📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
วินยปิฏเก
ปาราชิกกณฺฑ-อฏฺกถา (ทุติโย ภาโค)
๓. ตติยปาราชิกํ
ตติยํ ¶ ¶ ¶ ตีหิ สุทฺเธน, ยํ พุทฺเธน วิภาวิตํ;
ปาราชิกํ ตสฺส ทานิ, ปตฺโต สํวณฺณนากฺกโม.
ยสฺมา ตสฺมา สุวิฺเยฺยํ, ยํ ปุพฺเพ จ ปกาสิตํ;
ตํ วชฺชยิตฺวา อสฺสาปิ, โหติ สํวณฺณนา อยํ.
ปมปฺตฺตินิทานวณฺณนา
๑๖๒. เตน ¶ สมเยน พุทฺโธ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายนฺติ เอตฺถ เวสาลิยนฺติ เอวํนามเก อิตฺถิลิงฺควเสน ปวตฺตโวหาเร นคเร. ตฺหิ นครํ ติกฺขตฺตุํ ปาการปริกฺเขปวฑฺฒเนน วิสาลีภูตตฺตา ‘‘เวสาลี’’ติ วุจฺจติ. อิทมฺปิ จ นครํ สพฺพฺุตปฺปตฺเตเยว สมฺมาสมฺพุทฺเธ สพฺพากาเรน เวปุลฺลํ ปตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ โคจรคามํ ทสฺเสตฺวา นิวาสฏฺาน มาห – ‘‘มหาวเน กูฏาคารสาลาย’’นฺติ. ตตฺถ มหาวนํ นาม สยํชาตํ อโรปิมํ สปริจฺเฉทํ มหนฺตํ วนํ. กปิลวตฺถุสามนฺตา ปน มหาวนํ หิมวนฺเตน สห เอกาพทฺธํ อปริจฺเฉทํ หุตฺวา มหาสมุทฺทํ อาหจฺจ ิตํ. อิทํ ตาทิสํ น โหติ, สปริจฺเฉทํ มหนฺตํ วนนฺติ มหาวนํ. กูฏาคารสาลา ปน มหาวนํ ¶ นิสฺสาย กเต อาราเม กูฏาคารํ อนฺโต กตฺวา หํสวฏฺฏกจฺฉทเนน กตา สพฺพาการสมฺปนฺนา พุทฺธสฺส ภควโต คนฺธกุฏิ เวทิตพฺพา.
อเนกปริยาเยน อสุภกถํ กเถตีติ อเนเกหิ การเณหิ อสุภาการสนฺทสฺสนปฺปวตฺตํ กายวิจฺฉนฺทนิยกถํ กเถติ. เสยฺยถิทํ – ‘‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา…เป. ¶ … มุตฺต’’นฺติ. กึ วุตฺตํ โหติ? ภิกฺขเว, อิมสฺมึ พฺยามมตฺเต กเฬวเร สพฺพากาเรนปิ วิจินนฺโต น โกจิ กิฺจิ มุตฺตํ วา มณึ วา เวฬุริยํ วา อครุํ วา จนฺทนํ วา กุงฺกุมํ วา กปฺปูรํ วา วาสจุณฺณาทีนิ วา อณุมตฺตมฺปิ สุจิภาวํ ปสฺสติ. อถ โข ปรมทุคฺคนฺธํ เชคุจฺฉํ อสฺสิรีกทสฺสนํ เกสโลมาทินานปฺปการํ อสุจึเยว ปสฺสติ. ตสฺมา น เอตฺถ ฉนฺโท วา ราโค วา กรณีโย. เยปิ หิ อุตฺตมงฺเค สิรสฺมึ ชาตา เกสา นาม, เตปิ อสุภา เจว อสุจิโน จ ปฏิกฺกูลา จ. โส จ เนสํ อสุภาสุจิปฏิกฺกูลภาโว วณฺณโตปิ สณฺานโตปิ คนฺธโตปิ อาสยโตปิ โอกาสโตปีติ ปฺจหิ การเณหิ เวทิตพฺโพ. เอวํ โลมาทีนนฺติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๘๒) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. อิติ ภควา เอกเมกสฺมึ โกฏฺาเส ปฺจปฺจปฺปเภเทน อเนกปริยาเยน อสุภกถํ กเถติ.
อสุภาย วณฺณํ ภาสตีติ อุทฺธุมาตกาทิวเสน อสุภมาติกํ นิกฺขิปิตฺวา ปทภาชนีเยน ตํ วิภชนฺโต วณฺเณนฺโต สํวณฺเณนฺโต อสุภาย วณฺณํ ภาสติ. อสุภภาวนาย วณฺณํ ภาสตีติ ยา อยํ เกสาทีสุ วา อุทฺธุมาตกาทีสุ วา อชฺฌตฺตพหิทฺธาวตฺถูสุ อสุภาการํ คเหตฺวา ปวตฺตสฺส จิตฺตสฺส ภาวนา วฑฺฒนา ผาติกมฺมํ, ตสฺสา อสุภภาวนาย อานิสํสํ ทสฺเสนฺโต วณฺณํ ภาสติ, คุณํ ปริกิตฺเตติ. เสยฺยถิทํ – ‘‘อสุภภาวนาภิยุตฺโต, ภิกฺขเว ¶ , ภิกฺขุ เกสาทีสุ วา วตฺถูสุ อุทฺธุมาตกาทีสุ วา ปฺจงฺควิปฺปหีนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ ติวิธกลฺยาณํ ทสลกฺขณสมฺปนฺนํ ปมํ ฌานํ ¶ ปฏิลภติ. โส ตํ ปมชฺฌานสงฺขาตํ จิตฺตมฺชูสํ นิสฺสาย วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อุตฺตมตฺถํ อรหตฺตํ ปาปุณาตี’’ติ.
ตตฺริมานิ ¶ ปมสฺส ฌานสฺส ทส ลกฺขณานิ – ปาริปนฺถิกโต จิตฺตวิสุทฺธิ, มชฺฌิมสฺส สมาธินิมิตฺตสฺส ปฏิปตฺติ, ตตฺถ จิตฺตปกฺขนฺทนํ, วิสุทฺธสฺส จิตฺตสฺส อชฺฌุเปกฺขนํ, สมถปฺปฏิปนฺนสฺส อชฺฌุเปกฺขนํ, เอกตฺตุปฏฺานสฺส อชฺฌุเปกฺขนํ, ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนฏฺเน สมฺปหํสนา, อินฺทฺริยานํ เอกรสฏฺเน ตทุปควีริยวาหนฏฺเน อาเสวนฏฺเน สมฺปหํสนาติ.
ตตฺรายํ ปาฬิ – ‘‘ปมสฺส ฌานสฺส โก อาทิ, กึ มชฺเฌ, กึ ปริโยสานํ? ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ, อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ, สมฺปหํสนา ปริโยสานํ. ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ, อาทิสฺส กติ ลกฺขณานิ? อาทิสฺส ตีณิ ลกฺขณานิ – โย ตสฺส ปริปนฺโถ ตโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ, วิสุทฺธตฺตา จิตฺตํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ, ปฏิปนฺนตฺตา ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. ยฺจ ปริปนฺถโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ, ยฺจ วิสุทฺธตฺตา จิตฺตํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ, ยฺจ ปฏิปนฺนตฺตา ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ, อาทิสฺส อิมานิ ตีณิ ลกฺขณานิ. เตน วุจฺจติ – ‘ปมํ ฌานํ อาทิกลฺยาณฺเจว โหติ ติลกฺขณสมฺปนฺนฺจ’.
‘‘ปมสฺส ฌานสฺส อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ, มชฺฌสฺส กติ ลกฺขณานิ? มชฺฌสฺส ตีณิ ลกฺขณานิ – วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ, สมถปฺปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ, เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ. ยฺจ วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ, ยฺจ สมถปฺปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ ¶ , ยฺจ เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ. ปมสฺส ฌานสฺส อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ, มชฺฌสฺส อิมานิ ตีณิ ลกฺขณานิ. เตน วุจฺจติ – ‘ปมํ ฌานํ มชฺเฌกลฺยาณฺเจว โหติ ติลกฺขณสมฺปนฺนฺจ’.
‘‘ปมสฺส ฌานสฺส สมฺปหํสนา ปริโยสานํ, ปริโยสานสฺส กติ ลกฺขณานิ? ปริโยสานสฺส จตฺตาริ ลกฺขณานิ – ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนฏฺเน สมฺปหํสนา, อินฺทฺริยานํ เอกรสฏฺเน สมฺปหํสนา, ตทุปควีริยวาหนฏฺเน สมฺปหํสนา, อาเสวนฏฺเน สมฺปหํสนา. ปมสฺส ฌานสฺส สมฺปหํสนา ปริโยสานํ, ปริโยสานสฺส อิมานิ จตฺตาริ ลกฺขณานิ ¶ . เตน วุจฺจติ – ‘ปมํ ฌานํ ปริโยสานกลฺยาณฺเจว โหติ จตุลกฺขณสมฺปนฺนฺจ. ‘‘เอวํ ติวิธตฺตคตํ จิตฺตํ ติวิธกลฺยาณกํ ทสลกฺขณสมฺปนฺนํ ¶ วิตกฺกสมฺปนฺนฺเจว โหติ วิจารสมฺปนฺนฺจ ปีติสมฺปนฺนฺจ สุขสมฺปนฺนฺจ จิตฺตสฺส อธิฏฺานสมฺปนฺนฺจ สทฺธาสมฺปนฺนฺจ วีริยสมฺปนฺนฺจ สติสมฺปนฺนฺจ สมาธิสมฺปนฺนฺจ ปฺาสมฺปนฺนฺจา’’ติ (ปฏิ. โร. ๑.๑๕๘).
อาทิสฺส อาทิสฺส อสุภสมาปตฺติยา วณฺณํ ภาสตีติ ‘‘เอวมฺปิ อิตฺถมฺปี’’ติ ปุนปฺปุนํ ววตฺถานํ กตฺวา อาทิสนฺโต อสุภสมาปตฺติยา วณฺณํ ภาสติ, อานิสํสํ กเถติ, คุณํ ปริกิตฺเตติ. เสยฺยถิทํ – ‘‘อสุภสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต เมถุนธมฺมสมาปตฺติยา จิตฺตํ ปฏิลียติ ปฏิกุฏติ ปฏิวฏฺฏติ, น สมฺปสารียติ, อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กุกฺกุฏปตฺตํ วา นฺหารุททฺทุลํ วา อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตํ ปฏิลียติ ปฏิกุฏติ ปฏิวฏฺฏติ, น สมฺปสารียติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อสุภสฺาปริจิเตน ภิกฺขุโน ¶ เจตสา พหุลํ วิหรโต เมถุนธมฺมสมาปตฺติยา จิตฺตํ ปฏิลียติ ปฏิกุฏติ ปฏิวฏฺฏติ, น สมฺปสารียตี’’ติ (อ. นิ. ๗.๔๙).
อิจฺฉามหํ, ภิกฺขเว, อทฺธมาสํ ปฏิสลฺลียิตุนฺติ อหํ ภิกฺขเว เอกํ อทฺธมาสํ ปฏิสลฺลียิตุํ นิลียิตุํ เอโกว หุตฺวา วิหริตุํ อิจฺฉามีติ อตฺโถ. นมฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อฺตฺร เอเกน ปิณฺฑปาตนีหารเกนาติ โย อตฺตนา ปยุตฺตวาจํ อกตฺวา มมตฺถาย สทฺเธสุ กุเลสุ ปฏิยตฺตํ ปิณฺฑปาตํ นีหริตฺวา มยฺหํ อุปนาเมติ, ตํ ปิณฺฑปาตนีหารกํ เอกํ ภิกฺขุํ เปตฺวา นมฺหิ อฺเน เกนจิ ภิกฺขุนา วา คหฏฺเน วา อุปสงฺกมิตพฺโพติ.
กสฺมา ปน เอวมาหาติ? อตีเต กิร ปฺจสตา มิคลุทฺทกา มหตีหิ ทณฺฑวาคุราหิ อรฺํ ปริกฺขิปิตฺวา หฏฺตุฏฺา เอกโตเยว ยาวชีวํ มิคปกฺขิฆาตกมฺเมน ชีวิกํ กปฺเปตฺวา นิรเย อุปปนฺนา; เต ตตฺถ ปจฺจิตฺวา ปุพฺเพ กเตน เกนจิเทว กุสลกมฺเมน มนุสฺเสสุ อุปปนฺนา กลฺยาณูปนิสฺสยวเสน สพฺเพปิ ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชฺจ อุปสมฺปทฺจ ลภึสุ; เตสํ ตโต มูลากุสลกมฺมโต อวิปกฺกวิปากา อปราปรเจตนา ตสฺมึ อทฺธมาสพฺภนฺตเร อตฺตูปกฺกเมน จ ปรูปกฺกเมน จ ชีวตุปจฺเฉทาย โอกาสมกาสิ, ตํ ภควา อทฺทส. กมฺมวิปาโก นาม น สกฺกา เกนจิ ปฏิพาหิตุํ. เตสุ จ ภิกฺขูสุ ปุถุชฺชนาปิ อตฺถิ โสตาปนฺนสกทาคามีอนาคามีขีณาสวาปิ. ตตฺถ ขีณาสวา อปฺปฏิสนฺธิกา, อิตเร อริยสาวกา ¶ นิยตคติกา สุคติปรายณา, ปุถุชฺชนานํ ปน คติ อนิยตา. อถ ภควา จินฺเตสิ ¶ – ‘‘อิเม อตฺตภาเว ฉนฺทราเคน มรณภยภีตา น สกฺขิสฺสนฺติ คตึ วิโสเธตุํ, หนฺท เนสํ ฉนฺทราคปฺปหานาย อสุภกถํ กเถมิ. ตํ สุตฺวา อตฺตภาเว วิคตจฺฉนฺทราคตาย คติวิโสธนํ กตฺวา สคฺเค ปฏิสนฺธึ คณฺหิสฺสนฺติ. เอวํ เนสํ มม สนฺติเก ปพฺพชฺชา สาตฺถิกา ¶ ภวิสฺสตี’’ติ.
ตโต เตสํ อนุคฺคหาย อสุภกถํ กเถสิ กมฺมฏฺานสีเสน, โน มรณวณฺณสํวณฺณนาธิปฺปาเยน. กเถตฺวา จ ปนสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สเจ มํ อิมํ อทฺธมาสํ ภิกฺขู ปสฺสิสฺสนฺติ, ‘อชฺช เอโก ภิกฺขุ มโต, อชฺช ทฺเว…เป… อชฺช ทสา’ติ อาคนฺตฺวา อาคนฺตฺวา อาโรเจสฺสนฺติ. อยฺจ กมฺมวิปาโก น สกฺกา มยา วา อฺเน วา ปฏิพาหิตุํ. สฺวาหํ ตํ สุตฺวาปิ กึ กริสฺสามิ? กึ เม อนตฺถเกน อนยพฺยสเนน สุเตน? หนฺทาหํ ภิกฺขูนํ อทสฺสนํ อุปคจฺฉามี’’ติ. ตสฺมา เอวมาห – ‘‘อิจฺฉามหํ, ภิกฺขเว, อทฺธมาสํ ปติสลฺลียิตุํ; นมฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อฺตฺร เอเกน ปิณฺฑปาตนีหารเกนา’’ติ.
อปเร ปนาหุ – ‘‘ปรูปวาทวิวชฺชนตฺถํ เอวํ วตฺวา ปฏิสลฺลีโน’’ติ. ปเร กิร ภควนฺตํ อุปวทิสฺสนฺติ – ‘‘อยํ ‘สพฺพฺู, อหํ สทฺธมฺมวรจกฺกวตฺตี’ติ ปฏิชานมาโน อตฺตโนปิ สาวเก อฺมฺํ ฆาเตนฺเต นิวาเรตุํ น สกฺโกติ. กิมฺํ สกฺขิสฺสตี’’ติ? ตตฺถ ปณฺฑิตา วกฺขนฺติ – ‘‘ภควา ปฏิสลฺลานมนุยุตฺโต นยิมํ ปวตฺตึ ชานาติ, โกจิสฺส อาโรจยิตาปิ นตฺถิ, สเจ ชาเนยฺย อทฺธา นิวาเรยฺยา’’ติ. อิทํ ปน อิจฺฉามตฺตํ, ปมเมเวตฺถ การณํ. นาสฺสุธาติ เอตฺถ ‘‘อสฺสุธา’’ติ ปทปูรณมตฺเต อวธารณตฺเถ วา นิปาโต; เนว โกจิ ภควนฺตํ อุปสงฺกมตีติ อตฺโถ.
อเนเกหิ วณฺณสณฺานาทีหิ การเณหิ โวกาโร อสฺสาติ อเนกาการโวกาโร; อเนกาการโวกิณฺโณ อเนกการณสมฺมิสฺโสติ วุตฺตํ โหติ. โก โส? อสุภภาวนานุโยโค, ตํ อเนกาการโวการํ อสุภภาวนานุโยคํ อนุยุตฺตา วิหรนฺตีติ ยุตฺตปยุตฺตา วิหรนฺติ. อฏฺฏียนฺตีติ สเกน กาเยน อฏฺฏา ทุกฺขิตา โหนฺติ ¶ . หรายนฺตีติ ลชฺชนฺติ. ชิคุจฺฉนฺตีติ สฺชาตชิคุจฺฉา โหนฺติ. ทหโรติ ตรุโณ. ยุวาติ โยพฺพเนน สมนฺนาคโต. มณฺฑนกชาติโกติ มณฺฑนกปกติโก. สีสํนฺหาโตติ ¶ สีเสน สทฺธึ นฺหาโต. ทหโร ยุวาติ เจตฺถ ทหรวจเนน ปมโยพฺพนภาวํ ทสฺเสติ. ปมโยพฺพเน หิ สตฺตา วิเสเสน มณฺฑนกชาติกา โหนฺติ. สีสํนฺหาโตติ อิมินา มณฺฑนานุโยคกาลํ. ยุวาปิ หิ กิฺจิ กมฺมํ กตฺวา สํกิลิฏฺสรีโร น ¶ มณฺฑนานุยุตฺโต โหติ; สีสํนฺหาโต ปน โส มณฺฑนเมวานุยฺุชติ. อหิกุณปาทีนิ ทฏฺุมฺปิ น อิจฺฉติ. โส ตสฺมึ ขเณ อหิกุณเปน วา กุกฺกุรกุณเปน วา มนุสฺสกุณเปน วา กณฺเ อาสตฺเตน เกนจิเทว ปจฺจตฺถิเกน อาเนตฺวา กณฺเ พทฺเธน ปฏิมุกฺเกน ยถา อฏฺฏีเยยฺย หราเยยฺย ชิคุจฺเฉยฺย; เอวเมว เต ภิกฺขู สเกน กาเยน อฏฺฏียนฺตา หรายนฺตา ชิคุจฺฉนฺตา โส วิย ปุริโส ตํ กุณปํ วิคตจฺฉนฺทราคตาย อตฺตโน กายํ ปริจฺจชิตุกามา หุตฺวา สตฺถํ อาทาย อตฺตนาปิ อตฺตานํ ชีวิตา โวโรเปนฺติ. ‘‘ตฺวํ มํ ชีวิตา โวโรเปหิ; อหํ ต’’นฺติ เอวํ อฺมฺมฺปิ ชีวิตา โวโรเปนฺติ.
มิคลณฺฑิกมฺปิ สมณกุตฺตกนฺติ มิคลณฺฑิโกติ ตสฺส นามํ; สมณกุตฺตโกติ สมณเวสธารโก. โส กิร สิขามตฺตํ เปตฺวา สีสํ มุณฺเฑตฺวา เอกํ กาสาวํ นิวาเสตฺวา เอกํ อํเส กตฺวา วิหารํเยว อุปนิสฺสาย วิฆาสาทภาเวน ชีวติ. ตมฺปิ มิคลณฺฑิกํ สมณกุตฺตกํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทนฺติ. สาธูติ อายาจนตฺเถ นิปาโต. โนติ อุปโยคพหุวจนํ, สาธุ อาวุโส อมฺเห ชีวิตา โวโรเปหีติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ จ อริยา เนว ปาณาติปาตํ กรึสุ น สมาทเปสุํ, น สมนฺุา อเหสุํ. ปุถุชฺชนา ปน สพฺพมกํสุ. โลหิตกนฺติ โลหิตมกฺขิตํ. เยน วคฺคุมุทานทีติ วคฺคุมตา โลกสฺส ปฺุสมฺมตา นที. โสปิ กิร ‘‘ตํ ปาปํ ตตฺถ ปวาเหสฺสามี’’ติ สฺาย คโต, นทิยา อานุภาเวน อปฺปมตฺตกมฺปิ ปาปํ ปหีนํ นาม นตฺถิ.
๑๖๓. อหุเทว กุกฺกุจฺจนฺติ เตสุ กิร ภิกฺขูสุ เกนจิปิ กายวิกาโร วา ¶ วจีวิกาโร วา น กโต, สพฺเพ สตา สมฺปชานา ทกฺขิเณน ปสฺเสน นิปชฺชึสุ. ตํ อนุสฺสรโต ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิเยว. อหุ วิปฺปฏิสาโรติ ตสฺเสว กุกฺกุจฺจสฺส สภาวนิยมนตฺถเมตํ วุตฺตํ ¶ . วิปฺปฏิสารกุกฺกุจฺจํ อโหสิ, น วินยกุกฺกุจฺจนฺติ. อลาภา วต เมติอาทิ กุกฺกุจฺจสฺส ปวตฺติอาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ อลาภา วต เมติ อายตึ ทานิ มม หิตสุขลาภา นาม นตฺถีติ อนุตฺถุนาติ. ‘‘น วต เม ลาภา’’ติอิมินา ปน ตเมวตฺถํ ทฬฺหํ กโรติ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – สเจปิ โกจิ ‘‘ลาภา เต’’ติ วเทยฺย, ตํ มิจฺฉา, น วต เม ลาภาติ. ทุลฺลทฺธํ วต เมติ กุสลานุภาเวน ลทฺธมฺปิ อิทํ มนุสฺสตฺตํ ทุลฺลทฺธํ วต เม. น วต เม สุลทฺธนฺติอิมินา ปน ตเมวตฺถํ ทฬฺหํ กโรติ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – สเจปิ โกจิ ‘‘สุลทฺธํ เต’’ติ วเทยฺย, ตํ มิจฺฉา; น วต เม สุลทฺธนฺติ. อปฺุํ ปสุตนฺติ อปฺุํ อุปจิตํ ชนิตํ วา. กสฺมาติ เจ? โยหํ ภิกฺขู…เป… โวโรเปสินฺติ ¶ . ตสฺสตฺโถ – โย อหํ สีลวนฺเต ตาย เอว สีลวนฺตตาย กลฺยาณธมฺเม อุตฺตมธมฺเม เสฏฺธมฺเม ภิกฺขู ชีวิตา โวโรเปสินฺติ.
อฺตรา มารกายิกาติ นามวเสน อปากฏา เอกา ภุมฺมเทวตา มิจฺฉาทิฏฺิกา มารปกฺขิกา มารสฺสนุวตฺติกา ‘‘เอวมยํ มารเธยฺยํ มารวิสยํ นาติกฺกมิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา สพฺพาภรณวิภูสิตา หุตฺวา อตฺตโน อานุภาวํ ทสฺสยมานา อภิชฺชมาเน อุทเก ปถวีตเล จงฺกมมานา วิย อาคนฺตฺวา มิคลณฺฑิกํ สมณกุตฺตกํ เอตทโวจ. สาธุ สาธูติ สมฺปหํสนตฺเถ นิปาโต; ตสฺมา เอว ทฺวิวจนํ ¶ กตํ. อติณฺเณ ตาเรสีติ สํสารโต อติณฺเณ อิมินา ชีวิตาโวโรปเนน ตาเรสิ ปริโมเจสีติ. อยํ กิร เอติสฺสา เทวตาย พาลาย ทุมฺเมธาย ลทฺธิ ‘‘เย น มตา, เต สํสารโต น มุตฺตา. เย มตา, เต มุตฺตา’’ติ. ตสฺมา สํสารโมจกมิลกฺขา วิย เอวํลทฺธิกา หุตฺวา ตมฺปิ ตตฺถ นิโยเชนฺตี เอวมาห. อถ โข มิคลณฺฑิโก สมณกุตฺตโก ตาว ภุสํ อุปฺปนฺนวิปฺปฏิสาโรปิ ตํ เทวตาย อานุภาวํ ทิสฺวา ‘‘อยํ เทวตา เอวมาห – อทฺธา อิมินา อตฺเถน เอวเมว ภวิตพฺพ’’นฺติ นิฏฺํ คนฺตฺวา ‘‘ลาภา กิร เม’’ติอาทีนิ ปริกิตฺตยนฺโต. วิหาเรน วิหารํ ปริเวเณน ปริเวณํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทตีติ ตํ ตํ วิหารฺจ ปริเวณฺจ อุปสงฺกมิตฺวา ทฺวารํ วิวริตฺวา อนฺโต ปวิสิตฺวา ภิกฺขู เอวํ วทติ – ‘‘โก อติณฺโณ, กํ ตาเรมี’’ติ?
โหติเยว ¶ ภยนฺติ มรณํ ปฏิจฺจ จิตฺตุตฺราโส โหติ. โหติ ฉมฺภิตตฺตนฺติ หทยมํสํ อาทึ กตฺวา ตสฺมา สรีรจลนํ โหติ; อติภเยน ถทฺธสรีรตฺตนฺติปิ เอเก, ถมฺภิตตฺตฺหิ ฉมฺภิตตฺตนฺติ วุจฺจติ. โลมหํโสติ อุทฺธํิตโลมตา, ขีณาสวา ปน สตฺตสฺุตาย สุทิฏฺตฺตา มรณกสตฺตเมว น ปสฺสนฺติ, ตสฺมา เตสํ สพฺพมฺเปตํ นาโหสีติ เวทิตพฺพํ. เอกมฺปิ ภิกฺขุํ ทฺเวปิ…เป… สฏฺิมฺปิ ภิกฺขู เอกาเหน ชีวิตา โวโรเปสีติ เอวํ คณนวเสน สพฺพานิปิ ตานิ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ ชีวิตา โวโรเปสิ.
๑๖๔. ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ เตสํ ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ ชีวิตกฺขยปตฺตภาวํ ตฺวา ตโต เอกีภาวโต วุฏฺิโต ชานนฺโตปิ อชานนฺโต วิย กถาสมุฏฺาปนตฺถํ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ. กึ นุ โข อานนฺท ตนุภูโต วิย ภิกฺขุสงฺโฆติ อานนฺท อิโต ปุพฺเพ พหู ภิกฺขู เอกโต อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺติ, อุทฺเทสํ ปริปุจฺฉํ คณฺหนฺติ สชฺฌายนฺติ, เอกปชฺโชโต วิย อาราโม ทิสฺสติ, อิทานิ ปน อทฺธมาสมตฺตสฺส อจฺจเยน ¶ ตนุภูโต วิย ตนุโก มนฺโท ¶ อปฺปโก วิรฬวิรโฬ วิย ชาโต ภิกฺขุสงฺโฆ. กินฺนุ โข การณํ, กึ ทิสาสุ ปกฺกนฺตา ภิกฺขูติ?
อถายสฺมา อานนฺโท กมฺมวิปาเกน เตสํ ชีวิตกฺขยปฺปตฺตึ อสลฺลกฺเขนฺโต อสุภกมฺมฏฺานานุโยคปจฺจยา ปน สลฺลกฺเขนฺโต ‘‘ตถา หิ ปน ภนฺเต ภควา’’ติอาทึ วตฺวา ภิกฺขูนํ อรหตฺตปฺปตฺติยา อฺํ กมฺมฏฺานํ ยาจนฺโต ‘‘สาธุ ภนฺเต ภควา’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – สาธุ ภนฺเต ภควา อฺํ การณํ อาจิกฺขตุ, เยน ภิกฺขุสงฺโฆ อรหตฺเต ปติฏฺเหยฺย; มหาสมุทฺทํ โอโรหณติตฺถานิ วิย หิ อฺานิปิ ทสานุสฺสติทสกสิณจตุธาตุววตฺถานพฺรหฺมวิหารานาปานสติปฺปเภทานิ พหูนิ นิพฺพาโนโรหณกมฺมฏฺานานิ สนฺติ. เตสุ ภควา ภิกฺขู สมสฺสาเสตฺวา อฺตรํ กมฺมฏฺานํ อาจิกฺขตูติ อธิปฺปาโย.
อถ ภควา ตถา กาตุกาโม เถรํ อุยฺโยเชนฺโต ‘‘เตนหานนฺทา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เวสาลึ อุปนิสฺสายาติ เวสาลึ อุปนิสฺสาย สมนฺตา คาวุเตปิ อทฺธโยชเนปิ ยาวติกา ภิกฺขู วิหรนฺติ ¶ , เต สพฺเพ สนฺนิปาเตหีติ อตฺโถ. เต สพฺเพ อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิปาเตตฺวาติ อตฺตนา คนฺตุํ ยุตฺตฏฺานํ สยํ คนฺตฺวา อฺตฺถ ทหรภิกฺขู ปหิณิตฺวา มุหุตฺเตเนว อนวเสเส ภิกฺขู อุปฏฺานสาลายํ สมูหํ กตฺวา. ยสฺส ทานิ ภนฺเต ภควา กาลํ มฺตีติ เอตฺถ อยมธิปฺปาโย – ภควา ภิกฺขุสงฺโฆ สนฺนิปติโต เอส กาโล ภิกฺขูนํ ธมฺมกถํ กาตุํ, อนุสาสนึ ทาตุํ, อิทานิ ยสฺส ตุมฺเห กาลํ ชานาถ, ตํ กตฺตพฺพนฺติ.
อานาปานสฺสติสมาธิกถา
๑๖๕. อถ โข ภควา…เป… ภิกฺขู อามนฺเตสิ – อยมฺปิ โข ภิกฺขเวติ อามนฺเตตฺวา จ ปน ภิกฺขูนํ อรหตฺตปฺปตฺติยา ปุพฺเพ อาจิกฺขิตอสุภกมฺมฏฺานโต อฺํ ปริยายํ ¶ อาจิกฺขนฺโต ‘‘อานาปานสฺสติสมาธี’’ติ อาห.
อิทานิ ยสฺมา ภควตา ภิกฺขูนํ สนฺตปณีตกมฺมฏฺานทสฺสนตฺถเมว อยํ ปาฬิ วุตฺตา, ตสฺมา อปริหาเปตฺวา อตฺถโยชนากฺกมํ เอตฺถ วณฺณนํ กริสฺสามิ. ตตฺร ‘‘อยมฺปิ โข ภิกฺขเว’’ติ อิมสฺส ตาว ปทสฺส อยํ โยชนา – ภิกฺขเว น เกวลํ อสุภภาวนาเยว กิเลสปฺปหานาย สํวตฺตติ, อปิจ อยมฺปิ โข อานาปานสฺสติสมาธิ…เป… วูปสเมตีติ.
อยํ ¶ ปเนตฺถ อตฺถวณฺณนา – อานาปานสฺสตีติ อสฺสาสปสฺสาสปริคฺคาหิกา สติ. วุตฺตฺเหตํ ปฏิสมฺภิทายํ –
‘‘อานนฺติ อสฺสาโส, โน ปสฺสาโส. อปานนฺติ ปสฺสาโส, โน อสฺสาโส. อสฺสาสวเสน อุปฏฺานํ สติ, ปสฺสาสวเสน อุปฏฺานํ สติ. โย อสฺสสติ ตสฺสุปฏฺาติ, โย ปสฺสสติ ตสฺสุปฏฺาตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๐).
สมาธีติ ตาย อานาปานปริคฺคาหิกาย สติยา สทฺธึ อุปฺปนฺนา จิตฺเตกคฺคตา; สมาธิสีเสน จายํ เทสนา, น สติสีเสน. ตสฺมา อานาปานสฺสติยา ยุตฺโต สมาธิ อานาปานสฺสติสมาธิ, อานาปานสฺสติยํ วา สมาธิ อานาปานสฺสติสมาธีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ภาวิโตติ อุปฺปาทิโต วฑฺฒิโต จ. พหุลีกโตติ ปุนปฺปุนํ ¶ กโต. สนฺโต เจว ปณีโต จาติ สนฺโต เจว ปณีโต เจว, อุภยตฺถ เอวสทฺเทน นิยโม เวทิตพฺโพ. กึ วุตฺตํ โหติ? อยฺหิ ยถา อสุภกมฺมฏฺานํ เกวลํ ปฏิเวธวเสน สนฺตฺจ ปณีตฺจ โอฬาริการมฺมณตฺตา ปน ปฏิกูลารมฺมณตฺตา จ อารมฺมณวเสน เนว สนฺตํ น ปณีตํ, น เอวํ เกนจิ ปริยาเยน อสนฺโต วา อปฺปณีโต วา, อปิจ โข อารมฺมณสนฺตตายปิ สนฺโต วูปสนฺโต นิพฺพุโต ปฏิเวธสงฺขาตองฺคสนฺตตายปิ อารมฺมณปฺปณีตตายปิ ปณีโต อติตฺติกโร องฺคปฺปณีตตายปีติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สนฺโต เจว ปณีโต จา’’ติ.
อเสจนโก จ สุโข จ วิหาโรติ เอตฺถ ปน นาสฺส เสจนนฺติ อเสจนโก อนาสิตฺตโก อพฺโพกิณฺโณ ¶ ปาเฏกฺโก อาเวณิโก, นตฺเถตฺถ ปริกมฺเมน วา อุปจาเรน วา สนฺตตา อาทิมนสิการโต ปภุติ อตฺตโน สภาเวเนว สนฺโต จ ปณีโต จาติ อตฺโถ. เกจิ ปน อเสจนโกติ อนาสิตฺตโก โอชวนฺโต สภาเวเนว มธุโรติ วทนฺติ. เอวมยํ อเสจนโก จ อปฺปิตปฺปิตกฺขเณ กายิกเจตสิกสุขปฺปฏิลาภาย สํวตฺตนโต สุโข จ วิหาโรติ เวทิตพฺโพ.
อุปฺปนฺนุปฺปนฺเนติ อวิกฺขมฺภิเต อวิกฺขมฺภิเต. ปาปเกติ ลามเก. อกุสเล ธมฺเมติ อโกสลฺลสมฺภูเต ธมฺเม. านโส อนฺตรธาเปตีติ ขเณเนว อนฺตรธาเปติ วิกฺขมฺเภติ. วูปสเมตีติ สุฏฺุ อุปสเมติ, นิพฺเพธภาคิยตฺตา วา อนุปุพฺเพน อริยมคฺควุฑฺฒิปฺปโต สมุจฺฉินฺทติ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตีติปิ อตฺโถ.
เสยฺยถาปีติ ¶ โอปมฺมนิทสฺสนเมตํ. คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเสติ อาสาฬฺหมาเส. อูหตํ รโชชลฺลนฺติ อทฺธมาเส วาตาตปสุกฺขาย โคมหึสาทิปาทปฺปหารสมฺภินฺนาย ปถวิยา อุทฺธํ หตํ อูหตํ อากาเส สมุฏฺิตํ รชฺจ เรณฺุจ. มหา อกาลเมโฆติ สพฺพํ นภํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อุฏฺิโต อาสาฬฺหชุณฺหปกฺเข สกลํ อทฺธมาสํ วสฺสนกเมโฆ. โส หิ อสมฺปตฺเต วสฺสกาเล อุปฺปนฺนตฺตา อกาลเมโฆติ อิธาธิปฺเปโต. านโส อนฺตรธาเปติ วูปสเมตีติ ขเณเนว ¶ อทสฺสนํ เนติ, ปถวิยํ สนฺนิสีทาเปติ. เอวเมว โขติ โอปมฺมสมฺปฏิปาทนเมตํ. ตโต ปรํ วุตฺตนยเมว.
อิทานิ กถํ ภาวิโต จ ภิกฺขเว อานาปานสฺสติสมาธีติ เอตฺถ กถนฺติ อานาปานสฺสติสมาธิภาวนํ นานปฺปการโต วิตฺถาเรตุกมฺยตาปุจฺฉา. ภาวิโต จ ภิกฺขเว อานาปานสฺสติสมาธีติ นานปฺปการโต วิตฺถาเรตุกมฺยตาย ปุฏฺธมฺมนิทสฺสนํ ¶ . เอส นโย ทุติยปเทปิ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ภิกฺขเว เกนปกาเรน เกนากาเรน เกน วิธินา ภาวิโต อานาปานสฺสติสมาธิ เกนปกาเรน พหุลีกโต สนฺโต เจว…เป… วูปสเมตีติ.
อิทานิ ตมตฺถํ วิตฺถาเรนฺโต ‘‘อิธ ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิธ ภิกฺขเว ภิกฺขูติ ภิกฺขเว อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขุ. อยฺเหตฺถ อิธสทฺโท สพฺพปฺปการอานาปานสฺสติสมาธินิพฺพตฺตกสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิสฺสยภูตสาสนปริทีปโน อฺสาสนสฺส ตถาภาวปฏิเสธโน จ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ…เป… สฺุา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อฺเหี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙). เตน วุตฺตํ – ‘‘อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขู’’ติ.
อรฺคโต วา…เป… สฺุาคารคโต วาติ อิทมสฺส อานาปานสฺสติสมาธิภาวนานุรูปเสนาสนปริคฺคหปริทีปนํ. อิมสฺส หิ ภิกฺขุโน ทีฆรตฺตํ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ อนุวิสฏํ จิตฺตํ อานาปานสฺสติสมาธิอารมฺมณํ อภิรุหิตุํ น อิจฺฉติ. กูฏโคณยุตฺตรโถ วิย อุปฺปถเมว ธาวติ. ตสฺมา เสยฺยถาปิ นาม โคโป กูฏเธนุยา สพฺพํ ขีรํ ปิวิตฺวา วฑฺฒิตํ กูฏวจฺฉํ ทเมตุกาโม เธนุโต อปเนตฺวา เอกมนฺเต มหนฺตํ ถมฺภํ นิขณิตฺวา ตตฺถ โยตฺเตน พนฺเธยฺย. อถสฺส โส วจฺโฉ อิโต จิโต จ วิปฺผนฺทิตฺวา ปลายิตุํ อสกฺโกนฺโต ตเมว ถมฺภํ อุปนิสีเทยฺย วา อุปนิปชฺเชยฺย วา; เอวเมว อิมินาปิ ภิกฺขุนา ทีฆรตฺตํ รูปารมฺมณาทิรสปานวฑฺฒิตํ ทุฏฺจิตฺตํ ทเมตุกาเมน รูปาทิอารมฺมณโต อปเนตฺวา อรฺํ วา…เป… สฺุาคารํ วา ปเวเสตฺวา ตตฺถ อสฺสาสปสฺสาสถมฺเภ สติโยตฺเตน พนฺธิตพฺพํ. เอวมสฺส ตํ จิตฺตํ อิโต จิโต จ วิปฺผนฺทิตฺวาปิ ปุพฺเพ อาจิณฺณารมฺมณํ อลภมานํ ¶ สติโยตฺตํ ฉินฺทิตฺวา ปลายิตุํ อสกฺโกนฺตํ ตเมวารมฺมณํ อุปจารปฺปนาวเสน อุปนิสีทติ เจว อุปนิปชฺชติ จ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ยถา ¶ ¶ ถมฺเภ นิพนฺเธยฺย, วจฺฉํ ทมฺมํ นโร อิธ;
พนฺเธยฺเยวํ สกํ จิตฺตํ, สติยารมฺมเณ ทฬฺห’’นฺติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๑๗; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๔; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๗; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๖๓);
เอวมสฺเสตํ เสนาสนํ ภาวนานุรูปํ โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อิทมสฺส อานาปานสฺสติสมอาธิภาวนานุรูปเสนาสนปริคฺคหปริทีปน’’นฺติ.
อถ วา ยสฺมา อิทํ กมฺมฏฺานปฺปเภเท มุทฺธภูตํ สพฺพฺุพุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกานํ วิเสสาธิคมทิฏฺธมฺมสุขวิหารปทฏฺานํ อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ อิตฺถิปุริสหตฺถิอสฺสาทิสทฺทสมากุลํ คามนฺตํ อปริจฺจชิตฺวา น สุกรํ สมฺปาเทตุํ, สทฺทกณฺฏกตฺตา ฌานสฺส. อคามเก ปน อรฺเ สุกรํ โยคาวจเรน อิทํ กมฺมฏฺานํ ปริคฺคเหตฺวา อานาปานจตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตเทว จ ปาทกํ กตฺวา สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อคฺคผลํ อรหตฺตํ สมฺปาปุณิตุํ, ตสฺมาสฺส อนุรูปํเสนาสนํ ทสฺเสนฺโต ภควา ‘‘อรฺคโต วา’’ติอาทิมาห.
วตฺถุวิชฺชาจริโย วิย หิ ภควา, โส ยถา วตฺถุวิชฺชาจริโย นครภูมึ ปสฺสิตฺวา สุฏฺุ อุปปริกฺขิตฺวา ‘‘เอตฺถ นครํ มาเปถา’’ติ อุปทิสติ, โสตฺถินา จ นคเร นิฏฺิเต ราชกุลโต มหาสกฺการํ ลภติ; เอวเมว โยคาวจรสฺส อนุรูปเสนาสนํ อุปปริกฺขิตฺวา เอตฺถ กมฺมฏฺานํ อนุยฺุชิตพฺพนฺติ อุปทิสติ. ตโต ตตฺถ กมฺมฏฺานํ อนุยุตฺเตน โยคินา กเมน อรหตฺเต ปตฺเต ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต โส ภควา’’ติ มหนฺตํ สกฺการํ ลภติ. อยํ ปน ภิกฺขุ ‘‘ทีปิสทิโส’’ติ วุจฺจติ. ยถา หิ มหาทีปิราชา อรฺเ ติณคหนํ วา วนคหนํ วา ปพฺพตคหนํ วา นิสฺสาย ¶ นิลียิตฺวา วนมหึสโคกณฺณสูกราทโย มิเค คณฺหาติ; เอวเมวายํ อรฺาทีสุ กมฺมฏฺานํ อนุยฺุชนฺโต ภิกฺขุ ยถากฺกเมน โสตาปตฺติสกทาคามิอนาคามิอรหตฺตมคฺเค เจว อริยผลฺจ คณฺหาตีติ เวทิตพฺโพ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ยถาปิ ¶ ทีปิโก นาม, นิลียิตฺวา คณฺหตี มิเค;
ตเถวายํ พุทฺธปุตฺโต, ยุตฺตโยโค วิปสฺสโก;
อรฺํ ปวิสิตฺวาน, คณฺหาติ ผลมุตฺตม’’นฺติ. (มิ. ป. ๖.๑.๕);
เตนสฺส ปรกฺกมชวโยคฺคภูมึ อรฺเสนาสนํ ทสฺเสนฺโต ภควา ‘‘อรฺคโต วา’’ติอาทิมาห.
ตตฺถ ¶ อรฺคโต วาติ อรฺนฺติ ‘‘นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ (วิภ. ๕๒๙) จ ‘‘อารฺกํ นาม เสนาสนํ ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปารา. ๖๕๓) จ เอวํ วุตฺตลกฺขเณสุ อรฺเสุ อนุรูปํ ยํกิฺจิ ปวิเวกสุขํ อรฺํ คโต. รุกฺขมูลคโต วาติ รุกฺขสมีปํ คโต. สฺุาคารคโต วาติ สฺุํ วิวิตฺโตกาสํ คโต. เอตฺถ จ เปตฺวา อรฺฺจ รุกฺขมูลฺจ อวเสสสตฺตวิธเสนาสนคโตปิ สฺุาคารคโตติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอวมสฺส อุตุตฺตยานุกูลํ ธาตุจริยานุกูลฺจ อานาปานสฺสติภาวนานุรูปํ เสนาสนํ อุปทิสิตฺวา อลีนานุทฺธจฺจปกฺขิกํ สนฺตมิริยาปถํ อุปทิสนฺโต ‘‘นิสีทตี’’ติ อาห. อถสฺส นิสชฺชาย ทฬฺหภาวํ อสฺสาสปสฺสาสานํ ปวตฺตนสุขตํ อารมฺมณปริคฺคหูปายฺจ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา’’ติอาทิมาห.
ตตฺถ ปลฺลงฺกนฺติ สมนฺตโต อูรุพทฺธาสนํ. อาภุชิตฺวาติ อาพนฺธิตฺวา. อุชุํ กายํ ปณิธายาติ อุปริมํ สรีรํ ¶ อุชุกํ เปตฺวา, อฏฺารส ปิฏฺิกณฺฏเก โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาเทตฺวา. เอวฺหิ นิสินฺนสฺส จมฺมมํสนฺหารูนิ น ปณมนฺติ. อถสฺส ยา เตสํ ปณมนปฺปจฺจยา ขเณ ขเณ เวทนา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ตา น อุปฺปชฺชนฺติ. ตาสุ อนุปฺปชฺชมานาสุ จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. กมฺมฏฺานํ น ปริปตติ. วุฑฺฒึ ผาตึ อุปคจฺฉติ.
ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวาติ กมฺมฏฺานาภิมุขํ สตึ ปยิตฺวา. อถ วา ‘‘ปรี’’ติ ปริคฺคหฏฺโ; ‘‘มุข’’นฺติ นิยฺยานฏฺโ; ‘‘สตี’’ติ อุปฏฺานฏฺโ; เตน วุจฺจติ – ‘‘ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ. เอวํ ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๔-๑๖๕) วุตฺตนเยนเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตตฺรายํ สงฺเขโป – ‘‘ปริคฺคหิตนิยฺยานํ สตึ กตฺวา’’ติ. โส สโตว อสฺสสตีติ โส ภิกฺขุ เอวํ นิสีทิตฺวา เอวฺจ สตึ อุปฏฺเปตฺวา ตํ สตึ อวิชหนฺโต สโตเอว อสฺสสติ, สโต ปสฺสสติ, สโตการี โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
อิทานิ ¶ เยหากาเรหิ สโตการี โหติ, เต ทสฺเสนฺโต ‘‘ทีฆํ วา อสฺสสนฺโต’’ติอาทิมาห. วุตฺตฺเหตํ ปฏิสมฺภิทายํ – ‘‘โส สโตว อสฺสสติ, สโต ปสฺสสตี’’ติ เอตสฺเสว วิภงฺเค –
‘‘พาตฺตึสาย ¶ อากาเรหิ สโตการี โหติ. ทีฆํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโต สติ อุปฏฺิตา โหติ. ตาย สติยา เตน าเณน สโตการี โหติ. ทีฆํ ปสฺสาสวเสน…เป… ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสาสวเสน ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี ปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโต สติ อุปฏฺิตา โหติ. ตาย สติยา เตน าเณน สโตการี โหตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๕).
ตตฺถ ทีฆํ วา อสฺสสนฺโตติ ทีฆํ วา อสฺสาสํ ปวตฺเตนฺโต. ‘‘อสฺสาโส’’ติ พหิ นิกฺขมนวาโต. ‘‘ปสฺสาโส’’ติ อนฺโต ปวิสนวาโต. สุตฺตนฺตฏฺกถาสุ ปน อุปฺปฏิปาฏิยา อาคตํ.
ตตฺถ สพฺเพสมฺปิ ¶ คพฺภเสยฺยกานํ มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมนกาเล ปมํ อพฺภนฺตรวาโต พหิ นิกฺขมติ. ปจฺฉา พาหิรวาโต สุขุมํ รชํ คเหตฺวา อพฺภนฺตรํ ปวิสนฺโต ตาลุํ อาหจฺจ นิพฺพายติ. เอวํ ตาว อสฺสาสปสฺสาสา เวทิตพฺพา. ยา ปน เตสํ ทีฆรสฺสตา, สา อทฺธานวเสน เวทิตพฺพา. ยถา หิ โอกาสทฺธานํ ผริตฺวา ิตํ อุทกํ วา วาลิกา วา ‘‘ทีฆมุทกํ ทีฆา วาลิกา, รสฺสมุทกํ รสฺสา วาลิกา’’ติ วุจฺจติ. เอวํ จุณฺณวิจุณฺณาปิ อสฺสาสปสฺสาสา หตฺถิสรีเร อหิสรีเร จ เตสํ อตฺตภาวสงฺขาตํ ทีฆํ อทฺธานํ สณิกํ ปูเรตฺวา สณิกเมว นิกฺขมนฺติ, ตสฺมา ‘‘ทีฆา’’ติ วุจฺจนฺติ. สุนขสสาทีนํ อตฺตภาวสงฺขาตํ รสฺสํ อทฺธานํ สีฆํ ปูเรตฺวา สีฆเมว นิกฺขมนฺติ, ตสฺมา ‘‘รสฺสา’’ติ วุจฺจนฺติ. มนุสฺเสสุ ปน เกจิ หตฺถิอหิอาทโย วิย กาลทฺธานวเสน ทีฆํ อสฺสสนฺติ จ ปสฺสสนฺติ จ. เกจิ สุนขสสาทโย วิย รสฺสํ. ตสฺมา เตสํ กาลวเสน ทีฆมทฺธานํ นิกฺขมนฺตา จ ปวิสนฺตา จ เต ทีฆา. อิตฺตรมทฺธานํ นิกฺขมนฺตา จ ปวิสนฺตา จ ‘‘รสฺสา’’ติ เวทิตพฺพา. ตตฺรายํ ภิกฺขุ นวหากาเรหิ ทีฆํ อสฺสสนฺโต จ ปสฺสสนฺโต จ ‘‘ทีฆํ อสฺสสามิ ปสฺสสามี’’ติ ปชานาติ. เอวํ ปชานโต จสฺส เอเกนากาเรน กายานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนา สมฺปชฺชตีติ เวทิตพฺพา. ยถาห ปฏิสมฺภิทายํ –
‘‘กถํ ทีฆํ อสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติ, ทีฆํ ปสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ ปสฺสสามี’ติ ¶ ปชานาติ? ทีฆํ อสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต ¶ อสฺสสติ, ทีฆํ ปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต ปสฺสสติ, ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติปิ ปสฺสสติปิ. ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสโตปิ ปสฺสสโตปิ ฉนฺโท ¶ อุปฺปชฺชติ; ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติ, ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ ปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต ปสฺสสติ, ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติปิ ปสฺสสติปิ. ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสโตปิ ปสฺสสโตปิ ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ; ปาโมชฺชวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติ, ปาโมชฺชวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ ปสฺสาสํ…เป… ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติปิ ปสฺสสติปิ. ปาโมชฺชวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสโตปิ ปสฺสสโตปิ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสา จิตฺตํ วิวตฺตติ, อุเปกฺขา สณฺาติ. อิเมหิ นวหิ อากาเรหิ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสา กาโย; อุปฏฺานํ สติ; อนุปสฺสนา าณํ; กาโย อุปฏฺานํ, โน สติ; สติ อุปฏฺานฺเจว สติ จ. ตาย สติยา เตน าเณน ตํ กายํ อนุปสฺสติ. เตน วุจฺจติ – ‘‘กาเย กายานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๖).
เอเสว นโย รสฺสปเทปิ. อยํ ปน วิเสโส – ‘‘ยถา เอตฺถ ‘ทีฆํ อสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต’ติ วุตฺตํ; เอวมิธ ‘รสฺสํ อสฺสาสํ อิตฺตรสงฺขาเต อสฺสสตี’’ติ อาคตํ. ตสฺมา ตสฺส วเสน ยาว ‘‘เตน วุจฺจติ กาเย กายานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนา’’ติ ตาว โยเชตพฺพํ. เอวมยํ อทฺธานวเสน อิตฺตรวเสน จ อิเมหากาเรหิ อสฺสาสปสฺสาเส ปชานนฺโต ทีฆํ วา อสฺสสนฺโต ‘‘ทีฆํ อสฺสสามี’’ติ ปชานาติ…เป… รสฺสํ วา ปสฺสสนฺโต ‘‘รสฺสํ ปสฺสสามี’’ติ ปชานาตีติ เวทิตพฺโพ.
เอวํ ¶ ปชานโต จสฺส –
‘‘ทีโฆ รสฺโส จ อสฺสาโส;
ปสฺสาโสปิ จ ตาทิโส;
จตฺตาโร วณฺณา วตฺตนฺติ;
นาสิกคฺเคว ภิกฺขุโน’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๑๙; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๖๓);
สพฺพกายปฺปฏิสํเวที ¶ ¶ อสฺสสิสฺสามิ…เป… ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตีติ สกลสฺส อสฺสาสกายสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ วิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต ‘‘อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ. สกลสฺส ปสฺสาสกายสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ วิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต ‘‘ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ. เอวํ วิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน อสฺสสติ เจว ปสฺสสติ จ; ตสฺมา ‘‘อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขตีติ วุจฺจติ. เอกสฺส หิ ภิกฺขุโน จุณฺณวิจุณฺณวิสเฏ อสฺสาสกาเย ปสฺสาสกาเย วา อาทิ ปากโฏ โหติ, น มชฺฌปริโยสานํ. โส อาทิเมว ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, มชฺฌปริโยสาเน กิลมติ. เอกสฺส มชฺฌํ ปากฏํ โหติ, น อาทิปริโยสานํ. โส มชฺฌเมว ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, อาทิปริโยสาเน กิลมติ. เอกสฺส ปริโยสานํ ปากฏํ โหติ, น อาทิมชฺฌํ. โส ปริโยสานํเยว ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, อาทิมชฺเฌ กิลมติ. เอกสฺส สพฺพมฺปิ ปากฏํ โหติ, โส สพฺพมฺปิ ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, น กตฺถจิ กิลมติ. ตาทิเสน ภวิตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘สพฺพกายปฺปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามิ…เป… ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ.
ตตฺถ สิกฺขตีติ เอวํ ฆฏติ วายมติ. โย วา ตถาภูตสฺส สํวโร; อยเมตฺถ อธิสีลสิกฺขา. โย ตถาภูตสฺส สมาธิ; อยํ อธิจิตฺตสิกฺขา. ยา ตถาภูตสฺส ปฺา; อยํ อธิปฺาสิกฺขาติ. อิมา ติสฺโส สิกฺขาโย ตสฺมึ อารมฺมเณ ตาย สติยา เตน มนสิกาเรน สิกฺขติ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตตฺถ ยสฺมา ปุริมนเย เกวลํ อสฺสสิตพฺพํ ปสฺสสิตพฺพเมว จ, น อฺํ กิฺจิ กาตพฺพํ; อิโต ปฏฺาย ปน าณุปฺปาทนาทีสุ โยโค กรณีโย. ตสฺมา ตตฺถ ‘‘อสฺสสามีติ ปชานาติ ปสฺสสามีติ ปชานาติ’’จฺเจว วตฺตมานกาลวเสน ปาฬึ วตฺวา อิโต ปฏฺาย กตฺตพฺพสฺส าณุปฺปาทนาทิโน อาการสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘สพฺพกายปฺปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’’ติอาทินา ¶ นเยน อนาคตวจนวเสน ปาฬิ อาโรปิตาติ เวทิตพฺพา.
ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามิ…เป… ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตีติ โอฬาริกํ กายสงฺขารํ ปสฺสมฺเภนฺโต ปฏิปฺปสฺสมฺเภนฺโต นิโรเธนฺโต วูปสเมนฺโต ¶ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ.
ตตฺเรวํ โอฬาริกสุขุมตา จ ปสฺสทฺธิ จ เวทิตพฺพา. อิมสฺส หิ ภิกฺขุโน ปุพฺเพ อปริคฺคหิตกาเล กาโย จ จิตฺตฺจ สทรถา โหนฺติ. โอฬาริกานํ กายจิตฺตานํ โอฬาริกตฺเต ¶ อวูปสนฺเต อสฺสาสปสฺสาสาปิ โอฬาริกา โหนฺติ, พลวตรา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ, นาสิกา นปฺปโหติ, มุเขน อสฺสสนฺโตปิ ปสฺสสนฺโตปิ ติฏฺติ. ยทา ปนสฺส กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ปริคฺคหิตา โหนฺติ, ตทา เต สนฺตา โหนฺติ วูปสนฺตา. เตสุ วูปสนฺเตสุ อสฺสาสปสฺสาสา สุขุมา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ, ‘‘อตฺถิ นุ โข นตฺถี’’ติ วิเจตพฺพาการปฺปตฺตา โหนฺติ. เสยฺยถาปิ ปุริสสฺส ธาวิตฺวา ปพฺพตา วา โอโรหิตฺวา มหาภารํ วา สีสโต โอโรเปตฺวา ิตสฺส โอฬาริกา อสฺสาสปสฺสาสา โหนฺติ, นาสิกา นปฺปโหติ, มุเขน อสฺสสนฺโตปิ ปสฺสสนฺโตปิ ติฏฺติ. ยทา ปเนส ตํ ปริสฺสมํ วิโนเทตฺวา นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ อลฺลสาฏกํ หทเย กตฺวา สีตาย ฉายาย นิปนฺโน โหติ, อถสฺส เต อสฺสาสปสฺสาสา สุขุมา โหนฺติ, ‘‘อตฺถิ นุ โข นตฺถี’’ติ วิเจตพฺพาการปฺปตฺตา. เอวเมว อิมสฺส ภิกฺขุโน ปุพฺเพ อปริคฺคหิตกาเล กาโย จ…เป… วิเจตพฺพาการปฺปตฺตา โหนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิสฺส ปุพฺเพ อปริคฺคหิตกาเล ‘‘โอฬาริโกฬาริเก กายสงฺขาเร ปสฺสมฺเภมี’’ติ อาโภคสมนฺนาหารมนสิการปจฺจเวกฺขณา นตฺถิ, ปริคฺคหิตกาเล ปน อตฺถิ. เตนสฺส อปริคฺคหิตกาลโต ปริคฺคหิตกาเล กายสงฺขาโร สุขุโม โหติ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘สารทฺเธ กาเย จิตฺเต จ, อธิมตฺตํ ปวตฺตติ;
อสารทฺธมฺหิ กายมฺหิ, สุขุมํ สมฺปวตฺตตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๒๐; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๖๓);
ปริคฺคเหปิ โอฬาริโก, ปมชฺฌานูปจาเร สุขุโม; ตสฺมิมฺปิ โอฬาริโก ปมชฺฌาเน สุขุโม. ปมชฺฌาเน จ ทุติยชฺฌานูปจาเร จ โอฬาริโก, ทุติยชฺฌาเน สุขุโม. ทุติยชฺฌาเน จ ตติยชฺฌานูปจาเร จ ¶ โอฬาริโก, ตติยชฺฌาเน สุขุโม. ตติยชฺฌาเน จ จตุตฺถชฺฌานูปจาเร จ โอฬาริโก, จตุตฺถชฺฌาเน อติสุขุโม อปฺปวตฺติเมว ปาปุณาติ. อิทํ ตาว ทีฆภาณกสํยุตฺตภาณกานํ ¶ มตํ.
มชฺฌิมภาณกา ปน ‘‘ปมชฺฌาเน โอฬาริโก, ทุติยชฺฌานูปจาเร สุขุโม’’ติ เอวํ เหฏฺิมเหฏฺิมชฺฌานโต อุปรูปริชฺฌานูปจาเรปิ สุขุมตรํ อิจฺฉนฺติ. สพฺเพสํเยว ปน มเตน อปริคฺคหิตกาเล ปวตฺตกายสงฺขาโร ปริคฺคหิตกาเล ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ปริคฺคหิตกาเล ปวตฺตกายสงฺขาโร ปมชฺฌานูปจาเร…เป… จตุตฺถชฺฌานูปจาเร ปวตฺตกายสงฺขาโร จตุตฺถชฺฌาเน ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อยํ ตาว สมเถ นโย.
วิปสฺสนายํ ¶ ปน อปริคฺคเห ปวตฺโต กายสงฺขาโร โอฬาริโก, มหาภูตปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, อุปาทารูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, สกลรูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, อรูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, รูปารูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, ปจฺจยปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, สปฺปจฺจยนามรูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาย สุขุโม. โสปิ ทุพฺพลวิปสฺสนาย โอฬาริโก, พลววิปสฺสนาย สุขุโม. ตตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ปุริมสฺส ปุริมสฺส ปจฺฉิเมน ปจฺฉิเมน ปสฺสทฺธิ เวทิตพฺพา. เอวเมตฺถ โอฬาริกสุขุมตา จ ปสฺสทฺธิ จ เวทิตพฺพา.
ปฏิสมฺภิทายํ ปนสฺส สทฺธึ โจทนาโสธนาหิ เอวมตฺโถ วุตฺโต – ‘‘กถํ ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามิ…เป… ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ? กตเม กายสงฺขารา? ทีฆํ อสฺสาสา กายิกา เอเต ธมฺมา กายปฺปฏิพทฺธา กายสงฺขารา, เต กายสงฺขาเร ปสฺสมฺเภนฺโต นิโรเธนฺโต วูปสเมนฺโต สิกฺขติ. ทีฆํ ปสฺสาสา กายิกา เอเต ธมฺมา…เป… รสฺสํ อสฺสาสา…เป… รสฺสํ ปสฺสาสา… สพฺพกายปฺปฏิสํเวที อสฺสาสา… สพฺพกายปฺปฏิสํเวที ปสฺสาสา กายิกา เอเต ธมฺมา กายปฺปฏิพทฺธา กายสงฺขารา, เต กายสงฺขาเร ปสฺสมฺเภนฺโต นิโรเธนฺโต วูปสเมนฺโต สิกฺขติ.
ยถารูเปหิ กายสงฺขาเรหิ ยา กายสฺส อานมนา วินมนา สนฺนมนา ¶ ปณมนา อิฺชนา ผนฺทนา จลนา กมฺปนา ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามีติ ¶ สิกฺขติ, ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ.
ยถารูเปหิ กายสงฺขาเรหิ ยา กายสฺส น อานมนา น วินมนา น สนฺนมนา น ปณมนา อนิฺชนา อผนฺทนา อจลนา อกมฺปนา, สนฺตํ สุขุมํ ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ, ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ.
อิติ ¶ กิร ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ, ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. เอวํ สนฺเต วาตูปลทฺธิยา จ ปภาวนา น โหติ, อสฺสาสปสฺสาสานฺจ ปภาวนา น โหติ, อานาปานสฺสติยา จ ปภาวนา น โหติ, อานาปานสฺสติสมาธิสฺส จ ปภาวนา น น โหติ, น จ นํ ตํ สมาปตฺตึ ปณฺฑิตา สมาปชฺชนฺติปิ วุฏฺหนฺติปิ.
อิติ กิร ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามิ…เป… ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. เอวํ สนฺเต วาตูปลทฺธิยา จ ปภาวนา โหติ, อสฺสาสปสฺสาสานฺจ ปภาวนา โหติ, อานาปานสฺสติยา จ ปภาวนา โหติ, อานาปานสฺสติสมาธิสฺส จ ปภาวนา โหติ, ตฺจ นํ สมาปตฺตึ ปณฺฑิตา สมาปชฺชนฺติปิ วุฏฺหนฺติปิ.
ยถา กถํ วิย? เสยฺยถาปิ กํเส อาโกฏิเต ปมํ โอฬาริกา สทฺทา ปวตฺตนฺติ, โอฬาริกานํ สทฺทานํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตตฺตา สุมนสิกตตฺตา สูปธาริตตฺตา นิรุทฺเธปิ โอฬาริเก สทฺเท อถ ปจฺฉา สุขุมกา สทฺทา ปวตฺตนฺติ, สุขุมกานํ สทฺทานํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตตฺตา สุมนสิกตตฺตา สูปธาริตตฺตา นิรุทฺเธปิ สุขุมเก สทฺเท อถ ปจฺฉา สุขุมสทฺทนิมิตฺตารมฺมณตาปิ จิตฺตํ ปวตฺตติ; เอวเมว ปมํ โอฬาริกา อสฺสาสปสฺสาสา ปวตฺตนฺติ, โอฬาริกานํ อสฺสาสปสฺสาสานํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตตฺตา สุมนสิกตตฺตา สูปธาริตตฺตา นิรุทฺเธปิ โอฬาริเก อสฺสาสปสฺสาเส อถ ปจฺฉา สุขุมกา อสฺสาสปสฺสาสา ปวตฺตนฺติ, สุขุมกานํ อสฺสาสปสฺสาสานํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตตฺตา สุมนสิกตตฺตา ¶ สูปธาริตตฺตา นิรุทฺเธปิ สุขุมเก อสฺสาสปสฺสาเส อถ ปจฺฉา สุขุมอสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตารมฺมณตาปิ จิตฺตํ น วิกฺเขปํ คจฺฉติ.
เอวํ ¶ สนฺเต วาตูปลทฺธิยา จ ปภาวนา โหติ, อสฺสาสปสฺสาสานฺจ ปภาวนา โหติ, อานาปานสฺสติยา จ ปภาวนา โหติ, อานาปานสฺสติสมาธิสฺส จ ปภาวนา โหติ, ตฺจ นํ สมาปตฺตึ ปณฺฑิตา สมาปชฺชนฺติปิ วุฏฺหนฺติปิ.
ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารนฺติ อสฺสาสปสฺสาสา กาโย, อุปฏฺานํ สติ, อนุปสฺสนา าณํ. กาโย อุปฏฺานํ โน สติ, สติ อุปฏฺานฺเจว สติ จ, ตาย สติยา เตน าเณน ตํ กายํ อนุปสฺสติ. เตน วุจฺจติ – ‘‘กาเย กายานุปสฺสนา สติปฏฺานภาวนาติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๑).
อยํ ตาเวตฺถ กายานุปสฺสนาวเสน วุตฺตสฺส ปมจตุกฺกสฺส อนุปุพฺพปทวณฺณนา.
ยสฺมา ปเนตฺถ อิทเมว จตุกฺกํ อาทิกมฺมิกสฺส กมฺมฏฺานวเสน วุตฺตํ, อิตรานิ ปน ตีณิ จตุกฺกานิ เอตฺถ ปตฺตชฺฌานสฺส เวทนาจิตฺตธมฺมานุปสฺสนาวเสน วุตฺตานิ, ตสฺมา อิทํ กมฺมฏฺานํ ภาเวตฺวา อานาปานสฺสติจตุตฺถชฺฌานปทฏฺานาย วิปสฺสนาย สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ¶ ปาปุณิตุกาเมน พุทฺธปุตฺเตน ยํ กาตพฺพํ ตํ สพฺพํ อิเธว ตาว อาทิกมฺมิกสฺส กุลปุตฺตสฺส วเสน อาทิโต ปภุติ เอวํ เวทิตพฺพํ. จตุพฺพิธํ ตาว สีลํ วิโสเธตพฺพํ. ตตฺถ ติวิธา วิโสธนา – อนาปชฺชนํ, อาปนฺนวุฏฺานํ, กิเลเสหิ จ อปฺปติปีฬนํ. เอวํ วิสุทฺธสีลสฺส หิ ภาวนา สมฺปชฺชติ. ยมฺปิทํ เจติยงฺคณวตฺตํ โพธิยงฺคณวตฺตํ อุปชฺฌายวตฺตํ อาจริยวตฺตํ ชนฺตาฆรวตฺตํ อุโปสถาคารวตฺตํ ทฺเวอสีติ ขนฺธกวตฺตานิ จุทฺทสวิธํ มหาวตฺตนฺติ อิเมสํ วเสน อาภิสมาจาริกสีลํ วุจฺจติ, ตมฺปิ สาธุกํ ปริปูเรตพฺพํ. โย หิ ‘‘อหํ สีลํ รกฺขามิ, กึ อาภิสมาจาริเกน กมฺม’’นฺติ วเทยฺย, ตสฺส สีลํ ปริปูเรสฺสตีติ เนตํ ¶ านํ วิชฺชติ. อาภิสมาจาริกวตฺเต ปน ปริปูเร สีลํ ปริปูรติ, สีเล ปริปูเร สมาธิ คพฺภํ คณฺหาติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาภิสมาจาริกํ ธมฺมํ อปริปูเรตฺวา ‘สีลานิ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๒๑) วิตฺถาเรตพฺพํ. ตสฺมา เตน ยมฺปิทํ เจติยงฺคณวตฺตาทิ อาภิสมาจาริกสีลํ วุจฺจติ, ตมฺปิ สาธุกํ ปริปูเรตพฺพํ. ตโต –
‘‘อาวาโส ¶ จ กุลํ ลาโภ, คโณ กมฺมฺจ ปฺจมํ;
อทฺธานํ าติ อาพาโธ, คนฺโถ อิทฺธีติ เต ทสา’’ติ.
เอวํ วุตฺเตสุ ทสสุ ปลิโพเธสุ โย ปลิโพโธ อตฺถิ, โส อุปจฺฉินฺทิตพฺโพ.
เอวํ อุปจฺฉินฺนปลิโพเธน กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตพฺพํ. ตมฺปิ ทุวิธํ โหติ – สพฺพตฺถกกมฺมฏฺานฺจ ปาริหาริยกมฺมฏฺานฺจ. ตตฺถ สพฺพตฺถกกมฺมฏฺานํ นาม ภิกฺขุสงฺฆาทีสุ เมตฺตา มรณสฺสติ จ อสุภสฺาติปิ เอเก. กมฺมฏฺานิเกน หิ ภิกฺขุนา ปมํ ตาว ปริจฺฉินฺทิตฺวา สีมฏฺกภิกฺขุสงฺเฆ เมตฺตา ภาเวตพฺพา; ตโต สีมฏฺกเทวตาสุ, ตโต โคจรคาเม อิสฺสรชเน, ตโต ตตฺถ มนุสฺเส อุปาทาย สพฺพสตฺเตสุ. โส หิ ภิกฺขุสงฺเฆ เมตฺตาย สหวาสีนํ มุทุจิตฺตตํ ชเนติ, อถสฺส สุขสํวาสตา โหติ. สีมฏฺกเทวตาสุ เมตฺตาย มุทุกตจิตฺตาหิ เทวตาหิ ธมฺมิกาย รกฺขาย สุสํวิหิตารกฺโข โหติ. โคจรคาเม อิสฺสรชเน เมตฺตาย มุทุกตจิตฺตสนฺตาเนหิ อิสฺสเรหิ ธมฺมิกาย รกฺขาย สุรกฺขิตปริกฺขาโร โหติ. ตตฺถ มนุสฺเสสุ เมตฺตาย ปสาทิตจิตฺเตหิ เตหิ อปริภูโต หุตฺวา วิจรติ. สพฺพสตฺเตสุ เมตฺตาย สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตจาโร โหติ.
มรณสฺสติยา ปน ‘‘อวสฺสํ มริตพฺพ’’นฺติ จินฺเตนฺโต อเนสนํ ปหาย อุปรูปริวฑฺฒมานสํเวโค ¶ ¶ อโนลีนวุตฺติโก โหติ. อสุภสฺาย ทิพฺเพสุปิ อารมฺมเณสุ ตณฺหา นุปฺปชฺชติ. เตนสฺเสตํ ตยํ เอวํ พหูปการตฺตา ‘‘สพฺพตฺถ อตฺถยิตพฺพํ อิจฺฉิตพฺพ’’นฺติ กตฺวา อธิปฺเปตสฺส จ โยคานุโยคกมฺมสฺส ปทฏฺานตฺตา ‘‘สพฺพตฺถกกมฺมฏฺาน’’นฺติ วุจฺจติ.
อฏฺตึสารมฺมเณสุ ปน ยํ ยสฺส จริตานุกูลํ, ตํ ตสฺส นิจฺจํ ปริหริตพฺพตฺตา ยถาวุตฺเตเนว นเยน ‘‘ปาริหาริยกมฺมฏฺาน’’นฺติปิ วุจฺจติ. อิธ ปน อิทเมว อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ ‘‘ปาริหาริยกมฺมฏฺาน’’นฺติ วุจฺจติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน สีลวิโสธนกถํ ปลิโพธุปจฺเฉทกถฺจ อิจฺฉนฺเตน วิสุทฺธิมคฺคโต คเหตพฺโพ.
เอวํ วิสุทฺธสีเลน ปน อุปจฺฉินฺนปลิโพเธน จ อิทํ กมฺมฏฺานํ อุคฺคณฺหนฺเตน อิมินาว กมฺมฏฺาเนน จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตสฺส พุทฺธปุตฺตสฺส สนฺติเก อุคฺคเหตพฺพํ. ตํ อลภนฺเตน อนาคามิสฺส, ตมฺปิ ¶ อลภนฺเตน สกทาคามิสฺส, ตมฺปิ อลภนฺเตน โสตาปนฺนสฺส, ตมฺปิ อลภนฺเตน อานาปานจตุตฺถชฺฌานลาภิสฺส, ตมฺปิ อลภนฺเตน ปาฬิยา อฏฺกถาย จ อสมฺมูฬฺหสฺส วินิจฺฉยาจริยสฺส สนฺติเก อุคฺคเหตพฺพํ. อรหนฺตาทโย หิ อตฺตนา อธิคตมคฺคเมว อาจิกฺขนฺติ. อยํ ปน คหนปเทเส มหาหตฺถิปถํ นีหรนฺโต วิย สพฺพตฺถ อสมฺมูฬฺโห สปฺปายาสปฺปายํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา กเถติ.
ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – เตน ภิกฺขุนา สลฺลหุกวุตฺตินา วินยาจารสมฺปนฺเนน วุตฺตปฺปการมาจริยํ อุปสงฺกมิตฺวา วตฺตปฏิปตฺติยา อาราธิตจิตฺตสฺส ตสฺส สนฺติเก ปฺจสนฺธิกํ กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตพฺพํ. ตตฺริเม ปฺจ สนฺธโย ¶ – อุคฺคโห, ปริปุจฺฉา, อุปฏฺานํ, อปฺปนา, ลกฺขณนฺติ. ตตฺถ ‘‘อุคฺคโห’’ นาม กมฺมฏฺานสฺส อุคฺคณฺหนํ, ‘‘ปริปุจฺฉา’’ นาม กมฺมฏฺานสฺส ปริปุจฺฉนา, ‘‘อุปฏฺานํ’’ นาม กมฺมฏฺานสฺส อุปฏฺานํ, ‘‘อปฺปนา’’ นาม กมฺมฏฺานปฺปนา, ‘‘ลกฺขณํ’’ นาม กมฺมฏฺานสฺส ลกฺขณํ. ‘‘เอวํลกฺขณมิทํ กมฺมฏฺาน’’นฺติ กมฺมฏฺานสภาวูปธารณนฺติ วุตฺตํ โหติ.
เอวํ ปฺจสนฺธิกํ กมฺมฏฺานํ อุคฺคณฺหนฺโต อตฺตนาปิ น กิลมติ, อาจริยมฺปิ น วิเหเติ; ตสฺมา โถกํ อุทฺทิสาเปตฺวา พหุกาลํ สชฺฌายิตฺวา เอวํ ปฺจสนฺธิกํ กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตฺวา สเจ ตตฺถ สปฺปายํ โหติ, ตตฺเถว วสิตพฺพํ. โน เจ ตตฺถ สปฺปายํ โหติ, อาจริยํ อาปุจฺฉิตฺวา สเจ มนฺทปฺโ โยชนปรมํ คนฺตฺวา, สเจ ติกฺขปฺโ ทูรมฺปิ คนฺตฺวา อฏฺารสเสนาสนโทสวิวชฺชิตํ, ปฺจเสนาสนงฺคสมนฺนาคตํ เสนาสนํ อุปคมฺม ตตฺถ วสนฺเตน อุปจฺฉินฺนขุทฺทกปลิโพเธน ¶ กตภตฺตกิจฺเจน ภตฺตสมฺมทํ ปฏิวิโนเทตฺวา รตนตฺตยคุณานุสฺสรเณน จิตฺตํ สมฺปหํเสตฺวา อาจริยุคฺคหโต เอกปทมฺปิ อสมฺมุสฺสนฺเตน อิทํ อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ มนสิกาตพฺพํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน อิมํ กถามคฺคํ อิจฺฉนฺเตน วิสุทฺธิมคฺคโต (วิสุทฺธิ. ๑.๕๕) คเหตพฺโพ.
ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘อิทํ อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ มนสิกาตพฺพ’’นฺติ ตตฺรายํ มนสิการวิธิ –
‘‘คณนา อนุพนฺธนา, ผุสนา ปนา สลฺลกฺขณา;
วิวฏฺฏนา ปาริสุทฺธิ, เตสฺจ ปฏิปสฺสนา’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๒๓; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๖๓);
‘‘คณนา’’ติ ¶ คณนาเยว. ‘‘อนุพนฺธนา’’ติ อนุวหนา. ‘‘ผุสนา’’ติ ผุฏฺฏฺานํ. ‘‘ปนา’’ติ อปฺปนา. ‘‘สลฺลกฺขณา’’ติ ¶ วิปสฺสนา. ‘‘วิวฏฺฏนา’’ติ มคฺโค. ‘‘ปาริสุทฺธี’’ติ ผลํ. ‘‘เตสฺจ ปฏิปสฺสนา’’ติ ปจฺจเวกฺขณา. ตตฺถ อิมินา อาทิกมฺมิกกุลปุตฺเตน ปมํ คณนาย อิทํ กมฏฺานํ มนสิกาตพฺพํ. คเณนฺเตน จ ปฺจนฺนํ เหฏฺา น เปตพฺพํ, ทสนฺนํ อุปริ น เนตพฺพํ, อนฺตเร ขณฺฑํ น ทสฺเสตพฺพํ. ปฺจนฺนํ เหฏฺา เปนฺตสฺส หิ สมฺพาเธ โอกาเส จิตฺตุปฺปาโท วิปฺผนฺทติ, สมฺพาเธ วเช สนฺนิรุทฺธโคคโณ วิย. ทสนฺนํ อุปริ เนนฺตสฺส คณนานิสฺสิโตว จิตฺตุปฺปาโท โหติ. อนฺตรา ขณฺฑํ ทสฺเสนฺตสฺส ‘‘สิขาปฺปตฺตํ นุ โข เม กมฺมฏฺานํ, โน’’ติ จิตฺตํ วิกมฺปติ. ตสฺมา เอเต โทเส วชฺเชตฺวา คเณตพฺพํ.
คเณนฺเตน จ ปมํ ทนฺธคณนาย ธฺมาปกคณนาย คเณตพฺพํ. ธฺมาปโก หิ นาฬึ ปูเรตฺวา ‘‘เอก’’นฺติ วตฺวา โอกิรติ. ปุน ปูเรนฺโต กิฺจิ กจวรํ ทิสฺวา ตํ ฉฑฺเฑนฺโต ‘‘เอกํ เอก’’นฺติ วทติ. เอส นโย ‘‘ทฺเว ทฺเว’’ติอาทีสุ. เอวเมว อิมินาปิ อสฺสาสปสฺสาเสสุ โย อุปฏฺาติ ตํ คเหตฺวา ‘‘เอกํ เอก’’นฺติ อาทึกตฺวา ยาว ‘‘ทส ทสา’’ติ ปวตฺตมานํ ปวตฺตมานํ อุปลกฺเขตฺวาว คเณตพฺพํ. ตสฺเสวํ คณยโต นิกฺขมนฺตา จ ปวิสนฺตา จ อสฺสาสปสฺสาสา ปากฏา โหนฺติ.
อถาเนน ตํ ทนฺธคณนํ ธฺมาปกคณนํ ปหาย สีฆคณนาย โคปาลกคณนาย คเณตพฺพํ ¶ . เฉโก หิ โคปาลโก สกฺขราโย อุจฺฉงฺเคน คเหตฺวา รชฺชุทณฺฑหตฺโถ ปาโตว วชํ คนฺตฺวา คาโว ปิฏฺิยํ ปหริตฺวา ปลิฆตฺถมฺภมตฺถเก นิสินฺโน ทฺวารํ ปตฺตํ ปตฺตํเยว คาวํ ‘‘เอโก ทฺเว’’ติ สกฺขรํ ขิปิตฺวา ขิปิตฺวา คเณติ. ติยามรตฺตึ สมฺพาเธ โอกาเส ทุกฺขํ วุตฺถโคคโณ ¶ นิกฺขมนฺโต อฺมฺํ อุปนิฆํสนฺโต เวเคน เวเคน ปฺุโช ปฺุโช หุตฺวา นิกฺขมติ. โส เวเคน เวเคน ‘‘ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ ทสา’’ติ คเณติเยว. เอวมิมสฺสาปิ ปุริมนเยน คณยโต อสฺสาสปสฺสาสา ปากฏา หุตฺวา สีฆํ สีฆํ ปุนปฺปุนํ สฺจรนฺติ. ตโต เตน ‘‘ปุนปฺปุนํ สฺจรนฺตี’’ติ ตฺวา อนฺโต จ พหิ จ อคฺคเหตฺวา ทฺวารปฺปตฺตํ ทฺวารปฺปตฺตํเยว คเหตฺวา ‘‘เอโก ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ ¶ , เอโก ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ ฉ, เอโก ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ ฉ สตฺต…เป… อฏฺ… นว… ทสา’’ติ สีฆํ สีฆํ คเณตพฺพเมว. คณนาปฏิพทฺเธ หิ กมฺมฏฺาเน คณนาพเลเนว จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ อริตฺตูปตฺถมฺภนวเสน จณฺฑโสเต นาวาปนมิว.
ตสฺเสวํ สีฆํ สีฆํ คณยโต กมฺมฏฺานํ นิรนฺตรปฺปวตฺตํ วิย หุตฺวา อุปฏฺาติ. อถ ‘‘นิรนฺตรํ ปวตฺตตี’’ติ ตฺวา อนฺโต จ พหิ จ วาตํ อปริคฺคเหตฺวา ปุริมนเยเนว เวเคน เวเคน คเณตพฺพํ. อนฺโตปวิสนวาเตน หิ สทฺธึ จิตฺตํ ปเวสยโต อพฺภนฺตรํ วาตพฺภาหตํ เมทปูริตํ วิย โหติ, พหินิกฺขมนวาเตน สทฺธึ จิตฺตํ นีหรโต พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมเณ จิตฺตํ วิกฺขิปติ. ผุฏฺโกาเส ปน สตึ เปตฺวา ภาเวนฺตสฺเสว ภาวนา สมฺปชฺชติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อนฺโต ¶ จ พหิ จ วาตํ อปริคฺคเหตฺวา ปุริมนเยเนว เวเคน เวเคน คเณตพฺพ’’นฺติ.
กีว จิรํ ปเนตํ คเณตพฺพนฺติ? ยาว วินา คณนาย อสฺสาสปสฺสาสารมฺมเณ สติ สนฺติฏฺติ. พหิ วิสฏวิตกฺกวิจฺเฉทํ กตฺวา อสฺสาสปสฺสาสารมฺมเณ สติ สณฺปนตฺถํเยว หิ คณนาติ.
เอวํ คณนาย มนสิกตฺวา อนุพนฺธนาย มนสิกาตพฺพํ. อนุพนฺธนา นาม คณนํ ปฏิสํหริตฺวา สติยา นิรนฺตรํ อสฺสาสปสฺสาสานํ อนุคมนํ; ตฺจ โข น อาทิมชฺฌปริโยสานานุคมนวเสน. พหินิกฺขมนวาตสฺส หิ นาภิ อาทิ, หทยํ มชฺฌํ, นาสิกคฺคํ ปริโยสานํ. อพฺภนฺตรปวิสนวาตสฺส นาสิกคฺคํ อาทิ, หทยํ มชฺฌํ, นาภิ ปริโยสานํ. ตฺจสฺส อนุคจฺฉโต วิกฺเขปคตํ จิตฺตํ สารทฺธาย เจว โหติ อิฺชนาย จ. ยถาห –
‘‘อสฺสาสาทิมชฺฌปริโยสานํ สติยา อนุคจฺฉโต อชฺฌตฺตํ วิกฺเขปคเตน จิตฺเตน ¶ กาโยปิ จิตฺตมฺปิ สารทฺธา จ โหนฺติ อิฺชิตา จ ผนฺทิตา จ. ปสฺสาสาทิมชฺฌปริโยสานํ สติยา อนุคจฺฉโต พหิทฺธา วิกฺเขปคเตน จิตฺเตน กาโยปิ จิตฺตมฺปิ สารทฺธา จ โหนฺติ อิฺชิตา จ ผนฺทิตา จา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๗).
ตสฺมา อนุพนฺธนาย มนสิกโรนฺเตน น อาทิมชฺฌปริโยสานวเสน มนสิกาตพฺพํ. อปิจ โข ผุสนาวเสน จ ปนาวเสน จ มนสิกาตพฺพํ. คณนานุพนฺธนาวเสน ¶ วิย หิ ผุสนาปนาวเสน วิสุํ มนสิกาโร นตฺถิ. ผุฏฺผุฏฺฏฺาเนเยว ปน คเณนฺโต คณนาย จ ผุสนาย จ มนสิ กโรติ. ตตฺเถว คณนํ ปฏิสํหริตฺวา เต สติยา อนุพนฺธนฺโต อปฺปนาวเสน จ ¶ จิตฺตํ เปนฺโต ‘‘อนุพนฺธนาย จ ผุสนาย จ ปนาย จ มนสิ กโรตี’’ติ วุจฺจติ. สฺวายมตฺโถ อฏฺกถายํ วุตฺตปงฺคุฬโทวาริโกปมาหิ ปฏิสมฺภิทายํ วุตฺตกกโจปมาย จ เวทิตพฺโพ.
ตตฺรายํ ปงฺคุโฬปมา – ‘‘เสยฺยถาปิ ปงฺคุโฬ โทลาย กีฬตํ มาตาปุตฺตานํ โทลํ ขิปิตฺวา ตตฺเถว โทลตฺถมฺภมูเล นิสินฺโน กเมน อาคจฺฉนฺตสฺส จ คจฺฉนฺตสฺส จ โทลาผลกสฺส อุโภ โกฏิโย มชฺฌฺจ ปสฺสติ, น จ อุโภโกฏิมชฺฌานํ ทสฺสนตฺถํ พฺยาวโฏ โหติ. เอวเมวายํ ภิกฺขุ สติวเสน อุปนิพนฺธนตฺถมฺภมูเล ตฺวา อสฺสาสปสฺสาสโทลํ ขิปิตฺวา ตตฺเถว นิมิตฺเต สติยา นิสินฺโน กเมน อาคจฺฉนฺตานฺจ คจฺฉนฺตานฺจ ผุฏฺฏฺาเน อสฺสาสปสฺสาสานํ อาทิมชฺฌปริโยสานํ สติยา อนุคจฺฉนฺโต ตตฺถ จ จิตฺตํ เปนฺโต ปสฺสติ, น จ เตสํ ทสฺสนตฺถํ พฺยาวโฏ โหติ. อยํ ปงฺคุโฬปมา.
อยํ ปน โทวาริโกปมา – ‘‘เสยฺยถาปิ โทวาริโก นครสฺส อนฺโต จ พหิ จ ปุริเส ‘โก ตฺวํ, กุโต วา อาคโต, กุหึ วา คจฺฉสิ, กึ วา เต หตฺเถ’ติ น วีมํสติ, น หิ ตสฺส เต ภารา. ทฺวารปฺปตฺตํ ทฺวารปฺปตฺตํเยว ปน วีมํสติ; เอวเมว อิมสฺส ภิกฺขุโน อนฺโต ปวิฏฺวาตา จ พหิ นิกฺขนฺตวาตา จ น ภารา โหนฺติ, ทฺวารปฺปตฺตา ทฺวารปฺปตฺตาเยว ภาราติ. อยํ โทวาริโกปมา.
กกโจปมา ปน อาทิโตปภุติ เอวํ เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘นิมิตฺตํ ¶ อสฺสาสปสฺสาสา, อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺส;
อชานโต จ ตโย ธมฺเม, ภาวนานุปลพฺภติ.
‘‘นิมิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสา, อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺส;
ชานโต จ ตโย ธมฺเม, ภาวนา อุปลพฺภตี’’ติ. (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๙);
กถํ อิเม ตโย ธมฺมา เอกจิตฺตสฺส อารมฺมณํ น โหนฺติ, น จิเม ตโย ธมฺมา อวิทิตา โหนฺติ, น จ จิตฺตํ วิกฺเขปํ คจฺฉติ, ปธานฺจ ปฺายติ, ปโยคฺจ สาเธติ, วิเสสมธิคจฺฉติ ¶ ? เสยฺยถาปิ รุกฺโข สเม ¶ ภูมิภาเค นิกฺขิตฺโต, ตเมนํ ปุริโส กกเจน ฉินฺเทยฺย, รุกฺเข ผุฏฺกกจทนฺตานํ วเสน ปุริสสฺส สติ อุปฏฺิตา โหติ, น อาคเต วา คเต วา กกจทนฺเต มนสิ กโรติ, น อาคตา วา คตา วา กกจทนฺตา อวิทิตา โหนฺติ, ปธานฺจ ปฺายติ, ปโยคฺจ สาเธติ.
ยถา รุกฺโข สเม ภูมิภาเค นิกฺขิตฺโต; เอวํ อุปนิพนฺธนนิมิตฺตํ. ยถา กกจทนฺตา; เอวํ อสฺสาสปสฺสาสา. ยถา รุกฺเข ผุฏฺกกจทนฺตานํ วเสน ปุริสสฺส สติ อุปฏฺิตา โหติ, น อาคเต วา คเต วา กกจทนฺเต มนสิ กโรติ, น อาคตา วา คตา วา กกจทนฺตา อวิทิตา โหนฺติ, ปธานฺจ ปฺายติ, ปโยคฺจ สาเธติ, เอวเมว ภิกฺขุ นาสิกคฺเค วา มุขนิมิตฺเต วา สตึ อุปฏฺเปตฺวา นิสินฺโน โหติ, น อาคเต วา คเต วา อสฺสาสปสฺสาเส มนสิ กโรติ, น อาคตา วา คตา วา อสฺสาสปสฺสาสา อวิทิตา โหนฺติ, ปธานฺจ ปฺายติ, ปโยคฺจ สาเธติ, วิเสสมธิคจฺฉติ.
ปธานนฺติ กตมํ ปธานํ? อารทฺธวีริยสฺส กาโยปิ จิตฺตมฺปิ กมฺมนิยํ โหติ – อิทํ ปธานํ. กตโม ปโยโค? อารทฺธวีริยสฺส อุปกฺกิเลสา ปหียนฺติ, วิตกฺกา วูปสมฺมนฺติ – อยํ ปโยโค. กตโม วิเสโส? อารทฺธวีริยสฺส สํโยชนา ปหียนฺติ, อนุสยา พฺยนฺตี โหนฺติ – อยํ วิเสโส. เอวํ อิเม ตโย ธมฺมา เอกจิตฺตสฺส อารมฺมณา น โหนฺติ, น จิเม ตโย ธมฺมา อวิทิตา โหนฺติ, น จ จิตฺตํ วิกฺเขปํ คจฺฉติ, ปธานฺจ ปฺายติ, ปโยคฺจ สาเธติ, วิเสสมธิคจฺฉติ.
‘‘อานาปานสฺสตี ¶ ยสฺส, ปริปุณฺณา สุภาวิตา;
อนุปุพฺพํ ปริจิตา, ยถา พุทฺเธน เทสิตา;
โส อิมํ โลกํ ปภาเสติ, อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา’’ติ. (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๐);
อยํ กกโจปมา. อิธ ปนสฺส อาคตาคตวเสน อมนสิการมตฺตเมว ปโยชนนฺติ เวทิตพฺพํ. อิทํ กมฺมฏฺานํ มนสิกโรโต กสฺสจิ นจิเรเนว นิมิตฺตฺจ ¶ อุปฺปชฺชติ, อวเสสชฺฌานงฺคปฏิมณฺฑิตา อปฺปนาสงฺขาตา ปนา จ สมฺปชฺชติ. กสฺสจิ ปน คณนาวเสเนว มนสิการกาลโตปภุติ อนุกฺกมโต โอฬาริกอสฺสาสปสฺสาสนิโรธวเสน กายทรเถ วูปสนฺเต กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ลหุกํ โหติ, สรีรํ อากาเส ลงฺฆนาการปฺปตฺตํ ¶ วิย โหติ. ยถา สารทฺธกายสฺส มฺเจ วา ปีเ วา นิสีทโต มฺจปีํ โอนมติ, วิกูชติ, ปจฺจตฺถรณํ วลึ คณฺหาติ. อสารทฺธกายสฺส ปน นิสีทโต เนว มฺจปีํ โอนมติ, น วิกูชติ, น ปจฺจตฺถรณํ วลึ คณฺหาติ, ตูลปิจุปูริตํ วิย มฺจปีํ โหติ. กสฺมา? ยสฺมา อสารทฺโธ กาโย ลหุโก โหติ; เอวเมว คณนาวเสน มนสิการกาลโตปภุติ อนุกฺกมโต โอฬาริกอสฺสาสปสฺสาสนิโรธวเสน กายทรเถ วูปสนฺเต กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ลหุกํ โหติ, สรีรํ อากาเส ลงฺฆนาการปฺปตฺตํ วิย โหติ.
ตสฺส โอฬาริเก อสฺสาสปสฺสาเส นิรุทฺเธ สุขุมอสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตารมฺมณํ จิตฺตํ ปวตฺตติ, ตสฺมิมฺปิ นิรุทฺเธ อปราปรํ ตโต สุขุมตรสุขุมตมนิมิตฺตารมฺมณํ ปวตฺตติเยว. กถํ? ยถา ปุริโส มหติยา โลหสลากาย กํสตาฬํ อาโกเฏยฺย, เอกปฺปหาเรน มหาสทฺโท อุปฺปชฺเชยฺย, ตสฺส โอฬาริกสทฺทารมฺมณํ จิตฺตํ ปวตฺเตยฺย, นิรุทฺเธ โอฬาริเก สทฺเท อถ ปจฺฉา สุขุมสทฺทนิมิตฺตารมฺมณํ, ตสฺมิมฺปิ นิรุทฺเธ อปราปรํ ตโต สุขุมตรสุขุมตมสทฺทนิมิตฺตารมฺมณํ จิตฺตํ ปวตฺตเตว; เอวนฺติ เวทิตพฺพํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘เสยฺยถาปิ กํเส อาโกฏิเต’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๑) วิตฺถาโร.
ยถา หิ อฺานิ กมฺมฏฺานานิ อุปรูปริ วิภูตานิ โหนฺติ, น ตถา อิทํ. อิทํ ปน อุปรูปริ ภาเวนฺตสฺส ภาเวนฺตสฺส สุขุมตฺตํ ¶ คจฺฉติ, อุปฏฺานมฺปิ น อุปคจฺฉติ. เอวํ อนุปฏฺหนฺเต ปน ตสฺมึ น เตน ภิกฺขุนา อุฏฺายาสนา จมฺมขณฺฑํ ปปฺโผเฏตฺวา คนฺตพฺพํ. กึ กาตพฺพํ? ‘‘อาจริยํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ วา ‘‘นฏฺํ ทานิ เม กมฺมฏฺาน’’นฺติ วา น วุฏฺาตพฺพํ, อิริยาปถํ ¶ วิโกเปตฺวา คจฺฉโต หิ กมฺมฏฺานํ นวนวเมว โหติ. ตสฺมา ยถานิสินฺเนเนว เทสโต อาหริตพฺพํ.
ตตฺรายํ อาหรณูปาโย. เตน หิ ภิกฺขุนา กมฺมฏฺานสฺส อนุปฏฺหนภาวํ ตฺวา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ – ‘‘อิเม อสฺสาสปสฺสาสา นาม กตฺถ อตฺถิ, กตฺถ นตฺถิ, กสฺส วา อตฺถิ, กสฺส วา นตฺถี’’ติ. อเถวํ ปฏิสฺจิกฺขตา ‘‘อิเม อนฺโตมาตุกุจฺฉิยํ นตฺถิ, อุทเก นิมุคฺคานํ นตฺถิ, ตถา อสฺีภูตานํ มตานํ จตุตฺถชฺฌานสมาปนฺนานํ รูปารูปภวสมงฺคีนํ นิโรธสมาปนฺนาน’’นฺติ ¶ ตฺวา เอวํ อตฺตนาว อตฺตา ปฏิโจเทตพฺโพ – ‘‘นนุ ตฺวํ, ปณฺฑิต, เนว มาตุกุจฺฉิคโต, น อุทเก นิมุคฺโค, น อสฺีภูโต, น มโต, น จตุตฺถชฺฌานสมอาปนฺโน, น รูปารูปภวสมงฺคี, น นิโรธสมาปนฺโน, อตฺถิเยว เต อสฺสาสปสฺสาสา, มนฺทปฺตาย ปน ปริคฺคเหตุํ น สกฺโกสี’’ติ. อถาเนน ปกติผุฏฺวเสเนว จิตฺตํ เปตฺวา มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. อิเม หิ ทีฆนาสิกสฺส นาสา ปุฏํ ฆฏฺเฏนฺตา ปวตฺตนฺติ, รสฺสนาสิกสฺส อุตฺตโรฏฺํ. ตสฺมาเนน อิมํ นาม านํ ฆฏฺเฏนฺตีติ นิมิตฺตํ ปฏฺเปตพฺพํ. อิมเมว หิ อตฺถวสํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ ภควตา – ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, มุฏฺสฺสติสฺส อสมฺปชานสฺส อานาปานสฺสติภาวนํ วทามี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๔๙; สํ. นิ. ๕.๙๙๒). กิฺจาปิ หิ ยํกิฺจิ กมฺมฏฺานํ สตสฺส สมฺปชานสฺเสว สมฺปชฺชติ, อิโต อฺํ ปน มนสิกโรนฺตสฺส ปากฏํ โหติ. อิทํ ปน อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ ครุกํ ครุกภาวนํ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธปุตฺตานํ มหาปุริสานเมว มนสิการภูมิภูตํ, น เจว อิตฺตรํ, น จ อิตฺตรสตฺตสมาเสวิตํ. ยถา ยถา มนสิ กรียติ, ตถา ตถา สนฺตฺเจว ¶ โหติ สุขุมฺจ. ตสฺมา เอตฺถ พลวตี สติ จ ปฺา จ อิจฺฉิตพฺพา.
ยถา หิ มฏฺสาฏกสฺส ตุนฺนกรณกาเล สูจิปิ สุขุมา อิจฺฉิตพฺพา, สูจิปาสเวธนมฺปิ ตโต สุขุมตรํ; เอวเมว มฏฺสาฏกสทิสสฺส อิมสฺส กมฺมฏฺานสฺส ภาวนากาเล สูจิปฏิภาคา สติปิ สูจิปาสเวธนปฏิภาคา ตํสมฺปยุตฺตา ปฺาปิ พลวตี อิจฺฉิตพฺพา. ตาหิ จ ปน สติปฺาหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น เต อสฺสาสปสฺสาสา อฺตฺร ปกติผุฏฺโกาสา ปริเยสิตพฺพา.
ยถา ปน กสฺสโก กสึ กสิตฺวา พลิพทฺเท มฺุจิตฺวา โคจราภิมุเข กตฺวา ฉายาย นิสินฺโน วิสฺสเมยฺย, อถสฺส เต พลิพทฺทา เวเคน อฏวึ ปวิเสยฺยุํ. โย โหติ เฉโก กสฺสโก โส ปุน เต คเหตฺวา โยเชตุกาโม น เตสํ อนุปทํ คนฺตฺวา อฏวึ อาหิณฺฑติ. อถ ¶ โข รสฺมิฺจ ปโตทฺจ คเหตฺวา อุชุกเมว เตสํ นิปาตติตฺถํ คนฺตฺวา นิสีทติ วา นิปชฺชติ วา. อถ เต โคเณ ทิวสภาคํ จริตฺวา นิปาตติตฺถํ โอตริตฺวา นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปจฺจุตฺตริตฺวา ิเต ทิสฺวา รสฺมิยา พนฺธิตฺวา ปโตเทน วิชฺฌนฺโต อาเนตฺวา โยเชตฺวา ปุน กมฺมํ กโรติ; เอวเมว เตน ภิกฺขุนา น เต อสฺสาสปสฺสาสา อฺตฺร ¶ ปกติผุฏฺโกาสา ปริเยสิตพฺพา. สติรสฺมึ ปน ปฺาปโตทฺจ คเหตฺวา ปกติผุฏฺโกาเส จิตฺตํ เปตฺวา มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. เอวฺหิสฺส มนสิกโรโต นจิรสฺเสว เต อุปฏฺหนฺติ, นิปาตติตฺเถ วิย โคณา. ตโต เตน สติรสฺมิยา พนฺธิตฺวา ตสฺมึเยว าเน โยเชตฺวา ปฺาปโตเทน วิชฺฌนฺเตน ปุน กมฺมฏฺานํ อนุยฺุชิตพฺพํ; ตสฺเสวมนุยฺุชโต นจิรสฺเสว นิมิตฺตํ อุปฏฺาติ. ตํ ปเนตํ น สพฺเพสํ เอกสทิสํ โหติ ¶ ; อปิจ โข กสฺสจิ สุขสมฺผสฺสํ อุปฺปาทยมาโน ตูลปิจุ วิย, กปฺปาสปิจุ วิย, วาตธารา วิย จ อุปฏฺาตีติ เอกจฺเจ อาหุ.
อยํ ปน อฏฺกถาวินิจฺฉโย – อิทฺหิ กสฺสจิ ตารกรูปํ วิย, มณิคุฬิกา วิย, มุตฺตาคุฬิกา วิย จ กสฺสจิ ขรสมฺผสฺสํ หุตฺวา กปฺปาสฏฺิ วิย, สารทารุสูจิ วิย จ กสฺสจิ ทีฆปามงฺคสุตฺตํ วิย, กุสุมทามํ วิย, ธูมสิขา วิย จ กสฺสจิ วิตฺถต มกฺกฏกสุตฺตํ วิย, วลาหกปฏลํ วิย, ปทุมปุปฺผํ วิย, รถจกฺกํ วิย, จนฺทมณฺฑลํ วิย, สูริยมณฺฑลํ วิย จ อุปฏฺาติ. ตฺจ ปเนตํ ยถา สมฺพหุเลสุ ภิกฺขูสุ สุตฺตนฺตํ สชฺฌายิตฺวา นิสินฺเนสุ เอเกน ภิกฺขุนา ‘‘ตุมฺหากํ กีทิสํ หุตฺวา อิทํ สุตฺตํ อุปฏฺาตี’’ติ วุตฺเต เอโก ‘‘มยฺหํ มหตี ปพฺพเตยฺยา นที วิย หุตฺวา อุปฏฺาตี’’ติ อาห. อปโร ‘‘มยฺหํ เอกา วนราชิ วิย’’. อฺโ ‘‘มยฺหํ สีตจฺฉาโย สาขาสมฺปนฺโน ผลภารภริตรุกฺโข วิยา’’ติ. เตสฺหิ ตํ เอกเมว สุตฺตํ สฺานานตาย นานโต อุปฏฺาติ. เอวํ เอกเมว กมฺมฏฺานํ สฺานานตาย นานโต อุปฏฺาติ. สฺชฺหิ เอตํ สฺานิทานํ สฺาปฺปภวํ ตสฺมา สฺานานตาย นานโต อุปฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ.
เอตฺถ จ อฺเมว อสฺสาสารมฺมณํ จิตฺตํ, อฺํ ปสฺสาสารมฺมณํ, อฺํ นิมิตฺตารมฺมณํ ยสฺส หิ อิเม ตโย ธมฺมา นตฺถิ, ตสฺส กมฺมฏฺานํ เนว อปฺปนํ น อุปจารํ ปาปุณาติ. ยสฺส ปนิเม ตโย ธมฺมา อตฺถิ, ตสฺเสว กมฺมฏฺานํ อปฺปนฺจ อุปจารฺจ ปาปุณาติ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘นิมิตฺตํ ¶ ¶ อสฺสาสปสฺสาสา, อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺส;
อชานโต จ ตโย ธมฺเม, ภาวนานุปลพฺภติ.
‘‘นิมิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสา, อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺส;
ชานโต จ ตโย ธมฺเม, ภาวนา อุปลพฺภตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๓๑);
เอวํ ¶ อุปฏฺิเต ปน นิมิตฺเต เตน ภิกฺขุนา อาจริยสนฺติกํ คนฺตฺวา อาโรเจตพฺพํ – ‘‘มยฺหํ, ภนฺเต, เอวรูปํ นาม อุปฏฺาตี’’ติ. อาจริเยน ปน ‘‘เอตํ นิมิตฺต’’นฺติ วา ‘‘น นิมิตฺต’’นฺติ วา น วตฺตพฺพํ. ‘‘เอวํ โหติ, อาวุโส’’ติ วตฺวา ปน ‘‘ปุนปฺปุนํ มนสิ กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. ‘‘นิมิตฺต’’นฺติ หิ วุตฺเต โวสานํ อาปชฺเชยฺย; ‘‘น นิมิตฺต’’นฺติ วุตฺเต นิราโส วิสีเทยฺย. ตสฺมา ตทุภยมฺปิ อวตฺวา มนสิกาเรเยว นิโยเชตพฺโพติ. เอวํ ตาว ทีฆภาณกา. มชฺฌิมภาณกา ปนาหุ – ‘‘นิมิตฺตมิทํ, อาวุโส, กมฺมฏฺานํ ปุนปฺปุนํ มนสิ กโรหิ สปฺปุริสาติ วตฺตพฺโพ’’ติ. อถาเนน นิมิตฺเตเยว จิตฺตํ เปตพฺพํ. เอวมสฺสายํ อิโต ปภุติ ปนาวเสน ภาวนา โหติ. วุตฺตฺเหตํ โปราเณหิ –
‘‘นิมิตฺเต ปยํ จิตฺตํ, นานาการํ วิภาวยํ;
ธีโร อสฺสาสปสฺสาเส, สกํ จิตฺตํ นิพนฺธตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๓๒; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๖๓);
ตสฺเสวํ นิมิตฺตุปฏฺานโต ปภุติ นีวรณานิ วิกฺขมฺภิตาเนว โหนฺติ กิเลสา สนฺนิสินฺนาว สติ อุปฏฺิตาเยว, จิตฺตํ สมาหิตเมว. อิทฺหิ ทฺวีหากาเรหิ จิตฺตํ สมาหิตํ นาม โหหิ – อุปจารภูมิยํ วา นีวรณปฺปหาเนน, ปฏิลาภภูมิยํ วา องฺคปาตุภาเวน. ตตฺถ ‘‘อุปจารภูมี’’ติ อุปจารสมาธิ; ‘‘ปฏิลาภภูมี’’ติ อปฺปนาสมาธิ. เตสํ กึ นานากรณํ? อุปจารสมาธิ กุสลวีถิยํ ชวิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ, อปฺปนาสมาธิ ทิวสภาเค อปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส ทิวสภาคมฺปิ กุสลวีถิยํ ชวติ, น ภวงฺคํ โอตรติ. อิเมสุ ทฺวีสุ สมาธีสุ นิมิตฺตปาตุภาเวน อุปจารสมาธินา สมาหิตํ จิตฺตํ โหติ ¶ . อถาเนน ตํ นิมิตฺตํ เนว วณฺณโต มนสิกาตพฺพํ, น ลกฺขณโต ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ. อปิจ โข ขตฺติยมเหสิยา จกฺกวตฺติคพฺโภ วิย กสฺสเกน สาลิยวคพฺโภ วิย จ อปฺปมตฺเตน รกฺขิตพฺพํ; รกฺขิตํ หิสฺส ผลทํ โหติ.
‘‘นิมิตฺตํ รกฺขโต ลทฺธ, ปริหานิ น วิชฺชติ;
อารกฺขมฺหิ อสนฺตมฺหิ, ลทฺธํ ลทฺธํ วินสฺสตี’’ติ.
ตตฺรายํ ¶ รกฺขณูปาโย – เตน ภิกฺขุนา อาวาโส, โคจโร, ภสฺสํ, ปุคฺคโล, โภชนํ, อุตุ, อิริยาปโถติ อิมานิ สตฺต อสปฺปายานิ วชฺเชตฺวา ตาเนว สตฺต สปฺปายานิ เสวนฺเตน ปุนปฺปุนํ ตํ นิมิตฺตํ มนสิกาตพฺพํ.
เอวํ ¶ สปฺปายเสวเนน นิมิตฺตํ ถิรํ กตฺวา วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ คมยิตฺวา วตฺถุวิสทกิริยา, อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนตา, นิมิตฺตกุสลตา, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ สปคฺคเหตพฺพ ตสฺมึ สมเย จิตฺตปคฺคณฺหนา, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคเหตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตนิคฺคณฺหนา, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ สมฺปหํเสตพฺพํ ตสฺมึ สมเย สมฺปหํเสตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตสมฺปหํสนา, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตอชฺฌุเปกฺขนา, อสมาหิตปุคฺคลปริวชฺชนา, สมาหิตปุคฺคลเสวนา, ตทธิมุตฺตตาติ อิมานิ ทส อปฺปนาโกสลฺลานิ อวิชหนฺเตน โยโค กรณีโย.
ตสฺเสวํ อนุยุตฺตสฺส วิหรโต อิทานิ อปฺปนา อุปฺปชฺชิสฺสตีติ ภวงฺคํ วิจฺฉินฺทิตฺวา นิมิตฺตารมฺมณํ มโนทฺวาราวชฺชนํ อุปฺปชฺชติ. ตสฺมิฺจ นิรุทฺเธ ตเทวารมฺมณํ คเหตฺวา จตฺตาริ ปฺจ วา ชวนานิ, เยสํ ปมํ ปริกมฺมํ, ทุติยํ อุปจารํ, ตติยํ อนุโลมํ, จตุตฺถํ โคตฺรภุ ¶ , ปฺจมํ อปฺปนาจิตฺตํ. ปมํ วา ปริกมฺมฺเจว อุปจารฺจ, ทุติยํ อนุโลมํ, ตติยํ โคตฺรภุ, จตุตฺถํ อปฺปนาจิตฺตนฺติ วุจฺจติ. จตุตฺถเมว หิ ปฺจมํ วา อปฺเปติ, น ฉฏฺํ สตฺตมํ วา อาสนฺนภวงฺคปาตตฺตา.
อาภิธมฺมิกโคทตฺตตฺเถโร ปนาห – ‘‘อาเสวนปจฺจเยน กุสลา ธมฺมา พลวนฺโต โหนฺติ; ตสฺมา ฉฏฺํ สตฺตมํ วา อปฺเปตี’’ติ. ตํ อฏฺกถาสุ ปฏิกฺขิตฺตํ. ตตฺถ ปุพฺพภาคจิตฺตานิ กามาวจรานิ โหนฺติ, อปฺปนาจิตฺตํ ปน รูปาวจรํ. เอวมเนน ปฺจงฺควิปฺปหีนํ, ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ, ทสลกฺขณสมฺปนฺนํ, ติวิธกลฺยาณํ, ปมชฺฌานํ อธิคตํ โหติ. โส ตสฺมึเยวารมฺมเณ วิตกฺกาทโย วูปสเมตฺวา ทุติยตติยจตุตฺถชฺฌานานิ ปาปุณาติ. เอตฺตาวตา จ ปนาวเสน ภาวนาย ปริโยสานปฺปตฺโต โหติ. อยเมตฺถ สงฺเขปกถา. วิตฺถาโร ปน อิจฺฉนฺเตน วิสุทฺธิมคฺคโต คเหตพฺโพ.
เอวํ ปตฺตจตุตฺถชฺฌาโน ปเนตฺถ ภิกฺขุ สลฺลกฺขณาวิวฏฺฏนาวเสน กมฺมฏฺานํ วฑฺเฒตฺวา ปาริสุทฺธึ ปตฺตุกาโม ตเทว ฌานํ อาวชฺชนสมาปชฺชนอธิฏฺานวุฏฺานปจฺจเวกฺขณสงฺขาเตหิ ปฺจหากาเรหิ วสิปฺปตฺตํ ปคุณํ กตฺวา อรูปปุพฺพงฺคมํ วา รูปํ, รูปปุพฺพงฺคมํ วา อรูปนฺติ รูปารูปํ ¶ ปริคฺคเหตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปติ. กถํ? โส หิ ฌานา วุฏฺหิตฺวา ฌานงฺคานิ ปริคฺคเหตฺวา เตสํ นิสฺสยํ หทยวตฺถุํ ตํ นิสฺสยานิ จ ภูตานิ เตสฺจ นิสฺสยํ สกลมฺปิ ¶ กรชกายํ ปสฺสติ. ตโต ‘‘ฌานงฺคานิ อรูปํ, วตฺถาทีนิ รูป’’นฺติ รูปารูปํ ววตฺถเปติ.
อถ วา สมาปตฺติโต วุฏฺหิตฺวา เกสาทีสุ โกฏฺาเสสุ ปถวีธาตุอาทิวเสน จตฺตาริ ภูตานิ ตํนิสฺสิตรูปานิ จ ปริคฺคเหตฺวา ยถาปริคฺคหิตรูปารมฺมณํ ยถาปริคฺคหิตรูปวตฺถุทฺวารารมฺมณํ วา สสมฺปยุตฺตธมฺมํ ¶ วิฺาณฺจ ปสฺสติ. ตโต ‘‘ภูตาทีนิ รูปํ สสมฺปยุตฺตธมฺมํ วิฺาณํ อรูป’’นฺติ ววตฺถเปติ.
อถ วา สมาปตฺติโต วุฏฺหิตฺวา อสฺสาสปสฺสาสานํ สมุทโย กรชกาโย จ จิตฺตฺจาติ ปสฺสติ. ยถา หิ กมฺมารคคฺคริยา ธมมานาย ภสฺตฺจ ปุริสสฺส จ ตชฺชํ วายามํ ปฏิจฺจ วาโต สฺจรติ; เอวเมว กายฺจ จิตฺตฺจ ปฏิจฺจ อสฺสาสปสฺสาสาติ. ตโต อสฺสาสปสฺสาเส จ กายฺจ รูปํ, จิตฺตฺจ ตํสมฺปยุตฺตธมฺเม จ อรูปนฺติ ววตฺถเปติ.
เอวํ นามรูปํ ววตฺถเปตฺวา ตสฺส ปจฺจยํ ปริเยสติ, ปริเยสนฺโต จ ตํ ทิสฺวา ตีสุปิ อทฺธาสุ นามรูปสฺส ปวตฺตึ อารพฺภ กงฺขํ วิตรติ. วิติณฺณกงฺโข กลาปสมฺมสนวเสน ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา อุทยพฺพยานุปสฺสนาย ปุพฺพภาเค อุปฺปนฺเน โอภาสาทโย ทส วิปสฺสนุปกฺกิเลเส ปหาย อุปกฺกิเลสวิมุตฺตํ ปฏิปทาาณํ ‘‘มคฺโค’’ติ ววตฺถเปตฺวา อุทยํ ปหาย ภงฺคานุปสฺสนํ ปตฺวา นิรนฺตรํ ภงฺคานุปสฺสเนน ภยโต อุปฏฺิเตสุ สพฺพสงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทนฺโต วิรชฺชนฺโต วิมุจฺจนฺโต ยถากฺกมํ จตฺตาโร อริยมคฺเค ปาปุณิตฺวา อรหตฺตผเล ปติฏฺาย เอกูนวีสติเภทสฺส ปจฺจเวกฺขณาณสฺส ปริยนฺตปฺปตฺโต สเทวกสฺส โลกสฺส อคฺคทกฺขิเณยฺโย โหติ. เอตฺตาวตา จสฺส คณนํ อาทึ กตฺวา วิปสฺสนาปริโยสานา อานาปานสฺสติสมาธิภาวนา จ สมตฺตา โหตีติ.
อยํ สพฺพาการโต ปมจตุกฺกวณฺณนา.
อิตเรสุ ปน ตีสุ จตุกฺเกสุ ยสฺมา วิสุํ กมฺมฏฺานภาวนานโย นาม นตฺถิ; ตสฺมา อนุปทวณฺณนานเยเนว เนสํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปีติปฺปฏิสํเวทีติ ปีตึ ปฏิสํวิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. ตตฺถ ทฺวีหากาเรหิ ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ – อารมฺมณโต ¶ จ อสมฺโมหโต จ.
กถํ ¶ ¶ อารมฺมณโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชติ, ตสฺส สมาปตฺติกฺขเณ ฌานปฏิลาเภน อารมฺมณโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ อารมฺมณสฺส ปฏิสํวิทิตตฺตา.
กถํ อสมฺโมหโต? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตกปีตึ ขยโต วยโต สมฺมสติ, ตสฺส วิปสฺสนากฺขเณ ลกฺขณปฏิเวเธน อสมฺโมหโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. วุตฺตฺเหตํ ปฏิสมฺภิทายํ –
‘‘ทีฆํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโต สติ อุปฏฺิตา โหติ. ตาย สติยา เตน าเณน สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. ทีฆํ ปสฺสาสวเสน…เป… รสฺสํ อสฺสาสวเสน… รสฺสํ ปสฺสาสวเสน… สพฺพกายปฺปฏิสํเวที อสฺสาสวเสน… สพฺพกายปฺปฏิสํเวที ปสฺสาสวเสน… ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสาสวเสน… ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโต สติ อุปฏฺิตา โหติ, ตาย สติยา เตน าเณน สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. อาวชฺชโต สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ ชานโต… ปสฺสโต… ปจฺจเวกฺขโต… จิตฺตํ อธิฏฺหโต… สทฺธาย อธิมุจฺจโต… วีริยํ ปคฺคณฺหโต… สตึ อุปฏฺาปยโต… จิตฺตํ สมาทหโต… ปฺาย ปชานโต… อภิฺเยฺยํ อภิชานโต… ปริฺเยฺยํ ปริชานโต… ปหาตพฺพํ ปชหโต… ภาเวตพฺพํ ภาวยโต… สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกโรโต สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. เอวํ สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๒).
เอเตเนว นเยน อวเสสปทานิปิ อตฺถโต เวทิตพฺพานิ. อิทํ ปเนตฺถ วิเสสมตฺตํ. ติณฺณํ ฌานานํ วเสน สุขปฏิสํเวทิตา จตุนฺนมฺปิ วเสน จิตฺตสงฺขารปฏิสํเวทิตา เวทิตพฺพา. ‘‘จิตฺตสงฺขาโร’’ติ เวทนาทโย ทฺเว ขนฺธา. สุขปฺปฏิสํเวทิปเท เจตฺถ วิปสฺสนาภูมิทสฺสนตฺถํ ‘‘สุขนฺติ ทฺเว สุขานิ – กายิกฺจ สุขํ เจตสิกฺจา’’ติ ¶ ปฏิสมฺภิทายํ วุตฺตํ. ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารนฺติ โอฬาริกํ โอฬาริกํ จิตฺตสงฺขารํ ปสฺสมฺเภนฺโต, นิโรเธนฺโตติ อตฺโถ. โส วิตฺถารโต กายสงฺขาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อปิเจตฺถ ปีติปเท ปีติสีเสน เวทนา วุตฺตา. สุขปเท สรูเปเนว เวทนา ¶ . ทฺวีสุ จิตฺตสงฺขารปเทสุ ‘‘สฺา จ เวทนา จ เจตสิกา เอเต ธมฺมา จิตฺตปฏิพทฺธา จิตฺตสงฺขารา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๔; ม. นิ. ๑.๔๖๓) วจนโต ¶ สฺาสมฺปยุตฺตา เวทนาติ. เอวํ เวทนานุปสฺสนานเยน อิทํ จตุกฺกํ ภาสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ตติยจตุกฺเกปิ จตุนฺนํ ฌานานํ วเสน จิตฺตปฏิสํเวทิตา เวทิตพฺพา. อภิปฺปโมทยํ จิตฺตนฺติ จิตฺตํ โมเทนฺโต ปโมเทนฺโต หาเสนฺโต ปหาเสนฺโต อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. ตตฺถ ทฺวีหากาเรหิ อภิปฺปโมโท โหติ – สมาธิวเสน จ วิปสฺสนาวเสน จ.
กถํ สมาธิวเสน? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชติ, โส สมาปตฺติกฺขเณ สมฺปยุตฺตาย ปีติยา จิตฺตํ อาโมเทติ ปโมเทติ. กถํ วิปสฺสนาวเสน? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตกปีตึ ขยโต วยโต สมฺมสติ; เอวํ วิปสฺสนากฺขเณ ฌานสมฺปยุตฺตกปีตึ อารมฺมณํ กตฺวา จิตฺตํ อาโมเทติ ปโมเทติ. เอวํ ปฏิปนฺโน ‘‘อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ วุจฺจติ.
สมาทหํ จิตฺตนฺติ ปมชฺฌานาทิวเสน อารมฺมเณ จิตฺตํ สมํ อาทหนฺโต สมํ เปนฺโต ตานิ วา ปน ฌานานิ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตกจิตฺตํ ขยโต วยโต สมฺมสโต วิปสฺสนากฺขเณ ลกฺขณปฏิเวเธน อุปฺปชฺชติ ขณิกจิตฺเตกคฺคตา; เอวํ อุปฺปนฺนาย ขณิกจิตฺเตกคฺคตาย วเสนปิ อารมฺมเณ จิตฺตํ สมํ อาทหนฺโต สมํ เปนฺโต ‘‘สมาทหํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ วุจฺจติ.
วิโมจยํ จิตฺตนฺติ ปมชฺฌาเนน นีวรเณหิ จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต, ทุติเยน วิตกฺกวิจาเรหิ, ตติเยน ปีติยา, จตุตฺเถน สุขทุกฺเขหิ จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต. ตานิ วา ปน ฌานานิ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ¶ ฌานสมฺปยุตฺตกจิตฺตํ ขยโต วยโต สมฺมสติ. โส วิปสฺสนากฺขเณ อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจสฺาโต จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต, ทุกฺขานุปสฺสนาย สุขสฺาโต, อนตฺตานุปสฺสนาย อตฺตสฺาโต, นิพฺพิทานุปสฺสนาย นนฺทิโต, วิราคานุปสฺสนาย ราคโต, นิโรธานุปสฺสนาย สมุทยโต, ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย อาทานโต จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต อสฺสสติ เจว ปสฺสสติ จ. เตน วุตฺตํ ¶ – ‘‘วิโมจยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ. เอวํ จิตฺตานุปสฺสนาวเสน อิทํ จตุกฺกํ ภาสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
จตุตฺถจตุกฺเก ปน อนิจฺจานุปสฺสีติ เอตฺถ ตาว อนิจฺจํ เวทิตพฺพํ, อนิจฺจตา เวทิตพฺพา, อนิจฺจานุปสฺสนา เวทิตพฺพา ¶ , อนิจฺจานุปสฺสี เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ ปฺจกฺขนฺธา. กสฺมา? อุปฺปาทวยฺถตฺตภาวา. ‘‘อนิจฺจตา’’ติ เตสฺเว อุปฺปาทวยฺถตฺตํ หุตฺวา อภาโว วา นิพฺพตฺตานํ เตเนวากาเรน อตฺวา ขณภงฺเคน เภโทติ อตฺโถ. ‘‘อนิจฺจานุปสฺสนา’’ติ ตสฺสา อนิจฺจตาย วเสน รูปาทีสุ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ อนุปสฺสนา; ‘‘อนิจฺจานุปสฺสี’’ติ ตาย อนุปสฺสนาย สมนฺนาคโต; ตสฺมา เอวํ ภูโต อสฺสสนฺโต จ ปสฺสสนฺโต จ อิธ ‘‘อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามิ, ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ เวทิตพฺโพ.
วิราคานุปสฺสีติ เอตฺถ ปน ทฺเว วิราคา – ขยวิราโค จ อจฺจนฺตวิราโค จ. ตตฺถ ‘‘ขยวิราโค’’ติ สงฺขารานํ ขณภงฺโค; ‘‘อจฺจนฺตวิราโค’’ติ นิพฺพานํ; ‘‘วิราคานุปสฺสนา’’ติ ตทุภยทสฺสนวเสน ปวตฺตา วิปสฺสนา จ มคฺโค จ. ตาย ทุวิธายปิ อนุปสฺสนาย สมนฺนาคโต หุตฺวา อสฺสสนฺโต จ ปสฺสสนฺโต จ ‘‘วิราคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ เวทิตพฺโพ. นิโรธานุปสฺสีปเทปิ เอเสว นโย.
ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสีติ เอตฺถาปิ ทฺเว ปฏินิสฺสคฺคา – ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค จ ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโค จ. ปฏินิสฺสคฺโคเยว อนุปสฺสนา ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนา; วิปสฺสนามคฺคานเมตํ อธิวจนํ. วิปสฺสนา หิ ตทงฺควเสน สทฺธึ ขนฺธาภิสงฺขาเรหิ กิเลเส ปริจฺจชติ, สงฺขตโทสทสฺสเนน ¶ จ ตพฺพิปรีเต นิพฺพาเน ตนฺนินฺนตาย ปกฺขนฺทตีติ ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค เจว ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโค จาติ วุจฺจติ. มคฺโค สมุจฺเฉทวเสน สทฺธึ ขนฺธาภิสงฺขาเรหิ กิเลเส ปริจฺจชติ, อารมฺมณกรเณน จ นิพฺพาเน ปกฺขนฺทตีติ ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค เจว ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสโค จาติ วุจฺจติ. อุภยมฺปิ ปน ปุริมปุริมาณานํ อนุอนุ ปสฺสนโต อนุปสฺสนาติ วุจฺจติ. ตาย ทุวิธาย ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย สมนฺนาคโต หุตฺวา อสฺสสนฺโต จ ปสฺสสนฺโต จ ปฏินิสคฺคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตีติ เวทิตพฺโพ. เอวํ ภาวิโตติ เอวํ โสฬสหิ อากาเรหิ ภาวิโต. เสสํ วุตฺตนยเมว.
อานาปานสฺสติสมาธิกถา นิฏฺิตา.
๑๖๗. อถ ¶ โข ภควาติอาทิมฺหิ ปน อยํ สงฺเขปตฺโถ. เอวํ ภควา อานาปานสฺสติสมาธิกถาย ภิกฺขู สมสฺสาเสตฺวา อถ ยํ ตํ ตติยปาราชิกปฺตฺติยา นิทานฺเจว ¶ ปกรณฺจ อุปฺปนฺนํ ภิกฺขูนํ อฺมฺํ ชีวิตา โวโรปนํ, เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา ปฏิปุจฺฉิตฺวา วิครหิตฺวา จ ยสฺมา ตตฺถ อตฺตนา อตฺตานํ ชีวิตา โวโรปนํ มิคลณฺฑิเกน จ โวโรปาปนํ ปาราชิกวตฺถุ น โหติ; ตสฺมา ตํ เปตฺวา ปาราชิกสฺส วตฺถุภูตํ อฺมฺํ ชีวิตา โวโรปนเมว คเหตฺวา ปาราชิกํ ปฺเปนฺโต ‘‘โย ปน ภิกฺขุ สฺจิจฺจ มนุสฺสวิคฺคห’’นฺติอาทิมาห. อริยปุคฺคลมิสฺสกตฺตา ปเนตฺถ ‘‘โมฆปุริสา’’ติ อวตฺวา ‘‘เต ภิกฺขู’’ติ วุตฺตํ.
เอวํ มูลจฺเฉชฺชวเสน ทฬฺหํ กตฺวา ตติยปาราชิเก ปฺตฺเต อปรมฺปิ อนุปฺตฺตตฺถาย มรณวณฺณสํวณฺณนวตฺถุ อุทปาทิ, ตสฺสุปฺปตฺติทีปนตฺถํ ‘‘เอวฺจิทํ ภควตา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๑๖๘. ตตฺถ ปฏิพทฺธจิตฺตาติ ฉนฺทราเคน ปฏิพทฺธจิตฺตา; สารตฺตา อเปกฺขวนฺโตติ อตฺโถ. มรณวณฺณํ สํวณฺเณมาติ ชีวิเต อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา มรณสฺส ¶ คุณํ วณฺเณม; อานิสํสํ ทสฺเสมาติ. กตกลฺยาโณติอาทีสุ อยํ ปทตฺโถ – กลฺยาณํ สุจิกมฺมํ กตํ ตยาติ ตฺวํ โข อสิ กตกลฺยาโณ. ตถา กุสลํ อนวชฺชกมฺมํ กตํ ตยาติ กตกุสโล. มรณกาเล สมฺปตฺเต ยา สตฺตานํ อุปฺปชฺชติ ภยสงฺขาตา ภีรุตา, ตโต ตายนํ รกฺขณกมฺมํ กตํ ตยาติ กตภีรุตฺตาโณ ปาปํ. ลามกกมฺมํ อกตํ ตยาติ อกตปาโป. ลุทฺทํ ทารุณํ ทุสฺสีลฺยกมฺมํ อกตํ ตยาติ อกตลุทฺโท. กิพฺพิสํ สาหสิกกมฺมํ โลภาทิกิเลสุสฺสทํ อกตํ ตยาติ อกตกิพฺพิโส. กสฺมา อิทํ วุจฺจติ? ยสฺมา สพฺพปฺปการมฺปิ กตํ ตยา กลฺยาณํ, อกตํ ตยา ปาปํ; เตน ตํ วทาม – ‘‘กึ ตุยฺหํ อิมินา โรคาภิภูตตฺตา ลามเกน ปาปเกน ทุกฺขพหุลตฺตา ทุชฺชีวิเตน’’. มตํ เต ชีวิตา เสยฺโยติ ตว มรณํ ชีวิตา สุนฺทรตรํ. กสฺมา? ยสฺมา อิโต ตฺวํ กาลงฺกโต กตกาโล หุตฺวา กาลํ กตฺวา มริตฺวาติ อตฺโถ. กายสฺส เภทา…เป… อุปปชฺชิสฺสสิ. เอวํ อุปปนฺโน จ ตตฺถ ทิพฺเพหิ เทวโลเก ¶ อุปฺปนฺเนหิ ปฺจหิ กามคุเณหิ มนาปิยรูปาทิเกหิ ปฺจหิ วตฺถุกามโกฏฺาเสหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจริสฺสสิ สมฺปยุตฺโต สโมธานคโต หุตฺวา อิโต จิโต จ จริสฺสสิ, วิจริสฺสสิ อภิรมิสฺสสิ วาติ อตฺโถ.
๑๖๙. อสปฺปายานีติ อหิตานิ อวุฑฺฒิกรานิ ยานิ ขิปฺปเมว ชีวิตกฺขยํ ปาเปนฺติ.
ปทภาชนียวณฺณนา
๑๗๒. สฺจิจฺจาติ ¶ อยํ ‘‘สฺจิจฺจ มนุสฺสวิคฺคห’’นฺติ มาติกาย วุตฺตสฺส สฺจิจฺจปทสฺส อุทฺธาโร. ตตฺถ สนฺติ อุปสคฺโค, เตน สทฺธึ อุสฺสุกฺกวจนเมตํ สฺจิจฺจาติ ¶ ; ตสฺส สฺเจเตตฺวา สุฏฺุ เจเตตฺวาติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน โย สฺจิจฺจ โวโรเปติ, โส ชานนฺโต สฺชานนฺโต โหติ, ตฺจสฺส โวโรปนํ เจจฺจ อภิวิตริตฺวา วีติกฺกโม โหติ. ตสฺมา พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวา อตฺถเมว ทสฺเสตุํ ‘‘ชานนฺโต สฺชานนฺโต เจจฺจ อภิวิตริตฺวา วีติกฺกโม’’ติ เอวมสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ. ตตฺถ ชานนฺโตติ ‘‘ปาโณ’’ติ ชานนฺโต. สฺชานนฺโตติ ‘‘ชีวิตา โวโรเปมี’’ติ สฺชานนฺโต; เตเนว ปาณชานนากาเรน สทฺธึ ชานนฺโตติ อตฺโถ. เจจฺจาติ วธกเจตนาวเสน เจเตตฺวา ปกปฺเปตฺวา. อภิวิตริตฺวาติ อุปกฺกมวเสน มทฺทนฺโต นิราสงฺกจิตฺตํ เปเสตฺวา. วีติกฺกโมติ เอวํ ปวตฺตสฺส โย วีติกฺกโม อยํ สฺจิจฺจสทฺทสฺส สิขาปฺปตฺโต อตฺโถติ วุตฺตํ โหติ.
อิทานิ ‘‘มนุสฺสวิคฺคหํ ชีวิตา โวโรเปยฺยา’’ติ เอตฺถ วุตฺตํ มนุสฺสตฺตภาวํ อาทิโต ปฏฺาย ทสฺเสตุํ ‘‘มนุสฺสวิคฺคโห นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ คพฺภเสยฺยกานํ วเสน สพฺพสุขุมอตฺตภาวทสฺสนตฺถํ ‘‘ยํ มาตุกุจฺฉิสฺมิ’’นฺติ วุตฺตํ. ปมํ จิตฺตนฺติ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ. อุปฺปนฺนนฺติ ชาตํ. ปมํ วิฺาณํ ปาตุภูตนฺติ อิทํ ตสฺเสว เววจนํ. ‘‘มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปมํ จิตฺต’’นฺติ วจเนน เจตฺถ สกลาปิ ปฺจโวการปฏิสนฺธิ ทสฺสิตา โหติ. ตสฺมา ตฺจ ปมํ จิตฺตํ ตํสมฺปยุตฺตา จ ตโย อรูปกฺขนฺธา เตน สห นิพฺพตฺตฺจ กลลรูปนฺติ อยํ สพฺพปโม มนุสฺสวิคฺคโห. ตตฺถ ‘‘กลลรูป’’นฺติ อิตฺถิปุริสานํ กายวตฺถุภาวทสกวเสน ¶ สมตึส รูปานิ, นปุํสกานํ กายวตฺถุทสกวเสน วีสติ. ตตฺถ อิตฺถิปุริสานํ กลลรูปํ ชาติอุณฺณาย เอเกน อํสุนา อุทฺธฏเตลพินฺทุมตฺตํ โหติ อจฺฉํ วิปฺปสนฺนํ. วุตฺตฺเจตํ อฏฺกถายํ –
‘‘ติลเตลสฺส ยถา พินฺทุ, สปฺปิมณฺโฑ อนาวิโล;
เอวํวณฺณปฺปฏิภาคํ กลลนฺติ ปวุจฺจตี’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๒๖ ปกิณฺณกกถา; สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๓๕);
เอวํ ปริตฺตกํ วตฺถุํ อาทึ กตฺวา ปกติยา วีสวสฺสสตายุกสฺส สตฺตสฺส ยาว มรณกาลา เอตฺถนฺตเร อนุปุพฺเพน ¶ วุฑฺฒิปฺปตฺโต อตฺตภาโว เอโส มนุสฺสวิคฺคโห นาม.
ชีวิตา ¶ โวโรเปยฺยาติ กลลกาเลปิ ตาปนมทฺทเนหิ วา เภสชฺชสมฺปทาเนน วา ตโต วา อุทฺธมฺปิ ตทนุรูเปน อุปกฺกเมน ชีวิตา วิโยเชยฺยาติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน ชีวิตา โวโรปนํ นาม อตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทนเมว โหติ, ตสฺมา เอตสฺส ปทภาชเน ‘‘ชีวิตินฺทฺริยํ อุปจฺฉินฺทติ อุปโรเธติ สนฺตตึ วิโกเปตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ชีวิตินฺทฺริยสฺส ปเวณิฆฏนํ อุปจฺฉินฺทนฺโต อุปโรเธนฺโต จ ‘‘ชีวิตินฺทฺริยํ อุปจฺฉินฺทติ อุปโรเธตี’’ติ วุจฺจติ. สฺวายมตฺโถ ‘‘สนฺตตึ วิโกเปตี’’ติปเทน ทสฺสิโต. วิโกเปตีติ วิโยเชติ.
ตตฺถ ทุวิธํ ชีวิตินฺทฺริยํ – รูปชีวิตินฺทฺริยํ, อรูปชีวิตินฺทฺริยฺจ. เตสุ อรูปชีวิตินฺทฺริเย อุปกฺกโม นตฺถิ, ตํ โวโรเปตุํ น สกฺกา. รูปชีวิตินฺทฺริเย ปน อตฺถิ, ตํ โวโรเปตุํ สกฺกา. ตํ ปน โวโรเปนฺโต อรูปชีวิตินฺทฺริยมฺปิ โวโรเปติ. เตเนว หิ สทฺธึ ตํ นิรุชฺฌติ ตทายตฺตวุตฺติโต. ตํ ปน โวโรเปนฺโต กึ อตีตํ โวโรเปติ, อนาคตํ, ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ? เนว อตีตํ, น อนาคตํ, เตสุ หิ เอกํ นิรุทฺธํ เอกํ อนุปฺปนฺนนฺติ อุภปมฺปิ อสนฺตํ, อสนฺตตฺตา อุปกฺกโม นตฺถิ, อุปกฺกมสฺส นตฺถิตาย เอกมฺปิ โวโรเปตุํ น สกฺกา. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘อตีเต จิตฺตกฺขเณ ชีวิตฺถ, น ชีวติ; น ชีวิสฺสติ. อนาคเต จิตฺตกฺขเณ ชีวิสฺสติ, น ชีวิตฺถ; น ชีวติ. ปจฺจุปฺปนฺเน จิตฺตกฺขเณ ชีวติ, น ชีวิตฺถ; น ชีวิสฺสตี’’ติ (มหานิ. ๑๐).
ตสฺมา ¶ ยตฺถ ชีวติ ตตฺถ อุปกฺกโม ยุตฺโตติ ปจฺจุปฺปนฺนํ โวโรเปติ.
ปจฺจุปฺปนฺนฺจ นาเมตํ ขณปจฺจุปฺปนฺนํ, สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ, อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนนฺติ ติวิธํ. ตตฺถ ‘‘ขณปจฺจุปฺปนฺนํ’’ นาม อุปฺปาทชราภงฺคสมงฺคิ, ตํ โวโรเปตุํ น สกฺกา. กสฺมา? สยเมว นิรุชฺฌนโต. ‘‘สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ’’ นาม สตฺตฏฺชวนวารมตฺตํ สภาคสนฺตติวเสน ปวตฺติตฺวา นิรุชฺฌนกํ, ยาว วา อุณฺหโต อาคนฺตฺวา โอวรกํ ปวิสิตฺวา นิสินฺนสฺส อนฺธการํ โหติ, สีตโต วา อาคนฺตฺวา โอวรเก นิสินฺนสฺส ยาว วิสภาคอุตุปาตุภาเวน ปุริมโก อุตุ นปฺปฏิปฺปสฺสมฺภติ, เอตฺถนฺตเร ‘‘สนฺตติปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติ วุจฺจติ ¶ . ปฏิสนฺธิโต ปน ยาว จุติ, เอตํ ‘‘อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ’’ นาม. ตทุภยมฺปิ โวโรเปตุํ สกฺกา. กถํ? ตสฺมิฺหิ อุปกฺกเม กเต ลทฺธุปกฺกมํ ชีวิตนวกํ นิรุชฺฌมานํ ทุพฺพลสฺส ปริหีนเวคสฺส สนฺตานสฺส ปจฺจโย โหติ. ตโต สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ วา อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ วา ยถาปริจฺฉินฺนํ กาลํ อปตฺวา อนฺตราว นิรุชฺฌติ ¶ . เอวํ ตทุภยมฺปิ โวโรเปตุํ สกฺกา, ตสฺมา ตเทว สนฺธาย ‘‘สนฺตตึ วิโกเปตี’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อิมสฺส ปนตฺถสฺส อาวิภาวตฺถํ ปาโณ เวทิตพฺโพ, ปาณาติปาโต เวทิตพฺโพ, ปาณาติปาติ เวทิตพฺโพ, ปาณาติปาตสฺส ปโยโค เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ‘‘ปาโณ’’ติ โวหารโต สตฺโต, ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ. ชีวิตินฺทฺริยฺหิ อติปาเตนฺโต ‘‘ปาณํ อติปาเตตี’’ติ วุจฺจติ ตํ วุตฺตปฺปการเมว. ‘‘ปาณาติปาโต’’ติ ยาย เจตนาย ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทกํ ปโยคํ สมุฏฺาเปติ, สา วธกเจตนา ‘‘ปาณาติปาโต’’ติ วุจฺจติ. ‘‘ปาณาติปาตี’’ติ วุตฺตเจตนาสมงฺคิ ปุคฺคโล ทฏฺพฺโพ. ‘‘ปาณาติปาตสฺส ปโยโค’’ติ ปาณาติปาตสฺส ฉปโยคา – สาหตฺถิโก, อาณตฺติโก, นิสฺสคฺคิโย, ถาวโร, วิชฺชามโย, อิทฺธิมโยติ.
ตตฺถ ‘‘สาหตฺถิโก’’ติ สยํ มาเรนฺตสฺส กาเยน วา กายปฺปฏิพทฺเธน วา ปหรณํ. ‘‘อาณตฺติโก’’ติ อฺํ อาณาเปนฺตสฺส ‘‘เอวํ วิชฺฌิตฺวา วา ปหริตฺวา วา มาเรหี’’ติ อาณาปนํ. ‘‘นิสฺสคฺคิโย’’ติ ทูเร ิตํ มาเรตุกามสฺส กาเยน วา กายปฺปฏิพทฺเธน วา อุสุสตฺติยนฺตปาสาณาทีนํ นิสฺสชฺชนํ. ‘‘ถาวโร’’ติ อสฺจาริเมน อุปกรเณน มาเรตุกามสฺส โอปาตอปสฺเสนอุปนิกฺขิปนํ เภสชฺชสํวิธานํ. เต จตฺตาโรปิ ปรโต ปาฬิวณฺณนายเมว วิตฺถารโต อาวิภวิสฺสนฺติ.
วิชฺชามยอิทฺธิมยา ¶ ปน ปาฬิยํ อนาคตา. เต เอวํ เวทิตพฺพา. สงฺเขปโต หิ มารณตฺถํ วิชฺชาปริชปฺปนํ วิชฺชามโย ปโยโค. อฏฺกถาสุ ¶ ปน ‘‘กตโม วิชฺชามโย ปโยโค? อาถพฺพณิกา อาถพฺพณํ ปโยเชนฺติ; นคเร วา รุทฺเธ สงฺคาเม วา ปจฺจุปฏฺิเต ปฏิเสนาย ปจฺจตฺถิเกสุ ปจฺจามิตฺเตสุ อีตึ อุปฺปาเทนฺติ, อุปทฺทวํ อุปฺปาเทนฺติ, โรคํ อุปฺปาเทนฺติ, ปชฺชรกํ อุปฺปาเทนฺติ, สูจิกํ กโรนฺติ, วิสูจิกํ กโรนฺติ, ปกฺขนฺทิยํ กโรนฺติ. เอวํ อาถพฺพณิกา อาถพฺพณํ ปโยเชนฺติ. วิชฺชาธารา วิชฺชํ ปริวตฺเตตฺวา นคเร วา รุทฺเธ…เป… ปกฺขนฺทิยํ กโรนฺตี’’ติ เอวํ วิชฺชามยํ ปโยคํ ทสฺเสตฺวา อาถพฺพณิเกหิ จ วิชฺชาธเรหิ จ มาริตานํ พหูนิ วตฺถูนิ วุตฺตานิ, กึ เตหิ! อิทฺเหตฺถ ลกฺขณํ มารณาย วิชฺชาปริชปฺปนํ วิชฺชามโย ปโยโคติ.
กมฺมวิปากชาย อิทฺธิยา ปโยชนํ อิทฺธิมโย ปโยโค. กมฺมวิปากชิทฺธิ จ นาเมสา นาคานํ นาคิทฺธิ, สุปณฺณานํ สุปณฺณิทฺธิ, ยกฺขานํ ยกฺขิทฺธิ, เทวานํ เทวิทฺธิ, ราชูนํ ราชิทฺธีติ ¶ พหุวิธา. ตตฺถ ทิฏฺทฏฺผุฏฺวิสานํ นาคานํ ทิสฺวา ฑํสิตฺวา ผุสิตฺวา จ ปรูปฆาตกรเณ ‘‘นาคิทฺธิ’’ เวทิตพฺพา. สุปณฺณานํ มหาสมุทฺทโต ทฺวตฺติพฺยามสตปฺปมาณนาคุทฺธรเณ ‘‘สุปณฺณิทฺธิ’’ เวทิตพฺพา. ยกฺขา ปน เนว อาคจฺฉนฺตา น ปหรนฺตา ทิสฺสนฺติ, เตหิ ปหฏสตฺตา ปน ตสฺมึเยว าเน มรนฺติ, ตตฺร เตสํ ‘‘ยกฺขิทฺธิ’’ ทฏฺพฺพา. เวสฺสวณสฺส โสตาปนฺนกาลโต ปุพฺเพ นยนาวุเธน โอโลกิตกุมฺภณฺฑานํ มรเณ อฺเสฺจ เทวานํ ยถาสกํ อิทฺธานุภาเว ‘‘เทวิทฺธิ’’ เวทิตพฺพา. รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สปริสสฺส อากาสคมนาทีสุ, อโสกสฺส เหฏฺา อุปริ จ โยชเน อาณาปวตฺตนาทีสุ, ปิตุรฺโ จ สีหฬนรินฺทสฺส ทาาโกฏเนน จูฬสุมนกุฏุมฺพิยสฺสมรเณ ¶ ‘‘ราชิทฺธิ’’ ทฏฺพฺพาติ.
เกจิ ปน ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต อฺิสฺสา กุจฺฉิคตํ คพฺภํ ปาปเกน มนสาอนุเปกฺขิตา โหติ ‘อโห วตายํ กุจฺฉิคโต คพฺโภ น โสตฺถินา อภินิกฺขเมยฺยา’ติ. เอวมฺปิ ภิกฺขเว กุลุมฺพสฺส อุปฆาโต โหตี’’ติ อาทิกานิ สุตฺตานิ ทสฺเสตฺวา ภาวนามยิทฺธิยาปิ ปรูปฆาตกมฺมํ วทนฺติ; สห ปรูปฆาตกรเณน จ อาทิตฺตฆรูปริขิตฺตสฺส ¶ อุทกฆฏสฺส เภทนมิว อิทฺธิวินาสฺจ อิจฺฉนฺติ; ตํ เตสํ อิจฺฉามตฺตเมว. กสฺมา? ยสฺมา กุสลเวทนาวิตกฺกปริตฺตตฺติเกหิ น สเมติ. กถํ? อยฺหิ ภาวนามยิทฺธิ นาม กุสลตฺติเก กุสลา เจว อพฺยากตา จ, ปาณาติปาโต อกุสโล. เวทนาตฺติเก อทุกฺขมสุขสมฺปยุตฺตา ปาณาติปาโต ทุกฺขสมฺปยุตฺโต. วิตกฺกตฺติเก อวิตกฺกาวิจารา, ปาณาติปาโต สวิตกฺกสวิจาโร. ปริตฺตตฺติเก มหคฺคตา, ปาณาติปาโต ปริตฺโตติ.
สตฺถหารกํ วาสฺส ปริเยเสยฺยาติ เอตฺถ หรตีติ หารกํ. กึ หรติ? ชีวิตํ. อถ วา หริตพฺพนฺติ หารกํ; อุปนิกฺขิปิตพฺพนฺติ อตฺโถ. สตฺถฺจ ตํ หารกฺจาติ สตฺถหารกํ. อสฺสาติ มนุสฺสวิคฺคหสฺส. ปริเยเสยฺยาติ ยถา ลภติ ตถา กเรยฺย; อุปนิกฺขิเปยฺยาติ อตฺโถ. เอเตน ถาวรปฺปโยคํ ทสฺเสติ. อิตรถา หิ ปริยิฏฺมตฺเตเนว ปาราชิโก ภเวยฺย; น เจตํ ยุตฺตํ. ปาฬิยํ ปน สพฺพํ พฺยฺชนํ อนาทิยิตฺวา ยํ เอตฺถ ถาวรปฺปโยคสงฺคหิตํ สตฺถํ, ตเทว ทสฺเสตุํ ‘‘อสึ วา…เป… รชฺชุํ วา’’ติ ปทภาชนํ วุตฺตํ.
ตตฺถ สตฺถนฺติ วุตฺตาวเสสํ ยํกิฺจิ สมุขํ เวทิตพฺพํ. ลคุฬปาสาณวิสรชฺชูนฺจ ชีวิตวินาสนภาวโต สตฺถสงฺคโห เวทิตพฺโพ. มรณวณฺณํ วาติ เอตฺถ ยสฺมา ‘‘กึ ตุยฺหิมินา ¶ ปาปเกน ทุชฺชีวิเตน, โย ตฺวํ น ลภสิ ปณีตานิ โภชนานิ ภฺุชิตุ’’นฺติอาทินา ¶ นเยน ชีวิเต อาทีนวํ ทสฺเสนฺโตปิ ‘‘ตฺวํ โขสิ อุปาสก กตกลฺยาโณ…เป… อกตํ ตยา ปาปํ, มตํ เต ชีวิตา เสยฺโย, อิโต ตฺวํ กาลงฺกโต ปริจริสฺสสิ อจฺฉราปริวุโต นนฺทนวเน สุขปฺปตฺโต วิหริสฺสสี’’ติอาทินา นเยน มรเณ วณฺณํ ภณนฺโตปิ มรณวณฺณเมว สํวณฺเณติ. ตสฺมา ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา ปทภาชนํ วุตฺตํ – ‘‘ชีวิเต อาทีนวํ ทสฺเสติ, มรเณ วณฺณํ ภณตี’’ติ.
มรณาย วา สมาทเปยฺยาติ มรณตฺถาย อุปายํ คาหาเปยฺย. สตฺถํ วา อาหราติ อาทีสุ จ ยมฺปิ น วุตฺตํ ‘‘โสพฺเภ วา นรเก วา ปปาเต วา ปปตา’’ติอาทิ, ตํ สพฺพํ ปรโต วุตฺตนยตฺตา อตฺถโต วุตฺตเมวาติ เวทิตพฺพํ. น หิ สกฺกา สพฺพํ สรูเปเนว วตฺตุํ.
อิติ ¶ จิตฺตมโนติ อิติจิตฺโต อิติมโน; ‘‘มตํ เต ชีวิตา เสยฺโย’’ติ เอตฺถ วุตฺตมรณจิตฺโต มรณมโนติ อตฺโถ. ยสฺมา ปเนตฺถ มโน จิตฺตสทฺทสฺส อตฺถทีปนตฺถํ วุตฺโต, อตฺถโต ปเนตํ อุภยมฺปิ เอกเมว, ตสฺมา ตสฺส อตฺถโต อเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ จิตฺตํ ตํ มโน, ยํ มโน ตํ จิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. อิติสทฺทํ ปน อุทฺธริตฺวาปิ น ตาว อตฺโถ วุตฺโต. จิตฺตสงฺกปฺโปติ อิมสฺมึ ปเท อธิการวเสน อิติสทฺโท อาหริตพฺโพ. อิทฺหิ ‘‘อิติจิตฺตสงฺกปฺโป’’ติ เอวํ อวุตฺตมฺปิ อธิการโต วุตฺตเมว โหตีติ เวทิตพฺพํ. ตถา หิสฺส ตเมวอตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มรณสฺี’’ติอาทิมาห. ยสฺมา เจตฺถ ‘‘สงฺกปฺโป’’ติ นยิทํ วิตกฺกสฺส นามํ. อถ โข สํวิทหนมตฺตสฺเสตํ อธิวจนํ. ตฺจ สํวิทหนํ อิมสฺมึ อตฺเถ สฺาเจตนาธิปฺปาเยหิ สงฺคหํ คจฺฉติ. ตสฺมา จิตฺโต นานปฺปการโก สงฺกปฺโป อสฺสาติ จิตฺตสงฺกปฺโปติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตถา หิสฺส ปทภาชนมฺปิ ¶ สฺาเจตนาธิปฺปายวเสน วุตฺตํ. เอตฺถ จ ‘‘อธิปฺปาโย’’ติ วิตกฺโก เวทิตพฺโพ.
อุจฺจาวเจหิ อากาเรหีติ มหนฺตามหนฺเตหิ อุปาเยหิ. ตตฺถ มรณวณฺณสํวณฺณเน ตาว ชีวิเต อาทีนวทสฺสนวเสน อวจาการตา มรเณ วณฺณภณนวเสน อุจฺจาการตา เวทิตพฺพา. สมาทปเน ปน มุฏฺิชาณุนิปฺโผฏนาทีหิ มรณสมาทปนวเสน อุจฺจาการตา, เอกโต ภฺุชนฺตสฺส นเข วิสํ ปกฺขิปิตฺวา มรณาทิสมาทปนวเสน อวจาการตา เวทิตพฺพา.
โสพฺเภ วา นรเก วา ปปาเต วาติ เอตฺถ โสพฺโภ นาม สมนฺตโต ฉินฺนตโฏ คมฺภีโร อาวาโฏ. นรโก นาม ตตฺถ ตตฺถ ผลนฺติยา ภูมิยา สยเมว นิพฺพตฺตา มหาทรี, ยตฺถ หตฺถีปิ ปตนฺติ, โจราปิ นิลีนา ติฏฺนฺติ. ปปาโตติ ปพฺพตนฺตเร วา ถลนฺตเร วา เอกโต ฉินฺโน ¶ โหติ. ปุริเม อุปาทายาติ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตฺวา อทินฺนฺจ อาทิยิตฺวา ปาราชิกํ อาปตฺตึ อาปนฺเน ปุคฺคเล อุปาทาย. เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถตฺตา จ ปากฏเมวาติ.
๑๗๔. เอวํ อุทฺทิฏฺสิกฺขาปทํ ปทานุกฺกเมน วิภชิตฺวา อิทานิ ยสฺมา เหฏฺา ปทภาชนียมฺหิ สงฺเขเปเนว มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกํ ทสฺสิตํ, น วิตฺถาเรน อาปตฺตึ อาโรเปตฺวา ตนฺติ ปิตา. สงฺเขปทสฺสิเต จ อตฺเถ น สพฺพากาเรเนว ¶ ภิกฺขู นยํ คเหตุํ สกฺโกนฺติ, อนาคเต จ ปาปปุคฺคลานมฺปิ โอกาโส โหติ, ตสฺมา ภิกฺขูนฺจ สพฺพากาเรน นยคฺคหณตฺถํ อนาคเต จ ปาปปุคฺคลานํ โอกาสปฏิพาหนตฺถํ ปุน ‘‘สามํ อธิฏฺายา’’ติอาทินา นเยน มาติกํ เปตฺวา วิตฺถารโต มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สามนฺติ สยํ หนตี’’ติอาทิมาห.
ตตฺรายํ อนุตฺตานปทวณฺณนาย สทฺธึ วินิจฺฉยกถา – กาเยนาติ หตฺเถน วา ปาเทน วา มุฏฺินา วา ชาณุนา วา เยน เกนจิ องฺคปจฺจงฺเคน. กายปฏิพทฺเธนาติ กายโต อโมจิเตน อสิอาทินา ปหรเณน. นิสฺสคฺคิเยนาติ กายโต จ กายปฏิพทฺธโต จ โมจิเตน อุสุสตฺติอาทินา. เอตฺตาวตา สาหตฺถิโก ¶ จ นิสฺสคฺคิโย จาติ ทฺเว ปโยคา วุตฺตา โหนฺติ.
ตตฺถ เอกเมโก อุทฺทิสฺสานุทฺทิสฺสเภทโต ทุวิโธ. ตตฺถ อุทฺเทสิเก ยํ อุทฺทิสฺส ปหรติ, ตสฺเสว มรเณน กมฺมุนา พชฺฌติ. ‘‘โย โกจิ มรตู’’ติ เอวํ อนุทฺเทสิเก ปหารปฺปจฺจยา ยสฺส กสฺสจิ มรเณน กมฺมุนา พชฺฌติ. อุภยถาปิ จ ปหริตมตฺเต วา มรตุ ปจฺฉา วา เตเนว โรเคน, ปหริตมตฺเตเยว กมฺมุนา พชฺฌติ. มรณาธิปฺปาเยน จ ปหารํ ทตฺวา เตน อมตสฺส ปุน อฺจิตฺเตน ปหาเร ทินฺเน ปจฺฉาปิ ยทิ ปมปฺปหาเรเนว มรติ, ตทา เอว กมฺมุนา พทฺโธ. อถ ทุติยปฺปหาเรน มรติ, นตฺถิ ปาณาติปาโต. อุภเยหิ มเตปิ ปมปฺปหาเรเนว กมฺมุนา พทฺโธ. อุภเยหิ อมเต เนวตฺถิ ปาณาติปาโต. เอส นโย พหูหิปิ เอกสฺส ปหาเร ทินฺเน. ตตฺราปิ หิ ยสฺส ปหาเรน มรติ, ตสฺเสว กมฺมุนา พทฺโธ โหตีติ.
กมฺมาปตฺติพฺยตฺติภาวตฺถฺเจตฺถ เอฬกจตุกฺกมฺปิ เวทิตพฺพํ. โย หิ เอฬกํ เอกสฺมึ าเน นิปนฺนํ อุปธาเรติ ‘‘รตฺตึ อาคนฺตฺวา วธิสฺสามี’’ติ. เอฬกสฺส จ นิปนฺโนกาเส ตสฺส มาตา วา ปิตา วา อรหา วา ปณฺฑุกาสาวํ ปารุปิตฺวา นิปนฺโน โหติ. โส รตฺติภาเค อาคนฺตฺวา ‘‘เอฬกํ มาเรมี’’ติ มาตรํ วา ปิตรํ วา อรหนฺตํ วา มาเรติ. ‘‘อิมํ วตฺถุํ มาเรมี’’ติ เจตนาย อตฺถิภาวโต ฆาตโก จ โหติ, อนนฺตริยกมฺมฺจ ผุสติ, ปาราชิกฺจ อาปชฺชติ ¶ . อฺโ โกจิ อาคนฺตุโก นิปนฺโน โหติ ¶ , ‘‘เอฬกํ มาเรมี’’ติ ตํ มาเรติ, ฆาตโก จ โหติ ปาราชิกฺจ อาปชฺชติ, อานนฺตริยํ น ผุสติ. ยกฺโข วา เปโต วา นิปนฺโน โหติ, ‘‘เอฬกํ มาเรมี’’ติ ตํ มาเรติ ฆาตโกว โหติ, น จานนฺตริยํ ผุสติ, น จ ปาราชิกํ อาปชฺชติ, ถุลฺลจฺจยํ ปน โหติ. อฺโ โกจิ นิปนฺโน นตฺถิ, เอฬโกว โหติ ตํ มาเรติ, ฆาตโก จ โหติ, ปาจิตฺติยฺจ อาปชฺชติ. ‘‘มาตาปิตุอรหนฺตานํ อฺตรํ ¶ มาเรมี’’ติ เตสํเยว อฺตรํ มาเรติ, ฆาตโก จ โหติ, อานนฺตริยฺจ ผุสติ, ปาราชิกฺจ อาปชฺชติ. ‘‘เตสํ อฺตรํ มาเรสฺสามี’’ติ อฺํ อาคนฺตุกํ มาเรติ, ยกฺขํ วา เปตํ วา มาเรติ, เอฬกํ วา มาเรติ, ปุพฺเพ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. อิธ ปน เจตนา ทารุณา โหตีติ.
อฺานิปิ เอตฺถ ปลาลปฺุชาทิวตฺถูนิ เวทิตพฺพานิ. โย หิ ‘‘โลหิตกํ อสึ วา สตฺตึ วา ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ ปลาลปฺุเช ปเวเสนฺโต ตตฺถ นิปนฺนํ มาตรํ วา ปิตรํ วา อรหนฺตํ วา อาคนฺตุกปุริสํ วา ยกฺขํ วา เปตํ วา ติรจฺฉานคตํ วา มาเรติ, โวหารวเสน ‘‘ฆาตโก’’ติ วุจฺจติ, วธกเจตนาย ปน อภาวโต เนว กมฺมํ ผุสติ, น อาปตฺตึ อาปชฺชติ. โย ปน เอวํ ปเวเสนฺโต สรีรสมฺผสฺสํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘สตฺโต มฺเ อพฺภนฺตรคโต มรตู’’ติ ปเวเสตฺวา มาเรติ, ตสฺส เตสํ วตฺถูนํ อนุรูเปน กมฺมพทฺโธ จ อาปตฺติ จ เวทิตพฺพา. เอส นโย ตตฺถ นิทหนตฺถํ ปเวเสนฺตสฺสาปิ วนปฺปคุมฺพาทีสุ ขิปนฺตสฺสาปิ.
โยปิ ‘‘โจรํ มาเรมี’’ติ โจรเวเสน คจฺฉนฺตํ ปิตรํ มาเรติ, อานนฺตริยฺจ ผุสติ, ปาราชิโก จ โหติ. โย ปน ปรเสนาย อฺฺจ โยธํ ปิตรฺจ กมฺมํ กโรนฺเต ทิสฺวา โยธสฺส อุสุํ ขิปติ, ‘‘เอตํ วิชฺฌิตฺวา มม ปิตรํ วิชฺฌิสฺสตี’’ติ ยถาธิปฺปายํ คเต ปิตุฆาตโก โหติ. ‘‘โยเธ วิทฺเธ มม ปิตา ปลายิสฺสตี’’ติ ขิปติ, อุสุ อยถาธิปฺปายํ คนฺตฺวา ปิตรํ มาเรติ, โวหารวเสน ‘‘ปิตุฆาตโก’’ติ วุจฺจติ; อานนฺตริยํ ปน นตฺถีติ.
อธิฏฺหิตฺวาติ สมีเป ตฺวา. อาณาเปตีติ อุทฺทิสฺส วา อนุทฺทิสฺส วา อาณาเปติ. ตตฺถ ปรเสนาย ปจฺจุปฏฺิตาย อนุทฺทิสฺเสว ‘‘เอวํ วิชฺฌ ¶ , เอวํ ปหร, เอวํ ฆาเตหี’’ติ อาณตฺเต ยตฺตเก อาณตฺโต ฆาเตติ, ตตฺตกา อุภินฺนํ ปาณาติปาตา. สเจ ตตฺถ อาณาปกสฺส มาตาปิตโร โหนฺติ, อานนฺตริยมฺปิ ผุสติ. สเจ อาณตฺตสฺเสว มาตาปิตโร, โสว อานนฺตริยํ ผุสติ. สเจ ¶ อรหา โหติ, อุโภปิ อานนฺตริยํ ผุสนฺติ. อุทฺทิสิตฺวา ปน ‘‘เอตํ ทีฆํ รสฺสํ รตฺตกฺจุกํ นีลกฺจุกํ หตฺถิกฺขนฺเธ นิสินฺนํ มชฺเฌ นิสินฺนํ วิชฺฌ ปหร ฆาเตหี’’ติ ¶ อาณตฺเต สเจ โส ตเมว ฆาเตติ, อุภินฺนมฺปิ ปาณาติปาโต; อานนฺตริยวตฺถุมฺหิ จ อานนฺตริยํ. สเจ อฺํ มาเรติ, อาณาปกสฺส นตฺถิ ปาณาติปาโต. เอเตน อาณตฺติโก ปโยโค วุตฺโต โหติ. ตตฺถ –
วตฺถุํ กาลฺจ โอกาสํ, อาวุธํ อิริยาปถํ;
ตุลยิตฺวา ปฺจ านานิ, ธาเรยฺยตฺถํ วิจกฺขโณ.
อปโร นโย –
วตฺถุ กาโล จ โอกาโส, อาวุธํ อิริยาปโถ;
กิริยาวิเสโสติ อิเม, ฉ อาณตฺตินิยามกา.
ตตฺถ ‘‘วตฺถู’’ติ มาเรตพฺโพ สตฺโต. ‘‘กาโล’’ติ ปุพฺพณฺหสายนฺหาทิกาโล จ โยพฺพนถาวริยาทิกาโล จ. ‘‘โอกาโส’’ติ คาโม วา วนํ วา เคหทฺวารํ วา เคหมชฺฌํ วา รถิกา วา สิงฺฆาฏกํ วาติ เอวมาทิ. ‘‘อาวุธ’’นฺติ อสิ วา อุสุ วา สตฺติ วาติ เอวมาทิ. ‘‘อิริยาปโถ’’ติ มาเรตพฺพสฺส คมนํ วา นิสชฺชา วาติ เอวมาทิ. ‘‘กิริยาวิเสโส’’ติ วิชฺฌนํ วา เฉทนํ วา เภทนํ วา สงฺขมุณฺฑกํ วาติ เอวมาทิ.
ยทิ หิ วตฺถุํ วิสํวาเทตฺวา ‘‘ยํ มาเรหี’’ติ อาณตฺโต ตโต อฺํ มาเรติ, ‘‘ปุรโต ปหริตฺวา มาเรหี’’ติ วา อาณตฺโต ปจฺฉโต วา ปสฺสโต วา อฺสฺมึ วา ปเทเส ปหริตฺวา มาเรติ. อาณาปกสฺส นตฺถิ กมฺมพนฺโธ; อาณตฺตสฺเสว กมฺมพนฺโธ. อถ วตฺถุํ อวิสํวาเทตฺวา ยถาณตฺติยา มาเรติ, อาณาปกสฺส อาณตฺติกฺขเณ อาณตฺตสฺส จ มารณกฺขเณติ อุภเยสมฺปิ กมฺมพนฺโธ. วตฺถุวิเสเสน ปเนตฺถ กมฺมวิเสโส จ อาปตฺติวิเสโส จ โหตีติ. เอวํ ตาว วตฺถุมฺหิ สงฺเกตวิสงฺเกตตา เวทิตพฺพา.
กาเล ¶ ปน โย ‘‘อชฺช สฺเว’’ติ อนิยเมตฺวา ‘‘ปุพฺพณฺเห มาเรหี’’ติ อาณตฺโต ¶ ยทา กทาจิ ปุพฺพณฺเห มาเรติ, นตฺถิ วิสงฺเกโต. โย ปน ‘‘อชฺช ปุพฺพณฺเห’’ติ วุตฺโต มชฺฌนฺเห วา สายนฺเห วา สฺเว วา ปุพฺพณฺเห มาเรติ. วิสงฺเกโต โหติ, อาณาปกสฺส นตฺถิ กมฺมพนฺโธ. ปุพฺพณฺเห มาเรตุํ วายมนฺตสฺส มชฺฌนฺเห ชาเตปิ เอเสว นโย. เอเตน นเยน สพฺพกาลปฺปเภเทสุ สงฺเกตวิสงฺเกตตา เวทิตพฺพา.
โอกาเสปิ ¶ โย ‘‘เอตํ คาเม ิตํ มาเรหี’’ติ อนิยเมตฺวา อาณตฺโต ตํ ยตฺถ กตฺถจิ มาเรติ, นตฺถิ วิสงฺเกโต. โย ปน ‘‘คาเมเยวา’’ติ นิยเมตฺวา อาณตฺโต วเน มาเรติ, ตถา ‘‘วเน’’ติ อาณตฺโต คาเม มาเรติ. ‘‘อนฺโตเคหทฺวาเร’’ติ อาณตฺโต เคหมชฺเฌ มาเรติ, วิสงฺเกโต. เอเตน นเยน สพฺโพกาสเภเทสุ สงฺเกตวิสงฺเกตตา เวทิตพฺพา.
อาวุเธปิ โย ‘‘อสินา วา อุสุนา วา’’ติ อนิยเมตฺวา ‘‘อาวุเธน มาเรหี’’ติ อาณตฺโต เยน เกนจิ อาวุเธน มาเรติ, นตฺถิ วิสงฺเกโต. โย ปน ‘‘อสินา’’ติ วุตฺโต อุสุนา, ‘‘อิมินา วา อสินา’’ติ วุตฺโต อฺเน อสินา มาเรติ. เอตสฺเสว วา อสิสฺส ‘‘อิมาย ธาราย มาเรหี’’ติ วุตฺโต อิตราย วา ธาราย ตเลน วา ตุณฺเฑน วา ถรุนา วา มาเรติ, วิสงฺเกโต. เอเตน นเยน สพฺพอาวุธเภเทสุ สงฺเกตวิสงฺเกตตา เวทิตพฺพา.
อิริยาปเถ ปน โย ‘‘เอตํ คจฺฉนฺตํ มาเรหี’’ติ วทติ, อาณตฺโต จ นํ สเจ คจฺฉนฺตํ มาเรติ, นตฺถิ วิสงฺเกโต. ‘‘คจฺฉนฺตเมว มาเรหี’’ติ วุตฺโต ปน สเจ นิสินฺนํ มาเรติ. ‘‘นิสินฺนเมว วา มาเรหี’’ติ วุตฺโต คจฺฉนฺตํ มาเรติ, วิสงฺเกโต โหติ. เอเตน นเยน สพฺพอิริยาปถเภเทสุ สงฺเกตวิสงฺเกตตา เวทิตพฺพา.
กิริยาวิเสเสปิ โย ‘‘วิชฺฌิตฺวา มาเรหี’’ติ วุตฺโต วิชฺฌิตฺวาว มาเรติ, นตฺถิ วิสงฺเกโต. โย ปน ‘‘วิชฺฌิตฺวา มาเรหี’’ติ วุตฺโต ฉินฺทิตฺวา มาเรติ, วิสงฺเกโต. เอเตน นเยน สพฺพกิริยาวิเสสเภเทสุ สงฺเกตวิสงฺเกตตา เวทิตพฺพา.
โย ปน ลิงฺควเสน ‘‘ทีฆํ รสฺสํ กาฬํ โอทาตํ กิสํ ถูลํ มาเรหี’’ติ อนิยเมตฺวา อาณาเปติ, อาณตฺโต จ ยํกิฺจิ ตาทิสํ ¶ มาเรติ, นตฺถิ ¶ วิสงฺเกโต อุภินฺนํ ปาราชิกํ. อถ ปน โส อตฺตานํ สนฺธาย อาณาเปติ, อาณตฺโต จ ‘‘อยเมว อีทิโส’’ติ อาณาปกเมว มาเรติ, อาณาปกสฺส ทุกฺกฏํ, วธกสฺส ปาราชิกํ. อาณาปโก อตฺตานํ สนฺธาย อาณาเปติ, อิตโร อฺํ ตาทิสํ มาเรติ, อาณาปโก มุจฺจติ, วธกสฺเสว ปาราชิกํ. กสฺมา? โอกาสสฺส อนิยมิตตฺตา. สเจ ปน อตฺตานํ สนฺธาย อาณาเปนฺโตปิ โอกาสํ นิยเมติ, ‘‘อสุกสฺมึ นาม รตฺติฏฺาเน วา ทิวาฏฺาเน วา เถราสเน วา นวาสเน วา มชฺฌิมาสเน วา นิสินฺนํ เอวรูปํ นาม มาเรหี’’ติ. ตตฺถ จ อฺโ นิสินฺโน โหติ, สเจ อาณตฺโต ตํ มาเรติ, เนว วธโก มุจฺจติ น อาณาปโก. กสฺมา? โอกาสสฺส นิยมิตตฺตา. สเจ ปน นิยมิโตกาสโต ¶ อฺตฺร มาเรติ, อาณาปโก มุจฺจตีติ อยํ นโย มหาอฏฺกถายํ สุฏฺุ ทฬฺหํ กตฺวา วุตฺโต. ตสฺมา เอตฺถ น อนาทริยํ กาตพฺพนฺติ.
อธิฏฺายาติ มาติกาวเสน อาณตฺติกปโยคกถา นิฏฺิตา.
อิทานิ เย ทูเตนาติ อิมสฺส มาติกาปทสฺส นิทฺเทสทสฺสนตฺถํ ‘‘ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อาณาเปตี’’ติอาทโย จตฺตาโร วารา วุตฺตา. เตสุ โส ตํ มฺมาโนติ โส อาณตฺโต โย อาณาปเกน ‘‘อิตฺถนฺนาโม’’ติ อกฺขาโต, ตํ มฺมาโน ตเมว ชีวิตา โวโรเปติ, อุภินฺนํ ปาราชิกํ. ตํ มฺมาโน อฺนฺติ ‘‘ยํ ชีวิตา โวโรเปหี’’ติ วุตฺโต ตํ มฺมาโน อฺํ ตาทิสํ ชีวิตา โวโรเปติ, มูลฏฺสฺส อนาปตฺติ. อฺํ มฺมาโน ตนฺติ โย อาณาปเกน วุตฺโต, ตสฺส พลวสหายํ สมีเป ิตํ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺส พเลนายํ คชฺชติ, อิมํ ตาว ชีวิตา โวโรเปมี’’ติ ปหรนฺโต อิตรเมว ปริวตฺติตฺวา ตสฺมึ าเน ิตํ ‘‘สหาโย’’ติ มฺมาโน ชีวิตา โวโรเปติ, อุภินฺนํ ปาราชิกํ. อฺํ มฺมาโน อฺนฺติ ปุริมนเยเนว ‘‘อิมํ ตาวสฺส สหายํ ชีวิตา โวโรเปมี’’ติ สหายเมว โวโรเปติ, ตสฺเสว ปาราชิกํ.
ทูตปรมฺปราปทสฺส นิทฺเทสวาเร อิตฺถนฺนามสฺส ปาวทาติอาทีสุ เอโก อาจริโย ตโย พุทฺธรกฺขิตธมฺมรกฺขิตสงฺฆรกฺขิตนามกา อนฺเตวาสิกา ¶ ทฏฺพฺพา. ตตฺถ ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อาณาเปตีติ อาจริโย กฺจิ ปุคฺคลํ ¶ มาราเปตุกาโม ตมตฺถํ อาจิกฺขิตฺวา พุทฺธรกฺขิตํ อาณาเปติ. อิตฺถนฺนามสฺส ปาวทาติ คจฺฉ ตฺวํ, พุทฺธรกฺขิต, เอตมตฺถํ ธมฺมรกฺขิตสฺส ปาวท. อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส ปาวทตูติ ธมฺมรกฺขิโตปิ สงฺฆรกฺขิตสฺส ปาวทตุ. อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ ชีวิตา โวโรเปตูติ เอวํ ตยา อาณตฺเตน ธมฺมรกฺขิเตน อาณตฺโต สงฺฆรกฺขิโต อิตฺถนฺนามํ ปุคฺคลํ ชีวิตา โวโรเปตุ; โส หิ อมฺเหสุ วีรชาติโก ปฏิพโล อิมสฺมึ กมฺเมติ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอวํ อาณาเปนฺตสฺส อาจริยสฺส ตาว ทุกฺกฏํ. โส อิตรสฺส อาโรเจตีติ พุทฺธรกฺขิโต ธมฺมรกฺขิตสฺส, ธมฺมรกฺขิโต จ สงฺฆรกฺขิตสฺส ‘‘อมฺหากํ อาจริโย เอวํ วทติ – ‘อิตฺถนฺนามํ กิร ชีวิตา โวโรเปหี’ติ. ตฺวํ กิร อมฺเหสุ วีรปุริโส’’ติ อาโรเจติ; เอวํ เตสมฺปิ ทุกฺกฏํ. วธโก ปฏิคฺคณฺหาตีติ ‘‘สาธุ โวโรเปสฺสามี’’ติ สงฺฆรกฺขิโต สมฺปฏิจฺฉติ. มูลฏฺสฺส อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสาติ สงฺฆรกฺขิเตน ปฏิคฺคหิตมตฺเต อาจริยสฺส ถุลฺลจฺจยํ. มหาชโน หิ เตน ปาเป นิโยชิโตติ. โส ตนฺติ โส เจ สงฺฆรกฺขิโต ตํ ปุคฺคลํ ชีวิตา โวโรเปติ, สพฺเพสํ จตุนฺนมฺปิ ชนานํ ปาราชิกํ. น เกวลฺจ ¶ จตุนฺนํ, เอเตนูปาเยน วิสงฺเกตํ อกตฺวา ปรมฺปราย อาณาเปนฺตํ สมณสตํ สมณสหสฺสํ วา โหตุ สพฺเพสํ ปาราชิกเมว.
วิสกฺกิยทูตปทนิทฺเทเส โส อฺํ อาณาเปตีติ โส อาจริเยน อาณตฺโต พุทฺธรกฺขิโต ธมฺมรกฺขิตํ อทิสฺวา วา อวตฺตุกาโม วา หุตฺวา สงฺฆรกฺขิตเมว อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อมฺหากํ อาจริโย เอวมาห – ‘อิตฺถนฺนามํ กิร ชีวิตา โวโรเปหี’’ติ วิสงฺเกตํ กโรนฺโต อาณาเปติ. วิสงฺเกตกรเณเนว หิ เอส ‘‘วิสกฺกิยทูโต’’ติ วุจฺจติ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ อาณตฺติยา ตาว พุทฺธรกฺขิตสฺส ทุกฺกฏํ. ปฏิคฺคณฺหาติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ สงฺฆรกฺขิเตน สมฺปฏิจฺฉิเต มูลฏฺสฺเสว ¶ ทุกฺกฏนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ สนฺเต ปฏิคฺคหเณ อาปตฺติเยว น สิยา, สฺจริตฺต ปฏิคฺคหณมรณาภินนฺทเนสุปิ จ อาปตฺติ โหติ, มรณปฏิคฺคหเณ กถํ น สิยา ตสฺมา ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺเสเวตํ ทุกฺกฏํ. เตเนเวตฺถ ‘‘มูลฏฺสฺสา’’ติ น วุตฺตํ. ปุริมนเยปิ เจตํ ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส เวทิตพฺพเมว; โอกาสาภาเวน ปน น วุตฺตํ. ตสฺมา โย โย ¶ ปฏิคฺคณฺหาติ, ตสฺส ตสฺส ตปฺปจฺจยา อาปตฺติเยวาติ อยเมตฺถ อมฺหากํ ขนฺติ. ยถา เจตฺถ เอวํ อทินฺนาทาเนปีติ.
สเจ ปน โส ตํ ชีวิตา โวโรเปติ, อาณาปกสฺส จ พุทฺธรกฺขิตสฺส โวโรปกสฺส จ สงฺฆรกฺขิตสฺสาติ อุภินฺนมฺปิ ปาราชิกํ. มูลฏฺสฺส ปน อาจริยสฺส วิสงฺเกตตฺตา ปาราชิเกน อนาปตฺติ. ธมฺมรกฺขิตสฺส อชานนตาย สพฺเพน สพฺพํ อนาปตฺติ. พุทฺธรกฺขิโต ปน ทฺวินฺนํ โสตฺถิภาวํ กตฺวา อตฺตนา นฏฺโติ.
คตปจฺจาคตทูตนิทฺเทเส – โส คนฺตฺวา ปุน ปจฺจาคจฺฉตีติ ตสฺส ชีวิตา โวโรเปตพฺพสฺส สมีปํ คนฺตฺวา สุสํวิหิตารกฺขตฺตา ตํ ชีวิตา โวโรเปตุํ อสกฺโกนฺโต อาคจฺฉติ. ยทา สกฺโกสิ ตทาติ กึ อชฺเชว มาริโต มาริโต โหติ, คจฺฉ ยทา สกฺโกสิ, ตทา นํ ชีวิตา โวโรเปหีติ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอวํ ปุน อาณตฺติยาปิ ทุกฺกฏเมว โหติ. สเจ ปน โส อวสฺสํ ชีวิตา โวโรเปตพฺโพ โหติ, อตฺถสาธกเจตนา มคฺคานนฺตรผลสทิสา, ตสฺมา อยํ อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิโก. สเจปิ วธโก สฏฺิวสฺสาติกฺกเมน ตํ วธติ, อาณาปโก จ อนฺตราว กาลงฺกโรติ, หีนาย วา อาวตฺตติ, อสฺสมโณว หุตฺวา กาลฺจ กริสฺสติ, หีนาย วา อาวตฺติสฺสติ. สเจ อาณาปโก คิหิกาเล มาตรํ วา ปิตรํ วา อรหนฺตํ วา สนฺธาย เอวํ อาณาเปตฺวา ปพฺพชติ, ตสฺมึ ปพฺพชิเต อาณตฺโต ตํ มาเรติ, อาณาปโก คิหิกาเลเยว มาตุฆาตโก ปิตุฆาตโก อรหนฺตฆาตโก วา โหติ, ตสฺมา เนวสฺส ปพฺพชฺชา ¶ , น อุปสมฺปทา รุหติ. สเจปิ มาเรตพฺพปุคฺคโล อาณตฺติกฺขเณ ปุถุชฺชโน, ยทา ¶ ปน นํ อาณตฺโต มาเรติ ตทา อรหา โหติ, อาณตฺตโต วา ปหารํ ลภิตฺวา ทุกฺขมูลิกํ สทฺธํ นิสฺสาย วิปสฺสนฺโต อรหตฺตํ ปตฺวา เตเนวาพาเธน กาลํกโรติ, อาณาปโก อาณตฺติกฺขเณเยว อรหนฺตฆาตโก. วธโก ปน สพฺพตฺถ อุปกฺกมกรณกฺขเณเยว ปาราชิโกติ.
อิทานิ เย สพฺเพสุเยว อิเมสุ ทูตวเสน วุตฺตมาติกาปเทสุ สงฺเกตวิสงฺเกตทสฺสนตฺถํ
วุตฺตา ตโย วารา, เตสุ ปมวาเร ตาว – ยสฺมา ตํ สณิกํ วา ภณนฺโต ตสฺส วา พธิรตาย ‘‘มา ฆาเตหี’’ติ ¶ เอตํ วจนํ น สาเวติ, ตสฺมา มูลฏฺโ น มุตฺโต. ทุติยวาเร – สาวิตตฺตา มุตฺโต. ตติยวาเร ปน เตน จ สาวิตตฺตา อิตเรน จ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา โอรตตฺตา อุโภปิ มุตฺตาติ.
ทูตกถา นิฏฺิตา.
๑๗๕. อรโห รโหสฺีนิทฺเทสาทีสุ อรโหติ สมฺมุเข. รโหติ ปรมฺมุเข. ตตฺถ โย อุปฏฺานกาเล เวริภิกฺขุมฺหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ อาคนฺตฺวา ปุรโต นิสินฺเนเยว อนฺธการโทเสน ตสฺส อาคตภาวํ อชานนฺโต ‘‘อโห วต อิตฺถนฺนาโม หโต อสฺส, โจราปิ นาม ตํ น หนนฺติ, สปฺโป วา น ฑํสติ, น สตฺถํ วา วิสํ วา อาหรตี’’ติ ตสฺส มรณํ อภินนฺทนฺโต อีทิสานิ วจนานิ อุลฺลปติ, อยํ อรโห รโหสฺี อุลฺลปติ นาม. สมฺมุเขว ตสฺมึ ปรมฺมุขสฺีติ อตฺโถ. โย ปน ตํ ปุรโต นิสินฺนํ ทิสฺวา ปุน อุปฏฺานํ กตฺวา คเตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ คเตปิ ตสฺมึ ‘‘อิเธว โส นิสินฺโน’’ติ สฺี หุตฺวา ปุริมนเยเนว อุลฺลปติ, อยํ รโห อรโหสฺี อุลฺลปติ นาม. เอเตเนวุปาเยน อรโห อรโหสฺี จ รโห รโหสฺี จ เวทิตพฺโพ. จตุนฺนมฺปิ จ เอเตสํ วาจาย วาจาย ทุกฺกฏนฺติ เวทิตพฺพํ.
อิทานิ ¶ มรณวณฺณสํวณฺณนาย วิภาคทสฺสนตฺถํ วุตฺเตสุ ปฺจสุ กาเยน สํวณฺณนาทิมาติกานิทฺเทเสสุ – กาเยน วิการํ กโรตีติ ยถา โส ชานาติ ‘‘สตฺถํ วา อาหริตฺวา วิสํ วา ขาทิตฺวา รชฺชุยา วา อุพฺพนฺธิตฺวา โสพฺภาทีสุ วา ปปติตฺวา โย มรติ โส กิร ธนํ วา ลภติ, ยสํ วา ลภติ, สคฺคํ วา คจฺฉตีติ อยมตฺโถ เอเตน วุตฺโต’’ติ ตถา หตฺถมุทฺทาทีหิ ทสฺเสติ. วาจาย ภณตีติ ตเมวตฺถํ วากฺยเภทํ กตฺวา ภณติ. ตติยวาโร อุภยวเสน วุตฺโต. สพฺพตฺถ สํวณฺณนาย ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. ตสฺส ทุกฺขุปฺปตฺติยํ สํวณฺณกสฺส ¶ ถุลฺลจฺจยํ. ยํ อุทฺทิสฺส สํวณฺณนา กตา, ตสฺมึ มเต สํวณฺณนกฺขเณเยว สํวณฺณกสฺส ปาราชิกํ. โส ตํ น ชานาติ อฺโ ตฺวา ‘‘ลทฺโธ วต เม สุขุปฺปตฺติอุปาโย’’ติ ตาย สํวณฺณนาย มรติ, อนาปตฺติ. ทฺวินฺนํ อุทฺทิสฺส สํวณฺณนาย กตาย เอโก ตฺวา มรติ, ปาราชิกํ. ทฺเวปิ มรนฺติ, ปาราชิกฺจ อกุสลราสิ จ. เอส นโย สมฺพหุเลสุ. อนุทฺทิสฺส ¶ มรณํ สํวณฺเณนฺโต อาหิณฺฑติ, โย โย ตํ สํวณฺณนํ ตฺวา มรติ, สพฺโพ เตน มาริโต โหติ.
ทูเตน สํวณฺณนายํ ‘‘อสุกํ นาม เคหํ วา คามํ วา คนฺตฺวา อิตฺถนฺนามสฺส เอวํ มรณวณฺณํ สํวณฺเณหี’’ติ สาสเน อาโรจิตมตฺเต ทุกฺกฏํ. ยสฺสตฺถาย ปหิโต ตสฺส ทุกฺขุปฺปตฺติยา มูลฏฺสฺส ถุลฺลจฺจยํ, มรเณน ปาราชิกํ. ทูโต ‘‘าโต ทานิ อยํ สคฺคมคฺโค’’ติ ตสฺส อนาโรเจตฺวา อตฺตโน าติสฺส วา สาโลหิตสฺส วา อาโรเจติ, ตสฺมึ มเต วิสงฺเกโต โหติ, มูลฏฺโ มุจฺจติ. ทูโต ตเถว จินฺเตตฺวา สยํ สํวณฺณนาย วุตฺตํ กตฺวา มรติ, วิสงฺเกโตว. อนุทฺทิสฺส ปน สาสเน อาโรจิเต ยตฺตกา ทูตสฺส สํวณฺณนาย มรนฺติ, ตตฺตกา ปาณาติปาตา. สเจ มาตาปิตโร มรนฺติ, อานนฺตริยมฺปิ โหติ.
๑๗๖. เลขาสํวณฺณนาย – เลขํ ฉินฺทตีติ ปณฺเณ วา โปตฺถเก วา อกฺขรานิ ลิขติ – ‘‘โย สตฺถํ วา อาหริตฺวา ปปาเต วา ปปติตฺวา อฺเหิ วา อคฺคิปฺปเวสนอุทกปฺปเวสนาทีหิ อุปาเยหิ ¶ มรติ, โส อิทฺจิทฺจ ลภตี’’ติ วา ‘‘ตสฺส ธมฺโม โหตี’’ติ วาติ. เอตฺถาปิ ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. อุทฺทิสฺส ลิขิเต ปน ยํ อุทฺทิสฺส ลิขิตํ ตสฺเสว มรเณน ปาราชิกํ. พหู อุทฺทิสฺส ลิขิเต ยตฺตกา มรนฺติ, ตตฺตกา ปาณาติปาตา. มาตาปิตูนํ มรเณน อานนฺตริยํ. อนุทฺทิสฺส ลิขิเตปิ เอเสว นโย. ‘‘พหู มรนฺตี’’ติ วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน ตํ โปตฺถกํ ฌาเปตฺวา วา ยถา วา อกฺขรานิ น ปฺายนฺติ ตถา กตฺวา มุจฺจติ. สเจ โส ปรสฺส โปตฺถโก โหติ, อุทฺทิสฺส ลิขิโต วา โหติ อนุทฺทิสฺส ลิขิโต วา, คหิตฏฺาเน เปตฺวา มุจฺจติ. สเจ มูเลน กีโต โหติ, โปตฺถกสฺสามิกานํ โปตฺถกํ, เยสํ หตฺถโต มูลํ คหิตํ, เตสํ มูลํ ทตฺวา มุจฺจติ. สเจ สมฺพหุลา ‘‘มรณวณฺณํ ลิขิสฺสามา’’ติ เอกชฺฌาสยา หุตฺวา เอโก ตาลรุกฺขํ อาโรหิตฺวา ปณฺณํ ฉินฺทติ, เอโก อาหรติ, เอโก โปตฺถกํ กโรติ, เอโก ลิขติ, เอโก สเจ กณฺฏกเลขา โหติ, มสึ มกฺเขติ, มสึ มกฺเขตฺวา ตํ โปตฺถกํ สชฺเชตฺวา สพฺเพว ¶ สภายํ วา อาปเณ วา ยตฺถ วา ปน เลขาทสฺสนโกตูหลกา พหู สนฺนิปตนฺติ, ตตฺถ เปนฺติ. ตํ วาเจตฺวา สเจปิ เอโก มรติ, สพฺเพสํ ปาราชิกํ. สเจ พหุกา มรนฺติ, วุตฺตสทิโสว นโย. วิปฺปฏิสาเร ¶ ปน อุปฺปนฺเน ตํ โปตฺถกํ สเจปิ มฺชูสายํ โคเปนฺติ, อฺโ จ ตํ ทิสฺวา นีหริตฺวา ปุน พหูนํ ทสฺเสติ, เนว มุจฺจนฺติ. ติฏฺตุ มฺชูสา, สเจปิ ตํ โปตฺถกํ นทิยํ วา สมุทฺเท วา ขิปนฺติ วา โธวนฺติ วา ขณฺฑาขณฺฑํ วา ฉินฺทนฺติ, อคฺคิมฺหิ วา ฌาเปนฺติ, ยาว สงฺฆฏฺฏิเตปิ ทุทฺโธเต วา ทุชฺฌาปิเต วา ปตฺเต อกฺขรานิ ปฺายนฺติ, ตาว น มุจฺจนฺติ. ยถา ปน อกฺขรานิ น ปฺายนฺติ ตเถว กเต มุจฺจนฺตีติ.
อิทานิ ¶ ถาวรปโยคสฺส วิภาคทสฺสนตฺถํ วุตฺเตสุ โอปาตาทิมาติกานิทฺเทเสสุ มนุสฺสํ อุทฺทิสฺส โอปาตํ ขนตีติ ‘‘อิตฺถนฺนาโม ปติตฺวา มริสฺสตี’’ติ กฺจิ มนุสฺสํ อุทฺทิสิตฺวา ยตฺถ โส เอกโต วิจรติ, ตตฺถ อาวาฏํ ขนติ, ขนนฺตสฺส ตาว สเจปิ ชาตปถวิยา ขนติ, ปาณาติปาตสฺส ปโยคตฺตา ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. ยํ อุทฺทิสฺส ขนติ, ตสฺส ทุกฺขุปฺปตฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, มรเณน ปาราชิกํ. อฺสฺมึ ปติตฺวา มเต อนาปตฺติ. สเจ อนุทฺทิสฺส ‘‘โย โกจิ มริสฺสตี’’ติ ขโต โหติ, ยตฺตกา ปติตฺวา มรนฺติ, ตตฺตกา ปาณาติปาตา. อานนฺตริยวตฺถูสุ จ อานนฺตริยํ ถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยวตฺถูสุ ถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยานิ.
พหู ตตฺถ เจตนา; กตมาย ปาราชิกํ โหตีติ? มหาอฏฺกถายํ ตาว วุตฺตํ – ‘‘อาวาฏํ คมฺภีรโต จ อายามวิตฺถารโต จ ขนิตฺวา ปมาเณ เปตฺวา ตจฺเฉตฺวา ปฺุฉิตฺวา ปํสุปจฺฉึ อุทฺธรนฺตสฺส สนฺนิฏฺาปิกา อตฺถสาธกเจตนา มคฺคานนฺตรผลสทิสา. สเจปิ วสฺสสตสฺส อจฺจเยน ปติตฺวา อวสฺสํ มรณกสตฺโต โหติ, สนฺนิฏฺาปกเจตนายเมว ปาราชิก’’นฺติ. มหาปจฺจริยํ ปน สงฺเขปฏฺกถายฺจ – ‘‘อิมสฺมึ อาวาเฏ ปติตฺวา มริสฺสตีติ เอกสฺมิมฺปิ กุทฺทาลปฺปหาเร ทินฺเน สเจ โกจิ ตตฺถ ปกฺขลิโต ปติตฺวา มรติ, ปาราชิกเมว. สุตฺตนฺติกตฺเถรา ปน สนฺนิฏฺาปกเจตนํ คณฺหนฺตี’’ติ วุตฺตํ.
เอโก ¶ ‘‘โอปาตํ ขนิตฺวา อสุกํ นาม อาเนตฺวา อิธ ปาเตตฺวา มาเรหี’’ติ อฺํ อาณาเปติ, โส ตํ ปาเตตฺวา มาเรติ, อุภินฺนํ ปาราชิกํ. อฺํ ปาเตตฺวา มาเรติ, สยํ ปติตฺวา มรติ, อฺโ อตฺตโน ธมฺมตาย ปติตฺวา มรติ, สพฺพตฺถ วิสงฺเกโต โหติ, มูลฏฺโ มุจฺจติ. ‘‘อสุโก อสุกํ อาเนตฺวา อิธ มาเรสฺสตี’’ติ ขเตปิ เอเสว นโย. มริตุกามา อิธ มริสฺสนฺตีติ ขนติ, เอกสฺส มรเณ ปาราชิกํ. พหุนฺนํ มรเณ อกุสลราสิ ¶ , มาตาปิตูนํ มรเณ อานนฺตริยํ, ถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยวตฺถูสุ ถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยานิ.
‘‘เย เกจิ มาเรตุกามา, เต อิธ ปาเตตฺวา มาเรสฺสนฺตี’’ติ ขนติ, ตตฺถ ปาเตตฺวา มาเรนฺติ ¶ , เอกสฺมึ มเต ปาราชิกํ, พหูสุ อกุสลราสิ, อานนฺตริยาทิวตฺถูสุ อานนฺตริยาทีนิ. อิเธว อรหนฺตาปิ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ปุริมนเย ปน ‘‘เตสํ มริตุกามตาย ปตนํ นตฺถี’’ติ เต น สงฺคยฺหนฺติ. ทฺวีสุปิ นเยสุ อตฺตโน ธมฺมตาย ปติตฺวา มเต วิสงฺเกโต. ‘‘เย เกจิ อตฺตโน เวริเก เอตฺถ ปาเตตฺวา มาเรสฺสนฺตี’’ติ ขนติ, ตตฺถ จ เวริกา เวริเก ปาเตตฺวา มาเรนฺติ, เอกสฺมึ มาริเต ปาราชิกํ, พหูสุ อกุสลราสิ, มาตริ วา ปิตริ วา อรหนฺเต วา เวริเกหิ อาเนตฺวา ตตฺถ มาริเต อานนฺตริยํ. อตฺตโน ธมฺมตาย ปติตฺวา มเตสุ วิสงฺเกโต.
โย ปน ‘‘มริตุกามา วา อมริตุกามา วา มาเรตุกามา วา อมาเรตุกามา วา เย เกจิ เอตฺถ ปติตา วา ปาติตา วา มริสฺสนฺตี’’ติ สพฺพถาปิ อนุทฺทิสฺเสว ขนติ. โย โย มรติ ตสฺส ตสฺส มรเณน ยถานุรูปํ กมฺมฺจ ผุสติ, อาปตฺติฺจ อาปชฺชติ. สเจ คพฺภินี ปติตฺวา สคพฺภา มรติ, ทฺเว ปาณาติปาตา. คพฺโภเยว วินสฺสติ, เอโก. คพฺโภ น วินสฺสติ, มาตา มรติ, เอโกเยว. โจเรหิ อนุพทฺโธ ปติตฺวา มรติ, โอปาตขนกสฺเสว ปาราชิกํ. โจรา ตตฺถ ปาเตตฺวา มาเรนฺติ, ปาราชิกเมว. ตตฺถ ปติตํ พหิ นีหริตฺวา มาเรนฺติ, ปาราชิกเมว. กสฺมา? โอปาเต ปติตปฺปโยเคน คหิตตฺตา. โอปาตโต นิกฺขมิตฺวา เตเนว อาพาเธน มรติ, ปาราชิกเมว. พหูนิ วสฺสานิ อติกฺกมิตฺวา ปุน กุปิเตน เตเนวาพาเธน มรติ, ปาราชิกเมว. โอปาเต ปตนปฺปจฺจยา อุปฺปนฺนโรเคน คิลานสฺเสว อฺโ โรโค อุปฺปชฺชติ, โอปาตโรโค พลวตโร ¶ โหติ, เตน มเตปิ โอปาตขณโก น มุจฺจติ. สเจ ปจฺฉา อุปฺปนฺนโรโค พลวา โหติ, เตน มเต มุจฺจติ. อุโภหิ มเต น มุจฺจติ. โอปาเต โอปปาติกมนุสฺโส นิพฺพตฺติตฺวา อุตฺตริตุํ อสกฺโกนฺโต มรติ, ปาราชิกเมว. มนุสฺสํ อุทฺทิสฺส ขเต ยกฺขาทีสุ ปติตฺวา มเตสุ อนาปตฺติ. ยกฺขาทโย ¶ อุทฺทิสฺส ขเต มนุสฺสาทีสุ มรนฺเตสุปิ เอเสว นโย. ยกฺขาทโย อุทฺทิสฺส ขนนฺตสฺส ปน ขนเนปิ เตสํ ทุกฺขุปฺปตฺติยมฺปิ ทุกฺกฏเมว. มรเณ วตฺถุวเสน ถุลฺลจฺจยํ วา ปาจิตฺติยํ วา. อนุทฺทิสฺส ขเต โอปาเต ยกฺขรูเปน วา เปตรูเปน วา ปตติ, ติรจฺฉานรูเปน มรติ, ปตนรูปํ ปมาณํ, ตสฺมา ถุลฺลจฺจยนฺติ อุปติสฺสตฺเถโร. มรณรูปํ ปมาณํ, ตสฺมา ปาจิตฺติยนฺติ ผุสฺสเทวตฺเถโร. ติรจฺฉานรูเปน ปติตฺวา ยกฺขเปตรูเปน มเตปิ เอเสว นโย.
โอปาตขนโก โอปาตํ อฺสฺส วิกฺกิณาติ วา มุธา วา เทติ, โย โย ปติตฺวา มรติ, ตปฺปจฺจยา ตสฺเสว อาปตฺติ จ กมฺมพนฺโธ จ. เยน ลทฺโธ โส นิทฺโทโส. อถ โสปิ ‘‘เอวํ ¶ ปติตา อุตฺตริตุํ อสกฺโกนฺตา นสฺสิสฺสนฺติ, สุอุทฺธรา วา น ภวิสฺสนฺตี’’ติ ตํ โอปาตํ คมฺภีรตรํ วา อุตฺตานตรํ วา ทีฆตรํ วา รสฺสตรํ วา วิตฺถตตรํ วา สมฺพาธตรํ วา กโรติ, อุภินฺนมฺปิ อาปตฺติ จ กมฺมพนฺโธ จ. พหู มรนฺตีติ วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน โอปาตํ ปํสุนา ปูเรติ, สเจ โกจิ ปํสุมฺหิ ปติตฺวา มรติ, ปูเรตฺวาปิ มูลฏฺโ น มุจฺจติ. เทเว วสฺสนฺเต กทฺทโม โหติ, ตตฺถ ลคฺคิตฺวา มเตปิ. รุกฺโข วา ปตนฺโต วาโต วา วสฺโสทกํ วา ปํสุํ หรติ, กนฺทมูลตฺถํ วา ปถวึ ขนนฺตา ตตฺถ อาวาฏํ กโรนฺติ. ตตฺถ สเจ โกจิ ลคฺคิตฺวา วา ปติตฺวา วา มรติ, มูลฏฺโ น มุจฺจติ. ตสฺมึ ปน โอกาเส มหนฺตํ ตฬากํ วา โปกฺขรณึ วา กาเรตฺวา เจติยํ วา ปติฏฺาเปตฺวา โพธึ วา โรเปตฺวา อาวาสํ วา สกฏมคฺคํ วา กาเรตฺวา มุจฺจติ. ยทาปิ ถิรํ กตฺวา ปูริเต โอปาเต รุกฺขาทีนํ มูลานิ มูเลหิ สํสิพฺพิตานิ โหนฺติ ¶ , ชาตปถวี ชาตา, ตทาปิ มุจฺจติ. สเจปิ นที อาคนฺตฺวา โอปาตํ หรติ, เอวมฺปิ มุจฺจตีติ. อยํ ตาว โอปาตกถา.
โอปาตสฺเสว ปน อนุโลเมสุ ปาสาทีสุปิ โย ตาว ปาสํ โอฑฺเฑติ ‘‘เอตฺถ พชฺฌิตฺวา สตฺตา มริสฺสนฺตี’’ติ อวสฺสํ พชฺฌนกสตฺตานํ วเสน ¶ หตฺถา มุตฺตมตฺเต ปาราชิกานนฺตริยถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยานิ เวทิตพฺพานิ. อุทฺทิสฺส กเต ยํ อุทฺทิสฺส โอฑฺฑิโต, ตโต อฺเสํ พนฺธเน อนาปตฺติ. ปาเส มูเลน วา มุธา วา ทินฺเนปิ มูลฏฺสฺเสว กมฺมพนฺโธ. สเจ เยน ลทฺโธ โส อุคฺคลิตํ วา ปาสํ สณฺเปติ, ปสฺเสน วา คจฺฉนฺเต ทิสฺวา วตึ กตฺวา สมฺมุเข ปเวเสติ, ถทฺธตรํ วา ปาสยฏฺึ เปติ, ทฬฺหตรํ วา ปาสรชฺชุํ พนฺธติ, ถิรตรํ วา ขาณุกํ วา อาโกเฏติ, อุโภปิ น มุจฺจนฺติ. สเจ วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน ปาสํ อุคฺคลาเปตฺวา คจฺฉติ, ตํ ทิสฺวา ปุน อฺเ สณฺเปนฺติ, พทฺธา พทฺธา มรนฺติ, มูลฏฺโ น มุจฺจติ.
สเจ ปน เตน ปาสยฏฺิ สยํ อกตา โหติ, คหิตฏฺาเน เปตฺวา มุจฺจติ. ตตฺถชาตกยฏฺึ ฉินฺทิตฺวา มุจฺจติ. สยํ กตยฏฺึ ปน โคเปนฺโตปิ น มุจฺจติ. ยทิ หิ ตํ อฺโ คณฺหิตฺวา ปาสํ สณฺเปติ, ตปฺปจฺจยา มรนฺเตสุ มูลฏฺโ น มุจฺจติ. สเจ ตํ ฌาเปตฺวา อลาตํ กตฺวา ฉฑฺเฑติ, เตน อลาเตน ปหารํ ลทฺธา มรนฺเตสุปิ น มุจฺจติ. สพฺพโส ปน ฌาเปตฺวา วา นาเสตฺวา วา มุจฺจติ, ปาสรชฺชุมฺปิ อฺเหิ จ วฏฺฏิตํ คหิตฏฺาเน เปตฺวา มุจฺจติ. รชฺชุเก ลภิตฺวา สยํ วฏฺฏิตํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา วาเก ลภิตฺวา วฏฺฏิตํ หีรํ หีรํ กตฺวา มุจฺจติ. อรฺโต ปน สยํ วาเก อาหริตฺวา วฏฺฏิตํ โคเปนฺโตปิ น มุจฺจติ. สพฺพโส ปน ฌาเปตฺวา วา นาเสตฺวา วา มุจฺจติ.
อทูหลํ ¶ สชฺเชนฺโต จตูสุ ปาเทสุ อทูหลมฺจํ เปตฺวา ปาสาเณ อาโรเปติ, ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. สพฺพสชฺชํ กตฺวา หตฺถโต ¶ มุตฺตมตฺเต อวสฺสํ อชฺโฌตฺถริตพฺพกสตฺตานํ วเสน อุทฺทิสฺสกานุทฺทิสฺสกานุรูเปน ปาราชิกาทีนิ เวทิตพฺพานิ. อทูหเล มูเลน วา มุธา วา ทินฺเนปิ มูลฏฺสฺเสว กมฺมพทฺโธ. สเจ เยน ลทฺธํ โส ปติตํ วา อุกฺขิปติ, อฺเปิ ปาสาเณ อาโรเปตฺวา ครุกตรํ วา กโรติ, ปสฺเสน วา คจฺฉนฺเต ทิสฺวา วตึ กตฺวา อทูหเล ปเวเสติ, อุโภปิ น มุจฺจนฺติ. สเจปิ วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน อทูหลํ ปาเตตฺวา คจฺฉติ, ตํ ทิสฺวา อฺโ สณฺเปติ, มูลฏฺโ น มุจฺจติ. ปาสาเณ ปน คหิตฏฺาเน เปตฺวา อทูหลปาเท จ ปาสยฏฺิยํ วุตฺตนเยน คหิตฏฺาเน วา เปตฺวา ฌาเปตฺวา วา มุจฺจติ.
สูลํ โรเปนฺตสฺสาปิ สพฺพสชฺชํ กตฺวา หตฺถโต มุตฺตมตฺเต สูลมุเข ปติตฺวา อวสฺสํ มรณกสตฺตานํ วเสน อุทฺทิสฺสานุทฺทิสฺสานุรูปโต ปาราชิกาทีนิ ¶ เวทิตพฺพานิ. สูเล มูเลน วา มุธา วา ทินฺเนปิ มูลฏฺสฺเสว กมฺมพทฺโธ. สเจ เยน ลทฺธํ โส ‘‘เอกปฺปหาเรเนว มริสฺสนฺตี’’ติ ติขิณตรํ วา กโรติ, ‘‘ทุกฺขํ มริสฺสนฺตี’’ติ กุณฺตรํ วา กโรติ, ‘‘อุจฺจ’’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา นีจตรํ วา ‘‘นีจ’’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา อุจฺจตรํ วา ปุน โรเปติ, วงฺกํ วา อุชุกํ อติอุชุกํ วา อีสกํ โปณํ กโรติ, อุโภปิ น มุจฺจนฺติ. สเจ ปน ‘‘อฏฺาเน ิต’’นฺติ อฺสฺมึ าเน เปติ, ตํ เจ มารณตฺถาย อาทิโต ปภุติ ปริเยสิตฺวา กตํ โหติ, มูลฏฺโ น มุจฺจติ. อปริเยสิตฺวา ปน กตเมว ลภิตฺวา โรปิเต มูลฏฺโ มุจฺจติ. วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน ปาสยฏฺิยํ วุตฺตนเยน คหิตฏฺาเน วา เปตฺวา ฌาเปตฺวา วา มุจฺจติ.
๑๗๗. อปสฺเสเน สตฺถํ วาติ เอตฺถ อปสฺเสนํ นาม นิจฺจปริโภโค มฺโจ วา ปีํ วา อปสฺเสนผลกํ วา ทิวาฏฺาเน นิสีทนฺตสฺส อปสฺเสนกตฺถมฺโภ วา ตตฺถชาตกรุกฺโข วา จงฺกเม อปสฺสาย ติฏฺนฺตสฺส อาลมฺพนรุกฺโข วา อาลมฺพนผลกํ วา สพฺพมฺเปตํ อปสฺสยนียฏฺเน อปสฺเสนํ ¶ นาม; ตสฺมึ อปสฺเสเน ยถา อปสฺสยนฺตํ วิชฺฌติ วา ฉินฺทติ วา ตถา กตฺวา วาสิผรสุสตฺติอารกณฺฏกาทีนํ อฺตรํ สตฺถํ เปติ, ทุกฺกฏํ. ธุวปริโภคฏฺาเน นิราสงฺกสฺส นิสีทโต วา นิปชฺชโต วา อปสฺสยนฺตสฺส วา สตฺถสมฺผสฺสปจฺจยา ทุกฺขุปฺปตฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, มรเณน ปาราชิกํ. ตํ เจ อฺโปิ ตสฺส เวริภิกฺขุ วิหารจาริกํ จรนฺโต ทิสฺวา ‘‘อิมสฺส มฺเ มรณตฺถาย อิทํ นิขิตฺตํ, สาธุ สุฏฺุ มรตู’’ติ อภินนฺทนฺโต คจฺฉติ, ทุกฺกฏํ. สเจ ปน โสปิ ตตฺถ ‘‘เอวํ กเต สุกตํ ภวิสฺสตี’’ติ ติขิณตราทิกรเณน กิฺจิ กมฺมํ กโรติ, ตสฺสาปิ ปาราชิกํ. สเจ ปน ‘‘อฏฺาเน ิต’’นฺติ อุทฺธริตฺวา อฺสฺมึ าเน เปติ ตทตฺถเมว กตฺวา ปิเต มูลฏฺโ น มุจฺจติ. ปากติกํ ลภิตฺวา ปิตํ โหติ, มุจฺจติ. ตํ อปเนตฺวา อฺํ ติขิณตรํ เปติ มูลฏฺโ มุจฺจเตว.
วิสมกฺขเนปิ ยาว มรณาภินนฺทเน ทุกฺกฏํ ตาว เอเสว นโย. สเจ ปน โสปิ ขุทฺทกํ วิสมณฺฑลนฺติ สลฺลกฺเขตฺวา มหนฺตตรํ วา กโรติ ¶ , มหนฺตํ วา ‘‘อติเรกํ โหตี’’ติ ขุทฺทกํ กโรติ, ตนุกํ วา พหลํ; พหลํ วา ตนุกํ กโรติ, อคฺคินา ตาเปตฺวา เหฏฺา วา อุปริ วา สฺจาเรติ, ตสฺสาปิ ปาราชิกํ. ‘‘อิทํ อาเน ิต’’นฺติ สพฺพเมว ตจฺเฉตฺวา ปฺุฉิตฺวา อฺสฺมึ าเน เปติ, อตฺตนา เภสชฺชานิ โยเชตฺวา กเต มูลฏฺโ น มุจฺจติ ¶ , อตฺตนา อกเต มุจฺจติ. สเจ ปน โส ‘‘อิทํ วิสํ อติปริตฺต’’นฺติ อฺมฺปิ อาเนตฺวา ปกฺขิปติ, ยสฺส วิเสน มรติ, ตสฺส ปาราชิกํ. สเจ อุภินฺนมฺปิ สนฺตเกน มรติ, อุภินฺนมฺปิ ปาราชิกํ. ‘‘อิทํ วิสํ นิพฺพิส’’นฺติ ตํ อปเนตฺวา อตฺตโน วิสเมว เปติ, ตสฺเสว ปาราชิกํ มูลฏฺโ มุจฺจติ.
ทุพฺพลํ วา กโรตีติ ¶ มฺจปีํ อฏนิยา เหฏฺาภาเค ฉินฺทิตฺวา วิทเลหิ วา รชฺชุเกหิ วา เยหิ วีตํ โหติ, เต วา ฉินฺทิตฺวา อปฺปาวเสสเมว กตฺวา เหฏฺา อาวุธํ นิกฺขิปติ ‘‘เอตฺถ ปติตฺวา มริสฺสตี’’ติ. อปสฺเสนผลกาทีนมฺปิ จงฺกเม อาลมฺพนรุกฺขผลกปริโยสานานํ ปรภาคํ ฉินฺทิตฺวา เหฏฺา อาวุธํ นิกฺขิปติ, โสพฺภาทีสุ มฺจํ วา ปีํ วา อปสฺเสนผลกํ วา อาเนตฺวา เปติ, ยถา ตตฺถ นิสินฺนมตฺโต วา อปสฺสิตมตฺโต วา ปตติ, โสพฺภาทีสุ วา สฺจรณเสตุ โหติ, ตํ ทุพฺพลํ กโรติ; เอวํ กโรนฺตสฺส กรเณ ทุกฺกฏํ. อิตรสฺส ทุกฺขุปฺปตฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, มรเณ ปาราชิกํ. ภิกฺขุํ อาเนตฺวา โสพฺภาทีนํ ตเฏ เปติ ‘‘ทิสฺวา ภเยน กมฺเปนฺโต ปติตฺวา มริสฺสตี’’ติ ทุกฺกฏํ. โส ตตฺเถว ปตติ, ทุกฺขุปฺปตฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, มรเณ ปาราชิกํ. สยํ วา ปาเตติ, อฺเน วา ปาตาเปติ, อฺโ อวุตฺโต วา อตฺตโน ธมฺมตาย ปาเตติ, อมนุสฺโส ปาเตติ, วาตปฺปหาเรน ปตติ, อตฺตโน ธมฺมตาย ปตตฺติ, สพฺพตฺถ มรเณ ปาราชิกํ. กสฺมา? ตสฺส ปโยเคน โสพฺภาทิตเฏ ิตตฺตา.
อุปนิกฺขิปนํ นาม สมีเป นิกฺขิปนํ. ตตฺถ ‘‘โย อิมินา อสินา มโต โส ธนํ วา ลภตี’’ติอาทินา นเยน มรณวณฺณํ วา สํวณฺเณตฺวา ‘‘อิมินา มรณตฺถิกา มรนฺตุ, มารณตฺถิกา มาเรนฺตู’’ติ วา วตฺวา อสึ อุปนิกฺขิปติ, ตสฺส อุปนิกฺขิปเน ทุกฺกฏํ. มริตุกาโม วา เตน อตฺตานํ ปหรตุ ¶ , มาเรตุกาโม วา อฺํ ปหรตุ, อุภยถาปิ ปรสฺส ทุกฺขุปฺปตฺติยา ¶ อุปนิกฺเขปกสฺส ถุลฺลจฺจยํ, มรเณ ปาราชิกํ. อนุทฺทิสฺส นิกฺขิตฺเต พหูนํ มรเณ อกุสลราสิ. ปาราชิกาทิวตฺถูสุ ปาราชิกาทีนิ. วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน อสึ คหิตฏฺาเน เปตฺวา มุจฺจติ. กิณิตฺวา คหิโต โหติ, อสิสฺสามิกานํ อสึ, เยสํ หตฺถโต มูลํ คหิตํ, เตสํ มูลํ ทตฺวา มุจฺจติ. สเจ โลหปิณฺฑึ วา ผาลํ วา กุทาลํ วา คเหตฺวา อสิ การาปิโต โหติ, ยํ ภณฺฑํ คเหตฺวา การิโต, ตเทว กตฺวา มุจฺจติ. สเจ กุทาลํ คเหตฺวา ¶ การิตํ วินาเสตฺวา ผาลํ กโรติ, ผาเลน ปหารํ ลภิตฺวา มรนฺเตสุปิ ปาณาติปาตโต น มุจฺจติ. สเจ ปน โลหํ สมุฏฺาเปตฺวา อุปนิกฺขิปนตฺถเมว การิโต โหติ, อเรน ฆํสิตฺวา จุณฺณวิจุณฺณํ กตฺวา วิปฺปกิณฺเณ มุจฺจติ. สเจปิ สํวณฺณนาโปตฺถโก วิย พหูหิ เอกชฺฌาสเยหิ กโต โหติ, โปตฺถเก วุตฺตนเยเนว กมฺมพนฺธวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. เอส นโย สตฺติเภณฺฑีสุ. ลคุเฬ ปาสยฏฺิสทิโส วินิจฺฉโย. ตถา ปาสาเณ. สตฺเถ อสิสทิโสว. วิสํ วาติ วิสํ อุปนิกฺขิปนฺตสฺส วตฺถุวเสน อุทฺทิสฺสานุทฺทิสฺสานุรูปโต ปาราชิกาทิวตฺถูสุ ปาราชิกาทีนิ เวทิตพฺพานิ. กิณิตฺวา ปิเต ปุริมนเยน ปฏิปากติกํ กตฺวา มุจฺจติ. สยํ เภสชฺเชหิ โยชิเต อวิสํ กตฺวา มุจฺจติ. รชฺชุยา ปาสรชฺชุสทิโสว วินิจฺฉโย.
เภสชฺเช – โย ภิกฺขุ เวริภิกฺขุสฺส ปชฺชรเก วา วิสภาคโรเค วา อุปฺปนฺเน อสปฺปายานิปิ สปฺปิอาทีนิ สปฺปายานีติ มรณาธิปฺปาโย เทติ, อฺํ วา กิฺจิ กนฺทมูลผลํ ตสฺส เอวํ เภสชฺชทาเน ทุกฺกฏํ. ปรสฺส ทุกฺขุปฺปตฺติยํ มรเณ จ ถุลฺลจฺจยปาราชิกานิ, อานนฺตริยวตฺถุมฺหิ อานนฺตริยนฺติ เวทิตพฺพํ.
๑๗๘. รูปูปหาเร – อุปสํหรตีติ ปรํ วา อมนาปรูปํ ตสฺส สมีเป เปติ, อตฺตนา วา ยกฺขเปตาทิเวสํ คเหตฺวา ติฏฺติ, ตสฺส อุปสํหารมตฺเต ทุกฺกฏํ. ปรสฺส ตํ รูปํ ทิสฺวา ภยุปฺปตฺติยํ ถุลฺลจฺจยํ, มรเณ ปาราชิกํ. สเจ ปน ตเทว รูปํ เอกจฺจสฺส มนาปํ โหติ, อลาภเกน จ สุสฺสิตฺวา มรติ, วิสงฺเกโต. มนาปิเยปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ปน วิเสเสน ¶ อิตฺถีนํ ปุริสรูปํ ปุริสานฺจ อิตฺถิรูปํ มนาปํ ตํ อลงฺกริตฺวา อุปสํหรติ, ทิฏฺมตฺตกเมว กโรติ, อติจิรํ ปสฺสิตุมฺปิ น เทติ, อิตโร อลาภเกน สุสฺสิตฺวา มรติ, ปาราชิกํ. สเจ อุตฺตสิตฺวา มรติ ¶ , วิสงฺเกโต. อถ ปน อุตฺตสิตฺวา วา อลาภเกน วาติ อวิจาเรตฺวา ‘‘เกวลํ ปสฺสิตฺวา มริสฺสตี’’ติ อุปสํหรติ, อุตฺตสิตฺวา วา สุสฺสิตฺวา วา มเต ปาราชิกเมว. เอเตเนวูปาเยน สทฺทูปหาราทโยปิ เวทิตพฺพา. เกวลฺเหตฺถ อมนุสฺสสทฺทาทโย อุตฺราสชนกา อมนาปสทฺทา, ปุริสานํ อิตฺถิสทฺทมธุรคนฺธพฺพสทฺทาทโย จิตฺตสฺสาทกรา มนาปสทฺทา. หิมวนฺเต วิสรุกฺขานํ มูลาทิคนฺธา กุณปคนฺธา จ อมนาปคนฺธา, กาฬานุสารีมูลคนฺธาทโย มนาปคนฺธา ¶ . ปฏิกูลมูลรสาทโย อมนาปรสา, อปฺปฏิกูลมูลรสาทโย มนาปรสา. วิสผสฺสมหากจฺฉุผสฺสาทโย อมนาปโผฏฺพฺพา, จีนปฏหํสปุปฺผตูลิกผสฺสาทโย มนาปโผฏฺพฺพาติ เวทิตพฺพา.
ธมฺมูปหาเร – ธมฺโมติ เทสนาธมฺโม เวทิตพฺโพ. เทสนาวเสน วา นิรเย จ สคฺเค จ วิปตฺติสมฺปตฺติเภทํ ธมฺมารมฺมณเมว. เนรยิกสฺสาติ ภินฺนสํวรสฺส กตปาปสฺส นิรเย นิพฺพตฺตนารหสฺส สตฺตสฺส ปฺจวิธพนฺธนกมฺมกรณาทินิรยกถํ กเถติ. ตํ เจ สุตฺวา โส อุตฺตสิตฺวา มรติ, กถิกสฺส ปาราชิกํ. สเจ ปน โส สุตฺวาปิ อตฺตโน ธมฺมตาย มรติ, อนาปตฺติ. ‘‘อิทํ สุตฺวา เอวรูปํ ปาปํ น กริสฺสติ โอรมิสฺสติ วิรมิสฺสตี’’ติ นิรยกถํ กเถติ, ตํ สุตฺวา อิตโร อุตฺตสิตฺวา มรติ, อนาปตฺติ. สคฺคกถนฺติ เทวนาฏกาทีนํ นนฺทนวนาทีนฺจ สมฺปตฺติกถํ; ตํ สุตฺวา อิตโร สคฺคาธิมุตฺโต สีฆํ ตํ สมฺปตฺตึ ปาปุณิตุกาโม สตฺถาหรณวิสขาทนอาหารุปจฺเฉท-อสฺสาสปสฺสาสสนฺนิรุนฺธนาทีหิ ทุกฺขํ อุปฺปาเทติ, กถิกสฺส ถุลฺลจฺจยํ, มรติ ปาราชิกํ. สเจ ปน โส สุตฺวาปิ ยาวตายุกํ ตฺวา อตฺตโน ธมฺมตาย มรติ, อนาปตฺติ ¶ . ‘‘อิมํ สุตฺวา ปฺุานิ กริสฺสตี’’ติ กเถติ, ตํ สุตฺวา อิตโร อธิมุตฺโต กาลํกโรติ, อนาปตฺติ.
๑๗๙. อาจิกฺขนายํ – ปุฏฺโ ภณตีติ ‘‘ภนฺเต กถํ มโต ธนํ วา ลภติ สคฺเค วา อุปปชฺชตี’’ติ เอวํ ปุจฺฉิโต ภณติ.
อนุสาสนิยํ – อปุฏฺโติ เอวํ อปุจฺฉิโต สามฺเว ภณติ.
สงฺเกตกมฺมนิมิตฺตกมฺมานิ ¶ อทินฺนาทานกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.
เอวํ นานปฺปการโต อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนาปตฺติเภทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนาปตฺติ อสฺจิจฺจา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อสฺจิจฺจาติ ‘‘อิมินา อุปกฺกเมน อิมํ มาเรมี’’ติ อเจเตตฺวา. เอวฺหิ อเจเตตฺวา กเตน อุปกฺกเมน ปเร มเตปิ อนาปตฺติ, วกฺขติ จ ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ อสฺจิจฺจา’’ติ. อชานนฺตสฺสาติ ‘‘อิมินา อยํ มริสฺสตี’’ติ อชานนฺตสฺส อุปกฺกเมน ปเร มเตปิ อนาปตฺติ, วกฺขติ จ วิสคตปิณฺฑปาตวตฺถุสฺมึ ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ อชานนฺตสฺสา’’ติ. นมรณาธิปฺปายสฺสาติ มรณํ อนิจฺฉนฺตสฺส. เยน หิ อุปกฺกเมน ปโร มรติ, เตน อุปกฺกเมน ตสฺมึ มาริเตปิ นมรณาธิปฺปายสฺส อนาปตฺติ. วกฺขติ ¶ จ ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ นมรณาธิปฺปายสฺสา’’ติ. อุมฺมตฺตกาทโย ปุพฺเพ วุตฺตนยา เอว. อิธ ปน อาทิกมฺมิกา อฺมฺํ ชีวิตา โวโรปิตภิกฺขู, เตสํ อนาปตฺติ. อวเสสานํ มรณวณฺณสํวณฺณนกาทีนํ อาปตฺติเยวาติ.
ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมุฏฺานาทีสุ – อิทํ สิกฺขาปทํ ติสมุฏฺานํ; กายจิตฺตโต จ วาจาจิตฺตโต จ กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนํ. สเจปิ หิ สิริสยนํ อารูฬฺโห รชฺชสมฺปตฺติสุขํ อนุภวนฺโต ราชา ‘‘โจโร เทว อานีโต’’ติ วุตฺเต ‘‘คจฺฉถ นํ มาเรถา’’ติ หสมาโนว ภณติ, โทมนสฺสจิตฺเตเนว ภณตีติ เวทิตพฺโพ. สุขโวกิณฺณตฺตา ¶ ปน อนุปฺปพนฺธาภาวา จ ทุชฺชานเมตํ ปุถุชฺชเนหีติ.
วินีตวตฺถุวณฺณนา
๑๘๐. วินีตวตฺถุกถาสุ ปมวตฺถุสฺมึ – การฺุเนาติ เต ภิกฺขู ตสฺส มหนฺตํ เคลฺทุกฺขํ ทิสฺวา การฺุํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘สีลวา ตฺวํ กตกุสโล, กสฺมา มียมาโน ภายสิ, นนุ สีลวโต สคฺโค นาม มรณมตฺตปฏิพทฺโธเยวา’’ติ เอวํ มรณตฺถิกาว หุตฺวา มรณตฺถิกภาวํ อชานนฺตา มรณวณฺณํ สํวณฺเณสุํ. โสปิ ภิกฺขุ เตสํ สํวณฺณนาย ¶ อาหารุปจฺเฉทํ กตฺวา อนฺตราว กาลมกาสิ. ตสฺมา อาปตฺตึ อาปนฺนา. โวหารวเสน ปน วุตฺตํ ‘‘การฺุเน มรณวณฺณํ สํวณฺเณสุ’’นฺติ. ตสฺมา อิทานิปิ ปณฺฑิเตน ภิกฺขุนา คิลานสฺส ภิกฺขุโน เอวํ มรณวณฺโณ น สํวณฺเณตพฺโพ. สเจ หิ ตสฺส สํวณฺณนํ สุตฺวา อาหารูปจฺเฉทาทินา อุปกฺกเมน เอกชวนวาราวเสเสปิ อายุสฺมึ อนฺตรา กาลํกโรติ, อิมินาว มาริโต โหติ. อิมินา ปน นเยน อนุสิฏฺิ ทาตพฺพา – ‘‘สีลวโต นาม อนจฺฉริยา มคฺคผลุปฺปตฺติ, ตสฺมา วิหาราทีสุ อาสตฺตึ อกตฺวา พุทฺธคตํ ธมฺมคตํ สงฺฆคตํ กายคตฺจ สตึ อุปฏฺเปตฺวา มนสิกาเร อปฺปมาโท กาตพฺโพ’’ติ. มรณวณฺเณ จ สํวณฺณิเตปิ โย ตาย สํวณฺณนาย กฺจิ อุปกฺกมํ อกตฺวา อตฺตโน ธมฺมตาย ยถายุนา ยถานุสนฺธินาว มรติ, ตปฺปจฺจยา สํวณฺณโก อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพติ.
ทุติยวตฺถุสฺมึ – น จ ภิกฺขเว อปฺปฏิเวกฺขิตฺวาติ เอตฺถ กีทิสํ อาสนํ ปฏิเวกฺขิตพฺพํ ¶ , กีทิสํ น ปฏิเวกฺขิตพฺพํ? ยํ สุทฺธํ อาสนเมว โหติ อปจฺจตฺถรณกํ, ยฺจ อาคนฺตฺวา ิตานํ ปสฺสตํเยว อตฺถรียติ, ตํ นปจฺจเวกฺขิตพฺพํ ¶ , นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. ยมฺปิ มนุสฺสา สยํ หตฺเถน อกฺกมิตฺวา ‘‘อิธ ภนฺเต นิสีทถา’’ติ เทนฺติ, ตสฺมิมฺปิ วฏฺฏติ. สเจปิ ปมเมวาคนฺตฺวา นิสินฺนา ปจฺฉา อุทฺธํ วา อโธ วา สงฺกมนฺติ, ปจฺจเวกฺขณกิจฺจํ นตฺถิ. ยมฺปิ ตนุเกน วตฺเถน ยถา ตลํ ทิสฺสติ, เอวํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, ตสฺมิมฺปิ ปจฺจเวกฺขณกิจฺจํ นตฺถิ. ยํ ปน ปฏิกจฺเจว ปาวารโกชวาทีหิ อตฺถตํ โหติ, ตํ หตฺเถน ปรามสิตฺวา สลฺลกฺเขตฺวา นิสีทิตพฺพํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ฆนสาฏเกนาปิ อตฺถเต ยสฺมึ วลิ น ปฺายติ, ตํ นปฺปฏิเวกฺขิตพฺพนฺติ วุตฺตํ.
มุสลวตฺถุสฺมึ – อสฺจิจฺโจติ อวธกเจตโน วิรทฺธปโยโค หิ โส. เตนาห ‘‘อสฺจิจฺโจ อห’’นฺติ. อุทุกฺขลวตฺถุ อุตฺตานเมว. วุฑฺฒปพฺพชิตวตฺถูสุปมวตฺถุสฺมึ ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปฏิพนฺธํ มา อกาสี’’ติ ปณาเมสิ. ทุติยวตฺถุสฺมึ – สงฺฆมชฺเฌปิ คณมชฺเฌปิ ‘‘มหลฺลกตฺเถรสฺส ปุตฺโต’’ติ วุจฺจมาโน เตน วจเนน อฏฺฏียมาโน ‘‘มรตุ อย’’นฺติ ปณาเมสิ. ตติยวตฺถุสฺมึ – ตสฺส ทุกฺขุปฺปาทเนน ถุลฺลจฺจยํ.
๑๘๑. ตโต ¶ ปรานิ ตีณิ วตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว. วิสคตปิณฺฑปาตวตฺถุสฺมึ – สาราณียธมฺมปูรโก โส ภิกฺขุ อคฺคปิณฺฑํ สพฺรหฺมจารีนํ ทตฺวาว ภฺุชติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อคฺคการิกํ อทาสี’’ติ. อคฺคการิกนฺติ อคฺคกิริยํ; ปมํ ลทฺธปิณฺฑปาตํ อคฺคคฺคํ วา ปณีตปณีตํ ปิณฺฑปาตนฺติ อตฺโถ. ยา ปน ตสฺส ทานสงฺขาตา อคฺคกิริยา, สา น สกฺกา ทาตุํ, ปิณฺฑปาตฺหิ โส เถราสนโต ¶ ปฏฺาย อทาสิ. เต ภิกฺขูติ เต เถราสนโต ปฏฺาย ปริภุตฺตปิณฺฑปาตา ภิกฺขู; เต กิร สพฺเพปิ กาลมกํสุ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อสฺสทฺเธสุ ปน มิจฺฉาทิฏฺิเกสุ กุเลสุ สกฺกจฺจํ ปณีตโภชนํ ลภิตฺวา อนุปปริกฺขิตฺวา เนว อตฺตนา ปริภฺุชิตพฺพํ, น ปเรสํ ทาตพฺพํ. ยมฺปิ อาภิโทสิกํ ภตฺตํ วา ขชฺชกํ วา ตโต ลภติ, ตมฺปิ น ปริภฺุชิตพฺพํ. อปิหิตวตฺถุมฺปิ หิ สปฺปวิจฺฉิกาทีหิ อธิสยิตํ ฉฑฺฑนียธมฺมํ ตานิ กุลานิ เทนฺติ. คนฺธหลิทฺทาทิมกฺขิโตปิ ตโต ปิณฺฑปาโต น คเหตพฺโพ. สรีเร โรคฏฺานานิ ปฺุฉิตฺวา ปิตภตฺตมฺปิ หิ ตานิ ทาตพฺพํ มฺนฺตีติ.
วีมํสนวตฺถุสฺมึ – วีมํสมาโน ทฺเว วีมํสติ – ‘‘สกฺโกติ นุ โข อิมํ มาเรตุํ โน’’ติ วิสํ วา วีมํสติ, ‘‘มเรยฺย นุ โข อยํ อิมํ วิสํ ขาทิตฺวา โน’’ติ ปุคฺคลํ วา. อุภยถาปิ วีมํสาธิปฺปาเยน ทินฺเน มรตุ วา มา วา ถุลฺลจฺจยํ. ‘‘อิทํ วิสํ เอตํ มาเรตู’’ติ วา ¶ ‘‘อิทํ วิสํ ขาทิตฺวา อยํ มรตู’’ติ วา เอวํ ทินฺเน ปน สเจ มรติ, ปาราชิกํ; โน เจ, ถุลฺลจฺจยํ.
๑๘๒-๓. อิโต ปรานิ ตีณิ สิลาวตฺถูนิ ตีณิ อิฏฺกวาสิโคปานสีวตฺถูนิ จ อุตฺตานตฺถาเนว. น เกวลฺจ สิลาทีนํเยว วเสน อยํ อาปตฺตานาปตฺติเภโท โหติ, ทณฺฑมุคฺครนิขาทนเวมาทีนมฺปิ วเสน โหติเยว, ตสฺมา ปาฬิยํ อนาคตมฺปิ อาคตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อฏฺฏกวตฺถูสุ – อฏฺฏโกติ เวหาสมฺโจ วุจฺจติ; ยํ เสตกมฺมมาลากมฺมลตากมฺมาทีนํ อตฺถาย พนฺธนฺติ. ตตฺถ อาวุโส อตฺรฏฺิโต พนฺธาหีติ มรณาธิปฺปาโย ยตฺร ิโต ปติตฺวา ขาณุนา วา ภิชฺเชยฺย, โสพฺภปปาตาทีสุ วา มเรยฺย ¶ , ตาทิสํ านํ สนฺธายาห. เอตฺถ จ โกจิ อุปริานํ นิยาเมติ ‘‘อิโต ปติตฺวา มริสฺสตี’’ติ, โกจิ เหฏฺา านํ ‘‘อิธ ปติตฺวา มริสฺสตี’’ติ, โกจิ อุภยมฺปิ ‘‘อิโต อิธ ปติตฺวา ¶ มริสฺสตี’’ติ. ตตฺร โย อุปริ นิยมิตฏฺานา อปติตฺวา อฺโต ปตติ, เหฏฺา นิยมิตฏฺาเน วา อปติตฺวา อฺตฺถ ปตติ, อุภยนิยาเม วา ยํกิฺจิ เอกํ วิราเธตฺวา ปตติ, ตสฺมึ มเต วิสงฺเกตตฺตา อนาปตฺติ. วิหารจฺฉาทนวตฺถุสฺมิมฺปิ เอเสว นโย.
อนภิรติวตฺถุสฺมึ – โส กิร ภิกฺขุ กามวิตกฺกาทีนํ สมุทาจารํ ทิสฺวา นิวาเรตุํ อสกฺโกนฺโต สาสเน อนภิรโต คิหิภาวาภิมุโข ชาโต. ตโต จินฺเตสิ – ‘‘ยาว สีลเภทํ น ปาปุณามิ ตาว มริสฺสามี’’ติ. อถ ตํ ปพฺพตํ อภิรุหิตฺวา ปปาเต ปปตนฺโต อฺตรํ วิลีวการํ โอตฺถริตฺวา มาเรสิ. วิลีวการนฺติ เวณุการํ. น จ ภิกฺขเว อตฺตานํ ปาเตตพฺพนฺติ น อตฺตา ปาเตตพฺโพ. วิภตฺติพฺยตฺตเยน ปเนตํ วุตฺตํ. เอตฺถ จ น เกวลํ น ปาเตตพฺพํ, อฺเนปิ เยน เกนจิ อุปกฺกเมน อนฺตมโส อาหารุปจฺเฉเทนปิ น มาเรตพฺโพ. โยปิ หิ คิลาโน วิชฺชมาเน เภสชฺเช จ อุปฏฺาเกสุ จ มริตุกาโม อาหารํ อุปจฺฉินฺทติ, ทุกฺกฏเมว. ยสฺส ปน มหาอาพาโธ จิรานุพทฺโธ, ภิกฺขู อุปฏฺหนฺตา กิลมนฺติ ชิคุจฺฉนฺติ ‘‘กทา นุ โข คิลานโต มุจฺจิสฺสามา’’ติ อฏฺฏียนฺติ. สเจ โส ‘‘อยํ อตฺตภาโว ปฏิชคฺคิยมาโนปิ น ติฏฺติ, ภิกฺขู จ กิลมนฺตี’’ติ อาหารํ อุปจฺฉินฺทติ, เภสชฺชํ น เสวติ วฏฺฏติ. โย ปน ‘‘อยํ โรโค ขโร, อายุสงฺขารา น ติฏฺนฺติ, อยฺจ เม วิเสสาธิคโม หตฺถปฺปตฺโต วิย ทิสฺสตี’’ติ อุปจฺฉินฺทติ วฏฺฏติเยว. อคิลานสฺสาปิ อุปฺปนฺนสํเวคสฺส ‘‘อาหารปริเยสนํ นาม ปปฺโจ, กมฺมฏฺานเมว อนุยฺุชิสฺสามี’’ติ กมฺมฏฺานสีเสน ¶ อุปจฺฉินฺทนฺตสฺส วฏฺฏติ. วิเสสาธิคมํ พฺยากริตฺวา อาหารํ อุปจฺฉินฺทติ, น วฏฺฏติ. สภาคานฺหิ ¶ ลชฺชีภิกฺขูนํ กเถตุํ วฏฺฏติ.
สิลาวตฺถุสฺมึ – ทวายาติ ทเวน หสฺเสน; ขิฑฺฑายาติ อตฺโถ. สิลาติ ปาสาโณ; น เกวลฺจ ปาสาโณ, อฺมฺปิ ยํกิฺจิ ทารุขณฺฑํ วา อิฏฺกาขณฺฑํ วา หตฺเถน วา ยนฺเตน วา ปวิชฺฌิตุํ น วฏฺฏติ. เจติยาทีนํ อตฺถาย ปาสาณาทโย หสนฺตา หสนฺตา ปวฏฺเฏนฺติปิ ขิปนฺติปิ อุกฺขิปนฺติปิ กมฺมสมโยติ วฏฺฏติ. อฺมฺปิ อีทิสํ นวกมฺมํ วา กโรนฺตา ภณฺฑกํ วา โธวนฺตา รุกฺขํ วา โธวนทณฺฑกํ วา อุกฺขิปิตฺวา ปวิชฺฌนฺติ, วฏฺฏติ. ภตฺตวิสฺสคฺคกาลาทีสุ กาเก วา โสเณ วา กฏฺํ วา กถลํ วา ขิปิตฺวา ปลาเปติ, วฏฺฏติ.
๑๘๔. เสทนาทิวตฺถูนิ ¶ สพฺพาเนว อุตฺตานตฺถานิ. เอตฺถ จ อหํ กุกฺกุจฺจโกติ น คิลานุปฏฺานํ น กาตพฺพํ, หิตกามตาย สพฺพํ คิลานสฺส พลาพลฺจ รุจิฺจ สปฺปายาสปฺปายฺจ อุปลกฺเขตฺวา กาตพฺพํ.
๑๘๕. ชารคพฺภินิวตฺถุสฺมึ – ปวุตฺถปติกาติ ปวาสํ คตปติกา. คพฺภปาตนนฺติ เยน ปริภุตฺเตน คพฺโภ ปตติ, ตาทิสํ เภสชฺชํ. ทฺเว ปชาปติกวตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว. คพฺภมทฺทนวตฺถุสฺมึ – ‘‘มทฺทิตฺวา ปาเตหี’’ติ วุตฺเต อฺเน มทฺทาเปตฺวา ปาเตติ, วิสงฺเกตํ. ‘‘มทฺทาเปตฺวา ปาตาเปหี’’ติ วุตฺเตปิ สยํ มทฺทิตฺวา ปาเตติ, วิสงฺเกตเมว. มนุสฺสวิคฺคเห ปริยาโย นาม นตฺถิ. ตสฺมา ‘‘คพฺโภ นาม มทฺทิเต ปตตี’’ติ วุตฺเต สา สยํ วา มทฺทตุ, อฺเน วา มทฺทาเปตฺวา ปาเตตุ, วิสงฺเกโต นตฺถิ; ปาราชิกเมว ตาปนวตฺถุสฺมิมฺปิ เอเสว นโย.
วฺฌิตฺถิวตฺถุสฺมึ – วฺฌิตฺถี นาม ยา คพฺภํ น คณฺหาติ. คพฺภํ อคณฺหนกอิตฺถี นาม นตฺถิ, ยสฺสา ปน คหิโตปิ คพฺโภ น สณฺาติ, ตํเยว สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อุตุสมเย กิร สพฺพิตฺถิโย คพฺภํ คณฺหนฺติ. ยา ปนายํ ‘‘วฺฌา’’ติ วุจฺจติ, ตสฺสา กุจฺฉิยํ นิพฺพตฺตสตฺตานํ ¶ อกุสลวิปาโก สมฺปาปุณาติ. เต ปริตฺตกุสลวิปาเกน คหิตปฏิสนฺธิกา อกุสลวิปาเกน อธิภูตา วินสฺสนฺติ. อภินวปฏิสนฺธิยํเยว หิ กมฺมานุภาเวน ทฺวีหากาเรหิ คพฺโภ น สณฺาติ – วาเตน วา ปาณเกหิ วา. วาโต โสเสตฺวา อนฺตรธาเปติ, ปาณกา ขาทิตฺวา. ตสฺส ปน วาตสฺส ปาณกานํ วา ปฏิฆาตาย เภสชฺเช กเต คพฺโภ สณฺเหยฺย; โส ภิกฺขุ ตํ อกตฺวา อฺํ ขรเภสชฺชํ อทาสิ. เตน สา กาลมกาสิ. ภควา เภสชฺชสฺส กฏตฺตา ทุกฺกฏํ ปฺาเปสิ.
ทุติยวตฺถุสฺมิมฺปิ ¶ เอเสว นโย. ตสฺมา อาคตาคตสฺส ปรชนสฺส เภสชฺชํ น กาตพฺพํ, กโรนฺโต ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. ปฺจนฺนํ ปน สหธมฺมิกานํ กาตพฺพํ ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุนิยา สิกฺขมานาย สามเณรสฺส สามเณริยาติ. สมสีลสทฺธาปฺานฺหิ เอเตสํ ตีสุ สิกฺขาสุ ยุตฺตานํ เภสชฺชํ อกาตุํ น ลพฺภติ, กโรนฺเตน จ สเจ เตสํ อตฺถิ, เตสํ สนฺตกํ คเหตฺวา โยเชตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ นตฺถิ, อตฺตโน สนฺตกํ กาตพฺพํ. สเจ อตฺตโนปิ นตฺถิ, ภิกฺขาจารวตฺเตน วา าตกปวาริตฏฺานโต วา ปริเยสิตพฺพํ. อลภนฺเตน คิลานสฺส อตฺถาย อกตวิฺตฺติยาปิ อาหริตฺวา กาตพฺพํ.
อปเรสมฺปิ ¶ ปฺจนฺนํ กาตุํ วฏฺฏติ – มาตุ, ปิตุ, ตทุปฏฺากานํ, อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺส, ปณฺฑุปลาสสฺสาติ. ปณฺฑุปลาโส นาม โย ปพฺพชฺชาเปกฺโข ยาว ปตฺตจีวรํ ปฏิยาทิยติ ตาว วิหาเร วสติ. เตสุ สเจ มาตาปิตโร อิสฺสรา โหนฺติ, น ปจฺจาสีสนฺติ, อกาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน รชฺเชปิ ิตา ปจฺจาสีสนฺติ, อกาตุํ น วฏฺฏติ. เภสชฺชํ ปจฺจาสีสนฺตานํ เภสชฺชํ ทาตพฺพํ, โยเชตุํ อชานนฺตานํ โยเชตฺวา ทาตพฺพํ. สพฺเพสํ อตฺถาย สหธมฺมิเกสุ วุตฺตนเยเนว ปริเยสิตพฺพํ. สเจ ปน มาตรํ วิหาเร อาเนตฺวา ชคฺคติ, สพฺพํ ปริกมฺมํ อนามสนฺเตน กาตพฺพํ. ขาทนียํ โภชนียํ สหตฺถา ทาตพฺพํ. ปิตา ปน ยถา สามเณโร เอวํ สหตฺเถน นฺหาปนสมฺพาหนาทีนิ ¶ กตฺวา อุปฏฺาตพฺโพ. เย จ มาตาปิตโร อุปฏฺหนฺติ ปฏิชคฺคนฺติ, เตสมฺปิ เอวเมว กาตพฺพํ. เวยฺยาวจฺจกโร นาม โย เวตนํ คเหตฺวา อรฺเ ทารูนิ วา ฉินฺทติ, อฺํ วา กิฺจิ กมฺมํ กโรติ, ตสฺส โรเค อุปฺปนฺเน ยาว าตกา น ปสฺสนฺติ ตาว เภสชฺชํ กาตพฺพํ. โย ปน ภิกฺขุนิสฺสิตโกว หุตฺวา สพฺพกมฺมานิ กโรติ, ตสฺส เภสชฺชํ กาตพฺพเมว. ปณฺฑุปลาเสปิ สามเณเร วิย ปฏิปชฺชิตพฺพํ.
อปเรสมฺปิ ทสนฺนํ กาตุํ วฏฺฏติ – เชฏฺภาตุ, กนิฏฺภาตุ, เชฏฺภคินิยา, กนิฏฺภคินิยา, จูฬมาตุยา, มหามาตุยา, จูฬปิตุโน, มหาปิตุโน, ปิตุจฺฉาย, มาตุลสฺสาติ. เตสํ ปน สพฺเพสมฺปิ กโรนฺเตน เตสํเยว สนฺตกํ เภสชฺชํ คเหตฺวา เกวลํ โยเชตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ ปน นปฺปโหนฺติ, ยาจนฺติ จ ‘‘เทถ โน, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปฏิทสฺสามา’’ติ ตาวกาลิกํ ทาตพฺพํ. สเจปิ น ยาจนฺติ, ‘‘อมฺหากํ เภสชฺชํ อตฺถิ, ตาวกาลิกํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา วา ‘‘ยทา เนสํ ภวิสฺสติ ตทา ทสฺสนฺตี’’ติ อาโภคํ วา กตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ ปฏิเทนฺติ, คเหตพฺพํ, โน เจ เทนฺติ, น โจเทตพฺพา. เอเต ทส าตเก เปตฺวา อฺเสํ น กาตพฺพํ.
เอเตสํ ¶ ปุตฺตปรมฺปราย ปน ยาว สตฺตโม กุลปริวฏฺโฏ ตาว จตฺตาโร ปจฺจเย อาหราเปนฺตสฺส อกตวิฺตฺติ วา เภสชฺชํ กโรนฺตสฺส เวชฺชกมฺมํ วา กุลทูสกาปตฺติ วา น โหติ. สเจ ภาตุชายา ภคินิสามิโก วา คิลานา โหนฺติ, าตกา เจ, เตสมฺปิ วฏฺฏติ. อฺาตกา เจ, ภาตุ จ ภคินิยา จ กตฺวา ทาตพฺพํ, ‘‘ตุมฺหากํ ชคฺคนฏฺาเน เทถา’’ติ. อถ วา เตสํ ปุตฺตานํ กตฺวา ทาตพฺพํ, ‘‘ตุมฺหากํ มาตาปิตูนํ ¶ เทถา’’ติ. เอเตนุปาเยน สพฺพปเทสุปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
เตสํ อตฺถาย จ สามเณเรหิ อรฺโต เภสชฺชํ อาหราเปนฺเตน าติสามเณเรหิ วา อาหราเปตพฺพํ. อตฺตโน อตฺถาย วา อาหราเปตฺวา ¶ ทาตพฺพํ. เตหิปิ ‘‘อุปชฺฌายสฺส อาหรามา’’ติ วตฺตสีเสน อาหริตพฺพํ. อุปชฺฌายสฺส มาตาปิตโร คิลานา วิหารํ อาคจฺฉนฺติ, อุปชฺฌาโย จ ทิสาปกฺกนฺโต โหติ, สทฺธิวิหาริเกน อุปชฺฌายสฺส สนฺตกํ เภสชฺชํ ทาตพฺพํ. โน เจ อตฺถิ, อตฺตโน เภสชฺชํ อุปชฺฌายสฺส ปริจฺจชิตฺวา ทาตพฺพํ. อตฺตโนปิ อสนฺเต วุตฺตนเยน ปริเยสิตฺวา อุปชฺฌายสฺส สนฺตกํ กตฺวา ทาตพฺพํ. อุปชฺฌาเยนปิ สทฺธิวิหาริกสฺส มาตาปิตูสุ เอวเมว ปฏิปชฺชิตพฺพํ. เอส นโย อาจริยนฺเตวาสิเกสุปิ. อฺโปิ โย อาคนฺตุโก วา โจโร วา ยุทฺธปราชิโต อิสฺสโร วา าตเกหิ ปริจฺจตฺโต กปโณ วา คมิยมนุสฺโส วา คิลาโน หุตฺวา วิหารํ ปวิสติ, สพฺเพสํ อปจฺจาสีสนฺเตน เภสชฺชํ กาตพฺพํ.
สทฺธํ กุลํ โหติ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺายกํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส มาตาปิตุฏฺานิยํ, ตตฺร เจ โกจิ คิลาโน โหติ, ตสฺสตฺถาย วิสฺสาเสน ‘‘เภสชฺชํ กตฺวา ภนฺเต เทถา’’ติ วทนฺติ, เนว ทาตพฺพํ น กาตพฺพํ. อถ ปน กปฺปิยํ ตฺวา เอวํ ปุจฺฉนฺติ – ‘‘ภนฺเต, อสุกสฺส นาม โรคสฺส กึ เภสชฺชํ กโรนฺตี’’ติ? ‘‘อิทฺจิทฺจ คเหตฺวา กโรนฺตี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ มาตา คิลานา, เภสชฺชํ ตาว อาจิกฺขถา’’ติ เอวํ ปุจฺฉิเต ปน น อาจิกฺขิตพฺพํ. อฺมฺํ ปน กถา กาตพฺพา – ‘‘อาวุโส, อสุกสฺส นาม ภิกฺขุโน อิมสฺมึ โรเค กึ เภสชฺชํ กรึสู’’ติ? ‘‘อิทฺจิทฺจ ภนฺเต’’ติ. ตํ สุตฺวา อิตโร มาตุ เภสชฺชํ กโรติ, วฏฺฏเตว.
มหาปทุมตฺเถโรปิ กิร วสภรฺโ เทวิยา โรเค อุปฺปนฺเน เอกาย อิตฺถิยา อาคนฺตฺวา ปุจฺฉิโต ‘‘น ชานามี’’ติ อวตฺวา เอวเมว ภิกฺขูหิ สทฺธึ สมุลฺลเปสิ. ตํ สุตฺวา ตสฺสา เภสชฺชมกํสุ. วูปสนฺเต จ โรเค ติจีวเรน ตีหิ จ กหาปณสเตหิ สทฺธึ เภสชฺชจงฺโกฏกํ ปูเรตฺวา ¶ อาหริตฺวา ¶ เถรสฺส ปาทมูเล เปตฺวา ‘‘ภนฺเต, ปุปฺผปูชํ กโรถา’’ติ อาหํสุ. เถโร ‘‘อาจริยภาโค นามาย’’นฺติ กปฺปิยวเสน คาหาเปตฺวา ปุปฺผปูชํ อกาสิ. เอวํ ตาว เภสชฺเช ปฏิปชฺชิตพฺพํ.
ปริตฺเต ¶ ปน ‘‘คิลานสฺส ปริตฺตํ กโรถ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต น กาตพฺพํ, ‘‘ภณถา’’ติ วุตฺเต ปน กาตพฺพํ. สเจ ปิสฺส เอวํ โหติ ‘‘มนุสฺสา นาม น ชานนฺติ, อกยิรมาเน วิปฺปฏิสาริโน ภวิสฺสนฺตี’’ติ กาตพฺพํ; ‘‘ปริตฺโตทกํ ปริตฺตสุตฺตํ กตฺวา เทถา’’ติ วุตฺเตน ปน เตสํเยว อุทกํ หตฺเถน จาเลตฺวา สุตฺตํ ปริมชฺเชตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ วิหารโต อุทกํ อตฺตโน สนฺตกํ วา สุตฺตํ เทติ, ทุกฺกฏํ. มนุสฺสา อุทกฺจ สุตฺตฺจ คเหตฺวา นิสีทิตฺวา ‘‘ปริตฺตํ ภณถา’’ติ วทนฺติ, กาตพฺพํ. โน เจ ชานนฺติ, อาจิกฺขิตพฺพํ. ภิกฺขูนํ นิสินฺนานํ ปาเทสุ อุทกํ อากิริตฺวา สุตฺตฺจ เปตฺวา คจฺฉนฺติ ‘‘ปริตฺตํ กโรถ, ปริตฺตํ ภณถา’’ติ น ปาทา อปเนตพฺพา. มนุสฺสา หิ วิปฺปฏิสาริโน โหนฺติ. อนฺโตคาเม คิลานสฺสตฺถาย วิหารํ เปเสนฺติ, ‘‘ปริตฺตํ ภณนฺตู’’ติ ภณิตพฺพํ. อนฺโตคาเม ราชเคหาทีสุ โรเค วา อุปทฺทเว วา อุปฺปนฺเน ปกฺโกสาเปตฺวา ภณาเปนฺติ, อาฏานาฏิยสุตฺตาทีนิ ภณิตพฺพานิ. ‘‘อาคนฺตฺวา คิลานสฺส สิกฺขาปทานิ เทนฺตุ, ธมฺมํ กเถนฺตุ. ราชนฺเตปุเร วา อมจฺจเคเห วา อาคนฺตฺวา สิกฺขาปทานิ เทนฺตุ, ธมฺมํ กเถนฺตู’’ติ เปสิเตปิ คนฺตฺวา สิกฺขาปทานิ ทาตพฺพานิ, ธมฺโม กเถตพฺโพ. ‘‘มตานํ ปริวารตฺถํ อาคจฺฉนฺตู’’ติ ปกฺโกสนฺติ, น คนฺตพฺพํ. สีวถิกทสฺสเน อสุภทสฺสเน จ มรณสฺสตึ ปฏิลภิสฺสามีติ กมฺมฏฺานสีเสน คนฺตุํ วฏฺฏติ. เอวํ ปริตฺเต ปฏิปชฺชิตพฺพํ.
ปิณฺฑปาเต ปน – อนามฏฺปิณฺฑปาโต กสฺส ทาตพฺโพ, กสฺส น ทาตพฺโพ? มาตาปิตุนํ ตาว ทาตพฺโพ. สเจปิ กหาปณคฺฆนโก โหติ, สทฺธาเทยฺยวินิปาตนํ นตฺถิ. มาตาปิตุอุปฏฺากานํ เวยฺยาวจฺจกรสฺส ปณฺฑุปลาสสฺสาติ ¶ เอเตสมฺปิ ทาตพฺโพ. ตตฺถ ปณฺฑุปลาสสฺส ถาลเก ปกฺขิปิตฺวาปิ ทาตุํ วฏฺฏติ. ตํ เปตฺวา อฺเสํ อาคาริกานํ มาตาปิตุนมฺปิ น วฏฺฏติ. ปพฺพชิตปริโภโค หิ อาคาริกานํ เจติยฏฺานิโย. อปิจ อนามฏฺปิณฺฑปาโต นาเมส สมฺปตฺตสฺส ทามริกโจรสฺสาปิ อิสฺสรสฺสาปิ ทาตพฺโพ. กสฺมา? เต หิ อทียมาเนปิ ‘‘น เทนฺตี’’ติ อามสิตฺวา ทียมาเนปิ ‘‘อุจฺฉิฏฺกํ เทนฺตี’’ติ กุชฺฌนฺติ. กุทฺธา ชีวิตาปิ โวโรเปนฺติ, สาสนสฺสาปิ อนฺตรายํ กโรนฺติ. รชฺชํ ¶ ปตฺถยมานสฺส วิจรโต โจรนาคสฺส วตฺถุ เจตฺถ กเถตพฺพํ. เอวํ ปิณฺฑปาเต ปฏิปชฺชิตพฺพํ.
ปฏิสนฺถาโร ปน กสฺส กาตพฺโพ, กสฺส น กาตพฺโพ? ปฏิสนฺถาโร นาม วิหารํ สมฺปตฺตสฺส ¶ ยสฺส กสฺสจิ อาคนฺตุกสฺส วา ทลิทฺทสฺส วา โจรสฺส วา อิสฺสรสฺส วา กาตพฺโพเยว. กถํ? อาคนฺตุกํ ตาว ขีณปริพฺพยํ วิหารํ สมฺปตฺตํ ทิสฺวา ปานียํ ทาตพฺพํ, ปาทมกฺขนเตลํ ทาตพฺพํ. กาเล อาคตสฺส ยาคุภตฺตํ, วิกาเล อาคตสฺส สเจ ตณฺฑุลา อตฺถิ; ตณฺฑุลา ทาตพฺพา. อเวลายํ สมฺปตฺโต ‘‘คจฺฉาหี’’ติ น วตฺตพฺโพ. สยนฏฺานํ ทาตพฺพํ. สพฺพํ อปจฺจาสีสนฺเตเนว กาตพฺพํ. ‘‘มนุสฺสา นาม จตุปจฺจยทายกา เอวํ สงฺคเห กยิรมาเน ปุนปฺปุนํ ปสีทิตฺวา อุปการํ กริสฺสนฺตี’’ติ จิตฺตํ น อุปฺปาเทตพฺพํ. โจรานํ ปน สงฺฆิกมฺปิ ทาตพฺพํ.
ปฏิสนฺถารานิสํสทีปนตฺถฺจ โจรนาควตฺถุ, ภาตรา สทฺธึ ชมฺพุทีปคตสฺส มหานาครฺโ วตฺถุ, ปิตุราชสฺส รชฺเช จตุนฺนํ อมจฺจานํ วตฺถุ, อภยโจรวตฺถูติ เอวมาทีนิ พหูนิ ¶ วตฺถูนิ มหาอฏฺกถายํ วิตฺถารโต วุตฺตานิ.
ตตฺรายํ เอกวตฺถุทีปนา – สีหฬทีเป กิร อภโย นาม โจโร ปฺจสตปริวาโร เอกสฺมึ าเน ขนฺธาวารํ พนฺธิตฺวา สมนฺตา ติโยชนํ อุพฺพาเสตฺวา วสติ. อนุราธปุรวาสิโน กทมฺพนทึ น อุตฺตรนฺติ, เจติยคิริมคฺเค ชนสฺจาโร อุปจฺฉินฺโน. อเถกทิวสํ โจโร ‘‘เจติยคิรึ วิลุมฺปิสฺสามี’’ติ อคมาสิ. อารามิกา ทิสฺวา ทีฆภาณกอภยตฺเถรสฺส อาโรเจสุํ. เถโร ‘‘สปฺปิผาณิตาทีนิ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘โจรานํ เทถ, ตณฺฑุลา อตฺถี’’ติ? ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต, สงฺฆสฺสตฺถาย อาหฏา ตณฺฑุลา จ ปตฺตสากฺจ โครโส จา’’ติ. ‘‘ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา โจรานํ เทถา’’ติ. อารามิกา ตถา กรึสุ. โจรา ภตฺตํ ภฺุชิตฺวา ‘‘เกนายํ ปฏิสนฺถาโร กโต’’ติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘อมฺหากํ อยฺเยน อภยตฺเถเรนา’’ติ. โจรา เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อาหํสุ – ‘‘มยํ สงฺฆสฺส จ เจติยสฺส ¶ จ สนฺตกํ อจฺฉินฺทิตฺวา คเหสฺสามาติ อาคตา, ตุมฺหากํ ปน อิมินา ปฏิสนฺถาเรนมฺห ปสนฺนา, อชฺช ปฏฺาย วิหาเร ธมฺมิกา รกฺขา อมฺหากํ อายตฺตา โหตุ, นาครา อาคนฺตฺวา ทานํ เทนฺตุ, เจติยํ วนฺทนฺตู’’ติ. ตโต ปฏฺาย จ นาคเร ทานํ ทาตุํ อาคจฺฉนฺเต นทีตีเรเยว ปจฺจุคฺคนฺตฺวา รกฺขนฺตา วิหารํ เนนฺติ, วิหาเรปิ ทานํ เทนฺตานํ รกฺขํ กตฺวา ติฏฺนฺติ. เตปิ ภิกฺขูนํ ภุตฺตาวเสสํ โจรานํ เทนฺติ. คมนกาเลปิ เต โจรา นทีตีรํ ปาเปตฺวา นิวตฺตนฺติ.
อเถกทิวสํ ภิกฺขุสงฺเฆ ขียนกกถา อุปฺปนฺนา ‘‘เถโร อิสฺสรวตาย สงฺฆสฺส สนฺตกํ โจรานํ อทาสี’’ติ. เถโร สนฺนิปาตํ การาเปตฺวา อาห – ‘‘โจรา สงฺฆสฺส ปกติวฏฺฏฺจ เจติยสนฺตกฺจ อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหิสฺสามา’’ติ อาคมึสุ. อถ เนสํ มยา เอวํ น หริสฺสนฺตีติ ¶ เอตฺตโก นาม ปฏิสนฺถาโร กโต, ตํ สพฺพมฺปิ เอกโต สมฺปิณฺเฑตฺวา อคฺฆาเปถ. เตน การเณน อวิลุตฺตํ ภณฺฑํ เอกโต สมฺปิณฺเฑตฺวา อคฺฆาเปถาติ. ตโต สพฺพมฺปิ เถเรน ทินฺนกํ เจติยฆเร เอกํ วรโปตฺถกจิตฺตตฺถรณํ ¶ น อคฺฆติ. ตโต อาหํสุ – ‘‘เถเรน กตปฏิสนฺถาโร สุกโต โจเทตุํ วา สาเรตุํ วา น ลพฺภา, คีวา วา อวหาโร วา นตฺถี’’ติ. เอวํ มหานิสํโส ปฏิสนฺถาโรติ สลฺลกฺเขตฺวา กตฺตพฺโพ ปณฺฑิเตน ภิกฺขุนาติ.
๑๘๗. องฺคุลิปโตทกวตฺถุสฺมึ – อุตฺตนฺโตติ กิลมนฺโต. อนสฺสาสโกติ นิรสฺสาโส. อิมสฺมึ ปน วตฺถุสฺมึ ยาย อาปตฺติยา ภวิตพฺพํ สา ‘‘ขุทฺทเกสุ นิทิฏฺา’’ติ อิธ น วุตฺตา.
ตทนนฺตเร วตฺถุสฺมึ – โอตฺถริตฺวาติ อกฺกมิตฺวา. โส กิร เตหิ อากฑฺฒิยมาโน ปติโต. เอโก ตสฺส อุทรํ อภิรุหิตฺวา นิสีทิ. เสสาปิ ปนฺนรส ชนา ปถวิยํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อทูหลปาสาณา วิย มิคํ มาเรสุํ. ยสฺมา ปน เต กมฺมาธิปฺปายา, น มรณาธิปฺปายา; ตสฺมา ปาราชิกํ น วุตฺตํ.
ภูตเวชฺชกวตฺถุสฺมึ – ยกฺขํ มาเรสีติ ภูตวิชฺชากปากา ยกฺขคหิตํ โมเจตุกามา ยกฺขํ อาวาเหตฺวา มฺุจาติ วทนฺติ. โน เจ มฺุจติ, ปิฏฺเน วา มตฺติกาย วา รูปํ กตฺวา หตฺถปาทาทีนิ ฉินฺทนฺติ, ยํ ยํ ตสฺส ฉิชฺชติ ตํ ตํ ยกฺขสฺส ฉินฺนเมว โหติ. สีเส ฉินฺเน ยกฺโขปิ มรติ ¶ . เอวํ โสปิ มาเรสิ; ตสฺมา ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ. น เกวลฺจ ยกฺขเมว, โยปิ หิ สกฺกํ เทวราชํ มาเรยฺย, โสปิ ถุลฺลจฺจยเมว อาปชฺชติ.
วาฬยกฺขวตฺถุสฺมึ – วาฬยกฺขวิหารนฺติ ยสฺมึ วิหาเร วาโฬ จณฺโฑ ยกฺโข วสติ, ตํ วิหารํ. โย หิ เอวรูปํ วิหารํ อชานนฺโต เกวลํ วสนตฺถาย เปเสติ, อนาปตฺติ. โย มรณาธิปฺปาโย เปเสติ, โส อิตรสฺส มรเณน ปาราชิกํ, อมรเณน ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชติ. ยถา จ วาฬยกฺขวิหารํ; เอวํ ยตฺถ วาฬสีหพฺยคฺฆาทิมิคา วา อชครกณฺหสปฺปาทโย ทีฆชาติกา วา วสนฺติ, ตํ วาฬวิหารํ เปเสนฺตสฺสาปิ อาปตฺตานาปตฺติเภโท ¶ เวทิตพฺโพ. อยํ ปาฬิมุตฺตกนโย. ยถา จ ภิกฺขุํ วาฬยกฺขวิหารํ เปเสนฺตสฺส; เอวํ วาฬยกฺขมฺปิ ภิกฺขุสนฺติกํ เปเสนฺตสฺส อาปตฺตานาปตฺติเภโท เวทิตพฺโพ. เอเสว นโย วาฬกนฺตาราทิวตฺถูสุปิ. เกวลฺเหตฺถ ยสฺมึ กนฺตาเร วาฬมิคา วา ทีฆชาติกา วา อตฺถิ, โส วาฬกนฺตาโร. ยสฺมึ โจรา อตฺถิ, โส โจรกนฺตาโรติ เอวํ ปทตฺถมตฺตเมว นานํ. มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกฺจ นาเมตํ สณฺหํ, ปริยายกถาย น มุจฺจติ; ตสฺมา โย วเทยฺย ‘‘อสุกสฺมึ นาม โอกาเส โจโร นิสินฺโน ¶ , โย ตสฺส สีสํ ฉินฺทิตฺวา อาหรติ, โส ราชโต สกฺการวิเสสํ ลภตี’’ติ. ตสฺส เจตํ วจนํ สุตฺวา โกจิ นํ คนฺตฺวา มาเรติ, อยํ ปาราชิโก โหตีติ.
๑๘๘. ตํ มฺมาโนติ อาทีสุ โส กิร ภิกฺขุ อตฺตโน เวริภิกฺขุํ มาเรตุกาโม จินฺเตสิ – ‘‘อิมํ เม ทิวา มาเรนฺตสฺส น สุกรํ ภเวยฺย โสตฺถินา คนฺตุํ, รตฺตึ นํ มาเรสฺสามี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา รตฺตึ อาคมฺม พหูนํ สยิตฏฺาเน ตํ มฺมาโน ตเมว ชีวิตา โวโรเปสิ. อปโร ตํ มฺมาโน อฺํ, อปโร อฺํ ตสฺเสว สหายํ มฺมาโน ตํ, อปโร อฺํ ตสฺเสว สหายํ มฺมาโน อฺํ ตสฺส สหายเมว ชีวิตา โวโรเปสิ. สพฺเพสมฺปิ ปาราชิกเมว.
อมนุสฺสคหิตวตฺถูสุ ปเม วตฺถุสฺมึ ‘‘ยกฺขํ ปลาเปสฺสามี’’ติ ปหารํ อทาสิ, อิตโร ‘‘น ทานายํ วิรชฺฌิตุํ สมตฺโถ, มาเรสฺสามิ น’’นฺติ ¶ . เอตฺถ จ นมรณาธิปฺปายสฺส อนาปตฺติ วุตฺตาติ. น เอตฺตเกเนว อมนุสฺสคหิตสฺส ปหาโร ทาตพฺโพ, ตาลปณฺณํ ปน ปริตฺตสุตฺตํ วา หตฺเถ วา ปาเท วา พนฺธิตพฺพํ, รตนสุตฺตาทีนิ ปริตฺตานิ ภณิตพฺพานิ, ‘‘มา สีลวนฺตํ ภิกฺขุํ วิเหเหี’’ติ ธมฺมกถา กาตพฺพาติ. สคฺคกถาทีนิ อุตฺตานตฺถานิ. ยฺเหตฺถ วตฺตพฺพํ ตํ วุตฺตเมว.
๑๘๙. รุกฺขจฺเฉทนวตฺถุ อฏฺฏพนฺธนวตฺถุสทิสํ. อยํ ปน วิเสโส – โย รุกฺเขน โอตฺถโตปิ น มรติ ¶ , สกฺกา จ โหติ เอเกน ปสฺเสน รุกฺขํ เฉตฺวา ปถวึ วา ขนิตฺวา นิกฺขมิตุํ, หตฺเถ จสฺส วาสิ วา กุารี วา อตฺถิ, เตน อปิ ชีวิตํ ปริจฺจชิตพฺพํ, น จ รุกฺโข วา ฉินฺทิตพฺโพ, น ปถวี วา ขณิตพฺพา. กสฺมา? เอวํ กโรนฺโต หิ ปาจิตฺติยํ อาปชฺชติ, พุทฺธสฺส อาณํ ภฺชติ, น ชีวิตปริยนฺตํ สีลํ กโรติ. ตสฺมา อปิ ชีวิตํ ปริจฺจชิตพฺพํ, น จ สีลนฺติ ปริคฺคเหตฺวา น เอวํ กาตพฺพํ. อฺสฺส ปน ภิกฺขุโน รุกฺขํ วา ฉินฺทิตฺวา ปถวึ วา ขนิตฺวา ตํ นีหริตุํ วฏฺฏติ. สเจ อุทุกฺขลยนฺตเกน รุกฺขํ ปวฏฺเฏตฺวา นีหริตพฺโพ โหติ, ตํเยว รุกฺขํ ฉินฺทิตฺวา อุทุกฺขลํ คเหตพฺพนฺติ มหาสุมตฺเถโร อาห. อฺมฺปิ ฉินฺทิตฺวา คเหตุํ วฏฺฏตีติ มหาปทุมตฺเถโร. โสพฺภาทีสุ ปติตสฺสาปิ นิสฺเสณึ พนฺธิตฺวา อุตฺตารเณ เอเสว นโย. อตฺตนา ภูตคามํ ฉินฺทิตฺวา นิสฺเสณี น กาตพฺพา, อฺเสํ กตฺวา อุทฺธริตุํ วฏฺฏตีติ.
๑๙๐. ทายาลิมฺปนวตฺถูสุ – ทายํ อาลิมฺเปสุนฺติ วเน อคฺคึ อทํสุ. เอตฺถ ปน อุทฺทิสฺสานุทฺทิสฺสวเสน ปาราชิกานนฺตริยถุลฺลจฺจยปาจิตฺติวตฺถูนํ อนุรูปโต ปาราชิกาทีนิ อกุสลราสิภาโว ¶ จ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ‘‘อลฺลติณวนปฺปคุมฺพาทโย ฑยฺหนฺตู’’ติ อาลิมฺเปนฺตสฺส จ ปาจิตฺติยํ. ‘‘ทพฺพูปกรณานิ วินสฺสนฺตู’’ติ อาลิมฺเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ขิฑฺฑาธิปฺปาเยนาปิ ทุกฺกฏนฺติ สงฺเขปฏฺกถายํ วุตฺตํ. ‘‘ยํกิฺจิ อลฺลสุกฺขํ สอินฺทฺริยานินฺทฺริยํ ฑยฺหตู’’ติ อาลิมฺเปนฺตสฺส วตฺถุวเสน ปาราชิกถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยทุกฺกฏานิ เวทิตพฺพานิ.
ปฏคฺคิทานํ ปน ปริตฺตกรณฺจ ภควตา อนฺุาตํ, ตสฺมา อรฺเ วนกมฺมิเกหิ วา ทินฺนํ สยํ วา อุฏฺิตํ อคฺคึ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘ติณกุฏิโย มา ¶ วินสฺสนฺตู’’ติ ตสฺส อคฺคิโน ปฏิอคฺคึ ทาตุํ วฏฺฏติ, เยน สทฺธึ อาคจฺฉนฺโต อคฺคิ เอกโต หุตฺวา นิรุปาทาโน นิพฺพาติ. ปริตฺตมฺปิ ¶ กาตุํ วฏฺฏติ ติณกุฏิกานํ สมนฺตา ภูมิตจฺฉนํ ปริขาขณนํ วา, ยถา อาคโต อคฺคิ อุปาทานํ อลภิตฺวา นิพฺพาติ. เอตฺจ สพฺพํ อุฏฺิเตเยว อคฺคิสฺมึ กาตุํ วฏฺฏติ. อนุฏฺิเต อนุปสมฺปนฺเนหิ กปฺปิยโวหาเรน กาเรตพฺพํ. อุทเกน ปน นิพฺพาเปนฺเตหิ อปฺปาณกเมว อุทกํ อาสิฺจิตพฺพํ.
๑๙๑. อาฆาตนวตฺถุสฺมึ – ยถา เอกปฺปหารวจเน; เอวํ ‘‘ทฺวีหิ ปหาเรหี’’ติ อาทิวจเนสุปิ ปาราชิกํ เวทิตพฺพํ. ‘‘ทฺวีหี’’ติ วุตฺเต จ เอเกน ปหาเรน มาริเตปิ เขตฺตเมว โอติณฺณตฺตา ปาราชิกํ, ตีหิ มาริเต ปน วิสงฺเกตํ. อิติ ยถาปริจฺเฉเท วา ปริจฺเฉทพฺภนฺตเร วา อวิสงฺเกตํ, ปริจฺเฉทาติกฺกเม ปน สพฺพตฺถ วิสงฺเกตํ โหติ, อาณาปโก มุจฺจติ, วธกสฺเสว โทโส. ยถา จ ปหาเรสุ; เอวํ ปุริเสสุปิ ‘‘เอโก มาเรตู’’ติ วุตฺเต เอเกเนว มาริเต ปาราชิกํ, ทฺวีหิ มาริเต วิสงฺเกตํ. ‘‘ทฺเว มาเรนฺตู’’ติ วุตฺเต เอเกน วา ทฺวีหิ วา มาริเต ปาราชิกํ, ตีหิ มาริเต วิสงฺเกตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอโก สงฺคาเม เวเคน ธาวโต ปุริสสฺส สีสํ อสินา ฉินฺทติ, อสีสกํ กพนฺธํ ธาวติ, ตมฺโ ปหริตฺวา ปาเตสิ, กสฺส ปาราชิกนฺติ วุตฺเต อุปฑฺฒา เถรา ‘‘คมนูปจฺเฉทกสฺสา’’ติ อาหํสุ. อาภิธมฺมิกโคทตฺตตฺเถโร ‘‘สีสจฺเฉทกสฺสา’’ติ. เอวรูปานิปิ วตฺถูนิ อิมสฺส วตฺถุสฺส อตฺถทีปเน วตฺตพฺพานีติ.
๑๙๒. ตกฺกวตฺถุสฺมึ – อนิยเมตฺวา ‘‘ตกฺกํ ปาเยถา’’ติ วุตฺเต ยํ วา ตํ วา ตกฺกํ ปาเยตฺวา มาริเต ปาราชิกํ. นิยเมตฺวา ปน ‘‘โคตกฺกํ มหึสตกฺกํ อชิกาตกฺก’’นฺติ วา, ‘‘สีตํ อุณฺหํ ธูปิตํ อธูปิต’’นฺติ วา วุตฺเต ยํ วุตฺตํ, ตโต อฺํ ปาเยตฺวา มาริเต วิสงฺเกตํ.
โลณโสวีรกวตฺถุสฺมึ ¶ – โลณโสวีรกํ นาม สพฺพรสาภิสงฺขตํ เอกํ เภสชฺชํ. ตํ กิร กโรนฺตา ¶ หรีตกามลกวิภีตกกสาเว สพฺพธฺานิ สพฺพอปรณฺณานิ สตฺตนฺนมฺปิ ธฺานํ โอทนํ กทลิผลาทีนิ สพฺพผลานิ เวตฺตเกตกขชฺชูริกฬีราทโย สพฺพกฬีเร มจฺฉมํสขณฺฑานิ อเนกานิ จ มธุผาณิตสินฺธวโลณนิกฏุกาทีนิ เภสชฺชานิ ปกฺขิปิตฺวา ¶ กุมฺภิมุขํ ลิมฺปิตฺวา เอกํ วา ทฺเว วา ตีณิ วา สํวจฺฉรานิ เปนฺติ, ตํ ปริปจฺจิตฺวา ชมฺพุรสวณฺณํ โหติ. วาตกาสกุฏฺปณฺฑุภคนฺทราทีนํ สินิทฺธโภชนํ ภุตฺตานฺจ อุตฺตรปานํ ภตฺตชีรณกเภสชฺชํ ตาทิสํ นตฺถิ. ตํ ปเนตํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตมฺปิ วฏฺฏติ, คิลานานํ ปากติกเมว, อคิลานานํ ปน อุทกสมฺภินฺนํ ปานปริโภเคนาติ.
สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย
ตติยปาราชิกวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. จตุตฺถปาราชิกํ
จตุสจฺจวิทู ¶ สตฺถา, จตุตฺถํ ยํ ปกาสยิ;
ปาราชิกํ ตสฺส ทานิ, ปตฺโต สํวณฺณนากฺกโม.
ยสฺมา ตสฺมา สุวิฺเยฺยํ, ยํ ปุพฺเพ จ ปกาสิตํ;
ตํ วชฺชยิตฺวา อสฺสาปิ, โหติ สํวณฺณนา อยํ.
วคฺคุมุทาตีริยภิกฺขุวตฺถุวณฺณนา
๑๙๓. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ…เป… คิหีนํ กมฺมนฺตํ อธิฏฺเมาติ คิหีนํ เขตฺเตสุ เจว อารามาทีสุ จ กตฺตพฺพกิจฺจํ อธิฏฺาม; ‘‘เอวํ กาตพฺพํ, เอวํ น กาตพฺพ’’นฺติ อาจิกฺขาม เจว อนุสาสาม จาติ วุตฺตํ โหติ. ทูเตยฺยนฺติ ทูตกมฺมํ. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺสาติ มนุสฺเส อุตฺติณฺณธมฺมสฺส; มนุสฺเส อติกฺกมิตฺวา พฺรหฺมตฺตํ วา นิพฺพานํ วา ปาปนกธมฺมสฺสาติ อตฺโถ. อุตฺตริมนุสฺสานํ วา เสฏฺปุริสานํ ฌายีนฺจ อริยานฺจ ธมฺมสฺส. อสุโก ภิกฺขูติอาทีสุ อตฺตนา เอวํ มนฺตยิตฺวา ปจฺฉา คิหีนํ ภาสนฺตา ‘‘พุทฺธรกฺขิโต นาม ภิกฺขุ ปมสฺส ฌานสฺส ลาภี, ธมฺมรกฺขิโต ทุติยสฺสา’’ติ เอวํ นามวเสเนว วณฺณํ ภาสึสูติ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ เอโสเยว โข อาวุโส เสยฺโยติ กมฺมนฺตาธิฏฺานํ ทูเตยฺยหรณฺจ พหุสปตฺตํ มหาสมารมฺภํ น จ สมณสารุปฺปํ. ตโต ปน อุภยโตปิ ¶ เอโส เอว เสยฺโย ปาสํสตโร สุนฺทรตโร โย อมฺหากํ คิหีนํ อฺมฺสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส วณฺโณ ภาสิโต. กึ วุตฺตํ โหติ? อิริยาปถํ สณฺเปตฺวา นิสินฺนํ วา จงฺกมนฺตํ วา ปุจฺฉนฺตานํ วา อปุจฺฉนฺตานํ วา คิหีนํ ‘‘อยํ ¶ อสุโก นาม ภิกฺขุ ปมสฺส ฌานสฺส ลาภี’’ติ เอวมาทินา นเยน โย อมฺหากํ อฺเน อฺสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส ¶ วณฺโณ ภาสิโต ภวิสฺสติ, เอโส เอว เสยฺโยติ. อนาคตสมฺพนฺเธ ปน อสติ น เอเตหิ โส ตสฺมึ ขเณ ภาสิโตว ยสฺมา น ยุชฺชติ, ตสฺมา อนาคตสมฺพนฺธํ กตฺวา ‘‘โย เอวํ ภาสิโต ภวิสฺสติ, โส เอว เสยฺโย’’ติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ลกฺขณํ ปน สทฺทสตฺถโต ปริเยสิตพฺพํ.
๑๙๔. วณฺณวา อเหสุนฺติ อฺโเยว เนสํ อภินโว สรีรวณฺโณ อุปฺปชฺชิ, เตน วณฺเณน วณฺณวนฺโต อเหสุํ. ปีณินฺทฺริยาติ ปฺจหิ ปสาเทหิ อภินิวิฏฺโกาสสฺส ปริปุณฺณตฺตา มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ อมิลาตภาเวน ปีณินฺทฺริยา. ปสนฺนมุขวณฺณาติ กิฺจาปิ อวิเสเสน วณฺณวนฺโต สรีรวณฺณโต ปน เนสํ มุขวณฺโณ อธิกตรํ ปสนฺโน; อจฺโฉ อนาวิโล ปริสุทฺโธติ อตฺโถ. วิปฺปสนฺนฉวิวณฺณาติ เยน จ เต มหากณิการปุปฺผาทิสทิเสน วณฺเณน วณฺณวนฺโต, ตาทิโส อฺเสมฺปิ มนุสฺสานํ วณฺโณ อตฺถิ. ยถา ปน อิเมสํ; เอวํ น เตสํ ฉวิวณฺโณ วิปฺปสนฺโน. เตน วุตฺตํ – ‘‘วิปฺปสนฺนฉวิวณฺณา’’ติ. อิติห เต ภิกฺขู เนว อุทฺเทสํ น ปริปุจฺฉํ น กมฺมฏฺานํ อนุยฺุชนฺตา. อถ โข กุหกตาย อภูตคุณสํวณฺณนาย ลทฺธานิ ปณีตโภชนานิ ภฺุชิตฺวา ยถาสุขํ นิทฺทารามตํ สงฺคณิการามตฺจ อนุยฺุชนฺตา อิมํ สรีรโสภํ ปาปุณึสุ, ยถา ตํ พาลา ภนฺตมิคปฺปฏิภาคาติ.
วคฺคุมุทาตีริยาติ วคฺคุมุทาตีรวาสิโน. กจฺจิ ภิกฺขเว ขมนียนฺติ ภิกฺขเว กจฺจิ ตุมฺหากํ อิทํ จตุจกฺกํ นวทฺวารํ สรีรยนฺตํ ขมนียํ สกฺกา ขมิตุํ สหิตุํ ปริหริตุํ น กิฺจิ ทุกฺขํ อุปฺปาเทตีติ. กจฺจิ ยาปนียนฺติ กจฺจิ สพฺพกิจฺเจสุ ยาเปตุํ คเมตุํ สกฺกา, น กิฺจิ อนฺตรายํ ทสฺเสตีติ. กุจฺฉิ ปริกนฺโตติ กุจฺฉิ ปริกนฺติโต วรํ ภเวยฺย; ‘‘ปริกตฺโต’’ติปิ ปาโ ยุชฺชติ. เอวํ ¶ วคฺคุมุทาตีริเย อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา อิทานิ ยสฺมา เตหิ กตกมฺมํ โจรกมฺมํ โหติ, ตสฺมา อายตึ อฺเสมฺปิ เอวรูปสฺส กมฺมสฺส อกรณตฺถํ อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ.
๑๙๕. อามนฺเตตฺวา ¶ จ ปน ‘‘ปฺจิเม ภิกฺขเว มหาโจรา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สนฺโต สํวิชฺชมานาติ อตฺถิ เจว อุปลพฺภนฺติ จาติ วุตฺตํ โหติ. อิธาติ อิมสฺมึ สตฺตโลเก. เอวํ โหตีติ ¶ เอวํ ปุพฺพภาเค อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ. กุทาสฺสุ นามาหนฺติ เอตฺถ สุอิติ นิปาโต; กุทา นามาติ อตฺโถ. โส อปเรน สมเยนาติ โส ปุพฺพภาเค เอวํ จินฺเตตฺวา อนุกฺกเมน ปริสํ วฑฺเฒนฺโต ปนฺถทูหนกมฺมํ ปจฺจนฺติมคามวิโลปนฺติ เอวมาทีนิ กตฺวา เวปุลฺลปฺปตฺตปริโส หุตฺวา คาเมปิ อคาเม, ชนปเทปิ อชนปเท กโรนฺโต หนนฺโต ฆาเตนฺโต ฉินฺทนฺโต เฉทาเปนฺโต ปจนฺโต ปาเจนฺโต.
อิติ พาหิรกมหาโจรํ ทสฺเสตฺวา เตน สทิเส สาสเน ปฺจ มหาโจเร ทสฺเสตุํ ‘‘เอวเมว โข’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปาปภิกฺขุโนติ อฺเสุ าเนสุ มูลจฺฉินฺโน ปาราชิกปฺปตฺโต ‘‘ปาปภิกฺขู’’ติ วุจฺจติ. อิธ ปน ปาราชิกํ อนาปนฺโน อิจฺฉาจาเร ิโต ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ มทฺทิตฺวา วิจรนฺโต ‘‘ปาปภิกฺขู’’ติ อธิปฺเปโต. ตสฺสาปิ พาหิรกโจรสฺส วิย ปุพฺพภาเค เอวํ โหติ – ‘‘กุทาสฺสุ นามาหํ…เป… ปริกฺขาราน’’นฺติ. ตตฺถ สกฺกโตติ สกฺการปฺปตฺโต. ครุกโตติ ครุการปฺปตฺโต. มานิโตติ มนสา ปิยายิโต. ปูชิโตติ จตุปจฺจยาภิหารปูชาย ปูชิโต. อปจิโตติ อปจิติปฺปตฺโต. ตตฺถ ยสฺส จตฺตาโร ปจฺจเย สกฺกริตฺวา สุฏฺุ อภิสงฺขเต ปณีตปณีเต กตฺวา เทนฺติ, โส สกฺกโต. ยสฺมึ ครุภาวํ ปจฺจุเปตฺวา เทนฺติ, โส ครุกโต. ยํ มนสา ปิยายนฺติ, โส มานิโต. ยสฺส สพฺพมฺเปตํ กโรนฺติ, โส ปูชิโต. ยสฺส อภิวาทนปจฺจุฏฺานอฺชลิกมฺมาทิวเสน ¶ ปรมนิปจฺจการํ กโรนฺติ, โส อปจิโต. อิมสฺส จ ปน สพฺพมฺปิ อิมํ โลกามิสํ ปตฺถยมานสฺส เอวํ โหติ.
โส อปเรน สมเยนาติ โส ปุพฺพภาเค เอวํ จินฺเตตฺวา อนุกฺกเมน สิกฺขาย อติพฺพคารเว อุทฺธเต อุนฺนเฬ จปเล มุขเร วิกิณฺณวาเจ มุฏฺสฺสตี อสมฺปชาเน ปากตินฺทฺริเย อาจริยุปชฺฌาเยหิ ปริจฺจตฺตเก ลาภครุเก ปาปภิกฺขู สงฺคณฺหิตฺวา อิริยาปถสณฺปนาทีนิ กุหกวตฺตานิ สิกฺขาเปตฺวา ‘‘อยํ เถโร อสุกสฺมึ นาม เสนาสเน วสฺสํ อุปคมฺม วตฺตปฏิปตฺตึ ปูรยมาโน วสฺสํ วสิตฺวา นิคฺคโต’’ติ โลกสมฺมตเสนาสนสํวณฺณนาทีหิ ¶ อุปาเยหิ โลกํ ปริปาเจตุํ ปฏิพเลหิ ชาตกาทีสุ กตปริจเยหิ สรสมฺปนฺเนหิ ปาปภิกฺขูหิ สํวณฺณิยมานคุโณ หุตฺวา สเตน วา สหสฺเสน วา ปริวุโต…เป… เภสชฺชปริกฺขารานํ. อยํ ภิกฺขเว ปโม มหาโจโรติ อยํ สนฺธิจฺเฉทาทิโจรโก วิย น เอกํ กุลํ น ทฺเว, อถ โข มหาชนํ วฺเจตฺวา จตุปจฺจยคหณโต ‘‘ปโม มหาโจโร’’ติ เวทิตพฺโพ. เย ปน สุตฺตนฺติกา วา อาภิธมฺมิกา วา วินยธรา วา ภิกฺขู ภิกฺขาจาเร อสมฺปชฺชมาเน ปาฬึ วาเจนฺตา อฏฺกถํ กเถนฺตา อนุโมทนาย ธมฺมกถาย อิริยาปถสมฺปตฺติยา จ โลกํ ปสาเทนฺตา ชนปทจาริกํ ¶ จรนฺติ สกฺกตา ครุกตา มานิตา ปูชิตา อปจิตา, เต ‘‘ตนฺติปเวณิฆฏนกา สาสนโชตกา’’ติ เวทิตพฺพา.
ตถาคตปฺปเวทิตนฺติ ตถาคเตน ปฏิวิทฺธํ ปจฺจกฺขกตํ ชานาปิตํ วา. อตฺตโน ทหตีติ ปริสมชฺเฌ ปาฬิฺจ อฏฺกถฺจ สํสนฺทิตฺวา มธุเรน สเรน ปสาทนียํ สุตฺตนฺตํ กเถตฺวา ธมฺมกถาวเสน อจฺฉริยพฺภุตชาเตน วิฺูชเนน ‘‘อโห, ภนฺเต, ปาฬิ จ อฏฺกถา จ สุปริสุทฺธา, กสฺส สนฺติเก อุคฺคณฺหิตฺถา’’ติ ปุจฺฉิโต ‘‘โก อมฺหาทิเส อุคฺคหาเปตุํ สมตฺโถ’’ติ อาจริยํ อนุทฺทิสิตฺวา อตฺตนา ¶ ปฏิวิทฺธํ สยมฺภุาณาธิคตํ ธมฺมวินยํ ปเวเทติ. อยํ ตถาคเตน สตสหสฺสกปฺปาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺเขยฺยานิ ปารมิโย ปูเรตฺวา กิจฺเฉน กสิเรน ปฏิวิทฺธธมฺมตฺเถนโก ทุติโย มหาโจโร.
สุทฺธํ พฺรหฺมจารินฺติ ขีณาสวภิกฺขุํ. ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตนฺติ นิรุปกฺกิเลสํ เสฏฺจริยํ จรนฺตํ; อฺมฺปิ วา อนาคามึ อาทึ กตฺวา ยาว สีลวนฺตํ ปุถุชฺชนํ อวิปฺปฏิสาราทิวตฺถุกํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตํ. อมูลเกน อพฺรหฺมจริเยน อนุทฺธํเสตีติ ตสฺมึ ปุคฺคเล อวิชฺชมาเนน อนฺติมวตฺถุนา อนุวทติ โจเทติ; อยํ วิชฺชมานคุณมกฺขี อริยคุณตฺเถนโก ตติโย มหาโจโร.
ครุภณฺฑานิ ครุปริกฺขารานีติ ยถา อทินฺนาทาเน ‘‘จตุโร ชนา สํวิธาย ครุภณฺฑํ อวาหรุ’’นฺติ (ปริ. ๔๗๙) เอตฺถ ปฺจมาสกคฺฆนกํ ‘‘ครุภณฺฑ’’นฺติ วุจฺจติ, อิธ ปน น เอวํ. อถ โข ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, อวิสฺสชฺชิยานิ น วิสฺสชฺเชตพฺพานิ สงฺเฆน วา คเณน วา ปุคฺคเลน วา. วิสฺสชฺชิตานิปิ อวิสฺสชฺชิตานิ ¶ โหนฺติ. โย วิสฺสชฺเชยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. กตมานิ ปฺจ? อาราโม, อารามวตฺถุ…เป… ทารุภณฺฑํ, มตฺติกาภณฺฑ’’นฺติ วจนโต อวิสฺสชฺชิตพฺพตฺตา ครุภณฺฑานิ. ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, อเวภงฺคิยานิ น วิภชิตพฺพานิ สงฺเฆน วา คเณน วา ปุคฺคเลน วา. วิภตฺตานิปิ อวิภตฺตานิ โหนฺติ. โย วิภเชยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. กตมานิ ปฺจ? อาราโม, อารามวตฺถุ…เป… ทารุภณฺฑํ, มตฺติกาภณฺฑ’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๒) วจนโต อเวภงฺคิยตฺตา สาธารณปริกฺขารภาเวน ครุปริกฺขารานิ. อาราโม อารามวตฺถูติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ ตํ สพฺพํ ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, อวิสฺสชฺชิยานี’’ติ ขนฺธเก อาคตสุตฺตวณฺณนายเมว ¶ ภณิสฺสาม. เตหิ คิหี สงฺคณฺหาตีติ ตานิ ทตฺวา ทตฺวา คิหีํ สงฺคณฺหาติ อนุคฺคณฺหาติ. อุปลาเปตีติ ‘‘อโห อมฺหากํ อยฺโย’’ติ เอวํ ลปนเก อนุพนฺธนเก สสฺเนเห กโรติ. อยํ อวิสฺสชฺชิยํ อเวภงฺคิยฺจ ¶ ครุปริกฺขารํ ตถาภาวโต เถเนตฺวา คิหิ สงฺคณฺหนโก จตุตฺโถ มหาโจโร. โส จ ปนายํ อิมํ ครุภณฺฑํ กุลสงฺคณฺหนตฺถํ วิสฺสชฺเชนฺโต กุลทูสกทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. ปพฺพาชนียกมฺมารโห จ โหติ. ภิกฺขุสงฺฆํ อภิภวิตฺวา อิสฺสรวตาย วิสฺสชฺเชนฺโต ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชติ. เถยฺยจิตฺเตน วิสฺสชฺเชนฺโต ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพติ.
อยํ อคฺโค มหาโจโรติ อยํ อิเมสํ โจรานํ เชฏฺโจโร; อิมินา สทิโส โจโร นาม นตฺถิ, โย ปฺจินฺทฺริยคฺคหณาตีตํ อติสณฺหสุขุมํ โลกุตฺตรธมฺมํ เถเนติ. กึ ปน สกฺกา โลกุตฺตรธมฺโม หิรฺสุวณฺณาทีนิ วิย วฺเจตฺวา เถเนตฺวา คเหตุนฺติ? น สกฺกา, เตเนวาห – ‘‘โย อสนฺตํ อภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปตี’’ติ. อยฺหิ อตฺตนิ อสนฺตํ ตํ ธมฺมํ เกวลํ ‘‘อตฺถิ มยฺหํ เอโส’’ติ อุลฺลปติ, น ปน สกฺโกติ านา จาเวตุํ, อตฺตนิ วา สํวิชฺชมานํ กาตุํ. อถ กสฺมา โจโรติ วุตฺโตติ? ยสฺมา ตํ อุลฺลปิตฺวา อสนฺตสมฺภาวนาย อุปฺปนฺเน ปจฺจเย คณฺหาติ. เอวฺหิ คณฺหตา เต ปจฺจยา สุขุเมน อุปาเยน วฺเจตฺวา เถเนตฺวา คหิตา โหนฺติ. เตเนวาห – ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ? เถยฺยาย โว ภิกฺขเว รฏฺปิณฺโฑ ภุตฺโต’’ติ. อยฺหิ เอตฺถ อตฺโถ – ยํ อโวจุมฺห – ‘‘อยํ อคฺโค มหาโจโร, โย อสนฺตํ อภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปตี’’ติ ¶ . ตํ กิสฺส เหตูติ เกน การเณน เอตํ อโวจุมฺหาติ เจ. ‘‘เถยฺยาย โว ภิกฺขเว รฏฺปิณฺโฑ ภุตฺโต’’ติ ภิกฺขเว ยสฺมา โส เตน รฏฺปิณฺโฑ เถยฺยาย เถยฺยจิตฺเตน ภุตฺโต โหติ. เอตฺถ หิ โวกาโร ‘‘เย หิ โว อริยา อรฺวนปตฺถานี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๕-๓๖) วิย ¶ ปทปูรณมตฺเต นิปาโต. ตสฺมา ‘‘ตุมฺเหหิ ภุตฺโต’’ติ เอวมสฺส อตฺโถ น ทฏฺพฺโพ.
อิทานิ ตเมวตฺถํ คาถาหิ วิภูตตรํ กโรนฺโต ‘‘อฺถา สนฺต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อฺถา สนฺตนฺติ อปริสุทฺธกายสมาจาราทิเกน อฺเนากาเรน สนฺตํ. อฺถา โย ปเวทเยติ ปริสุทฺธกายสมาจาราทิเกน อฺเน อากาเรน โย ปเวเทยฺย. ‘‘ปรมปริสุทฺโธ อหํ, อตฺถิ เม อพฺภนฺตเร โลกุตฺตรธมฺโม’’ติ เอวํ ชานาเปยฺย. ปเวเทตฺวา จ ปน ตาย ปเวทนาย อุปฺปนฺนํ โภชนํ อรหา วิย ภฺุชติ. นิกจฺจ กิตวสฺเสว ภุตฺตํ เถยฺเยน ตสฺส ตนฺติ นิกจฺจาติ วฺเจตฺวา อฺถา สนฺตํ อฺถา ทสฺเสตฺวา. อคุมฺพอคจฺฉภูตเมว สาขาปลาสปลฺลวาทิจฺฉาทเนน คุมฺพมิว คจฺฉมิว จ อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา. กิตวสฺเสวาติ วฺจกสฺส เกราฏิกสฺส คุมฺพคจฺฉสฺาย อรฺเ อาคตาคเต สกุเณ คเหตฺวา ชีวิตกปฺปกสฺส สากุณิกสฺเสว. ภุตฺตํ เถยฺเยน ตสฺส ตนฺติ ตสฺสาปิ อนรหนฺตสฺเสว สโต อรหนฺตภาวํ ทสฺเสตฺวา ลทฺธโภชนํ ภฺุชโต; ยํ ตํ ภุตฺตํ ตํ ยถา สากุณิกกิตวสฺส นิกจฺจ ¶ วฺเจตฺวา สกุณคฺคหณํ, เอวํ มนุสฺเส วฺเจตฺวา ลทฺธสฺส โภชนสฺส ภุตฺตตฺตา เถยฺเยน ภุตฺตํ นาม โหติ.
อิมํ ปน อตฺถวสํ อชานนฺตา เย เอวํ ภฺุชนฺติ, กาสาวกณฺา…เป… นิรยํ เต อุปปชฺชเร กาสาวกณฺาติ กาสาเวน เวิตกณฺา. เอตฺตกเมว อริยทฺธชธารณมตฺตํ, เสสํ สามฺํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ภวิสฺสนฺติ โข ปนานนฺท อนาคตมทฺธานํ โคตฺรภุโน กาสาวกณฺา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๘๐) เอวํ วุตฺตทุสฺสีลานํ เอตํ อธิวจนํ. ปาปธมฺมาติ ลามกธมฺมา. อสฺตาติ กายาทีหิ อสฺตา. ปาปาติ ลามกปุคฺคลา. ปาเปหิ กมฺเมหีติ เตหิ กรณกาเล อาทีนวํ อทิสฺวา กเตหิ ปรวฺจนาทีหิ ปาปกมฺเมหิ. นิรยํ เต อุปปชฺชเรติ นิรสฺสาทํ ทุคฺคตึ เต อุปปชฺชนฺติ; ตสฺมา เสยฺโย อโยคุโฬติ คาถา. ตสฺสตฺโถ – สจายํ ทุสฺสีโล อสฺโต อิจฺฉาจาเร ิโต ¶ กุหนาย โลกํ วฺจโก ปุคฺคโล ตตฺตํ อคฺคิสิขูปมํ อโยคุฬํ ภฺุเชยฺย ¶ อชฺโฌหเรยฺย, ตสฺส ยฺเจตํ รฏฺปิณฺฑํ ภฺุเชยฺย, ยฺเจตํ อโยคุฬํ, เตสุ ทฺวีสุ อโยคุโฬว ภุตฺโต เสยฺโย สุนฺทรตโร ปณีตตโร จ ภเวยฺย, น หิ อโยคุฬสฺส ภุตฺตตฺตา สมฺปราเย สพฺพฺุตาเณนาปิ ทุชฺชานปริจฺเฉทํ ทุกฺขํ อนุภวติ. เอวํ ปฏิลทฺธสฺส ปน ตสฺส รฏฺปิณฺฑสฺส ภุตฺตตฺตา สมฺปราเย วุตฺตปฺปการํ ทุกฺขํ อนุโภติ, อยฺหิ โกฏิปฺปตฺโต มิจฺฉาชีโวติ.
เอวํ ปาปกิริยาย อนาทีนวทสฺสาวีนํ อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา ‘‘อถ โข ภควา วคฺคุมุทาตีริเย ภิกฺขู อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ทุพฺภรตาย ทุปฺโปสตาย…เป… อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถา’’ติ จ วตฺวา จตุตฺถปาราชิกํ ปฺเปนฺโต ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อนภิชาน’’นฺติ อาทิมาห.
เอวํ มูลจฺเฉชฺชวเสน ทฬฺหํ กตฺวา จตุตฺถปาราชิเก ปฺตฺเต อปรมฺปิ อนุปฺปฺตฺตตฺถาย อธิมานวตฺถุ อุทปาทิ. ตสฺสุปฺปตฺติทีปนตฺถํ เอตํ วุตฺตํ – ‘‘เอวฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ โหตี’’ติ.
อธิมานวตฺถุวณฺณนา
๑๙๖. ตตฺถ อทิฏฺเ ทิฏฺสฺิโนติ อรหตฺเต าณจกฺขุนา อทิฏฺเเยว ‘‘ทิฏฺํ อมฺเหหิ อรหตฺต’’นฺติ ทิฏฺสฺิโน หุตฺวา. เอส นโย อปฺปตฺตาทีสุ. อยํ ปน วิเสโส – อปฺปตฺเตติ อตฺตโน ¶ สนฺตาเน อุปฺปตฺติวเสน อปฺปตฺเต. อนธิคเตติ มคฺคภาวนาย อนธิคเต; อปฺปฏิลทฺเธติปิ อตฺโถ. อสจฺฉิกเตติ อปฺปฏิวิทฺเธ ปจฺจเวกฺขณวเสน วา อปฺปจฺจกฺขกเต. อธิมาเนนาติ อธิคตมาเนน; ‘‘อธิคตา มย’’นฺติ เอวํ อุปฺปนฺนมาเนนาติ อตฺโถ, อธิกมาเนน วา ถทฺธมาเนนาติ อตฺโถ. อฺํ พฺยากรึสูติ อรหตฺตํ พฺยากรึสุ; ‘‘ปตฺตํ อาวุโส อมฺเหหิ อรหตฺตํ, กตํ กรณีย’’นฺติ ภิกฺขูนํ อาโรเจสุํ. เตสํ มคฺเคน อปฺปหีนกิเลสตฺตา เกวลํ สมถวิปสฺสนาพเลน วิกฺขมฺภิตกิเลสานํ อปเรน สมเยน ตถารูปปจฺจยสมาโยเค ราคาย จิตฺตํ นมติ; ราคตฺถาย นมตีติ อตฺโถ. เอส นโย อิตเรสุ.
ตฺจ ¶ โข เอตํ อพฺโพหาริกนฺติ ตฺจ โข เอตํ เตสํ อฺพฺยากรณํ อพฺโพหาริกํ อาปตฺติปฺาปเน โวหารํ น คจฺฉติ; อาปตฺติยา องฺคํ น โหตีติ อตฺโถ.
กสฺส ¶ ปนายํ อธิมาโน อุปฺปชฺชติ, กสฺส นุปฺปชฺชตีติ? อริยสาวกสฺส ตาว นุปฺปชฺชติ โส หิ มคฺคผลนิพฺพานปหีนกิเลสอวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขเณน สฺชาตโสมนสฺโส อริยคุณปฏิเวเธ นิกฺกงฺโข. ตสฺมา โสตาปนฺนาทีนํ ‘‘อหํ สกทาคามี’’ติอาทิวเสน อธิมาโน นุปฺปชฺชติ. ทุสฺสีลสฺส นุปฺปชฺชติ, โส หิ อริยคุณาธิคเม นิราโสว. สีลวโตปิ ปริจฺจตฺตกมฺมฏฺานสฺส นิทฺทารามตาทิมนุยุตฺตสฺส นุปฺปชฺชติ. สุปริสุทฺธสีลสฺส ปน กมฺมฏฺาเน อปฺปมตฺตสฺส นามรูปํ ววตฺถเปตฺวา ปจฺจยปริคฺคเหน วิติณฺณกงฺขสฺส ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺตสฺส อารทฺธวิปสฺสกสฺส อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน จ สุทฺธสมถลาภึ วา สุทฺธวิปสฺสนาลาภึ วา อนฺตรา เปติ, โส หิ ทสปิ วีสติปิ ตึสมฺปิ วสฺสานิ กิเลสสมุทาจารํ อปสฺสิตฺวา ‘‘อหํ โสตาปนฺโน’’ติ วา ‘‘สกทาคามี’’ติ วา ‘‘อนาคามี’’ติ วา มฺติ. สมถวิปสฺสนาลาภึ ปน อรหตฺเตเยว เปติ. ตสฺส หิ สมาธิพเลน กิเลสา วิกฺขมฺภิตา, วิปสฺสนาพเลน สงฺขารา สุปริคฺคหิตา, ตสฺมา สฏฺิมฺปิ วสฺสานิ อสีติมฺปิ วสฺสานิ วสฺสสตมฺปิ กิเลสา น สมุทาจรนฺติ, ขีณาสวสฺเสว จิตฺตจาโร โหติ. โส เอวํ ทีฆรตฺตํ กิเลสสมุทาจารํ อปสฺสนฺโต อนฺตรา อตฺวาว ‘‘อรหา อห’’นฺติ มฺตีติ.
สวิภงฺคสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๙๗. อนภิชานนฺติ น อภิชานํ. ยสฺมา ปนายํ อนภิชานํ สมุทาจรติ, สฺวสฺส สนฺตาเน ¶ อนุปฺปนฺโน าเณน จ อสจฺฉิกโตติ อภูโต โหติ. เตนสฺส ปทภาชเน ‘‘อสนฺตํ อภูตํ อสํวิชฺชมาน’’นฺติ วตฺวา ‘‘อชานนฺโต อปสฺสนฺโต’’ติ วุตฺตํ ¶ .
อุตฺตริมนุสฺสธมฺมนฺติ อุตฺตริมนุสฺสานํ ฌายีนฺเจว อริยานฺจ ธมฺมํ. อตฺตุปนายิกนฺติ อตฺตนิ ตํ อุปเนติ, อตฺตานํ วา ตตฺถ อุปเนตีติ อตฺตุปนายิโก, ตํ อตฺตุปนายิกํ; เอวํ กตฺวา สมุทาจเรยฺยาติ สมฺพนฺโธ. ปทภาชเน ปน ยสฺมา อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม นาม ฌานํ วิโมกฺขํ สมาธิ สมาปตฺติ าณทสฺสนํ…เป… สฺุาคาเร อภิรตีติ เอวํ ฌานาทโย อเนกธมฺมา วุตฺตา. ตสฺมา เตสํ สพฺเพสํ วเสน อตฺตุปนายิกภาวํ ¶ ทสฺเสนฺโต ‘‘เต วา กุสเล ธมฺเม อตฺตนิ อุปเนตี’’ติ พหุวจนนิทฺเทสํ อกาสิ. ตตฺถ ‘‘เอเต ธมฺมา มยิ สนฺทิสฺสนฺตี’’ติ สมุทาจรนฺโต อตฺตนิ อุปเนติ. ‘‘อหํ เอเตสุ สนฺทิสฺสามี’’ติ สมุทาจรนฺโต อตฺตานํ เตสุ อุปเนตีติ เวทิตพฺโพ.
อลมริยาณทสฺสนนฺติ เอตฺถ โลกิยโลกุตฺตรา ปฺา ชานนฏฺเน าณํ, จกฺขุนา ทิฏฺมิว ธมฺมํ ปจฺจกฺขกรณโต ทสฺสนฏฺเน ทสฺสนนฺติ าณทสฺสนํ. อริยํ วิสุทฺธํ อุตฺตมํ าณทสฺสนนฺติ อริยาณทสฺสนํ. อลํ ปริยตฺตํ กิเลสวิทฺธํสนสมตฺถํ อริยาณทสฺสนเมตฺถ, ฌานาทิเภเท อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม อลํ วา อริยาณทสฺสนมสฺสาติ อลมริยาณทสฺสโน, ตํ อลมริยาณทสฺสนํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมนฺติ เอวํ ปทตฺถสมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ เยน าณทสฺสเนน โส อลมริยาณทสฺสโนติ วุจฺจติ. ตเทว ทสฺเสตุํ ‘‘าณนฺติ ติสฺโส วิชฺชา, ทสฺสนนฺติ ยํ าณํ ตํ ทสฺสนํ; ยํ ทสฺสนํ ตํ าณ’’นฺติ วิชฺชาสีเสน ปทภาชนํ วุตฺตํ. มหคฺคตโลกุตฺตรา ปเนตฺถ สพฺพาปิ ปฺา ‘‘าณ’’นฺติ เวทิตพฺพา.
สมุทาจเรยฺยาติ วุตฺตปฺปการเมตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อตฺตุปนายิกํ กตฺวา อาโรเจยฺย. อิตฺถิยา วาติอาทิ ปน อาโรเจตพฺพปุคฺคลนิทสฺสนํ. เอเตสฺหิ อาโรจิเต อาโรจิตํ โหติ น เทวมารพฺรหฺมานํ, นาปิ เปตยกฺขติรจฺฉานคตานนฺติ. อิติ ชานามิ อิติ ปสฺสามีติ สมุทาจรณาการนิทสฺสนเมตํ. ปทภาชเน ปนสฺส ‘‘ชานามหํ เอเต ธมฺเม, ปสฺสามหํ เอเต ธมฺเม’’ติ อิทํ เตสุ ฌานาทีสุ ธมฺเมสุ ชานนปสฺสนานํ ปวตฺติทีปนํ, ‘‘อตฺถิ จ เม เอเต ธมฺมา’’ติอาทิ อตฺตุปนายิกภาวทีปนํ ¶ .
๑๙๘. ตโต อปเรน สมเยนาติ อาปตฺติปฏิชานนสมยทสฺสนเมตํ. อยํ ปน อาโรจิตกฺขเณเยว ปาราชิกํ อาปชฺชติ. อาปตฺตึ ปน อาปนฺโน ยสฺมา ปเรน โจทิโต วา อโจทิโต ¶ วา ปฏิชานาติ; ตสฺมา ‘‘สมนุคฺคาหิยมาโน วา อสมนุคฺคาหิยมาโน วา’’ติ วุตฺตํ.
ตตฺถ สมนุคฺคาหิยมาเน ตาว – กึ เต อธิคตนฺติ อธิคมปุจฺฉา; ฌานวิโมกฺขาทีสุ, โสตาปตฺติมคฺคาทีสุ วา กึ ตยา อธิคตนฺติ. กินฺติ เต อธิคตนฺติ อุปายปุจฺฉา. อยฺหิ เอตฺถาธิปฺปาโย – กึ ตยา อนิจฺจลกฺขณํ ¶ ธุรํ กตฺวา อธิคตํ, ทุกฺขานตฺตลกฺขเณสุ อฺตรํ วา? กึ วา สมาธิวเสน อภินิวิสิตฺวา, อุทาหุ วิปสฺสนาวเสน? ตถา กึ รูเป อภินิวิสิตฺวา, อุทาหุ อรูเป? กึ วา อชฺฌตฺตํ อภินิวิสิตฺวา, อุทาหุ พหิทฺธาติ? กทา เต อธิคตนฺติ กาลปุจฺฉา. ปุพฺพณฺหมชฺฌนฺหิกาทีสุ กตรสฺมึ กาเลติ วุตฺตํ โหติ? กตฺถ เต อธิคตนฺติ โอกาสปุจฺฉา. กตรสฺมึ โอกาเส, กึ รตฺติฏฺาเน, ทิวาฏฺาเน, รุกฺขมูเล, มณฺฑเป, กตรสฺมึ วา วิหาเรติ วุตฺตํ โหติ. กตเม เต กิเลสา ปหีนาติ ปหีนกิเลสปุจฺฉา. กตรมคฺควชฺฌา ตว กิเลสา ปหีนาติ วุตฺตํ โหติ. กตเมสํ ตฺวํ ธมฺมานํ ลาภีติ ปฏิลทฺธธมฺมปุจฺฉา. ปมมคฺคาทีสุ กตเมสํ ธมฺมานํ ตฺวํ ลาภีติ วุตฺตํ โหติ.
ตสฺมา อิทานิ เจปิ โกจิ ภิกฺขุ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาธิคมํ พฺยากเรยฺย, น โส เอตฺตาวตาว สกฺกาตพฺโพ. อิเมสุ ปน ฉสุ าเนสุ โสธนตฺถํ วตฺตพฺโพ – ‘‘กึ เต อธิคตํ, กึ ฌานํ, อุทาหุ วิโมกฺขาทีสุ อฺตร’’นฺติ? โย หิ เยน อธิคโต ธมฺโม, โส ตสฺส ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อิทํ นาม เม อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กินฺติ เต อธิคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘อนิจฺจลกฺขณาทีสุ กึ ธุรํ กตฺวา อฏฺตึสาย วา อารมฺมเณสุ รูปารูปอชฺฌตฺตพหิทฺธาทิเภเทสุ ¶ วา ธมฺเมสุ เกน มุเขน อภินิวิสิตฺวา’’ติ โย หิ ยสฺสาภินิเวโส, โส ตสฺส ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อยํ นาม เม อภินิเวโส เอวํ มยา อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กทา เต อธิคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ ปุพฺพณฺเห, อุทาหุ มชฺฌนฺหิกาทีสุ อฺตรสฺมึ กาเล’’ติ สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคตกาโล ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อสุกสฺมึ นาม กาเล อธิคตนฺติ วทติ, ตโต ‘‘กตฺถ เต อธิคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ ทิวาฏฺาเน, อุทาหุ รตฺติฏฺานาทีสุ อฺตรสฺมึ โอกาเส’’ติ สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคโตกาโส ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อสุกสฺมึ นาม เม โอกาเส อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กตเม เต กิเลสา ปหีนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ ปมมคฺควชฺฌา, อุทาหุ ทุติยาทิมคฺควชฺฌา’’ติ สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคตมคฺเคน ปหีนกิเลสา ปากฏา โหนฺติ. สเจ ‘‘อิเม นาม เม กิเลสา ปหีนา’’ติ วทติ, ตโต ‘‘กตเมสํ ตฺวํ ธมฺมานํ ลาภี’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ ¶ , ‘‘กึ โสตาปตฺติมคฺคสฺส, อุทาหุ สกทาคามิมคฺคาทีสุ อฺตรสฺสา’’ติ สพฺเพสํ หิ อตฺตนา อธิคตธมฺมา ¶ ปากฏา โหนฺติ. สเจ ‘‘อิเมสํ นามาหํ ธมฺมานํ ลาภี’’ติ วทติ, เอตฺตาวตาปิสฺส วจนํ น สทฺธาตพฺพํ, พหุสฺสุตา หิ อุคฺคหปริปุจฺฉากุสลา ภิกฺขู อิมานิ ฉ านานิ โสเธตุํ สกฺโกนฺติ.
อิมสฺส ปน ภิกฺขุโน อาคมนปฏิปทา โสเธตพฺพา. ยทิ อาคมนปฏิปทา น สุชฺฌติ, ‘‘อิมาย ปฏิปทาย โลกุตฺตรธมฺโม นาม น ลพฺภตี’’ติ อปเนตพฺโพ. ยทิ ปนสฺส อาคมนปฏิปทา สุชฺฌติ, ‘‘ทีฆรตฺตํ ตีสุ สิกฺขาสุ อปฺปมตฺโต ชาคริยมนุยุตฺโต จตูสุ ปจฺจเยสุ อลคฺโค อากาเส ปาณิสเมน เจตสา วิหรตี’’ติ ปฺายติ, ตสฺส ภิกฺขุโน พฺยากรณํ ปฏิปทาย สทฺธึ สํสนฺทติ. ‘‘เสยฺยถาปิ นาม คงฺโคทกํ ยมุโนทเกน สทฺธึ สํสนฺทติ สเมติ; เอวเมว สุปฺตฺตา เตน ภควตา สาวกานํ นิพฺพานคามินี ปฏิปทา สํสนฺทติ นิพฺพานฺจ ปฏิปทา จา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๙๖) วุตฺตสทิสํ โหติ.
อปิจ โข น เอตฺตเกนาปิ สกฺกาโร กาตพฺโพ. กสฺมา? เอกจฺจสฺส หิ ปุถุชฺชนสฺสาปิ สโต ขีณาสวปฏิปตฺติสทิสา ปฏิปทา โหติ, ตสฺมา โส ภิกฺขุ เตหิ เตหิ อุปาเยหิ อุตฺตาเสตพฺโพ. ขีณาสวสฺส นาม อสนิยาปิ มตฺถเก ¶ ปตมานาย ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา น โหติ. สจสฺส ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา อุปฺปชฺชติ, ‘‘น ตฺวํ อรหา’’ติ อปเนตพฺโพ. สเจ ปน อภีรู อจฺฉมฺภี อนุตฺราสี หุตฺวา สีโห วิย นิสีทติ, อยํ ภิกฺขุ สมฺปนฺนเวยฺยากรโณ สมนฺตา ราชราชมหามตฺตาทีหิ เปสิตํ สกฺการํ อรหตีติ.
ปาปิจฺโฉติ ยา สา ‘‘อิเธกจฺโจ ทุสฺสีโลว สมาโน สีลวาติ มํ ชโน ชานาตูติ อิจฺฉตี’’ติอาทินา (วิภ. ๘๕๑) นเยน วุตฺตา ปาปิจฺฉา ตาย สมนฺนาคโต. อิจฺฉาปกโตติ ตาย ปาปิกาย อิจฺฉาย อปกโต อภิภูโต ปาราชิโก หุตฺวา.
วิสุทฺธาเปกฺโขติ อตฺตโน วิสุทฺธึ อเปกฺขมาโน อิจฺฉมาโน ปตฺถยมาโน. อยฺหิ ยสฺมา ปาราชิกํ อาปนฺโน, ตสฺมา ภิกฺขุภาเว ตฺวา อภพฺโพ ฌานาทีนิ อธิคนฺตุํ, ภิกฺขุภาโว หิสฺส สคฺคนฺตราโย เจว โหติ มคฺคนฺตราโย จ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘สามฺํ ทุปฺปรามฏฺํ นิรยายุปกฑฺฒตี’’ติ ¶ (ธ. ป. ๓๑๑). อปรมฺปิ วุตฺตํ – ‘‘สิถิโล หิ ปริพฺพาโช, ภิยฺโย อากิรเต รช’’นฺติ (ธ. ป. ๓๑๓). อิจฺจสฺส ภิกฺขุภาโว วิสุทฺธิ นาม น โหติ ¶ . ยสฺมา ปน คิหี วา อุปาสโก วา อารามิโก วา สามเณโร วา หุตฺวา ทานสรณสีลสํวราทีหิ สคฺคมคฺคํ วา ฌานวิโมกฺขาทีหิ โมกฺขมคฺคํ วา อาราเธตุํ ภพฺโพ โหติ, ตสฺมาสฺส คิหิอาทิภาโว วิสุทฺธิ นาม โหติ, ตสฺมา ตํ วิสุทฺธึ อเปกฺขนโต ‘‘วิสุทฺธาเปกฺโข’’ติ วุจฺจติ. เตเนว จสฺส ปทภาชเน ‘‘คิหี วา โหตุกาโม’’ติอาทิ วุตฺตํ.
เอวํ วเทยฺยาติ เอวํ ภเณยฺย. กถํ? ‘‘อชานเมวํ อาวุโส อวจํ ชานามิ, อปสฺสํ ปสฺสามี’’ติ. ปทภาชเน ปน ‘‘เอวํ วเทยฺยา’’ติ อิทํ ปทํ อนุทฺธริตฺวาว ยถา วทนฺโต ‘‘อชานเมวํ อาวุโส อวจํ ชานามิ, อปสฺสํ ปสฺสามี’’ติ วทติ นามาติ วุจฺจติ, ตํ อาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘นาหํ เอเต ธมฺเม ชานามี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตุจฺฉํ มุสา วิลปินฺติ อหํ วจนตฺถวิรหโต ตุจฺฉํ วฺจนาธิปฺปายโต มุสา วิลปึ, อภณินฺติ ¶ วุตฺตํ โหติ. ปทภาชเน ปนสฺส อฺเน ปทพฺยฺชเนน อตฺถมตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตุจฺฉกํ มยา ภณิต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
ปุริเม อุปาทายาติ ปุริมานิ ตีณิ ปาราชิกานิ อาปนฺเน ปุคฺคเล อุปาทาย. เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถตฺตา จ ปากฏเมวาติ.
ปทภาชนียวณฺณนา
๑๙๙. เอวํ อุทฺทิฏฺสิกฺขาปทํ ปทานุกฺกเมน วิภชิตฺวา อิทานิ ยสฺมา เหฏฺา ปทภาชนียมฺหิ ‘‘ฌานํ วิโมกฺขํ สมาธิ สมาปตฺติ าณทสฺสนํ…เป… สฺุาคาเร อภิรตี’’ติ เอวํ สํขิตฺเตเนว อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม ทสฺสิโต, น วิตฺถาเรน อาปตฺตึ อาโรเปตฺวา ตนฺติ ปิตา. สงฺเขปทสฺสิเต จ อตฺเถ น สพฺเพ สพฺพากาเรน นยํ คเหตุํ สกฺโกนฺติ, ตสฺมา สพฺพากาเรน นยคฺคหณตฺถํ ปุน ตเทว ปทภาชนํ มาติกาาเน เปตฺวา วิตฺถารโต อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ ทสฺเสตฺวา อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุกาโม ‘‘ฌานนฺติ ปมํ ฌานํ, ทุติยํ ฌาน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปมชฺฌานาทีหิ เมตฺตาฌานาทีนิปิ อสุภชฺฌานาทีนิปิ อานาปานสฺสติสมาธิชฺฌานมฺปิ โลกิยชฺฌานมฺปิ โลกุตฺตรชฺฌานมฺปิ สงฺคหิตเมว. ตสฺมา ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชินฺติปิ…เป… จตุตฺถํ ชฺฌานํ, เมตฺตาฌานํ, อุเปกฺขาฌานํ อสุภชฺฌานํ อานาปานสฺสติสมาธิชฺฌานํ ¶ , โลกิยชฺฌานํ, โลกุตฺตรชฺฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติปิ ภณนฺโต ปาราชิโกว โหตีติ เวทิตพฺโพ.
สุฏฺุ ¶ มุตฺโต วิวิเธหิ วา กิเลเสหิ มุตฺโตติ วิโมกฺโข. โส ปนายํ ราคโทสโมเหหิ สฺุตฺตา สฺุโต. ราคโทสโมหนิมิตฺเตหิ อนิมิตฺตตฺตา อนิมิตฺโต. ราคโทสโมหปณิธีนํ อภาวโต อปฺปณิหิโตติ วุจฺจติ. จิตฺตํ สมํ อาทหติ อารมฺมเณ เปตีติ สมาธิ. อริเยหิ สมาปชฺชิตพฺพโต สมาปตฺติ. เสสเมตฺถ วุตฺตนยเมว. เอตฺถ จ วิโมกฺขตฺติเกน จ สมาธิตฺติเกน จ อริยมคฺโคว ¶ วุตฺโต. สมาปตฺติตฺติเกน ปน ผลสมาปตฺติ. เตสุ ยํกิฺจิ เอกมฺปิ ปทํ คเหตฺวา ‘‘อหํ อิมสฺส ลาภีมฺหี’’ติ ภณนฺโต ปาราชิโกว โหติ.
ติสฺโส วิชฺชาติ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติ, ทิพฺพจกฺขุ, อาสวานํ ขเย าณนฺติ. ตตฺถ เอกิสฺสาปิ นามํ คเหตฺวา ‘‘อหํ อิมิสฺสา วิชฺชาย ลาภีมฺหี’’ติ ภณนฺโต ปาราชิโก โหติ. สงฺเขปฏฺกถายํ ปน ‘‘วิชฺชานํ ลาภีมฺหี’ติ ภณนฺโตปิ ‘ติสฺสนฺนํ วิชฺชานํ ลาภีมฺหี’ติ ภณนฺโตปิ ปาราชิโก วา’’ติ วุตฺตํ. มคฺคภาวนาปทภาชเน วุตฺตา สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺมา มคฺคสมฺปยุตฺตา โลกุตฺตราว อิธาธิปฺเปตา. ตสฺมา โลกุตฺตรานํ สติปฏฺานานํ สมฺมปฺปธานานํ อิทฺธิปาทานํ อินฺทฺริยานํ พลานํ โพชฺฌงฺคานํ อริยสฺส อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺส ลาภีมฺหีติ วทโต ปาราชิกนฺติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยาทีสุ ปน ‘‘สติปฏฺานานํ ลาภีมฺหี’ติ เอวํ เอเกกโกฏฺาสวเสนาปิ ‘กายานุปสฺสนาสติปฏฺานสฺส ลาภีมฺหี’ติ เอวํ ตตฺถ เอเกกธมฺมวเสนาปิ วทโต ปาราชิกเมวา’’ติ วุตฺตํ ตมฺปิ สเมติ. กสฺมา? มคฺคกฺขณุปฺปนฺเนเยว สนฺธาย วุตฺตตฺตา. ผลสจฺฉิกิริยายปิ เอเกกผลวเสน ปาราชิกํ เวทิตพฺพํ.
ราคสฺส ปหานนฺติอาทิตฺติเก กิเลสปฺปหานเมว วุตฺตํ. ตํ ปน ยสฺมา มคฺเคน วินา นตฺถิ, ตติยมคฺเคน หิ กามราคโทสานํ ปหานํ, จตุตฺเถน โมหสฺส, ตสฺมา ‘‘ราโค เม ปหีโน’’ติอาทีนิ วทโตปิ ปาราชิกํ วุตฺตํ.
ราคา จิตฺตํ วินีวรณตาติอาทิตฺติเก โลกุตฺตรจิตฺตเมว วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘ราคา เม จิตฺตํ วินีวรณ’’นฺติอาทีนิ วทโตปิ ปาราชิกเมว.
สฺุาคารปทภาชเน ¶ ปน ยสฺมา ฌาเนน อฆเฏตฺวา ‘‘สฺุาคาเร อภิรมามี’’ติ วจนมตฺเตน ปาราชิกํ นาธิปฺเปตํ, ตสฺมา ‘‘ปเมน ฌาเนน สฺุาคาเร อภิรตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺมา โย ฌาเนน ฆเฏตฺวา ‘‘อิมินา ¶ นาม ฌาเนน สฺุาคาเร อภิรมามี’’ติ วทติ, อยเมว ปาราชิโก โหตีติ เวทิตพฺโพ.
ยา ¶ จ ‘‘าณ’’นฺติ อิมสฺส ปทภาชเน อมฺพฏฺสุตฺตาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๕๔ อาทโย) วุตฺตาสุ อฏฺสุ วิชฺชาสุ วิปสฺสนาาณมโนมยิทฺธิอิทฺธิวิธทิพฺพโสตเจโตปริยาณเภทา ปฺจ วิชฺชา น อาคตา, ตาสุ เอกา วิปสฺสนาว ปาราชิกวตฺถุ น โหติ, เสสา โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. ตสฺมา ‘‘วิปสฺสนาย ลาภีมฺหี’’ติปิ ‘‘วิปสฺสนาาณสฺส ลาภีมฺหี’’ติปิ วทโต ปาราชิกํ นตฺถิ. ผุสฺสเทวตฺเถโร ปน ภณติ – ‘‘อิตราปิ จตสฺโส วิชฺชา าเณน อฆฏิตา ปาราชิกวตฺถู น โหนฺติ. ตสฺมา ‘มโนมยสฺส ลาภีมฺหิ, อิทฺธิวิธสฺส, ทิพฺพาย โสตธาตุยา, เจโตปริยสฺส ลาภีมฺหี’ติ วทโตปิ ปาราชิกํ นตฺถี’’ติ. ตํ ตสฺส อนฺเตวาสิเกเหว ปฏิกฺขิตฺตํ – ‘‘อาจริโย น อาภิธมฺมิโก ภุมฺมนฺตรํ น ชานาติ, อภิฺา นาม จตุตฺถชฺฌานปาทโกว มหคฺคตธมฺโม, ฌาเนเนว อิชฺฌติ. ตสฺมา มโนมยสฺส ลาภีมฺหี’ติ วา ‘มโนมยาณสฺส ลาภีมฺหี’ติ วา ยถา วา ตถา วา วทตุ ปาราชิกเมวา’’ติ. เอตฺถ จ กิฺจาปิ นิพฺพานํ ปาฬิยา อนาคตํ, อถ โข ‘‘นิพฺพานํ เม ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘สจฺฉิกต’’นฺติ วา วทโต ปาราชิกเมว. กสฺมา? นิพฺพานสฺส นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรตฺตา. ตถา ‘‘จตฺตาริ สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌึ ปฏิวิทฺธานิ มยา’’ติ วทโตปิ ปาราชิกเมว. กสฺมา? สจฺจปฺปฏิเวโธติ หิ มคฺคสฺส ปริยายวจนํ. ยสฺมา ปน ‘‘ติสฺโส ปฏิสมฺภิทา กามาวจรกุสลโต จตูสุ าณสมฺปยุตฺเตสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปชฺชนฺติ, กฺริยโต จตูสุ าณสมฺปยุตฺเตสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปชฺชนฺติ, อตฺถปฏิสมฺภิทา เอเตสุ เจว อุปฺปชฺชติ, จตูสุ มคฺเคสุ จตูสุ ผเลสุ จ อุปฺปชฺชตี’’ติ วิภงฺเค (วิภ. ๗๔๖) วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘ธมฺมปฏิสมฺภิทาย ลาภีมฺหี’’ติ วา, ‘‘นิรุตฺติ…เป… ปฏิภานปฏิสมฺภิทาย ¶ ลาภีมฺหี’’ติ วา ‘‘โลกิยอตฺถปฏิสมฺภิทาย ลาภีมฺหี’’ติ วา วุตฺเตปิ ปาราชิกํ นตฺถิ. ‘‘ปฏิสมฺภิทานํ ลาภีมฺหี’’ติ วุตฺเต น ตาว สีสํ โอตรติ. ‘‘โลกุตฺตรอตฺถปฏิสมฺภิทาย ลาภีมฺหี’’ติ วุตฺเต ปน ปาราชิกํ โหติ. สงฺเขปฏฺกถายํ ปน อตฺถปฏิสมฺภิทาปฺปตฺโตมฺหีติ อวิเสเสนาปิ วทโต ¶ ปาราชิกํ วุตฺตํ. กุรุนฺทิยมฺปิ ‘‘น มุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘เอตฺตาวตา ปาราชิกํ นตฺถิ, เอตฺตาวตา สีสํ น โอตรติ, เอตฺตาวตา น ปาราชิก’’นฺติ วิจาริตตฺตา น สกฺกา อฺํ ปมาณํ กาตุนฺติ.
‘‘นิโรธสมาปตฺตึ สมาปชฺชามี’’ติ วา ‘‘ลาภีมฺหาหํ ตสฺสา’’ติ วา วทโตปิ ปาราชิกํ นตฺถิ. กสฺมา? นิโรธสมาปตฺติยา เนว โลกิยตฺตา น โลกุตฺตรตฺตาติ. สเจ ปนสฺส เอวํ โหติ – ‘‘นิโรธํ นาม อนาคามี วา ขีณาสโว วา สมาปชฺชติ, เตสํ มํ อฺตโรติ ชานิสฺสตี’’ติ พฺยากโรติ, โส จ นํ ตถา ชานาติ, ปาราชิกนฺติ มหาปจฺจริสงฺเขปฏฺกถาสุ วุตฺตํ. ตํ วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.
‘‘อตีตภเว ¶ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล โสตาปนฺโนมฺหี’’ติ วทโตปิ ปาราชิกํ นตฺถิ. อตีตกฺขนฺธานฺหิ ปรามฏฺตฺตา สีสํ น โอตรตีติ. สงฺเขปฏฺกถายํ ปน ‘‘อตีเต อฏฺสมาปตฺติลาภีมฺหี’’ติ วทโต ปาราชิกํ นตฺถิ, กุปฺปธมฺมตฺตา อิธ ปน ‘‘อตฺถิ อกุปฺปธมฺมตฺตาติ เกจิ วทนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตมฺปิ ตตฺเถว ‘‘อตีตตฺตภาวํ สนฺธาย กเถนฺตสฺส ปาราชิกํ น โหติ, ปจฺจุปฺปนฺนตฺตภาวํ สนฺธาย กเถนฺตสฺเสว โหตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตํ.
สุทฺธิกวารกถาวณฺณนา
๒๐๐. เอวํ ฌานาทีนิ ทส มาติกาปทานิ วิตฺถาเรตฺวา อิทานิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปนฺโต ยํ สมฺปชานมุสาวาทํ ภณติ, ตสฺส องฺคํ ทสฺเสตฺวา ตสฺเสว วิตฺถารสฺส วเสน จกฺกเปยฺยาลํ พนฺธนฺโต อุลฺลปนาการฺจ อาปตฺติเภทฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘ตีหากาเรหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุทฺธิกวาโร วตฺตุกามวาโร ปจฺจยปฏิสํยุตฺตวาโรติ ตโย มหาวารา. เตสุ ¶ สุทฺธิกวาเร ปมชฺฌานํ อาทึ กตฺวา ยาว โมหา จิตฺตํ วินีวรณปทํ, ตาว เอกเมกสฺมึ ปเท สมาปชฺชึ, สมาปชฺชามิ, สมาปนฺโน, ลาภีมฺหิ, วสีมฺหิ, สจฺฉิกตํ มยาติ อิเมสุ ฉสุ ปเทสุ เอกเมกํ ปทํ ตีหากาเรหิ, จตูหิ, ปฺจหิ, ฉหิ, สตฺตหากาเรหีติ เอวํ ปฺจกฺขตฺตุํ โยเชตฺวา สุทฺธิกนโย นาม วุตฺโต. ตโต ปมฺจ ฌานํ, ทุติยฺจ ฌานนฺติ เอวํ ปมชฺฌาเนน สทฺธึ เอกเมกํ ¶ ปทํ ฆเฏนฺเตน สพฺพปทานิ ฆเฏตฺวา เตเนว วิตฺถาเรน ขณฺฑจกฺกํ นาม วุตฺตํ. ตฺหิ ปุน อาเนตฺวา ปมชฺฌานาทีหิ น โยชิตํ, ตสฺมา ‘‘ขณฺฑจกฺก’’นฺติ วุจฺจติ. ตโต ทุติยฺจ ฌานํ, ตติยฺจ ฌานนฺติ เอวํ ทุติยชฺฌาเนน สทฺธึ เอกเมกํ ปทํ ฆเฏตฺวา ปุน อาเนตฺวา ปมชฺฌาเนน สทฺธึ สมฺพนฺธิตฺวา เตเนว วิตฺถาเรน พทฺธจกฺกํ นาม วุตฺตํ. ตโต ยถา ทุติยชฺฌาเนน สทฺธึ, เอวํ ตติยชฺฌานาทีหิปิ สทฺธึ, เอกเมกํ ปทํ ฆเฏตฺวา ปุน อาเนตฺวา ทุติยชฺฌานาทีหิ สทฺธึ สมฺพนฺธิตฺวา เตเนว วิตฺถาเรน อฺานิปิ เอกูนตึส พทฺธจกฺกานิ วตฺวา เอกมูลกนโย นิฏฺาปิโต. ปาโ ปน สงฺเขเปน ทสฺสิโต, โส อสมฺมุยฺหนฺเตน วิตฺถารโต เวทิตพฺโพ.
ยถา จ เอกมูลโก, เอวํ ทุมูลกาทโยปิ สพฺพมูลกปริโยสานา จตุนฺนํ สตานํ อุปริ ปฺจตึส นยา วุตฺตา. เสยฺยถิทํ – ทฺวิมูลกา เอกูนตึส, ติมูลกา อฏฺวีส, จตุมูลกา สตฺตวีส; เอวํ ปฺจมูลกาทโยปิ เอเกกํ อูนํ กตฺวา ยาว ตึสมูลกา, ตาว เวทิตพฺพา. ปาเ ปน เตสํ นามมฺปิ สงฺขิปิตฺวา ‘‘อิทํ สพฺพมูลก’’นฺติ ตึสมูลกนโย เอโก ทสฺสิโต. ยสฺมา จ สฺุาคารปทํ ฌาเนน อฆฏิตํ สีสํ น โอตรติ, ตสฺมา ตํ อนามสิตฺวา ¶ โมหา จิตฺตํ ¶ วินีวรณปทปริโยสานาเยว สพฺพตฺถ โยชนา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา. เอวํ ปมชฺฌานาทีนิ ปฏิปาฏิยา วา อุปฺปฏิปาฏิยา วา ทุติยชฺฌานาทีหิ ฆเฏตฺวา วา อฆเฏตฺวา วา สมาปชฺชินฺติอาทินา นเยน อุลฺลปโต โมกฺโข นตฺถิ, ปาราชิกํ อาปชฺชติเยวาติ.
อิมสฺส อตฺถสฺส ทสฺสนวเสน วุตฺเต จ ปเนตสฺมึ สุทฺธิกมหาวาเร อยํ สงฺเขปโต อตฺถวณฺณนา – ตีหากาเรหีติ สมฺปชานมุสาวาทสฺส องฺคภูเตหิ ตีหิ การเณหิ. ปุพฺเพวสฺส โหตีติ ปุพฺพภาเคเยว อสฺส ปุคฺคลสฺส เอวํ โหติ ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ. ภณนฺตสฺส โหตีติ ภณมานสฺส โหติ. ภณิตสฺส โหตีติ ภณิเต อสฺส โหติ, ยํ วตฺตพฺพํ ตสฺมึ วุตฺเต โหตีติ อตฺโถ. อถ วา ภณิตสฺสาติ วุตฺตวโต นิฏฺิตวจนสฺส โหตีติ. โย เอวํ ปุพฺพภาเคปิ ชานาติ, ภณนฺโตปิ ชานาติ, ปจฺฉาปิ ชานาติ, ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ โส ‘‘ปมชฺฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติ ภณนฺโต ปาราชิกํ อาปชฺชตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ ทสฺสิโต. กิฺจาปิ ทสฺสิโต, อถ โข อยเมตฺถ วิเสโส – ปุจฺฉา ตาว โหติ ‘‘‘มุสา ภณิสฺส’นฺติ ปุพฺพภาโค อตฺถิ, ‘มุสา มยา ภณิต’นฺติ ปจฺฉาภาโค นตฺถิ, วุตฺตมตฺตเมว หิ โกจิ ปมุสฺสติ, กึ ตสฺส ปาราชิกํ โหติ, น โหตี’’ติ? สา เอวํ อฏฺกถาสุ วิสฺสชฺชิตา – ปุพฺพภาเค ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ จ ภณนฺตสฺส ¶ ‘‘มุสา ภณามี’’ติ จ ชานโต ปจฺฉาภาเค ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ น สกฺกา น ภวิตุํ. สเจปิ น โหติ ปาราชิกเมว. ปุริมเมว หิ องฺคทฺวยํ ปมาณํ. ยสฺสาปิ ปุพฺพภาเค ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ อาโภโค นตฺถิ, ภณนฺโต ปน ‘‘มุสา ภณามี’’ติ ชานาติ, ภณิเตปิ ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ ชานาติ, โส อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ. ปุพฺพภาโค หิ ปมาณตโร. ตสฺมึ อสติ ทวา ภณิตํ วา รวา ภณิตํ วา โหตี’’ติ.
เอตฺถ จ ตําณตา จ าณสโมธานฺจ ปริจฺจชิตพฺพํ. ตําณตา ปริจฺจชิตพฺพาติ ¶ เยน จิตฺเตน ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ ชานาติ, เตเนว ‘‘มุสา ภณามี’’ติ จ ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ จ ชานาตีติ เอวํ เอกจิตฺเตเนว ตีสุ ขเณสุ ชานาตีติ อยํ ตํฺณตา ปริจฺจชิตพฺพา, น หิ สกฺกา เตเนว จิตฺเตน ตํ จิตฺตํ ชานิตุํ ยถา น สกฺกา เตเนว อสินา โส อสิ ฉินฺทิตุนฺติ. ปุริมํ ปุริมํ ปน จิตฺตํ ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส จิตฺตสฺส ตถา อุปฺปตฺติยา ปจฺจโย หุตฺวา นิรุชฺฌติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ปมาณํ ปุพฺพภาโคว, ตสฺมึ สติ น เหสฺสติ;
เสสทฺวยนฺติ นตฺเถต, มิติ วาจา ติวงฺคิกา’’ติ.
‘‘าณสโมธานํ ¶ ปริจฺจชิตพฺพ’’นฺติ เอตานิ ตีณิ จิตฺตานิ เอกกฺขเณ อุปฺปชฺชนฺตีติ น คเหตพฺพานิ. อิทฺหิ จิตฺตํ นาม –
อนิรุทฺธมฺหิ ปเม, น อุปฺปชฺชติ ปจฺฉิมํ;
นิรนฺตรุปฺปชฺชนโต, เอกํ วิย ปกาสติ.
อิโต ปรํ ปน ยฺวายํ ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติ สมฺปชานมุสา ภณติ, ยสฺมา โส ‘‘นตฺถิ เม ปมํ ฌาน’’นฺติ เอวํทิฏฺิโก โหติ, ตสฺส หิ อตฺเถวายํ ลทฺธิ. ตถา ‘‘นตฺถิ เม ปมํ ฌาน’’นฺติ เอวมสฺส ขมติ เจว รุจฺจติ จ. เอวํสภาวเมว จสฺส จิตฺตํ ‘‘นตฺถิ เม ปมํ ฌาน’’นฺติ. ยทา ปน มุสา วตฺตุกาโม โหติ, ตทา ตํ ทิฏฺึ วา ทิฏฺิยา สห ขนฺตึ วา ทิฏฺิขนฺตีหิ สทฺธึ รุจึ วา, ทิฏฺิขนฺติรุจีหิ สทฺธึ ภาวํ วา วินิธาย นิกฺขิปิตฺวา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อภูตํ กตฺวา ภณติ, ตสฺมา เตสมฺปิ วเสน องฺคเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘จตูหากาเรหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริวาเร จ ‘‘อฏฺงฺคิโก ¶ มุสาวาโท’’ติ (ปฏิ. ๓๒๘) วุตฺตตฺตา ตตฺถ อธิปฺเปตาย สฺาย สทฺธึ อฺโปิ อิธ ‘‘อฏฺหากาเรหี’’ติ เอโก ¶ นโย โยเชตพฺโพ.
เอตฺถ จ วินิธาย ทิฏฺินฺติ พลวธมฺมวินิธานวเสเนตํ วุตฺตํ. วินิธาย ขนฺตินฺติอาทีนิ ตโต ทุพฺพลทุพฺพลานํ วินิธานวเสน. วินิธาย สฺนฺติ อิทํ ปเนตฺถ สพฺพทุพฺพลธมฺมวินิธานํ. สฺามตฺตมฺปิ นาม อวินิธาย สมฺปชานมุสา ภาสิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ยสฺมา ปน ‘‘สมาปชฺชิสฺสามี’’ติอาทินา อนาคตวจเนน ปาราชิกํ น โหติ, ตสฺมา ‘‘สมาปชฺชิ’’นฺติอาทีนิ อตีตวตฺตมานปทาเนว ปาเ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ.
๒๐๗. อิโต ปรํ สพฺพมฺปิ อิมสฺมึ สุทฺธิกมหาวาเร อุตฺตานตฺถเมว. น เหตฺถ ตํ อตฺถิ – ยํ อิมินา วินิจฺฉเยน น สกฺกา ภเวยฺย วิฺาตุํ, เปตฺวา กิเลสปฺปหานปทสฺส ปทภาชเน ‘‘ราโค เม จตฺโต วนฺโต’’ติอาทีนํ ปทานํ อตฺถํ. สฺวายํ วุจฺจติ – เอตฺถ หิ จตฺโตติ อิทํ สกภาวปริจฺจชนวเสน วุตฺตํ. วนฺโตติ อิทํ ปุน อนาทิยนภาวทสฺสนวเสน. มุตฺโตติ อิทํ สนฺตติโต วิโมจนวเสน. ปหีโนติ อิทํ มุตฺตสฺสาปิ กฺวจิ อนวฏฺานทสฺสนวเสน. ปฏินิสฺสฏฺโติ อิทํ ปุพฺเพ อาทินฺนปุพฺพสฺส ปฏินิสฺสคฺคทสฺสนวเสน. อุกฺเขฏิโตติ อิทํ อริยมคฺเคน อุตฺตาสิตตฺตา ปุน อนลฺลียนภาวทสฺสนวเสน. สฺวายมตฺโถ สทฺทสตฺถโต ปริเยสิตพฺโพ ¶ . สมุกฺเขฏิโตติ อิทํ สุฏฺุ อุตฺตาเสตฺวา อณุสหคตสฺสาปิ ปุน อนลฺลียนภาวทสฺสนวเสน วุตฺตนฺติ.
สุทฺธิกวารกถา นิฏฺิตา.
วตฺตุกามวารกถา
๒๑๕. วตฺตุกามวาเรปิ ‘‘ตีหากาเรหี’’ติอาทีนํ อตฺโถ, วารเปยฺยาลปฺปเภโท จ สพฺโพ อิธ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. เกวลฺหิ ยํ ‘‘มยา วิรชฺฌิตฺวา อฺํ วตฺตุกาเมน อฺํ วุตฺตํ, ตสฺมา นตฺถิ มยฺหํ อาปตฺตี’’ติ เอวํ โอกาสคเวสกานํ ปาปปุคฺคลานํ โอกาสนิเสธนตฺถํ วุตฺโต. ยเถว หิ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติ วตฺตุกาโม ‘‘ธมฺมํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทีสุ สิกฺขาปจฺจกฺขานปเทสุ ยํ วา ตํ วา วทนฺโตปิ เขตฺเต โอติณฺณตฺตา สิกฺขาปจฺจกฺขาตโกว ¶ โหติ; เอวํ ¶ ปมชฺฌานาทีสุ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมปเทสุ ยํกิฺจิ เอกํ วตฺตุกาโม ตโต อฺํ ยํ วา ตํ วา วทนฺโตปิ เขตฺเต โอติณฺณตฺตา ปาราชิโกว โหติ. สเจ ยสฺส วทติ, โส ตมตฺถํ ตงฺขณฺเว ชานาติ. ชานนลกฺขณฺเจตฺถ สิกฺขาปจฺจกฺขาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อยํ ปน วิเสโส – สิกฺขาปจฺจกฺขานํ หตฺถมุทฺทาย สีสํ น โอตรติ. อิทํ อภูตาโรจนํ หตฺถมุทฺทายปิ โอตรติ. โย หิ หตฺถวิการาทีหิปิ องฺคปจฺจงฺคโจปเนหิ อภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ วิฺตฺติปเถ ิตสฺส ปุคฺคลสฺส อาโรเจติ, โส จ ตมตฺถํ ชานาติ, ปาราชิโกว โหติ. อถ ปน ยสฺส อาโรเจติ, โส น ชานาติ ‘‘กิ อยํ ภณตี’’ติ, สํสยํ วา อาปชฺชติ, จิรํ วีมํสิตฺวา วา ปจฺฉา ชานาติ, อปฺปฏิวิชานนฺโต อิจฺเจว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. เอวํ อปฺปฏิวิชานนฺตสฺส วุตฺเต ถุลฺลจฺจยํ โหติ. โย ปน ฌานาทีนิ อตฺตโน อธิคมวเสน วา อุคฺคหปริปุจฺฉาทิวเสน วา น ชานาติ, เกวลํ ฌานนฺติ วา วิโมกฺโขติ วา วจนมตฺตเมว สุตํ โหติ, โสปิ เตน วุตฺเต ‘‘ฌานํ กิร สมาปชฺชินฺติ เอส วทตี’’ติ ยทิ เอตฺตกมตฺตมฺปิ ชานาติ, ชานาติจฺเจว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ตสฺส วุตฺเต ปาราชิกเมว. เสโส เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา พหูนํ วา นิยมิตานิยมิตวเสน วิเสโส สพฺโพ สิกฺขาปจฺจกฺขานกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ.
วตฺตุกามวารกถา นิฏฺิตา.
ปจฺจยปฏิสํยุตฺตวารกถา
๒๒๐. ปจฺจยปฏิสํยุตฺตวาเรปิ ¶ – สพฺพํ วารเปยฺยาลเภทํ ปุพฺเพ อาคตปทานฺจ อตฺถํ วุตฺตนเยเนว ตฺวา ปาฬิกฺกโม ตาว เอวํ ชานิตพฺโพ. เอตฺถ หิ ‘‘โย เต วิหาเร วสิ, โย เต จีวรํ ปริภฺุชิ, โย เต ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิ, โย เต เสนาสนํ ปริภฺุชิ, โย เต คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปริภฺุชี’’ติ อิเม ปฺจ ปจฺจตฺตวจนวารา, ‘‘เยน เต วิหาโร ปริภุตฺโต’’ติอาทโย ปฺจ กรณวจนวารา, ‘‘ยํ ตฺวํ อาคมฺม วิหารํ อทาสี’’ติอาทโย ปฺจ อุปโยควจนวารา วุตฺตา ¶ , เตสํ วเสน อิธ วุตฺเตน สฺุาคารปเทน สทฺธึ ปุพฺเพ วุตฺเตสุ ปมชฺฌานาทีสุ สพฺพปเทสุ ¶ วารเปยฺยาลเภโท เวทิตพฺโพ. ‘‘โย เต วิหาเร, เยน เต วิหาโร, ยํ ตฺวํ อาคมฺม วิหาร’’นฺติ เอวํ ปริยาเยน วุตฺตตฺตา ปน ‘‘อห’’นฺติ จ อวุตฺตตฺตา ปฏิวิชานนฺตสฺส วุตฺเตปิ อิธ ถุลฺลจฺจยํ, อปฏิวิชานนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ อยเมตฺถ วินิจฺฉโย.
อนาปตฺติเภทกถา
เอวํ วิตฺถารวเสน อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนาปตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนาปตฺติ อธิมาเนนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อธิมาเนนาติ อธิคตมาเนน สมุทาจรนฺตสฺส อนาปตฺติ. อนุลฺลปนาธิปฺปายสฺสาติ โกหฺเ อิจฺฉาจาเร อตฺวา อนุลฺลปนาธิปฺปายสฺส สพฺรหฺมจารีนํ สนฺติเก อฺํ พฺยากโรนฺตสฺส อนาปตฺติ. อุมฺมตฺตกาทโย ปุพฺเพ วุตฺตนยาเอว. อิธ ปน อาทิกมฺมิกา วคฺคุมุทาตีริยา ภิกฺขู. เตสํ อนาปตฺตีติ.
ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมุฏฺานาทีสุ อิทํ สิกฺขาปทํ ติสมุฏฺานํ – หตฺถมุทฺทาย อาโรเจนฺตสฺส กายจิตฺตโต, วจีเภเทน อาโรเจนฺตสฺส วาจาจิตฺตโต, อุภยํ กโรนฺตสฺส กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ. กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนํ หสนฺโตปิ หิ โสมนสฺสิโก อุลฺลปติ ภายนฺโตปิ มชฺฌตฺโตปีติ.
วินีตวตฺถุวณฺณนา
๒๒๓. วินีตวตฺถูสุ – อธิมานวตฺถุ อนุปฺตฺติยํ วุตฺตนยเมว.
ทุติยวตฺถุสฺมึ ¶ – ปณิธายาติ ปตฺถนํ กตฺวา. เอวํ มํ ชโน สมฺภาเวสฺสตีติ เอวํ อรฺเ วสนฺตํ มํ ชโน อรหตฺเต วา เสกฺขภูมิยํ วา สมฺภาเวสฺสติ, ตโต โลกสฺส สกฺกโต ภวิสฺสามิ ครุกโต มานิโต ปูชิโตติ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอวํ ปณิธาย ‘‘อรฺเ วสิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺตสฺส ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ. ตถา อรฺเ กุฏิกรณจงฺกมนนิสีทนนิวาสนปาวุรณาทีสุ สพฺพกิจฺเจสุ ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. ตสฺมา เอวํ ¶ อรฺเ น วสิตพฺพํ. เอวํ วสนฺโต หิ สมฺภาวนํ ลภตุ วา มา วา ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. โย ปน สมาทินฺนธุตงฺโค ¶ ‘‘ธุตงฺคํ รกฺขิสฺสามี’’ติ วา ‘‘คามนฺเต เม วสโต จิตฺตํ วิกฺขิปติ, อรฺํ สปฺปาย’’นฺติ จินฺเตตฺวา วา ‘‘อทฺธา อรฺเ ติณฺณํ วิเวกานํ อฺตรํ ปาปุณิสฺสามี’’ติ วา ‘‘อรฺํ ปวิสิตฺวา อรหตฺตํ อปาปุณิตฺวา น นิกฺขมิสฺสามี’’ติ วา ‘‘อรฺวาโส นาม ภควตา ปสตฺโถ, มยิ จ อรฺเ วสนฺเต พหู สพฺรหฺมจาริโน คามนฺตํ หิตฺวา อารฺกา ภวิสฺสนฺตี’’ติ วา เอวํ อนวชฺชวาสํ วสิตุกาโม โหติ, เตน วสิตพฺพํ.
ตติยวตฺถุสฺมิมฺปิ – ‘‘อภิกฺกนฺตาทีนิ สณฺเปตฺวา ปิณฺฑาย จริสฺสามี’’ติ นิวาสนปารุปนกิจฺจโต ปภุติ ยาว โภชนปริโยสานํ ตาว ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. สมฺภาวนํ ลภตุ วา มา วา ทุกฺกฏเมว. ขนฺธกวตฺตเสขิยวตฺตปริปูรณตฺถํ ปน สพฺรหฺมจารีนํ ทิฏฺานุคติอาปชฺชนตฺถํ วา ปาสาทิเกหิ อภิกฺกมปฏิกฺกมาทีหิ ปิณฺฑาย ปวิสนฺโต อนุปวชฺโช วิฺูนนฺติ.
จตุตฺถปฺจมวตฺถูสุ – ‘‘โย เต วิหาเร วสี’’ติ เอตฺถ วุตฺตนเยเนว ‘‘อห’’นฺติ อวุตฺตตฺตา ปาราชิกํ นตฺถิ. อตฺตุปนายิกเมว หิ สมุทาจรนฺตสฺส ปาราชิกํ วุตฺตํ.
ปณิธาย จงฺกมีติอาทีนิ เหฏฺา วุตฺตนยาเนว.
สํโยชนวตฺถุสฺมึ – สํโยชนา ปหีนาติปิ ‘‘ทส สํโยชนา ปหีนา’’ติปิ ‘‘เอกํ สํโยชนํ ปหีน’’นฺติปิ วทโต กิเลสปฺปหานเมว อาโรจิตํ โหติ, ตสฺมา ปาราชิกํ.
๒๒๔. รโหวตฺถูสุ – รโห อุลฺลปตีติ ‘‘รโหคโต อรหา อห’’นฺติ วทติ, น มนสา จินฺติตเมว กโรติ. เตเนตฺถ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ.
วิหารวตฺถุ ¶ อุปฏฺานวตฺถุ จ วุตฺตนยเมว.
๒๒๕. น ทุกฺกรวตฺถุสฺมึ – ตสฺส ภิกฺขุโน อยํ ลทฺธิ – ‘‘อริยปุคฺคลาว ภควโต สาวกา’’ติ. เตนาห – ‘‘เย โข เต ภควโต สาวกา เต เอวํ วเทยฺยุ’’นฺติ. ยสฺมา จสฺส อยมธิปฺปาโย – ‘‘สีลวตา ¶ อารทฺธวิปสฺสเกน น ทุกฺกรํ อฺํ พฺยากาตุํ, ปฏิพโล โส อรหตฺตํ ปาปุณิตุ’’นฺติ. ตสฺมา ‘‘อนุลฺลปนาธิปฺปาโย อห’’นฺติ อาห.
วีริยวตฺถุสฺมึ ¶ อาราธนีโยติ สกฺกา อาราเธตุํ สมฺปาเทตุํ นิพฺพตฺเตตุนฺติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
มจฺจุวตฺถุสฺมึ โส ภิกฺขุ ‘‘ยสฺส วิปฺปฏิสาโร อุปฺปชฺชติ, โส ภาเยยฺย. มยฺหํ ปน อวิปฺปฏิสารวตฺถุกานิ ปริสุทฺธานิ สีลานิ, สฺวาหํ กึ มรณสฺส ภายิสฺสามี’’ติ เอตมตฺถวสํ ปฏิจฺจ ‘‘นาหํ อาวุโส มจฺจุโน ภายามี’’ติ อาห. เตนสฺส อนาปตฺติ.
วิปฺปฏิสารวตฺถุสฺมิมฺปิ เอเสว นโย. ตโต ปรานิ ตีณิ วตฺถูนิ วีริยวตฺถุสทิสาเนว.
เวทนาวตฺถูสุปมสฺมึ ตาว โส ภิกฺขุ ปฏิสงฺขานพเลน อธิวาสนขนฺติยํ ตฺวา ‘‘นาวุโส สกฺกา เยน วา เตน วา อธิวาเสตุ’’นฺติ อาห. เตนสฺส อนาปตฺติ.
ทุติเย ปน อตฺตุปนายิกํ อกตฺวา ‘‘นาวุโส สกฺกา ปุถุชฺชเนนา’’ติ ปริยาเยน วุตฺตตฺตา ถุลฺลจฺจยํ.
๒๒๖. พฺราหฺมณวตฺถูสุโส กิร พฺราหฺมโณ น เกวลํ ‘‘อายนฺตุ โภนฺโต อรหนฺโต’’ติ อาห. ยํ ยํ ปนสฺส วจนํ มุขโต นิคฺคจฺฉติ, สพฺพํ ‘‘อรหนฺตานํ อาสนานิ ปฺเปถ, ปาโททกํ เทถ, อรหนฺโต ปาเท โธวนฺตู’’ติ อรหนฺตวาทปฏิสํยุตฺตํเยว. ตํ ปนสฺส ปสาทภฺํ สทฺธาจริตตฺตา อตฺตโน สทฺธาพเลน สมุสฺสาหิตสฺส วจนํ. ตสฺมา ภควา ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, ปสาทภฺเ’’ติ อาห. เอวํ วุจฺจมาเนน ปน ภิกฺขุนา น หฏฺตุฏฺเเนว ปจฺจยา ปริภฺุชิตพฺพา, ‘‘อรหตฺตสมฺปาปิกํ ปฏิปทํ ปริปูเรสฺสามี’’ติ เอวํ โยโค กรณีโยติ.
อฺพฺยากรณวตฺถูนิสํโยชนวตฺถุสทิสาเนว. อคารวตฺถุสฺมึ โส ภิกฺขุ คิหิภาเว อนตฺถิกตาย ¶ อนเปกฺขตาย ‘‘อภพฺโพ โข อาวุโส มาทิโส’’ติ อาห, น อุลฺลปนาธิปฺปาเยน. เตนสฺส อนาปตฺติ.
๒๒๗. อาวฏกามวตฺถุสฺมึ ¶ โส ภิกฺขุ วตฺถุกาเมสุ จ กิเลสกาเมสุ จ โลกิเยเนว อาทีนวทสฺสเนน นิรเปกฺโข. ตสฺมา ‘‘อาวฏา เม อาวุโส กามา’’ติ อาห. เตนสฺส อนาปตฺติ. เอตฺถ จ อาวฏาติ ¶ อาวาริตา นิวาริตา, ปฏิกฺขิตฺตาติ อตฺโถ.
อภิรติวตฺถุสฺมึ โส ภิกฺขุ สาสเน อนุกฺกณฺิตภาเวน อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีสุ จ อภิรตภาเวน ‘‘อภิรโต อหํ อาวุโส ปรมาย อภิรติยา’’ติ อาห, น อุลฺลปนาธิปฺปาเยน. เตนสฺส อนาปตฺติ.
ปกฺกมนวตฺถุสฺมึ โย อิมมฺหา อาวาสา ปมํ ปกฺกมิสฺสตีติ เอวํ อาวาสํ วา มณฺฑปํ วา สีมํ วา ยํกิฺจิ านํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา กตาย กติกาย โย ‘‘มํ อรหาติ ชานนฺตู’’ติ ตมฺหา านา ปมํ ปกฺกมติ, ปาราชิโก โหติ. โย ปน อาจริยุปชฺฌายานํ วา กิจฺเจน มาตาปิตูนํ วา เกนจิเทว กรณีเยน ภิกฺขาจารตฺถํ วา อุทฺเทสปริปุจฺฉานํ วา อตฺถาย อฺเน วา ตาทิเสน กรณีเยน ตํ านํ อติกฺกมิตฺวา คจฺฉติ, อนาปตฺติ. สเจปิสฺส เอวํ คตสฺส ปจฺฉา อิจฺฉาจาโร อุปฺปชฺชติ ‘‘น ทานาหํ ตตฺถ คมิสฺสามิ เอวํ มํ อรหาติ สมฺภาเวสฺสนฺตี’’ติ อนาปตฺติเยว.
โยปิ เกนจิเทว กรณีเยน ตํ านํ ปตฺวา สชฺฌายมนสิการาทิวเสน อฺวิหิโต วา หุตฺวา โจราทีหิ วา อนุพทฺโธ เมฆํ วา อุฏฺิตํ ทิสฺวา อโนวสฺสกํ ปวิสิตุกาโม ตํ านํ อติกฺกมติ, อนาปตฺติ. ยาเนน วา อิทฺธิยา วา คจฺฉนฺโตปิ ปาราชิกํ นาปชฺชติ, ปทคมเนเนว อาปชฺชติ. ตมฺปิ เยหิ สห กติกา กตา, เตหิ สทฺธึ อปุพฺพํอจริมํ คจฺฉนฺโต นาปชฺชติ. เอวํ คจฺฉนฺตา หิ สพฺเพปิ อฺมฺํ รกฺขนฺติ. สเจปิ มณฺฑปรุกฺขมูลาทีสุ กิฺจิ านํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘โย เอตฺถ นิสีทติ วา จงฺกมติ วา, ตํ อรหาติ ชานิสฺสาม’’ ปุปฺผานิ วา เปตฺวา ‘‘โย อิมานิ คเหตฺวา ปูชํ กริสฺสติ, ตํ อรหาติ ชานิสฺสามา’’ติอาทินา นเยน กติกา กตา โหติ, ตตฺราปิ อิจฺฉาจารวเสน ตถา กโรนฺตสฺส ปาราชิกเมว. สเจปิ อุปาสเกน อนฺตรามคฺเค วิหาโร วา กโต โหติ, จีวราทีนิ วา ปิตานิ โหนฺติ, ‘‘เย อรหนฺโต เต อิมสฺมึ วิหาเร วสนฺตุ, จีวราทีนิ จ คณฺหนฺตู’’ติ. ตตฺราปิ อิจฺฉาจารวเสน วสนฺตสฺส วา จีวราทีนิ วา คณฺหนฺตสฺส ปาราชิกเมว ¶ . เอตํ ปน อธมฺมิกกติกวตฺตํ ¶ , ตสฺมา น กาตพฺพํ, อฺํ วา เอวรูปํ ‘‘อิมสฺมึ เตมาสพฺภนฺตเร ¶ สพฺเพว อารฺกา โหนฺตุ, ปิณฺฑปาติกงฺคาทิอวเสสธุตงฺคธรา วา อถ วา สพฺเพว ขีณาสวา โหนฺตู’’ติ เอวมาทิ. นานาเวรชฺชกา หิ ภิกฺขู สนฺนิปตนฺติ. ตตฺถ เกจิ ทุพฺพลา อปฺปถามา เอวรูปํ วตฺตํ อนุปาเลตุํ น สกฺโกนฺติ. ตสฺมา เอวรูปมฺปิ วตฺตํ น กาตพฺพํ. ‘‘อิมํ เตมาสํ สพฺเพเหว น อุทฺทิสิตพฺพํ, น ปริปุจฺฉิตพฺพํ, น ปพฺพาเชตพฺพํ, มูคพฺพตํ คณฺหิตพฺพํ, พหิ สีมฏฺสฺสาปิ สงฺฆลาโภ ทาตพฺโพ’’ติ เอวมาทิกํ ปน น กาตพฺพเมว.
๒๒๘. ลกฺขณสํยุตฺเต ยฺวายํ อายสฺมา จ ลกฺขโณติ ลกฺขณตฺเถโร วุตฺโต, เอส ชฏิลสหสฺสสฺส อพฺภนฺตเร เอหิภิกฺขูปสมฺปทาย อุปสมฺปนฺโน อาทิตฺตปริยายาวสาเน อรหตฺตปฺปตฺโต เอโก มหาสาวโกติ เวทิตพฺโพ. ยสฺมา ปเนส ลกฺขณสมฺปนฺเนน สพฺพาการปริปูเรน พฺรหฺมสเมน อตฺตภาเวน สมนฺนาคโต, ตสฺมา ลกฺขโณติ สงฺขํ คโต. มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร ปน ปพฺพชิตทิวสโต สตฺตเม ทิวเส อรหตฺตปฺปตฺโต ทุติโย อคฺคสาวโก.
สิตํ ปาตฺวากาสีติ มนฺทหสิตํ ปาตุอกาสิ, ปกาสยิ ทสฺเสสีติ วุตฺตํ โหติ. กึ ปน ทิสฺวา เถโร สิตํ ปาตฺวากาสีติ? อุปริ ปาฬิยํ อาคตํ อฏฺิกสงฺขลิกํ เอกํ เปตโลเก นิพฺพตฺตํ สตฺตํ ทิสฺวา, ตฺจ โข ทิพฺเพน จกฺขุนา, น ปสาทจกฺขุนา. ปสาทจกฺขุสฺส หิ เอเต อตฺตภาวา น อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ. เอวรูปํ ปน อตฺตภาวํ ทิสฺวา การฺุเ กาตพฺเพ กสฺมา สิตํ ปาตฺวากาสีติ? อตฺตโน จ พุทฺธาณสฺส จ สมฺปตฺติสมนุสฺสรณโต. ตฺหิ ทิสฺวา เถโร ‘‘อทิฏฺสจฺเจน นาม ปุคฺคเลน ปฏิลภิตพฺพา เอวรูปา อตฺตภาวา มุตฺโต อหํ, ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม’’ติ อตฺตโน จ สมฺปตฺตึ อนุสฺสริตฺวา ‘‘อโห พุทฺธสฺส ภควโต ¶ าณสมฺปตฺติ, โย ‘กมฺมวิปาโก, ภิกฺขเว, อจินฺเตยฺโย; น จินฺเตตพฺโพ’ติ (อ. นิ. ๔.๗๗) เทเสสิ, ปจฺจกฺขํ วต กตฺวา พุทฺธา เทเสนฺติ, สุปฺปฏิวิทฺธา พุทฺธานํ ธมฺมธาตู’’ติ เอวํ พุทฺธาณสมฺปตฺติฺจ สริตฺวา สิตํ ปาตฺวากาสีติ. ยสฺมา ปน ขีณาสวา นาม น อการณา สิตํ ปาตุกโรนฺติ, ตสฺมา ตํ ลกฺขณตฺเถโร ปุจฺฉิ – ‘‘โก นุ โข อาวุโส โมคฺคลฺลาน เหตุ, โก ปจฺจโย สิตสฺส ปาตุกมฺมายา’’ติ. เถโร ปน ยสฺมา เยหิ อยํ อุปปตฺติ สามํ อทิฏฺา, เต ทุสฺสทฺธาปยา โหนฺติ, ตสฺมา ภควนฺตํ สกฺขึ กตฺวา พฺยากาตุกามตาย ‘‘อกาโล โข, อาวุโส’’ติอาทิมาห ¶ . ตโต ภควโต สนฺติเก ปุฏฺโ ‘‘อิธาหํ อาวุโส’’ติอาทินา นเยน พฺยากาสิ.
ตตฺถ ¶ อฏฺิกสงฺขลิกนฺติ เสตํ นิมฺมํสโลหิตํ อฏฺิสงฺฆาตํ. คิชฺฌาปิ กากาปิ กุลลาปีติ เอเตปิ ยกฺขคิชฺฌา เจว ยกฺขกากา จ ยกฺขกุลลา จ ปจฺเจตพฺพา. ปากติกานํ ปน คิชฺฌาทีนํ อาปาถมฺปิ เอตํ รูปํ นาคจฺฉติ. อนุปติตฺวา อนุปติตฺวาติ อนุพนฺธิตฺวา อนุพนฺธิตฺวา. วิตุเฑนฺตีติ วินิวิชฺฌิตฺวา คจฺฉนฺติ. วิตุเทนฺตีติ วา ปาโ, อสิธารูปเมหิ ติขิเณหิ โลหตุณฺเฑหิ วิชฺฌนฺตีติ อตฺโถ. สา สุทํ อฏฺฏสฺสรํ กโรตีติ เอตฺถ สุทนฺติ นิปาโต, สา อฏฺิกสงฺขลิกา อฏฺฏสฺสรํ อาตุรสฺสรํ กโรตีติ อตฺโถ. อกุสลวิปากานุภวนตฺถํ กิร โยชนปฺปมาณาปิ ตาทิสา อตฺตภาวา นิพฺพตฺตนฺติ, ปสาทุสฺสทา จ โหนฺติ ปกฺกคณฺฑสทิสา; ตสฺมา สา อฏฺิกสงฺขลิกา พลวเวทนาตุรา ตาทิสํ สรมกาสีติ. เอวฺจ ปน วตฺวา ปุน อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ‘‘วฏฺฏคามิกสตฺตา นาม เอวรูปา อตฺตภาวา น มุจฺจนฺตี’’ติ สตฺเตสุ การฺุํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนํ ธมฺมสํเวคํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตสฺส มยฺหํ อาวุโส เอตทโหสิ; อจฺฉริยํ วต โภ’’ติอาทิมาห.
ภิกฺขู อุชฺฌายนฺตีติ เยสํ สา เปตูปปตฺติ อปฺปจฺจกฺขา, เต อุชฺฌายนฺติ ¶ . ภควา ปน เถรสฺสานุภาวํ ปกาเสนฺโต ‘‘จกฺขุภูตา วต ภิกฺขเว สาวกา วิหรนฺตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จกฺขุ ภูตํ ชาตํ อุปฺปนฺนํ เตสนฺติ จกฺขุภูตา; ภูตจกฺขุกา อุปฺปนฺนจกฺขุกา, จกฺขุํ อุปฺปาเทตฺวา, วิหรนฺตีติ อตฺโถ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. ยตฺร หิ นามาติ เอตฺถ ยตฺราติ การณวจนํ. ตตฺรายมตฺถโยชนา; ยสฺมา นาม สาวโกปิ เอวรูปํ สฺสติ วา ทกฺขติ วา สกฺขึ วา กริสฺสติ, ตสฺมา อโวจุมฺห – ‘‘จกฺขุภูตา วต ภิกฺขเว สาวกา วิหรนฺติ, าณภูตา วต ภิกฺขเว สาวกา วิหรนฺตี’’ติ.
ปุพฺเพว เม โส ภิกฺขเว สตฺโต ทิฏฺโติ โพธิมณฺเฑ สพฺพฺุตาณปฺปฏิเวเธน อปฺปมาเณสุ จกฺกวาเฬสุ อปฺปมาเณ สตฺตนิกาเย ภวคติโยนิิตินิวาเส จ ปจฺจกฺขํ กโรนฺเตน มยา ปุพฺเพว โส สตฺโต ทิฏฺโติ วทติ.
โคฆาตโกติ ¶ คาโว วธิตฺวา วธิตฺวา อฏฺิโต มํสํ โมเจตฺวา วิกฺกิณิตฺวา ชีวิกกปฺปนกสตฺโต. ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสนาติ ตสฺส นานาเจตนาหิ อายูหิตสฺส อปราปริยกมฺมสฺส. ตตฺร หิ ยาย เจตนาย นรเก ปฏิสนฺธิ ชนิตา, ตสฺสา วิปาเก ปริกฺขีเณ อวเสสกมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา อารมฺมณํ กตฺวา ปุน เปตาทีสุ ปฏิสนฺธิ นิพฺพตฺตติ, ตสฺมา สา ปฏิสนฺธิ กมฺมสภาคตาย วา อารมฺมณสภาคตาย วา ‘‘ตสฺเสว กมฺมสฺส ¶ วิปากาวเสโส’’ติ วุจฺจติ. อยฺจ สตฺโต เอวํ อุปปนฺโน. เตนาห – ‘‘ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสนา’’ติ. ตสฺส กิร นรกา จวนกาเล นิมฺมํสกตานํ คุนฺนํ อฏฺิราสิ เอว นิมิตฺตํ อโหสิ. โส ปฏิจฺฉนฺนมฺปิ ตํ กมฺมํ วิฺูนํ ปากฏํ วิย กโรนฺโต อฏฺิสงฺขลิกเปโต ชาโต.
๒๒๙. มํสเปสิวตฺถุสฺมึ ¶ โคฆาตโกติ โคมํสเปสิโย กตฺวา สุกฺขาเปตฺวา วลฺลูรวิกฺกเยน อเนกานิ วสฺสานิ ชีวิกํ กปฺเปสิ. เตนสฺส นรกา จวนกาเล มํสเปสิเยว นิมิตฺตํ อโหสิ. โส มํสเปสิเปโต ชาโต.
มํสปิณฺฑวตฺถุสฺมึ โส สากุณิโก สกุเณ คเหตฺวา วิกฺกิณนกาเล นิปฺปกฺขจมฺเม มํสปิณฺฑมตฺเต กตฺวา วิกฺกิณนฺโต ชีวิกํ กปฺเปสิ. เตนสฺส นรกา จวนกาเล มํสปิณฺโฑว นิมิตฺตํ อโหสิ. โส มํสปิณฺฑเปโต ชาโต.
นิจฺฉวิวตฺถุสฺมึ ตสฺส โอรพฺภิกสฺส เอฬเก วธิตฺวา นิจฺจมฺเม กตฺวา กปฺปิตชีวิกสฺส ปุริมนเยเนว นิจฺจมฺมํ เอฬกสรีรํ นิมิตฺตมโหสิ. โส นิจฺฉวิเปโต ชาโต.
อสิโลมวตฺถุสฺมึ โส สูกริโก ทีฆรตฺตํ นิวาปปุฏฺเ สูกเร อสินา วธิตฺวา วธิตฺวา ทีฆรตฺตํ ชีวิกํ กปฺเปสิ. เตนสฺส อุกฺขิตฺตาสิกภาโวว นิมิตฺตํ อโหสิ. ตสฺมา อสิโลมเปโต ชาโต.
สตฺติโลมวตฺถุสฺมึ โส มาควิโก เอกํ มิคฺจ สตฺติฺจ คเหตฺวา วนํ คนฺตฺวา ตสฺส มิคสฺส สมีปํ อาคตาคเต มิเค สตฺติยา วิชฺฌิตฺวา มาเรสิ, ตสฺส สตฺติยา วิชฺฌนกภาโวเยว นิมิตฺตํ อโหสิ. ตสฺมา สตฺติโลมเปโต ชาโต.
อุสุโลมวตฺถุสฺมึ ¶ การณิโกติ ราชาปราธิเก อเนกาหิ การณาหิ ปีเฬตฺวา อวสาเน กณฺเฑน วิชฺฌิตฺวา มารณกปุริโส. โส กิร อสุกสฺมึ ปเทเส วิทฺโธ มรตีติ ตฺวาว วิชฺฌติ. ตสฺเสวํ ชีวิกํ กปฺเปตฺวา นรเก อุปฺปนฺนสฺส ตโต ปกฺกาวเสเสน อิธูปปตฺติกาเล อุสุนา วิชฺฌนภาโวเยว นิมิตฺตํ อโหสิ. ตสฺมา อุสุโลมเปโต ชาโต.
สูจิโลมวตฺถุสฺมึ สารถีติ อสฺสทมโก. โคทมโกติปิ กุรุนฺทฏฺกถายํวุตฺตํ. ตสฺส ปโตทสูจิยา วิชฺฌนภาโวเยว นิมิตฺตํ อโหสิ. ตสฺมา สูจิโลมเปโต ชาโต.
ทุติยสูจิโลมวตฺถุสฺมึ ¶ สูจโกติ เปสฺุการโก ¶ . โส กิร มนุสฺเส อฺมฺฺจ ภินฺทิ. ราชกุเล จ ‘‘อิมสฺส อิมํ นาม อตฺถิ, อิมินา อิทํ นาม กต’’นฺติ สูเจตฺวา สูเจตฺวา อนยพฺยสนํ ปาเปสิ. ตสฺมา ยถาเนน สูเจตฺวา มนุสฺสา ภินฺนา, ตถา สูจีหิ เภทนทุกฺขํ ปจฺจนุโภตุํ กมฺมเมว นิมิตฺตํ กตฺวา สูจิโลมเปโต ชาโต.
อณฺฑภาริตวตฺถุสฺมึ คามกูโฏติ วินิจฺฉยามจฺโจ. ตสฺส กมฺมสภาคตาย กุมฺภมตฺตา มหาฆฏปฺปมาณา อณฺฑา อเหสุํ. โส หิ ยสฺมา รโห ปฏิจฺฉนฺน าเน ลฺชํ คเหตฺวา กูฏวินิจฺฉเยน ปากฏํ โทสํ กโรนฺโต สามิเก อสฺสามิเก อกาสิ. ตสฺมาสฺส รหสฺสํ องฺคํ ปากฏํ นิพฺพตฺตํ. ยสฺมา ทณฺฑํ ปฏฺเปนฺโต ปเรสํ อสยฺหํ ภารํ อาโรเปสิ, ตสฺมาสฺส รหสฺสงฺคํ อสยฺหภาโร หุตฺวา นิพฺพตฺตํ. ยสฺมา ยสฺมึ าเน ิเตน สเมน ภวิตพฺพํ, ตสฺมึ ตฺวา วิสโม อโหสิ, ตสฺมาสฺส รหสฺสงฺเค วิสมา นิสชฺชา อโหสีติ.
ปารทาริกวตฺถุสฺมึ โส สตฺโต ปรสฺส รกฺขิตํ โคปิตํ สสฺสามิกํ ผสฺสํ ผุสนฺโต มีฬฺหสุเขน กามสุเขน จิตฺตํ รมยิตฺวา กมฺมสภาคตาย คูถผสฺสํ ผุสนฺโต ทุกฺขมนุภวิตุํ ตตฺถ นิพฺพตฺโต. ทุฏฺพฺราหฺมณวตฺถุ ปากฏเมว.
๒๓๐. นิจฺฉวิตฺถิวตฺถุสฺมึ ยสฺมา มาตุคาโม นาม อตฺตโน ผสฺเส อนิสฺสโร, สา จ ตํ สามิกสฺส สนฺตกํ ผสฺสํ เถเนตฺวา ปเรสํ อภิรตึ ¶ อุปฺปาเทสิ, ตสฺมา กมฺมสภาคตาย สุขสมฺผสฺสา ธํสิตฺวา ทุกฺขสมฺผสฺสํ อนุภวิตุํ นิจฺฉวิตฺถี หุตฺวา อุปปนฺนา.
มงฺคุลิตฺถิวตฺถุสฺมึ มงฺคุลินฺติ ¶ วิรูปํ ทุทฺทสิกํ พีภจฺฉํ, สา กิร อิกฺขณิกากมฺมํ ยกฺขทาสิกมฺมํ กโรนฺตี ‘‘อิมินา จ อิมินา จ เอวํ พลิกมฺเม กเต อยํ นาม ตุมฺหากํ วฑฺฒิ ภวิสฺสตี’’ติ มหาชนสฺส คนฺธปุปฺผาทีนิ วฺจนาย คเหตฺวา มหาชนํ ทุทฺทิฏฺึ มิจฺฉาทิฏฺึ คณฺหาเปสิ, ตสฺมา ตาย กมฺมสภาคตาย คนฺธปุปฺผาทีนํ เถนิตตฺตา ทุคฺคนฺธา ทุทฺทสฺสนสฺส คาหิตตฺตา ทุทฺทสิกา วิรูปา พีภจฺฉา หุตฺวา นิพฺพตฺตา.
โอกิลินิวตฺถุสฺมึ อุปฺปกฺกํ โอกิลินึ โอกิรินินฺติ สา กิร องฺคารจิตเก นิปนฺนา วิปฺผนฺทมานา วิปริวตฺตมานา ปจฺจติ, ตสฺมา อุปฺปกฺกา เจว โหติ ขเรน อคฺคินา ปกฺกสรีรา; โอกิลินี จ กิลินฺนสรีรา พินฺทุพินฺทูนิ หิสฺสา สรีรโต ปคฺฆรนฺติ. โอกิรินี จ องฺคารสมฺปริกิณฺณา, ตสฺสา หิ เหฏฺโตปิ กึสุกปุปฺผวณฺณา องฺคารา, อุภยปสฺเสสุปิ ¶ , อากาสโตปิสฺสา อุปริ องฺคารา ปตนฺติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘อุปฺปกฺกํ โอกิลินึ โอกิรินิ’’นฺติ. สา อิสฺสาปกตา สปตฺตึ องฺคารกฏาเหน โอกิรีติ ตสฺสา กิร กลิงฺครฺโ เอกา นาฏกินี องฺคารกฏาหํ สมีเป เปตฺวา คตฺตโต อุทกฺจ ปฺุฉติ, ปาณินา จ เสทํ กโรติ. ราชาปิ ตาย สทฺธึ กถฺจ กโรติ, ปริตุฏฺาการฺจ ทสฺเสติ. อคฺคมเหสี ตํ อสหมานา อิสฺสาปกตา หุตฺวา อจิรปกฺกนฺตสฺส รฺโ ตํ องฺคารกฏาหํ คเหตฺวา ตสฺสา อุปริ องฺคาเร โอกิริ. สา ตํ กมฺมํ กตฺวา ตาทิสํเยว วิปากํ ปจฺจนุภวิตุํ เปตโลเก นิพฺพตฺตา.
โจรฆาตกวตฺถุสฺมึ ¶ โส รฺโ อาณาย ทีฆรตฺตํ โจรานํ สีสานิ ฉินฺทิตฺวา เปตโลเก นิพฺพตฺตนฺโต อสีสกํ กพนฺธํ หุตฺวา นิพฺพตฺติ.
ภิกฺขุวตฺถุสฺมึ ปาปภิกฺขูติ ลามกภิกฺขุ. โส กิร โลกสฺส สทฺธาเทยฺเย จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภฺุชิตฺวา กายวจีทฺวาเรหิ อสํ ยโต ภินฺนาชีโว จิตฺตเกฬึ กีฬนฺโต วิจริ. ตโต เอกํ พุทฺธนฺตรํ นิรเย ปจฺจิตฺวา เปตโลเก นิพฺพตฺตนฺโต ภิกฺขุสทิเสเนว อตฺตภาเวน นิพฺพตฺติ. ภิกฺขุนี-สิกฺขมานา-สามเณร-สามเณรีวตฺถูสุปิ อยเมว วินิจฺฉโย.
๒๓๑. ตโปทาวตฺถุสฺมึ ¶ อจฺโฉทโกติ ปสนฺโนทโก. สีโตทโกติ สีตลอุทโก. สาโตทโกติ มธุโรทโก. เสตโกติ ปริสุทฺโธ นิสฺเสวาลปณกกทฺทโม. สุปฺปติตฺโถติ สุนฺทเรหิ ติตฺเถหิ อุปปนฺโน. รมณีโยติ รติชนโก. จกฺกมตฺตานีติ รถจกฺกปฺปมาณานิ. กุถิตา สนฺทตีติ ตตฺรา สนฺตตฺตา หุตฺวา สนฺทติ. ยตายํ ภิกฺขเวติ ยโต อยํ ภิกฺขเว. โส ทโหติ โส รหโท. กุโต ปนายํ สนฺทตีติ? เวภารปพฺพตสฺส กิร เหฏฺา ภุมฺมฏฺกนาคานํ ปฺจโยชนสติกํ นาคภวนํ เทวโลกสทิสํ มณิมเยน ตเลน อารามุยฺยาเนหิ จ สมนฺนาคตํ; ตตฺถ นาคานํ กีฬนฏฺาเน โส อุทกทโห, ตโต อยํ ตโปทา สนฺทติ. ทฺวินฺนํ มหานิรยานํ อนฺตริกาย อาคจฺฉตีติ ราชคหนครํ กิร อาวิฺเชตฺวา มหาเปตโลโก, ตตฺถ ทฺวินฺนํ มหาโลหกุมฺภินิรยานํ อนฺตเรน อยํ ตโปทา อาคจฺฉติ, ตสฺมา กุถิตา สนฺทตีติ.
ยุทฺธวตฺถุสฺมึ ¶ นนฺที จรตีติ วิชยเภรี อาหิณฺฑติ. ราชา อาวุโส ลิจฺฉวีหีติ เถโร กิร อตฺตโน ทิวาฏฺาเน จ รตฺติฏฺาเน จ นิสีทิตฺวา ‘‘ลิจฺฉวโย กตหตฺถา กตูปาสนา, ราชา จ เตหิ สทฺธึ สมฺปหารํ เทตี’’ติ อาวชฺเชนฺโต ทิพฺเพน จกฺขุนา ราชานํ ปราชิตํ ปลายมานํ อทฺทส. ตโต ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา ‘‘ราชา อาวุโส ตุมฺหากํ อุปฏฺาโก ลิจฺฉวีหิ ปภคฺโค’’ติ ¶ อาห. สจฺจํ, ภิกฺขเว, โมคฺคลฺลาโน อาหาติ ปราชิกกาเล อาวชฺชิตฺวา ยํ ทิฏฺํ ตํ ภณนฺโต สจฺจํ อาห.
๒๓๒. นาโคคาหวตฺถุสฺมึ สปฺปินิกายาติ เอวํนามิกาย. อาเนฺชํ สมาธินฺติ อเนชํ อจลํ กายวาจาวิปฺผนฺทวิรหิตํ จตุตฺถชฺฌานสมาธึ. นาคานนฺติ หตฺถีนํ. โอคยฺห อุตฺตรนฺตานนฺติ โอคยฺห โอคาเหตฺวา ปุน อุตฺตรนฺตานํ. เต กิร คมฺภีรํ อุทกํ โอตริตฺวา ตตฺถ นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ โสณฺฑาย อุทกํ คเหตฺวา อฺมฺํ อาโลเลนฺตา อุตฺตรนฺติ, เตสํ เอวํ โอคยฺห อุตฺตรนฺตานนฺติ วุตฺตํ โหติ. โกฺจํ กโรนฺตานนฺติ นทีตีเร ตฺวา โสณฺฑํ มุเข ปกฺขิปิตฺวา โกฺจนาทํ กโรนฺตานํ. สทฺทํ อสฺโสสินฺติ ตํ ¶ โกฺจนาทสทฺทํ อสฺโสสึ. อตฺเถโส, ภิกฺขเว, สมาธิ โส จ โข อปริสุทฺโธติ อตฺถิ เอโส สมาธิ โมคฺคลฺลานสฺส, โส จ โข ปริสุทฺโธ น โหติ. เถโร กิร ปพฺพชิตโต สตฺตเม ทิวเส ตทหุอรหตฺตปฺปตฺโต อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ ปฺจหากาเรหิ อนาจิณฺณวสีภาโว ¶ สมาธิปริปนฺถเก ธมฺเม น สุฏฺุ ปริโสเธตฺวา อาวชฺชนสมาปชฺชนาธิฏฺานวุฏฺานปจฺจเวกฺขณานํ สฺามตฺตกเมว กตฺวา จตุตฺถชฺฌานํ อปฺเปตฺวา นิสินฺโน, ฌานงฺเคหิ วุฏฺาย นาคานํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อนฺโตสมาปตฺติยํ อสฺโสสิ’’นฺติ เอวํสฺี อโหสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อตฺเถโส, ภิกฺขเว, สมาธิ; โส จ โข อปริสุทฺโธ’’ติ.
โสภิตวตฺถุสฺมึ อหํ, อาวุโส, ปฺจ กปฺปสตานิ อนุสฺสรามีติ เอกาวชฺชเนน อนุสฺสรามีติ อาห. อิตรถา หิ อนจฺฉริยํ อริยสาวกานํ ปฏิปาฏิยา นานาวชฺชเนน ตสฺส ตสฺส อตีเต นิวาสสฺส อนุสฺสรณนฺติ น ภิกฺขู อุชฺฌาเยยฺยุํ. ยสฺมา ปเนส ‘‘เอกาวชฺชเนน อนุสฺสรามี’’ติ อาห, ตสฺมา ภิกฺขู อุชฺฌายึสุ. อตฺเถสา, ภิกฺขเว, โสภิตสฺส, สา จ โข เอกาเยว ชาตีติ ยํ โสภิโต ชาตึ อนุสฺสรามีติ อาห, อตฺเถสา ชาติ โสภิตสฺส, สา จ โข เอกาเยว อนนฺตรา น อุปฺปฏิปาฏิยา อนุสฺสริตาติ อธิปฺปาโย.
กถํ ปนายํ เอตํ อนุสฺสรีติ? อยํ กิร ปฺจนฺนํ กปฺปสตานํ อุปริ ติตฺถายตเน
ปพฺพชิตฺวา อสฺสมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตตฺวา อปริหีนชฺฌาโน กาลํ กตฺวา อสฺภเว นิพฺพตฺติ. ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา อวสาเน มนุสฺสโลเก อุปฺปนฺโน สาสเน ปพฺพชิตฺวา ติสฺโส วิชฺชา สจฺฉากาสิ. โส ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรมาโน อิมสฺมึ อตฺตภาเว ปฏิสนฺธึ ทิสฺวา ตโต ปรํ ตติเย อตฺตภาเว จุติเมว อทฺทส. อถ อุภินฺนมนฺตรา อจิตฺตกํ อตฺตภาวํ อนุสฺสริตุํ ¶ อสกฺโกนฺโต นยโต สลฺลกฺเขสิ – ‘‘อทฺธาอหํ อสฺภเว นิพฺพตฺโต’’ติ. เอวํ สลฺลกฺเขนฺเตน ปนาเนน ทุกฺกรํ กตํ, สตธา ภินฺนสฺส วาลสฺส โกฏิยา โกฏิ ปฏิวิทฺธา, อากาเส ปทํ ทสฺสิตํ. ตสฺมา นํ ภควา ¶ อิมสฺมึเยว วตฺถุสฺมึ เอตทคฺเค เปสิ – ‘‘เอตทคฺคํ ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺตานํ ยทิทํ โสภิโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๑๙, ๒๒๗).
วินีตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิคมนวณฺณนา
๒๓๓. อุทฺทิฏฺา ¶ โข อายสฺมนฺโต จตฺตาโร ปาราชิกา ธมฺมาติ อิทํ อิธ อุทฺทิฏฺปาราชิกปริทีปนเมว. สโมธาเนตฺวา ปน สพฺพาเนว จตุวีสติ ปาราชิกานิ เวทิตพฺพานิ. กตมานิ จตุวีสติ? ปาฬิยํ อาคตานิ ตาว ภิกฺขูนํ จตฺตาริ, ภิกฺขุนีนํ อสาธารณานิ จตฺตารีติ อฏฺ. เอกาทส อภพฺพปุคฺคลา, เตสุ ปณฺฑกติรจฺฉานคตอุภโตพฺยฺชนกา, ตโย วตฺถุวิปนฺนา อเหตุกปฏิสนฺธิกา, เตสํ สคฺโค อวาริโต มคฺโค ปน วาริโต, อภพฺพา หิ เต มคฺคปฺปฏิลาภาย วตฺถุวิปนฺนตฺตาติ. ปพฺพชฺชาปิ เนสํ ปฏิกฺขิตฺตา, ตสฺมา เตปิ ปาราชิกา. เถยฺยสํวาสโก, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก, มาตุฆาตโก, ปิตุฆาตโก, อรหนฺตฆาตโก, ภิกฺขุนีทูสโก, โลหิตุปฺปาทโก, สงฺฆเภทโกติ อิเม อฏฺ อตฺตโน กิริยาย วิปนฺนตฺตา อภพฺพฏฺานํ ปตฺตาติ ปาราชิกาว. เตสุ เถยฺยสํวาสโก, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก, ภิกฺขุนีทูสโกติ อิเมสํ ติณฺณํ สคฺโค อวาริโต มคฺโค ปน วาริโตว. อิตเรสํ ปฺจนฺนํ อุภยมฺปิ วาริตํ. เต หิ อนนฺตรภเว นรเก นิพฺพตฺตนกสตฺตา. อิติ อิเม จ เอกาทส, ปุริมา จ อฏฺาติ เอกูนวีสติ. เต คิหิลิงฺเค รุจึ อุปฺปาเทตฺวา คิหินิวาสนนิวตฺถาย ภิกฺขุนิยา สทฺธึ วีสติ. สา หิ อชฺฌาจารวีติกฺกมํ อกตฺวาปิ เอตฺตาวตาว อสฺสมณีติ อิมานิ ตาว วีสติ ปาราชิกานิ.
อปรานิปิ – ลมฺพี, มุทุปิฏฺิโก, ปรสฺส องฺคชาตํ มุเขน คณฺหาติ, ปรสฺส องฺคชาเต อภินิสีทตีติ อิเมสํ จตุนฺนํ วเสน จตฺตาริ อนุโลมปาราชิกานีติ วทนฺติ. เอตานิ หิ ยสฺมา อุภินฺนํ ราควเสน สทิสภาวูปคตานํ ธมฺโม ‘‘เมถุนธมฺโม’’ติ วุจฺจติ. ตสฺมา เอเตน ปริยาเยน เมถุนธมฺมํ ¶ อปฺปฏิเสวิตฺวาเยว เกวลํ มคฺเคน มคฺคปฺปเวสนวเสน อาปชฺชิตพฺพตฺตา เมถุนธมฺมปาราชิกสฺส อนุโลเมนฺตีติ อนุโลมปาราชิกานีติ วุจฺจนฺติ. อิติ อิมานิ จ จตฺตาริ ¶ ปุริมานิ จ วีสตีติ สโมธาเนตฺวา สพฺพาเนว จตุวีสติ ปาราชิกานิ เวทิตพฺพานิ.
น ลภติ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาสนฺติ อุโปสถ-ปวารณ-ปาติโมกฺขุทฺเทส-สงฺฆกมฺมปฺปเภทํ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาสํ น ลภติ. ยถา ปุเร ตถา ปจฺฉาติ ยถา ปุพฺเพ คิหิกาเล อนุปสมฺปนฺนกาเล จ ปจฺฉา ปาราชิกํ อาปนฺโนปิ ตเถว อสํวาโส โหติ. นตฺถิ ตสฺส ภิกฺขูหิ สทฺธึ ¶ อุโปสถปวารณปาติโมกฺขุทฺเทสสงฺฆกมฺมปฺปเภโท สํวาโสติ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาสํ น ลภติ. ตตฺถายสฺมนฺเต ปุจฺฉามีติ เตสุ จตูสุ ปาราชิเกสุ อายสฺมนฺเต ‘‘กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธา’’ติ ปุจฺฉามิ. กจฺจิตฺถาติ กจฺจิ เอตฺถ; เอเตสุ จตูสุ ปาราชิเกสุ กจฺจิ ปริสุทฺธาติ อตฺโถ. อถ วา กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธาติ กจฺจิ ปริสุทฺธา อตฺถ, ภวถาติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย
จตุตฺถปาราชิกวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สงฺฆาทิเสสกณฺฑํ
๑. สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทวณฺณนา
ยํ ¶ ¶ ปาราชิกกณฺฑสฺส, สงฺคีตํ สมนนฺตรํ;
ตสฺส เตรสกสฺสายมปุพฺพปทวณฺณนา.
๒๓๔. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา เสยฺยสโก อนภิรโต พฺรหฺมจริยํ จรตีติ เอตฺถ อายสฺมาติ ปิยวจนํ. เสยฺยสโกติ ตสฺส ภิกฺขุโน นามํ. อนภิรโตติ วิกฺขิตฺตจิตฺโต กามราคปริฬาเหน ปริฑยฺหมาโน น ปน คิหิภาวํ ปตฺถยมาโน. โส เตน กิโส โหตีติ โส เสยฺยสโก เตน อนภิรตภาเวน กิโส โหติ.
อทฺทสา โข อายสฺมา อุทายีติ เอตฺถ อุทายีติ ตสฺส เถรสฺส นามํ, อยฺหิ เสยฺยสกสฺส อุปชฺฌาโย ลาฬุทายี นาม ภนฺตมิคสปฺปฏิภาโค นิทฺทารามตาทิมนุยุตฺตานํ อฺตโร โลลภิกฺขุ. กจฺจิ โน ตฺวนฺติ กจฺจิ นุ ตฺวํ. ยาวทตฺถํ ภฺุชาติอาทีสุ ยาวตา อตฺโถติ ยาวทตฺถํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยาวตา เต โภชเนน อตฺโถ ยตฺตกํ ตฺวํ อิจฺฉสิ ตตฺตกํ ภฺุช, ยตฺตกํ กาลํ รตฺตึ วา ทิวา วา สุปิตุํ อิจฺฉสิ ตตฺตกํ สุป, มตฺติกาทีหิ กายํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา จุณฺณาทีหิ ฆํสิตฺวา ยตฺตกํ นฺหานํ อิจฺฉสิ ตตฺตกํ นฺหาย, อุทฺเทเสน วา ปริปุจฺฉาย วา วตฺตปฏิปตฺติยา วา กมฺมฏฺาเนน วา อตฺโถ นตฺถีติ. ยทา เต อนภิรติ อุปฺปชฺชตีติ ยสฺมึ กาเล ตว ¶ กามราควเสน อุกฺกณฺิตตา วิกฺขิตฺตจิตฺตตา อุปฺปชฺชติ. ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสตีติ กามราโค จิตฺตํ ธํเสติ ปธํเสติ วิกฺขิปติ เจว มิลาเปติ จ. ตทา หตฺเถน อุปกฺกมิตฺวา อสุจึ โมเจหีติ ตสฺมึ กาเล หตฺเถน วายมิตฺวา อสุจิโมจนํ กโรหิ, เอวฺหิ เต จิตฺเตกคฺคตา ภวิสฺสติ. อิติ ตํ อุปชฺฌาโย อนุสาสิ ยถา ตํ พาโล พาลํ มโค มคํ.
๒๓๕. เตสํ มุฏฺสฺสตีนํ อสมฺปชานานํ นิทฺทํ โอกฺกมนฺตานนฺติ สติสมฺปชฺํ ปหาย นิทฺทํ โอตรนฺตานํ. ตตฺถ กิฺจาปิ นิทฺทํ โอกฺกมนฺตานํ อพฺยากโต ¶ ภวงฺควาโร ปวตฺตติ, สติสมฺปชฺวาโร คฬติ, ตถาปิ สยนกาเล มนสิกาโร กาตพฺโพ. ทิวา สุปนฺเตน ยาว นฺหาตสฺส ¶ ภิกฺขุโน เกสา น สุกฺขนฺติ ตาว สุปิตฺวา วุฏฺหิสฺสามีติ สอุสฺสาเหน สุปิตพฺพํ. รตฺตึ สุปนฺเตน เอตฺตกํ นาม รตฺติภาคํ สุปิตฺวา จนฺเทน วา ตารกาย วา อิทํ นาม านํ ปตฺตกาเล วุฏฺหิสฺสามีติ สอุสฺสาเหน สุปิตพฺพํ. พุทฺธานุสฺสติอาทีสุ จ ทสสุ กมฺมฏฺาเนสุ เอกํ อฺํ วา จิตฺตรุจิยํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวาว นิทฺทา โอกฺกมิตพฺพา. เอวํ กโรนฺโต หิ สโต สมฺปชาโน สติฺจ สมฺปชฺฺจ อวิชหิตฺวาว นิทฺทํ โอกฺกมตีติ วุจฺจติ. เต ปน ภิกฺขู พาลา โลลา ภนฺตมิคสปฺปฏิภาคา น เอวมกํสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เตสํ มุฏฺสฺสตีนํ อสมฺปชานานํ นิทฺทํ โอกฺกมนฺตาน’’นฺติ.
อตฺถิ เจตฺถ เจตนา ลพฺภตีติ เอตฺถ จ สุปินนฺเต อสฺสาทเจตนา อตฺถิ อุปลพฺภติ. อตฺเถสา, ภิกฺขเว, เจตนา; สา จ โข อพฺโพหาริกาติ ภิกฺขเว เอสา อสฺสาทเจตนา อตฺถิ, สา จ โข อวิสเย อุปฺปนฺนตฺตา อพฺโพหาริกา, อาปตฺติยา องฺคํ น โหติ. อิติ ภควา สุปินนฺเต เจตนาย อพฺโพหาริกภาวํ ทสฺเสตฺวา ‘‘เอวฺจ ปน ภิกฺขเว อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ, สฺเจตนิกา สุกฺกวิสฺสฏฺิ อฺตฺร สุปินนฺตา สงฺฆาทิเสโส’’ติ สานุปฺตฺติกํ สิกฺขาปทํ ปฺาเปสิ.
๒๓๖-๒๓๗. ตตฺถ สํวิชฺชติ เจตนา อสฺสาติ สฺเจตนา, สฺเจตนาว สฺเจตนิกา, สฺเจตนา วา อสฺสา อตฺถีติ สฺเจตนิกา. ยสฺมา ปน ยสฺส สฺเจตนิกา ¶ สุกฺกวิสฺสฏฺิ โหติ โส ชานนฺโต สฺชานนฺโต โหติ, สา จสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺิ เจจฺจ อภิวิตริตฺวา วีติกฺกโม โหติ, ตสฺมา พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวา อตฺถเมว ทสฺเสตุํ ‘‘ชานนฺโต สฺชานนฺโต เจจฺจ อภิวิตริตฺวา วีติกฺกโม’’ติ เอวมสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ. ตตฺถ ชานนฺโตติ อุปกฺกมามีติ ชานนฺโต. สฺชานนฺโตติ สุกฺกํ โมเจมีติ สฺชานนฺโต, เตเนว อุปกฺกมชานนากาเรน สทฺธึ ชานนฺโตติ อตฺโถ. เจจฺจาติ โมจนสฺสาทเจตนาวเสน เจเตตฺวา ปกปฺเปตฺวา. อภิวิตริตฺวาติ อุปกฺกมวเสน มทฺทนฺโต นิราสงฺกจิตฺตํ เปเสตฺวา. วีติกฺกโมติ เอวํ ปวตฺตสฺส โย วีติกฺกโม อยํ สฺเจตนิกาสทฺทสฺส สิขาปฺปตฺโต อตฺโถติ วุตฺตํ โหติ.
อิทานิ ¶ สุกฺกวิสฺสฏฺีติ เอตฺถ ยสฺส สุกฺกสฺส วิสฺสฏฺิ ตํ ตาว สงฺขฺยาโต วณฺณเภทโต จ ทสฺเสตุํ ‘‘สุกฺกนฺติ ทส สุกฺกานี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุกฺกานํ อาสยเภทโต ธาตุนานตฺตโต จ นีลาทิวณฺณเภโท เวทิตพฺโพ.
วิสฺสฏฺีติ วิสฺสคฺโค, อตฺถโต ปเนตํ านาจาวนํ โหติ, เตนาห – ‘‘วิสฺสฏฺีติ านโต จาวนา ¶ วุจฺจตี’’ติ. ตตฺถ วตฺถิสีสํ กฏิ กาโยติ ติธา สุกฺกสฺส านํ ปกปฺเปนฺติ, เอโก กิราจริโย ‘‘วตฺถิสีสํ สุกฺกสฺส าน’’นฺติ อาห. เอโก ‘‘กฏี’’ติ, เอโก ‘‘สกโล กาโย’’ติ, เตสุ ตติยสฺส ภาสิตํ สุภาสิตํ. เกสโลมนขทนฺตานฺหิ มํสวินิมุตฺตฏฺานํ อุจฺจารปสฺสาวเขฬสิงฺฆาณิกาถทฺธสุกฺขจมฺมานิ จ วชฺเชตฺวา อวเสโส ฉวิมํสโลหิตานุคโต สพฺโพปิ กาโย กายปฺปสาทภาวชีวิตินฺทฺริยาพทฺธปิตฺตานํ สมฺภวสฺส จ านเมว. ตถา หิ ราคปริยุฏฺาเนนาภิภูตานํ หตฺถีนํ อุโภหิ กณฺณจูฬิกาหิ สมฺภโว นิกฺขมติ, มหาเสนราชา จ ราคปริยุฏฺิโต สมฺภวเวคํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต สตฺเถน พาหุสีสํ ผาเลตฺวา วณมุเขน นิกฺขนฺตํ สมฺภวํ ทสฺเสสีติ.
เอตฺถ ปน ปมสฺส อาจริยสฺส วาเท โมจนสฺสาเทน นิมิตฺเต อุปกฺกมโต ยตฺตกํ เอกา ขุทฺทกมกฺขิกา ปิเวยฺย ตตฺตเก อสุจิมฺหิ วตฺถิสีสโต มฺุจิตฺวา ¶ ทกโสตํ โอติณฺณมตฺเต พหิ นิกฺขนฺเต วา อนิกฺขนฺเต วา สงฺฆาทิเสโส. ทุติยสฺส วาเท ตเถว กฏิโต มุจฺจิตฺวา ทกโสตํ โอติณฺณมตฺเต, ตติยสฺส วาเท ตเถว สกลกายํ สงฺโขเภตฺวา ตโต มุจฺจิตฺวา ทกโสตํ โอติณฺณมตฺเต พหิ นิกฺขนฺเต วา อนิกฺขนฺเต วา สงฺฆาทิเสโส. ทกโสโตโรหณฺเจตฺถ อธิวาเสตฺวา อนฺตรา นิวาเรตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย วุตฺตํ, านา จุตฺหิ อวสฺสํ ทกโสตํ โอตรติ. ตสฺมา านา จาวนมตฺเตเนเวตฺถ อาปตฺติ เวทิตพฺพา, สา จ โข นิมิตฺเต อุปกฺกมนฺตสฺเสว หตฺถปริกมฺมปาทปริกมฺมคตฺตปริกมฺมกรเณน สเจปิ อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. อยํ สพฺพาจริยสาธารณวินิจฺฉโย.
อฺตฺร สุปินนฺตาติ เอตฺถ สุปิโน เอว สุปินนฺโต, ตํ เปตฺวา อปเนตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ตฺจ ปน สุปินํ ปสฺสนฺโต จตูหิ การเณหิ ปสฺสติ ¶ ธาตุกฺโขภโต วา อนุภูตปุพฺพโต วา เทวโตปสํหารโต วา ปุพฺพนิมิตฺตโต วาติ.
ตตฺถ ปิตฺตาทีนํ โขภกรณปจฺจยโยเคน ขุภิตธาตุโก ธาตุกฺโขภโต สุปินํ ปสฺสติ, ปสฺสนฺโต จ นานาวิธํ สุปินํ ปสฺสติ – ปพฺพตา ปตนฺโต วิย, อากาเสน คจฺฉนฺโต วิย, วาฬมิคหตฺถีโจราทีหิ อนุพทฺโธ วิย โหติ. อนุภูตปุพฺพโต ปสฺสนฺโต ปุพฺเพ อนุภูตปุพฺพํ อารมฺมณํ ปสฺสติ. เทวโตปสํหารโต ปสฺสนฺตสฺส เทวตา อตฺถกามตาย วา อนตฺถกามตาย วา อตฺถาย วา อนตฺถาย วา นานาวิธานิ อารมฺมณานิ อุปสํหรนฺติ, โส ตาสํ เทวตานํ อานุภาเวน ตานิ อารมฺมณานิ ปสฺสติ. ปุพฺพนิมิตฺตโต ปสฺสนฺโต ปฺุาปฺุวเสน อุปฺปชฺชิตุกามสฺส อตฺถสฺส วา อนตฺถสฺส วา ปุพฺพนิมิตฺตภูตํ สุปินํ ปสฺสติ, โพธิสตฺตสฺสมาตา ¶ วิย ปุตฺตปฏิลาภนิมิตฺตํ, โพธิสตฺโต วิย ปฺจ มหาสุปิเน (อ. นิ. ๕.๑๙๖), โกสลราชา วิย โสฬส สุปิเนติ.
ตตฺถ ยํ ธาตุกฺโขภโต อนุภูตปุพฺพโต จ สุปินํ ปสฺสติ น ตํ สจฺจํ โหติ. ยํ เทวโตปสํหารโต ปสฺสติ ตํ สจฺจํ วา โหติ อลีกํ วา, กุทฺธา หิ เทวตา อุปาเยน วินาเสตุกามา วิปรีตมฺปิ กตฺวา ทสฺเสนฺติ. ยํ ปน ปุพฺพนิมิตฺตโต ปสฺสติ ¶ ตํ เอกนฺตสจฺจเมว โหติ. เอเตสฺจ จตุนฺนํ มูลการณานํ สํสคฺคเภทโตปิ สุปินเภโท โหติเยว.
ตฺจ ปเนตํ จตุพฺพิธมฺปิ สุปินํ เสกฺขปุถุชฺชนาว ปสฺสนฺติ อปฺปหีนวิปลฺลาสตฺตา, อเสกฺขา ปน น ปสฺสนฺติ ปหีนวิปลฺลาสตฺตา. กึ ปเนตํ ปสฺสนฺโต สุตฺโต ปสฺสติ ปฏิพุทฺโธ, อุทาหุ เนว สุตฺโต น ปฏิพุทฺโธติ? กิฺเจตฺถ ยทิ ตาว สุตฺโต ปสฺสติ อภิธมฺมวิโรโธ อาปชฺชติ, ภวงฺคจิตฺเตน หิ สุปติ ตํ รูปนิมิตฺตาทิอารมฺมณํ ราคาทิสมฺปยุตฺตํ วา น โหติ, สุปินํ ปสฺสนฺตสฺส จ อีทิสานิ จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อถ ปฏิพุทฺโธ ปสฺสติ วินยวิโรโธ อาปชฺชติ, ยฺหิ ปฏิพุทฺโธ ปสฺสติ ตํ สพฺโพหาริกจิตฺเตน ปสฺสติ, สพฺโพหาริกจิตฺเตน จ กเต วีติกฺกเม อนาปตฺติ นาม นตฺถิ. สุปินํ ปสฺสนฺเตน ปน กเตปิ วีติกฺกเม เอกนฺตํ อนาปตฺติ เอว. อถ เนว สุตฺโต น ปฏิพุทฺโธ ปสฺสติ, โก นาม ปสฺสติ; เอวฺจ สติ สุปินสฺส อภาโวว อาปชฺชตีติ, น อภาโว. กสฺมา ¶ ? ยสฺมา กปิมิทฺธปเรโต ปสฺสติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘กปิมิทฺธปเรโต โข, มหาราช, สุปินํ ปสฺสตี’’ติ. กปิมิทฺธปเรโตติ มกฺกฏนิทฺทาย ยุตฺโต. ยถา หิ มกฺกฏสฺส นิทฺทา ลหุปริวตฺตา โหติ; เอวํ ยา นิทฺทา ปุนปฺปุนํ กุสลาทิจิตฺตโวกิณฺณตฺตา ลหุปริวตฺตา, ยสฺสา ปวตฺติยํ ปุนปฺปุนํ ภวงฺคโต อุตฺตรณํ โหติ ตาย ยุตฺโต สุปินํ ปสฺสติ, เตนายํ สุปิโน กุสโลปิ โหติ อกุสโลปิ อพฺยากโตปิ. ตตฺถ สุปินนฺเต เจติยวนฺทนธมฺมสฺสวนธมฺมเทสนาทีนิ กโรนฺตสฺส กุสโล, ปาณาติปาตาทีนิ กโรนฺตสฺส อกุสโล, ทฺวีหิ อนฺเตหิ มุตฺโต อาวชฺชนตทารมฺมณกฺขเณ อพฺยากโตติ เวทิตพฺโพ. สฺวายํ ทุพฺพลวตฺถุกตฺตา เจตนาย ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒิตุํ อสมตฺโถ, ปวตฺเต ปน อฺเหิ กุสลากุสเลหิ อุปตฺถมฺภิโต วิปากํ เทติ. กิฺจาปิ วิปากํ เทติ? อถ โข อวิสเย อุปฺปนฺนตฺตา อพฺโพหาริกาว สุปินนฺตเจตนา. เตนาห – ‘‘เปตฺวา สุปินนฺต’’นฺติ.
สงฺฆาทิเสโสติ อิมสฺส อาปตฺตินิกายสฺส นามํ. ตสฺมา ยา อฺตฺร สุปินนฺตา สฺเจตนิกา สุกฺกวิสฺสฏฺิ ¶ , อยํ สงฺฆาทิเสโส นาม อาปตฺตินิกาโยติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ ¶ . วจนตฺโถ ปเนตฺถ สงฺโฆ อาทิมฺหิ เจว เสเส จ อิจฺฉิตพฺโพ อสฺสาติ สงฺฆาทิเสโส. กึ วุตฺตํ โหติ? อิมํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา วุฏฺาตุกามสฺส ยํ ตํ อาปตฺติวุฏฺานํ, ตสฺส อาทิมฺหิ เจว ปริวาสทานตฺถาย อาทิโต เสเส จ มชฺเฌ มานตฺตทานตฺถาย มูลาย ปฏิกสฺสเนน วา สห มานตฺตทานตฺถาย อวสาเน อพฺภานตฺถาย สงฺโฆ อิจฺฉิตพฺโพ. น เหตฺถ เอกมฺปิ กมฺมํ วินา สงฺเฆน สกฺกา กาตุนฺติ สงฺโฆ อาทิมฺหิ เจว เสเส จ อิจฺฉิตพฺโพ อสฺสาติ สงฺฆาทิเสโสติ. พฺยฺชนํ ปน อนาทิยิตฺวา อตฺถเมว ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺโฆว ตสฺสา อาปตฺติยา ปริวาสํ เทติ, มูลาย ปฏิกสฺสติ, มานตฺตํ เทติ, อพฺเภติ น สมฺพหุลา น เอกปุคฺคโล, เตน วุจฺจติ สงฺฆาทิเสโส’’ติ อิทมสฺส ปทภาชนํ –
‘‘สงฺฆาทิเสโสติ ยํ วุตฺตํ, ตํ สุโณหิ ยถาตถํ;
สงฺโฆว เทติ ปริวาสํ, มูลาย ปฏิกสฺสติ;
มานตฺตํ เทติ อพฺเภติ, เตเนตํ อิติ วุจฺจตี’’ติ. (ปริ. ๓๓๙) –
ปริวาเร ¶ วจนการณฺจ วุตฺตํ, ตตฺถ ปริวาสทานาทีนิ สมุจฺจยกฺขนฺธเก วิตฺถารโต อาคตานิ, ตตฺเถว เนสํ สํวณฺณนํ กริสฺสาม.
ตสฺเสว อาปตฺตินิกายสฺสาติ ตสฺส เอว อาปตฺติสมูหสฺส. ตตฺถ กิฺจาปิ อยํ เอกาว อาปตฺติ, รูฬฺหิสทฺเทน ปน อวยเว สมูหโวหาเรน วา ‘‘นิกาโย’’ติ วุตฺโต – ‘‘เอโก เวทนากฺขนฺโธ, เอโก วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ วิย.
เอวํ อุทฺทิฏฺสิกฺขาปทํ ปทานุกฺกเมน วิภชิตฺวา อิทานิ อิมํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ อาปชฺชนฺตสฺส อุปายฺจ กาลฺจ อธิปฺปายฺจ อธิปฺปายวตฺถฺุจ ทสฺเสตุํ ‘‘อชฺฌตฺตรูเป โมเจตี’’ติอาทิมาห. เอตฺถ หิ อชฺฌตฺตรูปาทีหิ จตูหิ ปเทหิ อุปาโย ทสฺสิโต, อชฺฌตฺตรูเป วา โมเจยฺย พหิทฺธารูเป วา อุภยตฺถ วา อากาเส วา กฏึ กมฺเปนฺโต, อิโต ปรํ อฺโ อุปาโย นตฺถิ. ตตฺถ รูเป ฆฏฺเฏตฺวา โมเจนฺโตปิ รูเปน ฆฏฺเฏตฺวา โมเจนฺโตปิ รูเป โมเจติจฺเจว เวทิตพฺโพ. รูเป หิ ¶ สติ โส โมเจติ น รูปํ อลภิตฺวา. ราคูปตฺถมฺภาทีหิ ปน ปฺจหิ กาโล ทสฺสิโต. ราคูปตฺถมฺภาทิกาเลสุ หิ องฺคชาตํ กมฺมนิยํ โหติ, ยสฺส กมฺมนิยตฺเต สติ โมเจติ. อิโต ปรํ อฺโ กาโล นตฺถิ, น หิ วินา ราคูปตฺถมฺภาทีหิ ปุพฺพณฺหาทโย กาลเภทา โมจเน นิมิตฺตํ โหนฺติ.
อาโรคฺยตฺถายาติอาทีหิ ¶ ทสหิ อธิปฺปาโย ทสฺสิโต, เอวรูเปน หิ อธิปฺปายเภเทน โมเจติ น อฺถา. นีลาทีหิ ปน ทสหิ นวมสฺส อธิปฺปายสฺส วตฺถุ ทสฺสิตํ, วีมํสนฺโต หิ นีลาทีสุ อฺตรสฺส วเสน วีมํสติ น เตหิ วินิมุตฺตนฺติ.
๒๓๘. อิโต ปรํ ปน อิเมสํเยว อชฺฌตฺตรูปาทีนํ ปทานํ ปกาสนตฺถํ ‘‘อชฺฌตฺตรูเปติ อชฺฌตฺตํ อุปาทินฺเน รูเป’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตตฺถ อชฺฌตฺตํ อุปาทินฺเน รูเปติ อตฺตโน หตฺถาทิเภเท รูเป. พหิทฺธา อุปาทินฺเนติ ปรสฺส ตาทิเสเยว. อนุปาทินฺเนติ ตาฬจฺฉิทฺทาทิเภเท. ตทุภเยติ อตฺตโน จ ปรสฺส จ รูเป, อุภยฆฏฺฏนวเสเนตํ วุตฺตํ. อตฺตโน รูเปน จ อนุปาทินฺนรูเปน จ เอกโต ฆฏฺฏเนปิ ลพฺภติ. อากาเส วายมนฺตสฺสาติ เกนจิ รูเปน อฆฏฺเฏตฺวา อากาเสเยว กฏิกมฺปนปยโอเคน องฺคชาตํ จาเลนฺตสฺส.
ราคูปตฺถมฺเภติ ¶ ราคสฺส พลวภาเว, ราเคน วา องฺคชาตสฺส อุปตฺถมฺเภ, ถทฺธภาเว สฺชาเตติ วุตฺตํ โหติ. กมฺมนิยํ โหตีติ โมจนกมฺมกฺขมํ อชฺฌตฺตรูปาทีสุ อุปกฺกมารหํ โหติ.
อุจฺจาลิงฺคปาณกทฏฺูปตฺถมฺเภติ อุจฺจาลิงฺคปาณกทฏฺเน องฺคชาเต อุปตฺถมฺเภ. อุจฺจาลิงฺคปาณกา นาม โลมสปาณกา โหนฺติ, เตสํ โลเมหิ ผุฏฺํ องฺคชาตํ กณฺฑุํ คเหตฺวา ถทฺธํ โหติ, ตตฺถ ยสฺมา ตานิ โลมานิ องฺคชาตํ ฑํสนฺตานิ วิย วิชฺฌนฺติ, ตสฺมา ‘‘อุจฺจาลิงฺคปาณกทฏฺเนา’’ติ วุตฺตํ, อตฺถโต ปน อุจฺจาลิงฺคปาณกโลมเวธเนนาติ วุตฺตํ โหติ.
๒๓๙. อโรโค ภวิสฺสามีติ โมเจตฺวา อโรโค ภวิสฺสามิ. สุขํ เวทนํ อุปฺปาเทสฺสามีติ โมจเนน จ มุจฺจนุปฺปตฺติยา มุตฺตปจฺจยา จ ยา สุขา เวทนา โหติ, ตํ อุปฺปาเทสฺสามีติ อตฺโถ. เภสชฺชํ ภวิสฺสตีติ ¶ อิทํ เม โมจิตํ กิฺจิเทว เภสชฺชํ ภวิสฺสติ. ทานํ ทสฺสามีติ โมเจตฺวา กีฏกิปิลฺลิกาทีนํ ทานํ ทสฺสามิ. ปฺุํ ภวิสฺสตีติ โมเจตฺวา กีฏาทีนํ เทนฺตสฺส ปฺุํ ภวิสฺสติ. ยฺํ ยชิสฺสามีติ โมเจตฺวา กีฏาทีนํ ยฺํ ยชิสฺสามิ. กิฺจิ กิฺจิ มนฺตปทํ วตฺวา ทสฺสามีติ วุตฺตํ โหติ. สคฺคํ คมิสฺสามีติ โมเจตฺวา กีฏาทีนํ ทินฺนทาเนน วา ปฺุเน วา ยฺเน วา สคฺคํ คมิสฺสามิ. พีชํ ภวิสฺสตีติ กุลวํสงฺกุรสฺส ทารกสฺส พีชํ ภวิสฺสติ, ‘‘อิมินา พีเชน ปุตฺโต นิพฺพตฺติสฺสตี’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน โมเจตีติ อตฺโถ. วีมํสตฺถายาติ ชานนตฺถาย. นีลํ ภวิสฺสตีติอาทีสุ ชานิสฺสามิ ตาว กึ เม โมจิตํ นีลํ ภวิสฺสติ ปีตกาทีสุ อฺตรวณฺณนฺติ ¶ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ขิฑฺฑาธิปฺปาโยติ ขิฑฺฑาปสุโต, เตน เตน อธิปฺปาเยน กีฬนฺโต โมเจตีติ วุตฺตํ โหติ.
๒๔๐. อิทานิ ยทิทํ ‘‘อชฺฌตฺตรูเป โมเจตี’’ติอาทิ วุตฺตํ ตตฺถ ยถา โมเจนฺโต อาปตฺตึ อาปชฺชติ, เตสฺจ ปทานํ วเสน ยตฺตโก อาปตฺติเภโท โหติ, ตํ สพฺพํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อชฺฌตฺตรูเป เจเตติ อุปกฺกมติ มุจฺจติ อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติอาทิมาห.
ตตฺถ ¶ เจเตตีติ โมจนสฺสาทสมฺปยุตฺตาย เจตนาย มุจฺจตูติ เจเตติ. อุปกฺกมตีติ ตทนุรูปํ วายามํ กโรติ. มุจฺจตีติ เอวํ เจเตนฺตสฺส ตทนุรูเปน วายาเมน วายมโต สุกฺกํ านา จวติ. อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสาติ อิเมหิ ตีหิ องฺเคหิ อสฺส ปุคฺคลสฺส สงฺฆาทิเสโส นาม อาปตฺตินิกาโย โหตีติ อตฺโถ. เอส นโย พหิทฺธารูเปติอาทีสุปิ อวเสเสสุ อฏฺวีสติยา ปเทสุ.
เอตฺถ ปน ทฺเว อาปตฺติสหสฺสานิ นีหริตฺวา ทสฺเสตพฺพานิ. กถํ? อชฺฌตฺตรูเป ตาว ราคูปตฺถมฺเภ อาโรคฺยตฺถาย นีลํ โมเจนฺตสฺส เอกา อาปตฺติ, อชฺฌตฺตรูเปเยว ราคูปตฺถมฺเภ อาโรคฺยตฺถาย ปีตาทีนํ โมจนวเสน อปรา นวาติ ทส. ยถา จ อาโรคฺยตฺถาย ทส, เอวํ สุขาทีนํ นวนฺนํ ปทานํ อตฺถาย เอเกกปเท ทส ทส กตฺวา นวุติ, อิติ อิมา จ นวุติ ปุริมา จ ทสาติ ราคูปตฺถมฺเภ ตาว สตํ. ยถา ปน ราคูปตฺถมฺเภ เอวํ วจฺจูปตฺถมฺภาทีสุปิ จตูสุ เอเกกสฺมึ อุปตฺถมฺเภ สตํ ¶ สตํ กตฺวา จตฺตาริ สตานิ, อิติ อิมานิ จตฺตาริ ปุริมฺจ เอกนฺติ อชฺฌตฺตรูเป ตาว ปฺจนฺนํ อุปตฺถมฺภานํ วเสน ปฺจ สตานิ. ยถา จ อชฺฌตฺตรูเป ปฺจ, เอวํ พหิทฺธารูเป ปฺจ, อชฺฌตฺตพหิทฺธารูเป ปฺจ, อากาเส กฏึ กมฺเปนฺตสฺส ปฺจาติ สพฺพานิปิ จตุนฺนํ ปฺจกานํ วเสน ทฺเว อาปตฺติสหสฺสานิ เวทิตพฺพานิ.
อิทานิ อาโรคฺยตฺถายาติอาทีสุ ตาว ทสสุ ปเทสุ ปฏิปาฏิยา วา อุปฺปฏิปาฏิยา วา เหฏฺา วา คเหตฺวา อุปริ คณฺหนฺตสฺส, อุปริ วา คเหตฺวา เหฏฺา คณฺหนฺตสฺส, อุภโต วา คเหตฺวา มชฺเฌ เปนฺตสฺส, มชฺเฌ วา คเหตฺวา อุภโต หรนฺตสฺส, สพฺพมูลํ วา กตฺวา คณฺหนฺตสฺส เจตนูปกฺกมโมจเน สติ วิสงฺเกโต นาม นตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อาโรคฺยตฺถฺจ สุขตฺถฺจา’’ติ ขณฺฑจกฺกพทฺธจกฺกาทิเภทวิจิตฺตํ ปาฬิมาห.
ตตฺถ อาโรคฺยตฺถฺจ สุขตฺถฺจ อาโรคฺยตฺถฺจ เภสชฺชตฺถฺจา ติ เอวํ อาโรคฺยปทํ สพฺพปเทหิ โยเชตฺวา วุตฺตเมกํ ขณฺฑจกฺกํ. สุขปทาทีนิ สพฺพปเทหิ ¶ โยเชตฺวา ยาว อตฺตโน อตฺตโน อตีตานนฺตรปทํ ตาว อาเนตฺวา วุตฺตานิ นว พทฺธจกฺกานีติ เอวํ เอเกกมูลกานิ ทส จกฺกานิ โหนฺติ, ตานิ ทุมูลกาทีหิ สทฺธึ อสมฺโมหโต วิตฺถาเรตฺวา เวทิตพฺพานิ. อตฺโถ ปเนตฺถ ปากโฏเยว.
ยถา ¶ จ อาโรคฺยตฺถายาติอาทีสุ ทสสุ ปเทสุ, เอวํ นีลาทีสุปิ ‘‘นีลฺจ ปีตกฺจ เจเตติ อุปกฺกมตี’’ติอาทินา นเยน ทส จกฺกานิ วุตฺตานิ, ตานิปิ อสมฺโมหโต วิตฺถาเรตฺวา เวทิตพฺพานิ. อตฺโถ ปเนตฺถ ปากโฏเยว.
ปุน อาโรคฺยตฺถฺจ นีลฺจ อาโรคฺยตฺถฺจ สุขตฺถฺจ นีลฺจ ปีตกฺจาติ เอเกเนกํ ทฺวีหิ ทฺเว…เป… ทสหิ ทสาติ เอวํ ปุริมปเทหิ สทฺธึ ปจฺฉิมปทานิ โยเชตฺวา เอกํ มิสฺสกจกฺกํ วุตฺตํ.
อิทานิ ยสฺมา ‘‘นีลํ โมเจสฺสามี’’ติ เจเตตฺวา อุปกฺกมนฺตสฺส ปีตกาทีสุ มุตฺเตสุปิ ปีตกาทิวเสน เจเตตฺวา อุปกฺกมนฺตสฺส อิตเรสุ มุตฺเตสุปิ เนวตฺถิ วิสงฺเกโต ¶ , ตสฺมา เอตมฺปิ นยํ ทสฺเสตุํ ‘‘นีลํ โมเจสฺสามีติ เจเตติ อุปกฺกมติ ปีตกํ มุจฺจตี’’ติอาทินา นเยน จกฺกานิ วุตฺตานิ. ตโต ปรํ สพฺพปจฺฉิมปทํ นีลาทีหิ นวหิ ปเทหิ สทฺธึ โยเชตฺวา กุจฺฉิจกฺกํ นาม วุตฺตํ. ตโต ปีตกาทีนิ นว ปทานิ เอเกน นีลปเทเนว สทฺธึ โยเชตฺวา ปิฏฺิจกฺกํ นาม วุตฺตํ. ตโต โลหิตกาทีนิ นว ปทานิ เอเกน ปีตกปเทเนว สทฺธึ โยเชตฺวา ทุติยํ ปิฏฺิจกฺกํ วุตฺตํ. เอวํ โลหิตกปทาทีหิ สทฺธึ อิตรานิ นว นว ปทานิ โยเชตฺวา อฺานิปิ อฏฺ จกฺกานิ วุตฺตานีติ เอวํ ทสคติกํ ปิฏฺิจกฺกํ เวทิตพฺพํ.
เอวํ ขณฺฑจกฺกาทีนํ อเนเกสํ จกฺกานํ วเสน วิตฺถารโต ครุกาปตฺติเมว ทสฺเสตฺวา อิทานิ องฺควเสเนว ครุกาปตฺติฺจ ลหุกาปตฺติฺจ อนาปตฺติฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘เจเตติ อุปกฺกมติ มุจฺจตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปุริมนเยน อชฺฌตฺตรูปาทีสุ ราคาทิอุปตฺถมฺเภ สติ อาโรคฺยาทีนํ อตฺถาย เจเตนฺตสฺส อุปกฺกมิตฺวา อสุจิโมจเน ติวงฺคสมฺปนฺนา ครุกาปตฺติ วุตฺตา. ทุติเยน นเยน เจเตนฺตสฺส อุปกฺกมนฺตสฺส จ โมจเน อสติ ทุวงฺคสมฺปนฺนา ลหุกา ถุลฺลจฺจยาปตฺติ. ‘‘เจเตติ น อุปกฺกมติ มุจฺจตี’’ติอาทีหิ ฉหิ นเยหิ อนาปตฺติ.
อยํ ปน อาปตฺตานาปตฺติเภโท สณฺโห สุขุโม, ตสฺมา สุฏฺุ สลฺลกฺเขตพฺโพ ¶ . สุฏฺุ สลฺลกฺเขตฺวา กุกฺกุจฺจํ ปุจฺฉิเตน อาปตฺติ วา อนาปตฺติ วา อาจิกฺขิตพฺพา, วินยกมฺมํ วา กาตพฺพํ. อสลฺลกฺเขตฺวา กโรนฺโต หิ โรคนิทานํ อชานิตฺวา เภสชฺชํ กโรนฺโต เวชฺโช วิย วิฆาตฺจ ¶ อาปชฺชติ, น จ ตํ ปุคฺคลํ ติกิจฺฉิตุํ สมตฺโถ โหติ. ตตฺรายํ สลฺลกฺขณวิธิ – กุกฺกุจฺเจน อาคโต ภิกฺขุ ยาวตติยํ ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘‘กตเรน ปโยเคน กตเรน ราเคน อาปนฺโนสี’’ติ. สเจ ปมํ อฺํ วตฺวา ปจฺฉา อฺํ วทติ น เอกมคฺเคน กเถติ, โส วตฺตพฺโพ – ‘‘ตฺวํ น เอกมคฺเคน กเถสิ ปริหรสิ, น สกฺกา ตว วินยกมฺมํ กาตุํ คจฺฉ โสตฺถึ คเวสา’’ติ. สเจ ปน ติกฺขตฺตุมฺปิ เอกมคฺเคเนว กเถติ, ยถาภูตํ อตฺตานํ อาวิกโรติ, อถสฺส อาปตฺตานาปตฺติครุกลหุกาปตฺติวินิจฺฉยตฺถํ เอกาทสนฺนํ ราคานํ วเสน เอกาทส ปโยคา สมเวกฺขิตพฺพา.
ตตฺริเม ¶ เอกาทส ราคา – โมจนสฺสาโท, มุจฺจนสฺสาโท, มุตฺตสฺสาโท, เมถุนสฺสาโท, ผสฺสสฺสาโท, กณฺฑุวนสฺสาโท, ทสฺสนสฺสาโท, นิสชฺชสฺสาโท, วาจสฺสาโท, เคหสฺสิตเปมํ, วนภงฺคิยนฺติ. ตตฺถ โมเจตุํ อสฺสาโท โมจนสฺสาโท, มุจฺจเน อสฺสาโท มุจฺจนสฺสาโท, มุตฺเต อสฺสาโท มุตฺตสฺสาโท, เมถุเน อสฺสาโท เมถุนสฺสาโท, ผสฺเส อสฺสาโท ผสฺสสฺสาโท, กณฺฑุวเน อสฺสาโท กณฺฑุวนสฺสาโท, ทสฺสเน อสฺสาโท ทสฺสนสฺสาโท, นิสชฺชาย อสฺสาโท นิสชฺชสฺสาโท, วาจาย อสฺสาโท วาจสฺสาโท, เคหสฺสิตํ เปมํ เคหสฺสิตเปมํ, วนภงฺคิยนฺติ ยํกิฺจิ ปุปฺผผลาทิ วนโต ภฺชิตฺวา อาหฏํ. เอตฺถ จ นวหิ ปเทหิ สมฺปยุตฺตอสฺสาทสีเสน ราโค วุตฺโต. เอเกน ปเทน สรูเปเนว, เอเกน ปเทน วตฺถุนา วุตฺโต, วนภงฺโค หิ ราคสฺส วตฺถุ น ราโคเยว.
เอเตสํ ปน ราคานํ วเสน เอวํ ปโยคา สมเวกฺขิตพฺพา – โมจนสฺสาเท โมจนสฺสาทเจตนาย เจเตนฺโต เจว อสฺสาเทนฺโต จ อุปกฺกมติ มุจฺจติ สงฺฆาทิเสโส. ตเถว เจเตนฺโต จ อสฺสาเทนฺโต จ อุปกฺกมติ น มุจฺจติ ถุลฺลจฺจยํ. สเจ ปน สยนกาเล ราคปริยุฏฺิโต หุตฺวา อูรุนา วา มุฏฺินา วา องฺคชาตํ คาฬฺหํ ปีเฬตฺวา โมจนตฺถาย สอุสฺสาโหว สุปติ, สุปนฺตสฺส จสฺส อสุจิ มุจฺจติ สงฺฆาทิเสโส. สเจ ราคปริยุฏฺานํ อสุภมนสิกาเรน วูปสเมตฺวา สุทฺธจิตฺโต สุปติ, สุปนฺตสฺส มุตฺเตปิ อนาปตฺติ.
มุจฺจนสฺสาเท ¶ อตฺตโน ธมฺมตาย มุจฺจมานํ อสฺสาเทติ น อุปกฺกมติ อนาปตฺติ. สเจ ปน มุจฺจมานํ อสฺสาเทนฺโต อุปกฺกมติ, เตน อุปกฺกเมน มุตฺเต สงฺฆาทิเสโส. อตฺตโน ธมฺมตาย ¶ มุจฺจมาเน ‘‘มา กาสาวํ วา เสนาสนํ วา ทุสฺสี’’ติ องฺคชาตํ คเหตฺวา ชคฺคนตฺถาย อุทกฏฺานํ คจฺฉติ วฏฺฏตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.
มุตฺตสฺสาเท อตฺตโน ธมฺมตาย มุตฺเต านา จุเต อสุจิมฺหิ ปจฺฉา อสฺสาเทนฺตสฺส วินา อุปกฺกเมน มุจฺจติ, อนาปตฺติ. สเจ อสฺสาเทตฺวา ปุน โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส.
เมถุนสฺสาเท เมถุนราเคน มาตุคามํ คณฺหาติ, เตน ปโยเคน อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. เมถุนธมฺมสฺส ¶ ปโยคตฺตา ปน ตาทิเส คหเณ ทุกฺกฏํ, สีสํ ปตฺเต ปาราชิกํ. สเจ เมถุนราเคน รตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส.
ผสฺสสฺสาเท ทุวิโธ ผสฺโส – อชฺฌตฺติโก, พาหิโร จ. อชฺฌตฺติเก ตาว อตฺตโน นิมิตฺตํ ถทฺธํ มุทุกนฺติ ชานิสฺสามีติ วา โลลภาเวน วา กีฬาปยโต อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. สเจ กีฬาเปนฺโต อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส. พาหิรผสฺเส ปน กายสํสคฺคราเคน มาตุคามสฺส องฺคมงฺคานิ ปรามสโต เจว อาลิงฺคโต จ อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. กายสํสคฺคสงฺฆาทิเสสํ ปน อาปชฺชติ. สเจ กายสํสคฺคราเคน รตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ วิสฏฺิปจฺจยาปิ สงฺฆาทิเสโส.
กณฺฑุวนสฺสาเท ททฺทุกจฺฉุปิฬกปาณกาทีนํ อฺตรวเสน กณฺฑุวมานํ นิมิตฺตํ กณฺฑุวนสฺสาเท เนว กณฺฑุวโต อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. กณฺฑุวนสฺสาเทน รตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส.
ทสฺสนสฺสาเท ทสฺสนสฺสาเทน ปุนปฺปุนํ มาตุคามสฺส อโนกาสํ อุปนิชฺฌายโต อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. มาตุคามสฺส อโนกาสุปนิชฺฌาเน ปน ¶ ทุกฺกฏํ. สเจ ทสฺสนสฺสาเทน รตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส.
นิสชฺชสฺสาเท มาตุคาเมน สทฺธึ รโห นิสชฺชสฺสาทราเคน นิสินฺนสฺส อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. รโห นิสชฺชปจฺจยา ปน อาปนฺนาย อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. สเจ นิสชฺชสฺสาเทน รตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส.
วาจสฺสาเท ¶ วาจสฺสาทราเคน มาตุคามํ เมถุนสนฺนิสฺสิตาหิ วาจาหิ โอภาสนฺตสฺส อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. ทุฏฺุลฺลวาจาสงฺฆาทิเสสํ ปน อาปชฺชติ. สเจ วาจสฺสาเทน รตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส.
เคหสฺสิตเปเม มาตรํ วา มาตุเปเมน ภคินึ วา ภคินิเปเมน ปุนปฺปุนํ ปรามสโต ¶ เจว อาลิงฺคโต จ อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. เคหสฺสิตเปเมน ปน ผุสนปจฺจยา ทุกฺกฏํ. สเจ เคหสฺสิตเปเมน รตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส.
วนภงฺเค อิตฺถิปุริสา อฺมฺํ กิฺจิเทว ตมฺพูลคนฺธปุปฺผวาสาทิปฺปการํ ปณฺณาการํ มิตฺตสนฺถวภาวสฺส ทฬฺหภาวตฺถาย เปเสนฺติ อยํ วนภงฺโค นาม. ตฺเจ มาตุคาโม กสฺสจิ สํสฏฺวิหาริกสฺส กุลูปกภิกฺขุโน เปเสติ, ตสฺส จ ‘‘อสุกาย นาม อิทํ เปสิต’’นฺติ สารตฺตสฺส ปุนปฺปุนํ หตฺเถหิ ตํ วนภงฺคํ กีฬาปยโต อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. สเจ วนภงฺเค สารตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส. สเจ อุปกฺกมนฺเตปิ น มุจฺจติ, ถุลฺลจฺจยํ.
เอวเมเตสํ เอกาทสนฺนํ ราคานํ วเสน อิเม เอกาทส ปโยเค สเมเวกฺขิตฺวา อาปตฺติ วา อนาปตฺติ วา สลฺลกฺเขตพฺพา. สลฺลกฺเขตฺวา สเจ ครุกา โหติ ‘‘ครุกา’’ติ อาจิกฺขิตพฺพา. สเจ ลหุกา โหติ ‘‘ลหุกา’’ติ อาจิกฺขิตพฺพา. ตทนุรูปฺจ วินยกมฺมํ กาตพฺพํ. เอวฺหิ กตํ สุกตํ โหติ โรคนิทานํ ตฺวา เวชฺเชน กตเภสชฺชมิว, ตสฺส จ ปุคฺคลสฺส โสตฺถิภาวาย สํวตฺตติ.
๒๖๒. เจเตติ น อุปกฺกมตีติอาทีสุ โมจนสฺสาทเจตนาย เจเตติ, น อุปกฺกมติ, มุจฺจติ, อนาปตฺติ. โมจนสฺสาทปีฬิโต ‘‘อโห วต ¶ มุจฺเจยฺยา’’ติ เจเตติ, น อุปกฺกมติ, น มุจฺจติ, อนาปตฺติ. โมจนสฺสาเทน น เจเตติ, ผสฺสสฺสาเทน กณฺฑุวนสฺสาเทน วา อุปกฺกมติ, มุจฺจติ, อนาปตฺติ. ตเถว น เจเตติ, อุปกฺกมติ, น มุจฺจติ, อนาปตฺติ. กามวิตกฺกํ วิตกฺเกนฺโต โมจนตฺถาย น เจเตติ, น อุปกฺกมติ, มุจฺจติ, อนาปตฺติ. สเจ ปนสฺส วิตกฺกยโตปิ น มุจฺจติ อิทํ อาคตเมว โหติ, ‘‘น เจเตติ, น อุปกฺกมติ, น มุจฺจติ, อนาปตฺตี’’ติ.
อนาปตฺติ ¶ สุปินนฺเตนาติ สุตฺตสฺส สุปิเน เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส วิย กายสํสคฺคาทีนิ อาปชฺชนฺตสฺส วิย สุปินนฺเตเนว การเณน ยสฺส อสุจิ มุจฺจติ, ตสฺส อนาปตฺติ. สุปิเน ปน ¶ อุปฺปนฺนาย อสฺสาทเจตนาย สจสฺส วิสโย โหติ, นิจฺจเลน ภวิตพฺพํ, น หตฺเถน นิมิตฺตํ กีฬาเปตพฺพํ, กาสาวปจฺจตฺถรณรกฺขณตฺถํ ปน หตฺถปุเฏน คเหตฺวา ชคฺคนตฺถาย อุทกฏฺานํ คนฺตุํ วฏฺฏติ.
นโมจนาธิปฺปายสฺสาติ ยสฺส เภสชฺเชน วา นิมิตฺตํ อาลิมฺปนฺตสฺส อุจฺจาราทีนิ วา กโรนฺตสฺส นโมจนาธิปฺปายสฺส มุจฺจติ, ตสฺสาปิ อนาปตฺติ. อุมฺมตฺตกสฺส ทุวิธสฺสาปิ อนาปตฺติ. อิธ เสยฺยสโก อาทิกมฺมิโก, ตสฺส อนาปตฺติ อาทิกมฺมิกสฺสาติ.
ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมุฏฺานาทีสุ อิทํ สิกฺขาปทํ ปมปาราชิกสมุฏฺานํ กายจิตฺตโต สมุฏฺาติ. กิริยา, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทฺวิเวทนํ, สุขมชฺฌตฺตทฺวเยนาติ.
๒๖๓. วินีตวตฺถูสุ สุปินวตฺถุ อนุปฺตฺติยํ วุตฺตนยเมว. อุจฺจารปสฺสาววตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว.
วิตกฺกวตฺถุสฺมึ กามวิตกฺกนฺติ เคหสฺสิตกามวิตกฺกํ. ตตฺถ กิฺจาปิ อนาปตฺติ วุตฺตา, อถ โข วิตกฺกคติเกน น ภวิตพฺพํ. อุณฺโหทกวตฺถูสุ ปมํ อุตฺตานเมว. ทุติเย โส ภิกฺขุ โมเจตุกาโม อุณฺโหทเกน นิมิตฺตํ ปหริตฺวา ปหริตฺวา นฺหายิ, เตนสฺส อาปตฺติ วุตฺตา. ตติเย อุปกฺกมสฺส อตฺถิตาย ถุลฺลจฺจยํ. เภสชฺชกณฺฑุวนวตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว.
๒๖๔. มคฺควตฺถูสุ ¶ ปมสฺส ถุลอูรุกสฺส มคฺคํ คจฺฉนฺตสฺส สมฺพาธฏฺาเน ฆฏฺฏนาย อสุจิ มุจฺจิ, ตสฺส นโมจนาธิปฺปายตฺตา อนาปตฺติ. ทุติยสฺส ตเถว มุจฺจิ, โมจนาธิปฺปายตฺตา ปน สงฺฆาทิเสโส. ตติยสฺส น มุจฺจิ, อุปกฺกมสพฺภาวโต ปน ถุลฺลจฺจยํ. ตสฺมา มคฺคํ คจฺฉนฺเตน อุปฺปนฺเน ปริฬาเห น คนฺตพฺพํ, คมนํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา อสุภาทิมนสิกาเรน จิตฺตํ วูปสเมตฺวา สุทฺธจิตฺเตน กมฺมฏฺานํ อาทาย คนฺตพฺพํ. สเจ ิโต วิโนเทตุํ ¶ น สกฺโกติ, มคฺคา โอกฺกมฺม นิสีทิตฺวา วิโนเทตฺวา กมฺมฏฺานํ อาทาย สุทฺธจิตฺเตเนว คนฺตพฺพํ.
วตฺถิวตฺถูสุ เต ภิกฺขู วตฺถึ ทฬฺหํ คเหตฺวา ปูเรตฺวา ปูเรตฺวา วิสฺสชฺเชนฺตา ¶ คามทารกา วิย ปสฺสาวมกํสุ. ชนฺตาฆรวตฺถุสฺมึ อุทรํ ตาเปนฺตสฺส โมจนาธิปฺปายสฺสาปิ อโมจนาธิปฺปายสฺสาปิ มุตฺเต อนาปตฺติเยว. ปริกมฺมํ กโรนฺตสฺส นิมิตฺตจาลนวเสน อสุจิ มุจฺจิ, ตสฺมา อาปตฺติฏฺาเน อาปตฺติ วุตฺตา.
๒๖๕. อูรุฆฏฺฏาปนวตฺถูสุ เยสํ อาปตฺติ วุตฺตา เต องฺคชาตมฺปิ ผุสาเปสุนฺติ เวทิตพฺพาติ เอวํ กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตํ. สามเณราทิวตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว.
๒๖๖. กายตฺถมฺภนวตฺถุสฺมึ กายํ ถมฺเภนฺตสฺสาติ จิรํ นิสีทิตฺวา วา นิปชฺชิตฺวา วา นวกมฺมํ วา กตฺวา อาลสิยวิโมจนตฺถํ วิชมฺเภนฺตสฺส.
อุปนิชฺฌายนวตฺถุสฺมึ สเจปิ ปฏสตํ นิวตฺถา โหติ ปุรโต วา ปจฺฉโต วา ตฺวา ‘‘อิมสฺมึ นาม โอกาเส นิมิตฺต’’นฺติ อุปนิชฺฌายนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. อนิวตฺถานํ คามทาริกานํ นิมิตฺตํ อุปนิชฺฌายนฺตสฺส ปน กิเมว วตฺตพฺพํ. ติรจฺฉานคตานมฺปิ นิมิตฺเต เอเสว นโย. อิโต จิโต จ อวิโลเกตฺวา ปน ทิวสมฺปิ เอกปโยเคน อุปนิชฺฌายนฺตสฺส เอกเมว ทุกฺกฏํ. อิโต จิโต จ วิโลเกตฺวา ปุนปฺปุนํ อุปนิชฺฌายนฺตสฺส ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. อุมฺมีลนนิมีลนวเสน ปน น กาเรตพฺโพ. สหสา อุปนิชฺฌายิตฺวา ปุน ปฏิสงฺขาย สํวเร ติฏฺโต อนาปตฺติ, ตํ สํวรํ ปหาย ปุน อุปนิชฺฌายโต ทุกฺกฏเมว.
๒๖๗. ตาฬจฺฉิทฺทาทิวตฺถูนิ ¶ อุตฺตานตฺถาเนว. นฺหานวตฺถูสุ เย อุทกโสตํ นิมิตฺเตน ปหรึสุ เตสํ อาปตฺติ วุตฺตา. อุทฺชลวตฺถูสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ อุทฺชลนฺติ อุทกจิกฺขลฺโล วุจฺจติ. เอเตเนว อุปาเยน อิโต ปรานิ สพฺพาเนว อุทเก ธาวนาทิวตฺถูนิ เวทิตพฺพานิ. อยํ ปน วิเสโส. ปุปฺผาวฬิยวตฺถูสุ สเจปิ นโมจนาธิปฺปายสฺส อนาปตฺติ, กีฬนปจฺจยา ปน ทุกฺกฏํ โหตีติ.
สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๖๙. เตน ¶ ¶ สมเยน พุทฺโธ ภควาติ กายสํสคฺคสิกฺขาปทํ. ตตฺรายํ อนุตฺตานปทวณฺณนา – อรฺเ วิหรตีติ น อาเวณิเก อรฺเ, เชตวนวิหารสฺเสว ปจฺจนฺเต เอกปสฺเส. มชฺเฌ คพฺโภติ ตสฺส จ วิหารสฺส มชฺเฌ คพฺโภ โหติ. สมนฺตา ปริยาคาโรติ สมนฺตา ปนสฺส มณฺฑลมาฬปริกฺเขโป โหติ. โส กิร มชฺเฌ จตุรสฺสํ คพฺภํ กตฺวา พหิ มณฺฑลมาฬปริกฺเขเปน กโต, ยถา สกฺกา โหติ อนฺโตเยว อาวิฺฉนฺเตหิ วิจริตุํ.
สุปฺตฺตนฺติ สุฏฺ ปิตํ, ยถา ยถา ยสฺมึ ยสฺมิฺจ โอกาเส ปิตํ ปาสาทิกํ โหติ โลกรฺชกํ ตถา ตถา ตสฺมึ ตสฺมึ โอกาเส ปิตํ, วตฺตสีเสน หิ โสํ เอกกิจฺจมฺปิ น กโรติ. เอกจฺเจ วาตปาเน วิวรนฺโตติ เยสุ วิวเฏสุ อนฺธกาโร โหติ ตานิ วิวรนฺโต เยสุ วิวเฏสุ อาโลโก โหติ ตานิ ถเกนฺโต.
เอวํ วุตฺเต สา พฺราหฺมณี ตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจาติ เอวํ เตน พฺราหฺมเณน ปสํสิตฺวา วุตฺเต สา พฺราหฺมณี ‘‘ปสนฺโน อยํ พฺราหฺมโณ ปพฺพชิตุกาโม มฺเ’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา นิคูหิตพฺพมฺปิ ตํ อตฺตโน วิปฺปการํ ปกาเสนฺตี เกวลํ ตสฺส สทฺธาวิฆาตาเปกฺขา หุตฺวา เอตํ ‘‘กุโต ตสฺส อุฬารตฺตตา’’ติอาทิวจนมโวจ. ตตฺถ อุฬาโร อตฺตา อสฺสาติ อุฬารตฺตา, อุฬารตฺตโน ภาโว อุฏฺารตฺตตา. กุลิตฺถีหีติอาทีสุ กุลิตฺถิโย นาม ฆรสฺสามินิโย. กุลธีตโร นาม ปุริสนฺตรคตา กุลธีตโร ¶ . กุลกุมาริโย นาม อนิวิฏฺา วุจฺจนฺติ. กุลสุณฺหา นาม ปรกุลโต อานีตา กุลทารกานํ วธุโย.
๒๗๐. โอติณฺโณติ ยกฺขาทีหิ วิย สตฺตา อนฺโต อุปฺปชฺชนฺเตน ราเคน โอติณฺโณ, กูปาทีนิ วิย สตฺตา อสมเปกฺขิตฺวา รชนีเย าเน รชฺชนฺโต สยํ วา ราคํ โอติณฺโณ, ยสฺมา ปน อุภยถาปิ ราคสมงฺคิสฺเสเวตํ อธิวจนํ, ตสฺมา ‘‘โอติณฺโณ นาม สารตฺโต อเปกฺขวา ปฏิพทฺธจิตฺโต’’ติ เอวมสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ.
ตตฺถ ¶ สารตฺโตติ กายสํสคฺคราเคน สุฏฺุ รตฺโต. อเปกฺขวาติ กายสํสคฺคาเปกฺขาย อเปกฺขวา. ปฏิพทฺธจิตฺโตติ กายสํสคฺคราเคเนว ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ ปฏิพทฺธจิตฺโต. วิปริณเตนาติ ปริสุทฺธภวงฺคสนฺตติสงฺขาตํ ปกตึ วิชหิตฺวา อฺถา ปวตฺเตน, วิรูปํ วา ปริณเตน ¶ วิรูปํ ปริวตฺเตน, ยถา ปริวตฺตมานํ วิรูปํ โหติ เอวํ ปริวตฺติตฺวา ิเตนาติ อธิปฺปาโย.
๒๗๑. ยสฺมา ปเนตํ ราคาทีหิ สมฺปโยคํ นาติวตฺตติ, ตสฺมา ‘‘วิปริณตนฺติ รตฺตมฺปิ จิตฺต’’นฺติอาทินา นเยนสฺส ปทภาชนํ วตฺวา อนฺเต อิธาธิปฺเปตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิจ รตฺตํ จิตฺตํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปตํ วิปริณต’’นฺติ อาห.
ตทหุชาตาติ ตํทิวสํ ชาตา ชาตมตฺตา อลฺลมํสเปสิวณฺณา, เอวรูปายปิ หิ สทฺธึ กายสํสคฺเค สงฺฆาทิเสโส, เมถุนวีติกฺกเม ปาราชิกํ, รโห นิสชฺชสฺสาเท ปาจิตฺติยฺจ โหติ. ปเควาติ ปมเมว.
กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยาติ หตฺถคฺคหณาทิกายสมฺปโยคํ กายมิสฺสีภาวํ สมาปชฺเชยฺย, ยสฺมา ปเนตํ สมาปชฺชนฺตสฺส โย โส กายสํสคฺโค นาม โส อตฺถโต อชฺฌาจาโร โหติ, ราควเสน อภิภวิตฺวา สฺมเวลํ อาจาโร, ตสฺมาสฺส สงฺเขปน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อชฺฌาจาโร วุจฺจตี’’ติ ปทภาชนมาห.
หตฺถคฺคาหํ วาติอาทิเภทํ ปนสฺส วิตฺถาเรน อตฺถทสฺสนํ. ตตฺถ หตฺถาทีนํ วิภาคทสฺสนตฺถํ ‘‘หตฺโถ นาม กปฺปรํ อุปาทายา’’ติอาทิมาห ตตฺถ กปฺปรํ อุปาทายาติ ทุติยํ. มหาสนฺธึ อุปาทาย. อฺตฺถ ปน มณิพนฺธโต ¶ ปฏฺาย ยาว อคฺคนขา หตฺโถ อิธ สทฺธึ อคฺคพาหาย กปฺปรโต ปฏฺาย อธิปฺเปโต.
สุทฺธเกสา วาติ สุตฺตาทีหิ อมิสฺสา สุทฺธา เกสาเยว. เวณีติ ตีหิ เกสวฏฺฏีหิ วินนฺธิตฺวา กตเกสกลาปสฺเสตํ นามํ. สุตฺตมิสฺสาติ ปฺจวณฺเณน สุตฺเตน เกเส มิสฺเสตฺวา กตา. มาลามิสฺสาติ วสฺสิกปุปฺผาทีหิ มิสฺเสตฺวา ตีหิ เกสวฏฺฏีหิ วินนฺธิตฺวา ¶ กตา, อวินทฺโธปิ วา เกวลํ ปุปฺผมิสฺสโก เกสกลาโป อิธ ‘‘เวณี’’ติ เวทิตพฺโพ. หิรฺมิสฺสาติ กหาปณมาลาย มิสฺเสตฺวา กตา. สุวณฺณมิสฺสาติ สุวณฺณจีรเกหิ วา ปามงฺคาทีหิ วา มิสฺเสตฺวา กตา. มุตฺตามิสฺสาติ มุตฺตาวลีหิ มิสฺเสตฺวา กตา. มณิมิสฺสาติ สุตฺตารูฬฺเหหิ มณีหิ มิสฺเสตฺวา กตา. เอตาสุ หิ ยํกิฺจิ เวณึ คณฺหนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโสเยว. ‘‘อหํ มิสฺสกเวณึ อคฺคเหสิ’’นฺติ วทนฺตสฺส โมกฺโข นตฺถิ. เวณิคฺคหเณน เจตฺถ เกสาปิ คหิตาว โหนฺติ, ตสฺมา โย เอกมฺปิ เกสํ คณฺหาติ ตสฺสปิ อาปตฺติเยว.
หตฺถฺจ ¶ เวณิฺจ เปตฺวาติ อิธ วุตฺตลกฺขณํ หตฺถฺจ สพฺพปฺปการฺจ เวณึ เปตฺวา อวเสสํ สรีรํ ‘‘องฺค’’นฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ ปริจฺฉินฺเนสุ หตฺถาทีสุ หตฺถสฺส คหณํ หตฺถคฺคาโห, เวณิยา คหณํ เวณิคฺคาโห, อวเสสสสรีรสฺส ปรามสนํ อฺตรสฺส วา อฺตรสฺส วา องฺคสฺส ปรามสนํ, โย ตํ หตฺถคฺคาหํ วา เวณิคฺคาหํ วา อฺตรสฺส วา อฺตรสฺส วา องฺคสฺส ปรามสนํ สมาปชฺเชยฺย, ตสฺส สงฺฆาทิเสโส นาม อาปตฺตินิกาโย โหตีติ. อยํ สิกฺขาปทสฺส อตฺโถ.
๒๗๒. ยสฺมา ปน โย จ หตฺถคฺคาโห โย จ เวณิคฺคาโห ยฺจ อวเสสสฺส องฺคสฺส ปรามสนํ ตํ สพฺพมฺปิ เภทโต ทฺวาทสวิธํ โหติ, ตสฺมา ตํ เภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘อามสนา ปรามสนา’’ติอาทินา นเยนสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ. ตตฺถ ยฺจ วุตฺตํ ‘‘อามสนา นาม อามฏฺมตฺตา’’ติ ยฺจ ‘‘ฉุปนํ นาม ผุฏฺมตฺต’’นฺติ, อิเมสํ อยํ วิเสโส – อามสนาติ อามชฺชนา ผุฏฺโกาสํ อนติกฺกมิตฺวาปิ ตตฺเถว สงฺฆฏฺฏนา. อยฺหิ ‘‘อามฏฺมตฺตา’’ติ วุจฺจติ. ฉุปนนฺติ อสงฺฆฏฺเฏตฺวา ผุฏฺมตฺตํ.
ยมฺปิ ¶ อุมฺมสนาย จ อุลฺลงฺฆนาย จ นิทฺเทเส ‘‘อุทฺธํ อุจฺจารณา’’ติ เอกเมว ปทํ วุตฺตํ. ตตฺราปิ อยํ วิเสโส – ปมํ อตฺตโน กายสฺส อิตฺถิยา กาเย อุทฺธํ เปสนวเสน วุตฺตํ, ทุติยํ อิตฺถิยา กายํ อุกฺขิปนวเสน, เสสํ ปากฏเมว.
๒๗๓. อิทานิ ¶ ยฺวายํ โอติณฺโณ วิปริณเตน จิตฺเตน กายสํสคฺคํ สมาปชฺชติ, ตสฺส เอเตสํ ปทานํ วเสน วิตฺถารโต อาปตฺติเภทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิตฺถี จ โหติ อิตฺถิสฺี สารตฺโต จ ภิกฺขุ จ นํ อิตฺถิยา กาเยน กาย’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ภิกฺขุ จ นํ อิตฺถิยา กาเยน กายนฺติ โส สารตฺโต จ อิตฺถิสฺี จ ภิกฺขุ อตฺตโน กาเยน. นนฺติ นิปาตมตฺตํ. อถ วา เอตํ ตสฺสา อิตฺถิยา หตฺถาทิเภทํ กายํ. อามสติ ปรามสตีติ เอเตสุ เจ เอเกนาปิ อากาเรน อชฺฌาจรติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส. ตตฺถ สกึ อามสโต เอกา อาปตฺติ, ปุนปฺปุนํ อามสโต ปโยเค ปโยเค สงฺฆาทิเสโส.
ปรามสนฺโตปิ สเจ กายโต อโมเจตฺวาว อิโต จิโต จ อตฺตโน หตฺถํ วา กายํ วา สฺโจเปติ หรติ เปเสติ ทิวสมฺปิ ปรามสโต เอกาว อาปตฺติ. สเจ กายโต โมเจตฺวา โมเจตฺวา ปรามสติ ปโยเค ปโยเค อาปตฺติ.
โอมสนฺโตปิ ¶ สเจ กายโต อโมเจตฺวาว อิตฺถิยา มตฺถกโต ปฏฺาย ยาว ปาทปิฏฺึ โอมสติ เอกาว อาปตฺติ. สเจ ปน อุทราทีสุ ตํ ตํ านํ ปตฺวา มฺุจิตฺวา มฺุจิตฺวา โอมสติ ปโยเค ปโยเค อาปตฺติ. อุมฺมสนายปิ ปาทโต ปฏฺาย ยาว สีสํ อุมฺมสนฺตสฺส เอเสว นโย.
โอลงฺฆนาย มาตุคามํ เกเสสุ คเหตฺวา นาเมตฺวา จุมฺพนาทีสุ ยํ อชฺฌาจารํ อิจฺฉติ ตํ กตฺวา มฺุจโต เอกาว อาปตฺติ. อุฏฺิตํ ปุนปฺปุนํ นามยโต ปโยเค ปโยเค อาปตฺติ. อุลฺลงฺฆนายปิ เกเสสุ วา หตฺเถสุ วา คเหตฺวา วุฏฺาปยโต เอเสว นโย.
อากฑฺฒนาย อตฺตโน อภิมุขํ อากฑฺฒนฺโต ยาว น มฺุจติ ตาว เอกาว อาปตฺติ. มฺุจิตฺวา มฺุจิตฺวา อากฑฺฒนฺตสฺส ปโยเค ปโยเค อาปตฺติ. ปติกฑฺฒนายปิ ปรมฺมุขํ ปิฏฺิยํ คเหตฺวา ปฏิปฺปณามยโต เอเสว นโย.
อภินิคฺคณฺหนาย ¶ หตฺเถ วา พาหาย วา ทฬฺหํ คเหตฺวา โยชนมฺปิ คจฺฉโต เอกาว อาปตฺติ. มฺุจิตฺวา ปุนปฺปุนํ คณฺหโต ปโยเค ปโยเค อาปตฺติ. อมฺุจิตฺวา ปุนปฺปุนํ ผุสโต จ อาลิงฺคโต จ ปโยเค ปโยเค อาปตฺตีติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ¶ ปนาห – ‘‘มูลคฺคหณเมว ปมาณํ, ตสฺมา ยาว น มฺุจติ ตาว เอกา เอว อาปตฺตี’’ติ.
อภินิปฺปีฬนาย วตฺเถน วา อาภรเณน วา สทฺธึ ปีฬยโต องฺคํ อผุสนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ, ผุสนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส, เอกปโยเคน เอกา อาปตฺติ, นานาปโยเคน นานา.
คหณฉุปเนสุ อฺํ กิฺจิ วิการํ อกโรนฺโตปิ คหิตมตฺตผุฏฺมตฺเตนาปิ อาปตฺตึ อาปชฺชติ.
เอวเมเตสุ อามสนาทีสุ เอเกนาปิ อากาเรน อชฺฌาจารโต อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิสฺส สงฺฆาทิเสโส, เวมติกสฺส ถุลฺลจฺจยํ, ปณฺฑกปุริสติรจฺฉานคตสฺิสฺสาปิ ถุลฺลจฺจยเมว. ปณฺฑเก ปณฺฑกสฺิสฺส ถุลฺลจฺจยํ, เวมติกสฺส ทุกฺกฏํ. ปุริสติรจฺฉานคตอิตฺถิสฺิสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว. ปุริเส ปุริสสฺิสฺสาปิ เวมติกสฺสาปิ อิตฺถิปณฺฑกติรจฺฉานคตสฺิสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว. ติรจฺฉานคเตปิ สพฺพากาเรน ทุกฺกฏเมวาติ. อิมา เอกมูลกนเย วุตฺตา อาปตฺติโย สลฺลกฺเขตฺวา อิมินาว อุปาเยน ‘‘ทฺเว อิตฺถิโย ทฺวินฺนํ อิตฺถีน’’นฺติอาทิวเสน วุตฺเต ทุมูลกนเยปิ ¶ ทิคุณา อาปตฺติโย เวทิตพฺพา. ยถา จ ทฺวีสุ อิตฺถีสุ ทฺเว สงฺฆาทิเสสา; เอวํ สมฺพหุลาสุ สมฺพหุลา เวทิตพฺพา.
โย หิ เอกโต ิตา สมฺพหุลา อิตฺถิโย พาหาหิ ปริกฺขิปิตฺวา คณฺหาติ โส ยตฺตกา อิตฺถิโย ผุฏฺา ตาสํ คณนาย สงฺฆาทิเสเส อาปชฺชติ, มชฺฌคตานํ คณนาย ถุลฺลจฺจเย. ตา หิ เตน กายปฺปฏิพทฺเธน อามฏฺา โหนฺติ. โย ปน สมฺพหุลานํ องฺคุลิโย วา เกเส วา เอกโต กตฺวา คณฺหาติ, โส องฺคุลิโย จ เกเส จ อคเณตฺวา อิตฺถิโย คเณตฺวา สงฺฆาทิเสเสหิ กาเรตพฺโพ. ยาสฺจ อิตฺถีนํ องฺคุลิโย วา เกสา วา มชฺฌคตา โหนฺติ, ตาสํ คณนาย ถุลฺลจฺจเย อาปชฺชติ. ตา หิ เตน กายปฺปฏิพทฺเธน อามฏฺา โหนฺติ, สมฺพหุลา ปน อิตฺถิโย กายปฺปฏิพทฺเธหิ รชฺชุวตฺถาทีหิ ปริกฺขิปิตฺวา คณฺหนฺโต สพฺพาสํเยว ¶ อนฺโตปริกฺเขปคตานํ คณนาย ถุลฺลจฺจเย อาปชฺชติ. มหาปจฺจริยํ อผุฏฺาสุ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺมา ปาฬิยํ กายปฺปฏิพทฺธปฺปฏิพทฺเธน ¶ อามสนํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา สพฺพมฺปิ กายปฺปฏิพทฺธปฺปฏิพทฺธํ กายปฺปฏิพทฺเธเนว สงฺคเหตฺวา มหาอฏฺกถายฺจ กุรุนฺทิยฺจ วุตฺโต ปุริมนโยเยเวตฺถ ยุตฺตตโร ทิสฺสติ.
โย หิ หตฺเถน หตฺถํ คเหตฺวา ปฏิปาฏิยา ิตาสุ อิตฺถีสุ สมสาราโค เอกํ หตฺเถ คณฺหาติ, โส คหิติตฺถิยา วเสน เอกํ สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชติ, อิตราสํ คณนาย ปุริมนเยเนว ถุลฺลจฺจเย. สเจ โส ตํ กายปฺปฏิพทฺเธ วตฺเถ วา ปุปฺเผ วา คณฺหาติ, สพฺพาสํ คณนาย ถุลฺลจฺจเย อาปชฺชติ. ยเถว หิ รชฺชุวตฺถาทีหิ ปริกฺขิปนฺเตน สพฺพาปิ กายปฺปฏิพทฺเธน อามฏฺา โหนฺติ, ตถา อิธาปิ สพฺพาปิ กายปฺปฏิพทฺเธน อามฏฺา โหนฺติ. สเจ ปน ตา อิตฺถิโย อฺมฺํ วตฺถโกฏิยํ คเหตฺวา ิตา โหนฺติ, ตตฺร เจโส ปุริมนเยเนว ปมํ อิตฺถึ หตฺเถ คณฺหาติ คหิตาย วเสน สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชติ, อิตราสํ คณนาย ทุกฺกฏานิ. สพฺพาสฺหิ ตาสํ เตน ปุริมนเยเนว กายปฏิพทฺเธน กายปฺปฏิพทฺธํ อามฏฺํ โหติ. สเจ ปน โสปิ ตํ กายปฺปฏิพทฺเธเยว คณฺหาติ ตสฺสา วเสน ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชติ, อิตราสํ คณนาย อนนฺตรนเยเนว ทุกฺกฏานิ.
โย ปน ฆนวตฺถนิวตฺถํ อิตฺถึ กายสํสคฺคราเคน วตฺเถ ฆฏฺเฏติ, ถุลฺลจฺจยํ. วิรฬวตฺถนิวตฺถํ ฆฏฺเฏติ, ตตฺร เจ วตฺถนฺตเรหิ อิตฺถิยา วา นิกฺขนฺตโลมานิ ภิกฺขุํ ภิกฺขุโน วา ปวิฏฺโลมานิ อิตฺถึ ผุสนฺติ, อุภินฺนํ โลมานิเยว วา โลมานิ ผุสนฺติ, สงฺฆาทิเสโส. อุปาทินฺนเกน ¶ หิ กมฺมชรูเปน อุปาทินฺนกํ วา อนุปาทินฺนกํ วา อนุปาทินฺนเกนปิ เกนจิ เกสาทินา อุปาทินฺนกํ วา อนุปาทินฺนกํ วา ผุสนฺโตปิ สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชติเยว.
ตตฺถ กุรุนฺทิยํ ‘‘โลมานิ คเณตฺวา สงฺฆาทิเสโส’’ติ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘โลมานิ คเณตฺวา อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ, เอกเมว สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชติ. สงฺฆิกมฺเจ ปน อปจฺจตฺถริตฺวา นิปนฺโน โลมานิ คเณตฺวา กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ ¶ , ตเทว ยุตฺตํ. อิตฺถิวเสน หิ อยํ อาปตฺติ, น โกฏฺาสวเสนาติ.
เอตฺถาห ¶ ‘‘โย ปน ‘กายปฺปฏิพทฺธํ คณฺหิสฺสามี’ติ กายํ คณฺหาติ, ‘กายํ คณฺหิสฺสามี’ติ กายปฺปฏิพทฺธํ คณฺหาติ, โส กึ อาปชฺชตี’’ติ. มหาสุมตฺเถโร ตาว ‘‘ยถาวตฺถุกเมวา’’ติ วทติ. อยํ กิรสฺส ลทฺธิ –
‘‘วตฺถุ สฺา จ ราโค จ, ผสฺสปฺปฏิวิชานนา;
ยถานิทฺทิฏฺนิทฺเทเส, ครุกํ เตน การเย’’ติ.
เอตฺถ ‘‘วตฺถู’’ติ อิตฺถี. ‘‘สฺา’’ติ อิตฺถิสฺา. ‘‘ราโค’’ติ กายสํสคฺคราโค. ‘‘ผสฺสปฺปฏิวิชานนา’’ติ กายสํสคฺคผสฺสชานนา. ตสฺมา โย อิตฺถิยา อิตฺถิสฺี กายสํสคฺคราเคน ‘‘กายปฺปฏิพทฺธํ คเหสฺสามี’’ติ ปวตฺโตปิ กายํ ผุสติ, ครุกํ สงฺฆาทิเสสํเยว อาปชฺชติ. อิตโรปิ ถุลฺลจฺจยนฺติ มหาปทุมตฺเถโร ปนาห –
‘‘สฺาย วิราคิตมฺหิ, คหเณ จ วิราคิเต;
ยถานิทฺทิฏฺนิทฺเทเส, ครุกํ ตตฺถ น ทิสฺสตี’’ติ.
อสฺสาปายํ ลทฺธิ อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิโน หิ สงฺฆาทิเสโส วุตฺโต. อิมินา จ อิตฺถิสฺา วิราคิตา กายปฺปฏิพทฺเธ กายปฺปฏิพทฺธสฺา อุปฺปาทิตา, ตํ คณฺหนฺตสฺส ปน ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ. อิมินา จ คหณมฺปิ วิราคิตํ ตํ อคฺคเหตฺวา อิตฺถี คหิตา, ตสฺมา เอตฺถ อิตฺถิสฺาย อภาวโต สงฺฆาทิเสโส น ทิสฺสติ, กายปฺปฏิพทฺธสฺส อคฺคหิตตฺตา ถุลฺลจฺจยํ น ทิสฺสติ, กายสํสคฺคราเคน ผุฏฺตฺตา ปน ทุกฺกฏํ. กายสํสคฺคราเคน หิ อิมํ นาม วตฺถุํ ผุสโต อนาปตฺตีติ นตฺถิ, ตสฺมา ทุกฺกฏเมวาติ.
อิทฺจ ¶ ปน วตฺวา อิทํ จตุกฺกมาห. ‘‘สารตฺตํ คณฺหิสฺสามี’ติ สารตฺตํ คณฺหิ สงฺฆาทิเสโส, ‘วิรตฺตํ คณฺหิสฺสามี’ติ วิรตฺตํ คณฺหิ ทุกฺกฏํ, ‘สารตฺตํ คณฺหิสฺสามี’ติ วิรตฺตํ คณฺหิ ทุกฺกฏํ, ‘วิรตฺตํ คณฺหิสฺสามี’ติ สารตฺตํ คณฺหิ ทุกฺกฏเมวา’’ติ. กิฺจาปิ เอวมาห? อถ โข มหาสุมตฺเถรวาโทเยเวตฺถ ‘‘อิตฺถิ จ โหติ อิตฺถิสฺี สารตฺโต จ ภิกฺขุ จ นํ อิตฺถิยา กาเยน กายปฺปฏิพทฺธํ ¶ อามสติ ปรามสติ…เป… คณฺหาติ ฉุปติ อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ อิมาย ปาฬิยา ‘‘โย หิ เอกโต ิตา สมฺพหุลา อิตฺถิโย พาหาหิ ปริกฺขิปิตฺวา คณฺหาติ, โส ยตฺตกา อิตฺถิโย ผุฏฺา ตาสํ คณนาย สงฺฆาทิเสเส อาปชฺชติ, มชฺฌคตานํ ¶ คณนาย ถุลฺลจฺจเย’’ติอาทีหิ อฏฺกถาวินิจฺฉเยหิ จ สเมติ. ยทิ หิ สฺาทิวิราเคน วิราคิตํ นาม ภเวยฺย ‘‘ปณฺฑโก จ โหติ อิตฺถิสฺี’’ติอาทีสุ วิย ‘‘กายปฺปฏิพทฺธฺจ โหติ กายสฺี จา’’ติอาทินาปิ นเยน ปาฬิยํ วิเสสํ วเทยฺย. ยสฺมา ปน โส น วุตฺโต, ตสฺมา อิตฺถิยา อิตฺถิสฺาย สติ อิตฺถึ อามสนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส, กายปฺปฏิพทฺธํ อามสนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยนฺติ ยถาวตฺถุกเมว ยุชฺชติ.
มหาปจฺจริยมฺปิ เจตํ วุตฺตํ – ‘‘นีลํ ปารุปิตฺวา สยิตาย กาฬิตฺถิยา กายํ ฆฏฺเฏสฺสามี’ติ กายํ ฆฏฺเฏติ, สงฺฆาทิเสโส; ‘กายํ ฆฏฺเฏสฺสามี’ติ นีลํ ฆฏฺเฏติ, ถุลฺลจฺจยํ; ‘นีลํ ฆฏฺเฏสฺสามี’ติ กายํ ฆฏฺเฏติ, สงฺฆาทิเสโส; ‘นีลํ ฆฏฺเฏสฺสามี’ติ นีลํ ฆฏฺเฏติ, ถุลฺลจฺจย’’นฺติ. โยปายํ ‘‘อิตฺถี จ ปณฺฑโก จา’’ติอาทินา นเยน วตฺถุมิสฺสกนโย วุตฺโต, ตสฺมิมฺปิ วตฺถุ สฺาวิมติวเสน วุตฺตา อาปตฺติโย ปาฬิยํ อสมฺมุยฺหนฺเตน เวทิตพฺพา.
กาเยนกายปฺปฏิพทฺธวาเร ปน อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิสฺส กายปฺปฏิพทฺธํ คณฺหโต ถุลฺลจฺจยํ, เสเส สพฺพตฺถ ทุกฺกฏํ. กายปฺปฏิพทฺเธนกายวาเรปิ เอเสว นโย. กายปฺปฏิพทฺเธนกอายปฺปฏิพทฺธวาเร จ นิสฺสคฺคิเยนกายวาราทีสุ จสฺส สพฺพตฺถ ทุกฺกฏเมว.
‘‘อิตฺถี จ โหติ อิตฺถิสฺี สารตฺโต จ อิตฺถี จ นํ ภิกฺขุสฺส กาเยน กาย’’นฺติอาทิวาโร ปน ภิกฺขุมฺหิ มาตุคามสฺส ราควเสน วุตฺโต. ตตฺถ อิตฺถี จ นํ ภิกฺขุสฺส กาเยน กายนฺติ ภิกฺขุมฺหิ สารตฺตา อิตฺถี ตสฺส นิสินฺโนกาสํ วา นิปนฺโนกาสํ วา คนฺตฺวา อตฺตโน กาเยน ตํ ภิกฺขุสฺส กายํ อามสติ…เป… ฉุปติ. เสวนาธิปฺปาโย กาเยน วายมติ, ผสฺสํ ปฏิวิชานาตีติ เอวํ ตาย อามฏฺโ วา ฉุปิโต วา เสวนาธิปฺปาโย หุตฺวา สเจ ผสฺสปฺปฏิวิชานนตฺถํ อีสกมฺปิ กายํ จาเลติ ผนฺเทติ, สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชติ.
ทฺเว ¶ อิตฺถิโยติ เอตฺถ ทฺเว สงฺฆาทิเสเส อาปชฺชติ, อิตฺถิยา จ ปณฺฑเก จ สงฺฆาทิเสเสน สห ทุกฺกฏํ ¶ . เอเตน อุปาเยน ยาว ‘‘นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยํ อามสติ, เสวนาธิปฺปาโย กาเยน วายมติ น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ ตาว ปุริมนเยเนว อาปตฺติเภโท เวทิตพฺโพ.
เอตฺถ ¶ จ กาเยน วายมติ น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาตีติ อตฺตนา นิสฺสฏฺํ ปุปฺผํ วา ผลํ วา อิตฺถึ อตฺตโน นิสฺสคฺคิเยน ปุปฺเผน วา ผเลน วา ปหรนฺตึ ทิสฺวา กาเยน วิการํ กโรติ, องฺคุลึ วา จาเลติ, ภมุกํ วา อุกฺขิปติ, อกฺขึ วา นิขณติ, อฺํ วา เอวรูปํ วิการํ กโรติ, อยํ วุจฺจติ ‘‘กาเยน วายมติ น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาตี’’ติ. อยมฺปิ กาเยน วายมิตตฺตา ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ, ทฺวีสุ อิตฺถีสุ ทฺเว, อิตฺถีปณฺฑเกสุปิ ทฺเว เอว ทุกฺกเฏ อาปชฺชติ.
๒๗๙. เอวํ วตฺถุวเสน วิตฺถารโต อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ลกฺขณวเสน สงฺเขปโต อาปตฺติเภทฺจ อนาปตฺติเภทฺจ ทสฺเสนฺโต ‘‘เสวนาธิปฺปาโย’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปุริมนเย อิตฺถิยา ผุฏฺโ สมาโน เสวนาธิปฺปาโย กาเยน วายมติ, ผสฺสํ ปฏิวิชานาตีติ ติวงฺคสมฺปตฺติยา สงฺฆาทิเสโส. ทุติเย นเย นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยามสเน วิย วายมิตฺวา อฉุปเน วิย จ ผสฺสสฺส อปฺปฏิวิชานนโต ทุวงฺคสมฺปตฺติยา ทุกฺกฏํ. ตติเย กาเยน อวายมโต อนาปตฺติ. โย หิ เสวนาธิปฺปาโยปิ นิจฺจเลน กาเยน เกวลํ ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ สาทิยติ อนุโภติ, ตสฺส จิตฺตุปฺปาทมตฺเต อาปตฺติยา อภาวโต อนาปตฺติ. จตุตฺเถ ปน นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยามสเน วิย ผสฺสปฺปฏิวิชานนาปิ นตฺถิ, เกวลํ จิตฺตุปฺปาทมตฺตเมว, ตสฺมา อนาปตฺติ. โมกฺขาธิปฺปายสฺส สพฺพากาเรสุ อนาปตฺติเยว.
เอตฺถ ปน โย อิตฺถิยา คหิโต ตํ อตฺตโน สรีรา โมเจตุกาโม ปฏิปฺปณาเมติ วา ปหรติ วา อยํ กาเยน วายมติ ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ. โย อาคจฺฉนฺตึ ทิสฺวา ตโต มฺุจิตุกาโม อุตฺตาเสตฺวา ปลาเปติ, อยํ กาเยน วายมติ น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ. โย ตาทิสํ ทีฆชาตึ กาเย อารูฬฺหํ ทิสฺวา ‘‘สณิกํ คจฺฉตุ ฆฏฺฏิยมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยา’’ติ ¶ น ฆฏฺเฏติ, อิตฺถิเมว วา องฺคํ ผุสมานํ ตฺวา ‘‘เอสา ‘อนตฺถิโก อยํ มยา’ติ สยเมว ปกฺกมิสฺสตี’’ติ อชานนฺโต วิย นิจฺจโล โหติ, พลวิตฺถิยา วา คาฬฺหํ อาลิงฺคิตฺวา คหิโต ทหรภิกฺขุ ปลายิตุกาโมปิ สุฏฺุ คหิตตฺตา นิจฺจโล โหติ, อยํ น จ กาเยน วายมติ, ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ. โย ปน อาคจฺฉนฺตึ ทิสฺวา ‘‘อาคจฺฉตุ ¶ ตาว ตโต นํ ปหริตฺวา วา ปณาเมตฺวา ¶ วา ปกฺกมิสฺสามี’’ติ นิจฺจโล โหติ, อยํ โมกฺขาธิปฺปาโย น จ กาเยน วายมติ, น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาตีติ เวทิตพฺโพ.
๒๘๐. อสฺจิจฺจาติ อิมินา อุปาเยน อิมํ ผุสิสฺสามีติ อเจเตตฺวา, เอวฺหิ อเจเตตฺวา ปตฺตปฺปฏิคฺคหณาทีสุ มาตุคามสฺส องฺเค ผุฏฺเปิ อนาปตฺติ.
อสติยาติ อฺวิหิโต โหติ มาตุคามํ ผุสามีติ สติ นตฺถิ, เอวํ อสติยา หตฺถปาทปสารณาทิกาเล ผุสนฺตสฺส อนาปตฺติ.
อชานนฺตสฺสาติ ทารกเวเสน ิตํ ทาริกํ ‘‘อิตฺถี’’ติ อชานนฺโต เกนจิเทว กรณีเยน ผุสติ, เอวํ ‘‘อิตฺถี’’ติ อชานนฺตสฺส ผุสโต อนาปตฺติ.
อสาทิยนฺตสฺสาติ กายสํสคฺคํ อสาทิยนฺตสฺส, ตสฺส พาหาปรมฺปราย นีตภิกฺขุสฺส วิย อนาปตฺติ. อุมฺมตฺตกาทโย วุตฺตนยาเอว. อิธ ปน อุทายิตฺเถโร อาทิกมฺมิโก, ตสฺส อนาปตฺติ อาทิกมฺมิกสฺสาติ.
ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมุฏฺานาทีสุ อิทํ สิกฺขาปทํ ปมปาราชิกสมุฏฺานํ กายจิตฺตโต สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทฺวิเวทนํ, สุขมชฺฌตฺตทฺวเยนาติ.
๒๘๑. วินีตวตฺถูสุ – มาตุยา มาตุเปเมนาติ มาตุเปเมน มาตุยา กายํ อามสิ. เอส นโย ธีตุภคินิวตฺถูสุ. ตตฺถ ยสฺมา มาตา วา โหตุ ธีตา วา อิตฺถี นาม สพฺพาปิ พฺรหฺมจริยสฺส ปาริปนฺถิกาว. ตสฺมา ‘‘อยํ เม มาตา อยํ ธีตา อยํ เม ภคินี’’ติ เคหสฺสิตเปเมน อามสโตปิ ทุกฺกฏเมว วุตฺตํ.
อิมํ ปน ภควโต อาณํ อนุสฺสรนฺเตน สเจปิ นทีโสเตน วุยฺหมานํ มาตรํ ปสฺสติ เนว หตฺเถน ปรามสิตพฺพา. ปณฺฑิเตน ปน ภิกฺขุนา นาวา วา ผลกํ ¶ วา กทลิกฺขนฺโธ วา ทารุกฺขนฺโธ วา อุปสํหริตพฺโพ. ตสฺมึ อสติ กาสาวมฺปิ อุปสํหริตฺวา ปุรโต เปตพฺพํ, ‘‘เอตฺถ ¶ ¶ คณฺหาหี’’ติ ปน น วตฺตพฺพา. คหิเต ปริกฺขารํ กฑฺฒามีติ กฑฺฒนฺเตน คนฺตพฺพํ. สเจ ภายติ ปุรโต ปุรโต คนฺตฺวา ‘‘มา ภายี’’ติ สมสฺสาเสตพฺพา. สเจ ภายมานา ปุตฺตสฺส สหสา ขนฺเธ วา อภิรุหติ, หตฺเถ วา คณฺหาติ, น ‘‘อเปหิ มหลฺลิเก’’ติ นิทฺธุนิตพฺพา, ถลํ ปาเปตพฺพา. กทฺทเม ลคฺคายปิ กูเป ปติตายปิ เอเสว นโย.
ตตฺรปิ หิ โยตฺตํ วา วตฺถํ วา ปกฺขิปิตฺวา หตฺเถน คหิตภาวํ ตฺวา อุทฺธริตพฺพา, นตฺเวว อามสิตพฺพา. น เกวลฺจ มาตุคามสฺส สรีรเมว อนามาสํ, นิวาสนปาวุรณมฺปิ อาภรณภณฺฑมฺปิ ติณณฺฑุปกํ วา ตาฬปณฺณมุทฺทิกํ วา อุปาทาย อนามาสเมว, ตฺจ โข นิวาสนปารุปนํ ปิฬนฺธนตฺถาย ปิตเมว. สเจ ปน นิวาสนํ วา ปารุปนํ วา ปริวตฺเตตฺวา จีวรตฺถาย ปาทมูเล เปติ วฏฺฏติ. อาภรณภณฺเฑสุ ปน สีสปสาธนกทนฺตสูจิอาทิกปฺปิยภณฺฑํ ‘‘อิมํ ภนฺเต ตุมฺหากํ คณฺหถา’’ติ ทิยฺยมานํ สิปาฏิกาสูจิอาทิอุปกรณตฺถาย คเหตพฺพํ. สุวณฺณรชตมุตฺตาทิมยํ ปน อนามาสเมว ทียฺยมานมฺปิ น คเหตพฺพํ. น เกวลฺจ เอตาสํ สรีรูปคเมว อนามาสํ, อิตฺถิสณฺาเนน กตํ กฏฺรูปมฺปิ ทนฺตรูปมฺปิ อยรูปมฺปิ โลหรูปมฺปิ ติปุรูปมฺปิ โปตฺถกรูปมฺปิ สพฺพรตนรูปมฺปิ อนฺตมโส ปิฏฺมยรูปมฺปิ อนามาสเมว. ปริโภคตฺถาย ปน ‘‘อิทํ ตุมฺหากํ โหตู’’ติ ลภิตฺวา เปตฺวา สพฺพรตนมยํ อวเสสํ ภินฺทิตฺวา อุปกรณารหํ อุปกรเณ ปริโภคารหํ ปริโภเค อุปเนตุํ วฏฺฏติ.
ยถา จ อิตฺถิรูปกํ; เอวํ สตฺตวิธมฺปิ ธฺํ อนามาสํ. ตสฺมา เขตฺตมชฺเฌน คจฺฉตา ตตฺถชาตกมฺปิ ธฺผลํ น อามสนฺเตน คนฺตพฺพํ. สเจ ฆรทฺวาเร วา อนฺตรามคฺเค วา ธฺํ ปสาริตํ โหติ ปสฺเสน จ มคฺโค อตฺถิ ¶ น มทฺทนฺเตน คนฺตพฺพํ. คมนมคฺเค อสติ มคฺคํ อธิฏฺาย คนฺตพฺพํ. อนฺตรฆเร ธฺสฺส อุปริ อาสนํ ปฺาเปตฺวา เทนฺติ นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. เกจิ อาสนสาลายํ ธฺํ อากิรนฺติ, สเจ สกฺกา โหติ หราเปตุํ หราเปตพฺพํ, โน เจ เอกมนฺตํ ธฺํ อมทฺทนฺเตน ปีกํ ปฺเปตฺวา นิสีทิตพฺพํ. สเจ โอกาโส น โหติ, มนุสฺสา ธฺมชฺเฌเยว อาสนํ ปฺเปตฺวา เทนฺติ, นิสีทิตพฺพํ. ตตฺถชาตกานิ มุคฺคมาสาทีนิ อปรณฺณานิปิ ตาลปนสาทีนิ วา ผลานิ กีฬนฺเตน น อามสิตพฺพานิ. มนุสฺเสหิ ราสิกเตสุปิ เอเสว นโย. อรฺเ ปน รุกฺขโต ปติตานิ ผลานิ ‘‘อนุปสมฺปนฺนานํ ทสฺสามี’’ติ คณฺหิตุํ วฏฺฏติ.
มุตฺตา ¶ , มณิ, เวฬุริโย, สงฺโข, สิลา, ปวาฬํ, รชตํ, ชาตรูปํ, โลหิตงฺโก, มสารคลฺลนฺติ ¶ อิเมสุ ทสสุ รตเนสุ มุตฺตา อโธตา อนิวิทฺธา ยถาชาตาว อามสิตุํ วฏฺฏติ. เสสา อนามาสาติ วทนฺติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘มุตฺตา โธตาปิ อโธตาปิ อนามาสา ภณฺฑมูลตฺถาย จ สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ, กุฏฺโรคสฺส เภสชฺชตฺถาย ปน วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อนฺตมโส ชาติผลิกํ อุปาทาย สพฺโพปิ นีลปีตาทิวณฺณเภโท มณิ โธตวิทฺธวฏฺฏิโต อนามาโส, ยถาชาโต ปน อากรมุตฺโต ปตฺตาทิภณฺฑมูลตฺถํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺโต. โสปิ มหาปจฺจริยํ ปฏิกฺขิตฺโต, ปจิตฺวา กโต กาจมณิเยเวโก วฏฺฏตีติ วุตฺโต. เวฬุริเยปิ มณิสทิโสว วินิจฺฉโย.
สงฺโข ธมนสงฺโข จ โธตวิทฺโธ จ รตนมิสฺโส อนามาโส. ปานียสงฺโข โธโตปิ อโธโตปิ อามาโสว เสสฺจ อฺชนาทิเภสชฺชตฺถายปิ ภณฺฑมูลตฺถายปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. สิลา โธตวิทฺธา รตนสํยุตฺตา มุคฺควณฺณาว อนามาสา. เสสา สตฺถกนิสานาทิอตฺถาย คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ จ รตนสํยุตฺตาติ สุวณฺเณน สทฺธึ โยเชตฺวา ปจิตฺวา กตาติ วทนฺติ. ปวาฬํ โธตวิทฺธํ อนามาสํ. เสสํ อามาสํ ภณฺฑมูลตฺถฺจ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ¶ ปน ‘‘โธตมฺปิ อโธตมฺปิ สพฺพํ อนามาสํ, น จ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ.
รชตํ ชาตรูปฺจ กตภณฺฑมฺปิ อกตภณฺฑมฺปิ สพฺเพน สพฺพํ พีชโต ปฏฺาย อนามาสฺจ อสมฺปฏิจฺฉิยฺจ, อุตฺตรราชปุตฺโต กิร สุวณฺณเจติยํ กาเรตฺวา มหาปทุมตฺเถรสฺส เปเสสิ. เถโร ‘‘น กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปิ. เจติยฆเร สุวณฺณปทุมสุวณฺณพุพฺพุฬกาทีนิ โหนฺติ, เอตานิปิ อนามาสานิ. เจติยฆรโคปกา ปน รูปิยฉฑฺฑกฏฺาเน ิตา, ตสฺมา เตสํ เกฬาปยิตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. กุรุนฺทิยํ ปน ตํ ปฏิกฺขิตฺตํ. สุวณฺณเจติเย กจวรเมว หริตุํ วฏฺฏตีติ เอตฺตกเมว อนฺุาตํ. อารกูฏโลหมฺปิ ชาตรูปคติกเมว อนามาสนฺติ สพฺพอฏฺกถาสุ วุตฺตํ. เสนาสนปริโภโค ปน สพฺพกปฺปิโย, ตสฺมา ชาตรูปรชตมยา สพฺเพปิ เสนาสนปริกฺขารา อามาสา. ภิกฺขูนํ ธมฺมวินยวณฺณนฏฺาเน รตนมณฺฑเป ¶ กโรนฺติ ผลิกตฺถมฺเภ รตนทามปติมณฺฑิเต, ตตฺถ สพฺพูปกรณานิ ภิกฺขูนํ ปฏิชคฺคิตุํ วฏฺฏติ.
โลหิตงฺกมสารคลฺลา โธตวิทฺธา อนามาสา, อิตเร อามาสา, ภณฺฑมูลตฺถาย วฏฺฏนฺตีติ วุตฺตา. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘โธตาปิ อโธตาปิ สพฺพโส อนามาสา น จ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏนฺตี’’ติ วุตฺตํ.
สพฺพํ อาวุธภณฺฑํ อนามาสํ, ภณฺฑมูลตฺถาย ทียฺยมานมฺปิ น สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. สตฺถวณิชฺชา ¶ นาม น วฏฺฏติ. สุทฺธธนุทณฺโฑปิ ธนุชิยาปิ ปโตโทปิ องฺกุโสปิ อนฺตมโส วาสิผรสุอาทีนิปิ อาวุธสงฺเขเปน กตานิ อนามาสานิ. สเจ เกนจิ วิหาเร สตฺติ วา โตมโร วา ปิโต โหติ, วิหารํ ชคฺคนฺเตน ‘‘หรนฺตู’’ติ สามิกานํ เปเสตพฺพํ. สเจ น หรนฺติ, ตํ อจาเลนฺเตน วิหาโร ปฏิชคฺคิตพฺโพ. ยุทฺธภูมิยํ ปติตํ อสึ วา สตฺตึ วา โตมรํ วา ทิสฺวา ปาสาเณน วา เกนจิ วา อสึ ภินฺทิตฺวา สตฺถกตฺถาย คเหตุํ วฏฺฏติ, อิตรานิปิ วิโยเชตฺวา ¶ กิฺจิ สตฺถกตฺถาย คเหตุํ วฏฺฏติ กิฺจิ กตฺตรทณฺฑาทิอตฺถาย. ‘‘อิทํ คณฺหถา’’ติ ทียฺยมานํ ปน ‘‘วินาเสตฺวา กปฺปิยภณฺฑํ กริสฺสามี’’ติ สพฺพมฺปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ.
มจฺฉชาลปกฺขิชาลาทีนิปิ ผลกชาลิกาทีนิ สรปริตฺตานานีปิ สพฺพานิ อนามาสานิ. ปริโภคตฺถาย ลพฺภมาเนสุ ปน ชาลํ ตาว ‘‘อาสนสฺส วา เจติยสฺส วา อุปริ พนฺธิสฺสามิ, ฉตฺตํ วา เวเสฺสามี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ. สรปริตฺตานํ สพฺพมฺปิ ภณฺฑมูลตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. ปรูปโรธนิวารณฺหิ เอตํ น อุปโรธกรนฺติ ผลกํ ทนฺตกฏฺภาชนํ กริสฺสามีติ คเหตุํ วฏฺฏติ.
จมฺมวินทฺธานิ วีณาเภริอาทีนิ อนามาสานิ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘เภริสงฺฆาโฏปิ วีณาสงฺฆาโฏปิ ตุจฺฉโปกฺขรมฺปิ มุขวฏฺฏิยํ อาโรปิตจมฺมมฺปิ วีณาทณฺฑโกปิ สพฺพํ อนามาส’’นฺติ วุตฺตํ. โอนหิตุํ วา โอนหาเปตุํ วา วาเทตุํ วา วาทาเปตุํ วา น ลพฺภติเยว. เจติยงฺคเณ ปูชํ กตฺวา มนุสฺเสหิ ฉฑฺฑิตํ ทิสฺวาปิ อจาเลตฺวาว อนฺตรนฺตเร สมฺมชฺชิตพฺพํ, กจวรฉฑฺฑนกาเล ปน กจวรนิยาเมเนว หริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ภณฺฑมูลตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุมฺปิ วฏฺฏติ. ปริโภคตฺถาย ลพฺภมาเนสุ ปน วีณาโทณิกฺจ เภริโปกฺขรฺจ ทนฺตกฏฺภาชนํ ¶ กริสฺสาม จมฺมํ สตฺถกโกสกนฺติ เอวํ ตสฺส ตสฺส ปริกฺขารสฺส อุปกรณตฺถาย คเหตฺวา ตถา ตถา กาตุํ วฏฺฏติ.
ปุราณทุติยิกาวตฺถุ อุตฺตานเมว. ยกฺขิวตฺถุสฺมึ สเจปิ ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทวิยา กายสํสคฺคํ สมาปชฺชติ ถุลฺลจฺจยเมว. ปณฺฑกวตฺถุ จ สุตฺติตฺถิวตฺถุ จ ปากฏเมว. มติตฺถิวตฺถุสฺมึ ปาราชิกปฺปโหนกกาเล ถุลฺลจฺจยํ, ตโต ปรํ ทุกฺกฏํ. ติรจฺฉานคตวตฺถุสฺมึ ¶ นาคมาณวิกายปิ สุปณฺณมาณวิกายปิ กินฺนริยาปิ คาวิยาปิ ทุกฺกฏเมว. ทารุธีตลิกาวตฺถุสฺมึ ¶ น เกวลํ ทารุนา เอว, อนฺตมโส จิตฺตกมฺมลิขิเตปิ อิตฺถิรูเป ทุกฺกฏเมว.
๒๘๒. สมฺปีฬนวตฺถุ อุตฺตานตฺถเมว. สงฺกมวตฺถุสฺมึ เอกปทิกสงฺกโม วา โหตุ สกฏมคฺคสงฺกโม วา, จาเลสฺสามีติ ปโยเค กตมตฺเตว จาเลตุ วา มา วา, ทุกฺกฏํ. มคฺควตฺถุ ปากฏเมว. รุกฺขวตฺถุสฺมึ รุกฺโข มหนฺโต วา โหตุ มหาชมฺพุปฺปมาโณ ขุทฺทโก วา, ตํ จาเลตุํ สกฺโกตุ วา มา วา, ปโยคมตฺเตน ทุกฺกฏํ. นาวาวตฺถุสฺมิมฺปิ เอเสว นโย. รชฺชวตฺถุสฺมึ ยํ รชฺชุํ อาวิฺฉนฺโต านา จาเลตุํ สกฺโกติ, ตตฺถ ถุลฺลจฺจยํ. ยา มหารชฺชุ โหติ, อีสกมฺปิ านา น จลติ, ตตฺถ ทุกฺกฏํ. ทณฺเฑปิ เอเสว นโย. ภูมิยํ ปติตมหารุกฺโขปิ หิ ทณฺฑคฺคหเณเนว อิธ คหิโต. ปตฺตวตฺถุ ปากฏเมว. วนฺทนวตฺถุสฺมึ อิตฺถี ปาเท สมฺพาหิตฺวา วนฺทิตุกามา วาเรตพฺพา ปาทา วา ปฏิจฺฉาเทตพฺพา, นิจฺจเลน วา ภวิตพฺพํ. นิจฺจลสฺส หิ จิตฺเตน สาทิยโตปิ อนาปตฺติ. อวสาเน คหณวตฺถุปากฏเมวาติ.
กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๘๓. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อาทิสฺสาติ อปทิสิตฺวา. วณฺณมฺปิ ภณตีติอาทีนิ ปรโต อาวิ ภวิสฺสนฺติ. ฉินฺนิกาติ ฉินฺนโอตฺตปฺปา. ธุตฺติกาติ สา. อหิริกาโยติ นิลฺลชฺชา ¶ . อุหสนฺตีติ สิตํ กตฺวา มนฺทหสิตํ หสนฺติ. อุลฺลปนฺตีติ ‘‘อโห อยฺโย’’ติอาทินา นเยน อุจฺจกรณึ นานาวิธํ ปโลภนกถํ กเถนฺติ. อุชฺชคฺฆนฺตีติ มหาหสิตํ หสนฺติ. อุปฺปณฺเฑนฺตีติ ‘‘ปณฺฑโก อยํ, นายํ ปุริโส’’ติอาทินา ¶ นเยน ปริหาสํ กโรนฺติ.
๒๘๕. สารตฺโตติ ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาทราเคน สารตฺโต. อเปกฺขวา ปฏิพทฺธจิตฺโตติ วุตฺตนยเมว, เกวลํ อิธ วาจสฺสาทราโค โยเชตพฺโพ. มาตุคามํ ทุฏฺุลฺลาหิ วาจาหีติ เอตฺถ อธิปฺเปตํ มาตุคามํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มาตุคาโม’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิฺู ปฏิพลา สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลํ อาชานิตุนฺติ ยา ปณฺฑิตา สาตฺถกนิรตฺถกกถํ อสทฺธมฺมสทฺธมฺมปฏิสํยุตฺตกถฺจ ชานิตุํ ปฏิพลา, อยํ อิธ อธิปฺเปตา. ยา ปน มหลฺลิกาปิ พาลา เอลมูคา อยํ อิธ อนธิปฺเปตาติ ทสฺเสติ.
โอภาเสยฺยาติ ¶ อวภาเสยฺย นานาปฺปการกํ อสทฺธมฺมวจนํ วเทยฺย. ยสฺมา ปเนวํ โอภาสนฺตสฺส โย โส โอภาโส นาม, โส อตฺถโต อชฺฌาจาโร โหติ ราควเสน อภิภวิตฺวา สฺมเวลํ อาจาโร, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โอภาเสยฺยาติ อชฺฌาจาโร วุจฺจตี’’ติ อาห. ยถา ตนฺติ เอตฺถ ตนฺติ นิปาตมตฺตํ, ยถา ยุวา ยุวตินฺติ อตฺโถ.
ทฺเว มคฺเค อาทิสฺสาติอาทิ เยนากาเรน โอภาสโต สงฺฆาทิเสโส โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ ทฺเว มคฺเคติ วจฺจมคฺคฺจ ปสฺสาวมคฺคฺจ. เสสํ อุทฺเทเส ตาว ปากฏเมว. นิทฺเทเส ปน โถเมตีติ ‘‘อิตฺถิลกฺขเณน สุภลกฺขเณน สมนฺนาคตาสี’’ติ วทติ, น ตาว สีสํ เอติ. ‘‘ตว วจฺจมคฺโค จ ปสฺสาวมคฺโค จ อีทิโส เตน นาม อีทิเสน อิตฺถิลกฺขเณน สุภลกฺขเณน สมนฺนาคตาสี’’ติ วทติ, สีสํ เอติ, สงฺฆาทิเสโส. วณฺเณติ ปสํสตีติ อิมานิ ปน โถมนปทสฺเสว เววจนานิ.
ขุํเสตีติ วาจาปโตเทน ฆฏฺเฏติ. วมฺเภตีติ อปสาเทติ. ครหตีติ โทสํ เทติ. ปรโต ปน ปาฬิยา อาคเตหิ ‘‘อนิมิตฺตาสี’’ติอาทีหิ ¶ เอกาทสหิ ปเทหิ อฆฏิเต สีสํ น เอติ, ฆฏิเตปิ เตสุ สิขรณีสิ สมฺภินฺนาสิ อุภโตพฺยฺชนาสีติ อิเมหิ ตีหิ ฆฏิเตเยว สงฺฆาทิเสโส.
เทหิ เมติ ยาจนายปิ เอตฺตเกเนว สีสํ น เอติ, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ เทหี’’ติ เอวํ เมถุนธมฺเมน ฆฏิเต เอว สงฺฆาทิเสโส.
กทา เต มาตา ปสีทิสฺสตีติอาทีสุ อายาจนวจเนสุปิ เอตฺตเกเนว ¶ สีสํ น เอติ, ‘‘กทา เต มาตา ปสีทิสฺสติ, กทา เต เมถุนํ ธมฺมํ ลภิสฺสามี’’ติ วา ‘‘ตว มาตริ ปสนฺนาย เมถุนํ ธมฺมํ ลภิสฺสามี’’ติ วา อาทินา ปน นเยน เมถุนธมฺเมน ฆฏิเตเยว สงฺฆาทิเสโส.
กถํ ตฺวํ สามิกสฺส เทสีติอาทีสุ ปุจฺฉาวจเนสุปิ เมถุนธมฺมนฺติ วุตฺเตเยว สงฺฆาทิเสโส, น อิตรถา. เอวํ กิร ตฺวํ สามิกสฺส เทสีติ ปฏิปุจฺฉาวจเนสุปิ เอเสว นโย.
อาจิกฺขนาย ปุฏฺโ ภณตีติ ‘‘กถํ ททมานา สามิกสฺส ปิยา โหตี’’ติ เอวํ ปุฏฺโ อาจิกฺขติ. เอตฺถ จ ‘‘เอวํ ¶ เทหิ เอวํ ททมานา’’ติ วุตฺเตปิ สีสํ น เอติ. ‘‘เมถุนธมฺมํ เอวํ เทหิ เอวํ อุปเนหิ เอวํ เมถุนธมฺมํ ททมานา อุปนยมานา ปิยา โหตี’’ติอาทินา ปน นเยน เมถุนธมฺเมน ฆฏิเตเยว สงฺฆาทิเสโส. อนุสาสนีวจเนสุปิ เอเสว นโย.
อกฺโกสนิทฺเทเส – อนิมิตฺตาสีติ นิมิตฺตรหิตาสิ, กฺุจิกปณาลิมตฺตเมว ตว ทกโสตนฺติ วุตฺตํ โหติ.
นิมิตฺตมตฺตาสีติ ตว อิตฺถินิมิตฺตํ อปริปุณฺณํ สฺามตฺตเมวาติ วุตฺตํ โหติ. อโลหิตาติ สุกฺขโสตา. ธุวโลหิตาติ นิจฺจโลหิตา กิลินฺนทกโสตา. ธุวโจฬาติ นิจฺจปกฺขิตฺตาณิโจฬา, สทา อาณิโจฬกํ เสวสีติ วุตฺตํ โหติ. ปคฺฆรนฺตีติ สวนฺตี; สทา เต มุตฺตํ สวตีติ วุตฺตํ โหติ. สิขรณีติ พหินิกฺขนฺตอาณิมํสา. อิตฺถิปณฺฑกาติ อนิมิตฺตาว วุจฺจติ. เวปุริสิกาติ สมสฺสุทาิกา ปุริสรูปา ¶ อิตฺถี. สมฺภินฺนาติ สมฺภินฺนวจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคา. อุภโตพฺยฺชนาติ อิตฺถินิมิตฺเตน จ ปุริสนิมิตฺเตน จาติ อุโภหิ พฺยฺชเนหิ สมนฺนาคตา.
อิเมสุ จ ปน เอกาทสสุ ปเทสุ สิขรณีสิ สมฺภินฺนาสิ อุภโตพฺยฺชนาสีติ อิมานิเยว ตีณิ ปทานิ สุทฺธานิ สีสํ เอนฺติ. อิติ อิมานิ จ ตีณิ ปุริมานิ จ วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคเมถุนธมฺมปทานิ ตีณีติ ฉ ปทานิ สุทฺธานิ อาปตฺติกรานิ. เสสานิ อนิมิตฺตาติอาทีนิ ‘‘อนิมิตฺเต ¶ เมถุนธมฺมํ เม เทหี’’ติ วา ‘‘อนิมิตฺตาสิ เมถุนธมฺมํ เม เทหี’’ติ วา อาทินา นเยน เมถุนธมฺเมน ฆฏิตาเนว อาปตฺติกรานิ โหนฺตีติ เวทิตพฺพานิ.
๒๘๖. อิทานิ ยฺวายํ โอติณฺโณ วิปริณเตน จิตฺเตน โอภาสติ, ตสฺส วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺเค อาทิสฺส เอเตสํ วณฺณภณนาทีนํ วเสน วิตฺถารโต อาปตฺติเภทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิตฺถี จ โหติ อิตฺถิสฺี’’ติอาทิมาห. เตสํ อตฺโถ กายสํสคฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
อยํ ปน วิเสโส – อธกฺขกนฺติ อกฺขกโต ปฏฺาย อโธ. อุพฺภชาณุมณฺฑล ชาณุมณฺฑลโต ปฏฺาย อุทฺธํ. อุพฺภกฺขกนฺติ อกฺขกโต ปฏฺาย อุทฺธํ. อโธ ชาณุมณฺฑลนฺติ ชาณุมณฺฑลโต ปฏฺาย อโธ. อกฺขกํ ปน ชาณุมณฺฑลฺจ เอตฺเถว ทุกฺกฏกฺเขตฺเต สงฺคหํ คจฺฉนฺติ ภิกฺขุนิยา กายสํสคฺเค วิย. น หิ พุทฺธา ครุกาปตฺตึ สาวเสสํ ปฺเปนฺตีติ. กายปฺปฏิพทฺธนฺติ วตฺถํ วา ปุปฺผํ วา อาภรณํ วา.
๒๘๗. อตฺถปุเรกฺขารสฺสาติ ¶ อนิมิตฺตาติอาทีนํ ปทานํ อตฺถํ กเถนฺตสฺส, อฏฺกถํ วา สชฺฌายํ กโรนฺตสฺส.
ธมฺมปุเรกฺขารสฺสาติ ปาฬึ วาเจนฺตสฺส วา สชฺฌายนฺตสฺส วา. เอวํ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ ปุรกฺขตฺวา ภณนฺตสฺส อตฺถปุเรกฺขารสฺส จ ธมฺมปุเรกฺขารสฺส จ อนาปตฺติ.
อนุสาสนิปุเรกฺขารสฺสาติ ‘‘อิทานิปิ อนิมิตฺตาสิ อุภตฺโตพฺยฺชนาสิ อปฺปมาทํ อิทานิ กเรยฺยาสิ, ยถา อายติมฺปิ เอวรูปา น โหหิสี’’ติ เอวํ อนุสิฏฺึ ปุรกฺขตฺวา ภณนฺตสฺส อนุสาสนิปุเรกฺขารสฺส อนาปตฺติ. โย ปน ภิกฺขุนีนํ ปาฬึ วาเจนฺโต ปกติวาจนามคฺคํ ปหาย หสนฺโต หสนฺโต ‘‘สิขรณีสิ สมฺภินฺนาสิ อุภโตพฺยฺชนาสี’’ติ ปุนปฺปุนํ ภณติ, ตสฺส ¶ อาปตฺติเยว. อุมฺมตฺตกสฺส อนาปตฺติ. อิธ อาทิกมฺมิโก อุทายิตฺเถโร, ตสฺส อนาปตฺติ อาทิกมฺมิกสฺสาติ.
ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมุฏฺานาทีสุ อิทํ สิกฺขาปทํ ติสมุฏฺานํ กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ ¶ , สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทฺวิเวทนนฺติ.
๒๘๘. วินีตวตฺถูสุ โลหิตวตฺถุสฺมึ โส ภิกฺขุ อิตฺถิยา โลหิตกํ นิมิตฺตํ สนฺธายาห – อิตรา น อฺาสิ, ตสฺมา ทุกฺกฏํ.
กกฺกสโลมนฺติ รสฺสโลเมหิ พหุโลมํ. อากิณฺณโลมนฺติ ชฏิตโลมํ. ขรโลมนฺติ ถทฺธโลมํ. ทีฆโลมนฺติ อรสฺสโลมํ. สพฺพํ อิตฺถินิมิตฺตเมว สนฺธาย วุตฺตํ.
๒๘๙. วาปิตํ โข เตติ อสทฺธมฺมํ สนฺธายาห, สา อสลฺลกฺเขตฺวา โน จ โข ปฏิวุตฺตนฺติ อาห. ปฏิวุตฺตํ นาม อุทกวปฺเป พีเชหิ อปฺปติฏฺิโตกาเส ปาณเกหิ วินาสิตพีเช วา โอกาเส ปุน พีชํ ปติฏฺาเปตฺวา อุทเกน อาสิตฺตํ, ถลวปฺเป วิสมปติตานํ วา พีชานํ สมกรณตฺถาย ปุน อฏฺทนฺตเกน สมีกตํ, เตสุ อฺตรํ สนฺธาย เอสา อาห.
มคฺควตฺถุสฺมึ ¶ มคฺโค สํสีทตีติ องฺคชาตมคฺคํ สนฺธายาห. เสสํ อุตฺตานเมวาติ.
ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๙๐. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ อตฺตกามสิกฺขาปทํ. ตตฺถ กุลูปโกติ กุลปยิรุปาสนโก จตุนฺนํ ปจฺจยานํ อตฺถาย กุลูปสงฺกมเน นิจฺจปฺปยุตฺโต.
จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารนฺติ ¶ จีวรฺจ ปิณฺฑปาตฺจ เสนาสนฺจ คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารฺจ. คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารนฺติ เจตฺถ ปติกรณตฺเถน ปจฺจโย, ยสฺส กสฺสจิ สปฺปายสฺเสตํ อธิวจนํ. ภิสกฺกสฺส กมฺมํ เตน อนฺุาตตฺตาติ เภสชฺชํ. คิลานปจฺจโยว เภสชฺชํ คิลานปจฺจยเภสชฺชํ, ยํกิฺจิ คิลานสฺส สปฺปายํ ภิสกฺกกมฺมํ เตลมธุผาณิตาทีติ วุตฺตํ โหติ. ปริกฺขาโรติ ปน ‘‘สตฺตหิ นครปริกฺขาเรหิ สุปริกฺขตํ โหตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๗.๖๗) ปริวาโร วุจฺจติ. ‘‘รโถ ¶ สีสปริกฺขาโร ฌานกฺโข จกฺกวีริโย’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๔) อลงฺกาโร. ‘‘เย จิเม ปพฺพชิเตน ชีวิตปริกฺขารา สมุทาเนตพฺพา’’ติอาทีสุ (โร. นิ. ๑.๑.๑๙๑) สมฺภาโร. อิธ ปน สมฺภาโรปิ ปริวาโรปิ วฏฺฏติ. ตฺหิ คิลานปจฺจยเภสชฺชํ ชีวิตสฺส ปริวาโรปิ โหติ ชีวิตวินาสกาพาธุปฺปตฺติยา อนฺตรํ อทตฺวา รกฺขณโต, สมฺภาโรปิ ยถา จิรํ ปวตฺตติ เอวมสฺส การณภาวโต, ตสฺมา ปริกฺขาโรติ วุจฺจติ. เอวํ คิลานปจฺจยเภสชฺชฺจ ตํ ปริกฺขาโร จาติ คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาโร, ตํ คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารนฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
วสลนฺติ หีนํ ลามกํ. อถ วา วสฺสตีติ วสโล, ปคฺฆรตีติ อตฺโถ, ตํ วสลํ, อสุจิปคฺฆรณกนฺติ วุตฺตํ โหติ. นิฏฺุหิตฺวาติ เขฬํ ปาเตตฺวา.
กสฺสาหํ เกน หายามีติ อหํ กสฺสา อฺิสฺสา อิตฺถิยา เกน โภเคน วา อลงฺกาเรน วา รูเปน วา ปริหายามิ, กา นาม มยา อุตฺตริตราติ ทีเปติ.
๒๙๑. สนฺติเกติ อุปจาเร ตฺวา สามนฺตา อวิทูเร, ปทภาชเนปิ อยเมวอตฺโถ ทีปิโต ¶ . อตฺตกามปาริจริยายาติ เมถุนธมฺมสงฺขาเตน กาเมน ปาริจริยา กามปาริจริยา. อตฺตโน อตฺถาย กามปาริจริยา อตฺตกามปาริจริยา, อตฺตนา วา กามิตา อิจฺฉิตาติ อตฺตกามา, สยํ เมถุนราควเสน ปตฺถิตาติ อตฺโถ. อตฺตกามา จ สา ปาริจริยา จาติ อตฺตกามปาริจริยา, ตสฺสา อตฺตกามปาริจริยาย. วณฺณํ ภาเสยฺยาติ คุณํ อานิสํสํ ปกาเสยฺย.
ตตฺร ¶ ยสฺมา ‘‘อตฺตโน อตฺถาย กามปาริจริยา’’ติ อิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป กาโม เจว เหตุ จ ปาริจริยา จ อตฺโถ, เสสํ พฺยฺชนํ. ‘‘อตฺตกามา จ สา ปาริจริยา จาติ อตฺตกามปาริจริยา’’ติ อิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป อธิปฺปาโย เจว ปาริจริยา จาติ อตฺโถ, เสสํ พฺยฺชนํ. ตสฺมา พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวา อตฺถมตฺตเมว ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺตโน กามํ อตฺตโน เหตุํ อตฺตโน อธิปฺปายํ อตฺตโน ปาริจริย’’นฺติ ปทภาชนํ วุตฺตํ. ‘‘อตฺตโน กามํ อตฺตโน เหตุํ อตฺตโน ปาริจริย’’นฺติ หิ วุตฺเต ชานิสฺสนฺติ ปณฺฑิตา ‘‘เอตฺตาวตา อตฺตโน อตฺถาย กามปาริจริยา วุตฺตา’’ติ. ‘‘อตฺตโน อธิปฺปายํ อตฺตโน ปาริจริย’’นฺติ วุตฺเตปิ ชานิสฺสนฺติ ‘‘เอตฺตาวตา อตฺตนา อิจฺฉิตกามิตฏฺเน อตฺตกามปาริจริยา วุตฺตา’’ติ.
อิทานิ ¶ ตสฺสา อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณภาสนาการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอตทคฺค’’นฺติอาทิมาห. ตํ อุทฺเทสโตปิ นิทฺเทสโตปิ อุตฺตานตฺถเมว. อยํ ปเนตฺถ ปทสมฺพนฺโธ จ อาปตฺติวินิจฺฉโย จ – เอตทคฺคํ…เป… ปริจเรยฺยาติ ยา มาทิสํ สีลวนฺตํ กลฺยาณธมฺมํ พฺรหฺมจารึ เอเตน ธมฺเมน ปริจเรยฺย, ตสฺสา เอวํ มาทิสํ ปริจรนฺติยา ยา อยํ ปาริจริยา นาม, เอตทคฺคํ ปาริจริยานนฺติ.
เมถุนุปสํหิเตน สงฺฆาทิเสโสติ เอวํ อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ ภาสนฺโต จ เมถุนุปสํหิเตน เมถุนธมฺมปฏิสํยุตฺเตเนว วจเนน โย ภาเสยฺย, ตสฺส สงฺฆาทิเสโสติ.
อิธานิ ยสฺมา เมถุนุปสํหิเตเนว ภาสนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส วุตฺโต, ตสฺมา ‘‘อหมฺปิ ขตฺติโย, ตฺวมฺปิ ขตฺติยา, อรหติ ขตฺติยา ขตฺติยสฺส ทาตุํ สมชาติกตฺตา’’ติ เอวมาทีหิ วจเนหิ ปาริจริยาย วณฺณํ ภาสมานสฺสาปิ สงฺฆาทิเสโส นตฺถิ. ‘‘อหมฺปิ ขตฺติโย’’ติอาทิเก ปน พหูปิ ปริยาเย วตฺวา ‘‘อรหสิ ตฺวํ มยฺหํ เมถุนธมฺมํ ทาตุ’’นฺติ เอวํ เมถุนปฺปฏิสํยุตฺเตเนว ภาสมานสฺส สงฺฆาทิเสโสติ.
อิตฺถี ¶ จ โหตีติอาทิ ปุพฺเพ วุตฺตนยเมว. อิธ อุทายิตฺเถโร อาทิกมฺมิโก, ตสฺส อนาปตฺติ อาทิกมฺมิกสฺสาติ.
สมุฏฺานาทิ สพฺพํ ทุฏฺุลฺลวาจาสทิสํ. วินีตวตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนวาติ.
อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สฺจริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๙๖. เตน ¶ สมเยน พุทฺโธ ภควาติ สฺจริตฺตํ. ตตฺถ ปณฺฑิตาติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคตา คติมนฺตา. พฺยตฺตาติ เวยฺยตฺติเยน สมนฺนาคตา, อุปาเยน สมนฺนาคตา อุปายฺู วิสารทา. เมธาวินีติ เมธาย สมนฺนาคตา, ทิฏฺํ ทิฏฺํ กโรติ. ทกฺขาติ เฉกา. อนลสาติ อุฏฺานวีริยสมฺปนฺนา. ฉนฺนาติ อนุจฺฉวิกา.
กิสฺมึ วิยาติ กิจฺฉํ วิย กิเลโส วิย, หิริ วิย อมฺหากํ โหตีติ อธิปฺปาโย. กุมาริกาย วตฺตุนฺติ ‘‘อิมํ ตุมฺเห คณฺหถา’’ติ กุมาริกาย การณา วตฺตุํ.
อาวาหาทีสุ อาวาโหติ ทารกสฺส ปรกุลโต ทาริกาย ¶ อาหรณํ. วิวาโหติ อตฺตโน ทาริกาย ปรกุลเปสนํ. วาเรยฺยนฺติ ‘‘เทถ โน ทารกสฺส ทาริก’’นฺติ ยาจนํ, ทิวสนกฺขตฺตมุหุตฺตปริจฺเฉทกรณํ วา.
๒๙๗. ปุราณคณกิยาติ เอกสฺส คณกสฺส ภริยาย, สา ตสฺมึ ชีวมาเน คณกีติ ปฺายิตฺถ, มเต ปน ปุราณคณกีติ สงฺขํ คตา. ติโรคาโมติ พหิคาโม, อฺโ คาโมติ อธิปฺปาโย. มนุสฺสาติ อุทายิสฺส อิมํ สฺจริตฺตกมฺเม ยุตฺตปยุตฺตภาวํ ชานนกมนุสฺสา.
สุณิสโภเคนาติ เยน โภเคน สุณิสา ภฺุชิตพฺพา โหติ รนฺธาปนปจาปนปอเวสนาทินา, เตน ภฺุชึสุ. ตโต อปเรน ทาสิโภเคนาติ มาสาติกฺกเม เยน โภเคน ทาสี ภฺุชิตพฺพา โหติ เขตฺตกมฺมกจวรฉฑฺฑนอุทกาหรณาทินา, เตน ภฺุชึสุ. ทุคฺคตาติ ทลิทฺทา, ยตฺถ วา คตา ทุคฺคตา โหติ ตาทิสํ กุลํ คตา. มายฺโย อิมํ กุมาริกนฺติ มา อยฺโย อิมํ กุมาริกํ. อาหารูปหาโรติ อาหาโร จ อุปหาโร จ คหณฺจ ทานฺจ, น อมฺเหหิ ¶ กิฺจิ อาหฏํ น อุปาหฏํ ตยา สทฺธึ กยวิกฺกโย โวหาโร อมฺหากํ นตฺถีติ ทีเปนฺติ. สมเณน ภวิตพฺพํ อพฺยาวเฏน, สมโณ อสฺส สุสมโณติ สมเณน นาม อีทิเสสุ กมฺเมสุ อพฺยาวเฏน อพฺยาปาเรน ภวิตพฺพํ, เอวํ ¶ ภวนฺโต หิ สมโณ สุสมโณ อสฺสาติ, เอวํ นํ อปสาเทตฺวา ‘‘คจฺฉ ตฺวํ น มยํ ตํ ชานามา’’ติ อาหํสุ.
๒๙๘. สชฺชิโตติ สพฺพูปกรณสมฺปนฺโน มณฺฑิตปสาธิโต วา.
๓๐๐. ธุตฺตาติ อิตฺถิธุตฺตา. ปริจาเรนฺตาติ มนาปิเยสุ รูปาทีสุ อิโต จิโต จ สมนฺตา อินฺทฺริยานิ จาเรนฺตา, กีฬนฺตา อภิรมนฺตาติ วุตฺตํ โหติ. อพฺภุตมกํสูติ ยทิ กริสฺสติ ตฺวํ เอตฺตกํ ชิโต, ยทิ น กริสฺสติ อหํ เอตฺตกนฺติ ปณมกํสุ. ภิกฺขูนํ ปน อพฺภุตํ กาตุํ น วฏฺฏติ. โย กโรติ ปราชิเตน ทาตพฺพนฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.
กถฺหิ นาม อยฺโย อุทายี ตงฺขณิกนฺติ เอตฺถ ตงฺขโณติ อจิรกาโล ¶ วุจฺจติ. ตงฺขณิกนฺติ อจิรกาลาธิการิกํ.
๓๐๑. สฺจริตฺตํ สมาปชฺเชยฺยาติ สฺจรณภาวํ สมาปชฺเชยฺย. ยสฺมา ปน ตํ สมาปชฺชนฺเตน เกนจิ เปสิเตน กตฺถจิ คนฺตพฺพํ โหติ, ปรโต จ ‘‘อิตฺถิยา วา ปุริสมติ’’นฺติ อาทิวจนโต อิธ อิตฺถิปุริสา อธิปฺเปตา, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิตฺถิยา วา ปหิโต ปุริสสฺส สนฺติเก คจฺฉติ, ปุริเสน วา ปหิโต อิตฺถิยา สนฺติเก คจฺฉตี’’ติ เอวมสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ. อิตฺถิยา วา ปุริสมตึ ปุริสสฺส วา อิตฺถิมตินฺติ เอตฺถ อาโรเจยฺยาติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ, เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘ปุริสสฺส มตึ อิตฺถิยา อาโรเจติ, อิตฺถิยา มตึ ปุริสสฺส อาโรเจตี’’ติ วุตฺตํ.
อิทานิ ยทตฺถํ ตํ เตสํ มตึ อธิปฺปายํ อชฺฌาสยํ ฉนฺทํ รุจึ อาโรเจติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ชายตฺตเน วา ชารตฺตเน วา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ชายตฺตเนติ ชายาภาเว. ชารตฺตเนติ ชารภาเว. ปุริสสฺส หิ มตึ อิตฺถิยา อาโรเจนฺโต ชายตฺตเน อาโรเจติ, อิตฺถิยา มตึ ปุริสสฺส อาโรเจนฺโต ชารตฺตเน อาโรเจติ; อปิจ ปุริสสฺเสว มตึ อิตฺถิยา อาโรเจนฺโต ชายตฺตเน วา อาโรเจติ นิพทฺธภริยาภาเว, ชารตฺตเน วา มิจฺฉาจารภาเว. ยสฺมา ปเนตํ อาโรเจนฺเตน ‘‘ตฺวํ กิรสฺส ชายา ภวิสฺสสี’’ติอาทิ วตฺตพฺพํ โหติ, ตสฺมา ตํ วตฺตพฺพตาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘ชายตฺตเน วาติ ชายา ภวิสฺสสิ, ชารตฺตเน ¶ วาติ ชารี ภวิสฺสสี’’ติ อสฺส ปทภาชนํ ¶ วุตฺตํ. เอเตเนว จ อุปาเยน อิตฺถิยา มตึ ปุริสสฺส อาโรจเนปิ ปติ ภวิสฺสสิ, สามิโก ภวิสฺสสิ, ชาโร ภวิสฺสสีติ วตฺตพฺพตากาโร เวทิตพฺโพ.
อนฺตมโส ตงฺขณิกายปีติ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน ยา อยํ ตงฺขเณ มุหุตฺตมตฺเต ปฏิสํวสิตพฺพโต ตงฺขณิกาติ วุจฺจติ, มุหุตฺติกาติ อตฺโถ. ตสฺสาปิ ‘‘มุหุตฺติกา ภวิสฺสสี’’ติ เอวํ ปุริสมตึ อาโรเจนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส. เอเตเนวุปาเยน ‘‘มุหุตฺติโก ภวิสฺสสี’’ติ เอวํ ปุริสสฺส อิตฺถิมตึ อาโรเจนฺโตปิ สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชตีติ เวทิตพฺโพ.
๓๐๓. อิทานิ ‘‘อิตฺถิยา วา ปุริสมติ’’นฺติ เอตฺถ อธิปฺเปตา อิตฺถิโย ปเภทโต ทสฺเสตฺวา ตาสุ สฺจริตฺตวเสน อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทส อิตฺถิโย’’ติอาทิมาห. ตตฺถ มาตุรกฺขิตาติ มาตรา รกฺขิตา. ยถา ปุริเสน สํวาสํ น กปฺเปติ, เอวํ มาตรา รกฺขิตา, เตนสฺส ปทภาชเนปิ วุตฺตํ – ‘‘มาตา รกฺขติ ¶ โคเปติ อิสฺสริยํ กาเรติ วสํ วตฺเตตี’’ติ. ตตฺถ รกฺขตีติ กตฺถจิ คนฺตุํ น เทติ. โคเปตีติ ยถา อฺเ น ปสฺสนฺติ, เอวํ คุตฺตฏฺาเน เปติ. อิสฺสริยํ กาเรตีติ เสริวิหารมสฺสา นิเสเธนฺตี อภิภวิตฺวา ปวตฺตติ. วสํ วตฺเตตีติ ‘‘อิทํ กโรหิ, อิทํ มา อกาสี’’ติ เอวํ อตฺตโน วสํ ตสฺสา อุปริ วตฺเตติ. เอเตนุปาเยน ปิตุรกฺขิตาทโยปิ าตพฺพา. โคตฺตํ วา ธมฺโม วา น รกฺขติ, สโคตฺเตหิ ปน สหธมฺมิเกหิ จ เอกํ สตฺถารํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิเตหิ เอกคณปริยาปนฺเนหิ จ รกฺขิตา ‘‘โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมา เตสํ ปทานํ ‘‘สโคตฺตา รกฺขนฺตี’’ติอาทินา นเยน ปทภาชนํ วุตฺตํ.
สห อารกฺเขนาติ สารกฺขา. สห ปริทณฺเฑนาติ สปริทณฺฑา. ตาสํ นิทฺเทสา ปากฏาว. อิมาสุ ทสสุ ปจฺฉิมานํ ทฺวินฺนเมว ปุริสนฺตรํ คจฺฉนฺตีนํ มิจฺฉาจาโร โหติ, น อิตราสํ.
ธนกฺกีตาทีสุ อปฺเปน วา พหุนา วา ธเนน กีตา ธนกฺกีตา. ยสฺมา ปน สา น กีตมตฺตา เอว สํวาสตฺถาย ปน กีตตฺตา ภริยา, ตสฺมาสฺส นิทฺเทเส ธเนน กิณิตฺวา วาเสตีติ วุตฺตํ.
ฉนฺเทน ¶ อตฺตโน รุจิยา วสตีติ ฉนฺทวาสินี. ยสฺมา ปน สา น อตฺตโน ฉนฺทมตฺเตเนว ¶ ภริยา โหติ ปุริเสน ปน สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา, ตสฺมาสฺส นิทฺเทเส ‘‘ปิโย ปิยํ วาเสตี’’ติ วุตฺตํ.
โภเคน วสตีติ โภควาสินี. อุทุกฺขลมุสลาทิฆรูปกรณํ ลภิตฺวา ภริยาภาวํ คจฺฉนฺติยา ชนปทิตฺถิยา เอตํ อธิวจนํ.
ปเฏน วสตีติ ปฏวาสินี. นิวาสนมตฺตมฺปิ ปาวุรณมตฺตมฺปิ ลภิตฺวา ภริยาภาวํ อุปคจฺฉนฺติยา ทลิทฺทิตฺถิยา เอตํ อธิวจนํ.
โอทปตฺตกินีติ อุภินฺนํ เอกิสฺสา อุทกปาติยา หตฺเถ โอตาเรตฺวา ‘‘อิทํ อุทกํ วิย สํสฏฺา อเภชฺชา โหถา’’ติ วตฺวา ปริคฺคหิตาย โวหารนามเมตํ, นิทฺเทเสปิสฺส ‘‘ตาย สห อุทกปตฺตํ อามสิตฺวา ตํ วาเสตี’’ติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
โอภฏํ โอโรปิตํ จุมฺพฏมสฺสาติ โอภฏจุมฺพฏา, กฏฺหาริกาทีนํ อฺตรา, ยสฺสา สีสโต จุมฺพฏํ โอโรเปตฺวา ฆเร วาเสติ, ตสฺสา เอตํ อธิวจนํ.
ทาสี จาติ อตฺตโนเยว ทาสี จ โหติ ภริยา จ.
กมฺมการี นาม เคเห ภติยา กมฺมํ ¶ กโรติ, ตาย สทฺธึ โกจิ ฆราวาสํ กปฺเปติ อตฺตโน ภริยาย อนตฺถิโก หุตฺวา. อยํ วุจฺจติ ‘‘กมฺมการี จ ภริยา จา’’ติ.
ธเชน อาหฏา ธชาหฏา, อุสฺสิตทฺธชาย เสนาย คนฺตฺวา ปรวิสยํ วิลุมฺปิตฺวา อานีตาติ วุตฺตํ โหติ, ตํ โกจิ ภริยํ กโรติ, อยํ ธชาหฏา นาม. มุหุตฺติกา วุตฺตนยาเอว, เอตาสํ ทสนฺนมฺปิ ปุริสนฺตรคมเน มิจฺฉาจาโร โหติ. ปุริสานํ ปน วีสติยาปิ เอตาสุ มิจฺฉาจาโร โหติ, ภิกฺขุโน จ สฺจริตฺตํ โหตีติ.
๓๐๕. อิทานิ ปุริโส ภิกฺขุํ ปหิณตีติอาทีสุ ปฏิคฺคณฺหาตีติ โส ภิกฺขุ ตสฺส ปุริสสฺส ‘‘คจฺฉ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนามํ มาตุรกฺขิตํ พฺรูหิ, โหหิ กิร อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา ธนกฺกีตา’’ติ เอวํ วุตฺตวจนํ ‘‘สาธุ อุปาสกา’’ติ วา ‘‘โหตู’’ติ วา ‘‘อาโรเจสฺสามี’’ติ วา เยน เกนจิ อากาเรน วจีเภทํ กตฺวา วา สีสกมฺปนาทีหิ วา สมฺปฏิจฺฉติ. วีมํสตีติ ¶ ¶ เอวํ ปฏิคฺคณฺหิตฺวา ตสฺสา อิตฺถิยา สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ สาสนํ อาโรเจติ. ปจฺจาหรตีติ เตน อาโรจิเต สา อิตฺถี ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉตุ วา ปฏิกฺขิปตุ วา ลชฺชาย วา ตุณฺหี โหตุ, ปุน อาคนฺตฺวา ตสฺส ปุริสสฺส ตํ ปวตฺตึ อาโรเจติ.
เอตฺตาวตา อิมาย ปฏิคฺคหณาโรจนปจฺจาหรณสงฺขาตาย ติวงฺคสมฺปตฺติยา สงฺฆาทิเสโส โหติ. สา ปน ตสฺส ภริยา โหตุ วา มา วา, อการณเมตํ. สเจ ปน โส มาตุรกฺขิตาย สนฺติกํ เปสิโต ตํ อทิสฺวา ตสฺสา มาตุยา ตํ สาสนํ อาโรเจติ, พหิทฺธา วิมฏฺํ นาม โหติ, ตสฺมา วิสงฺเกตนฺติ มหาปทุมตฺเถโร อาห. มหาสุมตฺเถโร ปน มาตา วา โหตุ ปิตา วา อนฺตมโส เคหทาสีปิ อฺโ วาปิ โย โกจิ ตํ กิริยํ สมฺปาเทสฺสติ, ตสฺส วุตฺเตปิ วิมฏฺํ นาม น โหติ, ติวงฺคสมฺปตฺติกาเล อาปตฺติเยว.
นนุ ยถา ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติ วตฺตุกาโม วิรชฺฌิตฺวา ‘‘ธมฺมํ ปจฺจกฺขามี’’ติ วเทยฺย ปจฺจกฺขาตาวสฺส สิกฺขา. ยถา วา ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติ วตฺตุกาโม วิรชฺฌิตฺวา ‘‘ทุติยํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติ วเทยฺย อาปนฺโนวสฺส ¶ ปาราชิกํ. เอวํสมฺปทมิทนฺติ อาห. ตํ ปเนตํ ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ, อนฺเตวาสึ วีมํสาเปตฺวา อตฺตนา ปจฺจาหรติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ อิมินา สเมติ, ตสฺมา สุภาสิตํ.
ยถา จ ‘‘มาตุรกฺขิตํ พฺรูหี’’ติ วุตฺตสฺส คนฺตฺวา ตสฺสา อาโรเจตุํ สมตฺถานํ มาตาทีนมฺปิ วทโต วิสงฺเกโต นตฺถิ, เอวเมว ‘‘โหหิ กิร อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา ธนกฺกีตา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘โหหิ กิร อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา ฉนฺทวาสินี’’ติ เอวํ ปาฬิยํ วุตฺเตสุ ฉนฺทวาสินิอาทีสุ วจเนสุ อฺตรวเสน วา อวุตฺเตสุปิ ‘‘โหหิ กิร อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา ชายา ปชาปติ ปุตฺตมาตา ฆรณี ฆรสามินี ภตฺตรนฺธิกา สุสฺสูสิกา ปริจาริกา’’ติเอวมาทีสุ สํวาสปริทีปเกสุ วจเนสุ อฺตรวเสน วา วทนฺตสฺสาปิ วิสงฺเกโต นตฺถิ ติวงฺคสมฺปตฺติยา อาปตฺติเยว. ‘‘มาตุรกฺขิตํ พฺรูหี’’ติ เปสิตสฺส ปน คนฺตฺวา อฺาสุ ปิตุรกฺขิตาทีสุ อฺตรํ วทนฺตสฺส วิสงฺเกตํ. เอส นโย ‘‘ปิตุรกฺขิตํ พฺรูหี’’ติอาทีสุปิ.
เกวลฺเหตฺถ ¶ เอกมูลกทุมูลกาทิวเสน ‘‘ปุริสสฺส มาตา ภิกฺขุํ ปหิณติ, มาตุรกฺขิตาย มาตา ภิกฺขุํ ปหิณตี’’ติ เอวมาทีนํ มูลฏฺานฺจ วเสน เปยฺยาลเภโทเยว วิเสโส ¶ . โสปิ ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตา ปาฬิอนุสาเรเนว สกฺกา ชานิตุนฺติ นาสฺส วิภาคํ ทสฺเสตุํ อาทรํ กริมฺห.
๓๓๘. ปฏิคฺคณฺหาตีติอาทีสุ ปน ทฺวีสุ จตุกฺเกสุ ปมจตุกฺเก อาทิปเทน ติวงฺคสมฺปตฺติยา สงฺฆาทิเสโส, มชฺเฌ ทฺวีหิ ทุวงฺคสมฺปตฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, อนฺเต เอเกน เอกงฺคสมฺปตฺติยา ทุกฺกฏํ. ทุติยจตุกฺเก อาทิปเทน ทุวงฺคสมฺปตฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, มชฺเฌ ทฺวีหิ เอกงฺคสมฺปตฺติยา ทุกฺกฏํ, อนฺเต เอเกน องฺคาภาวโต อนาปตฺติ. ตตฺถ ปฏิคฺคณฺหาตีติ อาณาปกสฺส สาสนํ ปฏิคฺคณฺหาติ. วีมํสตีติ ปหิตฏฺานํ คนฺตฺวา ตํ อาโรเจติ. ปจฺจาหรตีติ ปุน อาคนฺตฺวา มูลฏฺสฺส อาโรเจติ.
น ปจฺจาหรตีติ อาโรเจตฺวา เอตฺโตว ปกฺกมติ. ปฏิคฺคณฺหาติ น วีมํสตีติ ปุริเสน ‘‘อิตฺถนฺนามํ คนฺตฺวา พฺรูหี’’ติ วุจฺจมาโน ‘‘สาธู’’ติ ตสฺส สาสนํ ปฏิคฺคณฺหิตฺวา ตํ ปมุสฺสิตฺวา วา อปฺปมุสฺสิตฺวา วา ¶ อฺเน กรณีเยน ตสฺสา สนฺติกํ คนฺตฺวา กิฺจิเทว กถํ กเถนฺโต นิสีทติ, เอตฺตาวตา ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ น วีมํสติ นามา’’ติ วุจฺจติ. อถ นํ สา อิตฺถี สยเมว วทติ ‘‘ตุมฺหากํ กิร อุปฏฺาโก มํ เคเห กาตุกาโม’’ติ เอวํ วตฺวา จ ‘‘อหํ ตสฺส ภริยา ภวิสฺสามี’’ติ วา ‘‘น ภวิสฺสามี’’ติ วา วทติ. โส ตสฺสา วจนํ อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตุณฺหีภูโตว อุฏฺายาสนา ตสฺส ปุริสสฺส สนฺติกํ อาคนฺตฺวา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจติ, เอตฺตาวตา ‘‘น วีมํสติ ปจฺจาหรติ นามา’’ติ วุจฺจติ. น วีมํสติ น ปจฺจาหรตีติ เกวลํ สาสนาโรจนกาเล ปฏิคฺคณฺหาติเยว, อิตรํ ปน ทฺวยํ น กโรติ.
น ปฏิคฺคณฺหาติ วีมํสติ ปจฺจาหรตีติ โกจิ ปุริโส ภิกฺขุสฺส ิตฏฺาเน วา นิสินฺนฏฺาเน วา ตถารูปึ กถํ กเถติ, ภิกฺขุ เตน อปฺปหิโตปิ ปหิโต วิย หุตฺวา อิตฺถิยา สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘โหหิ กิร อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา’’ติอาทินา นเยน วีมํสิตฺวา ตสฺสา รุจึ วา อรุจึ วา ปุน อาคนฺตฺวา อิมสฺส อาโรเจติ. เตเนว นเยน วีมํสิตฺวา อปจฺจาหรนฺโต ¶ ‘‘น ปฏิคฺคณฺหาติ วีมํสติ น ปจฺจาหรตี’’ติ วุจฺจติ. เตเนว นเยน คโต อวีมํสิตฺวา ตาย สมุฏฺาปิตํ กถํ สุตฺวา ปมจตุกฺกสฺส ตติยปเท วุตฺตนเยน อาคนฺตฺวา อิมสฺส อาโรเจนฺโต ‘‘น ปฏิคฺคณฺหาติ น วีมํสติ ปจฺจาหรตี’’ติ วุจฺจติ. จตุตฺถปทํ ปากฏเมว.
สมฺพหุเล ภิกฺขู อาณาเปตีติอาทินยา ปากฏาเยว. ยถา ปน สมฺพหุลาปิ เอกวตฺถุมฺหิ อาปชฺชนฺติ, เอวํ เอกสฺสปิ สมฺพหุลวตฺถูสุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย เวทิตพฺพา. กถํ? ปุริโส ภิกฺขุํ ¶ อาณาเปติ ‘‘คจฺฉ, ภนฺเต, อสุกสฺมึ นาม ปาสาเท สฏฺิมตฺตา วา สตฺตติมตฺตา วา อิตฺถิโย ิตา ตา วเทหิ, โหถ กิร อิตฺถนฺนามสฺส ภริยาโย’’ติ. โส สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา อาโรเจตฺวา ปุน ตํ สาสนํ ปจฺจาหรติ. ยตฺตกา อิตฺถิโย ตตฺตกา อาปตฺติโย อาปชฺชติ. วุตฺตฺเหตํ ปริวาเรปิ –
‘‘ปทวีติหารมตฺเตน, วาจาย ภณิเตน จ;
สพฺพานิ ครุกานิ สปฺปฏิกมฺมานิ;
จตุสฏฺิ อาปตฺติโย อาปชฺเชยฺย เอกโต;
ปฺหาเมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๘๐);
อิมํ ¶ กิร อตฺถวสํ ปฏิจฺจ อยํ ปฺโห วุตฺโต. วจนสิลิฏฺตาย เจตฺถ ‘‘จตุสฏฺิ อาปตฺติโย’’ติ วุตฺตํ. เอวํ กโรนฺโต ปน สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ อาปชฺชตีติ. ยถา จ เอเกน เปสิตสฺส เอกสฺส สมฺพหุลาสุ อิตฺถีสุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย, เอวํ เอโก ปุริโส สมฺพหุเล ภิกฺขู เอกิสฺสา สนฺติกํ เปเสติ, สพฺเพสํ สงฺฆาทิเสโส. เอโก สมฺพหุเล ภิกฺขู สมฺพหุลานํ อิตฺถีนํ สนฺติกํ เปเสติ, อิตฺถิคณนาย สงฺฆาทิเสสา. สมฺพหุลา ปุริสา เอกํ ภิกฺขุํ เอกิสฺสา สนฺติกํ เปเสนฺติ, ปุริสคณนาย สงฺฆาทิเสสา. สมฺพหุลา เอกํ สมฺพหุลานํ อิตฺถีนํ สนฺติกํ เปเสนฺติ, วตฺถุคณนาย สงฺฆาทิเสสา. สมฺพหุลา สมฺพหุเล เอกิสฺสา สนฺติกํ เปเสนฺติ, วตฺถุคณนาย สงฺฆาทิเสสา. สมฺพหุลา ปุริสา สมฺพหุเล ภิกฺขู สมฺพหุลานํ อิตฺถีนํ สนฺติกํ เปเสนฺติ, วตฺถุคณนาย สงฺฆาทิเสสา. เอส นโย ‘‘เอกา อิตฺถี เอกํ ภิกฺขุ’’นฺติอาทีสุปิ. เอตฺถ จ สภาควิภาคตา นาม อปฺปมาณํ, มาตาปิตุนมฺปิ ปฺจสหธมฺมิกานมฺปิ สฺจริตฺตกมฺมํ กโรนฺตสฺส อาปตฺติเยว.
ปุริโส ¶ ภิกฺขุํ อาณาเปติ คจฺฉ ภนฺเตติ จตุกฺกํ องฺควเสน อาปตฺติเภท ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตสฺส ปจฺฉิมปเท อนฺเตวาสี วีมํสิตฺวา พหิทฺธา ปจฺจาหรตีติ อาคนฺตฺวา อาจริยสฺส อนาโรเจตฺวา เอตฺโตว คนฺตฺวา ตสฺส ปุริสสฺส อาโรเจติ. อาปตฺติ อุภินฺนํ ถุลฺลจฺจยสฺสาติ อาจริยสฺส ปฏิคฺคหิตตฺตา จ วีมํสาปิตตฺตา จ ทฺวีหงฺเคหิ ถุลฺลจฺจยํ, อนฺเตวาสิกสฺส วีมํสิตตฺตา จ ปจฺจาหฏตฺตา จ ทฺวีหงฺเคหิ ถุลฺลจฺจยํ. เสสํ ปากฏเมว.
๓๓๙. คจฺฉนฺโต สมฺปาเทตีติ ปฏิคฺคณฺหาติ เจว วีมํสติ จ. อาคจฺฉนฺโต วิสํวาเทตีติ น ปจฺจาหรติ. คจฺฉนฺโต วิสํวาเทตีติ น ปฏิคฺคณฺหาติ. อาคจฺฉนฺโต สมฺปาเทตีติ ¶ วีมํสติ เจว ปจฺจาหรติ จ. เอวํ อุภยตฺถ ทฺวีหงฺเคหิ ถุลฺลจฺจยํ. ตติยปเท อาปตฺติ, จตุตฺเถ อนาปตฺติ.
๓๔๐. อนาปตฺติ สงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา คิลานสฺส วา กรณีเยน คจฺฉติ อุมฺมตฺตกสฺส อาทิกมฺมิกสฺสาติ เอตฺถ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อุโปสถาคารํ วา กิฺจิ วา วิปฺปกตํ โหติ. ตตฺถ การุกานํ ¶ ภตฺตเวตนตฺถาย อุปาสโก วา อุปาสิกาย สนฺติกํ ภิกฺขุํ ปหิเณยฺย, อุํปาสิกา วา อุปาสกสฺส, เอวรูเปน สงฺฆสฺส กรณีเยน คจฺฉนฺตสฺส อนาปตฺติ. เจติยกมฺเม กยิรมาเนปิ เอเสว นโย. คิลานสฺส เภสชฺชตฺถายปิ อุปาสเกน วา อุปาสิกาย สนฺติกํ อุปาสิกาย วา อุปาสกสฺส สนฺติกํ ปหิตสฺส คจฺฉโต อนาปตฺติ. อุมฺมตฺตกอาทิกมฺมิกา วุตฺตนยา เอว.
ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมุฏฺานาทีสุ อิทํ สิกฺขาปทํ ฉสมุฏฺานํ, สีสุกฺขิปนาทินา กายวิกาเรน สาสนํ คเหตฺวา คนฺตฺวา หตฺถมุทฺทาย วีมํสิตฺวา ปุน อาคนฺตฺวา หตฺถมุทฺทาย เอว อาโรเจนฺตสฺส กายโต สมุฏฺาติ. อาสนสาลาย นิสินฺนสฺส ‘‘อิตฺถนฺนามา อาคมิสฺสติ, ตสฺสา จิตฺตํ ชาเนยฺยาถา’’ติ เกนจิ วุตฺเต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตํ อาคตํ วตฺวา ตสฺสา คตาย ปุน ตสฺมึ ปุริเส อาคเต อาโรเจนฺตสฺส วาจโต สมุฏฺาติ. วาจาย ‘‘สาธู’’ติ สาสนํ คเหตฺวา อฺเน กรณีเยน ตสฺสา ฆรํ คนฺตฺวา อฺตฺถ วา คมนกาเล ตํ ทิสฺวา วจีเภเทเนว วีมํสิตฺวา ปุน อฺเเนว ¶ กรณีเยน ตโต อปกฺกมฺม กทาจิเทว ตํ ปุริสํ ทิสฺวา อาโรเจนฺตสฺสาปิ วาจโตว สมุฏฺาติ. ปณฺณตฺตึ อชานนฺตสฺส ปน ขีณาสวสฺสาปิ กายวาจโต สมุฏฺาติ. กถํ? สเจ หิสฺส มาตาปิตโร กุชฺฌิตฺวา อลํวจนียา โหนฺติ, ตฺจ ภิกฺขุํ ฆรํ อุปคตํ เถรปิตา วทติ ‘‘มาตา เต ตาต มํ มหลฺลกํ ฉฑฺเฑตฺวา าติกุลํ คตา, คจฺฉ ตํ มํ อุปฏฺาตุํ เปเสหี’’ติ. โส เจ คนฺตฺวา ตํ วตฺวา ปุน ปิตุโน ตสฺสา อาคมนํ วา อนาคมนํ วา อาโรเจติ, สงฺฆาทิเสโส. อิมานิ ตีณิ อจิตฺตกสมุฏฺานานิ.
ปณฺณตฺตึ ปน ชานิตฺวา เอเตเหว ตีหิ นเยหิ สฺจริตฺตํ สมาปชฺชโต กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. อิมานิ ตีณิ ปณฺณตฺติชานนจิตฺเตน สจิตฺตกสมุฏฺานานิ. กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, กุสลาทิวเสน เจตฺถ ตีณิ จิตฺตานิ, สุขาทิวเสน ติสฺโส เวทนาติ.
๓๔๑. วินีตวตฺถูสุ ¶ อาทิโต วตฺถุปฺจเก ปฏิคฺคหิตมตฺตตฺตา ทุกฺกฏํ.
กลหวตฺถุสฺมึ สมฺโมทนียํ อกาสีติ ตํ สฺาเปตฺวา ¶ ปุน เคหคมนียํ
อกาสิ. นาลํวจนียาติ น ปริจฺจตฺตาติ อตฺโถ. ยา หิ ยถา ยถา เยสุ เยสุ ชนปเทสุ ปริจฺจตฺตา ปริจฺจตฺตาว โหติ, ภริยาภาวํ อติกฺกมติ, อยํ ‘‘อลํวจนียา’’ติ วุจฺจติ. เอสา ปน น อลํวจนียา เกนจิเทว การเณน กลหํ กตฺวา คตา, เตเนเวตฺถ ภควา ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อาห. ยสฺมา ปน กายสํสคฺเค ยกฺขิยา ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ, ตสฺมา ทุฏฺุลฺลาทีสุปิ ยกฺขิเปติโย ถุลฺลจฺจยวตฺถุเมวาติ เวทิตพฺพา. อฏฺกถาสุ ปเนตํ น วิจาริตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สฺจริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. กุฏิการสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๔๒. เตน สมเยนาติ กุฏิการสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อาฬวกาติ อาฬวิรฏฺเ ชาตา ทารกา อาฬวกา นาม, เต ปพฺพชิตกาเลปิ ‘‘อาฬวกา’’ตฺเวว ปฺายึสุ. เต สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อาฬวกา ภิกฺขู’’ติ. สฺาจิกาโยติ ¶ สยํ ยาจิตฺวา คหิตูปกรณาโย. การาเปนฺตีติ กโรนฺติปิ การาเปนฺติปิ, เต กิร สาสเน วิปสฺสนาธุรฺจ คนฺถธุรฺจาติ ทฺเวปิ ธุรานิ ฉฑฺเฑตฺวา นวกมฺมเมว ธุรํ กตฺวา ปคฺคณฺหึสุ. อสฺสามิกาโยติ อนิสฺสราโย, กาเรตา ทายเกน วิรหิตาโยติ อตฺโถ. อตฺตุทฺเทสิกาโยติ อตฺตานํ อุทฺทิสฺส อตฺตโน อตฺถาย อารทฺธาโยติ อตฺโถ. อปฺปมาณิกาโยติ ‘‘เอตฺตเกน นิฏฺํ คจฺฉิสฺสนฺตี’’ติ เอวํ อปริจฺฉินฺนปฺปมาณาโย, วุทฺธิปฺปมาณาโย วา มหนฺตปฺปมาณาโยติ อตฺโถ.
ยาจนา เอว พหุลา เอเตสํ มนฺทํ อฺํ กมฺมนฺติ ยาจนพหุลา. เอวํ วิฺตฺติพหุลา เวทิตพฺพา. อตฺถโต ปเนตฺถ นานากรณํ นตฺถิ, อเนกกฺขตฺตุํ ‘‘ปุริสํ เทถ, ปุริสตฺถกรํ เทถา’’ติ ยาจนฺตานเมตํ อธิวจนํ. ตตฺถ มูลจฺเฉชฺชาย ปุริสํ ยาจิตุํ น วฏฺฏติ, สหายตฺถาย กมฺมกรณตฺถาย ‘‘ปุริสํ เทถา’’ติ ยาจิตุํ วฏฺฏติ. ปุริสตฺถกรนฺติ ปุริเสน กาตพฺพํ หตฺถกมฺมํ วุจฺจติ, ตํ ยาจิตุํ วฏฺฏติ. หตฺถกมฺมํ นาม กิฺจิ วตฺถุ น โหติ, ตสฺมา ¶ เปตฺวา มิคลุทฺทกมจฺฉพนฺธกาทีนํ สกกมฺมํ อวเสสํ สพฺพํ กปฺปิยํ. ‘‘กึ, ภนฺเต, อาคตตฺถ เกน กมฺม’’นฺติ ปุจฺฉิเต วา อปุจฺฉิเต วา ยาจิตุํ วฏฺฏติ, วิฺตฺติปจฺจยา โทโส นตฺถิ. ตสฺมา มิคลุทฺทกาทโย สกกมฺมํ น ยาจิตพฺพา, ‘‘หตฺถกมฺมํ เทถา’’ติ อนิยเมตฺวาปิ น ยาจิตพฺพา; เอวํ ¶ ยาจิตา หิ เต ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ ภิกฺขู อุยฺโยเชตฺวา มิเคปิ มาเรตฺวา อาหเรยฺยุํ. นิยเมตฺวา ปน ‘‘วิหาเร กิฺจิ กตฺตพฺพํ อตฺถิ, ตตฺถ หตฺถกมฺมํ เทถา’’ติ ยาจิตพฺพา. ผาลนงฺคลาทีนิ อุปกรณานิ คเหตฺวา กสิตุํ วา วปิตุํ วา ลายิตุํ วา คจฺฉนฺตํ สกิจฺจปสุตมฺปิ กสฺสกํ วา อฺํ วา กิฺจิ หตฺถกมฺมํ ยาจิตุํ วฏฺฏเตว. โย ปน วิฆาสาโท วา อฺโ วา โกจิ นิกฺกมฺโม นิรตฺถกกถํ กเถนฺโต นิทฺทายนฺโต วา วิหรติ, เอวรูปํ อยาจิตฺวาปิ ‘‘เอหิ เร อิทํ วา อิทํ วา กโรหี’’ติ ยทิจฺฉกํ การาเปตุํ วฏฺฏติ.
หตฺถกมฺมสฺส ปน สพฺพกปฺปิยภาวทีปนตฺถํ อิมํ นยํ กเถนฺติ. สเจ หิ ภิกฺขุ ปาสาทํ กาเรตุกาโม โหติ, ถมฺภตฺถาย ปาสาณโกฏฺฏกานํ ฆรํ คนฺตฺวา วตฺตพฺพํ ‘‘หตฺถกมฺมํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ อุปาสกา’’ติ. กึ กาตพฺพํ, ภนฺเต,ติ? ปาสาณตฺถมฺภา อุทฺธริตฺวา ทาตพฺพาติ. สเจ เต อุทฺธริตฺวา ¶ วา เทนฺติ, อุทฺธริตฺวา นิกฺขิตฺเต อตฺตโน ถมฺเภ วา เทนฺติ, วฏฺฏติ. อถาปิ วทนฺติ – ‘‘อมฺหากํ, ภนฺเต, หตฺถกมฺมํ กาตุํ ขโณ นตฺถิ, อฺํ อุทฺธราเปถ, ตสฺส มูลํ ทสฺสามา’’ติ อุทฺธราเปตฺวา ‘‘ปาสาณตฺถมฺเภ อุทฺธฏมนุสฺสานํ มูลํ เทถา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอเตเนวุปาเยน ปาสาททารูนํ อตฺถาย วฑฺฒกีนํ สนฺติกํ อิฏฺกตฺถาย อิฏฺกวฑฺฒกีนํ ฉทนตฺถาย เคหจฺฉาทกานํ จิตฺตกมฺมตฺถาย จิตฺตการานนฺติ เยน เยน อตฺโถ โหติ, ตสฺส ตสฺส อตฺถาย เตสํ เตสํ สิปฺปการกานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา หตฺถกมฺมํ ยาจิตุํ วฏฺฏติ. หตฺถกมฺมยาจนวเสน จ มูลจฺเฉชฺชาย วา ภตฺตเวตนานุปฺปทาเนน วา ลทฺธมฺปิ สพฺพํ คเหตุํ วฏฺฏติ. อรฺโต อาหราเปนฺเตน จ สพฺพํ อนชฺฌาวุตฺถกํ อาหราเปตพฺพํ.
น เกวลฺจ ปาสาทํ กาเรตุกาเมน มฺจปีปตฺตปริสฺสาวนธมกรกจีวราทีนิ ¶ การาเปตุกาเมนาปิ ทารุโลหสุตฺตาทีนิ ลภิตฺวา เต เต สิปฺปการเก อุปสงฺกมิตฺวา วุตฺตนเยเนว หตฺถกมฺมํ ยาจิตพฺพํ. หตฺถกมฺมยาจนวเสน จ มูลจฺเฉชฺชาย วา ภตฺตเวตนานุปฺปทาเนน วา ลทฺธมฺปิ สพฺพํ คเหตพฺพํ. สเจ ปน กาตุํ น อิจฺฉนฺติ, ภตฺตเวตนํ ปจฺจาสีสนฺติ, อกปฺปิยกหาปณาทิ น ทาตพฺพํ. ภิกฺขาจารวตฺเตน ตณฺฑุลาทีนิ ปริเยสิตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ.
หตฺถกมฺมวเสน ปตฺตํ กาเรตฺวา ตเถว ปาเจตฺวา นวปกฺกสฺส ปตฺตสฺส ปฺุฉนเตลตฺถาย อนฺโตคามํ ปวิฏฺเน ‘‘ภิกฺขาย อาคโต’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ยาคุยา วา ภตฺเต วา อานีเต หตฺเถน ปตฺโต ปิธาตพฺโพ. สเจ อุปาสิกา ‘‘กึ, ภนฺเต’’ติ ปุจฺฉติ, ‘‘นวปกฺโก ปตฺโต ปฺุฉนเตเลน อตฺโถ’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ สา ‘‘เทหิ, ภนฺเต’’ติ ปตฺตํ คเหตฺวา เตเลน ปฺุฉิตฺวา ยาคุยา วา ภตฺตสฺส วา ปูเรตฺวา เทติ, วิฺตฺติ นาม น โหติ, คเหตุํ วฏฺฏตีติ.
ภิกฺขู ¶ ปเคว ปิณฺฑาย จริตฺวา อาสนสาลํ คนฺตฺวา อาสนํ อปสฺสนฺตา ติฏฺนฺติ. ตตฺร เจ อุปาสกา ภิกฺขู ิเต ทิสฺวา สยเมว อาสนานิ อาหราเปนฺติ, นิสีทิตฺวา คจฺฉนฺเตหิ อาปุจฺฉิตฺวา คนฺตพฺพํ. อนาปุจฺฉา คตานมฺปิ นฏฺํ คีวา น โหติ, อาปุจฺฉิตฺวา คมนํ ปน วตฺตํ. สเจ ภิกฺขูหิ ‘‘อาสนานิ อาหรถา’’ติ วุตฺเตหิ อาหฏานิ โหนฺติ, อาปุจฺฉิตฺวาว คนฺตพฺพํ. อนาปุจฺฉา คตานํ วตฺตเภโท จ นฏฺฺจ คีวาติ. อตฺถรณโกชวาทีสุปิ เอเสว นโย.
มกฺขิกาโย ¶ พหุกา โหนฺติ, ‘‘มกฺขิกาพีชนึ อาหรถา’’ติ วตฺตพฺพํ. ปุจิมนฺทสาขาทีนิ อาหรนฺติ, กปฺปิยํ การาเปตฺวา ปฏิคฺคเหตพฺพานิ. อาสนสาลาย อุทกภาชนํ ริตฺตํ โหติ, ‘‘ธมกรณํ คณฺหา’’ติ น วตฺตพฺพํ. ธมกรกฺหิ ริตฺตภาชเน ปกฺขิปนฺโต ภินฺเทยฺย ‘‘นทึ วา ตฬากํ วา คนฺตฺวา ปน อุทกํ อาหรา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘เคหโต อาหรา’’ติ เนว วตฺตุํ วฏฺฏติ, น อาหฏํ ¶ ปริภฺุชิตพฺพํ. อาสนสาลายํ วา อรฺเก วา ภตฺตกิจฺจํ กโรนฺเตหิ ตตฺถชาตกํ อนชฺฌาวุตฺถกํ ยํกิฺจิ อุตฺตริภงฺคารหํ ปตฺตํ วา ผลํ วา สเจ กิฺจิ กมฺมํ กโรนฺตํ อาหราเปติ, หตฺถกมฺมวเสน อาหราเปตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. อลชฺชีหิ ปน ภิกฺขูหิ วา สามเณเรหิ วา หตฺถกมฺมํ น กาเรตพฺพํ. อยํ ตาว ปุริสตฺถกเร นโย.
โคณํ ปน อฺาตกอปฺปวาริตฏฺานโต อาหราเปตุํ น วฏฺฏติ, อาหราเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. าติปวาริตฏฺานโตปิ มูลจฺเฉชฺชาย ยาจิตุํ น วฏฺฏติ, ตาวกาลิกนเยน สพฺพตฺถ วฏฺฏติ. เอวํ อาหราปิตฺจ โคณํ รกฺขิตฺวา ชคฺคิตฺวา สามิกา ปฏิจฺฉาเปตพฺพา. สจสฺส ปาโท วา สิงฺคํ วา ภิชฺชติ วา นสฺสติ วา สามิกา เจ สมฺปฏิจฺฉนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ สมฺปฏิจฺฉนฺติ, คีวา โหติ. สเจ ‘‘ตุมฺหากํเยว เทมา’’ติ วทนฺติ น สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. ‘‘วิหารสฺส เทมา’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘อารามิกานํ อาจิกฺขถ ชคฺคนตฺถายา’’ติ วตฺตพฺพํ.
‘‘สกฏํ เทถา’’ติปิ อฺาตกอปฺปวาริเต วตฺตุํ น วฏฺฏติ, วิฺตฺติเอว โหติ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. าติปวาริตฏฺาเน ปน วฏฺฏติ, ตาวกาลิกํ วฏฺฏติ กมฺมํ กตฺวา ปุน ทาตพฺพํ. สเจ เนมิยาทีนิ ภิชฺชนฺติ ปากติกานิ กตฺวา ทาตพฺพํ. นฏฺเ คีวา โหติ. ‘‘ตุมฺหากเมว เทมา’’ติ วุตฺเต ทารุภณฺฑํ นาม สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. เอส นโย วาสิผรสุกุารีกุทาลนิขาทเนสุ. วลฺลิอาทีสุ จ ปรปริคฺคหิเตสุ. ครุภณฺฑปฺปโหนเกสุเยว จ วลฺลิอาทีสุ วิฺตฺติ โหติ, น ตโต โอรํ.
อนชฺฌาวุตฺถกํ ¶ ปน ยํกิฺจิ อาหราเปตุํ วฏฺฏติ. รกฺขิตโคปิตฏฺาเนเยว หิ วิฺตฺติ นาม วุจฺจติ. สา ทฺวีสุ ปจฺจเยสุ สพฺเพน สพฺพํ น วฏฺฏติ, เสนาสนปจฺจเย ปน ‘‘อาหร เทหี’’ติ วิฺตฺติมตฺตเมว น วฏฺฏติ ¶ , ปริกโถภาสนิมิตฺตกมฺมานิ วฏฺฏนฺติ. ตตฺถ อุโปสถาคารํ วา โภชนสาลํ วา อฺํ วา ยํกิฺจิ เสนาสนํ อิจฺฉโต ‘‘อิมสฺมึ วต โอกาเส เอวรูปํ เสนาสนํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วา ‘‘ยุตฺต’’นฺติ วา ‘‘อนุรูป’’นฺติ วาติอาทินา ¶ นเยน วจนํ ปริกถา นาม. ‘‘อุปาสกา ตุมฺเห กุหึ วสถา’’ติ? ‘‘ปาสาเท, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ภิกฺขูนํ ปน อุปาสกา ปาสาโท น วฏฺฏตี’’ติ เอวมาทิวจนํ โอภาโส นาม. มนุสฺเส ทิสฺวา รชฺชุํ ปสาเรติ, ขีเล อาโกฏาเปติ. ‘‘กึ อิทํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘อิธ อาวาสํ กริสฺสามา’’ติ เอวมาทิกรณํ ปน นิมิตฺตกมฺมํ นาม. คิลานปจฺจเย ปน วิฺตฺติปิ วฏฺฏติ, ปเคว ปริกถาทีนิ.
มนุสฺสา อุปทฺทุตา ยาจนาย อุปทฺทุตา วิฺตฺติยาติ เตสํ ภิกฺขูนํ ตาย ยาจนาย จ วิฺตฺติยา จ ปีฬิตา. อุพฺพิชฺชนฺติปีติ ‘‘กึ นุ อาหราเปสฺสนฺตี’’ติ อุพฺเพคํ อิฺชนํ จลนํ ปฏิลภนฺติ. อุตฺตสนฺติปีติ อหึ วิย ทิสฺวา สหสา ตสิตฺวา อุกฺกมนฺติ. ปลายนฺติปีติ ทูรโตว เยน วา เตน วา ปลายนฺติ. อฺเนปิ คจฺฉนฺตีติ ยํ มคฺคํ ปฏิปนฺนา ตํ ปหาย นิวตฺติตฺวา วามํ วา ทกฺขิณํ วา คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, ทฺวารมฺปิ ถเกนฺติ.
๓๔๔. ภูตปุพฺพํ ภิกฺขเวติ อิติ ภควา เต ภิกฺขู ครหิตฺวา ตทนุรูปฺจ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ปุนปิ วิฺตฺติยา โทสํ ปากฏํ กุรุมาโน อิมินา ‘‘ภูตปุพฺพํ ภิกฺขเว’’ติอาทินา นเยน ตีณิ วตฺถูนิ ทสฺเสสิ. ตตฺถ มณิกณฺโติ โส กิร นาคราชา สพฺพกามททํ มหคฺฆํ มณึ กณฺเ ปิลนฺธิตฺวา จรติ, ตสฺมา ‘‘มณิกณฺโ’’ ตฺเวว ปฺายิตฺถ. อุปริมุทฺธนิ มหนฺตํ ผณํ กริตฺวา อฏฺาสีติ โส กิร เตสํ ทฺวินฺนํ อิสีนํ กนิฏฺโ อิสิ เมตฺตาวิหารี อโหสิ, ตสฺมา นาคราชา นทิโต อุตฺตริตฺวา เทววณฺณํ นิมฺมินิตฺวา ตสฺส สนฺติเก นิสีทิตฺวา สมฺโมทนียํ กถํ กตฺวา ตํ เทววณฺณํ ปหาย สกวณฺณเมว อุปคนฺตฺวา ตํ อิสึ ปริกฺขิปิตฺวา ปสนฺนาการํ กโรนฺโต อุปริมุทฺธนิ มหนฺตํ ผณํ กริตฺวา ฉตฺตํ วิย ธารยมาโน มุหุตฺตํ ตฺวา ปกฺกมติ, เตน วุตฺตํ ‘‘อุปริมุทฺธนิ มหนฺตํ ผณํ กริตฺวา อฏฺาสี’’ติ. มณิมสฺส กณฺเ ปิลนฺธนนฺติ มณึ อสฺส กณฺเ ปิลนฺธิตํ, อามุกฺกนฺติ อตฺโถ. เอกมนฺตํ อฏฺาสีติ เตน เทววณฺเณน อาคนฺตฺวา ตาปเสน สทฺธึ สมฺโมทมาโน เอกสฺมึ ปเทเส อฏฺาสิ.
มมนฺนปานนฺติ ¶ มม อนฺนฺจ ปานฺจ. วิปุลนฺติ พหุลํ. อุฬารนฺติ ปณีตํ ¶ . อติยาจโกสีติ ¶ อติวิย ยาจโก, อสิ ปุนปฺปุนํ ยาจสีติ วุตฺตํ โหติ. สุสูติ ตรุโณ, ถามสมฺปนฺโน โยพฺพนปฺปตฺตปุริโส. สกฺขรา วุจฺจติ กาฬสิลา, ตตฺถ โธโต อสิ ‘‘สกฺขรโธโต นามา’’ติ วุจฺจติ, สกฺขรโธโต ปาณิมฺหิ อสฺสาติ สกฺขรโธตปาณิ, ปาสาเณ โธตนิสิตขคฺคหตฺโถติ อตฺโถ. ยถา โส อสิหตฺโถ ปุริโส ตาเสยฺย, เอวํ ตาเสสิ มํ เสลํ ยาจมาโน, มณึ ยาจนฺโตติ อตฺโถ.
น ตํ ยาเจติ ตํ น ยาเจยฺย. กตรํ? ยสฺส ปิยํ ชิคีเสติ ยํ อสฺส สตฺตสฺส ปิยนฺติ ชาเนยฺย.
กิมงฺคํ ปน มนุสฺสภูตานนฺติ มนุสฺสภูตานํ อมนาปาติ กิเมเวตฺถ วตฺตพฺพํ.
๓๔๕. สกุณสงฺฆสฺส สทฺเทน อุพฺพาฬฺโหติ โส กิร สกุณสงฺโฆ ปมยามฺจ ปจฺฉิมยามฺจ นิรนฺตรํ สทฺทเมว กโรติ, โส ภิกฺขุ เตน สทฺเทน ปีฬิโต หุตฺวา ภควโต สนฺติกํ อคมาสิ. เตนาห – ‘‘เยนาหํ เตนุปสงฺกมี’’ติ.
กุโต จ ตฺวํ ภิกฺขุ อาคจฺฉสีติ เอตฺถ นิสินฺโน โส ภิกฺขุ น อาคจฺฉติ วตฺตมานสมีเป ปน เอวํ วตฺตุํ ลพฺภติ. เตนาห – ‘‘กุโต จ ตฺวํ ภิกฺขุ อาคจฺฉสี’’ติ, กุโต อาคโตสีติ อตฺโถ. ตโต อหํ ภควา อาคจฺฉามีติ เอตฺถาปิ โส เอว นโย. อุพฺพาฬฺโหติ ปีฬิโต, อุกฺกณฺาปิโต หุตฺวาติ อตฺโถ.
โส สกุณสงฺโฆ ‘‘ภิกฺขุ ปตฺตํ ยาจตี’’ติ เอตฺถ น เต สกุณา ภิกฺขุโน วจนํ ชานนฺติ, ภควา ปน อตฺตโน อานุภาเวน ยถา ชานนฺติ ตถา อกาสิ.
๓๔๖. อปาหํ เต น ชานามีติ อปิ อหํ เต ชเน ‘‘เก วา อิเม, กสฺส วา อิเม’’ติ น ชานามิ. สงฺคมฺม ยาจนฺตีติ สมาคนฺตฺวา วคฺควคฺคา หุตฺวา ยาจนฺติ. ยาจโก อปฺปิโย โหตีติ โย ยาจติ โส อปฺปิโย โหติ. ยาจํ อททมปฺปิโยติ ยาจนฺติ ยาจิตํ วุจฺจติ, ยาจิตมตฺถํ อททนฺโตปิ อปฺปิโย โหติ. อถ วา ยาจนฺติ ยาจนฺตสฺส, อททมปฺปิโยติ ¶ อเทนฺโต อปฺปิโย โหติ. มา เม วิเทสฺสนา อหูติ มา เม อปฺปิยภาโว อหุ, อหํ วา ตว, ตฺวํ วา มม วิเทสฺโส อปฺปิโย มา อโหสีติ อตฺโถ.
๓๔๗. ทุสฺสํหรานีติ ¶ กสิโครกฺขาทีหิ อุปาเยหิ ทุกฺเขน สํหรณียานิ.
๓๔๘-๙. สฺาจิกาย ปน ภิกฺขุนาติ เอตฺถ สฺาจิกา นาม สยํ ปวตฺติตยาจนา วุจฺจติ, ตสฺมา ‘‘สฺาจิกายา’’ติ อตฺตโน ¶ ยาจนายาติ วุตฺตํ โหติ, สยํ ยาจิตเกหิ อุปกรเณหีติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน สา สยํยาจิตเกหิ กยิรมานา สยํ ยาจิตฺวา กยิรมานา โหติ, ตสฺมา ตํ อตฺถปริยายํ ทสฺเสตุํ ‘‘สยํ ยาจิตฺวา ปุริสมฺปี’’ติ เอวมสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ.
อุลฺลิตฺตาติ อนฺโตลิตฺตา. อวลิตฺตาติ พหิลิตฺตา. อุลฺลิตฺตาวลิตฺตาติ อนฺตรพาหิรลิตฺตาติ วุตฺตํ โหติ.
การยมาเนนาติ อิมสฺส ปทภาชเน ‘‘การาเปนฺเตนา’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ สิยา, เอวฺหิ พฺยฺชนํ สเมติ. ยสฺมา ปน สฺาจิกาย กุฏึ กโรนฺเตนาปิ อิธ วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ, ตสฺมา กโรนฺโต วา โหตุ การาเปนฺโต วา อุโภเปเต ‘‘การยมาเนนา’’ติ อิมินาว ปเทน สงฺคหิตาติ เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘กโรนฺโต วา การาเปนฺโต วา’’ติ วุตฺตํ. ยทิ ปน กโรนฺเตน วา การาเปนฺเตน วาติ วเทยฺย, พฺยฺชนํ วิโลมิตํ ภเวยฺย, น หิ การาเปนฺโต กโรนฺโต นาม โหติ, ตสฺมา อตฺถมตฺตเมเวตฺถ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อตฺตุทฺเทสนฺติ ‘‘มยฺหํ เอสา’’ติ เอวํ อตฺตา อุทฺเทโส อสฺสาติ อตฺตุทฺเทสา, ตํ อตฺตุทฺเทสํ. ยสฺมา ปน ยสฺสา อตฺตา อุทฺเทโส สา อตฺตโน อตฺถาย โหติ, ตสฺมา อตฺถปริยายํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺตุทฺเทสนฺติ อตฺตโน อตฺถายา’’ติ อาห. ปมาณิกา กาเรตพฺพาติ ปมาณยุตฺตา กาเรตพฺพา. ตตฺริทํ ปมาณนฺติ ตสฺสา กุฏิยา อิทํ ปมาณํ. สุคตวิทตฺถิยาติ สุคตวิทตฺถิ นาม อิทานิ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ติสฺโส ¶ วิทตฺถิโย วฑฺฒกีหตฺเถน ทิยฑฺโฒ หตฺโถ โหติ. พาหิริเมน มาเนนาติ กุฏิยา พหิกุฏฺฏมาเนน ทฺวาทส วิทตฺถิโย, มินนฺเตน ปน สพฺพปมํ ทินฺโน มหามตฺติกปริยนฺโต น คเหตพฺโพ. ถุสปิณฺฑปริยนฺเตน มินิตพฺพํ. ถุสปิณฺฑสฺสอุปริ เสตกมฺมํ อพฺโพหาริกํ. สเจ ถุสปิณฺเฑน อนตฺถิโก มหามตฺติกาย เอว นิฏฺาเปติ, มหามตฺติกาว ปริจฺเฉโท.
ติริยนฺติ วิตฺถารโต. สตฺตาติ สตฺต สุคตวิทตฺถิโย. อนฺตราติ อิมสฺส ปน อยํ นิทฺเทโส ¶ , ‘‘อพฺภนฺตริเมน มาเนนา’’ติ, กุฏฺฏสฺส พหิ อนฺตํ อคฺคเหตฺวา อพฺภนฺตริเมน อนฺเตน มินิยมาเน ติริยํ สตฺต ¶ สุคตวิทตฺถิโย ปมาณนฺติ วุตฺตํ โหติ.
โย ปน เลสํ โอฑฺเฑนฺโต ยถาวุตฺตปฺปมาณเมว กริสฺสามีติ ทีฆโต เอกาทส วิทตฺถิโย ติริยํ อฏฺ วิทตฺถิโย, ทีฆโต วา เตรส วิทตฺถิโย ติริยํ ฉ วิทตฺถิโย กเรยฺย, น วฏฺฏติ. เอกโตภาเคน อติกฺกนฺตมฺปิ หิ ปมาณํ อติกฺกนฺตเมว โหติ. ติฏฺตุ วิทตฺถิ, เกสคฺคมตฺตมฺปิ ทีฆโต วา หาเปตฺวา ติริยํ ติริยโต วา หาเปตฺวา ทีฆํ วฑฺเฒตุํ น วฏฺฏติ, โก ปน วาโท อุภโต วฑฺฒเน? วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อายามโต วา วิตฺถารโต วา อนฺตมโส เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกมิตฺวา กโรติ วา การาเปติ วา ปโยเค ทุกฺกฏ’’นฺติอาทิ (ปารา. ๓๕๓). ยถาวุตฺตปฺปมาณา เอว ปน วฏฺฏติ. ยา ปน ทีฆโต สฏฺิหตฺถาปิ โหติ ติริยํ ติหตฺถา วา อูนกจตุหตฺถา วา ยตฺถ ปมาณยุตฺโต มฺโจ อิโต จิโต จ น ปริวตฺตติ, อยํ กุฏีติ สงฺขฺยํ น คจฺฉติ, ตสฺมา อยมฺปิ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน ปจฺฉิมโกฏิยา จตุหตฺถวิตฺถารา วุตฺตา, ตโต เหฏฺา อกุฏิ. ปมาณิกาปิ ปน อเทสิตวตฺถุกา วา สารมฺภา วา อปริกฺกมนา วา น วฏฺฏติ. ปมาณิกา เทสิตวตฺถุกา อนารมฺภา สปริกฺกมนาว วฏฺฏติ. ปมาณโต อูนตรมฺปิ จตุหตฺถํ ปฺจหตฺถมฺปิ กโรนฺเตน เทสิตวตฺถุกาว กาเรตพฺพา. ปมาณาติกฺกนฺตฺจ ปน กโรนฺโต เลปปริโยสาเน ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ.
ตตฺถ เลโป จ อเลโป จ เลโปกาโส จ อเลโปกาโส จ เวทิตพฺโพ. เสยฺยถิทํ – เลโปติ ทฺเว เลปา – มตฺติกาเลโป จ สุธาเลโป จ. เปตฺวา ปน อิเม ทฺเว เลเป อวเสโส ภสฺมโคมยาทิเภโท เลโป, อเลโป. สเจปิ กลลเลโป โหติ, อลโป เอว. เลโปกาโสติ ภิตฺติโย เจว ฉทนฺจ, เปตฺวา ¶ ปน ภิตฺติจฺฉทเน อวเสโส ถมฺภตุลาปิฏฺสงฺฆาฏวาตปานธูมจฺฉิทฺทาทิ อเลปารโห โอกาโส สพฺโพปิ อเลโปกาโสติ เวทิตพฺโพ.
ภิกฺขู อภิเนตพฺพา วตฺถุเทสนายาติ ยสฺมึ าเน กุฏึ กาเรตุกาโม โหติ, ตตฺถ วตฺถุเทสนตฺถาย ภิกฺขู เนตพฺพา. เตน กุฏิการเกนาติอาทิ ปน เยน วิธินา เต ภิกฺขู อภิเนตพฺพา, ตสฺส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ กุฏิวตฺถุํ โสเธตฺวาติ น วิสมํ อรฺํ ภิกฺขู คเหตฺวา คนฺตพฺพํ ¶ , กุฏิวตฺถุํ ปน ปมเมว โสเธตฺวา สมตลํ สีมมณฺฑลสทิสํ กตฺวา ปจฺฉา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา ยาจิตฺวา เนตพฺพาติ ทสฺเสติ. เอวมสฺส วจนีโยติ สงฺโฆ เอวํ วตฺตพฺโพ อสฺส. ปรโต ปน ‘‘ทุติยมฺปิ ยาจิตพฺพา’’ติ ภิกฺขู สนฺธาย พหุวจนํ วุตฺตํ. โน เจ สพฺโพ สงฺโฆ อุสฺสหตีติ สเจ สพฺโพ สงฺโฆ น อิจฺฉติ, สชฺฌายมนสิการาทีสุ อุยฺยุตฺตา เต เต ¶ ภิกฺขู โหนฺติ. สารมฺภํ อนารมฺภนฺติ สอุปทฺทวํ อนุปทฺทวํ. สปริกฺกมนํ อปริกฺกมนนฺติ สอุปจารํ อนุปจารํ.
ปตฺตกลฺลนฺติ ปตฺโต กาโล อิมสฺส โอโลกนสฺสาติ ปตฺตกาลํ, ปตฺตกาลเมว ปตฺตกลฺลํ. อิทฺจ วตฺถุํโอโลกนตฺถาย สมฺมุติกมฺมํ อนุสาวนานเยน โอโลเกตฺวาปิ กาตุํ วฏฺฏติ. ปรโต ปน วตฺถุเทสนากมฺมํ ยถาวุตฺตาย เอว ตฺติยา จ อนุสาวนาย จ กาตพฺพํ, โอโลเกตฺวา กาตุํ น วฏฺฏติ.
๓๕๓. กิปิลฺลิกานนฺติ รตฺตกาฬปิงฺคลาทิเภทานํ ยาสํ กาสฺจิ กิปิลฺลิกานํ. กิปีลฺลกานนฺติปิ ปาโ. อาสโยติ นิพทฺธวสนฏฺานํ, ยถา จ กิปิลฺลิกานํ เอวํ อุปจิกาทีนมฺปิ นิพทฺธวสนฏฺานํเยว อาสโย เวทิตพฺโพ. ยตฺถ ปน เต โคจรตฺถาย อาคนฺตฺวา คจฺฉนฺติ, สพฺเพสมฺปิ ตาทิโส สฺจรณปฺปเทโส อวาริโต, ตสฺมา ตตฺถ อปเนตฺวา โสเธตฺวา กาตุํ วฏฺฏติ. อิมานิ ตาว ฉ านานิสตฺตานุทฺทยาย ปฏิกฺขิตฺตานิ.
หตฺถีนํ วาติ หตฺถีนํ ปน นิพทฺธวสนฏฺานมฺปิ นิพทฺธโคจรฏฺานมฺปิ น วฏฺฏติ, สีหาทีนํ อาสโย จ โคจราย ปกฺกมนฺตานํ นิพทฺธคมนมคฺโค จ น วฏฺฏติ. เอเตสํ โคจรภูมิ น คหิตา. เยสํ เกสฺจีติ อฺเสมฺปิ วาฬานํ ติรจฺฉานคตานํ ¶ . อิมานิ สตฺต านานิ สปฺปฏิภยานิ ภิกฺขูนํ อาโรคฺยตฺถาย ปฏิกฺขิตฺตานิ. เสสานิ นานาอุปทฺทเวหิ สอุปทฺทวานิ. ตตฺถ ปุพฺพณฺณนิสฺสิตนฺติ ปุพฺพณฺณํ นิสฺสิตํ สตฺตนฺนํ ¶ ธฺานํ วิรุหนกเขตฺตสามนฺตา ิตํ. เอเสว นโย อปรณฺณนิสฺสิตาทีสุปิ. เอตฺถ ปน อพฺภาฆาตนฺติ การณาฆรํ เวริฆรํ, โจรานํ มารณตฺถาย กตนฺติ กุรุนฺทิอาทีสุ.
อาฆาตนนฺติ ธมฺมคนฺธิกา วุจฺจติ. สุสานนฺติ มหาสุสานํ. สํสรณนฺติ อนิพฺพิชฺฌคมนีโย คตปจฺจาคตมคฺโค วุจฺจติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
น สกฺกา โหติ ยถายุตฺเตน สกเฏนาติ ทฺวีหิ พลิพทฺเทหิ ยุตฺเตน สกเฏน เอกํ จกฺกํ นิพฺโพทกปตนฏฺาเน เอกํ พหิ กตฺวา อาวิชฺชิตุํ น สกฺกา โหติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘จตูหิ ยุตฺเตนา’’ติ วุตฺตํ. สมนฺตา นิสฺเสณิยา อนุปริคนฺตุนฺติ นิสฺเสณิยํ ตฺวา เคหํ ฉาเทนฺเตหิ น สกฺกา โหติ สมนฺตา นิสฺเสณิยา อาวิชฺชิตุํ. อิติ เอวรูเป สารมฺเภ จ อปริกฺกมเน จ าเน ¶ น กาเรตพฺพา. อนารมฺเภ ปน สปริกฺกมเน กาเรตพฺพา, ตํ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน ปาฬิยํ อาคตเมว.
ปุน สฺาจิกา นามาติ เอวมาทิ ‘‘สารมฺเภ เจ ภิกฺขุ วตฺถุสฺมึ อปริกฺกมเน สฺาจิกาย กุฏึ กาเรยฺยา’’ติ เอวํ วุตฺตสํยาจิกาทีนํ อตฺถปฺปกาสนตฺถํ วุตฺตํ.
ปโยเค ทุกฺกฏนฺติ เอวํ อเทสิตวตฺถุกํ วา ปมาณาติกฺกนฺตํ วา กุฏึ กาเรสฺสามีติ อรฺโต รุกฺขา หรณตฺถาย วาสึ วา ผรสุํ วา นิเสติ ทุกฺกฏํ, อรฺํ ปวิสติ ทุกฺกฏํ, ตตฺถ อลฺลติณานิ ฉินฺทติ ทุกฺกเฏน สทฺธึ ปาจิตฺติยํ, สุกฺขานิ ฉินฺทติ ทุกฺกฏํ. รุกฺเขสุปิ เอเสว นโย. ภูมึ โสเธติ ขณติ, ปํสุํ อุทฺธรติ, จินาติ; เอวํ ยาว ปาจีรํ พนฺธติ ตาว ปุพฺพปโยโค นาม โหติ. ตสฺมึ ปุพฺพปโยเค สพฺพตฺถ ปาจิตฺติยฏฺาเน ทุกฺกเฏน สทฺธึ ปาจิตฺติยํ, ทุกฺกฏฏฺาเน ทุกฺกฏํ, ตโต ปฏฺาย สหปโยโค นาม. ตตฺถ ถมฺเภหิ กาตพฺพาย ถมฺภํ อุสฺสาเปติ, ทุกฺกฏํ. อิฏฺกาหิ จินิตพฺพาย ¶ อิฏฺกํ อาจินาติ, ทุกฺกฏํ. เอวํ ยํ ยํ อุปกรณํ โยเชติ, สพฺพตฺถ ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. ตจฺฉนฺตสฺส หตฺถวาเร หตฺถวาเร ตทตฺถาย คจฺฉนฺตสฺส ปเท ปเท ทุกฺกฏํ. เอวํ กตํ ปน ทารุกุฏฺฏิกํ วา อิฏฺกกุฏฺฏิกํ วา สิลากุฏฺฏิกํ วา อนฺตมโส ปณฺณสาลมฺปิ สภิตฺติจฺฉทนํ ลิมฺปิสฺสามีติ ¶ สุธาย วา มตฺติกาย วา ลิมฺปนฺตสฺส ปโยเค ปโยเค ยาว ถุลฺลจฺจยํ น โหติ, ตาว ทุกฺกฏํ. เอตํ ปน ทุกฺกฏํ มหาเลเปเนว วฏฺฏติ, เสตรตฺตวณฺณกรเณ วา จิตฺตกมฺเม วา อนาปตฺติ.
เอกํ ปิณฺฑํ อนาคเตติ โย สพฺพปจฺฉิโม เอโก เลปปิณฺโฑ, ตํ เอกํ ปิณฺฑํ อสมฺปตฺเต กุฏิกมฺเม. อิทํ วุตฺตํ โหติ, อิทานิ ทฺวีหิ ปิณฺเฑหิ นิฏฺานํ คมิสฺสตีติ เตสุ ปมปิณฺฑทาเน ถุลฺลจฺจยนฺติ.
ตสฺมึ ปิณฺเฑ อาคเตติ ยํ เอกํ ปิณฺฑํ อนาคเต กุฏิกมฺเม ถุลฺลจฺจยํ โหติ, ตสฺมึ อวสานปิณฺเฑ อาคเต ทินฺเน ปิเต เลปสฺส ฆฏิตตฺตา อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส. เอวํ เลมฺปนฺตสฺส จ อนฺโตเลเป วา อนฺโตเลเปน สทฺธึ ภิตฺติฺจ ฉทนฺจ เอกาพทฺธํ กตฺวา ฆฏิเต พหิเลเป วา พหิเลเปน สทฺธึ ฆฏิเต สงฺฆาทิเสโส. สเจ ปน ทฺวารพทฺธํ วา วาตปานํ วา อฏฺเปตฺวาว มตฺติกาย ลิมฺปติ, ตสฺมิฺจ ตสฺโสกาสํ ปุน วฑฺเฒตฺวา วา อวฑฺเฒตฺวา วา ปิเต เลโป น ฆฏียติ รกฺขติ ตาว, ปุน ลิมฺปนฺตสฺส ปน ฆฏิตมตฺเต สงฺฆาทิเสโส. สเจ ตํ ปิยมานํ ¶ ปมํ ทินฺนเลเปน สทฺธึ นิรนฺตรเมว หุตฺวา ติฏฺติ, ปมเมว สงฺฆาทิเสโส. อุปจิกาโมจนตฺถํ อฏฺงฺคุลมตฺเตน อปฺปตฺตจฺฉทนํ กตฺวา ภิตฺตึ ลิมฺปติ, อนาปตฺติ. อุปจิกาโมจนตฺถเมว เหฏฺา ปาสาณกุฏฺฏํ กตฺวา ตํ อลิมฺปิตฺวา อุปริ ลิมฺปติ, เลโป น ฆฏิยติ นาม, อนาปตฺติเยว.
อิฏฺกกุฏฺฏิกาย อิฏฺกาหิเยว วาตปาเน ¶ จ ธูมเนตฺตานิ จ กโรติ, เลปฆฏเนเนว อาปตฺติ. ปณฺณสาลํ ลิมฺปติ, เลปฆฏเนเนว อาปตฺติ. ตตฺถ อาโลกตฺถาย อฏฺงฺคุลมตฺตํ เปตฺวา ลิมฺปติ, เลโป น ฆฏียติ นาม, อนาปตฺติเยว. สเจ ‘‘วาตปานํ ลทฺธา เอตฺถ เปสฺสามี’’ติ กโรติ, วาตปาเน ปิเต เลปฆฏเนน อาปตฺติ. สเจ มตฺติกาย กุฏฺฏํ กโรติ, ฉทนเลเปน สทฺธึ ฆฏเน อาปตฺติ. เอโก เอกปิณฺฑาวเสสํ กตฺวา เปติ, อฺโ ตํ ทิสฺวา ‘‘ทุกฺกตํ อิท’’นฺติ วตฺตสีเสน ลิมฺปติ อุภินฺนมฺปิ อนาปตฺติ.
๓๕๔. ภิกฺขุ กุฏึ กโรตีติ เอวมาทีนิ ฉตฺตึส จตุกฺกานิ อาปตฺติเภททสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ, ตตฺถ สารมฺภาย ทุกฺกฏํ, อปริกฺกมนาย ทุกฺกฏํ ¶ , ปมาณาติกฺกนฺตาย สงฺฆาทิเสโส, อเทสิตวตฺถุกาย สงฺฆาทิเสโส, เอเตสํ วเสน โวมิสฺสกาปตฺติโย เวทิตพฺพา.
๓๕๕. อาปตฺติ ทฺวินฺนํ สงฺฆาทิเสเสน ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏานนฺติอาทีสุ จ ทฺวีหิ สงฺฆาทิเสเสหิ สทฺธึ ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏานนฺติอาทินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๓๖๑. โส เจ วิปฺปกเต อาคจฺฉตีติอาทีสุ ปน อยํ อตฺถวินิจฺฉโย. โสติ สมาทิสิตฺวา ปกฺกนฺตภิกฺขุ. วิปฺปกเตติ อนิฏฺิเต กุฏิกมฺเม. อฺสฺส วา ทาตพฺพาติ อฺสฺส ปุคฺคลสฺส วา สงฺฆสฺส วา จชิตฺวา ทาตพฺพา. ภินฺทิตฺวา วา ปุน กาตพฺพาติ กิตฺตเกน ภินฺนา โหติ, สเจ ถมฺภา ภูมิยํ นิขาตา, อุทฺธริตพฺพา. สเจ ปาสาณานํ อุปริ ปิตา, อปเนตพฺพา. อิฏฺกจิตาย ยาว มงฺคลิฏฺกา ตาว กุฏฺฏา อปจินิตพฺพา. สงฺเขปโต ภูมิสมํ กตฺวา วินาสิตา ภินฺนา โหติ, ภูมิโต อุปริ จตุรงฺคุลมตฺเตปิ ิเต อภินฺนาว. เสสํ สพฺพจตุกฺเกสุ ปากฏเมว. น เหตฺถ อฺํ กิฺจิ อตฺถิ, ยํ ปาฬิอนุสาเรเนว ทุพฺพิฺเยฺยํ สิยา.
๓๖๓. อตฺตนา วิปฺปกตนฺติอาทีสุ ปน อตฺตนา อารทฺธํ กุฏึ. อตฺตนา ปริโยสาเปตีติ ¶ มหามตฺติกาย วา ถุสมตฺติกาย วา ยาย กตํ ปริโยสิตภาวํ ปาเปตุกาโม โหติ, ตาย อวสานปิณฺฑํ เทนฺโต ปริโยสาเปติ ¶ .
ปเรหิ ปริโยสาเปตีติ อตฺตโนว อตฺถาย ปเรหิ ปริโยสาเปติ. อตฺตนา วา หิ วิปฺปกตา โหตุ ปเรหิ วา อุภเยหิ วา, ตํ เจ อตฺตโน อตฺถาย อตฺตนา วา ปริโยสาเปติ, ปเรหิ วา ปริโยสาเปติ, อตฺตนา จ ปเรหิ จาติ ยุคนทฺธํ วา ปริโยสาเปติ, สงฺฆาทิเสโสเยวาติ อยเมตฺถ วินิจฺฉโย.
กุรุนฺทิยํปน วุตฺตํ – ‘‘ทฺเว ตโย ภิกฺขู ‘เอกโต วสิสฺสามา’ติ กโรนฺติ, รกฺขติ ตาว, อวิภตฺตตฺตา อนาปตฺติ. ‘อิทํ านํ ตว, อิทํ มมา’ติ วิภชิตฺวา กโรนฺติ อาปตฺติ. สามเณโร จ ภิกฺขุ จ เอกโต กโรนฺติ, ยาว อวิภตฺตา ตาว รกฺขติ. ปุริมนเยน วิภชิตฺวา กโรนฺติ, ภิกฺขุสฺส อาปตฺตี’’ติ.
๓๖๔. อนาปตฺติ ¶ เลเณติอาทีสุ เลณํ มหนฺตมฺปิ กโรนฺตสฺส อนาปตฺติ. น เหตฺถ เลโป ฆฏียติ. คุหมฺปิ อิฏฺกาคุหํ วา สิลาคุหํ วา ทารุคุหํ วา ภูมิคุหํ วา มหนฺตมฺปิ กโรนฺตสฺส อนาปตฺติ.
ติณกุฏิกายาติ สตฺตภูมิโกปิ ปาสาโท ติณปณฺณจฺฉทโน ‘‘ติณกุฏิกา’’ติ วุจฺจติ. อฏฺกถาสุ ปน กุกฺกุฏจฺฉิกเคหนฺติ ฉทนํ ทณฺฑเกหิ ชาลพทฺธํ กตฺวา ติเณหิ วา ปณฺเณหิ วา ฉาทิตกุฏิกาว วุตฺตา, ตตฺถ อนาปตฺติ. มหนฺตมฺปิ ติณจฺฉทนเคหํ กาตุํ วฏฺฏติ, อุลฺลิตฺตาทิภาโว เอว หิ กุฏิยา ลกฺขณํ, โส จ ฉทนเมว สนฺธาย วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. จงฺกมนสาลายํ ติณจุณฺณํ ปริปตติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โอคุมฺเผตฺวา อุลฺลิตฺตาวลิตฺตํ กาตุ’’นฺติอาทีนิ (จูฬว. ๒๖๐) เจตฺถ สาธกานิ, ตสฺมา อุภโต ปกฺขํ วา กูฏพทฺธํ วา วฏฺฏํ วา จตุรสฺสํ วา ยํ ‘‘อิมํ เอตสฺส เคหสฺส ฉทน’’นฺติ ฉทนสงฺเขเปน กตํ โหติ, ตสฺส ภิตฺติเลเปน สทฺธึ เลเป ฆฏิเต อาปตฺติ. สเจ ปน อุลฺลิตฺตาวลิตฺตจฺฉทนสฺส เคหสฺส เลปรกฺขณตฺถํ อุปริ ติเณน ฉาเทนฺติ, เอตฺตาวตา ติณกุฏิ นาม น โหติ. กึ ปเนตฺถ อเทสิตวตฺถุกปฺปมาณาติกฺกนฺตปจฺจยาว อนาปตฺติ, อุทาหุ สารมฺภอปริกฺกมนปจฺจยาปีติ สพฺพตฺถาปิ ¶ อนาปตฺติ. ตถา หิ ตาทิสํ กุฏึ สนฺธาย ปริวาเร วุตฺตํ –
‘‘ภิกฺขุ ¶ สฺาจิกาย กุฏึ กโรติ;
อเทสิตวตฺถุกํ ปมาณาติกฺกนฺตํ;
สารมฺภํ อปริกฺกมนํ อนาปตฺติ;
ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๗๙);
อฺสฺสตฺถายาติ กุฏิลกฺขณปฺปตฺตมฺปิ กุฏึ อฺสฺส อุปชฺฌายสฺส วา อาจริยสฺส วา สงฺฆสฺส วา อตฺถาย กโรนฺตสฺส อนาปตฺติ. ยํ ปน ‘‘อาปตฺติ การุกานํ ติณฺณํ ทุกฺกฏาน’’นฺติอาทิ ปาฬิยํ วุตฺตํ, ตํ ยถาสมาทิฏฺาย อกรณปจฺจยา วุตฺตํ.
วาสาคารํ เปตฺวา สพฺพตฺถาติ อตฺตโน วสนตฺถาย อคารํ เปตฺวา อฺํ อุโปสถาคารํ วา ชนฺตาฆรํ วา โภชนสาลา วา อคฺคิสาลา วา ภวิสฺสตีติ กาเรติ, สพฺพตฺถ อนาปตฺติ. สเจปิสฺส โหติ ‘‘อุโปสถาคารฺจ ภวิสฺสติ, อหฺจ วสิสฺสามิ ชนฺตาฆรฺจ โภชนสาลา ¶ จ อคฺคิสาลา จ ภวิสฺสติ, อหฺจ วสิสฺสามี’’ติ การิเตปิ อานาปตฺติเยว. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘อนาปตฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘อตฺตโน วาสาคารตฺถาย กโรนฺตสฺเสว อาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. อุมฺมตฺตกสฺส อาทิกมฺมิกานฺจ อาฬวกานํ ภิกฺขูนํ อนาปตฺติ.
สมุฏฺานาทีสุ ฉสมุฏฺานํ กิริยฺจ กิริยากิริยฺจ, อิทฺหิ วตฺถุํ เทสาเปตฺวา ปมาณาติกฺกนฺตํ กโรโต กิริยโต สมุฏฺาติ, วตฺถุํ อเทสาเปตฺวา กโรโต กิริยากิริยโต, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
กุฏิการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. วิหารการสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๖๕. เตน สมเยนาติ วิหารการสิกฺขาปทํ. ตตฺถ โกสมฺพิยนฺติ เอวํนามเก นคเร. โฆสิตาราเมติ โฆสิตสฺส อาราเม. โฆสิตนามเกน กิร เสฏฺินา โส การิโต, ตสฺมา ‘‘โฆสิตาราโม’’ติ วุจฺจติ. ฉนฺนสฺสาติ โพธิสตฺตกาเล อุปฏฺากฉนฺนสฺส. วิหารวตฺถุํ, ภนฺเต, ชานาหีติ วิหารสฺส ปติฏฺานฏฺานํ, ภนฺเต, ชานาหิ. เอตฺถ จ วิหาโรติ น สกลวิหาโร, เอโก อาวาโส, เตเนวาห – ‘‘อยฺยสฺส วิหารํ การาเปสฺสามี’’ติ.
เจติยรุกฺขนฺติ ¶ ¶ เอตฺถ จิตฺตีกตฏฺเน เจติยํ, ปูชารหานํ เทวฏฺานานเมตํ อธิวจนํ, ‘‘เจติย’’นฺติ สมฺมตํ รุกฺขํ เจติยรุกฺขํ. คาเมน ปูชิตํ คามสฺส วา ปูชิตนฺติ คามปูชิตํ. เอเสว นโย เสสปเทสุปิ. อปิเจตฺถ ชนปโทติ เอกสฺส รฺโ รชฺเช เอเกโก โกฏฺาโส. รฏฺนฺติ สกลรชฺชํ เวทิตพฺพํ, สกลรชฺชมฺปิ หิ กทาจิ กทาจิ ตสฺส รุกฺขสฺส ปูชํ กโรติ, เตน วุตฺตํ ‘‘รฏฺปูชิต’’นฺติ. เอกินฺทฺริยนฺติ กายินฺทฺริยํ สนฺธาย วทนฺติ. ชีวสฺิโนติ สตฺตสฺิโน.
๓๖๖. มหลฺลกนฺติ สสฺสามิกภาเวน สํยาจิกกุฏิโต มหนฺตภาโว เอตสฺส อตฺถีติ มหลฺลโก. ยสฺมา วา วตฺถุํ เทสาเปตฺวา ปมาณาติกฺกเมนปิ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ปมาณมหนฺตตายปิ มหลฺลโก ¶ , ตํ มหลฺลกํ. ยสฺมา ปนสฺส ตํ ปมาณมหตฺตํ สสฺสามิกตฺตาว ลพฺภติ, ตสฺมา ตทตฺถทสฺสนตฺถํ ‘‘มหลฺลโก นาม วิหาโร สสฺสามิโก วุจฺจตี’’ติ ปทภาชนํ วุตฺตํ. เสสํ สพฺพํ กุฏิการสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ สทฺธึ สมุฏฺานาทีหิ. สสฺสามิกภาวมตฺตเมว หิ เอตฺถ กิริยโต สมุฏฺานาภาโว ปมาณนิยมาภาโว จ วิเสโส, ปมาณนิยมาภาวา จ จตุกฺกปาริหานีติ.
วิหารการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ปมทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๘๐. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ ทุฏฺโทสสิกฺขาปทํ. ตตฺถ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปติ เวฬุวนนฺติ ตสฺส อุยฺยานสฺส นามํ, ตํ กิร เวฬุหิ จ ปริกฺขิตฺตํ อโหสิ อฏฺารสหตฺเถน จ ปากาเรน โคปุรฏฺฏาลกยุตฺตํ นีโลภาสํ มโนรมํ เตน ‘‘เวฬุวน’’นฺติ วุจฺจติ, กลนฺทกานฺเจตฺถ นิวาปํ อทํสุ เตน ‘‘กลนฺทกนิวาป’’ติ วุจฺจติ.
ปุพฺเพ กิร อฺตโร ราชา ตตฺถ อุยฺยานกีฬนตฺถํ อาคโต, สุรามเทน มตฺโต ทิวาเสยฺยํ สุปิ, ปริชโนปิสฺส สุตฺโต ราชาติ ปุปฺผผลาทีหิ ปโลภิยมาโน อิโต จิโต จ ปกฺกมิ. อถ สุราคนฺเธน อฺตรสฺมา สุสิรรุกฺขา กณฺหสปฺโป นิกฺขมิตฺวา รฺโ อภิมุโข อาคจฺฉติ, ตํ ทิสฺวา รุกฺขเทวตา ‘‘รฺโ ชีวิตํ ทสฺสามี’’ติ กาฬกเวเสน อาคนฺตฺวา กณฺณมูเล สทฺทมกาสิ, ราชา ปฏิพุชฺฌิ, กณฺหสปฺโป นิวตฺโต, โส ตํ ทิสฺวา ‘‘อิมาย กาฬกาย มม ชีวิตํ ทินฺน’’นฺติ กาฬกานํ ¶ ตตฺถ นิวาปํ ปฏฺเปสิ, อภยโฆสนฺจ โฆสาเปสิ ¶ , ตสฺมา ตํ ตโตปภุติ กลนฺทกนิวาปนฺติ สงฺขฺยํ คตํ. กลนฺทกาติ หิ กาฬกานํ เอตํ นามํ.
ทพฺโพติ ตสฺส เถรสฺส นามํ. มลฺลปุตฺโตติ มลฺลราชสฺส ปุตฺโต. ชาติยา สตฺตวสฺเสน อรหตฺตํ สจฺฉิกตนฺติ เถโร กิร สตฺตวสฺสิโกว สํเวคํ ลภิตฺวา ปพฺพชิโต ขุรคฺเคเยว อรหตฺตํ ปาปุณีติ เวทิตพฺโพ. ยํกิฺจิ สาวเกน ปตฺตพฺพํ สพฺพํ เตน อนุปฺปตฺตนฺติ สาวเกน ปตฺตพฺพํ ¶ นาม ติสฺโส วิชฺชา, จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา, ฉ อภิฺา, นว โลกุตฺตรธมฺมาติ อิทํ คุณชาตํ, ตํ สพฺพํ เตน อนุปฺปตฺตํ โหติ. นตฺถิ จสฺส กิฺจิ อุตฺตริ กรณียนฺติ จตูสุ สจฺเจสุ, จตูหิ มคฺเคหิ, โสฬสวิธสฺส กิจฺจสฺส กตตฺตา อิทานิสฺส กิฺจิ อุตฺตริ กรณียํ นตฺถิ. กตสฺส วา ปติจโยติ ตสฺเสว กตสฺส กิจฺจสฺส ปุน วฑฺฒนมฺปิ นตฺถิ, โธตสฺส วิย วตฺถสฺส ปฏิโธวนํ ปิสิตสฺส วิย คนฺธสฺส ปฏิปิสนํ, ปุปฺผิตสฺส วิย จ ปุปฺผสฺส ปฏิปุปฺผนนฺติ. รโหคตสฺสาติ รหสิ คตสฺส. ปฏิสลฺลีนสฺสาติ ตโต ตโต ปฏิกฺกมิตฺวา สลฺลีนสฺส, เอกีภาวํ คตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.
อถ โข อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยนฺนูนาหํ สงฺฆสฺส เสนาสนฺจ ปฺเปยฺยํ ภตฺตานิ จ อุทฺทิเสยฺย’’นฺติ เถโร กิร อตฺตโน กตกิจฺจภาวํ ทิสฺวา ‘‘อหํ อิมํ อนฺติมสรีรํ ธาเรมิ, ตฺจ โข วาตมุเข ิต ปทีโป วิย อนิจฺจตามุเข ิตํ, นจิรสฺเสว นิพฺพายนธมฺมํ ยาว น นิพฺพายติ ตาว กินฺนุ โข อหํ สงฺฆสฺส เวยฺยาวจฺจํ กเรยฺย’’นฺติ จินฺเตนฺโต อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘‘ติโรรฏฺเสุ พหู กุลปุตฺตา ภควนฺตํ อทิสฺวาว ปพฺพชนฺติ, เต ภควนฺตํ ‘ปสฺสิสฺสาม เจว วนฺทิสฺสาม จา’ติ ทูรโตปิ อาคจฺฉนฺติ, ตตฺร เยสํ เสนาสนํ นปฺปโหติ, เต สิลาปฏฺฏเกปิ เสยฺยํ กปฺเปนฺติ. ปโหมิ โข ปนาหํ อตฺตโน อานุภาเวน เตสํ กุลปุตฺตานํ ¶ อิจฺฉาวเสน ปาสาทวิหารอฑฺฒโยคาทีนิ มฺจปีกตฺถรณาทีนิ จ เสนาเสนานิ นิมฺมินิตฺวา ทาตุํ. ปุนทิวเส เจตฺถ เอกจฺเจ อติวิย กิลนฺตรูปา โหนฺติ, เต คารเวน ภิกฺขูนํ ปุรโต ตฺวา ภตฺตานิปิ น อุทฺทิสาเปนฺติ, อหํ โข ปน เนสํ ภตฺตานิปิ อุทฺทิสิตุํ ปโหมี’’ติ. อิติ ปฏิสฺจิกฺขนฺตสฺส ‘‘อถ โข อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘ยนฺนูนาหํ สงฺฆสฺส เสนาสนฺจ ปฺเปยฺยํ ภตฺตานิ จ อุทฺทิเสยฺย’’นฺติ.
นนุ จ อิมานิ ทฺเว านานิ ภสฺสารามตาทิมนุยุตฺตสฺส ยุตฺตานิ, อยฺจ ขีณาสโว นิปฺปปฺจาราโม, อิมสฺส กสฺมา อิมานิ ปฏิภํสูติ? ปุพฺพปตฺถนาย โจทิตตฺตา. สพฺพพุทฺธานํ กิร ¶ อิมํ านนฺตรํ ปตฺตา สาวกา โหนฺติเยว. อยฺจ ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล อฺตรสฺมึ กุเล ปจฺจาชาโต อิมํ านนฺตรํ ปตฺตสฺส ภิกฺขุโน อานุภาวํ ทิสฺวา อฏฺสฏฺิยา ภิกฺขุสตสหสฺเสหิ ¶ สทฺธึ ภควนฺตํ สตฺต ทิวสานิ นิมนฺเตตฺวา มหาทานํ ทตฺวา ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา ‘‘อนาคเต ตุมฺหาทิสสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปนฺนกาเล อหมฺปิ อิตฺถนฺนาโม ตุมฺหากํ สาวโก วิย เสนาสนปฺาปโก จ ภตฺตุทฺเทสโก จ อสฺส’’นฺติ ปตฺถนํ อกาสิ. ภควา อนาคตํสาณํ เปเสตฺวา อทฺทส, ทิสฺวา จ อิโต กปฺปสตสหสฺสสฺส อจฺจเยน โคตโม นาม พุทฺโธ อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตทา ตฺวํ ทพฺโพ นาม มลฺลปุตฺโต หุตฺวา ชาติยา สตฺตวสฺโส นิกฺขมฺม ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉิกริสฺสสิ, อิมฺจ านนฺตรํ ลจฺฉสี’’ติ พฺยากาสิ. โส ตโตปภุติ ทานสีลาทีนิ ปูรยมาโน เทวมนุสฺสสมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา อมฺหากํ ภควโต กาเล เตน ภควตา พฺยากตสทิสเมว อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ. อถสฺส รโหคตสฺส ‘‘กินฺนุ โข อหํ สงฺฆสฺส เวยฺยาวจฺจํ กเรยฺย’’นฺติ จินฺตยโต ตาย ปุพฺพปตฺถนาย โจทิตตฺตา อิมานิ ทฺเว านานิ ปฏิภํสูติ.
อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อหํ โข อนิสฺสโรสฺมิ อตฺตนิ, สตฺถารา สทฺธึ เอกฏฺาเน วสามิ, สเจ มํ ภควา อนุชานิสฺสติ ¶ , อิมานิ ทฺเว านานิ สมาทิยิสฺสามี’’ติ ภควโต สนฺติกํ อคมาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อายสฺมา ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต…เป… ภตฺตานิ จ อุทฺทิสิตุ’’นฺติ. อถ นํ ภควา ‘‘สาธุ สาธุ ทพฺพา’’ติ สมฺปหํเสตฺวา ยสฺมา อรหติ เอวรูโป อคติคมนปริพาหิโร ภิกฺขุ อิมานิ ทฺเว านานิ วิจาเรตุํ, ตสฺมา ‘‘เตน หิ ตฺวํ ทพฺพ สงฺฆสฺส เสนาสนฺจ ปฺเปหิ ภตฺตานิ จ อุทฺทิสา’’ติ อาห. ภควโต ปจฺจสฺโสสีติ ภควโต วจนํ ปติอสฺโสสิ อภิมุโข อสฺโสสิ, สมฺปฏิจฺฉีติ วุตฺตํ โหติ.
ปมํ ทพฺโพ ยาจิตพฺโพติ กสฺมา ภควา ยาจาเปติ? ครหโมจนตฺถํ. ปสฺสติ หิ ภควา ‘‘อนาคเต ทพฺพสฺส อิมํ านํ นิสฺสาย เมตฺติยภุมชกานํ วเสน มหาอุปทฺทโว อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตตฺร เกจิ ครหิสฺสนฺติ ‘อยํ ตุณฺหีภูโต อตฺตโน กมฺมํ อกตฺวา กสฺมา อีทิสํ านํ วิจาเรตี’ติ. ตโต อฺเ วกฺขนฺติ ‘โก อิมสฺส โทโส เอเตเหว ยาจิตฺวา ปิโต’ติ เอวํ ครหโต มุจฺจิสฺสตี’’ติ. เอวํ ครหโมจนตฺถํ ยาจาเปตฺวาปิ ปุน ยสฺมา อสมฺมเต ภิกฺขุสฺมึ สงฺฆมชฺเฌ กิฺจิ กถยมาเน ขิยฺยนธมฺโม อุปฺปชฺชติ ‘‘อยํ กสฺมา สงฺฆมชฺเฌ อุจฺจาสทฺทํ กโรติ, อิสฺสริยํ ทสฺเสตี’’ติ. สมฺมเต ปน กเถนฺเต ¶ ‘‘มายสฺมนฺโต กิฺจิ อวจุตฺถ, สมฺมโต อยํ, กเถตุ ยถาสุข’’นฺติ วตฺตาโร ภวนฺติ. อสมฺมตฺจ อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺตสฺส ลหุกา อาปตฺติ โหติ ทุกฺกฏมตฺตา. สมฺมตํ ปน อพฺภาจิกฺขโต ครุกตรา ¶ ปาจิตฺติยาปตฺติ โหติ. อถ สมฺมโต ภิกฺขุ อาปตฺติยา ครุกภาเวน เวรีหิปิ ทุปฺปธํสิยตโร โหติ, ตสฺมา ตํ อายสฺมนฺตํ สมฺมนฺนาเปตุํ ‘‘พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา’’ติอาทิมาห. กึ ปน ทฺเว สมฺมุติโย เอกสฺส ทาตุํ วฏฺฏนฺตีติ? น เกวลํ ทฺเว, สเจ ปโหติ, เตรสาปิ ทาตุํ วฏฺฏนฺติ. อปฺปโหนฺตานํ ปน เอกาปิ ทฺวินฺนํ วา ติณฺณํ วา ทาตุํ วฏฺฏติ.
๓๘๒. สภาคานนฺติ คุณสภาคานํ, น มิตฺตสนฺถวสภาคานํ. เตเนวาห ‘‘เย เต ภิกฺขู สุตฺตนฺติกา เตสํ เอกชฺฌ’’นฺติอาทิ ¶ . ยาวติกา หิ สุตฺตนฺติกา โหนฺติ, เต อุจฺจินิตฺวา เอกโต เตสํ อนุรูปเมว เสนาสนํ ปฺเปติ; เอวํ เสสานํ. กายทฬฺหีพหุลาติ กายสฺส ทฬฺหีภาวกรณพหุลา, กายโปสนพหุลาติ อตฺโถ. อิมายปิเม อายสฺมนฺโต รติยาติ อิมาย สคฺคมคฺคสฺส ติรจฺฉานภูตาย ติรจฺฉานกถารติยา. อจฺฉิสฺสนฺตีติ วิหริสฺสนฺติ.
เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา เตเนวาโลเกนาติ เตโชกสิณจตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อภิฺาาเณน องฺคุลิชลนํ อธิฏฺาย เตเนว เตโชธาตุสมาปตฺติชนิเตน องฺคุลิชาลาโลเกนาติ อตฺโถ. อยํ ปน เถรสฺส อานุภาโว นจิรสฺเสว สกลชมฺพุทีเป ปากโฏ อโหสิ, ตํ สุตฺวา อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทฏฺุกามา อปิสุ ภิกฺขู สฺจิจฺจ วิกาเล อาคจฺฉนฺติ. เต สฺจิจฺจ ทูเร อปทิสนฺตีติ ชานนฺตาว ทูเร อปทิสนฺติ. กถํ? ‘‘อมฺหากํ อาวุโส ทพฺพ คิชฺฌกูเฏ’’ติ อิมินา นเยน.
องฺคุลิยา ชลมานาย ปุรโต ปุรโต คจฺฉตีติ สเจ เอโก ภิกฺขุ โหติ, สยเมว คจฺฉติ. สเจ พหู โหนฺติ, พหู อตฺตภาเว นิมฺมินาติ. สพฺเพ อตฺตนา สทิสา เอว เสนาสนํ ปฺเปนฺติ.
อยํ มฺโจติอาทีสุ ปน เถเร ‘‘อยํ มฺโจ’’ติ วทนฺเต นิมฺมิตาปิ อตฺตโน อตฺตโน คตคตฏฺาเน ‘‘อยํ มฺโจ’’ติ วทนฺติ; เอวํ สพฺพปเทสุ. อยฺหิ นิมฺมิตานํ ธมฺมตา –
‘‘เอกสฺมึ ¶ ภาสมานสฺมึ, สพฺเพ ภาสนฺติ นิมฺมิตา;
เอกสฺมึ ตุณฺหิมาสีเน, สพฺเพ ตุณฺหี ภวนฺติ เต’’ติ.
ยสฺมึ ปน วิหาเร มฺจปีาทีนิ น ปริปูรนฺติ, ตสฺมึ อตฺตโน อานุภาเวน ปูเรนฺติ. เตน นิมฺมิตานํ อวตฺถุกวจนํ น โหติ.
เสนาสนํ ¶ ปฺเปตฺวา ปุนเทว เวฬุวนํ ปจฺจาคจฺฉตีติ เตหิ สทฺธึ ชนปทกถํ กเถนฺโต น นิสีทติ, อตฺตโน วสนฏฺานเมว ปจฺจาคจฺฉติ.
๓๘๓. เมตฺติยภูมชกาติ เมตฺติโย เจว ภูมชโก จ, ฉพฺพคฺคิยานํ อคฺคปุริสา เอเต. ลามกานิ จ ภตฺตานีติ เสนาสนานิ ¶ ตาว นวกานํ ลามกานิ ปาปุณนฺตีติ อนจฺฉริยเมตํ. ภตฺตานิ ปน สลากาโย ปจฺฉิยํ วา จีวรโภเค วา ปกฺขิปิตฺวา อาโลเฬตฺวา เอกเมกํ อุทฺธริตฺวา ปฺาเปนฺติ, ตานิปิ เตสํ มนฺทปุตาย ลามกานิ สพฺพปจฺฉิมาเนว ปาปุณนฺติ. ยมฺปิ เอกจาริกภตฺตํ โหติ, ตมฺปิ เอเตสํ ปตฺตทิวเส ลามกํ วา โหติ, เอเต วา ทิสฺวาว ปณีตํ อทตฺวา ลามกเมว เทนฺติ.
อภิสงฺขาริกนฺติ นานาสมฺภาเรหิ อภิสงฺขริตฺวา กตํ สุสชฺชิตํ, สุสมฺปาทิตนฺติ อตฺโถ. กณาชกนฺติ สกุณฺฑกภตฺตํ. พิลงฺคทุติยนฺติ กฺชิกทุติยํ.
กลฺยาณภตฺติโกติ กลฺยาณํ สุนฺทรํ อติวิย ปณีตํ ภตฺตมสฺสาติ กลฺยาณภตฺติโก, ปณีตทายกตฺตา ภตฺเตเนว ปฺาโต. จตุกฺกภตฺตํ เทตีติ จตฺตาริ ภตฺตานิ เทติ, ตทฺธิตโวหาเรน ปน ‘‘จตุกฺกภตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. อุปติฏฺิตฺวา ปริวิสตีติ สพฺพกมฺมนฺเต วิสฺสชฺเชตฺวา มหนฺตํ ปูชาสกฺการํ กตฺวา สมีเป ตฺวา ปริวิสติ. โอทเนน ปุจฺฉนฺตีติ โอทนหตฺถา อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘กึ ภนฺเต โอทนํ เทมา’’ติ ปุจฺฉนฺติ, เอวํ กรณตฺเถเยว กรณวจนํ โหติ. เอส นโย สูปาทีสุ.
สฺวาตนายาติ สฺเว ภโว ภตฺตปริโภโค สฺวาตโน ตสฺสตฺถาย, สฺวาตนาย สฺเว กตฺตพฺพสฺส ภตฺตปริโภคสฺสตฺถายาติ วุตฺตํ โหติ. อุทฺทิฏฺํ โหตีติ ปาเปตฺวา ทินฺนํ โหติ. เมตฺติยภูมชกานํ โข คหปตีติ อิทํ เถโร อสมนฺนาหริตฺวา อาห. เอวํพลวตี หิ เตสํ ¶ มนฺทปฺุตา, ยํ สติเวปุลฺลปฺปตฺตานมฺปิ อสมนฺนาหาโร โหติ. เย เชติ เอตฺถ เชติ ทาสึ อาลปติ.
หิยฺโย โข อาวุโส อมฺหากนฺติ รตฺตึ สมฺมนฺตยมานา อตีตํ ทิวสภาคํ สนฺธาย ‘‘หิยฺโย’’ติ วทนฺติ. น จิตฺตรูปนฺติ น จิตฺตานุรูปํ, ยถา ปุพฺเพ ยตฺตกํ อิจฺฉนฺติ, ตตฺตกํ สุปนฺติ, น เอวํ สุปึสุ, อปฺปกเมว สุปึสูติ วุตฺตํ โหติ.
พหารามโกฏฺเกติ ¶ เวฬุวนวิหารสฺส พหิทฺวารโกฏฺเก. ปตฺตกฺขนฺธาติ ปติตกฺขนฺธา ขนฺธฏฺิกํ นาเมตฺวา นิสินฺนา. ปชฺฌายนฺตาติ ปธูปายนฺตา.
ยโต นิวาตํ ¶ ตโต สวาตนฺติ ยตฺถ นิวาตํ อปฺปโกปิ วาโต นตฺถิ, ตตฺถ มหาวาโต อุฏฺิโตติ อธิปฺปาโย. อุทกํ มฺเ อาทิตฺตนฺติ อุทกํ วิย อาทิตฺตํ.
๓๘๔. สรสิ ตฺวํ ทพฺพ เอวรูปํ กตฺตาติ ตฺวํ ทพฺพ เอวรูปํ กตฺตา สรสิ. อถ วา สรสิ ตฺวํ ทพฺพ เอวรูปํ ยถายํ ภิกฺขุนี อาห, กตฺตา ธาสิ เอวรูปํ, ยถายํ ภิกฺขุนี อาหาติ เอวํ โยเชตฺวาเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เย ปน ‘‘กตฺวา’’ติ ปนฺติ เตสํ อุชุกเมว.
ยถา มํ ภนฺเต ภควา ชานาตีติ เถโร กึ ทสฺเสติ. ภควา ภนฺเต สพฺพฺู, อหฺจ ขีณาสโว, นตฺถิ มยฺหํ วตฺถุปฏิเสวนา, ตํ มํ ภควา ชานาติ, ตตฺราหํ กึ วกฺขามิ, ยถา มํ ภควา ชานาติ ตเถวาหํ ทฏฺพฺโพติ.
น โข ทพฺพ ทพฺพา เอวํ นิพฺเพเนฺตีติ เอตฺถ น โข ทพฺพ ปณฺฑิตา ยถา ตฺวํ ปรปฺปจฺจเยน นิพฺเพเสิ, เอวํ นิพฺเพเนฺติ; อปิ จ โข ยเทว สามํ าตํ เตน นิพฺเพเนฺตีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. สเจ ตยา กตํ กตนฺติ อิมินา กึ ทสฺเสติ? น หิ สกฺกา ปริสพเลน วา ปกฺขุปตฺถมฺเภน วา อการโก การโก กาตุํ, การโก วา อการโก กาตุํ, ตสฺมา ยํ สยํ กตํ วา อกตํ วา ตเทว วตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. กสฺมา ปน ภควา ชานนฺโตปิ ‘‘อหํ ชานามิ, ขีณาสโว ตฺวํ; นตฺถิ ตุยฺหํ โทโส, อยํ ภิกฺขุนี ¶ มุสาวาทินี’’ติ นาโวจาติ? ปรานุทฺทยตาย. สเจ หิ ภควา ยํ ยํ ชานาติ ตํ ตํ วเทยฺย, อฺเน ปาราชิกํ อาปนฺเนน ปุฏฺเน ‘‘อหํ ชานามิ ตฺวํ ปาราชิโก’’ติ วตฺตพฺพํ ภเวยฺย, ตโต โส ปุคฺคโล ‘‘อยํ ปุพฺเพ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ สุทฺธํ กตฺวา อิทานิ มํ อสุทฺธํ กโรติ; กสฺส ทานิ กึ วทามิ, ยตฺร สตฺถาปิ สาวเกสุ ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ; กุโต อิมสฺส สพฺพฺุภาโว’’ติ อาฆาตํ พนฺธิตฺวา อปายูปโค ภเวยฺย, ตสฺมา ภควา อิมาย ปรานุทฺทยตาย ชานนฺโตปิ นาโวจ.
กิฺจ ภิยฺโย อุปวาทปริวชฺชนโตปิ นาโวจ. ยทิ หิ ภควา เอวํ ¶ วเทยฺย, เอวํ อุปวาโท ภเวยฺย ‘‘ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส วุฏฺานํ นาม ภาริยํ, สมฺมาสมฺพุทฺธํ ปน สกฺขึ ลภิตฺวา วุฏฺิโต’’ติ. อิทฺจ วุฏฺานลกฺขณํ มฺมานา ‘‘พุทฺธกาเลปิ สกฺขินา สุทฺธิ วา อสุทฺธิ ¶ วา โหติ มยํ ชานาม, อยํ ปุคฺคโล อสุทฺโธ’’ติ เอวํ ปาปภิกฺขู ลชฺชิมฺปิ วินาเสยฺยุนฺติ. อปิจ อนาคเตปิ ภิกฺขู โอติณฺเณ วตฺถุสฺมึ โจเทตฺวา สาเรตฺวา ‘‘สเจ ตยา กตํ, ‘กต’นฺติ วเทหี’’ติ ลชฺชีนํ ปฏิฺํ คเหตฺวา กมฺมํ กริสฺสนฺตีติ วินยลกฺขเณ ตนฺตึ เปนฺโต ‘‘อหํ ชานามี’’ติ อวตฺวาว ‘‘สเจ ตยา กตํ, ‘กต’นฺติ วเทหี’’ติ อาห.
นาภิชานามิ สุปินนฺเตนปิ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตาติ สุปินนฺเตนปิ เมถุนํ ธมฺมํ น อภิชานามิ, น ปฏิเสวิตา อหนฺติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ปฏิเสวิตา หุตฺวา สุปินนฺเตนปิ เมถุนํ ธมฺมํ น ชานามีติ วุตฺตํ โหติ. เย ปน ‘‘ปฏิเสวิตฺวา’’ติ ปนฺติ เตสํ อุชุกเมว. ปเคว ชาคโรติ ชาครนฺโต ปน ปมํเยว น ชานามีติ.
เตน หิ ภิกฺขเว เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถาติ ยสฺมา ทพฺพสฺส จ อิมิสฺสา จ วจนํ น ฆฏียติ ตสฺมา เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถาติ วุตฺตํ โหติ.
ตตฺถ ติสฺโส นาสนา – ลิงฺคนาสนา, สํวาสนาสนา, ทณฺฑกมฺมนาสนาติ. ตาสุ ‘‘ทูสโก นาเสตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๖๖) อยํ ‘‘ลิงฺคนาสนา’’. อาปตฺติยา อทสฺสเน วา อปฺปฏิกมฺเม วา ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค วา อุกฺเขปนียกมฺมํ กโรนฺติ, อยํ ‘‘สํวาสนาสนา’’. ‘‘จร ¶ ปิเร วินสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๒๙) ทณฺฑกมฺมํ กโรนฺติ, อยํ ‘‘ทณฺฑกมฺมนาสนา’’. อิธ ปน ลิงฺคนาสนํ สนฺธายาห – ‘‘เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถา’’ติ.
อิเม จ ภิกฺขู อนุยฺุชถาติ อิมินา อิมํ ทีเปติ ‘‘อยํ ภิกฺขุนี อตฺตโน ธมฺมตาย อการิกา อทฺธา อฺเหิ อุยฺโยชิตา, ตสฺมา เยหิ อุยฺโยชิตา อิเม ภิกฺขู อนุยฺุชถ คเวสถ ชานาถา’’ติ.
กึ ปน ภควตา เมตฺติยา ภิกฺขุนี ปฏิฺาย นาสิตา อปฺปฏิฺาย นาสิตาติ, กิฺเจตฺถ ยทิ ตาว ปฏิฺาย นาสิตา, เถโร การโก โหติ สโทโส? อถ อปฺปฏิฺาย, เถโร อการโก โหติ นิทฺโทโส.
ภาติยราชกาเลปิ มหาวิหารวาสีนฺจ อภยคิริวาสีนฺจ ¶ เถรานํ อิมสฺมึเยว ปเท วิวาโท อโหสิ. อภยคิริวาสิโนปิ อตฺตโน สุตฺตํ วตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ วาเท เถโร การโก โหตี’’ติ วทนฺติ. มหาวิหารวาสิโนปิ อตฺตโน สุตฺตํ วตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ วาเท เถโร การโก โหตี’’ติ ¶ วทนฺติ. ปฺโห น ฉิชฺชติ. ราชา สุตฺวา เถเร สนฺนิปาเตตฺวา ทีฆการายนํ นาม พฺราหฺมณชาติยํ อมจฺจํ ‘‘เถรานํ กถํ สุณาหี’’ติ อาณาเปสิ. อมจฺโจ กิร ปณฺฑิโต ภาสนฺตรกุสโล โส อาห – ‘‘วทนฺตุ ตาว เถรา สุตฺต’’นฺติ. ตโต อภยคิริเถรา อตฺตโน สุตฺตํ วทึสุ – ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ สกาย ปฏิฺาย นาเสถา’’ติ. อมจฺโจ ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ วาเท เถโร การโก โหติ สโทโส’’ติ อาห. มหาวิหารวาสิโนปิ อตฺตโน สุตฺตํ วทึสุ – ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถา’’ติ. อมจฺโจ ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ วาเท เถโร อการโก โหติ นิทฺโทโส’’ติ อาห. กึ ปเนตฺถ ยุตฺตํ? ยํ ปจฺฉา วุตฺตํ วิจาริตฺเหตํ อฏฺกถาจริเยหิ, ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อมูลเกน อนฺติมวตฺถุนา อนุทฺธํเสติ, สงฺฆาทิเสโส; ภิกฺขุนึ อนุทฺธํเสติ, ทุกฺกฏํ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘มุสาวาเท ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตํ.
ตตฺรายํ วิจารณา, ปุริมนเย ตาว อนุทฺธํสนาธิปฺปายตฺตา ทุกฺกฏเมว ยุชฺชติ. ยถา สติปิ มุสาวาเท ภิกฺขุโน ภิกฺขุสฺมึ สงฺฆาทิเสโส, สติปิ จ มุสาวาเท อสุทฺธํ สุทฺธทิฏฺิโน อกฺโกสาธิปฺปาเยน วทนฺตสฺส โอมสวาเทเนว ¶ ปาจิตฺติยํ, น สมฺปชานมุสาวาเทน; เอวํ อิธาปิ อนุทฺธํสนาธิปฺปายตฺตา สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยํ น ยุชฺชติ, ทุกฺกฏเมว ยุตฺตํ. ปจฺฉิมนเยปิ มุสาวาทตฺตา ปาจิตฺติยเมว ยุชฺชติ, วจนปฺปมาณโต หิ อนุทฺธํสนาธิปฺปาเยน ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุสฺมึ สงฺฆาทิเสโส. อกฺโกสาธิปฺปายสฺส จ โอมสวาโท. ภิกฺขุสฺส ปน ภิกฺขุนิยา ทุกฺกฏนฺติวจนํ นตฺถิ, สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยนฺติ วจนมตฺถิ, ตสฺมา ปาจิตฺติยเมว ยุชฺชติ.
ตตฺร ปน อิทํ อุปปริกฺขิตพฺพํ – ‘‘อนุทฺธํสนาธิปฺปาเย อสติ ปาจิตฺติยํ, ตสฺมึ สติ เกน ภวิตพฺพ’’นฺติ? ตตฺร ยสฺมา มุสา ภณนฺตสฺส ปาจิตฺติเย สิทฺเธปิ อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน อนุทฺธํสเน วิสุํ ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ, ตสฺมา อนุทฺธํสนาธิปฺปาเย สติ สมฺปชานมุสาวาเท ¶ ปาจิตฺติยสฺส โอกาโส น ทิสฺสติ, น จ สกฺกา อนุทฺธํเสนฺตสฺส อนาปตฺติยา ภวิตุนฺติ ปุริมนโยเวตฺถ ปริสุทฺธตโร ขายติ. ตถา ภิกฺขุนี ภิกฺขุนึ อมูลเกน อนฺติมวตฺถุนา อนุทฺธํเสติ สงฺฆาทิเสโส, ภิกฺขุํ อนุทฺธํเสติ ทุกฺกฏํ, ตตฺร สงฺฆาทิเสโส วุฏฺานคามี ทุกฺกฏํ, เทสนาคามี เอเตหิ นาสนา นตฺถิ. ยสฺมา ปน สา ปกติยาว ทุสฺสีลา ปาปภิกฺขุนี อิทานิ จ สยเมว ‘‘ทุสฺสีลามฺหี’’ติ วทติ ตสฺมา นํ ภควา อสุทฺธตฺตาเยว นาเสสีติ.
อถ ¶ โข เมตฺติยภูมชกาติ เอวํ ‘‘เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถ, อิเม จ ภิกฺขู อนุยฺุชถา’’ติ วตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺเ ภควติ เตหิ ภิกฺขูหิ ‘‘เทถ ทานิ อิมิสฺสา เสตกานี’’ติ นาสิยมานํ ตํ ภิกฺขุนึ ทิสฺวา เต ภิกฺขู ตํ โมเจตุกามตาย อตฺตโน อปราธํ อาวิกรึสุ, เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ โข เมตฺติยภูมชกา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๓๘๕-๖. ทุฏฺโ โทโสติ ทูสิโต เจว ทูสโก จ. อุปฺปนฺเน หิ โทเส ปุคฺคโล เตน โทเสน ทูสิโต โหติ ปกติภาวํ ชหาปิโต, ตสฺมา ‘‘ทุฏฺโ’’ติ วุจฺจติ. ปรฺจ ทูเสติ วินาเสติ, ตสฺมา ‘‘โทโส’’ติ วุจฺจติ. อิติ ‘‘ทุฏฺโ โทโส’’ติ เอกสฺเสเวตํ ปุคฺคลสฺส อาการนานตฺเตน นิทสฺสนํ, เตน วุตฺตํ ‘‘ทุฏฺโ โทโสติ ทูสิโต เจว ¶ ทูสโก จา’’ติ ตตฺถ สทฺทลกฺขณํ ปริเยสิตพฺพํ. ยสฺมา ปน โส ‘‘ทุฏฺโ โทโส’’ติ สงฺขฺยํ คโต ปฏิฆสมงฺคีปุคฺคโล กุปิตาทิภาเว ิโตว โหติ, เตนสฺส ปทภาชเน ‘‘กุปิโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กุปิโตติ กุปฺปภาวํ ปกติโต จวนภาวํ ปตฺโต. อนตฺตมโนติ น สกมโน อตฺตโน วเส อฏฺิตจิตฺโต; อปิจ ปีติสุเขหิ น อตฺตมโน น อตฺตจิตฺโตติ อนตฺตมโน. อนภิรทฺโธติ น สุขิโต น วา ปสาทิโตติ อนภิรทฺโธ. ปฏิเฆน อาหตํ จิตฺตมสฺสาติ อาหตจิตฺโต. จิตฺตถทฺธภาวจิตฺตกจวรสงฺขาตํ ปฏิฆขีลํ ¶ ชาตมสฺสาติ ขิลชาโต. อปฺปตีโตติ นปฺปตีโต ปีติสุขาทีหิ วชฺชิโต, น อภิสโฏติ อตฺโถ. ปทภาชเน ปน เยสํ ธมฺมานํ วเสน อปฺปตีโต โหติ, เต ทสฺเสตุํ ‘‘เตน จ โกเปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ตตฺถ เตน จ โกเปนาติ เยน ทุฏฺโติ จ กุปิโตติ จ วุตฺโต อุภยมฺปิ เหตํ ปกติภาวํ ชหาปนโต เอกาการํ โหติ. เตน จ โทเสนาติ เยน ‘‘โทโส’’ติ วุตฺโต. อิเมหิ ทฺวีหิ สงฺขารกฺขนฺธเมว ทสฺเสติ.
ตาย จ อนตฺตมนตายาติ ยาย ‘‘อนตฺตมโน’’ติ วุตฺโต. ตาย จ อนภิรทฺธิยาติ ยาย ‘‘อนภิรทฺโธ’’ติ วุตฺโต. อิเมหิ ทฺวีหิ เวทนากฺขนฺธํ ทสฺเสติ.
อมูลเกน ปาราชิเกนาติ เอตฺถ นาสฺส มูลนฺติ อมูลกํ, ตํ ปนสฺส อมูลกตฺตํ ยสฺมา โจทกวเสน อธิปฺเปตํ, น จุทิตกวเสน. ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ปทภาชเน ‘‘อมูลกํ นาม อทิฏฺํ อสุตํ อปริสงฺกิต’’นฺติ อาห. เตน อิมํ ทีเปติ ‘‘ยํ ปาราชิกํ โจทเกน จุทิตกมฺหิ ปุคฺคเล เนว ทิฏฺํ น สุตํ น ปริสงฺกิตํ อิทํ เอเตสํ ทสฺสนสวนปริสงฺกาสงฺขาตานํ มูลานํ ¶ อภาวโต อมูลกํ นาม, ตํ ปน โส อาปนฺโน วา โหตุ อนาปนฺโน วา เอตํ อิธ อปฺปมาณนฺติ.
ตตฺถ อทิฏฺํ นาม อตฺตโน ปสาทจกฺขุนา วา ทิพฺพจกฺขุนา วา อทิฏฺํ. อสุตํ นาม ตเถว เกนจิ วุจฺจมานํ น สุตํ. อปริสงฺกิตํ นาม จิตฺเตน อปริสงฺกิตํ.
‘‘ทิฏฺํ’’ ¶ นาม อตฺตนา วา ปเรน วา ปสาทจกฺขุนา วา ทิพฺพจกฺขุนา วา ทิฏฺํ. ‘‘สุตํ’’ นาม ตเถว สุตํ. ‘‘ปริสงฺกิต’’มฺปิ อตฺตนา วา ปเรน วา ปริสงฺกิตํ. ตตฺถ อตฺตนา ทิฏฺํ ทิฏฺเมว, ปเรหิ ทิฏฺํ อตฺตนา สุตํ, ปเรหิ สุตํ, ปเรหิ ปริสงฺกิตนฺติ อิทํ ปน สพฺพมฺปิ อตฺตนา สุตฏฺาเนเยว ติฏฺติ.
ปริสงฺกิตํ ปน ติวิธํ – ทิฏฺปริสงฺกิตํ, สุตปริสงฺกิตํ, มุตปริสงฺกิตนฺติ. ตตฺถ ทิฏฺปริสงฺกิตํ นาม เอโก ภิกฺขุ อุจฺจารปสฺสาวกมฺเมน คามสมีเป เอกํ คุมฺพํ ปวิฏฺโ, อฺตราปิ อิตฺถี เกนจิเทว กรณีเยน ตํ คุมฺพํ ปวิสิตฺวา นิวตฺตา, นาปิ ภิกฺขุ อิตฺถึ อทฺทส; น อิตฺถี ภิกฺขุํ, อทิสฺวาว อุโภปิ ยถารุจึ ปกฺกนฺตา, อฺตโร ภิกฺขุ อุภินฺนํ ตโต นิกฺขมนํ ¶ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘อทฺธา อิเมสํ กตํ วา กริสฺสนฺติ วา’’ติ ปริสงฺกติ, อิทํ ทิฏฺปริสงฺกิตํ นาม.
สุตปริสงฺกิตํ นาม อิเธกจฺโจ อนฺธกาเร วา ปฏิจฺฉนฺเน วา โอกาเส มาตุคาเมน สทฺธึ ภิกฺขุโน ตาทิสํ ปฏิสนฺถารวจนํ สุณาติ, สมีเป อฺํ วิชฺชมานมฺปิ ‘‘อตฺถิ นตฺถี’’ติ น ชานาติ, โส ‘‘อทฺธา อิเมสํ กตํ วา กริสฺสนฺติ วา’’ติ ปริสงฺกติ, อิทํ สุตปริสงฺกิตํ นาม.
มุตปริสงฺกิตํ นาม สมฺพหุลา ธุตฺตา รตฺติภาเค ปุปฺผคนฺธมํสสุราทีนิ คเหตฺวา อิตฺถีหิ สทฺธึ เอกํ ปจฺจนฺตวิหารํ คนฺตฺวา มณฺฑเป วา โภชนสาลาทีสุ วา ยถาสุขํ กีฬิตฺวา ปุปฺผาทีนิ วิกิริตฺวา คตา, ปุนทิวเส ภิกฺขู ตํ วิปฺปการํ ทิสฺวา ‘‘กสฺสิทํ กมฺม’’นฺติ วิจินนฺติ. ตตฺร จ เกนจิ ภิกฺขุนา ปเคว วุฏฺหิตฺวา วตฺตสีเสน มณฺฑปํ วา โภชนสาลํ วา ปฏิชคฺคนฺเตน ปุปฺผาทีนิ อามฏฺานิ โหนฺติ, เกนจิ อุปฏฺากกุลโต อาภเตหิ ปุปฺผาทีหิ ปูชา กตา โหติ, เกนจิ เภสชฺชตฺถํ อริฏฺํ ปีตํ โหติ, อถ เต ‘‘กสฺสิทํ กมฺม’’นฺติ วิจินนฺตา ¶ ภิกฺขู เตสํ หตฺถคนฺธฺจ มุขคนฺธฺจ ฆายิตฺวา เต ภิกฺขู ปริสงฺกนฺติ, อิทํ มุตปริสงฺกิตํ นาม.
ตตฺถ ทิฏฺํ อตฺถิ สมูลกํ, อตฺถิ อมูลกํ; ทิฏฺเมว อตฺถิ สฺาสมูลกํ, อตฺถิ สฺาอมูลกํ. เอส นโย สุเตปิ. ปริสงฺกิเต ปน ทิฏฺปริสงฺกิตํ อตฺถิ สมูลกํ, อตฺถิ อมูลกํ; ทิฏฺปริสงฺกิตเมว อตฺถิ สฺาสมูลกํ ¶ , อตฺถิ สฺาอมูลกํ. เอส นโย สุตมุตปริสงฺกิเตสุ. ตตฺถ ทิฏฺํ สมูลกํ นาม ปาราชิกํ อาปชฺชนฺตํ ทิสฺวาว ‘‘ทิฏฺโ มยา’’ติ วทติ, อมูลกํ นาม ปฏิจฺฉนฺโนกาสโต นิกฺขมนฺตํ ทิสฺวา วีติกฺกมํ อทิสฺวา ‘‘ทิฏฺโ มยา’’ติ วทติ. ทิฏฺเมว สฺาสมูลกํ นาม ทิสฺวาว ทิฏฺสฺี หุตฺวา โจเทติ, สฺาอมูลกํ นาม ปุพฺเพ ปาราชิกวีติกฺกมํ ทิสฺวา ปจฺฉา อทิฏฺสฺี ชาโต, โส สฺาย อมูลกํ กตฺวา ‘‘ทิฏฺโ มยา’’ติ โจเทติ. เอเตน นเยน สุตมุตปริสงฺกิตานิปิ วิตฺถารโต เวทิตพฺพานิ. เอตฺถ จ สพฺพปฺปกาเรณาปิ สมูลเกน วา สฺาสมูลเกน วา โจเทนฺตสฺส อนาปตฺติ, อมูลเกน วา ปน สฺาอมูลเกน วา โจเทนฺตสฺเสว ¶ อาปตฺติ.
อนุทฺธํเสยฺยาติ ธํเสยฺย ปธํเสยฺย อภิภเวยฺย อชฺโฌตฺถเรยฺย. ตํ ปน อนุทฺธํสนํ ยสฺมา อตฺตนา โจเทนฺโตปิ ปเรน โจทาเปนฺโตปิ กโรติเยว, ตสฺมาสฺส ปทภาชเน ‘‘โจเทติ วา โจทาเปติ วา’’ติ วุตฺตํ.
ตตฺถ โจเทตีติ ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อาปนฺโนสี’’ติอาทีหิ วจเนหิ สยํ โจเทติ, ตสฺส วาจาย วาจาย สงฺฆาทิเสโส. โจทาเปตีติ อตฺตนา สมีเป ตฺวา อฺํ ภิกฺขุ อาณาเปติ, โส ตสฺส วจเนน ตํ โจเทติ, โจทาปกสฺเสว วาจาย วาจาย สงฺฆาทิเสโส. อถ โสปิ ‘‘มยา ทิฏฺํ สุตํ อตฺถี’’ติ โจเทติ, ทฺวินฺนมฺปิ ชนานํ วาจาย วาจาย สงฺฆาทิเสโส.
โจทนาปฺปเภทโกสลฺลตฺถํ ปเนตฺถ เอกวตฺถุเอกโจทกาทิจตุกฺกํ ตาว เวทิตพฺพํ. ตตฺถ เอโก ภิกฺขุ เอกํ ภิกฺขุํ เอเกน วตฺถุนา โจเทติ, อิมิสฺสา โจทนาย เอกํ วตฺถุ เอโก โจทโก. สมฺพหุลา เอกํ เอกวตฺถุนา โจเทนฺติ, ปฺจสตา เมตฺติยภูมชกปฺปมุขา ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตมิว, อิมิสฺสา โจทนาย เอกํ วตฺถุ นานาโจทกา. เอโก ภิกฺขุ เอกํ ภิกฺขุํ สมฺพหุเลหิ วตฺถูหิ โจเทติ, อิมิสฺสา โจทนาย นานาวตฺถูนิ เอโก โจทโก. สมฺพหุลา สมฺพหุเล สมฺพหุเลหิ วตฺถูหิ โจเทนฺติ, อิมิสฺสา โจทนาย นานาวตฺถูนิ นานาโจทกา.
โจเทตุํ ¶ ¶ ปน โก ลภติ, โก น ลภตีติ? ทุพฺพลโจทกวจนํ ตาว คเหตฺวา โกจิ น ลภติ. ทุพฺพลโจทโก นาม สมฺพหุเลสุ กถาสลฺลาเปน นิสินฺเนสุ เอโก เอกํ อารพฺภ อโนทิสฺสกํ กตฺวา ปาราชิกวตฺถุํ กเถติ, อฺโ ตํ สุตฺวา อิตรสฺส คนฺตฺวา อาโรเจติ. โส ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตฺวํ กิร มํ อิทฺจิทฺจ วทสี’’ติ วทติ. โส ‘‘นาหํ เอวรูปํ ชานามิ, กถาปวตฺติยํ ปน มยา อโนทิสฺสกํ กตฺวา วุตฺตมตฺถิ, สเจ อหํ ตว อิมํ ทุกฺขุปฺปตฺตึ ชาเนยฺยํ, เอตฺตกมฺปิ น กเถยฺย’’นฺติ อยํ ทุพฺพลโจทโก. ตสฺเสตํ กถาสลฺลาปํ คเหตฺวา ตํ ภิกฺขุํ โกจิ โจเทตุํ น ลภติ. เอตํ ปน อคฺคเหตฺวา สีลสมฺปนฺโน ภิกฺขุ ภิกฺขุํ วา ภิกฺขุนึ วา สีลสมฺปนฺนา จ ภิกฺขุนี ภิกฺขุนีเมว โจเทตุํ ¶ ลภตีติ มหาปทุมตฺเถโร อาห. มหาสุมตฺเถโร ปน ‘‘ปฺจปิ สหธมฺมิกา ลภนฺตี’’ติ อาห. โคทตฺตตฺเถโร ปน ‘‘น โกจิ น ลภตี’’ติ วตฺวา ‘‘ภิกฺขุสฺส สุตฺวา โจเทติ, ภิกฺขุนิยา สุตฺวา โจเทติ…เป… ติตฺถิยสาวกานํ สุตฺวา โจเทตี’’ติ อิทํ สุตฺตมาหริ. ติณฺณมฺปิ เถรานํ วาเท จุทิตกสฺเสว ปฏิฺาย กาเรตพฺโพ.
อยํ ปน โจทนา นาม ทูตํ วา ปณฺณํ วา สาสนํ วา เปเสตฺวา โจเทนฺตสฺส สีสํ น เอติ, ปุคฺคลสฺส ปน สมีเป ตฺวาว หตฺถมุทฺทาย วา วจีเภเทน วา โจเทนฺตสฺเสว สีสํ เอติ. สิกฺขาปจฺจกฺขานเมว หิ หตฺถมุทฺทาย สีสํ น เอติ, อิทํ ปน อนุทฺธํสนํ อภูตาโรจนฺจ เอติเยว. โย ปน ทฺวินฺนํ ิตฏฺาเน เอกํ นิยเมตฺวา โจเทติ, โส เจ ชานาติ, สีสํ เอติ. อิตโร ชานาติ, สีสํ น เอติ. ทฺเวปิ นิยเมตฺวา โจเทติ, เอโก วา ชานาตุ ทฺเว วา, สีสํ เอติเยว. เอสว นโย สมฺพหุเลสุ. ตงฺขเณเยว จ ชานนํ นาม ทุกฺกรํ, สมเยน อาวชฺชิตฺวา าเต ปน าตเมว โหติ. ปจฺฉา เจ ชานาติ, สีสํ น เอติ. สิกฺขาปจฺจกฺขานํ อภูตาโรจนํ ทุฏฺุลฺลวาจา-อตฺตกาม-ทุฏฺโทสภูตาโรจนสิกฺขาปทานีติ สพฺพาเนว หิ อิมานิ เอกปริจฺเฉทานิ.
เอวํ กายวาจาวเสน จายํ ทุวิธาปิ โจทนา. ปุน ทิฏฺโจทนา, สุตโจทนา, ปริสงฺกิตโจทนาติ ติวิธา โหติ. อปราปิ จตุพฺพิธา โหติ – สีลวิปตฺติโจทนา, อาจารวิปตฺติโจทนา, ทิฏฺิวิปตฺติโจทนา, อาชีววิปตฺติโจทนาติ. ตตฺถ ครุกานํ ทฺวินฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ วเสน สีลวิปตฺติโจทนา ¶ เวทิตพฺพา. อวเสสานํ วเสน อาจารวิปตฺติโจทนา, มิจฺฉาทิฏฺิอนฺตคฺคาหิกทิฏฺิวเสน ทิฏฺิวิปตฺติโจทนา, อาชีวเหตุ ปฺตฺตานํ ฉนฺนํ สิกฺขาปทานํ วเสน อาชีววิปตฺติโจทนา เวทิตพฺพา.
อปราปิ ¶ จตุพฺพิธา โหติ – วตฺถุสนฺทสฺสนา, อาปตฺติสนฺทสฺสนา, สํวาสปฏิกฺเขโป, สามีจิปฏิกฺเขโปติ. ตตฺถ วตฺถุสนฺทสฺสนา นาม ‘‘ตฺวํ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตฺถ, อทินฺนํ อาทิยิตฺถ, มนุสฺสํ ฆาตยิตฺถ, อภูตํ อาโรจยิตฺถา’’ติ เอวํ ปวตฺตา. อาปตฺติสนฺทสฺสนา นาม ‘‘ตฺวํ เมถุนธมฺมปาราชิกาปตฺตึ อาปนฺโน’’ติ เอวมาทินยปฺปวตฺตา. สํวาสปฏิกฺเขโป นาม ‘‘นตฺถิ ¶ ตยา สทฺธึ อุโปสโถ วา ปวารณา วา สงฺฆกมฺมํ วา’’ติ เอวํ ปวตฺตา; เอตฺตาวตา ปน สีสํ น เอติ, ‘‘อสฺสมโณสิ อสกฺยปุตฺติโยสี’’ติอาทิวจเนหิ สทฺธึ ฆฏิเตเยว สีสํ เอติ. สามีจิปฏิกฺเขโป นาม อภิวาทน-ปจฺจุฏฺาน-อฺชลิกมฺม-พีชนาทิกมฺมานํ อกรณํ. ตํ ปฏิปาฏิยา วนฺทนาทีนิ กโรโต เอกสฺส อกตฺวา เสสานํ กรณกาเล เวทิตพฺพํ. เอตฺตาวตา จ โจทนา นาม โหติ, อาปตฺติ ปน สีสํ น เอติ. ‘‘กสฺมา มม วนฺทนาทีนิ น กโรสี’’ติ ปุจฺฉิเต ปน ‘‘อสฺสมโณสิ อสกฺยปุตฺติโยสี’’ติอาทิวจเนหิ สทฺธึ ฆฏิเตเยว สีสํ เอติ. ยาคุภตฺตาทินา ปน ยํ อิจฺฉติ ตํ อาปุจฺฉติ, น ตาวตา โจทนา โหติ.
อปราปิ ปาติโมกฺขฏฺปนกฺขนฺธเก ‘‘เอกํ, ภิกฺขเว, อธมฺมิกํ ปาติโมกฺขฏฺปนํ เอกํ ธมฺมิก’’นฺติ อาทึ ‘‘กตฺวา ยาว ทส อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ ทส ธมฺมิกานี’’ติ (จูฬว. ๓๘๗) เอวํ อธมฺมิกา ปฺจปฺาส ธมฺมิกา ปฺจปฺาสาติ ทสุตฺตรสตํ โจทนา วุตฺตา. ตา ทิฏฺเน โจเทนฺตสฺส ทสุตฺตรสตํ, สุเตน โจเทนฺตสฺส ทสุตฺตรสตํ, ปริสงฺกิเตน โจเทนฺตสฺส ทสุตฺตรสตนฺติ ตึสานิ ตีณิ สตานิ โหนฺติ. ตานิ กาเยน โจเทนฺตสฺส, วาจาย โจเทนฺตสฺส, กายวาจาหิ โจเทนฺตสฺสาติ ติคุณานิ กตานิ นวุตานิ นว สตานิ โหนฺติ. ตานิ อตฺตนา โจเทนฺตสฺสาปิ ปเรน โจทาเปนฺตสฺสาปิ ตตฺตกาเนวาติ วีสติอูนานิ ทฺเว สหสฺสานิ โหนฺติ, ปุน ทิฏฺาทิเภเท สมูลกามูลกวเสน อเนกสหสฺสา โจทนา โหนฺตีติ เวทิตพฺพา.
อิมสฺมึ ¶ ปน าเน ตฺวา อฏฺกถาย ‘‘อตฺตาทานํ อาทาตุกาเมน อุปาลิ ภิกฺขุนา ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ อตฺตาทานํ อาทาตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๓๙๘) จ ‘‘โจทเกน อุปาลิ ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน ปฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ’’ติ (จูฬว. ๓๙๙) จ เอวํ อุปาลิปฺจกาทีสุ วุตฺตานิ พหูนิ สุตฺตานิ อาหริตฺวา อตฺตาทานลกฺขณฺจ โจทกวตฺตฺจ จุทิตกวตฺตฺจ สงฺเฆน กาตพฺพกิจฺจฺจ อนุวิชฺชกวตฺตฺจ สพฺพํ วิตฺถาเรน กถิตํ, ตํ มยํ ยถาอาคตฏฺาเนเยว วณฺณยิสฺสาม.
วุตฺตปฺปเภทาสุ ¶ ปน อิมาสุ โจทนาสุ ยาย กายจิ ¶ โจทนาย วเสน สงฺฆมชฺเฌ โอสเฏ วตฺถุสฺมึ จุทิตกโจทกา วตฺตพฺพา ‘‘ตุมฺเห อมฺหากํ วินิจฺฉเยน ตุฏฺา ภวิสฺสถา’’ติ. สเจ ‘‘ภวิสฺสามา’’ติ วทนฺติ, สงฺเฆน ตํ อธิกรณํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. อถ ปน ‘‘วินิจฺฉินถ ตาว, ภนฺเต, สเจ อมฺหากํ ขมิสฺสติ, คณฺหิสฺสามา’’ติ วทนฺติ. ‘‘เจติยํ ตาว วนฺทถา’’ติอาทีนิ วตฺวา ทีฆสุตฺตํ กตฺวา วิสฺสชฺชิตพฺพํ. เต เจ จิรรตฺตํ กิลนฺตา ปกฺกนฺตปริสา อุปจฺฉินฺนปกฺขา หุตฺวา ปุน ยาจนฺติ, ยาวตติยํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ยทา นิมฺมทา โหนฺติ ตทา เนสํ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตพฺพํ. วินิจฺฉินนฺเตหิ จ สเจ อลชฺชุสฺสนฺนา โหติ, ปริสา อุพฺพาหิกาย ตํ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตพฺพํ. สเจ พาลุสฺสนฺนา โหติ ปริสา ‘‘ตุมฺหากํ สภาเค วินยธเร ปริเยสถา’’ติ วินยธเร ปริเยสาเปตฺวา เยน ธมฺเมน เยน วินเยน เยน สตฺถุสาสเนน ตํ อธิกรณํ วูปสมติ, ตถา ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพํ.
ตตฺถ จ ‘‘ธมฺโม’’ติ ภูตํ วตฺถุ. ‘‘วินโย’’ติ โจทนา สารณา จ. ‘‘สตฺถุสาสน’’นฺติ ตฺติสมฺปทา จ อนุสาวนสมฺปทา จ. ตสฺมา โจทเกน วตฺถุสฺมึ อาโรจิเต จุทิตโก ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘สนฺตเมตํ, โน’’ติ. เอวํ วตฺถุํ อุปปริกฺขิตฺวา ภูเตน วตฺถุนา โจเทตฺวา สาเรตฺวา จ ตฺติสมฺปทาย อนุสาวนสมฺปทาย จ ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพํ. ตตฺร เจ อลชฺชี ลชฺชึ โจเทติ, โส จ อลชฺชี พาโล โหติ อพฺยตฺโต นาสฺส นโย ทาตพฺโพ. เอวํ ปน วตฺตพฺโพ – ‘‘กิมฺหิ นํ โจเทสี’’ติ? อทฺธา โส วกฺขติ – ‘‘กิมิทํ, ภนฺเต, กิมฺหิ นํ นามา’’ติ. ตฺวํ กิมฺหิ นมฺปิ น ชานาสิ, น ยุตฺตํ ตยา เอวรูเปน พาเลน ปรํ โจเทตุนฺติ อุยฺโยเชตพฺโพ นาสฺส อนุโยโค ทาตพฺโพ. สเจ ปน โส อลชฺชี ปณฺฑิโต โหติ ¶ พฺยตฺโต ทิฏฺเน วา สุเตน วา อชฺโฌตฺถริตฺวา สมฺปาเทตุํ สกฺโกติ เอตสฺส อนุโยคํ ทตฺวา ลชฺชิสฺเสว ปฏิฺาย กมฺมํ กาตพฺพํ.
สเจ ลชฺชี อลชฺชึ โจเทติ, โส จ ลชฺชี พาโล โหติ อพฺยตฺโต, น สกฺโกติ อนุโยคํ ทาตุํ. ตสฺส นโย ทาตพฺโพ – ‘‘กิมฺหิ นํ โจเทสิ สีลวิปตฺติยา วา อาจารวิปตฺติอาทีสุ ¶ วา เอกิสฺสา’’ติ. กสฺมา ปน อิมสฺเสว เอวํ นโย ทาตพฺโพ, น อิตรสฺส? นนุ น ยุตฺตํ วินยธรานํ อคติคมนนฺติ? น ยุตฺตเมว. อิทํ ปน อคติคมนํ น โหติ, ธมฺมานุคฺคโห นาม เอโส อลชฺชินิคฺคหตฺถาย หิ ลชฺชิปคฺคหตฺถาย จ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ. ตตฺร อลชฺชี นยํ ลภิตฺวา อชฺโฌตฺถรนฺโต เอหีติ, ลชฺชี ปน นยํ ลภิตฺวา ทิฏฺเ ทิฏฺสนฺตาเนน, สุเต สุตสนฺตาเนน ปติฏฺาย กเถสฺสติ, ตสฺมา ตสฺส ธมฺมานุคฺคโห วฏฺฏติ. สเจ ปน ¶ โส ลชฺชี ปณฺฑิโต โหติ พฺยตฺโต, ปติฏฺาย กเถติ, อลชฺชี จ ‘‘เอตมฺปิ นตฺถิ, เอตมฺปิ นตฺถี’’ติ ปฏิฺํ น เทติ, อลชฺชิสฺส ปฏิฺาย เอว กาตพฺพํ.
ตทตฺถทีปนตฺถฺจ อิทํ วตฺถุ เวทิตพฺพํ. เตปิฏกจูฬาภยตฺเถโร กิร โลหปาสาทสฺส เหฏฺา ภิกฺขูนํ วินยํ กเถตฺวา สายนฺหสมเย วุฏฺาติ, ตสฺส วุฏฺานสมเย ทฺเว อตฺตปจฺจตฺถิกา กถํ ปวตฺเตสุํ. เอโก ‘‘เอตมฺปิ นตฺถิ, เอตมฺปิ นตฺถี’’ติ ปฏิฺํ น เทติ. อถ อปฺปาวเสเส ปมยาเม เถรสฺส ตสฺมึ ปุคฺคเล ‘‘อยํ ปติฏฺาย กเถติ, อยํ ปน ปฏิฺํ น เทติ, พหูนิ จ วตฺถูนิ โอสฏานิ อทฺธา เอตํ กตํ ภวิสฺสตี’’ติ อสุทฺธลทฺธิ อุปฺปนฺนา. ตโต พีชนีทณฺฑเกน ปาทกถลิกาย สฺํ ทตฺวา ‘‘อหํ อาวุโส วินิจฺฉินิตุํ อนนุจฺฉวิโก อฺเน วินิจฺฉินาเปหี’’ติ อาห. กสฺมา ภนฺเตติ? เถโร ตมตฺถํ อาโรเจสิ, จุทิตกปุคฺคลสฺส กาเย ฑาโห อุฏฺิโต, ตโต โส เถรํ วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, วินิจฺฉินิตุํ อนุรูเปน วินยธเรน นาม ตุมฺหาทิเสเนว ภวิตุํ วฏฺฏติ. โจทเกน จ อีทิเสเนว ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา เสตกานิ นิวาเสตฺวา ‘‘จิรํ กิลมิตตฺถ มยา’’ติ ขมาเปตฺวา ปกฺกามิ.
เอวํ ลชฺชินา โจทิยมาโน อลชฺชี พหูสุปิ วตฺถูสุ อุปฺปนฺเนสุ ปฏิฺํ น เทติ, โส เนว ‘‘สุทฺโธ’’ติ วตฺตพฺโพ น ‘‘อสุทฺโธ’’ติ. ชีวมตโก นาม อามกปูติโก นาม เจส.
สเจ ¶ ปนสฺส อฺมฺปิ ตาทิสํ วตฺถุํ อุปฺปชฺชติ น วินิจฺฉินิตพฺพํ ¶ . ตถา นาสิตโกว ภวิสฺสติ. สเจ ปน อลชฺชีเยว อลชฺชึ โจเทติ, โส วตฺตพฺโพ ‘‘อาวุโส ตว วจเนนายํ กึ สกฺกา วตฺตุ’’นฺติ อิตรมฺปิ ตเถว วตฺวา อุโภปิ ‘‘เอกสมฺโภคปริโภคา หุตฺวา ชีวถา’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชตพฺพา, สีลตฺถาย เตสํ วินิจฺฉโย น กาตพฺโพ. ปตฺตจีวรปริเวณาทิอตฺถาย ปน ปติรูปํ สกฺขึ ลภิตฺวา กาตพฺโพ.
อถ ลชฺชี ลชฺชึ โจเทติ, วิวาโท จ เนสํ กิสฺมิฺจิเทว อปฺปมตฺตโก โหติ, สฺาเปตฺวา ‘‘มา เอวํ กโรถา’’ติ อจฺจยํ เทสาเปตฺวา อุยฺโยเชตพฺพา. อถ ปเนตฺถ จุทิตเกน สหสา วิรทฺธํ โหติ, อาทิโต ปฏฺาย อลชฺชี นาม นตฺถิ. โส จ ปกฺขานุรกฺขณตฺถาย ปฏิฺํ น เทติ, ‘‘มยํ สทฺทหาม, มยํ สทฺทหามา’’ติ พหู อุฏฺหนฺติ. โส เตสํ ปฏิฺาย เอกวารํ ทฺเววารํ สุทฺโธ โหตุ. อถ ปน วิรทฺธกาลโต ปฏฺาย าเน น ติฏฺติ, วินิจฺฉโย น ทาตพฺโพ.
เอวํ ¶ ยาย กายจิ โจทนาย วเสน สงฺฆมชฺเฌ โอสเฏ วตฺถุสฺมึ จุทิตกโจทเกสุ ปฏิปตฺตึ ตฺวา ตสฺสาเยว โจทนาย สมฺปตฺติวิปตฺติชานนตฺถํ อาทิมชฺฌปริโยสานาทีนํ วเสน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. เสยฺยถิทํ โจทนาย โก อาทิ, กึ มชฺเฌ, กึ ปริโยสานํ? โจทนาย ‘‘อหํ ตํ วตฺตุกาโม, กโรตุ เม อายสฺมา โอกาส’’นฺติ เอวํ โอกาสกมฺมํ อาทิ, โอติณฺเณน วตฺถุนา โจเทตฺวา สาเรตฺวา วินิจฺฉโย มชฺเฌ, อาปตฺติยํ วา อนาปตฺติยํ วา ปติฏฺาปเนน สมโถ ปริโยสานํ.
โจทนาย กติ มูลานิ, กติ วตฺถูนิ, กติ ภูมิโย? โจทนาย ทฺเว มูลานิ – สมูลิกา วา อมูลิกา วา; ตีณิ วตฺถูนิ – ทิฏฺํ, สุตํ, ปริสงฺกิตํ; ปฺจ ภูมิโย – กาเลน วกฺขามิ โน อกาเลน, ภูเตน วกฺขามิ โน อภูเตน, สณฺเหน วกฺขามิ โน ผรุเสน, อตฺถสํหิเตน วกฺขามิ โน อนตฺถสํหิเตน, เมตฺตจิตฺโต วกฺขามิ โน โทสนฺตโรติ. อิมาย จ ปน โจทนาย โจทเกน ปุคฺคเลน ‘‘ปริสุทฺธกายสมาจาโร นุ โขมฺหี’’ติอาทินา (จูฬว. ๓๙๙) นเยน อุปาลิปฺจเก วุตฺเตสุ ปนฺนรสสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาตพฺพํ, จุทิตเกน ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาตพฺพํ สจฺเจ จ อกุปฺเป จาติ.
อปฺเปว ¶ นาม นํ อิมมฺหา พฺรหฺมจริยา จาเวยฺยนฺติ อปิ ¶ เอว นาม นํ ปุคฺคลํ อิมมฺหา เสฏฺจริยา จาเวยฺยํ, ‘‘สาธุ วตสฺส สจาหํ อิมํ ปุคฺคลํ อิมมฺหา พฺรหฺมจริยา จาเวยฺย’’นฺติ อิมินา อธิปฺปาเยน อนุทฺธํเสยฺยาติ วุตฺตํโหติ. ปทภาชเน ปน ‘‘พฺรหฺมจริยา จาเวยฺย’’นฺติ อิมสฺเสว ปริยายมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภิกฺขุภาวา จาเวยฺย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
ขณาทีนิ สมยเววจนานิ. ตํ ขณํ ตํ ลยํ ตํ มุหุตฺตํ วีติวตฺเตติ ตสฺมึ ขเณ ตสฺมึ ลเย ตสฺมึ มุหุตฺเต วีติวตฺเต. ภุมฺมปฺปตฺติยา หิ อิทํ อุปโยควจนํ.
สมนุคฺคาหิยมานนิทฺเทเส เยน วตฺถุนา อนุทฺธํสิโต โหตีติ จตูสุ ปาราชิกวตฺถูสุ เยน วตฺถุนา โจทเกน จุทิตโก อนุทฺธํสิโต อภิภูโต อชฺโฌตฺถโฏ โหติ. ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ สมนุคฺคาหิยมาโนติ ตสฺมึ โจทเกน วุตฺตวตฺถุสฺมึ โส โจทโก อนุวิชฺชเกน ‘‘กึ เต ทิฏฺํ, กินฺติ เต ทิฏฺ’’นฺติอาทินา นเยน อนุวิชฺชิยมาโน วีมํสิยมาโน อุปปริกฺขิยมาโน.
อสมนุคฺคาหิยมานนิทฺเทเส น เกนจิ วุจฺจมาโนติ อนุวิชฺชเกน วา อฺเน วา เกนจิ, อถ วา ทิฏฺาทีสุ วตฺถูสุ เกนจิ อวุจฺจมาโน. เอเตสฺจ ทฺวินฺนํ มาติกาปทานํ ปรโต ¶ ‘‘ภิกฺขุ จ โทสํ ปติฏฺาตี’’ติอิมินา สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ – ‘‘เอวํ สมนุคฺคาหิยมาโน วา อสมนุคฺคาหิยมาโน วา ภิกฺขุ จ โทสํ ปติฏฺาติ ปฏิจฺจ ติฏฺติ ปฏิชานาติ สงฺฆาทิเสโส’’ติ. อิทฺจ อมูลกภาวสฺส ปากฏกาลทสฺสนตฺถเมว วุตฺตํ. อาปตฺตึ ปน อนุทฺธํสิตกฺขเณเยว อาปชฺชติ.
อิทานิ ‘‘อมูลกฺเจว ตํ อธิกรณํ โหตี’’ติ เอตฺถ ยสฺมา อมูลกลกฺขณํ ปุพฺเพ วุตฺตํ, ตสฺมา ตํ อวตฺวา อปุพฺพเมว ทสฺเสตุํ ‘‘อธิกรณํ นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา อธิกรณํ อธิกรณฏฺเน เอกมฺปิ วตฺถุวเสน นานา โหติ, เตนสฺส ตํ นานตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘จตฺตาริ อธิกรณานิ วิวาทาธิกรณ’’นฺติอาทิมาห. โก ปน โส อธิกรณฏฺโ, เยเนตํ เอกํ โหตีติ? สมเถหิ อธิกรณียตา. ตสฺมา ยํ อธิกิจฺจ อารพฺภ ปฏิจฺจ สนฺธาย สมถา วตฺตนฺติ, ตํ ‘‘อธิกรณ’’นฺติ เวทิตพฺพํ.
อฏฺกถาสุ ¶ ปน วุตฺตํ – ‘‘อธิกรณนฺติ เกจิ คาหํ วทนฺติ, เกจิ เจตนํ, เกจิ ¶ อกฺขนฺตึ เกจิ โวหารํ, เกจิ ปณฺณตฺติ’’นฺติ. ปุน เอวํ วิจาริตํ ‘‘ยทิ คาโห อธิกรณํ นาม, เอโก อตฺตาทานํ คเหตฺวา สภาเคน ภิกฺขุนา สทฺธึ มนฺตยมาโน ตตฺถ อาทีนวํ ทิสฺวา ปุน จชติ, ตสฺส ตํ อธิกรณํ สมถปฺปตฺตํ ภวิสฺสติ. ยทิ เจตนา อธิกรณํ, ‘‘อิทํ อตฺตาทานํ คณฺหามี’’ติ อุปฺปนฺนา เจตนา นิรุชฺฌติ. ยทิ อกฺขนฺติ อธิกรณํ, อกฺขนฺติยา อตฺตาทานํ คเหตฺวาปิ อปรภาเค วินิจฺฉยํ อลภมาโน วา ขมาปิโต วา จชติ. ยทิ โวหาโร อธิกรณํ, กเถนฺโต อาหิณฺฑิตฺวา อปรภาเค ตุณฺหี โหติ นิรโว, เอวมสฺส ตํ อธิกรณํ สมถปฺปตฺตํ ภวิสฺสติ, ตสฺมา ปณฺณตฺติ อธิกรณนฺติ.
ตํ ปเนตํ ‘‘เมถุนธมฺมปาราชิกาปตฺติ เมถุนธมฺมปาราชิกาปตฺติยา ตพฺภาคิยา…เป… เอวํ อาปตฺตาธิกรณํ อาปตฺตาธิกรณสฺส ตพฺภาคิยนฺติ จ วิวาทาธิกรณํ สิยา กุสลํ สิยา อกุสลํ สิยา อพฺยากต’’นฺติ จ เอวมาทีหิ วิรุชฺฌติ. น หิ เต ปณฺณตฺติยา กุสลาทิภาวํ อิจฺฉนฺติ, น จ ‘‘อมูลเกน ปาราชิเกน ธมฺเมนา’’ติ เอตฺถ อาคโต ปาราชิกธมฺโม ปณฺณตฺติ นาม โหติ. กสฺมา? อจฺจนฺตอกุสลตฺตา. วุตฺตมฺปิ เหตํ – ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ สิยา อพฺยากต’’นฺติ (ปริ. ๓๐๓).
ยฺเจตํ ‘‘อมูลเกน ปาราชิเกนา’’ติ เอตฺถ อมูลกํ ปาราชิกํ นิทฺทิฏฺํ, ตสฺเสวายํ ‘‘อมูลกฺเจว ตํ อธิกรณํ โหตี’’ติ ปฏินิทฺเทโส, น ปณฺณตฺติยา น หิ อฺํ นิทฺทิสิตฺวา ¶ อฺํ ปฏินิทฺทิสติ. ยสฺมา ปน ยาย ปณฺณตฺติยา เยน อภิลาเปน โจทเกน โส ปุคฺคโล ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนติ ปฺตฺโต, ปาราชิกสงฺขาตสฺส อธิกรณสฺส อมูลกตฺตา สาปิ ปฺตฺติ อมูลิกา โหติ, อธิกรเณ ปวตฺตตฺตา จ อธิกรณํ. ตสฺมา อิมินา ปริยาเยน ปณฺณตฺติ ‘‘อธิกรณ’’นฺติ ยุชฺเชยฺย, ยสฺมา วา ยํ อมูลกํ นาม อธิกรณํ ตํ สภาวโต นตฺถิ, ปฺตฺติมตฺตเมว อตฺถิ. ตสฺมาปิ ปณฺณตฺติ อธิกรณนฺติ ยุชฺเชยฺย. ตฺจ โข อิเธว น สพฺพตฺถ. น หิ วิวาทาทีนํ ปณฺณตฺติ อธิกรณํ. อธิกรณฏฺโ ปน เตสํ ปุพฺเพ วุตฺตสมเถหิ อธิกรณียตา. อิติ อิมินา อธิกรณฏฺเน อิเธกจฺโจ วิวาโท วิวาโท เจว อธิกรณฺจาติ วิวาทาธิกรณํ. เอส นโย เสเสสุ ¶ .
ตตฺถ ¶ ‘‘อิธ ภิกฺขู วิวทนฺติ ธมฺโมติ วา อธมฺโมติ วา’’ติ เอวํ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ นิสฺสาย อุปฺปนฺโน วิวาโท วิวาทาธิกรณํ. ‘‘อิธ ภิกฺขู ภิกฺขุํ อนุวทนฺติ สีลวิปตฺติยา วา’’ติ เอวํ จตสฺโส วิปตฺติโย นิสฺสาย อุปฺปนฺโน อนุวาโท อนุวาทาธิกรณํ. ‘‘ปฺจปิ อาปตฺติกฺขนฺธา อาปตฺตาธิกรณํ, สตฺตปิ อาปตฺติกฺขนฺธา อาปตฺตาธิกรณ’’นฺติ เอวํ อาปตฺติเยว อาปตฺตาธิกรณํ. ‘‘ยา สงฺฆสฺส กิจฺจยตา กรณียตา อปโลกนกมฺมํ ตฺติกมฺมํ ตฺติทุติยกมฺมํ ตฺติจตุตฺถกมฺม’’นฺติ (จูฬว. ๒๑๕) เอวํ จตุพฺพิธํ สงฺฆกิจฺจํ กิจฺจาธิกรณนฺติ เวทิตพฺพํ.
อิมสฺมึ ปนตฺเถ ปาราชิกาปตฺติสงฺขาตํ อาปตฺตาธิกรณเมว อธิปฺเปตํ. เสสานิ อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตานิ, เอตฺตกา หิ อธิกรณสทฺทสฺส อตฺถา. เตสุ ปาราชิกเมว อิธ อธิปฺเปตํ. ตํ ทิฏฺาทีหิ มูเลหิ อมูลกฺเจว อธิกรณํ โหติ. อยฺจ ภิกฺขุ โทสํ ปติฏฺาติ, ปฏิจฺจ ติฏฺติ ‘‘ตุจฺฉกํ มยา ภณิต’’นฺติอาทีนิ วทนฺโต ปฏิชานาติ. ตสฺส ภิกฺขุโน อนุทฺธํสิตกฺขเณเยว สงฺฆาทิเสโสติ อยํ ตาวสฺส สปทานุกฺกมนิทฺเทสสฺส สิกฺขาปทสฺส อตฺโถ.
๓๘๗. อิทานิ ยานิ ตานิ สงฺเขปโต ทิฏฺาทีนิ โจทนาวตฺถูนิ วุตฺตานิ, เตสํ วเสน วิตฺถารโต อาปตฺตึ โรเปตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อทิฏฺสฺส โหตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อทิฏฺสฺส โหตีติ อทิฏฺโ อสฺส โหติ. เอเตน โจทเกน อทิฏฺโ โหติ, โส ปุคฺคโล ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชนฺโตติ อตฺโถ. เอส นโย อสุตสฺส โหตีติอาทีสุปิ.
ทิฏฺโ มยาติ ทิฏฺโสิ มยาติ วุตฺตํ โหติ. เอส นโย สุโต มยาติอาทีสุปิ. เสสํ อทิฏฺมูลเก ¶ อุตฺตานตฺถเมว. ทิฏฺมูลเก ปน ตฺเจ โจเทติ ‘‘สุโต มยา’’ติ เอวํ วุตฺตานํ สุตฺตาทีนํ อาภาเวน อมูลกตฺตํ เวทิตพฺพํ.
สพฺพสฺมึเยว จ อิมสฺมึ โจทกวาเร ยถา อิธาคเตสุ ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนสิ, อสฺสมโณสิ, อสกฺยปุตฺติโยสี’’ติ อิเมสุ วจเนสุ เอเกกสฺส วเสน วาจาย วาจาย สงฺฆาทิเสโส โหติ, เอวํ ¶ อฺตฺร อาคเตสุ ‘‘ทุสฺสีโล, ปาปธมฺโม, อสุจิสงฺกสฺสรสมาจาโร, ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโต ¶ , อสฺสมโณ สมณปฏิฺโ, อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ, อนฺโตปูติ, อวสฺสุโต, กสมฺพุชาโต’’ติ อิเมสุปิ วจเนสุ เอเกกสฺส วเสน วาจาย วาจาย สงฺฆาทิเสโส โหติเยว.
‘‘นตฺถิ ตยา สทฺธึ อุโปสโถ วา ปวารณา วา สงฺฆกมฺมํ วา’’ติ อิมานิ ปน สุทฺธานิ สีสํ น เอนฺติ, ‘‘ทุสฺสีโลสิ นตฺถิ ตยา สทฺธึ อุโปสโถ วา’’ติ เอวํ ทุสฺสีลาทิปเทสุ ปน ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนสี’’ติอาทิปเทสุ วา เยน เกนจิ สทฺธึ ฆฏิตาเนว สีสํ เอนฺติ, สงฺฆาทิเสสกรานิ โหนฺติ.
มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘น เกวลํ อิธ ปาฬิยํ อนาคตานิ ‘ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม’ติอาทิปทาเนว สีสํ เอนฺติ, ‘โกณฺโสิ มหาสามเณโรสิ, มหาอุปาสโกสิ, เชฏฺพฺพติโกสิ, นิคณฺโสิ, อาชีวโกสิ, ตาปโสสิ, ปริพฺพาชโกสิ, ปณฺฑโกสิ, เถยฺยสํวาสโกสิ, ติตฺถิยปกฺกนฺตโกสิ, ติรจฺฉานคโตสิ, มาตุฆาตโกสิ, ปิตุฆาตโกสิ, อรหนฺตฆาตโกสิ, สงฺฆเภทโกสิ, โลหิตุปฺปาทโกสิ, ภิกฺขุนีทูสโกสิ, อุภโตพฺยฺชนกโอสี’ติ อิมานิปิ สีสํ เอนฺติเยวา’’ติ. มหาปทุมตฺเถโรเยว จ ‘‘ทิฏฺเ เวมติโกติอาทีสุ ยทคฺเคน เวมติโก ตทคฺเคน โน กปฺเปติ, ยทคฺเคน โน กปฺเปติ ตทคฺเคน นสฺสรติ, ยทคฺเคน นสฺสรติ ตทคฺเคน ปมุฏฺโ โหตี’’ติ วทติ.
มหาสุมตฺเถโร ปน เอเกกํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา จตุนฺนมฺปิ ปาเฏกฺกํ นยํ ทสฺเสติ. กถํ? ทิฏฺเ เวมติโกติ อยํ ตาว ทสฺสเน วา เวมติโก โหติ ปุคฺคเล วา, ตตฺถ ‘‘ทิฏฺโ นุโข มยา น ทิฏฺโ’’ติ เอวํ ทสฺสเน เวมติโก โหติ. ‘‘อยํ นุโข มยา ทิฏฺโ อฺโ’’ติ เอวํ ปุคฺคเล เวมติโก โหติ. เอวํ ทสฺสนํ วา โน กปฺเปติ ปุคฺคลํ วา, ทสฺสนํ วา นสฺสรติ ปุคฺคลํ วา, ทสฺสนํ วา ปมุฏฺโ โหติ ปุคฺคลํ วา. เอตฺถ จ เวมติโกติ วิมติชาโต. โน กปฺเปตีติ น สทฺทหติ. นสฺสรตีติ อสาริยมาโน นสฺสรติ. ยทา ปน ตํ ¶ ‘‘อสุกสฺมึ นาม ภนฺเต าเน อสุกสฺมึ นาม กาเล’’ติ สาเรนฺติ ตทา สรติ. ปมุฏฺโติ ¶ โย เตหิ เตหิ อุปาเยหิ สาริยมาโนปิ นสฺสรติเยวาติ ¶ . เอเตเนวุปาเยน โจทาปกวาโรปิ เวทิตพฺโพ, เกวลฺหิ ตตฺถ ‘‘มยา’’ติ ปริหีนํ, เสสํ โจทกวารสทิสเมว.
๓๘๙. ตโต ปรํ อาปตฺติเภทํ อนาปตฺติเภทฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘อสุทฺเธ สุทฺธทิฏฺี’’ติอาทิกํ จตุกฺกํ เปตฺวา เอกเมกํ ปทํ จตูหิ จตูหิ เภเทหิ นิทฺทิฏฺํ, ตํ สพฺพํ ปาฬินเยเนว สกฺกา ชานิตุํ. เกวลํ เหตฺถาธิปฺปายเภโท เวทิตพฺโพ. อยฺหิ อธิปฺปาโย นาม – จาวนาธิปฺปาโย, อกฺโกสาธิปฺปาโย, กมฺมาธิปฺปาโย, วุฏฺานาธิปฺปาโย, อุโปสถปวารณฏฺปนาธิปฺปาโย, อนุวิชฺชนาธิปฺปาโย, ธมฺมกถาธิปฺปาโยติ อเนกวิโธ. ตตฺถ ปุริเมสุ จตูสุ อธิปฺปาเยสุ โอกาสํ อการาเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. โอกาสํ การาเปตฺวาปิ จ สมฺมุขา อมูลเกน ปาราชิเกน อนุทฺธํเสนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส. อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน อนุทฺธํเสนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. อาจารวิปตฺติยา อนุทฺธํเสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. อกฺโกสาธิปฺปาเยน วทนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. อสมฺมุขา ปน สตฺตหิปิ อาปตฺติกฺขนฺเธหิ วทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. อสมฺมุขา เอว สตฺตวิธมฺปิ กมฺมํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว.
กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘วุฏฺานาธิปฺปาเยน ‘ตฺวํ อิมํ นาม อาปตฺตึ อาปนฺโน ตํ ปฏิกโรหี’ติ วทนฺตสฺส โอกาสกิจฺจํ นตฺถี’’ติ วุตฺตํ. สพฺพตฺเถว ปน ‘‘อุโปสถปวารณํ เปนฺตสฺส โอกาสกมฺมํ นตฺถี’’ติ วุตฺตํ. ปนกฺเขตฺตํ ปน ชานิตพฺพํ. ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ อชฺชุโปสโถ ปนฺนรโส ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ สงฺโฆ อุโปสถํ กเรยฺย’’ติ เอตสฺมิฺหิ เร-กาเร อนติกฺกนฺเตเยว เปตุํ ลพฺภติ. ตโต ปรํ ปน ยฺย-กาเร ปตฺเต น ลพฺภติ. เอส นโย ปวารณาย. อนุวิชฺชกสฺสาปิ โอสเฏ วตฺถุสฺมึ ‘‘อตฺเถตํ ตวา’’ติ อนุวิชฺชนาธิปฺปาเยน วทนฺตสฺส โอกาสกมฺมํ นตฺถิ.
ธมฺมกถิกสฺสาปิ ธมฺมาสเน นิสีทิตฺวา ‘‘โย อิทฺจิทฺจ กโรติ, อยํ ภิกฺขุ อสฺสมโณ’’ติอาทินา นเยน อโนทิสฺส ธมฺมํ กเถนฺตสฺส โอกาสกมฺมํ นตฺถิ. สเจ ปน โอทิสฺส นิยเมตฺวา ‘‘อสุโก จ อสุโก ¶ จ อสฺสมโณ อนุปาสโก’’ติ กเถติ, ธมฺมาสนโต โอโรหิตฺวา อาปตฺตึ เทเสตฺวา คนฺตพฺพํ. ยํ ปน ตตฺถ ตตฺถ ‘‘อโนกาสํ การาเปตฺวา’’ติ วุตฺตํ ตสฺส โอกาสํ อการาเปตฺวาติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ, น หิ โกจิ อโนกาโส นาม อตฺถิ, ยโมกาสํ ¶ การาเปตฺวา อาปตฺตึ อาปชฺชติ, โอกาสํ ปน อการาเปตฺวา อาปชฺชตีติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
สมุฏฺานาทีสุ ¶ ติสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต, วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
ปมทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ทุติยทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๙๑. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ ทุติยทุฏฺโทสสิกฺขาปทํ. ตตฺถ หนฺท มยํ อาวุโส อิมํ ฉคลกํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ นาม กโรมาติ เต กิร ปมวตฺถุสฺมึ อตฺตโน มโนรถํ สมฺปาเทตุํ อสกฺโกนฺตา ลทฺธนิคฺคหา วิฆาตปฺปตฺตา ‘‘อิทานิ ชานิสฺสามา’’ติ ตาทิสํ วตฺถุํ ปริเยสมานา วิจรนฺติ. อเถกทิวสํ ทิสฺวา ตุฏฺา อฺมฺํ โอโลเกตฺวา เอวมาหํสุ – ‘‘หนฺท มยํ, อาวุโส, อิมํ ฉคลกํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ นาม กโรมา’’ติ, ‘‘ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต นามาย’’นฺติ เอวมสฺส นามํ กโรมาติ วุตฺตํ โหติ. เอส นโย เมตฺติยํ นาม ภิกฺขุนินฺติ เอตฺถาปิ.
เต ภิกฺขู เมตฺติยภุมชเก ภิกฺขู อนุยฺุชึสูติ เอวํ อนุยฺุชึสุ –‘‘อาวุโส, กุหึ ตุมฺเหหิ ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต เมตฺติยาย ภิกฺขุนิยา สทฺธึ ทิฏฺโ’’ติ? ‘‘คิชฺฌกูฏปพฺพตปาเท’’ติ. ‘‘กาย เวลาย’’ติ? ‘‘ภิกฺขาจารคมนเวลายา’’ติ. อาวุโส ทพฺพ อิเม เอวํ วทนฺติ – ‘‘ตฺวํ ตทา กุหิ’’นฺติ? ‘‘เวฬุวเน ภตฺตานิ อุทฺทิสามี’’ติ. ‘‘ตว ตาย เวลาย เวฬุวเน อตฺถิภาวํ โก ชานาตี’’ติ? ‘‘ภิกฺขุสงฺโฆ, ภนฺเต’’ติ. เต สงฺฆํ ปุจฺฉึสุ – ‘‘ชานาถ ตุมฺเห ตาย เวลาย อิมสฺส เวฬุวเน อตฺถิภาว’’นฺติ. ‘‘อาม, อาวุโส, ชานาม, เถโร สมฺมุติลทฺธทิวสโต ¶ ปฏฺาย เวฬุวเนเยวา’’ติ. ตโต เมตฺติยภุมชเก อาหํสุ – ‘‘อาวุโส, ตุมฺหากํ กถา น สเมติ, กจฺจิ โน เลสํ โอฑฺเฑตฺวา วทถา’’ติ. เอวํ เต เตหิ ภิกฺขูหิ อนุยฺุชิยมานา อาม อาวุโสติ วตฺวา เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ.
กึ ¶ ปน ตุมฺเห, อาวุโส, อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺสาติ เอตฺถ อฺภาคสฺส อิทํ, อฺภาโค วา อสฺส อตฺถีติ อฺภาคิยํ. อธิกรณนฺติ อาธาโร เวทิตพฺโพ, วตฺถุ อธิฏฺานนฺติ วุตฺตํ โหติ. โย หิ โส ‘‘ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต นามา’’ติ ฉคลโก วุตฺโต, โส ยฺวายํ อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส ภาโค โกฏฺาโส ปกฺโข มนุสฺสชาติ เจว ภิกฺขุภาโว จ ตโต อฺสฺส ภาคสฺส โกฏฺาสสฺส ปกฺขสฺส โหติ ติรจฺฉานชาติยา ¶ เจว ฉคลกภาวสฺส จ โส วา อฺภาโค อสฺส อตฺถีติ ตสฺมา อฺภาคิยสงฺขฺยํ ลภติ. ยสฺมา จ เตสํ ‘‘อิมํ มยํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ นาม กโรมา’’ติ วทนฺตานํ ตสฺสา นามกรณสฺาย อาธาโร วตฺถุ อธิฏฺานํ, ตสฺมา อธิกรณนฺติ เวทิตพฺโพ. ตฺหิ สนฺธาย ‘‘เต ภิกฺขู อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺสา’’ติ อาหํสุ, น วิวาทาธิกรณาทีสุ อฺตรํ. กสฺมา? อสมฺภวโต. น หิ เต จตุนฺนํ อธิกรณานํ กสฺสจิ อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺส กฺจิเทสํ เลสมตฺตํ อุปาทิยึสุ. น จ จตุนฺนํ อธิกรณานํ เลโส นาม อตฺถิ. ชาติเลสาทโย หิ ปุคฺคลานํเยว เลสา วุตฺตา, น วิวาทาธิกรณาทีนํ. อิทฺจ ‘‘ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต’’ติ นามํ ตสฺส อฺภาคิยาธิกรณภาเว ิตสฺส ฉคลกสฺส โกจิ เทโส โหติ เถรํ อมูลเกน ปาราชิเกน อนุทฺธํเสตุํ เลสมตฺโต.
เอตฺถ จ ทิสฺสติ อปทิสฺสติ อสฺส อยนฺติ โวหรียตีติ เทโส. ชาติอาทีสุ อฺตรโกฏฺาสสฺเสตํ อธิวจนํ. อฺมฺปิ วตฺถุํ ลิสฺสติ สิลิสฺสติ โวหารมตฺเตเนว อีสกํ อลฺลียตีติ เลโส. ชาติอาทีนํเยว อฺตรโกฏฺาสสฺเสตํ อธิวจนํ. ตโต ปรํ อุตฺตานตฺถเมว. สิกฺขาปทปฺตฺติยมฺปิ อยเมวตฺโถ. ปทภาชเน ปน ยสฺส อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺส กิฺจิเทสํ เลสมตฺตํ อุปาทาย ปาราชิเกน ธมฺเมน อนุทฺธํเสยฺย ¶ , ตํ ยสฺมา อฏฺุปฺปตฺติวเสเนว อาวิภูตํ, ตสฺมา น วิภตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๓๙๓. ยานิ ปน อธิกรณนฺติ วจนสามฺโต อตฺถุทฺธารวเสน ปวตฺตานิ จตฺตาริ อธิกรณานิ, เตสํ อฺภาคิยตา จ ตพฺภาคิยตา จ ยสฺมา อปากฏา ชานิตพฺพา จ วินยธเรหิ, ตสฺมา วจนสามฺโต ลทฺธํ ¶ อธิกรณํ นิสฺสาย ตํ อาวิกโรนฺโต ‘‘อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺสาติ อาปตฺตฺภาคิยํ วา โหติ อธิกรณฺภาคิยํ วา’’ติอาทิมาห. ยา จ สา อวสาเน อาปตฺตฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺส วเสน โจทนา วุตฺตา, ตมฺปิ ทสฺเสตุํ อยํ สพฺพาธิกรณานํ ตพฺภาคิยอฺภาคิยตา สมาหฏาติ เวทิตพฺพา.
ตตฺถ จ อาปตฺตฺภาคิยํ วาติ ปมํ อุทฺทิฏฺตฺตา ‘‘กถฺจ อาปตฺติ อาปตฺติยา อฺภาคิยา โหตี’’ติ นิทฺเทเส อารภิตพฺเพ ยสฺมา อาปตฺตาธิกรณสฺส ตพฺภาคิยวิจารณายํเยว อยมตฺโถ อาคมิสฺสติ, ตสฺมา เอวํ อนารภิตฺวา ‘‘กถฺจ อธิกรณํ อธิกรณสฺส อฺภาคิย’’นฺติ ปจฺฉิมปทํเยว คเหตฺวา นิทฺเทโส อารทฺโธติ เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ¶ อฺภาคิยวาโร อุตฺตานตฺโถเยว. เอกเมกฺหิ อธิกรณํ อิตเรสํ ติณฺณํ ติณฺณํ อฺภาคิยํ อฺปกฺขิยํ อฺโกฏฺาสิยํ โหติ, วตฺถุวิสภาคตฺตา, ตพฺภาคิยวาเร ปน วิวาทาธิกรณํ วิวาทาธิกรณสฺส ตพฺภาคิยํ ตปฺปกฺขิยํ ตํโกฏฺาสิยํ วตฺถุสภาคตฺตา, ตถา อนุวาทาธิกรณํ อนุวาทาธิกรณสฺส. กถํ? พุทฺธกาลโต ปฏฺาย หิ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนวิวาโท จ อิทานิ อุปฺปชฺชนกวิวาโท จ วตฺถุสภาคตาย เอกํ วิวาทาธิกรณเมว โหติ, ตถา พุทฺธกาลโต ปฏฺาย จตสฺโส วิปตฺติโย นิสฺสาย อุปฺปนฺนอนุวาโท จ อิทานิ อุปฺปชฺชนกอนุวาโท จ วตฺถุสภาคตาย เอกํ อนุวาทาธิกรณเมว โหติ. ยสฺมา ปน อาปตฺตาธิกรณํ อาปตฺตาธิกรณสฺส สภาควิสภาควตฺถุโต สภาคสริกฺขาสริกฺขโต จ เอกํเสน ตพฺภาคิยํ น โหติ, ตสฺมา อาปตฺตาธิกรณํ อาปตฺตาธิกรณสฺส สิยา ตพฺภาคิยํ สิยา อฺภาคิยนฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ อาทิโต ปฏฺาย อฺภาคิยสฺส ปมํ นิทฺทิฏฺตฺตา อิธาปิ อฺภาคิยเมว ปมํ นิทฺทิฏฺํ, ตตฺถ อฺภาคิยตฺตฺจ ปรโต ตพฺภาคิยตฺตฺจ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
กิจฺจาธิกรณํ ¶ กิจฺจาธิกรณสฺส ตพฺภาคิยนฺติ เอตฺถ ปน พุทฺธกาลโต ปฏฺาย จตฺตาริ สงฺฆกมฺมานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ อธิกรณฺจ อิทานิ จตฺตาริ สงฺฆกมฺมานิ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกํ อธิกรณฺจ สภาคตาย สริกฺขตาย จ เอกํ กิจฺจาธิกรณเมว โหติ. กึ ปน สงฺฆกมฺมานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ อธิกรณํ ¶ กิจฺจาธิกรณํ, อุทาหุ สงฺฆกมฺมานเมเวตํ อธิวจนนฺติ? สงฺฆกมฺมานเมเวตํ อธิวจนํ. เอวํ สนฺเตปิ สงฺฆกมฺมํ นาม ‘‘อิทฺจิทฺจ เอวํ กตฺตพฺพ’’นฺติ ยํ กมฺมลกฺขณํ มนสิกโรติ ตํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโต ปุริมํ ปุริมํ สงฺฆกมฺมํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโต จ สงฺฆกมฺมานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ อธิกรณํ กิจฺจาธิกรณนฺติ วุตฺตํ.
๓๙๔. กิฺจิ เทสํ เลสมตฺตํ อุปาทายาติ เอตฺถ ปน ยสฺมา เทโสติ วา เลสมตฺโตติ วา ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว พฺยฺชนโต นานํ อตฺถโต เอกํ, ตสฺมา ‘‘เลโส นาม ทส เลสา ชาติเลโส นามเลโส’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ชาติเยว ชาติเลโส. เอส นโย เสเสสุ.
๓๙๕. อิทานิ ตเมว เลสํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ยถา ตํ อุปาทาย อนุทฺธํสนา โหติ ตถา สวตฺถุกํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ชาติเลโส นาม ขตฺติโย ทิฏฺโ โหตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ขตฺติโย ทิฏฺโ โหตีติ อฺโ โกจิ ขตฺติยชาติโย อิมินา โจทเกน ทิฏฺโ โหติ. ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชนฺโตติ เมถุนธมฺมาทีสุ อฺตรํ อาปชฺชนฺโต. อฺํ ขตฺติยํ ปสฺสิตฺวา ¶ โจเทตีติ อถ โส อฺํ อตฺตโน เวรึ ขตฺติยชาติยํ ภิกฺขุํ ปสฺสิตฺวา ตํ ขตฺติยชาติเลสํ คเหตฺวา เอวํ โจเทติ ‘‘ขตฺติโย มยา ทิฏฺโ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชนฺโต, ตฺวํ ขตฺติโย, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนสี’’ อถ วา ‘‘ตฺวํ โส ขตฺติโย, น อฺโ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนสิ, อสฺสมโณสิ อสกฺยปุตฺติโยสิ นตฺถิ ตยา สทฺธึ อุโปสโถ วา ปวารณา วา สงฺฆกมฺมํ วา’’ติ, อาปตฺติ วาจาย วาจาย สงฺฆาทิเสสสฺส. เอตฺถ จ เตสํ ขตฺติยานํ อฺมฺํ อสทิสสฺส ตสฺส ตสฺส ทีฆาทิโน วา ทิฏฺาทิโน วา วเสน อฺภาคิยตา ขตฺติยชาติปฺตฺติยา อาธารวเสน อธิกรณตา จ เวทิตพฺพา, เอเตนุปาเยน สพฺพปเทสุ โยชนา เวทิตพฺพา.
๔๐๐. ปตฺตเลสนิทฺเทเส จ ¶ สาฏกปตฺโตติ โลหปตฺตสทิโส สุสณฺาโน สุจฺฉวิ สินิทฺโธ ภมรวณฺโณ มตฺติกาปตฺโต วุจฺจติ. สุมฺภกปตฺโตติ ปกติมตฺติกาปตฺโต.
๔๐๖. ยสฺมา ¶ ปน อาปตฺติเลสสฺส เอกปเทเนว สงฺเขปโต นิทฺเทโส วุตฺโต, ตสฺมา วิตฺถารโตปิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสํ อชฺฌาปชฺชนฺโต ทิฏฺโ โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. กสฺมา ปนสฺส ตตฺเถว นิทฺเทสํ อวตฺวา อิธ วิสุํ วุตฺโตติ? เสสนิทฺเทเสหิ อสภาคตฺตา. เสสนิทฺเทสา หิ อฺํ ทิสฺวา อฺสฺส โจทนาวเสน วุตฺตา. อยํ ปน เอกเมว อฺํ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺตํ ทิสฺวา อฺาย อาปตฺติยา โจทนาวเสน วุตฺโต. ยทิ เอวํ กถํ อฺภาคิยํ อธิกรณํ โหตีติ? อาปตฺติยา. เตเนว วุตฺตํ – ‘‘เอวมฺปิ อาปตฺตฺภาคิยฺจ โหติ เลโส จ อุปาทินฺโน’’ติ. ยฺหิ โส สงฺฆาทิเสสํ อาปนฺโน ตํ ปาราชิกสฺส อฺภาคิยํ อธิกรณํ. ตสฺส ปน อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺส เลโส นาม โย โส สพฺพขตฺติยานํ สาธารโณ ขตฺติยภาโว วิย สพฺพาปตฺตีนํ สาธารโณ อาปตฺติภาโว. เอเตนุปาเยน เสสาปตฺติมูลกนโย โจทาปกวาโร จ เวทิตพฺโพ.
๔๐๘. อนาปตฺติ ตถาสฺี โจเทติ วา โจทาเปติ วาติ ‘‘ปาราชิกํเยว อยํ อาปนฺโน’’ติ โย เอวํ ตถาสฺี โจเทติ วา โจทาเปติ วา ตสฺส อนาปตฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิปิ ปมทุฏฺโทสสทิสาเนวาติ.
ทุติยทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ปมสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๐๙. เตน ¶ สมเยน พุทฺโธ ภควาติ สงฺฆเภทสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อถ โข เทวทตฺโตติอาทีสุ โย จ เทวทตฺโต, ยถา จ ปพฺพชิโต, เยน จ การเณน โกกาลิกาทโย อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘เอถ มยํ อาวุโส สมณสฺส โคตมสฺส สงฺฆเภทํ กริสฺสาม จกฺกเภท’’นฺติ อาห. ตํ สพฺพํ สงฺฆเภทกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๔๓) อาคตเมว. ปฺจวตฺถุยาจนา ปน กิฺจาปิ ตตฺเถว อาคมิสฺสติ. อถ โข อิธาปิ อาคตตฺตา ยเทตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ วตฺวาว คมิสฺสาม.
สาธุ ภนฺเตติ อายาจนา. ภิกฺขู ยาวชีวํ อารฺิกา อสฺสูติ อารฺิกธุตงฺคํ สมาทาย สพฺเพปิ ภิกฺขู ยาว ชีวนฺติ ตาว อารฺิกา โหนฺตุ ¶ , อรฺเเยว วสนฺตุ. โย คามนฺตํ โอสเรยฺย วชฺชํ นํ ผุเสยฺยาติ ¶ โย เอกภิกฺขุปิ อรฺํ ปหาย นิวาสตฺถาย คามนฺตํ โอสเรยฺย, วชฺชํ ตํ ผุเสยฺย นํ ภิกฺขุํ โทโส ผุสตุ, อาปตฺติยา นํ ภควา กาเรตู’’ติ อธิปฺปาเยน วทติ. เอส นโย เสสวตฺถูสุปิ.
๔๑๐. ชนํ สฺาเปสฺสามาติ ชนํ อมฺหากํ อปฺปิจฺฉตาทิภาวํ ชานาเปสฺสาม, อถ วา ปริโตเสสฺสาม ปสาเทสฺสามาติ วุตฺตํ โหติ.
อิมานิ ปน ปฺจ วตฺถูนิ ยาจโต เทวทตฺตสฺส วจนํ สุตฺวาว อฺาสิ ภควา ‘‘สงฺฆเภทตฺถิโก หุตฺวา อยํ ยาจตี’’ติ. ยสฺมา ปน ตานิ อนุชานิยมานานิ พหูนํ กุลปุตฺตานํ มคฺคนฺตรายาย สํวตฺตนฺติ, ตสฺมา ภควา ‘‘อลํ เทวทตฺตา’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘โย อิจฺฉติ อารฺิโก โหตู’’ติอาทิมาห.
เอตฺถ ปน ภควโต อธิปฺปายํ วิทิตฺวา กุลปุตฺเตน อตฺตโน ปติรูปํ เวทิตพฺพํ. อยฺเหตฺถ ภควโต อธิปฺปาโย – ‘‘เอโก ภิกฺขุ มหชฺฌาสโย โหติ มหุสฺสาโห, สกฺโกติ คามนฺตเสนาสนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อรฺเ วิหรนฺโต ทุกฺขสฺสนฺตํ กาตุํ. เอโก ทุพฺพโล โหติ อปฺปถาโม อรฺเ น สกฺโกติ, คามนฺเตเยว สกฺโกติ. เอโก มหพฺพโล สมปฺปวตฺตธาตุโก อธิวาสนขนฺติสมฺปนฺโน อิฏฺานิฏฺเสุ สมจิตฺโต อรฺเปิ คามนฺเตปิ สกฺโกติเยว. เอโก เนว คามนฺเต น อรฺเ สกฺโกติ ปทปรโม โหติ.
ตตฺร ¶ ยฺวายํ มหชฺฌาสโย โหติ มหุสฺสาโห, สกฺโกติ คามนฺตเสนาสนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อรฺเ วิหรนฺโต ทุกฺขสฺสนฺตํ กาตุํ, โส อรฺเเยว วสตุ, อิทมสฺส ปติรูปํ. สทฺธิวิหาริกาทโยปิ จสฺส อนุสิกฺขมานา อรฺเ วิหาตพฺพเมว มฺิสฺสนฺติ.
โย ปน ทุพฺพโล โหติ อปฺปถาโม คามนฺเตเยว สกฺโกติ ทุกฺขสฺสนฺตํ กาตุํ, น อรฺเ โส คามนฺเตเยว วสตุ, ยฺวายํ มหพฺพโล สมปฺปวตฺตธาตุโก อธิวาสนขนฺติสมฺปนฺโน อิฏฺานิฏฺเสุ สมจิตฺโต อรฺเปิ คามนฺเตปิ สกฺโกติเยว, อยมฺปิ คามนฺตเสนาสนํ ปหาย ¶ อรฺเ วิหรตุ, อิทมสฺส ปติรูปํ สทฺธิวิหาริกาปิ หิสฺส อนุสิกฺขมานา อรฺเ วิหาตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ.
โย ปนายํ เนว คามนฺเต น อรฺเ สกฺโกติ ปทปรโม โหติ. อยมฺปิ อรฺเเยว ¶ วสตุ. อยํ หิสฺส ธุตงฺคเสวนา กมฺมฏฺานภาวนา จ อายตึ มคฺคผลานํ อุปนิสฺสโย ภวิสฺสติ. สทฺธิวิหาริกาทโย จสฺส อนุสิกฺขมานา อรฺเ วิหาตพฺพํ มฺิสฺสนฺตีติ.
เอวํ ยฺวายํ ทุพฺพโล โหติ อปฺปถาโม คามนฺเตเยว วิหรนฺโต สกฺโกติ ทุกฺขสฺสนฺตํ กาตุํ น อรฺเ, อิมํ ปุคฺคลํ สนฺธาย ภควา ‘‘โย อิจฺฉติ คามนฺเต วิหรตู’’ติ อาห. อิมินา จ ปุคฺคเลน อฺเสมฺปิ ทฺวารํ ทินฺนํ.
ยทิ ปน ภควา เทวทตฺตสฺส วาทํ สมฺปฏิจฺเฉยฺย, ยฺวายํ ปุคฺคโล ปกติยา ทุพฺพโล โหติ อปฺปถาโม, โยปิ ทหรกาเล อรฺวาสํ อภิสมฺภุณิตฺวา ชิณฺณกาเล วา วาตปิตฺตาทีหิ สมุปฺปนฺนธาตุกฺโขภกาเล วา นาภิสมฺภุณาติ, คามนฺเตเยว ปน วิหรนฺโต สกฺโกติ ทุกฺขสฺสนฺตํ กาตุํ, เตสํ อริยมคฺคุปจฺเฉโท ภเวยฺย, อรหตฺตผลาธิคโม น ภเวยฺย, อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ วิโลมํ อนิยฺยานิกํ สตฺถุ สาสนํ ภเวยฺย, สตฺถา จ เตสํ อสพฺพฺู อสฺส ‘‘สกวาทํ ฉฑฺเฑตฺวา เทวทตฺตวาเท ปติฏฺิโต’’ติ คารยฺโห จ ภเวยฺย. ตสฺมา ภควา เอวรูเป ปุคฺคเล สงฺคณฺหนฺโต เทวทตฺตสฺส วาทํ ปฏิกฺขิปิ. เอเตเนวูปาเยน ปิณฺฑปาติกวตฺถุสฺมิมฺปิ ปํสุกูลิกวตฺถุสฺมิมฺปิ อฏฺ มาเส รุกฺขมูลิกวตฺถุสฺมิมฺปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. จตฺตาโร ปน มาเส รุกฺขมูลเสนาสนํ ปฏิกฺขิตฺตเมว.
มจฺฉมํสวตฺถุสฺมึ ติโกฏิปริสุทฺธนฺติ ตีหิ โกฏีหิ ปริสุทฺธํ, ทิฏฺาทีหิ อปริสุทฺธีหิ วิรหิตนฺติ อตฺโถ. เตเนวาห – ‘‘อทิฏฺํ, อสุตํ, อปริสงฺกิต’’นฺติ. ตตฺถ ‘‘อทิฏฺํ’’ นาม ภิกฺขูนํ อตฺถาย มิคมจฺเฉ วธิตฺวา คยฺหมานํ อทิฏฺํ. ‘‘อสุตํ’’ นาม ภิกฺขูนํ ¶ อตฺถาย มิคมจฺเฉ วธิตฺวา คหิตนฺติ อสุตํ. ‘‘อปริสงฺกิตํ’’ ปน ทิฏฺปริสงฺกิตํ สุตปริสงฺกิตํ ตทุภยวิมุตฺตปริสงฺกิตฺจ ตฺวา ตพฺพิปกฺขโต ชานิตพฺพํ. กถํ? อิธ ภิกฺขู ปสฺสนฺติ มนุสฺเส ชาลวาคุราทิหตฺเถ ¶ คามโต ว นิกฺขมนฺเต อรฺเ วา วิจรนฺเต, ทุติยทิวเส จ เนสํ ตํ คามํ ปิณฺฑาย ¶ ปวิฏฺานํ สมจฺฉมํสํ ปิณฺฑปาตํ อภิหรนฺติ. เต เตน ทิฏฺเน ปริสงฺกนฺติ ‘‘ภิกฺขูนํ นุโข อตฺถาย กต’’นฺติ อิทํ ทิฏฺปริสงฺกิตํ, นาม เอตํ คเหตุํ น วฏฺฏติ. ยํ เอวํ อปริสงฺกิตํ ตํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เต มนุสฺสา ‘‘กสฺมา ภนฺเต น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘นยิทํ ภนฺเต ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตํ, อมฺเหหิ อตฺตโน อตฺถาย วา ราชยุตฺตาทีนํ อตฺถาย วา กต’’นฺติ วทนฺติ กปฺปติ.
นเหว โข ภิกฺขู ปสฺสนฺติ; อปิจ สุณนฺติ, มนุสฺสา กิร ชาลวาคุราทิหตฺถา คามโต วา นิกฺขมนฺติ, อรฺเ วา วิจรนฺตี’’ติ. ทุติยทิวเส จ เนสํ ตํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ ‘‘ภิกฺขูนํ นุโข อตฺถาย กต’’นฺติ อิทํ ‘‘สุตปริสงฺกิตํ’’ นาม. เอตํ คเหตุํ น วฏฺฏติ, ยํ เอวํ อปริสงฺกิตํ ตํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เต มนุสฺสา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘นยิทํ, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตํ, อมฺเหหิ อตฺตโน อตฺถาย วา ราชยุตฺตาทีนํ อตฺถาย วา กต’’นฺติ วทนฺติ กปฺปติ.
นเหว โข ปน ภิกฺขู ปสฺสนฺติ, น สุณนฺติ; อปิจ โข เตสํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ ปตฺตํ คเหตฺวา สมจฺฉมํสํ ปิณฺฑปาตํ อภิสงฺขริตฺวา อภิหรนฺติ, เต ปริสงฺกนฺติ ‘‘ภิกฺขูนํ นุโข อตฺถาย กต’’นฺติ อิทํ ‘‘ตทุภยวิมุตฺตปริสงฺกิตํ’’ นาม. เอตํ คเหตุํ น วฏฺฏติ. ยํ เอวํ อปริสงฺกิตํ ตํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เต มนุสฺสา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘นยิทํ, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตํ อมฺเหหิ อตฺตโน อตฺถาย วา ราชยุตฺตาทีนํ อตฺถาย วา กตํ ปวตฺตมํสํ วา กปฺปิยเมว ลภิตฺวา ภิกฺขูนํ อตฺถาย สมฺปาทิต’’นฺติ วทนฺติ กปฺปติ. มตานํ เปตกิจฺจตฺถาย มงฺคลาทีนํ วา อตฺถาย กเตปิ เอเสว นโย. ยํ ยฺหิ ภิกฺขูนํเยว อตฺถาย อกตํ, ยตฺถ จ นิพฺเพมติโก โหติ, ตํ สพฺพํ กปฺปติ.
สเจ ปน เอกสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู อุทฺทิสฺส กตํ โหติ, เต จ อตฺตโน อตฺถาย กตภาวํ น ชานนฺติ, อฺเ ชานนฺติ. เย ชานนฺติ, เตสํ น วฏฺฏติ ¶ , อิตเรสํ วฏฺฏติ. อฺเ น ชานนฺติ, เตเยว ชานนฺติ, เตสํเยว น วฏฺฏติ, อฺเสํ วฏฺฏติ. เตปิ อมฺหากํ อตฺถาย กตนฺติ ชานนฺติ, อฺเปิ เอเตสํ อตฺถาย ¶ กตนฺติ ชานนฺติ, สพฺเพสมฺปิ น วฏฺฏติ, สพฺเพ ¶ น ชานนฺติ, สพฺเพสมฺปิ วฏฺฏติ. ปฺจสุ หิ สหธมฺมิเกสุ ยสฺส วา ตสฺส วา อตฺถาย อุทฺทิสฺส กตํ, สพฺเพสํ น กปฺปติ.
สเจ ปน โกจิ เอกํ ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส ปาณํ วธิตฺวา ตสฺส ปตฺตํ ปูเรตฺวา เทติ, โส จ อตฺตโน อตฺถาย กตภาวํ ชานํเยว คเหตฺวา อฺสฺส ภิกฺขุโน เทติ, โส ตสฺส สทฺธาย ปริภฺุชติ, กสฺส อาปตฺตีติ? ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺติ. ยฺหิ อุทฺทิสฺส กตํ ตสฺส อภุตฺตตาย อนาปตฺติ, อิตรสฺส อชานนตาย. กปฺปิยมํสสฺส หิ ปฏิคฺคหเณ อาปตฺติ นตฺถิ. อุทฺทิสฺส กตฺจ อชานิตฺวา ภุตฺตสฺส ปจฺฉา ตฺวา อาปตฺติเทสนากิจฺจํ นาม นตฺถิ, อกปฺปิยมํสํ ปน อชานิตฺวา ภุตฺเตน ปจฺฉา ตฺวาปิ อาปตฺติ เทเสตพฺพา, อุทฺทิสฺส กตฺหิ ตฺวา ภฺุชโตว อาปตฺติ. อกปฺปิยมํสํ อชานิตฺวา ภฺุชนฺตสฺสาปิ อาปตฺติเยว. ตสฺมา อาปตฺติภีรุเกน รูปํ สลฺลกฺเขนฺเตนปิ ปุจฺฉิตฺวาว มํสํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ. ปริโภคกาเล ปุจฺฉิตฺวา ปริภฺุชิสฺสามีติ วา คเหตฺวา ปุจฺฉิตฺวาว ปริภฺุชิตพฺพํ. กสฺมา? ทุวิฺเยฺยตฺตา. อจฺฉมํสํ หิ สูกรมํสสทิสํ โหติ, ทีปิมํสาทีนิปิ มิคมํสาทิสทิสานิ, ตสฺมา ปุจฺฉิตฺวา คหณเมว วตฺตนฺติ วทนฺติ.
หฏฺโ อุทคฺโคติ ตุฏฺโ เจว อุนฺนตกายจิตฺโต จ หุตฺวา. โส กิร ‘‘น ภควา อิมานิ ปฺจ วตฺถูนิ อนุชานาติ, อิทานิ สกฺขิสฺสามิ สงฺฆเภทํ กาตุ’’นฺติ โกกาลิกสฺส อิงฺคิตาการํ ทสฺเสตฺวา ยถา วิสํ วา ขาทิตฺวา รชฺชุยา วา อุพฺพนฺธิตฺวา สตฺถํ วา อาหริตฺวา มริตุกาโม ปุริโส วิสาทีสุ อฺตรํ ลภิตฺวา ตปฺปจฺจยา อาสนฺนมฺปิ มรณทุกฺขํ อชานนฺโต หฏฺโ อุทคฺโค โหติ; เอวเมว สงฺฆเภทปจฺจยา อาสนฺนมฺปิ อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺติตฺวา ปฏิสํเวทนียํ ทุกฺขํ อชานนฺโต ‘‘ลทฺโธ ทานิ เม สงฺฆเภทสฺส อุปาโย’’ติ หฏฺโ อุทคฺโค สปริโส อุฏฺายาสนา เตเนว หฏฺภาเวน ภควนฺตํ ¶ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.
เต มยํ อิเมหิ ปฺจหิ วตฺถูหิ สมาทาย วตฺตามาติ เอตฺถ ปน ‘‘อิมานิ ปฺจ วตฺถูนี’’ติ วตฺตพฺเพปิ เต มยํ อิเมหิ ปฺจหิ วตฺถูหิ ชนํ สฺาเปสฺสามาติ อภิณฺหํ ปริวิตกฺกวเสน วิภตฺติวิปลฺลาสํ อสลฺลกฺเขตฺวา อภิณฺหํ ปริวิตกฺกานุรูปเมว ‘‘เต มยํ อิเมหิ ปฺจหิ วตฺถูหี’’ติ อาห, ยถา ตํ วิกฺขิตฺตจิตฺโต.
ธุตา ¶ ¶ สลฺเลขวุตฺติโนติ ยา ปฏิปทา กิเลเส ธุนาติ, ตาย สมนฺนาคตตฺตา ธุตา. ยา จ กิเลเส สลฺลิขติ, สา เอเตสํ วุตฺตีติ สลฺเลขวุตฺติโน.
พาหุลิโกติ จีวราทีนํ ปจฺจยานํ พหุลภาโว พาหุลฺลํ, ตํ พาหุลฺลมสฺส อตฺถิ, ตสฺมึ วา พาหุลฺเล นิยุตฺโต ิโตติ พาหุลิโก. พาหุลฺลาย เจเตตีติ พาหุลตฺตาย เจเตติ กปฺเปติ ปกปฺเปติ. กถฺหิ นาม มยฺหฺจ สาวกานฺจ จีวราทีนํ ปจฺจยานํ พหุลภาโว ภเวยฺยาติ เอวํ อุสฺสุกฺกมาปนฺโนติ อธิปฺปาโย. จกฺกเภทายาติ อาณาเภทาย.
ธมฺมึ กถํ กตฺวาติ ขนฺธเก วุตฺตนเยน ‘‘อลํ, เทวทตฺต, มา เต รุจฺจิ สงฺฆเภโท. ครุโก โข, เทวทตฺต, สงฺฆเภโท. โย โข, เทวทตฺต, สมคฺคํ สงฺฆํ ภินฺทติ, กปฺปฏฺิกํ กิพฺพิสํ ปสวติ, กปฺปํ นิรยมฺหิ ปจฺจติ, โย จ โข, เทวทตฺต, ภินฺนํ สงฺฆํ สมคฺคํ กโรติ, พฺรหฺมํ ปฺุํ ปสวติ, กปฺปํ สคฺคมฺหิ โมทตี’’ติ (จูฬว. ๓๔๓) เอวมาทิกํ อเนกปฺปการํ เทวทตฺตสฺส จ ภิกฺขูนฺจ ตทนุจฺฉวิกํ ตทนุโลมิกํ ธมฺมึ กถํ กตฺวา.
๔๑๑. สมคฺคสฺสาติ สหิตสฺส จิตฺเตน จ สรีเรน จ อวิยุตฺตสฺสาติ อตฺโถ. ปทภาชเนปิ หิ อยเมว อตฺโถ ทสฺสิโต. สมานสํวาสโกติ หิ วทตา จิตฺเตน อวิโยโค ทสฺสิโต โหติ. สมานสีมายํ ิโตติ วทตา สรีเรน. กถํ? สมานสํวาสโก หิ ลทฺธินานาสํวาสเกน วา กมฺมนานาสํวาสเกน วา วิรหิโต สมจิตฺตตาย จิตฺเตน อวิยุตฺโต โหติ. สมานสีมายํ ิโต กายสามคฺคิทานโต สรีเรน อวิยุตฺโต.
เภทนสํวตฺตนิกํ วา อธิกรณนฺติ เภทนสฺส สงฺฆเภทสฺส อตฺถาย สํวตฺตนิกํ การณํ. อิมสฺมิฺหิ โอกาเส ¶ ‘‘กามเหตุ กามนิทานํ กามาธิกรณ’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๖๘) วิย การณํ อธิกรณนฺติ อธิปฺเปตํ. ตฺจ ยสฺมา อฏฺารสวิธํ โหติ, ตสฺมา ปทภาชเน ‘‘อฏฺารส เภทกรวตฺถูนี’’ติ วุตฺตํ. ตานิ ปน ‘‘อิธูปาลิ, ภิกฺขุ อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปตี’’ติอาทินา ¶ (จูฬว. ๓๕๒) นเยน ขนฺธเก อาคตานิ, ตสฺมา ตตฺเรว เนสํ อตฺถํ วณฺณยิสฺสาม. โยปิ จายํ อิมานิ วตฺถูนิ นิสฺสาย อปเรหิปิ กมฺเมน, อุทฺเทเสน, โวหาเรน, อนุสาวนาย, สลากคฺคาเหนาติ ปฺจหิ การเณหิ สงฺฆเภโท โหติ, ตมฺปิ อาคตฏฺาเนเยว ปกาสยิสฺสาม. สงฺเขปโต ปน เภทนสํวตฺตนิกํ วา อธิกรณํ สมาทายาติ เอตฺถ สงฺฆเภทสฺส อตฺถาย สํวตฺตนิกํ สงฺฆเภทนิปฺผตฺติสมตฺถํ การณํ คเหตฺวาติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปคฺคยฺหาติ ปคฺคหิตํ อพฺภุสฺสิตํ ปากฏํ กตฺวา. ติฏฺเยฺยาติ ยถาสมาทินฺนํ ยถาปคฺคหิตเมว จ กตฺวา อจฺเฉยฺย ¶ . ยสฺมา ปน เอวํ ปคฺคณฺหตา ติฏฺตา จ ตํ ทีปิตฺเจว อปฺปฏินิสฺสฏฺฺจ โหติ, ตสฺมา ปทภาชเน ‘‘ทีเปยฺยา’’ติ จ ‘‘นปฺปฏินิสฺสชฺเชยฺยา’’ติ จ วุตฺตํ.
ภิกฺขูหิ เอวมสฺส วจนีโยติ อฺเหิ ลชฺชีหิ ภิกฺขูหิ เอวํ วตฺตพฺโพ ภเวยฺย. ปทภาชเน จสฺส เย ปสฺสนฺตีติ เย สมฺมุขา ปคฺคยฺห ติฏฺนฺตํ ปสฺสนฺติ. เย สุณนฺตีติ เยปิ ‘‘อสุกสฺมึ นาม วิหาเร ภิกฺขู เภทนสํวตฺตนิกํ อธิกรณํ สมาทาย ปคฺคยฺห ติฏฺนฺตี’’ติ สุณนฺติ.
สเมตายสฺมา สงฺเฆนาติ อายสฺมา สงฺเฆน สทฺธึ สเมตุ สมาคจฺฉตุ เอกลทฺธิโก โหตูติ อตฺโถ. กึ การณา? สมคฺโค หิ สงฺโฆ สมฺโมทมาโน อวิวทมาโน เอกุทฺเทโส ผาสุ วิหรตีติ.
ตตฺถ สมฺโมทมาโนติ อฺมฺํ สมฺปตฺติยา สฏฺุ โมทมาโน. อวิวทมาโนติ ‘‘อยํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม’’ติ เอวํ น วิวทมาโน. เอโก อุทฺเทโส อสฺสาติ เอกุทฺเทโส, เอกโต ปวตฺตปาติโมกฺขุทฺเทโส, น วิสุนฺติ อตฺโถ. ผาสุ วิหรตีติ สุขํ วิหรติ.
อิจฺเจตํ กุสลนฺติ เอตํ ปฏินิสฺสชฺชนํ กุสลํ เขมํ โสตฺถิภาโว ตสฺส ภิกฺขุโน. โน เจ ปฏินิสฺสชฺชติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ ติกฺขตฺตุํ วุตฺตสฺส อปฺปฏินิสฺสชฺชโต ทุกฺกฏํ. สุตฺวา น วทนฺติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เย สุตฺวา น วทนฺติ, เตสมฺปิ ¶ ทุกฺกฏํ. กีวทูเร สุตฺวา อวทนฺตานํ ทุกฺกฏํ? เอกวิหาเร ตาว วตฺตพฺพํ นตฺถิ. อฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ ‘‘สมนฺตา อทฺธโยชเน ภิกฺขูนํ ภาโร. ทูตํ วา ปณฺณํ วา เปเสตฺวา วทโตปิ อาปตฺติโมกฺโข นตฺถิ. สยเมว คนฺตฺวา ‘ครุโก โข, อาวุโส, สงฺฆเภโท ¶ , มา สงฺฆเภทาย, ปรกฺกมี’ติ นิวาเรตพฺโพ’’ติ. ปโหนฺเตน ปน ทูรมฺปิ คนฺตพฺพํ อคิลานานฺหิ ทูเรปิ ภาโรเยว.
อิทานิ ‘‘เอวฺจ โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ วุจฺจมาโน’’ติอาทีสุ อตฺถมตฺตเมว ทสฺเสตุํ ‘‘โส ภิกฺขุ สงฺฆมชฺฌมฺปิ อากฑฺฒิตฺวา วตฺตพฺโพ’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สงฺฆมชฺฌมฺปิ อากฑฺฒิตฺวาติ สเจ ปุริมนเยน วุจฺจมาโน น ปฏินิสฺสชฺชติ หตฺเถสุ จ ปาเทสุ จ คเหตฺวาปิ สงฺฆมชฺฌํ อากฑฺฒิตฺวา ปุนปิ ‘‘มา อายสฺมา’’ติอาทินา นเยน ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺโพ.
ยาวตติยํ สมนุภาสิตพฺโพติ ยาว ตติยํ สมนุภาสนํ ตาว สมนุภาสิตพฺโพ. ตีหิ สมนุภาสนกมฺมวาจาหิ กมฺมํ กาตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปทภาชเน ปนสฺส อตฺถเมว คเหตฺวา สมนุภาสนวิธึ ¶ ทสฺเสตุํ ‘‘โส ภิกฺขุ สมนุภาสิตพฺโพ. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, สมนุภาสิตพฺโพ’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๔๑๔. ตตฺถ ตฺติยา ทุกฺกฏํ ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจยา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ ยฺจ ตฺติปริโยสาเน ทุกฺกฏํ อาปนฺโน, เย จ ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจเย, ตา ติสฺโสปิ อาปตฺติโย ‘‘ยสฺส นกฺขมติ โส ภาเสยฺยา’’ติ เอวํ ยฺย-การปฺปตฺตมตฺตาย ตติยกมฺมวาจาย ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ สงฺฆาทิเสโสเยว ติฏฺติ. กึ ปน อาปนฺนาปตฺติโย ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ อนาปนฺนาติ? มหาสุมตฺเถโร ตาว วทติ ‘‘โย อวสาเน ปฏินิสฺสชฺชิสฺสติ, โส ตา อาปตฺติโย น อาปชฺชติ, ตสฺมา อนาปนฺนา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตี’’ติ. มหาปทุมตฺเถโร ปน ลิงฺคปริวตฺเตน อสาธารณาปตฺติโย วิย อาปนฺนา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, อนาปนฺนานํ กึ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา’’ติ อาห.
๔๑๕. ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺีติ ตฺเจ สมนุภาสนกมฺมํ ธมฺมกมฺมํ โหติ, ตสฺมึ ธมฺมกมฺมสฺีติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อิธ สฺา น รกฺขติ, กมฺมสฺส ธมฺมิกตฺตา ¶ เอว อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺโต อาปชฺชติ.
๔๑๖. อสมนุภาสนฺตสฺสาติ อสมนุภาสิยมานสฺส อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺสาปิ สงฺฆาทิเสเสน อนาปตฺติ.
ปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺสาติ ¶ ตฺติโต ปุพฺเพ วา ตฺติกฺขเณ วา ตฺติปริโยสาเน วา ปมาย วา อนุสาวนาย ทุติยาย วา ตติยาย วา ยาว ยฺย-การํ น สมฺปาปุณาติ, ตาว ปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺส สงฺฆาทิเสเสน อนาปตฺติ.
อาทิกมฺมิกสฺสาติ. เอตฺถ ปน ‘‘เทวทตฺโต สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส เภทาย ปรกฺกมิ, ตสฺมึ วตฺถุสฺมิ’’นฺติ ปริวาเร (ปริ. ๑๗) อาคตตฺตา เทวทตฺโต อาทิกมฺมิโก. โส จ โข สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนสฺเสว, น อปฺปฏินิสฺสชฺชนสฺส. น หิ ตสฺส ตํ กมฺมํ กตํ. กถมิทํ ชานิตพฺพนฺติ เจ? สุตฺตโต. ยถา หิ ‘‘อริฏฺโ ภิกฺขุ คทฺธพาธิปุพฺโพ ยาวตติยํ สมนุภาสนาย น ปฏินิสฺสชฺชิ, ตสฺมึ วตฺถุสฺมิ’’นฺติ ปริวาเร (ปริ. ๑๒๑) อาคตตฺตา อริฏฺสฺส กมฺมํ กตนฺติ ปฺายติ, น ตถา เทวทตฺตสฺส. อถาปิสฺส กเตน ภวิตพฺพนฺติ โกจิ อตฺตโน รุจิมตฺเตน วเทยฺย, ตถาปิ อปฺปฏินิสฺสชฺชเน อาทิกมฺมิกสฺส อนาปตฺติ นาม ¶ นตฺถิ. น หิ ปฺตฺตํ สิกฺขาปทํ วีติกฺกมนฺตสฺส อฺตฺร อุทฺทิสฺส อนฺุาตโต อนาปตฺติ นาม ทิสฺสติ. ยมฺปิ อริฏฺสิกฺขาปทสฺส อนาปตฺติยํ ‘‘อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ โปตฺถเกสุ ลิขิตํ, ตํ ปมาทลิขิตํ. ปมาทลิขิตภาโว จสฺส ‘‘ปมํ อริฏฺโ ภิกฺขุ โจเทตพฺโพ, โจเทตฺวา สาเรตพฺโพ, สาเรตฺวา อาปตฺตึ โรเปตพฺโพ’’ติ (จูฬว. ๖๕) เอวํ กมฺมกฺขนฺธเก อาปตฺติโรปนวจนโต เวทิตพฺโพ.
อิติ เภทาย ปรกฺกมเน อาทิกมฺมิกสฺส เทวทตฺตสฺส ยสฺมา ตํ กมฺมํ น กตํ, ตสฺมาสฺส อาปตฺติเยว น ชาตา. สิกฺขาปทํ ปน ตํ อารพฺภ ปฺตฺตนฺติ กตฺวา ‘‘อาทิกมฺมิโก’’ติ วุตฺโต. อิติ อาปตฺติยา อภาวโตเยวสฺส อนาปตฺติ วุตฺตา. สา ปเนสา กิฺจาปิ อสมนุภาสนฺตสฺสาติ อิมินาว สิทฺธา, ยสฺมา ปน อสมนุภาสนฺโต นาม ยสฺส เกวลํ สมนุภาสนํ น กโรนฺติ, โส ¶ วุจฺจติ, น อาทิกมฺมิโก. อยฺจ เทวทตฺโต อาทิกมฺมิโกเยว, ตสฺมา ‘‘อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ วุตฺตํ. เอเตนุปาเยน เปตฺวา อริฏฺสิกฺขาปทํ สพฺพสมนุภาสนาสุ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว.
สมุฏฺานาทีสุ ติวงฺคิกํ เอกสมุฏฺานํ, สมนุภาสนสมุฏฺานํ นามเมตํ, กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ. ปฏินิสฺสชฺชามีติ กายวิการํ วา วจีเภทํ วา ¶ อกโรนฺตสฺเสว ปน อาปชฺชนโต อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
ปมสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. ทุติยสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๑๗-๘. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ ทุติยสงฺฆเภทสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อนุวตฺตกาติ ตสฺส ทิฏฺิขนฺติรุจิคฺคหเณน อนุปฏิปชฺชนกา. วคฺคํ อสามคฺคิปกฺขิยวจนํ วทนฺตีติ วคฺควาทกา. ปทภาชเน ปน ‘‘ตสฺส วณฺณาย ปกฺขาย ิตา โหนฺตี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺส สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนฺตสฺส วณฺณตฺถาย จ ปกฺขวุฑฺฒิอตฺถาย จ ิตาติ อตฺโถ. เย หิ วคฺควาทกา, เต นิยเมน อีทิสา โหนฺติ, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ติณฺณํ อุทฺธํ กมฺมารหา น โหนฺติ, น หิ สงฺโฆ สงฺฆสฺส กมฺมํ กโรติ, ตสฺมา เอโก วา ทฺเว วา ตโย วาติ วุตฺตํ.
ชานาติ ¶ โนติ อมฺหากํ ฉนฺทาทีนิ ชานาติ. ภาสตีติ ‘‘เอวํ กโรมา’’ติ อมฺเหหิ สทฺธึ ภาสติ. อมฺหากมฺเปตํ ขมตีติ ยํ โส กโรติ, เอตํ อมฺหากมฺปิ รุจฺจติ.
สเมตายสฺมนฺตานํ สงฺเฆนาติ อายสฺมนฺตานํ จิตฺตํ สงฺเฆน สทฺธึ สเมตุ สมาคจฺฉตุ, เอกีภาวํ ยาตูติ วุตฺตํ โหติ. เสสเมตฺถ ปมสิกฺขาปเท วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถตฺตา จ ปากฏเมว.
สมุฏฺานาทีนิปิ ปมสิกฺขาปทสทิสาเนวาติ.
ทุติยสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. ทุพฺพจสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๒๔. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ ทุพฺพจสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อนาจารํ อาจรตีติ อเนกปฺปการํ กายวจีทฺวารวีติกฺกมํ กโรติ. กึ นุ โข นามาติ วมฺภนวจนเมตํ. อหํ โข นามาติ อุกฺกํสวจนํ. ตุมฺเห วเทยฺยนฺติ ¶ ‘‘อิทํ กโรถ, อิทํ มา กโรถา’’ติ อหํ ตุมฺเห วตฺตุํ ¶ อรหามีติ ทสฺเสติ. กสฺมาติ เจ? ยสฺมา อมฺหากํ พุทฺโธ ภควา กณฺฏกํ อารุยฺห มยา สทฺธึ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิโตติเอวมาทิมตฺถํ สนฺธายาห. ‘‘อมฺหากํ ธมฺโม’’ติ วตฺวา ปน อตฺตโน สนฺตกภาเว ยุตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘อมฺหากํ อยฺยปุตฺเตน ธมฺโม อภิสมิโต’’ติ อาห. ยสฺมา อมฺหากํ อยฺยปุตฺเตน จตุสจฺจธมฺโม ปฏิวิทฺโธ, ตสฺมา ธมฺโมปิ อมฺหากนฺติ วุตฺตํ โหติ. สงฺฆํ ปน อตฺตโน เวริปกฺเข ิตํ มฺมาโน อมฺหากํ สงฺโฆติ น วทติ. อุปมํ ปน วตฺวา สงฺฆํ อปสาเทตุกาโม ‘‘เสยฺยถาปิ นามา’’ติอาทิมาห. ติณกฏฺปณฺณสฏนฺติ ตตฺถ ตตฺถ ปติตํ ติณกฏฺปณฺณํ. อถ วา ติณฺจ นิสฺสารกํ ลหุกํ กฏฺฺจ ติณกฏฺํ. ปณฺณสฏนฺติ ปุราณปณฺณํ. อุสฺสาเรยฺยาติ ราสึ กเรยฺย.
ปพฺพเตยฺยาติ ปพฺพตปฺปภวา, สา หิ สีฆโสตา โหติ, ตสฺมา ตเมว คณฺหาติ. สงฺขเสวาลปณกนฺติ เอตฺถ สงฺโขติ ทีฆมูลโก ปณฺณเสวาโล วุจฺจติ. เสวาโลติ นีลเสวาโล, อวเสโส อุทกปปฺปฏกติลพีชกาทิ สพฺโพปิ ปณโกติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ. เอกโต อุสฺสาริตาติ เอกฏฺาเน เกนาปิ สมฺปิณฺฑิตา ราสีกตาติ ทสฺเสติ.
๔๒๕-๖. ทุพฺพจชาติโกติ ทุพฺพจสภาโว วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺโยติ อตฺโถ. ปทภาชเนปิสฺส ¶ ทุพฺพโจติ ทุกฺเขน กิจฺเฉน วทิตพฺโพ, น สกฺกา สุเขน วตฺตุนฺติ อตฺโถ. โทวจสฺสกรเณหีติ ทุพฺพจภาวกรณีเยหิ, เย ธมฺมา ทุพฺพจํ ปุคฺคลํ กโรนฺติ, เตหิ สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. เต ปน ‘‘กตเม จ, อาวุโส, โทวจสฺสกรณา ธมฺมา? อิธาวุโส, ภิกฺขุ ปาปิจฺโฉ โหตี’’ติอาทินา นเยน ปฏิปาฏิยา อนุมานสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๑๘๑) อาคตา ปาปิจฺฉตา, อตฺตุกฺกํสกปรวมฺภกตา, โกธนตา, โกธเหตุ อุปนาหิตา, โกธเหตุอภิสงฺคิตา, โกธเหตุโกธสามนฺตวาจานิจฺฉารณตา, โจทกํ ปฏิปฺผรณตา, โจทกํ อปสาทนตา, โจทกสฺส ปจฺจาโรปนตา, อฺเน อฺํปฏิจรณตา ¶ , อปทาเนน น สมฺปายนตา, มกฺขิปฬาสิตา, อิสฺสุกีมจฺฉริตา, สมายาวิตา, ถทฺธาติมานิตา, สนฺทิฏฺิปรามาสิอาธานคฺคหิทุปฺปฏินิสฺสคฺคิตาติ เอกูนวีสติ ธมฺมา เวทิตพฺพา.
โอวาทํ ¶ นกฺขมติ น สหตีติ อกฺขโม. ยถานุสิฏฺํ อปฺปฏิปชฺชนโต ปทกฺขิเณน อนุสาสนึ น คณฺหาตีติ อปฺปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนึ.
อุทฺเทสปริยาปนฺเนสูติ อุทฺเทเส ปริยาปนฺเนสุ อนฺโตคเธสุ. ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺติ, โส อาวิกเรยฺยา’’ติ เอวํ สงฺคหิตตฺตา อนฺโต ปาติโมกฺขสฺส วตฺตมาเนสูติ อตฺโถ. สหธมฺมิกํ วุจฺจมาโนติ สหธมฺมิเกน วุจฺจมาโน กรณตฺเถ อุปโยควจนํ, ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ สิกฺขิตพฺพตฺตา เตสํ วา สนฺตกตฺตา สหธมฺมิกนฺติ ลทฺธนาเมน พุทฺธปฺตฺเตน สิกฺขาปเทน วุจฺจมาโนติ อตฺโถ.
วิรมถายสฺมนฺโต มม วจนายาติ เยน วจเนน มํ วทถ, ตโต มม วจนโต วิรมถ. มา มํ ตํ วจนํ วทถาติ วุตฺตํ โหติ.
วทตุ สหธมฺเมนาติ สหธมฺมิเกน สิกฺขาปเทน สหธมฺเมน วา อฺเนปิ ปาสาทิกภาวสํวตฺตนิเกน วจเนน วทตุ. ยทิทนฺติ วุฑฺฒิการณนิทสฺสนตฺเถ นิปาโต. เตน ‘‘ยํ อิทํ อฺมฺสฺส หิตวจนํ อาปตฺติโต วุฏฺาปนฺจ เตน อฺมฺวจเนน อฺมฺวุฏฺาปเนน จ สํวฑฺฒา ปริสา’’ติ เอวํ ปริสาย วุฑฺฒิการณํ ทสฺสิตํ โหติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว.
สมุฏฺานาทีนิ ปมสงฺฆเภทสทิสาเนวาติ.
ทุพฺพจสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. กุลทูสกสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๓๑. เตน ¶ สมเยน พุทฺโธ ภควาติ กุลทูสกสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อสฺสชิปุนพฺพสุกา นามาติ อสฺสชิ เจว ปุนพฺพสุโก จ. กีฏาคิริสฺมินฺติ เอวํนามเก ชนปเท. อาวาสิกา โหนฺตีติ เอตฺถ อาวาโส เอเตสํ อตฺถีติ อาวาสิกา. ‘‘อาวาโส’’ติ วิหาโร วุจฺจติ. โส เยสํ อายตฺโต นวกมฺมกรณปุราณปฏิสงฺขรณาทิภารหารตาย, เต อาวาสิกา. เย ปน เกวลํ วิหาเร วสนฺติ, เต เนวาสิกาติ วุจฺจนฺติ. อิเม อาวาสิกา อเหสุํ. อลชฺชิโน ปาปภิกฺขูติ ¶ นิลฺลชฺชา ลามกภิกฺขู, เต หิ ฉพฺพคฺคิยานํ เชฏฺกฉพฺพคฺคิยา.
สาวตฺถิยํ ¶ กิร ฉ ชนา สหายกา ‘‘กสิกมฺมาทีนิ ทุกฺกรานิ, หนฺท มยํ สมฺมา ปพฺพชาม! ปพฺพชนฺเตหิ จ อุปฺปนฺเน กิจฺเจ นิตฺถรณกฏฺาเน ปพฺพชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ สมฺมนฺตยิตฺวา ทฺวินฺนํ อคฺคสาวกานํ สนฺติเก ปพฺพชึสุ. เต ปฺจวสฺสา หุตฺวา มาติกํ ปคุณํ กตฺวา มนฺตยึสุ ‘‘ชนปโท นาม กทาจิ สุภิกฺโข โหติ กทาจิ ทุพฺภิกฺโข, มยํ มา เอกฏฺาเน วสิมฺห, ตีสุ าเนสุ วสามา’’ติ. ตโต ปณฺฑุกโลหิตเก อาหํสุ – ‘‘อาวุโส, สาวตฺถิ นาม สตฺตปฺาสาย กุลสตสหสฺเสหิ อชฺฌาวุตฺถา, อสีติคามสหสฺสปฏิมณฺฑิตานํ ติโยชนสติกานํ ทฺวินฺนํ กาสิโกสลรฏฺานํ อายมุขภูตา, ตตฺร ตุมฺเห ธุรฏฺาเนเยว ปริเวณานิ กาเรตฺวา อมฺพปนสนาฬิเกราทีนิ โรเปตฺวา ปุปฺเผหิ จ ผเลหิ จ กุลานิ สงฺคณฺหนฺตา กุลทารเก ปพฺพาเชตฺวา ปริสํ วฑฺเฒถา’’ติ.
เมตฺติยภูมชเก อาหํสุ – ‘‘อาวุโส, ราชคหํ นาม อฏฺารสหิ มนุสฺสโกฏีหิ อชฺฌาวุตฺถํ อสีติคามสหสฺสปฏิมณฺฑิตานํ ติโยชนสติกานํ ทฺวินฺนํ องฺคมคธรฏฺานํ อายมุขภูตํ, ตตฺร ตุมฺเห ธุรฏฺาเนเยว…เป… ปริสํ วฑฺเฒถา’’ติ.
อสฺสชิปุนพฺพสุเก อาหํสุ – ‘‘อาวุโส, กีฏาคิริ นาม ทฺวีหิ เมเฆหิ อนุคฺคหิโต ตีณิ สสฺสานิ ปสวนฺติ, ตตฺร ตุมฺเห ธุรฏฺาเนเยว ปริเวณานิ กาเรตฺวา…เป… ปริสํ วฑฺเฒถา’’ติ. เต ตถา อกํสุ. เตสุ เอกเมกสฺส ปกฺขสฺส ปฺจ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ ปริวารา, เอวํ สมธิกํ ทิยฑฺฒภิกฺขุสหสฺสํ โหติ. ตตฺร ปณฺฑุกโลหิตกา สปริวารา สีลวนฺโตว ภควตา สทฺธึ ชนปทจาริกมฺปิ จรนฺติ, เต อกตวตฺถุํ อุปฺปาเทนฺติ, ปฺตฺตสิกฺขาปทํ ปน น มทฺทนฺติ, อิตเร สพฺเพ อลชฺชิโน อกตวตฺถฺุจ อุปฺปาเทนฺติ, ปฺตฺตสิกฺขาปทฺจ มทฺทนฺติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘อลชฺชิโน ปาปภิกฺขู’’ติ.
เอวรูปนฺติ ¶ ¶ เอวํชาติกํ. อนาจารํ อาจรนฺตีติ อนาจริตพฺพํ อาจรนฺติ, อกาตพฺพํ กโรนฺติ. มาลาวจฺฉนฺติ ตรุณปุปฺผรุกฺขํ, ตรุณกา หิ ปุปฺผรุกฺขาปิ ปุปฺผคจฺฉาปิ มาลาวจฺฉา ตฺเวว วุจฺจนฺติ, เต จ อเนกปฺปการํ มาลาวจฺฉํ สยมฺปิ โรเปนฺติ, อฺเนปิ โรปาเปนฺติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘มาลาวจฺฉํ โรเปนฺติปิ โรปาเปนฺติปี’’ติ. สิฺจนฺตีติ สยเมว อุทเกน สิฺจนฺติ. สิฺจาเปนฺตีติ อฺเนปิ สิฺจาเปนฺติ.
เอตฺถ ¶ ปน อกปฺปิยโวหาโร กปฺปิยโวหาโร ปริยาโย โอภาโส นิมิตฺตกมฺมนฺติ อิมานิ ปฺจ ชานิตพฺพานิ. ตตฺถ อกปฺปิยโวหาโร นาม อลฺลหริตานํ โกฏฺฏนํ โกฏฺฏาปนํ, อาวาฏสฺส ขณนํ ขณาปนํ, มาลาวจฺฉสฺส โรปนํ โรปาปนํ, อาฬิยา พนฺธนํ พนฺธาปนํ, อุทกสฺส เสจนํ เสจาปนํ, มาติกาย สมฺมุขกรณํ กปฺปิยอุทกสิฺจนํ หตฺถมุขปาทโธวนนฺหาโนทกสิฺจนนฺติ. กปฺปิยโวหาโร นาม ‘‘อิมํ รุกฺขํ ชาน, อิมํ อาวาฏํ ชาน, อิมํ มาลาวจฺฉํ ชาน, เอตฺถ อุทกํ ชานา’’ติ วจนํ สุกฺขมาติกาย อุชุกรณฺจ. ปริยาโย นาม ‘‘ปณฺฑิเตน นาม มาลาวจฺฉาทโย โรปาเปตพฺพา นจิรสฺเสว อุปการาย สํวตฺตนฺตี’’ติอาทิวจนํ. โอภาโส นาม กุทาลขณิตฺตาทีนิ จ มาลาวจฺเฉ จ คเหตฺวา านํ, เอวํ ิตฺหิ สามเณราทโย ทิสฺวา เถโร การาเปตุกาโมติ คนฺตฺวา กโรนฺติ. นิมิตฺตกมฺมํ นาม กุทาล-ขณิตฺติ-วาสิ-ผรสุ-อุทกภาชนานิ อาหริตฺวา สมีเป ปนํ.
อิมานิ ปฺจปิ กุลสงฺคหตฺถาย โรปเน น วฏฺฏนฺติ, ผลปริโภคตฺถาย กปฺปิยากปฺปิยโวหารทฺวยเมว น วฏฺฏติ, อิตรตฺตยํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘กปฺปิยโวหาโรปิ วฏฺฏติ. ยฺจ อตฺตโน ปริโภคตฺถาย วฏฺฏติ, ตํ อฺปุคฺคลสฺส วา สงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา อตฺถายปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ.
อารามตฺถาย ปน วนตฺถายจ ฉายตฺถาย จ อกปฺปิยโวหารมตฺตเมว น จ วฏฺฏติ, เสสํ วฏฺฏติ, น เกวลฺจ เสสํ ยํกิฺจิ มาติกมฺปิ อุชุํ กาตุํ กปฺปิยอุทกํ สิฺจิตุํ นฺหานโกฏฺกํ กตฺวา นฺหายิตุํ หตฺถปาทมุขโธวนุทกานิ ¶ จ ตตฺถ ฉฑฺเฑตุมฺปิ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน กุรุนฺทิยฺจ ‘‘กปฺปิยปถวิยํ สยํ โรเปตุมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อารามาทิอตฺถาย ปน โรปิตสฺส วา โรปาปิตสฺส วา ผลํ ปริภฺุชิตุมฺปิ วฏฺฏติ.
โอจินนโอจินาปเน ปกติยาปิ ปาจิตฺติยํ. กุลทูสนตฺถาย ปน ปาจิตฺติยฺเจว ทุกฺกฏฺจ. คนฺถนาทีสุ จ อุรจฺฉทปริโยสาเนสุ กุลทูสนตฺถาย อฺตฺถาย วา กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว ¶ . กสฺมา? อนาจารตฺตา, ‘‘ปาปสมาจาโร’’ติ เอตฺถ วุตฺตปาปสมาจารตฺตา จ. อารามาทิอตฺถาย รุกฺขโรปเน วิย วตฺถุปูชนตฺถาย กสฺมา น อนาปตฺตีติ เจ? อนาปตฺติเยว. ยถา หิ ตตฺถ กปฺปิยโวหาเรน ปริยายาทีหิ จ อนาปตฺติ ตถา วตฺถุปูชตฺถายปิ อนาปตฺติเยว.
นนุ ¶ จ ตตฺถ ‘‘กปฺปิยปถวิยํ สยํ โรเปตุมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตนฺติ? วุตฺตํ, น ปน มหาอฏฺกถายํ. อถาปิ มฺเยฺยาสิ อิตราสุ วุตฺตมฺปิ ปมาณํ. มหาอฏฺกถายฺจ กปฺปิยอุทกเสจนํ วุตฺตํ, ตํ กถนฺติ? ตมฺปิ น วิรุชฺฌติ. ตตฺร หิ อวิเสเสน ‘‘รุกฺขํ โรเปนฺติปิ โรปาเปนฺติปิ, สิฺจนฺติปิ สิฺจาเปนฺติปี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘มาลาวจฺฉ’’นฺติ วทนฺโต าเปติ ‘‘กุลสงฺคหตฺถาย ปุปฺผผลูปคเมว สนฺธาเยตํ วุตฺตํ, อฺตฺร ปน ปริยาโย อตฺถี’’ติ. ตสฺมา ตตฺถ ปริยายํ, อิธ จ ปริยายาภาวํ ตฺวา ยํ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ, ตํ สุวุตฺตเมว. วุตฺตฺเจตํ –
‘‘พุทฺเธน ธมฺโม วินโย จ วุตฺโต;
โย ตสฺส ปุตฺเตหิ ตเถว าโต;
โส เยหิ เตสํ มติมจฺจชนฺตา;
ยสฺมา ปุเร อฏฺกถา อกํสุ.
‘‘ตสฺมา หิ ยํ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ;
ตํ วชฺชยิตฺวาน ปมาทเลขํ;
สพฺพมฺปิ สิกฺขาสุ สคารวานํ;
ยสฺมา ปมาณํ อิธ ปณฺฑิตาน’’นฺติ.
สพฺพํ ¶ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ตตฺถ สิยา ยทิ วตฺถุปูชนตฺถายปิ คนฺถานาทีสุ อาปตฺติ, หรณาทีสุ กสฺมา อนาปตฺตีติ? กุลิตฺถีอาทีนํ อตฺถาย หรณโต หรณาธิกาเร หิ วิเสเสตฺวา เต กุลิตฺถีนนฺติอาทิ วุตฺตํ, ตสฺมา พุทฺธาทีนํ อตฺถาย หรนฺตสฺส อนาปตฺติ.
ตตฺถ เอกโตวณฺฏิกนฺติ ปุปฺผานํ วณฺเฏ เอกโต กตฺวา กตมาลํ. อุภโตวณฺฏิกนฺติ อุโภหิ ปสฺเสหิ ปุปฺผวณฺเฏ กตฺวา กตมาลํ. มฺชริกนฺติอาทีสุ ปน มฺชรี วิย กตา ปุปฺผวิกติ มฺชริกาติ วุจฺจติ. วิธูติกาติ สูจิยา วา สลากาย วา สินฺทุวารปุปฺผาทีนิ ¶ วิชฺฌิตฺวา กตา. วฏํสโกติ วตํสโก. อาเวฬาติ กณฺณิกา. อุรจฺฉโทติ หารสทิสํ อุเร ปนกปุปฺผทามํ. อยํ ตาว เอตฺถ ปทวณฺณนา.
อยํ ปน อาทิโต ปฏฺาย วิตฺถาเรน อาปตฺติวินิจฺฉโย. กุลทูสนตฺถาย อกปฺปิยปถวิยํ มาลาวจฺฉํ โรเปนฺตสฺส ปาจิตฺติยฺเจว ทุกฺกฏฺจ, ตถา อกปฺปิยโวหาเรน โรปาเปนฺตสฺส. กปฺปิยปถวิยํ โรปเนปิ ¶ โรปาปเนปิ ทุกฺกฏเมว. อุภยตฺถาปิ สกึ อาณตฺติยา พหุนฺนมฺปิ โรปเน เอกเมว สปาจิตฺติยทุกฺกฏํ วา สุทฺธทุกฺกฏํ วา โหติ. ปริโภคตฺถาย หิ กปฺปิยภูมิยํ วา อกปฺปิยภูมิยํ วา กปฺปิยโวหาเรน โรปาปเน อนาปตฺติ. อารามาทิอตฺถายปิ อกปฺปิยปถวิยํ โรเปนฺตสฺส วา อกปฺปิยวจเนน โรปาเปนฺตสฺส วา ปาจิตฺติยํ. อยํ ปน นโย มหาอฏฺกถายํ น สุฏฺุ วิภตฺโต, มหาปจฺจริยํ วิภตฺโตติ.
สิฺจนสิฺจาปเน ปน อกปฺปิยอุทเกน สพฺพตฺถ ปาจิตฺติยํ, กุลทูสนปริโภคตฺถาย ทุกฺกฏมฺปิ. กปฺปิเยน เตสํเยว ทฺวินฺนมตฺถาย ทุกฺกฏํ. ปริโภคตฺถาย เจตฺถ กปฺปิยโวหาเรน สิฺจาปเน อนาปตฺติ. อาปตฺติฏฺาเน ปน ธาราวจฺเฉทวเสน ปโยคพหุลตาย อาปตฺติพหุลตา เวทิตพฺพา.
กุลทูสนตฺถาย โอจินเน ปุปฺผคณนาย ทุกฺกฏปาจิตฺติยานิ อฺตฺถ ปาจิตฺติยาเนว. พหูนิ ปน ปุปฺผานิ เอกปโยเคน โอจินนฺโต ปโยควเสน กาเรตพฺโพ. โอจินาปเน กุลทูสนตฺถาย ¶ สกึ อาณตฺโต พหุมฺปิ โอจินติ, เอกเมว สปาจิตฺติยทุกฺกฏํ, อฺตฺร ปาจิตฺติยเมว.
คนฺถนาทีสุ สพฺพาปิ ฉ ปุปฺผวิกติโย เวทิตพฺพา – คนฺถิมํ, โคปฺผิมํ, เวธิมํ, เวิมํ, ปูริมํ, วายิมนฺติ. ตตฺถ ‘‘คนฺถิมํ’’ นาม สทณฺฑเกสุ วา อุปฺปลปทุมาทีสุ อฺเสุ วา ทีฆวณฺเฏสุ ปุปฺเผสุ ทฏฺพฺพํ. ทณฺฑเกน ทณฺฑกํ วณฺเฏน วา วณฺฏํ คนฺเถตฺวา กตเมว หิ คนฺถิมํ. ตํ ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา กาตุมฺปิ อกปฺปิยวจเนน การาเปตุมฺปิ น วฏฺฏติ. เอวํ ชาน, เอวํ กเต โสเภยฺย, ยถา เอตานิ ปุปฺผานิ น วิกิริยนฺติ ตถา กโรหีติอาทินา ปน กปฺปิยวจเนน กาเรตุํ วฏฺฏติ.
‘‘โคปฺผิมํ’’ นาม สุตฺเตน วา วากาทีหิ วา วสฺสิกปุปฺผาทีนํ เอกโตวณฺฏิกอุภโตวณฺฏิกมาลาวเสน โคปฺผนํ, วากํ วา รชฺชุํ วา ทิคุณํ กตฺวา ตตฺถ อวณฺฏกานิ ¶ นีปปุปฺผาทีนิ ปเวเสตฺวา ปฏิปาฏิยา พนฺธนฺติ, เอตมฺปิ โคปฺผิมเมว. สพฺพํ ปุริมนเยเนว น วฏฺฏติ.
‘‘เวธิมํ’’ นาม สวณฺฏกานิ วสฺสิกปุปฺผาทีนิ วณฺเฏสุ, อวณฺฏกานิ วา วกุลปุปฺผาทีนิ อนฺโตฉิทฺเท สูจิตาลหีราทีหิ วินิวิชฺฌิตฺวา อาวุนนฺติ, เอตํ เวธิมํ นาม, ตมฺปิ ปุริมนเยเนว น วฏฺฏติ. เกจิ ปน กทลิกฺขนฺธมฺหิ กณฺฏเก วา ¶ ตาลหีราทีนิ วา ปเวเสตฺวา ตตฺถ ปุปฺผานิ วิชฺฌิตฺวา เปนฺติ, เกจิ กณฺฏกสาขาสุ, เกจิ ปุปฺผจฺฉตฺตปุปฺผกูฏาคารกรณตฺถํ ฉตฺเต จ ภิตฺติยฺจ ปเวเสตฺวา ปิตกณฺฏเกสุ, เกจิ ธมฺมาสนวิตาเน พทฺธกณฺฏเกสุ, เกจิ กณิการปุปฺผาทีนิ สลากาหิ วิชฺฌนฺติ, ฉตฺตาธิฉตฺตํ วิย จ กโรนฺติ, ตํ อติโอฬาริกเมว ¶ . ปุปฺผวิชฺฌนตฺถํ ปน ธมฺมาสนวิตาเน กณฺฏกมฺปิ พนฺธิตุํ กณฺฏกาทีหิ วา เอกปุปฺผมฺปิ วิชฺฌิตุํ ปุปฺเผเยว วา ปุปฺผํ ปเวเสตุํ น วฏฺฏติ. ชาลวิตานเวทิก-นาคทนฺตก ปุปฺผปฏิจฺฉกตาลปณฺณคุฬกาทีนํ ปน ฉิทฺเทสุ อโสกปิณฺฑิยา วา อนฺตเรสุ ปุปฺผานิ ปเวเสตุํ น โทโส. เอตํ เวธิมํ นาม น โหติ. ธมฺมรชฺชุยมฺปิ เอเสว นโย.
‘‘เวิมํ’’ นาม ปุปฺผทามปุปฺผหตฺถเกสุ ทฏฺพฺพํ. เกจิ หิ มตฺถกทามํ กโรนฺตา เหฏฺา ฆฏกาการํ ทสฺเสตุํ ปุปฺเผหิ เวเนฺติ, เกจิ อฏฺฏฺ วา ทส ทส วา อุปฺปลปุปฺผาทีนิ สุตฺเตน วา วาเกน วา ทณฺฑเกสุ พนฺธิตฺวา อุปฺปลหตฺถเก วา ปทุมหตฺถเก วา กโรนฺติ, ตํ สพฺพํ ปุริมนเยเนว น วฏฺฏติ. สามเณเรหิ อุปฺปาเฏตฺวา ถเล ปิตอุปฺปลาทีนิ กาสาเวน ภณฺฑิกมฺปิ พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ. เตสํเยว ปน วาเกน วา ทณฺฑเกน วา พนฺธิตุํ อํสภณฺฑิกํ วา กาตุํ วฏฺฏติ. อํสภณฺฑิกา นาม ขนฺเธ ปิตกาสาวสฺส อุโภ อนฺเต อาหริตฺวา ภณฺฑิกํ กตฺวา ตสฺมึ ปสิพฺพเก วิย ปุปฺผานิ ปกฺขิปนฺติ, อยํ วุจฺจติ อํสภณฺฑิกา, เอตํ กาตุํ วฏฺฏติ. ทณฺฑเกหิ ปทุมินิปณฺณํ วิชฺฌิตฺวา อุปฺปลาทีนิ ปณฺเณน เวเตฺวา คณฺหนฺติ, ตตฺราปิ ปุปฺผานํ อุปริ ปทุมินิปณฺณเมว พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. เหฏฺา ทณฺฑกํ ปน พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ.
‘‘ปูริมํ’’ นาม มาลาคุเณ จ ปุปฺผปเฏ จ ทฏฺพฺพํ. โย หิ มาลาคุเณน เจติยํ วา โพธึ วา เวทิกํ วา ปริกฺขิปนฺโต ปุน อาเนตฺวา ปูริมานํ อติกฺกาเมติ, เอตฺตาวตาปิ ปูริมํ นาม โหติ. โก ปน วาโท อเนกกฺขตฺตุํ ปริกฺขิปนฺตสฺส, นาคทนฺต-กนฺตเรหิ ปเวเสตฺวา หรนฺโต โอลมฺพกํ กตฺวา ปุน นาคทนฺตกํ ปริกฺขิปติ, เอตมฺปิ ปูริมํ นาม. นาคทนฺตเก ปน ปุปฺผวลยํ ปเวเสตุํ วฏฺฏติ. มาลาคุเณหิ ปุปฺผปฏํ กโรนฺติ. ตตฺราปิ เอกเมว มาลาคุณํ ¶ หริตุํ วฏฺฏติ. ปุน ปจฺจาหรโต ปูริมเมว โหติ, ตํ สพฺพํ ปุริมนเยเนว น วฏฺฏติ. มาลาคุเณหิ ปน พหูหิปิ กตํ ปุปฺผทามํ ลภิตฺวา อาสนมตฺถกาทีสุ ¶ พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. อติทีฆํ ปน มาลาคุณํ ¶ เอกวารํ หริตฺวา วา ปริกฺขิปิตฺวา วา ปุน อฺสฺส ภิกฺขุโน ทาตุํ วฏฺฏติ. เตนาปิ ตเถว กาตุํ วฏฺฏติ.
‘‘วายิมํ’’ นาม ปุปฺผชาลปุปฺผปฏปุปฺผรูเปสุ ทฏฺพฺพํ. เจติเยสุ ปุปฺผชาลํ กโรนฺตสฺส เอกเมกมฺหิ ชาลจฺฉิทฺเท ทุกฺกฏํ. ภิตฺติจฺฉตฺตโพธิตฺถมฺภาทีสุปิ เอเสว นโย. ปุปฺผปฏํ ปน ปเรหิ ปูริตมฺปิ วายิตุํ น ลพฺภติ. โคปฺผิมปุปฺเผเหว หตฺถิอสฺสาทิรูปกานิ กโรนฺติ, ตานิปิ วายิมฏฺาเน ติฏฺนฺติ. ปุริมนเยเนว สพฺพํ น วฏฺฏติ. อฺเหิ กตปริจฺเฉเท ปน ปุปฺผานิ เปนฺเตน หตฺถิอสฺสาทิรูปกมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน กลมฺพเกน อฑฺฒจนฺทเกน จ สทฺธึ อฏฺปุปฺผวิกติโย วุตฺตา. ตตฺถ กลมฺพโกติ อฑฺฒจนฺทกนฺตเร ฆฏิกทามโอลมฺพโก วุตฺโต. ‘‘อฑฺฒจนฺทโก’’ติ อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณปริกฺเขโป. ตทุภยมฺปิ ปูริเมเยว ปวิฏฺํ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ทฺเว ตโย มาลาคุเณ เอกโต กตฺวา ปุปฺผทามกรณมฺปิ วายิมํเยวา’’ติ วุตฺตํ. ตมฺปิ อิธ ปูริมฏฺาเนเยว ปวิฏฺํ, น เกวลฺจ ปุปฺผคุฬทามเมว ปิฏฺมยทามมฺปิ เคณฺฑุกปุปฺผทามมฺปิ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ, ขรปตฺตทามมฺปิ สิกฺขาปทสฺส สาธารณตฺตา ภิกฺขูนมฺปิ ภิกฺขุนีนมฺปิ เนว กาตุํ น การาเปตุํ วฏฺฏติ. ปูชานิมิตฺตํ ปน กปฺปิยวจนํ สพฺพตฺถ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ปริยายโอภาสนิมิตฺตกมฺมานิ วฏฺฏนฺติเยว.
ตุวฏฺเฏนฺตีติ นิปชฺชนฺติ. ลาเสนฺตีติ ปีติยา อุปฺปิลวมานา วิย อุฏฺหิตฺวา ลาสิยนาฏกํ นาเฏนฺติ, เรจกํ เทนฺติ. นจฺจนฺติยาปิ นจฺจนฺตีติ ยทา นาฏกิตฺถี นจฺจติ, ตทา เตปิ ตสฺสา ปุรโต วา ปจฺฉโต วา คจฺฉนฺตา นจฺจนฺติ. นจฺจนฺติยาปิ คายนฺตีติ ยทา สา นจฺจติ, ตทา นจฺจานุรูปํ คายนฺติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อฏฺปเทปิ กีฬนฺตีติ อฏฺปทผลเก ชูตํ กีฬนฺติ. ตถา ทสปเท, อากาเสปีติ อฏฺปททสปเทสุ ¶ วิย อากาเสเยว กีฬนฺติ. ปริหารปเถปีติ ภูมิยํ นานาปถมณฺฑลํ กตฺวา ตตฺถ ปริหริตพฺพปถํ ปริหรนฺตา กีฬนฺติ. สนฺติกายปิ กีฬนฺตีติ สนฺติกกีฬาย กีฬนฺติ, เอกชฺฌํ ปิตา สาริโย วา ปาสาณสกฺขราโย วา อจาเลนฺตา นเขเนว อปเนนฺติ จ อุปเนนฺติ จ, สเจ ตตฺถ กาจิ จลติ, ปราชโย โหติ. ขลิกายาติ ชูตผลเก ปาสกกีฬาย กีฬนฺติ. ฆฏิกายาติ ฆฏิกา วุจฺจติ ทณฺฑกกีฬา, ตาย กีฬนฺติ. ทีฆทณฺฑเกน รสฺสทณฺฑกํ ปหรนฺตา วิจรนฺติ.
สลากหตฺเถนาติ ¶ ¶ ลาขาย วา มฺชฏฺิยา วา ปิฏฺอุทเก วา สลากหตฺถํ เตเมตฺวา ‘‘กึ โหตู’’ติ ภูมิยํ วา ภิตฺติยํ วา ตํ ปหริตฺวา หตฺถิอสฺสาทีรูปานิ ทสฺเสนฺตา กีฬนฺติ. อกฺเขนาติ คุเฬน. ปงฺคจีเรนาติ ปงฺคจีรํ วุจฺจติ ปณฺณนาฬิกา, ตํ ธมนฺตา กีฬนฺติ. วงฺกเกนาติ คามทารกานํ กีฬนเกน ขุทฺทกนงฺคเลน. โมกฺขจิกายาติ โมกฺขจิกา วุจฺจติ สมฺปริวตฺตกกีฬา, อากาเส วา ทณฺฑํ คเหตฺวา, ภูมิยํ วา สีสํ เปตฺวา เหฏฺุปริยภาเวน ปริวตฺตนฺตา กีฬนฺตีติ อตฺโถ. จิงฺคุลเกนาติ จิงฺคุลกํ วุจฺจติ ตาลปณฺณาทีหิ กตํ วาตปฺปหาเรน ปริพฺภมนจกฺกํ, เตน กีฬนฺติ. ปตฺตาฬฺหเกนาติ ปตฺตาฬฺหกํ วุจฺจติ ปณฺณนาฬิ, ตาย วาลิกาทีนิ มินนฺตา กีฬนฺติ. รถเกนาติ ขุทฺทกรเถน. ธนุเกนาติ ขุทฺทกธนุนา.
อกฺขริกายาติ อกฺขริกา วุจฺจติ อากาเส วา ปิฏฺิยํ วา อกฺขรชานนกีฬา, ตาย กีฬนฺติ. มเนสิกายาติ มเนสิกา วุจฺจติ มนสา จินฺติตชานนกีฬา, ตาย กีฬนฺติ. ยถาวชฺเชนาติ ยถาวชฺชํ วุจฺจติ กาณกุณิกขฺชาทีนํ ยํ ยํ วชฺชํ ตํ ตํ ปโยเชตฺวา ทสฺสนกีฬา ตาย กีฬนฺติ, เวลมฺภกา วิย. หตฺถิสฺมิมฺปิ สิกฺขนฺตีติ หตฺถินิมิตฺตํ ยํ สิปฺปํ สิกฺขิตพฺพํ, ตํ สิกฺขนฺติ. เอเสว นโย อสฺสาทีสุ. ธาวนฺติปีติ ปรมฺมุขา คจฺฉนฺตา ธาวนฺติ. อาธาวนฺติปีติ ยตฺตกํ ธาวนฺติ, ตตฺตกเมว ¶ อภิมุขา ปุน อาคจฺฉนฺตา อาธาวนฺติ. นิพฺพุชฺฌนฺตีติ มลฺลยุทฺธํ กโรนฺติ. นลาฏิกมฺปิ เทนฺตีติ ‘‘สาธุ, สาธุ, ภคินี’’ติ อตฺตโน นลาเฏ องฺคุลึ เปตฺวา ตสฺสา นลาเฏ เปนฺติ. วิวิธมฺปิ อนาจารํ อาจรนฺตีติ อฺมฺปิ ปาฬิยํ อนาคตํ มุขฑิณฺฑิมาทิวิวิธํ อนาจารํ อาจรนฺติ.
๔๓๒. ปาสาทิเกนาติ ปสาทาวเหน, สารุปฺเปน สมณานุจฺฉวิเกน. อภิกฺกนฺเตนาติ คมเนน. ปฏิกฺกนฺเตนาติ นิวตฺตเนน. อาโลกิเตนาติ ปุรโต ทสฺสเนน. วิโลกิเตนาติ อิโต จิโต จ ทสฺสเนน. สมิฺชิเตนาติ ปพฺพสงฺโกจเนน. ปสาริเตนาติ เตสํเยว ปสารเณน. สพฺพตฺถ อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ กรณวจนํ, สติสมฺปชฺเหิ อภิสงฺขตตฺตา ปาสาทิก อภิกฺกนฺต-ปฏิกฺกนฺต-อาโลกิต-วิโลกิต-สมิฺชิต-ปสาริโต หุตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. โอกฺขิตฺตจกฺขูติ เหฏฺา-ขิตฺตจกฺขุ ¶ . อิริยาปถสมฺปนฺโนติ ตาย ปาสาทิกอภิกฺกนฺตาทิตาย สมฺปนฺนอิริยาปโถ.
กฺวายนฺติ โก อยํ. อพลพโล วิยาติ อพโล กิร โพนฺโท วุจฺจติ, อติสยตฺเถ จ อิทํ อาเมฑิตํ, ตสฺมา อติโพนฺโท วิยาติ วุตฺตํ โหติ. มนฺทมนฺโทติ อภิกฺกนฺตาทีนํ อนุทฺธตตาย ¶ อติมนฺโท. อติสณฺโหติ เอวํ คุณเมว โทสโต ทสฺเสนฺติ. ภากุฏิกภากุฏิโก วิยาติ โอกฺขิตฺตจกฺขุตาย ภกุฏึ กตฺวา สงฺกุฏิตมุโข กุปิโต วิย วิจรตีติ มฺมานา วทนฺติ. สณฺหาติ นิปุณา, ‘‘อมฺม ตาต ภคินี’’ติ เอวํ อุปาสกชนํ ยุตฺตฏฺาเน อุปเนตุํ เฉกา, น ยถา อยํ; เอวํ อพลพโล วิยาติ อธิปฺปาโย. สขิลาติ สาขลฺเยน ยุตฺตา. สุขสมฺภาสาติ อิทํ ปุริมสฺส การณวจนํ. เยสฺหิ สุขสมฺภาสา สมฺโมทนียกถา เนลา โหติ กณฺณสุขา, เต สขิลาติ วุจฺจนฺติ. เตนาหํสุ – ‘‘สขิลา สุขสมฺภาสา’’ติ. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย – อมฺหากํ อยฺยา อุปาสเก ทิสฺวา มธุรํ สมฺโมทนียํ กถํ กเถนฺติ, ตสฺมา สขิลา สุขสมฺภาสา, น ยถา อยํ; เอวํ มนฺทมนฺทา วิยาติ. มิหิตปุพฺพงฺคมาติ มิหิตํ ปุพฺพงฺคมํ เอเตสํ วจนสฺสาติ มิหิตปุพฺพงฺคมา, ปมํ สิตํ กตฺวา ปจฺฉา วทนฺตีติ อตฺโถ. เอหิสฺวาคตวาทิโนติ อุปาสกํ ทิสฺวา ‘‘เอหิ สฺวาคตํ ¶ ตวา’’ติ เอวํวาทิโน, น ยถา อยํ; เอวํ สงฺกุฏิตมุขตาย ภากุฏิกภากุฏิกา วิย เอวํ มิหิตปุพฺพงฺคมาทิตาย อภากุฏิกภาวํ อตฺถโต ทสฺเสตฺวา ปุน สรูเปนปิ ทสฺเสนฺโต อาหํสุ – ‘‘อภากุฏิกา อุตฺตานมุขา ปุพฺพภาสิโน’’ติ. อุปฺปฏิปาฏิยา วา ติณฺณมฺปิ อาการานํ อภาวทสฺสนเมตนฺติ เวทิตพฺพํ. กถํ? เอตฺถ หิ ‘‘อภากุฏิกา’’ติ อิมินา ภากุฏิกภากุฏิกาการสฺส อภาโว ทสฺสิโต. ‘‘อุตฺตานมุขา’’ติ อิมินา มนฺทมนฺทาการสฺส, เย หิ จกฺขูนิ อุมฺมิเลตฺวา อาโลกเนน อุตฺตานมุขา โหนฺติ, น เต มนฺทมนฺทา. ปุพฺพภาสิโนติ อิมินา อพลพลาการสฺส อภาโว ทสฺสิโต, เย หิ อาภาสนกุสลตาย ‘‘อมฺม ตาตา’’ติ ปมตรํ อาภาสนฺติ, น เต อพลพลาติ.
เอหิ, ภนฺเต, ฆรํ คมิสฺสามาติ โส กิร อุปาสโก ‘‘น โข, อาวุโส, ปิณฺโฑ ลพฺภตี’’ติ วุตฺเต ‘‘ตุมฺหากํ ภิกฺขูหิเยว เอตํ กตํ ¶ , สกลมฺปิ คามํ วิจรนฺตา น ลจฺฉถา’’ติ วตฺวา ปิณฺฑปาตํ ทาตุกาโม ‘‘เอหิ, ภนฺเต, ฆรํ คมิสฺสามา’’ติ อาห. กึ ปนายํ ปยุตฺตวาจา โหติ, น โหตีติ? น โหติ. ปุจฺฉิตปฺโห นามายํ กเถตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมา อิทานิ เจปิ ปุพฺพณฺเห วา สายนฺเห วา อนฺตรฆรํ ปวิฏฺํ ภิกฺขุํ โกจิ ปุจฺเฉยฺย – ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, จรถา’’ติ? เยนตฺเถน จรติ, ตํ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘ลทฺธํ น ลทฺธ’’นฺติ วุตฺเต สเจ น ลทฺธํ, ‘‘น ลทฺธ’’นฺติ วตฺวา ยํ โส เทติ, ตํ คเหตุํ วฏฺฏติ.
ทุฏฺโติ น ปสาทาทีนํ วินาเสน ทุฏฺโ, ปุคฺคลวเสน ทุฏฺโ. ทานปถานีติ ทานานิเยว วุจฺจนฺติ. อถ วา ทานปถานีติ ทานนิพทฺธานิ ทานวตฺตานีติ วุตฺตํ โหติ. อุปจฺฉินฺนานีติ ทายเกหิ ¶ อุปจฺฉินฺนานิ, น เต ตานิ เอตรหิ เทนฺติ. ริฺจนฺตีติ วิสุํ โหนฺติ นานา โหนฺติ, ปกฺกมนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. สณฺเหยฺยาติ สมฺมา ติฏฺเยฺย, เปสลานํ ภิกฺขูนํ ปติฏฺา ภเวยฺย.
เอวมาวุโสติ โข โส ภิกฺขุ สทฺธสฺส ปสนฺนสฺส อุปาสกสฺส สาสนํ สมฺปฏิจฺฉิ. เอวรูปํ กิร สาสนํ กปฺปิยํ หริตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘มม วจเนน ภควโต ปาเท วนฺทถา’’ติ วา ‘‘เจติยํ ปฏิมํ โพธึ สงฺฆตฺเถรํ วนฺทถา’’ติ วา ‘‘เจติเย คนฺธปูชํ กโรถ, ปุปฺผปูชํ กโรถา’’ติ วา ‘‘ภิกฺขู สนฺนิปาเตถ, ทานํ ทสฺสาม ¶ , ธมฺมํ โสสฺสามาติ วา อีทิเสสุ สาสเนสุ กุกฺกุจฺจํ น กาตพฺพํ. กปฺปิยสาสนานิ เอตานิ น คิหีนํ คิหิกมฺมปฏิสํยุตฺตานีติ. กุโต จ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาคจฺฉสีติ นิสินฺโน โส ภิกฺขุ น อาคจฺฉติ อตฺถโต ปน อาคโต โหติ; เอวํ สนฺเตปิ วตฺตมานสมีเป วตฺตมานวจนํ ลพฺภติ, ตสฺมา น โทโส. ปริโยสาเน ‘‘ตโต อหํ ภควา อาคจฺฉามี’’ติ เอตฺถาปิ วจเน เอเสว นโย.
๔๓๓. ปมํ อสฺสชิปุนพฺพสุกา ภิกฺขู โจเทตพฺพาติ ‘‘มยํ ตุมฺเห วตฺตุกามา’’ติ โอกาสํ กาเรตฺวา วตฺถุนา จ อาปตฺติยา จ โจเทตพฺพา. โจเทตฺวา ยํ น สรนฺติ, ตํ สาเรตพฺพา. สเจ วตฺถฺุจ อาปตฺติฺจ ปฏิชานนฺติ, อาปตฺติเมว วา ปฏิชานนฺติ, น วตฺถุํ, อาปตฺตึ โรเปตพฺพา. อถ วตฺถุเมว ปฏิชานนฺติ, นาปตฺตึ; เอวมฺปิ ‘‘อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ อยํ นาม อาปตฺตี’’ติ โรเปตพฺพา เอว. ยทิ เนว วตฺถุํ, นาปตฺตึ ปฏิชานนฺติ, อาปตฺตึ น โรเปตพฺพา อยเมตฺถ วินิจฺฉโย. ยถาปฏิฺาย ปน อาปตฺตึ ¶ โรเปตฺวา; เอวํ ปพฺพาชนียกมฺมํ กาตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา’’ติอาทิมาห, ตํ อุตฺตานตฺถเมว.
เอวํ ปพฺพาชนียกมฺมกเตน ภิกฺขุนา ยสฺมึ วิหาเร วสนฺเตน ยสฺมึ คาเม กุลทูสกกมฺมํ กตํ โหติ, ตสฺมึ วิหาเร วา ตสฺมึ คาเม วา น วสิตพฺพํ. ตสฺมึ วิหาเร วสนฺเตน สามนฺตคาเมปิ ปิณฺฑาย น จริตพฺพํ. สามนฺตวิหาเรปิ วสนฺเตน ตสฺมึ คาเม ปิณฺฑาย น จริตพฺพํ. อุปติสฺสตฺเถโร ปน ‘‘ภนฺเต นครํ นาม มหนฺตํ ทฺวาทสโยชนิกมฺปิ โหตี’’ติ อนฺเตวาสิเกหิ วุตฺโต ‘‘ยสฺสา วีถิยา กุลทูสกกมฺมํ กตํ ตตฺเถว วาริต’’นฺติ อาห. ตโต ‘‘วีถิปิ มหตี นครปฺปมาณาว โหตี’’ติ วุตฺโต ‘‘ยสฺสา ฆรปฏิปาฏิยา’’ติ อาห, ‘‘ฆรปฏิปาฏีปิ วีถิปฺปมาณาว โหตี’’ติ วุตฺโต อิโต จิโต จ สตฺต ฆรานิ วาริตานี’’ติ อาห. ตํ ปน สพฺพํ เถรสฺส มโนรถมตฺตเมว. สเจปิ วิหาโร ติโยชนปรโม โหติ ทฺวาทสโยชนปรมฺจ นครํ, เนว วิหาเร วสิตุํ ลพฺภติ, น นคเร จริตุนฺติ.
๔๓๕. เต ¶ ¶ สงฺเฆน ปพฺพาชนียกมฺมกตาติ กถํ สงฺโฆ เตสํ กมฺมํ อกาสิ? น คนฺตฺวาว อชฺโฌตฺถริตฺวา อกาสิ, อถ โข กุเลหิ นิมนฺเตตฺวา สงฺฆภตฺเตสุ กยิรมาเนสุ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน เถรา สมณปฏิปทํ กเถตฺวา ‘‘อยํ สมโณ, อยํ อสฺสมโณ’’ติ มนุสฺเส สฺาเปตฺวา เอกํ ทฺเว ภิกฺขู สีมํ ปเว เสตฺวา เอเตเนวุปาเยน สพฺเพสํ ปพฺพาชนียกมฺมํ อกํสูติ. เอวํ ปพฺพาชนียกมฺมกตสฺส จ อฏฺารส วตฺตานิ ปูเรตฺวา ยาจนฺตสฺส กมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพํ. ปฏิปฺปสฺสทฺธกมฺเมนาปิ จ เตน เยสุ กุเลสุ ปุพฺเพ กุลทูสกกมฺมํ กตํ, ตโต ปจฺจยา น คเหตพฺพา, อาสวกฺขยปฺปตฺเตนาปิ น คเหตพฺพา, อกปฺปิยาว โหนฺติ. ‘‘กสฺมา น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิเตน ‘‘ปุพฺเพ เอวํ กตตฺตา’’ติ วุตฺเต, สเจ วทนฺติ ‘‘น มยํ เตน การเณน เทม อิทานิ สีลวนฺตตาย เทมา’’ติ คเหตพฺพา. ปกติยา ทานฏฺาเนเยว กุลทูสกกมฺมํ กตํ โหติ. ตโต ปกติทานเมว คเหตุํ วฏฺฏติ, ยํ วฑฺเฒตฺวา เทนฺติ, ตํ น วฏฺฏติ.
น สมฺมา วตฺตนฺตีติ เต ปน อสฺสชิปุนพฺพสุกา อฏฺารสสุ วตฺเตสุ สมฺมา น วตฺตนฺติ. น โลมํ ปาเตนฺตีติ อนุโลมปฏิปทํ อปฺปฏิปชฺชนตาย น ปนฺนโลมา โหนฺติ. น เนตฺถารํ วตฺตนฺตีติ อตฺตโน นิตฺถรณมคฺคํ น ปฏิปชฺชนฺติ ¶ . น ภิกฺขู ขมาเปนฺตีติ ‘‘ทุกฺกฏํ, ภนฺเต, อมฺเหหิ, น ปุน เอวํ กริสฺสาม, ขมถ อมฺหาก’’นฺติ เอวํ ภิกฺขูนํ ขมาปนํ น กโรนฺติ. อกฺโกสนฺตีติ การกสงฺฆํ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสนฺติ. ปริภาสนฺตีติ ภยํ เนสํ ทสฺเสนฺติ. ฉนฺทคามิตา…เป… ภยคามิตา ปาเปนฺตีติ เอเต ฉนฺทคามิโน จ…เป… ภยคามิโน จาติ เอวํ ฉนฺทคามิตายปิ…เป… ภยคามิตายปิ ปาเปนฺติ, โยเชนฺตีติ อตฺโถ. ปกฺกมนฺตีติ เตสํ ปริวาเรสุ ปฺจสุ สมณสเตสุ เอกจฺเจ ทิสา ปกฺกมนฺติ. วิพฺภมนฺตีติ เอกจฺเจ คิหี โหนฺติ. กถฺหิ นาม อสฺสชิปุนพฺพสุกา ภิกฺขูติ เอตฺถ ทฺวินฺ