาทีนิ วา กตฺวา โกฏฺฏิตกายพนฺธนมฺปิ น วฏฺฏติ. อุชุกเมว ปน มจฺฉกณฺฏกํ วา ขชฺชุริปตฺตกํ วา มฏฺปฏฺฏิกํ วา กตฺวา โกฏฺฏิตุํ วฏฺฏติ. กายพนฺธนสฺส ทสา เอกา วฏฺฏติ, ทฺเว ตีณิ จตฺตาริปิ วฏฺฏนฺติ; ตโต ปรํ น วฏฺฏนฺติ. รชฺชุกกายพนฺธนํ เอกเมว วฏฺฏติ. ปามงฺคสณฺานํ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. ทสา ปน ปามงฺคสณฺานาปิ วฏฺฏติ. พหุรชฺชุเก เอกโต กตฺวา เอเกน นิรนฺตรํ เวเตฺวา กตํ พหุรชฺชุกนฺติ น วตฺตพฺพํ, ตํ วฏฺฏติ.

กายพนฺธนวิเธ อฏฺมงฺคลาทิกํ ยํกิฺจิ วิการรูปํ น วฏฺฏติ, ปริจฺเฉทเลขามตฺตํ วฏฺฏติ. วิธกสฺส อุโภสุ อนฺเตสุ ถิรกรณตฺถาย ฆฏกํ กโรนฺติ, อยมฺปิ วฏฺฏติ.

อฺชนิยํ อิตฺถิปุริสจตุปฺปทสกุณรูปํ วา มาลากมฺม-ลตากมฺมมกรทนฺตก-โคมุตฺตกอฑฺฒจนฺทกาทิเภทํ วา วิการรูปํ น วฏฺฏติ. ฆํสิตฺวา วา ฉินฺทิตฺวา วา ยถา วา น ปฺายติ, ตถา สุตฺเตน เวเตฺวา วฬฺเชตพฺพา. อุชุกเมว ปน จตุรํสา วา อฏฺํสา วา โสฬสํสา วา อฺชนี วฏฺฏติ. เหฏฺโต ปิสฺสา ทฺเว วา ติสฺโส วา วฏฺฏเลขาโย วฏฺฏนฺติ. คีวายมฺปิสฺสา ปิธานกพนฺธนตฺถํ เอกา วฏฺฏเลขา วฏฺฏติ.

อฺชนิสลากายปิ วณฺณมฏฺกมฺมํ น วฏฺฏติ. อฺชนิตฺถวิกายมฺปิ ยํกิฺจิ นานาวณฺเณน สุตฺเตน วณฺณมฏฺกมฺมํ น วฏฺฏติ. เอเสว นโย กุฺจิกาโกสเกปิ. กุฺจิกาย วณฺณมฏฺกมฺมํ น วฏฺฏติ, ตถา สิปาฏิกายํ. เอกวณฺณสุตฺเตน ปเนตฺถ เยน เกนจิ สิพฺพิตุํ วฏฺฏติ.

อารกณฺฏเกปิ วฏฺฏมณิกํ วา อฺํ วา วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏติ. คีวายํ ปน ปริจฺเฉทเลขา วฏฺฏติ. ปิปฺผลิเกปิ มณิกํ วา ปิฬกํ วา ยํกิฺจิ อุฏฺเปตุํ น วฏฺฏติ. ทณฺฑเก ปน ปริจฺเฉทเลขา วฏฺฏติ. นขจฺเฉทนํ วลิตกํเยว กโรนฺติ, ตสฺมา ตํ วฏฺฏติ. อุตฺตรารณิยํ วา อธรารณิยํ วา อรณิธนุเก วา อุปริเปลฺลนทณฺฑเก วา มาลากมฺมาทิกํ ยํกิฺจิ วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏติ, เปลฺลนทณฺฑกสฺส ปน เวมชฺเฌ มณฺฑลํ โหติ, ตตฺถ ปริจฺเฉทเลขามตฺตํ วฏฺฏติ. สูจิสณฺฑาสํ กโรนฺติ, เยน สูจึ ฑํสาเปตฺวา ฆํสนฺติ, ตตฺถ มกรมุขาทิกํ ยํกิฺจิ วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏติ, สูจิฑํสนตฺถํ ปน มุขมตฺตํ โหติ, ตํ วฏฺฏติ.

ทนฺตกฏฺจฺเฉทนวาสิยมฺปิ ยํกิฺจิ วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏติ, อุชุกเมว กปฺปิยโลเหน อุโภสุ วา ปสฺเสสุ จตุรํสํ วา อฏฺํสํ วา พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. กตฺตรทณฺเฑปิ ยํกิฺจิ วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏติ, เหฏฺา เอกา วา ทฺเว วา วฏฺฏเลขา อุปริ อหิจฺฉตฺตกมกุฬมตฺตฺจ วฏฺฏติ.

เตลภาชเนสุ วิสาเณ วา นาฬิยํ วา อลาพุเก วา อามณฺฑสารเก วา เปตฺวา อิตฺถิรูปํ ปุริสรูปฺจ อวเสสํ สพฺพมฺปิ วณฺณมฏฺกมฺมํ วฏฺฏติ.

มฺจปีเ ภิสิพิมฺโพหเน ภูมตฺถรเณ ปาทปุฺฉเน จงฺกมนภิสิยา สมฺมุฺชนิยํ กจวรฉฑฺฑนเก รชนโทณิกาย ปานียอุฬุงฺเก ปานียฆเฏ ปาทกถลิกาย ผลกปีเก วลยาธารเก ทณฺฑาธารเกปตฺตปิธาเน ตาลวณฺเฏ วีชเนติ – เอเตสุ สพฺพํ มาลากมฺมาทิวณฺณมฏฺกมฺมํ วฏฺฏติ. เสนาสเน ปน ทฺวารกวาฏวาตปานกวาฏาทีสุ สพฺพรตนมยมฺปิ วณฺณมฏฺกมฺมํ วฏฺฏติ.

เสนาสเน กิฺจิ ปฏิเสเธตพฺพํ นตฺถิ, อฺตฺร วิรุทฺธเสนาสนา. วิรุทฺธเสนาสนํ นาม อฺเสํ สีมาย ราชวลฺลเภหิ กตเสนาสนํ วุจฺจติ, ตสฺมา เย ตาทิสํ เสนาสนํ กโรนฺติ, เต วตฺตพฺพา – ‘‘มา อมฺหากํ สีมาย เสนาสนํ กโรถา’’ติ. อนาทิยิตฺวา กโรนฺติเยว, ปุนปิ วตฺตพฺพา – ‘‘มา เอวํ อกตฺถ, มา อมฺหากํ อุโปสถปวารณานํ อนฺตรายมกตฺถ, มา สามคฺคึ ภินฺทิตฺถ, ตุมฺหากํ เสนาสนํ กตมฺปิ กตฏฺาเน น สฺสตี’’ติ. สเจ พลกฺกาเรน กโรนฺติเยว, ยทา เตสํ ลชฺชิปริสา อุสฺสนฺนา โหติ, สกฺกา จ โหติ ลทฺธุํ ธมฺมิโก วินิจฺฉโย, ตทา เตสํ เปเสตพฺพํ – ‘‘ตุมฺหากํ อาวาสํ หรถา’’ติ. สเจ ยาว ตติยํ เปสิเต หรนฺติ, สาธุ; โน เจ หรนฺติ, เปตฺวา โพธิฺจ เจติยฺจ อวเสสเสนาสนานิ ภินฺทิตพฺพานิ, โน จ โข อปริโภคํ กโรนฺเตหิ, ปฏิปาฏิยา ปน ฉทน-โคปานสี-อิฏฺกาทีนิ อปเนตฺวา เตสํ เปเสตพฺพํ – ‘‘ตุมฺหากํ ทพฺพสมฺภาเร หรถา’’ติ. สเจ หรนฺติ, สาธุ; โน เจ หรนฺติ, อถ เตสุ ทพฺพสมฺภาเรสุ หิมวสฺสวาตาตปาทีหิ ปูติภูเตสุ วา โจเรหิ วา หเฏสุ อคฺคินา วา ทฑฺเฒสุ สีมสามิกา ภิกฺขู อนุปวชฺชา, น ลพฺภา โจเทตุํ ‘‘ตุมฺเหหิ อมฺหากํ ทพฺพสมฺภารา นาสิตา’’ติ วา ‘‘ตุมฺหากํ คีวา’’ติ วา. ยํ ปน สีมสามิเกหิ ภิกฺขูหิ กตํ, ตํ สุกตเมว โหตีติ.

ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย นิฏฺิโต.

๘๖. เอวํ ภินฺนาย ปน กุฏิกาย ธนิยสฺส ปริวิตกฺกฺจ ปุน กุฏิกรณตฺถาย อุสฺสาหฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ โข อายสฺมโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ทารุคเห คณโกติ รฺโ ทารุภณฺฑาคาเร ทารุโคปโก. เทวคหทารูนีติ เทเวน คหิตทารูนิ. ราชปฏิคฺคหิตภูตานิ ทารูนีติ อตฺโถ. นครปฏิสงฺขาริกานีติ นครสฺส ปฏิสงฺขารูปกรณานิ. อาปทตฺถาย นิกฺขิตฺตานีติ อคฺคิทาเหน วา ปุราณภาเวน วา ปฏิราชูปรุนฺธนาทินา วา โคปุรฏฺฏาลกราชนฺเตปุรหตฺถิสาลาทีนํ วิปตฺติ อาปทาติ วุจฺจติ. ตทตฺถํ นิกฺขิตฺตานีติ วุตฺตํ โหติ. ขณฺฑาขณฺฑิกํ เฉทาเปตฺวาติ อตฺตโน กุฏิยา ปมาณํ สลฺลกฺเขตฺวา กิฺจิ อคฺเค กิฺจิ มชฺเฌ กิฺจิ มูเล ขณฺฑาขณฺฑํ กโรนฺโต เฉทาเปสิ.

๘๗. วสฺสกาโรติ ตสฺส พฺราหฺมณสฺส นามํ. มคธมหามตฺโตติ มคธรฏฺเ มหามตฺโต, มหติยา อิสฺสริยมตฺตาย สมนฺนาคโต, มคธรฺโ วา มหามตฺโต; มหาอมจฺโจติ วุตฺตํ โหติ. อนุสฺายมาโนติ ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา ปจฺจเวกฺขมาโน. ภเณติ อิสฺสรานํ นีจฏฺานิกปุริสาลปนํ. พนฺธํ อาณาเปสีติ พฺราหฺมโณ ปกติยาปิ ตสฺมึ อิสฺสาปกโตว. โส รฺโ ‘‘อาณาเปหี’’ติ วจนํ สุตฺวา ยสฺมา ‘‘ปกฺโกสาเปหี’’ติ รฺโ น วุตฺตํ, ตสฺมา ‘‘นํ หตฺเถสุ จ ปาเทสุ จ พนฺธํ กตฺวา อาณาเปสฺสามี’’ติ พนฺธํ อาณาเปสิ. อทฺทส โข อายสฺมา ธนิโยติ กถํ อทฺทส? โส กิร อตฺตนา เลเสน ทารูนํ หฏภาวํ ตฺวา ‘‘นิสฺสํสยํ เอส ทารูนํ การณา ราชกุลโต วธํ วา พนฺธํ วา ปาปุณิสฺสติ, ตทา นํ อหเมว โมเจสฺสามี’’ติ นิจฺจกาลํ ตสฺส ปวตฺตึ สุณนฺโตเยว วิจรติ. ตสฺมา ตขณฺเว คนฺตฺวา อทฺทส. เตน วุตฺตํ – ‘‘อทฺทส โข อายสฺมา ธนิโย’’ติ. ทารูนํ กิจฺจาติ ทารูนํ การณา. ปุราหํ หฺามีติ อหํ ปุรา หฺามิ; ยาว อหํ น หฺามิ, ตาว ตฺวํ เอยฺยาสีติ อตฺโถ.

๘๘. อิงฺฆ, ภนฺเต, สราเปหีติ เอตฺถ อิงฺฆาติ โจทนตฺเถ นิปาโต. ปมาภิสิตฺโตติ อภิสิตฺโต หุตฺวา ปมํ. เอวรูปึ วาจํ ภาสิตาติ ‘‘ทินฺนฺเว สมณพฺราหฺมณานํ ติณกฏฺโทกํ ปริภุฺชนฺตู’’ติ อิมํ เอวรูปึ วาจํ อภิสิตฺโต หุตฺวา ปมเมว ยํ ตฺวํ อภาสิ, ตํ สยเมว ภาสิตฺวา อิทานิ สรสิ, น สรสีติ วุตฺตํ โหติ. ราชาโน กิร อภิสิตฺตมตฺตาเยว ธมฺมเภรึ จราเปนฺติ – ‘‘ทินฺนฺเว สมณพฺราหฺมณานํ ติณกฏฺโทกํ ปริภุฺชนฺตู’’ติ ตํ สนฺธาย เอส วทติ. เตสํ มยา สนฺธาย ภาสิตนฺติ เตสํ อปฺปมตฺตเกปิ กุกฺกุจฺจายนฺตานํ สมิตพาหิตปาปานํ สมณพฺราหฺมณานํ ติณกฏฺโทกหรณํ สนฺธาย มยา เอตํ ภาสิตํ; น ตุมฺหาทิสานนฺติ อธิปฺปาโย. ตฺจ โข อรฺเ อปริคฺคหิตนฺติ ตฺจ ติณกฏฺโทกํ ยํ อรฺเ อปริคฺคหิตํ โหติ; เอตํ สนฺธาย มยา ภาสิตนฺติ ทีเปติ.

โลเมน ตฺวํ มุตฺโตสีติ เอตฺถ โลมมิว โลมํ, กึ ปน ตํ? ปพฺพชฺชาลิงฺคํ. กึ วุตฺตํ โหติ? ยถา นาม ธุตฺตา ‘‘มํสํ ขาทิสฺสามา’’ติ มหคฺฆโลมํ เอฬกํ คณฺเหยฺยุํ. ตเมนํ อฺโ วิฺุปุริโส ทิสฺวา ‘‘อิมสฺส เอฬกสฺส มํสํ กหาปณมตฺตํ อคฺฆติ. โลมานิ ปน โลมวาเร โลมวาเร อเนเก กหาปเณ อคฺฆนฺตี’’ติ ทฺเว อโลมเก เอฬเก ทตฺวา คณฺเหยฺย. เอวํ โส เอฬโก วิฺุปุริสมาคมฺม โลเมน มุจฺเจยฺย. เอวเมว ตฺวํ อิมสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา วธพนฺธนารโห. ยสฺมา ปน อรหทฺธโช สพฺภิ อวชฺฌรูโป, ตฺวฺจ สาสเน ปพฺพชิตตฺตา ยํ ปพฺพชฺชาลิงฺคภูตํ อรหทฺธชํ ธาเรสิ. ตสฺมา ตฺวํ อิมินา ปพฺพชฺชาลิงฺคโลเมน เอฬโก วิย วิฺุปุริสมาคมฺม มุตฺโตสีติ.

มนุสฺสา อุชฺฌายนฺตีติ รฺโ ปริสติ ภาสมานสฺส สมฺมุขา จ ปรมฺมุขา จ สุตฺวา ตตฺถ ตตฺถ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ, อวชฺฌายนฺติ, อวชานนฺตา ตํ ฌายนฺติ โอโลเกนฺติ ลามกโต วา จินฺเตนฺตีติ อตฺโถ. ขิยฺยนฺตีติ ตสฺส อวณฺณํ กเถนฺติ ปกาเสนฺติ. วิปาเจนฺตีติ วิตฺถาริกํ กโรนฺติ, สพฺพตฺถ ปตฺถรนฺติ; อยฺจ อตฺโถ สทฺทสตฺถานุสาเรน เวทิตพฺโพ. อยํ ปเนตฺถ โยชนา – ‘‘อลชฺชิโน อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา’’ติอาทีนิ จินฺเตนฺตา อุชฺฌายนฺติ. ‘‘นตฺถิ อิเมสํ สามฺ’’นฺติอาทีนิ ภณนฺตา ขิยฺยนฺติ. ‘‘อปคตา อิเม สามฺา’’ติอาทีนิ ตตฺถ ตตฺถ วิตฺถาเรนฺตา วิปาเจนฺตีติ. เอเตน นเยน อิเมสํ ปทานํ อิโต ปรมฺปิ ตตฺถ ตตฺถ อาคตปทานุรูเปน โยชนา เวทิตพฺพา. พฺรหฺมจาริโนติ เสฏฺจาริโน. สามฺนฺติ สมณภาโว. พฺรหฺมฺนฺติ เสฏฺภาโว. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.

รฺโ ทารูนีติอาทิมฺหิ ‘‘อทินฺนํ อาทิยิสฺสตี’’ติ อยํ อุชฺฌายนตฺโถ. ยํ ปเนตํ อทินฺนํ อาทิยิ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘รฺโ ทารูนี’’ติ วุตฺตํ. อิติ วจนเภเท อสมฺมุยฺหนฺเตหิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปุราณโวหาริโก มหามตฺโตติ ภิกฺขุภาวโต ปุราเณ คิหิกาเล วินิจฺฉยโวหาเร นิยุตฺตตฺตา ‘‘โวหาริโก’’ติ สงฺขํ คโต มหาอมจฺโจ.

อถ โข ภควา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจาติ ภควา สามํเยว โลกโวหารมฺปิ ชานาติ, อตีตพุทฺธานํ ปฺตฺติมฺปิ ชานาติ – ‘‘ปุพฺเพปิ พุทฺธา เอตฺตเกน ปาราชิกํ ปฺเปนฺติ, เอตฺตเกน ถุลฺลจฺจยํ, เอตฺตเกน ทุกฺกฏ’’นฺติ. เอวํ สนฺเตปิ สเจ อฺเหิ โลกโวหารวิฺูหิ สทฺธึ อสํสนฺทิตฺวา ปาทมตฺเตน ปาราชิกํ ปฺเปยฺย, เตนสฺส สิยุํ วตฺตาโร ‘‘สีลสํวโร นาม เอกภิกฺขุสฺสปิ อปฺปเมยฺโย อสงฺขฺเยยฺโย มหาปถวี-สมุทฺท-อากาสานิ วิย อติวิตฺถิณฺโณ, กถฺหิ นาม ภควา ปาทมตฺตเกน นาเสสี’’ติ! ตโต ตถาคตสฺส าณพลํ อชานนฺตา สิกฺขาปทํ โกเปยฺยุํ, ปฺตฺตมฺปิ สิกฺขาปทํ ยถาาเน น ติฏฺเยฺย. โลกโวหารวิฺูหิ ปน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา ปฺตฺเต โส อุปวาโท น โหติ. อฺทตฺถุ เอวํ วตฺตาโร โหนฺติ – ‘‘อิเมหิ นาม อคาริกาปิ ปาทมตฺเตน โจรํ หนนฺติปิ พนฺธนฺติปิ ปพฺพาเชนฺติปิ. กสฺมา ภควา ปพฺพชิตํ น นาเสสฺสติ; เยน ปรสนฺตกํ ติณสลากมตฺตมฺปิ น คเหตพฺพ’’นฺติ! ตถาคตสฺส จ าณพลํ ชานิสฺสนฺติ. ปฺตฺตมฺปิ จ สิกฺขาปทํ อกุปฺปํ ภวิสฺสติ, ยถาาเน สฺสติ. ตสฺมา โลกโวหารวิฺูหิ สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา ปฺเปตุกาโม สพฺพาวนฺตํ ปริสํ อนุวิโลเกนฺโต อถ โข ภควา อวิทูเร นิสินฺนํ ทิสฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ ‘‘กิตฺตเกน โข ภิกฺขุ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร โจรํ คเหตฺวา หนติ วา พนฺธติ วา ปพฺพาเชติ วา’’ติ.

ตตฺถ มาคโธติ มคธานํ อิสฺสโร. เสนิโยติ เสนาย สมฺปนฺโน. พิมฺพิสาโรติ ตสฺส นามํ. ปพฺพาเชติ วาติ รฏฺโต นิกฺขาเมติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว. ปฺจมาสโก ปาโทติ ตทา ราชคเห วีสติมาสโก กหาปโณ โหติ, ตสฺมา ปฺจมาสโก ปาโท. เอเตน ลกฺขเณน สพฺพชนปเทสุ กหาปณสฺส จตุตฺโถ ภาโค ‘‘ปาโท’’ติ เวทิตพฺโพ. โส จ โข โปราณสฺส นีลกหาปณสฺส วเสน, น อิตเรสํ รุทฺรทามกาทีนํ. เตน หิ ปาเทน อตีตพุทฺธาปิ ปาราชิกํ ปฺเปสุํ, อนาคตาปิ ปฺเปสฺสนฺติ. สพฺพพุทฺธานฺหิ ปาราชิกวตฺถุมฺหิ วา ปาราชิเก วา นานตฺตํ นตฺถิ. อิมาเนว จตฺตาริ ปาราชิกวตฺถูนิ. อิมาเนว จตฺตาริ ปาราชิกานิ. อิโต อูนํ วา อติเรกํ วา นตฺถิ. ตสฺมา ภควาปิ ธนิยํ วิครหิตฺวา ปาเทเนว ทุติยปาราชิกํ ปฺเปนฺโต ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาต’’นฺติอาทิมาห.

เอวํ มูลจฺเฉชฺชวเสน ทฬฺหํ กตฺวา ทุติยปาราชิเก ปฺตฺเต อปรมฺปิ อนุปฺตฺตตฺถาย รชกภณฺฑิกวตฺถุ อุทปาทิ, ตสฺสุปฺปตฺติทีปนตฺถเมตํ วุตฺตํ – ‘‘เอวฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ โหตี’’ติ. ตสฺสตฺโถ จ อนุปฺตฺติสมฺพนฺโธ จ ปมปาราชิกวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ยถา จ อิธ, เอวํ อิโต ปเรสุ สพฺพสิกฺขาปเทสุ. ยํ ยํ ปุพฺเพ วุตฺตํ, ตํ ตํ สพฺพํ วชฺเชตฺวา อุปรูปริ อปุพฺพเมว วณฺณยิสฺสาม. ยทิ หิ ยํ ยํ วุตฺตนยํ, ตํ ตํ ปุนปิ วณฺณยิสฺสาม, กทา วณฺณนาย อนฺตํ คมิสฺสาม! ตสฺมา ยํ ยํ ปุพฺเพ วุตฺตํ, ตํ ตํ สพฺพํ สาธุกํ อุปสลฺลกฺเขตฺวา ตตฺถ ตตฺถ อตฺโถ จ โยชนา จ เวทิตพฺพา. อปุพฺพํ ปน ยํกิฺจิ อนุตฺตานตฺถํ, ตํ สพฺพํ มยเมว วณฺณยิสฺสาม.

ธนิยวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙๐. รชกตฺถรณํ คนฺตฺวาติ รชกติตฺถํ คนฺตฺวา; ตฺหิ ยสฺมา ตตฺถ รชกา วตฺถานิ อตฺถรนฺติ, ตสฺมา รชกตฺถรณนฺติ วุจฺจติ. รชกภณฺฑิกนฺติ รชกานํ ภณฺฑิกํ; รชกา สายนฺหสมเย นครํ ปวิสนฺตา พหูนิ วตฺถานิ เอเกกํ ภณฺฑิกํ พนฺธนฺติ. ตโต เอกํ ภณฺฑิกํ เตสํ ปมาเทน อปสฺสนฺตานํ อวหริตฺวา เถเนตฺวาติ อตฺโถ.

ปทภาชนียวณฺณนา

๙๒. คาโม นามาติ เอวมาทิ ‘‘คามา วา อรฺา วา’’ติ เอตฺถ วุตฺตสฺส คามสฺส จ อรฺสฺส จ ปเภททสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺมึ คาเม เอกา เอว กุฏิ, เอกํ เคหํ เสยฺยถาปิ มลยชนปเท; อยํ เอกกุฏิโก คาโม นาม. เอเตน นเยน อปเรปิ เวทิตพฺพา. อมนุสฺโส นาม โย สพฺพโส วา มนุสฺสานํ อภาเวน ยกฺขปริคฺคหภูโต; ยโต วา มนุสฺสา เกนจิ การเณน ปุนปิ อาคนฺตุกามา เอว อปกฺกนฺตา. ปริกฺขิตฺโต นาม อิฏฺกปาการํ อาทึ กตฺวา อนฺตมโส กณฺฏกสาขาหิปิ ปริกฺขิตฺโต. โคนิสาทินิวิฏฺโ นาม วีถิสนฺนิเวสาทิวเสน อนิวิสิตฺวา ยถา คาโว ตตฺถ ตตฺถ ทฺเว ตโย นิสีทนฺติ, เอวํ ตตฺถ ตตฺถ ทฺเว ตีณิ ฆรานิ กตฺวา นิวิฏฺโ. สตฺโถติ ชงฺฆสตฺถสกฏสตฺถาทีสุ โย โกจิ. อิมสฺมิฺจ สิกฺขาปเท นิคโมปิ นครมฺปิ คามคฺคหเณเนว คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

คามูปจาโรติอาทิ อรฺปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อินฺทขีเล ิตสฺสาติ ยสฺส คามสฺส อนุราธปุรสฺเสว ทฺเว อินฺทขีลา, ตสฺส อพฺภนฺตริเม อินฺทขีเล ิตสฺส; ตสฺส หิ พาหิโร อินฺทขีโล อาภิธมฺมิกนเยน อรฺสงฺเขปํ คจฺฉติ. ยสฺส ปน เอโก, ตสฺส คามทฺวารพาหานํ เวมชฺเฌ ิตสฺส. ยตฺราปิ หิ อินฺทขีโล นตฺถิ, ตตฺร คามทฺวารพาหานํ เวมชฺฌเมว ‘‘อินฺทขีโล’’ติ วุจฺจติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘คามทฺวารพาหานํ เวมชฺเฌ ิตสฺสา’’ติ. มชฺฌิมสฺสาติ ถามมชฺฌิมสฺส, โน ปมาณมชฺฌิมสฺส, เนว อปฺปถามสฺส, น มหาถามสฺส; มชฺฌิมถามสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. เลฑฺฑุปาโตติ ยถา มาตุคาโม กาเก อุฑฺฑาเปนฺโต อุชุกเมว หตฺถํ อุกฺขิปิตฺวา เลฑฺฑุํ ขิปติ, ยถา จ อุทกุกฺเขเป อุทกํ ขิปนฺติ, เอวํ อขิปิตฺวา ยถา ตรุณมนุสฺสา อตฺตโน พลํ ทสฺเสนฺตา พาหํ ปสาเรตฺวา เลฑฺฑุํ ขิปนฺติ, เอวํ ขิตฺตสฺส เลฑฺฑุสฺส ปตนฏฺานํ. ปติโต ปน ลุิตฺวา ยตฺถ คจฺฉติ, ตํ น คเหตพฺพํ.

อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ฆรูปจาเร ิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาโตติ เอตฺถ ปน นิพฺพโกสสฺส อุทกปาตฏฺาเน ิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สุปฺปปาโต วา มุสลปาโต วา ฆรูปจาโร นาม. ตสฺมึ ฆรูปจาเร ิตสฺส เลฑฺฑุปาโต คามูปจาโรติ กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยมฺปิ ตาทิสเมว. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘ฆรํ นาม, ฆรูปจาโร นาม, คาโม นาม, คามูปจาโร นามา’’ติ มาติกํ เปตฺวา นิพฺพโกสสฺส อุทกปาตฏฺานพฺภนฺตรํ ฆรํ นาม. ยํ ปน ทฺวาเร ิโต มาตุคาโม ภาชนโธวนอุทกํ ฉฑฺเฑติ, ตสฺส ปตนฏฺานฺจ มาตุคาเมเนว อนฺโตเคเห ิเตน ปกติยา พหิ ขิตฺตสฺส สุปฺปสฺส วา สมฺมุฺชนิยา วา ปตนฏฺานฺจ, ฆรสฺส ปุรโต ทฺวีสุ โกเณสุ สมฺพนฺธิตฺวา มชฺเฌ รุกฺขสูจิทฺวารํ เปตฺวา โครูปานํ ปเวสนนิวารณตฺถํ กตปริกฺเขโป จ อยํ สพฺโพปิ ฆรูปจาโร นาม. ตสฺมึ ฆรูปจาเร ิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาตพฺภนฺตรํ คาโม นาม. ตโต อฺสฺส เลฑฺฑุปาตสฺส อพฺภนฺตรํ คามูปจาโร นามาติ วุตฺตํ. อิทเมตฺถ ปมาณํ. ยถา เจตฺถ, เอวํ สพฺพตฺถ โย โย อฏฺกถาวาโท วา เถรวาโท วา ปจฺฉา วุจฺจติ โส ปมาณโต ทฏฺพฺโพ.

ยฺเจตํ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ, ตํ ปาฬิยา วิรุทฺธมิว ทิสฺสติ. ปาฬิยฺหิ – ‘‘ฆรูปจาเร ิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาโต’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน ตํ เลฑฺฑุปาตํ คามสงฺเขปํ กตฺวา ตโต ปรํ คามูปจาโร วุตฺโตติ? วุจฺจเต – สจฺจเมว ปาฬิยํ วุตฺตํ, อธิปฺปาโย ปเนตฺถ เวทิตพฺโพ. โส จ อฏฺกถาจริยานเมว วิทิโต. ตสฺมา ยถา ‘‘ฆรูปจาเร ิตสฺสา’’ติ เอตฺถ ฆรูปจารลกฺขณํ ปาฬิยํ อวุตฺตมฺปิ อฏฺกถายํ วุตฺตวเสน คหิตํ. เอวํ เสสมฺปิ คเหตพฺพํ.

ตตฺรายํ นโย – อิธ คาโม นาม ทุวิโธ โหติ – ปริกฺขิตฺโต จ อปริกฺขิตฺโต จ. ตตฺร ปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขโปเยว ปริจฺเฉโท. ตสฺมา ตสฺส วิสุํ ปริจฺเฉทํ อวตฺวา ‘‘คามูปจาโร นาม ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อินฺทขีเล ิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาโต’’ติ ปาฬิยํ วุตฺตํ. อปริกฺขิตฺตสฺส ปน คามสฺส คามปริจฺเฉโท วตฺตพฺโพ. ตสฺมา ตสฺส คามปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ฆรูปจาเร ิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาโต’’ติ วุตฺตํ. คามปริจฺเฉเท จ ทสฺสิเต คามูปจารลกฺขณํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว สกฺกา าตุนฺติ ปุน ‘‘ตตฺถ ิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาโต’’ติ น วุตฺตํ. โย ปน ฆรูปจาเร ิตสฺส เลฑฺฑุปาตํเยว ‘‘คามูปจาโร’’ติ วทติ, ตสฺส ฆรูปจาโร คาโมติ อาปชฺชติ. ตโต ฆรํ, ฆรูปจาโร, คาโม, คามูปจาโรติ เอส วิภาโค สงฺกรียติ. อสงฺกรโต เจตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ วิกาเล คามปฺปเวสนาทีสุ. ตสฺมา ปาฬิฺจ อฏฺกถฺจ สํสนฺทิตฺวา วุตฺตนเยเนเวตฺถ คาโม จ คามูปจาโร จ เวทิตพฺโพ. โยปิ จ คาโม ปุพฺเพ มหา หุตฺวา ปจฺฉา กุเลสุ นฏฺเสุ อปฺปโก โหติ, โส ฆรูปจารโต เลฑฺฑุปาเตเนว ปริจฺฉินฺทิตพฺโพ. ปุริมปริจฺเฉโท ปนสฺส ปริกฺขิตฺตสฺสาปิ อปริกฺขิตฺตสฺสาปิ อปฺปมาณเมวาติ.

อรฺํ นาม เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจาติ อิมํ ยถาวุตฺตลกฺขณํ คามฺจ คามูปจารฺจ เปตฺวา อิมสฺมึ อทินฺนาทานสิกฺขาปเท อวเสสํ ‘‘อรฺํ’’ นามาติ เวทิตพฺพํ. อภิธมฺเม ปน ‘‘อรฺนฺติ นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ (วิภ. ๕๒๙) วุตฺตํ. อารฺกสิกฺขาปเท ‘‘อารฺกํ นาม เสนาสนํ ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปารา. ๖๕๔) วุตฺตํ. ตํ อินฺทขีลโต ปฏฺาย อาโรปิเตน อาจริยธนุนา ปฺจธนุสตปฺปมาณนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ ภควตา ‘‘คามา วา อรฺา วา’’ติ เอตสฺส อตฺถํ วิภชนฺเตน ‘‘ฆรํ, ฆรูปจาโร, คาโม, คามูปจาโร อรฺ’’นฺติ ปาปภิกฺขูนํ เลโสกาสนิเสธนตฺถํ ปฺจ โกฏฺาสา ทสฺสิตา. ตสฺมา ฆเร วา ฆรูปจาเร วา คาเม วา คามูปจาเร วา อรฺเ วา ปาทคฺฆนกโต ปฏฺาย สสฺสามิกํ ภณฺฑํ อวหรนฺตสฺส ปาราชิกเมวาติ เวทิตพฺพํ.

อิทานิ ‘‘อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิเยยฺยา’’ติอาทีนํ อตฺถทสฺสนตฺถํ ‘‘อทินฺนํ นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อทินฺนนฺติ ทนฺตโปนสิกฺขาปเท อตฺตโน สนฺตกมฺปิ อปฺปฏิคฺคหิตกํ กปฺปิยํ อชฺโฌหรณียํ วุจฺจติ. อิธ ปน ยํกิฺจิ ปรปริคฺคหิตํ สสฺสามิกํ ภณฺฑํ, ตเทตํ เตหิ สามิเกหิ กาเยน วา วาจาย วา น ทินฺนนฺติ อทินฺนํ. อตฺตโน หตฺถโต วา ยถาิตฏฺานโต วา น นิสฺสฏฺนฺติ อนิสฺสฏฺํ. ยถาาเน ิตมฺปิ อนเปกฺขตาย น ปริจฺจตฺตนฺติ อปริจฺจตฺตํ. อารกฺขสํวิธาเนน รกฺขิตตฺตา รกฺขิตํ. มฺชูสาทีสุ ปกฺขิปิตฺวา โคปิตตฺตา โคปิตํ. ‘‘มม อิท’’นฺติ ตณฺหามมตฺเตน มมายิตตฺตา มมายิตํ. ตาหิ อปริจฺจาครกฺขณโคปนาหิ เตหิ ภณฺฑสามิเกหิ ปเรหิ ปริคฺคหิตนฺติ ปรปริคฺคหิตํ. เอตํ อทินฺนํ นาม.

เถยฺยสงฺขาตนฺติ เอตฺถ เถโนติ โจโร, เถนสฺส ภาโว เถยฺยํ; อวหรณจิตฺตสฺเสตํ อธิวจนํ. ‘‘สงฺขา, สงฺขาต’’นฺติ อตฺถโต เอกํ; โกฏฺาสสฺเสตํ อธิวจนํ, ‘‘สฺานิทานา หิ ปปฺจสงฺขา’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๘๘๐) วิย. เถยฺยฺจ ตํ สงฺขาตฺจาติ เถยฺยสงฺขาตํ, เถยฺยจิตฺตสงฺขาโต เอโก จิตฺตโกฏฺาโสติ อตฺโถ. กรณตฺเถ เจตํ ปจฺจตฺตวจนํ, ตสฺมา เถยฺยสงฺขาเตนาติ อตฺถโต ทฏฺพฺพํ. โย จ เถยฺยสงฺขาเตน อาทิยติ, โส ยสฺมา เถยฺยจิตฺโต โหติ, ตสฺมา พฺยฺชนํ อนาทิยิตฺวา อตฺถเมว ทสฺเสตุํ เถยฺยจิตฺโต อวหรณจิตฺโตติ เอวมสฺส ปทภาชนํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อาทิเยยฺย , หเรยฺย, อวหเรยฺย, อิริยาปถํ วิโกเปยฺย, านา จาเวยฺย, สงฺเกตํ วีตินาเมยฺยาติ เอตฺถ ปน ปมปทํ อภิโยควเสน วุตฺตํ, ทุติยปทํ อฺเสํ ภณฺฑํ หรนฺตสฺส คจฺฉโต วเสน, ตติยปทํ อุปนิกฺขิตฺตภณฺฑวเสน, จตุตฺถํ สวิฺาณกวเสน, ปฺจมํ ถเล นิกฺขิตฺตาทิวเสน, ฉฏฺํ ปริกปฺปวเสน วา สุงฺกฆาตวเสน วา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. โยชนา ปเนตฺถ เอกภณฺฑวเสนปิ นานาภณฺฑวเสนปิ โหติ. เอกภณฺฑวเสน จ สวิฺาณเกเนว ลพฺภติ, นานาภณฺฑวเสน สวิฺาณกาวิฺาณกมิสฺสเกน.

ตตฺถ นานาภณฺฑวเสน ตาว เอวํ เวทิตพฺพํ – อาทิเยยฺยาติ อารามํ อภิยุฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. สามิกสฺส วิมตึ อุปฺปาเทติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. สามิโก ‘‘น มยฺหํ ภวิสฺสตี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส.

หเรยฺยาติ อฺสฺส ภณฺฑํ หรนฺโต สีเส ภารํ เถยฺยจิตฺโต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. ขนฺธํ โอโรเปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส.

อวหเรยฺยาติ อุปนิกฺขิตฺตํ ภณฺฑํ ‘‘เทหิ เม ภณฺฑ’’นฺติ วุจฺจมาโน ‘‘นาหํ คณฺหามี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. สามิกสฺส วิมตึ อุปฺปาเทติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. สามิโก ‘‘น มยฺหํ ทสฺสตี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส.

อิริยาปถํ วิโกเปยฺยาติ ‘‘สหภณฺฑหารกํ เนสฺสามี’’ติ ปมํ ปาทํ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. ทุติยํ ปาทํ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส.

านา จาเวยฺยาติ ถลฏฺํ ภณฺฑํ เถยฺยจิตฺโต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส.

สงฺเกตํ วีตินาเมยฺยาติ ปริกปฺปิตฏฺานํ ปมํ ปาทํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. ทุติยํ ปาทํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส. อถ วา ปมํ ปาทํ สุงฺกฆาตํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. ทุติยํ ปาทํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสาติ – อยเมตฺถ นานาภณฺฑวเสน โยชนา.

เอกภณฺฑวเสน ปน สสฺสามิกํ ทาสํ วา ติรจฺฉานํ วา ยถาวุตฺเตน อภิโยคาทินา นเยน อาทิยติ วา หรติ วา อวหรติ วา อิริยาปถํ วา วิโกเปติ, านา วา จาเวติ, ปริจฺเฉทํ วา อติกฺกาเมติ – อยเมตฺถ เอกภณฺฑวเสน โยชนา.

ปฺจวีสติอวหารกถา

อปิจ อิมานิ ฉ ปทานิ วณฺเณนฺเตน ปฺจ ปฺจเก สโมธาเนตฺวา ปฺจวีสติ อวหารา ทสฺเสตพฺพา. เอวํ วณฺณยตา หิ อิทํ อทินฺนาทานปาราชิกํ สุวณฺณิตํ โหติ. อิมสฺมิฺจ าเน สพฺพอฏฺกถา อากุลา ลุฬิตา ทุวิฺเยฺยวินิจฺฉยา. ตถา หิ สพฺพอฏฺกถาสุ ยานิ ตานิ ปาฬิยํ ‘‘ปฺจหากาเรหิ อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺส, ปรปริคฺคหิตฺจ โหตี’’ติอาทินา นเยน อวหารงฺคานิ วุตฺตานิ, ตานิปิ คเหตฺวา กตฺถจิ เอกํ ปฺจกํ ทสฺสิตํ, กตฺถจิ ‘‘ฉหากาเรหี’’ติ อาคเตหิ สทฺธึ ทฺเว ปฺจกานิ ทสฺสิตานิ. เอตานิ จ ปฺจกานิ น โหนฺติ. ยตฺถ หิ เอเกเกน ปเทน อวหาโร สิชฺฌติ, ตํ ปฺจกํ นาม วุจฺจติ. เอตฺถ ปน สพฺเพหิปิ ปเทหิ เอโกเยว อวหาโร. ยานิ จ ตตฺถ ลพฺภมานานิเยว ปฺจกานิ ทสฺสิตานิ, เตสมฺปิ น สพฺเพสํ อตฺโถ ปกาสิโต. เอวมิมสฺมึ าเน สพฺพอฏฺกถา อากุลา ลุฬิตา ทุวิฺเยฺยวินิจฺฉยา. ตสฺมา ปฺจ ปฺจเกสโมธาเนตฺวา ทสฺสิยมานา อิเม ปฺจวีสติ อวหารา สาธุกํ สลฺลกฺเขตพฺพา.

ปฺจ ปฺจกานิ นาม – นานาภณฺฑปฺจกํ, เอกภณฺฑปฺจกํ, สาหตฺถิกปฺจกํ, ปุพฺพปโยคปฺจกํ, เถยฺยาวหารปฺจกนฺติ. ตตฺถ นานาภณฺฑปฺจกฺจ เอกภณฺฑปฺจกฺจ ‘‘อาทิเยยฺย, หเรยฺย, อวหเรยฺย, อิริยาปถํ วิโกเปยฺย, านา จาเวยฺยา’’ติ อิเมสํ ปทานํ วเสน ลพฺภนฺติ. ตานิ ปุพฺเพ โยเชตฺวา ทสฺสิตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. ยํ ปเนตํ ‘‘สงฺเกตํ วีตินาเมยฺยา’’ติ ฉฏฺํ ปทํ, ตํ ปริกปฺปาวหารสฺส จ นิสฺสคฺคิยาวหารสฺส จ สาธารณํ. ตสฺมา ตํ ตติยปฺจเมสุ ปฺจเกสุ ลพฺภมานปทวเสน โยเชตพฺพํ. วุตฺตํ นานาภณฺฑปฺจกฺจ เอกภณฺฑปฺจกฺจ.

กตมํ สาหตฺถิกปฺจกํ? ปฺจ อวหารา – สาหตฺถิโก, อาณตฺติโก, นิสฺสคฺคิโย, อตฺถสาธโก, ธุรนิกฺเขโปติ. ตตฺถ สาหตฺถิโก นาม ปรสฺส ภณฺฑํ สหตฺถา อวหรติ. อาณตฺติโก นาม ‘‘อสุกสฺส ภณฺฑํ อวหรา’’ติ อฺํ อาณาเปติ. นิสฺสคฺคิโย นาม อนฺโตสุงฺกฆาเต ิโต พหิสุงฺกฆาตํ ปาเตติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสาติ, อิมินา จ สทฺธึ ‘‘สงฺเกตํ วีตินาเมยฺยา’’ติ อิทํ ปทโยชนํ ลภติ. อตฺถสาธโก นาม ‘‘อสุกํ นาม ภณฺฑํ ยทา สกฺโกสิ, ตทา อวหรา’’ติ อาณาเปติ. ตตฺถ สเจ ปโร อนนฺตรายิโก หุตฺวา ตํ อวหรติ, อาณาปโก อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิโก โหติ, อวหารโก ปน อวหฏกาเล. อยํ อตฺถสาธโก. ธุรนิกฺเขโป ปน อุปนิกฺขิตฺตภณฺฑวเสน เวทิตพฺโพ. อิทํ สาหตฺถิกปฺจกํ.

กตมํ ปุพฺพปโยคปฺจกํ? อปเรปิ ปฺจ อวหารา – ปุพฺพปโยโค, สหปโยโค, สํวิทาวหาโร, สงฺเกตกมฺมํ, นิมิตฺตกมฺมนฺติ. ตตฺถ อาณตฺติวเสน ปุพฺพปโยโค เวทิตพฺโพ. านา จาวนวเสน สหปโยโค. อิตเร ปน ตโย ปาฬิยํ (ปารา. ๑๑๘-๑๒๐) อาคตนเยเนว เวทิตพฺพาติ. อิทํ ปุพฺพปโยคปฺจกํ.

กตมํ เถยฺยาวหารปฺจกํ? อปเรปิ ปฺจ อวหารา – เถยฺยาวหาโร, ปสยฺหาวหาโร, ปริกปฺปาวหาโร, ปฏิจฺฉนฺนาวหาโร, กุสาวหาโรติ. เต ปฺจปิ ‘‘อฺตโร ภิกฺขุ สงฺฆสฺส จีวเร ภาชิยมาเน เถยฺยจิตฺโต กุสํ สงฺกาเมตฺวา จีวรํ อคฺคเหสี’’ติ (ปารา. ๑๓๘) เอตสฺมึ กุสสงฺกามนวตฺถุสฺมึ วณฺณยิสฺสาม. อิทํ เถยฺยาวหารปฺจกํ. เอวมิมานิ ปฺจ ปฺจกานิ สโมธาเนตฺวา อิเม ปฺจวีสติ อวหารา เวทิตพฺพา.

อิเมสุ จ ปน ปฺจสุ ปฺจเกสุ กุสเลน วินยธเรน โอติณฺณํ วตฺถุํ สหสา อวินิจฺฉินิตฺวาว ปฺจ านานิ โอโลเกตพฺพานิ. ยานิ สนฺธาย โปราณา อาหุ –

‘‘วตฺถุํ กาลฺจ เทสฺจ, อคฺฆํ ปริโภคปฺจมํ;

ตุลยิตฺวา ปฺจ านานิ, ธาเรยฺยตฺถํ วิจกฺขโณ’’ติ.

ตตฺถ วตฺถุนฺติ ภณฺฑํ; อวหารเกน หิ ‘‘มยา อิทํ นาม อวหฏ’’นฺติ วุตฺเตปิ อาปตฺตึ อนาโรเปตฺวาว ตํ ภณฺฑํ สสฺสามิกํ วา อสฺสามิกํ วาติ อุปปริกฺขิตพฺพํ. สสฺสามิเกปิ สามิกานํ สาลยภาโว วา นิราลยภาโว วา อุปปริกฺขิตพฺโพ. สเจ เตสํ สาลยกาเล อวหฏํ, ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา อาปตฺติ กาตพฺพา. สเจ นิราลยกาเล, น ปาราชิเกน กาเรตพฺโพ. ภณฺฑสามิเกสุ ปน ภณฺฑํ อาหราเปนฺเตสุ ภณฺฑํ ทาตพฺพํ. อยเมตฺถ สามีจิ.

อิมสฺส ปนตฺถสฺส ทีปนตฺถมิทํ วตฺถุ – ภาติยราชกาเล กิร มหาเจติยปูชาย ทกฺขิณทิสโต เอโก ภิกฺขุ สตฺตหตฺถํ ปณฺฑุกาสาวํ อํเส กริตฺวา เจติยงฺคณํ ปาวิสิ; ตงฺขณเมว จ ราชาปิ เจติยวนฺทนตฺถํ อาคโต. ตตฺถ อุสฺสารณาย วตฺตมานาย มหาชนสมฺมทฺโท อโหสิ. อถ โส ภิกฺขุ ชนสมฺมทฺทปีฬิโต อํสโต ปตนฺตํ กาสาวํ อทิสฺวาว นิกฺขนฺโต; นิกฺขมิตฺวา จ กาสาวํ อปสฺสนฺโต ‘‘โก อีทิเส ชนสมฺมทฺเท กาสาวํ ลจฺฉติ, น ทานิ ตํ มยฺห’’นฺติ ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา คโต. อถฺโ ภิกฺขุ ปจฺฉา อาคจฺฉนฺโต ตํ กาสาวํ ทิสฺวา เถยฺยจิตฺเตน คเหตฺวา ปุน วิปฺปฏิสารี หุตฺวา ‘‘อสฺสมโณ ทานิมฺหิ, วิพฺภมิสฺสามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺเนปิ ‘‘วินยธเร ปุจฺฉิตฺวา สฺสามี’’ติ จินฺเตสิ.

เตน จ สมเยน จูฬสุมนตฺเถโร นาม สพฺพปริยตฺติธโร วินยาจริยปาโมกฺโข มหาวิหาเร ปฏิวสติ. โส ภิกฺขุ เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา โอกาสํ กาเรตฺวา อตฺตโน กุกฺกุจฺจํ ปุจฺฉิ. เถโร เตน ภฏฺเ ชนกาเย ปจฺฉา อาคนฺตฺวา คหิตภาวํ ตฺวา ‘‘อตฺถิ ทานิ เอตฺถ โอกาโส’’ติ จินฺเตตฺวา อาห – ‘‘สเจ กาสาวสามิกํ ภิกฺขุํ อาเนยฺยาสิ, สกฺกา ภเวยฺย ตว ปติฏฺา กาตุ’’นฺติ. ‘‘กถาหํ, ภนฺเต, ตํ ทกฺขิสฺสามี’’ติ? ‘‘ตหึ ตหึ คนฺตฺวา โอโลเกหี’’ติ. โส ปฺจปิ มหาวิหาเร โอโลเกตฺวา เนว อทฺทกฺขิ. ตโต นํ เถโร ปุจฺฉิ – ‘‘กตราย ทิสาย พหู ภิกฺขู อาคจฺฉนฺตี’’ติ? ‘‘ทกฺขิณทิสาย, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เตน หิ กาสาวํ ทีฆโต จ ติริยฺจ มินิตฺวา เปหิ. เปตฺวา ทกฺขิณทิสาย วิหารปฏิปาฏิยา วิจินิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ อาเนหี’’ติ. โส ตถา กตฺวา ตํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา เถรสฺส สนฺติกํ อาเนสิ. เถโร ปุจฺฉิ – ‘‘ตเวทํ กาสาว’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กุหึ เต ปาติต’’นฺติ? โส สพฺพํ อาจิกฺขิ. เถโร ปน เตน กตํ ธุรนิกฺเขปํ สุตฺวา อิตรํ ปุจฺฉิ – ‘‘ตยา อิทํ กุหึ ทิสฺวา คหิต’’นฺติ? โสปิ สพฺพํ อาโรเจสิ. ตโต นํ เถโร อาห – ‘‘สเจ เต สุทฺธจิตฺเตน คหิตํ อภวิสฺส, อนาปตฺติเยว เต อสฺส. เถยฺยจิตฺเตน ปน คหิตตฺตา ทุกฺกฏํ อาปนฺโนสิ. ตํ เทเสตฺวา อนาปตฺติโก โหหิ. อิทฺจ กาสาวํ อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา เอตสฺเสว ภิกฺขุโน เทหี’’ติ. โส ภิกฺขุ อมเตเนว อภิสิตฺโต ปรมสฺสาสปฺปตฺโต อโหสีติ. เอวํ วตฺถุ โอโลเกตพฺพํ.

กาโลติ อวหารกาโล. ตเทว หิ ภณฺฑํ กทาจิ สมคฺฆํ โหติ, กทาจิ มหคฺฆํ. ตสฺมา ตํ ภณฺฑํ ยสฺมึ กาเล อวหฏํ, ตสฺมึเยว กาเล โย ตสฺส อคฺโฆ โหติ, เตน อคฺเฆน อาปตฺติ กาเรตพฺพา. เอวํ กาโล โอโลเกตพฺโพ.

เทโสติ อวหารเทโส. ตฺหิ ภณฺฑํ ยสฺมึ เทเส อวหฏํ, ตสฺมึเยว เทเส โย ตสฺส อคฺโฆ โหติ, เตน อคฺเฆน อาปตฺติ กาเรตพฺพา. ภณฺฑุฏฺานเทเส หิ ภณฺฑํ สมคฺฆํ โหติ, อฺตฺถ มหคฺฆํ.

อิมสฺสาปิ จ อตฺถสฺส ทีปนตฺถมิทํ วตฺถุ – อนฺตรสมุทฺเท กิร เอโก ภิกฺขุ สุสณฺานํ นาฬิเกรํ ลภิตฺวา ภมํ อาโรเปตฺวา สงฺขถาลกสทิสํ มโนรมํ ปานียถาลกํ กตฺวา ตตฺเถว เปตฺวา เจติยคิรึ อคมาสิ. อถฺโ ภิกฺขุ อนฺตรสมุทฺทํ คนฺตฺวา ตสฺมึ วิหาเร ปฏิวสนฺโต ตํ ถาลกํ ทิสฺวา เถยฺยจิตฺเตน คเหตฺวา เจติยคิริเมว อาคโต. ตสฺส ตตฺถ ยาคุํ ปิวนฺตสฺส ตํ ถาลกํ ทิสฺวา ถาลกสามิโก ภิกฺขุ อาห – ‘‘กุโต เต อิทํ ลทฺธ’’นฺติ? ‘‘อนฺตรสมุทฺทโต เม อานีต’’นฺติ. โส ตํ ‘‘เนตํ ตว สนฺตกํ, เถยฺยาย เต คหิต’’นฺติ สงฺฆมชฺฌํ อากฑฺฒิ. ตตฺถ จ วินิจฺฉยํ อลภิตฺวา มหาวิหารํ อคมึสุ. ตตฺถ เภรึ ปหราเปตฺวา มหาเจติยสมีเป สนฺนิปาตํ กตฺวา วินิจฺฉยํ อารภึสุ. วินยธรตฺเถรา อวหารํ สฺาเปสุํ.

ตสฺมิฺจ สนฺนิปาเต อาภิธมฺมิกโคทตฺตตฺเถโร นาม วินยกุสโล โหติ. โส เอวมาห – ‘‘อิมินา อิทํ ถาลกํ กุหึ อวหฏ’’นฺติ? ‘‘อนฺตรสมุทฺเท อวหฏ’’นฺติ. ‘‘ตตฺริทํ กึ อคฺฆตี’’ติ? ‘‘น กิฺจิ อคฺฆติ. ตตฺร หิ นาฬิเกรํ ภินฺทิตฺวา มิฺชํ ขาทิตฺวา กปาลํ ฉฑฺเฑนฺติ, ทารุอตฺถํ ปน ผรตี’’ติ. ‘‘อิมสฺส ภิกฺขุโน เอตฺถ หตฺถกมฺมํ กึ อคฺฆตี’’ติ? ‘‘มาสกํ วา อูนมาสกํ วา’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน กตฺถจิ สมฺมาสมฺพุทฺเธน มาสเกน วา อูนมาสเกน วา ปาราชิกํ ปฺตฺต’’นฺติ. เอวํ วุตฺเต ‘‘สาธุ! สาธุ! สุกถิตํ สุวินิจฺฉิต’’นฺติ เอกสาธุกาโร อโหสิ. เตน จ สมเยน ภาติยราชาปิ เจติยวนฺทนตฺถํ นครโต นิกฺขมนฺโต ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘กึ อิท’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา สพฺพํ ปฏิปาฏิยา สุตฺวา นคเร เภรึ จราเปสิ – ‘‘มยิ สนฺเต ภิกฺขูนมฺปิ ภิกฺขูนีนมฺปิ คิหีนมฺปิ อธิกรณํ อาภิธมฺมิกโคทตฺตตฺเถเรน วินิจฺฉิตํ สุวินิจฺฉิตํ, ตสฺส วินิจฺฉเย อติฏฺมานํ ราชาณาย เปมี’’ติ. เอวํ เทโส โอโลเกตพฺโพ.

อคฺโฆติ ภณฺฑคฺโฆ. นวภณฺฑสฺส หิ โย อคฺโฆ โหติ, โส ปจฺฉา ปริหายติ; ยถา นวโธโต ปตฺโต อฏฺ วา ทส วา อคฺฆติ, โส ปจฺฉา ภินฺโน วา ฉิทฺโท วา อาณิคณฺิกาหโต วา อปฺปคฺโฆ โหติ ตสฺมา น สพฺพทา ภณฺฑํ ปกติอคฺเฆเนว กาตพฺพนฺติ. เอวํ อคฺโฆ โอโลเกตพฺโพ.

ปริโภโคติ ภณฺฑปริโภโค. ปริโภเคนาปิ หิ วาสิอาทิภณฺฑสฺส อคฺโฆ ปริหายติ. ตสฺมา เอวํ อุปปริกฺขิตพฺพํ, สเจ โกจิ กสฺสจิ ปาทคฺฆนกํ วาสึ หรติ, ตตฺร วาสิสามิโก ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘‘ตยา อยํ วาสิ กิตฺตเกน กีตา’’ติ? ‘‘ปาเทน, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ปน เต กิณิตฺวาว ปิตา, อุทาหุ ตํ วฬฺเชสี’’ติ? สเจ วทติ ‘‘เอกทิวสํ เม ทนฺตกฏฺํ วา รชนฉลฺลึ วา ปตฺตปจนกทารุํ วา ฉินฺนํ, ฆํสิตฺวา วา นิสิตา’’ติ. อถสฺสา โปราโณ อคฺโฆ ภฏฺโติ เวทิตพฺโพ. ยถา จ วาสิยา เอวํ อฺชนิยา วา อฺชนิสลากาย วา กุฺจิกาย วา ปลาเลน วา ถุเสหิ วา อิฏฺกจุณฺเณน วา เอกวารํ ฆํสิตฺวา โธวนมตฺเตนาปิ อคฺโฆ ภสฺสติ. ติปุมณฺฑลสฺส มกรทนฺตจฺเฉทเนนาปิ ปริมชฺชิตมตฺเตนาปิ, อุทกสาฏิกาย สกึ นิวาสนปารุปเนนาปิ ปริโภคสีเสน อํเส วา สีเส วา ปนมตฺเตนาปิ, ตณฺฑุลาทีนํ ปปฺโผฏเนนาปิ ตโต เอกํ วา ทฺเว วา อปนยเนนาปิ, อนฺตมโส เอกํ ปาสาณสกฺขรํ อุทฺธริตฺวา ฉฑฺฑิตมตฺเตนาปิ, สปฺปิเตลาทีนํ ภาชนนฺตรปอวตฺตเนนาปิ, อนฺตมโส ตโต มกฺขิกํ วา กิปิลฺลิกํ วา อุทฺธริตฺวา ฉฑฺฑิตมตฺเตนาปิ, คุฬปิณฺฑกสฺส มธุรภาวชานนตฺถํ นเขน วิชฺฌิตฺวา อณุมตฺตํ คหิตมตฺเตนาปิ อคฺโฆ ภสฺสติ. ตสฺมา ยํกิฺจิ ปาทคฺฆนกํ วุตฺตนเยเนว สามิเกหิ ปริโภเคน อูนํ กตํ โหติ, น ตํ อวหโฏ ภิกฺขุ ปาราชิเกน กาตพฺโพ. เอวํ ปริโภโค โอโลเกตพฺโพ. เอวํ อิมานิ ตุลยิตฺวา ปฺจ านานิ ธาเรยฺยตฺถํ วิจกฺขโณ, อาปตฺตึ วา อนาปตฺตึ วา ครุกํ วา ลหุกํ วา อาปตฺตึ ยถาาเน เปยฺยาติ.

นิฏฺิโต ‘‘อาทิเยยฺย…เป… สงฺเกตํ วีตินาเมยฺยา’’ติ.

อิเมสํ ปทานํ วินิจฺฉโย.

อิทานิ ยทิทํ ‘‘ยถารูเป อทินฺนาทาเน’’ติอาทีนิ วิภชนฺเตน ‘‘ยถารูปํ นามา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยถารูปนฺติ ยถาชาติกํ. ตํ ปน ยสฺมา ปาทโต ปฏฺาย โหติ, ตสฺมา ‘‘ปาทํ วา ปาทารหํ วา อติเรกปาทํ วา’’ติ อาห. ตตฺถ ปาเทน กหาปณสฺส จตุตฺถภาคํ อกปฺปิยภณฺฑเมว ทสฺเสติ. ปาทารเหน ปาทคฺฆนกํ กปฺปิยภณฺฑํ. อติเรกปาเทน อุภยมฺปิ. เอตฺตาวตา สพฺพากาเรน ทุติยปาราชิกปฺปโหนกวตฺถุ ทสฺสิตํ โหติ.

ปถพฺยา ราชาติ สกลปถวิยา ราชา ทีปจกฺกวตฺตี อโสกสทิโส, โย วา ปนฺโปิ เอกทีเป ราชา, สีหฬราชสทิโส. ปเทสราชาติ เอกทีปสฺส ปเทสิสฺสโร, พิมฺพิสาร-ปเสนทิ-อาทโย วิย. มณฺฑลิกา นาม เย ทีปปเทเสปิ เอกเมกํ มณฺฑลํ ภุฺชนฺติ. อนฺตรโภคิกา นาม ทฺวินฺนํ ราชูนํ อนฺตรา กติปยคามสามิกา. อกฺขทสฺสาติ ธมฺมวินิจฺฉนกา, เต ธมฺมสภายํ นิสีทิตฺวา อปราธานุรูปํ โจรานํ หตฺถปาทจฺเฉชฺชาทึ อนุสาสนฺติ. เย ปน านนฺตรปฺปตฺตา อมจฺจา วา ราชกุมารา วา กตาปราธา โหนฺติ, เต รฺโ อาโรเจนฺติ, ครุกํ านํ สยํ น วินิจฺฉินนฺติ. มหามตฺตาติ านนฺตรปฺปตฺตา มหาอมจฺจา; เตปิ ตตฺถ ตตฺถ คาเม วา นิคเม วา นิสีทิตฺวา ราชกิจฺจํ กโรนฺติ. เย วา ปนาติ อฺเปิ เย ราชกุลนิสฺสิตา วา สกิสฺสริยนิสฺสิตา วา หุตฺวา เฉชฺชเภชฺชํ อนุสาสนฺติ, สพฺเพปิ เต อิมสฺมึ อตฺเถ ‘‘ราชาโน’’ติ ทสฺเสติ.

หเนยฺยุนฺติ โปเถยฺยุฺเจว ฉินฺเทยฺยุฺจ. ปพฺพาเชยฺยุนฺติ นีหเรยฺยุํ. โจโรสีติ เอวมาทีนิ จ วตฺวา ปริภาเสยฺยุํ; เตเนวาห – ‘‘ปริภาโส เอโส’’ติ. ปุริมํ อุปาทายาติ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตฺวา ปาราชิกํ อาปตฺตึ อาปนฺนํ ปุคฺคลํ อุปาทาย. เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานปทตฺถตฺตา จ ปากฏเมวาติ.

๙๓. เอวํ อุทฺทิฏฺสิกฺขาปทํ ปทานุกฺกเมน วิภชิตฺวา อิทานิ ยํ ตํ อาทิเยยฺยาติอาทีหิ ฉหิ ปเทหิ สงฺเขปโต อาทานํ ทสฺเสตฺวา สงฺเขปโตเอว ‘‘ปาทํ วา ปาทารหํ วา อติเรกปาทํ วา’’ติ อาทาตพฺพภณฺฑํ ทสฺสิตํ, ตํ ยตฺถ ยตฺถ ิตํ, ยถา ยถา อาทานํ คจฺฉติ, อนาคเต ปาปภิกฺขูนํ เลโสกาสนิรุนฺธนตฺถํ ตถา ตถา วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘ภูมฏฺํ ถลฏฺ’’นฺติอาทินา นเยน มาติกํ เปตฺวา ‘‘ภูมฏฺํ นาม ภณฺฑํ ภูมิยํ นิกฺขิตฺตํ โหตี’’ติอาทินา นเยน ตสฺส วิภงฺคํ อาห.

ปฺจวีสติอวหารกถา นิฏฺิตา.

ภูมฏฺกถา

๙๔. ตตฺรายํ อนุตฺตานปทวณฺณนาย สทฺธึ วินิจฺฉยกถา. นิขาตนฺติ ภูมิยํ ขณิตฺวา ปิตํ. ปฏิจฺฉนฺนนฺติ ปํสุอิฏฺกาทีหิ ปฏิจฺฉนฺนํ. ภูมฏฺํ ภณฺฑํ…เป… คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ ตํ เอวํ นิขณิตฺวา วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา วา ปิตตฺตา ภูมิยํ ิตํ ภณฺฑํ โย ภิกฺขุ เกนจิเทว อุปาเยน ตฺวา ‘‘อาหริสฺสามี’’ติ เถยฺยจิตฺโต หุตฺวา รตฺติภาเค อุฏฺาย คจฺฉติ, โส ภณฺฑฏฺานํ อปฺปตฺวาปิ สพฺพกายวจีวิกาเรสุ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. กถํ? โส หิ ตสฺส อาหรณตฺถาย อุฏฺหนฺโต ยํ ยํ องฺคปจฺจงฺคํ ผนฺทาเปติ, สพฺพตฺถ ทุกฺกฏเมว. นิวาสนปารุปนํ สณฺเปติ, หตฺถวาเร หตฺถวาเร ทุกฺกฏํ. ‘‘มหนฺตํ นิธานํ น สกฺกา เอเกน อาหริตุํ, ทุติยํ ปริเยสิสฺสามี’’ติ กสฺสจิ สหายสฺส สนฺติกํ คนฺตุกาโม ทฺวารํ วิวรติ, ปทวาเร จ หตฺถวาเร จ ทุกฺกฏํ. ทฺวารปิทหเน ปน อฺสฺมึ วา คมนสฺส อนุปกาเร อนาปตฺติ. ตสฺส นิปนฺโนกาสํ คนฺตฺวา ‘‘อิตฺถนฺนามา’’ติ ปกฺโกสติ, ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘เอหิ คจฺฉามา’’ติ วทติ, วาจาย วาจาย ทุกฺกฏํ. โส ตสฺส วจเนน อุฏฺหติ, ตสฺสาปิ ทุกฺกฏํ. อุฏฺหิตฺวา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตุกาโม นิวาสนปารุปนํ สณฺเปติ, ทฺวารํ วิวริตฺวา ตสฺส สมีปํ คจฺฉติ, หตฺถวารปทวาเรสุ สพฺพตฺถ ทุกฺกฏํ. โส ตํ ปุจฺฉติ ‘‘อสุโก จ อสุโก จ กุหึ, อสุกฺจ อสุกฺจ ปกฺโกสาหี’’ติ, วาจาย วาจาย ทุกฺกฏํ. สพฺเพ สมาคเต ทิสฺวา ‘‘มยา อสุกสฺมึ นาม าเน เอวรูโป นิธิ อุปลทฺโธ, คจฺฉาม ตํ คเหตฺวา ปุฺานิ จ กริสฺสาม, สุขฺจ ชีวิสฺสามา’’ติ วทติ, วาจาย วาจาย ทุกฺกฏเมว.

เอวํ ลทฺธสหาโย กุทาลํ ปริเยสติ. สเจ ปนสฺส อตฺตโน กุทาโล อตฺถิ, ‘‘ตํ อาหริสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺโต จ คณฺหนฺโต จ อาหรนฺโต จ สพฺพตฺถ หตฺถวารปทวาเรสุ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. สเจ นตฺถิ, อฺํ ภิกฺขุํ วา คหฏฺํ วา คนฺตฺวา ยาจติ, ยาจนฺโต จ สเจ ‘‘กุทาลํ เม เทหิ, กุทาเลน เม อตฺโถ, กิฺจิ กาตพฺพมตฺถิ, ตํ กตฺวา ปจฺจาหริสฺสามี’’ติ มุสา อภณนฺโต ยาจติ, วาจาย วาจาย ทุกฺกฏํ. สเจ ‘‘มาติกา โสเธตพฺพา อตฺถิ, วิหาเร ภูมิกมฺมํ กาตพฺพํ อตฺถี’’ติ มุสาปิ ภณติ, ยํ ยํ วจนํ มุสา, ตตฺถ ตตฺถ ปาจิตฺติยํ. มหาอฏฺกถายํ ปน สจฺเจปิ อลิเกปิ ทุกฺกฏเมว วุตฺตํ, ตํ ปมาทลิขิตนฺติ เวทิตพฺพํ. น หิ อทินฺนาทานสฺส ปุพฺพปโยเค ปาจิตฺติยฏฺาเน ทุกฺกฏํ นาม อตฺถิ. สเจ ปน กุทาลสฺส ทณฺโฑ นตฺถิ, ‘‘ทณฺฑํ กริสฺสามี’’ติ วาสึ วา ผรสุํ วา นิเสติ, ตทตฺถาย คจฺฉติ, คนฺตฺวา สุกฺขกฏฺํ ฉินฺทติ ตจฺฉติ อาโกเฏติ, สพฺพตฺถ หตฺถวารปทวาเรสุ ทุกฺกฏํ. อลฺลรุกฺขํ ฉินฺทติ, ปาจิตฺติยํ. ตโต ปรํ สพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏํ. สงฺเขปฏฺกถายํ ปน มหาปจฺจริยฺจ ตตฺถ ชาตกกฏฺลตาเฉทนตฺถํ วาสิผรสุํ ปริเยสนฺตานมฺปิ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. สเจ ปน เตสํ เอวํ โหติ ‘‘วาสิผรสุกุทาเล ยาจนฺตา อาสงฺกิตา ภวิสฺสาม, โลหํ สมุฏฺาเปตฺวา กโรมา’’ติ. ตโต อรฺํ คนฺตฺวา โลหพีชตฺถํ ปถวึ ขณนฺติ, อกปฺปิยปถวึ ขณนฺตานํ ทุกฺกเฏหิ สทฺธึ ปาจิตฺติยานีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ยถา จ อิธ, เอวํ สพฺพตฺถ ปาจิตฺติยฏฺาเน ทุกฺกฏา น มุจฺจติ. กปฺปิยปถวึ ขณนฺตานํ ทุกฺกฏานิเยว. พีชํ ปน คเหตฺวา ตโต ปรํ สพฺพกิริยาสุ ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ.

ปิฏกปริเยสเนปิ หตฺถวารปทวาเรสุ วุตฺตนเยเนว ทุกฺกฏํ. มุสาวาเท ปาจิตฺติยํ. ปิฏกํ กาตุกามตาย วลฺลิจฺเฉทเน ปาจิตฺติยนฺติ สพฺพํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ. คจฺฉติ วา อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอวํ ปริยิฏฺสหายกุทาลปิฏโก นิธิฏฺานํ คจฺฉติ, ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ. สเจ ปน คจฺฉนฺโต ‘‘อิมํ นิธึ ลทฺธา พุทฺธปูชํ วา ธมฺมปูชํ วา สงฺฆภตฺตํ วา กริสฺสามี’’ติ กุสลํ อุปฺปาเทติ, กุสลจิตฺเตน คมเน อนาปตฺติ. กสฺมา? ‘‘เถยฺยจิตฺโต ทุติยํ วา…เป… คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา. ยถา จ อิธ, เอวํ สพฺพตฺถ อเถยฺยจิตฺตสฺส อนาปตฺติ. มคฺคโต โอกฺกมฺม นิธานฏฺานํ คมนตฺถาย มคฺคํ กโรนฺโต ภูตคามํ ฉินฺทติ, ปาจิตฺติยํ. สุกฺขกฏฺํ ฉินฺทติ, ทุกฺกฏํ.

ตตฺถชาตกนฺติ จิรนิหิตาย กุมฺภิยา อุปริ ชาตกํ. กฏฺํ วา ลตํ วาติ น เกวลํ กฏฺลตเมว, ยํกิฺจิ อลฺลํ วา สุกฺขํ วา ติณรุกฺขลตาทึ ฉินฺทนฺตสฺส สหปโยคตฺตา ทุกฺกฏเมว โหติ.

อฏฺวิธํ เหตํ ทุกฺกฏํ นาม อิมสฺมึ าเน สโมธาเนตฺวา เถเรหิ ทสฺสิตํ – ปุพฺพปโยคทุกฺกฏํ, สหปโยคทุกฺกฏํ, อนามาสทุกฺกฏํ, ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏํ, วินยทุกฺกฏํ, าตทุกฺกฏํ, ตฺติทุกฺกฏํ, ปฏิสฺสวทุกฺกฏนฺติ. ตตฺถ ‘‘เถยฺยจิตฺโต ทุติยํ วา กุทาลํ วา ปิฏกํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ อิทํ ปุพฺพปโยคทุกฺกฏํ นาม. เอตฺถ หิ ทุกฺกฏฏฺาเน ทุกฺกฏํ, ปาจิตฺติยฏฺาเน ปาจิตฺติยเมว โหติ. ‘‘ตตฺถชาตกํ กฏฺํ วา ลตํ วา ฉินฺทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ อิทํ สหปโยคทุกฺกฏํ นาม. เอตฺถ ปน ปาจิตฺติยวตฺถุ จ ทุกฺกฏวตฺถุ จ ทุกฺกฏฏฺาเนเยว ติฏฺติ. กสฺมา? อวหารสฺส สหปโยคตฺตาติ. ยํ ปน ทสวิธํ รตนํ, สตฺตวิธํ ธฺํ, สพฺพฺจ อาวุธภณฺฑาทึ อามสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, อิทํ อนามาสทุกฺกฏํ นาม. ยํ กทลินาฬิเกราทีนํ ตตฺถชาตกผลานิ อามสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, อิทํ ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏํ นาม. ยํ ปน ปิณฺฑาย จรนฺตสฺส ปตฺเต รเช ปติเต ปตฺตํ อปฺปฏิคฺคเหตฺวา อโธวิตฺวา วา ตตฺถ ภิกฺขํ คณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, อิทํ วินยทุกฺกฏํ นาม. ‘‘สุตฺวา น วทนฺติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๔๑๙) อิทํ าตทุกฺกฏํ นาม. ยํ เอกาทสสุ สมนุภาสนาสุ ‘‘ตฺติยา ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปารา. ๔๑๔) วุตฺตํ, อิทํ ตฺติทุกฺกฏํ นาม. ‘‘ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปุริมิกา จ น ปฺายติ, ปฏิสฺสเว จ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๐๗) อิทํ ปฏิสฺสวทุกฺกฏํ นาม. อิทํ ปน สหปโยคทุกฺกฏํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ยํกิฺจิ อลฺลํ วา สุกฺขํ วา ติณรุกฺขลตาทึ ฉินฺทนฺตสฺส สหปโยคตฺตา ทุกฺกฏเมว โหตี’’ติ.

สเจ ปนสฺส ตตฺถชาตเก ติณรุกฺขลตาทิมฺหิ ฉินฺเนปิ ลชฺชิธมฺโม โอกฺกมติ, สํวโร อุปฺปชฺชติ, เฉทนปจฺจยา ทุกฺกฏํ เทเสตฺวา มุจฺจติ. อถ ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวา สอุสฺสาโหว ปํสุํ ขณติ, เฉทนทุกฺกฏํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ขณนทุกฺกเฏ ปติฏฺาติ. อกปฺปิยปถวึ ขณนฺโตปิ หิ อิธ สหปโยคตฺตา ทุกฺกฏเมว อาปชฺชติ. สเจ ปนสฺส สพฺพทิสาสุ ขณิตฺวา กุมฺภิมูลํ ปตฺตสฺสาปิ ลชฺชิธมฺโม โอกฺกมติ, ขณนปจฺจยา ทุกฺกฏํ เทเสตฺวา มุจฺจติ.

พฺยูหติ วาติ อถ ปน สอุสฺสาโหว ปํสุํ วิยูหติ, เอกปสฺเส ราสึ กโรติ, ขณนทุกฺกฏํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, วิยูหนทุกฺกเฏ ปติฏฺาติ. ตฺจ ปํสุํ ตตฺถ ตตฺถ ปุฺชํ กโรนฺโต ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. สเจ ปน ราสึ กตฺวาปิ ธุรนิกฺเขปํ กโรติ, ลชฺชิธมฺมํ อาปชฺชติ, วิยูหนทุกฺกฏํ เทเสตฺวา มุจฺจติ. อุทฺธรติ วาติ อถ ปน สอุสฺสาโหว ปํสุํ อุทฺธริตฺวา พหิ ปาเตติ, วิยูหนทุกฺกฏํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, อุทฺธรณทุกฺกเฏ ปติฏฺาติ. ปํสุํ ปน กุทาเลน วา หตฺเถหิ วา ปจฺฉิยา วา ตหึ ตหึ ปาเตนฺโต ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. สเจ ปน สพฺพํ ปํสุํ นีหริตฺวา กุมฺภึ ถลฏฺํ กตฺวาปิ ลชฺชิธมฺมํ อาปชฺชติ, อุทฺธรณทุกฺกฏํ เทเสตฺวา มุจฺจติ. อถ ปน สอุสฺสาโหว กุมฺภึ อามสติ, อุทฺธรณทุกฺกฏํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, อามสนทุกฺกเฏ ปติฏฺาติ. อามสิตฺวาปิ จ ลชฺชิธมฺมํ อาปชฺชนฺโต อามสนทุกฺกฏํ เทเสตฺวา มุจฺจติ. อถ สอุสฺสาโหว กุมฺภึ ผนฺทาเปติ, อามสนทุกฺกฏํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ‘‘ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ วุตฺตถุลฺลจฺจเย ปติฏฺาติ.

ตตฺรายํ ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยานํ ทฺวินฺนมฺปิ วจนตฺโถ – ปมํ ตาเวตฺถ ทุฏฺุ กตํ สตฺถารา วุตฺตกิจฺจํ วิราเธตฺวา กตนฺติ ทุกฺกฏํ. อถ วา ทุฏฺํ กตํ, วิรูปา สา กิริยา ภิกฺขุกิริยานํ มชฺเฌ น โสภตีติ เอวมฺปิ ทุกฺกฏํ. วุตฺตฺเจตํ –

‘‘ทุกฺกฏํ อิติ ยํ วุตฺตํ, ตํ สุโณหิ ยถาตถํ;

อปรทฺธํ วิรทฺธฺจ, ขลิตํ ยฺจ ทุกฺกฏํ.

‘‘ยํ มนุสฺโส กเร ปาปํ, อาวิ วา ยทิ วา รโห;

ทุกฺกฏนฺติ ปเวเทนฺติ, เตเนตํ อิติ วุจฺจตี’’ติ. (ปริ. ๓๓๙);

อิตรํ ปน ถูลตฺตา, อจฺจยตฺตา จ ถุลฺลจฺจยํ. ‘‘สมฺปราเย จ ทุคฺคติ’’ (สํ. นิ. ๑.๔๙), ‘‘ยํ โหติ กฏุกปฺผล’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๖๖; เนตฺติ. ๙๑) วิย เจตฺถ สํโยคภาโว เวทิตพฺโพ. เอกสฺส สนฺติเก เทเสตพฺเพสุ หิ อจฺจเยสุ เตน สโม ถูโล อจฺจโย นตฺถิ. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ถูลตฺตา อจฺจยตฺตา จ ถุลฺลจฺจย’’นฺติ. วุตฺตฺเจตํ –

‘‘ถุลฺลจฺจยนฺติ ยํ วุตฺตํ, ตํ สุโณหิ ยถาตถํ;

เอกสฺส มูเล โย เทเสติ, โย จ ตํ ปฏิคฺคณฺหติ;

อจฺจโย เตน สโม นตฺถิ, เตเนตํ อิติ วุจฺจตี’’ติ. (ปริ. ๓๓๙);

ผนฺทาเปนฺตสฺส จ ปโยเค ปโยเค ถุลฺลจฺจยํ. ผนฺทาเปตฺวาปิ จ ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกนฺโต ถุลฺลจฺจยํ เทเสตฺวา มุจฺจติ. สหปโยคโต ปฏฺาเยว เจตฺถ ปุริมา ปุริมา อาปตฺติ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สหปโยคํ ปน อกตฺวา ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกนฺเตน ยา ปุพฺพปโยเค ทุกฺกฏปาจิตฺติยา อาปนฺนา, สพฺพา ตา เทเสตพฺพา. สหปโยเค จ ตตฺถชาตกจฺเฉทเน พหุกานิปิ ทุกฺกฏานิ ปํสุขณนํ ปตฺวา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ. เอกํ ขณนทุกฺกฏเมว โหติ. ขณเน พหุกานิปิ วิยูหนํ, วิยูหเน พหุกานิปิ อุทฺธรณํ, อุทฺธรเณ พหุกานิปิ อามสนํ, อามสเน พหุกานิปิ ผนฺทาปนํ ปตฺวา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ. ปํสุขณนาทีสุ จ ลชฺชิธมฺเม อุปฺปนฺเน พหุกาปิ อาปตฺติโย โหนฺตุ, เอกเมว เทเสตฺวา มุจฺจตีติ กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตํ. ปุริมาปตฺติปฏิปฺปสฺสทฺธิ จ นาเมสา ‘‘ตฺติยา ทุกฺกฏํ, ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจยา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตี’’ติ (ปารา. ๔๑๔) เอวํ อนุสาวนาสุตฺเตสุเยว อาคตา. อิธ ปน ทุติยปาราชิเก อฏฺกถาจริยปฺปมาเณน คเหตพฺพาติ.

านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสาติ โย ปน ผนฺทาเปตฺวาปิ ลชฺชิธมฺมํ อโนกฺกมิตฺวาว ตํ กุมฺภึ านโต อนฺตมโส เกสคฺคมตฺตมฺปิ จาเวติ, ปาราชิกเมว อาปชฺชตีติ อตฺโถ. านา จาวนฺเจตฺถ ฉหิ อากาเรหิ เวทิตพฺพํ. กถํ? กุมฺภึ มุขวฏฺฏิยํ คเหตฺวา อตฺตโน อภิมุขํ อากฑฺฒนฺโต อิมินา อนฺเตน ผุฏฺโกาสํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ ปาริมนฺเตน อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. ตเถว คเหตฺวา ปรโต เปลฺเลนฺโต ปาริมนฺเตน ผุฏฺโกาสํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ อิมินา อนฺเตน อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. วามโต วา ทกฺขิณโต วา อปนาเมนฺโต วามนฺเตน ผุฏฺโกาสํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ ทกฺขิณนฺเตน อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. ทกฺขิณนฺเตน วา ผุฏฺโกาสํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ วามนฺเตน อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. อุทฺธํ อุกฺขิปนฺโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ ภูมิโต โมเจติ, ปาราชิกํ. ขณิตฺวา เหฏฺโต โอสีเทนฺโต พุนฺเทน ผุฏฺโกาสํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ มุขวฏฺฏิยา อติกฺกาเมติ, ปาราชิกนฺติ เอวํ เอกฏฺาเน ิตาย กุมฺภิยา. ยทิ ปน กุมฺภิมุขวฏฺฏิยา ปาสํ กตฺวา โลหขาณุํ วา ขทิรสาราทิขาณุํ วา ปถวิยํ อาโกเฏตฺวา ตตฺถ สงฺขลิกาย พนฺธิตฺวา เปนฺติ, เอกิสฺสา ทิสาย เอกาย สงฺขลิกาย พทฺธาย ทฺเว านานิ ลพฺภนฺติ, ทฺวีสุ ตีสุ จตูสุ ทิสาสุ จตูหิ สงฺขลิกาหิ พทฺธาย ปฺจ านานิ ลพฺภนฺติ.

ตตฺถ เอกขาณุเก พทฺธกุมฺภิยา ปมํ ขาณุกํ วา อุทฺธรติ, สงฺขลิกํ วา ฉินฺทติ, ถุลฺลจฺจยํ. ตโต กุมฺภึ ยถาวุตฺตนเยน เกสคฺคมตฺตมฺปิ านา จาเวติ, ปาราชิกํ. อถ ปมํ กุมฺภึ อุทฺธรติ, ถุลฺลจฺจยํ. ตโต ขาณุกํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ านา จาเวติ, สงฺขลิกํ วา ฉินฺทติ, ปาราชิกํ. เอเตน อุปาเยน ทฺวีสุ ตีสุ จตูสุ ขาณุเกสุ พทฺธกุมฺภิยาปิ ปจฺฉิเม านาจาวเน ปาราชิกํ. เสเสสุ ถุลฺลจฺจยํ เวทิตพฺพํ.

สเจ ขาณุ นตฺถิ, สงฺขลิกาย อคฺเค วลยํ กตฺวา ตตฺถชาตเก มูเล ปเวสิตํ โหติ, ปมํ กุมฺภึ อุทฺธริตฺวา ปจฺฉา มูลํ เฉตฺวา วลยํ นีหรติ, ปาราชิกํ. อถ มูลํ อจฺเฉตฺวา วลยํ อิโต จิโต จ สาเรติ, รกฺขติ. สเจ ปน มูลโต อนีหริตฺวาปิ หตฺเถน คเหตฺวา อากาสคตํ กโรติ, ปาราชิกํ. อยเมตฺถ วิเสโส. เสสํ วุตฺตนยเมว.

เกจิ ปน นิมิตฺตตฺถาย กุมฺภิมตฺถเก นิคฺโรธรุกฺขาทีนิ โรเปนฺติ, มูลานิ กุมฺภึ วินนฺธิตฺวา ิตานิ โหนฺติ, ‘‘มูลานิ ฉินฺทิตฺวา กุมฺภึ คเหสฺสามี’’ติ ฉินฺทนฺตสฺส ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. ฉินฺทิตฺวา โอกาสํ กตฺวา กุมฺภึ เกสคฺคมตฺตมฺปิ านา จาเวติ, ปาราชิกํ. มูลานิ ฉินฺทโตว ลุิตฺวา กุมฺภี นินฺนฏฺานํ คตา, รกฺขติ ตาว. คตฏฺานโต อุทฺธรติ, ปาราชิกํ. สเจ ฉินฺเนสุ มูเลสุ เอกมูลมตฺเตน กุมฺภี ติฏฺติ, โส จ ตํ ‘‘อิมสฺมึ มูเล ฉินฺเน ปติสฺสตี’’ติ ฉินฺทติ, ฉินฺนมตฺเต ปาราชิกํ. สเจ ปน เอกมูเลเนว ปาเส พทฺธสูกโร วิย ิตา โหติ, อฺํ กิฺจิ ลคฺคนกํ นตฺถิ, ตสฺมิมฺปิ มูเล ฉินฺนมตฺเต ปาราชิกํ. สเจ กุมฺภิมตฺถเก มหาปาสาโณ ปิโต โหติ, ตํ ทณฺเฑน อุกฺขิปิตฺวา อปเนตุกาโม กุมฺภิมตฺถเก ชาตรุกฺขํ ฉินฺทติ, ทุกฺกฏํ. ตสฺสา สมีเป ชาตกํ เฉตฺวา อาหรติ, อตตฺถชาตกตฺตา ตํ ฉินฺทโต ปาจิตฺติยํ.

อตฺตโน ภาชนนฺติ สเจ ปน กุมฺภึ อุทฺธริตุํ อสกฺโกนฺโต กุมฺภิคตภณฺฑคฺคหณตฺถํ อตฺตโน ภาชนํ ปเวเสตฺวา อนฺโตกุมฺภิยํ ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ เถยฺยจิตฺโต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ปริจฺเฉโท เจตฺถ ปาราชิกนิยมนตฺถํ วุตฺโต. เถยฺยจิตฺเตน ปน อูนปฺจมาสกมฺปิ อามสนฺโต ทุกฺกฏํ อาปชฺชติเยว.

ผนฺทาเปตีติ เอตฺถ ยาว เอกาพทฺธํ กตฺวา อตฺตโน ภาชนํ ปเวเสติ, ตาว ผนฺทาเปตีติ วุจฺจติ. อปิ จ อิโต จิโต จ อปพฺยูหนฺโตปิ ผนฺทาเปติเยว, โส ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชติ. ยทา ปน เอกาพทฺธภาโว ฉินฺโน, กุมฺภิคตํ กุมฺภิยเมว, ภาชนคตมฺปิ ภาชเนเยว โหติ, ตทา อตฺตโน ภาชนคตํ นาม โหติ. เอวํ กตฺวา กุมฺภิโต อนีหเตปิ จ ภาชเน ปาราชิกํ อาปชฺชติ.

มุฏฺึ วา ฉินฺทตีติ เอตฺถ ยถา องฺคุลนฺตเรหิ นิกฺขนฺตกหาปณา กุมฺภิคเต กหาปเณ น สมฺผุสนฺติ, เอวํ มุฏฺึ กโรนฺโต มุฏฺึ ฉินฺทติ นาม; โสปิ ปาราชิกํ อาปชฺชติ.

สุตฺตารูฬฺหนฺติ สุตฺเต อารูฬฺหํ; สุตฺเตน อาวุตสฺสาปิ สุตฺตมยสฺสาปิ เอตํ อธิวจนํ. ปามงฺคาทีนิหิ โสวณฺณมยานิปิ โหนฺติ รูปิยมยานิปิ สุตฺตมยานิปิ, มุตฺตาวลิอาทโยปิ เอตฺเถว สงฺคหํ คตา. เวนนฺติ สีสเวนปโฏ วุจฺจติ. เอเตสุ ยํกิฺจิ เถยฺยจิตฺโต อามสติ, ทุกฺกฏํ. ผนฺทาเปติ, ถุลฺลจฺจยํ. ปามงฺคาทีนิ โกฏิยํ คเหตฺวา อากาสฏฺํ อกโรนฺโต อุจฺจาเรติ, ถุลฺลจฺจยํ.

ฆํสนฺโต นีหรตีติ เอตฺถ ปน ปริปุณฺณาย กุมฺภิยา อุปริ สมติตฺติกํ กุมฺภึ กตฺวา ปิตํ วา เอกํ โกฏึ พุนฺเท เอกํ โกฏึ มุขวฏฺฏิยํ กตฺวา ปิตํ วา ฆํสนฺตสฺส นีหรโต ถุลฺลจฺจยํ. กุมฺภิมุขา โมเจนฺตสฺส ปาราชิกํ. ยํ ปน อุปฑฺฒกุมฺภิยํ วา ริตฺตกุมฺภิยํ วา ปิตํ, ตสฺส อตฺตโน ผุฏฺโกาโสว านํ, น สกลา กุมฺภี, ตสฺมา ตํ ฆํสนฺตสฺสาปิ นีหรโต ปติฏฺิโตกาสโต เกสคฺคมตฺเต มุตฺเต ปาราชิกเมว. กุมฺภิยา ปน ปริปุณฺณาย วา อูนาย วา อุชุกเมว อุทฺธรนฺตสฺส เหฏฺิมโกฏิยา ปติฏฺิโตกาสา มุตฺตมตฺเตว ปาราชิกํ. อนฺโตกุมฺภิยํ ปิตํ ยํกิฺจิ ปาราชิกปฺปโหนกํ ภณฺฑํ สกลกุมฺภิยํ จาเรนฺตสฺส, ปามงฺคาทิฺจ ฆํสิตฺวา นีหรนฺตสฺส ยาว มุขวฏฺฏึ นาติกฺกมติ, ตาว ถุลฺลจฺจยเมว. ตสฺส หิ สพฺพาปิ กุมฺภี านนฺติ สงฺเขปมหาปจฺจริยาทีสุ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘ปิตฏฺานเมว านํ, น สกลา กุมฺภี. ตสฺมา ยถาิตฏฺานโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ โมเจนฺตสฺส ปาราชิกเมวา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ปมาณํ. อิตรํ ปน อากาสคตํ อกโรนฺตสฺส จีวรวํเส ปิตจีวรเวนกนเยน วุตฺตํ, ตํ น คเหตพฺพํ. วินยวินิจฺฉเย หิ อาคเต ครุเก าตพฺพํ, เอสา วินยธมฺมตา. อปิจ ‘‘อตฺตโน ภาชนคตํ วา กโรติ, มุฏฺึ วา ฉินฺทตี’’ติ วจนโต เปตํ เวทิตพฺพํ. ยถา อนฺโตกุมฺภิยํ ิตสฺส น สพฺพา กุมฺภี านนฺติ.

สปฺปิอาทีสุ ยํกิฺจิ ปิวโต เอกปโยเคน ปีตมตฺเต ปาราชิกนฺติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยาทีสุ ปน อยํ วิภาโค ทสฺสิโต – ‘‘มุขํ อนปเนตฺวา อากฑฺฒนฺตสฺส ปิวโต สเจ ปรคลคตํ ปาทํ น อคฺฆติ, มุขคเตน สทฺธึ อคฺฆติ, รกฺขติ ตาว. กณฺเน ปน ปริจฺฉินฺนกาเลเยว ปาราชิกํ โหติ. สเจปิ โอฏฺเหิ ปริจฺฉินฺทนฺโต โอฏฺเ ปิทหติ, ปาราชิกเมว. อุปฺปลทณฺฑเวฬุนาฬินฬนาฬิอาทีหิ ปิวนฺตสฺสาปิ สเจ ปรคลคตเมว ปาทํ อคฺฆติ, ปาราชิกํ. สเจ สห มุขคเตน อคฺฆติ, น ตาว ปาราชิกํ โหติ. อุปฺปลทณฺฑาทิคเตน สทฺธึ เอกาพทฺธภาวํ โกเปตฺวา โอฏฺเหิ ปริจฺฉินฺนมตฺเต ปาราชิกํ. สเจ อุปฺปลทณฺฑาทิคเตน สทฺธึ อคฺฆติ, อุปฺปลทณฺฑาทีนํ พุนฺเท องฺคุลิยาปิ ปิหิตมตฺเต ปาราชิกํ. ปาทคฺฆนเก ปรคลํ อปฺปวิฏฺเ อุปฺปลทณฺฑาทีสุ จ มุเข จ อติเรกปาทารหมฺปิ เอกาพทฺธํ หุตฺวา ติฏฺติ, รกฺขติเยวา’’ติ. ตํ สพฺพมฺปิ ยสฺมา ‘‘อตฺตโน ภาชนคตํ วา กโรติ, มุฏฺึ วา ฉินฺทตี’’ติ อิมํ นยํ ภชติ, ตสฺมา สุทสฺสิตเมว. เอส ตาว เอกาพทฺเธ นโย.

สเจ ปน หตฺเถน วา ปตฺเตน วา ถาลกาทินา วา เกนจิ ภาชเนน คเหตฺวา ปิวติ, ยมฺหิ ปโยเค ปาทคฺฆนกํ ปูเรติ, ตมฺหิ คเต ปาราชิกํ. อถ มหคฺฆํ โหติ, สิปฺปิกายปิ เอกปโยเคเนว ปาทคฺฆนกํ คเหตุํ สกฺกา โหติ, เอกุทฺธาเรเยว ปาราชิกํ. ภาชนํ ปน นิมุชฺชาเปตฺวา คณฺหนฺตสฺส ยาว เอกาพทฺธํ โหติ, ตาว รกฺขติ. มุขวฏฺฏิปริจฺเฉเทน วา อุทฺธาเรน วา ปาราชิกํ. ยทา ปน สปฺปึ วา เตลํ วา อจฺฉํ เตลสทิสเมว มธุผาณิตํ วา กุมฺภึ อาวิฺเฉตฺวา อตฺตโน ภาชเน ปเวเสติ, ตทา เตสํ อจฺฉตาย เอกาพทฺธตา นตฺถีติ ปาทคฺฆนเก มุขวฏฺฏิโต คฬิตมตฺเต ปาราชิกํ.

ปจิตฺวา ปิตํ ปน มธุผาณิตํ สิเลโส วิย จิกฺกนํ อากฑฺฒนวิกฑฺฒนโยคฺคํ โหติ, อุปฺปนฺเน กุกฺกุจฺเจ เอกาพทฺธเมว หุตฺวา ปฏินีหริตุํ สกฺโกติ, เอตํ มุขวฏฺฏิยา นิกฺขมิตฺวา ภาชเน ปวิฏฺมฺปิ พาหิเรน สทฺธึ เอกาพทฺธตฺตา รกฺขติ, มุขวฏฺฏิโต ฉินฺนมตฺเต ปน ปาราชิกํ. โยปิ เถยฺยจิตฺเตน ปรสฺส กุมฺภิยา ปาทคฺฆนกํ สปฺปึ วา เตลํ วา อวสฺสปิวนกํ ยํกิฺจิ ทุกูลสาฏกํ วา จมฺมขณฺฑาทีนํ วา อฺตรํ ปกฺขิปติ, หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกํ.

ริตฺตกุมฺภิยา ‘‘อิทานิ เตลํ อากิริสฺสนฺตี’’ติ ตฺวา ยํกิฺจิ ภณฺฑํ เถยฺยจิตฺโต ปกฺขิปติ, ตํ เจ ตตฺถ เตเล อากิณฺเณ ปฺจมาสกอคฺฆนกํ ปิวติ, ปีตมตฺเต ปาราชิกนฺติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตํ ปน ตตฺเถว สุกฺขตฬาเก สุกฺขมาติกาย อุชุกรณวินิจฺฉเยน วิรุชฺฌติ, อวหารลกฺขณฺเจตฺถ น ปฺายติ, ตสฺมา น คเหตพฺพํ. มหาปจฺจริยาทีสุ ปน ตสฺส อุทฺธาเร ปาราชิกํ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ.

ปรสฺส ริตฺตกุมฺภิยา สงฺโคปนตฺถาย ภณฺฑํ เปตฺวา ตตฺถ เตเล อากิณฺเณ ‘‘สเจ อยํ ชานิสฺสติ, มํ ปลิพุชฺฌิสฺสตี’’ติ ภีโต ปาทคฺฆนกํ เตลํ ปีตํ ภณฺฑํ เถยฺยจิตฺเตน อุทฺธรติ, ปาราชิกํ. สุทฺธจิตฺเตน อุทฺธรติ, ปเร อาหราเปนฺเต ภณฺฑเทยฺยํ. ภณฺฑเทยฺยํ นาม ยํ ปรสฺส นฏฺํ, ตสฺส มูลํ วา ตเทว วา ภณฺฑํ ทาตพฺพนฺติ อตฺโถ. โน เจ เทติ, สามิกสฺส ธุรนิกฺเขเป ปาราชิกํ. สเจ ปรสฺส กุมฺภิยา อฺโ สปฺปึ วา เตลํ วา อากิรติ, ตตฺร จายํ เถยฺยจิตฺเตน เตลปิวนกํ ภณฺฑํ ปกฺขิปติ, วุตฺตนเยเนว ปาราชิกํ. อตฺตโน ริตฺตกุมฺภิยา ปรสฺส สปฺปึ วา เตลํ วา อากิรณภาวํ ตฺวา เถยฺยจิตฺเตน ภณฺฑํ นิกฺขิปติ, ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว อุทฺธาเร ปาราชิกํ. สุทฺธจิตฺโต นิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา เถยฺยจิตฺเตน อุทฺธรติ, ปาราชิกเมว. สุทฺธจิตฺโตว อุทฺธรติ, เนว อวหาโร, น คีวา; มหาปจฺจริยํ ปน อนาปตฺติมตฺตเมว วุตฺตํ. ‘‘‘กิสฺส มม กุมฺภิยํ เตลํ อากิรสี’ติ กุปิโต อตฺตโน ภณฺฑํ อุทฺธริตฺวา ฉฑฺเฑติ, โน ภณฺฑเทยฺย’’นฺติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. เถยฺยจิตฺเตน มุขวฏฺฏิยํ คเหตฺวา กุมฺภึ อาวิฺฉติ เตลํ คเฬตุกาโม, ปาทคฺฆนเก คฬิเต ปาราชิกํ. เถยฺยจิตฺเตเนว ชชฺชรํ กโรติ ‘‘สวิตฺวา คมิสฺสตี’’ติ ปาทคฺฆนเก สวิตฺวา คเต ปาราชิกํ. เถยฺยจิตฺเตเนว ฉิทฺทํ กโรติ โอมฏฺํ วา อุมฺมฏฺํ วา เวมฏฺํ วา, อิทํ ปน สมฺโมหฏฺานํ; ตสฺมา สุฏฺุ สลฺเลกฺเขตพฺพํ. อยฺเหตฺถ วินิจฺฉโย – โอมฏฺํ นาม อโธมุขฉิทฺทํ; อุมฺมฏฺํ นาม อุทฺธํมุขฉิทฺทํ; เวมฏฺํ นาม อุฬุงฺกสฺเสว อุชุคตฉิทฺทํ. ตตฺร โอมฏฺสฺส พหิ ปฏฺาย กตสฺส อพฺภนฺตรนฺตโต ปาทคฺฆนเก เตเล คฬิเต พหิ อนิกฺขนฺเตปิ ปาราชิกํ. กสฺมา? ยสฺมา ตโต คฬิตมตฺตเมว พหิคตํ นาม โหติ, น กุมฺภิคตสงฺขฺยํ ลภติ. อนฺโต ปฏฺาย กตสฺส พาหิรนฺตโต ปาทคฺฆนเก คฬิเต ปาราชิกํ. อุมฺมฏฺสฺส ยถา ตถา วา กตสฺส พาหิรนฺตโต ปาทคฺฆนเก คฬิเต ปาราชิกํ. ตฺหิ ยาว พาหิรนฺตโต น คฬติ, ตาว กุมฺภิคตเมว โหติ. ‘‘เวมฏฺสฺส จ กปาลมชฺฌโต คฬิตวเสน กาเรตพฺโพ’’ติ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ. ตํ ปน อนฺโต จ พหิ จ ปฏฺาย มชฺเฌ เปตฺวา กตฉิทฺเท ตฬากสฺส จ มริยาทเภเทน สเมติ. อนฺโต ปฏฺาย กเต ปน พาหิรนฺเตน, พหิ ปฏฺาย กเต อพฺภนฺตรนฺเตน กาเรตพฺโพติ อิทเมตฺถ ยุตฺตํ. โย ปน ‘‘วฏฺฏิตฺวา คจฺฉิสฺสตี’’ติ เถยฺยจิตฺเตน กุมฺภิยา อาธารกํ วา อุปตฺถมฺภนเลฑฺฑุเก วา อปเนติ, วฏฺฏิตฺวา คตาย ปาราชิกํ. เตลากิรณภาวํ ปน ตฺวา ริตฺตกุมฺภิยา ชชฺชรภาเว วา ฉิทฺเทสุ วา กเตสุ ปจฺฉา นิกฺขนฺตเตลปฺปมาเณน ภณฺฑเทยฺยํ โหติ. อฏฺกถาสุ ปน กตฺถจิ ปาราชิกนฺติปิ ลิขิตํ, ตํ ปมาทลิขิตํ.

ปริปุณฺณาย กุมฺภิยา อุปริ กถลํ วา ปาสาณํ วา ‘‘ปติตฺวา ภินฺทิสฺสติ, ตโต เตลํ ปคฺฆริสฺสตี’’ติ เถยฺยจิตฺเตน ทุพฺพนฺธํ วา กโรติ, ทุฏฺปิตํ วา เปติ, อวสฺสปตนกํ ตถา กโรนฺตสฺส กตมตฺเต ปาราชิกํ. ริตฺตกุมฺภิยา อุปริ กโรติ, ตํ ปจฺฉา ปุณฺณกาเล ปติตฺวา ภินฺทติ, ภณฺฑเทยฺยํ. อีทิเสสุ หิ าเนสุ ภณฺฑสฺส นตฺถิกาเล กตปโยคตฺตา อาทิโตว ปาราชิกํ น โหติ. ภณฺฑวินาสทฺวารสฺส ปน กตตฺตา ภณฺฑเทยฺยํ โหติ. อาหราเปนฺเตสุ อททโต สามิกานํ ธุรนิกฺเขเปน ปาราชิกํ.

เถยฺยจิตฺเตน มาติกํ อุชุกํ กโรติ ‘‘วฏฺฏิตฺวา วา คมิสฺสติ, เวลํ วา อุตฺตราเปสฺสตี’’ติ; วฏฺฏิตฺวา วา คจฺฉตุ, เวลํ วา อุตฺตรตุ, อุชุกรณกาเล ปาราชิกํ. อีทิสา หิ ปโยคา ปุพฺพปโยคาวหาเร สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. สุกฺขมาติกาย อุชุกตาย ปจฺฉา อุทเก อาคเต วฏฺฏิตฺวา วา คจฺฉตุ, เวลํ วา อุตฺตรตุ, ภณฺฑเทยฺยํ. กสฺมา? านา จาวนปโยคสฺส อภาวา. ตสฺส ลกฺขณํ นาวฏฺเ อาวิ ภวิสฺสติ.

ตตฺเถว ภินฺทติ วาติอาทีสุ อฏฺกถายํ ตาว วุตฺตํ – ‘‘ภินฺทติ วาติ มุคฺคเรน โปเถตฺวา ภินฺทติ. ฉฑฺเฑติ วาติ อุทกํ วา วาลิกํ วา อากิริตฺวา อุตฺตราเปติ. ฌาเปติ วาติ ทารูนิ อาหริตฺวา ฌาเปติ. อปริโภคํ วา กโรตีติ อขาทิตพฺพํ วา อปาตพฺพํ วา กโรติ; อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา วิสํ วา อุจฺฉิฏฺํ วา กุณปํ วา ปาเตสิ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ านาจาวนสฺส นตฺถิตาย ทุกฺกฏํ, พุทฺธวิสโย นาเมโส. กิฺจาปิ ทุกฺกฏํ, อาหราเปนฺเต ปน ภณฺฑเทยฺย’’นฺติ. ตตฺถ ปุริมทฺวยํ น สเมติ. ตฺหิ กุมฺภิชชฺชรกรเณน จ มาติกาอุชุกรเณน จ สทฺธึ เอกลกฺขณํ. ปจฺฉิมํ ปน ทฺวยํ านา อจาเวนฺเตนาปิ สกฺกา กาตุํ. ตสฺมา เอตฺถ เอวํ วินิจฺฉยํ วทนฺติ – ‘‘อฏฺกถายํ กิร ‘านา จาวนสฺส นตฺถิตาย ทุกฺกฏ’นฺติ อิทํ ปจฺฉิมทฺวยํ สนฺธาย วุตฺตํ. านา จาวนํ อกโรนฺโตเยว หิ เถยฺยจิตฺเตน วา วินาเสตุกามตาย วา ฌาเปยฺยปิ, อปริโภคมฺปิ กเรยฺย. ปุริมทฺวเย ปน วุตฺตนเยน ภินฺทนฺตสฺส วา ฉฑฺเฑนฺตสฺส วา านา จาวนํ อตฺถิ, ตสฺมา ตถา กโรนฺตสฺส วินาเสตุกามตาย ภณฺฑเทยฺยํ, เถยฺยจิตฺเตน ปาราชิก’’นฺติ. ปาฬิยํ ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติ วุตฺตตฺตา อยุตฺตนฺติ เจ? น; อฺถา คเหตพฺพตฺถโต. ปาฬิยฺหิ เถยฺยจิตฺตปกฺเข ‘‘ภินฺทติ วาติ อุทเกน สมฺภินฺทติ, ฉฑฺเฑติ วาติ ตตฺถ วมติ วา ปสฺสาวํ วา ฉฑฺเฑตี’’ติ เอวเมเก วทนฺติ.

อยํ ปเนตฺถ สาโร – วินีตวตฺถุมฺหิ ติณชฺฌาปโก วิย านา อจาเวตุกาโมว เกวลํ ภินฺทติ, ภินฺนตฺตา ปน เตลาทีนิ นิกฺขมนฺติ, ยํ วา ปเนตฺถ ปตฺถินฺนํ, ตํ เอกาพทฺธเมว ติฏฺติ. อฉฑฺเฑตุกาโมเยว จ เกวลํ ตตฺถ อุทกวาลิกาทีนิ อากิรติ, อากิณฺณตฺตา ปน เตลํ ฉฑฺฑียติ. ตสฺมา โวหารวเสน ‘‘ภินฺทติ วา ฉฑฺเฑติ วา’’ติ วุจฺจตีติ. เอวเมเตสํ ปทานํ อตฺโถ คเหตพฺโพ. นาเสตุกามตาปกฺเข ปน อิตรถาปิ ยุชฺชติ. เอวฺหิ กถิยมาเน ปาฬิ จ อฏฺกถา จ ปุพฺพาปเรน สํสนฺทิตฺวา กถิตา โหนฺติ. เอตฺตาวตาปิ จ สนฺโตสํ อกตฺวา อาจริเย ปยิรุปาสิตฺวา วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ.

ภูมฏฺกถา นิฏฺิตา.

ถลฏฺกถา

๙๕. ถลฏฺเ ถเล นิกฺขิตฺตนฺติ ภูมิตเล วา ปาสาณตลปพฺพตตลาทีสุ วา ยตฺถ กตฺถจิ ปฏิจฺฉนฺเน วา อปฺปฏิจฺฉนฺเน วา ปิตํ ถลฏฺนฺติ เวทิตพฺพํ. ตํ สเจ ราสิกตํ โหติ, อนฺโตกุมฺภิยํ ภาชนคตกรณมุฏฺิจฺเฉทนวินิจฺฉเยน วินิจฺฉินิตพฺพํ. สเจ เอกาพทฺธํ สิเลสนิยฺยาสาทิ ปกฺกมธุผาณิตวินิจฺฉเยน วินิจฺฉินิตพฺพํ. สเจ ครุกํ โหติ ภารพทฺธํ โลหปิณฺฑิ-คุฬปิณฺฑิ-เตลมธุฆฏาทิ วา, กุมฺภิยํ านาจาวนวินิจฺฉเยน วินิจฺฉินิตพฺพํ. สงฺขลิกพทฺธสฺส จ านเภโท สลฺลกฺเขตพฺโพ. ปตฺถริตฺวา ปิตํ ปน ปาวารตฺถรณสาฏกาทึ อุชุกํ คเหตฺวา อากฑฺฒติ, ปาริมนฺเต โอริมนฺเตน ผุฏฺโกาสํ อติกฺกนฺเต ปาราชิกํ. เอวํ สพฺพทิสาสุ สลฺลกฺเขตพฺพํ. เวเตฺวา อุทฺธรติ, เกสคฺคมตฺตํ อากาสคตํ กโรนฺตสฺส ปาราชิกํ. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ.

ถลฏฺกถา นิฏฺิตา.

อากาสฏฺกถา

๙๖. อากาสฏฺเ โมรสฺส ฉหิ อากาเรหิ านปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ – ปุรโต มุขตุณฺฑเกน, ปจฺฉโต กลาปคฺเคน, อุภยปสฺเสสุ ปกฺขปริยนฺเตหิ, อโธ ปาทนขสิขาย, อุทฺธํ สิขคฺเคนาติ. ภิกฺขุ ‘‘สสฺสามิกํ อากาสฏฺํ โมรํ คเหสฺสามี’’ติ ปุรโต วา ติฏฺติ, หตฺถํ วา ปสาเรติ, โมโร อากาเสเยว ปกฺเข จาเรติ, วาตํ คาหาเปตฺวา คมนํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา ติฏฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ. ตํ อผนฺเทนฺโต หตฺเถน อามสติ, ทุกฺกฏเมว. านา อจาเวนฺโต ผนฺทาเปติ, ถุลฺลจฺจยํ. หตฺเถน ปน คเหตฺวา วา อคฺคเหตฺวา วา มุขตุณฺฑเกน ผุฏฺโกาสํ กลาปคฺคํ, กลาปคฺเคน วา ผุฏฺโกาสํ มุขตุณฺฑกํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. ตถา วามปกฺขปริยนฺเตน ผุฏฺโกาสํ ทกฺขิณปกฺขปริยนฺตํ, ทกฺขิณปกฺขปริยนฺเตน วา ผุฏฺโกาสํ วามปกฺขปริยนฺตํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. ตถา ปาทนขสิขาย ผุฏฺโกาสํ สิขคฺคํ, สิขคฺเคน วา ผุฏฺโกาสํ ปาทนขสิขํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ.

อากาเสน คจฺฉนฺโต โมโร สีสาทีสุ ยสฺมึ องฺเค นิลียติ, ตํ ตสฺส านํ. ตสฺมา ตํ หตฺเถ นิลีนํ อิโต จิโต จ กโรนฺโตปิ ผนฺทาเปติเยว, ยทิ ปน อิตเรน หตฺเถน คเหตฺวา านา จาเวติ, ปาราชิกํ. อิตรํ หตฺถํ อุปเนติ, โมโร สยเมว อุฑฺเฑตฺวา ตตฺถ นิลียติ, อนาปตฺติ. องฺเค นิลีนภาวํ ตฺวา เถยฺยจิตฺเตน เอกํ ปทวารํ คจฺฉติ, ถุลฺลจฺจยํ. ทุติเย ปาราชิกํ.

ภูมิยํ ิตโมโร ทฺวินฺนํ วา ปาทานํ กลาปสฺส จ วเสน ตีณิ านานิ ลภติ. ตํ อุกฺขิปนฺตสฺส ยาว เอกมฺปิ านํ ปถวึ ผุสติ, ตาว ถุลฺลจฺจยํ. เกสคฺคมตฺตมฺปิ ปถวิยา โมจิตมตฺเต ปาราชิกํ. ปฺชเร ิตํ สห ปฺชเรน อุทฺธรติ, ปาราชิกํ. ยทิ ปน ปาทํ น อคฺฆติ, สพฺพตฺถ อคฺฆวเสน กาตพฺพํ. อนฺโตวตฺถุมฺหิ จรนฺตํ โมรํ เถยฺยจิตฺเตน ปทสา พหิวตฺถุํ นีหรนฺโต ทฺวารปริจฺเฉทํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. วเช ิตพลีพทฺทสฺส หิ วโช วิย อนฺโตวตฺถุ ตสฺส านํ. หตฺเถน ปน คเหตฺวา อนฺโตวตฺถุสฺมิมฺปิ อากาสคตํ กโรนฺตสฺส ปาราชิกเมว. อนฺโตคาเม จรนฺตมฺปิ คามปริกฺเขปํ อติกฺกาเมนฺตสฺส ปาราชิกํ. สยเมว นิกฺขมิตฺวา คามูปจาเร วา วตฺถูปจาเร วา จรนฺตํ ปน เถยฺยจิตฺโต กฏฺเน วา กถลาย วา อุตฺราเสตฺวา อฏวิมุขํ กโรติ, โมโร อุฑฺเฑตฺวา อนฺโตคาเม วา อนฺโตวตฺถุมฺหิ วา ฉทนปิฏฺเ วา นิลียติ, รกฺขติ. สเจ ปน อฏวิมุเข อุฑฺเฑติ วา คจฺฉติ วา ‘‘อฏวึ ปเวเสตฺวา คเหสฺสามี’’ติ ปริกปฺเป อสติ ปถวิโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อุฑฺฑิตมตฺเต วา ทุติยปทวาเร วา ปาราชิกํ. กสฺมา? ยสฺมา คามโต นิกฺขนฺตสฺส ิตฏฺานเมว านํ โหติ. กปิฺชราทีสุปิ อยเมว วินิจฺฉโย.

สาฏกํ วาติ วาตเวคุกฺขิตฺตํ ปถวิตเล ปตฺถริตฺวา ปิตมิว อากาเสน คจฺฉนฺตํ ขลิพทฺธํ สาฏกํ อภิมุขาคตํ หตฺเถน เอกสฺมึ อนฺเต คณฺหาติ, อิโต จิโต จ านํ อวิโกเปนฺโตเยว คมนุปจฺเฉเท ทุกฺกฏํ. านาจาวนํ อกโรนฺโต จาเลติ, ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยํ. านา จาเวติ, ปาราชิกํ. านปริจฺเฉโท จสฺส โมรสฺเสว ฉหิ อากาเรหิ เวทิตพฺโพ.

อพทฺธสาฏโก ปน เอกสฺมึ อนฺเต คหิตมตฺเตว ทุติเยนนฺเตน ปติตฺวา ภูมิยํ ปติฏฺาติ, ตสฺส ทฺเว านานิ โหนฺติ – หตฺโถ เจว ภูมิ จ. ตํ ยถาคหิตเมว ปมํ คหิโตกาสปฺปเทสโต จาเลติ, ถุลฺลจฺจยํ. ปจฺฉา ภูมิโต ทุติยหตฺเถน วา ปาเทน วา อุกฺขิปติ, ปาราชิกํ. ปมํ วา ภูมิโต อุทฺธรติ, ถุลฺลจฺจยํ. ปจฺฉา คหิโตกาสปฺปเทสโต จาเวติ, ปาราชิกํ. คหณํ วา อมุฺจนฺโต อุชุกเมว หตฺถํ โอนาเมตฺวา ภูมิคตํ กตฺวา เตเนว หตฺเถน อุกฺขิปติ, ปาราชิกํ. เวเนปิ อยเมว วินิจฺฉโย.

หิรฺํ วา สุวณฺณํ วา ฉิชฺชมานนฺติ มนุสฺสานํ อลงฺกโรนฺตานํ คีเวยฺยกาทิปิฬนฺธนํ วา สุวณฺณสลากํ ฉินฺทนฺตานํ สุวณฺณการานํ สุวณฺณขณฺฑํ วา ฉิชฺชมานํ ปตติ, ตฺเจ ภิกฺขุ อากาเสน อาคจฺฉนฺตํ เถยฺยจิตฺโต หตฺเถน คณฺหาติ, คหณเมว านํ. คหิตปฺปเทสโต หตฺถํ อปเนติ, ปาราชิกํ. จีวเร ปติตํ หตฺเถน อุกฺขิปติ, ปาราชิกํ. อนุทฺธริตฺวาว ยาติ, ทุติเย ปทวาเร ปาราชิกํ. ปตฺเต ปติเตปิ เอเสว นโย. สีเส วา มุเข วา ปาเท วา ปติฏฺิตํ หตฺเถน คณฺหาติ, ปาราชิกํ. อคฺคเหตฺวาว ยาติ, ทุติเย ปทวาเร ปาราชิกํ. ยตฺถ กตฺถจิ ปตติ, ตสฺส ปติโตกาโสว านํ, น สพฺพํ องฺคปจฺจงฺคํ ปตฺตจีวรํ วาติ.

อากาสฏฺกถา นิฏฺิตา.

เวหาสฏฺกถา

๙๗. เวหาสฏฺเ มฺจปีาทีสุ ปิตํ ภณฺฑํ อามาสํ วา โหตุ อนามาสํ วา, เถยฺยจิตฺเตน อามสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. มฺจปีเสุ ปิตภณฺเฑสุ ปเนตฺถ ถลฏฺเ วุตฺตนเยน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – สเจ ขลิยา พทฺธสาฏโก มฺเจ วา ปีเ วา ปตฺถโฏ มชฺเฌน มฺจตลํ น ผุสติ, มฺจปาเทว ผุสติ, เตสํ วเสน านํ เวทิตพฺพํ. ปาทานํ อุปริ ผุฏฺโกาสเมว หิ อติกฺกมิตมตฺเตน ตตฺถ ปาราชิกํ โหติ. สห มฺจปีเหิ หรนฺตสฺส ปน มฺจปีปาทานํ ปติฏฺิโตกาสวเสน านํ เวทิตพฺพํ.

จีวรวํเส วาติ จีวรปนตฺถาย พนฺธิตฺวา ปิเต วํเส วา กฏฺทณฺฑเก วา. ตตฺถ สํหริตฺวา ปารโต อนฺตํ โอรโต โภคํ กตฺวา ปิตจีวรสฺส ปติฏฺิโตกาเสน ผุฏฺโกาโสว านํ, น สพฺโพ จีวรวํโส. ตสฺมา เถยฺยจิตฺเตน ตํ โภเค คเหตฺวา อากฑฺฒนฺตสฺส ปารโต วํเส ปติฏฺิโตกาสํ โอรโต จีวเรน วํสสฺส ผุฏฺปฺปเทสํ อติกฺกาเมนฺตสฺส เอกทฺวงฺคุลมตฺตากฑฺฒเนเนว ปาราชิกํ. อนฺเต คเหตฺวา อากฑฺฒนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. ตตฺเถว ปน จีวรวํเส วามโต วา ทกฺขิณโต วา สาเรนฺตสฺส วามนฺเตน ทกฺขิณนฺตฏฺานํ ทกฺขิณนฺเตน วา วามนฺตฏฺานํ อติกฺกนฺตมตฺเต ทสทฺวาทสงฺคุลมตฺตสารเณเนว ปาราชิกํ. อุทฺธํ อุกฺขิปนฺตสฺส เกสคฺคมตฺตุกฺขิปเนน ปาราชิกํ. จีวรวํสํ ผุสนฺตํ วา อผุสนฺตํ วา รชฺชุเกน พนฺธิตฺวา ปิตจีวรํ โมเจนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ, มุตฺเต ปาราชิกํ. มุตฺตมตฺตเมว หิ ตํ ‘‘านา จุต’’นฺติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ. วํเส เวเตฺวา ปิตํ นิพฺเพเนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ, นิพฺเพิตมตฺเต ปาราชิกํ. วลยํ กตฺวา ปิเต วลยํ ฉินฺทติ วา โมเจติ วา เอกํ วา วํสโกฏึ โมเจตฺวา นีหรติ, ถุลฺลจฺจยํ. ฉินฺนมตฺเต มุตฺตมตฺเต นีหฏมตฺเต จ ปาราชิกํ. ตถา อกตฺวาว จีวรวํเส อิโต จิโต จ สาเรติ, รกฺขติ ตาว. วลยสฺส หิ สพฺโพปิ จีวรวํโส านํ. กสฺมา? ตตฺถ สํสรณธมฺมตาย. ยทา ปน นํ หตฺเถน คเหตฺวา อากาสคตํ กโรติ, ปาราชิกํ. ปสาเรตฺวา ปิตสฺส ปติฏฺิโตกาเสน ผุฏฺโกาโสว านํ. ตตฺถ สํหริตฺวา ปิเต วุตฺตนเยน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ยํ ปน เอเกนนฺเตน ภูมึ ผุสิตฺวา ิตํ โหติ, ตสฺส จีวรวํเส จ ภูมิยฺจ ปติฏฺิโตกาสวเสน ทฺเว านานิ. ตตฺถ ภูมิยํ เอเกนนฺเตน ปติฏฺิเต อพทฺธสาฏเก วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. จีวรรชฺชุยาปิ อยเมว วินิจฺฉโย.

องฺกุสเก ลคฺเคตฺวา ปิตภณฺฑํ ปน เภสชฺชฆโฏ วา เภสชฺชตฺถวิกา วา สเจ ภิตฺตึ วา ภูมึ วา อผุสิตฺวา ปิตํ ลคฺคนกํ ฆํสนฺตสฺส นีหรโต องฺกุสโกฏิโต นิกฺขนฺตมตฺเต ปาราชิกํ. ลคฺคนกํ พทฺธํ โหติ, พุนฺเทน อุกฺขิปิตฺวา อากาสคตํ กโรนฺตสฺส องฺกุสโกฏิโต อนิกฺขนฺเตปิ ปาราชิกํ. ภิตฺตินิสฺสิตํ โหติ, ปมํ องฺกุสโกฏิโต นีหรติ, ถุลฺลจฺจยํ. ปจฺฉา ภิตฺตึ โมเจติ, ปาราชิกํ. ปมํ ภิตฺตึ โมเจตฺวา ปจฺฉา องฺกุสโต นีหรนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. สเจ ปน ภาริยํ ภณฺฑํ นีหริตุํ อสกฺโกนฺโต สยํ ภิตฺตินิสฺสิตํ กตฺวา องฺกุสโต นีหรติ, ปุน ภิตฺตึ อโมเจตฺวาปิ องฺกุสโต นีหฏมตฺเตเยว ปาราชิกํ. อตฺตนา กตฏฺานฺหิ านํ น โหติ. ภูมึ ผุสิตฺวา ิตสฺส ปน ทฺเว เอว านานิ. ตตฺถ วุตฺโตเยว วินิจฺฉโย. ยํ ปน สิกฺกาย ปกฺขิปิตฺวา ลคฺคิตํ โหติ, ตํ สิกฺกาโต นีหรนฺตสฺสาปิ สห สิกฺกาย องฺกุสโต นีหรนฺตสฺสาปิ ปาราชิกํ. ภิตฺติภูมิสนฺนิสฺสิตวเสน เจตฺถ านเภโทปิ เวทิตพฺโพ.

ภิตฺติขีโลติ อุชุกํ กตฺวา ภิตฺติยํ อาโกฏิโต วา ตตฺถชาตโก เอว วา; นาคทนฺโต ปน วงฺโก อาโกฏิโต เอว. เตสุ ลคฺเคตฺวา ปิตํ องฺกุสเก วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉินิตพฺพํ. ทฺวีสุ ตีสุ ปน ปฏิปาฏิยา ิเตสุ อาโรเปตฺวา ปิตํ กุนฺตํ วา ภินฺทิวาลํ วา อคฺเค วา พุนฺเท วา คเหตฺวา อากฑฺฒติ, เอกเมกสฺส ผุฏฺโกาสมตฺเต อติกฺกนฺเต ปาราชิกํ. ผุฏฺโกาสมตฺตเมว หิ เตสํ านํ โหติ, น สพฺเพ ขีลา วา นาคทนฺตา วา. ภิตฺติอภิมุโข ตฺวา มชฺเฌ คเหตฺวา อากฑฺฒติ, โอริมนฺเตน ผุฏฺโกาสํ ปาริมนฺเตน อติกฺกนฺตมตฺเต ปาราชิกํ. ปรโต เปลฺเลนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. หตฺเถน คเหตฺวา อุชุกํ อุกฺขิปนฺโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อากาสคตํ กโรติ, ปาราชิกํ. ภิตฺตึ นิสฺสาย ปิตํ ภิตฺตึ ฆํสนฺโต อากฑฺฒติ, อคฺเคน ผุฏฺโกาสํ พุนฺทํ, พุนฺเทน วา ผุฏฺโกาสํ อคฺคํ อติกฺกาเมนฺตสฺส ปาราชิกํ. ภิตฺติอภิมุโข ตฺวา อากฑฺฒนฺโต เอเกนนฺเตน ผุฏฺโกาสํ อปรนฺตํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. อุชุกํ อุกฺขิปนฺโต เกสคฺคมตฺตํ อากาสคตํ กโรติ, ปาราชิกํ.

รุกฺเข วา ลคฺคิตนฺติ ตาลรุกฺขาทีสุ อาโรเปตฺวา ลคฺคิเต องฺกุสกาทีสุ วุตฺตนเยน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ตตฺถชาตกํ ปน ตาลปิณฺฑึ จาเลนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ. ยสฺมึ ผเล ปาราชิกวตฺถุ ปูรติ, ตสฺมึ พนฺธนา มุตฺตมตฺเต ปาราชิกํ. ปิณฺฑึ ฉินฺทติ, ปาราชิกํ. อคฺเคน ปณฺณนฺตรํ อาโรเปตฺวา ปิตา ทฺเว านานิ ลภติ – ปิตฏฺานฺจ วณฺฏฏฺานฺจ; ตตฺถ วุตฺตนเยน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. โย ปน ‘‘ฉินฺนมตฺตา ปตมานา สทฺทํ กเรยฺยา’’ติ ภเยน สยํ อคฺเคน ปณฺณนฺตรํ อาโรเปตฺวา ฉินฺทติ, ฉินฺนมตฺเต ปาราชิกํ. อตฺตนา กตฏฺานฺหิ านํ น โหติ. เอเตน อุปาเยน สพฺพรุกฺขานํ ปุปฺผผเลสุ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

ปตฺตาธารเกปีติ เอตฺถ รุกฺขาธารโก วา โหตุ วลยาธารโก วา ทณฺฑาธารโก วา ยํกิฺจิ ปตฺตฏฺปนกํ ปจฺฉิกาปิ โหตุ ปตฺตาธารโก ตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ตตฺถ ปิตปตฺตสฺส ปตฺเตน ผุฏฺโกาโส เอว านํ. ตตฺถ รุกฺขาธารเก ปฺจหากาเรหิ านปริจฺเฉโท โหติ. ตตฺถ ิตํ ปตฺตํ มุขวฏฺฏิยํ คเหตฺวา จตูสุ ทิสาสุ ยโต กุโตจิ กฑฺฒนฺโต เอเกนนฺเตน ผุฏฺโกาสํ อปรนฺตํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. อุทฺธํ เกสคฺคมตฺตํ อุกฺขิปโต ปาราชิกํ. สหาธารเกน หรนฺตสฺสาปิ เอเสว นโยติ.

เวหาสฏฺกถา นิฏฺิตา.

อุทกฏฺกถา

๙๘. อุทกฏฺเ – อุทเก นิกฺขิตฺตํ โหตีติ ราชภยาทิภีเตหิ อุทเกน อวินสฺสนธมฺเมสุ ตมฺพโลหภาชนาทีสุ สุปฺปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา โปกฺขรณีอาทีสุ อสนฺทนเก อุทเก นิกฺขิตฺตํ. ตสฺส ปติฏฺิโตกาโสเยว านํ, น สพฺพํ อุทกํ. คจฺฉติ วา อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ อคมฺภีเร อุทเก ปทสา คจฺฉนฺตสฺส ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ. คมฺภีเร หตฺเถหิ วา ปาเทหิ วา ปโยคํ กโรนฺตสฺส หตฺถวาเรหิ วา ปทวาเรหิ วา ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. เอเสว นโย กุมฺภิคหณตฺถํ นิมุชฺชนุมฺมุชฺชเนสุ. สเจ ปน อนฺตรา กิฺจิ อุทกสปฺปํ วา วาฬมจฺฉํ วา ทิสฺวา ภีโต ปลายติ, อนาปตฺติ. อามสนาทีสุ ภูมิคตาย กุมฺภิยา วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – ตตฺถ ภูมึ ขณิตฺวา กฑฺฒติ, อิธ กทฺทเม โอสาเรติ. เอวํ ฉหากาเรหิ านปริจฺเฉโท โหติ.

อุปฺปลาทีสุ ยสฺมึ ปุปฺเผ วตฺถุํ ปูเรติ, ตสฺมึ ฉินฺนมตฺเต ปาราชิกํ. อุปฺปลชาติกานฺเจตฺถ ยาว เอกสฺมิมฺปิ ปสฺเส วาโก น ฉิชฺชติ, ตาว รกฺขติ. ปทุมชาติกานํ ปน ทณฺเฑ ฉินฺเน อพฺภนฺตเร สุตฺตํ อจฺฉินฺนมฺปิ น รกฺขติ. สามิเกหิ ฉินฺทิตฺวา ปิตานิ อุปฺปลาทีนิ โหนฺติ, ยํ วตฺถุํ ปูเรติ, ตสฺมึ อุทฺธเฏ ปาราชิกํ. หตฺถกพทฺธานิ โหนฺติ, ยสฺมึ หตฺถเก วตฺถุ ปูรติ, ตสฺมึ อุทฺธเฏ ปาราชิกํ. ภารพทฺธานิ โหนฺติ, ตํ ภารํ ฉนฺนํ อาการานํ เยน เกนจิ อากาเรน านา จาเวนฺตสฺส ภูมฏฺกุมฺภิยํ วุตฺตนเยน ปาราชิกํ. ทีฆนาฬานิ อุปฺปลาทีนิ โหนฺติ, ปุปฺเผสุ วา นาเฬสุ วา เวณึ กตฺวา อุทกปิฏฺเ รชฺชุเกสุ ติณานิ สนฺถริตฺวา เปนฺติ วา พนฺธนฺติ วา, เตสํ ทีฆโต ปุปฺผคฺเคน จ นาฬนฺเตน จ ติริยํ ปริยนฺเตหิ เหฏฺา ปติฏฺิโตกาเสน อุทฺธํ อุปริ ิตสฺส ปิฏฺิยาติ ฉหากาเรหิ านา จาวนปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.

โยปิ อุทกปิฏฺิยํ ปิตปุปฺผกลาปํ อุทกํ จาเลตฺวา วีจึ อุฏฺาเปตฺวา เกสคฺคมตฺตมฺปิ ยถาิตฏฺานโต จาเวติ, ปาราชิกํ. อถ ปน ปริกปฺเปติ ‘‘เอตฺถ คตํ คเหสฺสามี’’ติ, รกฺขติ ตาว; คตฏฺาเน ปน อุทฺธรโต ปาราชิกํ. อุทกโต อจฺจุคฺคตสฺส ปุปฺผสฺส สกลมุทกํ านํ, ตํ อุปฺปาเฏตฺวา อุชุกํ อุทฺธรนฺตสฺส นาฬนฺเต เกสคฺคมตฺตํ อุทกโต อติกฺกนฺเต ปาราชิกํ. ปุปฺเผ คเหตฺวา อปนาเมตฺวา อากฑฺฒนฺโต อุปฺปาเฏติ, น อุทกํ านํ, อุปฺปาฏิตมตฺเต ปาราชิกํ. กลาปพทฺธานิ ปุปฺผานิ อุทกฏฺาเน วา รุกฺเข วา คจฺเฉ วา พนฺธิตฺวา เปนฺติ, พนฺธนํ อโมเจตฺวา อิโต จิโต จ กโรนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ, พนฺธเน มุตฺตมตฺเต ปาราชิกํ. ปมํ พนฺธนํ โมเจตฺวา ปจฺฉา หรติ, เอตฺถ ฉหากาเรหิ านปริจฺเฉโทติ อิทํ อุภยํ มหาปจฺจริยาทีสุ วุตฺตํ. ปทุมินิยํ ปุปฺผานิ สห ปทุมินึยา คณฺหิตุกามสฺส ปุปฺผนาเฬหิ จ ปตฺตนาเฬหิ จ ผุฏฺอุทกวเสน อุทฺธฺเจว ติริยฺจ านปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. ตํ ปนสฺส ปทุมินึ อนุปฺปาเฏตฺวา ปุปฺผานิ วา ปตฺตานิ วา อตฺตโน อภิมุขํ อากฑฺฒนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ. อุปฺปาฏิตมตฺเต ปาราชิกํ.

ปุปฺผปตฺตนาเฬ านโต อจาเวตฺวาปิ ปมํ ปทุมินึ อุปฺปาเฏนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ. ปจฺฉา ปุปฺผปตฺตนาเฬสุ านา จาวิเตสุ ปาราชิกํ. อุปฺปาฏิตาย ปทุมินิยา ปุปฺผํ คณฺหนฺโต ปน ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพ. พหิ ปิเต ราสิกตกลาปพทฺธภารพทฺธปุปฺเผปิ เอเสว นโย. ภิสํ วา มุฬาลํ วา เยน วตฺถุ ปูรติ, ตํ อุปฺปาเฏนฺตสฺส ปาราชิกํ. กทฺทเม ผุฏฺโกาสวเสน เจตฺถ านํ ปริจฺฉินฺทิตพฺพํ. ตานิ อุปฺปาเฏนฺตสฺส สุขุมมฺปิ มูลํ อจฺฉินฺนํ โหติ, รกฺขติ ตาว. ภิสปพฺเพ ชาตํ ปตฺตํ วา ปุปฺผํ วา โหติ, ตมฺปิ รกฺขตีติ มหาอฏฺกถายเมว วุตฺตํ. ภิสคณฺิมฺหิ ปน กณฺฏโก โหติ โยพฺพนปฺปตฺตานํ มุขปิฬกา วิย, อยํ อทีฆตฺตา น รกฺขติ. เสสํ อุปฺปลาทีสุ วุตฺตนยเมว.

มจฺฉกจฺฉปานํ สสฺสามิกานํ วาปิอาทีสุ สกลมุทกํ านํ. ตสฺมา โย ปฏิชคฺคนฏฺาเน สสฺสามิกํ มจฺฉํ พฬิเสน วา ชาเลน วา กุมเนน วา หตฺเถน วา คณฺหาติ, ตสฺส เยน มจฺเฉน วตฺถุ ปูรติ, ตสฺมึ เกสคฺคมตฺตมฺปิ อุทกโต อุทฺธฏมตฺเต ปาราชิกํ. โกจิ มจฺโฉ คยฺหมาโน อิโต จิโต จ ธาวติ, อากาสํ วา อุปฺปตติ, ตีเร วา ปตติ, อากาเส วา ิตํ ตีเร วา ปติตํ คณฺหโตปิ ปาราชิกเมว. กจฺฉปมฺปิ พหิ โคจรตฺถํ คตํ คณฺหโต เอเสว นโย. อุทกฏฺํ ปน อุทกา โมจยโต ปาราชิกํ.

เตสุ เตสุ ปน ชนปเทสุ สพฺพสาธารณสฺส มหาตฬากสฺส นิทฺธมนตุมฺพํ นิสฺสาย สพฺพสาธารณเมว กุนฺนทีสทิสํ อุทกวาหกํ ขณนฺติ. ตโต ขุทฺทกมาติกาโย นีหริตฺวา มาติกาโกฏิยํ อตฺตโน อตฺตโน วฬฺชนตฺถาย อาวาเฏ ขณนฺติ. เตสํ ปน ยทา อุทเกน อตฺโถ โหติ, ตทา อาวาเฏ ขุทฺทกมาติกาโย อุทกวาหกฺจ โสเธตฺวา นิทฺธมนตุมฺพํ อุคฺฆาเฏนฺติ. ตโต อุทเกน สทฺธึ มจฺฉา นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน อาวาเฏ ปตฺวา วสนฺติ. ตตฺถ ตฬาเก จ อุทกวาหเกสุ จ มจฺเฉ คณฺหนฺเต น วาเรนฺติ. ขุทฺทกาสุ ปน อตฺตโน อตฺตโน มาติกาสุ อุทกอาวาเฏสุ จ ปวิฏฺมจฺเฉ คณฺหิตุํ น เทนฺติ, วาเรนฺติ; ตตฺถ โย ตฬาเก วา นิทฺธมนตุมฺเพ วา อุทกวาหเก วา มจฺเฉ คณฺหาติ, อวหาเรน โส น กาเรตพฺโพ. ขุทฺทกมาติกาสุ ปน อาวาเฏสุ วา ปวิฏฺํ คณฺหนฺโต คหิตสฺส อคฺฆวเสน กาเรตพฺโพ. สเจ ตโต คยฺหมาโน มจฺโฉ อากาเส วา อุปฺปตติ, ตีเร วา ปตติ, ตํ อากาสฏฺํ วา ตีรฏฺํ วา อุทกวินิมุตฺตํ คณฺหโต อวหาโร นตฺถิ. กสฺมา? ยสฺมา อตฺตโน ปริคฺคหฏฺาเน ิตสฺเสว เต สามิกา. เอวรูปา หิ ตตฺถ กติกา. กจฺฉเปปิ เอเสว นโย.

สเจ ปน มจฺโฉ คยฺหมาโน อาวาฏโต ขุทฺทกมาติกํ อารุหติ, ตตฺถ นํ คณฺหโตปิ อวหาโรเยว. ขุทฺทกมาติกาโต ปน อุทกวาหกํ, ตโต จ ตฬากํ อารูฬฺหํ คณฺหโต อวหาโร นตฺถิ. โย อาวาฏโต ภตฺตสิตฺเถหิ ปโลเภตฺวา มาติกํ อาโรเปตฺวา คณฺหาติ, อวหาโรว. ตโต ปน ปโลเภตฺวา อุทกวาหกํ อาโรเปตฺวา คณฺหนฺตสฺส อวหาโร นตฺถิ. เกจิ ปน กุโตจิเทว สพฺพสาธารณฏฺานโต มจฺเฉ อาเนตฺวา ปจฺฉิมวตฺถุภาเค อุทกาวาเฏ ขิปิตฺวา โปเสตฺวา ทิวเส ทิวเส ทฺเว ตีณิ อุตฺตริภงฺคตฺถาย มาเรนฺติ. เอวรูปํ มจฺฉํ อุทเก วา อากาเส วา ตีเร วา ยตฺถ กตฺถจิ ิตํ คณฺหโต อวหาโร เอว. กจฺฉเปปิ เอเสว นโย.

นิทาฆกาเล ปน นทิยา โสเต ปจฺฉินฺเน กตฺถจิ นินฺนฏฺาเน อุทกํ ติฏฺติ, ตตฺถ มนุสฺสา มจฺฉานํ วินาสาย มทนผลวสาทีนิ ปกฺขิปิตฺวา คจฺฉนฺติ, มจฺฉา ตานิ ขาทนฺตา มริตฺวา อุตฺตานา อุทเก ปฺลวนฺตา ติฏฺนฺติ. โย ตตฺถ คนฺตฺวา ‘‘ยาว สามิกา นาคจฺฉนฺติ, ตาวิเม มจฺเฉ คณฺหิสฺสามี’’ติ คณฺหาติ, อคฺฆวเสน กาเรตพฺโพ. ปํสุกูลสฺาย คณฺหโต อวหาโร นตฺถิ, อาหราเปนฺเต ปน ภณฺฑเทยฺยํ. มจฺฉวิสํ ปกฺขิปิตฺวา คตมนุสฺสา ภาชนานิ อาหริตฺวา ปูเรตฺวา คจฺฉนฺติ, ยาว ‘‘ปุนปิ อาคจฺฉิสฺสามา’’ติ สาลยา โหนฺติ, ตาว เต สสฺสามิกมจฺฉาว. ยทา ปน เต ‘‘อลํ อมฺหาก’’นฺติ นิราลยา ปกฺกมนฺติ, ตโต ปฏฺาย เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ปํสุกูลสฺิสฺส อนาปตฺติ. ยถา จ มจฺฉกจฺฉเปสุ, เอวํ สพฺพายปิ โอทกชาติยา วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ.

อุทกฏฺกถา นิฏฺิตา.

นาวฏฺกถา

๙๙. นาวฏฺเ – ปมํ ตาว นาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นาวา นาม ยาย ตรตี’’ติ อาห. ตสฺมา อิธ อนฺตมโส รชนโทณิกาปิ เวณุกลาปโกปิ ‘‘นาวา’’ตฺเวว เวทิตพฺโพ. สีมาสมฺมนฺนเน ปน ธุวนาวา อนฺโต ขณิตฺวา วา ผลเกหิ พนฺธิตฺวา วา กตา สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน ติณฺณํ วาหนิกา เอว วฏฺฏติ. อิธ ปน เอกสฺสปิ วาหนิกา ‘‘นาวา’’ ตฺเวว วุจฺจติ. นาวาย นิกฺขิตฺตนฺติ ยํกิฺจิ อินฺทฺริยพทฺธํ วา อนินฺทฺริยพทฺธํ วา; ตสฺส อวหารลกฺขณํ ถลฏฺเ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. นาวํ อวหริสฺสามีติอาทิมฺหิ จ ทุติยปริเยสนคมนอามสนผนฺทาปนานิ วุตฺตนยาเนว. พนฺธนํ โมเจตีติ เอตฺถ ปน ยา พนฺธเน มุตฺตมตฺเต านา น จวติ, ตสฺสา พนฺธนํ ยาว น มุตฺตํ โหติ, ตาว ทุกฺกฏํ. มุตฺเต ปน ถุลฺลจฺจยมฺปิ ปาราชิกมฺปิ โหติ, ตํ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. เสสํ วุตฺตนยเมว. อยํ ตาว ปาฬิวณฺณนา.

อยํ ปเนตฺถ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย – จณฺฑโสเต พนฺธิตฺวา ปิตนาวาย เอกํ านํ พนฺธนเมว, ตสฺมึ มุตฺตมตฺเต ปาราชิกํ. ตตฺถ ยุตฺติ ปุพฺเพ วุตฺตา เอว. วิปฺปนฏฺา นาวา ปน ยํ ยํ อุทกปฺปเทสํ ผริตฺวา ิตา โหติ, สฺวาสฺสา านํ. ตสฺมา ตํ อุทฺธํ วา อุจฺจาเรนฺตสฺส, อโธ วา โอปิลาเปนฺตสฺส, จตูสุ วา ทิสาสุ ผุฏฺโกาสํ อติกฺกาเมนฺตสฺส อติกฺกนฺตมตฺเต ปาราชิกํ. นิจฺจเล อุทเก อพนฺธนํ อตฺตโน ธมฺมตาย ิตนาวํ ปุรโต วา ปจฺฉโต วา วามทกฺขิณปสฺสโต วา กฑฺฒนฺตสฺส เอเกนนฺเตน ผุฏฺโกาสํ อปเรน อุทเก ปติฏฺิตนฺเตน อติกฺกนฺตมตฺเต ปาราชิกํ. อุทฺธํ เกสคฺคมตฺตํ อุทกโต โมจิเต อโธ นาวาตเลน ผุฏฺโกาสํ มุขวฏฺฏึ อติกฺกนฺตมตฺเต ปาราชิกํ. ตีเร พนฺธิตฺวา นิจฺจเล อุทเก ปิตนาวาย พนฺธนฺจ ิโตกาโส จาติ ทฺเว านานิ. ตํ ปมํ พนฺธนา โมเจติ, ถุลฺลจฺจยํ. ปจฺฉา ฉนฺนํ อาการานํ อฺตเรน านา จาเวติ, ปาราชิกํ. ปมํ านา จาเวตฺวา ปจฺฉา พนฺธนโมจเนปิ เอเสว นโย. ถเล อุสฺสาเทตฺวา อุกฺกุชฺชิตฺวา ปิตนาวาย ผุฏฺโกาโสว านํ. ตสฺสา ปฺจหากาเรหิ านปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.

นิกฺกุชฺชิตฺวา ปิตนาวาย ปน มุขวฏฺฏิยา ผุฏฺโกาโสว านํ, ตสฺสาปิ ปฺจหากาเรหิ านปริจฺเฉทํ ตฺวา ยโต กุโตจิ ผุฏฺโกาสํ อุทฺธฺจ เกสคฺคมตฺตํ อติกฺกนฺตมตฺเต ปาราชิกํ เวทิตพฺพํ. ถเล ปน อุสฺสาเทตฺวา ทฺวินฺนํ ทารุฆฏิกานํ อุปริ ปิตนาวาย ทารุฆฏิกานํ ผุฏฺโกาโสเยว านํ, ตสฺมา ตตฺถ มฺจปาทมตฺถเกสุเยว ปตฺถฏพทฺธสาฏเก นาคทนฺเตสุ ปิตภินฺทิวาเล จ วุตฺตนเยน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

โยตฺตพทฺธาย ปน นาวาย สฏฺิสตฺตติพฺยามปฺปมาณํ โยตฺตํ อโมเจตฺวาว อากฑฺฒิตฺวา

ปถวิลคฺคํ กตฺวา สห โยตฺเตน ถเล ปิตาย นาวาย น ผุฏฺโกาสมตฺตเมว านํ. อถ โข โยตฺตโกฏิโต ปฏฺาย ยาว นาวาย ปถวิยํ ปติฏฺิโตกาสสฺส ปจฺฉิมนฺโต ตาว ทีฆโต, ติริยํ ปน นาวาย จ โยตฺตสฺส จ ปถวิยํ ปติฏฺิตปริยนฺตปฺปมาณํ านนฺติ เวทิตพฺพํ. ตํ ทีฆโต วา ติริยโต วา กฑฺฒนฺตสฺส เอเกนนฺเตน ผุฏฺโกาสํ อปเรน ปถวิยํ ปติฏฺิตนฺเตน อติกฺกนฺตมตฺเต, อุทฺธํ เกสคฺคมตฺตํ สห โยตฺเตน ปถวิโต โมจิเต ปาราชิกํ. โย ปน ติตฺเถ ิตนาวํ อารุหิตฺวา เถยฺยจิตฺโต อริตฺเตน วา ผิเยน วา ปาเชติ, ปาราชิกํ. สเจ ปน ฉตฺตํ วา ปณาเมตฺวา จีวรํ วา ปาเทหิ อกฺกมิตฺวา หตฺเถหิ อุกฺขิปิตฺวา ลงฺการสทิสํ กตฺวา วาตํ คณฺหาเปติ, พลวา จ วาโต อาคมฺม นาวํ หรติ, วาเตเนว สา หฏา โหติ; ปุคฺคลสฺส นตฺถิ อวหาโร. ปโยโค อตฺถิ, โส ปน านา จาวนปโยโค น โหติ. ยทิ ปน ตํ นาวํ เอวํ คจฺฉนฺตึ ปกติคมนํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา อฺํ ทิสาภาคํ เนติ, ปาราชิกํ. สยเมว ยํกิฺจิ คามติตฺถํ สมฺปตฺตํ านา อจาเวนฺโตว วิกฺกิณิตฺวา คจฺฉติ, เนว อตฺถิ อวหาโร. ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหตีติ.

นาวฏฺกถา นิฏฺิตา.

ยานฏฺกถา

๑๐๐. ยานฏฺเ – ยานํ ตาว ทสฺเสนฺโต ‘‘ยานํ นาม วยฺห’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อุปริ มณฺฑปสทิสํ ปทรจฺฉนฺนํ สพฺพปลิคุณฺิมํ วา ฉาเทตฺวา กตํ วยฺหํ. อุโภสุ ปสฺเสสุ สุวณฺณรชตาทิมยา โคปานสิโย ทตฺวา ครุฬปกฺขกนเยน กตา สนฺทมานิกา. รโถ จ สกฏฺจ ปากฏเมว. เตสุ ยตฺถ กตฺถจิ สวิฺาณกํ วา อวิฺาณกํ วา ราสิอาทิวเสน ปิตํ ภณฺฑํ เถยฺยจิตฺเตน านา จาเวนฺตสฺส นาวฏฺเ จ ถลฏฺเ จ วุตฺตนเยเนว ปาราชิกํ เวทิตพฺพํ.

อยํ ปน วิเสโส – ยานฏฺํ ตณฺฑุลาทิภณฺฑํ ปิฏเกน คณฺหโต ปิฏเก อนุกฺขิตฺเตปิ ปิฏกํ อปหริตฺวา ตณฺฑุลาทีนํ เอกาพทฺธภาเว วิโกปิเต ปาราชิกํ. ถลฏฺาทีสุปิ อยํ นโย ลพฺภติ. ยานํ อวหริสฺสามีติอาทิมฺหิ ทุติยปริเยสนาทีนิ วุตฺตนยาเนว. านา จาเวตีติ เอตฺถ ปน ทุกยุตฺตสฺส ยานสฺส ทฺวินฺนํ โคณานํ อฏฺ ปาทา, ทฺเว จ จกฺกานีติ ทส านานิ. ตํ เถยฺยจิตฺตสฺส ธุเร นิสีทิตฺวา ปาชยโต โคณานํ ปาทุทฺธาเร ถุลฺลจฺจยํ. จกฺกานํ ปน ปถวิยํ ปติฏฺิตปฺปเทสโต เกสคฺคมตฺเต อติกฺกนฺเต ปาราชิกํ. สเจ ปน โคณา ‘‘นายํ อมฺหากํ สามิโก’’ติ ตฺวา ธุรํ ฉฑฺเฑตฺวา อากฑฺฒนฺตา ติฏฺนฺติ วา ผนฺทนฺติ วา, รกฺขติ ตาว. โคเณ ปุน อุชุกํ ปฏิปาเทตฺวา ธุรํ อาโรเปตฺวา ทฬฺหํ โยเชตฺวา ปาจเนน วิชฺฌิตฺวา ปาเชนฺตสฺส วุตฺตนเยเนว เตสํ ปาทุทฺธาเร ถุลฺลจฺจยํ. จกฺกาติกฺกเม ปาราชิกํ.

สเจปิ สกทฺทเม มคฺเค เอกํ จกฺกํ กทฺทเม ลคฺคํ โหติ, ทุติยํ จกฺกํ โคณา ปริวตฺเตนฺตา ปวตฺเตนฺติ, เอกสฺส ิตตฺตา น ตาว อวหาโร โหติ. โคเณ ปน ปุน อุชุกํ ปฏิปาเทตฺวา ปาเชนฺตสฺส ิตจกฺเก เกสคฺคมตฺตํ ผุฏฺโกาสํ อติกฺกนฺเต ปาราชิกํ. จตุยุตฺตกสฺส ปน อฏฺารส านานิ, อฏฺยุตฺตกสฺส จตุตฺตึสาติ – เอเตนุปาเยน ยุตฺตยานสฺส านเภโท เวทิตพฺโพ.

ยํ ปน อยุตฺตกํ ธุเร เอกาย ปจฺฉโต จ ทฺวีหิ อุปตฺถมฺภินีหิ อุปตฺถมฺเภตฺวา ปิตํ, ตสฺส ติณฺณํ อุปตฺถมฺภินีนํ จกฺกานฺจ วเสน ปฺจ านานิ. สเจ ธุเร อุปตฺถมฺภินี เหฏฺาภาเค กปฺปกตา โหติ, ฉ านานิ. ปจฺฉโต ปน อนุปตฺถมฺเภตฺวา ธุเร อุปตฺถมฺภิตสฺเสว อุปตฺถมฺภินีวเสน ตีณิ วา จตฺตาริ วา านานิ. ธุเรน ผลกสฺส วา ทารุกสฺส วา อุปริ ปิตสฺส ตีณิ านานิ. ตถา ปถวิยํ ปิตสฺส. ตํ ธุรํกฑฺฒิตฺวา วา อุกฺขิปิตฺวา วา ปุรโต จ ปจฺฉโต จ านา จาเวนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ. จกฺกานํ ปติฏฺิตฏฺาเน เกสคฺคมตฺตํ อติกฺกนฺเต ปาราชิกํ. จกฺกานิ อปเนตฺวา ทฺวีหิ อกฺขสีเสหิ ทารูนํ อุปริ ปิตสฺส ทฺเว านานิ. ตํ กฑฺฒนฺโต วา อุกฺขิปนฺโต วา ผุฏฺโกาสํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. ภูมิยํ ปิตสฺส ธุเรน จ จตูหิ จ อกฺขุทฺธีหิ ปติฏฺิตวเสน ปฺจ านานิ. ตํ ธุเร คเหตฺวา กฑฺฒโต อุทฺธีนํ ปจฺฉิมนฺเตหิ ปุริมนฺเต อติกฺกนฺเต ปาราชิกํ. อุทฺธีสุ คเหตฺวา กฑฺฒโต อุทฺธีนํ ปุริมนฺเตหิ ปจฺฉิมนฺเต อติกฺกนฺเต ปาราชิกํ. ปสฺเส คเหตฺวา กฑฺฒโต อุทฺธีนํเยว ติริยํ ปติฏฺิตฏฺานสฺส อติกฺกเมน ปาราชิกํ. มชฺเฌ คเหตฺวา อุกฺขิปโต เกสคฺคมตฺตํ ปถวิโต มุตฺเต ปาราชิกํ. อถ อุทฺธิขาณุกา น โหนฺติ, สมเมว พาหํ กตฺวา มชฺเฌ วิชฺฌิตฺวา อกฺขสีสานิ ปเวสิตานิ โหนฺติ, ตํ เหฏฺิมตลสฺส สมนฺตา สพฺพํ ปถวึ ผุสิตฺวา ติฏฺติ. ตตฺถ จตูสุ ทิสาสุ อุทฺธฺจ ผุฏฺฏฺานาติกฺกมวเสน ปาราชิกํ เวทิตพฺพํ. ภูมิยํ นาภิยา ปิตจกฺกสฺส เอกเมว านํ, ตสฺส ปฺจหากาเรหิ ปริจฺเฉโท. เนมิปสฺเสน จ นาภิยา จ ผุสิตฺวา ิตสฺส ทฺเว านานิ. เนมิยา อุฏฺิตภาคํ ปาเทน อกฺกมิตฺวา ภูมิยํ ผุสาเปตฺวา อเรสุ วา เนมิยา วา คเหตฺวา อุกฺขิปนฺตสฺส อตฺตนา กตฏฺานํ านํ น โหติ, ตสฺมา ตสฺมึ ิเตปิ อวเสสฏฺาเน อติกฺกนฺตมตฺเต ปาราชิกํ.

ภิตฺตึ นิสฺสาย ปิตจกฺกสฺสาปิ ทฺเว านานิ. ตตฺถ ปมํ ภิตฺติโต โมเจนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ. ปจฺฉา ปถวิโต เกสคฺคมตฺตุทฺธาเร ปาราชิกํ. ปมํ ภูมิโต โมเจนฺตสฺส ปน สเจ ภิตฺติยํ ปติฏฺิตฏฺานํ น กุปฺปติ, เอเสว นโย. อถ อเรสุ คเหตฺวา เหฏฺา กฑฺฒนฺตสฺส ภิตฺตึ ผุสิตฺวา ิโตกาสสฺส อุปริโม อนฺโต เหฏฺิมํ อติกฺกมติ, ปาราชิกํ. มคฺคปฺปฏิปนฺเน ยาเน ยานสามิโก เกนจิเทว กรณีเยน โอโรหิตฺวา มคฺคา โอกฺกนฺโต โหติ, อถฺโ ภิกฺขุ ปฏิปถํ อาคจฺฉนฺโต อารกฺขสุฺํ ปสฺสิตฺวา, ‘‘ยานํ อวหริสฺสามี’’ติ อาโรหติ, ตสฺส ปโยคํ วินาเยว โคณา คเหตฺวา ปกฺกนฺตา, อวหาโร นตฺถิ. เสสํ นาวายํ วุตฺตสทิสนฺติ.

ยานฏฺกถา นิฏฺิตา.

ภารฏฺกถา

๑๐๑. อิโต ปรํ ภาโรเยว ภารฏฺํ. โส สีสภาราทิวเสน จตุธา ทสฺสิโต. ตตฺถ สีสภาราทีสุ อสมฺโมหตฺถํ สีสาทีนํ ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. ตตฺถ สีสสฺส ตาว ปุริมคเล คลวาฏโก, ปิฏฺิคเล เกสฺจิ เกสนฺเต อาวฏฺโฏ โหติ, คลสฺเสว อุโภสุ ปสฺเสสุ เกสฺจิ เกสา โอรุยฺห ชายนฺติ, เย กณฺณจูฬิกาติ วุจฺจนฺติ, เตสํ อโธภาโค จาติ อยํ เหฏฺิมปริจฺเฉโท, ตโต อุปริ สีสํ. เอตฺถนฺตเร ิตภาโร สีสภาโร นาม.

อุโภสุ ปสฺเสสุ กณฺณจูฬิกาหิ ปฏฺาย เหฏฺา, กปฺปเรหิ ปฏฺาย อุปริ, ปิฏฺิคลาวตฺตโต จ คลวาฏกโต จ ปฏฺาย เหฏฺา, ปิฏฺิเวมชฺฌาวตฺตโต จ อุรปริจฺเฉทมชฺเฌ หทยอาวาฏโต จ ปฏฺาย อุปริ ขนฺโธ. เอตฺถนฺตเร ิตภาโร ขนฺธภาโร นาม.

ปิฏฺิเวมชฺฌาวตฺตโต ปน หทยอาวาฏโต จ ปฏฺาย เหฏฺา ยาว ปาทนขสิขา, อยํ กฏิปริจฺเฉโท. เอตฺถนฺตเร สมนฺตโต สรีเร ิตภาโร กฏิภาโร นาม.

กปฺปรโต ปฏฺาย ปน เหฏฺา ยาว หตฺถนขสิขา, อยํ โอลมฺพกปริจฺเฉโท. เอตฺถนฺตเร ิตภาโร โอลมฺพโก นาม.

อิทานิ สีเส ภารนฺติอาทีสุ อยํ อปุพฺพวินิจฺฉโย – โย ภิกฺขุ ‘‘อิทํ คเหตฺวา เอตฺถ ยาหี’’ติ สามิเกหิ อนาณตฺโต สยเมว ‘‘มยฺหํ อิทํ นาม เทถ, อหํ โว ภณฺฑํ วหามี’’ติ เตสํ ภณฺฑํ สีเสน อาทาย คจฺฉนฺโต เถยฺยจิตฺเตน ตํ ภณฺฑํ อามสติ, ทุกฺกฏํ. ยถาวุตฺตสีสปริจฺเฉทํ อนติกฺกาเมนฺโตว อิโต จิโต จ ฆํสนฺโต สาเรติปิ ปจฺจาสาเรติปิ, ถุลฺลจฺจยํ. ขนฺธํ โอโรปิตมตฺเต กิฺจาปิ สามิกานํ ‘‘วหตู’’ติ จิตฺตํ อตฺถิ, เตหิ ปน อนาณตฺตตฺตา ปาราชิกํ. ขนฺธํ ปน อโนโรเปตฺวาปิ สีสโต เกสคฺคมตฺตํ โมเจนฺตสฺส ปาราชิกํ. ยมกภารสฺส ปน เอโก ภาโร สีเส ปติฏฺาติ, เอโก ปิฏฺิยํ, ตตฺถ ทฺวินฺนํ านานํ วเสน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อยํ ปน สุทฺธสีสภาราทีนํเยว วเสน เทสนา อารทฺธา. โย จายํ สีสภาเร วุตฺโต, ขนฺธภาราทีสุปิ อยเมว วินิจฺฉโย.

หตฺเถ ภารนฺติ เอตฺถ ปน หตฺเถน คหิตตฺตา โอลมฺพโก ‘‘หตฺเถ ภาโร’’ติ วุตฺโต.

โส ปมํเยว ภูมิโต วา คหิโต โหตุ, สุทฺธจิตฺเตน สีสาทีหิ วา, ‘‘หตฺเถ ภาโร’’ ตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ตํ เถยฺยจิตฺเตน ตาทิสํ คหนฏฺานํ ทิสฺวา ภูมิยํ วา คจฺฉาทีสุ วา นิกฺขิปนฺตสฺส หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกํ. ภูมิโต คณฺหาตีติ เอตฺถ ปน เตสํ ภารานํ ยํกิฺจิ ปาตราสาทิการณา สุทฺธจิตฺเตน ภูมิยํ นิกฺขิปิตฺวา ปุน เถยฺยจิตฺเตน เกสคฺคมตฺตํ อุทฺธรนฺตสฺส ปาราชิกนฺติ.

ภารฏฺกถา นิฏฺิตา.

อารามฏฺกถา

๑๐๒. อารามฏฺเปิ – อารามํ ตาว ทสฺเสนฺโต ‘‘อาราโม นาม ปุปฺผาราโม ผลาราโม’’ติ อาห. เตสุ วสฺสิกาทีนํ ปุปฺผนโก ปุปฺผาราโม. อมฺพผลาทีนํ ผลนโก ผลาราโม. อาราเม จตูหิ าเนหิ นิกฺขิตฺตสฺส วินิจฺฉโย ภูมฏฺาทีสุ วุตฺตนโย เอว.

ตตฺถชาตเก ปน มูลนฺติ อุสีรหิริเวราทิกํ ยํกิฺจิ มูลํ, ตํ อุปฺปาเฏตฺวา วา อุปฺปาฏิตํ วา คณฺหนฺตสฺส เยน มูเลน วตฺถุ ปูรติ, ตสฺมึ คหิเต ปาราชิกํ. กนฺโทปิ มูเลเนว สงฺคหิโต. อุปฺปาเฏนฺตสฺส เจตฺถ อปฺปมตฺตเกปิ อจฺฉินฺเน ถุลฺลจฺจยเมว. ตตฺถ วินิจฺฉโย ภิเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ตจนฺติ เภสชฺชตฺถาย วา รชนตฺถาย วา อุปโยคคมนูปคํ ยํกิฺจิ รุกฺขตฺตจํ; ตํ อุปฺปาเฏตฺวา วา อุปฺปาฏิตํ วา คณฺหนฺตสฺส มูเล วุตฺตนเยน ปาราชิกํ. ปุปฺผนฺติ วสฺสิกมลฺลิกาทิกํ ยํกิฺจิ ปุปฺผํ, ตํ โอจินิตฺวา วา โอจินิตํ วา คณฺหนฺตสฺส อุปฺปลปทุเมสุ วุตฺตนเยน ปาราชิกํ. ปุปฺผานมฺปิ หิ วณฺฏํ วา พนฺธนํ วา อจฺฉินฺนํ รกฺขติ. วณฺฏพฺภนฺตเร ปน เกสฺจิ สูจิกา โหติ, สา น รกฺขติ. ผลนฺติ อมฺพผลตาลผลาทิกํ ยํกิฺจิ, ตํ รุกฺขโต คณฺหนฺตสฺส วินิจฺฉโย รุกฺเข ลคฺคิตกถายํ วุตฺโต. อปเนตฺวา ปิตํ ภูมฏฺาทิสงฺคหิตเมว.

อารามํ อภิยุฺชตีติ ปรสนฺตกํ ‘‘มม สนฺตโก อย’’นฺติ มุสา ภณิตฺวา อภิยุฺชติ, อทินฺนาทานสฺส ปโยคตฺตา ทุกฺกฏํ. สามิกสฺส วิมตึ อุปฺปาเทตีติ วินิจฺฉยกุสลตาย พลวนิสฺสิตาทิภาเวน วา อารามสามิกสฺส สํสยํ ชเนติ. กถํ? ตฺหิ ตถา วินิจฺฉยปฺปสุตํ ทิสฺวา สามิโก จินฺเตติ – ‘‘สกฺขิสฺสามิ นุ โข อหํ อิมํ อารามํ อตฺตโน กาตุํ, น สกฺขิสฺสามิ นุ โข’’ติ. เอวํ ตสฺส วิมติ อุปฺปชฺชมานา เตน อุปฺปาทิตา โหติ, ตสฺมา ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชติ.

ธุรํ นิกฺขิปตีติ ยทา ปน สามิโก ‘‘อยํ ถทฺโธ กกฺขโฬ ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตรายมฺปิ เม กเรยฺย, อลํ ทานิ มยฺหํ อิมินา อาราเมนา’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, อภิยุฺชโก ปาราชิกํ อาปชฺชติ. สเจ สยมฺปิ กตธุรนิกฺเขโป โหติ, อถ จ ปน สามิเกน ธุเร นิกฺขิตฺเตปิ อภิยุฺชโก ธุรํ อนิกฺขิปิตฺวาว ‘‘อิมํ สุฏฺุ ปีเฬตฺวา มม อาณาปวตฺตึ ทสฺเสตฺวา กิงฺการปฺปฏิสฺสาวิภาเว นํ เปตฺวา ทสฺสามี’’ติ ทาตพฺพภาเว สอุสฺสาโห โหติ, รกฺขติ ตาว. อถาปิ อภิยุฺชโก ‘‘อจฺฉินฺทิตฺวา น ทานิ นํ อิมสฺส ทสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, สามิโก ปน น ธุรํ นิกฺขิปติ, ปกฺขํ ปริเยสติ, กาลํ อาคเมติ, ‘‘ลชฺชิปริสํ ตาว ลภามิ, ปจฺฉา ชานิสฺสามี’’ติ ปุน คหเณเยว สอุสฺสาโห โหติ, รกฺขติเยว. ยทา ปน โสปิ ‘‘น ทสฺสามี’’ติ, สามิโกปิ ‘‘น ลจฺฉามี’’ติ – เอวํ อุโภปิ ธุรํ นิกฺขิปนฺติ, ตทา อภิยุฺชกสฺส ปาราชิกํ. อถ ปน อภิยุฺชิตฺวา วินิจฺฉยํ กุรุมาโน อนิฏฺิเต วินิจฺฉเย สามิเกนปิ ธุรนิกฺเขเป อกเต อตฺตโน อสฺสามิกภาวํ ชานนฺโตเยว ตโต กิฺจิ ปุปฺผํ วา ผลํ วา คณฺหาติ, ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ.

ธมฺมํ จรนฺโตติ ภิกฺขุสงฺเฆ วา ราชกุเล วา วินิจฺฉยํ กโรนฺโต. สามิกํ ปราเชตีติ วินิจฺฉยิกานํ อุกฺโกจํ ทตฺวา กูฏสกฺขึ โอตาเรตฺวา อารามสามิกํ ชินาตีติ อตฺโถ. อาปตฺติ ปาราชิกสฺสาติ น เกวลํ ตสฺเสว, สฺจิจฺจ ตสฺส อตฺถสาธเน ปวตฺตานํ กูฏวินิจฺฉยิกานมฺปิ กูฏสกฺขีนมฺปิ สพฺเพสํ ปาราชิกํ. เอตฺถ จ สามิกสฺส ธุรนิกฺเขปวเสเนว ปราชโย เวทิตพฺโพ. อนิกฺขิตฺตธุโร หิ อปราชิโตว โหติ. ธมฺมํ จรนฺโต ปรชฺชตีติ สเจปิ ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน วินิจฺฉยสฺส ปวตฺตตฺตา สยํ ปราชยํ ปาปุณาติ; เอวมฺปิ มุสาวาเทน สามิกานํ ปีฬากรณปจฺจยา ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชตีติ.

อารามฏฺกถา นิฏฺิตา.

วิหารฏฺกถา

๑๐๓. วิหารฏฺเปิ – จตูหิ าเนหิ นิกฺขิตฺตํ วุตฺตนยเมว. อภิโยเคปิ เจตฺถ จาตุทฺทิสํ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ภิกฺขูนํ ทินฺนํ วิหารํ วา ปริเวณํ วา อาวาสํ วา มหนฺตมฺปิ ขุทฺทกมฺปิ อภิยุฺชโต อภิโยโค น รุหติ. อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหิตุมฺปิ น สกฺโกติ. กสฺมา? สพฺเพสํ ธุรนิกฺเขปาภาวโต. น เหตฺถ สพฺเพ จาตุทฺทิสา ภิกฺขู ธุรนิกฺเขปํ กโรนฺตีติ. ทีฆภาณกาทิเภทสฺส ปน คณสฺส เอกปุคฺคลสฺส วา สนฺตกํ อภิยุฺชิตฺวา คณฺหนฺโต สกฺโกติ เต ธุรํ นิกฺขิปาเปตุํ. ตสฺมา ตตฺถ อาราเม วุตฺตนเยน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ.

วิหารฏฺกถา นิฏฺิตา.

เขตฺตฏฺกถา

๑๐๔. เขตฺตฏฺเปิ – เขตฺตํ ตาว ทสฺเสนฺโต ‘‘เขตฺตํ นาม ยตฺถ ปุพฺพณฺณํ วา อปรณฺณํ วา ชายตี’’ติ อาห. ตตฺถ ปุพฺพณฺณนฺติ สาลิอาทีนิ สตฺต ธฺานิ; อปรณฺณนฺติ มุคฺคมาสาทีนิ; อุจฺฉุเขตฺตาทิกมฺปิ เอตฺเถว สงฺคหิตํ. อิธาปิ จตูหิ าเนหิ นิกฺขิตฺตํ วุตฺตนยเมว. ตตฺถชาตเก ปน สาลิสีสาทีนิ นิรุมฺภิตฺวา วา เอกเมกํ หตฺเถเนว ฉินฺทิตฺวา วา อสิเตน ลายิตฺวา วา พหูนิ เอกโต อุปฺปาเฏตฺวา วา คณฺหนฺตสฺส ยสฺมึ พีเช วา สีเส วา มุฏฺิยํ วา มุคฺคมาสาทิผเล วา วตฺถุ ปูรติ, ตสฺมึ พนฺธนา โมจิตมตฺเต ปาราชิกํ. อจฺฉิชฺชมาโน ปน ทณฺฑโก วา วาโก วา ตโจ วา อปฺปมตฺตโกปิ รกฺขติ.

วีหินาฬํ ทีฆมฺปิ โหติ, ยาว อนฺโตนาฬโต วีหิสีสทณฺฑโก น นิกฺขมติ, ตาว รกฺขติ. เกสคฺคมตฺตมฺปิ นาฬโต ทณฺฑกสฺส เหฏฺิมตเล นิกฺขนฺเต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. อสิเตน ลายิตฺวา คณฺหโต ปน มุฏฺิคเตสุ เหฏฺา ฉินฺเนสุปิ สเจ สีสานิ ชฏิตานิ, รกฺขนฺติ ตาว. วิชเฏตฺวา ปน เกสคฺคมตฺตมฺปิ อุกฺขิปโต สเจ วตฺถุ ปูรติ, ปาราชิกํ. สามิเกหิ ปน ลายิตฺวา ปิตํ สภุสํ วา อภุสํ วา กตฺวา คณฺหโต เยน วตฺถุ ปูรติ, ตสฺมึ คหิเต ปาราชิกํ. สเจ ปริกปฺเปติ ‘‘อิทํ มทฺทิตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา สารเมว คณฺหิสฺสามี’’ติ รกฺขติ ตาว. มทฺทนปปฺโผฏเนสุ านา จาเวนฺตสฺสาปิ ปาราชิกํ นตฺถิ, ปจฺฉา ภาชนคเต กตมตฺเต ปาราชิกํ. อภิโยโค ปเนตฺถ วุตฺตนโย เอว.

ขีลสงฺกมนาทีสุ ปถวี นาม อนคฺฆา. ตสฺมา สเจ เอเกเนว ขีเลน อิโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ ปถวิปฺปเทสํ สามิกานํ ปสฺสนฺตานํ วา อปสฺสนฺตานํ วา อตฺตโน สนฺตกํ กโรติ, ตสฺมึ ขีเล นามํ ฉินฺทิตฺวา วา อจฺฉินฺทิตฺวา วา สงฺกามิตมตฺเต ตสฺส จ, เย จสฺส เอกจฺฉนฺทา, สพฺเพสํ ปาราชิกํ. สเจ ปน ทฺวีหิ ขีเลหิ คเหตพฺพํ โหติ, ปเม ขีเล ถุลฺลจฺจยํ; ทุติเย ปาราชิกํ. สเจ ตีหิ คเหตพฺพํ โหติ, ปเม ทุกฺกฏํ, ทุติเย ถุลฺลจฺจยํ, ตติเย ปาราชิกํ. เอวํ พหุเกสุปิ อวสาเน ทฺเว เปตฺวา ปุริเมหิ ทุกฺกฏํ, อวสาเน ทฺวินฺนํ เอเกน ถุลฺลจฺจยํ, อิตเรน ปาราชิกํ เวทิตพฺพํ. ตฺจ โข สามิกานํ ธุรนิกฺเขเปน. เอวํ สพฺพตฺถ.

รชฺชุํ วาติ ‘‘มม สนฺตกํ อิท’’นฺติ าเปตุกาโม รชฺชุํ วา ปสาเรติ, ยฏฺึ วา ปาเตติ, ทุกฺกฏํ. ‘‘อิทานิ ทฺวีหิ ปโยเคหิ อตฺตโน สนฺตกํ กริสฺสามี’’ติ เตสํ ปเม ถุลฺลจฺจยํ, ทุติเย ปาราชิกํ.

วตึ วาติ ปรสฺส เขตฺตํ ปริกฺเขปวเสน อตฺตโน กาตุกาโม ทารูนิ นิขณติ, ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. เอกสฺมึ อนาคเต ถุลฺลจฺจยํ, ตสฺมึ อาคเต ปาราชิกํ. สเจ ตตฺตเกน อสกฺโกนฺโต สาขาปริวาเรเนว อตฺตโน กาตุํ สกฺโกติ, สาขาปาตเนปิ เอเสว นโย. เอวํ เยน เยน ปริกฺขิปิตฺวา อตฺตโน กาตุํ สกฺโกติ, ตตฺถ ตตฺถ ปมปโยเคหิ ทุกฺกฏํ. อวสาเน ทฺวินฺนํ เอเกน ถุลฺลจฺจยํ, อิตเรน ปาราชิกํ เวทิตพฺพํ.

มริยาทํ วาติ ปรสฺส เขตฺตํ ‘‘มม อิท’’นฺติ าเปตุกาโม อตฺตโน เขตฺตมริยาทํ

เกทารปาฬึ ยถา ปรสฺส เขตฺตํ อติกฺกมติ, เอวํ สงฺกาเมติ, ปํสุมตฺติกาทีหิ วา วฑฺเฒตฺวา วิตฺถตํ กโรติ, อกตํ วา ปน ปติฏฺาเปติ, ปุริมปโยเคหิ ทุกฺกฏํ. ทฺวินฺนํ ปจฺฉิมานํ เอเกน ถุลฺลจฺจยํ, อิตเรน ปาราชิกนฺติ.

เขตฺตฏฺกถา นิฏฺิตา.

วตฺถุฏฺกถา

๑๐๕. วตฺถุฏฺเปิ – วตฺถุํ ตาว ทสฺเสนฺโต วตฺถุ นาม ‘‘อารามวตฺถุ วิหารวตฺถู’’ติ อาห. ตตฺถ พีชํ วา อุปโรปเก วา อโรเปตฺวาว เกวลํ ภูมึ โสเธตฺวา ติณฺณํ ปาการานํ เยน เกนจิ ปริกฺขิปิตฺวา วา อปริกฺขิปิตฺวา วา ปุปฺผารามาทีนํ อตฺถาย ปิโต ภูมิภาโค อารามวตฺถุ นาม. เอเตเนว นเยน เอกวิหารปริเวณอาวาสานํ อตฺถาย ปิโต ภูมิภาโค วิหารวตฺถุ นาม. โยปิ ปุพฺเพ อาราโม จ วิหาโร จ หุตฺวา ปจฺฉา วินสฺสิตฺวา ภูมิมตฺโต ิโต, อารามวิหารกิจฺจํ น กโรติ, โสปิ อารามวิหารวตฺถุสงฺคเหเนว สงฺคหิโต. วินิจฺฉโย ปเนตฺถ เขตฺตฏฺเ วุตฺตสทิโสเยวาติ.

วตฺถุฏฺกถา นิฏฺิตา.

๑๐๖. คามฏฺเ ยํ วตฺตพฺพํ ตํ วุตฺตเมว.

อรฺฏฺกถา

๑๐๗. อรฺฏฺเ – อรฺํ ตาว ทสฺเสนฺโต ‘‘อรฺํ นาม ยํ มนุสฺสานํ ปริคฺคหิตํ โหติ, ตํ อรฺ’’นฺติ อาห. ตตฺถ ยสฺมา อรฺํ นาม มนุสฺสานํ ปริคฺคหิตมฺปิ อตฺถิ, อปริคฺคหิตมฺปิ; อิธ ปน ยํ ปริคฺคหิตํ สารกฺขํ, ยโต น วินา มูเลน กฏฺลตาทีนิ คเหตุํ ลพฺภนฺติ, ตํ อธิปฺเปตํ. ตสฺมา ‘‘ยํ มนุสฺสานํ ปริคฺคหิตํ โหตี’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘อรฺ’’นฺติ วุตฺตํ. เตน อิมมตฺถํ ทสฺเสติ – ‘‘น ปริคฺคหิตภาโว อรฺสฺส ลกฺขณํ. ยํ ปน อตฺตโน อรฺลกฺขเณน อรฺํ มนุสฺสานฺจ ปริคฺคหิตํ, ตํ อิมสฺมึ อตฺเถ อรฺ’’นฺติ. ตตฺถ วินิจฺฉโย อารามฏฺาทีสุ วุตฺตสทิโส.

ตตฺถชาตเกสุ ปเนตฺถ เอกสฺมิมฺปิ มหคฺฆรุกฺเข ฉินฺนมตฺเต ปาราชิกํ. ลตํ วาติ เอตฺถ จ เวตฺโตปิ ลตาปิ ลตา เอว; ตตฺถ โย เวตฺโต วา ลตา วา ทีฆา โหติ, มหารุกฺเข จ คจฺเฉ จ วินิวิชฺฌิตฺวา วา เวเตฺวา วา คตา, สา มูเล ฉินฺนาปิ อวหารํ น ชเนติ อคฺเค ฉินฺนาปิ, ยทา ปน อคฺเคปิ มูเลปิ ฉินฺนา โหติ, ตทา อวหารํ ชเนติ. สเจ ปน เวเตฺวา ิตา โหติ, เวเตฺวา ิตา ปน รุกฺขโต โมจิตมตฺตา อวหารํ ชเนติ.

ติณํ วาติ เอตฺถ ติณํ วา โหตุ ปณฺณํ วา, สพฺพํ ติณคฺคหเณเนว คหิตํ; ตํ เคหจฺฉทนาทีนมตฺถาย ปเรหิ ฉินฺนํ วา อตฺตนา ฉินฺทิตฺวา วา คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. น เกวลฺจ ติณปณฺณเมว, อฺมฺปิ ยํกิฺจิ วากฉลฺลิ อาทิ, ยตฺถ สามิกา สาลยา, ตํ คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. ตจฺเฉตฺวา ปิโต อทฺธคโตปิ รุกฺโข น คเหตพฺโพ. โย ปน อคฺเค จ มูเล จ ฉินฺโน โหติ, สาขาปิสฺส ปูติกา ชาตา, ฉลฺลิโยปิ คฬิตา, ‘‘อยํ สามิเกหิ ฉฑฺฑิโต’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ. ลกฺขณจฺฉินฺนสฺสาปิ ยทา ลกฺขณํ ฉลฺลิยา ปริโยนทฺธํ โหติ, ตทา คเหตุํ วฏฺฏติ. เคหาทีนํ อตฺถาย รุกฺเข ฉินฺทิตฺวา ยทา ตานิ กตานิ อชฺฌาวุตฺถานิ จ โหนฺติ, ทารูนิปิ อรฺเ วสฺเสน จ อาตเปน จ วินสฺสนฺติ, อีทิสานิปิ ทิสฺวา ‘‘ฉฑฺฑิตานี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ. กสฺมา? ยสฺมา อรฺสามิกา เอเตสํ อนิสฺสรา. เยหิ อรฺสามิกานํ เทยฺยธมฺมํ ทตฺวา ฉินฺนานิ, เต เอว อิสฺสรา, เตหิ จ ตานิ ฉฑฺฑิตานิ, นิราลยา ตตฺถ ชาตาติ.

โยปิ ภิกฺขุ ปมํเยว อรฺปาลานํ เทยฺยธมฺมํ ทตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา ยถารุจิเต รุกฺเข คาหาเปติ, ตสฺส เตสํ อารกฺขฏฺานํ อคนฺตฺวาปิ ยถารุจิเตน มคฺเคน คนฺตุํ วฏฺฏติ. อถาปิ ปวิสนฺโต อทตฺวา ‘‘นิกฺขมนฺโต ทสฺสามี’’ติ รุกฺเข คาหาเปตฺวา นิกฺขมนฺโต เตสํ ทาตพฺพํ ทตฺวา คจฺฉติ, วฏฺฏติ เอว. อถาปิ อาโภคํ กตฺวา คจฺฉติ ‘‘เทหี’’ติ วุตฺเต ‘‘ทสฺสามี’’ติ, ‘‘เทหี’’ติ วุตฺเต ทาตพฺพเมว. สเจ โกจิ อตฺตโน ธนํ ทตฺวา ‘‘ภิกฺขุสฺส คนฺตุํ เทถา’’ติ วทติ, ลทฺธกปฺปเมว, คนฺตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน โกจิ อิสฺสรชาติโก ธนํ อทตฺวาว ‘‘ภิกฺขูนํ ภาคํ มา คณฺหถา’’ติ วาเรติ, อรฺปาลา จ ‘‘มยํ ภิกฺขูนํ ตาปสานฺจ ภาคํ อคณฺหนฺตา กุโต ลจฺฉาม, เทถ, ภนฺเต’’ติ วทนฺติ, ทาตพฺพเมว.

โย ปน อรฺปาเลสุ นิทฺทายนฺเตสุ วา กีฬาปสุเตสุ วา กตฺถจิ ปกฺกนฺเตสุ วา อาคนฺตฺวา ‘‘กุหึ อรฺปาลา’’ติ ปกฺโกสิตฺวาปิ อทิสฺวา คจฺฉติ, ภณฺฑเทยฺยํ. โยปิ อารกฺขฏฺานํ ปตฺวา กมฺมฏฺานาทีนิ มนสิกโรนฺโต วา อฺวิหิโต วา อสฺสติยา อติกฺกมติ, ภณฺฑเทยฺยเมว. ยสฺสาปิ ตํ านํ ปตฺตสฺส โจโร วา หตฺถี วา วาฬมิโค วา มหาเมโฆ วา วุฏฺหติ, โส จ ตมฺหา อุปทฺทวา มุจฺจิตุกมฺยตาย สหสา ตํ านํ อติกฺกมติ, รกฺขติ ตาว, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหติ. อิทํ ปน อรฺเ อารกฺขฏฺานํ นาม สุงฺกฆาตโตปิ ครุกตรํ. สุงฺกฆาตสฺส หิ ปริจฺเฉทํ อโนกฺกมิตฺวา ทูรโตว ปริหรนฺโต ทุกฺกฏเมว อาปชฺชติ. อิทํ ปน เถยฺยจิตฺเตน ปริหรนฺตสฺส อากาเสน คจฺฉโตปิ ปาราชิกเมว. ตสฺมา เอตฺถ อปฺปมตฺเตน ภวิตพฺพนฺติ.

อรฺฏฺกถา นิฏฺิตา.

อุทกกถา

๑๐๘. อุทเก ปน – ภาชนคตนฺติ อุทกทุลฺลภกาเล อุทกมณิกาทีสุ ภาชเนสุ สงฺโคเปตฺวา ปิตํ; ตํ ยสฺมึ ภาชเน ปิตํ โหติ, ตํ ภาชนํ อาวิฺฉิตฺวา วา ฉิทฺทํ กตฺวา วา ตตฺถ โปกฺขรณีตฬาเกสุ จ อตฺตโน ภาชนํ ปเวเสตฺวา คณฺหนฺตสฺส สปฺปิเตเลสุ วุตฺตนเยน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

มริยาทจฺเฉทเน ปน ตตฺถ ชาตกภูตคาเมน สทฺธิมฺปิ มริยาทํ ฉินฺทนฺตสฺส อทินฺนาทานปโยคตฺตา ทุกฺกฏํ. ตฺจ ปน ปหาเร ปหาเร โหติ. อนฺโตตฺวา พหิมุโข ฉินฺทนฺโต พหิ อนฺเตน กาเรตพฺโพ. พหิ ตฺวา อนฺโตมุโข ฉินฺทนฺโต อนฺโตอนฺเตน กาเรตพฺโพ. อนฺโต จ พหิ จ ฉินฺทิตฺวา มชฺเฌ เปตฺวา ตํ ฉินฺทนฺโต มชฺเฌน กาเรตพฺโพ. มริยาทํ ทุพฺพลํ กตฺวา คาโว ปกฺโกสติ, คามทารเกหิ วา ปกฺโกสาเปติ, ตา อาคนฺตฺวา ขุเรหิ มริยาทํ ฉินฺทนฺติ, เตเนว ฉินฺนา โหติ. มริยาทํ ทุพฺพลํ กตฺวา คาโว อุทเก ปเวเสติ, คามทารเกหิ วา ปเวสาเปติ, ตาหิ อุฏฺาปิตวีจิโย มริยาทํ ภินฺทิตฺวา คจฺฉนฺติ. คามทารเก วา ‘‘อุทเก กีฬถา’’ติ วทติ, กีฬนฺเต วา อุตฺราเสติ, เตหิ อุฏฺาปิตวีจิโยปิ มริยาทํ ฉินฺทิตฺวา คจฺฉนฺติ. อนฺโตอุทเก ชาตรุกฺขํ ฉินฺทติ, อฺเน วา ฉินฺทาเปติ, เตนปิ ปตนฺเตน อุฏฺาปิตวีจิโย มริยาทํ ฉินฺทิตฺวา คจฺฉนฺติ, เตเนว ฉินฺนา โหติ. มริยาทํ ทุพฺพลํ กตฺวา ตฬากรกฺขณตฺถาย ตฬากโต นิพฺพหนอุทกํ วา นิทฺธมนตุมฺพํ วา ปิทหติ, อฺโต คจฺฉนฺตํ วา อุทกํ ยถา เอตฺถ ปวิสติ, เอวํ ปาฬึ วา พนฺธติ, มาติกํ วา อุชุกํ กโรติ, ตสฺส อุปริภาเค ิตํ อตฺตโน ตฬากํ วา ภินฺทติ, อุสฺสนฺนํ อุทกํ มริยาทํ คเหตฺวา คจฺฉติ, เตเนว ฉินฺนา โหติ. สพฺพตฺถ นิกฺขนฺตอุทกคฺฆานุรูเปน อวหาเรน กาเรตพฺโพ.

นิทฺธมนปนาฬึ อุคฺฆาเฏตฺวา นีหรนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. สเจ ปน เตน มริยาทาย ทุพฺพลาย กตาย อตฺตโน ธมฺมตาย อาคนฺตฺวา วา อนาณตฺเตหิ คามทารเกหิ อาโรปิตา วา คาวิโย ขุเรหิ มริยาทํ ภินฺทนฺติ, อตฺตโนเยว ธมฺมตาย อนาณตฺเตหิ วา คามทารเกหิ อุทเก ปเวสิตา วีจิโย อุฏฺาเปนฺติ, คามทารกา วา สยเมว ปวิสิตฺวา กีฬนฺตา อุฏฺาเปนฺติ อนฺโตอุทเก วา รุกฺโข อฺเน ฉิชฺชมาโน ปติตฺวา อุฏฺาเปติ, อุฏฺาปิตา วีจิโย มริยาทํ ฉินฺทนฺติ, สเจปิ มริยาทํ ทุพฺพลํ กตฺวา สุกฺขตฬากสฺส อุทกนิพฺพหนฏฺานํ วา อุทกนิทฺธมนตุมฺพํ วา ปิทหติ, อฺโต คมนมคฺเค วา ปาฬึ พนฺธติ, สุกฺขมาติกํ วา อุชุกํ กโรติ, ปจฺฉา เทเว วุฏฺเ อุทกํ อาคนฺตฺวา มริยาทํ ภินฺทติ, สพฺพตฺถ ภณฺฑเทยฺยํ.

โย ปน นิทาเฆ สุกฺขวาปิยา มริยาทํ ยาว ตลํ ปาเปตฺวา ฉินฺทติ, ปจฺฉา เทเว วุฏฺเ อาคตาคตํ อุทกํ ปลายติ, ภณฺฑเทยฺยํ. ยตฺตกํ ตปฺปจฺจยา สสฺสํ อุปฺปชฺชติ, ตโต ปาทมตฺตคฺฆนกมฺปิ อเทนฺโต สามิกานํ ธุรนิกฺเขเปน อสฺสมโณ โหติ.

ยํ ปน สพฺพสาธารณํ ตฬากํ โหติ; ตฬาเก อุทกสฺส สพฺเพปิ มนุสฺสา อิสฺสรา. เหฏฺโต ปนสฺส สสฺสานิ กโรนฺติ, สสฺสปาลนตฺถํ ตฬากโต มหามาติกา นิกฺขมิตฺวา เขตฺตมชฺเฌน ยาติ, สาปิ สทา สนฺทนกาเล สพฺพสาธารณา. ตโต ปน ขุทฺทกมาติกา นีหริตฺวา อตฺตโน อตฺตโน เกทาเรสุ อุทกํ ปเวเสนฺติ. ตํ อฺเสํ คเหตุํ น เทนฺติ. นิทาฆสมเยว อุทเก มนฺทีภูเต วาเรน อุทกํ เทนฺติ, โย อุทกวาเร สมฺปตฺเต น ลภติ, ตสฺส สสฺสานิ มิลายนฺติ; ตสฺมา อฺเสํ วาเร อฺโ คเหตุํ น ลภติ. ตตฺถ โย ภิกฺขุ ปเรสํ ขุทฺทกมาติกาโต วา เกทารโต วา อุทกํ เถยฺยจิตฺเตน อตฺตโน วา ปรสฺส วา มาติกํ วา เกทารํ วา ปเวเสติ, อฏวิมุขํ วา วาเหติ, อวหาโร วสฺส โหติ.

โยปิ ‘‘จิเรน เม อุทกวาโร ภวิสฺสติ, อิทฺจ สสฺสํ มิลายตี’’ติ ปเรสํ เกทาเร

ปวิสนฺตสฺส อุทกสฺส ปวิสนมคฺคํ ปิทหิตฺวา อตฺตโน เกทารํ ปเวเสติ, อวหาโร เอว. สเจ ปน ตฬากโต อนิคฺคเต ปเรสํ มาติกามุขํ อสมฺปตฺเตว อุทเก สุกฺขมาติกํเยว ยถา อาคจฺฉนฺตํ อุทกํ อฺเสํ เกทาเร อปฺปวิสิตฺวา อตฺตโนเยว เกทารํ ปวิสติ, เอวํ ตตฺถ ตตฺถ พนฺธติ. อนิกฺขนฺเต พทฺธา สุพทฺธา, นิกฺขนฺเต พทฺธา, ภณฺฑเทยฺยํ. ตฬากํ คนฺตฺวา สยเมว นิทฺธมนปนาฬึ อุคฺฆาเฏตฺวา อตฺตโน เกทารํ ปเวเสนฺตสฺสาปิ นตฺถิ อวหาโร. กสฺมา? ตฬากํ นิสฺสาย เขตฺตสฺส กตตฺตา. กุรุนฺทิยาทีสุ ปน ‘‘อวหาโร’’ติ วุตฺตํ. ตํ ‘‘วตฺถุํ กาลฺจ เทสฺจา’’ติ อิมินา ลกฺขเณน น สเมติ. ตสฺมา มหาอฏฺกถายํ วุตฺตเมว ยุตฺตนฺติ.

อุทกกถา นิฏฺิตา.

ทนฺตโปนกถา

๑๐๙. ทนฺตโปณํ อารามฏฺกวินิจฺฉเยน วินิจฺฉินิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – โย สงฺฆสฺส เวตนภโต หุตฺวา เทวสิกํ วา ปกฺขมาสวาเรน วา ทนฺตกฏฺํ อาหรติ, โส ตํ อาหริตฺวา ฉินฺทิตฺวาปิ ยาว ภิกฺขุสงฺฆํ น สมฺปฏิจฺฉาเปติ, ตาว ตสฺเสว โหติ. ตสฺมา ตํ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. ตตฺถชาตกํ ปน ครุภณฺฑํ, ตมฺปิ ภิกฺขุสงฺเฆน รกฺขิตโคปิตํ คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. เอเสว นโย คณปุคฺคลคิหิมนุสฺสสนฺตเกปิ ฉินฺนเก อจฺฉินฺนเก จ. เตสํ อารามุยฺยานภูมีสุ ชาตํ สามเณรา วาเรน ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทนฺตกฏฺํ อาหรนฺตา อาจริยุปชฺฌายานมฺปิ อาหรนฺติ, ตํ ยาว ฉินฺทิตฺวา สงฺฆํ น ปฏิจฺฉาเปนฺติ, ตาว สพฺพํ เตสํเยว โหติ. ตสฺมา ตมฺปิ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. ยทา ปน เต ฉินฺทิตฺวา สงฺฆสฺส ปฏิจฺฉาเปตฺวา ทนฺตกฏฺมาฬเก นิกฺขิปนฺติ, ‘‘ยถาสุขํ ภิกฺขุสงฺโฆ ปริภุฺชตู’’ติ; ตโต ปฏฺาย อวหาโร นตฺถิ, วตฺตํ ปน ชานิตพฺพํ. โย หิ เทวสิกํ สงฺฆมชฺเฌ โอสรติ, เตน ทิวเส ทิวเส เอกเมว ทนฺตกฏฺํ คเหตพฺพํ. โย ปน เทวสิกํ น โอสรติ, ปธานฆเร วสิตฺวา ธมฺมสวเน วา อุโปสถคฺเค วา ทิสฺสติ, เตน ปมาณํ สลฺลกฺเขตฺวา จตฺตาริ ปฺจทนฺตกฏฺานิ อตฺตโน วสนฏฺาเน เปตฺวา ขาทิตพฺพานิ. เตสุ ขีเณสุ สเจ ปุนปิ ทนฺตกฏฺมาฬเก พหูนิ โหนฺติเยว, ปุนปิ อาหริตฺวา ขาทิตพฺพานิ. ยทิ ปน ปมาณํ อสลฺลกฺเขตฺวา อาหรติ, เตสุ อกฺขีเณสุเยว มาฬเก ขียนฺติ, ตโต เกจิ เถรา ‘‘เยหิ คหิตานิ, เต ปฏิอาหรนฺตู’’ติ วเทยฺยุํ, เกจิ ‘‘ขาทนฺตุ, ปุน สามเณรา อาหริสฺสนฺตี’’ติ, ตสฺมา วิวาทปริหรณตฺถํ ปมาณํ สลฺลกฺเขตพฺพํ. คหเณ ปน โทโส นตฺถิ. มคฺคํ คจฺฉนฺเตนาปิ เอกํ วา ทฺเว วา ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา คนฺตพฺพนฺติ.

ทนฺตโปนกถา นิฏฺิตา.

วนปฺปติกถา

๑๑๐. วนสฺส ปตีติ วนปฺปติ; วนเชฏฺกรุกฺขสฺเสตํ อธิวจนํ. อิธ ปน สพฺโพปิ มนุสฺเสหิ ปริคฺคหิตรุกฺโข อธิปฺเปโต อมฺพลพุชปนสาทิโก. ยตฺถ วา ปน มริจวลฺลิอาทีนิ อาโรเปนฺติ, โส ฉิชฺชมาโน สเจ เอกายปิ ฉลฺลิยา วา วาเกน วา สกลิกาย วา เผคฺคุนา วา สมฺพทฺโธว หุตฺวา ภูมิยํ ปตติ, รกฺขติ ตาว.

โย ปน ฉินฺโนปิ วลฺลีหิ วา สามนฺตรุกฺขสาขาหิ วา สมฺพทฺโธ สนฺธาริตตฺตา อุชุกเมว ติฏฺติ, ปตนฺโต วา ภูมึ น ปาปุณาติ, นตฺถิ ตตฺถ ปริหาโร, อวหาโร เอว โหติ. โยปิ กกเจน ฉินฺโน อจฺฉินฺโน วิย หุตฺวา ตเถว ติฏฺติ, ตสฺมิมฺปิ เอเสว นโย.

โย ปน รุกฺขํ ทุพฺพลํ กตฺวา ปจฺฉา จาเลตฺวา ปาเตติ, อฺเน วา จาลาเปติ; อฺํ วาสฺส สนฺติเก รุกฺขํ ฉินฺทิตฺวา อชฺโฌตฺถรติ, ปเรน วา อชฺโฌตฺถราเปติ; มกฺกเฏ วา ปริปาเตตฺวา ตตฺถ อาโรเปติ, อฺเน วา อาโรปาเปติ; วคฺคุลิโย วา ตตฺถ อาโรเปติ, ปเรน วา อาโรปาเปติ; ตา ตํ รุกฺขํ ปาเตนฺติ, ตสฺเสว อวหาโร.

สเจ ปน เตน รุกฺเข ทุพฺพเล กเต อฺโ อนาณตฺโต เอว ตํ จาเลตฺวา ปาเตติ,

รุกฺเขน วา อชฺโฌตฺถรติ, อตฺตโน ธมฺมตาย มกฺกฏา วา วคฺคุลิโย วา อาโรหนฺติ, ปโร วา อนาณตฺโต อาโรเปติ, สยํ วา เอส วาตมุขํ โสเธติ, พลววาโต อาคนฺตฺวา รุกฺขํ ปาเตติ; สพฺพตฺถ ภณฺฑเทยฺยํ. วาตมุขโสธนํ ปเนตฺถ อสมฺปตฺเต วาเต สุกฺขมาติกาย อุชุกรณาทีหิ สเมติ, โน อฺถา. รุกฺขํ อาวิชฺฌิตฺวา สตฺเถน วา อาโกเฏติ, อคฺคึ วา เทติ, มณฺฑุกกณฺฏกํ วา วิสํ วา อาโกเฏติ, เยน โส มรติ, สพฺพตฺถ ภณฺฑเทยฺยเมวาติ.

วนปฺปติกถา นิฏฺิตา.

หรณกกถา

๑๑๑. หรณเก อฺสฺส หรณกํ ภณฺฑํ เถยฺยจิตฺโต อามสตีติ ปรํ สีสภาราทีหิ ภณฺฑํ อาทาย คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘เอตํ หริสฺสามี’’ติ เวเคน คนฺตฺวา อามสติ, เอตฺตาวตา อสฺส ทุกฺกฏํ. ผนฺทาเปตีติ อากฑฺฒนวิกฑฺฒนํ กโรติ, สามิโก น มุฺจติ, เตนสฺส ถุลฺลจฺจยํ. านา จาเวตีติ อากฑฺฒิตฺวา สามิกสฺส หตฺถโต โมเจติ, เตนสฺส ปาราชิกํ. สเจ ปน ตํ ภณฺฑสามิโก อุฏฺหิตฺวา โปเถตฺวา ปุน ตํ ภณฺฑํ โมจาเปตฺวา คณฺเหยฺย, ภิกฺขุ ปมคฺคหเณเนว ปาราชิโก. สีสโต วา กณฺณโต วา คีวโต วา หตฺถโต วา อลงฺการํ ฉินฺทิตฺวา วา โมเจตฺวา วา คณฺหนฺตสฺส สีสาทีหิ โมจิตมตฺเต ปาราชิกํ. หตฺเถ ปน วลยํ วา กฏกํ วา อนีหริตฺวา อคฺคพาหํ ฆํสนฺโตว อปราปรํ วา สาเรติ, อากาสคตํ วา กโรติ, รกฺขติ ตาว. รุกฺขมูลจีวรวํเสสุ วลยมิว น ปาราชิกํ ชเนติ. กสฺมา? สวิฺาณกตฺตา. สวิฺาณกโกฏฺาสคตฺหิ ยาว ตโต น นีหฏํ, ตาว ตตฺเถว โหติ. เอเสว นโย องฺคุลิมุทฺทิกปาทกฏกกฏูปคปิฬนฺธเนสุ.

โย ปน ปรสฺส นิวตฺถสาฏกํ อจฺฉินฺทติ, ปโร จ สลชฺชิตาย สหสา น มุฺจติ, เอเกนนฺเตน โจโร กฑฺฒติ, เอเกนนฺเตน ปโร, รกฺขติ ตาว. ปรสฺส หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกํ. อถาปิ ตํ กฑฺฒนฺตสฺส ฉิชฺชิตฺวา เอกเทโส หตฺถคโต โหติ, โส จ ปาทํ อคฺฆติ ปาราชิกเมว. สหภณฺฑหารกนฺติ ‘‘สภณฺฑหารกํ ภณฺฑํ เนสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘อิโต ยาหี’’ติ ภณฺฑหารกํ ตชฺเชติ, โส ภีโต โจเรน อธิปฺเปตทิสาภิมุโข หุตฺวา เอกํ ปาทํ สงฺกาเมติ, โจรสฺส ถุลฺลจฺจยํ; ทุติเย ปาราชิกํ. ปาตาเปตีติ อถาปิ โจโร ภณฺฑหารกสฺส หตฺเถ อาวุธํ ทิสฺวา สาสงฺโก หุตฺวา ปาตาเปตฺวา คเหตุกาโม เอกมนฺตํ ปฏิกฺกมฺม สนฺตชฺเชตฺวา ปาตาเปติ, ปรสฺส หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกํ.

ปาตาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติอาทิ ปน ปริกปฺปวเสน วุตฺตํ. โย หิ ภณฺฑํ ปาตาเปตฺวา ‘‘ยํ มม รุจฺจติ, ตํ คเหสฺสามี’’ติ ปริกปฺเปตฺวา ปาตาเปติ, ตสฺส ปาตาปเน จ อามสเน จ ทุกฺกฏํ, ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยํ. ปาทคฺฆนกสฺส านา จาวเน ปาราชิกํ. ตํ ปจฺฉา ปฏิปาติยมานสฺส มุฺจโตปิ นตฺถิเยว สมณภาโว. โยปิ ภณฺฑหารกํ อติกฺกมนฺตํ ทิสฺวา อนุพนฺธนฺโต ‘‘ติฏฺ, ติฏฺ, ภณฺฑํ ปาเตหี’’ติ วตฺวา ปาตาเปติ, ตสฺสาปิ เตน หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกํ.

โย ปน ‘‘ติฏฺ ติฏฺา’’ติ วทติ, ‘‘ปาเตหี’’ติ น วทติ; อิตโร จ ตํ โอโลเกตฺวา ‘‘สเจ เอส มํ ปาปุเณยฺย, ฆาเตยฺยาปิ ม’’ นฺติ สาลโยว หุตฺวา ตํ ภณฺฑํ คหนฏฺาเน ปกฺขิปิตฺวา ‘‘ปุน นิวตฺติตฺวา คเหสฺสามี’’ติ ปกฺกมติ, ปาตนปจฺจยา ปาราชิกํ นตฺถิ. อาคนฺตฺวา ปน เถยฺยจิตฺเตน คณฺหโต อุทฺธาเร ปาราชิกํ. อถ ปนสฺส เอวํ โหติ – ‘‘มยา ปาตาเปนฺเตเนว อิทํ มม สนฺตกํ กต’’นฺติ ตโต นํ สกสฺาย คณฺหาติ; คหเณ รกฺขติ, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหติ. ‘‘เทหี’’ติ วุตฺเต อเทนฺตสฺส สามิกานํ ธุรนิกฺเขเป ปาราชิกํ. ‘‘โส อิมํ ฉฑฺเฑตฺวา คโต, อนชฺฌาวุตฺถกํ ทานิ อิท’’นฺติ ปํสุกูลสฺาย คณฺหโตปิ เอเสว นโย. อถ ปน สามิโก ‘‘ติฏฺ ติฏฺา’’ติ วุตฺตมตฺเตเนว โอโลเกนฺโต ตํ ทิสฺวา ‘‘น ทานิ อิทํ มยฺห’’นฺติ ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา นิราลโย ฉฑฺเฑตฺวา ปลายติ, ตํ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหโต อุทฺธาเร ทุกฺกฏํ. อาหราเปนฺเต ทาตพฺพํ, อเทนฺตสฺส ปาราชิกํ. กสฺมา? ตสฺส ปโยเคน ฉฑฺฑิตตฺตาติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. อฺเสุ ปน วิจารณา เอว นตฺถิ. ปุริมนเยเนว สกสฺาย วา ปํสุกูลสฺาย วา คณฺหนฺเตปิ อยเมว วินิจฺฉโยติ.

หรณกกถา นิฏฺิตา.

อุปนิธิกถา

๑๑๒. อุปนิธิมฺหิ – นาหํ คณฺหามีติ สมฺปชานมุสาวาเทปิ อทินฺนาทานสฺส ปโยคตฺตา ทุกฺกฏํ. ‘‘กึ ตุมฺเห ภณถ? เนวิทํ มยฺหํ อนุรูปํ, น ตุมฺหาก’’นฺติอาทีนิ วทนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว. ‘‘รโห มยา เอตสฺส หตฺเถ ปิตํ, น อฺโ โกจิ ชานาติ, ‘ทสฺสติ นุ โข เม โน’’’ติ สามิโก วิมตึ อุปฺปาเทติ, ภิกฺขุสฺส ถุลฺลจฺจยํ. ตสฺส ผรุสาทิภาวํ ทิสฺวา สามิโก ‘‘น มยฺหํ ทสฺสตี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, ตตฺร สจายํ ภิกฺขุ ‘‘กิลเมตฺวา นํ ทสฺสามี’’ติ ทาเน สอุสฺสาโห, รกฺขติ ตาว. สเจปิ โส ทาเน นิรุสฺสาโห, ภณฺฑสฺสามิโก ปน คหเณ สอุสฺสาโห, รกฺขเตว. ยทิ ปน โส ทาเน นิรุสฺสาโห ภณฺฑสามิโกปิ ‘‘น มยฺหํ ทสฺสตี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, เอวํ อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเปน ภิกฺขุโน ปาราชิกํ. ยทิปิ มุเขน ‘‘ทสฺสามี’’ติ วทติ, จิตฺเตน ปน อทาตุกาโม, เอวมฺปิ สามิกสฺส ธุรนิกฺเขเป ปาราชิกํ. ตํ ปน อุปนิธิ นาม สงฺโคปนตฺถาย อตฺตโน หตฺเถ ปเรหิ ปิตภณฺฑํ, อคุตฺตเทสโต านา จาเวตฺวา คุตฺตฏฺาเน ปนตฺถาย หรโต อนาปตฺติ. เถยฺยจิตฺเตนปิ านา จาเวนฺตสฺส อวหาโร นตฺถิ. กสฺมา? อตฺตโน หตฺเถ นิกฺขิตฺตตฺตา, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหติ. เถยฺยจิตฺเตน ปริภุฺชโตปิ เอเสว นโย. ตาวกาลิกคฺคหเณปิ ตเถว. ธมฺมํ จรนฺโตติอาทิ วุตฺตนยเมว. อยํ ตาว ปาฬิวณฺณนา.

ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย ปเนตฺถ ปตฺตจตุกฺกาทิวเสน เอวํ วุตฺโต – เอโก กิร ภิกฺขุ ปรสฺส มหคฺเฆ ปตฺเต โลภํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ หริตุกาโม ปิตฏฺานมสฺส สุฏฺุ สลฺลกฺเขตฺวา อตฺตโนปิ ปตฺตํ ตสฺเสว สนฺติเก เปสิ. โส ปจฺจูสสมเย อาคนฺตฺวา ธมฺมํ วาจาเปตฺวา นิทฺทายมานํ มหาเถรมาห – ‘‘วนฺทามิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘โก เอโส’’ติ? ‘‘อหํ, ภนฺเต, อาคนฺตุกภิกฺขุ, กาลสฺเสวมฺหิ คนฺตุกาโม, อสุกสฺมิฺจ เม าเน อีทิเสน นาม อํสพทฺธเกน อีทิสาย ปตฺตตฺถวิกาย ปตฺโต ปิโต. สาธาหํ, ภนฺเต, ตํ ลเภยฺย’’นฺติ เถโร ปวิสิตฺวา ตํ คณฺหิ. อุทฺธาเรเยว โจรสฺส ปาราชิกํ. สเจ อาคนฺตฺวา ‘‘โกสิ ตฺวํ อเวลาย อาคโต’’ติ วุตฺโต ภีโต ปลายติ, ปาราชิกํ ปตฺวาว ปลายติ. เถรสฺส ปน สุทฺธจิตฺตตฺตา อนาปตฺติ. เถโร ‘‘ตํ คณฺหิสฺสามี’’ติ อฺํ คณฺหิ, เอเสว นโย. อยํ ปน อฺํ ตาทิสเมว คณฺหนฺเต ยุชฺชติ, มนุสฺสวิคฺคเห อาณตฺตสทิสวตฺถุสฺมึ วิย. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ปทวาเรน กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ, ตํ อตาทิสเมว คณฺหนฺเต ยุชฺชติ.

ตํ มฺมาโน อตฺตโน ปตฺตํ คณฺหิตฺวา อทาสิ, โจรสฺส สามิเกน ทินฺนตฺตา ปาราชิกํ นตฺถิ, อสุทฺธจิตฺเตน ปน คหิตตฺตา ทุกฺกฏํ. ตํ มฺมาโน โจรสฺเสว ปตฺตํ คณฺหิตฺวา อทาสิ, อิธาปิ โจรสฺส อตฺตโน สนฺตกตฺตา ปาราชิกํ นตฺถิ, อสุทฺธจิตฺเตน ปน คหิตตฺตา ทุกฺกฏเมว. สพฺพตฺถ เถรสฺส อนาปตฺติ.

อปโร ‘‘ปตฺตํ โจเรสฺสามี’’ติ ตเถว นิทฺทายมานํ เถรํ วนฺทิ. ‘‘โก อย’’นฺติ จ วุตฺเต ‘อหํ, ภนฺเต, คิลานภิกฺขุ, เอกํ ตาว เม ปตฺตํ เทถ, คามทฺวารํ คนฺตฺวา เภสชฺชํ อาหริสฺสามี’’ติ. เถโร ‘‘อิธ คิลาโน นตฺถิ, โจโร อยํ ภวิสฺสตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘อิมํ หรตู’’ติ อตฺตโน เวริภิกฺขุสฺส ปตฺตํ นีหริตฺวา อทาสิ, ทฺวินฺนมฺปิ อุทฺธาเรเยว ปาราชิกํ. ‘‘เวริภิกฺขุสฺส ปตฺโต’’ติ สฺาย อฺสฺส ปตฺตํ อุทฺธรนฺเตปิ เอเสว นโย. สเจ ปน ‘‘เวริสฺสาย’’นฺติ สฺาย โจรสฺเสว ปตฺตํ อุทฺธริตฺวา เทติ, วุตฺตนเยเนว เถรสฺส ปาราชิกํ, โจรสฺส ทุกฺกฏํ. อถ ‘‘เวริสฺสาย’’นฺติ มฺมาโน อตฺตโน ปตฺตํ เทติ, วุตฺตนเยเนว อุภินฺนมฺปิ ทุกฺกฏํ.

เอโก มหาเถโร อุปฏฺากํ ทหรภิกฺขุํ ‘‘ปตฺตจีวรํ คณฺห, อสุกํ นาม คามํ คนฺตฺวา ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติ อาห. ทหโร คเหตฺวา เถรสฺส ปจฺฉโต ปจฺฉโต คจฺฉนฺโต เถยฺยจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา สเจ สีเส ภารํ ขนฺเธ กโรติ, ปาราชิกํ นตฺถิ. กสฺมา? อาณตฺติยา คหิตตฺตา. สเจ ปน มคฺคโต โอกฺกมฺม อฏวึ ปวิสติ, ปทวาเรน กาเรตพฺโพ. อถ นิวตฺติตฺวา วิหาราภิมุโข ปลายิตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา คจฺฉติ, อุปจาราติกฺกเม ปาราชิกํ. อถาปิ มหาเถรสฺส นิวาสนปริวตฺตนฏฺานโต คามาภิมุโข ปลายติ, คามูปจาราติกฺกเม ปาราชิกํ. ยทิ ปน อุโภปิ ปิณฺฑาย จริตฺวา ภุฺชิตฺวา วา คเหตฺวา วา นิกฺขมนฺติ, เถโร จ ปุนปิ ตํ วทติ – ‘‘ปตฺตจีวรํ คณฺห, วิหารํ คมิสฺสามา’’ติ. ตตฺร เจ โส ปุริมนเยเนว เถยฺยจิตฺเตน สีเส ภารํ ขนฺเธ กโรติ, รกฺขติ ตาว. อฏวึ ปวิสติ, ปทวาเรน กาเรตพฺโพ. นิวตฺติตฺวา คามาภิมุโข เอว ปลายติ, คามูปจาราติกฺกเม ปาราชิกํ. ปุรโต วิหาราภิมุโข ปลายิตฺวา วิหาเร อฏฺตฺวา อนิสีทิตฺวา อวูปสนฺเตเนว เถยฺยจิตฺเตน คจฺฉติ, อุปจาราติกฺกเม ปาราชิกํ. โย ปน อนาณตฺโต คณฺหาติ, ตสฺส สีเส ภารํ ขนฺเธ กรณาทีสุปิ ปาราชิกํ. เสสํ ปุริมสทิสเมว.

โย ปน ‘‘อสุกํ นาม วิหารํ คนฺตฺวา จีวรํ โธวิตฺวา รชิตฺวา วา เอหี’’ติ วุตฺโต ‘‘สาธู’’ติ คเหตฺวา คจฺฉติ, ตสฺสปิ อนฺตรามคฺเค เถยฺยจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา สีเส ภารํ ขนฺเธ กรณาทีสุ ปาราชิกํ นตฺถิ. มคฺคา โอกฺกมเน ปทวาเรน กาเรตพฺโพ. ตํ วิหารํ คนฺตฺวา ตตฺเถว วสนฺโต เถยฺยจิตฺเตน ปริภุฺชนฺโต ชีราเปติ, โจรา วา ตสฺส ตํ หรนฺติ, อวหาโร นตฺถิ, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหติ. ตโต นิกฺขมิตฺวา อาคจฺฉโตปิ เอเสว นโย.

โย ปน อนาณตฺโต เถเรน นิมิตฺเต วา กเต สยเมว วา กิลิฏฺํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘เทถ, ภนฺเต, จีวรํ; อสุกํ นาม คามํ คนฺตฺวา รชิตฺวา อาหริสฺสามี’’ติ คเหตฺวา คจฺฉติ; ตสฺส อนฺตรามคฺเค เถยฺยจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา สีเส ภารํ ขนฺเธ กรณาทีสุ ปาราชิกํ. กสฺมา? อนาณตฺติยา คหิตตฺตา. มคฺคา โอกฺกมโตปิ ปฏินิวตฺติตฺวา ตเมว วิหารํ อาคนฺตฺวา วิหารสีมํ อติกฺกมโตปิ วุตฺตนเยเนว ปาราชิกํ. ตตฺถ คนฺตฺวา รชิตฺวา ปจฺจาคจฺฉโตปิ เถยฺยจิตฺเต อุปฺปนฺเน เอเสว นโย. สเจ ปน ยตฺถ คโต, ตตฺถ วา อนฺตรามคฺเค วิหาเร วา ตเมว วิหารํ ปจฺจาคนฺตฺวา ตสฺส เอกปสฺเส วา อุปจารสีมํ อนติกฺกมิตฺวา วสนฺโต เถยฺยจิตฺเตน ปริภุฺชนฺโต ชีราเปติ, โจรา วา ตสฺส ตํ หรนฺติ, ยถา วา ตถา วา นสฺสติ, ภณฺฑเทยฺยํ. อุปจารสีมํ อติกฺกมโต ปน ปาราชิกํ.

โย ปน เถเรน นิมิตฺเต กยิรมาเน ‘‘เทถ, ภนฺเต, อหํ รชิตฺวา อาหริสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘กตฺถ คนฺตฺวา, ภนฺเต, รชามี’’ติ ปุจฺฉติ. เถโร จ นํ ‘‘ยตฺถ อิจฺฉสิ, ตตฺถ คนฺตฺวา รชาหี’’ติ วทติ, อยํ ‘‘วิสฺสฏฺทูโต’’ นาม. เถยฺยจิตฺเตน ปลายนฺโตปิ น อวหาเรน กาเรตพฺโพ. เถยฺยจิตฺเตน ปน ปลายโตปิ ปริโภเคน วา อฺถา วา นาสยโตปิ ภณฺฑเทยฺยเมว โหติ. ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ กิฺจิ ปริกฺขารํ ปหิณติ – ‘‘อสุกวิหาเร อสุกภิกฺขุสฺส เทหี’’ติ, ตสฺส เถยฺยจิตฺเต อุปฺปนฺเน สพฺพฏฺาเนสุ ‘‘อสุกํ นาม วิหารํ คนฺตฺวา จีวรํ โธวิตฺวา รชิตฺวา วา เอหี’’ติ เอตฺถ วุตฺตสทิโส วินิจฺฉโย.

อปโร ภิกฺขุํ ปหิณิตุกาโม นิมิตฺตํ กโรติ – ‘‘โก นุ โข คเหตฺวา คมิสฺสตี’’ติ, ตตฺร เจ เอโก – ‘‘เทถ, ภนฺเต, อหํ คเหตฺวา คมิสฺสามี’’ติ คเหตฺวา คจฺฉติ, ตสฺส เถยฺยจิตฺเต อุปฺปนฺเน สพฺพฏฺาเนสุ ‘‘เทถ, ภนฺเต, จีวรํ, อสุกํ นาม คามํ คนฺตฺวา รชิตฺวา อาหริสฺสามี’’ติ เอตฺถ วุตฺตสทิโส วินิจฺฉโย. เถเรน จีวรตฺถาย วตฺถํ ลภิตฺวา อุปฏฺากกุเล ปิตํ โหติ. อถสฺส อนฺเตวาสิโก วตฺถํ หริตุกาโม ตตฺร คนฺตฺวา ‘‘ตํ กิร วตฺถํ เทถา’’ติ เถเรน เปสิโต วิย วทติ; ตสฺส วจนํ สทฺทหิตฺวา อุปาสเกน ปิตํ อุปาสิกา วา, อุปาสิกาย ปิตํ อุปาสโก วา อฺโ วา, โกจิ นีหริตฺวา เทติ, อุทฺธาเรเยวสฺส ปาราชิกํ. สเจ ปน เถรสฺส อุปฏฺาเกหิ ‘‘อิมํ เถรสฺส ทสฺสามา’’ติ อตฺตโน วตฺถํ ปิตํ โหติ. อถสฺส อนฺเตวาสิโก ตํ หริตุกาโม ตตฺถ คนฺตฺวา ‘‘เถรสฺส กิร วตฺถํ ทาตุกามตฺถ, ตํ เทถา’’ติ วทติ. เต จสฺส สทฺทหิตฺวา ‘‘มยํ, ภนฺเต, โภเชตฺวา ทสฺสามาติ ปยิมฺห, หนฺท คณฺหาหี’’ติ เทนฺติ. สามิเกหิ ทินฺนตฺตา ปาราชิกํ นตฺถิ, อสุทฺธจิตฺเตน ปน คหิตตฺตา ทุกฺกฏํ, ภณฺฑเทยฺยฺจ โหติ.

ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส วตฺวา คามํ คจฺฉติ, ‘‘อิตฺถนฺนาโม มม วสฺสาวาสิกํ ทสฺสติ, ตํ คเหตฺวา เปยฺยาสี’’ติ. ‘‘สาธู’’ติ โส ภิกฺขุ เตน ทินฺนํ มหคฺฆสาฏกํ อตฺตนา ลทฺเธน อปฺปคฺฆสาฏเกน สทฺธึ เปตฺวา เตน อาคเตน อตฺตโน มหคฺฆสาฏกสฺส ลทฺธภาวํ ตฺวา วา อตฺวา วา ‘‘เทหิ เม วสฺสาวาสิก’’นฺติ วุตฺโต ‘‘ตว ถูลสาฏโก ลทฺโธ, มยฺหํ ปน สาฏโก มหคฺโฆ, ทฺเวปิ อสุกสฺมึ นาม โอกาเส ปิตา, ปวิสิตฺวา คณฺหาหี’’ติ วทติ. เตน ปวิสิตฺวา ถูลสาฏเก คหิเต อิตรสฺส อิตรํ คณฺหโต อุทฺธาเร ปาราชิกํ. อถาปิ ตสฺส สาฏเก อตฺตโน นามํ อตฺตโน จ สาฏเก ตสฺส นามํ ลิขิตฺวา ‘‘คจฺฉ นามํ วาเจตฺวา คณฺหาหี’’ติ วทติ, ตตฺราปิ เอเสว นโย. โย ปน อตฺตนา จ เตน จ ลทฺธสาฏเก เอกโต เปตฺวา ตํ เอวํ วทติ – ‘‘ตยา จ มยา จ ลทฺธสาฏกา ทฺเวปิ อนฺโตคพฺเภ ปิตา, คจฺฉ ยํ อิจฺฉสิ, ตํ วิจินิตฺวา คณฺหาหี’’ติ. โส จ ลชฺชาย อาวาสิเกน ลทฺธํ ถูลสาฏกเมว คณฺเหยฺย, ตตฺราวาสิกสฺส วิจินิตฺวา คหิตาวเสสํ อิตรํ คณฺหโต อนาปตฺติ. อาคนฺตุโก ภิกฺขุ อาวาสิกานํ จีวรกมฺมํ กโรนฺตานํ สมีเป ปตฺตจีวรํ เปตฺวา ‘‘เอเต สงฺโคเปสฺสนฺตี’’ติ มฺมาโน นฺหายิตุํ วา อฺตฺร วา คจฺฉติ. สเจ นํ อาวาสิกา สงฺโคเปนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ, นฏฺเ คีวา น โหติ. สเจปิ โส ‘‘อิทํ, ภนฺเต, เปถา’’ติ วตฺวา คจฺฉติ, อิตเร จ สกิจฺจปฺปสุตตฺตา น ชานนฺติ, เอเสว นโย. อถาปิ เต ‘‘อิทํ, ภนฺเต, เปถา’’ติ วุตฺตา ‘‘มยํ พฺยาวฏา’’ติ ปฏิกฺขิปนฺติ, อิตโร จ ‘‘อวสฺสํ เปสฺสนฺตี’’ติ อนาทิยิตฺวา คจฺฉติ, เอเสว นโย. สเจ ปน เตน ยาจิตา วา อยาจิตา วา ‘‘มยํ เปสฺสาม, ตฺวํ คจฺฉา’’ติ วทนฺติ; ตํ สงฺโคปิตพฺพํ. โน เจ สงฺโคเปนฺติ, นฏฺเ คีวา. กสฺมา? สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา.

โย ภิกฺขุ ภณฺฑาคาริโก หุตฺวา ปจฺจูสสมเย เอว ภิกฺขูนํ ปตฺตจีวรานิ เหฏฺาปาสาทํ โอโรเปตฺวา ทฺวารํ อปิทหิตฺวา เตสมฺปิ อนาโรเจตฺวาว ทูเร ภิกฺขาจารํ คจฺฉติ; ตานิ เจ โจรา หรนฺติ, ตสฺเสว คีวา. โย ปน ภิกฺขูหิ ‘‘โอโรเปถ, ภนฺเต, ปตฺตจีวรานิ; กาโล สลากคฺคหณสฺสา’’ติ วุตฺโต ‘‘สมาคตตฺถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, สมาคตมฺหา’’ติ วุตฺเต ปตฺตจีวรานิ นีหริตฺวา นิกฺขิปิตฺวา ภณฺฑาคารทฺวารํ พนฺธิตฺวา ‘‘ตุมฺเห ปตฺตจีวรานิ คเหตฺวา เหฏฺาปาสาททฺวารํ ปฏิชคฺคิตฺวา คจฺเฉยฺยาถา’’ติ วตฺวา คจฺฉติ. ตตฺร เจโก อลสชาติโก ภิกฺขุ ภิกฺขูสุ คเตสุ ปจฺฉา อกฺขีนิ ปุฺฉนฺโต อุฏฺหิตฺวา อุทกฏฺานํ มุขโธวนตฺถํ คจฺฉติ, ตํ ขณํ ทิสฺวา โจรา ตสฺส ปตฺตจีวรํ หรนฺติ, สุหฏํ. ภณฺฑาคาริกสฺส คีวา น โหติ.

สเจปิ โกจิ ภณฺฑาคาริกสฺส อนาโรเจตฺวาว ภณฺฑาคาเร อตฺตโน ปริกฺขารํ เปติ, ตสฺมิมฺปิ นฏฺเ ภณฺฑาคาริกสฺส คีวา น โหติ. สเจ ปน ภณฺฑาคาริโก ตํ ทิสฺวา ‘‘อฏฺาเน ปิต’’นฺติ คเหตฺวา เปติ, นฏฺเ ตสฺส คีวา. สเจปิ ปิตภิกฺขุนา ‘‘มยา, ภนฺเต, อีทิโส นาม ปริกฺขาโร ปิโต, อุปธาเรยฺยาถา’’ติ วุตฺโต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, ทุนฺนิกฺขิตฺตํ วา มฺมาโน อฺสฺมึ าเน เปติ, ตสฺเสว คีวา. ‘‘นาหํ ชานามี’’ติ ปฏิกฺขิปนฺตสฺส ปน นตฺถิ คีวา. โยปิ ตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว เปติ, ภณฺฑาคาริกฺจ น สมฺปฏิจฺฉาเปติ, นฏฺํ สุนฏฺเมว. สเจ ตํ ภณฺฑาคาริโก อฺตฺร เปติ, นฏฺเ คีวา. สเจ ภณฺฑาคารํ สุคุตฺตํ, สพฺโพ สงฺฆสฺส จ เจติยสฺส จ ปริกฺขาโร ตตฺเถว ปียติ, ภณฺฑาคาริโก จ พาโล อพฺยตฺโต ทฺวารํ วิวริตฺวา ธมฺมกถํ วา โสตุํ, อฺํ วา กิฺจิ กาตุํ กตฺถจิ คจฺฉติ, ตํ ขณํ ทิสฺวา ยตฺตกํ โจรา หรนฺติ, สพฺพํ ตสฺส คีวา. ภณฺฑาคารโต นิกฺขมิตฺวา พหิ จงฺกมนฺตสฺส วา ทฺวารํ วิวริตฺวา สรีรํ อุตุํ คาหาเปนฺตสฺส วา ตตฺเถว สมณธมฺมานุโยเคน นิสินฺนสฺส วา ตตฺเถว นิสีทิตฺวา เกนจิ กมฺเมน พฺยาวฏสฺส วา อุจฺจารปสฺสาวปีฬิตสฺสาปิ ตโต ตตฺเถว อุปจาเร วิชฺชมาเน พหิ คจฺฉโต วา อฺเน วา เกนจิ อากาเรน ปมตฺตสฺส สโต ทฺวารํ วิวริตฺวา วา วิวฏเมว ปวิสิตฺวา วา สนฺธึ ฉินฺทิตฺวา วา ยตฺตกํ ตสฺส ปมาทปจฺจยา โจรา หรนฺติ, สพฺพํ ตสฺเสว คีวา. อุณฺหสมเย ปน วาตปานํ วิวริตฺวา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. อุจฺจารปีฬิตสฺส ปน ตสฺมึ อุปจาเร อสติ อฺตฺถ คจฺฉนฺตสฺส คิลานปกฺเข ิตตฺตา อวิสโย; ตสฺมา คีวา น โหติ.

โย ปน อนฺโต อุณฺหปีฬิโต ทฺวารํ สุคุตฺตํ กตฺวา พหิ นิกฺขมติ, โจรา จ นํ คเหตฺวา ‘‘ทฺวารํ วิวรา’’ติ วทนฺติ, ยาว ตติยํ น วิวริตพฺพํ. ยทิ ปน เต โจรา ‘‘สเจ น วิวรสิ, ตฺจ มาเรสฺสาม, ทฺวารฺจ ภินฺทิตฺวา ปริกฺขารํ หริสฺสามา’’ติ ผรสุอาทีนิ อุกฺขิปนฺติ. ‘‘มยิ จ มเต สงฺฆสฺส จ เสนาสเน วินฏฺเ คุโณ นตฺถี’’ติ วิวริตุํ วฏฺฏติ. อิธาปิ อวิสยตฺตา คีวา นตฺถีติ วทนฺติ. สเจ โกจิ อาคนฺตุโก กุฺจิกํ วา เทติ, ทฺวารํ วา วิวรติ, ยตฺตกํ โจรา หรนฺติ, สพฺพํ ตสฺส คีวา. สงฺเฆน ภณฺฑาคารคุตฺตตฺถาย สูจิยนฺตกฺจ กุฺจิกมุทฺทิกา จ โยเชตฺวา ทินฺนา โหติ, ภณฺฑาคาริโก ฆฏิกมตฺตํ ทตฺวา นิปชฺชติ, โจรา วิวริตฺวา ปริกฺขารํ หรนฺติ, ตสฺเสว คีวา. สูจิยนฺตกฺจ กุฺจิกมุทฺทิกฺจ โยเชตฺวา นิปนฺนํ ปเนตํ สเจ โจรา อาคนฺตฺวา ‘‘วิวรา’’ติ วทนฺติ, ตตฺถ ปุริมนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ. เอวํ คุตฺตํ กตฺวา นิปนฺเน ปน สเจ ภิตฺตึ วา ฉทนํ วา ภินฺทิตฺวา อุมงฺเคน วา ปวิสิตฺวา หรนฺติ, น ตสฺส คีวา. สเจ ภณฺฑาคาเร อฺเปิ เถรา วสนฺติ, วิวเฏ ทฺวาเร อตฺตโน อตฺตโน ปริกฺขารํ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, ภณฺฑาคาริโก เตสุ คเตสุ ทฺวารํ น ชคฺคติ, สเจ ตตฺถ กิฺจิ อวหรียติ, ภณฺฑาคาริกสฺส อิสฺสรตาย ภณฺฑาคาริกสฺเสว คีวา. เถเรหิ ปน สหาเยหิ ภวิตพฺพํ. อยํ ตตฺถ สามีจิ.

ยทิ ภณฺฑาคาริโก ‘‘ตุมฺเห พหิ ตฺวาว ตุมฺหากํ ปริกฺขารํ คณฺหถ, มา ปวิสิตฺถา’’ติ วทติ, เตสฺจ เอโก โลลมหาเถโร สามเณเรหิ เจว อุปฏฺาเกหิ จ สทฺธึ ภณฺฑาคารํ ปวิสิตฺวา นิสีทติ เจว นิปชฺชติ จ, ยตฺตกํ ภณฺฑํ นสฺสติ, สพฺพํ ตสฺส คีวา. ภณฺฑาคาริเกน ปน อวเสสตฺเถเรหิ จ สหาเยหิ ภวิตพฺพํ. อถ ภณฺฑาคาริโกว โลลสามเณเร จ อุปฏฺาเก จ คเหตฺวา ภณฺฑาคาเร นิสีทติ เจว นิปชฺชติ จ, ยํ ตตฺถ นสฺสติ, สพฺพํ ตสฺเสว คีวา. ตสฺมา ภณฺฑาคาริเกเนว ตตฺถ วสิตพฺพํ. อวเสเสหิ อปฺเปว รุกฺขมูเล วสิตพฺพํ, น จ ภณฺฑาคาเรติ.

เย ปน อตฺตโน อตฺตโน สภาคภิกฺขูนํ วสนคพฺเภสุ ปริกฺขารํ เปนฺติ, ปริกฺขาเร นฏฺเ เยหิ ปิโต, เตสํเยว คีวา. อิตเรหิ ปน สหาเยหิ ภวิตพฺพํ. ยทิ ปน สงฺโฆ ภณฺฑาคาริกสฺส วิหาเรเยว ยาคุภตฺตํ ทาเปติ, โส จ ภิกฺขาจารตฺถาย คามํ คจฺฉติ, นฏฺํ ตสฺเสว คีวา. ภิกฺขาจารํ ปวิสนฺเตหิ อติเรกจีวรรกฺขณตฺถาย ปิตวิหารวาริกสฺสาปิ ยาคุภตฺตํ วา นิวาปํ วา ลภมานสฺเสว ภิกฺขาจารํ คจฺฉโต ยํ ตตฺถ นสฺสติ, สพฺพํ คีวา. น เกวลฺจ เอตฺตกเมว, ภณฺฑาคาริกสฺส วิย ยํ ตสฺส ปมาทปฺปจฺจยา นสฺสติ, สพฺพํ คีวา.

สเจ วิหาโร มหา โหติ, อฺํ ปเทสํ รกฺขิตุํ คจฺฉนฺตสฺส อฺสฺมึ ปเทเส นิกฺขิตฺตํ หรนฺติ, อวิสยตฺตา คีวา น โหติ. อีทิเส ปน วิหาเร เวมชฺเฌ สพฺเพสํ โอสรณฏฺาเน ปริกฺขาเร เปตฺวา นิสีทิตพฺพํ. วิหารวาริกา วา ทฺเว ตโย เปตพฺพา. สเจ เตสํ อปฺปมตฺตานํ อิโต จิโต จ รกฺขตํเยว กิฺจิ นสฺสติ, คีวา น โหติ. วิหารวาริเก พนฺธิตฺวา หริตภณฺฑมฺปิ โจรานํ ปฏิปถํ คเตสุ อฺเน มคฺเคน หริตภณฺฑมฺปิ น เตสํ คีวา. สเจ วิหารวาริกานํ วิหาเร ทาตพฺพํ ยาคุภตฺตํ วา นิวาโป วา น โหติ, เตหิ ปตฺตพฺพลาภโต อติเรกา ทฺเว ติสฺโส ยาคุสลากา, เตสํ ปโหนกภตฺตสลากา จ เปตุํ วฏฺฏติ. นิพทฺธํ กตฺวา ปน น เปตพฺพา, มนุสฺสา หิ วิปฺปฏิสาริโน โหนฺติ, ‘‘วิหารวาริกาเยว อมฺหากํ ภตฺตํ ภุฺชนฺตี’’ติ. ตสฺมา ปริวตฺเตตฺวา เปตพฺพา. สเจ เตสํ สภาคา สลากภตฺตานิ อาหริตฺวา เทนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ; โน เจ เทนฺติ, วารํ คาหาเปตฺวา นีหราเปตพฺพานิ. สเจ วิหารวาริโก ทฺเว ติสฺโส ยาคุสลากา, จตฺตาริ ปฺจ สลากภตฺตานิ จ ลภมาโนว ภิกฺขาจารํ คจฺฉติ, ภณฺฑาคาริกสฺส วิย สพฺพํ นฏฺํ คีวา โหติ. สเจ สงฺฆสฺส วิหารปาลานํ ทาตพฺพํ ภตฺตํ วา นิวาโป วา นตฺถิ, ภิกฺขู วิหารวารํ คเหตฺวา อตฺตโน อตฺตโน นิสฺสิตเก ชคฺเคนฺติ, สมฺปตฺตวารํ อคฺคเหตุํ น ลภนฺติ, ยถา อฺเ ภิกฺขู กโรนฺติ, ตเถว กาตพฺพํ. ภิกฺขูหิ ปน อสหายกสฺส วา อตฺตทุติยสฺส วา ยสฺส สภาโค ภิกฺขุ ภตฺตํ อาเนตฺวา ทาตา นตฺถิ, เอวรูปสฺส วาโร น ปาเปตพฺโพ.

ยมฺปิ ปากวตฺตตฺถาย วิหาเร เปนฺติ, ตํ คเหตฺวา อุปชีวนฺเตน าตพฺพํ. โย ตํ น อุปชีวติ, โส วารํ น คาหาเปตพฺโพ. ผลาผลตฺถายปิ วิหาเร ภิกฺขุํ เปนฺติ, ชคฺคิตฺวา โคเปตฺวา ผลวาเรน ภาเชตฺวา ขาทนฺติ. โย ตานิ ขาทติ, เตน าตพฺพํ. อนุปชีวนฺโต น คาหาเปตพฺโพ. เสนาสนมฺจปีปจฺจตฺถรณรกฺขณตฺถายปิ เปนฺติ, อาวาเส วสนฺเตน าตพฺพํ. อพฺโภกาสิโก ปน รุกฺขมูลิโก วา น คาหาเปตพฺโพ.

เอโก นวโก โหติ, พหุสฺสุโต ปน พหูนํ ธมฺมํ วาเจติ, ปริปุจฺฉํ เทติ, ปาฬึ วณฺเณติ, ธมฺมกถํ กเถติ, สงฺฆสฺส ภารํ นิตฺถรติ, อยํ ลาภํ ปริภุฺชนฺโตปิ อาวาเส วสนฺโตปิ วารํ น คาเหตพฺโพ. ‘‘ปุริสวิเสโส นาม าตพฺโพ’’ติ วทนฺติ.

อุโปสถาคารปฏิมาฆรชคฺคกสฺส ปน ทิคุณํ ยาคุภตฺตํ เทวสิกํ ตณฺฑุลนาฬิ สํวจฺฉเร ติจีวรํ, ทสวีสคฺฆนกํ กปฺปิยภณฺฑฺจ ทาตพฺพํ. สเจ ปน ตสฺส ตํ ลภมานสฺเสว ปมาเทน ตตฺถ กิฺจิ นสฺสติ, สพฺพํ คีวา. พนฺธิตฺวา พลกฺกาเรน อจฺฉินฺนํ ปน น คีวา. ตตฺถ เจติยสฺส วา สงฺฆสฺส วา สนฺตเกน เจติยสฺส สนฺตกํ รกฺขาเปตุํ วฏฺฏติ. เจติยสฺส สนฺตเกน สงฺฆสฺส สนฺตกํ รกฺขาเปตุํ น วฏฺฏติ. ยํ ปน เจติยสฺส สนฺตเกน สทฺธึ สงฺฆสฺส สนฺตกํ ปิตํ โหติ, ตํ เจติยสนฺตเก รกฺขาปิเต รกฺขิตเมว โหตีติ เอวํ วฏฺฏติ. ปกฺขวาเรน อุโปสถาคาราทีนิ รกฺขโตปิ ปมาทวเสน นฏฺํ คีวาเยวาติ.

อุปนิธิกถา นิฏฺิตา.

สุงฺกฆาตกถา

๑๑๓. สุงฺกํ ตโต หนนฺตีติ สุงฺกฆาตํ; สุงฺกฏฺานสฺเสตํ อธิวจนํ. ตฺหิ ยสฺมา ตโต สุงฺการหํ ภณฺฑํ สุงฺกํ อทตฺวา นีหรนฺตา รฺโ สุงฺกํ หนนฺติ วินาเสนฺติ, ตสฺมา สุงฺกฆาตนฺติ วุตฺตํ. ตตฺร ปวิสิตฺวาติ ตตฺร ปพฺพตขณฺฑาทีสุ รฺา ปริจฺเฉทํ กตฺวา ปิเต สุงฺกฏฺาเน ปวิสิตฺวา. ราชคฺคํ ภณฺฑนฺติ ราชารหํ ภณฺฑํ; ยโต รฺโ ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ สุงฺกํ ทาตพฺพํ โหติ, ตํ ภณฺฑนฺติ อตฺโถ. ราชกนฺติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ. เถยฺยจิตฺโตติ ‘‘อิโต รฺโ สุงฺกํ น ทสฺสามี’’ติ เถยฺยจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ ภณฺฑํ อามสติ, ทุกฺกฏํ. ปิตฏฺานโต คเหตฺวา ถวิกาย วา ปกฺขิปติ, ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน วา อูรุนา สทฺธึ พนฺธติ, ถุลฺลจฺจยํ. สุงฺกฏฺาเนน ปริจฺฉินฺนตฺตา านาจาวนํ น โหติ. สุงฺกฏฺานปริจฺเฉทํ ทุติยํ ปาทํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ.

พหิสุงฺกฆาตํ ปาเตตีติ ราชปุริสานํ อฺวิหิตภาวํ ปสฺสิตฺวา อนฺโต ิโตว พหิ ปตนตฺถาย ขิปติ. ตฺเจ อวสฺสํ ปตนกํ, หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกํ. ตฺเจ รุกฺเข วา ขาณุมฺหิ วา ปฏิหตํ พลววาตเวคุกฺขิตฺตํ วา หุตฺวา ปุน อนฺโตเยว ปตติ, รกฺขติ. ปุน คณฺหิตฺวา ขิปติ, ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ปาราชิกํ. ภูมิยํ ปติตฺวา วฏฺฏนฺตํ ปุน อนฺโต ปวิสติ, ปาราชิกเมว. กุรุนฺทีสงฺเขปฏฺกถาสุ ปน ‘‘สเจ พหิ ปติตํ ตฺวา วฏฺฏนฺตํ ปวิสติ, ปาราชิกํ. สเจ อติฏฺมานํเยว วฏฺฏิตฺวา ปวิสติ รกฺขตี’’ติ วุตฺตํ.

อนฺโต ตฺวา หตฺเถน วา ปาเทน วา ยฏฺิยา วา วฏฺเฏติ, อฺเน วา วฏฺฏาเปติ, สเจ อฏฺตฺวา วฏฺฏมานํ คตํ, ปาราชิกํ. อนฺโต ตฺวา พหิ คจฺฉนฺตํ รกฺขติ, ‘‘วฏฺฏิตฺวา คมิสฺสตี’’ติ วา ‘‘อฺโ นํ วฏฺเฏสฺสตี’’ติ วา อนฺโต ปิตํ ปจฺฉา สยํ วา วฏฺฏมานํ อฺเน วา วฏฺฏิตํ พหิ คจฺฉติ, รกฺขติเยว. สุทฺธจิตฺเตน ปิเต ปน ตถา คจฺฉนฺเต วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ทฺเว ปุฏเก เอกาพทฺเธ กตฺวา สุงฺกฏฺานสีมนฺตเร เปติ, กิฺจาปิ พหิปุฏเก สุงฺกํ ปาทํ อคฺฆติ, เตน สทฺธึ เอกาพทฺธตาย ปน อนฺโต ปุฏโก รกฺขติ. สเจ ปน ปริวตฺเตตฺวา อพฺภนฺตริมํ พหิ เปติ, ปาราชิกํ. กาเชปิ เอกพทฺธํ กตฺวา ปิเต เอเสว นโย. สเจ ปน อพนฺธิตฺวา กาชโกฏิยํ ปิตมตฺตเมว โหติ, ปาราชิกํ.

คจฺฉนฺเต ยาเน วา อสฺสปิฏฺิอาทีสุ วา เปติ ‘‘พหิ นีหริสฺสตี’’ติ นีหเฏปิ อวหาโร นตฺถิ, ภณฺฑเทยฺยมฺปิ น โหติ. กสฺมา? ‘‘อตฺร ปวิฏฺสฺส สุงฺกํ คณฺหนฺตู’’ติ วุตฺตตฺตา อิทฺจ สุงฺกฏฺานสฺส พหิ ิตํ, น จ เตน นีตํ, ตสฺมา เนว ภณฺฑเทยฺยํ น ปาราชิกํ.

ิตยานาทีสุ ปิเต วินา ตสฺส ปโยคํ คเตสุ เถยฺยจิตฺเตปิ สติ เนวตฺถิ อวหาโร. ยทิ ปน เปตฺวา ยานาทีนิ ปาเชนฺโต อติกฺกาเมติ, หตฺถิสุตฺตาทีสุ วา กตปริจยตฺตา ปุรโต ตฺวา ‘‘เอหิ, เร’’ติ ปกฺโกสติ, สีมาติกฺกเม ปาราชิกํ. เอฬกโลมสิกฺขาปเท อิมสฺมึ าเน อฺํ หราเปติ, อนาปตฺติ, อิธ ปาราชิกํ. ตตฺร อฺสฺส ยาเน วา ภณฺเฑ วา อชานนฺตสฺส ปกฺขิปิตฺวา ติโยชนํ อติกฺกาเมติ, นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺตีติ ปาจิตฺติยํ. อิธ อนาปตฺติ.

สุงฺกฏฺาเน สุงฺกํ ทตฺวาว คนฺตุํ วฏฺฏติ. เอโก อาโภคํ กตฺวา คจฺฉติ ‘‘สเจ ‘สุงฺกํ เทหี’ติ วกฺขนฺติ, ทสฺสามิ; โน เจ วกฺขนฺติ, คมิสฺสามี’’ติ. ตํ ทิสฺวา เอโก สุงฺกิโก ‘‘เอโส ภิกฺขุ คจฺฉติ, คณฺหถ นํ สุงฺก’’นฺติ วทติ, อปโร ‘‘กุโต ปพฺพชิตสฺส สุงฺกํ, คจฺฉตู’’ติ วทติ, ลทฺธกปฺปํ โหติ, คนฺตพฺพํ. ‘‘ภิกฺขูนํ สุงฺกํ อทตฺวา คนฺตุํ น วฏฺฏติ, คณฺห อุปาสกา’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘ภิกฺขุสฺส สุงฺกํ คณฺหนฺเตหิ ปตฺตจีวรํ คเหตพฺพํ ภวิสฺสติ, กึ เตน, คจฺฉตู’’ติ วุตฺเตปิ ลทฺธกปฺปเมว. สเจปิ สุงฺกิกา นิทฺทายนฺติ วา, ชูตํ วา กีฬนฺติ, ยตฺถ กตฺถจิ วา คตา, อยฺจ ‘‘กุหึ สุงฺกิกา’’ติ ปกฺโกสิตฺวาปิ น ปสฺสติ, ลทฺธกปฺปเมว. สเจปิ สุงฺกฏฺานํ ปตฺวา อฺวิหิโต, กิฺจิ จินฺเตนฺโต วา สชฺฌายนฺโต วา มนสิการํ อนุยุฺชนฺโต วา โจรหตฺถิสีหพฺยคฺฆาทีหิ สหสา วุฏฺาย สมนุพทฺโธ วา, มหาเมฆํ อุฏฺิตํ ทิสฺวา ปุรโต สาลํ ปวิสิตุกาโม วา หุตฺวา ตํ านํ อติกฺกมติ, ลทฺธกปฺปเมว.

สุงฺกํ ปริหรตีติ เอตฺถ อุปจารํ โอกฺกมิตฺวา กิฺจาปิ ปริหรติ, อวหาโรเยวาติ

กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํปน ‘‘‘ปริหรนฺตํ ราชปุริสา วิเหเนฺตี’ติ เกวลํ อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา อุปจารํ โอกฺกมิตฺวา ปริหรโต ทุกฺกฏํ, อโนกฺกมิตฺวา ปริหรโต อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. อิทํ ปาฬิยา สเมติ. เอตฺถ ทฺวีหิ เลฑฺฑุปาเตหิ อุปจาโร ปริจฺฉินฺทิตพฺโพติ.

สุงฺกฆาตกถา นิฏฺิตา.

ปาณกถา

๑๑๔. อิโต ปรสฺมึ เอกํเสน อวหารปฺปโหนกปาณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มนุสฺสปาโณ’’ติ อาห. ตมฺปิ ภุชิสฺสํ หรนฺตสฺส อวหาโร นตฺถิ. โยปิ ภุชิสฺโส มาตรา วา ปิตรา วา อาปิโต โหติ, อตฺตนา วา อตฺตโน อุปริ กตฺวา ปฺาสํ วา สฏฺึ วา อคฺคเหสิ, ตมฺปิ หรนฺตสฺส อวหาโร นตฺถิ; ธนํ ปน คตฏฺาเน วฑฺฒติ. อนฺโตชาตก-ธนกฺกีต-กรมรานีตปฺปเภทํ ปน ทาสํเยว หรนฺตสฺส อวหาโร โหติ. ตเมว หิ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ – ‘‘ปาโณ นาม มนุสฺสปาโณ วุจฺจตี’’ติ. เอตฺถ จ เคหทาสิยา กุจฺฉิมฺหิ ทาสสฺส ชาโต อนฺโตชาตโก, ธเนน กีโต ธนกฺกีโต, ปรเทสโต ปหริตฺวา อาเนตฺวา ทาสพฺยํ อุปคมิโต กรมรานีโตติ เวทิตพฺโพ. เอวรูปํ ปาณํ ‘‘หริสฺสามี’’ติ อามสติ, ทุกฺกฏํ. หตฺเถ วา ปาเท วา คเหตฺวา อุกฺขิปนฺโต ผนฺทาเปติ, ถุลฺลจฺจยํ. อุกฺขิปิตฺวา ปลายิตุกาโม เกสคฺคมตฺตมฺปิ ิตฏฺานโต อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. เกเสสุ วา หตฺเถสุ วา คเหตฺวา กฑฺฒติ, ปทวาเรน กาเรตพฺโพ.

ปทสา เนสฺสามีติ ตชฺเชนฺโต วา ปหรนฺโต วา ‘‘อิโต คจฺฉาหี’’ติ วทติ, เตน วุตฺตทิสาภาคํ คจฺฉนฺตสฺส ทุติยปทวาเรน ปาราชิกํ. เยปิ เตน สทฺธึ เอกจฺฉนฺทา โหนฺติ, สพฺเพสํ เอกกฺขเณ ปาราชิกํ. ภิกฺขุ ทาสํ ทิสฺวา สุขทุกฺขํ ปุจฺฉิตฺวา วา อปุจฺฉิตฺวา วา ‘‘คจฺฉ, ปลายิตฺวา สุขํ ชีวา’’ติ วทติ, โส เจ ปลายติ, ทุติยปทวาเร ปาราชิกํ. ตํ อตฺตโน สมีปํ อาคตํ อฺโ ‘‘ปลายา’’ติ วทติ, สเจ ภิกฺขุสตํ ปฏิปาฏิยา อตฺตโน สมีปมาคตํ วทติ, สพฺเพสํ ปาราชิกํ. โย ปน เวคสา ปลายนฺตํเยว ‘‘ปลาย, ยาว ตํ สามิกา น คณฺหนฺตี’’ติ ภณติ, อนาปตฺติ ปาราชิกสฺส. สเจ ปน สณิกํ คจฺฉนฺตํ ภณติ, โส จ ตสฺส วจเนน สีฆํ คจฺฉติ, ปาราชิกํ. ปลายิตฺวา อฺํ คามํ วา เทสํ วา คตํ ทิสฺวา ตโตปิ ปลาเปนฺตสฺส ปาราชิกเมว.

อทินฺนาทานํ นาม ปริยาเยน มุจฺจติ. โย หิ เอวํ วทติ – ‘‘ตฺวํ อิธ กึ กโรสิ,

กึ เต ปลายิตุํ น วฏฺฏตีติ วา, กึ กตฺถจิ คนฺตฺวา สุขํ ชีวิตุํ น วฏฺฏตีติ วา, ทาสทาสิโย ปลายิตฺวา อมุกํ นาม ปเทสํ คนฺตฺวา สุขํ ชีวนฺตี’’ติ วา, โส จ ตสฺส วจนํ สุตฺวา ปลายติ, อวหาโร นตฺถิ. โยปิ ‘‘มยํ อมุกํ นาม ปเทสํ คจฺฉาม, ตตฺราคตา สุขํ ชีวนฺติ, อมฺเหหิ จ สทฺธึ คจฺฉนฺตานํ อนฺตรามคฺเคปิ ปาเถยฺยาทีหิ กิลมโถ นตฺถี’’ติ วตฺวา สุขํ อตฺตนา สทฺธึ อาคจฺฉนฺตํ คเหตฺวา คจฺฉติ มคฺคคมนวเสน, น เถยฺยจิตฺเตน; เนวตฺถิ อวหาโร. อนฺตรามคฺเค จ โจเรสุ อุฏฺิเตสุ ‘‘อเร! โจรา อุฏฺิตา, เวเคน ปลาย, เอหิ ยาหี’’ติ วทนฺตสฺสาปิ โจรนฺตราย โมจนตฺถาย วุตฺตตฺตา อวหารํ น วทนฺตีติ.

ปาณกถา นิฏฺิตา.

อปทกถา

อปเทสุ อหิ นาม สสฺสามิโก อหิตุณฺฑิกาทีหิ คหิตสปฺโป; ยํ กีฬาเปนฺตา

อฑฺฒมฺปิ ปาทมฺปิ กหาปณมฺปิ ลภนฺติ, มุฺจนฺตาปิ หิรฺํ วา สุวณฺณํ วา คเหตฺวาว มุฺจนฺติ. เต กสฺสจิ ภิกฺขุโน นิสินฺโนกาสํ คนฺตฺวา สปฺปกรณฺฑํ เปตฺวา นิทฺทายนฺติ วา, กตฺถจิ วา คจฺฉนฺติ, ตตฺร เจ โส ภิกฺขุ เถยฺยจิตฺเตน ตํ กรณฺฑํ อามสติ, ทุกฺกฏํ. ผนฺทาเปติ, ถุลฺลจฺจยํ. านา จาเวติ, ปาราชิกํ. สเจ ปน กรณฺฑกํ อุคฺฆาเฏตฺวา สปฺปํ คีวาย คณฺหาติ, ทุกฺกฏํ. อุทฺธรติ, ถุลฺลจฺจยํ. อุชุกํ กตฺวา อุทฺธรนฺตสฺส กรณฺฑตลโต สปฺปสฺส นงฺคุฏฺเ เกสคฺคมตฺเต มุตฺเต ปาราชิกํ. ฆํสิตฺวา กฑฺฒนฺตสฺส นงฺคุฏฺเ มุขวฏฺฏิโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกํ. กรณฺฑมุขํ อีสกํ วิวริตฺวา ปหารํ วา ทตฺวา ‘‘เอหิ, เร’’ติ นาเมน ปกฺโกสิตฺวา นิกฺขาเมติ, ปาราชิกํ. ตเถว วิวริตฺวา มณฺฑูกสทฺทํ วา มูสิกสทฺทํ วา ลาชาวิกิรณํ วา กตฺวา นาเมน ปกฺโกสติ, อจฺฉรํ วา ปหรติ, เอวํ นิกฺขนฺเตปิ ปาราชิกํ. มุขํ อวิวริตฺวาปิ เอวํ กเต ฉาโต สปฺโป สีเสน กรณฺฑปุฏํ อาหจฺจ โอกาสํ กตฺวา ปลายติ, ปาราชิกเมว. สเจ ปน มุเข วิวริเต สยเมว สปฺโป นิกฺขมิตฺวา ปลายติ, ภณฺฑเทยฺยํ. อถาปิ มุขํ วิวริตฺวา วา อวิวริตฺวา วา เกวลํ มณฺฑูกมูสิกสทฺทํ ลาชาวิกิรณเมว จ กโรติ, น นามํ คเหตฺวา ปกฺโกสติ, น อจฺฉรํ วา ปหรติ, สปฺโป จ ฉาตตฺตา ‘‘มณฺฑูกาทีนิ ขาทิสฺสามี’’ติ นิกฺขมิตฺวา ปลายติ, ภณฺฑเทยฺยเมว. มจฺโฉ เกวลํ อิธ อปทคฺคหเณน อาคโต. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ อุทกฏฺเ วุตฺตเมวาติ.

อปทกถา นิฏฺิตา.

ทฺวิปทกถา

๑๑๕. ทฺวิปเทสุ – เย อวหริตุํ สกฺกา, เต ทสฺเสนฺโต ‘‘มนุสฺสา ปกฺขชาตา’’ติ อาห. เทวตา ปน อวหริตุํ น สกฺกา. ปกฺขา ชาตา เอเตสนฺติ ปกฺขชาตา. เต โลมปกฺขา จมฺมปกฺขา อฏฺิปกฺขาติ ติวิธา. ตตฺถ โมรกุกฺกุฏาทโย โลมปกฺขา, วคฺคุลิอาทโย จมฺมปกฺขา, ภมราทโย อฏฺิปกฺขาติ เวทิตพฺพา. เต สพฺเพปิ มนุสฺสา จ ปกฺขชาตา จ เกวลํ อิธ ทฺวิปทคฺคหเณน อาคตา. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ อากาสฏฺเ จ ปาเณ จ วุตฺตนยเมวาติ.

ทฺวิปทกถา นิฏฺิตา.

จตุปฺปทกถา

๑๑๖. จตุปฺปเทสุ – ปสุกาติ ปาฬิยํ อาคตาวเสสา สพฺพา จตุปฺปทชาตีติ เวทิตพฺพา. หตฺถิอาทโย ปากฏาเยว. ตตฺถ เถยฺยจิตฺเตน หตฺถึ อามสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ผนฺทาเปนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ. โย ปน มหาพโล พลมเทน ตรุณํ ภิงฺกจฺฉาปํ นาภิมูเล สีเสน อุจฺจาเรตฺวา คณฺหนฺโต จตฺตาโร ปาเท, โสณฺฑํ จ ภูมิโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ โมเจติ, ปาราชิกํ. หตฺถี ปน โกจิ หตฺถิสาลายํ พนฺธิตฺวา ปิโต โหติ, โกจิ อพทฺโธว ติฏฺติ, โกจิ อนฺโตวตฺถุมฺหิ ติฏฺติ, โกจิ ราชงฺคเณ ติฏฺติ, ตตฺถ หตฺถิสาลายํ คีวาย พนฺธิตฺวา ปิตสฺส คีวาพนฺธนฺจ จตฺตาโร จ ปาทาติ ปฺจ านานิ โหนฺติ. คีวาย จ เอกสฺมิฺจ ปาเท อยสงฺขลิกาย พทฺธสฺส ฉ านานิ. คีวาย จ ทฺวีสุ จ ปาเทสุ พทฺธสฺส สตฺต านานิ. เตสํ วเสน ผนฺทาปนานาจาวนานิ เวทิตพฺพานิ. อพทฺธสฺส สกลา หตฺถิสาลา านํ. ตโต อติกฺกมเน, ปาราชิกํ. อนฺโตวตฺถุมฺหิ ิตสฺส สกลํ อนฺโตวตฺถุเมว านํ. ตสฺส วตฺถุทฺวาราติกฺกมเน ปาราชิกํ. ราชงฺคเณ ิตสฺส สกลนครํ านํ. ตสฺส นครทฺวาราติกฺกมเน ปาราชิกํ. พหินคเร ิตสฺส ิตฏฺานเมว านํ. ตํ หรนฺโต ปทวาเรน กาเรตพฺโพ. นิปนฺนสฺส เอกเมว านํ. ตํ เถยฺยจิตฺเตน อุฏฺาเปนฺตสฺส อุฏฺิตมตฺเต ปาราชิกํ. อสฺเสปิ อยเมว วินิจฺฉโย. สเจ ปน โส จตูสุ ปาเทสุ พทฺโธ โหติ, อฏฺ านานิ เวทิตพฺพานิ. เอส นโย โอฏฺเปิ.

โคโณปิ โกจิ เคเห พนฺธิตฺวา ปิโต โหติ. โกจิ อพทฺโธว ติฏฺติ, โกจิ ปน วเช พนฺธิตฺวา ปิโต โหติ, โกจิ อพทฺโธว ติฏฺติ. ตตฺถ เคเห พนฺธิตฺวา ปิตสฺส จตฺตาโร ปาทา, พนฺธนฺจาติ ปฺจ านานิ; อพทฺธสฺส สกลํ เคหํ. วเชปิ พทฺธสฺส ปฺจ านานิ. อพทฺธสฺส สกโล วโช. ตํ วชทฺวารํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. วชํ ภินฺทิตฺวา หรนฺโต ขณฺฑทฺวารํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. ทฺวารํ วา วิวริตฺวา วชํ วา ภินฺทิตฺวา พหิ ิโต นาเมน ปกฺโกสิตฺวา นิกฺขาเมติ, ปาราชิกํ. สาขาภงฺคํ ทสฺเสตฺวา ปกฺโกสนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. ทฺวารํ อวิวริตฺวา วชํ อภินฺทิตฺวา สาขาภงฺคํ จาเลตฺวา ปกฺโกสติ, โคโณ ฉาตตาย วชํ ลงฺเฆตฺวา นิกฺขมติ, ปาราชิกเมว. สเจ ปน ทฺวาเร วิวริเต วเช วา ภินฺเน สยเมว นิกฺขมติ, ภณฺฑเทยฺยํ. ทฺวารํ วิวริตฺวา วา อวิวริตฺวา วา วชมฺปิ ภินฺทิตฺวา วา อภินฺทิตฺวา วา เกวลํ สาขาภงฺคํ จาเลติ, น ปกฺโกสติ, โคโณ ฉาตตาย ปทสา วา ลงฺเฆตฺวา วา นิกฺขมติ, ภณฺฑเทยฺยเมว. เอโก มชฺเฌ คาเม พทฺโธ ิโต, เอโก นิปนฺโน. ิตโคณสฺส ปฺจ านานิ โหนฺติ, นิปนฺนสฺส ทฺเว านานิ; เตสํ วเสน ผนฺทาปนานาจาวนานิ เวทิตพฺพานิ.

โย ปน นิปนฺนํ อนุฏฺาเปตฺวา ตตฺเถว ฆาเตติ, ภณฺฑเทยฺยํ. สุปริกฺขิตฺเต ปน ทฺวารยุตฺเต คาเม ิตโคณสฺส สกลคาโม านํ. อปริกฺขิตฺเต ิตสฺส วา จรนฺตสฺส วา ปาเทหิ อกฺกนฺตฏฺานเมว านํ คทฺรภปสุกาสุปิ อยเมว วินิจฺฉโยติ.

จตุปฺปทกถา นิฏฺิตา.

พหุปฺปทกถา

๑๑๗. พหุปฺปเทสุ – สเจ เอกาย สตปทิยา วตฺถุ ปูรติ, ตํ ปทสา เนนฺตสฺส นวนวุติ ถุลฺลจฺจยานิ, เอกํ ปาราชิกํ. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ.

พหุปฺปทกถา นิฏฺิตา.

โอจรกกถา

๑๑๘. โอจรตีติ โอจรโก, ตตฺถ ตตฺถ อนฺโต อนุปวิสตีติ วุตฺตํ โหติ. โอจริตฺวาติ สลฺลกฺเขตฺวา, อุปธาเรตฺวาติ อตฺโถ. อาจิกฺขตีติ ปรกุเลสุ วา วิหาราทีสุ วา ทุฏฺปิตํ อสํวิหิตารกฺขํ ภณฺฑํ อฺสฺส โจรกมฺมํ กาตุํ ปฏิพลสฺส อาโรเจติ. อาปตฺติ อุภินฺนํ ปาราชิกสฺสาติ อวสฺสํ หาริเย ภณฺเฑ โอจรกสฺส อาณตฺติกฺขเณ อิตรสฺส านาจาวเนติ เอวํ อาปตฺติ อุภินฺนํ ปาราชิกสฺส. โย ปน ‘‘ปุริโส เคเห นตฺถิ, ภณฺฑํ อสุกสฺมึ นาม ปเทเส ปิตํ อสํวิหิตารกฺขํ, ทฺวารํ อสํวุตํ, คตมตฺเตเนว สกฺกา หริตุํ, นตฺถิ นาม โกจิ ปุริสการูปชีวี, โย ตํ คนฺตฺวา หเรยฺยา’’ติอาทินา นเยน ปริยายกถํ กโรติ, ตฺจ สุตฺวา อฺโ ‘‘อหํ ทานิ หริสฺสามี’’ติ คนฺตฺวา หรติ, ตสฺส านาจาวเน ปาราชิกํ, อิตรสฺส ปน อนาปตฺติ. ปริยาเยน หิ อทินฺนาทานโต มุจฺจตีติ.

โอจรกกถา นิฏฺิตา.

โอณิรกฺขกถา

โอณึ รกฺขตีติ โอณิรกฺโข. โย ปเรน อตฺตโน วสนฏฺาเน อาภตํ ภณฺฑํ ‘‘อิทํ

ตาว, ภนฺเต, มุหุตฺตํ โอโลเกถ, ยาว อหํ อิทํ นาม กิจฺจํ กตฺวา อาคจฺฉามี’’ติ วุตฺโต รกฺขติ, ตสฺเสตํ อธิวจนํ. เตเนวาห – ‘‘โอณิรกฺโข นาม อาหฏํ ภณฺฑํ โคเปนฺโต’’ติ. ตตฺถ โอณิรกฺโข เยภุยฺเยน พนฺธิตฺวา ลคฺเคตฺวา ปิตภณฺฑํ อโมเจตฺวาว เหฏฺา ปสิพฺพกํ วา ปุฏกํ วา ฉินฺทิตฺวา กิฺจิมตฺตํ คเหตฺวา สิพฺพนาทึ ปุน ปากติกํ กโรติ, ‘‘เอวํ คณฺหิสฺสามี’’ติ อามสนาทีนิ กโรนฺตสฺส อนุรุปา อาปตฺติโย เวทิตพฺพาติ.

โอณิรกฺขกถา นิฏฺิตา.

สํวิทาวหารกถา

สํวิธาย อวหาโร สํวิทาวหาโร; อฺมฺสฺตฺติยา กตาวหาโรติ วุตฺตํ โหติ. สํวิทหิตฺวาติ เอกจฺฉนฺทตาย เอกชฺฌาสยตาย สมฺมนฺตยิตฺวาติ อตฺโถ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – สมฺพหุลา ภิกฺขู ‘‘อสุกํ นาม เคหํ คนฺตฺวา, ฉทนํ วา ภินฺทิตฺวา, สนฺธึ วา ฉินฺทิตฺวา ภณฺฑํ หริสฺสามา’’ติ สํวิทหิตฺวา คจฺฉนฺติ. เตสุ เอโก ภณฺฑํ อวหรติ. ตสฺสุทฺธาเร สพฺเพสํ ปาราชิกํ. ปริวาเรปิ เจตํ วุตฺตํ –

‘‘จตุโร ชนา สํวิธาย, ครุภณฺฑํ อวาหรุํ;

ตโย ปาราชิกา, เอโก น ปาราชิโก;

ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๗๙);

ตสฺสายํ อตฺโถ – จตฺตาโร ชนา อาจริยนฺเตวาสิกา ฉมาสกํ ครุภณฺฑํ อาหริตุกามา ชาตา. ตตฺถ อาจริโย ‘‘ตฺวํ เอกํ มาสกํ หร, ตฺวํ เอกํ, ตฺวํ เอกํ, อหํ ตโย หริสฺสามี’’ติ อาห. อนฺเตวาสิเกสุ ปน ปโม ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, ตโย หรถ, ตฺวํ เอกํ หร, ตฺวํ เอกํ, อหํ เอกํ หริสฺสามี’’ติ อาห. อิตเรปิ ทฺเว เอวเมว อาหํสุ. ตตฺถ อนฺเตวาสิเกสุ เอกเมกสฺส เอเกโก มาสโก สาหตฺถิโก โหติ, เตน เนสํ ทุกฺกฏาปตฺติโย; ปฺจ อาณตฺติกา, เตหิ ติณฺณมฺปิ ปาราชิกํ. อาจริยสฺส ปน ตโย สาหตฺถิกา, เตหิสฺส ถุลฺลจฺจยํ. ตโย อาณตฺติกา, เตหิปิ ถุลฺลจฺจยเมว. อิมสฺมิฺหิ อทินฺนาทานสิกฺขาปเท สาหตฺถิกํ วา อาณตฺติกสฺส, อาณตฺติกํ วา สาหตฺถิกสฺส องฺคํ น โหติ. สาหตฺถิกํ ปน สาหตฺถิเกเนว กาเรตพฺพํ, อาณตฺติกํ อาณตฺติเกเนว. เตน วุตฺตํ – ‘‘จตุโร ชนา สํวิธาย…เป… ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ.

อปิจ สํวิทาวหาเร อสมฺโมหตฺถํ ‘‘เอกภณฺฑํ เอกฏฺานํ, เอกภณฺฑํ นานาานํ; นานาภณฺฑํ เอกฏฺานํ, นานาภณฺฑํ นานาาน’’นฺติ อิทมฺปิ จตุกฺกํ อตฺถโต สลฺลกฺเขตพฺพํ. ตตฺถ เอกภณฺฑํ เอกฏฺานนฺติ เอกกุลสฺส อาปณผลเก ปฺจมาสกํ ภณฺฑํ ทุฏฺปิตํ ทิสฺวา สมฺพหุลา ภิกฺขู เอกํ อาณาเปนฺติ ‘‘คจฺเฉตํ อาหรา’’ติ, ตสฺสุทฺธาเร สพฺเพสํ ปาราชิกํ. เอกภณฺฑํ นานาานนฺติ เอกกุลสฺส ปฺจสุ อาปณผลเกสุ เอเกกมาสกํ ทุฏฺปิตํ ทิสฺวา สมฺพหุลา เอกํ อาณาเปนฺติ ‘‘คจฺเฉเต อาหรา’’ติ, ปฺจมสฺส มาสกสฺส อุทฺธาเร สพฺเพสํ ปาราชิกํ. นานาภณฺฑํ เอกฏฺานนฺติ พหูนํ สนฺตกํ ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ ภณฺฑํ เอกสฺมึ าเน ทุฏฺปิตํ ทิสฺวา สมฺพหุลา เอกํ อาณาเปนฺติ ‘‘คจฺเฉตํ อาหรา’’ติ, ตสฺสุทฺธาเร สพฺเพสํ ปาราชิกํ. นานาภณฺฑํ นานาานนฺติ ปฺจนฺนํ กุลานํ ปฺจสุ อาปณผลเกสุ เอเกกมาสกํ ทุฏฺปิตํ ทิสฺวา สมฺพหุลา เอกํ อาณาเปนฺติ ‘‘คจฺเฉเต อาหรา’’ติ, ปฺจมสฺส มาสกสฺส อุทฺธาเร สพฺเพสํ ปาราชิกนฺติ.

สํวิทาวหารกถา นิฏฺิตา.

สงฺเกตกมฺมกถา

๑๑๙. สงฺเกตกมฺมนฺติ สฺชานนกมฺมํ; กาลปริจฺเฉทวเสน สฺาณกรณนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ‘‘ปุเรภตฺตํ อวหรา’’ติ วุตฺเต อชฺช วา ปุเรภตฺตํ อวหรตุ, สฺเว วา, อนาคเต วา สํวจฺฉเร, นตฺถิ วิสงฺเกโต; อุภินฺนมฺปิ โอจรเก วุตฺตนเยเนว ปาราชิกํ. สเจ ปน ‘‘อชฺช ปุเรภตฺตํ อวหรา’’ติ วุตฺเต สฺเว ปุเรภตฺตํ อวหรติ, ‘‘อชฺชา’’ติ นิยามิตํ ตํ สงฺเกตํ อติกฺกมฺม ปจฺฉา อวหฏํ โหติ. สเจ ‘‘สฺเว ปุเรภตฺตํ อวหรา’’ติ วุตฺเต อชฺช ปุเรภตฺตํ อวหรติ, ‘‘สฺเว’’ติ นิยามิตํ ตํ สงฺเกตํ อปฺปตฺวา ปุเร อวหฏํ โหติ; เอวํ อวหรนฺตสฺส อวหารกสฺเสว ปาราชิกํ, มูลฏฺสฺส อนาปตฺติ. ‘‘สฺเว ปุเรภตฺต’’นฺติ วุตฺเต ตทเหว วา สฺเว ปจฺฉาภตฺตํ วา หรนฺโตปิ ตํ สงฺเกตํ ปุเร จ ปจฺฉา จ หรตีติ เวทิตพฺโพ. เอส นโย ปจฺฉาภตฺตรตฺตินฺทิเวสุปิ. ปุริมยาม-มชฺฌิมยาม-ปจฺฉิมยาม-กาฬชุณฺห-มาส-อุตุ-สํวจฺฉราทิวเสนาปิ เจตฺถ สงฺเกตวิสงฺเกตตา เวทิตพฺพา. ‘‘ปุเรภตฺตํ หรา’’ติ วุตฺเต ‘‘ปุเรภตฺตเมว หริสฺสามี’’ติ วายมนฺตสฺส ปจฺฉาภตฺตํ โหติ; เอตฺถ กถนฺติ? มหาสุมตฺเถโร ตาว อาห – ‘‘ปุเรภตฺตปโยโคว เอโส, ตสฺมา มูลฏฺโ น มุจฺจตี’’ติ. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘กาลปริจฺเฉทํ อติกฺกนฺตตฺตา วิสงฺเกตํ, ตสฺมา มูลฏฺโ มุจฺจตี’’ติ.

สงฺเกตกมฺมกถา นิฏฺิตา.

นิมิตฺตกมฺมกถา

๑๒๐. นิมิตฺตกมฺมนฺติ สฺุปฺปาทนตฺถํ กสฺสจิ นิมิตฺตสฺส กรณํ, ตํ ‘‘อกฺขึ วา นิขณิสฺสามี’’ติอาทินา นเยน ติธา วุตฺตํ. อฺมฺปิ ปเนตฺถ หตฺถลงฺฆน-ปาณิปฺปหารองฺคุลิโผฏน-คีวุนฺนามน-อุกฺกาสนาทิอเนกปฺปการํ สงฺคเหตพฺพํ. เสสเมตฺถ สงฺเกตกมฺเม วุตฺตนยเมวาติ.

นิมิตฺตกมฺมกถา นิฏฺิตา.

อาณตฺติกถา

๑๒๑. อิทานิ เอเตสฺเวว สงฺเกตกมฺมนิมิตฺตกมฺเมสุ อสมฺโมหตฺถํ ‘‘ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อาณาเปตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ โส ตํ มฺมาโน ตนฺติ โส อวหารโก ยํ อาณาปเกน นิมิตฺตสฺํ กตฺวา วุตฺตํ, ตํ เอตนฺติ มฺมาโน ตเมว อวหรติ, อุภินฺนํ ปาราชิกํ. โส ตํ มฺมาโน อฺนฺติ ยํ อวหราติ วุตฺตํ, ตํ เอตนฺติ มฺมาโน อฺํ ตสฺมึเยว าเน ปิตํ อวหรติ, มูลฏฺสฺส อนาปตฺติ. อฺํ มฺมาโน ตนฺติ อาณาปเกน นิมิตฺตสฺํ กตฺวา วุตฺตภณฺฑํ อปฺปคฺฆํ, อิทํ อฺํ ตสฺเสว สมีเป ปิตํ สารภณฺฑนฺติ เอวํ อฺํ มฺมาโน ตเมว อวหรติ, อุภินฺนมฺปิ ปาราชิกํ. อฺํ มฺมาโน อฺนฺติ ปุริมนเยเนว อิทํ อฺํ ตสฺเสว สมีเป ปิตํ สารภณฺฑนฺติ มฺติ, ตฺเจ อฺเมว โหติ, ตสฺเสว ปาราชิกํ.

อิตฺถนฺนามสฺส ปาวทาติอาทีสุ เอโก อาจริโย ตโย พุทฺธรกฺขิต-ธมฺมรกฺขิต-สงฺฆรกฺขิตนามกา อนฺเตวาสิกา ทฏฺพฺพา. ตตฺถ ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อาณาเปตีติ อาจริโย กิฺจิ ภณฺฑํ กตฺถจิ สลฺลกฺเขตฺวา ตสฺส หรณตฺถาย พุทฺธรกฺขิตํ อาณาเปติ. อิตฺถนฺนามสฺส ปาวทาติ คจฺฉ ตฺวํ, พุทฺธรกฺขิต, เอตมตฺถํ ธมฺมรกฺขิตสฺส ปาวท. อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส ปาวทตูติ ธมฺมรกฺขิโตปิ สงฺฆรกฺขิตสฺส ปาวทตุ. อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรตูติ เอวํ ตยา อาณตฺเตน ธมฺมรกฺขิเตน อาณตฺโต สงฺฆรกฺขิโต อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรตุ, โส หิ อมฺเหสุ วีรชาติโก ปฏิพโล อิมสฺมึ กมฺเมติ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอวํ อาณาเปนฺตสฺส อาจริยสฺส ตาว ทุกฺกฏํ. สเจ ปน สา อาณตฺติ ยถาธิปฺปายํ คจฺฉติ, ยํ ปรโต ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ, อาณตฺติกฺขเณ ตเทว โหติ. อถ ตํ ภณฺฑํ อวสฺสํ หาริยํ โหติ, ยํ ปรโต ‘‘สพฺเพสํ อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ วุตฺตํ, ตโต อิมสฺส ตงฺขเณเยว ปาราชิกํ โหตีติ อยํ ยุตฺติ สพฺพตฺถ เวทิตพฺพา.

โส อิตรสฺส อาโรเจตีติ พุทฺธรกฺขิโต ธมฺมรกฺขิตสฺส, ธมฺมรกฺขิโต จ สงฺฆรกฺขิตสฺส ‘‘อมฺหากํ อาจริโย เอวํ วทติ – ‘อิตฺถนฺนามํ กิร ภณฺฑํ อวหร, ตฺวํ กิร อมฺเหสุ จ วีรปุริโส’’’ติ อาโรเจติ, เอวํ เตสมฺปิ ทุกฺกฏํ. อวหารโก ปฏิคฺคณฺหาตีติ ‘‘สาธุ หริสฺสามี’’ติ สงฺฆรกฺขิโต สมฺปฏิจฺฉติ. มูลฏฺสฺส อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสาติ สงฺฆรกฺขิเตน ปฏิคฺคหิตมตฺเต อาจริยสฺส ถุลฺลจฺจยํ, มหาชโน หิ เตน ปาเป นิโยชิโตติ. โส ตํ ภณฺฑนฺติ โส เจ สงฺฆรกฺขิโต ตํ ภณฺฑํ อวหรติ, สพฺเพสํ จตุนฺนมฺปิ ชนานํ ปาราชิกํ. น เกวลฺจ จตุนฺนํ, เอเตน อุปาเยน วิสงฺเกตํ อกตฺวา ปรมฺปราย อาณาเปนฺตํ สมณสตํ สมณสหสฺสํ วา โหตุ, สพฺเพสํ ปาราชิกเมว.

ทุติยวาเร – โส อฺํ อาณาเปตีติ โส อาจริเยน อาณตฺโต พุทฺธรกฺขิโต ธมฺมรกฺขิตํ อทิสฺวา วา อวตฺตุกาโม วา หุตฺวา สงฺฆรกฺขิตเมว อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อมฺหากํ อาจริโย เอวมาห – ‘อิตฺถนฺนามํ กิร ภณฺฑํ อวหรา’’’ติ อาณาเปติ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ อาณตฺติยา ตาว พุทฺธรกฺขิตสฺส ทุกฺกฏํ. ปฏิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ สงฺฆรกฺขิเตน สมฺปฏิจฺฉิเต มูลฏฺสฺเสว ทุกฺกฏนฺติ เวทิตพฺพํ. สเจ ปน โส ตํ ภณฺฑํ อวหรติ, อาณาปกสฺส จ พุทฺธรกฺขิตสฺส, อวหารกสฺส จ สงฺฆรกฺขิตสฺสาติ อุภินฺนมฺปิ ปาราชิกํ. มูลฏฺสฺส ปน อาจริยสฺส วิสงฺเกตตฺตา ปาราชิเกน อนาปตฺติ. ธมฺมรกฺขิตสฺส อชานนตาย สพฺเพน สพฺพํ อนาปตฺติ. พุทฺธรกฺขิโต ปน ทฺวินฺนํ โสตฺถิภาวํ กตฺวา อตฺตนา นฏฺโ.

อิโต ปเรสุ จตูสุ อาณตฺติวาเรสุ ปเม ตาว โส คนฺตฺวา ปุน ปจฺจาคจฺฉตีติ ภณฺฑฏฺานํ คนฺตฺวา อนฺโต จ พหิ จ อารกฺขํ ทิสฺวา อวหริตุํ อสกฺโกนฺโต อาคจฺฉติ. ยทา สกฺโกสิ, ตทาติ กึ อชฺเชว อวหฏํ โหติ? คจฺฉ ยทา สกฺโกสิ ตทา นํ อวหราติ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอวํ ปุน อาณตฺติยาปิ ทุกฺกฏเมว โหติ. สเจ ปน ตํ ภณฺฑํ อวสฺสํ หาริยํ โหติ, อตฺถสาธกเจตนา นาม มคฺคานนฺตรผลสทิสา, ตสฺมา อยํ อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิโก. สเจปิ อวหารโก สฏฺิวสฺสาติกฺกเมน ตํ ภณฺฑํ อวหรติ, อาณาปโก จ อนฺตราเยว กาลํ วา กโรติ, หีนาย วา อาวตฺตติ; อสฺสมโณว หุตฺวา กาลํ วา กริสฺสติ, หีนาย วา อาวตฺติสฺสติ, อวหารกสฺส ปน อวหารกฺขเณเยว ปาราชิกํ.

ทุติยวาเร – ยสฺมา ตํ สณิกํ วา ภณนฺโต ตสฺส วา พธิรตาย ‘‘มา อวหรี’’ติ

เอตํ วจนํ น สาเวติ, ตสฺมา มูลฏฺโ น มุตฺโต. ตติยวาเร – ปน สาวิตตฺตา มุตฺโต. จตุตฺถวาเร – เตน จ สาวิตตฺตา, อิตเรน จ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา โอรตตฺตา อุโภปิ มุตฺตาติ.

อาณตฺติกถา นิฏฺิตา.

อาปตฺติเภทํ

๑๒๒. อิทานิ ตตฺถ ตตฺถ านา จาวนวเสน วุตฺตสฺส อทินฺนาทานสฺส องฺคํ วตฺถุเภเทน จ อาปตฺติเภทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฺจหิ อากาเรหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปฺจหิ อากาเรหีติ ปฺจหิ การเณหิ; ปฺจหิ องฺเคหีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺรายํ สงฺเขปตฺโถ – อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส ‘‘ปรปริคฺคหิตฺจ โหตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺเตหิ ปฺจหากาเรหิ ปาราชิกํ โหติ, น ตโต อูเนหีติ. ตตฺริเม ปฺจ อาการา – ปรปริคฺคหิตํ, ปรปริคฺคหิตสฺิตา, ปริกฺขารสฺส ครุกภาโว, เถยฺยจิตฺตํ, านาจาวนนฺติ. อิโต ปเรหิ ปน ทฺวีหิ วาเรหิ ลหุเก ปริกฺขาเร วตฺถุเภเทน ถุลฺลจฺจยฺจ ทุกฺกฏฺจ ทสฺสิตํ.

๑๒๕. ‘‘ฉหากาเรหี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตวารตฺตเย ปน น สกสฺิตา, น วิสฺสาสคฺคาหิตา, น ตาวกาลิกตา, ปริกฺขารสฺส ครุกภาโว, เถยฺยจิตฺตํ, านาจาวนนฺติ เอวํ ฉ อาการา เวทิตพฺพา. วตฺถุเภเทน ปเนตฺถาปิ ปมวาเร ปาราชิกํ. ทุติยตติเยสุ ถุลฺลจฺจยทุกฺกฏานิ วุตฺตานิ. ตโต ปเรสุ ปน ตีสุ วาเรสุ วิชฺชมาเนปิ วตฺถุเภเท วตฺถุสฺส ปเรหิ อปริคฺคหิตตฺตา ทุกฺกฏเมว วุตฺตํ. ตตฺร ยเทตํ ‘‘น จ ปรปริคฺคหิต’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ อนชฺฌาวุตฺถกํ วา โหตุ ฉฑฺฑิตํ ฉินฺนมูลกํ อสฺสามิกวตฺถุ, อตฺตโน สนฺตกํ วา, อุภยมฺปิ ‘‘น จ ปรปริคฺคหิต’’นฺตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ยสฺมา ปเนตฺถ ปรปริคฺคหิตสฺา จ อตฺถิ, เถยฺยจิตฺเตน จ คหิตํ, ตสฺมา อนาปตฺติ น วุตฺตาติ.

อาปตฺติเภทํ นิฏฺิตํ.

อนาปตฺติเภทํ

๑๓๑. เอวํ วตฺถุวเสน จ จิตฺตวเสน จ อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนาปตฺติเภทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนาปตฺติ สสฺิสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สสฺิสฺสาติ สกสฺิสฺส, ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ อิทํ ภณฺฑ’’นฺติ เอวํ สสฺิสฺส ปรภณฺฑมฺปิ คณฺหโต คหเณ อนาปตฺติ, คหิตํ ปน ปุน ทาตพฺพํ. สเจ สามิเกหิ ‘‘เทหี’’ติ วุตฺโต น เทติ, เตสํ ธุรนิกฺเขเป ปาราชิกํ.

วิสฺสาสคฺคาเหติ วิสฺสาสคฺคหเณปิ อนาปตฺติ. วิสฺสาสคฺคาหลกฺขณํ ปน อิมินา สุตฺเตน ชานิตพฺพํ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส วิสฺสาสํ คเหตุํ – สนฺทิฏฺโ จ โหติ, สมฺภตฺโต จ, อาลปิโต จ, ชีวติ จ, คหิเต จ อตฺตมโน’’ติ (มหาว. ๓๕๖). ตตฺถ สนฺทิฏฺโติ ทิฏฺมตฺตกมิตฺโต, สมฺภตฺโตติ ทฬฺหมิตฺโต, อาลปิโตติ ‘‘มม สนฺตกํ ยํ อิจฺฉสิ, ตํ คณฺเหยฺยาสิ, อาปุจฺฉิตฺวา คหเณ การณํ นตฺถี’’ติ วุตฺโต. ชีวตีติ อนุฏฺานเสยฺยาย สยิโตปิ ยาว ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทํ น ปาปุณาติ. คหิเต จ อตฺตมโนติ คหิเต ตุฏฺจิตฺโต โหติ, เอวรูปสฺส สนฺตกํ ‘‘คหิเต เม อตฺตมโน ภวิสฺสตี’’ติ ชานนฺเตน คเหตุํ วฏฺฏติ. อนวเสสปริยาทานวเสน เจตานิ ปฺจงฺคานิ วุตฺตานิ. วิสฺสาสคฺคาโห ปน ตีหิ องฺเคหิ รุหติ – สนฺทิฏฺโ, ชีวติ, คหิเต อตฺตมโน; สมฺภตฺโต, ชีวติ, คหิเต อตฺตมโน; อาลปิโต, ชีวติ, คหิเต อตฺตมโนติ.

โย ปน น ชีวติ, น จ คหิเต อตฺตมโน โหติ; ตสฺส สนฺตกํ วิสฺสาสคฺคาเหน คหิตมฺปิ ปุน ทาตพฺพํ. ททมาเนน จ มตกธนํ ตาว เย ตสฺส ธเน อิสฺสรา คหฏฺา วา ปพฺพชิตา วา, เตสํ ทาตพฺพํ. อนตฺตมนสฺส สนฺตกํ ตสฺเสว ทาตพฺพํ. โย ปน ปมํเยว ‘‘สุฏฺุ กตํ ตยา มม สนฺตกํ คณฺหนฺเตนา’’ติ วจีเภเทน วา จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน วา อนุโมทิตฺวา ปจฺฉา เกนจิ การเณน กุปิโต, ปจฺจาหราเปตุํ น ลภติ. โยปิ อทาตุกาโม จิตฺเตน ปน อธิวาเสติ, น กิฺจิ วทติ, โสปิ ปุน ปจฺจาหราเปตุํ น ลภติ. โย ปน ‘‘มยา ตุมฺหากํ สนฺตกํ คหิตํ วา ปริภุตฺตํ วา’’ติ วุตฺเต ‘‘คหิตํ วา โหตุ ปริภุตฺตํ วา, มยา ปน ตํ เกนจิเทว กรณีเยน ปิตํ, ปากติกํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทติ. อยํ ปจฺจาหราเปตุํ ลภติ.

ตาวกาลิเกติ ‘‘ปฏิทสฺสามิ ปฏิกริสฺสามี’’ติ เอวํ คณฺหนฺตสฺส ตาวกาลิเกปิ คหเณ อนาปตฺติ. คหิตํ ปน สเจ ภณฺฑสามิโก ปุคฺคโล วา คโณ วา ‘‘ตุยฺเหเวตํ โหตู’’ติ อนุชานาติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ อนุชานาติ, อาหราเปนฺเต ทาตพฺพํ. สงฺฆสนฺตกํ ปน ปฏิทาตุเมว วฏฺฏติ.

เปตปริคฺคเหติ เอตฺถ ปน เปตฺติวิสเย อุปปนฺนาปิ กาลํ กตฺวา ตสฺมึเยว อตฺตภาเว นิพฺพตฺตาปิ จาตุมหาราชิกาทโย เทวาปิ สพฺเพ ‘‘เปตา’’ ตฺเวว สงฺขฺยํ คตา, เตสํ ปริคฺคเห อนาปตฺติ. สเจปิ หิ สกฺโก เทวราชา อาปณํ ปสาเรตฺวา นิสินฺโน โหติ, ทิพฺพจกฺขุโก จ ภิกฺขุ ตํ ตฺวา อตฺตโน จีวรตฺถาย สตสหสฺสคฺฆนกมฺปิ สาฏกํ ตสฺส ‘‘มา คณฺห, มา คณฺหา’’ติ วทนฺตสฺสาปิ คเหตฺวา คจฺฉติ, วฏฺฏติ. เทวตา ปน อุทฺทิสฺส พลิกมฺมํ กโรนฺเตหิ รุกฺขาทีสุ ลคฺคิตสาฏเก วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.

ติรจฺฉานคตปริคฺคเหติ ติรจฺฉานคตานมฺปิ ปริคฺคเห อนาปตฺติ. สเจปิ หิ นาคราชา วา สุปณฺณมาณวโก วา มนุสฺสรูเปน อาปณํ ปสาเรติ, ตโต จสฺส สนฺตกํ โกจิ ภิกฺขุ ปุริมนเยเนว คเหตฺวา คจฺฉติ, วฏฺฏติ. สีโห วา พฺยคฺโฆ วา มิคมหึสาทโย วธิตฺวา ขาทนฺโต ชิฆจฺฉาปีฬิโต อาทิโตว น วาเรตพฺโพ. อนตฺถมฺปิ หิ กเรยฺย. ยทิ ปน โถเก ขายิเต วาเรตุํ สกฺโกติ, วาเรตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ. เสนาทโยปิ อามิสํ คเหตฺวา คจฺฉนฺเต ปาตาเปตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ.

ปํสุกูลสฺิสฺสาติ อสฺสามิกํ ‘‘อิทํ ปํสุกูล’’นฺติ เอวํสฺิสฺสาปิ คหเณ อนาปตฺติ. สเจ ปน ตํ สสฺสามิกํ โหติ, อาหราเปนฺเต ทาตพฺพํ. อุมฺมตฺตกสฺสาติ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการสฺส อุมฺมตฺตกสฺสาปิ อนาปตฺติ. อาทิกมฺมิกสฺสาติ อิธ ธนิโย อาทิกมฺมิโก, ตสฺส อนาปตฺติ. อวเสสานํ ปน รชกภณฺฑิกาทิโจรานํ ฉพฺพคฺคิยาทีนํ อาปตฺติเยวาติ.

อนาปตฺติเภทํ นิฏฺิตํ.

ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปกิณฺณกกถา

สมุฏฺานฺจ กิริยา, อโถ สฺา สจิตฺตกํ;

โลกวชฺชฺจ กมฺมฺจ, กุสลํ เวทนาย จาติ.

อิมสฺมึ ปน ปกิณฺณเก อิทํ สิกฺขาปทํ ติสมุฏฺานํ – สาหตฺถิกํ กายโต จ จิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, อาณตฺติกํ วาจโต จ จิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, สาหตฺถิกาณตฺติกํ กายโต จ วาจโต จ จิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. กิริยาสมุฏฺานฺจ, กโรนฺโตเยว หิ เอตํ อาปชฺชติ น อกโรนฺโต. ‘‘อทินฺนํ อาทิยามี’’ติ สฺาย อภาเวน มุจฺจนโต สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ตุฏฺโ วา ภีโต วา มชฺฌตฺโต วา ตํ อาปชฺชตีติ ติเวทนนฺติ สพฺพํ ปมสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

ปกิณฺณกกถา นิฏฺิตา.

วินีตวตฺถุวณฺณนา

๑๓๒. วินีตวตฺถุกถาสุ ฉพฺพคฺคิยวตฺถุ อนุปฺตฺติยํ วุตฺตเมว.

ทุติยวตฺถุมฺหิ – จิตฺตํ นาม ปุถุชฺชนานํ ราคาทิวเสน ปกตึ วิชหิตฺวา ธาวติ สนฺธาวติ วิธาวติ. สเจ ภควา กายวจีทฺวารเภทํ วินาปิ จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน อาปตฺตึ ปฺเปยฺย, โก สกฺกุเณยฺย อนาปตฺติกํ อตฺตานํ กาตุํ! เตนาห – ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ จิตฺตุปฺปาเท’’ติ. จิตฺตวสิเกน ปน น ภวิตพฺพํ, ปฏิสงฺขานพเลน จิตฺตํ นิวาเรตพฺพเมวาติ.

๑๓๓-๔. อามสน-ผนฺทาปน-านาจาวนวตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว. ตโต ปรานิ จ เถยฺยจิตฺโต ภูมิโต อคฺคเหสีติ วตฺถุปริโยสานานิ.

๑๓๕. นิรุตฺติปถวตฺถุสฺมึ ๑.๓๒๙ อาทิยีติ คณฺหิ, ‘‘โจโรสิ ตฺว’’นฺติ ปรามสิ. อิตโร ปน ‘‘เกน อวหฏ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘มยา อวหฏ’’นฺติ ปุจฺฉาสภาเคน ปฏิฺํ อทาสิ. ยทิ หิ อิตเรน ‘‘เกน คหิตํ, เกน อปนีตํ, เกน ปิต’’นฺติ วุตฺตํ อภวิสฺส, อถ อยมฺปิ ‘‘มยา คหิตํ, อปนีตํ, ปิต’’นฺติ วา วเทยฺย. มุขํ นาม ภุฺชนตฺถาย จ กถนตฺถาย จ กตํ, เถยฺยจิตฺตํ ปน วินา อวหาโร นตฺถิ. เตนาห ภควา – ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ นิรุตฺติปเถ’’ติ. โวหารวจนมตฺเต อนาปตฺตีติ อตฺโถ. ตโต ปรํ เวนวตฺถุ ปริโยสานํ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมว.

๑๓๗. อภินฺนสรีรวตฺถุสฺมึ อธิวตฺโถติ สาฏกตณฺหาย ตสฺมึเยว สรีเร นิพฺพตฺโต. อนาทิยนฺโตติ ตสฺส วจนํ อคณฺหนฺโต, อาทรํ วา อกโรนฺโต. ตํ สรีรํ อุฏฺหิตฺวาติ เปโต อตฺตโน อานุภาเวน ตํ สรีรํ อุฏฺาเปสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตํ สรีรํ อุฏฺหิตฺวา’’ติ. ทฺวารํ ถเกสีติ ภิกฺขุสฺส สุสานสมีเปเยว วิหาโร, ตสฺมา ภีรุกชาติโก ภิกฺขุ ขิปฺปเมว ตตฺถ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ถเกสิ. ตตฺเถว ปริปตีติ ทฺวาเร ถกิเต เปโต สาฏเก นิราลโย หุตฺวา ตํ สรีรํ ปหาย ยถากมฺมํ คโต, ตสฺมา ตํ สรีรํ ตตฺเถว ปริปติ, ปติตนฺติ วุตฺตํ โหติ.

อภินฺเน สรีเรติ อพฺภุณฺเห อลฺลสรีเร ปํสุกูลํ น คเหตพฺพํ, คณฺหนฺตสฺส เอวรูปา อุปทฺทวา โหนฺติ, ทุกฺกฏฺจ อาปชฺชติ. ภินฺเน ปน คเหตุํ วฏฺฏติ. กิตฺตาวตา ปน ภินฺนํ โหติ? กาก-กุลล-โสณ-สิงฺคาลาทีหิ มุขตุณฺฑเกน วา ทาาย วา อีสกํ ผาลิตมตฺเตนาปิ. ยสฺส ปน ปตโต ฆํสเนน ฉวิมตฺตํ ฉินฺนํ โหติ, จมฺมํ อจฺฉินฺนํ, เอตํ อภินฺนเมว; จมฺเม ปน ฉินฺเน ภินฺนํ. ยสฺสาปิ สชีวกาเลเยว ปภินฺนา คณฺฑกุฏฺปิฬกา วา วโณ วา โหติ, อิทมฺปิ ภินฺนํ. ตติยทิวสโต ปภุติ อุทฺธุมาตกาทิภาเวน กุณปภาวํ อุปคตมฺปิ ภินฺนเมว. สพฺเพน สพฺพํ ปน อภินฺเนปิ สุสานโคปเกหิ วา อฺเหิ วา มนุสฺเสหิ คาหาเปตุํ วฏฺฏติ. โน เจ อฺํ ลภติ, สตฺถเกน วา เกนจิ วา วณํ กตฺวา คเหตพฺพํ. วิสภาคสรีเร ปน สตึ อุปฏฺเปตฺวา สมณสฺํ อุปฺปาเทตฺวา สีเส วา หตฺถปาทปิฏฺิยํ วา วณํ กตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ.

กุสสงฺกามนวตฺถุกถา

๑๓๘. ตทนนฺตเร วตฺถุสฺมึ กุสํ สงฺกาเมตฺวา จีวรํ อคฺคเหสีติ ปุพฺเพ ‘‘อาทิเยยฺยา’’ติ อิมสฺส ปทสฺส อตฺถวณฺณนายํ นามมตฺเตน ทสฺสิเตสุ เถยฺยาวหาร-ปสยฺหาวหาร-ปริกปฺปาวหารปอจฺฉนฺนาวหาร-กุสาวหาเรสุ กุสาวหาเรน อวหรีติ อตฺโถ.

อิเมสํ ปน อวหารานํ เอวํ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ – โย หิ โกจิ สสฺสามิกํ ภณฺฑํ รตฺติภาเค วา ทิวสภาเค วา สนฺธิจฺเฉทาทีนิ กตฺวา อทิสฺสมาโน อวหรติ, กูฏมานกูฏกหาปณาทีหิ วา วฺเจตฺวา คณฺหาติ, ตสฺเสวํ คณฺหโต อวหาโร ‘‘เถยฺยาวหาโร’’ติ เวทิตพฺโพ.

โย ปน ปเร ปสยฺห พลสา อภิภุยฺย, อถ วา ปน สนฺตชฺเชตฺวา ภยํ ทสฺเสตฺวา เตสํ สนฺตกํ คณฺหาติ, ปนฺถฆาต-คามฆาตาทีนิ กโรนฺตา ทามริกโจรา วิย โกธวเสน ปรฆรวิโลปํ กโรนฺตา อตฺตโน ปตฺตพลิโต จ อธิกํ พลกฺกาเรน คณฺหนฺตา ราช-ราชมหามตฺตาทโย วิย; ตสฺเสวํ คณฺหโต อวหาโร ‘‘ปสยฺหาวหาโร’’ติ เวทิตพฺโพ.

ปริกปฺเปตฺวา คณฺหโต ปน อวหาโร ‘‘ปริกปฺปาวหาโร’’ติ วุจฺจติ, โส ภณฺฑปริกปฺป-โอกาสปริกปฺปวเสน ทุวิโธ. ตตฺรายํ ภณฺฑปริกปฺโป – อิเธกจฺโจ สาฏกตฺถิโก อนฺโตคพฺภํ ปวิสิตฺวา ‘‘สเจ สาฏโก ภวิสฺสติ, คณฺหิสฺสามิ; สเจ สุตฺตํ, น คณฺหิสฺสามี’’ติ ปริกปฺเปตฺวา อนฺธกาเร ปสิพฺพกํ คณฺหาติ, สาฏโก เจ ตตฺร โหติ, อุทฺธาเรเยว ปาราชิกํ. สุตฺตํ เจ โหติ, รกฺขติ. พหิ นีหริตฺวา มุฺจิตฺวา ‘‘สุตฺต’’นฺติ ตฺวา ปุน อาหริตฺวา ยถาาเน เปติ, รกฺขติเยว. ‘‘สุตฺต’’นฺติ ตฺวาปิ ‘‘ยํ ลทฺธํ, ตํ คเหตพฺพ’’นฺติ คจฺฉติ, ปทวาเรน กาเรตพฺโพ. ภูมิยํ เปตฺวา คณฺหาติ, อุทฺธาเร ปาราชิกํ. ‘‘โจโร, โจโร’’ติ สามิเกหิ ปริยุฏฺิโต ฉฑฺเฑตฺวา ปลายติ, รกฺขติ. สามิกา ตํ ทิสฺวา คณฺหนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. อฺโ เจ โกจิ คณฺหาติ, ภณฺฑเทยฺยํ. อถ นิวตฺเตสุ สามิเกสุ สยเมว ตํ ทิสฺวา ‘‘ปเคเวตํ มยา นีหฏํ, มม ทานิ สนฺตก’’นฺติ คณฺหาติ, รกฺขติ; ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหติ. ‘‘สเจ สุตฺตํ ภวิสฺสติ, คณฺหิสฺสามิ; สเจ สาฏโก, น คณฺหิสฺสามิ. สเจ สปฺปิ ภวิสฺสติ, คณฺหิสฺสามิ; สเจ เตลํ, น คณฺหิสฺสามี’’ติอาทินา นเยน ปริกปฺเปตฺวา คณฺหนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย.

มหาปจฺจริยาทีสุ ปน ‘‘สาฏกตฺถิโกปิ สาฏกปสิพฺพกเมว คเหตฺวา นิกฺขนฺโต พหิ ตฺวา มุฺจิตฺวา ‘สาฏโก อย’นฺติ ทิสฺวา คจฺฉนฺโต ปทุทฺธาเรเนว กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถ ปน ‘‘สเจ สาฏโก ภวิสฺสติ, คณฺหิสฺสามี’’ติ ปริกปฺปิตตฺตา ปริกปฺโป ทิสฺสติ, ทิสฺวา หฏตฺตา ปริกปฺปาวหาโร น ทิสฺสติ. มหาอฏฺกถายํ ปน ยํ ปริกปฺปิตํ ตํ อทิฏฺํ ปริกปฺปิตภาเว ิตํเยว อุทฺธรนฺตสฺส อวหาโร วุตฺโต, ตสฺมา ตตฺถ ปริกปฺปาวหาโร ทิสฺสติ. ‘‘ตํ มฺมาโน ตํ อวหรี’’ติ ปาฬิยา จ สเมตีติ. ตตฺถ ยฺวายํ ‘‘สเจ สาฏโก ภวิสฺสติ, คณฺหิสฺสามี’’ติอาทินา นเยน ปวตฺโต ปริกปฺโป, อยํ ‘‘ภณฺฑปริกปฺโป’’ นาม.

โอกาสปริกปฺโป ปน เอวํ เวทิตพฺโพ – อิเธกจฺโจ โลลภิกฺขุ ปรปริเวณํ วา กุลฆรํ วา อรฺเ กมฺมนฺตสาลํ วา ปวิสิตฺวา ตตฺถ กถาสลฺลาเปน นิสินฺโน กิฺจิ โลภเนยฺยํ ปริกฺขารํ โอโลเกติ, โอโลเกนฺโต จ ปน ทิสฺวา ทฺวารปมุขเหฏฺาปาสาทปริเวณทฺวารโกฏฺกรุกฺขมูลาทิวเสน ปริจฺเฉทํ กตฺวา ‘‘สเจ มํ เอตฺถนฺตเร ปสฺสิสฺสนฺติ, ทฏฺุกามตาย คเหตฺวา วิจรนฺโต วิย เอเตสํเยว ทสฺสามิ; โน เจ ปสฺสิสฺสนฺติ, หริสฺสามี’’ติ ปริกปฺเปติ. ตสฺส ตํ อาทาย ปริกปฺปิตปริจฺเฉทํ อติกฺกนฺตมตฺเต ปาราชิกํ. สเจ อุปจารสีมํ ปริกปฺเปติ, ตทภิมุโขว คจฺฉนฺโต กมฺมฏฺานาทีนิ มนสิ กโรนฺโต วา อฺวิหิโต วา อสติยา อุปจารสีมํ อติกฺกมติ, ภณฺฑเทยฺยํ. อถาปิสฺส ตํ านํ ปตฺตสฺส โจโร วา หตฺถี วา วาฬมิโค วา มหาเมโฆ วา วุฏฺหติ, โส จ ตมฺหา อุปทฺทวา มุจฺจิตุกมฺยตาย สหสา ตํ านํ อติกฺกมติ, ภณฺฑเทยฺยเมว. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘ยสฺมา มูเลว เถยฺยจิตฺเตน คหิตํ, ตสฺมา น รกฺขติ, อวหาโรเยวา’’ติ วทนฺติ. อยํ ตาว มหาอฏฺกถานโย. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘สเจปิ โส อนฺโตปริจฺเฉเท หตฺถึ วา อสฺสํ วา อภิรุหิตฺวา ตํ เนว ปาเชติ, น ปาชาเปติ; ปริจฺเฉเท อติกฺกนฺเตปิ ปาราชิกํ นตฺถิ, ภณฺฑเทยฺยเมวา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺร ยฺวายํ ‘‘สเจ มํ เอตฺถนฺตเร ปสฺสิสฺสนฺติ, ทฏฺุกามตาย คเหตฺวา วิจรนฺโต วิย เอเตสํเยว ทสฺสามี’’ติ ปวตฺโต ปริกปฺโป, อยํ ‘‘โอกาสปริกปฺโป’’ นาม.

เอวมิเมสํ ทฺวินฺนมฺปิ ปริกปฺปานํ วเสน ปริกปฺเปตฺวา คณฺหโต อวหาโร ‘‘ปริกปฺปาวหาโร’’ติ เวทิตพฺโพ.

ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปน อวหรณํ ปฏิจฺฉนฺนาวหาโร. โส เอวํ เวทิตพฺโพ – โย ภิกฺขุ มนุสฺสานํ อุยฺยานาทีสุ กีฬนฺตานํ วา ปวิสนฺตานํ วา โอมุฺจิตฺวา ปิตํ อลงฺการภณฺฑํ ทิสฺวา ‘‘สเจ โอนมิตฺวา คเหสฺสามิ, ‘กึ สมโณ คณฺหาตี’ติ มํ ชานิตฺวา วิเหเยฺยุ’’นฺติ ปํสุนา วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทติ – ‘‘ปจฺฉา คณฺหิสฺสามี’’ติ, ตสฺส เอตฺตาวตา อุทฺธาโร นตฺถีติ น ตาว อวหาโร โหติ. ยทา ปน เต มนุสฺสา อนฺโตคามํ ปวิสิตุกามา ตํ ภณฺฑกํ วิจินนฺตาปิ อปสฺสิตฺวา ‘‘อิทานิ อนฺธกาโร, สฺเว ชานิสฺสามา’’ติ สาลยา เอว คตา โหนฺติ. อถสฺส ตํ อุทฺธรโต อุทฺธาเร ปาราชิกํ. ‘‘ปฏิจฺฉนฺนกาเลเยว ตํ มม สนฺตก’’นฺติ สกสฺาย วา ‘‘คตา ทานิ เต, ฉฑฺฑิตภณฺฑํ อิท’’นฺติ ปํสุกูลสฺาย วา คณฺหนฺตสฺส ปน ภณฺฑเทยฺยํ. เตสุ ทุติยทิวเส อาคนฺตฺวา วิจินิตฺวา อทิสฺวา ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา คเตสุปิ คหิตํ ภณฺฑเทยฺยเมว. กสฺมา? ยสฺมา ตสฺส ปโยเคน เตหิ น ทิฏฺํ, โย ปน ตถารูปํ ภณฺฑํ ทิสฺวา ยถาาเน ิตํเยว อปฺปฏิจฺฉาเทตฺวา เถยฺยจิตฺโต ปาเทน อกฺกมิตฺวา กทฺทเม วา วาลิกาย วา ปเวเสติ, ตสฺส ปเวสิตมตฺเตเยว ปาราชิกํ.

กุสํ สงฺกาเมตฺวา ปน อวหรณํ ‘‘กุสาวหาโร’’ติ วุจฺจติ. โสปิ เอวํ เวทิตพฺโพ – โย ภิกฺขุ กุสํ ปาเตตฺวา จีวเร ภาชิยมาเน อตฺตโน โกฏฺาสสฺส สมีเป ิตํ อปฺปคฺฆตรํ วา มหคฺฆตรํ วา สมสมํ วา อคฺเฆน ปรสฺส โกฏฺาสํ หริตุกาโม อตฺตโน โกฏฺาเส ปติตํ กุสทณฺฑกํ ปรสฺส โกฏฺาเส ปาเตตุกาโม อุทฺธรติ, รกฺขติ ตาว. ปรสฺส โกฏฺาเส ปาเตติ, รกฺขเตว. ยทา ปน ตสฺมึ ปติเต ปรสฺส โกฏฺาสโต ปรสฺส กุสทณฺฑกํ อุทฺธรติ, อุทฺธฏมตฺเต ปาราชิโก โหติ. สเจ ปมตรํ ปรโกฏฺาสโต กุสทณฺฑกํ อุทฺธรติ อตฺตโน โกฏฺาเส ปาเตตุกามตาย อุทฺธาเร รกฺขติ, ปาตเน รกฺขติ. อตฺตโน โกฏฺาสโต ปน อตฺตโน กุสทณฺฑกํ อุทฺธรติ, อุทฺธาเรเยว รกฺขติ. ตํ อุทฺธริตฺวา ปรโกฏฺาเส ปาเตนฺตสฺส หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกํ.

สเจ ปน ทฺวีสุปิ โกฏฺาเสสุ ปติตทณฺฑเก อทสฺสนํ คเมติ, ตโต อวเสสภิกฺขูสุ คเตสุ อิตโร ‘‘‘มยฺหํ, ภนฺเต, ทณฺฑโก น ปฺายตี’ติ. ‘มยฺหมฺปิ, อาวุโส, น ปฺายตี’ติ. ‘กตโม ปน, ภนฺเต, มยฺหํ ภาโค’ติ? ‘อยํ ตุยฺหํ ภาโค’’’ติ อตฺตโน ภาคํ ทสฺเสติ, ตสฺมึ วิวทิตฺวา วา อวิวทิตฺวา วา ตํ คณฺหิตฺวา คเต อิตโร ตสฺส ภาคํ อุทฺธรติ, อุทฺธาเร ปาราชิกํ. สเจปิ เตน ‘‘อหํ มม ภาคํ ตุยฺหํ น เทมิ, ตฺวํ ปน อตฺตโน ภาคํ ตฺวา คณฺหา’’ติ วุตฺเต ‘‘นายํ มมา’’ติ ชานนฺโตปิ ตสฺเสว ภาคํ คณฺหาติ, อุทฺธาเร ปาราชิกํ. สเจ ปน อิตโร ‘‘อยํ ตุยฺหํ ภาโค, อยํ มยฺหํ ภาโคติ กึ อิมินา วิวาเทนา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘มยฺหํ วา ปตฺโต โหตุ, ตุมฺหากํ วา, โย วรภาโค ตํ ตุมฺเห คณฺหถา’’ติ วทติ, ทินฺนกํ นาม คหิตํ โหติ, นตฺเถตฺถ อวหาโร. สเจปิ โส วิวาทภีรุโก ภิกฺขุ ‘‘ยํ ตุยฺหํ รุจฺจติ, ตํ คณฺหา’’ติ วุตฺโต อตฺตโน ปตฺตํ วรภาคํ เปตฺวา ลามกํเยว คเหตฺวา คจฺฉติ, ตโต อิตรสฺส วิจินิตาวเสสํ คณฺหนฺตสฺสาปิ อวหาโร นตฺเถวาติ.

อฏฺกถาสุปน วุตฺตํ – ‘‘อิมสฺมึ าเน กุสสงฺกามนวเสน จีวรภาชนียเมว เอกํ อาคตํ, จตุนฺนมฺปิ ปน ปจฺจยานํ อุปฺปตฺติฺจ ภาชนียฺจ นีหริตฺวา ทสฺเสตพฺพ’’นฺติ เอวฺจ วตฺวา จีวรกฺขนฺธเก‘‘ปฏิคฺคณฺหาตุ เม, ภนฺเต, ภควา สีเวยฺยกํ ทุสฺสยุคํ; ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ คหปติจีวรํ อนุชานาตู’’ติ (มหาว. ๓๓๗) อิทํ ชีวกวตฺถุํ อาทึ กตฺวา อุปฺปนฺนจีวรกถา, เสนาสนกฺขนฺธเก ‘‘เตน โข ปน สมเยน ราชคหํ ทุพฺภิกฺขํ โหติ, มนุสฺสา น สกฺโกนฺติ สงฺฆภตฺตํ กาตุํ, อิจฺฉนฺติ อุทฺเทสภตฺตํ นิมนฺตนํ สลากภตฺตํ ปกฺขิกํ อุโปสถิกํ ปาฏิปทิกํ กาตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๕) อิทํ สุตฺตมาทึ กตฺวา ปิณฺฑปาตกถา, เสนาสนกฺขนฺธเกเยว ‘‘เตน โข ปน สมเยน สตฺตรสวคฺคิยา ภิกฺขู อฺตรํ ปจฺจนฺติมํ มหาวิหารํ ปฏิสงฺขโรนฺติ – ‘อิธ มยํ วสฺสํ วสิสฺสามา’ติ. อทฺทสํสุ โข ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู สตฺตรสวคฺคิเย ภิกฺขู วิหารํ ปฏิสงฺขโรนฺเต’’ติ (จูฬว. ๓๑๖) อิทํ ฉพฺพคฺคิยวตฺถุํ อาทึ กตฺวา อาคตเสนาสนกถา, ตทวสาเน จ สปฺปิอาทิเภสชฺชกถา วิตฺถาเรน กถิตา. มยํ ปน ตํ สพฺพํ อาคตาคตฏฺาเนเยว กถยิสฺสาม; เอวํ กถเน การณํ ปุพฺเพ วุตฺตเมว.

กุสสงฺกามนวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

๑๓๙. อิโต ปรํ ชนฺตาฆรวตฺถุ อุตฺตานตฺถเมว.

๑๔๐. ปฺจสุ วิฆาสวตฺถูสุ เต ภิกฺขู อนุปสมฺปนฺเนน กปฺปิยํ การาเปตฺวา ปริภุฺชึสุ. วิฆาสํ ปน คณฺหนฺเตน ขาทิตาวเสสํ ฉฑฺฑิตํ คเหตพฺพํ. ยทิ สกฺโกติ ขาทนฺเต ฉฑฺฑาเปตฺวา คณฺหิตุํ, เอตมฺปิ วฏฺฏติ. อตฺตคุตฺตตฺถาย ปน ปรานุทฺทยตาย จ น คเหตพฺพํ.

๑๔๑. โอทนขาทนียปูวอุจฺฉุติมฺพรูสกภาชนียวตฺถูสุ อปรสฺส ภาคํ เทหีติ อสนฺตํ ปุคฺคลํ อาห. อมูลกํ อคฺคเหสีติ สามิเกสุ เทนฺเตสุ เอวํ อคฺคเหสิ. อนาปตฺติ ภิกฺขุ ปาราชิกสฺสาติ สามิเกหิ ทินฺนํ อคฺคเหสิ; เตนสฺส อนาปตฺติ วุตฺตา. อาปตฺติ สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยสฺสาติ โย ปนาเนน สมฺปชานมุสาวาโท วุตฺโต, ตสฺมึ ปาจิตฺติยํ อาห; ปรโต เตกฏุลยาคุวตฺถุมฺหิ วิย. คหเณ ปน อยํ วินิจฺฉโย – สงฺฆสฺส สนฺตกํ สมฺมเตน วา อาณตฺเตหิ วา อารามิกาทีหิ ทิยฺยมานํ, คิหีนฺจ สนฺตกํ สามิเกน วา อาณตฺเตน วา ทิยฺยมานํ ‘‘อปรสฺส ภาคํ เทหี’’ติ วตฺวา คณฺหโต ภณฺฑเทยฺยํ. อฺเน ทิยฺยมานํ คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. อสมฺมเตน วา อนาณตฺเตน วา ทิยฺยมาเน ‘‘อปรมฺปิ ภาคํ เทหี’’ติ วตฺวา วา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา วา คณฺหนฺโต ปตฺตจตุกฺเก วิย ตสฺสุทฺธาเรเยว ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. อิตเรหิ ทิยฺยมานํ เอวํ คณฺหโต ภณฺฑเทยฺยํ. สามิเกน ปน ‘‘อิมสฺส เทหี’’ติ ทาปิตํ วา สยํ ทินฺนํ วา สุทินฺนนฺติ อยเมตฺถ สพฺพอฏฺกถาวินิจฺฉยโต สาโร.

๑๔๒-๓. โอทนิยฆราทิวตฺถูสุ – โอทนิยฆรํ นาม วิกฺกายิกภตฺตปจนฆรํ. สูนฆรํ นาม วิกฺกายิกมํสปจนฆรํ. ปูวฆรํ นาม วิกฺกายิกขชฺชกปจนฆรํ. เสสเมตฺถ, ปริกฺขารวตฺถูสุ จ ปากฏเมว.

๑๔๔. ปีวตฺถุสฺมึ – โส ภิกฺขุ ปริกปฺเปตฺวา ‘‘เอตํ านํ สมฺปตฺตํ คณฺหิสฺสามี’’ติ สงฺกาเมสิ. เตนสฺส สงฺกามเน อวหาโร นตฺถิ. สงฺกาเมตฺวา ปน ปริกปฺปิโตกาสโต คหเณ ปาราชิกํ วุตฺตํ. เอวํ หรนฺโต จ ยทิ ปีเก เถยฺยจิตฺตํ นตฺถิ, ถวิกํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพ. อถ ปีเกปิ อตฺถิ, อุโภ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพติ. ภิสิอาทีนิ ตีณิ วตฺถูนิ ปากฏาเนว.

๑๔๖. วิสฺสาสคฺคาหาทีสุ ตีสุ วตฺถูสุ คหเณ อนาปตฺติ, อาหราเปนฺเตสุ ภณฺฑเทยฺยํ. ปิณฺฑาย ปวิฏฺสฺส ปฏิวิโส อนฺโตอุปจารสีมายํ ิตสฺเสว คเหตุํ วฏฺฏติ. ยทิ ปน ทายกา ‘‘พหิอุปจารฏฺานมฺปิ ภนฺเต, ภาคํ คณฺหถ, อาคนฺตฺวา ปริภุฺชิสฺสนฺตี’’ติ วทนฺติ, เอวํ อนฺโตคามฏฺานมฺปิ คเหตุํ วฏฺฏติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

๑๔๘-๙. สตฺตสุ อมฺพโจรกาทิวตฺถูสุ ปํสุกูลสฺาย คหเณ อนาปตฺติ, อาหราเปนฺเตสุ ภณฺฑเทยฺยํ, เถยฺยจิตฺเตน ปริโภเค ปาราชิกํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – สามิกาปิ สาลยา, โจราปิ สาลยา, ปํสุกูลสฺาย ขาทนฺตสฺส ภณฺฑเทยฺยํ, เถยฺยจิตฺเตน คณฺหโต อุทฺธาเรเยว อวหาโร, ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพ. สามิกา สาลยา, โจรา นิราลยา, เอเสว นโย. สามิกา นิราลยา, โจรา สาลยา; ‘‘ปุน คณฺหิสฺสามา’’ติ กิสฺมิฺจิเทว คหนฏฺาเน ขิปิตฺวา คตา, เอเสว นโย. อุโภปิ นิราลยา, ปํสุกูลสฺาย ขาทโต อนาปตฺติ, เถยฺยจิตฺเตน ทุกฺกฏํ.

สงฺฆสฺส อมฺพาทีสุ ปน สงฺฆาราเม ชาตํ วา โหตุ, อาเนตฺวา ทินฺนํ วา ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ อวหรนฺตสฺส ปาราชิกํ. ปจฺจนฺเต โจรุปทฺทเวน คาเมสุ วุฏฺหนฺเตสุ ภิกฺขูปิ วิหาเร ฉฑฺเฑตฺวา ‘‘ปุน อาวสนฺเต ชนปเท อาคมิสฺสามา’’ติ สอุสฺสาหาว คจฺฉนฺติ. ภิกฺขู ตาทิสํ วิหารํ ปตฺวา อมฺพปกฺกาทีนิ ‘‘ฉฑฺฑิตกานี’’ติ ปํสุกูลสฺาย ปริภุฺชนฺติ, อนาปตฺติ; เถยฺยจิตฺเตน ปริภุฺชโต อวหาโร โหติ, ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพ.

มหาปจฺจริยํ ปน สงฺเขปฏฺกถายฺจ อวิเสเสน วุตฺตํ – ‘‘ฉฑฺฑิตวิหาเร ปน ผลาผลํ เถยฺยจิตฺเตน ปริภุฺชโต ปาราชิกํ. กสฺมา? อาคตานาคตานํ สนฺตกตฺตา’’ติ. คณสนฺตเก ปน ปุคฺคลิเก จ สอุสฺสาหมตฺตเมว ปมาณํ. สเจ ปน ตโต อมฺพปกฺกาทึ กุลสงฺคหณตฺถาย เทติ, กุลทูสกทุกฺกฏํ. เถยฺยจิตฺเตน เทนฺโต อคฺเฆน กาเรตพฺโพ. สงฺฆิเกปิ เอเสว นโย. เสนาสนตฺถาย นิยมิตํ กุลสงฺคหณตฺถาย ททโต ทุกฺกฏํ, อิสฺสรวตาย ถุลฺลจฺจยํ, เถยฺยจิตฺเตน ปาราชิกํ. โน เจ วตฺถุ ปโหติ, อคฺเฆน กาเรตพฺโพ. พหิ อุปจารสีมาย นิสีทิตฺวา อิสฺสรวตาย ปริภุฺชโต คีวา. ฆณฺฏึ ปหริตฺวา กาลํ โฆเสตฺวา ‘‘มยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ ขาทิตํ สุขาทิตํ. ฆณฺฏึ อปหริตฺวา กาลเมว โฆเสตฺวา, ฆณฺฏิเมว ปหริตฺวา กาลํ อโฆเสตฺวา, ฆณฺฏิมฺปิ อปหริตฺวา กาลมฺปิ อโฆเสตฺวา อฺเสํ นตฺถิภาวํ ตฺวา ‘‘มยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ ขาทิตมฺปิ สุขาทิตเมว. ปุปฺผารามวตฺถุทฺวยํ ปากฏเมว.

๑๕๐. วุตฺตวาทกวตฺถุตฺตเย วุตฺโต วชฺเชมีติ ตยา วุตฺโต หุตฺวา ‘‘ตว วจเนน วทามี’’ติ อตฺโถ. อนาปตฺติ ภิกฺขุ ปาราชิกสฺสาติ สามิเกหิ ทินฺนตฺตา อนาปตฺติ. น จ, ภิกฺขเว, ‘‘วุตฺโต วชฺเชมี’’ติ วตฺตพฺโพติ ‘‘อหํ ตยา วุตฺโต หุตฺวา ตว วจเนน วทามี’’ติ เอวํ อฺโ ภิกฺขุ อฺเน ภิกฺขุนา น วตฺตพฺโพติ อตฺโถ. ปริจฺเฉทํ ปน กตฺวา ‘‘อิตฺถนฺนามํ ตว วจเนน คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. วุตฺโต วชฺเชหีติ มยา วุตฺโต หุตฺวา มม วจเนน วเทหีติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนยเมว. อิเมสุปิ จ ทฺวีสุ วตฺถูสุ ปริจฺเฉทํ กตฺวา วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอตฺตาวตา หิ อุปารมฺภา มุตฺโต โหตีติ.

๑๕๑-๒. มณิวตฺถุตฺตยสฺส มชฺฌิเม วตฺถุสฺมึ – นาหํ อกลฺลโกติ นาหํ คิลาโนติ อตฺโถ. เสสํ ปากฏเมว.

๑๕๓. สูกรวตฺถุทฺวเย – กิฺจาปิ ปมสฺส ภิกฺขุโน ฉาตชฺฌตฺตํ ทิสฺวา การุฺเน โมจิตตฺตา อนาปตฺติ. สามิเกสุ ปน อสมฺปฏิจฺฉนฺเตสุ ภณฺฑเทยฺยํ, ตาว มหนฺโต วา มตสูกโร อาหริตฺวา ทาตพฺโพ, ตทคฺฆนกํ วา ภณฺฑํ. สเจ ปาสสามิเก กุหิฺจิปิ น ปสฺสติ, ปาสสามนฺตา ตทคฺฆนกํ สาฏกํ วา กาสาวํ วา ถาลกํ วา ยถา เต อาคตา ปสฺสนฺติ, อีทิเส าเน เปตฺวาว คนฺตพฺพํ, เถยฺยจิตฺเตน ปน โมเจนฺตสฺส ปาราชิกเมว. เอตฺถ จ โกจิ สูกโร ปาสํ ปาเทน กฑฺฒิตฺวา ฉินฺนมตฺเต ปาเส านาจาวนธมฺเมน าเนน ิโต โหติ จณฺฑโสเต พทฺธนาวา วิย. โกจิ อตฺตโน ธมฺมตาย ิโต, โกจิ นิปนฺโน, โกจิ กูฏปาเสน พทฺโธ โหติ. กูฏปาโส นาม ยสฺส อนฺเต ธนุกํ วา องฺกุสโก วา อฺโ วา โกจิ ทณฺฑโก พทฺโธ โหติ, โย ตตฺถ ตตฺถ รุกฺขาทีสุ ลคฺคิตฺวา สูกรสฺส คมนํ นิวาเรติ. ตตฺร ปาสํ กฑฺฒิตฺวา ิตสฺส เอกเมว านํ ปาสพนฺธนํ, โส หิ ปาเส มุตฺตมตฺเต วา ฉินฺนมตฺเต วา ปลายติ. อตฺตโน ธมฺมตาย ิตสฺส พนฺธนฺจ จตฺตาโร จ ปาทาติ ปฺจ านานิ. นิปนฺนสฺส พนฺธนฺจ สยนฺจาติ ทฺเว านานิ. กูฏปาสพทฺธสฺส ยตฺถ ยตฺถ คจฺฉติ, ตํ ตเทว านํ. ตสฺมา ตํ ตโต ตโต โมเจนฺตา ทสปิ วีสติปิ สตมฺปิ ภิกฺขู ปาราชิกํ อาปชฺชนฺติ. ตตฺถ ตตฺถ อาคตํ ทิสฺวา เอกเมว ทาสํ ปลาเปนฺโต วิย.

ปุริมานํ ปน ติณฺณํ จตุปฺปทกถายํ วุตฺตนเยน ผนฺทาปนานาจาวนานิ เวทิตพฺพานิ. สุนขทฏฺํ สูกรํ วิสฺสชฺชาเปนฺตสฺสาปิ การุฺาธิปฺปาเยน ภณฺฑเทยฺยํ, เถยฺยจิตฺเตน ปาราชิกํ. ปาสฏฺานํ ปน สุนขสมีปํ วา อสมฺปตฺตํ ปฏิปถํ คนฺตฺวา ปมเมว ปลาเปนฺตสฺส อวหาโร นตฺถิ. โยปิ พทฺธสูกรสฺส ฆาสฺจ ปานียฺจ ทตฺวา พลํ คาหาเปตฺวา อุกฺกุฏฺึ กโรติ – ‘‘อุตฺรสฺโต ปลายิสฺสตี’’ติ; โส เจ ปลายติ, ปาราชิกํ. ปาสํ ทุพฺพลํ กตฺวา อุกฺกุฏฺิสทฺเทน ปลาเปนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย.

โย ปน ฆาสฺจ ปานียฺจ ทตฺวา คจฺฉติ, ‘‘พลํ คเหตฺวา ปลายิสฺสตี’’ติ; โส เจ ปลายติ, ภณฺฑเทยฺยํ. ปาสํ ทุพฺพลํ กตฺวา คจฺฉนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. ปาสสนฺติเก สตฺถํ วา อคฺคึ วา เปติ ‘‘ฉินฺเน วา ทฑฺเฒ วา ปลายิสฺสตี’’ติ. สูกโร ปาสํ จาเลนฺโต ฉินฺเน วา ทฑฺเฒ วา ปลายติ, ภณฺฑเทยฺยเมว. ปาสํ ยฏฺิยา สห ปาเตติ, ปจฺฉา สูกโร ตํ มทฺทนฺโต คจฺฉติ, ภณฺฑเทยฺยํ. สูกโร อทูหลปาสาเณหิ อกฺกนฺโต โหติ, ตํ ปลาเปตุกามสฺส อทูหลํ การุฺเน อุกฺขิปโต ภณฺฑเทยฺยํ, เถยฺยจิตฺเตน ปาราชิกํ. สเจ อุกฺขิตฺตมตฺเต อคนฺตฺวา ปจฺฉา คจฺฉติ, ภณฺฑเทยฺยเมว. อุกฺขิปิตฺวา ปิตํ อทูหลํ ปาเตติ, ปจฺฉา สูกโร ตํ มทฺทนฺโต คจฺฉติ, ภณฺฑเทยฺยํ. โอปาเต ปติตสูกรมฺปิ การุฺเน อุทฺธรโต ภณฺฑเทยฺยํ, เถยฺยจิตฺเตน ปาราชิกํ. โอปาตํ ปูเรตฺวา นาเสติ, ปจฺฉา สูกโร ตํ มทฺทนฺโต คจฺฉติ, ภณฺฑเทยฺยํ. สูเล วิทฺธํ การุฺเน อุทฺธรติ, ภณฺฑเทยฺยํ, เถยฺยจิตฺเตน ปาราชิกํ. สูลํ อุทฺธริตฺวา ฉฑฺเฑติ, ภณฺฑเทยฺยํ.

วิหารภูมิยํ ปน ปาเส วา อทูหลํ วา โอฑฺเฑนฺตา วาเรตพฺพา – ‘‘มิครูปานํ ปฏิสรณฏฺานเมตํ, มา อิธ เอวํ กโรถา’’ติ. สเจ ‘‘หราเปถ, ภนฺเต’’ติ วทนฺติ, หราเปตุํ วฏฺฏติ. อถ สยํ หรนฺติ, สุนฺทรเมว. อถ เนว หรนฺติ, น หริตุํ เทนฺติ, รกฺขํ ยาจิตฺวา หราเปตุํ วฏฺฏติ. มนุสฺสา สสฺสรกฺขณกาเล เขตฺเตสุ ปาเส จ อทูหลปาสาณาทีนิ จ กโรนฺติ – ‘‘มํสํ ขาทนฺตา สสฺสานิ รกฺขิสฺสามา’’ติ. วีติวตฺเต สสฺสกาเล เตสุ อนาลเยสุ ปกฺกนฺเตสุ ตตฺถ พทฺธํ วา ปติตํ วา โมเจตุํ วฏฺฏตีติ.

มิควตฺถุทฺวเยปิ สูกรวตฺถูสุ วุตฺตสทิโสเยว วินิจฺฉโย.

มจฺฉวตฺถุทฺวเยปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – กุมีนมุขํ วิวริตฺวา วา ปจฺฉาปุฏกํ มุฺจิตฺวา วา ปสฺเสน ฉิทฺทํ กตฺวา วา กุมีนโต มจฺเฉ โปเถตฺวา ปลาเปนฺตสฺส ปาราชิกํ. ภตฺตสิตฺถานิ ทสฺเสตฺวา เอวํ ปลาเปนฺตสฺสาปิ ปาราชิกํ. สห กุมีเนน อุทฺธรโตปิ ปาราชิกํ. เกวลํ กุมีนมุขํ วิวรติ, ปจฺฉาปุฏกํ มุฺจติ, ฉิทฺทํ วา กโรติ, มจฺฉา ปน อตฺตโน ธมฺมตาย ปลายนฺติ, ภณฺฑเทยฺยํ. เอวํ กตฺวา ภตฺตสิตฺถานิ ทสฺเสติ, มจฺฉา โคจรตฺถาย นิกฺขมิตฺวา ปลายนฺติ, ภณฺฑเทยฺยเมว. มุขํ อวิวริตฺวา ปจฺฉาปุฏกํ อมุฺจิตฺวา ปสฺเสน ฉิทฺทํ อกตฺวา เกวลํ ภตฺตสิตฺถานิ ทสฺเสติ, มจฺฉา ปน ฉาตชฺฌตฺตา สีเสน ปหริตฺวา โอกาสํ กตฺวา โคจรตฺถาย นิกฺขมิตฺวา ปลายนฺติ, ภณฺฑเทยฺยเมว. ตุจฺฉกุมีนสฺส มุขํ วา วิวรติ, ปจฺฉาปุฏกํ วา มุฺจติ, ฉิทฺทํ วา กโรติ, อาคตาคตา มจฺฉา ทฺวารํ ปตฺตา ปุฏกฉิทฺเทหิ ปลายนฺติ, ภณฺฑเทยฺยเมว. ตุจฺฉกุมีนํ คเหตฺวา คุมฺเพ ขิปติ, ภณฺฑเทยฺยเมวาติ. ยาเน ภณฺฑํ ปีเ ถวิกาย สทิสํ.

มํสเปสิวตฺถุมฺหิ – สเจ อากาเส คณฺหาติ, คหิตฏฺานเมว านํ. ตํ ฉหากาเรหิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา านาจาวนํ เวทิตพฺพํ. เสสเมตฺถ ทารุโคปาลกรชกสาฏกวตฺถูสุ จ อมฺพโจรกาทิวตฺถูสุ วุตฺตนเยน วินิจฺฉินิตพฺพํ.

๑๕๕. กุมฺภิวตฺถุสฺมึ – โย สปฺปิเตลาทีนิ อปาทคฺฆนกานิ คเหตฺวา ‘‘น ปุน เอวํ กริสฺสามี’’ติ สํวเร ตฺวา ทุติยทิวสาทีสุปิ ปุน จิตฺเต อุปฺปนฺเน เอวเมว ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา ปริภุฺชนฺโต สพฺพมฺปิ ตํ ปริภุฺชติ, เนวตฺถิ ปาราชิกํ. ทุกฺกฏํ วา ถุลฺลจฺจยํ วา อาปชฺชติ, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหติ. อยมฺปิ ภิกฺขุ เอวเมวมกาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ ปาราชิกสฺสา’’ติ. ธุรนิกฺเขปํ ปน อกตฺวา ‘‘ทิวเส ทิวเส ปริภุฺชิสฺสามี’’ติ โถกํ โถกมฺปิ ปริภุฺชโต ยสฺมึ ทิวเส ปาทคฺฆนกํ ปูรติ, ตสฺมึ ปาราชิกํ.

สํวิทาวหารวตฺถูนิ สํวิทาวหาเร, มุฏฺิวตฺถูนิ โอทนิยฆราทิวตฺถูสุ ทฺเว วิฆาสวตฺถูนิ อมฺพโจรกาทิวตฺถูสุ วุตฺตวินิจฺฉยนเยน เวทิตพฺพานิ. ทฺเว ติณวตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

๑๕๖. อมฺพภาชาปนาทิวตฺถูสุ เต ภิกฺขู เอกํ คามกาวาสํ ปริจฺฉินฺนภิกฺขุกํ อคมํสุ. ตตฺถ ภิกฺขู ผลาผลํ ปริภุฺชมานาปิ เตสุ อาคเตสุ ‘‘เถรานํ ผลานิ เทถา’’ติ กปฺปิยการเก น อโวจุํ. อถ เต ภิกฺขู ‘‘กึ สงฺฆิกํ อมฺหากํ น ปาปุณาตี’’ติ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภาชาเปตฺวา เตสมฺปิ วสฺสคฺเคน ภาคํ ทตฺวา อตฺตนาปิ ปริภุฺชึสุ. เตน เนสํ ภควา ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, ปริโภคตฺถายา’’ติ อาห. ตสฺมา อิทานิปิ ยตฺถ อาวาสิกา อาคนฺตุกานํ น เทนฺติ, ผลวาเร จ สมฺปตฺเต อฺเสํ อตฺถิภาวํ ทิสฺวา โจริกาย อตฺตนาว ขาทนฺติ, ตตฺถ อาคนฺตุเกหิ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภาเชตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ.

ยตฺถ ปน อาวาสิกา รุกฺเข รกฺขิตฺวา ผลวาเร สมฺปตฺเต ภาเชตฺวา ขาทนฺติ, จตูสุ ปจฺจเยสุ สมฺมา อุปเนนฺติ, อนิสฺสรา ตตฺถ อาคนฺตุกา. เยปิ รุกฺขา จีวรตฺถาย นิยเมตฺวา ทินฺนา, เตสุปิ อาคนฺตุกา อนิสฺสรา. เอเสว นโย เสสปจฺจยตฺถาย นิยเมตฺวา ทินฺเนสุปิ.

เย ปน ตถา อนิยมิตา, อาวาสิกา จ เต รกฺขิตฺวา โคเปตฺวา โจริกาย ปริภุฺชนฺติ, น เตสุ อาวาสิกานํ กติกาย าตพฺพํ. เย ผลปริโภคตฺถาย ทินฺนา, อาวาสิกาปิ เน รกฺขิตฺวา โคเปตฺวา สมฺมา อุปเนนฺติ, เตสุเยว เตสํ กติกาย าตพฺพํ. มหาปจฺจริยํ ปน วุตฺตํ – ‘‘จตุนฺนํ ปจฺจยานํ นิยเมตฺวา ทินฺนํ เถยฺยจิตฺเตน ปริภุฺชนฺโต ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพ. ปริโภควเสเนว ตํ ภาเชตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส ภณฺฑเทยฺยํ. ยํ ปเนตฺถ เสนาสนตฺถาย นิยมิตํ, ตํ ปริโภควเสเนว ภาเชตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยฺจ ภณฺฑเทยฺยฺจา’’ติ.

โอทิสฺส จีวรตฺถาย ทินฺนํ จีวเรเยว อุปเนตพฺพํ. สเจ ทุพฺภิกฺขํ โหติ, ภิกฺขู ปิณฺฑปาเตน กิลมนฺติ, จีวรํ ปน สุลภํ, สงฺฆสุฏฺุตาย อปโลกนกมฺมํ กตฺวา ปิณฺฑปาเตปิ อุปเนตุํ วฏฺฏติ. เสนาสเนน คิลานปจฺจเยน วา กิลมนฺเตสุ สงฺฆสุฏฺุตาย อปโลกนกมฺมํ กตฺวา ตทตฺถายปิ อุปเนตุํ วฏฺฏติ. โอทิสฺส ปิณฺฑปาตตฺถาย คิลานปจฺจยตฺถาย จ ทินฺเนปิ เอเสว นโย. โอทิสฺส เสนาสนตฺถาย ทินฺนํ ปน ครุภณฺฑํ โหติ, ตํ รกฺขิตฺวา โคเปตฺวา ตทตฺถเมว อุปเนตพฺพํ. สเจ ปน ทุพฺภิกฺขํ โหติ, ภิกฺขู ปิณฺฑปาเตน น ยาเปนฺติ. เอตฺถ ราชโรคโจรภยาทีหิ อฺตฺถ คจฺฉนฺตานํ วิหารา ปลุชฺชนฺติ, ตาลนาฬิเกราทิเก วินาเสนฺติ, เสนาสนปจฺจยํ ปน นิสฺสาย ยาเปตุํ สกฺกา โหติ. เอวรูเป กาเล เสนาสนํ วิสฺสชฺเชตฺวาปิ เสนาสนชคฺคนตฺถาย ปริโภโค ภควตา อนุฺาโต. ตสฺมา เอกํ วา ทฺเว วา วรเสนาสนานิ เปตฺวา อิตรานิ ลามกโกฏิยา ปิณฺฑปาตตฺถาย วิสฺสชฺเชตุํ วฏฺฏติ. มูลวตฺถุจฺเฉทํ ปน กตฺวา น อุปเนตพฺพํ.

โย ปน อาราโม จตุปฺปจฺจยตฺถาย นิยเมตฺวา ทินฺโน, ตตฺถ อปโลกนกมฺมํ น กาตพฺพํ. เยน ปน ปจฺจเยน อูนํ, ตทตฺถํ อุปเนตุํ วฏฺฏติ. อาราโม ชคฺคิตพฺโพ, เวตนํ ทตฺวาปิ ชคฺคาเปตุํ วฏฺฏติ. เย ปน เวตนํ ลภิตฺวา อาราเมเยว เคหํ กตฺวา วสนฺตา รกฺขนฺติ, เต เจ อาคตานํ ภิกฺขูนํ นาฬิเกรํ วา ตาลปกฺกํ วา เทนฺติ, ยํ เตสํ สงฺเฆน อนุฺาตํ โหติ – ‘‘ทิวเส ทิวเส เอตฺตกํ นาม ขาทถา’’ติ ตเทว เต ทาตุํ ลภนฺติ; ตโต อุตฺตริ เตสํ ททนฺตานมฺปิ คเหตุํ น วฏฺฏติ.

โย ปน อารามํ เกณิยา คเหตฺวา สงฺฆสฺส จตุปฺปจฺจยตฺถาย กปฺปิยภณฺฑเมว เทติ, อยํ พหุกมฺปิ ทาตุํ ลภติ. เจติยสฺส ปทีปตฺถาย วา ขณฺฑผุลฺลปฏิสงฺขรณตฺถาย วา ทินฺโน อาราโมปิ ปฏิชคฺคิตพฺโพ; เวตนํ ทตฺวาปิ ชคฺคาเปตพฺโพ. เวตนฺจ ปเนตฺถ เจติยสนฺตกมฺปิ สงฺฆสนฺตกมฺปิ ทาตุํ วฏฺฏติ. เอตมฺปิ อารามํ เวตเนน ตตฺเถว วสิตฺวา รกฺขนฺตานฺจ เกณิยา คเหตฺวา กปฺปิยภณฺฑทายกานฺจ ตตฺถ ชาตกผลทานํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

อมฺพปาลกาทิวตฺถูสุ – อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, โคปกสฺส ทาเนติ เอตฺถ กตรํ ปน โคปกทานํ วฏฺฏติ, กตรํ น วฏฺฏตีติ? มหาสุมตฺเถโร ตาว อาห – ‘‘ยํ โคปกสฺส ปริจฺฉินฺทิตฺวา ทินฺนํ โหติ – ‘เอตฺตกํ ทิวเส ทิวเส คณฺหา’ติ ตเทว วฏฺฏติ; ตโต อุตฺตริ น วฏฺฏตี’’ติ. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘กึ โคปกานํ ปณฺณํ อาโรเปตฺวา นิมิตฺตสฺํ วา กตฺวา ทินฺนํ อตฺถิ, เอเตสํ หตฺเถ วิสฺสฏฺกสฺส เอเต อิสฺสรา, ตสฺมา ยํ เต เทนฺติ ตํ พหุกมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ. กุรุนฺทฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ – ‘‘มนุสฺสานํ อารามํ วา อฺํ วา ผลาผลํ ทารกา รกฺขนฺติ, เตหิ ทินฺนํ วฏฺฏติ. อาหราเปตฺวา ปน น คเหตพฺพํ. สงฺฆิเก ปน เจติยสนฺตเก จ เกณิยา คเหตฺวา รกฺขนฺตสฺเสว ทานํ วฏฺฏติ. เวตเนน รกฺขนฺตสฺส อตฺตโน ภาคมตฺตํ วฏฺฏตี’’ติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ยํ คิหีนํ อารามรกฺขกา ภิกฺขูนํ เทนฺติ, เอตํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปน อารามโคปกา ยํ อตฺตโน ภติยา ขณฺเฑตฺวา เทนฺติ, เอตํ วฏฺฏติ. โยปิ อุปฑฺฒารามํ วา เกจิเทว รุกฺเข วา ภตึ ลภิตฺวา รกฺขติ, ตสฺสาปิ อตฺตโน ปตฺตรุกฺขโตเยว ทาตุํ วฏฺฏติ. เกณิยา คเหตฺวา รกฺขนฺตสฺส ปน สพฺพมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. เอตํ ปน สพฺพํ พฺยฺชนโต นานํ, อตฺถโต เอกเมว; ตสฺมา อธิปฺปายํ ตฺวา คเหตพฺพํ.

ทารุวตฺถุมฺหิ – ตาวกาลิโก อหํ ภควาติ ตาวกาลิกจิตฺโต อหํ ภควาติ วตฺตุกาเมน วุตฺตํ, ตาวกาลิกจิตฺโตติ ‘‘ปุน อาหริตฺวา ทสฺสามี’’ติ เอวํจิตฺโต อหนฺติ วุตฺตํ โหติ. ภควา ‘‘ตาวกาลิเก อนาปตฺตี’’ติ อาห.

อยํ ปเนตฺถ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย – สเจ สงฺโฆ สงฺฆิกํ กมฺมํ กาเรติ อุโปสถาคารํ วา โภชนสาลํ วา, ตโต อาปุจฺฉิตฺวา ตาวกาลิกํ หริตพฺพํ. โย ปน สงฺฆิโก ทพฺพสมฺภาโร อคุตฺโต เทเว วสฺสนฺเต เตเมติ, อาตเปน สุกฺขติ, ตํ สพฺพมฺปิ อาหริตฺวา อตฺตโน อาวาเส กาตุํ วฏฺฏติ. สงฺโฆ อาหราเปนฺโต อฺเน วา ทพฺพสมฺภาเรน มูเลน วา สฺาเปตพฺโพ. น สกฺกา เจ โหติ สฺาเปตุํ, ‘‘สงฺฆิเกน, ภนฺเต, กตํ สงฺฆิกปริโภเคน วฬฺชถา’’ติ วตฺตพฺพํ. เสนาสนสฺส ปน อยเมว ภิกฺขุ อิสฺสโร. สเจปิ ปาสาณตฺถมฺโภ วา รุกฺขตฺถมฺโภ วา กวาฏํ วา วาตปานํ วา นปฺปโหติ, สงฺฆิกํ ตาวกาลิกํ อาหริตฺวา ปากติกํ กาตุํ วฏฺฏติ. เอส นโย อฺเสุปิ ทพฺพสมฺภาเรสูติ.

อุทกวตฺถุสฺมึ – ยทา อุทกํ ทุลฺลภํ โหติ, โยชนโตปิ อฑฺฒโยชนโตปิ อาหรียติ, เอวรูเป ปริคฺคหิตอุทเก อวหาโร. ยโตปิ อาหริมโต วา โปกฺขรณีอาทีสุ ิตโต วา เกวลํ ยาคุภตฺตํ สมฺปาเทนฺติ, ปานียปริโภคฺจ กโรนฺติ, น อฺํ มหาปริโภคํ, ตมฺปิ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหโต อวหาโร. ยโต ปน เอกํ วา ทฺเว วา ฆเฏ คเหตฺวา อาสนํ โธวิตุํ, โพธิรุกฺเข สิฺจิตุํ อุทกปูชํ กาตุํ, รชนํ ปจิตุํ ลพฺภติ, ตตฺถ สงฺฆสฺส กติกวเสเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ. อติเรกํ คณฺหนฺโต, มตฺติกาทีนิ วา เถยฺยจิตฺเตน ปกฺขิปนฺโต ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพ.

สเจ อาวาสิกา กติกวตฺตํ ทฬฺหํ กโรนฺติ, อฺเสํ ภณฺฑกํ โธวิตุํ วา รชิตุํ วา น เทนฺติ, อตฺตนา ปน อฺเสํ อปสฺสนฺตานํ คเหตฺวา สพฺพํ กโรนฺติ, เตสํ กติกาย น าตพฺพํ. ยตฺตกํ เต โธวนฺติ, ตตฺตกํ โธวิตพฺพํ. สเจ สงฺฆสฺส ทฺเว ติสฺโส โปกฺขรณิโย วา อุทกโสณฺฑิโย วา โหนฺติ, กติกา จ กตา ‘‘เอตฺถ นฺหายิตพฺพํ, อิโต ปานียํ คเหตพฺพํ, อิธ สพฺพปริโภโค กาตพฺโพ’’ติ. กติกวตฺเตเนว สพฺพํ กาตพฺพํ. ยตฺถ กติกา นตฺถิ, ตตฺถ สพฺพปริโภโค วฏฺฏตีติ.

มตฺติกาวตฺถุสฺมึ – ยตฺถ มตฺติกา ทุลฺลภา โหติ, นานปฺปการา วา วณฺณมตฺติกา อาหริตฺวา ปิตา, ตตฺถ โถกาปิ ปฺจมาสกํ อคฺฆติ, ตสฺมา ปาราชิกํ. สงฺฆิเก ปน กมฺเม เจติยกมฺเม จ นิฏฺิเต สงฺฆํ อาปุจฺฉิตฺวา วา ตาวกาลิกํ วา คเหตุํ วฏฺฏติ. สุธายปิ จิตฺตกมฺมวณฺเณสุปิ เอเสว นโย.

ติณวตฺถูสุ – ฌาปิตติเณ านาจาวนสฺส อภาวา ทุกฺกฏํ, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหติ. สงฺโฆ ติณวตฺถุํ ชคฺคิตฺวา สงฺฆิกํ อาวาสํ ฉาเทติ, ปุน กทาจิ ชคฺคิตุํ น สกฺโกติ, อถฺโ เอโก ภิกฺขุ วตฺตสีเสน ชคฺคติ, สงฺฆสฺเสเวตํ. โน เจ ชคฺคติ, สงฺเฆเนโก ภิกฺขุ วตฺตพฺโพ ‘‘ชคฺคิตฺวา เทหี’’ติ. โส เจ ภาคํ อิจฺฉติ, ภาคํ ทตฺวาปิ ชคฺคาเปตพฺพํ. สเจ ภาคํ วฑฺเฒติ, ทาตพฺพเมว. วฑฺเฒติเยว, ‘‘คจฺฉ ชคฺคิตฺวา สพฺพํ คเหตฺวา อตฺตโน สนฺตกํ เสนาสนํ ฉาเทหี’’ติ วตฺตพฺโพ. กสฺมา? นฏฺเ อตฺโถ นตฺถิ. ททนฺเตหิ ปน สวตฺถุกํ น ทาตพฺพํ, ครุภณฺฑํ โหติ; ติณมตฺตํ ปน ทาตพฺพํ. ตสฺมึ เจ ชคฺคิตฺวา อตฺตโน เสนาสนํ ฉาเทนฺเต ปุน สงฺโฆ ชคฺคิตุํ ปโหติ, ‘‘ตฺวํ มา ชคฺคิ, สงฺโฆ ชคฺคิสฺสตี’’ติ วตฺตพฺโพติ.

มฺจาทีนิ สตฺต วตฺถูนิ ปากฏาเนว. ปาฬิยํ ปน อนาคตมฺปิ ปาสาณตฺถมฺภํ วา รุกฺขตฺถมฺภํ วา อฺํ วา กิฺจิ ปาทคฺฆนกํ หรนฺตสฺส ปาราชิกเมว. ปธานฆราทีสุ ฉฑฺฑิตปติตานํ ปริเวณาทีนํ กุฏฺฏมฺปิ ปาการมฺปิ ภินฺทิตฺวา อิฏฺกาทีนิ อวหรนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. กสฺมา? สงฺฆิกํ นาม กทาจิ อชฺฌาวสนฺติ, กทาจิ น อชฺฌาวสนฺติ. ปจฺจนฺเต โจรภเยน ชนปเท วุฏฺหนฺเต ฉฑฺฑิตวิหาราทีสุ กิฺจิ ปริกฺขารํ หรนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. เย ปน ตโต ตาวกาลิกํ หรนฺติ, ปุน อาวสิเตสุ จ วิหาเรสุ ภิกฺขู อาหราเปนฺติ, ทาตพฺพํ. สเจปิ ตโต อาหริตฺวา เสนาสนํ กตํ โหติ, ตํ วา ตทคฺฆนกํ วา ทาตพฺพเมว. ‘‘ปุน อาวสิสฺสามา’’ติ อาลยํ อจฺฉินฺทิตฺวา วุฏฺิเตสุ ชนปเทสุ คณสนฺตกํ วา ปุคฺคลิกํ วา คหิตํ โหติ; เต เจ อนุชานนฺติ, ปฏิกมฺเมน กิจฺจํ นตฺถิ. สงฺฆิกํ ปน ครุภณฺฑํ, ตสฺมา ปฏิกมฺมํ กตฺตพฺพเมว.

๑๕๗. วิหารปริโภควตฺถุ อุตฺตานตฺถเมว.

อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตาวกาลิกํ หริตุนฺติ เอตฺถ โย ภิกฺขุ สงฺฆิกํ มฺจํ วา ปีํ วา ตาวกาลิกํ หริตฺวา อตฺตโน ผาสุกฏฺาเน เอกมฺปิ ทฺเวปิ มาเส สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชติ, อาคตาคตานํ วุฑฺฒตรานํ เทติ, นปฺปฏิพาหติ, ตสฺส ตสฺมึ นฏฺเปิ ชิณฺเณปิ โจราวหเฏปิ คีวา น โหติ. วสิตฺวา ปน คจฺฉนฺเตน ยถาาเน เปตพฺพํ. โย ปน ปุคฺคลิกปริโภเคน ปริภุฺชติ, อาคตาคตานํ วุฑฺฒตรานํ น เทติ, ตสฺมึ นฏฺเ ตสฺส คีวา โหติ. อฺํ ปน อาวาสํ หริตฺวา ปริภุฺชนฺเตน สเจ ตตฺถ วุฑฺฒตโร อาคนฺตฺวา วุฏฺาเปติ, ‘‘มยา อิทํ อสุกาวาสโต นาม อาหฏํ, คจฺฉามิ, นํ ปากติกํ กโรมี’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ โส ภิกฺขุ ‘‘อหํ ปากติกํ กริสฺสามี’’ติ วทติ, ตสฺส ภารํ กตฺวาปิ คนฺตุํ วฏฺฏตีติ สงฺเขปฏฺกถายํ วุตฺตํ.

จมฺปาวตฺถุมฺหิ – เตกฏุลยาคูติ ติลตณฺฑุลมุคฺเคหิ วา ติลตณฺฑุลมาเสหิ วา ติลตณฺฑุลกุลตฺเถหิ วา ติลตณฺฑุเลหิ สทฺธึ ยํกิฺจิ เอกํ อปรณฺณํ ปกฺขิปิตฺวา ตีหิ กตา, เอตํ กิร อิเมหิ ตีหิ จตุภาคอุทกสมฺภินฺเน ขีเร สปฺปิมธุสกฺกราทีหิ โยเชตฺวา กโรนฺติ.

ราชคหวตฺถุมฺหิ มธุโคฬโกติ อติรสกปูโว วุจฺจติ; ‘‘มธุสีสก’’นฺติปิ วทนฺติ. เสสเมตฺถ วตฺถุทฺวเยปิ โอทนภาชนียวตฺถุสฺมึ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๑๕๘. อชฺชุกวตฺถุสฺมึ – เอตทโวจาติ คิลาโน หุตฺวา อโวจ. อายสฺมา อุปาลิ อายสฺมโต อชฺชุกสฺส ปกฺโขติ น อคติคมนวเสน ปกฺโข, อปิ จ โข อนาปตฺติสฺิตาย ลชฺชีอนุคฺคเหน วินยานุคฺคเหน จ เถโร ปกฺโขติ เวทิตพฺโพ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

๑๕๙. พาราณสีวตฺถุสฺมึ – โจเรหิ อุปทฺทุตนฺติ โจเรหิ วิลุตฺตํ. อิทฺธิยา อาเนตฺวา ปาสาเท เปสีติ เถโร กิร ตํ กุลํ โสกสลฺลสมปฺปิตํ อาวฏฺฏนฺตํ วิวฏฺฏนฺตํ ทิสฺวา ตสฺส กุลสฺส อนุกมฺปาย ปสาทานุรกฺขณตฺถาย ธมฺมานุคฺคเหน อตฺตโน อิทฺธิยา ‘‘เตสํเยว ปาสาทํ ทารกานํ สมีเป โหตู’’ติ อธิฏฺาสิ. ทารกา ‘‘อมฺหากํ ปาสาโท’’ติ สฺชานิตฺวา อภิรุหึสุ. ตโต เถโร อิทฺธึ ปฏิสํหริ, ปาสาโทปิ สกฏฺาเนเยว อฏฺาสิ. โวหารวเสน ปน วุตฺตํ ‘‘เต ทารเก อิทฺธิยา อาเนตฺวา ปาสาเท เปสี’’ติ. อิทฺธิวิสเยติ อีทิสาย อธิฏฺานิทฺธิยา อนาปตฺติ. วิกุพฺพนิทฺธิ ปน น วฏฺฏติ.

๑๖๐-๑. อวสาเน วตฺถุทฺวยํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย

ทุติยปาราชิกวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตตฺรายํ อนุสาสนี –

ทุติยํ อทุติเยน, ยํ ชิเนน ปกาสิตํ;

ปราชิตกิเลเสน, ปาราชิกมิทํ อิธ.

สิกฺขาปทํ สมํ เตน, อฺํ กิฺจิ น วิชฺชติ;

อเนกนยโวกิณฺณํ, คมฺภีรตฺถวินิจฺฉยํ.

ตสฺมา วตฺถุมฺหิ โอติณฺเณ, ภิกฺขุนา วินยฺุนา;

วินยานุคฺคเหเนตฺถ, กโรนฺเตน วินิจฺฉยํ.

ปาฬึ อฏฺกถฺเจว, สาธิปฺปายมเสสโต;

โอคยฺห อปฺปมตฺเตน, กรณีโย วินิจฺฉโย.

อาปตฺติทสฺสนุสฺสาโห, น กตฺตพฺโพ กุทาจนํ;

ปสฺสิสฺสามิ อนาปตฺติ-มิติ กยิราถ มานสํ.

ปสฺสิตฺวาปิ จ อาปตฺตึ, อวตฺวาว ปุนปฺปุนํ;

วีมํสิตฺวาถ วิฺูหิ, สํสนฺทิตฺวา จ ตํ วเท.

กปฺปิเยปิ จ วตฺถุสฺมึ, จิตฺตสฺส ลหุวตฺติโน;

วเสน สามฺคุณา, จวนฺตีธ ปุถุชฺชนา.

ตสฺมา ปรปริกฺขารํ, อาสีวิสมิโวรคํ;

อคฺคึ วิย จ สมฺปสฺสํ, นามเสยฺย วิจกฺขโณติ.

ปาราชิกกณฺฑ-อฏฺกถาย

ปโม ภาโค นิฏฺิโต.

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

วินยปิฏเก

ปาราชิกกณฺฑ-อฏฺกถา (ทุติโย ภาโค)

๓. ตติยปาราชิกํ

ตติยํ ตีหิ สุทฺเธน, ยํ พุทฺเธน วิภาวิตํ;

ปาราชิกํ ตสฺส ทานิ, ปตฺโต สํวณฺณนากฺกโม.

ยสฺมา ตสฺมา สุวิฺเยฺยํ, ยํ ปุพฺเพ จ ปกาสิตํ;

ตํ วชฺชยิตฺวา อสฺสาปิ, โหติ สํวณฺณนา อยํ.

ปมปฺตฺตินิทานวณฺณนา

๑๖๒. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายนฺติ เอตฺถ เวสาลิยนฺติ เอวํนามเก อิตฺถิลิงฺควเสน ปวตฺตโวหาเร นคเร. ตฺหิ นครํ ติกฺขตฺตุํ ปาการปริกฺเขปวฑฺฒเนน วิสาลีภูตตฺตา ‘‘เวสาลี’’ติ วุจฺจติ. อิทมฺปิ จ นครํ สพฺพฺุตปฺปตฺเตเยว สมฺมาสมฺพุทฺเธ สพฺพากาเรน เวปุลฺลํ ปตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ โคจรคามํ ทสฺเสตฺวา นิวาสฏฺาน มาห – ‘‘มหาวเน กูฏาคารสาลาย’’นฺติ. ตตฺถ มหาวนํ นาม สยํชาตํ อโรปิมํ สปริจฺเฉทํ มหนฺตํ วนํ. กปิลวตฺถุสามนฺตา ปน มหาวนํ หิมวนฺเตน สห เอกาพทฺธํ อปริจฺเฉทํ หุตฺวา มหาสมุทฺทํ อาหจฺจ ิตํ. อิทํ ตาทิสํ น โหติ, สปริจฺเฉทํ มหนฺตํ วนนฺติ มหาวนํ. กูฏาคารสาลา ปน มหาวนํ นิสฺสาย กเต อาราเม กูฏาคารํ อนฺโต กตฺวา หํสวฏฺฏกจฺฉทเนน กตา สพฺพาการสมฺปนฺนา พุทฺธสฺส ภควโต คนฺธกุฏิ เวทิตพฺพา.

อเนกปริยาเยน อสุภกถํ กเถตีติ อเนเกหิ การเณหิ อสุภาการสนฺทสฺสนปฺปวตฺตํ กายวิจฺฉนฺทนิยกถํ กเถติ. เสยฺยถิทํ – ‘‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา…เป. … มุตฺต’’นฺติ. กึ วุตฺตํ โหติ? ภิกฺขเว, อิมสฺมึ พฺยามมตฺเต กเฬวเร สพฺพากาเรนปิ วิจินนฺโต น โกจิ กิฺจิ มุตฺตํ วา มณึ วา เวฬุริยํ วา อครุํ วา จนฺทนํ วา กุงฺกุมํ วา กปฺปูรํ วา วาสจุณฺณาทีนิ วา อณุมตฺตมฺปิ สุจิภาวํ ปสฺสติ. อถ โข ปรมทุคฺคนฺธํ เชคุจฺฉํ อสฺสิรีกทสฺสนํ เกสโลมาทินานปฺปการํ อสุจึเยว ปสฺสติ. ตสฺมา น เอตฺถ ฉนฺโท วา ราโค วา กรณีโย. เยปิ หิ อุตฺตมงฺเค สิรสฺมึ ชาตา เกสา นาม, เตปิ อสุภา เจว อสุจิโน จ ปฏิกฺกูลา จ. โส จ เนสํ อสุภาสุจิปฏิกฺกูลภาโว วณฺณโตปิ สณฺานโตปิ คนฺธโตปิ อาสยโตปิ โอกาสโตปีติ ปฺจหิ การเณหิ เวทิตพฺโพ. เอวํ โลมาทีนนฺติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๘๒) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. อิติ ภควา เอกเมกสฺมึ โกฏฺาเส ปฺจปฺจปฺปเภเทน อเนกปริยาเยน อสุภกถํ กเถติ.

อสุภาย วณฺณํ ภาสตีติ อุทฺธุมาตกาทิวเสน อสุภมาติกํ นิกฺขิปิตฺวา ปทภาชนีเยน ตํ วิภชนฺโต วณฺเณนฺโต สํวณฺเณนฺโต อสุภาย วณฺณํ ภาสติ. อสุภภาวนาย วณฺณํ ภาสตีติ ยา อยํ เกสาทีสุ วา อุทฺธุมาตกาทีสุ วา อชฺฌตฺตพหิทฺธาวตฺถูสุ อสุภาการํ คเหตฺวา ปวตฺตสฺส จิตฺตสฺส ภาวนา วฑฺฒนา ผาติกมฺมํ, ตสฺสา อสุภภาวนาย อานิสํสํ ทสฺเสนฺโต วณฺณํ ภาสติ, คุณํ ปริกิตฺเตติ. เสยฺยถิทํ – ‘‘อสุภภาวนาภิยุตฺโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เกสาทีสุ วา วตฺถูสุ อุทฺธุมาตกาทีสุ วา ปฺจงฺควิปฺปหีนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ ติวิธกลฺยาณํ ทสลกฺขณสมฺปนฺนํ ปมํ ฌานํ ปฏิลภติ. โส ตํ ปมชฺฌานสงฺขาตํ จิตฺตมฺชูสํ นิสฺสาย วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อุตฺตมตฺถํ อรหตฺตํ ปาปุณาตี’’ติ.

ตตฺริมานิ ปมสฺส ฌานสฺส ทส ลกฺขณานิ – ปาริปนฺถิกโต จิตฺตวิสุทฺธิ, มชฺฌิมสฺส สมาธินิมิตฺตสฺส ปฏิปตฺติ, ตตฺถ จิตฺตปกฺขนฺทนํ, วิสุทฺธสฺส จิตฺตสฺส อชฺฌุเปกฺขนํ, สมถปฺปฏิปนฺนสฺส อชฺฌุเปกฺขนํ, เอกตฺตุปฏฺานสฺส อชฺฌุเปกฺขนํ, ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนฏฺเน สมฺปหํสนา, อินฺทฺริยานํ เอกรสฏฺเน ตทุปควีริยวาหนฏฺเน อาเสวนฏฺเน สมฺปหํสนาติ.

ตตฺรายํ ปาฬิ – ‘‘ปมสฺส ฌานสฺส โก อาทิ, กึ มชฺเฌ, กึ ปริโยสานํ? ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ, อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ, สมฺปหํสนา ปริโยสานํ. ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ, อาทิสฺส กติ ลกฺขณานิ? อาทิสฺส ตีณิ ลกฺขณานิ – โย ตสฺส ปริปนฺโถ ตโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ, วิสุทฺธตฺตา จิตฺตํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ, ปฏิปนฺนตฺตา ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. ยฺจ ปริปนฺถโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ, ยฺจ วิสุทฺธตฺตา จิตฺตํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ, ยฺจ ปฏิปนฺนตฺตา ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ, อาทิสฺส อิมานิ ตีณิ ลกฺขณานิ. เตน วุจฺจติ – ‘ปมํ ฌานํ อาทิกลฺยาณฺเจว โหติ ติลกฺขณสมฺปนฺนฺจ’.

‘‘ปมสฺส ฌานสฺส อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ, มชฺฌสฺส กติ ลกฺขณานิ? มชฺฌสฺส ตีณิ ลกฺขณานิ – วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ, สมถปฺปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ, เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ. ยฺจ วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ, ยฺจ สมถปฺปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ, ยฺจ เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ. ปมสฺส ฌานสฺส อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ, มชฺฌสฺส อิมานิ ตีณิ ลกฺขณานิ. เตน วุจฺจติ – ‘ปมํ ฌานํ มชฺเฌกลฺยาณฺเจว โหติ ติลกฺขณสมฺปนฺนฺจ’.

‘‘ปมสฺส ฌานสฺส สมฺปหํสนา ปริโยสานํ, ปริโยสานสฺส กติ ลกฺขณานิ? ปริโยสานสฺส จตฺตาริ ลกฺขณานิ – ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนฏฺเน สมฺปหํสนา, อินฺทฺริยานํ เอกรสฏฺเน สมฺปหํสนา, ตทุปควีริยวาหนฏฺเน สมฺปหํสนา, อาเสวนฏฺเน สมฺปหํสนา. ปมสฺส ฌานสฺส สมฺปหํสนา ปริโยสานํ, ปริโยสานสฺส อิมานิ จตฺตาริ ลกฺขณานิ. เตน วุจฺจติ – ‘ปมํ ฌานํ ปริโยสานกลฺยาณฺเจว โหติ จตุลกฺขณสมฺปนฺนฺจ. ‘‘เอวํ ติวิธตฺตคตํ จิตฺตํ ติวิธกลฺยาณกํ ทสลกฺขณสมฺปนฺนํ วิตกฺกสมฺปนฺนฺเจว โหติ วิจารสมฺปนฺนฺจ ปีติสมฺปนฺนฺจ สุขสมฺปนฺนฺจ จิตฺตสฺส อธิฏฺานสมฺปนฺนฺจ สทฺธาสมฺปนฺนฺจ วีริยสมฺปนฺนฺจ สติสมฺปนฺนฺจ สมาธิสมฺปนฺนฺจ ปฺาสมฺปนฺนฺจา’’ติ (ปฏิ. โร. ๑.๑๕๘).

อาทิสฺส อาทิสฺส อสุภสมาปตฺติยา วณฺณํ ภาสตีติ ‘‘เอวมฺปิ อิตฺถมฺปี’’ติ ปุนปฺปุนํ ววตฺถานํ กตฺวา อาทิสนฺโต อสุภสมาปตฺติยา วณฺณํ ภาสติ, อานิสํสํ กเถติ, คุณํ ปริกิตฺเตติ. เสยฺยถิทํ – ‘‘อสุภสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต เมถุนธมฺมสมาปตฺติยา จิตฺตํ ปฏิลียติ ปฏิกุฏติ ปฏิวฏฺฏติ, น สมฺปสารียติ, อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กุกฺกุฏปตฺตํ วา นฺหารุททฺทุลํ วา อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตํ ปฏิลียติ ปฏิกุฏติ ปฏิวฏฺฏติ, น สมฺปสารียติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อสุภสฺาปริจิเตน ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต เมถุนธมฺมสมาปตฺติยา จิตฺตํ ปฏิลียติ ปฏิกุฏติ ปฏิวฏฺฏติ, น สมฺปสารียตี’’ติ (อ. นิ. ๗.๔๙).

อิจฺฉามหํ, ภิกฺขเว, อทฺธมาสํ ปฏิสลฺลียิตุนฺติ อหํ ภิกฺขเว เอกํ อทฺธมาสํ ปฏิสลฺลียิตุํ นิลียิตุํ เอโกว หุตฺวา วิหริตุํ อิจฺฉามีติ อตฺโถ. นมฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อฺตฺร เอเกน ปิณฺฑปาตนีหารเกนาติ โย อตฺตนา ปยุตฺตวาจํ อกตฺวา มมตฺถาย สทฺเธสุ กุเลสุ ปฏิยตฺตํ ปิณฺฑปาตํ นีหริตฺวา มยฺหํ อุปนาเมติ, ตํ ปิณฺฑปาตนีหารกํ เอกํ ภิกฺขุํ เปตฺวา นมฺหิ อฺเน เกนจิ ภิกฺขุนา วา คหฏฺเน วา อุปสงฺกมิตพฺโพติ.

กสฺมา ปน เอวมาหาติ? อตีเต กิร ปฺจสตา มิคลุทฺทกา มหตีหิ ทณฺฑวาคุราหิ อรฺํ ปริกฺขิปิตฺวา หฏฺตุฏฺา เอกโตเยว ยาวชีวํ มิคปกฺขิฆาตกมฺเมน ชีวิกํ กปฺเปตฺวา นิรเย อุปปนฺนา; เต ตตฺถ ปจฺจิตฺวา ปุพฺเพ กเตน เกนจิเทว กุสลกมฺเมน มนุสฺเสสุ อุปปนฺนา กลฺยาณูปนิสฺสยวเสน สพฺเพปิ ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชฺจ อุปสมฺปทฺจ ลภึสุ; เตสํ ตโต มูลากุสลกมฺมโต อวิปกฺกวิปากา อปราปรเจตนา ตสฺมึ อทฺธมาสพฺภนฺตเร อตฺตูปกฺกเมน จ ปรูปกฺกเมน จ ชีวตุปจฺเฉทาย โอกาสมกาสิ, ตํ ภควา อทฺทส. กมฺมวิปาโก นาม น สกฺกา เกนจิ ปฏิพาหิตุํ. เตสุ จ ภิกฺขูสุ ปุถุชฺชนาปิ อตฺถิ โสตาปนฺนสกทาคามีอนาคามีขีณาสวาปิ. ตตฺถ ขีณาสวา อปฺปฏิสนฺธิกา, อิตเร อริยสาวกา นิยตคติกา สุคติปรายณา, ปุถุชฺชนานํ ปน คติ อนิยตา. อถ ภควา จินฺเตสิ – ‘‘อิเม อตฺตภาเว ฉนฺทราเคน มรณภยภีตา น สกฺขิสฺสนฺติ คตึ วิโสเธตุํ, หนฺท เนสํ ฉนฺทราคปฺปหานาย อสุภกถํ กเถมิ. ตํ สุตฺวา อตฺตภาเว วิคตจฺฉนฺทราคตาย คติวิโสธนํ กตฺวา สคฺเค ปฏิสนฺธึ คณฺหิสฺสนฺติ. เอวํ เนสํ มม สนฺติเก ปพฺพชฺชา สาตฺถิกา ภวิสฺสตี’’ติ.

ตโต เตสํ อนุคฺคหาย อสุภกถํ กเถสิ กมฺมฏฺานสีเสน, โน มรณวณฺณสํวณฺณนาธิปฺปาเยน. กเถตฺวา จ ปนสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สเจ มํ อิมํ อทฺธมาสํ ภิกฺขู ปสฺสิสฺสนฺติ, ‘อชฺช เอโก ภิกฺขุ มโต, อชฺช ทฺเว…เป… อชฺช ทสา’ติ อาคนฺตฺวา อาคนฺตฺวา อาโรเจสฺสนฺติ. อยฺจ กมฺมวิปาโก น สกฺกา มยา วา อฺเน วา ปฏิพาหิตุํ. สฺวาหํ ตํ สุตฺวาปิ กึ กริสฺสามิ? กึ เม อนตฺถเกน อนยพฺยสเนน สุเตน? หนฺทาหํ ภิกฺขูนํ อทสฺสนํ อุปคจฺฉามี’’ติ. ตสฺมา เอวมาห – ‘‘อิจฺฉามหํ, ภิกฺขเว, อทฺธมาสํ ปติสลฺลียิตุํ; นมฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อฺตฺร เอเกน ปิณฺฑปาตนีหารเกนา’’ติ.

อปเร ปนาหุ – ‘‘ปรูปวาทวิวชฺชนตฺถํ เอวํ วตฺวา ปฏิสลฺลีโน’’ติ. ปเร กิร ภควนฺตํ อุปวทิสฺสนฺติ – ‘‘อยํ ‘สพฺพฺู, อหํ สทฺธมฺมวรจกฺกวตฺตี’ติ ปฏิชานมาโน อตฺตโนปิ สาวเก อฺมฺํ ฆาเตนฺเต นิวาเรตุํ น สกฺโกติ. กิมฺํ สกฺขิสฺสตี’’ติ? ตตฺถ ปณฺฑิตา วกฺขนฺติ – ‘‘ภควา ปฏิสลฺลานมนุยุตฺโต นยิมํ ปวตฺตึ ชานาติ, โกจิสฺส อาโรจยิตาปิ นตฺถิ, สเจ ชาเนยฺย อทฺธา นิวาเรยฺยา’’ติ. อิทํ ปน อิจฺฉามตฺตํ, ปมเมเวตฺถ การณํ. นาสฺสุธาติ เอตฺถ ‘‘อสฺสุธา’’ติ ปทปูรณมตฺเต อวธารณตฺเถ วา นิปาโต; เนว โกจิ ภควนฺตํ อุปสงฺกมตีติ อตฺโถ.

อเนเกหิ วณฺณสณฺานาทีหิ การเณหิ โวกาโร อสฺสาติ อเนกาการโวกาโร; อเนกาการโวกิณฺโณ อเนกการณสมฺมิสฺโสติ วุตฺตํ โหติ. โก โส? อสุภภาวนานุโยโค, ตํ อเนกาการโวการํ อสุภภาวนานุโยคํ อนุยุตฺตา วิหรนฺตีติ ยุตฺตปยุตฺตา วิหรนฺติ. อฏฺฏียนฺตีติ สเกน กาเยน อฏฺฏา ทุกฺขิตา โหนฺติ. หรายนฺตีติ ลชฺชนฺติ. ชิคุจฺฉนฺตีติ สฺชาตชิคุจฺฉา โหนฺติ. ทหโรติ ตรุโณ. ยุวาติ โยพฺพเนน สมนฺนาคโต. มณฺฑนกชาติโกติ มณฺฑนกปกติโก. สีสํนฺหาโตติ สีเสน สทฺธึ นฺหาโต. ทหโร ยุวาติ เจตฺถ ทหรวจเนน ปมโยพฺพนภาวํ ทสฺเสติ. ปมโยพฺพเน หิ สตฺตา วิเสเสน มณฺฑนกชาติกา โหนฺติ. สีสํนฺหาโตติ อิมินา มณฺฑนานุโยคกาลํ. ยุวาปิ หิ กิฺจิ กมฺมํ กตฺวา สํกิลิฏฺสรีโร น มณฺฑนานุยุตฺโต โหติ; สีสํนฺหาโต ปน โส มณฺฑนเมวานุยุฺชติ. อหิกุณปาทีนิ ทฏฺุมฺปิ น อิจฺฉติ. โส ตสฺมึ ขเณ อหิกุณเปน วา กุกฺกุรกุณเปน วา มนุสฺสกุณเปน วา กณฺเ อาสตฺเตน เกนจิเทว ปจฺจตฺถิเกน อาเนตฺวา กณฺเ พทฺเธน ปฏิมุกฺเกน ยถา อฏฺฏีเยยฺย หราเยยฺย ชิคุจฺเฉยฺย; เอวเมว เต ภิกฺขู สเกน กาเยน อฏฺฏียนฺตา หรายนฺตา ชิคุจฺฉนฺตา โส วิย ปุริโส ตํ กุณปํ วิคตจฺฉนฺทราคตาย อตฺตโน กายํ ปริจฺจชิตุกามา หุตฺวา สตฺถํ อาทาย อตฺตนาปิ อตฺตานํ ชีวิตา โวโรเปนฺติ. ‘‘ตฺวํ มํ ชีวิตา โวโรเปหิ; อหํ ต’’นฺติ เอวํ อฺมฺมฺปิ ชีวิตา โวโรเปนฺติ.

มิคลณฺฑิกมฺปิ สมณกุตฺตกนฺติ มิคลณฺฑิโกติ ตสฺส นามํ; สมณกุตฺตโกติ สมณเวสธารโก. โส กิร สิขามตฺตํ เปตฺวา สีสํ มุณฺเฑตฺวา เอกํ กาสาวํ นิวาเสตฺวา เอกํ อํเส กตฺวา วิหารํเยว อุปนิสฺสาย วิฆาสาทภาเวน ชีวติ. ตมฺปิ มิคลณฺฑิกํ สมณกุตฺตกํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทนฺติ. สาธูติ อายาจนตฺเถ นิปาโต. โนติ อุปโยคพหุวจนํ, สาธุ อาวุโส อมฺเห ชีวิตา โวโรเปหีติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ จ อริยา เนว ปาณาติปาตํ กรึสุ น สมาทเปสุํ, น สมนุฺา อเหสุํ. ปุถุชฺชนา ปน สพฺพมกํสุ. โลหิตกนฺติ โลหิตมกฺขิตํ. เยน วคฺคุมุทานทีติ วคฺคุมตา โลกสฺส ปุฺสมฺมตา นที. โสปิ กิร ‘‘ตํ ปาปํ ตตฺถ ปวาเหสฺสามี’’ติ สฺาย คโต, นทิยา อานุภาเวน อปฺปมตฺตกมฺปิ ปาปํ ปหีนํ นาม นตฺถิ.

๑๖๓. อหุเทว กุกฺกุจฺจนฺติ เตสุ กิร ภิกฺขูสุ เกนจิปิ กายวิกาโร วา วจีวิกาโร วา น กโต, สพฺเพ สตา สมฺปชานา ทกฺขิเณน ปสฺเสน นิปชฺชึสุ. ตํ อนุสฺสรโต ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิเยว. อหุ วิปฺปฏิสาโรติ ตสฺเสว กุกฺกุจฺจสฺส สภาวนิยมนตฺถเมตํ วุตฺตํ. วิปฺปฏิสารกุกฺกุจฺจํ อโหสิ, น วินยกุกฺกุจฺจนฺติ. อลาภา วต เมติอาทิ กุกฺกุจฺจสฺส ปวตฺติอาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ อลาภา วต เมติ อายตึ ทานิ มม หิตสุขลาภา นาม นตฺถีติ อนุตฺถุนาติ. ‘‘น วต เม ลาภา’’ติอิมินา ปน ตเมวตฺถํ ทฬฺหํ กโรติ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – สเจปิ โกจิ ‘‘ลาภา เต’’ติ วเทยฺย, ตํ มิจฺฉา, น วต เม ลาภาติ. ทุลฺลทฺธํ วต เมติ กุสลานุภาเวน ลทฺธมฺปิ อิทํ มนุสฺสตฺตํ ทุลฺลทฺธํ วต เม. น วต เม สุลทฺธนฺติอิมินา ปน ตเมวตฺถํ ทฬฺหํ กโรติ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – สเจปิ โกจิ ‘‘สุลทฺธํ เต’’ติ วเทยฺย, ตํ มิจฺฉา; น วต เม สุลทฺธนฺติ. อปุฺํ ปสุตนฺติ อปุฺํ อุปจิตํ ชนิตํ วา. กสฺมาติ เจ? โยหํ ภิกฺขู…เป… โวโรเปสินฺติ. ตสฺสตฺโถ – โย อหํ สีลวนฺเต ตาย เอว สีลวนฺตตาย กลฺยาณธมฺเม อุตฺตมธมฺเม เสฏฺธมฺเม ภิกฺขู ชีวิตา โวโรเปสินฺติ.

อฺตรา มารกายิกาติ นามวเสน อปากฏา เอกา ภุมฺมเทวตา มิจฺฉาทิฏฺิกา มารปกฺขิกา มารสฺสนุวตฺติกา ‘‘เอวมยํ มารเธยฺยํ มารวิสยํ นาติกฺกมิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา สพฺพาภรณวิภูสิตา หุตฺวา อตฺตโน อานุภาวํ ทสฺสยมานา อภิชฺชมาเน อุทเก ปถวีตเล จงฺกมมานา วิย อาคนฺตฺวา มิคลณฺฑิกํ สมณกุตฺตกํ เอตทโวจ. สาธุ สาธูติ สมฺปหํสนตฺเถ นิปาโต; ตสฺมา เอว ทฺวิวจนํ กตํ. อติณฺเณ ตาเรสีติ สํสารโต อติณฺเณ อิมินา ชีวิตาโวโรปเนน ตาเรสิ ปริโมเจสีติ. อยํ กิร เอติสฺสา เทวตาย พาลาย ทุมฺเมธาย ลทฺธิ ‘‘เย น มตา, เต สํสารโต น มุตฺตา. เย มตา, เต มุตฺตา’’ติ. ตสฺมา สํสารโมจกมิลกฺขา วิย เอวํลทฺธิกา หุตฺวา ตมฺปิ ตตฺถ นิโยเชนฺตี เอวมาห. อถ โข มิคลณฺฑิโก สมณกุตฺตโก ตาว ภุสํ อุปฺปนฺนวิปฺปฏิสาโรปิ ตํ เทวตาย อานุภาวํ ทิสฺวา ‘‘อยํ เทวตา เอวมาห – อทฺธา อิมินา อตฺเถน เอวเมว ภวิตพฺพ’’นฺติ นิฏฺํ คนฺตฺวา ‘‘ลาภา กิร เม’’ติอาทีนิ ปริกิตฺตยนฺโต. วิหาเรน วิหารํ ปริเวเณน ปริเวณํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทตีติ ตํ ตํ วิหารฺจ ปริเวณฺจ อุปสงฺกมิตฺวา ทฺวารํ วิวริตฺวา อนฺโต ปวิสิตฺวา ภิกฺขู เอวํ วทติ – ‘‘โก อติณฺโณ, กํ ตาเรมี’’ติ?

โหติเยว ภยนฺติ มรณํ ปฏิจฺจ จิตฺตุตฺราโส โหติ. โหติ ฉมฺภิตตฺตนฺติ หทยมํสํ อาทึ กตฺวา ตสฺมา สรีรจลนํ โหติ; อติภเยน ถทฺธสรีรตฺตนฺติปิ เอเก, ถมฺภิตตฺตฺหิ ฉมฺภิตตฺตนฺติ วุจฺจติ. โลมหํโสติ อุทฺธํิตโลมตา, ขีณาสวา ปน สตฺตสุฺตาย สุทิฏฺตฺตา มรณกสตฺตเมว น ปสฺสนฺติ, ตสฺมา เตสํ สพฺพมฺเปตํ นาโหสีติ เวทิตพฺพํ. เอกมฺปิ ภิกฺขุํ ทฺเวปิ…เป… สฏฺิมฺปิ ภิกฺขู เอกาเหน ชีวิตา โวโรเปสีติ เอวํ คณนวเสน สพฺพานิปิ ตานิ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ ชีวิตา โวโรเปสิ.

๑๖๔. ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ เตสํ ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ ชีวิตกฺขยปตฺตภาวํ ตฺวา ตโต เอกีภาวโต วุฏฺิโต ชานนฺโตปิ อชานนฺโต วิย กถาสมุฏฺาปนตฺถํ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ. กึ นุ โข อานนฺท ตนุภูโต วิย ภิกฺขุสงฺโฆติ อานนฺท อิโต ปุพฺเพ พหู ภิกฺขู เอกโต อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺติ, อุทฺเทสํ ปริปุจฺฉํ คณฺหนฺติ สชฺฌายนฺติ, เอกปชฺโชโต วิย อาราโม ทิสฺสติ, อิทานิ ปน อทฺธมาสมตฺตสฺส อจฺจเยน ตนุภูโต วิย ตนุโก มนฺโท อปฺปโก วิรฬวิรโฬ วิย ชาโต ภิกฺขุสงฺโฆ. กินฺนุ โข การณํ, กึ ทิสาสุ ปกฺกนฺตา ภิกฺขูติ?

อถายสฺมา อานนฺโท กมฺมวิปาเกน เตสํ ชีวิตกฺขยปฺปตฺตึ อสลฺลกฺเขนฺโต อสุภกมฺมฏฺานานุโยคปจฺจยา ปน สลฺลกฺเขนฺโต ‘‘ตถา หิ ปน ภนฺเต ภควา’’ติอาทึ วตฺวา ภิกฺขูนํ อรหตฺตปฺปตฺติยา อฺํ กมฺมฏฺานํ ยาจนฺโต ‘‘สาธุ ภนฺเต ภควา’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – สาธุ ภนฺเต ภควา อฺํ การณํ อาจิกฺขตุ, เยน ภิกฺขุสงฺโฆ อรหตฺเต ปติฏฺเหยฺย; มหาสมุทฺทํ โอโรหณติตฺถานิ วิย หิ อฺานิปิ ทสานุสฺสติทสกสิณจตุธาตุววตฺถานพฺรหฺมวิหารานาปานสติปฺปเภทานิ พหูนิ นิพฺพาโนโรหณกมฺมฏฺานานิ สนฺติ. เตสุ ภควา ภิกฺขู สมสฺสาเสตฺวา อฺตรํ กมฺมฏฺานํ อาจิกฺขตูติ อธิปฺปาโย.

อถ ภควา ตถา กาตุกาโม เถรํ อุยฺโยเชนฺโต ‘‘เตนหานนฺทา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เวสาลึ อุปนิสฺสายาติ เวสาลึ อุปนิสฺสาย สมนฺตา คาวุเตปิ อทฺธโยชเนปิ ยาวติกา ภิกฺขู วิหรนฺติ, เต สพฺเพ สนฺนิปาเตหีติ อตฺโถ. เต สพฺเพ อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิปาเตตฺวาติ อตฺตนา คนฺตุํ ยุตฺตฏฺานํ สยํ คนฺตฺวา อฺตฺถ ทหรภิกฺขู ปหิณิตฺวา มุหุตฺเตเนว อนวเสเส ภิกฺขู อุปฏฺานสาลายํ สมูหํ กตฺวา. ยสฺส ทานิ ภนฺเต ภควา กาลํ มฺตีติ เอตฺถ อยมธิปฺปาโย – ภควา ภิกฺขุสงฺโฆ สนฺนิปติโต เอส กาโล ภิกฺขูนํ ธมฺมกถํ กาตุํ, อนุสาสนึ ทาตุํ, อิทานิ ยสฺส ตุมฺเห กาลํ ชานาถ, ตํ กตฺตพฺพนฺติ.

อานาปานสฺสติสมาธิกถา

๑๖๕. อถ โข ภควา…เป… ภิกฺขู อามนฺเตสิ – อยมฺปิ โข ภิกฺขเวติ อามนฺเตตฺวา จ ปน ภิกฺขูนํ อรหตฺตปฺปตฺติยา ปุพฺเพ อาจิกฺขิตอสุภกมฺมฏฺานโต อฺํ ปริยายํ อาจิกฺขนฺโต ‘‘อานาปานสฺสติสมาธี’’ติ อาห.

อิทานิ ยสฺมา ภควตา ภิกฺขูนํ สนฺตปณีตกมฺมฏฺานทสฺสนตฺถเมว อยํ ปาฬิ วุตฺตา, ตสฺมา อปริหาเปตฺวา อตฺถโยชนากฺกมํ เอตฺถ วณฺณนํ กริสฺสามิ. ตตฺร ‘‘อยมฺปิ โข ภิกฺขเว’’ติ อิมสฺส ตาว ปทสฺส อยํ โยชนา – ภิกฺขเว น เกวลํ อสุภภาวนาเยว กิเลสปฺปหานาย สํวตฺตติ, อปิจ อยมฺปิ โข อานาปานสฺสติสมาธิ…เป… วูปสเมตีติ.

อยํ ปเนตฺถ อตฺถวณฺณนา – อานาปานสฺสตีติ อสฺสาสปสฺสาสปริคฺคาหิกา สติ. วุตฺตฺเหตํ ปฏิสมฺภิทายํ

‘‘อานนฺติ อสฺสาโส, โน ปสฺสาโส. อปานนฺติ ปสฺสาโส, โน อสฺสาโส. อสฺสาสวเสน อุปฏฺานํ สติ, ปสฺสาสวเสน อุปฏฺานํ สติ. โย อสฺสสติ ตสฺสุปฏฺาติ, โย ปสฺสสติ ตสฺสุปฏฺาตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๐).

สมาธีติ ตาย อานาปานปริคฺคาหิกาย สติยา สทฺธึ อุปฺปนฺนา จิตฺเตกคฺคตา; สมาธิสีเสน จายํ เทสนา, น สติสีเสน. ตสฺมา อานาปานสฺสติยา ยุตฺโต สมาธิ อานาปานสฺสติสมาธิ, อานาปานสฺสติยํ วา สมาธิ อานาปานสฺสติสมาธีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ภาวิโตติ อุปฺปาทิโต วฑฺฒิโต จ. พหุลีกโตติ ปุนปฺปุนํ กโต. สนฺโต เจว ปณีโต จาติ สนฺโต เจว ปณีโต เจว, อุภยตฺถ เอวสทฺเทน นิยโม เวทิตพฺโพ. กึ วุตฺตํ โหติ? อยฺหิ ยถา อสุภกมฺมฏฺานํ เกวลํ ปฏิเวธวเสน สนฺตฺจ ปณีตฺจ โอฬาริการมฺมณตฺตา ปน ปฏิกูลารมฺมณตฺตา จ อารมฺมณวเสน เนว สนฺตํ น ปณีตํ, น เอวํ เกนจิ ปริยาเยน อสนฺโต วา อปฺปณีโต วา, อปิจ โข อารมฺมณสนฺตตายปิ สนฺโต วูปสนฺโต นิพฺพุโต ปฏิเวธสงฺขาตองฺคสนฺตตายปิ อารมฺมณปฺปณีตตายปิ ปณีโต อติตฺติกโร องฺคปฺปณีตตายปีติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สนฺโต เจว ปณีโต จา’’ติ.

อเสจนโก จ สุโข จ วิหาโรติ เอตฺถ ปน นาสฺส เสจนนฺติ อเสจนโก อนาสิตฺตโก อพฺโพกิณฺโณ ปาเฏกฺโก อาเวณิโก, นตฺเถตฺถ ปริกมฺเมน วา อุปจาเรน วา สนฺตตา อาทิมนสิการโต ปภุติ อตฺตโน สภาเวเนว สนฺโต จ ปณีโต จาติ อตฺโถ. เกจิ ปน อเสจนโกติ อนาสิตฺตโก โอชวนฺโต สภาเวเนว มธุโรติ วทนฺติ. เอวมยํ อเสจนโก จ อปฺปิตปฺปิตกฺขเณ กายิกเจตสิกสุขปฺปฏิลาภาย สํวตฺตนโต สุโข จ วิหาโรติ เวทิตพฺโพ.

อุปฺปนฺนุปฺปนฺเนติ อวิกฺขมฺภิเต อวิกฺขมฺภิเต. ปาปเกติ ลามเก. อกุสเล ธมฺเมติ อโกสลฺลสมฺภูเต ธมฺเม. านโส อนฺตรธาเปตีติ ขเณเนว อนฺตรธาเปติ วิกฺขมฺเภติ. วูปสเมตีติ สุฏฺุ อุปสเมติ, นิพฺเพธภาคิยตฺตา วา อนุปุพฺเพน อริยมคฺควุฑฺฒิปฺปโต สมุจฺฉินฺทติ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตีติปิ อตฺโถ.

เสยฺยถาปีติ โอปมฺมนิทสฺสนเมตํ. คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเสติ อาสาฬฺหมาเส. อูหตํ รโชชลฺลนฺติ อทฺธมาเส วาตาตปสุกฺขาย โคมหึสาทิปาทปฺปหารสมฺภินฺนาย ปถวิยา อุทฺธํ หตํ อูหตํ อากาเส สมุฏฺิตํ รชฺจ เรณุฺจ. มหา อกาลเมโฆติ สพฺพํ นภํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อุฏฺิโต อาสาฬฺหชุณฺหปกฺเข สกลํ อทฺธมาสํ วสฺสนกเมโฆ. โส หิ อสมฺปตฺเต วสฺสกาเล อุปฺปนฺนตฺตา อกาลเมโฆติ อิธาธิปฺเปโต. านโส อนฺตรธาเปติ วูปสเมตีติ ขเณเนว อทสฺสนํ เนติ, ปถวิยํ สนฺนิสีทาเปติ. เอวเมว โขติ โอปมฺมสมฺปฏิปาทนเมตํ. ตโต ปรํ วุตฺตนยเมว.

อิทานิ กถํ ภาวิโต จ ภิกฺขเว อานาปานสฺสติสมาธีติ เอตฺถ กถนฺติ อานาปานสฺสติสมาธิภาวนํ นานปฺปการโต วิตฺถาเรตุกมฺยตาปุจฺฉา. ภาวิโต จ ภิกฺขเว อานาปานสฺสติสมาธีติ นานปฺปการโต วิตฺถาเรตุกมฺยตาย ปุฏฺธมฺมนิทสฺสนํ. เอส นโย ทุติยปเทปิ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ภิกฺขเว เกนปกาเรน เกนากาเรน เกน วิธินา ภาวิโต อานาปานสฺสติสมาธิ เกนปกาเรน พหุลีกโต สนฺโต เจว…เป… วูปสเมตีติ.

อิทานิ ตมตฺถํ วิตฺถาเรนฺโต ‘‘อิธ ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิธ ภิกฺขเว ภิกฺขูติ ภิกฺขเว อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขุ. อยฺเหตฺถ อิธสทฺโท สพฺพปฺปการอานาปานสฺสติสมาธินิพฺพตฺตกสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิสฺสยภูตสาสนปริทีปโน อฺสาสนสฺส ตถาภาวปฏิเสธโน จ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ…เป… สุฺา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อฺเหี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙). เตน วุตฺตํ – ‘‘อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขู’’ติ.

อรฺคโต วา…เป… สุฺาคารคโต วาติ อิทมสฺส อานาปานสฺสติสมาธิภาวนานุรูปเสนาสนปริคฺคหปริทีปนํ. อิมสฺส หิ ภิกฺขุโน ทีฆรตฺตํ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ อนุวิสฏํ จิตฺตํ อานาปานสฺสติสมาธิอารมฺมณํ อภิรุหิตุํ น อิจฺฉติ. กูฏโคณยุตฺตรโถ วิย อุปฺปถเมว ธาวติ. ตสฺมา เสยฺยถาปิ นาม โคโป กูฏเธนุยา สพฺพํ ขีรํ ปิวิตฺวา วฑฺฒิตํ กูฏวจฺฉํ ทเมตุกาโม เธนุโต อปเนตฺวา เอกมนฺเต มหนฺตํ ถมฺภํ นิขณิตฺวา ตตฺถ โยตฺเตน พนฺเธยฺย. อถสฺส โส วจฺโฉ อิโต จิโต จ วิปฺผนฺทิตฺวา ปลายิตุํ อสกฺโกนฺโต ตเมว ถมฺภํ อุปนิสีเทยฺย วา อุปนิปชฺเชยฺย วา; เอวเมว อิมินาปิ ภิกฺขุนา ทีฆรตฺตํ รูปารมฺมณาทิรสปานวฑฺฒิตํ ทุฏฺจิตฺตํ ทเมตุกาเมน รูปาทิอารมฺมณโต อปเนตฺวา อรฺํ วา…เป… สุฺาคารํ วา ปเวเสตฺวา ตตฺถ อสฺสาสปสฺสาสถมฺเภ สติโยตฺเตน พนฺธิตพฺพํ. เอวมสฺส ตํ จิตฺตํ อิโต จิโต จ วิปฺผนฺทิตฺวาปิ ปุพฺเพ อาจิณฺณารมฺมณํ อลภมานํ สติโยตฺตํ ฉินฺทิตฺวา ปลายิตุํ อสกฺโกนฺตํ ตเมวารมฺมณํ อุปจารปฺปนาวเสน อุปนิสีทติ เจว อุปนิปชฺชติ จ. เตนาหุ โปราณา –

‘‘ยถา ถมฺเภ นิพนฺเธยฺย, วจฺฉํ ทมฺมํ นโร อิธ;

พนฺเธยฺเยวํ สกํ จิตฺตํ, สติยารมฺมเณ ทฬฺห’’นฺติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๑๗; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๔; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๗; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๖๓);

เอวมสฺเสตํ เสนาสนํ ภาวนานุรูปํ โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อิทมสฺส อานาปานสฺสติสมอาธิภาวนานุรูปเสนาสนปริคฺคหปริทีปน’’นฺติ.

อถ วา ยสฺมา อิทํ กมฺมฏฺานปฺปเภเท มุทฺธภูตํ สพฺพฺุพุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกานํ วิเสสาธิคมทิฏฺธมฺมสุขวิหารปทฏฺานํ อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ อิตฺถิปุริสหตฺถิอสฺสาทิสทฺทสมากุลํ คามนฺตํ อปริจฺจชิตฺวา น สุกรํ สมฺปาเทตุํ, สทฺทกณฺฏกตฺตา ฌานสฺส. อคามเก ปน อรฺเ สุกรํ โยคาวจเรน อิทํ กมฺมฏฺานํ ปริคฺคเหตฺวา อานาปานจตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตเทว จ ปาทกํ กตฺวา สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อคฺคผลํ อรหตฺตํ สมฺปาปุณิตุํ, ตสฺมาสฺส อนุรูปํเสนาสนํ ทสฺเสนฺโต ภควา ‘‘อรฺคโต วา’’ติอาทิมาห.

วตฺถุวิชฺชาจริโย วิย หิ ภควา, โส ยถา วตฺถุวิชฺชาจริโย นครภูมึ ปสฺสิตฺวา สุฏฺุ อุปปริกฺขิตฺวา ‘‘เอตฺถ นครํ มาเปถา’’ติ อุปทิสติ, โสตฺถินา จ นคเร นิฏฺิเต ราชกุลโต มหาสกฺการํ ลภติ; เอวเมว โยคาวจรสฺส อนุรูปเสนาสนํ อุปปริกฺขิตฺวา เอตฺถ กมฺมฏฺานํ อนุยุฺชิตพฺพนฺติ อุปทิสติ. ตโต ตตฺถ กมฺมฏฺานํ อนุยุตฺเตน โยคินา กเมน อรหตฺเต ปตฺเต ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต โส ภควา’’ติ มหนฺตํ สกฺการํ ลภติ. อยํ ปน ภิกฺขุ ‘‘ทีปิสทิโส’’ติ วุจฺจติ. ยถา หิ มหาทีปิราชา อรฺเ ติณคหนํ วา วนคหนํ วา ปพฺพตคหนํ วา นิสฺสาย นิลียิตฺวา วนมหึสโคกณฺณสูกราทโย มิเค คณฺหาติ; เอวเมวายํ อรฺาทีสุ กมฺมฏฺานํ อนุยุฺชนฺโต ภิกฺขุ ยถากฺกเมน โสตาปตฺติสกทาคามิอนาคามิอรหตฺตมคฺเค เจว อริยผลฺจ คณฺหาตีติ เวทิตพฺโพ. เตนาหุ โปราณา –

‘‘ยถาปิ ทีปิโก นาม, นิลียิตฺวา คณฺหตี มิเค;

ตเถวายํ พุทฺธปุตฺโต, ยุตฺตโยโค วิปสฺสโก;

อรฺํ ปวิสิตฺวาน, คณฺหาติ ผลมุตฺตม’’นฺติ. (มิ. ป. ๖.๑.๕);

เตนสฺส ปรกฺกมชวโยคฺคภูมึ อรฺเสนาสนํ ทสฺเสนฺโต ภควา ‘‘อรฺคโต วา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ อรฺคโต วาติ อรฺนฺติ ‘‘นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ (วิภ. ๕๒๙) จ ‘‘อารฺกํ นาม เสนาสนํ ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปารา. ๖๕๓) จ เอวํ วุตฺตลกฺขเณสุ อรฺเสุ อนุรูปํ ยํกิฺจิ ปวิเวกสุขํ อรฺํ คโต. รุกฺขมูลคโต วาติ รุกฺขสมีปํ คโต. สุฺาคารคโต วาติ สุฺํ วิวิตฺโตกาสํ คโต. เอตฺถ จ เปตฺวา อรฺฺจ รุกฺขมูลฺจ อวเสสสตฺตวิธเสนาสนคโตปิ สุฺาคารคโตติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอวมสฺส อุตุตฺตยานุกูลํ ธาตุจริยานุกูลฺจ อานาปานสฺสติภาวนานุรูปํ เสนาสนํ อุปทิสิตฺวา อลีนานุทฺธจฺจปกฺขิกํ สนฺตมิริยาปถํ อุปทิสนฺโต ‘‘นิสีทตี’’ติ อาห. อถสฺส นิสชฺชาย ทฬฺหภาวํ อสฺสาสปสฺสาสานํ ปวตฺตนสุขตํ อารมฺมณปริคฺคหูปายฺจ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ปลฺลงฺกนฺติ สมนฺตโต อูรุพทฺธาสนํ. อาภุชิตฺวาติ อาพนฺธิตฺวา. อุชุํ กายํ ปณิธายาติ อุปริมํ สรีรํ อุชุกํ เปตฺวา, อฏฺารส ปิฏฺิกณฺฏเก โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาเทตฺวา. เอวฺหิ นิสินฺนสฺส จมฺมมํสนฺหารูนิ น ปณมนฺติ. อถสฺส ยา เตสํ ปณมนปฺปจฺจยา ขเณ ขเณ เวทนา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ตา น อุปฺปชฺชนฺติ. ตาสุ อนุปฺปชฺชมานาสุ จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. กมฺมฏฺานํ น ปริปตติ. วุฑฺฒึ ผาตึ อุปคจฺฉติ.

ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวาติ กมฺมฏฺานาภิมุขํ สตึ ปยิตฺวา. อถ วา ‘‘ปรี’’ติ ปริคฺคหฏฺโ; ‘‘มุข’’นฺติ นิยฺยานฏฺโ; ‘‘สตี’’ติ อุปฏฺานฏฺโ; เตน วุจฺจติ – ‘‘ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ. เอวํ ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๔-๑๖๕) วุตฺตนเยนเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตตฺรายํ สงฺเขโป – ‘‘ปริคฺคหิตนิยฺยานํ สตึ กตฺวา’’ติ. โส สโตว อสฺสสตีติ โส ภิกฺขุ เอวํ นิสีทิตฺวา เอวฺจ สตึ อุปฏฺเปตฺวา ตํ สตึ อวิชหนฺโต สโตเอว อสฺสสติ, สโต ปสฺสสติ, สโตการี โหตีติ วุตฺตํ โหติ.

อิทานิ เยหากาเรหิ สโตการี โหติ, เต ทสฺเสนฺโต ‘‘ทีฆํ วา อสฺสสนฺโต’’ติอาทิมาห. วุตฺตฺเหตํ ปฏิสมฺภิทายํ – ‘‘โส สโตว อสฺสสติ, สโต ปสฺสสตี’’ติ เอตสฺเสว วิภงฺเค –

‘‘พาตฺตึสาย อากาเรหิ สโตการี โหติ. ทีฆํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโต สติ อุปฏฺิตา โหติ. ตาย สติยา เตน าเณน สโตการี โหติ. ทีฆํ ปสฺสาสวเสน…เป… ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสาสวเสน ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี ปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโต สติ อุปฏฺิตา โหติ. ตาย สติยา เตน าเณน สโตการี โหตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๕).

ตตฺถ ทีฆํ วา อสฺสสนฺโตติ ทีฆํ วา อสฺสาสํ ปวตฺเตนฺโต. ‘‘อสฺสาโส’’ติ พหิ นิกฺขมนวาโต. ‘‘ปสฺสาโส’’ติ อนฺโต ปวิสนวาโต. สุตฺตนฺตฏฺกถาสุ ปน อุปฺปฏิปาฏิยา อาคตํ.

ตตฺถ สพฺเพสมฺปิ คพฺภเสยฺยกานํ มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมนกาเล ปมํ อพฺภนฺตรวาโต พหิ นิกฺขมติ. ปจฺฉา พาหิรวาโต สุขุมํ รชํ คเหตฺวา อพฺภนฺตรํ ปวิสนฺโต ตาลุํ อาหจฺจ นิพฺพายติ. เอวํ ตาว อสฺสาสปสฺสาสา เวทิตพฺพา. ยา ปน เตสํ ทีฆรสฺสตา, สา อทฺธานวเสน เวทิตพฺพา. ยถา หิ โอกาสทฺธานํ ผริตฺวา ิตํ อุทกํ วา วาลิกา วา ‘‘ทีฆมุทกํ ทีฆา วาลิกา, รสฺสมุทกํ รสฺสา วาลิกา’’ติ วุจฺจติ. เอวํ จุณฺณวิจุณฺณาปิ อสฺสาสปสฺสาสา หตฺถิสรีเร อหิสรีเร จ เตสํ อตฺตภาวสงฺขาตํ ทีฆํ อทฺธานํ สณิกํ ปูเรตฺวา สณิกเมว นิกฺขมนฺติ, ตสฺมา ‘‘ทีฆา’’ติ วุจฺจนฺติ. สุนขสสาทีนํ อตฺตภาวสงฺขาตํ รสฺสํ อทฺธานํ สีฆํ ปูเรตฺวา สีฆเมว นิกฺขมนฺติ, ตสฺมา ‘‘รสฺสา’’ติ วุจฺจนฺติ. มนุสฺเสสุ ปน เกจิ หตฺถิอหิอาทโย วิย กาลทฺธานวเสน ทีฆํ อสฺสสนฺติ จ ปสฺสสนฺติ จ. เกจิ สุนขสสาทโย วิย รสฺสํ. ตสฺมา เตสํ กาลวเสน ทีฆมทฺธานํ นิกฺขมนฺตา จ ปวิสนฺตา จ เต ทีฆา. อิตฺตรมทฺธานํ นิกฺขมนฺตา จ ปวิสนฺตา จ ‘‘รสฺสา’’ติ เวทิตพฺพา. ตตฺรายํ ภิกฺขุ นวหากาเรหิ ทีฆํ อสฺสสนฺโต จ ปสฺสสนฺโต จ ‘‘ทีฆํ อสฺสสามิ ปสฺสสามี’’ติ ปชานาติ. เอวํ ปชานโต จสฺส เอเกนากาเรน กายานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนา สมฺปชฺชตีติ เวทิตพฺพา. ยถาห ปฏิสมฺภิทายํ

‘‘กถํ ทีฆํ อสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติ, ทีฆํ ปสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ ปสฺสสามี’ติ ปชานาติ? ทีฆํ อสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติ, ทีฆํ ปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต ปสฺสสติ, ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติปิ ปสฺสสติปิ. ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสโตปิ ปสฺสสโตปิ ฉนฺโท อุปฺปชฺชติ; ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติ, ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ ปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต ปสฺสสติ, ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติปิ ปสฺสสติปิ. ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสโตปิ ปสฺสสโตปิ ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ; ปาโมชฺชวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติ, ปาโมชฺชวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ ปสฺสาสํ…เป… ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติปิ ปสฺสสติปิ. ปาโมชฺชวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสโตปิ ปสฺสสโตปิ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสา จิตฺตํ วิวตฺตติ, อุเปกฺขา สณฺาติ. อิเมหิ นวหิ อากาเรหิ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสา กาโย; อุปฏฺานํ สติ; อนุปสฺสนา าณํ; กาโย อุปฏฺานํ, โน สติ; สติ อุปฏฺานฺเจว สติ จ. ตาย สติยา เตน าเณน ตํ กายํ อนุปสฺสติ. เตน วุจฺจติ – ‘‘กาเย กายานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๖).

เอเสว นโย รสฺสปเทปิ. อยํ ปน วิเสโส – ‘‘ยถา เอตฺถ ‘ทีฆํ อสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต’ติ วุตฺตํ; เอวมิธ ‘รสฺสํ อสฺสาสํ อิตฺตรสงฺขาเต อสฺสสตี’’ติ อาคตํ. ตสฺมา ตสฺส วเสน ยาว ‘‘เตน วุจฺจติ กาเย กายานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนา’’ติ ตาว โยเชตพฺพํ. เอวมยํ อทฺธานวเสน อิตฺตรวเสน จ อิเมหากาเรหิ อสฺสาสปสฺสาเส ปชานนฺโต ทีฆํ วา อสฺสสนฺโต ‘‘ทีฆํ อสฺสสามี’’ติ ปชานาติ…เป… รสฺสํ วา ปสฺสสนฺโต ‘‘รสฺสํ ปสฺสสามี’’ติ ปชานาตีติ เวทิตพฺโพ.

เอวํ ปชานโต จสฺส –

‘‘ทีโฆ รสฺโส จ อสฺสาโส;

ปสฺสาโสปิ จ ตาทิโส;

จตฺตาโร วณฺณา วตฺตนฺติ;

นาสิกคฺเคว ภิกฺขุโน’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๑๙; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๖๓);

สพฺพกายปฺปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามิ…เป… ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตีติ สกลสฺส อสฺสาสกายสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ วิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต ‘‘อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ. สกลสฺส ปสฺสาสกายสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ วิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต ‘‘ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ. เอวํ วิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน อสฺสสติ เจว ปสฺสสติ จ; ตสฺมา ‘‘อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขตีติ วุจฺจติ. เอกสฺส หิ ภิกฺขุโน จุณฺณวิจุณฺณวิสเฏ อสฺสาสกาเย ปสฺสาสกาเย วา อาทิ ปากโฏ โหติ, น มชฺฌปริโยสานํ. โส อาทิเมว ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, มชฺฌปริโยสาเน กิลมติ. เอกสฺส มชฺฌํ ปากฏํ โหติ, น อาทิปริโยสานํ. โส มชฺฌเมว ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, อาทิปริโยสาเน กิลมติ. เอกสฺส ปริโยสานํ ปากฏํ โหติ, น อาทิมชฺฌํ. โส ปริโยสานํเยว ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, อาทิมชฺเฌ กิลมติ. เอกสฺส สพฺพมฺปิ ปากฏํ โหติ, โส สพฺพมฺปิ ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, น กตฺถจิ กิลมติ. ตาทิเสน ภวิตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘สพฺพกายปฺปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามิ…เป… ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ.

ตตฺถ สิกฺขตีติ เอวํ ฆฏติ วายมติ. โย วา ตถาภูตสฺส สํวโร; อยเมตฺถ อธิสีลสิกฺขา. โย ตถาภูตสฺส สมาธิ; อยํ อธิจิตฺตสิกฺขา. ยา ตถาภูตสฺส ปฺา; อยํ อธิปฺาสิกฺขาติ. อิมา ติสฺโส สิกฺขาโย ตสฺมึ อารมฺมเณ ตาย สติยา เตน มนสิกาเรน สิกฺขติ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตตฺถ ยสฺมา ปุริมนเย เกวลํ อสฺสสิตพฺพํ ปสฺสสิตพฺพเมว จ, น อฺํ กิฺจิ กาตพฺพํ; อิโต ปฏฺาย ปน าณุปฺปาทนาทีสุ โยโค กรณีโย. ตสฺมา ตตฺถ ‘‘อสฺสสามีติ ปชานาติ ปสฺสสามีติ ปชานาติ’’จฺเจว วตฺตมานกาลวเสน ปาฬึ วตฺวา อิโต ปฏฺาย กตฺตพฺพสฺส าณุปฺปาทนาทิโน อาการสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘สพฺพกายปฺปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’’ติอาทินา นเยน อนาคตวจนวเสน ปาฬิ อาโรปิตาติ เวทิตพฺพา.

ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามิ…เป… ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตีติ โอฬาริกํ กายสงฺขารํ ปสฺสมฺเภนฺโต ปฏิปฺปสฺสมฺเภนฺโต นิโรเธนฺโต วูปสเมนฺโต อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ.

ตตฺเรวํ โอฬาริกสุขุมตา จ ปสฺสทฺธิ จ เวทิตพฺพา. อิมสฺส หิ ภิกฺขุโน ปุพฺเพ อปริคฺคหิตกาเล กาโย จ จิตฺตฺจ สทรถา โหนฺติ. โอฬาริกานํ กายจิตฺตานํ โอฬาริกตฺเต อวูปสนฺเต อสฺสาสปสฺสาสาปิ โอฬาริกา โหนฺติ, พลวตรา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ, นาสิกา นปฺปโหติ, มุเขน อสฺสสนฺโตปิ ปสฺสสนฺโตปิ ติฏฺติ. ยทา ปนสฺส กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ปริคฺคหิตา โหนฺติ, ตทา เต สนฺตา โหนฺติ วูปสนฺตา. เตสุ วูปสนฺเตสุ อสฺสาสปสฺสาสา สุขุมา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ, ‘‘อตฺถิ นุ โข นตฺถี’’ติ วิเจตพฺพาการปฺปตฺตา โหนฺติ. เสยฺยถาปิ ปุริสสฺส ธาวิตฺวา ปพฺพตา วา โอโรหิตฺวา มหาภารํ วา สีสโต โอโรเปตฺวา ิตสฺส โอฬาริกา อสฺสาสปสฺสาสา โหนฺติ, นาสิกา นปฺปโหติ, มุเขน อสฺสสนฺโตปิ ปสฺสสนฺโตปิ ติฏฺติ. ยทา ปเนส ตํ ปริสฺสมํ วิโนเทตฺวา นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ อลฺลสาฏกํ หทเย กตฺวา สีตาย ฉายาย นิปนฺโน โหติ, อถสฺส เต อสฺสาสปสฺสาสา สุขุมา โหนฺติ, ‘‘อตฺถิ นุ โข นตฺถี’’ติ วิเจตพฺพาการปฺปตฺตา. เอวเมว อิมสฺส ภิกฺขุโน ปุพฺเพ อปริคฺคหิตกาเล กาโย จ…เป… วิเจตพฺพาการปฺปตฺตา โหนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิสฺส ปุพฺเพ อปริคฺคหิตกาเล ‘‘โอฬาริโกฬาริเก กายสงฺขาเร ปสฺสมฺเภมี’’ติ อาโภคสมนฺนาหารมนสิการปจฺจเวกฺขณา นตฺถิ, ปริคฺคหิตกาเล ปน อตฺถิ. เตนสฺส อปริคฺคหิตกาลโต ปริคฺคหิตกาเล กายสงฺขาโร สุขุโม โหติ. เตนาหุ โปราณา –

‘‘สารทฺเธ กาเย จิตฺเต จ, อธิมตฺตํ ปวตฺตติ;

อสารทฺธมฺหิ กายมฺหิ, สุขุมํ สมฺปวตฺตตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๒๐; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๖๓);

ปริคฺคเหปิ โอฬาริโก, ปมชฺฌานูปจาเร สุขุโม; ตสฺมิมฺปิ โอฬาริโก ปมชฺฌาเน สุขุโม. ปมชฺฌาเน จ ทุติยชฺฌานูปจาเร จ โอฬาริโก, ทุติยชฺฌาเน สุขุโม. ทุติยชฺฌาเน จ ตติยชฺฌานูปจาเร จ โอฬาริโก, ตติยชฺฌาเน สุขุโม. ตติยชฺฌาเน จ จตุตฺถชฺฌานูปจาเร จ โอฬาริโก, จตุตฺถชฺฌาเน อติสุขุโม อปฺปวตฺติเมว ปาปุณาติ. อิทํ ตาว ทีฆภาณกสํยุตฺตภาณกานํ มตํ.

มชฺฌิมภาณกา ปน ‘‘ปมชฺฌาเน โอฬาริโก, ทุติยชฺฌานูปจาเร สุขุโม’’ติ เอวํ เหฏฺิมเหฏฺิมชฺฌานโต อุปรูปริชฺฌานูปจาเรปิ สุขุมตรํ อิจฺฉนฺติ. สพฺเพสํเยว ปน มเตน อปริคฺคหิตกาเล ปวตฺตกายสงฺขาโร ปริคฺคหิตกาเล ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ปริคฺคหิตกาเล ปวตฺตกายสงฺขาโร ปมชฺฌานูปจาเร…เป… จตุตฺถชฺฌานูปจาเร ปวตฺตกายสงฺขาโร จตุตฺถชฺฌาเน ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อยํ ตาว สมเถ นโย.

วิปสฺสนายํ ปน อปริคฺคเห ปวตฺโต กายสงฺขาโร โอฬาริโก, มหาภูตปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, อุปาทารูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, สกลรูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, อรูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, รูปารูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, ปจฺจยปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, สปฺปจฺจยนามรูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาย สุขุโม. โสปิ ทุพฺพลวิปสฺสนาย โอฬาริโก, พลววิปสฺสนาย สุขุโม. ตตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ปุริมสฺส ปุริมสฺส ปจฺฉิเมน ปจฺฉิเมน ปสฺสทฺธิ เวทิตพฺพา. เอวเมตฺถ โอฬาริกสุขุมตา จ ปสฺสทฺธิ จ เวทิตพฺพา.

ปฏิสมฺภิทายํ ปนสฺส สทฺธึ โจทนาโสธนาหิ เอวมตฺโถ วุตฺโต – ‘‘กถํ ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามิ…เป… ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ? กตเม กายสงฺขารา? ทีฆํ อสฺสาสา กายิกา เอเต ธมฺมา กายปฺปฏิพทฺธา กายสงฺขารา, เต กายสงฺขาเร ปสฺสมฺเภนฺโต นิโรเธนฺโต วูปสเมนฺโต สิกฺขติ. ทีฆํ ปสฺสาสา กายิกา เอเต ธมฺมา…เป… รสฺสํ อสฺสาสา…เป… รสฺสํ ปสฺสาสา… สพฺพกายปฺปฏิสํเวที อสฺสาสา… สพฺพกายปฺปฏิสํเวที ปสฺสาสา กายิกา เอเต ธมฺมา กายปฺปฏิพทฺธา กายสงฺขารา, เต กายสงฺขาเร ปสฺสมฺเภนฺโต นิโรเธนฺโต วูปสเมนฺโต สิกฺขติ.

ยถารูเปหิ กายสงฺขาเรหิ ยา กายสฺส อานมนา วินมนา สนฺนมนา ปณมนา อิฺชนา ผนฺทนา จลนา กมฺปนา ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ, ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ.

ยถารูเปหิ กายสงฺขาเรหิ ยา กายสฺส น อานมนา น วินมนา น สนฺนมนา น ปณมนา อนิฺชนา อผนฺทนา อจลนา อกมฺปนา, สนฺตํ สุขุมํ ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ, ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ.

อิติ กิร ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ, ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. เอวํ สนฺเต วาตูปลทฺธิยา จ ปภาวนา น โหติ, อสฺสาสปสฺสาสานฺจ ปภาวนา น โหติ, อานาปานสฺสติยา จ ปภาวนา น โหติ, อานาปานสฺสติสมาธิสฺส จ ปภาวนา น น โหติ, น จ นํ ตํ สมาปตฺตึ ปณฺฑิตา สมาปชฺชนฺติปิ วุฏฺหนฺติปิ.

อิติ กิร ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามิ…เป… ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. เอวํ สนฺเต วาตูปลทฺธิยา จ ปภาวนา โหติ, อสฺสาสปสฺสาสานฺจ ปภาวนา โหติ, อานาปานสฺสติยา จ ปภาวนา โหติ, อานาปานสฺสติสมาธิสฺส จ ปภาวนา โหติ, ตฺจ นํ สมาปตฺตึ ปณฺฑิตา สมาปชฺชนฺติปิ วุฏฺหนฺติปิ.

ยถา กถํ วิย? เสยฺยถาปิ กํเส อาโกฏิเต ปมํ โอฬาริกา สทฺทา ปวตฺตนฺติ, โอฬาริกานํ สทฺทานํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตตฺตา สุมนสิกตตฺตา สูปธาริตตฺตา นิรุทฺเธปิ โอฬาริเก สทฺเท อถ ปจฺฉา สุขุมกา สทฺทา ปวตฺตนฺติ, สุขุมกานํ สทฺทานํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตตฺตา สุมนสิกตตฺตา สูปธาริตตฺตา นิรุทฺเธปิ สุขุมเก สทฺเท อถ ปจฺฉา สุขุมสทฺทนิมิตฺตารมฺมณตาปิ จิตฺตํ ปวตฺตติ; เอวเมว ปมํ โอฬาริกา อสฺสาสปสฺสาสา ปวตฺตนฺติ, โอฬาริกานํ อสฺสาสปสฺสาสานํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตตฺตา สุมนสิกตตฺตา สูปธาริตตฺตา นิรุทฺเธปิ โอฬาริเก อสฺสาสปสฺสาเส อถ ปจฺฉา สุขุมกา อสฺสาสปสฺสาสา ปวตฺตนฺติ, สุขุมกานํ อสฺสาสปสฺสาสานํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตตฺตา สุมนสิกตตฺตา สูปธาริตตฺตา นิรุทฺเธปิ สุขุมเก อสฺสาสปสฺสาเส อถ ปจฺฉา สุขุมอสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตารมฺมณตาปิ จิตฺตํ น วิกฺเขปํ คจฺฉติ.

เอวํ สนฺเต วาตูปลทฺธิยา จ ปภาวนา โหติ, อสฺสาสปสฺสาสานฺจ ปภาวนา โหติ, อานาปานสฺสติยา จ ปภาวนา โหติ, อานาปานสฺสติสมาธิสฺส จ ปภาวนา โหติ, ตฺจ นํ สมาปตฺตึ ปณฺฑิตา สมาปชฺชนฺติปิ วุฏฺหนฺติปิ.

ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารนฺติ อสฺสาสปสฺสาสา กาโย, อุปฏฺานํ สติ, อนุปสฺสนา าณํ. กาโย อุปฏฺานํ โน สติ, สติ อุปฏฺานฺเจว สติ จ, ตาย สติยา เตน าเณน ตํ กายํ อนุปสฺสติ. เตน วุจฺจติ – ‘‘กาเย กายานุปสฺสนา สติปฏฺานภาวนาติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๑).

อยํ ตาเวตฺถ กายานุปสฺสนาวเสน วุตฺตสฺส ปมจตุกฺกสฺส อนุปุพฺพปทวณฺณนา.

ยสฺมา ปเนตฺถ อิทเมว จตุกฺกํ อาทิกมฺมิกสฺส กมฺมฏฺานวเสน วุตฺตํ, อิตรานิ ปน ตีณิ จตุกฺกานิ เอตฺถ ปตฺตชฺฌานสฺส เวทนาจิตฺตธมฺมานุปสฺสนาวเสน วุตฺตานิ, ตสฺมา อิทํ กมฺมฏฺานํ ภาเวตฺวา อานาปานสฺสติจตุตฺถชฺฌานปทฏฺานาย วิปสฺสนาย สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิตุกาเมน พุทฺธปุตฺเตน ยํ กาตพฺพํ ตํ สพฺพํ อิเธว ตาว อาทิกมฺมิกสฺส กุลปุตฺตสฺส วเสน อาทิโต ปภุติ เอวํ เวทิตพฺพํ. จตุพฺพิธํ ตาว สีลํ วิโสเธตพฺพํ. ตตฺถ ติวิธา วิโสธนา – อนาปชฺชนํ, อาปนฺนวุฏฺานํ, กิเลเสหิ จ อปฺปติปีฬนํ. เอวํ วิสุทฺธสีลสฺส หิ ภาวนา สมฺปชฺชติ. ยมฺปิทํ เจติยงฺคณวตฺตํ โพธิยงฺคณวตฺตํ อุปชฺฌายวตฺตํ อาจริยวตฺตํ ชนฺตาฆรวตฺตํ อุโปสถาคารวตฺตํ ทฺเวอสีติ ขนฺธกวตฺตานิ จุทฺทสวิธํ มหาวตฺตนฺติ อิเมสํ วเสน อาภิสมาจาริกสีลํ วุจฺจติ, ตมฺปิ สาธุกํ ปริปูเรตพฺพํ. โย หิ ‘‘อหํ สีลํ รกฺขามิ, กึ อาภิสมาจาริเกน กมฺม’’นฺติ วเทยฺย, ตสฺส สีลํ ปริปูเรสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. อาภิสมาจาริกวตฺเต ปน ปริปูเร สีลํ ปริปูรติ, สีเล ปริปูเร สมาธิ คพฺภํ คณฺหาติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาภิสมาจาริกํ ธมฺมํ อปริปูเรตฺวา ‘สีลานิ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๒๑) วิตฺถาเรตพฺพํ. ตสฺมา เตน ยมฺปิทํ เจติยงฺคณวตฺตาทิ อาภิสมาจาริกสีลํ วุจฺจติ, ตมฺปิ สาธุกํ ปริปูเรตพฺพํ. ตโต –

‘‘อาวาโส จ กุลํ ลาโภ, คโณ กมฺมฺจ ปฺจมํ;

อทฺธานํ าติ อาพาโธ, คนฺโถ อิทฺธีติ เต ทสา’’ติ.

เอวํ วุตฺเตสุ ทสสุ ปลิโพเธสุ โย ปลิโพโธ อตฺถิ, โส อุปจฺฉินฺทิตพฺโพ.

เอวํ อุปจฺฉินฺนปลิโพเธน กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตพฺพํ. ตมฺปิ ทุวิธํ โหติ – สพฺพตฺถกกมฺมฏฺานฺจ ปาริหาริยกมฺมฏฺานฺจ. ตตฺถ สพฺพตฺถกกมฺมฏฺานํ นาม ภิกฺขุสงฺฆาทีสุ เมตฺตา มรณสฺสติ จ อสุภสฺาติปิ เอเก. กมฺมฏฺานิเกน หิ ภิกฺขุนา ปมํ ตาว ปริจฺฉินฺทิตฺวา สีมฏฺกภิกฺขุสงฺเฆ เมตฺตา ภาเวตพฺพา; ตโต สีมฏฺกเทวตาสุ, ตโต โคจรคาเม อิสฺสรชเน, ตโต ตตฺถ มนุสฺเส อุปาทาย สพฺพสตฺเตสุ. โส หิ ภิกฺขุสงฺเฆ เมตฺตาย สหวาสีนํ มุทุจิตฺตตํ ชเนติ, อถสฺส สุขสํวาสตา โหติ. สีมฏฺกเทวตาสุ เมตฺตาย มุทุกตจิตฺตาหิ เทวตาหิ ธมฺมิกาย รกฺขาย สุสํวิหิตารกฺโข โหติ. โคจรคาเม อิสฺสรชเน เมตฺตาย มุทุกตจิตฺตสนฺตาเนหิ อิสฺสเรหิ ธมฺมิกาย รกฺขาย สุรกฺขิตปริกฺขาโร โหติ. ตตฺถ มนุสฺเสสุ เมตฺตาย ปสาทิตจิตฺเตหิ เตหิ อปริภูโต หุตฺวา วิจรติ. สพฺพสตฺเตสุ เมตฺตาย สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตจาโร โหติ.

มรณสฺสติยา ปน ‘‘อวสฺสํ มริตพฺพ’’นฺติ จินฺเตนฺโต อเนสนํ ปหาย อุปรูปริวฑฺฒมานสํเวโค อโนลีนวุตฺติโก โหติ. อสุภสฺาย ทิพฺเพสุปิ อารมฺมเณสุ ตณฺหา นุปฺปชฺชติ. เตนสฺเสตํ ตยํ เอวํ พหูปการตฺตา ‘‘สพฺพตฺถ อตฺถยิตพฺพํ อิจฺฉิตพฺพ’’นฺติ กตฺวา อธิปฺเปตสฺส จ โยคานุโยคกมฺมสฺส ปทฏฺานตฺตา ‘‘สพฺพตฺถกกมฺมฏฺาน’’นฺติ วุจฺจติ.

อฏฺตึสารมฺมเณสุ ปน ยํ ยสฺส จริตานุกูลํ, ตํ ตสฺส นิจฺจํ ปริหริตพฺพตฺตา ยถาวุตฺเตเนว นเยน ‘‘ปาริหาริยกมฺมฏฺาน’’นฺติปิ วุจฺจติ. อิธ ปน อิทเมว อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ ‘‘ปาริหาริยกมฺมฏฺาน’’นฺติ วุจฺจติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน สีลวิโสธนกถํ ปลิโพธุปจฺเฉทกถฺจ อิจฺฉนฺเตน วิสุทฺธิมคฺคโต คเหตพฺโพ.

เอวํ วิสุทฺธสีเลน ปน อุปจฺฉินฺนปลิโพเธน จ อิทํ กมฺมฏฺานํ อุคฺคณฺหนฺเตน อิมินาว กมฺมฏฺาเนน จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตสฺส พุทฺธปุตฺตสฺส สนฺติเก อุคฺคเหตพฺพํ. ตํ อลภนฺเตน อนาคามิสฺส, ตมฺปิ อลภนฺเตน สกทาคามิสฺส, ตมฺปิ อลภนฺเตน โสตาปนฺนสฺส, ตมฺปิ อลภนฺเตน อานาปานจตุตฺถชฺฌานลาภิสฺส, ตมฺปิ อลภนฺเตน ปาฬิยา อฏฺกถาย จ อสมฺมูฬฺหสฺส วินิจฺฉยาจริยสฺส สนฺติเก อุคฺคเหตพฺพํ. อรหนฺตาทโย หิ อตฺตนา อธิคตมคฺคเมว อาจิกฺขนฺติ. อยํ ปน คหนปเทเส มหาหตฺถิปถํ นีหรนฺโต วิย สพฺพตฺถ อสมฺมูฬฺโห สปฺปายาสปฺปายํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา กเถติ.

ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – เตน ภิกฺขุนา สลฺลหุกวุตฺตินา วินยาจารสมฺปนฺเนน วุตฺตปฺปการมาจริยํ อุปสงฺกมิตฺวา วตฺตปฏิปตฺติยา อาราธิตจิตฺตสฺส ตสฺส สนฺติเก ปฺจสนฺธิกํ กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตพฺพํ. ตตฺริเม ปฺจ สนฺธโย – อุคฺคโห, ปริปุจฺฉา, อุปฏฺานํ, อปฺปนา, ลกฺขณนฺติ. ตตฺถ ‘‘อุคฺคโห’’ นาม กมฺมฏฺานสฺส อุคฺคณฺหนํ, ‘‘ปริปุจฺฉา’’ นาม กมฺมฏฺานสฺส ปริปุจฺฉนา, ‘‘อุปฏฺานํ’’ นาม กมฺมฏฺานสฺส อุปฏฺานํ, ‘‘อปฺปนา’’ นาม กมฺมฏฺานปฺปนา, ‘‘ลกฺขณํ’’ นาม กมฺมฏฺานสฺส ลกฺขณํ. ‘‘เอวํลกฺขณมิทํ กมฺมฏฺาน’’นฺติ กมฺมฏฺานสภาวูปธารณนฺติ วุตฺตํ โหติ.

เอวํ ปฺจสนฺธิกํ กมฺมฏฺานํ อุคฺคณฺหนฺโต อตฺตนาปิ น กิลมติ, อาจริยมฺปิ น วิเหเติ; ตสฺมา โถกํ อุทฺทิสาเปตฺวา พหุกาลํ สชฺฌายิตฺวา เอวํ ปฺจสนฺธิกํ กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตฺวา สเจ ตตฺถ สปฺปายํ โหติ, ตตฺเถว วสิตพฺพํ. โน เจ ตตฺถ สปฺปายํ โหติ, อาจริยํ อาปุจฺฉิตฺวา สเจ มนฺทปฺโ โยชนปรมํ คนฺตฺวา, สเจ ติกฺขปฺโ ทูรมฺปิ คนฺตฺวา อฏฺารสเสนาสนโทสวิวชฺชิตํ, ปฺจเสนาสนงฺคสมนฺนาคตํ เสนาสนํ อุปคมฺม ตตฺถ วสนฺเตน อุปจฺฉินฺนขุทฺทกปลิโพเธน กตภตฺตกิจฺเจน ภตฺตสมฺมทํ ปฏิวิโนเทตฺวา รตนตฺตยคุณานุสฺสรเณน จิตฺตํ สมฺปหํเสตฺวา อาจริยุคฺคหโต เอกปทมฺปิ อสมฺมุสฺสนฺเตน อิทํ อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ มนสิกาตพฺพํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน อิมํ กถามคฺคํ อิจฺฉนฺเตน วิสุทฺธิมคฺคโต (วิสุทฺธิ. ๑.๕๕) คเหตพฺโพ.

ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘อิทํ อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ มนสิกาตพฺพ’’นฺติ ตตฺรายํ มนสิการวิธิ

‘‘คณนา อนุพนฺธนา, ผุสนา ปนา สลฺลกฺขณา;

วิวฏฺฏนา ปาริสุทฺธิ, เตสฺจ ปฏิปสฺสนา’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๒๓; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๖๓);

‘‘คณนา’’ติ คณนาเยว. ‘‘อนุพนฺธนา’’ติ อนุวหนา. ‘‘ผุสนา’’ติ ผุฏฺฏฺานํ. ‘‘ปนา’’ติ อปฺปนา. ‘‘สลฺลกฺขณา’’ติ วิปสฺสนา. ‘‘วิวฏฺฏนา’’ติ มคฺโค. ‘‘ปาริสุทฺธี’’ติ ผลํ. ‘‘เตสฺจ ปฏิปสฺสนา’’ติ ปจฺจเวกฺขณา. ตตฺถ อิมินา อาทิกมฺมิกกุลปุตฺเตน ปมํ คณนาย อิทํ กมฏฺานํ มนสิกาตพฺพํ. คเณนฺเตน จ ปฺจนฺนํ เหฏฺา น เปตพฺพํ, ทสนฺนํ อุปริ น เนตพฺพํ, อนฺตเร ขณฺฑํ น ทสฺเสตพฺพํ. ปฺจนฺนํ เหฏฺา เปนฺตสฺส หิ สมฺพาเธ โอกาเส จิตฺตุปฺปาโท วิปฺผนฺทติ, สมฺพาเธ วเช สนฺนิรุทฺธโคคโณ วิย. ทสนฺนํ อุปริ เนนฺตสฺส คณนานิสฺสิโตว จิตฺตุปฺปาโท โหติ. อนฺตรา ขณฺฑํ ทสฺเสนฺตสฺส ‘‘สิขาปฺปตฺตํ นุ โข เม กมฺมฏฺานํ, โน’’ติ จิตฺตํ วิกมฺปติ. ตสฺมา เอเต โทเส วชฺเชตฺวา คเณตพฺพํ.

คเณนฺเตน จ ปมํ ทนฺธคณนาย ธฺมาปกคณนาย คเณตพฺพํ. ธฺมาปโก หิ นาฬึ ปูเรตฺวา ‘‘เอก’’นฺติ วตฺวา โอกิรติ. ปุน ปูเรนฺโต กิฺจิ กจวรํ ทิสฺวา ตํ ฉฑฺเฑนฺโต ‘‘เอกํ เอก’’นฺติ วทติ. เอส นโย ‘‘ทฺเว ทฺเว’’ติอาทีสุ. เอวเมว อิมินาปิ อสฺสาสปสฺสาเสสุ โย อุปฏฺาติ ตํ คเหตฺวา ‘‘เอกํ เอก’’นฺติ อาทึกตฺวา ยาว ‘‘ทส ทสา’’ติ ปวตฺตมานํ ปวตฺตมานํ อุปลกฺเขตฺวาว คเณตพฺพํ. ตสฺเสวํ คณยโต นิกฺขมนฺตา จ ปวิสนฺตา จ อสฺสาสปสฺสาสา ปากฏา โหนฺติ.

อถาเนน ตํ ทนฺธคณนํ ธฺมาปกคณนํ ปหาย สีฆคณนาย โคปาลกคณนาย คเณตพฺพํ. เฉโก หิ โคปาลโก สกฺขราโย อุจฺฉงฺเคน คเหตฺวา รชฺชุทณฺฑหตฺโถ ปาโตว วชํ คนฺตฺวา คาโว ปิฏฺิยํ ปหริตฺวา ปลิฆตฺถมฺภมตฺถเก นิสินฺโน ทฺวารํ ปตฺตํ ปตฺตํเยว คาวํ ‘‘เอโก ทฺเว’’ติ สกฺขรํ ขิปิตฺวา ขิปิตฺวา คเณติ. ติยามรตฺตึ สมฺพาเธ โอกาเส ทุกฺขํ วุตฺถโคคโณ นิกฺขมนฺโต อฺมฺํ อุปนิฆํสนฺโต เวเคน เวเคน ปุฺโช ปุฺโช หุตฺวา นิกฺขมติ. โส เวเคน เวเคน ‘‘ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ ทสา’’ติ คเณติเยว. เอวมิมสฺสาปิ ปุริมนเยน คณยโต อสฺสาสปสฺสาสา ปากฏา หุตฺวา สีฆํ สีฆํ ปุนปฺปุนํ สฺจรนฺติ. ตโต เตน ‘‘ปุนปฺปุนํ สฺจรนฺตี’’ติ ตฺวา อนฺโต จ พหิ จ อคฺคเหตฺวา ทฺวารปฺปตฺตํ ทฺวารปฺปตฺตํเยว คเหตฺวา ‘‘เอโก ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ, เอโก ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ ฉ, เอโก ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ ฉ สตฺต…เป… อฏฺ… นว… ทสา’’ติ สีฆํ สีฆํ คเณตพฺพเมว. คณนาปฏิพทฺเธ หิ กมฺมฏฺาเน คณนาพเลเนว จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ อริตฺตูปตฺถมฺภนวเสน จณฺฑโสเต นาวาปนมิว.

ตสฺเสวํ สีฆํ สีฆํ คณยโต กมฺมฏฺานํ นิรนฺตรปฺปวตฺตํ วิย หุตฺวา อุปฏฺาติ. อถ ‘‘นิรนฺตรํ ปวตฺตตี’’ติ ตฺวา อนฺโต จ พหิ จ วาตํ อปริคฺคเหตฺวา ปุริมนเยเนว เวเคน เวเคน คเณตพฺพํ. อนฺโตปวิสนวาเตน หิ สทฺธึ จิตฺตํ ปเวสยโต อพฺภนฺตรํ วาตพฺภาหตํ เมทปูริตํ วิย โหติ, พหินิกฺขมนวาเตน สทฺธึ จิตฺตํ นีหรโต พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมเณ จิตฺตํ วิกฺขิปติ. ผุฏฺโกาเส ปน สตึ เปตฺวา ภาเวนฺตสฺเสว ภาวนา สมฺปชฺชติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อนฺโต จ พหิ จ วาตํ อปริคฺคเหตฺวา ปุริมนเยเนว เวเคน เวเคน คเณตพฺพ’’นฺติ.

กีว จิรํ ปเนตํ คเณตพฺพนฺติ? ยาว วินา คณนาย อสฺสาสปสฺสาสารมฺมเณ สติ สนฺติฏฺติ. พหิ วิสฏวิตกฺกวิจฺเฉทํ กตฺวา อสฺสาสปสฺสาสารมฺมเณ สติ สณฺปนตฺถํเยว หิ คณนาติ.

เอวํ คณนาย มนสิกตฺวา อนุพนฺธนาย มนสิกาตพฺพํ. อนุพนฺธนา นาม คณนํ ปฏิสํหริตฺวา สติยา นิรนฺตรํ อสฺสาสปสฺสาสานํ อนุคมนํ; ตฺจ โข น อาทิมชฺฌปริโยสานานุคมนวเสน. พหินิกฺขมนวาตสฺส หิ นาภิ อาทิ, หทยํ มชฺฌํ, นาสิกคฺคํ ปริโยสานํ. อพฺภนฺตรปวิสนวาตสฺส นาสิกคฺคํ อาทิ, หทยํ มชฺฌํ, นาภิ ปริโยสานํ. ตฺจสฺส อนุคจฺฉโต วิกฺเขปคตํ จิตฺตํ สารทฺธาย เจว โหติ อิฺชนาย จ. ยถาห –

‘‘อสฺสาสาทิมชฺฌปริโยสานํ สติยา อนุคจฺฉโต อชฺฌตฺตํ วิกฺเขปคเตน จิตฺเตน กาโยปิ จิตฺตมฺปิ สารทฺธา จ โหนฺติ อิฺชิตา จ ผนฺทิตา จ. ปสฺสาสาทิมชฺฌปริโยสานํ สติยา อนุคจฺฉโต พหิทฺธา วิกฺเขปคเตน จิตฺเตน กาโยปิ จิตฺตมฺปิ สารทฺธา จ โหนฺติ อิฺชิตา จ ผนฺทิตา จา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๗).

ตสฺมา อนุพนฺธนาย มนสิกโรนฺเตน น อาทิมชฺฌปริโยสานวเสน มนสิกาตพฺพํ. อปิจ โข ผุสนาวเสน จ ปนาวเสน จ มนสิกาตพฺพํ. คณนานุพนฺธนาวเสน วิย หิ ผุสนาปนาวเสน วิสุํ มนสิกาโร นตฺถิ. ผุฏฺผุฏฺฏฺาเนเยว ปน คเณนฺโต คณนาย จ ผุสนาย จ มนสิ กโรติ. ตตฺเถว คณนํ ปฏิสํหริตฺวา เต สติยา อนุพนฺธนฺโต อปฺปนาวเสน จ จิตฺตํ เปนฺโต ‘‘อนุพนฺธนาย จ ผุสนาย จ ปนาย จ มนสิ กโรตี’’ติ วุจฺจติ. สฺวายมตฺโถ อฏฺกถายํ วุตฺตปงฺคุฬโทวาริโกปมาหิ ปฏิสมฺภิทายํ วุตฺตกกโจปมาย จ เวทิตพฺโพ.

ตตฺรายํ ปงฺคุโฬปมา – ‘‘เสยฺยถาปิ ปงฺคุโฬ โทลาย กีฬตํ มาตาปุตฺตานํ โทลํ ขิปิตฺวา ตตฺเถว โทลตฺถมฺภมูเล นิสินฺโน กเมน อาคจฺฉนฺตสฺส จ คจฺฉนฺตสฺส จ โทลาผลกสฺส อุโภ โกฏิโย มชฺฌฺจ ปสฺสติ, น จ อุโภโกฏิมชฺฌานํ ทสฺสนตฺถํ พฺยาวโฏ โหติ. เอวเมวายํ ภิกฺขุ สติวเสน อุปนิพนฺธนตฺถมฺภมูเล ตฺวา อสฺสาสปสฺสาสโทลํ ขิปิตฺวา ตตฺเถว นิมิตฺเต สติยา นิสินฺโน กเมน อาคจฺฉนฺตานฺจ คจฺฉนฺตานฺจ ผุฏฺฏฺาเน อสฺสาสปสฺสาสานํ อาทิมชฺฌปริโยสานํ สติยา อนุคจฺฉนฺโต ตตฺถ จ จิตฺตํ เปนฺโต ปสฺสติ, น จ เตสํ ทสฺสนตฺถํ พฺยาวโฏ โหติ. อยํ ปงฺคุโฬปมา.

อยํ ปน โทวาริโกปมา – ‘‘เสยฺยถาปิ โทวาริโก นครสฺส อนฺโต จ พหิ จ ปุริเส ‘โก ตฺวํ, กุโต วา อาคโต, กุหึ วา คจฺฉสิ, กึ วา เต หตฺเถ’ติ น วีมํสติ, น หิ ตสฺส เต ภารา. ทฺวารปฺปตฺตํ ทฺวารปฺปตฺตํเยว ปน วีมํสติ; เอวเมว อิมสฺส ภิกฺขุโน อนฺโต ปวิฏฺวาตา จ พหิ นิกฺขนฺตวาตา จ น ภารา โหนฺติ, ทฺวารปฺปตฺตา ทฺวารปฺปตฺตาเยว ภาราติ. อยํ โทวาริโกปมา.

กกโจปมา ปน อาทิโตปภุติ เอวํ เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘นิมิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสา, อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺส;

อชานโต จ ตโย ธมฺเม, ภาวนานุปลพฺภติ.

‘‘นิมิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสา, อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺส;

ชานโต จ ตโย ธมฺเม, ภาวนา อุปลพฺภตี’’ติ. (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๙);

กถํ อิเม ตโย ธมฺมา เอกจิตฺตสฺส อารมฺมณํ น โหนฺติ, น จิเม ตโย ธมฺมา อวิทิตา โหนฺติ, น จ จิตฺตํ วิกฺเขปํ คจฺฉติ, ปธานฺจ ปฺายติ, ปโยคฺจ สาเธติ, วิเสสมธิคจฺฉติ? เสยฺยถาปิ รุกฺโข สเม ภูมิภาเค นิกฺขิตฺโต, ตเมนํ ปุริโส กกเจน ฉินฺเทยฺย, รุกฺเข ผุฏฺกกจทนฺตานํ วเสน ปุริสสฺส สติ อุปฏฺิตา โหติ, น อาคเต วา คเต วา กกจทนฺเต มนสิ กโรติ, น อาคตา วา คตา วา กกจทนฺตา อวิทิตา โหนฺติ, ปธานฺจ ปฺายติ, ปโยคฺจ สาเธติ.

ยถา รุกฺโข สเม ภูมิภาเค นิกฺขิตฺโต; เอวํ อุปนิพนฺธนนิมิตฺตํ. ยถา กกจทนฺตา; เอวํ อสฺสาสปสฺสาสา. ยถา รุกฺเข ผุฏฺกกจทนฺตานํ วเสน ปุริสสฺส สติ อุปฏฺิตา โหติ, น อาคเต วา คเต วา กกจทนฺเต มนสิ กโรติ, น อาคตา วา คตา วา กกจทนฺตา อวิทิตา โหนฺติ, ปธานฺจ ปฺายติ, ปโยคฺจ สาเธติ, เอวเมว ภิกฺขุ นาสิกคฺเค วา มุขนิมิตฺเต วา สตึ อุปฏฺเปตฺวา นิสินฺโน โหติ, น อาคเต วา คเต วา อสฺสาสปสฺสาเส มนสิ กโรติ, น อาคตา วา คตา วา อสฺสาสปสฺสาสา อวิทิตา โหนฺติ, ปธานฺจ ปฺายติ, ปโยคฺจ สาเธติ, วิเสสมธิคจฺฉติ.

ปธานนฺติ กตมํ ปธานํ? อารทฺธวีริยสฺส กาโยปิ จิตฺตมฺปิ กมฺมนิยํ โหติ – อิทํ ปธานํ. กตโม ปโยโค? อารทฺธวีริยสฺส อุปกฺกิเลสา ปหียนฺติ, วิตกฺกา วูปสมฺมนฺติ – อยํ ปโยโค. กตโม วิเสโส? อารทฺธวีริยสฺส สํโยชนา ปหียนฺติ, อนุสยา พฺยนฺตี โหนฺติ – อยํ วิเสโส. เอวํ อิเม ตโย ธมฺมา เอกจิตฺตสฺส อารมฺมณา น โหนฺติ, น จิเม ตโย ธมฺมา อวิทิตา โหนฺติ, น จ จิตฺตํ วิกฺเขปํ คจฺฉติ, ปธานฺจ ปฺายติ, ปโยคฺจ สาเธติ, วิเสสมธิคจฺฉติ.

‘‘อานาปานสฺสตี ยสฺส, ปริปุณฺณา สุภาวิตา;

อนุปุพฺพํ ปริจิตา, ยถา พุทฺเธน เทสิตา;

โส อิมํ โลกํ ปภาเสติ, อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา’’ติ. (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๐);

อยํ กกโจปมา. อิธ ปนสฺส อาคตาคตวเสน อมนสิการมตฺตเมว ปโยชนนฺติ เวทิตพฺพํ. อิทํ กมฺมฏฺานํ มนสิกโรโต กสฺสจิ นจิเรเนว นิมิตฺตฺจ อุปฺปชฺชติ, อวเสสชฺฌานงฺคปฏิมณฺฑิตา อปฺปนาสงฺขาตา ปนา จ สมฺปชฺชติ. กสฺสจิ ปน คณนาวเสเนว มนสิการกาลโตปภุติ อนุกฺกมโต โอฬาริกอสฺสาสปสฺสาสนิโรธวเสน กายทรเถ วูปสนฺเต กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ลหุกํ โหติ, สรีรํ อากาเส ลงฺฆนาการปฺปตฺตํ วิย โหติ. ยถา สารทฺธกายสฺส มฺเจ วา ปีเ วา นิสีทโต มฺจปีํ โอนมติ, วิกูชติ, ปจฺจตฺถรณํ วลึ คณฺหาติ. อสารทฺธกายสฺส ปน นิสีทโต เนว มฺจปีํ โอนมติ, น วิกูชติ, น ปจฺจตฺถรณํ วลึ คณฺหาติ, ตูลปิจุปูริตํ วิย มฺจปีํ โหติ. กสฺมา? ยสฺมา อสารทฺโธ กาโย ลหุโก โหติ; เอวเมว คณนาวเสน มนสิการกาลโตปภุติ อนุกฺกมโต โอฬาริกอสฺสาสปสฺสาสนิโรธวเสน กายทรเถ วูปสนฺเต กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ลหุกํ โหติ, สรีรํ อากาเส ลงฺฆนาการปฺปตฺตํ วิย โหติ.

ตสฺส โอฬาริเก อสฺสาสปสฺสาเส นิรุทฺเธ สุขุมอสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตารมฺมณํ จิตฺตํ ปวตฺตติ, ตสฺมิมฺปิ นิรุทฺเธ อปราปรํ ตโต สุขุมตรสุขุมตมนิมิตฺตารมฺมณํ ปวตฺตติเยว. กถํ? ยถา ปุริโส มหติยา โลหสลากาย กํสตาฬํ อาโกเฏยฺย, เอกปฺปหาเรน มหาสทฺโท อุปฺปชฺเชยฺย, ตสฺส โอฬาริกสทฺทารมฺมณํ จิตฺตํ ปวตฺเตยฺย, นิรุทฺเธ โอฬาริเก สทฺเท อถ ปจฺฉา สุขุมสทฺทนิมิตฺตารมฺมณํ, ตสฺมิมฺปิ นิรุทฺเธ อปราปรํ ตโต สุขุมตรสุขุมตมสทฺทนิมิตฺตารมฺมณํ จิตฺตํ ปวตฺตเตว; เอวนฺติ เวทิตพฺพํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘เสยฺยถาปิ กํเส อาโกฏิเต’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๑) วิตฺถาโร.

ยถา หิ อฺานิ กมฺมฏฺานานิ อุปรูปริ วิภูตานิ โหนฺติ, น ตถา อิทํ. อิทํ ปน อุปรูปริ ภาเวนฺตสฺส ภาเวนฺตสฺส สุขุมตฺตํ คจฺฉติ, อุปฏฺานมฺปิ น อุปคจฺฉติ. เอวํ อนุปฏฺหนฺเต ปน ตสฺมึ น เตน ภิกฺขุนา อุฏฺายาสนา จมฺมขณฺฑํ ปปฺโผเฏตฺวา คนฺตพฺพํ. กึ กาตพฺพํ? ‘‘อาจริยํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ วา ‘‘นฏฺํ ทานิ เม กมฺมฏฺาน’’นฺติ วา น วุฏฺาตพฺพํ, อิริยาปถํ วิโกเปตฺวา คจฺฉโต หิ กมฺมฏฺานํ นวนวเมว โหติ. ตสฺมา ยถานิสินฺเนเนว เทสโต อาหริตพฺพํ.

ตตฺรายํ อาหรณูปาโย. เตน หิ ภิกฺขุนา กมฺมฏฺานสฺส อนุปฏฺหนภาวํ ตฺวา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ – ‘‘อิเม อสฺสาสปสฺสาสา นาม กตฺถ อตฺถิ, กตฺถ นตฺถิ, กสฺส วา อตฺถิ, กสฺส วา นตฺถี’’ติ. อเถวํ ปฏิสฺจิกฺขตา ‘‘อิเม อนฺโตมาตุกุจฺฉิยํ นตฺถิ, อุทเก นิมุคฺคานํ นตฺถิ, ตถา อสฺีภูตานํ มตานํ จตุตฺถชฺฌานสมาปนฺนานํ รูปารูปภวสมงฺคีนํ นิโรธสมาปนฺนาน’’นฺติ ตฺวา เอวํ อตฺตนาว อตฺตา ปฏิโจเทตพฺโพ – ‘‘นนุ ตฺวํ, ปณฺฑิต, เนว มาตุกุจฺฉิคโต, น อุทเก นิมุคฺโค, น อสฺีภูโต, น มโต, น จตุตฺถชฺฌานสมอาปนฺโน, น รูปารูปภวสมงฺคี, น นิโรธสมาปนฺโน, อตฺถิเยว เต อสฺสาสปสฺสาสา, มนฺทปฺตาย ปน ปริคฺคเหตุํ น สกฺโกสี’’ติ. อถาเนน ปกติผุฏฺวเสเนว จิตฺตํ เปตฺวา มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. อิเม หิ ทีฆนาสิกสฺส นาสา ปุฏํ ฆฏฺเฏนฺตา ปวตฺตนฺติ, รสฺสนาสิกสฺส อุตฺตโรฏฺํ. ตสฺมาเนน อิมํ นาม านํ ฆฏฺเฏนฺตีติ นิมิตฺตํ ปฏฺเปตพฺพํ. อิมเมว หิ อตฺถวสํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ ภควตา – ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, มุฏฺสฺสติสฺส อสมฺปชานสฺส อานาปานสฺสติภาวนํ วทามี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๔๙; สํ. นิ. ๕.๙๙๒). กิฺจาปิ หิ ยํกิฺจิ กมฺมฏฺานํ สตสฺส สมฺปชานสฺเสว สมฺปชฺชติ, อิโต อฺํ ปน มนสิกโรนฺตสฺส ปากฏํ โหติ. อิทํ ปน อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ ครุกํ ครุกภาวนํ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธปุตฺตานํ มหาปุริสานเมว มนสิการภูมิภูตํ, น เจว อิตฺตรํ, น จ อิตฺตรสตฺตสมาเสวิตํ. ยถา ยถา มนสิ กรียติ, ตถา ตถา สนฺตฺเจว โหติ สุขุมฺจ. ตสฺมา เอตฺถ พลวตี สติ จ ปฺา จ อิจฺฉิตพฺพา.

ยถา หิ มฏฺสาฏกสฺส ตุนฺนกรณกาเล สูจิปิ สุขุมา อิจฺฉิตพฺพา, สูจิปาสเวธนมฺปิ ตโต สุขุมตรํ; เอวเมว มฏฺสาฏกสทิสสฺส อิมสฺส กมฺมฏฺานสฺส ภาวนากาเล สูจิปฏิภาคา สติปิ สูจิปาสเวธนปฏิภาคา ตํสมฺปยุตฺตา ปฺาปิ พลวตี อิจฺฉิตพฺพา. ตาหิ จ ปน สติปฺาหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น เต อสฺสาสปสฺสาสา อฺตฺร ปกติผุฏฺโกาสา ปริเยสิตพฺพา.

ยถา ปน กสฺสโก กสึ กสิตฺวา พลิพทฺเท มุฺจิตฺวา โคจราภิมุเข กตฺวา ฉายาย นิสินฺโน วิสฺสเมยฺย, อถสฺส เต พลิพทฺทา เวเคน อฏวึ ปวิเสยฺยุํ. โย โหติ เฉโก กสฺสโก โส ปุน เต คเหตฺวา โยเชตุกาโม น เตสํ อนุปทํ คนฺตฺวา อฏวึ อาหิณฺฑติ. อถ โข รสฺมิฺจ ปโตทฺจ คเหตฺวา อุชุกเมว เตสํ นิปาตติตฺถํ คนฺตฺวา นิสีทติ วา นิปชฺชติ วา. อถ เต โคเณ ทิวสภาคํ จริตฺวา นิปาตติตฺถํ โอตริตฺวา นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปจฺจุตฺตริตฺวา ิเต ทิสฺวา รสฺมิยา พนฺธิตฺวา ปโตเทน วิชฺฌนฺโต อาเนตฺวา โยเชตฺวา ปุน กมฺมํ กโรติ; เอวเมว เตน ภิกฺขุนา น เต อสฺสาสปสฺสาสา อฺตฺร ปกติผุฏฺโกาสา ปริเยสิตพฺพา. สติรสฺมึ ปน ปฺาปโตทฺจ คเหตฺวา ปกติผุฏฺโกาเส จิตฺตํ เปตฺวา มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. เอวฺหิสฺส มนสิกโรโต นจิรสฺเสว เต อุปฏฺหนฺติ, นิปาตติตฺเถ วิย โคณา. ตโต เตน สติรสฺมิยา พนฺธิตฺวา ตสฺมึเยว าเน โยเชตฺวา ปฺาปโตเทน วิชฺฌนฺเตน ปุน กมฺมฏฺานํ อนุยุฺชิตพฺพํ; ตสฺเสวมนุยุฺชโต นจิรสฺเสว นิมิตฺตํ อุปฏฺาติ. ตํ ปเนตํ น สพฺเพสํ เอกสทิสํ โหติ; อปิจ โข กสฺสจิ สุขสมฺผสฺสํ อุปฺปาทยมาโน ตูลปิจุ วิย, กปฺปาสปิจุ วิย, วาตธารา วิย จ อุปฏฺาตีติ เอกจฺเจ อาหุ.

อยํ ปน อฏฺกถาวินิจฺฉโย – อิทฺหิ กสฺสจิ ตารกรูปํ วิย, มณิคุฬิกา วิย, มุตฺตาคุฬิกา วิย จ กสฺสจิ ขรสมฺผสฺสํ หุตฺวา กปฺปาสฏฺิ วิย, สารทารุสูจิ วิย จ กสฺสจิ ทีฆปามงฺคสุตฺตํ วิย, กุสุมทามํ วิย, ธูมสิขา วิย จ กสฺสจิ วิตฺถต มกฺกฏกสุตฺตํ วิย, วลาหกปฏลํ วิย, ปทุมปุปฺผํ วิย, รถจกฺกํ วิย, จนฺทมณฺฑลํ วิย, สูริยมณฺฑลํ วิย จ อุปฏฺาติ. ตฺจ ปเนตํ ยถา สมฺพหุเลสุ ภิกฺขูสุ สุตฺตนฺตํ สชฺฌายิตฺวา นิสินฺเนสุ เอเกน ภิกฺขุนา ‘‘ตุมฺหากํ กีทิสํ หุตฺวา อิทํ สุตฺตํ อุปฏฺาตี’’ติ วุตฺเต เอโก ‘‘มยฺหํ มหตี ปพฺพเตยฺยา นที วิย หุตฺวา อุปฏฺาตี’’ติ อาห. อปโร ‘‘มยฺหํ เอกา วนราชิ วิย’’. อฺโ ‘‘มยฺหํ สีตจฺฉาโย สาขาสมฺปนฺโน ผลภารภริตรุกฺโข วิยา’’ติ. เตสฺหิ ตํ เอกเมว สุตฺตํ สฺานานตาย นานโต อุปฏฺาติ. เอวํ เอกเมว กมฺมฏฺานํ สฺานานตาย นานโต อุปฏฺาติ. สฺชฺหิ เอตํ สฺานิทานํ สฺาปฺปภวํ ตสฺมา สฺานานตาย นานโต อุปฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ.

เอตฺถ จ อฺเมว อสฺสาสารมฺมณํ จิตฺตํ, อฺํ ปสฺสาสารมฺมณํ, อฺํ นิมิตฺตารมฺมณํ ยสฺส หิ อิเม ตโย ธมฺมา นตฺถิ, ตสฺส กมฺมฏฺานํ เนว อปฺปนํ น อุปจารํ ปาปุณาติ. ยสฺส ปนิเม ตโย ธมฺมา อตฺถิ, ตสฺเสว กมฺมฏฺานํ อปฺปนฺจ อุปจารฺจ ปาปุณาติ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘นิมิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสา, อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺส;

อชานโต จ ตโย ธมฺเม, ภาวนานุปลพฺภติ.

‘‘นิมิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสา, อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺส;

ชานโต จ ตโย ธมฺเม, ภาวนา อุปลพฺภตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๓๑);

เอวํ อุปฏฺิเต ปน นิมิตฺเต เตน ภิกฺขุนา อาจริยสนฺติกํ คนฺตฺวา อาโรเจตพฺพํ – ‘‘มยฺหํ, ภนฺเต, เอวรูปํ นาม อุปฏฺาตี’’ติ. อาจริเยน ปน ‘‘เอตํ นิมิตฺต’’นฺติ วา ‘‘น นิมิตฺต’’นฺติ วา น วตฺตพฺพํ. ‘‘เอวํ โหติ, อาวุโส’’ติ วตฺวา ปน ‘‘ปุนปฺปุนํ มนสิ กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. ‘‘นิมิตฺต’’นฺติ หิ วุตฺเต โวสานํ อาปชฺเชยฺย; ‘‘น นิมิตฺต’’นฺติ วุตฺเต นิราโส วิสีเทยฺย. ตสฺมา ตทุภยมฺปิ อวตฺวา มนสิกาเรเยว นิโยเชตพฺโพติ. เอวํ ตาว ทีฆภาณกา. มชฺฌิมภาณกา ปนาหุ – ‘‘นิมิตฺตมิทํ, อาวุโส, กมฺมฏฺานํ ปุนปฺปุนํ มนสิ กโรหิ สปฺปุริสาติ วตฺตพฺโพ’’ติ. อถาเนน นิมิตฺเตเยว จิตฺตํ เปตพฺพํ. เอวมสฺสายํ อิโต ปภุติ ปนาวเสน ภาวนา โหติ. วุตฺตฺเหตํ โปราเณหิ –

‘‘นิมิตฺเต ปยํ จิตฺตํ, นานาการํ วิภาวยํ;

ธีโร อสฺสาสปสฺสาเส, สกํ จิตฺตํ นิพนฺธตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๓๒; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๖๓);

ตสฺเสวํ นิมิตฺตุปฏฺานโต ปภุติ นีวรณานิ วิกฺขมฺภิตาเนว โหนฺติ กิเลสา สนฺนิสินฺนาว สติ อุปฏฺิตาเยว, จิตฺตํ สมาหิตเมว. อิทฺหิ ทฺวีหากาเรหิ จิตฺตํ สมาหิตํ นาม โหหิ – อุปจารภูมิยํ วา นีวรณปฺปหาเนน, ปฏิลาภภูมิยํ วา องฺคปาตุภาเวน. ตตฺถ ‘‘อุปจารภูมี’’ติ อุปจารสมาธิ; ‘‘ปฏิลาภภูมี’’ติ อปฺปนาสมาธิ. เตสํ กึ นานากรณํ? อุปจารสมาธิ กุสลวีถิยํ ชวิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ, อปฺปนาสมาธิ ทิวสภาเค อปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส ทิวสภาคมฺปิ กุสลวีถิยํ ชวติ, น ภวงฺคํ โอตรติ. อิเมสุ ทฺวีสุ สมาธีสุ นิมิตฺตปาตุภาเวน อุปจารสมาธินา สมาหิตํ จิตฺตํ โหติ. อถาเนน ตํ นิมิตฺตํ เนว วณฺณโต มนสิกาตพฺพํ, น ลกฺขณโต ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ. อปิจ โข ขตฺติยมเหสิยา จกฺกวตฺติคพฺโภ วิย กสฺสเกน สาลิยวคพฺโภ วิย จ อปฺปมตฺเตน รกฺขิตพฺพํ; รกฺขิตํ หิสฺส ผลทํ โหติ.

‘‘นิมิตฺตํ รกฺขโต ลทฺธ, ปริหานิ น วิชฺชติ;

อารกฺขมฺหิ อสนฺตมฺหิ, ลทฺธํ ลทฺธํ วินสฺสตี’’ติ.

ตตฺรายํ รกฺขณูปาโย – เตน ภิกฺขุนา อาวาโส, โคจโร, ภสฺสํ, ปุคฺคโล, โภชนํ, อุตุ, อิริยาปโถติ อิมานิ สตฺต อสปฺปายานิ วชฺเชตฺวา ตาเนว สตฺต สปฺปายานิ เสวนฺเตน ปุนปฺปุนํ ตํ นิมิตฺตํ มนสิกาตพฺพํ.

เอวํ สปฺปายเสวเนน นิมิตฺตํ ถิรํ กตฺวา วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ คมยิตฺวา วตฺถุวิสทกิริยา, อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนตา, นิมิตฺตกุสลตา, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ สปคฺคเหตพฺพ ตสฺมึ สมเย จิตฺตปคฺคณฺหนา, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคเหตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตนิคฺคณฺหนา, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ สมฺปหํเสตพฺพํ ตสฺมึ สมเย สมฺปหํเสตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตสมฺปหํสนา, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตอชฺฌุเปกฺขนา, อสมาหิตปุคฺคลปริวชฺชนา, สมาหิตปุคฺคลเสวนา, ตทธิมุตฺตตาติ อิมานิ ทส อปฺปนาโกสลฺลานิ อวิชหนฺเตน โยโค กรณีโย.

ตสฺเสวํ อนุยุตฺตสฺส วิหรโต อิทานิ อปฺปนา อุปฺปชฺชิสฺสตีติ ภวงฺคํ วิจฺฉินฺทิตฺวา นิมิตฺตารมฺมณํ มโนทฺวาราวชฺชนํ อุปฺปชฺชติ. ตสฺมิฺจ นิรุทฺเธ ตเทวารมฺมณํ คเหตฺวา จตฺตาริ ปฺจ วา ชวนานิ, เยสํ ปมํ ปริกมฺมํ, ทุติยํ อุปจารํ, ตติยํ อนุโลมํ, จตุตฺถํ โคตฺรภุ, ปฺจมํ อปฺปนาจิตฺตํ. ปมํ วา ปริกมฺมฺเจว อุปจารฺจ, ทุติยํ อนุโลมํ, ตติยํ โคตฺรภุ, จตุตฺถํ อปฺปนาจิตฺตนฺติ วุจฺจติ. จตุตฺถเมว หิ ปฺจมํ วา อปฺเปติ, น ฉฏฺํ สตฺตมํ วา อาสนฺนภวงฺคปาตตฺตา.

อาภิธมฺมิกโคทตฺตตฺเถโร ปนาห – ‘‘อาเสวนปจฺจเยน กุสลา ธมฺมา พลวนฺโต โหนฺติ; ตสฺมา ฉฏฺํ สตฺตมํ วา อปฺเปตี’’ติ. ตํ อฏฺกถาสุ ปฏิกฺขิตฺตํ. ตตฺถ ปุพฺพภาคจิตฺตานิ กามาวจรานิ โหนฺติ, อปฺปนาจิตฺตํ ปน รูปาวจรํ. เอวมเนน ปฺจงฺควิปฺปหีนํ, ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ, ทสลกฺขณสมฺปนฺนํ, ติวิธกลฺยาณํ, ปมชฺฌานํ อธิคตํ โหติ. โส ตสฺมึเยวารมฺมเณ วิตกฺกาทโย วูปสเมตฺวา ทุติยตติยจตุตฺถชฺฌานานิ ปาปุณาติ. เอตฺตาวตา จ ปนาวเสน ภาวนาย ปริโยสานปฺปตฺโต โหติ. อยเมตฺถ สงฺเขปกถา. วิตฺถาโร ปน อิจฺฉนฺเตน วิสุทฺธิมคฺคโต คเหตพฺโพ.

เอวํ ปตฺตจตุตฺถชฺฌาโน ปเนตฺถ ภิกฺขุ สลฺลกฺขณาวิวฏฺฏนาวเสน กมฺมฏฺานํ วฑฺเฒตฺวา ปาริสุทฺธึ ปตฺตุกาโม ตเทว ฌานํ อาวชฺชนสมาปชฺชนอธิฏฺานวุฏฺานปจฺจเวกฺขณสงฺขาเตหิ ปฺจหากาเรหิ วสิปฺปตฺตํ ปคุณํ กตฺวา อรูปปุพฺพงฺคมํ วา รูปํ, รูปปุพฺพงฺคมํ วา อรูปนฺติ รูปารูปํ ปริคฺคเหตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปติ. กถํ? โส หิ ฌานา วุฏฺหิตฺวา ฌานงฺคานิ ปริคฺคเหตฺวา เตสํ นิสฺสยํ หทยวตฺถุํ ตํ นิสฺสยานิ จ ภูตานิ เตสฺจ นิสฺสยํ สกลมฺปิ กรชกายํ ปสฺสติ. ตโต ‘‘ฌานงฺคานิ อรูปํ, วตฺถาทีนิ รูป’’นฺติ รูปารูปํ ววตฺถเปติ.

อถ วา สมาปตฺติโต วุฏฺหิตฺวา เกสาทีสุ โกฏฺาเสสุ ปถวีธาตุอาทิวเสน จตฺตาริ ภูตานิ ตํนิสฺสิตรูปานิ จ ปริคฺคเหตฺวา ยถาปริคฺคหิตรูปารมฺมณํ ยถาปริคฺคหิตรูปวตฺถุทฺวารารมฺมณํ วา สสมฺปยุตฺตธมฺมํ วิฺาณฺจ ปสฺสติ. ตโต ‘‘ภูตาทีนิ รูปํ สสมฺปยุตฺตธมฺมํ วิฺาณํ อรูป’’นฺติ ววตฺถเปติ.

อถ วา สมาปตฺติโต วุฏฺหิตฺวา อสฺสาสปสฺสาสานํ สมุทโย กรชกาโย จ จิตฺตฺจาติ ปสฺสติ. ยถา หิ กมฺมารคคฺคริยา ธมมานาย ภสฺตฺจ ปุริสสฺส จ ตชฺชํ วายามํ ปฏิจฺจ วาโต สฺจรติ; เอวเมว กายฺจ จิตฺตฺจ ปฏิจฺจ อสฺสาสปสฺสาสาติ. ตโต อสฺสาสปสฺสาเส จ กายฺจ รูปํ, จิตฺตฺจ ตํสมฺปยุตฺตธมฺเม จ อรูปนฺติ ววตฺถเปติ.

เอวํ นามรูปํ ววตฺถเปตฺวา ตสฺส ปจฺจยํ ปริเยสติ, ปริเยสนฺโต จ ตํ ทิสฺวา ตีสุปิ อทฺธาสุ นามรูปสฺส ปวตฺตึ อารพฺภ กงฺขํ วิตรติ. วิติณฺณกงฺโข กลาปสมฺมสนวเสน ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา อุทยพฺพยานุปสฺสนาย ปุพฺพภาเค อุปฺปนฺเน โอภาสาทโย ทส วิปสฺสนุปกฺกิเลเส ปหาย อุปกฺกิเลสวิมุตฺตํ ปฏิปทาาณํ ‘‘มคฺโค’’ติ ววตฺถเปตฺวา อุทยํ ปหาย ภงฺคานุปสฺสนํ ปตฺวา นิรนฺตรํ ภงฺคานุปสฺสเนน ภยโต อุปฏฺิเตสุ สพฺพสงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทนฺโต วิรชฺชนฺโต วิมุจฺจนฺโต ยถากฺกมํ จตฺตาโร อริยมคฺเค ปาปุณิตฺวา อรหตฺตผเล ปติฏฺาย เอกูนวีสติเภทสฺส ปจฺจเวกฺขณาณสฺส ปริยนฺตปฺปตฺโต สเทวกสฺส โลกสฺส อคฺคทกฺขิเณยฺโย โหติ. เอตฺตาวตา จสฺส คณนํ อาทึ กตฺวา วิปสฺสนาปริโยสานา อานาปานสฺสติสมาธิภาวนา จ สมตฺตา โหตีติ.

อยํ สพฺพาการโต ปมจตุกฺกวณฺณนา.

อิตเรสุ ปน ตีสุ จตุกฺเกสุ ยสฺมา วิสุํ กมฺมฏฺานภาวนานโย นาม นตฺถิ; ตสฺมา อนุปทวณฺณนานเยเนว เนสํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปีติปฺปฏิสํเวทีติ ปีตึ ปฏิสํวิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. ตตฺถ ทฺวีหากาเรหิ ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ – อารมฺมณโต จ อสมฺโมหโต จ.

กถํ อารมฺมณโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชติ, ตสฺส สมาปตฺติกฺขเณ ฌานปฏิลาเภน อารมฺมณโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ อารมฺมณสฺส ปฏิสํวิทิตตฺตา.

กถํ อสมฺโมหโต? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตกปีตึ ขยโต วยโต สมฺมสติ, ตสฺส วิปสฺสนากฺขเณ ลกฺขณปฏิเวเธน อสมฺโมหโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. วุตฺตฺเหตํ ปฏิสมฺภิทายํ

‘‘ทีฆํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโต สติ อุปฏฺิตา โหติ. ตาย สติยา เตน าเณน สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. ทีฆํ ปสฺสาสวเสน…เป… รสฺสํ อสฺสาสวเสน… รสฺสํ ปสฺสาสวเสน… สพฺพกายปฺปฏิสํเวที อสฺสาสวเสน… สพฺพกายปฺปฏิสํเวที ปสฺสาสวเสน… ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสาสวเสน… ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโต สติ อุปฏฺิตา โหติ, ตาย สติยา เตน าเณน สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. อาวชฺชโต สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ ชานโต… ปสฺสโต… ปจฺจเวกฺขโต… จิตฺตํ อธิฏฺหโต… สทฺธาย อธิมุจฺจโต… วีริยํ ปคฺคณฺหโต… สตึ อุปฏฺาปยโต… จิตฺตํ สมาทหโต… ปฺาย ปชานโต… อภิฺเยฺยํ อภิชานโต… ปริฺเยฺยํ ปริชานโต… ปหาตพฺพํ ปชหโต… ภาเวตพฺพํ ภาวยโต… สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกโรโต สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. เอวํ สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๒).

เอเตเนว นเยน อวเสสปทานิปิ อตฺถโต เวทิตพฺพานิ. อิทํ ปเนตฺถ วิเสสมตฺตํ. ติณฺณํ ฌานานํ วเสน สุขปฏิสํเวทิตา จตุนฺนมฺปิ วเสน จิตฺตสงฺขารปฏิสํเวทิตา เวทิตพฺพา. ‘‘จิตฺตสงฺขาโร’’ติ เวทนาทโย ทฺเว ขนฺธา. สุขปฺปฏิสํเวทิปเท เจตฺถ วิปสฺสนาภูมิทสฺสนตฺถํ ‘‘สุขนฺติ ทฺเว สุขานิ – กายิกฺจ สุขํ เจตสิกฺจา’’ติ ปฏิสมฺภิทายํ วุตฺตํ. ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารนฺติ โอฬาริกํ โอฬาริกํ จิตฺตสงฺขารํ ปสฺสมฺเภนฺโต, นิโรเธนฺโตติ อตฺโถ. โส วิตฺถารโต กายสงฺขาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อปิเจตฺถ ปีติปเท ปีติสีเสน เวทนา วุตฺตา. สุขปเท สรูเปเนว เวทนา. ทฺวีสุ จิตฺตสงฺขารปเทสุ ‘‘สฺา จ เวทนา จ เจตสิกา เอเต ธมฺมา จิตฺตปฏิพทฺธา จิตฺตสงฺขารา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๔; ม. นิ. ๑.๔๖๓) วจนโต สฺาสมฺปยุตฺตา เวทนาติ. เอวํ เวทนานุปสฺสนานเยน อิทํ จตุกฺกํ ภาสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

ตติยจตุกฺเกปิ จตุนฺนํ ฌานานํ วเสน จิตฺตปฏิสํเวทิตา เวทิตพฺพา. อภิปฺปโมทยํ จิตฺตนฺติ จิตฺตํ โมเทนฺโต ปโมเทนฺโต หาเสนฺโต ปหาเสนฺโต อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. ตตฺถ ทฺวีหากาเรหิ อภิปฺปโมโท โหติ – สมาธิวเสน จ วิปสฺสนาวเสน จ.

กถํ สมาธิวเสน? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชติ, โส สมาปตฺติกฺขเณ สมฺปยุตฺตาย ปีติยา จิตฺตํ อาโมเทติ ปโมเทติ. กถํ วิปสฺสนาวเสน? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตกปีตึ ขยโต วยโต สมฺมสติ; เอวํ วิปสฺสนากฺขเณ ฌานสมฺปยุตฺตกปีตึ อารมฺมณํ กตฺวา จิตฺตํ อาโมเทติ ปโมเทติ. เอวํ ปฏิปนฺโน ‘‘อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ วุจฺจติ.

สมาทหํ จิตฺตนฺติ ปมชฺฌานาทิวเสน อารมฺมเณ จิตฺตํ สมํ อาทหนฺโต สมํ เปนฺโต ตานิ วา ปน ฌานานิ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตกจิตฺตํ ขยโต วยโต สมฺมสโต วิปสฺสนากฺขเณ ลกฺขณปฏิเวเธน อุปฺปชฺชติ ขณิกจิตฺเตกคฺคตา; เอวํ อุปฺปนฺนาย ขณิกจิตฺเตกคฺคตาย วเสนปิ อารมฺมเณ จิตฺตํ สมํ อาทหนฺโต สมํ เปนฺโต ‘‘สมาทหํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ วุจฺจติ.

วิโมจยํ จิตฺตนฺติ ปมชฺฌาเนน นีวรเณหิ จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต, ทุติเยน วิตกฺกวิจาเรหิ, ตติเยน ปีติยา, จตุตฺเถน สุขทุกฺเขหิ จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต. ตานิ วา ปน ฌานานิ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตกจิตฺตํ ขยโต วยโต สมฺมสติ. โส วิปสฺสนากฺขเณ อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจสฺาโต จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต, ทุกฺขานุปสฺสนาย สุขสฺาโต, อนตฺตานุปสฺสนาย อตฺตสฺาโต, นิพฺพิทานุปสฺสนาย นนฺทิโต, วิราคานุปสฺสนาย ราคโต, นิโรธานุปสฺสนาย สมุทยโต, ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย อาทานโต จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต อสฺสสติ เจว ปสฺสสติ จ. เตน วุตฺตํ – ‘‘วิโมจยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ. เอวํ จิตฺตานุปสฺสนาวเสน อิทํ จตุกฺกํ ภาสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

จตุตฺถจตุกฺเก ปน อนิจฺจานุปสฺสีติ เอตฺถ ตาว อนิจฺจํ เวทิตพฺพํ, อนิจฺจตา เวทิตพฺพา, อนิจฺจานุปสฺสนา เวทิตพฺพา, อนิจฺจานุปสฺสี เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ ปฺจกฺขนฺธา. กสฺมา? อุปฺปาทวยฺถตฺตภาวา. ‘‘อนิจฺจตา’’ติ เตสฺเว อุปฺปาทวยฺถตฺตํ หุตฺวา อภาโว วา นิพฺพตฺตานํ เตเนวากาเรน อตฺวา ขณภงฺเคน เภโทติ อตฺโถ. ‘‘อนิจฺจานุปสฺสนา’’ติ ตสฺสา อนิจฺจตาย วเสน รูปาทีสุ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ อนุปสฺสนา; ‘‘อนิจฺจานุปสฺสี’’ติ ตาย อนุปสฺสนาย สมนฺนาคโต; ตสฺมา เอวํ ภูโต อสฺสสนฺโต จ ปสฺสสนฺโต จ อิธ ‘‘อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามิ, ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ เวทิตพฺโพ.

วิราคานุปสฺสีติ เอตฺถ ปน ทฺเว วิราคา – ขยวิราโค จ อจฺจนฺตวิราโค จ. ตตฺถ ‘‘ขยวิราโค’’ติ สงฺขารานํ ขณภงฺโค; ‘‘อจฺจนฺตวิราโค’’ติ นิพฺพานํ; ‘‘วิราคานุปสฺสนา’’ติ ตทุภยทสฺสนวเสน ปวตฺตา วิปสฺสนา จ มคฺโค จ. ตาย ทุวิธายปิ อนุปสฺสนาย สมนฺนาคโต หุตฺวา อสฺสสนฺโต จ ปสฺสสนฺโต จ ‘‘วิราคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ เวทิตพฺโพ. นิโรธานุปสฺสีปเทปิ เอเสว นโย.

ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสีติ เอตฺถาปิ ทฺเว ปฏินิสฺสคฺคา – ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค จ ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโค จ. ปฏินิสฺสคฺโคเยว อนุปสฺสนา ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนา; วิปสฺสนามคฺคานเมตํ อธิวจนํ. วิปสฺสนา หิ ตทงฺควเสน สทฺธึ ขนฺธาภิสงฺขาเรหิ กิเลเส ปริจฺจชติ, สงฺขตโทสทสฺสเนน จ ตพฺพิปรีเต นิพฺพาเน ตนฺนินฺนตาย ปกฺขนฺทตีติ ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค เจว ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโค จาติ วุจฺจติ. มคฺโค สมุจฺเฉทวเสน สทฺธึ ขนฺธาภิสงฺขาเรหิ กิเลเส ปริจฺจชติ, อารมฺมณกรเณน จ นิพฺพาเน ปกฺขนฺทตีติ ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค เจว ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสโค จาติ วุจฺจติ. อุภยมฺปิ ปน ปุริมปุริมาณานํ อนุอนุ ปสฺสนโต อนุปสฺสนาติ วุจฺจติ. ตาย ทุวิธาย ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย สมนฺนาคโต หุตฺวา อสฺสสนฺโต จ ปสฺสสนฺโต จ ปฏินิสคฺคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตีติ เวทิตพฺโพ. เอวํ ภาวิโตติ เอวํ โสฬสหิ อากาเรหิ ภาวิโต. เสสํ วุตฺตนยเมว.

อานาปานสฺสติสมาธิกถา นิฏฺิตา.

๑๖๗. อถ โข ภควาติอาทิมฺหิ ปน อยํ สงฺเขปตฺโถ. เอวํ ภควา อานาปานสฺสติสมาธิกถาย ภิกฺขู สมสฺสาเสตฺวา อถ ยํ ตํ ตติยปาราชิกปฺตฺติยา นิทานฺเจว ปกรณฺจ อุปฺปนฺนํ ภิกฺขูนํ อฺมฺํ ชีวิตา โวโรปนํ, เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา ปฏิปุจฺฉิตฺวา วิครหิตฺวา จ ยสฺมา ตตฺถ อตฺตนา อตฺตานํ ชีวิตา โวโรปนํ มิคลณฺฑิเกน จ โวโรปาปนํ ปาราชิกวตฺถุ น โหติ; ตสฺมา ตํ เปตฺวา ปาราชิกสฺส วตฺถุภูตํ อฺมฺํ ชีวิตา โวโรปนเมว คเหตฺวา ปาราชิกํ ปฺเปนฺโต ‘‘โย ปน ภิกฺขุ สฺจิจฺจ มนุสฺสวิคฺคห’’นฺติอาทิมาห. อริยปุคฺคลมิสฺสกตฺตา ปเนตฺถ ‘‘โมฆปุริสา’’ติ อวตฺวา ‘‘เต ภิกฺขู’’ติ วุตฺตํ.

เอวํ มูลจฺเฉชฺชวเสน ทฬฺหํ กตฺวา ตติยปาราชิเก ปฺตฺเต อปรมฺปิ อนุปฺตฺตตฺถาย มรณวณฺณสํวณฺณนวตฺถุ อุทปาทิ, ตสฺสุปฺปตฺติทีปนตฺถํ ‘‘เอวฺจิทํ ภควตา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๑๖๘. ตตฺถ ปฏิพทฺธจิตฺตาติ ฉนฺทราเคน ปฏิพทฺธจิตฺตา; สารตฺตา อเปกฺขวนฺโตติ อตฺโถ. มรณวณฺณํ สํวณฺเณมาติ ชีวิเต อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา มรณสฺส คุณํ วณฺเณม; อานิสํสํ ทสฺเสมาติ. กตกลฺยาโณติอาทีสุ อยํ ปทตฺโถ – กลฺยาณํ สุจิกมฺมํ กตํ ตยาติ ตฺวํ โข อสิ กตกลฺยาโณ. ตถา กุสลํ อนวชฺชกมฺมํ กตํ ตยาติ กตกุสโล. มรณกาเล สมฺปตฺเต ยา สตฺตานํ อุปฺปชฺชติ ภยสงฺขาตา ภีรุตา, ตโต ตายนํ รกฺขณกมฺมํ กตํ ตยาติ กตภีรุตฺตาโณ ปาปํ. ลามกกมฺมํ อกตํ ตยาติ อกตปาโป. ลุทฺทํ ทารุณํ ทุสฺสีลฺยกมฺมํ อกตํ ตยาติ อกตลุทฺโท. กิพฺพิสํ สาหสิกกมฺมํ โลภาทิกิเลสุสฺสทํ อกตํ ตยาติ อกตกิพฺพิโส. กสฺมา อิทํ วุจฺจติ? ยสฺมา สพฺพปฺปการมฺปิ กตํ ตยา กลฺยาณํ, อกตํ ตยา ปาปํ; เตน ตํ วทาม – ‘‘กึ ตุยฺหํ อิมินา โรคาภิภูตตฺตา ลามเกน ปาปเกน ทุกฺขพหุลตฺตา ทุชฺชีวิเตน’’. มตํ เต ชีวิตา เสยฺโยติ ตว มรณํ ชีวิตา สุนฺทรตรํ. กสฺมา? ยสฺมา อิโต ตฺวํ กาลงฺกโต กตกาโล หุตฺวา กาลํ กตฺวา มริตฺวาติ อตฺโถ. กายสฺส เภทา…เป… อุปปชฺชิสฺสสิ. เอวํ อุปปนฺโน จ ตตฺถ ทิพฺเพหิ เทวโลเก อุปฺปนฺเนหิ ปฺจหิ กามคุเณหิ มนาปิยรูปาทิเกหิ ปฺจหิ วตฺถุกามโกฏฺาเสหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจริสฺสสิ สมฺปยุตฺโต สโมธานคโต หุตฺวา อิโต จิโต จ จริสฺสสิ, วิจริสฺสสิ อภิรมิสฺสสิ วาติ อตฺโถ.

๑๖๙. อสปฺปายานีติ อหิตานิ อวุฑฺฒิกรานิ ยานิ ขิปฺปเมว ชีวิตกฺขยํ ปาเปนฺติ.

ปทภาชนียวณฺณนา

๑๗๒. สฺจิจฺจาติ อยํ ‘‘สฺจิจฺจ มนุสฺสวิคฺคห’’นฺติ มาติกาย วุตฺตสฺส สฺจิจฺจปทสฺส อุทฺธาโร. ตตฺถ นฺติ อุปสคฺโค, เตน สทฺธึ อุสฺสุกฺกวจนเมตํ สฺจิจฺจาติ; ตสฺส สฺเจเตตฺวา สุฏฺุ เจเตตฺวาติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน โย สฺจิจฺจ โวโรเปติ, โส ชานนฺโต สฺชานนฺโต โหติ, ตฺจสฺส โวโรปนํ เจจฺจ อภิวิตริตฺวา วีติกฺกโม โหติ. ตสฺมา พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวา อตฺถเมว ทสฺเสตุํ ‘‘ชานนฺโต สฺชานนฺโต เจจฺจ อภิวิตริตฺวา วีติกฺกโม’’ติ เอวมสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ. ตตฺถ ชานนฺโตติ ‘‘ปาโณ’’ติ ชานนฺโต. สฺชานนฺโตติ ‘‘ชีวิตา โวโรเปมี’’ติ สฺชานนฺโต; เตเนว ปาณชานนากาเรน สทฺธึ ชานนฺโตติ อตฺโถ. เจจฺจาติ วธกเจตนาวเสน เจเตตฺวา ปกปฺเปตฺวา. อภิวิตริตฺวาติ อุปกฺกมวเสน มทฺทนฺโต นิราสงฺกจิตฺตํ เปเสตฺวา. วีติกฺกโมติ เอวํ ปวตฺตสฺส โย วีติกฺกโม อยํ สฺจิจฺจสทฺทสฺส สิขาปฺปตฺโต อตฺโถติ วุตฺตํ โหติ.

อิทานิ ‘‘มนุสฺสวิคฺคหํ ชีวิตา โวโรเปยฺยา’’ติ เอตฺถ วุตฺตํ มนุสฺสตฺตภาวํ อาทิโต ปฏฺาย ทสฺเสตุํ ‘‘มนุสฺสวิคฺคโห นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ คพฺภเสยฺยกานํ วเสน สพฺพสุขุมอตฺตภาวทสฺสนตฺถํ ‘‘ยํ มาตุกุจฺฉิสฺมิ’’นฺติ วุตฺตํ. ปมํ จิตฺตนฺติ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ. อุปฺปนฺนนฺติ ชาตํ. ปมํ วิฺาณํ ปาตุภูตนฺติ อิทํ ตสฺเสว เววจนํ. ‘‘มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปมํ จิตฺต’’นฺติ วจเนน เจตฺถ สกลาปิ ปฺจโวการปฏิสนฺธิ ทสฺสิตา โหติ. ตสฺมา ตฺจ ปมํ จิตฺตํ ตํสมฺปยุตฺตา จ ตโย อรูปกฺขนฺธา เตน สห นิพฺพตฺตฺจ กลลรูปนฺติ อยํ สพฺพปโม มนุสฺสวิคฺคโห. ตตฺถ ‘‘กลลรูป’’นฺติ อิตฺถิปุริสานํ กายวตฺถุภาวทสกวเสน สมตึส รูปานิ, นปุํสกานํ กายวตฺถุทสกวเสน วีสติ. ตตฺถ อิตฺถิปุริสานํ กลลรูปํ ชาติอุณฺณาย เอเกน อํสุนา อุทฺธฏเตลพินฺทุมตฺตํ โหติ อจฺฉํ วิปฺปสนฺนํ. วุตฺตฺเจตํ อฏฺกถายํ

‘‘ติลเตลสฺส ยถา พินฺทุ, สปฺปิมณฺโฑ อนาวิโล;

เอวํวณฺณปฺปฏิภาคํ กลลนฺติ ปวุจฺจตี’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๒๖ ปกิณฺณกกถา; สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๓๕);

เอวํ ปริตฺตกํ วตฺถุํ อาทึ กตฺวา ปกติยา วีสวสฺสสตายุกสฺส สตฺตสฺส ยาว มรณกาลา เอตฺถนฺตเร อนุปุพฺเพน วุฑฺฒิปฺปตฺโต อตฺตภาโว เอโส มนุสฺสวิคฺคโห นาม.

ชีวิตา โวโรเปยฺยาติ กลลกาเลปิ ตาปนมทฺทเนหิ วา เภสชฺชสมฺปทาเนน วา ตโต วา อุทฺธมฺปิ ตทนุรูเปน อุปกฺกเมน ชีวิตา วิโยเชยฺยาติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน ชีวิตา โวโรปนํ นาม อตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทนเมว โหติ, ตสฺมา เอตสฺส ปทภาชเน ‘‘ชีวิตินฺทฺริยํ อุปจฺฉินฺทติ อุปโรเธติ สนฺตตึ วิโกเปตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ชีวิตินฺทฺริยสฺส ปเวณิฆฏนํ อุปจฺฉินฺทนฺโต อุปโรเธนฺโต จ ‘‘ชีวิตินฺทฺริยํ อุปจฺฉินฺทติ อุปโรเธตี’’ติ วุจฺจติ. สฺวายมตฺโถ ‘‘สนฺตตึ วิโกเปตี’’ติปเทน ทสฺสิโต. วิโกเปตีติ วิโยเชติ.

ตตฺถ ทุวิธํ ชีวิตินฺทฺริยํ – รูปชีวิตินฺทฺริยํ, อรูปชีวิตินฺทฺริยฺจ. เตสุ อรูปชีวิตินฺทฺริเย อุปกฺกโม นตฺถิ, ตํ โวโรเปตุํ น สกฺกา. รูปชีวิตินฺทฺริเย ปน อตฺถิ, ตํ โวโรเปตุํ สกฺกา. ตํ ปน โวโรเปนฺโต อรูปชีวิตินฺทฺริยมฺปิ โวโรเปติ. เตเนว หิ สทฺธึ ตํ นิรุชฺฌติ ตทายตฺตวุตฺติโต. ตํ ปน โวโรเปนฺโต กึ อตีตํ โวโรเปติ, อนาคตํ, ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ? เนว อตีตํ, น อนาคตํ, เตสุ หิ เอกํ นิรุทฺธํ เอกํ อนุปฺปนฺนนฺติ อุภปมฺปิ อสนฺตํ, อสนฺตตฺตา อุปกฺกโม นตฺถิ, อุปกฺกมสฺส นตฺถิตาย เอกมฺปิ โวโรเปตุํ น สกฺกา. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘อตีเต จิตฺตกฺขเณ ชีวิตฺถ, น ชีวติ; น ชีวิสฺสติ. อนาคเต จิตฺตกฺขเณ ชีวิสฺสติ, น ชีวิตฺถ; น ชีวติ. ปจฺจุปฺปนฺเน จิตฺตกฺขเณ ชีวติ, น ชีวิตฺถ; น ชีวิสฺสตี’’ติ (มหานิ. ๑๐).

ตสฺมา ยตฺถ ชีวติ ตตฺถ อุปกฺกโม ยุตฺโตติ ปจฺจุปฺปนฺนํ โวโรเปติ.

ปจฺจุปฺปนฺนฺจ นาเมตํ ขณปจฺจุปฺปนฺนํ, สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ, อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนนฺติ ติวิธํ. ตตฺถ ‘‘ขณปจฺจุปฺปนฺนํ’’ นาม อุปฺปาทชราภงฺคสมงฺคิ, ตํ โวโรเปตุํ น สกฺกา. กสฺมา? สยเมว นิรุชฺฌนโต. ‘‘สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ’’ นาม สตฺตฏฺชวนวารมตฺตํ สภาคสนฺตติวเสน ปวตฺติตฺวา นิรุชฺฌนกํ, ยาว วา อุณฺหโต อาคนฺตฺวา โอวรกํ ปวิสิตฺวา นิสินฺนสฺส อนฺธการํ โหติ, สีตโต วา อาคนฺตฺวา โอวรเก นิสินฺนสฺส ยาว วิสภาคอุตุปาตุภาเวน ปุริมโก อุตุ นปฺปฏิปฺปสฺสมฺภติ, เอตฺถนฺตเร ‘‘สนฺตติปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติ วุจฺจติ. ปฏิสนฺธิโต ปน ยาว จุติ, เอตํ ‘‘อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ’’ นาม. ตทุภยมฺปิ โวโรเปตุํ สกฺกา. กถํ? ตสฺมิฺหิ อุปกฺกเม กเต ลทฺธุปกฺกมํ ชีวิตนวกํ นิรุชฺฌมานํ ทุพฺพลสฺส ปริหีนเวคสฺส สนฺตานสฺส ปจฺจโย โหติ. ตโต สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ วา อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ วา ยถาปริจฺฉินฺนํ กาลํ อปตฺวา อนฺตราว นิรุชฺฌติ. เอวํ ตทุภยมฺปิ โวโรเปตุํ สกฺกา, ตสฺมา ตเทว สนฺธาย ‘‘สนฺตตึ วิโกเปตี’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อิมสฺส ปนตฺถสฺส อาวิภาวตฺถํ ปาโณ เวทิตพฺโพ, ปาณาติปาโต เวทิตพฺโพ, ปาณาติปาติ เวทิตพฺโพ, ปาณาติปาตสฺส ปโยโค เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ‘‘ปาโณ’’ติ โวหารโต สตฺโต, ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ. ชีวิตินฺทฺริยฺหิ อติปาเตนฺโต ‘‘ปาณํ อติปาเตตี’’ติ วุจฺจติ ตํ วุตฺตปฺปการเมว. ‘‘ปาณาติปาโต’’ติ ยาย เจตนาย ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทกํ ปโยคํ สมุฏฺาเปติ, สา วธกเจตนา ‘‘ปาณาติปาโต’’ติ วุจฺจติ. ‘‘ปาณาติปาตี’’ติ วุตฺตเจตนาสมงฺคิ ปุคฺคโล ทฏฺพฺโพ. ‘‘ปาณาติปาตสฺส ปโยโค’’ติ ปาณาติปาตสฺส ฉปโยคา – สาหตฺถิโก, อาณตฺติโก, นิสฺสคฺคิโย, ถาวโร, วิชฺชามโย, อิทฺธิมโยติ.

ตตฺถ ‘‘สาหตฺถิโก’’ติ สยํ มาเรนฺตสฺส กาเยน วา กายปฺปฏิพทฺเธน วา ปหรณํ. ‘‘อาณตฺติโก’’ติ อฺํ อาณาเปนฺตสฺส ‘‘เอวํ วิชฺฌิตฺวา วา ปหริตฺวา วา มาเรหี’’ติ อาณาปนํ. ‘‘นิสฺสคฺคิโย’’ติ ทูเร ิตํ มาเรตุกามสฺส กาเยน วา กายปฺปฏิพทฺเธน วา อุสุสตฺติยนฺตปาสาณาทีนํ นิสฺสชฺชนํ. ‘‘ถาวโร’’ติ อสฺจาริเมน อุปกรเณน มาเรตุกามสฺส โอปาตอปสฺเสนอุปนิกฺขิปนํ เภสชฺชสํวิธานํ. เต จตฺตาโรปิ ปรโต ปาฬิวณฺณนายเมว วิตฺถารโต อาวิภวิสฺสนฺติ.

วิชฺชามยอิทฺธิมยา ปน ปาฬิยํ อนาคตา. เต เอวํ เวทิตพฺพา. สงฺเขปโต หิ มารณตฺถํ วิชฺชาปริชปฺปนํ วิชฺชามโย ปโยโค. อฏฺกถาสุ ปน ‘‘กตโม วิชฺชามโย ปโยโค? อาถพฺพณิกา อาถพฺพณํ ปโยเชนฺติ; นคเร วา รุทฺเธ สงฺคาเม วา ปจฺจุปฏฺิเต ปฏิเสนาย ปจฺจตฺถิเกสุ ปจฺจามิตฺเตสุ อีตึ อุปฺปาเทนฺติ, อุปทฺทวํ อุปฺปาเทนฺติ, โรคํ อุปฺปาเทนฺติ, ปชฺชรกํ อุปฺปาเทนฺติ, สูจิกํ กโรนฺติ, วิสูจิกํ กโรนฺติ, ปกฺขนฺทิยํ กโรนฺติ. เอวํ อาถพฺพณิกา อาถพฺพณํ ปโยเชนฺติ. วิชฺชาธารา วิชฺชํ ปริวตฺเตตฺวา นคเร วา รุทฺเธ…เป… ปกฺขนฺทิยํ กโรนฺตี’’ติ เอวํ วิชฺชามยํ ปโยคํ ทสฺเสตฺวา อาถพฺพณิเกหิ จ วิชฺชาธเรหิ จ มาริตานํ พหูนิ วตฺถูนิ วุตฺตานิ, กึ เตหิ! อิทฺเหตฺถ ลกฺขณํ มารณาย วิชฺชาปริชปฺปนํ วิชฺชามโย ปโยโคติ.

กมฺมวิปากชาย อิทฺธิยา ปโยชนํ อิทฺธิมโย ปโยโค. กมฺมวิปากชิทฺธิ จ นาเมสา นาคานํ นาคิทฺธิ, สุปณฺณานํ สุปณฺณิทฺธิ, ยกฺขานํ ยกฺขิทฺธิ, เทวานํ เทวิทฺธิ, ราชูนํ ราชิทฺธีติ พหุวิธา. ตตฺถ ทิฏฺทฏฺผุฏฺวิสานํ นาคานํ ทิสฺวา ฑํสิตฺวา ผุสิตฺวา จ ปรูปฆาตกรเณ ‘‘นาคิทฺธิ’’ เวทิตพฺพา. สุปณฺณานํ มหาสมุทฺทโต ทฺวตฺติพฺยามสตปฺปมาณนาคุทฺธรเณ ‘‘สุปณฺณิทฺธิ’’ เวทิตพฺพา. ยกฺขา ปน เนว อาคจฺฉนฺตา น ปหรนฺตา ทิสฺสนฺติ, เตหิ ปหฏสตฺตา ปน ตสฺมึเยว าเน มรนฺติ, ตตฺร เตสํ ‘‘ยกฺขิทฺธิ’’ ทฏฺพฺพา. เวสฺสวณสฺส โสตาปนฺนกาลโต ปุพฺเพ นยนาวุเธน โอโลกิตกุมฺภณฺฑานํ มรเณ อฺเสฺจ เทวานํ ยถาสกํ อิทฺธานุภาเว ‘‘เทวิทฺธิ’’ เวทิตพฺพา. รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สปริสสฺส อากาสคมนาทีสุ, อโสกสฺส เหฏฺา อุปริ จ โยชเน อาณาปวตฺตนาทีสุ, ปิตุรฺโ จ สีหฬนรินฺทสฺส ทาาโกฏเนน จูฬสุมนกุฏุมฺพิยสฺสมรเณ ‘‘ราชิทฺธิ’’ ทฏฺพฺพาติ.

เกจิ ปน ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต อฺิสฺสา กุจฺฉิคตํ คพฺภํ ปาปเกน มนสาอนุเปกฺขิตา โหติ ‘อโห วตายํ กุจฺฉิคโต คพฺโภ น โสตฺถินา อภินิกฺขเมยฺยา’ติ. เอวมฺปิ ภิกฺขเว กุลุมฺพสฺส อุปฆาโต โหตี’’ติ อาทิกานิ สุตฺตานิ ทสฺเสตฺวา ภาวนามยิทฺธิยาปิ ปรูปฆาตกมฺมํ วทนฺติ; สห ปรูปฆาตกรเณน จ อาทิตฺตฆรูปริขิตฺตสฺส อุทกฆฏสฺส เภทนมิว อิทฺธิวินาสฺจ อิจฺฉนฺติ; ตํ เตสํ อิจฺฉามตฺตเมว. กสฺมา? ยสฺมา กุสลเวทนาวิตกฺกปริตฺตตฺติเกหิ น สเมติ. กถํ? อยฺหิ ภาวนามยิทฺธิ นาม กุสลตฺติเก กุสลา เจว อพฺยากตา จ, ปาณาติปาโต อกุสโล. เวทนาตฺติเก อทุกฺขมสุขสมฺปยุตฺตา ปาณาติปาโต ทุกฺขสมฺปยุตฺโต. วิตกฺกตฺติเก อวิตกฺกาวิจารา, ปาณาติปาโต สวิตกฺกสวิจาโร. ปริตฺตตฺติเก มหคฺคตา, ปาณาติปาโต ปริตฺโตติ.

สตฺถหารกํ วาสฺส ปริเยเสยฺยาติ เอตฺถ หรตีติ หารกํ. กึ หรติ? ชีวิตํ. อถ วา หริตพฺพนฺติ หารกํ; อุปนิกฺขิปิตพฺพนฺติ อตฺโถ. สตฺถฺจ ตํ หารกฺจาติ สตฺถหารกํ. อสฺสาติ มนุสฺสวิคฺคหสฺส. ปริเยเสยฺยาติ ยถา ลภติ ตถา กเรยฺย; อุปนิกฺขิเปยฺยาติ อตฺโถ. เอเตน ถาวรปฺปโยคํ ทสฺเสติ. อิตรถา หิ ปริยิฏฺมตฺเตเนว ปาราชิโก ภเวยฺย; น เจตํ ยุตฺตํ. ปาฬิยํ ปน สพฺพํ พฺยฺชนํ อนาทิยิตฺวา ยํ เอตฺถ ถาวรปฺปโยคสงฺคหิตํ สตฺถํ, ตเทว ทสฺเสตุํ ‘‘อสึ วา…เป… รชฺชุํ วา’’ติ ปทภาชนํ วุตฺตํ.

ตตฺถ สตฺถนฺติ วุตฺตาวเสสํ ยํกิฺจิ สมุขํ เวทิตพฺพํ. ลคุฬปาสาณวิสรชฺชูนฺจ ชีวิตวินาสนภาวโต สตฺถสงฺคโห เวทิตพฺโพ. มรณวณฺณํ วาติ เอตฺถ ยสฺมา ‘‘กึ ตุยฺหิมินา ปาปเกน ทุชฺชีวิเตน, โย ตฺวํ น ลภสิ ปณีตานิ โภชนานิ ภุฺชิตุ’’นฺติอาทินา นเยน ชีวิเต อาทีนวํ ทสฺเสนฺโตปิ ‘‘ตฺวํ โขสิ อุปาสก กตกลฺยาโณ…เป… อกตํ ตยา ปาปํ, มตํ เต ชีวิตา เสยฺโย, อิโต ตฺวํ กาลงฺกโต ปริจริสฺสสิ อจฺฉราปริวุโต นนฺทนวเน สุขปฺปตฺโต วิหริสฺสสี’’ติอาทินา นเยน มรเณ วณฺณํ ภณนฺโตปิ มรณวณฺณเมว สํวณฺเณติ. ตสฺมา ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา ปทภาชนํ วุตฺตํ – ‘‘ชีวิเต อาทีนวํ ทสฺเสติ, มรเณ วณฺณํ ภณตี’’ติ.

มรณาย วา สมาทเปยฺยาติ มรณตฺถาย อุปายํ คาหาเปยฺย. สตฺถํ วา อาหราติ อาทีสุ จ ยมฺปิ น วุตฺตํ ‘‘โสพฺเภ วา นรเก วา ปปาเต วา ปปตา’’ติอาทิ, ตํ สพฺพํ ปรโต วุตฺตนยตฺตา อตฺถโต วุตฺตเมวาติ เวทิตพฺพํ. น หิ สกฺกา สพฺพํ สรูเปเนว วตฺตุํ.

อิติ จิตฺตมโนติ อิติจิตฺโต อิติมโน; ‘‘มตํ เต ชีวิตา เสยฺโย’’ติ เอตฺถ วุตฺตมรณจิตฺโต มรณมโนติ อตฺโถ. ยสฺมา ปเนตฺถ มโน จิตฺตสทฺทสฺส อตฺถทีปนตฺถํ วุตฺโต, อตฺถโต ปเนตํ อุภยมฺปิ เอกเมว, ตสฺมา ตสฺส อตฺถโต อเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ จิตฺตํ ตํ มโน, ยํ มโน ตํ จิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. อิติสทฺทํ ปน อุทฺธริตฺวาปิ น ตาว อตฺโถ วุตฺโต. จิตฺตสงฺกปฺโปติ อิมสฺมึ ปเท อธิการวเสน อิติสทฺโท อาหริตพฺโพ. อิทฺหิ ‘‘อิติจิตฺตสงฺกปฺโป’’ติ เอวํ อวุตฺตมฺปิ อธิการโต วุตฺตเมว โหตีติ เวทิตพฺพํ. ตถา หิสฺส ตเมวอตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มรณสฺี’’ติอาทิมาห. ยสฺมา เจตฺถ ‘‘สงฺกปฺโป’’ติ นยิทํ วิตกฺกสฺส นามํ. อถ โข สํวิทหนมตฺตสฺเสตํ อธิวจนํ. ตฺจ สํวิทหนํ อิมสฺมึ อตฺเถ สฺาเจตนาธิปฺปาเยหิ สงฺคหํ คจฺฉติ. ตสฺมา จิตฺโต นานปฺปการโก สงฺกปฺโป อสฺสาติ จิตฺตสงฺกปฺโปติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตถา หิสฺส ปทภาชนมฺปิ สฺาเจตนาธิปฺปายวเสน วุตฺตํ. เอตฺถ จ ‘‘อธิปฺปาโย’’ติ วิตกฺโก เวทิตพฺโพ.

อุจฺจาวเจหิ อากาเรหีติ มหนฺตามหนฺเตหิ อุปาเยหิ. ตตฺถ มรณวณฺณสํวณฺณเน ตาว ชีวิเต อาทีนวทสฺสนวเสน อวจาการตา มรเณ วณฺณภณนวเสน อุจฺจาการตา เวทิตพฺพา. สมาทปเน ปน มุฏฺิชาณุนิปฺโผฏนาทีหิ มรณสมาทปนวเสน อุจฺจาการตา, เอกโต ภุฺชนฺตสฺส นเข วิสํ ปกฺขิปิตฺวา มรณาทิสมาทปนวเสน อวจาการตา เวทิตพฺพา.

โสพฺเภ วา นรเก วา ปปาเต วาติ เอตฺถ โสพฺโภ นาม สมนฺตโต ฉินฺนตโฏ คมฺภีโร อาวาโฏ. นรโก นาม ตตฺถ ตตฺถ ผลนฺติยา ภูมิยา สยเมว นิพฺพตฺตา มหาทรี, ยตฺถ หตฺถีปิ ปตนฺติ, โจราปิ นิลีนา ติฏฺนฺติ. ปปาโตติ ปพฺพตนฺตเร วา ถลนฺตเร วา เอกโต ฉินฺโน โหติ. ปุริเม อุปาทายาติ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตฺวา อทินฺนฺจ อาทิยิตฺวา ปาราชิกํ อาปตฺตึ อาปนฺเน ปุคฺคเล อุปาทาย. เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถตฺตา จ ปากฏเมวาติ.

๑๗๔. เอวํ อุทฺทิฏฺสิกฺขาปทํ ปทานุกฺกเมน วิภชิตฺวา อิทานิ ยสฺมา เหฏฺา ปทภาชนียมฺหิ สงฺเขเปเนว มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกํ ทสฺสิตํ, น วิตฺถาเรน อาปตฺตึ อาโรเปตฺวา ตนฺติ ปิตา. สงฺเขปทสฺสิเต จ อตฺเถ น สพฺพากาเรเนว ภิกฺขู นยํ คเหตุํ สกฺโกนฺติ, อนาคเต จ ปาปปุคฺคลานมฺปิ โอกาโส โหติ, ตสฺมา ภิกฺขูนฺจ สพฺพากาเรน นยคฺคหณตฺถํ อนาคเต จ ปาปปุคฺคลานํ โอกาสปฏิพาหนตฺถํ ปุน ‘‘สามํ อธิฏฺายา’’ติอาทินา นเยน มาติกํ เปตฺวา วิตฺถารโต มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สามนฺติ สยํ หนตี’’ติอาทิมาห.

ตตฺรายํ อนุตฺตานปทวณฺณนาย สทฺธึ วินิจฺฉยกถา – กาเยนาติ หตฺเถน วา ปาเทน วา มุฏฺินา วา ชาณุนา วา เยน เกนจิ องฺคปจฺจงฺเคน. กายปฏิพทฺเธนาติ กายโต อโมจิเตน อสิอาทินา ปหรเณน. นิสฺสคฺคิเยนาติ กายโต จ กายปฏิพทฺธโต จ โมจิเตน อุสุสตฺติอาทินา. เอตฺตาวตา สาหตฺถิโก จ นิสฺสคฺคิโย จาติ ทฺเว ปโยคา วุตฺตา โหนฺติ.

ตตฺถ เอกเมโก อุทฺทิสฺสานุทฺทิสฺสเภทโต ทุวิโธ. ตตฺถ อุทฺเทสิเก ยํ อุทฺทิสฺส ปหรติ, ตสฺเสว มรเณน กมฺมุนา พชฺฌติ. ‘‘โย โกจิ มรตู’’ติ เอวํ อนุทฺเทสิเก ปหารปฺปจฺจยา ยสฺส กสฺสจิ มรเณน กมฺมุนา พชฺฌติ. อุภยถาปิ จ ปหริตมตฺเต วา มรตุ ปจฺฉา วา เตเนว โรเคน, ปหริตมตฺเตเยว กมฺมุนา พชฺฌติ. มรณาธิปฺปาเยน จ ปหารํ ทตฺวา เตน อมตสฺส ปุน อฺจิตฺเตน ปหาเร ทินฺเน ปจฺฉาปิ ยทิ ปมปฺปหาเรเนว มรติ, ตทา เอว กมฺมุนา พทฺโธ. อถ ทุติยปฺปหาเรน มรติ, นตฺถิ ปาณาติปาโต. อุภเยหิ มเตปิ ปมปฺปหาเรเนว กมฺมุนา พทฺโธ. อุภเยหิ อมเต เนวตฺถิ ปาณาติปาโต. เอส นโย พหูหิปิ เอกสฺส ปหาเร ทินฺเน. ตตฺราปิ หิ ยสฺส ปหาเรน มรติ, ตสฺเสว กมฺมุนา พทฺโธ โหตีติ.

กมฺมาปตฺติพฺยตฺติภาวตฺถฺเจตฺถ เอฬกจตุกฺกมฺปิ เวทิตพฺพํ. โย หิ เอฬกํ เอกสฺมึ าเน นิปนฺนํ อุปธาเรติ ‘‘รตฺตึ อาคนฺตฺวา วธิสฺสามี’’ติ. เอฬกสฺส จ นิปนฺโนกาเส ตสฺส มาตา วา ปิตา วา อรหา วา ปณฺฑุกาสาวํ ปารุปิตฺวา นิปนฺโน โหติ. โส รตฺติภาเค อาคนฺตฺวา ‘‘เอฬกํ มาเรมี’’ติ มาตรํ วา ปิตรํ วา อรหนฺตํ วา มาเรติ. ‘‘อิมํ วตฺถุํ มาเรมี’’ติ เจตนาย อตฺถิภาวโต ฆาตโก จ โหติ, อนนฺตริยกมฺมฺจ ผุสติ, ปาราชิกฺจ อาปชฺชติ. อฺโ โกจิ อาคนฺตุโก นิปนฺโน โหติ, ‘‘เอฬกํ มาเรมี’’ติ ตํ มาเรติ, ฆาตโก จ โหติ ปาราชิกฺจ อาปชฺชติ, อานนฺตริยํ น ผุสติ. ยกฺโข วา เปโต วา นิปนฺโน โหติ, ‘‘เอฬกํ มาเรมี’’ติ ตํ มาเรติ ฆาตโกว โหติ, น จานนฺตริยํ ผุสติ, น จ ปาราชิกํ อาปชฺชติ, ถุลฺลจฺจยํ ปน โหติ. อฺโ โกจิ นิปนฺโน นตฺถิ, เอฬโกว โหติ ตํ มาเรติ, ฆาตโก จ โหติ, ปาจิตฺติยฺจ อาปชฺชติ. ‘‘มาตาปิตุอรหนฺตานํ อฺตรํ มาเรมี’’ติ เตสํเยว อฺตรํ มาเรติ, ฆาตโก จ โหติ, อานนฺตริยฺจ ผุสติ, ปาราชิกฺจ อาปชฺชติ. ‘‘เตสํ อฺตรํ มาเรสฺสามี’’ติ อฺํ อาคนฺตุกํ มาเรติ, ยกฺขํ วา เปตํ วา มาเรติ, เอฬกํ วา มาเรติ, ปุพฺเพ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. อิธ ปน เจตนา ทารุณา โหตีติ.

อฺานิปิ เอตฺถ ปลาลปุฺชาทิวตฺถูนิ เวทิตพฺพานิ. โย หิ ‘‘โลหิตกํ อสึ วา สตฺตึ วา ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ ปลาลปุฺเช ปเวเสนฺโต ตตฺถ นิปนฺนํ มาตรํ วา ปิตรํ วา อรหนฺตํ วา อาคนฺตุกปุริสํ วา ยกฺขํ วา เปตํ วา ติรจฺฉานคตํ วา มาเรติ, โวหารวเสน ‘‘ฆาตโก’’ติ วุจฺจติ, วธกเจตนาย ปน อภาวโต เนว กมฺมํ ผุสติ, น อาปตฺตึ อาปชฺชติ. โย ปน เอวํ ปเวเสนฺโต สรีรสมฺผสฺสํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘สตฺโต มฺเ อพฺภนฺตรคโต มรตู’’ติ ปเวเสตฺวา มาเรติ, ตสฺส เตสํ วตฺถูนํ อนุรูเปน กมฺมพทฺโธ จ อาปตฺติ จ เวทิตพฺพา. เอส นโย ตตฺถ นิทหนตฺถํ ปเวเสนฺตสฺสาปิ วนปฺปคุมฺพาทีสุ ขิปนฺตสฺสาปิ.

โยปิ ‘‘โจรํ มาเรมี’’ติ โจรเวเสน คจฺฉนฺตํ ปิตรํ มาเรติ, อานนฺตริยฺจ ผุสติ, ปาราชิโก จ โหติ. โย ปน ปรเสนาย อฺฺจ โยธํ ปิตรฺจ กมฺมํ กโรนฺเต ทิสฺวา โยธสฺส อุสุํ ขิปติ, ‘‘เอตํ วิชฺฌิตฺวา มม ปิตรํ วิชฺฌิสฺสตี’’ติ ยถาธิปฺปายํ คเต ปิตุฆาตโก โหติ. ‘‘โยเธ วิทฺเธ มม ปิตา ปลายิสฺสตี’’ติ ขิปติ, อุสุ อยถาธิปฺปายํ คนฺตฺวา ปิตรํ มาเรติ, โวหารวเสน ‘‘ปิตุฆาตโก’’ติ วุจฺจติ; อานนฺตริยํ ปน นตฺถีติ.

อธิฏฺหิตฺวาติ สมีเป ตฺวา. อาณาเปตีติ อุทฺทิสฺส วา อนุทฺทิสฺส วา อาณาเปติ. ตตฺถ ปรเสนาย ปจฺจุปฏฺิตาย อนุทฺทิสฺเสว ‘‘เอวํ วิชฺฌ, เอวํ ปหร, เอวํ ฆาเตหี’’ติ อาณตฺเต ยตฺตเก อาณตฺโต ฆาเตติ, ตตฺตกา อุภินฺนํ ปาณาติปาตา. สเจ ตตฺถ อาณาปกสฺส มาตาปิตโร โหนฺติ, อานนฺตริยมฺปิ ผุสติ. สเจ อาณตฺตสฺเสว มาตาปิตโร, โสว อานนฺตริยํ ผุสติ. สเจ อรหา โหติ, อุโภปิ อานนฺตริยํ ผุสนฺติ. อุทฺทิสิตฺวา ปน ‘‘เอตํ ทีฆํ รสฺสํ รตฺตกฺจุกํ นีลกฺจุกํ หตฺถิกฺขนฺเธ นิสินฺนํ มชฺเฌ นิสินฺนํ วิชฺฌ ปหร ฆาเตหี’’ติ อาณตฺเต สเจ โส ตเมว ฆาเตติ, อุภินฺนมฺปิ ปาณาติปาโต; อานนฺตริยวตฺถุมฺหิ จ อานนฺตริยํ. สเจ อฺํ มาเรติ, อาณาปกสฺส นตฺถิ ปาณาติปาโต. เอเตน อาณตฺติโก ปโยโค วุตฺโต โหติ. ตตฺถ –

วตฺถุํ กาลฺจ โอกาสํ, อาวุธํ อิริยาปถํ;

ตุลยิตฺวา ปฺจ านานิ, ธาเรยฺยตฺถํ วิจกฺขโณ.

อปโร นโย –

วตฺถุ กาโล จ โอกาโส, อาวุธํ อิริยาปโถ;

กิริยาวิเสโสติ อิเม, ฉ อาณตฺตินิยามกา.

ตตฺถ ‘‘วตฺถู’’ติ มาเรตพฺโพ สตฺโต. ‘‘กาโล’’ติ ปุพฺพณฺหสายนฺหาทิกาโล จ โยพฺพนถาวริยาทิกาโล จ. ‘‘โอกาโส’’ติ คาโม วา วนํ วา เคหทฺวารํ วา เคหมชฺฌํ วา รถิกา วา สิงฺฆาฏกํ วาติ เอวมาทิ. ‘‘อาวุธ’’นฺติ อสิ วา อุสุ วา สตฺติ วาติ เอวมาทิ. ‘‘อิริยาปโถ’’ติ มาเรตพฺพสฺส คมนํ วา นิสชฺชา วาติ เอวมาทิ. ‘‘กิริยาวิเสโส’’ติ วิชฺฌนํ วา เฉทนํ วา เภทนํ วา สงฺขมุณฺฑกํ วาติ เอวมาทิ.

ยทิ หิ วตฺถุํ วิสํวาเทตฺวา ‘‘ยํ มาเรหี’’ติ อาณตฺโต ตโต อฺํ มาเรติ, ‘‘ปุรโต ปหริตฺวา มาเรหี’’ติ วา อาณตฺโต ปจฺฉโต วา ปสฺสโต วา อฺสฺมึ วา ปเทเส ปหริตฺวา มาเรติ. อาณาปกสฺส นตฺถิ กมฺมพนฺโธ; อาณตฺตสฺเสว กมฺมพนฺโธ. อถ วตฺถุํ อวิสํวาเทตฺวา ยถาณตฺติยา มาเรติ, อาณาปกสฺส อาณตฺติกฺขเณ อาณตฺตสฺส จ มารณกฺขเณติ อุภเยสมฺปิ กมฺมพนฺโธ. วตฺถุวิเสเสน ปเนตฺถ กมฺมวิเสโส จ อาปตฺติวิเสโส จ โหตีติ. เอวํ ตาว วตฺถุมฺหิ สงฺเกตวิสงฺเกตตา เวทิตพฺพา.

กาเล ปน โย ‘‘อชฺช สฺเว’’ติ อนิยเมตฺวา ‘‘ปุพฺพณฺเห มาเรหี’’ติ อาณตฺโต ยทา กทาจิ ปุพฺพณฺเห มาเรติ, นตฺถิ วิสงฺเกโต. โย ปน ‘‘อชฺช ปุพฺพณฺเห’’ติ วุตฺโต มชฺฌนฺเห วา สายนฺเห วา สฺเว วา ปุพฺพณฺเห มาเรติ. วิสงฺเกโต โหติ, อาณาปกสฺส นตฺถิ กมฺมพนฺโธ. ปุพฺพณฺเห มาเรตุํ วายมนฺตสฺส มชฺฌนฺเห ชาเตปิ เอเสว นโย. เอเตน นเยน สพฺพกาลปฺปเภเทสุ สงฺเกตวิสงฺเกตตา เวทิตพฺพา.

โอกาเสปิ โย ‘‘เอตํ คาเม ิตํ มาเรหี’’ติ อนิยเมตฺวา อาณตฺโต ตํ ยตฺถ กตฺถจิ มาเรติ, นตฺถิ วิสงฺเกโต. โย ปน ‘‘คาเมเยวา’’ติ นิยเมตฺวา อาณตฺโต วเน มาเรติ, ตถา ‘‘วเน’’ติ อาณตฺโต คาเม มาเรติ. ‘‘อนฺโตเคหทฺวาเร’’ติ อาณตฺโต เคหมชฺเฌ มาเรติ, วิสงฺเกโต. เอเตน นเยน สพฺโพกาสเภเทสุ สงฺเกตวิสงฺเกตตา เวทิตพฺพา.

อาวุเธปิ โย ‘‘อสินา วา อุสุนา วา’’ติ อนิยเมตฺวา ‘‘อาวุเธน มาเรหี’’ติ อาณตฺโต เยน เกนจิ อาวุเธน มาเรติ, นตฺถิ วิสงฺเกโต. โย ปน ‘‘อสินา’’ติ วุตฺโต อุสุนา, ‘‘อิมินา วา อสินา’’ติ วุตฺโต อฺเน อสินา มาเรติ. เอตสฺเสว วา อสิสฺส ‘‘อิมาย ธาราย มาเรหี’’ติ วุตฺโต อิตราย วา ธาราย ตเลน วา ตุณฺเฑน วา ถรุนา วา มาเรติ, วิสงฺเกโต. เอเตน นเยน สพฺพอาวุธเภเทสุ สงฺเกตวิสงฺเกตตา เวทิตพฺพา.

อิริยาปเถ ปน โย ‘‘เอตํ คจฺฉนฺตํ มาเรหี’’ติ วทติ, อาณตฺโต จ นํ สเจ คจฺฉนฺตํ มาเรติ, นตฺถิ วิสงฺเกโต. ‘‘คจฺฉนฺตเมว มาเรหี’’ติ วุตฺโต ปน สเจ นิสินฺนํ มาเรติ. ‘‘นิสินฺนเมว วา มาเรหี’’ติ วุตฺโต คจฺฉนฺตํ มาเรติ, วิสงฺเกโต โหติ. เอเตน นเยน สพฺพอิริยาปถเภเทสุ สงฺเกตวิสงฺเกตตา เวทิตพฺพา.

กิริยาวิเสเสปิ โย ‘‘วิชฺฌิตฺวา มาเรหี’’ติ วุตฺโต วิชฺฌิตฺวาว มาเรติ, นตฺถิ วิสงฺเกโต. โย ปน ‘‘วิชฺฌิตฺวา มาเรหี’’ติ วุตฺโต ฉินฺทิตฺวา มาเรติ, วิสงฺเกโต. เอเตน นเยน สพฺพกิริยาวิเสสเภเทสุ สงฺเกตวิสงฺเกตตา เวทิตพฺพา.

โย ปน ลิงฺควเสน ‘‘ทีฆํ รสฺสํ กาฬํ โอทาตํ กิสํ ถูลํ มาเรหี’’ติ อนิยเมตฺวา อาณาเปติ, อาณตฺโต จ ยํกิฺจิ ตาทิสํ มาเรติ, นตฺถิ วิสงฺเกโต อุภินฺนํ ปาราชิกํ. อถ ปน โส อตฺตานํ สนฺธาย อาณาเปติ, อาณตฺโต จ ‘‘อยเมว อีทิโส’’ติ อาณาปกเมว มาเรติ, อาณาปกสฺส ทุกฺกฏํ, วธกสฺส ปาราชิกํ. อาณาปโก อตฺตานํ สนฺธาย อาณาเปติ, อิตโร อฺํ ตาทิสํ มาเรติ, อาณาปโก มุจฺจติ, วธกสฺเสว ปาราชิกํ. กสฺมา? โอกาสสฺส อนิยมิตตฺตา. สเจ ปน อตฺตานํ สนฺธาย อาณาเปนฺโตปิ โอกาสํ นิยเมติ, ‘‘อสุกสฺมึ นาม รตฺติฏฺาเน วา ทิวาฏฺาเน วา เถราสเน วา นวาสเน วา มชฺฌิมาสเน วา นิสินฺนํ เอวรูปํ นาม มาเรหี’’ติ. ตตฺถ จ อฺโ นิสินฺโน โหติ, สเจ อาณตฺโต ตํ มาเรติ, เนว วธโก มุจฺจติ น อาณาปโก. กสฺมา? โอกาสสฺส นิยมิตตฺตา. สเจ ปน นิยมิโตกาสโต อฺตฺร มาเรติ, อาณาปโก มุจฺจตีติ อยํ นโย มหาอฏฺกถายํ สุฏฺุ ทฬฺหํ กตฺวา วุตฺโต. ตสฺมา เอตฺถ น อนาทริยํ กาตพฺพนฺติ.

อธิฏฺายาติ มาติกาวเสน อาณตฺติกปโยคกถา นิฏฺิตา.

อิทานิ เย ทูเตนาติ อิมสฺส มาติกาปทสฺส นิทฺเทสทสฺสนตฺถํ ‘‘ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อาณาเปตี’’ติอาทโย จตฺตาโร วารา วุตฺตา. เตสุ โส ตํ มฺมาโนติ โส อาณตฺโต โย อาณาปเกน ‘‘อิตฺถนฺนาโม’’ติ อกฺขาโต, ตํ มฺมาโน ตเมว ชีวิตา โวโรเปติ, อุภินฺนํ ปาราชิกํ. ตํ มฺมาโน อฺนฺติ ‘‘ยํ ชีวิตา โวโรเปหี’’ติ วุตฺโต ตํ มฺมาโน อฺํ ตาทิสํ ชีวิตา โวโรเปติ, มูลฏฺสฺส อนาปตฺติ. อฺํ มฺมาโน ตนฺติ โย อาณาปเกน วุตฺโต, ตสฺส พลวสหายํ สมีเป ิตํ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺส พเลนายํ คชฺชติ, อิมํ ตาว ชีวิตา โวโรเปมี’’ติ ปหรนฺโต อิตรเมว ปริวตฺติตฺวา ตสฺมึ าเน ิตํ ‘‘สหาโย’’ติ มฺมาโน ชีวิตา โวโรเปติ, อุภินฺนํ ปาราชิกํ. อฺํ มฺมาโน อฺนฺติ ปุริมนเยเนว ‘‘อิมํ ตาวสฺส สหายํ ชีวิตา โวโรเปมี’’ติ สหายเมว โวโรเปติ, ตสฺเสว ปาราชิกํ.

ทูตปรมฺปราปทสฺส นิทฺเทสวาเร อิตฺถนฺนามสฺส ปาวทาติอาทีสุ เอโก อาจริโย ตโย พุทฺธรกฺขิตธมฺมรกฺขิตสงฺฆรกฺขิตนามกา อนฺเตวาสิกา ทฏฺพฺพา. ตตฺถ ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อาณาเปตีติ อาจริโย กฺจิ ปุคฺคลํ มาราเปตุกาโม ตมตฺถํ อาจิกฺขิตฺวา พุทฺธรกฺขิตํ อาณาเปติ. อิตฺถนฺนามสฺส ปาวทาติ คจฺฉ ตฺวํ, พุทฺธรกฺขิต, เอตมตฺถํ ธมฺมรกฺขิตสฺส ปาวท. อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส ปาวทตูติ ธมฺมรกฺขิโตปิ สงฺฆรกฺขิตสฺส ปาวทตุ. อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ ชีวิตา โวโรเปตูติ เอวํ ตยา อาณตฺเตน ธมฺมรกฺขิเตน อาณตฺโต สงฺฆรกฺขิโต อิตฺถนฺนามํ ปุคฺคลํ ชีวิตา โวโรเปตุ; โส หิ อมฺเหสุ วีรชาติโก ปฏิพโล อิมสฺมึ กมฺเมติ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอวํ อาณาเปนฺตสฺส อาจริยสฺส ตาว ทุกฺกฏํ. โส อิตรสฺส อาโรเจตีติ พุทฺธรกฺขิโต ธมฺมรกฺขิตสฺส, ธมฺมรกฺขิโต จ สงฺฆรกฺขิตสฺส ‘‘อมฺหากํ อาจริโย เอวํ วทติ – ‘อิตฺถนฺนามํ กิร ชีวิตา โวโรเปหี’ติ. ตฺวํ กิร อมฺเหสุ วีรปุริโส’’ติ อาโรเจติ; เอวํ เตสมฺปิ ทุกฺกฏํ. วธโก ปฏิคฺคณฺหาตีติ ‘‘สาธุ โวโรเปสฺสามี’’ติ สงฺฆรกฺขิโต สมฺปฏิจฺฉติ. มูลฏฺสฺส อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสาติ สงฺฆรกฺขิเตน ปฏิคฺคหิตมตฺเต อาจริยสฺส ถุลฺลจฺจยํ. มหาชโน หิ เตน ปาเป นิโยชิโตติ. โส ตนฺติ โส เจ สงฺฆรกฺขิโต ตํ ปุคฺคลํ ชีวิตา โวโรเปติ, สพฺเพสํ จตุนฺนมฺปิ ชนานํ ปาราชิกํ. น เกวลฺจ จตุนฺนํ, เอเตนูปาเยน วิสงฺเกตํ อกตฺวา ปรมฺปราย อาณาเปนฺตํ สมณสตํ สมณสหสฺสํ วา โหตุ สพฺเพสํ ปาราชิกเมว.

วิสกฺกิยทูตปทนิทฺเทเส โส อฺํ อาณาเปตีติ โส อาจริเยน อาณตฺโต พุทฺธรกฺขิโต ธมฺมรกฺขิตํ อทิสฺวา วา อวตฺตุกาโม วา หุตฺวา สงฺฆรกฺขิตเมว อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อมฺหากํ อาจริโย เอวมาห – ‘อิตฺถนฺนามํ กิร ชีวิตา โวโรเปหี’’ติ วิสงฺเกตํ กโรนฺโต อาณาเปติ. วิสงฺเกตกรเณเนว หิ เอส ‘‘วิสกฺกิยทูโต’’ติ วุจฺจติ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ อาณตฺติยา ตาว พุทฺธรกฺขิตสฺส ทุกฺกฏํ. ปฏิคฺคณฺหาติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ สงฺฆรกฺขิเตน สมฺปฏิจฺฉิเต มูลฏฺสฺเสว ทุกฺกฏนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ สนฺเต ปฏิคฺคหเณ อาปตฺติเยว น สิยา, สฺจริตฺต ปฏิคฺคหณมรณาภินนฺทเนสุปิ จ อาปตฺติ โหติ, มรณปฏิคฺคหเณ กถํ น สิยา ตสฺมา ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺเสเวตํ ทุกฺกฏํ. เตเนเวตฺถ ‘‘มูลฏฺสฺสา’’ติ น วุตฺตํ. ปุริมนเยปิ เจตํ ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส เวทิตพฺพเมว; โอกาสาภาเวน ปน น วุตฺตํ. ตสฺมา โย โย ปฏิคฺคณฺหาติ, ตสฺส ตสฺส ตปฺปจฺจยา อาปตฺติเยวาติ อยเมตฺถ อมฺหากํ ขนฺติ. ยถา เจตฺถ เอวํ อทินฺนาทาเนปีติ.

สเจ ปน โส ตํ ชีวิตา โวโรเปติ, อาณาปกสฺส จ พุทฺธรกฺขิตสฺส โวโรปกสฺส จ สงฺฆรกฺขิตสฺสาติ อุภินฺนมฺปิ ปาราชิกํ. มูลฏฺสฺส ปน อาจริยสฺส วิสงฺเกตตฺตา ปาราชิเกน อนาปตฺติ. ธมฺมรกฺขิตสฺส อชานนตาย สพฺเพน สพฺพํ อนาปตฺติ. พุทฺธรกฺขิโต ปน ทฺวินฺนํ โสตฺถิภาวํ กตฺวา อตฺตนา นฏฺโติ.

คตปจฺจาคตทูตนิทฺเทเส – โส คนฺตฺวา ปุน ปจฺจาคจฺฉตีติ ตสฺส ชีวิตา โวโรเปตพฺพสฺส สมีปํ คนฺตฺวา สุสํวิหิตารกฺขตฺตา ตํ ชีวิตา โวโรเปตุํ อสกฺโกนฺโต อาคจฺฉติ. ยทา สกฺโกสิ ตทาติ กึ อชฺเชว มาริโต มาริโต โหติ, คจฺฉ ยทา สกฺโกสิ, ตทา นํ ชีวิตา โวโรเปหีติ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอวํ ปุน อาณตฺติยาปิ ทุกฺกฏเมว โหติ. สเจ ปน โส อวสฺสํ ชีวิตา โวโรเปตพฺโพ โหติ, อตฺถสาธกเจตนา มคฺคานนฺตรผลสทิสา, ตสฺมา อยํ อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิโก. สเจปิ วธโก สฏฺิวสฺสาติกฺกเมน ตํ วธติ, อาณาปโก จ อนฺตราว กาลงฺกโรติ, หีนาย วา อาวตฺตติ, อสฺสมโณว หุตฺวา กาลฺจ กริสฺสติ, หีนาย วา อาวตฺติสฺสติ. สเจ อาณาปโก คิหิกาเล มาตรํ วา ปิตรํ วา อรหนฺตํ วา สนฺธาย เอวํ อาณาเปตฺวา ปพฺพชติ, ตสฺมึ ปพฺพชิเต อาณตฺโต ตํ มาเรติ, อาณาปโก คิหิกาเลเยว มาตุฆาตโก ปิตุฆาตโก อรหนฺตฆาตโก วา โหติ, ตสฺมา เนวสฺส ปพฺพชฺชา, น อุปสมฺปทา รุหติ. สเจปิ มาเรตพฺพปุคฺคโล อาณตฺติกฺขเณ ปุถุชฺชโน, ยทา ปน นํ อาณตฺโต มาเรติ ตทา อรหา โหติ, อาณตฺตโต วา ปหารํ ลภิตฺวา ทุกฺขมูลิกํ สทฺธํ นิสฺสาย วิปสฺสนฺโต อรหตฺตํ ปตฺวา เตเนวาพาเธน กาลํกโรติ, อาณาปโก อาณตฺติกฺขเณเยว อรหนฺตฆาตโก. วธโก ปน สพฺพตฺถ อุปกฺกมกรณกฺขเณเยว ปาราชิโกติ.

อิทานิ เย สพฺเพสุเยว อิเมสุ ทูตวเสน วุตฺตมาติกาปเทสุ สงฺเกตวิสงฺเกตทสฺสนตฺถํ

วุตฺตา ตโย วารา, เตสุ ปมวาเร ตาว – ยสฺมา ตํ สณิกํ วา ภณนฺโต ตสฺส วา พธิรตาย ‘‘มา ฆาเตหี’’ติ เอตํ วจนํ น สาเวติ, ตสฺมา มูลฏฺโ น มุตฺโต. ทุติยวาเร – สาวิตตฺตา มุตฺโต. ตติยวาเร ปน เตน จ สาวิตตฺตา อิตเรน จ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา โอรตตฺตา อุโภปิ มุตฺตาติ.

ทูตกถา นิฏฺิตา.

๑๗๕. อรโห รโหสฺีนิทฺเทสาทีสุ อรโหติ สมฺมุเข. รโหติ ปรมฺมุเข. ตตฺถ โย อุปฏฺานกาเล เวริภิกฺขุมฺหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ อาคนฺตฺวา ปุรโต นิสินฺเนเยว อนฺธการโทเสน ตสฺส อาคตภาวํ อชานนฺโต ‘‘อโห วต อิตฺถนฺนาโม หโต อสฺส, โจราปิ นาม ตํ น หนนฺติ, สปฺโป วา น ฑํสติ, น สตฺถํ วา วิสํ วา อาหรตี’’ติ ตสฺส มรณํ อภินนฺทนฺโต อีทิสานิ วจนานิ อุลฺลปติ, อยํ อรโห รโหสฺี อุลฺลปติ นาม. สมฺมุเขว ตสฺมึ ปรมฺมุขสฺีติ อตฺโถ. โย ปน ตํ ปุรโต นิสินฺนํ ทิสฺวา ปุน อุปฏฺานํ กตฺวา คเตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ คเตปิ ตสฺมึ ‘‘อิเธว โส นิสินฺโน’’ติ สฺี หุตฺวา ปุริมนเยเนว อุลฺลปติ, อยํ รโห อรโหสฺี อุลฺลปติ นาม. เอเตเนวุปาเยน อรโห อรโหสฺี จ รโห รโหสฺี จ เวทิตพฺโพ. จตุนฺนมฺปิ จ เอเตสํ วาจาย วาจาย ทุกฺกฏนฺติ เวทิตพฺพํ.

อิทานิ มรณวณฺณสํวณฺณนาย วิภาคทสฺสนตฺถํ วุตฺเตสุ ปฺจสุ กาเยน สํวณฺณนาทิมาติกานิทฺเทเสสุ – กาเยน วิการํ กโรตีติ ยถา โส ชานาติ ‘‘สตฺถํ วา อาหริตฺวา วิสํ วา ขาทิตฺวา รชฺชุยา วา อุพฺพนฺธิตฺวา โสพฺภาทีสุ วา ปปติตฺวา โย มรติ โส กิร ธนํ วา ลภติ, ยสํ วา ลภติ, สคฺคํ วา คจฺฉตีติ อยมตฺโถ เอเตน วุตฺโต’’ติ ตถา หตฺถมุทฺทาทีหิ ทสฺเสติ. วาจาย ภณตีติ ตเมวตฺถํ วากฺยเภทํ กตฺวา ภณติ. ตติยวาโร อุภยวเสน วุตฺโต. สพฺพตฺถ สํวณฺณนาย ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. ตสฺส ทุกฺขุปฺปตฺติยํ สํวณฺณกสฺส ถุลฺลจฺจยํ. ยํ อุทฺทิสฺส สํวณฺณนา กตา, ตสฺมึ มเต สํวณฺณนกฺขเณเยว สํวณฺณกสฺส ปาราชิกํ. โส ตํ น ชานาติ อฺโ ตฺวา ‘‘ลทฺโธ วต เม สุขุปฺปตฺติอุปาโย’’ติ ตาย สํวณฺณนาย มรติ, อนาปตฺติ. ทฺวินฺนํ อุทฺทิสฺส สํวณฺณนาย กตาย เอโก ตฺวา มรติ, ปาราชิกํ. ทฺเวปิ มรนฺติ, ปาราชิกฺจ อกุสลราสิ จ. เอส นโย สมฺพหุเลสุ. อนุทฺทิสฺส มรณํ สํวณฺเณนฺโต อาหิณฺฑติ, โย โย ตํ สํวณฺณนํ ตฺวา มรติ, สพฺโพ เตน มาริโต โหติ.

ทูเตน สํวณฺณนายํ ‘‘อสุกํ นาม เคหํ วา คามํ วา คนฺตฺวา อิตฺถนฺนามสฺส เอวํ มรณวณฺณํ สํวณฺเณหี’’ติ สาสเน อาโรจิตมตฺเต ทุกฺกฏํ. ยสฺสตฺถาย ปหิโต ตสฺส ทุกฺขุปฺปตฺติยา มูลฏฺสฺส ถุลฺลจฺจยํ, มรเณน ปาราชิกํ. ทูโต ‘‘าโต ทานิ อยํ สคฺคมคฺโค’’ติ ตสฺส อนาโรเจตฺวา อตฺตโน าติสฺส วา สาโลหิตสฺส วา อาโรเจติ, ตสฺมึ มเต วิสงฺเกโต โหติ, มูลฏฺโ มุจฺจติ. ทูโต ตเถว จินฺเตตฺวา สยํ สํวณฺณนาย วุตฺตํ กตฺวา มรติ, วิสงฺเกโตว. อนุทฺทิสฺส ปน สาสเน อาโรจิเต ยตฺตกา ทูตสฺส สํวณฺณนาย มรนฺติ, ตตฺตกา ปาณาติปาตา. สเจ มาตาปิตโร มรนฺติ, อานนฺตริยมฺปิ โหติ.

๑๗๖. เลขาสํวณฺณนาย – เลขํ ฉินฺทตีติ ปณฺเณ วา โปตฺถเก วา อกฺขรานิ ลิขติ – ‘‘โย สตฺถํ วา อาหริตฺวา ปปาเต วา ปปติตฺวา อฺเหิ วา อคฺคิปฺปเวสนอุทกปฺปเวสนาทีหิ อุปาเยหิ มรติ, โส อิทฺจิทฺจ ลภตี’’ติ วา ‘‘ตสฺส ธมฺโม โหตี’’ติ วาติ. เอตฺถาปิ ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. อุทฺทิสฺส ลิขิเต ปน ยํ อุทฺทิสฺส ลิขิตํ ตสฺเสว มรเณน ปาราชิกํ. พหู อุทฺทิสฺส ลิขิเต ยตฺตกา มรนฺติ, ตตฺตกา ปาณาติปาตา. มาตาปิตูนํ มรเณน อานนฺตริยํ. อนุทฺทิสฺส ลิขิเตปิ เอเสว นโย. ‘‘พหู มรนฺตี’’ติ วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน ตํ โปตฺถกํ ฌาเปตฺวา วา ยถา วา อกฺขรานิ น ปฺายนฺติ ตถา กตฺวา มุจฺจติ. สเจ โส ปรสฺส โปตฺถโก โหติ, อุทฺทิสฺส ลิขิโต วา โหติ อนุทฺทิสฺส ลิขิโต วา, คหิตฏฺาเน เปตฺวา มุจฺจติ. สเจ มูเลน กีโต โหติ, โปตฺถกสฺสามิกานํ โปตฺถกํ, เยสํ หตฺถโต มูลํ คหิตํ, เตสํ มูลํ ทตฺวา มุจฺจติ. สเจ สมฺพหุลา ‘‘มรณวณฺณํ ลิขิสฺสามา’’ติ เอกชฺฌาสยา หุตฺวา เอโก ตาลรุกฺขํ อาโรหิตฺวา ปณฺณํ ฉินฺทติ, เอโก อาหรติ, เอโก โปตฺถกํ กโรติ, เอโก ลิขติ, เอโก สเจ กณฺฏกเลขา โหติ, มสึ มกฺเขติ, มสึ มกฺเขตฺวา ตํ โปตฺถกํ สชฺเชตฺวา สพฺเพว สภายํ วา อาปเณ วา ยตฺถ วา ปน เลขาทสฺสนโกตูหลกา พหู สนฺนิปตนฺติ, ตตฺถ เปนฺติ. ตํ วาเจตฺวา สเจปิ เอโก มรติ, สพฺเพสํ ปาราชิกํ. สเจ พหุกา มรนฺติ, วุตฺตสทิโสว นโย. วิปฺปฏิสาเร ปน อุปฺปนฺเน ตํ โปตฺถกํ สเจปิ มฺชูสายํ โคเปนฺติ, อฺโ จ ตํ ทิสฺวา นีหริตฺวา ปุน พหูนํ ทสฺเสติ, เนว มุจฺจนฺติ. ติฏฺตุ มฺชูสา, สเจปิ ตํ โปตฺถกํ นทิยํ วา สมุทฺเท วา ขิปนฺติ วา โธวนฺติ วา ขณฺฑาขณฺฑํ วา ฉินฺทนฺติ, อคฺคิมฺหิ วา ฌาเปนฺติ, ยาว สงฺฆฏฺฏิเตปิ ทุทฺโธเต วา ทุชฺฌาปิเต วา ปตฺเต อกฺขรานิ ปฺายนฺติ, ตาว น มุจฺจนฺติ. ยถา ปน อกฺขรานิ น ปฺายนฺติ ตเถว กเต มุจฺจนฺตีติ.

อิทานิ ถาวรปโยคสฺส วิภาคทสฺสนตฺถํ วุตฺเตสุ โอปาตาทิมาติกานิทฺเทเสสุ มนุสฺสํ อุทฺทิสฺส โอปาตํ ขนตีติ ‘‘อิตฺถนฺนาโม ปติตฺวา มริสฺสตี’’ติ กฺจิ มนุสฺสํ อุทฺทิสิตฺวา ยตฺถ โส เอกโต วิจรติ, ตตฺถ อาวาฏํ ขนติ, ขนนฺตสฺส ตาว สเจปิ ชาตปถวิยา ขนติ, ปาณาติปาตสฺส ปโยคตฺตา ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. ยํ อุทฺทิสฺส ขนติ, ตสฺส ทุกฺขุปฺปตฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, มรเณน ปาราชิกํ. อฺสฺมึ ปติตฺวา มเต อนาปตฺติ. สเจ อนุทฺทิสฺส ‘‘โย โกจิ มริสฺสตี’’ติ ขโต โหติ, ยตฺตกา ปติตฺวา มรนฺติ, ตตฺตกา ปาณาติปาตา. อานนฺตริยวตฺถูสุ จ อานนฺตริยํ ถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยวตฺถูสุ ถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยานิ.

พหู ตตฺถ เจตนา; กตมาย ปาราชิกํ โหตีติ? มหาอฏฺกถายํ ตาว วุตฺตํ – ‘‘อาวาฏํ คมฺภีรโต จ อายามวิตฺถารโต จ ขนิตฺวา ปมาเณ เปตฺวา ตจฺเฉตฺวา ปุฺฉิตฺวา ปํสุปจฺฉึ อุทฺธรนฺตสฺส สนฺนิฏฺาปิกา อตฺถสาธกเจตนา มคฺคานนฺตรผลสทิสา. สเจปิ วสฺสสตสฺส อจฺจเยน ปติตฺวา อวสฺสํ มรณกสตฺโต โหติ, สนฺนิฏฺาปกเจตนายเมว ปาราชิก’’นฺติ. มหาปจฺจริยํ ปน สงฺเขปฏฺกถายฺจ – ‘‘อิมสฺมึ อาวาเฏ ปติตฺวา มริสฺสตีติ เอกสฺมิมฺปิ กุทฺทาลปฺปหาเร ทินฺเน สเจ โกจิ ตตฺถ ปกฺขลิโต ปติตฺวา มรติ, ปาราชิกเมว. สุตฺตนฺติกตฺเถรา ปน สนฺนิฏฺาปกเจตนํ คณฺหนฺตี’’ติ วุตฺตํ.

เอโก ‘‘โอปาตํ ขนิตฺวา อสุกํ นาม อาเนตฺวา อิธ ปาเตตฺวา มาเรหี’’ติ อฺํ อาณาเปติ, โส ตํ ปาเตตฺวา มาเรติ, อุภินฺนํ ปาราชิกํ. อฺํ ปาเตตฺวา มาเรติ, สยํ ปติตฺวา มรติ, อฺโ อตฺตโน ธมฺมตาย ปติตฺวา มรติ, สพฺพตฺถ วิสงฺเกโต โหติ, มูลฏฺโ มุจฺจติ. ‘‘อสุโก อสุกํ อาเนตฺวา อิธ มาเรสฺสตี’’ติ ขเตปิ เอเสว นโย. มริตุกามา อิธ มริสฺสนฺตีติ ขนติ, เอกสฺส มรเณ ปาราชิกํ. พหุนฺนํ มรเณ อกุสลราสิ, มาตาปิตูนํ มรเณ อานนฺตริยํ, ถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยวตฺถูสุ ถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยานิ.

‘‘เย เกจิ มาเรตุกามา, เต อิธ ปาเตตฺวา มาเรสฺสนฺตี’’ติ ขนติ, ตตฺถ ปาเตตฺวา มาเรนฺติ, เอกสฺมึ มเต ปาราชิกํ, พหูสุ อกุสลราสิ, อานนฺตริยาทิวตฺถูสุ อานนฺตริยาทีนิ. อิเธว อรหนฺตาปิ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ปุริมนเย ปน ‘‘เตสํ มริตุกามตาย ปตนํ นตฺถี’’ติ เต น สงฺคยฺหนฺติ. ทฺวีสุปิ นเยสุ อตฺตโน ธมฺมตาย ปติตฺวา มเต วิสงฺเกโต. ‘‘เย เกจิ อตฺตโน เวริเก เอตฺถ ปาเตตฺวา มาเรสฺสนฺตี’’ติ ขนติ, ตตฺถ จ เวริกา เวริเก ปาเตตฺวา มาเรนฺติ, เอกสฺมึ มาริเต ปาราชิกํ, พหูสุ อกุสลราสิ, มาตริ วา ปิตริ วา อรหนฺเต วา เวริเกหิ อาเนตฺวา ตตฺถ มาริเต อานนฺตริยํ. อตฺตโน ธมฺมตาย ปติตฺวา มเตสุ วิสงฺเกโต.

โย ปน ‘‘มริตุกามา วา อมริตุกามา วา มาเรตุกามา วา อมาเรตุกามา วา เย เกจิ เอตฺถ ปติตา วา ปาติตา วา มริสฺสนฺตี’’ติ สพฺพถาปิ อนุทฺทิสฺเสว ขนติ. โย โย มรติ ตสฺส ตสฺส มรเณน ยถานุรูปํ กมฺมฺจ ผุสติ, อาปตฺติฺจ อาปชฺชติ. สเจ คพฺภินี ปติตฺวา สคพฺภา มรติ, ทฺเว ปาณาติปาตา. คพฺโภเยว วินสฺสติ, เอโก. คพฺโภ น วินสฺสติ, มาตา มรติ, เอโกเยว. โจเรหิ อนุพทฺโธ ปติตฺวา มรติ, โอปาตขนกสฺเสว ปาราชิกํ. โจรา ตตฺถ ปาเตตฺวา มาเรนฺติ, ปาราชิกเมว. ตตฺถ ปติตํ พหิ นีหริตฺวา มาเรนฺติ, ปาราชิกเมว. กสฺมา? โอปาเต ปติตปฺปโยเคน คหิตตฺตา. โอปาตโต นิกฺขมิตฺวา เตเนว อาพาเธน มรติ, ปาราชิกเมว. พหูนิ วสฺสานิ อติกฺกมิตฺวา ปุน กุปิเตน เตเนวาพาเธน มรติ, ปาราชิกเมว. โอปาเต ปตนปฺปจฺจยา อุปฺปนฺนโรเคน คิลานสฺเสว อฺโ โรโค อุปฺปชฺชติ, โอปาตโรโค พลวตโร โหติ, เตน มเตปิ โอปาตขณโก น มุจฺจติ. สเจ ปจฺฉา อุปฺปนฺนโรโค พลวา โหติ, เตน มเต มุจฺจติ. อุโภหิ มเต น มุจฺจติ. โอปาเต โอปปาติกมนุสฺโส นิพฺพตฺติตฺวา อุตฺตริตุํ อสกฺโกนฺโต มรติ, ปาราชิกเมว. มนุสฺสํ อุทฺทิสฺส ขเต ยกฺขาทีสุ ปติตฺวา มเตสุ อนาปตฺติ. ยกฺขาทโย อุทฺทิสฺส ขเต มนุสฺสาทีสุ มรนฺเตสุปิ เอเสว นโย. ยกฺขาทโย อุทฺทิสฺส ขนนฺตสฺส ปน ขนเนปิ เตสํ ทุกฺขุปฺปตฺติยมฺปิ ทุกฺกฏเมว. มรเณ วตฺถุวเสน ถุลฺลจฺจยํ วา ปาจิตฺติยํ วา. อนุทฺทิสฺส ขเต โอปาเต ยกฺขรูเปน วา เปตรูเปน วา ปตติ, ติรจฺฉานรูเปน มรติ, ปตนรูปํ ปมาณํ, ตสฺมา ถุลฺลจฺจยนฺติ อุปติสฺสตฺเถโร. มรณรูปํ ปมาณํ, ตสฺมา ปาจิตฺติยนฺติ ผุสฺสเทวตฺเถโร. ติรจฺฉานรูเปน ปติตฺวา ยกฺขเปตรูเปน มเตปิ เอเสว นโย.

โอปาตขนโก โอปาตํ อฺสฺส วิกฺกิณาติ วา มุธา วา เทติ, โย โย ปติตฺวา มรติ, ตปฺปจฺจยา ตสฺเสว อาปตฺติ จ กมฺมพนฺโธ จ. เยน ลทฺโธ โส นิทฺโทโส. อถ โสปิ ‘‘เอวํ ปติตา อุตฺตริตุํ อสกฺโกนฺตา นสฺสิสฺสนฺติ, สุอุทฺธรา วา น ภวิสฺสนฺตี’’ติ ตํ โอปาตํ คมฺภีรตรํ วา อุตฺตานตรํ วา ทีฆตรํ วา รสฺสตรํ วา วิตฺถตตรํ วา สมฺพาธตรํ วา กโรติ, อุภินฺนมฺปิ อาปตฺติ จ กมฺมพนฺโธ จ. พหู มรนฺตีติ วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน โอปาตํ ปํสุนา ปูเรติ, สเจ โกจิ ปํสุมฺหิ ปติตฺวา มรติ, ปูเรตฺวาปิ มูลฏฺโ น มุจฺจติ. เทเว วสฺสนฺเต กทฺทโม โหติ, ตตฺถ ลคฺคิตฺวา มเตปิ. รุกฺโข วา ปตนฺโต วาโต วา วสฺโสทกํ วา ปํสุํ หรติ, กนฺทมูลตฺถํ วา ปถวึ ขนนฺตา ตตฺถ อาวาฏํ กโรนฺติ. ตตฺถ สเจ โกจิ ลคฺคิตฺวา วา ปติตฺวา วา มรติ, มูลฏฺโ น มุจฺจติ. ตสฺมึ ปน โอกาเส มหนฺตํ ตฬากํ วา โปกฺขรณึ วา กาเรตฺวา เจติยํ วา ปติฏฺาเปตฺวา โพธึ วา โรเปตฺวา อาวาสํ วา สกฏมคฺคํ วา กาเรตฺวา มุจฺจติ. ยทาปิ ถิรํ กตฺวา ปูริเต โอปาเต รุกฺขาทีนํ มูลานิ มูเลหิ สํสิพฺพิตานิ โหนฺติ, ชาตปถวี ชาตา, ตทาปิ มุจฺจติ. สเจปิ นที อาคนฺตฺวา โอปาตํ หรติ, เอวมฺปิ มุจฺจตีติ. อยํ ตาว โอปาตกถา.

โอปาตสฺเสว ปน อนุโลเมสุ ปาสาทีสุปิ โย ตาว ปาสํ โอฑฺเฑติ ‘‘เอตฺถ พชฺฌิตฺวา สตฺตา มริสฺสนฺตี’’ติ อวสฺสํ พชฺฌนกสตฺตานํ วเสน หตฺถา มุตฺตมตฺเต ปาราชิกานนฺตริยถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยานิ เวทิตพฺพานิ. อุทฺทิสฺส กเต ยํ อุทฺทิสฺส โอฑฺฑิโต, ตโต อฺเสํ พนฺธเน อนาปตฺติ. ปาเส มูเลน วา มุธา วา ทินฺเนปิ มูลฏฺสฺเสว กมฺมพนฺโธ. สเจ เยน ลทฺโธ โส อุคฺคลิตํ วา ปาสํ สณฺเปติ, ปสฺเสน วา คจฺฉนฺเต ทิสฺวา วตึ กตฺวา สมฺมุเข ปเวเสติ, ถทฺธตรํ วา ปาสยฏฺึ เปติ, ทฬฺหตรํ วา ปาสรชฺชุํ พนฺธติ, ถิรตรํ วา ขาณุกํ วา อาโกเฏติ, อุโภปิ น มุจฺจนฺติ. สเจ วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน ปาสํ อุคฺคลาเปตฺวา คจฺฉติ, ตํ ทิสฺวา ปุน อฺเ สณฺเปนฺติ, พทฺธา พทฺธา มรนฺติ, มูลฏฺโ น มุจฺจติ.

สเจ ปน เตน ปาสยฏฺิ สยํ อกตา โหติ, คหิตฏฺาเน เปตฺวา มุจฺจติ. ตตฺถชาตกยฏฺึ ฉินฺทิตฺวา มุจฺจติ. สยํ กตยฏฺึ ปน โคเปนฺโตปิ น มุจฺจติ. ยทิ หิ ตํ อฺโ คณฺหิตฺวา ปาสํ สณฺเปติ, ตปฺปจฺจยา มรนฺเตสุ มูลฏฺโ น มุจฺจติ. สเจ ตํ ฌาเปตฺวา อลาตํ กตฺวา ฉฑฺเฑติ, เตน อลาเตน ปหารํ ลทฺธา มรนฺเตสุปิ น มุจฺจติ. สพฺพโส ปน ฌาเปตฺวา วา นาเสตฺวา วา มุจฺจติ, ปาสรชฺชุมฺปิ อฺเหิ จ วฏฺฏิตํ คหิตฏฺาเน เปตฺวา มุจฺจติ. รชฺชุเก ลภิตฺวา สยํ วฏฺฏิตํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา วาเก ลภิตฺวา วฏฺฏิตํ หีรํ หีรํ กตฺวา มุจฺจติ. อรฺโต ปน สยํ วาเก อาหริตฺวา วฏฺฏิตํ โคเปนฺโตปิ น มุจฺจติ. สพฺพโส ปน ฌาเปตฺวา วา นาเสตฺวา วา มุจฺจติ.

อทูหลํ สชฺเชนฺโต จตูสุ ปาเทสุ อทูหลมฺจํ เปตฺวา ปาสาเณ อาโรเปติ, ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. สพฺพสชฺชํ กตฺวา หตฺถโต มุตฺตมตฺเต อวสฺสํ อชฺโฌตฺถริตพฺพกสตฺตานํ วเสน อุทฺทิสฺสกานุทฺทิสฺสกานุรูเปน ปาราชิกาทีนิ เวทิตพฺพานิ. อทูหเล มูเลน วา มุธา วา ทินฺเนปิ มูลฏฺสฺเสว กมฺมพทฺโธ. สเจ เยน ลทฺธํ โส ปติตํ วา อุกฺขิปติ, อฺเปิ ปาสาเณ อาโรเปตฺวา ครุกตรํ วา กโรติ, ปสฺเสน วา คจฺฉนฺเต ทิสฺวา วตึ กตฺวา อทูหเล ปเวเสติ, อุโภปิ น มุจฺจนฺติ. สเจปิ วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน อทูหลํ ปาเตตฺวา คจฺฉติ, ตํ ทิสฺวา อฺโ สณฺเปติ, มูลฏฺโ น มุจฺจติ. ปาสาเณ ปน คหิตฏฺาเน เปตฺวา อทูหลปาเท จ ปาสยฏฺิยํ วุตฺตนเยน คหิตฏฺาเน วา เปตฺวา ฌาเปตฺวา วา มุจฺจติ.

สูลํ โรเปนฺตสฺสาปิ สพฺพสชฺชํ กตฺวา หตฺถโต มุตฺตมตฺเต สูลมุเข ปติตฺวา อวสฺสํ มรณกสตฺตานํ วเสน อุทฺทิสฺสานุทฺทิสฺสานุรูปโต ปาราชิกาทีนิ เวทิตพฺพานิ. สูเล มูเลน วา มุธา วา ทินฺเนปิ มูลฏฺสฺเสว กมฺมพทฺโธ. สเจ เยน ลทฺธํ โส ‘‘เอกปฺปหาเรเนว มริสฺสนฺตี’’ติ ติขิณตรํ วา กโรติ, ‘‘ทุกฺขํ มริสฺสนฺตี’’ติ กุณฺตรํ วา กโรติ, ‘‘อุจฺจ’’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา นีจตรํ วา ‘‘นีจ’’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา อุจฺจตรํ วา ปุน โรเปติ, วงฺกํ วา อุชุกํ อติอุชุกํ วา อีสกํ โปณํ กโรติ, อุโภปิ น มุจฺจนฺติ. สเจ ปน ‘‘อฏฺาเน ิต’’นฺติ อฺสฺมึ าเน เปติ, ตํ เจ มารณตฺถาย อาทิโต ปภุติ ปริเยสิตฺวา กตํ โหติ, มูลฏฺโ น มุจฺจติ. อปริเยสิตฺวา ปน กตเมว ลภิตฺวา โรปิเต มูลฏฺโ มุจฺจติ. วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน ปาสยฏฺิยํ วุตฺตนเยน คหิตฏฺาเน วา เปตฺวา ฌาเปตฺวา วา มุจฺจติ.

๑๗๗. อปสฺเสเน สตฺถํ วาติ เอตฺถ อปสฺเสนํ นาม นิจฺจปริโภโค มฺโจ วา ปีํ วา อปสฺเสนผลกํ วา ทิวาฏฺาเน นิสีทนฺตสฺส อปสฺเสนกตฺถมฺโภ วา ตตฺถชาตกรุกฺโข วา จงฺกเม อปสฺสาย ติฏฺนฺตสฺส อาลมฺพนรุกฺโข วา อาลมฺพนผลกํ วา สพฺพมฺเปตํ อปสฺสยนียฏฺเน อปสฺเสนํ นาม; ตสฺมึ อปสฺเสเน ยถา อปสฺสยนฺตํ วิชฺฌติ วา ฉินฺทติ วา ตถา กตฺวา วาสิผรสุสตฺติอารกณฺฏกาทีนํ อฺตรํ สตฺถํ เปติ, ทุกฺกฏํ. ธุวปริโภคฏฺาเน นิราสงฺกสฺส นิสีทโต วา นิปชฺชโต วา อปสฺสยนฺตสฺส วา สตฺถสมฺผสฺสปจฺจยา ทุกฺขุปฺปตฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, มรเณน ปาราชิกํ. ตํ เจ อฺโปิ ตสฺส เวริภิกฺขุ วิหารจาริกํ จรนฺโต ทิสฺวา ‘‘อิมสฺส มฺเ มรณตฺถาย อิทํ นิขิตฺตํ, สาธุ สุฏฺุ มรตู’’ติ อภินนฺทนฺโต คจฺฉติ, ทุกฺกฏํ. สเจ ปน โสปิ ตตฺถ ‘‘เอวํ กเต สุกตํ ภวิสฺสตี’’ติ ติขิณตราทิกรเณน กิฺจิ กมฺมํ กโรติ, ตสฺสาปิ ปาราชิกํ. สเจ ปน ‘‘อฏฺาเน ิต’’นฺติ อุทฺธริตฺวา อฺสฺมึ าเน เปติ ตทตฺถเมว กตฺวา ปิเต มูลฏฺโ น มุจฺจติ. ปากติกํ ลภิตฺวา ปิตํ โหติ, มุจฺจติ. ตํ อปเนตฺวา อฺํ ติขิณตรํ เปติ มูลฏฺโ มุจฺจเตว.

วิสมกฺขเนปิ ยาว มรณาภินนฺทเน ทุกฺกฏํ ตาว เอเสว นโย. สเจ ปน โสปิ ขุทฺทกํ วิสมณฺฑลนฺติ สลฺลกฺเขตฺวา มหนฺตตรํ วา กโรติ, มหนฺตํ วา ‘‘อติเรกํ โหตี’’ติ ขุทฺทกํ กโรติ, ตนุกํ วา พหลํ; พหลํ วา ตนุกํ กโรติ, อคฺคินา ตาเปตฺวา เหฏฺา วา อุปริ วา สฺจาเรติ, ตสฺสาปิ ปาราชิกํ. ‘‘อิทํ อาเน ิต’’นฺติ สพฺพเมว ตจฺเฉตฺวา ปุฺฉิตฺวา อฺสฺมึ าเน เปติ, อตฺตนา เภสชฺชานิ โยเชตฺวา กเต มูลฏฺโ น มุจฺจติ, อตฺตนา อกเต มุจฺจติ. สเจ ปน โส ‘‘อิทํ วิสํ อติปริตฺต’’นฺติ อฺมฺปิ อาเนตฺวา ปกฺขิปติ, ยสฺส วิเสน มรติ, ตสฺส ปาราชิกํ. สเจ อุภินฺนมฺปิ สนฺตเกน มรติ, อุภินฺนมฺปิ ปาราชิกํ. ‘‘อิทํ วิสํ นิพฺพิส’’นฺติ ตํ อปเนตฺวา อตฺตโน วิสเมว เปติ, ตสฺเสว ปาราชิกํ มูลฏฺโ มุจฺจติ.

ทุพฺพลํ วา กโรตีติ มฺจปีํ อฏนิยา เหฏฺาภาเค ฉินฺทิตฺวา วิทเลหิ วา รชฺชุเกหิ วา เยหิ วีตํ โหติ, เต วา ฉินฺทิตฺวา อปฺปาวเสสเมว กตฺวา เหฏฺา อาวุธํ นิกฺขิปติ ‘‘เอตฺถ ปติตฺวา มริสฺสตี’’ติ. อปสฺเสนผลกาทีนมฺปิ จงฺกเม อาลมฺพนรุกฺขผลกปริโยสานานํ ปรภาคํ ฉินฺทิตฺวา เหฏฺา อาวุธํ นิกฺขิปติ, โสพฺภาทีสุ มฺจํ วา ปีํ วา อปสฺเสนผลกํ วา อาเนตฺวา เปติ, ยถา ตตฺถ นิสินฺนมตฺโต วา อปสฺสิตมตฺโต วา ปตติ, โสพฺภาทีสุ วา สฺจรณเสตุ โหติ, ตํ ทุพฺพลํ กโรติ; เอวํ กโรนฺตสฺส กรเณ ทุกฺกฏํ. อิตรสฺส ทุกฺขุปฺปตฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, มรเณ ปาราชิกํ. ภิกฺขุํ อาเนตฺวา โสพฺภาทีนํ ตเฏ เปติ ‘‘ทิสฺวา ภเยน กมฺเปนฺโต ปติตฺวา มริสฺสตี’’ติ ทุกฺกฏํ. โส ตตฺเถว ปตติ, ทุกฺขุปฺปตฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, มรเณ ปาราชิกํ. สยํ วา ปาเตติ, อฺเน วา ปาตาเปติ, อฺโ อวุตฺโต วา อตฺตโน ธมฺมตาย ปาเตติ, อมนุสฺโส ปาเตติ, วาตปฺปหาเรน ปตติ, อตฺตโน ธมฺมตาย ปตตฺติ, สพฺพตฺถ มรเณ ปาราชิกํ. กสฺมา? ตสฺส ปโยเคน โสพฺภาทิตเฏ ิตตฺตา.

อุปนิกฺขิปนํ นาม สมีเป นิกฺขิปนํ. ตตฺถ ‘‘โย อิมินา อสินา มโต โส ธนํ วา ลภตี’’ติอาทินา นเยน มรณวณฺณํ วา สํวณฺเณตฺวา ‘‘อิมินา มรณตฺถิกา มรนฺตุ, มารณตฺถิกา มาเรนฺตู’’ติ วา วตฺวา อสึ อุปนิกฺขิปติ, ตสฺส อุปนิกฺขิปเน ทุกฺกฏํ. มริตุกาโม วา เตน อตฺตานํ ปหรตุ, มาเรตุกาโม วา อฺํ ปหรตุ, อุภยถาปิ ปรสฺส ทุกฺขุปฺปตฺติยา อุปนิกฺเขปกสฺส ถุลฺลจฺจยํ, มรเณ ปาราชิกํ. อนุทฺทิสฺส นิกฺขิตฺเต พหูนํ มรเณ อกุสลราสิ. ปาราชิกาทิวตฺถูสุ ปาราชิกาทีนิ. วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน อสึ คหิตฏฺาเน เปตฺวา มุจฺจติ. กิณิตฺวา คหิโต โหติ, อสิสฺสามิกานํ อสึ, เยสํ หตฺถโต มูลํ คหิตํ, เตสํ มูลํ ทตฺวา มุจฺจติ. สเจ โลหปิณฺฑึ วา ผาลํ วา กุทาลํ วา คเหตฺวา อสิ การาปิโต โหติ, ยํ ภณฺฑํ คเหตฺวา การิโต, ตเทว กตฺวา มุจฺจติ. สเจ กุทาลํ คเหตฺวา การิตํ วินาเสตฺวา ผาลํ กโรติ, ผาเลน ปหารํ ลภิตฺวา มรนฺเตสุปิ ปาณาติปาตโต น มุจฺจติ. สเจ ปน โลหํ สมุฏฺาเปตฺวา อุปนิกฺขิปนตฺถเมว การิโต โหติ, อเรน ฆํสิตฺวา จุณฺณวิจุณฺณํ กตฺวา วิปฺปกิณฺเณ มุจฺจติ. สเจปิ สํวณฺณนาโปตฺถโก วิย พหูหิ เอกชฺฌาสเยหิ กโต โหติ, โปตฺถเก วุตฺตนเยเนว กมฺมพนฺธวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. เอส นโย สตฺติเภณฺฑีสุ. ลคุเฬ ปาสยฏฺิสทิโส วินิจฺฉโย. ตถา ปาสาเณ. สตฺเถ อสิสทิโสว. วิสํ วาติ วิสํ อุปนิกฺขิปนฺตสฺส วตฺถุวเสน อุทฺทิสฺสานุทฺทิสฺสานุรูปโต ปาราชิกาทิวตฺถูสุ ปาราชิกาทีนิ เวทิตพฺพานิ. กิณิตฺวา ปิเต ปุริมนเยน ปฏิปากติกํ กตฺวา มุจฺจติ. สยํ เภสชฺเชหิ โยชิเต อวิสํ กตฺวา มุจฺจติ. รชฺชุยา ปาสรชฺชุสทิโสว วินิจฺฉโย.

เภสชฺเช – โย ภิกฺขุ เวริภิกฺขุสฺส ปชฺชรเก วา วิสภาคโรเค วา อุปฺปนฺเน อสปฺปายานิปิ สปฺปิอาทีนิ สปฺปายานีติ มรณาธิปฺปาโย เทติ, อฺํ วา กิฺจิ กนฺทมูลผลํ ตสฺส เอวํ เภสชฺชทาเน ทุกฺกฏํ. ปรสฺส ทุกฺขุปฺปตฺติยํ มรเณ จ ถุลฺลจฺจยปาราชิกานิ, อานนฺตริยวตฺถุมฺหิ อานนฺตริยนฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๗๘. รูปูปหาเร – อุปสํหรตีติ ปรํ วา อมนาปรูปํ ตสฺส สมีเป เปติ, อตฺตนา วา ยกฺขเปตาทิเวสํ คเหตฺวา ติฏฺติ, ตสฺส อุปสํหารมตฺเต ทุกฺกฏํ. ปรสฺส ตํ รูปํ ทิสฺวา ภยุปฺปตฺติยํ ถุลฺลจฺจยํ, มรเณ ปาราชิกํ. สเจ ปน ตเทว รูปํ เอกจฺจสฺส มนาปํ โหติ, อลาภเกน จ สุสฺสิตฺวา มรติ, วิสงฺเกโต. มนาปิเยปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ปน วิเสเสน อิตฺถีนํ ปุริสรูปํ ปุริสานฺจ อิตฺถิรูปํ มนาปํ ตํ อลงฺกริตฺวา อุปสํหรติ, ทิฏฺมตฺตกเมว กโรติ, อติจิรํ ปสฺสิตุมฺปิ น เทติ, อิตโร อลาภเกน สุสฺสิตฺวา มรติ, ปาราชิกํ. สเจ อุตฺตสิตฺวา มรติ, วิสงฺเกโต. อถ ปน อุตฺตสิตฺวา วา อลาภเกน วาติ อวิจาเรตฺวา ‘‘เกวลํ ปสฺสิตฺวา มริสฺสตี’’ติ อุปสํหรติ, อุตฺตสิตฺวา วา สุสฺสิตฺวา วา มเต ปาราชิกเมว. เอเตเนวูปาเยน สทฺทูปหาราทโยปิ เวทิตพฺพา. เกวลฺเหตฺถ อมนุสฺสสทฺทาทโย อุตฺราสชนกา อมนาปสทฺทา, ปุริสานํ อิตฺถิสทฺทมธุรคนฺธพฺพสทฺทาทโย จิตฺตสฺสาทกรา มนาปสทฺทา. หิมวนฺเต วิสรุกฺขานํ มูลาทิคนฺธา กุณปคนฺธา จ อมนาปคนฺธา, กาฬานุสารีมูลคนฺธาทโย มนาปคนฺธา. ปฏิกูลมูลรสาทโย อมนาปรสา, อปฺปฏิกูลมูลรสาทโย มนาปรสา. วิสผสฺสมหากจฺฉุผสฺสาทโย อมนาปโผฏฺพฺพา, จีนปฏหํสปุปฺผตูลิกผสฺสาทโย มนาปโผฏฺพฺพาติ เวทิตพฺพา.

ธมฺมูปหาเร – ธมฺโมติ เทสนาธมฺโม เวทิตพฺโพ. เทสนาวเสน วา นิรเย จ สคฺเค จ วิปตฺติสมฺปตฺติเภทํ ธมฺมารมฺมณเมว. เนรยิกสฺสาติ ภินฺนสํวรสฺส กตปาปสฺส นิรเย นิพฺพตฺตนารหสฺส สตฺตสฺส ปฺจวิธพนฺธนกมฺมกรณาทินิรยกถํ กเถติ. ตํ เจ สุตฺวา โส อุตฺตสิตฺวา มรติ, กถิกสฺส ปาราชิกํ. สเจ ปน โส สุตฺวาปิ อตฺตโน ธมฺมตาย มรติ, อนาปตฺติ. ‘‘อิทํ สุตฺวา เอวรูปํ ปาปํ น กริสฺสติ โอรมิสฺสติ วิรมิสฺสตี’’ติ นิรยกถํ กเถติ, ตํ สุตฺวา อิตโร อุตฺตสิตฺวา มรติ, อนาปตฺติ. สคฺคกถนฺติ เทวนาฏกาทีนํ นนฺทนวนาทีนฺจ สมฺปตฺติกถํ; ตํ สุตฺวา อิตโร สคฺคาธิมุตฺโต สีฆํ ตํ สมฺปตฺตึ ปาปุณิตุกาโม สตฺถาหรณวิสขาทนอาหารุปจฺเฉท-อสฺสาสปสฺสาสสนฺนิรุนฺธนาทีหิ ทุกฺขํ อุปฺปาเทติ, กถิกสฺส ถุลฺลจฺจยํ, มรติ ปาราชิกํ. สเจ ปน โส สุตฺวาปิ ยาวตายุกํ ตฺวา อตฺตโน ธมฺมตาย มรติ, อนาปตฺติ. ‘‘อิมํ สุตฺวา ปุฺานิ กริสฺสตี’’ติ กเถติ, ตํ สุตฺวา อิตโร อธิมุตฺโต กาลํกโรติ, อนาปตฺติ.

๑๗๙. อาจิกฺขนายํ – ปุฏฺโ ภณตีติ ‘‘ภนฺเต กถํ มโต ธนํ วา ลภติ สคฺเค วา อุปปชฺชตี’’ติ เอวํ ปุจฺฉิโต ภณติ.

อนุสาสนิยํ – อปุฏฺโติ เอวํ อปุจฺฉิโต สามฺเว ภณติ.

สงฺเกตกมฺมนิมิตฺตกมฺมานิ อทินฺนาทานกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.

เอวํ นานปฺปการโต อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนาปตฺติเภทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนาปตฺติ อสฺจิจฺจา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อสฺจิจฺจาติ ‘‘อิมินา อุปกฺกเมน อิมํ มาเรมี’’ติ อเจเตตฺวา. เอวฺหิ อเจเตตฺวา กเตน อุปกฺกเมน ปเร มเตปิ อนาปตฺติ, วกฺขติ จ ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ อสฺจิจฺจา’’ติ. อชานนฺตสฺสาติ ‘‘อิมินา อยํ มริสฺสตี’’ติ อชานนฺตสฺส อุปกฺกเมน ปเร มเตปิ อนาปตฺติ, วกฺขติ จ วิสคตปิณฺฑปาตวตฺถุสฺมึ ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ อชานนฺตสฺสา’’ติ. นมรณาธิปฺปายสฺสาติ มรณํ อนิจฺฉนฺตสฺส. เยน หิ อุปกฺกเมน ปโร มรติ, เตน อุปกฺกเมน ตสฺมึ มาริเตปิ นมรณาธิปฺปายสฺส อนาปตฺติ. วกฺขติ จ ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ นมรณาธิปฺปายสฺสา’’ติ. อุมฺมตฺตกาทโย ปุพฺเพ วุตฺตนยา เอว. อิธ ปน อาทิกมฺมิกา อฺมฺํ ชีวิตา โวโรปิตภิกฺขู, เตสํ อนาปตฺติ. อวเสสานํ มรณวณฺณสํวณฺณนกาทีนํ อาปตฺติเยวาติ.

ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมุฏฺานาทีสุ – อิทํ สิกฺขาปทํ ติสมุฏฺานํ; กายจิตฺตโต จ วาจาจิตฺตโต จ กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนํ. สเจปิ หิ สิริสยนํ อารูฬฺโห รชฺชสมฺปตฺติสุขํ อนุภวนฺโต ราชา ‘‘โจโร เทว อานีโต’’ติ วุตฺเต ‘‘คจฺฉถ นํ มาเรถา’’ติ หสมาโนว ภณติ, โทมนสฺสจิตฺเตเนว ภณตีติ เวทิตพฺโพ. สุขโวกิณฺณตฺตา ปน อนุปฺปพนฺธาภาวา จ ทุชฺชานเมตํ ปุถุชฺชเนหีติ.

วินีตวตฺถุวณฺณนา

๑๘๐. วินีตวตฺถุกถาสุ ปมวตฺถุสฺมึ – การุฺเนาติ เต ภิกฺขู ตสฺส มหนฺตํ เคลฺทุกฺขํ ทิสฺวา การุฺํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘สีลวา ตฺวํ กตกุสโล, กสฺมา มียมาโน ภายสิ, นนุ สีลวโต สคฺโค นาม มรณมตฺตปฏิพทฺโธเยวา’’ติ เอวํ มรณตฺถิกาว หุตฺวา มรณตฺถิกภาวํ อชานนฺตา มรณวณฺณํ สํวณฺเณสุํ. โสปิ ภิกฺขุ เตสํ สํวณฺณนาย อาหารุปจฺเฉทํ กตฺวา อนฺตราว กาลมกาสิ. ตสฺมา อาปตฺตึ อาปนฺนา. โวหารวเสน ปน วุตฺตํ ‘‘การุฺเน มรณวณฺณํ สํวณฺเณสุ’’นฺติ. ตสฺมา อิทานิปิ ปณฺฑิเตน ภิกฺขุนา คิลานสฺส ภิกฺขุโน เอวํ มรณวณฺโณ น สํวณฺเณตพฺโพ. สเจ หิ ตสฺส สํวณฺณนํ สุตฺวา อาหารูปจฺเฉทาทินา อุปกฺกเมน เอกชวนวาราวเสเสปิ อายุสฺมึ อนฺตรา กาลํกโรติ, อิมินาว มาริโต โหติ. อิมินา ปน นเยน อนุสิฏฺิ ทาตพฺพา – ‘‘สีลวโต นาม อนจฺฉริยา มคฺคผลุปฺปตฺติ, ตสฺมา วิหาราทีสุ อาสตฺตึ อกตฺวา พุทฺธคตํ ธมฺมคตํ สงฺฆคตํ กายคตฺจ สตึ อุปฏฺเปตฺวา มนสิกาเร อปฺปมาโท กาตพฺโพ’’ติ. มรณวณฺเณ จ สํวณฺณิเตปิ โย ตาย สํวณฺณนาย กฺจิ อุปกฺกมํ อกตฺวา อตฺตโน ธมฺมตาย ยถายุนา ยถานุสนฺธินาว มรติ, ตปฺปจฺจยา สํวณฺณโก อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพติ.

ทุติยวตฺถุสฺมึ – น จ ภิกฺขเว อปฺปฏิเวกฺขิตฺวาติ เอตฺถ กีทิสํ อาสนํ ปฏิเวกฺขิตพฺพํ, กีทิสํ น ปฏิเวกฺขิตพฺพํ? ยํ สุทฺธํ อาสนเมว โหติ อปจฺจตฺถรณกํ, ยฺจ อาคนฺตฺวา ิตานํ ปสฺสตํเยว อตฺถรียติ, ตํ นปจฺจเวกฺขิตพฺพํ, นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. ยมฺปิ มนุสฺสา สยํ หตฺเถน อกฺกมิตฺวา ‘‘อิธ ภนฺเต นิสีทถา’’ติ เทนฺติ, ตสฺมิมฺปิ วฏฺฏติ. สเจปิ ปมเมวาคนฺตฺวา นิสินฺนา ปจฺฉา อุทฺธํ วา อโธ วา สงฺกมนฺติ, ปจฺจเวกฺขณกิจฺจํ นตฺถิ. ยมฺปิ ตนุเกน วตฺเถน ยถา ตลํ ทิสฺสติ, เอวํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, ตสฺมิมฺปิ ปจฺจเวกฺขณกิจฺจํ นตฺถิ. ยํ ปน ปฏิกจฺเจว ปาวารโกชวาทีหิ อตฺถตํ โหติ, ตํ หตฺเถน ปรามสิตฺวา สลฺลกฺเขตฺวา นิสีทิตพฺพํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ฆนสาฏเกนาปิ อตฺถเต ยสฺมึ วลิ น ปฺายติ, ตํ นปฺปฏิเวกฺขิตพฺพนฺติ วุตฺตํ.

มุสลวตฺถุสฺมึ – อสฺจิจฺโจติ อวธกเจตโน วิรทฺธปโยโค หิ โส. เตนาห ‘‘อสฺจิจฺโจ อห’’นฺติ. อุทุกฺขลวตฺถุ อุตฺตานเมว. วุฑฺฒปพฺพชิตวตฺถูสุปมวตฺถุสฺมึ ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปฏิพนฺธํ มา อกาสี’’ติ ปณาเมสิ. ทุติยวตฺถุสฺมึ – สงฺฆมชฺเฌปิ คณมชฺเฌปิ ‘‘มหลฺลกตฺเถรสฺส ปุตฺโต’’ติ วุจฺจมาโน เตน วจเนน อฏฺฏียมาโน ‘‘มรตุ อย’’นฺติ ปณาเมสิ. ตติยวตฺถุสฺมึ – ตสฺส ทุกฺขุปฺปาทเนน ถุลฺลจฺจยํ.

๑๘๑. ตโต ปรานิ ตีณิ วตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว. วิสคตปิณฺฑปาตวตฺถุสฺมึ – สาราณียธมฺมปูรโก โส ภิกฺขุ อคฺคปิณฺฑํ สพฺรหฺมจารีนํ ทตฺวาว ภุฺชติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อคฺคการิกํ อทาสี’’ติ. อคฺคการิกนฺติ อคฺคกิริยํ; ปมํ ลทฺธปิณฺฑปาตํ อคฺคคฺคํ วา ปณีตปณีตํ ปิณฺฑปาตนฺติ อตฺโถ. ยา ปน ตสฺส ทานสงฺขาตา อคฺคกิริยา, สา น สกฺกา ทาตุํ, ปิณฺฑปาตฺหิ โส เถราสนโต ปฏฺาย อทาสิ. เต ภิกฺขูติ เต เถราสนโต ปฏฺาย ปริภุตฺตปิณฺฑปาตา ภิกฺขู; เต กิร สพฺเพปิ กาลมกํสุ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อสฺสทฺเธสุ ปน มิจฺฉาทิฏฺิเกสุ กุเลสุ สกฺกจฺจํ ปณีตโภชนํ ลภิตฺวา อนุปปริกฺขิตฺวา เนว อตฺตนา ปริภุฺชิตพฺพํ, น ปเรสํ ทาตพฺพํ. ยมฺปิ อาภิโทสิกํ ภตฺตํ วา ขชฺชกํ วา ตโต ลภติ, ตมฺปิ น ปริภุฺชิตพฺพํ. อปิหิตวตฺถุมฺปิ หิ สปฺปวิจฺฉิกาทีหิ อธิสยิตํ ฉฑฺฑนียธมฺมํ ตานิ กุลานิ เทนฺติ. คนฺธหลิทฺทาทิมกฺขิโตปิ ตโต ปิณฺฑปาโต น คเหตพฺโพ. สรีเร โรคฏฺานานิ ปุฺฉิตฺวา ปิตภตฺตมฺปิ หิ ตานิ ทาตพฺพํ มฺนฺตีติ.

วีมํสนวตฺถุสฺมึ – วีมํสมาโน ทฺเว วีมํสติ – ‘‘สกฺโกติ นุ โข อิมํ มาเรตุํ โน’’ติ วิสํ วา วีมํสติ, ‘‘มเรยฺย นุ โข อยํ อิมํ วิสํ ขาทิตฺวา โน’’ติ ปุคฺคลํ วา. อุภยถาปิ วีมํสาธิปฺปาเยน ทินฺเน มรตุ วา มา วา ถุลฺลจฺจยํ. ‘‘อิทํ วิสํ เอตํ มาเรตู’’ติ วา ‘‘อิทํ วิสํ ขาทิตฺวา อยํ มรตู’’ติ วา เอวํ ทินฺเน ปน สเจ มรติ, ปาราชิกํ; โน เจ, ถุลฺลจฺจยํ.

๑๘๒-๓. อิโต ปรานิ ตีณิ สิลาวตฺถูนิ ตีณิ อิฏฺกวาสิโคปานสีวตฺถูนิ จ อุตฺตานตฺถาเนว. น เกวลฺจ สิลาทีนํเยว วเสน อยํ อาปตฺตานาปตฺติเภโท โหติ, ทณฺฑมุคฺครนิขาทนเวมาทีนมฺปิ วเสน โหติเยว, ตสฺมา ปาฬิยํ อนาคตมฺปิ อาคตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

อฏฺฏกวตฺถูสุ – อฏฺฏโกติ เวหาสมฺโจ วุจฺจติ; ยํ เสตกมฺมมาลากมฺมลตากมฺมาทีนํ อตฺถาย พนฺธนฺติ. ตตฺถ อาวุโส อตฺรฏฺิโต พนฺธาหีติ มรณาธิปฺปาโย ยตฺร ิโต ปติตฺวา ขาณุนา วา ภิชฺเชยฺย, โสพฺภปปาตาทีสุ วา มเรยฺย, ตาทิสํ านํ สนฺธายาห. เอตฺถ จ โกจิ อุปริานํ นิยาเมติ ‘‘อิโต ปติตฺวา มริสฺสตี’’ติ, โกจิ เหฏฺา านํ ‘‘อิธ ปติตฺวา มริสฺสตี’’ติ, โกจิ อุภยมฺปิ ‘‘อิโต อิธ ปติตฺวา มริสฺสตี’’ติ. ตตฺร โย อุปริ นิยมิตฏฺานา อปติตฺวา อฺโต ปตติ, เหฏฺา นิยมิตฏฺาเน วา อปติตฺวา อฺตฺถ ปตติ, อุภยนิยาเม วา ยํกิฺจิ เอกํ วิราเธตฺวา ปตติ, ตสฺมึ มเต วิสงฺเกตตฺตา อนาปตฺติ. วิหารจฺฉาทนวตฺถุสฺมิมฺปิ เอเสว นโย.

อนภิรติวตฺถุสฺมึ – โส กิร ภิกฺขุ กามวิตกฺกาทีนํ สมุทาจารํ ทิสฺวา นิวาเรตุํ อสกฺโกนฺโต สาสเน อนภิรโต คิหิภาวาภิมุโข ชาโต. ตโต จินฺเตสิ – ‘‘ยาว สีลเภทํ น ปาปุณามิ ตาว มริสฺสามี’’ติ. อถ ตํ ปพฺพตํ อภิรุหิตฺวา ปปาเต ปปตนฺโต อฺตรํ วิลีวการํ โอตฺถริตฺวา มาเรสิ. วิลีวการนฺติ เวณุการํ. น จ ภิกฺขเว อตฺตานํ ปาเตตพฺพนฺติ น อตฺตา ปาเตตพฺโพ. วิภตฺติพฺยตฺตเยน ปเนตํ วุตฺตํ. เอตฺถ จ น เกวลํ น ปาเตตพฺพํ, อฺเนปิ เยน เกนจิ อุปกฺกเมน อนฺตมโส อาหารุปจฺเฉเทนปิ น มาเรตพฺโพ. โยปิ หิ คิลาโน วิชฺชมาเน เภสชฺเช จ อุปฏฺาเกสุ จ มริตุกาโม อาหารํ อุปจฺฉินฺทติ, ทุกฺกฏเมว. ยสฺส ปน มหาอาพาโธ จิรานุพทฺโธ, ภิกฺขู อุปฏฺหนฺตา กิลมนฺติ ชิคุจฺฉนฺติ ‘‘กทา นุ โข คิลานโต มุจฺจิสฺสามา’’ติ อฏฺฏียนฺติ. สเจ โส ‘‘อยํ อตฺตภาโว ปฏิชคฺคิยมาโนปิ น ติฏฺติ, ภิกฺขู จ กิลมนฺตี’’ติ อาหารํ อุปจฺฉินฺทติ, เภสชฺชํ น เสวติ วฏฺฏติ. โย ปน ‘‘อยํ โรโค ขโร, อายุสงฺขารา น ติฏฺนฺติ, อยฺจ เม วิเสสาธิคโม หตฺถปฺปตฺโต วิย ทิสฺสตี’’ติ อุปจฺฉินฺทติ วฏฺฏติเยว. อคิลานสฺสาปิ อุปฺปนฺนสํเวคสฺส ‘‘อาหารปริเยสนํ นาม ปปฺโจ, กมฺมฏฺานเมว อนุยุฺชิสฺสามี’’ติ กมฺมฏฺานสีเสน อุปจฺฉินฺทนฺตสฺส วฏฺฏติ. วิเสสาธิคมํ พฺยากริตฺวา อาหารํ อุปจฺฉินฺทติ, น วฏฺฏติ. สภาคานฺหิ ลชฺชีภิกฺขูนํ กเถตุํ วฏฺฏติ.

สิลาวตฺถุสฺมึ – ทวายาติ ทเวน หสฺเสน; ขิฑฺฑายาติ อตฺโถ. สิลาติ ปาสาโณ; น เกวลฺจ ปาสาโณ, อฺมฺปิ ยํกิฺจิ ทารุขณฺฑํ วา อิฏฺกาขณฺฑํ วา หตฺเถน วา ยนฺเตน วา ปวิชฺฌิตุํ น วฏฺฏติ. เจติยาทีนํ อตฺถาย ปาสาณาทโย หสนฺตา หสนฺตา ปวฏฺเฏนฺติปิ ขิปนฺติปิ อุกฺขิปนฺติปิ กมฺมสมโยติ วฏฺฏติ. อฺมฺปิ อีทิสํ นวกมฺมํ วา กโรนฺตา ภณฺฑกํ วา โธวนฺตา รุกฺขํ วา โธวนทณฺฑกํ วา อุกฺขิปิตฺวา ปวิชฺฌนฺติ, วฏฺฏติ. ภตฺตวิสฺสคฺคกาลาทีสุ กาเก วา โสเณ วา กฏฺํ วา กถลํ วา ขิปิตฺวา ปลาเปติ, วฏฺฏติ.

๑๘๔. เสทนาทิวตฺถูนิ สพฺพาเนว อุตฺตานตฺถานิ. เอตฺถ จ อหํ กุกฺกุจฺจโกติ น คิลานุปฏฺานํ น กาตพฺพํ, หิตกามตาย สพฺพํ คิลานสฺส พลาพลฺจ รุจิฺจ สปฺปายาสปฺปายฺจ อุปลกฺเขตฺวา กาตพฺพํ.

๑๘๕. ชารคพฺภินิวตฺถุสฺมึ – ปวุตฺถปติกาติ ปวาสํ คตปติกา. คพฺภปาตนนฺติ เยน ปริภุตฺเตน คพฺโภ ปตติ, ตาทิสํ เภสชฺชํ. ทฺเว ปชาปติกวตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว. คพฺภมทฺทนวตฺถุสฺมึ – ‘‘มทฺทิตฺวา ปาเตหี’’ติ วุตฺเต อฺเน มทฺทาเปตฺวา ปาเตติ, วิสงฺเกตํ. ‘‘มทฺทาเปตฺวา ปาตาเปหี’’ติ วุตฺเตปิ สยํ มทฺทิตฺวา ปาเตติ, วิสงฺเกตเมว. มนุสฺสวิคฺคเห ปริยาโย นาม นตฺถิ. ตสฺมา ‘‘คพฺโภ นาม มทฺทิเต ปตตี’’ติ วุตฺเต สา สยํ วา มทฺทตุ, อฺเน วา มทฺทาเปตฺวา ปาเตตุ, วิสงฺเกโต นตฺถิ; ปาราชิกเมว ตาปนวตฺถุสฺมิมฺปิ เอเสว นโย.

วฺฌิตฺถิวตฺถุสฺมึ – วฺฌิตฺถี นาม ยา คพฺภํ น คณฺหาติ. คพฺภํ อคณฺหนกอิตฺถี นาม นตฺถิ, ยสฺสา ปน คหิโตปิ คพฺโภ น สณฺาติ, ตํเยว สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อุตุสมเย กิร สพฺพิตฺถิโย คพฺภํ คณฺหนฺติ. ยา ปนายํ ‘‘วฺฌา’’ติ วุจฺจติ, ตสฺสา กุจฺฉิยํ นิพฺพตฺตสตฺตานํ อกุสลวิปาโก สมฺปาปุณาติ. เต ปริตฺตกุสลวิปาเกน คหิตปฏิสนฺธิกา อกุสลวิปาเกน อธิภูตา วินสฺสนฺติ. อภินวปฏิสนฺธิยํเยว หิ กมฺมานุภาเวน ทฺวีหากาเรหิ คพฺโภ น สณฺาติ – วาเตน วา ปาณเกหิ วา. วาโต โสเสตฺวา อนฺตรธาเปติ, ปาณกา ขาทิตฺวา. ตสฺส ปน วาตสฺส ปาณกานํ วา ปฏิฆาตาย เภสชฺเช กเต คพฺโภ สณฺเหยฺย; โส ภิกฺขุ ตํ อกตฺวา อฺํ ขรเภสชฺชํ อทาสิ. เตน สา กาลมกาสิ. ภควา เภสชฺชสฺส กฏตฺตา ทุกฺกฏํ ปฺาเปสิ.

ทุติยวตฺถุสฺมิมฺปิ เอเสว นโย. ตสฺมา อาคตาคตสฺส ปรชนสฺส เภสชฺชํ น กาตพฺพํ, กโรนฺโต ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. ปฺจนฺนํ ปน สหธมฺมิกานํ กาตพฺพํ ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุนิยา สิกฺขมานาย สามเณรสฺส สามเณริยาติ. สมสีลสทฺธาปฺานฺหิ เอเตสํ ตีสุ สิกฺขาสุ ยุตฺตานํ เภสชฺชํ อกาตุํ น ลพฺภติ, กโรนฺเตน จ สเจ เตสํ อตฺถิ, เตสํ สนฺตกํ คเหตฺวา โยเชตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ นตฺถิ, อตฺตโน สนฺตกํ กาตพฺพํ. สเจ อตฺตโนปิ นตฺถิ, ภิกฺขาจารวตฺเตน วา าตกปวาริตฏฺานโต วา ปริเยสิตพฺพํ. อลภนฺเตน คิลานสฺส อตฺถาย อกตวิฺตฺติยาปิ อาหริตฺวา กาตพฺพํ.

อปเรสมฺปิ ปฺจนฺนํ กาตุํ วฏฺฏติ – มาตุ, ปิตุ, ตทุปฏฺากานํ, อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺส, ปณฺฑุปลาสสฺสาติ. ปณฺฑุปลาโส นาม โย ปพฺพชฺชาเปกฺโข ยาว ปตฺตจีวรํ ปฏิยาทิยติ ตาว วิหาเร วสติ. เตสุ สเจ มาตาปิตโร อิสฺสรา โหนฺติ, น ปจฺจาสีสนฺติ, อกาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน รชฺเชปิ ิตา ปจฺจาสีสนฺติ, อกาตุํ น วฏฺฏติ. เภสชฺชํ ปจฺจาสีสนฺตานํ เภสชฺชํ ทาตพฺพํ, โยเชตุํ อชานนฺตานํ โยเชตฺวา ทาตพฺพํ. สพฺเพสํ อตฺถาย สหธมฺมิเกสุ วุตฺตนเยเนว ปริเยสิตพฺพํ. สเจ ปน มาตรํ วิหาเร อาเนตฺวา ชคฺคติ, สพฺพํ ปริกมฺมํ อนามสนฺเตน กาตพฺพํ. ขาทนียํ โภชนียํ สหตฺถา ทาตพฺพํ. ปิตา ปน ยถา สามเณโร เอวํ สหตฺเถน นฺหาปนสมฺพาหนาทีนิ กตฺวา อุปฏฺาตพฺโพ. เย จ มาตาปิตโร อุปฏฺหนฺติ ปฏิชคฺคนฺติ, เตสมฺปิ เอวเมว กาตพฺพํ. เวยฺยาวจฺจกโร นาม โย เวตนํ คเหตฺวา อรฺเ ทารูนิ วา ฉินฺทติ, อฺํ วา กิฺจิ กมฺมํ กโรติ, ตสฺส โรเค อุปฺปนฺเน ยาว าตกา น ปสฺสนฺติ ตาว เภสชฺชํ กาตพฺพํ. โย ปน ภิกฺขุนิสฺสิตโกว หุตฺวา สพฺพกมฺมานิ กโรติ, ตสฺส เภสชฺชํ กาตพฺพเมว. ปณฺฑุปลาเสปิ สามเณเร วิย ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

อปเรสมฺปิ ทสนฺนํ กาตุํ วฏฺฏติ – เชฏฺภาตุ, กนิฏฺภาตุ, เชฏฺภคินิยา, กนิฏฺภคินิยา, จูฬมาตุยา, มหามาตุยา, จูฬปิตุโน, มหาปิตุโน, ปิตุจฺฉาย, มาตุลสฺสาติ. เตสํ ปน สพฺเพสมฺปิ กโรนฺเตน เตสํเยว สนฺตกํ เภสชฺชํ คเหตฺวา เกวลํ โยเชตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ ปน นปฺปโหนฺติ, ยาจนฺติ จ ‘‘เทถ โน, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปฏิทสฺสามา’’ติ ตาวกาลิกํ ทาตพฺพํ. สเจปิ น ยาจนฺติ, ‘‘อมฺหากํ เภสชฺชํ อตฺถิ, ตาวกาลิกํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา วา ‘‘ยทา เนสํ ภวิสฺสติ ตทา ทสฺสนฺตี’’ติ อาโภคํ วา กตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ ปฏิเทนฺติ, คเหตพฺพํ, โน เจ เทนฺติ, น โจเทตพฺพา. เอเต ทส าตเก เปตฺวา อฺเสํ น กาตพฺพํ.

เอเตสํ ปุตฺตปรมฺปราย ปน ยาว สตฺตโม กุลปริวฏฺโฏ ตาว จตฺตาโร ปจฺจเย อาหราเปนฺตสฺส อกตวิฺตฺติ วา เภสชฺชํ กโรนฺตสฺส เวชฺชกมฺมํ วา กุลทูสกาปตฺติ วา น โหติ. สเจ ภาตุชายา ภคินิสามิโก วา คิลานา โหนฺติ, าตกา เจ, เตสมฺปิ วฏฺฏติ. อฺาตกา เจ, ภาตุ จ ภคินิยา จ กตฺวา ทาตพฺพํ, ‘‘ตุมฺหากํ ชคฺคนฏฺาเน เทถา’’ติ. อถ วา เตสํ ปุตฺตานํ กตฺวา ทาตพฺพํ, ‘‘ตุมฺหากํ มาตาปิตูนํ เทถา’’ติ. เอเตนุปาเยน สพฺพปเทสุปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

เตสํ อตฺถาย จ สามเณเรหิ อรฺโต เภสชฺชํ อาหราเปนฺเตน าติสามเณเรหิ วา อาหราเปตพฺพํ. อตฺตโน อตฺถาย วา อาหราเปตฺวา ทาตพฺพํ. เตหิปิ ‘‘อุปชฺฌายสฺส อาหรามา’’ติ วตฺตสีเสน อาหริตพฺพํ. อุปชฺฌายสฺส มาตาปิตโร คิลานา วิหารํ อาคจฺฉนฺติ, อุปชฺฌาโย จ ทิสาปกฺกนฺโต โหติ, สทฺธิวิหาริเกน อุปชฺฌายสฺส สนฺตกํ เภสชฺชํ ทาตพฺพํ. โน เจ อตฺถิ, อตฺตโน เภสชฺชํ อุปชฺฌายสฺส ปริจฺจชิตฺวา ทาตพฺพํ. อตฺตโนปิ อสนฺเต วุตฺตนเยน ปริเยสิตฺวา อุปชฺฌายสฺส สนฺตกํ กตฺวา ทาตพฺพํ. อุปชฺฌาเยนปิ สทฺธิวิหาริกสฺส มาตาปิตูสุ เอวเมว ปฏิปชฺชิตพฺพํ. เอส นโย อาจริยนฺเตวาสิเกสุปิ. อฺโปิ โย อาคนฺตุโก วา โจโร วา ยุทฺธปราชิโต อิสฺสโร วา าตเกหิ ปริจฺจตฺโต กปโณ วา คมิยมนุสฺโส วา คิลาโน หุตฺวา วิหารํ ปวิสติ, สพฺเพสํ อปจฺจาสีสนฺเตน เภสชฺชํ กาตพฺพํ.

สทฺธํ กุลํ โหติ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺายกํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส มาตาปิตุฏฺานิยํ, ตตฺร เจ โกจิ คิลาโน โหติ, ตสฺสตฺถาย วิสฺสาเสน ‘‘เภสชฺชํ กตฺวา ภนฺเต เทถา’’ติ วทนฺติ, เนว ทาตพฺพํ น กาตพฺพํ. อถ ปน กปฺปิยํ ตฺวา เอวํ ปุจฺฉนฺติ – ‘‘ภนฺเต, อสุกสฺส นาม โรคสฺส กึ เภสชฺชํ กโรนฺตี’’ติ? ‘‘อิทฺจิทฺจ คเหตฺวา กโรนฺตี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ มาตา คิลานา, เภสชฺชํ ตาว อาจิกฺขถา’’ติ เอวํ ปุจฺฉิเต ปน น อาจิกฺขิตพฺพํ. อฺมฺํ ปน กถา กาตพฺพา – ‘‘อาวุโส, อสุกสฺส นาม ภิกฺขุโน อิมสฺมึ โรเค กึ เภสชฺชํ กรึสู’’ติ? ‘‘อิทฺจิทฺจ ภนฺเต’’ติ. ตํ สุตฺวา อิตโร มาตุ เภสชฺชํ กโรติ, วฏฺฏเตว.

มหาปทุมตฺเถโรปิ กิร วสภรฺโ เทวิยา โรเค อุปฺปนฺเน เอกาย อิตฺถิยา อาคนฺตฺวา ปุจฺฉิโต ‘‘น ชานามี’’ติ อวตฺวา เอวเมว ภิกฺขูหิ สทฺธึ สมุลฺลเปสิ. ตํ สุตฺวา ตสฺสา เภสชฺชมกํสุ. วูปสนฺเต จ โรเค ติจีวเรน ตีหิ จ กหาปณสเตหิ สทฺธึ เภสชฺชจงฺโกฏกํ ปูเรตฺวา อาหริตฺวา เถรสฺส ปาทมูเล เปตฺวา ‘‘ภนฺเต, ปุปฺผปูชํ กโรถา’’ติ อาหํสุ. เถโร ‘‘อาจริยภาโค นามาย’’นฺติ กปฺปิยวเสน คาหาเปตฺวา ปุปฺผปูชํ อกาสิ. เอวํ ตาว เภสชฺเช ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

ปริตฺเต ปน ‘‘คิลานสฺส ปริตฺตํ กโรถ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต น กาตพฺพํ, ‘‘ภณถา’’ติ วุตฺเต ปน กาตพฺพํ. สเจ ปิสฺส เอวํ โหติ ‘‘มนุสฺสา นาม น ชานนฺติ, อกยิรมาเน วิปฺปฏิสาริโน ภวิสฺสนฺตี’’ติ กาตพฺพํ; ‘‘ปริตฺโตทกํ ปริตฺตสุตฺตํ กตฺวา เทถา’’ติ วุตฺเตน ปน เตสํเยว อุทกํ หตฺเถน จาเลตฺวา สุตฺตํ ปริมชฺเชตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ วิหารโต อุทกํ อตฺตโน สนฺตกํ วา สุตฺตํ เทติ, ทุกฺกฏํ. มนุสฺสา อุทกฺจ สุตฺตฺจ คเหตฺวา นิสีทิตฺวา ‘‘ปริตฺตํ ภณถา’’ติ วทนฺติ, กาตพฺพํ. โน เจ ชานนฺติ, อาจิกฺขิตพฺพํ. ภิกฺขูนํ นิสินฺนานํ ปาเทสุ อุทกํ อากิริตฺวา สุตฺตฺจ เปตฺวา คจฺฉนฺติ ‘‘ปริตฺตํ กโรถ, ปริตฺตํ ภณถา’’ติ น ปาทา อปเนตพฺพา. มนุสฺสา หิ วิปฺปฏิสาริโน โหนฺติ. อนฺโตคาเม คิลานสฺสตฺถาย วิหารํ เปเสนฺติ, ‘‘ปริตฺตํ ภณนฺตู’’ติ ภณิตพฺพํ. อนฺโตคาเม ราชเคหาทีสุ โรเค วา อุปทฺทเว วา อุปฺปนฺเน ปกฺโกสาเปตฺวา ภณาเปนฺติ, อาฏานาฏิยสุตฺตาทีนิ ภณิตพฺพานิ. ‘‘อาคนฺตฺวา คิลานสฺส สิกฺขาปทานิ เทนฺตุ, ธมฺมํ กเถนฺตุ. ราชนฺเตปุเร วา อมจฺจเคเห วา อาคนฺตฺวา สิกฺขาปทานิ เทนฺตุ, ธมฺมํ กเถนฺตู’’ติ เปสิเตปิ คนฺตฺวา สิกฺขาปทานิ ทาตพฺพานิ, ธมฺโม กเถตพฺโพ. ‘‘มตานํ ปริวารตฺถํ อาคจฺฉนฺตู’’ติ ปกฺโกสนฺติ, น คนฺตพฺพํ. สีวถิกทสฺสเน อสุภทสฺสเน จ มรณสฺสตึ ปฏิลภิสฺสามีติ กมฺมฏฺานสีเสน คนฺตุํ วฏฺฏติ. เอวํ ปริตฺเต ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

ปิณฺฑปาเต ปน – อนามฏฺปิณฺฑปาโต กสฺส ทาตพฺโพ, กสฺส น ทาตพฺโพ? มาตาปิตุนํ ตาว ทาตพฺโพ. สเจปิ กหาปณคฺฆนโก โหติ, สทฺธาเทยฺยวินิปาตนํ นตฺถิ. มาตาปิตุอุปฏฺากานํ เวยฺยาวจฺจกรสฺส ปณฺฑุปลาสสฺสาติ เอเตสมฺปิ ทาตพฺโพ. ตตฺถ ปณฺฑุปลาสสฺส ถาลเก ปกฺขิปิตฺวาปิ ทาตุํ วฏฺฏติ. ตํ เปตฺวา อฺเสํ อาคาริกานํ มาตาปิตุนมฺปิ น วฏฺฏติ. ปพฺพชิตปริโภโค หิ อาคาริกานํ เจติยฏฺานิโย. อปิจ อนามฏฺปิณฺฑปาโต นาเมส สมฺปตฺตสฺส ทามริกโจรสฺสาปิ อิสฺสรสฺสาปิ ทาตพฺโพ. กสฺมา? เต หิ อทียมาเนปิ ‘‘น เทนฺตี’’ติ อามสิตฺวา ทียมาเนปิ ‘‘อุจฺฉิฏฺกํ เทนฺตี’’ติ กุชฺฌนฺติ. กุทฺธา ชีวิตาปิ โวโรเปนฺติ, สาสนสฺสาปิ อนฺตรายํ กโรนฺติ. รชฺชํ ปตฺถยมานสฺส วิจรโต โจรนาคสฺส วตฺถุ เจตฺถ กเถตพฺพํ. เอวํ ปิณฺฑปาเต ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

ปฏิสนฺถาโร ปน กสฺส กาตพฺโพ, กสฺส น กาตพฺโพ? ปฏิสนฺถาโร นาม วิหารํ สมฺปตฺตสฺส ยสฺส กสฺสจิ อาคนฺตุกสฺส วา ทลิทฺทสฺส วา โจรสฺส วา อิสฺสรสฺส วา กาตพฺโพเยว. กถํ? อาคนฺตุกํ ตาว ขีณปริพฺพยํ วิหารํ สมฺปตฺตํ ทิสฺวา ปานียํ ทาตพฺพํ, ปาทมกฺขนเตลํ ทาตพฺพํ. กาเล อาคตสฺส ยาคุภตฺตํ, วิกาเล อาคตสฺส สเจ ตณฺฑุลา อตฺถิ; ตณฺฑุลา ทาตพฺพา. อเวลายํ สมฺปตฺโต ‘‘คจฺฉาหี’’ติ น วตฺตพฺโพ. สยนฏฺานํ ทาตพฺพํ. สพฺพํ อปจฺจาสีสนฺเตเนว กาตพฺพํ. ‘‘มนุสฺสา นาม จตุปจฺจยทายกา เอวํ สงฺคเห กยิรมาเน ปุนปฺปุนํ ปสีทิตฺวา อุปการํ กริสฺสนฺตี’’ติ จิตฺตํ น อุปฺปาเทตพฺพํ. โจรานํ ปน สงฺฆิกมฺปิ ทาตพฺพํ.

ปฏิสนฺถารานิสํสทีปนตฺถฺจ โจรนาควตฺถุ, ภาตรา สทฺธึ ชมฺพุทีปคตสฺส มหานาครฺโ วตฺถุ, ปิตุราชสฺส รชฺเช จตุนฺนํ อมจฺจานํ วตฺถุ, อภยโจรวตฺถูติ เอวมาทีนิ พหูนิ วตฺถูนิ มหาอฏฺกถายํ วิตฺถารโต วุตฺตานิ.

ตตฺรายํ เอกวตฺถุทีปนา – สีหฬทีเป กิร อภโย นาม โจโร ปฺจสตปริวาโร เอกสฺมึ าเน ขนฺธาวารํ พนฺธิตฺวา สมนฺตา ติโยชนํ อุพฺพาเสตฺวา วสติ. อนุราธปุรวาสิโน กทมฺพนทึ น อุตฺตรนฺติ, เจติยคิริมคฺเค ชนสฺจาโร อุปจฺฉินฺโน. อเถกทิวสํ โจโร ‘‘เจติยคิรึ วิลุมฺปิสฺสามี’’ติ อคมาสิ. อารามิกา ทิสฺวา ทีฆภาณกอภยตฺเถรสฺส อาโรเจสุํ. เถโร ‘‘สปฺปิผาณิตาทีนิ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘โจรานํ เทถ, ตณฺฑุลา อตฺถี’’ติ? ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต, สงฺฆสฺสตฺถาย อาหฏา ตณฺฑุลา จ ปตฺตสากฺจ โครโส จา’’ติ. ‘‘ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา โจรานํ เทถา’’ติ. อารามิกา ตถา กรึสุ. โจรา ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา ‘‘เกนายํ ปฏิสนฺถาโร กโต’’ติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘อมฺหากํ อยฺเยน อภยตฺเถเรนา’’ติ. โจรา เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อาหํสุ – ‘‘มยํ สงฺฆสฺส จ เจติยสฺส จ สนฺตกํ อจฺฉินฺทิตฺวา คเหสฺสามาติ อาคตา, ตุมฺหากํ ปน อิมินา ปฏิสนฺถาเรนมฺห ปสนฺนา, อชฺช ปฏฺาย วิหาเร ธมฺมิกา รกฺขา อมฺหากํ อายตฺตา โหตุ, นาครา อาคนฺตฺวา ทานํ เทนฺตุ, เจติยํ วนฺทนฺตู’’ติ. ตโต ปฏฺาย จ นาคเร ทานํ ทาตุํ อาคจฺฉนฺเต นทีตีเรเยว ปจฺจุคฺคนฺตฺวา รกฺขนฺตา วิหารํ เนนฺติ, วิหาเรปิ ทานํ เทนฺตานํ รกฺขํ กตฺวา ติฏฺนฺติ. เตปิ ภิกฺขูนํ ภุตฺตาวเสสํ โจรานํ เทนฺติ. คมนกาเลปิ เต โจรา นทีตีรํ ปาเปตฺวา นิวตฺตนฺติ.

อเถกทิวสํ ภิกฺขุสงฺเฆ ขียนกกถา อุปฺปนฺนา ‘‘เถโร อิสฺสรวตาย สงฺฆสฺส สนฺตกํ โจรานํ อทาสี’’ติ. เถโร สนฺนิปาตํ การาเปตฺวา อาห – ‘‘โจรา สงฺฆสฺส ปกติวฏฺฏฺจ เจติยสนฺตกฺจ อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหิสฺสามา’’ติ อาคมึสุ. อถ เนสํ มยา เอวํ น หริสฺสนฺตีติ เอตฺตโก นาม ปฏิสนฺถาโร กโต, ตํ สพฺพมฺปิ เอกโต สมฺปิณฺเฑตฺวา อคฺฆาเปถ. เตน การเณน อวิลุตฺตํ ภณฺฑํ เอกโต สมฺปิณฺเฑตฺวา อคฺฆาเปถาติ. ตโต สพฺพมฺปิ เถเรน ทินฺนกํ เจติยฆเร เอกํ วรโปตฺถกจิตฺตตฺถรณํ น อคฺฆติ. ตโต อาหํสุ – ‘‘เถเรน กตปฏิสนฺถาโร สุกโต โจเทตุํ วา สาเรตุํ วา น ลพฺภา, คีวา วา อวหาโร วา นตฺถี’’ติ. เอวํ มหานิสํโส ปฏิสนฺถาโรติ สลฺลกฺเขตฺวา กตฺตพฺโพ ปณฺฑิเตน ภิกฺขุนาติ.

๑๘๗. องฺคุลิปโตทกวตฺถุสฺมึ – อุตฺตนฺโตติ กิลมนฺโต. อนสฺสาสโกติ นิรสฺสาโส. อิมสฺมึ ปน วตฺถุสฺมึ ยาย อาปตฺติยา ภวิตพฺพํ สา ‘‘ขุทฺทเกสุ นิทิฏฺา’’ติ อิธ น วุตฺตา.

ตทนนฺตเร วตฺถุสฺมึ – โอตฺถริตฺวาติ อกฺกมิตฺวา. โส กิร เตหิ อากฑฺฒิยมาโน ปติโต. เอโก ตสฺส อุทรํ อภิรุหิตฺวา นิสีทิ. เสสาปิ ปนฺนรส ชนา ปถวิยํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อทูหลปาสาณา วิย มิคํ มาเรสุํ. ยสฺมา ปน เต กมฺมาธิปฺปายา, น มรณาธิปฺปายา; ตสฺมา ปาราชิกํ น วุตฺตํ.

ภูตเวชฺชกวตฺถุสฺมึ – ยกฺขํ มาเรสีติ ภูตวิชฺชากปากา ยกฺขคหิตํ โมเจตุกามา ยกฺขํ อาวาเหตฺวา มุฺจาติ วทนฺติ. โน เจ มุฺจติ, ปิฏฺเน วา มตฺติกาย วา รูปํ กตฺวา หตฺถปาทาทีนิ ฉินฺทนฺติ, ยํ ยํ ตสฺส ฉิชฺชติ ตํ ตํ ยกฺขสฺส ฉินฺนเมว โหติ. สีเส ฉินฺเน ยกฺโขปิ มรติ. เอวํ โสปิ มาเรสิ; ตสฺมา ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ. น เกวลฺจ ยกฺขเมว, โยปิ หิ สกฺกํ เทวราชํ มาเรยฺย, โสปิ ถุลฺลจฺจยเมว อาปชฺชติ.

วาฬยกฺขวตฺถุสฺมึ – วาฬยกฺขวิหารนฺติ ยสฺมึ วิหาเร วาโฬ จณฺโฑ ยกฺโข วสติ, ตํ วิหารํ. โย หิ เอวรูปํ วิหารํ อชานนฺโต เกวลํ วสนตฺถาย เปเสติ, อนาปตฺติ. โย มรณาธิปฺปาโย เปเสติ, โส อิตรสฺส มรเณน ปาราชิกํ, อมรเณน ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชติ. ยถา จ วาฬยกฺขวิหารํ; เอวํ ยตฺถ วาฬสีหพฺยคฺฆาทิมิคา วา อชครกณฺหสปฺปาทโย ทีฆชาติกา วา วสนฺติ, ตํ วาฬวิหารํ เปเสนฺตสฺสาปิ อาปตฺตานาปตฺติเภโท เวทิตพฺโพ. อยํ ปาฬิมุตฺตกนโย. ยถา จ ภิกฺขุํ วาฬยกฺขวิหารํ เปเสนฺตสฺส; เอวํ วาฬยกฺขมฺปิ ภิกฺขุสนฺติกํ เปเสนฺตสฺส อาปตฺตานาปตฺติเภโท เวทิตพฺโพ. เอเสว นโย วาฬกนฺตาราทิวตฺถูสุปิ. เกวลฺเหตฺถ ยสฺมึ กนฺตาเร วาฬมิคา วา ทีฆชาติกา วา อตฺถิ, โส วาฬกนฺตาโร. ยสฺมึ โจรา อตฺถิ, โส โจรกนฺตาโรติ เอวํ ปทตฺถมตฺตเมว นานํ. มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกฺจ นาเมตํ สณฺหํ, ปริยายกถาย น มุจฺจติ; ตสฺมา โย วเทยฺย ‘‘อสุกสฺมึ นาม โอกาเส โจโร นิสินฺโน, โย ตสฺส สีสํ ฉินฺทิตฺวา อาหรติ, โส ราชโต สกฺการวิเสสํ ลภตี’’ติ. ตสฺส เจตํ วจนํ สุตฺวา โกจิ นํ คนฺตฺวา มาเรติ, อยํ ปาราชิโก โหตีติ.

๑๘๘. ตํ มฺมาโนติ อาทีสุ โส กิร ภิกฺขุ อตฺตโน เวริภิกฺขุํ มาเรตุกาโม จินฺเตสิ – ‘‘อิมํ เม ทิวา มาเรนฺตสฺส น สุกรํ ภเวยฺย โสตฺถินา คนฺตุํ, รตฺตึ นํ มาเรสฺสามี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา รตฺตึ อาคมฺม พหูนํ สยิตฏฺาเน ตํ มฺมาโน ตเมว ชีวิตา โวโรเปสิ. อปโร ตํ มฺมาโน อฺํ, อปโร อฺํ ตสฺเสว สหายํ มฺมาโน ตํ, อปโร อฺํ ตสฺเสว สหายํ มฺมาโน อฺํ ตสฺส สหายเมว ชีวิตา โวโรเปสิ. สพฺเพสมฺปิ ปาราชิกเมว.

อมนุสฺสคหิตวตฺถูสุ ปเม วตฺถุสฺมึ ‘‘ยกฺขํ ปลาเปสฺสามี’’ติ ปหารํ อทาสิ, อิตโร ‘‘น ทานายํ วิรชฺฌิตุํ สมตฺโถ, มาเรสฺสามิ น’’นฺติ. เอตฺถ จ นมรณาธิปฺปายสฺส อนาปตฺติ วุตฺตาติ. น เอตฺตเกเนว อมนุสฺสคหิตสฺส ปหาโร ทาตพฺโพ, ตาลปณฺณํ ปน ปริตฺตสุตฺตํ วา หตฺเถ วา ปาเท วา พนฺธิตพฺพํ, รตนสุตฺตาทีนิ ปริตฺตานิ ภณิตพฺพานิ, ‘‘มา สีลวนฺตํ ภิกฺขุํ วิเหเหี’’ติ ธมฺมกถา กาตพฺพาติ. สคฺคกถาทีนิ อุตฺตานตฺถานิ. ยฺเหตฺถ วตฺตพฺพํ ตํ วุตฺตเมว.

๑๘๙. รุกฺขจฺเฉทนวตฺถุ อฏฺฏพนฺธนวตฺถุสทิสํ. อยํ ปน วิเสโส – โย รุกฺเขน โอตฺถโตปิ น มรติ, สกฺกา จ โหติ เอเกน ปสฺเสน รุกฺขํ เฉตฺวา ปถวึ วา ขนิตฺวา นิกฺขมิตุํ, หตฺเถ จสฺส วาสิ วา กุารี วา อตฺถิ, เตน อปิ ชีวิตํ ปริจฺจชิตพฺพํ, น จ รุกฺโข วา ฉินฺทิตพฺโพ, น ปถวี วา ขณิตพฺพา. กสฺมา? เอวํ กโรนฺโต หิ ปาจิตฺติยํ อาปชฺชติ, พุทฺธสฺส อาณํ ภฺชติ, น ชีวิตปริยนฺตํ สีลํ กโรติ. ตสฺมา อปิ ชีวิตํ ปริจฺจชิตพฺพํ, น จ สีลนฺติ ปริคฺคเหตฺวา น เอวํ กาตพฺพํ. อฺสฺส ปน ภิกฺขุโน รุกฺขํ วา ฉินฺทิตฺวา ปถวึ วา ขนิตฺวา ตํ นีหริตุํ วฏฺฏติ. สเจ อุทุกฺขลยนฺตเกน รุกฺขํ ปวฏฺเฏตฺวา นีหริตพฺโพ โหติ, ตํเยว รุกฺขํ ฉินฺทิตฺวา อุทุกฺขลํ คเหตพฺพนฺติ มหาสุมตฺเถโร อาห. อฺมฺปิ ฉินฺทิตฺวา คเหตุํ วฏฺฏตีติ มหาปทุมตฺเถโร. โสพฺภาทีสุ ปติตสฺสาปิ นิสฺเสณึ พนฺธิตฺวา อุตฺตารเณ เอเสว นโย. อตฺตนา ภูตคามํ ฉินฺทิตฺวา นิสฺเสณี น กาตพฺพา, อฺเสํ กตฺวา อุทฺธริตุํ วฏฺฏตีติ.

๑๙๐. ทายาลิมฺปนวตฺถูสุ – ทายํ อาลิมฺเปสุนฺติ วเน อคฺคึ อทํสุ. เอตฺถ ปน อุทฺทิสฺสานุทฺทิสฺสวเสน ปาราชิกานนฺตริยถุลฺลจฺจยปาจิตฺติวตฺถูนํ อนุรูปโต ปาราชิกาทีนิ อกุสลราสิภาโว จ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ‘‘อลฺลติณวนปฺปคุมฺพาทโย ฑยฺหนฺตู’’ติ อาลิมฺเปนฺตสฺส จ ปาจิตฺติยํ. ‘‘ทพฺพูปกรณานิ วินสฺสนฺตู’’ติ อาลิมฺเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ขิฑฺฑาธิปฺปาเยนาปิ ทุกฺกฏนฺติ สงฺเขปฏฺกถายํ วุตฺตํ. ‘‘ยํกิฺจิ อลฺลสุกฺขํ สอินฺทฺริยานินฺทฺริยํ ฑยฺหตู’’ติ อาลิมฺเปนฺตสฺส วตฺถุวเสน ปาราชิกถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยทุกฺกฏานิ เวทิตพฺพานิ.

ปฏคฺคิทานํ ปน ปริตฺตกรณฺจ ภควตา อนุฺาตํ, ตสฺมา อรฺเ วนกมฺมิเกหิ วา ทินฺนํ สยํ วา อุฏฺิตํ อคฺคึ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘ติณกุฏิโย มา วินสฺสนฺตู’’ติ ตสฺส อคฺคิโน ปฏิอคฺคึ ทาตุํ วฏฺฏติ, เยน สทฺธึ อาคจฺฉนฺโต อคฺคิ เอกโต หุตฺวา นิรุปาทาโน นิพฺพาติ. ปริตฺตมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ ติณกุฏิกานํ สมนฺตา ภูมิตจฺฉนํ ปริขาขณนํ วา, ยถา อาคโต อคฺคิ อุปาทานํ อลภิตฺวา นิพฺพาติ. เอตฺจ สพฺพํ อุฏฺิเตเยว อคฺคิสฺมึ กาตุํ วฏฺฏติ. อนุฏฺิเต อนุปสมฺปนฺเนหิ กปฺปิยโวหาเรน กาเรตพฺพํ. อุทเกน ปน นิพฺพาเปนฺเตหิ อปฺปาณกเมว อุทกํ อาสิฺจิตพฺพํ.

๑๙๑. อาฆาตนวตฺถุสฺมึ – ยถา เอกปฺปหารวจเน; เอวํ ‘‘ทฺวีหิ ปหาเรหี’’ติ อาทิวจเนสุปิ ปาราชิกํ เวทิตพฺพํ. ‘‘ทฺวีหี’’ติ วุตฺเต จ เอเกน ปหาเรน มาริเตปิ เขตฺตเมว โอติณฺณตฺตา ปาราชิกํ, ตีหิ มาริเต ปน วิสงฺเกตํ. อิติ ยถาปริจฺเฉเท วา ปริจฺเฉทพฺภนฺตเร วา อวิสงฺเกตํ, ปริจฺเฉทาติกฺกเม ปน สพฺพตฺถ วิสงฺเกตํ โหติ, อาณาปโก มุจฺจติ, วธกสฺเสว โทโส. ยถา จ ปหาเรสุ; เอวํ ปุริเสสุปิ ‘‘เอโก มาเรตู’’ติ วุตฺเต เอเกเนว มาริเต ปาราชิกํ, ทฺวีหิ มาริเต วิสงฺเกตํ. ‘‘ทฺเว มาเรนฺตู’’ติ วุตฺเต เอเกน วา ทฺวีหิ วา มาริเต ปาราชิกํ, ตีหิ มาริเต วิสงฺเกตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอโก สงฺคาเม เวเคน ธาวโต ปุริสสฺส สีสํ อสินา ฉินฺทติ, อสีสกํ กพนฺธํ ธาวติ, ตมฺโ ปหริตฺวา ปาเตสิ, กสฺส ปาราชิกนฺติ วุตฺเต อุปฑฺฒา เถรา ‘‘คมนูปจฺเฉทกสฺสา’’ติ อาหํสุ. อาภิธมฺมิกโคทตฺตตฺเถโร ‘‘สีสจฺเฉทกสฺสา’’ติ. เอวรูปานิปิ วตฺถูนิ อิมสฺส วตฺถุสฺส อตฺถทีปเน วตฺตพฺพานีติ.

๑๙๒. ตกฺกวตฺถุสฺมึ – อนิยเมตฺวา ‘‘ตกฺกํ ปาเยถา’’ติ วุตฺเต ยํ วา ตํ วา ตกฺกํ ปาเยตฺวา มาริเต ปาราชิกํ. นิยเมตฺวา ปน ‘‘โคตกฺกํ มหึสตกฺกํ อชิกาตกฺก’’นฺติ วา, ‘‘สีตํ อุณฺหํ ธูปิตํ อธูปิต’’นฺติ วา วุตฺเต ยํ วุตฺตํ, ตโต อฺํ ปาเยตฺวา มาริเต วิสงฺเกตํ.

โลณโสวีรกวตฺถุสฺมึ – โลณโสวีรกํ นาม สพฺพรสาภิสงฺขตํ เอกํ เภสชฺชํ. ตํ กิร กโรนฺตา หรีตกามลกวิภีตกกสาเว สพฺพธฺานิ สพฺพอปรณฺณานิ สตฺตนฺนมฺปิ ธฺานํ โอทนํ กทลิผลาทีนิ สพฺพผลานิ เวตฺตเกตกขชฺชูริกฬีราทโย สพฺพกฬีเร มจฺฉมํสขณฺฑานิ อเนกานิ จ มธุผาณิตสินฺธวโลณนิกฏุกาทีนิ เภสชฺชานิ ปกฺขิปิตฺวา กุมฺภิมุขํ ลิมฺปิตฺวา เอกํ วา ทฺเว วา ตีณิ วา สํวจฺฉรานิ เปนฺติ, ตํ ปริปจฺจิตฺวา ชมฺพุรสวณฺณํ โหติ. วาตกาสกุฏฺปณฺฑุภคนฺทราทีนํ สินิทฺธโภชนํ ภุตฺตานฺจ อุตฺตรปานํ ภตฺตชีรณกเภสชฺชํ ตาทิสํ นตฺถิ. ตํ ปเนตํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตมฺปิ วฏฺฏติ, คิลานานํ ปากติกเมว, อคิลานานํ ปน อุทกสมฺภินฺนํ ปานปริโภเคนาติ.

สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย

ตติยปาราชิกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. จตุตฺถปาราชิกํ

จตุสจฺจวิทู สตฺถา, จตุตฺถํ ยํ ปกาสยิ;

ปาราชิกํ ตสฺส ทานิ, ปตฺโต สํวณฺณนากฺกโม.

ยสฺมา ตสฺมา สุวิฺเยฺยํ, ยํ ปุพฺเพ จ ปกาสิตํ;

ตํ วชฺชยิตฺวา อสฺสาปิ, โหติ สํวณฺณนา อยํ.

วคฺคุมุทาตีริยภิกฺขุวตฺถุวณฺณนา

๑๙๓. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ…เป… คิหีนํ กมฺมนฺตํ อธิฏฺเมาติ คิหีนํ เขตฺเตสุ เจว อารามาทีสุ จ กตฺตพฺพกิจฺจํ อธิฏฺาม; ‘‘เอวํ กาตพฺพํ, เอวํ น กาตพฺพ’’นฺติ อาจิกฺขาม เจว อนุสาสาม จาติ วุตฺตํ โหติ. ทูเตยฺยนฺติ ทูตกมฺมํ. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺสาติ มนุสฺเส อุตฺติณฺณธมฺมสฺส; มนุสฺเส อติกฺกมิตฺวา พฺรหฺมตฺตํ วา นิพฺพานํ วา ปาปนกธมฺมสฺสาติ อตฺโถ. อุตฺตริมนุสฺสานํ วา เสฏฺปุริสานํ ฌายีนฺจ อริยานฺจ ธมฺมสฺส. อสุโก ภิกฺขูติอาทีสุ อตฺตนา เอวํ มนฺตยิตฺวา ปจฺฉา คิหีนํ ภาสนฺตา ‘‘พุทฺธรกฺขิโต นาม ภิกฺขุ ปมสฺส ฌานสฺส ลาภี, ธมฺมรกฺขิโต ทุติยสฺสา’’ติ เอวํ นามวเสเนว วณฺณํ ภาสึสูติ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ เอโสเยว โข อาวุโส เสยฺโยติ กมฺมนฺตาธิฏฺานํ ทูเตยฺยหรณฺจ พหุสปตฺตํ มหาสมารมฺภํ น จ สมณสารุปฺปํ. ตโต ปน อุภยโตปิ เอโส เอว เสยฺโย ปาสํสตโร สุนฺทรตโร โย อมฺหากํ คิหีนํ อฺมฺสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส วณฺโณ ภาสิโต. กึ วุตฺตํ โหติ? อิริยาปถํ สณฺเปตฺวา นิสินฺนํ วา จงฺกมนฺตํ วา ปุจฺฉนฺตานํ วา อปุจฺฉนฺตานํ วา คิหีนํ ‘‘อยํ อสุโก นาม ภิกฺขุ ปมสฺส ฌานสฺส ลาภี’’ติ เอวมาทินา นเยน โย อมฺหากํ อฺเน อฺสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส วณฺโณ ภาสิโต ภวิสฺสติ, เอโส เอว เสยฺโยติ. อนาคตสมฺพนฺเธ ปน อสติ น เอเตหิ โส ตสฺมึ ขเณ ภาสิโตว ยสฺมา น ยุชฺชติ, ตสฺมา อนาคตสมฺพนฺธํ กตฺวา ‘‘โย เอวํ ภาสิโต ภวิสฺสติ, โส เอว เสยฺโย’’ติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ลกฺขณํ ปน สทฺทสตฺถโต ปริเยสิตพฺพํ.

๑๙๔. วณฺณวา อเหสุนฺติ อฺโเยว เนสํ อภินโว สรีรวณฺโณ อุปฺปชฺชิ, เตน วณฺเณน วณฺณวนฺโต อเหสุํ. ปีณินฺทฺริยาติ ปฺจหิ ปสาเทหิ อภินิวิฏฺโกาสสฺส ปริปุณฺณตฺตา มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ อมิลาตภาเวน ปีณินฺทฺริยา. ปสนฺนมุขวณฺณาติ กิฺจาปิ อวิเสเสน วณฺณวนฺโต สรีรวณฺณโต ปน เนสํ มุขวณฺโณ อธิกตรํ ปสนฺโน; อจฺโฉ อนาวิโล ปริสุทฺโธติ อตฺโถ. วิปฺปสนฺนฉวิวณฺณาติ เยน จ เต มหากณิการปุปฺผาทิสทิเสน วณฺเณน วณฺณวนฺโต, ตาทิโส อฺเสมฺปิ มนุสฺสานํ วณฺโณ อตฺถิ. ยถา ปน อิเมสํ; เอวํ น เตสํ ฉวิวณฺโณ วิปฺปสนฺโน. เตน วุตฺตํ – ‘‘วิปฺปสนฺนฉวิวณฺณา’’ติ. อิติห เต ภิกฺขู เนว อุทฺเทสํ น ปริปุจฺฉํ น กมฺมฏฺานํ อนุยุฺชนฺตา. อถ โข กุหกตาย อภูตคุณสํวณฺณนาย ลทฺธานิ ปณีตโภชนานิ ภุฺชิตฺวา ยถาสุขํ นิทฺทารามตํ สงฺคณิการามตฺจ อนุยุฺชนฺตา อิมํ สรีรโสภํ ปาปุณึสุ, ยถา ตํ พาลา ภนฺตมิคปฺปฏิภาคาติ.

วคฺคุมุทาตีริยาติ วคฺคุมุทาตีรวาสิโน. กจฺจิ ภิกฺขเว ขมนียนฺติ ภิกฺขเว กจฺจิ ตุมฺหากํ อิทํ จตุจกฺกํ นวทฺวารํ สรีรยนฺตํ ขมนียํ สกฺกา ขมิตุํ สหิตุํ ปริหริตุํ น กิฺจิ ทุกฺขํ อุปฺปาเทตีติ. กจฺจิ ยาปนียนฺติ กจฺจิ สพฺพกิจฺเจสุ ยาเปตุํ คเมตุํ สกฺกา, น กิฺจิ อนฺตรายํ ทสฺเสตีติ. กุจฺฉิ ปริกนฺโตติ กุจฺฉิ ปริกนฺติโต วรํ ภเวยฺย; ‘‘ปริกตฺโต’’ติปิ ปาโ ยุชฺชติ. เอวํ วคฺคุมุทาตีริเย อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา อิทานิ ยสฺมา เตหิ กตกมฺมํ โจรกมฺมํ โหติ, ตสฺมา อายตึ อฺเสมฺปิ เอวรูปสฺส กมฺมสฺส อกรณตฺถํ อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ.

๑๙๕. อามนฺเตตฺวา จ ปน ‘‘ปฺจิเม ภิกฺขเว มหาโจรา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สนฺโต สํวิชฺชมานาติ อตฺถิ เจว อุปลพฺภนฺติ จาติ วุตฺตํ โหติ. อิธาติ อิมสฺมึ สตฺตโลเก. เอวํ โหตีติ เอวํ ปุพฺพภาเค อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ. กุทาสฺสุ นามาหนฺติ เอตฺถ สุอิติ นิปาโต; กุทา นามาติ อตฺโถ. โส อปเรน สมเยนาติ โส ปุพฺพภาเค เอวํ จินฺเตตฺวา อนุกฺกเมน ปริสํ วฑฺเฒนฺโต ปนฺถทูหนกมฺมํ ปจฺจนฺติมคามวิโลปนฺติ เอวมาทีนิ กตฺวา เวปุลฺลปฺปตฺตปริโส หุตฺวา คาเมปิ อคาเม, ชนปเทปิ อชนปเท กโรนฺโต หนนฺโต ฆาเตนฺโต ฉินฺทนฺโต เฉทาเปนฺโต ปจนฺโต ปาเจนฺโต.

อิติ พาหิรกมหาโจรํ ทสฺเสตฺวา เตน สทิเส สาสเน ปฺจ มหาโจเร ทสฺเสตุํ ‘‘เอวเมว โข’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปาปภิกฺขุโนติ อฺเสุ าเนสุ มูลจฺฉินฺโน ปาราชิกปฺปตฺโต ‘‘ปาปภิกฺขู’’ติ วุจฺจติ. อิธ ปน ปาราชิกํ อนาปนฺโน อิจฺฉาจาเร ิโต ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ มทฺทิตฺวา วิจรนฺโต ‘‘ปาปภิกฺขู’’ติ อธิปฺเปโต. ตสฺสาปิ พาหิรกโจรสฺส วิย ปุพฺพภาเค เอวํ โหติ – ‘‘กุทาสฺสุ นามาหํ…เป… ปริกฺขาราน’’นฺติ. ตตฺถ สกฺกโตติ สกฺการปฺปตฺโต. ครุกโตติ ครุการปฺปตฺโต. มานิโตติ มนสา ปิยายิโต. ปูชิโตติ จตุปจฺจยาภิหารปูชาย ปูชิโต. อปจิโตติ อปจิติปฺปตฺโต. ตตฺถ ยสฺส จตฺตาโร ปจฺจเย สกฺกริตฺวา สุฏฺุ อภิสงฺขเต ปณีตปณีเต กตฺวา เทนฺติ, โส สกฺกโต. ยสฺมึ ครุภาวํ ปจฺจุเปตฺวา เทนฺติ, โส ครุกโต. ยํ มนสา ปิยายนฺติ, โส มานิโต. ยสฺส สพฺพมฺเปตํ กโรนฺติ, โส ปูชิโต. ยสฺส อภิวาทนปจฺจุฏฺานอฺชลิกมฺมาทิวเสน ปรมนิปจฺจการํ กโรนฺติ, โส อปจิโต. อิมสฺส จ ปน สพฺพมฺปิ อิมํ โลกามิสํ ปตฺถยมานสฺส เอวํ โหติ.

โส อปเรน สมเยนาติ โส ปุพฺพภาเค เอวํ จินฺเตตฺวา อนุกฺกเมน สิกฺขาย อติพฺพคารเว อุทฺธเต อุนฺนเฬ จปเล มุขเร วิกิณฺณวาเจ มุฏฺสฺสตี อสมฺปชาเน ปากตินฺทฺริเย อาจริยุปชฺฌาเยหิ ปริจฺจตฺตเก ลาภครุเก ปาปภิกฺขู สงฺคณฺหิตฺวา อิริยาปถสณฺปนาทีนิ กุหกวตฺตานิ สิกฺขาเปตฺวา ‘‘อยํ เถโร อสุกสฺมึ นาม เสนาสเน วสฺสํ อุปคมฺม วตฺตปฏิปตฺตึ ปูรยมาโน วสฺสํ วสิตฺวา นิคฺคโต’’ติ โลกสมฺมตเสนาสนสํวณฺณนาทีหิ อุปาเยหิ โลกํ ปริปาเจตุํ ปฏิพเลหิ ชาตกาทีสุ กตปริจเยหิ สรสมฺปนฺเนหิ ปาปภิกฺขูหิ สํวณฺณิยมานคุโณ หุตฺวา สเตน วา สหสฺเสน วา ปริวุโต…เป… เภสชฺชปริกฺขารานํ. อยํ ภิกฺขเว ปโม มหาโจโรติ อยํ สนฺธิจฺเฉทาทิโจรโก วิย น เอกํ กุลํ น ทฺเว, อถ โข มหาชนํ วฺเจตฺวา จตุปจฺจยคหณโต ‘‘ปโม มหาโจโร’’ติ เวทิตพฺโพ. เย ปน สุตฺตนฺติกา วา อาภิธมฺมิกา วา วินยธรา วา ภิกฺขู ภิกฺขาจาเร อสมฺปชฺชมาเน ปาฬึ วาเจนฺตา อฏฺกถํ กเถนฺตา อนุโมทนาย ธมฺมกถาย อิริยาปถสมฺปตฺติยา จ โลกํ ปสาเทนฺตา ชนปทจาริกํ จรนฺติ สกฺกตา ครุกตา มานิตา ปูชิตา อปจิตา, เต ‘‘ตนฺติปเวณิฆฏนกา สาสนโชตกา’’ติ เวทิตพฺพา.

ตถาคตปฺปเวทิตนฺติ ตถาคเตน ปฏิวิทฺธํ ปจฺจกฺขกตํ ชานาปิตํ วา. อตฺตโน ทหตีติ ปริสมชฺเฌ ปาฬิฺจ อฏฺกถฺจ สํสนฺทิตฺวา มธุเรน สเรน ปสาทนียํ สุตฺตนฺตํ กเถตฺวา ธมฺมกถาวเสน อจฺฉริยพฺภุตชาเตน วิฺูชเนน ‘‘อโห, ภนฺเต, ปาฬิ จ อฏฺกถา จ สุปริสุทฺธา, กสฺส สนฺติเก อุคฺคณฺหิตฺถา’’ติ ปุจฺฉิโต ‘‘โก อมฺหาทิเส อุคฺคหาเปตุํ สมตฺโถ’’ติ อาจริยํ อนุทฺทิสิตฺวา อตฺตนา ปฏิวิทฺธํ สยมฺภุาณาธิคตํ ธมฺมวินยํ ปเวเทติ. อยํ ตถาคเตน สตสหสฺสกปฺปาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺเขยฺยานิ ปารมิโย ปูเรตฺวา กิจฺเฉน กสิเรน ปฏิวิทฺธธมฺมตฺเถนโก ทุติโย มหาโจโร.

สุทฺธํ พฺรหฺมจารินฺติ ขีณาสวภิกฺขุํ. ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตนฺติ นิรุปกฺกิเลสํ เสฏฺจริยํ จรนฺตํ; อฺมฺปิ วา อนาคามึ อาทึ กตฺวา ยาว สีลวนฺตํ ปุถุชฺชนํ อวิปฺปฏิสาราทิวตฺถุกํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตํ. อมูลเกน อพฺรหฺมจริเยน อนุทฺธํเสตีติ ตสฺมึ ปุคฺคเล อวิชฺชมาเนน อนฺติมวตฺถุนา อนุวทติ โจเทติ; อยํ วิชฺชมานคุณมกฺขี อริยคุณตฺเถนโก ตติโย มหาโจโร.

ครุภณฺฑานิ ครุปริกฺขารานีติ ยถา อทินฺนาทาเน ‘‘จตุโร ชนา สํวิธาย ครุภณฺฑํ อวาหรุ’’นฺติ (ปริ. ๔๗๙) เอตฺถ ปฺจมาสกคฺฆนกํ ‘‘ครุภณฺฑ’’นฺติ วุจฺจติ, อิธ ปน น เอวํ. อถ โข ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, อวิสฺสชฺชิยานิ น วิสฺสชฺเชตพฺพานิ สงฺเฆน วา คเณน วา ปุคฺคเลน วา. วิสฺสชฺชิตานิปิ อวิสฺสชฺชิตานิ โหนฺติ. โย วิสฺสชฺเชยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. กตมานิ ปฺจ? อาราโม, อารามวตฺถุ…เป… ทารุภณฺฑํ, มตฺติกาภณฺฑ’’นฺติ วจนโต อวิสฺสชฺชิตพฺพตฺตา ครุภณฺฑานิ. ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, อเวภงฺคิยานิ น วิภชิตพฺพานิ สงฺเฆน วา คเณน วา ปุคฺคเลน วา. วิภตฺตานิปิ อวิภตฺตานิ โหนฺติ. โย วิภเชยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. กตมานิ ปฺจ? อาราโม, อารามวตฺถุ…เป… ทารุภณฺฑํ, มตฺติกาภณฺฑ’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๒) วจนโต อเวภงฺคิยตฺตา สาธารณปริกฺขารภาเวน ครุปริกฺขารานิ. อาราโม อารามวตฺถูติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ ตํ สพฺพํ ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, อวิสฺสชฺชิยานี’’ติ ขนฺธเก อาคตสุตฺตวณฺณนายเมว ภณิสฺสาม. เตหิ คิหี สงฺคณฺหาตีติ ตานิ ทตฺวา ทตฺวา คิหีํ สงฺคณฺหาติ อนุคฺคณฺหาติ. อุปลาเปตีติ ‘‘อโห อมฺหากํ อยฺโย’’ติ เอวํ ลปนเก อนุพนฺธนเก สสฺเนเห กโรติ. อยํ อวิสฺสชฺชิยํ อเวภงฺคิยฺจ ครุปริกฺขารํ ตถาภาวโต เถเนตฺวา คิหิ สงฺคณฺหนโก จตุตฺโถ มหาโจโร. โส จ ปนายํ อิมํ ครุภณฺฑํ กุลสงฺคณฺหนตฺถํ วิสฺสชฺเชนฺโต กุลทูสกทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. ปพฺพาชนียกมฺมารโห จ โหติ. ภิกฺขุสงฺฆํ อภิภวิตฺวา อิสฺสรวตาย วิสฺสชฺเชนฺโต ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชติ. เถยฺยจิตฺเตน วิสฺสชฺเชนฺโต ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพติ.

อยํ อคฺโค มหาโจโรติ อยํ อิเมสํ โจรานํ เชฏฺโจโร; อิมินา สทิโส โจโร นาม นตฺถิ, โย ปฺจินฺทฺริยคฺคหณาตีตํ อติสณฺหสุขุมํ โลกุตฺตรธมฺมํ เถเนติ. กึ ปน สกฺกา โลกุตฺตรธมฺโม หิรฺสุวณฺณาทีนิ วิย วฺเจตฺวา เถเนตฺวา คเหตุนฺติ? น สกฺกา, เตเนวาห – ‘‘โย อสนฺตํ อภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปตี’’ติ. อยฺหิ อตฺตนิ อสนฺตํ ตํ ธมฺมํ เกวลํ ‘‘อตฺถิ มยฺหํ เอโส’’ติ อุลฺลปติ, น ปน สกฺโกติ านา จาเวตุํ, อตฺตนิ วา สํวิชฺชมานํ กาตุํ. อถ กสฺมา โจโรติ วุตฺโตติ? ยสฺมา ตํ อุลฺลปิตฺวา อสนฺตสมฺภาวนาย อุปฺปนฺเน ปจฺจเย คณฺหาติ. เอวฺหิ คณฺหตา เต ปจฺจยา สุขุเมน อุปาเยน วฺเจตฺวา เถเนตฺวา คหิตา โหนฺติ. เตเนวาห – ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ? เถยฺยาย โว ภิกฺขเว รฏฺปิณฺโฑ ภุตฺโต’’ติ. อยฺหิ เอตฺถ อตฺโถ – ยํ อโวจุมฺห – ‘‘อยํ อคฺโค มหาโจโร, โย อสนฺตํ อภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปตี’’ติ. ตํ กิสฺส เหตูติ เกน การเณน เอตํ อโวจุมฺหาติ เจ. ‘‘เถยฺยาย โว ภิกฺขเว รฏฺปิณฺโฑ ภุตฺโต’’ติ ภิกฺขเว ยสฺมา โส เตน รฏฺปิณฺโฑ เถยฺยาย เถยฺยจิตฺเตน ภุตฺโต โหติ. เอตฺถ หิ โวกาโร ‘‘เย หิ โว อริยา อรฺวนปตฺถานี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๕-๓๖) วิย ปทปูรณมตฺเต นิปาโต. ตสฺมา ‘‘ตุมฺเหหิ ภุตฺโต’’ติ เอวมสฺส อตฺโถ น ทฏฺพฺโพ.

อิทานิ ตเมวตฺถํ คาถาหิ วิภูตตรํ กโรนฺโต ‘‘อฺถา สนฺต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อฺถา สนฺตนฺติ อปริสุทฺธกายสมาจาราทิเกน อฺเนากาเรน สนฺตํ. อฺถา โย ปเวทเยติ ปริสุทฺธกายสมาจาราทิเกน อฺเน อากาเรน โย ปเวเทยฺย. ‘‘ปรมปริสุทฺโธ อหํ, อตฺถิ เม อพฺภนฺตเร โลกุตฺตรธมฺโม’’ติ เอวํ ชานาเปยฺย. ปเวเทตฺวา จ ปน ตาย ปเวทนาย อุปฺปนฺนํ โภชนํ อรหา วิย ภุฺชติ. นิกจฺจ กิตวสฺเสว ภุตฺตํ เถยฺเยน ตสฺส ตนฺติ นิกจฺจาติ วฺเจตฺวา อฺถา สนฺตํ อฺถา ทสฺเสตฺวา. อคุมฺพอคจฺฉภูตเมว สาขาปลาสปลฺลวาทิจฺฉาทเนน คุมฺพมิว คจฺฉมิว จ อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา. กิตวสฺเสวาติ วฺจกสฺส เกราฏิกสฺส คุมฺพคจฺฉสฺาย อรฺเ อาคตาคเต สกุเณ คเหตฺวา ชีวิตกปฺปกสฺส สากุณิกสฺเสว. ภุตฺตํ เถยฺเยน ตสฺส ตนฺติ ตสฺสาปิ อนรหนฺตสฺเสว สโต อรหนฺตภาวํ ทสฺเสตฺวา ลทฺธโภชนํ ภุฺชโต; ยํ ตํ ภุตฺตํ ตํ ยถา สากุณิกกิตวสฺส นิกจฺจ วฺเจตฺวา สกุณคฺคหณํ, เอวํ มนุสฺเส วฺเจตฺวา ลทฺธสฺส โภชนสฺส ภุตฺตตฺตา เถยฺเยน ภุตฺตํ นาม โหติ.

อิมํ ปน อตฺถวสํ อชานนฺตา เย เอวํ ภุฺชนฺติ, กาสาวกณฺา…เป… นิรยํ เต อุปปชฺชเร กาสาวกณฺาติ กาสาเวน เวิตกณฺา. เอตฺตกเมว อริยทฺธชธารณมตฺตํ, เสสํ สามฺํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ภวิสฺสนฺติ โข ปนานนฺท อนาคตมทฺธานํ โคตฺรภุโน กาสาวกณฺา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๘๐) เอวํ วุตฺตทุสฺสีลานํ เอตํ อธิวจนํ. ปาปธมฺมาติ ลามกธมฺมา. อสฺตาติ กายาทีหิ อสฺตา. ปาปาติ ลามกปุคฺคลา. ปาเปหิ กมฺเมหีติ เตหิ กรณกาเล อาทีนวํ อทิสฺวา กเตหิ ปรวฺจนาทีหิ ปาปกมฺเมหิ. นิรยํ เต อุปปชฺชเรติ นิรสฺสาทํ ทุคฺคตึ เต อุปปชฺชนฺติ; ตสฺมา เสยฺโย อโยคุโฬติ คาถา. ตสฺสตฺโถ – สจายํ ทุสฺสีโล อสฺโต อิจฺฉาจาเร ิโต กุหนาย โลกํ วฺจโก ปุคฺคโล ตตฺตํ อคฺคิสิขูปมํ อโยคุฬํ ภุฺเชยฺย อชฺโฌหเรยฺย, ตสฺส ยฺเจตํ รฏฺปิณฺฑํ ภุฺเชยฺย, ยฺเจตํ อโยคุฬํ, เตสุ ทฺวีสุ อโยคุโฬว ภุตฺโต เสยฺโย สุนฺทรตโร ปณีตตโร จ ภเวยฺย, น หิ อโยคุฬสฺส ภุตฺตตฺตา สมฺปราเย สพฺพฺุตาเณนาปิ ทุชฺชานปริจฺเฉทํ ทุกฺขํ อนุภวติ. เอวํ ปฏิลทฺธสฺส ปน ตสฺส รฏฺปิณฺฑสฺส ภุตฺตตฺตา สมฺปราเย วุตฺตปฺปการํ ทุกฺขํ อนุโภติ, อยฺหิ โกฏิปฺปตฺโต มิจฺฉาชีโวติ.

เอวํ ปาปกิริยาย อนาทีนวทสฺสาวีนํ อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา ‘‘อถ โข ภควา วคฺคุมุทาตีริเย ภิกฺขู อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ทุพฺภรตาย ทุปฺโปสตาย…เป… อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถา’’ติ จ วตฺวา จตุตฺถปาราชิกํ ปฺเปนฺโต ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อนภิชาน’’นฺติ อาทิมาห.

เอวํ มูลจฺเฉชฺชวเสน ทฬฺหํ กตฺวา จตุตฺถปาราชิเก ปฺตฺเต อปรมฺปิ อนุปฺปฺตฺตตฺถาย อธิมานวตฺถุ อุทปาทิ. ตสฺสุปฺปตฺติทีปนตฺถํ เอตํ วุตฺตํ – ‘‘เอวฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ โหตี’’ติ.

อธิมานวตฺถุวณฺณนา

๑๙๖. ตตฺถ อทิฏฺเ ทิฏฺสฺิโนติ อรหตฺเต าณจกฺขุนา อทิฏฺเเยว ‘‘ทิฏฺํ อมฺเหหิ อรหตฺต’’นฺติ ทิฏฺสฺิโน หุตฺวา. เอส นโย อปฺปตฺตาทีสุ. อยํ ปน วิเสโส – อปฺปตฺเตติ อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปตฺติวเสน อปฺปตฺเต. อนธิคเตติ มคฺคภาวนาย อนธิคเต; อปฺปฏิลทฺเธติปิ อตฺโถ. อสจฺฉิกเตติ อปฺปฏิวิทฺเธ ปจฺจเวกฺขณวเสน วา อปฺปจฺจกฺขกเต. อธิมาเนนาติ อธิคตมาเนน; ‘‘อธิคตา มย’’นฺติ เอวํ อุปฺปนฺนมาเนนาติ อตฺโถ, อธิกมาเนน วา ถทฺธมาเนนาติ อตฺโถ. อฺํ พฺยากรึสูติ อรหตฺตํ พฺยากรึสุ; ‘‘ปตฺตํ อาวุโส อมฺเหหิ อรหตฺตํ, กตํ กรณีย’’นฺติ ภิกฺขูนํ อาโรเจสุํ. เตสํ มคฺเคน อปฺปหีนกิเลสตฺตา เกวลํ สมถวิปสฺสนาพเลน วิกฺขมฺภิตกิเลสานํ อปเรน สมเยน ตถารูปปจฺจยสมาโยเค ราคาย จิตฺตํ นมติ; ราคตฺถาย นมตีติ อตฺโถ. เอส นโย อิตเรสุ.

ตฺจ โข เอตํ อพฺโพหาริกนฺติ ตฺจ โข เอตํ เตสํ อฺพฺยากรณํ อพฺโพหาริกํ อาปตฺติปฺาปเน โวหารํ น คจฺฉติ; อาปตฺติยา องฺคํ น โหตีติ อตฺโถ.

กสฺส ปนายํ อธิมาโน อุปฺปชฺชติ, กสฺส นุปฺปชฺชตีติ? อริยสาวกสฺส ตาว นุปฺปชฺชติ โส หิ มคฺคผลนิพฺพานปหีนกิเลสอวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขเณน สฺชาตโสมนสฺโส อริยคุณปฏิเวเธ นิกฺกงฺโข. ตสฺมา โสตาปนฺนาทีนํ ‘‘อหํ สกทาคามี’’ติอาทิวเสน อธิมาโน นุปฺปชฺชติ. ทุสฺสีลสฺส นุปฺปชฺชติ, โส หิ อริยคุณาธิคเม นิราโสว. สีลวโตปิ ปริจฺจตฺตกมฺมฏฺานสฺส นิทฺทารามตาทิมนุยุตฺตสฺส นุปฺปชฺชติ. สุปริสุทฺธสีลสฺส ปน กมฺมฏฺาเน อปฺปมตฺตสฺส นามรูปํ ววตฺถเปตฺวา ปจฺจยปริคฺคเหน วิติณฺณกงฺขสฺส ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺตสฺส อารทฺธวิปสฺสกสฺส อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน จ สุทฺธสมถลาภึ วา สุทฺธวิปสฺสนาลาภึ วา อนฺตรา เปติ, โส หิ ทสปิ วีสติปิ ตึสมฺปิ วสฺสานิ กิเลสสมุทาจารํ อปสฺสิตฺวา ‘‘อหํ โสตาปนฺโน’’ติ วา ‘‘สกทาคามี’’ติ วา ‘‘อนาคามี’’ติ วา มฺติ. สมถวิปสฺสนาลาภึ ปน อรหตฺเตเยว เปติ. ตสฺส หิ สมาธิพเลน กิเลสา วิกฺขมฺภิตา, วิปสฺสนาพเลน สงฺขารา สุปริคฺคหิตา, ตสฺมา สฏฺิมฺปิ วสฺสานิ อสีติมฺปิ วสฺสานิ วสฺสสตมฺปิ กิเลสา น สมุทาจรนฺติ, ขีณาสวสฺเสว จิตฺตจาโร โหติ. โส เอวํ ทีฆรตฺตํ กิเลสสมุทาจารํ อปสฺสนฺโต อนฺตรา อตฺวาว ‘‘อรหา อห’’นฺติ มฺตีติ.

สวิภงฺคสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๙๗. อนภิชานนฺติ น อภิชานํ. ยสฺมา ปนายํ อนภิชานํ สมุทาจรติ, สฺวสฺส สนฺตาเน อนุปฺปนฺโน าเณน จ อสจฺฉิกโตติ อภูโต โหติ. เตนสฺส ปทภาชเน ‘‘อสนฺตํ อภูตํ อสํวิชฺชมาน’’นฺติ วตฺวา ‘‘อชานนฺโต อปสฺสนฺโต’’ติ วุตฺตํ.

อุตฺตริมนุสฺสธมฺมนฺติ อุตฺตริมนุสฺสานํ ฌายีนฺเจว อริยานฺจ ธมฺมํ. อตฺตุปนายิกนฺติ อตฺตนิ ตํ อุปเนติ, อตฺตานํ วา ตตฺถ อุปเนตีติ อตฺตุปนายิโก, ตํ อตฺตุปนายิกํ; เอวํ กตฺวา สมุทาจเรยฺยาติ สมฺพนฺโธ. ปทภาชเน ปน ยสฺมา อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม นาม ฌานํ วิโมกฺขํ สมาธิ สมาปตฺติ าณทสฺสนํ…เป… สุฺาคาเร อภิรตีติ เอวํ ฌานาทโย อเนกธมฺมา วุตฺตา. ตสฺมา เตสํ สพฺเพสํ วเสน อตฺตุปนายิกภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เต วา กุสเล ธมฺเม อตฺตนิ อุปเนตี’’ติ พหุวจนนิทฺเทสํ อกาสิ. ตตฺถ ‘‘เอเต ธมฺมา มยิ สนฺทิสฺสนฺตี’’ติ สมุทาจรนฺโต อตฺตนิ อุปเนติ. ‘‘อหํ เอเตสุ สนฺทิสฺสามี’’ติ สมุทาจรนฺโต อตฺตานํ เตสุ อุปเนตีติ เวทิตพฺโพ.

อลมริยาณทสฺสนนฺติ เอตฺถ โลกิยโลกุตฺตรา ปฺา ชานนฏฺเน าณํ, จกฺขุนา ทิฏฺมิว ธมฺมํ ปจฺจกฺขกรณโต ทสฺสนฏฺเน ทสฺสนนฺติ าณทสฺสนํ. อริยํ วิสุทฺธํ อุตฺตมํ าณทสฺสนนฺติ อริยาณทสฺสนํ. อลํ ปริยตฺตํ กิเลสวิทฺธํสนสมตฺถํ อริยาณทสฺสนเมตฺถ, ฌานาทิเภเท อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม อลํ วา อริยาณทสฺสนมสฺสาติ อลมริยาณทสฺสโน, ตํ อลมริยาณทสฺสนํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมนฺติ เอวํ ปทตฺถสมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ เยน าณทสฺสเนน โส อลมริยาณทสฺสโนติ วุจฺจติ. ตเทว ทสฺเสตุํ ‘‘าณนฺติ ติสฺโส วิชฺชา, ทสฺสนนฺติ ยํ าณํ ตํ ทสฺสนํ; ยํ ทสฺสนํ ตํ าณ’’นฺติ วิชฺชาสีเสน ปทภาชนํ วุตฺตํ. มหคฺคตโลกุตฺตรา ปเนตฺถ สพฺพาปิ ปฺา ‘‘าณ’’นฺติ เวทิตพฺพา.

สมุทาจเรยฺยาติ วุตฺตปฺปการเมตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อตฺตุปนายิกํ กตฺวา อาโรเจยฺย. อิตฺถิยา วาติอาทิ ปน อาโรเจตพฺพปุคฺคลนิทสฺสนํ. เอเตสฺหิ อาโรจิเต อาโรจิตํ โหติ น เทวมารพฺรหฺมานํ, นาปิ เปตยกฺขติรจฺฉานคตานนฺติ. อิติ ชานามิ อิติ ปสฺสามีติ สมุทาจรณาการนิทสฺสนเมตํ. ปทภาชเน ปนสฺส ‘‘ชานามหํ เอเต ธมฺเม, ปสฺสามหํ เอเต ธมฺเม’’ติ อิทํ เตสุ ฌานาทีสุ ธมฺเมสุ ชานนปสฺสนานํ ปวตฺติทีปนํ, ‘‘อตฺถิ จ เม เอเต ธมฺมา’’ติอาทิ อตฺตุปนายิกภาวทีปนํ.

๑๙๘. ตโต อปเรน สมเยนาติ อาปตฺติปฏิชานนสมยทสฺสนเมตํ. อยํ ปน อาโรจิตกฺขเณเยว ปาราชิกํ อาปชฺชติ. อาปตฺตึ ปน อาปนฺโน ยสฺมา ปเรน โจทิโต วา อโจทิโต วา ปฏิชานาติ; ตสฺมา ‘‘สมนุคฺคาหิยมาโน วา อสมนุคฺคาหิยมาโน วา’’ติ วุตฺตํ.

ตตฺถ สมนุคฺคาหิยมาเน ตาว – กึ เต อธิคตนฺติ อธิคมปุจฺฉา; ฌานวิโมกฺขาทีสุ, โสตาปตฺติมคฺคาทีสุ วา กึ ตยา อธิคตนฺติ. กินฺติ เต อธิคตนฺติ อุปายปุจฺฉา. อยฺหิ เอตฺถาธิปฺปาโย – กึ ตยา อนิจฺจลกฺขณํ ธุรํ กตฺวา อธิคตํ, ทุกฺขานตฺตลกฺขเณสุ อฺตรํ วา? กึ วา สมาธิวเสน อภินิวิสิตฺวา, อุทาหุ วิปสฺสนาวเสน? ตถา กึ รูเป อภินิวิสิตฺวา, อุทาหุ อรูเป? กึ วา อชฺฌตฺตํ อภินิวิสิตฺวา, อุทาหุ พหิทฺธาติ? กทา เต อธิคตนฺติ กาลปุจฺฉา. ปุพฺพณฺหมชฺฌนฺหิกาทีสุ กตรสฺมึ กาเลติ วุตฺตํ โหติ? กตฺถ เต อธิคตนฺติ โอกาสปุจฺฉา. กตรสฺมึ โอกาเส, กึ รตฺติฏฺาเน, ทิวาฏฺาเน, รุกฺขมูเล, มณฺฑเป, กตรสฺมึ วา วิหาเรติ วุตฺตํ โหติ. กตเม เต กิเลสา ปหีนาติ ปหีนกิเลสปุจฺฉา. กตรมคฺควชฺฌา ตว กิเลสา ปหีนาติ วุตฺตํ โหติ. กตเมสํ ตฺวํ ธมฺมานํ ลาภีติ ปฏิลทฺธธมฺมปุจฺฉา. ปมมคฺคาทีสุ กตเมสํ ธมฺมานํ ตฺวํ ลาภีติ วุตฺตํ โหติ.

ตสฺมา อิทานิ เจปิ โกจิ ภิกฺขุ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาธิคมํ พฺยากเรยฺย, น โส เอตฺตาวตาว สกฺกาตพฺโพ. อิเมสุ ปน ฉสุ าเนสุ โสธนตฺถํ วตฺตพฺโพ – ‘‘กึ เต อธิคตํ, กึ ฌานํ, อุทาหุ วิโมกฺขาทีสุ อฺตร’’นฺติ? โย หิ เยน อธิคโต ธมฺโม, โส ตสฺส ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อิทํ นาม เม อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กินฺติ เต อธิคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘อนิจฺจลกฺขณาทีสุ กึ ธุรํ กตฺวา อฏฺตึสาย วา อารมฺมเณสุ รูปารูปอชฺฌตฺตพหิทฺธาทิเภเทสุ วา ธมฺเมสุ เกน มุเขน อภินิวิสิตฺวา’’ติ โย หิ ยสฺสาภินิเวโส, โส ตสฺส ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อยํ นาม เม อภินิเวโส เอวํ มยา อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กทา เต อธิคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ ปุพฺพณฺเห, อุทาหุ มชฺฌนฺหิกาทีสุ อฺตรสฺมึ กาเล’’ติ สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคตกาโล ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อสุกสฺมึ นาม กาเล อธิคตนฺติ วทติ, ตโต ‘‘กตฺถ เต อธิคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ ทิวาฏฺาเน, อุทาหุ รตฺติฏฺานาทีสุ อฺตรสฺมึ โอกาเส’’ติ สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคโตกาโส ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อสุกสฺมึ นาม เม โอกาเส อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กตเม เต กิเลสา ปหีนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ ปมมคฺควชฺฌา, อุทาหุ ทุติยาทิมคฺควชฺฌา’’ติ สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคตมคฺเคน ปหีนกิเลสา ปากฏา โหนฺติ. สเจ ‘‘อิเม นาม เม กิเลสา ปหีนา’’ติ วทติ, ตโต ‘‘กตเมสํ ตฺวํ ธมฺมานํ ลาภี’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ โสตาปตฺติมคฺคสฺส, อุทาหุ สกทาคามิมคฺคาทีสุ อฺตรสฺสา’’ติ สพฺเพสํ หิ อตฺตนา อธิคตธมฺมา ปากฏา โหนฺติ. สเจ ‘‘อิเมสํ นามาหํ ธมฺมานํ ลาภี’’ติ วทติ, เอตฺตาวตาปิสฺส วจนํ น สทฺธาตพฺพํ, พหุสฺสุตา หิ อุคฺคหปริปุจฺฉากุสลา ภิกฺขู อิมานิ ฉ านานิ โสเธตุํ สกฺโกนฺติ.

อิมสฺส ปน ภิกฺขุโน อาคมนปฏิปทา โสเธตพฺพา. ยทิ อาคมนปฏิปทา น สุชฺฌติ, ‘‘อิมาย ปฏิปทาย โลกุตฺตรธมฺโม นาม น ลพฺภตี’’ติ อปเนตพฺโพ. ยทิ ปนสฺส อาคมนปฏิปทา สุชฺฌติ, ‘‘ทีฆรตฺตํ ตีสุ สิกฺขาสุ อปฺปมตฺโต ชาคริยมนุยุตฺโต จตูสุ ปจฺจเยสุ อลคฺโค อากาเส ปาณิสเมน เจตสา วิหรตี’’ติ ปฺายติ, ตสฺส ภิกฺขุโน พฺยากรณํ ปฏิปทาย สทฺธึ สํสนฺทติ. ‘‘เสยฺยถาปิ นาม คงฺโคทกํ ยมุโนทเกน สทฺธึ สํสนฺทติ สเมติ; เอวเมว สุปฺตฺตา เตน ภควตา สาวกานํ นิพฺพานคามินี ปฏิปทา สํสนฺทติ นิพฺพานฺจ ปฏิปทา จา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๙๖) วุตฺตสทิสํ โหติ.

อปิจ โข น เอตฺตเกนาปิ สกฺกาโร กาตพฺโพ. กสฺมา? เอกจฺจสฺส หิ ปุถุชฺชนสฺสาปิ สโต ขีณาสวปฏิปตฺติสทิสา ปฏิปทา โหติ, ตสฺมา โส ภิกฺขุ เตหิ เตหิ อุปาเยหิ อุตฺตาเสตพฺโพ. ขีณาสวสฺส นาม อสนิยาปิ มตฺถเก ปตมานาย ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา น โหติ. สจสฺส ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา อุปฺปชฺชติ, ‘‘น ตฺวํ อรหา’’ติ อปเนตพฺโพ. สเจ ปน อภีรู อจฺฉมฺภี อนุตฺราสี หุตฺวา สีโห วิย นิสีทติ, อยํ ภิกฺขุ สมฺปนฺนเวยฺยากรโณ สมนฺตา ราชราชมหามตฺตาทีหิ เปสิตํ สกฺการํ อรหตีติ.

ปาปิจฺโฉติ ยา สา ‘‘อิเธกจฺโจ ทุสฺสีโลว สมาโน สีลวาติ มํ ชโน ชานาตูติ อิจฺฉตี’’ติอาทินา (วิภ. ๘๕๑) นเยน วุตฺตา ปาปิจฺฉา ตาย สมนฺนาคโต. อิจฺฉาปกโตติ ตาย ปาปิกาย อิจฺฉาย อปกโต อภิภูโต ปาราชิโก หุตฺวา.

วิสุทฺธาเปกฺโขติ อตฺตโน วิสุทฺธึ อเปกฺขมาโน อิจฺฉมาโน ปตฺถยมาโน. อยฺหิ ยสฺมา ปาราชิกํ อาปนฺโน, ตสฺมา ภิกฺขุภาเว ตฺวา อภพฺโพ ฌานาทีนิ อธิคนฺตุํ, ภิกฺขุภาโว หิสฺส สคฺคนฺตราโย เจว โหติ มคฺคนฺตราโย จ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘สามฺํ ทุปฺปรามฏฺํ นิรยายุปกฑฺฒตี’’ติ (ธ. ป. ๓๑๑). อปรมฺปิ วุตฺตํ – ‘‘สิถิโล หิ ปริพฺพาโช, ภิยฺโย อากิรเต รช’’นฺติ (ธ. ป. ๓๑๓). อิจฺจสฺส ภิกฺขุภาโว วิสุทฺธิ นาม น โหติ. ยสฺมา ปน คิหี วา อุปาสโก วา อารามิโก วา สามเณโร วา หุตฺวา ทานสรณสีลสํวราทีหิ สคฺคมคฺคํ วา ฌานวิโมกฺขาทีหิ โมกฺขมคฺคํ วา อาราเธตุํ ภพฺโพ โหติ, ตสฺมาสฺส คิหิอาทิภาโว วิสุทฺธิ นาม โหติ, ตสฺมา ตํ วิสุทฺธึ อเปกฺขนโต ‘‘วิสุทฺธาเปกฺโข’’ติ วุจฺจติ. เตเนว จสฺส ปทภาชเน ‘‘คิหี วา โหตุกาโม’’ติอาทิ วุตฺตํ.

เอวํ วเทยฺยาติ เอวํ ภเณยฺย. กถํ? ‘‘อชานเมวํ อาวุโส อวจํ ชานามิ, อปสฺสํ ปสฺสามี’’ติ. ปทภาชเน ปน ‘‘เอวํ วเทยฺยา’’ติ อิทํ ปทํ อนุทฺธริตฺวาว ยถา วทนฺโต ‘‘อชานเมวํ อาวุโส อวจํ ชานามิ, อปสฺสํ ปสฺสามี’’ติ วทติ นามาติ วุจฺจติ, ตํ อาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘นาหํ เอเต ธมฺเม ชานามี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตุจฺฉํ มุสา วิลปินฺติ อหํ วจนตฺถวิรหโต ตุจฺฉํ วฺจนาธิปฺปายโต มุสา วิลปึ, อภณินฺติ วุตฺตํ โหติ. ปทภาชเน ปนสฺส อฺเน ปทพฺยฺชเนน อตฺถมตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตุจฺฉกํ มยา ภณิต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

ปุริเม อุปาทายาติ ปุริมานิ ตีณิ ปาราชิกานิ อาปนฺเน ปุคฺคเล อุปาทาย. เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถตฺตา จ ปากฏเมวาติ.

ปทภาชนียวณฺณนา

๑๙๙. เอวํ อุทฺทิฏฺสิกฺขาปทํ ปทานุกฺกเมน วิภชิตฺวา อิทานิ ยสฺมา เหฏฺา ปทภาชนียมฺหิ ‘‘ฌานํ วิโมกฺขํ สมาธิ สมาปตฺติ าณทสฺสนํ…เป… สุฺาคาเร อภิรตี’’ติ เอวํ สํขิตฺเตเนว อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม ทสฺสิโต, น วิตฺถาเรน อาปตฺตึ อาโรเปตฺวา ตนฺติ ปิตา. สงฺเขปทสฺสิเต จ อตฺเถ น สพฺเพ สพฺพากาเรน นยํ คเหตุํ สกฺโกนฺติ, ตสฺมา สพฺพากาเรน นยคฺคหณตฺถํ ปุน ตเทว ปทภาชนํ มาติกาาเน เปตฺวา วิตฺถารโต อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ ทสฺเสตฺวา อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุกาโม ‘‘ฌานนฺติ ปมํ ฌานํ, ทุติยํ ฌาน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปมชฺฌานาทีหิ เมตฺตาฌานาทีนิปิ อสุภชฺฌานาทีนิปิ อานาปานสฺสติสมาธิชฺฌานมฺปิ โลกิยชฺฌานมฺปิ โลกุตฺตรชฺฌานมฺปิ สงฺคหิตเมว. ตสฺมา ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชินฺติปิ…เป… จตุตฺถํ ชฺฌานํ, เมตฺตาฌานํ, อุเปกฺขาฌานํ อสุภชฺฌานํ อานาปานสฺสติสมาธิชฺฌานํ, โลกิยชฺฌานํ, โลกุตฺตรชฺฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติปิ ภณนฺโต ปาราชิโกว โหตีติ เวทิตพฺโพ.

สุฏฺุ มุตฺโต วิวิเธหิ วา กิเลเสหิ มุตฺโตติ วิโมกฺโข. โส ปนายํ ราคโทสโมเหหิ สุฺตฺตา สุฺโต. ราคโทสโมหนิมิตฺเตหิ อนิมิตฺตตฺตา อนิมิตฺโต. ราคโทสโมหปณิธีนํ อภาวโต อปฺปณิหิโตติ วุจฺจติ. จิตฺตํ สมํ อาทหติ อารมฺมเณ เปตีติ สมาธิ. อริเยหิ สมาปชฺชิตพฺพโต สมาปตฺติ. เสสเมตฺถ วุตฺตนยเมว. เอตฺถ จ วิโมกฺขตฺติเกน จ สมาธิตฺติเกน จ อริยมคฺโคว วุตฺโต. สมาปตฺติตฺติเกน ปน ผลสมาปตฺติ. เตสุ ยํกิฺจิ เอกมฺปิ ปทํ คเหตฺวา ‘‘อหํ อิมสฺส ลาภีมฺหี’’ติ ภณนฺโต ปาราชิโกว โหติ.

ติสฺโส วิชฺชาติ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติ, ทิพฺพจกฺขุ, อาสวานํ ขเย าณนฺติ. ตตฺถ เอกิสฺสาปิ นามํ คเหตฺวา ‘‘อหํ อิมิสฺสา วิชฺชาย ลาภีมฺหี’’ติ ภณนฺโต ปาราชิโก โหติ. สงฺเขปฏฺกถายํ ปน ‘‘วิชฺชานํ ลาภีมฺหี’ติ ภณนฺโตปิ ‘ติสฺสนฺนํ วิชฺชานํ ลาภีมฺหี’ติ ภณนฺโตปิ ปาราชิโก วา’’ติ วุตฺตํ. มคฺคภาวนาปทภาชเน วุตฺตา สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺมา มคฺคสมฺปยุตฺตา โลกุตฺตราว อิธาธิปฺเปตา. ตสฺมา โลกุตฺตรานํ สติปฏฺานานํ สมฺมปฺปธานานํ อิทฺธิปาทานํ อินฺทฺริยานํ พลานํ โพชฺฌงฺคานํ อริยสฺส อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺส ลาภีมฺหีติ วทโต ปาราชิกนฺติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยาทีสุ ปน ‘‘สติปฏฺานานํ ลาภีมฺหี’ติ เอวํ เอเกกโกฏฺาสวเสนาปิ ‘กายานุปสฺสนาสติปฏฺานสฺส ลาภีมฺหี’ติ เอวํ ตตฺถ เอเกกธมฺมวเสนาปิ วทโต ปาราชิกเมวา’’ติ วุตฺตํ ตมฺปิ สเมติ. กสฺมา? มคฺคกฺขณุปฺปนฺเนเยว สนฺธาย วุตฺตตฺตา. ผลสจฺฉิกิริยายปิ เอเกกผลวเสน ปาราชิกํ เวทิตพฺพํ.

ราคสฺส ปหานนฺติอาทิตฺติเก กิเลสปฺปหานเมว วุตฺตํ. ตํ ปน ยสฺมา มคฺเคน วินา นตฺถิ, ตติยมคฺเคน หิ กามราคโทสานํ ปหานํ, จตุตฺเถน โมหสฺส, ตสฺมา ‘‘ราโค เม ปหีโน’’ติอาทีนิ วทโตปิ ปาราชิกํ วุตฺตํ.

ราคา จิตฺตํ วินีวรณตาติอาทิตฺติเก โลกุตฺตรจิตฺตเมว วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘ราคา เม จิตฺตํ วินีวรณ’’นฺติอาทีนิ วทโตปิ ปาราชิกเมว.

สุฺาคารปทภาชเน ปน ยสฺมา ฌาเนน อฆเฏตฺวา ‘‘สุฺาคาเร อภิรมามี’’ติ วจนมตฺเตน ปาราชิกํ นาธิปฺเปตํ, ตสฺมา ‘‘ปเมน ฌาเนน สุฺาคาเร อภิรตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺมา โย ฌาเนน ฆเฏตฺวา ‘‘อิมินา นาม ฌาเนน สุฺาคาเร อภิรมามี’’ติ วทติ, อยเมว ปาราชิโก โหตีติ เวทิตพฺโพ.

ยา จ ‘‘าณ’’นฺติ อิมสฺส ปทภาชเน อมฺพฏฺสุตฺตาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๕๔ อาทโย) วุตฺตาสุ อฏฺสุ วิชฺชาสุ วิปสฺสนาาณมโนมยิทฺธิอิทฺธิวิธทิพฺพโสตเจโตปริยาณเภทา ปฺจ วิชฺชา น อาคตา, ตาสุ เอกา วิปสฺสนาว ปาราชิกวตฺถุ น โหติ, เสสา โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. ตสฺมา ‘‘วิปสฺสนาย ลาภีมฺหี’’ติปิ ‘‘วิปสฺสนาาณสฺส ลาภีมฺหี’’ติปิ วทโต ปาราชิกํ นตฺถิ. ผุสฺสเทวตฺเถโร ปน ภณติ – ‘‘อิตราปิ จตสฺโส วิชฺชา าเณน อฆฏิตา ปาราชิกวตฺถู น โหนฺติ. ตสฺมา ‘มโนมยสฺส ลาภีมฺหิ, อิทฺธิวิธสฺส, ทิพฺพาย โสตธาตุยา, เจโตปริยสฺส ลาภีมฺหี’ติ วทโตปิ ปาราชิกํ นตฺถี’’ติ. ตํ ตสฺส อนฺเตวาสิเกเหว ปฏิกฺขิตฺตํ – ‘‘อาจริโย น อาภิธมฺมิโก ภุมฺมนฺตรํ น ชานาติ, อภิฺา นาม จตุตฺถชฺฌานปาทโกว มหคฺคตธมฺโม, ฌาเนเนว อิชฺฌติ. ตสฺมา มโนมยสฺส ลาภีมฺหี’ติ วา ‘มโนมยาณสฺส ลาภีมฺหี’ติ วา ยถา วา ตถา วา วทตุ ปาราชิกเมวา’’ติ. เอตฺถ จ กิฺจาปิ นิพฺพานํ ปาฬิยา อนาคตํ, อถ โข ‘‘นิพฺพานํ เม ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘สจฺฉิกต’’นฺติ วา วทโต ปาราชิกเมว. กสฺมา? นิพฺพานสฺส นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรตฺตา. ตถา ‘‘จตฺตาริ สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌึ ปฏิวิทฺธานิ มยา’’ติ วทโตปิ ปาราชิกเมว. กสฺมา? สจฺจปฺปฏิเวโธติ หิ มคฺคสฺส ปริยายวจนํ. ยสฺมา ปน ‘‘ติสฺโส ปฏิสมฺภิทา กามาวจรกุสลโต จตูสุ าณสมฺปยุตฺเตสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปชฺชนฺติ, กฺริยโต จตูสุ าณสมฺปยุตฺเตสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปชฺชนฺติ, อตฺถปฏิสมฺภิทา เอเตสุ เจว อุปฺปชฺชติ, จตูสุ มคฺเคสุ จตูสุ ผเลสุ จ อุปฺปชฺชตี’’ติ วิภงฺเค (วิภ. ๗๔๖) วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘ธมฺมปฏิสมฺภิทาย ลาภีมฺหี’’ติ วา, ‘‘นิรุตฺติ…เป… ปฏิภานปฏิสมฺภิทาย ลาภีมฺหี’’ติ วา ‘‘โลกิยอตฺถปฏิสมฺภิทาย ลาภีมฺหี’’ติ วา วุตฺเตปิ ปาราชิกํ นตฺถิ. ‘‘ปฏิสมฺภิทานํ ลาภีมฺหี’’ติ วุตฺเต น ตาว สีสํ โอตรติ. ‘‘โลกุตฺตรอตฺถปฏิสมฺภิทาย ลาภีมฺหี’’ติ วุตฺเต ปน ปาราชิกํ โหติ. สงฺเขปฏฺกถายํ ปน อตฺถปฏิสมฺภิทาปฺปตฺโตมฺหีติ อวิเสเสนาปิ วทโต ปาราชิกํ วุตฺตํ. กุรุนฺทิยมฺปิ ‘‘น มุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘เอตฺตาวตา ปาราชิกํ นตฺถิ, เอตฺตาวตา สีสํ น โอตรติ, เอตฺตาวตา น ปาราชิก’’นฺติ วิจาริตตฺตา น สกฺกา อฺํ ปมาณํ กาตุนฺติ.

‘‘นิโรธสมาปตฺตึ สมาปชฺชามี’’ติ วา ‘‘ลาภีมฺหาหํ ตสฺสา’’ติ วา วทโตปิ ปาราชิกํ นตฺถิ. กสฺมา? นิโรธสมาปตฺติยา เนว โลกิยตฺตา น โลกุตฺตรตฺตาติ. สเจ ปนสฺส เอวํ โหติ – ‘‘นิโรธํ นาม อนาคามี วา ขีณาสโว วา สมาปชฺชติ, เตสํ มํ อฺตโรติ ชานิสฺสตี’’ติ พฺยากโรติ, โส จ นํ ตถา ชานาติ, ปาราชิกนฺติ มหาปจฺจริสงฺเขปฏฺกถาสุ วุตฺตํ. ตํ วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.

‘‘อตีตภเว กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล โสตาปนฺโนมฺหี’’ติ วทโตปิ ปาราชิกํ นตฺถิ. อตีตกฺขนฺธานฺหิ ปรามฏฺตฺตา สีสํ น โอตรตีติ. สงฺเขปฏฺกถายํ ปน ‘‘อตีเต อฏฺสมาปตฺติลาภีมฺหี’’ติ วทโต ปาราชิกํ นตฺถิ, กุปฺปธมฺมตฺตา อิธ ปน ‘‘อตฺถิ อกุปฺปธมฺมตฺตาติ เกจิ วทนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตมฺปิ ตตฺเถว ‘‘อตีตตฺตภาวํ สนฺธาย กเถนฺตสฺส ปาราชิกํ น โหติ, ปจฺจุปฺปนฺนตฺตภาวํ สนฺธาย กเถนฺตสฺเสว โหตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตํ.

สุทฺธิกวารกถาวณฺณนา

๒๐๐. เอวํ ฌานาทีนิ ทส มาติกาปทานิ วิตฺถาเรตฺวา อิทานิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปนฺโต ยํ สมฺปชานมุสาวาทํ ภณติ, ตสฺส องฺคํ ทสฺเสตฺวา ตสฺเสว วิตฺถารสฺส วเสน จกฺกเปยฺยาลํ พนฺธนฺโต อุลฺลปนาการฺจ อาปตฺติเภทฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘ตีหากาเรหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุทฺธิกวาโร วตฺตุกามวาโร ปจฺจยปฏิสํยุตฺตวาโรติ ตโย มหาวารา. เตสุ สุทฺธิกวาเร ปมชฺฌานํ อาทึ กตฺวา ยาว โมหา จิตฺตํ วินีวรณปทํ, ตาว เอกเมกสฺมึ ปเท สมาปชฺชึ, สมาปชฺชามิ, สมาปนฺโน, ลาภีมฺหิ, วสีมฺหิ, สจฺฉิกตํ มยาติ อิเมสุ ฉสุ ปเทสุ เอกเมกํ ปทํ ตีหากาเรหิ, จตูหิ, ปฺจหิ, ฉหิ, สตฺตหากาเรหีติ เอวํ ปฺจกฺขตฺตุํ โยเชตฺวา สุทฺธิกนโย นาม วุตฺโต. ตโต ปมฺจ ฌานํ, ทุติยฺจ ฌานนฺติ เอวํ ปมชฺฌาเนน สทฺธึ เอกเมกํ ปทํ ฆเฏนฺเตน สพฺพปทานิ ฆเฏตฺวา เตเนว วิตฺถาเรน ขณฺฑจกฺกํ นาม วุตฺตํ. ตฺหิ ปุน อาเนตฺวา ปมชฺฌานาทีหิ น โยชิตํ, ตสฺมา ‘‘ขณฺฑจกฺก’’นฺติ วุจฺจติ. ตโต ทุติยฺจ ฌานํ, ตติยฺจ ฌานนฺติ เอวํ ทุติยชฺฌาเนน สทฺธึ เอกเมกํ ปทํ ฆเฏตฺวา ปุน อาเนตฺวา ปมชฺฌาเนน สทฺธึ สมฺพนฺธิตฺวา เตเนว วิตฺถาเรน พทฺธจกฺกํ นาม วุตฺตํ. ตโต ยถา ทุติยชฺฌาเนน สทฺธึ, เอวํ ตติยชฺฌานาทีหิปิ สทฺธึ, เอกเมกํ ปทํ ฆเฏตฺวา ปุน อาเนตฺวา ทุติยชฺฌานาทีหิ สทฺธึ สมฺพนฺธิตฺวา เตเนว วิตฺถาเรน อฺานิปิ เอกูนตึส พทฺธจกฺกานิ วตฺวา เอกมูลกนโย นิฏฺาปิโต. ปาโ ปน สงฺเขเปน ทสฺสิโต, โส อสมฺมุยฺหนฺเตน วิตฺถารโต เวทิตพฺโพ.

ยถา จ เอกมูลโก, เอวํ ทุมูลกาทโยปิ สพฺพมูลกปริโยสานา จตุนฺนํ สตานํ อุปริ ปฺจตึส นยา วุตฺตา. เสยฺยถิทํ – ทฺวิมูลกา เอกูนตึส, ติมูลกา อฏฺวีส, จตุมูลกา สตฺตวีส; เอวํ ปฺจมูลกาทโยปิ เอเกกํ อูนํ กตฺวา ยาว ตึสมูลกา, ตาว เวทิตพฺพา. ปาเ ปน เตสํ นามมฺปิ สงฺขิปิตฺวา ‘‘อิทํ สพฺพมูลก’’นฺติ ตึสมูลกนโย เอโก ทสฺสิโต. ยสฺมา จ สุฺาคารปทํ ฌาเนน อฆฏิตํ สีสํ น โอตรติ, ตสฺมา ตํ อนามสิตฺวา โมหา จิตฺตํ วินีวรณปทปริโยสานาเยว สพฺพตฺถ โยชนา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา. เอวํ ปมชฺฌานาทีนิ ปฏิปาฏิยา วา อุปฺปฏิปาฏิยา วา ทุติยชฺฌานาทีหิ ฆเฏตฺวา วา อฆเฏตฺวา วา สมาปชฺชินฺติอาทินา นเยน อุลฺลปโต โมกฺโข นตฺถิ, ปาราชิกํ อาปชฺชติเยวาติ.

อิมสฺส อตฺถสฺส ทสฺสนวเสน วุตฺเต จ ปเนตสฺมึ สุทฺธิกมหาวาเร อยํ สงฺเขปโต อตฺถวณฺณนา – ตีหากาเรหีติ สมฺปชานมุสาวาทสฺส องฺคภูเตหิ ตีหิ การเณหิ. ปุพฺเพวสฺส โหตีติ ปุพฺพภาเคเยว อสฺส ปุคฺคลสฺส เอวํ โหติ ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ. ภณนฺตสฺส โหตีติ ภณมานสฺส โหติ. ภณิตสฺส โหตีติ ภณิเต อสฺส โหติ, ยํ วตฺตพฺพํ ตสฺมึ วุตฺเต โหตีติ อตฺโถ. อถ วา ภณิตสฺสาติ วุตฺตวโต นิฏฺิตวจนสฺส โหตีติ. โย เอวํ ปุพฺพภาเคปิ ชานาติ, ภณนฺโตปิ ชานาติ, ปจฺฉาปิ ชานาติ, ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ โส ‘‘ปมชฺฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติ ภณนฺโต ปาราชิกํ อาปชฺชตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ ทสฺสิโต. กิฺจาปิ ทสฺสิโต, อถ โข อยเมตฺถ วิเสโส – ปุจฺฉา ตาว โหติ ‘‘‘มุสา ภณิสฺส’นฺติ ปุพฺพภาโค อตฺถิ, ‘มุสา มยา ภณิต’นฺติ ปจฺฉาภาโค นตฺถิ, วุตฺตมตฺตเมว หิ โกจิ ปมุสฺสติ, กึ ตสฺส ปาราชิกํ โหติ, น โหตี’’ติ? สา เอวํ อฏฺกถาสุ วิสฺสชฺชิตา – ปุพฺพภาเค ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ จ ภณนฺตสฺส ‘‘มุสา ภณามี’’ติ จ ชานโต ปจฺฉาภาเค ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ น สกฺกา น ภวิตุํ. สเจปิ น โหติ ปาราชิกเมว. ปุริมเมว หิ องฺคทฺวยํ ปมาณํ. ยสฺสาปิ ปุพฺพภาเค ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ อาโภโค นตฺถิ, ภณนฺโต ปน ‘‘มุสา ภณามี’’ติ ชานาติ, ภณิเตปิ ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ ชานาติ, โส อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ. ปุพฺพภาโค หิ ปมาณตโร. ตสฺมึ อสติ ทวา ภณิตํ วา รวา ภณิตํ วา โหตี’’ติ.

เอตฺถ จ ตําณตา จ าณสโมธานฺจ ปริจฺจชิตพฺพํ. ตําณตา ปริจฺจชิตพฺพาติ เยน จิตฺเตน ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ ชานาติ, เตเนว ‘‘มุสา ภณามี’’ติ จ ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ จ ชานาตีติ เอวํ เอกจิตฺเตเนว ตีสุ ขเณสุ ชานาตีติ อยํ ตํฺณตา ปริจฺจชิตพฺพา, น หิ สกฺกา เตเนว จิตฺเตน ตํ จิตฺตํ ชานิตุํ ยถา น สกฺกา เตเนว อสินา โส อสิ ฉินฺทิตุนฺติ. ปุริมํ ปุริมํ ปน จิตฺตํ ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส จิตฺตสฺส ตถา อุปฺปตฺติยา ปจฺจโย หุตฺวา นิรุชฺฌติ. เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘ปมาณํ ปุพฺพภาโคว, ตสฺมึ สติ น เหสฺสติ;

เสสทฺวยนฺติ นตฺเถต, มิติ วาจา ติวงฺคิกา’’ติ.

‘‘าณสโมธานํ ปริจฺจชิตพฺพ’’นฺติ เอตานิ ตีณิ จิตฺตานิ เอกกฺขเณ อุปฺปชฺชนฺตีติ น คเหตพฺพานิ. อิทฺหิ จิตฺตํ นาม –

อนิรุทฺธมฺหิ ปเม, น อุปฺปชฺชติ ปจฺฉิมํ;

นิรนฺตรุปฺปชฺชนโต, เอกํ วิย ปกาสติ.

อิโต ปรํ ปน ยฺวายํ ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติ สมฺปชานมุสา ภณติ, ยสฺมา โส ‘‘นตฺถิ เม ปมํ ฌาน’’นฺติ เอวํทิฏฺิโก โหติ, ตสฺส หิ อตฺเถวายํ ลทฺธิ. ตถา ‘‘นตฺถิ เม ปมํ ฌาน’’นฺติ เอวมสฺส ขมติ เจว รุจฺจติ จ. เอวํสภาวเมว จสฺส จิตฺตํ ‘‘นตฺถิ เม ปมํ ฌาน’’นฺติ. ยทา ปน มุสา วตฺตุกาโม โหติ, ตทา ตํ ทิฏฺึ วา ทิฏฺิยา สห ขนฺตึ วา ทิฏฺิขนฺตีหิ สทฺธึ รุจึ วา, ทิฏฺิขนฺติรุจีหิ สทฺธึ ภาวํ วา วินิธาย นิกฺขิปิตฺวา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อภูตํ กตฺวา ภณติ, ตสฺมา เตสมฺปิ วเสน องฺคเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘จตูหากาเรหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริวาเร จ ‘‘อฏฺงฺคิโก มุสาวาโท’’ติ (ปฏิ. ๓๒๘) วุตฺตตฺตา ตตฺถ อธิปฺเปตาย สฺาย สทฺธึ อฺโปิ อิธ ‘‘อฏฺหากาเรหี’’ติ เอโก นโย โยเชตพฺโพ.

เอตฺถ จ วินิธาย ทิฏฺินฺติ พลวธมฺมวินิธานวเสเนตํ วุตฺตํ. วินิธาย ขนฺตินฺติอาทีนิ ตโต ทุพฺพลทุพฺพลานํ วินิธานวเสน. วินิธาย สฺนฺติ อิทํ ปเนตฺถ สพฺพทุพฺพลธมฺมวินิธานํ. สฺามตฺตมฺปิ นาม อวินิธาย สมฺปชานมุสา ภาสิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ยสฺมา ปน ‘‘สมาปชฺชิสฺสามี’’ติอาทินา อนาคตวจเนน ปาราชิกํ น โหติ, ตสฺมา ‘‘สมาปชฺชิ’’นฺติอาทีนิ อตีตวตฺตมานปทาเนว ปาเ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ.

๒๐๗. อิโต ปรํ สพฺพมฺปิ อิมสฺมึ สุทฺธิกมหาวาเร อุตฺตานตฺถเมว. น เหตฺถ ตํ อตฺถิ – ยํ อิมินา วินิจฺฉเยน น สกฺกา ภเวยฺย วิฺาตุํ, เปตฺวา กิเลสปฺปหานปทสฺส ปทภาชเน ‘‘ราโค เม จตฺโต วนฺโต’’ติอาทีนํ ปทานํ อตฺถํ. สฺวายํ วุจฺจติ – เอตฺถ หิ จตฺโตติ อิทํ สกภาวปริจฺจชนวเสน วุตฺตํ. วนฺโตติ อิทํ ปุน อนาทิยนภาวทสฺสนวเสน. มุตฺโตติ อิทํ สนฺตติโต วิโมจนวเสน. ปหีโนติ อิทํ มุตฺตสฺสาปิ กฺวจิ อนวฏฺานทสฺสนวเสน. ปฏินิสฺสฏฺโติ อิทํ ปุพฺเพ อาทินฺนปุพฺพสฺส ปฏินิสฺสคฺคทสฺสนวเสน. อุกฺเขฏิโตติ อิทํ อริยมคฺเคน อุตฺตาสิตตฺตา ปุน อนลฺลียนภาวทสฺสนวเสน. สฺวายมตฺโถ สทฺทสตฺถโต ปริเยสิตพฺโพ. สมุกฺเขฏิโตติ อิทํ สุฏฺุ อุตฺตาเสตฺวา อณุสหคตสฺสาปิ ปุน อนลฺลียนภาวทสฺสนวเสน วุตฺตนฺติ.

สุทฺธิกวารกถา นิฏฺิตา.

วตฺตุกามวารกถา

๒๑๕. วตฺตุกามวาเรปิ ‘‘ตีหากาเรหี’’ติอาทีนํ อตฺโถ, วารเปยฺยาลปฺปเภโท จ สพฺโพ อิธ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. เกวลฺหิ ยํ ‘‘มยา วิรชฺฌิตฺวา อฺํ วตฺตุกาเมน อฺํ วุตฺตํ, ตสฺมา นตฺถิ มยฺหํ อาปตฺตี’’ติ เอวํ โอกาสคเวสกานํ ปาปปุคฺคลานํ โอกาสนิเสธนตฺถํ วุตฺโต. ยเถว หิ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติ วตฺตุกาโม ‘‘ธมฺมํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทีสุ สิกฺขาปจฺจกฺขานปเทสุ ยํ วา ตํ วา วทนฺโตปิ เขตฺเต โอติณฺณตฺตา สิกฺขาปจฺจกฺขาตโกว โหติ; เอวํ ปมชฺฌานาทีสุ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมปเทสุ ยํกิฺจิ เอกํ วตฺตุกาโม ตโต อฺํ ยํ วา ตํ วา วทนฺโตปิ เขตฺเต โอติณฺณตฺตา ปาราชิโกว โหติ. สเจ ยสฺส วทติ, โส ตมตฺถํ ตงฺขณฺเว ชานาติ. ชานนลกฺขณฺเจตฺถ สิกฺขาปจฺจกฺขาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

อยํ ปน วิเสโส – สิกฺขาปจฺจกฺขานํ หตฺถมุทฺทาย สีสํ น โอตรติ. อิทํ อภูตาโรจนํ หตฺถมุทฺทายปิ โอตรติ. โย หิ หตฺถวิการาทีหิปิ องฺคปจฺจงฺคโจปเนหิ อภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ วิฺตฺติปเถ ิตสฺส ปุคฺคลสฺส อาโรเจติ, โส จ ตมตฺถํ ชานาติ, ปาราชิโกว โหติ. อถ ปน ยสฺส อาโรเจติ, โส น ชานาติ ‘‘กิ อยํ ภณตี’’ติ, สํสยํ วา อาปชฺชติ, จิรํ วีมํสิตฺวา วา ปจฺฉา ชานาติ, อปฺปฏิวิชานนฺโต อิจฺเจว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. เอวํ อปฺปฏิวิชานนฺตสฺส วุตฺเต ถุลฺลจฺจยํ โหติ. โย ปน ฌานาทีนิ อตฺตโน อธิคมวเสน วา อุคฺคหปริปุจฺฉาทิวเสน วา น ชานาติ, เกวลํ ฌานนฺติ วา วิโมกฺโขติ วา วจนมตฺตเมว สุตํ โหติ, โสปิ เตน วุตฺเต ‘‘ฌานํ กิร สมาปชฺชินฺติ เอส วทตี’’ติ ยทิ เอตฺตกมตฺตมฺปิ ชานาติ, ชานาติจฺเจว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ตสฺส วุตฺเต ปาราชิกเมว. เสโส เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา พหูนํ วา นิยมิตานิยมิตวเสน วิเสโส สพฺโพ สิกฺขาปจฺจกฺขานกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ.

วตฺตุกามวารกถา นิฏฺิตา.

ปจฺจยปฏิสํยุตฺตวารกถา

๒๒๐. ปจฺจยปฏิสํยุตฺตวาเรปิ – สพฺพํ วารเปยฺยาลเภทํ ปุพฺเพ อาคตปทานฺจ อตฺถํ วุตฺตนเยเนว ตฺวา ปาฬิกฺกโม ตาว เอวํ ชานิตพฺโพ. เอตฺถ หิ ‘‘โย เต วิหาเร วสิ, โย เต จีวรํ ปริภุฺชิ, โย เต ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิ, โย เต เสนาสนํ ปริภุฺชิ, โย เต คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปริภุฺชี’’ติ อิเม ปฺจ ปจฺจตฺตวจนวารา, ‘‘เยน เต วิหาโร ปริภุตฺโต’’ติอาทโย ปฺจ กรณวจนวารา, ‘‘ยํ ตฺวํ อาคมฺม วิหารํ อทาสี’’ติอาทโย ปฺจ อุปโยควจนวารา วุตฺตา, เตสํ วเสน อิธ วุตฺเตน สุฺาคารปเทน สทฺธึ ปุพฺเพ วุตฺเตสุ ปมชฺฌานาทีสุ สพฺพปเทสุ วารเปยฺยาลเภโท เวทิตพฺโพ. ‘‘โย เต วิหาเร, เยน เต วิหาโร, ยํ ตฺวํ อาคมฺม วิหาร’’นฺติ เอวํ ปริยาเยน วุตฺตตฺตา ปน ‘‘อห’’นฺติ จ อวุตฺตตฺตา ปฏิวิชานนฺตสฺส วุตฺเตปิ อิธ ถุลฺลจฺจยํ, อปฏิวิชานนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ อยเมตฺถ วินิจฺฉโย.

อนาปตฺติเภทกถา

เอวํ วิตฺถารวเสน อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนาปตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนาปตฺติ อธิมาเนนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อธิมาเนนาติ อธิคตมาเนน สมุทาจรนฺตสฺส อนาปตฺติ. อนุลฺลปนาธิปฺปายสฺสาติ โกหฺเ อิจฺฉาจาเร อตฺวา อนุลฺลปนาธิปฺปายสฺส สพฺรหฺมจารีนํ สนฺติเก อฺํ พฺยากโรนฺตสฺส อนาปตฺติ. อุมฺมตฺตกาทโย ปุพฺเพ วุตฺตนยาเอว. อิธ ปน อาทิกมฺมิกา วคฺคุมุทาตีริยา ภิกฺขู. เตสํ อนาปตฺตีติ.

ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมุฏฺานาทีสุ อิทํ สิกฺขาปทํ ติสมุฏฺานํ – หตฺถมุทฺทาย อาโรเจนฺตสฺส กายจิตฺตโต, วจีเภเทน อาโรเจนฺตสฺส วาจาจิตฺตโต, อุภยํ กโรนฺตสฺส กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ. กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนํ หสนฺโตปิ หิ โสมนสฺสิโก อุลฺลปติ ภายนฺโตปิ มชฺฌตฺโตปีติ.

วินีตวตฺถุวณฺณนา

๒๒๓. วินีตวตฺถูสุ – อธิมานวตฺถุ อนุปฺตฺติยํ วุตฺตนยเมว.

ทุติยวตฺถุสฺมึ ปณิธายาติ ปตฺถนํ กตฺวา. เอวํ มํ ชโน สมฺภาเวสฺสตีติ เอวํ อรฺเ วสนฺตํ มํ ชโน อรหตฺเต วา เสกฺขภูมิยํ วา สมฺภาเวสฺสติ, ตโต โลกสฺส สกฺกโต ภวิสฺสามิ ครุกโต มานิโต ปูชิโตติ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอวํ ปณิธาย ‘‘อรฺเ วสิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺตสฺส ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ. ตถา อรฺเ กุฏิกรณจงฺกมนนิสีทนนิวาสนปาวุรณาทีสุ สพฺพกิจฺเจสุ ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. ตสฺมา เอวํ อรฺเ น วสิตพฺพํ. เอวํ วสนฺโต หิ สมฺภาวนํ ลภตุ วา มา วา ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. โย ปน สมาทินฺนธุตงฺโค ‘‘ธุตงฺคํ รกฺขิสฺสามี’’ติ วา ‘‘คามนฺเต เม วสโต จิตฺตํ วิกฺขิปติ, อรฺํ สปฺปาย’’นฺติ จินฺเตตฺวา วา ‘‘อทฺธา อรฺเ ติณฺณํ วิเวกานํ อฺตรํ ปาปุณิสฺสามี’’ติ วา ‘‘อรฺํ ปวิสิตฺวา อรหตฺตํ อปาปุณิตฺวา น นิกฺขมิสฺสามี’’ติ วา ‘‘อรฺวาโส นาม ภควตา ปสตฺโถ, มยิ จ อรฺเ วสนฺเต พหู สพฺรหฺมจาริโน คามนฺตํ หิตฺวา อารฺกา ภวิสฺสนฺตี’’ติ วา เอวํ อนวชฺชวาสํ วสิตุกาโม โหติ, เตน วสิตพฺพํ.

ตติยวตฺถุสฺมิมฺปิ – ‘‘อภิกฺกนฺตาทีนิ สณฺเปตฺวา ปิณฺฑาย จริสฺสามี’’ติ นิวาสนปารุปนกิจฺจโต ปภุติ ยาว โภชนปริโยสานํ ตาว ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. สมฺภาวนํ ลภตุ วา มา วา ทุกฺกฏเมว. ขนฺธกวตฺตเสขิยวตฺตปริปูรณตฺถํ ปน สพฺรหฺมจารีนํ ทิฏฺานุคติอาปชฺชนตฺถํ วา ปาสาทิเกหิ อภิกฺกมปฏิกฺกมาทีหิ ปิณฺฑาย ปวิสนฺโต อนุปวชฺโช วิฺูนนฺติ.

จตุตฺถปฺจมวตฺถูสุ – ‘‘โย เต วิหาเร วสี’’ติ เอตฺถ วุตฺตนเยเนว ‘‘อห’’นฺติ อวุตฺตตฺตา ปาราชิกํ นตฺถิ. อตฺตุปนายิกเมว หิ สมุทาจรนฺตสฺส ปาราชิกํ วุตฺตํ.

ปณิธาย จงฺกมีติอาทีนิ เหฏฺา วุตฺตนยาเนว.

สํโยชนวตฺถุสฺมึ – สํโยชนา ปหีนาติปิ ‘‘ทส สํโยชนา ปหีนา’’ติปิ ‘‘เอกํ สํโยชนํ ปหีน’’นฺติปิ วทโต กิเลสปฺปหานเมว อาโรจิตํ โหติ, ตสฺมา ปาราชิกํ.

๒๒๔. รโหวตฺถูสุ – รโห อุลฺลปตีติ ‘‘รโหคโต อรหา อห’’นฺติ วทติ, น มนสา จินฺติตเมว กโรติ. เตเนตฺถ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ.

วิหารวตฺถุ อุปฏฺานวตฺถุ จ วุตฺตนยเมว.

๒๒๕. น ทุกฺกรวตฺถุสฺมึ – ตสฺส ภิกฺขุโน อยํ ลทฺธิ – ‘‘อริยปุคฺคลาว ภควโต สาวกา’’ติ. เตนาห – ‘‘เย โข เต ภควโต สาวกา เต เอวํ วเทยฺยุ’’นฺติ. ยสฺมา จสฺส อยมธิปฺปาโย – ‘‘สีลวตา อารทฺธวิปสฺสเกน น ทุกฺกรํ อฺํ พฺยากาตุํ, ปฏิพโล โส อรหตฺตํ ปาปุณิตุ’’นฺติ. ตสฺมา ‘‘อนุลฺลปนาธิปฺปาโย อห’’นฺติ อาห.

วีริยวตฺถุสฺมึ อาราธนีโยติ สกฺกา อาราเธตุํ สมฺปาเทตุํ นิพฺพตฺเตตุนฺติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

มจฺจุวตฺถุสฺมึ โส ภิกฺขุ ‘‘ยสฺส วิปฺปฏิสาโร อุปฺปชฺชติ, โส ภาเยยฺย. มยฺหํ ปน อวิปฺปฏิสารวตฺถุกานิ ปริสุทฺธานิ สีลานิ, สฺวาหํ กึ มรณสฺส ภายิสฺสามี’’ติ เอตมตฺถวสํ ปฏิจฺจ ‘‘นาหํ อาวุโส มจฺจุโน ภายามี’’ติ อาห. เตนสฺส อนาปตฺติ.

วิปฺปฏิสารวตฺถุสฺมิมฺปิ เอเสว นโย. ตโต ปรานิ ตีณิ วตฺถูนิ วีริยวตฺถุสทิสาเนว.

เวทนาวตฺถูสุปมสฺมึ ตาว โส ภิกฺขุ ปฏิสงฺขานพเลน อธิวาสนขนฺติยํ ตฺวา ‘‘นาวุโส สกฺกา เยน วา เตน วา อธิวาเสตุ’’นฺติ อาห. เตนสฺส อนาปตฺติ.

ทุติเย ปน อตฺตุปนายิกํ อกตฺวา ‘‘นาวุโส สกฺกา ปุถุชฺชเนนา’’ติ ปริยาเยน วุตฺตตฺตา ถุลฺลจฺจยํ.

๒๒๖. พฺราหฺมณวตฺถูสุโส กิร พฺราหฺมโณ น เกวลํ ‘‘อายนฺตุ โภนฺโต อรหนฺโต’’ติ อาห. ยํ ยํ ปนสฺส วจนํ มุขโต นิคฺคจฺฉติ, สพฺพํ ‘‘อรหนฺตานํ อาสนานิ ปฺเปถ, ปาโททกํ เทถ, อรหนฺโต ปาเท โธวนฺตู’’ติ อรหนฺตวาทปฏิสํยุตฺตํเยว. ตํ ปนสฺส ปสาทภฺํ สทฺธาจริตตฺตา อตฺตโน สทฺธาพเลน สมุสฺสาหิตสฺส วจนํ. ตสฺมา ภควา ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, ปสาทภฺเ’’ติ อาห. เอวํ วุจฺจมาเนน ปน ภิกฺขุนา น หฏฺตุฏฺเเนว ปจฺจยา ปริภุฺชิตพฺพา, ‘‘อรหตฺตสมฺปาปิกํ ปฏิปทํ ปริปูเรสฺสามี’’ติ เอวํ โยโค กรณีโยติ.

อฺพฺยากรณวตฺถูนิสํโยชนวตฺถุสทิสาเนว. อคารวตฺถุสฺมึ โส ภิกฺขุ คิหิภาเว อนตฺถิกตาย อนเปกฺขตาย ‘‘อภพฺโพ โข อาวุโส มาทิโส’’ติ อาห, น อุลฺลปนาธิปฺปาเยน. เตนสฺส อนาปตฺติ.

๒๒๗. อาวฏกามวตฺถุสฺมึ โส ภิกฺขุ วตฺถุกาเมสุ จ กิเลสกาเมสุ จ โลกิเยเนว อาทีนวทสฺสเนน นิรเปกฺโข. ตสฺมา ‘‘อาวฏา เม อาวุโส กามา’’ติ อาห. เตนสฺส อนาปตฺติ. เอตฺถ จ อาวฏาติ อาวาริตา นิวาริตา, ปฏิกฺขิตฺตาติ อตฺโถ.

อภิรติวตฺถุสฺมึ โส ภิกฺขุ สาสเน อนุกฺกณฺิตภาเวน อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีสุ จ อภิรตภาเวน ‘‘อภิรโต อหํ อาวุโส ปรมาย อภิรติยา’’ติ อาห, น อุลฺลปนาธิปฺปาเยน. เตนสฺส อนาปตฺติ.

ปกฺกมนวตฺถุสฺมึ โย อิมมฺหา อาวาสา ปมํ ปกฺกมิสฺสตีติ เอวํ อาวาสํ วา มณฺฑปํ วา สีมํ วา ยํกิฺจิ านํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา กตาย กติกาย โย ‘‘มํ อรหาติ ชานนฺตู’’ติ ตมฺหา านา ปมํ ปกฺกมติ, ปาราชิโก โหติ. โย ปน อาจริยุปชฺฌายานํ วา กิจฺเจน มาตาปิตูนํ วา เกนจิเทว กรณีเยน ภิกฺขาจารตฺถํ วา อุทฺเทสปริปุจฺฉานํ วา อตฺถาย อฺเน วา ตาทิเสน กรณีเยน ตํ านํ อติกฺกมิตฺวา คจฺฉติ, อนาปตฺติ. สเจปิสฺส เอวํ คตสฺส ปจฺฉา อิจฺฉาจาโร อุปฺปชฺชติ ‘‘น ทานาหํ ตตฺถ คมิสฺสามิ เอวํ มํ อรหาติ สมฺภาเวสฺสนฺตี’’ติ อนาปตฺติเยว.

โยปิ เกนจิเทว กรณีเยน ตํ านํ ปตฺวา สชฺฌายมนสิการาทิวเสน อฺวิหิโต วา หุตฺวา โจราทีหิ วา อนุพทฺโธ เมฆํ วา อุฏฺิตํ ทิสฺวา อโนวสฺสกํ ปวิสิตุกาโม ตํ านํ อติกฺกมติ, อนาปตฺติ. ยาเนน วา อิทฺธิยา วา คจฺฉนฺโตปิ ปาราชิกํ นาปชฺชติ, ปทคมเนเนว อาปชฺชติ. ตมฺปิ เยหิ สห กติกา กตา, เตหิ สทฺธึ อปุพฺพํอจริมํ คจฺฉนฺโต นาปชฺชติ. เอวํ คจฺฉนฺตา หิ สพฺเพปิ อฺมฺํ รกฺขนฺติ. สเจปิ มณฺฑปรุกฺขมูลาทีสุ กิฺจิ านํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘โย เอตฺถ นิสีทติ วา จงฺกมติ วา, ตํ อรหาติ ชานิสฺสาม’’ ปุปฺผานิ วา เปตฺวา ‘‘โย อิมานิ คเหตฺวา ปูชํ กริสฺสติ, ตํ อรหาติ ชานิสฺสามา’’ติอาทินา นเยน กติกา กตา โหติ, ตตฺราปิ อิจฺฉาจารวเสน ตถา กโรนฺตสฺส ปาราชิกเมว. สเจปิ อุปาสเกน อนฺตรามคฺเค วิหาโร วา กโต โหติ, จีวราทีนิ วา ปิตานิ โหนฺติ, ‘‘เย อรหนฺโต เต อิมสฺมึ วิหาเร วสนฺตุ, จีวราทีนิ จ คณฺหนฺตู’’ติ. ตตฺราปิ อิจฺฉาจารวเสน วสนฺตสฺส วา จีวราทีนิ วา คณฺหนฺตสฺส ปาราชิกเมว. เอตํ ปน อธมฺมิกกติกวตฺตํ, ตสฺมา น กาตพฺพํ, อฺํ วา เอวรูปํ ‘‘อิมสฺมึ เตมาสพฺภนฺตเร สพฺเพว อารฺกา โหนฺตุ, ปิณฺฑปาติกงฺคาทิอวเสสธุตงฺคธรา วา อถ วา สพฺเพว ขีณาสวา โหนฺตู’’ติ เอวมาทิ. นานาเวรชฺชกา หิ ภิกฺขู สนฺนิปตนฺติ. ตตฺถ เกจิ ทุพฺพลา อปฺปถามา เอวรูปํ วตฺตํ อนุปาเลตุํ น สกฺโกนฺติ. ตสฺมา เอวรูปมฺปิ วตฺตํ น กาตพฺพํ. ‘‘อิมํ เตมาสํ สพฺเพเหว น อุทฺทิสิตพฺพํ, น ปริปุจฺฉิตพฺพํ, น ปพฺพาเชตพฺพํ, มูคพฺพตํ คณฺหิตพฺพํ, พหิ สีมฏฺสฺสาปิ สงฺฆลาโภ ทาตพฺโพ’’ติ เอวมาทิกํ ปน น กาตพฺพเมว.

๒๒๘. ลกฺขณสํยุตฺเต ยฺวายํ อายสฺมา จ ลกฺขโณติ ลกฺขณตฺเถโร วุตฺโต, เอส ชฏิลสหสฺสสฺส อพฺภนฺตเร เอหิภิกฺขูปสมฺปทาย อุปสมฺปนฺโน อาทิตฺตปริยายาวสาเน อรหตฺตปฺปตฺโต เอโก มหาสาวโกติ เวทิตพฺโพ. ยสฺมา ปเนส ลกฺขณสมฺปนฺเนน สพฺพาการปริปูเรน พฺรหฺมสเมน อตฺตภาเวน สมนฺนาคโต, ตสฺมา ลกฺขโณติ สงฺขํ คโต. มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร ปน ปพฺพชิตทิวสโต สตฺตเม ทิวเส อรหตฺตปฺปตฺโต ทุติโย อคฺคสาวโก.

สิตํ ปาตฺวากาสีติ มนฺทหสิตํ ปาตุอกาสิ, ปกาสยิ ทสฺเสสีติ วุตฺตํ โหติ. กึ ปน ทิสฺวา เถโร สิตํ ปาตฺวากาสีติ? อุปริ ปาฬิยํ อาคตํ อฏฺิกสงฺขลิกํ เอกํ เปตโลเก นิพฺพตฺตํ สตฺตํ ทิสฺวา, ตฺจ โข ทิพฺเพน จกฺขุนา, น ปสาทจกฺขุนา. ปสาทจกฺขุสฺส หิ เอเต อตฺตภาวา น อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ. เอวรูปํ ปน อตฺตภาวํ ทิสฺวา การุฺเ กาตพฺเพ กสฺมา สิตํ ปาตฺวากาสีติ? อตฺตโน จ พุทฺธาณสฺส จ สมฺปตฺติสมนุสฺสรณโต. ตฺหิ ทิสฺวา เถโร ‘‘อทิฏฺสจฺเจน นาม ปุคฺคเลน ปฏิลภิตพฺพา เอวรูปา อตฺตภาวา มุตฺโต อหํ, ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม’’ติ อตฺตโน จ สมฺปตฺตึ อนุสฺสริตฺวา ‘‘อโห พุทฺธสฺส ภควโต าณสมฺปตฺติ, โย ‘กมฺมวิปาโก, ภิกฺขเว, อจินฺเตยฺโย; น จินฺเตตพฺโพ’ติ (อ. นิ. ๔.๗๗) เทเสสิ, ปจฺจกฺขํ วต กตฺวา พุทฺธา เทเสนฺติ, สุปฺปฏิวิทฺธา พุทฺธานํ ธมฺมธาตู’’ติ เอวํ พุทฺธาณสมฺปตฺติฺจ สริตฺวา สิตํ ปาตฺวากาสีติ. ยสฺมา ปน ขีณาสวา นาม น อการณา สิตํ ปาตุกโรนฺติ, ตสฺมา ตํ ลกฺขณตฺเถโร ปุจฺฉิ – ‘‘โก นุ โข อาวุโส โมคฺคลฺลาน เหตุ, โก ปจฺจโย สิตสฺส ปาตุกมฺมายา’’ติ. เถโร ปน ยสฺมา เยหิ อยํ อุปปตฺติ สามํ อทิฏฺา, เต ทุสฺสทฺธาปยา โหนฺติ, ตสฺมา ภควนฺตํ สกฺขึ กตฺวา พฺยากาตุกามตาย ‘‘อกาโล โข, อาวุโส’’ติอาทิมาห. ตโต ภควโต สนฺติเก ปุฏฺโ ‘‘อิธาหํ อาวุโส’’ติอาทินา นเยน พฺยากาสิ.

ตตฺถ อฏฺิกสงฺขลิกนฺติ เสตํ นิมฺมํสโลหิตํ อฏฺิสงฺฆาตํ. คิชฺฌาปิ กากาปิ กุลลาปีติ เอเตปิ ยกฺขคิชฺฌา เจว ยกฺขกากา จ ยกฺขกุลลา จ ปจฺเจตพฺพา. ปากติกานํ ปน คิชฺฌาทีนํ อาปาถมฺปิ เอตํ รูปํ นาคจฺฉติ. อนุปติตฺวา อนุปติตฺวาติ อนุพนฺธิตฺวา อนุพนฺธิตฺวา. วิตุเฑนฺตีติ วินิวิชฺฌิตฺวา คจฺฉนฺติ. วิตุเทนฺตีติ วา ปาโ, อสิธารูปเมหิ ติขิเณหิ โลหตุณฺเฑหิ วิชฺฌนฺตีติ อตฺโถ. สา สุทํ อฏฺฏสฺสรํ กโรตีติ เอตฺถ สุทนฺติ นิปาโต, สา อฏฺิกสงฺขลิกา อฏฺฏสฺสรํ อาตุรสฺสรํ กโรตีติ อตฺโถ. อกุสลวิปากานุภวนตฺถํ กิร โยชนปฺปมาณาปิ ตาทิสา อตฺตภาวา นิพฺพตฺตนฺติ, ปสาทุสฺสทา จ โหนฺติ ปกฺกคณฺฑสทิสา; ตสฺมา สา อฏฺิกสงฺขลิกา พลวเวทนาตุรา ตาทิสํ สรมกาสีติ. เอวฺจ ปน วตฺวา ปุน อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ‘‘วฏฺฏคามิกสตฺตา นาม เอวรูปา อตฺตภาวา น มุจฺจนฺตี’’ติ สตฺเตสุ การุฺํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนํ ธมฺมสํเวคํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตสฺส มยฺหํ อาวุโส เอตทโหสิ; อจฺฉริยํ วต โภ’’ติอาทิมาห.

ภิกฺขู อุชฺฌายนฺตีติ เยสํ สา เปตูปปตฺติ อปฺปจฺจกฺขา, เต อุชฺฌายนฺติ. ภควา ปน เถรสฺสานุภาวํ ปกาเสนฺโต ‘‘จกฺขุภูตา วต ภิกฺขเว สาวกา วิหรนฺตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จกฺขุ ภูตํ ชาตํ อุปฺปนฺนํ เตสนฺติ จกฺขุภูตา; ภูตจกฺขุกา อุปฺปนฺนจกฺขุกา, จกฺขุํ อุปฺปาเทตฺวา, วิหรนฺตีติ อตฺโถ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. ยตฺร หิ นามาติ เอตฺถ ยตฺราติ การณวจนํ. ตตฺรายมตฺถโยชนา; ยสฺมา นาม สาวโกปิ เอวรูปํ สฺสติ วา ทกฺขติ วา สกฺขึ วา กริสฺสติ, ตสฺมา อโวจุมฺห – ‘‘จกฺขุภูตา วต ภิกฺขเว สาวกา วิหรนฺติ, าณภูตา วต ภิกฺขเว สาวกา วิหรนฺตี’’ติ.

ปุพฺเพว เม โส ภิกฺขเว สตฺโต ทิฏฺโติ โพธิมณฺเฑ สพฺพฺุตาณปฺปฏิเวเธน อปฺปมาเณสุ จกฺกวาเฬสุ อปฺปมาเณ สตฺตนิกาเย ภวคติโยนิิตินิวาเส จ ปจฺจกฺขํ กโรนฺเตน มยา ปุพฺเพว โส สตฺโต ทิฏฺโติ วทติ.

โคฆาตโกติ คาโว วธิตฺวา วธิตฺวา อฏฺิโต มํสํ โมเจตฺวา วิกฺกิณิตฺวา ชีวิกกปฺปนกสตฺโต. ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสนาติ ตสฺส นานาเจตนาหิ อายูหิตสฺส อปราปริยกมฺมสฺส. ตตฺร หิ ยาย เจตนาย นรเก ปฏิสนฺธิ ชนิตา, ตสฺสา วิปาเก ปริกฺขีเณ อวเสสกมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา อารมฺมณํ กตฺวา ปุน เปตาทีสุ ปฏิสนฺธิ นิพฺพตฺตติ, ตสฺมา สา ปฏิสนฺธิ กมฺมสภาคตาย วา อารมฺมณสภาคตาย วา ‘‘ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสโส’’ติ วุจฺจติ. อยฺจ สตฺโต เอวํ อุปปนฺโน. เตนาห – ‘‘ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสนา’’ติ. ตสฺส กิร นรกา จวนกาเล นิมฺมํสกตานํ คุนฺนํ อฏฺิราสิ เอว นิมิตฺตํ อโหสิ. โส ปฏิจฺฉนฺนมฺปิ ตํ กมฺมํ วิฺูนํ ปากฏํ วิย กโรนฺโต อฏฺิสงฺขลิกเปโต ชาโต.

๒๒๙. มํสเปสิวตฺถุสฺมึ โคฆาตโกติ โคมํสเปสิโย กตฺวา สุกฺขาเปตฺวา วลฺลูรวิกฺกเยน อเนกานิ วสฺสานิ ชีวิกํ กปฺเปสิ. เตนสฺส นรกา จวนกาเล มํสเปสิเยว นิมิตฺตํ อโหสิ. โส มํสเปสิเปโต ชาโต.

มํสปิณฺฑวตฺถุสฺมึ โส สากุณิโก สกุเณ คเหตฺวา วิกฺกิณนกาเล นิปฺปกฺขจมฺเม มํสปิณฺฑมตฺเต กตฺวา วิกฺกิณนฺโต ชีวิกํ กปฺเปสิ. เตนสฺส นรกา จวนกาเล มํสปิณฺโฑว นิมิตฺตํ อโหสิ. โส มํสปิณฺฑเปโต ชาโต.

นิจฺฉวิวตฺถุสฺมึ ตสฺส โอรพฺภิกสฺส เอฬเก วธิตฺวา นิจฺจมฺเม กตฺวา กปฺปิตชีวิกสฺส ปุริมนเยเนว นิจฺจมฺมํ เอฬกสรีรํ นิมิตฺตมโหสิ. โส นิจฺฉวิเปโต ชาโต.

อสิโลมวตฺถุสฺมึ โส สูกริโก ทีฆรตฺตํ นิวาปปุฏฺเ สูกเร อสินา วธิตฺวา วธิตฺวา ทีฆรตฺตํ ชีวิกํ กปฺเปสิ. เตนสฺส อุกฺขิตฺตาสิกภาโวว นิมิตฺตํ อโหสิ. ตสฺมา อสิโลมเปโต ชาโต.

สตฺติโลมวตฺถุสฺมึ โส มาควิโก เอกํ มิคฺจ สตฺติฺจ คเหตฺวา วนํ คนฺตฺวา ตสฺส มิคสฺส สมีปํ อาคตาคเต มิเค สตฺติยา วิชฺฌิตฺวา มาเรสิ, ตสฺส สตฺติยา วิชฺฌนกภาโวเยว นิมิตฺตํ อโหสิ. ตสฺมา สตฺติโลมเปโต ชาโต.

อุสุโลมวตฺถุสฺมึ การณิโกติ ราชาปราธิเก อเนกาหิ การณาหิ ปีเฬตฺวา อวสาเน กณฺเฑน วิชฺฌิตฺวา มารณกปุริโส. โส กิร อสุกสฺมึ ปเทเส วิทฺโธ มรตีติ ตฺวาว วิชฺฌติ. ตสฺเสวํ ชีวิกํ กปฺเปตฺวา นรเก อุปฺปนฺนสฺส ตโต ปกฺกาวเสเสน อิธูปปตฺติกาเล อุสุนา วิชฺฌนภาโวเยว นิมิตฺตํ อโหสิ. ตสฺมา อุสุโลมเปโต ชาโต.

สูจิโลมวตฺถุสฺมึ สารถีติ อสฺสทมโก. โคทมโกติปิ กุรุนฺทฏฺกถายํวุตฺตํ. ตสฺส ปโตทสูจิยา วิชฺฌนภาโวเยว นิมิตฺตํ อโหสิ. ตสฺมา สูจิโลมเปโต ชาโต.

ทุติยสูจิโลมวตฺถุสฺมึ สูจโกติ เปสุฺการโก. โส กิร มนุสฺเส อฺมฺฺจ ภินฺทิ. ราชกุเล จ ‘‘อิมสฺส อิมํ นาม อตฺถิ, อิมินา อิทํ นาม กต’’นฺติ สูเจตฺวา สูเจตฺวา อนยพฺยสนํ ปาเปสิ. ตสฺมา ยถาเนน สูเจตฺวา มนุสฺสา ภินฺนา, ตถา สูจีหิ เภทนทุกฺขํ ปจฺจนุโภตุํ กมฺมเมว นิมิตฺตํ กตฺวา สูจิโลมเปโต ชาโต.

อณฺฑภาริตวตฺถุสฺมึ คามกูโฏติ วินิจฺฉยามจฺโจ. ตสฺส กมฺมสภาคตาย กุมฺภมตฺตา มหาฆฏปฺปมาณา อณฺฑา อเหสุํ. โส หิ ยสฺมา รโห ปฏิจฺฉนฺน าเน ลฺชํ คเหตฺวา กูฏวินิจฺฉเยน ปากฏํ โทสํ กโรนฺโต สามิเก อสฺสามิเก อกาสิ. ตสฺมาสฺส รหสฺสํ องฺคํ ปากฏํ นิพฺพตฺตํ. ยสฺมา ทณฺฑํ ปฏฺเปนฺโต ปเรสํ อสยฺหํ ภารํ อาโรเปสิ, ตสฺมาสฺส รหสฺสงฺคํ อสยฺหภาโร หุตฺวา นิพฺพตฺตํ. ยสฺมา ยสฺมึ าเน ิเตน สเมน ภวิตพฺพํ, ตสฺมึ ตฺวา วิสโม อโหสิ, ตสฺมาสฺส รหสฺสงฺเค วิสมา นิสชฺชา อโหสีติ.

ปารทาริกวตฺถุสฺมึ โส สตฺโต ปรสฺส รกฺขิตํ โคปิตํ สสฺสามิกํ ผสฺสํ ผุสนฺโต มีฬฺหสุเขน กามสุเขน จิตฺตํ รมยิตฺวา กมฺมสภาคตาย คูถผสฺสํ ผุสนฺโต ทุกฺขมนุภวิตุํ ตตฺถ นิพฺพตฺโต. ทุฏฺพฺราหฺมณวตฺถุ ปากฏเมว.

๒๓๐. นิจฺฉวิตฺถิวตฺถุสฺมึ ยสฺมา มาตุคาโม นาม อตฺตโน ผสฺเส อนิสฺสโร, สา จ ตํ สามิกสฺส สนฺตกํ ผสฺสํ เถเนตฺวา ปเรสํ อภิรตึ อุปฺปาเทสิ, ตสฺมา กมฺมสภาคตาย สุขสมฺผสฺสา ธํสิตฺวา ทุกฺขสมฺผสฺสํ อนุภวิตุํ นิจฺฉวิตฺถี หุตฺวา อุปปนฺนา.

มงฺคุลิตฺถิวตฺถุสฺมึ มงฺคุลินฺติ วิรูปํ ทุทฺทสิกํ พีภจฺฉํ, สา กิร อิกฺขณิกากมฺมํ ยกฺขทาสิกมฺมํ กโรนฺตี ‘‘อิมินา จ อิมินา จ เอวํ พลิกมฺเม กเต อยํ นาม ตุมฺหากํ วฑฺฒิ ภวิสฺสตี’’ติ มหาชนสฺส คนฺธปุปฺผาทีนิ วฺจนาย คเหตฺวา มหาชนํ ทุทฺทิฏฺึ มิจฺฉาทิฏฺึ คณฺหาเปสิ, ตสฺมา ตาย กมฺมสภาคตาย คนฺธปุปฺผาทีนํ เถนิตตฺตา ทุคฺคนฺธา ทุทฺทสฺสนสฺส คาหิตตฺตา ทุทฺทสิกา วิรูปา พีภจฺฉา หุตฺวา นิพฺพตฺตา.

โอกิลินิวตฺถุสฺมึ อุปฺปกฺกํ โอกิลินึ โอกิรินินฺติ สา กิร องฺคารจิตเก นิปนฺนา วิปฺผนฺทมานา วิปริวตฺตมานา ปจฺจติ, ตสฺมา อุปฺปกฺกา เจว โหติ ขเรน อคฺคินา ปกฺกสรีรา; โอกิลินี จ กิลินฺนสรีรา พินฺทุพินฺทูนิ หิสฺสา สรีรโต ปคฺฆรนฺติ. โอกิรินี จ องฺคารสมฺปริกิณฺณา, ตสฺสา หิ เหฏฺโตปิ กึสุกปุปฺผวณฺณา องฺคารา, อุภยปสฺเสสุปิ, อากาสโตปิสฺสา อุปริ องฺคารา ปตนฺติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘อุปฺปกฺกํ โอกิลินึ โอกิรินิ’’นฺติ. สา อิสฺสาปกตา สปตฺตึ องฺคารกฏาเหน โอกิรีติ ตสฺสา กิร กลิงฺครฺโ เอกา นาฏกินี องฺคารกฏาหํ สมีเป เปตฺวา คตฺตโต อุทกฺจ ปุฺฉติ, ปาณินา จ เสทํ กโรติ. ราชาปิ ตาย สทฺธึ กถฺจ กโรติ, ปริตุฏฺาการฺจ ทสฺเสติ. อคฺคมเหสี ตํ อสหมานา อิสฺสาปกตา หุตฺวา อจิรปกฺกนฺตสฺส รฺโ ตํ องฺคารกฏาหํ คเหตฺวา ตสฺสา อุปริ องฺคาเร โอกิริ. สา ตํ กมฺมํ กตฺวา ตาทิสํเยว วิปากํ ปจฺจนุภวิตุํ เปตโลเก นิพฺพตฺตา.

โจรฆาตกวตฺถุสฺมึ โส รฺโ อาณาย ทีฆรตฺตํ โจรานํ สีสานิ ฉินฺทิตฺวา เปตโลเก นิพฺพตฺตนฺโต อสีสกํ กพนฺธํ หุตฺวา นิพฺพตฺติ.

ภิกฺขุวตฺถุสฺมึ ปาปภิกฺขูติ ลามกภิกฺขุ. โส กิร โลกสฺส สทฺธาเทยฺเย จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภุฺชิตฺวา กายวจีทฺวาเรหิ อสํ ยโต ภินฺนาชีโว จิตฺตเกฬึ กีฬนฺโต วิจริ. ตโต เอกํ พุทฺธนฺตรํ นิรเย ปจฺจิตฺวา เปตโลเก นิพฺพตฺตนฺโต ภิกฺขุสทิเสเนว อตฺตภาเวน นิพฺพตฺติ. ภิกฺขุนี-สิกฺขมานา-สามเณร-สามเณรีวตฺถูสุปิ อยเมว วินิจฺฉโย.

๒๓๑. ตโปทาวตฺถุสฺมึ อจฺโฉทโกติ ปสนฺโนทโก. สีโตทโกติ สีตลอุทโก. สาโตทโกติ มธุโรทโก. เสตโกติ ปริสุทฺโธ นิสฺเสวาลปณกกทฺทโม. สุปฺปติตฺโถติ สุนฺทเรหิ ติตฺเถหิ อุปปนฺโน. รมณีโยติ รติชนโก. จกฺกมตฺตานีติ รถจกฺกปฺปมาณานิ. กุถิตา สนฺทตีติ ตตฺรา สนฺตตฺตา หุตฺวา สนฺทติ. ยตายํ ภิกฺขเวติ ยโต อยํ ภิกฺขเว. โส ทโหติ โส รหโท. กุโต ปนายํ สนฺทตีติ? เวภารปพฺพตสฺส กิร เหฏฺา ภุมฺมฏฺกนาคานํ ปฺจโยชนสติกํ นาคภวนํ เทวโลกสทิสํ มณิมเยน ตเลน อารามุยฺยาเนหิ จ สมนฺนาคตํ; ตตฺถ นาคานํ กีฬนฏฺาเน โส อุทกทโห, ตโต อยํ ตโปทา สนฺทติ. ทฺวินฺนํ มหานิรยานํ อนฺตริกาย อาคจฺฉตีติ ราชคหนครํ กิร อาวิฺเชตฺวา มหาเปตโลโก, ตตฺถ ทฺวินฺนํ มหาโลหกุมฺภินิรยานํ อนฺตเรน อยํ ตโปทา อาคจฺฉติ, ตสฺมา กุถิตา สนฺทตีติ.

ยุทฺธวตฺถุสฺมึ นนฺที จรตีติ วิชยเภรี อาหิณฺฑติ. ราชา อาวุโส ลิจฺฉวีหีติ เถโร กิร อตฺตโน ทิวาฏฺาเน จ รตฺติฏฺาเน จ นิสีทิตฺวา ‘‘ลิจฺฉวโย กตหตฺถา กตูปาสนา, ราชา จ เตหิ สทฺธึ สมฺปหารํ เทตี’’ติ อาวชฺเชนฺโต ทิพฺเพน จกฺขุนา ราชานํ ปราชิตํ ปลายมานํ อทฺทส. ตโต ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา ‘‘ราชา อาวุโส ตุมฺหากํ อุปฏฺาโก ลิจฺฉวีหิ ปภคฺโค’’ติ อาห. สจฺจํ, ภิกฺขเว, โมคฺคลฺลาโน อาหาติ ปราชิกกาเล อาวชฺชิตฺวา ยํ ทิฏฺํ ตํ ภณนฺโต สจฺจํ อาห.

๒๓๒. นาโคคาหวตฺถุสฺมึ สปฺปินิกายาติ เอวํนามิกาย. อาเนฺชํ สมาธินฺติ อเนชํ อจลํ กายวาจาวิปฺผนฺทวิรหิตํ จตุตฺถชฺฌานสมาธึ. นาคานนฺติ หตฺถีนํ. โอคยฺห อุตฺตรนฺตานนฺติ โอคยฺห โอคาเหตฺวา ปุน อุตฺตรนฺตานํ. เต กิร คมฺภีรํ อุทกํ โอตริตฺวา ตตฺถ นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ โสณฺฑาย อุทกํ คเหตฺวา อฺมฺํ อาโลเลนฺตา อุตฺตรนฺติ, เตสํ เอวํ โอคยฺห อุตฺตรนฺตานนฺติ วุตฺตํ โหติ. โกฺจํ กโรนฺตานนฺติ นทีตีเร ตฺวา โสณฺฑํ มุเข ปกฺขิปิตฺวา โกฺจนาทํ กโรนฺตานํ. สทฺทํ อสฺโสสินฺติ ตํ โกฺจนาทสทฺทํ อสฺโสสึ. อตฺเถโส, ภิกฺขเว, สมาธิ โส จ โข อปริสุทฺโธติ อตฺถิ เอโส สมาธิ โมคฺคลฺลานสฺส, โส จ โข ปริสุทฺโธ น โหติ. เถโร กิร ปพฺพชิตโต สตฺตเม ทิวเส ตทหุอรหตฺตปฺปตฺโต อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ ปฺจหากาเรหิ อนาจิณฺณวสีภาโว สมาธิปริปนฺถเก ธมฺเม น สุฏฺุ ปริโสเธตฺวา อาวชฺชนสมาปชฺชนาธิฏฺานวุฏฺานปจฺจเวกฺขณานํ สฺามตฺตกเมว กตฺวา จตุตฺถชฺฌานํ อปฺเปตฺวา นิสินฺโน, ฌานงฺเคหิ วุฏฺาย นาคานํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อนฺโตสมาปตฺติยํ อสฺโสสิ’’นฺติ เอวํสฺี อโหสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อตฺเถโส, ภิกฺขเว, สมาธิ; โส จ โข อปริสุทฺโธ’’ติ.

โสภิตวตฺถุสฺมึ อหํ, อาวุโส, ปฺจ กปฺปสตานิ อนุสฺสรามีติ เอกาวชฺชเนน อนุสฺสรามีติ อาห. อิตรถา หิ อนจฺฉริยํ อริยสาวกานํ ปฏิปาฏิยา นานาวชฺชเนน ตสฺส ตสฺส อตีเต นิวาสสฺส อนุสฺสรณนฺติ น ภิกฺขู อุชฺฌาเยยฺยุํ. ยสฺมา ปเนส ‘‘เอกาวชฺชเนน อนุสฺสรามี’’ติ อาห, ตสฺมา ภิกฺขู อุชฺฌายึสุ. อตฺเถสา, ภิกฺขเว, โสภิตสฺส, สา จ โข เอกาเยว ชาตีติ ยํ โสภิโต ชาตึ อนุสฺสรามีติ อาห, อตฺเถสา ชาติ โสภิตสฺส, สา จ โข เอกาเยว อนนฺตรา น อุปฺปฏิปาฏิยา อนุสฺสริตาติ อธิปฺปาโย.

กถํ ปนายํ เอตํ อนุสฺสรีติ? อยํ กิร ปฺจนฺนํ กปฺปสตานํ อุปริ ติตฺถายตเน

ปพฺพชิตฺวา อสฺสมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตตฺวา อปริหีนชฺฌาโน กาลํ กตฺวา อสฺภเว นิพฺพตฺติ. ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา อวสาเน มนุสฺสโลเก อุปฺปนฺโน สาสเน ปพฺพชิตฺวา ติสฺโส วิชฺชา สจฺฉากาสิ. โส ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรมาโน อิมสฺมึ อตฺตภาเว ปฏิสนฺธึ ทิสฺวา ตโต ปรํ ตติเย อตฺตภาเว จุติเมว อทฺทส. อถ อุภินฺนมนฺตรา อจิตฺตกํ อตฺตภาวํ อนุสฺสริตุํ อสกฺโกนฺโต นยโต สลฺลกฺเขสิ – ‘‘อทฺธาอหํ อสฺภเว นิพฺพตฺโต’’ติ. เอวํ สลฺลกฺเขนฺเตน ปนาเนน ทุกฺกรํ กตํ, สตธา ภินฺนสฺส วาลสฺส โกฏิยา โกฏิ ปฏิวิทฺธา, อากาเส ปทํ ทสฺสิตํ. ตสฺมา นํ ภควา อิมสฺมึเยว วตฺถุสฺมึ เอตทคฺเค เปสิ – ‘‘เอตทคฺคํ ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺตานํ ยทิทํ โสภิโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๑๙, ๒๒๗).

วินีตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิคมนวณฺณนา

๒๓๓. อุทฺทิฏฺา โข อายสฺมนฺโต จตฺตาโร ปาราชิกา ธมฺมาติ อิทํ อิธ อุทฺทิฏฺปาราชิกปริทีปนเมว. สโมธาเนตฺวา ปน สพฺพาเนว จตุวีสติ ปาราชิกานิ เวทิตพฺพานิ. กตมานิ จตุวีสติ? ปาฬิยํ อาคตานิ ตาว ภิกฺขูนํ จตฺตาริ, ภิกฺขุนีนํ อสาธารณานิ จตฺตารีติ อฏฺ. เอกาทส อภพฺพปุคฺคลา, เตสุ ปณฺฑกติรจฺฉานคตอุภโตพฺยฺชนกา, ตโย วตฺถุวิปนฺนา อเหตุกปฏิสนฺธิกา, เตสํ สคฺโค อวาริโต มคฺโค ปน วาริโต, อภพฺพา หิ เต มคฺคปฺปฏิลาภาย วตฺถุวิปนฺนตฺตาติ. ปพฺพชฺชาปิ เนสํ ปฏิกฺขิตฺตา, ตสฺมา เตปิ ปาราชิกา. เถยฺยสํวาสโก, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก, มาตุฆาตโก, ปิตุฆาตโก, อรหนฺตฆาตโก, ภิกฺขุนีทูสโก, โลหิตุปฺปาทโก, สงฺฆเภทโกติ อิเม อฏฺ อตฺตโน กิริยาย วิปนฺนตฺตา อภพฺพฏฺานํ ปตฺตาติ ปาราชิกาว. เตสุ เถยฺยสํวาสโก, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก, ภิกฺขุนีทูสโกติ อิเมสํ ติณฺณํ สคฺโค อวาริโต มคฺโค ปน วาริโตว. อิตเรสํ ปฺจนฺนํ อุภยมฺปิ วาริตํ. เต หิ อนนฺตรภเว นรเก นิพฺพตฺตนกสตฺตา. อิติ อิเม จ เอกาทส, ปุริมา จ อฏฺาติ เอกูนวีสติ. เต คิหิลิงฺเค รุจึ อุปฺปาเทตฺวา คิหินิวาสนนิวตฺถาย ภิกฺขุนิยา สทฺธึ วีสติ. สา หิ อชฺฌาจารวีติกฺกมํ อกตฺวาปิ เอตฺตาวตาว อสฺสมณีติ อิมานิ ตาว วีสติ ปาราชิกานิ.

อปรานิปิ – ลมฺพี, มุทุปิฏฺิโก, ปรสฺส องฺคชาตํ มุเขน คณฺหาติ, ปรสฺส องฺคชาเต อภินิสีทตีติ อิเมสํ จตุนฺนํ วเสน จตฺตาริ อนุโลมปาราชิกานีติ วทนฺติ. เอตานิ หิ ยสฺมา อุภินฺนํ ราควเสน สทิสภาวูปคตานํ ธมฺโม ‘‘เมถุนธมฺโม’’ติ วุจฺจติ. ตสฺมา เอเตน ปริยาเยน เมถุนธมฺมํ อปฺปฏิเสวิตฺวาเยว เกวลํ มคฺเคน มคฺคปฺปเวสนวเสน อาปชฺชิตพฺพตฺตา เมถุนธมฺมปาราชิกสฺส อนุโลเมนฺตีติ อนุโลมปาราชิกานีติ วุจฺจนฺติ. อิติ อิมานิ จ จตฺตาริ ปุริมานิ จ วีสตีติ สโมธาเนตฺวา สพฺพาเนว จตุวีสติ ปาราชิกานิ เวทิตพฺพานิ.

น ลภติ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาสนฺติ อุโปสถ-ปวารณ-ปาติโมกฺขุทฺเทส-สงฺฆกมฺมปฺปเภทํ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาสํ น ลภติ. ยถา ปุเร ตถา ปจฺฉาติ ยถา ปุพฺเพ คิหิกาเล อนุปสมฺปนฺนกาเล จ ปจฺฉา ปาราชิกํ อาปนฺโนปิ ตเถว อสํวาโส โหติ. นตฺถิ ตสฺส ภิกฺขูหิ สทฺธึ อุโปสถปวารณปาติโมกฺขุทฺเทสสงฺฆกมฺมปฺปเภโท สํวาโสติ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาสํ น ลภติ. ตตฺถายสฺมนฺเต ปุจฺฉามีติ เตสุ จตูสุ ปาราชิเกสุ อายสฺมนฺเต ‘‘กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธา’’ติ ปุจฺฉามิ. กจฺจิตฺถาติ กจฺจิ เอตฺถ; เอเตสุ จตูสุ ปาราชิเกสุ กจฺจิ ปริสุทฺธาติ อตฺโถ. อถ วา กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธาติ กจฺจิ ปริสุทฺธา อตฺถ, ภวถาติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย

จตุตฺถปาราชิกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สงฺฆาทิเสสกณฺฑํ

๑. สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทวณฺณนา

ยํ ปาราชิกกณฺฑสฺส, สงฺคีตํ สมนนฺตรํ;

ตสฺส เตรสกสฺสายมปุพฺพปทวณฺณนา.

๒๓๔. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา เสยฺยสโก อนภิรโต พฺรหฺมจริยํ จรตีติ เอตฺถ อายสฺมาติ ปิยวจนํ. เสยฺยสโกติ ตสฺส ภิกฺขุโน นามํ. อนภิรโตติ วิกฺขิตฺตจิตฺโต กามราคปริฬาเหน ปริฑยฺหมาโน น ปน คิหิภาวํ ปตฺถยมาโน. โส เตน กิโส โหตีติ โส เสยฺยสโก เตน อนภิรตภาเวน กิโส โหติ.

อทฺทสา โข อายสฺมา อุทายีติ เอตฺถ อุทายีติ ตสฺส เถรสฺส นามํ, อยฺหิ เสยฺยสกสฺส อุปชฺฌาโย ลาฬุทายี นาม ภนฺตมิคสปฺปฏิภาโค นิทฺทารามตาทิมนุยุตฺตานํ อฺตโร โลลภิกฺขุ. กจฺจิ โน ตฺวนฺติ กจฺจิ นุ ตฺวํ. ยาวทตฺถํ ภุฺชาติอาทีสุ ยาวตา อตฺโถติ ยาวทตฺถํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยาวตา เต โภชเนน อตฺโถ ยตฺตกํ ตฺวํ อิจฺฉสิ ตตฺตกํ ภุฺช, ยตฺตกํ กาลํ รตฺตึ วา ทิวา วา สุปิตุํ อิจฺฉสิ ตตฺตกํ สุป, มตฺติกาทีหิ กายํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา จุณฺณาทีหิ ฆํสิตฺวา ยตฺตกํ นฺหานํ อิจฺฉสิ ตตฺตกํ นฺหาย, อุทฺเทเสน วา ปริปุจฺฉาย วา วตฺตปฏิปตฺติยา วา กมฺมฏฺาเนน วา อตฺโถ นตฺถีติ. ยทา เต อนภิรติ อุปฺปชฺชตีติ ยสฺมึ กาเล ตว กามราควเสน อุกฺกณฺิตตา วิกฺขิตฺตจิตฺตตา อุปฺปชฺชติ. ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสตีติ กามราโค จิตฺตํ ธํเสติ ปธํเสติ วิกฺขิปติ เจว มิลาเปติ จ. ตทา หตฺเถน อุปกฺกมิตฺวา อสุจึ โมเจหีติ ตสฺมึ กาเล หตฺเถน วายมิตฺวา อสุจิโมจนํ กโรหิ, เอวฺหิ เต จิตฺเตกคฺคตา ภวิสฺสติ. อิติ ตํ อุปชฺฌาโย อนุสาสิ ยถา ตํ พาโล พาลํ มโค มคํ.

๒๓๕. เตสํ มุฏฺสฺสตีนํ อสมฺปชานานํ นิทฺทํ โอกฺกมนฺตานนฺติ สติสมฺปชฺํ ปหาย นิทฺทํ โอตรนฺตานํ. ตตฺถ กิฺจาปิ นิทฺทํ โอกฺกมนฺตานํ อพฺยากโต ภวงฺควาโร ปวตฺตติ, สติสมฺปชฺวาโร คฬติ, ตถาปิ สยนกาเล มนสิกาโร กาตพฺโพ. ทิวา สุปนฺเตน ยาว นฺหาตสฺส ภิกฺขุโน เกสา น สุกฺขนฺติ ตาว สุปิตฺวา วุฏฺหิสฺสามีติ สอุสฺสาเหน สุปิตพฺพํ. รตฺตึ สุปนฺเตน เอตฺตกํ นาม รตฺติภาคํ สุปิตฺวา จนฺเทน วา ตารกาย วา อิทํ นาม านํ ปตฺตกาเล วุฏฺหิสฺสามีติ สอุสฺสาเหน สุปิตพฺพํ. พุทฺธานุสฺสติอาทีสุ จ ทสสุ กมฺมฏฺาเนสุ เอกํ อฺํ วา จิตฺตรุจิยํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวาว นิทฺทา โอกฺกมิตพฺพา. เอวํ กโรนฺโต หิ สโต สมฺปชาโน สติฺจ สมฺปชฺฺจ อวิชหิตฺวาว นิทฺทํ โอกฺกมตีติ วุจฺจติ. เต ปน ภิกฺขู พาลา โลลา ภนฺตมิคสปฺปฏิภาคา น เอวมกํสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เตสํ มุฏฺสฺสตีนํ อสมฺปชานานํ นิทฺทํ โอกฺกมนฺตาน’’นฺติ.

อตฺถิ เจตฺถ เจตนา ลพฺภตีติ เอตฺถ จ สุปินนฺเต อสฺสาทเจตนา อตฺถิ อุปลพฺภติ. อตฺเถสา, ภิกฺขเว, เจตนา; สา จ โข อพฺโพหาริกาติ ภิกฺขเว เอสา อสฺสาทเจตนา อตฺถิ, สา จ โข อวิสเย อุปฺปนฺนตฺตา อพฺโพหาริกา, อาปตฺติยา องฺคํ น โหติ. อิติ ภควา สุปินนฺเต เจตนาย อพฺโพหาริกภาวํ ทสฺเสตฺวา ‘‘เอวฺจ ปน ภิกฺขเว อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ, สฺเจตนิกา สุกฺกวิสฺสฏฺิ อฺตฺร สุปินนฺตา สงฺฆาทิเสโส’’ติ สานุปฺตฺติกํ สิกฺขาปทํ ปฺาเปสิ.

๒๓๖-๒๓๗. ตตฺถ สํวิชฺชติ เจตนา อสฺสาติ สฺเจตนา, สฺเจตนาว สฺเจตนิกา, สฺเจตนา วา อสฺสา อตฺถีติ สฺเจตนิกา. ยสฺมา ปน ยสฺส สฺเจตนิกา สุกฺกวิสฺสฏฺิ โหติ โส ชานนฺโต สฺชานนฺโต โหติ, สา จสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺิ เจจฺจ อภิวิตริตฺวา วีติกฺกโม โหติ, ตสฺมา พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวา อตฺถเมว ทสฺเสตุํ ‘‘ชานนฺโต สฺชานนฺโต เจจฺจ อภิวิตริตฺวา วีติกฺกโม’’ติ เอวมสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ. ตตฺถ ชานนฺโตติ อุปกฺกมามีติ ชานนฺโต. สฺชานนฺโตติ สุกฺกํ โมเจมีติ สฺชานนฺโต, เตเนว อุปกฺกมชานนากาเรน สทฺธึ ชานนฺโตติ อตฺโถ. เจจฺจาติ โมจนสฺสาทเจตนาวเสน เจเตตฺวา ปกปฺเปตฺวา. อภิวิตริตฺวาติ อุปกฺกมวเสน มทฺทนฺโต นิราสงฺกจิตฺตํ เปเสตฺวา. วีติกฺกโมติ เอวํ ปวตฺตสฺส โย วีติกฺกโม อยํ สฺเจตนิกาสทฺทสฺส สิขาปฺปตฺโต อตฺโถติ วุตฺตํ โหติ.

อิทานิ สุกฺกวิสฺสฏฺีติ เอตฺถ ยสฺส สุกฺกสฺส วิสฺสฏฺิ ตํ ตาว สงฺขฺยาโต วณฺณเภทโต จ ทสฺเสตุํ ‘‘สุกฺกนฺติ ทส สุกฺกานี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุกฺกานํ อาสยเภทโต ธาตุนานตฺตโต จ นีลาทิวณฺณเภโท เวทิตพฺโพ.

วิสฺสฏฺีติ วิสฺสคฺโค, อตฺถโต ปเนตํ านาจาวนํ โหติ, เตนาห – ‘‘วิสฺสฏฺีติ านโต จาวนา วุจฺจตี’’ติ. ตตฺถ วตฺถิสีสํ กฏิ กาโยติ ติธา สุกฺกสฺส านํ ปกปฺเปนฺติ, เอโก กิราจริโย ‘‘วตฺถิสีสํ สุกฺกสฺส าน’’นฺติ อาห. เอโก ‘‘กฏี’’ติ, เอโก ‘‘สกโล กาโย’’ติ, เตสุ ตติยสฺส ภาสิตํ สุภาสิตํ. เกสโลมนขทนฺตานฺหิ มํสวินิมุตฺตฏฺานํ อุจฺจารปสฺสาวเขฬสิงฺฆาณิกาถทฺธสุกฺขจมฺมานิ จ วชฺเชตฺวา อวเสโส ฉวิมํสโลหิตานุคโต สพฺโพปิ กาโย กายปฺปสาทภาวชีวิตินฺทฺริยาพทฺธปิตฺตานํ สมฺภวสฺส จ านเมว. ตถา หิ ราคปริยุฏฺาเนนาภิภูตานํ หตฺถีนํ อุโภหิ กณฺณจูฬิกาหิ สมฺภโว นิกฺขมติ, มหาเสนราชา จ ราคปริยุฏฺิโต สมฺภวเวคํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต สตฺเถน พาหุสีสํ ผาเลตฺวา วณมุเขน นิกฺขนฺตํ สมฺภวํ ทสฺเสสีติ.

เอตฺถ ปน ปมสฺส อาจริยสฺส วาเท โมจนสฺสาเทน นิมิตฺเต อุปกฺกมโต ยตฺตกํ เอกา ขุทฺทกมกฺขิกา ปิเวยฺย ตตฺตเก อสุจิมฺหิ วตฺถิสีสโต มุฺจิตฺวา ทกโสตํ โอติณฺณมตฺเต พหิ นิกฺขนฺเต วา อนิกฺขนฺเต วา สงฺฆาทิเสโส. ทุติยสฺส วาเท ตเถว กฏิโต มุจฺจิตฺวา ทกโสตํ โอติณฺณมตฺเต, ตติยสฺส วาเท ตเถว สกลกายํ สงฺโขเภตฺวา ตโต มุจฺจิตฺวา ทกโสตํ โอติณฺณมตฺเต พหิ นิกฺขนฺเต วา อนิกฺขนฺเต วา สงฺฆาทิเสโส. ทกโสโตโรหณฺเจตฺถ อธิวาเสตฺวา อนฺตรา นิวาเรตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย วุตฺตํ, านา จุตฺหิ อวสฺสํ ทกโสตํ โอตรติ. ตสฺมา านา จาวนมตฺเตเนเวตฺถ อาปตฺติ เวทิตพฺพา, สา จ โข นิมิตฺเต อุปกฺกมนฺตสฺเสว หตฺถปริกมฺมปาทปริกมฺมคตฺตปริกมฺมกรเณน สเจปิ อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. อยํ สพฺพาจริยสาธารณวินิจฺฉโย.

อฺตฺร สุปินนฺตาติ เอตฺถ สุปิโน เอว สุปินนฺโต, ตํ เปตฺวา อปเนตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ตฺจ ปน สุปินํ ปสฺสนฺโต จตูหิ การเณหิ ปสฺสติ ธาตุกฺโขภโต วา อนุภูตปุพฺพโต วา เทวโตปสํหารโต วา ปุพฺพนิมิตฺตโต วาติ.

ตตฺถ ปิตฺตาทีนํ โขภกรณปจฺจยโยเคน ขุภิตธาตุโก ธาตุกฺโขภโต สุปินํ ปสฺสติ, ปสฺสนฺโต จ นานาวิธํ สุปินํ ปสฺสติ – ปพฺพตา ปตนฺโต วิย, อากาเสน คจฺฉนฺโต วิย, วาฬมิคหตฺถีโจราทีหิ อนุพทฺโธ วิย โหติ. อนุภูตปุพฺพโต ปสฺสนฺโต ปุพฺเพ อนุภูตปุพฺพํ อารมฺมณํ ปสฺสติ. เทวโตปสํหารโต ปสฺสนฺตสฺส เทวตา อตฺถกามตาย วา อนตฺถกามตาย วา อตฺถาย วา อนตฺถาย วา นานาวิธานิ อารมฺมณานิ อุปสํหรนฺติ, โส ตาสํ เทวตานํ อานุภาเวน ตานิ อารมฺมณานิ ปสฺสติ. ปุพฺพนิมิตฺตโต ปสฺสนฺโต ปุฺาปุฺวเสน อุปฺปชฺชิตุกามสฺส อตฺถสฺส วา อนตฺถสฺส วา ปุพฺพนิมิตฺตภูตํ สุปินํ ปสฺสติ, โพธิสตฺตสฺสมาตา วิย ปุตฺตปฏิลาภนิมิตฺตํ, โพธิสตฺโต วิย ปฺจ มหาสุปิเน (อ. นิ. ๕.๑๙๖), โกสลราชา วิย โสฬส สุปิเนติ.

ตตฺถ ยํ ธาตุกฺโขภโต อนุภูตปุพฺพโต จ สุปินํ ปสฺสติ น ตํ สจฺจํ โหติ. ยํ เทวโตปสํหารโต ปสฺสติ ตํ สจฺจํ วา โหติ อลีกํ วา, กุทฺธา หิ เทวตา อุปาเยน วินาเสตุกามา วิปรีตมฺปิ กตฺวา ทสฺเสนฺติ. ยํ ปน ปุพฺพนิมิตฺตโต ปสฺสติ ตํ เอกนฺตสจฺจเมว โหติ. เอเตสฺจ จตุนฺนํ มูลการณานํ สํสคฺคเภทโตปิ สุปินเภโท โหติเยว.

ตฺจ ปเนตํ จตุพฺพิธมฺปิ สุปินํ เสกฺขปุถุชฺชนาว ปสฺสนฺติ อปฺปหีนวิปลฺลาสตฺตา, อเสกฺขา ปน น ปสฺสนฺติ ปหีนวิปลฺลาสตฺตา. กึ ปเนตํ ปสฺสนฺโต สุตฺโต ปสฺสติ ปฏิพุทฺโธ, อุทาหุ เนว สุตฺโต น ปฏิพุทฺโธติ? กิฺเจตฺถ ยทิ ตาว สุตฺโต ปสฺสติ อภิธมฺมวิโรโธ อาปชฺชติ, ภวงฺคจิตฺเตน หิ สุปติ ตํ รูปนิมิตฺตาทิอารมฺมณํ ราคาทิสมฺปยุตฺตํ วา น โหติ, สุปินํ ปสฺสนฺตสฺส จ อีทิสานิ จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อถ ปฏิพุทฺโธ ปสฺสติ วินยวิโรโธ อาปชฺชติ, ยฺหิ ปฏิพุทฺโธ ปสฺสติ ตํ สพฺโพหาริกจิตฺเตน ปสฺสติ, สพฺโพหาริกจิตฺเตน จ กเต วีติกฺกเม อนาปตฺติ นาม นตฺถิ. สุปินํ ปสฺสนฺเตน ปน กเตปิ วีติกฺกเม เอกนฺตํ อนาปตฺติ เอว. อถ เนว สุตฺโต น ปฏิพุทฺโธ ปสฺสติ, โก นาม ปสฺสติ; เอวฺจ สติ สุปินสฺส อภาโวว อาปชฺชตีติ, น อภาโว. กสฺมา? ยสฺมา กปิมิทฺธปเรโต ปสฺสติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘กปิมิทฺธปเรโต โข, มหาราช, สุปินํ ปสฺสตี’’ติ. กปิมิทฺธปเรโตติ มกฺกฏนิทฺทาย ยุตฺโต. ยถา หิ มกฺกฏสฺส นิทฺทา ลหุปริวตฺตา โหติ; เอวํ ยา นิทฺทา ปุนปฺปุนํ กุสลาทิจิตฺตโวกิณฺณตฺตา ลหุปริวตฺตา, ยสฺสา ปวตฺติยํ ปุนปฺปุนํ ภวงฺคโต อุตฺตรณํ โหติ ตาย ยุตฺโต สุปินํ ปสฺสติ, เตนายํ สุปิโน กุสโลปิ โหติ อกุสโลปิ อพฺยากโตปิ. ตตฺถ สุปินนฺเต เจติยวนฺทนธมฺมสฺสวนธมฺมเทสนาทีนิ กโรนฺตสฺส กุสโล, ปาณาติปาตาทีนิ กโรนฺตสฺส อกุสโล, ทฺวีหิ อนฺเตหิ มุตฺโต อาวชฺชนตทารมฺมณกฺขเณ อพฺยากโตติ เวทิตพฺโพ. สฺวายํ ทุพฺพลวตฺถุกตฺตา เจตนาย ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒิตุํ อสมตฺโถ, ปวตฺเต ปน อฺเหิ กุสลากุสเลหิ อุปตฺถมฺภิโต วิปากํ เทติ. กิฺจาปิ วิปากํ เทติ? อถ โข อวิสเย อุปฺปนฺนตฺตา อพฺโพหาริกาว สุปินนฺตเจตนา. เตนาห – ‘‘เปตฺวา สุปินนฺต’’นฺติ.

สงฺฆาทิเสโสติ อิมสฺส อาปตฺตินิกายสฺส นามํ. ตสฺมา ยา อฺตฺร สุปินนฺตา สฺเจตนิกา สุกฺกวิสฺสฏฺิ, อยํ สงฺฆาทิเสโส นาม อาปตฺตินิกาโยติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. วจนตฺโถ ปเนตฺถ สงฺโฆ อาทิมฺหิ เจว เสเส จ อิจฺฉิตพฺโพ อสฺสาติ สงฺฆาทิเสโส. กึ วุตฺตํ โหติ? อิมํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา วุฏฺาตุกามสฺส ยํ ตํ อาปตฺติวุฏฺานํ, ตสฺส อาทิมฺหิ เจว ปริวาสทานตฺถาย อาทิโต เสเส จ มชฺเฌ มานตฺตทานตฺถาย มูลาย ปฏิกสฺสเนน วา สห มานตฺตทานตฺถาย อวสาเน อพฺภานตฺถาย สงฺโฆ อิจฺฉิตพฺโพ. น เหตฺถ เอกมฺปิ กมฺมํ วินา สงฺเฆน สกฺกา กาตุนฺติ สงฺโฆ อาทิมฺหิ เจว เสเส จ อิจฺฉิตพฺโพ อสฺสาติ สงฺฆาทิเสโสติ. พฺยฺชนํ ปน อนาทิยิตฺวา อตฺถเมว ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺโฆว ตสฺสา อาปตฺติยา ปริวาสํ เทติ, มูลาย ปฏิกสฺสติ, มานตฺตํ เทติ, อพฺเภติ น สมฺพหุลา น เอกปุคฺคโล, เตน วุจฺจติ สงฺฆาทิเสโส’’ติ อิทมสฺส ปทภาชนํ –

‘‘สงฺฆาทิเสโสติ ยํ วุตฺตํ, ตํ สุโณหิ ยถาตถํ;

สงฺโฆว เทติ ปริวาสํ, มูลาย ปฏิกสฺสติ;

มานตฺตํ เทติ อพฺเภติ, เตเนตํ อิติ วุจฺจตี’’ติ. (ปริ. ๓๓๙) –

ปริวาเร วจนการณฺจ วุตฺตํ, ตตฺถ ปริวาสทานาทีนิ สมุจฺจยกฺขนฺธเก วิตฺถารโต อาคตานิ, ตตฺเถว เนสํ สํวณฺณนํ กริสฺสาม.

ตสฺเสว อาปตฺตินิกายสฺสาติ ตสฺส เอว อาปตฺติสมูหสฺส. ตตฺถ กิฺจาปิ อยํ เอกาว อาปตฺติ, รูฬฺหิสทฺเทน ปน อวยเว สมูหโวหาเรน วา ‘‘นิกาโย’’ติ วุตฺโต – ‘‘เอโก เวทนากฺขนฺโธ, เอโก วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ วิย.

เอวํ อุทฺทิฏฺสิกฺขาปทํ ปทานุกฺกเมน วิภชิตฺวา อิทานิ อิมํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ อาปชฺชนฺตสฺส อุปายฺจ กาลฺจ อธิปฺปายฺจ อธิปฺปายวตฺถุฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘อชฺฌตฺตรูเป โมเจตี’’ติอาทิมาห. เอตฺถ หิ อชฺฌตฺตรูปาทีหิ จตูหิ ปเทหิ อุปาโย ทสฺสิโต, อชฺฌตฺตรูเป วา โมเจยฺย พหิทฺธารูเป วา อุภยตฺถ วา อากาเส วา กฏึ กมฺเปนฺโต, อิโต ปรํ อฺโ อุปาโย นตฺถิ. ตตฺถ รูเป ฆฏฺเฏตฺวา โมเจนฺโตปิ รูเปน ฆฏฺเฏตฺวา โมเจนฺโตปิ รูเป โมเจติจฺเจว เวทิตพฺโพ. รูเป หิ สติ โส โมเจติ น รูปํ อลภิตฺวา. ราคูปตฺถมฺภาทีหิ ปน ปฺจหิ กาโล ทสฺสิโต. ราคูปตฺถมฺภาทิกาเลสุ หิ องฺคชาตํ กมฺมนิยํ โหติ, ยสฺส กมฺมนิยตฺเต สติ โมเจติ. อิโต ปรํ อฺโ กาโล นตฺถิ, น หิ วินา ราคูปตฺถมฺภาทีหิ ปุพฺพณฺหาทโย กาลเภทา โมจเน นิมิตฺตํ โหนฺติ.

อาโรคฺยตฺถายาติอาทีหิ ทสหิ อธิปฺปาโย ทสฺสิโต, เอวรูเปน หิ อธิปฺปายเภเทน โมเจติ น อฺถา. นีลาทีหิ ปน ทสหิ นวมสฺส อธิปฺปายสฺส วตฺถุ ทสฺสิตํ, วีมํสนฺโต หิ นีลาทีสุ อฺตรสฺส วเสน วีมํสติ น เตหิ วินิมุตฺตนฺติ.

๒๓๘. อิโต ปรํ ปน อิเมสํเยว อชฺฌตฺตรูปาทีนํ ปทานํ ปกาสนตฺถํ ‘‘อชฺฌตฺตรูเปติ อชฺฌตฺตํ อุปาทินฺเน รูเป’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตตฺถ อชฺฌตฺตํ อุปาทินฺเน รูเปติ อตฺตโน หตฺถาทิเภเท รูเป. พหิทฺธา อุปาทินฺเนติ ปรสฺส ตาทิเสเยว. อนุปาทินฺเนติ ตาฬจฺฉิทฺทาทิเภเท. ตทุภเยติ อตฺตโน จ ปรสฺส จ รูเป, อุภยฆฏฺฏนวเสเนตํ วุตฺตํ. อตฺตโน รูเปน จ อนุปาทินฺนรูเปน จ เอกโต ฆฏฺฏเนปิ ลพฺภติ. อากาเส วายมนฺตสฺสาติ เกนจิ รูเปน อฆฏฺเฏตฺวา อากาเสเยว กฏิกมฺปนปยโอเคน องฺคชาตํ จาเลนฺตสฺส.

ราคูปตฺถมฺเภติ ราคสฺส พลวภาเว, ราเคน วา องฺคชาตสฺส อุปตฺถมฺเภ, ถทฺธภาเว สฺชาเตติ วุตฺตํ โหติ. กมฺมนิยํ โหตีติ โมจนกมฺมกฺขมํ อชฺฌตฺตรูปาทีสุ อุปกฺกมารหํ โหติ.

อุจฺจาลิงฺคปาณกทฏฺูปตฺถมฺเภติ อุจฺจาลิงฺคปาณกทฏฺเน องฺคชาเต อุปตฺถมฺเภ. อุจฺจาลิงฺคปาณกา นาม โลมสปาณกา โหนฺติ, เตสํ โลเมหิ ผุฏฺํ องฺคชาตํ กณฺฑุํ คเหตฺวา ถทฺธํ โหติ, ตตฺถ ยสฺมา ตานิ โลมานิ องฺคชาตํ ฑํสนฺตานิ วิย วิชฺฌนฺติ, ตสฺมา ‘‘อุจฺจาลิงฺคปาณกทฏฺเนา’’ติ วุตฺตํ, อตฺถโต ปน อุจฺจาลิงฺคปาณกโลมเวธเนนาติ วุตฺตํ โหติ.

๒๓๙. อโรโค ภวิสฺสามีติ โมเจตฺวา อโรโค ภวิสฺสามิ. สุขํ เวทนํ อุปฺปาเทสฺสามีติ โมจเนน จ มุจฺจนุปฺปตฺติยา มุตฺตปจฺจยา จ ยา สุขา เวทนา โหติ, ตํ อุปฺปาเทสฺสามีติ อตฺโถ. เภสชฺชํ ภวิสฺสตีติ อิทํ เม โมจิตํ กิฺจิเทว เภสชฺชํ ภวิสฺสติ. ทานํ ทสฺสามีติ โมเจตฺวา กีฏกิปิลฺลิกาทีนํ ทานํ ทสฺสามิ. ปุฺํ ภวิสฺสตีติ โมเจตฺวา กีฏาทีนํ เทนฺตสฺส ปุฺํ ภวิสฺสติ. ยฺํ ยชิสฺสามีติ โมเจตฺวา กีฏาทีนํ ยฺํ ยชิสฺสามิ. กิฺจิ กิฺจิ มนฺตปทํ วตฺวา ทสฺสามีติ วุตฺตํ โหติ. สคฺคํ คมิสฺสามีติ โมเจตฺวา กีฏาทีนํ ทินฺนทาเนน วา ปุฺเน วา ยฺเน วา สคฺคํ คมิสฺสามิ. พีชํ ภวิสฺสตีติ กุลวํสงฺกุรสฺส ทารกสฺส พีชํ ภวิสฺสติ, ‘‘อิมินา พีเชน ปุตฺโต นิพฺพตฺติสฺสตี’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน โมเจตีติ อตฺโถ. วีมํสตฺถายาติ ชานนตฺถาย. นีลํ ภวิสฺสตีติอาทีสุ ชานิสฺสามิ ตาว กึ เม โมจิตํ นีลํ ภวิสฺสติ ปีตกาทีสุ อฺตรวณฺณนฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ขิฑฺฑาธิปฺปาโยติ ขิฑฺฑาปสุโต, เตน เตน อธิปฺปาเยน กีฬนฺโต โมเจตีติ วุตฺตํ โหติ.

๒๔๐. อิทานิ ยทิทํ ‘‘อชฺฌตฺตรูเป โมเจตี’’ติอาทิ วุตฺตํ ตตฺถ ยถา โมเจนฺโต อาปตฺตึ อาปชฺชติ, เตสฺจ ปทานํ วเสน ยตฺตโก อาปตฺติเภโท โหติ, ตํ สพฺพํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อชฺฌตฺตรูเป เจเตติ อุปกฺกมติ มุจฺจติ อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ เจเตตีติ โมจนสฺสาทสมฺปยุตฺตาย เจตนาย มุจฺจตูติ เจเตติ. อุปกฺกมตีติ ตทนุรูปํ วายามํ กโรติ. มุจฺจตีติ เอวํ เจเตนฺตสฺส ตทนุรูเปน วายาเมน วายมโต สุกฺกํ านา จวติ. อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสาติ อิเมหิ ตีหิ องฺเคหิ อสฺส ปุคฺคลสฺส สงฺฆาทิเสโส นาม อาปตฺตินิกาโย โหตีติ อตฺโถ. เอส นโย พหิทฺธารูเปติอาทีสุปิ อวเสเสสุ อฏฺวีสติยา ปเทสุ.

เอตฺถ ปน ทฺเว อาปตฺติสหสฺสานิ นีหริตฺวา ทสฺเสตพฺพานิ. กถํ? อชฺฌตฺตรูเป ตาว ราคูปตฺถมฺเภ อาโรคฺยตฺถาย นีลํ โมเจนฺตสฺส เอกา อาปตฺติ, อชฺฌตฺตรูเปเยว ราคูปตฺถมฺเภ อาโรคฺยตฺถาย ปีตาทีนํ โมจนวเสน อปรา นวาติ ทส. ยถา จ อาโรคฺยตฺถาย ทส, เอวํ สุขาทีนํ นวนฺนํ ปทานํ อตฺถาย เอเกกปเท ทส ทส กตฺวา นวุติ, อิติ อิมา จ นวุติ ปุริมา จ ทสาติ ราคูปตฺถมฺเภ ตาว สตํ. ยถา ปน ราคูปตฺถมฺเภ เอวํ วจฺจูปตฺถมฺภาทีสุปิ จตูสุ เอเกกสฺมึ อุปตฺถมฺเภ สตํ สตํ กตฺวา จตฺตาริ สตานิ, อิติ อิมานิ จตฺตาริ ปุริมฺจ เอกนฺติ อชฺฌตฺตรูเป ตาว ปฺจนฺนํ อุปตฺถมฺภานํ วเสน ปฺจ สตานิ. ยถา จ อชฺฌตฺตรูเป ปฺจ, เอวํ พหิทฺธารูเป ปฺจ, อชฺฌตฺตพหิทฺธารูเป ปฺจ, อากาเส กฏึ กมฺเปนฺตสฺส ปฺจาติ สพฺพานิปิ จตุนฺนํ ปฺจกานํ วเสน ทฺเว อาปตฺติสหสฺสานิ เวทิตพฺพานิ.

อิทานิ อาโรคฺยตฺถายาติอาทีสุ ตาว ทสสุ ปเทสุ ปฏิปาฏิยา วา อุปฺปฏิปาฏิยา วา เหฏฺา วา คเหตฺวา อุปริ คณฺหนฺตสฺส, อุปริ วา คเหตฺวา เหฏฺา คณฺหนฺตสฺส, อุภโต วา คเหตฺวา มชฺเฌ เปนฺตสฺส, มชฺเฌ วา คเหตฺวา อุภโต หรนฺตสฺส, สพฺพมูลํ วา กตฺวา คณฺหนฺตสฺส เจตนูปกฺกมโมจเน สติ วิสงฺเกโต นาม นตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อาโรคฺยตฺถฺจ สุขตฺถฺจา’’ติ ขณฺฑจกฺกพทฺธจกฺกาทิเภทวิจิตฺตํ ปาฬิมาห.

ตตฺถ อาโรคฺยตฺถฺจ สุขตฺถฺจ อาโรคฺยตฺถฺจ เภสชฺชตฺถฺจา ติ เอวํ อาโรคฺยปทํ สพฺพปเทหิ โยเชตฺวา วุตฺตเมกํ ขณฺฑจกฺกํ. สุขปทาทีนิ สพฺพปเทหิ โยเชตฺวา ยาว อตฺตโน อตฺตโน อตีตานนฺตรปทํ ตาว อาเนตฺวา วุตฺตานิ นว พทฺธจกฺกานีติ เอวํ เอเกกมูลกานิ ทส จกฺกานิ โหนฺติ, ตานิ ทุมูลกาทีหิ สทฺธึ อสมฺโมหโต วิตฺถาเรตฺวา เวทิตพฺพานิ. อตฺโถ ปเนตฺถ ปากโฏเยว.

ยถา จ อาโรคฺยตฺถายาติอาทีสุ ทสสุ ปเทสุ, เอวํ นีลาทีสุปิ ‘‘นีลฺจ ปีตกฺจ เจเตติ อุปกฺกมตี’’ติอาทินา นเยน ทส จกฺกานิ วุตฺตานิ, ตานิปิ อสมฺโมหโต วิตฺถาเรตฺวา เวทิตพฺพานิ. อตฺโถ ปเนตฺถ ปากโฏเยว.

ปุน อาโรคฺยตฺถฺจ นีลฺจ อาโรคฺยตฺถฺจ สุขตฺถฺจ นีลฺจ ปีตกฺจาติ เอเกเนกํ ทฺวีหิ ทฺเว…เป… ทสหิ ทสาติ เอวํ ปุริมปเทหิ สทฺธึ ปจฺฉิมปทานิ โยเชตฺวา เอกํ มิสฺสกจกฺกํ วุตฺตํ.

อิทานิ ยสฺมา ‘‘นีลํ โมเจสฺสามี’’ติ เจเตตฺวา อุปกฺกมนฺตสฺส ปีตกาทีสุ มุตฺเตสุปิ ปีตกาทิวเสน เจเตตฺวา อุปกฺกมนฺตสฺส อิตเรสุ มุตฺเตสุปิ เนวตฺถิ วิสงฺเกโต, ตสฺมา เอตมฺปิ นยํ ทสฺเสตุํ ‘‘นีลํ โมเจสฺสามีติ เจเตติ อุปกฺกมติ ปีตกํ มุจฺจตี’’ติอาทินา นเยน จกฺกานิ วุตฺตานิ. ตโต ปรํ สพฺพปจฺฉิมปทํ นีลาทีหิ นวหิ ปเทหิ สทฺธึ โยเชตฺวา กุจฺฉิจกฺกํ นาม วุตฺตํ. ตโต ปีตกาทีนิ นว ปทานิ เอเกน นีลปเทเนว สทฺธึ โยเชตฺวา ปิฏฺิจกฺกํ นาม วุตฺตํ. ตโต โลหิตกาทีนิ นว ปทานิ เอเกน ปีตกปเทเนว สทฺธึ โยเชตฺวา ทุติยํ ปิฏฺิจกฺกํ วุตฺตํ. เอวํ โลหิตกปทาทีหิ สทฺธึ อิตรานิ นว นว ปทานิ โยเชตฺวา อฺานิปิ อฏฺ จกฺกานิ วุตฺตานีติ เอวํ ทสคติกํ ปิฏฺิจกฺกํ เวทิตพฺพํ.

เอวํ ขณฺฑจกฺกาทีนํ อเนเกสํ จกฺกานํ วเสน วิตฺถารโต ครุกาปตฺติเมว ทสฺเสตฺวา อิทานิ องฺควเสเนว ครุกาปตฺติฺจ ลหุกาปตฺติฺจ อนาปตฺติฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘เจเตติ อุปกฺกมติ มุจฺจตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปุริมนเยน อชฺฌตฺตรูปาทีสุ ราคาทิอุปตฺถมฺเภ สติ อาโรคฺยาทีนํ อตฺถาย เจเตนฺตสฺส อุปกฺกมิตฺวา อสุจิโมจเน ติวงฺคสมฺปนฺนา ครุกาปตฺติ วุตฺตา. ทุติเยน นเยน เจเตนฺตสฺส อุปกฺกมนฺตสฺส จ โมจเน อสติ ทุวงฺคสมฺปนฺนา ลหุกา ถุลฺลจฺจยาปตฺติ. ‘‘เจเตติ น อุปกฺกมติ มุจฺจตี’’ติอาทีหิ ฉหิ นเยหิ อนาปตฺติ.

อยํ ปน อาปตฺตานาปตฺติเภโท สณฺโห สุขุโม, ตสฺมา สุฏฺุ สลฺลกฺเขตพฺโพ. สุฏฺุ สลฺลกฺเขตฺวา กุกฺกุจฺจํ ปุจฺฉิเตน อาปตฺติ วา อนาปตฺติ วา อาจิกฺขิตพฺพา, วินยกมฺมํ วา กาตพฺพํ. อสลฺลกฺเขตฺวา กโรนฺโต หิ โรคนิทานํ อชานิตฺวา เภสชฺชํ กโรนฺโต เวชฺโช วิย วิฆาตฺจ อาปชฺชติ, น จ ตํ ปุคฺคลํ ติกิจฺฉิตุํ สมตฺโถ โหติ. ตตฺรายํ สลฺลกฺขณวิธิ – กุกฺกุจฺเจน อาคโต ภิกฺขุ ยาวตติยํ ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘‘กตเรน ปโยเคน กตเรน ราเคน อาปนฺโนสี’’ติ. สเจ ปมํ อฺํ วตฺวา ปจฺฉา อฺํ วทติ น เอกมคฺเคน กเถติ, โส วตฺตพฺโพ – ‘‘ตฺวํ น เอกมคฺเคน กเถสิ ปริหรสิ, น สกฺกา ตว วินยกมฺมํ กาตุํ คจฺฉ โสตฺถึ คเวสา’’ติ. สเจ ปน ติกฺขตฺตุมฺปิ เอกมคฺเคเนว กเถติ, ยถาภูตํ อตฺตานํ อาวิกโรติ, อถสฺส อาปตฺตานาปตฺติครุกลหุกาปตฺติวินิจฺฉยตฺถํ เอกาทสนฺนํ ราคานํ วเสน เอกาทส ปโยคา สมเวกฺขิตพฺพา.

ตตฺริเม เอกาทส ราคา – โมจนสฺสาโท, มุจฺจนสฺสาโท, มุตฺตสฺสาโท, เมถุนสฺสาโท, ผสฺสสฺสาโท, กณฺฑุวนสฺสาโท, ทสฺสนสฺสาโท, นิสชฺชสฺสาโท, วาจสฺสาโท, เคหสฺสิตเปมํ, วนภงฺคิยนฺติ. ตตฺถ โมเจตุํ อสฺสาโท โมจนสฺสาโท, มุจฺจเน อสฺสาโท มุจฺจนสฺสาโท, มุตฺเต อสฺสาโท มุตฺตสฺสาโท, เมถุเน อสฺสาโท เมถุนสฺสาโท, ผสฺเส อสฺสาโท ผสฺสสฺสาโท, กณฺฑุวเน อสฺสาโท กณฺฑุวนสฺสาโท, ทสฺสเน อสฺสาโท ทสฺสนสฺสาโท, นิสชฺชาย อสฺสาโท นิสชฺชสฺสาโท, วาจาย อสฺสาโท วาจสฺสาโท, เคหสฺสิตํ เปมํ เคหสฺสิตเปมํ, วนภงฺคิยนฺติ ยํกิฺจิ ปุปฺผผลาทิ วนโต ภฺชิตฺวา อาหฏํ. เอตฺถ จ นวหิ ปเทหิ สมฺปยุตฺตอสฺสาทสีเสน ราโค วุตฺโต. เอเกน ปเทน สรูเปเนว, เอเกน ปเทน วตฺถุนา วุตฺโต, วนภงฺโค หิ ราคสฺส วตฺถุ น ราโคเยว.

เอเตสํ ปน ราคานํ วเสน เอวํ ปโยคา สมเวกฺขิตพฺพา – โมจนสฺสาเท โมจนสฺสาทเจตนาย เจเตนฺโต เจว อสฺสาเทนฺโต จ อุปกฺกมติ มุจฺจติ สงฺฆาทิเสโส. ตเถว เจเตนฺโต จ อสฺสาเทนฺโต จ อุปกฺกมติ น มุจฺจติ ถุลฺลจฺจยํ. สเจ ปน สยนกาเล ราคปริยุฏฺิโต หุตฺวา อูรุนา วา มุฏฺินา วา องฺคชาตํ คาฬฺหํ ปีเฬตฺวา โมจนตฺถาย สอุสฺสาโหว สุปติ, สุปนฺตสฺส จสฺส อสุจิ มุจฺจติ สงฺฆาทิเสโส. สเจ ราคปริยุฏฺานํ อสุภมนสิกาเรน วูปสเมตฺวา สุทฺธจิตฺโต สุปติ, สุปนฺตสฺส มุตฺเตปิ อนาปตฺติ.

มุจฺจนสฺสาเท อตฺตโน ธมฺมตาย มุจฺจมานํ อสฺสาเทติ น อุปกฺกมติ อนาปตฺติ. สเจ ปน มุจฺจมานํ อสฺสาเทนฺโต อุปกฺกมติ, เตน อุปกฺกเมน มุตฺเต สงฺฆาทิเสโส. อตฺตโน ธมฺมตาย มุจฺจมาเน ‘‘มา กาสาวํ วา เสนาสนํ วา ทุสฺสี’’ติ องฺคชาตํ คเหตฺวา ชคฺคนตฺถาย อุทกฏฺานํ คจฺฉติ วฏฺฏตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.

มุตฺตสฺสาเท อตฺตโน ธมฺมตาย มุตฺเต านา จุเต อสุจิมฺหิ ปจฺฉา อสฺสาเทนฺตสฺส วินา อุปกฺกเมน มุจฺจติ, อนาปตฺติ. สเจ อสฺสาเทตฺวา ปุน โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส.

เมถุนสฺสาเท เมถุนราเคน มาตุคามํ คณฺหาติ, เตน ปโยเคน อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. เมถุนธมฺมสฺส ปโยคตฺตา ปน ตาทิเส คหเณ ทุกฺกฏํ, สีสํ ปตฺเต ปาราชิกํ. สเจ เมถุนราเคน รตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส.

ผสฺสสฺสาเท ทุวิโธ ผสฺโส – อชฺฌตฺติโก, พาหิโร จ. อชฺฌตฺติเก ตาว อตฺตโน นิมิตฺตํ ถทฺธํ มุทุกนฺติ ชานิสฺสามีติ วา โลลภาเวน วา กีฬาปยโต อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. สเจ กีฬาเปนฺโต อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส. พาหิรผสฺเส ปน กายสํสคฺคราเคน มาตุคามสฺส องฺคมงฺคานิ ปรามสโต เจว อาลิงฺคโต จ อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. กายสํสคฺคสงฺฆาทิเสสํ ปน อาปชฺชติ. สเจ กายสํสคฺคราเคน รตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ วิสฏฺิปจฺจยาปิ สงฺฆาทิเสโส.

กณฺฑุวนสฺสาเท ททฺทุกจฺฉุปิฬกปาณกาทีนํ อฺตรวเสน กณฺฑุวมานํ นิมิตฺตํ กณฺฑุวนสฺสาเท เนว กณฺฑุวโต อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. กณฺฑุวนสฺสาเทน รตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส.

ทสฺสนสฺสาเท ทสฺสนสฺสาเทน ปุนปฺปุนํ มาตุคามสฺส อโนกาสํ อุปนิชฺฌายโต อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. มาตุคามสฺส อโนกาสุปนิชฺฌาเน ปน ทุกฺกฏํ. สเจ ทสฺสนสฺสาเทน รตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส.

นิสชฺชสฺสาเท มาตุคาเมน สทฺธึ รโห นิสชฺชสฺสาทราเคน นิสินฺนสฺส อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. รโห นิสชฺชปจฺจยา ปน อาปนฺนาย อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. สเจ นิสชฺชสฺสาเทน รตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส.

วาจสฺสาเท วาจสฺสาทราเคน มาตุคามํ เมถุนสนฺนิสฺสิตาหิ วาจาหิ โอภาสนฺตสฺส อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. ทุฏฺุลฺลวาจาสงฺฆาทิเสสํ ปน อาปชฺชติ. สเจ วาจสฺสาเทน รตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส.

เคหสฺสิตเปเม มาตรํ วา มาตุเปเมน ภคินึ วา ภคินิเปเมน ปุนปฺปุนํ ปรามสโต เจว อาลิงฺคโต จ อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. เคหสฺสิตเปเมน ปน ผุสนปจฺจยา ทุกฺกฏํ. สเจ เคหสฺสิตเปเมน รตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส.

วนภงฺเค อิตฺถิปุริสา อฺมฺํ กิฺจิเทว ตมฺพูลคนฺธปุปฺผวาสาทิปฺปการํ ปณฺณาการํ มิตฺตสนฺถวภาวสฺส ทฬฺหภาวตฺถาย เปเสนฺติ อยํ วนภงฺโค นาม. ตฺเจ มาตุคาโม กสฺสจิ สํสฏฺวิหาริกสฺส กุลูปกภิกฺขุโน เปเสติ, ตสฺส จ ‘‘อสุกาย นาม อิทํ เปสิต’’นฺติ สารตฺตสฺส ปุนปฺปุนํ หตฺเถหิ ตํ วนภงฺคํ กีฬาปยโต อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. สเจ วนภงฺเค สารตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส. สเจ อุปกฺกมนฺเตปิ น มุจฺจติ, ถุลฺลจฺจยํ.

เอวเมเตสํ เอกาทสนฺนํ ราคานํ วเสน อิเม เอกาทส ปโยเค สเมเวกฺขิตฺวา อาปตฺติ วา อนาปตฺติ วา สลฺลกฺเขตพฺพา. สลฺลกฺเขตฺวา สเจ ครุกา โหติ ‘‘ครุกา’’ติ อาจิกฺขิตพฺพา. สเจ ลหุกา โหติ ‘‘ลหุกา’’ติ อาจิกฺขิตพฺพา. ตทนุรูปฺจ วินยกมฺมํ กาตพฺพํ. เอวฺหิ กตํ สุกตํ โหติ โรคนิทานํ ตฺวา เวชฺเชน กตเภสชฺชมิว, ตสฺส จ ปุคฺคลสฺส โสตฺถิภาวาย สํวตฺตติ.

๒๖๒. เจเตติ น อุปกฺกมตีติอาทีสุ โมจนสฺสาทเจตนาย เจเตติ, น อุปกฺกมติ, มุจฺจติ, อนาปตฺติ. โมจนสฺสาทปีฬิโต ‘‘อโห วต มุจฺเจยฺยา’’ติ เจเตติ, น อุปกฺกมติ, น มุจฺจติ, อนาปตฺติ. โมจนสฺสาเทน น เจเตติ, ผสฺสสฺสาเทน กณฺฑุวนสฺสาเทน วา อุปกฺกมติ, มุจฺจติ, อนาปตฺติ. ตเถว น เจเตติ, อุปกฺกมติ, น มุจฺจติ, อนาปตฺติ. กามวิตกฺกํ วิตกฺเกนฺโต โมจนตฺถาย น เจเตติ, น อุปกฺกมติ, มุจฺจติ, อนาปตฺติ. สเจ ปนสฺส วิตกฺกยโตปิ น มุจฺจติ อิทํ อาคตเมว โหติ, ‘‘น เจเตติ, น อุปกฺกมติ, น มุจฺจติ, อนาปตฺตี’’ติ.

อนาปตฺติ สุปินนฺเตนาติ สุตฺตสฺส สุปิเน เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส วิย กายสํสคฺคาทีนิ อาปชฺชนฺตสฺส วิย สุปินนฺเตเนว การเณน ยสฺส อสุจิ มุจฺจติ, ตสฺส อนาปตฺติ. สุปิเน ปน อุปฺปนฺนาย อสฺสาทเจตนาย สจสฺส วิสโย โหติ, นิจฺจเลน ภวิตพฺพํ, น หตฺเถน นิมิตฺตํ กีฬาเปตพฺพํ, กาสาวปจฺจตฺถรณรกฺขณตฺถํ ปน หตฺถปุเฏน คเหตฺวา ชคฺคนตฺถาย อุทกฏฺานํ คนฺตุํ วฏฺฏติ.

นโมจนาธิปฺปายสฺสาติ ยสฺส เภสชฺเชน วา นิมิตฺตํ อาลิมฺปนฺตสฺส อุจฺจาราทีนิ วา กโรนฺตสฺส นโมจนาธิปฺปายสฺส มุจฺจติ, ตสฺสาปิ อนาปตฺติ. อุมฺมตฺตกสฺส ทุวิธสฺสาปิ อนาปตฺติ. อิธ เสยฺยสโก อาทิกมฺมิโก, ตสฺส อนาปตฺติ อาทิกมฺมิกสฺสาติ.

ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมุฏฺานาทีสุ อิทํ สิกฺขาปทํ ปมปาราชิกสมุฏฺานํ กายจิตฺตโต สมุฏฺาติ. กิริยา, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทฺวิเวทนํ, สุขมชฺฌตฺตทฺวเยนาติ.

๒๖๓. วินีตวตฺถูสุ สุปินวตฺถุ อนุปฺตฺติยํ วุตฺตนยเมว. อุจฺจารปสฺสาววตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

วิตกฺกวตฺถุสฺมึ กามวิตกฺกนฺติ เคหสฺสิตกามวิตกฺกํ. ตตฺถ กิฺจาปิ อนาปตฺติ วุตฺตา, อถ โข วิตกฺกคติเกน น ภวิตพฺพํ. อุณฺโหทกวตฺถูสุ ปมํ อุตฺตานเมว. ทุติเย โส ภิกฺขุ โมเจตุกาโม อุณฺโหทเกน นิมิตฺตํ ปหริตฺวา ปหริตฺวา นฺหายิ, เตนสฺส อาปตฺติ วุตฺตา. ตติเย อุปกฺกมสฺส อตฺถิตาย ถุลฺลจฺจยํ. เภสชฺชกณฺฑุวนวตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

๒๖๔. มคฺควตฺถูสุ ปมสฺส ถุลอูรุกสฺส มคฺคํ คจฺฉนฺตสฺส สมฺพาธฏฺาเน ฆฏฺฏนาย อสุจิ มุจฺจิ, ตสฺส นโมจนาธิปฺปายตฺตา อนาปตฺติ. ทุติยสฺส ตเถว มุจฺจิ, โมจนาธิปฺปายตฺตา ปน สงฺฆาทิเสโส. ตติยสฺส น มุจฺจิ, อุปกฺกมสพฺภาวโต ปน ถุลฺลจฺจยํ. ตสฺมา มคฺคํ คจฺฉนฺเตน อุปฺปนฺเน ปริฬาเห น คนฺตพฺพํ, คมนํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา อสุภาทิมนสิกาเรน จิตฺตํ วูปสเมตฺวา สุทฺธจิตฺเตน กมฺมฏฺานํ อาทาย คนฺตพฺพํ. สเจ ิโต วิโนเทตุํ น สกฺโกติ, มคฺคา โอกฺกมฺม นิสีทิตฺวา วิโนเทตฺวา กมฺมฏฺานํ อาทาย สุทฺธจิตฺเตเนว คนฺตพฺพํ.

วตฺถิวตฺถูสุ เต ภิกฺขู วตฺถึ ทฬฺหํ คเหตฺวา ปูเรตฺวา ปูเรตฺวา วิสฺสชฺเชนฺตา คามทารกา วิย ปสฺสาวมกํสุ. ชนฺตาฆรวตฺถุสฺมึ อุทรํ ตาเปนฺตสฺส โมจนาธิปฺปายสฺสาปิ อโมจนาธิปฺปายสฺสาปิ มุตฺเต อนาปตฺติเยว. ปริกมฺมํ กโรนฺตสฺส นิมิตฺตจาลนวเสน อสุจิ มุจฺจิ, ตสฺมา อาปตฺติฏฺาเน อาปตฺติ วุตฺตา.

๒๖๕. อูรุฆฏฺฏาปนวตฺถูสุ เยสํ อาปตฺติ วุตฺตา เต องฺคชาตมฺปิ ผุสาเปสุนฺติ เวทิตพฺพาติ เอวํ กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตํ. สามเณราทิวตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

๒๖๖. กายตฺถมฺภนวตฺถุสฺมึ กายํ ถมฺเภนฺตสฺสาติ จิรํ นิสีทิตฺวา วา นิปชฺชิตฺวา วา นวกมฺมํ วา กตฺวา อาลสิยวิโมจนตฺถํ วิชมฺเภนฺตสฺส.

อุปนิชฺฌายนวตฺถุสฺมึ สเจปิ ปฏสตํ นิวตฺถา โหติ ปุรโต วา ปจฺฉโต วา ตฺวา ‘‘อิมสฺมึ นาม โอกาเส นิมิตฺต’’นฺติ อุปนิชฺฌายนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. อนิวตฺถานํ คามทาริกานํ นิมิตฺตํ อุปนิชฺฌายนฺตสฺส ปน กิเมว วตฺตพฺพํ. ติรจฺฉานคตานมฺปิ นิมิตฺเต เอเสว นโย. อิโต จิโต จ อวิโลเกตฺวา ปน ทิวสมฺปิ เอกปโยเคน อุปนิชฺฌายนฺตสฺส เอกเมว ทุกฺกฏํ. อิโต จิโต จ วิโลเกตฺวา ปุนปฺปุนํ อุปนิชฺฌายนฺตสฺส ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. อุมฺมีลนนิมีลนวเสน ปน น กาเรตพฺโพ. สหสา อุปนิชฺฌายิตฺวา ปุน ปฏิสงฺขาย สํวเร ติฏฺโต อนาปตฺติ, ตํ สํวรํ ปหาย ปุน อุปนิชฺฌายโต ทุกฺกฏเมว.

๒๖๗. ตาฬจฺฉิทฺทาทิวตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว. นฺหานวตฺถูสุ เย อุทกโสตํ นิมิตฺเตน ปหรึสุ เตสํ อาปตฺติ วุตฺตา. อุทฺชลวตฺถูสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ อุทฺชลนฺติ อุทกจิกฺขลฺโล วุจฺจติ. เอเตเนว อุปาเยน อิโต ปรานิ สพฺพาเนว อุทเก ธาวนาทิวตฺถูนิ เวทิตพฺพานิ. อยํ ปน วิเสโส. ปุปฺผาวฬิยวตฺถูสุ สเจปิ นโมจนาธิปฺปายสฺส อนาปตฺติ, กีฬนปจฺจยา ปน ทุกฺกฏํ โหตีติ.

สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๖๙. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ กายสํสคฺคสิกฺขาปทํ. ตตฺรายํ อนุตฺตานปทวณฺณนา – อรฺเ วิหรตีติ น อาเวณิเก อรฺเ, เชตวนวิหารสฺเสว ปจฺจนฺเต เอกปสฺเส. มชฺเฌ คพฺโภติ ตสฺส จ วิหารสฺส มชฺเฌ คพฺโภ โหติ. สมนฺตา ปริยาคาโรติ สมนฺตา ปนสฺส มณฺฑลมาฬปริกฺเขโป โหติ. โส กิร มชฺเฌ จตุรสฺสํ คพฺภํ กตฺวา พหิ มณฺฑลมาฬปริกฺเขเปน กโต, ยถา สกฺกา โหติ อนฺโตเยว อาวิฺฉนฺเตหิ วิจริตุํ.

สุปฺตฺตนฺติ สุฏฺ ปิตํ, ยถา ยถา ยสฺมึ ยสฺมิฺจ โอกาเส ปิตํ ปาสาทิกํ โหติ โลกรฺชกํ ตถา ตถา ตสฺมึ ตสฺมึ โอกาเส ปิตํ, วตฺตสีเสน หิ โสํ เอกกิจฺจมฺปิ น กโรติ. เอกจฺเจ วาตปาเน วิวรนฺโตติ เยสุ วิวเฏสุ อนฺธกาโร โหติ ตานิ วิวรนฺโต เยสุ วิวเฏสุ อาโลโก โหติ ตานิ ถเกนฺโต.

เอวํ วุตฺเต สา พฺราหฺมณี ตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจาติ เอวํ เตน พฺราหฺมเณน ปสํสิตฺวา วุตฺเต สา พฺราหฺมณี ‘‘ปสนฺโน อยํ พฺราหฺมโณ ปพฺพชิตุกาโม มฺเ’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา นิคูหิตพฺพมฺปิ ตํ อตฺตโน วิปฺปการํ ปกาเสนฺตี เกวลํ ตสฺส สทฺธาวิฆาตาเปกฺขา หุตฺวา เอตํ ‘‘กุโต ตสฺส อุฬารตฺตตา’’ติอาทิวจนมโวจ. ตตฺถ อุฬาโร อตฺตา อสฺสาติ อุฬารตฺตา, อุฬารตฺตโน ภาโว อุฏฺารตฺตตา. กุลิตฺถีหีติอาทีสุ กุลิตฺถิโย นาม ฆรสฺสามินิโย. กุลธีตโร นาม ปุริสนฺตรคตา กุลธีตโร. กุลกุมาริโย นาม อนิวิฏฺา วุจฺจนฺติ. กุลสุณฺหา นาม ปรกุลโต อานีตา กุลทารกานํ วธุโย.

๒๗๐. โอติณฺโณติ ยกฺขาทีหิ วิย สตฺตา อนฺโต อุปฺปชฺชนฺเตน ราเคน โอติณฺโณ, กูปาทีนิ วิย สตฺตา อสมเปกฺขิตฺวา รชนีเย าเน รชฺชนฺโต สยํ วา ราคํ โอติณฺโณ, ยสฺมา ปน อุภยถาปิ ราคสมงฺคิสฺเสเวตํ อธิวจนํ, ตสฺมา ‘‘โอติณฺโณ นาม สารตฺโต อเปกฺขวา ปฏิพทฺธจิตฺโต’’ติ เอวมสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ.

ตตฺถ สารตฺโตติ กายสํสคฺคราเคน สุฏฺุ รตฺโต. อเปกฺขวาติ กายสํสคฺคาเปกฺขาย อเปกฺขวา. ปฏิพทฺธจิตฺโตติ กายสํสคฺคราเคเนว ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ ปฏิพทฺธจิตฺโต. วิปริณเตนาติ ปริสุทฺธภวงฺคสนฺตติสงฺขาตํ ปกตึ วิชหิตฺวา อฺถา ปวตฺเตน, วิรูปํ วา ปริณเตน วิรูปํ ปริวตฺเตน, ยถา ปริวตฺตมานํ วิรูปํ โหติ เอวํ ปริวตฺติตฺวา ิเตนาติ อธิปฺปาโย.

๒๗๑. ยสฺมา ปเนตํ ราคาทีหิ สมฺปโยคํ นาติวตฺตติ, ตสฺมา ‘‘วิปริณตนฺติ รตฺตมฺปิ จิตฺต’’นฺติอาทินา นเยนสฺส ปทภาชนํ วตฺวา อนฺเต อิธาธิปฺเปตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิจ รตฺตํ จิตฺตํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปตํ วิปริณต’’นฺติ อาห.

ตทหุชาตาติ ตํทิวสํ ชาตา ชาตมตฺตา อลฺลมํสเปสิวณฺณา, เอวรูปายปิ หิ สทฺธึ กายสํสคฺเค สงฺฆาทิเสโส, เมถุนวีติกฺกเม ปาราชิกํ, รโห นิสชฺชสฺสาเท ปาจิตฺติยฺจ โหติ. ปเควาติ ปมเมว.

กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยาติ หตฺถคฺคหณาทิกายสมฺปโยคํ กายมิสฺสีภาวํ สมาปชฺเชยฺย, ยสฺมา ปเนตํ สมาปชฺชนฺตสฺส โย โส กายสํสคฺโค นาม โส อตฺถโต อชฺฌาจาโร โหติ, ราควเสน อภิภวิตฺวา สฺมเวลํ อาจาโร, ตสฺมาสฺส สงฺเขปน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อชฺฌาจาโร วุจฺจตี’’ติ ปทภาชนมาห.

หตฺถคฺคาหํ วาติอาทิเภทํ ปนสฺส วิตฺถาเรน อตฺถทสฺสนํ. ตตฺถ หตฺถาทีนํ วิภาคทสฺสนตฺถํ ‘‘หตฺโถ นาม กปฺปรํ อุปาทายา’’ติอาทิมาห ตตฺถ กปฺปรํ อุปาทายาติ ทุติยํ. มหาสนฺธึ อุปาทาย. อฺตฺถ ปน มณิพนฺธโต ปฏฺาย ยาว อคฺคนขา หตฺโถ อิธ สทฺธึ อคฺคพาหาย กปฺปรโต ปฏฺาย อธิปฺเปโต.

สุทฺธเกสา วาติ สุตฺตาทีหิ อมิสฺสา สุทฺธา เกสาเยว. เวณีติ ตีหิ เกสวฏฺฏีหิ วินนฺธิตฺวา กตเกสกลาปสฺเสตํ นามํ. สุตฺตมิสฺสาติ ปฺจวณฺเณน สุตฺเตน เกเส มิสฺเสตฺวา กตา. มาลามิสฺสาติ วสฺสิกปุปฺผาทีหิ มิสฺเสตฺวา ตีหิ เกสวฏฺฏีหิ วินนฺธิตฺวา กตา, อวินทฺโธปิ วา เกวลํ ปุปฺผมิสฺสโก เกสกลาโป อิธ ‘‘เวณี’’ติ เวทิตพฺโพ. หิรฺมิสฺสาติ กหาปณมาลาย มิสฺเสตฺวา กตา. สุวณฺณมิสฺสาติ สุวณฺณจีรเกหิ วา ปามงฺคาทีหิ วา มิสฺเสตฺวา กตา. มุตฺตามิสฺสาติ มุตฺตาวลีหิ มิสฺเสตฺวา กตา. มณิมิสฺสาติ สุตฺตารูฬฺเหหิ มณีหิ มิสฺเสตฺวา กตา. เอตาสุ หิ ยํกิฺจิ เวณึ คณฺหนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโสเยว. ‘‘อหํ มิสฺสกเวณึ อคฺคเหสิ’’นฺติ วทนฺตสฺส โมกฺโข นตฺถิ. เวณิคฺคหเณน เจตฺถ เกสาปิ คหิตาว โหนฺติ, ตสฺมา โย เอกมฺปิ เกสํ คณฺหาติ ตสฺสปิ อาปตฺติเยว.

หตฺถฺจ เวณิฺจ เปตฺวาติ อิธ วุตฺตลกฺขณํ หตฺถฺจ สพฺพปฺปการฺจ เวณึ เปตฺวา อวเสสํ สรีรํ ‘‘องฺค’’นฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ ปริจฺฉินฺเนสุ หตฺถาทีสุ หตฺถสฺส คหณํ หตฺถคฺคาโห, เวณิยา คหณํ เวณิคฺคาโห, อวเสสสสรีรสฺส ปรามสนํ อฺตรสฺส วา อฺตรสฺส วา องฺคสฺส ปรามสนํ, โย ตํ หตฺถคฺคาหํ วา เวณิคฺคาหํ วา อฺตรสฺส วา อฺตรสฺส วา องฺคสฺส ปรามสนํ สมาปชฺเชยฺย, ตสฺส สงฺฆาทิเสโส นาม อาปตฺตินิกาโย โหตีติ. อยํ สิกฺขาปทสฺส อตฺโถ.

๒๗๒. ยสฺมา ปน โย จ หตฺถคฺคาโห โย จ เวณิคฺคาโห ยฺจ อวเสสสฺส องฺคสฺส ปรามสนํ ตํ สพฺพมฺปิ เภทโต ทฺวาทสวิธํ โหติ, ตสฺมา ตํ เภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘อามสนา ปรามสนา’’ติอาทินา นเยนสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ. ตตฺถ ยฺจ วุตฺตํ ‘‘อามสนา นาม อามฏฺมตฺตา’’ติ ยฺจ ‘‘ฉุปนํ นาม ผุฏฺมตฺต’’นฺติ, อิเมสํ อยํ วิเสโส – อามสนาติ อามชฺชนา ผุฏฺโกาสํ อนติกฺกมิตฺวาปิ ตตฺเถว สงฺฆฏฺฏนา. อยฺหิ ‘‘อามฏฺมตฺตา’’ติ วุจฺจติ. ฉุปนนฺติ อสงฺฆฏฺเฏตฺวา ผุฏฺมตฺตํ.

ยมฺปิ อุมฺมสนาย จ อุลฺลงฺฆนาย จ นิทฺเทเส ‘‘อุทฺธํ อุจฺจารณา’’ติ เอกเมว ปทํ วุตฺตํ. ตตฺราปิ อยํ วิเสโส – ปมํ อตฺตโน กายสฺส อิตฺถิยา กาเย อุทฺธํ เปสนวเสน วุตฺตํ, ทุติยํ อิตฺถิยา กายํ อุกฺขิปนวเสน, เสสํ ปากฏเมว.

๒๗๓. อิทานิ ยฺวายํ โอติณฺโณ วิปริณเตน จิตฺเตน กายสํสคฺคํ สมาปชฺชติ, ตสฺส เอเตสํ ปทานํ วเสน วิตฺถารโต อาปตฺติเภทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิตฺถี จ โหติ อิตฺถิสฺี สารตฺโต จ ภิกฺขุ จ นํ อิตฺถิยา กาเยน กาย’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ภิกฺขุ จ นํ อิตฺถิยา กาเยน กายนฺติ โส สารตฺโต จ อิตฺถิสฺี จ ภิกฺขุ อตฺตโน กาเยน. นฺติ นิปาตมตฺตํ. อถ วา เอตํ ตสฺสา อิตฺถิยา หตฺถาทิเภทํ กายํ. อามสติ ปรามสตีติ เอเตสุ เจ เอเกนาปิ อากาเรน อชฺฌาจรติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส. ตตฺถ สกึ อามสโต เอกา อาปตฺติ, ปุนปฺปุนํ อามสโต ปโยเค ปโยเค สงฺฆาทิเสโส.

ปรามสนฺโตปิ สเจ กายโต อโมเจตฺวาว อิโต จิโต จ อตฺตโน หตฺถํ วา กายํ วา สฺโจเปติ หรติ เปเสติ ทิวสมฺปิ ปรามสโต เอกาว อาปตฺติ. สเจ กายโต โมเจตฺวา โมเจตฺวา ปรามสติ ปโยเค ปโยเค อาปตฺติ.

โอมสนฺโตปิ สเจ กายโต อโมเจตฺวาว อิตฺถิยา มตฺถกโต ปฏฺาย ยาว ปาทปิฏฺึ โอมสติ เอกาว อาปตฺติ. สเจ ปน อุทราทีสุ ตํ ตํ านํ ปตฺวา มุฺจิตฺวา มุฺจิตฺวา โอมสติ ปโยเค ปโยเค อาปตฺติ. อุมฺมสนายปิ ปาทโต ปฏฺาย ยาว สีสํ อุมฺมสนฺตสฺส เอเสว นโย.

โอลงฺฆนาย มาตุคามํ เกเสสุ คเหตฺวา นาเมตฺวา จุมฺพนาทีสุ ยํ อชฺฌาจารํ อิจฺฉติ ตํ กตฺวา มุฺจโต เอกาว อาปตฺติ. อุฏฺิตํ ปุนปฺปุนํ นามยโต ปโยเค ปโยเค อาปตฺติ. อุลฺลงฺฆนายปิ เกเสสุ วา หตฺเถสุ วา คเหตฺวา วุฏฺาปยโต เอเสว นโย.

อากฑฺฒนาย อตฺตโน อภิมุขํ อากฑฺฒนฺโต ยาว น มุฺจติ ตาว เอกาว อาปตฺติ. มุฺจิตฺวา มุฺจิตฺวา อากฑฺฒนฺตสฺส ปโยเค ปโยเค อาปตฺติ. ปติกฑฺฒนายปิ ปรมฺมุขํ ปิฏฺิยํ คเหตฺวา ปฏิปฺปณามยโต เอเสว นโย.

อภินิคฺคณฺหนาย หตฺเถ วา พาหาย วา ทฬฺหํ คเหตฺวา โยชนมฺปิ คจฺฉโต เอกาว อาปตฺติ. มุฺจิตฺวา ปุนปฺปุนํ คณฺหโต ปโยเค ปโยเค อาปตฺติ. อมุฺจิตฺวา ปุนปฺปุนํ ผุสโต จ อาลิงฺคโต จ ปโยเค ปโยเค อาปตฺตีติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘มูลคฺคหณเมว ปมาณํ, ตสฺมา ยาว น มุฺจติ ตาว เอกา เอว อาปตฺตี’’ติ.

อภินิปฺปีฬนาย วตฺเถน วา อาภรเณน วา สทฺธึ ปีฬยโต องฺคํ อผุสนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ, ผุสนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส, เอกปโยเคน เอกา อาปตฺติ, นานาปโยเคน นานา.

คหณฉุปเนสุ อฺํ กิฺจิ วิการํ อกโรนฺโตปิ คหิตมตฺตผุฏฺมตฺเตนาปิ อาปตฺตึ อาปชฺชติ.

เอวเมเตสุ อามสนาทีสุ เอเกนาปิ อากาเรน อชฺฌาจารโต อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิสฺส สงฺฆาทิเสโส, เวมติกสฺส ถุลฺลจฺจยํ, ปณฺฑกปุริสติรจฺฉานคตสฺิสฺสาปิ ถุลฺลจฺจยเมว. ปณฺฑเก ปณฺฑกสฺิสฺส ถุลฺลจฺจยํ, เวมติกสฺส ทุกฺกฏํ. ปุริสติรจฺฉานคตอิตฺถิสฺิสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว. ปุริเส ปุริสสฺิสฺสาปิ เวมติกสฺสาปิ อิตฺถิปณฺฑกติรจฺฉานคตสฺิสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว. ติรจฺฉานคเตปิ สพฺพากาเรน ทุกฺกฏเมวาติ. อิมา เอกมูลกนเย วุตฺตา อาปตฺติโย สลฺลกฺเขตฺวา อิมินาว อุปาเยน ‘‘ทฺเว อิตฺถิโย ทฺวินฺนํ อิตฺถีน’’นฺติอาทิวเสน วุตฺเต ทุมูลกนเยปิ ทิคุณา อาปตฺติโย เวทิตพฺพา. ยถา จ ทฺวีสุ อิตฺถีสุ ทฺเว สงฺฆาทิเสสา; เอวํ สมฺพหุลาสุ สมฺพหุลา เวทิตพฺพา.

โย หิ เอกโต ิตา สมฺพหุลา อิตฺถิโย พาหาหิ ปริกฺขิปิตฺวา คณฺหาติ โส ยตฺตกา อิตฺถิโย ผุฏฺา ตาสํ คณนาย สงฺฆาทิเสเส อาปชฺชติ, มชฺฌคตานํ คณนาย ถุลฺลจฺจเย. ตา หิ เตน กายปฺปฏิพทฺเธน อามฏฺา โหนฺติ. โย ปน สมฺพหุลานํ องฺคุลิโย วา เกเส วา เอกโต กตฺวา คณฺหาติ, โส องฺคุลิโย จ เกเส จ อคเณตฺวา อิตฺถิโย คเณตฺวา สงฺฆาทิเสเสหิ กาเรตพฺโพ. ยาสฺจ อิตฺถีนํ องฺคุลิโย วา เกสา วา มชฺฌคตา โหนฺติ, ตาสํ คณนาย ถุลฺลจฺจเย อาปชฺชติ. ตา หิ เตน กายปฺปฏิพทฺเธน อามฏฺา โหนฺติ, สมฺพหุลา ปน อิตฺถิโย กายปฺปฏิพทฺเธหิ รชฺชุวตฺถาทีหิ ปริกฺขิปิตฺวา คณฺหนฺโต สพฺพาสํเยว อนฺโตปริกฺเขปคตานํ คณนาย ถุลฺลจฺจเย อาปชฺชติ. มหาปจฺจริยํ อผุฏฺาสุ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺมา ปาฬิยํ กายปฺปฏิพทฺธปฺปฏิพทฺเธน อามสนํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา สพฺพมฺปิ กายปฺปฏิพทฺธปฺปฏิพทฺธํ กายปฺปฏิพทฺเธเนว สงฺคเหตฺวา มหาอฏฺกถายฺจ กุรุนฺทิยฺจ วุตฺโต ปุริมนโยเยเวตฺถ ยุตฺตตโร ทิสฺสติ.

โย หิ หตฺเถน หตฺถํ คเหตฺวา ปฏิปาฏิยา ิตาสุ อิตฺถีสุ สมสาราโค เอกํ หตฺเถ คณฺหาติ, โส คหิติตฺถิยา วเสน เอกํ สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชติ, อิตราสํ คณนาย ปุริมนเยเนว ถุลฺลจฺจเย. สเจ โส ตํ กายปฺปฏิพทฺเธ วตฺเถ วา ปุปฺเผ วา คณฺหาติ, สพฺพาสํ คณนาย ถุลฺลจฺจเย อาปชฺชติ. ยเถว หิ รชฺชุวตฺถาทีหิ ปริกฺขิปนฺเตน สพฺพาปิ กายปฺปฏิพทฺเธน อามฏฺา โหนฺติ, ตถา อิธาปิ สพฺพาปิ กายปฺปฏิพทฺเธน อามฏฺา โหนฺติ. สเจ ปน ตา อิตฺถิโย อฺมฺํ วตฺถโกฏิยํ คเหตฺวา ิตา โหนฺติ, ตตฺร เจโส ปุริมนเยเนว ปมํ อิตฺถึ หตฺเถ คณฺหาติ คหิตาย วเสน สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชติ, อิตราสํ คณนาย ทุกฺกฏานิ. สพฺพาสฺหิ ตาสํ เตน ปุริมนเยเนว กายปฏิพทฺเธน กายปฺปฏิพทฺธํ อามฏฺํ โหติ. สเจ ปน โสปิ ตํ กายปฺปฏิพทฺเธเยว คณฺหาติ ตสฺสา วเสน ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชติ, อิตราสํ คณนาย อนนฺตรนเยเนว ทุกฺกฏานิ.

โย ปน ฆนวตฺถนิวตฺถํ อิตฺถึ กายสํสคฺคราเคน วตฺเถ ฆฏฺเฏติ, ถุลฺลจฺจยํ. วิรฬวตฺถนิวตฺถํ ฆฏฺเฏติ, ตตฺร เจ วตฺถนฺตเรหิ อิตฺถิยา วา นิกฺขนฺตโลมานิ ภิกฺขุํ ภิกฺขุโน วา ปวิฏฺโลมานิ อิตฺถึ ผุสนฺติ, อุภินฺนํ โลมานิเยว วา โลมานิ ผุสนฺติ, สงฺฆาทิเสโส. อุปาทินฺนเกน หิ กมฺมชรูเปน อุปาทินฺนกํ วา อนุปาทินฺนกํ วา อนุปาทินฺนเกนปิ เกนจิ เกสาทินา อุปาทินฺนกํ วา อนุปาทินฺนกํ วา ผุสนฺโตปิ สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชติเยว.

ตตฺถ กุรุนฺทิยํ ‘‘โลมานิ คเณตฺวา สงฺฆาทิเสโส’’ติ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘โลมานิ คเณตฺวา อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ, เอกเมว สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชติ. สงฺฆิกมฺเจ ปน อปจฺจตฺถริตฺวา นิปนฺโน โลมานิ คเณตฺวา กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ, ตเทว ยุตฺตํ. อิตฺถิวเสน หิ อยํ อาปตฺติ, น โกฏฺาสวเสนาติ.

เอตฺถาห ‘‘โย ปน ‘กายปฺปฏิพทฺธํ คณฺหิสฺสามี’ติ กายํ คณฺหาติ, ‘กายํ คณฺหิสฺสามี’ติ กายปฺปฏิพทฺธํ คณฺหาติ, โส กึ อาปชฺชตี’’ติ. มหาสุมตฺเถโร ตาว ‘‘ยถาวตฺถุกเมวา’’ติ วทติ. อยํ กิรสฺส ลทฺธิ –

‘‘วตฺถุ สฺา จ ราโค จ, ผสฺสปฺปฏิวิชานนา;

ยถานิทฺทิฏฺนิทฺเทเส, ครุกํ เตน การเย’’ติ.

เอตฺถ ‘‘วตฺถู’’ติ อิตฺถี. ‘‘สฺา’’ติ อิตฺถิสฺา. ‘‘ราโค’’ติ กายสํสคฺคราโค. ‘‘ผสฺสปฺปฏิวิชานนา’’ติ กายสํสคฺคผสฺสชานนา. ตสฺมา โย อิตฺถิยา อิตฺถิสฺี กายสํสคฺคราเคน ‘‘กายปฺปฏิพทฺธํ คเหสฺสามี’’ติ ปวตฺโตปิ กายํ ผุสติ, ครุกํ สงฺฆาทิเสสํเยว อาปชฺชติ. อิตโรปิ ถุลฺลจฺจยนฺติ มหาปทุมตฺเถโร ปนาห –

‘‘สฺาย วิราคิตมฺหิ, คหเณ จ วิราคิเต;

ยถานิทฺทิฏฺนิทฺเทเส, ครุกํ ตตฺถ น ทิสฺสตี’’ติ.

อสฺสาปายํ ลทฺธิ อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิโน หิ สงฺฆาทิเสโส วุตฺโต. อิมินา จ อิตฺถิสฺา วิราคิตา กายปฺปฏิพทฺเธ กายปฺปฏิพทฺธสฺา อุปฺปาทิตา, ตํ คณฺหนฺตสฺส ปน ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ. อิมินา จ คหณมฺปิ วิราคิตํ ตํ อคฺคเหตฺวา อิตฺถี คหิตา, ตสฺมา เอตฺถ อิตฺถิสฺาย อภาวโต สงฺฆาทิเสโส น ทิสฺสติ, กายปฺปฏิพทฺธสฺส อคฺคหิตตฺตา ถุลฺลจฺจยํ น ทิสฺสติ, กายสํสคฺคราเคน ผุฏฺตฺตา ปน ทุกฺกฏํ. กายสํสคฺคราเคน หิ อิมํ นาม วตฺถุํ ผุสโต อนาปตฺตีติ นตฺถิ, ตสฺมา ทุกฺกฏเมวาติ.

อิทฺจ ปน วตฺวา อิทํ จตุกฺกมาห. ‘‘สารตฺตํ คณฺหิสฺสามี’ติ สารตฺตํ คณฺหิ สงฺฆาทิเสโส, ‘วิรตฺตํ คณฺหิสฺสามี’ติ วิรตฺตํ คณฺหิ ทุกฺกฏํ, ‘สารตฺตํ คณฺหิสฺสามี’ติ วิรตฺตํ คณฺหิ ทุกฺกฏํ, ‘วิรตฺตํ คณฺหิสฺสามี’ติ สารตฺตํ คณฺหิ ทุกฺกฏเมวา’’ติ. กิฺจาปิ เอวมาห? อถ โข มหาสุมตฺเถรวาโทเยเวตฺถ ‘‘อิตฺถิ จ โหติ อิตฺถิสฺี สารตฺโต จ ภิกฺขุ จ นํ อิตฺถิยา กาเยน กายปฺปฏิพทฺธํ อามสติ ปรามสติ…เป… คณฺหาติ ฉุปติ อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ อิมาย ปาฬิยา ‘‘โย หิ เอกโต ิตา สมฺพหุลา อิตฺถิโย พาหาหิ ปริกฺขิปิตฺวา คณฺหาติ, โส ยตฺตกา อิตฺถิโย ผุฏฺา ตาสํ คณนาย สงฺฆาทิเสเส อาปชฺชติ, มชฺฌคตานํ คณนาย ถุลฺลจฺจเย’’ติอาทีหิ อฏฺกถาวินิจฺฉเยหิ จ สเมติ. ยทิ หิ สฺาทิวิราเคน วิราคิตํ นาม ภเวยฺย ‘‘ปณฺฑโก จ โหติ อิตฺถิสฺี’’ติอาทีสุ วิย ‘‘กายปฺปฏิพทฺธฺจ โหติ กายสฺี จา’’ติอาทินาปิ นเยน ปาฬิยํ วิเสสํ วเทยฺย. ยสฺมา ปน โส น วุตฺโต, ตสฺมา อิตฺถิยา อิตฺถิสฺาย สติ อิตฺถึ อามสนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส, กายปฺปฏิพทฺธํ อามสนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยนฺติ ยถาวตฺถุกเมว ยุชฺชติ.

มหาปจฺจริยมฺปิ เจตํ วุตฺตํ – ‘‘นีลํ ปารุปิตฺวา สยิตาย กาฬิตฺถิยา กายํ ฆฏฺเฏสฺสามี’ติ กายํ ฆฏฺเฏติ, สงฺฆาทิเสโส; ‘กายํ ฆฏฺเฏสฺสามี’ติ นีลํ ฆฏฺเฏติ, ถุลฺลจฺจยํ; ‘นีลํ ฆฏฺเฏสฺสามี’ติ กายํ ฆฏฺเฏติ, สงฺฆาทิเสโส; ‘นีลํ ฆฏฺเฏสฺสามี’ติ นีลํ ฆฏฺเฏติ, ถุลฺลจฺจย’’นฺติ. โยปายํ ‘‘อิตฺถี จ ปณฺฑโก จา’’ติอาทินา นเยน วตฺถุมิสฺสกนโย วุตฺโต, ตสฺมิมฺปิ วตฺถุ สฺาวิมติวเสน วุตฺตา อาปตฺติโย ปาฬิยํ อสมฺมุยฺหนฺเตน เวทิตพฺพา.

กาเยนกายปฺปฏิพทฺธวาเร ปน อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิสฺส กายปฺปฏิพทฺธํ คณฺหโต ถุลฺลจฺจยํ, เสเส สพฺพตฺถ ทุกฺกฏํ. กายปฺปฏิพทฺเธนกายวาเรปิ เอเสว นโย. กายปฺปฏิพทฺเธนกอายปฺปฏิพทฺธวาเร จ นิสฺสคฺคิเยนกายวาราทีสุ จสฺส สพฺพตฺถ ทุกฺกฏเมว.

‘‘อิตฺถี จ โหติ อิตฺถิสฺี สารตฺโต จ อิตฺถี จ นํ ภิกฺขุสฺส กาเยน กาย’’นฺติอาทิวาโร ปน ภิกฺขุมฺหิ มาตุคามสฺส ราควเสน วุตฺโต. ตตฺถ อิตฺถี จ นํ ภิกฺขุสฺส กาเยน กายนฺติ ภิกฺขุมฺหิ สารตฺตา อิตฺถี ตสฺส นิสินฺโนกาสํ วา นิปนฺโนกาสํ วา คนฺตฺวา อตฺตโน กาเยน ตํ ภิกฺขุสฺส กายํ อามสติ…เป… ฉุปติ. เสวนาธิปฺปาโย กาเยน วายมติ, ผสฺสํ ปฏิวิชานาตีติ เอวํ ตาย อามฏฺโ วา ฉุปิโต วา เสวนาธิปฺปาโย หุตฺวา สเจ ผสฺสปฺปฏิวิชานนตฺถํ อีสกมฺปิ กายํ จาเลติ ผนฺเทติ, สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชติ.

ทฺเว อิตฺถิโยติ เอตฺถ ทฺเว สงฺฆาทิเสเส อาปชฺชติ, อิตฺถิยา จ ปณฺฑเก จ สงฺฆาทิเสเสน สห ทุกฺกฏํ. เอเตน อุปาเยน ยาว ‘‘นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยํ อามสติ, เสวนาธิปฺปาโย กาเยน วายมติ น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ ตาว ปุริมนเยเนว อาปตฺติเภโท เวทิตพฺโพ.

เอตฺถ กาเยน วายมติ น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาตีติ อตฺตนา นิสฺสฏฺํ ปุปฺผํ วา ผลํ วา อิตฺถึ อตฺตโน นิสฺสคฺคิเยน ปุปฺเผน วา ผเลน วา ปหรนฺตึ ทิสฺวา กาเยน วิการํ กโรติ, องฺคุลึ วา จาเลติ, ภมุกํ วา อุกฺขิปติ, อกฺขึ วา นิขณติ, อฺํ วา เอวรูปํ วิการํ กโรติ, อยํ วุจฺจติ ‘‘กาเยน วายมติ น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาตี’’ติ. อยมฺปิ กาเยน วายมิตตฺตา ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ, ทฺวีสุ อิตฺถีสุ ทฺเว, อิตฺถีปณฺฑเกสุปิ ทฺเว เอว ทุกฺกเฏ อาปชฺชติ.

๒๗๙. เอวํ วตฺถุวเสน วิตฺถารโต อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ลกฺขณวเสน สงฺเขปโต อาปตฺติเภทฺจ อนาปตฺติเภทฺจ ทสฺเสนฺโต ‘‘เสวนาธิปฺปาโย’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปุริมนเย อิตฺถิยา ผุฏฺโ สมาโน เสวนาธิปฺปาโย กาเยน วายมติ, ผสฺสํ ปฏิวิชานาตีติ ติวงฺคสมฺปตฺติยา สงฺฆาทิเสโส. ทุติเย นเย นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยามสเน วิย วายมิตฺวา อฉุปเน วิย จ ผสฺสสฺส อปฺปฏิวิชานนโต ทุวงฺคสมฺปตฺติยา ทุกฺกฏํ. ตติเย กาเยน อวายมโต อนาปตฺติ. โย หิ เสวนาธิปฺปาโยปิ นิจฺจเลน กาเยน เกวลํ ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ สาทิยติ อนุโภติ, ตสฺส จิตฺตุปฺปาทมตฺเต อาปตฺติยา อภาวโต อนาปตฺติ. จตุตฺเถ ปน นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยามสเน วิย ผสฺสปฺปฏิวิชานนาปิ นตฺถิ, เกวลํ จิตฺตุปฺปาทมตฺตเมว, ตสฺมา อนาปตฺติ. โมกฺขาธิปฺปายสฺส สพฺพากาเรสุ อนาปตฺติเยว.

เอตฺถ ปน โย อิตฺถิยา คหิโต ตํ อตฺตโน สรีรา โมเจตุกาโม ปฏิปฺปณาเมติ วา ปหรติ วา อยํ กาเยน วายมติ ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ. โย อาคจฺฉนฺตึ ทิสฺวา ตโต มุฺจิตุกาโม อุตฺตาเสตฺวา ปลาเปติ, อยํ กาเยน วายมติ น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ. โย ตาทิสํ ทีฆชาตึ กาเย อารูฬฺหํ ทิสฺวา ‘‘สณิกํ คจฺฉตุ ฆฏฺฏิยมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยา’’ติ น ฆฏฺเฏติ, อิตฺถิเมว วา องฺคํ ผุสมานํ ตฺวา ‘‘เอสา ‘อนตฺถิโก อยํ มยา’ติ สยเมว ปกฺกมิสฺสตี’’ติ อชานนฺโต วิย นิจฺจโล โหติ, พลวิตฺถิยา วา คาฬฺหํ อาลิงฺคิตฺวา คหิโต ทหรภิกฺขุ ปลายิตุกาโมปิ สุฏฺุ คหิตตฺตา นิจฺจโล โหติ, อยํ น จ กาเยน วายมติ, ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ. โย ปน อาคจฺฉนฺตึ ทิสฺวา ‘‘อาคจฺฉตุ ตาว ตโต นํ ปหริตฺวา วา ปณาเมตฺวา วา ปกฺกมิสฺสามี’’ติ นิจฺจโล โหติ, อยํ โมกฺขาธิปฺปาโย น จ กาเยน วายมติ, น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาตีติ เวทิตพฺโพ.

๒๘๐. อสฺจิจฺจาติ อิมินา อุปาเยน อิมํ ผุสิสฺสามีติ อเจเตตฺวา, เอวฺหิ อเจเตตฺวา ปตฺตปฺปฏิคฺคหณาทีสุ มาตุคามสฺส องฺเค ผุฏฺเปิ อนาปตฺติ.

อสติยาติ อฺวิหิโต โหติ มาตุคามํ ผุสามีติ สติ นตฺถิ, เอวํ อสติยา หตฺถปาทปสารณาทิกาเล ผุสนฺตสฺส อนาปตฺติ.

อชานนฺตสฺสาติ ทารกเวเสน ิตํ ทาริกํ ‘‘อิตฺถี’’ติ อชานนฺโต เกนจิเทว กรณีเยน ผุสติ, เอวํ ‘‘อิตฺถี’’ติ อชานนฺตสฺส ผุสโต อนาปตฺติ.

อสาทิยนฺตสฺสาติ กายสํสคฺคํ อสาทิยนฺตสฺส, ตสฺส พาหาปรมฺปราย นีตภิกฺขุสฺส วิย อนาปตฺติ. อุมฺมตฺตกาทโย วุตฺตนยาเอว. อิธ ปน อุทายิตฺเถโร อาทิกมฺมิโก, ตสฺส อนาปตฺติ อาทิกมฺมิกสฺสาติ.

ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมุฏฺานาทีสุ อิทํ สิกฺขาปทํ ปมปาราชิกสมุฏฺานํ กายจิตฺตโต สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทฺวิเวทนํ, สุขมชฺฌตฺตทฺวเยนาติ.

๒๘๑. วินีตวตฺถูสุ – มาตุยา มาตุเปเมนาติ มาตุเปเมน มาตุยา กายํ อามสิ. เอส นโย ธีตุภคินิวตฺถูสุ. ตตฺถ ยสฺมา มาตา วา โหตุ ธีตา วา อิตฺถี นาม สพฺพาปิ พฺรหฺมจริยสฺส ปาริปนฺถิกาว. ตสฺมา ‘‘อยํ เม มาตา อยํ ธีตา อยํ เม ภคินี’’ติ เคหสฺสิตเปเมน อามสโตปิ ทุกฺกฏเมว วุตฺตํ.

อิมํ ปน ภควโต อาณํ อนุสฺสรนฺเตน สเจปิ นทีโสเตน วุยฺหมานํ มาตรํ ปสฺสติ เนว หตฺเถน ปรามสิตพฺพา. ปณฺฑิเตน ปน ภิกฺขุนา นาวา วา ผลกํ วา กทลิกฺขนฺโธ วา ทารุกฺขนฺโธ วา อุปสํหริตพฺโพ. ตสฺมึ อสติ กาสาวมฺปิ อุปสํหริตฺวา ปุรโต เปตพฺพํ, ‘‘เอตฺถ คณฺหาหี’’ติ ปน น วตฺตพฺพา. คหิเต ปริกฺขารํ กฑฺฒามีติ กฑฺฒนฺเตน คนฺตพฺพํ. สเจ ภายติ ปุรโต ปุรโต คนฺตฺวา ‘‘มา ภายี’’ติ สมสฺสาเสตพฺพา. สเจ ภายมานา ปุตฺตสฺส สหสา ขนฺเธ วา อภิรุหติ, หตฺเถ วา คณฺหาติ, น ‘‘อเปหิ มหลฺลิเก’’ติ นิทฺธุนิตพฺพา, ถลํ ปาเปตพฺพา. กทฺทเม ลคฺคายปิ กูเป ปติตายปิ เอเสว นโย.

ตตฺรปิ หิ โยตฺตํ วา วตฺถํ วา ปกฺขิปิตฺวา หตฺเถน คหิตภาวํ ตฺวา อุทฺธริตพฺพา, นตฺเวว อามสิตพฺพา. น เกวลฺจ มาตุคามสฺส สรีรเมว อนามาสํ, นิวาสนปาวุรณมฺปิ อาภรณภณฺฑมฺปิ ติณณฺฑุปกํ วา ตาฬปณฺณมุทฺทิกํ วา อุปาทาย อนามาสเมว, ตฺจ โข นิวาสนปารุปนํ ปิฬนฺธนตฺถาย ปิตเมว. สเจ ปน นิวาสนํ วา ปารุปนํ วา ปริวตฺเตตฺวา จีวรตฺถาย ปาทมูเล เปติ วฏฺฏติ. อาภรณภณฺเฑสุ ปน สีสปสาธนกทนฺตสูจิอาทิกปฺปิยภณฺฑํ ‘‘อิมํ ภนฺเต ตุมฺหากํ คณฺหถา’’ติ ทิยฺยมานํ สิปาฏิกาสูจิอาทิอุปกรณตฺถาย คเหตพฺพํ. สุวณฺณรชตมุตฺตาทิมยํ ปน อนามาสเมว ทียฺยมานมฺปิ น คเหตพฺพํ. น เกวลฺจ เอตาสํ สรีรูปคเมว อนามาสํ, อิตฺถิสณฺาเนน กตํ กฏฺรูปมฺปิ ทนฺตรูปมฺปิ อยรูปมฺปิ โลหรูปมฺปิ ติปุรูปมฺปิ โปตฺถกรูปมฺปิ สพฺพรตนรูปมฺปิ อนฺตมโส ปิฏฺมยรูปมฺปิ อนามาสเมว. ปริโภคตฺถาย ปน ‘‘อิทํ ตุมฺหากํ โหตู’’ติ ลภิตฺวา เปตฺวา สพฺพรตนมยํ อวเสสํ ภินฺทิตฺวา อุปกรณารหํ อุปกรเณ ปริโภคารหํ ปริโภเค อุปเนตุํ วฏฺฏติ.

ยถา จ อิตฺถิรูปกํ; เอวํ สตฺตวิธมฺปิ ธฺํ อนามาสํ. ตสฺมา เขตฺตมชฺเฌน คจฺฉตา ตตฺถชาตกมฺปิ ธฺผลํ น อามสนฺเตน คนฺตพฺพํ. สเจ ฆรทฺวาเร วา อนฺตรามคฺเค วา ธฺํ ปสาริตํ โหติ ปสฺเสน จ มคฺโค อตฺถิ น มทฺทนฺเตน คนฺตพฺพํ. คมนมคฺเค อสติ มคฺคํ อธิฏฺาย คนฺตพฺพํ. อนฺตรฆเร ธฺสฺส อุปริ อาสนํ ปฺาเปตฺวา เทนฺติ นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. เกจิ อาสนสาลายํ ธฺํ อากิรนฺติ, สเจ สกฺกา โหติ หราเปตุํ หราเปตพฺพํ, โน เจ เอกมนฺตํ ธฺํ อมทฺทนฺเตน ปีกํ ปฺเปตฺวา นิสีทิตพฺพํ. สเจ โอกาโส น โหติ, มนุสฺสา ธฺมชฺเฌเยว อาสนํ ปฺเปตฺวา เทนฺติ, นิสีทิตพฺพํ. ตตฺถชาตกานิ มุคฺคมาสาทีนิ อปรณฺณานิปิ ตาลปนสาทีนิ วา ผลานิ กีฬนฺเตน น อามสิตพฺพานิ. มนุสฺเสหิ ราสิกเตสุปิ เอเสว นโย. อรฺเ ปน รุกฺขโต ปติตานิ ผลานิ ‘‘อนุปสมฺปนฺนานํ ทสฺสามี’’ติ คณฺหิตุํ วฏฺฏติ.

มุตฺตา, มณิ, เวฬุริโย, สงฺโข, สิลา, ปวาฬํ, รชตํ, ชาตรูปํ, โลหิตงฺโก, มสารคลฺลนฺติ อิเมสุ ทสสุ รตเนสุ มุตฺตา อโธตา อนิวิทฺธา ยถาชาตาว อามสิตุํ วฏฺฏติ. เสสา อนามาสาติ วทนฺติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘มุตฺตา โธตาปิ อโธตาปิ อนามาสา ภณฺฑมูลตฺถาย จ สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ, กุฏฺโรคสฺส เภสชฺชตฺถาย ปน วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อนฺตมโส ชาติผลิกํ อุปาทาย สพฺโพปิ นีลปีตาทิวณฺณเภโท มณิ โธตวิทฺธวฏฺฏิโต อนามาโส, ยถาชาโต ปน อากรมุตฺโต ปตฺตาทิภณฺฑมูลตฺถํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺโต. โสปิ มหาปจฺจริยํ ปฏิกฺขิตฺโต, ปจิตฺวา กโต กาจมณิเยเวโก วฏฺฏตีติ วุตฺโต. เวฬุริเยปิ มณิสทิโสว วินิจฺฉโย.

สงฺโข ธมนสงฺโข จ โธตวิทฺโธ จ รตนมิสฺโส อนามาโส. ปานียสงฺโข โธโตปิ อโธโตปิ อามาโสว เสสฺจ อฺชนาทิเภสชฺชตฺถายปิ ภณฺฑมูลตฺถายปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. สิลา โธตวิทฺธา รตนสํยุตฺตา มุคฺควณฺณาว อนามาสา. เสสา สตฺถกนิสานาทิอตฺถาย คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ จ รตนสํยุตฺตาติ สุวณฺเณน สทฺธึ โยเชตฺวา ปจิตฺวา กตาติ วทนฺติ. ปวาฬํ โธตวิทฺธํ อนามาสํ. เสสํ อามาสํ ภณฺฑมูลตฺถฺจ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘โธตมฺปิ อโธตมฺปิ สพฺพํ อนามาสํ, น จ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ.

รชตํ ชาตรูปฺจ กตภณฺฑมฺปิ อกตภณฺฑมฺปิ สพฺเพน สพฺพํ พีชโต ปฏฺาย อนามาสฺจ อสมฺปฏิจฺฉิยฺจ, อุตฺตรราชปุตฺโต กิร สุวณฺณเจติยํ กาเรตฺวา มหาปทุมตฺเถรสฺส เปเสสิ. เถโร ‘‘น กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปิ. เจติยฆเร สุวณฺณปทุมสุวณฺณพุพฺพุฬกาทีนิ โหนฺติ, เอตานิปิ อนามาสานิ. เจติยฆรโคปกา ปน รูปิยฉฑฺฑกฏฺาเน ิตา, ตสฺมา เตสํ เกฬาปยิตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. กุรุนฺทิยํ ปน ตํ ปฏิกฺขิตฺตํ. สุวณฺณเจติเย กจวรเมว หริตุํ วฏฺฏตีติ เอตฺตกเมว อนุฺาตํ. อารกูฏโลหมฺปิ ชาตรูปคติกเมว อนามาสนฺติ สพฺพอฏฺกถาสุ วุตฺตํ. เสนาสนปริโภโค ปน สพฺพกปฺปิโย, ตสฺมา ชาตรูปรชตมยา สพฺเพปิ เสนาสนปริกฺขารา อามาสา. ภิกฺขูนํ ธมฺมวินยวณฺณนฏฺาเน รตนมณฺฑเป กโรนฺติ ผลิกตฺถมฺเภ รตนทามปติมณฺฑิเต, ตตฺถ สพฺพูปกรณานิ ภิกฺขูนํ ปฏิชคฺคิตุํ วฏฺฏติ.

โลหิตงฺกมสารคลฺลา โธตวิทฺธา อนามาสา, อิตเร อามาสา, ภณฺฑมูลตฺถาย วฏฺฏนฺตีติ วุตฺตา. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘โธตาปิ อโธตาปิ สพฺพโส อนามาสา น จ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏนฺตี’’ติ วุตฺตํ.

สพฺพํ อาวุธภณฺฑํ อนามาสํ, ภณฺฑมูลตฺถาย ทียฺยมานมฺปิ น สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. สตฺถวณิชฺชา นาม น วฏฺฏติ. สุทฺธธนุทณฺโฑปิ ธนุชิยาปิ ปโตโทปิ องฺกุโสปิ อนฺตมโส วาสิผรสุอาทีนิปิ อาวุธสงฺเขเปน กตานิ อนามาสานิ. สเจ เกนจิ วิหาเร สตฺติ วา โตมโร วา ปิโต โหติ, วิหารํ ชคฺคนฺเตน ‘‘หรนฺตู’’ติ สามิกานํ เปเสตพฺพํ. สเจ น หรนฺติ, ตํ อจาเลนฺเตน วิหาโร ปฏิชคฺคิตพฺโพ. ยุทฺธภูมิยํ ปติตํ อสึ วา สตฺตึ วา โตมรํ วา ทิสฺวา ปาสาเณน วา เกนจิ วา อสึ ภินฺทิตฺวา สตฺถกตฺถาย คเหตุํ วฏฺฏติ, อิตรานิปิ วิโยเชตฺวา กิฺจิ สตฺถกตฺถาย คเหตุํ วฏฺฏติ กิฺจิ กตฺตรทณฺฑาทิอตฺถาย. ‘‘อิทํ คณฺหถา’’ติ ทียฺยมานํ ปน ‘‘วินาเสตฺวา กปฺปิยภณฺฑํ กริสฺสามี’’ติ สพฺพมฺปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ.

มจฺฉชาลปกฺขิชาลาทีนิปิ ผลกชาลิกาทีนิ สรปริตฺตานานีปิ สพฺพานิ อนามาสานิ. ปริโภคตฺถาย ลพฺภมาเนสุ ปน ชาลํ ตาว ‘‘อาสนสฺส วา เจติยสฺส วา อุปริ พนฺธิสฺสามิ, ฉตฺตํ วา เวเสฺสามี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ. สรปริตฺตานํ สพฺพมฺปิ ภณฺฑมูลตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. ปรูปโรธนิวารณฺหิ เอตํ น อุปโรธกรนฺติ ผลกํ ทนฺตกฏฺภาชนํ กริสฺสามีติ คเหตุํ วฏฺฏติ.

จมฺมวินทฺธานิ วีณาเภริอาทีนิ อนามาสานิ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘เภริสงฺฆาโฏปิ วีณาสงฺฆาโฏปิ ตุจฺฉโปกฺขรมฺปิ มุขวฏฺฏิยํ อาโรปิตจมฺมมฺปิ วีณาทณฺฑโกปิ สพฺพํ อนามาส’’นฺติ วุตฺตํ. โอนหิตุํ วา โอนหาเปตุํ วา วาเทตุํ วา วาทาเปตุํ วา น ลพฺภติเยว. เจติยงฺคเณ ปูชํ กตฺวา มนุสฺเสหิ ฉฑฺฑิตํ ทิสฺวาปิ อจาเลตฺวาว อนฺตรนฺตเร สมฺมชฺชิตพฺพํ, กจวรฉฑฺฑนกาเล ปน กจวรนิยาเมเนว หริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ภณฺฑมูลตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุมฺปิ วฏฺฏติ. ปริโภคตฺถาย ลพฺภมาเนสุ ปน วีณาโทณิกฺจ เภริโปกฺขรฺจ ทนฺตกฏฺภาชนํ กริสฺสาม จมฺมํ สตฺถกโกสกนฺติ เอวํ ตสฺส ตสฺส ปริกฺขารสฺส อุปกรณตฺถาย คเหตฺวา ตถา ตถา กาตุํ วฏฺฏติ.

ปุราณทุติยิกาวตฺถุ อุตฺตานเมว. ยกฺขิวตฺถุสฺมึ สเจปิ ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทวิยา กายสํสคฺคํ สมาปชฺชติ ถุลฺลจฺจยเมว. ปณฺฑกวตฺถุสุตฺติตฺถิวตฺถุ จ ปากฏเมว. มติตฺถิวตฺถุสฺมึ ปาราชิกปฺปโหนกกาเล ถุลฺลจฺจยํ, ตโต ปรํ ทุกฺกฏํ. ติรจฺฉานคตวตฺถุสฺมึ นาคมาณวิกายปิ สุปณฺณมาณวิกายปิ กินฺนริยาปิ คาวิยาปิ ทุกฺกฏเมว. ทารุธีตลิกาวตฺถุสฺมึ น เกวลํ ทารุนา เอว, อนฺตมโส จิตฺตกมฺมลิขิเตปิ อิตฺถิรูเป ทุกฺกฏเมว.

๒๘๒. สมฺปีฬนวตฺถุ อุตฺตานตฺถเมว. สงฺกมวตฺถุสฺมึ เอกปทิกสงฺกโม วา โหตุ สกฏมคฺคสงฺกโม วา, จาเลสฺสามีติ ปโยเค กตมตฺเตว จาเลตุ วา มา วา, ทุกฺกฏํ. มคฺควตฺถุ ปากฏเมว. รุกฺขวตฺถุสฺมึ รุกฺโข มหนฺโต วา โหตุ มหาชมฺพุปฺปมาโณ ขุทฺทโก วา, ตํ จาเลตุํ สกฺโกตุ วา มา วา, ปโยคมตฺเตน ทุกฺกฏํ. นาวาวตฺถุสฺมิมฺปิ เอเสว นโย. รชฺชวตฺถุสฺมึ ยํ รชฺชุํ อาวิฺฉนฺโต านา จาเลตุํ สกฺโกติ, ตตฺถ ถุลฺลจฺจยํ. ยา มหารชฺชุ โหติ, อีสกมฺปิ านา น จลติ, ตตฺถ ทุกฺกฏํ. ทณฺเฑปิ เอเสว นโย. ภูมิยํ ปติตมหารุกฺโขปิ หิ ทณฺฑคฺคหเณเนว อิธ คหิโต. ปตฺตวตฺถุ ปากฏเมว. วนฺทนวตฺถุสฺมึ อิตฺถี ปาเท สมฺพาหิตฺวา วนฺทิตุกามา วาเรตพฺพา ปาทา วา ปฏิจฺฉาเทตพฺพา, นิจฺจเลน วา ภวิตพฺพํ. นิจฺจลสฺส หิ จิตฺเตน สาทิยโตปิ อนาปตฺติ. อวสาเน คหณวตฺถุปากฏเมวาติ.

กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๘๓. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อาทิสฺสาติ อปทิสิตฺวา. วณฺณมฺปิ ภณตีติอาทีนิ ปรโต อาวิ ภวิสฺสนฺติ. ฉินฺนิกาติ ฉินฺนโอตฺตปฺปา. ธุตฺติกาติ สา. อหิริกาโยติ นิลฺลชฺชา. อุหสนฺตีติ สิตํ กตฺวา มนฺทหสิตํ หสนฺติ. อุลฺลปนฺตีติ ‘‘อโห อยฺโย’’ติอาทินา นเยน อุจฺจกรณึ นานาวิธํ ปโลภนกถํ กเถนฺติ. อุชฺชคฺฆนฺตีติ มหาหสิตํ หสนฺติ. อุปฺปณฺเฑนฺตีติ ‘‘ปณฺฑโก อยํ, นายํ ปุริโส’’ติอาทินา นเยน ปริหาสํ กโรนฺติ.

๒๘๕. สารตฺโตติ ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาทราเคน สารตฺโต. อเปกฺขวา ปฏิพทฺธจิตฺโตติ วุตฺตนยเมว, เกวลํ อิธ วาจสฺสาทราโค โยเชตพฺโพ. มาตุคามํ ทุฏฺุลฺลาหิ วาจาหีติ เอตฺถ อธิปฺเปตํ มาตุคามํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มาตุคาโม’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิฺู ปฏิพลา สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลํ อาชานิตุนฺติ ยา ปณฺฑิตา สาตฺถกนิรตฺถกกถํ อสทฺธมฺมสทฺธมฺมปฏิสํยุตฺตกถฺจ ชานิตุํ ปฏิพลา, อยํ อิธ อธิปฺเปตา. ยา ปน มหลฺลิกาปิ พาลา เอลมูคา อยํ อิธ อนธิปฺเปตาติ ทสฺเสติ.

โอภาเสยฺยาติ อวภาเสยฺย นานาปฺปการกํ อสทฺธมฺมวจนํ วเทยฺย. ยสฺมา ปเนวํ โอภาสนฺตสฺส โย โส โอภาโส นาม, โส อตฺถโต อชฺฌาจาโร โหติ ราควเสน อภิภวิตฺวา สฺมเวลํ อาจาโร, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โอภาเสยฺยาติ อชฺฌาจาโร วุจฺจตี’’ติ อาห. ยถา ตนฺติ เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ, ยถา ยุวา ยุวตินฺติ อตฺโถ.

ทฺเว มคฺเค อาทิสฺสาติอาทิ เยนากาเรน โอภาสโต สงฺฆาทิเสโส โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ ทฺเว มคฺเคติ วจฺจมคฺคฺจ ปสฺสาวมคฺคฺจ. เสสํ อุทฺเทเส ตาว ปากฏเมว. นิทฺเทเส ปน โถเมตีติ ‘‘อิตฺถิลกฺขเณน สุภลกฺขเณน สมนฺนาคตาสี’’ติ วทติ, น ตาว สีสํ เอติ. ‘‘ตว วจฺจมคฺโค จ ปสฺสาวมคฺโค จ อีทิโส เตน นาม อีทิเสน อิตฺถิลกฺขเณน สุภลกฺขเณน สมนฺนาคตาสี’’ติ วทติ, สีสํ เอติ, สงฺฆาทิเสโส. วณฺเณติ ปสํสตีติ อิมานิ ปน โถมนปทสฺเสว เววจนานิ.

ขุํเสตีติ วาจาปโตเทน ฆฏฺเฏติ. วมฺเภตีติ อปสาเทติ. ครหตีติ โทสํ เทติ. ปรโต ปน ปาฬิยา อาคเตหิ ‘‘อนิมิตฺตาสี’’ติอาทีหิ เอกาทสหิ ปเทหิ อฆฏิเต สีสํ น เอติ, ฆฏิเตปิ เตสุ สิขรณีสิ สมฺภินฺนาสิ อุภโตพฺยฺชนาสีติ อิเมหิ ตีหิ ฆฏิเตเยว สงฺฆาทิเสโส.

เทหิ เมติ ยาจนายปิ เอตฺตเกเนว สีสํ น เอติ, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ เทหี’’ติ เอวํ เมถุนธมฺเมน ฆฏิเต เอว สงฺฆาทิเสโส.

กทา เต มาตา ปสีทิสฺสตีติอาทีสุ อายาจนวจเนสุปิ เอตฺตเกเนว สีสํ น เอติ, ‘‘กทา เต มาตา ปสีทิสฺสติ, กทา เต เมถุนํ ธมฺมํ ลภิสฺสามี’’ติ วา ‘‘ตว มาตริ ปสนฺนาย เมถุนํ ธมฺมํ ลภิสฺสามี’’ติ วา อาทินา ปน นเยน เมถุนธมฺเมน ฆฏิเตเยว สงฺฆาทิเสโส.

กถํ ตฺวํ สามิกสฺส เทสีติอาทีสุ ปุจฺฉาวจเนสุปิ เมถุนธมฺมนฺติ วุตฺเตเยว สงฺฆาทิเสโส, น อิตรถา. เอวํ กิร ตฺวํ สามิกสฺส เทสีติ ปฏิปุจฺฉาวจเนสุปิ เอเสว นโย.

อาจิกฺขนาย ปุฏฺโ ภณตีติ ‘‘กถํ ททมานา สามิกสฺส ปิยา โหตี’’ติ เอวํ ปุฏฺโ อาจิกฺขติ. เอตฺถ จ ‘‘เอวํ เทหิ เอวํ ททมานา’’ติ วุตฺเตปิ สีสํ น เอติ. ‘‘เมถุนธมฺมํ เอวํ เทหิ เอวํ อุปเนหิ เอวํ เมถุนธมฺมํ ททมานา อุปนยมานา ปิยา โหตี’’ติอาทินา ปน นเยน เมถุนธมฺเมน ฆฏิเตเยว สงฺฆาทิเสโส. อนุสาสนีวจเนสุปิ เอเสว นโย.

อกฺโกสนิทฺเทเส – อนิมิตฺตาสีติ นิมิตฺตรหิตาสิ, กุฺจิกปณาลิมตฺตเมว ตว ทกโสตนฺติ วุตฺตํ โหติ.

นิมิตฺตมตฺตาสีติ ตว อิตฺถินิมิตฺตํ อปริปุณฺณํ สฺามตฺตเมวาติ วุตฺตํ โหติ. อโลหิตาติ สุกฺขโสตา. ธุวโลหิตาติ นิจฺจโลหิตา กิลินฺนทกโสตา. ธุวโจฬาติ นิจฺจปกฺขิตฺตาณิโจฬา, สทา อาณิโจฬกํ เสวสีติ วุตฺตํ โหติ. ปคฺฆรนฺตีติ สวนฺตี; สทา เต มุตฺตํ สวตีติ วุตฺตํ โหติ. สิขรณีติ พหินิกฺขนฺตอาณิมํสา. อิตฺถิปณฺฑกาติ อนิมิตฺตาว วุจฺจติ. เวปุริสิกาติ สมสฺสุทาิกา ปุริสรูปา อิตฺถี. สมฺภินฺนาติ สมฺภินฺนวจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคา. อุภโตพฺยฺชนาติ อิตฺถินิมิตฺเตน จ ปุริสนิมิตฺเตน จาติ อุโภหิ พฺยฺชเนหิ สมนฺนาคตา.

อิเมสุ จ ปน เอกาทสสุ ปเทสุ สิขรณีสิ สมฺภินฺนาสิ อุภโตพฺยฺชนาสีติ อิมานิเยว ตีณิ ปทานิ สุทฺธานิ สีสํ เอนฺติ. อิติ อิมานิ จ ตีณิ ปุริมานิ จ วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคเมถุนธมฺมปทานิ ตีณีติ ฉ ปทานิ สุทฺธานิ อาปตฺติกรานิ. เสสานิ อนิมิตฺตาติอาทีนิ ‘‘อนิมิตฺเต เมถุนธมฺมํ เม เทหี’’ติ วา ‘‘อนิมิตฺตาสิ เมถุนธมฺมํ เม เทหี’’ติ วา อาทินา นเยน เมถุนธมฺเมน ฆฏิตาเนว อาปตฺติกรานิ โหนฺตีติ เวทิตพฺพานิ.

๒๘๖. อิทานิ ยฺวายํ โอติณฺโณ วิปริณเตน จิตฺเตน โอภาสติ, ตสฺส วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺเค อาทิสฺส เอเตสํ วณฺณภณนาทีนํ วเสน วิตฺถารโต อาปตฺติเภทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิตฺถี จ โหติ อิตฺถิสฺี’’ติอาทิมาห. เตสํ อตฺโถ กายสํสคฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

อยํ ปน วิเสโส – อธกฺขกนฺติ อกฺขกโต ปฏฺาย อโธ. อุพฺภชาณุมณฺฑล ชาณุมณฺฑลโต ปฏฺาย อุทฺธํ. อุพฺภกฺขกนฺติ อกฺขกโต ปฏฺาย อุทฺธํ. อโธ ชาณุมณฺฑลนฺติ ชาณุมณฺฑลโต ปฏฺาย อโธ. อกฺขกํ ปน ชาณุมณฺฑลฺจ เอตฺเถว ทุกฺกฏกฺเขตฺเต สงฺคหํ คจฺฉนฺติ ภิกฺขุนิยา กายสํสคฺเค วิย. น หิ พุทฺธา ครุกาปตฺตึ สาวเสสํ ปฺเปนฺตีติ. กายปฺปฏิพทฺธนฺติ วตฺถํ วา ปุปฺผํ วา อาภรณํ วา.

๒๘๗. อตฺถปุเรกฺขารสฺสาติ อนิมิตฺตาติอาทีนํ ปทานํ อตฺถํ กเถนฺตสฺส, อฏฺกถํ วา สชฺฌายํ กโรนฺตสฺส.

ธมฺมปุเรกฺขารสฺสาติ ปาฬึ วาเจนฺตสฺส วา สชฺฌายนฺตสฺส วา. เอวํ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ ปุรกฺขตฺวา ภณนฺตสฺส อตฺถปุเรกฺขารสฺส จ ธมฺมปุเรกฺขารสฺส จ อนาปตฺติ.

อนุสาสนิปุเรกฺขารสฺสาติ ‘‘อิทานิปิ อนิมิตฺตาสิ อุภตฺโตพฺยฺชนาสิ อปฺปมาทํ อิทานิ กเรยฺยาสิ, ยถา อายติมฺปิ เอวรูปา น โหหิสี’’ติ เอวํ อนุสิฏฺึ ปุรกฺขตฺวา ภณนฺตสฺส อนุสาสนิปุเรกฺขารสฺส อนาปตฺติ. โย ปน ภิกฺขุนีนํ ปาฬึ วาเจนฺโต ปกติวาจนามคฺคํ ปหาย หสนฺโต หสนฺโต ‘‘สิขรณีสิ สมฺภินฺนาสิ อุภโตพฺยฺชนาสี’’ติ ปุนปฺปุนํ ภณติ, ตสฺส อาปตฺติเยว. อุมฺมตฺตกสฺส อนาปตฺติ. อิธ อาทิกมฺมิโก อุทายิตฺเถโร, ตสฺส อนาปตฺติ อาทิกมฺมิกสฺสาติ.

ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมุฏฺานาทีสุ อิทํ สิกฺขาปทํ ติสมุฏฺานํ กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทฺวิเวทนนฺติ.

๒๘๘. วินีตวตฺถูสุ โลหิตวตฺถุสฺมึ โส ภิกฺขุ อิตฺถิยา โลหิตกํ นิมิตฺตํ สนฺธายาห – อิตรา น อฺาสิ, ตสฺมา ทุกฺกฏํ.

กกฺกสโลมนฺติ รสฺสโลเมหิ พหุโลมํ. อากิณฺณโลมนฺติ ชฏิตโลมํ. ขรโลมนฺติ ถทฺธโลมํ. ทีฆโลมนฺติ อรสฺสโลมํ. สพฺพํ อิตฺถินิมิตฺตเมว สนฺธาย วุตฺตํ.

๒๘๙. วาปิตํ โข เตติ อสทฺธมฺมํ สนฺธายาห, สา อสลฺลกฺเขตฺวา โน จ โข ปฏิวุตฺตนฺติ อาห. ปฏิวุตฺตํ นาม อุทกวปฺเป พีเชหิ อปฺปติฏฺิโตกาเส ปาณเกหิ วินาสิตพีเช วา โอกาเส ปุน พีชํ ปติฏฺาเปตฺวา อุทเกน อาสิตฺตํ, ถลวปฺเป วิสมปติตานํ วา พีชานํ สมกรณตฺถาย ปุน อฏฺทนฺตเกน สมีกตํ, เตสุ อฺตรํ สนฺธาย เอสา อาห.

มคฺควตฺถุสฺมึ มคฺโค สํสีทตีติ องฺคชาตมคฺคํ สนฺธายาห. เสสํ อุตฺตานเมวาติ.

ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๙๐. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ อตฺตกามสิกฺขาปทํ. ตตฺถ กุลูปโกติ กุลปยิรุปาสนโก จตุนฺนํ ปจฺจยานํ อตฺถาย กุลูปสงฺกมเน นิจฺจปฺปยุตฺโต.

จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารนฺติ จีวรฺจ ปิณฺฑปาตฺจ เสนาสนฺจ คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารฺจ. คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารนฺติ เจตฺถ ปติกรณตฺเถน ปจฺจโย, ยสฺส กสฺสจิ สปฺปายสฺเสตํ อธิวจนํ. ภิสกฺกสฺส กมฺมํ เตน อนุฺาตตฺตาติ เภสชฺชํ. คิลานปจฺจโยว เภสชฺชํ คิลานปจฺจยเภสชฺชํ, ยํกิฺจิ คิลานสฺส สปฺปายํ ภิสกฺกกมฺมํ เตลมธุผาณิตาทีติ วุตฺตํ โหติ. ปริกฺขาโรติ ปน ‘‘สตฺตหิ นครปริกฺขาเรหิ สุปริกฺขตํ โหตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๗.๖๗) ปริวาโร วุจฺจติ. ‘‘รโถ สีสปริกฺขาโร ฌานกฺโข จกฺกวีริโย’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๔) อลงฺกาโร. ‘‘เย จิเม ปพฺพชิเตน ชีวิตปริกฺขารา สมุทาเนตพฺพา’’ติอาทีสุ (โร. นิ. ๑.๑.๑๙๑) สมฺภาโร. อิธ ปน สมฺภาโรปิ ปริวาโรปิ วฏฺฏติ. ตฺหิ คิลานปจฺจยเภสชฺชํ ชีวิตสฺส ปริวาโรปิ โหติ ชีวิตวินาสกาพาธุปฺปตฺติยา อนฺตรํ อทตฺวา รกฺขณโต, สมฺภาโรปิ ยถา จิรํ ปวตฺตติ เอวมสฺส การณภาวโต, ตสฺมา ปริกฺขาโรติ วุจฺจติ. เอวํ คิลานปจฺจยเภสชฺชฺจ ตํ ปริกฺขาโร จาติ คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาโร, ตํ คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารนฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

วสลนฺติ หีนํ ลามกํ. อถ วา วสฺสตีติ วสโล, ปคฺฆรตีติ อตฺโถ, ตํ วสลํ, อสุจิปคฺฆรณกนฺติ วุตฺตํ โหติ. นิฏฺุหิตฺวาติ เขฬํ ปาเตตฺวา.

กสฺสาหํ เกน หายามีติ อหํ กสฺสา อฺิสฺสา อิตฺถิยา เกน โภเคน วา อลงฺกาเรน วา รูเปน วา ปริหายามิ, กา นาม มยา อุตฺตริตราติ ทีเปติ.

๒๙๑. สนฺติเกติ อุปจาเร ตฺวา สามนฺตา อวิทูเร, ปทภาชเนปิ อยเมวอตฺโถ ทีปิโต. อตฺตกามปาริจริยายาติ เมถุนธมฺมสงฺขาเตน กาเมน ปาริจริยา กามปาริจริยา. อตฺตโน อตฺถาย กามปาริจริยา อตฺตกามปาริจริยา, อตฺตนา วา กามิตา อิจฺฉิตาติ อตฺตกามา, สยํ เมถุนราควเสน ปตฺถิตาติ อตฺโถ. อตฺตกามา จ สา ปาริจริยา จาติ อตฺตกามปาริจริยา, ตสฺสา อตฺตกามปาริจริยาย. วณฺณํ ภาเสยฺยาติ คุณํ อานิสํสํ ปกาเสยฺย.

ตตฺร ยสฺมา ‘‘อตฺตโน อตฺถาย กามปาริจริยา’’ติ อิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป กาโม เจว เหตุ จ ปาริจริยา จ อตฺโถ, เสสํ พฺยฺชนํ. ‘‘อตฺตกามา จ สา ปาริจริยา จาติ อตฺตกามปาริจริยา’’ติ อิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป อธิปฺปาโย เจว ปาริจริยา จาติ อตฺโถ, เสสํ พฺยฺชนํ. ตสฺมา พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวา อตฺถมตฺตเมว ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺตโน กามํ อตฺตโน เหตุํ อตฺตโน อธิปฺปายํ อตฺตโน ปาริจริย’’นฺติ ปทภาชนํ วุตฺตํ. ‘‘อตฺตโน กามํ อตฺตโน เหตุํ อตฺตโน ปาริจริย’’นฺติ หิ วุตฺเต ชานิสฺสนฺติ ปณฺฑิตา ‘‘เอตฺตาวตา อตฺตโน อตฺถาย กามปาริจริยา วุตฺตา’’ติ. ‘‘อตฺตโน อธิปฺปายํ อตฺตโน ปาริจริย’’นฺติ วุตฺเตปิ ชานิสฺสนฺติ ‘‘เอตฺตาวตา อตฺตนา อิจฺฉิตกามิตฏฺเน อตฺตกามปาริจริยา วุตฺตา’’ติ.

อิทานิ ตสฺสา อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณภาสนาการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอตทคฺค’’นฺติอาทิมาห. ตํ อุทฺเทสโตปิ นิทฺเทสโตปิ อุตฺตานตฺถเมว. อยํ ปเนตฺถ ปทสมฺพนฺโธ จ อาปตฺติวินิจฺฉโย จ – เอตทคฺคํ…เป… ปริจเรยฺยาติ ยา มาทิสํ สีลวนฺตํ กลฺยาณธมฺมํ พฺรหฺมจารึ เอเตน ธมฺเมน ปริจเรยฺย, ตสฺสา เอวํ มาทิสํ ปริจรนฺติยา ยา อยํ ปาริจริยา นาม, เอตทคฺคํ ปาริจริยานนฺติ.

เมถุนุปสํหิเตน สงฺฆาทิเสโสติ เอวํ อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ ภาสนฺโต จ เมถุนุปสํหิเตน เมถุนธมฺมปฏิสํยุตฺเตเนว วจเนน โย ภาเสยฺย, ตสฺส สงฺฆาทิเสโสติ.

อิธานิ ยสฺมา เมถุนุปสํหิเตเนว ภาสนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส วุตฺโต, ตสฺมา ‘‘อหมฺปิ ขตฺติโย, ตฺวมฺปิ ขตฺติยา, อรหติ ขตฺติยา ขตฺติยสฺส ทาตุํ สมชาติกตฺตา’’ติ เอวมาทีหิ วจเนหิ ปาริจริยาย วณฺณํ ภาสมานสฺสาปิ สงฺฆาทิเสโส นตฺถิ. ‘‘อหมฺปิ ขตฺติโย’’ติอาทิเก ปน พหูปิ ปริยาเย วตฺวา ‘‘อรหสิ ตฺวํ มยฺหํ เมถุนธมฺมํ ทาตุ’’นฺติ เอวํ เมถุนปฺปฏิสํยุตฺเตเนว ภาสมานสฺส สงฺฆาทิเสโสติ.

อิตฺถี จ โหตีติอาทิ ปุพฺเพ วุตฺตนยเมว. อิธ อุทายิตฺเถโร อาทิกมฺมิโก, ตสฺส อนาปตฺติ อาทิกมฺมิกสฺสาติ.

สมุฏฺานาทิ สพฺพํ ทุฏฺุลฺลวาจาสทิสํ. วินีตวตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนวาติ.

อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สฺจริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๙๖. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ สฺจริตฺตํ. ตตฺถ ปณฺฑิตาติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคตา คติมนฺตา. พฺยตฺตาติ เวยฺยตฺติเยน สมนฺนาคตา, อุปาเยน สมนฺนาคตา อุปายฺู วิสารทา. เมธาวินีติ เมธาย สมนฺนาคตา, ทิฏฺํ ทิฏฺํ กโรติ. ทกฺขาติ เฉกา. อนลสาติ อุฏฺานวีริยสมฺปนฺนา. ฉนฺนาติ อนุจฺฉวิกา.

กิสฺมึ วิยาติ กิจฺฉํ วิย กิเลโส วิย, หิริ วิย อมฺหากํ โหตีติ อธิปฺปาโย. กุมาริกาย วตฺตุนฺติ ‘‘อิมํ ตุมฺเห คณฺหถา’’ติ กุมาริกาย การณา วตฺตุํ.

อาวาหาทีสุ อาวาโหติ ทารกสฺส ปรกุลโต ทาริกาย อาหรณํ. วิวาโหติ อตฺตโน ทาริกาย ปรกุลเปสนํ. วาเรยฺยนฺติ ‘‘เทถ โน ทารกสฺส ทาริก’’นฺติ ยาจนํ, ทิวสนกฺขตฺตมุหุตฺตปริจฺเฉทกรณํ วา.

๒๙๗. ปุราณคณกิยาติ เอกสฺส คณกสฺส ภริยาย, สา ตสฺมึ ชีวมาเน คณกีติ ปฺายิตฺถ, มเต ปน ปุราณคณกีติ สงฺขํ คตา. ติโรคาโมติ พหิคาโม, อฺโ คาโมติ อธิปฺปาโย. มนุสฺสาติ อุทายิสฺส อิมํ สฺจริตฺตกมฺเม ยุตฺตปยุตฺตภาวํ ชานนกมนุสฺสา.

สุณิสโภเคนาติ เยน โภเคน สุณิสา ภุฺชิตพฺพา โหติ รนฺธาปนปจาปนปอเวสนาทินา, เตน ภุฺชึสุ. ตโต อปเรน ทาสิโภเคนาติ มาสาติกฺกเม เยน โภเคน ทาสี ภุฺชิตพฺพา โหติ เขตฺตกมฺมกจวรฉฑฺฑนอุทกาหรณาทินา, เตน ภุฺชึสุ. ทุคฺคตาติ ทลิทฺทา, ยตฺถ วา คตา ทุคฺคตา โหติ ตาทิสํ กุลํ คตา. มายฺโย อิมํ กุมาริกนฺติ มา อยฺโย อิมํ กุมาริกํ. อาหารูปหาโรติ อาหาโร จ อุปหาโร จ คหณฺจ ทานฺจ, น อมฺเหหิ กิฺจิ อาหฏํ น อุปาหฏํ ตยา สทฺธึ กยวิกฺกโย โวหาโร อมฺหากํ นตฺถีติ ทีเปนฺติ. สมเณน ภวิตพฺพํ อพฺยาวเฏน, สมโณ อสฺส สุสมโณติ สมเณน นาม อีทิเสสุ กมฺเมสุ อพฺยาวเฏน อพฺยาปาเรน ภวิตพฺพํ, เอวํ ภวนฺโต หิ สมโณ สุสมโณ อสฺสาติ, เอวํ นํ อปสาเทตฺวา ‘‘คจฺฉ ตฺวํ น มยํ ตํ ชานามา’’ติ อาหํสุ.

๒๙๘. สชฺชิโตติ สพฺพูปกรณสมฺปนฺโน มณฺฑิตปสาธิโต วา.

๓๐๐. ธุตฺตาติ อิตฺถิธุตฺตา. ปริจาเรนฺตาติ มนาปิเยสุ รูปาทีสุ อิโต จิโต จ สมนฺตา อินฺทฺริยานิ จาเรนฺตา, กีฬนฺตา อภิรมนฺตาติ วุตฺตํ โหติ. อพฺภุตมกํสูติ ยทิ กริสฺสติ ตฺวํ เอตฺตกํ ชิโต, ยทิ น กริสฺสติ อหํ เอตฺตกนฺติ ปณมกํสุ. ภิกฺขูนํ ปน อพฺภุตํ กาตุํ น วฏฺฏติ. โย กโรติ ปราชิเตน ทาตพฺพนฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.

กถฺหิ นาม อยฺโย อุทายี ตงฺขณิกนฺติ เอตฺถ ตงฺขโณติ อจิรกาโล วุจฺจติ. ตงฺขณิกนฺติ อจิรกาลาธิการิกํ.

๓๐๑. สฺจริตฺตํ สมาปชฺเชยฺยาติ สฺจรณภาวํ สมาปชฺเชยฺย. ยสฺมา ปน ตํ สมาปชฺชนฺเตน เกนจิ เปสิเตน กตฺถจิ คนฺตพฺพํ โหติ, ปรโต จ ‘‘อิตฺถิยา วา ปุริสมติ’’นฺติ อาทิวจนโต อิธ อิตฺถิปุริสา อธิปฺเปตา, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิตฺถิยา วา ปหิโต ปุริสสฺส สนฺติเก คจฺฉติ, ปุริเสน วา ปหิโต อิตฺถิยา สนฺติเก คจฺฉตี’’ติ เอวมสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ. อิตฺถิยา วา ปุริสมตึ ปุริสสฺส วา อิตฺถิมตินฺติ เอตฺถ อาโรเจยฺยาติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ, เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘ปุริสสฺส มตึ อิตฺถิยา อาโรเจติ, อิตฺถิยา มตึ ปุริสสฺส อาโรเจตี’’ติ วุตฺตํ.

อิทานิ ยทตฺถํ ตํ เตสํ มตึ อธิปฺปายํ อชฺฌาสยํ ฉนฺทํ รุจึ อาโรเจติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ชายตฺตเน วา ชารตฺตเน วา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ชายตฺตเนติ ชายาภาเว. ชารตฺตเนติ ชารภาเว. ปุริสสฺส หิ มตึ อิตฺถิยา อาโรเจนฺโต ชายตฺตเน อาโรเจติ, อิตฺถิยา มตึ ปุริสสฺส อาโรเจนฺโต ชารตฺตเน อาโรเจติ; อปิจ ปุริสสฺเสว มตึ อิตฺถิยา อาโรเจนฺโต ชายตฺตเน วา อาโรเจติ นิพทฺธภริยาภาเว, ชารตฺตเน วา มิจฺฉาจารภาเว. ยสฺมา ปเนตํ อาโรเจนฺเตน ‘‘ตฺวํ กิรสฺส ชายา ภวิสฺสสี’’ติอาทิ วตฺตพฺพํ โหติ, ตสฺมา ตํ วตฺตพฺพตาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘ชายตฺตเน วาติ ชายา ภวิสฺสสิ, ชารตฺตเน วาติ ชารี ภวิสฺสสี’’ติ อสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ. เอเตเนว จ อุปาเยน อิตฺถิยา มตึ ปุริสสฺส อาโรจเนปิ ปติ ภวิสฺสสิ, สามิโก ภวิสฺสสิ, ชาโร ภวิสฺสสีติ วตฺตพฺพตากาโร เวทิตพฺโพ.

อนฺตมโส ตงฺขณิกายปีติ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน ยา อยํ ตงฺขเณ มุหุตฺตมตฺเต ปฏิสํวสิตพฺพโต ตงฺขณิกาติ วุจฺจติ, มุหุตฺติกาติ อตฺโถ. ตสฺสาปิ ‘‘มุหุตฺติกา ภวิสฺสสี’’ติ เอวํ ปุริสมตึ อาโรเจนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส. เอเตเนวุปาเยน ‘‘มุหุตฺติโก ภวิสฺสสี’’ติ เอวํ ปุริสสฺส อิตฺถิมตึ อาโรเจนฺโตปิ สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชตีติ เวทิตพฺโพ.

๓๐๓. อิทานิ ‘‘อิตฺถิยา วา ปุริสมติ’’นฺติ เอตฺถ อธิปฺเปตา อิตฺถิโย ปเภทโต ทสฺเสตฺวา ตาสุ สฺจริตฺตวเสน อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทส อิตฺถิโย’’ติอาทิมาห. ตตฺถ มาตุรกฺขิตาติ มาตรา รกฺขิตา. ยถา ปุริเสน สํวาสํ น กปฺเปติ, เอวํ มาตรา รกฺขิตา, เตนสฺส ปทภาชเนปิ วุตฺตํ – ‘‘มาตา รกฺขติ โคเปติ อิสฺสริยํ กาเรติ วสํ วตฺเตตี’’ติ. ตตฺถ รกฺขตีติ กตฺถจิ คนฺตุํ น เทติ. โคเปตีติ ยถา อฺเ น ปสฺสนฺติ, เอวํ คุตฺตฏฺาเน เปติ. อิสฺสริยํ กาเรตีติ เสริวิหารมสฺสา นิเสเธนฺตี อภิภวิตฺวา ปวตฺตติ. วสํ วตฺเตตีติ ‘‘อิทํ กโรหิ, อิทํ มา อกาสี’’ติ เอวํ อตฺตโน วสํ ตสฺสา อุปริ วตฺเตติ. เอเตนุปาเยน ปิตุรกฺขิตาทโยปิ าตพฺพา. โคตฺตํ วา ธมฺโม วา น รกฺขติ, สโคตฺเตหิ ปน สหธมฺมิเกหิ จ เอกํ สตฺถารํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิเตหิ เอกคณปริยาปนฺเนหิ จ รกฺขิตา ‘‘โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมา เตสํ ปทานํ ‘‘สโคตฺตา รกฺขนฺตี’’ติอาทินา นเยน ปทภาชนํ วุตฺตํ.

สห อารกฺเขนาติ สารกฺขา. สห ปริทณฺเฑนาติ สปริทณฺฑา. ตาสํ นิทฺเทสา ปากฏาว. อิมาสุ ทสสุ ปจฺฉิมานํ ทฺวินฺนเมว ปุริสนฺตรํ คจฺฉนฺตีนํ มิจฺฉาจาโร โหติ, น อิตราสํ.

ธนกฺกีตาทีสุ อปฺเปน วา พหุนา วา ธเนน กีตา ธนกฺกีตา. ยสฺมา ปน สา น กีตมตฺตา เอว สํวาสตฺถาย ปน กีตตฺตา ภริยา, ตสฺมาสฺส นิทฺเทเส ธเนน กิณิตฺวา วาเสตีติ วุตฺตํ.

ฉนฺเทน อตฺตโน รุจิยา วสตีติ ฉนฺทวาสินี. ยสฺมา ปน สา น อตฺตโน ฉนฺทมตฺเตเนว ภริยา โหติ ปุริเสน ปน สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา, ตสฺมาสฺส นิทฺเทเส ‘‘ปิโย ปิยํ วาเสตี’’ติ วุตฺตํ.

โภเคน วสตีติ โภควาสินี. อุทุกฺขลมุสลาทิฆรูปกรณํ ลภิตฺวา ภริยาภาวํ คจฺฉนฺติยา ชนปทิตฺถิยา เอตํ อธิวจนํ.

ปเฏน วสตีติ ปฏวาสินี. นิวาสนมตฺตมฺปิ ปาวุรณมตฺตมฺปิ ลภิตฺวา ภริยาภาวํ อุปคจฺฉนฺติยา ทลิทฺทิตฺถิยา เอตํ อธิวจนํ.

โอทปตฺตกินีติ อุภินฺนํ เอกิสฺสา อุทกปาติยา หตฺเถ โอตาเรตฺวา ‘‘อิทํ อุทกํ วิย สํสฏฺา อเภชฺชา โหถา’’ติ วตฺวา ปริคฺคหิตาย โวหารนามเมตํ, นิทฺเทเสปิสฺส ‘‘ตาย สห อุทกปตฺตํ อามสิตฺวา ตํ วาเสตี’’ติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

โอภฏํ โอโรปิตํ จุมฺพฏมสฺสาติ โอภฏจุมฺพฏา, กฏฺหาริกาทีนํ อฺตรา, ยสฺสา สีสโต จุมฺพฏํ โอโรเปตฺวา ฆเร วาเสติ, ตสฺสา เอตํ อธิวจนํ.

ทาสี จาติ อตฺตโนเยว ทาสี จ โหติ ภริยา จ.

กมฺมการี นาม เคเห ภติยา กมฺมํ กโรติ, ตาย สทฺธึ โกจิ ฆราวาสํ กปฺเปติ อตฺตโน ภริยาย อนตฺถิโก หุตฺวา. อยํ วุจฺจติ ‘‘กมฺมการี จ ภริยา จา’’ติ.

ธเชน อาหฏา ธชาหฏา, อุสฺสิตทฺธชาย เสนาย คนฺตฺวา ปรวิสยํ วิลุมฺปิตฺวา อานีตาติ วุตฺตํ โหติ, ตํ โกจิ ภริยํ กโรติ, อยํ ธชาหฏา นาม. มุหุตฺติกา วุตฺตนยาเอว, เอตาสํ ทสนฺนมฺปิ ปุริสนฺตรคมเน มิจฺฉาจาโร โหติ. ปุริสานํ ปน วีสติยาปิ เอตาสุ มิจฺฉาจาโร โหติ, ภิกฺขุโน จ สฺจริตฺตํ โหตีติ.

๓๐๕. อิทานิ ปุริโส ภิกฺขุํ ปหิณตีติอาทีสุ ปฏิคฺคณฺหาตีติ โส ภิกฺขุ ตสฺส ปุริสสฺส ‘‘คจฺฉ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนามํ มาตุรกฺขิตํ พฺรูหิ, โหหิ กิร อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา ธนกฺกีตา’’ติ เอวํ วุตฺตวจนํ ‘‘สาธุ อุปาสกา’’ติ วา ‘‘โหตู’’ติ วา ‘‘อาโรเจสฺสามี’’ติ วา เยน เกนจิ อากาเรน วจีเภทํ กตฺวา วา สีสกมฺปนาทีหิ วา สมฺปฏิจฺฉติ. วีมํสตีติ เอวํ ปฏิคฺคณฺหิตฺวา ตสฺสา อิตฺถิยา สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ สาสนํ อาโรเจติ. ปจฺจาหรตีติ เตน อาโรจิเต สา อิตฺถี ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉตุ วา ปฏิกฺขิปตุ วา ลชฺชาย วา ตุณฺหี โหตุ, ปุน อาคนฺตฺวา ตสฺส ปุริสสฺส ตํ ปวตฺตึ อาโรเจติ.

เอตฺตาวตา อิมาย ปฏิคฺคหณาโรจนปจฺจาหรณสงฺขาตาย ติวงฺคสมฺปตฺติยา สงฺฆาทิเสโส โหติ. สา ปน ตสฺส ภริยา โหตุ วา มา วา, อการณเมตํ. สเจ ปน โส มาตุรกฺขิตาย สนฺติกํ เปสิโต ตํ อทิสฺวา ตสฺสา มาตุยา ตํ สาสนํ อาโรเจติ, พหิทฺธา วิมฏฺํ นาม โหติ, ตสฺมา วิสงฺเกตนฺติ มหาปทุมตฺเถโร อาห. มหาสุมตฺเถโร ปน มาตา วา โหตุ ปิตา วา อนฺตมโส เคหทาสีปิ อฺโ วาปิ โย โกจิ ตํ กิริยํ สมฺปาเทสฺสติ, ตสฺส วุตฺเตปิ วิมฏฺํ นาม น โหติ, ติวงฺคสมฺปตฺติกาเล อาปตฺติเยว.

นนุ ยถา ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติ วตฺตุกาโม วิรชฺฌิตฺวา ‘‘ธมฺมํ ปจฺจกฺขามี’’ติ วเทยฺย ปจฺจกฺขาตาวสฺส สิกฺขา. ยถา วา ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติ วตฺตุกาโม วิรชฺฌิตฺวา ‘‘ทุติยํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติ วเทยฺย อาปนฺโนวสฺส ปาราชิกํ. เอวํสมฺปทมิทนฺติ อาห. ตํ ปเนตํ ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ, อนฺเตวาสึ วีมํสาเปตฺวา อตฺตนา ปจฺจาหรติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ อิมินา สเมติ, ตสฺมา สุภาสิตํ.

ยถา จ ‘‘มาตุรกฺขิตํ พฺรูหี’’ติ วุตฺตสฺส คนฺตฺวา ตสฺสา อาโรเจตุํ สมตฺถานํ มาตาทีนมฺปิ วทโต วิสงฺเกโต นตฺถิ, เอวเมว ‘‘โหหิ กิร อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา ธนกฺกีตา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘โหหิ กิร อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา ฉนฺทวาสินี’’ติ เอวํ ปาฬิยํ วุตฺเตสุ ฉนฺทวาสินิอาทีสุ วจเนสุ อฺตรวเสน วา อวุตฺเตสุปิ ‘‘โหหิ กิร อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา ชายา ปชาปติ ปุตฺตมาตา ฆรณี ฆรสามินี ภตฺตรนฺธิกา สุสฺสูสิกา ปริจาริกา’’ติเอวมาทีสุ สํวาสปริทีปเกสุ วจเนสุ อฺตรวเสน วา วทนฺตสฺสาปิ วิสงฺเกโต นตฺถิ ติวงฺคสมฺปตฺติยา อาปตฺติเยว. ‘‘มาตุรกฺขิตํ พฺรูหี’’ติ เปสิตสฺส ปน คนฺตฺวา อฺาสุ ปิตุรกฺขิตาทีสุ อฺตรํ วทนฺตสฺส วิสงฺเกตํ. เอส นโย ‘‘ปิตุรกฺขิตํ พฺรูหี’’ติอาทีสุปิ.

เกวลฺเหตฺถ เอกมูลกทุมูลกาทิวเสน ‘‘ปุริสสฺส มาตา ภิกฺขุํ ปหิณติ, มาตุรกฺขิตาย มาตา ภิกฺขุํ ปหิณตี’’ติ เอวมาทีนํ มูลฏฺานฺจ วเสน เปยฺยาลเภโทเยว วิเสโส. โสปิ ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตา ปาฬิอนุสาเรเนว สกฺกา ชานิตุนฺติ นาสฺส วิภาคํ ทสฺเสตุํ อาทรํ กริมฺห.

๓๓๘. ปฏิคฺคณฺหาตีติอาทีสุ ปน ทฺวีสุ จตุกฺเกสุ ปมจตุกฺเก อาทิปเทน ติวงฺคสมฺปตฺติยา สงฺฆาทิเสโส, มชฺเฌ ทฺวีหิ ทุวงฺคสมฺปตฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, อนฺเต เอเกน เอกงฺคสมฺปตฺติยา ทุกฺกฏํ. ทุติยจตุกฺเก อาทิปเทน ทุวงฺคสมฺปตฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, มชฺเฌ ทฺวีหิ เอกงฺคสมฺปตฺติยา ทุกฺกฏํ, อนฺเต เอเกน องฺคาภาวโต อนาปตฺติ. ตตฺถ ปฏิคฺคณฺหาตีติ อาณาปกสฺส สาสนํ ปฏิคฺคณฺหาติ. วีมํสตีติ ปหิตฏฺานํ คนฺตฺวา ตํ อาโรเจติ. ปจฺจาหรตีติ ปุน อาคนฺตฺวา มูลฏฺสฺส อาโรเจติ.

น ปจฺจาหรตีติ อาโรเจตฺวา เอตฺโตว ปกฺกมติ. ปฏิคฺคณฺหาติ น วีมํสตีติ ปุริเสน ‘‘อิตฺถนฺนามํ คนฺตฺวา พฺรูหี’’ติ วุจฺจมาโน ‘‘สาธู’’ติ ตสฺส สาสนํ ปฏิคฺคณฺหิตฺวา ตํ ปมุสฺสิตฺวา วา อปฺปมุสฺสิตฺวา วา อฺเน กรณีเยน ตสฺสา สนฺติกํ คนฺตฺวา กิฺจิเทว กถํ กเถนฺโต นิสีทติ, เอตฺตาวตา ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ น วีมํสติ นามา’’ติ วุจฺจติ. อถ นํ สา อิตฺถี สยเมว วทติ ‘‘ตุมฺหากํ กิร อุปฏฺาโก มํ เคเห กาตุกาโม’’ติ เอวํ วตฺวา จ ‘‘อหํ ตสฺส ภริยา ภวิสฺสามี’’ติ วา ‘‘น ภวิสฺสามี’’ติ วา วทติ. โส ตสฺสา วจนํ อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตุณฺหีภูโตว อุฏฺายาสนา ตสฺส ปุริสสฺส สนฺติกํ อาคนฺตฺวา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจติ, เอตฺตาวตา ‘‘น วีมํสติ ปจฺจาหรติ นามา’’ติ วุจฺจติ. น วีมํสติ น ปจฺจาหรตีติ เกวลํ สาสนาโรจนกาเล ปฏิคฺคณฺหาติเยว, อิตรํ ปน ทฺวยํ น กโรติ.

น ปฏิคฺคณฺหาติ วีมํสติ ปจฺจาหรตีติ โกจิ ปุริโส ภิกฺขุสฺส ิตฏฺาเน วา นิสินฺนฏฺาเน วา ตถารูปึ กถํ กเถติ, ภิกฺขุ เตน อปฺปหิโตปิ ปหิโต วิย หุตฺวา อิตฺถิยา สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘โหหิ กิร อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา’’ติอาทินา นเยน วีมํสิตฺวา ตสฺสา รุจึ วา อรุจึ วา ปุน อาคนฺตฺวา อิมสฺส อาโรเจติ. เตเนว นเยน วีมํสิตฺวา อปจฺจาหรนฺโต ‘‘น ปฏิคฺคณฺหาติ วีมํสติ น ปจฺจาหรตี’’ติ วุจฺจติ. เตเนว นเยน คโต อวีมํสิตฺวา ตาย สมุฏฺาปิตํ กถํ สุตฺวา ปมจตุกฺกสฺส ตติยปเท วุตฺตนเยน อาคนฺตฺวา อิมสฺส อาโรเจนฺโต ‘‘น ปฏิคฺคณฺหาติ น วีมํสติ ปจฺจาหรตี’’ติ วุจฺจติ. จตุตฺถปทํ ปากฏเมว.

สมฺพหุเล ภิกฺขู อาณาเปตีติอาทินยา ปากฏาเยว. ยถา ปน สมฺพหุลาปิ เอกวตฺถุมฺหิ อาปชฺชนฺติ, เอวํ เอกสฺสปิ สมฺพหุลวตฺถูสุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย เวทิตพฺพา. กถํ? ปุริโส ภิกฺขุํ อาณาเปติ ‘‘คจฺฉ, ภนฺเต, อสุกสฺมึ นาม ปาสาเท สฏฺิมตฺตา วา สตฺตติมตฺตา วา อิตฺถิโย ิตา ตา วเทหิ, โหถ กิร อิตฺถนฺนามสฺส ภริยาโย’’ติ. โส สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา อาโรเจตฺวา ปุน ตํ สาสนํ ปจฺจาหรติ. ยตฺตกา อิตฺถิโย ตตฺตกา อาปตฺติโย อาปชฺชติ. วุตฺตฺเหตํ ปริวาเรปิ

‘‘ปทวีติหารมตฺเตน, วาจาย ภณิเตน จ;

สพฺพานิ ครุกานิ สปฺปฏิกมฺมานิ;

จตุสฏฺิ อาปตฺติโย อาปชฺเชยฺย เอกโต;

ปฺหาเมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๘๐);

อิมํ กิร อตฺถวสํ ปฏิจฺจ อยํ ปฺโห วุตฺโต. วจนสิลิฏฺตาย เจตฺถ ‘‘จตุสฏฺิ อาปตฺติโย’’ติ วุตฺตํ. เอวํ กโรนฺโต ปน สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ อาปชฺชตีติ. ยถา จ เอเกน เปสิตสฺส เอกสฺส สมฺพหุลาสุ อิตฺถีสุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย, เอวํ เอโก ปุริโส สมฺพหุเล ภิกฺขู เอกิสฺสา สนฺติกํ เปเสติ, สพฺเพสํ สงฺฆาทิเสโส. เอโก สมฺพหุเล ภิกฺขู สมฺพหุลานํ อิตฺถีนํ สนฺติกํ เปเสติ, อิตฺถิคณนาย สงฺฆาทิเสสา. สมฺพหุลา ปุริสา เอกํ ภิกฺขุํ เอกิสฺสา สนฺติกํ เปเสนฺติ, ปุริสคณนาย สงฺฆาทิเสสา. สมฺพหุลา เอกํ สมฺพหุลานํ อิตฺถีนํ สนฺติกํ เปเสนฺติ, วตฺถุคณนาย สงฺฆาทิเสสา. สมฺพหุลา สมฺพหุเล เอกิสฺสา สนฺติกํ เปเสนฺติ, วตฺถุคณนาย สงฺฆาทิเสสา. สมฺพหุลา ปุริสา สมฺพหุเล ภิกฺขู สมฺพหุลานํ อิตฺถีนํ สนฺติกํ เปเสนฺติ, วตฺถุคณนาย สงฺฆาทิเสสา. เอส นโย ‘‘เอกา อิตฺถี เอกํ ภิกฺขุ’’นฺติอาทีสุปิ. เอตฺถ จ สภาควิภาคตา นาม อปฺปมาณํ, มาตาปิตุนมฺปิ ปฺจสหธมฺมิกานมฺปิ สฺจริตฺตกมฺมํ กโรนฺตสฺส อาปตฺติเยว.

ปุริโส ภิกฺขุํ อาณาเปติ คจฺฉ ภนฺเตติ จตุกฺกํ องฺควเสน อาปตฺติเภท ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตสฺส ปจฺฉิมปเท อนฺเตวาสี วีมํสิตฺวา พหิทฺธา ปจฺจาหรตีติ อาคนฺตฺวา อาจริยสฺส อนาโรเจตฺวา เอตฺโตว คนฺตฺวา ตสฺส ปุริสสฺส อาโรเจติ. อาปตฺติ อุภินฺนํ ถุลฺลจฺจยสฺสาติ อาจริยสฺส ปฏิคฺคหิตตฺตา จ วีมํสาปิตตฺตา จ ทฺวีหงฺเคหิ ถุลฺลจฺจยํ, อนฺเตวาสิกสฺส วีมํสิตตฺตา จ ปจฺจาหฏตฺตา จ ทฺวีหงฺเคหิ ถุลฺลจฺจยํ. เสสํ ปากฏเมว.

๓๓๙. คจฺฉนฺโต สมฺปาเทตีติ ปฏิคฺคณฺหาติ เจว วีมํสติ จ. อาคจฺฉนฺโต วิสํวาเทตีติ น ปจฺจาหรติ. คจฺฉนฺโต วิสํวาเทตีติ น ปฏิคฺคณฺหาติ. อาคจฺฉนฺโต สมฺปาเทตีติ วีมํสติ เจว ปจฺจาหรติ จ. เอวํ อุภยตฺถ ทฺวีหงฺเคหิ ถุลฺลจฺจยํ. ตติยปเท อาปตฺติ, จตุตฺเถ อนาปตฺติ.

๓๔๐. อนาปตฺติ สงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา คิลานสฺส วา กรณีเยน คจฺฉติ อุมฺมตฺตกสฺส อาทิกมฺมิกสฺสาติ เอตฺถ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อุโปสถาคารํ วา กิฺจิ วา วิปฺปกตํ โหติ. ตตฺถ การุกานํ ภตฺตเวตนตฺถาย อุปาสโก วา อุปาสิกาย สนฺติกํ ภิกฺขุํ ปหิเณยฺย, อุํปาสิกา วา อุปาสกสฺส, เอวรูเปน สงฺฆสฺส กรณีเยน คจฺฉนฺตสฺส อนาปตฺติ. เจติยกมฺเม กยิรมาเนปิ เอเสว นโย. คิลานสฺส เภสชฺชตฺถายปิ อุปาสเกน วา อุปาสิกาย สนฺติกํ อุปาสิกาย วา อุปาสกสฺส สนฺติกํ ปหิตสฺส คจฺฉโต อนาปตฺติ. อุมฺมตฺตกอาทิกมฺมิกา วุตฺตนยา เอว.

ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมุฏฺานาทีสุ อิทํ สิกฺขาปทํ ฉสมุฏฺานํ, สีสุกฺขิปนาทินา กายวิกาเรน สาสนํ คเหตฺวา คนฺตฺวา หตฺถมุทฺทาย วีมํสิตฺวา ปุน อาคนฺตฺวา หตฺถมุทฺทาย เอว อาโรเจนฺตสฺส กายโต สมุฏฺาติ. อาสนสาลาย นิสินฺนสฺส ‘‘อิตฺถนฺนามา อาคมิสฺสติ, ตสฺสา จิตฺตํ ชาเนยฺยาถา’’ติ เกนจิ วุตฺเต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตํ อาคตํ วตฺวา ตสฺสา คตาย ปุน ตสฺมึ ปุริเส อาคเต อาโรเจนฺตสฺส วาจโต สมุฏฺาติ. วาจาย ‘‘สาธู’’ติ สาสนํ คเหตฺวา อฺเน กรณีเยน ตสฺสา ฆรํ คนฺตฺวา อฺตฺถ วา คมนกาเล ตํ ทิสฺวา วจีเภเทเนว วีมํสิตฺวา ปุน อฺเเนว กรณีเยน ตโต อปกฺกมฺม กทาจิเทว ตํ ปุริสํ ทิสฺวา อาโรเจนฺตสฺสาปิ วาจโตว สมุฏฺาติ. ปณฺณตฺตึ อชานนฺตสฺส ปน ขีณาสวสฺสาปิ กายวาจโต สมุฏฺาติ. กถํ? สเจ หิสฺส มาตาปิตโร กุชฺฌิตฺวา อลํวจนียา โหนฺติ, ตฺจ ภิกฺขุํ ฆรํ อุปคตํ เถรปิตา วทติ ‘‘มาตา เต ตาต มํ มหลฺลกํ ฉฑฺเฑตฺวา าติกุลํ คตา, คจฺฉ ตํ มํ อุปฏฺาตุํ เปเสหี’’ติ. โส เจ คนฺตฺวา ตํ วตฺวา ปุน ปิตุโน ตสฺสา อาคมนํ วา อนาคมนํ วา อาโรเจติ, สงฺฆาทิเสโส. อิมานิ ตีณิ อจิตฺตกสมุฏฺานานิ.

ปณฺณตฺตึ ปน ชานิตฺวา เอเตเหว ตีหิ นเยหิ สฺจริตฺตํ สมาปชฺชโต กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. อิมานิ ตีณิ ปณฺณตฺติชานนจิตฺเตน สจิตฺตกสมุฏฺานานิ. กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, กุสลาทิวเสน เจตฺถ ตีณิ จิตฺตานิ, สุขาทิวเสน ติสฺโส เวทนาติ.

๓๔๑. วินีตวตฺถูสุ อาทิโต วตฺถุปฺจเก ปฏิคฺคหิตมตฺตตฺตา ทุกฺกฏํ.

กลหวตฺถุสฺมึ สมฺโมทนียํ อกาสีติ ตํ สฺาเปตฺวา ปุน เคหคมนียํ

อกาสิ. นาลํวจนียาติ น ปริจฺจตฺตาติ อตฺโถ. ยา หิ ยถา ยถา เยสุ เยสุ ชนปเทสุ ปริจฺจตฺตา ปริจฺจตฺตาว โหติ, ภริยาภาวํ อติกฺกมติ, อยํ ‘‘อลํวจนียา’’ติ วุจฺจติ. เอสา ปน น อลํวจนียา เกนจิเทว การเณน กลหํ กตฺวา คตา, เตเนเวตฺถ ภควา ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อาห. ยสฺมา ปน กายสํสคฺเค ยกฺขิยา ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ, ตสฺมา ทุฏฺุลฺลาทีสุปิ ยกฺขิเปติโย ถุลฺลจฺจยวตฺถุเมวาติ เวทิตพฺพา. อฏฺกถาสุ ปเนตํ น วิจาริตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

สฺจริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. กุฏิการสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๔๒. เตน สมเยนาติ กุฏิการสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อาฬวกาติ อาฬวิรฏฺเ ชาตา ทารกา อาฬวกา นาม, เต ปพฺพชิตกาเลปิ ‘‘อาฬวกา’’ตฺเวว ปฺายึสุ. เต สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อาฬวกา ภิกฺขู’’ติ. สฺาจิกาโยติ สยํ ยาจิตฺวา คหิตูปกรณาโย. การาเปนฺตีติ กโรนฺติปิ การาเปนฺติปิ, เต กิร สาสเน วิปสฺสนาธุรฺจ คนฺถธุรฺจาติ ทฺเวปิ ธุรานิ ฉฑฺเฑตฺวา นวกมฺมเมว ธุรํ กตฺวา ปคฺคณฺหึสุ. อสฺสามิกาโยติ อนิสฺสราโย, กาเรตา ทายเกน วิรหิตาโยติ อตฺโถ. อตฺตุทฺเทสิกาโยติ อตฺตานํ อุทฺทิสฺส อตฺตโน อตฺถาย อารทฺธาโยติ อตฺโถ. อปฺปมาณิกาโยติ ‘‘เอตฺตเกน นิฏฺํ คจฺฉิสฺสนฺตี’’ติ เอวํ อปริจฺฉินฺนปฺปมาณาโย, วุทฺธิปฺปมาณาโย วา มหนฺตปฺปมาณาโยติ อตฺโถ.

ยาจนา เอว พหุลา เอเตสํ มนฺทํ อฺํ กมฺมนฺติ ยาจนพหุลา. เอวํ วิฺตฺติพหุลา เวทิตพฺพา. อตฺถโต ปเนตฺถ นานากรณํ นตฺถิ, อเนกกฺขตฺตุํ ‘‘ปุริสํ เทถ, ปุริสตฺถกรํ เทถา’’ติ ยาจนฺตานเมตํ อธิวจนํ. ตตฺถ มูลจฺเฉชฺชาย ปุริสํ ยาจิตุํ น วฏฺฏติ, สหายตฺถาย กมฺมกรณตฺถาย ‘‘ปุริสํ เทถา’’ติ ยาจิตุํ วฏฺฏติ. ปุริสตฺถกรนฺติ ปุริเสน กาตพฺพํ หตฺถกมฺมํ วุจฺจติ, ตํ ยาจิตุํ วฏฺฏติ. หตฺถกมฺมํ นาม กิฺจิ วตฺถุ น โหติ, ตสฺมา เปตฺวา มิคลุทฺทกมจฺฉพนฺธกาทีนํ สกกมฺมํ อวเสสํ สพฺพํ กปฺปิยํ. ‘‘กึ, ภนฺเต, อาคตตฺถ เกน กมฺม’’นฺติ ปุจฺฉิเต วา อปุจฺฉิเต วา ยาจิตุํ วฏฺฏติ, วิฺตฺติปจฺจยา โทโส นตฺถิ. ตสฺมา มิคลุทฺทกาทโย สกกมฺมํ น ยาจิตพฺพา, ‘‘หตฺถกมฺมํ เทถา’’ติ อนิยเมตฺวาปิ น ยาจิตพฺพา; เอวํ ยาจิตา หิ เต ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ ภิกฺขู อุยฺโยเชตฺวา มิเคปิ มาเรตฺวา อาหเรยฺยุํ. นิยเมตฺวา ปน ‘‘วิหาเร กิฺจิ กตฺตพฺพํ อตฺถิ, ตตฺถ หตฺถกมฺมํ เทถา’’ติ ยาจิตพฺพา. ผาลนงฺคลาทีนิ อุปกรณานิ คเหตฺวา กสิตุํ วา วปิตุํ วา ลายิตุํ วา คจฺฉนฺตํ สกิจฺจปสุตมฺปิ กสฺสกํ วา อฺํ วา กิฺจิ หตฺถกมฺมํ ยาจิตุํ วฏฺฏเตว. โย ปน วิฆาสาโท วา อฺโ วา โกจิ นิกฺกมฺโม นิรตฺถกกถํ กเถนฺโต นิทฺทายนฺโต วา วิหรติ, เอวรูปํ อยาจิตฺวาปิ ‘‘เอหิ เร อิทํ วา อิทํ วา กโรหี’’ติ ยทิจฺฉกํ การาเปตุํ วฏฺฏติ.

หตฺถกมฺมสฺส ปน สพฺพกปฺปิยภาวทีปนตฺถํ อิมํ นยํ กเถนฺติ. สเจ หิ ภิกฺขุ ปาสาทํ กาเรตุกาโม โหติ, ถมฺภตฺถาย ปาสาณโกฏฺฏกานํ ฆรํ คนฺตฺวา วตฺตพฺพํ ‘‘หตฺถกมฺมํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ อุปาสกา’’ติ. กึ กาตพฺพํ, ภนฺเต,ติ? ปาสาณตฺถมฺภา อุทฺธริตฺวา ทาตพฺพาติ. สเจ เต อุทฺธริตฺวา วา เทนฺติ, อุทฺธริตฺวา นิกฺขิตฺเต อตฺตโน ถมฺเภ วา เทนฺติ, วฏฺฏติ. อถาปิ วทนฺติ – ‘‘อมฺหากํ, ภนฺเต, หตฺถกมฺมํ กาตุํ ขโณ นตฺถิ, อฺํ อุทฺธราเปถ, ตสฺส มูลํ ทสฺสามา’’ติ อุทฺธราเปตฺวา ‘‘ปาสาณตฺถมฺเภ อุทฺธฏมนุสฺสานํ มูลํ เทถา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอเตเนวุปาเยน ปาสาททารูนํ อตฺถาย วฑฺฒกีนํ สนฺติกํ อิฏฺกตฺถาย อิฏฺกวฑฺฒกีนํ ฉทนตฺถาย เคหจฺฉาทกานํ จิตฺตกมฺมตฺถาย จิตฺตการานนฺติ เยน เยน อตฺโถ โหติ, ตสฺส ตสฺส อตฺถาย เตสํ เตสํ สิปฺปการกานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา หตฺถกมฺมํ ยาจิตุํ วฏฺฏติ. หตฺถกมฺมยาจนวเสน จ มูลจฺเฉชฺชาย วา ภตฺตเวตนานุปฺปทาเนน วา ลทฺธมฺปิ สพฺพํ คเหตุํ วฏฺฏติ. อรฺโต อาหราเปนฺเตน จ สพฺพํ อนชฺฌาวุตฺถกํ อาหราเปตพฺพํ.

น เกวลฺจ ปาสาทํ กาเรตุกาเมน มฺจปีปตฺตปริสฺสาวนธมกรกจีวราทีนิ การาเปตุกาเมนาปิ ทารุโลหสุตฺตาทีนิ ลภิตฺวา เต เต สิปฺปการเก อุปสงฺกมิตฺวา วุตฺตนเยเนว หตฺถกมฺมํ ยาจิตพฺพํ. หตฺถกมฺมยาจนวเสน จ มูลจฺเฉชฺชาย วา ภตฺตเวตนานุปฺปทาเนน วา ลทฺธมฺปิ สพฺพํ คเหตพฺพํ. สเจ ปน กาตุํ น อิจฺฉนฺติ, ภตฺตเวตนํ ปจฺจาสีสนฺติ, อกปฺปิยกหาปณาทิ น ทาตพฺพํ. ภิกฺขาจารวตฺเตน ตณฺฑุลาทีนิ ปริเยสิตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ.

หตฺถกมฺมวเสน ปตฺตํ กาเรตฺวา ตเถว ปาเจตฺวา นวปกฺกสฺส ปตฺตสฺส ปุฺฉนเตลตฺถาย อนฺโตคามํ ปวิฏฺเน ‘‘ภิกฺขาย อาคโต’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ยาคุยา วา ภตฺเต วา อานีเต หตฺเถน ปตฺโต ปิธาตพฺโพ. สเจ อุปาสิกา ‘‘กึ, ภนฺเต’’ติ ปุจฺฉติ, ‘‘นวปกฺโก ปตฺโต ปุฺฉนเตเลน อตฺโถ’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ สา ‘‘เทหิ, ภนฺเต’’ติ ปตฺตํ คเหตฺวา เตเลน ปุฺฉิตฺวา ยาคุยา วา ภตฺตสฺส วา ปูเรตฺวา เทติ, วิฺตฺติ นาม น โหติ, คเหตุํ วฏฺฏตีติ.

ภิกฺขู ปเคว ปิณฺฑาย จริตฺวา อาสนสาลํ คนฺตฺวา อาสนํ อปสฺสนฺตา ติฏฺนฺติ. ตตฺร เจ อุปาสกา ภิกฺขู ิเต ทิสฺวา สยเมว อาสนานิ อาหราเปนฺติ, นิสีทิตฺวา คจฺฉนฺเตหิ อาปุจฺฉิตฺวา คนฺตพฺพํ. อนาปุจฺฉา คตานมฺปิ นฏฺํ คีวา น โหติ, อาปุจฺฉิตฺวา คมนํ ปน วตฺตํ. สเจ ภิกฺขูหิ ‘‘อาสนานิ อาหรถา’’ติ วุตฺเตหิ อาหฏานิ โหนฺติ, อาปุจฺฉิตฺวาว คนฺตพฺพํ. อนาปุจฺฉา คตานํ วตฺตเภโท จ นฏฺฺจ คีวาติ. อตฺถรณโกชวาทีสุปิ เอเสว นโย.

มกฺขิกาโย พหุกา โหนฺติ, ‘‘มกฺขิกาพีชนึ อาหรถา’’ติ วตฺตพฺพํ. ปุจิมนฺทสาขาทีนิ อาหรนฺติ, กปฺปิยํ การาเปตฺวา ปฏิคฺคเหตพฺพานิ. อาสนสาลาย อุทกภาชนํ ริตฺตํ โหติ, ‘‘ธมกรณํ คณฺหา’’ติ น วตฺตพฺพํ. ธมกรกฺหิ ริตฺตภาชเน ปกฺขิปนฺโต ภินฺเทยฺย ‘‘นทึ วา ตฬากํ วา คนฺตฺวา ปน อุทกํ อาหรา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘เคหโต อาหรา’’ติ เนว วตฺตุํ วฏฺฏติ, น อาหฏํ ปริภุฺชิตพฺพํ. อาสนสาลายํ วา อรฺเก วา ภตฺตกิจฺจํ กโรนฺเตหิ ตตฺถชาตกํ อนชฺฌาวุตฺถกํ ยํกิฺจิ อุตฺตริภงฺคารหํ ปตฺตํ วา ผลํ วา สเจ กิฺจิ กมฺมํ กโรนฺตํ อาหราเปติ, หตฺถกมฺมวเสน อาหราเปตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. อลชฺชีหิ ปน ภิกฺขูหิ วา สามเณเรหิ วา หตฺถกมฺมํ น กาเรตพฺพํ. อยํ ตาว ปุริสตฺถกเร นโย.

โคณํ ปน อฺาตกอปฺปวาริตฏฺานโต อาหราเปตุํ น วฏฺฏติ, อาหราเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. าติปวาริตฏฺานโตปิ มูลจฺเฉชฺชาย ยาจิตุํ น วฏฺฏติ, ตาวกาลิกนเยน สพฺพตฺถ วฏฺฏติ. เอวํ อาหราปิตฺจ โคณํ รกฺขิตฺวา ชคฺคิตฺวา สามิกา ปฏิจฺฉาเปตพฺพา. สจสฺส ปาโท วา สิงฺคํ วา ภิชฺชติ วา นสฺสติ วา สามิกา เจ สมฺปฏิจฺฉนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ สมฺปฏิจฺฉนฺติ, คีวา โหติ. สเจ ‘‘ตุมฺหากํเยว เทมา’’ติ วทนฺติ น สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. ‘‘วิหารสฺส เทมา’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘อารามิกานํ อาจิกฺขถ ชคฺคนตฺถายา’’ติ วตฺตพฺพํ.

‘‘สกฏํ เทถา’’ติปิ อฺาตกอปฺปวาริเต วตฺตุํ น วฏฺฏติ, วิฺตฺติเอว โหติ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. าติปวาริตฏฺาเน ปน วฏฺฏติ, ตาวกาลิกํ วฏฺฏติ กมฺมํ กตฺวา ปุน ทาตพฺพํ. สเจ เนมิยาทีนิ ภิชฺชนฺติ ปากติกานิ กตฺวา ทาตพฺพํ. นฏฺเ คีวา โหติ. ‘‘ตุมฺหากเมว เทมา’’ติ วุตฺเต ทารุภณฺฑํ นาม สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. เอส นโย วาสิผรสุกุารีกุทาลนิขาทเนสุ. วลฺลิอาทีสุ จ ปรปริคฺคหิเตสุ. ครุภณฺฑปฺปโหนเกสุเยว จ วลฺลิอาทีสุ วิฺตฺติ โหติ, น ตโต โอรํ.

อนชฺฌาวุตฺถกํ ปน ยํกิฺจิ อาหราเปตุํ วฏฺฏติ. รกฺขิตโคปิตฏฺาเนเยว หิ วิฺตฺติ นาม วุจฺจติ. สา ทฺวีสุ ปจฺจเยสุ สพฺเพน สพฺพํ น วฏฺฏติ, เสนาสนปจฺจเย ปน ‘‘อาหร เทหี’’ติ วิฺตฺติมตฺตเมว น วฏฺฏติ, ปริกโถภาสนิมิตฺตกมฺมานิ วฏฺฏนฺติ. ตตฺถ อุโปสถาคารํ วา โภชนสาลํ วา อฺํ วา ยํกิฺจิ เสนาสนํ อิจฺฉโต ‘‘อิมสฺมึ วต โอกาเส เอวรูปํ เสนาสนํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วา ‘‘ยุตฺต’’นฺติ วา ‘‘อนุรูป’’นฺติ วาติอาทินา นเยน วจนํ ปริกถา นาม. ‘‘อุปาสกา ตุมฺเห กุหึ วสถา’’ติ? ‘‘ปาสาเท, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ภิกฺขูนํ ปน อุปาสกา ปาสาโท น วฏฺฏตี’’ติ เอวมาทิวจนํ โอภาโส นาม. มนุสฺเส ทิสฺวา รชฺชุํ ปสาเรติ, ขีเล อาโกฏาเปติ. ‘‘กึ อิทํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘อิธ อาวาสํ กริสฺสามา’’ติ เอวมาทิกรณํ ปน นิมิตฺตกมฺมํ นาม. คิลานปจฺจเย ปน วิฺตฺติปิ วฏฺฏติ, ปเคว ปริกถาทีนิ.

มนุสฺสา อุปทฺทุตา ยาจนาย อุปทฺทุตา วิฺตฺติยาติ เตสํ ภิกฺขูนํ ตาย ยาจนาย จ วิฺตฺติยา จ ปีฬิตา. อุพฺพิชฺชนฺติปีติ ‘‘กึ นุ อาหราเปสฺสนฺตี’’ติ อุพฺเพคํ อิฺชนํ จลนํ ปฏิลภนฺติ. อุตฺตสนฺติปีติ อหึ วิย ทิสฺวา สหสา ตสิตฺวา อุกฺกมนฺติ. ปลายนฺติปีติ ทูรโตว เยน วา เตน วา ปลายนฺติ. อฺเนปิ คจฺฉนฺตีติ ยํ มคฺคํ ปฏิปนฺนา ตํ ปหาย นิวตฺติตฺวา วามํ วา ทกฺขิณํ วา คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, ทฺวารมฺปิ ถเกนฺติ.

๓๔๔. ภูตปุพฺพํ ภิกฺขเวติ อิติ ภควา เต ภิกฺขู ครหิตฺวา ตทนุรูปฺจ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ปุนปิ วิฺตฺติยา โทสํ ปากฏํ กุรุมาโน อิมินา ‘‘ภูตปุพฺพํ ภิกฺขเว’’ติอาทินา นเยน ตีณิ วตฺถูนิ ทสฺเสสิ. ตตฺถ มณิกณฺโติ โส กิร นาคราชา สพฺพกามททํ มหคฺฆํ มณึ กณฺเ ปิลนฺธิตฺวา จรติ, ตสฺมา ‘‘มณิกณฺโ’’ ตฺเวว ปฺายิตฺถ. อุปริมุทฺธนิ มหนฺตํ ผณํ กริตฺวา อฏฺาสีติ โส กิร เตสํ ทฺวินฺนํ อิสีนํ กนิฏฺโ อิสิ เมตฺตาวิหารี อโหสิ, ตสฺมา นาคราชา นทิโต อุตฺตริตฺวา เทววณฺณํ นิมฺมินิตฺวา ตสฺส สนฺติเก นิสีทิตฺวา สมฺโมทนียํ กถํ กตฺวา ตํ เทววณฺณํ ปหาย สกวณฺณเมว อุปคนฺตฺวา ตํ อิสึ ปริกฺขิปิตฺวา ปสนฺนาการํ กโรนฺโต อุปริมุทฺธนิ มหนฺตํ ผณํ กริตฺวา ฉตฺตํ วิย ธารยมาโน มุหุตฺตํ ตฺวา ปกฺกมติ, เตน วุตฺตํ ‘‘อุปริมุทฺธนิ มหนฺตํ ผณํ กริตฺวา อฏฺาสี’’ติ. มณิมสฺส กณฺเ ปิลนฺธนนฺติ มณึ อสฺส กณฺเ ปิลนฺธิตํ, อามุกฺกนฺติ อตฺโถ. เอกมนฺตํ อฏฺาสีติ เตน เทววณฺเณน อาคนฺตฺวา ตาปเสน สทฺธึ สมฺโมทมาโน เอกสฺมึ ปเทเส อฏฺาสิ.

มมนฺนปานนฺติ มม อนฺนฺจ ปานฺจ. วิปุลนฺติ พหุลํ. อุฬารนฺติ ปณีตํ. อติยาจโกสีติ อติวิย ยาจโก, อสิ ปุนปฺปุนํ ยาจสีติ วุตฺตํ โหติ. สุสูติ ตรุโณ, ถามสมฺปนฺโน โยพฺพนปฺปตฺตปุริโส. สกฺขรา วุจฺจติ กาฬสิลา, ตตฺถ โธโต อสิ ‘‘สกฺขรโธโต นามา’’ติ วุจฺจติ, สกฺขรโธโต ปาณิมฺหิ อสฺสาติ สกฺขรโธตปาณิ, ปาสาเณ โธตนิสิตขคฺคหตฺโถติ อตฺโถ. ยถา โส อสิหตฺโถ ปุริโส ตาเสยฺย, เอวํ ตาเสสิ มํ เสลํ ยาจมาโน, มณึ ยาจนฺโตติ อตฺโถ.

น ตํ ยาเจติ ตํ น ยาเจยฺย. กตรํ? ยสฺส ปิยํ ชิคีเสติ ยํ อสฺส สตฺตสฺส ปิยนฺติ ชาเนยฺย.

กิมงฺคํ ปน มนุสฺสภูตานนฺติ มนุสฺสภูตานํ อมนาปาติ กิเมเวตฺถ วตฺตพฺพํ.

๓๔๕. สกุณสงฺฆสฺส สทฺเทน อุพฺพาฬฺโหติ โส กิร สกุณสงฺโฆ ปมยามฺจ ปจฺฉิมยามฺจ นิรนฺตรํ สทฺทเมว กโรติ, โส ภิกฺขุ เตน สทฺเทน ปีฬิโต หุตฺวา ภควโต สนฺติกํ อคมาสิ. เตนาห – ‘‘เยนาหํ เตนุปสงฺกมี’’ติ.

กุโต จ ตฺวํ ภิกฺขุ อาคจฺฉสีติ เอตฺถ นิสินฺโน โส ภิกฺขุ น อาคจฺฉติ วตฺตมานสมีเป ปน เอวํ วตฺตุํ ลพฺภติ. เตนาห – ‘‘กุโต จ ตฺวํ ภิกฺขุ อาคจฺฉสี’’ติ, กุโต อาคโตสีติ อตฺโถ. ตโต อหํ ภควา อาคจฺฉามีติ เอตฺถาปิ โส เอว นโย. อุพฺพาฬฺโหติ ปีฬิโต, อุกฺกณฺาปิโต หุตฺวาติ อตฺโถ.

โส สกุณสงฺโฆ ‘‘ภิกฺขุ ปตฺตํ ยาจตี’’ติ เอตฺถ น เต สกุณา ภิกฺขุโน วจนํ ชานนฺติ, ภควา ปน อตฺตโน อานุภาเวน ยถา ชานนฺติ ตถา อกาสิ.

๓๔๖. อปาหํ เต น ชานามีติ อปิ อหํ เต ชเน ‘‘เก วา อิเม, กสฺส วา อิเม’’ติ น ชานามิ. สงฺคมฺม ยาจนฺตีติ สมาคนฺตฺวา วคฺควคฺคา หุตฺวา ยาจนฺติ. ยาจโก อปฺปิโย โหตีติ โย ยาจติ โส อปฺปิโย โหติ. ยาจํ อททมปฺปิโยติ ยาจนฺติ ยาจิตํ วุจฺจติ, ยาจิตมตฺถํ อททนฺโตปิ อปฺปิโย โหติ. อถ วา ยาจนฺติ ยาจนฺตสฺส, อททมปฺปิโยติ อเทนฺโต อปฺปิโย โหติ. มา เม วิเทสฺสนา อหูติ มา เม อปฺปิยภาโว อหุ, อหํ วา ตว, ตฺวํ วา มม วิเทสฺโส อปฺปิโย มา อโหสีติ อตฺโถ.

๓๔๗. ทุสฺสํหรานีติ กสิโครกฺขาทีหิ อุปาเยหิ ทุกฺเขน สํหรณียานิ.

๓๔๘-๙. สฺาจิกาย ปน ภิกฺขุนาติ เอตฺถ สฺาจิกา นาม สยํ ปวตฺติตยาจนา วุจฺจติ, ตสฺมา ‘‘สฺาจิกายา’’ติ อตฺตโน ยาจนายาติ วุตฺตํ โหติ, สยํ ยาจิตเกหิ อุปกรเณหีติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน สา สยํยาจิตเกหิ กยิรมานา สยํ ยาจิตฺวา กยิรมานา โหติ, ตสฺมา ตํ อตฺถปริยายํ ทสฺเสตุํ ‘‘สยํ ยาจิตฺวา ปุริสมฺปี’’ติ เอวมสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ.

อุลฺลิตฺตาติ อนฺโตลิตฺตา. อวลิตฺตาติ พหิลิตฺตา. อุลฺลิตฺตาวลิตฺตาติ อนฺตรพาหิรลิตฺตาติ วุตฺตํ โหติ.

การยมาเนนาติ อิมสฺส ปทภาชเน ‘‘การาเปนฺเตนา’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ สิยา, เอวฺหิ พฺยฺชนํ สเมติ. ยสฺมา ปน สฺาจิกาย กุฏึ กโรนฺเตนาปิ อิธ วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ, ตสฺมา กโรนฺโต วา โหตุ การาเปนฺโต วา อุโภเปเต ‘‘การยมาเนนา’’ติ อิมินาว ปเทน สงฺคหิตาติ เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘กโรนฺโต วา การาเปนฺโต วา’’ติ วุตฺตํ. ยทิ ปน กโรนฺเตน วา การาเปนฺเตน วาติ วเทยฺย, พฺยฺชนํ วิโลมิตํ ภเวยฺย, น หิ การาเปนฺโต กโรนฺโต นาม โหติ, ตสฺมา อตฺถมตฺตเมเวตฺถ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อตฺตุทฺเทสนฺติ ‘‘มยฺหํ เอสา’’ติ เอวํ อตฺตา อุทฺเทโส อสฺสาติ อตฺตุทฺเทสา, ตํ อตฺตุทฺเทสํ. ยสฺมา ปน ยสฺสา อตฺตา อุทฺเทโส สา อตฺตโน อตฺถาย โหติ, ตสฺมา อตฺถปริยายํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺตุทฺเทสนฺติ อตฺตโน อตฺถายา’’ติ อาห. ปมาณิกา กาเรตพฺพาติ ปมาณยุตฺตา กาเรตพฺพา. ตตฺริทํ ปมาณนฺติ ตสฺสา กุฏิยา อิทํ ปมาณํ. สุคตวิทตฺถิยาติ สุคตวิทตฺถิ นาม อิทานิ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ติสฺโส วิทตฺถิโย วฑฺฒกีหตฺเถน ทิยฑฺโฒ หตฺโถ โหติ. พาหิริเมน มาเนนาติ กุฏิยา พหิกุฏฺฏมาเนน ทฺวาทส วิทตฺถิโย, มินนฺเตน ปน สพฺพปมํ ทินฺโน มหามตฺติกปริยนฺโต น คเหตพฺโพ. ถุสปิณฺฑปริยนฺเตน มินิตพฺพํ. ถุสปิณฺฑสฺสอุปริ เสตกมฺมํ อพฺโพหาริกํ. สเจ ถุสปิณฺเฑน อนตฺถิโก มหามตฺติกาย เอว นิฏฺาเปติ, มหามตฺติกาว ปริจฺเฉโท.

ติริยนฺติ วิตฺถารโต. สตฺตาติ สตฺต สุคตวิทตฺถิโย. อนฺตราติ อิมสฺส ปน อยํ นิทฺเทโส, ‘‘อพฺภนฺตริเมน มาเนนา’’ติ, กุฏฺฏสฺส พหิ อนฺตํ อคฺคเหตฺวา อพฺภนฺตริเมน อนฺเตน มินิยมาเน ติริยํ สตฺต สุคตวิทตฺถิโย ปมาณนฺติ วุตฺตํ โหติ.

โย ปน เลสํ โอฑฺเฑนฺโต ยถาวุตฺตปฺปมาณเมว กริสฺสามีติ ทีฆโต เอกาทส วิทตฺถิโย ติริยํ อฏฺ วิทตฺถิโย, ทีฆโต วา เตรส วิทตฺถิโย ติริยํ ฉ วิทตฺถิโย กเรยฺย, น วฏฺฏติ. เอกโตภาเคน อติกฺกนฺตมฺปิ หิ ปมาณํ อติกฺกนฺตเมว โหติ. ติฏฺตุ วิทตฺถิ, เกสคฺคมตฺตมฺปิ ทีฆโต วา หาเปตฺวา ติริยํ ติริยโต วา หาเปตฺวา ทีฆํ วฑฺเฒตุํ น วฏฺฏติ, โก ปน วาโท อุภโต วฑฺฒเน? วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อายามโต วา วิตฺถารโต วา อนฺตมโส เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกมิตฺวา กโรติ วา การาเปติ วา ปโยเค ทุกฺกฏ’’นฺติอาทิ (ปารา. ๓๕๓). ยถาวุตฺตปฺปมาณา เอว ปน วฏฺฏติ. ยา ปน ทีฆโต สฏฺิหตฺถาปิ โหติ ติริยํ ติหตฺถา วา อูนกจตุหตฺถา วา ยตฺถ ปมาณยุตฺโต มฺโจ อิโต จิโต จ น ปริวตฺตติ, อยํ กุฏีติ สงฺขฺยํ น คจฺฉติ, ตสฺมา อยมฺปิ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน ปจฺฉิมโกฏิยา จตุหตฺถวิตฺถารา วุตฺตา, ตโต เหฏฺา อกุฏิ. ปมาณิกาปิ ปน อเทสิตวตฺถุกา วา สารมฺภา วา อปริกฺกมนา วา น วฏฺฏติ. ปมาณิกา เทสิตวตฺถุกา อนารมฺภา สปริกฺกมนาว วฏฺฏติ. ปมาณโต อูนตรมฺปิ จตุหตฺถํ ปฺจหตฺถมฺปิ กโรนฺเตน เทสิตวตฺถุกาว กาเรตพฺพา. ปมาณาติกฺกนฺตฺจ ปน กโรนฺโต เลปปริโยสาเน ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ.

ตตฺถ เลโป จ อเลโป จ เลโปกาโส จ อเลโปกาโส จ เวทิตพฺโพ. เสยฺยถิทํ – เลโปติ ทฺเว เลปา – มตฺติกาเลโป จ สุธาเลโป จ. เปตฺวา ปน อิเม ทฺเว เลเป อวเสโส ภสฺมโคมยาทิเภโท เลโป, อเลโป. สเจปิ กลลเลโป โหติ, อลโป เอว. เลโปกาโสติ ภิตฺติโย เจว ฉทนฺจ, เปตฺวา ปน ภิตฺติจฺฉทเน อวเสโส ถมฺภตุลาปิฏฺสงฺฆาฏวาตปานธูมจฺฉิทฺทาทิ อเลปารโห โอกาโส สพฺโพปิ อเลโปกาโสติ เวทิตพฺโพ.

ภิกฺขู อภิเนตพฺพา วตฺถุเทสนายาติ ยสฺมึ าเน กุฏึ กาเรตุกาโม โหติ, ตตฺถ วตฺถุเทสนตฺถาย ภิกฺขู เนตพฺพา. เตน กุฏิการเกนาติอาทิ ปน เยน วิธินา เต ภิกฺขู อภิเนตพฺพา, ตสฺส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ กุฏิวตฺถุํ โสเธตฺวาติ น วิสมํ อรฺํ ภิกฺขู คเหตฺวา คนฺตพฺพํ, กุฏิวตฺถุํ ปน ปมเมว โสเธตฺวา สมตลํ สีมมณฺฑลสทิสํ กตฺวา ปจฺฉา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา ยาจิตฺวา เนตพฺพาติ ทสฺเสติ. เอวมสฺส วจนีโยติ สงฺโฆ เอวํ วตฺตพฺโพ อสฺส. ปรโต ปน ‘‘ทุติยมฺปิ ยาจิตพฺพา’’ติ ภิกฺขู สนฺธาย พหุวจนํ วุตฺตํ. โน เจ สพฺโพ สงฺโฆ อุสฺสหตีติ สเจ สพฺโพ สงฺโฆ น อิจฺฉติ, สชฺฌายมนสิการาทีสุ อุยฺยุตฺตา เต เต ภิกฺขู โหนฺติ. สารมฺภํ อนารมฺภนฺติ สอุปทฺทวํ อนุปทฺทวํ. สปริกฺกมนํ อปริกฺกมนนฺติ สอุปจารํ อนุปจารํ.

ปตฺตกลฺลนฺติ ปตฺโต กาโล อิมสฺส โอโลกนสฺสาติ ปตฺตกาลํ, ปตฺตกาลเมว ปตฺตกลฺลํ. อิทฺจ วตฺถุํโอโลกนตฺถาย สมฺมุติกมฺมํ อนุสาวนานเยน โอโลเกตฺวาปิ กาตุํ วฏฺฏติ. ปรโต ปน วตฺถุเทสนากมฺมํ ยถาวุตฺตาย เอว ตฺติยา จ อนุสาวนาย จ กาตพฺพํ, โอโลเกตฺวา กาตุํ น วฏฺฏติ.

๓๕๓. กิปิลฺลิกานนฺติ รตฺตกาฬปิงฺคลาทิเภทานํ ยาสํ กาสฺจิ กิปิลฺลิกานํ. กิปีลฺลกานนฺติปิ ปาโ. อาสโยติ นิพทฺธวสนฏฺานํ, ยถา จ กิปิลฺลิกานํ เอวํ อุปจิกาทีนมฺปิ นิพทฺธวสนฏฺานํเยว อาสโย เวทิตพฺโพ. ยตฺถ ปน เต โคจรตฺถาย อาคนฺตฺวา คจฺฉนฺติ, สพฺเพสมฺปิ ตาทิโส สฺจรณปฺปเทโส อวาริโต, ตสฺมา ตตฺถ อปเนตฺวา โสเธตฺวา กาตุํ วฏฺฏติ. อิมานิ ตาว ฉ านานิสตฺตานุทฺทยาย ปฏิกฺขิตฺตานิ.

หตฺถีนํ วาติ หตฺถีนํ ปน นิพทฺธวสนฏฺานมฺปิ นิพทฺธโคจรฏฺานมฺปิ น วฏฺฏติ, สีหาทีนํ อาสโย จ โคจราย ปกฺกมนฺตานํ นิพทฺธคมนมคฺโค จ น วฏฺฏติ. เอเตสํ โคจรภูมิ น คหิตา. เยสํ เกสฺจีติ อฺเสมฺปิ วาฬานํ ติรจฺฉานคตานํ. อิมานิ สตฺต านานิ สปฺปฏิภยานิ ภิกฺขูนํ อาโรคฺยตฺถาย ปฏิกฺขิตฺตานิ. เสสานิ นานาอุปทฺทเวหิ สอุปทฺทวานิ. ตตฺถ ปุพฺพณฺณนิสฺสิตนฺติ ปุพฺพณฺณํ นิสฺสิตํ สตฺตนฺนํ ธฺานํ วิรุหนกเขตฺตสามนฺตา ิตํ. เอเสว นโย อปรณฺณนิสฺสิตาทีสุปิ. เอตฺถ ปน อพฺภาฆาตนฺติ การณาฆรํ เวริฆรํ, โจรานํ มารณตฺถาย กตนฺติ กุรุนฺทิอาทีสุ.

อาฆาตนนฺติ ธมฺมคนฺธิกา วุจฺจติ. สุสานนฺติ มหาสุสานํ. สํสรณนฺติ อนิพฺพิชฺฌคมนีโย คตปจฺจาคตมคฺโค วุจฺจติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

น สกฺกา โหติ ยถายุตฺเตน สกเฏนาติ ทฺวีหิ พลิพทฺเทหิ ยุตฺเตน สกเฏน เอกํ จกฺกํ นิพฺโพทกปตนฏฺาเน เอกํ พหิ กตฺวา อาวิชฺชิตุํ น สกฺกา โหติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘จตูหิ ยุตฺเตนา’’ติ วุตฺตํ. สมนฺตา นิสฺเสณิยา อนุปริคนฺตุนฺติ นิสฺเสณิยํ ตฺวา เคหํ ฉาเทนฺเตหิ น สกฺกา โหติ สมนฺตา นิสฺเสณิยา อาวิชฺชิตุํ. อิติ เอวรูเป สารมฺเภ จ อปริกฺกมเน จ าเน น กาเรตพฺพา. อนารมฺเภ ปน สปริกฺกมเน กาเรตพฺพา, ตํ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน ปาฬิยํ อาคตเมว.

ปุน สฺาจิกา นามาติ เอวมาทิ ‘‘สารมฺเภ เจ ภิกฺขุ วตฺถุสฺมึ อปริกฺกมเน สฺาจิกาย กุฏึ กาเรยฺยา’’ติ เอวํ วุตฺตสํยาจิกาทีนํ อตฺถปฺปกาสนตฺถํ วุตฺตํ.

ปโยเค ทุกฺกฏนฺติ เอวํ อเทสิตวตฺถุกํ วา ปมาณาติกฺกนฺตํ วา กุฏึ กาเรสฺสามีติ อรฺโต รุกฺขา หรณตฺถาย วาสึ วา ผรสุํ วา นิเสติ ทุกฺกฏํ, อรฺํ ปวิสติ ทุกฺกฏํ, ตตฺถ อลฺลติณานิ ฉินฺทติ ทุกฺกเฏน สทฺธึ ปาจิตฺติยํ, สุกฺขานิ ฉินฺทติ ทุกฺกฏํ. รุกฺเขสุปิ เอเสว นโย. ภูมึ โสเธติ ขณติ, ปํสุํ อุทฺธรติ, จินาติ; เอวํ ยาว ปาจีรํ พนฺธติ ตาว ปุพฺพปโยโค นาม โหติ. ตสฺมึ ปุพฺพปโยเค สพฺพตฺถ ปาจิตฺติยฏฺาเน ทุกฺกเฏน สทฺธึ ปาจิตฺติยํ, ทุกฺกฏฏฺาเน ทุกฺกฏํ, ตโต ปฏฺาย สหปโยโค นาม. ตตฺถ ถมฺเภหิ กาตพฺพาย ถมฺภํ อุสฺสาเปติ, ทุกฺกฏํ. อิฏฺกาหิ จินิตพฺพาย อิฏฺกํ อาจินาติ, ทุกฺกฏํ. เอวํ ยํ ยํ อุปกรณํ โยเชติ, สพฺพตฺถ ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. ตจฺฉนฺตสฺส หตฺถวาเร หตฺถวาเร ตทตฺถาย คจฺฉนฺตสฺส ปเท ปเท ทุกฺกฏํ. เอวํ กตํ ปน ทารุกุฏฺฏิกํ วา อิฏฺกกุฏฺฏิกํ วา สิลากุฏฺฏิกํ วา อนฺตมโส ปณฺณสาลมฺปิ สภิตฺติจฺฉทนํ ลิมฺปิสฺสามีติ สุธาย วา มตฺติกาย วา ลิมฺปนฺตสฺส ปโยเค ปโยเค ยาว ถุลฺลจฺจยํ น โหติ, ตาว ทุกฺกฏํ. เอตํ ปน ทุกฺกฏํ มหาเลเปเนว วฏฺฏติ, เสตรตฺตวณฺณกรเณ วา จิตฺตกมฺเม วา อนาปตฺติ.

เอกํ ปิณฺฑํ อนาคเตติ โย สพฺพปจฺฉิโม เอโก เลปปิณฺโฑ, ตํ เอกํ ปิณฺฑํ อสมฺปตฺเต กุฏิกมฺเม. อิทํ วุตฺตํ โหติ, อิทานิ ทฺวีหิ ปิณฺเฑหิ นิฏฺานํ คมิสฺสตีติ เตสุ ปมปิณฺฑทาเน ถุลฺลจฺจยนฺติ.

ตสฺมึ ปิณฺเฑ อาคเตติ ยํ เอกํ ปิณฺฑํ อนาคเต กุฏิกมฺเม ถุลฺลจฺจยํ โหติ, ตสฺมึ อวสานปิณฺเฑ อาคเต ทินฺเน ปิเต เลปสฺส ฆฏิตตฺตา อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส. เอวํ เลมฺปนฺตสฺส จ อนฺโตเลเป วา อนฺโตเลเปน สทฺธึ ภิตฺติฺจ ฉทนฺจ เอกาพทฺธํ กตฺวา ฆฏิเต พหิเลเป วา พหิเลเปน สทฺธึ ฆฏิเต สงฺฆาทิเสโส. สเจ ปน ทฺวารพทฺธํ วา วาตปานํ วา อฏฺเปตฺวาว มตฺติกาย ลิมฺปติ, ตสฺมิฺจ ตสฺโสกาสํ ปุน วฑฺเฒตฺวา วา อวฑฺเฒตฺวา วา ปิเต เลโป น ฆฏียติ รกฺขติ ตาว, ปุน ลิมฺปนฺตสฺส ปน ฆฏิตมตฺเต สงฺฆาทิเสโส. สเจ ตํ ปิยมานํ ปมํ ทินฺนเลเปน สทฺธึ นิรนฺตรเมว หุตฺวา ติฏฺติ, ปมเมว สงฺฆาทิเสโส. อุปจิกาโมจนตฺถํ อฏฺงฺคุลมตฺเตน อปฺปตฺตจฺฉทนํ กตฺวา ภิตฺตึ ลิมฺปติ, อนาปตฺติ. อุปจิกาโมจนตฺถเมว เหฏฺา ปาสาณกุฏฺฏํ กตฺวา ตํ อลิมฺปิตฺวา อุปริ ลิมฺปติ, เลโป น ฆฏิยติ นาม, อนาปตฺติเยว.

อิฏฺกกุฏฺฏิกาย อิฏฺกาหิเยว วาตปาเน จ ธูมเนตฺตานิ จ กโรติ, เลปฆฏเนเนว อาปตฺติ. ปณฺณสาลํ ลิมฺปติ, เลปฆฏเนเนว อาปตฺติ. ตตฺถ อาโลกตฺถาย อฏฺงฺคุลมตฺตํ เปตฺวา ลิมฺปติ, เลโป น ฆฏียติ นาม, อนาปตฺติเยว. สเจ ‘‘วาตปานํ ลทฺธา เอตฺถ เปสฺสามี’’ติ กโรติ, วาตปาเน ปิเต เลปฆฏเนน อาปตฺติ. สเจ มตฺติกาย กุฏฺฏํ กโรติ, ฉทนเลเปน สทฺธึ ฆฏเน อาปตฺติ. เอโก เอกปิณฺฑาวเสสํ กตฺวา เปติ, อฺโ ตํ ทิสฺวา ‘‘ทุกฺกตํ อิท’’นฺติ วตฺตสีเสน ลิมฺปติ อุภินฺนมฺปิ อนาปตฺติ.

๓๕๔. ภิกฺขุ กุฏึ กโรตีติ เอวมาทีนิ ฉตฺตึส จตุกฺกานิ อาปตฺติเภททสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ, ตตฺถ สารมฺภาย ทุกฺกฏํ, อปริกฺกมนาย ทุกฺกฏํ, ปมาณาติกฺกนฺตาย สงฺฆาทิเสโส, อเทสิตวตฺถุกาย สงฺฆาทิเสโส, เอเตสํ วเสน โวมิสฺสกาปตฺติโย เวทิตพฺพา.

๓๕๕. อาปตฺติ ทฺวินฺนํ สงฺฆาทิเสเสน ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏานนฺติอาทีสุ จ ทฺวีหิ สงฺฆาทิเสเสหิ สทฺธึ ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏานนฺติอาทินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๓๖๑. โส เจ วิปฺปกเต อาคจฺฉตีติอาทีสุ ปน อยํ อตฺถวินิจฺฉโย. โสติ สมาทิสิตฺวา ปกฺกนฺตภิกฺขุ. วิปฺปกเตติ อนิฏฺิเต กุฏิกมฺเม. อฺสฺส วา ทาตพฺพาติ อฺสฺส ปุคฺคลสฺส วา สงฺฆสฺส วา จชิตฺวา ทาตพฺพา. ภินฺทิตฺวา วา ปุน กาตพฺพาติ กิตฺตเกน ภินฺนา โหติ, สเจ ถมฺภา ภูมิยํ นิขาตา, อุทฺธริตพฺพา. สเจ ปาสาณานํ อุปริ ปิตา, อปเนตพฺพา. อิฏฺกจิตาย ยาว มงฺคลิฏฺกา ตาว กุฏฺฏา อปจินิตพฺพา. สงฺเขปโต ภูมิสมํ กตฺวา วินาสิตา ภินฺนา โหติ, ภูมิโต อุปริ จตุรงฺคุลมตฺเตปิ ิเต อภินฺนาว. เสสํ สพฺพจตุกฺเกสุ ปากฏเมว. น เหตฺถ อฺํ กิฺจิ อตฺถิ, ยํ ปาฬิอนุสาเรเนว ทุพฺพิฺเยฺยํ สิยา.

๓๖๓. อตฺตนา วิปฺปกตนฺติอาทีสุ ปน อตฺตนา อารทฺธํ กุฏึ. อตฺตนา ปริโยสาเปตีติ มหามตฺติกาย วา ถุสมตฺติกาย วา ยาย กตํ ปริโยสิตภาวํ ปาเปตุกาโม โหติ, ตาย อวสานปิณฺฑํ เทนฺโต ปริโยสาเปติ.

ปเรหิ ปริโยสาเปตีติ อตฺตโนว อตฺถาย ปเรหิ ปริโยสาเปติ. อตฺตนา วา หิ วิปฺปกตา โหตุ ปเรหิ วา อุภเยหิ วา, ตํ เจ อตฺตโน อตฺถาย อตฺตนา วา ปริโยสาเปติ, ปเรหิ วา ปริโยสาเปติ, อตฺตนา จ ปเรหิ จาติ ยุคนทฺธํ วา ปริโยสาเปติ, สงฺฆาทิเสโสเยวาติ อยเมตฺถ วินิจฺฉโย.

กุรุนฺทิยํปน วุตฺตํ – ‘‘ทฺเว ตโย ภิกฺขู ‘เอกโต วสิสฺสามา’ติ กโรนฺติ, รกฺขติ ตาว, อวิภตฺตตฺตา อนาปตฺติ. ‘อิทํ านํ ตว, อิทํ มมา’ติ วิภชิตฺวา กโรนฺติ อาปตฺติ. สามเณโร จ ภิกฺขุ จ เอกโต กโรนฺติ, ยาว อวิภตฺตา ตาว รกฺขติ. ปุริมนเยน วิภชิตฺวา กโรนฺติ, ภิกฺขุสฺส อาปตฺตี’’ติ.

๓๖๔. อนาปตฺติ เลเณติอาทีสุ เลณํ มหนฺตมฺปิ กโรนฺตสฺส อนาปตฺติ. น เหตฺถ เลโป ฆฏียติ. คุหมฺปิ อิฏฺกาคุหํ วา สิลาคุหํ วา ทารุคุหํ วา ภูมิคุหํ วา มหนฺตมฺปิ กโรนฺตสฺส อนาปตฺติ.

ติณกุฏิกายาติ สตฺตภูมิโกปิ ปาสาโท ติณปณฺณจฺฉทโน ‘‘ติณกุฏิกา’’ติ วุจฺจติ. อฏฺกถาสุ ปน กุกฺกุฏจฺฉิกเคหนฺติ ฉทนํ ทณฺฑเกหิ ชาลพทฺธํ กตฺวา ติเณหิ วา ปณฺเณหิ วา ฉาทิตกุฏิกาว วุตฺตา, ตตฺถ อนาปตฺติ. มหนฺตมฺปิ ติณจฺฉทนเคหํ กาตุํ วฏฺฏติ, อุลฺลิตฺตาทิภาโว เอว หิ กุฏิยา ลกฺขณํ, โส จ ฉทนเมว สนฺธาย วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. จงฺกมนสาลายํ ติณจุณฺณํ ปริปตติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โอคุมฺเผตฺวา อุลฺลิตฺตาวลิตฺตํ กาตุ’’นฺติอาทีนิ (จูฬว. ๒๖๐) เจตฺถ สาธกานิ, ตสฺมา อุภโต ปกฺขํ วา กูฏพทฺธํ วา วฏฺฏํ วา จตุรสฺสํ วา ยํ ‘‘อิมํ เอตสฺส เคหสฺส ฉทน’’นฺติ ฉทนสงฺเขเปน กตํ โหติ, ตสฺส ภิตฺติเลเปน สทฺธึ เลเป ฆฏิเต อาปตฺติ. สเจ ปน อุลฺลิตฺตาวลิตฺตจฺฉทนสฺส เคหสฺส เลปรกฺขณตฺถํ อุปริ ติเณน ฉาเทนฺติ, เอตฺตาวตา ติณกุฏิ นาม น โหติ. กึ ปเนตฺถ อเทสิตวตฺถุกปฺปมาณาติกฺกนฺตปจฺจยาว อนาปตฺติ, อุทาหุ สารมฺภอปริกฺกมนปจฺจยาปีติ สพฺพตฺถาปิ อนาปตฺติ. ตถา หิ ตาทิสํ กุฏึ สนฺธาย ปริวาเร วุตฺตํ –

‘‘ภิกฺขุ สฺาจิกาย กุฏึ กโรติ;

อเทสิตวตฺถุกํ ปมาณาติกฺกนฺตํ;

สารมฺภํ อปริกฺกมนํ อนาปตฺติ;

ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๗๙);

อฺสฺสตฺถายาติ กุฏิลกฺขณปฺปตฺตมฺปิ กุฏึ อฺสฺส อุปชฺฌายสฺส วา อาจริยสฺส วา สงฺฆสฺส วา อตฺถาย กโรนฺตสฺส อนาปตฺติ. ยํ ปน ‘‘อาปตฺติ การุกานํ ติณฺณํ ทุกฺกฏาน’’นฺติอาทิ ปาฬิยํ วุตฺตํ, ตํ ยถาสมาทิฏฺาย อกรณปจฺจยา วุตฺตํ.

วาสาคารํ เปตฺวา สพฺพตฺถาติ อตฺตโน วสนตฺถาย อคารํ เปตฺวา อฺํ อุโปสถาคารํ วา ชนฺตาฆรํ วา โภชนสาลา วา อคฺคิสาลา วา ภวิสฺสตีติ กาเรติ, สพฺพตฺถ อนาปตฺติ. สเจปิสฺส โหติ ‘‘อุโปสถาคารฺจ ภวิสฺสติ, อหฺจ วสิสฺสามิ ชนฺตาฆรฺจ โภชนสาลา จ อคฺคิสาลา จ ภวิสฺสติ, อหฺจ วสิสฺสามี’’ติ การิเตปิ อานาปตฺติเยว. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘อนาปตฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘อตฺตโน วาสาคารตฺถาย กโรนฺตสฺเสว อาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. อุมฺมตฺตกสฺส อาทิกมฺมิกานฺจ อาฬวกานํ ภิกฺขูนํ อนาปตฺติ.

สมุฏฺานาทีสุ ฉสมุฏฺานํ กิริยฺจ กิริยากิริยฺจ, อิทฺหิ วตฺถุํ เทสาเปตฺวา ปมาณาติกฺกนฺตํ กโรโต กิริยโต สมุฏฺาติ, วตฺถุํ อเทสาเปตฺวา กโรโต กิริยากิริยโต, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

กุฏิการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. วิหารการสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๖๕. เตน สมเยนาติ วิหารการสิกฺขาปทํ. ตตฺถ โกสมฺพิยนฺติ เอวํนามเก นคเร. โฆสิตาราเมติ โฆสิตสฺส อาราเม. โฆสิตนามเกน กิร เสฏฺินา โส การิโต, ตสฺมา ‘‘โฆสิตาราโม’’ติ วุจฺจติ. ฉนฺนสฺสาติ โพธิสตฺตกาเล อุปฏฺากฉนฺนสฺส. วิหารวตฺถุํ, ภนฺเต, ชานาหีติ วิหารสฺส ปติฏฺานฏฺานํ, ภนฺเต, ชานาหิ. เอตฺถ จ วิหาโรติ น สกลวิหาโร, เอโก อาวาโส, เตเนวาห – ‘‘อยฺยสฺส วิหารํ การาเปสฺสามี’’ติ.

เจติยรุกฺขนฺติ เอตฺถ จิตฺตีกตฏฺเน เจติยํ, ปูชารหานํ เทวฏฺานานเมตํ อธิวจนํ, ‘‘เจติย’’นฺติ สมฺมตํ รุกฺขํ เจติยรุกฺขํ. คาเมน ปูชิตํ คามสฺส วา ปูชิตนฺติ คามปูชิตํ. เอเสว นโย เสสปเทสุปิ. อปิเจตฺถ ชนปโทติ เอกสฺส รฺโ รชฺเช เอเกโก โกฏฺาโส. รฏฺนฺติ สกลรชฺชํ เวทิตพฺพํ, สกลรชฺชมฺปิ หิ กทาจิ กทาจิ ตสฺส รุกฺขสฺส ปูชํ กโรติ, เตน วุตฺตํ ‘‘รฏฺปูชิต’’นฺติ. เอกินฺทฺริยนฺติ กายินฺทฺริยํ สนฺธาย วทนฺติ. ชีวสฺิโนติ สตฺตสฺิโน.

๓๖๖. มหลฺลกนฺติ สสฺสามิกภาเวน สํยาจิกกุฏิโต มหนฺตภาโว เอตสฺส อตฺถีติ มหลฺลโก. ยสฺมา วา วตฺถุํ เทสาเปตฺวา ปมาณาติกฺกเมนปิ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ปมาณมหนฺตตายปิ มหลฺลโก, ตํ มหลฺลกํ. ยสฺมา ปนสฺส ตํ ปมาณมหตฺตํ สสฺสามิกตฺตาว ลพฺภติ, ตสฺมา ตทตฺถทสฺสนตฺถํ ‘‘มหลฺลโก นาม วิหาโร สสฺสามิโก วุจฺจตี’’ติ ปทภาชนํ วุตฺตํ. เสสํ สพฺพํ กุฏิการสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ สทฺธึ สมุฏฺานาทีหิ. สสฺสามิกภาวมตฺตเมว หิ เอตฺถ กิริยโต สมุฏฺานาภาโว ปมาณนิยมาภาโว จ วิเสโส, ปมาณนิยมาภาวา จ จตุกฺกปาริหานีติ.

วิหารการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ปมทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๘๐. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ ทุฏฺโทสสิกฺขาปทํ. ตตฺถ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปติ เวฬุวนนฺติ ตสฺส อุยฺยานสฺส นามํ, ตํ กิร เวฬุหิ จ ปริกฺขิตฺตํ อโหสิ อฏฺารสหตฺเถน จ ปากาเรน โคปุรฏฺฏาลกยุตฺตํ นีโลภาสํ มโนรมํ เตน ‘‘เวฬุวน’’นฺติ วุจฺจติ, กลนฺทกานฺเจตฺถ นิวาปํ อทํสุ เตน ‘‘กลนฺทกนิวาป’’ติ วุจฺจติ.

ปุพฺเพ กิร อฺตโร ราชา ตตฺถ อุยฺยานกีฬนตฺถํ อาคโต, สุรามเทน มตฺโต ทิวาเสยฺยํ สุปิ, ปริชโนปิสฺส สุตฺโต ราชาติ ปุปฺผผลาทีหิ ปโลภิยมาโน อิโต จิโต จ ปกฺกมิ. อถ สุราคนฺเธน อฺตรสฺมา สุสิรรุกฺขา กณฺหสปฺโป นิกฺขมิตฺวา รฺโ อภิมุโข อาคจฺฉติ, ตํ ทิสฺวา รุกฺขเทวตา ‘‘รฺโ ชีวิตํ ทสฺสามี’’ติ กาฬกเวเสน อาคนฺตฺวา กณฺณมูเล สทฺทมกาสิ, ราชา ปฏิพุชฺฌิ, กณฺหสปฺโป นิวตฺโต, โส ตํ ทิสฺวา ‘‘อิมาย กาฬกาย มม ชีวิตํ ทินฺน’’นฺติ กาฬกานํ ตตฺถ นิวาปํ ปฏฺเปสิ, อภยโฆสนฺจ โฆสาเปสิ, ตสฺมา ตํ ตโตปภุติ กลนฺทกนิวาปนฺติ สงฺขฺยํ คตํ. กลนฺทกาติ หิ กาฬกานํ เอตํ นามํ.

ทพฺโพติ ตสฺส เถรสฺส นามํ. มลฺลปุตฺโตติ มลฺลราชสฺส ปุตฺโต. ชาติยา สตฺตวสฺเสน อรหตฺตํ สจฺฉิกตนฺติ เถโร กิร สตฺตวสฺสิโกว สํเวคํ ลภิตฺวา ปพฺพชิโต ขุรคฺเคเยว อรหตฺตํ ปาปุณีติ เวทิตพฺโพ. ยํกิฺจิ สาวเกน ปตฺตพฺพํ สพฺพํ เตน อนุปฺปตฺตนฺติ สาวเกน ปตฺตพฺพํ นาม ติสฺโส วิชฺชา, จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา, ฉ อภิฺา, นว โลกุตฺตรธมฺมาติ อิทํ คุณชาตํ, ตํ สพฺพํ เตน อนุปฺปตฺตํ โหติ. นตฺถิ จสฺส กิฺจิ อุตฺตริ กรณียนฺติ จตูสุ สจฺเจสุ, จตูหิ มคฺเคหิ, โสฬสวิธสฺส กิจฺจสฺส กตตฺตา อิทานิสฺส กิฺจิ อุตฺตริ กรณียํ นตฺถิ. กตสฺส วา ปติจโยติ ตสฺเสว กตสฺส กิจฺจสฺส ปุน วฑฺฒนมฺปิ นตฺถิ, โธตสฺส วิย วตฺถสฺส ปฏิโธวนํ ปิสิตสฺส วิย คนฺธสฺส ปฏิปิสนํ, ปุปฺผิตสฺส วิย จ ปุปฺผสฺส ปฏิปุปฺผนนฺติ. รโหคตสฺสาติ รหสิ คตสฺส. ปฏิสลฺลีนสฺสาติ ตโต ตโต ปฏิกฺกมิตฺวา สลฺลีนสฺส, เอกีภาวํ คตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.

อถ โข อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยนฺนูนาหํ สงฺฆสฺส เสนาสนฺจ ปฺเปยฺยํ ภตฺตานิ จ อุทฺทิเสยฺย’’นฺติ เถโร กิร อตฺตโน กตกิจฺจภาวํ ทิสฺวา ‘‘อหํ อิมํ อนฺติมสรีรํ ธาเรมิ, ตฺจ โข วาตมุเข ิต ปทีโป วิย อนิจฺจตามุเข ิตํ, นจิรสฺเสว นิพฺพายนธมฺมํ ยาว น นิพฺพายติ ตาว กินฺนุ โข อหํ สงฺฆสฺส เวยฺยาวจฺจํ กเรยฺย’’นฺติ จินฺเตนฺโต อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘‘ติโรรฏฺเสุ พหู กุลปุตฺตา ภควนฺตํ อทิสฺวาว ปพฺพชนฺติ, เต ภควนฺตํ ‘ปสฺสิสฺสาม เจว วนฺทิสฺสาม จา’ติ ทูรโตปิ อาคจฺฉนฺติ, ตตฺร เยสํ เสนาสนํ นปฺปโหติ, เต สิลาปฏฺฏเกปิ เสยฺยํ กปฺเปนฺติ. ปโหมิ โข ปนาหํ อตฺตโน อานุภาเวน เตสํ กุลปุตฺตานํ อิจฺฉาวเสน ปาสาทวิหารอฑฺฒโยคาทีนิ มฺจปีกตฺถรณาทีนิ จ เสนาเสนานิ นิมฺมินิตฺวา ทาตุํ. ปุนทิวเส เจตฺถ เอกจฺเจ อติวิย กิลนฺตรูปา โหนฺติ, เต คารเวน ภิกฺขูนํ ปุรโต ตฺวา ภตฺตานิปิ น อุทฺทิสาเปนฺติ, อหํ โข ปน เนสํ ภตฺตานิปิ อุทฺทิสิตุํ ปโหมี’’ติ. อิติ ปฏิสฺจิกฺขนฺตสฺส ‘‘อถ โข อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘ยนฺนูนาหํ สงฺฆสฺส เสนาสนฺจ ปฺเปยฺยํ ภตฺตานิ จ อุทฺทิเสยฺย’’นฺติ.

นนุ จ อิมานิ ทฺเว านานิ ภสฺสารามตาทิมนุยุตฺตสฺส ยุตฺตานิ, อยฺจ ขีณาสโว นิปฺปปฺจาราโม, อิมสฺส กสฺมา อิมานิ ปฏิภํสูติ? ปุพฺพปตฺถนาย โจทิตตฺตา. สพฺพพุทฺธานํ กิร อิมํ านนฺตรํ ปตฺตา สาวกา โหนฺติเยว. อยฺจ ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล อฺตรสฺมึ กุเล ปจฺจาชาโต อิมํ านนฺตรํ ปตฺตสฺส ภิกฺขุโน อานุภาวํ ทิสฺวา อฏฺสฏฺิยา ภิกฺขุสตสหสฺเสหิ สทฺธึ ภควนฺตํ สตฺต ทิวสานิ นิมนฺเตตฺวา มหาทานํ ทตฺวา ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา ‘‘อนาคเต ตุมฺหาทิสสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปนฺนกาเล อหมฺปิ อิตฺถนฺนาโม ตุมฺหากํ สาวโก วิย เสนาสนปฺาปโก จ ภตฺตุทฺเทสโก จ อสฺส’’นฺติ ปตฺถนํ อกาสิ. ภควา อนาคตํสาณํ เปเสตฺวา อทฺทส, ทิสฺวา จ อิโต กปฺปสตสหสฺสสฺส อจฺจเยน โคตโม นาม พุทฺโธ อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตทา ตฺวํ ทพฺโพ นาม มลฺลปุตฺโต หุตฺวา ชาติยา สตฺตวสฺโส นิกฺขมฺม ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉิกริสฺสสิ, อิมฺจ านนฺตรํ ลจฺฉสี’’ติ พฺยากาสิ. โส ตโตปภุติ ทานสีลาทีนิ ปูรยมาโน เทวมนุสฺสสมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา อมฺหากํ ภควโต กาเล เตน ภควตา พฺยากตสทิสเมว อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ. อถสฺส รโหคตสฺส ‘‘กินฺนุ โข อหํ สงฺฆสฺส เวยฺยาวจฺจํ กเรยฺย’’นฺติ จินฺตยโต ตาย ปุพฺพปตฺถนาย โจทิตตฺตา อิมานิ ทฺเว านานิ ปฏิภํสูติ.

อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อหํ โข อนิสฺสโรสฺมิ อตฺตนิ, สตฺถารา สทฺธึ เอกฏฺาเน วสามิ, สเจ มํ ภควา อนุชานิสฺสติ, อิมานิ ทฺเว านานิ สมาทิยิสฺสามี’’ติ ภควโต สนฺติกํ อคมาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อายสฺมา ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต…เป… ภตฺตานิ จ อุทฺทิสิตุ’’นฺติ. อถ นํ ภควา ‘‘สาธุ สาธุ ทพฺพา’’ติ สมฺปหํเสตฺวา ยสฺมา อรหติ เอวรูโป อคติคมนปริพาหิโร ภิกฺขุ อิมานิ ทฺเว านานิ วิจาเรตุํ, ตสฺมา ‘‘เตน หิ ตฺวํ ทพฺพ สงฺฆสฺส เสนาสนฺจ ปฺเปหิ ภตฺตานิ จ อุทฺทิสา’’ติ อาห. ภควโต ปจฺจสฺโสสีติ ภควโต วจนํ ปติอสฺโสสิ อภิมุโข อสฺโสสิ, สมฺปฏิจฺฉีติ วุตฺตํ โหติ.

ปมํ ทพฺโพ ยาจิตพฺโพติ กสฺมา ภควา ยาจาเปติ? ครหโมจนตฺถํ. ปสฺสติ หิ ภควา ‘‘อนาคเต ทพฺพสฺส อิมํ านํ นิสฺสาย เมตฺติยภุมชกานํ วเสน มหาอุปทฺทโว อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตตฺร เกจิ ครหิสฺสนฺติ ‘อยํ ตุณฺหีภูโต อตฺตโน กมฺมํ อกตฺวา กสฺมา อีทิสํ านํ วิจาเรตี’ติ. ตโต อฺเ วกฺขนฺติ ‘โก อิมสฺส โทโส เอเตเหว ยาจิตฺวา ปิโต’ติ เอวํ ครหโต มุจฺจิสฺสตี’’ติ. เอวํ ครหโมจนตฺถํ ยาจาเปตฺวาปิ ปุน ยสฺมา อสมฺมเต ภิกฺขุสฺมึ สงฺฆมชฺเฌ กิฺจิ กถยมาเน ขิยฺยนธมฺโม อุปฺปชฺชติ ‘‘อยํ กสฺมา สงฺฆมชฺเฌ อุจฺจาสทฺทํ กโรติ, อิสฺสริยํ ทสฺเสตี’’ติ. สมฺมเต ปน กเถนฺเต ‘‘มายสฺมนฺโต กิฺจิ อวจุตฺถ, สมฺมโต อยํ, กเถตุ ยถาสุข’’นฺติ วตฺตาโร ภวนฺติ. อสมฺมตฺจ อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺตสฺส ลหุกา อาปตฺติ โหติ ทุกฺกฏมตฺตา. สมฺมตํ ปน อพฺภาจิกฺขโต ครุกตรา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหติ. อถ สมฺมโต ภิกฺขุ อาปตฺติยา ครุกภาเวน เวรีหิปิ ทุปฺปธํสิยตโร โหติ, ตสฺมา ตํ อายสฺมนฺตํ สมฺมนฺนาเปตุํ ‘‘พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา’’ติอาทิมาห. กึ ปน ทฺเว สมฺมุติโย เอกสฺส ทาตุํ วฏฺฏนฺตีติ? น เกวลํ ทฺเว, สเจ ปโหติ, เตรสาปิ ทาตุํ วฏฺฏนฺติ. อปฺปโหนฺตานํ ปน เอกาปิ ทฺวินฺนํ วา ติณฺณํ วา ทาตุํ วฏฺฏติ.

๓๘๒. สภาคานนฺติ คุณสภาคานํ, น มิตฺตสนฺถวสภาคานํ. เตเนวาห ‘‘เย เต ภิกฺขู สุตฺตนฺติกา เตสํ เอกชฺฌ’’นฺติอาทิ. ยาวติกา หิ สุตฺตนฺติกา โหนฺติ, เต อุจฺจินิตฺวา เอกโต เตสํ อนุรูปเมว เสนาสนํ ปฺเปติ; เอวํ เสสานํ. กายทฬฺหีพหุลาติ กายสฺส ทฬฺหีภาวกรณพหุลา, กายโปสนพหุลาติ อตฺโถ. อิมายปิเม อายสฺมนฺโต รติยาติ อิมาย สคฺคมคฺคสฺส ติรจฺฉานภูตาย ติรจฺฉานกถารติยา. อจฺฉิสฺสนฺตีติ วิหริสฺสนฺติ.

เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา เตเนวาโลเกนาติ เตโชกสิณจตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อภิฺาาเณน องฺคุลิชลนํ อธิฏฺาย เตเนว เตโชธาตุสมาปตฺติชนิเตน องฺคุลิชาลาโลเกนาติ อตฺโถ. อยํ ปน เถรสฺส อานุภาโว นจิรสฺเสว สกลชมฺพุทีเป ปากโฏ อโหสิ, ตํ สุตฺวา อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทฏฺุกามา อปิสุ ภิกฺขู สฺจิจฺจ วิกาเล อาคจฺฉนฺติ. เต สฺจิจฺจ ทูเร อปทิสนฺตีติ ชานนฺตาว ทูเร อปทิสนฺติ. กถํ? ‘‘อมฺหากํ อาวุโส ทพฺพ คิชฺฌกูเฏ’’ติ อิมินา นเยน.

องฺคุลิยา ชลมานาย ปุรโต ปุรโต คจฺฉตีติ สเจ เอโก ภิกฺขุ โหติ, สยเมว คจฺฉติ. สเจ พหู โหนฺติ, พหู อตฺตภาเว นิมฺมินาติ. สพฺเพ อตฺตนา สทิสา เอว เสนาสนํ ปฺเปนฺติ.

อยํ มฺโจติอาทีสุ ปน เถเร ‘‘อยํ มฺโจ’’ติ วทนฺเต นิมฺมิตาปิ อตฺตโน อตฺตโน คตคตฏฺาเน ‘‘อยํ มฺโจ’’ติ วทนฺติ; เอวํ สพฺพปเทสุ. อยฺหิ นิมฺมิตานํ ธมฺมตา –

‘‘เอกสฺมึ ภาสมานสฺมึ, สพฺเพ ภาสนฺติ นิมฺมิตา;

เอกสฺมึ ตุณฺหิมาสีเน, สพฺเพ ตุณฺหี ภวนฺติ เต’’ติ.

ยสฺมึ ปน วิหาเร มฺจปีาทีนิ น ปริปูรนฺติ, ตสฺมึ อตฺตโน อานุภาเวน ปูเรนฺติ. เตน นิมฺมิตานํ อวตฺถุกวจนํ น โหติ.

เสนาสนํ ปฺเปตฺวา ปุนเทว เวฬุวนํ ปจฺจาคจฺฉตีติ เตหิ สทฺธึ ชนปทกถํ กเถนฺโต น นิสีทติ, อตฺตโน วสนฏฺานเมว ปจฺจาคจฺฉติ.

๓๘๓. เมตฺติยภูมชกาติ เมตฺติโย เจว ภูมชโก จ, ฉพฺพคฺคิยานํ อคฺคปุริสา เอเต. ลามกานิ จ ภตฺตานีติ เสนาสนานิ ตาว นวกานํ ลามกานิ ปาปุณนฺตีติ อนจฺฉริยเมตํ. ภตฺตานิ ปน สลากาโย ปจฺฉิยํ วา จีวรโภเค วา ปกฺขิปิตฺวา อาโลเฬตฺวา เอกเมกํ อุทฺธริตฺวา ปฺาเปนฺติ, ตานิปิ เตสํ มนฺทปุตาย ลามกานิ สพฺพปจฺฉิมาเนว ปาปุณนฺติ. ยมฺปิ เอกจาริกภตฺตํ โหติ, ตมฺปิ เอเตสํ ปตฺตทิวเส ลามกํ วา โหติ, เอเต วา ทิสฺวาว ปณีตํ อทตฺวา ลามกเมว เทนฺติ.

อภิสงฺขาริกนฺติ นานาสมฺภาเรหิ อภิสงฺขริตฺวา กตํ สุสชฺชิตํ, สุสมฺปาทิตนฺติ อตฺโถ. กณาชกนฺติ สกุณฺฑกภตฺตํ. พิลงฺคทุติยนฺติ กฺชิกทุติยํ.

กลฺยาณภตฺติโกติ กลฺยาณํ สุนฺทรํ อติวิย ปณีตํ ภตฺตมสฺสาติ กลฺยาณภตฺติโก, ปณีตทายกตฺตา ภตฺเตเนว ปฺาโต. จตุกฺกภตฺตํ เทตีติ จตฺตาริ ภตฺตานิ เทติ, ตทฺธิตโวหาเรน ปน ‘‘จตุกฺกภตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. อุปติฏฺิตฺวา ปริวิสตีติ สพฺพกมฺมนฺเต วิสฺสชฺเชตฺวา มหนฺตํ ปูชาสกฺการํ กตฺวา สมีเป ตฺวา ปริวิสติ. โอทเนน ปุจฺฉนฺตีติ โอทนหตฺถา อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘กึ ภนฺเต โอทนํ เทมา’’ติ ปุจฺฉนฺติ, เอวํ กรณตฺเถเยว กรณวจนํ โหติ. เอส นโย สูปาทีสุ.

สฺวาตนายาติ สฺเว ภโว ภตฺตปริโภโค สฺวาตโน ตสฺสตฺถาย, สฺวาตนาย สฺเว กตฺตพฺพสฺส ภตฺตปริโภคสฺสตฺถายาติ วุตฺตํ โหติ. อุทฺทิฏฺํ โหตีติ ปาเปตฺวา ทินฺนํ โหติ. เมตฺติยภูมชกานํ โข คหปตีติ อิทํ เถโร อสมนฺนาหริตฺวา อาห. เอวํพลวตี หิ เตสํ มนฺทปุฺตา, ยํ สติเวปุลฺลปฺปตฺตานมฺปิ อสมนฺนาหาโร โหติ. เย เชติ เอตฺถ เชติ ทาสึ อาลปติ.

หิยฺโย โข อาวุโส อมฺหากนฺติ รตฺตึ สมฺมนฺตยมานา อตีตํ ทิวสภาคํ สนฺธาย ‘‘หิยฺโย’’ติ วทนฺติ. น จิตฺตรูปนฺติ น จิตฺตานุรูปํ, ยถา ปุพฺเพ ยตฺตกํ อิจฺฉนฺติ, ตตฺตกํ สุปนฺติ, น เอวํ สุปึสุ, อปฺปกเมว สุปึสูติ วุตฺตํ โหติ.

พหารามโกฏฺเกติ เวฬุวนวิหารสฺส พหิทฺวารโกฏฺเก. ปตฺตกฺขนฺธาติ ปติตกฺขนฺธา ขนฺธฏฺิกํ นาเมตฺวา นิสินฺนา. ปชฺฌายนฺตาติ ปธูปายนฺตา.

ยโต นิวาตํ ตโต สวาตนฺติ ยตฺถ นิวาตํ อปฺปโกปิ วาโต นตฺถิ, ตตฺถ มหาวาโต อุฏฺิโตติ อธิปฺปาโย. อุทกํ มฺเ อาทิตฺตนฺติ อุทกํ วิย อาทิตฺตํ.

๓๘๔. สรสิ ตฺวํ ทพฺพ เอวรูปํ กตฺตาติ ตฺวํ ทพฺพ เอวรูปํ กตฺตา สรสิ. อถ วา สรสิ ตฺวํ ทพฺพ เอวรูปํ ยถายํ ภิกฺขุนี อาห, กตฺตา ธาสิ เอวรูปํ, ยถายํ ภิกฺขุนี อาหาติ เอวํ โยเชตฺวาเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เย ปน ‘‘กตฺวา’’ติ ปนฺติ เตสํ อุชุกเมว.

ยถา มํ ภนฺเต ภควา ชานาตีติ เถโร กึ ทสฺเสติ. ภควา ภนฺเต สพฺพฺู, อหฺจ ขีณาสโว, นตฺถิ มยฺหํ วตฺถุปฏิเสวนา, ตํ มํ ภควา ชานาติ, ตตฺราหํ กึ วกฺขามิ, ยถา มํ ภควา ชานาติ ตเถวาหํ ทฏฺพฺโพติ.

น โข ทพฺพ ทพฺพา เอวํ นิพฺเพเนฺตีติ เอตฺถ น โข ทพฺพ ปณฺฑิตา ยถา ตฺวํ ปรปฺปจฺจเยน นิพฺเพเสิ, เอวํ นิพฺเพเนฺติ; อปิ จ โข ยเทว สามํ าตํ เตน นิพฺเพเนฺตีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. สเจ ตยา กตํ กตนฺติ อิมินา กึ ทสฺเสติ? น หิ สกฺกา ปริสพเลน วา ปกฺขุปตฺถมฺเภน วา อการโก การโก กาตุํ, การโก วา อการโก กาตุํ, ตสฺมา ยํ สยํ กตํ วา อกตํ วา ตเทว วตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. กสฺมา ปน ภควา ชานนฺโตปิ ‘‘อหํ ชานามิ, ขีณาสโว ตฺวํ; นตฺถิ ตุยฺหํ โทโส, อยํ ภิกฺขุนี มุสาวาทินี’’ติ นาโวจาติ? ปรานุทฺทยตาย. สเจ หิ ภควา ยํ ยํ ชานาติ ตํ ตํ วเทยฺย, อฺเน ปาราชิกํ อาปนฺเนน ปุฏฺเน ‘‘อหํ ชานามิ ตฺวํ ปาราชิโก’’ติ วตฺตพฺพํ ภเวยฺย, ตโต โส ปุคฺคโล ‘‘อยํ ปุพฺเพ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ สุทฺธํ กตฺวา อิทานิ มํ อสุทฺธํ กโรติ; กสฺส ทานิ กึ วทามิ, ยตฺร สตฺถาปิ สาวเกสุ ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ; กุโต อิมสฺส สพฺพฺุภาโว’’ติ อาฆาตํ พนฺธิตฺวา อปายูปโค ภเวยฺย, ตสฺมา ภควา อิมาย ปรานุทฺทยตาย ชานนฺโตปิ นาโวจ.

กิฺจ ภิยฺโย อุปวาทปริวชฺชนโตปิ นาโวจ. ยทิ หิ ภควา เอวํ วเทยฺย, เอวํ อุปวาโท ภเวยฺย ‘‘ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส วุฏฺานํ นาม ภาริยํ, สมฺมาสมฺพุทฺธํ ปน สกฺขึ ลภิตฺวา วุฏฺิโต’’ติ. อิทฺจ วุฏฺานลกฺขณํ มฺมานา ‘‘พุทฺธกาเลปิ สกฺขินา สุทฺธิ วา อสุทฺธิ วา โหติ มยํ ชานาม, อยํ ปุคฺคโล อสุทฺโธ’’ติ เอวํ ปาปภิกฺขู ลชฺชิมฺปิ วินาเสยฺยุนฺติ. อปิจ อนาคเตปิ ภิกฺขู โอติณฺเณ วตฺถุสฺมึ โจเทตฺวา สาเรตฺวา ‘‘สเจ ตยา กตํ, ‘กต’นฺติ วเทหี’’ติ ลชฺชีนํ ปฏิฺํ คเหตฺวา กมฺมํ กริสฺสนฺตีติ วินยลกฺขเณ ตนฺตึ เปนฺโต ‘‘อหํ ชานามี’’ติ อวตฺวาว ‘‘สเจ ตยา กตํ, ‘กต’นฺติ วเทหี’’ติ อาห.

นาภิชานามิ สุปินนฺเตนปิ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตาติ สุปินนฺเตนปิ เมถุนํ ธมฺมํ น อภิชานามิ, น ปฏิเสวิตา อหนฺติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ปฏิเสวิตา หุตฺวา สุปินนฺเตนปิ เมถุนํ ธมฺมํ น ชานามีติ วุตฺตํ โหติ. เย ปน ‘‘ปฏิเสวิตฺวา’’ติ ปนฺติ เตสํ อุชุกเมว. ปเคว ชาคโรติ ชาครนฺโต ปน ปมํเยว น ชานามีติ.

เตน หิ ภิกฺขเว เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถาติ ยสฺมา ทพฺพสฺส จ อิมิสฺสา จ วจนํ น ฆฏียติ ตสฺมา เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถาติ วุตฺตํ โหติ.

ตตฺถ ติสฺโส นาสนา – ลิงฺคนาสนา, สํวาสนาสนา, ทณฺฑกมฺมนาสนาติ. ตาสุ ‘‘ทูสโก นาเสตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๖๖) อยํ ‘‘ลิงฺคนาสนา’’. อาปตฺติยา อทสฺสเน วา อปฺปฏิกมฺเม วา ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค วา อุกฺเขปนียกมฺมํ กโรนฺติ, อยํ ‘‘สํวาสนาสนา’’. ‘‘จร ปิเร วินสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๒๙) ทณฺฑกมฺมํ กโรนฺติ, อยํ ‘‘ทณฺฑกมฺมนาสนา’’. อิธ ปน ลิงฺคนาสนํ สนฺธายาห – ‘‘เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถา’’ติ.

อิเม จ ภิกฺขู อนุยุฺชถาติ อิมินา อิมํ ทีเปติ ‘‘อยํ ภิกฺขุนี อตฺตโน ธมฺมตาย อการิกา อทฺธา อฺเหิ อุยฺโยชิตา, ตสฺมา เยหิ อุยฺโยชิตา อิเม ภิกฺขู อนุยุฺชถ คเวสถ ชานาถา’’ติ.

กึ ปน ภควตา เมตฺติยา ภิกฺขุนี ปฏิฺาย นาสิตา อปฺปฏิฺาย นาสิตาติ, กิฺเจตฺถ ยทิ ตาว ปฏิฺาย นาสิตา, เถโร การโก โหติ สโทโส? อถ อปฺปฏิฺาย, เถโร อการโก โหติ นิทฺโทโส.

ภาติยราชกาเลปิ มหาวิหารวาสีนฺจ อภยคิริวาสีนฺจ เถรานํ อิมสฺมึเยว ปเท วิวาโท อโหสิ. อภยคิริวาสิโนปิ อตฺตโน สุตฺตํ วตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ วาเท เถโร การโก โหตี’’ติ วทนฺติ. มหาวิหารวาสิโนปิ อตฺตโน สุตฺตํ วตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ วาเท เถโร การโก โหตี’’ติ วทนฺติ. ปฺโห น ฉิชฺชติ. ราชา สุตฺวา เถเร สนฺนิปาเตตฺวา ทีฆการายนํ นาม พฺราหฺมณชาติยํ อมจฺจํ ‘‘เถรานํ กถํ สุณาหี’’ติ อาณาเปสิ. อมจฺโจ กิร ปณฺฑิโต ภาสนฺตรกุสโล โส อาห – ‘‘วทนฺตุ ตาว เถรา สุตฺต’’นฺติ. ตโต อภยคิริเถรา อตฺตโน สุตฺตํ วทึสุ – ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ สกาย ปฏิฺาย นาเสถา’’ติ. อมจฺโจ ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ วาเท เถโร การโก โหติ สโทโส’’ติ อาห. มหาวิหารวาสิโนปิ อตฺตโน สุตฺตํ วทึสุ – ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถา’’ติ. อมจฺโจ ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ วาเท เถโร อการโก โหติ นิทฺโทโส’’ติ อาห. กึ ปเนตฺถ ยุตฺตํ? ยํ ปจฺฉา วุตฺตํ วิจาริตฺเหตํ อฏฺกถาจริเยหิ, ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อมูลเกน อนฺติมวตฺถุนา อนุทฺธํเสติ, สงฺฆาทิเสโส; ภิกฺขุนึ อนุทฺธํเสติ, ทุกฺกฏํ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘มุสาวาเท ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตํ.

ตตฺรายํ วิจารณา, ปุริมนเย ตาว อนุทฺธํสนาธิปฺปายตฺตา ทุกฺกฏเมว ยุชฺชติ. ยถา สติปิ มุสาวาเท ภิกฺขุโน ภิกฺขุสฺมึ สงฺฆาทิเสโส, สติปิ จ มุสาวาเท อสุทฺธํ สุทฺธทิฏฺิโน อกฺโกสาธิปฺปาเยน วทนฺตสฺส โอมสวาเทเนว ปาจิตฺติยํ, น สมฺปชานมุสาวาเทน; เอวํ อิธาปิ อนุทฺธํสนาธิปฺปายตฺตา สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยํ น ยุชฺชติ, ทุกฺกฏเมว ยุตฺตํ. ปจฺฉิมนเยปิ มุสาวาทตฺตา ปาจิตฺติยเมว ยุชฺชติ, วจนปฺปมาณโต หิ อนุทฺธํสนาธิปฺปาเยน ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุสฺมึ สงฺฆาทิเสโส. อกฺโกสาธิปฺปายสฺส จ โอมสวาโท. ภิกฺขุสฺส ปน ภิกฺขุนิยา ทุกฺกฏนฺติวจนํ นตฺถิ, สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยนฺติ วจนมตฺถิ, ตสฺมา ปาจิตฺติยเมว ยุชฺชติ.

ตตฺร ปน อิทํ อุปปริกฺขิตพฺพํ – ‘‘อนุทฺธํสนาธิปฺปาเย อสติ ปาจิตฺติยํ, ตสฺมึ สติ เกน ภวิตพฺพ’’นฺติ? ตตฺร ยสฺมา มุสา ภณนฺตสฺส ปาจิตฺติเย สิทฺเธปิ อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน อนุทฺธํสเน วิสุํ ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ, ตสฺมา อนุทฺธํสนาธิปฺปาเย สติ สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยสฺส โอกาโส น ทิสฺสติ, น จ สกฺกา อนุทฺธํเสนฺตสฺส อนาปตฺติยา ภวิตุนฺติ ปุริมนโยเวตฺถ ปริสุทฺธตโร ขายติ. ตถา ภิกฺขุนี ภิกฺขุนึ อมูลเกน อนฺติมวตฺถุนา อนุทฺธํเสติ สงฺฆาทิเสโส, ภิกฺขุํ อนุทฺธํเสติ ทุกฺกฏํ, ตตฺร สงฺฆาทิเสโส วุฏฺานคามี ทุกฺกฏํ, เทสนาคามี เอเตหิ นาสนา นตฺถิ. ยสฺมา ปน สา ปกติยาว ทุสฺสีลา ปาปภิกฺขุนี อิทานิ จ สยเมว ‘‘ทุสฺสีลามฺหี’’ติ วทติ ตสฺมา นํ ภควา อสุทฺธตฺตาเยว นาเสสีติ.

อถ โข เมตฺติยภูมชกาติ เอวํ ‘‘เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถ, อิเม จ ภิกฺขู อนุยุฺชถา’’ติ วตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺเ ภควติ เตหิ ภิกฺขูหิ ‘‘เทถ ทานิ อิมิสฺสา เสตกานี’’ติ นาสิยมานํ ตํ ภิกฺขุนึ ทิสฺวา เต ภิกฺขู ตํ โมเจตุกามตาย อตฺตโน อปราธํ อาวิกรึสุ, เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ โข เมตฺติยภูมชกา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๓๘๕-๖. ทุฏฺโ โทโสติ ทูสิโต เจว ทูสโก จ. อุปฺปนฺเน หิ โทเส ปุคฺคโล เตน โทเสน ทูสิโต โหติ ปกติภาวํ ชหาปิโต, ตสฺมา ‘‘ทุฏฺโ’’ติ วุจฺจติ. ปรฺจ ทูเสติ วินาเสติ, ตสฺมา ‘‘โทโส’’ติ วุจฺจติ. อิติ ‘‘ทุฏฺโ โทโส’’ติ เอกสฺเสเวตํ ปุคฺคลสฺส อาการนานตฺเตน นิทสฺสนํ, เตน วุตฺตํ ‘‘ทุฏฺโ โทโสติ ทูสิโต เจว ทูสโก จา’’ติ ตตฺถ สทฺทลกฺขณํ ปริเยสิตพฺพํ. ยสฺมา ปน โส ‘‘ทุฏฺโ โทโส’’ติ สงฺขฺยํ คโต ปฏิฆสมงฺคีปุคฺคโล กุปิตาทิภาเว ิโตว โหติ, เตนสฺส ปทภาชเน ‘‘กุปิโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กุปิโตติ กุปฺปภาวํ ปกติโต จวนภาวํ ปตฺโต. อนตฺตมโนติ น สกมโน อตฺตโน วเส อฏฺิตจิตฺโต; อปิจ ปีติสุเขหิ น อตฺตมโน น อตฺตจิตฺโตติ อนตฺตมโน. อนภิรทฺโธติ น สุขิโต น วา ปสาทิโตติ อนภิรทฺโธ. ปฏิเฆน อาหตํ จิตฺตมสฺสาติ อาหตจิตฺโต. จิตฺตถทฺธภาวจิตฺตกจวรสงฺขาตํ ปฏิฆขีลํ ชาตมสฺสาติ ขิลชาโต. อปฺปตีโตติ นปฺปตีโต ปีติสุขาทีหิ วชฺชิโต, น อภิสโฏติ อตฺโถ. ปทภาชเน ปน เยสํ ธมฺมานํ วเสน อปฺปตีโต โหติ, เต ทสฺเสตุํ ‘‘เตน จ โกเปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ เตน จ โกเปนาติ เยน ทุฏฺโติ จ กุปิโตติ จ วุตฺโต อุภยมฺปิ เหตํ ปกติภาวํ ชหาปนโต เอกาการํ โหติ. เตน จ โทเสนาติ เยน ‘‘โทโส’’ติ วุตฺโต. อิเมหิ ทฺวีหิ สงฺขารกฺขนฺธเมว ทสฺเสติ.

ตาย จ อนตฺตมนตายาติ ยาย ‘‘อนตฺตมโน’’ติ วุตฺโต. ตาย จ อนภิรทฺธิยาติ ยาย ‘‘อนภิรทฺโธ’’ติ วุตฺโต. อิเมหิ ทฺวีหิ เวทนากฺขนฺธํ ทสฺเสติ.

อมูลเกน ปาราชิเกนาติ เอตฺถ นาสฺส มูลนฺติ อมูลกํ, ตํ ปนสฺส อมูลกตฺตํ ยสฺมา โจทกวเสน อธิปฺเปตํ, น จุทิตกวเสน. ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ปทภาชเน ‘‘อมูลกํ นาม อทิฏฺํ อสุตํ อปริสงฺกิต’’นฺติ อาห. เตน อิมํ ทีเปติ ‘‘ยํ ปาราชิกํ โจทเกน จุทิตกมฺหิ ปุคฺคเล เนว ทิฏฺํ น สุตํ น ปริสงฺกิตํ อิทํ เอเตสํ ทสฺสนสวนปริสงฺกาสงฺขาตานํ มูลานํ อภาวโต อมูลกํ นาม, ตํ ปน โส อาปนฺโน วา โหตุ อนาปนฺโน วา เอตํ อิธ อปฺปมาณนฺติ.

ตตฺถ อทิฏฺํ นาม อตฺตโน ปสาทจกฺขุนา วา ทิพฺพจกฺขุนา วา อทิฏฺํ. อสุตํ นาม ตเถว เกนจิ วุจฺจมานํ น สุตํ. อปริสงฺกิตํ นาม จิตฺเตน อปริสงฺกิตํ.

‘‘ทิฏฺํ’’ นาม อตฺตนา วา ปเรน วา ปสาทจกฺขุนา วา ทิพฺพจกฺขุนา วา ทิฏฺํ. ‘‘สุตํ’’ นาม ตเถว สุตํ. ‘‘ปริสงฺกิต’’มฺปิ อตฺตนา วา ปเรน วา ปริสงฺกิตํ. ตตฺถ อตฺตนา ทิฏฺํ ทิฏฺเมว, ปเรหิ ทิฏฺํ อตฺตนา สุตํ, ปเรหิ สุตํ, ปเรหิ ปริสงฺกิตนฺติ อิทํ ปน สพฺพมฺปิ อตฺตนา สุตฏฺาเนเยว ติฏฺติ.

ปริสงฺกิตํ ปน ติวิธํ – ทิฏฺปริสงฺกิตํ, สุตปริสงฺกิตํ, มุตปริสงฺกิตนฺติ. ตตฺถ ทิฏฺปริสงฺกิตํ นาม เอโก ภิกฺขุ อุจฺจารปสฺสาวกมฺเมน คามสมีเป เอกํ คุมฺพํ ปวิฏฺโ, อฺตราปิ อิตฺถี เกนจิเทว กรณีเยน ตํ คุมฺพํ ปวิสิตฺวา นิวตฺตา, นาปิ ภิกฺขุ อิตฺถึ อทฺทส; น อิตฺถี ภิกฺขุํ, อทิสฺวาว อุโภปิ ยถารุจึ ปกฺกนฺตา, อฺตโร ภิกฺขุ อุภินฺนํ ตโต นิกฺขมนํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘อทฺธา อิเมสํ กตํ วา กริสฺสนฺติ วา’’ติ ปริสงฺกติ, อิทํ ทิฏฺปริสงฺกิตํ นาม.

สุตปริสงฺกิตํ นาม อิเธกจฺโจ อนฺธกาเร วา ปฏิจฺฉนฺเน วา โอกาเส มาตุคาเมน สทฺธึ ภิกฺขุโน ตาทิสํ ปฏิสนฺถารวจนํ สุณาติ, สมีเป อฺํ วิชฺชมานมฺปิ ‘‘อตฺถิ นตฺถี’’ติ น ชานาติ, โส ‘‘อทฺธา อิเมสํ กตํ วา กริสฺสนฺติ วา’’ติ ปริสงฺกติ, อิทํ สุตปริสงฺกิตํ นาม.

มุตปริสงฺกิตํ นาม สมฺพหุลา ธุตฺตา รตฺติภาเค ปุปฺผคนฺธมํสสุราทีนิ คเหตฺวา อิตฺถีหิ สทฺธึ เอกํ ปจฺจนฺตวิหารํ คนฺตฺวา มณฺฑเป วา โภชนสาลาทีสุ วา ยถาสุขํ กีฬิตฺวา ปุปฺผาทีนิ วิกิริตฺวา คตา, ปุนทิวเส ภิกฺขู ตํ วิปฺปการํ ทิสฺวา ‘‘กสฺสิทํ กมฺม’’นฺติ วิจินนฺติ. ตตฺร จ เกนจิ ภิกฺขุนา ปเคว วุฏฺหิตฺวา วตฺตสีเสน มณฺฑปํ วา โภชนสาลํ วา ปฏิชคฺคนฺเตน ปุปฺผาทีนิ อามฏฺานิ โหนฺติ, เกนจิ อุปฏฺากกุลโต อาภเตหิ ปุปฺผาทีหิ ปูชา กตา โหติ, เกนจิ เภสชฺชตฺถํ อริฏฺํ ปีตํ โหติ, อถ เต ‘‘กสฺสิทํ กมฺม’’นฺติ วิจินนฺตา ภิกฺขู เตสํ หตฺถคนฺธฺจ มุขคนฺธฺจ ฆายิตฺวา เต ภิกฺขู ปริสงฺกนฺติ, อิทํ มุตปริสงฺกิตํ นาม.

ตตฺถ ทิฏฺํ อตฺถิ สมูลกํ, อตฺถิ อมูลกํ; ทิฏฺเมว อตฺถิ สฺาสมูลกํ, อตฺถิ สฺาอมูลกํ. เอส นโย สุเตปิ. ปริสงฺกิเต ปน ทิฏฺปริสงฺกิตํ อตฺถิ สมูลกํ, อตฺถิ อมูลกํ; ทิฏฺปริสงฺกิตเมว อตฺถิ สฺาสมูลกํ, อตฺถิ สฺาอมูลกํ. เอส นโย สุตมุตปริสงฺกิเตสุ. ตตฺถ ทิฏฺํ สมูลกํ นาม ปาราชิกํ อาปชฺชนฺตํ ทิสฺวาว ‘‘ทิฏฺโ มยา’’ติ วทติ, อมูลกํ นาม ปฏิจฺฉนฺโนกาสโต นิกฺขมนฺตํ ทิสฺวา วีติกฺกมํ อทิสฺวา ‘‘ทิฏฺโ มยา’’ติ วทติ. ทิฏฺเมว สฺาสมูลกํ นาม ทิสฺวาว ทิฏฺสฺี หุตฺวา โจเทติ, สฺาอมูลกํ นาม ปุพฺเพ ปาราชิกวีติกฺกมํ ทิสฺวา ปจฺฉา อทิฏฺสฺี ชาโต, โส สฺาย อมูลกํ กตฺวา ‘‘ทิฏฺโ มยา’’ติ โจเทติ. เอเตน นเยน สุตมุตปริสงฺกิตานิปิ วิตฺถารโต เวทิตพฺพานิ. เอตฺถ จ สพฺพปฺปกาเรณาปิ สมูลเกน วา สฺาสมูลเกน วา โจเทนฺตสฺส อนาปตฺติ, อมูลเกน วา ปน สฺาอมูลเกน วา โจเทนฺตสฺเสว อาปตฺติ.

อนุทฺธํเสยฺยาติ ธํเสยฺย ปธํเสยฺย อภิภเวยฺย อชฺโฌตฺถเรยฺย. ตํ ปน อนุทฺธํสนํ ยสฺมา อตฺตนา โจเทนฺโตปิ ปเรน โจทาเปนฺโตปิ กโรติเยว, ตสฺมาสฺส ปทภาชเน ‘‘โจเทติ วา โจทาเปติ วา’’ติ วุตฺตํ.

ตตฺถ โจเทตีติ ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อาปนฺโนสี’’ติอาทีหิ วจเนหิ สยํ โจเทติ, ตสฺส วาจาย วาจาย สงฺฆาทิเสโส. โจทาเปตีติ อตฺตนา สมีเป ตฺวา อฺํ ภิกฺขุ อาณาเปติ, โส ตสฺส วจเนน ตํ โจเทติ, โจทาปกสฺเสว วาจาย วาจาย สงฺฆาทิเสโส. อถ โสปิ ‘‘มยา ทิฏฺํ สุตํ อตฺถี’’ติ โจเทติ, ทฺวินฺนมฺปิ ชนานํ วาจาย วาจาย สงฺฆาทิเสโส.

โจทนาปฺปเภทโกสลฺลตฺถํ ปเนตฺถ เอกวตฺถุเอกโจทกาทิจตุกฺกํ ตาว เวทิตพฺพํ. ตตฺถ เอโก ภิกฺขุ เอกํ ภิกฺขุํ เอเกน วตฺถุนา โจเทติ, อิมิสฺสา โจทนาย เอกํ วตฺถุ เอโก โจทโก. สมฺพหุลา เอกํ เอกวตฺถุนา โจเทนฺติ, ปฺจสตา เมตฺติยภูมชกปฺปมุขา ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตมิว, อิมิสฺสา โจทนาย เอกํ วตฺถุ นานาโจทกา. เอโก ภิกฺขุ เอกํ ภิกฺขุํ สมฺพหุเลหิ วตฺถูหิ โจเทติ, อิมิสฺสา โจทนาย นานาวตฺถูนิ เอโก โจทโก. สมฺพหุลา สมฺพหุเล สมฺพหุเลหิ วตฺถูหิ โจเทนฺติ, อิมิสฺสา โจทนาย นานาวตฺถูนิ นานาโจทกา.

โจเทตุํ ปน โก ลภติ, โก น ลภตีติ? ทุพฺพลโจทกวจนํ ตาว คเหตฺวา โกจิ น ลภติ. ทุพฺพลโจทโก นาม สมฺพหุเลสุ กถาสลฺลาเปน นิสินฺเนสุ เอโก เอกํ อารพฺภ อโนทิสฺสกํ กตฺวา ปาราชิกวตฺถุํ กเถติ, อฺโ ตํ สุตฺวา อิตรสฺส คนฺตฺวา อาโรเจติ. โส ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตฺวํ กิร มํ อิทฺจิทฺจ วทสี’’ติ วทติ. โส ‘‘นาหํ เอวรูปํ ชานามิ, กถาปวตฺติยํ ปน มยา อโนทิสฺสกํ กตฺวา วุตฺตมตฺถิ, สเจ อหํ ตว อิมํ ทุกฺขุปฺปตฺตึ ชาเนยฺยํ, เอตฺตกมฺปิ น กเถยฺย’’นฺติ อยํ ทุพฺพลโจทโก. ตสฺเสตํ กถาสลฺลาปํ คเหตฺวา ตํ ภิกฺขุํ โกจิ โจเทตุํ น ลภติ. เอตํ ปน อคฺคเหตฺวา สีลสมฺปนฺโน ภิกฺขุ ภิกฺขุํ วา ภิกฺขุนึ วา สีลสมฺปนฺนา จ ภิกฺขุนี ภิกฺขุนีเมว โจเทตุํ ลภตีติ มหาปทุมตฺเถโร อาห. มหาสุมตฺเถโร ปน ‘‘ปฺจปิ สหธมฺมิกา ลภนฺตี’’ติ อาห. โคทตฺตตฺเถโร ปน ‘‘น โกจิ น ลภตี’’ติ วตฺวา ‘‘ภิกฺขุสฺส สุตฺวา โจเทติ, ภิกฺขุนิยา สุตฺวา โจเทติ…เป… ติตฺถิยสาวกานํ สุตฺวา โจเทตี’’ติ อิทํ สุตฺตมาหริ. ติณฺณมฺปิ เถรานํ วาเท จุทิตกสฺเสว ปฏิฺาย กาเรตพฺโพ.

อยํ ปน โจทนา นาม ทูตํ วา ปณฺณํ วา สาสนํ วา เปเสตฺวา โจเทนฺตสฺส สีสํ น เอติ, ปุคฺคลสฺส ปน สมีเป ตฺวาว หตฺถมุทฺทาย วา วจีเภเทน วา โจเทนฺตสฺเสว สีสํ เอติ. สิกฺขาปจฺจกฺขานเมว หิ หตฺถมุทฺทาย สีสํ น เอติ, อิทํ ปน อนุทฺธํสนํ อภูตาโรจนฺจ เอติเยว. โย ปน ทฺวินฺนํ ิตฏฺาเน เอกํ นิยเมตฺวา โจเทติ, โส เจ ชานาติ, สีสํ เอติ. อิตโร ชานาติ, สีสํ น เอติ. ทฺเวปิ นิยเมตฺวา โจเทติ, เอโก วา ชานาตุ ทฺเว วา, สีสํ เอติเยว. เอสว นโย สมฺพหุเลสุ. ตงฺขเณเยว จ ชานนํ นาม ทุกฺกรํ, สมเยน อาวชฺชิตฺวา าเต ปน าตเมว โหติ. ปจฺฉา เจ ชานาติ, สีสํ น เอติ. สิกฺขาปจฺจกฺขานํ อภูตาโรจนํ ทุฏฺุลฺลวาจา-อตฺตกาม-ทุฏฺโทสภูตาโรจนสิกฺขาปทานีติ สพฺพาเนว หิ อิมานิ เอกปริจฺเฉทานิ.

เอวํ กายวาจาวเสน จายํ ทุวิธาปิ โจทนา. ปุน ทิฏฺโจทนา, สุตโจทนา, ปริสงฺกิตโจทนาติ ติวิธา โหติ. อปราปิ จตุพฺพิธา โหติ – สีลวิปตฺติโจทนา, อาจารวิปตฺติโจทนา, ทิฏฺิวิปตฺติโจทนา, อาชีววิปตฺติโจทนาติ. ตตฺถ ครุกานํ ทฺวินฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ วเสน สีลวิปตฺติโจทนา เวทิตพฺพา. อวเสสานํ วเสน อาจารวิปตฺติโจทนา, มิจฺฉาทิฏฺิอนฺตคฺคาหิกทิฏฺิวเสน ทิฏฺิวิปตฺติโจทนา, อาชีวเหตุ ปฺตฺตานํ ฉนฺนํ สิกฺขาปทานํ วเสน อาชีววิปตฺติโจทนา เวทิตพฺพา.

อปราปิ จตุพฺพิธา โหติ – วตฺถุสนฺทสฺสนา, อาปตฺติสนฺทสฺสนา, สํวาสปฏิกฺเขโป, สามีจิปฏิกฺเขโปติ. ตตฺถ วตฺถุสนฺทสฺสนา นาม ‘‘ตฺวํ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตฺถ, อทินฺนํ อาทิยิตฺถ, มนุสฺสํ ฆาตยิตฺถ, อภูตํ อาโรจยิตฺถา’’ติ เอวํ ปวตฺตา. อาปตฺติสนฺทสฺสนา นาม ‘‘ตฺวํ เมถุนธมฺมปาราชิกาปตฺตึ อาปนฺโน’’ติ เอวมาทินยปฺปวตฺตา. สํวาสปฏิกฺเขโป นาม ‘‘นตฺถิ ตยา สทฺธึ อุโปสโถ วา ปวารณา วา สงฺฆกมฺมํ วา’’ติ เอวํ ปวตฺตา; เอตฺตาวตา ปน สีสํ น เอติ, ‘‘อสฺสมโณสิ อสกฺยปุตฺติโยสี’’ติอาทิวจเนหิ สทฺธึ ฆฏิเตเยว สีสํ เอติ. สามีจิปฏิกฺเขโป นาม อภิวาทน-ปจฺจุฏฺาน-อฺชลิกมฺม-พีชนาทิกมฺมานํ อกรณํ. ตํ ปฏิปาฏิยา วนฺทนาทีนิ กโรโต เอกสฺส อกตฺวา เสสานํ กรณกาเล เวทิตพฺพํ. เอตฺตาวตา จ โจทนา นาม โหติ, อาปตฺติ ปน สีสํ น เอติ. ‘‘กสฺมา มม วนฺทนาทีนิ น กโรสี’’ติ ปุจฺฉิเต ปน ‘‘อสฺสมโณสิ อสกฺยปุตฺติโยสี’’ติอาทิวจเนหิ สทฺธึ ฆฏิเตเยว สีสํ เอติ. ยาคุภตฺตาทินา ปน ยํ อิจฺฉติ ตํ อาปุจฺฉติ, น ตาวตา โจทนา โหติ.

อปราปิ ปาติโมกฺขฏฺปนกฺขนฺธเก ‘‘เอกํ, ภิกฺขเว, อธมฺมิกํ ปาติโมกฺขฏฺปนํ เอกํ ธมฺมิก’’นฺติ อาทึ ‘‘กตฺวา ยาว ทส อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ ทส ธมฺมิกานี’’ติ (จูฬว. ๓๘๗) เอวํ อธมฺมิกา ปฺจปฺาส ธมฺมิกา ปฺจปฺาสาติ ทสุตฺตรสตํ โจทนา วุตฺตา. ตา ทิฏฺเน โจเทนฺตสฺส ทสุตฺตรสตํ, สุเตน โจเทนฺตสฺส ทสุตฺตรสตํ, ปริสงฺกิเตน โจเทนฺตสฺส ทสุตฺตรสตนฺติ ตึสานิ ตีณิ สตานิ โหนฺติ. ตานิ กาเยน โจเทนฺตสฺส, วาจาย โจเทนฺตสฺส, กายวาจาหิ โจเทนฺตสฺสาติ ติคุณานิ กตานิ นวุตานิ นว สตานิ โหนฺติ. ตานิ อตฺตนา โจเทนฺตสฺสาปิ ปเรน โจทาเปนฺตสฺสาปิ ตตฺตกาเนวาติ วีสติอูนานิ ทฺเว สหสฺสานิ โหนฺติ, ปุน ทิฏฺาทิเภเท สมูลกามูลกวเสน อเนกสหสฺสา โจทนา โหนฺตีติ เวทิตพฺพา.

อิมสฺมึ ปน าเน ตฺวา อฏฺกถาย ‘‘อตฺตาทานํ อาทาตุกาเมน อุปาลิ ภิกฺขุนา ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ อตฺตาทานํ อาทาตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๓๙๘) จ ‘‘โจทเกน อุปาลิ ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน ปฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ’’ติ (จูฬว. ๓๙๙) จ เอวํ อุปาลิปฺจกาทีสุ วุตฺตานิ พหูนิ สุตฺตานิ อาหริตฺวา อตฺตาทานลกฺขณฺจ โจทกวตฺตฺจ จุทิตกวตฺตฺจ สงฺเฆน กาตพฺพกิจฺจฺจ อนุวิชฺชกวตฺตฺจ สพฺพํ วิตฺถาเรน กถิตํ, ตํ มยํ ยถาอาคตฏฺาเนเยว วณฺณยิสฺสาม.

วุตฺตปฺปเภทาสุ ปน อิมาสุ โจทนาสุ ยาย กายจิ โจทนาย วเสน สงฺฆมชฺเฌ โอสเฏ วตฺถุสฺมึ จุทิตกโจทกา วตฺตพฺพา ‘‘ตุมฺเห อมฺหากํ วินิจฺฉเยน ตุฏฺา ภวิสฺสถา’’ติ. สเจ ‘‘ภวิสฺสามา’’ติ วทนฺติ, สงฺเฆน ตํ อธิกรณํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. อถ ปน ‘‘วินิจฺฉินถ ตาว, ภนฺเต, สเจ อมฺหากํ ขมิสฺสติ, คณฺหิสฺสามา’’ติ วทนฺติ. ‘‘เจติยํ ตาว วนฺทถา’’ติอาทีนิ วตฺวา ทีฆสุตฺตํ กตฺวา วิสฺสชฺชิตพฺพํ. เต เจ จิรรตฺตํ กิลนฺตา ปกฺกนฺตปริสา อุปจฺฉินฺนปกฺขา หุตฺวา ปุน ยาจนฺติ, ยาวตติยํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ยทา นิมฺมทา โหนฺติ ตทา เนสํ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตพฺพํ. วินิจฺฉินนฺเตหิ จ สเจ อลชฺชุสฺสนฺนา โหติ, ปริสา อุพฺพาหิกาย ตํ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตพฺพํ. สเจ พาลุสฺสนฺนา โหติ ปริสา ‘‘ตุมฺหากํ สภาเค วินยธเร ปริเยสถา’’ติ วินยธเร ปริเยสาเปตฺวา เยน ธมฺเมน เยน วินเยน เยน สตฺถุสาสเนน ตํ อธิกรณํ วูปสมติ, ตถา ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพํ.

ตตฺถ จ ‘‘ธมฺโม’’ติ ภูตํ วตฺถุ. ‘‘วินโย’’ติ โจทนา สารณา จ. ‘‘สตฺถุสาสน’’นฺติ ตฺติสมฺปทา จ อนุสาวนสมฺปทา จ. ตสฺมา โจทเกน วตฺถุสฺมึ อาโรจิเต จุทิตโก ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘สนฺตเมตํ, โน’’ติ. เอวํ วตฺถุํ อุปปริกฺขิตฺวา ภูเตน วตฺถุนา โจเทตฺวา สาเรตฺวา จ ตฺติสมฺปทาย อนุสาวนสมฺปทาย จ ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพํ. ตตฺร เจ อลชฺชี ลชฺชึ โจเทติ, โส จ อลชฺชี พาโล โหติ อพฺยตฺโต นาสฺส นโย ทาตพฺโพ. เอวํ ปน วตฺตพฺโพ – ‘‘กิมฺหิ นํ โจเทสี’’ติ? อทฺธา โส วกฺขติ – ‘‘กิมิทํ, ภนฺเต, กิมฺหิ นํ นามา’’ติ. ตฺวํ กิมฺหิ นมฺปิ น ชานาสิ, น ยุตฺตํ ตยา เอวรูเปน พาเลน ปรํ โจเทตุนฺติ อุยฺโยเชตพฺโพ นาสฺส อนุโยโค ทาตพฺโพ. สเจ ปน โส อลชฺชี ปณฺฑิโต โหติ พฺยตฺโต ทิฏฺเน วา สุเตน วา อชฺโฌตฺถริตฺวา สมฺปาเทตุํ สกฺโกติ เอตสฺส อนุโยคํ ทตฺวา ลชฺชิสฺเสว ปฏิฺาย กมฺมํ กาตพฺพํ.

สเจ ลชฺชี อลชฺชึ โจเทติ, โส จ ลชฺชี พาโล โหติ อพฺยตฺโต, น สกฺโกติ อนุโยคํ ทาตุํ. ตสฺส นโย ทาตพฺโพ – ‘‘กิมฺหิ นํ โจเทสิ สีลวิปตฺติยา วา อาจารวิปตฺติอาทีสุ วา เอกิสฺสา’’ติ. กสฺมา ปน อิมสฺเสว เอวํ นโย ทาตพฺโพ, น อิตรสฺส? นนุ น ยุตฺตํ วินยธรานํ อคติคมนนฺติ? น ยุตฺตเมว. อิทํ ปน อคติคมนํ น โหติ, ธมฺมานุคฺคโห นาม เอโส อลชฺชินิคฺคหตฺถาย หิ ลชฺชิปคฺคหตฺถาย จ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ. ตตฺร อลชฺชี นยํ ลภิตฺวา อชฺโฌตฺถรนฺโต เอหีติ, ลชฺชี ปน นยํ ลภิตฺวา ทิฏฺเ ทิฏฺสนฺตาเนน, สุเต สุตสนฺตาเนน ปติฏฺาย กเถสฺสติ, ตสฺมา ตสฺส ธมฺมานุคฺคโห วฏฺฏติ. สเจ ปน โส ลชฺชี ปณฺฑิโต โหติ พฺยตฺโต, ปติฏฺาย กเถติ, อลชฺชี จ ‘‘เอตมฺปิ นตฺถิ, เอตมฺปิ นตฺถี’’ติ ปฏิฺํ น เทติ, อลชฺชิสฺส ปฏิฺาย เอว กาตพฺพํ.

ตทตฺถทีปนตฺถฺจ อิทํ วตฺถุ เวทิตพฺพํ. เตปิฏกจูฬาภยตฺเถโร กิร โลหปาสาทสฺส เหฏฺา ภิกฺขูนํ วินยํ กเถตฺวา สายนฺหสมเย วุฏฺาติ, ตสฺส วุฏฺานสมเย ทฺเว อตฺตปจฺจตฺถิกา กถํ ปวตฺเตสุํ. เอโก ‘‘เอตมฺปิ นตฺถิ, เอตมฺปิ นตฺถี’’ติ ปฏิฺํ น เทติ. อถ อปฺปาวเสเส ปมยาเม เถรสฺส ตสฺมึ ปุคฺคเล ‘‘อยํ ปติฏฺาย กเถติ, อยํ ปน ปฏิฺํ น เทติ, พหูนิ จ วตฺถูนิ โอสฏานิ อทฺธา เอตํ กตํ ภวิสฺสตี’’ติ อสุทฺธลทฺธิ อุปฺปนฺนา. ตโต พีชนีทณฺฑเกน ปาทกถลิกาย สฺํ ทตฺวา ‘‘อหํ อาวุโส วินิจฺฉินิตุํ อนนุจฺฉวิโก อฺเน วินิจฺฉินาเปหี’’ติ อาห. กสฺมา ภนฺเตติ? เถโร ตมตฺถํ อาโรเจสิ, จุทิตกปุคฺคลสฺส กาเย ฑาโห อุฏฺิโต, ตโต โส เถรํ วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, วินิจฺฉินิตุํ อนุรูเปน วินยธเรน นาม ตุมฺหาทิเสเนว ภวิตุํ วฏฺฏติ. โจทเกน จ อีทิเสเนว ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา เสตกานิ นิวาเสตฺวา ‘‘จิรํ กิลมิตตฺถ มยา’’ติ ขมาเปตฺวา ปกฺกามิ.

เอวํ ลชฺชินา โจทิยมาโน อลชฺชี พหูสุปิ วตฺถูสุ อุปฺปนฺเนสุ ปฏิฺํ น เทติ, โส เนว ‘‘สุทฺโธ’’ติ วตฺตพฺโพ น ‘‘อสุทฺโธ’’ติ. ชีวมตโก นาม อามกปูติโก นาม เจส.

สเจ ปนสฺส อฺมฺปิ ตาทิสํ วตฺถุํ อุปฺปชฺชติ น วินิจฺฉินิตพฺพํ. ตถา นาสิตโกว ภวิสฺสติ. สเจ ปน อลชฺชีเยว อลชฺชึ โจเทติ, โส วตฺตพฺโพ ‘‘อาวุโส ตว วจเนนายํ กึ สกฺกา วตฺตุ’’นฺติ อิตรมฺปิ ตเถว วตฺวา อุโภปิ ‘‘เอกสมฺโภคปริโภคา หุตฺวา ชีวถา’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชตพฺพา, สีลตฺถาย เตสํ วินิจฺฉโย น กาตพฺโพ. ปตฺตจีวรปริเวณาทิอตฺถาย ปน ปติรูปํ สกฺขึ ลภิตฺวา กาตพฺโพ.

อถ ลชฺชี ลชฺชึ โจเทติ, วิวาโท จ เนสํ กิสฺมิฺจิเทว อปฺปมตฺตโก โหติ, สฺาเปตฺวา ‘‘มา เอวํ กโรถา’’ติ อจฺจยํ เทสาเปตฺวา อุยฺโยเชตพฺพา. อถ ปเนตฺถ จุทิตเกน สหสา วิรทฺธํ โหติ, อาทิโต ปฏฺาย อลชฺชี นาม นตฺถิ. โส จ ปกฺขานุรกฺขณตฺถาย ปฏิฺํ น เทติ, ‘‘มยํ สทฺทหาม, มยํ สทฺทหามา’’ติ พหู อุฏฺหนฺติ. โส เตสํ ปฏิฺาย เอกวารํ ทฺเววารํ สุทฺโธ โหตุ. อถ ปน วิรทฺธกาลโต ปฏฺาย าเน น ติฏฺติ, วินิจฺฉโย น ทาตพฺโพ.

เอวํ ยาย กายจิ โจทนาย วเสน สงฺฆมชฺเฌ โอสเฏ วตฺถุสฺมึ จุทิตกโจทเกสุ ปฏิปตฺตึ ตฺวา ตสฺสาเยว โจทนาย สมฺปตฺติวิปตฺติชานนตฺถํ อาทิมชฺฌปริโยสานาทีนํ วเสน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. เสยฺยถิทํ โจทนาย โก อาทิ, กึ มชฺเฌ, กึ ปริโยสานํ? โจทนาย ‘‘อหํ ตํ วตฺตุกาโม, กโรตุ เม อายสฺมา โอกาส’’นฺติ เอวํ โอกาสกมฺมํ อาทิ, โอติณฺเณน วตฺถุนา โจเทตฺวา สาเรตฺวา วินิจฺฉโย มชฺเฌ, อาปตฺติยํ วา อนาปตฺติยํ วา ปติฏฺาปเนน สมโถ ปริโยสานํ.

โจทนาย กติ มูลานิ, กติ วตฺถูนิ, กติ ภูมิโย? โจทนาย ทฺเว มูลานิ – สมูลิกา วา อมูลิกา วา; ตีณิ วตฺถูนิ – ทิฏฺํ, สุตํ, ปริสงฺกิตํ; ปฺจ ภูมิโย – กาเลน วกฺขามิ โน อกาเลน, ภูเตน วกฺขามิ โน อภูเตน, สณฺเหน วกฺขามิ โน ผรุเสน, อตฺถสํหิเตน วกฺขามิ โน อนตฺถสํหิเตน, เมตฺตจิตฺโต วกฺขามิ โน โทสนฺตโรติ. อิมาย จ ปน โจทนาย โจทเกน ปุคฺคเลน ‘‘ปริสุทฺธกายสมาจาโร นุ โขมฺหี’’ติอาทินา (จูฬว. ๓๙๙) นเยน อุปาลิปฺจเก วุตฺเตสุ ปนฺนรสสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาตพฺพํ, จุทิตเกน ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาตพฺพํ สจฺเจ จ อกุปฺเป จาติ.

อปฺเปว นาม นํ อิมมฺหา พฺรหฺมจริยา จาเวยฺยนฺติ อปิ เอว นาม นํ ปุคฺคลํ อิมมฺหา เสฏฺจริยา จาเวยฺยํ, ‘‘สาธุ วตสฺส สจาหํ อิมํ ปุคฺคลํ อิมมฺหา พฺรหฺมจริยา จาเวยฺย’’นฺติ อิมินา อธิปฺปาเยน อนุทฺธํเสยฺยาติ วุตฺตํโหติ. ปทภาชเน ปน ‘‘พฺรหฺมจริยา จาเวยฺย’’นฺติ อิมสฺเสว ปริยายมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภิกฺขุภาวา จาเวยฺย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

ขณาทีนิ สมยเววจนานิ. ตํ ขณํ ตํ ลยํ ตํ มุหุตฺตํ วีติวตฺเตติ ตสฺมึ ขเณ ตสฺมึ ลเย ตสฺมึ มุหุตฺเต วีติวตฺเต. ภุมฺมปฺปตฺติยา หิ อิทํ อุปโยควจนํ.

สมนุคฺคาหิยมานนิทฺเทเส เยน วตฺถุนา อนุทฺธํสิโต โหตีติ จตูสุ ปาราชิกวตฺถูสุ เยน วตฺถุนา โจทเกน จุทิตโก อนุทฺธํสิโต อภิภูโต อชฺโฌตฺถโฏ โหติ. ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ สมนุคฺคาหิยมาโนติ ตสฺมึ โจทเกน วุตฺตวตฺถุสฺมึ โส โจทโก อนุวิชฺชเกน ‘‘กึ เต ทิฏฺํ, กินฺติ เต ทิฏฺ’’นฺติอาทินา นเยน อนุวิชฺชิยมาโน วีมํสิยมาโน อุปปริกฺขิยมาโน.

อสมนุคฺคาหิยมานนิทฺเทเส น เกนจิ วุจฺจมาโนติ อนุวิชฺชเกน วา อฺเน วา เกนจิ, อถ วา ทิฏฺาทีสุ วตฺถูสุ เกนจิ อวุจฺจมาโน. เอเตสฺจ ทฺวินฺนํ มาติกาปทานํ ปรโต ‘‘ภิกฺขุ จ โทสํ ปติฏฺาตี’’ติอิมินา สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ – ‘‘เอวํ สมนุคฺคาหิยมาโน วา อสมนุคฺคาหิยมาโน วา ภิกฺขุ จ โทสํ ปติฏฺาติ ปฏิจฺจ ติฏฺติ ปฏิชานาติ สงฺฆาทิเสโส’’ติ. อิทฺจ อมูลกภาวสฺส ปากฏกาลทสฺสนตฺถเมว วุตฺตํ. อาปตฺตึ ปน อนุทฺธํสิตกฺขเณเยว อาปชฺชติ.

อิทานิ ‘‘อมูลกฺเจว ตํ อธิกรณํ โหตี’’ติ เอตฺถ ยสฺมา อมูลกลกฺขณํ ปุพฺเพ วุตฺตํ, ตสฺมา ตํ อวตฺวา อปุพฺพเมว ทสฺเสตุํ ‘‘อธิกรณํ นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา อธิกรณํ อธิกรณฏฺเน เอกมฺปิ วตฺถุวเสน นานา โหติ, เตนสฺส ตํ นานตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘จตฺตาริ อธิกรณานิ วิวาทาธิกรณ’’นฺติอาทิมาห. โก ปน โส อธิกรณฏฺโ, เยเนตํ เอกํ โหตีติ? สมเถหิ อธิกรณียตา. ตสฺมา ยํ อธิกิจฺจ อารพฺภ ปฏิจฺจ สนฺธาย สมถา วตฺตนฺติ, ตํ ‘‘อธิกรณ’’นฺติ เวทิตพฺพํ.

อฏฺกถาสุ ปน วุตฺตํ – ‘‘อธิกรณนฺติ เกจิ คาหํ วทนฺติ, เกจิ เจตนํ, เกจิ อกฺขนฺตึ เกจิ โวหารํ, เกจิ ปณฺณตฺติ’’นฺติ. ปุน เอวํ วิจาริตํ ‘‘ยทิ คาโห อธิกรณํ นาม, เอโก อตฺตาทานํ คเหตฺวา สภาเคน ภิกฺขุนา สทฺธึ มนฺตยมาโน ตตฺถ อาทีนวํ ทิสฺวา ปุน จชติ, ตสฺส ตํ อธิกรณํ สมถปฺปตฺตํ ภวิสฺสติ. ยทิ เจตนา อธิกรณํ, ‘‘อิทํ อตฺตาทานํ คณฺหามี’’ติ อุปฺปนฺนา เจตนา นิรุชฺฌติ. ยทิ อกฺขนฺติ อธิกรณํ, อกฺขนฺติยา อตฺตาทานํ คเหตฺวาปิ อปรภาเค วินิจฺฉยํ อลภมาโน วา ขมาปิโต วา จชติ. ยทิ โวหาโร อธิกรณํ, กเถนฺโต อาหิณฺฑิตฺวา อปรภาเค ตุณฺหี โหติ นิรโว, เอวมสฺส ตํ อธิกรณํ สมถปฺปตฺตํ ภวิสฺสติ, ตสฺมา ปณฺณตฺติ อธิกรณนฺติ.

ตํ ปเนตํ ‘‘เมถุนธมฺมปาราชิกาปตฺติ เมถุนธมฺมปาราชิกาปตฺติยา ตพฺภาคิยา…เป… เอวํ อาปตฺตาธิกรณํ อาปตฺตาธิกรณสฺส ตพฺภาคิยนฺติ จ วิวาทาธิกรณํ สิยา กุสลํ สิยา อกุสลํ สิยา อพฺยากต’’นฺติ จ เอวมาทีหิ วิรุชฺฌติ. น หิ เต ปณฺณตฺติยา กุสลาทิภาวํ อิจฺฉนฺติ, น จ ‘‘อมูลเกน ปาราชิเกน ธมฺเมนา’’ติ เอตฺถ อาคโต ปาราชิกธมฺโม ปณฺณตฺติ นาม โหติ. กสฺมา? อจฺจนฺตอกุสลตฺตา. วุตฺตมฺปิ เหตํ – ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ สิยา อพฺยากต’’นฺติ (ปริ. ๓๐๓).

ยฺเจตํ ‘‘อมูลเกน ปาราชิเกนา’’ติ เอตฺถ อมูลกํ ปาราชิกํ นิทฺทิฏฺํ, ตสฺเสวายํ ‘‘อมูลกฺเจว ตํ อธิกรณํ โหตี’’ติ ปฏินิทฺเทโส, น ปณฺณตฺติยา น หิ อฺํ นิทฺทิสิตฺวา อฺํ ปฏินิทฺทิสติ. ยสฺมา ปน ยาย ปณฺณตฺติยา เยน อภิลาเปน โจทเกน โส ปุคฺคโล ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนติ ปฺตฺโต, ปาราชิกสงฺขาตสฺส อธิกรณสฺส อมูลกตฺตา สาปิ ปฺตฺติ อมูลิกา โหติ, อธิกรเณ ปวตฺตตฺตา จ อธิกรณํ. ตสฺมา อิมินา ปริยาเยน ปณฺณตฺติ ‘‘อธิกรณ’’นฺติ ยุชฺเชยฺย, ยสฺมา วา ยํ อมูลกํ นาม อธิกรณํ ตํ สภาวโต นตฺถิ, ปฺตฺติมตฺตเมว อตฺถิ. ตสฺมาปิ ปณฺณตฺติ อธิกรณนฺติ ยุชฺเชยฺย. ตฺจ โข อิเธว น สพฺพตฺถ. น หิ วิวาทาทีนํ ปณฺณตฺติ อธิกรณํ. อธิกรณฏฺโ ปน เตสํ ปุพฺเพ วุตฺตสมเถหิ อธิกรณียตา. อิติ อิมินา อธิกรณฏฺเน อิเธกจฺโจ วิวาโท วิวาโท เจว อธิกรณฺจาติ วิวาทาธิกรณํ. เอส นโย เสเสสุ.

ตตฺถ ‘‘อิธ ภิกฺขู วิวทนฺติ ธมฺโมติ วา อธมฺโมติ วา’’ติ เอวํ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ นิสฺสาย อุปฺปนฺโน วิวาโท วิวาทาธิกรณํ. ‘‘อิธ ภิกฺขู ภิกฺขุํ อนุวทนฺติ สีลวิปตฺติยา วา’’ติ เอวํ จตสฺโส วิปตฺติโย นิสฺสาย อุปฺปนฺโน อนุวาโท อนุวาทาธิกรณํ. ‘‘ปฺจปิ อาปตฺติกฺขนฺธา อาปตฺตาธิกรณํ, สตฺตปิ อาปตฺติกฺขนฺธา อาปตฺตาธิกรณ’’นฺติ เอวํ อาปตฺติเยว อาปตฺตาธิกรณํ. ‘‘ยา สงฺฆสฺส กิจฺจยตา กรณียตา อปโลกนกมฺมํ ตฺติกมฺมํ ตฺติทุติยกมฺมํ ตฺติจตุตฺถกมฺม’’นฺติ (จูฬว. ๒๑๕) เอวํ จตุพฺพิธํ สงฺฆกิจฺจํ กิจฺจาธิกรณนฺติ เวทิตพฺพํ.

อิมสฺมึ ปนตฺเถ ปาราชิกาปตฺติสงฺขาตํ อาปตฺตาธิกรณเมว อธิปฺเปตํ. เสสานิ อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตานิ, เอตฺตกา หิ อธิกรณสทฺทสฺส อตฺถา. เตสุ ปาราชิกเมว อิธ อธิปฺเปตํ. ตํ ทิฏฺาทีหิ มูเลหิ อมูลกฺเจว อธิกรณํ โหติ. อยฺจ ภิกฺขุ โทสํ ปติฏฺาติ, ปฏิจฺจ ติฏฺติ ‘‘ตุจฺฉกํ มยา ภณิต’’นฺติอาทีนิ วทนฺโต ปฏิชานาติ. ตสฺส ภิกฺขุโน อนุทฺธํสิตกฺขเณเยว สงฺฆาทิเสโสติ อยํ ตาวสฺส สปทานุกฺกมนิทฺเทสสฺส สิกฺขาปทสฺส อตฺโถ.

๓๘๗. อิทานิ ยานิ ตานิ สงฺเขปโต ทิฏฺาทีนิ โจทนาวตฺถูนิ วุตฺตานิ, เตสํ วเสน วิตฺถารโต อาปตฺตึ โรเปตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อทิฏฺสฺส โหตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อทิฏฺสฺส โหตีติ อทิฏฺโ อสฺส โหติ. เอเตน โจทเกน อทิฏฺโ โหติ, โส ปุคฺคโล ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชนฺโตติ อตฺโถ. เอส นโย อสุตสฺส โหตีติอาทีสุปิ.

ทิฏฺโ มยาติ ทิฏฺโสิ มยาติ วุตฺตํ โหติ. เอส นโย สุโต มยาติอาทีสุปิ. เสสํ อทิฏฺมูลเก อุตฺตานตฺถเมว. ทิฏฺมูลเก ปน ตฺเจ โจเทติ ‘‘สุโต มยา’’ติ เอวํ วุตฺตานํ สุตฺตาทีนํ อาภาเวน อมูลกตฺตํ เวทิตพฺพํ.

สพฺพสฺมึเยว จ อิมสฺมึ โจทกวาเร ยถา อิธาคเตสุ ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนสิ, อสฺสมโณสิ, อสกฺยปุตฺติโยสี’’ติ อิเมสุ วจเนสุ เอเกกสฺส วเสน วาจาย วาจาย สงฺฆาทิเสโส โหติ, เอวํ อฺตฺร อาคเตสุ ‘‘ทุสฺสีโล, ปาปธมฺโม, อสุจิสงฺกสฺสรสมาจาโร, ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโต, อสฺสมโณ สมณปฏิฺโ, อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ, อนฺโตปูติ, อวสฺสุโต, กสมฺพุชาโต’’ติ อิเมสุปิ วจเนสุ เอเกกสฺส วเสน วาจาย วาจาย สงฺฆาทิเสโส โหติเยว.

‘‘นตฺถิ ตยา สทฺธึ อุโปสโถ วา ปวารณา วา สงฺฆกมฺมํ วา’’ติ อิมานิ ปน สุทฺธานิ สีสํ น เอนฺติ, ‘‘ทุสฺสีโลสิ นตฺถิ ตยา สทฺธึ อุโปสโถ วา’’ติ เอวํ ทุสฺสีลาทิปเทสุ ปน ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนสี’’ติอาทิปเทสุ วา เยน เกนจิ สทฺธึ ฆฏิตาเนว สีสํ เอนฺติ, สงฺฆาทิเสสกรานิ โหนฺติ.

มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘น เกวลํ อิธ ปาฬิยํ อนาคตานิ ‘ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม’ติอาทิปทาเนว สีสํ เอนฺติ, ‘โกณฺโสิ มหาสามเณโรสิ, มหาอุปาสโกสิ, เชฏฺพฺพติโกสิ, นิคณฺโสิ, อาชีวโกสิ, ตาปโสสิ, ปริพฺพาชโกสิ, ปณฺฑโกสิ, เถยฺยสํวาสโกสิ, ติตฺถิยปกฺกนฺตโกสิ, ติรจฺฉานคโตสิ, มาตุฆาตโกสิ, ปิตุฆาตโกสิ, อรหนฺตฆาตโกสิ, สงฺฆเภทโกสิ, โลหิตุปฺปาทโกสิ, ภิกฺขุนีทูสโกสิ, อุภโตพฺยฺชนกโอสี’ติ อิมานิปิ สีสํ เอนฺติเยวา’’ติ. มหาปทุมตฺเถโรเยว จ ‘‘ทิฏฺเ เวมติโกติอาทีสุ ยทคฺเคน เวมติโก ตทคฺเคน โน กปฺเปติ, ยทคฺเคน โน กปฺเปติ ตทคฺเคน นสฺสรติ, ยทคฺเคน นสฺสรติ ตทคฺเคน ปมุฏฺโ โหตี’’ติ วทติ.

มหาสุมตฺเถโร ปน เอเกกํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา จตุนฺนมฺปิ ปาเฏกฺกํ นยํ ทสฺเสติ. กถํ? ทิฏฺเ เวมติโกติ อยํ ตาว ทสฺสเน วา เวมติโก โหติ ปุคฺคเล วา, ตตฺถ ‘‘ทิฏฺโ นุโข มยา น ทิฏฺโ’’ติ เอวํ ทสฺสเน เวมติโก โหติ. ‘‘อยํ นุโข มยา ทิฏฺโ อฺโ’’ติ เอวํ ปุคฺคเล เวมติโก โหติ. เอวํ ทสฺสนํ วา โน กปฺเปติ ปุคฺคลํ วา, ทสฺสนํ วา นสฺสรติ ปุคฺคลํ วา, ทสฺสนํ วา ปมุฏฺโ โหติ ปุคฺคลํ วา. เอตฺถ จ เวมติโกติ วิมติชาโต. โน กปฺเปตีติ น สทฺทหติ. นสฺสรตีติ อสาริยมาโน นสฺสรติ. ยทา ปน ตํ ‘‘อสุกสฺมึ นาม ภนฺเต าเน อสุกสฺมึ นาม กาเล’’ติ สาเรนฺติ ตทา สรติ. ปมุฏฺโติ โย เตหิ เตหิ อุปาเยหิ สาริยมาโนปิ นสฺสรติเยวาติ. เอเตเนวุปาเยน โจทาปกวาโรปิ เวทิตพฺโพ, เกวลฺหิ ตตฺถ ‘‘มยา’’ติ ปริหีนํ, เสสํ โจทกวารสทิสเมว.

๓๘๙. ตโต ปรํ อาปตฺติเภทํ อนาปตฺติเภทฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘อสุทฺเธ สุทฺธทิฏฺี’’ติอาทิกํ จตุกฺกํ เปตฺวา เอกเมกํ ปทํ จตูหิ จตูหิ เภเทหิ นิทฺทิฏฺํ, ตํ สพฺพํ ปาฬินเยเนว สกฺกา ชานิตุํ. เกวลํ เหตฺถาธิปฺปายเภโท เวทิตพฺโพ. อยฺหิ อธิปฺปาโย นาม – จาวนาธิปฺปาโย, อกฺโกสาธิปฺปาโย, กมฺมาธิปฺปาโย, วุฏฺานาธิปฺปาโย, อุโปสถปวารณฏฺปนาธิปฺปาโย, อนุวิชฺชนาธิปฺปาโย, ธมฺมกถาธิปฺปาโยติ อเนกวิโธ. ตตฺถ ปุริเมสุ จตูสุ อธิปฺปาเยสุ โอกาสํ อการาเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. โอกาสํ การาเปตฺวาปิ จ สมฺมุขา อมูลเกน ปาราชิเกน อนุทฺธํเสนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส. อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน อนุทฺธํเสนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. อาจารวิปตฺติยา อนุทฺธํเสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. อกฺโกสาธิปฺปาเยน วทนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. อสมฺมุขา ปน สตฺตหิปิ อาปตฺติกฺขนฺเธหิ วทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. อสมฺมุขา เอว สตฺตวิธมฺปิ กมฺมํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว.

กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘วุฏฺานาธิปฺปาเยน ‘ตฺวํ อิมํ นาม อาปตฺตึ อาปนฺโน ตํ ปฏิกโรหี’ติ วทนฺตสฺส โอกาสกิจฺจํ นตฺถี’’ติ วุตฺตํ. สพฺพตฺเถว ปน ‘‘อุโปสถปวารณํ เปนฺตสฺส โอกาสกมฺมํ นตฺถี’’ติ วุตฺตํ. ปนกฺเขตฺตํ ปน ชานิตพฺพํ. ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ อชฺชุโปสโถ ปนฺนรโส ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ สงฺโฆ อุโปสถํ กเรยฺย’’ติ เอตสฺมิฺหิ เร-กาเร อนติกฺกนฺเตเยว เปตุํ ลพฺภติ. ตโต ปรํ ปน ยฺย-กาเร ปตฺเต น ลพฺภติ. เอส นโย ปวารณาย. อนุวิชฺชกสฺสาปิ โอสเฏ วตฺถุสฺมึ ‘‘อตฺเถตํ ตวา’’ติ อนุวิชฺชนาธิปฺปาเยน วทนฺตสฺส โอกาสกมฺมํ นตฺถิ.

ธมฺมกถิกสฺสาปิ ธมฺมาสเน นิสีทิตฺวา ‘‘โย อิทฺจิทฺจ กโรติ, อยํ ภิกฺขุ อสฺสมโณ’’ติอาทินา นเยน อโนทิสฺส ธมฺมํ กเถนฺตสฺส โอกาสกมฺมํ นตฺถิ. สเจ ปน โอทิสฺส นิยเมตฺวา ‘‘อสุโก จ อสุโก จ อสฺสมโณ อนุปาสโก’’ติ กเถติ, ธมฺมาสนโต โอโรหิตฺวา อาปตฺตึ เทเสตฺวา คนฺตพฺพํ. ยํ ปน ตตฺถ ตตฺถ ‘‘อโนกาสํ การาเปตฺวา’’ติ วุตฺตํ ตสฺส โอกาสํ อการาเปตฺวาติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ, น หิ โกจิ อโนกาโส นาม อตฺถิ, ยโมกาสํ การาเปตฺวา อาปตฺตึ อาปชฺชติ, โอกาสํ ปน อการาเปตฺวา อาปชฺชตีติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

สมุฏฺานาทีสุ ติสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต, วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

ปมทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ทุติยทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๙๑. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ ทุติยทุฏฺโทสสิกฺขาปทํ. ตตฺถ หนฺท มยํ อาวุโส อิมํ ฉคลกํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ นาม กโรมาติ เต กิร ปมวตฺถุสฺมึ อตฺตโน มโนรถํ สมฺปาเทตุํ อสกฺโกนฺตา ลทฺธนิคฺคหา วิฆาตปฺปตฺตา ‘‘อิทานิ ชานิสฺสามา’’ติ ตาทิสํ วตฺถุํ ปริเยสมานา วิจรนฺติ. อเถกทิวสํ ทิสฺวา ตุฏฺา อฺมฺํ โอโลเกตฺวา เอวมาหํสุ – ‘‘หนฺท มยํ, อาวุโส, อิมํ ฉคลกํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ นาม กโรมา’’ติ, ‘‘ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต นามาย’’นฺติ เอวมสฺส นามํ กโรมาติ วุตฺตํ โหติ. เอส นโย เมตฺติยํ นาม ภิกฺขุนินฺติ เอตฺถาปิ.

เต ภิกฺขู เมตฺติยภุมชเก ภิกฺขู อนุยุฺชึสูติ เอวํ อนุยุฺชึสุ –‘‘อาวุโส, กุหึ ตุมฺเหหิ ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต เมตฺติยาย ภิกฺขุนิยา สทฺธึ ทิฏฺโ’’ติ? ‘‘คิชฺฌกูฏปพฺพตปาเท’’ติ. ‘‘กาย เวลาย’’ติ? ‘‘ภิกฺขาจารคมนเวลายา’’ติ. อาวุโส ทพฺพ อิเม เอวํ วทนฺติ – ‘‘ตฺวํ ตทา กุหิ’’นฺติ? ‘‘เวฬุวเน ภตฺตานิ อุทฺทิสามี’’ติ. ‘‘ตว ตาย เวลาย เวฬุวเน อตฺถิภาวํ โก ชานาตี’’ติ? ‘‘ภิกฺขุสงฺโฆ, ภนฺเต’’ติ. เต สงฺฆํ ปุจฺฉึสุ – ‘‘ชานาถ ตุมฺเห ตาย เวลาย อิมสฺส เวฬุวเน อตฺถิภาว’’นฺติ. ‘‘อาม, อาวุโส, ชานาม, เถโร สมฺมุติลทฺธทิวสโต ปฏฺาย เวฬุวเนเยวา’’ติ. ตโต เมตฺติยภุมชเก อาหํสุ – ‘‘อาวุโส, ตุมฺหากํ กถา น สเมติ, กจฺจิ โน เลสํ โอฑฺเฑตฺวา วทถา’’ติ. เอวํ เต เตหิ ภิกฺขูหิ อนุยุฺชิยมานา อาม อาวุโสติ วตฺวา เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ.

กึ ปน ตุมฺเห, อาวุโส, อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺสาติ เอตฺถ อฺภาคสฺส อิทํ, อฺภาโค วา อสฺส อตฺถีติ อฺภาคิยํ. อธิกรณนฺติ อาธาโร เวทิตพฺโพ, วตฺถุ อธิฏฺานนฺติ วุตฺตํ โหติ. โย หิ โส ‘‘ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต นามา’’ติ ฉคลโก วุตฺโต, โส ยฺวายํ อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส ภาโค โกฏฺาโส ปกฺโข มนุสฺสชาติ เจว ภิกฺขุภาโว จ ตโต อฺสฺส ภาคสฺส โกฏฺาสสฺส ปกฺขสฺส โหติ ติรจฺฉานชาติยา เจว ฉคลกภาวสฺส จ โส วา อฺภาโค อสฺส อตฺถีติ ตสฺมา อฺภาคิยสงฺขฺยํ ลภติ. ยสฺมา จ เตสํ ‘‘อิมํ มยํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ นาม กโรมา’’ติ วทนฺตานํ ตสฺสา นามกรณสฺาย อาธาโร วตฺถุ อธิฏฺานํ, ตสฺมา อธิกรณนฺติ เวทิตพฺโพ. ตฺหิ สนฺธาย ‘‘เต ภิกฺขู อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺสา’’ติ อาหํสุ, น วิวาทาธิกรณาทีสุ อฺตรํ. กสฺมา? อสมฺภวโต. น หิ เต จตุนฺนํ อธิกรณานํ กสฺสจิ อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺส กฺจิเทสํ เลสมตฺตํ อุปาทิยึสุ. น จ จตุนฺนํ อธิกรณานํ เลโส นาม อตฺถิ. ชาติเลสาทโย หิ ปุคฺคลานํเยว เลสา วุตฺตา, น วิวาทาธิกรณาทีนํ. อิทฺจ ‘‘ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต’’ติ นามํ ตสฺส อฺภาคิยาธิกรณภาเว ิตสฺส ฉคลกสฺส โกจิ เทโส โหติ เถรํ อมูลเกน ปาราชิเกน อนุทฺธํเสตุํ เลสมตฺโต.

เอตฺถ จ ทิสฺสติ อปทิสฺสติ อสฺส อยนฺติ โวหรียตีติ เทโส. ชาติอาทีสุ อฺตรโกฏฺาสสฺเสตํ อธิวจนํ. อฺมฺปิ วตฺถุํ ลิสฺสติ สิลิสฺสติ โวหารมตฺเตเนว อีสกํ อลฺลียตีติ เลโส. ชาติอาทีนํเยว อฺตรโกฏฺาสสฺเสตํ อธิวจนํ. ตโต ปรํ อุตฺตานตฺถเมว. สิกฺขาปทปฺตฺติยมฺปิ อยเมวตฺโถ. ปทภาชเน ปน ยสฺส อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺส กิฺจิเทสํ เลสมตฺตํ อุปาทาย ปาราชิเกน ธมฺเมน อนุทฺธํเสยฺย, ตํ ยสฺมา อฏฺุปฺปตฺติวเสเนว อาวิภูตํ, ตสฺมา น วิภตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๓๙๓. ยานิ ปน อธิกรณนฺติ วจนสามฺโต อตฺถุทฺธารวเสน ปวตฺตานิ จตฺตาริ อธิกรณานิ, เตสํ อฺภาคิยตา จ ตพฺภาคิยตา จ ยสฺมา อปากฏา ชานิตพฺพา จ วินยธเรหิ, ตสฺมา วจนสามฺโต ลทฺธํ อธิกรณํ นิสฺสาย ตํ อาวิกโรนฺโต ‘‘อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺสาติ อาปตฺตฺภาคิยํ วา โหติ อธิกรณฺภาคิยํ วา’’ติอาทิมาห. ยา จ สา อวสาเน อาปตฺตฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺส วเสน โจทนา วุตฺตา, ตมฺปิ ทสฺเสตุํ อยํ สพฺพาธิกรณานํ ตพฺภาคิยอฺภาคิยตา สมาหฏาติ เวทิตพฺพา.

ตตฺถ จ อาปตฺตฺภาคิยํ วาติ ปมํ อุทฺทิฏฺตฺตา ‘‘กถฺจ อาปตฺติ อาปตฺติยา อฺภาคิยา โหตี’’ติ นิทฺเทเส อารภิตพฺเพ ยสฺมา อาปตฺตาธิกรณสฺส ตพฺภาคิยวิจารณายํเยว อยมตฺโถ อาคมิสฺสติ, ตสฺมา เอวํ อนารภิตฺวา ‘‘กถฺจ อธิกรณํ อธิกรณสฺส อฺภาคิย’’นฺติ ปจฺฉิมปทํเยว คเหตฺวา นิทฺเทโส อารทฺโธติ เวทิตพฺโพ.

ตตฺถ อฺภาคิยวาโร อุตฺตานตฺโถเยว. เอกเมกฺหิ อธิกรณํ อิตเรสํ ติณฺณํ ติณฺณํ อฺภาคิยํ อฺปกฺขิยํ อฺโกฏฺาสิยํ โหติ, วตฺถุวิสภาคตฺตา, ตพฺภาคิยวาเร ปน วิวาทาธิกรณํ วิวาทาธิกรณสฺส ตพฺภาคิยํ ตปฺปกฺขิยํ ตํโกฏฺาสิยํ วตฺถุสภาคตฺตา, ตถา อนุวาทาธิกรณํ อนุวาทาธิกรณสฺส. กถํ? พุทฺธกาลโต ปฏฺาย หิ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนวิวาโท จ อิทานิ อุปฺปชฺชนกวิวาโท จ วตฺถุสภาคตาย เอกํ วิวาทาธิกรณเมว โหติ, ตถา พุทฺธกาลโต ปฏฺาย จตสฺโส วิปตฺติโย นิสฺสาย อุปฺปนฺนอนุวาโท จ อิทานิ อุปฺปชฺชนกอนุวาโท จ วตฺถุสภาคตาย เอกํ อนุวาทาธิกรณเมว โหติ. ยสฺมา ปน อาปตฺตาธิกรณํ อาปตฺตาธิกรณสฺส สภาควิสภาควตฺถุโต สภาคสริกฺขาสริกฺขโต จ เอกํเสน ตพฺภาคิยํ น โหติ, ตสฺมา อาปตฺตาธิกรณํ อาปตฺตาธิกรณสฺส สิยา ตพฺภาคิยํ สิยา อฺภาคิยนฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ อาทิโต ปฏฺาย อฺภาคิยสฺส ปมํ นิทฺทิฏฺตฺตา อิธาปิ อฺภาคิยเมว ปมํ นิทฺทิฏฺํ, ตตฺถ อฺภาคิยตฺตฺจ ปรโต ตพฺภาคิยตฺตฺจ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

กิจฺจาธิกรณํ กิจฺจาธิกรณสฺส ตพฺภาคิยนฺติ เอตฺถ ปน พุทฺธกาลโต ปฏฺาย จตฺตาริ สงฺฆกมฺมานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ อธิกรณฺจ อิทานิ จตฺตาริ สงฺฆกมฺมานิ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกํ อธิกรณฺจ สภาคตาย สริกฺขตาย จ เอกํ กิจฺจาธิกรณเมว โหติ. กึ ปน สงฺฆกมฺมานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ อธิกรณํ กิจฺจาธิกรณํ, อุทาหุ สงฺฆกมฺมานเมเวตํ อธิวจนนฺติ? สงฺฆกมฺมานเมเวตํ อธิวจนํ. เอวํ สนฺเตปิ สงฺฆกมฺมํ นาม ‘‘อิทฺจิทฺจ เอวํ กตฺตพฺพ’’นฺติ ยํ กมฺมลกฺขณํ มนสิกโรติ ตํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโต ปุริมํ ปุริมํ สงฺฆกมฺมํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโต จ สงฺฆกมฺมานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ อธิกรณํ กิจฺจาธิกรณนฺติ วุตฺตํ.

๓๙๔. กิฺจิ เทสํ เลสมตฺตํ อุปาทายาติ เอตฺถ ปน ยสฺมา เทโสติ วา เลสมตฺโตติ วา ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว พฺยฺชนโต นานํ อตฺถโต เอกํ, ตสฺมา ‘‘เลโส นาม ทส เลสา ชาติเลโส นามเลโส’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ชาติเยว ชาติเลโส. เอส นโย เสเสสุ.

๓๙๕. อิทานิ ตเมว เลสํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ยถา ตํ อุปาทาย อนุทฺธํสนา โหติ ตถา สวตฺถุกํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ชาติเลโส นาม ขตฺติโย ทิฏฺโ โหตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ขตฺติโย ทิฏฺโ โหตีติ อฺโ โกจิ ขตฺติยชาติโย อิมินา โจทเกน ทิฏฺโ โหติ. ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชนฺโตติ เมถุนธมฺมาทีสุ อฺตรํ อาปชฺชนฺโต. อฺํ ขตฺติยํ ปสฺสิตฺวา โจเทตีติ อถ โส อฺํ อตฺตโน เวรึ ขตฺติยชาติยํ ภิกฺขุํ ปสฺสิตฺวา ตํ ขตฺติยชาติเลสํ คเหตฺวา เอวํ โจเทติ ‘‘ขตฺติโย มยา ทิฏฺโ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชนฺโต, ตฺวํ ขตฺติโย, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนสี’’ อถ วา ‘‘ตฺวํ โส ขตฺติโย, น อฺโ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนสิ, อสฺสมโณสิ อสกฺยปุตฺติโยสิ นตฺถิ ตยา สทฺธึ อุโปสโถ วา ปวารณา วา สงฺฆกมฺมํ วา’’ติ, อาปตฺติ วาจาย วาจาย สงฺฆาทิเสสสฺส. เอตฺถ จ เตสํ ขตฺติยานํ อฺมฺํ อสทิสสฺส ตสฺส ตสฺส ทีฆาทิโน วา ทิฏฺาทิโน วา วเสน อฺภาคิยตา ขตฺติยชาติปฺตฺติยา อาธารวเสน อธิกรณตา จ เวทิตพฺพา, เอเตนุปาเยน สพฺพปเทสุ โยชนา เวทิตพฺพา.

๔๐๐. ปตฺตเลสนิทฺเทเส จ สาฏกปตฺโตติ โลหปตฺตสทิโส สุสณฺาโน สุจฺฉวิ สินิทฺโธ ภมรวณฺโณ มตฺติกาปตฺโต วุจฺจติ. สุมฺภกปตฺโตติ ปกติมตฺติกาปตฺโต.

๔๐๖. ยสฺมา ปน อาปตฺติเลสสฺส เอกปเทเนว สงฺเขปโต นิทฺเทโส วุตฺโต, ตสฺมา วิตฺถารโตปิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสํ อชฺฌาปชฺชนฺโต ทิฏฺโ โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. กสฺมา ปนสฺส ตตฺเถว นิทฺเทสํ อวตฺวา อิธ วิสุํ วุตฺโตติ? เสสนิทฺเทเสหิ อสภาคตฺตา. เสสนิทฺเทสา หิ อฺํ ทิสฺวา อฺสฺส โจทนาวเสน วุตฺตา. อยํ ปน เอกเมว อฺํ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺตํ ทิสฺวา อฺาย อาปตฺติยา โจทนาวเสน วุตฺโต. ยทิ เอวํ กถํ อฺภาคิยํ อธิกรณํ โหตีติ? อาปตฺติยา. เตเนว วุตฺตํ – ‘‘เอวมฺปิ อาปตฺตฺภาคิยฺจ โหติ เลโส จ อุปาทินฺโน’’ติ. ยฺหิ โส สงฺฆาทิเสสํ อาปนฺโน ตํ ปาราชิกสฺส อฺภาคิยํ อธิกรณํ. ตสฺส ปน อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺส เลโส นาม โย โส สพฺพขตฺติยานํ สาธารโณ ขตฺติยภาโว วิย สพฺพาปตฺตีนํ สาธารโณ อาปตฺติภาโว. เอเตนุปาเยน เสสาปตฺติมูลกนโย โจทาปกวาโร จ เวทิตพฺโพ.

๔๐๘. อนาปตฺติ ตถาสฺี โจเทติ วา โจทาเปติ วาติ ‘‘ปาราชิกํเยว อยํ อาปนฺโน’’ติ โย เอวํ ตถาสฺี โจเทติ วา โจทาเปติ วา ตสฺส อนาปตฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิปิ ปมทุฏฺโทสสทิสาเนวาติ.

ทุติยทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ปมสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๐๙. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ สงฺฆเภทสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อถ โข เทวทตฺโตติอาทีสุ โย จ เทวทตฺโต, ยถา จ ปพฺพชิโต, เยน จ การเณน โกกาลิกาทโย อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘เอถ มยํ อาวุโส สมณสฺส โคตมสฺส สงฺฆเภทํ กริสฺสาม จกฺกเภท’’นฺติ อาห. ตํ สพฺพํ สงฺฆเภทกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๔๓) อาคตเมว. ปฺจวตฺถุยาจนา ปน กิฺจาปิ ตตฺเถว อาคมิสฺสติ. อถ โข อิธาปิ อาคตตฺตา ยเทตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ วตฺวาว คมิสฺสาม.

สาธุ ภนฺเตติ อายาจนา. ภิกฺขู ยาวชีวํ อารฺิกา อสฺสูติ อารฺิกธุตงฺคํ สมาทาย สพฺเพปิ ภิกฺขู ยาว ชีวนฺติ ตาว อารฺิกา โหนฺตุ, อรฺเเยว วสนฺตุ. โย คามนฺตํ โอสเรยฺย วชฺชํ นํ ผุเสยฺยาติ โย เอกภิกฺขุปิ อรฺํ ปหาย นิวาสตฺถาย คามนฺตํ โอสเรยฺย, วชฺชํ ตํ ผุเสยฺย นํ ภิกฺขุํ โทโส ผุสตุ, อาปตฺติยา นํ ภควา กาเรตู’’ติ อธิปฺปาเยน วทติ. เอส นโย เสสวตฺถูสุปิ.

๔๑๐. ชนํ สฺาเปสฺสามาติ ชนํ อมฺหากํ อปฺปิจฺฉตาทิภาวํ ชานาเปสฺสาม, อถ วา ปริโตเสสฺสาม ปสาเทสฺสามาติ วุตฺตํ โหติ.

อิมานิ ปน ปฺจ วตฺถูนิ ยาจโต เทวทตฺตสฺส วจนํ สุตฺวาว อฺาสิ ภควา ‘‘สงฺฆเภทตฺถิโก หุตฺวา อยํ ยาจตี’’ติ. ยสฺมา ปน ตานิ อนุชานิยมานานิ พหูนํ กุลปุตฺตานํ มคฺคนฺตรายาย สํวตฺตนฺติ, ตสฺมา ภควา ‘‘อลํ เทวทตฺตา’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘โย อิจฺฉติ อารฺิโก โหตู’’ติอาทิมาห.

เอตฺถ ปน ภควโต อธิปฺปายํ วิทิตฺวา กุลปุตฺเตน อตฺตโน ปติรูปํ เวทิตพฺพํ. อยฺเหตฺถ ภควโต อธิปฺปาโย – ‘‘เอโก ภิกฺขุ มหชฺฌาสโย โหติ มหุสฺสาโห, สกฺโกติ คามนฺตเสนาสนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อรฺเ วิหรนฺโต ทุกฺขสฺสนฺตํ กาตุํ. เอโก ทุพฺพโล โหติ อปฺปถาโม อรฺเ น สกฺโกติ, คามนฺเตเยว สกฺโกติ. เอโก มหพฺพโล สมปฺปวตฺตธาตุโก อธิวาสนขนฺติสมฺปนฺโน อิฏฺานิฏฺเสุ สมจิตฺโต อรฺเปิ คามนฺเตปิ สกฺโกติเยว. เอโก เนว คามนฺเต น อรฺเ สกฺโกติ ปทปรโม โหติ.

ตตฺร ยฺวายํ มหชฺฌาสโย โหติ มหุสฺสาโห, สกฺโกติ คามนฺตเสนาสนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อรฺเ วิหรนฺโต ทุกฺขสฺสนฺตํ กาตุํ, โส อรฺเเยว วสตุ, อิทมสฺส ปติรูปํ. สทฺธิวิหาริกาทโยปิ จสฺส อนุสิกฺขมานา อรฺเ วิหาตพฺพเมว มฺิสฺสนฺติ.

โย ปน ทุพฺพโล โหติ อปฺปถาโม คามนฺเตเยว สกฺโกติ ทุกฺขสฺสนฺตํ กาตุํ, น อรฺเ โส คามนฺเตเยว วสตุ, ยฺวายํ มหพฺพโล สมปฺปวตฺตธาตุโก อธิวาสนขนฺติสมฺปนฺโน อิฏฺานิฏฺเสุ สมจิตฺโต อรฺเปิ คามนฺเตปิ สกฺโกติเยว, อยมฺปิ คามนฺตเสนาสนํ ปหาย อรฺเ วิหรตุ, อิทมสฺส ปติรูปํ สทฺธิวิหาริกาปิ หิสฺส อนุสิกฺขมานา อรฺเ วิหาตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ.

โย ปนายํ เนว คามนฺเต น อรฺเ สกฺโกติ ปทปรโม โหติ. อยมฺปิ อรฺเเยว วสตุ. อยํ หิสฺส ธุตงฺคเสวนา กมฺมฏฺานภาวนา จ อายตึ มคฺคผลานํ อุปนิสฺสโย ภวิสฺสติ. สทฺธิวิหาริกาทโย จสฺส อนุสิกฺขมานา อรฺเ วิหาตพฺพํ มฺิสฺสนฺตีติ.

เอวํ ยฺวายํ ทุพฺพโล โหติ อปฺปถาโม คามนฺเตเยว วิหรนฺโต สกฺโกติ ทุกฺขสฺสนฺตํ กาตุํ น อรฺเ, อิมํ ปุคฺคลํ สนฺธาย ภควา ‘‘โย อิจฺฉติ คามนฺเต วิหรตู’’ติ อาห. อิมินา จ ปุคฺคเลน อฺเสมฺปิ ทฺวารํ ทินฺนํ.

ยทิ ปน ภควา เทวทตฺตสฺส วาทํ สมฺปฏิจฺเฉยฺย, ยฺวายํ ปุคฺคโล ปกติยา ทุพฺพโล โหติ อปฺปถาโม, โยปิ ทหรกาเล อรฺวาสํ อภิสมฺภุณิตฺวา ชิณฺณกาเล วา วาตปิตฺตาทีหิ สมุปฺปนฺนธาตุกฺโขภกาเล วา นาภิสมฺภุณาติ, คามนฺเตเยว ปน วิหรนฺโต สกฺโกติ ทุกฺขสฺสนฺตํ กาตุํ, เตสํ อริยมคฺคุปจฺเฉโท ภเวยฺย, อรหตฺตผลาธิคโม น ภเวยฺย, อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ วิโลมํ อนิยฺยานิกํ สตฺถุ สาสนํ ภเวยฺย, สตฺถา จ เตสํ อสพฺพฺู อสฺส ‘‘สกวาทํ ฉฑฺเฑตฺวา เทวทตฺตวาเท ปติฏฺิโต’’ติ คารยฺโห จ ภเวยฺย. ตสฺมา ภควา เอวรูเป ปุคฺคเล สงฺคณฺหนฺโต เทวทตฺตสฺส วาทํ ปฏิกฺขิปิ. เอเตเนวูปาเยน ปิณฺฑปาติกวตฺถุสฺมิมฺปิ ปํสุกูลิกวตฺถุสฺมิมฺปิ อฏฺ มาเส รุกฺขมูลิกวตฺถุสฺมิมฺปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. จตฺตาโร ปน มาเส รุกฺขมูลเสนาสนํ ปฏิกฺขิตฺตเมว.

มจฺฉมํสวตฺถุสฺมึ ติโกฏิปริสุทฺธนฺติ ตีหิ โกฏีหิ ปริสุทฺธํ, ทิฏฺาทีหิ อปริสุทฺธีหิ วิรหิตนฺติ อตฺโถ. เตเนวาห – ‘‘อทิฏฺํ, อสุตํ, อปริสงฺกิต’’นฺติ. ตตฺถ ‘‘อทิฏฺํ’’ นาม ภิกฺขูนํ อตฺถาย มิคมจฺเฉ วธิตฺวา คยฺหมานํ อทิฏฺํ. ‘‘อสุตํ’’ นาม ภิกฺขูนํ อตฺถาย มิคมจฺเฉ วธิตฺวา คหิตนฺติ อสุตํ. ‘‘อปริสงฺกิตํ’’ ปน ทิฏฺปริสงฺกิตํ สุตปริสงฺกิตํ ตทุภยวิมุตฺตปริสงฺกิตฺจ ตฺวา ตพฺพิปกฺขโต ชานิตพฺพํ. กถํ? อิธ ภิกฺขู ปสฺสนฺติ มนุสฺเส ชาลวาคุราทิหตฺเถ คามโต ว นิกฺขมนฺเต อรฺเ วา วิจรนฺเต, ทุติยทิวเส จ เนสํ ตํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ สมจฺฉมํสํ ปิณฺฑปาตํ อภิหรนฺติ. เต เตน ทิฏฺเน ปริสงฺกนฺติ ‘‘ภิกฺขูนํ นุโข อตฺถาย กต’’นฺติ อิทํ ทิฏฺปริสงฺกิตํ, นาม เอตํ คเหตุํ น วฏฺฏติ. ยํ เอวํ อปริสงฺกิตํ ตํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เต มนุสฺสา ‘‘กสฺมา ภนฺเต น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘นยิทํ ภนฺเต ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตํ, อมฺเหหิ อตฺตโน อตฺถาย วา ราชยุตฺตาทีนํ อตฺถาย วา กต’’นฺติ วทนฺติ กปฺปติ.

นเหว โข ภิกฺขู ปสฺสนฺติ; อปิจ สุณนฺติ, มนุสฺสา กิร ชาลวาคุราทิหตฺถา คามโต วา นิกฺขมนฺติ, อรฺเ วา วิจรนฺตี’’ติ. ทุติยทิวเส จ เนสํ ตํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ ‘‘ภิกฺขูนํ นุโข อตฺถาย กต’’นฺติ อิทํ ‘‘สุตปริสงฺกิตํ’’ นาม. เอตํ คเหตุํ น วฏฺฏติ, ยํ เอวํ อปริสงฺกิตํ ตํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เต มนุสฺสา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘นยิทํ, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตํ, อมฺเหหิ อตฺตโน อตฺถาย วา ราชยุตฺตาทีนํ อตฺถาย วา กต’’นฺติ วทนฺติ กปฺปติ.

นเหว โข ปน ภิกฺขู ปสฺสนฺติ, น สุณนฺติ; อปิจ โข เตสํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ ปตฺตํ คเหตฺวา สมจฺฉมํสํ ปิณฺฑปาตํ อภิสงฺขริตฺวา อภิหรนฺติ, เต ปริสงฺกนฺติ ‘‘ภิกฺขูนํ นุโข อตฺถาย กต’’นฺติ อิทํ ‘‘ตทุภยวิมุตฺตปริสงฺกิตํ’’ นาม. เอตํ คเหตุํ น วฏฺฏติ. ยํ เอวํ อปริสงฺกิตํ ตํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เต มนุสฺสา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘นยิทํ, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตํ อมฺเหหิ อตฺตโน อตฺถาย วา ราชยุตฺตาทีนํ อตฺถาย วา กตํ ปวตฺตมํสํ วา กปฺปิยเมว ลภิตฺวา ภิกฺขูนํ อตฺถาย สมฺปาทิต’’นฺติ วทนฺติ กปฺปติ. มตานํ เปตกิจฺจตฺถาย มงฺคลาทีนํ วา อตฺถาย กเตปิ เอเสว นโย. ยํ ยฺหิ ภิกฺขูนํเยว อตฺถาย อกตํ, ยตฺถ จ นิพฺเพมติโก โหติ, ตํ สพฺพํ กปฺปติ.

สเจ ปน เอกสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู อุทฺทิสฺส กตํ โหติ, เต จ อตฺตโน อตฺถาย กตภาวํ น ชานนฺติ, อฺเ ชานนฺติ. เย ชานนฺติ, เตสํ น วฏฺฏติ, อิตเรสํ วฏฺฏติ. อฺเ น ชานนฺติ, เตเยว ชานนฺติ, เตสํเยว น วฏฺฏติ, อฺเสํ วฏฺฏติ. เตปิ อมฺหากํ อตฺถาย กตนฺติ ชานนฺติ, อฺเปิ เอเตสํ อตฺถาย กตนฺติ ชานนฺติ, สพฺเพสมฺปิ น วฏฺฏติ, สพฺเพ น ชานนฺติ, สพฺเพสมฺปิ วฏฺฏติ. ปฺจสุ หิ สหธมฺมิเกสุ ยสฺส วา ตสฺส วา อตฺถาย อุทฺทิสฺส กตํ, สพฺเพสํ น กปฺปติ.

สเจ ปน โกจิ เอกํ ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส ปาณํ วธิตฺวา ตสฺส ปตฺตํ ปูเรตฺวา เทติ, โส จ อตฺตโน อตฺถาย กตภาวํ ชานํเยว คเหตฺวา อฺสฺส ภิกฺขุโน เทติ, โส ตสฺส สทฺธาย ปริภุฺชติ, กสฺส อาปตฺตีติ? ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺติ. ยฺหิ อุทฺทิสฺส กตํ ตสฺส อภุตฺตตาย อนาปตฺติ, อิตรสฺส อชานนตาย. กปฺปิยมํสสฺส หิ ปฏิคฺคหเณ อาปตฺติ นตฺถิ. อุทฺทิสฺส กตฺจ อชานิตฺวา ภุตฺตสฺส ปจฺฉา ตฺวา อาปตฺติเทสนากิจฺจํ นาม นตฺถิ, อกปฺปิยมํสํ ปน อชานิตฺวา ภุตฺเตน ปจฺฉา ตฺวาปิ อาปตฺติ เทเสตพฺพา, อุทฺทิสฺส กตฺหิ ตฺวา ภุฺชโตว อาปตฺติ. อกปฺปิยมํสํ อชานิตฺวา ภุฺชนฺตสฺสาปิ อาปตฺติเยว. ตสฺมา อาปตฺติภีรุเกน รูปํ สลฺลกฺเขนฺเตนปิ ปุจฺฉิตฺวาว มํสํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ. ปริโภคกาเล ปุจฺฉิตฺวา ปริภุฺชิสฺสามีติ วา คเหตฺวา ปุจฺฉิตฺวาว ปริภุฺชิตพฺพํ. กสฺมา? ทุวิฺเยฺยตฺตา. อจฺฉมํสํ หิ สูกรมํสสทิสํ โหติ, ทีปิมํสาทีนิปิ มิคมํสาทิสทิสานิ, ตสฺมา ปุจฺฉิตฺวา คหณเมว วตฺตนฺติ วทนฺติ.

หฏฺโ อุทคฺโคติ ตุฏฺโ เจว อุนฺนตกายจิตฺโต จ หุตฺวา. โส กิร ‘‘น ภควา อิมานิ ปฺจ วตฺถูนิ อนุชานาติ, อิทานิ สกฺขิสฺสามิ สงฺฆเภทํ กาตุ’’นฺติ โกกาลิกสฺส อิงฺคิตาการํ ทสฺเสตฺวา ยถา วิสํ วา ขาทิตฺวา รชฺชุยา วา อุพฺพนฺธิตฺวา สตฺถํ วา อาหริตฺวา มริตุกาโม ปุริโส วิสาทีสุ อฺตรํ ลภิตฺวา ตปฺปจฺจยา อาสนฺนมฺปิ มรณทุกฺขํ อชานนฺโต หฏฺโ อุทคฺโค โหติ; เอวเมว สงฺฆเภทปจฺจยา อาสนฺนมฺปิ อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺติตฺวา ปฏิสํเวทนียํ ทุกฺขํ อชานนฺโต ‘‘ลทฺโธ ทานิ เม สงฺฆเภทสฺส อุปาโย’’ติ หฏฺโ อุทคฺโค สปริโส อุฏฺายาสนา เตเนว หฏฺภาเวน ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.

เต มยํ อิเมหิ ปฺจหิ วตฺถูหิ สมาทาย วตฺตามาติ เอตฺถ ปน ‘‘อิมานิ ปฺจ วตฺถูนี’’ติ วตฺตพฺเพปิ เต มยํ อิเมหิ ปฺจหิ วตฺถูหิ ชนํ สฺาเปสฺสามาติ อภิณฺหํ ปริวิตกฺกวเสน วิภตฺติวิปลฺลาสํ อสลฺลกฺเขตฺวา อภิณฺหํ ปริวิตกฺกานุรูปเมว ‘‘เต มยํ อิเมหิ ปฺจหิ วตฺถูหี’’ติ อาห, ยถา ตํ วิกฺขิตฺตจิตฺโต.

ธุตา สลฺเลขวุตฺติโนติ ยา ปฏิปทา กิเลเส ธุนาติ, ตาย สมนฺนาคตตฺตา ธุตา. ยา จ กิเลเส สลฺลิขติ, สา เอเตสํ วุตฺตีติ สลฺเลขวุตฺติโน.

พาหุลิโกติ จีวราทีนํ ปจฺจยานํ พหุลภาโว พาหุลฺลํ, ตํ พาหุลฺลมสฺส อตฺถิ, ตสฺมึ วา พาหุลฺเล นิยุตฺโต ิโตติ พาหุลิโก. พาหุลฺลาย เจเตตีติ พาหุลตฺตาย เจเตติ กปฺเปติ ปกปฺเปติ. กถฺหิ นาม มยฺหฺจ สาวกานฺจ จีวราทีนํ ปจฺจยานํ พหุลภาโว ภเวยฺยาติ เอวํ อุสฺสุกฺกมาปนฺโนติ อธิปฺปาโย. จกฺกเภทายาติ อาณาเภทาย.

ธมฺมึ กถํ กตฺวาติ ขนฺธเก วุตฺตนเยน ‘‘อลํ, เทวทตฺต, มา เต รุจฺจิ สงฺฆเภโท. ครุโก โข, เทวทตฺต, สงฺฆเภโท. โย โข, เทวทตฺต, สมคฺคํ สงฺฆํ ภินฺทติ, กปฺปฏฺิกํ กิพฺพิสํ ปสวติ, กปฺปํ นิรยมฺหิ ปจฺจติ, โย จ โข, เทวทตฺต, ภินฺนํ สงฺฆํ สมคฺคํ กโรติ, พฺรหฺมํ ปุฺํ ปสวติ, กปฺปํ สคฺคมฺหิ โมทตี’’ติ (จูฬว. ๓๔๓) เอวมาทิกํ อเนกปฺปการํ เทวทตฺตสฺส จ ภิกฺขูนฺจ ตทนุจฺฉวิกํ ตทนุโลมิกํ ธมฺมึ กถํ กตฺวา.

๔๑๑. สมคฺคสฺสาติ สหิตสฺส จิตฺเตน จ สรีเรน จ อวิยุตฺตสฺสาติ อตฺโถ. ปทภาชเนปิ หิ อยเมว อตฺโถ ทสฺสิโต. สมานสํวาสโกติ หิ วทตา จิตฺเตน อวิโยโค ทสฺสิโต โหติ. สมานสีมายํ ิโตติ วทตา สรีเรน. กถํ? สมานสํวาสโก หิ ลทฺธินานาสํวาสเกน วา กมฺมนานาสํวาสเกน วา วิรหิโต สมจิตฺตตาย จิตฺเตน อวิยุตฺโต โหติ. สมานสีมายํ ิโต กายสามคฺคิทานโต สรีเรน อวิยุตฺโต.

เภทนสํวตฺตนิกํ วา อธิกรณนฺติ เภทนสฺส สงฺฆเภทสฺส อตฺถาย สํวตฺตนิกํ การณํ. อิมสฺมิฺหิ โอกาเส ‘‘กามเหตุ กามนิทานํ กามาธิกรณ’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๖๘) วิย การณํ อธิกรณนฺติ อธิปฺเปตํ. ตฺจ ยสฺมา อฏฺารสวิธํ โหติ, ตสฺมา ปทภาชเน ‘‘อฏฺารส เภทกรวตฺถูนี’’ติ วุตฺตํ. ตานิ ปน ‘‘อิธูปาลิ, ภิกฺขุ อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปตี’’ติอาทินา (จูฬว. ๓๕๒) นเยน ขนฺธเก อาคตานิ, ตสฺมา ตตฺเรว เนสํ อตฺถํ วณฺณยิสฺสาม. โยปิ จายํ อิมานิ วตฺถูนิ นิสฺสาย อปเรหิปิ กมฺเมน, อุทฺเทเสน, โวหาเรน, อนุสาวนาย, สลากคฺคาเหนาติ ปฺจหิ การเณหิ สงฺฆเภโท โหติ, ตมฺปิ อาคตฏฺาเนเยว ปกาสยิสฺสาม. สงฺเขปโต ปน เภทนสํวตฺตนิกํ วา อธิกรณํ สมาทายาติ เอตฺถ สงฺฆเภทสฺส อตฺถาย สํวตฺตนิกํ สงฺฆเภทนิปฺผตฺติสมตฺถํ การณํ คเหตฺวาติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปคฺคยฺหาติ ปคฺคหิตํ อพฺภุสฺสิตํ ปากฏํ กตฺวา. ติฏฺเยฺยาติ ยถาสมาทินฺนํ ยถาปคฺคหิตเมว จ กตฺวา อจฺเฉยฺย. ยสฺมา ปน เอวํ ปคฺคณฺหตา ติฏฺตา จ ตํ ทีปิตฺเจว อปฺปฏินิสฺสฏฺฺจ โหติ, ตสฺมา ปทภาชเน ‘‘ทีเปยฺยา’’ติ จ ‘‘นปฺปฏินิสฺสชฺเชยฺยา’’ติ จ วุตฺตํ.

ภิกฺขูหิ เอวมสฺส วจนีโยติ อฺเหิ ลชฺชีหิ ภิกฺขูหิ เอวํ วตฺตพฺโพ ภเวยฺย. ปทภาชเน จสฺส เย ปสฺสนฺตีติ เย สมฺมุขา ปคฺคยฺห ติฏฺนฺตํ ปสฺสนฺติ. เย สุณนฺตีติ เยปิ ‘‘อสุกสฺมึ นาม วิหาเร ภิกฺขู เภทนสํวตฺตนิกํ อธิกรณํ สมาทาย ปคฺคยฺห ติฏฺนฺตี’’ติ สุณนฺติ.

สเมตายสฺมา สงฺเฆนาติ อายสฺมา สงฺเฆน สทฺธึ สเมตุ สมาคจฺฉตุ เอกลทฺธิโก โหตูติ อตฺโถ. กึ การณา? สมคฺโค หิ สงฺโฆ สมฺโมทมาโน อวิวทมาโน เอกุทฺเทโส ผาสุ วิหรตีติ.

ตตฺถ สมฺโมทมาโนติ อฺมฺํ สมฺปตฺติยา สฏฺุ โมทมาโน. อวิวทมาโนติ ‘‘อยํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม’’ติ เอวํ น วิวทมาโน. เอโก อุทฺเทโส อสฺสาติ เอกุทฺเทโส, เอกโต ปวตฺตปาติโมกฺขุทฺเทโส, น วิสุนฺติ อตฺโถ. ผาสุ วิหรตีติ สุขํ วิหรติ.

อิจฺเจตํ กุสลนฺติ เอตํ ปฏินิสฺสชฺชนํ กุสลํ เขมํ โสตฺถิภาโว ตสฺส ภิกฺขุโน. โน เจ ปฏินิสฺสชฺชติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ ติกฺขตฺตุํ วุตฺตสฺส อปฺปฏินิสฺสชฺชโต ทุกฺกฏํ. สุตฺวา น วทนฺติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เย สุตฺวา น วทนฺติ, เตสมฺปิ ทุกฺกฏํ. กีวทูเร สุตฺวา อวทนฺตานํ ทุกฺกฏํ? เอกวิหาเร ตาว วตฺตพฺพํ นตฺถิ. อฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ ‘‘สมนฺตา อทฺธโยชเน ภิกฺขูนํ ภาโร. ทูตํ วา ปณฺณํ วา เปเสตฺวา วทโตปิ อาปตฺติโมกฺโข นตฺถิ. สยเมว คนฺตฺวา ‘ครุโก โข, อาวุโส, สงฺฆเภโท, มา สงฺฆเภทาย, ปรกฺกมี’ติ นิวาเรตพฺโพ’’ติ. ปโหนฺเตน ปน ทูรมฺปิ คนฺตพฺพํ อคิลานานฺหิ ทูเรปิ ภาโรเยว.

อิทานิ ‘‘เอวฺจ โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ วุจฺจมาโน’’ติอาทีสุ อตฺถมตฺตเมว ทสฺเสตุํ ‘‘โส ภิกฺขุ สงฺฆมชฺฌมฺปิ อากฑฺฒิตฺวา วตฺตพฺโพ’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สงฺฆมชฺฌมฺปิ อากฑฺฒิตฺวาติ สเจ ปุริมนเยน วุจฺจมาโน น ปฏินิสฺสชฺชติ หตฺเถสุ จ ปาเทสุ จ คเหตฺวาปิ สงฺฆมชฺฌํ อากฑฺฒิตฺวา ปุนปิ ‘‘มา อายสฺมา’’ติอาทินา นเยน ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺโพ.

ยาวตติยํ สมนุภาสิตพฺโพติ ยาว ตติยํ สมนุภาสนํ ตาว สมนุภาสิตพฺโพ. ตีหิ สมนุภาสนกมฺมวาจาหิ กมฺมํ กาตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปทภาชเน ปนสฺส อตฺถเมว คเหตฺวา สมนุภาสนวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘โส ภิกฺขุ สมนุภาสิตพฺโพ. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, สมนุภาสิตพฺโพ’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๔๑๔. ตตฺถ ตฺติยา ทุกฺกฏํ ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจยา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ ยฺจ ตฺติปริโยสาเน ทุกฺกฏํ อาปนฺโน, เย จ ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจเย, ตา ติสฺโสปิ อาปตฺติโย ‘‘ยสฺส นกฺขมติ โส ภาเสยฺยา’’ติ เอวํ ยฺย-การปฺปตฺตมตฺตาย ตติยกมฺมวาจาย ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ สงฺฆาทิเสโสเยว ติฏฺติ. กึ ปน อาปนฺนาปตฺติโย ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ อนาปนฺนาติ? มหาสุมตฺเถโร ตาว วทติ ‘‘โย อวสาเน ปฏินิสฺสชฺชิสฺสติ, โส ตา อาปตฺติโย น อาปชฺชติ, ตสฺมา อนาปนฺนา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตี’’ติ. มหาปทุมตฺเถโร ปน ลิงฺคปริวตฺเตน อสาธารณาปตฺติโย วิย อาปนฺนา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, อนาปนฺนานํ กึ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา’’ติ อาห.

๔๑๕. ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺีติ ตฺเจ สมนุภาสนกมฺมํ ธมฺมกมฺมํ โหติ, ตสฺมึ ธมฺมกมฺมสฺีติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อิธ สฺา น รกฺขติ, กมฺมสฺส ธมฺมิกตฺตา เอว อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺโต อาปชฺชติ.

๔๑๖. อสมนุภาสนฺตสฺสาติ อสมนุภาสิยมานสฺส อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺสาปิ สงฺฆาทิเสเสน อนาปตฺติ.

ปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺสาติ ตฺติโต ปุพฺเพ วา ตฺติกฺขเณ วา ตฺติปริโยสาเน วา ปมาย วา อนุสาวนาย ทุติยาย วา ตติยาย วา ยาว ยฺย-การํ น สมฺปาปุณาติ, ตาว ปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺส สงฺฆาทิเสเสน อนาปตฺติ.

อาทิกมฺมิกสฺสาติ. เอตฺถ ปน ‘‘เทวทตฺโต สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส เภทาย ปรกฺกมิ, ตสฺมึ วตฺถุสฺมิ’’นฺติ ปริวาเร (ปริ. ๑๗) อาคตตฺตา เทวทตฺโต อาทิกมฺมิโก. โส จ โข สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนสฺเสว, น อปฺปฏินิสฺสชฺชนสฺส. น หิ ตสฺส ตํ กมฺมํ กตํ. กถมิทํ ชานิตพฺพนฺติ เจ? สุตฺตโต. ยถา หิ ‘‘อริฏฺโ ภิกฺขุ คทฺธพาธิปุพฺโพ ยาวตติยํ สมนุภาสนาย น ปฏินิสฺสชฺชิ, ตสฺมึ วตฺถุสฺมิ’’นฺติ ปริวาเร (ปริ. ๑๒๑) อาคตตฺตา อริฏฺสฺส กมฺมํ กตนฺติ ปฺายติ, น ตถา เทวทตฺตสฺส. อถาปิสฺส กเตน ภวิตพฺพนฺติ โกจิ อตฺตโน รุจิมตฺเตน วเทยฺย, ตถาปิ อปฺปฏินิสฺสชฺชเน อาทิกมฺมิกสฺส อนาปตฺติ นาม นตฺถิ. น หิ ปฺตฺตํ สิกฺขาปทํ วีติกฺกมนฺตสฺส อฺตฺร อุทฺทิสฺส อนุฺาตโต อนาปตฺติ นาม ทิสฺสติ. ยมฺปิ อริฏฺสิกฺขาปทสฺส อนาปตฺติยํ ‘‘อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ โปตฺถเกสุ ลิขิตํ, ตํ ปมาทลิขิตํ. ปมาทลิขิตภาโว จสฺส ‘‘ปมํ อริฏฺโ ภิกฺขุ โจเทตพฺโพ, โจเทตฺวา สาเรตพฺโพ, สาเรตฺวา อาปตฺตึ โรเปตพฺโพ’’ติ (จูฬว. ๖๕) เอวํ กมฺมกฺขนฺธเก อาปตฺติโรปนวจนโต เวทิตพฺโพ.

อิติ เภทาย ปรกฺกมเน อาทิกมฺมิกสฺส เทวทตฺตสฺส ยสฺมา ตํ กมฺมํ น กตํ, ตสฺมาสฺส อาปตฺติเยว น ชาตา. สิกฺขาปทํ ปน ตํ อารพฺภ ปฺตฺตนฺติ กตฺวา ‘‘อาทิกมฺมิโก’’ติ วุตฺโต. อิติ อาปตฺติยา อภาวโตเยวสฺส อนาปตฺติ วุตฺตา. สา ปเนสา กิฺจาปิ อสมนุภาสนฺตสฺสาติ อิมินาว สิทฺธา, ยสฺมา ปน อสมนุภาสนฺโต นาม ยสฺส เกวลํ สมนุภาสนํ น กโรนฺติ, โส วุจฺจติ, น อาทิกมฺมิโก. อยฺจ เทวทตฺโต อาทิกมฺมิโกเยว, ตสฺมา ‘‘อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ วุตฺตํ. เอเตนุปาเยน เปตฺวา อริฏฺสิกฺขาปทํ สพฺพสมนุภาสนาสุ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว.

สมุฏฺานาทีสุ ติวงฺคิกํ เอกสมุฏฺานํ, สมนุภาสนสมุฏฺานํ นามเมตํ, กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ. ปฏินิสฺสชฺชามีติ กายวิการํ วา วจีเภทํ วา อกโรนฺตสฺเสว ปน อาปชฺชนโต อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

ปมสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. ทุติยสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๑๗-๘. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ ทุติยสงฺฆเภทสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อนุวตฺตกาติ ตสฺส ทิฏฺิขนฺติรุจิคฺคหเณน อนุปฏิปชฺชนกา. วคฺคํ อสามคฺคิปกฺขิยวจนํ วทนฺตีติ วคฺควาทกา. ปทภาชเน ปน ‘‘ตสฺส วณฺณาย ปกฺขาย ิตา โหนฺตี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺส สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนฺตสฺส วณฺณตฺถาย จ ปกฺขวุฑฺฒิอตฺถาย จ ิตาติ อตฺโถ. เย หิ วคฺควาทกา, เต นิยเมน อีทิสา โหนฺติ, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ติณฺณํ อุทฺธํ กมฺมารหา น โหนฺติ, น หิ สงฺโฆ สงฺฆสฺส กมฺมํ กโรติ, ตสฺมา เอโก วา ทฺเว วา ตโย วาติ วุตฺตํ.

ชานาติ โนติ อมฺหากํ ฉนฺทาทีนิ ชานาติ. ภาสตีติ ‘‘เอวํ กโรมา’’ติ อมฺเหหิ สทฺธึ ภาสติ. อมฺหากมฺเปตํ ขมตีติ ยํ โส กโรติ, เอตํ อมฺหากมฺปิ รุจฺจติ.

สเมตายสฺมนฺตานํ สงฺเฆนาติ อายสฺมนฺตานํ จิตฺตํ สงฺเฆน สทฺธึ สเมตุ สมาคจฺฉตุ, เอกีภาวํ ยาตูติ วุตฺตํ โหติ. เสสเมตฺถ ปมสิกฺขาปเท วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถตฺตา จ ปากฏเมว.

สมุฏฺานาทีนิปิ ปมสิกฺขาปทสทิสาเนวาติ.

ทุติยสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. ทุพฺพจสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๒๔. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ ทุพฺพจสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อนาจารํ อาจรตีติ อเนกปฺปการํ กายวจีทฺวารวีติกฺกมํ กโรติ. กึ นุ โข นามาติ วมฺภนวจนเมตํ. อหํ โข นามาติ อุกฺกํสวจนํ. ตุมฺเห วเทยฺยนฺติ ‘‘อิทํ กโรถ, อิทํ มา กโรถา’’ติ อหํ ตุมฺเห วตฺตุํ อรหามีติ ทสฺเสติ. กสฺมาติ เจ? ยสฺมา อมฺหากํ พุทฺโธ ภควา กณฺฏกํ อารุยฺห มยา สทฺธึ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิโตติเอวมาทิมตฺถํ สนฺธายาห. ‘‘อมฺหากํ ธมฺโม’’ติ วตฺวา ปน อตฺตโน สนฺตกภาเว ยุตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘อมฺหากํ อยฺยปุตฺเตน ธมฺโม อภิสมิโต’’ติ อาห. ยสฺมา อมฺหากํ อยฺยปุตฺเตน จตุสจฺจธมฺโม ปฏิวิทฺโธ, ตสฺมา ธมฺโมปิ อมฺหากนฺติ วุตฺตํ โหติ. สงฺฆํ ปน อตฺตโน เวริปกฺเข ิตํ มฺมาโน อมฺหากํ สงฺโฆติ น วทติ. อุปมํ ปน วตฺวา สงฺฆํ อปสาเทตุกาโม ‘‘เสยฺยถาปิ นามา’’ติอาทิมาห. ติณกฏฺปณฺณสฏนฺติ ตตฺถ ตตฺถ ปติตํ ติณกฏฺปณฺณํ. อถ วา ติณฺจ นิสฺสารกํ ลหุกํ กฏฺฺจ ติณกฏฺํ. ปณฺณสฏนฺติ ปุราณปณฺณํ. อุสฺสาเรยฺยาติ ราสึ กเรยฺย.

ปพฺพเตยฺยาติ ปพฺพตปฺปภวา, สา หิ สีฆโสตา โหติ, ตสฺมา ตเมว คณฺหาติ. สงฺขเสวาลปณกนฺติ เอตฺถ สงฺโขติ ทีฆมูลโก ปณฺณเสวาโล วุจฺจติ. เสวาโลติ นีลเสวาโล, อวเสโส อุทกปปฺปฏกติลพีชกาทิ สพฺโพปิ ปณโกติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ. เอกโต อุสฺสาริตาติ เอกฏฺาเน เกนาปิ สมฺปิณฺฑิตา ราสีกตาติ ทสฺเสติ.

๔๒๕-๖. ทุพฺพจชาติโกติ ทุพฺพจสภาโว วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺโยติ อตฺโถ. ปทภาชเนปิสฺส ทุพฺพโจติ ทุกฺเขน กิจฺเฉน วทิตพฺโพ, น สกฺกา สุเขน วตฺตุนฺติ อตฺโถ. โทวจสฺสกรเณหีติ ทุพฺพจภาวกรณีเยหิ, เย ธมฺมา ทุพฺพจํ ปุคฺคลํ กโรนฺติ, เตหิ สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. เต ปน ‘‘กตเม จ, อาวุโส, โทวจสฺสกรณา ธมฺมา? อิธาวุโส, ภิกฺขุ ปาปิจฺโฉ โหตี’’ติอาทินา นเยน ปฏิปาฏิยา อนุมานสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๑๘๑) อาคตา ปาปิจฺฉตา, อตฺตุกฺกํสกปรวมฺภกตา, โกธนตา, โกธเหตุ อุปนาหิตา, โกธเหตุอภิสงฺคิตา, โกธเหตุโกธสามนฺตวาจานิจฺฉารณตา, โจทกํ ปฏิปฺผรณตา, โจทกํ อปสาทนตา, โจทกสฺส ปจฺจาโรปนตา, อฺเน อฺํปฏิจรณตา, อปทาเนน น สมฺปายนตา, มกฺขิปฬาสิตา, อิสฺสุกีมจฺฉริตา, สมายาวิตา, ถทฺธาติมานิตา, สนฺทิฏฺิปรามาสิอาธานคฺคหิทุปฺปฏินิสฺสคฺคิตาติ เอกูนวีสติ ธมฺมา เวทิตพฺพา.

โอวาทํ นกฺขมติ น สหตีติ อกฺขโม. ยถานุสิฏฺํ อปฺปฏิปชฺชนโต ปทกฺขิเณน อนุสาสนึ น คณฺหาตีติ อปฺปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนึ.

อุทฺเทสปริยาปนฺเนสูติ อุทฺเทเส ปริยาปนฺเนสุ อนฺโตคเธสุ. ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺติ, โส อาวิกเรยฺยา’’ติ เอวํ สงฺคหิตตฺตา อนฺโต ปาติโมกฺขสฺส วตฺตมาเนสูติ อตฺโถ. สหธมฺมิกํ วุจฺจมาโนติ สหธมฺมิเกน วุจฺจมาโน กรณตฺเถ อุปโยควจนํ, ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ สิกฺขิตพฺพตฺตา เตสํ วา สนฺตกตฺตา สหธมฺมิกนฺติ ลทฺธนาเมน พุทฺธปฺตฺเตน สิกฺขาปเทน วุจฺจมาโนติ อตฺโถ.

วิรมถายสฺมนฺโต มม วจนายาติ เยน วจเนน มํ วทถ, ตโต มม วจนโต วิรมถ. มา มํ ตํ วจนํ วทถาติ วุตฺตํ โหติ.

วทตุ สหธมฺเมนาติ สหธมฺมิเกน สิกฺขาปเทน สหธมฺเมน วา อฺเนปิ ปาสาทิกภาวสํวตฺตนิเกน วจเนน วทตุ. ยทิทนฺติ วุฑฺฒิการณนิทสฺสนตฺเถ นิปาโต. เตน ‘‘ยํ อิทํ อฺมฺสฺส หิตวจนํ อาปตฺติโต วุฏฺาปนฺจ เตน อฺมฺวจเนน อฺมฺวุฏฺาปเนน จ สํวฑฺฒา ปริสา’’ติ เอวํ ปริสาย วุฑฺฒิการณํ ทสฺสิตํ โหติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว.

สมุฏฺานาทีนิ ปมสงฺฆเภทสทิสาเนวาติ.

ทุพฺพจสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๓. กุลทูสกสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๓๑. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ กุลทูสกสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อสฺสชิปุนพฺพสุกา นามาติ อสฺสชิ เจว ปุนพฺพสุโก จ. กีฏาคิริสฺมินฺติ เอวํนามเก ชนปเท. อาวาสิกา โหนฺตีติ เอตฺถ อาวาโส เอเตสํ อตฺถีติ อาวาสิกา. ‘‘อาวาโส’’ติ วิหาโร วุจฺจติ. โส เยสํ อายตฺโต นวกมฺมกรณปุราณปฏิสงฺขรณาทิภารหารตาย, เต อาวาสิกา. เย ปน เกวลํ วิหาเร วสนฺติ, เต เนวาสิกาติ วุจฺจนฺติ. อิเม อาวาสิกา อเหสุํ. อลชฺชิโน ปาปภิกฺขูติ นิลฺลชฺชา ลามกภิกฺขู, เต หิ ฉพฺพคฺคิยานํ เชฏฺกฉพฺพคฺคิยา.

สาวตฺถิยํ กิร ฉ ชนา สหายกา ‘‘กสิกมฺมาทีนิ ทุกฺกรานิ, หนฺท มยํ สมฺมา ปพฺพชาม! ปพฺพชนฺเตหิ จ อุปฺปนฺเน กิจฺเจ นิตฺถรณกฏฺาเน ปพฺพชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ สมฺมนฺตยิตฺวา ทฺวินฺนํ อคฺคสาวกานํ สนฺติเก ปพฺพชึสุ. เต ปฺจวสฺสา หุตฺวา มาติกํ ปคุณํ กตฺวา มนฺตยึสุ ‘‘ชนปโท นาม กทาจิ สุภิกฺโข โหติ กทาจิ ทุพฺภิกฺโข, มยํ มา เอกฏฺาเน วสิมฺห, ตีสุ าเนสุ วสามา’’ติ. ตโต ปณฺฑุกโลหิตเก อาหํสุ – ‘‘อาวุโส, สาวตฺถิ นาม สตฺตปฺาสาย กุลสตสหสฺเสหิ อชฺฌาวุตฺถา, อสีติคามสหสฺสปฏิมณฺฑิตานํ ติโยชนสติกานํ ทฺวินฺนํ กาสิโกสลรฏฺานํ อายมุขภูตา, ตตฺร ตุมฺเห ธุรฏฺาเนเยว ปริเวณานิ กาเรตฺวา อมฺพปนสนาฬิเกราทีนิ โรเปตฺวา ปุปฺเผหิ จ ผเลหิ จ กุลานิ สงฺคณฺหนฺตา กุลทารเก ปพฺพาเชตฺวา ปริสํ วฑฺเฒถา’’ติ.

เมตฺติยภูมชเก อาหํสุ – ‘‘อาวุโส, ราชคหํ นาม อฏฺารสหิ มนุสฺสโกฏีหิ อชฺฌาวุตฺถํ อสีติคามสหสฺสปฏิมณฺฑิตานํ ติโยชนสติกานํ ทฺวินฺนํ องฺคมคธรฏฺานํ อายมุขภูตํ, ตตฺร ตุมฺเห ธุรฏฺาเนเยว…เป… ปริสํ วฑฺเฒถา’’ติ.

อสฺสชิปุนพฺพสุเก อาหํสุ – ‘‘อาวุโส, กีฏาคิริ นาม ทฺวีหิ เมเฆหิ อนุคฺคหิโต ตีณิ สสฺสานิ ปสวนฺติ, ตตฺร ตุมฺเห ธุรฏฺาเนเยว ปริเวณานิ กาเรตฺวา…เป… ปริสํ วฑฺเฒถา’’ติ. เต ตถา อกํสุ. เตสุ เอกเมกสฺส ปกฺขสฺส ปฺจ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ ปริวารา, เอวํ สมธิกํ ทิยฑฺฒภิกฺขุสหสฺสํ โหติ. ตตฺร ปณฺฑุกโลหิตกา สปริวารา สีลวนฺโตว ภควตา สทฺธึ ชนปทจาริกมฺปิ จรนฺติ, เต อกตวตฺถุํ อุปฺปาเทนฺติ, ปฺตฺตสิกฺขาปทํ ปน น มทฺทนฺติ, อิตเร สพฺเพ อลชฺชิโน อกตวตฺถุฺจ อุปฺปาเทนฺติ, ปฺตฺตสิกฺขาปทฺจ มทฺทนฺติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘อลชฺชิโน ปาปภิกฺขู’’ติ.

เอวรูปนฺติ เอวํชาติกํ. อนาจารํ อาจรนฺตีติ อนาจริตพฺพํ อาจรนฺติ, อกาตพฺพํ กโรนฺติ. มาลาวจฺฉนฺติ ตรุณปุปฺผรุกฺขํ, ตรุณกา หิ ปุปฺผรุกฺขาปิ ปุปฺผคจฺฉาปิ มาลาวจฺฉา ตฺเวว วุจฺจนฺติ, เต จ อเนกปฺปการํ มาลาวจฺฉํ สยมฺปิ โรเปนฺติ, อฺเนปิ โรปาเปนฺติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘มาลาวจฺฉํ โรเปนฺติปิ โรปาเปนฺติปี’’ติ. สิฺจนฺตีติ สยเมว อุทเกน สิฺจนฺติ. สิฺจาเปนฺตีติ อฺเนปิ สิฺจาเปนฺติ.

เอตฺถ ปน อกปฺปิยโวหาโร กปฺปิยโวหาโร ปริยาโย โอภาโส นิมิตฺตกมฺมนฺติ อิมานิ ปฺจ ชานิตพฺพานิ. ตตฺถ อกปฺปิยโวหาโร นาม อลฺลหริตานํ โกฏฺฏนํ โกฏฺฏาปนํ, อาวาฏสฺส ขณนํ ขณาปนํ, มาลาวจฺฉสฺส โรปนํ โรปาปนํ, อาฬิยา พนฺธนํ พนฺธาปนํ, อุทกสฺส เสจนํ เสจาปนํ, มาติกาย สมฺมุขกรณํ กปฺปิยอุทกสิฺจนํ หตฺถมุขปาทโธวนนฺหาโนทกสิฺจนนฺติ. กปฺปิยโวหาโร นาม ‘‘อิมํ รุกฺขํ ชาน, อิมํ อาวาฏํ ชาน, อิมํ มาลาวจฺฉํ ชาน, เอตฺถ อุทกํ ชานา’’ติ วจนํ สุกฺขมาติกาย อุชุกรณฺจ. ปริยาโย นาม ‘‘ปณฺฑิเตน นาม มาลาวจฺฉาทโย โรปาเปตพฺพา นจิรสฺเสว อุปการาย สํวตฺตนฺตี’’ติอาทิวจนํ. โอภาโส นาม กุทาลขณิตฺตาทีนิ จ มาลาวจฺเฉ จ คเหตฺวา านํ, เอวํ ิตฺหิ สามเณราทโย ทิสฺวา เถโร การาเปตุกาโมติ คนฺตฺวา กโรนฺติ. นิมิตฺตกมฺมํ นาม กุทาล-ขณิตฺติ-วาสิ-ผรสุ-อุทกภาชนานิ อาหริตฺวา สมีเป ปนํ.

อิมานิ ปฺจปิ กุลสงฺคหตฺถาย โรปเน น วฏฺฏนฺติ, ผลปริโภคตฺถาย กปฺปิยากปฺปิยโวหารทฺวยเมว น วฏฺฏติ, อิตรตฺตยํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘กปฺปิยโวหาโรปิ วฏฺฏติ. ยฺจ อตฺตโน ปริโภคตฺถาย วฏฺฏติ, ตํ อฺปุคฺคลสฺส วา สงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา อตฺถายปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ.

อารามตฺถาย ปน วนตฺถาย ฉายตฺถาย จ อกปฺปิยโวหารมตฺตเมว น จ วฏฺฏติ, เสสํ วฏฺฏติ, น เกวลฺจ เสสํ ยํกิฺจิ มาติกมฺปิ อุชุํ กาตุํ กปฺปิยอุทกํ สิฺจิตุํ นฺหานโกฏฺกํ กตฺวา นฺหายิตุํ หตฺถปาทมุขโธวนุทกานิ จ ตตฺถ ฉฑฺเฑตุมฺปิ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน กุรุนฺทิยฺจ ‘‘กปฺปิยปถวิยํ สยํ โรเปตุมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อารามาทิอตฺถาย ปน โรปิตสฺส วา โรปาปิตสฺส วา ผลํ ปริภุฺชิตุมฺปิ วฏฺฏติ.

โอจินนโอจินาปเน ปกติยาปิ ปาจิตฺติยํ. กุลทูสนตฺถาย ปน ปาจิตฺติยฺเจว ทุกฺกฏฺจ. คนฺถนาทีสุ จ อุรจฺฉทปริโยสาเนสุ กุลทูสนตฺถาย อฺตฺถาย วา กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. กสฺมา? อนาจารตฺตา, ‘‘ปาปสมาจาโร’’ติ เอตฺถ วุตฺตปาปสมาจารตฺตา จ. อารามาทิอตฺถาย รุกฺขโรปเน วิย วตฺถุปูชนตฺถาย กสฺมา น อนาปตฺตีติ เจ? อนาปตฺติเยว. ยถา หิ ตตฺถ กปฺปิยโวหาเรน ปริยายาทีหิ จ อนาปตฺติ ตถา วตฺถุปูชตฺถายปิ อนาปตฺติเยว.

นนุ จ ตตฺถ ‘‘กปฺปิยปถวิยํ สยํ โรเปตุมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตนฺติ? วุตฺตํ, น ปน มหาอฏฺกถายํ. อถาปิ มฺเยฺยาสิ อิตราสุ วุตฺตมฺปิ ปมาณํ. มหาอฏฺกถายฺจ กปฺปิยอุทกเสจนํ วุตฺตํ, ตํ กถนฺติ? ตมฺปิ น วิรุชฺฌติ. ตตฺร หิ อวิเสเสน ‘‘รุกฺขํ โรเปนฺติปิ โรปาเปนฺติปิ, สิฺจนฺติปิ สิฺจาเปนฺติปี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘มาลาวจฺฉ’’นฺติ วทนฺโต าเปติ ‘‘กุลสงฺคหตฺถาย ปุปฺผผลูปคเมว สนฺธาเยตํ วุตฺตํ, อฺตฺร ปน ปริยาโย อตฺถี’’ติ. ตสฺมา ตตฺถ ปริยายํ, อิธ จ ปริยายาภาวํ ตฺวา ยํ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ, ตํ สุวุตฺตเมว. วุตฺตฺเจตํ –

‘‘พุทฺเธน ธมฺโม วินโย จ วุตฺโต;

โย ตสฺส ปุตฺเตหิ ตเถว าโต;

โส เยหิ เตสํ มติมจฺจชนฺตา;

ยสฺมา ปุเร อฏฺกถา อกํสุ.

‘‘ตสฺมา หิ ยํ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ;

ตํ วชฺชยิตฺวาน ปมาทเลขํ;

สพฺพมฺปิ สิกฺขาสุ สคารวานํ;

ยสฺมา ปมาณํ อิธ ปณฺฑิตาน’’นฺติ.

สพฺพํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ตตฺถ สิยา ยทิ วตฺถุปูชนตฺถายปิ คนฺถานาทีสุ อาปตฺติ, หรณาทีสุ กสฺมา อนาปตฺตีติ? กุลิตฺถีอาทีนํ อตฺถาย หรณโต หรณาธิกาเร หิ วิเสเสตฺวา เต กุลิตฺถีนนฺติอาทิ วุตฺตํ, ตสฺมา พุทฺธาทีนํ อตฺถาย หรนฺตสฺส อนาปตฺติ.

ตตฺถ เอกโตวณฺฏิกนฺติ ปุปฺผานํ วณฺเฏ เอกโต กตฺวา กตมาลํ. อุภโตวณฺฏิกนฺติ อุโภหิ ปสฺเสหิ ปุปฺผวณฺเฏ กตฺวา กตมาลํ. มฺชริกนฺติอาทีสุ ปน มฺชรี วิย กตา ปุปฺผวิกติ มฺชริกาติ วุจฺจติ. วิธูติกาติ สูจิยา วา สลากาย วา สินฺทุวารปุปฺผาทีนิ วิชฺฌิตฺวา กตา. วฏํสโกติ วตํสโก. อาเวฬาติ กณฺณิกา. อุรจฺฉโทติ หารสทิสํ อุเร ปนกปุปฺผทามํ. อยํ ตาว เอตฺถ ปทวณฺณนา.

อยํ ปน อาทิโต ปฏฺาย วิตฺถาเรน อาปตฺติวินิจฺฉโย. กุลทูสนตฺถาย อกปฺปิยปถวิยํ มาลาวจฺฉํ โรเปนฺตสฺส ปาจิตฺติยฺเจว ทุกฺกฏฺจ, ตถา อกปฺปิยโวหาเรน โรปาเปนฺตสฺส. กปฺปิยปถวิยํ โรปเนปิ โรปาปเนปิ ทุกฺกฏเมว. อุภยตฺถาปิ สกึ อาณตฺติยา พหุนฺนมฺปิ โรปเน เอกเมว สปาจิตฺติยทุกฺกฏํ วา สุทฺธทุกฺกฏํ วา โหติ. ปริโภคตฺถาย หิ กปฺปิยภูมิยํ วา อกปฺปิยภูมิยํ วา กปฺปิยโวหาเรน โรปาปเน อนาปตฺติ. อารามาทิอตฺถายปิ อกปฺปิยปถวิยํ โรเปนฺตสฺส วา อกปฺปิยวจเนน โรปาเปนฺตสฺส วา ปาจิตฺติยํ. อยํ ปน นโย มหาอฏฺกถายํ น สุฏฺุ วิภตฺโต, มหาปจฺจริยํ วิภตฺโตติ.

สิฺจนสิฺจาปเน ปน อกปฺปิยอุทเกน สพฺพตฺถ ปาจิตฺติยํ, กุลทูสนปริโภคตฺถาย ทุกฺกฏมฺปิ. กปฺปิเยน เตสํเยว ทฺวินฺนมตฺถาย ทุกฺกฏํ. ปริโภคตฺถาย เจตฺถ กปฺปิยโวหาเรน สิฺจาปเน อนาปตฺติ. อาปตฺติฏฺาเน ปน ธาราวจฺเฉทวเสน ปโยคพหุลตาย อาปตฺติพหุลตา เวทิตพฺพา.

กุลทูสนตฺถาย โอจินเน ปุปฺผคณนาย ทุกฺกฏปาจิตฺติยานิ อฺตฺถ ปาจิตฺติยาเนว. พหูนิ ปน ปุปฺผานิ เอกปโยเคน โอจินนฺโต ปโยควเสน กาเรตพฺโพ. โอจินาปเน กุลทูสนตฺถาย สกึ อาณตฺโต พหุมฺปิ โอจินติ, เอกเมว สปาจิตฺติยทุกฺกฏํ, อฺตฺร ปาจิตฺติยเมว.

คนฺถนาทีสุ สพฺพาปิ ฉ ปุปฺผวิกติโย เวทิตพฺพา – คนฺถิมํ, โคปฺผิมํ, เวธิมํ, เวิมํ, ปูริมํ, วายิมนฺติ. ตตฺถ ‘‘คนฺถิมํ’’ นาม สทณฺฑเกสุ วา อุปฺปลปทุมาทีสุ อฺเสุ วา ทีฆวณฺเฏสุ ปุปฺเผสุ ทฏฺพฺพํ. ทณฺฑเกน ทณฺฑกํ วณฺเฏน วา วณฺฏํ คนฺเถตฺวา กตเมว หิ คนฺถิมํ. ตํ ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา กาตุมฺปิ อกปฺปิยวจเนน การาเปตุมฺปิ น วฏฺฏติ. เอวํ ชาน, เอวํ กเต โสเภยฺย, ยถา เอตานิ ปุปฺผานิ น วิกิริยนฺติ ตถา กโรหีติอาทินา ปน กปฺปิยวจเนน กาเรตุํ วฏฺฏติ.

‘‘โคปฺผิมํ’’ นาม สุตฺเตน วา วากาทีหิ วา วสฺสิกปุปฺผาทีนํ เอกโตวณฺฏิกอุภโตวณฺฏิกมาลาวเสน โคปฺผนํ, วากํ วา รชฺชุํ วา ทิคุณํ กตฺวา ตตฺถ อวณฺฏกานิ นีปปุปฺผาทีนิ ปเวเสตฺวา ปฏิปาฏิยา พนฺธนฺติ, เอตมฺปิ โคปฺผิมเมว. สพฺพํ ปุริมนเยเนว น วฏฺฏติ.

‘‘เวธิมํ’’ นาม สวณฺฏกานิ วสฺสิกปุปฺผาทีนิ วณฺเฏสุ, อวณฺฏกานิ วา วกุลปุปฺผาทีนิ อนฺโตฉิทฺเท สูจิตาลหีราทีหิ วินิวิชฺฌิตฺวา อาวุนนฺติ, เอตํ เวธิมํ นาม, ตมฺปิ ปุริมนเยเนว น วฏฺฏติ. เกจิ ปน กทลิกฺขนฺธมฺหิ กณฺฏเก วา ตาลหีราทีนิ วา ปเวเสตฺวา ตตฺถ ปุปฺผานิ วิชฺฌิตฺวา เปนฺติ, เกจิ กณฺฏกสาขาสุ, เกจิ ปุปฺผจฺฉตฺตปุปฺผกูฏาคารกรณตฺถํ ฉตฺเต จ ภิตฺติยฺจ ปเวเสตฺวา ปิตกณฺฏเกสุ, เกจิ ธมฺมาสนวิตาเน พทฺธกณฺฏเกสุ, เกจิ กณิการปุปฺผาทีนิ สลากาหิ วิชฺฌนฺติ, ฉตฺตาธิฉตฺตํ วิย จ กโรนฺติ, ตํ อติโอฬาริกเมว. ปุปฺผวิชฺฌนตฺถํ ปน ธมฺมาสนวิตาเน กณฺฏกมฺปิ พนฺธิตุํ กณฺฏกาทีหิ วา เอกปุปฺผมฺปิ วิชฺฌิตุํ ปุปฺเผเยว วา ปุปฺผํ ปเวเสตุํ น วฏฺฏติ. ชาลวิตานเวทิก-นาคทนฺตก ปุปฺผปฏิจฺฉกตาลปณฺณคุฬกาทีนํ ปน ฉิทฺเทสุ อโสกปิณฺฑิยา วา อนฺตเรสุ ปุปฺผานิ ปเวเสตุํ น โทโส. เอตํ เวธิมํ นาม น โหติ. ธมฺมรชฺชุยมฺปิ เอเสว นโย.

‘‘เวิมํ’’ นาม ปุปฺผทามปุปฺผหตฺถเกสุ ทฏฺพฺพํ. เกจิ หิ มตฺถกทามํ กโรนฺตา เหฏฺา ฆฏกาการํ ทสฺเสตุํ ปุปฺเผหิ เวเนฺติ, เกจิ อฏฺฏฺ วา ทส ทส วา อุปฺปลปุปฺผาทีนิ สุตฺเตน วา วาเกน วา ทณฺฑเกสุ พนฺธิตฺวา อุปฺปลหตฺถเก วา ปทุมหตฺถเก วา กโรนฺติ, ตํ สพฺพํ ปุริมนเยเนว น วฏฺฏติ. สามเณเรหิ อุปฺปาเฏตฺวา ถเล ปิตอุปฺปลาทีนิ กาสาเวน ภณฺฑิกมฺปิ พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ. เตสํเยว ปน วาเกน วา ทณฺฑเกน วา พนฺธิตุํ อํสภณฺฑิกํ วา กาตุํ วฏฺฏติ. อํสภณฺฑิกา นาม ขนฺเธ ปิตกาสาวสฺส อุโภ อนฺเต อาหริตฺวา ภณฺฑิกํ กตฺวา ตสฺมึ ปสิพฺพเก วิย ปุปฺผานิ ปกฺขิปนฺติ, อยํ วุจฺจติ อํสภณฺฑิกา, เอตํ กาตุํ วฏฺฏติ. ทณฺฑเกหิ ปทุมินิปณฺณํ วิชฺฌิตฺวา อุปฺปลาทีนิ ปณฺเณน เวเตฺวา คณฺหนฺติ, ตตฺราปิ ปุปฺผานํ อุปริ ปทุมินิปณฺณเมว พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. เหฏฺา ทณฺฑกํ ปน พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ.

‘‘ปูริมํ’’ นาม มาลาคุเณ จ ปุปฺผปเฏ จ ทฏฺพฺพํ. โย หิ มาลาคุเณน เจติยํ วา โพธึ วา เวทิกํ วา ปริกฺขิปนฺโต ปุน อาเนตฺวา ปูริมานํ อติกฺกาเมติ, เอตฺตาวตาปิ ปูริมํ นาม โหติ. โก ปน วาโท อเนกกฺขตฺตุํ ปริกฺขิปนฺตสฺส, นาคทนฺต-กนฺตเรหิ ปเวเสตฺวา หรนฺโต โอลมฺพกํ กตฺวา ปุน นาคทนฺตกํ ปริกฺขิปติ, เอตมฺปิ ปูริมํ นาม. นาคทนฺตเก ปน ปุปฺผวลยํ ปเวเสตุํ วฏฺฏติ. มาลาคุเณหิ ปุปฺผปฏํ กโรนฺติ. ตตฺราปิ เอกเมว มาลาคุณํ หริตุํ วฏฺฏติ. ปุน ปจฺจาหรโต ปูริมเมว โหติ, ตํ สพฺพํ ปุริมนเยเนว น วฏฺฏติ. มาลาคุเณหิ ปน พหูหิปิ กตํ ปุปฺผทามํ ลภิตฺวา อาสนมตฺถกาทีสุ พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. อติทีฆํ ปน มาลาคุณํ เอกวารํ หริตฺวา วา ปริกฺขิปิตฺวา วา ปุน อฺสฺส ภิกฺขุโน ทาตุํ วฏฺฏติ. เตนาปิ ตเถว กาตุํ วฏฺฏติ.

‘‘วายิมํ’’ นาม ปุปฺผชาลปุปฺผปฏปุปฺผรูเปสุ ทฏฺพฺพํ. เจติเยสุ ปุปฺผชาลํ กโรนฺตสฺส เอกเมกมฺหิ ชาลจฺฉิทฺเท ทุกฺกฏํ. ภิตฺติจฺฉตฺตโพธิตฺถมฺภาทีสุปิ เอเสว นโย. ปุปฺผปฏํ ปน ปเรหิ ปูริตมฺปิ วายิตุํ น ลพฺภติ. โคปฺผิมปุปฺเผเหว หตฺถิอสฺสาทิรูปกานิ กโรนฺติ, ตานิปิ วายิมฏฺาเน ติฏฺนฺติ. ปุริมนเยเนว สพฺพํ น วฏฺฏติ. อฺเหิ กตปริจฺเฉเท ปน ปุปฺผานิ เปนฺเตน หตฺถิอสฺสาทิรูปกมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน กลมฺพเกน อฑฺฒจนฺทเกน จ สทฺธึ อฏฺปุปฺผวิกติโย วุตฺตา. ตตฺถ กลมฺพโกติ อฑฺฒจนฺทกนฺตเร ฆฏิกทามโอลมฺพโก วุตฺโต. ‘‘อฑฺฒจนฺทโก’’ติ อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณปริกฺเขโป. ตทุภยมฺปิ ปูริเมเยว ปวิฏฺํ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ทฺเว ตโย มาลาคุเณ เอกโต กตฺวา ปุปฺผทามกรณมฺปิ วายิมํเยวา’’ติ วุตฺตํ. ตมฺปิ อิธ ปูริมฏฺาเนเยว ปวิฏฺํ, น เกวลฺจ ปุปฺผคุฬทามเมว ปิฏฺมยทามมฺปิ เคณฺฑุกปุปฺผทามมฺปิ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ, ขรปตฺตทามมฺปิ สิกฺขาปทสฺส สาธารณตฺตา ภิกฺขูนมฺปิ ภิกฺขุนีนมฺปิ เนว กาตุํ น การาเปตุํ วฏฺฏติ. ปูชานิมิตฺตํ ปน กปฺปิยวจนํ สพฺพตฺถ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ปริยายโอภาสนิมิตฺตกมฺมานิ วฏฺฏนฺติเยว.

ตุวฏฺเฏนฺตีติ นิปชฺชนฺติ. ลาเสนฺตีติ ปีติยา อุปฺปิลวมานา วิย อุฏฺหิตฺวา ลาสิยนาฏกํ นาเฏนฺติ, เรจกํ เทนฺติ. นจฺจนฺติยาปิ นจฺจนฺตีติ ยทา นาฏกิตฺถี นจฺจติ, ตทา เตปิ ตสฺสา ปุรโต วา ปจฺฉโต วา คจฺฉนฺตา นจฺจนฺติ. นจฺจนฺติยาปิ คายนฺตีติ ยทา สา นจฺจติ, ตทา นจฺจานุรูปํ คายนฺติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อฏฺปเทปิ กีฬนฺตีติ อฏฺปทผลเก ชูตํ กีฬนฺติ. ตถา ทสปเท, อากาเสปีติ อฏฺปททสปเทสุ วิย อากาเสเยว กีฬนฺติ. ปริหารปเถปีติ ภูมิยํ นานาปถมณฺฑลํ กตฺวา ตตฺถ ปริหริตพฺพปถํ ปริหรนฺตา กีฬนฺติ. สนฺติกายปิ กีฬนฺตีติ สนฺติกกีฬาย กีฬนฺติ, เอกชฺฌํ ปิตา สาริโย วา ปาสาณสกฺขราโย วา อจาเลนฺตา นเขเนว อปเนนฺติ จ อุปเนนฺติ จ, สเจ ตตฺถ กาจิ จลติ, ปราชโย โหติ. ขลิกายาติ ชูตผลเก ปาสกกีฬาย กีฬนฺติ. ฆฏิกายาติ ฆฏิกา วุจฺจติ ทณฺฑกกีฬา, ตาย กีฬนฺติ. ทีฆทณฺฑเกน รสฺสทณฺฑกํ ปหรนฺตา วิจรนฺติ.

สลากหตฺเถนาติ ลาขาย วา มฺชฏฺิยา วา ปิฏฺอุทเก วา สลากหตฺถํ เตเมตฺวา ‘‘กึ โหตู’’ติ ภูมิยํ วา ภิตฺติยํ วา ตํ ปหริตฺวา หตฺถิอสฺสาทีรูปานิ ทสฺเสนฺตา กีฬนฺติ. อกฺเขนาติ คุเฬน. ปงฺคจีเรนาติ ปงฺคจีรํ วุจฺจติ ปณฺณนาฬิกา, ตํ ธมนฺตา กีฬนฺติ. วงฺกเกนาติ คามทารกานํ กีฬนเกน ขุทฺทกนงฺคเลน. โมกฺขจิกายาติ โมกฺขจิกา วุจฺจติ สมฺปริวตฺตกกีฬา, อากาเส วา ทณฺฑํ คเหตฺวา, ภูมิยํ วา สีสํ เปตฺวา เหฏฺุปริยภาเวน ปริวตฺตนฺตา กีฬนฺตีติ อตฺโถ. จิงฺคุลเกนาติ จิงฺคุลกํ วุจฺจติ ตาลปณฺณาทีหิ กตํ วาตปฺปหาเรน ปริพฺภมนจกฺกํ, เตน กีฬนฺติ. ปตฺตาฬฺหเกนาติ ปตฺตาฬฺหกํ วุจฺจติ ปณฺณนาฬิ, ตาย วาลิกาทีนิ มินนฺตา กีฬนฺติ. รถเกนาติ ขุทฺทกรเถน. ธนุเกนาติ ขุทฺทกธนุนา.

อกฺขริกายาติ อกฺขริกา วุจฺจติ อากาเส วา ปิฏฺิยํ วา อกฺขรชานนกีฬา, ตาย กีฬนฺติ. มเนสิกายาติ มเนสิกา วุจฺจติ มนสา จินฺติตชานนกีฬา, ตาย กีฬนฺติ. ยถาวชฺเชนาติ ยถาวชฺชํ วุจฺจติ กาณกุณิกขฺชาทีนํ ยํ ยํ วชฺชํ ตํ ตํ ปโยเชตฺวา ทสฺสนกีฬา ตาย กีฬนฺติ, เวลมฺภกา วิย. หตฺถิสฺมิมฺปิ สิกฺขนฺตีติ หตฺถินิมิตฺตํ ยํ สิปฺปํ สิกฺขิตพฺพํ, ตํ สิกฺขนฺติ. เอเสว นโย อสฺสาทีสุ. ธาวนฺติปีติ ปรมฺมุขา คจฺฉนฺตา ธาวนฺติ. อาธาวนฺติปีติ ยตฺตกํ ธาวนฺติ, ตตฺตกเมว อภิมุขา ปุน อาคจฺฉนฺตา อาธาวนฺติ. นิพฺพุชฺฌนฺตีติ มลฺลยุทฺธํ กโรนฺติ. นลาฏิกมฺปิ เทนฺตีติ ‘‘สาธุ, สาธุ, ภคินี’’ติ อตฺตโน นลาเฏ องฺคุลึ เปตฺวา ตสฺสา นลาเฏ เปนฺติ. วิวิธมฺปิ อนาจารํ อาจรนฺตีติ อฺมฺปิ ปาฬิยํ อนาคตํ มุขฑิณฺฑิมาทิวิวิธํ อนาจารํ อาจรนฺติ.

๔๓๒. ปาสาทิเกนาติ ปสาทาวเหน, สารุปฺเปน สมณานุจฺฉวิเกน. อภิกฺกนฺเตนาติ คมเนน. ปฏิกฺกนฺเตนาติ นิวตฺตเนน. อาโลกิเตนาติ ปุรโต ทสฺสเนน. วิโลกิเตนาติ อิโต จิโต จ ทสฺสเนน. สมิฺชิเตนาติ ปพฺพสงฺโกจเนน. ปสาริเตนาติ เตสํเยว ปสารเณน. สพฺพตฺถ อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ กรณวจนํ, สติสมฺปชฺเหิ อภิสงฺขตตฺตา ปาสาทิก อภิกฺกนฺต-ปฏิกฺกนฺต-อาโลกิต-วิโลกิต-สมิฺชิต-ปสาริโต หุตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. โอกฺขิตฺตจกฺขูติ เหฏฺา-ขิตฺตจกฺขุ. อิริยาปถสมฺปนฺโนติ ตาย ปาสาทิกอภิกฺกนฺตาทิตาย สมฺปนฺนอิริยาปโถ.

กฺวายนฺติ โก อยํ. อพลพโล วิยาติ อพโล กิร โพนฺโท วุจฺจติ, อติสยตฺเถ จ อิทํ อาเมฑิตํ, ตสฺมา อติโพนฺโท วิยาติ วุตฺตํ โหติ. มนฺทมนฺโทติ อภิกฺกนฺตาทีนํ อนุทฺธตตาย อติมนฺโท. อติสณฺโหติ เอวํ คุณเมว โทสโต ทสฺเสนฺติ. ภากุฏิกภากุฏิโก วิยาติ โอกฺขิตฺตจกฺขุตาย ภกุฏึ กตฺวา สงฺกุฏิตมุโข กุปิโต วิย วิจรตีติ มฺมานา วทนฺติ. สณฺหาติ นิปุณา, ‘‘อมฺม ตาต ภคินี’’ติ เอวํ อุปาสกชนํ ยุตฺตฏฺาเน อุปเนตุํ เฉกา, น ยถา อยํ; เอวํ อพลพโล วิยาติ อธิปฺปาโย. สขิลาติ สาขลฺเยน ยุตฺตา. สุขสมฺภาสาติ อิทํ ปุริมสฺส การณวจนํ. เยสฺหิ สุขสมฺภาสา สมฺโมทนียกถา เนลา โหติ กณฺณสุขา, เต สขิลาติ วุจฺจนฺติ. เตนาหํสุ – ‘‘สขิลา สุขสมฺภาสา’’ติ. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย – อมฺหากํ อยฺยา อุปาสเก ทิสฺวา มธุรํ สมฺโมทนียํ กถํ กเถนฺติ, ตสฺมา สขิลา สุขสมฺภาสา, น ยถา อยํ; เอวํ มนฺทมนฺทา วิยาติ. มิหิตปุพฺพงฺคมาติ มิหิตํ ปุพฺพงฺคมํ เอเตสํ วจนสฺสาติ มิหิตปุพฺพงฺคมา, ปมํ สิตํ กตฺวา ปจฺฉา วทนฺตีติ อตฺโถ. เอหิสฺวาคตวาทิโนติ อุปาสกํ ทิสฺวา ‘‘เอหิ สฺวาคตํ ตวา’’ติ เอวํวาทิโน, น ยถา อยํ; เอวํ สงฺกุฏิตมุขตาย ภากุฏิกภากุฏิกา วิย เอวํ มิหิตปุพฺพงฺคมาทิตาย อภากุฏิกภาวํ อตฺถโต ทสฺเสตฺวา ปุน สรูเปนปิ ทสฺเสนฺโต อาหํสุ – ‘‘อภากุฏิกา อุตฺตานมุขา ปุพฺพภาสิโน’’ติ. อุปฺปฏิปาฏิยา วา ติณฺณมฺปิ อาการานํ อภาวทสฺสนเมตนฺติ เวทิตพฺพํ. กถํ? เอตฺถ หิ ‘‘อภากุฏิกา’’ติ อิมินา ภากุฏิกภากุฏิกาการสฺส อภาโว ทสฺสิโต. ‘‘อุตฺตานมุขา’’ติ อิมินา มนฺทมนฺทาการสฺส, เย หิ จกฺขูนิ อุมฺมิเลตฺวา อาโลกเนน อุตฺตานมุขา โหนฺติ, น เต มนฺทมนฺทา. ปุพฺพภาสิโนติ อิมินา อพลพลาการสฺส อภาโว ทสฺสิโต, เย หิ อาภาสนกุสลตาย ‘‘อมฺม ตาตา’’ติ ปมตรํ อาภาสนฺติ, น เต อพลพลาติ.

เอหิ, ภนฺเต, ฆรํ คมิสฺสามาติ โส กิร อุปาสโก ‘‘น โข, อาวุโส, ปิณฺโฑ ลพฺภตี’’ติ วุตฺเต ‘‘ตุมฺหากํ ภิกฺขูหิเยว เอตํ กตํ, สกลมฺปิ คามํ วิจรนฺตา น ลจฺฉถา’’ติ วตฺวา ปิณฺฑปาตํ ทาตุกาโม ‘‘เอหิ, ภนฺเต, ฆรํ คมิสฺสามา’’ติ อาห. กึ ปนายํ ปยุตฺตวาจา โหติ, น โหตีติ? น โหติ. ปุจฺฉิตปฺโห นามายํ กเถตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมา อิทานิ เจปิ ปุพฺพณฺเห วา สายนฺเห วา อนฺตรฆรํ ปวิฏฺํ ภิกฺขุํ โกจิ ปุจฺเฉยฺย – ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, จรถา’’ติ? เยนตฺเถน จรติ, ตํ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘ลทฺธํ น ลทฺธ’’นฺติ วุตฺเต สเจ น ลทฺธํ, ‘‘น ลทฺธ’’นฺติ วตฺวา ยํ โส เทติ, ตํ คเหตุํ วฏฺฏติ.

ทุฏฺโติ น ปสาทาทีนํ วินาเสน ทุฏฺโ, ปุคฺคลวเสน ทุฏฺโ. ทานปถานีติ ทานานิเยว วุจฺจนฺติ. อถ วา ทานปถานีติ ทานนิพทฺธานิ ทานวตฺตานีติ วุตฺตํ โหติ. อุปจฺฉินฺนานีติ ทายเกหิ อุปจฺฉินฺนานิ, น เต ตานิ เอตรหิ เทนฺติ. ริฺจนฺตีติ วิสุํ โหนฺติ นานา โหนฺติ, ปกฺกมนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. สณฺเหยฺยาติ สมฺมา ติฏฺเยฺย, เปสลานํ ภิกฺขูนํ ปติฏฺา ภเวยฺย.

เอวมาวุโสติ โข โส ภิกฺขุ สทฺธสฺส ปสนฺนสฺส อุปาสกสฺส สาสนํ สมฺปฏิจฺฉิ. เอวรูปํ กิร สาสนํ กปฺปิยํ หริตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘มม วจเนน ภควโต ปาเท วนฺทถา’’ติ วา ‘‘เจติยํ ปฏิมํ โพธึ สงฺฆตฺเถรํ วนฺทถา’’ติ วา ‘‘เจติเย คนฺธปูชํ กโรถ, ปุปฺผปูชํ กโรถา’’ติ วา ‘‘ภิกฺขู สนฺนิปาเตถ, ทานํ ทสฺสาม, ธมฺมํ โสสฺสามาติ วา อีทิเสสุ สาสเนสุ กุกฺกุจฺจํ น กาตพฺพํ. กปฺปิยสาสนานิ เอตานิ น คิหีนํ คิหิกมฺมปฏิสํยุตฺตานีติ. กุโต จ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาคจฺฉสีติ นิสินฺโน โส ภิกฺขุ น อาคจฺฉติ อตฺถโต ปน อาคโต โหติ; เอวํ สนฺเตปิ วตฺตมานสมีเป วตฺตมานวจนํ ลพฺภติ, ตสฺมา น โทโส. ปริโยสาเน ‘‘ตโต อหํ ภควา อาคจฺฉามี’’ติ เอตฺถาปิ วจเน เอเสว นโย.

๔๓๓. ปมํ อสฺสชิปุนพฺพสุกา ภิกฺขู โจเทตพฺพาติ ‘‘มยํ ตุมฺเห วตฺตุกามา’’ติ โอกาสํ กาเรตฺวา วตฺถุนา จ อาปตฺติยา จ โจเทตพฺพา. โจเทตฺวา ยํ น สรนฺติ, ตํ สาเรตพฺพา. สเจ วตฺถุฺจ อาปตฺติฺจ ปฏิชานนฺติ, อาปตฺติเมว วา ปฏิชานนฺติ, น วตฺถุํ, อาปตฺตึ โรเปตพฺพา. อถ วตฺถุเมว ปฏิชานนฺติ, นาปตฺตึ; เอวมฺปิ ‘‘อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ อยํ นาม อาปตฺตี’’ติ โรเปตพฺพา เอว. ยทิ เนว วตฺถุํ, นาปตฺตึ ปฏิชานนฺติ, อาปตฺตึ น โรเปตพฺพา อยเมตฺถ วินิจฺฉโย. ยถาปฏิฺาย ปน อาปตฺตึ โรเปตฺวา; เอวํ ปพฺพาชนียกมฺมํ กาตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา’’ติอาทิมาห, ตํ อุตฺตานตฺถเมว.

เอวํ ปพฺพาชนียกมฺมกเตน ภิกฺขุนา ยสฺมึ วิหาเร วสนฺเตน ยสฺมึ คาเม กุลทูสกกมฺมํ กตํ โหติ, ตสฺมึ วิหาเร วา ตสฺมึ คาเม วา น วสิตพฺพํ. ตสฺมึ วิหาเร วสนฺเตน สามนฺตคาเมปิ ปิณฺฑาย น จริตพฺพํ. สามนฺตวิหาเรปิ วสนฺเตน ตสฺมึ คาเม ปิณฺฑาย น จริตพฺพํ. อุปติสฺสตฺเถโร ปน ‘‘ภนฺเต นครํ นาม มหนฺตํ ทฺวาทสโยชนิกมฺปิ โหตี’’ติ อนฺเตวาสิเกหิ วุตฺโต ‘‘ยสฺสา วีถิยา กุลทูสกกมฺมํ กตํ ตตฺเถว วาริต’’นฺติ อาห. ตโต ‘‘วีถิปิ มหตี นครปฺปมาณาว โหตี’’ติ วุตฺโต ‘‘ยสฺสา ฆรปฏิปาฏิยา’’ติ อาห, ‘‘ฆรปฏิปาฏีปิ วีถิปฺปมาณาว โหตี’’ติ วุตฺโต อิโต จิโต จ สตฺต ฆรานิ วาริตานี’’ติ อาห. ตํ ปน สพฺพํ เถรสฺส มโนรถมตฺตเมว. สเจปิ วิหาโร ติโยชนปรโม โหติ ทฺวาทสโยชนปรมฺจ นครํ, เนว วิหาเร วสิตุํ ลพฺภติ, น นคเร จริตุนฺติ.

๔๓๕. เต สงฺเฆน ปพฺพาชนียกมฺมกตาติ กถํ สงฺโฆ เตสํ กมฺมํ อกาสิ? น คนฺตฺวาว อชฺโฌตฺถริตฺวา อกาสิ, อถ โข กุเลหิ นิมนฺเตตฺวา สงฺฆภตฺเตสุ กยิรมาเนสุ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน เถรา สมณปฏิปทํ กเถตฺวา ‘‘อยํ สมโณ, อยํ อสฺสมโณ’’ติ มนุสฺเส สฺาเปตฺวา เอกํ ทฺเว ภิกฺขู สีมํ ปเว เสตฺวา เอเตเนวุปาเยน สพฺเพสํ ปพฺพาชนียกมฺมํ อกํสูติ. เอวํ ปพฺพาชนียกมฺมกตสฺส จ อฏฺารส วตฺตานิ ปูเรตฺวา ยาจนฺตสฺส กมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพํ. ปฏิปฺปสฺสทฺธกมฺเมนาปิ จ เตน เยสุ กุเลสุ ปุพฺเพ กุลทูสกกมฺมํ กตํ, ตโต ปจฺจยา น คเหตพฺพา, อาสวกฺขยปฺปตฺเตนาปิ น คเหตพฺพา, อกปฺปิยาว โหนฺติ. ‘‘กสฺมา น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิเตน ‘‘ปุพฺเพ เอวํ กตตฺตา’’ติ วุตฺเต, สเจ วทนฺติ ‘‘น มยํ เตน การเณน เทม อิทานิ สีลวนฺตตาย เทมา’’ติ คเหตพฺพา. ปกติยา ทานฏฺาเนเยว กุลทูสกกมฺมํ กตํ โหติ. ตโต ปกติทานเมว คเหตุํ วฏฺฏติ, ยํ วฑฺเฒตฺวา เทนฺติ, ตํ น วฏฺฏติ.

น สมฺมา วตฺตนฺตีติ เต ปน อสฺสชิปุนพฺพสุกา อฏฺารสสุ วตฺเตสุ สมฺมา น วตฺตนฺติ. น โลมํ ปาเตนฺตีติ อนุโลมปฏิปทํ อปฺปฏิปชฺชนตาย น ปนฺนโลมา โหนฺติ. น เนตฺถารํ วตฺตนฺตีติ อตฺตโน นิตฺถรณมคฺคํ น ปฏิปชฺชนฺติ. น ภิกฺขู ขมาเปนฺตีติ ‘‘ทุกฺกฏํ, ภนฺเต, อมฺเหหิ, น ปุน เอวํ กริสฺสาม, ขมถ อมฺหาก’’นฺติ เอวํ ภิกฺขูนํ ขมาปนํ น กโรนฺติ. อกฺโกสนฺตีติ การกสงฺฆํ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสนฺติ. ปริภาสนฺตีติ ภยํ เนสํ ทสฺเสนฺติ. ฉนฺทคามิตา…เป… ภยคามิตา ปาเปนฺตีติ เอเต ฉนฺทคามิโน จ…เป… ภยคามิโน จาติ เอวํ ฉนฺทคามิตายปิ…เป… ภยคามิตายปิ ปาเปนฺติ, โยเชนฺตีติ อตฺโถ. ปกฺกมนฺตีติ เตสํ ปริวาเรสุ ปฺจสุ สมณสเตสุ เอกจฺเจ ทิสา ปกฺกมนฺติ. วิพฺภมนฺตีติ เอกจฺเจ คิหี โหนฺติ. กถฺหิ นาม อสฺสชิปุนพฺพสุกา ภิกฺขูติ เอตฺถ ทฺวินฺนํ ปโมกฺขานํ วเสน สพฺเพปิ ‘‘อสฺสชิปุนพฺพสุกา’’ติ วุตฺตา.

๔๓๖-๗. คามํ วาติ เอตฺถ นครมฺปิ คามคฺคหเณเนว คหิตํ. เตนสฺส ปทภาชเน ‘‘คาโมปิ นิคโมปิ นครมฺปิ คาโม เจว นิคโม จา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อปาการปริกฺเขโป สอาปโณ นิคโมติ เวทิตพฺโพ.

กุลานิ ทูเสตีติ กุลทูสโก. ทูเสนฺโต จ น อสุจิกทฺทมาทีหิ ทูเสติ, อถ โข อตฺตโน ทุปฺปฏิปตฺติยา เตสํ ปสาทํ วินาเสติ. เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘ปุปฺเผน วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โย หริตฺวา วา หราเปตฺวา วา ปกฺโกสิตฺวา วา ปกฺโกสาเปตฺวา วา สยํ วา อุปคตานํ ยํกิฺจิ อตฺตโน สนฺตกํ ปุปฺผํ กุลสงฺคหตฺถาย เทติ, ทุกฺกฏํ. ปรสนฺตกํ เทติ, ทุกฺกฏเมว. เถยฺยจิตฺเตน เทติ, ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. เอเสว นโย สงฺฆิเกปิ. อยํ ปน วิเสโส, เสนาสนตฺถาย นิยามิตํ อิสฺสรวตาย ททโต ถุลฺลจฺจยํ.

ปุปฺผํ นาม กสฺส ทาตุํ วฏฺฏติ, กสฺส น วฏฺฏตีติ? มาตาปิตูนฺนํ ตาว หริตฺวาปิ หราเปตฺวาปิ ปกฺโกสิตฺวาปิ ปกฺโกสาเปตฺวาปิ ทาตุํ วฏฺฏติ, เสสาตกานํ ปกฺโกสาเปตฺวาว. ตฺจ โข วตฺถุปูชนตฺถาย, มณฺฑนตฺถาย ปน สิวลิงฺคาทิปูชนตฺถาย วา กสฺสจิปิ ทาตุํ น วฏฺฏติ. มาตาปิตูนฺจ หราเปนฺเตน าติสามเณเรเหว หราเปตพฺพํ. อิตเร ปน ยทิ สยเมว อิจฺฉนฺติ, วฏฺฏติ. สมฺมเตน ปุปฺผภาชเกน ภาชนกาเล สมฺปตฺตานํ สามเณรานํ อุปฑฺฒภาคํ ทาตุํ วฏฺฏติ. กุรุนฺทิยํ สมฺปตฺตคิหีนํ อุปฑฺฒภาคํ. มหาปจฺจริยํ ‘‘จูฬกํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อสมฺมเตน อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ.

อาจริยุปชฺฌาเยสุ สคารวา สามเณรา พหูนิ ปุปฺผานิ อาหริตฺวา ราสึ กตฺวา เปนฺติ, เถรา ปาโตว สมฺปตฺตานํ สทฺธิวิหาริกาทีนํ อุปาสกานํ วา ‘‘ตฺวํ อิทํ คณฺห, ตฺวํ อิทํ คณฺหา’’ติ เทนฺติ, ปุปฺผทานํ นาม น โหติ. ‘‘เจติยํ ปูเชสฺสามา’’ติ คเหตฺวา คจฺฉนฺตาปิ ปูชํ กโรนฺตาปิ ตตฺถ ตตฺถ สมฺปตฺตานํ เจติยปูชนตฺถาย เทนฺติ, เอตมฺปิ ปุปฺผทานํ นาม น โหติ. อุปาสเก อกฺกปุปฺผาทีหิ ปูเชนฺเต ทิสฺวา ‘‘วิหาเร กณิการปุปฺผาทีนิ อตฺถิ, อุปาสกา ตานิ คเหตฺวา ปูเชถา’’ติ วตฺตุมฺปิ วฏฺฏติ. ภิกฺขู ปุปฺผปูชํ กตฺวา ทิวาตรํ คามํ ปวิฏฺเ ‘‘กึ, ภนฺเต, อติทิวา ปวิฏฺตฺถา’’ติ ปุจฺฉนฺติ, ‘‘วิหาเร พหูนิ ปุปฺผานิ ปูชํ อกริมฺหา’’ติ วทนฺติ. มนุสฺสา ‘‘พหูนิ กิร วิหาเร ปุปฺผานี’’ติ ปุนทิวเส ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ คเหตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ปุปฺผปูชฺจ กโรนฺติ, ทานฺจ เทนฺติ, วฏฺฏติ. มนุสฺสา ‘‘มยํ, ภนฺเต, อสุกทิวสํ นาม ปูเชสฺสามา’’ติ ปุปฺผวารํ ยาจิตฺวา อนุฺาตทิวเส อาคจฺฉนฺติ, สามเณเรหิ จ ปเคว ปุปฺผานิ โอจินิตฺวา ปิตานิ โหนฺติ, เต รุกฺเขสุ ปุปฺผานิ อปสฺสนฺตา ‘‘กุหึ, ภนฺเต, ปุปฺผานี’’ติ วทนฺติ, สามเณเรหิ โอจินิตฺวา ปิตานิ ตุมฺเห ปน ปูเชตฺวา คจฺฉถ, สงฺโฆ อฺํ ทิวสํ ปูเชสฺสตีติ. เต ปูเชตฺวา ทานํ ทตฺวา คจฺฉนฺติ, วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน กุรุนฺทิยฺจ ‘‘เถรา สามเณเรหิ ทาเปตุํ น ลภนฺติ. สเจ สยเมว ตานิ ปุปฺผานิ เตสํ เทนฺติ, วฏฺฏติ. เถเรหิ ปน ‘สามเณเรหิ โอจินิตฺวา ปิตานี’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. สเจ ปน ปุปฺผวารํ ยาจิตฺวา อโนจิเตสุ ปุปฺเผสุ ยาคุภตฺตาทีนิ อาทาย อาคนฺตฺวา สามเณเร ‘‘โอจินิตฺวา เทถา’’ติ วทนฺติ. าตกสามเณรานํเยว โอจินิตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. อฺาตเก อุกฺขิปิตฺวา รุกฺขสาขาย เปนฺติ, น โอโรหิตฺวา ปลายิตพฺพํ, โอจินิตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน โกจิ ธมฺมกถิโก ‘‘พหูนิ อุปาสกา วิหาเร ปุปฺผานิ ยาคุภตฺตาทีนิ อาทาย คนฺตฺวา ปุปฺผปูชํ กโรถา’’ติ วทติ, ตสฺเสว น กปฺปตีติ มหาปจฺจริยฺจ กุรุนฺทิยฺจ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘เอตํ อกปฺปิยํ น วฏฺฏตี’’ติ อวิเสเสน วุตฺตํ.

ผลมฺปิ อตฺตโน สนฺตกํ วุตฺตนเยเนว มาตาปิตูนํฺจ เสสาตกานฺจ ทาตุํ วฏฺฏติ. กุลสงฺคหตฺถาย ปน เทนฺตสฺส วุตฺตนเยเนว อตฺตโน สนฺตเก ปรสนฺตเก สงฺฆิเก เสนาสนตฺถาย นิยามิเต จ ทุกฺกฏาทีนิ เวทิตพฺพานิ. อตฺตโน สนฺตกํเยว คิลานมนุสฺสานํ วา สมฺปตฺตอิสฺสรานํ วา ขีณปริพฺพยานํ วา ทาตุํ วฏฺฏติ, ผลทานํ น โหติ. ผลภาชเกนาปิ สมฺมเตน สงฺฆสฺส ผลภาชนกาเล สมฺปตฺตมนุสฺสานํ อุปฑฺฒภาคํ ทาตุํ วฏฺฏติ. อสมฺมเตน อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ. สงฺฆาราเมปิ ผลปริจฺเฉเทน วา รุกฺขปริจฺเฉเทน วา กติกา กาตพฺพา. ตโต คิลานมนุสฺสานํ วา อฺเสํ วา ผลํ ยาจนฺตานํ ยถาปริจฺเฉเทน จตฺตาริ ปฺจ ผลานิ ทาตพฺพานิ. รุกฺขา วา ทสฺเสตพฺพา ‘‘อิโต คเหตุํ ลพฺภตี’’ติ. ‘‘อิฆ ผลานิ สุนฺทรานิ, อิโต คณฺหถา’’ติ เอวํ ปน น วตฺตพฺพํ.

จุณฺเณนาติ เอตฺถ อตฺตโน สนฺตกํ สิรีสจุณฺณํ วา อฺํ วา กสาวํ ยํกิฺจิ กุลสงฺคหตฺถาย เทติ, ทุกฺกฏํ. ปรสนฺตกาทีสุปิ วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – อิธ สงฺฆสฺส รกฺขิตโคปิตาปิ รุกฺขจฺฉลฺลิ ครุภณฺฑเมว. มตฺติกทนฺตกฏฺเวฬูสุปิ ครุภณฺฑูปคํ ตฺวา จุณฺเณ วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ปณฺณทานํ ปน เอตฺถ น อาคตํ, ตมฺปิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ปรโตปิ ครุภณฺฑวินิจฺฉเย สพฺพํ วิตฺถาเรน วณฺณยิสฺสาม.

เวชฺชิกาย วาติ เอตฺถ เวชฺชกมฺมวิธิ ตติยปาราชิกวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

ชงฺฆเปสนิเกนาติ เอตฺถ ชงฺฆเปสนิยนฺติ คิหีนํ ทูเตยฺยสาสนหรณกมฺมํ วุจฺจติ, ตํ น กาตพฺพํ. คิหีนฺหิ สาสนํ คเหตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ปเท ปเท ทุกฺกฏํ. ตํ กมฺมํ นิสฺสาย ลทฺธโภชนํ ภุฺชนฺตสฺสาปิ อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ทุกฺกฏํ. ปมํ สาสนํ อคฺคเหตฺวาปิ ปจฺฉา ‘‘อยํ ทานิ โส คาโม หนฺท ตํ สาสนํ อาโรเจมี’’ติ มคฺคา โอกฺกมนฺตสฺสาปิ ปเท ปเท ทุกฺกฏํ. สาสนํ อาโรเจตฺวา ลทฺธโภชนํ ภุฺชโต ปุริมนเยเนว ทุกฺกฏํ. สาสนํ อคฺคเหตฺวา อาคเตน ปน ‘‘ภนฺเต ตสฺมึ คาเม อิตฺถนฺนามสฺส กา ปวตฺตี’’ติ ปุจฺฉิยมาเนน กเถตุํ วฏฺฏติ, ปุจฺฉิตปฺเห โทโส นตฺถิ. ปฺจนฺนํ ปน สหธมฺมิกานํ มาตาปิตูนํ ปณฺฑุปลาสสฺส อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺส จ สาสนํ หริตุํ วฏฺฏติ, คิหีนฺจ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการํ กปฺปิยสาสนํ. อิทฺหิ ชงฺฆเปสนิยกมฺมํ นาม น โหติ. อิเมหิ ปน อฏฺหิ กุลทูสกกมฺเมหิ อุปฺปนฺนปจฺจยา ปฺจนฺนมฺปิ สหธมฺมิกานํ น กปฺปนฺติ, อภูตาโรจนรูปิยสํโวหาเรหิ อุปฺปนฺนปจฺจยสทิสาว โหนฺติ.

ปาปา สมาจารา อสฺสาติ ปาปสมาจาโร. เต ปน ยสฺมา มาลาวจฺฉโรปนาทโย อิธ อธิปฺเปตา, ตสฺมา ‘‘มาลาวจฺฉํ โรเปนฺติปี’’ติอาทินา นเยนสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ. ติโรกฺขาติ ปรมฺมุขา. กุลานิ จ เตน ทุฏฺานีติ เอตฺถ ปน ยสฺมา ‘‘กุลานี’’ติ โวหารมตฺตเมตํ, อตฺถโต หิ มนุสฺสา เตน ทุฏฺา โหนฺติ, ตสฺมาสฺส ปทภาชเน ‘‘ปุพฺเพ สทฺธา หุตฺวา’’ติอาทิมาห. ฉนฺทคามิโนติ ฉนฺเทน คจฺฉนฺตีติ ฉนฺทคามิโน. เอส นโย เสเสสุ. สมนุภาสิตพฺโพ ตสฺส ปฏินิสฺสคฺคายาติ เอตฺถ กุลทูสกกมฺเมน ทุกฺกฏเมว. ยํ ปน โส สงฺฆํ ปริภวิตฺวา ‘‘ฉนฺทคามิโน’’ติอาทิมาห. ตสฺส ปฏินิสฺสคฺคาย สมนุภาสนกมฺมํ กาตพฺพนฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

สมุฏฺานาทีนิปิ ปมสงฺฆเภทสทิสาเนวาติ.

กุลทูสกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิคมนวณฺณนา

๔๔๒. อุทฺทิฏฺา โข…เป… เอวเมตํ ธารยามีติ เอตฺถ ปมํ อาปตฺติ เอเตสนฺติ ปมาปตฺติกา, ปมํ วีติกฺกมกฺขเณเยว อาปชฺชิตพฺพาติ อตฺโถ. อิตเร ปน ยถา ตติเย จตุตฺเถ จ ทิวเส โหตีติ ชโร ‘‘ตติยโก จตุตฺถโก’’ติ จ วุจฺจติ; เอวํ ยาวตติเย สมนุภาสนกมฺเม โหนฺตีติ ยาวตติยกาติ เวทิตพฺพา.

ยาวตีหํ ชานํ ปฏิจฺฉาเทตีติ ยตฺตกานิ อหานิ ชานนฺโต ปฏิจฺฉาเทติ, ‘‘อหํ อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน’’ติ สพฺรหฺมจารีนํ นาโรเจติ. ตาวตีหนฺติ ตตฺตกานิ อหานิ. อกามา ปริวตฺถพฺพนฺติ น กาเมน, น วเสน, อถ โข อกาเมน อวเสน ปริวาสํ สมาทาย วตฺถพฺพํ. อุตฺตริ ฉารตฺตนฺติ ปริวาสโต อุตฺตริ ฉ รตฺติโย. ภิกฺขุมานตฺตายาติ ภิกฺขูนํ มานนภาวาย, อาราธนตฺถายาติ วุตฺตํ โหติ. วีสติสงฺโฆ คโณ อสฺสาติ วีสติคโณ. ตตฺราติ ยตฺร สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน วีสติคโณ ภิกฺขุสงฺโฆ อตฺถิ ตตฺร. อพฺเภตพฺโพติ อภิเอตพฺโพ สมฺปฏิจฺฉิตพฺโพ, อพฺภานกมฺมวเสน โอสาเรตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ, อวฺหาตพฺโพติ วา อตฺโถ. อนพฺภิโตติ น อพฺภิโต, อสมฺปฏิจฺฉิโต, อกตพฺภานกมฺโมติ วุตฺตํ โหติ, อนวฺหาโตติ วา อตฺโถ. สามีจีติ อนุธมฺมตา, โลกุตฺตรธมฺมํ อนุคตา โอวาทานุสาสนี, สามีจิ ธมฺมตาติ วุตฺตํ โหติ. เสสเมตฺถ วุตฺตนยเมวาติ.

สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย

เตรสกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อนิยตกณฺฑํ

๑. ปมอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๔๓. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ ปมอนิยตสิกฺขาปทํ. ตตฺถ กาลยุตฺตํ สมุลฺลปนฺโตติ กาลํ สลฺลกฺเขตฺวา ยทา น อฺโ โกจิ สมีเปน คจฺฉติ วา อาคจฺฉติ วา ตทา ตทนุรูปํ ‘‘กจฺจิ น อุกฺกณฺสิ, น กิลมสิ, น ฉาตาสี’’ติอาทิกํ เคหสฺสิตํ กถํ กเถนฺโต. กาลยุตฺตํ ธมฺมํ ภณนฺโตติ กาลํ สลฺลกฺเขตฺวา ยทา อฺโ โกจิ สมีเปน คจฺฉติ วา อาคจฺฉติ วา ตทา ตทนุรูปํ ‘‘อุโปสถํ กเรยฺยาสิ, สลากภตฺตํ ทเทยฺยาสี’’ติอาทิกํ ธมฺมกถํ กเถนฺโต.

พหู ธีตโร จ ปุตฺตา จ อสฺสาติ พหุปุตฺตา. ตสฺสา กิร ทส ปุตฺตา ทส ธีตโร อเหสุํ, พหู นตฺตาโร อสฺสาติ พหุนตฺตา. ยเถว หิ ตสฺสา เอวมสฺสา ปุตฺตธีตานมฺปิ วีสติ วีสติ ทารกา อเหสุํ, อิติ สา วีสุตฺตรจตุสตปุตฺตนตฺตปริวารา อโหสิ. อภิมงฺคลสมฺมตาติ อุตฺตมมงฺคลสมฺมตา. ยฺเสูติ ทานปฺปทาเนสุ. ฉเณสูติ อาวาหวิวาหมงฺคลาทีสุ อนฺตรุสฺสเวสุ. อุสฺสเวสูติ อาสาฬฺหีปวารณนกฺขตฺตาทีสุ มหุสฺสเวสุ. ปมํ โภเชนฺตีติ ‘‘อิเมปิ ทารกา ตยา สมานายุกา นิโรคา โหนฺตู’’ติ อายาจนฺตา ปมํเยว โภเชนฺติ, เยปิ สทฺธา โหนฺติ ปสนฺนา, เตปิ ภิกฺขู โภเชตฺวา ตทนนฺตรํ สพฺพปมํ ตํเยว โภเชนฺติ. นาทิยีติ ตสฺสา วจนํ น อาทิยิ, น คณฺหิ, น วา อาทรมกาสีติ อตฺโถ.

๔๔๔-๕. อลํกมฺมนิเยติ กมฺมกฺขมํ กมฺมโยคฺคนฺติ กมฺมนิยํ, อลํ ปริยตฺตํ กมฺมนิยภาวายาติ อลํกมฺมนิยํ, ตสฺมึ อลํกมฺมนิเย, ยตฺถ อชฺฌาจารํ กโรนฺตา สกฺโกนฺติ, ตํ กมฺมํ กาตุํ ตาทิเสติ อตฺโถ. เตเนวสฺส ปทภาชเน วุตฺตํ – ‘‘สกฺกา โหติ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตุ’’นฺติ, ยตฺถ เมถุนํ ธมฺมํ สกฺกา โหติ ปฏิเสวิตุนฺติ วุตฺตํ โหติ. นิสชฺชํ กปฺเปยฺยาติ นิสชฺชํ กเรยฺย, นิสีเทยฺยาติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน นิสีทิตฺวาว นิปชฺชติ, เตนสฺส ปทภาชเน อุภยมฺปิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุปนิสินฺโนติ อุปคนฺตฺวา นิสินฺโน. เอวํ อุปนิปนฺโนปิ เวทิตพฺโพ. ภิกฺขุ นิสินฺเนติ ภิกฺขุมฺหิ นิสินฺเนติ อตฺโถ. อุโภ วา นิสินฺนาติ ทฺเวปิ อปจฺฉา อปุริมํ นิสินฺนา. เอตฺถ จ กิฺจาปิ ปาฬิยํ ‘‘โสตสฺส รโห’’ติ อาคตํ, จกฺขุสฺส รเหเนว ปน ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. สเจปิ หิ ปิหิตกวาฏสฺส คพฺภสฺส ทฺวาเร นิสินฺโน วิฺู ปุริโส โหติ, เนว อนาปตฺตึ กโรติ. อปิหิตกวาฏสฺส ปน ทฺวาเร นิสินฺโน อนาปตฺตึ กโรติ. น เกวลฺจ ทฺวาเร อนฺโตทฺวาทสหตฺเถปิ โอกาเส นิสินฺโน, สเจ สจกฺขุโก วิกฺขิตฺโตปิ นิทฺทายนฺโตปิ อนาปตฺตึ กโรติ. สมีเป ิโตปิ อนฺโธ น กโรติ, จกฺขุมาปิ นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺโต น กโรติ. อิตฺถีนํ ปน สตมฺปิ อนาปตฺตึ น กโรติเยว.

สทฺเธยฺยวจสาติ สทฺธาตพฺพวจนา. สา ปน ยสฺมา อริยสาวิกาว โหติ, เตนสฺส ปทภาชเน ‘‘อาคตผลา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาคตํ ผลํ อสฺสาติ อาคตผลา ปฏิลทฺธโสตาปตฺติผลาติ อตฺโถ. อภิสเมตาวินีติ ปฏิวิทฺธจตุสจฺจา. วิฺาตํ สิกฺขตฺตยสาสนํ เอตายาติ วิฺาตสาสนา. นิสชฺชํ ภิกฺขุ ปฏิชานมาโนติ กิฺจาปิ เอวรูปา อุปาสิกา ทิสฺวา วทติ, อถ โข ภิกฺขุ นิสชฺชํ ปฏิชานมาโนเยว ติณฺณํ ธมฺมานํ อฺตเรน กาเรตพฺโพ, น อปฺปฏิชานมาโนติ อตฺโถ.

เยน วา สา สทฺเธยฺยวจสา อุปาสิกา วเทยฺย เตน โส ภิกฺขุ กาเรตพฺโพติ นิสชฺชาทีสุ อากาเรสุ เยน วา อากาเรน สทฺธึ เมถุนธมฺมาทีนิ อาโรเปตฺวา สา อุปาสิกา วเทยฺย, ปฏิชานมาโนว เตน โส ภิกฺขุ กาเรตพฺโพ. เอวรูปายปิ อุปาสิกาย วจนมตฺเตน น กาเรตพฺโพติ อตฺโถ. กสฺมา? ยสฺมา ทิฏฺํ นาม ตถาปิ โหติ, อฺถาปิ โหติ.

ตทตฺถโชตนตฺถฺจ อิทํ วตฺถุํ อุทาหรนฺติ – มลฺลารามวิหาเร กิร เอโก ขีณาสวตฺเถโร เอกทิวสํ อุปฏฺากกุลํ คนฺตฺวา อนฺโตเคเห นิสีทิ, อุปาสิกาปิ สยนปลฺลงฺกํ นิสฺสาย ิตา โหติ. อเถโก ปิณฺฑจาริโก ทฺวาเร ิโต ทิสฺวา ‘‘เถโร อุปาสิกาย สทฺธึ เอกาสเน นิสินฺโน’’ติ สฺํ ปฏิลภิตฺวา ปุนปฺปุนํ โอโลเกสิ. เถโรปิ ‘‘อยํ มยิ อสุทฺธลทฺธิโก ชาโต’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา กตภตฺตกิจฺโจ วิหารํ คนฺตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานํ ปวิสิตฺวา อนฺโตว นิสีทิ. โสปิ ภิกฺขุ ‘‘เถรํ โจเทสฺสามี’’ติ อาคนฺตฺวา อุกฺกาสิตฺวา ทฺวารํ วิวริ. เถโร ตสฺส จิตฺตํ ตฺวา อากาเส อุปฺปติตฺวา กูฏาคารกณฺณิกํ นิสฺสาย ปลฺลงฺเกน นิสีทิ. โสปิ ภิกฺขุ อนฺโต ปวิสิตฺวา มฺจฺจ เหฏฺามฺจฺจ โอโลเกตฺวา เถรํ อปสฺสนฺโต อุทฺธํ อุลฺโลเกสิ, อถ อากาเส นิสินฺนํ เถรํ ทิสฺวา ‘‘ภนฺเต, เอวํ มหิทฺธิกา นาม ตุมฺเห มาตุคาเมน สทฺธึ เอกาสเน นิสินฺนภาวํ วทาเปถ เอวา’’ติ อาห. เถโร ‘‘อนฺตรฆรสฺเสเวโส อาวุโส โทโส, อหํ ปน ตํ สทฺธาเปตุํ อสกฺโกนฺโต เอวมกาสึ, รกฺเขยฺยาสิ ม’’นฺติ วตฺวา โอตรีติ.

๔๔๖. อิโต ปรํ สา เจ เอวํ วเทยฺยาติอาทิ สพฺพํ ปฏิฺาย การณาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, ตตฺถ มาตุคามสฺส เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺโตติ มาตุคามสฺส มคฺเค เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺโตติ อตฺโถ. นิสชฺชาย กาเรตพฺโพติ นิสชฺชํ ปฏิชานิตฺวา เมถุนธมฺมปฏิเสวนํ อปฺปฏิชานนฺโต เมถุนธมฺมปาราชิกาปตฺติยา อกาเรตฺวา นิสชฺชามตฺเตน ยํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ ตาย กาเรตพฺโพ, ปาจิตฺติยาปตฺติยา กาเรตพฺโพติ อตฺโถ. เอเตน นเยน สพฺพจตุกฺเกสุ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

๔๕๑. สิกฺขาปทปริโยสาเน ปน อาปตฺตานาปตฺติปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ วุตฺเตสุ คมนํ ปฏิชานาตีติอาทีสุ คมนํ ปฏิชานาตีติ ‘‘รโหนิสชฺชสฺสาทตฺถํ คโตมฺหี’’ติ เอวํ คมนํ ปฏิชานาติ, นิสชฺชนฺติ นิสชฺชสฺสาเทเนว นิสชฺชํ ปฏิชานาติ. อาปตฺตินฺติ ตีสุ อฺตรํ อาปตฺตึ. อาปตฺติยา กาเรตพฺโพติ ตีสุ ยํ ปฏิชานาติ, ตาย กาเรตพฺโพ. เสสเมตฺถ จตุกฺเก อุตฺตานาธิปฺปายเมว. ทุติยจตุกฺเก ปน คมนํ น ปฏิชานาตีติ รโห นิสชฺชสฺสาทวเสน น ปฏิชานาติ, ‘‘สลากภตฺตาทินา อตฺตโน กมฺเมน คโตมฺหิ, สา ปน มยฺหํ นิสินฺนฏฺานํ อาคตา’’ติ วทติ. เสสเมตฺถาปิ อุตฺตานาธิปฺปายเมว.

อยํ ปน สพฺพตฺถ วินิจฺฉโย – รโห นิสชฺชสฺสาโทติ เมถุนธมฺมสนฺนิสฺสิตกิเลโส วุจฺจติ. โย ภิกฺขุ เตนสฺสาเทน มาตุคามสฺส สนฺติกํ คนฺตุกาโม อกฺขึ อฺเชติ, ทุกฺกฏํ. นิวาสนํ นิวาเสติ, กายพนฺธนํ พนฺธติ, จีวรํ ปารุปติ, สพฺพตฺถ ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. คจฺฉติ, ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ. คนฺตฺวา นิสีทติ, ทุกฺกฏเมว. มาตุคาเม อาคนฺตฺวา นิสินฺนมตฺเต ปาจิตฺติยํ. สเจ สา อิตฺถี เกนจิ กรณีเยน อุฏฺายุฏฺาย ปุนปฺปุนํ นิสีทติ, นิสชฺชาย นิสชฺชาย ปาจิตฺติยํ. ยํ สนฺธาย คโต, สา น ทิฏฺา, อฺา อาคนฺตฺวา นิสีทติ, อสฺสาเท อุปฺปนฺเน ปาจิตฺติยํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘คมนกาลโต ปฏฺาย อสุทฺธจิตฺตตฺตา อาปตฺติเยวา’’ติ วุตฺตํ. สเจ สมฺพหุลา อาคจฺฉนฺติ, มาตุคามคณนาย ปาจิตฺติยานิ. สเจ อุฏฺายุฏฺาย ปุนปฺปุนํ นิสีทนฺติ, นิสชฺชาคณนาย ปาจิตฺติยานิ. อนิยเมตฺวา ทิฏฺทิฏฺาย สทฺธึ รหสฺสาทํ กปฺเปสฺสามีติ คนฺตฺวา นิสินฺนสฺสาปิ อาคตาคตานํ วเสน ปุนปฺปุนํ นิสชฺชาวเสน จ วุตฺตนเยเนว อาปตฺติโย เวทิตพฺพา. สเจ สุทฺธจิตฺเตน คนฺตฺวา นิสินฺนสฺส สนฺติกํ อาคนฺตฺวา นิสินฺนาย อิตฺถิยา รหสฺสาโท อุปฺปชฺชติ อนาปตฺติ.

สมุฏฺานาทีนิ ปมปาราชิกสทิสาเนวาติ.

ปมอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๕๒. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ ทุติยอนิยตสิกฺขาปทํ. ตตฺถ ภควตา ปฏิกฺขิตฺตนฺติอาทิมฺหิ ‘‘ยํ เอโก เอกาย รโห ปฏิจฺฉนฺเน อาสเน อลํกมฺมนิเย นิสชฺชํ กปฺเปยฺย, ตํ นิสชฺชํ กปฺเปตุํ ปฏิกฺขิตฺต’’นฺติ เอวํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อิตรถา หิ ‘‘เอกสฺส เอกายา’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา, กสฺมา? ‘‘ปฏิกฺขิตฺต’’นฺติ วุตฺตตฺตา. สามิอตฺเถ วา เอตํ ปจฺจตฺตวจนํ เวทิตพฺพํ.

๔๕๓. น เหว โข ปน ปฏิจฺฉนฺนนฺติ เอตฺถ ปน ยมฺปิ พหิ ปริกฺขิตฺตํ อนฺโต วิวฏํ ปริเวณงฺคณาทิ, ตมฺปิ อนฺโตคธนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวรูปฺหิ านํ อปฺปฏิจฺฉนฺเนเยว คหิตนฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. เสสํ ปมสิกฺขาปทนเยเนว เวทิตพฺพํ. เกวลฺหิ อิธ อิตฺถีปิ ปุริโสปิ โย โกจิ วิฺู อนนฺโธ อพธิโร อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ โอกาเส ิโต วา นิสินฺโน วา วิกฺขิตฺโตปิ นิทฺทายนฺโตปิ อนาปตฺตึ กโรติ. พธิโร ปน จกฺขุมาปิ อนฺโธ วา อพธิโรปิ น กโรติ. ปาราชิกาปตฺติฺจ ปริหาเปตฺวา ทุฏฺุลฺลวาจาปตฺติ วุตฺตาติ อยํ วิเสโส. เสสํ ปุริมสทิสเมว. อุภยตฺถาปิ อุมฺมตฺตกอาทิกมฺมิกานํ อนาปตฺติ.

สมุฏฺานาทีสุ อิทํสิกฺขาปทํ ติสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต, วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, สุขมชฺฌตฺตเวทนาหิ ทฺวิเวทนํ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ทุติยอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย

อนิยตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. นิสฺสคฺคิยกณฺฑํ

๑. จีวรวคฺโค

๑. ปมกถินสิกฺขาปทวณฺณนา

ตึส นิสฺสคฺคิยา ธมฺมา, เย วุตฺตา สมิตาวินา;

เตสํ ทานิ กริสฺสามิ, อปุพฺพปทวณฺณนํ.

๔๕๙. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ โคตมเก เจติเย. เตน โข ปน สมเยน ภควตา ภิกฺขูนํ ติจีวรํ อนุฺาตํ โหตีติ เอตฺถ ติจีวรนฺติ อนฺตรวาสโก อุตฺตราสงฺโค สงฺฆาฏีติ อิทํ จีวรตฺตยํ ปริภุฺชิตุํ อนุฺาตํ โหติ. ยตฺถ ปเนตํ อนุฺาตํ, ยทา จ อนุฺาตํ, เยน จ การเณน อนุฺาตํ, ตํ สพฺพํ จีวรกฺขนฺธเก ชีวกวตฺถุสฺมึ (มหาว. ๓๒๖ อาทโย) อาคตเมว. อฺเเนว ติจีวเรน คามํ ปวิสนฺตีติ เยน วิหาเร อจฺฉนฺติ นฺหานฺจ โอตรนฺติ, ตโต อฺเน, เอวํ ทิวเส ทิวเส นว จีวรานิ ธาเรนฺติ.

๔๖๐. อุปฺปนฺนํ โหตีติ อนุปฺตฺติยา ทฺวารํ ททมานํ ปฏิลาภวเสน อุปฺปนฺนํ โหติ, โน นิปฺผตฺติวเสน.

อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ทาตุกาโม โหตีติ อายสฺมา กิร อานนฺโท ภควนฺตํ เปตฺวา อฺโ เอวรูโป คุณวิสิฏฺโ ปุคฺคโล นตฺถีติ คุณพหุมาเนน อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อติมมายติ. โส สทาปิ มนาปํ จีวรํ ลภิตฺวา รชิตฺวา กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา เถรสฺเสว เทติ, ปุเรภตฺเต ปณีตํ ยาคุขชฺชกํ วา ปิณฺฑปาตํ วา ลภิตฺวาปิ เถรสฺเสว เทติ, ปจฺฉาภตฺเต มธุผาณิตาทีนิ ลภิตฺวาปิ เถรสฺเสว เทติ, อุปฏฺากกุเลหิ ทารเก นิกฺขาเมตฺวา ปพฺพาเชตฺวาปิ เถรสฺส สนฺติเก อุปชฺฌํ คาหาเปตฺวา สยํ อนุสาวนกมฺมํ กโรติ. อายสฺมาปิ สาริปุตฺโต ‘‘ปิตุ กตฺตพฺพกิจฺจํ นาม เชฏฺปุตฺตสฺส ภาโร, ตํ มยา ภควโต กตฺตพฺพํ กิจฺจํ อานนฺโท กโรติ, อหํ อานนฺทํ นิสฺสาย อปฺโปสฺสุกฺโก วิหริตุํ ลภามี’’ติ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อติวิย มมายติ, โสปิ มนาปํ จีวรํ ลภิตฺวา อานนฺทตฺเถรสฺเสว เทตีติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว. เอวํ คุณพหุมาเนน มมายนฺโต ตทา อุปฺปนฺนมฺปิ ตํ จีวรํ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ทาตุกาโม โหตีติ เวทิตพฺโพ.

นวมํ วา ภควา ทิวสํ ทสมํ วาติ เอตฺถ ปน สเจ ภเวยฺย ‘‘กถํ เถโร ชานาตี’’ติ? พหูหิ การเณหิ ชานาติ. สาริปุตฺตตฺเถโร กิร ชนปทจาริกํ ปกฺกมนฺโต อานนฺทตฺเถรํ อาปุจฺฉิตฺวาว ปกฺกมติ ‘‘อหํ เอตฺตเกน นาม กาเลน อาคจฺฉิสฺสามิ, เอตฺถนฺตเร ภควนฺตํ มา ปมชฺชี’’ติ. สเจ สมฺมุขา น อาปุจฺฉติ, ภิกฺขู เปเสตฺวาปิ อาปุจฺฉิตฺวาว คจฺฉติ. สเจ อฺตฺถ วสฺสํ วสติ, เย ปมตรํ ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, เต เอวํ ปหิณติ ‘‘มม วจเนน ภควโต จ ปาเท สิรสา วนฺทถ, อานนฺทสฺส จ อาโรคฺยํ วตฺวา มํ ‘อสุกทิวเส นาม อาคมิสฺสตี’ติ วทถา’’ติ สทา จ ยถาปริจฺฉินฺนทิวเสเยว เอติ. อปิจายสฺมา อานนฺโท อนุมาเนนปิ ชานาติ ‘‘เอตฺตเก ทิวเส ภควตา วิโยคํ สหนฺโต อธิวาเสนฺโต อายสฺมา สาริปุตฺโต วสิ, อิโต ทานิ ปฏฺาย อสุกํ นาม ทิวสํ น อติกฺกมิสฺสติ อทฺธา อาคมิสฺสตี’’ติ. เยสํ เยสฺหิ ปฺา มหตี เตสํ เตสํ ภควติ เปมฺจ คารโว จ มหา โหตีติ อิมินา นเยนาปิ ชานาติ. เอวํ พหูหิ การเณหิ ชานาติ. เตนาห – ‘‘นวมํ วา ภควา ทิวสํ ทสมํ วา’’ติ. เอวํ วุตฺเต ยสฺมา อิทํ สิกฺขาปทํ ปณฺณตฺติวชฺชํ, น โลกวชฺชํ; ตสฺมา อายสฺมตา อานนฺเทน วุตฺตสทิสเมว ปริจฺเฉทํ กโรนฺโต ‘‘อถ โข ภควา…เป… ธาเรตุ’’นฺติ. สเจ ปน เถเรน อทฺธมาโส วา มาโส วา อุทฺทิฏฺโ อภวิสฺส, โสปิ ภควตา อนุฺาโต อสฺส.

๔๖๒-๓. นิฏฺิตจีวรสฺมินฺติ เยน เกนจิ นิฏฺาเนน นิฏฺิเต จีวรสฺมึ. ยสฺมา ปน ตํ จีวรํ กรเณนปิ นิฏฺิตํ โหติ, นสฺสนาทีหิปิ ตสฺมาสฺส ปทภาชเน อตฺถมตฺตเมว ทสฺเสตุํ ภิกฺขุโน จีวรํ กตํ วา โหตีติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กตนฺติ สูจิกมฺมปริโยสาเนน กตํ, สูจิกมฺมปริโยสานํ นาม ยํกิฺจิ สูจิยา กตฺตพฺพํ ปาสปฏฺฏคณฺิกปฏฺฏปริโยสานํ กตฺวา สูจิยา ปฏิสามนํ. นฏฺนฺติ โจราทีหิ หฏํ, เอตมฺปิ หิ กรณปลิโพธสฺส นิฏฺิตตฺตา นิฏฺิตนฺติ วุจฺจติ. วินฏฺนฺติ อุปจิกาทีหิ ขายิตํ. ทฑฺฒนฺติ อคฺคินา ทฑฺฒํ. จีวราสา วา อุปจฺฉินฺนาติ ‘‘อสุกสฺมึ นาม กุเล จีวรํ ลภิสฺสามี’’ติ ยา จีวราสา อุปฺปนฺนา โหติ, สา วา อุปจฺฉินฺนา, เอเตสมฺปิ หิ กรณปลิโพธสฺเสว นิฏฺิตตฺตา นิฏฺิตภาโว เวทิตพฺโพ.

อุพฺภตสฺมึ กถิเนติ กถิเน จ อุพฺภตสฺมึ. เอเตน ทุติยสฺส ปลิโพธสฺส อภาวํ ทสฺเสติ. ตํ ปน กถินํ ยสฺมา อฏฺสุ วา มาติกาสุ เอกาย อนฺตรุพฺภาเรน วา อุทฺธรียติ, เตนสฺส นิทฺเทเส ‘‘อฏฺนฺนํ มาติกาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘อฏฺิมา, ภิกฺขเว, มาติกา กถินสฺส อุพฺภาราย – ปกฺกมนนฺติกา, นิฏฺานนฺติกา, สนฺนิฏฺานนฺติกา, นาสนนฺติกา, สวนนฺติกา, อาสาวจฺเฉทิกา, สีมาติกฺกนฺติกา, สหุพฺภารา’’ติ เอวํ อฏฺ มาติกาโย กถินกฺขนฺธเก อาคตา. อนฺตรุพฺภาโรปิ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ; ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ กถินํ อุทฺธเรยฺย, เอสา ตฺติ. สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ; สงฺโฆ กถินํ อุทฺธรติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ, กถินสฺส อุพฺภาโร, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย. อุพฺภตํ สงฺเฆน กถินํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (ปาจิ. ๙๒๖) เอวํ ภิกฺขุนีวิภงฺเค อาคโต. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ ตํ อาคตฏฺาเนเยว วณฺณยิสฺสาม. อิธ ปน วุจฺจมาเน ปาฬิ อาหริตพฺพา โหติ, อตฺโถปิ วตฺตพฺโพ. วุตฺโตปิ จ น สุวิฺเยฺโย โหติ, อฏฺาเน วุตฺตตฺตาย.

ทสาหปรมนฺติ ทส อหานิ ปรโม ปริจฺเฉโท อสฺสาติ ทสาหปรโม, ตํ ทสาหปรมํ กาลํ ธาเรตพฺพนฺติ อตฺโถ. ปทภาชเน ปน อตฺถมตฺตเมว ทสฺเสตุํ ‘‘ทสาหปรมตา ธาเรตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ ‘‘ทสาหปรม’’นฺติ เอตฺถ ยา ทสาหปรมตา ทสาหปรมภาโว, อยํ เอตฺตโก กาโล ยาว นาติกฺกมติ ตาว ธาเรตพฺพนฺติ.

อธิฏฺิตวิกปฺปิเตสุ อปริยาปนฺนตฺตา อติเรกํ จีวรนฺติ อติเรกจีวรํ. เตเนวสฺส ปทภาชเน วุตฺตํ ‘‘อนธิฏฺิตํ อวิกปฺปิต’’นฺติ.

ฉนฺนํ จีวรานํ อฺตรนฺติ โขมํ, กปฺปาสิกํ, โกเสยฺยํ, กมฺพลํ, สาณํ, ภงฺคนฺติ อิเมสํ ฉนฺนํ จีวรานํ อฺตรํ. เอเตน จีวรสฺส ชาตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปมาณํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิม’’นฺติ อาห. ตสฺส ปมาณํ ทีฆโต ทฺเว วิทตฺถิโย, ติริยํ วิทตฺถิ. ตตฺรายํ ปาฬิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อายาเมน อฏฺงฺคุลํ สุคตงฺคุเลน จตุรงฺคุลวิตฺถตํ ปจฺฉิมํ จีวรํ วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘).

ตํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยนฺติ ตํ ยถาวุตฺตชาติปฺปมาณํ จีวรํ ทสาหปรมํ กาลํ อติกฺกามยโต, เอตฺถนฺตเร ยถา อติเรกจีวรํ น โหติ ตถา อกุพฺพโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, ตฺจ จีวรํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, ปาจิตฺติยาปตฺติ จสฺส โหตีติ อตฺโถ. อถ วา นิสฺสชฺชนํ นิสฺสคฺคิยํ, ปุพฺพภาเค กตฺตพฺพสฺส วินยกมฺมสฺเสตํ นามํ. นิสฺสคฺคิยมสฺส อตฺถีติ นิสฺสคฺคิยมิจฺเจว. กินฺตํ? ปาจิตฺติยํ. ตํ อติกฺกามยโต สนิสฺสคฺคิยวินยกมฺมํ ปาจิตฺติยํ โหตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ปทภาชเน ปน ปมํ ตาว อตฺถวิกปฺปํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ โหตี’’ติ มาติกํ เปตฺวา ‘‘เอกาทเส อรุณุคฺคมเน นิสฺสคฺคิยํ โหติ, นิสฺสชฺชิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ปุน ยสฺส จ นิสฺสชฺชิตพฺพํ, ยถา จ นิสฺสชฺชิตพฺพํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺฆสฺส วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอกาทเส อรุณุคฺคมเนติ เอตฺถ ยํ ทิวสํ จีวรํ อุปฺปนฺนํ ตสฺส โย อรุโณ, โส อุปฺปนฺนทิวสนิสฺสิโต, ตสฺมา จีวรุปฺปาททิวสเอน สทฺธึ เอกาทเส อรุณุคฺคมเน นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. สเจปิ พหูนิ เอกชฺฌํ พนฺธิตฺวา วา เวเตฺวา วา ปิตานิ เอกาว อาปตฺติ. อพทฺธาเวิเตสุ วตฺถุคณนาย อาปตฺติโย.

นิสฺสชฺชิตฺวา อาปตฺติ เทเสตพฺพาติ กถํ เทเสตพฺพา? ยถา ขนฺธเก วุตฺตํ, กถฺจ ตตฺถ วุตฺตํ? เอวํ วุตฺตํ – ‘‘เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ตํ ปฏิเทเสมี’’’ติ (จูฬว. ๒๓๙). อิธ ปน สเจ เอกํ จีวรํ โหติ ‘‘เอกํ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ วตฺตพฺพํ. สเจ ทฺเว, ‘‘ทฺเว’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ พหูนิ ‘‘สมฺพหุลานี’’ติ วตฺตพฺพํ. นิสฺสชฺชเนปิ สเจ เอกํ ยถาปาฬิเมว ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, จีวร’’นฺติ วตฺตพฺพํ. สเจ ทฺเว วา พหูนิ วา, ‘‘อิมานิ เม, ภนฺเต, จีวรานิ ทสาหาติกฺกนฺตานิ นิสฺสคฺคิยานิ, อิมานาหํ สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชามี’’ติ วตฺตพฺพํ. ปาฬึ วตฺตุํ อสกฺโกนฺเตน อฺถาปิ วตฺตพฺพํ.

พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน อาปตฺติ ปฏิคฺคเหตพฺพาติ ขนฺธเก วุตฺตนเยเนว ปฏิคฺคเหตพฺพา. เอวฺหิ ตตฺถ วุตฺตํ – ‘‘พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ อาปตฺตึ สรติ วิวรติ อุตฺตานึ กโรติ เทเสติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺเหยฺย’นฺติ.

เตน วตฺตพฺโพ ‘ปสฺสสี’ติ? ‘อาม, ปสฺสามี’ติ. อายตึ สํวเรยฺยาสี’’ติ (จูฬว. ๒๓๙). ทฺวีสุ ปน สมฺพหุลาสุ วา ปุริมนเยเนว วจนเภโท าตพฺโพ.

จีวรทาเนปิ ‘‘สงฺโฆ อิมํ จีวรํ อิมานิ จีวรานี’’ติ วตฺถุวเสน วจนเภโท เวทิตพฺโพ. คณสฺส จ ปุคฺคลสฺส จ นิสฺสชฺชเนปิ เอเสว นโย.

อาปตฺติเทสนาปฏิคฺคหเณสุ ปเนตฺถ อยํ ปาฬิ – ‘‘เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา สมฺพหุเล ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺสุ วจนียา – ‘อหํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน ตํ ปฏิเทเสมี’ติ. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน เต ภิกฺขู าเปตพฺพา –

‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ อาปตฺตึ สรติ วิวรติ อุตฺตานึ กโรติ เทเสติ. ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺเหยฺย’นฺติ.

เตน วตฺตพฺโพ ‘ปสฺสสี’ติ? ‘อาม, ปสฺสามี’ติ. ‘อายตึ สํวเรยฺยาสี’ติ.

เตน ภิกฺขุนา เอกํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ, อาวุโส, อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน ตํ ปฏิเทเสมี’ติ. เตน วตฺตพฺโพ ‘ปสฺสสี’ติ, อาม ปสฺสามีติ อายตึ สํวเรยฺยาสี’’ติ (จูฬว. ๒๓๙). ตตฺถ ปุริมนเยเนว อาปตฺติยา นามคฺคหณํ วจนเภโท จ เวทิตพฺโพ.

ยถา จ คณสฺส นิสฺสชฺชเน เอวํ ทฺวินฺนํ นิสฺสชฺชเนปิ ปาฬิ เวทิตพฺพา. ยทิ หิ วิเสโส ภเวยฺย, ยเถว ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติณฺณนฺนํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กาตุํ, เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, กาตพฺโพ. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน เต ภิกฺขู าเปตพฺพา’’ติอาทินา นเยน ‘‘ติณฺณนฺนํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กาตุ’’นฺติ วตฺวา ปุน ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กาตุํ, เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, กาตพฺโพ. เถเรน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺค’’นฺติอาทินา (มหาว. ๑๖๘) นเยน วิสุํเยว ทฺวินฺนํ ปาริสุทฺธิอุโปสโถ วุตฺโต, เอวมิธาปิ วิสุํ ปาฬึ วเทยฺย, ยสฺมา ปน นตฺถิ, ตสฺมา อวตฺวา คโตติ, คณสฺส วุตฺตา ปาฬิเยเวตฺถ ปาฬิ.

อาปตฺติปฏิคฺคหเณ ปน อยํ วิเสโส, ยถา คณสฺส นิสฺสชฺชิตฺวา อาปตฺติยา เทสิยมานาย อาปตฺติปฏิคฺคาหโก ภิกฺขุ ตฺตึ เปติ, เอวํ อฏฺเปตฺวา ทฺวีสุ อฺตเรน ยถา เอกปุคฺคโล ปฏิคฺคณฺหาติ, เอวํ อาปตฺติ ปฏิคฺคเหตพฺพา. ทฺวินฺนฺหิ ตฺติฏฺปนา นาม นตฺถิ, ยทิ สิยา ทฺวินฺนํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ วิสุํ น วเทยฺย.

นิสฺสฏฺจีวรทาเนปิ ยถา ‘‘อิมํ จีวรํ อายสฺมโต ทมฺมี’’ติ เอโก วทติ, เอวํ ‘‘อิมํ มยํ จีวรํ อายสฺมโต เทมา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อิโต ครุกตรานิ หิ ตฺติทุติยกมฺมานิปิ ‘‘อปโลเกตฺวา กาตพฺพานี’’ติ วุตฺตานิ อตฺถิ, เตสํ เอตํ อนุโลมํ นิสฺสฏฺจีวรํ ปน ทาตพฺพเมว อทาตุํ น ลพฺภติ, วินยกมฺมมตฺตฺเหตํ. น ตํ เตน สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา ทินฺนเมว โหตีติ.

๔๖๘. ทสาหาติกฺกนฺเต อติกฺกนฺตสฺีติ ทสาหํ อติกฺกนฺเต จีวเร ‘‘อติกฺกนฺตํ อิท’’นฺติ เอวํสฺี, ทสาเห วา อติกฺกนฺเต ‘‘อติกฺกนฺโต ทสาโห’’ติ เอวํสฺี. นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยนฺติ น อิธ สฺา รกฺขติ. โยปิ เอวํสฺี, ตสฺสปิ ตํ จีวรํ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยาปตฺติ จ. สนิสฺสคฺคิยวินยกมฺมํ วา ปาจิตฺติยนฺติ อุโภปิ อตฺถวิกปฺปา ยุชฺชนฺติ. เอส นโย สพฺพตฺถ.

อวิสฺสชฺชิเต วิสฺสชฺชิตสฺีติ กสฺสจิ อทินฺเน อปริจฺจตฺเต ‘‘ปริจฺจตฺตํ มยา’’ติ เอวํสฺี.

อนฏฺเ นฏฺสฺีติ อตฺตโน จีวเรน สทฺธึ พหูนิ อฺเสํ จีวรานิ เอกโต ปิตานิ โจรา หรนฺติ. ตตฺเรส อตฺตโน จีวเร อนฏฺเ นฏฺสฺี โหติ. เอส นโย อวินฏฺาทีสุปิ.

อวิลุตฺเตติ เอตฺถ ปน คพฺภํ ภินฺทิตฺวา ปสยฺหาวหารวเสน อวิลุตฺเตติ เวทิตพฺพํ.

อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภุฺชติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ สกึ นิวตฺถํ วา สกึ ปารุตํ วา กายโต อโมเจตฺวา ทิวสมฺปิ วิจรติ, เอกาว อาปตฺติ. โมเจตฺวา โมเจตฺวา นิวาเสติ วา ปารุปติ วา ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. ทุนฺนิวตฺถํ วา ทุปฺปารุตํ วา สณฺเปนฺตสฺส อนาปตฺติ. อฺสฺส ตํ ปริภุฺชโตปิ อนาปตฺติ, ‘‘อนาปตฺติ อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภุฺชตี’’ติ (ปารา. ๕๗๐) อาทิวจนฺเจตฺถ สาธกํ. อนติกฺกนฺเต อติกฺกนฺตสฺิโน เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ ปริโภคํ สนฺธาย วุตฺตํ.

๔๖๙. ‘‘อนาปตฺติ อนฺโตทสาหํ อธิฏฺเติ, วิกปฺเปตี’’ติ เอตฺถ ปน อธิฏฺานุปคํ วิกปฺปนุปคฺจ เวทิตพฺพํ. ตตฺรายํ ปาฬิ – อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘ยานิ ตานิ ภควตา อนุฺาตานิ ‘ติจีวร’นฺติ วา ‘วสฺสิกสาฏิกา’ติ วา ‘นิสีทน’นฺติ วา ‘ปจฺจตฺถรณ’นฺติ วา ‘กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาที’ติ วา มุขปุฺฉนโจฬกนฺติ วา ปริกฺขารโจฬนฺติ วา สพฺพานิ ตานิ อธิฏฺาตพฺพานีติ นุ โข อุทาหุ วิกปฺเปตพฺพานี’’ติ, ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติจีวรํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ; วสฺสิกสาฏิกํ วสฺสานํ จาตุมาสํ อธิฏฺาตุํ ตโต ปรํ วิกปฺเปตุํ; นิสีทนํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ; ปจฺจตฺถรณํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ; กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทึ ยาวอาพาธา อธิฏฺาตุํ ตโต ปรํ วิกปฺเปตุํ; มุขปุฺฉนโจฬํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ; ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘).

‘‘ตตฺถ ติจีวรํ’’ อธิฏฺหนฺเตน รชิตฺวา กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา ปมาณยุตฺตเมว อธิฏฺาตพฺพํ. ตสฺส ปมาณํ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน สุคตจีวรโต อูนกํ วฏฺฏติ, ลามกปริจฺเฉเทน สงฺฆาฏิยา อุตฺตราสงฺคสฺส จ ทีฆโต มุฏฺิปฺจกํ ติริยํ มุฏฺิตฺติกํ ปมาณํ วฏฺฏติ. อนฺตรวาสโก ทีฆโต มุฏฺิปฺจโก ติริยํ ทฺวิหตฺโถปิ วฏฺฏติ. ปารุปเณนปิ หิ สกฺกา นาภึ ปฏิจฺฉาเทตุนฺติ. วุตฺตปฺปมาณโต ปน อติเรกํ อูนกฺจ ปริกฺขารโจฬนฺติ อธิฏฺาตพฺพํ.

ตตฺถ ยสฺมา ‘‘ทฺเว จีวรสฺส อธิฏฺานา – กาเยน วา อธิฏฺเติ, วาจาย วา อธิฏฺเตี’’ติ (ปริ. ๓๒๒) วุตฺตํ, ตสฺมา ปุราณสงฺฆาฏึ ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ ปจฺจุทฺธริตฺวา นวํ สงฺฆาฏึ หตฺเถน คเหตฺวา ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติ จิตฺเตน อาโภคํ กตฺวา กายวิการํ กโรนฺเตน กาเยน อธิฏฺาตพฺพา. อิทํ กาเยน อธิฏฺานํ, ตํ เยน เกนจิ สรีราวยเวน อผุสนฺตสฺส น วฏฺฏติ. วาจาย อธิฏฺาเน ปน วจีเภทํ กตฺวา วาจาย อธิฏฺาตพฺพา. ตตฺร ทุวิธํ อธิฏฺานํ – สเจ หตฺถปาเส โหติ ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา. อถ อนฺโตคพฺเภ วา อุปริปาสาเท วา สามนฺตวิหาเร วา โหติ ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘เอตํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา. เอส นโย อุตฺตราสงฺเค อนฺตรวาสเก จ. นามมตฺตเมว หิ วิเสโส. ตสฺมา สพฺพานิ สงฺฆาฏึ อุตฺตราสงฺคํ อนฺตรวาสกนฺติ เอวํ อตฺตโน นาเมเนว อธิฏฺาตพฺพานิ. สเจ อธิฏฺหิตฺวา ปิตวตฺเถหิ สงฺฆาฏิอาทีนิ กโรติ, นิฏฺิเต รชเน จ กปฺเป จ อิมํ ‘‘ปจฺจุทฺธรามี’’ติ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปุน อธิฏฺาตพฺพานิ. อธิฏฺิเตน ปน สทฺธึ มหนฺตตรเมว ทุติยปฏฺฏํ วา ขณฺฑํ วา สํสิพฺพนฺเตน ปุน อธิฏฺาตพฺพเมว. สเม วา ขุทฺทเก วา อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ.

ติจีวรํ ปน ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติ น วฏฺฏตีติ? มหาปทุมตฺเถโร กิราห – ‘‘ติจีวรํ ติจีวรเมว อธิฏฺาตพฺพํ. สเจ ปริกฺขารโจฬาธิฏฺานํ ลเภยฺย อุโทสิตสิกฺขาปเท ปริหาโร นิรตฺถโก ภเวยฺยา’’ติ. เอวํ วุตฺเต กิร อวเสสา ภิกฺขู อาหํสุ – ‘‘ปริกฺขารโจฬมฺปิ ภควตาว อธิฏฺาตพฺพนฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา วฏฺฏตี’’ติ. มหาปจฺจริยมฺปิ วุตฺตํ ‘‘ปริกฺขารโจฬํ นาม ปาเฏกฺกํ นิธานมุขเมตนฺติ ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬนฺติ อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. อุโทสิตสิกฺขาปเท ปน ติจีวรํ อธิฏฺหิตฺวา ปริหรนฺตสฺส ปริหาโร วุตฺโต’’ติ. อุภโตวิภงฺคภาณโก ปุณฺณวาลิกวาสี มหาติสฺสตฺเถโรปิ กิร อาห – ‘‘มยํ ปุพฺเพ มหาเถรานํ อสฺสุมฺห, อรฺวาสิโน ภิกฺขู รุกฺขสุสิราทีสุ จีวรํ เปตฺวา ปธานํ ปทหนตฺถาย คจฺฉนฺติ. สามนฺตวิหาเร ธมฺมสวนตฺถาย คตานฺจ เนสํ สูริเย อุฏฺิเต สามเณรา วา ทหรภิกฺขู วา ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, ตสฺมา สุขปริโภคตฺถํ ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬนฺติ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. มหาปจฺจริยมฺปิ วุตฺตํ ปุพฺเพ อารฺิกา ภิกฺขู อพทฺธสีมายํ ทุปฺปริหารนฺติ ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬเมว อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชึสู’’ติ.

‘‘วสฺสิกสาฏิกา’’ อนติริตฺตปฺปมาณา นามํ คเหตฺวา วุตฺตนเยเนว จตฺตาโร วสฺสิเก มาเส อธิฏฺาตพฺพา, ตโต ปรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพา. วณฺณเภทมตฺตรตฺตาปิ เจสา วฏฺฏติ. ทฺเว ปน น วฏฺฏนฺติ. ‘‘นิสีทนํ’’ วุตฺตนเยน อธิฏฺาตพฺพเมว, ตฺจ โข ปมาณยุตฺตํ เอกเมว, ทฺเว น วฏฺฏนฺติ. ‘‘ปจฺจตฺถรณ’’มฺปิ อธิฏฺาตพฺพเมว, ตํ ปน มหนฺตมฺปิ วฏฺฏติ, เอกมฺปิ วฏฺฏติ, พหูนิปิ วฏฺฏนฺติ. นีลมฺปิ ปีตกมฺปิ สทสมฺปิ ปุปฺผทสมฺปีติ สพฺพปฺปการํ วฏฺฏติ. สกึ อธิฏฺิตํ อธิฏฺิตเมว โหติ. ‘‘กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ’’ ยาว อาพาโธ อตฺถิ, ตาว ปมาณิกา อธิฏฺาตพฺพา. อาพาเธ วูปสนฺเต ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพา, เอกาว วฏฺฏติ. ‘‘มุขปุฺฉนโจฬํ’’ อธิฏฺาตพฺพเมว, ยาว เอกํ โธวิยติ, ตาว อฺํ ปริโภคตฺถาย อิจฺฉิตพฺพนฺติ ทฺเว วฏฺฏนฺติ. อปเร ปน เถรา ‘‘นิธานมุขเมตํ พหูนิปิ วฏฺฏนฺตี’’ติ วทนฺติ. ปริกฺขารโจเฬ คณนา นตฺถิ, ยตฺตกํ อิจฺฉติ ตตฺตกํ อธิฏฺาตพฺพเมว. ถวิกาปิ ปริสฺสาวนมฺปิ วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิมจีวรปฺปมาณํ ‘‘ปริกฺขารโจฬก’’นฺติ อธิฏฺาตพฺพเมว. พหูนิ เอกโต กตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ ปริกฺขารโจฬานิ อธิฏฺามี’’ติ อธิฏฺาตุมฺปิ วฏฺฏติเยว. เภสชฺชนวกมฺมมาตาปิตุอาทีนํ อตฺถาย เปนฺเตนปิ อธิฏฺาตพฺพเมว. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. มฺจภิสิ ปีกภิสิ พิมฺโพหนํ ปาวาโร โกชโวติ เอเตสุ ปน เสนาสนปริกฺขารตฺถาย ทินฺนปจฺจตฺถรเณ จ อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิเยว.

อธิฏฺิตจีวรํ ปน ปริภุฺชโต กถํ อธิฏฺานํ วิชหตีติ? อฺสฺส ทาเนน, อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณน, วิสฺสาสคฺคาเหน, หีนายาวตฺตเนน, สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน, กาลํกิริยาย, ลิงฺคปริวตฺตเนน, ปจฺจุทฺธรเณน, ฉิทฺทภาเวนาติ อิเมหิ นวหิ การเณหิ วิชหติ. ตตฺถ ปุริเมหิ อฏฺหิ สพฺพจีวรานิ อธิฏฺานํ วิชหนฺติ, ฉิทฺทภาเวน ปน ติจีวรสฺเสว สพฺพอฏฺกถาสุ อธิฏฺานวิชหนํ วุตฺตํ, ตฺจ นขปิฏฺิปฺปมาเณน ฉิทฺเทน. ตตฺถ นขปิฏฺิปฺปมาณํ กนิฏฺงฺคุลินขวเสน เวทิตพฺพํ, ฉิทฺทฺจ วินิพฺพิทฺธฉิทฺทเมว. ฉิทฺทสฺส หิ อพฺภนฺตเร เอกตนฺตุ เจปิ อจฺฉินฺโน โหติ, รกฺขติ. ตตฺถ สงฺฆาฏิยา จ อุตฺตราสงฺคสฺส จ ทีฆนฺตโต วิทตฺถิปฺปมาณสฺส ติริยนฺตโต อฏฺงฺคุลปฺปมาณสฺส ปเทสสฺส โอรโต ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทติ, ปรโต น ภินฺทติ. อนฺตรวาสกสฺส ปน ทีฆนฺตโต วิทตฺถิปฺปมาณสฺเสว ติริยนฺตโต จตุรงฺคุลปฺปมาณสฺส ปเทสสฺส โอรโต ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทติ, ปรโต น ภินฺทติ. ตสฺมา ชาเต ฉิทฺเท ตํ จีวรํ อติเรกจีวรฏฺาเน ติฏฺติ, สูจิกมฺมํ กตฺวา ปุน อธิฏฺาตพฺพํ. มหาสุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘ปมาณจีวรสฺส ยตฺถ กตฺถจิ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทติ, มหนฺตสฺส ปน ปมาณโต พหิ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ น ภินฺทติ, อนฺโตชาตํ ภินฺทตี’’ติ. กรวีกติสฺสตฺเถโร อาห – ‘‘ขุทฺทกํ มหนฺตํ น ปมาณํ, ทฺเว จีวรานิ ปารุปนฺตสฺส วามหตฺเถ สงฺฆริตฺวา ปิตฏฺาเน ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ น ภินฺทติ, โอรภาเค ภินฺทติ. อนฺตรวาสกสฺสปิ โอวฏฺฏิกํ กโรนฺเตน สงฺฆริตฏฺาเน ฉิทฺทํ น ภินฺทติ, ตโต โอรํ ภินฺทตี’’ติ. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ติจีวเร มหาสุมตฺเถรวาทํ ปมาณํ กตฺวา อุตฺตริมฺปิ อิทํ วุตฺตํ ‘‘ปจฺฉิมปฺปมาณํ อธิฏฺานํ รกฺขตี’’ติ. ปริกฺขารโจเฬ ทีฆโส อฏฺงฺคุเล สุคตงฺคุเลน ติริยํ จตุรงฺคุเล ยตฺถ กตฺถจิ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ วิชหติ. มหนฺเต โจเฬ ตโต ปเรน ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ น วิชหติ. เอส นโย สพฺเพสุ อธิฏฺาตพฺพเกสุ จีวเรสู’’ติ.

ตตฺถ ยสฺมา สพฺเพสมฺปิ อธิฏฺาตพฺพกจีวรานํ วิกปฺปนุปคปจฺฉิมปฺปมาณโต อฺํ ปจฺฉิมปฺปมาณํ นาม นตฺถิ, ยฺหิ นิสีทน-กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ-วสฺสิกสาฏิกานํ ปมาณํ วุตฺตํ, ตํ อุกฺกฏฺํ, ตโต อุตฺตริ ปฏิสิทฺธตฺตา น ปจฺฉิมํ ตโต เหฏฺา อปฺปฏิสิทฺธตฺตา. ติจีวรสฺสาปิ สุคตจีวรปฺปมาณโต อูนกตฺตํ อุกฺกฏฺปฺปมาณเมว. ปจฺฉิมํ ปน วิสุํ สุตฺเต วุตฺตํ นตฺถิ. มุขปุฺฉนปจฺจตฺถรณปริกฺขารโจฬานํ อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท นตฺถิเยว. วิกปฺปนุปคปจฺฉิเมน ปน ปจฺฉิมปริจฺเฉโท วุตฺโต. ตสฺมา ยํ ตาว อนฺธกฏฺกถายํ ‘‘ปจฺฉิมปฺปมาณํ อธิฏฺานํ รกฺขตี’’ติ วตฺวา ตตฺถ ปริกฺขารโจฬสฺเสว สุคตงฺคุเลน อฏฺงฺคุลจตุรงฺคุลปจฺฉิมปฺปมาณํ ทสฺเสตฺวา อิตเรสํ ติจีวราทีนํ มุฏฺิปฺจกาทิปเภทํ ปจฺฉิมปฺปมาณํ สนฺธาย ‘‘เอส นโย สพฺเพสุ อธิฏฺาตพฺพเกสุจีวเรสู’’ติ วุตฺตํ, ตํ น สเมติ.

กรวีกติสฺสตฺเถรวาเทปิ ทีฆนฺตโตเยว ฉิทฺทํ ทสฺสิตํ, ติริยนฺตโต น ทสฺสิตํ, ตสฺมา โส อปริจฺฉินฺโน. มหาสุมตฺเถรวาเท ‘‘ปมาณจีวรสฺส ยตฺถ กตฺถจิ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทติ, มหนฺตสฺส ปน ปมาณโต พหิ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ น ภินฺทตี’’ติ วุตฺตํ. อิทํ ปน น วุตฺตํ – ‘‘อิทํ นาม ปมาณจีวรํ อิโต อุตฺตริ มหนฺตํ จีวร’’นฺติ. อปิเจตฺถ ติจีวราทีนํ มุฏฺิปฺจกาทิเภทํ ปจฺฉิมปฺปมาณนฺติ อธิปฺเปตํ. ตตฺถ ยทิ ปจฺฉิมปฺปมาณโต พหิ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ น ภินฺเทยฺย, อุกฺกฏฺปตฺตสฺสาปิ มชฺฌิมปตฺตสฺส วา โอมกปฺปมาณโต พหิ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ น ภินฺเทยฺย, น จ น ภินฺทติ. ตสฺมา อยมฺปิ วาโท อปริจฺฉินฺโน.

โย ปนายํ สพฺพปโม อฏฺกถาวาโท, อยเมเวตฺถ ปมาณํ. กสฺมา? ปริจฺเฉทสพฺภาวโต. ติจีวรสฺส หิ ปจฺฉิมปฺปมาณฺจ ฉิทฺทปฺปมาณฺจ ฉิทฺทุปฺปตฺติเทสปฺปมาณฺจ สพฺพอฏฺกถาสุเยว ปริจฺฉินฺทิตฺวา วุตฺตํ, ตสฺมา สฺเวว วาโท ปมาณํ. อทฺธา หิ โส ภควโต อธิปฺปายํ อนุคนฺตฺวา วุตฺโต. อิตเรสุ ปน เนว ปริจฺเฉโท อตฺถิ, น ปุพฺพาปรํ สเมตีติ.

โย ปน ทุพฺพลฏฺาเน ปมํ อคฺคฬํ ทตฺวา ปจฺฉา ทุพฺพลฏฺานํ ฉินฺทิตฺวา อปเนติ, อธิฏฺานํ น ภิชฺชติ. มณฺฑลปริวตฺตเนปิ เอเสว นโย. ทุปฏฺฏสฺส เอกสฺมึ ปฏเล ฉิทฺเท วา ชาเต คฬิเต วา อธิฏฺานํ น ภิชฺชติ, ขุทฺทกํ จีวรํ มหนฺตํ กโรติ, มหนฺตํ วา ขุทฺทกํ กโรติ, อธิฏฺานํ น ภิชฺชติ. อุโภ โกฏิโย มชฺเฌ กโรนฺโต สเจ ปมํ ฉินฺทิตฺวา ปจฺฉา ฆเฏติ, อธิฏฺานํ ภิชฺชติ. อถ ฆเฏตฺวา ฉินฺทติ, น ภิชฺชติ, รชเกหิ โธวาเปตฺวา เสตํ การาเปนฺตสฺสาปิ อธิฏฺานํ อธิฏฺานเมวาติ. อยํ ตาว ‘‘อนฺโตทสาหํ อธิฏฺเติ วิกปฺเปตี’’ติ เอตฺถ อธิฏฺาเน วินิจฺฉโย.

วิกปฺปเน ปน ทฺเว วิกปฺปนา – สมฺมุขาวิกปฺปนา จ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา จ. กถํ สมฺมุขาวิกปฺปนา โหตีติ? จีวรานํ เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ‘‘‘อิมํ จีวร’นฺติ วา ‘อิมานิ จีวรานี’ติ วา ‘เอตํ จีวร’นฺติ วา ‘เอตานิ จีวรานี’’’ติ วา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วตฺตพฺพํ, อยเมกา สมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริภุฺชิตุํ ปน วิสฺสชฺเชตุํ วา อธิฏฺาตุํ วา น วฏฺฏติ. ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ, มยฺหํ สนฺตกานิ ปริภุฺช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ เอวํ ปน วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ. ตโตปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.

อปโรปิ นโย – ตเถว จีวรานํ เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ตสฺเสว ภิกฺขุโน สนฺติเก ‘‘‘อิมํ จีวร’นฺติ วา ‘อิมานิ จีวรานี’ติ วา ‘เอตํ จีวร’นฺติ วา ‘เอตานิ จีวรานี’’’ติ วา วตฺวา ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ อฺตรสฺส อตฺตนา อภิรุจิตสฺส ยสฺส กสฺสจิ นามํ คเหตฺวา ‘‘‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน วิกปฺเปมี’ติ วา ‘ติสฺสาย ภิกฺขุนิยา, สิกฺขมานาย, ติสฺสสฺส สามเณรสฺส, ติสฺสาย สามเณริยา วิกปฺเปมี’’’ติ วา วตฺตพฺพํ, อยํ อปราปิ สมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริโภคาทีสุ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. เตน ปน ภิกฺขุนา ‘‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน สนฺตกํ…เป… ติสฺสาย สามเณริยา สนฺตกํ ปริภุฺช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ. ตโตปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.

กถํ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา โหตีติ? จีวรานํ ตเถว เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ‘‘‘อิมํ จีวร’นฺติ วา ‘อิมานิ จีวรานี’ติ วา ‘เอตํ จีวร’นฺติ วา ‘เอตานิ จีวรานี’’’ติ วา วตฺวา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺปนตฺถาย ทมฺมี’’ติ วตฺตพฺพํ. เตน วตฺตพฺโพ – ‘‘โก เต มิตฺโต วา สนฺทิฏฺโ วา’’ติ? ตโต อิตเรน ปุริมนเยเนว ‘‘ติสฺโส ภิกฺขูติ วา…เป… ติสฺสา สามเณรี’’ติ วา วตฺตพฺพํ. ปุน เตน ภิกฺขุนา ‘‘อหํ ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน ทมฺมีติ วา…เป… ติสฺสาย สามเณริยา ทมฺมี’’ติ วา วตฺตพฺพํ, อยํ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริโภคาทีสุ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. เตน ปน ภิกฺขุนา ทุติยสมฺมุขาวิกปฺปนายํ วุตฺตนเยเนว ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส สนฺตกํ ปริภุฺช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ. ตโตปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.

ทฺวินฺนํ วิกปฺปนานํ กึ นานากรณํ? สมฺมุขาวิกปฺปนายํ สยํ วิกปฺเปตฺวา ปเรน ปจฺจุทฺธราเปติ. ปรมฺมุขาวิกปฺปนาย ปเรเนว วิกปฺปาเปตฺวา ปเรเนว ปจฺจุทฺธราเปติ, อิทเมตฺถ นานากรณํ. สเจ ปน ยสฺส วิกปฺเปติ, โส ปฺตฺติโกวิโท น โหติ, น ชานาติ ปจฺจุทฺธริตุํ, ตํ จีวรํ คเหตฺวา อฺสฺส พฺยตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุน วิกปฺเปตฺวา ปจฺจุทฺธราเปตพฺพํ. วิกปฺปิตวิกปฺปนา นาเมสา วฏฺฏติ. อยํ ‘‘วิกปฺเปตี’’ติ อิมสฺมึ ปเท วินิจฺฉโย.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติจีวรํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุ’’นฺติอาทิวจนโต จ อิทํ ‘‘วิกปฺเปตี’’ติ อวิเสเสน วุตฺตวจนํ วิรุทฺธํ วิย ทิสฺสติ, น จ วิรุทฺธํ ตถาคตา ภาสนฺติ. ตสฺมา เอวมสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ, ติจีวรํ ติจีวรสงฺเขเปเนว ปริหรโต อธิฏฺาตุเมว อนุชานามิ, น วิกปฺเปตุํ. วสฺสิกสาฏิกํ ปน จาตุมาสโต ปรํ วิกปฺเปตุเมว น อธิฏฺาตุํ. เอวฺจ สติ โย ติจีวเร เอเกน จีวเรน วิปฺปวสิตุกาโม โหติ, ตสฺส ติจีวราธิฏฺานํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิปฺปวาสสุขตฺถํ วิกปฺปนาย โอกาโส ทินฺโน โหติ. ทสาหาติกฺกเม จ อนาปตฺตีติ เอเตนุปาเยน สพฺพตฺถ วิกปฺปนาย อปฺปฏิสิทฺธภาโว เวทิตพฺโพ.

วิสฺสชฺเชตีติ อฺสฺส เทติ. กถํ ปน ทินฺนํ โหติ, กถํ คหิตํ? ‘‘อิมํ ตุยฺหํ เทมิ ททามิ ทชฺชามิ โอโณเชมิ ปริจฺจชามิ นิสฺสชฺชามิ วิสฺสชฺชามีติ วา ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส เทมิ…เป… นิสฺสชฺชามี’’ติ วา วทติ, สมฺมุขาปิ ปรมฺมุขาปิ ทินฺนํเยว โหติ. ‘‘ตุยฺหํ คณฺหาหี’’ติ วุตฺเต ‘‘มยฺหํ คณฺหามี’’ติ วทติ, สุทินฺนํ สุคฺคหิตฺจ. ‘‘ตว สนฺตกํ กโรหิ, ตว สนฺตกํ โหตุ, ตว สนฺตกํ กริสฺสสี’’ติ วุตฺเต ‘‘มม สนฺตกํ กโรมิ, มม สนฺตกํ โหตุ, มม สนฺตกํ กริสฺสามี’’ติ วทติ, ทุทฺทินฺนํ ทุคฺคหิตฺจ. เนว ทาตา ทาตุํ ชานาติ, น อิตโร คเหตุํ. สเจ ปน ‘‘ตว สนฺตกํ กโรหี’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ, ภนฺเต, มยฺหํ คณฺหามี’’ติ คณฺหาติ, สุคฺคหิตํ. สเจ ปน ‘‘เอโก คณฺหาหี’’ติ วทติ, อิตโร ‘‘น คณฺหามี’’ติ ปุน โส ‘‘ทินฺนํ มยา ตุยฺหํ, คณฺหาหี’’ติ วทติ, อิตโรปิ ‘‘น มยฺหํ อิมินา อตฺโถ’’ติ วทติ. ตโต ปุริโมปิ ‘‘มยา ทินฺน’’นฺติ ทสาหํ อติกฺกาเมติ, ปจฺฉิโมปิ ‘‘มยา ปฏิกฺขิตฺต’’นฺติ. กสฺส อาปตฺตีติ? น กสฺสจิ อาปตฺติ. ยสฺส ปน รุจฺจติ, เตน อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ.

โย ปน อธิฏฺาเน เวมติโก, เตน กึ กาตพฺพํ? เวมติกภาวํ อาโรเจตฺวา สเจ อนธิฏฺิตํ ภวิสฺสติ, เอวํ เม กปฺปิยํ โหตีติ วตฺวา วุตฺตนเยเนว นิสฺสชฺชิตพฺพํ. น หิ เอวํ ชานาเปตฺวา วินยกมฺมํ กโรนฺตสฺส มุสาวาโท โหติ. เกจิ ปน ‘‘เอเกน ภิกฺขุนา วิสฺสาสํ คเหตฺวา ปุน ทินฺนํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุชฺชติ. น หิ ตสฺเสตํ วินยกมฺมํ, นาปิ ตํ เอตฺตเกน อฺํ วตฺถุํ โหติ.

นสฺสตีติอาทิ อุตฺตานตฺถเมว. โย น ทเทยฺย อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอตฺถ ‘‘มยฺหํ ทินฺนํ อิมินา’’ติ อิมาย สฺาย น เทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ตสฺส สนฺตกภาวํ ปน ตฺวา เลเสน อจฺฉินฺทนฺโต ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพติ.

สมุฏฺานาทีสุ อิทํ สิกฺขาปทํ กถินสมุฏฺานํ นาม กายวาจาโต จ กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, อนธิฏฺาเนน จ อวิกปฺปเนน จ อาปชฺชนโต อกิริยํ, สฺาย อภาเวปิ น มุจฺจติ, อชานนฺโตปิ อาปชฺชตีติ โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ปมกถินสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๗๑. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ อุโทสิตสิกฺขาปทํ. ตตฺถ สนฺตรุตฺตเรนาติ อนฺตรนฺติ อนฺตรวาสโก วุจฺจติ, อุตฺตรนฺติ อุตฺตราสงฺโค, สห อนฺตเรน อุตฺตรํ สนฺตรุตฺตรํ, เตน สนฺตรุตฺตเรน, สห อนฺตรวาสเกน อุตฺตราสงฺเคนาติ อตฺโถ. กณฺณกิตานีติ เสเทน ผุฏฺโกาเสสุ สฺชาตกาฬเสตมณฺฑลานิ. อทฺทส โข อายสฺมา อานนฺโท เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑนฺโตติ เถโร กิร ภควติ ทิวา ปฏิสลฺลานตฺถาย คนฺธกุฏึ ปวิฏฺเ ตํ โอกาสํ ลภิตฺวา ทุนฺนิกฺขิตฺตานิ ทารุภณฺฑมตฺติกาภณฺฑานิ ปฏิสาเมนฺโต อสมฺมฏฺฏฺานํ สมฺมชฺชนฺโต คิลาเนหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต เตสํ ภิกฺขูนํ เสนาสนฏฺานํ สมฺปตฺโต อทฺทส. เตน วุตฺตํ – ‘‘อทฺทส โข อายสฺมา อานนฺโท เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑนฺโต’’ติ.

๔๗๓. อวิปฺปวาสสมฺมุตึ ทาตุนฺติ อวิปฺปวาเส สมฺมุติ อวิปฺปวาสสมฺมุติ, อวิปฺปวาสาย วา สมฺมุติ อวิปฺปวาสสมฺมุติ. โก ปเนตฺถ อานิสํโส? เยน จีวเรน วิปฺปวสติ, ตํ นิสฺสคฺคิยํ น โหติ, อาปตฺติฺจ นาปชฺชติ. กิตฺตกํ กาลํ? มหาสุมตฺเถโร ตาว อาห – ‘‘ยาว โรโค น วูปสมติ, วูปสนฺเต ปน โรเค สีฆํ จีวรฏฺานํ อาคนฺตพฺพ’’นฺติ. มหาปทุมตฺเถโร อาห – ‘‘สีฆํ อาคจฺฉโต โรโค ปฏิกุปฺเปยฺย, ตสฺมา สณิกํ อาคนฺตพฺพํ. ยโต ปฏฺาย หิ สตฺถํ วา ปริเยสติ, ‘คจฺฉามี’ติ อาโภคํ วา กโรติ, ตโต ปฏฺาย วฏฺฏติ. ‘น ทานิ คมิสฺสามี’ติ เอวํ ปน ธุรนิกฺเขปํ กโรนฺเตน ปจฺจุทฺธริตพฺพํ, อติเรกจีวรฏฺาเน สฺสตี’’ติ. สเจ ปนสฺส โรโค ปฏิกุปฺปติ, กึ กาตพฺพนฺติ? ผุสฺสเทวตฺเถโร ตาว อาห – ‘‘สเจ โสเยว โรโค ปฏิกุปฺปติ, สา เอว สมฺมุติ, ปุน สมฺมุติทานกิจฺจํ นตฺถิ. อถฺโ กุปฺปติ, ปุน ทาตพฺพา สมฺมุตี’’ติ. อุปติสฺสตฺเถโร อาห – ‘‘โส วา โรโค โหตุ, อฺโ วา ปุน สมฺมุติทานกิจฺจํ นตฺถี’’ติ.

๔๗๕-๖. นิฏฺิตจีวรสฺมึ ภิกฺขุนาติ อิธ ปน ปุริมสิกฺขาปเท วิย อตฺถํ อคฺคเหตฺวา นิฏฺิเต จีวรสฺมึ ภิกฺขุโนติ เอวํ สามิวเสน กรณวจนสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ. กรณวเสน หิ ภิกฺขุนา อิทํ นาม กาตพฺพนฺติ นตฺถิ. สามิวเสน ปน ภิกฺขุโน จีวรสฺมึ นิฏฺิเต กถิเน จ อุพฺภเต เอวํ ฉินฺนปลิโพโธ เอกรตฺตมฺปิ เจ ภิกฺขุ ติจีวเรน วิปฺปวเสยฺยาติ เอวํ อตฺโถ ยุชฺชติ. ตตฺถ ติจีวเรนาติ อธิฏฺิเตสุ ตีสุ จีวเรสุ เยน เกนจิ. เอเกน วิปฺปวุตฺโถปิ หิ ติจีวเรน วิปฺปวุตฺโถ โหติ, ปฏิสิทฺธปริยาปนฺเนน วิปฺปวุตฺถตฺตา. เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘สงฺฆาฏิยา วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิปฺปวเสยฺยาติ วิปฺปยุตฺโต วเสยฺย.

๔๗๗-๘. คาโม เอกูปจาโรติอาทิ อวิปฺปวาสลกฺขณววตฺถาปนตฺถํ วุตฺตํ. ตโต ปรํ ยถากฺกเมน ตาเนว ปนฺนรส มาติกาปทานิ วิตฺถาเรนฺโต ‘‘คาโม เอกูปจาโร นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เอกกุลสฺส คาโมติ เอกสฺส รฺโ วา โภชกสฺส วา คาโม. ปริกฺขิตฺโตติ เยน เกนจิ ปากาเรน วา วติยา วา ปริกฺขาย วา ปริกฺขิตฺโต. เอตฺตาวตา เอกกุลคามสฺส เอกูปจารตา ทสฺสิตา. อนฺโตคาเม วตฺถพฺพนฺติ เอวรูเป คาเม จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา คามพฺภนฺตเร ยถารุจิเต าเน อรุณํ อุฏฺาเปตุํ วฏฺฏติ. อปริกฺขิตฺโตติ อิมินา ตสฺเสว คามสฺส นานูปจารตา ทสฺสิตา. เอวรูเป คาเม ยสฺมึ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตตฺถ วตฺถพฺพํ. หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพนฺติ อถ วา ตํ ฆรํ สมนฺตโต หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพํ, อฑฺฒเตยฺยรตนปฺปมาณปฺปเทสา อุทฺธํ น วิชหิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. อฑฺฒเตยฺยรตนพฺภนฺตเร ปน วตฺถุํ วฏฺฏติ. ตํ ปมาณํ อติกฺกมิตฺวา สเจปิ อิทฺธิมา ภิกฺขู อากาเส อรุณํ อุฏฺาเปติ, นิสฺสคฺคิยเมว โหติ. เอตฺถ จ ยสฺมึ ฆเรติ ฆรปริจฺเฉโท ‘‘เอกกุลสฺส นิเวสนํ โหตี’’ติอาทินา (ปารา. ๔๘๐) ลกฺขเณน เวทิตพฺโพ.

๔๗๙. นานากุลสฺส คาโมติ นานาราชูนํ วา โภชกานํ วา คาโม, เวสาลิกุสินาราทิสทิโส. ปริกฺขิตฺโตติ อิมินา นานากุลคามสฺส เอกูปจารตา ทสฺสิตา. สภาเย วา ทฺวารมูเล วาติ เอตฺถ สภายนฺติ ลิงฺคพฺยตฺตเยน สภา วุตฺตา. ทฺวารมูเลติ นครทฺวารสฺส สมีเป. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เอวรูเป คาเม ยสฺมึ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตตฺถ วา วตฺถพฺพํ. ตตฺถ สทฺทสงฺฆฏฺฏเนน วา ชนสมฺพาเธน วา วสิตุํ อสกฺโกนฺเตน สภาเย วา วตฺถพฺพํ นครทฺวารมูเล วา. ตตฺรปิ วสิตุํ อสกฺโกนฺเตน ยตฺถ กตฺถจิ ผาสุกฏฺาเน วสิตฺวา อนฺโตอรุเณ อาคมฺม เตสํเยว สภายทฺวารมูลานํ หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํ. ฆรสฺส ปน จีวรสฺส วา หตฺถปาเส วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.

สภายํ คจฺฉนฺเตน หตฺถปาเส จีวรํ นิกฺขิปิตฺวาติ สเจ ฆเร อฏฺเปตฺวา สภาเย เปสฺสามีติ สภายํ คจฺฉติ, เตน สภายํ คจฺฉนฺเตน หตฺถปาเสติ หตฺถํ ปสาเรตฺวา ‘‘หนฺทิมํ จีวรํ เปมี’’ติ เอวํ นิกฺเขปสุเข หตฺถปาสคเต กิสฺมิฺจิ อาปเณ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ปุริมนเยเนว สภาเย วา วตฺถพฺพํ ทฺวารมูเล วา, หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํ.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ผุสฺสเทวตฺเถโร ตาว อาห – ‘‘จีวรหตฺถปาเส วสิตพฺพํ นตฺถิ, ยตฺถ กตฺถจิ วีถิหตฺถปาเสปิ สภายหตฺถปาเสปิ ทฺวารหตฺถปาเสปิ วสิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. อุปติสฺสตฺเถโร ปนาห – ‘‘นครสฺส พหูนิปิ ทฺวารานิ โหนฺติ พหูนิปิ สภายานิ, ตสฺมา สพฺพตฺถ น วฏฺฏติ. ยสฺสา ปน วีถิยา จีวรํ ปิตํ ยํ ตสฺสา สมฺมุขฏฺาเน สภายฺจ ทฺวารฺจ ตสฺส สภายสฺส จ ทฺวารสฺส จ หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพํ. เอวฺหิ สติ สกฺกา จีวรสฺส ปวตฺติ ชานิตุ’’นฺติ. สภายํ ปน คจฺฉนฺเตน ยสฺส อาปณิกสฺส หตฺเถ นิกฺขิตฺตํ, สเจ โส ตํ จีวรํ อติหริตฺวา ฆเร นิกฺขิปติ, วีถิหตฺถปาโส น รกฺขติ, ฆรสฺส หตฺถปาเส วตฺถพฺพํ. สเจ มหนฺตํ ฆรํ โหติ, ทฺเว วีถิโย ผริตฺวา ิตํ ปุรโต วา ปจฺฉโต วา หตฺถปาเสเยว อรุณํ อุฏฺาเปตพฺพํ. สภาเย นิกฺขิปิตฺวา ปน สภาเย วา ตสฺส สมฺมุเข นครทฺวารมูเล วา เตสํเยว หตฺถปาเส วา อรุณํ อุฏฺาเปตพฺพํ.

อปริกฺขิตฺโตติอิมินา ตสฺเสว คามสฺส นานูปจารตา ทสฺสิตา. เอเตเนวุปาเยน สพฺพตฺถ เอกูปจารตา จ นานูปจารตา จ เวทิตพฺพา. ปาฬิยํ ปน ‘‘คาโม เอกูปจาโร นามา’’ติ เอวํ อาทิมฺหิ ‘‘อชฺโฌกาโส เอกูปจาโร นามา’’ติ เอวํ อนฺเต จ เอกเมว มาติกาปทํ อุทฺธริตฺวา ปทภาชนํ วิตฺถาริตํ. ตสฺมา ตสฺเสว ปทสฺสานุสาเรน สพฺพตฺถ ปริกฺเขปาทิวเสน เอกูปจารตา จ นานูปจารตา จ เวทิตพฺพา.

๔๘๐-๑. นิเวสนาทีสุ โอวรกาติ คพฺภานํเยเวตํ ปริยายวจนํ. หตฺถปาสา วาติ คพฺภสฺส หตฺถปาสา. ทฺวารมูเล วาติ สพฺเพสํ สาธารเณ ฆรทฺวารมูเล. หตฺถปาสา วาติ คพฺภสฺส วา ฆรทฺวารมูลสฺส วา หตฺถปาสา.

๔๘๒-๗. อุโทสิโตติ ยานาทีนํ ภณฺฑานํ สาลา. อิโต ปฏฺาย จ นิเวสเน วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อฏฺโฏติ ปฏิราชาทิปฏิพาหนตฺถํ อิฏฺกาหิ กโต พหลภิตฺติโก จตุปฺจภูมิโก ปติสฺสยวิเสโส. มาโฬติ เอกกูฏสงฺคหิโต จตุรสฺสปาสาโท. ปาสาโทติ ทีฆปาสาโท. หมฺมิยนฺติ มุณฺฑจฺฉทนปาสาโท.

๔๘๙. สตฺตพฺภนฺตราติเอตฺถ เอกํ อพฺภนฺตรํ อฏฺวีสติหตฺถํ โหติ. สเจ สตฺโถ คจฺฉนฺโต คามํ วา นทึ วา ปริยาทิยิตฺวา ติฏฺติ อนฺโตปวิฏฺเน สทฺธึ เอกาพทฺโธ หุตฺวา โอรฺจ ปารฺจ ผริตฺวา ิโต โหติ, สตฺถปริหาโรว ลพฺภติ. อถ คาเม วา นทิยา วา ปริยาปนฺโน โหติ อนฺโตปวิฏฺโ, คามปริหาโร เจว นทีปริหาโร จ ลพฺภติ. สเจ วิหารสีมํ อติกฺกมิตฺวา ติฏฺติ, อนฺโตสีมาย จ จีวรํ โหติ, วิหารํ คนฺตฺวา วสิตพฺพํ. สเจ พหิสีมาย จีวรํ โหติ สตฺถสมีเปเยว วสิตพฺพํ. สเจ คจฺฉนฺโต สกเฏ วา ภคฺเค โคเณ วา นฏฺเ อนฺตรา ฉิชฺชติ, ยสฺมึ โกฏฺาเส จีวรํ ตตฺถ วสิตพฺพํ.

๔๙๐. เอกกุลสฺส เขตฺเต หตฺถปาโส นาม จีวรหตฺถปาโสเยว, นานากุลสฺส เขตฺเต หตฺถปาโส นาม เขตฺตทฺวารสฺส หตฺถปาโส. อปริกฺขิตฺเต จีวรสฺเสว หตฺถปาโส.

๔๙๑-๔. ธฺกรณนฺติ ขลํ วุจฺจติ. อาราโมติ ปุปฺผาราโม วา ผลาราโม วา. ทฺวีสุปิ เขตฺเต วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโย. วิหาโร นิเวสนสทิโส. รุกฺขมูเล อนฺโตฉายายนฺติ ฉายาย ผุฏฺโกาสสฺส อนฺโต เอว. วิรฬสาขสฺส ปน รุกฺขสฺส อาตเปน ผุฏฺโกาเส ปิตํ นิสฺสคฺคิยเมว โหติ, ตสฺมา ตาทิสสฺส สาขาจฺฉายาย วา ขนฺธจฺฉายาย วา เปตพฺพํ. สเจ สาขาย วา วิฏเป วา เปติ, อุปริ อฺสาขาจฺฉายาย ผุฏฺโกาเสเยว เปตพฺพํ. ขุชฺชรุกฺขสฺส ฉายา ทูรํ คจฺฉติ, ฉายาย คตฏฺาเน เปตุํ วฏฺฏติเยว. อิธาปิ หตฺถปาโส จีวรหตฺถปาโสเยว.

อคามเก อรฺเติ อคามกํ นาม อรฺํ วิฺฌาฏวีอาทีสุ วา สมุทฺทมชฺเฌ วา มจฺฉพนฺธานํ อคมนปเถ ทีปเกสุ ลพฺภติ. สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตราติ มชฺเฌ ิตสฺส สมตฺตา สพฺพทิสาสุ สตฺตพฺภนฺตรา, วินิพฺเพเธน จุทฺทส โหนฺติ. มชฺเฌ นิสินฺโน ปุรตฺถิมาย วา ปจฺฉิมาย วา ทิสาย ปริยนฺเต ปิตจีวรํ รกฺขติ. สเจ ปน อรุณุคฺคมนสมเย เกสคฺคมตฺตมฺปิ ปุรตฺถิมํ ทิสํ คจฺฉติ, ปจฺฉิมาย ทิสาย จีวรํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ. เอส นโย อิตรสฺมึ. อุโปสถกาเล ปน ปริสปริยนฺเต นิสินฺนภิกฺขุโต ปฏฺาย สตฺตพฺภนฺตรสีมา โสเธตพฺพา. ยตฺตกํ ภิกฺขุสงฺโฆ วฑฺฒติ, สีมาปิ ตตฺตกํ วฑฺฒติ.

๔๙๕. อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภุฺชติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอตฺถ สเจ ปธานิโก ภิกฺขุ สพฺพรตฺตึ ปธานมนุยุฺชิตฺวา ปจฺจุสสมเย ‘‘นฺหายิสฺสามี’’ติ ตีณิปิ จีวรานิ ตีเร เปตฺวา นทึ โอตรติ, นฺหายนฺตสฺเสว จสฺส อรุณํ อุฏฺหติ, กึ กาตพฺพํ. โส หิ ยทิ อุตฺตริตฺวา จีวรํ นิวาเสติ, นิสฺสคฺคิยจีวรํ อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภุฺชนปจฺจยา ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. อถ นคฺโค คจฺฉติ, เอวมฺปิ ทุกฺกฏํ อาปชฺชตีติ? น อาปชฺชติ. โส หิ ยาว อฺํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา วินยกมฺมํ น กโรติ, ตาว เตสํ จีวรานํ อปริโภคารหตฺตา นฏฺจีวรฏฺาเน ิโต โหติ. นฏฺจีวรสฺส จ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิ. ตสฺมา เอกํ นิวาเสตฺวา ทฺเว หตฺเถน คเหตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา วินยกมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ ทูเร วิหาโร โหติ, อนฺตรามคฺเค มนุสฺสา สฺจรนฺติ. เอกํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา เอกํ อํสกูเฏ เปตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ วิหาเร สภาคภิกฺขู น ปสฺสติ, ภิกฺขาจารํ คตา โหนฺติ, สงฺฆาฏึ พหิคาเม เปตฺวา สนฺตรุตฺตเรน อาสนสาลํ คนฺตฺวา วินยกมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ พหิคาเม โจรภยํ โหติ, ปารุปิตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ อาสนสาลา สมฺพาธา โหติ ชนากิณฺณา, น สกฺกา เอกมนฺเต จีวรํ อปเนตฺวา วินยกมฺมํ กาตุํ, เอกํ ภิกฺขุํ อาทาย พหิคามํ คนฺตฺวา วินยกมฺมํ กตฺวา จีวรานิ ปริภุฺชิตพฺพานิ.

สเจ ภิกฺขู ทหรานํ หตฺเถ ปตฺตจีวรํ ทตฺวา มคฺคํ คจฺฉนฺตา ปจฺฉิเม ยาเม สยิตุกามา โหนฺติ, อตฺตโน อตฺตโน จีวรํ หตฺถปาเส กตฺวาว สยิตพฺพํ. สเจ คจฺฉนฺตานํเยว อสมฺปตฺเตสุ ทหเรสุ อรุณํ อุคฺคจฺฉติ, จีวรํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, นิสฺสโย ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ทหรานมฺปิ ปุรโต คจฺฉนฺตานํ เถเรสุ อสมฺปตฺเตสุ เอเสว นโย. มคฺคํ วิรชฺฌิตฺวา อรฺเ อฺมฺํ อปสฺสนฺเตสุปิ เอเสว นโย. สเจ ปน ทหรา ‘‘มยํ, ภนฺเต, มุหุตฺตํ สยิตฺวา อสุกสฺมึ นาม โอกาเส ตุมฺเห สมฺปาปุณิสฺสามา’’ติ วตฺวา ยาว อรุณุคฺคมนา สยนฺติ, จีวรฺจ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, นิสฺสโย จ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ทหเร อุยฺโยเชตฺวา เถเรสุ สยนฺเตสุปิ เอเสว นโย. ทฺเวธาปถํ ทิสฺวา เถรา ‘‘อยํ มคฺโค’’ ทหรา ‘‘อยํ มคฺโค’’ติ วตฺวา อฺมฺสฺส วจนํ อคฺคเหตฺวา คตา, สห อรุณุคฺคมนา จีวรานิ จ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโย จ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ทหรา มคฺคโต โอกฺกมฺม ‘‘อนฺโตอรุเณเยว นิวตฺติสฺสามา’’ติ เภสชฺชตฺถาย คามํ ปวิสิตฺวา อาคจฺฉนฺติ. อสมฺปตฺตานํเยว จ เตสํ อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโย ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ปน เธนุภเยน วา สุนขภเยน วา ‘‘มุหุตฺตํ ตฺวา คมิสฺสามา’’ติ ตฺวา วา นิสีทิตฺวา วา คจฺฉนฺติ, อนฺตรา อรุเณ อุคฺคเต จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโย จ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ‘‘อนฺโตอรุเณเยว อาคมิสฺสามา’’ติ อนฺโตสีมายํ คามํ ปวิฏฺานํ อนฺตรา อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, เนว จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, น นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ปน ‘‘วิภายตุ ตาวา’’ติ นิสีทนฺติ, อรุเณ อุคฺคเตปิ น จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโย ปน ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. เยปิ ‘‘อนฺโตอรุเณเยว อาคมิสฺสามา’’ติ สามนฺตวิหารํ ธมฺมสวนตฺถาย สอุสฺสาหา คจฺฉนฺติ, อนฺตรามคฺเคเยว จ เนสํ อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโย ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ธมฺมคารเวน ‘‘ยาว ปริโยสานํ สุตฺวาว คมิสฺสามา’’ติ นิสีทนฺติ, สห อรุณสฺสุคฺคมนา จีวรานิปิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโยปิ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. เถเรน ทหรํ จีวรโธวนตฺถาย คามกํ เปเสนฺเตน อตฺตโน จีวรํ ปจฺจุทฺธริตฺวาว ทาตพฺพํ. ทหรสฺสาปิ จีวรํ ปจฺจุทฺธราเปตฺวา เปตพฺพํ. สเจ อสฺสติยา คจฺฉติ, อตฺตโน จีวรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา ทหรสฺส จีวรํ วิสฺสาเสน คเหตฺวา เปตพฺพํ. สเจ เถโร นสฺสรติ, ทหโร เอว สรติ, ทหเรน อตฺตโน จีวรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา เถรสฺส จีวรํ วิสฺสาเสน คเหตฺวา คนฺตฺวา วตฺตพฺโพ ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ จีวรํ อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชถา’’ติ อตฺตโนปิ จีวรํ อธิฏฺาตพฺพํ. เอวํ เอกสฺส สติยาปิ อาปตฺติโมกฺโข โหตีติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.

สมุฏฺานาทีสุ ปมกถินสิกฺขาปเท อนธิฏฺานํ อวิกปฺปนฺจ อกิริยํ, อิธ อปจฺจุทฺธรณํ อยเมว วิเสโส. เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตนยเมวาติ.

อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ตติยกถินสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๙๗. เตน สมเยนาติ ตติยกถินสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อุสฺสาเปตฺวา ปุนปฺปุนํ วิมชฺชตีติ ‘‘วลีสุ นฏฺาสุ อิทํ มหนฺตํ ภวิสฺสตี’’ติ มฺมาโน อุทเกน สิฺจิตฺวา ปาเทหิ อกฺกมิตฺวา หตฺเถหิ อุสฺสาเปตฺวา อุกฺขิปิตฺวา ปิฏฺิยํ ฆํสติ, ตํ อาตเป สุกฺขํ ปมปฺปมาณเมว โหติ. โส ปุนปิ ตถา กโรติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘อุสฺสาเปตฺวา ปุนปฺปุนํ วิมชฺชตี’’ติ. ตํ เอวํ กิลมนฺตํ ภควา คนฺธกุฏิยํ นิสินฺโนว ทิสฺวา นิกฺขมิตฺวา เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑนฺโต วิย ตตฺถ อคมาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อทฺทส โข ภควา’’ติอาทิ.

๔๙๙-๕๐๐. เอกาทสมาเสติ เอกํ ปจฺฉิมกตฺติกมาสํ เปตฺวา เสเส เอกาทสมาเส. สตฺตมาเสติ กตฺติกมาสํ เหมนฺติเก จ จตฺตาโรติ ปฺจมาเส เปตฺวา เสเส สตฺตมาเส. กาเลปิ อาทิสฺส ทินฺนนฺติ สงฺฆสฺส วา ‘‘อิทํ อกาลจีวร’’นฺติ อุทฺทิสิตฺวา ทินฺนํ, เอกปุคฺคลสฺส วา ‘‘อิทํ ตุยฺหํ ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ.

สงฺฆโต วาติ อตฺตโน ปตฺตภาควเสน สงฺฆโต วา อุปฺปชฺเชยฺย. คณโต วาติ อิทํ สุตฺตนฺติกคณสฺส เทม, อิทํ อาภิธมฺมิกคณสฺสาติ เอวํ คณสฺส เทนฺติ. ตโต อตฺตโน ปตฺตภาควเสน คณโต วา อุปฺปชฺเชยฺย.

โน จสฺส ปาริปูรีติ โน เจ ปาริปูรี ภเวยฺย, ยตฺตเกน กยิรมานํ อธิฏฺานจีวรํ ปโหติ, ตฺเจ จีวรํ ตตฺตกํ น ภเวยฺย, อูนกํ ภเวยฺยาติ อตฺโถ.

ปจฺจาสา โหติ สงฺฆโต วาติอาทีสุ อสุกทิวสํ นาม สงฺโฆ จีวรานิ ลภิสฺสติ, คโณ ลภิสฺสติ, ตโต เม จีวรํ อุปฺปชฺชิสฺสตีติ เอวํ สงฺฆโต วา คณโต วา ปจฺจาสา โหติ. าตเกหิ เม จีวรตฺถาย เปสิตํ, มิตฺเตหิ เปสิตํ, เต อาคตา จีวเร ทสฺสนฺตีติ เอวํ าติโต วา มิตฺตโต วา ปจฺจาสา โหติ. ปํสุกูลํ วาติ เอตฺถ ปน ปํสุกูลํ วา ลจฺฉามีติ เอวํ ปจฺจาสา โหตีติ โยเชตพฺพํ. อตฺตโน วา ธเนนาติ อตฺตโน กปฺปาสสุตฺตาทินา ธเนน, อสุกทิวสํ นาม ลจฺฉามีติ เอวํ วา ปจฺจาสา โหตีติ อตฺโถ.

ตโต เจ อุตฺตริ นิกฺขิเปยฺย สติยาปิ ปจฺจาสายาติ มาสปรมโต เจ อุตฺตริ นิกฺขิเปยฺย, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ. เอวํ ปน อวตฺวา ยสฺมา อนฺตรา อุปฺปชฺชมาเน ปจฺจาสาจีวเร มูลจีวรสฺส อุปฺปนฺนทิวสโต ยาว วีสติโม ทิวโส ตาว อุปฺปนฺนํ ปจฺจาสาจีวรํ มูลจีวรํ อตฺตโน คติกํ กโรติ, ตโต อุทฺธํ มูลจีวรํ ปจฺจาสาจีวรํ อตฺตโน คติกํ กโรติ. ตสฺมา ตํ วิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตทหุปฺปนฺเน มูลจีวเร’’ติอาทินา นเยน ปทภาชนํ วุตฺตํ, ตํ อุตฺตานตฺถเมว.

วิสภาเค อุปฺปนฺเน มูลจีวเรติ ยทิ มูลจีวรํ สณฺหํ, ปจฺจาสาจีวรํ ถูลํ, น สกฺกา โยเชตุํ. รตฺติโย จ เสสา โหนฺติ, น ตาว มาโส ปูรติ, น อกามา นิคฺคเหน จีวรํ กาเรตพฺพํ. อฺํ ปจฺจาสาจีวรํ ลภิตฺวาเยว กาลพฺภนฺตเร กาเรตพฺพํ. ปจฺจาสาจีวรมฺปิ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตพฺพํ. อถ มูลจีวรํ ถูลํ โหติ, ปจฺจาสาจีวรํ สณฺหํ, มูลจีวรํ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺหิตฺวา ปจฺจาสาจีวรเมว มูลจีวรํ กตฺวา เปตพฺพํ. ตํ ปุน มาสปริหารํ ลภติ, เอเตนุปาเยน ยาว อิจฺฉติ ตาว อฺมฺํ มูลจีวรํ กตฺวา เปตุํ วฏฺฏตีติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

สมุฏฺานาทีนิ ปมกถินสทิสาเนวาติ.

ตติยกถินสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปุราณจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๐๓-๕. เตน สมเยนาติ ปุราณจีวรสิกฺขาปทํ. ตตฺถ ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคาติ ปิตุปิตา ปิตามโห, ปิตามหสฺส ยุคํ ปิตามหยุคํ. ยุคนฺติ อายุปฺปมาณํ วุจฺจติ. อภิลาป มตฺตเมว เจตํ. อตฺถโต ปน ปิตามโหเยว ปิตามหยุคํ. ตโต อุทฺธํ สพฺเพปิ ปุพฺพปุริสา ปิตามหคฺคหเณเนว คหิตา. เอวํ ยาว สตฺตโม ปุริโส ตาว ยา อสมฺพทฺธา สา ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อสมฺพทฺธาติ วุจฺจติ. เทสนามุขเมว เจตํ. ‘‘มาติโต วา ปิติโต วา’’ติวจนโต ปน ปิตามหยุคมฺปิ ปิตามหิยุคมฺปิ มาตามหยุคมฺปิ มาตามหิยุคมฺปิ เตสํ ภาตุภคินีภาคิเนยฺยปุตฺตปปุตฺตาทโยปิ สพฺเพ อิธ สงฺคหิตา เอวาติ เวทิตพฺพา.

ตตฺรายํ วิตฺถารนโย – ปิตา ปิตุปิตา ตสฺส ปิตา ตสฺสาปิ ปิตาติ เอวํ ยาว สตฺตมา ยุคา, ปิตา ปิตุมาตา ตสฺสา ปิตา จ มาตา จ ภาตา จ ภคินี จ ปุตฺตา จ ธีตโร จาติ เอวมฺปิ อุทฺธฺจ อโธ จ ยาว สตฺตมา ยุคา, ปิตา ปิตุภาตา ปิตุภคินี ปิตุปุตฺตา ปิตุธีตโร เตสมฺปิ ปุตฺตธีตุปรมฺปราติ เอวมฺปิ ยาว สตฺตมา ยุคา, มาตา มาตุมาตา ตสฺสา มาตา ตสฺสาปิ มาตาติ เอวมฺปิ ยาว สตฺตมา ยุคา, มาตา มาตุปิตา ตสฺส มาตา จ ปิตา จ ภาตา จ ภคินี จ ปุตฺตา จ ธีตโร จาติ, เอวมฺปิ อุทฺธฺจ อโธ จ ยาว สตฺตมา ยุคา, มาตา มาตุภาตา มาตุภคินี มาตุปุตฺตา มาตุธีตโร เตสมฺปิ ปุตฺตธีตุปรมฺปราติ เอวมฺปิ ยาว สตฺตมา ยุคา, เนว มาตุสมฺพนฺเธน น ปิตุสมฺพนฺเธน สมฺพทฺธา, อยํ อฺาติกา นาม.

อุภโต สงฺเฆติ ภิกฺขุนิสงฺเฆ ตฺติจตุตฺเถน ภิกฺขุสงฺเฆ ตฺติจตุตฺเถนาติ อฏฺวาจิกวินยกมฺเมน อุปสมฺปนฺนา.

สกึ นิวตฺถมฺปิ สกึ ปารุตมฺปีติ รชิตฺวา กปฺปํ กตฺวา เอกวารมฺปิ นิวตฺถํ วา ปารุตํ วา. อนฺตมโส ปริโภคสีเสน อํเส วา มตฺถเก วา กตฺวา มคฺคํ คโต โหติ, อุสฺสีสกํ วา กตฺวา นิปนฺโน โหติ, เอตมฺปิ ปุราณจีวรเมว. สเจ ปน ปจฺจตฺถรณสฺส เหฏฺา กตฺวา นิปชฺชติ, หตฺเถหิ วา อุกฺขิปิตฺวา อากาเส วิตานํ กตฺวา สีเสน อผุสนฺโต คจฺฉติ, อยํ ปริโภโค นาม น โหตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ.

โธตํ นิสฺสคฺคิยนฺติ เอตฺถ เอวํ อาณตฺตา ภิกฺขุนี โธวนตฺถาย อุทฺธนํ สชฺเชติ, ทารูนิ สํหรติ, อคฺคึ กโรติ, อุทกํ อาหรติ ยาว นํ โธวิตฺวา อุกฺขิปติ, ตาว ภิกฺขุนิยา ปโยเค ปโยเค ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏํ. โธวิตฺวา อุกฺขิตฺตมตฺเต นิสฺสคฺคิยํ โหติ. สเจ ทุทฺโธตนฺติ มฺมานา ปุน สิฺจติ วา โธวติ วา ยาว นิฏฺานํ น คจฺฉติ ตาว ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. เอส นโย รชนาโกฏเนสุ. รชนโทณิยฺหิ รชนํ อากิริตฺวา ยาว สกึ จีวรํ รชติ, ตโต ปุพฺเพ ยํกิฺจิ รชนตฺถาย กโรติ, ปจฺฉา วา ปฏิรชติ, สพฺพตฺถ ปโยเค ปโยเค ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏํ. เอวํ อาโกฏเนปิ ปโยโค เวทิตพฺโพ.

๕๐๖. อฺาติกาย อฺาติกสฺี ปุราณจีวรํ โธวาเปตีติ โน เจปิ ‘‘อิมํ โธวา’’ติ วทติ, อถ โข โธวนตฺถาย กายวิการํ กตฺวา หตฺเถน วา หตฺเถ เทติ, ปาทมูเล วา เปติ, อุปริ วา ขิปติ, สิกฺขมานาสามเณรีสามเณรอุปาสกติตฺถิยาทีนํ วา หตฺเถ เปเสติ, นทีติตฺเถ โธวนฺติยา อุปจาเร วา ขิปติ, อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ โอกาเส ตฺวา, โธวาปิตํเยว โหติ. สเจ ปน อุปจารํ มุฺจิตฺวา โอรโต เปติ สา เจ โธวิตฺวา อาเนติ, อนาปตฺติ. สิกฺขมานาย วา สามเณริยา วา อุปาสิกาย วา หตฺเถ โธวนตฺถาย เทติ, สา เจ อุปสมฺปชฺชิตฺวา โธวติ, อาปตฺติเยว. อุปาสกสฺส หตฺเถ เทติ, โส เจ ลิงฺเค ปริวตฺเต ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปชฺชิตฺวา โธวติ, อาปตฺติเยว. สามเณรสฺส วา ภิกฺขุสฺส วา หตฺเถ ทินฺเนปิ ลิงฺคปริวตฺตเน เอเสว นโย.

โธวาเปติ รชาเปตีติอาทีสุ เอเกน วตฺถุนา นิสฺสคฺคิยํ, ทุติเยน ทุกฺกฏํ. ตีณิปิ การาเปนฺตสฺส เอเกน นิสฺสคฺคิยํ, เสเสหิ ทฺเว ทุกฺกฏานิ. ยสฺมา ปเนตานิ โธวนาทีนิ ปฏิปาฏิยา วา อุปฺปฏิปาฏิยา วา กาเรนฺตสฺส โมกฺโข นตฺถิ, ตสฺมา เอตฺถ ตีณิ จตุกฺกานิ วุตฺตานิ. สเจปิ หิ ‘‘อิมํ จีวรํ รชิตฺวา โธวิตฺวา อาเนหี’’ติ วุตฺเต สา ภิกฺขุนี ปมํ โธวิตฺวา ปจฺฉา รชติ, นิสฺสคฺคิเยน ทุกฺกฏเมว. เอวํ สพฺเพสุ วิปรีตวจเนสุ นโย เนตพฺโพ. สเจ ปน ‘‘โธวิตฺวา อาเนหี’’ติ วุตฺตา โธวติ เจว รชติ จ, โธวาปนปจฺจยา เอว อาปตฺติ, รชเน อนาปตฺติ. เอวํ สพฺพตฺถ วุตฺตาธิกกรเณ ‘‘อวุตฺตา โธวตี’’ติ อิมินา ลกฺขเณน อนาปตฺติ เวทิตพฺพา. ‘‘อิมสฺมึ จีวเร ยํ กาตพฺพํ, สพฺพํ ตํ ตุยฺหํ ภาโร’’ติ วทนฺโต ปน เอกวาจาย สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชตีติ.

อฺาติกาย เวมติโก อฺาติกาย าติกสฺีติ อิมานิปิ ปทานิ วุตฺตานํเยว ติณฺณํ จตุกฺกานํ วเสน วิตฺถารโต เวทิตพฺพานิ.

เอกโต อุปสมฺปนฺนายาติ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย โธวาเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย ปน ยถาวตฺถุกเมว, ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนา นาม ปฺจสตา สากิยานิโย.

๕๐๗. อวุตฺตา โธวตีติ อุทฺเทสาย วา โอวาทาย วา อาคตา กิลินฺนํ จีวรํ ทิสฺวา ปิตฏฺานโต คเหตฺวา วา ‘‘เทถ, อยฺย, โธวิสฺสามี’’ติ อาหราเปตฺวา วา โธวติ เจว รชติ จ อาโกเฏติ จ, อยํ อวุตฺตา โธวติ นาม. ยาปิ ‘‘อิมํ จีวรํ โธวา’’ติ ทหรํ วา สามเณรํ วา อาณาเปนฺตสฺส ภิกฺขุโน สุตฺวา ‘‘อาหรถยฺย อหํ โธวิสฺสามี’’ติ โธวติ, ตาวกาลิกํ วา คเหตฺวา โธวิตฺวา รชิตฺวา เทติ, อยมฺปิ อวุตฺตา โธวติ นาม.

อฺํ ปริกฺขารนฺติ อุปาหนตฺถวิกปตฺตตฺถวิกอํสพทฺธกกายพนฺธนมฺจปีภิสิตฏฺฏิกาทึ ยํกิฺจิ โธวาเปติ, อนาปตฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

สมุฏฺานาทีสุ ปน อิทํ สิกฺขาปทํ ฉสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ปุราณจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. จีวรปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๐๘. เตน สมเยนาติ จีวรปฏิคฺคหณสิกฺขาปทํ. ตตฺถ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตาติ ปิณฺฑปาตโต ปฏิกฺกนฺตา. เยน อนฺธวนํ เตนุปสงฺกมีติ อปฺตฺเต สิกฺขาปเท เยน อนฺธวนํ เตนุปสงฺกมิ. กตกมฺมาติ กตโจริกกมฺมา, สนฺธิจฺเฉทนาทีหิ ปรภณฺฑํ หริตาติ วุตฺตํ โหติ. โจรคามณิโกติ โจรเชฏฺโก. โส กิร ปุพฺเพ เถรึ ชานาติ, ตสฺมา โจรานํ ปุรโต คจฺฉนฺโต ทิสฺวา ‘‘อิโต มา คจฺฉถ, สพฺเพ อิโต เอถา’’ติ เต คเหตฺวา อฺเน มคฺเคน อคมาสิ. สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวาติ เถรี กิร ปริจฺฉินฺนเวลายํเยว สมาธิมฺหา วุฏฺหิ. โสปิ ตสฺมึเยว ขเณ เอวํ อวจ, ตสฺมา สา อสฺโสสิ, สุตฺวา จ ‘‘นตฺถิ ทานิ อฺโ เอตฺถ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อฺตฺร มยา’’ติ ตํ มํสํ อคฺคเหสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อุปฺปลวณฺณา ภิกฺขุนี’’ติอาทิ.

โอหิยฺยโกติ อวหียโก อวเสโส, วิหารวารํ ปตฺวา เอโกว วิหาเร ิโตติ อตฺโถ. สเจ เม ตฺวํ อนฺตรวาสกํ ทเทยฺยาสีติ กสฺมา อาห? สณฺหํ ฆนมฏฺํ อนฺตรวาสกํ ทิสฺวา โลเภน, อปิจ อปฺปโก ตสฺสา อนฺตรวาสเก โลโภ, เถริยา ปน สิขาปฺปตฺตา โกฏฺาสสมฺปตฺติ เตนสฺสา สรีรปาริปูรึ ปสฺสิสฺสามีติ วิสมโลภํ อุปฺปาเทตฺวา เอวมาห. อนฺติมนฺติ ปฺจนฺนํ จีวรานํ สพฺพปริยนฺตํ หุตฺวา อนฺติมํ, อนฺติมนฺติ ปจฺฉิมํ. อฺํ เลเสนาปิ วิกปฺเปตฺวา วา ปจฺจุทฺธริตฺวา วา ปิตํ จีวรํ นตฺถีติ เอวํ ยถาอนุฺาตานํ ปฺจนฺนํ จีวรานํ ธารณวเสเนว อาห, น โลเภน, น หิ ขีณาสวานํ โลโภ อตฺถิ. นิปฺปีฬิยมานาติ อุปมํ ทสฺเสตฺวา คาฬฺหํ ปีฬยมานา.

อนฺตรวาสกํ ทตฺวา อุปสฺสยํ อคมาสีติ สงฺกจฺจิกํ นิวาเสตฺวา ยถา ตสฺส มโนรโถ น ปูรติ, เอวํ หตฺถตเลเยว ทสฺเสตฺวา อคมาสิ.

๕๑๐. กสฺมา ปาริวตฺตกจีวรํ อปฺปฏิคณฺหนฺเต อุชฺฌายึสุ? ‘‘สเจ เอตฺตโกปิ อมฺเหสุ อยฺยานํ วิสฺสาโส นตฺถิ, กถํ มยํ ยาเปสฺสามา’’ติ วิหตฺถตาย สมภิตุนฺนตฺตา.

อนุชานามิ ภิกฺขเว อิเมสํ ปฺจนฺนนฺติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ สมสทฺธานํ สมสีลานํ สมทิฏฺีนํ ปาริวตฺตกํ คเหตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ.

๕๑๒. ปโยเค ทุกฺกฏนฺติ คหณตฺถาย หตฺถปฺปสารณาทีสุ ทุกฺกฏํ. ปฏิลาเภนาติ ปฏิคฺคหเณน. ตตฺถ จ หตฺเถน วา หตฺเถ เทตุ, ปาทมูเล วา เปตุ, อุปริ วา ขิปตุ, โส เจ สาทิยติ, คหิตเมว โหติ. สเจ ปน สิกฺขมานาสามเณรสามเณรีอุปาสกอุปาสิกาทีนํ หตฺเถ เปสิตํ ปฏิคฺคณฺหาติ, อนาปตฺติ. ธมฺมกถํ กเถนฺตสฺส จตสฺโสปิ ปริสา จีวรานิ จ นานาวิราควตฺถานิ จ อาเนตฺวา ปาทมูเล เปนฺติ, อุปจาเร วา ตฺวา อุปจารํ วา มุฺจิตฺวา ขิปนฺติ, ยํ ตตฺถ ภิกฺขุนีนํ สนฺตกํ, ตํ อฺตฺร ปาริวตฺตกา คณฺหนฺตสฺส อาปตฺติเยว. อถ ปน รตฺติภาเค ขิตฺตานิ โหนฺติ, ‘‘อิทํ ภิกฺขุนิยา, อิทํ อฺเส’’นฺติ าตุํ น สกฺกา, ปาริวตฺตกกิจฺจํ นตฺถีติ มหาปจฺจริยํ กุรุนฺทิยฺจ วุตฺตํ, ตํ อจิตฺตกภาเวน น สเมติ. สเจ ภิกฺขุนี วสฺสาวาสิกํ เทติ, ปาริวตฺตกเมว กาตพฺพํ. สเจ ปน สงฺการกูฏาทีสุ เปติ, ‘‘ปํสุกูลํ คณฺหิสฺสนฺตี’’ติ ปํสุกูลํ อธิฏฺหิตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ.

๕๑๓. อฺาติกาย อฺาติกสฺีติ ติกปาจิตฺติยํ. เอกโต อุปสมฺปนฺนายาติ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย หตฺถโต คณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย ปน ปาจิตฺติยเมว.

๕๑๔. ปริตฺเตน วา วิปุลนฺติ อปฺปคฺฆจีวเรน วา อุปาหนตฺถวิกปตฺตตฺถวิกอํสพทฺธกกายพนฺธนาทินา วา มหคฺฆํ เจตาเปตฺวา สเจปิ จีวรํ ปฏิคฺคณฺหาติ, อนาปตฺติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘อนฺตมโส หรีตกีขณฺเฑนาปี’’ติ วุตฺตํ. วิปุเลน วา ปริตฺตนฺติ อิทํ วุตฺตวิปลฺลาเสน เวทิตพฺพํ. อฺํ ปริกฺขารนฺติ ปตฺตตฺถวิกาทึ ยํ กิฺจิ วิกปฺปนุปคปจฺฉิมจีวรปฺปมาณํ ปน ปฏปริสฺสาวนมฺปิ น วฏฺฏติ. ยํ เนว อธิฏฺานุปคํ น วิกปฺปนุปคํ ตํ สพฺพํ วฏฺฏติ. สเจปิ มฺจปฺปมาณา ภิสิจฺฉวิ โหติ, วฏฺฏติเยว; โก ปน วาโท ปตฺตตฺถวิกาทีสุ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.

สมุฏฺานาทีสุ อิทํ ฉสมุฏฺานํ, กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

จีวรปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๑๕. เตน สมเยนาติ อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อุปนนฺโท สกฺยปุตฺโตติ อสีติสหสฺสมตฺตานํ สกฺยกุลา ปพฺพชิตานํ ภิกฺขูนํ ปติกิฏฺโ โลลชาติโก. ปฏฺโฏติ เฉโก สมตฺโถ ปฏิพโล สรสมฺปนฺโน กณฺมาธุริเยน สมนฺนาคโต. กิสฺมึ วิยาติ กึสุ วิย กิเลโส วิย, หิโรตฺตปฺปวเสน กมฺปนํ วิย สงฺกมฺปนํ วิย โหตีติ อตฺโถ.

อทฺธานมคฺคนฺติ อทฺธานสงฺขาตํ ทีฆมคฺคํ, น นครวีถิมคฺคนฺติ อตฺโถ. เต ภิกฺขู อจฺฉินฺทึสูติ มุสึสุ, ปตฺตจีวรานิ เนสํ หรึสูติ อตฺโถ. อนุยุฺชาหีติ ภิกฺขุภาวชานนตฺถาย ปุจฺฉ. อนุยุฺชิยมานาติ ปพฺพชฺชาอุปสมฺปทาปตฺตจีวราธิฏฺานาทีนิ ปุจฺฉิยมานา. เอตมตฺถํ อาโรเจสุนฺติ ภิกฺขุภาวํ ชานาเปตฺวา โย ‘‘สาเกตา สาวตฺถึ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนา’’ติอาทินา นเยน วุตฺโต, เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ.

๕๑๗. อฺาตกํ คหปตึ วาติอาทีสุ ยํ ปรโต ‘‘ติเณน วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา’’ติ วุตฺตํ, ตํ อาทึ กตฺวา เอวํ อนุปุพฺพกถา เวทิตพฺพา. สเจ โจเร ปสฺสิตฺวา ทหรา ปตฺตจีวรานิ คเหตฺวา ปลาตา, โจรา เถรานํ นิวาสนปารุปนมตฺตํเยว หริตฺวา คจฺฉนฺติ, เถเรหิ เนว ตาว จีวรํ วิฺาเปตพฺพํ, น สาขาปลาสํ ภฺชิตพฺพํ. อถ ทหรา สพฺพํ ภณฺฑกํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลาตา, โจรา เถรานํ นิวาสนปารุปนํ ตฺจ ภณฺฑกํ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, ทหเรหิ อาคนฺตฺวา อตฺตโน นิวาสนปารุปนานิ น ตาว เถรานํ ทาตพฺพานิ, น หิ อนจฺฉินฺนจีวรา อตฺตโน อตฺถาย สาขาปลาสํ ภฺชิตุํ ลภนฺติ, อจฺฉินฺนจีวรานํ ปน อตฺถาย ลภนฺติ, อจฺฉินฺนจีวราว อตฺตโนปิ ปเรสมฺปิ อตฺถาย ลภนฺติ. ตสฺมา เถเรหิ วา สาขาปลาสํ ภฺชิตฺวา วากาทีหิ คนฺเถตฺวา ทหรานํ ทาตพฺพํ, ทหเรหิ วา เถรานํ อตฺถาย ภฺชิตฺวา คนฺเถตฺวา เตสํ หตฺเถ ทตฺวา วา อทตฺวา วา อตฺตนา นิวาเสตฺวา อตฺตโน นิวาสนปารุปนานิ เถรานํ ทาตพฺพานิ, เนว ภูตคามปาตพฺยตาย ปาจิตฺติยํ โหติ, น เตสํ ธารเณ ทุกฺกฏํ.

สเจ อนฺตรามคฺเค รชกตฺถรณํ วา โหติ, อฺเ วา ตาทิเส มนุสฺเส ปสฺสนฺติ, จีวรํ วิฺาเปตพฺพํ. ยานิ จ เนสํ เต วา วิฺตฺตมนุสฺสา อฺเ วา สาขาปลาสนิวาสเน ภิกฺขู ทิสฺวา อุสฺสาหชาตา วตฺถานิ เทนฺติ, ตานิ สทสานิ วา โหนฺตุ อทสานิ วา นีลาทินานาวณฺณานิ วา กปฺปิยานิปิ อกปฺปิยานิปิ สพฺพานิ อจฺฉินฺนจีวรฏฺาเน ิตตฺตา เตสํ นิวาเสตุฺจ ปารุปิตุฺจ วฏฺฏนฺติ. วุตฺตมฺปิเหตํ ปริวาเร

‘‘อกปฺปกตํ นาปิ รชนาย รตฺตํ;

เตน นิวตฺโถ เยน กามํ วเชยฺย;

น จสฺส โหติ อาปตฺติ;

โส จ ธมฺโม สุคเตน เทสิโต;

ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๘๑);

อยฺหิ ปฺโห อจฺฉินฺนจีวรกํ ภิกฺขุํ สนฺธาย วุตฺโต. อถ ปน ติตฺถิเยหิ สหคจฺฉนฺติ, เต จ เนสํ กุสจีรวากจีรผลกจีรานิ เทนฺติ, ตานิปิ ลทฺธึ อคฺคเหตฺวา นิวาเสตุํ วฏฺฏนฺติ, นิวาเสตฺวาปิ ลทฺธิ น คเหตพฺพา.

อิทานิ ‘‘ยํ อาวาสํ ปมํ อุปคจฺฉติ, สเจ ตตฺถ โหติ สงฺฆสฺส วิหารจีวรํ วา’’ติอาทีสุ วิหารจีวรํ นาม มนุสฺสา อาวาสํ กาเรตฺวา ‘‘จตฺตาโรปิ ปจฺจยา อมฺหากํเยว สนฺตกา ปริโภคํ คจฺฉนฺตู’’ติ ติจีวรํ สชฺเชตฺวา อตฺตนา การาปิเต อาวาเส เปนฺติ, เอตํ วิหารจีวรํ นาม. อุตฺตรตฺถรณนฺติ มฺจกสฺส อุปริ อตฺถรณกํ วุจฺจติ. ภุมตฺถรณนฺติ ปริกมฺมกตาย ภูมิยา รกฺขณตฺถํ จิมิลิกาหิ กตอตฺถรณํ ตสฺส อุปริ ตฏฺฏิกํ ปตฺถริตฺวา จงฺกมนฺติ. ภิสิจฺฉวีติ มฺจภิสิยา วา ปีภิสิยา วา ฉวิ, สเจ ปูริตา โหติ วิธุนิตฺวาปิ คเหตุํ วฏฺฏติ. เอวเมเตสุ วิหารจีวราทีสุ ยํ ตตฺถ อาวาเส โหติ, ตํ อนาปุจฺฉาปิ คเหตฺวา นิวาเสตุํ วา ปารุปิตุํ วา อจฺฉินฺนจีวรกานํ ภิกฺขูนํ ลพฺภตีติ เวทิตพฺพํ. ตฺจ โข ลภิตฺวา โอทหิสฺสามิ ปุน เปสฺสามีติ อธิปฺปาเยน น มูลจฺเฉชฺชาย. ลภิตฺวา จ ปน าติโต วา อุปฏฺากโต วา อฺโต วา กุโตจิ ปากติกเมว กาตพฺพํ. วิเทสคเตน เอกสฺมึ สงฺฆิเก อาวาเส สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชนตฺถาย เปตพฺพํ. สจสฺส ปริโภเคเนว ตํ ชีรติ วา นสฺสติ วา คีวา น โหติ. สเจ ปน เอเตสํ วุตฺตปฺปการานํ คิหิวตฺถาทีนํ ภิสิจฺฉวิปริยนฺตานํ กิฺจิ น ลพฺภติ, เตน ติเณน วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาคนฺตพฺพนฺติ.

๕๑๙. เยหิ เกหิจิ วา อจฺฉินฺนนฺติ เอตฺถ ยมฺปิ อจฺฉินฺนจีวรา อาจริยุปชฺฌายา อฺเ ‘‘อาหรถ, อาวุโส, จีวร’’นฺติ ยาจิตฺวา วา วิสฺสาเสน วา คณฺหนฺติ, ตมฺปิ สงฺคหํ คจฺฉตีติ วตฺตุํ ยุชฺชติ.

ปริโภคชิณฺณํ วาติ เอตฺถ จ อจฺฉินฺนจีวรานํ อาจริยุปชฺฌายาทีนํ อตฺตนา ติณปณฺเณหิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ทินฺนจีวรมฺปิ สงฺคหํ คจฺฉตีติ วตฺตุํ ยุชฺชติ. เอวฺหิ เต อจฺฉินฺนจีวรฏฺาเน นฏฺจีวรฏฺาเน จ ิตา ภวิสฺสนฺติ, เตน เนสํ วิฺตฺติยํ อกปฺปิยจีวรปริโภเค จ อนาปตฺติ อนุรูปา ภวิสฺสติ.

๕๒๑. าตกานํ ปวาริตานนฺติ เอตฺถ ‘‘เอเตสํ สนฺตกํ เทถา’’ติ วิฺาเปนฺตสฺส ยาจนฺตสฺส อนาปตฺตีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. น หิ าตกปวาริตานํ อาปตฺติ วา อนาปตฺติ วา โหติ. อตฺตโน ธเนนาติ เอตฺถาปิ อตฺตโน กปฺปิยภณฺเฑน กปฺปิยโวหาเรเนว จีวรํ วิฺาเปนฺตสฺส เจตาเปนฺตสฺส ปริวตฺตาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ปวาริตานนฺติ เอตฺถ จ สงฺฆวเสน ปวาริเตสุ ปมาณเมว วฏฺฏติ. ปุคฺคลิกปวารณาย ยํ ยํ ปวาเรติ, ตํ ตํเยว วิฺาเปตพฺพํ. โย จตูหิ ปจฺจเยหิ ปวาเรตฺวา สยเมว สลฺลกฺเขตฺวา กาลานุกาลํ จีวรานิ ทิวเส ทิวเส ยาคุภตฺตาทีนีติ เอวํ เยน เยนตฺโถ ตํ ตํ เทติ, ตสฺส วิฺาปนกิจฺจํ นตฺถิ. โย ปน ปวาเรตฺวา พาลตาย วา สติสมฺโมเสน วา น เทติ, โส วิฺาเปตพฺโพ. โย ‘‘มยฺหํ เคหํ ปวาเรมี’’ติ วทติ, ตสฺส เคหํ คนฺตฺวา ยถาสุขํ นิสีทิตพฺพํ นิปชฺชิตพฺพํ, น กิฺจิ คเหตพฺพํ. โย ปน ‘‘ยํ มยฺหํ เคเห อตฺถิ, ตํ ปวาเรมี’’ติ วทติ. ยํ ตตฺถ กปฺปิยํ, ตํ วิฺาเปตพฺพํ, เคเห ปน นิสีทิตุํ วา นิปชฺชิตุํ วา น ลพฺภตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ.

อฺสฺสตฺถายาติ เอตฺถ อตฺตโน าตกปวาริเต น เกวลํ อตฺตโน อตฺถาย, อถ โข อฺสฺสตฺถาย วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อยเมโก อตฺโถ. อยํ ปน ทุติโย อฺสฺสาติ เย อฺสฺส าตกปวาริตา, เต ตสฺเสว ‘‘อฺสฺสา’’ติ ลทฺธโวหารสฺส พุทฺธรกฺขิตสฺส วา ธมฺมรกฺขิตสฺส วา อตฺถาย วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.

สมุฏฺานาทีสุ อิทมฺปิ ฉสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๒๒-๔. เตน สมเยนาติ ตตุตฺตริสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อภิหฏฺุนฺติ อภีติ อุปสคฺโค, หริตุนฺติ อตฺโถ, คณฺหิตุนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปวาเรยฺยาติ อิจฺฉาเปยฺย, อิจฺฉํ รุจึ อุปฺปาเทยฺย, วเทยฺย นิมนฺเตยฺยาติ อตฺโถ. อภิหฏฺุํ ปวาเรนฺเตน ปน ยถา วตฺตพฺพํ, ตํ อาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยาวตกํ อิจฺฉสิ ตาวตกํ คณฺหาหี’’ติ เอวมสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ. อถ วา ยถา ‘‘เนกฺขมฺมํ ทฏฺุ เขมโต’’ติ (สุ. นิ. ๔๒๖, ๑๑๐๔; จูฬนิ. ชตุกณฺณิมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๖๗) เอตฺถ ทิสฺวาติ อตฺโถ, เอวมิธาปิ ‘‘อภิอฏฺุํ ปวาเรยฺยา’’ติ อภิหริตฺวา ปวาเรยฺยาติ อตฺโถ. ตตฺถ กายาภิหาโร วาจาภิหาโรติ ทุวิโธ อภิหาโร, กาเยน วา หิ วตฺถานิ อภิหริตฺวา ปาทมูเล เปตฺวา ‘‘ยตฺตกํ อิจฺฉสิ ตตฺตกํ คณฺหาหี’’ติ วทนฺโต ปวาเรยฺย, วาจาย วา ‘‘อมฺหากํ ทุสฺสโกฏฺาคารํ ปริปุณฺณํ, ยตฺตกํ อิจฺฉสิ ตตฺตกํ คณฺหาหี’’ติ วทนฺโต ปวาเรยฺย, ตทุภยมฺปิ เอกชฺฌํ กตฺวา ‘‘อภิหฏฺุํ ปวาเรยฺยา’’ติ วุตฺตํ.

สนฺตรุตฺตรปรมนฺติ สอนฺตรํ อุตฺตรํ ปรมํ อสฺส จีวรสฺสาติ สนฺตรุตฺตรปรมํ, นิวาสเนน สทฺธึ ปารุปนํ อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท อสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. ตโต จีวรํ สาทิตพฺพนฺติ ตโต อภิหฏจีวรโต เอตฺตกํ จีวรํ คเหตพฺพํ, น อิโต ปรนฺติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน อจฺฉินฺนสพฺพจีวเรน ติจีวริเกเนว ภิกฺขุนา เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพํ, อฺเน อฺถาปิ, ตสฺมา ตํ วิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ ตีณิ นฏฺานิ โหนฺตี’’ติอาทินา นเยนสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ยสฺส ตีณิ นฏฺานิ, เตน ทฺเว สาทิตพฺพานิ, เอกํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา อฺํ สภาคฏฺานโต ปริเยสิสฺสติ. ยสฺส ทฺเว นฏฺานิ, เตน เอกํ สาทิตพฺพํ. สเจ ปกติยาว สนฺตรุตฺตเรน จรติ, ทฺเว สาทิตพฺพานิ. เอวํ เอกํ สาทิยนฺเตเนว สโม ภวิสฺสติ. ยสฺส ตีสุ เอกํ นฏฺํ, น สาทิตพฺพํ. ยสฺส ปน ทฺวีสุ เอกํ นฏฺํ, เอกํ สาทิตพฺพํ. ยสฺส เอกํเยว โหติ, ตฺจ นฏฺํ, ทฺเว สาทิตพฺพานิ. ภิกฺขุนิยา ปน ปฺจสุปิ นฏฺเสุ ทฺเว สาทิตพฺพานิ. จตูสุ นฏฺเสุ เอกํ สาทิตพฺพํ, ตีสุ นฏฺเสุ กิฺจิ น สาทิตพฺพํ, โก ปน วาโท ทฺวีสุ วา เอกสฺมึ วา. เยน เกนจิ หิ สนฺตรุตฺตรปรมตาย าตพฺพํ, ตโต อุตฺตริ น ลพฺภตีติ อิทเมตฺถ ลกฺขณํ.

๕๒๖. เสสกํ อาหริสฺสามีติ ทฺเว จีวรานิ กตฺวา เสสํ ปุน อาหริสฺสามีติ อตฺโถ. น อจฺฉินฺนการณาติ พาหุสจฺจาทิคุณวเสน เทนฺติ. าตกานนฺติอาทีสุ าตกานํ เทนฺตานํ สาทิยนฺตสฺส ปวาริตานํ เทนฺตานํ สาทิยนฺตสฺส อตฺตโน ธเนน สาทิยนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ. อฏฺกถาสุ ปน ‘‘าตกปวาริตฏฺาเน ปกติยา พหุมฺปิ วฏฺฏติ, อจฺฉินฺนการณา ปมาณเมว วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ตํ ปาฬิยา น สเมติ. ยสฺมา ปนิทํ สิกฺขาปทํ อฺสฺสตฺถาย วิฺาปนวตฺถุสฺมึเยว ปฺตฺตํ, ตสฺมา อิธ ‘‘อฺสฺสตฺถายา’’ติ น วุตฺตํ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.

สมุฏฺานาทีสุ อิทมฺปิ ฉสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ปมอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๒๗. เตน สมเยนาติ อุปกฺขฏสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อตฺถาวุโส มํ โส อุปฏฺาโกติ อาวุโส, ยํ ตฺวํ ภณสิ, อตฺถิ เอวรูโป โส มม อุปฏฺาโกติ อยเมตฺถ อตฺโถ. อปิ เมยฺย เอวํ โหตีติ อปิ เม อยฺย เอวํ โหติ, อปิ มยฺยา เอวนฺติปิ ปาโ.

๕๒๘-๙. ภิกฺขุํ ปเนว อุทฺทิสฺสาติ เอตฺถ อุทฺทิสฺสาติ อปทิสฺส อารพฺภ. ยสฺมา ปน ยํ อุทฺทิสฺส อุปกฺขฏํ โหติ, ตํ ตสฺสตฺถาย อุปกฺขฏํ นาม โหติ. ตสฺมาสฺส ปทภาชเน ‘‘ภิกฺขุสฺสตฺถายา’’ติ วุตฺตํ.

ภิกฺขุํ อารมฺมณํ กริตฺวาติ ภิกฺขุํ ปจฺจยํ กตฺวา, ยฺหิ ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส อุปกฺขฏํ, ตํ นิยเมเนว ภิกฺขุํ ปจฺจยํ กตฺวา อุปกฺขฏํ โหติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘ภิกฺขุํ อารมฺมณํ กริตฺวา’’ติ. ปจฺจโยปิ หิ ‘‘ลภติ มาโร อารมฺมณ’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๒๔๓) อารมฺมณนฺติ อาคโต. อิทานิ ‘‘อุทฺทิสฺสา’’ติ เอตฺถ โย กตฺตา, ตสฺส อาการทสฺสนตฺถํ ‘‘ภิกฺขุํ อจฺฉาเทตุกาโม’’ติ วุตฺตํ. ภิกฺขุํ อจฺฉาเทตุกาเมน หิ เตน ตํ อุทฺทิสฺส อุปกฺขฏํ, น อฺเน การเณน. อิติ โส อจฺฉาเทตุกาโม โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ภิกฺขุํ อจฺฉาเทตุกาโม’’ติ.

อฺาตกสฺส คหปติสฺส วาติ อฺาตเกน คหปตินา วาติ อตฺโถ. กรณตฺเถ หิ อิทํ สามิวจนํ. ปทภาชเน ปน พฺยฺชนํ อวิจาเรตฺวา อตฺถมตฺตเมว ทสฺเสตุํ ‘‘อฺาตโก นาม…เป… คหปติ นามา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

จีวรเจตาปนฺนนฺติ จีวรมูลํ, ตํ ปน ยสฺมา หิรฺาทีสุ อฺตรํ โหติ, ตสฺมา ปทภาชเน ‘‘หิรฺํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อุปกฺขฏํ โหตีติ สชฺชิตํ โหติ, สํหริตฺวา ปิตํ, ยสฺมา ปน ‘‘หิรฺํ วา’’ติอาทินา วจเนนสฺส อุปกฺขฏภาโว ทสฺสิโต โหติ, ตสฺมา ‘‘อุปกฺขฏํ นามา’’ติ ปทํ อุทฺธริตฺวา วิสุํ ปทภาชนํ น วุตฺตํ. อิมินาติ อุปกฺขฏํ สนฺธายาห, เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘ปจฺจุปฏฺิเตนา’’ติ วุตฺตํ. ยฺหิ อุปกฺขฏํ สํหริตฺวา ปิตํ, ตํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหตีติ. อจฺฉาเทสฺสามีติ โวหารวจนเมตํ ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสามี’’ติ อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ. เตเนวสฺส ปทภาชเนปิ ‘‘ทสฺสามี’’ติ วุตฺตํ.

ตตฺร เจ โส ภิกฺขูติ ยตฺร โส คหปติ วา คหปตานี วา ตตฺร โส ภิกฺขุ ปุพฺเพ อปฺปวาริโต อุปสงฺกมิตฺวา จีวเร วิกปฺปํ อาปชฺเชยฺย เจติ อยเมตฺถ ปทสมฺพนฺโธ. ตตฺถ อุปสงฺกมิตฺวาติ อิมสฺส คนฺตฺวาติ อิมินาว อตฺเถ สิทฺเธ ปจุรโวหารวเสน ‘‘ฆร’’นฺติ วุตฺตํ. ยตฺร ปน โส ทายโก ตตฺร คนฺตฺวาติ อยเมเวตฺถ อตฺโถ, ตสฺมา ปุนปิ วุตฺตํ ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ อุปสงฺกมิตฺวา’’ติ. วิกปฺปํ อาปชฺเชยฺยาติ วิสิฏฺกปฺปํ อธิกวิธานํ อาปชฺเชยฺย, ปทภาชเน ปน เยนากาเรน วิกปฺปํ อาปนฺโน โหติ ตเมว ทสฺเสตุํ ‘‘อายตํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สาธูติ อายาจเน นิปาโต. วตาติ ปริวิตกฺเก. นฺติ อตฺตานํ นิทฺทิสติ. อายสฺมาติ ปรํ อาลปติ อามนฺเตติ. ยสฺมา ปนิทํ สพฺพํ พฺยฺชนมตฺตเมว, อุตฺตานตฺถเมว, ตสฺมาสฺส ปทภาชเน อตฺโถ น วุตฺโต. กลฺยาณกมฺยตํ อุปาทายาติ สุนฺทรกามตํ วิสิฏฺกามตํ จิตฺเตน คเหตฺวา, ตสฺส ‘‘อาปชฺเชยฺย เจ’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ยสฺมา ปน โย กลฺยาณกมฺยตํ อุปาทาย อาปชฺชติ, โส สาธตฺถิโก มหคฺฆตฺถิโก โหติ, ตสฺมาสฺส ปทภาชเน พฺยฺชนํ ปหาย อธิปฺเปตตฺถเมว ทสฺเสตุํ ตเทว วจนํ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน น อิมสฺส อาปชฺชนมตฺเตเนว อาปตฺติ สีสํ เอติ, ตสฺมา ‘‘ตสฺส วจเนนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๕๓๑. อนาปตฺติ าตกานนฺติอาทีสุ าตกานํ จีวเร วิกปฺปํ อาปชฺชนฺตสฺส อนาปตฺตีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. มหคฺฆํ เจตาเปตุกามสฺส อปฺปคฺฆํ เจตาเปตีติ คหปติสฺส วีสติอคฺฆนกํ จีวรํ เจตาเปตุกามสฺส ‘‘อลํ มยฺหํ เอเตน, ทสคฺฆนกํ วา อฏฺคฺฆนกํ วา เทหี’’ติ วทติ อนาปตฺติ. อปฺปคฺฆนฺติ อิทฺจ อติเรกนิวารณตฺถเมว วุตฺตํ, สมเกปิ ปน อนาปตฺติ, ตฺจ โข อคฺฆวเสเนว น ปมาณวเสน, อคฺฆวฑฺฒนกฺหิ อิทํ สิกฺขาปทํ. ตสฺมา โย วีสติอคฺฆนกํ อนฺตรวาสกํ เจตาเปตุกาโม, ‘‘ตํ เอตฺตกเมว เม อคฺฆนกํ จีวรํ เทหี’’ติ วตฺตุมฺปิ วฏฺฏติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.

สมุฏฺานาทีนิปิ ตตุตฺตริสิกฺขาปทสทิสาเนวาติ.

ปมอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ทุติยอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๓๒. ทุติยอุปกฺขเฏปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตฺหิ อิมสฺส อนุปฺตฺติสทิสํ. เกวลํ ปมสิกฺขาปเท เอกสฺส ปีฬา กตา, ทุติเย ทฺวินฺนํ, อยเมเวตฺถ วิเสโส. เสสํ สพฺพํ ปมสทิสเมว. ยถา จ ทฺวินฺนํ, เอวํ พหูนํ ปีฬํ กตฺวา คณฺหโตปิ อาปตฺติ เวทิตพฺพาติ.

ทุติยอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ราชสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๓๗. เตน สมเยนาติ ราชสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อุปาสกํ สฺาเปตฺวาติ ชานาเปตฺวา, ‘‘อิมินา มูเลน จีวรํ กิณิตฺวา เถรสฺส เทหี’’ติ เอวํ วตฺวาติ อธิปฺปาโย. ปฺาสพนฺโธติ ปฺาสกหาปณทณฺโฑติ วุตฺตํ โหติ. ปฺาสํ พทฺโธติปิ ปาโ, ปฺาสํ ชิโต ปฺาสํ ทาเปตพฺโพติ อธิปฺปาโย. อชฺชณฺโห, ภนฺเต, อาคเมหีติ ภนฺเต, อชฺช เอกทิวสํ อมฺหากํ ติฏฺ, อธิวาเสหีติ อตฺโถ. ปรามสีติ คณฺหิ. ชีโนสีติ ชิโตสิ.

๕๓๘-๙. ราชโภคฺโคติ ราชโต โภคฺคํ ภุฺชิตพฺพํ อสฺสตฺถีติ ราชโภคฺโค, ราชโภโคติปิ ปาโ, ราชโต โภโค อสฺส อตฺถีติ อตฺโถ.

ปหิเณยฺยาติ เปเสยฺย, อุตฺตานตฺถตฺตา ปนสฺส ปทภาชนํ น วุตฺตํ. ยถา จ เอตสฺส, เอวํ ‘‘จีวรํ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุ’’นฺติอาทีนมฺปิ ปทานํ อุตฺตานตฺถตฺตาเยว ปทภาชนํ น วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อาภตนฺติ อานีตํ. กาเลน กปฺปิยนฺติ ยุตฺตปตฺตกาเลน, ยทา โน อตฺโถ โหติ, ตทา กปฺปิยํ จีวรํ คณฺหามาติ อตฺโถ.

เวยฺยาวจฺจกโรติ กิจฺจกโร, กปฺปิยการโกติ อตฺโถ. สฺตฺโต โส มยาติ อาณตฺโต โส มยา, ยถา ตุมฺหากํ จีวเรน อตฺเถ สติ จีวรํ ทสฺสติ, เอวํ วุตฺโตติ อตฺโถ. อตฺโถ เม อาวุโส จีวเรนาติ โจทนาลกฺขณนิทสฺสนเมตํ, อิทฺหิ วจนํ วตฺตพฺพํ, อสฺส วา อตฺโถ ยาย กายจิ ภาสาย; อิทํ โจทนาลกฺขณํ. ‘‘เทหิ เม จีวร’’นฺติอาทีนิ ปน นวตฺตพฺพาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ, เอตานิ หิ วจนานิ เอเตสํ วา อตฺโถ ยาย กายจิ ภาสาย น วตฺตพฺโพ.

ทุติยมฺปิ วตฺตพฺโพ ตติยมฺปิ วตฺตพฺโพติ ‘‘อตฺโถ เม อาวุโส จีวเรนา’’ติ อิทเมว ยาวตติยํ วตฺตพฺโพติ. เอวํ ‘‘ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ โจเทตพฺโพ สาเรตพฺโพ’’ติ เอตฺถ อุทฺทิฏฺโจทนาปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ โจทยมาโน สารยมาโน ตํ จีวรํ อภินิปฺผาเทยฺย, อิจฺเจตํ กุสล’’นฺติ อิเมสํ ปทานํ สงฺเขปโต อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สเจ อภินิปฺผาเทติ, อิจฺเจตํ กุสล’’นฺติ อาห. เอวํ ยาวตติยํ โจเทนฺโต ตํ จีวรํ ยทิ นิปฺผาเทติ, สกฺโกติ อตฺตโน ปฏิลาภวเสน นิปฺผาเทตุํ, อิจฺเจตํ กุสลํ สาธุ สุฏฺุ สุนฺทรํ.

จตุกฺขตฺตุํ ปฺจกฺขตฺตุํ ฉกฺขตฺตุปรมํ ตุณฺหีภูเตน อุทฺทิสฺส าตพฺพนฺติ านลกฺขณนิทสฺสนเมตํ. ฉกฺขตฺตุปรมนฺติ จ ภาวนปุํสกวจนเมตํ, ฉกฺขตฺตุปรมฺหิ เอเตน จีวรํ อุทฺทิสฺส ตุณฺหีภูเตน าตพฺพํ, น อฺํ กิฺจิ กาตพฺพํ, อิทํ านลกฺขณํ. ตตฺถ โย สพฺพฏฺานานํ สาธารโณ ตุณฺหีภาโว, ตํ ตาว ทสฺเสตุํ ปทภาชเน ‘‘ตตฺถ คนฺตฺวา ตุณฺหีภูเตนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ น อาสเน นิสีทิตพฺพนฺติ ‘‘อิธ, ภนฺเต, นิสีทถา’’ติ วุตฺเตนาปิ น นิสีทิตพฺพํ. น อามิสํ ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ ยาคุขชฺชกาทิเภทํ กิฺจิ อามิสํ ‘‘คณฺหถ, ภนฺเต’’ติ ยาจิยมาเนนาปิ น คณฺหิตพฺพํ. น ธมฺโม ภาสิตพฺโพติ มงฺคลํ วา อนุโมทนํ วา ภาสถาติ ยาจิยมาเนนาปิ กิฺจิ น ภาสิตพฺพํ, เกวลํ ‘‘กึ การณา อาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิยมาเนน ‘‘ชานาสิ, อาวุโส’’ติ วตฺตพฺโพ. ปุจฺฉิยมาโนติ อิทฺหิ กรณตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ. อถ วา ปุจฺฉํ กุรุมาโน ปุจฺฉิยมาโนติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. โย หิ ปุจฺฉํ กโรติ, โส เอตฺตกํ วตฺตพฺโพติ านํ ภฺชตีติ อาคตการณํ ภฺชติ.

อิทานิ ยา ติสฺโส โจทนา, ฉ จ านานิ วุตฺตานิ. ตตฺถ วุฑฺฒิฺจ หานิฺจ ทสฺเสนฺโต ‘‘จตุกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา’’ติอาทิมาห. ยสฺมา จ เอตฺถ เอกโจทนาวุฑฺฒิยา ทฺวินฺนํ านานํ หานิ วุตฺตา, ตสฺมา ‘‘เอกา โจทนา ทิคุณํ าน’’นฺติ ลกฺขณํ ทสฺสิตํ โหติ. อิติ อิมินา ลกฺขเณน ติกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา ฉกฺขตฺตุํ าตพฺพํ, ทฺวิกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา อฏฺกฺขตฺตุํ าตพฺพํ, สกึ โจเทตฺวา ทสกฺขตฺตุํ าตพฺพนฺติ. ยถา จ ‘‘ฉกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา น าตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, เอวํ ‘‘ทฺวาทสกฺขตฺตุํ ตฺวา น โจเทตพฺพ’’นฺติปิ วุตฺตเมว โหติ. ตสฺมา สเจ โจเทติเยว น ติฏฺติ, ฉ โจทนา ลพฺภนฺติ. สเจ ติฏฺติเยว น โจเทติ, ทฺวาทส านานิ ลพฺภนฺติ. สเจ โจเทติปิ ติฏฺติปิ, เอกาย โจทนาย ทฺเว านานิ หาเปตพฺพานิ. ตตฺถ โย เอกทิวสเมว ปุนปฺปุนํ คนฺตฺวา ฉกฺขตฺตุํ โจเทติ, สกึเยว วา คนฺตฺวา ‘‘อตฺโถ เม, อาวุโส, จีวเรนา’’ติ ฉกฺขตฺตุํ วทติ. ตถา เอกทิวสเมว ปุนปฺปุนํ คนฺตฺวา ทฺวาทสกฺขตฺตุํ ติฏฺติ, สกึเยว วา คนฺตฺวา ตตฺร ตตฺร าเน ติฏฺติ, โสปิ สพฺพโจทนาโย สพฺพฏฺานานิ จ ภฺชติ. โก ปน วาโท นานาทิวเสสุ เอวํ กโรนฺตสฺสาติ เอวเมตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

ยตสฺส จีวรเจตาปนฺนํ อาภตนฺติ ยโต ราชโต วา ราชโภคฺคโต วา อสฺส ภิกฺขุโน จีวรเจตาปนฺนํ อานีตํ. ยตฺวสฺสาติปิ ปาโ. อยเมวตฺโถ. ‘‘ยตฺถสฺสา’’ติปิ ปนฺติ, ยสฺมึ าเน อสฺส จีวรเจตาปนฺนํ เปสิตนฺติ จ อตฺถํ กเถนฺติ, พฺยฺชนํ ปน น สเมติ. ตตฺถาติ ตสฺส รฺโ วา ราชโภคฺคสฺส วา สนฺติเก; สมีปตฺเถ หิ อิทํ ภุมฺมวจนํ. น ตํ ตสฺส ภิกฺขุโน กิฺจิ อตฺถํ อนุโภตีติ ตํ จีวรเจตาปนฺนํ ตสฺส ภิกฺขุโน กิฺจิ อปฺปมตฺตกมฺปิ กมฺมํ น นิปฺผาเทติ. ยุฺชนฺตายสฺมนฺโต สกนฺติ อายสฺมนฺโต อตฺตโน สนฺตกํ ธนํ ปาปุณนฺตุ. มา โว สกํ วินสฺสาติ ตุมฺหากํ สนฺตกํ มา วินสฺสตุ. โย ปน เนว สามํ คจฺฉติ, น ทูตํ ปาเหติ, วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ.

กึ ปน สพฺพกปฺปิยการเกสุ เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ? น ปฏิปชฺชิตพฺพํ. อยฺหิ กปฺปิยการโก นาม สงฺเขปโต ทุวิโธ นิทฺทิฏฺโ จ อนิทฺทิฏฺโ จ. ตตฺถ นิทฺทิฏฺโ ทุวิโธ – ภิกฺขุนา นิทฺทิฏฺโ, ทูเตน นิทฺทิฏฺโติ. อนิทฺทิฏฺโปิ ทุวิโธ – มุขเววฏิก กปฺปิยการโก, ปรมฺมุขกปฺปิยการโกติ. เตสุ ภิกฺขุนา นิทฺทิฏฺโ สมฺมุขาสมฺมุขวเสน จตุพฺพิโธ โหติ. ตถา ทูเตน นิทฺทิฏฺโปิ.

กถํ? อิเธกจฺโจ ภิกฺขุสฺส จีวรตฺถาย ทูเตน อกปฺปิยวตฺถุํ ปหิณติ, ทูโต ตํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อิทํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนาเมน ตุมฺหากํ จีวรตฺถาย ปหิตํ, คณฺหถ น’’นฺติ วทติ, ภิกฺขุ ‘‘นยิทํ กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปติ, ทูโต ‘‘อตฺถิ ปน เต, ภนฺเต, เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ ปุจฺฉติ, ปุฺตฺถิเกหิ จ อุปาสเกหิ ‘‘ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจํ กโรถา’’ติ อาณตฺตา วา, ภิกฺขูนํ วา สนฺทิฏฺา สมฺภตฺตา เกจิ เวยฺยาวจฺจกรา โหนฺติ, เตสํ อฺตโร ตสฺมึ ขเณ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก นิสินฺโน โหติ, ภิกฺขุ ตํ นิทฺทิสติ ‘‘อยํ ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ. ทูโต ตสฺส หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ‘‘เถรสฺส จีวรํ กิณิตฺวา เทหี’’ติ คจฺฉติ, อยํ ภิกฺขุนา สมฺมุขานิทฺทิฏฺโ.

โน เจ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก นิสินฺโน โหติ, อปิจ โข ภิกฺขุ นิทฺทิสติ – ‘‘อสุกสฺมึ นาม คาเม อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ, โส คนฺตฺวา ตสฺส หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ‘‘เถรสฺส จีวรํ กิณิตฺวา ทเทยฺยาสี’’ติ อาคนฺตฺวา ภิกฺขุสฺส อาโรเจตฺวา คจฺฉติ, อยเมโก ภิกฺขุนา อสมฺมุขานิทฺทิฏฺโ.

น เหว โข โส ทูโต อตฺตนา อาคนฺตฺวา อาโรเจติ, อปิจ โข อฺํ ปหิณติ ‘‘ทินฺนํ มยา, ภนฺเต, ตสฺส หตฺเถ จีวรเจตาปนฺนํ, จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ, อยํ ทุติโย ภิกฺขุนา อสมฺมุขานิทฺทิฏฺโ.

น เหว โข อฺํ ปหิณติ, อปิจ โข คจฺฉนฺโตว ภิกฺขุํ วทติ ‘‘อหํ ตสฺส หตฺเถ จีวรเจตาปนฺนํ ทสฺสามิ, ตุมฺเห จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ, อยํ ตติโย ภิกฺขุนา อสมฺมุขานิทฺทิฏฺโติ เอวํ เอโก สมฺมุขานิทฺทิฏฺโ ตโย อสมฺมุขานิทฺทิฏฺาติ อิเม จตฺตาโร ภิกฺขุนา นิทฺทิฏฺเวยฺยาวจฺจกรา นาม. เอเตสุ อิมสฺมึ ราชสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

อปโร ภิกฺขุ ปุริมนเยเนว ทูเตน ปุจฺฉิโต นตฺถิตาย วา, อวิจาเรตุกามตาย วา ‘‘นตฺถมฺหากํ กปฺปิยการโก’’ติ วทติ, ตสฺมิฺจ ขเณ โกจิ มนุสฺโส อาคจฺฉติ, ทูโต ตสฺส หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ‘‘อิมสฺส หตฺถโต จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ วตฺวา คจฺฉติ, อยํ ทูเตน สมฺมุขานิทฺทิฏฺโ.

อปโร ทูโต คามํ ปวิสิตฺวา อตฺตนา อภิรุจิตสฺส กสฺสจิ หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ปุริมนเยเนว อาคนฺตฺวา อาโรเจติ, อฺํ วา ปหิณติ, ‘‘อหํ อสุกสฺส นาม หตฺเถ จีวรเจตาปนฺนํ ทสฺสามิ, ตุมฺเห จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ วตฺวา วา คจฺฉติ, อยํ ตติโย ทูเตน อสมฺมุขานิทฺทิฏฺโติ เอวํ เอโก สมฺมุขานิทฺทิฏฺโ, ตโย อสมฺมุขานิทฺทิฏฺาติ อิเม จตฺตาโร ทูเตน นิทฺทิฏฺเวยฺยาวจฺจกรา นาม. เอเตสุ เมณฺฑกสิกฺขาปเท วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, มนุสฺสา สทฺธา ปสนฺนา, เต กปฺปิยการกานํ หตฺเถ หิรฺํ อุปนิกฺขิปนฺติ – ‘อิมินา อยฺยสฺส ยํ กปฺปิยํ ตํ เทถา’ติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ ตโต กปฺปิยํ ตํ สาทิตุํ, น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, เกนจิ ปริยาเยน ชาตรูปรชตํ สาทิตพฺพํ ปริเยสิตพฺพนฺติ วทามี’’ติ (มหาว. ๒๙๙). เอตฺถ จ โจทนาย ปมาณํ นตฺถิ, มูลํ อสาทิยนฺเตน สหสฺสกฺขตฺตุมฺปิ โจทนาย วา าเนน วา กปฺปิยภณฺฑํ สาทิตุํ วฏฺฏติ. โน เจ เทติ, อฺํ กปฺปิยการกํ เปตฺวาปิ อาหราเปตพฺพํ. สเจ อิจฺฉติ มูลสามิกานมฺปิ กเถตพฺพํ; โน เจ อิจฺฉติ น กเถตพฺพํ.

อปโร ภิกฺขุ ปุริมนเยเนว ทูเตน ปุจฺฉิโต ‘‘นตฺถมฺหากํ กปฺปิยการโก’’ติ วทติ, ตทฺโ สมีเป ิโต สุตฺวา ‘‘อาหร โภ อหํ อยฺยสฺส จีวรํ เจตาเปตฺวา ทสฺสามี’’ติ วทติ. ทูโต ‘‘หนฺท โภ ทเทยฺยาสี’’ติ ตสฺส หตฺเถ ทตฺวา ภิกฺขุสฺส อนาโรเจตฺวาว คจฺฉติ, อยํ มุขเววฏิกกปฺปิยการโก. อปโร ภิกฺขุโน อุปฏฺากสฺส วา อฺสฺส วา หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ‘‘เถรสฺส จีวรํ ทเทยฺยาสี’’ติ เอตฺโตว ปกฺกมติ, อยํ ปรมฺมุขกปฺปิยการโกติ อิเม ทฺเว อนิทฺทิฏฺกปฺปิยการกา นาม. เอเตสุ อฺาตกอปฺปวาริเตสุ วิย ปฏิปชฺชิตพฺพํ. สเจ สยเมว จีวรํ อาเนตฺวา ททนฺติ, คเหตพฺพํ. โน เจ, กิฺจิ น วตฺตพฺพา. เทสนามตฺตเมว เจตํ ‘‘ทูเตน จีวรเจตาปนฺนํ ปหิเณยฺยา’’ติ สยํ อาหริตฺวาปิ ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถาย ททนฺเตสุปิ เอเสว นโย. น เกวลฺจ อตฺตโนเยว อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ, สเจปิ โกจิ ชาตรูปรชตํ อาเนตฺวา ‘‘อิทํ สงฺฆสฺส ทมฺมิ, อารามํ วา กโรถ เจติยํ วา โภชนสาลาทีนํ วา อฺตร’’นฺติ วทติ, อิทมฺปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ. ยสฺส กสฺสจิ หิ อฺสฺสตฺถาย สมฺปฏิจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏํ โหตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.

สเจ ปน ‘‘นยิทํ ภิกฺขูนํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺเต ‘‘วฑฺฒกีนํ วา กมฺมกรานํ วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, เกวลํ ตุมฺเห สุกตทุกฺกฏํ ชานาถา’’ติ วตฺวา เตสํ หตฺเถ ทตฺวา ปกฺกมติ, วฏฺฏติ. อถาปิ ‘‘มม มนุสฺสานํ หตฺเถ ภวิสฺสติ มยฺหเมว วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, เกวลํ ตุมฺเห ยํ ยสฺส ทาตพฺพํ, ตทตฺถาย เปเสยฺยาถา’’ติ วทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ.

สเจ ปน สงฺฆํ วา คณํ วา ปุคฺคลํ วา อนามสิตฺวา ‘‘อิทํ หิรฺสุวณฺณํ เจติยสฺส เทม, วิหารสฺส เทม, นวกมฺมสฺส เทมา’’ติ วทนฺติ, ปฏิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘อิเม อิทํ ภณนฺตี’’ติ กปฺปิยการกานํ อาจิกฺขิตพฺพํ. ‘‘เจติยาทีนํ อตฺถาย ตุมฺเห คเหตฺวา เปถา’’ติ วุตฺเตน ปน ‘‘อมฺหากํ คเหตุํ น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ.

สเจ ปน โกจิ พหุํ หิรฺสุวณฺณํ อาเนตฺวา ‘‘อิทํ สงฺฆสฺส ทมฺมิ, จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภุฺชถา’’ติ วทติ, ตํ เจ สงฺโฆ สมฺปฏิจฺฉติ, ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ อาปตฺติ. ตตฺร เจ เอโก ภิกฺขุ ‘‘นยิทํ กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปติ, อุปาสโก จ ‘‘ยทิ น กปฺปติ, มยฺหเมว ภวิสฺสตี’’ติ คจฺฉติ. โส ภิกฺขุ ‘‘ตยา สงฺฆสฺส ลาภนฺตราโย กโต’’ติ น เกนจิ กิฺจิ วตฺตพฺโพ. โย หิ ตํ โจเทติ, สฺเวว สาปตฺติโก โหติ, เตน ปน เอเกน พหู อนาปตฺติกา กตา. สเจ ปน ภิกฺขูหิ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺเต ‘‘กปฺปิยการกานํ วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, มม ปุริสานํ วา มยฺหํ วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, เกวลํ ตุมฺเห ปจฺจเย ปริภุฺชถา’’ติ วทติ, วฏฺฏติ.

จตุปจฺจยตฺถาย จ ทินฺนํ เยน เยน ปจฺจเยน อตฺโถ โหติ, ตทตฺถํ อุปเนตพฺพํ, จีวรตฺถาย ทินฺนํ จีวเรเยว อุปเนตพฺพํ. สเจ จีวเรน ตาทิโส อตฺโถ นตฺถิ, ปิณฺฑปาตาทีหิ สงฺโฆ กิลมติ, สงฺฆสุฏฺุตาย อปโลเกตฺวา ตทตฺถายปิ อุปเนตพฺพํ. เอส นโย ปิณฺฑปาตคิลานปจฺจยตฺถาย ทินฺเนปิ, เสนาสนตฺถาย ทินฺนํ ปน เสนาสนสฺส ครุภณฺฑตฺตา เสนาสเนเยว อุปเนตพฺพํ. สเจ ปน ภิกฺขูสุ เสนาสนํ ฉฑฺเฑตฺวา คเตสุ เสนาสนํ วินสฺสติ, อีทิเส กาเล เสนาสนํ วิสฺสชฺเชตฺวาปิ ภิกฺขูนํ ปริโภโค อนุฺาโต, ตสฺมา เสนาสนชคฺคนตฺถํ มูลจฺเฉชฺชํ อกตฺวา ยาปนมตฺตํ ปริภุฺชิตพฺพํ.

เกวลฺจ หิรฺสุวณฺณเมว, อฺมฺปิ เขตฺตวตฺถาทิ อกปฺปิยํ น สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. สเจ หิ โกจิ ‘‘มยฺหํ ติสสฺสสมฺปาทนกํ มหาตฬากํ อตฺถิ, ตํ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ, ตํ เจ สงฺโฆ สมฺปฏิจฺฉติ, ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ อาปตฺติเยว. โย ปน ตํ ปฏิกฺขิปติ, โส ปุริมนเยเนว น เกนจิ กิฺจิ วตฺตพฺโพ. โย หิ ตํ โจเทติ, สฺเวว สาปตฺติโก โหติ, เตน ปน เอเกน พหู อนาปตฺติกา กตา.

โย ปน ‘‘ตาทิสํเยว ตฬากํ ทมฺมี’’ติ วตฺวา ภิกฺขูหิ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺโต วทติ ‘‘อสุกฺจ อสุกฺจ สงฺฆสฺส ตฬากํ อตฺถิ, ตํ กถํ วฏฺฏตี’’ติ. โส วตฺตพฺโพ – ‘‘กปฺปิยํ กตฺวา ทินฺนํ ภวิสฺสตี’’ติ. กถํ ทินฺนํ กปฺปิยํ โหตีติ? ‘‘จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภุฺชถา’’ติ วตฺวา ทินฺนนฺติ. โส สเจ ‘‘สาธุ, ภนฺเต, จตฺตาโร ปจฺจเย สงฺโฆ ปริภุฺชตู’’ติ เทติ, วฏฺฏติ. อถาปิ ‘‘ตฬากํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺโต ‘‘กปฺปิยการโก อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘นตฺถี’’ติ วุตฺเต ‘‘อิทํ อสุโก นาม วิจาเรสฺสติ, อสุกสฺส วา หตฺเถ, มยฺหํ วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, สงฺโฆ กปฺปิยภณฺฑํ ปริภุฺชตู’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. สเจปิ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺโต ‘‘อุทกํ ปริภุฺชิสฺสติ, ภณฺฑกํ โธวิสฺสติ, มิคปกฺขิโน ปิวิสฺสนฺตี’’ติ วทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. อถาปิ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺโต วทติ ‘‘กปฺปิยสีเสน คณฺหถา’’ติ. ‘‘สาธุ, อุปาสก, สงฺโฆ ปานียํ ปิวิสฺสติ, ภณฺฑกํ โธวิสฺสติ, มิคปกฺขิโน ปิวิสฺสนฺตี’’ติ วตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ.

อถาปิ ‘‘มม ตฬากํ วา โปกฺขรณึ วา สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ‘‘วุตฺเต, สาธุ, อุปาสก, สงฺโฆ ปานียํ ปิวิสฺสตี’’ติอาทีนิ วตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติเยว. ยทิ ปน ภิกฺขูหิ หตฺถกมฺมํ ยาจิตฺวา สหตฺเถน จ กปฺปิยปถวึ ขนิตฺวา อุทกปริโภคตฺถาย ตฬากํ การิตํ โหติ, ตํ เจ นิสฺสาย สสฺสํ นิปฺผาเทตฺวา มนุสฺสา วิหาเร กปฺปิยภณฺฑํ เทนฺติ, วฏฺฏติ. อถ มนุสฺสา เอว สงฺฆสฺส อุปการตฺถาย สงฺฆิกภูมึ ขนิตฺวา ตํ นิสฺสาย นิปฺผนฺนสสฺสโต กปฺปิยภณฺฑํ เทนฺติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘อมฺหากํ เอกํ กปฺปิยการกํ เปถา’’ติ วุตฺเต จ เปตุมฺปิ ลพฺภติ. อถ ปน เต มนุสฺสา ราชพลินา อุปทฺทุตา ปกฺกมนฺติ, อฺเ ปฏิปชฺชนฺติ, น จ ภิกฺขูนํ กิฺจิ เทนฺติ, อุทกํ วาเรตุํ ลพฺภติ. ตฺจ โข กสิกมฺมกาเลเยว, น สสฺสกาเล. สเจ เต วทนฺติ ‘‘นนุ, ภนฺเต, ปุพฺเพปิ มนุสฺสา อิมํ นิสฺสาย สสฺสํ อกํสู’’ติ. ตโต วตฺตพฺพา – ‘‘เต สงฺฆสฺส อิมฺจ อิมฺจ อุปการํ อกํสุ, อิทฺจิทฺจ กปฺปิยภณฺฑํ อทํสู’’ติ. สเจ วทนฺติ – ‘‘มยมฺปิ ทสฺสามา’’ติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ.

สเจ ปน โกจิ อพฺยตฺโต อกปฺปิยโวหาเรน ตฬากํ ปฏิคฺคณฺหาติ วา กาเรติ วา, ตํ ภิกฺขูหิ น ปริภุฺชิตพฺพํ, ตํ นิสฺสาย ลทฺธํ กปฺปิยภณฺฑมฺปิ อกปฺปิยเมว. สเจ ภิกฺขูหิ ปริจฺจตฺตภาวํ ตฺวา สามิโก วา ตสฺส ปุตฺตธีตโร วา อฺโ วา โกจิ วํเส อุปฺปนฺโน ปุน กปฺปิยโวหาเรน เทติ, วฏฺฏติ. ปจฺฉินฺเน กุลวํเส โย ตสฺส ชนปทสฺส สามิโก, โส อจฺฉินฺทิตฺวา ปุน เทติ, จิตฺตลปพฺพเต ภิกฺขุนา นีหฏอุทกวาหกํ อฬนาคราชมเหสี วิย, เอวมฺปิ วฏฺฏติ.

กปฺปิยโวหาเรปิ อุทกวเสน ปฏิคฺคหิตตฬาเก สุทฺธจิตฺตานํ มตฺติกุทฺธรณปาฬิพนฺธนาทีนิ จ กาตุํ วฏฺฏติ. ตํ นิสฺสาย ปน สสฺสํ กโรนฺเต ทิสฺวา กปฺปิยการกํ เปตุํ น วฏฺฏติ. ยทิ เต สยเมว กปฺปิยภณฺฑํ เทนฺติ, คเหตพฺพํ. โน เจ เทนฺติ, น โจเทตพฺพํ, น สาเรตพฺพํ. ปจฺจยวเสน ปฏิคฺคหิตตฬาเก กปฺปิยการกํ เปตุํ วฏฺฏติ. มตฺติกุทฺธรณปาฬิพนฺธนาทีนิ ปน กาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ กปฺปิยการกา สยเมว กโรนฺติ, วฏฺฏติ. อพฺยตฺเตน ปน ลชฺชิภิกฺขุนา การาปิเตสุ กิฺจาปิ ปฏิคฺคหเณ กปฺปิยํ, ภิกฺขุสฺส ปโยคปจฺจยา อุปฺปนฺเนน มิสฺสกตฺตา วิสคตปิณฺฑปาโต วิย อกปฺปิยมํสรสมิสฺสกโภชนํ วิย จ ทุพฺพินิพฺโภคํ โหติ, สพฺเพสํ อกปฺปิยเมว.

สเจ ปน ‘‘อุทกสฺส โอกาโส อตฺถิ, ตฬากสฺส ปาฬิ ถิรา, ยถา พหุํ อุทกํ คณฺหาติ, เอวํ กโรหิ, ตีรสมีเป อุทกํ กโรหี’’ติ เอวํ อุทกเมว วิจาเรติ, วฏฺฏติ. อุทฺธเน อคฺคึ น ปาเตนฺติ, ‘‘อุทกกมฺมํ ลพฺภตุ อุปาสกา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘สสฺสํ กตฺวา อาหรถา’’ติ วตฺตุํ ปน น วฏฺฏติ. สเจ ปน ตฬาเก อติพหุํ อุทกํ ทิสฺวา ปสฺสโต วา ปิฏฺิโต วา มาติกํ นีหราเปติ, วนํ ฉินฺทาเปตฺวา เกทาเร การาเปติ, โปราณเกทาเรสุ วา ปกติภาคํ อคฺคเหตฺวา อติเรกํ คณฺหาติ, นวสสฺเส วา อกาลสสฺเส วา อปริจฺฉินฺนภาเค ‘‘เอตฺตเก กหาปเณ เทถา’’ติ กหาปเณ อุฏฺาเปติ, สพฺเพสํ อกปฺปิยํ.

โย ปน ‘‘กสฺสถ วปถา’’ติ อวตฺวา ‘‘เอตฺตกาย ภูมิยา, เอตฺตโก นาม ภาโค’’ติ เอวํ ภูมึ วา ปติฏฺเปติ, ‘‘เอตฺตเก ภูมิภาเค อมฺเหหิ สสฺสํ กตํ, เอตฺตกํ นาม ภาคํ คณฺหถา’’ติ วทนฺเตสุ กสฺสเกสุ ภูมิปฺปมาณคฺคหณตฺถํ รชฺชุยา วา ทณฺเฑน วา มินาติ, ขเล วา ตฺวา รกฺขติ, ขลโต วา นีหราเปติ, โกฏฺาคาเร วา ปฏิสาเมติ, ตสฺเสว ตํ อกปฺปิยํ.

สเจ กสฺสกา กหาปเณ อาหริตฺวา ‘‘อิเม สงฺฆสฺส อาหฏา’’ติ วทนฺติ, อฺตโร จ ภิกฺขุ ‘‘น สงฺโฆ กหาปเณ ขาทตี’’ติ สฺาย ‘‘เอตฺตเกหิ กหาปเณหิ สาฏเก อาหร, เอตฺตเกหิ ยาคุอาทีนิ สมฺปาเทหี’’ติ วทติ. ยํ เต อาหรนฺติ, สพฺเพสํ อกปฺปิยํ. กสฺมา? กหาปณานํ วิจาริตตฺตา.

สเจ ธฺํ อาหริตฺวา อิทํ สงฺฆสฺส อาหฏนฺติ วทนฺติ, อฺตโร จ ภิกฺขุ ปุริมนเยเนว ‘‘เอตฺตเกหิ วีหีหิ อิทฺจิทฺจ อาหรถา’’ติ วทติ. ยํ เต อาหรนฺติ, ตสฺเสว อกปฺปิยํ. กสฺมา? ธฺสฺส วิจาริตตฺตา.

สเจ ตณฺฑุลํ วา อปรณฺณํ วา อาหริตฺวา ‘‘อิทํ สงฺฆสฺส อาหฏ’’นฺติ วทนฺติ, อฺตโร จ ภิกฺขุ ปุริมนเยเนว ‘‘เอตฺตเกหิ ตณฺฑุเลหิ อิทฺจิทฺจ อาหรถา’’ติ วทติ. ยํ เต อาหรนฺติ, สพฺเพสํ กปฺปิยํ. กสฺมา? กปฺปิยานํ ตณฺฑุลาทีนํ วิจาริตตฺตา. กยวิกฺกเยปิ อนาปตฺติ, กปฺปิยการกสฺส อาจิกฺขิตตฺตา.

ปุพฺเพ ปน จิตฺตลปพฺพเต เอโก ภิกฺขุ จตุสาลทฺวาเร ‘‘อโห วต สฺเว สงฺฆสฺส เอตฺตกปฺปมาเณ ปูเว ปเจยฺยุ’’นฺติ อารามิกานํ สฺาชนนตฺถํ ภูมิยํ มณฺฑลํ อกาสิ, ตํ ทิสฺวา เฉโก อารามิโก ตเถว กตฺวา ทุติยทิวเส เภริยา อาโกฏิตาย สนฺนิปติเต สงฺเฆ ปูวํ คเหตฺวา สงฺฆตฺเถรํ อาห – ‘‘ภนฺเต, อมฺเหหิ อิโต ปุพฺเพ เนว ปิตูนํ น ปิตามหานํ เอวรูปํ สุตปุพฺพํ, เอเกน อยฺเยน จตุสฺสาลทฺวาเร ปูวตฺถาย สฺา กตา, อิโต ทานิ ปภุติ อยฺยา อตฺตโน อตฺตโน จิตฺตานุรูปํ วทนฺตุ, อมฺหากมฺปิ ผาสุวิหาโร ภวิสฺสตี’’ติ. มหาเถโร ตโตว นิวตฺติ, เอกภิกฺขุนาปิ ปูโว น คหิโต. เอวํ ปุพฺเพ ตตฺรุปฺปาทมฺปิ น ปริภุฺชึสุ. ตสฺมา –

สลฺเลขํ อจฺจชนฺเตน, อปฺปมตฺเตน ภิกฺขุนา;

กปฺปิเยปิ น กาตพฺพา, อามิสตฺถาย โลลตาติ.

โย จายํ ตฬาเก วุตฺโต, โปกฺขรณี-อุทกวาหกมาติกาทีสุปิ เอเสว นโย.

ปุพฺพณฺณาปรณฺณอุจฺฉุผลาผลาทีนํ วิรุหนฏฺานํ ยํ กิฺจิ เขตฺตํ วา วตฺถุํ วา ทมฺมีติ วุตฺเตปิ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ตฬาเก วุตฺตนเยเนว ยทา กปฺปิยโวหาเรน ‘‘จตุปจฺจยปริโภคตฺถาย ทมฺมี’’ติ วทติ, ตทา สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ, ‘‘วนํ ทมฺมิ, อรฺํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปน วฏฺฏติ. สเจ มนุสฺสา ภิกฺขูหิ อนาณตฺตาเยว ตตฺถ รุกฺเข ฉินฺทิตฺวา อปรณฺณาทีนิ สมฺปาเทตฺวา ภิกฺขูนํ ภาคํ เทนฺติ, วฏฺฏติ; อเทนฺตา น โจเทตพฺพา. สเจ เกนจิเทว อนฺตราเยน เตสุ ปกฺกนฺเตสุ อฺเ กโรนฺติ, น จ ภิกฺขูนํ กิฺจิ เทนฺติ, เต วาเรตพฺพา. สเจ วทนฺติ – ‘‘นนุ, ภนฺเต, ปุพฺเพปิ มนุสฺสา อิธ สสฺสานิ อกํสู’’ติ, ตโต เต วตฺตพฺพา – ‘‘เต สงฺฆสฺส อิทฺจิทฺจ กปฺปิยภณฺฑํ อทํสู’’ติ. สเจ วทนฺติ – ‘‘มยมฺปิ ทสฺสามา’’ติ เอวํ วฏฺฏติ.

กฺจิ สสฺสุฏฺานกํ ภูมิปฺปเทสํ สนฺธาย ‘‘สีมํ เทมา’’ติ วทนฺติ, วฏฺฏติ. สีมา ปริจฺเฉทนตฺถํ ปน ถมฺภา วา ปาสาณา วา สยํ น เปตพฺพา. กสฺมา? ภูมิ นาม อนคฺฆา อปฺปเกนาปิ ปาราชิโก ภเวยฺย, อารามิกานํ ปน วตฺตพฺพํ – ‘‘อิมินา าเนน อมฺหากํ สีมา คตา’’ติ. สเจปิ หิ เต อธิกํ คณฺหนฺติ, ปริยาเยน กถิตตฺตา อนาปตฺติ. ยทิ ปน ราชราชมหามตฺตาทโย สยเมว ถมฺเภ ปาเปตฺวา ‘‘จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภุฺชถา’’ติ เทนฺติ, วฏฺฏติเยว.

สเจ โกจิ อนฺโตสีมาย ตฬากํ ขนติ, วิหารมชฺเฌน วา มาติกํ เนติ, เจติยงฺคณโพธิยงฺคณาทีนิ ทุสฺสนฺติ, วาเรตพฺโพ. สเจ สงฺโฆ กิฺจิ ลภิตฺวา อามิสครุกตาย น วาเรติ, เอโก ภิกฺขุ วาเรติ, โสว ภิกฺขุ อิสฺสโร. สเจ เอโก ภิกฺขุ น วาเรติ, ‘‘เนถ ตุมฺเห’’ติ เตสํเยว ปกฺโข โหติ, สงฺโฆ วาเรติ, สงฺโฆว อิสฺสโร. สงฺฆิเกสุ หิ กมฺเมสุ โย ธมฺมกมฺมํ กโรติ, โสว อิสฺสโร. สเจ วาริยมาโนปิ กโรติ, เหฏฺา คหิตํ ปํสุํ เหฏฺา ปกฺขิปิตฺวา, อุปริ คหิตํ ปํสุํ อุปริ ปกฺขิปิตฺวา ปูเรตพฺพา.

สเจ โกจิ ยถาชาตเมว อุจฺฉุํ วา อปรณฺณํ วา อลาพุกุมฺภณฺฑาทิกํ วา วลฺลิผลํ ทาตุกาโม ‘‘เอตํ สพฺพํ อุจฺฉุเขตฺตํ อปรณฺณวตฺถุํ วลฺลิผลาวาฏํ ทมฺมี’’ติ วทติ, สห วตฺถุนา ปรามฏฺตฺตา ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘อภิลาปมตฺตเมตํ สามิกานํเยว หิ โส ภูมิภาโค ตสฺมา วฏฺฏตี’’ติ อาห.

‘‘ทาสํ ทมฺมี’’ติ วทติ, น วฏฺฏติ. ‘‘อารามิกํ ทมฺมิ, เวยฺยาวจฺจกรํ ทมฺมิ, กปฺปิยการกํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต วฏฺฏติ. สเจ โส อารามิโก ปุเรภตฺตมฺปิ ปจฺฉาภตฺตมฺปิ สงฺฆสฺเสว กมฺมํ กโรติ, สามเณรสฺส วิย สพฺพํ เภสชฺชปฏิชคฺคนมฺปิ ตสฺส กาตพฺพํ. สเจ ปุเรภตฺตเมว สงฺฆสฺส กมฺมํ กโรติ, ปจฺฉาภตฺตํ อตฺตโน กมฺมํ กโรติ, สายํ นิวาโป น ทาตพฺโพ. เยปิ ปฺจทิวสวาเรน วา ปกฺขวาเรน วา สงฺฆสฺส กมฺมํ กตฺวา เสสกาเล อตฺตโน กมฺมํ กโรนฺติ, เตสมฺปิ กรณกาเลเยว ภตฺตฺจ นิวาโป จ ทาตพฺโพ. สเจ สงฺฆสฺส กมฺมํ นตฺถิ, อตฺตโนเยว กมฺมํ กตฺวา ชีวนฺติ, เต เจ หตฺถกมฺมมูลํ อาเนตฺวา เทนฺติ, คเหตพฺพํ. โน เจ เทนฺติ, น กิฺจิ วตฺตพฺพา. ยํ กิฺจิ รชกทาสมฺปิ เปสการทาสมฺปิ อารามิกนาเมน สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ.

สเจ ‘‘คาโว เทมา’’ติ วทนฺติ, ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตพฺพา. อิมา คาโว กุโตติ ปณฺฑิเตหิ ปฺจ โครสปริโภคตฺถาย ทินฺนาติ, ‘‘มยมฺปิ ปฺจโครสปริโภคตฺถาย เทมา’’ติ วุตฺเต วฏฺฏติ. อชิกาทีสุปิ เอเสว นโย. ‘‘หตฺถึ เทม, อสฺสํ มหิสํ กุกฺกุฏํ สูกรํ เทมา’’ติ วทนฺติ, สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ. สเจ เกจิ มนุสฺสา ‘‘อปฺโปสฺสุกฺกา, ภนฺเต, ตุมฺเห โหถ, มยํ อิเม คเหตฺวา ตุมฺหากํ กปฺปิยภณฺฑํ ทสฺสามา’’ติ คณฺหนฺติ, วฏฺฏติ. ‘‘กุกฺกุฏสูกรา สุขํ ชีวนฺตู’’ติ อรฺเ วิสฺสชฺเชตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อิมํ ตฬากํ, อิมํ เขตฺตํ, อิมํ วตฺถุํ, วิหารสฺส เทมา’’ติ วุตฺเต ปฏิกฺขิปิตุํ น ลพฺภตีติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

สมุฏฺานาทีสุ อิทมฺปิ ฉสมุฏฺานํ กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ราชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิโต จีวรวคฺโค ปโม.

๒. โกสิยวคฺโค

๑. โกสิยสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๔๒. เตน สมเยนาติ โกสิยสิกฺขาปทํ. ตตฺถ สนฺถริตฺวา กตํ โหตีติ สเม ภูมิภาเค โกสิยํสูนิ อุปรูปริ สนฺถริตฺวา กฺชิกาทีหิ สิฺจิตฺวา กตํ โหติ. เอเกนปิ โกสิยํสุนา มิสฺสิตฺวาติ ติฏฺตุ อตฺตโน รุจิวเสน มิสฺสิตํ, สเจปิ ตสฺส กรณฏฺาเน วาโต เอกํ โกสิยํสุํ อาเนตฺวา ปาเตติ, เอวมฺปิ มิสฺเสตฺวา กตเมว โหตีติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.

ฉสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ,

ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

โกสิยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สุทฺธกาฬกสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๔๗. เตน สมเยนาติ สุทฺธกาฬกสิกฺขาปทํ. ตตฺถ สุทฺธกาฬกานนฺติ สุทฺธานํ กาฬกานํ, อฺเหิ อมิสฺสิตกาฬกานนฺติ อตฺโถ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว. สมุฏฺานาทีนิปิ โกสิยสิกฺขาปทสทิสาเนวาติ.

สุทฺธกาฬกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ทฺเวภาคสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๕๒. เตน สมเยนาติ ทฺเวภาคสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อนฺเต อาทิยิตฺวาติ สนฺถตสฺส อนฺเต อนุวาตํ วิย ทสฺเสตฺวา โอทาตํ อลฺลิยาเปตฺวา.

ทฺเว ภาคาติ ทฺเว โกฏฺาสา. อาทาตพฺพาติ คเหตพฺพา. โคจริยานนฺติ กปิลวณฺณานํ. ทฺเว ตุลา อาทาตพฺพาติ จตูหิ ตุลาหิ กาเรตุกามํ สนฺธาย วุตฺตํ. อตฺถโต ปน ยตฺตเกหิ เอฬกโลเมหิ กาตุกาโม โหติ, เตสุ ทฺเว โกฏฺาสา กาฬกานํ เอโก โอทาตานํ, เอโก โคจริยานนฺติ อิทเมว ทสฺสิตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.

สมุฏฺานาทีนิปิ โกสิยสิกฺขาปทสทิสาเนว. เกวลํ อิทํ อาทาย อนาทาย จ กรณโต กิริยากิริยํ เวทิตพฺพนฺติ.

ทฺเวภาคสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๕๗. เตน สมเยนาติ ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อูหทนฺติปิ อุมฺมิหนฺติปีติ สนฺถตานํ อุปริ วจฺจมฺปิ ปสฺสาวมฺปิ กโรนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.

ทินฺนา สงฺเฆน อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สนฺถตสมฺมุตีติ เอวํ ลทฺธสมฺมุติโก ภิกฺขุ ยาว โรโค น วูปสมฺมติ, ตาว ยํ ยํ านํ คจฺฉติ, ตตฺถ ตตฺถ สนฺถตํ กาตุํ ลภติ. สเจ อโรโค หุตฺวา ปุน มูลพฺยาธินาว คิลาโน โหติ, โสเยว ปริหาโร, นตฺถฺํ สมฺมุติกิจฺจนฺติ ผุสฺสเทวตฺเถโร อาห. อุปติสฺสตฺเถโร ปน ‘‘โส วา พฺยาธิ ปฏิกุปฺปตุ, อฺโ วา, ‘สกึ คิลาโน’ติ นามํ ลทฺธํ ลทฺธเมว, ปุน สมฺมุติกิจฺจํ นตฺถี’’ติ อาห.

โอเรน เจ ฉนฺนํ วสฺสานนฺติ ฉนฺนํ วสฺสานํ โอริมภาเค, อนฺโตติ อตฺโถ. ปทภาชเน ปน สงฺขฺยามตฺตทสฺสนตฺถํ ‘‘อูนกฉพฺพสฺสานี’’ติ วุตฺตํ.

อนาปตฺติ ฉพฺพสฺสานิ กโรตีติ ยทา ฉพฺพสฺสานิ ปริปุณฺณานิ โหนฺติ, ตทา สนฺถตํ กโรติ. ทุติยปเทปิ ‘‘ยทา อติเรกฉพฺพสฺสานิ โหนฺติ, ตทา กโรตี’’ติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. น หิ โส ฉพฺพสฺสานิ กโรตีติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.

สมุฏฺานาทีนิ โกสิยสิกฺขาปทสทิสาเนวาติ.

ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๖๕. เตน สมเยนาติ นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อิจฺฉามหํ ภิกฺขเวติ ภควา กิร ตํ เตมาสํ น กิฺจิ โพธเนยฺยสตฺตํ อทฺทส, ตสฺมา เอวมาห. เอวํ สนฺเตปิ ตนฺติวเสน ธมฺมเทสนา กตฺตพฺพา สิยา. ยสฺมา ปนสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มยิ โอกาสํ กาเรตฺวา ปฏิสลฺลีเน ภิกฺขู อธมฺมิกํ กติกวตฺตํ กริสฺสนฺติ, ตํ อุปเสโน ภินฺทิสฺสติ. อหํ ตสฺส ปสีทิตฺวา ภิกฺขูนํ ทสฺสนํ อนุชานิสฺสามิ, ตโต มํ ปสฺสิตุกามา พหู ภิกฺขู ธุตงฺคานิ สมาทิยิสฺสนฺติ, อหฺจ เตหิ อุชฺฌิตสนฺถตปจฺจยา สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสามี’’ติ, ตสฺมา เอวมาห. เอวํ พหูนิ หิ เอตฺถ อานิสํสานีติ.

สปริโส เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ เถโร กิร ‘‘น, ภิกฺขเว, อูนทสวสฺเสน อุปสมฺปาเทตพฺโพ, โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๗๕) อิมสฺมึ ขนฺธกสิกฺขาปเท ‘‘กถฺหิ นาม ตฺวํ โมฆปุริส อฺเหิ โอวทิโย อนุสาสิโย อฺํ โอวทิตุํ อนุสาสิตุํ มฺิสฺสสี’’ติ เอวมาทินา นเยน ครหํ ลภิตฺวา ‘‘สตฺถา มยฺหํ ปริสํ นิสฺสาย ครหํ อทาสิ, โส ทานาหํ ภควนฺตํ เตเนว ปุณฺณจนฺทสสฺสิรีเกน สพฺพาการปริปุณฺเณน มุเขน พฺรหฺมโฆสํ นิจฺฉาเรตฺวา ปริสํเยว นิสฺสาย สาธุการํ ทาเปสฺสามี’’ติ สุหทโย กุลปุตฺโต อติเรกโยชนสตํ ปฏิกฺกมิตฺวา ปริสํ จินิตฺวา ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ ปริวุโต ปุน ภควนฺตํ อุปสงฺกมนฺโต. เตน วุตฺตํ – ‘‘สปริโส เยน ภควา เตนุปสงฺกมี’’ติ. น หิ สกฺกา พุทฺธานํ อฺถา อาราเธตุํ อฺตฺร วตฺตสมฺปตฺติยา.

ภควโต อวิทูเร นิสินฺโนติ วตฺตสมฺปตฺติยา ปริสุทฺธภาเวน นิราสงฺโก สีโห วิย กฺจนปพฺพตสฺส ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน. เอตทโวจาติ กถาสมุฏฺาปนตฺถํ เอตํ อโวจ. มนาปานิ เต ภิกฺขุ ปํสุกูลานีติ ภิกฺขุ ตว อิมานิ ปํสุกูลานิ มนาปานิ, อตฺตโน รุจิยา ขนฺติยา คหิตานีติ อตฺโถ. น โข เม, ภนฺเต, มนาปานีติ, ภนฺเต น มยา อตฺตโน รุจิยา คหิตานิ, คลคฺคาเหน วิย มตฺถกตาฬเนน วิย จ คาหิโตมฺหีติ ทสฺเสติ.

ปฺายิสฺสตีติ ปฺาโต อภิฺาโต ภวิสฺสติ, ตตฺถ สนฺทิสฺสิสฺสตีติ วุตฺตํ โหติ. น มยํ อปฺตฺตํ ปฺเปสฺสามาติ มยํ สาวกา นาม อปฺตฺตํ น ปฺเปสฺสาม, พุทฺธวิสโย หิ เอโส ยทิทํ ‘‘ปาจิตฺติยํ ทุกฺกฏ’’นฺติอาทินา นเยน อปฺตฺตสิกฺขาปทปฺปนํ ปฺตฺตสมุจฺฉินฺทนํ วา. สมาทายาติ ตํ ตํ สิกฺขาปทํ สมาทิยิตฺวา, ‘‘สาธุ สุฏฺู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ยถาปฺตฺเตสุ สพฺพสิกฺขาปเทสุ สิกฺขิสฺสามาติ ทสฺเสติ. ตสฺส อารทฺธจิตฺโต ปุนปิ ‘‘สาธุ สาธู’’ติ สาธุการมทาสิ.

๕๖๖. อนุฺาตาวุโสติ อนุฺาตํ, อาวุโส. ปิเหนฺตาติ ปิหยนฺตา. สนฺถตานิ อุชฺฌิตฺวาติ สนฺถเต จตุตฺถจีวรสฺิตาย สพฺพสนฺถตานิ อุชฺฌิตฺวา. ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสีติ ภควา สนฺถตานิ วิปฺปกิณฺณานิ ทิสฺวา ‘‘สทฺธาเทยฺยวินิปาตเน การณํ นตฺถิ, ปริโภคุปายํ เนสํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ.

๕๖๗. สกึ นิวตฺถมฺปิ สกึ ปารุตมฺปีติ สกึ นิสินฺนฺเจว นิปนฺนฺจ. สามนฺตาติ เอกปสฺสโต วฏฺฏํ วา จตุรสฺสํ วา ฉินฺทิตฺวา คหิตฏฺานํ ยถา วิทตฺถิมตฺตํ โหติ, เอวํ คเหตพฺพํ, สนฺถรนฺเตน ปน ปาฬิยํ วุตฺตนเยเนว เอกเทเส วา สนฺถริตพฺพํ, วิชเฏตฺวา วา มิสฺสกํ กตฺวา สนฺถริตพฺพํ, เอวํ ถิรตรํ โหตีติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.

สมุฏฺานาทีนิ กิริยากิริยตฺตา อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส ทฺเวภาคสิกฺขาปทสทิสานีติ.

อิเมสุ ปน ปฺจสุ สนฺถเตสุ ปุริมานิ ตีณิ วินยกมฺมํ กตฺวา ปฏิลภิตฺวา ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏนฺติ, ปจฺฉิมานิ ทฺเว วฏฺฏนฺตีติ เวทิตพฺพานีติ.

นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. เอฬกโลมสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๗๑. เตน สมเยนาติ เอฬกโลมสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อุปฺปณฺเฑสุนฺติ ‘‘กิตฺตเกน, ภนฺเต, กีตานี’’ติอาทีนิ วทนฺตา อวหสึสุ. ิตโกว อาสุมฺภีติ ยถา มนุสฺสา อรฺโต มหนฺตํ ทารุภารํ อาเนตฺวา กิลนฺตา ิตกาว ปาเตนฺติ, เอวํ ปาเตสีติ อตฺโถ.

๕๗๒. สหตฺถาติ สหตฺเถน, อตฺตนา หริตพฺพานีติ วุตฺตํ โหติ. พหิติโยชนํ ปาเตตีติ ติโยชนโต พหิ ปาเตติ. อนนฺตราเยน ปตนเก หตฺถโต มุตฺตมตฺเต โลมคณนาย นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยานิ. สเจ พหิติโยชเน รุกฺเข วา ถมฺเภ วา ปฏิหฺิตฺวา ปุน อนฺโต ปตนฺติ, อนาปตฺติ. ภูมิยํ ปติตฺวา ตฺวา ตฺวา วฏฺฏมานา เอฬกโลมภณฺฑิกา ปุน อนฺโต ปวิสติ, อาปตฺติเยว. อนฺโต ตฺวา หตฺเถน วา ปาเทน วา ยฏฺิยา วา วฏฺเฏติ ตฺวา วา อตฺวา วา วฏฺฏมานา ภณฺฑิกา คจฺฉตุ, อาปตฺติเยว. ‘‘อฺโ หริสฺสตี’’ติ เปติ, เตน หริเตปิ อาปตฺติเยว. สุทฺธจิตฺเตน ปิตํ วาโต วา อฺโ วา อตฺตโน ธมฺมตาย พหิ ปาเตติ, อาปตฺติเยว. สอุสฺสาหตฺตา อจิตฺตกตฺตา จ สิกฺขาปทสฺส. กุรุนฺทิยาทีสุ ปน ‘‘เอตฺถ อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตา, สา อนาปตฺติ ปาฬิยา น สเมติ. อุภโตภณฺฑิกํ เอกาพทฺธํ กตฺวา เอกํ ภณฺฑิกํ อนฺโตสีมาย เอกํ พหิสีมาย กโรนฺโต เปติ, รกฺขติ ตาว. เอกาพทฺเธ กาเชปิ เอเสว นโย. ยทิ ปน อพนฺธิตฺวา กาชโกฏิยํ ปิตมตฺตเมว โหติ, น รกฺขติ. เอกาพทฺเธปิ ปริวตฺเตตฺวา ปิเต อาปตฺติเยว.

อฺสฺส ยาเน วาติ เอตฺถ คจฺฉนฺเต ยาเน วา หตฺถิปิฏฺิอาทีสุ วา สามิกสฺส อชานนฺตสฺเสว หริสฺสตีติ เปติ, ตสฺมึ ติโยชนํ อติกฺกนฺเต อาปตฺติ. อคจฺฉนฺเตปิ เอเสว นโย. สเจ ปน อคจฺฉนฺเต ยาเน วา หตฺถิปิฏฺิยาทีสุ วา เปตฺวา อภิรุหิตฺวา สาเรติ, เหฏฺา วา คจฺฉนฺโต โจเทติ, ปกฺโกสนฺโต วา อนุพนฺธาเปติ, ‘‘อฺํ หราเปตี’’ติ วจนโต อนาปตฺติ. กุรุนฺทิยาทีสุ ปน ‘‘อาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ‘‘อฺํ หราเปตี’’ติ อิมินา น สเมติ. อทินฺนาทาเน ปน สุงฺกฆาเต อาปตฺติ โหติ. ยา หิ ตตฺถ อาปตฺติ, สา อิธ อนาปตฺติ. ยา อิธ อาปตฺติ, สา ตตฺถ อนาปตฺติ. ตํ านํ ปตฺวา อฺวิหิโต วา โจราทีหิ วา อุปทฺทุโต คจฺฉติ, อาปตฺติเยว. สพฺพตฺถ โลมคณนาย อาปตฺติปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.

๕๗๕. ติโยชนํ วาสาธิปฺปาโย คนฺตฺวา ตโต ปรํ หรตีติ ยตฺถ คโต, ตตฺถ อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนํ วา ปจฺจยาทีนํ วา อลาเภน ตโต ปรํ อฺตฺถ คจฺฉติ, ตโตปิ อฺตฺถาติ เอวํ โยชนสตมฺปิ หรนฺตสฺส อนาปตฺติ. อจฺฉินฺนํ ปฏิลภิตฺวาติ โจรา อจฺฉินฺทิตฺวา นิรตฺถกภาวํ ตฺวา ปฏิเทนฺติ, ตํ หรนฺตสฺส อนาปตฺติ. นิสฺสฏฺํ ปฏิลภิตฺวาติ วินยกมฺมกตํ ปฏิลภิตฺวาติ อตฺโถ.

กตภณฺฑนฺติ กตํภณฺฑํ กมฺพลโกชวสนฺถตาทึ ยํ กิฺจิ อนฺตมโส สุตฺตเกน พทฺธมตฺตมฺปิ. โย ปน ตนุกปตฺตตฺถวิกนฺตเร วา อาโยคอํสพทฺธกกายพนฺธนาทีนํ อนฺตเรสุ วา ปิปฺผลิกาทีนํ มลรกฺขณตฺถํ สิปาฏิกาย วา อนฺตมโส วาตาพาธิโก กณฺณจฺฉิทฺเทปิ โลมานิ ปกฺขิปิตฺวา คจฺฉติ, อาปตฺติเยว. สุตฺตเกน ปน พนฺธิตฺวา ปกฺขิตฺตํ กตภณฺฑฏฺาเน ติฏฺติ, เวณึ กตฺวา หรติ, อิทํ นิธานมุขํ นาม, อาปตฺติเยวาติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.

สมุฏฺานาทีสุ อิทํ เอฬกโลมสมุฏฺานํ นาม, กายโต จ กายจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

เอฬกโลมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. เอฬกโลมโธวาปนสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๗๖. เตน สมเยนาติ เอฬกโลมโธวาปนสิกฺขาปทํ. ตตฺถ ริฺจนฺตีติ อุชฺฌนฺติ วิสฺสชฺเชนฺติ, น สกฺโกนฺติ อนุยุฺชิตุนฺติ วุตฺตํ โหติ. เสสเมตฺถ ปุราณจีวรสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว สทฺธึ สมุฏฺานาทีหีติ.

เอฬกโลมโธวาปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. รูปิยสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๘๒. เตน สมเยนาติ รูปิยสิกฺขาปทํ. ตตฺถ ปฏิวิโสติ โกฏฺาโส.

๕๘๓-๔. ชาตรูปรชตนฺติ เอตฺถ ชาตรูปนฺติ สุวณฺณสฺส นามํ. ตํ ปน ยสฺมา ตถาคตสฺส วณฺณสทิสํ โหติ, ตสฺมา ‘‘สตฺถุวณฺโณ วุจฺจตี’’ติ ปทภาชเน วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ – ‘‘โย สตฺถุวณฺโณ โลหวิเสโส, อิทํ ชาตรูปํ นามา’’ติ รชตํ ปน ‘‘สงฺโข, สิลา, ปวาล, รชตํ, ชาตรูป’’นฺติอาทีสุ (ปาจิ. ๕๐๖) รูปิยํ วุตฺตํ. อิธ ปน ยํ กิฺจิ โวหารคมนียํ กหาปณาทิ อธิปฺเปตํ. เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘กหาปโณ โลหมาสโก’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กหาปโณติ โสวณฺณมโย วา รูปิยมโย วา ปากติโก วา. โลหมาสโกติ ตมฺพโลหาทีหิ กตมาสโก. ทารุมาสโกติ สารทารุนา วา เวฬุเปสิกาย วา อนฺตมโส ตาลปณฺเณนาปิ รูปํ ฉินฺทิตฺวา กตมาสโก. ชตุมาสโกติ ลาขาย วา นิยฺยาเสน วา รูปํ สมุฏฺาเปตฺวา กตมาสโก. ‘‘เย โวหารํ คจฺฉนฺตี’’ติ อิมินา ปน ปเทน โย โย ยตฺถ ยตฺถ ชนปเท ยทา ยทา โวหารํ คจฺฉติ, อนฺตมโส อฏฺิมโยปิ จมฺมมโยปิ รุกฺขผลพีชมโยปิ สมุฏฺาปิตรูโปปิ อสมุฏฺาปิตรูโปปิ สพฺโพ สงฺคหิโต.

อิจฺเจตํ สพฺพมฺปิ รชตํ ชาตรูปํ ชาตรูปมาสโก, วุตฺตปฺปเภโท สพฺโพปิ รชตมาสโกติ จตุพฺพิธํ นิสฺสคฺคิยวตฺถุ โหติ. มุตฺตา, มณิ, เวฬุริโย, สงฺโข, สิลา, ปวาล, โลหิตงฺโก, มสารคลฺลํ, สตฺต ธฺานิ, ทาสิทาสเขตฺตวตฺถุปุปฺผารามผลารามาทโยติ อิทํ ทุกฺกฏวตฺถุ. สุตฺตํ ผาโล ปฏโก กปฺปาโส อเนกปฺปการํ อปรณฺณํ สปฺปินวนีตเตลมธุผาณิตาทิเภสชฺชฺจ อิทํ กปฺปิยวตฺถุ. ตตฺถ นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ อตฺตโน วา สงฺฆคณปุคฺคลเจติยานํ วา อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ. อตฺตโน อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ โหติ, เสสานํ อตฺถาย ทุกฺกฏํ. ทุกฺกฏวตฺถุํ สพฺเพสมฺปิ อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉโต ทุกฺกฏเมว. กปฺปิยวตฺถุมฺหิ อนาปตฺติ. สพฺพมฺปิ นิกฺขิปนตฺถาย ภณฺฑาคาริกสีเสน สมฺปฏิจฺฉโต อุปริ รตนสิกฺขาปเท อาคตวเสน ปาจิตฺติยํ.

อุคฺคณฺเหยฺยาติ คณฺเหยฺย. ยสฺมา ปน คณฺหนฺโต อาปตฺตึ อาปชฺชติ, เตนสฺส ปทภาชเน ‘‘สยํ คณฺหาติ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตํ. เอส นโย เสสปเทสุปิ.

ตตฺถ ชาตรูปรชตภณฺเฑสุ กหาปณมาสเกสุ จ เอกํ คณฺหโต วา คณฺหาปยโต วา เอกา อาปตฺติ. สหสฺสํ เจปิ เอกโต คณฺหาติ, คณฺหาเปติ, วตฺถุคณนาย อาปตฺติโย. มหาปจฺจริยํ ปน กุรุนฺทิยฺจ สิถิลพทฺธาย ถวิกาย สิถิลปูริเต วา ภาชเน รูปคณนาย อาปตฺติ. ฆนพทฺเธ ปน ฆนปูริเต วา เอกาว อาปตฺตีติ วุตฺตํ.

อุปนิกฺขิตฺตสาทิยเน ปน ‘‘อิทํ อยฺยสฺส โหตู’’ติ วุตฺเต สเจปิ จิตฺเตน สาทิยติ, คณฺหิตุกาโม โหติ, กาเยน วา วาจาย วา ‘‘นยิทํ กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปติ, อนาปตฺติ. กายวาจาหิ วา อปฺปฏิกฺขิปิตฺวาปิ สุทฺธจิตฺโต หุตฺวา ‘‘นยิทํ อมฺหากํ กปฺปตี’’ติ น สาทิยติ, อนาปตฺติเยว. ตีสุ ทฺวาเรสุ หิ เยน เกนจิ ปฏิกฺขิตฺตํ ปฏิกฺขิตฺตเมว โหติ. สเจ ปน กายวาจาหิ อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา จิตฺเตน อธิวาเสติ, กายวาจาหิ กตฺตพฺพสฺส ปฏิกฺเขปสฺส อกรณโต อกิริยสมุฏฺานํ กายทฺวาเร จ วจีทฺวาเร จ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, มโนทฺวาเร ปน อาปตฺติ นาม นตฺถิ.

เอโก สตํ วา สหสฺสํ วา ปาทมูเล เปติ ‘‘ตุยฺหิทํ โหตู’’ติ, ภิกฺขู ‘‘นยิทํ กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปติ, อุปาสโก ปริจฺจตฺตํ มยา ตุมฺหากนฺติ คโต, อฺโ ตตฺถ อาคนฺตฺวา ปุจฺฉติ – ‘‘กึ, ภนฺเต, อิท’’นฺติ? ยํ เตน อตฺตนา จ วุตฺตํ, ตํ อาจิกฺขิตพฺพํ. โส เจ วทติ – ‘‘โคปยิสฺสามิ, ภนฺเต, คุตฺตฏฺานํ ทสฺเสถา’’ติ, สตฺตภูมิกมฺปิ ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ‘‘อิทํ คุตฺตฏฺาน’’นฺติ อาจิกฺขิตพฺพํ, ‘‘อิธ นิกฺขิปาหี’’ติ น วตฺตพฺพํ. เอตฺตาวตา กปฺปิยฺจ อกปฺปิยฺจ นิสฺสาย ิตํ โหติ. ทฺวารํ ปิทหิตฺวา รกฺขนฺเตน วสิตพฺพํ. สเจ กิฺจิ วิกฺกายิกภณฺฑํ ปตฺตํ วา จีวรํ วา อาคจฺฉติ, ‘‘อิทํ คเหสฺสถ ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘อุปาสก อตฺถิ อมฺหากํ อิมินา อตฺโถ, วตฺถุ จ เอวรูปํ นาม สํวิชฺชติ, กปฺปิยการโก นตฺถี’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ โส วทติ, ‘‘อหํ กปฺปิยการโก ภวิสฺสามิ, ทฺวารํ วิวริตฺวา เทถา’’ติ, ทฺวารํ วิวริตฺวา ‘‘อิมสฺมึ โอกาเส ปิต’’นฺติ วตฺตพฺพํ, ‘‘อิทํ คณฺหา’’ติ น วตฺตพฺพํ. เอวมฺปิ กปฺปิยฺจ อกปฺปิยฺจ นิสฺสาย ิตเมว โหติ, โส เจ ตํ คเหตฺวา ตสฺส กปฺปิยภณฺฑํ เทติ, วฏฺฏติ. สเจ อธิกํ คณฺหาติ, ‘‘น มยํ ตว ภณฺฑํ คณฺหาม, ‘‘นิกฺขมาหี’’ติ วตฺตพฺโพ.

สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสชฺชิตพฺพนฺติ เอตฺถ ยสฺมา รูปิยํ นาม อกปฺปิยํ, ‘‘ตสฺมา นิสฺสชฺชิตพฺพํ สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา’’ติ น วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ตํ ปฏิคฺคหิตมตฺตเมว น เตน กิฺจิ กปฺปิยภณฺฑํ เจตาปิตํ, ตสฺมา อุปาเยน ปริโภคทสฺสนตฺถํ ‘‘สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสชฺชิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. กปฺปิยํ อาจิกฺขิตพฺพํ สปฺปิ วาติ ‘‘ปพฺพชิตานํ สปฺปิ วา เตลํ วา วฏฺฏติ อุปาสกา’’ติ เอวํ อาจิกฺขิตพฺพํ.

รูปิยปฏิคฺคาหกํ เปตฺวา สพฺเพเหว ปริภุฺชิตพฺพนฺติ สพฺเพหิ ภาเชตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. รูปิยปฏิคฺคาหเกน ภาโค น คเหตพฺโพ. อฺเสํ ภิกฺขูนํ วา อารามิกานํ วา ปตฺตภาคมฺปิ ลภิตฺวา ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ, อนฺตมโส มกฺกฏาทีหิ ตโต หริตฺวา อรฺเ ปิตํ วา เตสํ หตฺถโต คฬิตํ วา ติรจฺฉานคตปริคฺคหิตมฺปิ ปํสุกูลมฺปิ น วฏฺฏติเยว, ตโต อาหเฏน ผาณิเตน เสนาสนธูปนมฺปิ น วฏฺฏติ. สปฺปินา วา เตเลน วา ปทีปํ กตฺวา ทีปาโลเก นิปชฺชิตุํ กสิณปริกมฺมมฺปิ กาตุํ, โปตฺถกมฺปิ วาเจตุํ น วฏฺฏติ. เตลมธุผาณิเตหิ ปน สรีเร วณํ มกฺเขตุํ น วฏฺฏติเยว. เตน วตฺถุนา มฺจปีาทีนิ วา คณฺหนฺติ, อุโปสถาคารํ วา โภชนสาลํ วา กโรนฺติ, ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ. ฉายาปิ เคหปริจฺเฉเทน ิตา น วฏฺฏติ, ปริจฺเฉทาติกฺกนฺตา อาคนฺตุกตฺตา วฏฺฏติ. ตํ วตฺถุํ วิสฺสชฺเชตฺวา กเตน มคฺเคนปิ เสตุนาปิ นาวายปิ อุฬุมฺเปนปิ คนฺตุํ น วฏฺฏติ, เตน วตฺถุนา ขนาปิตาย โปกฺขรณิยา อุพฺภิโททกํ ปาตุํ วา ปริภุฺชิตุํ วา น วฏฺฏติ. อนฺโต อุทเก ปน อสติ อฺํ อาคนฺตุกํ อุทกํ วา วสฺโสทกํ วา ปวิฏฺํ วฏฺฏติ. กีตาย เยน อุทเกน สทฺธึ กีตา ตํ อาคนฺตุกมฺปิ น วฏฺฏติ, ตํ วตฺถุํ อุปนิกฺเขปํ เปตฺวา สงฺโฆ ปจฺจเย ปริภุฺชติ, เตปิ ปจฺจยา ตสฺส น วฏฺฏนฺติ. อาราโม คหิโต โหติ, โสปิ ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ. ยทิ ภูมิปิ พีชมฺปิ อกปฺปิยํ เนว ภูมึ น ผลํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ภูมึเยว กิณิตฺวา อฺานิ พีชานิ โรปิตานิ ผลํ วฏฺฏติ, อถ พีชานิ กิณิตฺวา กปฺปิยภูมิยํ โรปิตานิ, ผลํ น วฏฺฏติ, ภูมิยํ นิสีทิตุํ วา นิปชฺชิตุํ วา วฏฺฏติ.

สเจ โส ฉฑฺเฑตีติ ยตฺถ กตฺถจิ ขิปติ, อถาปิ น ฉฑฺเฑติ, สยํ คเหตฺวา คจฺฉติ, น วาเรตพฺโพ. โน เจ ฉฑฺเฑตีติ อถ เนว คเหตฺวา คจฺฉติ, น ฉฑฺเฑติ, กึ มยฺหํ อิมินา พฺยาปาเรนาติ เยน กามํ ปกฺกมติ, ตโต ยถาวุตฺตลกฺขโณ รูปิยฉฑฺฑโก สมฺมนฺนิตพฺโพ.

โย น ฉนฺทาคตินฺติอาทีสุ โลภวเสน ตํ วตฺถุํ อตฺตโน วา กโรนฺโต อตฺตานํ วา อุกฺกํเสนฺโต ฉนฺทาคตึ นาม คจฺฉติ. โทสวเสน ‘‘เนวายํ มาติกํ ชานาติ, น วินย’’นฺติ ปรํ อปสาเทนฺโต โทสาคตึ นาม คจฺฉติ. โมหวเสน มุฏฺปมุฏฺสฺสติภาวํ อาปชฺชนฺโต โมหาคตึ นาม คจฺฉติ. รูปิยปฏิคฺคาหกสฺส ภเยน ฉฑฺเฑตุํ อวิสหนฺโต ภยาคตึ นาม คจฺฉติ. เอวํ อกโรนฺโต น ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ, น โทสาคตึ คจฺฉติ, น โมหาคตึ คจฺฉติ, น ภยาคตึ คจฺฉตีติ เวทิตพฺโพ.

๕๘๕. อนิมิตฺตํ กตฺวาติ นิมิตฺตํ อกตฺวา, อกฺขีนิ นิมฺมีเลตฺวา นทิยา วา ปปาเต วา วนคหเน วา คูถํ วิย อนเปกฺเขน ปติโตกาสํ อสมนฺนาหรนฺเตน ปาเตตพฺพนฺติ อตฺโถ. เอวํ ชิคุจฺฉิตพฺเพปิ รูปิเย ภควา ปริยาเยน ภิกฺขูนํ ปริโภคํ อาจิกฺขิ. รูปิยปฏิคฺคาหกสฺส ปน เกนจิ ปริยาเยน ตโต อุปฺปนฺนปจฺจยปริโภโค น วฏฺฏติ. ยถา จายํ เอตสฺส น วฏฺฏติ, เอวํ อสนฺตสมฺภาวนาย วา กุลทูสกกมฺเมน วา กุหนาทีหิ วา อุปฺปนฺนปจฺจยา เนว ตสฺส น อฺสฺส วฏฺฏนฺติ, ธมฺเมน สเมน อุปฺปนฺนาปิ อปฺปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏนฺติ.

จตฺตาโร หิ ปริโภคา – เถยฺยปริโภโค, อิณปริโภโค, ทายชฺชปริโภโค, สามิปริโภโคติ. ตตฺถ สงฺฆมชฺเฌปิ นิสีทิตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส ทุสฺสีลสฺส ปริโภโค ‘‘เถยฺยปริโภโค’’ นาม. สีลวโต อปฺปจฺจเวกฺขิตปริโภโค ‘‘อิณปริโภโค’’ นาม. ตสฺมา จีวรํ ปริโภเค ปริโภเค ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ, ปิณฺฑปาโต อาโลเป อาโลเป. ตถา อสกฺโกนฺเตน ปุเรภตฺตปจฺฉาภตฺตปุริมยามปจฺฉิมยาเมสุ. สจสฺส อปฺปจฺจเวกฺขโตว อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, อิณปริโภคฏฺาเน ติฏฺติ. เสนาสนมฺปิ ปริโภเค ปริโภเค ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ, เภสชฺชสฺส ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ สติปจฺจยตา วฏฺฏติ, เอวํ สนฺเตปิ ปฏิคฺคหเณ สตึ กตฺวา ปริโภเค อกโรนฺตสฺเสว อาปตฺติ, ปฏิคฺคหเณ ปน สตึ อกตฺวา ปริโภเค กโรนฺตสฺส อนาปตฺติ.

จตุพฺพิธา หิ สุทฺธิ – เทสนาสุทฺธิ, สํวรสุทฺธิ, ปริเยฏฺิสุทฺธิ, ปจฺจเวกฺขณสุทฺธีติ. ตตฺถ เทสนาสุทฺธิ นาม ปาติโมกฺขสํวรสีลํ, ตฺหิ เทสนาย สุชฺฌนโต ‘‘เทสนาสุทฺธี’’ติ วุจฺจติ. สํวรสุทฺธิ นาม อินฺทฺริยสํวรสีลํ, ตฺหิ น ปุน เอวํ กริสฺสามีติ จิตฺตาธิฏฺานสํวเรเนว สุชฺฌนโต ‘‘สํวรสุทฺธี’’ติ วุจฺจติ. ปริเยฏฺิสุทฺธิ นาม อาชีวปาริสุทฺธิสีลํ, ตฺหิ อเนสนํ ปหาย ธมฺเมน สเมน ปจฺจเย อุปฺปาเทนฺตสฺส ปริเยสนาย สุทฺธตฺตา ‘‘ปริเยฏฺิสุทฺธี’’ติ วุจฺจติ. ปจฺจเวกฺขณสุทฺธิ นาม ปจฺจยปริโภคสนฺนิสฺสิตสีลํ, ตฺหิ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส จีวรํ ปฏิเสวตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๓; อ. นิ. ๖.๕๘) นเยน วุตฺเตน ปจฺจเวกฺขเณน สุชฺฌนโต ‘‘ปจฺจเวกฺขณสุทฺธี’’ติ วุจฺจติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปฏิคฺคหเณ ปน สตึ อกตฺวา ปริโภเค กโรนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ.

สตฺตนฺนํ เสกฺขานํ ปจฺจยปริโภโค ทายชฺชปริโภโค นาม, เต หิ ภควโต ปุตฺตา, ตสฺมา ปิตุสนฺตกานํ ปจฺจยานํ ทายาทา หุตฺวา เต ปจฺจเย ปริภุฺชนฺติ. กึ ปน เต ภควโต ปจฺจเย ปริภุฺชนฺติ, คิหีนํ ปจฺจเย ปริภุฺชนฺตีติ? คิหีหิ ทินฺนาปิ ภควตา อนุฺาตตฺตา ภควโต สนฺตกา โหนฺติ, ตสฺมา เต ภควโต ปจฺจเย ปริภุฺชนฺตีติ (ม. นิ. ๑.๒๙) เวทิตพฺพํ, ธมฺมทายาทสุตฺตฺเจตฺถ สาธกํ.

ขีณาสวานํ ปริโภโค สามิปริโภโค นาม, เต หิ ตณฺหาย ทาสพฺยํ อตีตตฺตา สามิโน หุตฺวา ปริภุฺชนฺตีติ. อิเมสุ ปริโภเคสุ สามิปริโภโค จ ทายชฺชปริโภโค จ สพฺเพสมฺปิ วฏฺฏติ. อิณปริโภโค น วฏฺฏติ, เถยฺยปริโภเค กถาเยว นตฺถิ.

อปเรปิ จตฺตาโร ปริโภคา – ลชฺชิปริโภโค, อลชฺชิปริโภโค, ธมฺมิยปริโภโค, อธมฺมิยปริโภโคติ.

ตตฺถ อลชฺชิโน ลชฺชินา สทฺธึ ปริโภโค วฏฺฏติ, อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ. ลชฺชิโน อลชฺชินา สทฺธึ ยาว น ชานาติ, ตาว วฏฺฏติ. อาทิโต ปฏฺาย หิ อลชฺชี นาม นตฺถิ, ตสฺมา ยทาสฺส อลชฺชีภาวํ ชานาติ ตทา วตฺตพฺโพ ‘‘ตุมฺเห กายทฺวาเร จ วจีทฺวาเร จ วีติกฺกมํ กโรถ, ตํ อปฺปติรูปํ มา เอวมกตฺถา’’ติ. สเจ อนาทิยิตฺวา กโรติเยว, ยทิ เตน สทฺธึ ปริโภคํ กโรติ, โสปิ อลชฺชีเยว โหติ. โยปิ อตฺตโน ภารภูเตน อลชฺชินา สทฺธึ ปริโภคํ กโรติ, โสปิ นิวาเรตพฺโพ. สเจ น โอรมติ, อยมฺปิ อลชฺชีเยว โหติ. เอวํ เอโก อลชฺชี อลชฺชีสตมฺปิ กโรติ. อลชฺชิโน ปน อลชฺชินาว สทฺธึ ปริโภเค อาปตฺติ นาม นตฺถิ. ลชฺชิโน ลชฺชินา สทฺธึ ปริโภโค ทฺวินฺนํ ขตฺติยกุมารานํ สุวณฺณปาติยํ โภชนสทิโสติ.

ธมฺมิยาธมฺมิยปริโภโค ปจฺจยวเสน เวทิตพฺโพ. ตตฺถ สเจ ปุคฺคโลปิ อลชฺชี ปิณฺฑปาโตปิ อธมฺมิโย, อุโภ เชคุจฺฉา. ปุคฺคโล อลชฺชี ปิณฺฑปาโต ธมฺมิโย, ปุคฺคลํ ชิคุจฺฉิตฺวา ปิณฺฑปาโต น คเหตพฺโพ. มหาปจฺจริยํ ปน ทุสฺสีโล สงฺฆโต อุทฺเทสภตฺตาทีนิ ลภิตฺวา สงฺฆสฺเสว เทติ, เอตานิ ยถาทานเมว คตตฺตา วฏฺฏนฺตีติ วุตฺตํ. ปุคฺคโล ลชฺชี ปิณฺฑปาโต อธมฺมิโย, ปิณฺฑปาโต เชคุจฺโฉ น คเหตพฺโพ. ปุคฺคโล ลชฺชี, ปิณฺฑปาโตปิ ธมฺมิโย, วฏฺฏติ.

อปเร ทฺเว ปคฺคหา; ทฺเว จ ปริโภคา – ลชฺชิปคฺคโห, อลชฺชิปคฺคโห; ธมฺมปริโภโค อามิสปริโภโคติ.

ตตฺถ อลชฺชิโน ลชฺชึ ปคฺคเหตุํ วฏฺฏติ, น โส อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. สเจ ปน ลชฺชี อลชฺชึ ปคฺคณฺหาติ, อนุโมทนาย อชฺเฌสติ, ธมฺมกถาย อชฺเฌสติ, กุเลสุ อุปตฺถมฺเภติ. อิตโรปิ ‘‘อมฺหากํ อาจริโย อีทิโส จ อีทิโส จา’’ติ ตสฺส ปริสติ วณฺณํ ภาสติ, อยํ สาสนํ โอสกฺกาเปติ อนฺตรธาเปตีติ เวทิตพฺโพ.

ธมฺมปริโภค-อามิสปริโภเคสุ ปน ยตฺถ อามิสปริโภโค วฏฺฏติ, ตตฺถ ธมฺมปริโภโคปิ วฏฺฏติ. โย ปน โกฏิยํ ิโต คนฺโถ ตสฺส ปุคฺคลสฺส อจฺจเยน นสฺสิสฺสติ, ตํ ธมฺมานุคฺคเหน อุคฺคณฺหิตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ.

ตตฺริทํ วตฺถุ – มหาภเย กิร เอกสฺเสว ภิกฺขุโน มหานิทฺเทโส ปคุโณ อโหสิ. อถ จตุนิกายิกติสฺสตฺเถรสฺส อุปชฺฌาโย มหาติปิฏกตฺเถโร นาม มหารกฺขิตตฺเถรํ อาห – ‘‘อาวุโส มหารกฺขิต, เอตสฺส สนฺติเก มหานิทฺเทสํ คณฺหาหี’’ติ. ‘‘ปาโป กิรายํ, ภนฺเต, น คณฺหามี’’ติ. ‘‘คณฺหาวุโส, อหํ เต สนฺติเก นิสีทิสฺสามี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต, ตุมฺเหสุ นิสินฺเนสุ คณฺหิสฺสามี’’ติ ปฏฺเปตฺวา รตฺตินฺทิวํ นิรนฺตรํ ปริยาปุณนฺโต โอสานทิวเส เหฏฺามฺเจ อิตฺถึ ทิสฺวา ‘‘ภนฺเต, สุตํเยว เม ปุพฺเพ, สจาหํ เอวํ ชาเนยฺยํ, น อีทิสสฺส สนฺติเก ธมฺมํ ปริยาปุเณยฺย’’นฺติ อาห. ตสฺส ปน สนฺติเก พหู มหาเถรา อุคฺคณฺหิตฺวา มหานิทฺเทสํ ปติฏฺาเปสุํ.

๕๘๖. รูปิเย รูปิยสฺีติ เอตฺถ สพฺพมฺปิ ชาตรูปรชตํ รูปิยสงฺคหเมว คตนฺติ เวทิตพฺพํ.

รูปิเย เวมติโกติ ‘‘สุวณฺณํ นุ โข, ขรปตฺตํ นุ โข’’ติอาทินา นเยน สํสยชาโต.

รูปิเย อรูปิยสฺีติ สุวณฺณาทีสุ ขรปตฺตาทิสฺี. อปิจ ปุฺกามา ราโชโรธาทโย ภตฺตขชฺชกคนฺธปิณฺฑาทีสุ ปกฺขิปิตฺวา หิรฺสุวณฺณํ เทนฺติ, โจฬภิกฺขาย จรนฺตานํ ทสฺสนฺเต พทฺธกหาปณาทีหิเยว สทฺธึ โจฬกานิ เทนฺติ, ภิกฺขู ภตฺตาทิสฺาย วา โจฬกสฺาย วา ปฏิคฺคณฺหนฺติ, เอวมฺปิ รูปิเย อรูปิยสฺี รูปิยํ คณฺหาตีติ เวทิตพฺโพ. ปฏิคฺคณฺหนฺเตน ปน ‘‘อิมสฺมึ เคเห อิทํ ลทฺธ’’นฺติ สลฺลกฺเขตพฺพํ. เยน หิ อสฺสติยา ทินฺนํ โหติ, โส สตึ ปฏิลภิตฺวา ปุน อาคจฺฉติ, อถสฺส วตฺตพฺพํ – ‘‘ตว โจฬกํ ปสฺสาหี’’ติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

สมุฏฺานาทีสุ ฉสมุฏฺานํ, สิยา กิริยํ คหเณน อาปชฺชนโต, สิยา อกิริยํ ปฏิกฺเขปสฺส อกรณโต รูปิยอฺวาทกอุปสฺสุติสิกฺขาปทานิ หิ ตีณิ เอกปริจฺเฉทานิ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

รูปิยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๘๗. เตน สมเยนาติ รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทํ. ตตฺถ นานปฺปการกนฺติ กตากตาทิวเสน อเนกวิธํ. รูปิยสํโวหารนฺติ ชาตรูปรชตปริวตฺตนํ. สมาปชฺชนฺตีติ ปฏิคฺคหณสฺเสว ปฏิกฺขิตตฺตา ปฏิคฺคหิตปริวตฺตเน โทสํ อปสฺสนฺตา กโรนฺติ.

๕๘๙. สีสูปคนฺติอาทีสุ สีสํ อุปคจฺฉตีติ สีสูปคํ, โปตฺถเกสุ ปน ‘‘สีสูปก’’นฺติ ลิขิตํ, ยสฺส กสฺสจิ สีสาลงฺการสฺเสตํ อธิวจนํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. กเตน กตนฺติอาทีสุ สุทฺโธ รูปิยสํโวหาโรเยว.

รูปิเย รูปิยสฺีติอาทิมฺหิ ปุริมสิกฺขาปเท วุตฺตวตฺถูสุ นิสฺสคฺคิยวตฺถุนา นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ เจตาเปนฺตสฺส มูลคฺคหเณ ปุริมสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, อปราปรปริวตฺตเน อิมินา นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยเมว. นิสฺสคฺคิยวตฺถุนา ทุกฺกฏวตฺถุํ วา กปฺปิยวตฺถุํ วา เจตาเปนฺตสฺสปิ เอเสว นโย. โย หิ อยํ อรูปิเย รูปิยสฺี รูปิยํ เจตาเปตีติอาทิ ทุติโย ติโก วุตฺโต, ตสฺสานุโลมตฺตา อวุตฺโตปิ อยมปโรปิ รูปิเย รูปิยสฺี อรูปิยํ เจตาเปตีติอาทิ ติโก เวทิตพฺโพ. อตฺตโน วา หิ อรูปิเยน ปรสฺส รูปิยํ เจตาเปยฺย อตฺตโน วา รูปิเยน ปรสฺส อรูปิยํ, อุภยถาปิ รูปิยสํโวหาโร กโตเยว โหติ, ตสฺมา ปาฬิยํ เอกนฺเตน รูปิยปกฺเข เอโกเยว ติโก วุตฺโตติ.

ทุกฺกฏวตฺถุนา ปน นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ เจตาเปนฺตสฺส มูลคฺคหเณ ปุริมสิกฺขาปเทน ทุกฺกฏํ, ปจฺฉา ปริวตฺตเน อิมินา นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, ครุกสฺส เจตาปิตตฺตา. ทุกฺกฏวตฺถุนา ทุกฺกฏวตฺถุเมว, กปฺปิยวตฺถุํ วา เจตาเปนฺตสฺส มูลคฺคหเณ ปุริมสิกฺขาปเทน ทุกฺกฏํ, ปจฺฉา ปริวตฺตเนปิ อิมินา ทุกฺกฏเมว. กสฺมา? อกปฺปิยวตฺถุนา เจตาปิตตฺตา. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘สเจ กยวิกฺกยํ สมาปชฺเชยฺย, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ ภาสิตํ, ตํ ทุพฺภาสิตํ. กสฺมา? น หิ ทานคฺคหณโต อฺโ กยวิกฺกโย นาม อตฺถิ, กยวิกฺกยสิกฺขาปทฺจ กปฺปิยวตฺถุนา กปฺปิยวตฺถุปริวตฺตนเมว สนฺธาย วุตฺตํ, ตฺจ โข อฺตฺร สหธมฺมิเกหิ. อิทํ สิกฺขาปทํ รูปิเยน จ รูปิยารูปิยเจตาปนํ อรูปิเยน จ รูปิยเจตาปนํ. ทุกฺกฏวตฺถุนา ปน ทุกฺกฏวตฺถุโน เจตาปนํ เนว อิธ น ตตฺถ ปาฬิยํ วุตฺตํ, น เจตฺถ อนาปตฺติ ภวิตุํ อรหติ. ตสฺมา ยเถว ทุกฺกฏวตฺถุโน ปฏิคฺคหเณ ทุกฺกฏํ, ตเถว ตสฺส วา เตน วา เจตาปเนปิ ทุกฺกฏํ ยุตฺตนฺติ ภควโต อธิปฺปายฺูหิ วุตฺตํ.

กปฺปิยวตฺถุนา ปน นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ เจตาเปนฺตสฺส มูลคฺคหเณ ปุริมสิกฺขาปเทน อนาปตฺติ, ปจฺฉา ปริวตฺตเน อิมินา นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อรูปิเย อรูปิยสฺี รูปิยํ เจตาเปติ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ. เตเนว กปฺปิยวตฺถุนา ทุกฺกฏวตฺถุํ เจตาเปนฺตสฺส มูลปฏิคฺคหเณ ตเถว อนาปตฺติ, ปจฺฉา ปริวตฺตเน อิมินา ทุกฺกฏํ. กสฺมา? อกปฺปิยสฺส เจตาปิตตฺตา. กปฺปิยวตฺถุนา ปน กปฺปิยวตฺถุํ อฺตฺร สหธมฺมิเกหิ เจตาเปนฺตสฺส มูลคฺคหเณ ปุริมสิกฺขาปเทน อนาปตฺติ, ปจฺฉา ปริวตฺตเน อุปริ กยวิกฺกยสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. กยวิกฺกยํ โมเจตฺวา คณฺหนฺตสฺส อุปริสิกฺขาปเทนปิ อนาปตฺติ, วฑฺฒึ ปโยเชนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.

อิมสฺส จ รูปิยสํโวหารสฺส ครุกภาวทีปกํ อิทํ ปตฺตจตุกฺกํ เวทิตพฺพํ. โย หิ รูปิยํ อุคฺคณฺหิตฺวา เตน อยพีชํ สมุฏฺาเปติ, ตํ โกฏฺฏาเปตฺวา เตน โลเหน ปตฺตํ กาเรติ, อยํ ปตฺโต มหาอกปฺปิโย นาม, น สกฺกา เกนจิ อุปาเยน กปฺปิโย กาตุํ. สเจ หิ ตํ วินาเสตฺวา ถาลกํ กาเรติ, ตมฺปิ อกปฺปิยํ. วาสึ กาเรติ, ตาย ฉินฺนํ ทนฺตกฏฺมฺปิ อกปฺปิยํ. พฬิสํ กาโรติ, เตน มาริตา มจฺฉาปิ อกปฺปิยา. วาสิผลํ ตาเปตฺวา อุทกํ วา ขีรํ วา อุณฺหาเปติ, ตมฺปิ อกปฺปิยเมว.

โย ปน รูปิยํ อุคฺคณฺหิตฺวา เตน ปตฺตํ กิณาติ, อยมฺปิ ปตฺโต อกปฺปิโย. ‘‘ปฺจนฺนมฺปิ สหธมฺมิกานํ น กปฺปตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. สกฺกา ปน กปฺปิโย กาตุํ, โส หิ มูเล มูลสามิกานํ ปตฺเต จ ปตฺตสามิกานํ ทินฺเน กปฺปิโย โหติ. กปฺปิยภณฺฑํ ทตฺวา คเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ.

โยปิ รูปิยํ อุคฺคณฺหาเปตฺวา กปฺปิยการเกน สทฺธึ กมฺมารกุลํ คนฺตฺวา ปตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มยฺหํ รุจฺจตี’’ติ วทติ. กปฺปิยการโก จ ตํ รูปิยํ ทตฺวา กมฺมารํ สฺาเปติ, อยมฺปิ ปตฺโต กปฺปิยโวหาเรน คหิโตปิ ทุติยปตฺตสทิโสเยว, มูลสฺส สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา อกปฺปิโย. กสฺมา เสสานํ น กปฺปตีติ? มูลสฺส อนิสฺสฏฺตฺตา.

โย ปน รูปิยํ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘เถรสฺส ปตฺตํ กิณิตฺวา เทหี’’ติ ปหิตกปฺปิยการเกน สทฺธึ กมฺมารกุลํ คนฺตฺวา ปตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อิเม กหาปเณ คเหตฺวา อิมํ เทหี’’ติ กหาปเณ ทาเปตฺวา คหิโต, อยํ ปตฺโต เอตสฺเสว ภิกฺขุโน น วฏฺฏติ ทุพฺพิจาริตตฺตา, อฺเสํ ปน วฏฺฏติ, มูลสฺส อสมฺปฏิจฺฉิตตฺตา.

มหาสุมตฺเถรสฺส กิร อุปชฺฌาโย อนุรุทฺธตฺเถโร นาม อโหสิ. โส อตฺตโน เอวรูปํ ปตฺตํ สปฺปิสฺส ปูเรตฺวา สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชิ. ติปิฏกจูฬนาคตฺเถรสฺสปิ สทฺธิวิหาริกานํ เอวรูโป ปตฺโต อโหสิ. ตํ เถโรปิ สปฺปิสฺส ปูราเปตฺวา สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชาเปสีติ. อิทํ อกปฺปิยปตฺตจตุกฺกํ.

สเจ ปน รูปิยํ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘เถรสฺส ปตฺตํ กิณิตฺวา เทหี’’ติ ปหิตกปฺปิยการเกน สทฺธึ กมฺมารกุลํ คนฺตฺวา ปตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มยฺหํ รุจฺจตี’’ติ วา ‘‘อิมาหํ คเหสฺสามี’’ติ วา วทติ, กปฺปิยการโก จ ตํ รูปิยํ ทตฺวา กมฺมารํ สฺาเปติ, อยํ ปตฺโต สพฺพกปฺปิโย พุทฺธานมฺปิ ปริโภคารโหติ.

๕๙๑. อรูปิเย รูปิยสฺีติ ขรปตฺตาทีสุ สุวณฺณาทิสฺี. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ สเจ เตน อรูปิยํ เจตาเปติ ทุกฺกฏาปตฺติ โหติ. เอส นโย เวมติเก. อรูปิยสฺิสฺส ปน ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ สทฺธิ ‘‘อิทํ คเหตฺวา อิทํ เทถา’’ติ กยวิกฺกยํ กโรนฺตสฺสาปิ อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

ฉสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. กยวิกฺกยสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๙๓. เตน สมเยนาติ กยวิกฺกยสิกฺขาปทํ. ตตฺถ กติ หิปิ ตฺยายนฺติ กติ เต อยํ, หิกาโร ปเนตฺถ ปทปูรโณ, ปิกาโร ครหายํ, อยํ ทุพฺพลสงฺฆาฏิ ตว กติ ทิวสานิ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. อถ วา กติหมฺปิ ตฺยายนฺติปิ ปาโ. ตตฺถ กติหนฺติ กติ อหานิ, กติ ทิวสานีติ วุตฺตํ โหติ. เสสํ วุตฺตนยเมว. กติหิปิ มฺยายนฺติ อิทมฺปิ เอเตเนว นเยน เวทิตพฺพํ. คิหีปิ นํ คิหิสฺสาติ เอตฺถ นฺติ นามตฺเถ นิปาโต, คิหี นาม คิหิสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.

๕๙๔. นานปฺปการกนฺติ จีวราทีนํ กปฺปิยภณฺฑานํ วเสน อเนกวิธํ. เตเนวสฺส ปทภาชเน จีวรํ อาทึ กตฺวา ทสิกสุตฺตปริโยสานํ กปฺปิยภณฺฑเมว ทสฺสิตํ. อกปฺปิยภณฺฑปริวตฺตนฺหิ กยวิกฺกยสงฺคหํ น คจฺฉติ. กยวิกฺกยนฺติ กยฺเจว วิกฺกยฺจ. ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติอาทินา หิ นเยน ปรสฺส กปฺปิยภณฺฑํ คณฺหนฺโต กยํ สมาปชฺชติ, อตฺตโน กปฺปิยภณฺฑํ เทนฺโต วิกฺกยํ.

๕๙๕. อชฺฌาจรตีติ อภิภวิตฺวา จรติ, วีติกฺกมวาจํ ภาสตีติ อตฺโถ. ยโต กยิตฺจ โหติ วิกฺกยิตฺจาติ ยทา กยิตฺจ โหติ ปรภณฺฑํ อตฺตโน หตฺถคตํ กโรนฺเตน, วิกฺกีตฺจ อตฺตโน ภณฺฑํ ปรหตฺถคตํ กโรนฺเตน. ‘‘อิมินา อิม’’นฺติอาทิวจนานุรูปโต ปน ปาเ ปมํ อตฺตโน ภณฺฑํ ทสฺสิตํ.

นิสฺสชฺชิตพฺพนฺติ เอวํ ปรสฺส หตฺถโต กยวเสน คหิตกปฺปิยภณฺฑํ นิสฺสชฺชิตพฺพํ. อยฺหิ กยวิกฺกโย เปตฺวา ปฺจ สหธมฺมิเก อวเสเสหิ คิหิปพฺพชิเตหิ อนฺตมโส มาตาปิตูหิปิ สทฺธึ น วฏฺฏติ.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – วตฺเถน วา วตฺถํ โหตุ ภตฺเตน วา ภตฺตํ, ยํ กิฺจิ กปฺปิยํ ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติ วทติ, ทุกฺกฏํ. เอวํ วตฺวา มาตุยาปิ อตฺตโน ภณฺฑํ เทติ, ทุกฺกฏํ. ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติ วุตฺโต วา ‘‘อิมํ เทหิ, อิมํ เต ทสฺสามี’’ติ วตฺวา วา มาตุยาปิ ภณฺฑํ อตฺตนา คณฺหาติ, ทุกฺกฏํ. อตฺตโน ภณฺเฑ ปรหตฺถํ ปรภณฺเฑ จ อตฺตโน หตฺถํ สมฺปตฺเต นิสฺสคฺคิยํ. มาตรํ ปน ปิตรํ วา ‘‘อิมํ เทหี’’ติ วทโต วิฺตฺติ น โหติ. ‘‘อิมํ คณฺหาหี’’ติ วทโต สทฺธาเทยฺยวินิปาตนํ น โหติ. อฺาตกํ ‘‘อิมํ เทหี’’ติ วทโต วิฺตฺติ โหติ. ‘‘อิมํ คณฺหาหี’’ติ วทโต สทฺธาเทยฺยวินิปาตนํ โหติ. ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติ กยวิกฺกยํ อาปชฺชโต นิสฺสคฺคิยํ. ตสฺมา กปฺปิยภณฺฑํ ปริวตฺเตนฺเตน มาตาปิตูหิปิ สทฺธึ กยวิกฺกยํ อฺาตเกหิ สทฺธึ ติสฺโส อาปตฺติโย โมเจนฺเตน ปริวตฺเตตพฺพํ.

ตตฺรายํ ปริวตฺตนวิธิ – ภิกฺขุสฺส ปาเถยฺยตณฺฑุลา โหนฺติ, โส อนฺตรามคฺเค ภตฺตหตฺถํ ปุริสํ ทิสฺวา ‘‘อมฺหากํ ตณฺฑุลา อตฺถิ, น จ โน อิเมหิ อตฺโถ, ภตฺเตน ปน อตฺโถ’’ติ วทติ. ปุริโส ตณฺฑุเล คเหตฺวา ภตฺตํ เทติ, วฏฺฏติ. ติสฺโสปิ อาปตฺติโย น โหนฺติ. อนฺตมโส นิมิตฺตกมฺมมตฺตมฺปิ น โหติ. กสฺมา? มูลสฺส อตฺถิตาย. ปรโต จ วุตฺตเมว ‘‘อิทํ อมฺหากํ อตฺถิ, อมฺหากฺจ อิมินา จ อิมินา จ อตฺโถติ ภณตี’’ติ. โย ปน เอวํ อกตฺวา ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติ ปริวตฺเตติ; ยถาวตฺถุกเมว. วิฆาสาทํ ทิสฺวา ‘‘อิมํ โอทนํ ภุฺชิตฺวา, รชนํ วา ทารูนิ วา อาหรา’’ติ วทติ, รชนฉลฺลิคณนาย ทารุคณนาย จ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ. ‘‘อิมํ โอทนํ ภุฺชิตฺวา อิทํ นาม กโรถา’’ติ ทนฺตการาทีหิ สิปฺปิเกหิ ธมกรณาทีสุ ตํ ตํ ปริกฺขารํ กาเรติ, รชเกหิ วา วตฺถํ โธวาเปติ; ยถาวตฺถุกเมว. นฺหาปิเตน เกเส ฉินฺทาเปติ, กมฺมกาเรหิ นวกมฺมํ กาเรติ; ยถาวตฺถุกเมว. สเจ ปน ‘‘อิทํ ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา อิทํ กโรถา’’ติ น วทติ ‘‘อิทํ ภตฺตํ ภุฺช ภุตฺโตสิ ภุฺชิสฺสสิ, อิทํ นาม กโรหี’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. เอตฺถ จ กิฺจาปิ วตฺถโธวเน วา เกสจฺเฉทเน วา ภูมิโสธนาทินวกมฺเม วา ปรภณฺฑํ อตฺตโน หตฺถคตํ นิสฺสชฺชิตพฺพํ นาม นตฺถิ. มหาอฏฺกถายํ ปน ทฬฺหํ กตฺวา วุตฺตตฺตา น สกฺกา เอตํ ปฏิกฺขิปิตุํ, ตสฺมา ยถา นิสฺสคฺคิยวตฺถุมฺหิ ปริภุตฺเต วา นฏฺเ วา ปาจิตฺติยํ เทเสติ, เอวมิธาปิ เทเสตพฺพํ.

๕๙๖. กยวิกฺกเย กยวิกฺกยสฺีติอาทิมฺหิ โย กยวิกฺกยํ สมาปชฺชติ, โส ตสฺมึ กยวิกฺกยสฺี วา ภวตุ เวมติโก วา, น กยวิกฺกยสฺี วา นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยเมว. จูฬตฺติเก ทฺวีสุ ปเทสุ ทุกฺกฏเมวาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

๕๙๗. อคฺฆํ ปุจฺฉตีติ ‘‘อยํ ตว ปตฺโต กึ อคฺฆตี’’ติ ปุจฺฉติ. ‘‘อิทํ นามา’’ติ วุตฺเต ปน สเจ ตสฺส กปฺปิยภณฺฑํ มหคฺฆํ โหติ, เอวฺจ นํ ปฏิวทติ ‘‘อุปาสก, มม อิทํ วตฺถุ มหคฺฆํ, ตว ปตฺตํ อฺสฺส เทหี’’ติ. ตํ สุตฺวา อิตโร ‘‘อฺํ ถาลกมฺปิ ทสฺสามี’’ติ วทติ คณฺหิตุํ วฏฺฏติ, ‘‘อิทํ อมฺหากํ อตฺถี’’ติ วุตฺตลกฺขเณ ปตติ. สเจ โส ปตฺโต มหคฺโฆ, ภิกฺขุโน วตฺถุ อปฺปคฺฆํ, ปตฺตสามิโก จสฺส อปฺปคฺฆภาวํ น ชานาติ, ปตฺโต น คเหตพฺโพ, ‘‘มม วตฺถุ อปฺปคฺฆ’’นฺติ อาจิกฺขิตพฺพํ. มหคฺฆภาวํ ตฺวา วฺเจตฺวา คณฺหนฺโต หิ คหิตภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺพตํ อาปชฺชติ. สเจ ปตฺตสามิโก ‘‘โหตุ, ภนฺเต, เสสํ มม ปุฺํ ภวิสฺสตี’’ติ เทติ, วฏฺฏติ.

กปฺปิยการกสฺส อาจิกฺขตีติ ยสฺส หตฺถโต ภณฺฑํ คณฺหาติ, ตํ เปตฺวา อฺํ อนฺตมโส ตสฺส ปุตฺตภาติกมฺปิ กปฺปิยการกํ กตฺวา ‘‘อิมินา อิมํ นาม คเหตฺวา เทหี’’ติ อาจิกฺขติ. โส เจ เฉโก โหติ, ปุนปฺปุนํ อปเนตฺวา วิวทิตฺวา คณฺหาติ, ตุณฺหีภูเตน าตพฺพํ. โน เจ เฉโก โหติ, น ชานาติ คเหตุํ, วาณิชโก ตํ วฺเจติ, ‘‘มา คณฺหา’’ติ วตฺตพฺโพ.

อิทํ อมฺหากนฺติอาทิมฺหิ ‘‘อิทํ ปฏิคฺคหิตํ เตลํ วา สปฺปิ วา อมฺหากํ อตฺถิ, อมฺหากฺจ อฺเน อปฺปฏิคฺคหิตเกน อตฺโถ’’ติ ภณติ. สเจ โส ตํ คเหตฺวา อฺํ เทติ, ปมํ อตฺตโน เตลํ น มินาเปตพฺพํ. กสฺมา? นาฬิยฺหิ อวสิฏฺเตลํ โหติ, ตํ ปจฺฉา มินนฺตสฺส อปฺปฏิคฺคหิตกํ ทูเสยฺยาติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

ฉสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

กยวิกฺกยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิโต โกสิยวคฺโค ทุติโย.

๓. ปตฺตวคฺโค

๑. ปตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๙๘. เตน สมเยนาติ ปตฺตสิกฺขาปทํ. ตตฺถ ปตฺตวาณิชฺชนฺติ คามนิคมาทีสุ วิจรนฺตา ปตฺตวาณิชฺชํ วา กริสฺสนฺติ. อามตฺติกาปณํ วาติ อมตฺตานิ วุจฺจนฺติ ภาชนานิ, ตานิ เยสํ ภณฺฑํ เต อามตฺติกา, เตสํ อามตฺติกานํ อาปณํ อามตฺติกาปณํ, กุลาลภณฺฑวาณิชกาปณนฺติ อตฺโถ.

๖๐๒. ตโย ปตฺตสฺส วณฺณาติ ตีณิ ปตฺตสฺส ปมาณานิ. อฑฺฒาฬฺหโกทนํ คณฺหาตีติ มคธนาฬิยา ทฺวินฺนํ ตณฺฑุลนาฬีนํ โอทนํ คณฺหาติ. มคธนาฬิ นาม อฑฺฒเตรสปลา โหตีติ อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตํ. สีหฬทีเป ปกตินาฬิ มหนฺตา, ทมิฬนาฬิ ขุทฺทกา, มคธนาฬิ ปมาณยุตฺตา, ตาย มคธนาฬิยา ทิยฑฺฒนาฬิ เอกา สีหฬนาฬิ โหตีติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. จตุภาคํ ขาทนนฺติ โอทนสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาณํ ขาทนํ, ตํ หตฺถหาริยสฺส มุคฺคสูปสฺส วเสน เวทิตพฺพํ. ตทุปิยํ พฺยฺชนนฺติ ตสฺส โอทนสฺส อนุรูปํ มจฺฉมํสสากผลกฬีราทิพฺยฺชนํ.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – อนุปหตปุราณสาลิตณฺฑุลานํ สุโกฏฺฏิตปริสุทฺธานํ ทฺเว มคธนาฬิโย คเหตฺวา เตหิ ตณฺฑุเลหิ อนุตฺตณฺฑุลํ อกิลินฺนํ อปิณฺฑิตํ สุวิสทํ กุนฺทมกุฬราสิสทิสํ อวสฺสาวิโตทนํ ปจิตฺวา นิรวเสสํ ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา ตสฺส โอทนสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาโณ นาติฆโน นาติตนุโก หตฺถหาริโย สพฺพสมฺภารสงฺขโต มุคฺคสูโป ปกฺขิปิตพฺโพ. ตโต อาโลปสฺส อาโลปสฺส อนุรูปํ ยาวจริมาโลปปฺปโหนกํ มจฺฉมํสาทิพฺยฺชนํ ปกฺขิปิตพฺพํ, สปฺปิเตลตกฺกรสกฺชิกาทีนิ ปน คณนูปคานิ น โหนฺติ, ตานิ หิ โอทนคติกาเนว, เนว หาเปตุํ น วฑฺเฒตุํ สกฺโกนฺติ. เอวเมตํ สพฺพมฺปิ ปกฺขิตฺตํ สเจ ปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิยา เหฏฺิมราชิสมํ ติฏฺติ, สุตฺเตน วา หีเรน วา ฉินฺทนฺตสฺส สุตฺตสฺส วา หีรสฺส วา เหฏฺิมนฺตํ ผุสติ, อยํ อุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ อติกฺกมฺม ถูปีกตํ ติฏฺติ, อยํ อุกฺกฏฺโมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ น สมฺปาปุณาติ, อนฺโตคตเมว โหติ, อยํ อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต.

นาฬิโกทนนฺติ มคธนาฬิยา เอกาย ตณฺฑุลนาฬิยา โอทนํ. ปตฺโถทนนฺติ มคธนาฬิยา อุปฑฺฒนาฬิโกทนํ. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยํ ปน นามมตฺเต วิเสโส – สเจ นาฬิโกทนาทิ สพฺพมฺปิ ปกฺขิตฺตํ วุตฺตนเยเนว เหฏฺิมราชิสมํ ติฏฺติ, อยํ มชฺฌิโม นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ อติกฺกมฺม ถูปีกตํ ติฏฺติ, อยํ มชฺฌิโมมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ น สมฺปาปุณาติ อนฺโตคตเมว โหติ, อยํ มชฺฌิมุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต. สเจ ปตฺโถทนาทิ สพฺพมฺปิ ปกฺขิตฺตํ เหฏฺิมราชิสมํ ติฏฺติ, อยํ โอมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ อติกฺกมฺม ถูปีกตํ ติฏฺติ, อยํ โอมโกมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ น ปาปุณาติ อนฺโตคตเมว โหติ, อยํ โอมกุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโตติ เอวเมเต นว ปตฺตา. เตสุ ทฺเว อปตฺตา อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโ จ โอมโกมโก จ. ‘‘ตโต อุกฺกฏฺโ อปตฺโต โอมโก อปตฺโต’’ติ อิทฺหิ เอเต สนฺธาย วุตฺตํ. อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโ หิ เอตฺถ อุกฺกฏฺโต อุกฺกฏฺตฺตา ‘‘ตโต อุกฺกฏฺโ อปตฺโต’’ติ วุตฺโต. โอมโกมโก จ โอมกโต โอมกตฺตา ตโต โอมโก อปตฺโตติ วุตฺโต. ตสฺมา เอเต ภาชนปริโภเคน ปริภุฺชิตพฺพา, น อธิฏฺานุปคา, น วิกปฺปนุปคา. อิตเร ปน สตฺต อธิฏฺหิตฺวา วา วิกปฺเปตฺวา วา ปริภุฺชิตพฺพา, เอวํ อกตฺวา ตํ ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยนฺติ ตํ สตฺตวิธมฺปิ ปตฺตํ ทสาหปรมํ กาลํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ.

๖๐๗. นิสฺสคฺคิยํ ปตฺตํ อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภุฺชตีติ ยาคุํ ปิวิตฺวา โธเต ทุกฺกฏํ, ขฺชกํ ขาทิตฺวา ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา โธเต ทุกฺกฏนฺติ เอวํ ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ.

๖๐๘. อนาปตฺติ อนฺโตทสาหํ อธิฏฺเติ วิกปฺเปตีติ เอตฺถ ปน ปมาณยุตฺตสฺสปิ อธิฏฺานวิกปฺปนุปคตฺตํ เอวํ เวทิตพฺพํ – อโยปตฺโต ปฺจหิ ปาเกหิ มตฺติกาปตฺโต ทฺวีหิ ปาเกหิ ปกฺโก อธิฏฺานุปโค, อุโภปิ ยํ มูลํ ทาตพฺพํ, ตสฺมึ ทินฺเนเยว. สเจ เอโกปิ ปาโก อูโน โหติ, กากณิกมตฺตมฺปิ วา มูลํ อทินฺนํ, น อธิฏฺานุปโค. สเจปิ ปตฺตสามิโก วทติ ‘‘ยทา ตุมฺหากํ มูลํ ภวิสฺสติ, ตทา ทสฺสถ, อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชถา’’ติ เนว อธิฏฺานุปโค โหติ, ปากสฺส หิ อูนตฺตา ปตฺตสงฺขํ น คจฺฉติ, มูลสฺส สกลสฺส วา เอกเทสสฺส วา อทินฺนตฺตา สกภาวํ น อุเปติ, อฺสฺเสว สนฺตโก โหติ, ตสฺมา ปาเก จ มูเล จ นิฏฺิเตเยว อธิฏฺานุปโค โหติ. โย อธิฏฺานุปโค, สฺเวว วิกปฺปนุปโค, โส หตฺถํ อาคโตปิ อนาคโตปิ อธิฏฺาตพฺโพ วิกปฺเปตพฺโพ วา. ยทิ หิ ปตฺตการโก มูลํ ลภิตฺวา สยํ วา ทาตุกาโม หุตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปตฺตํ กตฺวา อสุกทิวเส นาม ปจิตฺวา เปสฺสามี’’ติ วทติ, ภิกฺขุ จ เตน ปริจฺฉินฺนทิวสโต ทสาหํ อติกฺกาเมติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน ปตฺตการโก ‘‘อหํ ตุมฺหากํ ปตฺตํ กตฺวา ปจิตฺวา สาสนํ เปเสสฺสามี’’ติ วตฺวา ตเถว กโรติ, เตน เปสิตภิกฺขุ ปน ตสฺส ภิกฺขุโน น อาโรเจติ, อฺโ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา ‘‘ตุมฺหากํ, ภนฺเต, ปตฺโต นิฏฺิโต’’ติ อาโรเจติ, เอตสฺส อาโรจนํ นปมาณํ. ยทา ปน เตน เปสิโตเยว อาโรเจติ, ตสฺส วจนํ สุตทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปตฺตการโก ‘‘อหํ ตุมฺหากํ ปตฺตํ กตฺวา ปจิตฺวา กสฺสจิ หตฺเถ ปหิณิสฺสามี’’ติ วตฺวา ตเถว กโรติ, ปตฺตํ คเหตฺวา อาคตภิกฺขุ ปน อตฺตโน ปริเวเณ เปตฺวา ตสฺส น อาโรเจติ, อฺโ โกจิ ภณติ ‘‘อปิ, ภนฺเต, อธุนา อาภโต ปตฺโต สุนฺทโร’’ติ! ‘‘กุหึ, อาวุโส, ปตฺโต’’ติ? ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส หตฺเถ เปสิโต’’ติ. เอตสฺสปิ วจนํ น ปมาณํ. ยทา ปน โส ภิกฺขุ ปตฺตํ เทติ, ลทฺธทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. ตสฺมา ทสาหํ อนติกฺกาเมตฺวาว อธิฏฺาตพฺโพ วิกปฺเปตพฺโพ วา.

ตตฺถ ทฺเว ปตฺตสฺส อธิฏฺานา – กาเยน วา อธิฏฺาติ, วาจาย วา อธิฏฺาติ. เตสํ วเสน อธิฏฺหนฺเตน จ ‘‘อิมํ ปตฺตํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ วา ‘‘เอตํ ปตฺตํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ วา เอวํ สมฺมุเข วา ปรมฺมุเข วา ิตํ ปุราณปตฺตํ ปจฺจุทฺธริตฺวา อฺสฺส วา ทตฺวา นวํ ปตฺตํ ยตฺถ กตฺถจิ ิตํ หตฺเถน ปรามสิตฺวา ‘‘อิมํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ จิตฺเตน อาโภคํ กตฺวา กายวิการํ กโรนฺเตน กาเยน วา อธิฏฺาตพฺโพ, วจีเภทํ กตฺวา วาจาย วา อธิฏฺาตพฺโพ. ตตฺร ทุวิธํ อธิฏฺานํ – สเจ หตฺถปาเส โหติ ‘‘อิมํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา. อถ อนฺโตคพฺเภ วา อุปริปาสาเท วา สามนฺตวิหาเร วา โหติ, ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘เอตํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา.

อธิฏฺหนฺเตน ปน เอกเกน อธิฏฺาตุมฺปิ วฏฺฏติ, อฺสฺส สนฺติเก อธิฏฺาตุมฺปิ วฏฺฏติ. อฺสฺส สนฺติเก อยมานิสํโส – สจสฺส ‘‘อธิฏฺิโต นุ โข เม, โน’’ติ วิมติ อุปฺปชฺชติ, อิตโร สาเรตฺวา วิมตึ ฉินฺทิสฺสตีติ. สเจ โกจิ ทส ปตฺเต ลภิตฺวา สพฺเพว อตฺตนาว ปริภุฺชิตุกาโม โหติ, น สพฺเพ อธิฏฺาตพฺพา. เอกํ ปตฺตํ อธิฏฺาย ปุนทิวเส ตํ ปจฺจุทฺธริตฺวา อฺโ อธิฏฺาตพฺโพ. เอเตนุปาเยน วสฺสสตมฺปิ ปริหริตุํ สกฺกา.

เอวํ อปฺปมตฺตสฺส ภิกฺขุโน สิยา อธิฏฺานวิชหนนฺติ? สิยา. สเจ หิ อยํ ปตฺตํ อฺสฺส วา เทติ, วิพฺภมติ วา สิกฺขํ วา ปจฺจกฺขาติ, กาลํ วา กโรติ, ลิงฺคํ วาสฺส ปริวตฺตติ, ปจฺจุทฺธรติ วา, ปตฺเต วา ฉิทฺทํ โหติ, อธิฏฺานํ วิชหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ทินฺนวิพฺภนฺตปจฺจกฺขา, กาลํกิริยกเตน จ;

ลิงฺคปจฺจุทฺธรา เจว, ฉิทฺเทน ภวติ สตฺตม’’นฺติ.

โจรหรณวิสฺสาสคฺคาเหหิปิ วิชหติเยว. กิตฺตเกน ฉิทฺเทน อธิฏฺานํ ภิชฺชติ? เยน กงฺคุสิตฺถํ นิกฺขมติ เจว ปวิสติ จ. อิทฺหิ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ลามกธฺสิตฺถํ, ตสฺมึ อยจุณฺเณน วา อาณิยา วา ปฏิปากติเก กเต ทสาหพฺภนฺตเร ปุน อธิฏฺาตพฺโพ. อยํ ตาว ‘‘อนฺโตทสาหํ อธิฏฺเติ วิกปฺเปตี’’ติ เอตฺถ อธิฏฺาเน วินิจฺฉโย.

วิกปฺปเน ปน ทฺเว วิกปฺปนา – สมฺมุขาวิกปฺปนา จ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา จ. กถํ สมฺมุขาวิกปฺปนา โหติ? ปตฺตานํ เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ‘‘อิมํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘อิเม ปตฺเต’’ติ วา ‘‘เอตํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘เอเต ปตฺเต’’ติ วา วตฺวา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วตฺตพฺพํ. อยเมกา สมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริภุฺชิตุํ วา วิสฺสชฺเชตุํ วา อธิฏฺาตุํ วา น วฏฺฏติ. ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ ปริภุฺช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ เอวํ ปน วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโตปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.

อปโร นโย – ตเถว ปตฺตานํ เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ตสฺเสว ภิกฺขุโน สนฺติเก ‘‘อิมํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘อิเม ปตฺเต’’ติ วา ‘‘เอตํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘เอเต ปตฺเต’’ติ วา วตฺวา ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ อฺตรสฺส อตฺตนา อภิรุจิตสฺส ยสฺส กสฺสจิ นามํ คเหตฺวา ‘‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน วิกปฺเปมี’’ติ วา ‘‘ติสฺสาย ภิกฺขุนิยา สิกฺขมานาย สามเณรสฺส ติสฺสาย สามเณริยา วิกปฺเปมี’’ติ วา วตฺตพฺพํ, อยํ อปราปิ สมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริโภคาทีสุ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. เตน ปน ภิกฺขุนา ‘‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน สนฺตกํ…เป… ติสฺสาย สามเณริยา สนฺตกํ ปริภุฺช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ. ตโตปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.

กถํ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา โหติ? ปตฺตานํ ตเถว เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ‘‘อิมํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘อิเม ปตฺเต’’ติ วา ‘‘เอตํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘เอเต ปตฺเต’’ติ วา วตฺวา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺปนตฺถาย ทมฺมี’’ติ วตฺตพฺพํ. เตน วตฺตพฺโพ – ‘‘โก เต มิตฺโต วา สนฺทิฏฺโ วา’’ติ? ตโต อิตเรน ปุริมนเยเนว ‘‘ติสฺโส ภิกฺขูติ วา…เป… ติสฺสา สามเณรี’’ติ วา วตฺตพฺพํ. ปุน เตน ภิกฺขุนา ‘‘อหํ ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน ทมฺมี’’ติ วา…เป… ‘‘ติสฺสาย สามเณริยา ทมฺมี’’ติ วา วตฺตพฺพํ, อยํ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตฺตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริโภคาทีสุ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. เตน ปน ภิกฺขุนา ทุติยสมฺมุขาวิกปฺปนายํ วุตฺตนเยเนว ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส สนฺตกํ ปริภุฺช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ. ตโตปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.

อิมาสํ ปน ทฺวินฺนํ วิกปฺปนานํ นานากรณํ, อวเสโส จ วจนกฺกโม สพฺโพ ปมกถินสิกฺขาปทวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ สทฺธึ สมุฏฺานาทีหีติ.

ปตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อูนปฺจพนฺธนสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๐๙. เตน สมเยนาติ อูนปฺจพนฺธนสิกฺขาปทํ. ตตฺถ น ยาเปตีติ โส กิร ยทิ อริยสาวโก นาภวิสฺสา, อฺถตฺตมฺปิ อคมิสฺสา, เอวํ เตหิ อุพฺพาฬฺโห, โสตาปนฺนตฺตา ปน เกวลํ สรีเรเนว น ยาเปติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘อตฺตนาปิ น ยาเปติ, ปุตฺตทาราปิสฺส กิลมนฺตี’’ติ.

๖๑๒-๓. อูนปฺจพนฺธเนนาติ เอตฺถ อูนานิ ปฺจ พนฺธนานิ อสฺสาติ อูนปฺจพนฺธโน, นาสฺส ปฺจ พนฺธนานิ ปูเรนฺตีติ อตฺโถ, เตน อูนปฺจพนฺธเนน. อิตฺถมฺภูตสฺส ลกฺขเณ กรณวจนํ. ตตฺถ ยสฺมา อพนฺธนสฺสาปิ ปฺจ พนฺธนานิ น ปูเรนฺติ, สพฺพโส นตฺถิตาย, ตสฺมา ปทภาชเน ‘‘อพนฺธโน วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อูนปฺจพนฺธเนนา’’ติ จ วุตฺตตฺตา ยสฺส ปฺจพนฺธโน ปตฺโต โหติ, ตสฺส โส อปตฺโต, ตสฺมา อฺํ วิฺาเปตุํ วฏฺฏติ. พนฺธนฺจ นาเมตํ ยสฺมา พนฺธโนกาเส สติ โหติ, อสติ น โหติ, ตสฺมา ตสฺส ลกฺขณํ ทสฺเสตุํ ‘‘อพนฺธโนกาโส นามา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ทฺวงฺคุลา ราชิ น โหตีติ มุขวฏฺฏิโต เหฏฺา ทฺวงฺคุลปฺปมาณา เอกาปิ ราชิ น โหติ. ยสฺส ทฺวงฺคุลา ราชิ โหตีติ ยสฺส ปน ตาทิสา เอกา ราชิ โหติ, โส ตสฺสา ราชิยา เหฏฺิมปริยนฺเต ปตฺตเวธเกน วิชฺฌิตฺวา ปจิตฺวา สุตฺตรชฺชุก-มกจิรชฺชุกาทีหิ วา ติปุสุตฺตเกน วา พนฺธิตพฺโพ, ตํ พนฺธนํ อามิสสฺส อลคฺคนตฺถํ ติปุปฏฺฏเกน วา เกนจิ พทฺธสิเลเสน วา ปฏิจฺฉาเทตพฺพํ. โส จ ปตฺโต อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชิตพฺโพ, สุขุมํ วา ฉิทฺทํ กตฺวา พนฺธิตพฺโพ. สุทฺเธหิ ปน มธุสิตฺถกลาขาสชฺชุลสาทีหิ พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ. ผาณิตํ ฌาเปตฺวา ปาสาณจุณฺเณน พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. มุขวฏฺฏิสมีเป ปน ปตฺตเวธเกน วิชฺฌิยมาโน กปาลสฺส พหลตฺตา ภิชฺชติ, ตสฺมา เหฏฺา วิชฺฌิตพฺโพ. ยสฺส ปน ทฺเว ราชิโย เอกาเยว วา จตุรงฺคุลา, ตสฺส ทฺเว พนฺธนานิ ทาตพฺพานิ. ยสฺส ติสฺโส เอกาเยว วา ฉฬงฺคุลา, ตสฺส ตีณิ. ยสฺส จตสฺโส เอกาเยว วา อฏฺงฺคุลา, ตสฺส จตฺตาริ. ยสฺส ปฺจ เอกาเยว วา ทสงฺคุลา, โส พทฺโธปิ อพทฺโธปิ อปตฺโตเยว, อฺโ วิฺาเปตพฺโพ. เอส ตาว มตฺติกาปตฺเต วินิจฺฉโย.

อโยปตฺเต ปน สเจปิ ปฺจ วา อติเรกานิ วา ฉิทฺทานิ โหนฺติ, ตานิ เจ อยจุณฺเณน วา อาณิยา วา โลหมณฺฑลเกน วา พทฺธานิ มฏฺานิ โหนฺติ, สฺเวว ปตฺโต ปริภุฺชิตพฺโพ, น อฺโ วิฺาเปตพฺโพ. อถ ปน เอกมฺปิ ฉิทฺทํ มหนฺตํ โหติ, โลหมณฺฑลเกน พทฺธมฺปิ มฏฺํ น โหติ, ปตฺเต อามิสํ ลคฺคติ, อกปฺปิโย โหติ, อยํ อปตฺโต. อฺโ วิฺาเปตพฺโพ.

๖๑๕. เถโร วตฺตพฺโพติ ปตฺเต อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา ‘‘อยํ, ภนฺเต, ปตฺโต ปมาณยุตฺโต สุนฺทโร เถรานุรูโป, ตํ คณฺหถา’’ติ วตฺตพฺโพ. โย น คณฺเหยฺยาติ อนุกมฺปาย น คณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. โย ปน สนฺตุฏฺิยา ‘‘กึ เม อฺเน ปตฺเตนา’’ติ น คณฺหาติ, ตสฺส อนาปตฺติ. ปตฺตปริยนฺโตติ เอวํ ปริวตฺเตตฺวา ปริยนฺเต ิตปตฺโต.

น อเทเสติ มฺจปีฉตฺตนาคทนฺตกาทิเก อเทเส, น นิกฺขิปิตพฺโพ. ยตฺถ ปุริมํ สุนฺทรํ ปตฺตํ เปติ, ตตฺเถว เปตพฺโพ. ปตฺตสฺส หิ นิกฺขิปนเทโส ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาธารก’’นฺติอาทินา นเยน ขนฺธเก วุตฺโตเยว.

อโภเคนาติ ยาคุรนฺธนรชนปจนาทินา อปริโภเคน น ปริภุฺชิตพฺโพ. อนฺตรามคฺเค ปน พฺยาธิมฺหิ อุปฺปนฺเน อฺสฺมึ ภาชเน อสติ มตฺติกาย ลิมฺเปตฺวา ยาคุํ วา ปจิตุํ อุทกํ วา ตาเปตุํ วฏฺฏติ.

น วิสฺสชฺเชตพฺโพติ อฺสฺส น ทาตพฺโพ. สเจ ปน สทฺธิวิหาริโก วา อนฺเตวาสิโก วา อฺํ วรปตฺตํ เปตฺวา ‘‘อยํ มยฺหํ สารุปฺโป, อยํ เถรสฺสา’’ติ คณฺหาติ, วฏฺฏติ. อฺโ วา ตํ คเหตฺวา อตฺตโน ปตฺตํ เทติ, วฏฺฏติ. ‘‘มยฺหเมว ปตฺตํ อาหรา’’ติ วตฺตพฺพกิจฺจํ นตฺถิ.

๖๑๗. ปวาริตานนฺติ เอตฺถ สงฺฆวเสน ปวาริตฏฺาเน ปฺจพนฺธเนเนว วฏฺฏติ. ปุคฺคลวเสน ปวาริตฏฺาเน อูนปฺจพนฺธเนนาปิ วฏฺฏตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

ฉสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

อูนปฺจพนฺธนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๑๘. เตน สมเยนาติ เภสชฺชสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อตฺโถ, ภนฺเตติ ราชา ภิกฺขู อุยฺยุตฺตปฺปยุตฺเต เถรสฺส เลณตฺถาย ปพฺภารํ โสเธนฺเต ทิสฺวา อารามิกํ ทาตุกาโม ปุจฺฉิ.

๖๑๙-๒๑. ปาฏิเยกฺโกติ วิสุํ เอโก. มาลากิเตติ กตมาเล มาลาธเร, กุสุมมาลาปฏิมณฺฑิเตติ อตฺโถ. ติณณฺฑุปกนฺติ ติณจุมฺพฏกํ. ปฏิมุฺจีติ เปสิ. สา อโหสิ สุวณฺณมาลาติ ทาริกาย สีเส ปิตมตฺตาเยว เถรสฺส อธิฏฺานวเสน สุวณฺณปทุมมาลา อโหสิ. ตฺหิ ติณณฺฑุปกํ สีเส ปิตมตฺตเมว ‘‘สุวณฺณมาลา โหตู’’ติ เถโร อธิฏฺาสิ. ทุติยมฺปิ โข…เป…. เตนุปสงฺกมีติ ทุติยทิวเสเยว อุปสงฺกมิ.

สุวณฺณนฺติ อธิมุจฺจีติ ‘‘โสวณฺณมโย โหตู’’ติ อธิฏฺาสิ. ปฺจนฺนํ เภสชฺชานนฺติ สปฺปิอาทีนํ. พาหุลิกาติ ปจฺจยพาหุลิกตาย ปฏิปนฺนา. โกลมฺเพปิ ฆเฏปีติเอตฺถ โกลมฺพา นาม มหามุขจาฏิโย วุจฺจนฺติ. โอลีนวิลีนานีติ เหฏฺา จ อุภโตปสฺเสสุ จ คฬิตานิ. โอกิณฺณวิกิณฺณาติ สปฺปิอาทีนํ คนฺเธน ภูมึ ขนนฺเตหิ โอกิณฺณา, ภิตฺติโย ขนนฺเตหิ อุปริ สฺจรนฺเตหิ จ วิกิณฺณา. อนฺโตโกฏฺาคาริกาติ อพฺภนฺตเร สํวิหิตโกฏฺาคารา.

๖๒๒. ปฏิสายนียานีติ ปฏิสายิตพฺพานิ, ปริภุฺชิตพฺพานีติ อตฺโถ. เภสชฺชานีติ เภสชฺชกิจฺจํ กโรนฺตุ วา มา วา, เอวํ ลทฺธโวหารานิ. ‘‘โคสปฺปี’’ติอาทีหิ โลเก ปากฏํ ทสฺเสตฺวา ‘‘เยสํ มํสํ กปฺปตี’’ติ อิมินา อฺเสมฺปิ มิคโรหิตสสาทีนํ สปฺปึ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสสิ. เยสฺหิ ขีรํ อตฺถิ, สปฺปิปิ เตสํ อตฺถิเยว, ตํ ปน สุลภํ วา โหตุ ทุลฺลภํ วา, อสมฺโมหตฺถํ วุตฺตํ. เอวํ นวนีตมฺปิ.

สนฺนิธิการกํ ปริภุฺชิตพฺพานีติ สนฺนิธึ กตฺวา นิทหิตฺวา ปริภุฺชิตพฺพานิ. กถํ? ปาฬิยา อาคตสปฺปิอาทีสุ สปฺปิ ตาว ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ตทหุปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ นิรามิสมฺปิ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสํ ปริภุฺชิตพฺพํ. สตฺตาหาติกฺกเม สเจ เอกภาชเน ปิตํ, เอกํ นิสฺสคฺคิยํ. สเจ พหูสุ วตฺถุคณนาย นิสฺสคฺคิยานิ, ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา อุคฺคหิตกํ กตฺวา นิกฺขิตฺตํ อชฺโฌหริตุํ น วฏฺฏติ; อพฺภฺชนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ, อนชฺโฌหรณียตํ อาปนฺนตฺตา. ‘‘ปฏิสายนียานี’’ติ หิ วุตฺตํ. สเจ อนุปสมฺปนฺโน ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตนวนีเตน สปฺปึ กตฺวา เทติ, ปุเรภตฺตํ สามิสํ วฏฺฏติ. สเจ สยํ กโรติ, สตฺตาหมฺปิ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตนวนีเตน ปน เยน เกนจิ กตสปฺปิ สตฺตาหมฺปิ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. อุคฺคหิตเกน กเต ปุพฺเพ วุตฺตสุทฺธสปฺปินเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตขีเรน วา ทธินา วา กตสปฺปิ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ สามิสมฺปิ ตทหุปุเรภตฺตํ วฏฺฏติ. สยํกตํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. นวนีตํ ตาเปนฺตสฺส หิ สามํปาโก น โหติ, สามํปกฺเกน ปน เตน สทฺธึ อามิสํ น วฏฺฏติ. ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย จ น วฏฺฏติเยว. สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ, สวตฺถุกสฺส ปฏิคฺคหิตตฺตา, ‘‘ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา’’ติ หิ วุตฺตํ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิเตหิ กตํ ปน อพฺภฺชนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. ปุเรภตฺตมฺปิ จ อุคฺคหิตเกหิ กตํ อุภเยสมฺปิ สตฺตาหาติกฺกเม อนาปตฺติ. เอเสว นโย อกปฺปิยมํสสปฺปิมฺหิ. อยํ ปน วิเสโส – ยตฺถ ปาฬิยํ อาคตสปฺปินา นิสฺสคฺคิยํ, ตตฺถ อิมินา ทุกฺกฏํ. อนฺธกฏฺกถายํ การณปติรูปกํ วตฺวา มนุสฺสสปฺปิ จ นวนีตฺจ ปฏิกฺขิตฺตํ, ตํ ทุปฺปฏิกฺขิตฺตํ, สพฺพอฏฺกถาสุ อนุฺาตตฺตา. ปรโต จสฺส วินิจฺฉโยปิ อาคจฺฉิสฺสติ.

ปาฬิยํ อาคตํ นวนีตมฺปิ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ตทหุปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย นิรามิสเมว. สตฺตาหาติกฺกเม นานาภาชเนสุ ปิเต ภาชนคณนาย เอกภาชเนปิ อมิสฺเสตฺวา ปิณฺฑปิณฺฑวเสน ปิเต ปิณฺฑคณนาย นิสฺสคฺคิยานิ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ สปฺปินเยเนว เวทิตพฺพํ. เอตฺถ ปน ทธิคุฬิกาโยปิ ตกฺกพินฺทูนิปิ โหนฺติ, ตสฺมา ตํ โธตํ วฏฺฏตีติ อุปฑฺฒตฺเถรา อาหํสุ. มหาสีวตฺเถโร ปน ‘‘ภควตา อนุฺาตกาลโต ปฏฺาย ตกฺกโต อุทฺธฏมตฺตเมว ขาทึสู’’ติ อาห. ตสฺมา นวนีตํ ปริภุฺชนฺเตน โธวิตฺวา ทธิตกฺกมกฺขิกากิปิลฺลิกาทีนิ อปเนตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. ปจิตฺวา สปฺปึ กตฺวา ปริภุฺชิตุกาเมน อโธตมฺปิ ปจิตุํ วฏฺฏติ. ยํ ตตฺถ ทธิคตํ วา ตกฺกคตํ วา ตํ ขยํ คมิสฺสติ, เอตฺตาวตา หิ สวตฺถุกปฏิคฺคหิตํ นาม น โหตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. อามิเสน สทฺธึ ปกฺกตฺตา ปน ตสฺมิมฺปิ กุกฺกุจฺจายนฺติ กุกฺกุจฺจกา. อิทานิ อุคฺคเหตฺวา ปิตนวนีเต จ ปุเรภตฺตํ ขีรทธีนิ ปฏิคฺคเหตฺวา กตนวนีเต จ ปจฺฉาภตฺตํ ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา กตนวนีเต จ อุคฺคหิเตหิ กตนววีเต จ อกปฺปิยมํสนวนีเต จ สพฺโพ อาปตฺตานาปตฺติปริโภคาปริโภคนโย สปฺปิมฺหิ วุตฺตกฺกเมเนว คเหตพฺโพ.

เตลภิกฺขาย ปวิฏฺานํ ปน ภิกฺขูนํ ตตฺเถว สปฺปิมฺปิ นวนีตมฺปิ ปกฺกเตลมฺปิ อปกฺกเตลมฺปิ อากิรนฺติ, ตตฺถ ตกฺกทธิพินฺทูนิปิ ภตฺตสิตฺถานิปิ ตณฺฑุลกณาปิ มกฺขิกาทโยปิ โหนฺติ. อาทิจฺจปากํ กตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา คหิตํ สตฺตาหกาลิกํ โหติ, ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตเภสชฺเชหิ สทฺธึ ปจิตฺวา นตฺถุปานมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ วทฺทลิสมเย ลชฺชิ สามเณโร ยถา ตตฺถ ปติตตณฺฑุลกณาทโย น ปจฺจนฺติ, เอวํ สามิสปากํ โมเจนฺโต อคฺคิมฺหิ วิลียาเปตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา ปุน ปจิตฺวา เทติ, ปุริมนเยเนว สตฺตาหํ วฏฺฏติ.

เตเลสุ ติลเตลํ ตาว ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย นิรามิสเมว. สตฺตาหาติกฺกเม ปนสฺส ภาชนคณนาย นิสฺสคฺคิยภาโว เวทิตพฺโพ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. อุคฺคหิตกํ กตฺวา นิกฺขิตฺตํ อชฺโฌหริตุํ น วฏฺฏติ, สีสมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. ปุเรภตฺตํ ติเล ปฏิคฺคเหตฺวา กตเตลํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย อนชฺโฌหรณียํ โหติ, สีสมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. ปจฺฉาภตฺตํ ติเล ปฏิคฺคเหตฺวา กตเตลํ อนชฺโฌหรณียเมว, สวตฺถุกปฏิคฺคหิตตฺตา, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ, สีสมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา อุคฺคหิตกติเลหิ กตเตเลปิ เอเสว นโย.

ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตกติเล ภชฺชิตฺวา วา ติลปิฏฺํ วา เสเทตฺวา อุณฺโหทเกน วา เตเมตฺวา กตเตลํ สเจ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ. อตฺตนา กตเตลํ ปน นิพฺพฏฺฏิตตฺตา ปุเรภตฺตํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. สามํปกฺกตฺตา สามิสํ น วฏฺฏติ, สวตฺถุกปฏิคฺคหิตตฺตา ปน ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย อุภยมฺปิ อนชฺโฌหรณียํ, สีสมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. ยทิ ปน อปฺปํ อุณฺโหทกํ โหติ อพฺภุกฺกิรณมตฺตํ, อพฺโพหาริกํ โหติ, สามปากคณนํ น คจฺฉติ. สาสปเตลาทีสุปิ อวตฺถุกปฏิคฺคหิเตสุ อวตฺถุกติลเตเล วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโย.

สเจ ปน ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตานํ สาสปาทีนํ จุณฺเณหิ อาทิจฺจปาเกน สกฺกา เตลํ กาตุํ, ตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย นิรามิสเมว, สตฺตาหาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํ. ยสฺมา ปน สาสปมธุกจุณฺณาทีนิ เสเทตฺวา เอรณฺฑกฏฺีนิ จ ภชฺชิตฺวา เอว เตลํ กโรนฺติ, ตสฺมา เตสํ เตลํ อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ. วตฺถูนํ ยาวชีวิกตฺตา ปน สวตฺถุกปฏิคฺคหเณ โทโส นตฺถีติ. อตฺตนา กตํ สตฺตาหํ นิรามิสปริโภเคเนว ปริภุฺชิตพฺพํ. อุคฺคหิตเกหิ กตํ อนชฺโฌหรณียํ พาหิรปริโภเค วฏฺฏติ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ.

เตลกรณตฺถาย สาสปมธุกเอรณฺฑกฏฺีนิ วา ปฏิคฺคเหตฺวา กตํ เตลํ สตฺตาหกาลิกํ. ทุติยทิวเส กตํ ฉาหํ วฏฺฏติ. ตติยทิวเส กตํ ปฺจาหํ วฏฺฏติ. จตุตฺถ-ปฺจม-ฉฏฺสตฺตามทิวเส กตํ ตทเหว วฏฺฏติ. สเจ ยาว อรุณสฺส อุคฺคมนา ติฏฺติ, นิสฺสคฺคิยํ. อฏฺเม ทิวเส กตํ อนชฺโฌหรณียํ. อนิสฺสคฺคิยตฺตา ปน พาหิรปริโภเค วฏฺฏติ. สเจปิ น กโรติ, เตลตฺถาย คหิตสาสปาทีนํ สตฺตาหาติกฺกมเน ทุกฺกฏเมว. ปาฬิยํ ปน อนาคตานิ อฺานิปิ นาฬิเกรนิมฺพโกสมฺพกกรมนฺทอตสีอาทีนํ เตลานิ อตฺถิ, ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ อติกฺกามยโต ทุกฺกฏํ โหติ. อยเมเตสุ วิเสโส. เสสํ ยาวกาลิกวตฺถุํ ยาวชีวิกวตฺถุฺจ สลฺลกฺเขตฺวา สามํปากสวตฺถุกปุเรภตฺตปจฺฉาภตฺตปฏิคฺคหิตอุคฺคหิตกวตฺถุวิธานํ สพฺพํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๖๒๓. วสาเตลนฺติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสานิ เภสชฺชานิ, อจฺฉวสํ, มจฺฉวสํ, สุสุกาวสํ, สูกรวสํ, คทฺรภวส’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒) เอวํ อนุฺาตวสานํ เตลํ. เอตฺถ จ ‘‘อจฺฉวส’’นฺติ วจเนน เปตฺวา มนุสฺสวสํ สพฺเพสํ อกปฺปิยมํสาน วสา อนุฺาตา. มจฺฉคฺคหเณน จ สุสุกาปิ คหิตา โหนฺติ, วาฬมจฺฉตฺตา ปน วิสุํ วุตฺตํ. มจฺฉาทิคฺคหเณน เจตฺถ สพฺเพสมฺปิ กปฺปิยมํสานํ วสา อนุฺาตา. มํเสสุ หิ ทสมนอุสฺส-หตฺถิ-อสฺส-สุนข-อหิ-สีห-พฺยคฺฆ-ทีปิ-อจฺฉ-ตรจฺฉานํ มํสานิ อกปฺปิยานิ. วสาสุ เอกา มนุสฺสวสาว. ขีราทีสุ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิ.

อนุปสมฺปนฺเนหิ กตนิพฺพฏฺฏิตวสาเตลํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ. ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. ยํ ปน ตตฺถ สุขุมรชสทิสํ มํสํ วา นฺหารุ วา อฏฺิ วา โลหิตํ วา โหติ, ตํ อพฺโพหาริกํ. สเจ ปน วสํ ปฏิคฺคเหตฺวา สยํ กโรติ, ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปจิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา สตฺตาหํ นิรามิสปริโภเคน ปริภุฺชิตพฺพํ. นิรามิสปริโภคฺหิ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ – ‘‘กาเล ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ กาเล สํสฏฺํ เตลปริโภเคน ปริภุฺชิตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒). ตตฺราปิ อพฺโพหาริกํ อพฺโพหาริกเมว. ปจฺฉาภตฺตํ ปน ปฏิคฺคหิตุํ วา กาตุํ วา น วฏฺฏติเยว. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘วิกาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ วิกาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภุฺเชยฺย, อาปตฺติ ติณฺณํ ทุกฺกฏานํ. กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ วิกาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภุฺเชยฺย, อาปตฺติ ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏานํ. กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภุฺเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ กาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภุฺเชยฺย, อนาปตฺตี’’ติ.

อุปติสฺสตฺเถรํ ปน อนฺเตวาสิกา ปุจฺฉึสุ – ‘‘ภนฺเต, สปฺปินวนีตวสานิ เอกโต ปจิตฺวา นิพฺพฏฺฏิตานิ วฏฺฏนฺติ, น วฏฺฏนฺตี’’ติ? ‘‘น วฏฺฏนฺติ, อาวุโส’’ติ. เถโร กิเรตฺถ ปกฺกเตลกสเฏ วิย กุกฺกุจฺจายติ. ตโต นํ อุตฺตริ ปุจฺฉึสุ – ‘‘ภนฺเต, นวนีเต ทธิคุฬิกา วา ตกฺกพินฺทุ วา โหติ, เอตํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘เอตมฺปิ, อาวุโส, น วฏฺฏตี’’ติ. ตโต นํ อาหํสุ – ‘‘ภนฺเต, เอกโต ปจิตฺวา สํสฏฺานิ เตชวนฺตานิ โหนฺติ, โรคํ นิคฺคณฺหนฺตี’’ติ? ‘‘สาธาวุโส’’ติ เถโร สมฺปฏิจฺฉิ.

มหาสุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘กปฺปิยมํสวสา สามิสปริโภเค วฏฺฏติ, อิตรา นิรามิสปริโภเค วฏฺฏตี’’ติ. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘อิทํ กิ’’นฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘นนุ วาตาพาธิกา ภิกฺขู ปฺจมูลกสาวยาคุยํ อจฺฉสูกรเตลาทีนิ ปกฺขิปิตฺวา ยาคุํ ปิวนฺติ, สา เตชุสฺสทตฺตา โรคํ นิคฺคณฺหาตี’’ติ วตฺวา ‘‘วฏฺฏตี’’ติ อาห.

มธุ นาม มกฺขิกามธูติ มธุกรีหิ นาม มธุมกฺขิกาหิ ขุทฺทกมกฺขิกาหิ ภมรมกฺขิกาหิ จ กตํ มธุ. ตํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสปริโภคมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสปริโภคเมว วฏฺฏติ. สตฺตาหาติกฺกเม สเจ สิเลสสทิสํ มหามธุํ ขณฺฑํ ขณฺฑํ กตฺวา ปิตํ, อิตรํ วา นานาภาชเนสุ, วตฺถุคณนาย นิสฺสคฺคิยานิ. สเจ เอกเมว ขณฺฑํ, เอกภาชเน วา อิตรํ เอกเมว นิสฺสคฺคิยํ. อุคฺคหิตกํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ, อรุมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. มธุปฏลํ วา มธุสิตฺถกํ วา สเจ มธุนา อมกฺขิตํ ปริสุทฺธํ, ยาวชีวิกํ. มธุมกฺขิตํ ปน มธุคติกเมว. จีริกา นาม สปกฺขา ทีฆมกฺขิกา, ตุมฺพลนามิกา จ อฏฺิปกฺขา กาฬมหาภมรา โหนฺติ, เตสํ อาสเยสุ นิยฺยาสสทิสํ มธุ โหติ, ตํ ยาวชีวิกํ.

ผาณิตํ นาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺตนฺติ อุจฺฉุรสํ อุปาทาย อปกฺกา วา อวตฺถุกปกฺกา วา สพฺพาปิ อวตฺถุกา อุจฺฉุวิกติ ผาณิตนฺติ เวทิตพฺพา. ตํ ผาณิตํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. สตฺตาหาติกฺกเม วตฺถุคณนาย นิสฺสคฺคิยํ. พหู ปิณฺฑา จุณฺเณตฺวา เอกภาชเน ปกฺขิตฺตา โหนฺติ ฆนสนฺนิเวสา, เอกเมว นิสฺสคฺคิยํ. อุคฺคหิตกํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ, ฆรธูปนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิเตน อปริสฺสาวิตอุจฺฉุรเสน กตผาณิตํ สเจ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ, สามิสมฺปิ วฏฺฏติ. สยํกตํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย ปน สวตฺถุกปฏิคฺคหิตตฺตา อนชฺโฌหรณียํ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. ปจฺฉาภตฺตํ อปริสฺสาวิตปฏิคฺคหิเตน กตมฺปิ อนชฺโฌหรณียเมว, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. เอส นโย อุจฺฉุํ ปฏิคฺคเหตฺวา กตผาณิเตปิ. ปุเรภตฺตํ ปน ปริสฺสาวิตปฏิคฺคหิตเกน กตํ สเจ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว. สยํกตํ ปุเรภตฺตมฺปิ นิรามิสเมว. ปจฺฉาภตฺตํ ปริสฺสาวิตปฏิคฺคหิเตน กตํ ปน นิรามิสเมว สตฺตาหํ วฏฺฏติ. อุคฺคหิตกกตํ วุตฺตนยเมว. ‘‘ฌามอุจฺฉุผาณิตํ วา โกฏฺฏิตอุจฺฉุผาณิตํ วา ปุเรภตฺตเมว วฏฺฏตี’’ติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ.

มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘เอตํ สวตฺถุกปกฺกํ วฏฺฏติ, โน วฏฺฏตี’’ติ ปุจฺฉํ กตฺวา ‘‘อุจฺฉุผาณิตํ ปจฺฉาภตฺตํ โนวฏฺฏนกํ นาม นตฺถี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ. สีตุทเกน กตํ มธุกปุปฺผผาณิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสํ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว. สตฺตาหาติกฺกเม วตฺถุคณนาย ทุกฺกฏํ. ขีรํ ปกฺขิปิตฺวา กตํ มธุกผาณิตํ ยาวกาลิกํ. ขณฺฑสกฺขรํ ปน ขีรชลฺลิกํ อปเนตฺวา โสเธนฺติ, ตสฺมา วฏฺฏติ. มธุกปุปฺผํ ปน ปุเรภตฺตํ อลฺลํ วฏฺฏติ, ภชฺชิตมฺปิ วฏฺฏติ. ภชฺชิตฺวา ติลาทีหิ มิสฺสํ วา อมิสฺสํ วา กตฺวา โกฏฺฏิตมฺปิ วฏฺฏติ. ยทิ ปน ตํ คเหตฺวา เมรยตฺถาย โยเชนฺติ, โยชิตํ พีชโต ปฏฺาย น วฏฺฏติ. กทลี-ขชฺชูรี-อมฺพ-ลพุช-ปนส-จิฺจาทีนํ สพฺเพสํ ยาวกาลิกผลานํ ผาณิตํ ยาวกาลิกเมว. มริจปกฺเกหิ ผาณิตํ กโรนฺติ, ตํ ยาวชีวิกํ.

ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวาติ สเจปิ สพฺพานิปิ ปฏิคฺคเหตฺวา เอก ฆเฏ อวินิพฺโภคานิ กตฺวา นิกฺขิปติ, สตฺตาหาติกฺกเม เอกเมว นิสฺสคฺคิยํ. วินิภุตฺเตสุ ปฺจ นิสฺสคฺคิยานิ. สตฺตาหํ ปน อนติกฺกาเมตฺวา คิลาเนนปิ อคิลาเนนปิ วุตฺตนเยเนว ยถาสุขํ ปริภุฺชิตพฺพํ. สตฺตวิธฺหิ โอทิสฺสํ นาม – พฺยาธิโอทิสฺสํ, ปุคฺคโลทิสฺสํ, กาโลทิสฺสํ, สมโยทิสฺสํ, เทโสทิสฺสํ, วโสทิสฺสํ, เภสชฺโชทิสฺสนฺติ.

ตตฺถ พฺยาธิโอทิสฺสํ นาม – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อมนุสฺสิกาพาเธ อามกมํสํ อามกโลหิต’’นฺติ (มหาว. ๒๖๔) เอวํ พฺยาธึ อุทฺทิสฺส อนุฺาตํ, ตํ เตเนว อาพาเธน อาพาธิกสฺส วฏฺฏติ, น อฺสฺส. ตฺจ โข กาเลปิ วิกาเลปิ กปฺปิยมฺปิ อกปฺปิยมฺปิ วฏฺฏติเยว.

ปุคฺคโลทิสฺสํ นาม – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โรมนฺถกสฺส โรมนฺถนํ. น จ, ภิกฺขเว, พหิมุขทฺวารํ นีหริตฺวา อชฺโฌหริตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๓) เอวํ ปุคฺคลํ อุทฺทิสฺส อนุฺาตํ, ตํ ตสฺเสว วฏฺฏติ, น อฺสฺส.

กาโลทิสฺสํ นาม – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตฺตาริ มหาวิกฏานิ ทาตุํ – คูถํ, มุตฺตํ, ฉาริกํ, มตฺติก’’นฺติ (มหาว. ๒๖๘) เอวํ อหินา ทฏฺกาลํ อุทฺทิสฺส อนุฺาตํ, ตํ ตสฺมึเยว กาเล อปฺปฏิคฺคหิตกมฺปิ วฏฺฏติ, น อฺสฺมึ.

สมโยทิสฺสํ นาม – ‘‘คณโภชเน อฺตฺร สมยา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๒๑๗) นเยน ตํ ตํ สมยํ อุทฺทิสฺส อนุฺาตา อนาปตฺติโย, ตา ตสฺมึ ตสฺมึเยว สมเย อนาปตฺติโย โหนฺติ, น อฺทา.

เทโสทิสฺสํ นาม – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เอวรูเปสุ ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ วินยธรปฺจเมน คเณน อุปสมฺปท’’นฺติ (มหาว. ๒๕๙) เอวํ ปจฺจนฺตเทเส อุทฺทิสฺส อนุฺาตานิ อุปสมฺปทาทีนิ, ตานิ ตตฺเถว วฏฺฏนฺติ, น มชฺฌิมเทเส.

วโสทิสฺสํ นาม – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสานิ เภสชฺชานี’’ติ (มหาว. ๒๖๒) เอวํ วสานาเมน อนุฺาตํ, ตํ เปตฺวา มนุสฺสวสํ สพฺเพสํ กปฺปิยากปฺปิยวสานํ เตลํ ตํตทตฺถิกานํ เตลปริโภเคน ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ.

เภสชฺโชทิสฺสํ นาม – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจ เภสชฺชานี’’ติ (มหาว. ๒๖๐-๒๖๑) เอวํ เภสชฺชนาเมน อนุฺาตานิ อาหารตฺถํ ผริตุํ สมตฺถานิ สปฺปินวนีตเตลมธุผาณิตนฺติ. ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา ตทหุปุเรภตฺตํ ยถาสุขํ ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สติ ปจฺจเย วุตฺตนเยเนว สตฺตาหํ ปริภุฺชิตพฺพานิ.

๖๒๔. สตฺตาหาติกฺกนฺเต อติกฺกนฺตสฺี นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยนฺติ สเจปิ สาสปมตฺตํ โหติ สกึ วา องฺคุลิยา คเหตฺวา ชิวฺหาย สายนมตฺตํ นิสฺสชฺชิตพฺพเมว, ปาจิตฺติยฺจ เทเสตพฺพํ.

น กายิเกน ปริโภเคน ปริภุฺชิตพฺพนฺติ กาโย วา กาเย อรุ วา น มกฺเขตพฺพํ. เตหิ มกฺขิตานิ กาสาวกตฺตรยฏฺิอุปาหนปาทกถลิกมฺจปีาทีนิปิ อปริโภคานิ. ‘‘ทฺวารวาตปานกวาเฏสุปิ หตฺเถน คหณฏฺานํ น มกฺเขตพฺพ’’นฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ‘‘กสาเว ปน ปกฺขิปิตฺวา ทฺวารวาตปานกวาฏานิ มกฺเขตพฺพานี’’ติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ.

อนาปตฺติ อนฺโตสตฺตาหํ อธิฏฺเตีติ สตฺตาหพฺภนฺตเร สปฺปิฺจ เตลฺจ วสฺจ มุทฺธนิเตลํ วา อพฺภฺชนํ วา มธุํ อรุมกฺขนํ ผาณิตํ ฆรธูปนํ อธิฏฺเติ, อนาปตฺติ. สเจ อธิฏฺิตเตลํ อนธิฏฺิตเตลภาชเน อากิริตุกาโม โหติ, ภาชเน เจ สุขุมํ ฉิทฺทํ ปวิฏฺํ ปวิฏฺํ เตลํ ปุราณเตเลน อชฺโฌตฺถรียติ, ปุน อธิฏฺาตพฺพํ. อถ มหามุขํ โหติ, สหสาว พหุเตลํ ปวิสิตฺวา ปุราณเตลํ อชฺโฌตฺถรติ, ปุน อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ. อธิฏฺิตคติกเมว หิ ตํ โหติ, เอเตน นเยน อธิฏฺิตเตลภาชเน อนธิฏฺิตเตลากิรณมฺปิ เวทิตพฺพํ.

๖๒๕. วิสฺสชฺเชตีติ เอตฺถ สเจ ทฺวินฺนํ สนฺตกํ เอเกน ปฏิคฺคหิตํ อวิภตฺตํ โหติ, สตฺตาหาติกฺกเม ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺติ, ปริภุฺชิตุํ ปน น วฏฺฏติ. สเจ เยน ปฏิคฺคหิตํ, โส อิตรํ ภณติ – ‘‘อาวุโส, อิมํ เตลํ สตฺตาหมตฺตํ ปริภุฺช ตฺว’’นฺติ. โส จ ปริโภคํ น กโรติ, กสฺส อาปตฺติ? น กสฺสจิปิ อาปตฺติ. กสฺมา? เยน ปฏิคฺคหิตํ เตน วิสฺสชฺชิตตฺตา, อิตรสฺส อปฺปฏิคฺคหิตตฺตา.

วินสฺสตีติ อปริโภคํ โหติ. จตฺเตนาติอาทีสุ เยน จิตฺเตน เภสชฺชํ จตฺตฺจ วนฺตฺจ มุตฺตฺจ โหติ, ตํ จิตฺตํ จตฺตํ วนฺตํ มุตฺตนฺติ วุจฺจติ. เตน จิตฺเตน ปุคฺคโล อนเปกฺโขติ วุจฺจตฺติ, เอวํ อนเปกฺโข สามเณรสฺส ทตฺวาติ อตฺโถ. อิทํ กสฺมา วุตฺตํ? ‘‘เอวํ อนฺโตสตฺตาเห ทตฺวา ปจฺฉา ลภิตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส อนาปตฺติทสฺสนตฺถ’’นฺติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘นยิทํ ยาจิตพฺพํ, อนฺโตสตฺตาเห ทินฺนสฺส หิ ปุน ปริโภเค อาปตฺติเยว นตฺถิ. สตฺตาหาติกฺกนฺตสฺส ปน ปริโภเค อนาปตฺติทสฺสนตฺถมิทํ วุตฺต’’นฺติ. ตสฺมา เอวํ ทินฺนํ เภสชฺชํ สเจ สามเณโร อภิสงฺขริตฺวา วา อนภิสงฺขริตฺวา วา ตสฺส ภิกฺขุโน นตฺถุกมฺมตฺถํ ทเทยฺย, คเหตฺวา นตฺถุกมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ พาโล โหติ, ทาตุํ น ชานาติ, อฺเน ภิกฺขุนา วตฺตพฺโพ – ‘‘อตฺถิ เต, สามเณร, เตล’’นฺติ ‘‘อาม, ภนฺเต, อตฺถี’’ติ. ‘‘อาหร, เถรสฺส เภสชฺชํ กริสฺสามา’’ติ. เอวมฺปิ วฏฺฏติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.

กถินสมุฏฺานํ, อกิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ,

ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๒๖. เตน สมเยนาติ วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทํ. ตตฺถ วสฺสิกสาฏิกา อนุฺาตาติ จีวรกฺขนฺธเก วิสาขาวตฺถุสฺมึ (มหาว. ๓๔๙ อาทโย) อนุฺาตา. ปฏิกจฺเจวาติ ปุเรเยว.

๖๒๗. มาโส เสโส คิมฺหานนฺติ จตุนฺนํ คิมฺหมาสานํ เอโก ปจฺฉิมมาโส เสโส. กตฺวาติ สิพฺพนรชนกปฺปปริโยสาเนน นิฏฺเปตฺวา. กโรนฺเตน จ เอกเมว กตฺวา สมเย อธิฏฺาตพฺพํ, ทฺเว อธิฏฺาตุํ น วฏฺฏนฺติ.

อติเรกมาเส เสเส คิมฺหาเนติ คิมฺหานนามเก อติเรกมาเส เสเส.

อติเรกทฺธมาเส เสเส คิมฺหาเน กตฺวา นิวาเสตีติ เอตฺถ ปน ตฺวา วสฺสิกสาฏิกาย ปริเยสนกฺเขตฺตํ กรณกฺเขตฺตํ นิวาสนกฺเขตฺตํ อธิฏฺานกฺเขตฺตนฺติ จตุพฺพิธํ เขตฺตํ, กุจฺฉิสมโย ปิฏฺิสมโยติ ทุวิโธ สมโย, ปิฏฺิสมยจตุกฺกํ กุจฺฉิสมยจตุกฺกนฺติ ทฺเว จตุกฺกานิ จ เวทิตพฺพานิ.

ตตฺถ เชฏฺมูลปุณฺณมาสิยา ปจฺฉิมปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ยาว กาฬปกฺขุโปสถา, อยเมโก อทฺธมาโส ปริเยสนกฺเขตฺตฺเจว กรณกฺเขตฺตฺจ. เอตสฺมิฺหิ อนฺตเร วสฺสิกสาฏิกํ อลทฺธํ ปริเยสิตุํ ลทฺธํ กาตุฺจ วฏฺฏติ, นิวาเสตุํ อธิฏฺาตุฺจ น วฏฺฏติ. กาฬปกฺขุโปสถสฺส ปจฺฉิมปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ยาว อาสาฬฺหีปุณฺณมา, อยเมโก อทฺธมาโส ปริเยสนกรณนิวาสนานํ ติณฺณมฺปิ เขตฺตํ. เอตสฺมิฺหิ อนฺตเร ปริเยสิตุํ กาตุํ นิวาเสตุฺจ วฏฺฏติ, อธิฏฺาตุํเยว น วฏฺฏติ. อาสาฬฺหีปุณฺณมาสิยา ปจฺฉิมปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ยาว กตฺติกปุณฺณมา, อิเม จตฺตาโร มาสา ปริเยสนกรณนิวาสนาธิฏฺานานํ จตุนฺนํ เขตฺตํ. เอตสฺมิฺหิ อนฺตเร อลทฺธํ ปริเยสิตุํ ลทฺธํ กาตุํ นิวาเสตุํ อธิฏฺาตุฺจ วฏฺฏติ. อิทํ ตาว จตุพฺพิธํ เขตฺตํ เวทิตพฺพํ.

กตฺติกปุณฺณมาสิยา ปน ปจฺฉิมปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ยาว เชฏฺมูลปุณฺณมา, อิเม สตฺต มาสา ปิฏฺิสมโย นาม. เอตสฺมิฺหิ อนฺตเร ‘‘กาโล วสฺสิกสาฏิกายา’’ติอาทินา นเยน สตุปฺปาทํ กตฺวา อฺาตกอปฺปวาริตฏฺานโต วสฺสิกสาฏิกจีวรํ นิปฺผาเทนฺตสฺส อิมินา สิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. ‘‘เทถ เม วสฺสิกสาฏิกจีวร’’นฺติอาทินา นเยน วิฺตฺตึ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺส อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. วุตฺตนเยเนว สตุปฺปาทํ กตฺวา าตกปวาริตฏฺานโต นิปฺผาเทนฺตสฺส อิมินาว สิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. วิฺตฺตึ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺส อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน อนาปตฺติ. วุตฺตฺเหตํ ปริวาเร

‘‘มาตรํ จีวรํ ยาเจ, โน จ สงฺเฆ ปริณตํ;

เกนสฺส โหติ อาปตฺติ, อนาปตฺติ จ าตเก;

ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๘๑);

อยฺหิ ปฺโห อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺโตติ. เอวํ ปิฏฺิสมยจตุกฺกํ เวทิตพฺพํ.

เชฏฺมูลปุณฺณมาสิยา ปน ปจฺฉิมปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ยาว กตฺติกปุณฺณมา, อิเม ปฺจ มาสา กุจฺฉิสมโย นาม. เอตสฺมิฺหิ อนฺตเร วุตฺตนเยน สตุปฺปาทํ กตฺวา อฺาตกอปฺปวาริตฏฺานโต วสฺสิกสาฏิกจีวรํ นิปฺผาเทนฺตสฺส วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ. เย มนุสฺสา ปุพฺเพปิ วสฺสิกสาฏิกจีวรํ เทนฺติ, อิเม ปน สเจปิ อตฺตโน อฺาตกอปฺปวาริตา โหนฺติ, วตฺตเภโท นตฺถิ, เตสุ สตุปฺปาทกรณสฺส อนุฺาตตฺตา. วิฺตึ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺส อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. อิทํ ปน ปกติยา วสฺสิกสาฏิกทายเกสุปิ โหติเยว. วุตฺตนเยเนว สตุปฺปาทํ กตฺวา าตกปวาริตฏฺานโต นิปฺผาเทนฺตสฺส อิมินา สิกฺขาปเทน อนาปตฺติ. วิฺตฺตึ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺส อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน อนาปตฺติ. ‘‘น วตฺตพฺพา เทถ เม’’ติ อิทฺหิ ปริเยสนกาเล อฺาตกอปฺปวาริเตเยว สนฺธาย วุตฺตํ. เอวํ กุจฺฉิสมยจตุกฺกํ เวทิตพฺพํ.

นคฺโค กายํ โอวสฺสาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอตฺถ อุทกผุสิตคณนาย อกตฺวา นฺหานปริโยสานวเสน ปโยเค ปโยเค ทุกฺกเฏน กาเรตพฺโพ. โส จ โข วิวฏงฺคเณ อากาสโต ปติตอุทเกเนว นฺหายนฺโต. นฺหานโกฏฺกวาปิอาทีสุ ฆเฏหิ อาสิตฺตอุทเกน วา นฺหายนฺตสฺส อนาปตฺติ.

วสฺสํ อุกฺกฑฺฒิยตีติ เอตฺถ สเจ กตปริเยสิตาย วสฺสิกสาฏิกาย คิมฺหานํ ปจฺฉิม มาสํ เขเปตฺวา ปุน วสฺสานสฺส ปมมาสํ อุกฺกฑฺฒิตฺวา คิมฺหานํ ปจฺฉิมมาสเมว กโรนฺติ, วสฺสิกสาฏิกา โธวิตฺวา นิกฺขิปิตพฺพา. อนธิฏฺิตา อวิกปฺปิตา ทฺเว มาเส ปริหารํ ลภติ, วสฺสูปนายิกทิวเส อธิฏฺาตพฺพา. สเจ สติสมฺโมเสน วา อปฺปโหนกภาเวน วา อกตา โหติ, เต จ ทฺเว มาเส วสฺสานสฺส จ จาตุมาสนฺติ ฉ มาเส ปริหารํ ลภติ. สเจ ปน กตฺติกมาเส กถินํ อตฺถรียติ, อปเรปิ จตฺตาโร มาเส ลภติ, เอวํ ทส มาสา โหนฺติ. ตโต ปรมฺปิ สติยา ปจฺจาสาย มูลจีวรํ กตฺวา เปนฺตสฺส เอกมาสนฺติ เอวํ เอกาทส มาเส ปริหารํ ลภติ. สเจ ปน เอกาหทฺวีหาทิวเสน ยาว ทสาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย อนฺโตวสฺเส วา ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ, กทา อธิฏฺาตพฺพาติ เอตํ อฏฺกถาสุ น วิจาริตํ. ลทฺธทิวสโต ปฏฺาย อนฺโตทสาเห นิฏฺิตา ปน ตสฺมึเยว อนฺโตทสาเห อธิฏฺาตพฺพา. ทสาหาติกฺกเม นิฏฺิตา ตทเหว อธิฏฺาตพฺพา. ทสาเห อปฺปโหนฺเต จีวรกาลํ นาติกฺกเมตพฺพาติ อยํ โน อตฺตโนมติ. กสฺมา? ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติจีวรํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ; วสฺสิกสาฏิกํ วสฺสานํ จาตุมาสํ อธิฏฺาตุํ, ตโต ปรํ วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘) หิ วุตฺตํ. ตสฺมา วสฺสูปนายิกโต ปุพฺเพ ทสาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. ‘‘ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๔๖๒) จ วุตฺตํ. ตสฺมา เอกาหทฺวีหาทิวเสน ยาว ทสาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย อนฺโตวสฺเส วา ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ วุตฺตนเยเนว อนฺโตทสาเห วา ตทหุ วา อธิฏฺาตพฺพา, ทสาเห อปฺปโหนฺเต จีวรกาลํ นาติกฺกเมตพฺพา.

ตตฺถ สิยา ‘‘วสฺสานํ จาตุมาสํ อธิฏฺาตุ’’นฺติ วจนโต ‘‘จาตุมาสพฺภนฺตเร ยทา วา ตทา วา อธิฏฺาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ยทิ เอวํ, ‘‘กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทึ ยาว อาพาธา อธิฏฺาตุ’’นฺติ วุตฺตํ สาปิ, จ ทสาหํ อติกฺกาเมตพฺพา สิยา. เอวฺจ สติ ‘‘ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพ’’นฺติ อิทํ วิรุชฺฌติ. ตสฺมา ยถาวุตฺตเมว คเหตพฺพํ, อฺํ วา อจลํ การณํ ลภิตฺวา ฉฑฺเฑตพฺพํ. อปิจ กุรุนฺทิยมฺปิ นิสฺสคฺคิยาวสาเน วุตฺตํ – ‘‘กทา อธิฏฺาตพฺพา? ลทฺธทิวสโต ปฏฺาย อนฺโตทสาเห นิฏฺิตา ปน ตสฺมึเยว อนฺโตทสาเห อธิฏฺาตพฺพา. ยทิ นปฺปโหติ ยาว กตฺติกปุณฺณมา ปริหารํ ลภตี’’ติ.

๖๓๐. อจฺฉินฺนจีวรสฺสาติ เอตํ วสฺสิกสาฏิกเมว สนฺธาย วุตฺตํ. เตสฺหิ นคฺคานํ กาโยวสฺสาปเน อนาปตฺติ. เอตฺถ จ มหคฺฆวสฺสิกสาฏิกํ นิวาเสตฺวา นฺหายนฺตสฺส โจรุปทฺทโว อาปทา นาม. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

ฉสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๓๑. เตน สมเยนาติ จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทํ. ตตฺถ ยมฺปิ ตฺยาหนฺติ ยมฺปิ เต อหํ. โส กิร ‘‘มม ปตฺตจีวรอุปาหนปจฺจตฺถรณานิ วหนฺโต มยา สทฺธึ จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี’’ติ อทาสิ. เตเนวมาห. อจฺฉินฺทีติ พลกฺกาเรน อคฺคเหสิ, สกสฺาย คหิตตฺตา ปนสฺส ปาราชิกํ นตฺถิ, กิลเมตฺวา คหิตตฺตา อาปตฺติ ปฺตฺตา.

๖๓๓. สยํ อจฺฉินฺทติ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยนฺติ เอกํ จีวรํ เอกาพทฺธานิ จ พหูนิ อจฺฉินฺทโต เอกา อาปตฺติ. เอกโต อพทฺธานิ วิสุํ วิสุํ ิตานิ จ พหูนิ อจฺฉินฺทโต ‘‘สงฺฆาฏึ อาหร, อุตฺตราสงฺคํ อาหรา’’ติ เอวํ อาหราปยโต จ วตฺถุคณนาย อาปตฺติโย. ‘‘มยา ทินฺนานิ สพฺพานิ อาหรา’’ติ วทโตปิ เอกวจเนเนว สมฺพหุลา อาปตฺติโย.

อฺํ อาณาเปติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ ‘‘จีวรํ คณฺหา’’ติ อาณาเปติ, เอกํ ทุกฺกฏํ. อาณตฺโต พหูนิ คณฺหาติ, เอกํ ปาจิตฺติยํ ‘‘สงฺฆาฏึ คณฺห, อุตฺตราสงฺคํ คณฺหา’’ติ วทโต วาจาย วาจาย ทุกฺกฏํ. ‘‘มยา ทินฺนานิ สพฺพานิ คณฺหา’’ติ วทโต เอกวาจาย สมฺพหุลา อาปตฺติโย.

๖๓๔. อฺํ ปริกฺขารนฺติ วิกปฺปนุปคปจฺฉิมจีวรํ เปตฺวา ยํ กิฺจิ อนฺตมโส สูจิมฺปิ. เวเตฺวา ปิตสูจีสุปิ วตฺถุคณนาย ทุกฺกฏานิ. สิถิลเวิตาสุ เอวํ. คาฬฺหํ กตฺวา พทฺธาสุ ปน เอกเมว ทุกฺกฏนฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. สูจิฆเร ปกฺขิตฺตาสุปิ เอเสว นโย. ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา สิถิลพทฺธ คาฬฺหพทฺเธสุ ติกฏุกาทีสุ เภสชฺเชสุปิ เอเสว นโย.

๖๓๕. โส วา เทตีติ ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํเยว อิทํ สารุปฺป’’นฺติ เอวํ วา เทติ, อถ วา ปน ‘‘อาวุโส, มยํ ตุยฺหํ ‘วตฺตปฏิปตฺตึ กริสฺสติ, อมฺหากํ สนฺติเก อุปชฺฌํ คณฺหิสฺสติ, ธมฺมํ ปริยาปุณิสฺสตี’ติ จีวรํ อทมฺห, โส ทานิ ตฺวํ น วตฺตํ กโรสิ, น อุปชฺฌํ คณฺหาสิ, น ธมฺมํ ปริยาปุณาสี’’ติ เอวมาทีนิ วุตฺโต ‘‘ภนฺเต, จีวรตฺถาย มฺเ ภณถ, อิทํ โว จีวร’’นฺติ เทติ, เอวมฺปิ โส วา เทติ. ทิสาปกฺกนฺตํ วา ปน ทหรํ ‘‘นิวตฺเตถ น’’นฺติ ภณติ, โส น นิวตฺตติ. จีวรํ คเหตฺวา รุนฺธถาติ, เอวํ เจ นิวตฺตติ, สาธุ. สเจ ‘‘ปตฺตจีวรตฺถาย มฺเ ตุมฺเห ภณถ, คณฺหถ น’’นฺติ เทติ. เอวมฺปิ โส วา เทติ, วิพฺภนฺตํ วา ทิสฺวา ‘‘มยํ ตุยฺหํ ‘วตฺตํ กริสฺสตี’ติ ปตฺตจีวรํ อทมฺห, โส ทานิ ตฺวํ วิพฺภมิตฺวา จรสี’’ติ วทติ. อิตโร ‘‘คณฺหถ ตุมฺหากํ ปตฺตจีวร’’นฺติ เทติ, เอวมฺปิ โส วา เทติ. ‘‘มม สนฺติเก อุปชฺฌํ คณฺหนฺตสฺเสว เทมิ, อฺตฺถ คณฺหนฺตสฺส น เทมิ. วตฺตํ กโรนฺตสฺเสว เทมิ, อกโรนฺตสฺส น เทมิ, ธมฺมํ ปริยาปุณนฺตสฺเสว เทมิ, อปริยาปุณนฺตสฺส น เทมิ, อวิพฺภมนฺตสฺเสว เทมิ, วิพฺภมนฺตสฺส น เทมี’’ติ เอวํ ปน ทาตุํ น วฏฺฏติ, ททโต ทุกฺกฏํ. อาหราเปตุํ ปน วฏฺฏติ. จชิตฺวา ทินฺนํ อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ติสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สุตฺตวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๓๖. เตน สมเยนาติ สุตฺตวิฺตฺติสิกฺขาปทํ. ตตฺถ โขมนฺติ โขมวาเกหิ กตสุตฺตํ. กปฺปาสิกนฺติ กปฺปาสโต นิพฺพตฺตํ. โกเสยฺยนฺติ โกสิยํสูหิ กนฺติตฺวา กตสุตฺตํ. กมฺพลนฺติ เอฬกโลมสุตฺตํ. สาณนฺติ สาณวากสุตฺตํ. ภงฺคนฺติ ปาเฏกฺกํ วากสุตฺตเมวาติ เอเก. เอเตหิ ปฺจหิ มิสฺเสตฺวา กตสุตฺตํ ปน ‘‘ภงฺค’’นฺติ เวทิตพฺพํ.

วายาเปติ ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏนฺติ สเจ ตนฺตวายสฺส ตุริเวมาทีนิ นตฺถิ, ตานิ ‘‘อรฺโต อาหริสฺสามี’’ติ วาสึ วา ผรสุํ วา นิเสติ, ตโต ปฏฺาย ยํ ยํ อุปกรณตฺถาย วา จีวรวายนตฺถาย วา กโรติ, สพฺพตฺถ ตนฺตวายสฺส ปโยเค ปโยเค ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏํ. ทีฆโต วิทตฺถิมตฺเต ติริยฺจ หตฺถมตฺเต วีเต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ยาว ปริโยสานํ วายาเปนฺตสฺส ผลเก ผลเก นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตํ. ตมฺปิ อิทเมว ปมาณํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. วิกปฺปนุปคปจฺฉิมฺหิ จีวรสงฺขฺยํ คจฺฉตีติ.

อปิเจตฺถ เอวํ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ – สุตฺตํ ตาว สามํ วิฺาปิตํ อกปฺปิยํ, เสสํ าตกาทิวเสน อุปฺปนฺนํ กปฺปิยํ. ตนฺตวาโยปิ อฺาตกอปฺปวาริโต วิฺตฺติยา ลทฺโธ อกปฺปิโย, เสโส กปฺปิโย. ตตฺถ อกปฺปิยสุตฺตํ อกปฺปิยตนฺตวาเยน วายาเปนฺตสฺส ปุพฺเพ วุตฺตนเยน นิสฺสคฺคิยํ. เตเนว ปน กปฺปิยสุตฺตํ วายาเปนฺตสฺส ยถา ปุพฺเพ นิสฺสคฺคิยํ, เอวํ ทุกฺกฏํ. เตเนว กปฺปิยํ อกปฺปิยฺจ สุตฺตํ วายาเปนฺตสฺส ยทิ ปจฺฉิมจีวรปฺปมาเณน เอโก ปริจฺเฉโท สุทฺธกปฺปิยสุตฺตมโย, เอโก อกปฺปิยสุตฺตมโยติ เอวํ เกทารพทฺธํ วิย จีวรํ โหติ, อกปฺปิยสุตฺตมเย ปริจฺเฉเท ปาจิตฺติยํ, อิตรสฺมึ ตเถว ทุกฺกฏํ. ยทิ ตโต อูนปริจฺเฉทา โหนฺติ, อนฺตมโส อจฺฉิมณฺฑลปฺปมาณาปิ, สพฺพปริจฺเฉเทสุ ปริจฺเฉทคณนาย ทุกฺกฏํ. อถ เอกนฺตริเกน วา สุตฺเตน ทีฆโต วา กปฺปิยํ ติริยํ อกปฺปิยํ กตฺวา วีตํ โหติ, ผลเก ผลเก ทุกฺกฏํ. กปฺปิยตนฺตวาเยนปิ อกปฺปิยสุตฺตํ วายาเปนฺตสฺส ยถา ปุพฺเพ นิสฺสคฺคิยํ, เอวํ ทุกฺกฏํ. เตเนว กปฺปิยฺจ อกปฺปิยฺจ สุตฺตํ วายาเปนฺตสฺส สเจ ปจฺฉิมจีวรปฺปมาณา อูนกา วา อกปฺปิยสุตฺตปริจฺเฉทา โหนฺติ, เตสุ ปริจฺเฉทคณนาย ทุกฺกฏํ. กปฺปิยสุตฺตปริจฺเฉเทสุ อนาปตฺติ. อถ เอกนฺตริเกน วา สุตฺเตน ทีฆโต วา กปฺปิยํ ติริยํ อกปฺปิยํ กตฺวา วีตํ โหติ, ผลเก ผลเก ทุกฺกฏํ.

ยทิ ปน ทฺเว ตนฺตวายา โหนฺติ, เอโก กปฺปิโย เอโก อกปฺปิโย, สุตฺตฺจ อกปฺปิยํ, เต เจ วาเรน วินนฺติ, อกปฺปิยตนฺตวาเยน วีเต ผลเก ผลเก ปาจิตฺติยํ, อูนตเร ทุกฺกฏํ. อิตเรน วีเต อุภยตฺถ ทุกฺกฏํ. สเจ ทฺเวปิ เวมํ คเหตฺวา เอกโต วินนฺติ, ผลเก ผลเก ปาจิตฺติยํ. อถ สุตฺตํ กปฺปิยํ, จีวรฺจ เกทารพทฺธาทีหิ สปริจฺเฉทํ, อกปฺปิยตนฺตวาเยน วีเต ปริจฺเฉเท ปริจฺเฉเท ทุกฺกฏํ, อิตเรน วีเต อนาปตฺติ. สเจ ทฺเวปิ เวมํ คเหตฺวา เอกโต วินนฺติ, ผลเก ผลเก ทุกฺกฏํ. อถ สุตฺตมฺปิ กปฺปิยฺจ อกปฺปิยฺจ, เต เจ วาเรน วินนฺติ, อกปฺปิยตนฺตวาเยน อกปฺปิยสุตฺตมเยสุ ปจฺฉิมจีวรปฺปมาเณสุ ปริจฺเฉเทสุ วีเตสุ ปริจฺเฉทคณนาย ปาจิตฺติยํ. อูนกตเรสุ กปฺปิยสุตฺตมเยสุ จ ทุกฺกฏํ. กปฺปิยตนฺตวาเยน อกปฺปิยสุตฺตมเยสุ ปมาณยุตฺเตสุ วา อูนเกสุ วา ทุกฺกฏเมว. กปฺปิยสุตฺตมเยสุ อนาปตฺติ.

อถ เอกนฺตริเกน วา สุตฺเตน ทีฆโต วา อกปฺปิยํ ติริยํ กปฺปิยํ กตฺวา วินนฺติ, อุโภปิ วา เต เวมํ คเหตฺวา เอกโต วินนฺติ, อปริจฺเฉเท จีวเร ผลเก ผลเก ทุกฺกฏํ, สปริจฺเฉเท ปริจฺเฉทวเสน ทุกฺกฏานีติ. อยํ ปน อตฺโถ มหาอฏฺกถายํ อปากโฏ, มหาปจฺจริยาทีสุ ปากโฏ. อิธ สพฺพากาเรเนว ปากโฏ.

สเจ สุตฺตมฺปิ กปฺปิยํ, ตนฺตวาโยปิ กปฺปิโย าตกปฺปวาริโต วา มูเลน วา ปโยชิโต, วายาปนปจฺจยา อนาปตฺติ. ทสาหาติกฺกมนปจฺจยา ปน อาปตฺตึ รกฺขนฺเตน วิกปฺปนุปคปฺปมาณมตฺเต วีเต ตนฺเต ิตํเยว อธิฏฺาตพฺพํ. ทสาหาติกฺกเมน นิฏฺาปิยมานฺหิ นิสฺสคฺคิยํ ภเวยฺยาติ. าตกาทีหิ ตนฺตํ อาโรเปตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ, ภนฺเต, อิทํ จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ นิยฺยาติเตปิ เอเสว นโย.

สเจ ตนฺตวาโย เอวํ ปโยชิโต วา สยํ ทาตุกาโม วา หุตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ จีวรํ อสุกทิวเส นาม วายิตฺวา เปสฺสามี’’ติ วทติ, ภิกฺขุ จ เตน ปริจฺฉินฺนทิวสโต ทสาหํ อติกฺกาเมติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ.

สเจ ปน ตนฺตวาโย ‘‘อหํ ตุมฺหากํ จีวรํ วายิตฺวา สาสนํ เปเสสฺสามี’’ติ วตฺวา ตเถว กโรติ, เตน เปสิตภิกฺขุ ปน ตสฺส ภิกฺขุโน น อาโรเจติ, อฺโ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา ‘‘ตุมฺหากํ, ภนฺเต, จีวรํ นิฏฺิต’’นฺติ อาโรเจติ, เอตสฺส อาโรจนํ น ปมาณํ. ยทา ปน เตน เปสิโตเยว อาโรเจติ, ตสฺส วจนํ สุตทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ.

สเจ ตนฺตวาโย ‘‘อหํ ตุมฺหากํ จีวรํ วายิตฺวา กสฺสจิ หตฺเถ ปหิณิสฺสามี’’ติ วตฺวา ตเถว กโรติ, จีวรํ คเหตฺวา คตภิกฺขุ ปน อตฺตโน ปริเวเณ เปตฺวา ตสฺส น อาโรเจติ, อฺโ โกจิ ภณติ ‘‘อปิ, ภนฺเต, อธุนา อาภตํ จีวรํ สุนฺทร’’นฺติ? ‘‘กุหึ, อาวุโส, จีวร’’นฺติ? ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส หตฺเถ เปสิต’’นฺติ. เอตสฺสปิ วจนํ น ปมาณํ. ยทา ปน โส ภิกฺขุ จีวรํ เทติ, ลทฺธทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน วายาปนมูลํ อทินฺนํ โหติ, ยาว กากณิกมตฺตมฺปิ อวสิฏฺํ, ตาว รกฺขติ.

๖๔๐. อนาปตฺติ จีวรํ สิพฺเพตุนฺติ จีวรสิพฺพนตฺถาย สุตฺตํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ. อาโยเคติอาทีสุปิ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมวจนํ, อาโยคาทินิมิตฺตํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ฉสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

สุตฺตวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. มหาเปสการสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๔๑. เตน สมเยนาติ มหาเปสการสิกฺขาปทํ. ตตฺถ สุตฺตํ ธารยิตฺวาติ สุตฺตํ ตุเลตฺวา ปลปริจฺเฉทํ กตฺวา. อปฺปิตนฺติ ฆนํ. สุวีตนฺติ สุฏฺุ วีตํ, สพฺพฏฺาเนสุ สมํ กตฺวา วีตํ. สุปฺปวายิตนฺติ สุฏฺุ ปวายิตํ สพฺพฏฺาเนสุ สมํ กตฺวา ตนฺเต ปสาริตํ. สุวิเลขิตนฺติ เลขนิยา สุฏฺุ วิลิขิตํ. สุวิตจฺฉิตนฺติ โกจฺเฉน สุฏฺุ วิตจฺฉิตํ, สุนิทฺโธตนฺติ อตฺโถ. ปฏิพทฺธนฺติ เวกลฺลํ. ตนฺเตติ ตนฺเต ทีฆโต ปสารเณเยว อุปเนตฺวาติ อตฺโถ.

๖๔๒. ตตฺร เจ โส ภิกฺขูติ ยตฺร คาเม วา นิคเม วา เต ตนฺตวายา ตตฺร. วิกปฺปํ อาปชฺเชยฺยาติ วิสิฏฺํ กปฺปํ อธิกวิธานํ อาปชฺเชยฺย. ปาฬิยํ ปน เยนากาเรน วิกปฺปํ อาปนฺโน โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิทํ โข, อาวุโส’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ธมฺมมฺปิ ภณตีติ ธมฺมกถมฺปิ กเถติ, ‘‘ตสฺส วจเนน อายตํ วา วิตฺถตํ วา อปฺปิตํ วา’’ติ สุตฺตวฑฺฒนอาการเมว ทสฺเสติ.

ปุพฺเพ อปฺปวาริโตติ จีวรสามิเกหิ ปุพฺเพ อปฺปวาริโต หุตฺวา. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ฉสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ,

ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

มหาเปสการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๔๖-๙. เตน สมเยนาติ อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทํ. ตตฺถ ทสาหานาคตนฺติ ทส อหานิ ทสาหํ, เตน ทสาเหน อนาคตา ทสาหานาคตา, ทสาเหน อสมฺปตฺตาติ อตฺโถ, ตํ ทสาหานาคตํ, อจฺจนฺตสํโยควเสน ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ, เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘ทสาหานาคตายา’’ติ วุตฺตํ. ปวารณายาติ อิทํ ปน ยา สา ทสาหานาคตาติ วุตฺตา, ตํ สรูปโต ทสฺเสตุํ อสมฺโมหตฺถํ อนุปโยควจนํ.

กตฺติกเตมาสิกปุณฺณมนฺติ ปมกตฺติกเตมาสิกปุณฺณมํ. อิธาปิ ปมปทสฺส อนุปโยคตฺตา ปุริมนเยเนว ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘‘ยโต ปฏฺาย ปมมหาปวารณา ทสาหานาคตา’ติ วุจฺจติ, สเจปิ ตานิ ทิวสานิ อจฺจนฺตเมว ภิกฺขุโน อจฺเจกจีวรํ อุปฺปชฺเชยฺย, ‘อจฺเจกํ อิท’นฺติ ชานมาเนน ภิกฺขุนา สพฺพมฺปิ ปฏิคฺคเหตพฺพ’’นฺติ. เตน ปวารณามาสสฺส ชุณฺหปกฺขปฺจมิโต ปาย อุปฺปนฺนสฺส จีวรสฺส นิธานกาโล ทสฺสิโต โหติ. กามฺเจส ‘‘ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพ’’นฺติ อิมินาว สิทฺโธ, อตฺถุปฺปตฺติวเสน ปน อปุพฺพํ วิย อตฺถํ ทสฺเสตฺวา สิกฺขาปทํ ปิตํ.

อจฺเจกจีวรนฺติ อจฺจายิกจีวรํ วุจฺจติ, ตสฺส ปน อจฺจายิกภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘เสนาย วา คนฺตุกาโม โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สทฺธาติ อิมินา สทฺธามตฺตกเมว ทสฺสิตํ. ปสาโทติ อิมินา สุปฺปสนฺนา พลวสทฺธา. เอตํ อจฺเจกจีวรํ นามาติ เอตํ อิเมหิ การเณหิ ทาตุกาเมน ทูตํ วา เปเสตฺวา สยํ วา อาคนฺตฺวา ‘‘วสฺสาวาสิกํ ทสฺสามี’’ติ เอวํ อาโรจิตํ จีวรํ อจฺเจกจีวรํ นาม โหตี. ฉฏฺิโต ปฏฺาย ปน อุปฺปนฺนํ อนจฺเจกจีวรมฺปิ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปิตจีวรมฺปิ เอตํ ปริหารํ ลภติเยว.

สฺาณํ กตฺวา นิกฺขิปิตพฺพนฺติ กิฺจิ นิมิตฺตํ กตฺวา เปตพฺพํ. กสฺมา เอตํ วุตฺตํ? ยทิ หิ ตํ ปุเร ปวารณาย วิภชนฺติ. เยน คหิตํ, เตน ฉินฺนวสฺเสน น ภวิตพฺพํ. สเจ ปน โหติ, ตํ จีวรํ สงฺฆิกเมว โหติ. ตโต สลฺลกฺเขตฺวา สุขํ ทาตุํ ภวิสฺสตีติ.

๖๕๐. อจฺเจกจีวเร อจฺเจกจีวรสฺีติ เอวมาทิ วิภชิตฺวา คหิตเมว สนฺธาย วุตฺตํ. สเจ ปน อวิภตฺตํ โหติ, สงฺฆสฺส วา ภณฺฑาคาเร, จีวรสมยาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. อิติ อติเรกจีวรสฺส ทสาหํ ปริหาโร. อกตสฺส วสฺสิกสาฏิกจีวรสฺส อนตฺถเต กถิเน ปฺจ มาสา, วสฺเส อุกฺกฑฺฒิเต ฉ มาสา, อตฺถเต กถิเน อปเร จตฺตาโร มาสา. เหมนฺตสฺส ปจฺฉิเม ทิวเส มูลจีวราธิฏฺานวเสน อปโรปิ เอโก มาโสติ เอกาทส มาสา ปริหาโร. สติยา ปจฺจาสาย มูลจีวรสฺส เอโก มาโส, อจฺเจกจีวรสฺส อนตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิโก มาโส, อตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิกา ปฺจ มาสา, ตโต ปรํ เอกทิวสมฺปิ ปริหาโร นตฺถีติ เวทิตพฺพํ.

อนจฺเจกจีวเรติ อจฺเจกจีวรสทิเส อฺสฺมึ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

กถินสมุฏฺานํ – อกิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๕๒. เตน สมเยนาติ สาสงฺกสิกฺขาปทํ. ตตฺถ วุตฺถวสฺสา อารฺเกสูติ เต ปุพฺเพปิ อรฺเเยว วิหรึสุ. ทุพฺพลจีวรตฺตา ปน ปจฺจยวเสน คามนฺตเสนาสเน วสฺสํ วสิตฺวา นิฏฺิตจีวรา หุตฺวา ‘‘อิทานิ นิปฺปลิโพธา สมณธมฺมํ กริสฺสามา’’ติ อารฺเกสุ เสนาสเนสุ วิหรนฺติ. กตฺติกโจรกาติ กตฺติกมาเส โจรา. ปริปาเตนฺตีติ อุปทฺทวนฺติ, ตตฺถ ตตฺถ อาธาวิตฺวา อุตฺตาเสนฺติ ปลาเปนฺติ. อนฺตรฆเร นิกฺขิปิตุนฺติ อนฺโตคาเม นิกฺขิปิตุํ. ภควา ยสฺมา ปจฺจยา นาม ธมฺเมน สเมน ทุลฺลภา, สลฺเลขวา หิ ภิกฺขุ มาตรมฺปิ วิฺาเปตุํ น สกฺโกติ. ตสฺมา จีวรคุตฺตตฺถํ อนฺตรฆเร นิกฺขิปิตุํ อนุชานาติ. ภิกฺขูนํ ปน อนุรูปตฺตา อรฺวาสํ น ปฏิกฺขิปิ.

๖๕๓. อุปวสฺสํ โข ปนาติ เอตฺถ อุปวสฺสนฺติ อุปวสฺส; อุปวสิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อุปสมฺปชฺชนฺติอาทีสุ วิย หิ เอตฺถ อนุนาสิโก ทฏฺพฺโพ. วสฺสํ อุปคนฺตฺวา วสิตฺวา จาติ อตฺโถ. อิมสฺส จ ปทสฺส ‘‘ตถารูเปสุ ภิกฺขุ เสนาสเนสุ วิหรนฺโต’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. กึ วุตฺตํ โหติ? วสฺสํ อุปคนฺตฺวา วสิตฺวา จ ตโต ปรํ ปจฺฉิมกตฺติกปุณฺณมปริโยสานกาลํ ยานิ โข ปน ตานิ อารฺกานิ เสนาสนานิ สาสงฺกสมฺมตานิ สปฺปฏิภยานิ; ตถารูเปสุ ภิกฺขุ เสนาสเนสุ วิหรนฺโต อากงฺขมาโน ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรํ จีวรํ อนฺตรฆเร นิกฺขิเปยฺยาติ. ยสฺมา ปน โย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ยาว ปมกตฺติกปุณฺณมํ วสติ, โส วุฏฺวสฺสานํ อพฺภนฺตโร โหติ, ตสฺมา อิทํ อติคหนํ พฺยฺชนวิจารณํ อกตฺวา ปทภาชเน เกวลํ จีวรนิกฺเขปารหํ ปุคฺคลํ ทสฺเสตุํ ‘‘วุฏฺวสฺสาน’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺสาปิ ‘‘ภิกฺขุ เสนาสเนสุ วิหรนฺโต’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อยฺหิ เอตฺถ อตฺโถ ‘‘วุฏฺวสฺสานํ ภิกฺขุ เสนาสเนสุ วิหรนฺโต’’ติ เอวรูปานํ ภิกฺขูนํ อพฺภนฺตเร โย โกจิ ภิกฺขูติ วุตฺตํ โหติ.

อรฺลกฺขณํ อทินฺนาทานวณฺณนายํ วุตฺตํ. อยํ ปน วิเสโส – สเจ วิหาโร ปริกฺขิตฺโต โหติ, ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อินฺทขีลโต อปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขปารหฏฺานโต ปฏฺาย ยาว วิหารปริกฺเขปา มินิตพฺพํ. สเจ วิหาโร อปริกฺขิตฺโต โหติ, ยํ สพฺพปมํ เสนาสนํ วา ภตฺตสาลา วา ธุวสนฺนิปาตฏฺานํ วา โพธิวา เจติยํ วา ทูเร เจปิ เสนาสนโต โหติ, ตํ ปริจฺเฉทํ กตฺวา มินิตพฺพํ. สเจปิ อาสนฺเน คาโม โหติ, วิหาเร ิเตหิ ฆรมานุสกานํ สทฺโท สูยติ, ปพฺพตนทีอาทีหิ ปน อนฺตริตตฺตา น สกฺกา อุชุํ คนฺตุํ, โย จสฺส ปกติมคฺโค โหติ, สเจปิ นาวาย สฺจริตพฺโพ, เตน มคฺเคน คามโต ปฺจธนุสติกํ คเหตพฺพํ. โย อาสนฺนคามสฺส องฺคสมฺปาทนตฺถํ ตโต ตโต มคฺคํ ปิทหติ, อยํ ‘‘ธุตงฺคโจโร’’ติ เวทิตพฺโพ.

สาสงฺกสมฺมตานีติ ‘‘สาสงฺกานี’’ติ สมฺมตานิ; เอวํ สฺาตานีติ อตฺโถ. ปทภาชเน ปน เยน การเณน ตานิ สาสงฺกสมฺมตานิ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อาราเม อารามูปจาเร’’ติอาทิ วุตฺตํ.

สห ปฏิภเยน สปฺปฏิภยานิ, สนฺนิหิตพลวภยานีติ อตฺโถ. ปทภาชเน ปน เยน การเณน ตานิ สปฺปฏิภยานิ; ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อาราเม อารามูปจาเร’’ติอาทิ วุตฺตํ.

สมนฺตา โคจรคาเม นิกฺขิเปยฺยาติ อารฺกสฺส เสนาสนสฺส สมนฺตา สพฺพทิสาภาเคสุ อตฺตนา อภิรุจิเต โคจรคาเม สติยา องฺคสมฺปตฺติยา นิกฺขิเปยฺย.

ตตฺรายํ องฺคสมฺปตฺติ – ปุริมิกาย อุปคนฺตฺวา มหาปวารณาย ปวาริโต โหติ, อิทเมกํ องฺคํ. สเจ ปจฺฉิมิกาย วา อุปคโต โหติ ฉินฺนวสฺโส วา, นิกฺขิปิตุํ น ลภติ. กตฺติกมาโสเยว โหติ, อิทํ ทุติยํ องฺคํ. กตฺติกมาสโต ปรํ น ลภติ, ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิมเมว ปมาณยุตฺตํ เสนาสนํ โหติ, อิทํ ตติยํ องฺคํ. อูนปฺปมาเณ วา คาวุตโต อติเรกปฺปมาเณ วา น ลภติ, ยตฺร หิ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปุน วิหารํ ภตฺตเวลายํ สกฺกา อาคนฺตุํ, ตเทว อิธ อธิปฺเปตํ. นิมนฺติโต ปน อทฺธโยชนมฺปิ โยชนมฺปิ คนฺตฺวา วสิตุํ ปจฺเจติ, อิทมปฺปมาณํ. สาสงฺกสปฺปฏิภยเมว โหติ, อิทํ จตุตฺถํ องฺคํ. อนาสงฺกอปฺปฏิภเย หิ องฺคยุตฺเตปิ เสนาสเน วสนฺโต นิกฺขิปิตุํ น ลภตีติ.

อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยาติ ยา อุโทสิตสิกฺขาปเท โกสมฺพกสมฺมุติ (ปารา. ๔๗๕) อนุฺาตา ตสฺสา สมฺมุติยา อฺตฺร; สเจ สา ลทฺธา โหติ, ฉารตฺตาติเรกมฺปิ วิปฺปวสิตุํ วฏฺฏติ.

ปุน คามสีมํ โอกฺกมิตฺวาติ สเจ โคจรคามโต ปุรตฺถิมาย ทิสาย เสนาสนํ; อยฺจ ปจฺฉิมทิสํ คโต โหติ, เสนาสนํ อาคนฺตฺวา สตฺตมํ อรุณํ อุฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺเตน คามสีมมฺปิ โอกฺกมิตฺวา สภายํ วา ยตฺถ กตฺถจิ วา วสิตฺวา จีวรปฺปวตฺตึ ตฺวา ปกฺกมิตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. เอวํ อสกฺโกนฺเตน ตตฺเถว ิเตน ปจฺจุทฺธริตพฺพํ, อติเรกจีวรฏฺาเน สฺสตีติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

กถินสมุฏฺานํ – กายวาจโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, อกิริยา, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ปริณตสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๕๗. เตน สมเยนาติ ปริณตสิกฺขาปทํ. ตตฺถ ปูคสฺสาติ สมูหสฺส; ธมฺมคณสฺสาติ อตฺโถ. ปฏิยตฺตนฺติ ปฏิยาทิตํ. พหู สงฺฆสฺส ภตฺตาติ สงฺฆสฺส พหูนิ ภตฺตานิ อเนกานิ ลาภมุขานิ; น สงฺฆสฺส เกนจิ ปริหานีติ ทีเปนฺติ. โอโณเชถาติ เทถ. กึ ปเนวํ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ กสฺมา น วฏฺฏติ? อยฺหิ อภิหฏภิกฺขา อภิหริตฺวา เอกสฺมึ โอกาเส สงฺฆสฺสตฺถาย ปฏิยตฺตา อภิหฏปฏิยตฺเต จ อุทฺทิสฺส ปิตภาเค จ ปยุตฺตวาจา นาม นตฺถิ.

๖๕๘. สงฺฆิกนฺติ สงฺฆสฺส สนฺตกํ. โส หิ สงฺฆสฺส ปริณตตฺตา หตฺถํ อนารูฬฺโหปิ เอเกน ปริยาเยน สงฺฆสฺส สนฺตโก โหติ, ปทภาชเน ปน ‘‘สงฺฆิกํ นาม สงฺฆสฺส ทินฺนํ โหติ ปริจฺจตฺต’’นฺติ เอวํ อตฺถุทฺธารวเสน นิปฺปริยายโตว สงฺฆิกํ ทสฺสิตํ. ลาภนฺติ ปฏิลภิตพฺพวตฺถุํ อาห. เตเนวสฺส นิทฺเทเส ‘‘จีวรมฺปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริณตนฺติ สงฺฆสฺส นินฺนํ สงฺฆสฺส โปณํ สงฺฆสฺส ปพฺภารํ หุตฺวา ิตํ. เยน ปน การเณน โส ปริณโต โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทสฺสาม กริสฺสามาติ วาจา ภินฺนา โหตี’’ติ ปทภาชนํ วุตฺตํ.

๖๕๙. ปโยเค ทุกฺกฏนฺติ ปริณตลาภสฺส อตฺตโน ปริณามนปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน ตสฺมึ หตฺถํ อารูฬฺเห นิสฺสคฺคิยํ. สเจ ปน สงฺฆสฺส ทินฺนํ โหติ, ตํ คเหตุํ น วฏฺฏติ, สงฺฆสฺเสว ทาตพฺพํ. โยปิ อารามิเกหิ สทฺธึ เอกโต ขาทติ, ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพ. ปริณตํ ปน สหธมฺมิกานํ วา คิหีนํ วา อนฺตมโส มาตุสนฺตกมฺปิ ‘‘อิทํ มยฺหํ เทหี’’ติ สงฺฆสฺส ปริณตภาวํ ตฺวา อตฺตโน ปริณาเมตฺวา คณฺหนฺตสฺส นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. ‘‘อิมสฺส ภิกฺขุโน เทหี’’ติ เอวํ อฺสฺส ปริณาเมนฺตสฺส สุทฺธิกปาจิตฺติยํ. เอกํ ปตฺตํ วา จีวรํ วา อตฺตโน, เอกํ อฺสฺส ปริณาเมติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยฺเจว สุทฺธิกปาจิตฺติยฺจ. เอเสว นโย พหูสุ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘นิสฺสคฺคิเยน อาปตฺตึ, สุทฺธิเกน ปาจิตฺติยํ;

อาปชฺเชยฺย เอกโต;

ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๘๐);

อยฺหิ ปริณามนํ สนฺธาย วุตฺโต. โยปิ วสฺสิกสาฏิกสมเย มาตุฆเรปิ สงฺฆสฺส ปริณตํ วสฺสิกสาฏิกํ ตฺวา อตฺตโน ปริณาเมติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. ปรสฺส ปริณาเมติ, สุทฺธิกปาจิตฺติยํ. มนุสฺสา ‘‘สงฺฆภตฺตํ กริสฺสามา’’ติ สปฺปิเตลาทีนิ อาหรนฺติ, คิลาโน เจปิ ภิกฺขุ สงฺฆสฺส ปริณตภาวํ ตฺวา กิฺจิ ยาจติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยเมว. สเจ ปน โส ‘‘ตุมฺหากํ สปฺปิอาทีนิ อาภฏานิ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, อตฺถี’’ติ วุตฺเต ‘‘มยฺหมฺปิ เทถา’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. อถาปิ นํ กุกฺกุจฺจายนฺตํ อุปาสกา วทนฺติ – ‘‘สงฺโฆปิ อมฺเหหิ ทินฺนเมว ลภติ; คณฺหถ, ภนฺเต’’ติ เอวมฺปิ วฏฺฏติ.

๖๖๐. สงฺฆสฺส ปริณตํ อฺสงฺฆสฺสาติ เอกสฺมึ วิหาเร สงฺฆสฺส ปริณตํ อฺํ วิหารํ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘อสุกสฺมึ นาม มหาวิหาเร สงฺฆสฺส เทถา’’ติ ปริณาเมติ.

เจติยสฺส วาติ ‘‘กึ สงฺฆสฺส ทินฺเนน, เจติยสฺสปูชํ กโรถา’’ติ เอวํ เจติยสฺส วา ปริณาเมติ.

เจติยสฺส ปริณตนฺติ เอตฺถ นิยเมตฺวา อฺเจติยสฺสตฺถาย โรปิตมาลาวจฺฉโต อฺเจติยมฺหิ ปุปฺผมฺปิ อาโรเปตุํ น วฏฺฏติ. เอกสฺส เจติยสฺส ปน ฉตฺตํ วา ปฏากํ วา อาโรเปตฺวา ิตํ ทิสฺวา เสสํ อฺสฺส เจติยสฺส ทาเปตุํ วฏฺฏติ.

ปุคฺคลสฺส ปริณตนฺติ อนฺตมโส สุนขสฺสาปิ ปริณตํ ‘‘อิมสฺส สุนขสฺส มา เทหิ, เอตสฺส เทหี’’ติ เอวํ อฺปุคฺคลสฺส ปริณาเมติ, ทุกฺกฏํ. สเจ ปน ทายกา ‘‘มยํ สงฺฆสฺส ภตฺตํ ทาตุกามา, เจติยสฺส ปูชํ กาตุกามา, เอกสฺส ภิกฺขุโน ปริกฺขารํ ทาตุกามา, ตุมฺหากํ รุจิยา ทสฺสาม; ภณถ, กตฺถ เทมา’’ติ วทนฺติ. เอวํ วุตฺเต เตน ภิกฺขุนา ‘‘ยตฺถ อิจฺฉถ, ตตฺถ เทถา’’ติ วตฺตพฺพา. สเจ ปน เกวลํ ‘‘กตฺถ เทมา’’ติ ปุจฺฉนฺติ, ปาฬิยํ อาคตนเยเนว วตฺตพฺพํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

ติสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย

ปริณตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิโต ปตฺตวคฺโค ตติโย.

นิสฺสคฺคิยวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปาราชิกกณฺฑ-อฏฺกถา นิฏฺิตา.