📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

วินยปิฏเก

สารตฺถทีปนี-ฏีกา (ทุติโย ภาโค)

๑. ปาราชิกกณฺฑํ

๑. ปมปาราชิกํ

สุทินฺนภาณวารวณฺณนา

๒๔. อนุปทวณฺณนนฺติ ปทํ ปทํ ปฏิวณฺณนํ, ปทานุกฺกเมน วณฺณนํ วา. ภณฺฑปฺปโยชนอุทฺธารสารณาทินา กิจฺเจนาติ เอตฺถ วิกฺกายิกภณฺฑสฺส วิกฺกิณนํ ภณฺฑปฺปโยชนํ, ทาตุํ สงฺเกติเต ทิวเส คนฺตฺวา คหณํ อุทฺธาโร, ‘‘อสุกสฺมึ ทิวเส ทาตพฺพ’’นฺติ สตุปฺปาทนํ สารณํ. จตุพฺพิธายาติ ขตฺติยพฺราหฺมณคหปติสมณานํ วเสน จตุพฺพิธาย, ภิกฺขุภิกฺขุนีอุปาสกอุปาสิกานํ วเสน วา. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสีติ เหตุอตฺโถ อยํ ทิสฺวาน-สทฺโท อสมานกตฺตุโก ยถา ‘‘ฆตํ ปิวิตฺวา พลํ โหติ, สีหํ ทิสฺวา ภยํ โหตี’’ติ. ทสฺสนการณา หิ เอวํ ปริวิตกฺกนํ อโหสิ. กิฺจาปิ เอตฺถ ‘‘ภพฺพกุลปุตฺตสฺสา’’ติ วุตฺตํ, ตถาปิ อุปนิสฺสยสมฺปนฺนสฺสปิ อชาตสตฺตุโน วิย อนฺตราโย ภวิสฺสตีติ อิมสฺส เถรสฺสปิ กตปาปกมฺมมูลวิปฺปฏิสารวเสน อธิคมนฺตราโย อโหสีติ วทนฺติ.

กึ ปน เยสํ มคฺคผลานํ อุปนิสฺสโย อตฺถิ, พุทฺธานํ สมฺมุขีภาเวปิ เตสํ อนฺตราโย โหตีติ? อาม โหติ, น ปน พุทฺเธ ปฏิจฺจ. พุทฺธา หิ ปเรสํ มคฺคผลาธิคมาย อุสฺสาหชาตา ตตฺถ นิรนฺตรํ ยุตฺตปยุตฺตา เอว โหนฺติ, ตสฺมา เต ปฏิจฺจ เตสํ อนฺตราโย น โหติ, อถ โข กิริยาปริหานิยา วา ปาปมิตฺตตาย วา โหติ, กิริยาปริหานิ จ เทสกสฺส ตสฺเสว วา ปุคฺคลสฺส ตชฺชปโยคาภาวโต เวทิตพฺพา, เทสกวเสน ปเนตฺถ ปริหานิ สาวกานํ วเสเนว เวทิตพฺพา, น พุทฺธานํ วเสน. ตถา หิ สเจ ธมฺมเสนาปติ ธนฺชานิยสฺส พฺราหฺมณสฺส อาสยํ ตฺวา ธมฺมํ เทสยิสฺส, พฺราหฺมโณ โสตาปนฺโน อภวิสฺส. เอวํ ตาว เทสกสฺส วเสน กิริยาปริหานิยา อนฺตราโย โหติ. สเจ เปสฺโส หตฺถาโรหปุตฺโต ภควโต สมฺมุขา ธมฺมํ สุณนฺโต มุหุตฺตํ นิสีเทยฺย, ยาว ตสฺส ภควา อตฺตนฺตปาทิเก จตฺตาโร ปุคฺคเล วิตฺถาเรน วิภชิตฺวา เทเสติ, โสตาปตฺติผเลน สํยุตฺโต อภวิสฺส. เอวํ ปุคฺคลสฺส วเสน กิริยาปริหานิยา อนฺตราโย โหติ นาม. อิมสฺส หิ อุปาสกสฺส กิริยาปริหานิ ชาตา อปรินิฏฺิตาย เทสนาย อุฏฺหิตฺวา ปกฺกนฺตตฺตา. สเจ อชาตสตฺตุ เทวทตฺตสฺส วจนํ คเหตฺวา ปิตุฆาตกมฺมํ นากริสฺส, สามฺผลสุตฺตกถิตทิวเส โสตาปนฺโน อภวิสฺส, ตสฺส วจนํ คเหตฺวา ปิตุฆาตกมฺมสฺส กตตฺตา ปน นาโหสิ. เอวํ ปาปมิตฺตตาย อนฺตราโย โหติ. สุทินฺนสฺสปิ ปาปมิตฺตวเสน อนฺตราโย อโหสีติ ทฏฺพฺพํ. ยทิ หิ เตน มาตาปิตูนํ วจนํ คเหตฺวา ปุราณทุติยิกาย เมถุนธมฺโม ปฏิเสวิโต นาภวิสฺส, น ตํมูลวิปฺปฏิสารวเสน อธิคมนฺตราโย อภวิสฺส.

ยนฺนูนาติ ปริวิตกฺกนตฺเถ นิปาโตติ อาห ‘‘ปริวิตกฺกทสฺสนเมต’’นฺติ. ‘‘ธมฺมํ สุเณยฺย’’นฺติ กิริยาปเทน วุจฺจมาโน เอว หิ อตฺโถ ‘‘ยนฺนูนา’’ติ นิปาตปเทน โชตียติ. อหํ ยนฺนูน ธมฺมํ สุเณยฺยนฺติ โยชนา. ยนฺนูนาติ จ ยทิ ปนาติ อตฺโถ. ยทิ ปนาติ อิทมฺปิ หิ เตน สมานตฺถเมว. ยํ ธมฺมํ สุณาตีติ สมฺพนฺโธ. อุฬารุฬารชนาติ ขตฺติยมหาสาลาทิอุฬารุฬารชนากิณฺณา. สเจ อยมฺปิ ปมํ อาคจฺเฉยฺย, ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา นิสีทิตุํ อรหรูโปติ อาห ‘‘ปจฺฉา อาคเตนา’’ติ. สิกฺขตฺตยูปสํหิตนฺติ อธิสีลอธิจิตฺตอธิปฺาสงฺขาตสิกฺขตฺตยยุตฺตํ. โถกํ ธมฺมกถํ สุตฺวา อโหสีติ สมฺพนฺโธ. อิธาปิ สุตฺวา-สทฺโท เหตุอตฺโถติ ทฏฺพฺโพ, สวนการณา เอตทโหสีติ วุตฺตํ โหติ. ยทิ เอวํ อถ กสฺมา ‘‘เอกมนฺตํ นิสินฺนสฺส…เป… เอตทโหสี’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ตํ ปนสฺส ยสฺมา’’ติอาทิ. ตตฺถ นฺติ ปริวิตกฺกนํ.

สงฺเขปกถาติ วิสุํ วิสุํ ปทุทฺธารํ อกตฺวา สมาสโต อตฺถวณฺณนา. เยน เยน อากาเรนาติ เยน เยน ปกาเรน. เตน เตน เม อุปปริกฺขโตติ ‘‘กามา นาเมเต อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา อฏฺิกงฺกลูปมา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๓๔; ๒.๔๒; ปาจิ. ๔๑๗; มหานิ. ๓; จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๔๗) จ อาทินา เยน เยน อากาเรน กาเมสุ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ, ตพฺพิปริยายโต เนกฺขมฺเม อานิสํสํ คุณํ ปกาเสนฺตํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ อวพุชฺฌามิ, เตน เตน ปกาเรน อุปปริกฺขโต วีมํสนฺตสฺส มยฺหํ เอวํ โหติ เอวํ อุปฏฺาติ. สิกฺขตฺตยพฺรหฺมจริยนฺติ อธิสีลสิกฺขาทิสิกฺขตฺตยสงฺคหํ เสฏฺจริยํ. เอกมฺปิ ทิวสนฺติ เอกทิวสมตฺตมฺปิ. อขณฺฑํ กตฺวาติ ทุกฺกฏมตฺตสฺสปิ อนาปชฺชเนน อขณฺฑิตํ กตฺวา, อขณฺฑอจฺฉิทฺทาทิภาวาปาทเนน วา. อขณฺฑลกฺขณวจนฺเหตํ. จริมกจิตฺตนฺติ จุติจิตฺตํ. กิฺจิปิ เอกเทสํ อเสเสตฺวา เอกนฺเตเนว ปริปูเรตพฺพตาย เอกนฺตปริปุณฺณํ. กิเลสมเลน อมลีนํ กตฺวาติ ตณฺหาสํกิเลสาทินา อสํกิลิฏฺํ กตฺวา, จิตฺตุปฺปาทมตฺตมฺปิ สํกิเลสมลํ อนุปฺปาเทตฺวา. อจฺจนฺตเมว วิสุทฺธํ กตฺวา ปริหริตพฺพตาย เอกนฺตปริสุทฺธํ. ตโต เอว สงฺขํ วิย ลิขิตนฺติ สงฺขลิขิตํ. เตนาห ‘‘ลิขิตสงฺขสทิส’’นฺติ. ปริโยทาตฏฺเน นิมฺมลภาเวน สงฺขํ วิย ลิขิตํ โธตนฺติ สงฺขลิขิตนฺติ อาห ‘‘โธตสงฺขสปฺปฏิภาค’’นฺติ. ‘‘อชฺฌาวสตา’’ติ ปทปฺปโยเคน อคารนฺติ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘อคารมชฺเฌ’’ติ. ทาิกาปิ มสฺสุคฺคหเณเนว คเหตฺวา ‘‘มสฺสุ’’ตฺเวว วุตฺตํ, อุตฺตราธรมสฺสุนฺติ อตฺโถ. กสาเยน รตฺตานีติ กาสายานีติ อาห ‘‘กสายรสปีตตายา’’ติ. ปริทหิตฺวาติ นิวาเสตฺวา เจว ปารุปิตฺวา จ. อคารสฺส หิตนฺติ อคารวาโส อคารํ อุตฺตรปทโลเปน, ตสฺส วฑฺฒิอาวหํ อคารสฺส หิตํ.

๒๕. าติสาโลหิตาติอาทีสุ ‘‘อยํ อชฺฌตฺติโก’’ติ ชานนฺติ, ายนฺติ วาติ าตี, โลหิเตน สมฺพนฺธาติ สาโลหิตา. ปิตุปกฺขิกา าตี, มาตุปกฺขิกา สาโลหิตา. มาตุปกฺขิกา ปิตุปกฺขิกา วา าตี, สสฺสุสสุรปกฺขิกา สาโลหิตา. มิตฺตายนฺตีติ มิตฺตา, มินนฺติ วา สพฺพคุยฺเหสุ อนฺโต ปกฺขิปนฺตีติ มิตฺตา. กิจฺจกรณีเยสุ สหภาวฏฺเน อมา โหนฺตีติ อมจฺจา. มมายตีติ มาตา, ปิยายตีติ ปิตา. สรีรกิจฺจเลเสนาติ อุจฺจารปสฺสาวาทิสรีรกิจฺจเลเสน. อนนุฺาตํ ปุตฺตํ น ปพฺพาเชตีติ ‘‘มาตาปิตูนํ โลกิยมหาชนสฺส จ จิตฺตฺถตฺตํ มา โหตู’’ติ น ปพฺพาเชติ. ตโตเยว จ สุทฺโธทนมหาราชสฺส ตถา วโร ทินฺโน.

๒๖. ธุรนิกฺเขเปนาติ ภณฺฑปฺปโยชนาทีสุ ธุรนิกฺเขเปน. เตนาห ‘‘น หี’’ติอาทิ. ปิยายิตพฺโพติ ปิโยติ อาห ‘‘ปีติชนนโก’’ติ. มนสฺส อปฺปายนโต มนาโปติ อาห ‘‘มนวฑฺฒนโก’’ติ. สุเขธิโต ตรุณทารกกาเล, ตโต ปรฺจ สปฺปิขีราทิสาทุรสมนุฺโภชนาทิอาหารสมฺปตฺติยา สุขปริหโต. อถ วา ทฬฺหภตฺติกธาติชนาทิปริชนสมฺปตฺติยา เจว ปริจฺเฉทสมฺปตฺติยา จ อุฬารปณีตสุขปจฺจยูปหาเรหิ จ สุเขธิโต, อกิจฺเฉเนว ทุกฺขปจฺจยวิโนทเนน สุขปริหโต. อชฺฌตฺติกงฺคสมฺปตฺติยา วา สุเขธิโต, พาหิรงฺคสมฺปตฺติยา สุขปริหโต.

กิฺจีติ เอตสฺส วิวรณํ ‘‘อปฺปมตฺตกมฺปิ กลภาค’’นฺติ. ยทา ชานาติ-สทฺโท โพธนตฺโถ น โหติ, ตทา ตสฺส ปโยเค ‘‘สปฺปิโน ชานาติ, มธุโน ชานาตี’’ติอาทีสุ วิย กรณตฺเถ สามิวจนํ สทฺทตฺถวิทู อิจฺฉนฺตีติ อาห ‘‘กิฺจิ ทุกฺเขน นานุโภสี’’ติ. เตนาห ‘‘กรณตฺเถ สามิวจนํ, อนุภวนตฺเถ จ ชานนา’’ติ. เอตฺถ จ กิฺจิ ทุกฺเขน นานุโภสีติ เกนจิ ทุกฺเขน กรณภูเตน วิสยํ นานุโภสีติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘กิฺจี’’ติ เอตฺถาปิ หิ กรณตฺเถ สามิวจนสฺส โลโป กโต. เตเนว จ วกฺขติ ‘‘วิกปฺปทฺวเยปิ ปุริมปทสฺส อุตฺตรปเทน สมานวิภตฺติโลโป ทฏฺพฺโพ’’ติ. ยทา ปน ชานาติ-สทฺโท สรณตฺโถ โหติ, ตทา สรณตฺถานํ ธาตุสทฺทานํ ปโยเค ‘‘มาตุ สรติ, ปิตุ สรติ, ภาตุ ชานาตี’’ติอาทีสุ วิย อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ สทฺทสตฺถวิทู วทนฺตีติ อาห ‘‘อถ วา กิฺจิ ทุกฺขํ นสฺสรสีติ อตฺโถ’’ติ, กสฺสจิ ทุกฺขสฺส อนนุภูตตฺตา อตฺตนา อนุภูตํ อปฺปมตฺตกมฺปิ ทุกฺขํ ปริเยสมาโนปิ อภาวโตเยว นสฺสรสีติ อตฺโถ. วิกปฺปทฺวเยปีติ อนุภวนสรณตฺถวเสน วุตฺเต ทุติยตติยวิกปฺปทฺวเย. ปุริมปทสฺสาติ ‘‘กิฺจี’’ติ ปทสฺส. อุตฺตรปเทนาติ ‘‘ทุกฺขสฺสา’’ติ ปเทน. สมานวิภตฺติโลโปติ อุตฺตรปเทน สมานสฺส สามิวจนสฺส โลโป. ‘‘กสฺสจิ ทุกฺขสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ วิกปฺปทฺวเยปิ ปุริมปเท สามิวจนสฺส โลปํ กตฺวา ‘‘กิฺจิ ทุกฺขสฺสา’’ติ นิทฺเทโส กโต. อนิจฺฉกาติ อนิจฺฉนฺตา. เอวํ สนฺเตติ นนุ มยํ สุทินฺน สามาทีสุ เกนจิปิ อุปาเยน อปฺปฏิสาธเนน อปฺปฏิกาเรน มรเณนปิ ตยา อกามกาปิ วินา ภวิสฺสาม, เอวํ สติ. เยนาติ เยน การเณน. กึ ปนาติ เอตฺถ กินฺติ กรณตฺเถ ปจฺจตฺตวจนนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เกน ปน การเณนา’’ติ.

๒๘. คนฺธพฺพนฏนาฏกาทีนีติ เอตฺถ คนฺธพฺพา นาม คายนกา, นฏา นาม รงฺคนฏา, นาฏกา ลงฺฆนกาทโย. ปริจาเรหีติ เอตฺถ ปริโต ตตฺถ ตตฺถ ยถาสกํ วิสเยสุ จาเรหีติ อตฺโถติ อาห ‘‘อินฺทฺริยานิ จาเรหี’’ติอาทิ. ปริจาเรหีติ วา สุขูปกรเณหิ อตฺตานํ ปริจาเรหิ อตฺตโน ปริจรณํ กาเรหิ. ตถาภูโต จ ยสฺมา ลฬนฺโต กีฬนฺโต นาม โหติ, ตสฺมา ‘‘ลฬา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภุฺชิตพฺพโต ปริภุฺชิตพฺพโต วิเสสโต ปฺจ กามคุณา โภคา นามาติ อาห ‘‘โภเค ภุฺชนฺโต’’ติ. ทานปฺปทานานีติ เอตฺถ นิจฺจทานํ ทานํ นาม, อุโปสถทิวสาทีสุ ทาตพฺพํ อติเรกทานํ ปทานํ นาม. ปเวณีรกฺขณวเสน วา ทียมานํ ทานํ นาม, อตฺตนาว ปฏฺเปตฺวา ทียมานํ ปทานํ นาม. ปจุรชนสาธารณํ วา นาติอุฬารํ ทานํ นาม, อนฺสาธารณํ อติอุฬารํ ปทานํ นาม. อาทิ-สทฺเทน สีลาทีนิ สงฺคณฺหาติ. นตฺถิ เอตสฺส วจนปฺปฏิวจนสงฺขาโต อาลาปสลฺลาโปติ นิราลาปสลฺลาโป.

๓๐. พลํ คาเหตฺวาติ เอตฺถ พลคฺคหณํ นาม กายพลสฺส อุปฺปาทนเมวาติ อาห ‘‘กายพลํ ชเนตฺวา’’ติ. อสฺสุมุขนฺติ อสฺสูนิ มุเข เอตสฺสาติ อสฺสุมุโข, ตํ อสฺสุมุขํ, อสฺสุกิลินฺนมุขนฺติ อตฺโถ. คาโมเยว คามนฺตเสนาสนํ คามปริยาปนฺนตฺตา คามนฺตเสนาสนสฺส. อติเรกลาภปฏิกฺเขเปนาติ ‘‘ปิณฺฑิยาโลปโภชนํ นิสฺสายา’’ติ (มหาว. ๑๒๘) เอวํ วุตฺตภิกฺขาหารลาภโต อธิกลาโภ สงฺฆภตฺตาทิอติเรกลาโภ, ตสฺส ปฏิกฺเขเปนาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘จุทฺทส ภตฺตานิ ปฏิกฺขิปิตฺวา’’ติ. สงฺฆภตฺตํ อุทฺเทสภตฺตํ นิมนฺตนภตฺตํ สลากภตฺตํ ปกฺขิกํ อุโปสถิกํ ปาฏิปทิกํ อาคนฺตุกภตฺตํ คมิกภตฺตํ คิลานภตฺตํ คิลานุปฏฺากภตฺตํ วิหารภตฺตํ ธุรภตฺตํ วารภตฺตนฺติ อิมานิ จุทฺทส ภตฺตานิ. ตตฺถ สกลสฺส สงฺฆสฺส ทาตพฺพํ ภตฺตํ สงฺฆภตฺตํ. กติปเย ภิกฺขู อุทฺทิสิตฺวา ทาตพฺพํ ภตฺตํ อุทฺเทสภตฺตํ. เอกสฺมึ ปกฺเข เอกทิวสํ ทาตพฺพํ ภตฺตํ ปกฺขิกํ. อุโปสเถ ทาตพฺพํ ภตฺตํ อุโปสถิกํ. ปาฏิปททิวเส ทาตพฺพํ ภตฺตํ ปาฏิปทิกํ. วิหารํ อุทฺทิสฺส ทาตพฺพํ ภตฺตํ วิหารภตฺตํ. ธุรเคเหเยว เปตฺวา ทาตพฺพํ ภตฺตํ ธุรภตฺตํ. คามวาสีอาทีหิ วาเรน ทาตพฺพํ ภตฺตํ วารภตฺตํ.

อถ ‘‘คหปติจีวรํ ปฏิกฺขิปิตฺวา’’ติ กสฺมา วุตฺตํ. คหเณ หิ สติ ปฏิกฺเขโป ยุชฺเชยฺย, น จ ปมโพธิยํ คหปติจีวรสฺส ปฏิคฺคหณํ อนุฺาตํ ปรโต ชีวกวตฺถุสฺมึ อนุฺาตตฺตา. เตเนว วกฺขติ ชีวกวตฺถุสฺมึ (มหาว. อฏฺ. ๓๓๗) ‘‘ภควโต หิ พุทฺธภาวปฺปตฺติโต ปฏฺาย ยาว อิทํ วตฺถํ, เอตฺถนฺตเร วีสติ วสฺสานิ น โกจิ คหปติจีวรํ สาทิยิ, สพฺเพ ปํสุกูลิกาว อเหสุ’’นฺติ. สุทินฺโน จ ปมโพธิยํเยว ปพฺพชิโต. เตเนว วกฺขติ ‘‘สุทินฺโน หิ ภควโต ทฺวาทสเม วสฺเส ปพฺพชิโต, วีสติเม วสฺเส าติกุลํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺโ, สยํ ปพฺพชฺชาย อฏฺวสฺสิโก หุตฺวา’’ติ. ตสฺมา ‘‘คหปติจีวรํ ปฏิกฺขิปิตฺวา’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ? วุจฺจเต – อนนุฺาเตปิ คหปติจีวเร ปํสุกูลิกงฺคสมาทานวเสน คหปติจีวรํ ปฏิกฺขิตฺตํ นาม โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘คหปติจีวรํ ปฏิกฺขิปิตฺวา’’ติ.

โลลุปฺปจารํ ปฏิกฺขิปิตฺวาติ กุสลภณฺฑสฺส ภุสํ วิลุมฺปนฏฺเน โลลุปฺปํ วุจฺจติ ตณฺหา, โลลุปฺเปน จรณํ โลลุปฺปจาโร, ตณฺหาวเสน ฆรปฏิปาฏึ อติกฺกมิตฺวา ภิกฺขาย จรณํ, ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ฆรปฏิปาฏิยา ภิกฺขาย ปวิสตี’’ติ. เอตฺถ จ อารฺิกงฺคาทิปธานงฺควเสน เสสธุตงฺคานิปิ คหิตาเนว โหนฺตีติ เวทิตพฺพํ. วชฺชีนนฺติ ราชาโน อเปกฺขิตฺวา สามิวจนํ กตํ, วชฺชีราชูนนฺติ อตฺโถ. ชนปท-สทฺทสฺส ตํนิวาสีสุปิ ปวตฺตนโต ‘‘วชฺชีสู’’ติ ชนปทาเปกฺขํ ภุมฺมวจนํ, วชฺชินามเก ชนปเทติ อตฺโถ.

อุปโภคปริโภคูปกรณมหนฺตตายาติ ปฺจกามคุณสงฺขาตานํ อุปโภคานฺเจว หตฺถิอสฺสรถอิตฺถิยาทิอุปโภคูปกรณานฺจ มหนฺตตาย. อุปโภคูปกรณาเนว หิ อิธ ปริโภคูปกรณสทฺเทน วุตฺตานิ. เตเนวาห ‘‘เย หิ เตสํ อุปโภคา, ยานิ จ อุปโภคูปกรณานิ, ตานิ มหนฺตานี’’ติ. ‘‘อุปโภคา หตฺถิอสฺสรถอิตฺถีอาทโย, อุปโภคูปกรณานิ เตสเมว สุวณฺณาทิอุปกรณานี’’ติปิ วทนฺติ. สารกานีติ สารภูตานิ. นิเธตฺวาติ นิทหิตฺวา, นิธานํ กตฺวาติ อตฺโถ. ทิวสปริพฺพยสงฺขาตโภคมหนฺตตายาติ ทิวเส ทิวเส ปริภุฺชิตพฺพสงฺขาตโภคานํ มหนฺตตาย. ชาตรูปรชตสฺเสว ปหูตตายาติ ปิณฺฑปิณฺฑวเสน เจว สุวณฺณมาสกรชตมาสกาทิวเสน จ ชาตรูปรชตสฺเสว ปหูตตาย. วิตฺตีติ ตุฏฺิ, วิตฺติยา อุปกรณํ วิตฺตูปกรณํ, ปหูตํ นานาวิธาลงฺการภูตํ วิตฺตูปกรณเมเตสนฺติ ปหูตวิตฺตูปกรณา. เตนาห ‘‘อลงฺการภูตสฺสา’’ติอาทิ. โวหารวเสนาติ วณิชฺชาวเสน วฑฺฒิกตาทิวเสน. ธนธฺสฺส ปหูตตายาติ สตฺตรตนสงฺขาตสฺส ธนสฺส สพฺพปุพฺพณฺณาปรณฺณสงฺคหิตสฺส ธฺสฺส จ ปหูตตายาติ อตฺโถ. ตตฺถ ‘‘สุวณฺณรชตมณิมุตฺตาเวฬุริยวชิรปวาฬานิ สตฺต รตนานี’’ติ วทนฺติ. สาลิวีหิอาทิ ปุพฺพณฺณํ ปุรกฺขตํ สสฺสผลนฺติ กตฺวา, ตพฺพิปริยายโต มุคฺคมาสาทิ อปรณฺณนฺติ เวทิตพฺพํ. อุกฺกฏฺปิณฺฑปาติกตฺตาติ เสสธุตงฺคปริวาริเตน อุกฺกฏฺปิณฺฑปาตธุตงฺเคน สมนฺนาคตตฺตา. เตนาห ‘‘สปทานจารํ จริตุกาโม’’ติ.

๓๑. อนฺโตชาตตาย วา าติสทิสี ทาสีติ าติทาสี. ปูติภาเวเนว ลกฺขิตพฺพโทโส วา อาภิโทสิโก, อภิโทสํ วา ปจฺจูสกาลํ คโต ปตฺโต อติกฺกนฺโตติ อาภิโทสิโก. เตนาห ‘‘เอกรตฺตาติกฺกนฺตสฺส วา’’ติอาทิ. ปูติภูตภาเวน ปริโภคํ นารหตีติ อปริโภคารโห. ฉฑฺฑนียสภาเว นิจฺฉิเตปิ ปุจฺฉากาเล สนฺเทหโวหารวเสเนว ปุจฺฉิตุํ ยุตฺตนฺติ อาห ‘‘สเจ’’ติ. อริยโวหาเรนาติ อริยสมุทาจาเรน. อริยา หิ มาตุคามํ ภคินิวาเทน สมุทาจรนฺติ. นิสฺสฏฺปริคฺคหนฺติ ปริจฺจตฺตาลยํ.

‘‘อากิรา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘วิฺตฺติ วา’’ติ วุตฺตํ, ‘‘สเจ ตํ ฉฑฺฑนียธมฺม’’นฺติ ปริยายํ อมุฺจิตฺวา วุตฺตตฺตา ‘‘ปยุตฺตวาจา วา’’ติ วุตฺตํ, ปจฺจยปฏิสํยุตฺตา วาจา ปยุตฺตวาจา. วตฺตุํ วฏฺฏตีติ นิรเปกฺขภาวโต วุตฺตํ, อิธ ปน วิเสสโต อปริโภคารหตฺตาว วตฺถุโน. อคฺคอริยวํสิโกติ อริยวํสปฏิปตฺติปูรกานํ อคฺโค อุตฺตโม. นิมียติ สฺายตีติ นิมิตฺตํ, ยถาสลฺลกฺขิโต อากาโรติ อาห ‘‘คิหิกาเล สลฺลกฺขิตปุพฺพํ อาการ’’นฺติ. หตฺถปิฏฺิอาทีนิ โอโลกยมานา ‘‘สามิปุตฺตสฺส เม สุทินฺนสฺส วิย สุวณฺณกจฺฉปปิฏฺิสทิสา อิมา หตฺถปาทปิฏฺิโย, หริตาลวฏฺฏิโย วิย สุวฏฺฏิตา องฺคุลิโย, มธุโร สโร’’ติ คิหิกาเล สลฺลกฺขิตปุพฺพํ อาการํ อคฺคเหสิ สฺชานิ สลฺลกฺเขสิ. กสฺมา ปน สา าติทาสี ทิสฺวาว น สฺชานีติ อาห ‘‘สุทินฺโน หี’’ติอาทิ. ปพฺพชฺชุปคเตนาติ ปพฺพชฺชํ อุปคเตน, ปพฺพชิเตนาติ อตฺโถ. ฆรํ ปวิสิตฺวาติ เคหสามินิยา นิสีทิตพฺพฏฺานภูตํ อนฺโตเคหํ ปวิสิตฺวา. ยคฺเฆติ อิมสฺส อาโรจยามีติ อยมตฺโถติ อาห ‘‘อาโรจนตฺเถ นิปาโต’’ติ. ‘‘ยคฺเฆ ชาเนยฺยาสีติ สุฏฺุ ชาเนยฺยาสี’’ติปิ อตฺถํ วทนฺติ. อาลปเนติ ทาสิชนสฺส อาลปเน. เตนาห ‘‘เอวฺหี’’ติอาทิ.

๓๒. ฆเรสุ สาลา โหนฺตีติ ฆเรสุ เอกมนฺเต โภชนสาลา โหนฺติ ปาการปริกฺขิตฺตา สุสํวิหิตทฺวารพนฺธา สุสมฺมฏฺวาลิกงฺคณา. อุทกกฺชิยนฺติ อุทกฺจ กฺชิยฺจ. กสฺมา ปน อีทิสายเมว สาลาย อฺตรํ กุฏฺฏมูลนฺติ อยมตฺโถ วุตฺโตติ อาห ‘‘น หิ ปพฺพชิตา’’ติอาทิ. อสารุปฺเป าเนติ ภิกฺขูนํ อนนุจฺฉวิเก ปเทเส. อตฺถิ นุ โขติ นุ-สทฺโท ปุจฺฉนตฺเถ, โข-สทฺโท วจนสิลิฏฺตาย วุตฺโต. นุโขติ วา นิปาตสมุทาโย ปุจฺฉนตฺโถ. เตน นาม-สทฺทสฺส ปุจฺฉนตฺถตํ ทสฺเสติ. เยสํ โน ตฺวนฺติ เยสํ โน ปุตฺโต ตฺวํ. อีทิเส าเนติ กิฺจาปิ ตํ านํ ภิกฺขูนํ อนนุรูปํ น โหติ, ตถาปิ มาทิสานํ มหาโภคกุลานํ ปุตฺตสฺส ปรกุเล อาสนสาลายํ นิสีทิตฺวา โภชนํ นาม อยุตฺตรูปนฺติ มฺมาโน อาห. เตเนวาห ‘‘นนุ นาม, ตาต สุทินฺน, สกํ เคหํ คนฺตพฺพ’’นฺติ. อฺเนปิ ปกาเรน นามสทฺทสฺส ปุจฺฉนตฺถตเมว ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตถา อตฺถิ นุ โข ตาตา’’ติอาทิ. ตถาติ สมุจฺจยตฺโถ. อิทานิ นามสทฺทสฺส มฺนตฺถตํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตถา อตฺถิ มฺเ’’ติอาทิ.

ทุกฺขาภิตุนฺนตายาติ มานสิเกน ทุกฺเขน อภิปีฬิตตฺตา. เอตมตฺถนฺติ ‘‘อตฺถิ นุ โข, ตาต สุทินฺน, อมฺหากํ ธน’’นฺติอาทินา ยถาวุตฺตมตฺถํ. อโนกปฺปนามริสนตฺถวเสนาติ เอตฺถ อโนกปฺปนํ อสทฺทหนํ. อมริสนํ อสหนํ. อนาคตวจนํ อนาคตสทฺทปฺปโยโค, อตฺโถ ปน วตฺตมานกาลิโกว. เตนาห ‘‘ปจฺจกฺขมฺปี’’ติ. น มริสยามีติ น วิสหามิ. ตํ น สุนฺทรนฺติ ‘‘ตทาย’’นฺติ ปาํ สนฺธายาห. อลํ, คหปติ, กตํ เม อชฺช ภตฺตกิจฺจนฺติ เถโร อุกฺกฏฺเอกาสนิกตาย ปฏิกฺขิปนฺโต เอวมาห. อุกฺกฏฺเอกาสนิกตายาติ จ อิทํ ภูตกถนวเสน วุตฺตํ เถรสฺส ตถาภาวทีปนตฺถํ. มุทุกสฺสปิ หิ เอกาสนิกสฺส ยาย นิสชฺชาย กิฺจิมตฺตมฺปิ โภชนํ ภุตฺตํ, วตฺตสีเสนปิ ตโต วุฏฺิตสฺส ปุน ภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ. เตนาห ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร ‘‘อาสนํ วา รกฺเขยฺย โภชนํ วา’’ติ. อุกฺกฏฺปิณฺฑปาติโกปิ สมาโนติ นิทสฺสนมตฺตมิทํ, เถโร สปทานจาริเกสุปิ อุกฺกฏฺโเยว. อุกฺกฏฺสปทานจาริโกปิ หิ ปุรโต จ ปจฺฉโต จ อาหฏภิกฺขมฺปิ อคฺคเหตฺวาว ฆรทฺวาเร ตฺวา ปตฺตวิสฺสชฺชนเมว กโรติ, ตสฺมา เถโร อุกฺกฏฺสปทานจาริกตฺตาปิ สฺวาตนาย ภิกฺขํ นาธิวาเสติ. อถ กสฺมา ‘‘อธิวาเสสี’’ติ อาห ‘‘สเจ เอกภตฺตมฺปิ น คเหสฺสามี’’ติอาทิ. ปณฺฑิตา หิ มาตาปิตูนํ อาจริยุปชฺฌายานํ วา กาตพฺพํ อนุคฺคหํ อชฺฌุเปกฺขิตฺวา ธุตงฺควิสุทฺธิกา น ภวนฺติ.

๓๓. มชฺฌิมปฺปมาโณติ จตุหตฺโถ ปุริโส มชฺฌิมปฺปมาโณ. ‘‘ฉหตฺโถ’’ติปิ เกจิ. ติโร กโรนฺติ เอตายาติ ติโรกรณีติ สาณิปาการวจโน อยํ ติโรกรณี-สทฺโทติ อาห ‘‘ติโรกรณิยนฺติ กรณตฺเถ ภุมฺม’’นฺติ. ‘‘ติโรกรณิยา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ติโรกรณิย’’นฺติ กรณตฺเถ ภุมฺมํ วุตฺตํ. ติโรกรณีย-สทฺโท วา อยํ สาณิปาการปริยาโยติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อถ วา’’ติอาทิ. ตํ ปริกฺขิปิตฺวาติ ตํ สมนฺตโต ขิปิตฺวา, ปริโต พนฺธิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘สมนฺตโต กตฺวา’’ติ. วิภตฺติปติรูปโกปิ นิปาโต โหตีติ อาห ‘‘เตนาติ อยมฺปิ วา’’ติอาทิ.

๓๔. ‘‘อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺส ปิตา สเก นิเวสเน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา อายสฺมโต สุทินฺนสฺส กาลํ อาโรเจสิ – ‘กาโล, ตาต สุทินฺน, นิฏฺิตํ ภตฺต’นฺติ’’ เอวํ กาลาโรจนสฺส ปาฬิยํ อนารุฬฺหตฺตา อาห – ‘‘กิฺจาปิ ปาฬิยํ กาลาโรจนํ น วุตฺต’’นฺติ. อาโรจิเตเยว กาเลติ ‘‘กาโล, ตาต สุทินฺน, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ กาเล อาโรจิเตเยว. ทฺเว ปุฺเชติ กหาปณปุฺชฺจ สุวณฺณปุฺชฺจ.

เปตฺติกนฺติ ปิติโต อาคตํ เปตฺติกํ. นิหิตนฺติ ภูมิคตํ. ปยุตฺตนฺติ วฑฺฒิวเสน ปโยชิตํ. ตทฺธิตโลปํ กตฺวา เวทิตพฺพนฺติ ยถา อฺตฺถาปิ ‘‘ปิตามหํ ธนํ ลทฺธา, สุขํ ชีวติ สฺชโย’’ติ วุตฺตํ, เอวํ ตทฺธิตโลปํ กตฺวา วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปิตามหโต อาคตํ, ปิตามหสฺส วา อิทํ เปตามหํ. ปพฺพชิตลิงฺคนฺติ สมณเวสํ. น ราชภีโตติ อปราธการณา น ราชกุลา ภีโต. เยสํ สนฺตกํ ธนํ คหิตํ, เต อิณายิกา. ปลิพุทฺโธ ปีฬิโต.

วิภตฺติปติรูปโกติ ‘‘เตนา’’ติ ปทํ สนฺธายาห. ตํนิทานนฺติ ตํ ธนํ นิทานํ การณมสฺสาติ ตํนิทานํ. อสฺสาติ ปจฺจตฺตวจนสฺส, ปทสฺส วา. ภยนฺติ จิตฺตสฺส อุตฺรสฺตากาเรน ปวตฺตภยํ อธิปฺเปตํ, น าณภยํ, นาปิ ‘‘ภายติ เอตสฺมา’’ติ เอวํ วุตฺตํ อารมฺมณภยนฺติ อาห ‘‘จิตฺตุตฺราโสติ อตฺโถ’’ติ. ฉมฺภิตตฺตนฺติ เตเนว จิตฺตุตฺราสภเยน สกลสรีรสฺส ฉมฺภิตภาโว. วิเสสโต ปน หทยมํสจลนนฺติ อาห ‘‘กายกมฺโป หทยมํสจลน’’นฺติ. โลมหํโสติ เตน ภเยน เตน ฉมฺภิตตฺเตน สกลสรีรโลมานํ หฏฺภาโว, โส ปน เนสํ ภิตฺติยํ นาคทนฺตานํ วิย อุทฺธํมุขตาติ อาห ‘‘โลมานํ หํสนํ อุทฺธคฺคภาโว’’ติ.

๓๕. อตฺตนาติ ปจฺจตฺเต กรณวจนํ, สยนฺติ อตฺโถ. เทวจฺฉรานนฺติ อนจฺจนฺติโย สนฺธายาห. เทวนาฏกานนฺติ นจฺจนฺติโย, ปริยายวจนํ วา เอตํ เทวกฺานํ. สมุปฺปนฺนพลวโสกา หุตฺวาติ อยํ โลโก นาม อตฺตานํว จินฺเตติ, ตสฺมา สาปิ ‘‘อิทานิ อหํ อนาถา ชาตา’’ติ อตฺตานํว จินฺตยมานา ‘‘อยํ อชฺช อาคมิสฺสติ, อชฺช อาคมิสฺสตี’’ติ อฏฺ วสฺสานิ พหิ น นิกฺขนฺตา เอตํ นิสฺสาย มยา ทารโกปิ น ลทฺโธ, ยสฺส อานุภาเวน ชีเวยฺยามิ, อิโต จามฺหิ ปริหีนา อฺโต จาติ สมุปฺปนฺนพลวโสกา หุตฺวา. กุลรุกฺขปติฏฺาปเน พีชสทิสตฺตา กุลวํสปฺปติฏฺาปโก ปุตฺโต อิธ พีชโกติ อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘กุลวํสพีชกํ เอกํ ปุตฺต’’นฺติ. สํ นาม ธนํ, ตสฺส ปตีติ สํปติ, ธนวา วิภวสมฺปนฺโน. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกหิตาวหตฺตา ตสฺส หิตนฺติ สาปเตยฺยํ, ตเทว ธนํ วิภโวติ อาห – ‘‘อิมํ สาปเตยฺยํ เอวํ มหนฺตํ อมฺหากํ วิภว’’นฺติ.

๓๖. อิตฺถีนํ กุมารีภาวปฺปตฺติโต ปฏฺาย ปจฺฉิมวยโต โอรํ อสติ วิพนฺเธ อฏฺเม อฏฺเม สตฺตาเห คพฺภาสยสฺิเต ตติเย อาวตฺเต กติปยา โลหิตปีฬกา สณฺหิตฺวา อคฺคหิตปุพฺพา เอว ภิชฺชนฺติ, ตโต โลหิตํ ปคฺฆรติ, ตตฺถ อุตุสมฺา ปุปฺผสมฺา จาติ อาห – ‘‘ปุปฺผนฺติ อุตุกาเล อุปฺปนฺนโลหิตสฺส นาม’’นฺติ. คพฺภปติฏฺานฏฺาเนติ ยสฺมึ โอกาเส ทารโก นิพฺพตฺตติ, ตสฺมึ ปเทเส. สณฺหิตฺวาติ นิพฺพตฺติตฺวา. ภิชฺชนฺตีติ อคฺคหิตปุพฺพา เอว ภิชฺชนฺติ. อยฺหิ ตาสํ สภาโว. โทเสนาติ โลหิตมเลน. สุทฺเธ วตฺถุมฺหีติ ปคฺฆริตโลหิตตฺตา อนามยตฺตา จ นหานโต ปรํ จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย สุทฺเธ คพฺภาสเย. สุทฺเธ ปน วตฺถุมฺหิ มาตาปิตูสุ เอกวารํ สนฺนิปติเตสุ ยาว สตฺต ทิวสานิ เขตฺตเมว โหติ คพฺภสณฺหนสฺส ปริตฺตสฺส โลหิตเลปสฺส วิชฺชมานตฺตา. เกจิ ปน ‘‘อฑฺฒมาสมตฺตมฺปิ เขตฺตเมวา’’ติ วทนฺติ. พาหายนฺติ อธิกรเณ ภุมฺมนฺติ อาห ‘‘ปุราณทุติยิกาย ยา พาหา, ตตฺร นํ คเหตฺวา’’ติ. อุปโยคตฺเถ ภุมฺมวจนมฺปิ ยุชฺชติเยว ยถา ‘‘สุทินฺนสฺส ปาเทสุ คเหตฺวา’’ติ.

ปุพฺเพปิ ปฺตฺตสิกฺขาปทานํ สพฺภาวโต อปฺตฺเต สิกฺขาปเทติ ปาราชิกํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อาห – ‘‘ปมปาราชิกสิกฺขาปเท อฏฺปิเต’’ติ. วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวนฺโต อาห – ‘‘ภควโต กิร ปมโพธิย’’นฺติอาทิ. เอวรูปนฺติ ปาราชิกปฺตฺติยา อนุรูปํ. นิทสฺสนมตฺตฺเจตํ, สงฺฆาทิเสสปฺตฺติยา อนุรูปมฺปิ อชฺฌาจารํ นากํสุเยว. เตเนวาห – ‘‘อวเสเส ปฺจ ขุทฺทกาปตฺติกฺขนฺเธ เอว ปฺเปสี’’ติ. อิทฺจ ถุลฺลจฺจยาทีนํ ปฺจนฺนํ ลหุกาปตฺติกฺขนฺธานํ สพฺภาวมตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ปฺจาปตฺติกฺขนฺธานํ อนวเสสโต ปฺตฺตตฺตาว. ปมโพธิยํ ปฺจนฺนํ ลหุกาปตฺตีนํ สพฺภาววจเนเนว ธมฺมเสนาปติสฺส สิกฺขาปทปฺตฺติยาจนา วิเสสโต ครุกาปตฺติปฺตฺติยา ปาติโมกฺขุทฺเทสสฺส จ เหตุภูตาติ ทฏฺพฺพา. เกจิ ปน ‘‘ตสฺมึ ตสฺมึ ปน วตฺถุสฺมึ อวเสสปฺจขุทฺทกาปตฺติกฺขนฺเธ เอว ปฺเปสีติ อิทํ ทฺวาทสเม วสฺเส เวรฺชายํ วุตฺถวสฺเสน ภควตา ตโต ปฏฺาย อฏฺวสฺสพฺภนฺตเร ปฺตฺตสิกฺขาปทํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ ตโต ปุพฺเพปิ สิกฺขาปทปฺตฺติยา สพฺภาวโต. เตเนว เวรฺชกณฺเฑ ‘‘เอกภิกฺขุนาปิ รตฺติจฺเฉโท วา ปจฺฉิมิกาย ตตฺถ วสฺสํ อุปคจฺฉามาติ วสฺสจฺเฉโท วา น กโต’’ติ จ ‘‘สามมฺปิ ปจนํ สมณสารุปฺปํ น โหติ, น จ วฏฺฏตี’’ติ จ วุตฺตํ. อาราธยึสูติ จิตฺตํ คณฺหึสุ, อชฺฌาสยํ ปูรยึสุ, หทยคาหินึ ปฏิปตฺตึ ปฏิปชฺชึสูติ อตฺโถ. เอกํ สมยนฺติ เอกสฺมึ สมเย, ปมโพธิยนฺติ อตฺโถ.

ยํ อาทีนวนฺติ สมฺพนฺโธ. สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺโตติ ปมปาราชิกสิกฺขาปทํ ปฺเปนฺโต. อาทีนวํ ทสฺเสสฺสตีติ ‘‘วรํ เต, โมฆปุริส, อาสีวิสสฺส โฆรวิสสฺส มุเข องฺคชาตํ ปกฺขิตฺตํ, น ตฺเวว มาตุคามสฺส องฺคชาเต องฺคชาตํ ปกฺขิตฺต’’นฺติอาทินา ยํ อาทีนวํ ทสฺเสสฺสติ. อภิวิฺาเปสีติ อิมสฺส ‘‘ปวตฺเตสี’’ติ อยมตฺโถ กถํ ลทฺโธติ อาห ‘‘ปวตฺตนาปิ หี’’ติอาทิ. กายวิฺตฺติโจปนโตติ กายวิฺตฺติวเสน ปวตฺตจลนโต. กสฺมา ปเนส เมถุนธมฺเมน อนตฺถิโกปิ สมาโน ติกฺขตฺตุํ อภิวิฺาเปสีติ อาห – ‘‘ติกฺขตฺตุํ อภิวิฺาปนฺเจสา’’ติอาทิ. ตตฺถ ติกฺขตฺตุํ อภิวิฺาปนนฺติ มุตฺติปาปนวเสน ตีสุ วาเรสุ เมถุนธมฺมสฺส ปวตฺตนํ.

สพฺเพสมฺปิ ปทานํ อวธารณผลตฺตา วินาปิ เอวการํ อวธารณตฺโถ วิฺายตีติ อาห ‘‘เตเนว อชฺฌาจาเรนา’’ติ. อฏฺ หิ คพฺภการณานิ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘เมถุนโจฬคฺคหณํ, ตนุสํสคฺโค จ นาภิอามสนํ;

ปานํ ทสฺสนสวนํ, ฆายนมิติ คพฺภเหตโว อฏฺา’’ติ.

อิทานิ อวธารเณน นิวตฺติตมตฺถํ ทสฺเสตุกาโม อาห – ‘‘กึ ปน อฺถาปิ คพฺภคฺคหณํ โหตี’’ติอาทิ. นนุ จ นาภิปรามสนมฺปิ กายสํสคฺโคเยว, กสฺมา นํ วิสุํ วุตฺตนฺติ? อุภเยสํ ฉนฺทราควเสน กายสํสคฺโค วุตฺโต, อิตฺถิยา ฉนฺทราควเสน นาภิปรามสนํ, วตฺถุวเสน วา ตํ วิสุํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. กถํ ปน กายสํสคฺเคน คพฺภคฺคหณํ โหติ, กถฺจ ตตฺถ สุกฺกโสณิตสฺส สมฺภโวติ อาห ‘‘อิตฺถิโย หี’’ติอาทิ. ฉนฺทราคุปฺปตฺติวเสน อิตฺถิยา สุกฺกโกฏฺาโส จลิโต โหติ, โสปิ คพฺภสณฺานสฺส ปจฺจโย โหตีติ อธิปฺปาโย. อิตฺถิสนฺตาเนปิ หิ รสาทิสตฺตธาตุโย ลพฺภนฺติเยว. เตนาห – ‘‘องฺคปจฺจงฺคปรามสนํ สาทิยนฺติโยปิ คพฺภํ คณฺหนฺตี’’ติ. คณฺิปเทสุ ปน ‘‘กายสํสคฺคาทินา สตฺตปฺปกาเรน คพฺภคฺคหเณ ปิตุ สุกฺกโกฏฺาสํ วินา ฉนฺทราควเสน มาตุ วิการปฺปตฺตํ โลหิตเมว คพฺภสณฺานสฺส ปจฺจโย โหตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ยสฺส องฺคปจฺจงฺคปรามสนํ สาทิยิตฺวา มาตา ปุตฺตํ ปฏิลภติ, สเจ โส อปเรน สมเยน ปริปุณฺณินฺทฺริโย หุตฺวา ตาทิสํ ปิตรํ มนุสฺสชาติกํ ชีวิตา โวโรเปติ, ปิตุฆาตโกว โหตี’’ติ วทนฺติ.

ตํ อสุจึ เอกเทสํ มุเขน อคฺคเหสีติ ปุราณจีวรํ โธวนฺตี ตตฺถ ยํ อสุจึ อทฺทส, ตํ อสุจึ เอกเทสํ ปิวิ. ‘‘วฏฺฏติ ตุมฺหากํ เมถุนธมฺโม’’ติ ปุฏฺโ ‘‘กปฺปตุ วา มา วา กปฺปตุ, มยํ เตน อนตฺถิกา’’ติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อนตฺถิกา มยํ เอเตนา’’ติ. กิฺจาปิ นาภิปรามสเน เมถุนราโค นตฺถิ, ตถาปิ นาภิปรามสนกาเล ผสฺสสาทิยนวเสน อสฺสาทมตฺตํ ตสฺสา อโหสีติ คเหตพฺพํ, อฺถา คพฺภสณฺหนํ น สิยา. ทิฏฺมงฺคลิกาย นาภิปรามสเนน มณฺฑพฺยสฺส นิพฺพตฺติ อโหสิ, จณฺฑปชฺโชตมาตุ นาภิยํ วิจฺฉิกา ผริตฺวา คตา, เตน จณฺฑปชฺโชตสฺส นิพฺพตฺติ อโหสีติ อาห ‘‘เอเตเนว นเยนา’’ติอาทิ. ปุริสํ อุปนิชฺฌายตีติ วาตปานาทินา ทิสฺวา วา ทิฏฺปุพฺพํ วา ปุริสํ อุปนิชฺฌายติ. ราโชโรธา วิยาติ สีหฬทีเป กิร เอกิสฺสา อิตฺถิยา ตถา อโหสิ, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ.

อิธาติ อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ. อยนฺติ สุทินฺนสฺส ปุราณทุติยิกา. ยํ สนฺธายาติ ยํ อชฺฌาจารํ สนฺธาย. สุกฺกํ สนฺธาย ‘‘มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺตี’’ติ วุตฺตํ, มาตา จ อุตุนี โหตีติ โลหิตํ สนฺธาย. ตตฺถ สนฺนิปติตา โหนฺตีติ อสทฺธมฺมวเสน เอกสฺมึ าเน สมาคตา สงฺคตา โหนฺติ. มาตา จ อุตุนี โหตีติ อิทํ อุตุสมยํ สนฺธาย วุตฺตํ, น โลกสมฺากรชสฺส ลคฺคนทิวสมตฺตํ. คนฺธพฺโพติ ตตฺรูปคสตฺโต, คนฺตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ. ต-การสฺส ธ-กาโร กโตติ ทฏฺพฺพํ. อถ วา คนฺธนโต อุปฺปชฺชนคติยา นิมิตฺตุปฏฺาเนน สูจนโต ทีปนโต คนฺโธติ ลทฺธนาเมน ภวคามิกมฺมุนา อพฺพติ ปวตฺตตีติ คนฺธพฺโพ, ตตฺถ อุปฺปชฺชนกสตฺโต. ปจฺจุปฏฺิโต โหตีติ อุปคโต โหติ. เอตฺถ จ น มาตาปิตูนํ สนฺนิปาตํ โอโลกยมาโน สมีเป ิโต นาม โหติ, กมฺมยนฺตยนฺติโต ปน เอโก สตฺโต ตสฺมึ โอกาเส นิพฺพตฺตนโก ปุริมชาติยํ ิโตเยว คตินิมิตฺตาทิอารมฺมณกรณวเสน อุปปตฺตาภิมุโข โหตีติ อธิปฺปาโย.

สนฺนิปาตาติ สโมธาเนน สมาคเมน. คพฺภสฺสาติ คพฺเภ นิพฺพตฺตนกสตฺตสฺส. คพฺเภ นิพฺพตฺตนกสตฺโตปิ หิ คพฺโภติ วุจฺจติ. ยถาห – ‘‘ยถา โข ปนานนฺท, อฺา อิตฺถิกา นว วา ทส วา มาเส คพฺภํ กุจฺฉินา ปริหริตฺวา วิชายนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๐๕). กตฺถจิ ปน คพฺโภติ มาตุกุจฺฉิ วุตฺโต. ยถาห –

‘‘ยเมกรตฺตึ ปมํ, คพฺเภ วสติ มาณโว;

อพฺภุฏฺิโตว โส ยาติ, ส คจฺฉํ น นิวตฺตตี’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๖๓); –

เอตฺถ จ คพฺภติ อตฺตภาวภาเวน ปวตฺตตีติ คพฺโภ, กลลาทิอวตฺโถ ธมฺมปฺปพนฺโธ, ตํนิสฺสิตตฺตา ปน สตฺตสนฺตาโน ‘‘คพฺโภ’’ติ วุตฺโต ยถา ‘‘มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตี’’ติ. ตํนิสฺสยภาวโต มาตุกุจฺฉิ ‘‘คพฺโภ’’ติ เวทิตพฺโพ. คพฺโภ วิยาติ วา. ยถา หิ นิวาสฏฺานตาย สตฺตานํ โอวรโก ‘‘คพฺโภ’’ติ วุจฺจติ, เอวํ คพฺภเสยฺยกานํ สตฺตานํ ยาว อภิชาติ นิวาสฏฺานตาย มาตุกุจฺฉิ ‘‘คพฺโภ’’ติ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. อวกฺกนฺติ โหตีติ นิพฺพตฺติ โหติ.

อารกฺขเทวตาติ ตสฺส อารกฺขตฺถาย ิตา เทวตา. อสฺส ตํ อชฺฌาจารนฺติ สมฺพนฺโธ. ตถา นิจฺฉาเรสุนฺติ ตถา มหนฺตํ สทฺทํ กตฺวา นิจฺฉาเรสุํ. กิฺจาปิ อิธ ปาฬิยํ อากาสฏฺเทวตา วิสุํ น อาคตา, ตถาปิ สทฺทสฺส อนุสฺสาวเน อยมนุกฺกโมติ ทสฺเสตุํ จาตุมหาราชิกเทวตาโย ทฺวิธา กตฺวา อากาสฏฺเทวตา วิสุํ วุตฺตา. เตเนตฺถ อากาสฏฺกานํ วิสุํ คหิตตฺตา จาตุมหาราชิกาติ ปริภณฺฑปพฺพตฏฺกา เวทิตพฺพา. อิติหาติ นิปาตสมุทาโย เอวํสทฺทสฺส อตฺเถ ทฏฺพฺโพติ อาห ‘‘เอว’’นฺติ. ขเณน มุหุตฺเตนาติ ปททฺวยํ เววจนภาวโต สมานตฺถเมวาติ ทฏฺพฺพํ. เอกโกลาหลมโหสีติ เทวพฺรหฺมโลเกสุ เอกโกลาหลมโหสิ. กิฺจาปิ หิ โส สทฺโท ยาว พฺรหฺมโลกา อพฺภุคฺคจฺฉิ, ตถาปิ น โส มนุสฺสานํ วิสโย เตสํ รูปํ วิย, เตเนว ภิกฺขู ปุจฺฉึสุ – ‘‘กจฺจิ โน ตฺวํ, อาวุโส สุทินฺน, อนภิรโต’’ติ.

๓๗. ‘‘เอวํ มาตาปุตฺตานํ ปพฺพชฺชา สผลา อโหสิ, ปิตา ปน วิปฺปฏิสาราภิภูโต วิหาสี’’ติ วจนโต สุทินฺนสฺส ตสฺมึ อตฺตภาเว อรหตฺตาธิคโม นาโหสีติ วิฺายติ. เกจิ ปน ‘‘ปุพฺเพกตปุฺตาย โจทิยมานสฺส ภพฺพกุลปุตฺตสฺสาติ วุตฺตตฺตา สุทินฺโน ตํ กุกฺกุจฺจํ วิโนเทตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ, เตเนว ปพฺพชฺชา อนุฺาตา’’ติ วทนฺติ. ตํ ปาฬิยา อฏฺกถาย จ น สเมติ. ปุพฺเพกตปุฺตา จ อปฺปมาณํ ตาทิสสฺสปิ อนฺตรากตปาปกมฺมสฺส วเสน อชาตสตฺตุโน วิย อธิคมนฺตรายทสฺสนโต. กตากตานุโสจนลกฺขณํ กุกฺกุจฺจํ อิธาธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘อชฺฌาจารเหตุโก ปจฺฉานุตาโป’’ติ. กตํ อชฺฌาจารํ ปฏิจฺจ อนุโสจนวเสน วิรูปํ สรณํ จินฺตนํ วิปฺปฏิสาโรติ อาห ‘‘วิปฺปฏิสาโรติปิ ตสฺเสว นาม’’นฺติ. กุจฺฉิตํ กตํ กิริยาติ กุกตํ, กุกตเมว กุกฺกุจฺจนฺติ อาห ‘‘กุจฺฉิตกิริยาภาวโต กุกฺกุจฺจ’’นฺติ. ปริยาทินฺนมํสโลหิตตฺตาติ ปริกฺขีณมํสโลหิตตฺตา. อวิปฺผาริโกติ อุทฺเทสาทีสุ พฺยาปารรหิโต, อพฺยาวโฏติ อตฺโถ. วหจฺฉินฺโนติ ฉินฺนวโห, ภารวหเนน ฉินฺนกฺขนฺโธติ วุตฺตํ โหติ. ตํ ตํ จินฺตยีติ ‘‘ยทิ อหํ ตํ ปาปํ น กริสฺสํ, อิเม ภิกฺขู วิย ปริปุณฺณสีโล อสฺส’’นฺติอาทินา ตํ ตํ จินฺตยิ.

๓๘. เอวํภูตนฺติ กิสลูขาทิภาวปฺปตฺตํ. คณสงฺคณิกาปปฺเจนาติ คเณ ชนสมาคเม สนฺนิปตนํ คณสงฺคณิกา, คณสงฺคณิกาเยว ปปฺโจ คณสงฺคณิกาปปฺโจ, เตน. ยสฺสาติ เย อสฺส. กถาผาสุกาติ วิสฺสาสิกภาเวเนว กถากรเณ ผาสุกา, สุเขน วตฺตุํ สกฺกุเณยฺยา, สุขสมฺภาสาติ อตฺโถ. ปสาทสฺส ปมาณโต อูนาธิกตฺตํ สพฺพทา สพฺเพสํ นตฺถีติ อาห ‘‘ปสาทปติฏฺาโนกาสสฺส สมฺปุณฺณตฺตา’’ติ. ทานีติ อิมสฺมึ อตฺเถ เอตรหิ-สทฺโท อตฺถีติ อาห ‘‘ทานีติ นิปาโต’’ติ. โน-สทฺโทปิ นุ-สทฺโท วิย ปุจฺฉนตฺโถติ อาห ‘‘กจฺจิ นุ ตฺว’’นฺติ. ตเมว อนภิรตินฺติ เตหิ ภิกฺขูหิ ปุจฺฉิตํ ตเมว คิหิภาวปตฺถนาการํ อนภิรตึ. ‘‘ตเมวา’’ติ อวธารเณน นิวตฺติตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อธิกุสลาน’’นฺติอาทิ. อธิกุสลา ธมฺมา สมถวิปสฺสนาทโย. อตฺถีติ วิสยภาเวน จิตฺเต ปริวตฺตนํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ปาปสฺส วตฺตมานตํ สนฺธาย, อตฺถิ วิสยภาเวน จิตฺเต ปริวตฺตตีติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห – ‘‘นิจฺจกาลํ อภิมุขํ วิย เม ติฏฺตี’’ติ.

ยํ ตฺวนฺติ เอตฺถ นฺติ เหตุอตฺเถ นิปาโต, กรณตฺเถ วา ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห ‘‘เยน ปาเปนา’’ติ. อเนกปริยาเยนาติ เอตฺถ ปริยาย-สทฺโท การณวจโนติ อาห ‘‘อเนกการเณนา’’ติ. วิราคตฺถายาติ ภวโภเคสุ วิรชฺชนตฺถาย. โน ราเคน รชฺชนตฺถายาติ ภวโภเคสุเยว ราเคน อรฺชนตฺถาย. เตนาห ‘‘ภควตา หี’’ติอาทิ. เอส นโย สพฺพปเทสูติ อธิปฺปายิกมตฺตํ สพฺพปเทสุ อติทิสฺสติ. อิทํ ปเนตฺถ ปริยายวจนมตฺตนฺติ ‘‘วิสํโยคายา’’ติอาทีสุ สพฺพปเทสุ ‘‘กิเลเสหิ วิสํยุชฺชนตฺถายา’’ติอาทินา ปทตฺถวิภาวนวเสน วุตฺตปริยายวจนํ สนฺธาย วทติ. น สํยุชฺชนตฺถายาติ กิเลเสหิ น สํยุชฺชนตฺถาย. อคฺคหณตฺถายาติ กิเลเส อคฺคหณตฺถาย, ภวโภเค วา ตณฺหาทิฏฺิวเสน อคฺคหณตฺถาย. น สงฺคหณตฺถายาติ เอตฺถาปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรนิพฺพานเมวาติ สงฺขาเรหิ นิกฺขนฺตํ วิวิตฺตํ, ตโตเยว โลกโต อุตฺติณฺณตฺตา โลกุตฺตรํ นิพฺพานํ. มทนิมฺมทนายาติ วาติ เอตฺถ อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน วา-สทฺเทน อาทิอตฺเถน อิติ-สทฺเทน วา ‘‘ปิปาสวินยายา’’ติอาทิ สพฺพํ สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตมาเนน อริยมคฺเคน ปหียมานา ราคมานมทาทโย ตํ ปตฺวา ปหียนฺติ นามาติ อาห ‘‘ยสฺมา ปน ตํ อาคมฺมา’’ติอาทิ. ตตฺถ ตํ อาคมฺมาติ นิพฺพานํ อาคมฺม ปฏิจฺจ อริยมคฺคสฺส อารมฺมณปจฺจยภาวเหตุ. มานมทปุริสมทาทโยติ เอตฺถ ชาติอาทึ นิสฺสาย เสยฺยสฺส ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทินา อุปฺปชฺชนกมาโนเยว มทชนนฏฺเน มโทติ มานมโท. ปุริสมโท วุจฺจติ ปุริสมาโน, ‘‘อหํ ปุริโส’’ติ อุปฺปชฺชนกมาโน. ‘‘อสทฺธมฺมเสวนสมตฺถตํ นิสฺสาย ปวตฺโต มาโน, ราโค เอว วา ปุริสมโท’’ติ เกจิ. อาทิ-สทฺเทน พลมทโยพฺพนมทาทึ สงฺคณฺหาติ. มหาคณฺิปเท ปน มชฺฌิมคณฺิปเท จ ‘‘ปุริสมโท นาม สมฺภโว’’ติ วุตฺตํ, ตํ อิธ ยุตฺตํ วิย น ทิสฺสติ. น หิ ‘‘ภควตา สมฺภวสฺส วินาสาย ธมฺโม เทสิโต’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. นิมฺมทาติ วิคตมทภาวา. อิมเมว หิ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อมทา’’ติ วุตฺตํ. มทา นิมฺมทียนฺติ เอตฺถ อมทภาวํ วินาสํ คจฺฉนฺตีติ มทนิมฺมทโน. เอส นโย เสสปเทสุปิ.

กามปิปาสาติ กามานํ ปาตุกมฺยตา, กามตณฺหาติ อตฺโถ. อาลียนฺติ อภิรมิตพฺพฏฺเน เสวียนฺตีติ อาลยา, ปฺจ กามคุณาติ อาห ‘‘ปฺจ กามคุณาลยา’’ติ. ปฺจสุ หิ กามคุเณสุ ฉนฺทราคปฺปหาเนเนว ปฺจ กามคุณาปิ ปหีนา นาม โหนฺติ, เตเนว ‘‘โย, ภิกฺขเว, รูเปสุ ฉนฺทราโค’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๓.๓๒๓) วุตฺตํ. ปฺจกามคุเณสุ วา อาลยา ปฺจกามคุณาลยา. อาลียนฺติ อลฺลียนฺติ อภิรมนวเสน เสวนฺตีติ อาลยาติ หิ ตณฺหาวิจริตานํ อธิวจนํ. เตภูมกวฏฺฏนฺติ ตีสุ ภูมีสุ กมฺมกิเลสวิปากา วฏฺฏนฏฺเน วฏฺฏํ. วิรชฺชตีติ ปลุชฺชติ. ‘‘วิรชฺชตีติ กามวินาโส วุตฺโต, นิรุชฺฌตีติ เอกปฺปหาเรน วินาโส’’ติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. วิราโค นิโรโธติ สามฺโจทนายปิ ‘‘ตณฺหากฺขโย’’ติ อธิกตตฺตา ตณฺหาย เอว วิรชฺชนํ นิรุชฺฌนฺจ วุตฺตํ.

จตสฺโส โยนิโยติ เอตฺถ โยนีติ ขนฺธโกฏฺาสสฺสปิ การณสฺสปิ ปสฺสาวมคฺคสฺสปิ นามํ. ‘‘จตสฺโส นาคโยนิโย (สํ. นิ. ๓.๓๔๒-๓๔๓) จตสฺโส สุปณฺณโยนิโย’’ติ เอตฺถ หิ ขนฺธโกฏฺาโส โยนิ นาม. ‘‘โยนิ เหสา ภูมิช ผลสฺส อธิคมายา’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๒๖) เอตฺถ การณํ. ‘‘น จาหํ พฺราหฺมณํ พฺรูมิ, โยนิชํ มตฺติสมฺภว’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๔๕๗; ธ. ป. ๓๙๖) เอตฺถ ปสฺสาวมคฺโค. อิธ ปน ขนฺธโกฏฺาโส ‘‘โยนี’’ติ อธิปฺเปโต. ยวนฺติ ตาย สตฺตา อมิสฺสิตาปิ สมานชาติตาย มิสฺสิตา โหนฺตีติ โยนิ. สา ปน อตฺถโต อณฺฑาทิอุปฺปตฺติฏฺานวิสิฏฺโ ขนฺธานํ ภาคโส ปวตฺติวิเสโส, สา จ อณฺฑชชลาพุชสํเสทชโอปปาติกวเสน จตุพฺพิธา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘จตสฺโส โข อิมา, สาริปุตฺต, โยนิโย. กตมา จตสฺโส? อณฺฑชา โยนิ ชลาพุชา โยนิ สํเสทชา โยนิ โอปปาติกา โยนี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๕๒).

ตตฺถ อณฺเฑ ชาตา อณฺฑชา. ชลาพุมฺหิ ชาตา ชลาพุชา. สํเสเท ชาตา สํเสทชา. วินา เอเตหิ การเณหิ อุปฺปติตฺวา วิย นิพฺพตฺตาติ โอปปาติกา. เอตฺถ จ เปตโลเก ติรจฺฉาเน มนุสฺเสสุ จ อณฺฑชาทโย จตสฺโสปิ โยนิโย สมฺภวนฺติ, มนุสฺเสสุ ปเนตฺถ เกจิเทว โอปปาติกา โหนฺติ มหาปทุมกุมาราทโย วิย. อณฺฑชาปิ โกนฺตปุตฺตา ทฺเวภาติยเถรา วิย, สํเสทชาปิ ปทุมคพฺเภ นิพฺพตฺตโปกฺขรสาติพฺราหฺมณปทุมวตีเทวีอาทโย วิย เกจิเทว โหนฺติ, เยภุยฺเยน ปน มนุสฺสา ชลาพุชาว. เปเตสุปิ นิชฺฌามตณฺหิกเปตานํ นิจฺจทุกฺขาตุรตาย กามเสวนา นตฺถิ, ตสฺมา เต คพฺภเสยฺยกา น โหนฺติ. ชาลาวนฺตตาย น ตาสํ กุจฺฉิยํ คพฺโภ สณฺาติ, ตสฺมา เต โอปปาติกาเยว สํเสทชตายปิ อสมฺภวโต, อวเสสเปตา ปน จตุโยนิกาปิ โหนฺติ. ยถา จ เต, เอวํ ยกฺขาปิ สพฺพจตุปฺปทปกฺขิชาติทีฆชาติอาทโยปิ สพฺเพ จตุโยนิกาเยว. สพฺเพ เนรยิกา จ จตุมหาราชิกโต ปฏฺาย อุปริเทวา จ โอปปาติกาเยว, ภุมฺมเทวา ปน จตุโยนิกาว โหนฺติ. ตตฺถ เทวมนุสฺเสสุ สํเสทชโอปปาติกานํ อยํ วิเสโส – สํเสทชา มนฺทา ทหรา หุตฺวา นิพฺพตฺตนฺติ, โอปปาติกา โสฬสวสฺสุทฺเทสิกา หุตฺวา.

ปฺจ คติโยติ เอตฺถ สุกตทุกฺกฏกมฺมวเสน คนฺตพฺพา อุปปชฺชิตพฺพาติ คติโย. ยถา หิ กมฺมภโว ปรมตฺถโต อสติปิ การเก ปจฺจยสามคฺคิยา สิทฺโธ, ตํสมงฺคินา สนฺตานลกฺขเณน สตฺเตน กโตติ โวหรียติ, เอวํ อุปปตฺติภวลกฺขณคติโย ปรมตฺถโต อสติปิ คมเก ตํตํกมฺมวเสน เยสํ ตานิ กมฺมานิ เตหิ คนฺตพฺพาติ โวหรียนฺติ. อปิจ คติคติ นิพฺพตฺติคติ อชฺฌาสยคติ วิภวคติ นิปฺผตฺติคตีติ พหุวิธา คติ นาม. ตตฺถ ‘‘ตํ คตึ เปจฺจ คจฺฉามี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๘๔) จ ‘‘ยสฺส คตึ น ชานนฺติ, เทวา คนฺธพฺพมานุสา’’ติ (ธ. ป. ๔๒๐; สุ. นิ. ๖๔๙) จ อยํ คติคติ นาม. ‘‘อิเมสํ โข ปนาหํ ภิกฺขูนํ สีลวนฺตานํ เนว ชานามิ อาคตึ วา คตึ วา’’ติ (ม. นิ. ๑.๕๐๘) อยํ นิพฺพตฺติคติ นาม. ‘‘เอวมฺปิ โข เต อหํ พฺรหฺเม คติฺจ ปชานามิ จุติฺจ ปชานามี’’ติ (ม. นิ. ๑.๕๐๓) อยํ อชฺฌาสยคติ นาม. ‘‘วิภโว คติ ธมฺมานํ, นิพฺพานํ อรหโต คตี’’ติ (ปริ. ๓๓๙) อยํ วิภวคติ นาม. ‘‘ทฺเวเยว คติโย สมฺภวนฺติ อนฺา’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๕๘; ๒.๓๔; ๓.๒๐๐) อยํ นิปฺผตฺติคติ นาม. ตาสุ อิธ คติคติ อธิปฺเปตา, สา ปน นิรยติรจฺฉานโยนิเปตฺติวิสยมนอุสฺสเทวานํ วเสน ปฺจวิธา โหติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ปฺจ โข อิมา, สาริปุตฺต, คติโย. กตมา ปฺจ? นิรโย ติรจฺฉานโยนิ เปตฺติวิสโย มนุสฺสา เทวา’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๕๓).

ตตฺถ ยสฺส อุปฺปชฺชติ, ตํ พฺรูเหนฺโตเยว อุปฺปชฺชตีติ อโย, สุขํ. นตฺถิ เอตฺถ อโยติ นิรโย, ตโต เอว รมิตพฺพํ อสฺสาเทตพฺพํ ตตฺถ นตฺถีติ นิรติอตฺเถน นิรสฺสาทฏฺเน จ นิรโยติ วุจฺจติ. ติริยํ อฺจิตาติ ติรจฺฉานา, เทวมนุสฺสาทโย วิย อุทฺธํ ทีฆา อหุตฺวา ติริยํ ทีฆาติ อตฺโถ. ปกฏฺโต สุขโต อยนํ อปคโม เปจฺจภาโว, ตํ เปจฺจภาวํ ปตฺตานํ วิสโยติ เปตฺติวิสโย, เปตโยนิ. มนสฺส อุสฺสนฺนตาย มนุสฺสา, สติสูรภาวพฺรหฺมจริยโยคฺยตาทิคุณวเสน อุปจิตมานสตาย อุกฺกฏฺคุณจิตฺตตาย มนุสฺสาติ วุตฺตํ โหติ, อยํ ปนตฺโถ นิปฺปริยายโต ชมฺพุทีปวาสีวเสน เวทิตพฺโพ. ยถาห – ‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, าเนหิ ชมฺพุทีปกา มนุสฺสา อุตฺตรกุรุเก จ มนุสฺเส อธิคฺคณฺหนฺติ เทเว จ ตาวตึเส. กตเมหิ ตีหิ? สูรา สติมนฺโต อิธ พฺรหฺมจริยวาโส’’ติ (อ. นิ. ๙.๒๑). ตถา หิ พุทฺธา จ ภควนฺโต ปจฺเจกพุทฺธา อคฺคสาวกา มหาสาวกา จกฺกวตฺติโน อฺเ จ มหานุภาวา สตฺตา ตตฺเถว อุปฺปชฺชนฺติ, เตหิ สมานรูปาทิตาย ปน สทฺธึ ปริตฺตทีปวาสีหิ อิตรมหาทีปวาสิโนปิ มนุสฺสาตฺเวว ปฺายึสุ.

อปเร ปน ภณนฺติ ‘‘โลภาทีหิ อโลภาทีหิ จ สหิตสฺส มนสฺส อุสฺสนฺนตาย มนุสฺสา. เย หิ สตฺตา มนุสฺสชาติกา, เตสุ วิเสสโต โลภาทโย อโลภาทโย จ อุสฺสนฺนา. เต โลภาทิอุสฺสนฺนตาย อปายมคฺคํ, อโลภาทิอุสฺสนฺนตาย สุคติมคฺคํ นิพฺพานคามิมคฺคฺจ ปริปูเรนฺติ, ตสฺมา โลภาทีหิ อโลภาทีหิ จ สหิตสฺส มนสฺส อุสฺสนฺนตาย ปริตฺตทีปวาสีหิ สทฺธึ จตุมหาทีปวาสิโน สตฺตวิเสสา มนุสฺสาติ วุจฺจนฺตี’’ติ. โลกิยา ปน ‘‘มนุโน อปจฺจภาเวน มนุสฺสา’’ติ วทนฺติ. มนุ นาม ปมกปฺปิโก โลกมริยาทาย อาทิภูโต สตฺตานํ หิตาหิตวิธายโก กตฺตพฺพากตฺตพฺพตาวเสน ปิตุฏฺานิโย, โย สาสเน มหาสมฺมโตติ วุจฺจติ อมฺหากํ โพธิสตฺโต, ปจฺจกฺขโต ปรมฺปราย จ ตสฺส โอวาทานุสาสนิยํ ิตา สตฺตา ปุตฺตสทิสตาย ‘‘มนุสฺสา, มานุสา’’ติ จ วุจฺจนฺติ. ตโต เอว หิ เต ‘‘มานวา มนุชา’’ติ จ โวหรียนฺติ.

ปฺจหิ กามคุเณหิ อตฺตโน อตฺตโน เทวานุภาวสงฺขาเตหิ อิทฺธิวิเสเสหิ จ ทิพฺพนฺติ กีฬนฺติ ลฬนฺติ โชตนฺตีติ เทวา. ตตฺถ กามเทวา กามคุเณหิ เจว อิทฺธิวิเสเสหิ จ, อิตเร อิทฺธิวิเสเสเหว ทิพฺพนฺตีติ เวทิตพฺพา. สรณนฺติ วา คมิยนฺติ อภิตฺถวียนฺตีติ วา เทวา. เอตฺถ จ นิรยคติเทวคติมนุสฺสคตีหิ สทฺธึ โอกาเสน ขนฺธา วุตฺตา. ติรจฺฉานโยนิเปตฺติวิสยคฺคหเณน ขนฺธานํ เอว คหณํ เวทิตพฺพํ เตสํ ตาทิสสฺส ปริจฺฉินฺนสฺส โอกาสสฺส อภาวโต. ยตฺถ ยตฺถ วา เต อรฺสมุทฺทปพฺพตปาทาทิเก นิพทฺธวาสํ วสนฺติ, ตาทิสสฺส านสฺส วเสน โอกาโสปิ คเหตพฺโพ. สตฺต วิฺาณฏฺิติโย นว สตฺตาวาสา จ เหฏฺา สํวณฺณิตนยา เอว. อปราปรภาวายาติ อปราปรํ โยนิอาทิโต โยนิอาทิภาวาย. อาพนฺธนํ คณฺิกรณํ, สํสิพฺพนํ ตุนฺนกรณํ. ตณฺหาย นิกฺขนฺตํ ตตฺถ ตสฺสา สพฺพโส อภาวโต, นิกฺขมนฺจสฺส ตณฺหาย วิสํโยโค เอวาติ อาห ‘‘วิสํยุตฺต’’นฺติ.

กามานํ ปหานนฺติ เอตฺถ กามคฺคหเณน กามียตีติ กาโม, กาเมตีติ กาโมติ ทุวิธสฺสปิ กามสฺส สงฺคโห กโตติ อาห ‘‘วตฺถุกามานํ กิเลสกามานฺจ ปหาน’’นฺติ. วตฺถุกามปฺปหานฺเจตฺถ เตสุ ฉนฺทราคปฺปหาเนนาติ เวทิตพฺพํ. กามสฺานนฺติ กาเมสุ, กามสหคตานํ วา สฺานํ. ปริฺาติ ติวิธาปิ ปริฺา อิธาธิปฺเปตาติ อาห ‘‘าตตีรณปหานวเสน ติวิธา ปริฺา’’ติ. ตตฺถ กตมา าตปริฺา? สพฺพํ เตภูมกํ นามรูปํ ‘‘อิทํ รูปํ, เอตฺตกํ รูปํ, น อิโต ภิยฺโย, อิทํ นามํ, เอตฺตกํ นามํ, น อิโต ภิยฺโย’’ติ ภูตุปาทายเภทํ รูปํ ผสฺสาทิเภทํ นามฺจ ลกฺขณรสปจฺจุปฏฺานปทฏฺานโต ววตฺถเปติ, กมฺมาวิชฺชาทิกฺจสฺส ปจฺจยํ ปริคฺคณฺหาติ, อยํ าตปริฺา.

กตมา ตีรณปริฺา? เอวํ าตํ กตฺวา ตํ สพฺพํ ตีเรติ อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโตติ ทฺวาจตฺตาลีสาย อากาเรหิ, อยํ ตีรณปริฺา นาม. กตมา ปหานปริฺา? เอวํ ตีรยิตฺวา อคฺคมคฺเคน สพฺพสฺมึ ฉนฺทราคํ ปชหติ, อยํ ปหานปริฺา. ทิฏฺิวิสุทฺธิกงฺขาวิตรณวิสุทฺธิโย วา าตปริฺา, มคฺคามคฺคปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิอาทโย, กลาปสมฺมสนาทิอนุโลมปริโยสานา วา ปฺา ตีรณปริฺา, อริยมคฺเค าณํ นิปฺปริยาเยน ปหานปริฺา. อิธ ปน กามสฺานํ สภาวลกฺขณปฏิเวธวเสน อนิจฺจาทิสามฺลกฺขณวเสน จ ปวตฺตมานานํ าตตีรณปริฺานมฺปิ กิจฺจนิปฺผตฺติยา มคฺเคเนว อิชฺฌนโต มคฺคกฺขณํเยว สนฺธาย ติวิธาปิ ปริฺา วุตฺตา. เตเนว ‘‘อิเมสุ ปฺจสุ าเนสุ กิเลสกฺขยกโร โลกุตฺตรมคฺโคว กถิโต’’ติ วุตฺตํ.

กาเมสุ, กาเม วา ปาตุมิจฺฉา กามปิปาสาติ อาห – ‘‘กาเมสุ ปาตพฺยตานํ, กาเม วา ปาตุมิจฺฉาน’’นฺติ. อิเมสุ ปฺจสุ าเนสูติ ‘‘กามานํ ปหานํ อกฺขาต’’นฺติอาทินา วุตฺเตสุ ปฺจสุ าเนสุ. ตีสุ าเนสูติ ‘‘วิราคาย ธมฺโม เทสิโต, โน สราคาย, วิสํโยคาย ธมฺโม เทสิโต, โน สํโยคาย, อนุปาทานาย ธมฺโม เทสิโต, โน สอุปาทานายา’’ติ เอวํ วุตฺเตสุ าเนสุ. วิปฺปฏิสารํ กโรตีติ เอวํ ตํ ปาปํ วิปฺปฏิสารํ อุปฺปาเทติ. กีทิสํ วิปฺปฏิสารํ กโรตีติ อาห ‘‘อีทิเสปิ นามา’’ติอาทิ.

๓๙. เนว ปิยกมฺยตายาติ อตฺตนิ สตฺถุ เนว ปิยภาวกามตาย. น เภทปุเรกฺขารตายาติ น สตฺถุ เตน ภิกฺขุนา เภทนาธิปฺปายปุเรกฺขารตาย. น กลิสาสนาโรปนตฺถายาติ น โทสาโรปนตฺถาย. กลีติ โกธสฺเสตํ อธิวจนํ, ตสฺส สาสนํ กลิสาสนํ, โกธวเสน วุจฺจมาโน ครหโทโส. เวลนฺติ สิกฺขาปทเวลํ. มริยาทนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. สิกฺขาปทฺหิ อนติกฺกมนียฏฺเน ‘‘เวลา, มริยาทา’’ติ จ วุจฺจติ.

อชฺฌาจารวีติกฺกโมติ เมถุนวเสน ปวตฺตอชฺฌาจารสงฺขาโต วีติกฺกโม. ปกรเณติ เอตฺถ -สทฺโท อารมฺภวจโนติ อาห ‘‘กตฺตุํ อารภตี’’ติ. กตฺถจิ อุปสคฺโค ธาตุอตฺถเมว วทติ, น วิเสสตฺถโชตโกติ อาห ‘‘กโรติเยว วา’’ติ. ชาติยาติ ขตฺติยาทิชาติยา. โคตฺเตนาติ โคตมกสฺสปาทิโคตฺเตน. โกลปุตฺติเยนาติ ขตฺติยาทิชาตีสุเยว สกฺกกุลโสตฺถิยกุลาทิวิสิฏฺกุลานํ ปุตฺตภาเวน. ยสสฺสีติ มหาปริวาโร. เปสลนฺติ ปิยสีลํ. อวิกมฺปมาเนนาติ ปฏิฆานุนเยหิ อกมฺปมาเนน. ยสฺส ตสฺมึ อตฺตภาเว อุปฺปชฺชนารหานํ มคฺคผลานํ อุปนิสฺสโย นตฺถิ, ตํ พุทฺธา ‘‘โมฆปุริสา’’ติ วทนฺติ อริฏฺลาฬุทายีอาทิเก วิย. อุปนิสฺสเย สติปิ ตสฺมึ ขเณ มคฺเค วา ผเล วา อสติ ‘‘โมฆปุริสา’’ติ วทนฺติเยว ธนิยอุปเสนตฺเถราทิเก วิย. สุทินฺนสฺส ปน ตสฺมึ อตฺตภาเว มคฺคผลานํ อุปนิสฺสโย สมุจฺฉินฺโนเยว, เตน นํ ‘‘โมฆปุริสา’’ติ อาห.

สมณกรณานํ ธมฺมานนฺติ หิโรตฺตปฺปาทีนํ. มคฺคผลนิพฺพานคฺคหเณน ปฏิเวธสาสนสฺส คหิตตฺตา สาสนานนฺติ ปฏิปตฺติปริยตฺติสาสนานํ คหณํ เวทิตพฺพํ. ฉวินฺติ เตสํ ปภสฺสรกรณํ ฉวึ. กึ ตนฺติ อาห ‘‘ฉาย’’นฺติ, เตสํ ปกาสกํ โอภาสนฺติ อตฺโถ. กึ ตนฺติ อาห ‘‘สุนฺทรภาว’’นฺติ. ฉวิมนุคตํ อนุจฺฉวิกํ. ปติรูปนฺติอาทีสุปิ ‘‘เตส’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. สมณานํ กมฺมํ สามณกํ, น สามณกํ อสฺสามณกํ. กถํ-สทฺทโยเคน ‘‘น สกฺขิสฺสสี’’ติ อนาคตวจนํ กตํ. ‘‘นาม-สทฺทโยเคนา’’ติ จ วทนฺติ.

ทยาลุเกนาติ อนุกมฺปาย สหิเตน. ปริภาสนฺโตติ ครหนฺโต. นิรุตฺตินเยน อาสีวิส-สทฺทสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อาสุ สีฆ’’นฺติอาทิ. เอตสฺสาติ อาสีวิสสฺส. อาคจฺฉตีติ โย เตน ทฏฺโ, ตํ ปติอาคจฺฉติ. อาสิตฺตวิโสติปิ อาสีวิโส, สกลกาเย อาสิฺจิตฺวา วิย ปิตวิโส ปรสฺส จ สรีเร อาสิฺจนวิโสติ อตฺโถ. อสิตวิโสติปิ อาสีวิโส. ยํ ยฺหิ เอเตน อสิตํ โหติ ปริภุตฺตํ, ตํ วิสเมว สมฺปชฺชติ, ตสฺมา อสิตํ วิสํ เอตสฺสาติ อสิตวิโสติ วตฺตพฺเพ ‘‘อาสีวิโส’’ติ นิรุตฺตินเยน วุตฺตํ. อสิสทิสวิโสติปิ อาสีวิโส, อสิ วิย ติขิณํ ปรสฺส มมฺมจฺเฉทนสมตฺถํ วิสํ เอตสฺสาติ อาสีวิโสติ วุตฺตํ โหติ. อาสีติ วา ทาา วุจฺจติ, ตตฺถ สนฺนิหิตวิโสติ อาสีวิโส. เสสสปฺเปหิ กณฺหสปฺปสฺส มหาวิสตฺตา อาสีวิสสฺสานนฺตรํ กณฺหสปฺโป วุตฺโต. สปฺปมุขมฺปิ องฺคารกาสุ วิย ภยาวหตฺตา อกุสลุปฺปตฺติยา านํ น โหตีติ อกุสลกมฺมโต นิวารณาธิปฺปาเยน สีลเภทโตปิ สุทฺธสีเล ิตสฺส มรณเมว วรตรนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อาสีวิสสฺส กณฺหสปฺปสฺส มุเข องฺคชาตํ ปกฺขิตฺตํ วร’’นฺติ วุตฺตํ. ปพฺพชิเตน หิ กตปาปกมฺมํ ภควโต อาณาติกฺกมนโต วตฺถุมหนฺตตาย มหาสาวชฺชํ. กาสุนฺติ อาวาโฏปิ วุจฺจติ ราสิปิ.

‘‘กินฺนุ สนฺตรมาโนว, กาสุํ ขณสิ สารถิ;

ปุฏฺโ เม สมฺม อกฺขาหิ, กึ กาสุยา กริสฺสสี’’ติ. (ชา. ๒.๒๒.๓) –

เอตฺถ หิ อาวาโฏ กาสุ นาม.

‘‘องฺคารกาสุํ อปเร ผุณนฺติ, นรา รุทนฺตา ปริทฑฺฒคตฺตา’’ติ (ชา. ๒.๒๒.๔๖๒) –

เอตฺถ ราสิ. อิธ ปน อุภยมฺปิ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘องฺคารปุณฺณกูเป องฺคารราสิมฺหิ วา’’ติ. กสฺสติ ขณียตีติ กาสุ, อาวาโฏ. กสียติ จียตีติ กาสุ, ราสิ. ปทิตฺตายาติ ทิปฺปมานาย. สํ-สทฺโท เอตฺถ สมนฺตปริยาโยติ อาห ‘‘สมนฺตโต ปชฺชลิตายา’’ติ.

อิทํ มาตุคามสฺส องฺคชาเต องฺคชาตปกฺขิปนํ นิทานํ การณมสฺส นิรยุปปชฺชนสฺสาติ อิโตนิทานํ, ภาวนปุํสกฺเจตํ. ปจฺจตฺตวจนสฺส โต-อาเทโส กโต, ตสฺส จ สมาเสปิ อโลโป. ตตฺถ นาม ตฺวนฺติ เอตฺถ ตฺวํ-สทฺโท ‘‘สมาปชฺชิสฺสสี’’ติ อิมินา สมฺพนฺธมุปคจฺฉมาโน อตฺถีติ อาห ‘‘ตฺวนฺติ ตํสทฺทสฺส เววจน’’นฺติ. ‘‘ยํ ตนฺติ ปน ปาโ ยุตฺตรูโป’’ติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ยํ ตนฺติ นายํ อุทฺเทสนิทฺเทโส, ยถา โลเก ยํ วา ตํ วาติ อวฺาตวจนํ, เอวํ ทฏฺพฺพนฺติ อาห – ‘‘ยํ วา ตํ วา หีฬิตํ อวฺาตนฺติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. นีจชนานนฺติ นิหีนคุณานํ สตฺตานํ. คามธมฺมนฺติ เอตฺถ คาม-สทฺเทน คามวาสิโน วุตฺตา อเภทูปจาเรนาติ อาห ‘‘คามวาสิกมนุสฺสาน’’นฺติ. กิเลสปคฺฆรณกํ ธมฺมนฺติ ราคาทิกิเลสวิสฺสนฺทนกธมฺมํ. เมถุนธมฺโม หิ ราคํ ปคฺฆรติ. เมถุนธมฺมสฺส มหาสาวชฺชตาย โอฬาริกตฺตา วุตฺตํ ‘‘อสุขุม’’นฺติ. อนิปุณนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. อุทเก ภวํ โอทกํ. กึ ตํ? อุทกกิจฺจนฺติ อาห – ‘‘อุทกกิจฺจํ อนฺติกํ อวสานํ อสฺสา’’ติ. สมาปชฺชิสฺสตีติ อนาคตวจนํ นาม-สทฺทโยเคน กตนฺติ อาห – ‘‘สมาปชฺชิสฺสตีติ…เป… นาม-สทฺเทน โยเชตพฺพ’’นฺติ. โลเก เมถุนธมฺมสฺส อาทิกตฺตา โกจิ ปมกปฺปิโก, น ปนายนฺติ อาห – ‘‘สาสนํ สนฺธาย วทตี’’ติ. พหูนนฺติ ปุคฺคลาเปกฺขํ, น ปน อกุสลาเปกฺขนฺติ อาห ‘‘พหูนํ ปุคฺคลาน’’นฺติ.

ยํ อสํวรํ ปฏิจฺจ ทุพฺภรตาทุปฺโปสตาทิ โหติ, โส อสํวโร ทุพฺภรตาทิ-สทฺเทน วุตฺโต การเณ ผลูปจาเรนาติ อาห – ‘‘ทุพฺภรตาทีนํ วตฺถุภูตสฺส อสํวรสฺสา’’ติ. วตฺถุภูตสฺสาติ การณภูตสฺส. วสติ เอตฺถ ผลํ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ หิ การณํ วตฺถุ. อตฺตาติ จิตฺตํ สรีรฺจ, จิตฺตเมว วา. ทุพฺภรตฺเจว ทุปฺโปสตฺจ อาปชฺชตีติ อตฺตนา ปจฺจยทายเกหิ จ ทุกฺเขน ภริตพฺพตํ โปเสตพฺพตฺจ อาปชฺชติ. อสํวเร ิโต หิ เอกจฺโจ อตฺตโนปิ ทุพฺภโร โหติ ทุปฺโปโส, เอกจฺโจ อุปฏฺากานมฺปิ. กถํ? โย หิ อมฺพิลาทีนิ ลทฺธา อนมฺพิลาทีนิ ปริเยสติ, อฺสฺส ฆเร ลทฺธํ อฺสฺส ฆเร ฉฑฺเฑนฺโต สพฺพํ คามํ จริตฺวา ริตฺตปตฺโตว วิหารํ ปวิสิตฺวา นิปชฺชติ, อยํ อตฺตโน ทุพฺภโร. โย ปน สาลิมํโสทนาทีนํ ปตฺเต ปูเรตฺวา ทินฺเนปิ ทุมฺมุขภาวํ อนตฺตมนภาวเมว ทสฺเสติ, เตสํ วา สมฺมุขาว ตํ ปิณฺฑปาตํ ‘‘กึ ตุมฺเหหิ ทินฺน’’นฺติ อปสาเทนฺโต สามเณรคหฏฺาทีนํ เทติ, อยํ อุปฏฺากานํ ทุพฺภโร. เอตํ ทิสฺวา มนุสฺสา ทูรโตว ปริวชฺเชนฺติ ‘‘ทุพฺภโร ภิกฺขุ น สกฺกา โปเสตุ’’นฺติ.

มหิจฺฉตนฺติ เอตฺถ มหนฺตานิ วตฺถูนิ อิจฺฉติ, มหตี วา ปนสฺส อิจฺฉาติ มหิจฺโฉ, ตสฺส ภาโว มหิจฺฉตา, สนฺตคุณวิภาวนตา ปฏิคฺคหเณ อมตฺตฺุตา จ. มหิจฺโฉ หิ อิจฺฉาจาเร ตฺวา อตฺตนิ วิชฺชมานสีลธุตธมฺมาทิคุเณ วิภาเวติ, ตาทิสสฺส ปฏิคฺคหเณ อมตฺตฺุตาปิ โหติ. ยํ สนฺธาย วทนฺติ ‘‘สนฺตคุณสมฺภาวนตา ปฏิคฺคหเณ จ อมตฺตฺุตา, เอตํ มหิจฺฉตาลกฺขณ’’นฺติ. สา ปเนสา มหิจฺฉตา ‘‘อิเธกจฺโจ สทฺโธ สมาโน ‘สทฺโธติ มํ ชโน ชานาตู’ติ อิจฺฉติ, สีลวา สมาโน ‘สีลวาติ มํ ชโน ชานาตู’ติ’’ อิมินา นเยน อาคตาเยว, ตาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ทุสฺสนฺตปฺปิโย โหติ, วิชาตมาตาปิสฺส จิตฺตํ คเหตุํ น สกฺโกติ. เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘อคฺคิกฺขนฺโธ สมุทฺโท จ, มหิจฺโฉ จาปิ ปุคฺคโล;

สกเฏน ปจฺจยํ เทนฺตุ, ตโยเปเต อตปฺปิยา’’ติ. (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒๕๒; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๖๓; วิภ. อฏฺ. ๘๕๐; อุทา. อฏฺ. ๓๑; มหานิ. อฏฺ. ๘๕);

สตฺเตหิ กิเลเสหิ จ สงฺคณนํ สโมธานํ สงฺคณิกาติ อาห – ‘‘คณสงฺคณิกาย เจว กิเลสสงฺคณิกาย จา’’ติ. โกสชฺชานุคโต จ โหตีติ กุสีตภาเวน อนุคโต โหติ, กุสีตสฺส ภาโว โกสชฺชํ. อฏฺกุสีตวตฺถุปาริปูริยาติ เอตฺถ กุจฺฉิตํ สีทตีติ กุสีโต ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา. ยสฺส ธมฺมสฺส วเสน ปุคฺคโล ‘‘กุสีโต’’ติ วุจฺจติ, โส กุสีตภาโว อิธ กุสีต-สทฺเทน วุตฺโต. วินาปิ หิ ภาวโชตนสทฺทํ ภาวตฺโถ วิฺายติ ยถา ‘‘ปฏสฺส สุกฺก’’นฺติ, ตสฺมา กุสีตภาววตฺถูนีติ อตฺโถ, โกสชฺชการณานีติ วุตฺตํ โหติ. ตถา หิ –

‘‘กมฺมํ โข เม กตฺตพฺพํ ภวิสฺสติ, กมฺมํ โข ปน เม กโรนฺตสฺส กาโย กิลมิสฺสติ, หนฺทาหํ นิปชฺชามีติ โส นิปชฺชติ, น วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย, อิทํ ปมํ กุสีตวตฺถุ. อหํ โข กมฺมํ อกาสึ, กมฺมํ โข ปน เม กโรนฺตสฺส กาโย กิลนฺโต, หนฺทาหํ นิปชฺชามิ…เป… มคฺโค โข เม คนฺตพฺโพ ภวิสฺสติ, มคฺคํ โข ปน เม คจฺฉนฺตสฺส กาโย กิลมิสฺสติ, หนฺทาหํ นิปชฺชามิ…เป… อหํ โข มคฺคํ อคมาสึ, มคฺคํ โข ปน เม คจฺฉนฺตสฺส กาโย กิลนฺโต, หนฺทาหํ นิปชฺชามิ…เป… อหํ โข คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต นาลตฺถํ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ, ตสฺส เม กาโย กิลนฺโต อกมฺมฺโ, หนฺทาหํ นิปชฺชามิ…เป… อหํ โข คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต อลตฺถํ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ, ตสฺส เม กาโย ครุโก อกมฺมฺโ มาสาจิตํ มฺเ, หนฺทาหํ นิปชฺชามิ…เป… อุปฺปนฺโน โข เม อยํ อปฺปมตฺตโก อาพาโธ, อตฺถิ กปฺโป นิปชฺชิตุํ, หนฺทาหํ นิปชฺชามิ…เป… อหํ โข คิลานา วุฏฺิโต อจิรวุฏฺิโต เคลฺา, ตสฺส เม กาโย ทุพฺพโล อกมฺมฺโ, หนฺทาหํ นิปชฺชามีติ โส นิปชฺชติ, น วีริยํ อารภติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. อิทํ อฏฺมํ กุสีตวตฺถุ’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๓๓๔; อ. นิ. ๘.๘๐) –

เอวมาคตานิ ‘‘หนฺทาหํ นิปชฺชามี’’ติ เอวํ ปวตฺตโอสีทนานิ อุปรูปริ โกสชฺชการณตฺตา อฏฺ กุสีตวตฺถูนิ นาม, เตสํ ปาริปูริยา สํวตฺตตีติ อตฺโถ.

สุภโร โหติ สุโปโสติ อตฺตโน อุปฏฺาเกหิ จ สุเขน ภริตพฺโพ โปเสตพฺโพติ อตฺโถ. สํวเร ิโต หิ เอกจฺโจ อตฺตโนปิ สุภโร โหติ สุโปโส, เอกจฺโจ อุปฏฺากานมฺปิ. กถํ? โย หิ ยํ กิฺจิ ลูขํ วา ปณีตํ วา ลทฺธา ตุฏฺจิตฺโตว ภุฺชิตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา อตฺตโน กมฺมํ กโรติ, อยํ อตฺตโน สุภโร. โย ปน ปเรสมฺปิ อปฺปํ วา พหุํ วา ลูขํ วา ปณีตํ วา ทานํ อหีเฬตฺวา อตฺตมโน วิปฺปสนฺนมุโข หุตฺวา เอเตสํ สมฺมุขาว ปริภุฺชิตฺวา ยาติ, อยํ อุปฏฺากานํ สุภโร. เอตํ ทิสฺวา มนุสฺสา อติวิย วิสฺสตฺถา โหนฺติ, ‘‘อมฺหากํ ภทนฺโต สุภโร, โถกโถเกนปิ ตุสฺสติ, มยเมว นํ โปเสสฺสามา’’ติ ปฏิฺํ กตฺวา โปเสนฺติ. อปฺปิจฺฉตนฺติ อิจฺฉาวิรหิตตฺตํ. เอตฺถ หิ พฺยฺชนํ สาวเสสํ วิย, อตฺโถ ปน นิรวเสโส. อปฺป-สทฺโท เหตฺถ อภาวตฺโถติ สกฺกา วิฺาตุํ ‘‘อปฺปาพาธตฺจ สฺชานามี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๒๕) วิย. เตเนวาห ‘‘นิตฺตณฺหภาว’’นฺติ.

ติปฺปเภทาย สนฺตุฏฺิยาติ ยถาลาภาทิสนฺโตสสามฺเน วุตฺตํ, จตูสุ ปน ปจฺจเยสุ ตโย ตโย สนฺโตสาติ ทฺวาทสวิโธ โหติ สนฺโตโส. กถํ? จีวเร ยถาลาภสนฺโตโส ยถาพลสนฺโตโส ยถาสารุปฺปสนฺโตโสติ ติวิโธ โหติ สนฺโตโส. เอวํ ปิณฺฑปาตาทีสุ. ตสฺสายํ ปเภทสํวณฺณนา (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒๕๒; สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๑๔๔; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๖๕) – อิธ ภิกฺขุ จีวรํ ลภติ สุนฺทรํ วา อสุนฺทรํ วา, โส เตเนว ยาเปติ อฺํ น ปตฺเถติ, ลภนฺโตปิ น คณฺหาติ. อยมสฺส จีวเร ยถาลาภสนฺโตโส. อถ ปน ปกติทุพฺพโล วา โหติ อาพาธชราภิภูโต วา, ครุจีวรํ ปารุปนฺโต กิลมติ, โส สภาเคน ภิกฺขุนา สทฺธึ ตํ ปริวตฺเตตฺวา ลหุเกน ยาเปนฺโตปิ สนฺตุฏฺโเยว โหติ. อยมสฺส จีวเร ยถาพลสนฺโตโส. ปกติทุพฺพลาทีนฺหิ ครุจีวรานิ น ผาสุภาวาวหานิ สรีรเขทาวหานิ จ โหนฺตีติ ปโยชนวเสน อนตฺริจฺฉตาทิวเสน ตานิ ปริวตฺเตตฺวา ลหุกจีวรปริโภโค น สนฺโตสวิโรธีติ. อปโร ปณีตปจฺจยลาภี โหติ, โส ปฏฺฏจีวราทีนํ อฺตรํ มหคฺฆจีวรํ พหูนิ วา ปน จีวรานิ ลภิตฺวา ‘‘อิทํ เถรานํ จิรปพฺพชิตานํ, อิทํ พหุสฺสุตานํ อนุรูปํ, อิทํ คิลานานํ, อิทํ อปฺปลาภานํ โหตู’’ติ ทตฺวา เตสํ ปุราณจีวรํ วา สงฺการกูฏาทิโต วา นนฺตกานิ อุจฺจินิตฺวา เตหิ สงฺฆาฏึ กตฺวา ธาเรนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส จีวเร ยถาสารุปฺปสนฺโตโส. มหคฺฆฺหิ จีวรํ พหูนิ วา จีวรานิ ลภิตฺวาปิ ตานิ วิสฺสชฺเชตฺวา ตทฺสฺส คหณํ ยถาสารุปฺปนเย ิตตฺตา น สนฺโตสวิโรธีติ.

อิธ ปน ภิกฺขุ ปิณฺฑปาตํ ลภติ ลูขํ วา ปณีตํ วา, โส เตเนว ยาเปติ อฺํ น ปตฺเถติ, ลภนฺโตปิ น คณฺหาติ. อยมสฺส ปิณฺฑปาเต ยถาลาภสนฺโตโส. โย ปน อตฺตโน ปกติวิรุทฺธํ วา พฺยาธิวิรุทฺธํ วา ปิณฺฑปาตํ ลภติ, เยนสฺส ปริภุตฺเตน อผาสุ โหติ, โส สภาคสฺส ภิกฺขุโน ตํ ทตฺวา ตสฺส หตฺถโต สปฺปายโภชนํ ภุฺชิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส ปิณฺฑปาเต ยถาพลสนฺโตโส. อปโร พหุํ ปณีตํ ปิณฺฑปาตํ ลภติ, โส ตํ จีวรํ วิย จิรปพฺพชิตพหุสฺสุตอปฺปลาภคิลานานํ ทตฺวา เตสํ วา เสสกํ ปิณฺฑาย วา จริตฺวา มิสฺสกาหารํ ภุฺชนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส ปิณฺฑปาเต ยถาสารุปฺปสนฺโตโส.

อิธ ปน ภิกฺขุ เสนาสนํ ลภติ มนาปํ วา อมนาปํ วา, โส เตน เนว โสมนสฺสํ, น ปฏิฆํ อุปฺปาเทติ, อนฺตมโส ติณสนฺถรเกนปิ ยถาลทฺเธเนว ตุสฺสติ. อยมสฺส เสนาสเน ยถาลาภสนฺโตโส. โย ปน อตฺตโน ปกติวิรุทฺธํ วา พฺยาธิวิรุทฺธํ วา เสนาสนํ ลภติ, ยตฺถสฺส วสโต อผาสุ โหติ, โส ตํ สภาคสฺส ภิกฺขุโน ทตฺวา ตสฺส สนฺตเก สปฺปายเสนาสเน วสนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส เสนาสเน ยถาพลสนฺโตโส. อปโร มหาปุฺโ เลณมณฺฑปกูฏาคาราทีนิ พหูนิ ปณีตเสนาสนานิ ลภติ, โส ตานิ จีวราทีนิ วิย จิรปพฺพชิตพหุสฺสุตอปฺปลาภคิลานานํ ทตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ วสนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส เสนาสเน ยถาสารุปฺปสนฺโตโส. โยปิ ‘‘อุตฺตมเสนาสนํ นาม ปมาทฏฺานํ, ตตฺถ นิสินฺนสฺส ถินมิทฺธํ โอกฺกมติ, นิทฺทาภิภูตสฺส ปุน ปฏิพุชฺฌโต ปาปวิตกฺกา ปาตุภวนฺตี’’ติ ปฏิสฺจิกฺขิตฺวา ตาทิสํ เสนาสนํ ปตฺตมฺปิ น สมฺปฏิจฺฉติ, โส ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อพฺโภกาสรุกฺขมูลาทีสุ วสนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมฺปิสฺส เสนาสเน ยถาสารุปฺปสนฺโตโส.

อิธ ปน ภิกฺขุ เภสชฺชํ ลภติ ลูขํ วา ปณีตํ วา, โส ยํ ลภติ, เตเนว ตุสฺสติ อฺํ น ปตฺเถติ, ลภนฺโตปิ น คณฺหาติ. อยมสฺส คิลานปจฺจเย ยถาลาภสนฺโตโส. โย ปน เตเลน อตฺถิโก ผาณิตํ ลภติ, โส ตํ สภาคสฺส ภิกฺขุโน ทตฺวา ตสฺส หตฺถโต เตลํ คเหตฺวา อฺเทว วา ปริเยสิตฺวา เภสชฺชํ กโรนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส คิลานปจฺจเย ยถาพลสนฺโตโส. อปโร มหาปุฺโ พหุํ เตลมธุผาณิตาทิปณีตเภสชฺชํ ลภติ, โส ตํ จีวรํ วิย จิรปพฺพชิตพหุสฺสุตอปฺปลาภคิลานานํ ทตฺวา เตสํ อาภเตน เยน เกนจิ ยาเปนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. โย ปน เอกสฺมึ ภาชเน มุตฺตหรีตกํ เปตฺวา เอกสฺมึ จตุมธุรํ ‘‘คณฺห, ภนฺเต, ยทิจฺฉสี’’ติ วุจฺจมาโน สจสฺส เตสุ อฺตเรนปิ โรโค วูปสมฺมติ, อถ ‘‘มุตฺตหรีตกํ นาม พุทฺธาทีหิ วณฺณิต’’นฺติ จตุมธุรํ ปฏิกฺขิปิตฺวา มุตฺตหรีตเกเนว เภสชฺชํ กโรนฺโต ปรมสนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส คิลานปจฺจเย ยถาสารุปฺปสนฺโตโส. เอวํ ยถาลาภาทิวเสน ติปฺปเภโท สนฺโตโส จตุนฺนํ ปจฺจยานํ วเสน ทฺวาทสวิโธ โหตีติ เวทิตพฺโพ.

กามวิตกฺกพฺยาปาทวิตกฺกวิหึสาวิตกฺกานํ วเสน อกุสลวิตกฺกตฺตยํ. เนกฺขมฺมวิตกฺกอพฺยาปาทวิตกฺกอวิหึ สาวิตกฺกานํ วเสน กุสลวิตกฺกตฺตยํ. สพฺพกิเลสาปจยภูตาย วิวฏฺฏายาติ ราคาทิสพฺพกิเลสานํ อปจยเหตุภูตาย นิพฺพานธาตุยา. อฏฺวีริยารมฺภวตฺถุปาริปูริยาติ อฏฺนฺนํ วีริยารมฺภการณานํ ปาริปูริยา. ยถา ตถา ปมํ ปวตฺตอพฺภุสฺสหนฺหิ อุปริ วีริยารมฺภสฺส การณํ โหติ. อนุรูปปจฺจเวกฺขณาสหิตานิ หิ อพฺภุสฺสหนานิ ตมฺมูลกานิ วา ปจฺจเวกฺขณานิ อฏฺ วีริยารมฺภวตฺถูนีติ เวทิตพฺพานิ. ตถา หิ –

‘‘กมฺมํ โข เม กตฺตพฺพํ ภวิสฺสติ, กมฺมํ โข ปน เม กโรนฺเตน น สุกรํ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. อหํ โข กมฺมํ อกาสึ, กมฺมํ โข ปนาหํ กโรนฺโต นาสกฺขึ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป… มคฺโค โข เม คนฺตพฺโพ ภวิสฺสติ, มคฺคํ โข ปน เม คจฺฉนฺเตน น สุกรํ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป… อหํ โข มคฺคํ อคมาสึ, มคฺคํ โข ปนาหํ คจฺฉนฺโต นาสกฺขึ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป… อหํ โข คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต นาลตฺถํ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ, ตสฺส เม กาโย ลหุโก กมฺมฺโ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป… อหํ โข คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต อลตฺถํ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ, ตสฺส เม กาโย พลวา กมฺมฺโ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป… อุปฺปนฺโน โข เม อยํ อปฺปมตฺตโก อาพาโธ, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ เม อาพาโธ ปวฑฺเฒยฺย, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ…เป… อหํ โข คิลานา วุฏฺิโต อจิรวุฏฺิโต เคลฺา, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ เม อาพาโธ ปจฺจุทาวตฺเตยฺย, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๓๕; อ. นิ. ๘.๘๐) –

เอวํ ปวตฺตอนุรูปปจฺจเวกฺขณาสหิตานิ อพฺภุสฺสหนานิ ตมฺมูลกานิ วา ปจฺจเวกฺขณานิ อฏฺ วีริยารมฺภวตฺถูนิ นาม.

ตทนุจฺฉวิกํ ตทนุโลมิกนฺติ เอตฺถ -สทฺโท วกฺขมานาเปกฺโข จ อตีตาเปกฺโข จ โหตีติ อาห ‘‘ยํ อิทานิ สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสตี’’ติอาทิ. สพฺพนามานิ หิ วกฺขมานวจนานิปิ โหนฺติ ปกฺกนฺตวจนานิปิ. สํวรปฺปหานปฏิสํยุตฺตนฺติ ปฺจสํวเรหิ เจว ปฺจปหาเนหิ จ ปฏิสํยุตฺตํ. ปฺจวิโธ หิ สํวโร สีลสํวโร สติสํวโร าณสํวโร ขนฺติสํวโร วีริยสํวโรติ. ปหานมฺปิ ปฺจวิธํ ตทงฺคปฺปหานํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ สมุจฺเฉทปฺปหานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ นิสฺสรณปฺปหานนฺติ.

ตตฺถ ‘‘อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต โหติ สมุเปโต’’ติ (วิภ. ๕๑๑) เอวมาคโต ปาติโมกฺขสํวโร สีลสํวโร นาม, โส จ อตฺถโต กายิกวาจสิโก อวีติกฺกโม. ‘‘รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๑๓; ม. นิ. ๑.๒๙๕; สํ. นิ. ๔.๒๓๙; อ. นิ. ๓.๑๖) เอวมาคตา อินฺทฺริยารกฺขา สติสํวโร, สา จ อตฺถโต ตถาปวตฺตา สติ เอว. ‘‘โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ, ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ (สุ. นิ. ๑๐๔๑; เนตฺติ. ๑๑) เอวมาคโต าณสํวโร. เอตฺถ หิ ‘‘โสตานํ สํวรํ พฺรูมี’’ติ วตฺวา ‘‘ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ วจนโต โสตสงฺขาตานํ ตณฺหาทิฏฺิทุจฺจริตอวิชฺชาทิกิเลสานํ สมุจฺเฉทกาณํ ปิทหนฏฺเน สํวโรติ วุตฺตํ. ‘‘ขโม โหติ สีตสฺส อุณฺหสฺสา’’ติเอวมาคตา (ม. นิ. ๑.๒๔; ม. นิ. ๓.๑๕๙; อ. นิ. ๔.๑๑๔) อธิวาสนา ขนฺติสํวโร, สา จ อตฺถโต ตถาปวตฺตา ขนฺธา อโทโส วา. ปฺาติ เอเก, ตํ น คเหตพฺพํ. ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๖) เอวมาคตํ กามวิตกฺกาทีนํ วิโนทนวเสน ปวตฺตํ วีริยเมว วีริยสํวโร. สพฺโพ จายํ สํวโร ยถาสกํ สํวริตพฺพานํ ทุสฺสีลฺยสงฺขาตานํ กายวจีทุจฺจริตานํ มุฏฺสฺสจฺจสงฺขาตสฺส ปมาทสฺส อภิชฺฌาทีนํ วา อกฺขนฺติ อฺาณโกสชฺชานฺจ สํวรณโต ปิทหนโต ฉาทนโต ‘‘สํวโร’’ติ วุจฺจติ. สํวรตีติ สํวโร, ปิทหติ นิวาเรติ ปวตฺติตุํ น เทตีติ อตฺโถ. ปจฺจยสมวาเย อุปฺปชฺชนารหานํ กายทุจฺจริตาทีนํ ตถา ตถา อนุปฺปาทนเมว หิ อิธ สํวรณํ นาม. เอวํ ตาว ปฺจวิโธ สํวโร เวทิตพฺโพ.

เตน เตน คุณงฺเคน ตสฺส ตสฺส อคุณงฺคสฺส ปหานํ ตทงฺคปฺปหานํ. นามรูปปริจฺเฉทาทีสุ หิ วิปสฺสนาาเณสุ ปฏิปกฺขภาวโต ทีปาโลเกเนว ตมสฺส นามรูปววตฺถาเนน สกฺกายทิฏฺิยา, ปจฺจยปริคฺคเหน อเหตุวิสมเหตุทิฏฺีนํ, ตสฺเสว อปรภาเค อุปฺปนฺเนน กงฺขาวิตรเณน กถํกถีภาวสฺส, กลาปสมฺมสเนน ‘‘อหํ มมา’’ติ คาหสฺส, มคฺคามคฺคววตฺถาเนน อมคฺเค มคฺคสฺาย, อุทยทสฺสเนน อุจฺเฉททิฏฺิยา, วยทสฺสเนน สสฺสตทิฏฺิยา, ภยทสฺสเนน สภเย อภยสฺายาติอาทินา นเยน เตน เตน วิปสฺสนาาเณน ตสฺส ตสฺส อคุณงฺคสฺส ปหานํ ตทงฺคปฺปหานนฺติ เวทิตพฺพํ. ยํ ปน อุปจารปฺปนาเภเทน สมาธินา ปวตฺตินิวารณโต ฆฏปฺปหาเรเนว อุทกปิฏฺเ เสวาลสฺส เตสํ เตสํ นีวรณาทิธมฺมานํ ปหานํ, เอตํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ นาม. วิกฺขมฺภนเมว ปหานํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ. ยํ จตุนฺนํ อริยมคฺคานํ ภาวิตตฺตา ตํตํมคฺควโต อตฺตโน สนฺตาเน ‘‘ทิฏฺิคตานํ ปหานายา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๒๗๗) นเยน วุตฺตสฺส สมุทยปกฺขิยสฺส กิเลสคณสฺส อจฺจนฺตํ อปฺปวตฺติภาเวน ปหานํ, อิทํ สมุจฺเฉทปฺปหานํ นาม. ยํ ปน ผลกฺขเณ ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตํ วูปสนฺตตา กิเลสานํ, เอตํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ นาม. ยํ สพฺพสงฺขตนิสฺสฏตฺตา ปหีนสพฺพสงฺขตํ นิพฺพานํ, เอตํ นิสฺสรณปฺปหานํ นาม. สพฺพมฺปิ เจตํ จาคฏฺเน ปหานนฺติ วุจฺจติ. เอวมิเมหิ ยถาวุตฺตสํวเรหิ เจว ปหาเนหิ จ ปฏิสํยุตฺตา ธมฺมเทสนา ‘‘สํวรปฺปหานปฏิสํยุตฺตา’’ติ เวทิตพฺพา.

อสุตฺตนฺตวินิพทฺธนฺติ สุตฺตนฺเตสุ อนิพทฺธํ, ปาฬิอนารุฬฺหนฺติ อตฺโถ. ปกิณฺณกธมฺมเทสนา หิ สงฺคหํ น อาโรหติ. วุตฺตเมวตฺถํ ปกาเสนฺโต อาห ‘‘ปาฬิวินิมุตฺต’’นฺติ. อถ วา อสุตฺตนฺตวินิพทฺธนฺติ สุตฺตาภิธมฺมปาฬึ อนารุฬฺหภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ, ปาฬิวินิมุตฺตนฺติ วินยปาฬึ อนารุฬฺหภาวํ สนฺธาย. โอกฺกนฺติกธมฺมเทสนา นาม าเณน อนุปวิสิตฺวา อนฺตรา กถิยมานา ธมฺมเทสนา, ปฏิกฺขิปนาธิปฺปายา ภทฺทาลิตฺเถรสทิสา. สมฺปเรตพฺพโต เปจฺจ คนฺตพฺพโต สมฺปราโย, ปรโลโก. ตตฺถ ภวํ สมฺปรายิกํ. วฏฺฏภเยน ตชฺเชนฺโตติ ‘‘เอวํ ทุสฺสีลา นิรยาทีสุ ทุกฺขํ ปาปุณนฺตี’’ติ ตชฺเชนฺโต. ทีฆนิกายปฺปมาณมฺปิ มชฺฌิมนิกายปฺปมาณมฺปิ ธมฺมเทสนํ กโรตีติ ‘‘เตน ขเณน เตน มุหุตฺเตน กถํ ภควา ตาวมหนฺตํ ธมฺมเทสนํ กโรตี’’ติ น วตฺตพฺพํ. ยาวตา หิ โลกิยมหาชนา เอกํ ปทํ กเถนฺติ, ตาว อานนฺทตฺเถโร อฏฺ ปทานิ กเถติ. อานนฺทตฺเถเร ปน เอกํ ปทํ กเถนฺเตเยว ภควา โสฬส ปทานิ กเถติ. อิมินา นเยน โลกิยชนสฺส เอกปทุจฺจารณกฺขเณ ภควา อฏฺวีสสตํ ปทานิ กเถติ. กสฺมา? ภควโต หิ ชิวฺหา มุทุ, ทนฺตาวรณํ สุผุสิตํ, วจนํ อคฬิตํ, ภวงฺคปริวาโส ลหุโก, ตสฺมา สเจ เอโก ภิกฺขุ กายานุปสฺสนํ ปุจฺฉติ, อฺโ เวทนานุปสฺสนํ, อฺโ จิตฺตานุปสฺสนํ, อฺโ ธมฺมานุปสฺสนํ, ‘‘อิมินา ปุฏฺเ อหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ เอโก เอกํ น โอโลเกติ, เอวํ สนฺเตปิ เตสํ ภิกฺขูนํ ‘‘อยํ ปมํ ปุจฺฉิ, อยํ ทุติย’’นฺติอาทินา ปุจฺฉนวาโร ตาทิสสฺส ปฺวโต ปฺายติ สุขุมสฺส อนฺตรสฺส ลพฺภนโต. พุทฺธานํ ปน เทสนาวาโร อฺเสํ น ปฺายเตว อจฺฉราสงฺฆาตมตฺเต ขเณ อเนกโกฏิสหสฺสจิตฺตปฺปวตฺติสมฺภวโต. ทฬฺหธมฺเมน ธนุคฺคเหน ขิตฺตสรสฺส วิทตฺถิจตุรงฺคุลํ ตาลจฺฉายํ อติกฺกมนโต ปุเรตรํเยว ภควา จุทฺทสวิเธน กายานุปสฺสนํ, นววิเธน เวทนานุปสฺสนํ, โสฬสวิเธน จิตฺตานุปสฺสนํ, ปฺจวิเธน ธมฺมานุปสฺสนํ กเถติ. ติฏฺนฺตุ วา เอเต จตฺตาโร, สเจ หิ อฺเ จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเนสุ, อฺเ อิทฺธิปาเทสุ, อฺเ ปฺจินฺทฺริเยสุ, อฺเ ปฺจพเลสุ, อฺเ สตฺตโพชฺฌงฺเคสุ, อฺเ อฏฺมคฺคงฺเคสุ ปฺเห ปุจฺเฉยฺยุํ, ตมฺปิ ภควา กเถยฺย. ติฏฺนฺตุ วา เอเต อฏฺ, สเจ อฺเ สตฺตตึส ชนา โพธิปกฺขิเยสุ ปฺเห ปุจฺเฉยฺยุํ, ตมฺปิ ภควา ตาวเทว กเถยฺย.

มูลํ นิสฺสโย ปติฏฺาติ ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ ปมสฺส ปมสฺส เววจนนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ ปติฏฺาติ สมฺปโยควเสน อุปนิสฺสยวเสน จ โอกาสภาโว. สิกฺขาสงฺขาตานฺหิ อวเสสกุสลธมฺมานํ เมถุนวิรติสมฺปโยควเสน วา ปติฏฺา สิยา อุปนิสฺสยภาเวน วา. เตเนวาห ‘‘เมถุนสํวโร หี’’ติอาทิ. วุตฺตตฺถวเสนาติ ปติฏฺาอธิคมูปายวเสน. สิกฺขาปทวิภงฺเค นิทฺทิฏฺวิรติเจตนา ตํสมฺปยุตฺตธมฺมา จ สิกฺขาปทนฺติ ทสฺเสตุกาโม อาห – ‘‘อยฺจ อตฺโถ สิกฺขาปทวิภงฺเค วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ’’ติ. สิกฺขาปทวิภงฺเค หิ วิรติอาทโย ธมฺมา นิปฺปริยายโต ปริยายโต จ ‘‘สิกฺขาปท’’นฺติ วุตฺตา. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ตตฺถ กตมํ กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี สิกฺขาปทํ? ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ โสมนสฺสสหคตํ าณสมฺปยุตฺตํ กาเมสุมิจฺฉาจารา วิรมนฺตสฺส, ยา ตสฺมึ สมเย กาเมสุมิจฺฉาจารา อารติ วิรติ ปฏิวิรติ เวรมณี อกิริยา อกรณํ อนชฺฌาปตฺติ เวลานติกฺกโม เสตุฆาโต, อิทํ วุจฺจติ กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี สิกฺขาปทํ. อวเสสา ธมฺมา เวรมณิยา สมฺปยุตฺตา.

‘‘ตตฺถ กตมํ กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี สิกฺขาปทํ? ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ โสมนสฺสสหคตํ าณสมฺปยุตฺตํ กาเมสุมิจฺฉาจารา วิรมนฺตสฺส, ยา ตสฺมึ สมเย เจตนา สฺเจตนา เจตยิตตฺตํ, อิทํ วุจฺจติ กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี สิกฺขาปทํ. อวเสสา ธมฺมา เจตนาย สมฺปยุตฺตา.

‘‘ตตฺถ กตมํ กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี สิกฺขาปทํ? ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ โสมนสฺสสหคตํ าณสมฺปยุตฺตํ กาเมสุมิจฺฉาจารา วิรมนฺตสฺส, โย ตสฺมึ สมเย ผสฺโส…เป… ปคฺคาโห อวิกฺเขโป, อิทํ วุจฺจติ กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี สิกฺขาปท’’นฺติ (วิภ. ๗๐๖).

เอตฺถ หิ ยสฺมา น เกวลํ วิรติเยว สิกฺขาปทํ, เจตนาปิ สิกฺขาปทเมว, ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุํ ทุติยนโย วุตฺโต. ยสฺมา จ น เกวลํ เอเตเยว ทฺเว ธมฺมา สิกฺขาปทํ, เจตนาสมฺปยุตฺตา ปน ปโรปณฺณาส ธมฺมาปิ สิกฺขิตพฺพโกฏฺาสโต สิกฺขาปทเมว, ตสฺมา ตติยนโย ทสฺสิโต. ทุวิธฺหิ สิกฺขาปทํ นิปฺปริยายสิกฺขาปทํ ปริยายสิกฺขาปทนฺติ. ตตฺถ วิรติ นิปฺปริยายสิกฺขาปทํ. สา หิ ‘‘ปาณาติปาตา เวรมณี’’ติ ปาฬิยํ อาคตา, โน เจตนา. วิรมนฺโต จ ตาย เอว ตโต ตโต วิรมติ, น เจตนาย, เจตนมฺปิ ปน อาหริตฺวา ทสฺเสติ, ตถา เสสเจตนาสมฺปยุตฺตธมฺเม. ตสฺมา เจตนา เจว อวเสสสมฺปยุตฺตธมฺมา จ ปริยายสิกฺขาปทนฺติ เวทิตพฺพํ.

อิทานิ น เกวลํ อิธ วิรติอาทโย ธมฺมาว สิกฺขาปทํ, อถ โข ตทตฺถโชติกา ปฺตฺติปีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อปิจา’’ติอาทิ. ‘‘โย ตตฺถ นามกาโย ปทกาโยติ อิทํ มหาอฏฺกถายํ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. นามกาโยติ นามสมูโห นามปณฺณตฺติเยว. ปทนิรุตฺติพฺยฺชนานิ นามเววจนาเนว ‘‘นามํ นามกมฺมํ นามนิรุตฺตี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๓๑๓-๑๓๑๕) วิย. สิกฺขาโกฏฺาโสติ วิรติอาทโยว วุตฺตา, ตทตฺถโชตกํ วจนมฺปิ สิกฺขาปทนฺติ อิทมฺปิ เอตฺถ ลพฺภเตว.

อตฺถวเสติ วุทฺธิวิเสเส อานิสํสวิเสเส. เตสํ ปน สิกฺขาปทปฺตฺติการณตฺตา อาห ‘‘ทส การณวเส’’ติ, ทส การณวิเสเสติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘หิตวิเสเส’’ติ. อตฺโถเยว วา อตฺถวโส, ทส อตฺเถ ทส การณานีติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา อตฺโถ ผลํ ตทธีนวุตฺติตาย วโส เอตสฺสาติ อตฺถวโส, เหตูติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. สุฏฺุ เทวาติ อิทํ ราชนฺเตปุรปฺปเวสนสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๔๙๔ อาทโย) วุตฺตํ. ‘‘เย มม โสตพฺพํ สทฺทหาตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ, เตสํ ตํ อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘โย จ ตถาคตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉติ, ตสฺส ตํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย โหตี’’ติ วุตฺตํ. อสมฺปฏิจฺฉเน อาทีนวนฺติ ภทฺทาลิสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๑๓๔ อาทโย) วิย อสมฺปฏิจฺฉเน อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา. สุขวิหาราภาเว สหชีวมานสฺส อภาวโต สหชีวิตาปิ สุขวิหาโรว วุตฺโต. สุขวิหาโร นาม จตุนฺนํ อิริยาปถวิหารานํ ผาสุตา.

มงฺกุตนฺติ นิตฺเตชภาวํ. ธมฺเมนาติอาทีสุ ธมฺโมติ ภูตํ วตฺถุ. วินโยติ โจทนา เจว สารณา จ. สตฺถุสาสนนฺติ ตฺติสมฺปทา เจว อนุสฺสาวนสมฺปทา จ. ปิยสีลานนฺติ สิกฺขากามานํ. เตสฺหิ สีลํ ปิยํ โหติ. เตเนวาห ‘‘สิกฺขตฺตยปาริปูริยา ฆฏมานา’’ติ. สนฺทิฏฺมานาติ สํสยํ อาปชฺชมานา. อุพฺพาฬฺหา โหนฺตีติ ปีฬิตา โหนฺติ. สงฺฆกมฺมานีติ สติปิ อุโปสถปวารณานํ สงฺฆกมฺมภาเว โคพลิพทฺทาเยน อุโปสถํ ปวารณฺจ เปตฺวา อุปสมฺปทาทิเสสสงฺฆกมฺมานํ คหณํ เวทิตพฺพํ. สมคฺคานํ ภาโว สามคฺคี.

‘‘น โว อหํ, จุนฺท, ทิฏฺธมฺมิกานํเยว อาสวานํ สํวราย ธมฺมํ เทเสมี’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๘๒) เอตฺถ วิวาทมูลภูตา กิเลสา อาสวาติ อาคตา.

‘‘เยน เทวูปปตฺยสฺส, คนฺธพฺโพ วา วิหงฺคโม;

ยกฺขตฺตํ เยน คจฺเฉยฺยํ, มนุสฺสตฺตฺจ อพฺพเช;

เต มยฺหํ อาสวา ขีณา, วิทฺธสฺตา วินฬีกตา’’ติ. (อ. นิ. ๔.๓๖) –

เอตฺถ เตภูมกํ กมฺมํ อวเสสา จ อกุสลา ธมฺมา. อิธ ปน ปรูปวาทวิปฺปฏิสารวธพนฺธาทโย เจว อปายทุกฺขภูตา จ นานปฺปการา อุปทฺทวา อาสวาติ อาห – ‘‘อสํวเร ิเตน ตสฺมึเยว อตฺตภาเว ปตฺตพฺพา’’ติอาทิ. ยทิ หิ ภควา สิกฺขาปทํ น ปฺเปยฺย, ตโต อสทฺธมฺมปฏิเสวนอทินฺนาทานปาณาติปาตาทิเหตุ เย อุปฺปชฺเชยฺยุํ ปรูปวาทาทโย ทิฏฺธมฺมิกา นานปฺปการา อนตฺถา, เย จ ตํนิมิตฺตเมว นิรยาทีสุ นิพฺพตฺตสฺส ปฺจวิธพนฺธนกมฺมการณาทิวเสน มหาทุกฺขานุภวนนานปฺปการา อนตฺถา, เต สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ ‘‘ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตายา’’ติ. ทิฏฺธมฺโม วุจฺจติ ปจฺจกฺโข อตฺตภาโว, ตตฺถ ภวา ทิฏฺธมฺมิกา. เตน วุตฺตํ ‘‘ตสฺมึเยว อตฺตภาเว ปตฺตพฺพา’’ติ. สมฺมุขา ครหณํ อกิตฺติ, ปรมฺมุขา ครหณํ อยโส. อถ วา สมฺมุขา ปรมฺมุขา จ ครหณํ อกิตฺติ, ปริวารหานิ อยโสติ เวทิตพฺพํ. อาคมนมคฺคถกนายาติ อาคมนทฺวารปิทหนตฺถาย. สมฺปเรตพฺพโต เปจฺจ คนฺตพฺพโต สมฺปราโย, ปรโลโกติ อาห ‘‘สมฺปราเย นรกาทีสู’’ติ. เมถุนาทีนิ รชฺชนฏฺานานิ, ปาณาติปาตาทีนิ ทุสฺสนฏฺานานิ.

จุทฺทส ขนฺธกวตฺตานิ นาม วตฺตกฺขนฺธเก วุตฺตานิ อาคนฺตุกวตฺตํ อาวาสิกคมิกอนุโมทนภตฺตคฺคปิณฺฑจาริกอารฺิกเสนาสนชนฺตาฆรวจฺจกุฏิอุปชฺฌายสทฺธิวิหาริกอาจริยอนฺเตวาสิกวตฺตนฺติ อิมานิ จุทฺทส วตฺตานิ. ตโต อฺานิ ปน กทาจิ ตชฺชนียกมฺมกตาทิกาเลเยว จริตพฺพานิ ทฺเวอสีติ มหาวตฺตานิ, น สพฺพาสุ อวตฺถาสุ จริตพฺพานิ, ตสฺมา จุทฺทสขนฺธกวตฺเตสุ อคณิตานิ, ตานิ ปน ‘‘ปาริวาสิกานํ ภิกฺขูนํ วตฺตํ ปฺเปสฺสามี’’ติ (จูฬว. ๗๕ อาทโย) อารภิตฺวา ‘‘น อุปสมฺปาเทตพฺพํ…เป… น ฉมายํ จงฺกมนฺเต จงฺกเม จงฺกมิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๗๖) วุตฺตาวสานานิ ฉสฏฺิ, ตโต ปรํ ‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปาริวาสิกวุฑฺฒตเรน ภิกฺขุนา สทฺธึ, มูลายปฏิกสฺสนารเหน, มานตฺตารเหน, มานตฺตจาริเกน, อพฺภานารเหน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วตฺถพฺพ’’นฺติอาทินา (จูฬว. ๘๒) วุตฺตวตฺตานิ ปกตตฺตจริตพฺเพหิ อนฺตฺตา วิสุํ อคเณตฺวา ปาริวาสิกวุฑฺฒตราทีสุ ปุคฺคลนฺตเรสุ จริตพฺพตฺตา เตสํ วเสน สมฺปิณฺเฑตฺวา เอเกกํ กตฺวา คณิตานิ ปฺจาติ เอกสตฺตติ วตฺตานิ, อุกฺเขปนียกมฺมกตวตฺเตสุ วุตฺตํ ‘‘น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ…เป… นหาเน ปิฏฺิปริกมฺมํ สาทิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๗๕) อิทํ อภิวาทนาทีนํ อสาทิยนํ เอกํ, ‘‘น ปกตตฺโต ภิกฺขุ สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ’’ติอาทีนิ (จูฬว. ๕๑) ทสาติ เอวเมตานิ ทฺวาสีติ วตฺตานิ. เอเตสฺเวว ปน กานิจิ ตชฺชนียกมฺมาทิวตฺตาอานิ, กานิจิ ปาริวาสิกาทิวตฺตานีติ อคฺคหิตคฺคหเณน ทฺวาสีติ เอว, อฺตฺถ ปน อฏฺกถาปเทเส อปฺปกํ อูนมธิกํ วา คณนูปคํ น โหตีติ ‘‘อสีติ ขนฺธกวตฺตานี’’ติ วุตฺตํ.

สํวรวินโยติ สีลสํวโร สติสํวโร าณสํวโร ขนฺติสํวโร วีริยสํวโรติ ปฺจวิโธปิ สํวโร ยถาสกํ สํวริตพฺพานํ วิเนตพฺพานฺจ กายทุจฺจริตาทีนํ สํวรณโต สํวโร, วินยนโต วินโยติ วุจฺจติ. ปหานวินโยติ ตทงฺคปฺปหานํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ สมุจฺเฉทปฺปหานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ นิสฺสรณปฺปหานนฺติ ปฺจวิธมฺปิ ปหานํ ยสฺมา จาคฏฺเน ปหานํ, วินยนฏฺเน วินโย, ตสฺมา ปหานวินโยติ วุจฺจติ. สมถวินโยติ สตฺต อธิกรณสมถา. ปฺตฺติวินโยติ สิกฺขาปทเมว. สิกฺขาปทปฺตฺติยา หิ วิชฺชมานาย เอว สิกฺขาปทสมฺภวโต ปฺตฺติวินโยปิ สิกฺขาปทปฺตฺติยา อนุคฺคหิโต โหติ.

อิทานิ –

‘‘ยํ สงฺฆสุฏฺุ, ตํ สงฺฆผาสุ, ยํ สงฺฆผาสุ, ตํ ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหาย, ยํ ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหาย, ตํ เปสลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุวิหาราย, ยํ เปสลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุวิหาราย, ตํ ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย, ยํ ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย, ตํ สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตาย, ยํ สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตาย, ตํ อปฺปสนฺนานํ ปสาทาย, ยํ อปฺปสนฺนานํ ปสาทาย, ตํ ปสนฺนานํ ภิยฺโยภาวาย, ยํ ปสนฺนานํ ภิยฺโยภาวาย, ตํ สทฺธมฺมฏฺิติยา, ยํ สทฺธมฺมฏฺิติยา, ตํ วินยานุคฺคหาย.

‘‘ยํ สงฺฆสุฏฺุ, ตํ สงฺฆผาสุ, ยํ สงฺฆสุฏฺุ, ตํ ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหาย, ยํ สงฺฆสุฏฺุ, ตํ เปสลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุวิหาราย, ยํ สงฺฆสุฏฺุ, ตํ ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย, ยํ สงฺฆสุฏฺุ, ตํ สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตาย, ยํ สงฺฆสุฏฺุ, ตํ อปฺปสนฺนานํ ปสาทาย, ยํ สงฺฆสุฏฺุ, ตํ ปสนฺนานํ ภิยฺโยภาวาย, ยํ สงฺฆสุฏฺุ, ตํ สทฺธมฺมฏฺิติยา, ยํ สงฺฆสุฏฺุ, ตํ วินยานุคฺคหาย.

‘‘ยํ สงฺฆผาสุ, ตํ ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหาย, ยํ สงฺฆผาสุ, ตํ เปสลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุวิหาราย, ยํ สงฺฆผาสุ, ตํ ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย, ยํ สงฺฆผาสุ, ตํ สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตาย, ยํ สงฺฆผาสุ, ตํ อปฺปสนฺนานํ ปสาทาย, ยํ สงฺฆผาสุ, ตํ ปสนฺนานํ ภิยฺโยภาวาย, ยํ สงฺฆผาสุ, ตํ สทฺธมฺมฏฺิติยา, ยํ สงฺฆผาสุ, ตํ วินยานุคฺคหาย, ยํ สงฺฆผาสุ, ตํ สงฺฆสุฏฺุตาย.

‘‘ยํ ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหาย…เป… ยํ เปสลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุวิหาราย…เป… ยํ ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย…เป… ยํ สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตาย…เป… ยํ อปฺปสนฺนานํ ปสาทาย…เป… ยํ ปสนฺนานํ ภิยฺโยภาวาย…เป… ยํ สทฺธมฺมฏฺิติยา…เป… ยํ วินยานุคฺคหาย, ตํ สงฺฆสุฏฺุตาย, ยํ วินยานุคฺคหาย, ตํ สงฺฆผาสุตาย, ยํ วินยานุคฺคหาย, ตํ ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหาย, ยํ วินยานุคฺคหาย, ตํ เปสลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุวิหาราย, ยํ วินยานุคฺคหาย, ตํ ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย, ยํ วินยานุคฺคหาย, ตํ สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตาย, ยํ วินยานุคฺคหาย, ตํ อปฺปสนฺนานํ ปสาทาย, ยํ วินยานุคฺคหาย, ตํ ปสนฺนานํ ภิยฺโยภาวาย, ยํ วินยานุคฺคหาย, ตํ สทฺธมฺมฏฺิติยา (ปริ. ๓๓๔).

‘‘อตฺถสตํ ธมฺมสตํ, ทฺเว จ นิรุตฺติสตานิ;

จตฺตาริ าณสตานิ, อตฺถวเส ปกรเณ’’ติ (ปริ. ๓๓๔) –

ยํ วุตฺตํ ปริวาเร, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิเจตฺถา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ‘‘ยํ สงฺฆสุฏฺุ, ตํ สงฺฆผาสุ, ยํ สงฺฆผาสุ, ตํ ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหายา’’ติ อิมินา อนุกฺกเมน ยํ วุตฺตํ, ตํ สนฺธาย อาสนฺนาสนฺนปทานํ อุปรูปริปเทหิ สทฺธึ โยชิตตฺตา สงฺขลิกพนฺธนสทิสตฺตา ‘‘สงฺขลิกนย’’นฺติ วุตฺตํ. สงฺขลิกนยํ กตฺวาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ยํ สงฺฆสุฏฺุ, ตํ สงฺฆผาสุ, ยํ สงฺฆสุฏฺุ, ตํ ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหายา’’ติ เอวมาทินา ทสสุ ปเทสุ เอกเมกํ ปทํ ตทวเสเสหิ นวนวปเทหิ โยเชตฺวา ยํ วุตฺตํ, ตํ สนฺธาย ‘‘เอเกกปทมูลิกํ ทสกฺขตฺตุํ โยชนํ กตฺวา’’ติ วุตฺตํ.

อตฺถสตนฺติอาทีสุ สงฺขลิกนเย ตาว ปุริมปุริมปทานํ วเสน ธมฺมสตํ เวทิตพฺพํ, ปจฺฉิมปจฺฉิมานํ วเสน อตฺถสตํ ทฏฺพฺพํ. กถํ? กิฺจาปิ ปริวาเร ‘‘ยํ สงฺฆสุฏฺุ, ตํ สงฺฆผาสู’’ติอาทินา สงฺขลิกนเย ขณฺฑจกฺกเมว วุตฺตํ, ตถาปิ เตเนว นเยน พทฺธจกฺกสฺสปิ นโย ทินฺโน, ตสฺมา ‘‘ยํ สงฺฆสุฏฺุ, ตํ สงฺฆผาสู’’ติอาทึ วตฺวา ‘‘ยํ วินยานุคฺคหาย, ตํ สงฺฆสุฏฺู’’ติ โยเชตฺวา พทฺธจกฺกํ กาตพฺพํ. เอวํ ‘‘ยํ สงฺฆผาสุ, ตํ ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหายา’’ติอาทึ วตฺวาปิ ‘‘ยํ วินยานุคฺคหาย, ตํ สงฺฆสุฏฺุ, ยํ สงฺฆสุฏฺุ, ตํ สงฺฆผาสู’’ติ โยเชตฺวา พทฺธจกฺกํ กาตพฺพํ. อิมินา อนุกฺกเมน เสสปเทสุปิ โยชิเตสุ สงฺขลิกนเยน ทส พทฺธจกฺกานิ โหนฺติ. เตสุ เอเกกสฺมึ จกฺเก ปุริมปุริมปทานํ วเสน ทส ทส ธมฺมา, ปจฺฉิมปจฺฉิมปทานํ วเสน ทส ทส อตฺถาติ สงฺขลิกนเย อตฺถสตํ ธมฺมสตฺจ สมฺปชฺชติ. เอกมูลกนเย ปน ‘‘ยํ สงฺฆสุฏฺุ, ตํ สงฺฆผาสุ, ยํ สงฺฆสุฏฺุ, ตํ ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหายา’’ติ เอวมาทินา เอกเมว ปทํ เสเสหิ นวหิ ปเทหิ โยชิตนฺติ ปุริมปทสฺส เอกตฺตา เอกเมว ธมฺมปทํ นเวว อตฺถปทานิ โหนฺติ, ตสฺมา เอกมูลกนเย ทสสุ ปเทสุ เอกเมกํ มูลํ กตฺวา ทสกฺขตฺตุํ โยชนาย กตาย ธมฺมปทานํ วเสน ธมฺมปทานิ ทส, อตฺถปทานิ นวุตีติ อตฺถสตํ ธมฺมสตฺจ น สมฺปชฺชติ, ตสฺมา เอกมูลกนเย สงฺขลิกนเย วุตฺตนเยน อตฺถสตํ ธมฺมสตฺจ อคฺคเหตฺวา ยํ ตตฺถ ทสธมฺมปทานํ นวุติอตฺถปทานฺจ วเสน ปทสตํ วุตฺตํ, ตํ สพฺพํ ธมฺมสตนฺติ คเหตฺวา ตทตฺถโชตนวเสน อฏฺกถายํ วุตฺตานิ สงฺฆสุฏฺุภาวาทีนิ อตฺถปทานิ อตฺถสตนฺติ เอวํ คหิเต อตฺถสตํ ธมฺมสตฺจ สมฺปชฺชติ. เอวํ ตาว อตฺถสตํ ธมฺมสตฺจ เวทิตพฺพํ. ทฺเว จ นิรุตฺติสตานีติ เอตฺถ ปน อตฺถโชติกานํ นิรุตฺตีนํ วเสน นิรุตฺติสตํ, ธมฺมภูตานํ นิรุตฺตีนํ วเสน นิรุตฺติสตนฺติ ทฺเว นิรุตฺติสตานิ จ เวทิตพฺพานิ. จตฺตาริ าณสตานีติ อตฺถสเต าณสตํ, ธมฺมสเต าณสตํ, ทฺวีสุ นิรุตฺติสเตสุ ทฺเว าณสตานีติ จตฺตาริ าณสตานิ.

เอวฺจ ปน, ภิกฺขเวติ เอตฺถ -สทฺโท ภินฺนกฺกเมน โยเชตพฺโพติ อาห ‘‘อุทฺทิเสยฺยาถ จา’’ติ. กถํ ปเนตฺถ ‘‘อุทฺทิเสยฺยาถา’’ติ วุตฺเต ปริยาปุเณยฺยาถาติอาทิ อตฺถสมฺภโวติ อาห ‘‘อติเรกานยนตฺโถ หิ เอตฺถ จ-สทฺโท’’ติ. วุตฺตตฺถโต อติเรกสฺส อตฺถสฺส อานยนํ อติเรกานยนํ, โส อตฺโถ เอตสฺสาติ อติเรกานยนตฺโถ, อวุตฺตสมุจฺจยตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อสํวาโส’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ทฬฺหํ กตฺวา’’ติ วุตฺตํ.

อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย สารตฺถทีปนิยํ

ปมปฺตฺติกถา นิฏฺิตา.

สุทินฺนภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

มกฺกฏิวตฺถุกถาวณฺณนา

๔๐. อนุตฺตานปทวณฺณนาติ อุตฺตานํ วุจฺจติ ปากฏํ, ตปฺปฏิปกฺเขน อนุตฺตานํ อปากฏํ อปฺปจุรํ ทุวิฺเยฺยฺจ, อนุตฺตานานํ ปทานํ วณฺณนา อนุตฺตานปทวณฺณนา. อุตฺตานปทวณฺณนาย ปโยชนาภาวโต อนุตฺตานคฺคหณํ. ปจุรปฏิเสวโน โหตีติ พหุลปฏิเสวโน โหติ, ทิวเส ทิวเส นิรนฺตรํ ปฏิเสวตีติ อตฺโถ. ปจุรตฺเถ หิ วตฺตมานวจนนฺติ สพฺพทา ปฏิเสวนาภาเวปิ ‘‘อิห มลฺลา ยุชฺฌนฺตี’’ติอาทีสุ วิย พาหุลฺลวุตฺตึ อุปาทาย วตฺตมานวจนํ. อาหิณฺฑนฺตาติ วิจรนฺตา. อฺเสุปีติ อฺเสุปิ ภิกฺขูสุ.

๔๑. สโหฑฺฒคฺคหิโตติ สห ภณฺเฑน คหิโต. อตฺตโน มิจฺฉาคาเหน เลสโอฑฺฑเนน วา ปริปุณฺณตฺถมฺปิ ปมปฺตฺตึ อฺถา กโรนฺโต ‘‘ตฺจ โข มนุสฺสิตฺถิยา, โน ติรจฺฉานคตายา’’ติ อาห. ทสฺสนนฺติ สานุราคทสฺสนํ. คหณนฺติ อนุราควเสเนว หตฺเถน คหณํ. อามสนํ อตฺตโน สรีเรน ตสฺสา สรีรสฺส อุปริ อามสนมตฺตํ, ผุสนํ ตโต ทฬฺหตรํ กตฺวา สํผุสนํ, ฆฏฺฏนํ ตโตปิ ทฬฺหตรํ กตฺวา สรีเรน สรีรสฺส ฆฏฺฏนํ. ตํ สพฺพมฺปีติ ทสฺสนาทิ สพฺพมฺปิ.

๔๒. ทฬฺหตรํ สิกฺขาปทมกาสีติ อิมสฺมึ อธิกาเร อนุปฺตฺติยา สิกฺขาปทสฺส ทฬฺหีกรณํ สิถิลกรณฺจ ปสงฺคโต อาปนฺนํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุกาโม ‘‘ทุวิธฺหิ สิกฺขาปท’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺส สจิตฺตกสฺส สิกฺขาปทสฺส จิตฺตํ อกุสลเมว โหติ, ตํ โลกวชฺชํ. ยสฺส สจิตฺตกาจิตฺตกปกฺขสหิตสฺส อจิตฺตกสฺส จ สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว โหติ, ตมฺปิ สุราปานาทิ โลกวชฺชนฺติ อิมมตฺถํ สมฺปิณฺเฑตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺส สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว โหติ, ตํ โลกวชฺชํ นามา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘สจิตฺตกปกฺเข’’ติ หิ อิทํ วจนํ อจิตฺตกํ สนฺธาย วุตฺตํ. น หิ เอกํสโต สจิตฺตกสฺส ‘‘สจิตฺตกปกฺเข’’ติ วิเสสเน ปโยชนํ อตฺถิ. สจิตฺตกปกฺเขติ จ วตฺถุวีติกฺกมวิชานนจิตฺเตน ‘‘สจิตฺตกปกฺเข’’ติ คเหตพฺพํ, น ปณฺณตฺติวิชานนจิตฺเตน. ยทิ หิ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปณฺณตฺติวิชานนจิตฺเตนปิ ยสฺส สิกฺขาปทสฺส สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว, ตมฺปิ โลกวชฺชนฺติ วเทยฺย, สพฺเพสํ ปณฺณตฺติวชฺชสิกฺขาปทานมฺปิ โลกวชฺชตา อาปชฺเชยฺย ปณฺณตฺติวชฺชานมฺปิ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ชานิตฺวา วีติกฺกเม อกุสลจิตฺตสฺเสว สมฺภวโต. น หิ ภควโต อาณํ ชานิตฺวา มทฺทนฺตสฺส กุสลจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ อนาทริยวเสน ปฏิฆจิตฺตสฺเสว อุปฺปชฺชนโต.

อปิเจตฺถ ‘‘สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมวา’’ติ วจนโต อจิตฺตกสฺส วตฺถุอชานนวเสน อจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมวาติ อยํ นิยโม นตฺถีติ วิฺายติ. ยทิ หิ อจิตฺตกสฺส อจิตฺตกปกฺเขปิ จิตฺตํ อกุสลเมว สิยา, ‘‘สจิตฺตกปกฺเข’’ติ อิทํ วิเสสนํ นิรตฺถกํ สิยา. ‘‘ยสฺส จิตฺตํ อกุสลเมว โหติ, ตํ โลกวชฺช’’นฺติ เอตฺตเก วุตฺเต สุราติ อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺส คนฺธวณฺณกาทิภาวํ อชานิตฺวา ตานิ ลิมฺปนฺตีนํ ภิกฺขุนีนฺจ วินาปิ อกุสลจิตฺเตน อาปตฺติสมฺภวโต เอกนฺตากุสลํ สจิตฺตกสิกฺขาปทํ เปตฺวา สุราปานาทิอจิตฺตกสิกฺขาปทานํ โลกวชฺชตา น สิยาติ เตสมฺปิ สงฺคณฺหตฺถํ ‘‘ยสฺส สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว โหติ, ตํ โลกวชฺช’’นฺติ วุตฺตํ. เตเนว จูฬคณฺิปเท มชฺฌิมคณฺิปเท จ วุตฺตํ ‘‘เอตํ สตฺตํ มาเรสฺสามีติ ตสฺมึเยว ปเทเส นิปนฺนํ อฺํ มาเรนฺตสฺส ปาณสามฺสฺส อตฺถิตาย ยถา ปาณาติปาโต โหติ, เอวํ เอตํ มชฺชํ ปิวิสฺสามีติ อฺํ มชฺชํ ปิวนฺตสฺส มชฺชสามฺสฺส อตฺถิตาย อกุสลเมว โหติ. ยถา ปน กฏฺสฺาย สปฺปํ ฆาเตนฺตสฺส ปาณาติปาโต น โหติ, เอวํ นาฬิเกรปานสฺาย มชฺชํ ปิวนฺตสฺส อกุสลํ น โหตี’’ติ.

เกจิ ปน วทนฺติ ‘‘สามเณรสฺส สุราติ อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺส ปาราชิโก นตฺถิ, อกุสลํ ปน โหตี’’ติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ. ‘‘ภิกฺขุโน อชานิตฺวาปิ พีชโต ปฏฺาย มชฺชํ ปิวนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, สามเณโร ชานิตฺวา ปิวนฺโต สีลเภทํ อาปชฺชติ, น อชานิตฺวา’’ติ เอตฺตกเมว หิ อฏฺกถายํ วุตฺตํ, ‘‘อกุสลํ ปน โหตี’’ติ น วุตฺตนฺติ. อปรมฺปิ วทนฺติ ‘‘อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺสปิ โสตาปนฺนสฺส มุขํ สุรา น ปวิสติ กมฺมปถปฺปตฺตอกุสลจิตฺเตเนว ปาตพฺพโต’’ติ, ตมฺปิ น สุนฺทรํ. โพธิสตฺเต กุจฺฉิคเต โพธิสตฺตมาตุ สีลํ วิย หิ อิทมฺปิ อริยสาวกานํ ธมฺมตาสิทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ. เตเนว ทีฆนิกาเย กูฏทนฺตสุตฺตฏฺกถายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๓๕๒) วุตฺตํ –

‘‘ภวนฺตเรปิ หิ อริยสาวโก ชีวิตเหตุปิ เนว ปาณํ หนติ, น สุรํ ปิวติ. สเจปิสฺส สุรฺจ ขีรฺจ มิสฺเสตฺวา มุเข ปกฺขิปนฺติ, ขีรเมว ปวิสติ, น สุรา. ยถา กึ? ยถา โกฺจสกุณานํ ขีรมิสฺสเก อุทเก ขีรเมว ปวิสติ, น อุทกํ. อิทํ โยนิสิทฺธนฺติ เจ? อิทมฺปิ ธมฺมตาสิทฺธนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติ.

ยทิ เอวํ สุราปานสิกฺขาปทฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๙) ‘‘วตฺถุอชานนตาย เจตฺถ อจิตฺตกตา เวทิตพฺพา, อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย โลกวชฺชตา’’ติ กสฺมา วุตฺตํ? นายํ โทโส. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – สจิตฺตกปกฺเข อกุสลจิตฺเตเนว ปาตพฺพตาย โลกวชฺชตาติ. อิมินาเยว หิ อธิปฺปาเยน อฺเสุปิ โลกวชฺเชสุ อจิตฺตกสิกฺขาปเทสุ อกุสลจิตฺตตาเยว วุตฺตา, น ปน สจิตฺตกตา. เตเนว ภิกฺขุนีวิภงฺคฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๒๗) วุตฺตํ –

‘‘คิรคฺคสมชฺชํ จิตฺตาคารสิกฺขาปทํ สงฺฆาณิ อิตฺถาลงฺกาโร คนฺธกวณฺณโก วาสิตกปิฺาโก ภิกฺขุนีอาทีหิ อุมฺมทฺทนปริมทฺทนาติ อิมานิ ทส สิกฺขาปทานิ อจิตฺตกานิ โลกวชฺชานิ อกุสลจิตฺตานี’’ติ,

อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย – วินาปิ จิตฺเตน อาปชฺชิตพฺพตฺตา อจิตฺตกานิ, จิตฺเต ปน สติ อกุสเลเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตา โลกวชฺชานิ เจว อกุสลจิตฺตานิ จาติ. ตสฺมา ภิกฺขุวิภงฺเค อาคตานิ สุราปานอุยฺยุตฺตอุยฺโยธิกสิกฺขาปทานิ ตีณิ, ภิกฺขุนีวิภงฺเค อาคตานิ คิรคฺคสมชฺชาทีนิ ทสาติ อิเมสํ เตรสนฺนํ อจิตฺตกสิกฺขาปทานํ โลกวชฺชตาทสฺสนตฺถํ ‘‘สจิตฺตกปกฺเข’’ติ อิทํ วิเสสนํ กตนฺติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. ยสฺมา ปน ปณฺณตฺติวชฺชสฺส วตฺถุวีติกฺกมวิชานนจิตฺเตน สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ สิยา กุสลํ, สิยา อกุสลํ, สิยา อพฺยากตํ, ตสฺมา ตสฺส สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมวาติ อยํ นิยโม นตฺถีติ เสสํ ปณฺณตฺติวชฺชนฺติ วุตฺตํ.

รุนฺธนฺตีติ วีติกฺกมํ รุนฺธนฺตี. ทฺวารํ ปิทหนฺตีติ วีติกฺกมเลสสฺส ทฺวารํ ปิทหนฺตี. โสตํ ปจฺฉินฺทมานาติ อุปรูปริ วีติกฺกมโสตํ ปจฺฉินฺทมานา. อถ วา รุนฺธนฺตีติ อนาปตฺติเลสํ รุนฺธนฺตี. ทฺวารํ ปิทหนฺตีติ อนาปตฺติเลสสฺส ทฺวารํ ปิทหนฺตี. โสตํ ปจฺฉินฺทมานาติ อนาปตฺติโสตํ ปจฺฉินฺทมานา, อาปตฺติเมว กุรุมานาติ วุตฺตํ โหติ. นนุ จ โลกวชฺเช กาจิ อนุปฺตฺติ อุปฺปชฺชมานา สิถิลํ กโรนฺตี อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ‘‘โลกวชฺเช อนุปฺตฺติ อุปฺปชฺชมานา…เป… คาฬฺหตรํ กโรนฺตี อุปฺปชฺชตี’’ติ อิทํ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อฺตฺร อธิมานา อฺตฺร สุปินนฺตา’’ติอาทิ. ‘‘อฺตฺร อธิมานา’’ติ อิมิสฺสา อนุปฺตฺติยา ‘‘วีติกฺกมาภาวา’’ติ การณํ วุตฺตํ, ‘‘อฺตฺร สุปินนฺตา’’ติ อิมิสฺสา ‘‘อพฺโพหาริกตฺตา’’ติ การณํ วุตฺตํ. ตตฺถ วีติกฺกมาภาวาติ ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโตติอาทิวีติกฺกมาภาวา. อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม หิ ‘‘ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปตี’’ติ (มหาว. ๑๒๙) วจนโต วิสํวาทนาธิปฺปาเยน มุสา ภณนฺโต ปาราชิโก โหติ. อยํ ปน อธิมาเนน อธิคตสฺี หุตฺวา อุลฺลปติ, น สิกฺขาปทํ วีติกฺกมิตุกาโม, ตสฺมา ‘‘อฺตฺร อธิมานา’’ติ อยํ อนุปฺตฺติ อุปฺปชฺชมานา วีติกฺกมาภาวา อนาปตฺติกรา ชาตา. อพฺโพหาริกตฺตาติ สุปินนฺเต วิชฺชมานายปิ เจตนาย วีติกฺกมิจฺฉาย จ อพฺโพหาริกตฺตา. กิฺจาปิ หิ สุปินนฺเต โมจนสฺสาทเจตนา สํวิชฺชติ, กทาจิ อุปกฺกมนมฺปิ โหติ, ตถาปิ ถินมิทฺเธน อภิภูตตฺตา ตํ จิตฺตํ อพฺโพหาริกํ, จิตฺตสฺส อพฺโพหาริกตฺตา อุปกฺกมกิริยาสํวตฺตนิกาปิ เจตนา อพฺโพหาริกา. เตเนว ‘‘อตฺเถสา ภิกฺขเว เจตนา, สา จ โข อพฺโพหาริกา’’ติ (ปารา. ๒๓๕) ภควตา วุตฺตา, ตสฺมา ‘‘อฺตฺร สุปินนฺตา’’ติ อยํ อนุปฺตฺติ อพฺโพหาริกตฺตา อนาปตฺติกรา ชาตา.

อกเต วีติกฺกเมติ ‘‘กุกฺกุจฺจายนฺตา น ภุฺชึสู’’ติอาทีสุ วิย วีติกฺกเม อกเต. สิถิลํ กโรนฺตีติ ปมํ สามฺโต พทฺธสิกฺขาปทํ โมเจตฺวา อตฺตโน อตฺตโน วิสเย อนาปตฺติกรณวเสน สิถิลํ กโรนฺตี. ทฺวารํ ททมานาติ อนาปตฺติยา ทฺวารํ ททมานา. เตเนวาห ‘‘อปราปรมฺปิ อนาปตฺตึ กุรุมานา’’ติ. นนุ จ สฺจริตฺตสิกฺขาปเท ‘‘อนฺตมโส ตงฺขณิกายปี’’ติ อนุปฺตฺติ อุปฺปชฺชมานา อาปตฺติเมว กโรนฺตี อุปฺปนฺนา, อถ กสฺมา ‘‘อนาปตฺตึ กุรุมานา อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อนฺตมโส ตงฺขณิกายปี’’ติอาทิ. อุทายินา ภิกฺขุนา ตงฺขณิกาย สฺจริตฺตํ อาปนฺนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตตฺตา ‘‘กเต วีติกฺกเม’’ติ วุตฺตํ. ปฺตฺติคติกาว โหตีติ มูลปฺตฺติยํเยว อนฺโตคธา โหติ.

มกฺกฏิวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สนฺถตภาณวาโร

วชฺชิปุตฺตกวตฺถุวณฺณนา

๔๓. เวสาลี นิวาโส เอเตสนฺติ เวสาลิกาติ อาห ‘‘เวสาลิวาสิโน’’ติ. วชฺชีสุ ชนปเท วสนฺตา วชฺชิโน, วชฺชีนํ ปุตฺตกา วชฺชิปุตฺตกาติ อาห ‘‘วชฺชิรฏฺเ เวสาลิยํ กุลานํ ปุตฺตา’’ติ. าตีนํ พฺยสนนฺติ าตีนํ วินาโส. โส ปน าตีนํ วินาโส ราชทณฺฑาทิการเณน โหตีติ อาห ‘‘ราชทณฺฑพฺยาธิมรณวิปฺปวาสนิมิตฺเตนา’’ติ. โภคานํ พฺยสนํ วินาโส โภคพฺยสนํ. ตฺจ หิรฺสุวณฺณทาสิทาสาทีนํ อุปโภคปริโภควตฺถูนํ ราชทณฺฑาทินา วินาโสติ อาห ‘‘เอส นโย ทุติยปเทปี’’ติ. น พุทฺธํ ครหามาติ ‘‘อสพฺพฺุ พุทฺโธ’’ติอาทินา พุทฺธํ น ครหาม. น ธมฺมครหิโนติ ‘‘อนิยฺยานิโก ธมฺโม’’ติอาทินา ธมฺมํ น ครหาม. น สงฺฆครหิโนติ ‘‘ทุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆ’’ติอาทินา สงฺฆํ น ครหาม. อฏฺตึสารมฺมเณสูติ ทส กสิณา ทส อสุภา ทสานุสฺสติโย จตฺตาโร พฺรหฺมวิหารา จตฺตาโร อารุปฺปา จตุธาตุววตฺถานํ อาหาเร ปฏิกูลสฺาติ อิเมสุ จตฺตาลีสกมฺมฏฺาเนสุ ปาฬิยํ อนาคตตฺตา อาโลกากาสกสิณทฺวยํ เปตฺวา อวเสสานิ คเหตฺวา วุตฺตํ. วิภตฺตา กุสลา ธมฺมาติ ‘‘อิมสฺมึ อารมฺมเณ อิทํ โหตี’’ติ เอวํ วิภตฺตา อุปจารชฺฌาเนน สทฺธึ ปมชฺฌานาทโย มหคฺคตกุสลา ธมฺมา. เตว ธมฺเมติ เต เอว กุสเล ธมฺเม. มชฺฌิมยาโม ภิกฺขูนํ นิทฺทากิลมถวิโนทโนกาสตฺตา น คหิโตติ อาห ‘‘ปมยามฺจ ปจฺฉิมยามฺจา’’ติ. สจฺจานิ พุชฺฌติ ปฏิวิชฺฌตีติ โพธิ, อรหตฺตมคฺคาณํ. อุปการกตฺเตน ตสฺส ปกฺเข ภวา โพธิปกฺขิยาติ อาห ‘‘โพธิสฺส ปกฺเข ภวานํ, อรหตฺตมคฺคาณสฺส อุปการกาน’’นฺติ. จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโคติ อิเม สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา. ‘‘คิหิปลิโพธํ อาวาสปลิโพธฺจ ปหายา’’ติ อิเมสํเยว ทฺวินฺนํ ปลิโพธานํ อุปจฺเฉทสฺส สุทุกฺกรภาวโต วุตฺตํ. ยุตฺตปยุตฺตาติ สมฺมเทว ยุตฺตา.

อาสยนฺติ อชฺฌาสยํ. สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย ภิกฺขุภาเว ตฺวา ปฏิเสวิตเมถุนานํ เตสํ วชฺชิปุตฺตกานํ อุปสมฺปทํ อนุชานนฺโต ภควา ‘‘ปาราชิโก โหติ อสํวาโส’’ติ เอวํ ปฺตฺตสิกฺขาปทํ สมูหนติ นามาติ อาห – ‘‘ยทิ หิ ภควา…เป… ปฺตฺตํ สมูหเนยฺยา’’ติ. ‘‘โย ปน ภิกฺขู’’ติ วุตฺตตฺตา ปน สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย ปฏิเสวิตเมถุนสฺส อุปสมฺปทํ อนุชานนฺโต น สมูหนติ นาม. น หิ โส ภิกฺขุ หุตฺวา ปฏิเสวติ. ‘‘โส อาคโต น อุปสมฺปาเทตพฺโพ’’ติ วจนโต สามเณรภูมิ อนุฺาตาติ อาห ‘‘สามเณรภูมิยํ ปน ิโต’’ติอาทิ. อุตฺตมตฺถนฺติ อรหตฺตํ นิพฺพานเมว วา.

วชฺชิปุตฺตกวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุพฺพิธวินยกถาวณฺณนา

๔๕. นีหริตฺวาติ สาสนโต นีหริตฺวา. ตถา หิ ‘‘ปฺจหุปาลิ องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นานุยุฺชิตพฺพํ. กตเมหิ ปฺจหิ? สุตฺตํ น ชานาติ, สุตฺตานุโลมํ น ชานาตี’’ติ (ปริ. ๔๔๒) เอวมาทิปริยตฺติสาสนโต สุตฺตํ สุตฺตานุโลมฺจ นีหริตฺวา ปกาเสสุํ, ‘‘อนาปตฺติ เอวํ อมฺหากํ อาจริยานํ อุคฺคโห ปริปุจฺฉาติ คณฺหาตี’’ติ เอวมาทิปริยตฺติสาสนโต อาจริยวาทํ นีหริตฺวา ปกาเสสุํ, ภารุกจฺฉกวตฺถุสฺมึ (ปารา. ๗๘) ‘‘อายสฺมา อุปาลิ เอวมาห อนาปตฺติ อาวุโส สุปินนฺเตนา’’ติ เอวมาทิปริยตฺติสาสนโต เอว อตฺตโนมตึ นีหริตฺวา ปกาเสสุํ. ตาย หิ อตฺตโนมติยา เถโร เอตทคฺคฏฺานํ ลภิ.

วุตฺตนฺติ นาคเสนตฺเถเรน วุตฺตํ. ปชฺชเต อเนน อตฺโถติ ปทํ, ภควตา กณฺาทิวณฺณปฺปวตฺติฏฺานํ อาหจฺจ วิเสเสตฺวา ภาสิตํ ปทํ อาหจฺจปทํ, ภควโตเยว วจนํ. เตนาห ‘‘อาหจฺจปทนฺติ สุตฺตํ อธิปฺเปต’’นฺติ. ‘‘อิทํ กปฺปติ, อิทํ น กปฺปตี’’ติ เอวํ อวิเสเสตฺวา ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ น กปฺปตี’ติ อปฺปฏิกฺขิตฺตํ, ตฺเจ อกปฺปิยํ อนุโลเมติ, กปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว น กปฺปตี’’ติอาทินา (มหาว. ๓๐๕) วุตฺตํ สามฺลกฺขณํ อิธ ‘‘รโส’’ติ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘รโสติ สุตฺตานุโลม’’นฺติ. ธมฺมสงฺคาหกปฺปภุติอาจริยปรมฺปรโต อานีตา อฏฺกถาตนฺติ อิธ ‘‘อาจริยวํโส’’ติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘อาจริยวํโสติ อาจริยวาโท’’ติ.

อิธ วินยวินิจฺฉยสฺส อธิกตตฺตา ตทนุจฺฉวิกเมว สุตฺตํ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘สุตฺตํ นาม สกเล วินยปิฏเก ปาฬี’’ติ. มหาปเทสาติ มหาโอกาสา, มหนฺตานิ วินยสฺส ปติฏฺาปนฏฺานานิ เยสุ ปติฏฺาปิโต วินโย วินิจฺฉยติ อสนฺเทหโต. มหนฺตานิ วา การณานิ มหาปเทสา, มหนฺตานิ วินยวินิจฺฉยการณานีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อตฺถโต ปน ‘ยํ, ภิกฺขเว’ติอาทินา วุตฺตา สาธิปฺปายา ปาฬิเยว มหาปเทสา’’ติ วทนฺติ. เตเนวาห ‘‘เย ภควตา เอวํ วุตฺตา’’ติอาทิ. อิเม จ มหาปเทสา ขนฺธเก อาคตา, ตสฺมา เตสํ วินิจฺฉยกถา ตตฺเถว อาวิ ภวิสฺสตีติ อิธ น วุจฺจติ. ยทิปิ ตตฺถ ตตฺถ ภควตา ปวตฺติตา ปกิณฺณกเทสนาว อฏฺกถา, สา ปน ธมฺมสงฺคาหเกหิ ปมํ ตีณิ ปิฏกานิ สงฺคายิตฺวา ตสฺส อตฺถวณฺณนานุรูเปเนว วาจนามคฺคํ อาโรปิตตฺตา ‘‘อาจริยวาโท’’ติ วุจฺจติ อาจริยา วทนฺติ สํวณฺเณนฺติ ปาฬึ เอเตนาติ กตฺวา. เตนาห – ‘‘อาจริยวาโท นาม…เป… อฏฺกถาตนฺตี’’ติ. ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺโหเยว จ พุทฺธวจนสฺส อตฺถสํวณฺณนาภูโต กถามคฺโค มหามหินฺทตฺเถเรน ตมฺพปณฺณิทีปํ อาภโต, ปจฺฉา ตมฺพปณฺณิเยหิ มหาเถเรหิ สีหฬภาสาย ปิโต นิกายนฺตรลทฺธิสงฺกรปริหรณตฺถํ. กิฺจาปิ อตฺตโนมติ สุตฺตาทีหิ สํสนฺทิตฺวาว ปริกปฺปียติ, ตถาปิ สา น สุตฺตาทีสุ วิเสสโต นิทฺทิฏฺาติ อาห ‘‘สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาเท มุฺจิตฺวา’’ติ. อนุพุทฺธิยาติ สุตฺตาทีนิเยว อนุคตพุทฺธิยา. นยคฺคาเหนาติ สุตฺตาทิโต ลพฺภมานนยคฺคหเณน.

อตฺตโนมตึ สามฺโต ปมํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตเมว วิเสเสตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. อิทานิ ตตฺถ ปฏิปชฺชิตพฺพาการํ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘ตํ ปน อตฺตโนมตึ คเหตฺวา กเถนฺเตนา’’ติอาทิ. อตฺเถนาติ อตฺตนา สลฺลกฺขิเตน อตฺเถน. อาจริยวาเท โอตาเรตพฺพาติ อาจริยวาเท าเณน อนุปฺปเวเสตพฺพา. สพฺพทุพฺพลาติ ปุคฺคลสฺส สยํ ปฏิภานภาวโต. ปมาทปาวเสน อาจริยวาทสฺส กทาจิ สุตฺตานุโลเมน อสํสนฺทนาปิ สิยา, โส น คเหตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘อาจริยวาโทปิ…เป… สเมนฺโต เอว คเหตพฺโพ’’ติ. สเมนฺตเมว คเหตพฺพนฺติ ยถา สุตฺเตน สํสนฺทติ, เอวํ มหาปเทสโต อตฺถา อุทฺธริตพฺพาติ ทสฺเสติ. สุตฺตานุโลมสฺส สุตฺเตกเทสตฺเตปิ สุตฺเต วิย ‘‘อิทํ กปฺปติ, อิทํ น กปฺปตี’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา อาหจฺจภาสิตํ กิฺจิ นตฺถีติ อาห – ‘‘สุตฺตานุโลมโต หิ สุตฺตเมว พลวตร’’นฺติ. อปฺปฏิวตฺติยนฺติ อปฺปฏิพาหิยํ. การกสงฺฆสทิสนฺติ ปมาณตฺตา สงฺคีติการกสงฺฆสทิสํ. พุทฺธานํ ิตกาลสทิสนฺติ อิมินา พุทฺเธเหว กถิตตฺตา ธรมานพุทฺธสทิสนฺติ วุตฺตํ โหติ. สุตฺเต หิ ปฏิพาหิเต พุทฺโธว ปฏิพาหิโต โหติ. สกวาที สุตฺตํ คเหตฺวา กเถตีติ สกวาที อตฺตโน สุตฺตํ คเหตฺวา โวหรติ. ปรวาที สุตฺตานุโลมนฺติ อฺนิกายวาที อตฺตโน นิกาเย สุตฺตานุโลมํ คเหตฺวา กเถติ. เขปํ วา ครหํ วา อกตฺวาติ ‘‘กึ อิมินา’’ติ เขปํ วา ‘‘กิเมส พาโล วทตี’’ติ ครหํ วา อกตฺวา. สุตฺตานุโลมนฺติ ปรวาทินา วุตฺตํ อฺนิกาเย สุตฺตานุโลมํ. สุตฺเต โอตาเรตพฺพนฺติ สกวาทินา อตฺตโน สุตฺเต โอตาเรตพฺพํ. สุตฺตสฺมึเยว าตพฺพนฺติ อตฺตโน สุตฺเตเยว าตพฺพํ. เอวํ เสสวาเรสุปิ อตฺถโยชนา กาตพฺพา. อยนฺติ สกวาที. ปโรติ อฺนิกายวาที. เอวํ เสเสสุปิ.

นนุ จ ‘‘สุตฺตานุโลมโต สุตฺตเมว พลวตร’’นฺติ เหฏฺา วุตฺตํ, อิธ ปน ‘‘สุตฺตานุโลเม สุตฺตํ โอตาเรตพฺพ’’นฺติอาทิ กสฺมา วุตฺตนฺติ? นายํ วิโรโธ. ‘‘สุตฺตานุโลมโต สุตฺตเมว พลวตร’’นฺติ หิ อิทํ สกมเตเยว สุตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ หิ สกมติปริยาปนฺนเมว สุตฺตาทึ สนฺธาย ‘‘อตฺตโนมติ สพฺพทุพฺพลา, อตฺตโนมติโต อาจริยวาโท พลวตโร, อาจริยวาทโต สุตฺตานุโลมํ พลวตรํ, สุตฺตานุโลมโต สุตฺตเมว พลวตร’’นฺติ จ วุตฺตํ. อิธ ปน ปรวาทินา อานีตํ อฺนิกาเย สุตฺตํ สนฺธาย ‘‘สุตฺตานุโลเม สุตฺตํ โอตาเรตพฺพ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺมา ปรวาทินา อานีตํ สุตฺตาทึ อตฺตโน สุตฺตานุโลมอาจริยวาทอตฺตโนมตีสุ โอตาเรตฺวา สเมนฺตํเยว คเหตพฺพํ, อิตรํ น คเหตพฺพนฺติ อยํ นโย อิธ วุจฺจตีติ น โกจิ ปุพฺพาปรวิโรโธ.

พาหิรกสุตฺตนฺติ ติสฺโส สงฺคีติโย อนารุฬฺหคุฬฺหเวสฺสนฺตราทีนิ มหาสงฺฆิกนิกายวาสีนํ สุตฺตานิ. เวทลฺลาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน คุฬฺหอุมฺมคฺคาทิคฺคหณํ เวทิตพฺพํ, อิตรํ คารยฺหสุตฺตํ น คเหตพฺพํ. อตฺตโนมติยเมว าตพฺพนฺติ อิมินา อฺนิกายโต อานีตสุตฺตโตปิ สกนิกาเย อตฺตโนมติเยว พลวตราติ ทสฺเสติ. สกวาที สุตฺตํ คเหตฺวา กเถติ, ปรวาทีปิ สุตฺตเมวาติเอวมาทินา สมานชาติกานํ วเสน วาโร น วุตฺโต, สุตฺตสฺส สุตฺเตเยว โอตารณํ ภินฺนํ วิย หุตฺวา น ปฺายติ, วุตฺตนเยเนว จ สกฺกา โยเชตุนฺติ.

อิทานิ สกวาทีปรวาทีนํ กปฺปิยากปฺปิยาทิภาวํ สนฺธาย วิวาเท อุปฺปนฺเน ตตฺถ ปฏิปชฺชิตพฺพวิธึ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘อถ ปนายํ กปฺปิยนฺติ คเหตฺวา กเถตี’’ติอาทิ. ตตฺถ สุตฺเต จ สุตฺตานุโลเม จ โอตาเรตพฺพนฺติ สกวาทินา อตฺตโนเยว สุตฺเต จ สุตฺตานุโลเม จ โอตาเรตพฺพํ. ปโร การณํ น วินฺทตีติ ปรวาที การณํ น ลภติ. สุตฺตโต พหุํ การณฺจ วินิจฺฉยฺจ ทสฺเสตีติ ปรวาที อตฺตโน สุตฺตโต พหุํ การณํ วินิจฺฉยฺจ อาหริตฺวา ทสฺเสติ. สาธูติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อกปฺปิเยว าตพฺพนฺติ อิมินา อตฺตโน นิกาเย สุตฺตาทีนิ อลภนฺเตน สกวาทินา ปรวาทีวจเนเยว าตพฺพนฺติ วทติ. ทฺวินฺนมฺปิ การณจฺฉายา ทิสฺสตีติ สกวาทีปรวาทีนํ อุภินฺนมฺปิ กปฺปิยากปฺปิยภาวสาธกํ การณปติรูปกํ ทิสฺสติ. ยทิ ทฺวินฺนมฺปิ การณจฺฉายา ทิสฺสติ, กสฺมา ‘‘อกปฺปิเยว าตพฺพ’’นฺติ อาห ‘‘วินยฺหิ ปตฺวา’’ติอาทิ. ‘‘วินยํ ปตฺวา’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘กปฺปิยากปฺปิยวิจารณมาคมฺมา’’ติ. รุนฺธิตพฺพนฺติอาทีสุ ทุพฺพิฺเยฺยวินิจฺฉเย กปฺปิยากปฺปิยภาเว สติ กปฺปิยนฺติ คหณํ รุนฺธิตพฺพํ, อกปฺปิยนฺติ คหณํ คาฬฺหํ กาตพฺพํ. อปราปรํ ปวตฺตกปฺปิยคหณโสตํ ปจฺฉินฺทิตพฺพํ, ครุกภาวสงฺขาเต อกปฺปิยภาเวเยว าตพฺพนฺติ อตฺโถ.

พหูหิ สุตฺตวินิจฺฉยการเณหีติ พหูหิ สุตฺเตหิ เจว ตโต อานีตวินิจฺฉยการเณหิ จ. อตฺตโน คหณํ น วิสฺสชฺเชตพฺพนฺติ สกวาทินา อตฺตโน อกปฺปิยนฺติ คหณํ น วิสฺสชฺเชตพฺพํ. อิทานิ วุตฺตเมวตฺถํ นิคเมนฺโต ‘‘เอว’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ โยติ สกวาทีปรวาทีสุ โย โกจิ. เกจิ ปน ‘‘สกวาทีสุเยว โย โกจิ อิธาธิปฺเปโต’’ติ วทนฺติ, เอวํ สนฺเต ‘‘อถ ปนายํ กปฺปิยนฺติ คเหตฺวา กเถตี’’ติอาทีสุ สพฺพตฺถ อุโภปิ สกวาทิโนเยว สิยุํ เหฏฺา วุตฺตสฺเสว นิคมนวเสน ‘‘เอว’’นฺติอาทีนํ วุตฺตตฺตา, ตสฺมา ตํ น คเหตพฺพํ. อติเรกการณํ ลภตีติ เอตฺถ สุตฺตาทีสุ ปุริมํ ปุริมํ อติเรกการณํ นาม, โย วา สุตฺตาทีสุ จตูสุ พหุตรํ การณํ ลภติ, โส อติเรกการณํ ลภติ นาม.

สุฏฺุ ปวตฺติ เอตสฺสาติ สุปฺปวตฺติ, สุฏฺุ ปวตฺตติ สีเลนาติ วา สุปฺปวตฺติ. เตนาห ‘‘สุปฺปวตฺตีติ สุฏฺุ ปวตฺต’’นฺติ. วาจาย อุคฺคตํ วาจุคฺคตํ, วจสา สุคฺคหิตนฺติ วุตฺตํ โหติ. สุตฺตโตติ อิมสฺส วิวรณํ ‘‘ปาฬิโต’’ติ. เอตฺถ จ ‘‘สุตฺตํ นาม สกลํ วินยปิฏก’’นฺติ วุตฺตตฺตา ปาฬิโตติ ตทตฺถทีปิกา อฺาเยว ปาฬิ เวทิตพฺพา. อนุพฺยฺชนโสติ อิมสฺส วิวรณํ ‘‘ปริปุจฺฉโต จ อฏฺกถาโต จา’’ติ. ปาฬึ อนุคนฺตฺวา อตฺถสฺส พฺยฺชนโต ปกาสนโต อนุพฺยฺชนนฺติ หิ ปริปุจฺฉา อฏฺกถา จ วุจฺจติ. เอตฺถ จ อฏฺกถาย วิสุํ คหิตตฺตา ปริปุจฺฉาติ เถรวาโท วุตฺโต. สงฺฆเภทสฺส ปุพฺพภาเค ปวตฺตกลหสฺเสตํ อธิวจนํ สงฺฆราชีติ. กุกฺกุจฺจโกติ อณุมตฺเตสุปิ วชฺเชสุ ภยทสฺสนวเสน กุกฺกุจฺจํ อุปฺปาเทนฺโต. ตนฺตึ อวิสํวาเทตฺวาติ ปาฬึ อฺถา อกตฺวา. อโวกฺกมนฺโตติ อนติกฺกมนฺโต.

วิตฺถุนตีติ อตฺถํ อทิสฺวา นิตฺถุนติ. วิปฺผนฺทตีติ กมฺปติ. สนฺติฏฺิตุํ น สกฺโกตีติ เอกสฺมึเยว อตฺเถ ปติฏฺาตุํ น สกฺโกติ. เตนาห ‘‘ยํ ยํ ปเรน วุจฺจติ, ตํ ตํ อนุชานาตี’’ติ. ปรวาทํ คณฺหาตีติ ‘‘อุจฺฉุมฺหิ กสฏํ ยาวชีวิกํ, รโส สตฺตาหกาลิโก, ตทุภยวินิมุตฺโต จ อุจฺฉุ นาม วิสุํ นตฺถิ, ตสฺมา อุจฺฉุปิ วิกาเล วฏฺฏตี’’ติ ปรวาทินา วุตฺเต ตมฺปิ คณฺหาติ. เอเกกโลมนฺติ ปลิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยมฺหีติ ยสฺมึ ปุคฺคเล. ปริกฺขยํ ปริยาทานนฺติ อตฺถโต เอกํ.

อาจริยปรมฺปรา โข ปนสฺส สุคฺคหิตา โหตีติ เอตฺถ อาจริยปรมฺปราติ อาจริยานํ วินิจฺฉยปรมฺปรา. เตเนว วกฺขติ ‘‘ยถา อาจริโย จ อาจริยาจริโย จ ปาฬิฺจ ปริปุจฺฉฺจ วทนฺติ, ตถา าตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ปุพฺพาปรานุสนฺธิโตติ ‘‘อิทํ ปุพฺพวจนํ, อิทํ ปรวจนํ, อยมนุสนฺธี’’ติ เอวํ ปุพฺพาปรานุสนฺธิโต. อาจริยปรมฺปรนฺติ อิมสฺเสว เววจนํ เถรวาทงฺคนฺติ, เถรปฏิปาฏินฺติ อตฺโถ. ทฺเว ตโย ปริวฏฺฏาติ ทฺเว ติสฺโส ปรมฺปรา.

อิเมหิ จ ปน ตีหิ ลกฺขเณหีติ ‘‘สุตฺตมสฺส สฺวาคตํ โหตี’’ติอาทินา เหฏฺา วุตฺเตหิ ตีหิ ลกฺขเณหิ. เอตฺถ จ ปเมน ลกฺขเณน วินยสฺส สุฏฺุ อุคฺคหิตภาโว วุตฺโต, ทุติเยน อุคฺคหิเตน อจลตา สุปฺปติฏฺิตตา วุตฺตา, ตติเยน ยํ ปาฬิยา อฏฺกถาย จ นตฺถิ, ตมฺปิ อาจริยวจเนน วินิจฺฉินิตุํ สมตฺถตา วุตฺตา. โอติณฺเณ วตฺถุสฺมินฺติ โจทนาสงฺขาเต วีติกฺกมสงฺขาเต วา วตฺถุสฺมึ สงฺฆมชฺเฌ โอติณฺเณ, โอสเฏติ อตฺโถ. วุตฺตเมว วิภาเวนฺโต ‘‘โจทเกน จ จุทิตเกน จ วุตฺเต วตฺตพฺเพ’’ติ อาห. เกจิ ปน ‘‘โจทเกน โอติณฺเณ วตฺถุสฺมึ จุทิตเกน จ วุตฺเต วตฺตพฺเพ’’ติ เอวํ โยเชนฺติ. อปเร ปน ‘‘โจทเกน จ จุทิตเกน จ วุตฺเต วินยธเรน จ วตฺตพฺเพ’’ติ เอวมฺปิ โยเชนฺติ. ‘‘โจทเกน จ จุทิตเกน จ วุตฺเต วตฺตพฺเพ’’ติ อยเมว ปน โยชนา สุนฺทรตราติ เวทิตพฺพา. วตฺถุ โอโลเกตพฺพนฺติ ตสฺส ตสฺส สิกฺขาปทสฺส วตฺถุ โอโลเกตพฺพํ. ‘‘ติเณน วา ปณฺเณน วา…เป… โย อาคจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๑๗) หิ อิทํ นิสฺสคฺคิเย อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปทสฺส วตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ถุลฺลจฺจยทุพฺภาสิตาปตฺตีนํ มาติกาย อนาคตตฺตา ‘‘ปฺจนฺนํ อาปตฺตีนํ อฺตร’’นฺติ วุตฺตํ. อฺตรํ วา อาปตฺตินฺติ ‘‘กาเล วิกาลสฺี อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส, กาเล เวมติโก อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ เอวมาทินา (ปาจิ. ๒๕๐) อาคตํ ทุกฺกฏํ สนฺธาย วุตฺตํ. สิกฺขาปทนฺตเรสูติ วินีตวตฺถุํ อนฺโตกตฺวา เอเกกสฺมึ สิกฺขาปทนฺตเร.

สุขุมาติ อตฺตโนปิ ทุวิฺเยฺยสภาวสฺส ลหุปริวตฺติโน จิตฺตสฺส สีฆปริวตฺติตาย วุตฺตํ. เตนาห ‘‘จิตฺตลหุกา’’ติ. จิตฺตํ ลหุ สีฆปริวตฺติ เอเตสนฺติ จิตฺตลหุกา. เตติ เต วีติกฺกเม. ตํวตฺถุกนฺติ เต อทินฺนาทานมนุสฺสวิคฺคหวีติกฺกมา วตฺถุ อธิฏฺานํ การณเมตสฺสาติ ตํวตฺถุกํ. สีลานิ โสเธตฺวาติ ยํวตฺถุกํ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปนฺนํ, ตํ อมนสิกริตฺวา อวเสสสีลานิ โสเธตฺวา. ปากฏภาวโต สุขวฬฺชนตาย จ ‘‘ทฺวตฺตึสาการํ ตาว มนสิ กโรหี’’ติ วุตฺตํ. อฺสฺมึ ปน กมฺมฏฺาเน กตปริจเยน ตเทว มนสิ กาตพฺพํ. กมฺมฏฺานํ ฆฏยตีติ อนฺตรนฺตรา ขณฺฑํ อทสฺเสตฺวา จิตฺเตน สทฺธึ อาลมฺพนภาเวน จิรกาลํ ฆฏยติ. สงฺขารา ปากฏา หุตฺวา อุปฏฺหนฺตีติ วิปสฺสนากมฺมฏฺานิโก เจ, ตสฺส สงฺขารา ปากฏา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. สเจ กตปาราชิกวีติกฺกโม ภเวยฺย, ตสฺส สติปิ อสริตุกามตาย วิปฺปฏิสารวตฺถุวเสน ปุนปฺปุนํ ตํ อุปฏฺหตีติ จิตฺเตกคฺคตํ น วินฺทติ. เตน วุตฺตํ ‘‘กมฺมฏฺานํ น ฆฏยตี’’ติอาทิ. อตฺตนา ชานาตีติ สยเมว ชานาติ. ปจฺจตฺเต เจตํ กรณวจนํ, อตฺตา ชานาตีติ วุตฺตํ โหติ. อฺา จ เทวตา ชานนฺตีติ อารกฺขเทวตาหิ อฺา ปรจิตฺตวิทุนิโย เทวตา จ ชานนฺติ.

นิฏฺิตา จตุพฺพิธวินยกถาวณฺณนา

วินยธรสฺส จ ลกฺขณาทิกถาวณฺณนา.

ภิกฺขุปทภาชนียวณฺณนา

ตสฺมาติ ยสฺมา ปน-สทฺทํ อปเนตฺวา อนิยเมน ปุคฺคลทีปกํ โย-สทฺทเมว อาห, ตสฺมา. เอตฺถาติ อิมสฺมึ โย-สทฺเท. ปน-สทฺทสฺส นิปาตมตฺตตฺตา โย-สทฺทสฺเสว อตฺถํ ปกาเสนฺโต ‘‘โย โกจีติ วุตฺตํ โหตี’’ติ อาห. โย โกจิ นามาติ โย วา โส วา โย โกจีติ วุตฺโต. วาสธุรยุตฺโต วาติ วิปสฺสนาธุรยุตฺโต วา. สีเลสูติ ปกตีสุ.

ภิกฺขตีติ ยาจติ. ลภนฺโต วา อลภนฺโต วาติ โย โกจิ ภิกฺขติ ภิกฺขํ เอสติ คเวสติ, โส ตํ ลภตุ วา มา วา, ตถาปิ ภิกฺขตีติ ภิกฺขูติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. อริยาย ยาจนายาติ ‘‘อุทฺทิสฺส อริยา ติฏฺนฺติ, เอสา อริยาน ยาจนา’’ติ เอวํ วุตฺตาย อริยยาจนาย, น กปณทฺธิกวณิพฺพกยาจกานํ วิย ‘‘เทหิ เทหี’’ติ เอวํ ปวตฺตยาจนาย. ภิกฺขาจริยนฺติ อุฺฉาจริยํ. อชฺฌุปคตตฺตาติ อนุฏฺิตตฺตา. กาชภตฺตนฺติ กาเชหิ อานีตํ ภตฺตํ. อคฺฆผสฺสวณฺณเภเทนาติ อคฺฆาทีนํ ปุริมปกติวิชเหน. ปุริมปกติวิชหนฺเหตฺถ เภโทติ อธิปฺเปตํ. โธวิตฺวา อปเนตุํ อสกฺกุเณยฺยสภาวํ มลํ, ตถา อปเนตุํ สกฺกุเณยฺยสภาวา ชลฺลิกา. ภินฺนปฏธโรติ นิพฺพจนํ ภินฺนปฏธเร ภิกฺขุ-สทฺทสฺส นิรุฬฺหตฺตา กตํ.

อุปนิสฺสยสมฺปนฺนนฺติ ปุพฺเพ อฏฺปริกฺขารทานูปนิสฺสยสมฺปนฺนํ. โย หิ จีวราทิเก อฏฺ ปริกฺขาเร ปตฺตจีวรเมว วา โสตาปนฺนาทิอริยสฺส ปุถุชฺชนสฺเสว วา สีลสมฺปนฺนสฺส ทตฺวา ‘‘อิทํ ปริกฺขารทานํ อนาคเต เอหิภิกฺขุภาวาย ปจฺจโย โหตู’’ติ ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ, ตสฺส ตํ สติ อธิการสมฺปตฺติยํ พุทฺธานํ สมฺมุขีภาเว อิทฺธิมยปริกฺขารลาภาย สํวตฺตตีติ เวทิตพฺพํ. พฺรหฺมโฆสนฺติ อุตฺตมโฆสํ, พฺรหฺมุโน โฆสสทิสํ วา โฆสํ. พฺรหฺมจริยนฺติ สาสนพฺรหฺมจริยํ มคฺคพฺรหฺมจริยฺจ. ทุกฺขสฺส สมฺมา อนฺตกิริยายาติ โยเชตพฺพํ. ภณฺฑูติ มุณฺโฑ. วาสีติ ทนฺตกฏฺจฺเฉทนวาสิ. พนฺธนนฺติ กายพนฺธนํ. ยุตฺโต ภาวนานุโยโค อสฺสาติ ยุตฺตโยโค, ตสฺส ยุตฺตโยคสฺส, ภาวนานุโยคมนุยุตฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. อิริยาปถสมฺปนฺนตาวิภาวนตฺถํ ‘‘สฏฺิวสฺสิกตฺเถโร วิยา’’ติ วุตฺตํ. พุทฺโธว ปพฺพชฺชาจริโย อุปสมฺปทาจริโย จ อสฺสาติ พุทฺธาจริยโก. ปมโพธิยมฺปิ ปมกาเลเยว เสสอุปสมฺปทานํ อภาโวติ อาห ‘‘ปมโพธิยํ เอกสฺมึ กาเล’’ติ. ปฺจ ปฺจวคฺคิยตฺเถราติ ปฺจวคฺคิยตฺเถรา ปฺจ. ตีณิ สตนฺติ ตีณิ สตานิ, คาถาพนฺธสุขตฺถํ วจนวิปลฺลาโส กโต. เอโก จ เถโรติ องฺคุลิมาลตฺเถรํ สนฺธาย วุตฺตํ. น วุตฺตาติ อฏฺกถายํ น วุตฺตา. ตตฺถาติ วินยปาฬิยํ.

เวฬุวนมหาวิหาเร คนฺธกุฏิยํ นิสินฺโนเยว ภควา มหากสฺสปตฺเถรสฺส อตฺตานํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิตภาวํ วิทิตฺวา ตสฺส ปจฺจุคฺคมนํ กโรนฺโต ติคาวุตํ มคฺคํ เอกโกว คนฺตฺวา พหุปุตฺตนิคฺโรธมูเล ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสินฺโน อตฺตโน สนฺติกํ อาคนฺตฺวา ปรมนิปจฺจการํ ทสฺเสตฺวา ‘‘สตฺถา เม ภนฺเต ภควา, สาวโกหมสฺมิ, สตฺถา เม ภนฺเต ภควา, สาวโกหมสฺมี’’ติ ติกฺขตฺตุํ อตฺตโน สาวกตฺตํ สาเวตฺวา ิตสฺส มหากสฺสปตฺเถรสฺส นิปจฺจการมหตฺตตํ อตฺตโน จ มหานุภาวตํ ทีเปตุํ ยสฺส อฺสฺส อชานํเยว ‘‘ชานามี’’ติ ปฏิฺสฺส พาหิรกสฺส สตฺถุโน เอวํ สพฺพเจตสา สมนฺนาคโต ปสนฺนจิตฺโต สาวโก เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กเรยฺย, ตสฺส วณฺฏจฺฉินฺนตาลปกฺกํ วิย คีวโต มุทฺธาปิ วิปเตยฺย, สตฺตธา วา ผเลยฺยาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โย โข, กสฺสป, เอวํ สพฺพเจตสา สมนฺนาคตํ สาวกํ อชานํเยว วเทยฺย ‘ชานามี’ติ, อปสฺสํเยว วเทยฺย ‘ปสฺสามี’ติ, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺย, สตฺตธา วา ผเลยฺย, อหํ โข, กสฺสป, ชานํเยว วทามิ ‘ชานามี’ติ, ปสฺสํเยว วทามิ ‘ปสฺสามี’’’ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔) ติ วตฺวา ชาติมทมานมทรูปมทปฺปหานตฺถํ ตีหิ โอวาเทหิ มหากสฺสปตฺเถรํ โอวทนฺโต ‘‘ตสฺมาติห เต กสฺสปา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ (สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๑๕๔) ตสฺมาติหาติ ตสฺมา อิจฺเจว วุตฺตํ โหติ, ยสฺมา อหํ ชานนฺโตว ‘‘ชานามี’’ติ ปสฺสนฺโต เอว จ ‘‘ปสฺสามี’’ติ วทามิ, ตสฺมาติ อตฺโถ. ติ-การ -การา นิปาตา. อิหาติ วา อิมสฺมึ สาสเน, -กาโร ปทสนฺธิวเสน อาคโต. เอวํ สิกฺขิตพฺพนฺติ อิทานิ วุจฺจมานากาเรน สิกฺขิตพฺพํ. ติพฺพนฺติ พหลํ มหนฺตํ. หิโรตฺตปฺปฺจาติ หิรี จ โอตฺตปฺปฺจ. ปจฺจุปฏฺิตํ ภวิสฺสตีติ อุปสงฺกมนโต ปมตรเมว อุปฏฺิตํ ภวิสฺสติ. ตถา หิ สติ เตสํ ปุรโต อสฺส สคารวสปฺปติสฺสวตา สณฺาติ. โย จ เถราทีสุ หิโรตฺตปฺปํ อุปฏฺเปตฺวา อุปสงฺกมติ, เถราทโยปิ ตํ สหิริกา สโอตฺตปฺปา จ หุตฺวา อุปสงฺกมนฺตีติ อยเมตฺถ อานิสํโส. กุสลูปสํหิตนฺติ กุสลนิสฺสิตํ, อนวชฺชธมฺมนิสฺสิตนฺติ อตฺโถ. อฏฺึ กตฺวาติ อตฺตานํ เตน ธมฺเมน อฏฺิกํ กตฺวา, ตํ วา ธมฺมํ ‘‘เอส มยฺหํ ธมฺโม’’ติ อฏฺึ กตฺวา. มนสิ กตฺวาติ จิตฺเต เปตฺวา. สพฺพเจตสา สมนฺนาหริตฺวาติ จิตฺตสฺส โถกมฺปิ พหิ คนฺตุํ อเทนฺโต สพฺเพน สมนฺนาหารจิตฺเตน สมนฺนาหริตฺวา. โอหิตโสโตติ ปิตโสโต, ธมฺเม นิหิตโสโตติ อตฺโถ. เอวฺหิ เต สิกฺขิตพฺพนฺติ าณโสตฺจ ปสาทโสตฺจ โอทหิตฺวา ‘‘มยา เทสิตํ ธมฺมํ สกฺกจฺจเมว สุณิสฺสามี’’ติ เอวฺหิ เต สิกฺขิตพฺพํ. สาตสหคตา จ เม กายคตาสตีติ อสุเภสุ เจว อานาปาเน จ ปมชฺฌานวเสน สุขสมฺปยุตฺตา กายคตาสติ. โย จ ปนายํ ติวิโธ โอวาโท, เถรสฺส อยเมว ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ อโหสิ.

กสิณารมฺมณํ รูปาวจรชฺฌานํ รูปสฺา. สฺาสีเสน เหตฺถ ฌานํ วุตฺตํ, ตเทว จ อุทฺธุมาตกปฏิภาคารมฺมณตฺตา ‘‘อุทฺธุมาตกสฺา’’ติ วุตฺตํ. โสปากสามเณโร ภควตา ปุฏฺโ ‘‘เอเต ทฺเว รูปาวจรภาเวน เอกตฺถา, พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ อาห. อารทฺธจิตฺโตติ อาราธิตจิตฺโต. ครุธมฺมปฏิคฺคหณาทิอุปสมฺปทา อุปริ วิตฺถารโต สยเมว อาวิ ภวิสฺสติ.

กลฺยาณปุถุชฺชนาทโยติ เอตฺถ พหูนํ นานปฺปการานํ สกฺกายทิฏฺิอาทีนํ อวิหตตฺตา ชเนติ, ตาหิ วา ชนิโตติ ปุถุชฺชโน, กลฺยาโณ จ โส ปุถุชฺชโน จาติ กลฺยาณปุถุชฺชโน, โส อาทิ เยสํ โสตาปนฺนาทีนํ เต กลฺยาณปุถุชฺชนาทโย. กลฺยาณคฺคหเณน เจตฺถ อนฺธปุถุชฺชนํ นิวตฺเตติ. ทฺวิธา หิ ปุถุชฺชนา อนฺธปุถุชฺชโน กลฺยาณปุถุชฺชโนติ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ทุเว ปุถุชฺชนา วุตฺตา, พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา;

อนฺโธ ปุถุชฺชโน เอโก, กลฺยาเณโก ปุถุชฺชโน’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๗; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒; สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๖๑; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๕๑);

ภทฺราย ปฺาย ภทฺราย วิมุตฺติยาติ โยเชตพฺพํ. สีเลนาติอาทีสุ สีลนฺติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ. สมาธีติ วิปสฺสนาปาทกา อฏฺ สมาปตฺติโย. ปฺาติ โลกิยโลกุตฺตราณํ. วิมุตฺตีติ อริยผลวิมุตฺติ. วิมุตฺติาณทสฺสนนฺติ เอกูนวีสติวิธํ ปจฺจเวกฺขณาณํ. ยถาสมฺภเวน เจตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา. กลฺยาณปุถุชฺชนสฺส หิ สีลาทโย ตโย เอว สมฺภวนฺติ, อริยานํ ปน สพฺเพปิ สีลาทโย. สาโร ภิกฺขูติปิ กลฺยาณปุถุชฺชนาทโยว วุตฺตาติ อาห ‘‘เตหิเยว สีลสาราทีหี’’ติอาทิ. อถ วา นิปฺปริยายโต ขีณาสโวว สาโร ภิกฺขุ นามาติ อาห ‘‘วิคตกิเลสเผคฺคุภาวโต วา’’ติอาทิ.

โยปิ กลฺยาณปุถุชฺชโน อนุโลมปฏิปทาย ปริปูรการี สีลสมฺปนฺโน อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โภชเน มตฺตฺู ชาคริยานุโยคมนุยุตฺโต ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตํ โพธิปกฺขิยานํ ธมฺมานํ ภาวนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ ‘‘อชฺช วา สฺเว วา อฺตรํ สามฺผลํ อธิคมิสฺสามี’’ติ, โสปิ วุจฺจติ สิกฺขตีติ เสโขติ อาห ‘‘ปุถุชฺชนกลฺยาณเกน สทฺธิ’’นฺติ. สตฺต อริยาติ จตฺตาโร มคฺคฏฺา, เหฏฺิมา จ ตโย ผลฏฺาติ อิเม สตฺต อริยา. ติสฺโส สิกฺขาติ อธิสีลาทิกา ติสฺโส สิกฺขา. สิกฺขาสุ ชาโตติ วา เสโข. อริยปุคฺคโล หิ อริยาย ชาติยา ชายมาโน สิกฺขาสุ ชายติ, น โยนิยํ. สิกฺขนสีโลติ วา เสโข, ปุคฺคลาธิฏฺานาย วา กถาย เสขสฺส อยนฺติ อนฺสาธารณา มคฺคผลตฺตยธมฺมา เสขปริยาเยน วุตฺตา. อเสโขติ จ ยตฺถ เสขภาวาสงฺกา อตฺถิ, ตตฺถายํ ปฏิเสโธติ โลกิยนิพฺพาเนสุ อเสขภาวานาปตฺติ ทฏฺพฺพา. สีลสมาธิปฺาสงฺขาตา หิ สิกฺขา อตฺตโน ปฏิปกฺขกิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา ปริสุทฺธา, อุปกฺกิเลสานํ อารมฺมณภาวมฺปิ อนุปคมนโต เอตา สิกฺขาติ วตฺตุํ ยุตฺตา, อฏฺสุปิ มคฺคผเลสุ วิชฺชนฺติ, ตสฺมา จตุมคฺคเหฏฺิมผลตฺตยสมงฺคิโน วิย อรหตฺตผลสมงฺคีปิ ตาสุ สิกฺขาสุ ชาโตติ ตํสมงฺคิโน อรหโต อิตเรสํ วิย เสขตฺเต สติ เสขสฺส อยนฺติ, สิกฺขา สีลํ เอตสฺสาติ จ เสโขติ วตฺตพฺโพ สิยาติ ตํ นิวตฺตนตฺถํ ‘‘อเสโข’’ติ ยถาวุตฺตเสขภาวปฏิเสโธ กโต. อรหตฺตผเลหิ ปวตฺตมานา สิกฺขา ปรินิฏฺิตสิกฺขากิจฺจตฺตา น สิกฺขากิจฺจํ กโรนฺติ, เกวลํ สิกฺขาผลภาเวเนว ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา ตา น สิกฺขาวจนํ อรหนฺติ, นาปิ ตํสมงฺคี เสขวจนํ, น จ สิกฺขนสีโล, สิกฺขาสุ ชาโตติ จ วตฺตพฺพตํ อรหติ, เหฏฺิมผเลสุ ปน สิกฺขา สกทาคามิมคฺควิปสฺสนาทีนํ อุปนิสฺสยภาวโต สิกฺขากิจฺจํ กโรนฺตีติ สิกฺขาวจนํ อรหนฺติ, ตํสมงฺคิโน จ เสขวจนํ สิกฺขนสีลา, สิกฺขาสุ ชาตาติ จ วตฺตพฺพตํ อรหนฺติ ‘‘สิกฺขนฺตีติ เสขา’’ติ อปริโยสิตสิกฺขานํ ทสฺสิตตฺตา, ‘‘น สิกฺขตีติ อเสโข’’ติ อิมินา ปริโยสิตสิกฺโข ทสฺสิโต, น สิกฺขาย รหิโตติ อาห – ‘‘เสกฺขธมฺเม อติกฺกมฺม …เป… ขีณาสโว อเสโขติ วุจฺจตี’’ติ. วุทฺธิปฺปตฺตสิกฺโข วา อเสโขติ เอตสฺมึ อตฺเถ เสขธมฺเมสุ เอว ิตสฺส กสฺสจิ อริยสฺส อเสขภาวาปตฺตีติ อรหตฺตมคฺคธมฺมา วุทฺธิปฺปตฺตา จ ยถาวุตฺเตหิ อตฺเถหิ เสขาติ กตฺวา ตํสมงฺคิโน อคฺคมคฺคฏฺสฺส อเสขภาโว อาปนฺโนติ? น, ตํสทิเสสุ ตพฺโพหารโต. อรหตฺตมคฺคโต หิ นินฺนานากรณํ อรหตฺตผลํ เปตฺวา ปริฺากิจฺจกรณํ วิปากภาวฺจ, ตสฺมา เต เอว เสขา อคฺคผลธมฺมภาวํ อาปนฺนาติ สกฺกา วตฺตุํ. กุสลสุขโต จ วิปากสุขํ สนฺตตรตาย ปณีตตรนฺติ วุทฺธิปฺปตฺตา จ เต ธมฺมา โหนฺตีติ ตํสมงฺคี อเสโขติ วุจฺจตีติ.

สพฺพนฺติเมน ปริยาเยนาติ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน. อุปสมฺปทากมฺมสฺส อธิการตฺตา ‘‘ปฺจวคฺคกรณีเย’’ติ วุตฺตํ. ปฺจนฺนํ วคฺโค สมูโหติ ปฺจวคฺโค, ปฺจปริมาณยุตฺโต วา วคฺโค ปฺจวคฺโค, เตน กตฺตพฺพํ กมฺมํ ปฺจวคฺคกรณียํ. ยาวติกา ภิกฺขูติ ยตฺตกา ภิกฺขู. กมฺมปฺปตฺตาติ กมฺมารหา ปาราชิกํ อนาปนฺนา อนุกฺขิตฺตา จ. อุปสมฺปทากมฺมสฺส ปฺจวคฺคกรณียตฺตา ปฺเจว ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา เอตฺตเกหิปิ กมฺมสิทฺธิโต, อิตเร ฉนฺทารหา. ตฺติจตุตฺเถนาติ เอตฺถ กิฺจาปิ ตฺติ สพฺพปมํ วุจฺจติ, ติสฺสนฺนํ ปน อนุสฺสาวนานํ อตฺถพฺยฺชนเภทาภาวโต อตฺถพฺยฺชนภินฺนา ตฺติ ตาสํ จตุตฺถาติ กตฺวา ‘‘ตฺติจตุตฺถ’’นฺติ วุจฺจติ. พฺยฺชนานุรูปเมว อฏฺกถายํ ‘‘ตีหิ อนุสฺสาวนาหิ เอกาย จ ตฺติยา’’ติ วุตฺตํ, อตฺถปฺปวตฺติกฺกเมน ปน ‘‘เอกาย ตฺติยา ตีหิ อนุสฺสาวนาหี’’ติ วตฺตพฺพํ. วตฺถุตฺติอนอุสฺสาวนสีมาปริสสมฺปตฺติสมฺปนฺนตฺตาติ เอตฺถ วตฺถูติ อุปสมฺปทาเปกฺโข ปุคฺคโล, โส เปตฺวา อูนวีสติวสฺสํ อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺนปุพฺพํ ปณฺฑกาทโย จ เอกาทส อภพฺพปุคฺคเล เวทิตพฺโพ. อูนวีสติวสฺสาทโย หิ เตรส ปุคฺคลา อุปสมฺปทาย อวตฺถุ, อิเม ปน เปตฺวา อฺสฺมึ อุปสมฺปทาเปกฺเข สติ อุปสมฺปทากมฺมํ วตฺถุสมฺปตฺติสมฺปนฺนํ นาม โหติ.

วตฺถุสงฺฆปุคฺคลตฺตีนํ อปรามสนานิ ปจฺฉา ตฺติฏฺปนฺจาติ อิเม ตาว ปฺจ ตฺติโทสา. ตตฺถ ‘‘อยํ อิตฺถนฺนาโม’’ติ อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส อกิตฺตนํ วตฺถุอปรามสนํ นาม. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ’’ติ เอตฺถ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต’’ติ วตฺวา ‘‘สงฺโฆ’’ติ อภณนํ สงฺฆอปรามสนํ นาม. ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ อุปชฺฌายสฺส อกิตฺตนํ ปุคฺคลอปรามสนํ นาม. สพฺเพน สพฺพํ ตฺติยา อนุจฺจารณํ ตฺติอปรามสนํ นาม. ปมํ กมฺมวาจํ นิฏฺาเปตฺวา ‘‘เอสา ตฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘ขมติ สงฺฆสฺสา’’ติ เอวํ ตฺติกิตฺตนํ ปจฺฉา ตฺติฏฺปนํ นาม. อิติ อิเมหิ โทเสหิ วิมุตฺตาย ตฺติยา สมฺปนฺนํ ตฺติสมฺปตฺติสมฺปนฺนํ นาม.

วตฺถุสงฺฆปุคฺคลานํ อปรามสนานิ สาวนาย หาปนํ อกาเล สาวนนฺติ อิเม ปฺจ อนุสฺสาวนโทสา. ตตฺถ วตฺถาทีนํ อปรามสนานิ ตฺติยํ วุตฺตสทิสาเนว. ตีสุ ปน อนุสฺสาวนาสุ ยตฺถ กตฺถจิ เอเตสํ อปรามสนํ อปรามสนเมว, สพฺเพน สพฺพํ ปน กมฺมวาจํ อวตฺวา จตุกฺขตฺตุํ ตฺติกิตฺตนเมว. อถ วา ปน กมฺมวาจพฺภนฺตเร อกฺขรสฺส วา ปทสฺส วา อนุจฺจารณํ วา ทุรุจฺจารณํ วา สาวนาย หาปนํ นาม. สาวนาย อโนกาเส ปมํ ตฺตึ อฏฺเปตฺวา อนุสฺสาวนกรณํ อกาเล สาวนํ นาม. อิติ อิเมหิ โทเสหิ วิมุตฺตาย อนุสฺสาวนาย สมฺปนฺนํ อนุสฺสาวนสมฺปตฺติสมฺปนฺนํ นาม.

วิปตฺติสีมาลกฺขณํ สมติกฺกนฺตาย ปน สีมาย กตํ สีมาสมฺปตฺติสมฺปนฺนํ นาม. ยาวติกา ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา, เตสํ อนาคมนํ, ฉนฺทารหานํ ฉนฺทสฺส อนาหรณํ, สมฺมุขีภูตานํ ปฏิกฺโกสนนฺติ อิเม ปน ตโย ปริสโทสา, เตหิ วิมุตฺตาย ปริสาย กตํ ปริสสมฺปตฺติสมฺปนฺนํ นาม.

อุปสมฺปทากมฺมวาจาสงฺขาตํ ภควโต วจนํ อุปสมฺปทากมฺมกรณสฺส การณตฺตา านํ, ยถา จ ตํ กตฺตพฺพนฺติ ภควตา อนุสิฏฺํ, ตถา กตตฺตา ตทนุจฺฉวิกํ ยถาวุตฺตํ อนูนํ ตฺติอนุสฺสาวนํ อุปฺปฏิปาฏิยา จ อวุตฺตํ านารหํ. ยถา กตฺตพฺพนฺติ หิ ภควตา วุตฺตํ, ตถา อกเต อุปสมฺปทากมฺมสฺส การณํ น โหตีติ น ตํ านารหํ. เตนาห ‘‘การณารเหน สตฺถุสาสนารเหนา’’ติ. อิมินา ตฺติอนุสฺสาวนสมฺปตฺติ กถิตาติ เวทิตพฺพา. ‘‘สมคฺเคน สงฺเฆนา’’ติ อิมินา ปน ปริสสมฺปตฺติ กถิตาว. ‘‘อกุปฺเปนา’’ติ อิมินา ปาริเสสโต วตฺถุสีมาสมฺปตฺติโย กถิตาติ เวทิตพฺพา. อฏฺกถายํ ปน อกุปฺปลกฺขณํ เอกตฺถ สมฺปิณฺเฑตฺวา ทสฺเสตุํ อกุปฺเปนาติ อิมสฺส ‘‘วตฺถุตฺติอนุสฺสาวนสีมาปริสสมฺปตฺติสมฺปนฺนตฺตา อโกเปตพฺพตํ อปฺปฏิกฺโกสิตพฺพตํ อุปคเตนา’’ติ อตฺโถ วุตฺโต. เกจิ ปน ‘‘านารเหนาติเอตฺถ ‘น หตฺถจฺฉินฺโน ปพฺพาเชตพฺโพ’ติอาทิ (มหาว. ๑๑๙) สตฺถุสาสนํ าน’’นฺติ วทนฺติ.

‘‘ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมนา’’ติ อิมสฺมึ อธิกาเร ปสงฺคโต อาหริตฺวา ยํ กมฺมลกฺขณํ สพฺพอฏฺกถาสุ ปปฺจิตํ, ตํ ยถาอาคตฏฺาเนเยว ทสฺเสตุกาโม อิธ ตสฺส อวจเน ตตฺถ วจเน จ ปโยชนํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิมสฺมึ ปน าเน ตฺวา’’ติอาทิมาห.

อฏฺสุ อุปสมฺปทาสุ เอหิภิกฺขูปสมฺปทา สรณคมนูปสมฺปทา โอวาทปฏิคฺคหณูปสมฺปทา ปฺหพฺยากรณูปสมฺปทาติ อิมาหิ อุปสมฺปทาหิ อุปสมฺปนฺนานํ โลกวชฺชสิกฺขาปทวีติกฺกเม อภพฺพตฺตา ครุธมฺมปฏิคฺคหณูปสมฺปทา ทูเตนูปสมฺปทา อฏฺวาจิกูปสมฺปทาติ อิมาสฺจ ติสฺสนฺนํ อุปสมฺปทานํ ภิกฺขุนีนํเยว อนุฺาตตฺตา ตฺติจตุตฺเถเนว กมฺเมน อุปสมฺปนฺโน คหิโตติ เวทิตพฺโพ. ตถา หิ เอหิภิกฺขูปสมฺปทา อนฺติมภวิกานํเยว, สรณคมนูปสมฺปทา ปริสุทฺธานํ, โอวาทปฏิคฺคหณปฺหพฺยากรณูปสมฺปทา มหากสฺสปโสปากานํ, น จ เต ภพฺพา ปาราชิกาทิโลกวชฺชํ อาปชฺชิตุํ, ครุธมฺมปฏิคฺคหณาทโย จ ภิกฺขุนีนํเยว อนุฺาตา, อยฺจ ภิกฺขุ, ตสฺมา เอตฺถ ตฺติจตุตฺเถน อุปสมฺปนฺโนว คหิโตติ เวทิตพฺโพ.

ปณฺณตฺติวชฺเชสุ ปน สิกฺขาปเทสุ อฺเปิ เอหิภิกฺขูปสมฺปทาย อุปสมฺปนฺนาทโย สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. เตปิ หิ สหเสยฺยาทิปณฺณตฺติวชฺชํ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺติเยว. ยทิ เอวํ ปณฺณตฺติวชฺเชสุปิ สิกฺขาปเทสุ ‘‘อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปโต ภิกฺขู’’ติ ตฺติจตุตฺเถเนว กมฺเมน อุปสมฺปนฺโน กสฺมา วุตฺโตติ? สพฺพสิกฺขาปทวีติกฺกมารหตฺตา สพฺพกาลิกตฺตา จ. เอหิภิกฺขูปสมฺปทาทโย หิ น สพฺพสิกฺขาปทวีติกฺกมารหา อสพฺพกาลิกา จ. ตถา หิ อฏฺสุ อุปสมฺปทาสุ ตฺติจตุตฺถกมฺมูปสมฺปทา ทูเตนูปสมฺปทา อฏฺวาจิกูปสมฺปทาติ อิมา ติสฺโสเยว ถาวรา, เสสา พุทฺเธ ธรมาเนเยว อเหสุํ. เตเนว จ ภิกฺขุนีวิภงฺเคปิ (ปาจิ. ๖๕๘) ‘‘ตตฺร ยายํ ภิกฺขุนี สมคฺเคน อุภโตสงฺเฆน ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน อกุปฺเปน านารเหน อุปสมฺปนฺนา, อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปตา ภิกฺขุนี’’ติ ทูเตนูปสมฺปทาย อฏฺวาจิกูปสมฺปทาย จ อุปสมฺปนฺนํ อนฺโตกตฺวา อุภโตสงฺเฆน ตฺติจตุตฺเถเนว กมฺเมน อุปสมฺปนฺนา ภิกฺขุนี วุตฺตา, น ครุธมฺมปฏิคฺคหณูปสมฺปทาย อุปสมฺปนฺนา ตสฺสา อุปสมฺปทาย ปาฏิปุคฺคลิกภาวโต อสพฺพกาลิกตฺตา. ครุธมฺมปฏิคฺคหณูปสมฺปทา หิ มหาปชาปติยา เอว อนุฺาตตฺตา ปาฏิปุคฺคลิกาติ, ตสฺมา สพฺพสิกฺขาปทวีติกฺกมารหํ สพฺพกาลิกาย ตฺติจตุตฺถกมฺมูปสมฺปทาย อุปสมฺปนฺนเมว คเหตฺวา สพฺพสิกฺขาปทานิ ปฺตฺตานีติ คเหตพฺพํ. ยทิ เอวํ ปณฺณตฺติวชฺเชสุ สิกฺขาปเทสุ จ เอหิภิกฺขูปสมฺปนฺนาทีนมฺปิ สงฺคโห กถํ วิฺายตีติ? อตฺถโต อาปนฺนตฺตา. ตถา หิ ‘‘ทฺเว ปุคฺคลา อภพฺพา อาปตฺตึ อาปชฺชิตุํ พุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ, ทฺเว ปุคฺคลา ภพฺพา อาปตฺตึ อาปชฺชิตุํ ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จา’’ติ (ปริ. ๓๒๒) สามฺโต วุตฺตตฺตา เอหิภิกฺขูปสมฺปนฺนาทโยปิ อสฺจิจฺจ อสฺสติยา อจิตฺตกํ ปณฺณตฺติวชฺชํ สหเสยฺยาทิอาปตฺตึ อาปชฺชนฺตีติ อตฺถโต อาปนฺนนฺติ อยเมตฺถ สาโร. ยํ ปเนตฺถ อิโต อฺถา เกนจิ ปปฺจิตํ, น ตํ สารโต ปจฺเจตพฺพํ.

นิรุตฺติวเสนาติ นิพฺพจนวเสน. อภิลาปวเสนาติ โวหารวเสน. อนุปฺปนฺนาย กมฺมวาจายาติ อนุปฺปนฺนาย ตฺติจตุตฺถกมฺมวาจาย. คุณวเสนาติ สีลาทิตํตํคุณโยคโต. เอตฺถ จ ภินฺทติ ปาปเก อกุสเล ธมฺเมติ ภิกฺขูติ นิพฺพจนํ เวทิตพฺพํ.

ภิกฺขุปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

สิกฺขาสาชีวปทภาชนียวณฺณนา

สิกฺขิตพฺพาติ อาเสวิตพฺพา. อุตฺตมนฺติ วิสิฏฺํ. อธิสีลาทีสุ วิชฺชมาเนสุ สีลาทีหิปิ ภวิตพฺพํ. ยถา หิ โอมกตรปฺปมาณํ ฉตฺตํ วา ธชํ วา อุปาทาย อติเรกปฺปมาณํ ‘‘อติฉตฺตํ อติธโช’’ติ วุจฺจติ, เอวมิหาปิ ‘‘อนุกฺกฏฺสีลํ อุปาทาย อธิสีเลน ภวิตพฺพํ, ตถา อนุกฺกฏฺํ จิตฺตํ ปฺฺจ อุปาทาย อธิจิตฺเตน อธิปฺาย จ ภวิตพฺพ’’นฺติ มนสิ กตฺวา สีลาทึ สรูปโต วิภาเวตุกาโม ‘‘กตมํ ปเนตฺถ สีล’’นฺติอาทิมาห. อฏฺงฺคสีลํ ทสงฺคสีเลสฺเวว อนฺโตคธตฺตา วิสุํ อคฺคเหตฺวา ‘‘ปฺจงฺคทสงฺคสีล’’นฺติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. ปาติโมกฺขสํวรสีลนฺติ จาริตฺตวาริตฺตวเสน ทุวิธํ วินยปิฏกปริยาปนฺนํ สิกฺขาปทสีลํ. ตฺหิ โย นํ ปาติ รกฺขติ, ตํ โมกฺเขติ โมเจติ อาปายิกาทีหิ ทุกฺเขหีติ ปาติโมกฺขนฺติ วุจฺจติ. สํวรณํ สํวโร, กายวาจาหิ อวีติกฺกโม. ปาติโมกฺขเมว สํวโร ปาติโมกฺขสํวโร. โส เอว สีลนฏฺเน สีลนฺติ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ.

อปโร นโย (อุทา. อฏฺ. ๓๑; อิติวุ. อฏฺ. ๙๗) – กิเลสานํ พลวภาวโต ปาปกิริยาย สุกรภาวโต ปุฺกิริยาย จ ทุกฺกรภาวโต พหุกฺขตฺตุํ อปาเยสุ ปตนสีโลติ ปาตี, ปุถุชฺชโน. อนิจฺจตาย วา ภวาภวาทีสุ กมฺมเวคกฺขิตฺโต ฆฏิยนฺตํ วิย อนวฏฺาเนน ปริพฺภมนโต คมนสีโลติ ปาตี, มรณวเสน วา ตมฺหิ ตมฺหิ สตฺตนิกาเย อตฺตภาวสฺส ปตนสีโลติ ปาตี, สตฺตสนฺตาโน, จิตฺตเมว วา. ตํ ปาตินํ สํสารทุกฺขโต โมกฺเขตีติ ปาติโมกฺขํ. จิตฺตสฺส หิ วิโมกฺเขน สตฺโต วิมุตฺโตติ วุจฺจติ. วุตฺตฺหิ ‘‘จิตฺตโวทานา วิสุชฺฌนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๐๐), ‘‘อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺต’’นฺติ (มหาว. ๒๘) จ.

อถ วา อวิชฺชาทินา เหตุนา สํสาเร ปตติ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ ปาติ. ‘‘อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํ ตณฺหาสํโยชนานํ สนฺธาวตํ สํสรต’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๒๔) หิ วุตฺตํ. ตสฺส ปาติโน สตฺตสฺส ตณฺหาทิสํกิเลสตฺตยโต โมกฺโข เอเตนาติ ปาติโมกฺโข. ‘‘กณฺเกาโฬ’’ติอาทีนํ วิยสฺส สมาสสิทฺธิ เวทิตพฺพา.

อถ วา ปาเตติ วินิปาเตติ ทุกฺเขหีติ ปาติ, จิตฺตํ. วุตฺตฺหิ ‘‘จิตฺเตน นียติ โลโก, จิตฺเตน ปริกสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๖๒). ตสฺส ปาติโน โมกฺโข เอเตนาติ ปาติโมกฺโข. ปตติ วา เอเตน อปายทุกฺเข สํสารทุกฺเข จาติ ปาติ, ตณฺหาสํกิเลโส. วุตฺตฺหิ ‘‘ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ (สํ. นิ. ๑.๕๕-๕๗), ตณฺหาทุติโย ปุริโส’’ติ (อ. นิ. ๔.๙; อิติวุ. ๑๕, ๑๐๕) จ อาทิ. ตโต ปาติโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺโข.

อถ วา ปตติ เอตฺถาติ ปาติ, ฉ อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิ. วุตฺตฺหิ ‘‘ฉสุ โลโก สมุปฺปนฺโน, ฉสุ กุพฺพติ สนฺถว’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๗๐; สุ. นิ. ๑๗๑). ตโต ฉอชฺฌตฺติกพาหิรายตนสงฺขาตโต ปาติโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺโข.

อถ วา ปาโต วินิปาโต อสฺส อตฺถีติ ปาตี, สํสาโร. ตโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺโข.

อถ วา สพฺพโลกาธิปติภาวโต ธมฺมิสฺสโร ภควา ปตีติ วุจฺจติ, มุจฺจติ เอเตนาติ โมกฺโข, ปติโน โมกฺโข เตน ปฺตฺตตฺตาติ ปติโมกฺโข, ปติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺโข. สพฺพคุณานํ วา มูลภาวโต อุตฺตมฏฺเน ปติ จ โส ยถาวุตฺเตน อตฺเถน โมกฺโข จาติ ปติโมกฺโข, ปติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺโข. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ปาติโมกฺขนฺติ มุขเมตํ ปมุขเมต’’นฺติ (มหาว. ๑๓๕) วิตฺถาโร.

อถ วา ป-อิติ ปกาเร, อตีติ อจฺจนฺตตฺเถ นิปาโต, ตสฺมา ปกาเรหิ อจฺจนฺตํ โมกฺเขตีติ ปาติโมกฺโข. อิทฺหิ สีลํ สยํ ตทงฺควเสน สมาธิสหิตํ ปฺาสหิตฺจ วิกฺขมฺภนวเสน สมุจฺเฉทวเสน จ อจฺจนฺตํ โมกฺเขติ โมเจตีติ ปาติโมกฺโข.

ปติ ปติ โมกฺโขติ วา ปติโมกฺโข, ตมฺหา ตมฺหา วีติกฺกมโทสโต ปจฺเจกํ โมกฺเขตีติ อตฺโถ, ปติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺโข. โมกฺโข วา นิพฺพานํ, ตสฺส โมกฺขสฺส ปฏิพิมฺพภูโตติ ปติโมกฺโข. สีลสํวโร หิ สูริยสฺส อรุณุคฺคมนํ วิย นิพฺพานสฺส อุทยภูโต ตปฺปฏิภาโค จ ยถารหํ กิเลสนิพฺพาปนโต, ปติโมกฺโขเยว ปาติโมกฺโข. ปติวตฺตติ โมกฺขาภิมุขนฺติ วา ปติโมกฺขํ, ปติโมกฺขเมว ปาติโมกฺขนฺติ เอวํ ตาเวตฺถ ปาติโมกฺขสทฺทสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

สํวรติ ปิทหติ เอเตนาติ สํวโร, ปาติโมกฺขเมว สํวโร ปาติโมกฺขสํวโร. โส เอว สีลํ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ, อตฺถโต ปน ตโต ตโต วีติกฺกมิตพฺพโต วิรติโย เจว เจตนา จ.

อธิสีลนฺติ วุจฺจตีติ อนวเสสโต กายิกวาจสิกสํวรภาวโต จ มคฺคสีลสฺส ปทฏฺานภาวโต จ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ อธิกํ วิสิฏฺํ สีลํ อธิสีลนฺติ วุจฺจติ. ปชฺโชตานนฺติ อาโลกานํ. นนุ จ ปจฺเจกพุทฺธาปิ ธมฺมตาวเสน ปาติโมกฺขสํวรสีเลน สมนฺนาคตาว โหนฺติ, เอวํ สติ กสฺมา ‘‘พุทฺธุปฺปาเทเยว ปวตฺตติ, น วินา พุทฺธุปฺปาทา’’ติ นิยเมตฺวา วุตฺตนฺติ อาห – ‘‘น หิ ตํ ปฺตฺตึ อุทฺธริตฺวา’’ติอาทิ. กิฺจาปิ ปจฺเจกพุทฺธา ปาติโมกฺขสํวรสมฺปนฺนาคตา โหนฺติ, น ปน เตสํ วเสน วิตฺถาริตํ หุตฺวา ปวตฺตตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ อิมสฺมึ วีติกฺกเม อิทํ นาม โหตี’’ติ ปฺปนํ อฺเสํ อวิสโย, พุทฺธานํเยว เอส วิสโย, พุทฺธานํ พลนฺติ อาห – ‘‘พุทฺธาเยว ปนา’’ติอาทิ. โลกิยสีลสฺส อธิสีลภาโว ปริยาเยนาติ นิปฺปริยายเมว ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปาติโมกฺขสํวรโตปิ จ มคฺคผลสมฺปยุตฺตเมว สีลํ อธิสีล’’นฺติ วุตฺตํ. น หิ ตํ สมาปนฺโน ภิกฺขูติ คหฏฺเสุ โสตาปนฺนานํ สทารวีติกฺกมสมฺภวโต วุตฺตํ. ตถา หิ เต สปุตฺตทารา อคารํ อชฺฌาวสนฺติ.

สมาทาปนํ สมาทานฺจาติ อฺเสํ สมาทาปนํ สยํ สมาทานฺจ. อธิจิตฺตนฺติ วุจฺจตีติ มคฺคสมาธิสฺส อธิฏฺานภาวโต อธิจิตฺตนฺติ วุจฺจติ. น วินา พุทฺธุปฺปาทาติ กิฺจาปิ ปจฺเจกพุทฺธานํ วิปสฺสนาปาทกํ อฏฺสมาปตฺติจิตฺตํ โหติเยว, น ปน เต ตตฺถ อฺเ สมาทาเปตุํ สกฺโกนฺตีติ น เตสํ วเสน วิตฺถาริตํ หุตฺวา ปวตฺตตีติ อธิปฺปาโย. วิปสฺสนาปฺายปิ อธิปฺตาสาธเน ‘‘น วินา พุทฺธุปฺปาทา’’ติ วจนํ อิมินาว อธิปฺปาเยน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. โลกิยจิตฺตสฺส อธิจิตฺตตา ปริยาเยนาติ นิปฺปริยายเมว ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตโตปิ จ มคฺคผลจิตฺตเมว อธิจิตฺต’’นฺติ อาห. ตํ ปน อิธ อนธิปฺเปตนฺติ อิมินา อฏฺกถาวจเนน โลกิยจิตฺตสฺส วเสน อธิจิตฺตสิกฺขาปิ อิธ อธิปฺเปตาติ วิฺายติ. น หิ ตํ สมาปนฺโน ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวตีติ จ อิมินา โลกิยอธิจิตฺตํ สมาปนฺโน เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวตีติ อาปนฺนํ. อธิปฺานิทฺเทเส จ ‘‘ตโตปิ จ มคฺคผลปฺาว อธิปฺา’’ติ วตฺวา ‘‘สา ปน อิธ อนธิปฺเปตา. น หิ ตํ สมาปนฺโน ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวตี’’ติ วุตฺตตฺตา โลกิยปฺาวเสน อธิปฺาสิกฺขายปิ อิธาธิปฺเปตภาโว ตํ สมาปนฺนสฺส เมถุนธมฺมปฏิเสวนฺจ อฏฺกถายํ อนุฺาตนฺติ วิฺายติ. อิทฺจ สพฺพํ ‘‘ตตฺร ยายํ อธิสีลสิกฺขา, อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปตา สิกฺขา’’ติ อิมาย ปาฬิยา น สเมติ. อยฺหิ ปาฬิ อธิสีลสิกฺขาว อิธ อธิปฺเปตา, น อิตราติ ทีเปติ, ตสฺมา ปาฬิยา อฏฺกถาย จ เอวมธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ – โลกิยอธิจิตฺตอธิปฺาสมาปนฺนสฺส ตถารูปปจฺจยํ ปฏิจฺจ ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิสฺสามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺเน ตโต อธิจิตฺตโต อธิปฺโต จ ปริหานิ สมฺภวตีติ ตํ ทฺวยํ สมาปนฺเนน น สกฺกา เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตุนฺติ ปาฬิยํ อธิสีลสิกฺขาว วุตฺตา. อธิสีลสิกฺขฺหิ ยาว วีติกฺกมํ น กโรติ, ตาว สมาปนฺโนว โหติ. น หิ จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน ปาติโมกฺขสํวรสีลํ ภินฺนํ นาม โหตีติ. อฏฺกถายํ ปน โลกิยอธิจิตฺตโต อธิปฺโต จ ปริหายิตฺวาปิ ภิกฺขุโน เมถุนธมฺมปฏิเสวนํ กทาจิ ภเวยฺยาติ ตํ ทฺวยํ อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา มคฺคผลธมฺมานํ อกุปฺปสภาวตฺตา ตํ สมาปนฺนสฺส ภิกฺขุโน ตโต ปริหายิตฺวา เมถุนธมฺมปฏิเสวนํ นาม น กทาจิ สมฺภวตีติ โลกุตฺตราธิจิตฺตอธิปฺานํเยว ปฏิกฺเขโป กโตติ เวทิตพฺโพ.

อตฺถิ ทินฺนํ อตฺถิ ยิฏฺนฺติอาทินยปฺปวตฺตนฺติ อิมินา –

‘‘ตตฺถ กตมํ กมฺมสฺสกตฺาณํ? ‘อตฺถิ ทินฺนํ, อตฺถิ ยิฏฺํ, อตฺถิ หุตํ, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, อตฺถิ อยํ โลโก, อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ มาตา, อตฺถิ ปิตา, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมา ปฏิปนฺนา, เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ ยา เอวรูปา ปฺา ปชานนา…เป… อโมโห ธมฺมวิจโย สมฺมาทิฏฺิ, อิทํ วุจฺจติ กมฺมสฺสกตฺาณํ. เปตฺวา สจฺจานุโลมิกํ าณํ สพฺพาปิ สาสวา กุสลา ปฺา กมฺมสฺสกตฺาณ’’นฺติ (วิภ. ๗๙๓) –

อิมํ วิภงฺคปาฬึ สงฺคณฺหาติ.

ตตฺถ (วิภ. อฏฺ. ๗๙๓) อตฺถิ ทินฺนนฺติอาทีสุ ทินฺนปจฺจยา ผลํ อตฺถีติ อิมินา อุปาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ทินฺนนฺติ จ เทยฺยธมฺมสีเสน ทานํ วุตฺตํ. ยิฏฺนฺติ มหายาโค, สพฺพสาธารณํ มหาทานนฺติ อตฺโถ. หุตนฺติ ปโหนกสกฺกาโร อธิปฺเปโต. อตฺถิ มาตา, อตฺถิ ปิตาติ มาตาปิตูสุ สมฺมาปฏิปตฺติมิจฺฉาปฏิปตฺติอาทีนํ ผลสมฺภโว วุตฺโต. อิทํ วุจฺจตีติ ยํ าณํ ‘‘อิทํ กมฺมํ สกํ, อิทํ โน สก’’นฺติ ชานาติ, อิทํ กมฺมสฺสกตฺาณํ นาม วุจฺจตีติ อตฺโถ. ตตฺถ ติวิธํ กายทุจฺจริตํ จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ ติวิธํ มโนทุจฺจริตนฺติ อิทํ น สกกมฺมํ นาม, ตีสุ ทฺวาเรสุ ทสวิธมฺปิ สุจริตํ สกกมฺมํ นาม. อตฺตโน วาปิ โหตุ ปรสฺส วา, สพฺพมฺปิ อกุสลํ น สกกมฺมํ นาม. กสฺมา? อตฺถภฺชนโต อนตฺถชนนโต จ. อตฺตโน วา โหตุ ปรสฺส วา, สพฺพมฺปิ กุสลํ สกกมฺมํ นาม. กสฺมา? อนตฺถภฺชนโต อตฺถชนนโต จ. เอวํ ชานนสมตฺเถ อิมสฺมึ กมฺมสฺสกตฺาเณ ตฺวา พหุํ ทานํ ทตฺวา สีลํ ปูเรตฺวา อุโปสถํ สมาทิยิตฺวา สุเขน สุขํ สมฺปตฺติยา สมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา นิพฺพานํ ปตฺตานํ สตฺตานํ คณนปริจฺเฉโท นตฺถิ. เปตฺวา สจฺจานุโลมิกํ าณนฺติ มคฺคสจฺจสฺส ปรมตฺถสจฺจสฺส จ อนุโลมนโต สจฺจานุโลมิกนฺติ ลทฺธนามํ วิปสฺสนาาณํ เปตฺวา อวเสสา สพฺพาปิ สาสวา กุสลา ปฺา กมฺมสฺสกตฺาณเมวาติ อตฺโถ.

ติลกฺขณาการปริจฺเฉทกนฺติ อนิจฺจาทิลกฺขณตฺตยสฺส หุตฺวา อภาวาทิอาการปอจฺฉินฺทนกํ. อธิปฺาติ วุจฺจตีติ มคฺคปฺาย อธิฏฺานภาวโต วิปสฺสนาาณํ อธิปฺาติ วุจฺจติ.

‘‘กลฺยาณการี กลฺยาณํ, ปาปการี จ ปาปกํ;

อนุโภติ ทฺวยเมตํ, อนุพนฺธติ การก’’นฺติ. (สํ. นิ. ๑.๒๕๖);

เอวํ อตีเต อนาคเต จ วฏฺฏมูลกทุกฺขสลฺลกฺขณวเสน สํเวควตฺถุตาย วิมุตฺติอากงฺขาย ปจฺจยภูตา กมฺมสฺสกตปฺา อธิปฺาติปิ วทนฺติ. โลกิยปฺาย อธิปฺาภาโว ปริยาเยนาติ นิปฺปริยายเมว ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตโตปิ จ มคฺคผลปฺาว อธิปฺา’’ติ วุตฺตํ.

สห อาชีวนฺติ เอตฺถาติ สาชีโวติ สพฺพสิกฺขาปทํ วุตฺตนฺติ อาห – ‘‘สพฺพมฺปิ…เป… ตสฺมา สาชีวนฺติ วุจฺจตี’’ติ. ตตฺถ สิกฺขาปทนฺติ ‘‘นามกาโย ปทกาโย นิรุตฺติกาโย พฺยฺชนกาโย’’ติ วุตฺตํ ภควโต วจนสงฺขาตํ สิกฺขาปทํ. สภาควุตฺติโนติ สมานวุตฺติกา, สทิสปฺปวตฺติกาติ อตฺโถ. ตสฺมึ สิกฺขตีติ เอตฺถ อาเธยฺยาเปกฺขตฺตา อธิกรณสฺส กิมาเธยฺยมเปกฺขิตฺวา ‘‘ตสฺมิ’’นฺติ อธิกรณํ นิทฺทิฏฺนฺติ อาห – ‘‘ตํ สิกฺขาปทํ จิตฺตสฺส อธิกรณํ กตฺวา’’ติ, ตํ สาชีวสงฺขาตํ สิกฺขาปทํ ‘‘ยถาสิกฺขาปทํ นุ โข สิกฺขามิ, น สิกฺขามี’’ติ เอวํ ปวตฺติวเสน สิกฺขาปทวิสยตฺตา ตทาเธยฺยภูตสฺส จิตฺตสฺส อธิกรณํ กตฺวาติ อตฺโถ. นนุ จ ‘‘สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน’’ติ อิมสฺส ปทภาชนํ กโรนฺเตน ‘‘ยํ สิกฺขํ สาชีวฺจ สมาปนฺโน, ตทุภยํ ทสฺเสตฺวา เตสุ สิกฺขติ, เตน วุจฺจติ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา, เอวมวตฺวา ‘‘ตสฺมึ สิกฺขติ, เตน วุจฺจติ สาชีวสมาปนฺโน’’ติ เอตฺตกเมว กสฺมา วุตฺตนฺติ อนฺโตลีนโจทนํ สนฺธายาห ‘‘น เกวลฺจายเมตสฺมิ’’นฺติอาทิ.

ตสฺสา จ สิกฺขายาติ ตสฺสา อธิสีลสงฺขาตาย สิกฺขาย. สิกฺขํ ปริปูเรนฺโตติ

สีลสํวรํ ปริปูเรนฺโต, วาริตฺตสีลวเสน วิรติสมฺปยุตฺตํ เจตนํ จาริตฺตสีลวเสน วิรติวิปฺปยุตฺตํ เจตนฺจ อตฺตนิ ปวตฺเตนฺโตติ อตฺโถ. ตสฺมิฺจ สิกฺขาปเท อวีติกฺกมนฺโต สิกฺขตีติ ‘‘นามกาโย ปทกาโย นิรุตฺติกาโย พฺยฺชนกาโย’’ติ เอวํ วุตฺตํ ภควโต วจนสงฺขาตํ สิกฺขาปทํ อวีติกฺกมนฺโต หุตฺวา ตสฺมึ ยถาวุตฺตสิกฺขาปเท สิกฺขตีติ อตฺโถ. สีลสํวรปูรณํ สาชีวานติกฺกมนฺจาติ อิทเมว จ ทฺวยํ อิธ สิกฺขนํ นามาติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ สาชีวานติกฺกโม สิกฺขาปาริปูริยา ปจฺจโย. สาชีวานติกฺกมโต หิ ยาว มคฺคา สิกฺขาปาริปูรี โหติ. อปิเจตฺถ ‘‘สิกฺขํ ปริปูเรนฺโต สิกฺขตี’’ติ อิมินา วิรติเจตนาสงฺขาตสฺส สีลสํวรสฺส วิเสสโต สนฺตาเน ปวตฺตนกาโลว คหิโต, ‘‘อวีติกฺกมนฺโต สิกฺขตี’’ติ อิมินา ปน อปฺปวตฺตนกาโลปิ. สิกฺขฺหิ ปริปูรณวเสน อตฺตนิ ปวตฺเตนฺโตปิ นิทฺทาทิวเสน อปฺปวตฺเตนฺโตปิ วีติกฺกมาภาวา ‘‘อวีติกฺกมนฺโต สิกฺขตี’’ติ วุจฺจตีติ.

สิกฺขาสาชีวปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

สิกฺขาปจฺจกฺขานวิภงฺควณฺณนา

‘‘อปฺปจฺจกฺขาย อปฺปจฺจกฺขาตายา’’ติ อุภยถาปิ ปาโ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺโต. ทุพฺพลฺเย อาวิกเตปีติ ‘‘ยํนูนาหํ พุทฺธํ ปจฺจกฺเขยฺย’’นฺติอาทินา ทุพฺพลภาเว ปกาสิเตปิ. สิกฺขาย ปน ปจฺจกฺขาตายาติ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทินา สิกฺขาย ปจฺจกฺขาตาย. ยสฺมา ทิรตฺตวจเน คหิเต เตน ปุริมปจฺฉิมปทานิ สํสิลิฏฺานิ โหนฺติ, น ตสฺมึ อคฺคหิเต, ตสฺมา ทิรตฺตวจเนน พฺยฺชนสิลิฏฺตามตฺตเมว ปโยชนนฺติ อาห ‘‘พฺยฺชนสิลิฏฺตายา’’ติ. มุขารุฬฺหตายาติ ยสฺมา เอวรูปํ วจนํ โลกสฺส มุขมารุฬฺหํ, ตสฺมาติ อตฺโถ.

พฺยฺชนํ สมฺปาเทตีติ ตสฺส วิสุํ อตฺถาภาวโต วุตฺตเมวตฺถํ อฺปเทน ทีเปนฺโต พฺยฺชนํ สมฺปาเทติ. วุตฺตเมวตฺถํ การเณน วิภาเวนฺโต อาห ‘‘ปริวารกปทวิรหิตฺหี’’ติอาทิ. อตฺถทีปกํ ปทํ อตฺถปทํ.

สิกฺขาปจฺจกฺขานสฺสาติ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทิสิกฺขาปจฺจกฺขานวจนสฺส. ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทีสุ ‘‘เอวํ โข, ภิกฺขเว, ทุพฺพลฺยาวิกมฺมฺเจว โหติ สิกฺขา จ ปจฺจกฺขาตา’’ติ วุตฺตตฺตา อุภยมฺปิ โหตีติ อาห – ‘‘เอกจฺจํ ทุพฺพลฺยาวิกมฺมํ อตฺโถ โหตี’’ติ. กิฺจาปิ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทิสิกฺขาปจฺจกฺขานวจนสฺส ทุพฺพลฺยาวิกมฺมปทตฺโถ น โหติ, ตถาปิ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติ วุตฺเต สิกฺขาปริปูรเณ ทุพฺพลฺยาวิภาวสฺสปิ คมฺยมานตฺตา ‘‘สิกฺขาปจฺจกฺขานสฺส เอกจฺจํ ทุพฺพลฺยาวิกมฺมํ อตฺโถ โหตี’’ติ วุตฺตํ. นํ สนฺธายาติ นํ อตฺถภูตํ ทุพฺพลฺยาวิกมฺมํ สนฺธาย.

วิเสสาวิเสสนฺติ เอตฺถ เยน ทุพฺพลฺยาวิกมฺมเมว โหติ, น สิกฺขาปจฺจกฺขานํ, ตตฺถ สิกฺขาปจฺจกฺขานทุพฺพลฺยาวิกมฺมานํ อตฺถิ วิเสโส. เยน ปน สิกฺขาปจฺจกฺขานฺเจว ทุพฺพลฺยาวิกมฺมฺจ โหติ, ตตฺถ เนวตฺถิ วิเสโสติ เวทิตพฺพํ. กกิจฺฉชีวเนติ ธาตูสุ ปิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘กิจฺฉชีวิกปฺปตฺโต’’ติ. อุกฺกณฺนํ อุกฺกณฺา, กิจฺฉชีวิกา, ตํ อิโต ปตฺโตติ อุกฺกณฺิโต. อิโตติ อิโต านโต, อิโต วิหารโต วา. เอตฺถาติ คนฺตุมิจฺฉิตํ ปเทสํ วทติ. อนภิรติยา ปีฬิโต วิกฺขิตฺตจิตฺโต หุตฺวา สีสํ อุกฺขิปิตฺวา อุทฺธํมุโข อิโต จิโต จ โอโลเกนฺโต อาหิณฺฑตีติ อาห ‘‘อุทฺธํ กณฺํ กตฺวา วิหรมาโน’’ติ.

อฏฺฏียมาโนติ เอตฺถ อฏฺฏมิว อตฺตานมาจรติ อฏฺฏียตีติ อฏฺฏียสทฺทสฺส อนฺโตคธอุปมานภูตกมฺมตฺตา อุปเมยฺยภูเตน อตฺตนาว สกมฺมกตฺตํ, น ภิกฺขุภาเวนาติ อาห ‘‘ภิกฺขุภาวนฺติ ภิกฺขุภาเวนา’’ติ. น หิ โส ภิกฺขุภาวํ อฏฺฏมิว อาจรติ, กิฺจรหิ อตฺตานํ ตสฺมา ภิกฺขุภาเวน กรณภูเตน อตฺตานํ อฏฺฏียมาโนติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพติ อาห ‘‘กรณตฺเถ อุปโยควจน’’นฺติ. กณฺเ อาสตฺเตน อฏฺฏีเยยฺยาติ เอตฺถ ปน กรณตฺเถเยว กรณวจนนฺติ อาห – ‘‘ยถาลกฺขณํ กรณวจเนเนว วุตฺต’’นฺติ. กตฺตุอตฺเถ วา อุปโยควจนํ ทฏฺพฺพนฺติ อาห – ‘‘เตน วา ภิกฺขุภาเวนา’’ติอาทิ, เตน กตฺตุภูเตน ภิกฺขุภาเวนาติ อตฺโถ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ อฏฺฏํ กโรตีติ อฏฺฏียตีติ อฏฺฏีย-สทฺทํ นิปฺผาเทตฺวา ตโต กมฺมนิ มาน-สทฺเท กเต ‘‘อฏฺฏียมาโน’’ติ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. เตเนวาห – ‘‘อฏฺโฏ กริยมาโน ปีฬิยมาโน’’ติ. ชิคุจฺฉมาโนติ อิมินา ปน สมฺพนฺเธ กริยมาเน ภิกฺขุภาวนฺติ อุปโยคตฺเถ เอว อุปโยควจนนฺติ อาห – ‘‘อสุจึ วิย ตํ ชิคุจฺฉนฺโต’’ติ, ตํ ภิกฺขุภาวํ ชิคุจฺฉนฺโตติ อตฺโถ. สจาหนฺติ สเจ อหํ.

ปจฺจกฺขานากาเรน วุตฺตานีติ ‘‘ปจฺจกฺเขยฺยํ ปจฺจกฺเขยฺย’’นฺติ วุตฺตตฺตา ปจฺจกฺขานาการสมฺพนฺเธน วุตฺตานิ. ภาววิกปฺปากาเรนาติ ‘‘อสฺสํ อสฺส’’นฺติ อาคตตฺตา ยํ ยํ ภวิตุกาโม, ตสฺส ตสฺส ภาวสฺส วิกปฺปากาเรน, ภิกฺขุภาวโต อฺภาววิกปฺปากาเรนาติ อธิปฺปาโย.

๕๐. น อุสฺสหามีติ อตฺตโน ตตฺถ ตตฺถ อุสฺสหาภาวํ ทสฺเสติ. น วิสหามีติ เอกภตฺตาทีนํ อสยฺหภาวํ ทสฺเสติ. น รมามีติ ‘‘ปพฺพชฺชามูลกํ นตฺถิ เม สุข’’นฺติ ทสฺเสติ. นาภิรมามีติ ปพฺพชฺชาย อตฺตโน สนฺโตสาภาวํ ทสฺเสติ.

อิทานิ สิกฺขาปจฺจกฺขานวาเร ตฺวา อยํ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ – ตตฺถ ‘‘สามฺา จวิตุกาโม’’ติอาทีหิ ปเทหิ จิตฺตนิยมํ ทสฺเสติ. ‘‘พุทฺธํ ธมฺม’’นฺติอาทีหิ ปเทหิ เขตฺตนิยมํ ทสฺเสติ. ยถา หิ โลเก สสฺสานํ รุหนฏฺานํ ‘‘เขตฺต’’นฺติ วุจฺจติ, เอวมิทมฺปิ สิกฺขาปจฺจกฺขานสฺส รุหนฏฺานตฺตา ‘‘เขตฺต’’นฺติ วุจฺจติ. ‘‘ปจฺจกฺขามิ ธาเรหี’’ติ เอเตน กาลนิยมํ ทสฺเสติ. ‘‘วทตี’’ติ อิมินา ปโยคนิยมํ ทสฺเสติ. ‘‘อลํ เม พุทฺเธน, กินฺนุ เม พุทฺเธน, น มมตฺโถ พุทฺเธน, สุมุตฺตาหํ พุทฺเธนา’’ติอาทีหิ อนามฏฺกาลวเสนปิ ปจฺจกฺขานํ โหตีติ ทสฺเสติ. ‘‘วิฺาเปตี’’ติ อิมินา วิชานนนิยมํ ทสฺเสติ. ‘‘อุมฺมตฺตโก สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, อุมฺมตฺตกสฺส สนฺติเก สิกฺขํ ปจฺจกฺขาตี’’ติอาทีหิ ปุคฺคลนิยมํ ทสฺเสติ. ‘‘อริยเกน มิลกฺขสฺส สนฺติเก สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, โส จ นปฺปฏิวิชานาติ, อปฺปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา’’ติอาทีหิ ปุคฺคลาทินิยเม สติปิ วิชานนนิยมาสมฺภวํ ทสฺเสติ. ‘‘ทวาย สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, อปฺปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา’’ติอาทีหิ เขตฺตาทินิยเม สติปิ จิตฺตนิยมาภาเวน น รุหตีติ ทสฺเสติ. ‘‘สาเวตุกาโม น สาเวติ, อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา’’ติ อิมินา จิตฺตนิยเมปิ สติ ปโยคนิยมาภาเวน น รุหตีติ ทสฺเสติ. ‘‘อวิฺุสฺส สาเวติ, วิฺุสฺส น สาเวตี’’ติ เอเตหิ จิตฺตเขตฺตกาลปโยคปุคฺคลวิชานนนิยเมปิ สติ ยํ ปุคฺคลํ อุทฺทิสฺส สาเวติ, ตสฺเสว สวเนน รุหติ, น อฺสฺสาติ ทสฺเสติ. ‘‘สพฺพโส วา ปน น สาเวติ, อปฺปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา’’ติ อิทํ ปน จิตฺตาทินิยเมเนว สิกฺขา ปจฺจกฺขาตา โหติ, น อฺถาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตสฺมา จิตฺตเขตฺตกาลปโยคปุคฺคลวิชานนนิยมวเสน สิกฺขาย ปจฺจกฺขานํ ตฺวา ตทภาเวน อปฺปจฺจกฺขานํ เวทิตพฺพํ.

กถํ? อุปสมฺปนฺนภาวโต จวิตุกามตาจิตฺเตเนว หิ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ทวา วา รวา วา ภณนฺตสฺส. เอวํ จิตฺตวเสน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.

ตถา ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามิ, ธมฺมํ ปจฺจกฺขามิ, สงฺฆํ ปจฺจกฺขามิ, สิกฺขํ, วินยํ, ปาติโมกฺขํ, อุทฺเทสํ, อุปชฺฌายํ, อาจริยํ, สทฺธิวิหาริกํ, อนฺเตวาสิกํ, สมานุปชฺฌายกํ, สมานาจริยกํ, สพฺรหฺมจารึ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ วุตฺตานํ พุทฺธาทีนํ จตุทฺทสนฺนํ, ‘‘คิหีติ มํ ธาเรหิ, อุปาสโก, อารามิโก, สามเณโร, ติตฺถิโย, ติตฺถิยสาวโก, อสฺสมโณ, อสกฺยปุตฺติโยติ มํ ธาเรหี’’ติ เอวํ วุตฺตานํ คิหิอาทีนํ อฏฺนฺนฺจาติ อิเมสํ ทฺวาวีสติยา เขตฺตปทานํ ยสฺส กสฺสจิ สเววจนสฺส วเสน เตสุ จ ยํกิฺจิ วตฺตุกามสฺส ยํกิฺจิ วทโตปิ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น รุกฺขาทีนํ อฺตรสฺส นามํ คเหตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขนฺตสฺส. เอวํ เขตฺตวเสน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.

ตตฺถ ยเทตํ ‘‘ปจฺจกฺขามี’’ติ จ ‘‘มํ ธาเรหี’’ติ จ วุตฺตํ วตฺตมานกาลวจนํ, ยานิ จ ‘‘อลํ เม พุทฺเธน, กินฺนุ เม พุทฺเธน, น มมตฺโถ พุทฺเธน, สุมุตฺตาหํ พุทฺเธนา’’ติอาทินา นเยน อาขฺยาตวเสน กาลํ อนามสิตฺวา ปุริเมหิ จุทฺทสหิ ปเทหิ สทฺธึ โยเชตฺวา วุตฺตานิ ‘‘อลํ เม’’ติอาทีนิ จตฺตาริ ปทานิ, เตสํเยว จ สเววจนานํ วเสน ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ‘‘ปจฺจกฺขาสิ’’นฺติ วา ‘‘ปจฺจกฺขิสฺส’’นฺติ วา ‘‘มํ ธาเรสี’’ติ วา ‘‘ธาเรสฺสสี’’ติ วา ‘‘ยนูนาหํ ปจฺจกฺเขยฺย’’นฺติ วาติอาทีนิ อตีตานาคตปริกปฺปวจนานิ ภณนฺตสฺส. เอวํ วตฺตมานกาลวเสน เจว อนามฏฺกาลวเสน จ ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.

ปโยโค ปน ทุวิโธ กายิโก วาจสิโก. ตตฺถ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทินา นเยน ยาย กายจิ ภาสาย วจีเภทํ กตฺวา วาจสิกปโยเคเนว ปจฺจกฺขานํ โหติ, น อกฺขรลิขนํ วา หตฺถมุทฺทาทิทสฺสนํ วา กายปโยคํ กโรนฺตสฺส. เอวํ วาจสิกปโยเคเนว ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.

ปุคฺคโล ปน ทุวิโธ โย จ ปจฺจกฺขาติ, ยสฺส จ ปจฺจกฺขาติ. ตตฺถ โย ปจฺจกฺขาติ, โส สเจ อุมฺมตฺตกขิตฺตจิตฺตเวทนาฏฺฏานํ อฺตโร น โหติ. ยสฺส ปน ปจฺจกฺขาติ, โส สเจ มนุสฺสชาติโก โหติ, น จ อุมฺมตฺตกาทีนํ อฺตโร, สมฺมุขีภูโต จ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ. น หิ อสมฺมุขีภูตสฺส ทูเตน วา ปณฺเณน วา อาโรจนํ รุหติ. เอวํ ยถาวุตฺตปุคฺคลวเสน ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.

วิชานนมฺปิ นิยมิตานิยมิตวเสน ทุวิธํ. ตตฺถ ยสฺส เยสํ วา นิยเมตฺวา ‘‘อิมสฺส อิเมสํ วา อาโรเจมี’’ติ วทติ, สเจ เต ยถา ปกติยา โลเก มนุสฺสา วจนํ สุตฺวา อาวชฺชนสมเย ชานนฺติ, เอวํ ตสฺส วจนานนฺตรเมว ตสฺส ‘‘อยํ อุกฺกณฺิโต’’ติ วา ‘‘คิหิภาวํ ปตฺถยตี’’ติ วา เยน เกนจิ อากาเรน สิกฺขาปจฺจกฺขานภาวํ ชานนฺติ, ปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา. อถ อปรภาเค ‘‘กึ อิมินา วุตฺต’’นฺติ จินฺเตตฺวา ชานนฺติ, อฺเ วา ชานนฺติ, อปฺปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. อนิยเมตฺวา อาโรเจนฺตสฺส ปน สเจ วุตฺตนเยน โย โกจิ มนุสฺสชาติโก วจนตฺถํ ชานาติ, ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. เอวํ วิชานนวเสน ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน. อิติ อิเมสํ วุตฺตปฺปการานํ จิตฺตาทีนํ วเสเนว สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น อฺถาติ ทฏฺพฺพํ.

๕๑. ‘‘วทตี’’ติ วจีเภทปฺปโยคํ ทสฺเสตฺวา ตทนนฺตรํ ‘‘วิฺาเปตี’’ติ วุตฺตตฺตา เตเนว วจีเภเทน อธิปฺปายวิฺาปนํ อิธาธิปฺเปตํ, น เยน เกนจิ อุปาเยนาติ อาห ‘‘เตเนว วจีเภเทนา’’ติ. ปทปจฺจาภฏฺํ กตฺวาติ ปทวิปราวุตฺตึ กตฺวา. อิทฺจ ปทปฺปโยคสฺส อนิยมิตตฺตา วุตฺตํ. ยถา หิ โลเก ‘‘อาหร ปตฺตํ, ปตฺตํ อาหรา’’ติ อนิยมิเตน ปทปฺปโยเคน ตทตฺถวิฺาปนํ ทิฏฺํ, เอวมิธาปิ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามิ, ปจฺจกฺขามิ พุทฺธ’’นฺติ อนิยมิเตน ปทปฺปโยเคน ตทตฺถวิฺาปนํ โหติเยวาติ อธิปฺปาโย. พุทฺธํ ปจฺจกฺขามีติ อตฺถปฺปธาโน อยํ นิทฺเทโส, น สทฺทปฺปธาโนติ อาห ‘‘มิลกฺขภาสาสุ วา อฺตรภาสาย ตมตฺถํ วเทยฺยา’’ติ. มาคธภาสโต อวสิฏฺา สพฺพาปิ อนฺธทมิฬาทิภาสา มิลกฺขภาสาติ เวทิตพฺพา. เขตฺตปเทสุ เอกํ วตฺตุกาโม สเจปิ อฺํ วเทยฺย, เขตฺตปทนฺโตคธตฺตา ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามีติ วตฺตุกาโม’’ติอาทิ. ยทิปิ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติ วตฺตุํ อนิจฺฉนฺโต จิตฺเตน ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อฺํ วตฺตุกาโม ปุน วิรชฺฌิตฺวา ตเมว วเทยฺย, ตถาปิ สาสนโต จวิตุกามตาจิตฺเต สติ เขตฺตปทสฺเสว วุตฺตตฺตา องฺคปาริปูริสมฺภวโต โหตฺเวว สิกฺขาปจฺจกฺขานนฺติ เวทิตพฺพํ. เขตฺตเมว โอติณฺณนฺติ สิกฺขาปจฺจกฺขานสฺส รุหนฏฺานภูตํ เขตฺตเมว โอติณฺณํ.

‘‘ปจฺจกฺขามิ ธาเรหี’’ติ วตฺตมานกาลสฺส ปธานภาเวน วตฺตุมิจฺฉิตตฺตา อตีตานาคตปริกปฺปวจเนหิ เนวตฺถิ สิกฺขาปจฺจกฺขานนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สเจ ปน พุทฺธํ ปจฺจกฺขินฺติ วา’’ติอาทิ. วทติ วิฺาเปตีติ เอตฺถ วทตีติ อิมินา ปโยคสฺส นิยมิตตฺตา เอกสฺส สนฺติเก อตฺตโน วจีเภทปฺปโยเคเนว สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ทูตสาสนาทิปฺปโยเคนาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ทูตํ วา ปหิณาตี’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘มม สิกฺขาปจฺจกฺขานภาวํ กเถหี’’ติ มุขสาสนวเสน ‘‘ทูตํ วา ปหิณาตี’’ติ วุตฺตํ. ปณฺเณ ลิขิตฺวา ปหิณนวเสน ‘‘สาสนํ วา เปเสตี’’ติ วุตฺตํ. รุกฺขาทีสุ อกฺขรานิ ลิขิตฺวา ทสฺสนวเสน ‘‘อกฺขรํ วา ฉินฺทตี’’ติ วุตฺตํ. หตฺถมุทฺทาย วา ตมตฺถํ อาโรเจตีติ หตฺเถน อธิปฺปายวิฺาปนํ สนฺธาย วุตฺตํ. อธิปฺปายวิฺาปโก หิ หตฺถวิกาโร หตฺถมุทฺทา. หตฺถ-สทฺโท เจตฺถ ตเทกเทเสสุ องฺคุลีสุ ทฏฺพฺโพ ‘‘น สพฺพํ หตฺถํ มุเข ปกฺขิปิสฺสามี’’ติอาทีสุ (ปาจิ. ๖๑๘) วิย. ตสฺมา อธิปฺปายวิฺาปเกน องฺคุลิสงฺโกจาทินา หตฺถวิกาเรน ตมตฺถํ อาโรเจตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

จิตฺตสมฺปยุตฺตนฺติ ปจฺจกฺขาตุกามตาจิตฺตสมฺปยุตฺตํ. อิทานิ วิชานนวเสน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ นิยมิตานิยมิตวเสน ทฺวิธา เวทิตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘ยทิ อยเมว ชานาตู’’ติอาทิ. อยฺจ วิภาโค ‘‘วทติ วิฺาเปตีติ เอกวิสยตฺตา ยสฺส วทติ, ตสฺเสว วิชานนํ อธิปฺเปตํ, น อฺสฺสา’’ติ อิมินา นเยน ลทฺโธติ ทฏฺพฺพํ. น หิ ยสฺส วทติ, ตโต อฺํ วิฺาเปตีติ อยมตฺโถ สมฺภวติ. โสเยว ชานาตีติ อวธารเณน ตสฺมึ อวิชานนฺเตเยว อฺสฺส ชานนํ ปฏิกฺขิปติ. เตเนวาห – ‘‘อถ โส น ชานาติ, อฺโ สมีเป ิโต ชานาติ, อปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา’’ติ. ตสฺมา ‘‘อยเมว ชานาตู’’ติ เอกํ นิยเมตฺวา อาโรจิเต ยทิปิ โสปิ ชานาติ อฺโปิ, นิยมิตสฺส ปน นิยมิตวเสน วิชานนสมฺภวโต สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติเยวาติ ทฏฺพฺพํ ‘‘อฺโ มา ชานาตู’’ติ อนิยมิตตฺตา. ทฺวินฺนมฺปิ นิยเมตฺวาติ อิทํ ‘‘ทฺเว วา ชานนฺตุ เอโก วา, อิเมสํเยว ทฺวินฺนํ อาโรเจมี’’ติ เอวํ นิยเมตฺวา อาโรจนํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตเนวาห – ‘‘เอกสฺมึ ชานนฺเตปิ ทฺวีสุ ชานนฺเตสุปี’’ติ. ตสฺมา ‘‘ทฺเวเยว ชานนฺตุ, เอโก มา ชานาตู’’ติ เอวํ ทฺวินฺนํ นิยเมตฺวา อาโรจิเต ทฺวีสุเยว ชานนฺเตสุ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น เอกสฺมึ ชานนฺเตติ วทนฺติ.

สภาเคติ วิสฺสาสิเก. ปริสงฺกมาโนติ ‘‘สเจ เต ชาเนยฺยุํ, มํ เต วาเรสฺสนฺตี’’ติ อาสงฺกมาโน. สมยฺูติ สาสนาจารกุสโล, อิธ ปน ตทธิปฺปายชานนมตฺเตนปิ สมยฺู นาม โหติ. เตเนว อาห – ‘‘อุกฺกณฺิโต อยํ…เป… สาสนโต จุโตติ ชานาตี’’ติ. ตสฺมา ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติ อิมสฺส อตฺถํ ตฺวาปิ สเจ ‘‘อยํ ภิกฺขุภาวโต จวิตุกาโม, คิหี วา โหตุกาโม’’ติ น ชานาติ, อปฺปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. สเจ ปน ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติ วจนสฺส อตฺถํ อชานิตฺวาปิ ‘‘อุกฺกณฺิโต คิหี โหตุกาโม’’ติ อธิปฺปายํ ชานาติ, ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. อฺสฺมึ ขเณ โสตวิฺาณวีถิยา สทฺทคฺคหณํ, อฺสฺมึเยว จ มโนวิฺาณวีถิยา ตทตฺถวิชานนนฺติ อาห – ‘‘ตงฺขณฺเว ปน อปุพฺพํ อจริมํ ทุชฺชาน’’นฺติ. น หิ เอกสฺมึเยว ขเณ สทฺทสวนํ ตทตฺถวิชานนฺจ สมฺภวติ. ตถา หิ ‘‘ฆโฏ’’ติ วา ‘‘ปโฏ’’ติ วา เกนจิ วุตฺเต ตตฺถ ฆ-สทฺทํ ปจฺจุปฺปนฺนํ คเหตฺวา เอกา โสตวิฺาณวีถิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ, ตทนนฺตรํ เอกา มโนวิฺาณวีถิ ตเมว อตีตํ คเหตฺวา อุปฺปชฺชติ. เอวํ เตน วุตฺตวจเน ยตฺตกานิ อกฺขรานิ โหนฺติ, เตสุ เอกเมกํ อกฺขรํ ปจฺจุปฺปนฺนมตีตฺจ คเหตฺวา โสตวิฺาณวีถิยา มโนวิฺาณวีถิยา จ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธาย อวสาเน ตานิ อกฺขรานิ สมฺปิณฺเฑตฺวา อกฺขรสมูหํ คเหตฺวา เอกา มโนวิฺาณวีถิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ. ตทนนฺตรํ ‘‘อยมกฺขรสมูโห เอตสฺส นาม’’นฺติ นามปฺตฺติคฺคหณวเสน อปราย มโนวิฺาณวีถิยา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธาย ตทนนฺตรํ อุปฺปนฺนาย มโนวิฺาณวีถิยา ‘‘อยเมตสฺส อตฺโถ’’ติ ปกติยา ตทตฺถวิชานนํ สมฺภวติ.

อาวชฺชนสมเยนาติ ภุมฺมตฺเถ กรณวจนํ, อตฺถาโภคสมเยติ อตฺโถ. อิทานิ ตเมว อาวชฺชนสมยํ วิภาเวนฺโต อาห – ‘‘ยถา ปกติยา…เป… ชานนฺตี’’ติ. เตเนว วจีเภเทน อธิปฺปายวิฺาปนสฺส อิธาธิปฺเปตตฺตา อปรภาเค ‘‘กึ อิมินา วุตฺต’’นฺติ ตํ กงฺขนฺตสฺส จิเรน อธิปฺปายวิชานนํ อฺเนปิ เกนจิ อุปายนฺตเรน สมฺภวติ, น เกวลํ วจีเภทมตฺเตนาติ อาห – ‘‘อถ อปรภาเค…เป… อปฺปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา’’ติ. ‘‘คิหี ภวิสฺสามี’’ติ วุตฺเต อตฺถเภโท กาลเภโท จ โหตีติ อปฺปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา. ‘‘ธาเรหี’’ติ หิ อิมสฺส โย อตฺโถ กาโล จ, น โส ‘‘ภวิสฺสามี’’ติ เอตสฺส. ‘‘คิหี โหมี’’ติ วุตฺเต ปน อตฺถเภโทเยว, น กาลเภโท ‘‘โหมี’’ติ วตฺตมานกาลสฺเสว วุตฺตตฺตา. ‘‘คิหี ชาโตมฺหิ, คิหีมฺหี’’ติ เอตฺถาปิ อตฺถสฺส เจว กาลสฺส จ ภินฺนตฺตา อปฺปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา. ‘‘อชฺช ปฏฺายา’’ติ อิทํ ตถา วุตฺเตปิ โทสภาวโต ปริปุณฺณํ กตฺวา วุตฺตํ. ‘‘ธาเรหี’’ติ อตฺถปฺปธานตฺตา นิทฺเทสสฺส ปริยายวจเนหิปิ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติเยวาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ชานาหี’’ติอาทิ. ธาเรหิ ชานาหิ สฺชานาหิ มนสิ กโรหีติ หิ เอตานิ ปทานิ อตฺถโต กาลโต จ อภินฺนานิ.

๕๒. ปุริมาเนว จุทฺทสาติ พุทฺธาทิสพฺรหฺมจารีปริยนฺตานิ. โหตุ ภวตูติ อิทมฺปิ ปฏิกฺเขปมตฺตเมวาติ อาห ‘‘โหตุ, ปริยตฺตนฺติ อตฺโถ’’ติ.

๕๓. วณฺณปฏฺานนฺติ มหาสงฺฆิกานํ พุทฺธคุณปริทีปกํ เอกํ สุตฺตนฺติ วทนฺติ. อุปาลิคาถาสูติ (ม. นิ. ๒.๗๖) –

‘‘ธีรสฺส วิคตโมหสฺส,

ปภินฺนขีลสฺส วิชิตวิชยสฺส;

อนีฆสฺส สุสมจิตฺตสฺส;

วุทฺธสีลสฺส สาธุปฺสฺส;

เวสมนฺตรสฺส วิมลสฺส;

ภควโต ตสฺส สาวโกหมสฺมิ.

‘‘อกถํกถิสฺส ตุสิตสฺส;

วนฺตโลกามิสสฺส มุทิตสฺส;

กตสมณสฺส มนุชสฺส;

อนฺติมสารีรสฺส นรสฺส;

อโนปมสฺส วิรชสฺส;

ภควโต ตสฺส สาวโกหมสฺมิ.

‘‘อสํสยสฺส กุสลสฺส;

เวนยิกสฺส สารถิวรสฺส;

อนุตฺตรสฺส รุจิรธมฺมสฺส;

นิกฺกงฺขสฺส ปภาสกสฺส;

มานจฺฉิทสฺส วีรสฺส;

ภควโต ตสฺส สาวโกหมสฺมิ.

‘‘นิสภสฺส อปฺปเมยฺยสฺส;

คมฺภีรสฺส โมนปฺปตฺตสฺส;

เขมงฺกรสฺส เวทสฺส;

ธมฺมฏฺสฺส สํวุตตฺตสฺส;

สงฺคาติคสฺส มุตฺตสฺส;

ภควโต ตสฺส สาวโกหมสฺมิ.

‘‘นาคสฺส ปนฺตเสนสฺส;

ขีณสํโยชนสฺส มุตฺตสฺส;

ปฏิมนฺตกสฺส โธนสฺส;

ปนฺนทฺธชสฺส วีตราคสฺส;

ทนฺตสฺส นิปฺปปฺจสฺส;

ภควโต ตสฺส สาวโกหมสฺมิ.

‘‘อิสิสตฺตมสฺส อกุหสฺส;

เตวิชฺชสฺส พฺรหฺมปฺปตฺตสฺส;

นฺหาตกสฺส ปทกสฺส;

ปสฺสทฺธสฺส วิทิตเวทสฺส;

ปุรินฺททสฺส สกฺกสฺส;

ภควโต ตสฺส สาวโกหมสฺมิ.

‘‘อริยสฺส ภาวิตตฺตสฺส;

ปตฺติปฺปตฺตสฺส เวยฺยากรณสฺส;

สติมโต วิปสฺสิสฺส;

อนภินตสฺส โน อปนตสฺส;

อเนชสฺส วสิปฺปตฺตสฺส;

ภควโต ตสฺส สาวโกหมสฺมิ.

‘‘สมุคฺคตสฺส ฌายิสฺส;

อนนุคตนฺตรสฺส สุทฺธสฺส;

อสิตสฺส หิตสฺส;

ปวิวิตฺตสฺส อคฺคปฺปตฺตสฺส;

ติณฺณสฺส ตารยนฺตสฺส;

ภควโต ตสฺส สาวโกหมสฺมิ.

‘‘สนฺตสฺส ภูริปฺสฺส;

มหาปฺสฺส วีตโลภสฺส;

ตถาคตสฺส สุคตสฺส;

อปฺปฏิปุคฺคลสฺส อสมสฺส;

วิสารทสฺส นิปุณสฺส;

ภควโต ตสฺส สาวโกหมสฺมิ.

‘‘ตณฺหจฺฉิทสฺส พุทฺธสฺส;

วีตธูมสฺส อนุปลิตฺตสฺส;

อาหุเนยฺยสฺส ยกฺขสฺส;

อุตฺตมปุคฺคลสฺส อตุลสฺส;

มหโต ยสคฺคปฺปตฺตสฺส;

ภควโต ตสฺส สาวโกหมสฺมี’’ติ. –

เอวํ อุปาลิคหปตินา วุตฺตาสุ อุปาลิสุตฺเต อาคตคาถาสุ.

ยถารุตเมวาติ ยถาวุตฺตเมว, ปาฬิยํ อาคตเมวาติ อธิปฺปาโย. ยสฺมา ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธํ อนนฺตพุทฺธึ อโนมพุทฺธึ โพธิปฺาณ’’นฺติ อิมานิ วณฺณปฏฺาเน อาคตนามานิ, ‘‘ธีร’’นฺติอาทีนิ ปน อุปาลิคาถาสุ อาคตนามานิ. ตตฺถ โพธิ วุจฺจติ สพฺพฺุตฺาณํ, ตํ สฺชานนเหตุตฺตา ปฺาณํ เอตสฺสาติ โพธิปฺาโณ, ภควา. ธิยา ปฺาย ราติ คณฺหาติ, เสวตีติ วา ธีโร. สมุจฺฉินฺนสพฺพเจโตขีลตฺตา ปภินฺนขีโล. สพฺพปุถุชฺชเน วิชินึสุ วิชยนฺติ วิชินิสฺสนฺติ จาติ วิชยา. เก เต? มจฺจุมารกิเลสมารเทวปุตฺตมารา. เต วิชิตา วิชยา เอเตนาติ วิชิตวิชโย, ภควา. กิเลสมารมจฺจุมารวิชเยเนว ปเนตฺถ อภิสงฺขารกฺขนฺธมาราปิ วิชิตาว โหนฺตีติ ทฏฺพฺพํ.

สฺวากฺขาตนฺติอาทีสุ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๔๗) สาตฺถสพฺยฺชนเกวลปริปุณฺณปริสุทฺธพฺรหฺมจริยสฺส ปกาสนโต สฺวากฺขาโต ธมฺโม, อตฺถวิปลฺลาสาภาวโต วา สุฏฺุ อกฺขาโตติ สฺวากฺขาโต. ยถา หิ อฺติตฺถิยานํ ธมฺมสฺส อตฺโถ วิปลฺลาสํ อาปชฺชติ ‘‘อนฺตรายิกา’’ติ วุตฺตธมฺมานํ อนฺตรายิกตฺตาภาวโต, ‘‘นิยฺยานิกา’’ติ จ วุตฺตธมฺมานํ นิยฺยานิกตฺตาภาวโต, เตน เต อฺติตฺถิยา ทุรกฺขาตธมฺมาเยว โหนฺติ, น ตถา ภควโต ธมฺมสฺส อตฺโถ วิปลฺลาสํ อาปชฺชติ ‘‘อิเม ธมฺมา อนฺตรายิกา นิยฺยานิกา’’ติ เอวํ วุตฺตธมฺมานํ ตถาภาวานติกฺกมนโตติ. เอวํ ตาว ปริยตฺติธมฺโม สฺวากฺขาโต ธมฺโม.

โลกุตฺตรธมฺโม ปน นิพฺพานานุรูปาย ปฏิปตฺติยา ปฏิปทานุรูปสฺส จ นิพฺพานสฺส อกฺขาตตฺตา สฺวากฺขาโต. ยถาห –

‘‘สุปฺตฺตา โข ปน เตน ภควตา สาวกานํ นิพฺพานคามินี ปฏิปทา สํสนฺทติ นิพฺพานฺจ ปฏิปทา จ. เสยฺยถาปิ นาม คงฺโคทกํ ยมุโนทเกน สํสนฺทติ สเมติ, เอวเมว สุปฺตฺตา เตน ภควตา สาวกานํ นิพฺพานคามินี ปฏิปทา สํสนฺทติ นิพฺพานฺจ ปฏิปทา จา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๙๖).

อริยมคฺโค เจตฺถ อนฺตทฺวยํ อนุปคมฺม มชฺฌิมาปฏิปทาภูโตว ‘‘มชฺฌิมา ปฏิปทา’’ติ อกฺขาตตฺตา สฺวากฺขาโต. สามฺผลานิ ปฏิปฺปสฺสทฺธกิเลสาเนว ‘‘ปฏิปฺปสฺสทฺธกิเลสานี’’ติ อกฺขาตตฺตา สฺวากฺขาตานิ. นิพฺพานํ สสฺสตามตตาณเลณาทิสภาวเมว สสฺสตาทิสภาววเสน อกฺขาตตฺตา สฺวากฺขาตนฺติ เอวํ โลกุตฺตรธมฺโมปิ สฺวากฺขาโต.

อริยมคฺโค อตฺตโน สนฺตาเน ราคาทีนํ อภาวํ กโรนฺเตน อริยปุคฺคเลน สามํ ทฏฺพฺโพ ‘‘อริยมคฺเคน มม ราคาทโย ปหีนา’’ติ สยํ อตฺตนา อนฺเนยฺเยน ปสฺสิตพฺโพติ สนฺทิฏฺิ, สนฺทิฏฺิ เอว สนฺทิฏฺิโก. อปิจ นววิโธ โลกุตฺตรธมฺโม เยน เยน อธิคโต โหติ, เตน เตน อริยสาวเกน ปรสทฺธาย คนฺตพฺพตํ หิตฺวา ปจฺจกฺขาเณน สยํ ทฏฺพฺโพติ สนฺทิฏฺิโก. อถ วา ปสตฺถา ทิฏฺิ สนฺทิฏฺิ, สนฺทิฏฺิยา ชยตีติ สนฺทิฏฺิโก. ตถา เหตฺถ อริยมคฺโค สมฺปยุตฺตาย, อริยผลํ การณภูตาย, นิพฺพานํ วิสยิภูตาย สนฺทิฏฺิยา กิเลเส ชยติ, ตสฺมา ยถา รเถน ชยตีติ รถิโก, เอวํ นววิโธปิ โลกุตฺตรธมฺโม สนฺทิฏฺิยา ชยตีติ สนฺทิฏฺิโก. อถ วา ทิฏฺนฺติ ทสฺสนํ วุจฺจติ, ทิฏฺเมว สนฺทิฏฺํ, สนฺทสฺสนนฺติ อตฺโถ. สนฺทิฏฺํ อรหตีติ สนฺทิฏฺิโก. โลกุตฺตรธมฺโม หิ ภาวนาภิสมยวเสน สจฺฉิกิริยาภิสมยวเสน จ ทิสฺสมาโนเยว วฏฺฏภยํ นิวตฺเตติ, ตสฺมา ยถา วตฺถมรหตีติ วตฺถิโก, เอวํ สนฺทิฏฺํ อรหตีติ สนฺทิฏฺิโก.

อตฺตโน ผลทานํ สนฺธาย นาสฺส อาคเมตพฺโพ กาโล อตฺถีติ อกาโล. ยถา หิ โลกิยกุสลสฺส อุปปชฺชอปราปริยาเยติอาทินา ผลทานํ ปติ อาคเมตพฺโพ กาโล อตฺถิ, น เอวเมตสฺสาติ อตฺโถ. อกาโลเยว อกาลิโก, น ปฺจาหสตฺตาหาทิเภทํ กาลํ เขเปตฺวา ผลํ เทติ, อตฺตโน ปน ปวตฺติสมนนฺตรเมว ผลโทติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา อตฺตโน ผลปฺปทาเน วิปฺปกฏฺโ ทูโร กาโล ปตฺโต อุปนีโต อสฺสาติ กาลิโก, กาลนฺตรผลทายี. โก โส? โลกิโย กุสลธมฺโม. อยํ ปน สมนนฺตรผลทายกตฺตา น กาลิโกติ อกาลิโก. มคฺคเมว หิ สนฺธาย ‘‘อกาลิโก’’ติ อิทํ วุตฺตํ.

‘‘เอหิ ปสฺส อิมํ ธมฺม’’นฺติ เอวํ ปวตฺตํ เอหิปสฺสวิธึ อรหตีติ เอหิปสฺสิโก. กสฺมา ปเนส ตํ วิธึ อรหตีติ? ปรมตฺถโต วิชฺชมานตฺตา ปริสุทฺธตฺตา จ. ริตฺตมุฏฺิยฺหิ หิรฺํ วา สุวณฺณํ วา อตฺถีติ วตฺวาปิ ‘‘เอหิ ปสฺส อิม’’นฺติ น สกฺกา วตฺตุํ. กสฺมา? อวิชฺชมานตฺตา. วิชฺชมานมฺปิ จ คูถํ วา มุตฺตํ วา มนุฺภาวปฺปกาสเนน จิตฺตสมฺปหํสนตฺถํ ‘‘เอหิ ปสฺส อิม’’นฺติ น สกฺกา วตฺตุํ, อปิจ โข นํ ติเณหิ วา ปณฺเณหิ วา ปฏิจฺฉาเทตพฺพเมว โหติ. กสฺมา? อปริสุทฺธตฺตา. อยํ ปน นววิโธปิ โลกุตฺตรธมฺโม สภาวโต จ วิชฺชมาโน วิคตวลาหเก จ อากาเส สมฺปุณฺณจนฺทมณฺฑลํ วิย ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺตชาติมณิ วิย จ ปริสุทฺโธ, ตสฺมา วิชฺชมานตฺตา ปริสุทฺธตฺตา จ เอหิปสฺสวิธึ อรหตีติ เอหิปสฺสิโก.

อุปเนตพฺโพติ โอปเนยฺยิโก. อยํ ปเนตฺถ วินิจฺฉโย – อุปนยนํ อุปนโย, อาทิตฺตํ เจลํ วา สีสํ วา อชฺฌุเปกฺขิตฺวาปิ ภาวนาวเสน อตฺตโน จิตฺเต อุปนยนํ อุปฺปาทนํ อรหตีติ โอปเนยฺยิโก. อิทํ สงฺขเต โลกุตฺตรธมฺเม ยุชฺชติ, อสงฺขโต ปน อตฺตโน จิตฺเต อารมฺมณภาเวน อุปนยนํ อรหตีติ โอปเนยฺยิโก, สจฺฉิกิริยาวเสน อลฺลียนํ อรหตีติ อตฺโถ. อถ วา นิพฺพานํ อุปเนติ อริยปุคฺคลนฺติ อริยมคฺโค อุปเนยฺโย, สจฺฉิกาตพฺพตํ อุปเนตพฺโพติ ผลนิพฺพานธมฺโม อุปเนยฺโย, อุปเนยฺโย เอว โอปเนยฺยิโก.

สพฺเพหิ อุคฺฆฏิตฺูอาทีหิ วิฺูหิ ‘‘ภาวิโต เม มคฺโค, อธิคตํ ผลํ, สจฺฉิกโต นิโรโธ’’ติ อตฺตนิ อตฺตนิ เวทิตพฺโพติ ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหิ. น หิ อุปชฺฌาเยน ภาวิเตน มคฺเคน สทฺธิวิหาริกสฺส กิเลสา ปหียนฺติ, น โส ตสฺส ผลสมาปตฺติยา ผาสุ วิหรติ, น เตน สจฺฉิกตํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ, ตสฺมา น เอส ปรสฺส สีเส อาภรณํ วิย ทฏฺพฺโพ, อตฺตโน ปน จิตฺเตเยว ทฏฺพฺโพ, อนุภวิตพฺโพ วิฺูหีติ วุตฺตํ โหติ.

อสงฺขตนฺติ สงฺคมฺม สมาคมฺม ปจฺจยสโมธานลกฺขเณน สงฺคเมน สนฺนิปติตฺวา อนุรูเปหิ ปจฺจเยหิ อกตํ อนิพฺพตฺติตนฺติ อสงฺขตํ. นตฺถิ เอตฺถ มตนฺติ อมตํ, เอตสฺมึ วา อธิคเต นตฺถิ ปุคฺคลสฺส มตํ มรณนฺติ อมตํ. กิฺจาปิ เอตฺถ ‘‘สฺวากฺขาตํ ธมฺมํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทินา สพฺพตฺถ ธมฺม-สทฺทปฺปโยโค ทสฺสิโต, ตถาปิ ธมฺม-สทฺเทน อโยเชตฺวา วุตฺเต เววจเน น ปจฺจกฺขานํ นาม น โหตีติ ‘‘สฺวากฺขาตํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทินา วุตฺเตปิ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติเยวาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘สฺวากฺขาตํ ธมฺม’’นฺติอาทินา ปน ธมฺม-สทฺทปฺปโยโค สฺวากฺขาตา-ทิสทฺทานํ ธมฺม-วิเสสนภาวทสฺสนตฺถํ กโตติ เวทิตพฺพํ. เอกธมฺมกฺขนฺธสฺสปิ นามนฺติ เอตฺถ ‘‘ปมธมฺมกฺขนฺธํ ทุติยธมฺมกฺขนฺธํ ปุจฺฉาธมฺมกฺขนฺธํ วิสฺสชฺชนาธมฺมกฺขนฺธ’’นฺติอาทินา ธมฺมกฺขนฺธนามานิ เวทิตพฺพานิ.

สุปฺปฏิปนฺนนฺติ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย ยถานุสิฏฺํ ปฏิปนฺนตฺตา สุปฺปฏิปนฺนํ. มชฺฌิมาย ปฏิปทาย อนฺตทฺวยํ อนุปคมฺม ปฏิปนฺนตฺตา กายวจีมโนวงฺกกุฏิลชิมฺหโทสปฺปหานาย ปฏิปนฺนตฺตา จ อุชุปฺปฏิปนฺนํ. าโย วุจฺจติ นิพฺพานํ อริยมคฺคาทีหิ ายติ ปฏิวิชฺฌียติ สจฺฉิกรียตีติ กตฺวา, ตทตฺถาย ปฏิปนฺนตฺตา ายปฺปฏิปนฺนํ. ยถา ปฏิปนฺนา คุณสมฺภาวนาย ปเรหิ กริยมานํ ปจฺจุฏฺานาทิสามีจิกมฺมํ อรหนฺติ, ตถา ปฏิปนฺนตฺตา สามีจิปฺปฏิปนฺนํ.

ยุคฬวเสน ปมมคฺคฏฺโ ผลฏฺโติ อิทเมกํ ยุคฬนฺติ เอวํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ โหนฺติ. เอตฺถ ปน ‘‘จตุปุริสยุคํ สงฺฆ’’นฺติ วตฺตพฺเพ ‘‘จตฺตารี’’ติ วิภตฺติโลปํ อกตฺวา นิทฺเทโส กโตติ ทฏฺพฺพํ. จตฺตาริ ปุริสยุคานิ เอตฺถาติ จตุปุริสยุโคติ หิ สงฺโฆ วุจฺจติ. อฏฺปุริสปุคฺคลนฺติ ปุริสปุคฺคลวเสน เอโก ปมมคฺคฏฺโ, เอโก ผลฏฺโติ อิมินา นเยน อฏฺเว ปุริสปุคฺคลา โหนฺติ. อฏฺ ปุริสปุคฺคลา เอตฺถาติ อฏฺปุริสปุคฺคโล, สงฺโฆ. เอตฺถ จ ปุริโสติ วา ปุคฺคโลติ วา เอกตฺถาเนตานิ ปทานิ, เวเนยฺยวเสน ปเนตํ วุตฺตํ.

อาหุเนยฺยนฺติอาทีสุ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๕๖) อาเนตฺวา หุนิตพฺพนฺติ อาหุนํ, ทูรโตปิ อาเนตฺวา สีลวนฺเตสุ ทาตพฺพานํ จตุนฺนํ ปจฺจยานเมตํ อธิวจนํ. ตํ อาหุนํ ปฏิคฺคเหตุํ ยุตฺโต ตสฺส มหปฺผลภาวกรณโตติ อาหุเนยฺโย, สงฺโฆ. อถ วา ทูรโตปิ อาคนฺตฺวา สพฺพสาปเตยฺยมฺปิ เอตฺถ หุนิตพฺพนฺติ อาหวนีโย, สกฺกาทีนมฺปิ วา อาหวนํ อรหตีติ อาหวนีโย. โย จายํ พฺราหฺมณานํ อาหวนีโย อคฺคิ, ยตฺถ หุตํ มหปฺผลนฺติ เตสํ ลทฺธิ. สเจ หุตสฺส มหปฺผลตาย อาหวนีโย, สงฺโฆว อาหวนีโย. สงฺเฆ หุตฺหิ มหปฺผลํ โหติ. ยถาห –

‘‘โย จ วสฺสสตํ ชนฺตุ, อคฺคึ ปริจเร วเน;

เอกฺจ ภาวิตตฺตานํ, มุหุตฺตมปิ ปูชเย;

สาเยว ปูชนา เสยฺโย, ยฺเจ วสฺสสตํ หุต’’นฺติ. (ธ. ป. ๑๐๗);

ตเทตํ นิกายนฺตเร ‘‘อาหวนีโย’’ติ ปทํ อิธ ‘‘อาหุเนยฺโย’’ติ อิมินา ปเทน อตฺถโต เอกํ, พฺยฺชนโต ปเนตฺถ กิฺจิมตฺตเมว นานํ.

ปาหุเนยฺยนฺติ เอตฺถ ปน ปาหุนํ วุจฺจติ ทิสาวิทิสโต อาคตานํ ปิยมนาปานํ าติมิตฺตานํ อตฺถาย สกฺกาเรน ปฏิยตฺตํ อาคนฺตุกทานํ. ตมฺปิ เปตฺวา เต ตถารูเป ปิยมิตฺตาทิเก ปาหุนเก สงฺฆสฺเสว ทาตุํ ยุตฺตํ, สงฺโฆว ตํ ปฏิคฺคเหตุํ ยุตฺโต. สงฺฆสทิโส หิ ปาหุนโก นตฺถิ. ตถา เหส เอกพุทฺธนฺตเร วีติวตฺเตเยว ทิสฺสติ, อพฺโพกิณฺณฺจ ปิยมนาปตฺตกเรหิ สีลาทิธมฺเมหิ สมนฺนาคโตติ เอวํ ปาหุนมสฺส ทาตุํ ยุตฺตํ, ปาหุนฺจ ปฏิคฺคเหตุํ ยุตฺโตติ ปาหุเนยฺโย.

ทกฺขนฺติ เอตาย สตฺตา ยถาธิปฺเปตาหิ สมฺปตฺตีหิ วฑฺฒนฺตีติ ทกฺขิณา, ปรโลกํ สทฺทหิตฺวา ทาตพฺพทานํ. ตํ ทกฺขิณํ อรหติ, ทกฺขิณาย วา หิโต ยสฺมา นํ มหปฺผลกรตาย วิโสเธตีติ ทกฺขิเณยฺโย. อุโภ หตฺเถ สิรสิ ปติฏฺาเปตฺวา สพฺพโลเกน กริยมานํ อฺชลิกมฺมํ อรหตีติ อฺชลิกรณีโย. อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตนฺติ สพฺพโลกสฺส อสทิสํ ปุฺวิรุหนฏฺานํ. ยถา หิ รฺโ วา อมจฺจสฺส วา สาลีนํ วา ยวานํ วา วิรุหนฏฺานํ รฺโ สาลิกฺเขตฺตํ ยวกฺเขตฺตนฺติ วุจฺจติ, เอวํ สงฺโฆ สพฺพโลกสฺส ปุฺานํ วิรุหนฏฺานํ. สงฺฆํ นิสฺสาย หิ โลกสฺส นานปฺปการหิตสุขสํวตฺตนิกานิ ปุฺานิ วิรุหนฺติ, ตสฺมา สงฺโฆ อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺส. เอตฺถาปิ ‘‘สุปฺปฏิปนฺนํ สงฺฆ’’นฺติอาทินา สพฺพตฺถ สงฺฆ-สทฺทปฺปโยโค สุปฺปฏิปนฺนา-ทิสทฺทานํ สงฺฆวิเสสนภาวทสฺสนตฺถํ กโต, ตสฺมา ‘‘สุปฺปฏิปนฺนํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทินา วุตฺเตปิ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติเยวาติ ทฏฺพฺพํ.

สิกฺขาเววจเนสุ ปน สิกฺขา-สทฺทํ วินา เกวลํ ภิกฺขุ-สทฺโท ภิกฺขุนี-สทฺโท จ สิกฺขาย อธิวจนํ น โหตีติ ‘‘ภิกฺขุสิกฺขํ ภิกฺขุนีสิกฺข’’นฺติ วุตฺเตเยว สีสํ เอติ, อธิสีลาทโย ปน สิกฺขา เอวาติ ‘‘อธิสีลํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทินา วุตฺเตปิ สีสํ เอติ. ปมํ ปาราชิกนฺติอาทินา สิกฺขาปทานํเยว คหณํ เวทิตพฺพํ, น อาปตฺตีนํ.

อุปชฺฌายเววจเนสุ อุปชฺฌาโย หุตฺวา โย ปพฺพาเชสิ เจว อุปสมฺปาเทสิ จ, ตํ สนฺธาย ‘‘โย มํ ปพฺพาเชสี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺส มูเลนาติ ยสฺส ปธานภาเวน การณภาเวน วา. ยสฺส มูลํ ปธานภาโว การณภาโว วา เอติสฺสาติ ยสฺสมูลิกา, ปพฺพชฺชา อุปสมฺปทา จ. มูล-สทฺทสฺส สาเปกฺขภาเวปิ นิจฺจสาเปกฺขตาย คมกตฺตา ตทฺธิตวุตฺติ ทฏฺพฺพา.

อาจริยเววจเนสุ ปน โย อุปชฺฌํ อทตฺวา อาจริโยว หุตฺวา ปพฺพาเชสิ, กมฺมวาจาจริโย หุตฺวา อุปสมฺปาเทสิ จ, ตํ สนฺธาย ‘‘โย มํ ปพฺพาเชสิ, โย มํ อนุสาเวสี’’ติ วุตฺตํ. อิเมหิ ทฺวีหิ วจเนหิ ปพฺพชฺชาจริโย จ อุปสมฺปทาจริโย จ ทสฺสิโต. ยาหํ นิสฺสาย วสามีติ นิสฺสยาจริยํ ทสฺเสติ. ยาหํ อุทฺทิสาเปมีติอาทินา ปน ธมฺมาจริโย วุตฺโต. ตตฺถ อุทฺทิสาเปมีติ ปาํ อุทฺทิสาเปมิ. ปริปุจฺฉามีติ อุคฺคหิตปาสฺส อตฺถํ ปริปุจฺฉามิ. สทฺธิวิหาริกเววจนาทีสุ จ วุตฺตานุสาเรเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตสฺส มูเลติ เอตฺถ ปน ตสฺส สนฺติเกติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

โอกลฺลโกติ ขุปฺปิปาสาทิทุกฺขปเรตานํ ขีณสุขานํ นหานาทิสรีรปฏิชคฺคนรหิตานํ กปณมนุสฺสานเมตํ อธิวจนํ. โมฬิพทฺโธติ สิขาพทฺโธ โอมุกฺกมกุโฏ วา. กิฺจาปิ ทฺเววาจิโก อุปาสโก ปมโพธิยํเยว สมฺภวติ, ตถาปิ ตทา ลพฺภมานนามํ คเหตฺวา วุตฺเตปิ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติเยวาติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ทฺเววาจิโก อุปาสโก’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ทฺเววาจิโก’’ติ อิทเมว ปเนตฺถ เววจนนฺติ ทฏฺพฺพํ, ตสฺมา ‘‘ทฺเววาจิโกติ มํ ธาเรหี’’ติ เอตฺตเกปิ วุตฺเต สีสํ เอติ. เอวํ เสเสสุปิ.

กุมารโกติ กุมาราวตฺโถ อติวิย ทหรสามเณโร. เจลฺลโกติ ตโต มหนฺตตโร ขุทฺทกสามเณโร. เจฏโกติ มชฺฌิโม. โมฬิคลฺโลติ มหาสามเณโร. สมณุทฺเทโสติ ปน อวิเสสโต สามเณราธิวจนํ. นิคณฺุปฏฺาโกติอาทีนิปิ ติตฺถิยสาวกเววจนานีติ ทฏฺพฺพํ.

ทุสฺสีโลติ นิสฺสีโล สีลวิรหิโต. ปาปธมฺโมติ ทุสฺสีลตฺตา เอว หีนชฺฌาสยตาย ลามกสภาโว. อสุจิสงฺกสฺสรสมาจาโรติ อปริสุทฺธกายกมฺมาทิตาย อสุจิ หุตฺวา สงฺกาย สริตพฺพสมาจาโร. ทุสฺสีโล หิ กิฺจิเทว อสารุปฺปํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ อสุเกน กตํ ภวิสฺสตี’’ติ ปเรสํ อาสงฺกนีโย โหติ. เกนจิเทว กรณีเยน มนฺตยนฺเต ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘กจฺจิ นุ โข อิเม มยา กตกมฺมํ ชานิตฺวา มนฺเตนฺตี’’ติ อตฺตโนเยว สงฺกาย สริตพฺพสมาจาโร. ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโตติ ลชฺชิตพฺพตาย ปฏิจฺฉาเทตพฺพกมฺมนฺโต. อสฺสมโณติ น สมโณ. สลากคฺคหณาทีสุ ‘‘อหมฺปิ สมโณ’’ติ มิจฺฉาปฏิฺาย สมณปฏิฺโ, อเสฏฺจาริตาย อพฺรหฺมจารี, อุโปสถาทีสุ ‘‘อหมฺปิ พฺรหฺมจารี’’ติ มิจฺฉาปฏิฺาย พฺรหฺมจาริปฏิฺโ, ปูตินา กมฺเมน สีลวิปตฺติยา อนฺโต อนุปวิฏฺตฺตา อนฺโตปูติ, ฉหิ ทฺวาเรหิ ราคาทิกิเลสานุสฺสวเนน ตินฺตตฺตา อวสฺสุโต, สฺชาตราคาทิกจวรตฺตา สีลวนฺเตหิ ฉฑฺเฑตพฺพตฺตา จ กสมฺพุชาโต. โกณฺโติ ทุสฺสีลาธิวจนเมตํ.

‘‘ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ พุทฺธเววจนานิ วา’’ติอาทินา ยํ-สทฺทปรามฏฺานํ พุทฺธาทิเววจนานํเยว ตํ-สทฺเทน ปรามสนํ โหตีติ อาห – ‘‘เตหิ อากาเรหิ…เป… พุทฺธาทีนํ เววจเนหี’’ติ. กถํ ปน ตานิ อาการาทิสทฺเทหิ โวหรียนฺตีติ อาห ‘‘เววจนานิ หี’’ติอาทิ. สณฺานวนฺตานํ พุทฺธาทีนํ สณฺานทีปนํ ตาว โหตุ, สณฺานรหิตานํ ปน ธมฺมสิกฺขาทีนํ กถนฺติ อาห ‘‘สิกฺขาปจฺจกฺขานสณฺานตฺตา เอว วา’’ติ. สิกฺขาปจฺจกฺขานรูปานิ หิ เววจนานิ ‘‘สิกฺขาปจฺจกฺขานสณฺานานี’’ติ วุจฺจนฺติ. เอวํ โขติ เอตฺถ โขติ อวธารณตฺเถ นิปาโตติ อาห ‘‘เอวเมวา’’ติ.

๕๔. มุจฺฉาปเรโตติ มุจฺฉาย อภิภูโต. วจนตฺถวิชานนสมตฺถํ ติรจฺฉานคตํ ทสฺเสตุํ ‘‘นาคมาณวกสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ติเหตุกปฏิสนฺธิกาติ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ. น หิ สพฺพาปิ เทวตา ติเหตุกปฏิสนฺธิกาว โหนฺติ ทฺวิเหตุกานมฺปิ สมฺภวโต. อติขิปฺปํ ชานนฺตีติ เทวตานํ ภวงฺคปริวาสสฺส มนุสฺสานํ วิย อทนฺธภาวโต วุตฺตํ.

สภาคสฺสาติ ปุริสสฺส. วิสภาคสฺสาติ มาตุคามสฺส. อนริยโกติ มาคธโวหารโต อฺโ. ทวาติ สหสา. รวาติ วิรชฺฌิตฺวา. อฺํ ภณิสฺสามีติ อฺํ ภณนฺโต พุทฺธํ ปจฺจกฺขามีติ ภณตีติ โยเชตพฺพํ. อกฺขรสมยานภิฺตาย วา กรณสมฺปตฺติยา อภาวโต วา กเถตพฺพํ กเถตุํ อสกฺโกนฺโต หุตฺวา อฺํ กเถนฺโต รวา ภณติ นาม. อุภยถาปิ อฺํ ภณิตุกามสฺส อฺภณนํ สมานนฺติ อาห ‘‘ปุริเมน โก วิเสโส’’ติ.

วาเจตีติ ปาฬึ กเถนฺโต อฺํ อุคฺคณฺหาเปนฺโต วา วาเจติ. ปริปุจฺฉตีติ ปาฬิยา อตฺถํ ปริปุจฺฉนฺโต ปาฬึ ปริปุจฺฉติ. อุคฺคณฺหาตีติ อฺสฺส สนฺติเก ปาฬึ อุคฺคณฺหาติ. สชฺฌายํ กโรตีติ อุคฺคหิตปาฬึ สชฺฌายติ. วณฺเณตีติ ปาฬิยา อตฺถํ สํวณฺเณนฺโต ปาฬึ วณฺเณติ. มหลฺลกสฺส กิฺจิ อชานนโต อวิทิตินฺทฺริยตาย วา ‘‘โปตฺถกรูปสทิสสฺสา’’ติ วุตฺตํ, มตฺติกาย กตรูปสทิสสฺสาติ อตฺโถ. ครุเมธสฺสาติ อารมฺมเณสุ ลหุปฺปวตฺติยา อภาวโต ทนฺธคติกตาย ครุปฺสฺส, มนฺทปฺสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. สพฺพโส วาติ อิมินา ‘‘อิทํ ปทํ สาเวสฺสามิ ‘สิกฺขํ ปจฺจกฺขามี’’’ติ เอวํ ปวตฺตจิตฺตุปฺปาทสฺส อภาวํ ทสฺเสติ. ยสฺมา ปน อสติ เอวรูเป จิตฺตุปฺปาเท เกนจิ ปริยาเยน ตถาวิธํ วจีเภทํ กตฺวา สาวนํ นาม เนว สมฺภวติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามีติอาทีสุ…เป… วจีเภทํ กตฺวา น สาเวตี’’ติ.

สิกฺขาปจฺจกฺขานวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

มูลปฺตฺติวณฺณนา

๕๕. นิทฺทิสิตพฺพสฺสาติ วิวริตพฺพสฺส ปกาเสตพฺพสฺส. กิเลเสหีติ อหิริกาทีหิ กิเลเสหิ. อิโต ปฏฺายาติ ทุฏฺุลฺล-ปทโต ปฏฺาย. ตสฺส กมฺมสฺสาติ เมถุนธมฺมปฏิเสวนสงฺขาตสฺส กมฺมสฺส. ทสฺสนนฺติอาทิ วุตฺตนยเมว. อสฺสาติ เมถุนธมฺมสฺส.

ทฺวีหิ ทฺวีหิ สมาปชฺชิตพฺพา ทฺวยํทฺวยสมาปตฺตีติ อาห ‘‘ทฺวเยน ทฺวเยน สมาปชฺชิตพฺพโต’’ติ. ราคปริยุฏฺาเนน สทิสภาวปฺปตฺติยา มิถุนานํ อิทํ เมถุนํ, เมถุนเมว ธมฺโม เมถุนธมฺโมติ อาห ‘‘อุภินฺนํ รตฺตาน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ รตฺตานนฺติ เมถุนราเคน รตฺตานํ. สารตฺตานนฺติ เตเนว ราเคน อติวิย รตฺตานํ. อวสฺสุตานนฺติ โลกสฺสาทมิตฺตสนฺถววเสน อุปฺปนฺนเมถุนราเคน ตินฺตานํ. ปริยุฏฺิตานนฺติ เมถุนราคุปฺปตฺติยา ปริโยนทฺธจิตฺตานํ. สทิสานนฺติ รตฺตตาทีหิ สทิสานํ.

ยสฺมา ‘‘ปฏิเสวติ นามา’’ติ ปทํ มาติกาย นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘ปฏิเสวติ นามาติ กสฺมา อุทฺธฏ’’นฺติ โย มฺติ, ตสฺส การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฏิเสเวยฺยาติ เอตฺถ…เป… มาติกาปท’’นฺติ อาห. อิตฺถิยา นิมิตฺเตนาติ อิทํ ‘‘มคฺเคน คจฺฉตี’’ติอาทิ วิย ทฏฺพฺพํ. ยถา หิ ‘‘มคฺเคน คจฺฉตี’’ติ วุตฺเต ‘‘มคฺคํ คจฺฉติ, มคฺเค วา คจฺฉตี’’ติ อยมตฺโถ ลพฺภติ, เอวํ ‘‘อิตฺถิยา นิมิตฺเตน ปเวเสตี’’ติ วุตฺเต ‘‘อิตฺถิยา นิมิตฺตํ ปเวเสติ, นิมิตฺเต วา ปเวเสตี’’ติ อยมตฺโถ ลพฺภติ. อิทฺจ เยภุยฺเยน ปุริสปโยคทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. นิมิตฺตํ องฺคชาตนฺติ อตฺถโต เอกํ. ปเวสนํ นาม น พหิ ฉุปนมตฺตนฺติ อาห ‘‘วาเตน อสมฺผุฏฺเ อลฺโลกาเส’’ติ. อพฺภนฺตรฺหิ ปเวเสนฺโต ‘‘ปเวเสตี’’ติ วุจฺจติ, น พหิ ฉุปนฺโต. อพฺภนฺตรนฺติ จ ปกติยา สพฺพโส ปิหิตสฺส นิมิตฺตสฺส วาเตน อสมฺผุฏฺโกาโส วุจฺจตีติ.

อิทานิ สพฺพถา เลโสกาสปิทหนตฺถํ อิตฺถินิมิตฺเต ปุริสนิมิตฺเต จ ลพฺภมานํ ปเวสกาเล อฺมฺํ ผสฺสารหํ ปเทสวิเสสํ วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อิตฺถินิมิตฺเต จตฺตาริ ปสฺสานี’’ติอาทิมาห. วาเตน หิ อสมฺผุฏฺเ อลฺโลกาเส ยตฺถ กตฺถจิ เอเกนปิ ปเทเสน ฉุปิตฺวา ปเวเสนฺโต ‘‘ปเวเสตี’’ติ วุจฺจติ. เวมชฺฌนฺติ ยถา จตฺตาริ ปสฺสานิ อสมฺผุสนฺโต ปเวเสติ, เอวํ กตวิวรสฺส อิตฺถินิมิตฺตสฺส เหฏฺิมตลํ วุจฺจติ, ปุริสนิมิตฺเต ปน มชฺฌนฺติ อคฺคโกฏึ สนฺธาย วทติ. อุปรีติ อคฺคโกฏิโต อุปริภาคปฺปเทโส. อิทฺจ มชฺเฌน สมิฺชิตฺวา ปเวเสนฺตสฺส มชฺฌิมปพฺพสมิฺชิตงฺคุลึ กตฺถจิ ปเวเสนฺตสฺส องฺคุลิยา มชฺฌิมปพฺพปิฏฺิสทิสํ องฺคชาตสฺส อุปริภาคเวมชฺฌํ สนฺธาย วุตฺตํ. เหฏฺา ปเวเสนฺโตติ อิตฺถินิมิตฺตสฺส เหฏฺิมภาเคน ฉุปนฺตํ ปเวเสนฺโต. มชฺเฌน ปเวเสนฺโตติ อพฺภนฺตรตลํ ฉุปิตฺวา มชฺเฌน ปเวเสนฺโต. กตฺถจิ อจฺฉุปนฺตํ ปเวเสตฺวา นีหรนฺตสฺส หิ นตฺถิ ปาราชิกํ, ทุกฺกฏํ ปน โหติ ฉินฺนสีสวตฺถุสฺมึ วฏฺฏกเต มุเข อจฺฉุปนฺตํ ปเวเสตฺวา นีหรนฺตสฺส วิย. มชฺเฌเนว ฉุปนฺตํ ปเวเสนฺโตติ อคฺคโกฏิยา ฉุปนฺตํ ปเวเสนฺโต. มชฺฌิมปพฺพปิฏฺิยา สมิฺชิตงฺคุลินฺติ สมฺพนฺโธ. อถ วา สมิฺชิตงฺคุลึ มชฺฌิมปพฺพปิฏฺิยา ปเวเสนฺโต วิยาติ โยเชตพฺพํ. สงฺโกเจตฺวาติ นิมิตฺตมชฺเฌน ภินฺทิตฺวา. อุปริภาเคนาติ สงฺโกจิตสฺส อุปริภาคโกฏิยา. อิทานิ ปุริสนิมิตฺตสฺส เหฏฺา วุตฺเตสุ ฉสุ าเนสุ อุปรีติ วุตฺตฏฺานนฺตรสฺส วเสน วิสุํ จตฺตาริ ปสฺสานิ คเหตฺวา ปุริสนิมิตฺเต ทสธา านเภทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิมาห. เหฏฺา ปน วิสุํ ตานิ อคฺคเหตฺวา ‘‘จตฺตาริ ปสฺสานี’’ติ วจนสามฺโตปิ วิสุํ วิสุํ ลพฺภมานานิ เอกจฺจํ คเหตฺวา ฉ านานิ วุตฺตานิ. ตุลาทณฺฑสทิสํ ปเวเสนฺตสฺสาติ อุชุกํ ปเวเสนฺตสฺส.

นิมิตฺเต ชาตนฺติ อตฺตโน นิมิตฺเต ชาตํ. จมฺมขีลนฺติ นิมิตฺเต อุฏฺิตํ จมฺมเมว. ‘‘อุณฺณิคณฺโฑ’’ติปิ วทนฺติ. นิมิตฺเต ชาตมฺปิ จมฺมขีลาทิ นิมิตฺตเมวาติ อาห ‘‘อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ. ‘‘อุปหตกายปฺปสาท’’นฺติ อวตฺวา ‘‘นฏฺกายปฺปสาท’’นฺติ วจนํ อุปาทินฺนภาวสฺส นตฺถิตาทสฺสนตฺถํ. เตเนวาห – ‘‘มตจมฺมํ วา สุกฺขปีฬกํ วา’’ติ. สติ หิ อุปาทินฺนภาเว อุปหเตปิ กายปฺปสาเท อุปหตินฺทฺริยวตฺถุสฺมึ วิย ปาราชิกาปตฺติเยว สิยา, มตจมฺมํ ปน สุกฺขปีฬกฺจ อนุปาทินฺนกํ อุปาทินฺนเกเยว จ ปาราชิกาปตฺติ. เตเนวาห ‘‘อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ. น จ เอวํ กโรนฺตสฺส อนาปตฺติ สกฺกา วตฺตุนฺติ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, อิตฺถินิมิตฺตสฺส ปน นฏฺเปิ อุปาทินฺนภาเว ปาราชิกาปตฺติเยว. มเต อกฺขายิเต เยภุยฺเยน อกฺขายิเต ปาราชิกาปตฺติวจนโต เมถุนสฺสาเทนาติ อิมินา กายสํสคฺคราคํ นิวตฺเตติ. สติ หิ กายสํสคฺคราเค สงฺฆาทิเสโสว สิยา, พีชานิปิ นิมิตฺตสงฺขฺยํ น คจฺฉนฺตีติ ทุกฺกฏเมว วุตฺตํ. ‘‘นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ปเวเสตี’’ติ หิ วุตฺตํ.

อิทานิ อิมิสฺสา เมถุนกถาย อสพฺภิรูปตฺตา ‘‘อีทิสํ านํ กเถนฺเตหิ สุณนฺเตหิ จ เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ อนุสาสนฺโต ‘‘อยฺจ เมถุนกถา นามา’’ติอาทิมาห. เมถุนกถาย ราควุทฺธิเหตุตฺตา หาสวิสยตฺตา จ ตทุภยนิวตฺตนตฺถํ ปฏิกูลมนสิการาทีสุ นิโยเชติ. ปฏิกูลมนสิกาเรน หิ ราโค นิวตฺตติ, สมณสฺาทีสุ ปจฺจุปฏฺิเตสุ หาโส นิวตฺตติ. สตฺตานุทฺทยายาติ สตฺตานํ อปายทุกฺขาทีหิ อนุรกฺขณตฺถํ. โลกานุกมฺปายาติ สตฺตโลกวิสยาย อนุกมฺปาย.

มุขํ อปิธายาติ มุขํ อปิทหิตฺวา, เยน เกนจิ ปมาเทน กทาจิ มนฺทหาโส ภเวยฺย, ตทา ครุตฺตํ กุปฺเปยฺย, ตสฺมา ตาทิเส กาเล ครุภาวสฺส อวิโกปนตฺถํ พีชเกน มุขํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา นิสีทิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. อถ วา มุขํ อปิธายาติ มุขํ ปิทหิตฺวาติ อตฺโถ. พีชเกน มุขํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา หสมาเนน น นิสีทิตพฺพนฺติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. ทนฺตวิทํสกนฺติ ทนฺเต ทสฺเสตฺวา วิวริตฺวา จาติ อตฺโถ. คพฺภิเตนาติ สงฺโกจํ อนาปชฺชนฺเตน, อุสฺสาหชาเตนาติ อตฺโถ. ยทิ หิ ‘‘อีทิสํ นาม อสพฺภึ กเถมี’’ติ สงฺโกจํ อาปชฺเชยฺย, อตฺถวิภาวนํ น สิยา, ตสฺมา ‘‘ตาทิเสน สมฺมาสมฺพุทฺเธนปิ ตาว อีทิสํ กถิตํ, กิมงฺคํ ปนาหํ กเถมี’’ติ เอวํ อุสฺสาหชาเตน กเถตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. สตฺถุปฏิภาเคนาติ สตฺถุกปฺเปน, สตฺถุสทิเสนาติ อตฺโถ.

มูลปฺตฺติวณฺณนา นิฏฺิตา.

อนุปฺตฺติวณฺณนา

ติรจฺฉาเนสุ คตายาติ ติรจฺฉาเนสุ อุปฺปนฺนาย. ยสฺมา ติรจฺฉานคตา นาม อติขุทฺทกาปิ โหนฺติ, เยสํ มคฺเคสุ ติลผลมตฺตมฺปิ ปเวสนํ นปฺปโหติ, ตสฺมา น สพฺพาว ติรจฺฉานคติตฺถิโย ปาราชิกวตฺถุภูตาติ ปเวสนปฺปโหนกวเสน ลพฺภมานกติรจฺฉานคติตฺถิโย ปริจฺฉินฺทิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ปาราชิกวตฺถุภูตา เอว เจตฺถา’’ติอาทิมาห. อปทานํ อหิมจฺฉาติอาทิคาถา ปาราชิกวตฺถูนํ เหฏฺิมปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ โปราเณหิ ปิตา. ตตฺถ อหีติ ชาตินิทฺเทเสน สพฺพาปิ สปฺปชาติ สงฺคหิตาติ อาห – ‘‘อหิคฺคหเณน…เป… ทีฆชาติ สงฺคหิตา’’ติ. ตตฺถ โคนสาติ สปฺปวิเสสา, เยสํ ปิฏฺีสุ มหนฺตานิ มณฺฑลานิ สนฺทิสฺสนฺติ. มจฺฉคฺคหณํ โอทกชาติยา อุปลกฺขณปทนฺติ อาห – ‘‘มจฺฉคฺคหเณน…เป… โอทกชาติ สงฺคหิตา’’ติ. เตเนว มณฺฑูกกจฺฉปานํ สปาทกตฺเตปิ โอทกชาติกตฺตา สงฺคโห กโต.

มุขสณฺานนฺติ โอฏฺจมฺมสณฺานํ. วณสงฺเขปํ คจฺฉตีติ วณสงฺคหํ คจฺฉติ นวสุ วณมุเขสุ สงฺคหิตตฺตาติ อธิปฺปาโย. วเณ ถุลฺลจฺจยฺจ ‘‘อมคฺเคน อมคฺคํ ปเวเสติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ อิมสฺส วเสน เวทิตพฺพํ. ตสฺมิฺหิ สุตฺเต ทฺวีสุ สมฺภินฺนวเณสุ เอเกน วเณน ปเวเสตฺวา ทุติเยน นีหรนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ. วกฺขติ จ ‘‘อิมสฺส สุตฺตสฺส อนุโลมวเสน สพฺพตฺถ วณสงฺเขเป ถุลฺลจฺจยํ เวทิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๖๖). กุกฺกุฏิคฺคหณมฺปิ สพฺพาย ปกฺขิชาติยา อุปลกฺขณปทนฺติ อาห – ‘‘กุกฺกุฏิคฺคหเณน…เป… ปกฺขิชาติ สงฺคหิตา’’ติ. มชฺชาริคฺคหณมฺปิ จตุปฺปทชาติยา อุปลกฺขณปทนฺติ ทฏฺพฺพํ. เตนาห – ‘‘มชฺชาริคฺคหเณน…เป… จตุปฺปทชาติ สงฺคหิตา’’ติ. รุกฺขสุนขา นาม กลนฺทกาติปิ วทนฺติ. มงฺคุสาติ นงฺคุลา.

ปราชิต-สทฺโท อุปสคฺคสฺส วุทฺธึ กตฺวา ต-การสฺส จ ก-การํ กตฺวา ปาราชิโกติ นิทฺทิฏฺโติ อาห ‘‘ปาราชิโกติ ปราชิโต’’ติ. ‘‘กตฺถจิ อาปตฺตีติ ‘ปาราชิเกน ธมฺเมน อนุทฺธํเสยฺยา’ติอาทีสุ (ปารา. ๓๘๔, ๓๙๑), กตฺถจิ สิกฺขาปทนฺติ อิทํ ปน ทิสฺวา ชานิตพฺพ’’นฺติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ปราชยตีติ ปาราชิกํ, ปาราชิกาติ จ กตฺตุสาธเนน ปาราชิก-สทฺเทน สิกฺขาปทํ อาปตฺติ จ วุจฺจตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘โย ตํ อติกฺกมตี’’ติอาทิ. ปุคฺคโล ปน กมฺมสาธเนน ปาราชิก-สทฺเทน วุจฺจตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ปุคฺคโล ยสฺมา ปราชิโต’’ติอาทิ.

เอตเมว หิ อตฺถํ สนฺธายาติ ‘‘ตํ อาปตฺตึ อาปนฺโน ปุคฺคโล ปราชิโต โหติ ปราชยมาปนฺโน’’ติ เอตมตฺถํ สนฺธาย. จุโต ปรทฺโธติอาทินา หิ ตํ อาปตฺตึ อาปนฺนปุคฺคโล จุโต โหติ ปราชิโต ปราชยํ อาปนฺโนติ อยมตฺโถ วิฺายติ, น ปน ปุคฺคโล ปาราชิโก นาม โหตีติ เอตมตฺถํ สนฺธายาติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. น หิ ปริวาเรปิ คาถา ปุคฺคลวุตฺติปาราชิกสทฺทนิพฺพจนทสฺสนตฺถํ วุตฺตา อาปตฺติวุตฺตีนํ ปาราชิกา-ทิสทฺทานํ นิพฺพจนวิภาคปฺปสงฺเค วุตฺตตฺตา. อยฺหิ ปริวารคาถาย อตฺโถ (ปริ. อฏฺ. ๓๓๙) – ยทิทํ ปุคฺคลาปตฺติสิกฺขาปทปาราชิเกสุ อาปตฺติปาราชิกํ นาม วุตฺตํ, ตํ อาปชฺชนฺโต ปุคฺคโล ยสฺมา ปราชิโต ปราชยมาปนฺโน สทฺธมา จุโต ปรทฺโธ ภฏฺโ นิรงฺกโต จ โหติ, อนีหเฏ ตสฺมึ ปุคฺคเล ปุน อุโปสถปวารณาทิเภโท สํวาโส นตฺถิ, เตเนตํ อิติ วุจฺจติ เตน การเณน เอตํ อาปตฺติปาราชิกํ อิติ วุจฺจตีติ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ยสฺมา ปราชิโต โหติ เอเตน, ตสฺมา เอตํ ปาราชิกนฺติ วุจฺจตีติ. ปริภฏฺโติ สาสนโต ภฏฺโ, ปริหีโนติ อตฺโถ. ฉินฺโนติ อนฺตรา ขณฺฑิโต.

สทฺธึ โยชนายาติ ปทโยชนาย สทฺธึ. จตุพฺพิธํ สงฺฆกมฺมนฺติ อปโลกนาทิวเสน จตุพฺพิธํ กมฺมํ. สีมาปริจฺฉินฺเนหีติ เอกสีมาปริยาปนฺเนหิ. ปกตตฺตา นาม ปาราชิกํ อนาปนฺนา อนุกฺขิตฺตา จ. ปฺจวิโธปีติ นิทานุทฺเทสาทิวเสน ปฺจวิโธปิ. นหาปิตปุพฺพกานํ วิย โอธิสอนุฺาตํ เปตฺวา อวเสสํ สพฺพมฺปิ สิกฺขาปทํ สพฺเพหิปิ ลชฺชีปุคฺคเลหิ อนติกฺกมนียตฺตา วุตฺตํ ‘‘สพฺเพหิปิ ลชฺชีปุคฺคเลหิ สมํ สิกฺขิตพฺพภาวโต’’ติ. สมนฺติ สทฺธึ, เอกปฺปหาเรน วา. สิกฺขิตพฺพภาวโตติ อนติกฺกมนวเสน อุคฺคหปริปุจฺฉาทินา จ สิกฺขิตพฺพภาวโต. สามฺสิกฺขาปเทสุ ‘‘อิทํ ตยา น สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ เอวํ อพหิกาตพฺพโต ‘‘น เอโกปิ ตโต พหิทฺธา สนฺทิสฺสตี’’ติ วุตฺตํ. ยํ ตํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ.

๕๖. น เกวลํ อิตฺถิยา เอว นิมิตฺตํ ปาราชิกวตฺถูติ อิมินา เกวลํ อิตฺถิยา เอว นิมิตฺตํ ปาราชิกวตฺถุ น โหติ, อถ โข อุภโตพฺยฺชนกปณฺฑกปุริสานมฺปิ นิมิตฺตํ ปาราชิกวตฺถูติ ทสฺเสติ. น จ มนุสฺสิตฺถิยา เอวาติ อิมินา ปน มนุสฺสิตฺถิยา เอว นิมิตฺตํ ปาราชิกวตฺถุ น โหติ, อมนุสฺสิตฺถิติรจฺฉานคติตฺถิอมนุสฺสุภโตพฺยฺชนกาทีนมฺปิ นิมิตฺตํ ปาราชิกวตฺถูติ ทสฺเสติ. ‘‘วตฺถุเมว น โหตีติ อมนุสฺสิตฺถิปสงฺเคน อาคตํ สุวณฺณรชตาทิมยํ ปฏิกฺขิปตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ วิย น ทิสฺสติ. น หิ อิโต ปุพฺเพ อมนุสฺสิตฺถิคฺคหณํ กตํ อตฺถิ, เยน ตปฺปสงฺโค สิยา. อิทาเนว หิ ‘‘ติสฺโส อิตฺถิโย’’ติอาทินา อมนุสฺสิตฺถิคฺคหณํ กตํ, น จ อมนุสฺสิตฺถิคฺคหเณน สุวณฺณรชตาทิมยานํ ปสงฺโค ยุตฺโต. มนุสฺสามนุสฺสติรจฺฉานชาติวเสน ติวิธา กตฺวา ปาราชิกวตฺถุภูตสตฺตานํ นิทฺเทเสน สุวณฺณรชตาทิมยานํ ปสงฺคสฺส นิวตฺติตตฺตา. ตถา หิ อิตฺถิปุริสาทีสุ มนุสฺสามนุสฺสาทีสุ วา กฺจิ อนามสิตฺวา อวิเสเสน ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺยา’’ติ เอตฺตกเมว มาติกายํ วุตฺตํ. ตสฺส ปทภาชเน จ ‘‘ปฏิเสวติ นามา’’ติ มาติกํ ปทํ อุทฺธริตฺวา ‘‘โย นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ องฺคชาเตน องฺคชาตํ อนฺตมโส ติลผลมตฺตมฺปิ ปเวเสติ, เอโส ปฏิเสวติ นามา’’ติ ปฏิเสวนากาโรว ทสฺสิโต, น ปน ปาราชิกวตฺถุภูตนิมิตฺตนิสฺสยา มนุสฺสามนุสฺสติรจฺฉานคตา อิตฺถิปุริสปณฺฑกอุภโตพฺยฺชนกา นิยเมตฺวา ทสฺสิตา, ตสฺมา ‘‘อิตฺถิยา เอว นุ โข นิมิตฺตํ ปาราชิกวตฺถุ, อุทาหุ อฺเสมฺปี’’ติ เอวมาทิ สนฺเทโห สิยา, นิมิตฺตโวหาโร จ สุวณฺณรชตาทิมยรูปเกสุ จ ลพฺภติเยว. เตเนว วินีตวตฺถูสุ (ปารา. ๗๑) ‘‘เลปจิตฺตสฺส นิมิตฺตํ องฺคชาเตน ฉุปิ, ทารุธีตลิกาย นิมิตฺตํ องฺคชาเตน ฉุปี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา นิมิตฺตสามฺโต ‘‘สุวณฺณรชตาทิมยานมฺปิ นิมิตฺตํ ปาราชิกวตฺถุ โหติ, น โหตี’’ติ กสฺสจิ อาสงฺกา สิยา. เตเนว ‘‘เลปจิตฺตาทิวตฺถูสุ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา ตทาสงฺกานิวตฺตนตฺถํ ปาราชิกวตฺถุภูตสตฺตนิยมนตฺถฺจ ชาติวเสน มนุสฺสามนุสฺสาทิโต ติธา กตฺวา ปาราชิกวตฺถุภูเต สตฺเต ภควา วิภชิตฺวา ทสฺเสติ, ตสฺมา ‘‘วตฺถุเมว น โหตี’’ติ นิมิตฺตสามฺโต ปสงฺคาคตํ สุวณฺณรชตาทิมยานํ นิมิตฺตํ ปฏิกฺขิปตีติ วตฺตพฺพํ.

ตโย มคฺเคติ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘ตีสุ มคฺเคสูติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ’’ติ. เอวํ สพฺพตฺถาติ อิมินา ‘‘ทฺเว มคฺเค’’ติ เอตฺถาปิ ทฺวีสุ มคฺเคสูติ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ อติทิสฺสติ.

อนุปฺตฺติวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปมจตุกฺกกถาวณฺณนา

๕๗. อสฺสาติ อาขฺยาติกปทนฺติ ตสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โหตี’’ติ อาห. คณฺิปเทสุ ปน ‘‘อสฺสาติ ปุคฺคลํ ปรามสิตฺวา โหตีติ วจนเสโส ทสฺสิโต’’ติปิ อตฺถวิกปฺโป ทสฺสิโต, น โส สุนฺทรตโร. ยทิ หิ วจนเสโส อธิปฺเปโต สิยา, ‘‘โหตี’’ติ วตฺตพฺพํ, เตเนว อฺสฺมึ อตฺถวิกปฺเป โหตีติ วจนเสโส กโต.

๕๘. สาทิยนฺตสฺเสวาติ เอตฺถ สาทิยนํ นาม เสเวตุกามตาจิตฺตสฺส อุปฏฺาปนนฺติ อาห ‘‘ปฏิเสวนจิตฺตสมงฺคิสฺสา’’ติ. ‘‘ปฏิปกฺขํ อตฺถยนฺตีติ สิกฺขากามานํ ภิกฺขูนํ ปฏิปกฺขํ ทุสฺสีลภาวํ อตฺถยนฺตี’’ติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. อตฺตโน เวริปุคฺคลสฺส ปน ปฏิปกฺขภูตํ กฺจิ อมิตฺตํ อตฺถยนฺติ คเวสนฺตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ปจฺจตฺถิกา หิ อตฺตโน เวรึ นาเสตุกามา ตสฺส ปฏิปกฺขภูตํ กฺจิ อมิตฺตํ อตฺตโน สหายภาวมุปคจฺฉนฺตํ อิจฺฉนฺติ. ราชปจฺจตฺถิกาทีนํ อุปริ วกฺขมานตฺตา ตทนุรูปวเสน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภิกฺขู เอว ปจฺจตฺถิกา ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา’’ติ อาห. ‘‘ภิกฺขุสฺส ปจฺจตฺถิกา ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา’’ติ เอวํ ปน วุจฺจมาเน ภิกฺขุสฺส ปจฺจตฺถิกา ราชาทโยปิ เอตฺเถว สงฺคยฺหนฺตีติ ราชปจฺจตฺถิกาทโย วิสุํ น วตฺตพฺพา สิยุํ, อฺตฺถ ปน ภิกฺขุสฺส ปจฺจตฺถิกา ภิกฺขุปจฺจตฺถิกาติ อยมตฺโถ ลพฺภเตว ‘‘สาสนปจฺจตฺถิกา’’ติ ยถา. อิสฺสาปกตาติ ปเรสํ ลาภสกฺการาทิอสหนลกฺขณาย อิสฺสาย อภิภูตา. นิปฺปริปฺผนฺทนฺติ ปริปฺผนฺทวิรหิตํ, ยถา จลิตุํ ปริวตฺติตุํ น สกฺโกติ, ตถา คเหตฺวาติ อตฺโถ. สมฺปโยเชนฺตีติ วจฺจมคฺเคน สทฺธึ โยเชนฺติ.

ตสฺมึ ขเณติ ตสฺมึ ปเวสนกฺขเณ, อคฺคโต ยาว มูลา ปเวสนกาโล ‘‘ปเวสนกฺขโณ’’ติ วุจฺจติ. สาทิยนํ นาม เสวนจิตฺตสฺส อุปฺปาทนนฺติ อาห ‘‘เสวนจิตฺตํ อุปฏฺาเปตี’’ติ. ปวิฏฺกาเลติ องฺคชาตสฺส ยตฺตกํ านํ ปเวสนารหํ, ตตฺตกํ อนวเสสโต ปวิฏฺกาเล. เอวํ ปวิฏฺสฺส อุทฺธรณารมฺภโต อนฺตรา ิตกาโล ิตํ นาม. อฏฺกถายํ ปน มาตุคามสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺึ ปตฺวา สพฺพถา วายมโต โอรมิตฺวา ิตกาลํ สนฺธาย ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺิสมเย’’ติ วุตฺตํ. อุทฺธรณํ นาม ยาว อคฺคา นีหรณกาโลติ อาห – ‘‘นีหรณกาเล ปฏิเสวนจิตฺตํ อุปฏฺาเปตี’’ติ. องฺคารกาสุนฺติ องฺคารราสึ. เอวรูเป กาเล อสาทิยนํ นาม น สพฺเพสํ วิสโยติ อาห ‘‘อิมฺหิ เอวรูปํ อารทฺธวิปสฺสก’’นฺติอาทิ. เอกาทสหิ อคฺคีหีติ ราคโทสโมหชาติชรามรณโสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสสงฺขาเตหิ เอกาทสหิ อคฺคีหิ. ราคาทโย หิ อนุฑหนฏฺเน ‘‘อคฺคี’’ติ วุจฺจนฺติ. เต หิ ยสฺส สนฺติ, ตํ นิฑหนฺติ, มหาปริฬาหา จ โหนฺติ ทุนฺนิพฺพาปยา จ. ภควตา จ ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคโห อิจฺฉิโตเยวาติ อาห – ‘‘ปจฺจตฺถิกานฺจสฺส มโนรถวิฆาตํ กโรนฺโต’’ติ. อสฺสาติ อสาทิยนฺตสฺส ยถาวุตฺตคุณสมงฺคิสฺส.

ปมจตุกฺกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เอกูนสตฺตติทฺวิสตจตุกฺกกถาวณฺณนา

๕๙-๖๐. อกฺขายิตนิมิตฺตา อกฺขายิต-สทฺเทน วุตฺตา อุตฺตรปทโลเปนาติ อาห ‘‘โสณสิงฺคาลาทีหิ อกฺขายิตนิมิตฺต’’นฺติ. อกฺขายิตํ นิมิตฺตํ ยสฺสา สา อกฺขายิตนิมิตฺตา. ‘‘ชาครนฺติ’’นฺติอาทิ วิเสสนรหิตตฺตา ‘‘สุทฺธิกจตุกฺกานี’’ติ วุตฺตํ.

สมานาจริยกา เถราติ เอกาจริยสฺส ปากนฺเตวาสิกา. มหาภเยติ พฺราหฺมณติสฺสภเย. คงฺคาย อปรภาโค อปรคงฺคํ. วต เรติ ครหตฺเถ นิปาโต. อวิสฺสชฺชนฺเตน กึ กตฺตพฺพนฺติ อาห ‘‘นิจฺจกาลํ โสตพฺพ’’นฺติอาทิ. เอวํ วินยครุกานนฺติ อิมินา อุปริ เตหิ วุจฺจมานวินิจฺฉยสฺส ครุกรณียตาย การณํ วุตฺตํ. สพฺพํ ปริยาทิยิตฺวาติ สพฺพํ ปาราชิกกฺเขตฺตํ อนวเสสโต คเหตฺวา. โสตํ ฉินฺทิตฺวาติ ปาราชิกกฺเขตฺเต วีติกฺกมโสตํ ฉินฺทิตฺวา. อปฺตฺตภาวโต ยุตฺติอภาวโต จ ‘‘ปาราชิกจฺฉายา ปเนตฺถ น ทิสฺสตี’’ติ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘อุปฑฺฒกฺขายิตภาวสฺส ทุพฺพินิจฺฉยตฺตา ตตฺถ ปาราชิกํ น ปฺเปสี’’ติ วทนฺติ, ตํ อการณํ, น จ ทุพฺพินิจฺฉยตา อปฺตฺติการณํ เยภุยฺยกฺขายิตาทีสุปิ ทุพฺพินิจฺฉยภาวสฺส สมานตฺตา. อุปฑฺฒกฺขายิตโต หิ กิฺจิเทว อธิกํ อูนํ วา ยทิ ขายิตํ สิยา, ตมฺปิ เยภุยฺเยน ขายิตํ อกฺขายิตนฺติ สงฺขฺยํ คจฺฉตีติ อุปฑฺฒกฺขายิตมิว เยภุยฺยกฺขายิตาทีนิปิ ทุพฺพินิจฺฉยาเนว. อปิจ อุปฑฺฒกฺขายิตํ ยทิ สภาวโต ปาราชิกกฺเขตฺตํ สิยา, น ตตฺถ ภควา ทุพฺพินิจฺฉยนฺติ ปาราชิกํ น ปฺเปติ.

อิทานิ เถเรน กตวินิจฺฉยเมว อุปตฺถมฺเภตฺวา อปรมฺปิ ตตฺถ การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. นิมิตฺเต อปฺปมตฺติกาปิ มํสราชิ สเจ อวสิฏฺา โหติ, ตํ เยภุยฺยกฺขายิตเมว โหติ, ตโต ปรํ ปน สพฺพโส ขายิเต นิมิตฺเต ทุกฺกฏเมวาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตโต ปรํ ถุลฺลจฺจยํ นตฺถี’’ติ. อถ วา เยภุยฺเยน ขายิตํ นาม วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคมุขานํ จตูสุ โกฏฺาเสสุ ทฺเว โกฏฺาเส อติกฺกมฺม ยาว ตติยโกฏฺาสสฺส ปริโยสานา ขาทิตํ, ตโต ปรํ ปน ตติยโกฏฺาสํ อติกฺกมฺม ยาว จตุตฺถโกฏฺาสสฺส ปริโยสานา ขาทิตํ ทุกฺกฏวตฺถูติ เวทิตพฺพํ. มตสรีรสฺมึเยว เวทิตพฺพนฺติ ‘‘มตํ เยภุยฺเยน อกฺขายิต’’นฺติอาทิวจนโต. ‘‘ยทิปิ นิมิตฺตํ สพฺพโส ขายิตนฺติอาทิ สพฺพํ ชีวมานกสรีรเมว สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ มหาคณฺิปเท วุตฺตํ. เกนจิ ปน ‘‘ตํ วีมํสิตฺวา คเหตพฺพ’’นฺติ ลิขิตํ. กิเมตฺถ วีมํสิตพฺพํ ชีวมานกสรีรสฺเสว อธิกตตฺตา มตสรีเร ลพฺภมานสฺส วินิจฺฉยสฺส วิสุํ วกฺขมานตฺตา จ. เตเนว มาติกาฏฺกถายมฺปิ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) –

‘‘ชีวมานกสรีรสฺส วุตฺตปฺปกาเร มคฺเค สเจปิ ตจาทีนิ อนวเสเสตฺวา สพฺพโส ฉินฺเน นิมิตฺตสณฺานมตฺตํ ปฺายติ, ตตฺถ อนฺตมโส องฺคชาเต อุฏฺิกํ อนฏฺกายปฺปสาทํ ปีฬกํ วา จมฺมขีลํ วา ปเวเสนฺตสฺสปิ เสวนจิตฺเต สติ ปาราชิกํ, นฏฺกายปฺปสาทํ สุกฺขปีฬกํ วา มตจมฺมํ วา โลมํ วา ปเวเสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. สเจ นิมิตฺตสณฺานมตฺตมฺปิ อนวเสเสตฺวา สพฺพโส มคฺโค อุปฺปาฏิโต, ตตฺถ อุปกฺกมโต วณสงฺเขปวเสน ถุลฺลจฺจย’’นฺติ –

ชีวมานกสรีรสฺมึเยว ยถาวุตฺตวินิจฺฉโย ทสฺสิโต.

สพฺพโส ขายิตนฺติ นิมิตฺตปฺปเทเส พหิฏฺิตํ ฉวิจมฺมํ สพฺพโส ฉินฺทิตฺวา โสณสิงฺคาลาทีหิ ขายิตสทิสํ กตํ. เตเนวาห ‘‘ฉวิจมฺมํ นตฺถี’’ติ. นิมิตฺตมํสสฺส ปน อพฺภนฺตเร ฉวิจมฺมสฺส จ วิชฺชมานตฺตา ‘‘นิมิตฺตสณฺานํ ปฺายตี’’ติ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘ปเวสนํ ชายตี’’ติ. นิมิตฺตสณฺานํ ปน อนวเสเสตฺวาติ นิมิตฺตากาเรน ิตํ ฉวิจมฺมมํสาทึ อนวเสเสตฺวา. ชีวมานกสรีเร ลพฺภมานวิเสสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ มตสรีเร ลพฺภมานวิเสสํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘มตสรีเร ปนา’’ติอาทิ.

มนุสฺสานํ ชีวมานกสรีเรติอาทินา ปน อกฺขิอาทโยปิ วณสงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ วเณน เอกปริจฺเฉทํ กตฺวา อกฺขิอาทีสุปิ ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ. เตสฺจ วณสงฺคโห ‘‘นวทฺวาโร มหาวโณ’’ติ (มิ. ป. ๒.๖.๑) เอวมาทิสุตฺตานุสาเรน เวทิตพฺโพ. ติรจฺฉานคตานํ อกฺขิกณฺณวเณสุ ทุกฺกฏํ ปน อฏฺกถาปฺปมาเณน คเหตพฺพํ. ยถา หิ มนุสฺสามนุสฺสติรจฺฉานคเตสุ วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคมุขานํ ปาราชิกวตฺถุภาเว นานากรณํ นตฺถิ, เอวํ อกฺขิอาทีนมฺปิ ถุลฺลจฺจยาทิวตฺถุภาเว นินฺนานากรเณน ภวิตพฺพํ. วเณ ถุลฺลจฺจยฺจ ‘‘อมคฺเคน อมคฺคํ ปเวเสติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๖๖) สามฺโต วุตฺตํ, น ปน ‘‘มนุสฺสาน’’นฺติ วิเสสนํ อตฺถิ. ยทิ จ ติรจฺฉานคตานํ วเณสุ ถุลฺลจฺจเยน น ภวิตพฺพํ, ปตงฺคมุขมณฺฑูกสฺส มุขสณฺาเน วณสงฺเขปโต ถุลฺลจฺจยํ น วตฺตพฺพํ, วุตฺตฺจ, ตสฺมา อฏฺกถาจริยา เอเวตฺถ ปมาณํ. ภควโต อธิปฺปายฺุโน หิ อฏฺกถาจริยา. เตเนว วุตฺตํ ‘‘พุทฺเธน ธมฺโม วินโย จ วุตฺโต, โย ตสฺส ปุตฺเตหิ ตเถว าโต’’ติอาทิ (ปารา. อฏฺ. ๑.). มนุสฺสานนฺติ อิตฺถิปุริสปณฺฑกอุภโตพฺยฺชนกานํ สามฺโต วุตฺตํ. วตฺถิโกเสสูติ วตฺถิปุเฏสุ ปุริสานํ องฺคชาตโกเสสุ. มตสรีรํ ยาว อุทฺธุมาตกาทิภาเวน กุถิตํ น โหติ, ตาว อลฺลสรีรนฺติ เวทิตพฺพํ. เตนาห – ‘‘ยทา ปน สรีรํ อุทฺธุมาตกํ โหตี’’ติอาทิ. ปาราชิกวตฺถุฺจ ถุลฺลจฺจยวตฺถุฺจ วิชหตีติ เอตฺถ ปาราชิกวตฺถุภาวํ ถุลฺลจฺจยวตฺถุภาวฺจ วิชหตีติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. มตานํ ติรจฺฉานคตานนฺติ สมฺพนฺโธ.

เมถุนราเคน วตฺถิโกสํ ปเวเสนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ปตฺถิโกสํ อปฺปเวเสนฺโต’’ติ. อิตฺถิยา อปฺปเวเสนฺโตติ อิตฺถิยา นิมิตฺตํ อปฺปเวเสนฺโต. อปฺปเวเสนฺโตติ จ ปเวสนาธิปฺปายสฺส อภาวํ ทสฺเสติ. ปเวสนาธิปฺปาเยน พหิ ฉุปนฺตสฺส ปน เมถุนสฺส ปุพฺพปโยคตฺตา ทุกฺกเฏเนว ภวิตพฺพํ. นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฉุปติ, ถุลฺลจฺจยนฺติ อิทํ ‘‘น จ, ภิกฺขเว, รตฺตจิตฺเตน องฺคชาตํ ฉุปิตพฺพํ, โย ฉุเปยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๒) อิมสฺส สุตฺตสฺส วเสน วุตฺตํ. ตตฺถ จ เกสฺจิ อฺถาปิ อตฺถวิกปฺปสฺส วิธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘มหาอฏฺกถายํ ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กิฺจาปิ ‘‘กตฺวา มหาอฏฺกถํ สรีร’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.คนฺถารมฺภกถา) วุตฺตํ, ตถาปิ เสสอฏฺกถาสุ ‘‘เมถุนราเคน มุเขนา’’ติ วจนสฺส อภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘มหาอฏฺกถายํ ปนา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘องฺคชาเตนา’’ติ อวุตฺตตฺตา ‘‘อวิเสเสนา’’ติ วุตฺตํ.

อิทานิ มหาอฏฺกถํ ปาฬิยา สํสนฺทิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ยํ ตาว มหาอฏฺกถาย’’นฺติอาทิมาห. อิตรถา หิ ทุกฺกฏํ สิยาติ ปกติมุเขน ฉุปนฺตสฺส วิสาณาทิคฺคหเณ วิย ทุกฺกฏํ สิยา. เอวํ มหาอฏฺกถํ ปาฬิยา สํสนฺทิตฺวา อิทานิ ตตฺถ เกสฺจิ อฺถา อตฺถวิกปฺปํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เกจิ ปนา’’ติอาทิมาห. สงฺฆาทิเสโสติ กายสํสคฺคสิกฺขาปเทน สงฺฆาทิเสโส. วุตฺตนเยเนวาติ เมถุนราเคเนว. ‘‘นิมิตฺตมุเขนา’’ติ วุตฺตตฺตา ติรจฺฉานคติตฺถิยา ปสฺสาวมคฺคํ เมถุนราเคน ปกติมุเขน ฉุปนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ เวทิตพฺพํ. กายสํสคฺคราเคน ทุกฺกฏนฺติ นิมิตฺตมุเขน วา ปกติมุเขน วา กายสํสคฺคราเคน ฉุปนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว.

เอกูนสตฺตติทฺวิสตจตุกฺกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สนฺถตจตุกฺกเภทกถาวณฺณนา

๖๑-๒. ปฏิปนฺนกสฺสาติ อารทฺธวิปสฺสกสฺส. อุปาทินฺนกนฺติ กายินฺทฺริยํ สนฺธาย วุตฺตํ. อุปาทินฺนเกน ผุสตีติ อุปาทินฺนเกน ผุสียติ ฆฏฺฏียตีติ เอวํ กมฺมนิ ย-การโลเปน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อถ วา เอวํ กโรนฺโต กิฺจิ อุปาทินฺนกํ อุปาทินฺนเกน น ผุสติ น ฆฏฺเฏตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เลสํ โอฑฺเฑสฺสนฺตีติ เลสํ สมุฏฺาเปสฺสนฺติ, ปริกปฺเปสฺสนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. สนฺถตาทิเภเทหิ ภินฺทิตฺวาติ สนฺถตาทิวิเสสเนหิ วิเสเสตฺวา, สนฺถตาทีหิ จตูหิ โยเชตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.

สนฺถตายาติ เอกเทเส สมุทายโวหาโร ‘‘ปโฏ ทฑฺโฒ’’ติอาทีสุ วิย. ตถา หิ ปฏสฺส เอกเทเสปิ ทฑฺเฒ ‘‘ปโฏ ทฑฺโฒ’’ติ โวหรนฺติ, เอวํ อิตฺถิยา วจฺจมคฺคาทีสุ กิสฺมิฺจิ มคฺเค สนฺถเต อิตฺถี ‘‘สนฺถตา’’ติ วุจฺจติ. เตนาห ‘‘สนฺถตา นามา’’ติอาทิ. วตฺถาทีนิ อนฺโต อปฺปเวเสตฺวา พหิ เปตฺวา พนฺธนํ สนฺธาย ‘‘ปลิเวเตฺวา’’ติ วุตฺตํ. เอกเทเส สมุทายโวหารวเสเนว ภิกฺขุปิ ‘‘สนฺถโต’’ติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘สนฺถโต นามา’’ติอาทิ. ยตฺตเก ปวิฏฺเติ ติลผลมตฺเต ปวิฏฺเ. อกฺขิอาทิมฺหิ สนฺถเตปิ ยถาวตฺถุกเมวาติ อาห ‘‘ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเต ถุลฺลจฺจยํ, ทุกฺกฏกฺเขตฺเต ทุกฺกฏเมว โหตี’’ติ.

ขาณุํ ฆฏฺเฏนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ อิตฺถินิมิตฺตสฺส อนฺโต ขาณุํ ปเวเสตฺวา สมตลํ อติริตฺตํ วา ขาณุํ ฆฏฺเฏนฺตสฺส ทุกฺกฏํ ปเวสาภาวโต. สเจ ปน อีสกํ อนฺโต ปวิสิตฺวา ิตํ ขาณุกเมว องฺคชาเตน ฉุปติ, ปาราชิกเมว. ตสฺส ตลนฺติ เวฬุนฬาทิกสฺส อนฺโตตลํ. วินีตวตฺถูสุ ‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ สีวถิกํ คนฺตฺวา ฉินฺนสีสํ ปสฺสิตฺวา วฏฺฏกเต มุเข อจฺฉุปนฺตํ องฺคชาตํ ปเวเสสิ. ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป… อนาปตฺติ ภิกฺขุ ปาราชิกสฺส, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา ตสฺส สุตฺตสฺส อนุโลมโต ‘‘อากาสคตเมว กตฺวา ปเวเสตฺวา นีหรติ, ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปารา. ๗๓) วุตฺตํ. พหิทฺธา ขาณุเกติ อนฺโตปเวสิตเวณุปพฺพาทิกสฺส พหิ นิกฺขนฺตขาณุเก. เมถุนราเคน อินฺทฺริยพทฺธอานินฺทฺริยพทฺธสนฺตาเนสุ ยตฺถ กตฺถจิ อุปกฺกมนฺตสฺส น สกฺกา อนาปตฺติยา ภวิตุนฺติ ‘‘ทุกฺกฏเมวา’’ติ วุตฺตํ. เตเนว วินีตวตฺถุมฺหิ อฏฺิเกสุ อุปกฺกมนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตํ.

สนฺถตจตุกฺกเภทกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ราชปจฺจตฺถิกาทิจตุกฺกเภทกถาวณฺณนา

๖๕. สามฺโชตนาย ปกรณโต วิเสสวินิจฺฉโยติ อาห ‘‘ธุตฺตาติ เมถุนุปสํหิตขิฑฺฑาปสุตา’’ติอาทิ. อิทานิ สามฺโตปิ อตฺถสมฺภวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิตฺถิธุตฺตสุราธุตฺตาทโย วา’’ติ อาห. หทยนฺติ หทยมํสํ.

สพฺพากาเรน จตุกฺกเภทกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อาปตฺตานาปตฺติวารวณฺณนา

๖๖. ปฏิฺากรณํ นตฺถีติ ปุจฺฉิตพฺพาภาวโต. น หิ ทูสโก ‘‘เกน จิตฺเตน วีติกฺกมํ อกาสิ, ชานิตฺวา อกาสิ, อุทาหุ อชานิตฺวา’’ติ เอวํ ปุจฺฉาย อรหติ. ตตฺเถวาติ เวสาลิยํ มหาวเน เอว. สพฺพงฺคคตนฺติ เปตฺวา เกสโลมทนฺตนขานํ มํสวินิมุตฺตฏฺานฺเจว ถทฺธสุกฺขจมฺมฺจ อุทกมิว เตลพินฺทุ อวเสสสพฺพสรีรํ พฺยาเปตฺวา ิตํ. สรีรกมฺปาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน อกฺขีนํ ปีตวณฺณาทึ สงฺคณฺหาติ. ปิตฺตโกสเก ิตนฺติ หทยปปฺผาสานํ อนฺตเร ยกนมํสํ นิสฺสาย ปติฏฺิเต มหาโกสาตกีโกสสทิเส ปิตฺตโกเส ิตํ. กุปิเตติ ปิตฺตโกสโต จลิตฺวา พหิ นิกฺขนฺเต.

วิสฺสฏฺจิตฺโตติ วิสฺสฏฺปกติจิตฺโต. ยกฺขุมฺมตฺตโกติ ยกฺขา กิร ยสฺส จิตฺตํ ขิปิตุกามา โหนฺติ, ตสฺส เสตมุขํ นีโลทรํ สุรตฺตหตฺถปาทํ มหาสีสํ ปชฺชลิตเนตฺตํ เภรวํ วา อตฺตภาวํ นิมฺมินิตฺวา ทสฺเสนฺติ, เภรวํ วา สทฺทํ สาเวนฺติ, กเถนฺตสฺเสว วา มุเขน หตฺถํ ปกฺขิปิตฺวา หทยมํสํ มทฺทนฺติ, เตน โส สตฺโต อุมฺมตฺตโก โหติ ขิตฺตจิตฺโต. เตเนวาห ‘‘เภรวานิ วา อารมฺมณานิ ทสฺเสตฺวา’’ติอาทิ. ตตฺถ เภรวานีติ ทสฺสนมตฺเตเนว สตฺตานํ ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุํ สมตฺถานิ. นิจฺจเมว อุมฺมตฺตโก โหตีติ ยสฺส ปิตฺตโกสโต ปิตฺตํ จลิตฺวา พหิ นิกฺขนฺตํ โหติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยสฺส ปน ปิตฺตํ จลิตฺวา ปิตฺตโกเสเยว ิตํ โหติ พหิ อนิกฺขนฺตํ, โส อนฺตรนฺตรา สฺํ ปฏิลภติ, น นิจฺจเมว อุมฺมตฺตโก โหตีติ เวทิตพฺพํ. ตฺวาติ สฺาปฏิลาเภน ชานิตฺวา. อธิมตฺตายาติ อธิกปฺปมาณาย.

อาปตฺตานาปตฺติวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปกิณฺณกกถาวณฺณนา

ปกิณฺณกนฺติ โวมิสฺสกนยํ. สมุฏฺานนฺติ อุปฺปตฺติการณํ. กิริยาติอาทิ นิทสฺสนมตฺตํ, อกิริยาทีนมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. เวทนายาติ สหโยเค กรณวจนํ, เวทนาย สห กุสลฺจาติ วุตฺตํ โหติ. สพฺพสงฺคาหกวเสนาติ สพฺเพสํ สิกฺขาปทานํ สงฺคาหกวเสน. ฉ สิกฺขาปทสมุฏฺานานีติ กาโย วาจา กายวาจา กายจิตฺตํ วาจาจิตฺตํ กายวาจาจิตฺตนฺติ เอวํ วุตฺตานิ ฉ อาปตฺติสมุฏฺานานิ. อาปตฺติเยว หิ สิกฺขาปทสีเสน วุตฺตา. สมุฏฺานาทโย หิ อาปตฺติยา โหนฺติ, น สิกฺขาปทสฺส, อิเมสุ ปน ฉสุ สมุฏฺาเนสุ ปุริมานิ ตีณิ อจิตฺตกานิ, ปจฺฉิมานิ สจิตฺตกานิ. เตสุ เอเกน วา ทฺวีหิ วา ตีหิ วา จตูหิ วา ฉหิ วา สมุฏฺาเนหิ อาปตฺติโย สมุฏฺหนฺติ, ปฺจสมุฏฺานา อาปตฺติ นาม นตฺถิ. ตตฺถ เอกสมุฏฺานา จตุตฺเถน จ ปฺจเมน จ ฉฏฺเน จ สมุฏฺาเนน สมุฏฺาติ, น อฺเน. ทฺวิสมุฏฺานา ปมจตุตฺเถหิ จ ทุติยปฺจเมหิ จ ตติยฉฏฺเหิ จ จตุตฺถฉฏฺเหิ จ ปฺจมฉฏฺเหิ จ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺาติ, น อฺเหิ. ติสมุฏฺานา ปเมหิ จ ตีหิ, ปจฺฉิเมหิ จ ตีหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺาติ, น อฺเหิ. จตุสมุฏฺานา ปมตติยจตุตฺถฉฏฺเหิ จ ทุติยตติยปฺจมฉฏฺเหิ จ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺาติ, น อฺเหิ. ฉสมุฏฺานา ฉหิปิ สมุฏฺาติ.

สิกฺขาปทํ นาม อตฺถิ ฉสมุฏฺานนฺติ เอตฺถาปิ สิกฺขาปทสีเสน อาปตฺติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. เตเนว วกฺขติ ‘‘สพฺพฺเจตํ อาปตฺติยํ ยุชฺชติ, สิกฺขาปทสีเสน ปน สพฺพอฏฺกถาสุ เทสนา อารุฬฺหา’’ติ. กายาทีหิ ฉหิ สมุฏฺานํ อุปฺปตฺติ, ฉ วา สมุฏฺานานิ เอตสฺสาติ ฉสมุฏฺานํ. อตฺถิ จตุสมุฏฺานนฺติ กาโย กายวาจา กายจิตฺตํ กายวาจาจิตฺตนฺติ อิมานิ จตฺตาริ, วาจา กายวาจา วาจาจิตฺตํ กายวาจาจิตฺตนฺติ อิมานิ วา จตฺตาริ สมุฏฺานานิ เอตสฺสาติ จตุสมุฏฺานํ. อตฺถิ ติสมุฏฺานนฺติ กาโย วาจา กายวาจาติ อิมานิ ตีณิ, กายจิตฺตํ วาจาจิตฺตํ กายวาจาจิตฺตนฺติ อิมานิ วา ตีณิ สมุฏฺานานิ เอตสฺสาติ ติสมุฏฺานํ. ทฺวิสมุฏฺานํ เอกสมุฏฺานฺจ สมุฏฺานสีสวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺถิ กถินสมุฏฺาน’’นฺติอาทิมาห. เตรส หิ สมุฏฺานสีสานิ ปมปาราชิกสมุฏฺานํ อทินฺนาทานสมุฏฺานํ สฺจริตฺตสมุฏฺานํ สมนุภาสนสมุฏฺานํ กถินสมุฏฺานํ เอฬกโลมสมุฏฺานํ ปทโสธมฺมสมุฏฺานํ อทฺธานสมุฏฺานํ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ ธมฺมเทสนาสมุฏฺานํ ภูตาโรจนสมุฏฺานํ โจริวุฏฺาปนสมุฏฺานํ อนนุฺาตสมุฏฺานนฺติ.

ตตฺถ ‘‘อตฺถิ ฉสมุฏฺาน’’นฺติ อิมินา สฺจริตฺตสมุฏฺานํ วุตฺตํ. ‘‘อตฺถิ จตุสมุฏฺาน’’นฺติ อิมินา ปน อทฺธานสมุฏฺานํ อนนุฺาตสมุฏฺานฺจ สงฺคหิตํ. ยฺหิ ปมตติยจตุตฺถฉฏฺเหิ สมุฏฺาติ, อิทํ อทฺธานสมุฏฺานํ. ยํ ปน ทุติยตติยปฺจมฉฏฺเหิ สมุฏฺาติ, อิทํ อนนุฺาตสมุฏฺานํ. ‘‘อตฺถิ ติสมุฏฺาน’’นฺติ อิมินา อทินฺนาทานสมุฏฺานํ ภูตาโรจนสมุฏฺานฺจ สงฺคหิตํ. ยฺหิ สจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺาติ, อิทํ อทินฺนาทานสมุฏฺานํ. ยํ ปน อจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฏฺาติ, อิทํ ภูตาโรจนสมุฏฺานํ. ‘‘อตฺถิ กถินสมุฏฺาน’’นฺติอาทินา ปน อวเสสสมุฏฺานสีเสน ทฺวิสมุฏฺานํ เอกสมุฏฺานฺจ สงฺคณฺหาติ. ตถา หิ ยํ ตติยฉฏฺเหิ สมุฏฺาติ, อิทํ กถินสมุฏฺานนฺติ วุจฺจติ. ยํ ปมจตุตฺเถหิ สมุฏฺาติ, อิทํ เอฬกโลมสมุฏฺานํ. ยํ ฉฏฺเเนว สมุฏฺาติ, อิทํ ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ, สมนุภาสนสมุฏฺานนฺติปิ ตสฺเสว นามํ. อาทิ-สทฺทสงฺคหิเตสุ ปน ปมปาราชิกสมุฏฺานปทโสธมฺมเถยฺยสตฺถธมฺมเทสนาโจริวุฏฺาปนสมุฏฺาเนสุ ยํ กายจิตฺตโต สมุฏฺาติ, อิทํ ปมปาราชิกสมุฏฺานํ. ยํ ทุติยปฺจเมหิ สมุฏฺาติ, อิทํ ปทโสธมฺมสมุฏฺานํ. ยํ จตุตฺถฉฏฺเหิ สมุฏฺาติ, อิทํ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ. ยํ ปฺจเมเนว สมุฏฺาติ, อิทํ ธมฺมเทสนาสมุฏฺานํ. ยํ ปฺจมฉฏฺเหิ สมุฏฺาติ, อิทํ โจริวุฏฺาปนสมุฏฺานนฺติ เวทิตพฺพํ.

เอวํ สมุฏฺานสีเสน สพฺพสิกฺขาปทานิ เตรสธา ทสฺเสตฺวา อิทานิ กิริยาวเสน ปฺจธา ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺราปิ กิฺจิ กิริยโต สมุฏฺาตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กิฺจีติ สิกฺขาปทสีเสน อาปตฺตึ วทติ. ตสฺมา ยา กาเยน วา วาจาย วา ปถวีขณนาทีสุ วิย วีติกฺกมํ กโรนฺตสฺส โหติ, อยํ กิริยโต สมุฏฺาติ นาม. ยา กายวาจาย กตฺตพฺพํ อกโรนฺตสฺส โหติ ปมกถินาปตฺติ วิย, อยํ อกิริยโต สมุฏฺาติ นาม. ยา กโรนฺตสฺส จ อกโรนฺตสฺส จ โหติ อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา หตฺถโต จีวรปฏิคฺคหณาปตฺติ วิย, อยํ กิริยากิริยโต สมุฏฺาติ นาม. ยา สิยา กโรนฺตสฺส จ สิยา อกโรนฺตสฺส จ โหติ รูปิยปฏิคฺคหณาปตฺติ วิย, อยํ สิยา กิริยโต สิยา อกิริยโต สมุฏฺาติ นาม. ยา สิยา กโรนฺตสฺส จ สิยา กโรนฺตสฺส จ อกโรนฺตสฺส จ โหติ กุฏิการาปตฺติ วิย, อยํ สิยา กิริยโต สิยา กิริยากิริยโต สมุฏฺาติ นาม.

อิทานิ สพฺพสิกฺขาปทานิ สฺาวเสน ทฺวิธา กตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺราปิ อตฺถิ สฺาวิโมกฺข’’นฺติอาทิมาห. สฺาย อภาเวน วิโมกฺโข อสฺสาติ สฺาวิโมกฺขนฺติ มชฺเฌปทโลปสมาโส ทฏฺพฺโพ. ยโต หิ วีติกฺกมสฺาอภาเวน มุจฺจติ, อิทํ สฺาวิโมกฺขนฺติ วุจฺจติ. จิตฺตงฺคํ ลภติเยวาติ กายจิตฺตาทิสจิตฺตกสมุฏฺาเนเหว สมุฏฺหนโต. ‘‘ลภติเยวา’’ติ อวธารเณน โน น ลภตีติ ทสฺเสติ. ตสฺมา ยํ จิตฺตงฺคํ ลภติ, น ลภติ จ, ตํ ‘‘อิตร’’นฺติ วุตฺตํ อิตร-สทฺทสฺส วุตฺตปฏิโยควิสยตฺตา.

ปุน สพฺพสิกฺขาปทานิ จิตฺตวเสน ทฺวิธา ทสฺเสนฺโต ‘‘ปุน อตฺถิ สจิตฺตก’’นฺติอาทิมาห. ยํ สเหว จิตฺเตน อาปชฺชตีติ ยํ สจิตฺตเกเนว สมุฏฺาเนน อาปชฺชติ, โน อจิตฺตเกน. วินาปีติ อปิ-สทฺเทน สหาปิ จิตฺเตน อาปชฺชตีติ ทสฺเสติ. ยฺหิ กทาจิ อจิตฺตเกน, กทาจิ สจิตฺตเกน สมุฏฺาเนน สมุฏฺาติ, ตํ อจิตฺตกนฺติ วุจฺจติ. เอตฺถ จ สฺาทุกํ อนาปตฺติมุเขน, สจิตฺตกทุกํ อาปตฺติมุเขน วุตฺตนฺติ อิทเมเตสํ นานากรณนฺติ เวทิตพฺพํ.

โลกวชฺชทุกสฺส เหฏฺา วุตฺตลกฺขณตฺตา ตํ อวิภชิตฺวา อิทานิ สพฺพสิกฺขาปทานิ กมฺมวเสน ทุวิธานิ, กุสลาทิวเสน เวทนาวเสน จ ติวิธานิ โหนฺตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กมฺมกุสลเวทนาวเสนา’’ติอาทิมาห. เอตฺถ ปน กิฺจาปิ อฏฺกถาสุ อาคตนเยน กายกมฺมํ วจีกมฺมนฺติ กมฺมวเสน ทุกํ วุตฺตํ, ติกเมว ปน ทสฺเสตุํ วฏฺฏติ. สพฺพเมว หิ สิกฺขาปทํ กายทฺวาเร อาปชฺชิตพฺพโต วจีทฺวาเร อาปชฺชิตพฺพโต กายวจีทฺวาเร อาปชฺชิตพฺพโต จ ติวิธํ โหติ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘สพฺพาว กายกมฺมวจีกมฺมตทุภยวเสน ติวิธา โหนฺติ. ตตฺถ กายทฺวาเร อาปชฺชิตพฺพา กายกมฺมนฺติ วุจฺจติ, วจีทฺวาเร อาปชฺชิตพฺพา วจีกมฺมนฺติ วุจฺจติ, อุภยตฺถ อาปชฺชิตพฺพา กายกมฺมวจีกมฺม’’นฺติ. ตโตเยว จ อทินฺนาทานสิกฺขาปทาทีสุ กายกมฺมวจีกมฺมนฺติ ตทุภยวเสน ทสฺสิตํ.

อตฺถิ ปน สิกฺขาปทํ กุสลนฺติอาทินา อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต กุสลจิตฺตสมงฺคี วา อาปชฺชติ อกุสลจิตฺตสมงฺคี วา อพฺยากตจิตฺตสมงฺคี วาติ ทสฺเสติ, น ปน กุสลาปิ อาปตฺติ อตฺถีติ. น หิ กุสลา อาปตฺติ นาม อตฺถิ ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ สิยา อพฺยากตํ, นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ (ปริ. ๓๐๓) วจนโต. ทส กามาวจรกิริยจิตฺตานีติ หสิตุปฺปาทโวฏฺพฺพเนหิ สทฺธึ อฏฺ มหากิริยจิตฺตานิ. ทฺวินฺนํ อภิฺาจิตฺตานํ อาปตฺติสมุฏฺาปกตฺตํ ปฺตฺตึ อชานนฺตสฺส อิทฺธิวิกุพฺพนาทีสุ ทฏฺพฺพํ. ยํ กุสลจิตฺเตน อาปชฺชตีติ ยํ สิกฺขาปทสีเสน คหิตํ อาปตฺตึ กุสลจิตฺตสมงฺคี อาปชฺชติ. อิมินา ปน วจเนน ตํ กุสลนฺติ อาปตฺติยา วุจฺจมาโน กุสลภาโว ปริยายโตว, น ปรมตฺถโตติ ทสฺเสติ. กุสลจิตฺเตน หิ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต สวิฺตฺติกํ อวิฺตฺติกํ วา สิกฺขาปทวีติกฺกมาการปฺปวตฺตํ รูปกฺขนฺธสงฺขาตํ อพฺยากตาปตฺตึ อาปชฺชติ. อิตเรหิ อิตรนฺติ อิตเรหิ อกุสลาพฺยากตจิตฺเตหิ ยํ อาปชฺชติ, ตํ อิตรํ, อกุสลํ อพฺยากตฺจาติ อตฺโถ. อิทฺจ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต อกุสลจิตฺตสมงฺคี วา อาปชฺชติ กุสลาพฺยากตจิตฺตสมงฺคี วาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เอวํ สนฺเตปิ สพฺพสิกฺขาปเทสุ กิฺจิ อกุสลจิตฺตเมว กิฺจิ กุสลาพฺยากตวเสน ทฺวิจิตฺตํ, กิฺจิ สพฺเพสํ วเสน ติจิตฺตนฺติ อยเมว ปเภโท ลพฺภติ, น อฺโติ เวทิตพฺพํ.

ติเวทนํ ทฺวิเวทนํ เอกเวทนนฺติ อิทฺจ ยถาวุตฺตเวทนาวเสเนว ลพฺภติ, นาฺถาติ ทฏฺพฺพํ. นิปชฺชิตฺวา นิโรธํ สมาปนฺนสฺส สหเสยฺยวเสน ตทาการปฺปวตฺตรูปกฺขนฺธสฺเสว อาปตฺติภาวโต ‘‘อตฺถิ อเวทน’’นฺติปิ วตฺตพฺพเมตํ, กทาจิ กรหจิ ยทิจฺฉกํ สมฺภวตีติ อคฺคเหตฺวา เยภุยฺยวเสน ลพฺภมานํเยว คเหตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อิทานิ ยถาวุตฺตสมุฏฺานาทีนิ อิมสฺมึ สํวณฺณิยมานสิกฺขาปเท วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมํ ปกิณฺณกํ วิทิตฺวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิทิตฺวาติ อิมสฺส ‘‘เวทิตพฺพ’’นฺติ อิมินา อปรกาลกิริยาวจเนน สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. กิริยสมุฏฺานนฺติ อิทํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ ปรูปกฺกเม สติ สาทิยนฺตสฺส อกิริยสมุฏฺานภาวโต. ‘‘มโนทฺวาเร อาปตฺติ นาม นตฺถีติ อิทมฺปิ พาหุลฺลวเสเนว วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. จิตฺตํ ปเนตฺถ องฺคมตฺตํ โหตีติ ปมปาราชิกํ กายจิตฺตโต สมุฏฺาตีติ จิตฺตเมตฺถ อาปตฺติยา องฺคเมว โหติ. น ตสฺส วเสน กมฺมภาโว ลพฺภตีติ วิฺตฺติชนกวเสน กายทฺวาเร ปวตฺตตฺตา ตสฺส จิตฺตสฺส วเสน อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส มโนกมฺมภาโว น ลพฺภตีติ อตฺโถ. สิกฺขาปทสฺส เหฏฺา วุตฺตนเยน ปฺตฺติภาวโต ‘‘สพฺพฺเจตํ อาปตฺติยํ ยุชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. น หิ ยถาวุตฺตสมุฏฺานาทิ ปฺตฺติยํ ยุชฺชติ.

ปกิณฺณกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

วินีตวตฺถุวณฺณนา

อิทํ กินฺติ กเถตุกมฺยตาย ปุจฺฉติ. วินีตานิ วินิจฺฉิตานิ วตฺถูนิ วินีตวตฺถูนิ. ตานิ หิ ‘‘อาปตฺตึ ตฺวํ ภิกฺขุ อาปนฺโน ปาราชิกํ. อนาปตฺติ ภิกฺขุ ปาราชิกสฺส, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส. อนาปตฺติ ภิกฺขุ อสาทิยนฺตสฺสา’’ติอาทินา ภควตาเยว วินิจฺฉิตานิ. เตนาห ‘‘ภควตา สยํ วินิจฺฉิตาน’’นฺติ. อุทฺทานคาถาติ อุทฺเทสคาถา, สงฺคหคาถาติ วุตฺตํ โหติ. วตฺถุคาถาติ ‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขู’’ติอาทิกา นิทานวตฺถุทีปิกา วินีตวตฺถุปาฬิเยว เตสํ เตสํ วตฺถูนํ คนฺถนโต ‘‘วตฺถุคาถา’’ติ วุตฺตา, น ฉนฺโทวิจิติลกฺขเณน. คาถานํ วตฺถุ วตฺถุคาถาติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอตฺถาติ วินีตวตฺถูสุ. ทุติยาทีนนฺติ ทุติยปาราชิกาทีนํ. ทุติยาทีนิ วินิจฺฉินิตพฺพานีติ โยเชตพฺพํ. สิปฺปิกานนฺติ จิตฺตการาทิสิปฺปิกานํ. ยํ ปสฺสิตฺวา ปสฺสิตฺวา จิตฺตการาทโย จิตฺตกมฺมาทีนิ อุคฺคณฺหนฺตา กโรนฺติ, ตํ ‘‘ปฏิจฺฉนฺนกรูป’’นฺติ วุจฺจติ.

๖๗. ปุริมานิ ทฺเว วตฺถูนีติ มกฺกฏิวตฺถุํ วชฺชิปุตฺตกวตฺถุฺจ. ตานิ ปน กิฺจาปิ อนุปฺตฺติยํ อาคตาเนว, ตถาปิ ภควตา สยํ วินิจฺฉิตวตฺถุภาวโต อทินฺนาทานาทีสุ อนุปฺตฺติยํ อาคตานิ รชกาทิวตฺถูนิ วิย ปุน วินีตวตฺถูสุ ปกฺขิตฺตานิ. ยทิ เอวํ ‘‘ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสี’’ติ อิทํ วิรุชฺเฌยฺย, อนุปฺตฺติยฺหิ อฺเ ภิกฺขู ทิสฺวา ตํ ภิกฺขุํ โจเทสุนฺติ? สจฺจเมตํ, เตหิ ปน ภิกฺขูหิ อนุปฺตฺติยํ วุตฺตนเยน โจเทตฺวา ‘‘นนุ, อาวุโส, ตเถว ตํ โหตี’’ติ วุตฺเต ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสีติ คเหตพฺพํ. ‘‘ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสี’’ติ อิทฺจ เตหิ ภิกฺขูหิ อนุปฺตฺติยํ วุตฺตนเยน ภควโต อาโรจิเต ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ มกฺกฏิยา เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวี’’ติ ภควตา ปุฏฺโ สมาโน ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสีติ คเหตพฺพํ.

วชฺชิปุตฺตกวตฺถุมฺหิ ปน สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตฺวา วิพฺภมิตฺวา เย อานนฺทตฺเถรํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุน ปพฺพชฺชํ อุปสมฺปทฺจ ยาจึสุ, เต สนฺธาย ‘‘อฏฺานเมตํ, อานนฺท, อนวกาโส, ยํ ตถาคโต วชฺชีนํ วา วชฺชิปุตฺตกานํ วา การณา สาวกานํ ปาราชิกํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ สมูหเนยฺยา’’ติอาทิ อนุปฺตฺติยํ วุตฺตํ. เย ปน อวิพฺภมิตฺวา สลิงฺเค ิตาเยว อุปฺปนฺนกุกฺกุจฺจา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ, เต สนฺธาย ‘‘อาปตฺตึ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อาปนฺนา ปาราชิก’’นฺติ อิธ วุตฺตํ. เกจิ ปน อิมํ อธิปฺปายํ อชานนฺตาว ‘‘อฺเมว มกฺกฏิวตฺถุ วชฺชิปุตฺตกวตฺถุ จ วินีตวตฺถูสุ อาคต’’นฺติ วทนฺติ.

กุเส คนฺเถตฺวาติ กุสติณานิ คนฺเถตฺวา. เกเสหีติ มนุสฺสเกเสหิ. ตํ ราคนฺติ กายสํสคฺคราคํ. ตฺวาติ สยเมว ชานิตฺวา. ยทิ กายสํสคฺคราเคน กตํ, กายสํสคฺคราคสิกฺขาปทสฺส วินีตวตฺถูสุ อวตฺวา อิธ กสฺมา วุตฺตนฺติ? วุจฺจเต – กิฺจาปิ ตํ กายสํสคฺคราเคน กตํ, ตสฺส ปน ภิกฺขุโน ปาราชิกกฺเขตฺเต กตุปกฺกมตฺตา ‘‘ปาราชิกํ นุ โข อหํ อาปนฺโน’’ติ ปาราชิกวิสยํ กุกฺกุจฺจํ อโหสีติ อิธ วุตฺตํ. เตเนวาห – ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ ปาราชิกสฺส, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ.

๖๘. อติทสฺสนียาติ ทิวสมฺปิ ปสฺสนฺตานํ อติตฺติกรณโต อติวิย ทสฺสนโยคฺคา. วณฺณโปกฺขรตายาติ เอตฺถ โปกฺขรตา วุจฺจติ สุนฺทรภาโว, วณฺณสฺส โปกฺขรตา วณฺณโปกฺขรตา, ตาย วณฺณโปกฺขรตาย, วณฺณสมฺปตฺติยาติ อตฺโถ. โปราณา ปน โปกฺขรนฺติ สรีรํ วทนฺติ, วณฺณํ วณฺณเมว. เตสํ มเตน วณฺณฺจ โปกฺขรฺจ วณฺณโปกฺขรานิ, เตสํ ภาโว วณฺณโปกฺขรตา, ตสฺมา วณฺณโปกฺขรตายาติ ปริสุทฺเธน วณฺเณน เจว สรีรสณฺานสมฺปตฺติยา จาติ อตฺโถ. อถ วา วณฺณสมฺปนฺนํ โปกฺขรํ วณฺณโปกฺขรนฺติ อุตฺตรปทโลโป ปุพฺพปทสฺส ทฏฺพฺโพ, ตสฺส ภาโว วณฺณโปกฺขรตา, ตาย วณฺณโปกฺขรตาย, วณฺณสมฺปนฺนสรีรตายาติ อตฺโถ. ปธํเสสีติ อภิภวีติ อตฺโถ. กถํ ปน อสาทิยนฺตี นิสีทีติ อาห – ‘‘อสทฺธมฺมาธิปฺปาเยน…เป… ขาณุกา วิยา’’ติ.

ลิมฺปตีติ น อลฺลียติ. กาเมสูติ วตฺถุกามกิเลสกาเมสุ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา ปทุมินิปณฺเณ อุทกพินฺทุ น สณฺาติ, ยถา จ สูจิมุเข สาสโป น สนฺติฏฺติ, เอวเมว โย อพฺภนฺตเร ทุวิเธนปิ กาเมน น ลิมฺปติ, ตสฺมึ กาโม น สณฺาติ, ตมหํ พฺราหฺมณํ วทามีติ.

๖๙. ปุริสสณฺานํ อนฺตรหิตํ, อิตฺถิสณฺานํ อุปฺปนฺนนฺติ ผลสฺส วินาสุปฺปาททสฺสเนน การณสฺสปิ วินาสุปฺปาทา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. ปุริสินฺทฺริเย หิ นฏฺเ ปุริสสณฺานํ อนฺตรธายติ, อิตฺถินฺทฺริเย สมุปฺปนฺเน อิตฺถิสณฺานํ ปาตุภวติ. ตถา หิ ‘‘ยสฺส อิตฺถินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ปุริสินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชตีติ? โน. ยสฺส วา ปน ปุริสินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส อิตฺถินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชตีติ? โน’’ติ ยมกปกรเณ (ยม. ๓. อินฺทฺริยยมก.๑๘๘) วุตฺตตฺตา อินฺทฺริยทฺวยสฺส เอกสฺมึ สนฺตาเน สหปวตฺติยา อสมฺภวโต ยสฺมึ ขเณ อิตฺถินฺทฺริยํ ปาตุภวติ, ตโต ปุพฺเพ สตฺตรสมจิตฺตโต ปฏฺาย ปุริสินฺทฺริยํ นุปฺปชฺชติ. ตโต ปุพฺเพ อุปฺปนฺเนสุ จ ปุริสินฺทฺริเยสุ สหชรูเปหิ สทฺธึ กเมน นิรุทฺเธสุ ตสฺมึ สนฺตาเน อิตฺถินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชติ. ตโต ปุริสสณฺานากาเรน ปวตฺเตสุ กมฺมชรูเปสุ เสสรูเปสุ จ กฺจิ กาลํ ปวตฺติตฺวา นิรุทฺเธสุ อิตฺถิสณฺานากาเรน จ จตุชรูปสนฺตติยา ปวตฺตาย ปุริสสณฺานํ อนฺตรหิตํ, อิตฺถิสณฺานํ ปาตุภูตนฺติ วุจฺจติ. อิตฺถิยา ปุริสลิงฺคปาตุภาเวปิ อยเมว นโย เวทิตพฺโพ.

ปุริสลิงฺคํ อุตฺตมํ, อิตฺถิลิงฺคํ หีนนฺติ อิมินา จ ปุริสินฺทฺริยสฺส อุตฺตมภาโว, อิตฺถินฺทฺริยสฺส จ หีนภาโว วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ. น หิ อินฺทฺริยสฺส หีนุกฺกฏฺภาวํ วินา ตนฺนิสฺสยสฺส ลิงฺคสฺส หีนุกฺกฏฺตา สมฺภวติ. ปุริสลิงฺคํ พลวอกุสเลน อนฺตรธายตีติอาทินาปิ อินฺทฺริยสฺเสว วินาสุปฺปาทา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. อินฺทฺริเย หิ วินฏฺเ อุปฺปนฺเน จ ตนฺนิสฺสยสฺส ลิงฺคสฺสปิ อนฺตรธานํ ปติฏฺานฺจ สมฺภวติ. กถํ ปเนตฺถ ปุริสลิงฺคํ พลวอกอุสเลน อนฺตรธายติ, อิตฺถิลิงฺคํ ทุพฺพลกุสเลน ปติฏฺาตีติ? วุจฺจเต – ปฏิสนฺธิยํ ตาว ปุริสินฺทฺริยุปฺปาทกํ อนุปหตสามตฺถิยํ พลวกุสลกมฺมํ ยาวตายุกํ ปุริสินฺทฺริยเมว อุปฺปาเทติ, อนฺตรา ปน เกนจิ ลทฺธปจฺจเยน ปารทาริกตฺตาทินา พลวอกุสลกมฺเมน อุปหตสามตฺถิยํ ตเทว ปฏิสนฺธิทายกํ กุสลกมฺมํ ทุพฺพลีภูตํ ปุริสินฺทฺริยํ อนุปฺปาเทตฺวา อตฺตโน สามตฺถิยานุรูปํ อิตฺถินฺทฺริยํ ปวตฺเต อุปฺปาเทติ. ยทา ปน ปฏิสนฺธิทานกาเลเยว เกนจิ ลทฺธปจฺจเยน ปารทาริกตฺตาทินา พลวอกุสลกมฺเมน ปุริสินฺทฺริยุปฺปาทนสามตฺถิยํ อุปหตํ โหติ, ตทา ทุพฺพลีภูตํ กุสลกมฺมํ ปุริสินฺทฺริยํ อนุปฺปาเทตฺวา ปฏิสนฺธิยํเยว อิตฺถินฺทฺริยํ อุปฺปาเทติ. ตสฺมา ‘‘ปุริสลิงฺคํ พลวอกุสเลน อนฺตรธายติ, อิตฺถิลิงฺคํ ทุพฺพลกุสเลน ปติฏฺาตี’’ติ วุจฺจติ.

ทุพฺพลอกุสเลน อนฺตรธายตีติ ปารทาริกตฺตาทิพลวอกุสลกมฺมสฺส ปุริสินฺทฺริยุปฺปาทนวิพนฺธกสฺส ทุพฺพลภาเว สติ อนฺตรธายนฺตํ อิตฺถิลิงฺคํ ทุพฺพลอกุสเลน อนฺตรธายตีติ วุตฺตํ. ตถา หิ ปารทาริกตฺตาทินา พลวอกุสลกมฺเมน พาหิตตฺตา ปุริสินฺทฺริยุปฺปาทเน อสมตฺถํ ปฏิสนฺธิยํ อิตฺถิยา อิตฺถินฺทฺริยุปฺปาทกํ ทุพฺพลกุสลกมฺมํ ยทา ปวตฺติยํ พฺรหฺมจริยวาสมิจฺฉาจารปฏิวิรติวเสน ปุริสตฺตปตฺถนาวเสน วา กตุปจิตพลวกุสลกมฺเมน อาหิตสามตฺถิยํ ปุริสินฺทฺริยุปฺปาทเน สมตฺถํ อิตฺถินฺทฺริยํ อนุปฺปาเทตฺวา อตฺตโน สามตฺถิยานุรูปํ ปุริสินฺทฺริยํ อุปฺปาเทติ, ตทา ปุริสินฺทฺริยุปฺปาทนวิพนฺธกสฺส พลวอกุสลกมฺมสฺส ทุพฺพลภาเว สติ ตํ อิตฺถินฺทฺริยํ อนฺตรหิตนฺติ ‘‘อิตฺถิลิงฺคํ อนฺตรธายนฺตํ ทุพฺพลอกุสเลน อนฺตรธายตี’’ติ วุจฺจติ. ยถาวุตฺตนเยเนว พลวตา กุสลกมฺเมน ปุริสินฺทฺริยสฺส อุปฺปาทิตตฺตา ‘‘ปุริสลิงฺคํ พลวกุสเลน ปติฏฺาตี’’ติ วุจฺจติ. ปุพฺเพ อิตฺถิภูตสฺส ปฏิสนฺธิยํ ปุริสินฺทฺริยุปฺปาเทปิ อยํ นโย เวทิตพฺโพ. อุภยมฺปิ อกุสเลน อนฺตรธายติ, กุสเลน ปฏิลพฺภตีติ อิทํ สุคติภวํ สนฺธาย วุตฺตํ, ทุคฺคติยํ ปน อุภินฺนํ อุปฺปตฺติ วินาโส จ อกุสลกมฺเมเนวาติ ทฏฺพฺพํ.

อุภินฺนมฺปิ สหเสยฺยาปตฺติ โหตีติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ มาตุคาเมน สหเสยฺยํ กปฺเปยฺย, ปาจิตฺติยํ. ยา ปน ภิกฺขุนี ปุริเสน สหเสยฺยํ กปฺเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตตฺตา อุภินฺนมฺปิ สหเสยฺยวเสน ปาจิตฺติยาปตฺติ โหติ. ทุกฺขีติ เจโตทุกฺขสมงฺคิตาย ทุกฺขี. ทุมฺมโนติ โทเสน ทุฏฺมโน, วิรูปมโน วา โทมนสฺสาภิภูตตาย. ‘‘สมสฺสาเสตพฺโพ’’ติ วตฺวา สมสฺสาเสตพฺพวิธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘โหตุ มา จินฺตยิตฺถา’’ติอาทิมาห. อนาวโฏติ อวาริโต. ธมฺโมติ ปริยตฺติปฏิปตฺติปฏิเวธสงฺขาโต ติวิโธปิ สทฺธมฺโม. สคฺโค จ มคฺโค จ สคฺคมคฺโค, สคฺคสฺส วา มคฺโค สคฺคมคฺโค, สคฺคูปปตฺติสาธิกา ปฏิปตฺติ. ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิธาย อทฺธานคมเน อาปตฺติ ปริหริตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สํวิทหนํ ปริโมเจตฺวา’’ติ อาห. ‘‘มยํ อสุกํ นาม านํ คจฺฉามา’’ติ วตฺวา ‘‘เอหิ สทฺธึ คมิสฺสามา’’ติอาทินา อสํวิทหิตตฺตา อนาปตฺติ.

พหิคาเมติ อตฺตโน วสนคามโต พหิ. คามนฺตรนทีปารรตฺติวิปฺปวาสคณโอหียนาปตฺตีหิ อนาปตฺตีติ ‘‘ทุติยิกา ภิกฺขุนี ปกฺกนฺตา วา โหตี’’ติอาทินา (ปาจิ. ๖๙๓) วุตฺตอนาปตฺติลกฺขเณหิ สํสนฺทนโต วุตฺตํ. อาราธิกาติ จิตฺตาราธเน สมตฺถา. ตา โกเปตฺวาติ ตา ปริจฺจชิตฺวา. ลชฺชินิโย…เป… ลพฺภตีติ ‘‘สงฺคเห อสติ อุกฺกณฺิตฺวา วิพฺภเมยฺยาปี’’ติ สงฺคหวเสเนว วุตฺตํ. อลชฺชินิโย…เป… ลพฺภตีติ อลชฺชิภาวโต อสนฺตปกฺขํ ภชนฺตีติ วุตฺตํ. อฺาติกา…เป… วฏฺฏตีติ อิทํ ปน อิมิสฺสา อาเวณิกํ กตฺวา อฏฺกถายํ อนุฺาตนฺติ วทนฺติ. ภิกฺขุภาเวปีติ ภิกฺขุกาเลปิ. ปริสาวจโรติ อุปชฺฌาโย จ อาจริโย จ หุตฺวา ปริสุปฏฺาโก. อฺสฺส สนฺติเก นิสฺสโย คเหตพฺโพติ ตสฺส สนฺติเก อุปสมฺปนฺเนหิ สทฺธิวิหาริเกหิ อฺสฺส อาจริยสฺส สนฺติเก นิสฺสโย คเหตพฺโพ. ตํ นิสฺสาย วสนฺเตหิปีติ อนฺเตวาสิเก สนฺธาย วทติ. อุปชฺฌา คเหตพฺพาติ อุปสมฺปทตฺถํ อุปชฺฌา คเหตพฺพา, อฺสฺส สนฺติเก อุปสมฺปชฺชิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.

วินยกมฺมนฺติ วิกปฺปนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปุน กาตพฺพนฺติ ปุน วิกปฺเปตพฺพํ. ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ วฏฺฏตีติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนีนํ สนฺนิธิ ภิกฺขูหิ, ภิกฺขูนํ สนฺนิธิ ภิกฺขุนีหิ ปฏิคฺคาหาเปตฺวา ปริภุฺชิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๔๒๑) วจนโต ปุน ปฏิคฺคหิตํ ตทหุ สามิสมฺปิ วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. สตฺตเม ทิวเสติ อิทํ ตฺจ นิสฺสคฺคิยํ อนาปชฺชิตฺวาว ปุนปิ สตฺตาหํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ภิกฺขุนิยา นิสฺสคฺคิยํ ภิกฺขุสฺส วฏฺฏติ, ภิกฺขุสฺส นิสฺสคฺคิยํ ภิกฺขุนิยา วฏฺฏติ, ตสฺมา อฏฺเมปิ ทิวเส ลิงฺคปริวตฺเต สติ อนิสฺสชฺชิตฺวาว อนฺโตสตฺตาเห ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ตํ ปกตตฺโต รกฺขตีติ อปริวตฺตลิงฺโค ตํ ปฏิคฺคหณวิชหนโต รกฺขติ, อวิภตฺตตาย ปฏิคฺคหณํ น วิชหตีติ อธิปฺปาโย. สามํ คเหตฺวาน นิกฺขิเปยฺยาติ ปฏิคฺคเหตฺวา สยํ นิกฺขิเปยฺย. ปริภุฺชนฺตสฺส อาปตฺตีติ ลิงฺคปริวตฺเต สติ ปฏิคฺคหณวิชหนโต ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส อาปตฺติ.

‘‘หีนายาวตฺตเนนาติ ปาราชิกํ อาปนฺนสฺส คิหิภาวูปคมเนนา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ, ตํ สุวุตฺตํ. น หิ ปาราชิกํ อนาปนฺนสฺส สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย ‘‘วิพฺภมิสฺสามี’’ติ คิหิลิงฺคคฺคหณมตฺเตน ภิกฺขุภาโว วินสฺสติ. ปาราชิกํ อาปนฺโน จ ภิกฺขุลิงฺเค ิโต ยาว น ปฏิชานาติ, ตาว อตฺเถว ตสฺส ภิกฺขุภาโว, น โส อนุปสมฺปนฺนสงฺขฺยํ คจฺฉติ. ตถา หิ โส สํวาสํ สาทิยนฺโตปิ เถยฺยสํวาสโก น โหติ, สหเสยฺยาทิอาปตฺตึ น ชเนติ, โอมสวาเท ปาจิตฺติยฺจ ชเนติ. เตเนว ‘‘อสุทฺโธ โหติ ปุคฺคโล อฺตรํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน, ตฺเจ สุทฺธทิฏฺิ สมาโน โอกาสํ การาเปตฺวา อกฺโกสาธิปฺปาโย วเทติ, อาปตฺติ โอมสวาทสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๘๙) โอมสวาเท ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. อสติ หิ ภิกฺขุภาเว ทุกฺกฏํ ภเวยฺย, สติ จ ภิกฺขุภาเว ปฏิคฺคหิตสฺส ปฏิคฺคหณวิชหนํ นาม อยุตฺตํ, ตสฺมา สพฺพโส ภิกฺขุภาวสฺส อภาวโต ปาราชิกํ อาปชฺชิตฺวา คิหิลิงฺคคฺคหเณน คิหิภาวูปคมนํ อิธ ‘‘หีนายาวตฺตน’’นฺติ อธิปฺเปตํ, น ปน ปกตตฺตสฺส คิหิลิงฺคคฺคหณมตฺตํ. เตเนว กตฺถจิ สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน สมานคติกตฺตา หีนายาวตฺตนํ วิสุํ น คณฺหนฺติ. สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน ปฏิคฺคหณวิชหเน วุตฺเต ปาราชิกํ อาปนฺนสฺส คิหิภาวูปคมเนน สพฺพโส ภิกฺขุภาวสฺส อภาวโต วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ. ตถา หิ พุทฺธทตฺตาจริเยน อตฺตโน วินยวินิจฺฉเย –

‘‘อจฺเฉทคาหนิรเปกฺขนิสคฺคโต จ,

สิกฺขาปฺปหานมรเณหิ จ ลิงฺคเภทา;

ทาเนน ตสฺส จ ปรสฺส อภิกฺขุกสฺส,

สพฺพํ ปฏิคฺคหณเมติ วินาสเมว’’นฺติ. –

เอตฺตกเมว วุตฺตํ. ตถา ธมฺมสิริตฺเถเรนปิ –

‘‘สิกฺขามรณลิงฺเคหิ, อนเปกฺขวิสคฺคโต;

อจฺเฉทานุปสมฺปนฺน-ทานา คาโหปสมฺมตี’’ติ. –

วุตฺตํ. ยทิ จ ปกตตฺตสฺส คิหิลิงฺคคฺคหณมตฺเตนปิ ปฏิคฺคหณํ วิชเหยฺย, เตปิ อาจริยา วิสุํ ตมฺปิ วเทยฺยุํ, น วุตฺตฺจ, ตโต วิฺายติ ‘‘ปกตตฺตสฺส คิหิลิงฺคคฺคหณมตฺตํ อิธ หีนายาวตฺตนนฺติ นาธิปฺเปต’’นฺติ. ภิกฺขุนิยา ปน สิกฺขาปจฺจกฺขานสฺส อภาวโต คิหิลิงฺคคฺคหณมตฺเตนปิ ปฏิคฺคหณํ วิชหติ.

อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนนาติ อฺสฺส อทตฺวาว อนตฺถิกตาย ‘‘นตฺถิ อิมินา กมฺมํ, น อิทานิ นํ ปริภุฺชิสฺสามี’’ติ วตฺถูสุ วา ‘‘ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชิสฺสามี’’ติ ปฏิคฺคหเณ วา อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนน. อจฺฉินฺทิตฺวา คาเหนาติ โจราทีหิ อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณน.

เอตฺถาติ ภิกฺขุวิหาเร. อุปโรปกาติ เตน โรปิตา รุกฺขคจฺฉา. เตรสสุ สมฺมุตีสูติ ภตฺตุทฺเทสกเสนาสนปฺาปกภณฺฑาคาริกจีวรปฏิคฺคาหกจีวรภาชกยาคุภาชกผลภาชกขชฺชภาชกอปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชกสาฏิยคฺคาหาปกปตฺตคฺคาหาปกอารามิกเปสกสามเณรเปสกสมฺมุติสงฺขาตาสุ เตรสสุ สมฺมุตีสุ. กามํ ปุริมิกาย ปจฺฉิมิกาย จ เสนาสนคฺคาโห ปฏิปฺปสฺสมฺภติเยว, ปุริมิกาย ปน เสนาสนคฺคาเห ปฏิปฺปสฺสทฺเธ ปจฺฉิมิกาย อฺตฺถ อุปคนฺตุํ สกฺกาติ ปุริมิกาย เสนาสนคฺคาหปฏิปฺปสฺสทฺธึ วิสุํ ทสฺเสตฺวา ปจฺฉิมิกาย เสนาสนคฺคาเห ปฏิปฺปสฺสทฺเธ น สกฺกา อฺตฺถ อุปคนฺตุนฺติ ตตฺถ ภิกฺขูหิ กตฺตพฺพสงฺคหํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สเจ ปจฺฉิมิกาย เสนาสเน คหิเต’’ติอาทิมาห.

ปกฺขมานตฺตเมว ทาตพฺพนฺติ ภิกฺขุนีนํ ปฏิจฺฉนฺนายปิ อาปตฺติยา มานตฺตจารสฺเสว อนุฺาตตฺตา. ปุน ปกฺขมานตฺตเมว ทาตพฺพนฺติ ภิกฺขุกาเล จิณฺณมานตฺตาภาวโต. ภิกฺขุนีหิ อพฺภานกมฺมํ กาตพฺพนฺติ ภิกฺขุกาเล จิณฺณมานตฺตตาย ภิกฺขุนีกาเลปิ จิณฺณมานตฺตา อิจฺเจว สงฺขฺยํ คจฺฉตีติ กตฺวา วุตฺตํ. สเจ อกุสลวิปาเก…เป… ฉารตฺตํ มานตฺตเมว ทาตพฺพนฺติ มานตฺตํ จรนฺตสฺส ลิงฺคปริวตฺตาธิการตฺตา วุตฺตํ. สเจ ปน ภิกฺขุกาเล ปฏิจฺฉนฺนาย สาธารณาปตฺติยา ปริวสนฺตสฺส อสมาทิณฺณปริวาสสฺส วา ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, ตสฺส ภิกฺขุนีกาเล ปกฺขมานตฺตํ จรนฺตสฺส อกุสลวิปาเก ปริกฺขีเณ ปุน ลิงฺเค ปริวตฺติเต ปริวาสํ ทตฺวา ปริวุตฺถปริวาสสฺส ฉารตฺตํ มานตฺตํ ทาตพฺพนฺติ วทนฺติ.

สฺจริตฺตาปตฺตีติ สาธารณาปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ปริวาสทานํ นตฺถีติ ภิกฺขุกาเล อปฺปฏิจฺฉนฺนภาวโต. ภิกฺขุนีกาเล ปน อาโรจิตาปิ สาธารณาปตฺติ สเจ ภิกฺขุกาเล อนาโรจิตา, ปฏิจฺฉนฺนาว โหตีติ วทนฺติ. ภิกฺขูหิ มานตฺเต อทินฺเนติ อจิณฺณมานตฺตาย ลิงฺคปริวตฺเต สติ. ภิกฺขุนีภาเว ิตายปิ ตา สุปฺปฏิปฺปสฺสทฺธา เอวาติ สมฺพนฺโธ. ยา อาปตฺติโย ปุพฺเพ ปฏิปฺปสฺสทฺธาติ ยา อสาธารณาปตฺติโย ปุพฺเพ ภิกฺขุภาเว ปฏิปฺปสฺสทฺธา. ‘‘ปาราชิกํ อาปนฺนสฺส ลิงฺคปริวตฺเต สติ สนฺตานสฺส เอกตฺตา น ปุน โส อุปสมฺปทํ ลภติ, ตถา วิพฺภนฺตาปิ ภิกฺขุนี ลิงฺคปริวตฺเต สติ ปุน อุปสมฺปทํ น ลภตี’’ติ วทนฺติ.

๗๑. ‘‘อนุปาทินฺนเกสูติ อธิการตฺตา อุปาทินฺนเกปิ เอเสว นโยติ วุตฺต’’นฺติ จูฬคณฺิปเท มชฺฌิมคณฺิปเท จ วุตฺตํ, ตํ ทุวุตฺตํ. น หิ อุปาทินฺนเกสุ นิมิตฺเต อุปกฺกมนฺตสฺส ทุกฺกฏํ ทิสฺสติ. ตถา หิ อุปาทินฺนเกสุ นิมิตฺเต อปฺปเวเสตฺวา พหิ อุปกฺกมนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ ‘‘น จ, ภิกฺขเว, รตฺตจิตฺเตน องฺคชาตํ ฉุปิตพฺพํ, โย ฉุเปยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๒) วุตฺตตฺตา. เอตฺถ จ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ สพฺพํ อฏฺกถายํ ปุพฺเพ วิจาริตเมว. ทุกฺกฏเมวาติ โมจนราคสฺส อภาวโต. ตเถวาติ มุจฺจตุ วา มา วาติ อิมมตฺถํ อติทิสฺสติ.

อวิสโยติ อสาทิยนํ นาม เอวรูเป าเน ทุกฺกรนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. มาตุคามสฺส วจนํ คเหตฺวาติ ‘‘อหํ วายมิสฺสามิ, ตฺวํ มา วายมี’’ติอาทินา วุตฺตวจนํ คเหตฺวา. อุภยวายาเมเนว อาปตฺตีติ สฺาย ‘‘ตฺวํ มา วายมี’’ติ วุตฺตํ.

๗๓. วฏฺฏกเตติ อิมสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิวเฏ’’ติ อาห. ‘‘ปาราชิกภเยน อากาสคตเมว กตฺวา ปเวสนาทีนิ กโรนฺตสฺส สหสา ตาลุกํ วา ปสฺสํ วา องฺคชาตํ ผุสติ เจ, ทุกฺกฏเมว เมถุนราคสฺส อภาวโต’’ติ วทนฺติ, อุปปริกฺขิตฺวา คเหตพฺโพ. สุผุสิตาติ สุฏฺุ ปิหิตา. อนฺโตมุเข โอกาโส นตฺถีติ ทนฺตานํ สุปิหิตภาวโต อนฺโตมุเข ปเวเสตุํ โอกาโส นตฺถิ. อุปฺปาฏิเต ปน โอฏฺมํเส ทนฺเตสุเยว อุปกฺกมนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยนฺติ ปตงฺคมุขมณฺฑูกสฺส มุขสณฺาเน วิย วณสงฺเขปวเสน ถุลฺลจฺจยํ. ‘‘เมถุนราเคน อิตฺถิยา อปฺปเวเสนฺโต นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฉุปติ, ถุลฺลจฺจย’’นฺติ อิมินา วา ลกฺขเณน สมานตฺตา อิธ ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ. พหิ นิกฺขนฺตทนฺตชิวฺหาสุปิ เอเสว นโย.

อมุจฺจนฺเต ถุลฺลจฺจยนฺติ ‘‘เจเตติ อุปกฺกมติ น มุจฺจติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๖๒) วจนโต. นิชฺฌามตณฺหิกาทีติ อาทิ-สทฺเทน ขุปฺปิปาสิกาทิเปตีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อลฺลียิตุมฺปิ น สกฺกาติ นิชฺฌามตณฺหิกานํ โลมกูเปหิ สมุฏฺิตอคฺคิชาลาหิ นิจฺจํ ปชฺชลิตสรีรตาย ขุปฺปิปาสิกาทีนํ อติวิย ปฏิกูลวิรูปพีภจฺฉอฏฺิจมฺมาวสิฏฺนิจฺจาตุรสรีรตาย อามสิตุมฺปิ น สกฺกา. เทวตา วิย สมฺปตฺตึ อนุโภนฺตีติ เอตฺถ ยาสนฺติ สามิวจนํ ยาติ ปจฺจตฺตวจเนน วิปริณาเมตฺวา โยเชตพฺพํ ‘‘ยา เทวตา วิย สมฺปตฺตึ อนุโภนฺตี’’ติ. ทสฺสนาทีสุ ทสฺสนํ นาม ภิกฺขุนา ตาสํ ทสฺสนํ, คหณมฺปิ ภิกฺขุนาว ตาสํ องฺคปจฺจงฺคคหณํ. อามสนาทีนิ ปน ตาสํ กิจฺจานิ. ตตฺถ อามสนํ นาม อตฺตโน สรีเรน ภิกฺขุโน สรีรสฺส อุปริ อามสนมตฺตํ, ผุสนํ ตโต ทฬฺหตรํ กตฺวา สมฺผุสนํ, ฆฏฺฏนํ ตโตปิ ทฬฺหตรํ กตฺวา สรีเรน สรีรสฺส ฆฏฺฏนํ. วิสฺํ กตฺวาติ ยถา โส กตมฺปิ อุปกฺกมนํ น ชานาติ, เอวํ กตฺวา. ยทิปิ อามสนาทิ ตสฺสา กิจฺจํ, ตถาปิ เตเนว อนาปตฺตึ อวตฺวา ‘‘ตํ ปุคฺคลํ วิสฺํ กตฺวา’’ติ วจนโต อกตวิสฺโ ชานิตฺวา สาทิยติ เจ, ปาราชิกเมว. ภิกฺขุโน ปน ทสฺสนคหเณสุ สติ อสาทิยนํ นาม น โหตีติ ทสฺสนคหเณสุ ปฺายมาเนสุ อนาปตฺติ น วุตฺตา. ยทิ ปน ปมํ ทสฺสนคหเณสุ สติ ปจฺฉา ตํ ปุคฺคลํ วิสฺํ กตฺวา อามสนาทีนิ กโรนฺตี อตฺตโน มโนรถํ ปูเรตฺวา คจฺฉติ, นตฺถิ ปาราชิกํ.

อุปหตกายปฺปสาโทติ อนฏฺเปิ กายปฺปสาเท กายวิฺาณุปฺปาทเน อสมตฺถตาปาทนวเสน วาตปิตฺตาทีหิ อุปหตกายปฺปสาโท. เสวนจิตฺตวเสน อาปตฺตีติ ยถา สนฺถตนิมิตฺตวเสน อุปาทินฺนผสฺสํ อวินฺทนฺตสฺสปิ เสวนจิตฺตวเสน อาปตฺติ, เอวมิธาปิ ปิตฺตวาตาทินา อุปหตกายปฺปสาทตฺตา อเวทิยนฺตสฺสปิ เสวนจิตฺตวเสน อาปตฺติ.

นนุ จ ฉุปิตมตฺตวตฺถุสฺมึ ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิสฺสามีติ ฉุปิตมตฺเต วิปฺปฏิสารี อโหสี’’ติ วุตฺตตฺตา เมถุนสฺส ปุพฺพปโยเค ทุกฺกเฏน ภวิตพฺพํ, อถ กสฺมา ‘‘อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ วุตฺตนฺติ อิมํ อนฺโตลีนโจทนํ มนสิกตฺวา ตํ ปริหริตุํ ‘‘โย เมถุน’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ สีสนฺติ มคฺเคน มคฺคปฏิปาทนํ. ตฺหิ ปโยคานํ มตฺถกสทิสตฺตา ‘‘สีส’’นฺติ วุตฺตํ ตโต ปรํ ปโยคาภาวโต. ทุกฺกเฏ ติฏฺนฺตีติ ทุกฺกฏํ ชเนนฺติ. ทุกฺกฏฺหิ ชเนนฺตา หตฺถคฺคาหาทโย ปโยคา ‘‘ทุกฺกเฏ ติฏฺนฺตี’’ติ วุตฺตา อฺิสฺสา อาปตฺติยา ชนกวเสน อปฺปวตฺตนโต.

๗๔. ชาติปุปฺผคุมฺพานนฺติ ชาติสุมนคุมฺพานํ. อุสฺสนฺนตายาติ พาหุลฺลตาย. อุปจาเรติ อาสนฺนปฺปเทเส. เตน วาตุปตฺถมฺเภนาติ ‘‘องฺคมงฺคานิ วาตุปตฺถทฺธานิ โหนฺตี’’ติ เอวํ วุตฺตวาตุปตฺถมฺเภน. อิมินา นิทฺโทกฺกมนสฺส การณํ วุตฺตํ. เอกรสนฺติ อาวชฺชนาทิวีถิจิตฺเตหิ อพฺโพกิณฺณํ.

๗๖. สงฺคามสีสโยโธ ภิกฺขูติ ยสฺมา กิเลสารีหิ อนภิภูโต หุตฺวา เต ปราเชสิ, ตสฺมา สงฺคามมุเข โยธสทิโส ภิกฺขุ.

๗๗. อุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมินฺติ เมถุนวตฺถุสฺมึ อุปฺปนฺเน. ปริวตฺตกทฺวารเมวาติ สํวรณวิวรณวเสน อิโต จิโต จ ปริวตฺตนโยคฺคทฺวารเมว. รุกฺขสูจิกณฺฏกทฺวารนฺติ รุกฺขสูจิทฺวารํ กณฺฏกทฺวารฺจ. ‘‘รุกฺขสูจิทฺวารํ กณฺฏกทฺวาร’’มิจฺเจว วา ปาโ. ยํ อุโภสุ ปสฺเสสุ รุกฺขถมฺเภ นิขณิตฺวา ตตฺถ วิชฺฌิตฺวา มชฺเฌ ทฺเว ติสฺโส รุกฺขสูจิโย ปเวเสตฺวา กโรนฺติ, ตํ รุกฺขสูจิทฺวารํ. ยํ ปเวสนนิกฺขมนกาเล อปเนตฺวา ถกนโยคฺคํ, เอกาย พหูหิ วา กณฺฏกสาขาหิ กตํ, ตํ กณฺฏกทฺวารํ. จกฺกลกยุตฺตทฺวารนฺติ เหฏฺา เอตํ จกฺกํ โยเชตฺวา กตํ มหาทฺวารํ, ยํ น สกฺกา เอเกน สํวริตุํ วิวริตุฺจ. โคปฺเผตฺวาติ รชฺชูหิ คนฺเถตฺวา. เอกํ ทุสฺสสาณิทฺวารเมวาติ เอตฺถ กิลฺชสาณิทฺวารมฺปิ สงฺคหํ คจฺฉติ.

ยตฺถ ทฺวารํ สํวริตฺวา นิปชฺชิตุํ น สกฺกา โหติ, ตตฺถ กตฺตพฺพวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ พหูนํ วฬฺชนฏฺานํ โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. พหูนํ อวฬฺชนฏฺาเนปิ เอกํ อาปุจฺฉิตฺวา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติเยว. อถ ภิกฺขู…เป… นิสินฺนา โหนฺตีติ อิทํ ตตฺถ ภิกฺขูนํ สนฺนิหิตภาวสนฺทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘นิสินฺโน วา ปน โหตุ นิปนฺโน วา, เยน เกนจิ อิริยาปเถน สมนฺนาคโต สเจ ตตฺถ สนฺนิหิโต โหติ, อาโภคํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘นิสินฺนา โหนฺตีติ วจนโต สเจ นิปนฺนา โหนฺติ, อาโภคํ กาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. ยทิ หิ ‘‘นิสินฺนา โหนฺตี’’ติ วจนโต นิปนฺเน อาโภคํ กาตุํ น วฏฺฏติ, ิเตปิ จงฺกมนฺเตปิ อาโภคํ กาตุํ น วฏฺฏติ. น หิ นิสินฺนวจนํ นิปนฺนํเยว นิวตฺเตติ, ตสฺมา ‘‘นิสินฺนา โหนฺตี’’ติ อิทํ ตตฺถ เตสํ อตฺถิตามตฺตสนฺทสฺสนตฺถํ, น เสสอิริยาปถสมงฺคิตานิวตฺตนตฺถํ. เอวํ สนฺเตปิ นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺโต อสนฺตปกฺเข ิตตฺตา อาโภคารโห น โหตีติ อมฺหากํ ขนฺติ. อสนฺตปกฺเข ิตตฺตาเยว หิ รโห นิสชฺชาย นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺโต อนาปตฺตึ น กโรตีติ วุตฺตํ. ทฺวารสํวรณํ นาม ภิกฺขุนีอาทีนํ ปเวสนนิวารณตฺถนฺติ อาห – ‘‘ภิกฺขุนึ วา มาตุคามํ วา อาปุจฺฉิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนกํ อิตฺถิปณฺฑกฺจ อาปุจฺฉิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. มาตุคามสฺส อนฺโตคพฺเภ ิตภาวํ ชานิตฺวาปิ ทฺวาเร ยถาวุตฺตวิธึ กตฺวา นิปชฺชนฺตสฺส อนาปตฺติ. นิสฺเสณึ อาโรเปตฺวาติ อุปริตลํ อาโรเปตฺวา วิสงฺขริตฺวา ภูมิยํ ปาเตตฺวา ฉินฺทิตฺวา วา นิปชฺชิตุมฺปิ วฏฺฏติ. ทฺเวปิ ทฺวารานิ ชคฺคิตพฺพานีติ เอตฺถ สเจ เอกสฺมึ ทฺวาเร กวาฏํ วา นตฺถิ, เหฏฺา วุตฺตนเยน สํวริตุํ วา น สกฺกา, อิตรํ ทฺวารํ อสํวริตฺวาปิ นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ.

ภิกฺขาจารา ปฏิกฺกมฺมาติ ภิกฺขาจารโต นิวตฺติตฺวา. ทฺวารปาลสฺสาติ ทฺวารโกฏฺเก มหาทฺวาเร นิสฺเสณิมูเล วา ตฺวา ทฺวารรกฺขณกสฺส. ปจฺฉิมานํ ภาโรติ เอกานุพนฺธวเสน อาคจฺฉนฺเต สนฺธาย วุตฺตํ. อสํวุตทฺวาเร อนฺโตคพฺเภ วาติ โยเชตพฺพํ. พหิ วาติ คพฺภโต พหิ. นิปชฺชนกาเลปิ…เป… วฏฺฏติเยวาติ เอตฺถ ‘‘ทฺวารชคฺคนกสฺส ตทธีนตฺตา ตทา ตสฺส ตตฺถ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวํ อนุปธาเรตฺวาปิ อาโภคํ กาตุํ วฏฺฏติเยวา’’ติ วทนฺติ.

เยน เกนจิ ปริกฺขิตฺเตติ ปากาเรน วา วติยา วา เยน เกนจิ ปริกฺขิตฺเต. ‘‘ปริกฺเขปสฺส อุจฺจโต ปมาณํ สหเสยฺยปฺปโหนเก วุตฺตนเยน เวทิตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ. ยทิ ปน เอกสฺมึ ปเทเส ปริกฺเขโป วุตฺตปฺปมาณโต นีจตโร โหติ, วฏฺฏติ. มหาปริเวณํ โหตีติ มหนฺตํ องฺคณํ โหติ. มหาโพธิยงฺคณโลหปาสาทยงฺคณสทิสนฺติ พหุสฺจารทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น มหาปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ. อรุเณ อุคฺคเต อุฏฺหติ, อนาปตฺตีติ สุทฺธจิตฺเตน นิปนฺนสฺส นิทฺทายนฺตสฺเสว อรุเณ อุคฺคเตเยว นิทฺทาวเสเนว อนาปตฺติ. ปพุชฺฌิตฺวา ปุน สุปติ, อาปตฺตีติ อรุเณ อุคฺคเต ปพุชฺฌิตฺวา อรุณุคฺคมนํ อชานิตฺวาปิ อนุฏฺหิตฺวาว สยิตสนฺตาเนน สยนฺตสฺส อาปตฺติ, ปุรารุเณ ปพุชฺฌิตฺวาปิ อชานิตฺวา สยิตสนฺตาเนน สยนฺตสฺสปิ อรุเณ อุคฺคเต อาปตฺติเยว. ยถาปริจฺเฉทเมว วุฏฺาตีติ อรุเณ อุคฺคเตเยว อุฏฺหติ. ตสฺส อาปตฺตีติ อสุทฺธจิตฺเตเนว นิปนฺนตฺตา นิทฺทายนฺตสฺสปิ อรุเณ อุคฺคเต ทิวาปฏิสลฺลานมูลิกา อาปตฺติ. ‘‘เอวํ นิปชฺชนฺโต อนาทริยทุกฺกฏาปิ น มุจฺจตี’’ติ วุตฺตตฺตา อสุทฺธจิตฺเตน นิปชฺชนฺโต อรุณุคฺคมนโต ปุเรตรํ อุฏฺหนฺโตปิ อนุฏฺหนฺโตปิ นิปชฺชนกาเลเยว อนาทริยทุกฺกฏํ อาปชฺชติ, ทิวาปฏิสลฺลานมูลิกํ ปน ทุกฺกฏํ อรุเณ อุคฺคเตเยว อาปชฺชติ.

ยํ ปเนตฺถ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ ‘‘รตฺตึ ทฺวารํ สํวริตฺวา นิปนฺโน สเจ อรุณุคฺคมนเวลายํ ทฺวาเร วิวเฏปิ นิปชฺชติ, ตสฺส อาปตฺติ อเขตฺเต สํวริตฺวา นิปนฺนตฺตา. อรุณุคฺคมนเวลายํ วิวเฏปิ ทฺวาเร ‘‘นิปชฺชิสฺสามี’’ติ รตฺตึ ทฺวารํ สํวริตฺวาปิ นิปนฺนสฺส อเขตฺเต ปิหิตตฺตา นิปชฺชนกาเล อนาทริยทุกฺกฏํ, อรุเณ อุคฺคเต นิปชฺชนมูลทุกฺกฏฺจ โหติ. รตฺตึ ปิหิเตปิ อปิหิเตปิ ทฺวาเร นิปนฺนสฺส อรุณุคฺคมนกฺขเณเยว อปิหิตทฺวาเร ปิหิเต ปิหิตทฺวาเร จ ปุน วิวริตฺวา ปิหิเต เขตฺเต ปิหิตตฺตา อนาปตฺตี’’ติ, ตํ อฏฺกถาย น สเมติ. รตฺตึ ทฺวารํ อสํวริตฺวา นิปนฺนสฺเสว หิ อรุณุคฺคมเน อาปตฺติ อฏฺกถายํ ทสฺสิตา, ตสฺมา เขตฺเต วา ปิหิตํ โหตุ อเขตฺเต วา, สํวรณเมเวตฺถ ปมาณนฺติ อมฺหากํ ขนฺติ.

นิทฺทาวเสน นิปชฺชตีติ นิทฺทาภิภูตตาย เอกปสฺเสน นิปชฺชติ, เอวํ ปน นิปนฺโน นิปนฺโน นาม น โหตีติ อนาปตฺติ วุตฺตา. อปสฺสาย สุปนฺตสฺสาติ กฏิยา ปิฏฺิเวมชฺฌสฺส จ อนฺตเร อปฺปมตฺตกมฺปิ ปเทสํ ภูมึ อผุสาเปตฺวา ถมฺภาทึ อปสฺสาย สุปนฺตสฺส. สหสาว วุฏฺาตีติ ปกฺขลิตฺวา ปติโต วิย สหสา วุฏฺาติ. ตตฺเถว สยติ น วุฏฺาตีติ นิทฺทาภิภูตตาย สุปนฺโต น วุฏฺาติ, น มุจฺฉาปเรโต. เตเนว ‘‘อวิสยตฺตา อาปตฺติ น ทิสฺสตี’’ติ น วุตฺตํ.

เอกภงฺเคนาติ เอกสฺส ปสฺสสฺส ภฺชเนน, เหฏฺา วุตฺตนเยน ปาเท ภูมิโต อโมเจตฺวาว เอกํ ปสฺสํ ภฺชิตฺวา นาเมตฺวา นิปนฺโนติ วุตฺตํ โหติ. มหาอฏฺกถายํ ปน มหาปทุมตฺเถเรน วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. มุจฺฉิตฺวา ปติตตฺตา เถเรน ‘‘อวิสยตฺตา อาปตฺติ น ทิสฺสตี’’ติ วุตฺตํ. อาจริยา ปน ยถา ยกฺขคหิตโก พนฺธิตฺวา นิปชฺชาปิโต จ ปรวโส โหติ, เอวํ อปรวสตฺตา มุจฺฉิตฺวา ปติโต กฺจิ กาลํ ชานิตฺวาปิ นิปชฺชตีติ อนาปตฺตึ น วทนฺติ. โย จ ยกฺขคหิตโก, โย จ พนฺธิตฺวา นิปชฺชาปิโตติ อิมสฺส มหาอฏฺกถาวาทสฺส ปจฺฉิมตฺตา โสเยว ปมาณโต คเหตพฺโพ. ตถา จ วกฺขติ ‘‘สพฺพตฺถ โย โย อฏฺกถาวาโท วา เถรวาโท วา ปจฺฉา วุจฺจติ, โสว ปมาณโต ทฏฺพฺโพ’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๒). ยกฺขคหิตคฺคหเณเนว เจตฺถ วิสฺีภูโตปิ สงฺคหิโตติ เวทิตพฺพํ. เอกภงฺเคน นิปนฺโน ปน อตฺถโต อนิปนฺนตฺตา มุจฺจติเยวาติ มหาอฏฺกถาวาเทน โส อปฺปฏิกฺขิตฺโตว โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ทิวา สํวริตฺวา นิปนฺนสฺส เกนจิ วิวเฏปิ ทฺวาเร อนาปตฺติ นิปชฺชนกาเล สํวริตฺวา นิปนฺนตฺตา. สเจ ทิวา สํวริตฺวา ทฺวารสมีเป นิปนฺโน ปจฺฉา สยเมว ทฺวารํ วิวรติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. อจิตฺตกา จายํ อาปตฺติ กิริยา จ อกิริยา จ.

๗๘. ‘‘อปเท ปทํ กโรนฺโต วิยา’’ติ วตฺวา ปุน ตเมวตฺถํ อาวิกโรนฺโต ‘‘อากาเส ปทํ ทสฺเสนฺโต วิยา’’ติ อาห. เอตทคฺคนฺติ เอโส อคฺโค. ยทิทนฺติ โย อยํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

วินีตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตตฺริทนฺติอาทิ เหฏฺา วุตฺตตฺถเมว.

อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย สารตฺถทีปนิยํ

ปมปาราชิกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยปาราชิกํ

อทุติเยน ชิเนน ยํ ทุติยํ ปาราชิกํ ปกาสิตํ, ตสฺส อิทานิ ยสฺมา สํวณฺณนากฺกโม ปตฺโต, ตสฺมา ยํ สุวิฺเยฺยํ, ยฺจ ปุพฺเพ ปกาสิตํ, ตํ สพฺพํ วชฺชยิตฺวา อสฺส ทุติยสฺส อยํ สํวณฺณนา โหตีติ สมฺพนฺโธ.

ธนิยวตฺถุวณฺณนา

๘๔. ราชคเหติ เอตฺถ ทุคฺคชนปทฏฺานวิเสสสมฺปทาทิโยคโต ปธานภาเวน ราชูหิ คหิตํ ปริคฺคหิตนฺติ ราชคหนฺติ อาห ‘‘มนฺธาตุ…เป… วุจฺจตี’’ติ. ตตฺถ มหาโควินฺเทน มหาสตฺเตน ปริคฺคหิตํ เรณุนา ปริคฺคหิตเมว โหตีติ มหาโควินฺทคฺคหณํ. มหาโควินฺทปอคฺคหิตตากิตฺตนฺหิ ตทา เรณุนา มคธราเชน ปริคฺคหิตภาวูปลกฺขณํ. ตสฺส หิ โส ปุโรหิโต. ‘‘มหาโควินฺโทติ มหานุภาโว ปุราตโน เอโก มคธราชา’’ติ เกจิ. ปริคฺคหิตตฺตาติ ราชธานีภาเวน ปริคฺคหิตตฺตา. คยฺหตีติ คโห, ราชูนํ คโหติ ราชคหํ, นครสทฺทาเปกฺขาย นปุํสกนิทฺเทโส. อฺเเปตฺถ ปกาเรติ ‘‘นครมาปเนน รฺา การิตสพฺพคหตฺตา ราชคหํ, คิชฺฌกูฏาทีหิ ปริกฺขิตฺตตฺตา ปพฺพตราเชหิ ปริกฺขิตฺตเคหสทิสนฺติปิ ราชคหํ, สมฺปนฺนภวนตาย ราชมานํ เคหนฺติปิ ราชคหํ, สุวิหิตารกฺขตาย อนตฺถาวหภาเวน อุปคตานํ ปฏิราชูนํ คหํ เคหภูตนฺติปิ ราชคหํ, ราชูหิ ทิสฺวา สมฺมา ปติฏฺาปิตตฺตา เตสํ คหํ เคหภูตนฺติปิ ราชคหํ. อารามรามเณยฺยกาทีหิ ราชเต, นิวาสสุขตาทินา สตฺเตหิ มมตฺตวเสน คยฺหติ ปริคฺคยฺหตีติ วา ราชคห’’นฺติ เอทิเส ปกาเร. โส ปเทโส านวิเสสภาเวน อุฬารสตฺตปริโภโคติ อาห ‘‘ตํ ปเนต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ พุทฺธกาเล จกฺกวตฺติกาเล จาติ อิทํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ. เตสนฺติ ยกฺขานํ. วสนวนนฺติ อาปานภูมิภูตํ อุปวนํ. คิชฺฌา เอตฺถ สนฺตีติ คิชฺฌํ, กูฏํ. ตํ เอตสฺสาติ คิชฺฌกูโฏ. คิชฺโฌ วิยาติ วา คิชฺฌํ, กูฏํ. ตํ เอตสฺสาติ คิชฺฌกูโฏ, ปพฺพโต. คิชฺฌสทิสกูโฏติ คิชฺฌกูโฏติ วา มชฺเฌปทโลปีสมาโส ยถา ‘‘สากปตฺถโว’’ติ, ตสฺมึ คิชฺฌกูเฏ. เตนาห ‘‘คิชฺฌา’’ติอาทิ.

ตโต ปรํ สงฺโฆติ ติณฺณํ ชนานํ อุปริ สงฺโฆ จตุวคฺคกรณียาทิกมฺมปฺปตฺตตฺตา. ตสฺมึ ปพฺพเต สนฺนิปติตฺวา สมาปตฺติยา วีตินาเมนฺตีติ ยถาผาสุกฏฺาเน ปิณฺฑาย จริตฺวา กตภตฺตกิจฺจา อาคนฺตฺวา เจติยคพฺเภ ยมกมหาทฺวารํ วิวรนฺตา วิย ตํ ปพฺพตํ ทฺวิธา กตฺวา อนฺโต ปวิสิตฺวา รตฺติฏฺานทิวาฏฺานานิ มาเปตฺวา ตตฺถ สมาปตฺติยา วีตินาเมนฺติ.

กทา ปเนเต ตตฺถ วสึสุ? อตีเต กิร อนุปฺปนฺเน ตถาคเต พาราณสึ อุปนิสฺสาย เอกสฺมึ คามเก เอกา กุลธีตา เขตฺตํ รกฺขติ, ตสฺสา เขตฺตกุฏิยา วีหโย ภชฺชนฺติยา ตตฺถ มหากรฺชปุปฺผปฺปมาณา มหนฺตมหนฺตา มโนหรา ปฺจสตมตฺตา ลาชา ชายึสุ. สา เต คเหตฺวา มหติ ปทุมินิปตฺเต เปสิ. ตสฺมิฺจ สมเย เอโก ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ ตสฺสา อนุคฺคหตฺถํ อวิทูเร เขตฺตปาฬิยา คจฺฉติ. สา ตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานสา สุปุปฺผิตํ มหนฺตํ เอกํ ปทุมํ คเหตฺวา ตตฺถ ลาเช ปกฺขิปิตฺวา ปจฺเจกพุทฺธํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺจหิ ลาชสเตหิ สทฺธึ ตํ ปทุมปุปฺผํ ทตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา ‘‘อิมสฺส, ภนฺเต, ปุฺสฺส อานุภาเวน อานุภาวสมฺปนฺเน ปฺจสตปุตฺเต ลเภยฺย’’นฺติ ปฺจ ปุตฺตสตานิ ปตฺเถสิ. ตสฺมึเยว ขเณ ปฺจสตา มิคลุทฺทกา สมฺภตสมฺภารา ปริปกฺกปจฺเจกโพธิาณา ตสฺเสว ปจฺเจกพุทฺธสฺส มธุรมํสํ ทตฺวา ‘‘เอติสฺสา ปุตฺตา ภเวยฺยามา’’ติ ปตฺถยึสุ. อตีตาสุ อเนกาสุ ชาตีสุ ตสฺสา ปุตฺตภาเวน อาคตตฺตา ตถา เตสํ อโหสิ. สา ยาวตายุกํ ตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺติ, ตโต จุตา ชาตสฺสเร ปทุมคพฺเภ นิพฺพตฺติ. ตเมโก ตาปโส ทิสฺวา ปฏิชคฺคิ. ตสฺสา ปทสา วิจรนฺติยา ปทุทฺธาเร ปทุทฺธาเร ภูมิโต ปทุมานิ อุฏฺหนฺติ. เอโก วนจรโก ทิสฺวา พาราณสิรฺโ อาโรเจสิ. ราชา ตํ อาเนตฺวา อคฺคมเหสึ อกาสิ, ตสฺสา คพฺโภ สณฺาติ. มหาปทุมกุมาโร มาตุกุจฺฉิยํ วสิ, เสสา พหิ นิกฺขนฺตํ คพฺภมลํ นิสฺสาย สํเสทชภาเวน นิพฺพตฺตา. ‘‘โอปปาติกภาเวนา’’ติ เกจิ. เต วยปฺปตฺตา อุยฺยาเน ปทุมสฺสเร กีฬนฺตา เอเกกสฺมึ ปทุเม นิสีทิตฺวา ขยวยํ ปฏฺเปตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺตยึสุ. อยํ เตสํ พฺยากรณคาถา อโหสิ –

‘‘สโรรุหํ ปทุมปลาสมตฺรชํ, สุปุปฺผิตํ ภมรคณานุจิณฺณํ;

อนิจฺจตายํ วยตํ วิทิตฺวา, เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป’’ติ. –

ตสฺมึ กาเล เต ตตฺถ วสึสุ. ตทา จสฺส ปพฺพตสฺส ‘‘อิสิคิลี’’ติ สมฺา อุทปาทิ. อิเม อิสโยติ อิเม ปจฺเจกพุทฺธอิสี. สมา ายติ เอตายาติ สมฺา, นามนฺติ อตฺโถ.

ติณจฺฉทนา กุฏิโย มชฺเฌปทโลปีสมาสํ กตฺวา, เอกเทเส วา สมุทายโวหารวเสน ‘‘ติณกุฏิโย’’ติ วุตฺตา. ‘‘วสฺสํ อุปคจฺฉึสู’’ติ วจนโต วสฺสูปคมนารหา สทฺวารพนฺธา เอว เวทิตพฺพาติ อาห ‘‘ติณจฺฉทนา สทฺวารพนฺธา กุฏิโย’’ติ. วสฺสํ อุปคจฺฉนฺเตนาติ วสฺสาวาสํ อุปคจฺฉนฺเตน. นาลกปฏิปทนฺติ ‘‘โมเนยฺยํ เต อุปฺิสฺส’’นฺติอาทินา (สุ. นิ. ๗๒๑) สตฺถารา นาลกตฺเถรสฺส เทสิตํ ปุถุชฺชนกาลโต ปภุติ กิเลสจิตฺตํ อนุปฺปาเทตฺวา ปฏิปชฺชิตพฺพํ โมเนยฺยปฏิปทํ. ตํ ปน ปฏิปทํ สุตฺวา นาลกตฺเถโร ตีสุ าเนสุ อปฺปิจฺโฉ อโหสิ ทสฺสเน สวเน ปุจฺฉายาติ. โส หิ เทสนาปริโยสาเน ปสนฺนจิตฺโต ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา วนํ ปวิฏฺโ. ปุน ‘‘อโห วตาหํ ภควนฺตํ ปสฺเสยฺย’’นฺติ โลลภาวํ น ชเนสิ, อยมสฺส ทสฺสเน อปฺปิจฺฉตา. ตถา ‘‘อโห วตาหํ ปุน ธมฺมเทสนํ สุเณยฺย’’นฺติ โลลภาวํ น ชเนสิ, อยมสฺส สวเน อปฺปิจฺฉตา. ตถา ‘‘อโห วตาหํ ปุน โมเนยฺยปฏิปทํ ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ โลลภาวํ น ชเนสิ, อยมสฺส ปุจฺฉาย อปฺปิจฺฉตา.

โส เอวํ อปฺปิจฺโฉ สมาโน ปพฺพตปาทํ ปวิสิตฺวา เอกวนสณฺเฑ ทฺเว ทิวสานิ น วสิ, เอกรุกฺขมูเล ทฺเว ทิวสานิ น นิสีทิ, เอกสฺมึ คาเม ทฺเว ทิวสานิ ปิณฺฑาย น ปาวิสิ. อิติ วนโต วนํ, รุกฺขโต รุกฺขํ, คามโต คามํ อาหิณฺฑนฺโต อนุรูปปฏิปทํ ปฏิปชฺชิตฺวา อคฺคผเล ปติฏฺาสิ. เอกสฺส ภควโต กาเล เอโกเยว นํ ปูเรติ. อิมฺหิ โมเนยฺยปฏิปทํ อุกฺกฏฺํ กตฺวา ปูเรนฺโต ภิกฺขุ สตฺเตว มาสานิ ชีวติ, มชฺฌิมํ กตฺวา ปูเรนฺโต สตฺต วสฺสานิ, มุทุกํ กตฺวา ปูเรนฺโต โสฬส วสฺสานิ. อยํ ปน เถโร อุกฺกฏฺํ กตฺวา ปูเรสิ, ตสฺมา สตฺต มาเส ตฺวา อตฺตโน อายุสงฺขารสฺส ปริกฺขยํ ตฺวา นหายิตฺวา นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา ทิคุณํ สงฺฆาฏึ ปารุปิตฺวา ทสพลาภิมุโข ปฺจปติฏฺิเตน ตํ วนฺทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา หิงฺคุลกปพฺพตํ นิสฺสาย ิตโกว อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิ. ตสฺส ปรินิพฺพุตภาวํ ตฺวา ภควา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ตตฺถ คนฺตฺวา สรีรกิจฺจํ กตฺวา ธาตุโย คาหาเปตฺวา เจติยํ ปติฏฺาเปตฺวา อคมาสิ. เอวรูปํ ปฏิปทํ ปฏิปนฺเนนปิ วสฺสํ อุปคจฺฉนฺเตน ฉนฺเน สทฺวารพนฺเธเยว าเน อุปคนฺตพฺพํ. อปฺปิจฺฉตํ นิสฺสายปิ สิกฺขาปทสฺส อนติกฺกมนียตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘นาลกปฏิปทํ ปฏิปนฺเนนปี’’ติ วุตฺตํ.

ปฺจนฺนํ ฉทนานนฺติ ติณปณฺณอิฏฺกสิลาสุธาสงฺขาตานํ ปฺจนฺนํ ฉทนานํ. ‘‘น, ภิกฺขเว, อเสนาสนิเกน วสฺสํ อุปคนฺตพฺพนฺติ (มหาว. ๒๐๔) วจีเภทํ กตฺวา วสฺสูปคมนํ สนฺธาเยว ปฏิกฺเขโป, น อาลยกรณวเสน อุปคมนํ สนฺธายา’’ติ วทนฺติ. ปาฬิยํ ปน อวิเสสตฺตา อฏฺกถายฺจ ‘‘นาลกปฏิปทํ ปฏิปนฺเนนปี’’ติอาทินา อวิเสเสเนว ทฬฺหํ กตฺวา วุตฺตตฺตา อเสนาสนิกสฺส นาวาทึ วินา อฺตฺถ อาลโย น วฏฺฏตีติ อมฺหากํ ขนฺติ. นาวาสตฺถวเชสุเยว หิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นาวายํ วสฺสํ อุปคนฺตุ’’นฺติอาทินา (มหาว. ๒๐๓) สติ อสติ วา เสนาสเน วสฺสูปคมนสฺส วิสุํ อนุฺาตตฺตา ‘‘น, ภิกฺขเว, อเสนาสนิเกน วสฺสํ อุปคนฺตพฺพ’’นฺติ อยํ ปฏิกฺเขโป ตตฺถ น ลพฺภตีติ อสติ เสนาสเน อาลยวเสนปิ นาวาทีสุ อุปคมนํ วุตฺตํ. อนุธมฺมตาติ วตฺตํ. รตฺติฏฺานทิวาฏฺานาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน วจฺจกุฏิปสฺสาวฏฺานาทึ สงฺคณฺหาติ.

กติกวตฺตานิ จ ขนฺธกวตฺตานิ จ อธิฏฺายาติ ปริยตฺติธมฺโม นาม ติวิธมฺปิ สทฺธมฺมํ ปติฏฺาเปติ, ตสฺมา สกฺกจฺจํ อุทฺทิสถ อุทฺทิสาเปถ, สชฺฌายํ กโรถ, ปธานฆเร วสนฺตานํ สงฺฆฏฺฏนํ อกตฺวา อนฺโตวิหาเร นิสีทิตฺวา อุทฺทิสถ อุทฺทิสาเปถ, สชฺฌายํ กโรถ, ธมฺมสฺสวนํ สมิทฺธํ กโรถ, ปพฺพาเชนฺตา โสเธตฺวา ปพฺพาเชถ, โสเธตฺวา อุปสมฺปาเทถ, โสเธตฺวา นิสฺสยํ เทถ. เอโกปิ หิ กุลปุตฺโต ปพฺพชฺชฺจ อุปสมฺปทฺจ ลภิตฺวา สกลํ สาสนํ ปติฏฺาเปติ. อตฺตโน ถาเมน ยตฺตกานิ สกฺโกถ, ตตฺตกานิ ธุตงฺคานิ สมาทิยถ, อนฺโตวสฺสํ นาเมตํ สกลทิวสํ รตฺติยา จ ปมปจฺฉิมยาเมสุ อปฺปมตฺเตหิ ภวิตพฺพํ, วีริยํ อารภิตพฺพํ. โปราณกมหอาเถราปิ สพฺพปลิโพเธ ฉินฺทิตฺวา อนฺโตวสฺเส เอกจริยวตฺตํ ปูรยึสุ. ภสฺเส มตฺตํ ชานิตฺวา ทสวตฺถุกกถํ ทสอสุภทสานุสฺสติอฏฺตึสารมฺมณกถํ กาตุํ วฏฺฏติ. อาคนฺตุกานํ วตฺตํ กาตุํ, สตฺตาหกรณีเยน คตานํ อปโลเกตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. วิคฺคาหิกปิสุณผรุสวจนานิ มา วทถ, ทิวเส ทิวเส สีลานิ อาวชฺเชนฺตา จตุรารกฺขํ อหาเปนฺตา มนสิการพหุลา วิหรถ, เจติยํ วา โพธึ วา วนฺทนฺเตน คนฺธมาลํ วา ปูเชนฺเตน ปตฺตํ วา ถวิกาย ปกฺขิปนฺเตน น กเถตพฺพํ, อนฺโตคาเม มนุสฺเสหิ สทฺธึ ปจฺจยสํยุตฺตกถา วา วิสภาคกถา วา น กเถตพฺพา, รกฺขิตินฺทฺริเยหิ ภวิตพฺพํ, ขนฺธกวตฺตฺจ เสขิยวตฺตฺจ ปูเรตพฺพนฺติ เอวมาทินา กติกวตฺตานิ ขนฺธกวตฺตานิ จ อธิฏฺหิตฺวา.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสํวุฏฺานํ ตีหิ าเนหิ ปวาเรตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๐๙) วุฏฺวสฺสานํ ปวารณาย อนุฺาตตฺตา อิมสฺส สุตฺตสฺส วเสน ปวารณาทิวสสฺส อรุณุคฺคมนโต ปฏฺาย อปฺปวาริตาปิ ‘‘วุฏฺวสฺสา’’ติ วุจฺจนฺติ. กิฺจาปิ ‘‘อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๘๔) วจนโต ปวารณาทิวสสฺส เตมาสนฺโตคธตฺตา ตํ ทิวสํ ยาว น ปวาเรนฺติ, ตาว วสฺสํ วสนฺตา นาม โหนฺติ, ตถาปิ เอกเทเสน อวุฏฺมฺปิ ตํ ทิวสํ วุฏฺภาคาเปกฺขาย วุฏฺเมว โหตีติ กตฺวา เอวํ วุตฺตํ กตากตภาคาเปกฺขาย สมุทาเย ปวตฺตกตากตโวหาโร วิย. วิปฺปกตฺหิ ยํ กิฺจิ ‘‘กตากต’’นฺติ วุจฺจติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสํวุฏฺานํ กถินํ อตฺถริตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๐๖) อิมสฺส ปน สุตฺตสฺส วเสน นิปฺปริยายโต มหาปวารณาย ปวาริตา ปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ‘‘วุฏฺวสฺสา’’ติ วุจฺจนฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘มหาปวารณาย ปวาริตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย หิ วสฺสานสฺส ปจฺฉิเม มาเส กถินตฺถาโร อนุฺาโต ปริวาเร ‘‘กถินสฺส อตฺถารมาโส ชานิตพฺโพติ วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส ชานิตพฺโพ’’ติ (ปริ. ๔๑๒) วุตฺตตฺตา. ‘‘มหาปวารณาย ปวาริตา’’ติ อิทฺจ ปุริมิกาย วสฺสูปคตานํ สภาวทสฺสนมตฺตํ, เกนจิ อนฺตราเยน อปฺปวาริตาปิ ‘‘วุฏฺวสฺสา’’อิจฺเจว วุจฺจนฺติ.

‘‘อาปุจฺฉิตพฺพา’’ติ วตฺวา อิทานิ อาปุจฺฉนวิธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘สเจ อิมํ กุฏิ’’นฺติอาทิมาห. ปฏิชคฺคนกํ วา น ลภตีติ วิหารปจฺจนฺเต กเต ปฏิชคฺคนกํ น ลภติ. เต ปน ภิกฺขู ชนปทจาริกํ ปกฺกมึสูติ สมฺพนฺโธ. อทฺธานคมเน จาริกาโวหาโร สาสเน นิรุฬฺโห. กิฺจาปิ อยํ จาริกา นาม มหาชนสงฺคหตฺถํ พุทฺธานํเยว ลพฺภติ, พุทฺเธ อุปาทาย ปน รุฬฺหีสทฺทวเสน สาวกานมฺปิ วุจฺจติ กิลฺชาทีหิ กตพีชนีนมฺปิ ตาลวณฺฏโวหาโร วิย. สงฺโคเปตฺวาติ เอกสฺมึ ปเทเส ราสึ กตฺวา. อิทานิ ตเมว สงฺโคปนวิธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา จ ปิต’’นฺติอาทิมาห. น โอวสฺสียตีติ อโนวสฺสกํ, กมฺมนิ อก-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. ยถา จ ปิตํ น โอวสฺสียติ น เตมียตีติ อตฺโถ.

อนวโยติ เอตฺถ วโยติ หานิ ‘‘อายวโย’’ติอาทีสุ วิย. นตฺถิ เอตสฺส อตฺตโน สิปฺเป วโย อูนตาติ อวโยติ อาห ‘‘อนูโน ปริปุณฺณสิปฺโป’’ติ. อาจริยสฺส กมฺมํ อาจริยกนฺติ อาห ‘‘อาจริยกมฺเม’’ติ. ปิฏฺสงฺฆาโฏ ทฺวารพาหา, กฏฺกมฺมํ ถมฺภาทิ. เตลตมฺพมตฺติกายาติ เตลมิสฺสตมฺพมตฺติกาย.

๘๕. กุฏิกาย กรณภาวนฺติ กุฏิยา กตภาวํ. สทฺทสตฺถวิทูหิ กึ-สทฺทโยเค อนาคตวจนสฺส อิจฺฉิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘ตสฺส ลกฺขณํ สทฺทสตฺถโต ปริเยสิตพฺพ’’นฺติ. เมตฺตาปุพฺพภาคนฺติ เมตฺตาฌานสฺส ปุพฺพภาคภูตํ สพฺพสตฺเตสุ หิตผรณมตฺตํ. กสฺมา ปเนตํ วุตฺตํ, นนุ อนุทฺทยา-สทฺโท กรุณาย ปวตฺตตีติ? สจฺจเมตํ, อยํ ปน อนุทฺทยาสทฺโท อนุรกฺขณมตฺถํ อนฺโตนีตํ กตฺวา ปวตฺตมาโน เมตฺตาย กรุณาย จ ปวตฺตตีติ อิธ เมตฺตาย ปวตฺตมาโน วุตฺโต, ตสฺมา สุวุตฺตเมตํ ‘‘เอเตน เมตฺตาปุพฺพภาคํ ทสฺเสตี’’ติ. กรุณาปุพฺพภาคนฺติ กรุณาฌานสฺส ปุพฺพภาคภูตํ สตฺเตสุ อนุกมฺปมตฺตํ. จิกฺขลฺลํ มตฺติกา, ตสฺส มทฺทนํ อุทกํ อาสิฺจิตฺวา หตฺถาทีหิ ปริมทฺทนํ. เมตฺตากรุณานนฺติ อปฺปนาปฺปตฺตเมตฺตากรุณานํ. กิฺจาปิ เถเรน สฺจิจฺจ ขุทฺทานุขุทฺทกา ปาณา มรณาธิปฺปาเยน น พฺยาพาธิตา, ตถาปิ กรุณาย อภาเวน ‘‘เอวํ กเต อิเม ปาณา วินสฺสิสฺสนฺตี’’ติ อนุปปริกฺขิตฺวา กตตฺตา เถรํ วิครหิ. ชนานํ สมูโห ชนตาติ อาห ‘‘ปจฺฉิโม ชนสมูโห’’ติ. ปาตพฺยภาวนฺติ วินาเสตพฺพตํ. ปาณาติปาตํ กโรนฺตานนฺติ เถเรน อกเตปิ ปาณาติปาเต ปเรหิ สลฺลกฺขณาการํ ทสฺเสติ. อิมสฺส ทิฏฺานุคตินฺติ อิมสฺส ทิฏฺิยา อนุคมนํ. ฆํสิตพฺเพติ ฆฏฺฏยิตพฺเพ, วินาสิตพฺเพติ อตฺโถ. เอวํ มฺีติ ยถา เถเรน กตํ, เอวํ มา มฺิ. ‘‘มา ปจฺฉิมา ชนตา ปาเณสุ ปาตพฺยตํ อาปชฺชี’’ติ วจนโต โย ภิกฺขุ อิฏฺกปจนปตฺตปจนกุฏิกรณวิหารการาปนวิหารสมฺมชฺชนปฏคฺคิทานกูปโปกฺขรณีขณาปนาทีสุ ยตฺถ ‘‘ขุทฺทานุขุทฺทกานํ ปาณานํ วิหึสา ภวิสฺสตี’’ติ ชานาติ, เตน ตาทิเส ปเทเส กปฺปิยวจนํ วตฺวาปิ น ตํ กมฺมํ กาเรตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.

ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตเมว อาปตฺตินฺติ ปถวีขณนภูตคามปาตพฺยตาทีสุ วุตฺตปาจิตฺติยาทิอาปตฺตึ. อาทิกมฺมิกตฺตา อนาปตฺตีติ กุฏิกรณปจฺจยา อนาปตฺติ. สิกฺขาปทํ อติกฺกมิตฺวาติ ‘‘น จ, ภิกฺขเว, สพฺพมตฺติกามยา กุฏิกา กาตพฺพา, โย กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทํ อติกฺกมิตฺวา. ยทิ อฺเน กตํ ลภิตฺวา วสนฺตสฺส อนาปตฺติ สิยา, น ภควา ตํ กุฏิกํ ภินฺทาเปยฺยาติ อาห – ‘‘กตํ ลภิตฺวา ตตฺถ วสนฺตานมฺปิ ทุกฺกฏเมวา’’ติ. ยถา วา ตถา วา มิสฺสา โหตูติ เหฏฺา มตฺติกา อุปริ ทพฺพสมฺภาราติอาทินา เยน เกนจิ อากาเรน มิสฺสา โหตุ. คิฺชกาวสถสงฺเขเปนาติ เอตฺถ คิฺชกา วุจฺจนฺติ อิฏฺกา, คิฺชกาหิ เอว กโต อาวสโถ คิฺชกาวสโถ. อิฏฺกามยสฺส อาวสถสฺเสตํ อธิวจนํ. ตํ กิร อาวสถํ ยถา สุธาปริกมฺเมน ปโยชนํ นตฺถิ, เอวํ อิฏฺกาหิ เอว จินิตฺวา ฉาเทตฺวา กโรนฺติ, ตุลาทณฺฑกวาฏผลกานิ ปน ทารุมยาเนว. วิกิรนฺตาติ จุณฺณวิจุณฺณํ กโรนฺตา.

กิสฺสาติ เกน การเณน. วยกมฺมมฺปิ อตฺถีติ ทฺวารกวาฏาทิอภิสงฺขรณาทีสุ กตวยกมฺมมฺปิ อตฺถิ. ภิกฺขูนํ อกปฺปิยตฺตา เอว ติตฺถิยวตานุรูปตฺตา ติตฺถิยธโช. มหาอฏฺกถายํ วุตฺตการเณสุ อตฺตโน อธิปฺเปตการณทฺวยํ ปติฏฺาเปตฺวา อปรานิปิ ตตฺถ วุตฺตการณานิ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘อฏฺกถายํ ปน อฺานิปิ การณานิ วุตฺตานี’’ติอาทิ. ตตฺถ สตฺตานุทฺทยายาติ ตาทิสาย กุฏิกาย กรณปจฺจยา วินสฺสมานสตฺเตสุ อนุทฺทยาย. ยสฺมา สพฺพมตฺติกามยา กุฏิ สุกรา ภินฺทิตุํ, ตสฺมา ตตฺถ ปิตํ ปตฺตจีวราทิ อคุตฺตํ โหติ, โจราทีหิ อวหริตุํ สกฺกา. เตน วุตฺตํ ‘‘ปตฺตจีวรคุตฺตตฺถายา’’ติ. เสนาสนพาหุลฺลปฏิเสธนตฺถายาติ เสนาสนานํ พหุภาวนิเสธนตฺถาย, ตาทิสสฺส วา เสนาสนสฺส อภิสงฺขรเณ ภิกฺขูนํ อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนิ เสสกมฺมานิ ปริจฺจชิตฺวา นิจฺจพฺยาวฏตานิเสธนตฺถํ. อนุปวชฺโชติ โทสํ อาโรเปตฺวา น วตฺตพฺโพ.

ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉยวณฺณนา

ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉเยสุ ตฺจ โข…เป… น วณฺณมฏฺตฺถายาติ อิทํ ฉตฺตทณฺฑคฺคาหกสลากปฺชรวินนฺธนํ สนฺธายาติ วทนฺติ. สพฺพตฺถาติ ฉตฺตทณฺเฑ สพฺพตฺถ. อารคฺเคนาติ นิขาทนมุเขน. ฆฏกมฺปิ วาฬรูปมฺปิ ภินฺทิตฺวา ธาเรตพฺพนฺติ สเจ ตาทิสํ อกปฺปิยฉตฺตํ ลภติ, ฆฏกมฺปิ วาฬรูปมฺปิ ภินฺทิตฺวา ตจฺเฉตฺวา ธาเรตพฺพํ. สุตฺตเกน วา ทณฺโฑ เวเตพฺโพติ ยถา ฉตฺตทณฺเฑ เลขา น ปฺายติ, ตถา เวเตพฺโพ. ทณฺฑพุนฺเทติ ทณฺฑมูเล, ฉตฺตทณฺฑสฺส เหฏฺิมตเลติ อตฺโถ. ฉตฺตมณฺฑลิกนฺติ ฉตฺตสฺส อนฺโต ขุทฺทกมณฺฑลํ. อุกฺกิริตฺวาติ อุฏฺเปตฺวา. สา วฏฺฏตีติ ยทิปิ รชฺชุเกหิ น พนฺธนฺติ, พนฺธิตุํ ปน ยุตฺตฏฺานตฺตา วฏฺฏติ.

นานาสุตฺตเกหีติ นานาวณฺเณหิ สุตฺเตหิ. อิทฺจ ตถา กโรนฺตานํ กรณปฺปการทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, เอกวณฺณสุตฺตเกนปิ วุตฺตปฺปกาเรน สิพฺพิตุํ น วฏฺฏติเยว. ปฏฺฏมุเขติ ปฏฺฏโกฏิยํ. ทฺวินฺนํ ปฏฺฏานํ สงฺฆฏฺฏิตฏฺานํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ปริยนฺเตติ จีวรปริยนฺเต. จีวรอนุวาตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เวณินฺติ วรกสีสากาเรน สิพฺพนํ. สงฺขลิกนฺติ พิฬาลพนฺธนากาเรน สิพฺพนํ. ‘‘เวณึ สงฺขลิก’’นฺติ เจตฺถ อุปโยควจนํ ‘‘กโรนฺตี’’ติ กรณกิริยาเปกฺขํ. อคฺฆิยคยมุคฺคราทีนีติ เอตฺถ อคฺฆิยํ นาม เจติยสณฺาเนน สิพฺพนํ, มูเล ตนุกํ อคฺเค มหนฺตํ กตฺวา คทากาเรน สิพฺพนํ คยา, มูเล จ อคฺเค จ เอกสทิสํ กตฺวา มุคฺครากาเรน สิพฺพนํ มุคฺคโร. กกฺกฏกฺขีนิ อุกฺกิรนฺตีติ คณฺิกปฏฺฏปาสกปฏฺฏานํ อนฺเต ปาฬิพทฺธํ กตฺวา กกฺกฏกานํ อกฺขิสณฺานํ อุฏฺเปนฺติ, กโรนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘โกณสุตฺตปิฬกาติ คณฺิกปาสกปฏฺฏานํ โกเณหิ นีหฏสุตฺตานํ โกฏิโย’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. กถํ ปน ตา ปิฬกา ทุวิฺเยฺยรูปา กาตพฺพาติ? โกเณหิ นีหฏสุตฺตานํ อนฺเตสุ เอกวารํ คณฺิกกรเณน วา ปุน นิวตฺเตตฺวา สิพฺพเนน วา ทุวิฺเยฺยสภาวํ กตฺวา สุตฺตโกฏิโย รสฺสํ กตฺวา ฉินฺทิตพฺพา. ธมฺมสิริตฺเถเรน ปน –

‘‘โกณสุตฺตา จ ปิฬกา, ทุวิฺเยฺยาว กปฺปเร’’ติ –

วุตฺตํ. ตถา อาจริยพุทฺธทตฺตตฺเถเรนปิ –

‘‘สุตฺตา จ ปิฬกา ตตฺถ, ทุวิฺเยฺยาว ทีปิตา’’ติ –

วุตฺตํ. ตสฺมา เตสํ มเตน โกณสุตฺตา จ ปิฬกา จ โกณสุตฺตปิฬกาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

มณินาติ มสารคลฺลาทิปาสาเณน. น ฆฏฺเฏตพฺพนฺติ น ฆํสิตพฺพํ, อํสพทฺธกกายพนฺธนานิ ปน สงฺขาทีหิ ฆํสิตุํ วฏฺฏติ. ปาสกํ กตฺวา พนฺธิตพฺพนฺติ รชนกาเล พนฺธิตพฺพํ, เสสกาเล โมเจตฺวา เปตพฺพํ. คณฺิเกติ ทนฺตมยาทิคณฺิเก. ปิฬกาติ พินฺทุํ พินฺทุํ กตฺวา อุฏฺาเปตพฺพปิฬกา.

‘‘เตลวณฺโณติ สมณสารุปฺปวณฺณํ สนฺธาย วุตฺตํ, มณิวณฺณํ ปน ปตฺตํ อฺเน กตํ ลภิตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. ปตฺตมณฺฑเลติ ติปุสีสาทิมเย ปตฺตมณฺฑเล. ‘‘น, ภิกฺขเว, จิตฺรานิ ปตฺตมณฺฑลานิ ธาเรตพฺพานิ รูปกากิณฺณานิ ภิตฺติกมฺมกตานี’’ติ (จูฬว. ๒๕๓) วุตฺตตฺตา ‘‘ภิตฺติกมฺมํ น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มกรทนฺตกํ ฉินฺทิตุ’’นฺติ วจนโต ‘‘มกรทนฺตกํ ปน วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ.

มกรมุขนฺติ มกรมุขสณฺานํ. เทฑฺฒุภสีสนฺติ อุทกสปฺปสีสสณฺานํ. อจฺฉีนีติ กุฺชรจฺฉิสณฺานานิ. รชฺชุกกายพนฺธนํ เอกเมว วฏฺฏตีติ รชฺชุกํ พนฺธนฺเตน เอกคุณเมว กตฺวา พนฺธิตุํ วฏฺฏติ, มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา ทิคุณํ กตฺวา พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ, ทิคุณํ ปน อกตฺวา เอกรชฺชุกเมว สตวารมฺปิ ปุนปฺปุนํ อาวิชฺชิตฺวา พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. เอกมฺปิ น วฏฺฏตีติ เอกคุณมฺปิ กตฺวา พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ. พหุรชฺชุเก…เป... วฏฺฏตีติ อิทํ กายพนฺธนํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ทสา สนฺธาย. อีทิสฺหิ กายพนฺธนํ พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. เตเนว อาจริยพุทฺธทตฺตตฺเถเรน วุตฺตํ –

‘‘เอกรชฺชุมยํ วุตฺตํ, มุนินา กายพนฺธนํ;

ปฺจปามงฺคสณฺานํ, เอกมฺปิ จ น วฏฺฏติ.

‘‘รชฺชุเก เอกโต กตฺวา, พหู เอกาย รชฺชุยา;

นิรนฺตรฺหิ เวเตฺวา, กตํ วฏฺฏติ พนฺธิตุ’’นฺติ.

มุรชํ ปน กายพนฺธนํ น วฏฺฏติ ‘‘น, ภิกฺขเว, อุจฺจาวจานิ กายพนฺธนานิ ธาเรตพฺพานิ กลาพุกํ เทฑฺฒุภกํ มุรชํ มทฺทวีณํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๗๘) วุตฺตตฺตา. กึ ปน พหุรชฺชุเก เอกโต กตฺวา เอเกน นิรนฺตรํ เวเตฺวา กตํ มุรชสงฺขฺยํ น คจฺฉตีติ? อาม น คจฺฉติ. มุรชฺหิ นาม นานาวณฺเณหิ สุตฺเตหิ มุรชวฏฺฏิสณฺานํ เวเตฺวา กตํ. เกจิ ปน ‘‘มุรชนฺติ พหุรชฺชุเก เอกโต สงฺกฑฺฒิตฺวา เอกาย รชฺชุยา ปลิเวเตฺวา กตรชฺชู’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. ยทิ เจตํ มุรชํ สิยา, ‘‘พหุรชฺชุเก เอกโต กตฺวา เอเกน นิรนฺตรํ เวเตฺวา กตํ พหุรชฺชุก’’นฺติ น วตฺตพฺพํ, ‘‘ตํ วฏฺฏตี’’ติ อิทํ วิรุชฺเฌยฺย. มุรชํ ปน ปามงฺคสณฺานฺจ ทสาสุ วฏฺฏติ ‘‘กายพนฺธนสฺส ทสา ชีรนฺติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มุรชํ มทฺทวีณ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๘) วุตฺตตฺตา. เตเนว วกฺขติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มุรชํ มทฺทวีณนฺติ อิทํ ทสาสุเยว อนุฺาต’’นฺติ.

กายพนฺธนวิเธติ ‘‘กายพนฺธนสฺส ปวนนฺโต ชีรติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วิธ’’นฺติ วุตฺตตฺตา กายพนฺธนสฺส ปาสนฺเต ทสามูเล ตสฺส ถิรภาวตฺถํ กตฺตพฺเพ ทนฺตวิสาณาทิมเย วิเธ. ‘‘อฏฺ มงฺคลานิ นาม สงฺโข จกฺกํ ปุณฺณกุมฺโภ คยา สิรีวจฺโฉ องฺกุโส ธชํ โสวตฺถิก’’นฺติ วทนฺติ. ปริจฺเฉทเลขามตฺตนฺติ อุโภสุ โกฏีสุ กาตพฺพปริจฺเฉทราชิมตฺตํ. ‘‘อุชุกเมวา’’ติ วุตฺตตฺตา จตุรสฺสาทิวงฺกคติกํ น วฏฺฏติ. ‘‘ฉตฺตทณฺฑธมฺมกรณอฺชนนาฬิกา นานาวณฺณเลขาปอกมฺมกตา น วฏฺฏนฺตี’’ติ วทนฺติ.

อารกณฺฏเกติ โปตฺถกาทิอภิสงฺขรณตฺถํ กเต ทีฆมุขสตฺถเก. วฏฺฏมณิกนฺติ วฏฺฏํ กตฺวา อคฺคโกฏิยํ อุฏฺาเปตพฺพปุพฺพุฬํ. อฺํ วา วณฺณมฏฺนฺติ อิมินา ปิฬกาทึ สงฺคณฺหาติ. มณิกนฺติ เอกาวฏฺฏมณิ. ปิฬกนฺติ สาสปมตฺติกา มุตฺตราชิสทิสา พหุวฏฺฏเลขา. ‘‘อิมสฺมึ อธิกาเร อวุตฺตตฺตา เลขนิยํ ยํ กิฺจิ วณฺณมฏฺํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. วลิตกนฺติ มชฺเฌ วลึ อุฏฺาเปตฺวา. มณฺฑลํ โหตีติ อุตฺตรารณิยา ปเวสนตฺถํ อาหฏมณฺฑลํ โหติ.

กิฺจาปิ เอตฺถ ทนฺตกฏฺจฺเฉทนวาสิเยว วุตฺตา, มหาวาสิยมฺปิ ปน น วฏฺฏติเยว. อุชุกเมว พนฺธิตุนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อุโภสุ วา ปสฺเสสุ เอกปสฺเสวา’’ติ วจนเสโส. กตฺตรยฏฺิโกฏิยํ กตอโยวลยานิปิ วฏฺฏนฺติ, เยสํ อฺมฺสงฺฆฏฺฏเนน สทฺโท นิจฺฉรติ.

อามณฺฑสารเกติ อามลเกหิ กตภาชเน. ภูมตฺถรเณติ จิตฺตกฏสารกจิตฺตตฺถรณาทิเก ปริกมฺมกตาย ภูมิยา อตฺถริตพฺพอตฺถรเณ. ปานียฆเฏติ อิมินา กุณฺฑิกสรเกปิ สงฺคณฺหาติ. พีชเนติ จตุรสฺสพีชเน. สพฺพํ…เป… วฏฺฏตีติ ยถาวุตฺเตสุ มฺจปีาทีสุ อิตฺถิรูปํ วินา สพฺพํ มาลากมฺมลตากมฺมาทิ วณฺณมฏฺํ ภิกฺขุโน วฏฺฏติ. เสนาสเน กิฺจิ ปฏิเสเธตพฺพํ นตฺถิ อฺตฺร วิรุทฺธเสนาสนาติ เอตฺถายมธิปฺปาโย – เสนาสนปริกฺขาเรสุ ปฏิเสเธตพฺพํ นาม กิฺจิ นตฺถิ, วิรุทฺธเสนาสนํ ปน สยเมว ปฏิกฺขิปิตพฺพนฺติ. อฺเสนฺติ สีมสามิโน วุตฺตา. ราชวลฺลภา ปรนิกายิกาปิ เอกนิกายิกาปิ อุโปสถปวารณานํ อนฺตรายกรา อลชฺชิโน ราชกุลูปคา วุจฺจนฺติ. เตสํ ลชฺชิปริสาติ เตสํ สีมสามิกานํ ปกฺขา หุตฺวา อนุพลํ ทาตุํ สมตฺถา ลชฺชิปริสา. สุกตเมวาติ อฺเสํ สนฺตเกปิ อตฺตโน สีมาย อนฺโตวุตฺตวิธินา กตํ สุกตเมว.

ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉยวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘๖. เทเวน คหิตทารูนีติ รฺา ปริคฺคหิตทารูนิ, รฺโ สนฺตกานีติ วุตฺตํ โหติ. ขณฺฑาขณฺฑํ กโรนฺโตติ ขุทฺทกํ มหนฺตฺจ ขณฺฑํ กโรนฺโต.

๘๗. กุลโภคอิสฺสริยาทีหิ มหตี มตฺตา ปมาณํ เอตสฺสาติ มหามตฺโต. เตนาห – ‘‘มหติยา อิสฺสริยมตฺตาย สมนฺนาคโต’’ติ.

๘๘. อวชฺฌายนฺตีติ เหฏฺา กตฺวา โอโลเกนฺติ, จินฺเตนฺติ วา. เตนาห ‘‘อวชานนฺตา’’ติอาทิ. ลามกโต วา จินฺเตนฺตีติ นิหีนโต จินฺเตนฺติ. กเถนฺตีติ ‘‘กึ นาเมตํ กึ นาเมต’’นฺติ อฺมฺํ กเถนฺติ.

กถํ ปเนตฺถ ‘‘ทารูนี’’ติ พหุวจนํ ‘‘อทินฺน’’นฺติ เอกวจเนน สทฺธึ สมฺพนฺธมุปคจฺฉตีติ อาห – ‘‘อทินฺนํ อาทิยิสฺสตีติ อยํ อุชฺฌายนตฺโถ’’ติอาทิ. อุชฺฌายนสฺส อทินฺนาทานวิสยตฺตา อทินฺนาทานํ อุชฺฌายนตฺโถติ วุตฺตํ. สติปิ ปเนตฺถ โคปเกน ทินฺนทารูนํ คหเณ อุชุกํ อวตฺวา เลเสน คหิตตฺตา เถโร ‘‘อทินฺนํ อาทิยี’’ติ เวทิตพฺโพ. วจนเภเทติ เอกวจนพหุวจนานํ เภเท.

สพฺพาวนฺตํ ปริสนฺติ ภิกฺขุภิกฺขุนีอาทิสพฺพาวยววนฺตํ ปริสํ. สพฺพา จตุปริสสงฺขอาตา ปชา เอตฺถ อตฺถีติ สพฺพาวนฺตา, ปริสา. เสนา เอตสฺส อตฺถีติ เสนิโก, เสนิโก เอว เสนิโย. พิมฺพิสาโรติ ตสฺส นามนฺติ เอตฺถ พิมฺพีติ สุวณฺณํ, ตสฺมา สารสุวณฺณสทิสวณฺณตาย พิมฺพิสาโรติ วุจฺจตีติ เวทิตพฺโพ. จตุตฺโถ ภาโค ปาโทติ เวทิตพฺโพติ อิมินาว สพฺพชนปเทสุ กหาปณสฺส วีสติโม ภาโค มาสโกติ อิทฺจ วุตฺตเมว โหตีติ ทฏฺพฺพํ. โปราณสตฺถานุรูปํ ลกฺขณสมฺปนฺนา อุปฺปาทิตา นีลกหาปณาติ เวทิตพฺพา. รุทฺรทาเมน อุปฺปาทิโต รุทฺรทามโก. โส กิร นีลกหาปณสฺส ติภาคํ อคฺฆติ. ยสฺมึ ปเทเส นีลกหาปณา น สนฺติ, ตตฺถาปิ นีลกหาปณานํ วฬฺชนฏฺาเน จ อวฬฺชนฏฺาเน จ สมานอคฺฆวเสน ปวตฺตมานํ ภณฺฑํ คเหตฺวา นีลกหาปณวเสเนว ปริจฺเฉโท กาตพฺโพติ วทนฺติ.

ธนิยวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตสฺสตฺโถ…เป… วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ อิมินา ‘‘ภควตา ภิกฺขูนํ อิทํ สิกฺขาปทํ เอวํ ปฺตฺตํ โหติ จ, อิทฺจ อฺํ วตฺถุ อุทปาที’’ติ เอวํ ปมปาราชิกวณฺณนายํ (ปารา. อฏฺ. ๑.๓๙) วุตฺตนเยน ตสฺสตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘อิทานิ ยํ ตํ อฺํ วตฺถุ อุปฺปนฺนํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘เตน โข ปน สมเยนา’ติอาทิมาหา’’ติ เอวํ อนุปฺตฺติสมฺพนฺโธ จ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ ทสฺเสติ.

๙๐-๙๑. รชกา อตฺถรนฺติ เอตฺถาติ รชกตฺถรณํ, รชกตฺถรณนฺติ รชกติตฺถํ วุจฺจตีติ อาห ‘‘รชกติตฺถํ คนฺตฺวา’’ติ. วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวนฺโต อาห ‘‘ตฺหี’’ติอาทิ.

ปทภาชนียวณฺณนา

๙๒. ‘‘อภินวนิวิฏฺโ เอกกุฏิกาทิคาโม ยาว มนุสฺสา ปวิสิตฺวา วาสํ น กปฺเปนฺติ, ตาว คามสงฺขฺยํ น คจฺฉตี’’ติ วทนฺติ, ตสฺมา ตตฺถ คามปฺปเวสนาปุจฺฉาทิกิจฺจมฺปิ นตฺถิ. ยกฺขปริคฺคหภูโตติ สอุปทฺทววเสน วุตฺตํ, ยกฺขนคราทึ วา สงฺคณฺหาติ. ยกฺขนครมฺปิ อาปณาทีสุ ทิสฺสมาเนสุ คามสงฺขฺยํ คจฺฉติ, อทิสฺสมาเนสุ น คจฺฉติ, ตสฺมา ยกฺขนครมฺปิ ปวิสนฺเตน อาปณาทีสุ ทิสฺสมาเนสุ สพฺพํ คามปฺปเวสนวตฺตํ กาตพฺพํ, อทิสฺสมาเนสุ น กาตพฺพนฺติ วทนฺติ. ปุนปิ อาคนฺตุกามาติ อิมินา เตสํ ตตฺถ สาเปกฺขภาวํ ทสฺเสติ. ยโต ปน นิรเปกฺขาว หุตฺวา ปกฺกมนฺติ, โส คามสงฺขฺยํ น คจฺฉติ, ตสฺมา ตตฺถ คามปฺปเวสนาปุจฺฉาทิกิจฺจมฺปิ นตฺถิ.

นนุ จ ‘‘คามา วา อรฺา วา’’ติ เอตฺตกเมว มาติกายํ วุตฺตํ, ตสฺมา คามลกฺขณํ ทสฺเสตฺวา อรฺเมว ทสฺเสตพฺพํ สิยา, คามูปจาโร นามาติอาทิ ปน กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห – ‘‘คามูปจาโรติอาทิ อรฺปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ วุตฺต’’นฺติ. คามูปจาเร หิ ทสฺสิเต เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ อวเสสํ อรฺํ นามาติ อรฺปริจฺเฉโท สกฺกา ทสฺเสตุํ, อิทฺจ คามคามูปจาเร อสงฺกรโต ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. มาติกายํ ปน คามคฺคหเณเนว คามูปจาโรปิ สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺพํ. คามูปจาโร หิ โลเก คามสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. เอวฺจ กตฺวา มาติกาย อนวเสสอวหรณฏฺานปริคฺคโห สิทฺโธ โหติ. อินฺทขีเลติ อุมฺมาเร. อรฺสงฺเขปํ คจฺฉตีติ ‘‘นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ (วิภ. ๕๒๙) อภิธมฺเม วุตฺตตฺตา. เวมชฺฌเมว อินฺทขีโลติ วุจฺจตีติ อินฺทขีลฏฺานิยตฺตา อสติปิ อินฺทขีเล เวมชฺฌเมว ตถา วุจฺจติ. ยตฺถ ปน ทฺวารพาหาปิ นตฺถิ, ตตฺถ อุโภสุ ปสฺเสสุ วติยา วา ปาการสฺส วา โกฏิเวมชฺฌเมว อินฺทขีลฏฺานิยตฺตา ‘‘อินฺทขีโล’’ติ คเหตพฺพํ. อุฑฺฑาเปนฺโตติ ปลาเปนฺโต. ลุิตฺวาติ ปริวตฺเตตฺวา.

มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺสาติ ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส. อิมินา ปน วจเนน สุปฺปมุสลปาโตปิ พลทสฺสนวเสเนว กโตติ ทฏฺพฺพํ. กุรุนฺทฏฺกถายํ มหาปจฺจริยฺจ ฆรูปจาโร คาโมติ อธิปฺปาเยน ‘‘ฆรูปจาเร ิตสฺส เลฑฺฑุปาโต คามูปจาโร’’ติ วุตฺตํ. ทฺวาเรติ นิพฺพโกสสฺส อุทกปตนฏฺานโต อพฺภนฺตรํ สนฺธาย วุตฺตํ. อนฺโตเคเหติ จ ปมุขสฺส อพฺภนฺตรเมว สนฺธาย วุตฺตํ. กตปริกฺเขโปติ อิมินาว ฆรสฺส สมนฺตโต ตตฺตโก ปริจฺเฉโท ฆรูปจาโร นามาติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺส ปน ฆรสฺส สมนฺตโต โครูปานํ ปเวสนนิวารณตฺถํ ปาการวติอาทีหิ ปริกฺเขโป กโต โหติ, ตตฺถ โสว ปริกฺเขโป ฆรูปจาโร, สุปฺปปาตาทิปริจฺเฉโท ปน อปริกฺขิตฺตฆรํ สนฺธาย วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ. อิทเมตฺถ ปมาณนฺติ วิกาลคามปฺปเวสนาทีสุ คามคามูปจารานํ อสงฺกรโต วินิจฺฉยสฺส เวทิตพฺพตฺตา. กุรุนฺทีอาทีสุ วุตฺตนเยน หิ ฆรูปจารสฺส คาโมติ อาปนฺนตฺตา ฆรฆรูปจารคามคามูปจารานํ สงฺกโร สิยา. เอวํ สพฺพตฺถาติ อิมินา อิโต ปุพฺเพปิ ปจฺฉิมสฺเสว วาทสฺส ปมาณภาวํ ทสฺเสติ. เกจิ ปน ‘‘อิโต ปฏฺาย วกฺขมานวาทํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ.

เสสมฺปีติ คามูปจารลกฺขณํ สนฺธาย วทติ. ตตฺราติ ตสฺมึ คามูปจารคฺคหเณ. ตสฺส คามปริจฺเฉททสฺสนตฺถนฺติ ตสฺส อปริจฺเฉทสฺส คามสฺส คามปริจฺเฉทํ ทสฺเสตุนฺติ อตฺโถ. ยทิ เอวํ ‘‘คาโม นามา’’ติ ปทํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ฆรูปจาเร ิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาโต’’ติ กสฺมา น วุตฺตนฺติ? ‘‘คาโม นามาติ อิธ อวุตฺตมฺปิ อธิการวเสน ลพฺภติเยวา’’ติ วทนฺติ. อปเร ปน ภณนฺติ ‘‘คามูปจาโร นามาติ อิมินาว คามสฺส จ คามูปจารสฺส จ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. กถํ? ‘คามสฺส อุปจาโร คามูปจาโร’ติ เอวํ วิคฺคเห กริยมาเน ‘ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อินฺทขีเล ิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาโต’ติ อิมินา ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส คามูปจารลกฺขณํ ทสฺสิตํ โหติ, ‘คามสงฺขาโต อุปจาโร คามูปจาโร’ติ เอวํ ปน คยฺหมาเน ‘อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ฆรูปจาเร ิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาโต’ติ อิมินา อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส คามปริจฺเฉโท ทสฺสิโตติ สกฺกา วิฺาตุ’’นฺติ. ‘‘ฆรูปจาเร ิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาโต’’ติ อิมินา ปริกฺขิตฺตสฺสปิ คามสฺส สเจ เลฑฺฑุปาตโต ทูเร ปริกฺเขโป โหติ, เลฑฺฑุปาโตเยว คามปริจฺเฉโทติ คเหตพฺพนฺติ วทนฺติ. ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนวาติ ปริกฺขิตฺตคาเม วุตฺตนเยเนว.

สงฺกรียตีติ มิสฺสียติ. เอตฺถาติ ฆรฆรูปจารคามคามูปจาเรสุ. ‘‘วิกาเล คามปฺปเวสเน ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ปริกฺเขปํ อติกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส, อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ โอกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๕๑๓) วุตฺตตฺตา คามคามูปจารานํ อสงฺกรตา อิจฺฉิตพฺพาติ อาห – ‘‘อสงฺกรโต เจตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ วิกาเล คามปฺปเวสนาทีสู’’ติ. เอตฺถ จ ‘‘ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ปริกฺเขปํ, อปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขปารหฏฺานํ อติกฺกมนฺตสฺส วิกาลคามปฺปเวสนาปตฺติ โหตี’’ติ เกจิ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ ปทภาชนิยํ ปน ‘‘ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ปริกฺเขปํ อติกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส, อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ โอกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๕๑๓) วุตฺตตฺตา. อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ฆรูปจารโต ปฏฺาย ทุติยเลฑฺฑุปาตสงฺขาตสฺส คามูปจารสฺส โอกฺกมเน อาปตฺติ เวทิตพฺพา. เตเนว วิกาลคามปฺปเวสนสิกฺขาปทฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑๒) ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจาโร อทินฺนาทาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. มาติกาฏฺกถายมฺปิ (กงฺขา. อฏฺ. ทุติยปาราชิกวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘ยฺวายํ อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจาโร ทสฺสิโต, ตสฺส วเสน วิกาลคามปฺปเวสนาทีสุ อาปตฺติ ปริจฺฉินฺทิตพฺพา’’ติ. ยทิ เอวํ ‘‘วิกาเล คามํ ปวิเสยฺยา’’ติ อิมินา วิรุชฺฌตีติ? น วิรุชฺฌติ คามูปจารสฺสปิ คามคฺคหเณน คหิตตฺตา. ตสฺมา ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ปริกฺเขปํ อติกฺกมนฺตสฺส, อปริกฺขิตฺตสฺส อุปจารํ โอกฺกมนฺตสฺส วิกาลคามปฺปเวสนาปตฺติ โหตีติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. วิกาเล คามปฺปเวสนาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน ฆรฆรูปจาราทีสุ ิตานํ อุปฺปนฺนลาภภาชนาทึ สงฺคณฺหาติ.

นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลาติ อินฺทขีลโต พหิ นิกฺขมิตฺวาติ อตฺโถ. เอตฺถ จ วินยปริยาเยน ตาว ‘‘เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ อวเสสํ อรฺ’’นฺติ (ปารา. ๙๒) อาคตํ, สุตฺตนฺตปริยาเยน อารฺิกํ ภิกฺขุํ สนฺธาย ‘‘อารฺกํ นาม เสนาสนํ ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปารา. ๖๕๔) อาคตํ. วินยสุตฺตนฺตา อุโภปิ ปริยายเทสนา นาม, อภิธมฺโม ปน นิปฺปริยายเทสนา. นิปฺปริยายโต จ คามวินิมุตฺตํ านํ อรฺเมว โหตีติ อภิธมฺมปริยาเยน อรฺํ ทสฺเสตุํ ‘‘นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา’’ติ (วิภ. ๕๒๙) วุตฺตํ. ‘‘อาจริยธนุ นาม ปกติหตฺเถน นววิทตฺถิปฺปมาณํ, ชิยาย ปน อาโรปิตาย จตุหตฺถปฺปมาณ’’นฺติ วทนฺติ. เลโสกาสนิเสธนตฺถนฺติ ‘‘มยา เนว คาเม, น อรฺเ หฏํ, ฆเร วา ฆรูปจาเรสุ วา คามูปจาเรสุ วา อฺตรสฺมิ’’นฺติ วตฺตุํ มา ลภตูติ วุตฺตํ โหติ.

กปฺปิยนฺติ อนุรูปวเสน วุตฺตํ. อกปฺปิยมฺปิ ปน อปฺปฏิคฺคหิตฺเจ, อทินฺนสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. ปริจฺจาคาทิมฺหิ อกเต ‘‘อิทํ มยฺหํ สนฺตก’’นฺติ อวิทิตมฺปิ ปรปริคฺคหิตเมว มาตาปิตูนํ อจฺจเยน มนฺทานํ อุตฺตานเสยฺยกานํ ทารกานํ สนฺตกมิว.

ยสฺส วเสน ปุริโส เถโนติ วุจฺจติ, ตํ เถยฺยนฺติ อาห ‘‘อวหรณจิตฺตสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ. สงฺขา-สทฺโท าณโกฏฺาสปฺตฺติคณนาทีสุ ทิสฺสติ. ‘‘สงฺขาเยกํ ปฏิเสวตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๑๖๘) หิ าเณ ทิสฺสติ. ‘‘ปปฺจสฺาสงฺขา สมุทาจรนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๐๔) โกฏฺาเส. ‘‘เตสํ เตสํ ธมฺมานํ สงฺขา สมฺา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๓๑๓) ปฺตฺติยํ. ‘‘น สุกรํ สงฺขาตุ’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๙๖; อป. เถร. ๑.๑๐.๒) คณนายํ. ตตฺถ โกฏฺาสวจนํ สงฺขา-สทฺทํ สนฺธายาห ‘‘สงฺขาสงฺขาตนฺติ อตฺถโต เอก’’นฺติ. เตนาห ‘‘โกฏฺาสสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ. ปปฺจสงฺขาติ ตณฺหามานทิฏฺิสงฺขาตา ปปฺจโกฏฺาสา. ‘‘เอโก จิตฺตโกฏฺาโสติ ยฺจ ปุพฺพภาเค อวหริสฺสามีติ ปวตฺตํ จิตฺตํ, ยฺจ คมนาทิสาธกํ ปรามสนาทิสาธกํ วา มชฺเฌ ปวตฺตํ, ยฺจ านาจาวนปฺปโยคสาธกํ, เตสุ อยเมเวโก ปจฺฉิโม จิตฺตโกฏฺาโส อิธาธิปฺเปโต’’ติ เกจิ วทนฺติ. จูฬคณฺิปเท ปน ‘‘อูนมาสกมาสกอูนปฺจมาสกปฺจมาสกาวหรณจิตฺเตสุ เอโก จิตฺตโกฏฺาโส’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อเนกปฺปเภทตฺตา จิตฺตสฺส เอโก จิตฺตโกฏฺาโสติ วุตฺต’’นฺติ มหาคณฺิปเท มชฺฌิมคณฺิปเท จ วุตฺตํ. อิทเมเวตฺถ สุนฺทรตรํ ‘‘เถยฺยจิตฺตสงฺขาโต เอโก จิตฺตโกฏฺาโส’’ติ วุตฺตตฺตา. เถยฺยสงฺขาเตนาติ เถยฺยจิตฺตโกฏฺาเสน กรณภูเตน, น วิสฺสาสตาวกาลิกาทิคาหวสปฺปวตฺตจิตฺตโกฏฺาเสนาติ วุตฺตํ โหติ.

อภิโยควเสนาติ อฑฺฑกรณวเสน. อภิยุฺชตีติ โจเทติ, อฑฺฑํ กโรตีติ อตฺโถ. ปริกปฺปิตฏฺานนฺติ โอกาสปริกปฺปนวเสน ปริกปฺปิตปฺปเทสํ. สุงฺกฆาตนฺติ เอตฺถ ราชูนํ เทยฺยภาคสฺส เอตํ อธิวจนํ สุงฺโกติ, โส เอตฺถ หฺติ อทตฺวา คจฺฉนฺเตหีติ สุงฺกฆาโต. ‘‘เอตฺถ ปวิฏฺเหิ สุงฺโก ทาตพฺโพ’’ติ รุกฺขปพฺพตาทิสฺาเณน นิยมิตปฺปเทสสฺเสตํ อธิวจนํ.

ปฺจวีสติอวหารกถาวณฺณนา

อากุลาติ สงฺกุลา. ลุฬิตาติ วิโลฬิตา. กตฺถจีติ เอกิสฺสาย อฏฺกถายํ. เอกํ ปฺจกํ ทสฺสิตนฺติ ‘‘ปรปริคฺคหิตฺจ โหติ, ปรปริคฺคหิตสฺี จ, ครุโก จ โหติ ปริกฺขาโร ปฺจมาสโก วา อติเรกปฺจมาสโก วา, เถยฺยจิตฺตฺจ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ, อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๒๒) เอวํ วุตฺตปฺจอวหารงฺคานิ เอกํ ปฺจกนฺติ ทสฺสิตํ. ทฺเว ปฺจกานิ ทสฺสิตานีติ ‘‘ฉหากาเรหิ อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺส. น จ สกสฺี, น จ วิสฺสาสคฺคาหี, น จ ตาวกาลิกํ, ครุโก จ โหติ ปริกฺขาโร ปฺจมาสโก วา อติเรกปฺจมาสโก วา, เถยฺยจิตฺตฺจ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ, อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ เอวํ วุตฺเตสุ ฉสุ ปเทสุ เอกํ อปเนตฺวา อวเสสานิ ปฺจ ปทานิ เอกํ ปฺจกนฺติ ทสฺเสตฺวา เหฏฺา วุตฺตปฺจกฺจ คเหตฺวา ทฺเว ปฺจกานิ ทสฺสิตานิ. เอตฺถ ปนาติ ‘‘ปฺจหากาเรหิ อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺสา’’ติอาทีสุ. สพฺเพหิปิ ปเทหีติ ‘‘ปรปริคฺคหิตฺจ โหตี’’ติอาทีหิ ปเทหิ. ลพฺภมานานิเยว ปฺจกานีติ ปฺจวีสติยา อวหาเรสุ ลพฺภมานปฺจกานิ.

ปฺจนฺนํ อวหารานํ สมูโห ปฺจกํ, สโก หตฺโถ สหตฺโถ, เตน นิพฺพตฺโต, ตสฺส วา สมฺพนฺธีติ สาหตฺถิโก, อวหาโร. สาหตฺถิกาทิ ปฺจกํ สาหตฺถิกปฺจกนฺติ อาทิปทวเสน นามลาโภ ทฏฺพฺโพ กุสลาทิตฺติกสฺส กุสลตฺติกโวหาโร วิย. อิมินาว นเยน ปุพฺพปโยคาทิ ปฺจกํ ปุพฺพปโยคปฺจกํ, เถยฺยาวหาราทิ ปฺจกํ เถยฺยาวหารปฺจกนฺติ นามลาโภ ทฏฺพฺโพติ. ตติยปฺจเมสุ ปฺจเกสูติ สาหตฺถิกปฺจกเถยฺยาวหารปฺจเกสุ. ลพฺภมานปทวเสนาติ สาหตฺถิกปฺจเก ลพฺภมานสฺส นิสฺสคฺคิยาวหารปทสฺส วเสน เถยฺยาวหารปฺจเก ลพฺภมานสฺส ปริกปฺปาวหารปทสฺส จ วเสน โยเชตพฺพนฺติ อตฺโถ.

อาณตฺติยา นิพฺพตฺโต อวหาโร อาณตฺติโก. นิสฺสชฺชนํ นิสฺสคฺโค, สุงฺกฆาตฏฺาเน ปริกปฺปิโตกาเส วา ตฺวา ภณฺฑสฺส พหิ ปาตนํ. นิสฺสคฺโคว นิสฺสคฺคิโย. กิริยาสิทฺธิโต ปุเรตรเมว ปาราชิกาปตฺติสงฺขาตํ อตฺถํ สาเธตีติ อตฺถสาธโก. ‘‘อสุกสฺส ภณฺฑํ ยทา สกฺโกสิ, ตทา อวหรา’’ติ เอวรูโป หิ อาณาปนปโยโค ปรสฺส เตลกุมฺภิยา ปาทคฺฆนกํ เตลํ อวสฺสํ ปิวนกานํ อุปาหนาทีนํ นิกฺเขปปโยโค จ อาณตฺตสฺส ภณฺฑคฺคหณโต อุปาหนาทีนํ เตลปาตนโต จ ปุเรตรเมว ปาราชิกาปตฺติสงฺขาตํ อตฺถํ สาเธติ. สาหตฺถิกปโยโคปิ หิ เอวรูโป อตฺถสาธโกติ วุจฺจติ. วุตฺตฺเหตํ มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ทุติยปาราชิกวณฺณนา) –

‘‘อตฺถสาธโก นาม ‘อสุกสฺส ภณฺฑํ ยทา สกฺโกสิ, ตทา ตํ อวหรา’ติ อาณาเปติ. ตตฺถ สเจ ปโร อนนฺตรายิโก หุตฺวา ตํ อวหรติ, อาณาปกสฺส อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิกํ. ปรสฺส วา ปน เตลกุมฺภิยา ปาทคฺฆนกํ เตลํ อวสฺสํ ปิวนกานิ อุปาหนาทีนิ ปกฺขิปติ, หตฺถโต มุตฺตมตฺเตเยว ปาราชิก’’นฺติ.

ธุรสฺส นิกฺขิปนํ ธุรนิกฺเขโป. อารามาภิยุฺชนาทีสุ อตฺตโน จ ปรสฺส จ ทานคฺคหเณสุ นิรุสฺสาหภาวาปชฺชนํ. สหตฺถา อวหรตีติ สหตฺเถน คณฺหาติ. ‘‘อสุกสฺส ภณฺฑํ อวหรา’’ติ อฺํ อาณาเปตีติ เอตฺถาปิ อาณาปกสฺส อาณตฺติกฺขเณเยว อาปตฺติ ทฏฺพฺพา. ยทิ เอวํ อิมสฺส, อตฺถสาธกสฺส จ โก วิเสโสติ? ตงฺขณฺเว คหเณ นิยุฺชนํ อาณตฺติกปโยโค, กาลนฺตเรน คหณตฺถํ นิโยโค อตฺถสาธโกติ อยเมเตสํ วิเสโส. เตเนวาห – ‘‘อสุกสฺส ภณฺฑํ ยทา สกฺโกสิ, ตทา อวหราติ อาณาเปตี’’ติ. เอตฺถ จ อาณาปนปโยโคว อตฺถสาธโกติ ทสฺสิโต, สาหตฺถิกวเสนปิ อตฺถสาธกปโยโค ปน อุปริ อาวิ ภวิสฺสติ. ธุรนิกฺเขโป ปน อุปนิกฺขิตฺตภณฺฑวเสน เวทิตพฺโพติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ. อารามาภิยุฺชนาทีสุปิ ตาวกาลิกภณฺฑเทยฺยานํ อทาเนปิ เอเสว นโย.

‘‘อาณตฺติวเสน ปุพฺพปโยโค เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา อนนฺตราเยน คณฺหนฺตสฺส ‘อสุกสฺส ภณฺฑํ อวหรา’ติ อาณาปนํ ภณฺฑคฺคหณโต ปุพฺพตฺตา ปุพฺพปโยโค, ปโยเคน สห วตฺตมาโน อวหาโร สหปโยโค, ‘‘อสุกํ นาม ภณฺฑํ หริสฺสามา’’ติ สํวิทหิตฺวา สมฺมนฺตยิตฺวา อวหรณํ สํวิทาวหาโร. สงฺเกตกมฺมํ นาม ปุพฺพณฺหาทิกาลปริจฺเฉทวเสน สฺชานนกมฺมํ, นิมิตฺตกมฺมํ นาม สฺุปฺปาทนตฺถํ อกฺขินิขณนาทินิมิตฺตกรณํ. านาจาวนวเสน สหปโยโคติ อิทํ ปน นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ, ขิลสงฺกมนาทีสุปิ อสติ จ านาจาวเน สหปโยโค ทฏฺพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ทุติยปาราชิกวณฺณนา) ‘‘านาจาวนวเสน ขิลาทีนิ สงฺกาเมตฺวา เขตฺตาทิคฺคหณวเสน จ สหปโยโค เวทิตพฺโพ’’ติ.

เถโน วุจฺจติ โจโร, ตสฺส ภาโว เถยฺยํ, เตน อวหรณํ เถยฺยาวหาโร. โย หิ สนฺธิจฺเฉทาทีนิ กตฺวา อทิสฺสมาโน อวหรติ, ตุลากูฏมานกูฏกูฏกหาปณาทีหิ วา วฺเจตฺวา คณฺหาติ, ตสฺเสวํ คณฺหโต อวหาโร เถยฺยาวหาโร. ปสยฺห อภิภวิตฺวา อวหรณํ ปสยฺหาวหาโร. โย หิ ปสยฺห พลกฺกาเรน ปเรสํ สนฺตกํ คณฺหาติ คามฆาตกาทโย วิย, อตฺตโน ปตฺตพลิโต วา วุตฺตนเยน อธิกํ คณฺหาติ ราชภฏาทโย วิย, ตสฺเสวํ คณฺหโต อวหาโร ปสยฺหาวหาโร. ภณฺฑวเสน จ โอกาสวเสน จ ปริกปฺเปตฺวา อวหรณํ ปริกปฺปาวหาโร. ติณปณฺณาทีหิ องฺคุลิมุทฺทิกาทึ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปจฺฉา ตสฺส ปฏิจฺฉนฺนสฺส อวหรณํ ปฏิจฺฉนฺนาวหาโร. กุสํ สงฺกาเมตฺวา อวหรณํ กุสาวหาโร.

ตุลยิตฺวาติ อุปปริกฺขิตฺวา. สามีจีติ วตฺตํ, อาปตฺติ ปน นตฺถีติ อธิปฺปาโย. มหาชนสมฺมทฺโทติ มหาชนสงฺโขโภ. ภฏฺเ ชนกาเยติ อปคเต ชนกาเย. ‘‘อิทฺจ กาสาวํ อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา เอตสฺเสว ภิกฺขุโน เทหี’’ติ กึการณา เอวมาห? จีวรสามิเกน ยสฺมา ธุรนิกฺเขโป กโต, ตสฺมา ตสฺส อทินฺนํ คเหตุํ น วฏฺฏติ. อวหารโกปิ วิปฺปฏิสารสฺส อุปฺปนฺนกาลโต ปฏฺาย จีวรสามิกํ ปริเยสนฺโต วิจรติ ‘‘ทสฺสามี’’ติ, จีวรสามิเกน จ ‘‘มเมต’’นฺติ วุตฺเต เอเตนปิ อวหารเกน อาลโย ปริจฺจตฺโต, ตสฺมา เอวมาห. ยทิ เอวํ จีวรสามิโกเยว ‘‘อตฺตโน สนฺตกํ คณฺหาหี’’ติ กสฺมา น วุตฺโตติ? อุภินฺนมฺปิ กุกฺกุจฺจวิโนทนตฺถํ. กถํ? อวหารกสฺส ‘‘มยา สหตฺเถน น ทินฺนํ, ภณฺฑเทยฺยเมต’’นฺติ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปชฺเชยฺย, อิตรสฺส ‘‘มยา ปมํ ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา ปจฺฉา อทินฺนํ คหิต’’นฺติ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปชฺเชยฺยาติ.

สมคฺฆนฺติ อปฺปคฺฆํ. ทารุอตฺถํ ผรตีติ ทารูหิ กตฺตพฺพกิจฺจํ สาเธติ. มยิ สนฺเตติอาทิ สพฺพํ รฺา ปสาเทน วุตฺตํ, ‘‘เถเรน ปน อนนุจฺฉวิกํ กต’’นฺติ น มฺิตพฺพํ.

เอกทิวสํ ทนฺตกฏฺจฺเฉทนาทินา ยา อยํ อคฺฆหานิ วุตฺตา, สา สพฺพา ภณฺฑสามินา

กิณิตฺวา คหิตเมว สนฺธาย วุตฺตา, สพฺพํ ปเนตํ อฏฺกถาจริยปฺปมาเณน คเหตพฺพํ. ปาสาณฺจ สกฺขรฺจ ปาสาณสกฺขรํ. ธาเรยฺยตฺถํ วิจกฺขโณติ อิมสฺเสว วิวรณํ ‘‘อาปตฺตึ วา อนาปตฺตึ วา’’ติอาทิ.

ปฺจวีสติอวหารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อกฺขทสฺสาติ เอตฺถ อกฺข-สทฺเทน กิร วินิจฺฉยสาลา วุจฺจติ. ตตฺถ นิสีทิตฺวา วชฺชาวชฺชํ ปสฺสนฺตีติ อกฺขทสฺสา วุจฺจนฺติ ธมฺมวินิจฺฉนกา. หเนยฺยุนฺติ เอตฺถ หนนํ นาม หตฺถปาทาทีหิ โปถนฺเจว สีสาทิจฺเฉทนฺจ โหตีติ อาห – ‘‘หเนยฺยุนฺติ โปเถยฺยุฺเจว ฉินฺเทยฺยุฺจา’’ติ. เตเนว ปทภาชนิยฺจ ‘‘หตฺเถน วา ปาเทน วา กสาย วา เวตฺเตน วา อฑฺฒทณฺฑเกน วา เฉชฺชาย วา หเนยฺยุ’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ อฑฺฒทณฺฑเกนาติ ทฺวิหตฺถปฺปมาเณน รสฺสมุคฺคเรน เวฬุเปสิกาย วา. เฉชฺชายาติ หตฺถปาทสีสาทีนํ เฉทเนน. นีหเรยฺยุนฺติ คามนิคมาทิโต นีหเรยฺยุํ. โจโรสิ…เป… เถโนสีติ เอตฺถ ‘‘ปริภาเสยฺยุ’’นฺติ ปทํ อชฺฌาหริตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘โจโรสีติ เอวมาทีนิ จ วตฺวา ปริภาเสยฺยุ’’นฺติ.

๙๓. ยํ ตํ ภณฺฑํ ทสฺสิตนฺติ สมฺพนฺโธ. ยตฺถ ยตฺถ ิตนฺติ ภูมิอาทีสุ ยตฺถ ยตฺถ ิตํ. ยถา ยถา อาทานํ คจฺฉตีติ ภูมิอาทีสุ ิตํ ภณฺฑํ สพฺพโส อคฺคหเณปิ เยน เยน อากาเรน คหณํ อุปคจฺฉติ.

ภูมฏฺกถาวณฺณนา

๙๔. ผนฺทาเปติ, สพฺพตฺถ ทุกฺกฏเมวาติ เอตฺถ ‘‘อุฏฺหิสฺสามี’’ติ ผนฺทาเปตฺวา ปุน อนุฏฺหิตฺวา ตตฺเถว สยนฺตสฺสปิ องฺคปจฺจงฺคํ อผนฺทาเปตฺวา เอกปโยเคน อุฏฺหนฺตสฺสปิ ทุกฺกฏเมวาติ ทฏฺพฺพํ. อฺสฺมึ วา คมนสฺส อนุปกาเรติ ยถา ทฺวารปิทหเน กุมฺภิฏฺานคมนสฺส อนุปการตฺตา อนาปตฺติ, เอวํ อฺสฺมึ วา คมนสฺส อนุปกาเร กายวจีกมฺเม อนาปตฺติ. วาจาย วาจายาติ เอเกกตฺถทีปิกาย วาจาย วาจาย. อุปลทฺโธติ าโต. ปุฺานิ จ กริสฺสามาติ เอตฺถ ‘‘มุสาวาทํ กตฺวา ปุฺานิ กริสฺสามาติ วทนฺตสฺส ทุกฺกฏเมวา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ, ตํ อิมสฺมึเยว ปเทเส อฏฺกถาวจเนน วิรุชฺฌติ. ตถา หิ ‘‘ยํ ยํ วจนํ มุสา, ตตฺถ ตตฺถ ปาจิตฺติย’’นฺติ จ ‘‘น หิ อทินฺนาทานสฺส ปุพฺพปโยเค ปาจิตฺติยฏฺาเน ทุกฺกฏํ นาม อตฺถี’’ติ จ วกฺขติ. เอวํ ปน วุตฺเต น วิรุชฺฌติ ‘‘มุสาวาทํ กตฺวา ปุฺานิ จ กริสฺสามาติ วทนฺตสฺส ปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏ’’นฺติ. ตถา หิ ‘‘อกปฺปิยปถวึ ขณนฺตานํ ทุกฺกเฏหิ สทฺธึ ปาจิตฺติยานีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺต’’นฺติ จ ‘‘ยถา จ อิธ, เอวํ สพฺพตฺถ ปาจิตฺติยฏฺาเน ทุกฺกฏา น มุจฺจตี’’ติ จ วกฺขติ. สเจ ปน กุสลจิตฺโต ‘‘ปุฺานิ กริสฺสามา’’ติ วทติ, อนาปตฺติ ‘‘พุทฺธปูชํ วา ธมฺมปูชํ วา สงฺฆภตฺตํ วา กริสฺสามาติ กุสลํ อุปฺปาเทติ, กุสลจิตฺเตน คมเน อนาปตฺตี’’ติ จ ‘‘ยถา จ อิธ, เอวํ สพฺพตฺถ อเถยฺยจิตฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ จ วกฺขมานตฺตา.

ปมาทลิขิตนฺติ เวทิตพฺพนฺติ อปรภาเค โปตฺถการุฬฺหกาเล ปมชฺชิตฺวา ลิขิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปาฬิยํ เสสอฏฺกถาสุ จ ‘‘กุทาลํ วา ปิฏกํ วา’’ติ อิทเมว ทฺวยํ วตฺวา วาสิผรสูนํ อวุตฺตตฺตา เตสมฺปิ สงฺเขปฏฺกถาทีสุ อาคตภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺเขปฏฺกถายํ ปน มหาปจฺจริยฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เถยฺยจิตฺเตน กตตฺตา ‘‘ทุกฺกเฏหิ สทฺธึ ปาจิตฺติยานี’’ติ วุตฺตํ. ตโต ปรํ สพฺพกิริยาสูติ พีชคฺคหณโต ปรํ กตฺตพฺพกิริยาสุ. สพฺพํ ปุริมนเยเนวาติ ยาว ปิฏกปริโยสานา หตฺถวารปทวาเรสุ ทุกฺกฏํ.

เถเรหิ ทสฺสิตนฺติ ปุพฺพปโยคสหปโยคทุกฺกเฏสุ อสมฺโมหตฺถํ สโมธาเนตฺวา ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ทสฺสิตํ. ‘‘สพฺเพสมฺปิ ทุกฺกฏานํ อิเมสุเยว อฏฺสุ สงฺคเหตพฺพภาวโต อิตเรหิ สตฺตหิ ทุกฺกเฏหิ วินิมุตฺตํ วินยทุกฺกเฏเยว สงฺคเหตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ. ทสวิธํ รตนนฺติ ‘‘มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตงฺโค มสารคลฺล’’นฺติ เอวมาคตํ ทสวิธํ รตนํ.

‘‘มณิ มุตฺตา เวฬุริโย จ สงฺโข,

สิลา ปวาฬํ รชตฺจ เหมํ;

สโลหิตงฺคฺจ มสารคลฺลํ,

ทเสติ ธีโร รตนานิ ชฺา’’ติ. –

หิ วุตฺตํ.

สตฺตวิธํ ธฺนฺติ สาลิ วีหิ ยโว กงฺคุ กุทฺรูโส วรโก โคธุโมติ อิทํ สตฺตวิธํ ธฺํ. อาวุธภณฺฑาทินฺติ อาทิ-สทฺเทน ตูริยภณฺฑอิตฺถิรูปาทึ สงฺคณฺหาติ. อนามสิตพฺเพ วตฺถุมฺหิ ทุกฺกฏํ อนามาสทุกฺกฏํ. ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏนฺติ ‘‘น กตฺตพฺพ’’นฺติ วาริตสฺส กตตฺตา ทุฏฺุ อาจิณฺณํ จริตนฺติ ทุรุปจิณฺณํ, ตสฺมึ ทุกฺกฏํ ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏํ. วินเย ปฺตฺตํ ทุกฺกฏํ วินยทุกฺกฏํ. ‘‘สงฺฆเภทาย ปรกฺกมตี’’ติ สุตฺวา ตํนิวารณตฺถาย าเต อตฺเถ อวทนฺตสฺส าตทุกฺกฏํ. เอกาทส สมนุภาสนา นาม ภิกฺขุปาติโมกฺเข จตฺตาโร ยาวตติยกา สงฺฆาทิเสสา, อริฏฺสิกฺขาปทนฺติ ปฺจ, ภิกฺขุนีปาติโมกฺเข เอกํ ยาวตติยกํ ปาราชิกํ, จตฺตาโร สงฺฆาทิเสสา, จณฺฑกาฬีสิกฺขาปทนฺติ ฉ. วสฺสาวาสาทึ ปฏิสฺสุณิตฺวา น สมฺปาเทนฺตสฺส ปฏิสฺสวนิมิตฺตํ ทุกฺกฏํ ปฏิสฺสวทุกฺกฏํ.

ปุพฺพสหปโยเค จ, อนามาสทุรุปจิณฺเณ;

วินเย เจว าเต จ, ตฺติยา จ ปฏิสฺสเว;

อฏฺเเต ทุกฺกฏา วุตฺตา, วินเย วินยฺุนา.

สหปโยคโต ปฏฺาย เจตฺถ ปุริมา ปุริมา อาปตฺติโย ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ อาห ‘‘อถ ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวา’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา ขณนฺตสฺส ปุริมาปตฺติโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ ทฏฺพฺพํ. วิยูหนทุกฺกฏํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, อุทฺธรณทุกฺกเฏ ปติฏฺาตีติ อิทํ ปาฬิยํ อาคตานุกฺกเมน ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ยทิ ปน ปํสุํ อุทฺธริตฺวา สอุสฺสาโหว ปุน ขณติ, อุทฺธรณทุกฺกฏํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ขณนทุกฺกเฏ ปติฏฺาติ.

กตํ กรณํ กิริยาติ อตฺถโต เอกนฺติ อาห ‘‘วิรูปา สา กิริยา’’ติ. อิทานิ วุตฺตเมวตฺถํ ปริวารปาฬิยา นิทสฺเสนฺโต ‘‘วุตฺตมฺปิ เจต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อปรทฺธํ วิรทฺธํ ขลิตนฺติ สพฺพเมตํ ยฺจ ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถ วุตฺตสฺส ทุกฺกฏสฺส ปริยายวจนํ. ยฺหิ ทุฏฺุ กตํ, วิรูปํ วา กตํ, ตํ ทุกฺกฏํ. ตํ ปเนตํ ยถา สตฺถารา วุตฺตํ, เอวํ อกตตฺตา อปรทฺธํ, กุสลํ วิรชฺฌิตฺวา ปวตฺตตฺตา วิรทฺธํ, อริยวํสปฺปฏิปทํ อนารุฬฺหตฺตา ขลิตํ. ยํ มนุสฺโส กเรติ อิทํ ปเนตฺถ โอปมฺมนิทสฺสนํ. ตสฺสตฺโถ – ยถา ยํ โลเก มนุสฺโส อาวิ วา ยทิ วา รโห ปาปํ กโรติ, ตํ ทุกฺกฏนฺติ ปเวเทนฺติ, เอวมิทมฺปิ พุทฺธปฏิกุฏฺเน ลามกภาเวน ปาปํ, ตสฺมา ทุกฺกฏนฺติ เวทิตพฺพนฺติ.

ยถา ทุกฺขา, กุจฺฉิตา วา คติ ทุคตีติ วตฺตพฺเพ ‘‘ทุคฺคตี’’ติ วุตฺตํ, ยถา จ กฏุกํ ผลเมตสฺสาติ กฏุกผลนฺติ วตฺตพฺเพ ‘‘กฏุกปฺผล’’นฺติ วุตฺตํ, เอวมิธาปิ ถูลตฺตา อจฺจยตฺตา จ ถูลจฺจยนฺติ วตฺตพฺเพ ‘‘ถุลฺลจฺจย’’นฺติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺปราเย จ ทุคฺคตี’’ติอาทิมาห. สํโยเค ปน กเต สํโยคปรสฺส รสฺสตฺตํ สิทฺธเมวาติ มนสิ กตฺวา ‘‘สํโยคภาโว เวทิตพฺโพ’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. เอกสฺส มูเลติ เอกสฺส สนฺติเก. อจฺจโย เตน สโม นตฺถีติ เทสนาคามีสุ อจฺจเยสุ เตน สโม ถูโล อจฺจโย นตฺถิ. เตเนตํ อิติ วุจฺจตีติ ถูลตฺตา อจฺจยสฺส เอตํ ถุลฺลจฺจยนฺติ วุจฺจตีติ อตฺโถ.

‘‘สพฺพตฺถาปิ อามสเน ทุกฺกฏํ ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยฺจ วิสุํ วิสุํ เถยฺยจิตฺเตน อามสนผนฺทาปนปโยคํ กโรนฺตสฺเสว โหติ, เอกปโยเคน คณฺหนฺตสฺส ปน อุทฺธาเร ปาราชิกเมว, น ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยานี’’ติ วทนฺติ. สหปโยคํ ปน อกตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ปุพฺพปโยเค อาปนฺนาปตฺตีนํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา อภาวโต สหปโยคํ กตฺวาปิ ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกนฺเตน ปุพฺพปโยเค อาปนฺนาปตฺติโย เทเสตพฺพา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. อฏฺกถาวจนํ ปน กเต สหปโยเค ปุพฺพปโยเค อาปนฺนาปตฺตีนมฺปิ ปฏิปฺปสฺสทฺธึ ทีเปติ, อฺถา ‘‘สหปโยคํ ปน อกตฺวา’’ติ อิทํ วิเสสนเมว นิรตฺถกํ สิยา. ยฺจ เหฏฺา วุตฺตํ ‘‘สเจ ปนสฺส ตตฺถชาตเก ติณรุกฺขลตาทิมฺหิ ฉินฺเนปิ ลชฺชิธมฺโม โอกฺกมติ, สํวโร อุปฺปชฺชติ, เฉทนปจฺจยา ทุกฺกฏํ เทเสตฺวา มุจฺจตี’’ติ, ตมฺปิ สหปโยเค กเต ปุพฺพปโยเค อาปนฺนาปตฺตีนํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิเมว ทีเปติ สหปโยเค เฉทนปจฺจยา อาปนฺนทุกฺกฏสฺเสว เทสนาย วุตฺตตฺตา. สหปโยคโต ปฏฺาเยวาติ จ อิทํ สหปโยคํ ปตฺตสฺส ตโต ปุพฺเพ อาปนฺนานํ ปุพฺพปโยคาปตฺตีนมฺปิ ปฏิปฺปสฺสทฺธึ ทีเปติ. เตน หิ อยมตฺโถ วิฺายติ ‘‘ยาว สหปโยคํ น ปาปุณาติ, ตาว ปุพฺเพ อาปนฺนาปตฺตีนํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิ น โหติ, สหปโยคํ ปตฺตกาลโต ปน ปฏฺาย ตาสมฺปิ ปฏิปฺปสฺสทฺธิ โหตี’’ติ, ตสฺมา สุฏฺุ อุปปริกฺขิตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพํ.

พหุกาปิ อาปตฺติโย โหนฺตุ, เอกเมว เทเสตฺวา มุจฺจตีติ เอตฺถายมธิปฺปาโย – สเจ ขณนวิยูหนุทฺธรเณสุ ทส ทส กตฺวา อาปตฺติโย อาปนฺนา, ตาสุ อุทฺธรเณ ทส อาปตฺติโย เทเสตฺวา มุจฺจติ วิสภาคกิริยํ ปตฺวา ปุริมาปุริมาปตฺตีนํ ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตาติ. ชาติวเสน ปน สมานกิริยาย อาปนฺนาปตฺติโย เอกตฺเตน คเหตฺวา ‘‘เอกเมว เทเสตฺวา’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา อิมินาปิ กุรุนฺทฏฺกถาวจเนน ปมํ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตปุริมาปตฺติปฏิปฺปสฺสทฺธิเมว สมตฺถยติ, น ปน อุภินฺนํ อฏฺกถานํ อตฺถโต นานากรณํ อตฺถิ. อปรมฺเปตฺถ ปการํ วณฺณยนฺติ ‘‘สมานกิริยาสุปิ ปุริมปุริมขณนปจฺจยา อาปนฺนาปตฺติโย ปจฺฉิมปจฺฉิมขณนํ ปตฺวา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ อิมินา อธิปฺปาเยน ‘ปํสุขณนาทีสุ จ ลชฺชิธมฺเม อุปฺปนฺเน พหุกาปิ อาปตฺติโย โหนฺตุ, เอกเมว เทเสตฺวา มุจฺจตีติ กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺต’’’นฺติ. ‘‘เอวฺจ สติ ‘พหุกาปิ อาปตฺติโย โหนฺตู’ติ น วตฺตพฺพํ ภเวยฺย, วุตฺตฺจ, ตสฺมา วิสภาคกิริยเมว ปตฺวา ปุริมาปตฺตีนํ ปฏิปฺปสฺสทฺธึ อิจฺฉนฺเตเนว พหุกาสุปิ อาปตฺตีสุ เอกเมว เทเสตฺวา มุจฺจตีติ อิมสฺมึ าเน วิสุํเยเวโก เทสนากฺกโม ทสฺสิโต’’ติปิ วทนฺติ. อยเมเตสํ อธิปฺปาโย – ยถา อิธ ปุริมาปตฺตีนํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิ อฏฺกถาจริยปฺปมาเณน คหิตา, เอวํ พหุกาสุปิ อาปตฺตีสุ เอกเมว เทเสตฺวา มุจฺจตีติ อิทมฺปิ อิธ อฏฺกถาจริยปฺปมาณโตเยว เวทิตพฺพํ. ยถา จ ปาฬิยํ ปาจิตฺติยฏฺาเนปิ ทุกฺกฏเมว โหตีติ อิธ อาเวณิกํ กตฺวา อาปตฺติวิเสโส ทสฺสิโต, เอวํ ปุริมาปตฺตีนํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเสโส จ เทสนาวิเสโส จ อฏฺกถาจริเยหิ ทสฺสิโตติ.

เหฏฺโต โอสีเทนฺโตติ ‘‘สามิเกสุ อาคนฺตฺวา อปสฺสิตฺวา คเตสุ คณฺหิสฺสามี’’ติ เถยฺยจิตฺเตน เหฏฺาภูมิยํ โอสีเทนฺโต. พุนฺเทนาติ กุมฺภิยา เหฏฺิมตเลน. เอวํ เอกฏฺาเน ิตาย กุมฺภิยา านาจาวนํ ฉหิ อากาเรหิ เวทิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. วลยํ นีหรติ, ปาราชิกนฺติ อากาสคตํ อกตฺวา ฆํสิตฺวา นีหรนฺตสฺส ฉินฺนโกฏิโต นีหฏมตฺเต ปาราชิกํ. อิโต จิโต จ สาเรตีติ ฆํสนฺโตเยว อากาสคตํ อกตฺวา สาเรติ.

ฉินฺนมตฺเต ปาราชิกนฺติ อวสฺสํ เจ ปตติ, ฉินฺนมตฺเต ปาราชิกํ. ปริจฺเฉโทติ ‘‘ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา’’ติ วุตฺตคณนปริจฺเฉโท. อปพฺยูหนฺโตติ ‘‘เหฏฺา ิตํ คณฺหิสฺสามี’’ติ หตฺเถน ทฺวิธา กโรนฺโต. อุปฑฺฒกุมฺภิยนฺติ อุปฑฺฒปุณฺณาย กุมฺภิยา. นนุ จ อฏฺกถาจริยปฺปมาเณน สงฺเขปฏฺกถาทีสุ วุตฺตมฺปิ กสฺมา น คเหตพฺพนฺติ อาห – ‘‘วินยวินิจฺฉเย หิ อาคเต ครุเก าตพฺพ’’นฺติ. วินยธมฺมตาติ วินยครุกานํ ธมฺมตา. วินยครุกา หิ วินยวินิจฺฉเย อาคเต ครุเก ติฏฺนฺติ. วินยครุกตาพฺยาปนตฺถฺหิ วินยครุโกเยเวตฺถ วินย-สทฺเทน วุตฺโต, วินยสฺส วา เอสา ธมฺมตา เตสํ ครุคารวฏฺานสฺส วินยวิสยตฺตา.

อิทานิ สงฺเขปฏฺกถาทีสุ วุตฺตํ ปาฬิยาปิ น สเมตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อปิจา’’ติอาทิ. ภาชนนฺติ ปตฺตาทิภาชนํ. ปตฺตาทึ อปูเรตฺวา คณฺหนฺตสฺส อนุทฺธเฏปิ มุขวฏฺฏิปริจฺเฉโท โหติ, ปูเรตฺวา คณฺหนฺตสฺส ปน อุทฺธรณกาเล โหตีติ อาห ‘‘มุขวฏฺฏิปริจฺเฉเทน วา อุทฺธาเรน วา’’ติ. ยทา ปน เตลกุมฺภีอาทีสุ เตลาทีนํ อพหุภาวโต ภาชนํ นิมุชฺชาเปตฺวา คณฺหิตุํ น สกฺกา โหติ, ตทา มุขวฏฺฏิปริจฺเฉเทเนว โหติ. จิกฺกนนฺติ ถทฺธํ. อากฑฺฒนวิกฑฺฒนโยคฺคนฺติ เอตฺถ อภิมุขํ กฑฺฒนํ อากฑฺฒนํ, ปรโต กฑฺฒนํ วิกฑฺฒนํ. ปฏินีหริตุนฺติ อตฺตโน ภาชนโต ปฏินีหริตุํ. หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกนฺติ เถยฺยจิตฺเตน ปรสนฺตกคฺคหณปโยคสฺส กตตฺตา. มหาอฏฺกถายเมว ‘‘สเจปิ มริยาทํ ทุพฺพลํ กตฺวา สุกฺขตฬากสฺส อุทกนิพฺพหนฏฺานํ อุทกนิทฺธมนตุมฺพํ วา ปิทหติ, อฺโต จ คมนมคฺเค วา ปาฬึ พนฺธติ, สุกฺขมาติกํ วา อุชุํ กโรติ, ปจฺฉา เทเว วุฏฺเ อุทกํ อาคนฺตฺวา มริยาทํ ภินฺทติ, สพฺพตฺถ ภณฺฑเทยฺย’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘ตํ ปน ตตฺเถว สุกฺขตฬาเก สุกฺขมาติกาย อุชุกรณวินิจฺฉเยน วิรุชฺฌตี’’ติ วุตฺตํ.

อวหารลกฺขณนฺติ ปฺจวีสติยา อวหาเรสุ เอกมฺปิ อวหารลกฺขณํ, านาจาวนปโยโค เอว วา. อุทฺธาเรติ กุมฺภิยา ผุฏฺฏฺานโต เกสคฺคมตฺเตปิ อุทฺธเฏ. ยุตฺตนฺติ านาจาวนปโยคสพฺภาวโต ยุตฺตํ. สงฺโคปนตฺถายาติ อิมินา สุทฺธจิตฺตตํ ทสฺเสติ. ปลิพุชฺฌิสฺสตีติ นิวาเรสฺสติ. วุตฺตนเยเนว ปาราชิกนฺติ หตฺถโต มุตฺตมตฺเตเยว ปาราชิกํ. สุทฺธจิตฺโตว อุทฺธรตีติ กุมฺภิยํ เตลสฺส อากิรณโต ปุเรตรเมว สุทฺธจิตฺโต นิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา สุทฺธจิตฺโตว อุทฺธรติ. เนว อวหาโรติ เถยฺยจิตฺเตน อวหรณปโยคสฺส อกตตฺตา. อตฺตโน ภาชนตฺตา ปน ‘‘น คีวา’’ติ วุตฺตํ, อนาปตฺติมตฺตเมว วุตฺตํ, น ปน เอวํ วิจาริตนฺติ อธิปฺปาโย. อถ วา อนาปตฺติมตฺตเมว วุตฺตนฺติ อิมินาปิ ตตฺถ ‘‘คีวา’’ติ วจนาภาวโต ‘‘น คีวา’’ติ ปุพฺเพ วุตฺตมหาอฏฺกถาวาทเมว ปติฏฺาเปติ, ปจฺฉา ทสฺสิเตน กุรุนฺทิวาเทนปิ มหาอฏฺกถาวาโทว สมตฺถิโต. อตฺตโน ภณฺฑนฺติ เตลากิรณโต ปุเรตรเมว อตฺตโน กุมฺภิยํ สุทฺธจิตฺเตน ปิตํ ปีตเตลํ อตฺตโน ปริกฺขารํ. สมฺโมหฏฺานนฺติ อาปตฺติวินิจฺฉยวเสน สมฺโมหฏฺานํ.

พหิคตํ นาม โหตีติ ตโต ปฏฺาย เตลสฺส อฏฺานภาวโต อโธมุขภาวโต จ พหิคตํ นาม โหติ. อนฺโต ปฏฺาย ฉิทฺเท กริยมาเน เตลสฺส นิกฺขมิตฺวา คตคตฏฺานํ ภาชนสงฺขฺยเมว คจฺฉตีติ อาห – ‘‘พาหิรนฺตโต ปาทคฺฆนเก คฬิเต ปาราชิก’’นฺติ. ยถา ตถา วา กตสฺสาติ พาหิรนฺตโต อพฺภนฺตรโต วา ปฏฺาย กตสฺส. มชฺเฌ เปตฺวา กตฉิทฺเทติ มชฺเฌ โถกํ กปาลํ เปตฺวา ปจฺฉา ตํ ฉินฺทนฺเตน กตฉิทฺเท. ‘‘มริยาทจฺเฉทเน อนฺโต ตฺวา พหิมุโข ฉินฺทนฺโต พหิ อนฺเตน กาเรตพฺโพ, พหิ ตฺวา อนฺโตมุโข ฉินฺทนฺโต อนฺโต อนฺเตน กาเรตพฺโพ, อนฺโต จ พหิ จ ฉินฺทิตฺวา มชฺเฌ เปตฺวา ตํ ฉินฺทนฺโต มชฺเฌน กาเรตพฺโพ’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๘) วุตฺตตฺตา ‘‘ตฬากสฺส จ มริยาทเภเทน สเมตี’’ติ วุตฺตํ. อิทเมตฺถ ยุตฺตนฺติ อนฺโต จ พหิ จ ปฏฺาย กตฉิทฺเท มชฺเฌน กาเรตพฺโพ. อนฺโต ปฏฺาย กเต ปน พาหิรนฺเตน, พหิ ปฏฺาย กเต อพฺภนฺตเรน กาเรตพฺโพติ อยํ ติปฺปกาโรปิ เอตฺถ เวมฏฺฉิทฺเท ยุตฺโต. อุทเก กตปโยคสฺส อภาวโต ‘‘านาจาวนปโยคสฺส อภาวา’’ติ วุตฺตํ.

อฏฺกถายํ ตาว วุตฺตนฺติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. ปตฺถินฺนสฺส ขาทนํ อิตรสฺส ปานฺจ สปฺปิอาทีนํ ปริโภโคติ อาห – ‘‘อขาทิตพฺพํ วา อปาตพฺพํ วา กโรตี’’ติ. กถํ ปน ตถา กโรตีติ อาห ‘‘อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา’’ติอาทิ. กสฺมา ปเนตฺถ ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘านาจาวนสฺส นตฺถิตาย ทุกฺกฏ’’นฺติ. ปุริมทฺวยนฺติ เภทนํ ฉฑฺฑนฺจ. กสฺมา น สเมตีติ อาห ‘‘ตฺหี’’ติอาทิ. กุมฺภิชชฺชรกรเณนาติ ปุณฺณกุมฺภิยา ชชฺชรกรเณน. มาติกาอุชอุกรเณนาติ อุทกปุณฺณาย มาติกาย อุชุกรเณน. เอกลกฺขณนฺติ เภทนํ กุมฺภิชชฺชรกรเณน ฉฑฺฑนํ มาติกาย อุชุกรเณน สทฺธึ เอกสภาวํ านาจาวนปโยคสพฺภาวโต. ปจฺฉิมํ ปน ทฺวยนฺติ ฌาปนํ อปริโภคกรณฺจ.

เอตฺถ เอวํ วินิจฺฉยํ วทนฺตีติ เอตฺถ มหาอฏฺกถายํ วุตฺเต เอเก อาจริยา เอวํ วินิจฺฉยํ วทนฺติ. ปจฺฉิมทฺวยํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เอตฺถ ปุริมทฺวเย วินิจฺฉโย เหฏฺา วุตฺตานุสาเรน สกฺกา วิฺาตุนฺติ ตตฺถ กิฺจิ อวตฺวา ปจฺฉิมทฺวยํ สนฺธาย านาจาวนสฺส นตฺถิตาย ทุกฺกฏนฺติ อิทํ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. เถยฺยจิตฺเตนาติ อตฺตโน วา ปรสฺส วา กาตุกามตาวเสน อุปฺปนฺนเถยฺยจิตฺเตน. วินาเสตุกามตายาติ หตฺถปาทาทึ ฉินฺทนฺโต วิย เกวลํ วินาเสตุกามตาย. ปุริมทฺวเย กึ โหติ, กึ อธิปฺปาเยน น กิฺจิ วุตฺตนฺติ อาห – ‘‘ปุริมทฺวเย ปน…เป… ปาราชิก’’นฺติ. ตตฺถ วุตฺตนเยน ภินฺทนฺตสฺส วา ฉฑฺเฑนฺตสฺส วาติ มุคฺคเรน โปเถตฺวา ภินฺทนฺตสฺส อุทกํ วา วาลิกํ วา อากิริตฺวา อุตฺตราเปนฺตสฺสาติ อตฺโถ. อยุตฺตนฺติ เจติ ปาฬิยํ ปุริมปททฺวเยปิ ทุกฺกฏสฺเสว วุตฺตตฺตา ‘‘ปุริมทฺวเย…เป… ปาราชิกนฺติ อิทํ อยุตฺต’’นฺติ ยทิ ตุมฺหากํ สิยาติ อตฺโถ. นาติ อยุตฺตภาวปฺปสงฺคํ นิเสเธตฺวา ตตฺถ การณมาห ‘‘อฺถา คเหตพฺพตฺถโต’’ติ. กถํ ปเนตฺถ อตฺโถ คเหตพฺโพติ อาห ‘‘ปาฬิยํ หี’’ติอาทิ. นาเสตุกามตาปกฺเข เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺถสฺส อวิรุชฺฌนโต ‘‘เถยฺยจิตฺตปกฺเข’’ติ วุตฺตํ. ‘‘เอวํ วินิจฺฉยํ วทนฺตี’’ติ อิโต ปฏฺาย วุตฺตสฺส สพฺพสฺสปิ เอกสฺเสว วจนตฺตา ‘‘เอวเมเก วทนฺตี’’ติ นิคมนวเสน วุตฺตํ.

อิทานิ ยถาวุตฺตวเสน ปาฬิยา อตฺเถ คยฺหมาเน มหาอฏฺกถายํ จตุนฺนมฺปิ สามฺโต วุตฺตสฺส ปจฺฉิมทฺวยํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ วจเน วิเสสาภาวโต ปาฬิยํ วุตฺเตสุ จตูสุ ปเทสุ ‘‘ฉฑฺเฑติ วา อปริโภคํ วา กโรตี’’ติ อิเมสํ ปทานํ วิเสสาภาวปฺปสงฺคโต จ สยํ อฺถา ปาฬึ อฏฺกถฺจ สํสนฺทิตฺวา อตฺถํ ทสฺเสตุกาโม ‘‘อยํ ปเนตฺถ สาโร’’ติอาทิมาห. วินีตวตฺถุมฺหิ ‘‘สงฺฆสฺส ปุฺชกิตํ ติณํ เถยฺยจิตฺโต ฌาเปสี’’สิ (ปารา. ๑๕๖) วุตฺตตฺตา วินีตวตฺถุมฺหิ ติณชฺฌาปโก วิยาติ อิมินาว านา อจาเวตุกาโมวาติ เอตฺถาปิ เถยฺยจิตฺเตน านา อจาเวตุกาโมติ อิทํ วุตฺตเมว โหตีติ ทฏฺพฺพํ. อฉฑฺเฑตุกาโมเยวาติ เอตฺถาปิ เถยฺยจิตฺเตนาติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. อิทฺหิ เถยฺยจิตฺตปกฺขํ สนฺธาย วุตฺตํ นาเสตุกามตาปกฺขสฺส วกฺขมานตฺตา. เตเนวาห ‘‘นาเสตุกามตาปกฺเข ปนา’’ติอาทิ. อิตรถาปิ ยุชฺชตีติ เถยฺยจิตฺตาภาวา านา จาเวตุกามสฺสปิ ทุกฺกฏํ ยุชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ.

ภูมฏฺกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อากาสฏฺกถาวณฺณนา

๙๖. อากาสฏฺกถายํ มุขตุณฺฑเกนาติ มุขคฺเคน. กลาปคฺเคนาติ ปิฺฉกลาปสฺส อคฺเคน. ปสาเรตีติ คหณตฺถํ ปสาเรติ. อคฺคเหตฺวา วาติ เลฑฺฑุอาทีหิ ปหริตฺวา นยนวเสน อคฺคเหตฺวา วา. อากาสฏฺวินิจฺฉเย วุจฺจมาเนปิ ตปฺปสงฺเคน อากาสฏฺสฺส เวหาสฏฺาทิภาวมุปคเตปิ อสมฺโมหตฺถํ ‘‘ยสฺมึ องฺเค นิลียตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อนฺโตวตฺถุมฺหีติ ปริกฺขิตฺตวตฺถุสฺส อนฺโต. อนฺโตคาเมติ ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อนฺโต. อปริกฺขิตฺเต ปน วตฺถุมฺหิ, คาเม วา ิตฏฺานเมว านํ. อฏวิมุขํ กโรตีติ อรฺาภิมุขํ กโรติ. รกฺขตีติ เตน ปโยเคน ตสฺส อิจฺฉิตฏฺานํ อคตตฺตา รกฺขติ. ภูมิยา คจฺฉนฺตํ สนฺธาย ‘‘ทุติยปทวาเร วา’’ติ วุตฺตํ. คามโต นิกฺขนฺตสฺสาติ ปริกฺขิตฺตคามโต นิกฺขนฺตสฺส. กปิฺชโร นาม เอกา ปกฺขิชาติ.

อากาสฏฺกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เวหาสฏฺกถาวณฺณนา

๙๗. เวหาสฏฺกถายํ ปน จีวรวํเส ปิตสฺส จีวรสฺส อากฑฺฒเน ยถาวุตฺตปฺปเทสาติกฺกโม เอกทฺวงฺคุลมตฺตากฑฺฒเนน สิยาติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ ‘‘เอกทฺวงฺคุลมตฺตากฑฺฒเนเนว ปาราชิก’’นฺติ. อิทฺจ ตาทิสํ นาติมหนฺตํ จีวรวํสทณฺฑกํ สนฺธาย วุตฺตํ, มหนฺเต ปน ตโต อธิกมตฺตากฑฺฒเนเนว สิยา. รชฺชุเกน พนฺธิตฺวาติ เอกาย รชฺชุโกฏิยา จีวรํ พนฺธิตฺวา อปราย โกฏิยา จีวรวํสํ พนฺธิตฺวา ปิตจีวรํ. มุตฺตมตฺเต อฏฺตฺวา ปตนกสภาวตฺตา ‘‘มุตฺเต ปาราชิก’’นฺติ วุตฺตํ.

เอกเมกสฺส ผุฏฺโกาสมตฺเต อติกฺกนฺเต ปาราชิกนฺติ ภิตฺตึ อผุสาเปตฺวา ปิตตฺตา วุตฺตํ. ภิตฺตึ นิสฺสาย ปิตนฺติ ปฏิปาฏิยา ปิเตสุ นาคทนฺตาทีสุเยว อาโรเปตฺวา ภิตฺตึ ผุสาเปตฺวา ปิตํ. ปณฺณนฺตรํ อาโรเปตฺวา ปิตาติ อฺเหิ ปิตํ สนฺธาย วุตฺตํ.

เวหาสฏฺกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุทกฏฺกถาวณฺณนา

๙๘. อุทกฏฺกถายํ สนฺทมานอุทเก นิกฺขิตฺตํ น ติฏฺตีติ อาห ‘‘อสนฺทนเก อุทเก’’ติ. อนาปตฺตีติ หตฺถวารปทวาเรสุ ทุกฺกฏาปตฺติยา อภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. กฑฺฒตีติ เหฏฺโต โอสาเรติ. อุปฺปลาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน ปทุมปุณฺฑรีกาทึ สงฺคณฺหาติ. รตฺตํ ปทุมํ, เสตํ ปุณฺฑรีกํ. เสตํ วา ปทุมํ, รตฺตํ ปุณฺฑรีกํ. อถ วา รตฺตํ วา โหตุ เสตํ วา สตปตฺตํ ปทุมํ, อูนสตปตฺตํ ปุณฺฑรีกํ. วตฺถุ ปูรตีติ ปาราชิกวตฺถุ ปโหติ. ตสฺมึ ฉินฺนมตฺเต ปาราชิกนฺติ อุทกโต อจฺจุคฺคตสฺส อุทกวินิมุตฺตฏฺานโต เฉทนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ วตฺถุํ ปูเรตีติ ยํ ปุปฺผํ ปาราชิกวตฺถุํ ปูเรติ. ทสหิ ปุปฺเผหิ กตกลาโป หตฺถโก, มหนฺตํ กลาปํ กตฺวา พทฺธํ ภารพทฺธํ. รชฺชุเกสุ ติณานิ สนฺถริตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ทฺเว รชฺชุกานิ อุทกปิฏฺเ เปตฺวา เตสํ อุปริ ติริยโต ติณานิ สนฺถริตฺวา เตสํ อุปริ พนฺธิตฺวา วา อพนฺธิตฺวา วา ติริยโตเยว ปุปฺผานิ เปตฺวา เหฏฺโต คตานิ ทฺเว รชฺชุกานิ อุกฺขิปิตฺวา ปุปฺผมตฺถเก เปนฺตี’’ติ วทนฺติ.

เกสคฺคมตฺตมฺปิ ยถาิตฏฺานโต จาเวตีติ ปาริมนฺเตน ผุฏฺโกาสํ, โอริมนฺเตน เกสคฺคมตฺตํ จาเวติ. สกลมุทกนฺติ ทณฺเฑน ผุฏฺโกาสคตํ สกลมุทกํ. น อุทกํ านนฺติ อตฺตนา กตฏฺานสฺส อฏฺานตฺตา. อิทํ อุภยนฺติ เอตฺถ ‘‘พนฺธนํ อโมเจตฺวา…เป… ปาราชิก’’นฺติ อิทเมเวกํ, ‘‘ปมํ พนฺธนํ…เป… านปริจฺเฉโท’’ติ อิทํ ทุติยํ. ปทุมินิยนฺติ ปทุมคจฺเฉ. อุปฺปาฏิตายาติ ปเรหิ อตฺตโน อตฺถาย อุปฺปาฏิตาย.

พหิ ปิเตติ อุทกโต พหิ ปิเต. หตฺถกวเสน ขุทฺทกํ กตฺวา

พทฺธํ กลาปพทฺธํ. มุฬาลนฺติ กนฺทํ. ปตฺตํ วา ปุปฺผํ วาติ อิทํ กทฺทมสฺส อนฺโต ปวิสิตฺวา ิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. สกลมุทกนฺติ วาปิอาทีสุ ปริยาปนฺนํ สกลมุทกํ. นิทฺธมนตุมฺพนฺติ วาปิยา อุทกสฺส นิกฺขมนมคฺคํ. อุทกวาหกนฺติ มหามาติกํ. น อวหาโรติ อิทํ ปุพฺพสทิสํ น โหตีติ อาห – ‘‘กสฺมา…เป… เอวรูปา หิ ตตฺถ กติกา’’ติ. อวหาโร นตฺถีติ สพฺพสาธารเณ อปริคฺคหฏฺาเน คหิตตฺตา. มาติกํ อาโรเปตฺวาติ ขุทฺทกมาติกํ อาโรเปตฺวา. มริตฺวา…เป… ติฏฺนฺตีติ เอตฺถ ‘‘มตมจฺฉานํเยว เตสํ สนฺตกตฺตา อมเต คณฺหนฺตสฺส นตฺถิ อวหาโร’’ติ วทนฺติ.

อุทกฏฺกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นาวฏฺกถาวณฺณนา

๙๙. นาวฏฺกถายํ ปน ยา พนฺธนา มุตฺตมตฺเต านา น จวตีติ อิมินา จณฺฑโสเต พทฺธนาวํ ปฏิกฺขิปติ. ตาว ทุกฺกฏนฺติ ‘‘พนฺธนํ โมเจติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ เอวํ โมเจนฺตสฺส ปฺตฺตํ ทุกฺกฏํ สนฺธาย วุตฺตํ. ถุลฺลจฺจยมฺปิ ปาราชิกมฺปิ โหตีติ เอตฺถ ปมํ านา อจาเวตฺวา มุตฺเต ถุลฺลจฺจยํ, ปมํ านา จาเวตฺวา มุตฺเต ปาราชิกนฺติ เวทิตพฺพํ.

‘‘ปาเส พทฺธสูกโร วิยา’’ติอาทินา วุตฺตํ สนฺธายาห ‘‘ตตฺถ ยุตฺติ ปุพฺเพ วุตฺตา เอวา’’ติ. วิปฺปนฏฺา นาวาติ วิสมวาตาทีหิ วินาสํ ปตฺวา อุทเก นิมุชฺชิตฺวา เหฏฺา ภูมิตลํ อปฺปตฺวา มชฺเฌ ิตํ สนฺธาย วทติ. เตเนว ‘‘อโธ วา โอปิลาเปนฺตสฺส…เป… นาวาตเลน ผุฏฺโกาสํ มุขวฏฺฏึ อติกฺกนฺตมตฺเต ปาราชิก’’นฺติ วุตฺตํ. โอปิลาเปนฺตสฺสาติ โอสีทาเปนฺตสฺส. อติกฺกนฺตมตฺเตติ ผุฏฺโกาสํ อติกฺกนฺตมตฺเต. เอเสว นโยติ มุตฺตมตฺเต ปาราชิกนฺติ ทสฺเสติ.

นาวากฑฺฒนโยคฺคมหาโยตฺตตาย โยตฺตโกฏิโต ปฏฺาย สกลมฺปิ ‘‘าน’’นฺติ วุตฺตํ.

อสติปิ วาเต ยถา วาตํ คณฺหาติ, ตถา ปิตตฺตา ‘‘วาตํ คณฺหาเปตี’’ติ วุตฺตํ. พลวา จ วาโต อาคมฺมาติ อิมินา อสติ วาเต อยํ ปโยโค กโตติ ทสฺเสติ. เตเนว ‘‘ปุคฺคลสฺส นตฺถิ อวหาโร’’ติ วุตฺตํ. สติ ปน วาเต กโต ปโยโค านาจาวนปโยโคเยวาติ มาติกาอุชุกรเณ วิย อตฺเถว อวหาโรติ ทฏฺพฺพํ. านาจาวนปโยโค น โหตีติ สุกฺขมาติกาอุชุกรเณ วิย อสติ วาเต กตปโยคตฺตา. ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหตีติ นาวาสามิกสฺส ภณฺฑเทยฺยํ โหติ.

นาวฏฺกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ยานฏฺกถาวณฺณนา

๑๐๐. ยานฏฺกถายํ ทุกยุตฺตสฺสาติ ทฺวีหิ โคเณหิ ยุตฺตสฺส. อยุตฺตกนฺติ โคเณหิ อยุตฺตํ. กปฺปกตาติ ยถา ทฺวีหิ ภาเคหิ เหฏฺา ปติฏฺาติ, เอวํ กตา. ตีณิ วา จตฺตาริ วา านานีติ อกปฺปกตาย อุปตฺถมฺภนิยา วเสน ตีณิ านานิ, กปฺปกตาย วเสน จตฺตาริ านานีติ. ตถา ปถวิยํ ปิตสฺส ตีณิ านานีติ สมฺพนฺโธ. นฺติ ผลกสฺส วา ทารุกสฺส วา อุปริ ปิตํ ปถวิยํ ปิตฺจ. ทฺวีหิ อกฺขสีเสหีติ ทฺวีหิ อกฺขโกฏีหิ. ทารูนํ อุปริ ปิตสฺสาติ ทฺวินฺนํ ทารูนํ อุปริ ทฺวีหิ อกฺขโกฏีหิ โอลมฺเพตฺวา สกฏสาลายํ ปิตสฺส. เหฏฺิมตลสฺสาติ สกฏพาหาย ภูมึ ผุสิตฺวา ิตสฺส เหฏฺิมภาคสฺส. เสสํ นาวายํ วุตฺตสทิสนฺติ อิมินา ‘‘ยทิ ปน ตํ เอวํ คจฺฉนฺตํ ปกติคมนํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา อฺํ ทิสาภาคํ เนติ, ปาราชิกํ. สยเมว ยํ กฺจิ คามํ สมฺปตฺตํ านา อจาเวนฺโตว วิกฺกิณิตฺวา คจฺฉติ, เนวตฺถิ อวหาโร, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหตี’’ติ อิมํ นยํ อติทิสฺสติ.

ยานฏฺกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ภารฏฺกถาวณฺณนา

๑๐๑. ภารฏฺกถายํ ปุริมคเล คลวาฏโกติ ปุริมคเล อุปริมคลวาฏโก. อุรปริจฺเฉทมชฺเฌติ อุรปริยนฺตสฺส มชฺเฌ. อนาณตฺตตฺตาติ ‘‘อสุกฏฺานํ เนหี’’ติ อนาณตฺตตฺตา. โย จายํ สีสภาเร วุตฺโตติ โย จายํ วินิจฺฉโย สีสภาเร วุตฺโต. สีสาทีหิ วา คหิโต โหตูติ สมฺพนฺโธ. ตาทิสนฺติ ตปฺปฏิจฺฉาทนสมตฺถํ.

ภารฏฺกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อารามฏฺกถาวณฺณนา

๑๐๒. อารามฏฺกถายํ พนฺธนนฺติ ปุปฺผานํ วณฺเฏ ปติฏฺิตฏฺานํ. อภิยุฺชตีติ โจเทติ อฑฺฑํ กโรติ. อทินฺนาทานสฺส ปโยคตฺตาติ สหปโยคมาห วตฺถุมฺหิเยว กตปโยคตฺตา. สหปโยควเสน เหตํ ทุกฺกฏํ. วินิจฺฉยปฺปสุตนฺติ วินิจฺฉเย นิยุตฺตํ. กกฺขโฬติ ทารุโณ. ธุรํ นิกฺขิปตีติ อุสฺสาหํ เปติ, อตฺตโน สนฺตกกรเณ นิรุสฺสาโห โหตีติ อตฺโถ. กูฏฑฺฑการโกปิ สเจ ธุรํ น นิกฺขิปติ, นตฺถิ อวหาโรติ อาห ‘‘สเจ สยมฺปิ กตธุรนิกฺเขโป โหตี’’ติ. สยมฺปีติ อภิยุฺชโกปิ. กตธุรนิกฺเขโปติ ‘‘น ทานิ นํ อิมสฺส ทสฺสามี’’ติ เอวํ ตสฺส ทาเน กตธุรนิกฺเขโป. กิงฺการปฺปฏิสฺสาวิภาเวติ ‘‘กึ กโรมิ กึ กโรมี’’ติ เอวํ กิงฺการเมว ปฏิสฺสุณนฺโต วิจรตีติ กิงฺการปฏิสฺสาวี, ตสฺส ภาโว กิงฺการปฏิสฺสาวิภาโว, ตสฺมึ, อตฺตโน วสวตฺติภาเวติ วุตฺตํ โหติ.

อุกฺโกจํ ทตฺวาติ ลฺชํ ทตฺวา. กูฏวินิจฺฉยิกานนฺติ กูฏวินิจฺฉเย นิยุตฺตานํ วินยธรานํ. ‘‘คณฺหา’’ติ อวตฺวา ‘‘อสามิกสฺส สามิโก อย’’นฺติอาทินา ปริยาเยน วุตฺเตปิ ตสฺส สนฺตกภาวํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปวตฺตวจนตฺตา กูฏวินิจฺฉยํ กโรนฺตานํ กูฏสกฺขีนฺจ ปาราชิกเมว. อสติปิ เจตฺถ านาจาวเน อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขโปเยว านาจาวนฏฺาเน ติฏฺติ. อิมสฺมึ ธุรนิกฺเขเป ปาราชิเก สามิกสฺส วิมตุปฺปาทนปโยเค กเต ถุลฺลจฺจยํ, ตสฺเสว ธุรนิกฺเขปปโยเค นิปฺผาทิเต ปาราชิกํ. สยํ ปราชยํ ปาปุณาตีติ กูฏฑฺฑการโก ปราชยํ ปาปุณาติ.

อารามฏฺกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

วิหารฏฺกถาวณฺณนา

๑๐๓. วิหารฏฺกถายํ วิหาโรปิ ปริเวณมฺปิ อาวาโสปิ วิหาโรตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตีติ อาห ‘‘วิหารํ วา’’ติอาทิ. ตตฺถ วิหารนฺติ มหาวิหารํ. ปริเวณนฺติ มหาวิหารสฺส อพฺภนฺตเร วิสุํ วิสุํ ปาการปริจฺฉินฺนฏฺานํ. อาวาสนฺติ เอกํ อาวสถํ. อภิโยเค กเตปิ อวหารสฺส อสิชฺฌนโต วุตฺตํ ‘‘อภิโยโค น รุหตี’’ติ. คณสนฺตเก ปน ปริจฺฉินฺนสามิกตฺตา สกฺกา ธุรํ นิกฺขิปาเปตุนฺติ อาห ‘‘ทีฆภาณกาทิเภทสฺส ปน คณสฺสา’’ติ. อิธาปิ สเจ เอโกปิ ธุรํ น นิกฺขิปติ, รกฺขติเยว. สพฺเพสํ ธุรนิกฺเขเปเนว หิ ปาราชิกํ.

วิหารฏฺกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เขตฺตฏฺกถาวณฺณนา

๑๐๔. เขตฺตฏฺกถายํ สตฺต ธฺานีติ สาลิวีหิยวกงฺคุกุทฺรูสวรกโคธุมานํ วเสน สตฺต ธฺานิ. นิรุมฺภิตฺวา วาติอาทีสุ ‘‘คณฺหนฺตสฺสา’’ติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ นิรุมฺภิตฺวา คหณํ นาม วีหิสีสํ อจฺฉินฺทิตฺวา ยถาิตเมว หตฺเถน คเหตฺวา อากฑฺฒิตฺวา พีชมตฺตสฺเสว คหณํ. เอกเมกนฺติ เอกเมกํ วีหิสีสํ. อุปฺปาเฏตฺวา วาติ มุคฺคมาสาทีนิ อุทฺธริตฺวา วา. ยสฺมึ พีเช วาติอาทิ นิรุมฺภิตฺวา คหณาทีสุ ยถากฺกมํ โยเชตพฺพํ. สาลิสีสาทีนิ นิรุมฺภิตฺวา คณฺหนฺตสฺส ยสฺมึ พีเช วตฺถุ ปูรติ, เอกเมกํ หตฺเถเนว ฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺตสฺส ยสฺมึ สีเส วตฺถุ ปูรติ, อสิเตน ลายิตฺวา คณฺหนฺตสฺส ยสฺสํ มุฏฺิยํ วตฺถุ ปูรติ, พหูนิ เอกโต อุปฺปาเฏตฺวา คณฺหนฺตสฺส ยสฺมึ มุคฺคมาสาทิผเล วตฺถุ ปูรตีติ เอวเมตฺถ ยถากฺกโม เวทิตพฺโพ. ‘‘ตสฺมึ พนฺธนา โมจิตมตฺเต’’ติ วจนโต ตสฺมึ พีชาทิมฺหิ พนฺธนา โมจิเต สติ ตโต อนปนีเตปิ ปาราชิกเมวาติ ทฏฺพฺพํ. อจฺฉิชฺชมาโนติ อจฺฉินฺโน หุตฺวา ิโต. ชฏิตานีติ ฉินฺทิตานิ อจฺฉินฺเนหิ สทฺธึ ชฏิตานิ โหนฺตีติ อตฺโถ. สภุสนฺติ ปลาลสหิตํ. อภุสนฺติ ปลาลรหิตํ.

ขีเลนาติ ขาณุเกน. เอตฺถ จ ขีลสงฺกมนาทีสุ อุภยํ สมฺภวติ สหปโยโค ธุรนิกฺเขโป จ. ยทา หิ ปรสฺส เขตฺตาทีสุ เอกเทสํ ขีลสงฺกมนาทิวเสน อตฺตโน สนฺตกํ กโรติ, ตทา สติปิ ปมตรํ สามิกานํ ธุรนิกฺเขเป ขีลสงฺกมนาทิสหปโยคํ วินา น โหตีติ สหปโยเคเนว ปาราชิกํ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ทุติยปาราชิกวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘านาจาวนวเสน ขีลาทีนิ สงฺกาเมตฺวา เขตฺตาทิคฺคหณวเสน จ สหปโยโค เวทิตพฺโพ’’ติ. ยทา ปน อสติ ธุรนิกฺเขเป ขีลสงฺกมนาทิมตฺตํ กตํ, ตทา วินา ธุรนิกฺเขเปน น โหตีติ ธุรนิกฺเขเปเนว ปาราชิกํ. เตเนเวตฺถ ‘‘ตฺจ โข สามิกานํ ธุรนิกฺเขเปนา’’ติ วุตฺตํ. เอวํ สพฺพตฺถาติ ยถาวุตฺตมตฺถํ รชฺชุสงฺกมนาทีสุปิ อติทิสติ.

ยฏฺินฺติ มานทณฺฑํ. เอกสฺมึ อนาคเต ถุลฺลจฺจยํ, ตสฺมึ อาคเต ปาราชิกนฺติ เอตฺถ สเจ ทารูนิ นิขณิตฺวา ตตฺตเกเนว คณฺหิตุกาโม โหติ, อวสาเน ทารุมฺหิ ปาราชิกํ. สเจ ตตฺถ สาขาโยปิ กตฺวา คเหตุกาโม โหติ, อวสานสาขาย ปาราชิกนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺตเกน อสกฺโกนฺโตติ ทารูนิ นิขณิตฺวา วตึ กาตุํ อสกฺโกนฺโต. เขตฺตมริยาทนฺติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘เกทารปาฬิ’’นฺติ วุตฺตํ. วิตฺถตํ กโรตีติ ปุพฺเพ วิชฺชมานเมว มริยาทํ วิตฺถิณฺณํ กโรติ. อกตํ วา ปน ปติฏฺเปตีติ ปุพฺเพ อกตํ วา มริยาทํ เปติ.

เขตฺตฏฺกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

วตฺถุฏฺกถาวณฺณนา

๑๐๕. วตฺถุฏฺกถายํ ติณฺณํ ปาการานนฺติ อิฏฺกสิลาทารูนํ วเสน ติณฺณํ ปาการานํ. เอเตเนว นเยนาติ อิมินา ‘‘เกวลํ ภูมึ โสเธตฺวา…เป… อปริกฺขิปิตฺวา วา’’ติ วุตฺตมตฺถํ นิทสฺเสติ.

คามฏฺกถาวณฺณนา

๑๐๖. คามฏฺกถายํ คาโม นามาติ ปาฬิยํ น วุตฺตํ สพฺพโส คามลกฺขณสฺส ปุพฺเพ วุตฺตตฺตา.

อรฺฏฺกถาวณฺณนา

๑๐๗. อรฺฏฺกถายํ อรฺํ นามาติ อิทํ ปน น เกวลํ ปุพฺเพ วุตฺตอรฺลกฺขณปฺปตฺติมตฺเตน อรฺํ อิธาธิปฺเปตํ, กินฺตุ ยํ อตฺตโน อรฺลกฺขเณน อรฺํ ปรปริคฺคหิตฺจ โหติ, ตํ อรฺํ อิธาธิปฺเปตนฺติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เตนาติ ปุน อรฺวจเนน. น ปริคฺคหิตภาโว อรฺสฺส ลกฺขณนฺติ ยทิ หิ ปริคฺคหิตภาโว อรฺลกฺขณํ สิยา, ‘‘อรฺํ นาม ยํ มนุสฺสานํ ปริคฺคหิต’’นฺติ เอตฺตกเมว วเทยฺยาติ อธิปฺปาโย. นฺติ อิมินา ปุพฺเพ วุตฺตลกฺขณเมว อรฺํ ปรามฏฺนฺติ อาห ‘‘ยํ ปน อตฺตโน อรฺลกฺขเณน อรฺ’’นฺติ.

วินิวิชฺฌิตฺวาติ อุชุกเมว วินิวิชฺฌิตฺวา. ปณฺณํ วาติ ตาลปณฺณาทิ ปณฺณํ วา. อทฺธคโตปีติ จิรกาลํ ตตฺเถว ิโตปิ. น คเหตพฺโพติ เอตฺถ ปน โย ปเรหิ อรฺสามิกานํ หตฺถโต กิณิตฺวา ตจฺเฉตฺวา ตตฺเถว ปิโต, โส อรฺสามิเกน อนุฺาโตปิ น คเหตพฺโพ. สามิเกหิ ฉฑฺฑิโตติ คเหตุํ วฏฺฏตีติ ปํสุกูลสฺาย คหณํ วุตฺตํ. ลกฺขณจฺฉินฺนสฺสาปีติ อรฺสามิกานํ หตฺถโต กิณิตฺวา คณฺหนฺเตหิ กตสฺาณสฺส. ฉลฺลิยา ปริโยนทฺธํ โหตีติ อิมินา สามิกานํ นิรเปกฺขตํ ทีเปติ. เตน วุตฺตํ ‘‘คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ยทิ สามิกานํ สาเปกฺขตา อตฺถิ, น วฏฺฏติ. ตานิ กตานิ อชฺฌาวุตฺถานิ จ โหนฺตีติ ตานิ เคหาทีนิ กตานิ ปรินิฏฺิตานิ มนุสฺเสหิ จ อชฺฌาวุตฺถานิ โหนฺติ. ทารูนิปีติ เคหาทีนํ กตตฺตา ตโต อวสิฏฺทารูนิปิ. เอเตสนฺติ เอเตสํ ยถาวุตฺตทารูนํ.

เตสํ อารกฺขฏฺานนฺติ เตสํ อรฺปาลานํ ิตฏฺานํ. เทหีติ วุตฺเต ทาตพฺพเมวาติ เอตฺถ ‘‘เทหี’’ติ วุตฺเต ‘‘ทสฺสามี’’ติ อาโภคสพฺภาวโต ‘‘เทหี’’ติ อวุตฺเต อทตฺวาปิ คนฺตุํ วฏฺฏติเยว. คนฺตุํ เทถาติ คมนํ เทถ. อทิสฺวา คจฺฉติ, ภณฺฑเทยฺยนฺติ ปริสุทฺธจิตฺเตน คจฺฉติ, ภณฺฑเทยฺยํ. ยตฺถ กตฺถจิ นีตานมฺปิ ทารูนํ อรฺสามิกานํเยว สนฺตกตฺตา สุทฺธจิตฺเตน นิกฺขนฺโตปิ ปุน เถยฺยจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา คจฺฉติ, ปาราชิกเมวาติ วทนฺติ.

อรฺฏฺกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุทกกถาวณฺณนา

๑๐๘. อุทกกถายํ มหากุจฺฉิกา อุทกจาฏิ อุทกมณิโก. ‘‘สเมขลา จาฏิ อุทกมณิโก’’ติปิ วทนฺติ. ตตฺถาติ เตสุ ภาชเนสุ. นิพฺพหนอุทกนฺติ ‘‘มโหทกํ อาคนฺตฺวา ตฬากมริยาทํ มา ฉินฺที’’ติ ตฬากรกฺขณตฺถํ ตสฺส เอกปสฺเสน วิสฺสชฺชิตอุทกํ. นิทฺธมนตุมฺพนฺติ สสฺสาทีนํ อตฺถาย อุทกนิกฺขมนมคฺคํ. มริยาทํ ทุพฺพลํ กตฺวาติ อิทํ อวสฺสํ ฉินฺนสภาวทสฺสนตฺถํ ภณฺฑเทยฺยวิสยทสฺสนตฺถฺจ วุตฺตํ. มริยาทํ ทุพฺพลํ อกตฺวาปิ ยถาวุตฺตปฺปโยเค กเต มริยาทํ ฉินฺทิตฺวา นิกฺขนฺตอุทกคฺฆานุรูเปน อวหาเรน กาเรตพฺพเมว.

อนิคฺคเตติ อนิกฺขมิตฺวา ตฬากสฺมึเยว อุทเก ิเต. อสมฺปตฺเตวาติ ตฬากโต นิกฺขมิตฺวา มหามาติกาย เอว ิเต. อนิกฺขนฺเตติ ตฬากโต อนิกฺขนฺเต อุทเก. สุพทฺธาติ ภณฺฑเทยฺยมฺปิ น โหตีติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘นิกฺขนฺเต พทฺธา ภณฺฑเทยฺย’’นฺติ, ตฬากโต นิกฺขมิตฺวา ปเรสํ ขุทฺทกมาติกามุขํ อปาปุณิตฺวา มหามาติกายํเยว ิเต พทฺธา เจ, ภณฺฑเทยฺยนฺติ อตฺโถ. ‘‘อนิกฺขนฺเต พทฺธา สุพทฺธา, นิกฺขนฺเต พทฺธา ภณฺฑเทยฺย’’นฺติ หิ อิทํ ทฺวยํ เหฏฺา วุตฺตวิกปฺปทฺวยสฺส ยถากฺกเมน วุตฺตํ. นตฺถิ อวหาโรติ เอตฺถ ‘‘อวหาโร นตฺถิ, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหตี’’ติ เกจิ วทนฺติ, ตฬากคตอุทกสฺส สพฺพสาธารณตฺตา ตํ อยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ, ‘‘อนิกฺขนฺเต พทฺธา สุพทฺธา’’ติ อิมินา จ อฏฺกถาวจเนน น สเมติ. วตฺถุํ…เป… น สเมตีติ เอตฺถ ตฬากคตอุทกสฺส สพฺพสาธารณตฺตา อปริคฺคหิตํ อิธ วตฺถุนฺติ อธิปฺปาโย.

อุทกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทนฺตโปนกถาวณฺณนา

๑๐๙. ทนฺตกฏฺกถายํ ตโต ปฏฺาย อวหาโร นตฺถีติ ‘‘ยถาสุขํ ภิกฺขุสงฺโฆ ปริภุฺชตู’’ติ ยถาสุขํ ปริโภคตฺถาย ปิตตฺตา วสฺสคฺเคน อภาเชตพฺพตฺตา อรกฺขิตพฺพตฺตา สพฺพสาธารณตฺตา จ อฺํ สงฺฆิกํ วิย น โหตีติ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺตสฺสปิ นตฺถิ อวหาโร. วตฺตนฺติ ทนฺตกฏฺคฺคหเณ วตฺตํ. อิทานิ ตเทว วตฺตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โย หี’’ติอาทิมาห. ‘‘ปุน สามเณรา อาหริสฺสนฺตี’’ติ เกจิ เถรา วเทยฺยุนฺติ โยเชตพฺพํ.

ทนฺตโปนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

วนปฺปติกถาวณฺณนา

๑๑๐. วนปฺปติกถายํ ‘‘อุชุกเมว ติฏฺตีติ รุกฺขภาเรน กิฺจิเทว ภสฺสิตฺวา ิตตฺตา โหติเยว านาจาวนนฺติ อธิปฺปาเยน วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. วาตมุขํ โสเธตีติ ยถา วาโต อาคนฺตฺวา รุกฺขํ ปาเตติ, เอวํ วาตสฺส อาคมนมคฺคํ รุนฺธิตฺวา ิตานิ สาขาคุมฺพาทีนิ ฉินฺทิตฺวา อปเนนฺโต โสเธติ. ‘‘มณฺฑูกกณฺฏกํ วา วิสนฺติ มณฺฑูกานํ นงฺคุฏฺเ อคฺคโกฏิยํ ิตกณฺฏก’’นฺติ วทนฺติ, ‘‘เอกํ วิสมจฺฉกณฺฏก’’นฺติปิ วทนฺติ.

วนปฺปติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

หรณกกถาวณฺณนา

๑๑๑. หรณกกถายํ หรณกนฺติ หริยมานํ. อภิมุขํ กตฺวา กฑฺฒนํ อากฑฺฒนํ, เสสทิสากฑฺฒนํ วิกฑฺฒนํ. ปาทํ อคฺฆติ, ปาราชิกเมวาติ เอตฺถ อนฺตํ น คณฺหามีติ อสลฺลกฺขิตตฺตา อนฺตสฺส จ คณฺหิสฺสามีติ สลฺลกฺขิตสฺเสว ปฏสฺส เอกเทสตฺตา ปาราชิกํ วุตฺตํ. สหภณฺฑหารกนฺติ ภณฺฑหารเกน สทฺธึ. สนฺตชฺเชตฺวาติ ธนุอาทีหิ สนฺตชฺเชตฺวา.

โสติ ภณฺฑหารโก. อนชฺฌาวุตฺถกนฺติ อปริคฺคหิตกํ, อสามิกนฺติ อตฺโถ.

อาหราเปนฺเต ทาตพฺพนฺติ เอตฺถ ‘‘ฉฑฺเฑตฺวา ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา คตานมฺปิ นิราลยานํ ปุน อาหราปนสฺส วุตฺตตฺตา ภิกฺขูนมฺปิ อตฺตโน สนฺตเก ปริกฺขาเร อจฺฉินฺทิตฺวา ปเรหิ คหิเต ตตฺถ ธุรนิกฺเขปํ กตฺวาปิ ปุน ตํ พลกฺกาเรนปิ อาหราเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ เทสวาสิโน อาจริยา วทนฺติ, สีหฬทีปวาสิโน ปน ตํ เกจิ อาจริยา น อิจฺฉนฺติ. เตเนว มหาคณฺิปเท มชฺฌิมคณฺิปเท จ วุตฺตํ ‘‘อมฺหากํ ปน ตํ น รุจฺจตี’’ติ. อฺเสูติ มหาปจฺจริอาทีสุ. วิจารณา เอว นตฺถีติ ตตฺถาปิ ปฏิกฺเขปาภาวโต อยเมวตฺโถติ วุตฺตํ โหติ.

หรณกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุปนิธิกถาวณฺณนา

๑๑๒. อุปนิธิกถายํ ‘‘สงฺโคปนตฺถาย อตฺตโน หตฺเถ นิกฺขิตฺตสฺส ภณฺฑสฺส คุตฺตฏฺาเน ปฏิสามนปโยคํ วินา อฺสฺมึ ปโยเค อกเตปิ รชฺชสงฺโขภาทิกาเล ‘น ทานิ ตสฺส ทสฺสามิ, น มยฺหํ ทานิ ทสฺสตี’ติ อุโภหิปิ สกสกฏฺาเน นิสีทิตฺวา ธุรนิกฺเขเป กเต ปาราชิกเมว ปฏิสามนปโยคสฺส กตตฺตา’’ติ วทนฺติ. อตฺตโน หตฺเถ นิกฺขิตฺตตฺตาติ เอตฺถ อตฺตโน หตฺเถ สงฺโคปนตฺถาย นิกฺขิตฺตกาลโต ปฏฺาย ตปฺปฏิพทฺธตฺตา อารกฺขาย ภณฺฑสามิกฏฺาเน ิตตฺตา านสฺส จ ตทายตฺตตาย านาจาวนสฺส อลพฺภนโต นตฺถิ อวหาโรติ อธิปฺปาโย.

ธมฺมํ วาจาเปตฺวาติ ธมฺมํ กถาเปตฺวา. เอเสว นโยติ อุทฺธาเรเยว ปาราชิกํ. กสฺมา? อฺเหิ อสาธารณสฺส อภิฺาณสฺส วุตฺตตฺตา. ‘‘อฺํ ตาทิสเมว คณฺหนฺเต ยุชฺชตีติ อิทํ สฺาณํ กเถนฺเตเนว ‘อสุกสฺมึ าเน’ติ โอกาสสฺส จ นิยมิตตฺตา ตสฺมึ าเน ิตํ ปตฺตํ อปเนตฺวา ตสฺมึ โอกาเส อฺํ ตาทิสเมว ปจฺฉา ปิตํ ปตฺตํ สนฺธาย กถิต’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. โจเรน สลฺลกฺขิตปตฺตสฺส คหณาภาเวปิ ‘‘อิทํ เถเนตฺวา คณฺหิสฺสามี’’ติ ตสฺมึ โอกาเส ิเต ตาทิเส วตฺถุมตฺเต ตสฺส เถยฺยจิตฺตสพฺภาวโต อฺํ ตาทิสเมว คณฺหนฺเต ยุชฺชตีติ โจรสฺส อวหาโร ทสฺสิโต. ปทวาเรนาติ เถเรน นีหริตฺวา ทินฺนํ ปตฺตํ คเหตฺวา คจฺฉโต โจรสฺส ปทวาเรน. ตํ อตาทิสเมว คณฺหนฺเต ยุชฺชตีติ ‘‘มมายํ ปตฺโต น โหตี’’ติ วา ‘‘มยา กถิโต อยํ ปตฺโต น โหตี’’ติ วา ชานิตฺวา เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺตสฺส ‘‘อิทํ เถเนตฺวา คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺถุมตฺเต เถยฺยจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา คณฺหนฺตสฺส จ อวหารสพฺภาวโต วุตฺตํ.

คามทฺวารนฺติ สมณสารุปฺปํ โวหารมตฺตเมตํ, อนฺโตคามํ อิจฺเจว วุตฺตํ โหติ. วุตฺตนเยเนว เถรสฺส ปาราชิกนฺติ เถยฺยจิตฺเตเนว ปรสนฺตกสฺส คหิตตฺตา อุทฺธาเรเยว เถรสฺส ปาราชิกํ. โจรสฺส ทุกฺกฏนฺติ อสุทฺธจิตฺเตน คหิตตฺตา คหิตกาเล โจรสฺส ทุกฺกฏํ. วุตฺตนเยเนว อุภินฺนมฺปิ ทุกฺกฏนฺติ โจรสฺส สามิเกน ทินฺนตฺตา ปาราชิกํ นตฺถิ, อสุทฺธจิตฺเตน คหิตตฺตา ทุกฺกฏํ, เถรสฺส ปน อตฺตโน สนฺตเกปิ อสุทฺธจิตฺตตาย ทุกฺกฏนฺติ.

อาณตฺติยา คหิตตฺตาติ เอตฺถ ‘‘ปตฺตจีวรํ คณฺห, อสุกํ นาม คามํ คนฺตฺวา ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติ เอวํ เถเรน กตอาณตฺติยา วิหารสฺส ปรภาเค อุปจารโต ปฏฺาย ยาว ตสฺส คามสฺส ปรโต อุปจาโร, ตาว สพฺพํ เขตฺตเมว ชาตนฺติ อธิปฺปาโย. มคฺคโต โอกฺกมฺมาติ เอตฺถ อุภินฺนํ สกฏจกฺกมคฺคานํ อนฺตราฬมฺปิ มคฺโคเยวาติ ทฏฺพฺพํ. อฏฺตฺวา อนิสีทิตฺวาติ เอตฺถ วิหารํ ปวิสิตฺวา สีสาทีสุ ภารํ ภูมิยํ อนิกฺขิปิตฺวาว ติฏฺนฺโต นิสีทนฺโต วา วิสฺสมิตฺวา เถยฺยจิตฺเต วูปสนฺเต ปุน เถยฺยจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา คจฺฉติ เจ, ปาทุทฺธาเรน กาเรตพฺโพ. สเจ ภูมิยํ นิกฺขิปิตฺวา ปุน ตํ คเหตฺวา คจฺฉติ, อุทฺธาเรน กาเรตพฺโพ. กสฺมา? อาณาปกสฺส อาณตฺติยา ยํ กตฺตพฺพํ, ตสฺส ตาว ปรินิฏฺิตตฺตา. เกจิ ปน ‘‘ปุริมสฺมึ เถยฺยจิตฺเต อวูปสนฺเตปิ วุตฺตนเยเนว วิสฺสมิตฺวา คจฺฉโต ปาทุทฺธาเรน อุทฺธาเรน วา กาเรตพฺโพ’’ติ วทนฺติ, ‘‘อสุกํ นาม คามนฺติ อนิยเมตฺวา ‘อนฺโตคามํ ปวิสิสฺสามา’ติ อวิเสเสน วุตฺเต วิหารสามนฺตา สพฺโพปิ โคจรคาโม เขตฺตเมวา’’ติปิ วทนฺติ. เสสนฺติ มคฺคุกฺกมนวิหาราภิมุขคมนาทิ สพฺพํ. ปุริมสทิสเมวาติ อนาณตฺติยา คหิเตปิ สามิกสฺส กเถตฺวา คหิตตฺตา เหฏฺา วุตฺตวิหารูปจาราทิ สพฺพํ เขตฺตเมวาติ กตฺวา วุตฺตํ.

เอเสว นโยติ ‘‘อนฺตรามคฺเค เถยฺยจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา’’ติอาทินา วุตฺตนยํ อติทิสติ. นิมิตฺเต วา กเตติ ‘‘จีวรํ เม กิลิฏฺํ, โก นุ โข รชิตฺวา ทสฺสตี’’ติอาทินา นิมิตฺเต กเต. วุตฺตนเยเนวาติ อนาณตฺตสฺส เถเรน สทฺธึ ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา คมนวาเร วุตฺตนเยเนว. เอกปสฺเส วาติ วิหารสฺส มหนฺตตาย อตฺตานํ อทสฺเสตฺวา เอกสฺมึ ปสฺเส วสนฺโต วา. เถยฺยจิตฺเตน ปริภุฺชนฺโต ชีราเปตีติ เถยฺยจิตฺเต อุปฺปนฺเน านาจาวนํ อกตฺวา นิวตฺถปารุตนีหาเรเนว ปริภุฺชนฺโต ชีราเปติ, านา จาเวนฺตสฺส ปน เถยฺยจิตฺเต สติ ปาราชิกเมว สีเส ภารํ ขนฺเธ กรณาทีสุ วิย. ยถา ตถา วา นสฺสตีติ อคฺคิอาทินา วา อุปจิกาทีหิ ขาทิตํ วา นสฺสติ.

อฺโ วา โกจีติ อิมินา ปน เยน ปิตํ, โสปิ สงฺคหิโตติ เวทิตพฺพํ. ตว ถูลสาฏโก ลทฺโธติอาทินา มุสาวาเท ทุกฺกฏํ อทินฺนาทานปโยคตฺตา. อิตรํ คณฺหโต อุทฺธาเร ปาราชิกนฺติ เอตฺถ ‘‘ปวิสิตฺวา ตว สาฏกํ คณฺหาหี’’ติ อิมินาว อุปนิธิภาวโต มุตฺตตฺตา สามิกสฺส อิตรํ คณฺหโตปิ อตฺตโน สาฏเก อาลยสฺส สพฺภาวโต จ อุทฺธาเร ปาราชิกํ วุตฺตํ. น ชานนฺตีติ เตน วุตฺตํ วจนํ อสุณนฺตา น ชานนฺติ. เอเสว นโยติ เอตฺถ สเจ ชานิตฺวาปิ จิตฺเตน น สมฺปฏิจฺฉนฺติ, เอเสว นโยติ ทฏฺพฺพํ. ปฏิกฺขิปนฺตีติ เอตฺถ จิตฺเตน ปฏิกฺเขโปปิ สงฺคหิโตวาติ เวทิตพฺพํ. ยาจิตา วา อยาจิตา วาติ เอตฺถ ยาจิตา ยทิ จิตฺเตนปิ สมฺปฏิจฺฉนฺติ, นฏฺเ คีวา. อยาจิตา ปน ยทิปิ จิตฺเตน สมฺปฏิจฺฉนฺติ, นตฺถิ คีวา.

คเหตฺวา เปตีติ เอตฺถ จาเลตฺวา ตสฺมึเยว าเน ปิเตปิ นฏฺเ คีวา. อุปจาเร วิชฺชมาเนติ ภณฺฑาคารสฺส สมีเป อุจฺจารปสฺสาวฏฺาเน วิชฺชมาเน. มยิ จ มเต สงฺฆสฺส จ เสนาสเน วินฏฺเติ เอตฺถ ‘‘เกวลํ สงฺฆสฺส เสนาสนํ มา นสฺสีติ อิมินาว อธิปฺปาเยน วิวริตุมฺปิ วฏฺฏติเยวา’’ติ วทนฺติ. สหาเยหิ ภวิตพฺพนฺติ เตหิปิ กิฺจิ กิฺจิ ทาตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. อยํ สามีจีติ ภณฺฑาคาเร วสนฺตานํ อิทํ วตฺตํ.

โลลมหาเถโรติ มนฺโท โมมูโห หสิตกีฬิตปฺปสุโต วา มหาเถโร. อตฺตโน อตฺตโน วสนคพฺเภสุ สภาคภิกฺขูนํ ปริกฺขารํ เปนฺตีติ โยเชตพฺพํ. อิตเรหีติ ตสฺมึเยว คพฺเภ วสนฺเตหิ อิตรภิกฺขูหิ. วิหารวาเร นิยุตฺโต วิหารวาริโก, วารํ กตฺวา วิหารรกฺขณโก. นิวาปนฺติ ภตฺตเวตนํ. ปฏิปถํ คเตสูติ โจรานํ อาคมนํ ตฺวา ‘‘ปมตรํเยว คนฺตฺวา สทฺทํ กริสฺสามา’’ติ โจรานํ อภิมุขํ คเตสุ. นิสฺสิตเก ชคฺเคนฺตีติ อตฺตโน อตฺตโน นิสฺสิตเก สิกฺขาจริยาย โปเสนฺตาปิ นิสฺสิตเก วิหารํ ชคฺคาเปนฺติ. ‘‘อสหายสฺส อทุติยสฺสา’’ติ ปาโ ยุตฺโต, ปจฺฉิมํ ปุริมสฺเสว เววจนํ. อสหายสฺส วา อตฺตทุติยสฺส วาติ อิมสฺมึ ปน ปาเ เอเกน อานีตํ ทฺวินฺนํ นปฺปโหตีติ อตฺตทุติยสฺสปิ วาโร นิวาริโตติ วทนฺติ, ตํ ‘‘ยสฺส สภาโค ภิกฺขุ ภตฺตํ อาเนตฺวา ทาตา นตฺถี’’ติ อิมินา น สเมตีติ วีมํสิตพฺพํ. อุปชีวนฺเตน าตพฺพนฺติ อพฺโภกาสิเกน รุกฺขมูลิเกนปิ ปากวฏฺฏํ อุปนิสฺสาย ชีวนฺเตน ปตฺตจีวรรกฺขณตฺถาย วิหารวาเร สมฺปตฺเต าตพฺพํ. ปริปุจฺฉนฺติ ปุจฺฉิตปฺหวิสฺสชฺชนํ อฏฺกถํ วา. ทิคุณนฺติ วสฺสคฺเคน ปาปิตํ วินาว ทฺเว โกฏฺาเสติ วทนฺติ. ปกฺขวาเรนาติ อฑฺฒมาสวาเรน.

อุปนิธิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สุงฺกฆาตกถาวณฺณนา

๑๑๓. สุงฺกฆาตกถายํ ตโต หนนฺตีติ ตโต นีหรนฺตา หนนฺติ. นฺติ สุงฺกฏฺานํ. ยโตติ ยโต นีหริยมานภณฺฑโต. ราชกนฺติ ราชายตฺตํ. ตมฺปิ ราชารหเมวาติ อาห ‘‘อยเมวตฺโถ’’ติ. อิโตติ อิโต ภณฺฑโต. ทุติยํ ปาทํ อติกฺกาเมตีติ เอตฺถ ‘‘ปมํ ปาทํ ปริจฺเฉทโต พหิ เปตฺวา ทุติเย ปาเท อุทฺธฏมตฺเต ปาราชิก’’นฺติ วทนฺติ อุทฺธริตฺวา พหิ อฏฺปิโตปิ พหิ ิโตเยว นาม โหตีติ กตฺวา. ยตฺถ ยตฺถ ปทวาเรน อาปตฺติ กาเรตพฺพา, ตตฺถ ตตฺถ สพฺพตฺถาปิ เอเสว นโยติ วทนฺติ. สุงฺกฆาตโต พหิ พหิสุงฺกฆาตํ. อวสฺสํ ปตนกนฺติ อวสฺสํ สุงฺกฆาตโต พหิ ปตนกํ. ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนวาติ อวสฺสํ ปตนเก หตฺถโต มุตฺตมตฺเตติ วุตฺตํ โหติ. วฏฺฏนฺตํ ปุน อนฺโต ปวิสตีติ มหาอฏฺกถาวจนสฺส กุรุนฺทิสงฺเขปฏฺกถาหิ อธิปฺปาโย ปกาสิโต. อนฺโต ตฺวา พหิ คจฺฉนฺตํ รกฺขตีติ ภิกฺขุโน ปโยเคน คมนเวคสฺส อนฺโตเยว วูปสนฺตตฺตา. ปริวตฺเตตฺวา อพฺภนฺตริมํ พหิ เปตีติ อพฺภนฺตเร ิตํ ปุฏกํ ปริวตฺเตตฺวา พหิ เปติ. เอตฺถ จ ‘‘อพฺภนฺตริเม ปุฏเก ภูมิโต โมจิตมตฺเต ปาราชิก’’นฺติ วทนฺติ.

‘‘คจฺฉนฺเต ยาเน วา…เป… เปตีติ สุงฺกฆาตํ อปวิสิตฺวา พหิเยว เปตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ สุงฺกฏฺานสฺส พหิ ปิตนฺติ วกฺขมานตฺตา. อาจริยา ปน ‘‘สุงฺกฏฺานสฺส พหิ ิต’’นฺติ ปาํ วิกปฺเปตฺวา ‘‘ปมํ อนฺโตสุงฺกฆาตํ ปวิฏฺเสุเยว ยานาทีสุ ปิตํ ปจฺฉา ยาเนน สทฺธึ นีหฏํ สุงฺกฆาตสฺส พหิ ิตํ, น จ เตน นีต’’นฺติ อตฺถํ วทนฺติ. อยํ ปน เตสํ อธิปฺปาโย – สุงฺกฏฺานสฺส อนฺโต ปวิฏฺยานาทีสุ ปิเตปิ ภิกฺขุสฺส ปโยคํ วินา อฺเน นีหฏตฺตา เนวตฺถิ ปาราชิกํ, ‘‘อตฺร ปวิฏฺสฺส สุงฺกํ คณฺหนฺตู’’ติ วุตฺตตฺตา อฺเน นีหฏสฺส พหิ ิเต ภณฺฑเทยฺยมฺปิ น โหตีติ. อยเมว จ นโย ‘‘วฏฺฏิตฺวา คมิสฺสตีติ วา อฺโ นํ วฏฺเฏสฺสตีติ วา อนฺโต ปิตํ ปจฺฉา สยํ วา วฏฺฏมานํ อฺเน วา วฏฺฏิตํ พหิ คจฺฉติ, รกฺขติเยวา’’ติ อิมินา วจเนน สเมตีติ ยุตฺตตโร วิย ทิสฺสติ. สุงฺกฏฺานสฺส อนฺโต ปวิสิตฺวา ปุน ปจฺจาคจฺฉโตปิ เตน ปสฺเสน ปริจฺเฉทํ อติกฺกมนฺตสฺส ยทิ ตโตปิ คจฺฉนฺตานํ หตฺถโต สุงฺกํ คณฺหนฺติ, สีมาติกฺกเม ปาราชิกเมว.

หตฺถิสุตฺตาทีสูติ หตฺถิสิกฺขาทีสุ. อิมสฺมึ าเนติ ยถาวุตฺตยานาทีหิ วุตฺตปฺปกาเรน นีหรเณ. อนาปตฺตีติ ตตฺถ ‘‘สหตฺถา’’ติ วจนโต อฺเน นีหราเปนฺตสฺส อนาปตฺติ. อิธาติ อิมสฺมึ อทินฺนาทานสิกฺขาปเท. ตตฺราติ ตสฺมึ เอฬกโลมสิกฺขาปเท. โหนฺตีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท เหตุอตฺโถ, ยสฺมา เอฬกโลมานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, ตสฺมา ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ. อิธ อนาปตฺตีติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อวหาราภาวา อนาปตฺติ. อุปจารนฺติ สุงฺกฆาตปริจฺเฉทโต พหิ สมนฺตา ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อพฺภนฺตรํ วติอาสนฺนปฺปเทสสงฺขาตํ อุปจารํ. ตาทิสํ อุปจารํ โอกฺกมิตฺวา ปริหรเณ สาทีนวตฺตา ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. เอตฺถาติ สุงฺกฆาเต. ‘‘ทฺวีหิ เลฑฺฑุปาเตหีติ อยํ นิยโม อาจริยปรมฺปราภโต’’ติ มหาคณฺิปเท วุตฺตํ.

สุงฺกฆาตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปาณกถาวณฺณนา

๑๑๔. ปาณกถายํ ติรจฺฉานคตสฺส เอกนฺเตน ปาทคฺฆนกตา น สมฺภวตีติ อาห – ‘‘เอกํเสน อวหารกปฺปโหนกปาณํ ทสฺเสนฺโต’’ติ. ภุชิสฺสํ หรนฺตสฺส อวหาโร นตฺถีติ ปรปริคฺคหิตาภาวโต. ภุชิสฺโสติ อทาโส. อาปิโตติ มาตาปิตูหิ อิณํ คณฺหนฺเตหิ ‘‘ยาว อิณทานา อยํ ตุมฺหากํ สนฺติเก โหตู’’ติ อิณทายกานํ นิยฺยาติโต. ยสฺมา มาตาปิตโร ทาสานํ วิย ปุตฺตานํ น สามิโน. เยสฺจ สนฺติเก อาปิโต, เตปิ ตสฺส หตฺถกมฺเม สามิโน, น ตสฺสาติ อาห ‘‘อวหาโร นตฺถี’’ติ. ธนํ ปน คตฏฺาเน วฑฺฒตีติ เอตฺถ ‘‘อาเปตฺวา คหิตธนํ วฑฺฒิยา สห อวหารกสฺส คีวา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ.

อนฺโตชาต…เป… อวหาโร โหตีติ เอตฺถ ปเทสจาริตฺตวเสน อตฺตนาว อตฺตานํ นิยฺยาเตตฺวา ทาสพฺยํ อุปคตํ อวหรนฺตสฺสปิ ปาราชิกเมวาติ เวทิตพฺพํ. เคหทาสิยา กุจฺฉิมฺหิ ทาสสฺส ชาโตติ เอวมฺปิ สมฺภวตีติ สมฺภวนฺตํ คเหตฺวา วุตฺตํ. เคหทาสิยา กุจฺฉิสฺมึ ปน อฺสฺส ชาโตปิ เอตฺเถว สงฺคหิโต. กรมรานีโต นาม พนฺธคาหคหิโต. เตนาห ‘‘ปรเทสโต ปหริตฺวา’’ติอาทิ. ตตฺถ ปรเทสโต ปหริตฺวาติ ปรเทสํ วิลุมฺปเกหิ ราชราชมหามตฺตาทีหิ มหาโจเรหิ ปรเทสโต ปหริตฺวา. อนาปตฺติ ปาราชิกสฺสาติ ยทิ ตสฺส วจเนน ตโต อธิกํ เวคํ น วฑฺเฒติ, อนาปตฺติ. ปริยาเยนาติ ปริยายวจเนน. มนุสฺสวิคฺคเห ‘‘มรณวณฺณํ วา สํวณฺเณยฺยา’’ติ วุตฺตตฺตา ปริยายกถายปิ น มุจฺจติ, อิธ ปน ‘‘อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิเยยฺยา’’ติ อาทานสฺเสว วุตฺตตฺตา ปริยายกถาย มุจฺจติ.

ปาณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อปทกถาวณฺณนา

อปทกถายํ นาเมนาติ สปฺปนาเมน วา สามิเกน กตนาเมน วา. กรณฺฑปุฏนฺติ เปฬาย ปิธานํ. อาหจฺจาติ ปหริตฺวา.

จตุปฺปทกถาวณฺณนา

๑๑๖. จตุปฺปทกถายํ ภิงฺกจฺฉาปนฺติ ภิงฺกภิงฺกาติ สทฺทายนโต เอวํลทฺธนามํ หตฺถิโปตกํ. อนฺโตวตฺถุมฺหีติ ปริกฺขิตฺเต อนฺโตวตฺถุมฺหิ. ราชงฺคเณติ ปริกฺขิตฺเต นคเร วตฺถุทฺวารโต พหิราชงฺคเณ. หตฺถิสาลา านนฺติ นิพฺพโกสโต อุทกปาตพฺภนฺตรํ านํ. พหินคเร ิตสฺสาติ ปริกฺขิตฺตนครํ สนฺธาย วุตฺตํ, อปริกฺขิตฺตนคเร ปน อนฺโตนคเร ิตสฺสปิ ิตฏฺานเมว านํ. ขณฺฑทฺวารนฺติ อตฺตนา ขณฺฑิตทฺวารํ. สาขาภงฺคนฺติ ภฺชิตสาขํ. นิปนฺนสฺส ทฺเวติ พนฺธเนน สทฺธึ ทฺเว. ฆาเตตีติ เอตฺถ ‘‘เถยฺยจิตฺเตน วินาเสนฺตสฺส สหปโยคตฺตา ทุกฺกฏเมว, น ปาจิตฺติย’’นฺติ อาจริยา วทนฺติ.

จตุปฺปทกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

โอณิรกฺขกถาวณฺณนา

โอณิรกฺขกถายํ โอณินฺติ โอณีตํ, อานีตนฺติ อตฺโถ. ‘‘โอณิรกฺขสฺส สนฺติเก ปิตํ ภณฺฑํ อุปนิธิ วิย สงฺโคปนตฺถาย อนิกฺขิปิตฺวา มุหุตฺตํ โอโลกนตฺถาย ปิตตฺตา ตสฺส านาจาวนมตฺเตน ปาราชิกํ ชเนตี’’ติ วทนฺติ.

สํวิทาวหารกถาวณฺณนา

สํวิทาวหารกถายํ ‘‘สมฺพหุลา สํวิทหิตฺวา เอโก ภณฺฑํ อวหรติ, อาปตฺติ สพฺเพสํ ปาราชิกสฺสา’’ติ ปาฬิยํ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา อาณาปกานํ อาณตฺติกฺขเณ อาปตฺติ, อวหารกสฺส อุทฺธาเรติ ยถาสมฺภวํ โยเชตฺวา อตฺโถ คเหตพฺโพ อาณตฺติกถายํ ‘‘โส ตํ ภณฺฑํ อวหรติ, อาปตฺติ สพฺเพสํ ปาราชิกสฺสา’’ติอาทีสุ วิย. เอตฺถาปิ หิ อาณาปกสฺส อาณตฺติกฺขเณเยว อาปตฺติ วุตฺตา. ตถา จ วกฺขติ ‘‘อถ ตํ ภณฺฑํ อวสฺสํ หาริยํ โหติ, ยํ ปรโต สพฺเพสํ อาปตฺติ ปาราชิกสฺสาติ วุตฺตํ, ตโต อิมสฺส ตงฺขเณเยว ปาราชิกํ โหตีติ อยํ ยุตฺติ สพฺพตฺถ เวทิตพฺพา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๒๑). สํวิทาวหาเร จ ‘‘อาณตฺติ นตฺถี’’ติ น วตฺตพฺพา ‘‘อนฺเตวาสิเกสุ เอกเมกสฺส เอเกโก มาสโก สาหตฺถิโก โหติ, ปฺจ อาณตฺติกา’’ติ วจนโต. อาณตฺติยา จ สติ อาณาปกสฺส อาณตฺติกฺขเณเยว อาปตฺติ อิจฺฉิตพฺพา, น อุทฺธาเร.

ยทิ เอวํ ‘‘เตสุ เอโก ภณฺฑํ อวหรติ, ตสฺสุทฺธาเร สพฺเพสํ ปาราชิก’’นฺติ กสฺมา วุตฺตนฺติ? นายํ โทโส. เอตฺถ หิ สพฺเพสํเยว อาปตฺติทสฺสนตฺถํ อวหารกสฺสปิ อาปตฺติสมฺภวฏฺานํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตสฺสุทฺธาเร สพฺเพสํ ปาราชิก’’นฺติ อาห, น ปน อาณาปกานมฺปิ อุทฺธาเรเยว อาปตฺติทสฺสนตฺถนฺติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. ‘‘สมฺพหุลา เอกํ อาณาเปนฺติ ‘คจฺเฉตํ อาหรา’ติ, ตสฺสุทฺธาเร สพฺเพสํ ปาราชิก’’นฺติอาทีสุปิ เอวเมว อตฺโถ คเหตพฺโพ. อถ วา สํวิทาวหาเร อาณาปกานมฺปิ อุทฺธาเรเยว อาปตฺติ, น อาณตฺติกฺขเณติ อาเวณิกมิทํ ลกฺขณนฺติ อฏฺกถาจริยปฺปมาเณน คเหตพฺพํ, อิโต วา อฺเน ปกาเรน ยถา อฏฺกถายํ ปุพฺเพนาปรํ น วิรุชฺฌติ, ตถา วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.

สํวิธายาติ สํวิทหิตฺวา. เตน เนสํ ทุกฺกฏาปตฺติโยติ อาณตฺติวเสน ปาราชิกาปตฺติยา อสมฺภเว สติ วุตฺตํ. ยทิ หิ เต อาณตฺตา อวสฺสํ ตํ หรนฺติ, ปาราชิกาปตฺติเยว เนสํ ทฏฺพฺพา, น ทุกฺกฏาปตฺติ. สาหตฺถิกํ วา อาณตฺติกสฺส อาณตฺติกํ วา สาหตฺถิกสฺส องฺคํ น โหตีติ ภินฺนกาลวิสยตฺตา อฺมฺสฺส องฺคํ น โหติ. ตถา หิ สหตฺถา อวหรนฺตสฺส านาจาวเน อาปตฺติ, อาณตฺติยา ปน อาณตฺติกฺขเณเยวาติ ภินฺนกาลวิสยา สาหตฺถิกาณตฺติเกหิ อาปชฺชิตพฺพาปตฺติโย.

สํวิทาวหารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สงฺเกตกมฺมกถาวณฺณนา

๑๑๙. สงฺเกตกมฺมกถายํ โอจรเก วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘อวสฺสํ หาริเย ภณฺเฑ’’ติอาทินา วุตฺตนเยน. ปาฬิยํ ตํ สงฺเกตํ ปุเร วา ปจฺฉา วาติ เอตฺถ ตํ สงฺเกตนฺติ สามิอตฺเถ อุปโยควจนนฺติ ทฏฺพฺพํ, ตสฺส สงฺเกตสฺสาติ อตฺโถ. อถ วา ตํ สงฺเกตํ อสมฺปตฺวา ปุเร วา ตํ สงฺเกตํ อติกฺกมฺม ปจฺฉา วาติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา. เตเนวาห – ‘‘อชฺชาติ นิยามิตํ ตํ สงฺเกตํ อติกฺกมฺมา’’ติอาทิ. ตํ นิมิตฺตํ ปุเร วา ปจฺฉา วาติ เอตฺถาปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

สงฺเกตกมฺมกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิมิตฺตกมฺมกถาวณฺณนา

๑๒๐. นิมิตฺตกมฺมกถายํ อกฺขินิขณาทินิมิตฺตกมฺมํ ปน ลหุกํ อิตฺตรกาลํ, ตสฺมา ตงฺขเณเยว ตํ ภณฺฑํ อวหริตุํ น สกฺกา. ตถา หิ กิฺจิ ภณฺฑํ ทูเร โหติ กิฺจิ ภาริยํ, ตํ คเหตุํ ยาว คจฺฉติ, ยาว อุกฺขิปิตุํ วายมติ, ตาว นิมิตฺตกมฺมสฺส ปจฺฉา โหติ. เอวํ สนฺเตปิ นิมิตฺตกมฺมโต ปฏฺาย คณฺหิตุํ อารทฺธตฺตา เตเนว นิมิตฺเตน อวหรตีติ วุจฺจติ. ยทิ เอวํ ‘‘ปุเรภตฺตปโยโคว เอโส’’ติ วาโท ปมาณภาวํ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ. น หิ สงฺเกตกมฺมํ วิย นิมิตฺตกมฺมํ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ หิ กาลปริจฺเฉโท อตฺถิ, อิธ นตฺถิ. กาลวเสน หิ สงฺเกตกมฺมํ วุตฺตํ, กิริยาวเสน นิมิตฺตกมฺมนฺติ อยเมเตสํ วิเสโส. ‘‘ตํ นิมิตฺตํ ปุเร วา ปจฺฉา วา ตํ ภณฺฑํ อวหรติ, มูลฏฺสฺส อนาปตฺตี’’ติ อิทํ ปน เตน นิมิตฺตกมฺเม กเต คณฺหิตุํ อนารภิตฺวา สยเมว คณฺหนฺตสฺส วเสน วุตฺตํ.

นิมิตฺตกมฺมกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อาณตฺติกถาวณฺณนา

๑๒๑. อาณตฺติกถายํ อสมฺโมหตฺถนฺติ ยสฺมา สงฺเกตกมฺมนิมิตฺตกมฺมานิ กโรนฺโต เอโก ปุเรภตฺตาทีสุ วา อกฺขินิขณนาทีนิ วา ทิสฺวา ‘‘คณฺหา’’ติ วทติ, เอโก คเหตพฺพภณฺฑนิสฺสิตํ กตฺวา ‘‘ปุเรภตฺตํ เอวํวณฺณสณฺานํ ภณฺฑํ คณฺหา’’ติ วทติ, เอโก ‘‘ตฺวํ อิตฺถนฺนามสฺส ปาวท, โส อฺสฺส ปาวทตู’’ติอาทินา ปุคฺคลปฏิปาฏิยา จ อาณาเปติ, ตสฺมา กาลวเสน กิริยาวเสน ภณฺฑวเสน ปุคฺคลวเสน จ อาณตฺเต วิสงฺเกตาวิสงฺเกตวเสน เอเตสุ สงฺเกตกมฺมนิมิตฺตกมฺเมสุ อสมฺโมหตฺถํ. นิมิตฺตสฺํ กตฺวาติ ‘‘อีทิสํ นาม ภณฺฑ’’นฺติ วณฺณสณฺานาทิวเสน คหณสฺส นิมิตฺตภูตํ สฺาณํ กตฺวา.

ยถาธิปฺปายํ คจฺฉตีติ ทุติโย ตติยสฺส, ตติโย จตุตฺถสฺสาติ เอวํ ปฏิปาฏิยา เจ วทนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. สเจ ปน ทุติโย จตุตฺถสฺส อาโรเจติ, น ยถาธิปฺปายํ อาณตฺติ คตาติ เนวตฺถิ ถุลฺลจฺจยํ, ปมํ วุตฺตทุกฺกฏเมว โหติ. ตเทว โหตีติ ภณฺฑคฺคหณํ วินา เกวลํ สาสนปฺปฏิคฺคหณมตฺตสฺเสว สิทฺธตฺตา ตเทว ถุลฺลจฺจยํ โหติ, น ทุกฺกฏํ นาปิ ปาราชิกนฺติ อตฺโถ. สพฺพตฺถาติ อีทิเสสุ สพฺพฏฺาเนสุ.

เตสมฺปิ ทุกฺกฏนฺติ อาโรจนปจฺจยา ทุกฺกฏํ. ปฏิคฺคหิตมตฺเตติ เอตฺถ อวสฺสํ เจ ปฏิคฺคณฺหาติ, ตโต ปุพฺเพว อาจริยสฺส ถุลฺลจฺจยํ, น ปน ปฏิคฺคหิเตติ ทฏฺพฺพํ. กสฺมา ปนสฺส ถุลฺลจฺจยนฺติ อาห – ‘‘มหาชโน หิ เตน ปาเป นิโยชิโต’’ติ.

มูลฏฺสฺเสว ทุกฺกฏนฺติ อยํ ตาว อฏฺกถานโย, อาจริยา ปน ‘‘วิสงฺเกตตฺตา เอว มูลฏฺสฺสาติ ปาฬิยํ อวุตฺตตฺตา ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺเสว ตํ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, อิมินาว เหฏฺา อาคตวาเรสุปิ ปฏิคฺคณฺหนฺตานํ ปฏิคฺคหเณ ทุกฺกฏํ เวทิตพฺพํ, ตํ ปน ตตฺถ โอกาสาภาวโต อวตฺวา อิธ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ.

เอวํ ปุน อาณตฺติยาปิ ทุกฺกฏเมว โหตีติ ปมํ อตฺถสาธกตฺตาภาวโต วุตฺตํ. อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิโกติ มคฺคานนฺตรผลํ วิย อตฺถสาธิกาณตฺติเจตนากฺขเณเยว ปาราชิโก. พธิรตายาติ อุจฺจํ ภณนฺโต พธิรตาย วา น สาเวตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อาณตฺโต อหํ ตยา’’ติ อิมสฺมึ วาเร ปุน ปฏิกฺขิปิตพฺพาภาเวน อตฺถสาธกตฺตาภาวโต มูลฏฺสฺส นตฺถิ ปาราชิกํ. ‘‘ปณฺเณ วา สิลาย วา ยตฺถ กตฺถจิ ‘โจริยํ กาตพฺพ’นฺติ ลิขิตฺวา ปิเต ปาราชิกเมวา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ตํ ปน ยสฺมา อทินฺนาทานโต ปริยายกถาย มุจฺจติ, ตสฺมา วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. ยทิ ปน ‘‘อสุกสฺมึ นาม าเน อสุกํ นาม ภณฺฑํ ิตํ, ตํ อวหรา’’ติ ปณฺเณ ลิขิตฺวา กสฺสจิ เปเสติ, โส เจ ตํ ภณฺฑํ อวหรติ, อาณตฺติยา อวหฏํ นาม โหตีติ ยุตฺตํ อาณาปกสฺส ปาราชิกํ.

อาณตฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อาปตฺติเภทวณฺณนา

๑๒๒. ตตฺถ ตตฺถาติ ภูมฏฺถลฏฺาทีสุ. องฺคฺจ ทสฺเสนฺโตติ โยเชตพฺพํ. วตฺถุเภเทนาติ อวหริตพฺพสฺส วตฺถุสฺส ครุกลหุกเภเทน. อาปตฺติเภทนฺติ ปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกฏานํ วเสน อาปตฺติเภทํ. มนุสฺสภูเตน ปเรน ปริคฺคหิตํ ปรปริคฺคหิตํ.

๑๒๕. จ สกสฺีติ อิมินา ปน ปรปริคฺคหิตํ วตฺถุ กถิตํ. น จ วิสฺสาสคฺคาหี, น จ ตาวกาลิกนฺติ อิมินา ปน ปรปริคฺคหิตสฺา กถิตา. น วิสฺสาสคฺคาหิตาติ วิสฺสาสคฺคาเหน อคฺคหิตภาโว. น ตาวกาลิกตาติ ปจฺฉา ทาตพฺพตํ กตฺวา อคฺคหิตภาโว. อนชฺฌาวุตฺถกนฺติ ‘‘มเมท’’นฺติ ปริคฺคหวเสน อนชฺฌาวุตฺถกํ อรฺเ ทารุติณปณฺณาทิ. ฉฑฺฑิตนฺติ กฏฺหาราทีหิ อติภาราทิตาย อนตฺถิกภาเวน อรฺาทีสุ ฉฑฺฑิตํ. ฉินฺนมูลกนฺติ นฏฺํ ปริเยสิตฺวา อาลยสงฺขาตสฺส มูลสฺส ฉินฺนตฺตา ฉินฺนมูลํ. อสามิกนฺติ อนชฺฌาวุตฺถกาทีหิ ตีหิ อากาเรหิ ทสฺสิตํ อสามิกวตฺถุ. อุภยมฺปีติ ยถาวุตฺตลกฺขณํ อสามิกํ อตฺตโน สนฺตกฺจ.

อาปตฺติเภทวณฺณนา นิฏฺิตา.

อนาปตฺติเภทวณฺณนา

๑๓๑. ยาย เสยฺยาย สยิโต กาลํ กโรติ, สา อนุฏฺานเสยฺยา นาม. ‘‘จิตฺเตน ปน อธิวาเสตี’’ติ วุตฺตมตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘น กิฺจิ วทตี’’ติ วุตฺตํ. ปากติกํ กาตุนฺติ ยตฺตกํ คหิตํ ปริภุตฺตํ วา, ตตฺตกํ ทาตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.

ปฏิทสฺสามีติ ยํ คหิตํ, ตเทว วา อฺํ วา ตาทิสํ ปุน ทสฺสามีติ อตฺโถ. สงฺฆสนฺตเก สงฺฆํ อนุชานาเปตุมสกฺกุเณยฺยตฺตา กสฺสจิ วตฺถุโน อนนุชานิตพฺพโต จ ‘‘สงฺฆสนฺตกํ ปน ปฏิทาตุเมว วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ.

ตสฺมึเยว อตฺตภาเว นิพฺพตฺตาปีติ ตสฺมึเยว มตสรีเร อุปฺปนฺนาปิ. วินีตวตฺถูสุ สาฏกตณฺหาย ตสฺมึเยว มตสรีเร นิพฺพตฺตเปโต วิยาติ ทฏฺพฺพํ. รุกฺขาทีสุ ลคฺคิตสาฏเก วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ มนุสฺเสหิ อปริคฺคหิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. สเจ ปน ตํ อารกฺขเกหิ ปริคฺคหิตํ โหติ, คเหตุํ น วฏฺฏตีติ.

อนาปตฺติเภทวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปกิณฺณกกถาวณฺณนา

ทารุขณฺฑาทีสุ ‘‘ภาริยมิทํ, ตฺวํ เอกปสฺสํ อุกฺขิปาหิ, อหํ เอกปสฺสํ อุกฺขิปามี’’ติ อุภเยสํ ปโยเคน เอกสฺส วตฺถุโน านาจาวนํ สนฺธาย ‘‘สาหตฺถิกาณตฺติก’’นฺติ วุตฺตํ. อิทฺจ กายวาจานํ อีทิเส าเน องฺคภาวมตฺตทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ยาย ปน เจตนาย สมุฏฺาปิโต ปโยโค สาหตฺถิโก อาณตฺติโก วา ปธานภาเวน านาจาวนํ สาเธติ, ตสฺสา วเสน อาปตฺติ กาเรตพฺพา. อฺถา สาหตฺถิกํ วา อาณตฺติกสฺส องฺคํ น โหติ, อาณตฺติกํ วา สาหตฺถิกสฺสาติ อิทํ วิรุชฺฌติ.

ปกิณฺณกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

วินีตวตฺถุวณฺณนา

๑๓๒. วินีตวตฺถูสุ สนฺธาวตีติ สุฏฺุ ธาวติ. วิธาวตีติ วิวิธา นานปฺปกาเรน ธาวติ. กายวจีทฺวารเภทํ วินาปีติ กายโจปนํ วจีเภทฺจ วินา. ปฏิสงฺขานพเลนาติ ตถาวิธจิตฺตุปฺปาเท อาทีนวปจฺจเวกฺขณพเลน.

๑๓๕. ปุจฺฉาสภาเคนาติ ปุจฺฉานุรูเปน. นิรุตฺติ เอว ปโถ นิรุตฺติปโถ, ตสฺมึ นิรุตฺติปเถ. เตนาห ‘‘โวหารวจนมตฺเต’’ติ.

๑๓๗. ยถากมฺมํ คโตติ อิมินา ตสฺส มตภาวํ ทสฺเสติ. อพฺภุณฺเหติ อิมินาปิ วุตฺตเมว ปริยายนฺตเรน วิภาเวตุํ ‘‘อลฺลสรีเร’’ติ วุตฺตํ. วิสภาคสรีเรติ อิตฺถิสรีเร. วิสภาคสรีรตฺตา อจฺจาสนฺเนน น ภวิตพฺพนฺติ อาห ‘‘สีเส วา’’ติอาทิ. วฏฺฏตีติ วิสภาคสรีเรปิ อตฺตนาว วุตฺตวิธึ กาตุํ สาฏกฺจ คเหตุํ วฏฺฏติ. เกจิ ปน ‘‘กิฺจาปิ อิมินา สิกฺขาปเทน อนาปตฺติ, อิตฺถิรูปํ ปน อามสนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ วทนฺติ.

๑๓๘. กุสํ สงฺกาเมตฺวาติ กุสํ ปริวตฺเตตฺวา. กูฏมานกูฏกหาปณาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน ตุลากูฏกํสกูฏวฺจนาทึ สงฺคณฺหาติ. ตตฺถ กูฏมานํ หทยเภทสิขาเภทรชฺชุเภทวเสน ติวิธํ โหติ. ตตฺถ หทยนฺติ นาฬิอาทิมานภาชนานํ อพฺภนฺตรํ, ตสฺส เภโท ฉิทฺทกรณํ หทยเภโท, โส สปฺปิเตลาทิมินนกาเล ลพฺภติ. ตานิ หิ คณฺหนฺโต เหฏฺาฉิทฺเทน มาเนน ‘‘สณิกํ อาสิฺจา’’ติ วตฺวา อนฺโตภาชเน พหุํ ปคฺฆราเปตฺวา คณฺหาติ, ททนฺโต ฉิทฺทํ ปิธาย สีฆํ ปูเรตฺวา เทติ. สิขาเภโท ติลตณฺฑุลาทิมินนกาเล ลพฺภติ. ตานิ หิ คณฺหนฺโต สณิกํ สิขํ อุสฺสาเปตฺวา คณฺหาติ, เทนฺโต เวเคน ปูเรตฺวา สิขํ ฉินฺทนฺโต เทติ. รชฺชุเภโท เขตฺตวตฺถุมินนกาเล ลพฺภติ. เขตฺตาทึ มินนฺตา หิ อมหนฺตมฺปิ มหนฺตํ กตฺวา มินนฺติ, มหนฺตมฺปิ อมหนฺตํ. กูฏกหาปโณ ปากโฏเยว.

ตุลากูฏํ ปน รูปกูฏํ องฺคกูฏํ คหณกูฏํ ปฏิจฺฉนฺนกูฏนฺติ จตุพฺพิธํ โหติ. ตตฺถ รูปกูฏํ นาม ทฺเว ตุลา สรูปา กตฺวา คณฺหนฺโต มหติยา คณฺหาติ, ททนฺโต ขุทฺทิกาย เทติ. องฺคกูฏํ นาม คณฺหนฺโต ปจฺฉาภาเค หตฺเถน ตุลํ อกฺกมติ, ททนฺโต ปุพฺพภาเค อกฺกมติ. คหณกูฏํ นาม คณฺหนฺโต มูเล รชฺชุํ คณฺหาติ, ททนฺโต อคฺเค. ปฏิจฺฉนฺนกูฏํ นาม ตุลํ สุสิรํ กตฺวา อนฺโต อยจุณฺณํ ปกฺขิปิตฺวา คณฺหนฺโต ตํ ปจฺฉาภาเค กโรติ, ททนฺโต อคฺคภาเค.

กํโส วุจฺจติ สุวณฺณปาติ, ตาย วฺจนํ กํสกูฏํ. กถํ? เอกํ สุวณฺณปาตึ กตฺวา อฺา ทฺเว ติสฺโส โลหปาติโย สุวณฺณวณฺณา กโรนฺติ, ตโต ชนปทํ คนฺตฺวา กิฺจิเทว อฑฺฒํ กุลํ ปวิสิตฺวา ‘‘สุวณฺณภาชนานิ กิณถา’’ติ วตฺวา อคฺเฆ ปุจฺฉิเต สมคฺฆตรํ ทาตุกามา โหนฺติ. ตโต เตหิ ‘‘กถํ อิเมสํ สุวณฺณภาโว ชานิตพฺโพ’’ติ วุตฺเต ‘‘วีมํสิตฺวา คณฺหถา’’ติ สุวณฺณปาตึ ปาสาเณ ฆํสิตฺวา สพฺพปาติโย ทตฺวา คจฺฉนฺติ.

วฺจนํ นาม เตหิ เตหิ อุปาเยหิ ปเรสํ วฺจนํ. ตตฺริทเมกํ วตฺถุ – เอโก กิร ลุทฺทโก มิคฺจ มิคโปตกฺจ คเหตฺวา อาคจฺฉติ. ตเมโก ธุตฺโต ‘‘กึ, โภ, มิโค อคฺฆติ, กึ มิคโปตโก’’ติ อาห. ‘‘มิโค ทฺเว กหาปเณ, มิคโปตโก เอก’’นฺติ จ วุตฺเต เอกํ กหาปณํ ทตฺวา มิคโปตกํ คเหตฺวา โถกํ คนฺตฺวา นิวตฺโต ‘‘น เม, โภ, มิคโปตเกน อตฺโถ, มิคํ เม เทหี’’ติ อาห. เตน หิ ทฺเว กหาปเณ เทหีติ. โส อาห – ‘‘นนุ, โภ, มยา ปมํ เอโก กหาปโณ ทินฺโน’’ติ? ‘‘อาม ทินฺโน’’ติ. ‘‘อิมํ มิคโปตกํ คณฺห, เอวํ โส จ กหาปโณ, อยฺจ กหาปณคฺฆนโก มิคโปตโกติ ทฺเว กหาปณา ภวิสฺสนฺตี’’ติ. โส ‘‘การณํ วทตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา มิคโปตกํ คเหตฺวา มิคํ อทาสีติ.

พลสาติ พเลน. ปนฺถฆาต-คฺคหเณน หิมวิปราโมสคุมฺพวิปราโมสาปิ สงฺคหิตา. ตตฺถ ยํ หิมปาตสมเย หิเมน ปฏิจฺฉนฺนา หุตฺวา มคฺคปฺปฏิปนฺนํ ชนํ มูสนฺติ, อยํ หิมวิปราโมโส. ยํ คุมฺมาทีหิ ปฏิจฺฉนฺนา ชนํ มูสนฺติ, อยํ คุมฺพวิปราโมโส.

อุทฺธาเรเยว ปาราชิกนฺติ ‘‘สเจ สาฏโก ภวิสฺสติ, คณฺหิสฺสามี’’ติ ปริกปฺปสฺส ปวตฺตตฺตา สาฏกสฺส จ ตตฺถ สพฺภาวโต. ปทวาเรน กาเรตพฺโพติ ภูมิยํ อนิกฺขิปิตฺวาว วีมํสิตตฺตา วุตฺตํ. ปริยุฏฺิโตติ อนุพทฺโธ. ทิสฺวา หฏตฺตา ปริกปฺปาวหาโร น ทิสฺสตีติ อิมินา ปริกปฺปาวหารสฺส อสมฺภวํ ทสฺเสนฺโต มหาปจฺจริอาทีสุ วุตฺตสฺส อยุตฺตภาวํ วิภาเวติ. มหาอฏฺกถายนฺติอาทินา ปน ปริกปฺปาวหารสมฺภวํ ปาฬิยา สํสนฺทนภาวฺจ วิภาเวนฺโต มหาอฏฺกถายํ วุตฺตเมว สุวุตฺตนฺติ ทีเปติ. เตเนว มาติกาฏฺกถายมฺปิ มหาอฏฺกถานโยว ทสฺสิโต.

เกจีติ มหาอฏฺกถายเมว เอกจฺเจ อาจริยา. มหาปจฺจริยํ ปนาติ ปน-สทฺโท เกจิวาทโต มหาปจฺจริวาทสฺส วิเสสสนฺทสฺสนตฺโถ. เตน เกจิวาโท มหาปจฺจริวาเทนปิ น สเมตีติ ทสฺเสติ. มหาอฏฺกถานโย เอว จ มหาปจฺจริวาเทนปิ สํสนฺทนโต ยุตฺตตโรติ วิภาเวติ.

อลงฺการภณฺฑนฺติ องฺคุลิมุทฺทิกาทิ อลงฺการภณฺฑํ. กุสํ ปาเตตฺวาติ วิลีวมยํ วา ตาลปณฺณมยํ วา กตสฺาณํ ยํ กิฺจิ กุสํ ปาเตตฺวา. สมคฺฆตรนฺติ อปฺปคฺฆตรํ. ปรโกฏฺาสโต กุเส อุทฺธเฏปิ น ตาว กุสสฺส ปริวตฺตนํ ชาตนฺติ วุตฺตํ ‘‘อุทฺธาเร รกฺขตี’’ติ. สิเวยฺยกนฺติ สิวิรฏฺเ ชาตํ.

๑๓๙. ชนฺตาฆรวตฺถุสฺมึ ยสฺมา อานนฺทตฺเถโร ตตฺถ อนาปตฺติภาวํ ชานาติ, ตสฺมา ‘‘ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสี’’ติ น วุตฺตํ. ยสฺมา จ สยํ ภควโต นาโรเจสิ, ตสฺมา ‘‘อาโรเจสี’’ติ เอกวจนํ น วุตฺตํ.

๑๔๐. วิฆาสนฺติ ขาทิตาวเสสํ อุจฺฉิฏฺํ วา. กปฺปิยํ การาเปตฺวาติ ปจาเปตฺวา. อตฺตคุตฺตตฺถายาติ ตํนิมิตฺตอุปทฺทวโต อตฺตานํ รกฺขณตฺถาย. ชิฆจฺฉาภิภูตา หิ สีหาทโย อตฺตนา ขาทิยมานํ คณฺหนฺตานํ อนตฺถมฺปิ กเรยฺยุํ. ปรานุทฺทยตายาติ สีหาทีสุ ปรสตฺเตสุ อนุกมฺปาย. ชิฆจฺฉาวิโนทนตฺถฺหิ เตหิ ขาทิยมานํ เต ปลาเปตฺวา คณฺหโต เตสุ อนุกมฺปา นาม น ภวิสฺสติ.

๑๔๑. เตกฏุลยาคุวตฺถุมฺหิ วิยาติ มุสาวาทสามฺโต วุตฺตํ. อาณตฺเตหีติ สมฺมเตน อาณตฺเตหิ. อาณตฺเตนาติ สามิเกหิ อาณตฺเตน. อปรสฺส ภาคํ เทหีติ อสนฺตํ ปุคฺคลํ ทสฺเสตฺวา คหิตตฺตา ‘‘ภณฺฑเทยฺย’’นฺติ วุตฺตํ. อฺเนาติ ยถาวุตฺเตหิ สมฺมตาทีหิ จตูหิ อฺเน. ‘‘อปรมฺปิ ภาคํ เทหี’’ติ วุตฺเตปิ สงฺฆสนฺตกตฺตา อมูลกเมว คหิตนฺติ ‘‘อุทฺธาเรเยว ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. อิตเรหิ ทียมานนฺติ สมฺมเตน, เตน อาณตฺเตน วา ทียมานํ. เอวํ คณฺหโตติ ‘‘อปรมฺปิ ภาคํ เทหี’’ติ วตฺวา วา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา วา คณฺหโต. สุทินฺนนฺติ เหฏฺา สามิเกน, เตน อาณตฺเตน วา ทียมานํ คิหิสนฺตกํ ‘‘อปรสฺส ภาคํ เทหี’’ติ วตฺวา คณฺหโต อปรสฺส อภาวโต สามิสนฺตกเมว โหตีติ ภณฺฑเทยฺยํ ชาตํ. อิธ ปน เตหิ เอวํ ทียมานํ ‘‘อปรมฺปิ ภาคํ เทหีติ วตฺวา วา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา วา คณฺหโต เทหี’’ติ วุตฺตตฺตา อฺาตกวิฺตฺติมตฺตํ เปตฺวา เนว ปาราชิกํ น ภณฺฑเทยฺยนฺติ สุทินฺนเมว โหติ.

๑๔๒-๓. ปริกฺขารวตฺถูสุ วุตฺตปริกฺขารสฺส เหฏฺา วุตฺตภณฺฑสฺส จ โก วิเสโส? ยํ ปริโภคโยคฺคํ อาภรณาทิรูปํ อกตฺวา ยถาสภาวโต ปิตํ, ตํ ภณฺฑํ. ยํ ปน ตถา กตฺวา ปริภุฺชิตุํ อนุจฺฉวิกากาเรน ปิตํ อาภรณาทิกํ, ตํ ปริกฺขารนฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๔๔-๑๔๖. สงฺกาเมตฺวาติ ิตฏฺานโต อปเนตฺวา. ถวิกนฺติ อุปาหนตฺถวิกาทิ ยํกิฺจิ ถวิกํ. อาหราเปนฺเตสุ ภณฺฑเทยฺยนฺติ ‘‘คหิเต อตฺตมโน โหตี’’ติ (มหาว. ๓๕๖) วจนโต อนตฺตมนสฺส สนฺตกํ คหิตมฺปิ ปุน ทาตพฺพเมวาติ วุตฺตํ. ‘‘สมฺมุขีภูเตหิ ภาเชตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๓๗๙) วจนโต ภาชนียภณฺฑํ อุปจารสีมฏฺานํเยว ปาปุณาตีติ อาห ‘‘อุปจารสีมายํ ิตสฺเสว คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ.

๑๔๘-๙. ‘‘ภณฺฑเทยฺยนฺติ อุภินฺนํ สาลยภาเว สติ โจรสฺส วา สามิกสฺส วา สมฺปตฺตสฺส กสฺสจิ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. เอเสว นโยติ ปํสุกูลสฺาย คหิเต ภณฺฑเทยฺยํ, เถยฺยจิตฺเตน ปาราชิกนฺติ อตฺโถ. คาเมสูติ คามิเกสุ มนุสฺเสสุ. คาม-คฺคหเณน เหตฺถ คามฏฺา วุตฺตา. วุฏฺหนฺเตสูติ คามํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลายนฺเตสุ. ปุน อาวสนฺเต ชนปเทติ ชานปทิเกสุ ปุน อาคนฺตฺวา วสนฺเตสุ.

อวิเสเสน วุตฺตนฺติ ‘‘สอุสฺสาหา วา นิรุสฺสาหา วา’’ติ วิเสสํ อปรามสิตฺวา สามฺโต วุตฺตํ. น หิ กติปยานํ อนุสฺสาเห สติ สงฺฆิกํ อสงฺฆิกํ โหตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. สอุสฺสาหมตฺตเมว ปมาณนฺติ สามิกานํ ปริจฺฉินฺนภาวโต วุตฺตํ. ตโตติ คณสนฺตกโต ปุคฺคลสนฺตกโต วา. เสนาสนตฺถาย นิยมิตนฺติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ, จตูสุ ปจฺจเยสุ ยสฺส กสฺสจิ อตฺถาย นิยมิเตปิ วุตฺตนยเมว. อิสฺสรวตายาติ ปรํ อาปุจฺฉิตฺวา วา อนาปุจฺฉิตฺวา วา ทาตพฺพกิจฺจํ นตฺถิ, อยเมเวตฺถ ปมาณนฺติ เอวํ อตฺตโน อิสฺสรภาเวน. อคฺเฆน กาเรตพฺโพติ อคฺฆานุรูปํ ทุกฺกเฏน ถุลฺลจฺจเยน วา กาเรตพฺโพ. อิสฺสรวตาย ปริภุฺชโต คีวาติ น เกวลํ เอตฺเถว คีวา, เหฏฺา กุลสงฺคหตฺถาย อิสฺสรวตาย วา ทินฺเนปิ คีวาเยว. สุขาทิตเมวาติ อนฺโตวิหาเร นิสีทิตฺวา ฆณฺฏิปฺปหรณาทิวุตฺตวิธานสฺส กตตฺตา สุขาทิตํ. สงฺฆิกฺหิ เวภงฺคิยภณฺฑํ อนฺโตวิหาเร วา พหิสีมาย วา โหตุ, พหิสีมายํ ิเตหิ อปโลเกตฺวา ภาเชตุํ น วฏฺฏติ, อุภยตฺถ ิตมฺปิ ปน อนฺโตสีมายํ ิเตหิ อปโลเกตฺวา ภาเชตุํ วฏฺฏติเยว. เตเนว ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ ‘‘วิหาเรเยว นิสีทิตฺวา เอวํ กตตฺตา สุขาทิตนฺติ อาหา’’ติ. อยฺจ อตฺโถ วสฺสูปนายิกกฺขนฺธกฏฺกถายํ อาวิ ภวิสฺสติ.

๑๕๐. วุตฺตวาทกวตฺถูสุ ปาฬิยํ ยุคสาฏกนฺติ สาฏกยุคํ. ตุลนฺติ ปลสตํ. โทณนฺติ โสฬสนาฬิมตฺตํ. ปริจฺเฉทํ ปน กตฺวาติ ยตฺตกํ อิจฺฉิตํ, ตตฺตกํ อคฺฆวเสน วา จีวราทิปจฺจยวเสน วา ปริจฺเฉทํ กตฺวา. อุปารมฺภาติ ‘‘ภทนฺตา อปริจฺเฉทํ กตฺวา วทนฺตี’’ติ เอวํ โทสาโรปนโต.

๑๕๓. ฉาตชฺฌตฺตนฺติ ชิฆจฺฉาทุกฺเขน ปีฬิตอตฺตสนฺตานํ. ธนุกนฺติ ขุทฺทกธนุกํ. พทฺโธ โหตีติ ติริยํ พทฺโธ โหติ. สุนขทฏฺนฺติ สามิเกหิ วิสฺสชฺชิตสุนเขน คหิตํ. ยฏฺิยา สห ปาเตตีติ สูกรสฺส อาคมนโต ปุเรตรเมว ตตฺถ อพชฺฌนตฺถาย ปาเตติ. มทฺทนฺโต คจฺฉติ, ภณฺฑเทยฺยนฺติ เอกสูกรคฺฆนกํ ภณฺฑํ ทาตพฺพํ. น หิ เตน มคฺเคน คจฺฉนฺตา สพฺเพว สูกรา เตน ปาเสน พชฺฌนฺติ, เอโกเยว ปมตรํ คจฺฉนฺโต พชฺฌติ, ตสฺมา เอกสูกรคฺฆนกํ ภณฺฑํ ทาตพฺพํ. ปจฺฉา คจฺฉตีติ เตน กตปโยเคน อคนฺตฺวา ปจฺฉา สยเมว คจฺฉติ. เหฏฺา วุตฺเตสุปิ อีทิเสสุ าเนสุ เอเสว นโย. อุทฺธริตฺวา ฉฑฺเฑตีติ ปุเรตรเมว อุทฺธริตฺวา ฉฑฺเฑติ. วิหารภูมิยนฺติ วิหารสามนฺตา อรฺปฺปเทเส. รกฺขํ ยาจิตฺวาติ ราชราชมหามตฺตาทีนํ สนฺติกํ คนฺตฺวา อนุทฺทิสฺส รกฺขํ ยาจิตฺวา.

กุมีนมุขนฺติ กุมีนสฺส อนฺโต มจฺฉานํ ปวิสนมุขํ. คุมฺเพ ขิปติ, ภณฺฑเทยฺยเมวาติ กุมีนสฺส อนฺโต ปวิสิตพฺพานํ มจฺฉานํ อคฺเฆน ภณฺฑเทยฺยํ.

๑๕๖. วีสตึสาทิวเสน ปริจฺฉินฺนา ภิกฺขู เอตฺถาติ ปริจฺฉินฺนภิกฺขุกํ. เถรานนฺติ อาคนฺตุกตฺเถรานํ. เตสมฺปีติ อาวาสิกภิกฺขูนมฺปิ. ปริโภคตฺถายาติ สงฺฆิกปริโภควเสน ปริภุฺชนตฺถาย. คหเณติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ. ยตฺถาติ ยสฺมึ อาวาเส. อฺเสํ อตฺถิภาวนฺติ อฺเสํ อาคนฺตุกภิกฺขูนํ อตฺถิภาวํ. ตตฺถาติ ตาทิเส อาวาเส. ภาเชตฺวา ขาทนฺตีติ อาคนฺตุกานมฺปิ สมฺปตฺตานํ ภาเชตฺวา ขาทนฺตีติ อธิปฺปาโย. จตูสุ ปจฺจเยสุ สมฺมา อุปเนนฺตีติ อมฺพผลาทีนิ วิกฺกิณิตฺวา จีวราทีสุ จตูสุ ปจฺจเยสุ สมฺมา อุปเนนฺติ. จีวรตฺถาย นิยเมตฺวา ทินฺนาติ ‘‘อิเมสํ รุกฺขานํ ผลานิ วิกฺกิณิตฺวา จีวเรสุเยว อุปเนตพฺพานิ, น ภาเชตฺวา ขาทิตพฺพานี’’ติ เอวํ นิยเมตฺวา ทินฺนา. เตสุปิ อาคนฺตุกา อนิสฺสราติ ปจฺจยปริโภคตฺถาย นิยเมตฺวา ทินฺนตฺตา ภาเชตฺวา ขาทิตุํ อนิสฺสรา.

น เตสุ…เป… าตพฺพนฺติ เอตฺถ อาคนฺตุเกหิ เหฏฺา วุตฺตนเยน ภาเชตฺวา ขาทิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. เตสํ กติกาย าตพฺพนฺติ ‘‘ภาเชตฺวา น ขาทิตพฺพ’’นฺติ วา ‘‘เอตฺตเกสุ รุกฺเขสุ ผลานิ คณฺหิสฺสามา’’ติ วา ‘‘เอตฺตกานิ ผลานิ คณฺหิสฺสามา’’ติ วา ‘‘เอตฺตกานํ ทิวสานํ อพฺภนฺตเร คณฺหิสฺสามา’’ติ วา ‘‘น กิฺจิ คณฺหิสฺสามา’’ติ วา เอวํ กตาย อาวาสิกานํ กติกาย อาคนฺตุเกหิ าตพฺพํ. มหาอฏฺกถายํ ‘‘อนิสฺสรา’’ติ วจเนน ทีปิโตเยว อตฺโถ มหาปจฺจริยํ ‘‘จตุนฺนํ ปจฺจยาน’’นฺติอาทินา วิตฺถาเรตฺวา ทสฺสิโต. ปริโภควเสเนวาติ เอตฺถ เอว-สทฺโท อฏฺานปฺปยุตฺโต. ปริโภควเสน ตเมว ภาเชตฺวาติ โยเชตพฺพํ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ วิหาเร รฏฺเ วา. เสนาสนปจฺจยนฺติ เสนาสนฺจ ตทตฺถาย นิยเมตฺวา ปิตฺจ.

ลามกโกฏิยาติ ลามกํ อาทึ กตฺวา, ลามกเสนาสนโต ปฏฺายาติ วุตฺตํ โหติ. เสนาสเนปิ ติณาทีนิ ลามกโกฏิยาว วิสฺสชฺเชตพฺพานิ, เสนาสนปริกฺขาราปิ ลามกโกฏิยาว วิสฺสชฺเชตพฺพา. มูลวตฺถุจฺเฉทํ ปน กตฺวา น อุปเนตพฺพนฺติ อิมินา กึ วุตฺตํ โหตีติ? ตีสุปิ คณฺิปเทสุ ตาว อิทํ วุตฺตํ ‘‘สพฺพานิ เสนาสนานิ น วิสฺสชฺเชตพฺพานีติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. ลามกโกฏิยา วิสฺสชฺเชนฺเตหิปิ เสนาสนภูมิโย น วิสฺสชฺเชตพฺพาติ อยมตฺโถ วุตฺโต โหตีติ โน ขนฺติ, วีมํสิตฺวา ยํ รุจฺจติ, ตํ คเหตพฺพํ.

ธมฺมสนฺตเกน พุทฺธปูชํ กาตุํ, พุทฺธสนฺตเกน วา ธมฺมปูชํ กาตุํ วฏฺฏติ, น วฏฺฏตีติ? ‘‘ตถาคตสฺส โข เอตํ วาเสฏฺ อธิวจนํ ธมฺมกาโย อิติปีติ จ โย โข, วกฺกลิ, ธมฺมํ ปสฺสติ, โส มํ ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๘๗) จ วจนโต วฏฺฏตีติ วทนฺติ. เกจิ ปน ‘‘เอวํ สนฺเต ‘โย, ภิกฺขเว, มํ อุปฏฺเหยฺย, โส คิลานํ อุปฏฺเหยฺยา’ติ วจนโต พุทฺธสนฺตเกน คิลานสฺสปิ เภสชฺชํ กาตุํ ยุตฺตนฺติ อาปชฺเชยฺย, ตสฺมา น วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ อการณํ. น หิ ‘‘โย, ภิกฺขเว, มํ อุปฏฺเหยฺย, โส คิลานํ อุปฏฺเหยฺยา’’ติ อิมินา อตฺตโน จ คิลานสฺส จ เอกสทิสตา ตทุปฏฺานสฺส วา สมผลตา วุตฺตา. อยฺเหตฺถ อตฺโถ ‘‘โย มํ โอวาทานุสาสนีกรเณน อุปฏฺเหยฺย, โส คิลานํ อุปฏฺเหยฺย, มม โอวาทกรเณน คิลาโน อุปฏฺาตพฺโพ’’ติ. ภควโต จ คิลานสฺส จ อุปฏฺานํ เอกสทิสนฺติ เอวํ ปเนตฺถ อตฺโถ น คเหตพฺโพ. ตสฺมา ‘‘โย โว, อานนฺท, มยา ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต ปฺตฺโต, โส โว มมจฺจเยน สตฺถา’’ติ วจนโต ‘‘อหฺจ ปนิทานิ เอโก โอวทามิ อนุสาสามิ, มยิ ปรินิพฺพุเต อิมานิ จตุราสีติ พุทฺธสหสฺสานิ ตุมฺเห โอวทิสฺสนฺติ อนุสาสิสฺสนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา จ พหุสฺสุตํ ภิกฺขุํ ปสํสนฺเตน จ ‘‘โย พหุสฺสุโต, น โส ตุมฺหากํ สาวโก นาม, พุทฺโธ นาม เอส จุนฺทา’’ติ วุตฺตตฺตา ธมฺมครุกตฺตา จ ตถาคตสฺส ปุพฺพนโย เอว ปสตฺถตโรติ อมฺหากํ ขนฺติ.

ปณฺณํ อาโรเปตฺวาติ ‘‘เอตฺตเกเหว รุกฺเขหิ เอตฺตกเมว คเหตพฺพ’’นฺติ ปณฺณํ อาโรเปตฺวา, ลิขิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. นิมิตฺตสฺํ กตฺวาติ สงฺเกตํ กตฺวา. ทารกาติ เตสํ ปุตฺตนตฺตาทโย ทารกา. อฺเปิ เย เกจิ โคปกา โหนฺติ, เต สพฺเพปิ วุตฺตา. สพฺพตฺถาปิ คิหีนํ โคปกทาเน ยตฺตกํ โคปกา เทนฺติ, ตตฺตกํ คเหตพฺพํ. สงฺฆิเก ปน ยถาปริจฺเฉทเมว คเหตพฺพนฺติ ทีปิตตฺตา ‘‘อตฺถโต เอก’’นฺติ วุตฺตํ.

ตโตติ ยถาวุตฺตอุโปสถาคาราทิกรณตฺถาย ปิตทารุสมฺภารโต. อาปุจฺฉิตฺวาติ การกสงฺฆํ อาปุจฺฉิตฺวา. ตํ สพฺพมฺปิ อาหริตฺวาติ อนาปุจฺฉิตฺวาปิ ตาวกาลิกํ อาหริตฺวา. อาหราเปนฺโตติ เอตฺถ อนาหราเปนฺเตปิ ทาตพฺพเมว. อยเมว ภิกฺขุ อิสฺสโรติ เอกสฺส ภิกฺขุโน ปาปุณนฏฺานํ, ตโตเยว เสนาสนโต ตสฺส ทาตพฺพํ, น จ โส ตโต อุฏฺาเปตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ.

‘‘อุทกปูชนฺติ เจติยฏฺาเนสุ สิฺจน’’นฺติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. วตฺตสีเสนาติ เกวลํ สทฺธาย, น เวตนาทิอตฺถาย. สวตฺถุกนฺติ สห ภูมิยา. ติณมตฺตํ ปน ทาตพฺพนฺติ กสฺมา วุตฺตํ, กึ ตํ ครุภณฺฑํ น โหตีติ? น โหติ. อรกฺขิตอโคปิตฏฺาเน หิ วินสฺสกภาเวน ิตํ ครุภณฺฑํ น โหติ, ตสฺมา ตาทิสํ สนฺธาย ‘‘ติณมตฺตํ ปน ทาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ชคฺคิตฺวาติ สํวจฺฉเร สํวจฺฉเร ชคฺคิตฺวา.

กุฏฺฏนฺติ เคหภิตฺตึ. ปาการนฺติ ปริกฺเขปปาการํ. ตโตติ ฉฑฺฑิตวิหารโต. ตโต อาหริตฺวา เสนาสนํ กตํ โหตีติ สามนฺตคามวาสีหิ ภิกฺขูหิ ฉฑฺฑิตวิหารโต ทารุสมฺภาราทึ อาหริตฺวา เสนาสนํ กตํ โหติ.

๑๕๗. จตุภาคอุทกสมฺภินฺเนติ จตุตฺถภาเคน อุทเกน สมฺภินฺเน. โอทนภาชนียวตฺถุสฺมินฺติ ‘‘เทหิ อปรสฺส ภาค’’นฺติ อาคตวตฺถุสฺมึ.

๑๕๙. อยฺยา อตฺตนา กาตุํ ยุตฺตมฺปิ น กโรนฺติ, อติวิย ถทฺธาติ ปสาทํ ภินฺทิตฺวา จิตฺเตน กุปฺปนฺติ, ตสฺมา ‘‘ปสาทานุรกฺขณตฺถายา’’ติ วุตฺตํ. อิทฺธึ ปฏิสํหรีติ อิทฺธึ วิสฺสชฺเชสิ. สกฏฺาเนเยว อฏฺาสีติ อิทฺธิยา วิสฺสชฺชิตตฺตา เอว ‘‘ปาสาโท ปุน อาคจฺฉตู’’ติ อนธิฏฺิเตปิ สยเมว อาคนฺตฺวา สกฏฺาเนเยว อฏฺาสิ. ‘‘ยาว ทารกา ปาสาทํ อาโรหนฺติ, ตาว ปาสาโท เตสํ สนฺติเก โหตู’’ติ ปุพฺเพ อธิฏฺิตตฺตา เอว จ กาลปริจฺเฉทํ กตฺวา อธิฏฺิเตน ตโต ปรํ อิทฺธิ วิสฺสชฺชิตา นาม โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘เถโร อิทฺธึ ปฏิสํหรี’’ติ. ยสฺมา เต ทารกา เอวํ คเหตฺวา คตานํ สนฺตกา น โหนฺติ, ยสฺมา จ อีทิเสน ปโยเคน เถเรน เต อานีตา นาม น โหนฺติ, ตสฺมา เถโร เอวมกาสีติ ทฏฺพฺพํ. เตเนวาห ‘‘โวหารวเสนา’’ติอาทิ. อตฺตโน ปกติวณฺณํ อวิชหิตฺวา พหิทฺธา หตฺถิอาทิทสฺสนํ ‘‘เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๓๘; ม. นิ. ๑.๑๔๗; สํ. นิ. ๕.๘๔๒) อาคตฺจ อธิฏฺานวเสน นิปฺผนฺนตฺตา อธิฏฺานิทฺธิ นาม. ‘‘โส ปกติวณฺณํ วิชหิตฺวา กุมารกวณฺณํ วา ทสฺเสติ นาควณฺณํ วา…เป… วิวิธมฺปิ เสนาพฺยูหํ ทสฺเสตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๓.๑๓) เอวํ อาคตา อิทฺธิ ปกติวณฺณวิชหนวิการวเสน ปวตฺตตฺตา วิกุพฺพนิทฺธิ นาม. อตฺตานํ อทสฺเสตฺวา พหิทฺธา หตฺถิอาทิทสฺสนมฺปิ เอตฺเถว สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปกติวณฺณวิชหนฺหิ นาม อตฺตโน ปกติรูปสฺส อฺเสํ อทสฺสนํ, น สพฺเพน สพฺพํ ตสฺส นิโรธนํ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘อตฺตานํ อทสฺเสตฺวา พหิทฺธา หตฺถิอาทิทสฺสนมฺปิ เอตฺเถว สงฺคหิต’’นฺติ อิทํ ‘‘ปกติวณฺณํ วิชหิตฺวา’’ติ วุตฺตมูลปเทน น วิรุชฺฌติ.

วินีตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย สารตฺถทีปนิยํ

ทุติยปาราชิกวณฺณนา สมตฺตา.

อนุสาสนีกถาวณฺณนา

ปราชิตกิเลเสนาติ สนฺตาเน ปุน อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทเนน จตูหิ มคฺคาเณหิ สห วาสนาย สมุจฺฉินฺนสพฺพกิเลเสน. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. เตน สิกฺขาปเทน สมํ อฺํ อเนกนยโวกิณฺณํ คมฺภีรตฺถวินิจฺฉยํ กิฺจิ สิกฺขาปทํ น วิชฺชตีติ โยเชตพฺพํ. อตฺโถ จ วินิจฺฉโย จ อตฺถวินิจฺฉยา, คมฺภีรา อตฺถวินิจฺฉยา อสฺสาติ คมฺภีรตฺถวินิจฺฉยํ. วตฺถุมฺหิ โอติณฺเณติ โจทนาวตฺถุมฺหิ สงฺฆมชฺฌํ โอติณฺเณ, เอเกน เอกสฺมึ โจทิเต, สยเมว วา อาคนฺตฺวา อตฺตโน กตวีติกฺกเม อาโรจิเตติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถาติ โอติณฺเณ วตฺถุมฺหิ.

วินิจฺฉยํ กโรนฺเตน สหสา ‘‘ปาราชิก’’นฺติ อวตฺวา ยํ กตฺตพฺพํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปาฬิ’’นฺติอาทิมาห. วินิจฺฉโยติ ปาราชิกาปตฺติวินิจฺฉโย. อวตฺวาวาติ ‘‘ตฺวํ ปาราชิกํ อาปนฺโน’’ติ อวตฺวาว. กปฺปิเยปิ จ วตฺถุสฺมินฺติ อวตฺวาปิ คณฺหิตุํ กปฺปิเย มาตุปิตุสนฺตเกปิ วตฺถุสฺมึ. ลหุวตฺติโนติ เถยฺยจิตฺตุปฺปาเทน ลหุปริวตฺติโน. อาสีวิสนฺติ สีฆเมว สกลสรีเร ผรณสมตฺถวิสํ.

อนุสาสนีกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปาราชิกกณฺฑฏฺกถาย ปมภาควณฺณนา สมตฺตา.

๓. ตติยปาราชิกํ

ตีหีติ กายวจีมโนทฺวาเรหิ. วิภาวิตนฺติ ปกาสิตํ, เทสิตํ ปฺตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ.

ปมปฺตฺตินิทานวณฺณนา

๑๖๒. ติกฺขตฺตุํ ปาการปริกฺเขปวฑฺฒเนนาติ ติกฺขตฺตุํ ปาการปริกฺเขเปน นครภูมิยา วฑฺฒเนน. วิสาลีภูตตฺตาติ คาวุตนฺตรํ คาวุตนฺตรํ ปุถุภูตตฺตา. พาราณสิรฺโ กิร (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๔๖; ขุ. ปา. อฏฺ. ๖. รตนสุตฺตวณฺณนา) อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ คพฺโภ สณฺาสิ, สา ตฺวา รฺโ นิเวเทสิ, ราชา คพฺภปริหารํ อทาสิ. สา สมฺมา ปริหริยมานา คพฺภปริปากกาเล วิชายนฆรํ ปาวิสิ. ปุฺวนฺตีนํ ปจฺจูสสมเย คพฺภวุฏฺานํ โหติ, สา จ ตาสํ อฺตรา, เตน ปจฺจูสสมเย อลตฺตกปฏลพนฺธุชีวกปุปฺผสทิสํ มํสเปสึ วิชายิ. ตโต ‘‘อฺา เทวิโย สุวณฺณพิมฺพสทิเส ปุตฺเต วิชายนฺติ, อคฺคมเหสี มํสเปสินฺติ รฺโ ปุรโต มม อวณฺโณ อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ จินฺเตตฺวา เตน อวณฺณภเยน ตํ มํสเปสึ เอกสฺมึ ภาชเน ปกฺขิปิตฺวา ปฏิกุชฺชิตฺวา ราชมุทฺทิกาย ลฺเฉตฺวา คงฺคาย โสเต ปกฺขิปาเปสิ. มนุสฺเสหิ ฉฑฺฑิตมตฺเต เทวตา อารกฺขํ สํวิทหึสุ. สุวณฺณปฏฺฏิกฺเจตฺถ ชาติหิงฺคุลเกน ‘‘พาราณสิรฺโ อคฺคมเหสิยา ปชา’’ติ ลิขิตฺวา พนฺธึสุ. ตโต ตํ ภาชนํ อูมิภยาทีหิ อนุปทฺทุตํ คงฺคาโสเตน ปายาสิ.

เตน จ สมเยน อฺตโร ตาปโส โคปาลกกุลํ นิสฺสาย คงฺคาตีเร วิหรติ. โส ปาโตว คงฺคํ โอติณฺโณ ตํ ภาชนํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ปํสุกูลสฺาย อคฺคเหสิ. อเถตฺถ ตํ อกฺขรปฏฺฏิกํ ราชมุทฺทิกาลฺฉนฺจ ทิสฺวา มุฺจิตฺวา ตํ มํสเปสึ อทฺทส. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ ‘‘สิยา คพฺโภ, ตถา หิสฺส ทุคฺคนฺธปูติภาโว นตฺถี’’ติ. อุทกปฺปวาเหนาคตสฺสปิ หิ อุสฺมา น วิคจฺฉติ, อุสฺมา จ นาม อีทิสาย สวิฺาณกตาย ภเวยฺยาติ ‘‘สิยา คพฺโภ’’ติ จินฺเตสิ. ปุฺวนฺตตาย ปน ทุคฺคนฺธํ นาโหสิ สอุสุมคตาย ปูติภาโว จ. เอวํ ปน จินฺเตตฺวา อสฺสมํ เนตฺวา นํ สุทฺเธ โอกาเส เปสิ. อถ อฑฺฒมาสจฺจเยน ทฺเว มํสเปสิโย อเหสุํ. ตาปโส ทิสฺวา สาธุกตรํ เปสิ. ตโต ปุน อฑฺฒมาสจฺจเยน เอกเมกิสฺสา เปสิยา หตฺถปาทสีสานมตฺถาย ปฺจ ปฺจ ปิฬกา อุฏฺหึสุ. อถ ตโต อฑฺฒมาสจฺจเยน เอกา มํสเปสิ สุวณฺณพิมฺพสทิโส ทารโก, เอกา ทาริกา อโหสิ. เตสุ ตาปสสฺส ปุตฺตสิเนโห อุปฺปชฺชิ, ทารกานํ ปุฺุปนิสฺสยโต องฺคุฏฺกโต จสฺส ขีรํ นิพฺพตฺติ. ตโต ปภุติ จ ขีรภตฺตํ อลภิตฺถ. ตาปโส ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา ขีรํ ทารกานํ มุเข อาสิฺจติ. เตสํ ปน ยํ ยํ อุทรํ ปวิสติ, ตํ สพฺพํ มณิภาชนคตํ วิย ทิสฺสติ. จริมภเว โพธิสตฺเต กุจฺฉิคเต โพธิสตฺตมาตุ วิย อุทรจฺฉวิยา อจฺฉวิปฺปสนฺนตาย เอวํ เต นิจฺฉวี อเหสุํ. อปเร อาหุ ‘‘สิพฺพิตฺวา ปิตา วิย เนสํ อฺมฺํ ลีนา ฉวิ อโหสี’’ติ. เอวํ เต นิจฺฉวิตาย วา ลีนจฺฉวิตาย วา ‘‘ลิจฺฉวี’’ติ ปฺายึสุ.

ตาปโส ทารเก โปเสนฺโต อุสฺสูเร คามํ ภิกฺขาย ปวิสติ, อติทิวา ปฏิกฺกมติ. ตสฺส ตํ พฺยาปารํ ตฺวา โคปาลกา อาหํสุ – ‘‘ภนฺเต, ปพฺพชิตานํ ทารกโปสนํ ปลิโพโธ, อมฺหากํ ทารเก เทถ, มยํ โปเสสฺสาม, ตุมฺเห อตฺตโน กมฺมํ กโรถา’’ติ. ตาปโส ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิ. โคปาลกา ทุติยทิวเส มคฺคํ สมํ กตฺวา ปุปฺเผหิ โอกิริตฺวา ธชปฏากา อุสฺสาเปตฺวา ตูริเยหิ วชฺชมาเนหิ อสฺสมํ อาคตา. ตาปโส ‘‘มหาปุฺา ทารกา, อปฺปมาเทเนว วฑฺเฒถ, วฑฺเฒตฺวา อฺมฺํ อาวาหํ กโรถ, ปฺจโครเสน ราชานํ โตเสตฺวา ภูมิภาคํ คเหตฺวา นครํ มาเปถ, ตตฺถ กุมารํ อภิสิฺจถา’’ติ วตฺวา ทารเก อทาสิ. เต ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา ทารเก เนตฺวา โปเสสุํ. ทารกา วุฑฺฒิมนฺวาย กีฬนฺตา วิวาทฏฺาเนสุ อฺเ โคปาลกทารเก หตฺเถนปิ ปาเทนปิ ปหรนฺติ, เต โรทนฺติ. ‘‘กิสฺส โรทถา’’ติ จ มาตาปิตูหิ วุตฺตา ‘‘อิเม นิมฺมาตาปิติกา ตาปสโปสิตา อมฺเห อตีว ปหรนฺตี’’ติ วทนฺติ. ตโต เนสํ โปสกมาตาปิตโรปิ ‘‘อิเม ทารกา อฺเ ทารเก วิเหเสนฺติ ทุกฺขาเปนฺติ, น อิเม สงฺคเหตพฺพา, วชฺเชตพฺพา อิเม’’ติ อาหํสุ. ตโต ปภุติ กิร โส ปเทโส ‘‘วชฺชี’’ติ วุจฺจติ โยชนสตปริมาเณน.

อถ ตํ ปเทสํ โคปาลกา ราชานํ โตเสตฺวา อคฺคเหสุํ. ตตฺถ จ นครํ มาเปตฺวา โสฬสวสฺสุทฺเทสิกํ กุมารํ อภิสิฺจิตฺวา ราชานํ อกํสุ. รชฺชสมฺปตฺติทายกสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อสมฺภินฺเน เอว ราชกุเล อุปฺปนฺนตฺตา จ ราชกุมารสฺส ปุฺานุภาวสฺโจทิตา เทวตาธิคฺคหิตา อกํสูติ เกจิ. ทารกสฺส ทาริกาย สทฺธึ วาเรยฺยํ กตฺวา กติกํ อกํสุ ‘‘พาหิรโต ทาริกา น อาเนตพฺพา, อิโต ทาริกา น กสฺสจิ ทาตพฺพา’’ติ. เตสํ ปมสํวาเสน ทฺเว ทารกา ชาตา ธีตา จ ปุตฺโต จ. เอวํ โสฬสกฺขตฺตุํ ทฺเว ทฺเว ชาตา. ตโต เตสํ ทารกานํ ยถากฺกมํ วฑฺฒนฺตานํ อารามุยฺยานนิวาสฏฺานปริวารสมฺปตฺตึ คเหตุํ อปฺปโหนฺตํ นครํ ติกฺขตฺตุํ คาวุตนฺตเรน คาวุตนฺตเรน ปริกฺขิปึสุ. ตสฺส ปุนปฺปุนํ วิสาลีกตตฺตา ‘‘เวสาลี’’ตฺเวว นามํ ชาตํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ติกฺขตฺตุํ ปาการปริกฺเขปวฑฺฒเนน วิสาลีภูตตฺตา เวสาลีติ วุจฺจตี’’ติ.

อิทมฺปิ จ นครนฺติ น เกวลํ ราชคหสาวตฺถิโย เยวาติ ทสฺเสติ. ตตฺถ มหาวนํ นามาติอาทิ มชฺฌิมภาณกสํยุตฺตภาณกานํ สมานฏฺกถา. มชฺฌิมฏฺกถายฺหิ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๔๖) สํยุตฺตฏฺกถายฺจ (สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๙๘๔-๙๘๕) อิมินาว นเยน วุตฺตํ. ทีฆนิกายฏฺกถายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๓๕๙) ปน ‘‘มหาวเนติ พหินคเร หิมวนฺเตน สทฺธึ เอกาพทฺธํ หุตฺวา ิตํ สยํชาตํ วนํ อตฺถิ, ยํ มหนฺตภาเวเนว มหาวนนฺติ วุจฺจติ, ตสฺมึ มหาวเน. กูฏาคารสาลายนฺติ ตสฺมึ วนสณฺเฑ สงฺฆารามํ ปติฏฺาเปสุํ. ตตฺถ กณฺณิกํ โยเชตฺวา ถมฺภานํ อุปริ กูฏาคารสาลาสงฺเขเปน เทววิมานสทิสํ ปาสาทํ อกํสุ, ตํ อุปาทาย สกโลปิ สงฺฆาราโม กูฏาคารสาลาติ ปฺายิตฺถา’’ติ วุตฺตํ. วนมชฺเฌ กตตฺตา ‘‘วนํ นิสฺสายา’’ติ วุตฺตํ. อาราเมติ สงฺฆาราเม. หํสวฏฺฏกจฺฉทเนนาติ หํสวฏฺฏกปฏิจฺฉนฺเนน, หํสมณฺฑลากาเรนาติ อตฺโถ.

อเนกปริยาเยนาติ เอตฺถ ปริยาย-สทฺโท การณวจโนติ อาห ‘‘อเนเกหิ การเณหี’’ติ, อยํ กาโย อวิฺาณโกปิ สวิฺาณโกปิ เอวมฺปิ อสุโภ เอวมฺปิ อสุโภติ นานาวิเธหิ การเณหีติ อตฺโถ. อสุภาการสนฺทสฺสนปฺปวตฺตนฺติ เกสาทิวเสน ตตฺถาปิ วณฺณาทิโต อสุภาการสฺส สพฺพโส ทสฺสนวเสน ปวตฺตํ. กายวิจฺฉนฺทนิยกถนฺติ อตฺตโน ปรสฺส จ กรชกาเย วิจฺฉนฺทนุปฺปาทนกถํ. มุตฺตํ วาติอาทินา พฺยติเรกมุเขน กายสฺส อมนุฺตํ ทสฺเสติ. ตตฺถ อาทิโต ตีหิ ปเทหิ อทสฺสนียตาย อสารกตาย มชฺเฌ จตูหิ ทุคฺคนฺธตาย, อนฺเต เอเกน เลสมตฺเตนปิ มนุฺตาภาวมสฺส ทสฺเสติ. อถ โขติอาทินา อนฺวยโต สรูเปเนว อมนุฺตาย ทสฺสนํ. ฉนฺโทติ ทุพฺพลราโค. ราโคติ พลวราโค. ‘‘เกสา โลมาที’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘เยปิ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อสุภาติ อาคนฺตุเกน สุภากาเรน วิรหิตตฺตา อสุภา. อสุจิโนติ อตฺตโน สภาเวเนว อสุจิโน. ปฏิกูลาติ นาคริกสฺส อสุจิกฏฺานํ วิย ชิคุจฺฉนียตฺตา ปฏิกูลา.

เกสา นาเมเต วณฺณโตปิ ปฏิกูลา, สณฺานโตปิ คนฺธโตปิ อาสยโตปิ โอกาสโตปิ ปฏิกูลาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โส จ เนสํ…เป… ปฺจหิ การเณหิ เวทิตพฺโพ’’ติ อาห. มนุฺเปิ (วิสุทฺธิ. ๑.๓๘๓; วิภ. อฏฺ. ๓๕๖) หิ ยาคุปตฺเต วา ภตฺตปตฺเต วา เกสวณฺณํ กิฺจิ ทิสฺวา ‘‘เกสมิสฺสกมิทํ, หรถ น’’นฺติ ชิคุจฺฉนฺติ, เอวํ เกสา วณฺณโต ปฏิกูลา. รตฺตึ ปริภุฺชนฺตาปิ เกสสณฺานํ อกฺกวากํ วา มกจิวากํ วา ฉุปิตฺวา ตเถว ชิคุจฺฉนฺติ, เอวํ สณฺานโตปิ ปฏิกูลา. เตลมกฺขนปุปฺผธูปาทิสงฺขารวิรหิตานฺจ เกสานํ คนฺโธ ปรมเชคุจฺโฉ โหติ, ตโต เชคุจฺฉตโร อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตานํ. เกสา หิ วณฺณสณฺานโต อปฺปฏิกูลาปิ สิยุํ, คนฺเธน ปน ปฏิกูลาเยว. ยถา หิ ทหรสฺส กุมารกสฺส วจฺจํ วณฺณโต หลิทฺทิวณฺณํ, สณฺานโตปิ หลิทฺทิปิณฺฑสณฺานํ, สงฺการฏฺาเน ฉฑฺฑิตฺจ อุทฺธุมาตกกาฬสุนขสรีรํ วณฺณโต ตาลปกฺกวณฺณํ, สณฺานโต วฏฺเฏตฺวา วิสฺสฏฺมุทิงฺคสณฺานํ, ทาาปิสฺส สุมนมกุฬสทิสาติ อุภยมฺปิ วณฺณสณฺานโต สิยา อปฺปฏิกูลํ, คนฺเธน ปน ปฏิกูลเมว, เอวํ เกสาปิ สิยุํ วณฺณสณฺานโต อปฺปฏิกูลา, คนฺเธน ปน ปฏิกูลาเยวาติ.

ยถา ปน อสุจิฏฺาเน คามนิสฺสนฺเทน ชาตานิ สูเปยฺยปณฺณานิ นาคริกมนุสฺสานํ เชคุจฺฉานิ โหนฺติ อปริโภคานิ, เอวํ เกสาปิ ปุพฺพโลหิตมุตฺตกรีสปิตฺตเสมฺหาทินิสฺสนฺเทน ชาตตฺตา เชคุจฺฉาติ อิทํ เตสํ อาสยโต ปาฏิกุลฺยํ. อิเม จ เกสา นาม คูถราสิมฺหิ อุฏฺิตกณฺณกํ วิย เอกตึสโกฏฺาสราสิมฺหิ ชาตา, เต สุสานสงฺการฏฺานาทีสุ ชาตสากํ วิย ปริขาทีสุ ชาตกมลกุวลยาทิปุปฺผํ วิย จ อสุจิฏฺาเน ชาตตฺตา ปรมเชคุจฺฉาติ อิทํ เตสํ โอกาสโต ปาฏิกุลฺยํ. ยถา จ เกสานํ, เอวํ สพฺพโกฏฺาสานฺจ วณฺณสณฺานคนฺธาสโยกาสวเสน ปฺจธา ปฏิกูลตา เวทิตพฺพาติ อาห ‘‘เอวํ โลมาทีน’’นฺติ. ปฺจปฺจปฺปเภเทนาติ เอตฺถ พาหิรตฺถสมาโส ทฏฺพฺโพ ปฺจ ปฺจ ปเภทา เอตสฺสาติ ปฺจปฺจปฺปเภโทติ.

สํวณฺเณนฺโตติ วิตฺถาเรนฺโต. อสุภายาติ อสุภมาติกาย. ผาติกมฺมนฺติ พหุลีกาโร. ปฺจงฺควิปฺปหีนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตนฺติ เอตฺถ กามจฺฉนฺโท พฺยาปาโท ถินมิทฺธํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ วิจิกิจฺฉาติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ นีวรณานํ ปหานวเสน ปฺจงฺควิปฺปหีนตา เวทิตพฺพา. น หิ เอเตสุ อปฺปหีเนสุ ฌานํ อุปฺปชฺชติ, เตนสฺเสตานิ ปหานงฺคานีติ วุจฺจนฺติ. กิฺจาปิ หิ ฌานกฺขเณ อฺเปิ อกุสลา ธมฺมา ปหียนฺติ, ตถาปิ เอตาเนว วิเสเสน ฌานนฺตรายกรานิ. กามจฺฉนฺเทน หิ นานาวิสยปโลภิตํ จิตฺตํ น เอกตฺตารมฺมเณ สมาธิยติ, กามจฺฉนฺทาภิภูตํ วา จิตฺตํ น กามธาตุปฺปหานาย ปฏิปทํ ปฏิปชฺชติ, พฺยาปาเทน จ อารมฺมเณ ปฏิหฺมานํ น นิรนฺตรํ ปวตฺตติ, ถินมิทฺธาภิภูตํ อกมฺมฺํ โหติ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปเรตํ อวูปสนฺตเมว หุตฺวา ปริพฺภมติ, วิจิกิจฺฉาย อุปหตํ ฌานาธิคมสาธิกํ ปฏิปทํ นาโรหติ. อิติ วิเสเสน ฌานนฺตรายกรตฺตา เอตาเนว ปหานงฺคานีติ วุตฺตานิ.

ยสฺมา ปน วิตกฺโก อารมฺมเณ จิตฺตํ อภินิโรเปติ, วิจาโร อนุปฺปพนฺธติ, เตหิ อวิกฺเขปาย สมฺปาทิตปโยคสฺส เจตโส ปโยคสมฺปตฺติสมฺภวา ปีติ ปีนนํ, สุขฺจ อุปพฺรูหนํ กโรติ, อถ นํ สสมฺปยุตฺตธมฺมํ เอเตหิ อภินิโรปนานุพนฺธนปีนนอุปพฺรูหเนหิ อนุคฺคหิตา เอกคฺคตา เอกตฺตารมฺมเณ สมํ สมฺมา อาธิยติ, ตสฺมา วิตกฺโก วิจาโร ปีติ สุขํ จิตฺเตกคฺคตาติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ อุปฺปตฺติวเสน ปฺจงฺคสมนฺนาคตตา เวทิตพฺพา. อุปฺปนฺเนสุ หิ เอเตสุ ปฺจสุ ฌานํ อุปฺปนฺนํ นาม โหติ, เตนสฺส เอตานิ ปฺจ สมนฺนาคตงฺคานีติ วุจฺจนฺติ. ตสฺมา น เอเตหิ สมนฺนาคตํ อฺเทว ฌานํ นาม อตฺถีติ คเหตพฺพํ. ยถา ปน องฺคมตฺตวเสเนว จตุรงฺคินี เสนา, ปฺจงฺคิกํ ตูริยํ อฏฺงฺคิโก จ มคฺโคติ วุจฺจติ, เอวมิทมฺปิ องฺคมตฺตวเสเนว ‘‘ปฺจงฺคิก’’นฺติ วา ‘‘ปฺจงฺคสมนฺนาคต’’นฺติ วา วุจฺจตีติ เวทิตพฺพํ.

เอตานิ จ ปฺจงฺคานิ กิฺจาปิ อุปจารกฺขเณปิ อตฺถิ, อถ โข อุปจาเร ปกติจิตฺตโต พลวตรานิ, อิธ ปน อุปจารโตปิ พลวตรานิ รูปาวจรกฺขณปฺปตฺตานิ. เอตฺถ หิ วิตกฺโก สุวิสเทน อากาเรน อารมฺมเณ จิตฺตํ อภินิโรปยมาโน อุปฺปชฺชติ, วิจาโร อติวิย อารมฺมณํ อนุมชฺชมาโน, ปีติสุขํ สพฺพาวนฺตมฺปิ กายํ ผรมานํ. เตเนว วุตฺตํ ‘‘นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส วิเวกเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหตี’’ติ. จิตฺเตกคฺคตาปิ เหฏฺิมมฺหิ สมุคฺคปฏเล อุปริมํ สมุคฺคปฏลํ วิย อารมฺมเณ สุผุสิตา หุตฺวา อุปฺปชฺชติ. อยเมเตสํ อิตเรหิ วิเสโส, ตสฺมา ‘‘ปฺจงฺคสมนฺนาคต’’นฺติ อปฺปนาฌานเมว วิเสเสตฺวา วุตฺตํ.

ติวิธกลฺยาณํ ทสลกฺขณสมฺปนฺนนฺติ เอตฺถ ปน ฌานสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานวเสน ติวิธกลฺยาณตา, เตสํเยว อาทิมชฺฌปริโยสานานํ ลกฺขณวเสน ทสลกฺขณสมฺปนฺนตา เวทิตพฺพา. วิตฺถารนยํ ปเนตฺถ สยเมว ปกาสยิสฺสติ. กิเลสโจเรหิ อนภิภวนียตฺตา ฌานํ ‘‘จิตฺตมฺชูส’’นฺติ วุตฺตํ. นิสฺสายาติ ปาทกํ กตฺวา.

ทสลกฺขณวิภาวเนเนว ติวิธกลฺยาณตาปิ วิภาวิตา โหตีติ ทสลกฺขณํ ตาว ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺริมานี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปาริปนฺถิกโต จิตฺตวิสุทฺธีติอาทีนํ ปทานํ อตฺโถ ‘‘ตตฺรายํ ปาฬี’’ติอาทินา วุตฺตปาฬิวณฺณนายเมว อาวิ ภวิสฺสติ. ตตฺราติ ตสฺมึ ทสลกฺขณวิภาวเน. ปฏิปทาวิสุทฺธีติ ปฏิปชฺชติ ฌานํ เอตายาติ ปฏิปทา, โคตฺรภุปริโยสาโน ปุพฺพภาคิโย ภาวนานโย. ปริปนฺถโต วิสุชฺฌนํ วิสุทฺธิ, ปฏิปทาย วิสุทฺธิ ปฏิปทาวิสุทฺธิ. สา ปนายํ ยสฺมา ฌานสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ลพฺภติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาที’’ติ. อุเปกฺขานุพฺรูหนาติ วิโสเธตพฺพตาทีนํ อภาวโต ฌานปริยาปนฺนาย ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจนิปฺผตฺติยา อนุพฺรูหนา. สา ปนายํ ยสฺมา วิเสสโต ฌานสฺส ิติกฺขเณ ลพฺภติ, เตน วุตฺตํ ‘‘อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ’’ติ. สมฺปหํสนาติ ตตฺถ ธมฺมานํ อนติวตฺตนาทิสาธกสฺส าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน ปริโยทปนา. สา ปน ยสฺมา ฌานสฺส โอสานกฺขเณ ปากฏา โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สมฺปหํสนา ปริโยสาน’’นฺติ. อิมานิ ตีณิ ลกฺขณานีติ ปริปนฺถโต จิตฺตสฺส วิสุชฺฌนากาโร, มชฺฌิมสฺส สมถนิมิตฺตสฺส ปฏิปชฺชนากาโร, ตตฺถ ปกฺขนฺทนากาโรติ อิมานิ ตีณิ ฌานสฺส อาทิโต อุปฺปาทกฺขเณ อปฺปนาปฺปตฺติลกฺขณานิ. เตหิ อากาเรหิ วินา อปฺปนาปฺปตฺติยา อภาวโต อสติ จ อปฺปนายํ ตทภาวโต อาทิกลฺยาณฺเจว วิสุทฺธิปฏิปทตฺตา ยถาวุตฺเตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคตตฺตา จ ติลกฺขณสมฺปนฺนฺจ. อิมินา นเยน มชฺฌปริโยสานลกฺขณานฺจ โยชนา เวทิตพฺพา.

เกจิ ปน ‘‘ปฏิปทาวิสุทฺธิ นาม สสมฺภาริโก อุปจาโร, อุเปกฺขานุพฺรูหนา นาม อปฺปนา, สมฺปหํสนา นาม ปจฺจเวกฺขณา’’ติ วณฺณยนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ. ตถา หิ สติ อฌานธมฺเมหิ ฌานสฺส คุณสํกิตฺตนํ นาม กตํ โหติ. น หิ ภูมนฺตรํ ภูมนฺตรปริยาปนฺนํ โหติ, ปาฬิยา เจตํ วิรุชฺฌติ. ‘‘เอกตฺตคตํ จิตฺตํ ปฏิปทาวิสุทฺธิปกฺขนฺทฺเจว โหติ อุเปกฺขานุพฺรูหิตฺจ าเณน จ สมฺปหํสิต’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๘) หิ ปาฬิยํ วุตฺตํ. เอตฺถ หิ เอกตฺตคตํ จิตฺตนฺติ อินฺทฺริยานํ เอกรสภาเวน เอกคฺคตาย จ สิขาปฺปตฺติยา ตทนุคุณํ เอกตฺตคตํ สสมฺปยุตฺตํ อปฺปนาปฺปตฺตํ จิตฺตํ วุตฺตํ, ตสฺเสว จ ปฏิปทาวิสุทฺธิปกฺขนฺทตาทิ อนนฺตรํ วุจฺจเต. ตสฺมา ปาฬิยํ เอกสฺมึเยว อปฺปนาจิตฺตกฺขเณ ปฏิปทาวิสุทฺธิอาทีนํ วุตฺตตฺตา อนฺโตอปฺปนายเมว ปริกมฺมาคมนวเสน ปฏิปทาวิสุทฺธิ, ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจวเสน อุเปกฺขานุพฺรูหนา, ธมฺมานํ อนติวตฺตนาทิภาวสาธเนน ปริโยทาปกสฺส าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน สมฺปหํสนา จ เวทิตพฺพา.

กถํ? ยสฺมึ (ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๕๘; วิสุทฺธิ. ๑.๑๗๕) วาเร อปฺปนา อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ โย นีวรณสงฺขาโต กิเลสคโณ ตสฺส ฌานสฺส ปริปนฺโถ, ตโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ, วิสุทฺธตฺตา อาวรณวิรหิตํ หุตฺวา มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ. มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ นาม สมปฺปวตฺโต อปฺปนาสมาธิเยว, ลีนุทฺธจฺจสงฺขาตานํ อุภินฺนํ อนฺตานํ อนุปคมเนน มชฺฌิโม, สวิเสสํ ปจฺจนีกธมฺมานํ วูปสมนโต สมโถ, โยคิโน สุขวิเสสานํ การณภาวโต นิมิตฺตนฺติ กตฺวา. ตสฺส ปน อปฺปนาจิตฺตสฺส อนนฺตรปจฺจยภูตํ โคตฺรภุจิตฺตํ สติปิ ปริตฺตมหคฺคตภาวเภเท ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาวเภเท จ เอกิสฺสาเยว สนฺตติยา ปริณามูปคมนโต เอกสนฺตติปริณามนเยน ตถตฺตํ อปฺปนาสมาธิวเสน สมาหิตภาวํ อุปคจฺฉมานํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ นาม. เอวํ ปฏิปนฺนตฺตา ตถตฺตุปคมเนน ตตฺถ ปกฺขนฺทติ นาม. ยสฺมิฺหิ ขเณ ตถตฺตํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ, ตสฺมึเยว ขเณ ตถตฺตุปคมเนน อปฺปนาสมาธินา สมาหิตภาวูปคมเนน ตตฺถ ปกฺขนฺทติ นาม. เอวํ ตาว ปุริมสฺมึ โคตฺรภุจิตฺเต วิชฺชมานา ปริปนฺถวิสุทฺธิมชฺฌิมสมถปฺปฏิปตฺติปกฺขนฺทนาการา อาคมนวเสน นิปฺผชฺชมานา ปมสฺส ฌานสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว ปฏิปทาวิสุทฺธีติ เวทิตพฺพา. เตเยว หิ อาการา ปจฺจยวิเสสโต ฌานกฺขเณ นิปฺผชฺชมานา ปฏิปทาวิสุทฺธีติ วุตฺตา.

เอวํ วิสุทฺธสฺส ปน ตสฺส จิตฺตสฺส ปุน โสเธตพฺพาภาวโต วิโสธเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. สมถภาวูปคมเนน สมถปฺปฏิปนฺนสฺส ปุน สมาธาเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต สมถปฺปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. สมถปฺปฏิปนฺนภาวโต เอว จสฺส กิเลสสํสคฺคํ ปหาย เอกตฺเตน อุปฏฺิตสฺส ปุน เอกตฺตุปฏฺาเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. เอวํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจวเสน อุเปกฺขานุพฺรูหนา เวทิตพฺพา.

เย ปเนเต เอวํ อุเปกฺขานุพฺรูหิเต ตสฺมึ ฌานจิตฺเต ชาตา สมาธิปฺาสงฺขาตา ยุคนทฺธธมฺมา อฺมฺํ อนติวตฺตมานา หุตฺวา ปวตฺตา, ยานิ จ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ นานากิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติรเสน เอกรสานิ หุตฺวา ปวตฺตานิ, ยฺเจส ตทุปคํ เตสํ อนติวตฺตนเอกรสสภาวานํ อนุจฺฉวิกํ วีริยํ วาหยติ, ยา จสฺส ตสฺมึ ขเณ ปวตฺตา อาเสวนา, สพฺเพปิ เต อาการา ยสฺมา าเณน สํกิเลสโวทาเนสุ ตํ ตํ อาทีนวฺจ อานิสํสฺจ ทิสฺวา ตถา ตถา สมฺปหํสิตตฺตา วิโสธิตตฺตา ปริโยทาปิตตฺตา นิปฺผนฺนา, ตสฺมา ธมฺมานํ อนติวตฺตนาทิภาวสาธเนน ปริโยทาปกสฺส าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน สมฺปหํสนา เวทิตพฺพาติ วุตฺตํ.

อถ กสฺมา สมฺปหํสนาว ‘‘ปริโยสาน’’นฺติ วุตฺตา, น อุเปกฺขานุพฺรูหนาติ? ยสฺมา ตสฺมึ ภาวนาจิตฺเต อุเปกฺขาวเสน าณํ ปากฏํ โหติ, ตสฺมา าณกิจฺจภูตา สมฺปหํสนา ‘‘ปริโยสาน’’นฺติ วุตฺตา. ตถา หิ อปฺปนากาเล ภาวนาย สมปฺปวตฺติยา ปฏิปกฺขสฺส จ สุปฺปหานโต ปคฺคหาทีสุ พฺยาปารสฺส อกาตพฺพโต อชฺฌุเปกฺขนาว โหติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สมเย จิตฺตสฺส อชฺฌุเปกฺขนา วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขตี’’ติ จ อาทิ. สา ปนายํ อชฺฌุเปกฺขนา าณสฺส กิจฺจสิทฺธิยา โหติ วิเสสโต าณสาธนตฺตา อปฺปนาพฺยาปารสฺส, ตสฺมา าณกิจฺจภูตา สมฺปหํสนา ‘‘ปริโยสาน’’นฺติ วุตฺตา. เอวํ ติวิธาย ปฏิปทาวิสุทฺธิยา ลทฺธวิเสสาย ติวิธาย อุเปกฺขานุพฺรูหนาย สาติสยํ ปฺินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตภาเวน จตุพฺพิธาปิ สมฺปหํสนา สิชฺฌตีติ อาคมนุเปกฺขาาณกิจฺจวเสน ทสปิ อาการา ฌาเน เอว เวทิตพฺพา.

เอวํ ติวิธตฺตคตํ จิตฺตนฺติอาทีนิ ตสฺเสว จิตฺตสฺส โถมนวจนานิ. ตตฺถ เอวํ ติวิธตฺตคตนฺติ เอวํ ยถาวุตฺเตน วิธินา ปฏิปทาวิสุทฺธิปกฺขนฺทนอุเปกฺขานุพฺรูหนาณสมฺปหํสนาวเสน ติวิธภาวํ คตํ. วิตกฺกสมฺปนฺนนฺติ กิเลสกฺโขภวิรหิตตฺตา วิตกฺเกน สุนฺทรภาวมุปคตํ. จิตฺตสฺส อธิฏฺานสมฺปนฺนนฺติ ตสฺมึเยว อารมฺมเณ จิตฺตสฺส นิรนฺตรปฺปวตฺติสงฺขาเตน อธิฏฺาเนน สมฺปนฺนํ อนูนํ. ยถา อธิฏฺานวสิยํ อธิฏฺานนฺติ ฌานปฺปวตฺติ, ตถา อิธาปิ จิตฺตสฺส อธิฏฺานนฺติ จิตฺเตกคฺคตาปิ ยุชฺชติ. เตน หิ เอกสฺมึเยว อารมฺมเณ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, น เอตฺถ วิกฺขิปตีติ. สมาธิสมฺปนฺนนฺติ วิสุํ วุตฺตตฺตา ปน วุตฺตนเยเนว คเหตพฺโพ. อถ วา สมาธิสฺเสว ฌานงฺคสงฺคหิตตฺตา ‘‘จิตฺตสฺส อธิฏฺานสมฺปนฺน’’นฺติ ฌานงฺคปฺจกวเสน วุตฺตํ. สมาธิสมฺปนฺนนฺติ อินฺทฺริยสงฺคหิตตฺตา อินฺทฺริยปฺจกวเสน.

อสุภสฺาปริจิเตนาติ สกลํ กายํ อสุภนฺติ ปวตฺตาย สฺาย สหคตตฺตา ฌานํ อสุภสฺา, เตน ปริจิเตน ปริภาวิเตน. เจตสาติ จิตฺเตน. พหุลนฺติ อภิณฺหํ. วิหรโตติ วิหรนฺตสฺส, อสุภสมาปตฺติพหุลสฺสาติ อตฺโถ. เมถุนธมฺมสมาปตฺติยาติ เมถุนธมฺเมน สมงฺคิภาวโต. ปฏิลียตีติ เอกปสฺเสน นิลียติ นิลีนํ วิย โหติ. ปฏิกุฏตีติ สงฺกุจติ. ปฏิวตฺตตีติ นิวตฺตติ. น สมฺปสารียตีติ น วิสรติ, อภิรติวเสน น ปกฺขนฺทตีติ อตฺโถ. อถ วา ปฏิลียตีติ สงฺกุจติ ตตฺถ ปฏิกูลตาย สณฺิตตฺตา. ปฏิกุฏตีติ อปสกฺกติ น อุปสกฺกติ. ปฏิวตฺตตีติ นิวตฺตติ, ตโต เอว น สมฺปสารียตีติ. นฺหารุททฺทุลนฺติ นฺหารุขณฺฑํ นฺหารุวิเลขนํ วา.

อทฺธมาสนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ปฏิสลฺลียิตุนฺติ ยถาวุตฺตกาลํ ปฏิ ปฏิ ทิวเส ทิวเส สมาปตฺติยํ ธมฺมจินฺตาย จิตฺตํ นิลียิตุํ. ปยุตฺตวาจนฺติ ปจฺจยปฏิสํยุตฺตวาจํ, พุทฺธา อิเมสุ ทิวเสสุ ปิณฺฑาย น จรนฺติ, วิหาเรเยว นิสีทนฺติ, เตสํ ทินฺนํ มหปฺผลํ โหตีติ อาทิวจนํ.

กลฺยาณูปนิสฺสยวเสนาติ ปพฺพชฺชาย อุปนิสฺสยวเสน. ปเร กิราติ กิร-สทฺโท อรุจิสูจนตฺโถ. เตนาห ‘‘อิทํ ปน อิจฺฉามตฺต’’นฺติ, ปวตฺติอชานนํ อาโรจยิตาภาโว าเต นิวารณฺจาติ อิทํ เตสํ อิจฺฉามตฺตํ, น ปน การณนฺติ อตฺโถ. อปเร ปน วทนฺติ ‘‘เอตสฺมึ กิร อฑฺฒมาเส น โกจิ พุทฺธเวเนยฺโย อโหสิ, อถ สตฺถา อิมํ อฑฺฒมาสํ ผลสมาปตฺติสุเขน วีตินาเมสฺสามิ, อิติ มยฺหฺเจว สุขวิหาโร ภวิสฺสติ, อนาคเต จ ปจฺฉิมา ชนตา ‘สตฺถาปิ คณํ ปหาย เอกโก วิหาสิ, กิมงฺคํ ปน มย’นฺติ ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชิสฺสติ, ตทสฺส ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายาติ อิมินา การเณน เอวมาหา’’ติ. เนว โกจิ ภควนฺตํ อุปสงฺกมตีติ เปตฺวา ปิณฺฑปาตนีหารกํ อฺโ โกจิ เนว ภควนฺตํ อุปสงฺกมติ, ภิกฺขุสงฺโฆ ปน สตฺถุ วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เอกํ ภิกฺขุํ อทาสิ. โส ปาโตว คนฺธกุฏิปริเวณสมฺมชฺชนมุโขทกทนฺตกฏฺทานาทีนิ สพฺพกิจฺจานิ ตสฺมึ ตสฺมึ ขเณ กตฺวา อปคจฺฉติ.

อเนกการณสมฺมิสฺโสติ เอตฺถ กายสฺส อสุจิทุคฺคนฺธเชคุจฺฉปฏิกูลตาว อเนกการณํ. มณฺฑนกปกติโกติ อลงฺการกสภาโว. โกจิ ตรุโณปิ ยุวา น โหติ, โกจิ ยุวาปิ มณฺฑนกชาติโก น โหติ ยถา อุปสนฺตสภาโว อาลสิยพฺยสนาทีหิ วา อภิภูโต, อิธ ปน ทหโร เจว ยุวา จ มณฺฑนกชาติโก จ อธิปฺเปโต. ปมโยพฺพนํ นาม ปนฺนรสวสฺสโต ยาว ทฺวตฺตึส สํวจฺฉรานิ, โสฬสวสฺสโต วา ยาว เตตฺตึส วสฺสานิ. กุณปนฺติ มตกเฬวรํ, อหิสฺส กุณปํ อหิกุณปํ. เอวํ อิตรานิปิ. อติปฏิกูลชิคุจฺฉนียสภาวโต เจตฺถ อิมาเนว ตีณิ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. อฺเสฺหิ สสสูกราทีนํ กุณปํ มนุสฺสา กฏุกภณฺฑาทีหิ อภิสงฺขริตฺวา ปริภุฺชนฺติปิ, อิเมสํ ปน กุณปํ อภินวมฺปิ ชิคุจฺฉนฺติเยว, โก ปน วาโท กาลาติกฺกเมน ปูติภูเต. อติปฏิกูลชิคุจฺฉนียตา จ เนสํ อติวิย ทุคฺคนฺธตาย, สา จ อหีนํ ติขิณโกปตาย กุกฺกุรมนุสฺสานํ โอทนกุมฺมาสูปจยตาย จ สรีรสฺส โหตีติ วทนฺติ.

สมณกุตฺตโกติ สมณกิจฺจโก, กาสาวนิวาสนาทิวเสน สมณกิจฺจการีติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘สมณเวสธารโก’’ติ. สพฺพมกํสูติ ปุถุชฺชนา สาวชฺเชปิ ตตฺถ อนวชฺชสฺิโน หุตฺวา กรณการาปนสมนุฺตาทิเภทํ สพฺพมกํสุ. โลหิตกนฺติ เอตฺถ ‘‘โลหิตคต’’นฺติปิ ปนฺติ. วคฺคูติ มตา วคฺคุมตา. ปุฺสมฺมตาติ ปุชฺชภวผลนิพฺพตฺตเนน สตฺตานํ ปุนเนน วิโสธเนน ปุฺนฺติ สมฺมตา. ปวาเหสฺสามีติ คมยิสฺสามิ, วิโสเธสฺสามีติ อตฺโถ.

๑๖๓. มารเธยฺยํ วุจฺจติ เตภูมกา ธมฺมา. วจนตฺถโต ปน มารสฺส เธยฺยํ มารเธยฺยํ. เธยฺยนฺติ านํ วตฺถุ นิวาโส โคจโร. มาโร วา เอตฺถ ธิยติ ติฏฺติ ปวตฺตตีติ มารเธยฺยํ, มาโรติ เจตฺถ กิเลสมาโร อธิปฺเปโต, กิเลสมารวเสเนว จ เทวปุตฺตมารสฺส กามภเว อาธิปจฺจนฺติ. มารวิสยํ นาติกฺกมิสฺสตีติ จินฺเตตฺวาติ เอวมยํ สํเวคํ ปฏิลภิตฺวา มารวิสยํ อติกฺกเมยฺยาปิ, มยา ปน เอวํ วุตฺเต อุปฺปนฺนํ สํเวคํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตฺวา มารวิสยํ นาติกฺกมิสฺสตีติ เอวํ จินฺเตตฺวา. ทฺวิวจนนฺติ ทฺวิกฺขตฺตุํ วจนํ, อาเมฑิตวจนนฺติ วุตฺตํ โหติ. นิโยเชนฺตีติ เอตฺถ อยํ อนฺธพาลา เทวตา เอวํ อุปฺปนฺนสํเวคมูลกํ สมณธมฺมํ กตฺวา ‘‘อยํ มารวิสยํ อติกฺกเมยฺยาปี’’ติ จินฺเตตฺวา อตฺตโน อฺาณตาย ‘‘มตา สํสารโต มุจฺจนฺตี’’ติ เอวํลทฺธิกาปิ สมานา อตฺตโน ลทฺธิวเสน มตา ภิกฺขู สํสารโต มุจฺจนฺตีติ อิมมตฺถํ อนุปปริกฺขิตฺวา ตํ ตตฺถ นิโยเชสีติ เวทิตพฺพํ.

กิฺจาปิ อสุภกถํ กเถนฺเตน ภควตา ยถา เตสํ ภิกฺขูนํ มรณภยํ น ภวิสฺสติ, ตถา เทสิตตฺตา ภิกฺขูนฺจ ตํ ธมฺมกถํ สุตฺวา อสุภภาวนานุโยเคน กาเย วิคตฉนฺทราคตาย มรณสฺส อภิปตฺถิตภาวโต ภยํ นตฺถิ, ตํ ปน อสิหตฺถํ ตถา วิจรนฺตํ ทิสฺวา ตทฺเสํ ภิกฺขูนํ อุปฺปชฺชนกภยํ สนฺธาย ‘‘โหติเยว ภย’’นฺติอาทิ วุตฺตนฺติ วทนฺติ. ‘‘อตฺตนาปิ อตฺตานํ ชีวิตา โวโรเปนฺติ, อฺมฺมฺปิ ชีวิตา โวโรเปนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘สพฺพานิปิ ตานิ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ ชีวิตา โวโรเปสี’’ติ อิทํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. อปฺปกฺหิ อูนมธิกํ วา คณนูปคํ น โหตีติ ‘‘ปฺจสตานี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา เย จ อตฺตนาว อตฺตานํ อฺมฺฺจ ชีวิตา โวโรเปสุํ, เต เปตฺวา อวเสเส ปุถุชฺชนภิกฺขู สพฺเพ จ อริเย อยํ ชีวิตา โวโรเปสีติ เวทิตพฺพํ.

๑๖๔. ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ เอตฺถ ปฏิสลฺลานนฺติ เตหิ เตหิ สตฺตสงฺขาเรหิ ปฏินิวตฺติตฺวา อปสกฺกิตฺวา สลฺลานํ นิลียนํ วิเวจนํ, กายจิตฺเตหิ ตโต วิวิตฺตตา เอกีภาโวติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘เอกีภาวโต’’ติ, ปวิเวกโตติ อตฺโถ. เอกีภาโวติ หิ กายจิตฺตวิเวโก วุตฺโต. วุฏฺิโตติ ตโต ทุวิธวิเวกโต ภวงฺคุปฺปตฺติยา รูปารมฺมณาทิสงฺขารสมาโยเคน คหฏฺปพฺพชิตาทิสตฺตสมาคเมน จ อเปโต. อุทฺเทสํ ปริปุจฺฉํ คณฺหนฺตีติ อตฺตโน อตฺตโน อาจริยานํ สนฺติเก คณฺหนฺติ. กามํ ทสานุสฺสติคฺคหเณเนว อานาปานสฺสติปิ คหิตา, สา ปน ตตฺถ สนฺนิปติตภิกฺขูสุ พหูนํ สปฺปายา สาตฺถิกา จ, ตสฺมา ปุน คหิตา. ตถา หิ ภควา ตเมว กมฺมฏฺานํ เตสํ ภิกฺขูนํ กเถสิ. อาหาเร ปฏิกูลสฺา อสุภกมฺมฏฺานสทิสา, จตฺตาโร ปน อารุปฺปา อาทิกมฺมิกานํ อนนุรูปาติ เตสํ อิธ อคฺคหณํ ทฏฺพฺพํ.

เวสาลึ อุปนิสฺสายาติ เวสาลีนครํ โคจรคามํ กตฺวา. อุปฏฺานสาลายนฺติ ธมฺมสภายํ. มุหุตฺเตเนวาติ สตฺถริ สทฺธมฺเม จ คารเวน อุปคตภิกฺขูนํ วจนสมนนฺตรเมว อุฏฺหึสูติ กตฺวา วุตฺตํ. พุทฺธกาเล กิร ภิกฺขู ภควโต สนฺเทสํ สิรสา สมฺปฏิจฺฉิตุํ โอหิตโสตา วิหรนฺติ. ยสฺสาติ ยสฺส กตฺตพฺพสฺส. กาลนฺติ เทสนากาลํ สนฺธาย วทติ.

ปมปฺตฺตินิทานวณฺณนา นิฏฺิตา.

อานาปานสฺสติสมาธิกถาวณฺณนา

๑๖๕. อรหตฺตปฺปตฺติยาติ อรหตฺตปฺปตฺติอตฺถาย. อฺํ ปริยายนฺติ อรหตฺตาธิคมตฺถาย อฺมฺปิ การณํ. อาจิกฺขนฺโตติ ปสํสาปุพฺพกํ เทเสนฺโต, ปสํสา จ ตตฺถ อภิรุจิชนเนน อุสฺสาหนตฺถา. ตฺหิ สุตฺวา ภิกฺขู ‘‘ภควา อิมํ สมาธึ อเนเกหิ อากาเรหิ ปสํสติ, สนฺโต กิรายํ สมาธิ ปณีโต จ อเสจนโก จ สุโข จ วิหาโร, ปาปธมฺเม จ านโส อนฺตรธาเปตี’’ติ สฺชาตาภิรุจิโน อุสฺสาหชาตา สกฺกจฺจํ อนุยุฺชิตพฺพํ ปฏิปชฺชิตพฺพํ มฺนฺติ.

อตฺถโยชนกฺกมนฺติ อตฺถฺจ โยชนกฺกมฺจ. ภควา อตฺตโน ปจฺจกฺขภูตํ สมาธึ เทสนานุภาเวน เตสมฺปิ ภิกฺขูนํ อาสนฺนํ ปจฺจกฺขฺจ กโรนฺโต สมฺปิณฺฑนวเสน ‘‘อยมฺปิ โข’’ติอาทิมาห. อสฺสาสปสฺสาสปริคฺคาหิกาติ ทีฆรสฺสาทิวิเสเสหิ สทฺธึ อสฺสาสปสฺสาเส ปริจฺฉิชฺช คาหิกา, เต อารพฺภ ปวตฺตาติ อตฺโถ.

อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ ปาฬิยา วิภาเวนฺโต อาห ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ โน ปสฺสาโส โน อสฺสาโสติ โส โสเยว อตฺโถ ปฏิเสเธน วิเสเสตฺวา วุตฺโต. อสฺสาสวเสนาติ อสฺสาสํ อารมฺมณํ กตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ปสฺสาสวเสนาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อุปฏฺานํ สตีติ อสมฺมุสฺสนตาย ตเมว อสฺสาสํ ปสฺสาสฺจ อุปคนฺตฺวา านํ สติ นามาติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา อานาปาเนสุ สติ อานาปานสฺสตีติ อยมตฺโถ วุตฺโต โหติ. อิทานิ สติวเสเนว ปุคฺคลํ นิทฺทิสิตุกาเมน ‘‘โย อสฺสสติ, ตสฺสุปฏฺาติ, โย ปสฺสสติ, ตสฺสุปฏฺาตี’’ติ วุตฺตํ. โย อสฺสสติ, ตสฺส สติ อสฺสาสํ อุปคนฺตฺวา ติฏฺติ. โย ปสฺสสติ, ตสฺส สติ ปสฺสาสํ อุปคนฺตฺวา ติฏฺตีติ อตฺโถ.

ยุตฺโตติ สมฺปยุตฺโต. อานาปานสฺสติยนฺติ อานาปานสฺสติยํ ปจฺจยภูตายนฺติ อตฺโถ. ปุริมสฺมิฺหิ อตฺเถ สมาธิสฺส สติยา สหชาตาทิปจฺจยภาโว วุตฺโต สมฺปยุตฺตวจนโต, ทุติยสฺมึ ปน อุปนิสฺสยภาโวปิ. อุปจารชฺฌานสหคตา หิ สติ อปฺปนาสมาธิสฺส อุปนิสฺสโย โหตีติ อุภยถาปิ สหชาตาทีนํ สตฺตนฺนมฺปิ ปจฺจยานํ วเสน ปจฺจยภาวํ ทสฺเสติ. ‘‘ปุน จปรํ, อุทายิ, อกฺขาตา มยา สาวกานํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺนา เม สาวกา จตฺตาโร สติปฏฺาเน ภาเวนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๒๔๗) อุปฺปาทนวฑฺฒนฏฺเน ภาวนาติ วุจฺจตีติ ตทุภยวเสน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภาวิโตติ อุปฺปาทิโต วฑฺฒิโต จา’’ติ อาห. ตตฺถ ภาวํ วิชฺชมานตํ อิโต คโตติ ภาวิโต, อุปฺปาทิโต ปฏิลทฺธมตฺโตติ อตฺโถ. อุปฺปนฺโน ปน ลทฺธาเสวโน ภาวิโต, ปคุณภาวํ อาปาทิโต วฑฺฒิโตติ อตฺโถ. พหุลีกโตติ พหุลํ ปวตฺติโต. เตน อาวชฺชนาทิวสีภาวปฺปตฺติมาห. โย หิ วสีภาวํ อาปาทิโต, โส อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ สมาปชฺชิตพฺพโต ปุนปฺปุนํ ปวตฺติสฺสติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปุนปฺปุนํ กโต’’ติ. ยถา ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ (ม. นิ. ๑.๑๓๙; อ. นิ. ๔.๒๔๑) วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๒๖; สํ. นิ. ๒.๑๕๒) จ เอวมาทีสุ ปมปเท วุตฺโต เอว-สทฺโท ทุติยาทีสุปิ วุตฺโตเยว โหติ, เอวมิธาปีติ อาห ‘‘อุภยตฺถ เอว-สทฺเทน นิยโม เวทิตพฺโพ’’ติ.

อุภยปทนิยเมน ลทฺธคุณํ ทสฺเสตุํ ‘‘อยํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อสุภกมฺมฏฺานนฺติ อสุภารมฺมณํ ฌานมาห. ตฺหิ อสุเภสุ โยคกมฺมภาวโต โยคิโน สุขวิเสสานํ การณภาวโต จ ‘‘อสุภกมฺมฏฺาน’’นฺติ วุจฺจติ. เกวลนฺติ อิมินา อารมฺมณํ นิวตฺเตติ. ปฏิเวธวเสนาติ ฌานปฏิเวธวเสน. ฌานฺหิ ภาวนาวิเสเสน อิชฺฌนฺตํ อตฺตโน วิสยํ ปฏิวิชฺฌนฺตเมว ปวตฺตติ ยถาสภาวโต ปฏิวิชฺฌียติ จาติ ปฏิเวโธติ วุจฺจติ. โอฬาริการมฺมณตฺตาติ พีภจฺฉารมฺมณตฺตา. ปฏิกูลารมฺมณตฺตาติ ชิคุจฺฉิตพฺพารมฺมณตฺตา. ปริยาเยนาติ การเณน เลสนฺตเรน วา. อารมฺมณสนฺตตายปีติ อนุกฺกเมน วิเจตพฺพตํ ปตฺตารมฺมณสฺส ปรมสุขุมตํ สนฺธายาห. สนฺเต หิ สนฺนิสินฺเน อารมฺมเณ ปวตฺตมาโน ธมฺโม สยมฺปิ สนฺนิสินฺโนว โหติ. เตนาห – ‘‘สนฺโต วูปสนฺโต นิพฺพุโต’’ติ, นิพฺพุตสพฺพปริฬาโหติ อตฺโถ. อารมฺมณสนฺตตาย ตทารมฺมณานํ ธมฺมานํ สนฺตตา โลกุตฺตรธมฺมารมฺมณาหิ ปจฺจเวกฺขณาหิ ทีเปตพฺพา.

นาสฺส สนฺตปณีตภาวาวหํ กิฺจิ เสจนนฺติ อเสจนโก, อเสจนกตฺตา อนาสิตฺตโก, อนาสิตฺตกตฺตา เอว อพฺโพกิณฺโณ อสมฺมิสฺโส ปริกมฺมาทินา, ตโตเยว ปาฏิเยกฺโก, วิสุํเยเวโก อาเวณิโก อสาธารโณ. สพฺพเมตํ สรสโต เอว สนฺตภาวํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ, ปริกมฺมํ วา สนฺตภาวนิมิตฺตํ. ปริกมฺมนฺติ จ กสิณกรณาทินิมิตฺตุปฺปาทปริโยสานํ, ตาทิสํ อิธ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. ตทา หิ กมฺมฏฺานํ นิรสฺสาทตฺตา อสนฺตํ อปฺปณีตํ สิยา. อุปจาเรน วา นตฺถิ เอตฺถ สนฺตตาติ โยชนา. ยถา อุปจารกฺขเณ นีวรณวิคเมน องฺคปาตุภาเวน จ ปเรสํ สนฺตตา โหติ, น เอวมิมสฺส. อยํ ปน อาทิมนสิ…เป… ปณีโต จาติ โยชนา. เกจีติ อุตฺตรวิหารวาสิเก สนฺธายาห. อนาสิตฺตโกติ อุปเสจเนน อนาสิตฺตโก. เตนาห ‘‘โอชวนฺโต’’ติ, โอชวนฺตสทิโสติ อตฺโถ. มธุโรติ อิฏฺโ. เจตสิกสุขปฺปฏิลาภสํวตฺตนํ ติกจตุกฺกชฺฌานวเสน อุเปกฺขาย วา สนฺตภาเวน สุขคติกตฺตา สพฺเพสมฺปิ วเสน เวทิตพฺพํ. ฌานสมุฏฺานปณีตรูปผุฏสรีรตาวเสน ปน กายิกสุขปฺปฏิลาภสํวตฺตนํ ทฏฺพฺพํ, ตฺจ โข ฌานโต วุฏฺิตกาเล. อิมสฺมึ ปกฺเข อปฺปิตปฺปิตกฺขเณติ อิทํ เหตุมฺหิ ภุมฺมวจนํ ทฏฺพฺพํ.

อวิกฺขมฺภิเตติ ฌาเนน สกสนฺตานโต อนีหเฏ อปฺปหีเน. อโกสลฺลสมฺภูเตติ อโกสลฺลํ วุจฺจติ อวิชฺชา, ตโต สมฺภูเต. อวิชฺชาปุพฺพงฺคมา หิ สพฺเพ ปาปธมฺมา. ขเณเนวาติ อตฺตโน ปวตฺติกฺขเณเนว. อนฺตรธาเปตีติ เอตฺถ อนฺตรธาปนํ วินาสนํ. ตํ ปน ฌานกตฺตุกสฺส อิธาธิปฺเปตตฺตา ปริยุฏฺานปฺปหานํ โหตีติ อาห ‘‘วิกฺขมฺเภตี’’ติ. วูปสเมตีติ วิเสเสน อุปสเมติ. วิเสเสน อุปสมนํ ปน สมฺมเทว อุปสมนํ โหตีติ อาห ‘‘สุฏฺุ อุปสเมตี’’ติ.

นนุ จ อฺโปิ สมาธิ อตฺตโน ปวตฺติกฺขเณเนว ปฏิปกฺขธมฺเม อนฺตรธาเปติ วูปสเมติ, อถ กสฺมา อยเมว สมาธิ เอวํ วิเสเสตฺวา วุตฺโตติ? ปุพฺพภาคโต ปฏฺาย นานาวิตกฺกวูปสมนสพฺภาวโต. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อานาปานสฺสติ ภาเวตพฺพา วิตกฺกุปจฺเฉทายา’’ติ (อ. นิ. ๙.๑; อุทา. ๓๑). อปิจ ติกฺขปฺสฺส าณุตฺตรสฺเสตํ กมฺมฏฺานํ, าณุตฺตรสฺส จ กิเลสปฺปหานํ อิตเรหิ สาติสยํ ยถา สทฺธาธิมุตฺเตหิ ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส, ตสฺมา อิมํ วิเสสํ สนฺธาย ‘‘านโส อนฺตรธาเปติ วูปสเมตี’’ติ วุตฺตํ. อถ วา นิมิตฺตปาตุภาเว สติ ขเณเนว องฺคปาตุภาวสพฺภาวโต อยเมว สมาธิ ‘‘านโส อนฺตรธาเปติ วูปสเมตี’’ติ วุตฺโต ยถา ตํ มหโต อกาลเมฆสฺส อุฏฺิตสฺส ธารานิปาเต ขเณเนว ปถวิยํ รโชชลฺลสฺส วูปสโม. เตเนวาห ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหา อกาลเมโฆ อุฏฺิโต’’ติอาทิ. สาสนิกสฺส ฌานภาวนา เยภุยฺเยน นิพฺเพธภาคิยาว โหตีติ อาห ‘‘นิพฺเพธภาคิยตฺตา’’ติ. พุทฺธานํ ปน เอกํเสน นิพฺเพธภาคิยาว โหติ. อิมเมว หิ กมฺมฏฺานํ ภาเวตฺวา สพฺเพปิ สมฺมาสมฺพุทฺธา สมฺมาสมฺโพธึ อธิคจฺฉนฺติ, อริยมคฺคสฺส ปาทกภูโต อยํ สมาธิ อนุกฺกเมน วฑฺฒิตฺวา อริยมคฺคภาวํ อุปคโต วิย โหตีติ อาห ‘‘อนุปุพฺเพน อริยมคฺควุฑฺฒิปฺปตฺโต’’ติ. อยํ ปนตฺโถ วิราคนิโรธปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนานํ วเสน สมฺมเทว ยุชฺชติ.

กถนฺติ อิทํ ปุจฺฉนาการวิภาวนปทํ, ปุจฺฉา เจตฺถ กเถตุกมฺยตาวเสน อฺเสํ อสมฺภวโต, สา จ อุปริ เทสนํ อารุฬฺหานํ สพฺเพสํ ปการวิเสสานํ อามสนวเสนาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กถนฺติ…เป… วิตฺถาเรตุกมฺยตาปุจฺฉา’’ติ อาห. กถํ พหุลีกโตติ เอตฺถาปิ อานาปานสฺสติสมาธีติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตตฺถ กถนฺติ อานาปานสฺสติสมาธิพหุลีการํ นานปฺปการโต วิตฺถาเรตุกมฺยตาปุจฺฉา. พหุลีกโต อานาปานสฺสติสมาธีติ ตถา ปุฏฺธมฺมนิทสฺสนนฺติ อิมมตฺถํ ‘‘เอเสว นโย’’ติ อิมินาเยว อติทิสฺสติ. เหฏฺา ปปฺจวเสน วุตฺตมตฺถํ สุขคฺคหณตฺถํ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ’’ติ อาห, ปิณฺฑตฺโถติ วุตฺตํ โหติ.

ตมตฺถนฺติ ตํ ‘‘กถํ ภาวิโต’’ติอาทินา ปุจฺฉาวเสน สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ. ‘‘อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๙๑; อ. นิ. ๓.๖๑) อิธ-สทฺโท โลกํ อุปาทาย วุตฺโต. ‘‘อิเธว ติฏฺมานสฺสา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๖๙) โอกาสํ. ‘‘อิธาหํ, ภิกฺขเว, ภุตฺตาวี อสฺสํ ปวาริโต’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๐) ปทปูรณมตฺตํ. ‘‘อิธ ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๕.๗๓) ปน สาสนํ. ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู’’ติ อิธาปิ สาสนเมวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภิกฺขเว, อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขู’’ติ วตฺวา ตเมวตฺถํ ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อยํ หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สพฺพปฺปการอานาปานสฺสติสมาธินิพฺพตฺตกสฺสาติ สพฺพปฺปการคฺคหณํ โสฬส ปกาเร สนฺธาย. เต หิ อิมสฺมึเยว สาสเน. พาหิรกา หิ ชานนฺตา อาทิโต จตุปฺปการเมว ชานนฺติ. เตนาห ‘‘อฺสาสนสฺส ตถาภาวปฺปฏิเสธโน’’ติ, ยถาวุตฺตสฺส ปุคฺคลสฺส นิสฺสยภาวปฺปฏิเสธโนติ อตฺโถ. เอเตน ‘‘อิธ, ภิกฺขเว’’ติ อิทํ อนฺโตคธเอว-สทฺทนฺติ ทสฺเสติ. สนฺติ หิ เอกปทานิปิ อวธารณานิ ยถา วายุภกฺโขติ. เตเนวาห ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ’’ติอาทิ. ปริปุณฺณสมณกรณธมฺโม หิ โย, โส สพฺพปฺปการอานาปานสฺสติสมาธินิพฺพตฺตโก. ปรปฺปวาทาติ ปเรสํ อฺติตฺถิยานํ นานปฺปการวาทา ติตฺถายตนานิ.

อรฺาทิกสฺเสว ภาวนานุรูปเสนาสนตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิมสฺส หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทุทฺทโม ทมถํ อนุปคโต โคโณ กูฏโคโณ. ยถา ถเนหิ สพฺพโส ขีรํ น ปคฺฆรติ, เอวํ โทหปฏิพนฺธินี กูฏเธนุ. อสฺสาติ โคปสฺส. รูปสทฺทาทิเก ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกอสฺสาโท รูปารมฺมณาทิรโส. ปุพฺเพ อาจิณฺณารมฺมณนฺติ ปพฺพชิตโต ปุพฺเพ, อนาทิมติ วา สํสาเร ปริจิตารมฺมณํ. อุปจารวเสน อุปนิสีทติ, อปฺปนาวเสน อุปนิปชฺชตีติ โยเชตพฺพํ.

อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. นิพนฺเธยฺยาติ พนฺเธยฺย. สติยาติ สมฺมเทว กมฺมฏฺานสลฺลกฺขณวสปฺปวตฺตาย สติยา. อารมฺมเณติ กมฺมฏฺานารมฺมเณ. ทฬฺหนฺติ ถิรํ, ยถา สโตการิสฺส อุปจารปฺปนาเภโท สมาธิ อิชฺฌติ, ตถา ถามคตํ กตฺวาติ อตฺโถ.

มุทฺธภูตนฺติ สนฺตตาทิวิเสสคุณวนฺตตาย พุทฺธาทีหิ อริเยหิ สมาเสวิตภาวโต จ มุทฺธสทิสํ, อุตฺตมนฺติ อตฺโถ. วิเสสาธิคมทิฏฺธมฺมสุขวิหารปทฏฺานนฺติ สพฺเพสํ พุทฺธานํ เอกจฺจานํ ปจฺเจกพุทฺธานํ พุทฺธสาวกานฺจ วิเสสาธิคมสฺส เจว อฺกมฺมฏฺาเนน อธิคตวิเสสานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารสฺส จ ปทฏฺานภูตํ. วตฺถุวิชฺชาจริโย วิย ภควา โยคีนํ อนุรูปนิวาสฏฺานุปทิสฺสนโต. ภิกฺขุ ทีปิสทิโส อรฺเ เอกโก วิหริตฺวา ปฏิปกฺขนิมฺมถเนน อิจฺฉิตตฺถสาธนโต. ผลมุตฺตมนฺติ สามฺผลมาห. ปรกฺกมชวโยคฺคภูมินฺติ ภาวนุสฺสาหชวสฺส โยคฺคกรณภูมิภูตํ.

เอวํ วุตฺตลกฺขเณสูติ อภิธมฺมปริยาเยน สุตฺตนฺตปริยาเยน วุตฺตลกฺขเณสุ. รุกฺขสมีปนฺติ ‘‘ยาวตา มชฺฌนฺหิเก กาเล สมนฺตา ฉายา ผรติ, นิวาเต ปณฺณานิ ปตนฺติ, เอตฺตาวตา รุกฺขมูลนฺติ วุจฺจตี’’ติ เอวํ วุตฺตํ รุกฺขสฺส สมีปฏฺานํ. อวเสสสตฺตวิธเสนาสนนฺติ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปฺปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปุฺชนฺติ เอวํ วุตฺตํ. อุตุตฺตยานุกูลํ ธาตุจริยานุกูลนฺติ คิมฺหาทิอุตุตฺตยสฺส เสมฺหาทิธาตุตฺตยสฺส โมหาทิจริตตฺตยสฺส จ อนุกูลํ. ตถา หิ คิมฺหกาเล อรฺํ อนุกูลํ โสมฺมสีตลภาวโต, เหมนฺเต รุกฺขมูลํ หิมปาตนิวารณโต, วสฺสกาเล สุฺาคารํ วสฺสนิวารณเคหสมฺภวโต. เสมฺหธาตุกสฺส เสมฺหปกติกสฺส อรฺํ อนุกูลํ ทูรํ คนฺตฺวา ภิกฺขาจรเณน เสมฺหสฺส วูปสมนโต, ปิตฺตธาตุกสฺส รุกฺขมูลํ อนุกูลํ สีตวาตสมฺผสฺสสมฺภวโต, วาตธาตุกสฺส สุฺาคารํ อนุกูลํ วาตนิวารณโต. โมหจริตสฺส อรฺํ อนุกูลํ. มหาอรฺเ หิ จิตฺตํ น สงฺกุจติ วิวฏงฺคณภาวโต, โทสจริตสฺส รุกฺขมูลํ อนุกูลํ ปสาทนียภาวโต, ราคจริตสฺส สุฺาคารํ อนุกูลํ วิสภาคารมฺมณานํ ปเวสนิวารณโต. อลีนานุทฺธจฺจปกฺขิกนฺติ อสงฺโกจาวิกฺเขปปกฺขิกํ. สยนฺหิ โกสชฺชปกฺขิกํ, านจงฺกมนานิ อุทฺธจฺจปกฺขิกานิ, น เอวํ นิสชฺชา. ตโต เอว ตสฺสา สนฺตตา. นิสชฺชาย ทฬฺหภาวํ ปลฺลงฺกาภุชเนน, อสฺสาสปสฺสาสานํ ปวตฺตนสุขตํ อุปริมกายสฺส อุชุกฏฺปเนน, อารมฺมณปริคฺคหูปายํ ปริมุขํ สติยา ปเนน ทสฺเสนฺโต.

อูรุพทฺธาสนนฺติ อูรูนมโธพนฺธนวเสน นิสชฺชา. เหฏฺิมกายสฺส อนุชุกํ ปนํ นิสชฺชาวจเนเนว โพธิตนฺติ. อุชุํ กายนฺติ เอตฺถ กาย-สทฺโท อุปริมกายวิสโยติ อาห – ‘‘อุปริมํ สรีรํ อุชุกํ เปตฺวา’’ติ. ตํ ปน อุชุกฏฺปนํ สรูปโต ปโยชนโต จ ทสฺเสตุํ ‘‘อฏฺารสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. น ปณมนฺตีติ น โอณมนฺติ. น ปริปตตีติ น วิคจฺฉติ วีถึ น วิลงฺเฆติ, ตโต เอว ปุพฺเพนาปรํ วิเสสุปฺปตฺติยา วุฑฺฒึ ผาตึ อุปคจฺฉติ. อิธ ปริ-สทฺโท อภิ-สทฺเทน สมานตฺโถติ อาห ‘‘กมฺมฏฺานาภิมุข’’นฺติ, พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมณโต นิวาเรตฺวา กมฺมฏฺานํเยว ปุรกฺขตฺวาติ อตฺโถ. ปรีติ ปริคฺคหฏฺโ ‘‘ปริณายิกา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๖, ๒๐) วิย. นิยฺยานฏฺโ ปฏิปกฺขโต นิคฺคมนฏฺโ, ตสฺมา ปริคฺคหิตนิยฺยานนฺติ สพฺพถา คหิตาสมฺโมสํ ปริจฺจตฺตสมฺโมสํ สตึ กตฺวา, ปรมํ สติเนปกฺกํ อุปฏฺเปตฺวาติ อตฺโถ. สโตวาติ สติยา สมนฺนาคโต เอว สรนฺโต เอว อสฺสสติ, นาสฺส กาจิ สติวิรหิตา อสฺสาสปฺปวตฺติ โหตีติ อตฺโถ. สโต ปสฺสสตีติ เอตฺถาปิ สโตว ปสฺสสตีติ เอว-สทฺโท อาเนตฺวา วตฺตพฺโพ. สโตการีติ สโต เอว หุตฺวา สติยา เอว วา กาตพฺพสฺส กตฺตา, กรณสีโล วา.

พาตฺตึสาย อากาเรหีติ จตูสุ จตุกฺเกสุ อาคตานิ ทีฆรสฺสาทีนิ โสฬส ปทานิ อสฺสาสปสฺสาสวเสน ทฺวิธา วิภชิตฺวา วุตฺเตหิ ทีฆมสฺสาสํ อาทึ กตฺวา ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสิปสฺสาสปริยนฺเตหิ พาตฺตึสากาเรหิ. ยทิ ‘‘สโตว อสฺสสติ, สโต ปสฺสสตี’’ติ เอตสฺส วิภงฺเค วุตฺตํ, อถ กสฺมา ‘‘อสฺสสติ ปสฺสสติ’’จฺเจว อวตฺวา ‘‘สโตการี’’ติ วุตฺตํ? เอกรสํ เทสนํ กาตุกามตาย. ปมจตุกฺเก ปททฺวยเมว หิ วตฺตมานกาลวเสน อาคตํ, อิตรานิ อนาคตกาลวเสน, ตสฺมา เอกรสํ เทสนํ กาตุกามตาย สพฺพตฺถ ‘‘สโตการิ’’จฺเจว วุตฺตํ. ทีฆํอสฺสาสวเสนาติ ทีฆอสฺสาสวเสน, วิภตฺติอโลปํ กตฺวา นิทฺเทโส. ทีฆนฺติ วา ภควตา วุตฺตอสฺสาสวเสน. จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปนฺติ วิกฺเขปสฺส ปฏิปกฺขภาวโต อวิกฺเขโปติ ลทฺธนามํ จิตฺตสฺส เอกคฺคภาวํ ปชานโต สติ อุปฏฺิตา อารมฺมณํ อุปคนฺตฺวา ิตา โหติ. ตาย สติยา เตน าเณนาติ ยถาวุตฺตาย สติยา ยถาวุตฺเตน จ าเณน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ทีฆํ อสฺสาสํ อารมฺมณภูตํ อวิกฺขิตฺตจิตฺตสฺส อสมฺโมหโต วา สมฺปชานนฺตสฺส ตตฺถ สติ อุปฏฺิตาว โหติ, ตํ สมฺปชานนฺตสฺส อารมฺมณกรณวเสน อสมฺโมหวเสน วา สมฺปชฺํ, ตทธีนสติสมฺปชฺเน ตํสมงฺคี โยคาวจโร สโตการี นาม โหตีติ. ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสาสวเสนาติ ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี หุตฺวา อสฺสสนสฺส วเสน. ‘‘ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสิอสฺสาสวเสนา’’ติ วา ปาโ, ตสฺส ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสิโน อสฺสาสา ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสิอสฺสาสา, เตสํ วเสนาติ อตฺโถ.

อนฺโต อุฏฺิตสสนํ อสฺสาโส, พหิ อุฏฺิตสสนํ ปสฺสาโสติ อาห – ‘‘อสฺสาโสติ พหินิกฺขมนวาโต’’ติอาทิ. สุตฺตนฺตฏฺกถายํ ปน พหิ อุฏฺหิตฺวาปิ อนฺโต สสนโต อสฺสาโส, อนฺโต อุฏฺหิตฺวาปิ พหิ สสนโต ปสฺสาโสติ กตฺวา อุปฺปฏิปาฏิยา วุตฺตํ. อถ วา มาตุกุจฺฉิยํ พหิ นิกฺขมิตุํ อลทฺโธกาโส นาสิกาวาโต มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขนฺตมตฺเต ปมํ พหิ นิกฺขมตีติ วินยฏฺกถายํ อุปฺปตฺติกฺกเมน ‘‘อาทิมฺหิ สาโส อสฺสาโส’’ติ พหินิกฺขมนวาโต วุตฺโต. เตเนวาห ‘‘สพฺเพสมฺปิ คพฺภเสยฺยกาน’’นฺติอาทิ. สุตฺตนฺตฏฺกถายํ ปน ปวตฺติยํ ภาวนารมฺภสมเย ปมํ นาสิกาวาตสฺส อนฺโต อากฑฺฒิตฺวา ปจฺฉา พหิ วิสฺสชฺชนโต ปวตฺติกฺกเมน ‘‘อาทิมฺหิ สาโส อสฺสาโส’’ติ อนฺโตปวิสนวาโต วุตฺโต. สุตฺตนฺตนโยเยว เจตฺถ ‘‘อสฺสาสาทิมชฺฌปริโยสานํ สติยา อนุคจฺฉโต อชฺฌตฺตํ วิกฺเขปคเตน จิตฺเตน กาโยปิ จิตฺตมฺปิ สารทฺธา จ โหนฺติ อิฺชิตา จ ผนฺทิตา จ, ปสฺสาสาทิมชฺฌปริโยสานํ สติยา อนุคจฺฉโต พหิทฺธา วิกฺเขปคเตน จิตฺเตน กาโยปิ จิตฺตมฺปิ สารทฺธา จ โหนฺติ อิฺชิตา จ ผนฺทิตา จา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๗) อิมาย ปาฬิยา สเมติ. ‘‘ภาวนารมฺเภ ปวตฺติกฺกมสฺเสว อิจฺฉิตตฺตา สุนฺทรตโร’’ติ วทนฺติ. ตาลุํ อาหจฺจ นิพฺพายตีติ ตาลุํ อาหจฺจ นิรุชฺฌติ. เตน กิร สมฺปติชาโต พาลทารโก ขิปิตํ กโรติ. เอวํ ตาวาติอาทิ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส นิคมนํ. เกจิ ‘‘เอวํ ตาวาติ อเนน ปวตฺติกฺกเมน อสฺสาโส พหินิกฺขมนวาโตติ คเหตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย’’ติ วทนฺติ.

อทฺธานวเสนาติ กาลทฺธานวเสน. อยฺหิ อทฺธาน-สทฺโท กาลสฺส เทสสฺส จ วาจโกติ. ตตฺถ เทสทฺธานํ อุทาหรณภาเวน ทสฺเสตฺวา กาลทฺธานสฺส วเสน อสฺสาสปสฺสาสานํ ทีฆรสฺสตํ วิภาเวตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โอกาสทฺธานนฺติ โอกาสภูตํ อทฺธานํ. ผริตฺวาติ พฺยาเปตฺวา. จุณฺณวิจุณฺณาปิ อเนกกลาปภาเวน, ทีฆมทฺธานนฺติ ทีฆํ ปเทสํ. ตสฺมาติ สณิกํ ปวตฺติยา ทีฆสนฺตานตาย ทีฆาติ วุจฺจนฺติ. เอตฺถ จ หตฺถิอาทิสรีเร สุนขาทิสรีเร จ อสฺสาสปสฺสาสานํ เทสทฺธานวิสิฏฺเน กาลทฺธานวเสเนว ทีฆรสฺสตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา ‘‘สณิกํ ปูเรตฺวา สณิกเมว นิกฺขมนฺติ, สีฆํ ปูเรตฺวา สีฆเมว นิกฺขมนฺตี’’ติ วจนโต. มนุสฺเสสูติ สมานปฺปมาเณสุปิ มนุสฺสสรีเรสุ. ทีฆํ อสฺสสนฺตีติ ทีฆํ อสฺสาสปฺปพนฺธํ ปวตฺเตนฺตีติ อตฺโถ. ปสฺสสนฺตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สุนขสสาทโย วิย รสฺสํ อสฺสสนฺติ ปสฺสสนฺติ จาติ โยชนา. อิทํ ปน ทีฆํ รสฺสฺจ อสฺสสนํ ปสฺสสนฺจ เตสํ สตฺตานํ สรีรสฺส สภาโวติ ทฏฺพฺพํ. เตสนฺติ เตสํ สตฺตานํ. เตติ อสฺสาสปสฺสาสา. อิตฺตรมทฺธานนฺติ อปฺปกํ กาลํ. นวหากาเรหีติ ภาวนมนุยุฺชนฺตสฺส ปุพฺเพนาปรํ อลทฺธวิเสสสฺส เกวลํ อทฺธานวเสน อาทิโต วุตฺตา ตโย อาการา, เต จ โข เอกจฺโจ อสฺสาสํ สุฏฺุ สลฺลกฺเขติ, เอกจฺโจ ปสฺสาสํ, เอกจฺโจ ตทุภยนฺติ อิเมสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ วเสน. เกจิ ปน ‘‘อสฺสสติปิ ปสฺสสติปีติ เอกชฺฌํ วจนํ ภาวนาย นิรนฺตรํ ปวตฺติทสฺสนตฺถ’’นฺติ วทนฺติ. ฉนฺทวเสน ปุพฺเพ วิย ตโย, ตถา ปาโมชฺชวเสนาติ อิเมหิ นวหิ อากาเรหิ.

กามฺเจตฺถ เอกสฺส ปุคฺคลสฺส ตโย เอว อาการา ลพฺภนฺติ, ตนฺติวเสน ปน สพฺเพสํ ปาฬิอารุฬฺหตฺตา เตสํ วเสน ปริกมฺมสฺส กาตพฺพตฺตา จ ‘‘ตตฺรายํ ภิกฺขุ นวหากาเรหี’’ติ วุตฺตํ. เอวํ ปชานโตติ เอวํ ยถาวุตฺเตหิ อากาเรหิ อสฺสาสปสฺสาเส ปชานโต, ตตฺถ มนสิการํ ปวตฺเตนฺตสฺส. เอเกนากาเรนาติ ทีฆํอสฺสาสาทีสุ จตูสุ อากาเรสุ เอเกน อากาเรน, นวสุ ตีสุ วา เอเกน. ตถา หิ วกฺขติ –

‘‘ทีโฆ รสฺโส จ อสฺสาโส,

ปสฺสาโสปิ จ ตาทิโส;

จตฺตาโร วณฺณา วตฺตนฺติ,

นาสิกคฺเคว ภิกฺขุโน’’ติ. (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๖๕);

อยํ ภาวนา อสฺสาสปสฺสาสกายานุปสฺสนาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘กายานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนา สมฺปชฺชตี’’ติ.

อิทานิ ปาฬิวเสเนว เต นว อากาเร ภาวนาวิธิฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถาหา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ‘‘กถํ ปชานาตี’’ติ ปชานนวิธึ กเถตุกมฺยตาย ปุจฺฉติ. ทีฆํ อสฺสาสนฺติ วุตฺตลกฺขณํ ทีฆํ อสฺสาสํ. อทฺธานสงฺขาเตติ อทฺธานนฺติ สงฺขํ คเต ทีเฆ กาเล, ทีฆํ ขณนฺติ อตฺโถ. โกฏฺาสปริยาโย วา สงฺขาต-สทฺโท ‘‘เถยฺยสงฺขาต’’นฺติอาทีสุ วิย, ตสฺมา อทฺธานสงฺขาเตติ อทฺธานโกฏฺาเส เทสภาเคติ อตฺโถ. ฉนฺโท อุปฺปชฺชตีติ ภาวนาย ปุพฺเพนาปรํ วิเสสํ อาวหนฺติยา ลทฺธสฺสาทตฺตา ตตฺถ สาติสโย กตฺตุกามตาลกฺขโณ กุสลจฺฉนฺโท อุปฺปชฺชติ. ฉนฺทวเสนาติ ตถาปวตฺตฉนฺทสฺส วเสน วิเสสภาวนมนุยุฺชนฺตสฺส กมฺมฏฺานํ วุฑฺฒึ ผาตึ คเมนฺตสฺส. ตโต สุขุมตรนฺติ ยถาวุตฺตฉนฺทปฺปวตฺติยา ปุริมกโต สุขุมตรํ. ภาวนาพเลน หิ ปฏิปฺปสฺสทฺธทรถปริฬาหตาย กายสฺส อสฺสาสปสฺสาสา สุขุมตรา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ. ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชตีติ อสฺสาสปสฺสาสานํ สุขุมตรภาเวน อารมฺมณสฺส สนฺตตรตาย กมฺมฏฺานสฺส จ วีถิปฺปฏิปนฺนตาย ภาวนาจิตฺตสหคโต ปโมโท ขุทฺทิกาทิเภทา ตรุณปีติ อุปฺปชฺชติ. จิตฺตํ วิวตฺตตีติ อนุกฺกเมน อสฺสาสปสฺสาสานํ อติวิย สุขุมตรภาวปฺปตฺติยา อนุปฏฺหเน วิเจตพฺพาการปฺปตฺเตหิ เตหิ จิตฺตํ วินิวตฺตตีติ เกจิ. ภาวนาพเลน ปน สุขุมตรภาวปฺปตฺเตสุ อสฺสาสปสฺสาเสสุ ตตฺถ ปฏิภาคนิมิตฺเต อุปฺปนฺเน ปกติอสฺสาสปสฺสาสโต จิตฺตํ นิวตฺตติ. อุเปกฺขา สณฺาตีติ ตสฺมึ ปฏิภาคนิมิตฺเต อุปจารปฺปนาเภเท สมาธิมฺหิ อุปฺปนฺเน ปุน ฌานนิพฺพตฺตนตฺถํ พฺยาปาราภาวโต อชฺฌุเปกฺขนํ โหติ, สา ปนายํ อุเปกฺขา ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาติ เวทิตพฺพา.

อิเมหิ นวหิ อากาเรหีติ อิเมหิ ยถาวุตฺเตหิ นวหิ ปกาเรหิ ปวตฺตา. ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสา กาโยติ ทีฆาการา อสฺสาสปสฺสาสา จุณฺณวิจุณฺณาปิ สมูหฏฺเน กาโย. อสฺสาสปสฺสาเส นิสฺสาย อุปฺปนฺนนิมิตฺตมฺปิ เอตฺถ อสฺสาสปสฺสาสสามฺวเสน วุตฺตํ. อุปฏฺานํ สตีติ ตํ อารมฺมณํ อุปคนฺตฺวา ติฏฺตีติ สติ อุปฏฺานํ นาม. อนุปสฺสนา าณนฺติ สมถวเสน นิมิตฺตสฺส อนุปสฺสนา วิปสฺสนาวเสน อสฺสาสปสฺสาเส ตนฺนิสฺสยฺจ กายํ ‘‘รูป’’นฺติ, จิตฺตํ ตํสมฺปยุตฺตธมฺเม จ ‘‘อรูป’’นฺติ ววตฺถเปตฺวา นามรูปสฺส อนุปสฺสนา จ าณํ ตตฺถ ยถาภูตาวโพโธ. กาโย อุปฏฺานนฺติ โส กาโย อารมฺมณกรณวเสน อุปคนฺตฺวา สติ เอตฺถ ติฏฺตีติ อุปฏฺานํ นาม. เอตฺถ จ ‘‘กาโย อุปฏฺาน’’นฺติ อิมินา อิตรกายสฺสปิ สงฺคโหติ ตถา วุตฺตํ สมฺมสนจารสฺสปิ อิธ อิจฺฉิตตฺตา. โน สตีติ โส กาโย สติ นาม น โหติ. สติ อุปฏฺานฺเจว สติ จ สรณฏฺเน อุปฏฺานฏฺเน จ. ตาย สติยาติ ยถาวุตฺตาย สติยา. เตน าเณนาติ ยถาวุตฺเตเนว าเณน. ตํ กายนฺติ ตํ อสฺสาสปสฺสาสกายฺเจว ตนฺนิสฺสยรูปกายฺจ. อนุปสฺสตีติ ฌานสมฺปยุตฺตาเณน เจว วิปสฺสนาาเณน จ อนุ อนุ ปสฺสติ. เตน วุจฺจติ กาเย กายานุปสฺสนา สติปฏฺานภาวนาติ เตน อนุปสฺสเนน ยถาวุตฺเต กาเย อยํ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนาติ วุจฺจติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยา อยํ ยถาวุตฺเต อสฺสาสปสฺสาสกาเย ตสฺส นิสฺสยภูเต กรชกาเย จ กายสฺเสว อนุปสฺสนา อนุทกภูตาย มรีจิยา อุทกานุปสฺสนา วิย น อนิจฺจาทิสภาเว กาเย นิจฺจาทิภาวานุปสฺสนา, อถ โข ยถารหํ อนิจฺจทุกฺขานตฺตา สุภภาวสฺเสว อนุปสฺสนา. อถ วา กาเย ‘‘อหนฺติ วา, มมนฺติ วา, อิตฺถีติ วา, ปุริโส’’ติ วา คเหตพฺพสฺส กสฺสจิ อภาวโต ตาทิสํ อนนุปสฺสิตฺวา กายมตฺตสฺเสว อนุปสฺสนา กายานุปสฺสนา, ตาย กายานุปสฺสนาย สมฺปยุตฺตา สติเยว อุปฏฺานํ สติปฏฺานํ, ตสฺส ภาวนา วฑฺฒนา กายานุปสฺสนา สติปฏฺานภาวนาติ.

เอเสว นโยติ ‘‘นวหิ อากาเรหี’’ติอาทินา วุตฺตวิธึ รสฺส-ปเท อติทิสฺสติ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ ยถาทสฺสิเต ‘‘กถํ ทีฆํ อสฺสสนฺโต’’ติอาทินา อาคเต ปาฬินเย. อิธาติ อิมสฺมึ รสฺสปทวเสน อาคเต ปาฬินเย. อยนฺติ โยคาวจโร. อทฺธานวเสนาติ ทีฆกาลวเสน. อิตฺตรวเสนาติ ปริตฺตกาลวเสน. อิเมหิ อากาเรหีติ อิเมหิ นวหิ อากาเรหิ.

ตาทิโสติ ทีโฆ รสฺโส จ. จตฺตาโร วณฺณาติ จตฺตาโร อาการา เต จ ทีฆาทโย เอว. นาสิกคฺเคว ภิกฺขุโนติ คาถาสุขตฺถํ รสฺสํ กตฺวา วุตฺตํ. นาสิกคฺเค วาติ วา-สทฺโท อนิยมตฺโถ, เตน อุตฺตโรฏฺํ สงฺคณฺหาติ.

สพฺพกายปฺปฏิสํเวทีติ สพฺพสฺส กายสฺส ปฏิ ปฏิ ปจฺเจกํ สมฺมเทว เวทนสีโล ชานนสีโล, ตสฺส วา ปฏิ ปฏิ สมฺมเทว เวโท เอตสฺส อตฺถิ, ตํ วา ปฏิ ปฏิ สมฺมเทว เวทมาโนติ อตฺโถ. ตตฺถ ตตฺถ สพฺพ-คฺคหเณน อสฺสาสาทิกายสฺส อนวเสสปริยาทาเน สิทฺเธปิ อเนกกลาปสมุทายภาวโต ตสฺส สพฺเพสมฺปิ ภาคานํ สํเวทนทสฺสนตฺถํ ปฏิ-สทฺทคฺคหณํ, ตตฺถ สกฺกจฺจการิภาวทสฺสนตฺถํ สํ-สทฺทคฺคหณนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สกลสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยถา สมาเนสุปิ อสฺสาสปสฺสาเสสุ โยคิโน ปฏิปตฺติวิธาเน ปจฺเจกํ สกฺกจฺจํเยว ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ วิสุํ เทสนา กตา, เอวํ ตเมวตฺถํ ทีเปตุํ สติปิ อตฺถสฺส สมานตาย ‘‘สกลสฺสา’’ติอาทินา ปททฺวยสฺส วิสุํ วิสุํ อตฺถวณฺณนา กตาติ เวทิตพฺพา. ปากฏํ กโรนฺโตติ วิภูตํ กโรนฺโต, สพฺพโส วิภาเวนฺโตติ อตฺโถ. ปากฏีกรณํ วิภาวนํ ตตฺถ อสมฺมุยฺหนาเณเนว เนสํ ปวตฺตเนน โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอวํ วิทิตํ กโรนฺโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตสฺมาติ ยสฺมา าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตเนว อสฺสาสปสฺสาเส ปวตฺเตติ, น วิปฺปยุตฺตจิตฺเตน, ตสฺมา เอวํภูโต สพฺพกายปฺปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตีติ วุจฺจติ พุทฺธาทีหีติ โยชนา. จุณฺณวิจุณฺณวิสเฏติ อเนกกลาปตาย จุณฺณวิจุณฺณภาเวน วิสเฏ. อาทิ ปากโฏ โหติ สติยา าณสฺส จ วเสน กตปุพฺพาภิสงฺขารสฺส ปวตฺตตฺตา. ตาทิเสน ภวิตพฺพนฺติ จตุตฺถปุคฺคลสทิเสน ภวิตพฺพํ, ปเคว สตึ าณฺจ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา ตีสุปิ าเนสุ าณสมฺปยุตฺตเมว จิตฺตํ ปวตฺเตตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.

เอวนฺติ วุตฺตปฺปกาเรน สพฺพกายปฺปฏิสํเวทนวเสเนว. ฆฏตีติ อุสฺสหติ. วายมตีติ วายามํ กโรติ, มนสิการํ ปวตฺเตตีติ อตฺโถ. ตถาภูตสฺสาติ อานาปานสฺสตึ ภาเวนฺตสฺส. สํวโรติ สติ วีริยมฺปิ วา. ตาย สติยาติ ยา สา อานาปาเน อารพฺภ ปวตฺตา สติ, ตาย. เตน มนสิกาเรนาติ โย โส ตตฺถ สติปุพฺพงฺคโม ภาวนามนสิกาโร, เตน สทฺธินฺติ อธิปฺปาโย. อาเสวตีติ ‘‘ติสฺโส สิกฺขาโย’’ติ วุตฺเต อธิกุสลธมฺเม อาเสวติ. ตทาเสวนฺเหตฺถ สิกฺขนนฺติ อธิปฺเปตํ. ปุริมนเยติ ปุริมสฺมึ ภาวนานเย, ปมวตฺถุทฺวเยติ อธิปฺปาโย. ตตฺถาปิ กามํ าณุปฺปาทนํ ลพฺภเตว อสฺสาสปสฺสาสานํ ยาถาวโต ทีฆรสฺสภาวาวโพธสพฺภาวโต, ตถาปิ ตํ น ทุกฺกรํ ยถาปวตฺตานํ เตสํ คหณมตฺตภาวโตติ ตตฺถ วตฺตมานกาลปฺปโยโค กโต. อิทํ ปน ทุกฺกรํ ปุริสสฺส ขุรธารายํ คมนสทิสํ, ตสฺมา สาติสเยเนตฺถ ปุพฺพาภิสงฺขาเรน ภวิตพฺพนฺติ ทีเปตุํ อนาคตกาลปฺปโยโค กโตติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ยสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ าณุปฺปาทนาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน กายสงฺขารปสฺสมฺภนปีติปฏิสํเวทนาทึ สงฺคณฺหาติ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘สํวรสมาทานานํ สงฺคโห’’ติ วทนฺติ.

กายสงฺขารนฺติ อสฺสาสปสฺสาสํ. โส หิ จิตฺตสมุฏฺาโนปิ สมาโน กรชกายปฏิพทฺธวุตฺติตาย เตน สงฺขรียตีติ กายสงฺขาโรติ วุจฺจติ. โย ปน ‘‘กายสงฺขาโร วจีสงฺขาโร’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๒) เอวมาคโต กายสงฺขาโร เจตนาลกฺขโณ สติปิ ทฺวารนฺตรุปฺปตฺติยํ เยภุยฺยวุตฺติยา ตพฺพหุลวุตฺติยา จ กายทฺวาเรน ลกฺขิโต, โส อิธ นาธิปฺเปโต. ปสฺสมฺเภนฺโตติอาทีสุ ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ ปทํ ปุริมสฺส ปุริมสฺส อตฺถวจนํ. ตสฺมา ปสฺสมฺภนํ นาม วูปสมนํ, ตฺจ ตถาปโยเค อสติ อุปฺปชฺชนารหสฺส โอฬาริกสฺส กายสงฺขารสฺส ปโยคสมฺปตฺติยา อนุปฺปาทนนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตตฺราติ ‘‘โอฬาริกํ กายสงฺขารํ ปสฺสมฺเภนฺโต’’ติ เอตฺถ. อปริคฺคหิตกาเลติ กมฺมฏฺานสฺส อนารทฺธกาเล, ตโต เอว กายจิตฺตานมฺปิ อปริคฺคหิตกาเล. ‘‘นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธายา’’ติ หิ อิมินา กายปริคฺคโห, ‘‘ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ อิมินา จิตฺตปริคฺคโห วุตฺโต. เตเนวาห – ‘‘กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ปริคฺคหิตา โหนฺตี’’ติ. กาโยติ กรชกาโย. สทรถาติ สปริฬาหา. สา จ เนสํ สทรถตา ครุภาเวน วิย โอฬาริกตาย อวินาภาวินีติ อาห ‘‘โอฬาริกา’’ติ. พลวตราติ สพลา ถูลา. สนฺตา โหนฺตีติ จิตฺตํ ตาว พหิทฺธา วิกฺเขปาภาเวน เอกคฺคํ หุตฺวา กมฺมฏฺานํ ปริคฺคเหตฺวา ปวตฺตมานํ สนฺตํ โหติ วูปสนฺตํ, ตโต เอว ตํสมุฏฺานา รูปธมฺมา ลหุมุทุกมฺมฺภาวปฺปตฺตา, ตทนุคุณตาย เสสํ ติสนฺตติรูปนฺติ เอวํ จิตฺเต กาเย จ วูปสนฺเต ปวตฺตมาเน ตนฺนิสฺสิตา อสฺสาสปสฺสาสา สนฺตสภาวา อนุกฺกเมน สุขุมสุขุมตรสุขุมตมา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ยทา ปนสฺส กาโยปี’’ติอาทิ. ปสฺสมฺเภมีติ ปมาวชฺชนา. อาภุชนํ อาโภโค, สมฺมา อนุ อนุ อาหรณํ สมนฺนาหาโร, ตสฺมึเยว อตฺเถ อปราปรํ ปวตฺตอาวชฺชนา ตสฺเสว อตฺถสฺส มนสิกรณํ จิตฺเต ปนํ มนสิกาโร, วีมํสา ปจฺจเวกฺขณา.

สารทฺเธติ สทรเถ สปริฬาเห. อธิมตฺตนฺติ พลวํ โอฬาริกํ, ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ. กายสงฺขาโร หิ อธิปฺเปโต. ‘‘อธิมตฺตํ หุตฺวา ปวตฺตตี’’ติ กิริยาวิเสสนํ วา เอตํ. สุขุมนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. กายมฺหีติ เอตฺถ จิตฺเต จาติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ.

ปมชฺฌานโต วุฏฺาย กริยมานํ ทุติยชฺฌานสฺส นานาวชฺชนํ ปริกมฺมํ ปมชฺฌานํ วิย ทูรสมุสฺสาริตปฏิปกฺขนฺติ กตฺวา ตํสมุฏฺาโน กายสงฺขาโร ปมชฺฌาเน จ ทุติยชฺฌานูปจาเร จ โอฬาริโกติ สทิโส วุตฺโต. เอส นโย เสสุปจารทฺวเยปิ. อถ วา ทุติยชฺฌานาทีนํ อธิคมาย ปฏิปชฺชโต ทุกฺขาปฏิปทาทิวเสน กิลมโต โยคิโน กายกิลมถจิตฺตุปฆาตาทิวเสน วิตกฺกาทิสงฺโขเภน สปริปฺผนฺทตาย จ จิตฺตปฺปวตฺติยา ทุติยชฺฌานาทิอุปจาเรสุ กายสงฺขารสฺส โอฬาริกตา เวทิตพฺพา. อติสุขุโมติ อฺตฺถ ลพฺภมาโน กายสงฺขาโร จตุตฺถชฺฌาเน อติกฺกนฺตสุขุโม. สุขุมภาโวปิสฺส ตตฺถ นตฺถิ กุโต โอฬาริกตา อปฺปวตฺตนโต. เตนาห ‘‘อปฺปวตฺติเมว ปาปุณาตี’’ติ.

ลาภิสฺส สโต อนุปุพฺพสมาปตฺติสมาปชฺชนเวลํ เอกาสเนเนว วา สพฺเพสํ ฌานานํ ปฏิลาภํ สนฺธาย มชฺฌิมภาณกา เหฏฺิมเหฏฺิมชฺฌานโต อุปรูปริฌานูปจาเรปิ สุขุมตรํ อิจฺฉนฺติ. ตตฺถ หิ โสปจารานํ ฌานานํ อุปรูปริ วิเสสวนฺตตา สนฺตตา จ สมฺภเวยฺย, เอกาวชฺชนูปจารํ วา สนฺธาย เอวํ วุตฺตํ. เอวฺหิ เหฏฺา วุตฺตวาเทน อิมสฺส วาทสฺส อวิโรโธ สิทฺโธ ภินฺนวิสยตฺตา. สพฺเพสํเยวาติ อุภเยสมฺปิ. ยสฺมา เต สพฺเพปิ วุจฺจมาเนน วิธินา ปสฺสทฺธิมิจฺฉนฺติเยว. อปริคฺคหิตกาเล ปวตฺตกายสงฺขาโร ปริคฺคหิตกาเล ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ อิทํ สทิสสนฺตานตาย วุตฺตํ. น หิ เต เอว โอฬาริกา อสฺสาสาทโย สุขุมา โหนฺติ. ปสฺสมฺภนากาโร ปน เตสํ เหฏฺา วุตฺโตเยว.

มหาภูตปริคฺคเห สุขุโมติ จตุธาตุมุเขน วิปสฺสนาภินิเวสํ สนฺธาย วุตฺตํ. สกลรูปปริคฺคเห สุขุโม ภาวนาย อุปรูปริ ปณีตภาวโต. เตเนวาห ‘‘รูปารูปปริคฺคเห สุขุโม’’ติ. ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนายาติ กลาปสมฺมสนมาห. นิพฺพิทานุปสฺสนาโต ปฏฺาย พลววิปสฺสนา, ตโต โอรํ ทุพฺพลวิปสฺสนา. ปุพฺเพ วุตฺตนเยนาติ ‘‘อปริคฺคหิตกาเล’’ติอาทินา สมถนเย วุตฺตนเยน. ‘‘อปริคฺคเห ปวตฺโต กายสงฺขาโร มหาภูตปริคฺคเห ปฏิปฺปสฺสมฺภตี’’ติอาทินา วิปสฺสนานเยปิ ปฏิปฺปสฺสทฺธิ โยเชตพฺพาติ วุตฺตํ โหติ.

อสฺสาติ อิมสฺส ‘‘ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขาร’’นฺติ ปทสฺส. โจทนาโสธนาหีติ อนุโยคปริหาเรหิ. เอวนฺติ อิทานิ วุจฺจมานากาเรน. กถนฺติ ยํ อิทํ ‘‘ปสฺสมฺภยํ…เป… สิกฺขตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ กถํ เกน ปกาเรน กายสงฺขารสฺส ปสฺสมฺภนํ โยคิโน จ สิกฺขนํ โหตีติ กเถตุกามตาย ปุจฺฉิตฺวา กายสงฺขาเร สรูปโต โอฬาริกสุขุมโต วูปสมโต อนุโยคปริหารโต จ ทสฺเสตุํ ‘‘กตเม กายสงฺขารา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กายิกาติ รูปกาเย ภวา. กายปฺปฏิพทฺธาติ กายสนฺนิสฺสิตา. กาเย สติ โหนฺติ, อสติ น โหนฺติ, ตโต เอว เต อกายสมุฏฺานาปิ กาเยน สงฺขรียนฺตีติ กายสงฺขารา. ปสฺสมฺเภนฺโตติ โอฬาริโกฬาริกํ ปสฺสมฺเภนฺโต.

เสสปททฺวยํ ตสฺเสว เววจนํ. โอฬาริกฺหิ กายสงฺขารํ อวูปสนฺตสภาวํ สนฺนิสีทาเปนฺโต ‘‘ปสฺสมฺเภนฺโต’’ติ วุจฺจติ, อนุปฺปาทนิโรธํ ปาเปนฺโต ‘‘นิโรเธนฺโต’’ติ, สุฏฺุ สนฺตสภาวํ นยนฺโต ‘‘วูปสเมนฺโต’’ติ.

ยถารูเปหีติ ยาทิเสหิ. กายสงฺขาเรหีติ โอฬาริเกหิ กายสงฺขาเรหิ. อานมนาติ อภิมุเขน กายสฺส นมนา. วินมนาติ วิสุํ วิสุํ ปสฺสโต นมนา. สนฺนมนาติ สพฺพโต, สุฏฺุ วา นมนา. ปณมนาติ ปจฺฉโต นมนา. อิฺชนาทีนิ อานมนาทีนํ เววจนานิ, อธิมตฺตานิ วา อภิมุขจลนาทีนิ อานมนาทโย, มนฺทานิ อิฺชนาทโย. ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารนฺติ ตถารูปํ อานมนาทีนํ การณภูตํ โอฬาริกํ กายสงฺขารํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภนฺโต. ตสฺมิฺหิ ปสฺสมฺภิเต อานมนาทโยปิ ปสฺสมฺภิตา เอว โหนฺติ.

สนฺตํ สุขุมนฺติ ยถารูเปหิ กายสงฺขาเรหิ กายสฺส อปริปฺผนฺทนเหตูหิ อานมนาทโย น โหนฺติ, ตถารูปํ ทรถาภาวโต สนฺตํ, อโนฬาริกตาย สุขุมํ. ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารนฺติ สามฺโต เอกํ กตฺวา วทติ. อถ วา ปุพฺเพ โอฬาริโกฬาริกํ กายสงฺขารํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภนฺโต อนุกฺกเมน กายสฺส อปริปฺผนฺทนเหตุภูเต สุขุมสุขุมตเร อุปฺปาเทตฺวา เตปิ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตฺวา ปรมสุขุมตาย โกฏิปฺปตฺตํ ยํ กายสงฺขารํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สนฺตํ สุขุมํ ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขาร’’นฺติ.

อิตีติอาทิ โจทกวจนํ. ตตฺถ อิตีติ ปการตฺเถ นิปาโต, กิราติ อรุจิสูจเน, เอวฺเจติ อตฺโถ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย ‘‘วุตฺตปฺปกาเรน ยทิ อติสุขุมมฺปิ กายสงฺขารํ ปสฺสมฺเภตี’’ติ. เอวํ สนฺเตติ เอวํ สติ ตยา วุตฺตากาเร ลพฺภมาเน. วาตูปลทฺธิยาติ วาตสฺส อุปลทฺธิยา. -สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ, อสฺสาสาทิวาตารมฺมณสฺส จิตฺตสฺส ปภาวนา อุปฺปาทนา ปวตฺตนา น โหติ, เต จ เตน ปสฺสมฺเภตพฺพาติ อธิปฺปาโย. อสฺสาสปสฺสาสานฺจ ปภาวนาติ โอฬาริเก อสฺสาสปสฺสาเส ภาวนาย ปฏิปฺปสฺสมฺเภตฺวา สุขุมานํ เตสํ ปภาวนา จ น โหติ อุภเยสํ เตสํ เตน ปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพโต. อานาปานสฺสติยาติ อานาปานารมฺมณาย สติยา จ ปวตฺตนํ น โหติ อานาปานานํ อภาวโต. ตโต เอว ตํสมฺปยุตฺตสฺส อานาปานสฺสติสมาธิสฺส จ ปภาวนา อุปฺปาทนาปิ น โหติ. น หิ กทาจิ อารมฺมเณน วินา สารมฺมณา ธมฺมา สมฺภวนฺติ. น จ นํ ตนฺติ เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ. ตํ วุตฺตวิธานํ สมาปตฺตึ ปณฺฑิตา ปฺวนฺโต น เจว สมาปชฺชนฺติปิ ตโต น วุฏฺหนฺติปีติ โยชนา. เอวํ โจทโก สพฺเพน สพฺพํ อภาวูปนยนํ ปสฺสมฺภนนฺติ อธิปฺปาเยน โจเทติ.

ปุน อิติ กิราติอาทิ ยถาวุตฺตาย โจทนาย วิสฺสชฺชนา. ตตฺถ กิราติ ยทีติ เอตสฺส อตฺเถ นิปาโต. อิติ กิร สิกฺขติ, มยา วุตฺตากาเรน ยทิ สิกฺขตีติ อตฺโถ. เอวํ สนฺเตติ เอวํ ปสฺสมฺภเน สติ. ปภาวนา โหตีติ ยทิปิ โอฬาริกา กายสงฺขารา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, สุขุมา ปน อตฺเถวาติ อนุกฺกเมน ปรมสุขุมภาวปฺปตฺตสฺส วเสน นิมิตฺตุปฺปตฺติยา อานาปานสฺสติยา อานาปานสฺสติสมาธิสฺส จ ปภาวนา อิชฺฌเตวาติ อธิปฺปาโย.

ยถา กถํ วิยาติ ยถาวุตฺตวิธานํ ตํ กถํ วิย ทฏฺพฺพํ, อตฺถิ กิฺจิ ตทตฺถสมฺปฏิปาทเน โอปมฺมนฺติ อธิปฺปาโย. อิทานิ โอปมฺมํ ทสฺเสตุํ ‘‘เสยฺยถาปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เสยฺยถาปีติ โอปมฺมตฺเถ นิปาโต. กํเสติ กํสภาชเน. นิมิตฺตนฺติ นิมิตฺตสฺส, เตสํ สทฺทานํ ปวตฺตาการสฺสาติ อตฺโถ. สามิอตฺเถ หิ อิทํ อุปโยควจนํ. สุคฺคหิตตฺตาติ สุฏฺุ คหิตตฺตา. สุมนสิกตตฺตาติ สุฏฺุ จิตฺเต ปิตตฺตา. สูปธาริตตฺตาติ สมฺมเทว อุปธาริตตฺตา สลฺลกฺขิตตฺตา. สุขุมกา สทฺทาติ อนุรเว อาห, เย อปฺปกา. อปฺปตฺโถ หิ อยํ -สทฺโท. สุขุมสทฺทนิมิตฺตารมฺมณตาปีติ สุขุโม สทฺโทว นิมิตฺตํ สุขุมสทฺทนิมิตฺตํ, ตทารมฺมณตายปีติ วุตฺตํ โหติ. กามํ ตทา สุขุมาปิ สทฺทา นิรุทฺธา, สทฺทนิมิตฺตสฺส ปน สุคฺคหิตตฺตา สุขุมตรสทฺทนิมิตฺตารมฺมณภาเวนปิ จิตฺตํ ปวตฺตติ. อาทิโต ปฏฺาย หิ ตสฺส ตสฺส นิรุทฺธสฺส สทฺทสฺส นิมิตฺตํ อวิกฺขิตฺเตน จิตฺเตน อุปธาเรนฺตสฺส อนุกฺกเมน ปริโยสาเน อติสุขุมสทฺทนิมิตฺตมฺปิ อารมฺมณํ กตฺวา จิตฺตํ ปวตฺตเตว. จิตฺตํ น วิกฺเขปํ คจฺฉติ ตสฺมึ ยถาอุปฏฺิเต นิมิตฺเต สมาธานสพฺภาวโต.

เอวํ สนฺเตติอาทิ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส นิคมนวเสน วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺส สุตฺตปทสฺส สทฺธึ โจทนาโสธนาหิ อตฺโถ วุตฺโต, ตํ อุทฺธริตฺวา กายานุปสฺสนาสติปฏฺานานิ วิภาคโต ทสฺเสตุํ ‘‘ปสฺสมฺภย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารนฺติ วุตฺตอสฺสาสปสฺสาสา กาโยติ โยชนา เวทิตพฺพา. อถ วา ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารนฺติ เอตฺถ อสฺสาสปสฺสาสา กาโยติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. มหาสติปฏฺานสุตฺเต (ที. นิ. ๒.๓๗๒ อาทโย; ม. นิ. ๑.๑๐๕ อาทโย) กายานุปสฺสนํ กเถนฺเตน ปมจตุกฺกสฺเสว วุตฺตตฺตา, อานาปานสฺสติสุตฺเตปิ ‘‘ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ทีฆํ วา อสฺสสนฺโต ทีฆํ อสฺสสามีติ ปชานาติ…เป… ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. กาเย กายานุปสฺสี, ภิกฺขเว, ตสฺมึ สมเย ภิกฺขุ วิหรตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๔๙) วุตฺตตฺตา จ ‘‘กายานุปสฺสนาวเสน วุตฺตสฺส ปมจตุกฺกสฺสา’’ติ วุตฺตํ.

อาทิกมฺมิกสฺส กมฺมฏฺานวเสนาติ สมถกมฺมฏฺานํ สนฺธาย วุตฺตํ, วิปสฺสนากมฺมฏฺานํ ปน อิตรจตุกฺเกสุปิ ลพฺภเตว. เอตฺถาติ ปมจตุกฺเก. สห ปฏิสมฺภิทาหีติ นิทสฺสนมตฺตเมตํ, ปุฺวนฺตานํ ปน อุปนิสฺสยสมฺปนฺนานํ อภิฺาปิ สิชฺฌติเยว. จตุพฺพิธนฺติ ปาติโมกฺขสํวราทิวเสน จตุพฺพิธํ. อนาปชฺชนนฺติ สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ อฺตรสฺส อนาปชฺชนํ. อาปนฺนวุฏฺานนฺติ อาปนฺนสปฺปฏิกมฺมาปตฺติโต ยถาธมฺมํ ปฏิกมฺมกรเณน วุฏฺานํ, เทสนาคามินิโต เทสนาย, วุฏฺานคามินิโต ปริวาสาทิวินยกมฺมกรเณน วุฏฺานนฺติ วุตฺตํ โหติ. เทสนายปิ หิ อาปนฺนาปตฺติโต วุฏฺานํ โหตีติ สาปิ วุฏฺาเนเนว สงฺคหิตา. กิเลเสหิ จ อปฺปฏิปีฬนนฺติ โกโธ อุปนาโห มกฺโข ปลาโส อิสฺสา มจฺฉริยํ มายา สาเยฺยํ ถมฺโภ สารมฺโภ มาโน อติมาโน มโท ปมาโทติ เอวมาทีหิ ปาปธมฺเมหิ อปฺปฏิปีฬนํ, เตสํ อนุปฺปาทนนฺติ วุตฺตํ โหติ.

ยมิทํ อาภิสมาจาริกสีลํ วุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ. ทฺเวอสีติ ขนฺธกวตฺตานิ จุทฺทสวิธํ มหาวตฺตนฺติ เอตฺถ มหาวตฺตํ นาม วตฺตกฺขนฺธเก วุตฺตานิ อาคนฺตุกวตฺตํ อาวาสิกคมิกอนุโมทนภตฺตคฺคปิณฺฑจาริกอารฺิกเสนาสนชนฺตาฆรวจฺจกุฏิอุปชฺฌายสทฺธิวิหาริกอาจริยอนฺเตวาสิกวตฺตนฺติ จุทฺทส วตฺตานิ. ตโต อฺานิ ปน กทาจิ ตชฺชนียกมฺมกตาทิกาเลเยว จริตพฺพานิ ทฺวาสีติ ขนฺธกวตฺตานิ, น สพฺพาสุ อวตฺถาสุ จริตพฺพานิ, ตสฺมา มหาวตฺเตสุ อคณิตานิ. ตตฺถ ‘‘ปาริวาสิกานํ ภิกฺขูนํ วตฺตํ ปฺเปสฺสามี’’ติ อารภิตฺวา ‘‘น อุปสมฺปาเทตพฺพํ…เป… น ฉมายํ จงฺกมนฺเต จงฺกเม จงฺกมิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๗๖) วุตฺตวตฺตานิ ฉสฏฺิ, ตโต ปรํ ‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปาริวาสิกวุฑฺฒตเรน ภิกฺขุนา สทฺธึ มูลายปฏิกสฺสนารเหน, มานตฺตารเหน, มานตฺตจาริเกน, อพฺภานารเหน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วตฺถพฺพ’’นฺติอาทินา (จูฬว. ๘๒) วุตฺตานิ ปกตตฺเต จริตพฺเพหิ อนฺตฺตา วิสุํ ตานิ อคเณตฺวา ปาริวาสิกวุฑฺฒตราทีสุ ปุคฺคลนฺตเรสุ จริตพฺพตฺตา เตสํ วเสน สมฺปิณฺเฑตฺวา เอเกกํ กตฺวา คณิตานิ ปฺจาติ เอกสตฺตติ วตฺตานิ, อุกฺเขปนียกมฺมกตวตฺเตสุ วตฺตปฺาปนวเสน วุตฺตํ ‘‘น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ…เป… นหาเน ปิฏฺิปริกมฺมํ สาทิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๕๑) อิทํ อภิวาทนาทีนํ อสาทิยนํ เอกํ, ‘‘น ปกตตฺโต ภิกฺขุ สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ’’ติอาทีนิ (จูฬว. ๕๑) จ ทสาติ เอวเมตานิ ทฺวาสีติ. เอเตสฺเวว ปน กานิจิ ตชฺชนียกมฺมาทิวตฺตานิ กานิจิ ปาริวาสิกาทิวตฺตานีติ อคฺคหิตคฺคหเณน ทฺวาสีติ เอว. อฺตฺถ ปน อฏฺกถาปเทเส อปฺปกํ อูนมธิกํ วา คณนูปคํ น โหตีติ อสีติ ขนฺธกวตฺตานีติ วุจฺจติ. อาภิสมาจาริกสีลนฺติ เอตฺถ อภิสมาจาโรติ อุตฺตมสมาจาโร, อภิสมาจาโรว อาภิสมาจาริกํ, อภิสมาจารํ วา อารพฺภ ปฺตฺตํ อาภิสมาจาริกํ, ตเทว สีลนฺติ อาภิสมาจาริกสีลํ. ขนฺธกวตฺตปริยาปนฺนสฺส สีลสฺเสตํ อธิวจนํ. อหํ สีลํ รกฺขามิ, กึ อาภิสมาจาริเกนาติอาทีสุ สีลนฺติ อุภโตวิภงฺคปริยาปนฺนเมว คเหตพฺพํ ขนฺธกวตฺตปริยาปนฺนสฺส อาภิสมาจาริกคฺคหเณน คหิตตฺตา. ปริปูเรติ ปริปุณฺเณ, ปริปูริเตติ วา อตฺโถ.

ตโตติ ยถาวุตฺตสีลวิโสธนโต ปรํ. อาวาโสติ อาวาสปลิโพโธ. กุลนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๑) อาวาโสติ เอโกปิ โอวรโก วุจฺจติ เอกมฺปิ ปริเวณํ สกโลปิ สงฺฆาราโม. สฺวายํ น สพฺพสฺเสว ปลิโพโธ โหติ, โย ปเนตฺถ นวกมฺมาทิอุสฺสุกฺกํ วา อาปชฺชติ, พหุภณฺฑสนฺนิจโย วา โหติ, เยน เกนจิ วา การเณน อเปกฺขวา ปฏิพทฺธจิตฺโต, ตสฺเสว ปลิโพโธ โหติ, น อิตรสฺส.

กุลนฺติ าติกุลํ วา อุปฏฺากกุลํ วา. เอกจฺจสฺส หิ อุปฏฺากกุลมฺปิ ‘‘สุขิเต สุขิโต’’ติอาทินา นเยน สํสฏฺสฺส วิหรโต ปลิโพโธ โหติ, โส กุลมานุสเกหิ วินา ธมฺมสฺสวนาย สามนฺตวิหารมฺปิ น คจฺฉติ. เอกจฺจสฺส มาตาปิตโรปิ ปลิโพธา น โหนฺติ โกรณฺฑกวิหารวาสิตฺเถรสฺส ภาคิเนยฺยทหรภิกฺขุโน วิย.

ลาโภติ จตฺตาโร ปจฺจยา. เต กถํ ปลิโพธา โหนฺติ? ปุฺวนฺตสฺส หิ ภิกฺขุโน คตคตฏฺาเน มนุสฺสา มหาปริวาเร ปจฺจเย เทนฺติ, โส เตสํ อนุโมเทนฺโต ธมฺมํ เทเสนฺโต สมณธมฺมํ กาตุํ โอกาสํ น ลภติ, อรุณุคฺคมนโต ยาว ปมยาโม, ตาว มนุสฺสสํสคฺโค น อุปจฺฉิชฺชติ, ปุน พลวปจฺจูเสเยว พาหุลฺลิกปิณฺฑปาติกา อาคนฺตฺวา ‘‘ภนฺเต, อสุโก อุปฏฺาโก อุปาสโก อุปาสิกา อมจฺโจ อมจฺจธีตา ตุมฺหากํ ทสฺสนกามา’’ติ วทนฺติ, โส ‘‘คณฺหาวุโส ปตฺตจีวร’’นฺติ คมนสชฺโชว โหติ นิจฺจพฺยาวโฏ, ตสฺเสว เต ปจฺจยา ปลิโพธา โหนฺติ. เตน คณํ ปหาย ยตฺถ นํ น ชานนฺติ, ตตฺถ เอกเกน จริตพฺพํ. เอวํ โส ปลิโพโธ อุปจฺฉิชฺชติ.

คโณติ สุตฺตนฺติกคโณ วา อาภิธมฺมิกคโณ วา. โย ตสฺส อุทฺเทสํ วา ปริปุจฺฉํ วา เทนฺโต สมณธมฺมสฺส โอกาสํ น ลภติ, ตสฺส คโณ ปลิโพโธ โหติ. เตน โส เอวํ อุปจฺฉินฺทิตพฺโพ – สเจ เตสํ ภิกฺขูนํ พหุ กตํ โหติ, อปฺปํ อวสิฏฺํ, ตํ นิฏฺเปตฺวา อรฺํ ปวิสิตพฺพํ. สเจ อปฺปํ กตํ, พหุ อวสิฏฺํ, โยชนโต ปรํ อคนฺตฺวา อนฺโตโยชนปริจฺเฉเท อฺํ คณวาจกํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อิเม อายสฺมา อุทฺเทสาทีหิ สงฺคณฺหตู’’ติ วตฺตพฺพํ. เอวมฺปิ อลภมาเนน ‘‘มยฺหํ, อาวุโส, เอกํ กิจฺจํ อตฺถิ, ตุมฺเห ยถาผาสุกฏฺานานิ คจฺฉถา’’ติ คณํ ปหาย อตฺตโน กมฺมํ กาตพฺพํ.

กมฺเมนาติ กมฺมปลิโพเธน. ‘‘กมฺมฺจ ปฺจม’’นฺติปิ ปาโ. ตตฺถ กมฺมนฺติ นวกมฺมํ. ตํ กโรนฺเตน วฑฺฒกีอาทีหิ ลทฺธาลทฺธํ ชานิตพฺพํ, กตากเต อุสฺสุกฺกํ อาปชฺชิตพฺพนฺติ สพฺพถาปิ ปลิโพโธ โหติ. โสปิ เอวํ อุปจฺฉินฺทิตพฺโพ – สเจ อปฺปํ อวสิฏฺํ โหติ, นิฏฺเปตพฺพํ. สเจ พหุ, สงฺฆิกํ เจ, นวกมฺมํ สงฺฆสฺส วา ภารหารกภิกฺขูนํ วา นิยฺยาเตตพฺพํ. อตฺตโน สนฺตกํ เจ, อตฺตโน ภารหารกานํ นิยฺยาเตตพฺพํ. ตาทิสํ อลภนฺเตน สงฺฆสฺส ปริจฺจชิตฺวา คนฺตพฺพํ.

อทฺธานนฺติ มคฺคคมนํ. ยสฺส หิ กตฺถจิ ปพฺพชฺชาเปกฺโข วา โหติ, ปจฺจยชาตํ วา กิฺจิ ลทฺธพฺพํ โหติ. สเจ ตํ อลภนฺโต น สกฺโกติ อธิวาเสตุํ, อรฺํ ปวิสิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺตสฺสปิ คมิกจิตฺตํ นาม ทุปฺปฏิวิโนทยํ โหติ, ตสฺมา คนฺตฺวา ตํ กิจฺจํ ตีเรตฺวาว สมณธมฺเม อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ.

าตีติ วิหาเร อาจริยุปชฺฌายสทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกสมานุปชฺฌายกสมานาจริยกา, ฆเร มาตา ปิตา ภาตาติ เอวมาทิกา. เต คิลานา อิมสฺส ปลิโพธา โหนฺติ. ตสฺมา โส ปลิโพโธ เต อุปฏฺหิตฺวา เตสํ ปากติกกรเณน อุปจฺฉินฺทิตพฺโพ. ตตฺถ อุปชฺฌาโย ตาว คิลาโน สเจ ลหุํ น วุฏฺาติ, ยาวชีวํ ปฏิชคฺคิตพฺโพ, ตถา ปพฺพชฺชาจริโย อุปสมฺปทาจริโย สทฺธิวิหาริโก อุปสมฺปาทิตปพฺพาชิตอนฺเตวาสิกสมานุปชฺฌายกา จ. นิสฺสยาจริยอุทฺเทสาจริยนิสฺสยนฺเตวาสิกอุทฺเทสนฺเตวาสิกสมานาจริยกา ปน ยาว นิสฺสยอุทฺเทสา อนุปจฺฉินฺนา, ตาว ปฏิชคฺคิตพฺพา. ปโหนฺเตน ตโต อุทฺธมฺปิ ปฏิชคฺคิตพฺพา เอว. มาตาปิตูสุ อุปชฺฌาเย วิย ปฏิชคฺคิตพฺพํ. สเจปิ หิ เต รชฺเช ิตา โหนฺติ, ปุตฺตโต จ อุปฏฺานํ ปจฺจาสีสนฺติ, กาตพฺพเมว. อถ เตสํ เภสชฺชํ นตฺถิ, อตฺตโน สนฺตกํ ทาตพฺพํ. อสติ, ภิกฺขาจริยาย ปริเยสิตฺวาปิ ทาตพฺพเมว. ภาตุภคินีนํ ปน เตสํ สนฺตกเมว โยเชตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ นตฺถิ, อตฺตโน สนฺตกํ ตาวกาลิกํ ทตฺวา ปจฺฉา ลภนฺเตน คณฺหิตพฺพํ, อลภนฺเตน น โจเทตพฺพา. อฺาตกสฺส ภคินิยา สามิกสฺส เภสชฺชํ เนว กาตุํ, น ทาตุํ วฏฺฏติ, ‘‘ตุยฺหํ สามิกสฺส เทหี’’ติ วตฺวา ปน ภคินิยา ทาตพฺพํ. ภาตุ ชายายปิ เอเสว นโย, เตสํ ปน ปุตฺตา อิมสฺส าตกาเยวาติ เตสํ กาตุํ วฏฺฏติ.

อาพาโธติ โย โกจิ โรโค. โส พาธยมาโน ปลิโพโธ โหติ, ตสฺมา เภสชฺชกรเณน อุปจฺฉินฺทิตพฺโพ. สเจ ปน กติปาหํ เภสชฺชํ กโรนฺตสฺสปิ น วูปสมฺมติ, ‘‘นาหํ ตุยฺหํ ทาโส, น ภตโก, ตํเยวมฺหิ โปเสนฺโต อนมตคฺเค สํสารวฏฺเฏ ทุกฺขปฺปตฺโต’’ติ อตฺตภาวํ ครหิตฺวา สมณธมฺโม กาตพฺโพ.

คนฺโถติ ปริยตฺติปริหรณํ. ตํ สชฺฌายาทีหิ นิจฺจพฺยาวฏสฺเสว ปลิโพโธ โหติ, น อิตรสฺส.

อิทฺธิยาติ อิทฺธิปลิโพเธน. ‘‘อิทฺธีติ เต ทสา’’ติปิ ปาโ. ตตฺถ อิทฺธีติ โปถุชฺชนิกา อิทฺธิ. สา หิ อุตฺตานเสยฺยกทารโก วิย ตรุณสสฺสํ วิย จ ทุปฺปริหารา โหติ, อปฺปมตฺตเกน จ ภิชฺชติ. สา ปน วิปสฺสนาย ปลิโพโธ โหติ, น สมาธิสฺส สมาธึ ปตฺวา ปตฺตพฺพโต, ตสฺมา วิปสฺสนาตฺถิเกน อิทฺธิปลิโพโธ อุปจฺฉินฺทิตพฺโพ, อิตเรน อวเสสาติ. กมฺมฏฺานภาวนํ ปริพุนฺเธติ อุปโรเธติ ปวตฺติตุํ น เทตีติ ปลิโพโธ, ร-การสฺส ล-การํ กตฺวา วุตฺโต, ปริปนฺโถติ อตฺโถ. อุปจฺฉินฺทิตพฺโพติ สมาปเนน สงฺคหเณน อุปรุนฺธิตพฺโพ, อปลิโพโธ กาตพฺโพติ อตฺโถ.

กมฺมฏฺาเน นิยุตฺโต กมฺมฏฺานิโก, ภาวนมนุยุฺชนฺโต. เตน กมฺมฏฺานิเกน. ปริจฺฉินฺทิตฺวาติ ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร สพฺเพปิ ภิกฺขู’’ติ เอวํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา. สหวาสีนนฺติ สหวาสีนํ ภิกฺขูนํ. มุทุจิตฺตตํ ชเนตีติ อตฺตนิ มุทุจิตฺตตํ อุปฺปาเทติ. อยฺจ สหวาสีนํ จิตฺตมทฺทวชนนาทิอตฺโถ ‘‘มนุสฺสานํ ปิโย โหตี’’ติอาทินยปฺปวตฺเตน เมตฺตานิสํสสุตฺเตน (อ. นิ. ๘.๑) ทีเปตพฺโพ.

อโนลีนวุตฺติโก โหตีติ สมฺมาปฏิปตฺติยํ โอลีนวุตฺติโก หีนวีริโย น โหติ, อารทฺธวีริโย โหตีติ อตฺโถ. ทิพฺเพสุปิ อารมฺมเณสุ, ปเคว อิตเรสูติ อธิปฺปาโย. สพฺพตฺถาติ สพฺพสฺมึ สมณกรณีเย, สพฺพสฺมึ วา กมฺมฏฺานานุโยเค. อตฺถยิตพฺพนฺติ ปุพฺพาเสวนวเสน อตฺถยิตพฺพํ. โยคสฺส ภาวนาย อนุยุฺชนํ โยคานุโยโค, ตเทว กรณียฏฺเน กมฺมํ, ตสฺส โยคานุโยคกมฺมสฺส. ปทฏฺานตฺตาติ นิปฺผตฺติเหตุตฺตา.

โอทาตกสิเณ อาโลกกสิณํ, กสิณุคฺฆาฏิมากาสกสิเณ ปริจฺฉินฺนากาสกสิณฺจ อนฺโตคธํ กตฺวา ปาฬิยํ ปถวีกสิณาทีนํ รูปชฺฌานารมฺมณานํ อฏฺนฺนํเยว กสิณานํ สรูปโต วุตฺตตฺตา อากาสกสิณํ อาโลกกสิณฺจ วชฺเชตฺวา ‘‘อฏฺตึสารมฺมเณสู’’ติ ปาฬิยํ อาคตนเยเนว วุตฺตํ. อฏฺกถานเยน ปน อากาสกสิเณ อาโลกกสิเณ จ วิสุํ คหิเต จตฺตาลีสํเยว กมฺมฏฺานานิ. ตตฺริมานิ จตฺตาลีส กมฺมฏฺานานิ – ทส กสิณา, ทส อสุภา, ทส อนุสฺสติโย, จตฺตาโร พฺรหฺมวิหารา, จตฺตาโร อารุปฺปา, เอกา สฺา, เอกํ ววตฺถานนฺติ. ตตฺถ ปถวีกสิณํ อาโปกสิณํ เตโชกสิณํ วาโยกสิณํ นีลกสิณํ ปีตกสิณํ โลหิตกสิณํ โอทาตกสิณํ อาโลกกสิณํ ปริจฺฉินฺนากาสกสิณนฺติ อิเม ทส กสิณา. อุทฺธุมาตกํ วินีลกํ วิปุพฺพกํ วิจฺฉิทฺทกํ วิกฺขายิตกํ วิกฺขิตฺตกํ หตวิกฺขิตฺตกํ โลหิตกํ ปุฬวกํ อฏฺิกนฺติ อิเม ทส อสุภา. พุทฺธานุสฺสติ ธมฺม สงฺฆ สีล จาค เทวตานุสฺสติ มรณสฺสติ กายคตาสติ อานาปานสฺสติ อุปสมานุสฺสตีติ อิมา ทส อนุสฺสติโย. เมตฺตา กรุณา มุทิตา อุเปกฺขาติ อิเม จตฺตาโร พฺรหฺมวิหารา. อากาสานฺจายตนํ วิฺาณฺจายตนํ อากิฺจฺายตนํ เนวสฺานาสฺายตนนฺติ อิเม จตฺตาโร อารุปฺปา. อาหาเร ปฏิกูลสฺา เอกา สฺา. จตุธาตุววตฺถานํ เอกํ ววตฺถานนฺติ.

ยํ ยสฺส จริตานุกูลนฺติ เอตฺถ ราคจริตสฺส ตาว ทส อสุภา กายคตาสตีติ เอกาทส กมฺมฏฺานานิ อนุกูลานิ, โทสจริตสฺส จตฺตาโร พฺรหฺมวิหารา จตฺตาริ วณฺณกสิณานีติ อฏฺ, โมหจริตสฺส จ วิตกฺกจริตสฺส จ เอกํ อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานเมว, สทฺธาจริตสฺส ปุริมา ฉ อนุสฺสติโย, พุทฺธิจริตสฺส มรณสฺสติ อุปสมานุสฺสติ จตุธาตุววตฺถานํ อาหาเร ปฏิกูลสฺาติ จตฺตาริ, เสสกสิณานิ จตฺตาโร จ อารุปฺปา สพฺพจริตานํ อนุกูลานิ. กสิเณสุ จ ยํ กิฺจิ ปริตฺตํ วิตกฺกจริตสฺส, อปฺปมาณํ โมหจริตสฺส อนุกูลนฺติ เวทิตพฺพํ. ยถาวุตฺเตเนว นเยนาติ ‘‘โยคานุโยคกมฺมสฺส ปทฏฺานตฺตา’’ติ อิมมตฺถํ อติทิสติ.

ยํ กมฺมฏฺานํ คเหตุกาโม โหติ, ตสฺเสว วเสน จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานปทฏฺานํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อาสวกฺขยปฺปตฺตสฺส ขีณาสวสฺส สนฺติเก คเหตพฺพนฺติ อาห – ‘‘อิมินาว กมฺมฏฺาเนน…เป… อุคฺคเหตพฺพ’’นฺติ. อรหนฺตาทโย หีติอาทิ เอกจฺจขีณาสวโต พหุสฺสุโตว กมฺมฏฺานทาเน เสยฺโยติ ทสฺสนตฺถํ อารทฺธํ. มหาหตฺถิปถํ นีหรนฺโต วิยาติ กมฺมฏฺานปถวึ มหาหตฺถิปถํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต วิย. สปฺปายาสปฺปายํ ปริจฺฉินฺทิตฺวาติ ยสฺส กมฺมฏฺานํ อาจิกฺขติ, ตสฺส อุปการานุปการํ ยุตฺติมคฺคเนน ปริจฺฉินฺทิตฺวา.

อิทานิ กมฺมฏฺานทายกสฺส สนฺติกํ คจฺฉนฺเตน โธตมกฺขิเตหิ ปาเทหิ อุปาหนา อารุหิตฺวา ฉตฺตํ คเหตฺวา เตลนาฬิมธุผาณิตาทีนิ คาหาเปตฺวา อนฺเตวาสิกปริวุเตน น คนฺตพฺพํ, คมิกวตฺตํ ปน ปูเรตฺวา อตฺตโน ปตฺตจีวรํ สยเมว คเหตฺวา อนฺตรามคฺเค ยํ ยํ วิหารํ ปวิสติ, สพฺพตฺถ ปวิฏฺกาเล อาคนฺตุกวตฺตํ, นิกฺขมนกาเล คมิกวตฺตนฺติ ยถารหํ ตํ ตํ วตฺตํ ปูเรนฺเตน สลฺลหุกปริกฺขาเรน ปรมสลฺเลขวุตฺตินา หุตฺวา คนฺตพฺพนฺติ อิมมตฺถํ สงฺขิปิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘สลฺลหุกวุตฺตินา วินยาจารสมฺปนฺเนนา’’ติ อาห. เอวํ ปน คนฺตฺวา ตํ วิหารํ ปวิสนฺเตน อนฺตราเยว ทนฺตกฏฺํ กปฺปิยํ การาเปตฺวา คเหตฺวา ปวิสิตพฺพํ, น จ มุหุตฺตํ วิสฺสมิตฺวา ปาทโธวนมกฺขนาทีนิ กตฺวา อาจริยสฺส สนฺติกํ คมิสฺสามีติ อฺํ ปริเวณํ ปวิสิตพฺพํ. กสฺมา? สเจ หิสฺส ตตฺร อาจริยสฺส วิสภาคา ภิกฺขู ภเวยฺยุํ, ตํ เต อาคมนการณํ ปุจฺฉิตฺวา อาจริยสฺส อวณฺณํ ปกาเสตฺวา ‘‘นฏฺโสิ, สเจ ตสฺส สนฺติกํ อาคโต’’ติ วิปฺปฏิสารํ อุปฺปาเทยฺยุํ, เยน ตโตว ปฏินิวตฺเตยฺย, ตสฺมา อาจริยสฺส วสนฏฺานํ ปุจฺฉิตฺวา อุชุกํ ตตฺเถว คนฺตพฺพํ.

วุตฺตปฺปการมาจริยนฺติ –

‘‘ปิโย ครุ ภาวนีโย, วตฺตา จ วจนกฺขโม;

คมฺภีรฺจ กถํ กตฺตา, โน จฏฺาเน นิโยชโก’’ติ. (อ. นิ. ๗.๓๗; เนตฺติ. ๑๑๓) –

เอวมาทินา วุตฺตปฺปการํ สทฺธาทิคุณสมนฺนาคตํ เอกนฺตหิเตสึ วุฑฺฒิปกฺเข ิตํ กลฺยาณมิตฺตํ อาจริยํ. วตฺตปฏิปตฺติยา อาราธิตจิตฺตสฺสาติ เอตฺถ สเจ อาจริโย ทหรตโร โหติ, ปตฺตจีวรปฏิคฺคหณาทีนิ น สาทิตพฺพานิ. สเจ วุฑฺฒตโร, คนฺตฺวา อาจริยํ วนฺทิตฺวา าตพฺพํ. ‘‘นิกฺขิปาวุโส, ปตฺตจีวร’’นฺติ วุตฺเตน นิกฺขิปิตพฺพํ. ‘‘ปานียํ ปิวา’’ติ วุตฺเตน สเจ อิจฺฉติ, ปาตพฺพํ. ‘‘ปาเท โธวา’’ติ วุตฺเตน น ตาว โธวิตพฺพา. สเจ หิ อาจริเยน อาภตมุทกํ ภเวยฺย, น สารุปฺปํ สิยา. ‘‘โธวาวุโส, น มยา อาภตํ, อฺเหิ อาภต’’นฺติ วุตฺเตน ปน ยตฺถ อาจริโย น ปสฺสติ, เอวรูเป ปฏิจฺฉนฺเน วา โอกาเส อพฺโภกาสวิหารสฺสปิ วา เอกมนฺเต นิสีทิตฺวา ปาทา โธวิตพฺพา. สเจ อาจริโย เตลนาฬึ อาหรติ, อุฏฺหิตฺวา อุโภหิ หตฺเถหิ สกฺกจฺจํ คเหตพฺพา. สเจ หิ น คณฺเหยฺย, ‘‘อยํ ภิกฺขุ อิโต เอว ปฏฺาย สมฺโภคํ โกเปตี’’ติ อาจริยสฺส อฺถตฺตํ ภเวยฺย. คเหตฺวา ปน น อาทิโตว ปาทา มกฺเขตพฺพา. สเจ หิ ตํ อาจริยสฺส คตฺตพฺภฺชนเตลํ ภเวยฺย, น สารุปฺปํ สิยา, ตสฺมา ปมํ สีสํ มกฺเขตฺวา ขนฺธาทีนิ มกฺเขตพฺพานิ. ‘‘สพฺพปาริหาริยเตลมิทํ, อาวุโส, ปาเทปิ มกฺเขหี’’ติ วุตฺเตน ปน ปาเท มกฺเขตฺวา ‘‘อิมํ เตลนาฬึ เปมิ, ภนฺเต’’ติ วตฺวา อาจริเย คณฺหนฺเต ทาตพฺพา.

คตทิวสโต ปฏฺาย ‘‘กมฺมฏฺานํ เม, ภนฺเต, กเถถ’’อิจฺเจวํ น วตฺตพฺพํ. ทุติยทิวสโต ปน ปฏฺาย สเจ อาจริยสฺส ปกติอุปฏฺาโก อตฺถิ, ตํ ยาจิตฺวา วตฺตํ กาตพฺพํ. สเจ ยาจิโตปิ น เทติ, โอกาเส ลทฺเธเยว กาตพฺพํ. กโรนฺเตน จ ขุทฺทกมชฺฌิมมหนฺตานิ ตีณิ ทนฺตกฏฺานิ อุปนาเมตพฺพานิ. สีตํ อุณฺหนฺติ ทุวิธํ มุขโธวนุทกฺจ นฺหาโนทกฺจ ปฏิยาเทตพฺพํ. ตโต ยํ อาจริโย ตีณิ ทิวสานิ ปริภุฺชติ, ตาทิสเมว นิจฺจํ อุปฏฺาเปตพฺพํ, นิยมํ อกตฺวา ยํ วา ตํ วา ปริภุฺชนฺตสฺส ยถาลทฺธํ อุปนาเมตพฺพํ. กึ พหุนา วุตฺเตน, ยํ ตํ ภควตา ‘‘อนฺเตวาสิเกน, ภิกฺขเว, อาจริยมฺหิ สมฺมา วตฺติตพฺพํ. ตตฺรายํ สมฺมาวตฺตนา – กาลสฺเสว วุฏฺาย อุปาหนา โอมุฺจิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ทนฺตกฏฺํ ทาตพฺพํ, มุโขทกํ ทาตพฺพํ, อาสนํ ปฺเปตพฺพํ. สเจ ยาคุ โหติ, ภาชนํ โธวิตฺวา ยาคุ อุปนาเมตพฺพา’’ติอาทิกํ (มหาว. ๖๖) ขนฺธเก วตฺตํ ปฺตฺตํ, ตํ สพฺพมฺปิ กาตพฺพํ. อิติ อิมินา ยถาวุตฺเตน นเยน ปฏิปชฺชนฺโต วตฺตปฏิปตฺติยา จิตฺตํ อาราเธตีติ ทฏฺพฺพํ.

ปฺจสนฺธิกนฺติ ปฺจปพฺพํ, ปฺจภาคนฺติ อตฺโถ. กมฺมฏฺานสฺส อุคฺคณฺหนนฺติ กมฺมฏฺานคนฺถสฺส อุคฺคณฺหนํ, ตทตฺถปริปุจฺฉา กมฺมฏฺานสฺส ปริปุจฺฉนา. อถ วา คนฺถโต อตฺถโต จ กมฺมฏฺานสฺส อุคฺคณฺหนํ อุคฺคโห, ตตฺถ สํสยปริปุจฺฉนา ปริปุจฺฉา. กมฺมฏฺานสฺส อุปฏฺานนฺติ นิมิตฺตุปฏฺานํ, เอวํ ภาวนมนุยุฺชนฺตสฺส ‘‘เอวมิทํ นิมิตฺตํ อุปฏฺาตี’’ติ อุปธารณํ, ตถา กมฺมฏฺานปฺปนา ‘‘เอวํ ฌานมปฺเปตี’’ติ. กมฺมฏฺานสฺส ลกฺขณนฺติ คณนานุพนฺธนาผุสนานํ วเสน ภาวนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา ปนาย สมฺปตฺติ, ตโต ปรมฺปิ วา สลฺลกฺขณาทิวเสน มตฺถกปฺปตฺตีติ กมฺมฏฺานสภาวสฺส สลฺลกฺขณํ. เตนาห – ‘‘กมฺมฏฺานสภาวุปธารณนฺติ วุตฺตํ โหตี’’ติ.

อตฺตนาปิ น กิลมติ โอธิโส กมฺมฏฺานสฺส อุคฺคณฺหนโต, ตโต เอว อาจริยมฺปิ น วิเหเติ ธมฺมาธิกรณมฺปิ ภาวนาย มตฺถกํ ปาปนโต. ตสฺมาติ ตํนิมิตฺตํ อตฺตโนอกิลมนอาจริยาวิเหนเหตุ. โถกนฺติ โถกํ โถกํ. ตตฺถาติ ยตฺถ อาจริโย วสติ, ตตฺถ. สปฺปายํ โหตีติ อาวาสสปฺปายาทิลาเภน มนสิการผาสุตา ภาวนานุกูลตา โหติ. โยชนปรมนฺติ อิมินา คาวุตอฑฺฒโยชนานิปิ สงฺคณฺหาติ. ยสฺมา ปน มนฺทปฺโ คาวุเต อฑฺฒโยชเน โยชนมตฺเต วา วสนฺโต กมฺมฏฺานสฺส กิสฺมิฺจิเทว าเน สนฺเทเห วา สติสมฺโมเส วา ชาเต กาลสฺเสว วิหาเร วตฺตํ กตฺวา อนฺตรามคฺเค ปิณฺฑาย จริตฺวา ภตฺตกิจฺจปริโยสาเนเยว อาจริยสฺส วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ตํ ทิวสํ อาจริยสฺส สนฺติเก กมฺมฏฺานํ โสเธตฺวา ทุติยทิวเส อาจริยํ วนฺทิตฺวา นิกฺขมิตฺวา อนฺตรามคฺเค ปิณฺฑาย จริตฺวา อกิลมนฺโตเยว อตฺตโน วสนฏฺานํ อาคนฺตุํ สกฺขิสฺสติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘มนฺทปฺโ โยชนปรมํ คนฺตฺวา’’ติ. สเจ ติกฺขปฺโ โยชนปรเม ผาสุกฏฺานํ น ลภติ, เตน กมฺมฏฺาเน สพฺพํ คณฺิฏฺานํ ฉินฺทิตฺวา วิสุทฺธํ อาวชฺชนปฏิพทฺธํ กมฺมฏฺานํ กตฺวา โยชนปรมโต ทูรมฺปิ คนฺตุํ วฏฺฏตีติ อาห ‘‘ติกฺขปฺโ ทูรมฺปิ คนฺตฺวา’’ติ.

อฏฺารสเสนาสนโทสวิวชฺชิตนฺติ มหตฺตํ, นวตฺตํ, ชิณฺณตฺตํ, ปนฺถนิสฺสิตตฺตํ, โสณฺฑี, ปณฺณํ, ปุปฺผํ, ผลํ, ปตฺถนียตา, นครสนฺนิสฺสิตตา, ทารุสนฺนิสฺสิตตา, เขตฺตสนฺนิสฺสิตตา, วิสภาคานํ ปุคฺคลานํ อตฺถิตา, ปฏฺฏนสนฺนิสฺสิตตา, ปจฺจนฺตสนฺนิสฺสิตตา, รชฺชสีมสนฺนิสฺสิตตา, อสปฺปายตา, กลฺยาณมิตฺตานํ อลาโภติ อิเมหิ อฏฺารสหิ เสนาสนโทเสหิ วิวชฺชิตํ. อิเมสฺหิ อฏฺารสนฺนํ โทสานํ อฺตเรน สมนฺนาคตํ เสนาสนํ ภาวนาย อนนุรูปํ.

กสฺมา? มหาวิหาเร (วิสุทฺธิ. ๑.๕๒) ตาว พหู นานาฉนฺทา สนฺนิปตนฺติ, เต อฺมฺํ ปฏิวิรุทฺธตาย วตฺตํ น กโรนฺติ, โพธิยงฺคณาทีนิ อสมฺมฏฺาเนว โหนฺติ, อนุปฏฺาปิตํ ปานียํ ปริโภชนียํ. ตตฺรายํ ‘‘โคจรคาเม ปิณฺฑาย จริสฺสามี’’ติ ปตฺตจีวรมาทาย นิกฺขนฺโตปิ สเจ ปสฺสติ วตฺตํ อกตํ, ปานียฆฏํ วา ริตฺตํ, อถาเนน วตฺตํ กาตพฺพํ โหติ, ปานียํ อุปฏฺาเปตพฺพํ, อกโรนฺโต วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. กโรนฺตสฺส กาโล อติกฺกมติ, อติทิวา ปวิฏฺโ นิฏฺิตาย ภิกฺขาย กิฺจิ น ลภติ. ปฏิสลฺลานคโตปิ สามเณรทหรภิกฺขูนํ อุจฺจาสทฺเทน สงฺฆกมฺเมหิ จ วิกฺขิปติ. ยตฺถ ปน สพฺพํ วตฺตํ กตเมว โหติ, อวเสสาปิ จ ฆฏฺฏนา นตฺถิ, เอวรูเป มหาวิหาเรปิ วิหาตพฺพํ.

นววิหาเร พหุ นวกมฺมํ โหติ, อกโรนฺตํ อุชฺฌายนฺติ. ยตฺถ ปน ภิกฺขู เอวํ วทนฺติ ‘‘อายสฺมา ยถาสุขํ สมณธมฺมํ กโรตุ, มยํ นวกมฺมํ กริสฺสามา’’ติ, เอวรูเป วิหาตพฺพํ.

ชิณฺณวิหาเร ปน พหุ ปฏิชคฺคิตพฺพํ โหติ, อนฺตมโส อตฺตโน เสนาสนมตฺตมฺปิ อปฺปฏิชคฺคนฺตํ อุชฺฌายนฺติ, ปฏิชคฺคนฺตสฺส กมฺมฏฺานํ ปริหายติ.

ปนฺถนิสฺสิเต มหาปถวิหาเร รตฺตินฺทิวํ อาคนฺตุกา สนฺนิปตนฺติ. วิกาเล อาคตานํ อตฺตโน เสนาสนํ ทตฺวา รุกฺขมูเล วา ปาสาณปิฏฺเ วา วสิตพฺพํ โหติ, ปุนทิวเสปิ เอวเมวาติ กมฺมฏฺานสฺส โอกาโส น โหติ. ยตฺถ ปน เอวรูโป อาคนฺตุกสมฺพาโธ น โหติ, ตตฺถ วิหาตพฺพํ.

โสณฺฑี นาม ปาสาณโปกฺขรณี โหติ. ตตฺถ ปานียตฺถํ มหาชโน สโมสรติ, นครวาสีนํ ราชกุลูปกตฺเถรานํ อนฺเตวาสิกา รชนกมฺมตฺถาย อาคจฺฉนฺติ, เตสํ ภาชนทารุโทณิกาทีนิ ปุจฺฉนฺตานํ ‘‘อสุเก จ อสุเก จ าเน’’ติ ทสฺเสตพฺพานิ โหนฺติ. เอวํ สพฺพกาลมฺปิ นิจฺจพฺยาวโฏ โหติ.

ยตฺถ นานาวิธํ สากปณฺณํ โหติ, ตตฺถสฺส กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ทิวาวิหารํ นิสินฺนสฺสปิ สนฺติเก สากหาริกา คายมานา ปณฺณํ อุจฺจินนฺติโย วิสภาคสทฺทสงฺฆฏฺฏเนน กมฺมฏฺานนฺตรายํ กโรนฺติ.

ยตฺถ ปน นานาวิธา มาลาคจฺฉา สุปุปฺผิตา โหนฺติ, ตตฺราปิ ตาทิโสเยว อุปทฺทโว.

ยตฺถ นานาวิธํ อมฺพชมฺพุปนสาทิผลํ โหติ, ตตฺถ ผลตฺถิกา อาคนฺตฺวา ยาจนฺติ, อเทนฺตสฺส กุชฺฌนฺติ, พลกฺกาเรน วา คณฺหนฺติ, สายนฺหสมเย วิหารมชฺเฌ จงฺกมนฺเตน เต ทิสฺวา ‘‘กึ อุปาสกา เอวํ กโรถา’’ติ วุตฺตา ยถารุจิ อกฺโกสนฺติ, อวาสายปิสฺส ปรกฺกมนฺติ.

ปตฺถนีเย ปน โลกสมฺมเต ทกฺขิณคิริหตฺถิกุจฺฉิเจติยคิริจิตฺตลปพฺพตสทิเส วิหาเร วิหรนฺตํ ‘‘อยํ อรหา’’ติ สมฺภาเวตฺวา วนฺทิตุกามา มนุสฺสา สมนฺตา โอสรนฺติ, เตนสฺส น ผาสุ โหติ. ยสฺส ปน ตํ สปฺปายํ โหติ, เตน ทิวา อฺตฺถ คนฺตฺวา รตฺตึ วสิตพฺพํ.

นครสนฺนิสฺสิเต วิสภาคารมฺมณานิ อาปาถมาคจฺฉนฺติ, กุมฺภทาสิโยปิ ฆเฏหิ นิฆํสนฺติโย คจฺฉนฺติ, โอกฺกมิตฺวา มคฺคํ น เทนฺติ, อิสฺสรมนุสฺสาปิ วิหารมชฺเฌ สาณึ ปริกฺขิปิตฺวา นิสีทนฺติ.

ทารุสนฺนิสฺสเย ปน ยตฺถ กฏฺานิ จ ทพฺพุปกรณรุกฺขา จ สนฺติ, ตตฺถ กฏฺหาริกา ปุพฺเพ วุตฺตสากปุปฺผหาริกา วิย อผาสุกํ กโรนฺติ. วิหาเร รุกฺขา สนฺติ, เต ‘‘ฉินฺทิตฺวา ฆรานิ กริสฺสามา’’ติ มนุสฺสา อาคนฺตฺวา ฉินฺทนฺติ. สเจ สายนฺหสมเย ปธานฆรา นิกฺขมิตฺวา วิหารมชฺเฌ จงฺกมนฺโต เต ทิสฺวา ‘‘กึ อุปาสกา เอวํ กโรถา’’ติ วทติ, ยถารุจิ อกฺโกสนฺติ, อวาสายปิสฺส ปรกฺกมนฺติ.

โย ปน เขตฺตสนฺนิสฺสิโต โหติ สมนฺตา เขตฺเตหิ ปริวาริโต, ตตฺถ มนุสฺสา วิหารมชฺเฌเยว ขลํ กตฺวา ธฺํ มทฺทนฺติ, ปมุเขสุ สยนฺติ, อฺมฺปิ พหุํ อผาสุํ กโรนฺติ. ยตฺรปิ มหาสงฺฆโภโค โหติ, อารามิกกุลานํ คาโว รุนฺธนฺติ, อุทกวารํ ปฏิเสเธนฺติ, มนุสฺสา วีหิสีสํ คเหตฺวา ‘‘ปสฺสถ ตุมฺหากํ อารามิกกุลานํ กมฺม’’นฺติ สงฺฆสฺส ทสฺเสนฺติ. เตน เตน การเณน ราชราชมหามตฺตานํ ฆรทฺวารํ คนฺตพฺพํ โหติ, อยมฺปิ เขตฺตสนฺนิสฺสิเตเนว สงฺคหิโต.

ยตฺถ อฺมฺวิสภาคา เวรี ภิกฺขู วิหรนฺติ, เย กลหํ กโรนฺตา ‘‘มา, ภนฺเต, เอวํ กโรถา’’ติ วาริยมานา ‘‘เอตสฺส ปํสุกูลิกสฺส อาคตกาลโต ปฏฺาย นฏฺามฺหา’’ติ วตฺตาโร ภวนฺติ.

โยปิ อุทกปฏฺฏนํ วา ถลปฏฺฏนํ วา สนฺนิสฺสิโต โหติ, ตตฺถ อภิณฺหํ นาวาหิ จ สตฺเถหิ จ อาคตมนุสฺสา ‘‘โอกาสํ เทถ, ปานียํ เทถ, โลณํ เทถา’’ติ ฆฏฺฏยนฺตา อผาสุํ กโรนฺติ.

ปจฺจนฺตสนฺนิสฺสิเต ปน มนุสฺสา พุทฺธาทีสุ อปฺปสนฺนา โหนฺติ.

รชฺชสีมสนฺนิสฺสิเต ราชภยํ โหติ. ตฺหิ ปเทสํ เอโก ราชา ‘‘น มยฺหํ วเส วตฺตตี’’ติ ปหรติ, อิตโรปิ ‘‘น มยฺหํ วเส วตฺตตี’’ติ. ตตฺรายํ ภิกฺขุ กทาจิ อิมสฺส รฺโ วิชิเต วิจรติ, กทาจิ เอตสฺส, อถ นํ ‘‘จรปุริโส อย’’นฺติ มฺมานา อนยพฺยสนํ ปาเปนฺติ.

อสปฺปายตาติ วิสภาครูปาทิอารมฺมณสโมสรเณน วา อมนุสฺสปริคฺคหิตตาย วา อสปฺปายตา. ตตฺริทํ วตฺถุ – เอโก กิร เถโร อรฺเ วสติ. อถสฺส เอกา ยกฺขินี ปณฺณสาลทฺวาเร ตฺวา คายิ. โส นิกฺขมิตฺวา ทฺวาเร อฏฺาสิ, สา คนฺตฺวา จงฺกมนสีเส คายิ. เถโร จงฺกมนสีสํ อคมาสิ, สา สตโปริเส ปปาเต ตฺวา คายิ. เถโร ปฏินิวตฺติ, อถ นํ สา เวเคน คนฺตฺวา คเหตฺวา ‘‘มยา, ภนฺเต, น เอโก, น ทฺเว ตุมฺหาทิสา ขาทิตา’’ติ อาห.

ยตฺถ น สกฺกา โหติ อาจริยํ วา อาจริยสมํ วา อุปชฺฌายํ วา อุปชฺฌายสมํ วา กลฺยาณมิตฺตํ ลทฺธุํ, ตตฺถ โส กลฺยาณมิตฺตานํ อลาโภ มหาโทโสเยว. ตสฺมา อิเมสํ อฏฺารสนฺนํ โทสานํ อฺตเรน สมนฺนาคตํ เสนาสนํ ภาวนาย อนนุรูปนฺติ เวทิตพฺพํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ อฏฺกถาสุ

‘‘มหาวาสํ นวาวาสํ, ชราวาสฺจ ปนฺถนึ;

โสณฺฑึ ปณฺณฺจ ปุปฺผฺจ, ผลํ ปตฺถิตเมว จ.

‘‘นครํ ทารุนา เขตฺตํ, วิสภาเคน ปฏฺฏนํ;

ปจฺจนฺตสีมาสปฺปายํ, ยตฺถ มิตฺโต น ลพฺภติ.

‘‘อฏฺารเสตานิ านานิ, อิติ วิฺาย ปณฺฑิโต;

อารกา ปริวชฺเชยฺย, มคฺคํ สปฺปฏิภยํ ยถา’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๕๒);

ปฺจเสนาสนงฺคสมนฺนาคตนฺติ คามโต นาติทูรนาจฺจาสนฺนตาทีหิ ปฺจหิ เสนาสนงฺเคหิ สมนฺนาคตํ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, เสนาสนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เสนาสนํ นาติทูรํ โหติ นาจฺจาสนฺนํ คมนาคมนสมฺปนฺนํ, ทิวา อปฺปากิณฺณํ รตฺตึ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสํ, อปฺปฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสํ, ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน วิหรนฺตสฺส อปฺปกสิเรน อุปฺปชฺชนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา, ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน เถรา ภิกฺขู วิหรนฺติ พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา, เต กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉติ ปริปฺหติ ‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ, อิมสฺส โก อตฺโถ’ติ. ตสฺส เต อายสฺมนฺโต อวิวฏฺเจว วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตฺจ อุตฺตานึ กโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาานิเยสุ ธมฺเมสุ กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, เสนาสนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑๑).

เอตฺถ จ นาติทูรํ นาจฺจาสนฺนํ คมนาคมนสมฺปนฺนนฺติ เอกํ องฺคํ, ทิวา อปฺปากิณฺณํ รตฺตึ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสนฺติ เอกํ, อปฺปฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสนฺติ เอกํ, ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน วิหรนฺตสฺส…เป… ปริกฺขาราติ เอกํ, ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน เถรา…เป… กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺตีติ เอกํ. เอวํ ปฺจงฺคานิ เวทิตพฺพานิ.

อุปจฺฉินฺนขุทฺทกปลิโพเธนาติ เอตฺถ ปน ขุทฺทกปลิโพเธ อุปจฺฉินฺทนฺเตน ทีฆานิ เกสนขโลมานิ ฉินฺทิตพฺพานิ, ชิณฺณจีวเรสุ อคฺคฬอนุวาตปริภณฺฑทานาทินา ทฬฺหีกมฺมํ วา ตนฺตุจฺเฉทาทีสุ ตุนฺนกมฺมํ วา กาตพฺพํ, กิลิฏฺานิ วา รชิตพฺพานิ. สเจ ปตฺเต มลํ โหติ, ปตฺโต ปจิตพฺโพ, มฺจปีาทีนิ โสเธตพฺพานิ. ภตฺตสมฺมทํ ปฏิวิโนเทตฺวาติ โภชนนิมิตฺตํ ปริสฺสมํ วิโนเทตฺวา. อาหาเร หิ อาสยํ ปวิฏฺมตฺเต ตสฺส อาคนฺตุกตาย เยภุยฺเยน สิยา สรีรสฺส โกจิ ปริสฺสโม, ตํ วูปสเมตฺวา. ตสฺมิฺหิ อวูปสนฺเต สรีรเขเทน จิตฺตํ เอกคฺคตํ น ลเภยฺยาติ. อุคฺคเหตพฺพโต อุคฺคโห, สพฺโพปิ กมฺมฏฺานวิธิ, น ปุพฺเพ วุตฺตอุคฺคหมตฺตํ. อาจริยโต อุคฺคโห อาจริยุคฺคโห, ตโต. เอกปทมฺปีติ เอกโกฏฺาสมฺปิ.

อนุพนฺธนาติ อสฺสาสปสฺสาสานํ อนุคมนวเสน สติยา นิรนฺตรํ อนุปวตฺตนา. ผุสนาติ อสฺสาสปสฺสาเส คเณนฺตสฺส คณนํ ปฏิสํหริตฺวา เต สติยา อนุพนฺธนฺตสฺส ยถา อปฺปนา โหติ, ตถา จิตฺตํ เปนฺตสฺส จ นาสิกคฺคาทิฏฺานสฺส เนสํ ผุสนา. ยสฺมา ปน คณนาทิวเสน วิย ผุสนาทิวเสน วิสุํ มนสิกาโร นตฺถิ, ผุฏฺผุฏฺฏฺาเนเยว คณนา กาตพฺพาติ ทสฺเสตุํ อิธ ผุสนาคหณนฺติ ทีเปนฺโต ‘‘ผุสนาติ ผุฏฺฏฺาน’’นฺติ อาห. ปนาติ สมาธานํ. ตฺหิ สมฺมเทว อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อาธานํ ปนํ โหติ. ตถา หิ สมาธิ ‘‘จิตฺตสฺส ิติ สณฺิตี’’ติ นิทฺทิฏฺโ. สมาธิปฺปธานา ปน อปฺปนาติ อาห ‘‘ปนาติ อปฺปนา’’ติ. อนิจฺจตาทีนํ สํลกฺขณโต สลฺลกฺขณา วิปสฺสนา. ปวตฺตโต นิมิตฺตโต จ วินิวฏฺฏนโต วินิวฏฺฏนา มคฺโค. สกลสํกิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธิภาวโต สพฺพโส สุทฺธีติ ปาริสุทฺธิ ผลํ. เตสนฺติ วิวฏฺฏนาปาริสุทฺธีนํ. ปฏิปสฺสนาติ ปติ ปติ ทสฺสนํ เปกฺขนํ. เตนาห ‘‘ปจฺจเวกฺขณา’’ติ.

ขณฺฑนฺติ เอกํ ตีณิ ปฺจาติ เอวํ คณนาย ขณฺฑนํ. โอกาเสติ คณนาวิธึ สนฺธายาห, คณนานิสฺสิโตว น กมฺมฏฺานนิสฺสิโต. สิขาปฺปตฺตํ นุ โขติ อิทํ จิรตรํ คณนาย มนสิกโรนฺตสฺส วเสน วุตฺตํ. โส หิ ตถา ลทฺธํ อวิกฺเขปมตฺตํ นิสฺสาย เอวํ มฺเยฺย. อสฺสาสปสฺสาเสสุ โย อุปฏฺาติ, ตํ คเหตฺวาติ อิทํ อสฺสาสปสฺสาเสสุ ยสฺส เอโกว ปมํ อุปฏฺาติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยสฺส ปน อุโภปิ อุปฏฺหนฺติ, เตน อุภยมฺปิ คเหตฺวา คเณตพฺพํ. โย อุปฏฺาตีติ อิมินา จ ทฺวีสุ นาสาปุฏวาเตสุ โย ปากฏตโร อุปฏฺาติ, โส คเหตพฺโพติ อยมฺปิ อตฺโถ ทีปิโตติ ทฏฺพฺพํ. ปวตฺตมานํ ปวตฺตมานนฺติ อาเมฑิตวจเนน นิรนฺตรํ อสฺสาสปสฺสาสานํ อุปลกฺขณํ ทสฺเสติ. เอวนฺติ วุตฺตปฺปกาเรน อุปลกฺเขตฺวาวาติ อตฺโถ. ปมํ เอเกกสฺมึ อุปฏฺิเตปิ อุปลกฺเขตฺวาว คเณนฺตสฺส กเมน อุโภปิ ปากฏา โหนฺตีติ อาห – ‘‘อสฺสาสปสฺสาสา ปากฏา โหนฺตี’’ติ. เตน ‘‘อุปลกฺเขตฺวาว คเณตพฺพ’’นฺติ อิมสฺส ‘‘ตสฺเสวํ คณยโต…เป… ปากฏา โหนฺตี’’ติ อิทํ การณวจนํ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ ปากฏา โหนฺตีติ คณนาวเสน พหิทฺธา วิกฺเขปาภาวโต วิภูตา โหนฺติ.

ปลิฆาย ปริวตฺตนกํ ยตฺถ นิกฺขิปนฺติ, โส ปลิฆตฺถมฺโภ. ติยามรตฺตินฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ปุริมนเยนาติ สีฆคณนาย, โคปาลกคณนายาติ อตฺโถ. เอโก ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจาติ คณนาวิธิทสฺสนํ. ตสฺมา อฏฺาติอาทีสุปิ เอกโต ปฏฺาเยว ปจฺเจกํ อฏฺาทีนิ ปาเปตพฺพานิ. ‘‘สีฆํ สีฆํ คเณตพฺพเมวา’’ติ วตฺวา ตตฺถ การณํ นิทสฺสนฺจ ทสฺเสติ ‘‘คณนาปฏิพทฺเธ หี’’ติอาทินา. ตตฺถ อรียติ เตน นาวาติ อริตฺตํ, ปาชนทณฺโฑ. อริตฺเตน อุปตฺถมฺภนํ อริตฺตุปตฺถมฺภนํ, ตสฺส วเสน.

นิปฺปริยายโต นิรนฺตรปฺปวตฺติ นาม ปนายเมวาติ อาห ‘‘นิรนฺตรปฺปวตฺตํ วิยา’’ติ. อนฺโต ปวิสนฺตํ มนสิกโรนฺโต อนฺโต จิตฺตํ ปเวเสติ นาม. พหิ จิตฺตนีหรเณปิ เอเสว นโย. วาตพฺภาหตนฺติ อพฺภนฺตรคตวาตํ พหุลํ มนสิกโรนฺตสฺส วาเตน ตํ านํ อพฺภาหตํ วิย เมเทน ปูริตํ วิย จ โหติ, ตถา อุปฏฺาติ. นีหรโตติ ผุฏฺโกาสํ มุฺจิตฺวา นีหรโต. ตถา ปน นีหรโต วาตสฺส คติสมนฺเวสนมุเขน นานารมฺมเณสุ จิตฺตํ วิธาวตีติ อาห ‘‘ปุถุตฺตารมฺมเณ จิตฺตํ วิกฺขิปตี’’ติ.

เอตนฺติ เอตํ อสฺสาสปสฺสาสชาตํ. อนุคมนนฺติ ปวตฺตปวตฺตานํ อสฺสาสปสฺสาสานํ อารมฺมณกรณวเสน สติยา อนุ อนุ ปวตฺตนํ อนุคจฺฉนํ. เตเนวาห – ‘‘ตฺจ โข อาทิมชฺฌปริโยสานานุคมนวเสนา’’ติ. นาภิ อาทิ ตตฺถ ปมํ อุปฺปชฺชนโต. ปมุปฺปตฺติวเสน หิ อิธ อาทิจินฺตา, น อุปฺปตฺติมตฺตวเสน. ตถา หิ เต นาภิโต ปฏฺาย ยาว นาสิกคฺคา สพฺพตฺถ อุปฺปชฺชนฺเตว. ยตฺถ ยตฺถ จ อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชนฺติ ธมฺมานํ คมนาภาวโต. ยถาปจฺจยํ ปน เทสนฺตรปฺปตฺติยํ คติสมฺา. หทยํ มชฺฌนฺติ หทยสมีปํ ตสฺส อุปริภาโค มชฺฌํ. นาสิกคฺคํ ปริโยสานนฺติ นาสิกฏฺานํ ตสฺส ปริโยสานํ อสฺสาสปสฺสาสานํ สมฺาย ตทวธิภาวโต. ตถา เหเต จิตฺตสมุฏฺานา วุตฺตา, น จ พหิทฺธา จิตฺตสมุฏฺานานํ สมฺภโว อตฺถิ. เตนาห ‘‘อพฺภนฺตรปวิสนวาตสฺส นาสิกคฺคํ อาที’’ติ. ปวิสนนิกฺขมนปริยาโย ปน ตํสทิสวเสเนว วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. วิกฺเขปคตนฺติ วิกฺเขปํ อุปคตํ, วิกฺขิตฺตํ อสมาหิตนฺติ อตฺโถ. สารทฺธายาติ สทรถภาวาย. อิฺชนายาติ กมฺมฏฺานมนสิการสฺส จลนาย. วิกฺเขปคเตน จิตฺเตนาติ เหตุมฺหิ กรณวจนํ, อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ วา. สารทฺธาติ สทรถา. อิฺชิตาติ อิฺชนกา จลนกา, ตถา ผนฺทิตา.

อาทิมชฺฌปริโยสานวเสนาติอาทิมชฺฌปริโยสานานุคมนวเสน น มนสิ กาตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อนุพนฺธนาย มนสิกโรนฺเตน ผุสนาวเสน ปนาวเสน จ มนสิ กาตพฺพ’’นฺติ เยน อธิปฺปาเยน วุตฺตํ, ตํ วิวริตุํ ‘‘คณนานุพนฺธนาวเสน วิยา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิสุํ มนสิกาโร นตฺถีติ คณนาย อนุพนฺธนาย จ วินา ยถากฺกมํ เกวลํ ผุสนาวเสน ปนาวเสน จ กมฺมฏฺานมนสิกาโร นตฺถิ. นนุ ผุสนาย วินา ปนาย วิย ผุสนาย วินา คณนายปิ มนสิกาโร นตฺถิเยวาติ? ยทิปิ นตฺถิ, คณนา ปน ยถา กมฺมฏฺานมนสิการสฺส มูลภาวโต ปธานภาเวน คเหตพฺพา, เอวํ อนุพนฺธนา ปนาย ตาย วินา ปนาย อสมฺภวโต. ตสฺมา สติปิ ผุสนาย นานนฺตริกภาเว คณนานุพนฺธนา เอว มูลภาวโต ปธานภาเวน คเหตฺวา อิตราสํ ตทภาวํ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘คณนานุพนฺธนาวเสน วิย หิ ผุสนาปนาวเสน วิสุํ มนสิกาโร นตฺถี’’ติ. ยทิ เอวํ ตา กสฺมา อุทฺเทเส วิสุํ คหิตาติ อาห ‘‘ผุฏฺผุฏฺฏฺาเนเยวา’’ติอาทิ. ตตฺถ ผุฏฺผุฏฺฏฺาเนเยว คเณนฺโตติ อิมินา คณนาย ผุสนา องฺคนฺติ ทสฺเสติ. เตนาห – ‘‘คณนาย จ ผุสนาย จ มนสิ กโรตี’’ติ. ตตฺเถวาติ ผุฏฺผุฏฺฏฺาเนเยว. เตติ อสฺสาสปสฺสาเส. สติยา อนุพนฺธนฺโตติ คณนาวิธึ อนุคนฺตฺวา สติยา นิพนฺธนฺโต, ผุฏฺโกาเสเยว เต นิรนฺตรํ อุปธาเรนฺโตติ อตฺโถ. อปฺปนาวเสน จิตฺตํ เปนฺโตติ ยถา อปฺปนา โหติ, เอวํ ยถาอุปฏฺิเต นิมิตฺเต จิตฺตํ เปนฺโต สมาทหนฺโต. อนุพนฺธนาย จาติอาทีสุ อนุพนฺธนาย จ ผุสนาย จ ปนาย จ มนสิ กโรตีติ วุจฺจตีติ โยชนา. สฺวายมตฺโถติ ยฺวายํ ‘‘ผุฏฺผุฏฺฏฺาเนเยว คเณนฺโต ตตฺเถว คณนํ ปฏิสํหริตฺวา เต สติยา อนุพนฺธนฺโต’’ติ วุตฺโต, โส อยมตฺโถ. ยา อจฺจนฺตาย น มิโนติ น วินิจฺฉินติ, สา มานสฺส สมีเปติ อุปมา ยถา โคโณ วิย ควโยติ.

ปงฺคุโฬติ ปีสปฺปี. โทลาติ เปงฺโขโล. กีฬตนฺติ กีฬนฺตานํ. มาตาปุตฺตานนฺติ อตฺตโน ภริยาย ปุตฺตสฺส จ. อุโภ โกฏิโยติ อาคจฺฉนฺตสฺส ปุริมโกฏึ, คจฺฉนฺตสฺส ปจฺฉิมโกฏินฺติ ทฺเวปิ โกฏิโย. มชฺฌฺจาติ โทลาผลกสฺเสว มชฺฌํ. อุปนิพนฺธนตฺถมฺโภ วิยาติ อุปนิพนฺธนตฺถมฺโภ, นาสิกคฺคํ มุขนิมิตฺตํ วา, ตสฺส มูเล สมีเป ตฺวา. กถํ ตฺวา? สติยา วเสน. สติฺหิ ตตฺถ สูปฏฺิตํ กโรนฺโต โยคาวจโร ตตฺถ ิโต นาม โหติ อวยวธมฺเมน สมุทายสฺส อปทิสิตพฺพโต. นิมิตฺเตติ นาสิกคฺคาทินิมิตฺเต. สติยา นิสินฺโนติ สติวเสน นิสีทนฺโต. ‘‘สติฺหิ ตตฺถา’’ติอาทินา าเน วิย วตฺตพฺพํ. ตตฺถาติ ผุฏฺฏฺาเน. เตติ นครสฺส อนฺโต พหิ จ คตา มนุสฺสา เตสํ สงฺคหา จ หตฺถคตา. อาทิโต ปภุตีติ อุปเมยฺยตฺถทสฺสนโต ปฏฺาย.

คาถายํ นิมิตฺตนฺติ อุปนิพนฺธนนิมิตฺตํ. อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺสาติ เอกสฺส จิตฺตสฺส น อารมฺมณํ, อารมฺมณํ น โหนฺตีติ อตฺโถ. อชานโต จ ตโย ธมฺเมติ นิมิตฺตํ อสฺสาโส ปสฺสาโสติ อิเม นิมิตฺตาทโย ตโย ธมฺเม อารมฺมณกรณวเสน อวินฺทนฺตสฺส. -สทฺโท พฺยติเรเก. ภาวนาติ อานาปานสฺสติสมาธิภาวนา. นุปลพฺภตีติ น อุปลพฺภติ น สิชฺฌตีติ อยํ โจทนาคาถาย อตฺโถ. ทุติยา ปน ปริหารคาถา สุวิฺเยฺยาว.

กถนฺติ ตาสํ โจทนาปริหารคาถานํ อตฺถํ วิวริตุํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. อิเม ตโย ธมฺมาติอาทีสุ ปทโยชนาย สทฺธึ อยมตฺถนิทฺเทโส – อิเม นิมิตฺตาทโย ตโย ธมฺมา เอกจิตฺตสฺส กถํ อารมฺมณํ น โหนฺติ, อสติปิ อารมฺมณภาเว น จิเม น จ อิเม ตโย ธมฺมา อวิทิตา โหนฺติ, กถฺจ น โหนฺติ อวิทิตา, เตสฺหิ อวิทิตตฺเต จิตฺตฺจ กถํ วิกฺเขปํ น คจฺฉติ, ปธานฺจ ภาวนาย นิปฺผาทกํ วีริยฺจ กถํ ปฺายติ, นีวรณานํ วิกฺขมฺภกํ สมฺมเทว สมาธานาวหํ ภาวนานุโยคสงฺขาตํ ปโยคฺจ โยคี กถํ สาเธติ, อุปรูปริ โลกิยโลกุตฺตรฺจ วิเสสํ กถมธิคจฺฉตีติ.

อิทานิ ตมตฺถํ กกโจปมาย สาเธตุํ ‘‘เสยฺยถาปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภูมิภาคสฺส วิสมตาย จฺจเล รุกฺเข เฉทนกิริยา น สุกรา สิยา, ตถา จ สติ กกจทนฺตคติ ทุวิฺเยฺยาติ อาห – ‘‘สเม ภูมิภาเค’’ติ. กกเจนาติ ขุทฺทเกน ขรปตฺเตน. เตนาห ‘‘ปุริโส’’ติ. ผุฏฺกกจทนฺตานนฺติ ผุฏฺผุฏฺกกจทนฺตานํ วเสน. เตน กกจทนฺเตหิ ผุฏฺผุฏฺฏฺาเนเยว ปุริสสฺส สติยา อุปฏฺานํ ทสฺเสติ. เตนาห – ‘‘น อาคเต วา คเต วา กกจทนฺเต มนสิ กโรตี’’ติ.

กกจสฺส อากฑฺฒนกาเล ปุริสาภิมุขํ ปวตฺตา อาคตา, เปลฺลนกาเล ตโต วิคตา คตาติ วุตฺตา, น จ อาคตา วา คตา วา กกจทนฺตา อวิทิตา โหนฺติ สพฺพตฺถ สติยา อุปฏฺิตตฺตา ฉินฺทิตพฺพฏฺานํ อผุสิตฺวา คจฺฉนฺตานํ อาคจฺฉนฺตานฺจ กกจทนฺตานํ อภาวโต. ปธานนฺติ รุกฺขสฺส เฉทนวีริยํ. ปโยคนฺติ ตสฺเสว เฉทนกิริยํ. อุปมายํ ‘‘วิเสสมธิคจฺฉตี’’ติ ปทํ ปาฬิยํ นตฺถิ, โยเชตฺวา ปน ทสฺเสตพฺพํ. เตเนว วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๒๗) อุปมายมฺปิ ‘‘วิเสสมธิคจฺฉตี’’ติ ปทํ โยเชตฺวาว วุตฺตํ. ตํสํวณฺณนายฺจ ‘‘วิเสสนฺติ อเนกภาวาปาทนํ, เตน จ สาเธตพฺพํ ปโยชนวิเสส’’นฺติ อตฺโถ วุตฺโต.

ยถา รุกฺโขติอาทิ อุปมาสํสนฺทนํ. อุปนิพนฺธติ อารมฺมเณ จิตฺตํ เอตายาติ สติ อุปนิพนฺธนา นาม, ตสฺสา อสฺสาสปสฺสาสานํ สลฺลกฺขณสฺส นิมิตฺตนฺติ อุปนิพนฺธนานิมิตฺตํ, นาสิกคฺคํ มุขนิมิตฺตํ วา. เอวเมวนฺติ ยถา โส ปุริโส กกเจน รุกฺขํ ฉินฺทนฺโต อาคตคเต กกจทนฺเต อมนสิกโรนฺโตปิ ผุฏฺผุฏฺฏฺาเนเยว สติยา อุปฏฺปเนน อาคตคเต กกจทนฺเต ชานาติ, สุตฺตปทฺจ อวิรชฺฌนฺโต อตฺถกิจฺจํ สาเธติ, เอวเมวํ. นาสิกคฺเค มุขนิมิตฺเตติ ทีฆนาสิโก นาสิกคฺเค, อิตโร มุขํ อสนํ นิมียติ ฉาทียติ เอเตนาติ มุขนิมิตฺตนฺติ ลทฺธนาเม อุตฺตโรฏฺเ.

อิทํ ปธานนฺติ เยน วีริยารมฺเภน อารทฺธวีริยสฺส โยคิโน กาโยปิ จิตฺตมฺปิ กมฺมนิยํ ภาวนากมฺมกฺขมํ ภาวนากมฺมโยคฺคํ โหติ, อิทํ วีริยํ ปธานนฺติ ผเลน เหตุํ ทสฺเสติ. อุปกฺกิเลสา ปหียนฺตีติ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสภูตานิ นีวรณานิ วิกฺขมฺภนวเสน ปหียนฺติ. วิตกฺกา วูปสมฺมนฺตีติ ตโต เอว กามวิตกฺกาทโย มิจฺฉาวิตกฺกา อุปสมํ คจฺฉนฺติ, นีวรณปฺปหาเนน วา ปมชฺฌานาธิคมํ ทสฺเสตฺวา วิตกฺกวูปสมาปเทเสน ทุติยชฺฌานาทีนมธิคมมาห. อยํ ปโยโคติ อยํ ฌานาธิคมสฺส เหตุภูโต กมฺมฏฺานานุโยโค ปโยโค. สํโยชนา ปหียนฺตีติ ทสปิ สํโยชนานิ มคฺคปฺปฏิปาฏิยา สมุจฺเฉทวเสน ปหียนฺติ. อนุสยา พฺยนฺตี โหนฺตีติ ตถา สตฺตปิ อนุสยา อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทเนน ภงฺคมตฺตสฺสปิ อนวเสสโต วิคตนฺตา โหนฺติ. เอตฺถ จ สํโยชนปฺปหานํ นาม อนุสยนิโรเธเนว โหติ, ปหีเนสุ จ สํโยชเนสุ อนุสยานํ เลโสปิ น ภวิสฺสตีติ จ ทสฺสนตฺถํ ‘‘สํโยชนา ปหียนฺติ, อนุสยา พฺยนฺตี โหนฺตี’’ติ วุตฺตํ. อยํ วิเสโสติ อิมํ สมาธึ นิสฺสาย อนุกฺกเมน ลพฺภมาโน อยํ สํโยชนปฺปหานาทิโก อิมสฺส สมาธิสฺส วิเสโสติ อตฺโถ.

ยสฺสาติ เยน. อนุปุพฺพนฺติ อนุกฺกเมน. ปริจิตาติ ปริจิณฺณา. อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – อานาปานสฺสติ ยถา พุทฺเธน ภควตา เทสิตา, ตถา เยน ทีฆรสฺสปชอานนาทิวิธินา อนุปุพฺพํ ปริจิตา สุฏฺุ ภาวิตา, ตโต เอว ปริปุณฺณา โสฬสนฺนํ วตฺถูนํ ปาริปูริยา สพฺพโส ปุณฺณา, โส ภิกฺขุ อิมํ อตฺตโน ขนฺธาทิโลกํ ปฺโภาเสน ปภาเสติ. ยถา กึ? อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา อพฺภาทิอุปกฺกิเลสวิมุตฺโต จนฺทิมา ตารกราชา วิยาติ. ‘‘อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา’’ติ หิ ปทสฺส นิทฺเทเส มหิกาทีนมฺปิ วุตฺตตฺตา เอตฺถ อาทิ-สทฺทโลโป กโตติ เวทิตพฺโพ.

อิธาติ กกจูปมาย. อสฺสาติ โยคิโน. อิธาติ วา อิมสฺมึ าเน. อสฺสาติ อุปมาภูตสฺส กกจสฺส. อาคตคตวเสน ยถา ตสฺส ปุริสสฺส อมนสิกาโร, เอวํ อสฺสาสปสฺสาสานํ อาคตคตวเสน อมนสิการมตฺตเมว อานยนปฺปโยชนํ. น จิเรเนวาติ อิทํ กตาธิการํ สนฺธาย วุตฺตํ. นิมิตฺตนฺติ ปฏิภาคนิมิตฺตํ. อวเสสชฺฌานงฺคปฏิมณฺฑิตาติ วิตกฺกาทิอวเสสชฺฌานงฺคปฏิมณฺฑิตาติ วทนฺติ, วิจาราทีติ ปน วตฺตพฺพํ นิปฺปริยาเยน วิตกฺกสฺส อปฺปนาภาวโต. โส หิ ปาฬิยํ ‘‘อปฺปนา พฺยปฺปนา’’ติ นิทฺทิฏฺโ, ตํสมฺปโยคโต วา ยสฺมา ฌานํ อปฺปนาติ อฏฺกถาโวหาโร, ฌานงฺเคสุ จ สมาธิ ปธานํ, ตสฺมา ตํ อปฺปนาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อวเสสชฺฌานงฺคปฏิมณฺฑิตา อปฺปนาสงฺขาตา ปนา จ สมฺปชฺชตี’’ติ อาห. กสฺสจิ ปน คณนาวเสเนว มนสิการกาลโต ปภุตีติ เอตฺถ ‘‘อนุกฺกมโต…เป… ปตฺตํ วิย โหตี’’ติ เอตฺตโกว คนฺโถ ปริหีโน, ปุราณโปตฺถเกสุ ปน กตฺถจิ โส คนฺโถ ลิขิโตเยว ติฏฺติ.

สารทฺธกายสฺส กสฺสจิ ปุคฺคลสฺส. โอนมติ วตฺถิกาทิปลมฺพเนน. วิกูชตีติ สทฺทํ กโรติ. วลึ คณฺหาตีติ. ตตฺถ ตตฺถ วลินํ โหติ. กสฺมา? ยสฺมา สารทฺธกาโย ครุโก โหตีติ. กายทรถวูปสเมน สทฺธึ สิชฺฌมาโน โอฬาริกอสฺสาสปสฺสาสนิโรโธ พฺยติเรกมุเขน ตสฺส สาธนํ วิย วุตฺโต. โอฬาริกอสฺสาสปสฺสาสนิโรธวเสนาติ อนฺวยวเสน ตทตฺถสฺส สาธนํ. กายทรเถ วูปสนฺเตติ จิตฺตชรูปานํ ลหุมุทุกมฺมฺภาเวน โย เสสติสนฺตติรูปานมฺปิ ลหุอาทิภาโว, โส อิธ กายสฺส ลหุภาโวติ อธิปฺเปโต. สฺวายํ ยสฺมา จิตฺตสฺส ลหุอาทิภาเวน วินา นตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ลหุกํ โหตี’’ติ.

โอฬาริเก อสฺสาสปสฺสาเส นิรุทฺเธติอาทิ เหฏฺา วุตฺตนยมฺหิ วิเจตพฺพาการปฺปตฺตสฺส กายสงฺขารสฺส วิจยนวิธึ ทสฺเสตุํ อานีตํ.

อุปรูปริ วิภูตานีติ ภาวนาพเลน อุทฺธํ อุทฺธํ ปากฏานิ โหนฺติ. เทสโตติ ปกติยา ผุสนเทสโต, ปุพฺเพ อตฺตโน ผุสนวเสน อุปธาริตฏฺานโต.

‘‘กตฺถ นตฺถี’’ติ านวเสน ‘‘กสฺส นตฺถี’’ติ ปุคฺคลวเสน จ วีมํสิยมานมตฺถํ เอกชฺฌํ กตฺวา วิภาเวตุํ ‘‘อนฺโตมาตุกุจฺฉิย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘ยถา อุทเก นิมุคฺคสฺส นิรุทฺโธกาสตาย อสฺสาสปสฺสาสา น ปวตฺตนฺติ, เอวํ อนฺโตมาตุกุจฺฉิยํ. ยถา มตานํ สมุฏฺาปกจิตฺตาภาวโต, เอวํ อสฺีภูตานํ มุจฺฉาปเรตานํ อสฺีสุ วา ชาตานํ, ตถา นิโรธสมาปนฺนาน’’นฺติ อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน วุตฺตํ. มหาคณฺิปเท ปน ‘‘มุจฺฉาปเรตานํ จิตฺตปฺปวตฺติยา ทุพฺพลภาวโต’’ติ การณํ วุตฺตํ. จตุตฺถชฺฌานสมาปนฺนานํ ธมฺมตาวเสเนว เนสํ อนุปฺปชฺชนํ, ตถา รูปารูปภวสมงฺคีนํ. เกจิ ปน ‘‘อนุปุพฺพโต สุขุมภาวปฺปตฺติยา จตุตฺถชฺฌานสมาปนฺนสฺส, รูปภเว รูปานํ ภวงฺคสฺส จ สุขุมภาวโต รูปภวสมงฺคีนํ นตฺถี’’ติ การณํ วทนฺติ. อตฺถิเยว เต อสฺสาสปสฺสาสา ปาริเสสโตติ อธิปฺปาโย ยถาวุตฺตสตฺตฏฺานวินิมุตฺตสฺส อสฺสาสปสฺสาสานํ อนุปฺปชฺชนฏฺานสฺส อภาวโต. ปกติผุฏฺวเสนาติ ปกติยา ผุสนฏฺานวเสน. นิมิตฺตํ เปตพฺพนฺติ สติยา ตตฺถ สุขปฺปวตฺตนตฺถํ ถิรตรํ สฺาณํ ปวตฺเตตพฺพํ. ถิรสฺาปทฏฺานา หิ สติ. อิมเมวาติ อิมํ เอว อนุปฏฺหนฺตสฺส กายสงฺขารสฺส กณฺฏกุฏฺาปนาเยน อุปฏฺาปนวิธิเมว. อตฺถวสนฺติ เหตุํ. อตฺโถ หิ ผลํ. โส ยสฺส วเสน ปวตฺตติ, โส อตฺถวโสติ. มุฏฺสฺสติสฺสาติ วินฏฺสฺสติสฺส. อสมฺปชานสฺสาติ สมฺปชฺวิรหิตสฺส, ภาเวนฺตสฺส อนุกฺกเมน อนุปฏฺหนฺเต อสฺสาสปสฺสาเส วีมํสิตฺวา ‘‘อิเม เต’’ติ อุปธาเรตุํ สมฺมเทว ชานิตุฺจ สมตฺถาหิ สติปฺาหิ วิรหิตสฺสาติ อธิปฺปาโย. อิโต อฺํ กมฺมฏฺานํ. ครุกนฺติ ภาริยํ. สา จสฺส ครุกตา ภาวนาย สุทุกฺกรภาเวนาติ อาห ‘‘ครุกภาวน’’นฺติ.

อุปรูปริ สนฺตสุขุมภาวาปตฺติโต ‘‘พลวตี สุวิสทา สูรา จ สติ ปฺา จ อิจฺฉิตพฺพา’’ติ วตฺวา สุขุมสฺส นาม อตฺถสฺส สาธเนนปิ สุขุเมเนว ภวิตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิทานิ อนุปฏฺหนฺตานํ อสฺสาสปสฺสาสานํ ปริเยสนุปายํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตาหิ จ ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อนุปทนฺติ ปทานุปทํ. จริตฺวาติ โคจรํ คเหตฺวา. ตสฺมึเยว าเนติ อุปนิพนฺธนนิมิตฺตสฺิเต าเน. โยเชตฺวาติ มนสิกาเรน โยเชตฺวา. ‘‘สติรสฺมิยา พนฺธิตฺวา’’ติ วา วุตฺตเมวตฺถมาห ‘‘ตสฺมึเยว าเน โยเชตฺวา’’ติ. น หิ อุปเมยฺเย พนฺธนโยชนฏฺานานิ วิสุํ ลพฺภนฺติ. นิมิตฺตนฺติ อุคฺคหนิมิตฺตํ ปฏิภาคนิมิตฺตํ วา. อุภยมฺปิ หิ อิธ เอกชฺฌํ วุตฺตํ. ตถา หิ ตูลปิจุอาทิ อุปมตฺตยํ อุคฺคเห ยุชฺชติ, เสสํ อุภยตฺถ. เอกจฺเจติ เอเก อาจริยา.

ตารกรูปํ วิยาติ ตารกาย ปภารูปํ วิย. มณิคุฬิกาทิอุปมา ปฏิภาเค วฏฺฏนฺติ. กถํ ปเนตํ เอกํเยว กมฺมฏฺานํ อเนกาการโต อุปฏฺาตีติ อาห ‘‘ตฺจ ปเนต’’นฺติอาทิ. สุตฺตนฺตนฺติ เอกํ สุตฺตํ. ปคุณปฺปวตฺติภาเวน อวิจฺเฉทํ มหาวิสยตฺจ สนฺธายาห ‘‘มหตี ปพฺพเตยฺยา นที วิยา’’ติ. ตตฺถ พฺยฺชนสมฺปตฺติยา สมนฺตภทฺทกํ สุตฺตํ สพฺพภาคมโนหรา สพฺพปาลิผุลฺลา วนฆฏา วิยาติ อาห ‘‘เอกา วนราชิ วิยา’’ติ. เตนาห ภควา ‘‘วนปฺปคุมฺเพ ยถ ผุสฺสิตคฺเค’’ติ (ขุ. ปา. ๖.๑๓; สุ. นิ. ๒๓๖) นานานุสนฺธิยํ นานาเปยฺยาลํ วิวิธนยนิปุณํ พหุวิธกมฺมฏฺานมุขํ สุตฺตนฺตํ อตฺถิเกหิ สกฺกจฺจํ สมุปปชฺชิตพฺพนฺติ อาห – ‘‘สีตจฺฉาโย…เป… รุกฺโข วิยา’’ติ. สฺานานตายาติ นิมิตฺตุปฏฺานโต ปุพฺเพ ปวตฺตสฺานํ นานาวิธภาวโต. สฺชนฺติ ภาวนาสฺาชนิตํ ภาวนาสฺาย สฺชานนมตฺตํ. น หิ อสภาวสฺส กุโตจิ สมุฏฺานํ อตฺถิ. เตนาห – ‘‘นานโต อุปฏฺาตี’’ติ, อุปฏฺานาการมตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ.

อิเม ตโย ธมฺมาติ อสฺสาโส ปสฺสาโส นิมิตฺตนฺติ อิเม ตโย ธมฺมา. นตฺถีติ กมฺมฏฺานวเสน มนสิกาตพฺพภาเวน นตฺถิ น อุปลพฺภติ. น อุปจารนฺติ อุปจารมฺปิ น ปาปุณาติ, ปเคว อปฺปนนฺติ อธิปฺปาโย. ยสฺส ปนาติ วิชฺชมานปกฺโข วุตฺตนยานุสาเรเนว เวทิตพฺโพ.

อิทานิ วุตฺตสฺเสว อตฺถสฺส สมตฺถนตฺถํ กกจูปมายํ อาคตา ‘‘นิมิตฺต’’นฺติอาทิกา คาถา ปจฺจานีตา. นิมิตฺเตติ ยถาวุตฺเต ปฏิภาคนิมิตฺเต. เอวํ โหตีติ ภาวนมนุยุตฺตสฺส เอวํ โหติ, ตสฺมา ‘‘ปุนปฺปุนํ เอวํ มนสิ กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. โวสานํ อาปชฺเชยฺยาติ ‘‘นิมิตฺตํ นาม ทุกฺกรํ อุปฺปาเทตุํ, ตยิทํ ลทฺธํ, หนฺทาหํ ทานิ ยทา วา ตทา วา วิเสสํ นิพฺพตฺเตสฺสามี’’ติ สงฺโกจํ อาปชฺเชยฺย. วิสีเทยฺยาติ ‘‘เอตฺตกํ กาลํ ภาวนมนุยุตฺตสฺส นิมิตฺตมฺปิ น อุปฺปนฺนํ, อภพฺโพ มฺเ วิเสสสฺสา’’ติ วิสาทํ อาปชฺเชยฺย. ‘‘อิมาย ปฏิปทาย ชรามรณโต มุจฺจิสฺสามีติ ปฏิปนฺนสฺส นิมิตฺต’’นฺติ วุตฺเต กถํ สงฺโกจาปตฺติ, ภิยฺโยโส มตฺตาย อุสฺสาหเมว กเรยฺยาติ ‘‘นิมิตฺตมิทํ…เป… วตฺตพฺโพ’’ติ มชฺฌิมภาณกา อาหุ. เอวนฺติ วุตฺตปฺปกาเรน ปฏิภาคนิมิตฺเตเยว ภาวนาจิตฺตสฺส ปเนน. อิโต ปภุตีติ อิโต ปฏิภาคนิมิตฺตุปฺปตฺติโต ปฏฺาย. ปุพฺเพ ยํ วุตฺตํ ‘‘อนุพนฺธนาย ผุสนาย ปนาย จ มนสิ กโรตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.อานาปานสฺสติสมาธิกถา), ตตฺถ อนุพนฺธนํ ผุสนฺจ วิสฺสชฺเชตฺวา ปนาวเสเนว ภาเวตพฺพนฺติ อาห ‘‘ปนาวเสน ภาวนา โหตี’’ติ.

โปราเณหิ วุตฺโตวายมตฺโถติ ทสฺเสนฺโต ‘‘นิมิตฺเต’’ติ คาถมาห. ตตฺถ นิมิตฺเตติ ปฏิภาคนิมิตฺเต. ปยํ จิตฺตนฺติ ภาวนาจิตฺตํ เปนฺโต, ปนาวเสน มนสิกโรนฺโตติ อตฺโถ. นานาการนฺติ ‘‘จตฺตาโร วณฺณา’’ติ เอวํ วุตฺตํ นานาการํ. อาการสามฺวเสน เหตํ เอกวจนํ. วิภาวยนฺติ วิภาเวนฺโต อนฺตรธาเปนฺโต. นิมิตฺตุปฺปตฺติโต ปฏฺาย หิ เต อาการา อมนสิการโต อนฺตรหิตา วิย โหนฺติ. อสฺสาสปสฺสาเสติ อสฺสาสปสฺสาเส โย นานากาโร, ตํ วิภาวยํ, อสฺสาสปสฺสาสสมฺภูเต วา นิมิตฺเต. สกํ จิตฺตํ นิพนฺธตีติ ตาย เอว ปนาย อตฺตโน จิตฺตํ อุปนิพนฺธติ, อปฺเปตีติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘วิภาวยนฺติ วิภาเวนฺโต, วิทิตํ ปากฏํ กโรนฺโต’’ติ อตฺถํ วทนฺติ, ตํ ปุพฺพภาควเสน ยุชฺเชยฺย. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ธิติสมฺปนฺนตฺตา ธีโร โยคี อสฺสาสปสฺสาเส นานาการํ วิภาเวนฺโต นานาการโต เต ปชานนฺโต วิทิเต ปากเฏ กโรนฺโต นานาการํ วา โอฬาริโกฬาริเก ปสฺสมฺเภนฺโต วูปสเมนฺโต ตตฺถ ยํ ลทฺธํ นิมิตฺตํ, ตสฺมึ จิตฺตํ เปนฺโต อนุกฺกเมน สกํ จิตฺตํ นิพนฺธติ อปฺเปตีติ.

ยทา สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ สุวิสทานิ ติกฺขานิ ปวตฺตนฺติ, ตทา อสฺสทฺธิยาทีนํ ทูรีภาเวน สาติสยํ ถามปฺปตฺเตหิ สตฺตหิ พเลหิ ลทฺธุปตฺถมฺภานิ วิตกฺกาทีนิ กามาวจราเนว ฌานงฺคานิ พหูนิ หุตฺวา ปาตุภวนฺติ. ตโต เอว เตสํ อุชุวิปจฺจนีกภูตา กามจฺฉนฺทาทโย สทฺธึ ตเทกฏฺเหิ ปาปธมฺเมหิ วิทูรี ภวนฺติ ปฏิภาคนิมิตฺตุปฺปตฺติยา สทฺธึ, ตํ อารพฺภ อุปจารชฺฌานํ อุปฺปชฺชติ. เตน วุตฺตํ ‘‘นิมิตฺตุปฏฺานโต ปภุติ นีวรณานิ วิกฺขมฺภิตาเนว โหนฺตี’’ติอาทิ. ตตฺถ สนฺนิสินฺนาวาติ สมฺมเทว นิสีทึสุ เอว, อุปสนฺตาเยวาติ อตฺโถ. วิกฺขมฺภิตาเนว สนฺนิสินฺนาวาติ อวธารเณน ปน ตทตฺถํ อุสฺสาโห กาตพฺโพติ ทสฺเสติ. ทฺวีหากาเรหีติ ฌานธมฺมานํ ปฏิปกฺขทูรีภาโว ถิรภาวปฺปตฺติ จาติ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ. อิทานิ ตานิ การณานิ อวตฺถามุเขน ทสฺเสตุํ ‘‘อุปจารภูมิยํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุปจารภูมิยนฺติ อุปจาราวตฺถายํ. ยทิปิ หิ ตทา ฌานงฺคานิ ปฏุตรานิ มหคฺคตภาวปฺปตฺตานิ นุปฺปชฺชนฺติ, เตสํ ปน ปฏิปกฺขธมฺมานํ วิกฺขมฺภเนน จิตฺตํ สมาธิยติ. เตนาห ‘‘นีวรณปฺปหาเนนา’’ติ. ปฏิลาภภูมิยนฺติ ฌานสฺส อธิคมาวตฺถายํ. ตทา หิ อปฺปนาปฺปตฺตานํ ฌานธมฺมานํ อุปฺปตฺติยา จิตฺตํ สมาธิยติ. เตนาห ‘‘องฺคปาตุภาเวนา’’ติ.

อุปจาเร องฺคานิ น ถามชาตานิ โหนฺติ องฺคานํ อถามชาตตฺตา. ยถา นาม ทหโร กุมารโก อุกฺขิปิตฺวา ปิยมาโน ปุนปฺปุนํ ภูมิยํ ปตติ, เอวเมว อุปจาเร อุปฺปนฺเน จิตฺตํ กาเลน นิมิตฺตํ อารมฺมณํ กโรติ, กาเลน ภวงฺคํ โอตรติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อุปจารสมาธิ กุสลวีถิยํ ชวิตฺวา ภวงฺคํ โอตรตี’’ติ. อปฺปนายํ ปน องฺคานิ ถามชาตานิ โหนฺติ เตสํ ถามชาตตฺตา. ยถา นาม พลวา ปุริโส อาสนา วุฏฺาย ทิวสมฺปิ ติฏฺเยฺย, เอวเมว อปฺปนาสมาธิมฺหิ อุปฺปนฺเน จิตฺตํ สกึ ภวงฺควารํ ฉินฺทิตฺวา เกวลมฺปิ รตฺตึ เกวลมฺปิ ทิวสํ ติฏฺติ, กุสลชวนปฏิปาฏิวเสเนว ปวตฺตติ. เตนาห – ‘‘อปฺปนาสมาธิ…เป… น ภวงฺคํ โอตรตี’’ติ. วณฺณโตติ ปิจุปิณฺฑตารกรูปาทีสุ วิย อุปฏฺิตวณฺณโต. ลกฺขณโตติ ขรภาวาทิสภาวโต อนิจฺจาทิสภาวโต วา. รกฺขิตพฺพํ ตํ นิมิตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ.

ลทฺธปริหานีติ ลทฺธอุปจารชฺฌานปริหานิ. นิมิตฺเต อวินสฺสนฺเต ตทารมฺมณํ ฌานํ อปริหีนเมว โหติ, นิมิตฺเต ปน อารกฺขาภาเวน วินฏฺเ ลทฺธํ ลทฺธํ ฌานมฺปิ วินสฺสติ ตทายตฺตวุตฺติโต. เตนาห ‘‘อารกฺขมฺหี’’ติอาทิ.

อิทานิ ตตฺรายํ รกฺขณูปาโยติอาทินา –

‘‘อาวาโส โคจโร ภสฺสํ, ปุคฺคโล โภชนํ อุตุ;

อิริยาปโถติ สตฺเตเต, อสปฺปาเย วิวชฺชเย.

‘‘สปฺปาเย สตฺต เสเวถ, เอวฺหิ ปฏิปชฺชโต;

น จิเรเนว กาเลน, โหติ กสฺสจิ อปฺปนา’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๕๙) –

เอวํ วุตฺตํ รกฺขณวิธึ สงฺเขปโต วิภาเวติ. ตตฺรายํ วิตฺถาโร – ยสฺมึ อาวาเส วสนฺตสฺส อนุปฺปนฺนํ วา นิมิตฺตํ นุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนํ วา วินสฺสติ, อนุปฏฺิตา จ สติ น อุปฏฺาติ, อสมาหิตฺจ จิตฺตํ น สมาธิยติ, อยํ อสปฺปาโย. ยตฺถ นิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ เจว ถาวรฺจ โหติ, สติ อุปฏฺาติ, จิตฺตํ สมาธิยติ, อยํ สปฺปาโย. ตสฺมา ยสฺมึ วิหาเร พหู อาวาสา โหนฺติ, ตตฺถ เอกเมกสฺมึ ตีณิ ตีณิ ทิวสานิ วสิตฺวา ยตฺถสฺส จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, ตตฺถ วสิตพฺพํ.

โคจรคาโม ปน โย เสนาสนโต อุตฺตเรน วา ทกฺขิเณน วา นาติทูเร ทิยฑฺฒโกสพฺภนฺตเร โหติ สุลภสมฺปนฺนภิกฺโข, โส สปฺปาโย, วิปรีโต อสปฺปาโย.

ภสฺสนฺติ ทฺวตฺตึสติรจฺฉานกถาปริยาปนฺนํ อสปฺปายํ. ตฺหิสฺส นิมิตฺตนฺตรธานาย สํวตฺตติ. ทสกถาวตฺถุนิสฺสิตํ สปฺปายํ, ตมฺปิมตฺตาย ภาสิตพฺพํ.

ปุคฺคโลปิ อติรจฺฉานกถิโก สีลาทิคุณสมฺปนฺโน, ยํ นิสฺสาย อสมาหิตํ วา จิตฺตํ สมาธิยติ, สมาหิตํ วา จิตฺตํ ถิรตรํ โหติ, เอวรูโป สปฺปาโย. กายทฬฺหีพหุโล ปน ติรจฺฉานกถิโก อสปฺปาโย. โส หิ ตํ กทฺทโมทกมิว อจฺฉํ อุทกํ มลีนเมว กโรติ, ตาทิสฺจ อาคมฺม โกฏปพฺพตวาสีทหรสฺเสว สมาปตฺติ วินสฺสติ, ปเคว นิมิตฺตํ.

โภชนํ ปน กสฺสจิ มธุรํ, กสฺสจิ อมฺพิลํ สปฺปายํ โหติ. อุตุปิ กสฺสจิ สีโต, กสฺสจิ อุณฺโห สปฺปาโย โหติ. ตสฺมา ยํ โภชนํ วา อุตุํ วา เสวนฺตสฺส ผาสุ โหติ, อสมาหิตํ วา จิตฺตํ สมาธิยติ, สมาหิตํ วา ถิรตรํ โหติ. ตํ โภชนํ, โส จ อุตุ สปฺปาโย. อิตรํ โภชนํ, อิตโร จ อุตุ อสปฺปาโย.

อิริยาปเถสุปิ กสฺสจิ จงฺกโม สปฺปาโย โหติ, กสฺสจิ สยนฏฺานนิสชฺชานํ อฺตโร. ตสฺมา ตํ อาวาสํ วิย ตีณิ ทิวสานิ อุปปริกฺขิตฺวา ยสฺมึ อิริยาปเถ อสมาหิตํ จิตฺตํ สมาธิยติ, สมาหิตํ วา ถิรตรํ โหติ, โส สปฺปาโย, อิตโร อสปฺปาโยติ เวทิตพฺโพ. อิติ อิมํ สตฺตวิธํ อสปฺปายํ วชฺเชตฺวา สปฺปายํ เสวิตพฺพํ. เอวํ ปฏิปนฺนสฺส หิ นิมิตฺตาเสวนพหุลสฺส น จิเรเนว กาเลน โหติ กสฺสจิ อปฺปนา.

ยสฺส ปน เอวมฺปิ ปฏิปชฺชโต น โหติ, เตน ทสวิธํ อปฺปนาโกสลฺลํ สมฺปาเทตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘วตฺถุวิสทกิริยา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๘๕; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๑๘; สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๒๓๒; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๔๑๘) วิตฺถุวิสทกิริยา นาม อชฺฌตฺติกพาหิรานํ วตฺถูนํ วิสทภาวกรณํ. ยทา หิสฺส เกสนขโลมานิ ทีฆานิ โหนฺติ, สรีรํ วา เสทมลคฺคหิตํ, ตทา อชฺฌตฺติกํ วตฺถุ อวิสทํ โหติ อปริสุทฺธํ. ยทา ปนสฺส จีวรํ ชิณฺณํ กิลิฏฺํ ทุคฺคนฺธํ โหติ, เสนาสนํ วา อุกฺลาปํ, ตทา พาหิรํ วตฺถุ อวิสทํ โหติ อปริสุทฺธํ. อชฺฌตฺติกพาหิเร หิ วตฺถุมฺหิ อวิสเท อุปฺปนฺเนสุ จิตฺตเจตสิเกสุ าณมฺปิ อปริสุทฺธํ โหติ อปริสุทฺธานิ ทีปกปลฺลิกวฏฺฏิเตลานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนทีปสิขาย โอภาโส วิย. อปริสุทฺเธน จ าเณน สงฺขาเร สมฺมสโต สงฺขาราปิ อวิภูตา โหนฺติ, กมฺมฏฺานมนุยุฺชโต กมฺมฏฺานมฺปิ วุทฺธึ วิรุฬฺหึ เวปุลฺลํ น คจฺฉติ. วิสเท ปน อชฺฌตฺติกพาหิเร วตฺถุมฺหิ อุปฺปนฺเนสุ จิตฺตเจตสิเกสุ าณมฺปิ วิสทํ โหติ ปริสุทฺธานิ ทีปกปลฺลิกวฏฺฏิเตลานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนทีปสิขาย โอภาโส วิย. ปริสุทฺเธน จ าเณน สงฺขาเร สมฺมสโต สงฺขาราปิ วิภูตาโหนฺติ, กมฺมฏฺานมนุยุฺชโต กมฺมฏฺานมฺปิ วุทฺธึ วิรุฬฺหึ เวปุลฺลํ คจฺฉติ.

อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนตา นาม สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ สมภาวกรณํ. สเจ หิสฺส สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ โหติ, อิตรานิ มนฺทานิ, ตโต วีริยินฺทฺริยํ ปคฺคหกิจฺจํ, สตินฺทฺริยํ อุปฏฺานกิจฺจํ, สมาธินฺทฺริยํ อวิกฺเขปกิจฺจํ, ปฺินฺทฺริยํ ทสฺสนกิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกติ. ตสฺมา ตํ ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณน วา ยถา วา มนสิกโรโต พลวํ ชาตํ, ตถา อมนสิกาเรน หาเปตพฺพํ. วกฺกลิตฺเถรวตฺถุ เจตฺถ นิทสฺสนํ. สเจ ปน วีริยินฺทฺริยํ พลวํ โหติ, อถ เนว สทฺธินฺทฺริยํ อธิโมกฺขกิจฺจํ กาตุํ สกฺโกติ, น อิตรานิ อิตรกิจฺจเภทํ. ตสฺมา ตํ ปสฺสทฺธาทิภาวนาย หาเปตพฺพํ. ตตฺราปิ โสณตฺเถรวตฺถุ ทสฺเสตพฺพํ. เอวํ เสเสสุปิ เอกสฺส พลวภาเว สติ อิตเรสํ อตฺตโน กิจฺเจสุ อสมตฺถตา เวทิตพฺพา.

วิเสสโต ปเนตฺถ สทฺธาปฺานํ สมาธิวีริยานฺจ สมตํ ปสํสนฺติ. พลวสทฺโธ หิ มนฺทปฺโ มุธปฺปสนฺโน โหติ, อวตฺถุสฺมึ ปสีทติ. พลวปฺโ มนฺทสทฺโธ เกราฏิกปกฺขํ ภชติ, เภสชฺชสมุฏฺิโต วิย โรโค อเตกิจฺโฉ โหติ. อุภินฺนํ สมตาย วตฺถุสฺมึเยว ปสีทติ. พลวสมาธึ ปน มนฺทวีริยํ สมาธิสฺส โกสชฺชปกฺขตฺตา โกสชฺชํ อภิภวติ, พลววีริยํ มนฺทสมาธึวีริยสฺส อุทฺธจฺจปกฺขตฺตา อุทฺธจฺจํ อภิภวติ. สมาธิ ปน วีริเยน สํโยชิโต โกสชฺเช ปติตุํ น ลภติ, วีริยํ สมาธินา สํโยชิตํ อุทฺธจฺเจ ปติตุํ น ลภติ. ตสฺมา ตทุภยํ สมํ กาตพฺพํ. อุภยสมตาย หิ อปฺปนา โหติ. อปิจ สมาธิกมฺมิกสฺส พลวตีปิ สทฺธา วฏฺฏติ. เอวฺหิ สทฺทหนฺโต โอกปฺเปนฺโต อปฺปนํ ปาปุณิสฺสติ, สมาธิปฺาสุ ปน สมาธิกมฺมิกสฺส เอกคฺคตา พลวตี วฏฺฏติ. เอวฺหิ โส อปฺปนํ ปาปุณาติ, วิปสฺสนากมฺมิกสฺส ปฺา พลวตี วฏฺฏติ. เอวฺหิ โส ลกฺขณปฺปฏิเวธํ ปาปุณาติ, อุภินฺนํ ปน สมตายปิ อปฺปนา โหติเยว. สติ ปน สพฺพตฺถ พลวตี วฏฺฏติ. สติ หิ จิตฺตํ อุทฺธจฺจปกฺขิกานํ สทฺธาวีริยปฺานํ วเสน อุทฺธจฺจปาตโต โกสชฺชปกฺเขน จ สมาธินา โกสชฺชปาตโต รกฺขติ. ตสฺมา สา โลณธูปนํ วิย สพฺพพฺยฺชเนสุ, สพฺพกมฺมิกอมจฺโจ วิย จ สพฺพราชกิจฺเจสุ สพฺพตฺถ อิจฺฉิตพฺพา.

นิมิตฺตกุสลตา นาม ปถวีกสิณาทิกสฺส จิตฺเตกคฺคตานิมิตฺตสฺส อกตสฺส กรณโกสลฺลํ, กตสฺส ภาวนาโกสลฺลํ, ภาวนาย ลทฺธสฺส รกฺขณโกสลฺลฺจ, ตํ อิธ อธิปฺเปตํ.

กถํ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคเหตพฺพํ, ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคณฺหาติ? ยทาสฺส อจฺจารทฺธวีริยตาทีหิ อุทฺธตํ จิตฺตํ โหติ, ตทา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทโย ตโย อภาเวตฺวา ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคาทโย ภาเวติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา (สํ. นิ. ๕.๒๓๔) –

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ นิพฺพาเปตุกาโม อสฺส, โส ตตฺถ สุกฺขานิ เจว ติณานิ ปกฺขิเปยฺย, สุกฺขานิ จ โคมยานิ ปกฺขิเปยฺย, สุกฺขานิ จ กฏฺานิ ปกฺขิเปยฺย, มุขวาตฺจ ทเทยฺย, น จ ปํสุเกน โอกิเรยฺย, ภพฺโพ นุ โข โส ปุริโส ตํ มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ นิพฺพาเปตุนฺติ. โน เหตํ, ภนฺเต. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยสฺมึ สมเย อุทฺธตํ จิตฺตํ โหติ, อกาโล ตสฺมึ สมเย ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย. อกาโล วีริย…เป… อกาโล ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย. ตํ กิสฺส เหตุ? อุทฺธตํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตํ เอเตหิ ธมฺเมหิ ทุวูปสมยํ โหติ.

‘‘ยสฺมึ โข, ภิกฺขเว, สมเย อุทฺธตํ จิตฺตํ โหติ, กาโล ตสฺมึ สมเย ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย. กาโล สมาธิ…เป… กาโล อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย. ตํ กิสฺส เหตุ? อุทฺธตํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตํ เอเตหิ ธมฺเมหิ สุวูปสมยํ โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ นิพฺพาเปตุกาโม อสฺส, โส ตตฺถ อลฺลานิ เจว ติณานิ ปกฺขิเปยฺย, อลฺลานิ จ โคมยานิ ปกฺขิเปยฺย, อลฺลานิ จ กฏฺานิ ปกฺขิเปยฺย, อุทกวาตฺจ ทเทยฺย, ปํสุเกน จ โอกิเรยฺย, ภพฺโพ นุ โข โส ปุริโส ตํ มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ นิพฺพาเปตุนฺติ. เอวํ, ภนฺเต’’ติ.

เอตฺถ จ ยถาสกํ อาหารวเสน ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคาทีนํ ภาวนา เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, กายปฺปสฺสทฺธิ จิตฺตปฺปสฺสทฺธิ, ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตติ. ตถา อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมถนิมิตฺตํ อพฺยคฺคนิมิตฺตํ, ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตติ…เป… ตถา อตฺถิ, ภิกฺขเว, อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา ธมฺมา, ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).

ตตฺถ ยถาสฺส ปสฺสทฺธิอาทโย อุปฺปนฺนปุพฺพา, ตํ อาการํ สลฺลกฺเขตฺวา เตสํ อุปฺปาทนวเสน ปวตฺตมนสิกาโรว ตีสุ ปเทสุปิ โยนิโสมนสิกาโร นาม. สมถนิมิตฺตนฺติ จ สมถสฺเสเวตํ อธิวจนํ, อวิกฺเขปฏฺเน จ ตสฺเสว อพฺยคฺคนิมิตฺตนฺติ.

อปิจ สตฺต ธมฺมา ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – ปณีตโภชนเสวนตา, อุตุสุขเสวนตา, อิริยาปถสุขเสวนตา, มชฺฌตฺตปฺปโยคตา, สารทฺธกายปุคฺคลปริวชฺชนตา, ปสฺสทฺธกายปุคฺคลเสวนตา, ตทธิมุตฺตตาติ.

เอกาทส ธมฺมา สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – วตฺถุวิสทตา, นิมิตฺตกุสลตา, อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนตา, สมเย จิตฺตสฺส นิคฺคหณตา, สมเย จิตฺตสฺส ปคฺคหณตา, นิรสฺสาทสฺส จิตฺตสฺส สทฺธาสํเวควเสน สมฺปหํสนตา, สมปฺปวตฺตสฺส อชฺฌุเปกฺขนตา, อสมาหิตปุคฺคลปริวชฺชนตา, สมาหิตปุคฺคลเสวนตา, ฌานวิโมกฺขปจฺจเวกฺขณตา, ตทธิมุตฺตตาติ.

ปฺจ ธมฺมา อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – สตฺตมชฺฌตฺตตา, สงฺขารมชฺฌตฺตตา, สตฺตสงฺขารเกลายนปุคฺคลปริวชฺชนตา, สตฺตสงฺขารมชฺฌตฺตปุคฺคลเสวนตา, ตทธิมุตฺตตาติ. อิติ อิเมหิ อากาเรหิ เอเต ธมฺเม อุปฺปาเทนฺโต ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคาทโย ภาเวติ นาม. เอวํ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคเหตพฺพํ, ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคณฺหาติ.

กถฺจ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปคฺคเหตพฺพํ, ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ? ยทาสฺส อติสิถิลวีริยตาทีหิ จิตฺตํ ลีนํ โหติ, ตทา ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคาทโย ตโย อภาเวตฺวา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทโย ภาเวติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา (สํ. นิ. ๕.๒๓๔) –

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส ปริตฺตํ อคฺคึ อุชฺชาเลตุกาโม อสฺส, โส ตตฺถ อลฺลานิ เจว ติณานิ ปกฺขิเปยฺย…เป… ปํสุเกน จ โอกิเรยฺย, ภพฺโพ นุ โข โส ปุริโส ตํ ปริตฺตํ อคฺคึ อุชฺชาเลตุนฺติ. โน เหตํ, ภนฺเต. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยสฺมึ สมเย ลีนํ จิตฺตํ โหติ. อกาโล ตสฺมึ สมเย ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย. อกาโล สมาธิ…เป… อกาโล อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย. ตํ กิสฺส เหตุ? ลีนํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตํ เอเตหิ ธมฺเมหิ ทุสมุฏฺาปยํ โหติ.

‘‘ยสฺมิฺจ โข, ภิกฺขเว, สมเย ลีนํ จิตฺตํ โหติ, กาโล ตสฺมึ สมเย ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล วีริย…เป… กาโล ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย. ตํ กิสฺส เหตุ? ลีนํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตํ เอเตหิ ธมฺเมหิ สุสมุฏฺาปยํ โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส ปริตฺตํ อคฺคึ อุชฺชาเลตุกาโม อสฺส, โส ตตฺถ สุกฺขานิ เจว ติณานิ ปกฺขิเปยฺย…เป… น จ ปํสุเกน โอกิเรยฺย, ภพฺโพ นุ โข โส ปุริโส ตํ ปริตฺตํ อคฺคึ อุชฺชาเลตุนฺติ. เอวํ, ภนฺเต’’ติ.

เอตฺถาปิ ยถาสกํ อาหารวเสน ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทีนํ ภาวนา เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ภควตา (สํ. นิ. ๕.๒๓๒) –

‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, กุสลากุสลา ธมฺมา สาวชฺชานวชฺชา ธมฺมา หีนปฺปณีตา ธมฺมา กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคา ธมฺมา, ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตติ. ตถา อตฺถิ, ภิกฺขเว, อารมฺภธาตุ นิกฺกมธาตุ ปรกฺกมธาตุ, ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตติ. ตถา อตฺถิ, ภิกฺขเว, ปีติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา ธมฺมา, ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโร อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย, อุปฺปนฺนสฺส วา ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตตี’’ติ.

ตตฺถ สภาวสามฺลกฺขณปฺปฏิเวธวเสน ปวตฺตมนสิกาโร กุสลาทีสุ โยนิโสมนสิกาโร นาม. อารมฺภธาตุอาทีนํ อุปฺปาทวเสน ปวตฺตมนสิกาโร อารมฺภธาตุอาทีสุ โยนิโสมนสิกาโร นาม. ตตฺถ อารมฺภธาตูติ ปมวีริยํ วุจฺจติ. นิกฺกมธาตูติ โกสชฺชโต นิกฺขนฺตตฺตา ตโต พลวตรํ. ปรกฺกมธาตูติ ปรํ ปรํ านํ อกฺกมนโต ตโตปิ พลวตรํ. ปีติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา ธมฺมาติ ปน ปีติยา เอเวตํ นามํ, ตสฺสาปิ อุปฺปาทกมนสิกาโร โยนิโสมนสิกาโร นาม.

อปิจ สตฺต ธมฺมา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – ปริปุจฺฉกตา, วตฺถุวิสทกิริยา, อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา, ทุปฺปฺปุคฺคลปริวชฺชนา, ปฺวนฺตปุคฺคลเสวนา, คมฺภีราณจริยปจฺจเวกฺขณา, ตทธิมุตฺตตาติ.

เอกาทส ธมฺมา วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – อปายาทิภยปจฺจเวกฺขณตา, วีริยายตฺตโลกิยโลกุตฺตรวิเสสาธิคมานิสํสทสฺสิตา, ‘‘พุทฺธปจฺเจกพุทฺธมหอาสาวเกหิ คตมคฺโค มยา คนฺตพฺโพ, โส จ น สกฺกา กุสีเตน คนฺตุ’’นฺติ เอวํ คมนวีถิปจฺจเวกฺขณตา, ทายกานํ มหปฺผลตากรเณน ปิณฺฑาปจายนตา, ‘‘วีริยารมฺภสฺส วณฺณวาที เม สตฺถา, โส จ อนติกฺกมนียสาสโน, อมฺหากฺจ พหูปกาโร, ปฏิปตฺติยา จ ปูชิยมาโน ปูชิโต โหติ, น อิตรถา’’ติ เอวํ สตฺถุ มหตฺตปจฺจเวกฺขณตา, ‘‘สทฺธมฺมสงฺขาตํ เม มหาทายชฺชํ คเหตพฺพํ, ตฺจ น สกฺกา กุสีเตน คเหตุ’’นฺติ เอวํ ทายชฺชมหตฺตปจฺจเวกฺขณตา, อาโลกสฺามนสิการอิริยาปถปริวตฺตนอพฺโภกาสเสวนาทีหิ ถินมิทฺธวิโนทนตา, กุสีตปุคฺคลปริวชฺชนตา, อารทฺธวีริยปุคฺคลเสวนตา, สมฺมปฺปธานปจฺจเวกฺขณตา, ตทธิมุตฺตตาติ.

เอกาทส ธมฺมา ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ – พุทฺธานุสฺสติ, ธมฺมสงฺฆสีลจาคเทวตานุสฺสติ, อุปสมานุสฺสติ, ลูขปุคฺคลปริวชฺชนตา, สินิทฺธปุคฺคลเสวนตา, ปสาทนียสุตฺตนฺตปจฺจเวกฺขณตา, ตทธิมุตฺตตาติ. อิติ อิเมหิ อากาเรหิ เอเต ธมฺเม อุปฺปาเทนฺโต ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทโย ภาเวติ นาม. เอวํ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปคฺคเหตพฺพํ, ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ.

กถํ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ สมฺปหํเสตพฺพํ, ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ สมฺปหํเสติ? ยทาสฺส ปฺาปโยคมนฺทตาย วา อุปสมสุขานธิคเมน วา นิรสฺสาทํ จิตฺตํ โหติ, ตทา นํ อฏฺสํเวควตฺถุปจฺจเวกฺขเณน สํเวเชติ. อฏฺ สํเวควตฺถูนิ นาม ชาติชราพฺยาธิมรณานิ จตฺตาริ, อปายทุกฺขํ ปฺจมํ, อตีเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, อนาคเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, ปจฺจุปฺปนฺเน อาหารปริเยฏฺิมูลกํ ทุกฺขนฺติ. พุทฺธธมฺมสงฺฆคุณานุสฺสรเณน จสฺส ปสาทํ ชเนติ. เอวํ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ สมฺปหํเสตพฺพํ, ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ สมฺปหํเสติ.

กถํ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ, ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ? ยทาสฺส เอวํ ปฏิปชฺชโต อลีนํ อนุทฺธตํ อนิรสฺสาทํ อารมฺมเณ สมปฺปวตฺตํ สมถวีถิปฺปฏิปนฺนํ จิตฺตํ โหติ, ตทา ตสฺส ปคฺคหนิคฺคหสมฺปหํสเนสุ อพฺยาปารํ อาปชฺชติ สารถิ วิย จ สมปฺปวตฺเตสุ อสฺเสสุ. เอวํ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ, ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ.

อสมาหิตปุคฺคลปริวชฺชนา นาม เนกฺขมฺมปฏิปทํ อนารุฬฺหปุพฺพานํ อเนกกิจฺจปฺปสุตานํ วิกฺขิตฺตหทยานํ ปุคฺคลานํ อารกา ปริจฺจาโค. สมาหิตปุคฺคลเสวนา นาม เนกฺขมฺมปฏิปทํ ปฏิปนฺนานํ สมาธิลาภีนํ ปุคฺคลานํ กาเลน กาลํ อุปสงฺกมนํ. ตทธิมุตฺตตา นาม สมาธิมุตฺตตา, สมาธิครุสมาธินินฺนสมาธิโปณสมาธิปพฺภารตาติ อตฺโถ. เอวเมตํ ทสวิธํ อปฺปนาโกสลฺลํ สมฺปาเทตพฺพํ. เตนาห – ‘‘อิมานิ ทส อปฺปนาโกสลฺลานิ อวิชหนฺเตนา’’ติ. ตตฺถ เยน วิธินา อปฺปนาย กุสโล โหติ, โส ทสวิโธปิ วิธิ อปฺปนาโกสลฺลํ ตนฺนิพฺพตฺตํ วา าณํ, เอวเมตํ ทสวิธํ อปฺปนาโกสลฺลํ สมฺปาเทนฺตสฺส ปฏิลทฺธนิมิตฺตสฺมึ อปฺปนา อุปฺปชฺชติ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘เอวฺหิ สมฺปาทยโต, อปฺปนาโกสลฺลํ อิมํ;

ปฏิลทฺเธ นิมิตฺตสฺมึ, อปฺปนา สมฺปวตฺตตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๖๗);

โยโค กรณีโยติ อปฺปนาโกสลฺลํ สมฺปาเทนฺตสฺสปิ ยทิ อปฺปนา น โหติ, เตน กมฺมฏฺานานุโยคํ อวิชหิตฺวา เรณุอาทีสุ มธุกราทีนํ ปวตฺติ อาการํ สลฺลกฺเขตฺวา ลีนุทฺธตภาเวหิ มานสํ โมเจตฺวา วีริยสมตํ โยเชนฺเตน ปุนปฺปุนํ โยโค กาตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘เอวฺหิ ปฏิปนฺนสฺส, สเจ สา นปฺปวตฺตติ;

ตถาปิ น ชเห โยคํ, วายเมเถว ปณฺฑิโต.

‘‘หิตฺวา หิ สมฺมวายามํ, วิเสสํ นาม มาณโว;

อธิคจฺเฉ ปริตฺตมฺปิ, านเมตํ น วิชฺชติ.

‘‘จิตฺตปฺปวตฺติอาการํ, ตสฺมา สลฺลกฺขยํ พุโธ;

สมตํ วีริยสฺเสว, โยชเยถ ปุนปฺปุนํ.

‘‘อีสกมฺปิ ลยํ ยนฺตํ, ปคฺคณฺเหเถว มานสํ;

อจฺจารทฺธํ นิเสเธตฺวา, สมเมว ปวตฺตเย.

‘‘เรณุมฺหิ อุปฺปลทเล, สุตฺเต นาวาย นาฬิยา;

ยถา มธุกราทีนํ, ปวตฺติ สมฺมวณฺณิตา.

‘‘ลีนอุทฺธตภาเวหิ, โมจยิตฺวาน สพฺพโส;

เอวํ นิมิตฺตาภิมุขํ, มานสํ ปฏิปาทเย’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๖๗);

ยถา หิ อเฉโก มธุกโร ‘‘อสุกสฺมึ รุกฺเข ปุปฺผํ ปุปฺผิต’’นฺติ ตฺวา ติกฺเขน เวเคน ปกฺขนฺโท ตํ อติกฺกมิตฺวา ปฏินิวตฺเตนฺโต ขีเณ เรณุมฺหิ สมฺปาปุณาติ, อปโร อเฉโก มนฺเทน ชเวน ปกฺขนฺโท ขีเณเยว สมฺปาปุณาติ, เฉโก ปน สเมน ชเวน ปกฺขนฺโท สุเขน ปุปฺผราสึ สมฺปตฺวา ยาวทิจฺฉกํ เรณุํ อาทาย มธุํ สมฺปาเทตฺวา มธุํ อนุภวติ, ยถา จ สลฺลกตฺตอนฺเตวาสิเกสุ อุทกถาลคเต อุปฺปลปตฺเต สตฺถกมฺมํ สิกฺขนฺเตสุ เอโก อเฉโก เวเคน สตฺถํ ปาเตนฺโต อุปฺปลปตฺตํ ทฺวิธา วา ฉินฺทติ, อุทเก วา ปเวเสติ, อปโร อเฉโก ฉิชฺชนปเวสนภยา สตฺถเกน ผุสิตุมฺปิ น วิสหติ, เฉโก ปน สเมน ปโยเคน ตตฺถ สตฺถปทํ ทสฺเสตฺวา ปริโยทาตสิปฺโป หุตฺวา ตถารูเปสุ าเนสุ กมฺมํ กตฺวา ลาภํ ลภติ, ยถา จ ‘‘โย จตุพฺยามปฺปมาณํ มกฺกฏกสุตฺตํ อาหรติ, โส จตฺตาริ สหสฺสานิ ลภตี’’ติ รฺา วุตฺเต เอโก อเฉกปุริโส เวเคน มกฺกฏกสุตฺตํ อากฑฺฒนฺโต ตหึ ตหึ ฉินฺทติเยว, อปโร อเฉโก เฉทนภยา หตฺเถน ผุสิตุมฺปิ น วิสหติ, เฉโก ปน โกฏิโต ปฏฺาย สเมน ปโยเคน ทณฺฑเก เวเตฺวา อาหริตฺวา ลาภํ ลภติ, ยถา จ อเฉโก นิยามโก พลววาเต ลงฺการํ ปูเรนฺโต นาวํ วิเทสํ ปกฺขนฺทาเปติ, อปโร อเฉโก มนฺทวาเต ลงฺการํ โอโรเปนฺโต นาวํ ตตฺเถว เปติ, เฉโก ปน มนฺทวาเต ปูเรตฺวา พลววาเต อฑฺฒลงฺการํ กตฺวา โสตฺถินา อิจฺฉิตฏฺานํ ปาปุณาติ, ยถา จ ‘‘โย เตเลน อฉฑฺเฑนฺโต นาฬึ ปูเรติ, โส ลาภํ ลภตี’’ติ อาจริเยน อนฺเตวาสิกานํ วุตฺเต เอโก อเฉโก ลาภลุทฺโธ เวเคน ปูเรนฺโต เตลํ ฉฑฺเฑติ, อปโร อเฉโก เตลฉฑฺฑนภยา อาสิฺจิตุมฺปิ น วิสหติ, เฉโก ปน สเมน ปโยเคน ปูเรตฺวา ลาภํ ลภติ, เอวเมว เอโก ภิกฺขุ อุปฺปนฺเน นิมิตฺเต ‘‘สีฆเมว อปฺปนํ ปาปุณิสฺสามี’’ติ คาฬฺหํ วีริยํ กโรติ, ตสฺส จิตฺตํ อจฺจารทฺธวีริยตฺตา อุทฺธจฺเจ ปตติ, โส น สกฺโกติ อปฺปนํ ปาปุณิตุํ. เอโก อจฺจารทฺธวีริยตาย โทสํ ทิสฺวา ‘‘กึ ทานิ เม อปฺปนายา’’ติ วีริยํ หาเปติ, ตสฺส จิตฺตํ อติลีนวีริยตฺตา โกสชฺเช ปตติ, โสปิ น สกฺโกติ อปฺปนํ ปาปุณิตุํ. โย ปน อีสกมฺปิ ลีนํ ลีนภาวโต, อุทฺธตํ อุทฺธจฺจโต โมเจตฺวา สเมน ปโยเคน นิมิตฺตาภิมุขํ ปวตฺเตติ, โส อปฺปนํ ปาปุณาติ, ตาทิเสน ภวิตพฺพํ.

อิทานิ เอวํ ปฏิปนฺนสฺส อปฺปนาปวตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตสฺเสวํ อนุยุตฺตสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปมํ ปริกมฺมนฺติอาทิ อคฺคหิตคฺคหเณน วุตฺตํ, คหิตคฺคหเณน ปน อวิเสเสน สพฺเพสํ สพฺพา สมฺา. สพฺพานิปิ หิ อปฺปนาย ปริกมฺมตฺตา ปฏิสงฺขารกตฺตา ‘‘ปริกมฺมานี’’ติปิ, ยถา คามาทีนํ อาสนฺนปฺปเทโส ‘‘คามูปจาโร ฆรูปจาโร’’ติ วุจฺจติ, เอวํ อปฺปนาย อาสนฺนตฺตา สมีปจาริตฺตา วา ‘‘อุปจารานี’’ติปิ, อิโต ปุพฺเพ ปริกมฺมานํ อุปริ อปฺปนาย จ อนุโลมนโต ‘‘อนุโลมานี’’ติปิ วุจฺจนฺติ. ยฺเจตฺถ สพฺพนฺติมํ, ตํ ปริตฺตโคตฺตาภิภวนโต มหคฺคตโคตฺตภาวนโต จ ‘‘โคตฺรภู’’ติปิ วุจฺจติ. คํ ตายตีติ หิ โคตฺตํ, ปริตฺตนฺติ ปวตฺตมานํ อภิธานํ พุทฺธิฺจ เอกํสิกวิสยตาย รกฺขตีติ ปริตฺตโคตฺตํ. ยถา หิ พุทฺธิ อารมฺมณภูเตน อตฺเถน วินา น วตฺตติ, เอวํ อภิธานํ อภิเธยฺยภูเตน, ตสฺมา โส ตานิ ตายติ รกฺขตีติ วุจฺจติ. ตํ ปน มหคฺคตานุตฺตรวิธุรํ กามตณฺหาย โคจรภูตํ กามาวจรธมฺมานํ อาเวณิกรูปํ ทฏฺพฺพํ. มหคฺคตโคตฺเตปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิติ เอวรูปสฺส ปริตฺตโคตฺตสฺส อภิภวนโต มหคฺคตโคตฺตสฺส จ ภาวนโต อุปฺปาทนโต อนฺติมํ ‘‘โคตฺรภู’’ติปิ วุจฺจติ. จตุตฺถเมว หิ ปฺจมํ วาติ ขิปฺปาภิฺทนฺธาภิฺานํ วเสน วุตฺตํ. ขิปฺปาภิฺสฺส หิ จตุตฺถํ อปฺเปติ, ทนฺธาภิฺสฺส ปฺจมํ. กสฺมา ปน จตุตฺถํ ปฺจมํ วา อปฺเปติ, น ฉฏฺํ วา สตฺตมํ วาติ อาห ‘‘อาสนฺนภวงฺคปาตตฺตา’’ติ. ยถา หิ ปุริโส ฉินฺนปปาตาภิมุโข ธาวนฺโต าตุกาโมปิ ปริยนฺเต ปาทํ กตฺวา าตุํ น สกฺโกติ, ปปาเต เอว ปตติ, เอวํ ฉฏฺํ วา สตฺตมํ วา อปฺเปตุํ น สกฺโกติ ภวงฺคสฺส อาสนฺนตฺตา. ตสฺมา จตุตฺถปฺจเมสุเยว อปฺปนา โหตีติ เวทิตพฺพา.

‘‘ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๑๒) วุตฺตตฺตา ‘‘อาเสวนปจฺจเยน กุสลา ธมฺมา พลวนฺโต โหนฺตี’’ติ อาห. ยถา อลทฺธาเสวนํ ปมํ ชวนํ ทุพฺพลตฺตา โคตฺรภุํ น อุปฺปาเทติ, ลทฺธาเสวนํ ปน พลวภาวโต ทุติยํ วา ตติยํ วา โคตฺรภุํ อุปฺปาเทติ, เอวํ ลทฺธาเสวนตาย พลวภาวโต ฉฏฺมฺปิ สตฺตมมฺปิ อปฺเปตีติ เถรสฺส อธิปฺปาโย. เตนาห – ‘‘ตสฺมา ฉฏฺํ สตฺตมํ วา อปฺเปตี’’ติ. นฺติ เถรสฺส วจนํ. ปฏิกฺขิตฺตนฺติ สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาเทหิ อนุปตฺถมฺภิตตฺตา ‘‘อตฺตโนมติมตฺตํ เถรสฺเสต’’นฺติ วตฺวา ปฏิกฺขิตฺตํ. ‘‘ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา’’ติ ปน สุตฺตปทมการณํ อาเสวนปจฺจยลาภสฺส พลวภาเว อเนกนฺติกตฺตา. ตถา หิ อลทฺธาเสวนาปิ ปมเจตนา ทิฏฺธมฺมเวทนียา โหติ, ลทฺธาเสวนา ทุติยเจตนา ยาว ฉฏฺเจตนา อปราปริยเวทนียา. ยทิ ฉฏฺํ สตฺตมฺจ ปริกฺขีณชวตฺตา ทุพฺพลํ, น อาเสวนปจฺจเยน พลวํ, กถํ สตฺตมชวนเจตนา อุปปชฺชเวทนียา อานนฺตริยา จ โหตีติ? นายํ วิเสโส อาเสวนปจฺจยลาเภน พลวปฺปตฺติยา กิฺจรหิ กิริยาวตฺถาวิเสสโต. กิริยาวตฺถา หิ อาทิมชฺฌปริโยสานวเสน ติวิธา. ตตฺถ ปริโยสานาวตฺถาย สนฺนิฏฺาปกเจตนาภาเวน อุปปชฺชเวทนียาทิตา โหติ, น พลวภาเวนาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ปฏิสนฺธิยา อนนฺตรปจฺจยภาวิโน วิปากสนฺตานสฺส อนนฺตรปจฺจยภาเวน ตถา อภิสงฺขตตฺตา’’ติ จ วทนฺติ, ตสฺมา ฉฏฺสตฺตมานํ ปปาตาภิมุขตาย ปริกฺขีณชวตา น สกฺกา นิวาเรตุํ. ปุพฺพภาคจิตฺตานีติ ตีณิ จตฺตาริ วา จิตฺตานิ.

เอตฺถาติ เอติสฺสํ กายานุปสฺสนายํ. ปาริสุทฺธึ ปตฺตุกาโมติ อธิคนฺตุกาโม สมาปชฺชิตุกาโม จ. ตตฺถ สลฺลกฺขณาวิวฏฺฏนาวเสน อธิคนฺตุกาโม, สลฺลกฺขณวเสน สมาปชฺชิตุกาโมติ โยเชตพฺพํ. อาวชฺชนสมาปชฺชน…เป… วสิปฺปตฺตนฺติ เอตฺถ เอวํ ตาว ปฺจ วสิโย เวทิตพฺพา – ปมชฺฌานโต วุฏฺาย ปมํ วิตกฺกํ อาวชฺชยโต ภวงฺคํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา อุปฺปนฺนาวชฺชนานนฺตรํ วิตกฺการมฺมณาเนว จตฺตาริ ปฺจ ชวนานิ ชวนฺติ, ตโต ทฺเว ภวงฺคานิ, ตโต ปน วิจารารมฺมณํ อาวชฺชนํ วุตฺตนเยเนว ชวนานีติ เอวํ ปฺจสุ ฌานงฺเคสุ ยทา นิรนฺตรํ จิตฺตํ เปเสตุํ สกฺโกติ, อถสฺส อาวชฺชนวสี สิทฺธา โหติ. อยํ ปน ภวงฺคทฺวยนฺตริตา มตฺถกปฺปตฺตา วสี ภควโต ยมกปาฏิหาริเย ลพฺภติ, อฺเสํ วา ธมฺมเสนาปติอาทีนํ เอวรูเป อุฏฺาย สมุฏฺาย ลหุตรํ อาวชฺชนวสีนิพฺพตฺตนกาเล. สา จ โข อิตฺตรา ปริตฺตกาลา, น สตฺถุ ยมกปาฏิหาริเย วิย จิรตรปฺปพนฺธวตี. ตถา หิ ตํ สาวเกหิ อสาธารณํ วุตฺตํ. อิโต ปรํ สีฆตรา อาวชฺชนวสี นาม นตฺถิ.

อายสฺมโต ปน มหาโมคฺคลฺลานสฺส นนฺโทปนนฺทนาคราชทมเน วิย สีฆํ สมาปชฺชนสมตฺถตา สมาปชฺชนวสี นาม. เอตฺถ จ สมาปชฺชิตุกามตานนฺตรํ ทฺวีสุ ภวงฺเคสุ อุปฺปนฺเนสุ ภวงฺคํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา อุปฺปนฺนาวชฺชนานนฺตรํ สมาปชฺชนํ สีฆํ สมาปชฺชนสมตฺถตา. อยฺจ มตฺถกปฺปตฺตา สมาปชฺชนวสี สตฺถุ ธมฺมเทสนายํ ลพฺภติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘โส โข อหํ, อคฺคิเวสฺสน, ตสฺสาเยว กถาย ปริโยสาเน ตสฺมึเยว ปุริมสฺมึ สมาธินิมิตฺเต อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สณฺเปมิ สนฺนิสาเทมิ เอโกทึ กโรมิ สมาทหามิ, เยน สุทํ นิจฺจกปฺปํ วิหรามี’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๘๗). อิโต สีฆตรา หิ สมาปชฺชนวสี นาม นตฺถิ.

อจฺฉรามตฺตํ วา ทสจฺฉรามตฺตํ วา ขณํ ฌานํ เปตุํ สมตฺถตา อธิฏฺานวสี นาม. ตเถว อจฺฉรามตฺตํ วา ทสจฺฉรามตฺตํ วา ลหุกํ ขณํ ฌานสมงฺคี หุตฺวา ฌานโต วุฏฺาตุํ สมตฺถตา วุฏฺานวสี นาม. ภวงฺคจิตฺตปฺปวตฺติเยว เหตฺถ ฌานโต วุฏฺานํ นาม. เอตฺถ จ ยถา ‘‘เอตฺตกเมว ขณํ ฌานํ เปสฺสามี’’ติ ปุพฺพปริกมฺมวเสน อธิฏฺานสมตฺถตา อธิฏฺานวสี, เอวํ ‘‘เอตฺตกเมว ขณํ ฌานสมงฺคี หุตฺวา ฌานโต วุฏฺหิสฺสามี’’ติ ปุพฺพปริกมฺมวเสน วุฏฺานสมตฺถตา วุฏฺานวสีติ เวทิตพฺพา, ยา สมาปตฺติวุฏฺานกุสลตาติ วุจฺจติ. ปจฺจเวกฺขณวสี ปน อาวชฺชนวสิยา เอว วุตฺตา. ปจฺจเวกฺขณชวนาเนว หิ ตตฺถ อาวชฺชนานนฺตรานิ. ยทคฺเคน หิ อาวชฺชนวสีสิทฺธิ, ตทคฺเคน ปจฺจเวกฺขณวสีสิทฺธิ เวทิตพฺพา.

อรูปปุพฺพงฺคมํ วา…เป… วิปสฺสนํ ปฏฺเปตีติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘กถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ฌานงฺคานิ ปริคฺคเหตฺวาติ วิตกฺกาทีนิ ฌานงฺคานิ ตํสมฺปยุตฺเต จ ธมฺเม สลกฺขณรสาทิวเสน ปริคฺคเหตฺวา. ‘‘ฌานงฺคานี’’ติ หิ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ, ฌานงฺคานิ ปน ปสฺสนฺโต ตํสมฺปยุตฺเต จ ธมฺเม ปสฺสติ. เตสํ นิสฺสยํ หทยวตฺถุนฺติ ยถา นาม ปุริโส อนฺโตเคเห สปฺปํ ทิสฺวา อนุพนฺธมาโน ตสฺส อาสยํ ปสฺสติ, เอวเมว โข อยมฺปิ โยคาวจโร เต อรูปธมฺเม อุปปริกฺขนฺโต ‘‘อิเม ธมฺมา กึ นิสฺสาย ปวตฺตนฺตี’’ติ ปริเยสมาโน เตสํ นิสฺสยํ หทยวตฺถุํ ปสฺสติ. ฌานงฺคานิ อรูปนฺติ เอตฺถ ตํสมฺปยุตฺตธมฺมานมฺปิ คหณํ เวทิตพฺพํ.

อรูปปุพฺพงฺคมํ รูปปริคฺคหํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ รูปปุพฺพงฺคมํ อรูปปริคฺคหํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. เกสาทีสุ โกฏฺาเสสุ…เป… ตํนิสฺสิตรูปานิ จ ปริคฺคเหตฺวาติ เอตฺถ ปน เกเส ตาว ถทฺธลกฺขณํ ปถวีธาตูติ ปริคฺคเหตพฺพํ, ตตฺเถว อาพนฺธนลกฺขณํ อาโปธาตูติ, ปริปาจนลกฺขณํ เตโชธาตูติ, วิตฺถมฺภนลกฺขณํ วาโยธาตูติ เอวํ สพฺพโกฏฺาเสสุ เอเกกสฺมึ โกฏฺาเส จตฺตาริ จตฺตาริ มหาภูตานิ ปริคฺคเหตพฺพานิ. อถาเนน ยาถาวโต สรสลกฺขณโต อาวิภูตาสุ ธาตูสุ กมฺมสมุฏฺานมฺหิ ตาว เกเส วุตฺตลกฺขณา ตา จตสฺโส จ ธาตุโย ตํนิสฺสิโต จ วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชา ชีวิตํ กายปสาโทติ เอวํ กายทสกวเสน ทส รูปานิ, ตตฺเถว ภาวสฺส อตฺถิตาย ภาวทสกวเสน ทส รูปานิ, อาหารสมุฏฺานํ โอชฏฺมกํ, อุตุสมุฏฺานํ จิตฺตสมุฏฺานนฺติ อปรานิปิ จตุวีสตีติ เอวํ จตุสมุฏฺาเนสุ จตุวีสติโกฏฺาเสสุ จตุจตฺตาลีส รูปานิ ปริคฺคเหตพฺพานิ. เสโท อสฺสุ เขโฬ สิงฺฆาณิกาติ อิเม ปน จตูสุ อุตุจิตฺตสมุฏฺาเนสุ ทฺวินฺนํ โอชฏฺมกานํ วเสน โสฬส โสฬส รูปานิ. อุทริยํ กรีสํ ปุพฺพํ มุตฺตนฺติ อิเมสุ จตูสุ อุตุสมุฏฺาเนสุ อุตุสมุฏฺานสฺเสว โอชฏฺมกสฺส วเสน อฏฺ อฏฺ รูปานิ ปริคฺคเหตพฺพานิ. เอส ตาว ทฺวตฺตึสากาเร นโย.

เย ปน อิมสฺมึ ทฺวตฺตึสากาเร อาวิภูเต อปเร จตฺตาโร เตโชโกฏฺาสา, ฉ วาโยโกฏฺาสาติ ทส อาการา อาวิ ภวนฺติ, ตตฺถ อสิตาทิปริปาจเก ตาว กมฺมชเตโชโกฏฺาสมฺหิ โอชฏฺมกฺเจว ชีวิตฺจาติ นว รูปานิ, ตถา จิตฺตเช อสฺสาสปสฺสาสโกฏฺาเส โอชฏฺมกฺเจว สทฺโท จาติ นว, เสเสสุ จตุสมุฏฺาเนสุ อฏฺสุ ชีวิตนวกฺเจว ตีณิ จ โอชฏฺมกานีติ เตตฺตึส เตตฺตึส รูปานิ ปริคฺคเหตพฺพานิ. เอวํ วิตฺถารโต ทฺวาจตฺตาลีสาการวเสน อิเมสุ ภูตุปาทายรูเปสุ ปากเฏสุ ชาเตสุ วตฺถุทฺวารวเสน ปฺจ จกฺขุทสกาทโย หทยวตฺถุทสกฺจาติ อปรานิปิ สฏฺิ รูปานิ ปริคฺคเหตพฺพานิ. สเจ ปนสฺส เตน เตน มุเขน รูปํ ปริคฺคเหตฺวา อรูปํ ปริคฺคณฺหโต สุขุมตฺตา อรูปํ น อุปฏฺาติ, เตน ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวา รูปเมว ปุนปฺปุนํ สมฺมสิตพฺพํ มนสิ กาตพฺพํ ปริคฺคเหตพฺพํ ววตฺถเปตพฺพํ. ยถา ยถา หิสฺส รูปํ สุวิกฺขาลิตํ โหติ นิชฺชฏํ สุปริสุทฺธํ, ตถา ตถา ตทารมฺมณา อรูปธมฺมา สยเมว ปากฏา โหนฺติ.

ยถา หิ จกฺขุมโต ปุริสสฺส อปริสุทฺเธ อาทาเส มุขนิมิตฺตํ โอโลเกนฺตสฺส นิมิตฺตํ น ปฺายตีติ น อาทาสํ ฉฑฺเฑติ, อถ โข นํ ปุนปฺปุนํ ปริมชฺชติ, ตสฺส ปริสุทฺเธ อาทาเส นิมิตฺตํ สยเมว ปากฏํ โหติ, เอวเมว เตน ภิกฺขุนา ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวา รูปเมว ปุนปฺปุนํ สมฺมสิตพฺพํ มนสิ กาตพฺพํ ปริคฺคเหตพฺพํ ววตฺถเปตพฺพํ. ยถา ยถา หิสฺส รูปํ สุวิกฺขาลิตํ โหติ นิชฺชฏํ สุปริสุทฺธํ, ตถา ตถา ตทารมฺมณา อรูปธมฺมา สยเมว ปากฏา โหนฺติ. เอวํ สุวิสุทฺธรูปปริคฺคหสฺส ปนสฺส อรูปธมฺมา ตีหากาเรหิ อุปฏฺหนฺติ ผสฺสวเสน วา เวทนาวเสน วา วิฺาณวเสน วา.

กถํ? เอกสฺส ตาว ‘‘เกเส ปถวีธาตุ กกฺขฬลกฺขณา…เป… อสฺสาสปสฺสาเส ปถวีธาตุ กกฺขฬลกฺขณา’’ติอาทินา นเยน ธาตุโย ปริคฺคณฺหนฺตสฺส ปมาภินิปาโต ผสฺโส, ตํสมฺปยุตฺตา เวทนา เวทนากฺขนฺโธ, สฺา สฺากฺขนฺโธ, สทฺธึ ผสฺเสน เจตนา สงฺขารกฺขนฺโธ, จิตฺตํ วิฺาณกฺขนฺโธติ อุปฏฺาติ. เอวํ อรูปธมฺมา ผสฺสวเสน อุปฏฺหนฺติ. เอกสฺส ‘‘เกเส ปถวีธาตุ กกฺขฬลกฺขณา…เป… อสฺสาสปสฺสาเส ปถวีธาตุ กกฺขฬลกฺขณา’’ติ ตทารมฺมณรสานุภวนกเวทนา เวทนากฺขนฺโธ, ตํสมฺปยุตฺตา สฺา สฺากฺขนฺโธ, ตํสมฺปยุตฺโต ผสฺโส จ เจตนา จ สงฺขารกฺขนฺโธ, ตํสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ วิฺาณกฺขนฺโธติ อุปฏฺาติ. เอวํ เวทนาวเสน อรูปธมฺมา อุปฏฺหนฺติ. อปรสฺส ‘‘เกเส ปถวีธาตุ กกฺขฬลกฺขณา…เป… อสฺสาสปสฺสาเส ปถวีธาตุ กกฺขฬลกฺขณา’’ติ อารมฺมณปฏิวิชานนํ วิฺาณกฺขนฺโธ, ตํสมฺปยุตฺตา เวทนา เวทนากฺขนฺโธ, สฺา สฺากฺขนฺโธ, ผสฺโส จ เจตนา จ สงฺขารกฺขนฺโธติ อุปฏฺาติ. เอวํ วิฺาณวเสน อรูปธมฺมา อุปฏฺหนฺติ. เอเตเนวุปาเยน ‘‘กมฺมสมุฏฺาเน เกเส ปถวีธาตุ กกฺขฬลกฺขณา’’ติอาทินา นเยน ทฺวาจตฺตาลีสาย ธาตุโกฏฺาเสสุ จตุนฺนํ จตุนฺนํ ธาตูนํ วเสน เสเสสุปิ วตฺถุ จกฺขาทีสุ ทสเกสุ มโนธาตุมโนวิฺาณธาตูนํ นิสฺสยลกฺขณํ หทยวตฺถุ รูปาภิฆาตารหภูตปฺปสาทลกฺขณํ จกฺขูติอาทินา วตฺถุทฺวารวเสน ปริคฺคณฺหนฺตสฺส ปมาภินิปาโต ผสฺโส, ตํสมฺปยุตฺตา เวทนา เวทนากฺขนฺโธติอาทินา ผสฺสาทิวเสน ตีหิ อากาเรหิ อรูปธมฺมา อุปฏฺหนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ยถาปริคฺคหิตรูปารมฺมณํ ยถาปริคฺคหิตรูปวตฺถุทฺวารารมฺมณํ วา สสมฺปยุตฺตธมฺมํ วิฺาณฺจ ปสฺสตี’’ติ.

อิทานิ อฺถาปิ รูปปุพฺพงฺคมํ อรูปปริคฺคหํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยถา หีติอาทิ กายสฺส จิตฺตสฺส จ อสฺสาสปสฺสาสานํ สมุทยภาวทสฺสนํ. กมฺมารคคฺครีติ กมฺมารานํ อุกฺกาย อคฺคิธมนภสฺตา. ธมมานายาติ ธูมายนฺติยา, วาตํ คาหาเปนฺติยาติ อตฺโถ. ตชฺชนฺติ ตทนุรูปํ. เอวเมวนฺติ เอตฺถ กมฺมารคคฺครี วิย กรชกาโย, วายาโม วิย จิตฺตํ ทฏฺพฺพํ. กิฺจาปิ อสฺสาสปสฺสาสา จิตฺตสมุฏฺานา, กรชกายํ ปน วินา เตสํ อปฺปวตฺตนโต ‘‘กายฺจ จิตฺตฺจ ปฏิจฺจ อสฺสาสปสฺสาสา’’ติ วุตฺตํ.

ตสฺสาติ นามรูปสฺส. ปจฺจยํ ปริเยสตีติ ‘‘อวิชฺชาสมุทยา รูปสมุทโย’’ติอาทินา อวิชฺชาทิกํ ปจฺจยํ ปริเยสติ วีมํสติ ปริคฺคณฺหาติ. กงฺขํ วิตรตีติ ‘‘อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธาน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตํ โสฬสวตฺถุกํ วิจิกิจฺฉํ อติกฺกมติ ปชหติ. ‘‘ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตํ กลาปสมฺมสนํ. ปุพฺพภาเคติ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิปริยาปนฺนาย อุทยพฺพยานุปสฺสนาย ปุพฺพภาเค อุปฺปนฺเน. โอภาสาทโยติ โอภาโส าณํ ปีติ ปสฺสทฺธิ สุขํ อธิโมกฺโข ปคฺคโห อุเปกฺขา อุปฏฺานํ นิกนฺตีติ อิเม โอภาสาทโย ทส.

ตตฺถ (วิสุทฺธิ. ๒.๗๓๓; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๒.๖) โอภาโสติ วิปสฺสโนภาโส, โส จ วิปสฺสนาจิตฺตสมุฏฺิตํ สนฺตติปติตํ อุตุสมุฏฺานฺจ ปภสฺสรรูปํ. ตตฺถ วิปสฺสนาจิตฺตสมุฏฺิตํ โยคิโน สรีรฏฺเมว ปภสฺสรํ หุตฺวา ติฏฺติ จิตฺตชรูปานํ สรีรํ มุฺจิตฺวา พหิ อปฺปวตฺตนโต, อิตรํ สรีรํ มุฺจิตฺวา าณานุภาวานุรูปํ สมนฺตโต ปตฺถรติ, ตํ ตสฺเสว ปฺายติ. เตน ผุฏฺโกาเส รูปคตมฺปิ ปสฺสติ, ปสฺสนฺโต จ จกฺขุวิฺาเณน ปสฺสติ, อุทาหุ มโนวิฺาเณนาติ วีมํสิตพฺพนฺติ วทนฺติ. ทิพฺพจกฺขุลาภิโน วิย ตํ มโนวิฺาณวิฺเยฺยเมวาติ วตฺตุํ ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ. โส โข ปนายํ โอภาโส กสฺสจิ ภิกฺขุโน ปลฺลงฺกฏฺานมตฺตเมว โอภาเสนฺโต อุปฺปชฺชติ, กสฺสจิ อนฺโตคพฺภํ, กสฺสจิ พหิคพฺภมฺปิ, กสฺสจิ สกลวิหารํ, คาวุตํ, อฑฺฒโยชนํ, โยชนํ, ทฺวิโยชนํ, ติโยชนํ, กสฺสจิ ปถวีตลโต ยาว อกนิฏฺพฺรหฺมโลกา เอกาโลกํ กุรุมาโน. ภควโต ปน ทสสหสฺสิโลกธาตุํ โอภาเสนฺโต อุทปาทิ. ตสฺมึ ปน อุปฺปนฺเน โยคาวจโร ‘‘น วต เม อิโต ปุพฺเพ เอวรูโป โอภาโส อุปฺปนฺนปุพฺโพ, อทฺธา มคฺคปฺปตฺโตสฺมิ ผลปฺปตฺโตสฺมี’’ติ อมคฺคเมว ‘‘มคฺโค’’ติ, อผลเมว จ ‘‘ผล’’นฺติ คณฺหาติ. ตสฺส อมคฺคํ ‘‘มคฺโค’’ติ อผลํ วา ‘‘ผล’’นฺติ คณฺหโต วิปสฺสนาวีถิ อุกฺกนฺตา นาม โหติ. โส อตฺตโน มูลกมฺมฏฺานํ วิสฺสชฺเชตฺวา โอภาสเมว อสฺสาเทนฺโต นิสีทติ.

าณนฺติ วิปสฺสนาาณํ. ตสฺส กิร รูปารูปธมฺเม ตุลยนฺตสฺส ตีรยนฺตสฺส วิสฺสฏฺอินฺทวชิรมิว อวิหตเวคํ ติขิณํ สูรํ อติวิสทํ าณํ อุปฺปชฺชติ.

ปีตีติ วิปสฺสนาปีติ. ตสฺส กิร ตสฺมึ สมเย ขุทฺทิกา ปีติ ขณิกา ปีติ โอกฺกนฺติกา ปีติ อุพฺเพคา ปีติ ผรณา ปีตีติ อยํ ปฺจวิธา ปีติ สกลสรีรํ ปูรยมานา อุปฺปชฺชติ.

ปสฺสทฺธีติ วิปสฺสนาปสฺสทฺธิ. ตสฺส กิร ตสฺมึ สมเย รตฺติฏฺาเน วา ทิวาฏฺาเน วา นิสินฺนสฺส กายจิตฺตานํ เนว ทรโถ, น คารวํ, น กกฺขฬตา, น อกมฺมฺตา, น เคลฺํ, น วงฺกตา โหติ, อถ โข ปนสฺส กายจิตฺตานิ ปสฺสทฺธานิ ลหูนิ มุทูนิ กมฺมฺานิ สุวิสทานิ อุชุกานิเยว โหนฺติ. โส อิเมหิ ปสฺสทฺธาทีหิ อนุคฺคหิตกายจิตฺโต ตสฺมึ สมเย อมานุสึ นาม รตึ อนุภวติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –

‘‘สุฺาคารํ ปวิฏฺสฺส, สนฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน;

อมานุสี รตี โหติ, สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสโต.

‘‘ยโต ยโต สมฺมสติ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;

ลภตี ปีติปาโมชฺชํ, อมตํ ตํ วิชานต’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๗๓-๓๗๔);

เอวมสฺส อิมํ อมานุสึ รตึ สาธยมานา ลหุตาทิสมฺปยุตฺตา ปสฺสทฺธิ อุปฺปชฺชติ.

สุขนฺติ วิปสฺสนาสุขํ. ตสฺส กิร ตสฺมึ สมเย สกลสรีรํ อภิสนฺทยมานํ อติปณีตํ สุขมุปฺปชฺชติ.

อธิโมกฺโขติ สทฺธา. วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตาเยว หิสฺส จิตฺตเจตสิกานํ อติสยปฺปสาทภูตา พลวตี สทฺธา อุปฺปชฺชติ.

ปคฺคโหติ วีริยํ. วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตเมว หิสฺส อสิถิลมนจฺจารทฺธํ สุปคฺคหิตํ วีริยํ อุปฺปชฺชติ.

อุปฏฺานนฺติ สติ. วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตาเยว หิสฺส สูปฏฺิตา สุปฺปติฏฺิตา นิขาตา อจลา ปพฺพตราชสทิสา สติ อุปฺปชฺชติ. โส ยํ ยํ านํ อาวชฺชติ สมนฺนาหรติ มนสิ กโรติ ปจฺจเวกฺขติ, ตํ ตํ านมสฺส โอกฺกนฺติตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา ทิพฺพจกฺขุโน ปรโลโก วิย สติยา อุปฏฺาติ.

อุเปกฺขาติ วิปสฺสนุเปกฺขา เจว อาวชฺชนุเปกฺขา จ. ตสฺมิฺหิสฺส สมเย สพฺพสงฺขาเรสุ มชฺฌตฺตภูตา วิปสฺสนุเปกฺขา พลวตี อุปฺปชฺชติ, มโนทฺวาเร อาวชฺชนุเปกฺขาปิ. สา หิสฺส ตํ ตํ านํ อาวชฺเชนฺตสฺส วิสฺสฏฺอินฺทวชิรมิว ปตฺตปุเฏ ปกฺขนฺทตตฺตนาราโจ วิย จ สูรา ติขิณา หุตฺวา วหติ.

นิกนฺตีติ วิปสฺสนานิกนฺติ. เอวํ โอภาสาทิปฏิมณฺฑิตาย หิสฺส วิปสฺสนาย อาลยํ กุรุมานา สุขุมา สนฺตาการา นิกนฺติ อุปฺปชฺชติ, ยา ‘‘กิเลโส’’ติ ปริคฺคเหตุมฺปิ น สกฺกา โหติ.

ยถา จ โอภาเส, เอวํ เอเตสุปิ อฺตรสฺมึ อุปฺปนฺเน โยคาวจโร ‘‘น วต เม อิโต ปุพฺเพ เอวรูปํ าณํ อุปฺปนฺนปุพฺพํ, เอวรูปา ปีติ, ปสฺสทฺธิ, สุขํ, อธิโมกฺโข, ปคฺคโห, อุปฏฺานํ, อุเปกฺขา, นิกนฺติ อุปฺปนฺนปุพฺพา, อทฺธา มคฺคปฺปตฺโตสฺมิ ผลปฺปตฺโตสฺมี’’ติ อมคฺคเมว ‘‘มคฺโค’’ติ อผลเมว จ ‘‘ผล’’นฺติ คณฺหาติ, ตสฺส อมคฺคํ ‘‘มคฺโค’’ติ อผลํ ‘‘ผล’’นฺติ คณฺหโต วิปสฺสนาวีถิ อุกฺกนฺตา นาม โหติ. โส อตฺตโน มูลกมฺมฏฺานํ วิสฺสชฺเชตฺวา นิกนฺติเมว อสฺสาเทนฺโต นิสีทติ.

เอตฺถ จ โอภาสาทโย อุปกฺกิเลสวตฺถุตาย ‘‘อุปกฺกิเลสา’’ติ วุตฺตา, น อกุสลตฺตา, นิกนฺติ ปน อุปกฺกิเลโส เจว อุปกฺกิเลสวตฺถุ จ. วตฺถุวเสเนว เจเต ทส, คาหวเสน ปน สมตึส โหนฺติ. กถํ? ‘‘มม โอภาโส อุปฺปนฺโน’’ติ คณฺหโต หิ ทิฏฺิคฺคาโห โหติ, ‘‘มนาโป วต โอภาโส อุปฺปนฺโน’’ติ คณฺหโต มานคฺคาโห, โอภาสํ อสฺสาทยโต ตณฺหาคาโห. อิติ โอภาเส ทิฏฺิมานตณฺหาวเสน ตโย คาหา. ตถา เสเสสุปีติ เอวํ คาหวเสน สมตึส อุปกฺกิเลสา โหนฺติ. เตสํ วเสน อกุสโล อพฺยตฺโต โยคาวจโร โอภาสาทีสุ กมฺปติ วิกฺขิปติ, โอภาสาทีสุ เอเกกํ ‘‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’ติ สมนุปสฺสติ. เตนาหุ โปราณา –

‘‘โอภาเส เจว าเณ จ, ปีติยา จ วิกมฺปติ;

ปสฺสทฺธิยา สุเข เจว, เยหิ จิตฺตํ ปเวธติ.

‘‘อธิโมกฺเข จ ปคฺคาเห, อุปฏฺาเน จ กมฺปติ;

อุเปกฺขาวชฺชนาย เจว, อุเปกฺขาย จ นิกนฺติยา’’ติ. (ปฏิ. ม. ๒.๗)

กุสโล ปณฺฑิโต พฺยตฺโต พุทฺธิสมฺปนฺโน โยคาวจโร โอภาสาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ‘‘อยํ โข เม โอภาโส อุปฺปนฺโน, โส โข ปนายํ อนิจฺโจ สงฺขโต ปฏิจฺจสมุปฺปนฺโน ขยธมฺโม วยธมฺโม วิราคธมฺโม นิโรธธมฺโม’’ติ อิติ วา ตํ ปฺาย ปริจฺฉินฺทติ อุปปริกฺขติ. อถ วา ปนสฺส เอวํ โหติ – สเจ โอภาโส อตฺตา ภเวยฺย, อตฺตาติ คเหตุํ วฏฺเฏยฺย, อนตฺตาว ปนายํ ‘‘อตฺตา’’ติ คหิโต. ตสฺมา โส อวสวตฺตนฏฺเน อนตฺตา, หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺโจ, อุปฺปาทวยปฏิปีฬนฏฺเน ทุกฺโขติ อุปปริกฺขติ. ยถา จ โอภาเส, เอวํ เสเสสุปิ. โส เอวํ อุปปริกฺขิตฺวา โอภาสํ ‘‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’’ติ สมนุปสฺสติ. าณํ…เป… นิกนฺตึ ‘‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’’ติ สมนุปสฺสติ. เอวํ สมนุปสฺสนฺโต โอภาสาทีสุ น กมฺปติ น เวธติ. เตนาหุ โปราณา –

‘‘อิมานิ ทส านานิ, ปฺา ยสฺส ปริจฺจิตา;

ธมฺมุทฺธจฺจกุสโล โหติ, น จ วิกฺเขป คจฺฉตี’’ติ. (ปฏิ. ม. ๒.๗);

โส เอวํ วิกฺเขปํ อคจฺฉนฺโต ตํ สมตึสวิธํ อุปกฺกิเลสชฏํ วิชเฏตฺวา ‘‘โอภาสาทโย ธมฺมา น มคฺโค, อุปกฺกิเลสวิมุตฺตํ ปน วีถิปฺปฏิปนฺนํ วิปสฺสนาาณํ มคฺโค’’ติ อมคฺคํ มคฺคฺจ ววตฺถเปติ. ยํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ ‘‘โอภาสาทโย ทส วิปสฺสนุปกฺกิเลเส ปหาย อุปกฺกิเลสวิมุตฺตํ ปฏิปทาาณํ มคฺโคติ ววตฺถเปตฺวา’’ติ. อุทยํ ปหายาติ อุทยพฺพยานุปสฺสนาย คหิตํ สงฺขารานํ อุทยํ วิสฺสชฺเชตฺวา เตสํ ภงฺคสฺเสว อนุปสฺสนโต ภงฺคานุปสฺสนาาณํ ปตฺวา อาทีนวานุปสฺสนาปุพฺพงฺคมาย นิพฺพิทานุปสฺสนาย นิพฺพินฺทนฺโต มุฺจิตุกมฺยตาปฏิสงฺขานุปสฺสนาสงฺขารุเปกฺขานุโลมาณานํ จิณฺณปริยนฺเต อุปฺปนฺนโคตฺรภุาณานนฺตรํ อุปฺปนฺเนน มคฺคาเณน สพฺพสงฺขาเรสุ วิรชฺชนฺโต วิมุจฺจนฺโต. มคฺคกฺขเณ หิ อริโย วิรชฺชติ วิมุจฺจตีติ จ วุจฺจติ. เตนาห – ‘‘ยถากฺกมํ จตฺตาโร อริยมคฺเค ปาปุณิตฺวา’’ติ. มคฺคผลนิพฺพานปหีนาวสิฏฺกิเลสสงฺขาตสฺส ปจฺจเวกฺขิตพฺพสฺส ปเภเทน เอกูนวีสติเภทสฺส. อรหโต หิ อวสิฏฺกิเลสาภาเวน เอกูนวีสติ ปจฺจเวกฺขณาณานิ. อสฺสาติ อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานิกสฺส.

วิสุํ กมฺมฏฺานภาวนานโย นาม นตฺถีติ ปมจตุกฺกวเสน อธิคตชฺฌานสฺส เวทนาจิตฺตธมฺมานุปสฺสนาวเสน เทสิตตฺตา วุตฺตํ. เตสนฺติ ติณฺณํ จตุกฺกานํ. ปีติปฺปฏิสํเวทีติ ปีติยา ปฏิ ปฏิ สมฺมเทว เวทนสีโล, ตสฺสา วา ปฏิ ปฏิ สมฺมเทว เวโท เอตสฺส อตฺถิ, ตํ วา ปฏิ ปฏิ สมฺมเทว เวทยมาโน. ตตฺถ กามํ สํเวทนคฺคหเณเนว ปีติยา สกฺกจฺจํ วิทิตภาโว โพธิโต โหติ, เยหิ ปน ปกาเรหิ ตสฺสา สํเวทนํ อิจฺฉิตํ, ตํ ทสฺเสตุํ ปฏิ-สทฺทคฺคหณํ ‘‘ปฏิ ปฏิ สํเวทีติ ปฏิสํเวที’’ติ. เตนาห ‘‘ทฺวีหากาเรหี’’ติอาทิ.

ตตฺถ กถํ อารมฺมณโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหตีติ ปุจฺฉาวจนํ. สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชตี’’ติ ปีติสหคตานิ ทฺเว ปมทุติยชฺฌานานิ ปฏิปาฏิยา สมาปชฺชติ. ตสฺสาติ เตน. ‘‘ปฏิสํวิทิตา’’ติ หิ ปทํ อเปกฺขิตฺวา กตฺตุอตฺเถ เอตํ สามิวจนํ. สมาปตฺติกฺขเณติ สมาปนฺนกฺขเณ. ฌานปฏิลาเภนาติ ฌาเนน สมงฺคิภาเวน. อารมฺมณโตติ อารมฺมณมุเขน, ตทารมฺมณชฺฌานปริยาปนฺนา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ อารมฺมณสฺส ปฏิสํวิทิตตฺตา. กึ วุตฺตํ โหติ? ยถา นาม สปฺปปริเยสนํ จรนฺเตน ตสฺส อาสเย ปฏิสํวิทิเต โสปิ ปฏิสํวิทิโต เอว โหติ มนฺตาคทพเลน ตสฺส คหณสฺส สุกรตฺตา, เอวํ ปีติยา อาสยภูเต อารมฺมเณ ปฏิสํวิทิเต สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา เอว โหติ สลกฺขณโต สามฺลกฺขณโต จ ตสฺสา คหณสฺส สุกรตฺตาติ.

กถํ อสมฺโมหโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหตีติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. วิปสฺสนากฺขเณติ วิปสฺสนาปฺาย ติกฺขวิสทปฺปวตฺตาย วิสยโต ทสฺสนกฺขเณ. ลกฺขณปฏิเวเธนาติ ปีติยา สลกฺขณสฺส สามฺลกฺขณสฺส จ ปฏิวิชฺฌเนน. ยฺหิ ยสฺส วิเสสโต สามฺโต จ ลกฺขณํ, ตสฺมึ วิทิเต โส ยาถาวโต วิทิโต เอว โหติ. เตนาห – ‘‘อสมฺโมหโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหตี’’ติ.

อิทานิ ตมตฺถํ ปาฬิยา เอว วิภาเวตุํ ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ทีฆํอสฺสาสวเสนาติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. ตตฺถ ปน สโตการิตาทสฺสนวเสน ปาฬิ อาคตา, อิธ ปีติปฺปฏิสํวิทิตาวเสน. ปีติปฺปฏิสํวิทิตา จ อตฺถโต วิภตฺตา เอว. อปิจ อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ทีฆํอสฺสาสวเสนาติ ทีฆสฺส อสฺสาสสฺส อารมฺมณภูตสฺส วเสน ปชานโต สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหตีติ สมฺพนฺโธ. จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโตติ ฌานปริยาปนฺนํ อวิกฺเขโปติ ลทฺธนามํ จิตฺตสฺเสกคฺคตํ ตํสมฺปยุตฺตาย ปฺาย ปชานโต. ยเถว หิ อารมฺมณมุเขน ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ, เอวํ ตํสมฺปยุตฺตธมฺมาปิ อารมฺมณมุเขน ปฏิสํวิทิตา เอว โหนฺตีติ. สติ อุปฏฺิตา โหตีติ ทีฆํอสฺสาสวเสน ฌานสมฺปยุตฺตา สติ ตสฺส อารมฺมเณ อุปฏฺิตา อารมฺมณมุเขน ฌาเนปิ อุปฏฺิตา นาม โหติ. ตาย สติยาติ เอวํ อุปฏฺิตาย ตาย สติยา ยถาวุตฺเตน เตน าเณน สุปฺปฏิวิทิตตฺตา อารมฺมณสฺส ตสฺส วเสน ตทารมฺมณา สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. ทีฆํปสฺสาสวเสนาติอาทีสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เอวํ ปมจตุกฺกวเสน ทสฺสิตํ ปีติปฺปฏิสํเวทนํ อารมฺมณโต อสมฺโมหโต จ วิภาคโส ทสฺเสตุํ ‘‘อาวชฺชโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาวชฺชโตติ ฌานํ อาวชฺเชนฺตสฺส. สา ปีตีติ สา ฌานปริยาปนฺนา ปีติ. ชานโตติ สมาปนฺนกฺขเณ อารมฺมณมุเขน ชานโต. ตสฺส สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหตีติ สมฺพนฺโธ. ปสฺสโตติ ทสฺสนภูเตน าเณน ฌานโต วุฏฺาย ปสฺสนฺตสฺส. ปจฺจเวกฺขโตติ ฌานํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส. จิตฺตํ อธิฏฺหโตติ ‘‘เอตฺตกํ เวลํ ฌานสมงฺคี ภวิสฺสามี’’ติ ฌานจิตฺตํ อธิฏฺหนฺตสฺส. เอวํ ปฺจนฺนํ วสีภาวานํ วเสน ฌานสฺส ปชานนมุเขน อารมฺมณโต ปีติยา ปฏิสํเวทนา ทสฺสิตา.

อิทานิ เยหิ ธมฺเมหิ ฌานํ วิปสฺสนา จ สิชฺฌนฺติ, เตสํ ฌานปริยาปนฺนานํ วิปสฺสนามคฺคปริยาปนฺนานฺจ สทฺธาทีนํ วเสน ปีติปฺปฏิสํเวทนํ ทสฺเสตุํ ‘‘สทฺธาย อธิมุจฺจโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อธิมุจฺจโตติ สทฺทหนฺตสฺส, สมถวิปสฺสนาวเสนาติ อธิปฺปาโย. วีริยํ ปคฺคณฺหโตติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อภิฺเยฺยนฺติ อภิวิสิฏฺาย ปฺาย ชานิตพฺพํ. อภิชานโตติ วิปสฺสนาปฺาปุพฺพงฺคมาย มคฺคปฺาย ชานโต. ปริฺเยฺยนฺติ ทุกฺขสจฺจํ ตีรณปริฺาย มคฺคปฺาย จ ปริชานโต. ปหาตพฺพนฺติ สมุทยสจฺจํ ปหานปริฺาย มคฺคปฺาย จ ปชหโต. ภาวยโต สจฺฉิกโรโต ภาเวตพฺพํ มคฺคสจฺจํ, สจฺฉิกาตพฺพํ นิโรธสจฺจํ. เกจิ ปเนตฺถ ปีติยา เอว วเสน อภิฺเยฺยาทีนิ อุทฺธรนฺติ, ตํ อยุตฺตํ ฌานาทิสมุทายํ อุทฺธริตฺวา ตโต ปีติยา นิทฺธารณสฺส อธิปฺเปตตฺตา.

เอตฺถ จ ‘‘ทีฆํอสฺสาสวเสนา’’ติอาทินา ปมจตุกฺกวเสน อารมฺมณโต ปีติปฺปฏิสํเวทนํ วุตฺตํ, ตถา ‘‘อาวชฺชโต’’ติอาทีหิ ปฺจหิ ปเทหิ. ‘‘อภิฺเยฺยํ อภิชานโต’’ติอาทีหิ ปน อสมฺโมหโต, ‘‘สทฺธาย อธิมุจฺจโต’’ติอาทีหิ อุภยถาปิ สงฺเขปโต สมถวเสน อารมฺมณโต วิปสฺสนาวเสน อสมฺโมหโต ปีติปฺปฏิสํเวทนํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. กสฺมา ปเนตฺถ เวทนานุปสฺสนายํ ปีติสีเสน เวทนา คหิตา, น สรูปโต เอวาติ? ภูมิวิภาคาทิวเสน เวทนํ ภินฺทิตฺวา จตุธา เวทนานุปสฺสนํ ทสฺเสตุํ. อปิจ เวทนากมฺมฏฺานํ ทสฺเสนฺโต ภควา ปีติยา โอฬาริกตฺตา ตํสมฺปยุตฺตสุขํ สุขคฺคหณตฺถํ ปีติสีเสน ทสฺเสติ.

เอเตเนว นเยน อวเสสปทานีติ สุขปฺปฏิสํเวที จิตฺตสงฺขารปฺปฏิสํเวทีติ ปทานิ ปีติปฺปฏิสํเวที-ปเท อาคตนเยเนว อตฺถโต เวทิตพฺพานิ. สกฺกา หิ ‘‘ทฺวีหากาเรหิ สุขปฺปฏิสํวิทิตา โหติ, จิตฺตสงฺขารปฺปฏิสํวิทิตา โหติ อารมฺมณโต’’ติอาทินา ปีติฏฺาเน สุขาทิปทานิ ปกฺขิปิตฺวา ‘‘สุขสหคตานิ ตีณิ ฌานานิ จตฺตาริ วา ฌานานิ สมาปชฺชตี’’ติอาทินา อตฺถํ วิฺาตุํ. เตนาห ‘‘ติณฺณํ ฌานานํ วเสนา’’ติอาทิ. เวทนาทโยติ อาทิ-สทฺเทน สฺา คหิตา. เตนาห ‘‘ทฺเว ขนฺธา’’ติ. วิปสฺสนาภูมิทสฺสนตฺถนฺติ ปกิณฺณกสงฺขารสมฺมสนวเสน วิปสฺสนาย ภูมิทสฺสนตฺถํ ‘‘สุขนฺติ ทฺเว สุขานี’’ติอาทิ วุตฺตํ สมเถ กายิกสุขาภาวโต. โสติ โส ปสฺสมฺภนปริยาเยน วุตฺโต นิโรโธ. ‘‘อิมสฺส หิ ภิกฺขุโน อปริคฺคหิตกาเล’’ติอาทินา วิตฺถารโต กายสงฺขาเร วุตฺโต, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ตตฺถ กายสงฺขารวเสน อาคโต, อิธ จิตฺตสงฺขารวเสนาติ อยเมว วิเสโส.

เอวํ จิตฺตสงฺขารสฺส ปสฺสมฺภนํ อติเทเสน ทสฺเสตฺวา ยทฺํ อิมสฺมึ จตุกฺเก วตฺตพฺพํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปีติปเทติ ‘‘ปีติปฺปฏิสํเวที’’ติอาทินา เทสิตโกฏฺาเส. ปีติสีเสน เวทนา วุตฺตาติ ปีติอปเทเสน ตํสมฺปยุตฺตา เวทนา วุตฺตา, น ปีตีติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ การณํ เหฏฺา วุตฺตเมว. ทฺวีสุ จิตฺตสงฺขารปเทสูติ ‘‘จิตฺตสงฺขารปฺปฏิสํเวที ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขาร’’นฺติ จิตฺตสงฺขารปฏิสํยุตฺเตสุ ทฺวีสุ ปเทสุ. ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ วจนโต จิตฺเตน ปฏิพทฺธาติ จิตฺตปฏิพทฺธา. ตโต เอว กามํ จิตฺเตน สงฺขรียนฺตีติ จิตฺตสงฺขารา, สฺาเวทนาทโย, อิธ ปน อุปลกฺขณมตฺตํ, สฺาเวทนาว อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘สฺาสมฺปยุตฺตา เวทนา’’ติ.

จิตฺตปฺปฏิสํเวทีติ เอตฺถ ทฺวีหากาเรหิ จิตฺตปฏิสํวิทิตา โหติ อารมฺมณโต อสมฺโมหโต จ. กถํ อารมฺมณโต? จตฺตาริ ฌานานิ สมาปชฺชติ, ตสฺส สมาปตฺติกฺขเณ ฌานปฏิลาเภนาติอาทินา วุตฺตนยานุสาเรน สพฺพํ สุวิฺเยฺยนฺติ อาห – ‘‘จตุนฺนํ ฌานานํ วเสน จิตฺตปฏิสํวิทิตา เวทิตพฺพา’’ติ. จิตฺตํ โมเทนฺโตติ ฌานสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ สมฺปยุตฺตาย ปีติยา โมทยมาโน, ตํ วา ปีตึ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตํ วิปสฺสนาจิตฺตํ ตาย เอว อารมฺมณภูตาย ปีติยาโมทยมาโน. ปโมเทนฺโตติอาทีนิ ปทานิ ตสฺเสว เววจนานิ ปีติปริยายภาวโต.

สมฺปยุตฺตาย ปีติยา จิตฺตํ อาโมเทตีติ ฌานจิตฺตสมฺปยุตฺตาย ปีติสมฺโพชฺฌงฺคภูตาย โอทคฺยลกฺขณาย ฌานปีติยา ตเมว ฌานจิตฺตํ สหชาตาทิปจฺจยวเสน เจว ฌานปจฺจยวเสน จ ปริพฺรูเหนฺโต หฏฺปฺปหฏฺาการํ ปาเปนฺโต อาโมเทติ ปโมเทติ จ. อารมฺมณํ กตฺวาติ อุฬารํ ฌานสมฺปยุตฺตํ ปีตึ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตมานํ วิปสฺสนาจิตฺตํ ตาย เอว อารมฺมณภูตาย ปีติยา โยคาวจโร หฏฺปฺปหฏฺาการํ ปาเปนฺโต ‘‘อาโมเทติ ปโมเทตี’’ติ วุจฺจติ.

สมํ เปนฺโตติ ยถา อีสกมฺปิ ลีนปกฺขํ อุทฺธจฺจปกฺขฺจ อนุปคฺคมฺม อโนนตํ อนุนฺนตํ ยถา อินฺทฺริยานํ สมตฺตปฏิปตฺติยา อวิสมํ, สมาธิสฺส วา อุกฺกํสคมเนน อาเนฺชปฺปตฺติยา สมฺมเทว ิตํ โหติ, เอวํ อปฺปนาวเสน เปนฺโต. ลกฺขณปฺปฏิเวเธนาติ อนิจฺจาทิกสฺส ลกฺขณสฺส ปฏิ ปฏิ วิชฺฌเนน ขเณ ขเณ อวโพเธน. ขณิกจิตฺเตกคฺคตาติ ขณมตฺตฏฺิติโก สมาธิ. โสปิ หิ อารมฺมเณ นิรนฺตรํ เอกากาเรน ปวตฺตมาโน ปฏิปกฺเขน อนภิภูโต อปฺปิโต วิย จิตฺตํ นิจฺจลํ เปติ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอวํ อุปฺปนฺนายา’’ติอาทิ.

โมเจนฺโตติ วิกฺขมฺภนวิมุตฺติวเสน วิเวเจนฺโต วิสุํ กโรนฺโต, นีวรณานิ ปชหนฺโตติ อตฺโถ. วิปสฺสนากฺขเณติ ภงฺคานุปสฺสนากฺขเณ. ภงฺโค หิ นาม อนิจฺจตาย ปรมา โกฏิ, ตสฺมา ตาย ภงฺคานุปสฺสโก โยคาวจโร จิตฺตมุเขน สพฺพํ สงฺขารคตํ อนิจฺจโต ปสฺสติ, โน นิจฺจโต, อนิจฺจสฺส ทุกฺขตฺตา ทุกฺขสฺส จ อนตฺตตฺตา ตเทว ทุกฺขโต อนุปสฺสติ, โน สุขโต, อนตฺตโต อนุปสฺสติ, โน อตฺตโต. ยสฺมา ปน ยํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา, น ตํ อภินนฺทิตพฺพํ, ยฺจ น อภินนฺทิตพฺพํ, น ตํ รฺชิตพฺพํ, ตสฺมา ภงฺคทสฺสนานุสาเรน ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’’ติ สงฺขารคเต ทิฏฺเ ตสฺมึ นิพฺพินฺทติ, โน นนฺทติ, วิรชฺชติ, โน รชฺชติ, โส เอวํ นิพฺพินฺทนฺโต วิรชฺชนฺโต โลกิเยเนว ตาว าเณน ราคํ นิโรเธติ โน สมุเทติ, นาสฺส สมุทยํ กโรตีติ อตฺโถ. อถ วา โส เอวํ วิรตฺโต ยถา ทิฏฺํ สงฺขารคตํ, ตํ ตถา ทิฏฺํ อตฺตโน าเณน นิโรเธติ โน สมุเทติ, นิโรธเมวสฺส มนสิ กโรติ, โน สมุทยนฺติ อตฺโถ, โส เอวํ ปฏิปนฺโน ปฏินิสฺสชฺชติ, โน อาทิยตีติ วุตฺตํ โหติ. อยฺหิ อนิจฺจาทิอนุปสฺสนา สทฺธึ ขนฺธาภิสงฺขาเรหิ กิเลสานํ ปริจฺจชนโต สงฺขตโทสทสฺสเนน ตพฺพิปรีเต นิพฺพาเน ตนฺนินฺนตาย ปกฺขนฺทนโต จ ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค เจว ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโค จาติ วุจฺจติ. ตสฺมา ตาย สมนฺนาคโต โยคาวจโร วุตฺตนเยน กิเลเส จ ปริจฺจชติ, นิพฺพาเน จ ปกฺขนฺทติ. เตน วุตฺตํ ‘‘โส วิปสฺสนากฺขเณ อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจสฺาโต จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต…เป… ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย อาทานโต จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต อสฺสสติ เจว ปสฺสสติ จา’’ติ.

ตตฺถ อนิจฺจสฺส, อนิจฺจนฺติ วา อนุปสฺสนา อนิจฺจานุปสฺสนา. เตภูมกธมฺมานํ อนิจฺจตํ คเหตฺวา ปวตฺตาย วิปสฺสนาย เอตํ นามํ. นิจฺจสฺาโตติ สงฺขตธมฺเม ‘‘นิจฺจา สสฺสตา’’ติ ปวตฺตาย มิจฺฉาสฺาย. สฺาสีเสน จิตฺตทิฏฺีนมฺปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ. เอส นโย สุขสฺาทีสุปิ. นิพฺพิทานุปสฺสนายาติ สงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทนากาเรน ปวตฺตาย อนุปสฺสนาย. นนฺทิโตติ สปฺปีติกตณฺหาโต. วิราคานุปสฺสนายาติ ตถา วิรชฺชนากาเรน ปวตฺตาย อนุปสฺสนาย. เตน วุตฺตํ ‘‘ราคโต โมเจนฺโต’’ติ. นิโรธานุปสฺสนายาติ สงฺขารานํ นิโรธสฺส อนุปสฺสนาย. ยถา สงฺขารา นิรุชฺฌนฺติเยว อายตึ ปุนพฺภววเสน นุปฺปชฺชนฺติ, เอวํ วา อนุปสฺสนา นิโรธานุปสฺสนา. มุฺจิตุกมฺยตา หิ อยํ พลปฺปตฺตา. เตนาห ‘‘สมุทยโต โมเจนฺโต’’ติ. ปฏินิสฺสชฺชนากาเรน ปวตฺตา อนุปสฺสนา ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนา. อาทานโตติ นิจฺจาทิวเสน คหณโต, ปฏิสนฺธิคฺคหณโต วาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

อนิจฺจนฺติ อนุปสฺสี, อนิจฺจสฺส วา อนุปสฺสนสีโล อนิจฺจานุปสฺสีติ เอตฺถ กึ ปน ตํ อนิจฺจํ, กถํ วา อนิจฺจํ, กา วา อนิจฺจานุปสฺสนา, กสฺส วา อนิจฺจานุปสฺสนาติ จตุกฺกํ วิภาเวตพฺพนฺติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนิจฺจํ เวทิตพฺพ’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ นิจฺจํ นาม ธุวํ สสฺสตํ ยถา ตํ นิพฺพานํ, น นิจฺจนฺติ อนิจฺจํ, อุทยพฺพยวนฺตํ, อตฺถโต สงฺขตา ธมฺมาติ อาห อนิจฺจนฺติ ปฺจกฺขนฺธา. กสฺมา? อุปฺปาทวยฺถตฺตภาวาติ, อุปฺปาทวยฺถตฺตสพฺภาวาติ อตฺโถ. ตตฺถ สงฺขตธมฺมานํ เหตุปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชนํ อหุตฺวา สมฺภโว อตฺตลาโภ อุปฺปาโท, อุปฺปนฺนานํ เตสํ ขณนิโรโธ วินาโส วโย, ชราย อฺถาภาโว อฺถตฺตํ. ยถา หิ อุปฺปาทาวตฺถาย ภินฺนาย ภงฺคาวตฺถายํ วตฺถุเภโท นตฺถิ, เอวํ ิติสงฺขาตายํ ภงฺคาภิมุขาวตฺถายมฺปิ วตฺถุเภโท นตฺถิ. ยตฺถ ชราโวหาโร, ตสฺมา เอกสฺสปิ ธมฺมสฺส ชรา ยุชฺชติ, ยา ขณิกชราติ วุจฺจติ. เอกํเสน จ อุปฺปาทภงฺคาวตฺถาสุ วตฺถุโน อเภโท อิจฺฉิตพฺโพ, อฺถา ‘‘อฺโ อุปฺปชฺชติ, อฺโ ภิชฺชตี’’ติ อาปชฺเชยฺย. ตยิทํ ขณิกชรํ สนฺธายาห ‘‘อฺถตฺต’’นฺติ.

ยสฺส ลกฺขณตฺตยสฺส ภาวา ขนฺเธสุ อนิจฺจสมฺา, ตสฺมึ ลกฺขณตฺตเย อนิจฺจตา สมฺาติ ‘‘อนิจฺจตาติ เตสํเยว อุปฺปาทวยฺถตฺต’’นฺติ วตฺวา วิเสสโต ธมฺมานํ ขณิกนิโรเธ อนิจฺจตาโวหาโรติ ทสฺเสนฺโต ‘‘หุตฺวา อภาโว วา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อุปฺปาทปุพฺพกตฺตา อภาวสฺส หุตฺวา-คหณํ. เตน ปากฏภาวปุพฺพกตฺตํ วินาสภาวสฺส ทสฺเสติ. เตเนวากาเรนาติ นิพฺพตฺตนากาเรน. ขณภงฺเคนาติ ขณิกนิโรเธน. ตสฺสา อนิจฺจตายาติ ขณิกภงฺคสงฺขาตาย อนิจฺจตาย. ตาย อนุปสฺสนายาติ ยถาวุตฺตาย อนิจฺจานุปสฺสนาย. สมนฺนาคโตติ สมงฺคิภูโต โยคาวจโร.

ขโยติ สงฺขารานํ วินาโส. วิรชฺชนํ เตสํเยว วิลุชฺชนํ วิราโค, ขโย เอว วิราโค ขยวิราโค, ขณิกนิโรโธ. อจฺจนฺตเมตฺถ เอตสฺมึ อธิคเต สงฺขารา วิรชฺชนฺติ นิรุชฺฌนฺตีติ อจฺจนฺตวิราโค, นิพฺพานํ. เตนาห ‘‘ขยวิราโคติ สงฺขารานํ ขณภงฺโค. อจฺจนฺตวิราโคติ นิพฺพาน’’นฺติ. ตทุภยทสฺสนวเสน ปวตฺตาติ ขยวิราคานุปสฺสนาวเสน วิปสฺสนาย, อจฺจนฺตวิราคานุปสฺสนาวเสน มคฺคสฺส ปวตฺติ โยเชตพฺพา. อารมฺมณโต วา วิปสฺสนาย ขยวิราคานุปสฺสนาวเสน ปวตฺติ, ตนฺนินฺนภาวโต อจฺจนฺตวิราคานุปสฺสนาวเสน, มคฺคสฺส ปน อสมฺโมหโต ขยวิราคานุปสฺสนาวเสน, อารมฺมณโต อจฺจนฺตวิราคานุปสฺสนาวเสน ปวตฺติ เวทิตพฺพา. เอเสว นโยติ อิมินา ยสฺมา วิราคานุปสฺสีปเท วุตฺตนยานุสาเรน ‘‘ทฺเว นิโรธา ขยนิโรโธ จ อจฺจนฺตนิโรโธ จา’’ติ เอวมาทิอตฺถวณฺณนํ อติทิสฺสติ, ตสฺมา วิราคฏฺาเน นิโรธปทํ ปกฺขิปิตฺวา ‘‘ขโย สงฺขารานํ วินาโส’’ติอาทินา อิธ วุตฺตนเยน ตสฺส อตฺถวณฺณนา เวทิตพฺพา.

ปฏินิสฺสชฺชนํ ปหาตพฺพสฺส ตทงฺควเสน วา สมุจฺเฉทวเสน วา ปริจฺจชนํ ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค. ตถา สพฺพุปธีนํ ปฏินิสฺสคฺคภูเต วิสงฺขาเร อตฺตโน นิสฺสชฺชนํ ตนฺนินฺนตาย วา ตทารมฺมณตาย วา ตตฺถ ปกฺขนฺทนํ ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโค. ตทงฺควเสนาติ เอตฺถ อนิจฺจานุปสฺสนา ตาว ตทงฺคปฺปหานวเสน นิจฺจสฺํ ปริจฺจชติ, ปริจฺจชนฺตี จ ตสฺสา ตถา อปฺปวตฺติยํ เย ‘‘นิจฺจ’’นฺติ คหณวเสน กิเลสา ตมฺมูลกา จ อภิสงฺขารา ตทุภยมูลกา จ วิปากกฺขนฺธา อนาคเต อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เต สพฺเพปิ อปฺปวตฺติกรณวเสน ปริจฺจชติ, ตถา ทุกฺขสฺาทโย. เตนาห – ‘‘วิปสฺสนา หิ ตทงฺควเสน สทฺธึ ขนฺธาภิสงฺขาเรหิ กิเลเส ปริจฺจชตี’’ติ. สงฺขตโทสทสฺสเนนาติ สงฺขเต เตภูมกสงฺขารคเต อนิจฺจตาทิโทสทสฺสเนน. นิจฺจาทิภาเวน ตพฺพิปรีเต. ตนฺนินฺนตายาติ ตทธิมุตฺตตาย. ปกฺขนฺทตีติ อนุปวิสติ อนุปวิสนฺตํ วิย โหติ. สทฺธึ ขนฺธาภิสงฺขาเรหิ กิเลเส ปริจฺจชตีติ มคฺเคน กิเลเสสุ ปริจฺจตฺเตสุ อวิปากธมฺมตาปาทเนน อภิสงฺขารา ตมฺมูลกา จ ขนฺธา อนุปฺปตฺติรหภาเวน ปริจฺจตฺตา นาม โหนฺตีติ สพฺเพปิ เต มคฺโค ปริจฺจชตีติ วุตฺตํ. อุภยนฺติ วิปสฺสนาาณํ มคฺคาณฺจ. มคฺคาณมฺปิ หิ โคตฺรภุาณสฺส อนุ ปจฺฉา นิพฺพานทสฺสนโต อนุปสฺสนาติ วุจฺจติ.

อิทฺจ จตุตฺถจตุกฺกํ สุทฺธวิปสฺสนาวเสเนว วุตฺตํ, ปุริมานิ ปน ตีณิ สมถวิปสฺสนาวเสน. เอวํ จตุนฺนํ จตุกฺกานํ วเสน โสฬสวตฺถุกาย อานาปานสฺสติยา ภาวนา เวทิตพฺพา. เอวํ โสฬสวตฺถุวเสน จ อยํ อานาปานสฺสติ ภาวิตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสาติ เวทิตพฺพา. ‘‘เอวํ ภาวิโต โข, ภิกฺขเว, อานาปานสฺสติสมาธี’’ติอาทินา ปน สนฺตภาวาทิวเสน มหานิสํสตา ทสฺสิตา. วิตกฺกุปจฺเฉทสมตฺถตายปิ จสฺส มหานิสํสตา ทฏฺพฺพา. อยฺหิ สนฺตปณีตอเสจนกสุขวิหารตฺตา สมาธิอนฺตรายกรานํ วิตกฺกานํ วเสน อิโต จิโต จ จิตฺตสฺส วิธาวนํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา อานาปานารมฺมณาภิมุขเมว จิตฺตํ กโรติ. เตเนว วุตฺตํ – ‘‘อานาปานสฺสติ ภาเวตพฺพา วิตกฺกุปจฺเฉทายา’’ติ (อ. นิ. ๙.๑; อุทา. ๓๑). วิชฺชาวิมุตฺติปาริปูริยา มูลภาเวนปิ จสฺสา มหานิสํสตา เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘อานาปานสฺสติ, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา จตฺตาโร สติปฏฺาเน ปริปูเรติ, จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา พหุลีกตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺติ, สตฺต โพชฺฌงฺคา ภาวิตา พหุลีกตา วิชฺชาวิมุตฺตึ ปริปูเรนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๔๗).

อปิจ จริมกานํ อสฺสาสปสฺสาสานํ วิทิตภาวกรณโตปิสฺสา มหานิสํสตา เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘เอวํ ภาวิตาย, ราหุล, อานาปานสฺสติยา เอวํ พหุลีกตาย เยปิ เต จริมกา อสฺสาสปสฺสาสา, เตปิ วิทิตาว นิรุชฺฌนฺติ, โน อวิทิตา’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๒๑).

ตตฺถ นิโรธวเสน ตโย จริมกา ภวจริมกา ฌานจริมกา จุติจริมกาติ. ภเวสุ หิ กามภเว อสฺสาสปสฺสาสา ปวตฺตนฺติ, รูปารูปภเวสุ น ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา เต ภวจริมกา. ฌาเนสุ ปุริเม ฌานตฺตเย ปวตฺตนฺติ, จตุตฺเถ นปฺปวตฺตนฺติ, ตสฺมา เต ฌานจริมกา. เย ปน จุติจิตฺตสฺส ปุรโต โสฬสเมน จิตฺเตน สทฺธึ อุปฺปชฺชิตฺวา จุติจิตฺเตน สห นิรุชฺฌนฺติ, อิเม จุติจริมกา นาม. อิเม อิธ จริมกาติ อธิปฺเปตา.

อิเม กิร อิมํ กมฺมฏฺานมนุยุตฺตสฺส ภิกฺขุโน ปากฏา โหนฺติ อานาปานารมฺมณสฺส สุฏฺุ ปริคฺคหิตตฺตา. จุติจิตฺตสฺส หิ ปุรโต โสฬสมจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปาทํ อาวชฺชยโต อุปฺปาโทปิ เนสํ ปากโฏ โหติ, ิตึ อาวชฺชยโต ิติปิ เนสํ ปากฏา โหติ, ภงฺคํ อาวชฺชยโต ภงฺโคปิ เนสํ ปากโฏ โหติ. อิโต อฺํ กมฺมฏฺานํ ภาเวตฺวา อรหตฺตปฺปตฺตสฺส ภิกฺขุโน หิ อายุอนฺตรํ ปริจฺฉินฺนํ วา โหติ อปริจฺฉินฺนํ วา, อิมํ ปน โสฬสวตฺถุกํ อานาปานสฺสตึ ภาเวตฺวา อรหตฺตปฺปตฺตสฺส อายุอนฺตรํ ปริจฺฉินฺนเมว โหติ. โส ‘‘เอตฺตกํ ทานิ เม อายุสงฺขารา ปวตฺติสฺสนฺติ, น อิโต ปร’’นฺติ ตฺวา อตฺตโน ธมฺมตาย เอว สรีรปฏิชคฺคนนิวาสนปารุปนาทีนิ สพฺพกิจฺจานิ กตฺวา อกฺขีนิ นิมีเลติ โกฏปพฺพตวิหารวาสิติสฺสตฺเถโร วิย, มหากรฺชิยวิหารวาสิมหาติสฺสตฺเถโร วิย, เทวปุตฺตรฏฺเ ปิณฺฑปาติกตฺเถโร วิย, จิตฺตลปพฺพตวิหารวาสิโน ทฺเวภาติกตฺเถรา วิย จ.

ตตฺริทํ เอกวตฺถุปริทีปนํ – ทฺเวภาติกตฺเถรานํ กิเรโก ปุณฺณมุโปสถทิวเส ปาติโมกฺขํ โอสาเรตฺวา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อตฺตโน วสนฏฺานํ คนฺตฺวา จงฺกเม ิโต ชุณฺหปกฺเข ปโทสเวลายํ จนฺทาโลเกน สมนฺตโต อาสิฺจมานขีรธารํ วิย คคนตลํ รชตปฏฺฏสทิสํ วาลิกาสนฺถตฺจ ภูมิภาคํ ทิสฺวา ‘‘รมณีโย วตายํ กาโล, เทโส จ มม อชฺฌาสยสทิโส, กีว จิรํ นุ โข อยํ ทุกฺขภาโร วหิตพฺโพ’’ติ อตฺตโน อายุสงฺขาเร อุปธาเรตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ อาห – ‘‘ตุมฺเหหิ กถํ ปรินิพฺพายนฺตา ภิกฺขู ทิฏฺปุพฺพา’’ติ. ตตฺร เกจิ อาหํสุ – ‘‘อมฺเหหิ อาสเน นิสินฺนกาว ปรินิพฺพายนฺตา ทิฏฺปุพฺพา’’ติ. เกจิ ‘‘อมฺเหหิ อากาเส ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสินฺนกา’’ติ. เถโร อาห – ‘‘อหํ ทานิ โว จงฺกมนฺตเมว ปรินิพฺพายมานํ ทสฺสยิสฺสามี’’ติ. ตโต จงฺกเม ติริยํ เลขํ กตฺวา ‘‘อหํ อิโต จงฺกมโกฏิโต ปรโกฏึ คนฺตฺวา นิวตฺตมาโน อิมํ เลขํ ปตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ วตฺวา จงฺกมํ โอรุยฺห ปรภาคํ คนฺตฺวา นิวตฺตมาโน เอเกน ปาเทน เลขํ อกฺกนฺตกฺขเณเยว ปรินิพฺพายีติ.

อานาปานสฺสติสมาธิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปมปฺตฺติกถาวณฺณนา

๑๖๗. ยทิปิ อริยา เนว อตฺตนาว อตฺตานํ ชีวิตา โวโรเปสุํ, นาฺมฺมฺปิ ชีวิตา โวโรเปสุํ, นาปิ มิคลณฺฑิกํ สมณกุตฺตกํ อุปสงฺกมิตฺวา สมาทเปสุํ, ตถาปิ ยถาวุตฺเตหิ ตีหิ ปกาเรหิ มตานํ อนฺตเร อริยานมฺปิ สพฺภาวโต ‘‘อริยปุคฺคลมิสฺสกตฺตา’’ติ วุตฺตํ. น หิ อริยา ปาณาติปาตํ กรึสุ น สมาทเปสุํ, นาปิ สมนุฺา อเหสุํ. อถ วา ปุถุชฺชนกาเล อตฺตนาว อตฺตานํ ฆาเตตฺวา มรณสมเย วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อริยมคฺคํ ปฏิลภิตฺวา มตานมฺปิ อริยานํ สพฺภาวโต อิมินาว นเยน อตฺตนาว อตฺตานํ ชีวิตา โวโรปนสฺส อริยานมฺปิ สพฺภาวโต อริยปุคฺคลมิสฺสกตฺตา ‘‘โมฆปุริสา’’ติ น วุตฺตํ. ‘‘เต ภิกฺขู’’ติ วุตฺตนฺติ ‘‘กถฺหิ นาม เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อตฺตนาปิ อตฺตานํ ชีวิตา โวโรเปสฺสนฺตี’’ติ เอตฺถ ‘‘โมฆปุริสา’’ติ อวตฺวา ‘‘เต ภิกฺขู’’ติ วุตฺตํ.

อนุปฺตฺติกถาวณฺณนา

๑๖๘. อิตฺถีสุ ปฏิพทฺธจิตฺตตา นาม ฉนฺทราเคน สารตฺตตา สาเปกฺขภาโวติ อาห ‘‘สารตฺตา อเปกฺขวนฺโต’’ติ. มรณสฺส คุณกิตฺตนํ ชีวิเต อาทีนวทสฺสนปุพฺพงฺคมนฺติ อาห ‘‘ชีวิเต อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา’’ติ. ‘‘กึ ตุยฺหิมินา ปาปเกน ทุชฺชีวิเตนา’’ติ อิทํ ชีวิเต อาทีนวทสฺสนํ. ‘‘มตํ เต ชีวิตา เสยฺโย’’ติอาทิ ปน มรณคุณกิตฺตนนฺติ ทฏฺพฺพํ. โลภาทีนํ อติวิย อุสฺสนฺนตฺตา อนุปปริกฺขิตฺวา กตํ สาหสิกกมฺมํ กิพฺพิสนฺติ วุจฺจตีติ อาห – ‘‘กิพฺพิสํ สาหสิกกมฺมํ โลภาทิกิเลสุสฺสท’’นฺติ. กสฺมา อิทํ วุจฺจตีติ ฉพฺพคฺคิยานํเยเวทํ วจนํ. มต-สทฺโท ‘‘คต’’นฺติอาทีสุ วิย ภาววจโนติ อาห ‘‘ตว มรณ’’นฺติ. กตกาโลติ กตมรณกาโล. อถ วา กาโลติ มรณสฺเสตํ อธิวจนํ, ตสฺมา กตกาโลติ กตมรโณติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘กาลํ กตฺวา, มริตฺวา’’ติ. ทิวิ ภวา ทิพฺพาติ อาห ‘‘เทวโลเก อุปฺปนฺเนหี’’ติ. สมปฺปิโตติ ยุตฺโต. สมงฺคีภูโตติ สมฺมเทว เอกีภาวํ คโต.

ปทภาชนียวณฺณนา

๑๗๒. อุสฺสุกฺกวจนนฺติ ปุพฺพกาลกิริยาวจนํ. อยฺหิ สมานกตฺตุเกสุ ปุพฺพาปรกาลกิริยาวจเนสุ ปุพฺพกาลกิริยาวจนสฺส นิรุตฺติโวหาโร. สฺจิจฺจาติ อิมสฺส ปทสฺส ‘‘ชานิตฺวา สฺชานิตฺวา เจจฺจ อภิวิตริตฺวา’’ติ เอวํ ปุพฺพกาลกิริยาวเสน พฺยฺชนานุรูปํ กตฺวา ปทภาชเน วตฺตพฺเพ ตถา อวตฺวา ‘‘ชานนฺโต สฺชานนฺโต’’ติ ปุคฺคลาธิฏฺานํ กตฺวา ‘‘เจจฺจ อภิวิตริตฺวา วีติกฺกโม’’ติ ชีวิตา โวโรปนสฺส จ ตทตฺถวเสน นิทฺทิฏฺตฺตา วุตฺตํ ‘‘พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวา’’ติ. ‘‘ชานนฺโต’’ติ อวิเสเสน วุตฺเตปิ ‘‘สฺจิจฺจ มนุสฺสวิคฺคหํ ชีวิตา โวโรเปยฺยา’’ติ วุตฺตตฺตา ปาณวิสยเมตฺถ ชานนนฺติ อาห ‘‘ปาโณติ ชานนฺโต’’ติ, สตฺโต อยนฺติ ชานนฺโตติ อตฺโถ. ปาโณติ หิ โวหารโต สตฺโต, ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ วุจฺจติ. ‘‘มนุสฺสวิคฺคโหติ ชานนฺโต’’ติ อวตฺวา ‘‘ปาโณติ ชานนฺโต’’ติ วจนํ ‘‘มนุสฺโส อย’’นฺติ อชานิตฺวา เกวลํ สตฺตสฺาย ฆาเตนฺตสฺสปิ ปาราชิกภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เตเนว เอฬกจตุกฺเก (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๔) เอฬกสฺาย มนุสฺสปาณํ วธนฺตสฺส ปาราชิกาปตฺติ ทสฺสิตา. ตสฺมา ‘‘มนุสฺสวิคฺคโห’’ติ อวตฺวา ‘‘ปาโณติ ชานนฺโต’’ติ อวิเสเสน วุตฺตํ.

สฺชานนฺโตติ เอตฺถ สห-สทฺเทน สมานตฺโถ สํ-สทฺโทติ อาห – ‘‘เตเนว ปาณชานนากาเรน สทฺธึ ชานนฺโต’’ติ, เตเนว ปาณชานนากาเรน สทฺธึ ชีวิตา โวโรเปมีติ ชานนฺโตติ อตฺโถ. ยทิปิ เอกสฺเสว จิตฺตสฺส อุภยารมฺมณภาวาสมฺภวโต ปาโณติ ชานเนน สทฺธึ ชีวิตา โวโรเปมีติ ชานนํ เอกกฺขเณ น สมฺภวติ, ปาโณติสฺํ ปน อวิชหิตฺวา มาเรมีติ ชานนํ สนฺธาย ‘‘เตเนว…เป… สทฺธึ ชานนฺโต’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา สทฺธินฺติ อวิชหิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. เกจิ ปน ‘‘าตปริฺาย ทิฏฺสภาเวสุ ธมฺเมสุ ตีรณปริฺาย ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา ‘รูปํ อนิจฺจ’นฺติอาทินา สภาเวน สทฺธึ เอกกฺขเณ อนิจฺจาทิลกฺขณชานนํ วิย ‘อิมํ ปาณํ มาเรมี’ติ อตฺตโน กิริยาย สทฺธึเยว ชานาตี’’ติ วทนฺติ. อปเร ปน อาจริยา ตตฺถาปิ เอวํ น กเถนฺติ.

วธกเจตนาวเสน เจเตตฺวาติ ‘‘อิมํ มาเรมี’’ติ วธกเจตนาย จินฺเตตฺวา. ปกปฺเปตฺวาติ ‘‘วธามิ น’’นฺติ เอวํ จิตฺเตน ปริจฺฉินฺทิตฺวา. อภิวิตริตฺวาติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา. เตเนวาห ‘‘นิราสงฺกจิตฺตํ เปเสตฺวา’’ติ. อุปกฺกมวเสนาติ สาหตฺถิกาทิอุปกฺกมวเสน. เอวํ ปวตฺตสฺสาติ เอวํ ยถาวุตฺตวิธินา ปวตฺตสฺส. กิฺจาปิ ‘‘สฺจิจฺจา’’ติ อิมสฺส วิปฺปกตวจนตฺตา ‘‘ชีวิตา โวโรเปยฺยา’’ติ อิมินาว อปรกาลกิริยาวจเนน สพฺพถา ปรินิฏฺิตวีติกฺกโม วุตฺโต, ตถาปิ ‘‘สฺจิจฺจา’’ติ อิมินา วุจฺจมานํ อปริโยสิตวีติกฺกมมฺปิ อวสานํ ปาเปตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘วีติกฺกโม’’ติ ปทภาชนํ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘อยํ สฺจิจฺจสทฺทสฺส สิขาปฺปตฺโต อตฺโถติ วุตฺตํ โหตี’’ติ.

อาทิโต ปฏฺายาติ ปฏิสนฺธิวิฺาเณน สทฺธึ อุปฺปนฺนกลลรูปโต ปฏฺาย. สยนฺติ เอตฺถาติ เสยฺยา, มาตุกุจฺฉิสงฺขาโต คพฺโภ เสยฺยา เอเตสนฺติ คพฺภเสยฺยกา, อณฺฑชา ชลาพุชา จ. เตสํ คพฺภเสยฺยกานํ วเสน สพฺพสุขุมตฺตภาวทสฺสนตฺถํ ‘‘ยํ มาตุกุจฺฉิสฺมิ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ, น ปาราชิกวตฺถุนิยมนตฺถํ. โอปปาติกสํเสทชาปิ หิ มนุสฺสา ปาราชิกวตฺถุเมว. น เจวิมํ สพฺพปมํ มนุสฺสวิคฺคหํ ชีวิตา โวโรเปตุํ สกฺกา. ปฏิสนฺธิจิตฺเตน หิ สทฺธึ ตึส กมฺมชรูปานิ นิพฺพตฺตนฺติ, เตสุ ปน ิเตสุเยว โสฬส ภวงฺคจิตฺตานิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ. เอตสฺมึ อนฺตเร คหิตปฏิสนฺธิกสฺส ทารกสฺส วา มาตุยา วา ปนสฺส อนฺตราโย นตฺถิ. อยฺหิ มรณสฺส อโนกาโส นาม. เอกสฺมิฺหิ โสฬสจิตฺตกฺขเณ กาเล ทารกสฺส มรณํ นตฺถิ ตทา จุติจิตฺตสฺส อสมฺภวโต, มาตุยาปิ ตตฺตกํ กาลํ อนติกฺกมิตฺวา ตทนนฺตเรเยว จวนธมฺมาย คพฺภคฺคหณสฺเสว อสมฺภวโต. จิตฺตคฺคหเณเนว อวินาภาวโต เสสอรูปธมฺมานมฺปิ คหิตตฺตา รูปกายุปตฺถมฺภิตสฺเสว จ นามกายสฺส ปฺจโวกาเร ปวตฺติสพฺภาวโต วุตฺตํ ‘‘สกลาปิ ปฺจโวการปฏิสนฺธิ ทสฺสิตา โหตี’’ติ. ตตฺถ สกลาปิ ปฺจโวการปฏิสนฺธีติ ปริปุณฺณา อนูนา รูปาทิปฺจกฺขนฺธานํ ปฏิสนฺธีติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ, น ปน สกลาปิ ปฺจโวการภเว ปฏิสนฺธีติ. เตเนวาห ‘‘ตสฺมา ตฺจ ปมํ จิตฺตํ…เป… กลลรูปนฺติ อยํ สพฺพปโม มนุสฺสวิคฺคโห’’ติ. ‘‘ตทหุชาตสฺส เอฬกสฺส โลมํ ชาติอุณฺณา’’ติ เกจิ. ‘‘หิมวนฺตปฺปเทเส ชาติมนฺตเอฬกโลมํ ชาติอุณฺณา’’ติ อปเร. สุขุมชาติโลมา เอว กิร เกจิ เอฬกา หิมวนฺเต วิชฺชนฺติ. ‘‘คพฺภํ ผาเลตฺวา คหิตเอฬกโลมํ ชาติอุณฺณา’’ติ อฺเ.

เอเกน อํสุนาติ ขุทฺทกภาณกานํ มเตน วุตฺตํ. ตถา หิ ‘‘คพฺภเสยฺยกสตฺตานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปฺจกฺขนฺธา อปจฺฉา อปุเร เอกโต ปาตุภวนฺติ. ตสฺมึ ขเณ ปาตุภูตา กลลสงฺขาตา รูปสนฺตติ ปริตฺตา โหติ ขุทฺทกมกฺขิกาย เอกวายาเมน ปาตพฺพมตฺตา’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘อติพหุํ เอตํ, สณฺหสูจิยา เตเล ปกฺขิปิตฺวา อุกฺขิตฺตาย ปคฺฆริตฺวา อคฺเค ิตพินฺทุมตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘เอกเกเส เตลโต อุทฺธริตฺวา คหิเต ตสฺส ปคฺฆริตฺวา อคฺเค ิตพินฺทุมตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘อิมสฺมึ ชนปเท มนุสฺสานํ เกเส อฏฺธา ผาลิเต ตโต เอกโกฏฺาสปฺปมาโณ อุตฺตรกุรุกานํ เกโส, ตสฺส ปสนฺนติลเตลโต อุทฺธฏสฺส อคฺเค ิตพินฺทุมตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘ชาติอุณฺณา นาม สุขุมา, ตสฺสา เอกอํสุโน ปสนฺนติลเตเล ปกฺขิปิตฺวา อุทฺธฏสฺส ปคฺฆริตฺวา อคฺเค ิตพินฺทุมตฺต’’นฺติ (วิภ. อฏฺ. ๒๖) ขุทฺทกภาณเกหิ วุตฺตํ. สํยุตฺตภาณกา ปน ‘‘ตีหิ ชาติอุณฺณํสูหิ กตสุตฺตคฺเค สณฺิตเตลพินฺทุปฺปมาณํ กลลํ โหตี’’ติ (สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๓๕) วทนฺติ. ‘‘อจฺฉ’’นฺติ วุตฺตมตฺถํ ปริยายนฺตเรน วิภาเวติ ‘‘วิปฺปสนฺน’’นฺติ.

สปฺปิมณฺโฑติ ปสนฺนสปฺปิ. ยถาติ อิทํ อาเนตฺวา เอตฺถาปิ สมฺพนฺธิตพฺพํ, สปฺปิมณฺโฑปิ วุตฺตพินฺทุปฺปมาโณว อิธ อธิปฺเปโต. เอวํวณฺณปฺปฏิภาคนฺติ วุตฺตปฺปมาณสณฺานปริจฺฉินฺนํ. อถ วา เอวํวณฺณปฺปฏิภาคนฺติ เอวํวณฺณํ เอวํสณฺานฺจ. ปฏิภชนํ วา ปฏิภาโค, สทิสตาภชนํ สทิสตาปตฺตีติ อตฺโถ. เอวํวิโธ วณฺณปฺปฏิภาโค รูปโต สณฺานโต จ สทิสตาปตฺติ เอตสฺสาติ เอวํวณฺณปฺปฏิภาคํ. กลลนฺติ ปวุจฺจตีติ ภูตุปาทารูปสงฺขาโต สนฺตานวเสน ปวตฺตมาโน อตฺตภาโว กลลํ นามาติ กถียติ. วีสวสฺสสตายุกสฺสาติ นิทสฺสนมตฺตํ ตโต อูนาธิกายุกมนุสฺสานมฺปิ สพฺภาวโต.

กลลกาเลปีติ ปมสตฺตาหพฺภนฺตเร ยํ สนฺตติวเสน ปวตฺตมานํ กลลสงฺขาตํ อตฺตภาวํ ชีวิตา โวโรเปตุํ สกฺกา, ตํ สนฺธาย วทติ. ตโต วา อุทฺธนฺติ ทุติยสตฺตาหาทีสุ อพฺพุทาทิภาวปฺปตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. นนุ จ อุปฺปนฺนานํ ธมฺมานํ สรสนิโรเธเนว นิรุชฺฌนโต อนฺตรา อุปจฺเฉโท น สกฺกา กาตุํ, ‘‘ตสฺมา…เป… ชีวิตินฺทฺริยํ อุปจฺฉินฺทติ อุปโรเธตี’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห – ‘‘ชีวิตินฺทฺริยสฺส ปเวณีฆฏนํ…เป… อุปโรเธตีติ วุจฺจตี’’ติ. กถฺจายมตฺโถ วิฺายตีติ อาห ‘‘สฺวายมตฺโถ’’ติอาทิ.

เอตฺถาห (สารตฺถ. ฏี. ๑.๕; อิติวุ. อฏฺ. ๗๔) – ขเณ ขเณ นิรุชฺฌนสภาเวสุ สงฺขาเรสุ โก หนฺติ, โก วา หฺติ, ยทิ จิตฺตเจตสิกสนฺตาโน, โส อรูปตาย น เฉทนเภทนาทิวเสน วิโกปนสมตฺโถ, นปิ วิโกปนีโย. อถ รูปสนฺตาโน, โส อเจตนตาย กฏฺกลิงฺครูปโมติ น ตตฺถ เฉทนาทินา ปาณาติปาโต ลพฺภติ ยถา มตสรีเร. ปโยโคปิ ปาณาติปาตสฺส ยถาวุตฺโต ปหรณปฺปหาราทิโก อตีเตสุ วา สงฺขาเรสุ ภเวยฺย อนาคเตสุ วา ปจฺจุปฺปนฺเนสุ วา, ตตฺถ น ตาว อตีตานาคเตสุ สมฺภวติ เตสํ อภาวโต, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ จ สงฺขารานํ ขณิกตฺตา สรเสเนว นิรุชฺฌนสภาวตาย วินาสาภิมุเขสุ นิปฺปโยชโน ปโยโค สิยา, วินาสสฺส จ การณรหิตตฺตา น ปหรณปฺปหาราทิปฺปโยคเหตุกํ มรณํ, นิรีหกตาย จ สงฺขารานํ กสฺส โส ปโยโค, ขณิกตฺตา วธาธิปฺปายสมกาลภิชฺชนกสฺส กิริยาปริโยสานกอาลานวฏฺานโต กสฺส วา ปาณาติปาตกมฺมพทฺโธติ?

วุจฺจเต – วธกเจตนาสหิโต สงฺขารานํ ปุฺโช สตฺตสงฺขาโต หนฺติ. เตน ปวตฺติตวธปฺปโยคนิมิตฺตํ อปคตุสฺมาวิฺาณชีวิตินฺทฺริโย มตโวหารปฺปวตฺตินิพนฺธโน ยถาวุตฺตวธปฺปโยคากรเณ อุปฺปชฺชนารโห รูปารูปธมฺมสมูโห หฺติ, เกวโล วา จิตฺตเจตสิกสนฺตาโน วธปฺปโยคาวิสยภาเวปิ ตสฺส ปฺจโวการภเว รูปสนฺตานาธีนวุตฺติตาย รูปสนฺตาเน ปเรน ปโยชิตชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทกปโยควเสน ตนฺนิพฺพตฺติวินิพนฺธกวิสทิสรูปุปฺปตฺติยา วิหเต วิจฺเฉโท โหตีติ น ปาณาติปาตสฺส อสมฺภโว, นปิ อเหตุโก ปาณาติปาโต, น จ ปโยโค นิปฺปโยชโน ปจฺจุปฺปนฺเนสุ สงฺขาเรสุ กตปฺปโยควเสน ตทนนฺตรํ อุปฺปชฺชนารหสฺส สงฺขารกลาปสฺส ตถา อนุปฺปตฺติโต. ขณิกานํ สงฺขารานํ ขณิกมรณสฺส อิธ มรณภาเวน อนธิปฺเปตตฺตา สนฺตติมรณสฺส จ ยถาวุตฺตนเยน สเหตุกภาวโต น อเหตุกํ มรณํ, น จ กตฺตุรหิโต ปาณาติปาตปฺปโยโค นิรีหเกสุปิ สงฺขาเรสุ สนฺนิหิตตามตฺเตน อุปการเกสุ อตฺตโน อตฺตโน อนุรูปผลุปฺปาทเน นิยเตสุ การเณสุ กตฺตุโวหารสิทฺธิโต ยถา ‘‘ปทีโป ปกาเสติ, นิสากโร จนฺทิมา’’ติ. น จ เกวลสฺส วธาธิปฺปายสหภุโน จิตฺตเจตสิกกลาปสฺส ปาณาติปาโต อิจฺฉิโต สนฺตานวเสน อวฏฺิตสฺเสว ปฏิชานนโต, สนฺตานวเสน ปวตฺตมานานฺจ ปทีปาทีนํ อตฺถกิริยาสิทฺธิ ทิสฺสตีติ อตฺเถว ปาณาติปาเตน กมฺมุนา พทฺโธ. อยฺจ วิจาโร อทินฺนาทานาทีสุปิ ยถาสมฺภวํ วิภาเวตพฺโพ.

โวโรเปตุํ น สกฺกาติ อุปกฺกเมน โวโรเปตุํ น สกฺกา. สตฺตฏฺชวนวารมตฺตนฺติ ขุทฺทกภาณกานํ มเตน วุตฺตํ. สํยุตฺตภาณกา ปน ‘‘รูปสนฺตติ อรูปสนฺตตี’’ติ ทฺเว สนฺตติโย วตฺวา ‘‘อุทกํ อกฺกมิตฺวา คตสฺส ยาว ตีเร อกฺกนฺตอุทกเลขา น วิปฺปสีทติ, อทฺธานโต อาคตสฺส ยาว กาเย อุสุมภาโว น วูปสมฺมติ, อาตปา อาคนฺตฺวา คพฺภํ ปวิฏฺสฺส ยาว อนฺธการภาโว น วิคจฺฉติ, อนฺโตคพฺเภ กมฺมฏฺานํ มนสิ กริตฺวา ทิวา วาตปานํ วิวริตฺวา โอโลเกนฺตสฺส ยาว อกฺขีนํ ผนฺทนภาโว น วูปสมฺมติ, อยํ รูปสนฺตติ นาม. ทฺเว ตโย ชวนวารา อรูปสนฺตติ นามา’’ติ วตฺวา ‘‘ตทุภยมฺปิ สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ นามา’’ติ วทนฺติ. มชฺฌิมภาณกา ปน วทนฺติ ‘‘เอกทฺเวสนฺตติวารปริยาปนฺนํ สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ. ตตฺถ อนฺธกาเร นิสีทิตฺวา อาโลกฏฺานํ คตสฺส น จ ตาว อารมฺมณํ ปากฏํ โหติ. ยาว ปน ตํ ปากฏํ โหติ, เอตฺถนฺตเร ปวตฺตา รูปสนฺตติ อรูปสนฺตติ วา เอกทฺเวสนฺตติวารา นามาติ เวทิตพฺพา. อาโลกฏฺาเน จริตฺวา โอวรกํ ปวิฏฺสฺสปิ น ตาว สหสา รูปํ ปากฏํ โหติ. ยาว ปน ตํ ปากฏํ โหติ, เอตฺถนฺตเร ปวตฺตา รูปสนฺตติ อรูปสนฺตติ วา เอกทฺเวสนฺตติวารา เวทิตพฺพา. ทูเร ตฺวา ปน รชกานํ หตฺถวิการํ ฆณฺฏิเภริอาโกฏนวิการฺจ ทิสฺวาปิ น ตาว สทฺทํ สุณาติ. ยาว ปน ตํ สุณาติ, เอตสฺมิมฺปิ อนฺตเร เอกทฺเวสนฺตติวารา เวทิตพฺพา’’ติ. เอตฺถ จ อาโลกฏฺานโต โอวรกํ ปวิฏฺสฺส ปเคว ตตฺถ นิสินฺนสฺส ยาว รูปคตํ ปากฏํ โหติ, ตตฺถ อุปฑฺฒเวลา อวิภูตปฺปายา, อุปฑฺฒเวลา วิภูตปฺปายา ตทุภยํ คเหตฺวา ‘‘ทฺเวสนฺตติวารา’’ติ วุตฺตํ, ตยิทํ น สพฺพสาธารณํ, เอกจฺจสฺส สีฆมฺปิ ปากฏํ โหตีติ ‘‘เอกทฺเวสนฺตติวารา’’ติ เอกคฺคหณมฺปิ กตํ.

สภาคสนฺตติวเสนาติ กุสลากุสลโสมนสฺสุเปกฺขาทินา สภาคสนฺตติวเสน. อิมินา อรูปสนฺตติ ทสฺสิตา. สตฺตฏฺชวนวารมตฺตนฺติ จ กามาวจรชวนวเสเนว เวทิตพฺพํ, น อิตรชวนวเสน. น หิ เต ปริมิตกาลา, อนฺตรา ปวตฺตภวงฺคาทโยปิ ตทนฺโตคธาติ ทฏฺพฺพา. ยาว วา อุณฺหโต อาคนฺตฺวาติอาทินา ปน รูปสนฺตตึ ทสฺเสติ. อนฺธการํ โหตีติ อนฺธการํ น วิคจฺฉติ. สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนฺเจตฺถ อฏฺกถาสุ อาคตํ, อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ สุตฺเต. ตถา หิ ภทฺเทกรตฺตสุตฺเต อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ สนฺธาย ‘‘โย จาวุโส มโน, เย จ ธมฺมา, อุภยเมตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ, ตสฺมึ เจ ปจฺจุปฺปนฺเน ฉนฺทราคปฏิพทฺธํ โหติ วิฺาณํ, ฉนฺทราคปฏิพทฺธตฺตา วิฺาณสฺส ตทภินนฺทติ, ตทภินนฺทนฺโต ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ สํหีรตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๘๔) วุตฺตํ. เอตฺถ หิ มโนติ สสมฺปยุตฺตํ วิฺาณมาห. ธมฺมาติ อารมฺมณธมฺมา. มโนติ วา มนายตนํ. ธมฺมาติ เวทนาทโย อรูปกฺขนฺธา. อุภยเมตํ ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ เอตํ อุภยํ โหตีติ อตฺโถ. วิฺาณนฺติ นิกนฺติวิฺาณํ. ตฺหิ ตสฺมึ ปจฺจุปฺปนฺเน ฉนฺทราควเสน ปฏิพทฺธํ โหติ. อภินนฺทตีติ ตณฺหาทิฏฺาภินนฺทนาหิ อภินนฺทติ. ตถาภูโต จ วตฺถุปริฺาย อภาวโต เตสุ ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ สํหีรติ, ตณฺหาทิฏฺีหิ อากฑฺฒียตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ‘‘ทฺวาทสายตนานิ เอกํ ปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติ อาคตตฺตา ตตฺถ ปวตฺโต ฉนฺทราโค อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนารมฺมโณ, น ขณปจฺจุปฺปนฺนารมฺมโณติ วิฺายติ.

สตฺโตติ ขนฺธสนฺตาโน. ตตฺถ หิ สตฺตปฺตฺติ. ชีวิตินฺทฺริยนฺติ รูปารูปชีวิตินฺทฺริยํ. รูปชีวิตินฺทฺริเย หิ วิโกปิเต อิตรมฺปิ ตํสมฺพนฺธตาย วินสฺสตีติ. ตํ วุตฺตปฺปการเมวาติ ตํ ชีวิตินฺทฺริยาติปาตนวิธานํ เหฏฺา วุตฺตปฺปการเมว. สรเสเนว ปตนสภาวสฺส อนฺตรา เอว อตีว ปาตนํ อติปาโต, สณิกํ ปติตุํ อทตฺวา สีฆปาตนนฺติ อตฺโถ. อติกฺกมฺม วา สตฺถาทีหิ อภิภวิตฺวา ปาตนํ อติปาโต, ปาณสฺส อติปาโต ปาณาติปาโต. ยาย เจตนาย ปวตฺตมานสฺส ชีวิตินฺทฺริยสฺส นิสฺสยภูเตสุ มหาภูเตสุ อุปกฺกมกรณเหตุ ตํมหาภูตปจฺจยา อุปฺปชฺชนมหาภูตา นุปฺปชฺชิสฺสนฺติ, สา ตาทิสปฺปโยคสมุฏฺาปิกา วธกเจตนา ปาณาติปาโต. เตนาห ‘‘ยาย เจตนายา’’ติอาทิ.

ปหรณนฺติ กายวิฺตฺติสหิตาย วธกเจตนาย อธิปฺเปตตฺถสาธนํ. อาณาปนนฺติ วจีวิฺตฺติสหิตาย วธกเจตนาย อธิปฺเปตตฺถสาธนํ. เตเนว ‘‘สาเวตุกาโม น สาเวตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อุปนิกฺขิปนนฺติ อสิอาทีนํ ตสฺส อุปนิกฺขิปนํ.

อฏฺกถาสุ วุตฺตมตฺถํ สงฺขิปิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘สงฺเขปโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิชฺชาปริชปฺปนนฺติ มนฺตปริชปฺปนํ. อิทานิ อฏฺกถาสุ วิตฺถาริตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อฏฺกถาสุ ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ อาถพฺพณิกาติ อาถพฺพณเวทเวทิโน. อาถพฺพณํ ปโยเชนฺตีติ อาถพฺพณเวทวิหิตํ มนฺตํ ตตฺถ วุตฺตวิธินา ปโยเชนฺติ. อาถพฺพณิกา หิ สตฺตาหํ อโลณกํ ภุฺชิตฺวา ทพฺเพ อตฺถริตฺวา ปถวิยํ สยมานา ตปํ จริตฺวา สตฺตเม ทิวเส สุสานภูมึ สชฺเชตฺวา สตฺตเม ปเท ตฺวา หตฺถํ วฏฺเฏตฺวา วฏฺเฏตฺวา มุเขน วิชฺชํ ปริชปฺปนฺติ, อถ เนสํ กมฺมํ สมิชฺฌติ. ปฏิเสนายาติ อิทํ เหฏฺา อุปริ วา ปททฺวเยน สมฺพนฺธมุปคจฺฉติ. อีตึ อุปฺปาเทนฺตีติ ฑํสิตฺวา มารณตฺถาย วิจฺฉิกาทีนํ วิสฺสชฺชนวเสน ปีฬํ อุปฺปาเทนฺติ. เอตีติ อีติ. อุปทฺทวนฺติ ตโต อธิกตรปีฬํ. ปชฺชรกนฺติ วิสมชฺชรํ. สูจิกนฺติ องฺคปจฺจงฺคานิ สูจีหิ วิย วิชฺฌิตฺวา ปวตฺตมานํ สูลํ. วิสูจิกนฺติ สสูลํ อามาติสารํ. ปกฺขนฺทิยนฺติ รตฺตาติสารํ. วิชฺชํ ปริวตฺเตตฺวาติ คนฺธารวิชฺชาทิกํ อตฺตโน วิชฺชํ กตุปจารํ ปริชปฺปิตฺวา มนฺตปนกฺกเมน ปิตฺวา. เตหีติ เตหิ วตฺถูหิ.

ปโยชนนฺติ ปวตฺตมานํ. ทิสฺวาติอาทิ ทิฏฺวิสาทีนํ ยถากฺกเมน วุตฺตํ. ทฺวตฺติพฺยามสตปฺปมาณนาคุทฺธรเณติ ทฺวตฺติพฺยามสตปฺปมาเณ มหากาเย นิมฺมินิตฺวา ิตานํ นาคานํ อุทฺธรเณ. กุมฺภณฺฑานนฺติ กุมฺภณฺฑเทวานํ. เต กิร เทวา มโหทรา โหนฺติ, รหสฺสงฺคมฺปิ จ เนสํ กุมฺโภ วิย มหนฺตํ โหติ, ตสฺมา ‘‘กุมฺภณฺฑา’’ติ วุจฺจนฺติ. เวสฺสวณสฺส ยกฺขาธิปติภาเวปิ นยนาวุเธน กุมฺภณฺฑานํ มรณสฺส อิธ วุตฺตตฺตา เตสุปิ ตสฺส อาณาปวตฺติ เวทิตพฺพา.

เกจีติ มหาสงฺฆิกา. ‘‘อโห วต ยํ ตํ กุจฺฉิคตํ คพฺภํ น โสตฺถินา อภินิกฺขเมยฺยา’’ติ ปาโ สุนฺทรตโร. ‘‘อโห วตายํ ต’’นฺติปิ ปาโ. ‘‘อยํ อิตฺถี ตํ กุจฺฉิคตํ คพฺภํ น โสตฺถินา อภินิกฺขาเมยฺยา’’ติ วตฺตพฺพํ. กุลุมฺพสฺสาติ คพฺภสฺส กุลสฺเสว วา, กุฏุมฺพสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. ภาวนามยิทฺธิยาติ อธิฏฺานิทฺธึ สนฺธาย วทนฺติ. ฆฏเภทนํ วิย อิทฺธิวินาโส, อคฺคินิพฺพาปนํ วิย ปรูปฆาโตติ อุปมาสํสนฺทนํ. ตํ เตสํ อิจฺฉามตฺตเมวาติ เอตฺถายํ วิจารณา – ตุมฺเห อิทฺธิยา ปรูปฆาตํ วเทถ, อิทฺธิ นาม เจสา อธิฏฺานิทฺธิ วิกุพฺพนิทฺธิ มโนมยิทฺธิ าณวิปฺผาริทฺธิ สมาธิวิปฺผาริทฺธิ อริยิทฺธิ กมฺมวิปากชิทฺธิ ปุฺวโตอิทฺธิ วิชฺชามยิทฺธิ ตตฺถ ตตฺถ สมฺมาปโยคปจฺจยา อิชฺฌนฏฺเน อิทฺธีติ ทสวิธา. ตตฺถ กตรํ อิทฺธึ วเทถาติ? ภาวนามยนฺติ. กึ ปน ภาวนามยิทฺธิยา ปรูปฆาตกมฺมํ โหตีติ? อาม เอกวารํ โหติ. ยถา หิ อาทิตฺตฆรสฺส อุปริ อุทกภริเต ฆเฏ ขิตฺเต ฆโฏปิ ภิชฺชติ, อคฺคิปิ นิพฺพายติ, เอวเมว ภาวนามยิทฺธิยา เอกวารํ ปรูปฆาตกมฺมํ โหติ, ตโต ปฏฺาย ปน สา นสฺสตีติ. อถ เน ‘‘ภาวนามยิทฺธิยา เนว เอกวารํ, น ทฺเว วาเร ปรูปฆาตกมฺมํ โหตี’’ติ วตฺวา สฺตฺตึ อาคจฺฉนฺตา ปุจฺฉิตพฺพา ‘‘ภาวนามยิทฺธิ กึ กุสลา, อกุสลา, อพฺยากตา, สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา, ทุกฺขาย, อทุกฺขมสุขาย, สวิตกฺกสวิจารา, อวิตกฺกวิจารมตฺตา, อวิตกฺกอวิจารา, กามาวจรา, รูปาวจรา, อรูปาวจรา’’ติ.

อิมํ ปน ปฺหํ เย ชานนฺติ, เต เอวํ วกฺขนฺติ ‘‘ภาวนามยิทฺธิ กุสลา วา โหติ อพฺยากตา วา, อทุกฺขมสุขเวทนียา เอว, อวิตกฺกอวิจารา เอว, รูปาวจรา เอวา’’ติ. เต วตฺตพฺพา ‘‘ปาณาติปาตเจตนา กุสลากุสลาทีสุ กตรํ โกฏฺาสํ ภชตี’’ติ. ชานนฺตา วกฺขนฺติ ‘‘ปาณาติปาตเจตนา อกุสลาว, ทุกฺขเวทนียาว, สวิตกฺกสวิจาราว, กามาวจรา เอวา’’ติ. เอวํ สนฺเต ‘‘ตุมฺหากํ กถา เนว กุสลตฺติเกน สเมติ, น เวทนาตฺติเกน, น วิตกฺกตฺติเกน, น ปริตฺตตฺติเกนา’’ติ. กึ ปน เอวํ มหนฺตํ สุตฺตํ นิรตฺถกนฺติ? โน นิรตฺถกํ, ตุมฺเห ปนสฺส อตฺถํ น ชานาถ. อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโตติ เอตฺถ หิ น ภาวนามยิทฺธิ อธิปฺเปตา, อาถพฺพณิทฺธิ ปน อธิปฺเปตา. สา หิ เอตฺถ ลพฺภมานา ลพฺภตีติ.

หริตพฺพํ อุปนิกฺขิปิตพฺพนฺติ หารํ, หารเมว หารกนฺติ อาห ‘‘อถ วา’’ติอาทิ. ชีวิตหรณกํ อุปนิกฺขิปิตพฺพํ วา สตฺถํ สตฺถหารกนฺติ วิกปฺปทฺวเยนาห. ‘‘หารกสตฺถ’’นฺติ จ วตฺตพฺเพ สตฺถหารกนฺติ วิเสสนสฺส ปรนิปาตํ กตฺวา วุตฺตํ. ยถา ลภติ, ตถา กเรยฺยาติ อธิปฺปายตฺถมาห. อุปนิกฺขิเปยฺยาติ ‘‘ปริเยเสยฺยา’’ติ อิมสฺส สิขาปฺปตฺตมตฺถํ ทสฺเสติ. อิตรถาติ ‘‘ปริเยเสยฺยา’’ติ อิมสฺส อุปนิกฺขิเปยฺยาติ เอวมตฺถํ อคฺคเหตฺวา ยทิ ปริเยสนมตฺตเมว อธิปฺเปตํ สิยาติ อตฺโถ. ปริยิฏฺมตฺเตนาติ ปริเยสิตมตฺเตน. ‘‘สตฺถหารกํ วาสฺส ปริเยเสยฺยา’’ติ อิมินา วุจฺจมานสฺส อตฺถสฺส พฺยฺชนานุรูปโต ปริปุณฺณํ กตฺวา อวุตฺตตฺตา อาห ‘‘พฺยฺชนํ อนาทิยิตฺวา’’ติ. สสติ หึสตีติ สตฺถํ, สสนฺติ หึสนฺติ เตนาติ วา สตฺถนฺติ ลคุฬปาสาณาทีนมฺปิ สตฺถสงฺคหิตตฺตา อาห – ‘‘ยํ เอตฺถ ถาวรปฺปโยคสงฺคหิตํ สตฺถํ, ตเทว ทสฺเสตุ’’นฺติ.

วุตฺตาวเสสนฺติ วุตฺตอสิอาทีหิ อวสิฏฺํ. ลคุฬนฺติ มุคฺครสฺเสตํ อธิวจนํ. สตฺถสงฺคโหติ มาติกายํ ‘‘สตฺถหารก’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตสตฺถสงฺคโห. ยสฺมา…เป… ตสฺมา ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา ปทภาชนํ วุตฺตนฺติ อีทิสํ เหฏฺา วุตฺตวิภงฺคนยเภททสฺสนนฺติ เวทิตพฺพํ. นรเก วา ปปตาติอาทีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ปปาเต วา ปปตา’’ติ ปรโต วุตฺตํ อวุตฺตฺจ ‘‘รุกฺขโต วา ปปตา’’ติอาทิ สพฺพํ มรณูปายํ สงฺคณฺหาติ. เตเนวาห ‘‘น หิ สกฺกา สพฺพํ สรูเปเนว วตฺตุ’’นฺติ. ปรโต วุตฺตนยตฺตาติ ปรโต นิคมนวเสน วุตฺตสฺส ทุติยปทสฺส ปทภาชเน วุตฺตนยตฺตา. อตฺถโต วุตฺตเมวาติ มรณูปายสฺส พหุวิธตานิทสฺสนตฺถํ, ตโต เอกเทเส ทสฺสิเต สพฺพํ วุตฺตเมว โหตีติ อธิปฺปาโย. น หิ สกฺกา…เป… วตฺตุนฺติ ‘‘รุกฺขโต วา ปปตา’’ติอาทินา สรูปโต สพฺพํ มรณูปายํ ปริโยสานํ ปาเปตฺวา น สกฺกา วตฺตุนฺติ อตฺโถ.

มตํ เต ชีวิตา เสยฺโยติ เอตฺถ วุตฺตมรณํ ยสฺมา อิติ-สทฺโท นิทสฺเสติ, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตมรณํ อิติ-สทฺทสฺส อตฺโถติ ตมฺปิ คเหตฺวา อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘มรณจิตฺโต มรณมโนติ อตฺโถ’’ติ. จิตฺตสฺส อตฺถทีปนตฺถํ วุตฺโตติ จิตฺต-สทฺทสฺส วิจิตฺตาทิอเนกตฺถวิสยตฺตา นายํ จิตฺต-สทฺโท อิธ อฺสฺมึ อตฺเถ วตฺตมาโน ทฏฺพฺโพ, อปิ ตุ วิฺาณสฺมึเยว วตฺตมาโน เวทิตพฺโพติ ตสฺส อตฺถสฺส นิยมนตฺถํ วุตฺโต. อิมินา ปุนรุตฺติโทสสฺสปิ อิธ อนวกาโสติ ทสฺเสติ. น ตาว อตฺโถ วุตฺโตติ ‘‘อิติ จิตฺตมโน’’ติ อุทฺธริตฺวาปิ อิติ-สทฺทนิทสฺสิตสฺส มรณสฺส อปรามฏฺภาวโต วุตฺตํ. ตาว-สทฺเทน ปน ปรโต ‘‘จิตฺตสงฺกปฺโป’’ติ อิมสฺส ปทภาชเน ‘‘มรณสฺี’’ติอาทินา อิติสทฺทตฺถสฺส วกฺขมานตํ วิภาเวติ. ตตฺถ หิ อิติ-สทฺทนิทสฺสิตํ มรณสงฺขาตมตฺถํ คเหตฺวา ‘‘มรณสฺี มรณเจตโน มรณาธิปฺปาโย’’ติ วุตฺตํ. เตเนวาห – ‘‘จิตฺตสงฺกปฺโปติ อิมสฺมึ ปเท อธิการวเสน อิติสทฺโท อาหริตพฺโพ’’ติ. กสฺมา อาหริตพฺโพติ อาห ‘‘อิทฺหี’’ติอาทิ. กถํ ปเนตํ วิฺายตีติ อาห ‘‘ตถา หิสฺสา’’ติอาทิ. อสฺสาติ อิติ-สทฺทสฺส. ตเมว อตฺถนฺติ มรณสงฺขาตมตฺถํ. ‘‘มรณสฺี’’ติอาทีสุ หิ มรณํ อิติ-สทฺทสฺส อตฺโถ, ‘‘สฺี’’ติอาทิ สงฺกปฺปสทฺทสฺส. จิตฺตสทฺทสฺส ปเนตฺถ วิจิตฺตวจนตา สงฺกปฺปสทฺทสฺส สฺาเจตนาธิปฺปายวเสน ติธา อตฺถํ ทสฺเสนฺเตน วิภาวิตาติ ทฏฺพฺพํ. เตเนวาห – ‘‘จิตฺโต นานปฺปการโก สงฺกปฺโป’’ติอาทิ. อธิปฺปายสทฺเทน กิเมตฺถ วุตฺตนฺติ อาห – ‘‘อธิปฺปาโยติ วิตกฺโก เวทิตพฺโพ’’ติ. น อิทํ วิตกฺกสฺส นามนฺติ อิทํ ปน น เกวลํ วิตกฺกสฺเสว นามนฺติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ปากฏตฺตา โอฬาริกตฺตา จ อุจฺจาการตา เวทิตพฺพา, อปากฏตฺตา อโนฬาริกตฺตา จ อวจาการตา.

๑๗๔. กาเยกเทเสปิ กาย-สทฺโท วตฺตตีติ อาห ‘‘หตฺเถน วา’’ติอาทิ. ปหรเณนาติ สตฺเถน. สตฺถฺหิ ปหรนฺติ เอเตนาติ ปหรณนฺติ วุจฺจติ. กมฺมุนา พชฺฌตีติ ปาณาติปาตกมฺมุนา พชฺฌติ, ปาณาติปาตกมฺมสฺส สิทฺธนฺติ วุตฺตํ โหติ. โย โกจิ มรตูติ เอตฺถ ยสฺส กสฺสจิ เอกสฺเสว ชีวิตินฺทฺริยวิสยา วธกเจตนา ปวตฺตติ, น ปหารปจฺจยา มรนฺตสฺเสว ชีวิตินฺทฺริยวิสยา, นาปิ สมูหสฺสาติ เวทิตพฺพา. อุภยถาปีติ อุทฺเทสานุทฺเทสานํ วเสน. วธกจิตฺตํ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณมฺปิ ชีวิตินฺทฺริยํ ปพนฺธวิจฺเฉทนวเสน อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตตีติ อาห ‘‘ปจฺฉา วา เตเนว โรเคนา’’ติอาทิ. เยน หิ ปพนฺโธ วิจฺฉิชฺชติ, ตาทิสํ ปโยคํ นิพฺพตฺเตนฺตํ ตทา วธกจิตฺตํ ปวตฺตนฺตํ ปหริตมตฺเตเยว กมฺมุนา พชฺฌติ. มนุสฺสอรหนฺตสฺส จ ปุถุชฺชนกาเลเยว สตฺถปฺปหาเร วา วิเส วา ทินฺเนปิ ยทิ โส อรหตฺตํ ปตฺวา เตเนว มรติ, อรหนฺตฆาตโก โหติเยว. ยํ ปน ปุถุชฺชนกาเล ทินฺนํ ทานํ อรหตฺตํ ปตฺวา ปริภุฺชติ, ปุถุชฺชนสฺเสว ตํ ทินฺนํ โหติ.

นนุ จ ยถา อรหตฺตํ ปตฺวา ปริภุตฺตมฺปิ ปุถุชฺชนกาเล ทินฺนํ ปุถุชฺชนทานเมว โหติ, เอวํ มรณาธิปฺปาเยน ปุถุชฺชนกาเล ปหาเร ทินฺเน อรหตฺตํ ปตฺวา เตเนว ปหาเรน มเต กสฺมา อรหนฺตฆาตโกเยว โหติ, น ปุถุชฺชนฆาตโกติ? วิเสสสพฺภาวโต. ทานฺหิ เทยฺยธมฺมสฺส ปริจฺจาคมตฺเตน โหติ. ตถา หิ ทานเจตนา จชิตพฺพํ วตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา จชนมตฺตเมว โหติ, อฺสนฺตกกรณํว ตสฺส จชนํ, ตสฺมา ยสฺส ตํ สนฺตกํ กตํ, ตสฺเสว ตํ ทินฺนํ โหติ, น เอวํ วโธ. โส หิ ปาโณ ปาณสฺิตา วธกเจตนา อุปกฺกโม เตน มรณนฺติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ องฺคานํ ปาริปูริยาว โหติ, น อปาริปูริยา. ตสฺมา อรหตฺตํ ปตฺตสฺเสว มรณนฺติ อรหนฺตฆาตโกเยว โหติ, น ปุถุชฺชนฆาตโก. ยสฺมา ปน ‘‘อิมํ มาเรมี’’ติ ยํ สนฺตานํ อารพฺภ มารณิจฺฉา, ตสฺส ปุถุชฺชนขีณาสวภาเวน ปโยคมรณกฺขณานํ วเสน สติปิ สนฺตานเภเท อเภโทเยว, ยทา จ อตฺถสิทฺธิ, ตทา ขีณาสวภาโว, ตสฺมา อรหนฺตฆาตโกเยว โหตีติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.

อฺจิตฺเตนาติ อวธาธิปฺปาเยน อมาเรตุกามตาจิตฺเตน. นตฺถิ ปาณาติปาโตติ อมาเรตุกามตาจิตฺเตน ปหฏตฺตา. กิฺจาปิ ปมปฺปหาโร น สยเมว สกฺโกติ มาเรตุํ, ทุติยํ ปน ลภิตฺวา สกฺโกนฺโต ชีวิตวินาสนเหตุ โหติ, ตสฺมา ‘‘ปโยโค เตน จ มรณ’’นฺติ อิมินา สํสนฺทนโต ปมปฺปหาเรเนว กมฺมพทฺโธ ยุตฺโต, น ทุติเยน ตสฺส อฺจิตฺเตน ทินฺนตฺตา. เตน วุตฺตํ ‘‘อุภเยหิ มเตปิ ปมปฺปหาเรเนว กมฺมุนา พทฺโธ’’ติ.

กมฺมาปตฺติพฺยตฺติภาวตฺถนฺติ อานนฺตริยาทิกมฺมวิภาคสฺส ปาราชิกาทิอาปตฺติวิภาคสฺส จ วิภาวนตฺถํ. ‘‘เอฬกํ มาเรมี’’ติ ปวตฺตเจตนาย ปุพฺพภาคตฺตา ‘‘อิมํ มาเรมี’’ติ สนฺนิฏฺาปกเจตนาย ตทา สนฺนิหิตตฺตา ยถาวตฺถุกํ กมฺมพทฺโธ โหติเยวาติ อาห ‘‘อิมํ วตฺถุํ มาเรมีติ เจตนาย อตฺถิภาวโต’’ติอาทิ. สพฺพตฺถ หิ ปุริมํ อภิสนฺธิจิตฺตํ อปฺปมาณํ เตน อตฺถสิทฺธิยา อภาวโต, วธกจิตฺตํ ปน ตทารมฺมณฺจ ชีวิตินฺทฺริยํ อนนฺตริยาทิภาเว ปมาณนฺติ ทฏฺพฺพํ. ฆาตโก จ โหตีติ ปาณฆาตโก โหติ, ปาณาติปาตกมฺมุนาว พทฺโธ โหตีติ อตฺโถ. ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ ยถากฺกมํ ปาราชิกถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยานิ เวทิตพฺพานิ. ‘‘มาตาปิตุอรหนฺตานํ อฺตรํ มาเรมี’’ติ คุณมหนฺเตสุ ปวตฺตปุพฺพภาคเจตนาย ทารุณภาวโต ตถาวิธปุพฺพภาคเจตนาปริวารา สนฺนิฏฺาปกเจตนา ทารุณาว โหตีติ อาห – ‘‘อิธ ปน เจตนา ทารุณา โหตี’’ติ. อิมินา จ ‘‘เอฬกํ มาเรสฺสามี’’ติ มาตาปิตุอาทีนํ มารเณปิ ปุพฺพภาคเจตนาย อทารุณตฺตา อฺถา ปวตฺตอานนฺตริยกมฺมโต เอวํ ปวตฺตานนฺตริยสฺส นาติทารุณตา วุตฺตาว โหตีติ ทฏฺพฺพา.

โลหิตกนฺติ โลหิตมกฺขิตํ. กมฺมํ กโรนฺเตติ ยุทฺธกมฺมํ กโรนฺเต. ยถาธิปฺปายํ คเตติ โยธํ วิชฺฌิตฺวา ปิตริ วิทฺเธ. อิทฺจ ยถาธิปฺปายํ เตน ตถาวิทฺธภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อยถาธิปฺปายํ ปน อุชุกเมว คนฺตฺวา ปิตริ วิทฺเธปิ มรณาธิปฺปาเยน อตฺตนาว กตปฺปโยคตฺตา เนวตฺถิ วิสงฺเกโตติ วทนฺติ. อานนฺตริยํ ปน นตฺถีติ ปิตรํ อุทฺทิสฺส กตปฺปโยคาภาวโต.

อธิฏฺายาติ มาติกาวเสน อาณตฺติกปโยคกถาวณฺณนา

เอวํ วิชฺฌาติ เอวํ ธนุํ กฑฺเฒตฺวา วิชฺฌ. เอวํ ปหราติ เอวํ ทฬฺหํ อสึ คเหตฺวา ปหร. เอวํ ฆาเตหีติ เอวํ กมฺมการณํ กตฺวา มาเรหิ. มชฺเฌติ หตฺถิโน ปิฏฺิมชฺเฌ. เอเตนาติ ‘‘อธิฏฺหิตฺวา อาณาเปตี’’ติอาทินา. ตตฺถาติ อาณตฺติกปฺปโยเค.

กิฺจาปิ กิริยวิเสโส อฏฺกถาสุ อนาคโต, ปาฬิยํ ปน ‘‘เอวํ วิชฺฌ, เอวํ ปหร, เอวํ ฆาเตหี’’ติ กิริยาวิเสสสฺส ปรามฏฺตฺตา อาจริยปรมฺปราย อาภตํ กิริยาวิเสสํ ปาฬิยา สํสนฺทนโต คเหตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อปโร นโย’’ติอาทิมาห. เฉทนนฺติ หตฺถาทิเฉทนํ. เภทนนฺติ กุจฺฉิอาทิผาลนํ. อถ วา อุสุนา วิชฺฌนํ, อสินา เฉทนํ, มุคฺคราทีหิ สีสาทิเภทนนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. สงฺขมุณฺฑกนฺติ สงฺขมุณฺฑกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา อุตฺตโรฏฺอุภโตกณฺณจูฬิกคลวาฏกปริจฺเฉเทน จมฺมํ ฉินฺทิตฺวา สพฺพเกเส เอกโต คณฺึ กตฺวา ทณฺฑเกน ปลิเวเตฺวา อุปฺปาเฏนฺติ, สห เกเสหิ จมฺมํ อุฏฺหติ, ตโต สีสกฏาหํ ถูลสกฺขราหิ ฆํสิตฺวา โธวนฺตา สงฺขวณฺณํ กโรนฺติ. เอวมาทีติ อาทิ-สทฺเทน พิลงฺคถาลิกํ ราหุมุขํ โชติมาลิกํ หตฺถปชฺโชติกํ เอรกวตฺติกํ จีรกวาสิกํ เอเณยฺยกํ พฬิสมํสิกํ กหาปณิกํ ขาราปตจฺฉิกํ ปลิฆปริวตฺติกํ ปลาลปีกนฺติ เอวมาทึ สพฺพํ กมฺมการณํ สงฺคณฺหาติ.

ตตฺถ (อ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๑) พิลงฺคถาลิกนฺติ กฺชิยอุกฺขลิกกมฺมการณํ. ตํ กมฺมํ กโรนฺตา สีสกปาลํ อุปฺปาเฏตฺวา ตตฺตํ อโยคุฬํ สณฺฑาเสน คเหตฺวา ตตฺถ ปกฺขิปนฺติ, เตน มตฺถลุงฺคํ ปกฺกุถิตฺวา อุปริ อุตฺตรติ. ราหุมุขนฺติ ราหุมุขกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺโต สงฺกุนา มุขํ วิวริตฺวา อนฺโตมุเข ทีปํ ชาเลนฺติ, กณฺณจูฬิกาหิ วา ปฏฺาย มุขํ นิขาทเนน ขณนฺติ, โลหิตํ ปคฺฆริตฺวา มุขํ ปูเรติ. โชติมาลิกนฺติ สกลสรีรํ เตลปิโลติกาย เวเตฺวา อาลิมฺเปนฺติ. หตฺถปชฺโชติกนฺติ หตฺเถ เตลปิโลติกาย เวเตฺวา ทีปํ วิย ปชฺชาเลนฺติ. เอรกวตฺติกนฺติ เอรกวตฺตกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา เหฏฺาคีวโต ปฏฺาย จมฺมวฏฺเฏ กนฺติตฺวา โคปฺผเก ปาเตนฺติ, อถ นํ โยตฺเตหิ พนฺธิตฺวา กฑฺฒนฺติ, โส อตฺตโนว จมฺมวฏฺเฏ อกฺกมิตฺวา ปตติ. จีรกวาสิกนฺติ จีรกวาสิกกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา ตเถว จมฺมวฏฺเฏ กนฺติตฺวา กฏิยํ เปนฺติ, กฏิโต ปฏฺาย กนฺติตฺวา โคปฺผเกสุ เปนฺติ, อุปริเมหิ เหฏฺิมสรีรํ จีรกนิวาสนนิวตฺถํ วิย โหติ. เอเณยฺยกนฺติ เอเณยฺยกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา อุโภสุ กปฺปเรสุ จ ชณฺณุเกสุ จ อยวลยานิ ทตฺวา อยสูลานิ โกฏฺเฏนฺติ, โส จตูหิ อยสูเลหิ ภูมิยํ ปติฏฺหติ, อถ นํ ปริวาเรตฺวา อคฺคึ กโรนฺติ, ตํ กาเลน กาลํ สนฺธิโต สูลานิ อปเนตฺวา จตูหิ อฏฺิโกฏีหิเยว เปนฺติ.

พฬิสมํสิกนฺติ อุภโตมุเขหิ พฬิเสหิ ปหริตฺวา จมฺมมํสนหารูนิ อุปฺปาเฏนฺติ. กหาปณิกนฺติ สกลสรีรํ ติขิณาหิ วาสีหิ โกฏิโต ปฏฺาย กหาปณมตฺตํ กหาปณมตฺตํ ปาเตนฺตา โกฏฺเฏนฺติ. ขาราปตจฺฉิกนฺติ สรีรํ ตตฺถ ตตฺถ อาวุเธหิ ปหริตฺวา โกจฺเฉหิ ขารํ ฆํสนฺติ, จมฺมมํสนหารูนิ ปคฺฆริตฺวา อฏฺิกสงฺขลิกาว ติฏฺติ. ปลิฆปริวตฺติกนฺติ เอเกน ปสฺเสน นิปชฺชาเปตฺวา กณฺณฉิทฺเท อยสูลํ โกฏฺเฏตฺวา ปถวิยา เอกาพทฺธํ กโรนฺติ, อถ นํ ปาเท คเหตฺวา อาวิฺฉนฺติ. ปลาลปีกนฺติ เฉโก การณิโก ฉวิจมฺมํ อจฺฉินฺทิตฺวา นิสทโปเตหิ อฏฺีนิ ภินฺทิตฺวา เกเสสุ คเหตฺวา อุกฺขิปติ, มํสราสิเยว โหติ, อถ นํ เกเสเหว ปริโยนนฺธิตฺวา คณฺหนฺตา ปลาลวฏฺฏึ วิย กตฺวา ปลิเวเนฺติ.

วตฺถุํ วิสํวาเทตฺวา ตโต อฺํ มาเรตีติ สมฺพนฺโธ. ปุริมปสฺสาทีนมฺปิ วตฺถุสภาคโต วตฺถุคฺคหเณเนว คหณนฺติ อาห ‘‘ปุรโต ปหริตฺวา’’ติอาทิ. จิตฺเตน ‘‘ปุรโต วา’’ติ นิยมํ กตฺวา วา อกตฺวา วา ‘‘ปุรโต ปหริตฺวา มาเรหี’’ติ วุตฺเต สเจ อฺตฺถ ปหริตฺวา มาเรติ, เลสํ โอฑฺเฑตฺวา อวุตฺตตฺตา วิสงฺเกโตว โหติ. จิตฺเตน ปน ยตฺถ กตฺถจิ ปหริตฺวา มารณํ อิจฺฉนฺโตปิ สเจ ‘‘ปุรโต ปหริตฺวา มาเรหี’’ติ วทติ, ตสฺส เลสํ โอฑฺเฑตฺวา ตถา วุตฺตมตฺถํ เปตฺวา เตเนว จิตฺเตน สมุฏฺาปิตวิฺตฺติกตฺตา มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกโต ปริยาเยน อมุจฺจนโต ‘‘อฺตฺถ ปหริตฺวา มาริเตปิ เนวตฺถิ วิสงฺเกโต’’ติ วทนฺติ, เกจิ ปน ตํ น อิจฺฉนฺติ. วตฺถุวิเสเสนาติ มาตุอาทิวตฺถุวิเสเสน. กมฺมวิเสโสติ อานนฺตริยาทิกมฺมวิเสโส. อาปตฺติวิเสโสติ ปาราชิกาทิอาปตฺติวิเสโส.

‘‘เอตํ คาเม ิต’’นฺติ คาโม ปุคฺคลนิยมนตฺถํ วุตฺโต, น โอกาสนิยมนตฺถํ, ตสฺมา โอกาสํ อนิยเมตฺวา ปุคฺคลสฺเสว นิยมิตตฺตา นตฺถิ วิสงฺเกโต. ‘‘คาเมเย วา’’ติอาทีสุ ปน โอกาสสฺส นิยมิตตฺตา อฺตฺถ มาริเต วิสงฺเกโต วุตฺโต.

ตุณฺเฑนาติ ขคฺคโกฏิยา. ถรุนาติ ขคฺคมุฏฺินา.

‘‘เอตํ คจฺฉนฺต’’นฺติ คมเนน ปุคฺคโลว นิยมิโต, น อิริยาปโถ. เตนาห ‘‘นตฺถิ วิสงฺเกโต’’ติ. ‘‘คจฺฉนฺตเมวา’’ติอาทินา อิริยาปโถ นิยมิโต. เตนาห ‘‘วิสงฺเกโต โหตี’’ติ.

‘‘ทีฆํ มาเรหี’’ติ วุตฺเตปิ ทีฆสณฺานานํ พหุภาวโต อิตฺถนฺนามํ เอวรูปฺจ ทีฆนฺติ อฺเสํ อสาธารณลกฺขเณน อนิทฺทิฏฺตฺตา ‘‘อนิยเมตฺวา อาณาเปตี’’ติ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘ยํ กิฺจิ ตาทิสํ มาเรตี’’ติ. เอตฺถ จ ‘‘จิตฺเตน พหูสุ ทีฆสณฺาเนสุ เอกํ นิยเมตฺวา วุตฺเตปิ วาจาย อนิยมิตตฺตา อฺสฺมึ ตาทิเส มาริเต นตฺถิ วิสงฺเกโต’’ติ วทนฺติ. ปรปาณิมฺหิ ปาณสฺิตาลกฺขณสฺส องฺคสฺส อภาวโต เนวตฺถิ ปาณาติปาโตติ อาห ‘‘อาณาปโก มุจฺจตี’’ติ. ยทิ เอวํ โอกาสนิยเม สติ กถํ ปาณาติปาโตติ? โอกาสํ นิยเมนฺตสฺส ตสฺมึ โอกาเส นิสินฺนสฺส ชีวิตินฺทฺริยํ อารมฺมณํ โหตีติ คเหตพฺพํ. โอกาสฺหิ นิยเมตฺวา นิทฺทิสนฺโต ตสฺมึ โอกาเส นิสินฺนํ มาราเปตุกาโม โหติ, สยํ ปน ตทา ตตฺถ นตฺถิ, ตสฺมา โอกาเสน สห อตฺตโน ชีวิตินฺทฺริยํ อารมฺมณํ น โหตีติ วทนฺติ.

อธิฏฺายาติ มาติกาวเสน อาณตฺติกปโยคกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทูตกถาวณฺณนา

เอวํ อาณาเปนฺตสฺส อาจริยสฺส ตาว ทุกฺกฏนฺติ สเจ สา อาณตฺติ ยถาธิปฺปายํ น คจฺฉติ, อาจริยสฺส อาณตฺติกฺขเณ ทุกฺกฏํ. สเจ ปน สา อาณตฺติ ยถาธิปฺปายํ คจฺฉติ, ยํ ปรโต ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ, อาณตฺติกฺขเณ ตเทว โหติ. อถ โส ตํ อวสฺสํ ฆาเตติ, ยํ ปรโต ‘‘สพฺเพสํ อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ วุตฺตํ, ตโต อิมสฺส ตงฺขเณเยว ปาราชิกํ โหตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ คเหตพฺโพ. อาจริเยน ปน เหฏฺา อทินฺนาทานกถายํ (ปารา. ๑๒๑) วุตฺตนเยเนว อยมตฺโถ สกฺกา วิฺาตุนฺติ อิธ น วุตฺโต. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอวํ อาณาเปนฺตสฺส อาจริยสฺส ตาว ทุกฺกฏํ. สเจ ปน สา อาณตฺติ ยถาธิปฺปายํ คจฺฉติ, ยํ ปรโต ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ, อาณตฺติกฺขเณ ตเทว โหติ. อถ ตํ ภณฺฑํ อวสฺสํ หาริยํ โหติ, ยํ ปรโต ‘สพฺเพสํ อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’ติ วุตฺตํ, ตโต อิมสฺส ตงฺขเณเยว ปาราชิกํ โหตีติ อยํ ยุตฺติ สพฺพตฺถ เวทิตพฺพา’’ติ. เตสมฺปิ ทุกฺกฏนฺติ อาโรจนปจฺจยา ทุกฺกฏํ. ปฏิคฺคหิตมตฺเตติ เอตฺถ อวสฺสํ เจ ปฏิคฺคณฺหาติ, ตโต ปุพฺเพว อาจริยสฺส ถุลฺลจฺจยํ, น ปน ปฏิคฺคหิเตติ ทฏฺพฺพํ. กสฺมา ปนสฺส ถุลฺลจฺจยนฺติ อาห ‘‘มหาชโน หิ เตน ปาเป นิโยชิโต’’ติ.

มูลฏฺสฺเสว ทุกฺกฏนฺติ อิทํ มหาอฏฺกถายํ อาคตนยทสฺสนมตฺตํ, น ปน ตํ อาจริยสฺส อธิปฺเปตํ. เตนาห ‘‘เอวํ สนฺเต’’ติอาทิ, เอวํ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตนเยน อตฺเถ สตีติ อตฺโถ. ปฏิคฺคหเณ อาปตฺติเยว น สิยาติ วธกสฺส ‘‘สาธุ สุฏฺู’’ติ มารณปฏิคฺคหเณ ทุกฺกฏาปตฺติ น สิยา, เอวํ อโนฬาริกวิสเยปิ ตาว ทุกฺกฏํ โหติ, กิมงฺคํ ปน มารณปฏิคฺคหเณติ ทสฺสนตฺถํ สฺจริตฺตปฏิคฺคหณาทิ นิทสฺสิตํ. ‘‘อโห วต อิตฺถนฺนาโม หโต อสฺสา’’ติ เอวํ มรณาภินนฺทเนปิ ทุกฺกเฏ สติ ปเคว มารณปฏิคฺคหเณติ อธิปฺปาโย. ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺเสเวตํ ทุกฺกฏนฺติ อวธารเณน วิสงฺเกตตฺตา อิมสฺส ปฏิคฺคหณปจฺจยา มูลฏฺสฺส นตฺเถว อาปตฺตีติ ทสฺเสติ. เกจิ ปน ‘‘อิธ วุตฺตทุกฺกฏํ ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺเสวาติ เอตฺตกเมว อวธารเณน ทสฺสิตํ, น ปน มูลฏฺสฺส มหาอฏฺกถายํ วุตฺตทุกฺกฏํ ปฏิกฺขิตฺต’’นฺติ วทนฺติ. ปุริมนเยติ สมนนฺตราตีเต อวิสกฺกิยทูตนิทฺเทเส. เอตนฺติ ทุกฺกฏํ. ยทิ เอวํ กสฺมา ปาฬิยํ น วุตฺตนฺติ อาห ‘‘โอกาสาภาเวนา’’ติ. ตตฺถ มูลฏฺสฺส ถุลฺลจฺจยวจนโต ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วตฺตุํ โอกาโส นตฺถีติ โอกาสาภาเวน น วุตฺตํ, น ปน อภาวโตติ อธิปฺปาโย.

อาณตฺติกฺขเณ ปุถุชฺชโนติ เอตฺถ อนาคเต โวโรเปตพฺพชีวิตินฺทฺริยวเสน อตฺถสาธิกเจตนาย ปวตฺตตฺตา อรหนฺตฆาตโก ชาโตติ ทฏฺพฺพํ.

ทูตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๗๕. สยํ สงฺฆตฺเถรตฺตา ‘‘อุปฏฺานกาเล’’ติ วุตฺตํ. วาจาย วาจาย ทุกฺกฏนฺติ ‘‘โย โกจิ มม วจนํ สุตฺวา อิมํ ธาเรตู’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน อวตฺวา เกวลํ มรณาภินนฺทนวเสเนว วุตฺตตฺตา ‘‘โจราปิ นาม ตํ น หนนฺตี’’ติอาทิวาจาสุปิ ทุกฺกฏเมว วุตฺตํ. อยมตฺโถ เอเตน วุตฺโตติ ยถา โส ชานาตีติ สมฺพนฺโธ. วากฺยเภทนฺติ วจีเภทํ. ทฺวินฺนํ อุทฺทิสฺสาติ ทฺเว อุทฺทิสฺส, ทฺวินฺนํ วา มรณํ อุทฺทิสฺส. อุโภ อุทฺทิสฺส มรณํ สํวณฺเณนฺตสฺส เจตนาย เอกตฺเตปิ ‘‘ทฺเว ปาณาติปาตา’’ติ วตฺตพฺพภาวโต พลวภาวํ อาปชฺชิตฺวา ปฏิสนฺธิวิปากสมนนฺตรํ ปวตฺติยํ อเนกาสุปิ ชาตีสุ อปราปริยเจตนาวเสน ทุกฺขุปฺปาทนโต มหาวิปากตฺตา ‘‘อกุสลราสี’’ติ วุตฺตํ. พหู อุทฺทิสฺส มรณสํวณฺณเนปิ เอเสว นโย.

เอวนฺติ ‘‘สีสํ วา ฉินฺทิตฺวา ปปาเต วา ปปติตฺวา’’ติอาทินา. อาโรจิตมตฺเตติ วุตฺตมตฺเต. ยถา อริยมคฺคกฺขเณ จตฺตาโร สติปฏฺานา จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา จ กิจฺจวเสน อิชฺฌนฺติ, เอวํ เจตนาย เอกตฺเตปิ กิจฺจวเสน อเนกา ปาณาติปาตา อิชฺฌนฺตีติ อาห ‘‘ตตฺตกา ปาณาติปาตา’’ติ. ยถา หิ อตฺตานํ สตํ กตฺวา ทสฺเสตุกามสฺส ‘‘สตํ โหมิ สตํ โหมี’’ติ กตปริกมฺมวเสน ลทฺธปจฺจุปฺปนฺนปริตฺตารมฺมณํ อภิฺาจิตฺตํ สตนฺโตคธานํ วณฺเณสุ เอกสฺส วณฺณํ อารมฺมณํ กตฺวาปิ สตํ นิปฺผาเทติ, ยถา จ เอกสฺส มรเณ ปวตฺตมานาปิ วธกเจตนา สกลสรีเร อุปฺปชฺชมานํ นิรุชฺฌมานฺจ สกลมฺปิ ชีวิตินฺทฺริยํ เอกปฺปหาเรเนว อาลมฺพิตุมสกฺกุเณยฺยตฺตา านปฺปตฺตํ เอกเทสปฺปวตฺตํ ชีวิตินฺทฺริยํ อารมฺมณํ กตฺวา อารมฺมณภูตํ สกลมฺปิ ชีวิตินฺทฺริยํ วินาเสติ, เอวเมว ปจฺจุปฺปนฺนปริตฺตารมฺมณาย วธกเจตนาย มาเรตุกามตาย ปริคฺคหิตสตฺเตสุ เอกสฺเสว ชีวิตินฺทฺริเย อารมฺมเณ กเตปิ กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน สพฺเพปิ มาริตาว โหนฺติ.

๑๗๖. เยสํ หตฺถโตติ เยสํ าตกปวาริตานํ หตฺถโต. เตสํ มูลํ ทตฺวา มุจฺจตีติ อิทํ เตน กตปโยคสฺส ปุน ปากติกภาวาปาทนํ อวสานํ ปาเปตฺวา ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ‘‘มูเลน กีตํ ปน โปตฺถกํ โปตฺถกสามิกานํ ทตฺวา มุจฺจติเยวา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เกนจิ ปน ‘‘สเจ โปตฺถกํ สามิกานํ ทตฺวา มูลํ น คณฺหาติ, น มุจฺจติ อตฺตนิยภาวโต อโมจิตตฺตา’’ติ วตฺวา พหุธา ปปฺจิตํ, น ตํ สารโต ปจฺเจตพฺพํ. โปตฺถกสามิกานฺหิ โปตฺถเก ทินฺเน อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา อตฺตนา กตปโยคสฺส นาสิตตฺตา กถํ โส น มุจฺเจยฺย, น จ ปริจฺจตฺตสฺส อตฺตนิยภาโว ทิฏฺโติ. คณฺิปเท ปน ‘‘สเจ มูเลน กีโต โหติ, โปตฺถกสามิกานํ โปตฺถกํ, เยสํ หตฺถโต มูลํ คหิตํ, เตสํ มูลํ ทตฺวา มุจฺจตีติ กสฺมา วุตฺตํ. โปตฺถกนิมิตฺตํ มูลสฺส คหิตตฺตา อกปฺปิยเมตํ. ยทิ หิ โปตฺถกสามิกสฺส โปตฺถกํ ทตฺวา สยเมว มูลํ คณฺเหยฺย, อกปฺปิยเมว ตํ. อถาปิ โปตฺถกสามิกสฺส สนฺติกา มูลํ อคฺคเหตฺวา สยเมว ตํ โปตฺถกํ ฌาเปยฺย, ตถาปิ อฺา เยน สทฺธาเทยฺยวินิปาตเน อาปตฺติ, ตสฺมา เอวมาหา’’ติ วุตฺตํ, ตมฺปิ น สารโต ปจฺเจตพฺพํ. ตสฺมา คณฺิปเทสุ วุตฺตนโยเวตฺถ สารโต ทฏฺพฺโพ. ‘‘มรณวณฺณํ ลิขิสฺสามา’’ติ เอกชฺฌาสยา หุตฺวาติ อิทํ ตถา กโรนฺเต สนฺธาย วุตฺตํ, เอวํ ปน อสํวิทหิตฺวาปิ มรณาธิปฺปาเยน ตสฺมึ โปตฺถเก วุตฺตวิธึ กโรนฺตสฺส ปาราชิกเมว.

ปมาเณติ อตฺตนา สลฺลกฺขิเต ปมาเณ. ตจฺเฉตฺวาติ อุนฺนตปฺปเทสํ ตจฺเฉตฺวา. ปํสุปจฺฉินฺติ สพฺพนฺติมํ ปํสุปจฺฉึ. ‘‘เอตฺตกํ อล’’นฺติ นิฏฺาเปตุกามตาย สพฺพนฺติมปโยคสาธิกา เจตนา สนฺนิฏฺาปกเจตนา. สุตฺตนฺติกตฺเถราติ วินเย อปกตฺุโน สุตฺตนฺตภาณกา. มหาอฏฺกถาจริยตฺเถเรเยว สนฺธาย ‘‘วินยํ เต น ชานนฺตีติ อุปหาสวเสน สุตฺตนฺติกตฺเถราติ วุตฺต’’นฺติปิ วทนฺติ. เอตฺถ จ มหาอฏฺกถายํ ‘‘อาวาเฏ นิฏฺิเต ปติตฺวา มรนฺตุ, อนิฏฺิเต มา มรนฺตู’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน กโรนฺตํ สนฺธาย สพฺพนฺติมา สนฺนิฏฺาปกเจตนา วุตฺตา, มหาปจฺจริสงฺเขปฏฺกถาสุ ปน ปมปฺปหารโต ปฏฺาย ‘‘อิมสฺมึ อาวาเฏ ปติตฺวา มรนฺตู’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน กโรนฺตสฺส ยสฺมึ ยสฺมึ ปโยเค กเต ตตฺถ ปติตา มรนฺติ, ตํตํปโยคสาธิกํ สนฺนิฏฺาปกเจตนํ สนฺธาย ‘‘เอกสฺมิมฺปิ กุทาลปฺปหาเร ทินฺเน’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ตสฺมา เตน เตน ปริยาเยน อฏฺกถาวาทานํ อฺมฺาวิโรโธ ยุตฺโต. อถ วา มหาอฏฺกถายํ เอกสฺมึเยว ทิวเส อวูปสนฺเตเนว ปโยเคน ขณิตฺวา นิฏฺาเปนฺตํ สนฺธาย สพฺพนฺติมา สนฺนิฏฺาปกเจตนา วุตฺตา, อิตราสุ ปน ‘‘อิมสฺมึ ปติตฺวา มรนฺตู’’ติ อธิปฺปาเยน เอกสฺมึ ทิวเส กิฺจิ ขณิตฺวา อปรสฺมิมฺปิ ทิวเส ตเถว กิฺจิ กิฺจิ ขณิตฺวา นิฏฺาเปนฺตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ. เอวมฺปิ อฏฺกถานํ อฺมฺาวิโรโธ ยุตฺโตติ อมฺหากํ ขนฺติ.

อตฺตโน ธมฺมตายาติ อชานิตฺวา ปกฺขลิตฺวา วา. อรหนฺตาปิ สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ อฺเหิ ปาติยมานานํ อมริตุกามานมฺปิ อรหนฺตานํ มรณํ สมฺภวตีติ วุตฺตํ. ปุริมนเยติ ‘‘มริตุกามา อิธ มริสฺสนฺตี’’ติ วุตฺตนเย. ตตฺถ ปติตํ พหิ นีหริตฺวาติ เอตฺถ ‘‘อิมสฺมึ อาวาเฏเยว มรนฺตูติ นิยมาภาวโต พหิ นีหริตฺวา มาริเตปิ ปาราชิกํ วุตฺตํ. อาวาเฏ ปติตฺวา โถกํ จิรายิตฺวา คจฺฉนฺตํ คเหตฺวา มาริเต อาวาฏสฺมึเยว อคฺคหิตตฺตา ปาราชิกํ น โหตี’’ติ วทนฺติ, ตํ ปน อฏฺกถายํ ‘‘ปติตปฺปโยเคน คหิตตฺตา’’ติ วุตฺตเหตุสฺส อิธาปิ สมฺภวโต วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. อมริตุกามา วาติปิ อธิปฺปายสฺส สมฺภวโต โอปปาติเก อุตฺตริตุํ อสกฺกุณิตฺวา มเตปิ ปาราชิกํ วุตฺตํ. นิพฺพตฺติตฺวาติ วุตฺตตฺตา ปตนํ น ทิสฺสตีติ เจ? โอปปาติกสฺส ตตฺถ นิพฺพตฺติเยว ปตนนฺติ นตฺถิ วิโรโธ. ยสฺมา มาตุยา ปติตฺวา ปริวตฺติตลิงฺคาย มตาย โส มาตุฆาตโก โหติ, น เกวลํ มนุสฺสปุริสฆาตโก, ตสฺมา ปติตสฺเสว วเสน อาปตฺตีติ อธิปฺปาเยน ‘‘ปตนรูปํ ปมาณ’’นฺติ วุตฺตํ. อิทํ ปน อการณํ. ‘‘มนุสฺสภูตํ มาตรํ วา ปิตรํ วา อปิ ปริวตฺตลิงฺคํ ชีวิตา โวโรเปนฺตสฺส กมฺมํ อานนฺตริยํ โหตี’’ติ เอตฺตกเมว หิ อฏฺกถายํ วุตฺตํ.

ตตฺถ จ ลิงฺเค ปริวตฺเตปิ โส เอว เอกกมฺมนิพฺพตฺโต ภวงฺคปฺปพนฺโธ ชีวิตินฺทฺริยปฺปพนฺโธ จ, น อฺโติ ‘‘อปิ ปริวตฺตลิงฺค’’นฺติ วุตฺตํ. โย หิ ลิงฺเค อปริวตฺเต ตสฺมึ อตฺตภาเว ภวงฺคชีวิตินฺทฺริยปฺปพนฺโธ, โส เอว ปริวตฺเตปิ ลิงฺเค ตํเยว จ อุปาทาย เอกชาติสมฺา. น เจตฺถ ภาวกลาปคตชีวิตินฺทฺริยสฺส วเสน โจทนา กาตพฺพา ตทฺสฺเสว อธิปฺเปตตฺตา. ตฺหิ ตตฺถ อวิจฺเฉทวุตฺติยา ปพนฺธโวหารํ ลภติ, อิตรมฺปิ วา ภาวานุปาลตาสามฺเนาติ อโนกาสาว โจทนา. ตสฺมา ปริวตฺเตปิ ลิงฺเค ตสฺเสว เอกกมฺมนิพฺพตฺตสฺส สนฺตานสฺส ชีวิตา โวโรปนโต โวหารเภทโต โส อิตฺถิฆาตโก วา โหตุ ปุริสฆาตโก วา, อานนฺตริยกมฺมโต น มุจฺจตีติ เอตฺตกเมว ตตฺถ วตฺตพฺพํ. อิธ ปน ยํยํชาติกา สตฺตา โหนฺติ, เต มรณสมเย อตฺตโน อตฺตโน ชาติรูเปเนว มรนฺติ, นาฺรูเปน, ชาติวเสเนว จ ปาจิตฺติยถุลฺลจฺจยปาราชิเกหิ ภวิตพฺพํ. ตสฺมา นาโค วา สุปณฺโณ วา ยกฺขรูเปน วา เปตรูเปน วา ปติตฺวา อตฺตโน ติรจฺฉานรูเปน มรติ, ตตฺถ ปาจิตฺติยเมว ยุตฺตํ, น ถุลฺลจฺจยํ ติรจฺฉานคตสฺเสว มตตฺตา. เตเนว ทุติยตฺเถรวาเท มรณรูปํ ปมาณํ, ตสฺมา ปาจิตฺติยนฺติ วุตฺตํ. อยเมว จ วาโท ยุตฺตตโร, เตเนว โส ปจฺฉา วุตฺโต.

อิมินาว นเยน มนุสฺสวิคฺคเห นาคสุปณฺณสทิเส ติรจฺฉานคเต ปติตฺวา อตฺตโน รูเปน มเต ปาจิตฺติเยน ภวิตพฺพํ. เอวํ สนฺเต ปาฬิยํ ‘‘ยกฺโข วา เปโต วา ติรจฺฉานคตมนุสฺสวิคฺคโห วา ตสฺมึ ปตติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ปติเต ทุกฺขา เวทนา อุปฺปชฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. มรติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ เจ? ตตฺถ เกจิ วทนฺติ – ยกฺโข วา เปโต วาติ ปมํ สกรูเปเนว ิเต ยกฺขเปเต ทสฺเสตฺวา ปุน อฺรูเปนปิ ิเต เตเยว ยกฺขเปเต ทสฺเสตุํ ‘‘ติรจฺฉานคตมนุสฺสวิคฺคโห วา’’ติ วุตฺตํ, น ปน ตาทิสํ ติรจฺฉานคตํ วิสุํ ทสฺเสตุํ. ตสฺมา ติรจฺฉานคตวิคฺคโห วา มนุสฺสวิคฺคโห วา ยกฺโข วา เปโต วาติ เอวเมตฺถ โยชนา กาตพฺพาติ. คณฺิปเทสุ ปน ตีสุปิ ‘‘ปาฬิยํ มนุสฺสวิคฺคเหน ิตติรจฺฉานคตานํ อาเวณิกํ กตฺวา ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ วิย ทิสฺสตี’’ติ กถิตํ. ยกฺขรูปเปตรูเปน มเตปิ เอเสว นโยติ อิมินา มรณรูปสฺเสว ปมาณตฺตา ถุลฺลจฺจยํ อติทิสฺสติ.

มุธาติ อมูเลน, กิฺจิ มูลํ อคฺคเหตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. โส นิทฺโทโสติ เตน ตตฺถ กตปโยคสฺส อภาวโต. ยทิ ปน โสปิ ตตฺถ กิฺจิ กิฺจิ กโรติ, น มุจฺจติเยวาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เอวํ ปติตา’’ติอาทิ. ตตฺถ เอวนฺติ เอวํ มยา กเตติ อตฺโถ. น นสฺสิสฺสนฺตีติ อทสฺสนํ น คมิสฺสนฺติ, น ปลายิสฺสนฺตีติ อธิปฺปาโย. วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเนติ มูลฏฺํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยทิ ปน ปจฺฉิโมปิ ลภิตฺวา ตตฺถ วุตฺตปฺปการํ กิฺจิ กตฺวา ปุน วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน เอวํ กโรติ, ตสฺสปิ เอเสว นโย. ปํสุมฺหิ ปติตฺวา มรตีติ อภินวปูริเต ปํสุมฺหิ ปาเท ปเวเสตฺวา อุทฺธริตุํ อสกฺโกนฺโต ตตฺเถว ปติตฺวา มรติ. ชาตปถวี ชาตาติ อิทํ สพฺพถา มตฺถกปฺปตฺตํ ถิรภาวํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ปํสุนา ปูเรนฺเตน ปน ปาททณฺฑาทีหิ มทฺทนตาฬนาทินา สุฏฺุตรํ ถิรภาวํ อาปาเทตฺวา ปกติปถวิยา นิพฺพิเสเส กเต ชาตปถวีลกฺขณํ อปฺปตฺเตปิ มุจฺจติเยว. โอปาตํ หรตีติ เอตฺถ โปกฺขรณีสทิสตฺตา มุจฺจติ.

หตฺถา มุตฺตมตฺเตติ โอฑฺเฑตฺวา หตฺถโต มุตฺตมตฺเต. วตึ กตฺวาติ เอตฺถ ยทิ โส ปาเส วุตฺตปฺปการํ กฺจิ วิเสสํ น กโรติ, อตฺตนา กตวติยา วิทฺธํสิตาย มุจฺจติ. ถทฺธตรํ วา ปาสยฏฺึ เปตีติ ถิรภาวตฺถํ อปราย ปาสยฏฺิยา สทฺธึ พนฺธิตฺวา วา ตเมว วา สิถิลภูตํ ถทฺธตรํ พนฺธิตฺวา เปติ. ทฬฺหตรํ วา ถิรตรํ วาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ขาณุกนฺติ ปาสยฏฺิพนฺธนขาณุกํ. สพฺพตฺเถว มารณตฺถาย กตปฺปโยคตฺตา น มุจฺจติ. วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเนติ มูลฏฺสฺเสว วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน.

เตน อลาเตน…เป… น มุจฺจตีติ เอตฺถ ‘‘ปุพฺเพ กตปฺปโยคํ วินาเสตฺวา ปจฺฉา กุสลจิตฺเตน ปโยเค กเตปิ น มุจฺจตีติ อิทํ สนฺธาย คนฺตพฺพ’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย ยุตฺโต สิยา – อาทิโตเยว มารณตฺถาย กตปฺปโยคตฺตา กตปริโยสิตาย ปาสยฏฺิยา ตปฺปจฺจยา เย เย สตฺตา มริสฺสนฺติ, เตสํ เตสํ วเสน ปมตรํเยว ปาณาติปาตกมฺมสิทฺธิโต ปจฺฉา กุสลจิตฺเตน อฺถา กเตปิ น มุจฺจตีติ. รชฺชุเกติ ขุทฺทกรชฺชุเก. สยํ วฏฺฏิตนฺติ พหุรชฺชุเก เอกโต กตฺวา อตฺตนา วฏฺฏิตํ. อุพฺพฏฺเฏตฺวาติ เต รชฺชุเก วิสุํ วิสุํ กตฺวา. ครุกตรํ กโรตีติ อติภาริยํ กโรติ. ปริเยสิตฺวา กตนฺติ อรฺํ คนฺตฺวา รุกฺขํ ฉินฺทิตฺวา ตจฺเฉตฺวา กตํ.

๑๗๗. อาลมฺพนรุกฺโข วาติ ตตฺถชาตกํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตทตฺถเมวาติ มารณตฺถเมว. วิสมณฺฑลนฺติ มฺจปีาทีสุ อาลิตฺตํ วิสมณฺฑลํ. วตฺวา อสึ อุปนิกฺขิปตีติ เอตฺถ มุเขน อวตฺวา วุตฺตปฺปการํ มนสา จินฺเตตฺวา อุปนิกฺขิปเนปิ เอเสว นโย. ปุริมนเยนาติ ‘‘เยสํ หตฺถโต มูลํ คหิต’’นฺติอาทินา. สรีรสฺส วิรูปภาวกรณโต กุฏฺาทิ วิสภาคโรโค นาม, ชีวิตปฺปวตฺติยา วา อสภาคตฺตา อนนุกูลตฺตา คณฺฑปิฬกาทิ โย โกจิ ชีวิตปฺปวตฺติปจฺจนีโก วิสภาคโรโค.

๑๗๘. ปรํ วา อมนาปรูปนฺติ เอตฺถ อมนาปํ รูปํ เอตสฺสาติ อมนาปรูโปติ พาหิรตฺถสมาโส ทฏฺพฺโพ. มนาปิเยปิ เอเสว นโยติ เอเตน มนาปิกํ รูปํ อุปสํหรตีติ เอตฺถ ปรํ วา มนาปรูปํ ตสฺส สมีเป เปติ, อตฺตนา วา มนาปิเยน รูเปน สมนฺนาคโต ติฏฺตีติอาทิ โยเชตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. เตเนว อฺตรสฺมึ คณฺิปเท วุตฺตํ –

‘‘มมาลาเภน เอสิตฺถี, มรตูติ สมีปโค;

ทุฏฺจิตฺโต สเจ ยาติ, โหติ โส อิตฺถิมารโก.

‘‘ภิกฺขตฺถาย สเจ ยาติ, ชานนฺโตปิ น มารโก;

อนตฺถิโก หิ โส ตสฺสา, มรเณน อุเปกฺขโก’’ติ.

อปรมฺปิ ตตฺเถว วุตฺตํ –

‘‘วิโยเคน จ เม ชายา, ชนนี จ น ชีวติ;

อิติ ชานํ วิยุฺชนฺโต, ตทตฺถี โหติ มารโก.

‘‘ปพฺพชฺชาทินิมิตฺตฺเจ, ยาติ ชานํ น มารโก;

อนตฺถิโก หิ โส เตสํ, มรเณน อุเปกฺขโก’’ติ.

อลงฺกริตฺวา อุปสํหรตีติ ‘‘อลาภเกน สุสฺสิตฺวา มรตู’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน อุปสํหรติ. เตเนว ‘‘สเจ อุตฺตสิตฺวา มรติ, วิสงฺเกโต’’ติ วุตฺตํ. อลาภเกน สุสฺสิตฺวา มรตีติ เอตฺถ จ ปาราชิกนฺติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ. กุณปคนฺธา จาติ อหิอาทิกุณปานํ คนฺธา. หํสปุปฺผนฺติ หํสาทีนํ ปกฺขโลมํ สนฺธาย วทติ.

๑๗๙. อสฺจิจฺจาติ อิทํ มรณสํวตฺตนิกอุปกฺกมสฺส อสลฺลกฺขณํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อิมินา อุปกฺกเมนา’’ติอาทิ. อชานนฺตสฺสาติ อิทํ ปน มรณสํวตฺตนิกอุปกฺกมกรณสฺส อชานนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อิมินา อยํ มริสฺสตี’’ติอาทิ. นมรณาธิปฺปายสฺสาติ อิทํ อุปกฺกมํ ชานนฺตสฺสปิ มรณาธิปฺปายสฺส อภาวํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อาห ‘‘มรณํ อนิจฺฉนฺตสฺสา’’ติอาทิ.

ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปกิณฺณกกถาวณฺณนา

โทมนสฺสจิตฺเตเนว ภณตีติ อิมินา สนฺนิฏฺาปกเจตนา ทุกฺขเวทนาย สมฺปยุตฺตา เอวาติ ทสฺเสติ. สุขพหุลตาย หิ ราชาโน หสมานาปิ ‘‘ฆาเตถา’’ติ วทนฺติ, หาโส ปน เนสํ อนตฺถวูปสมาทิอฺวิสโยติ สนฺนิฏฺาปกเจตนา ทุกฺขเวทนาย สมฺปยุตฺตา เอว. สติ ปน โทมนสฺเส กถํ ตํ นปฺปกาสตีติ อาห ‘‘สุขโวกิณฺณตฺตา’’ติอาทิ, ปุพฺพาปริยวเสน อุโภสุ ปสฺเสสุ อุปฺปชฺชนกสุเขหิ อากิณฺณตฺตา อุปฺปนฺนสฺส จ โทมนสฺสสฺส อนุปฺปพนฺธเนน ปวตฺติยา อภาวโต ตทา อุปฺปนฺนมฺปิ โทมนสฺสํ นปฺปกาสตีติ อตฺโถ.

วินีตวตฺถุวณฺณนา

๑๘๐. มรณตฺถิกาว หุตฺวาติ อิมสฺส กายสฺส เภเทน สคฺคปาปนาธิปฺปายตฺตา อตฺถโต มรณตฺถิกาว หุตฺวา. มรณตฺถิกภาวํ อชานนฺตาติ เอวํ อธิปฺปายิโน มรณตฺถิกา นาม โหนฺตีติ อตฺตโน มรณตฺถิกภาวํ อชานนฺตา. น หิ เต อตฺตโน จิตฺตปฺปวตฺตึ น ชานนฺติ. โวหารวเสนาติ ปุพฺพภาคโวหารวเสน, มรณาธิปฺปายสฺส สนฺนิฏฺาปกเจตนากฺขเณ กรุณาย อภาวโต การุฺเน ปาเส พทฺธสูกรโมจนํ วิย น โหตีติ อธิปฺปาโย. ยถายุนาติ วุตฺตเมวตฺถํ ยถานุสนฺธินาติ ปริยายนฺตเรน วุตฺตํ, ยถานุสนฺธินา ยถายุปริจฺเฉเทนาติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ยถานุสนฺธินาติ ยถานุปฺปพนฺเธน, ยาว ตสฺมึ ภเว สนฺตานสฺส อนุปฺปพนฺโธ อวิจฺฉินฺนปฺปวตฺติ โหติ, ตาว ตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.

อปฺปฏิเวกฺขิตฺวาติ อนุปปริกฺขิตฺวา. อุทฺธํ วา อโธ วา สงฺกมนฺตีติ ปจฺฉา อาคตานํ โอกาสทานตฺถํ นิสินฺนปาฬิยา อุทฺธํ วา อโธ วา คจฺฉนฺติ. ปจฺจเวกฺขณกิจฺจํ นตฺถีติ ปจฺฉา อาคเตหิ อุปปริกฺขณกิจฺจํ นตฺถิ. เหฏฺา กิสฺมิฺจิ วิชฺชมาเน สาฏกํ วลิ น คณฺหาตีติ อาห ‘‘ตสฺมึ วลิ น ปฺายตี’’ติ. ปฏิเวกฺขณฺเจทํ คิหีนํ สนฺตเกเยวาติ ทฏฺพฺพํ.

ปาฬิยํ มุสเล อุสฺสิเตติ อฺมฺํ อุปตฺถมฺเภตฺวา ทฺวีสุ มุสเลสุ อุสฺสิเตสูติ อตฺโถ. อุทุกฺขลภณฺฑิกนฺติ อุทุกฺขลตฺถาย อานีตํ ทารุภณฺฑํ. ปฏิพทฺธนฺติ โภชนปฏิพทฺธํ, โภชนนฺตรายนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๑๘๑. อคฺคการิกนฺติ เอตฺถ การิกา-สทฺทสฺส ภาววจนตฺตา ‘‘อคฺคกิริย’’นฺติ อตฺถํ วตฺวาปิ ยสฺมา กิริยํ ทาตุํ น สกฺกา, ตสฺมา ทานสงฺขาตาย อคฺคกิริยาย ยุตฺตํ ปิณฺฑปาตเมว อิธ อุปจารวุตฺติยา ‘‘อคฺคกิริยา’’ติ คเหตพฺพนฺติ อาห ‘‘ปมํ ลทฺธปิณฺฑปาต’’นฺติอาทิ.

๑๘๒-๑๘๓. ทณฺฑมุคฺครนฺติ นิขาทนมุคฺครํ. วิภตฺติพฺยตฺตเยนาติ วิภตฺติวิปริณาเมน. วิเสสาธิคโมติ สมาธิ วิปสฺสนา จ อติวิย ปากฏตฺตา ‘‘หตฺถปฺปตฺโต วิย ทิสฺสตี’’ติ วุตฺตํ. อุปจฺฉินฺทตีติ ‘‘วิเสสาธิคมสฺส วิกฺเขโป มา โหตู’’ติ อาหารํ อุปจฺฉินฺทติ. วิเสสาธิคมนฺติ โลกุตฺตรธมฺมปฏิลาภํ. พฺยากริตฺวาติ อาโรเจตฺวา. อุปจฺฉินฺทติ, น วฏฺฏตีติ ยสฺมา สภาคานํ ลชฺชิภิกฺขูนํเยว อริยา อตฺตนา อธิคตวิเสสํ ตาทิเส การเณ สติ อาโรเจนฺติ, เต จ ภิกฺขู อปฺปติรูปาย อเนสนาย ปจฺจยํ น ปริเยสนฺติ, ตสฺมา เตหิ ปริเยสิตปจฺจเย กุกฺกุจฺจํ อุปฺปาเทตฺวา อาหารํ อุปจฺฉินฺทิตุํ น วฏฺฏตีติ อตฺโถ. สภาคานฺหิ พฺยากตตฺตา อุปจฺฉินฺทิตุํ น ลภติ. เต หิ กปฺปิยเขตฺตํ. เตเนว ‘‘สภาคานฺหิ ลชฺชิภิกฺขูนํ กเถตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิทํ ‘‘อุปจฺฉินฺทติ, น วฏฺฏตี’’ติ อิมสฺส การณํ ทสฺเสนฺเตน วุตฺตนฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ.

อถ วา วิเสสาธิคมํ พฺยากริตฺวาติ อิทํ วิเสสสฺส อธิคตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อธิคมนฺตรายํ อสงฺกนฺเตเนว จ อาหารุปจฺเฉโท กาตพฺโพติ อนุฺาตตฺตา อธิคเตน น กาตพฺโพติ ทสฺเสตุํ ‘‘วิเสสาธิคมํ พฺยากริตฺวา อาหารํ อุปจฺฉินฺทติ, น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. กึ ปน อริยา อตฺตนา อธิคตวิเสสํ อฺเสํ อาโรเจนฺตีติ อิมิสฺสา โจทนาย ‘‘สภาคานฺหิ ลชฺชิภิกฺขูนํ กเถตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อยเมตฺถ ยุตฺตตโรติ อมฺหากํ ขนฺติ, คณฺิปเทปิ อยมตฺโถ ทสฺสิโตเยวาติ. ภณฺฑกํ โธวนฺตาติ จีวรํ โธวนฺตา. โธวนทณฺฑกนฺติ ภณฺฑโธวนทณฺฑํ.

๑๘๔. อหํ กุกฺกุจฺจโกติ ‘‘มม กิริยาย มเรยฺย นุ โข, โน วา’’ติ เอวํ ชาตกุกฺกุจฺจโก. สพฺพตฺถาปิ ปเนตฺถ เอวรูเปสุ วตฺถูสุ อมเต ถุลฺลจฺจยสฺส วุตฺตตฺตา เตน กตปฺปโยเคน ทุกฺขเวทนา อุปฺปชฺชตุ วา มา วา, ปาราชิกาย อภาวโต ภควโต วจเนน ถุลฺลจฺจยเมวาติ วทนฺติ.

๑๘๕. คพฺโภ ปตติ เอเตนาติ คพฺภปาตนํ, ตาทิสํ เภสชฺชํ. เตนาห ‘‘เยน ปริภุตฺเตนา’’ติอาทิ. ‘‘มรณวณฺณํ วา สํวณฺเณยฺยา’’ติ วุตฺตตฺตา ปริยายโต อาปตฺติโมกฺโข น โหตีติ อาห ‘‘ปริยาโย นาม นตฺถี’’ติ.

คพฺภํ น คณฺหาตีติ คพฺภํ น ธาเรติ. วาเตน ปาณเกหิ วา คพฺโภ วินสฺสนฺโต กมฺมํ วินา น นสฺสตีติ อธิปฺปาเยน ‘‘ทฺวีหากาเรหี’’ติ วุตฺตํ. ทีฆนิกายฏฺกถายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๖) ปน ‘‘คพฺโภ หิ วาเตน ปาณเกหิ กมฺมุนา จาติ ตีหิ การเณหิ วินสฺสตี’’ติ วตฺวา ‘‘กมฺมุนา วินสฺสนฺเต ปน พุทฺธาปิ ปฏิพาหิตุํ น สกฺโกนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ วาเตน ปาณเกหิ วา คพฺเภ วินสฺสนฺเต น ปุริมกมฺมุนา โอกาโส กโต, อปิจ ตปฺปจฺจยา กมฺมํ วิปจฺจติ, สยเมว ปน กมฺมุนา โอกาเส กเต น เอกนฺเตน วาโต ปาณกา วา อเปกฺขิตพฺพาติ อิมินา อธิปฺปาเยน กมฺมสฺส วิสุํ การณภาโว วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ. ปาณกา ขาทิตฺวา อนฺตรธาเปนฺตีติ โยเชตพฺพํ. อวิชายนตฺถาย เภสชฺชํ เทนฺตสฺส กุจฺฉิยํ อุปฺปชฺชิตฺวา วินสฺสิสฺสนฺตีติ อิมินา อธิปฺปาเยน ทินฺเน โอปาตกฺขณนาทีสุ วิย กมฺมพทฺโธ, กุจฺฉิยํ น อุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ อิมินา ปน อธิปฺปาเยน ทินฺเน เนวตฺถิ กมฺมพทฺโธ.

สหธมฺมิกานนฺติ เอกสฺส สตฺถุโน สาสเน สหสิกฺขมานธมฺมานํ. ปฺจนฺนมฺปิ วิวฏฺฏนิสฺสิตสีลตฺตา ‘‘สมสีลสทฺธาปฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. าตกปวาริตฏฺานโตติ อตฺตโน เตสํ วา าตกปวาริตฏฺานโต. คิลานสฺสตฺถาย อปฺปวาริตฏฺานโตปิ วิฺตฺติยา อนุฺาตตฺตา กตาปิ อกตา วิยาติ อกตวิฺตฺติ, ‘‘วท, ภนฺเต, ปจฺจเยนา’’ติ เอวํ อกตปวารณฏฺาเน จ วิฺตฺติ อกตวิฺตฺติ.

ปฏิยาทิยตีติ สมฺปาเทติ. อกาตุํ น วฏฺฏตีติ เอตฺถ ทุกฺกฏํ วทนฺติ. สหธมฺมิเกสุ วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘อิเมสมฺปิ ปฺจนฺนํ อกตวิฺตฺติยาปิ เภสชฺชํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา กถิตํ. ยาว าตกา ปสฺสนฺตีติ ยาว ตสฺส าตกา ปสฺสนฺติ. ปิตุ ภคินี ปิตุจฺฉา. มาตุ ภาตา มาตุโล. นปฺปโหนฺตีติ กาตุํ น สกฺโกนฺติ. สเจปิ น ยาจนฺตีติ ‘‘ยาจิตุํ ทุกฺข’’นฺติ อธิปฺปาเยน ยทิ น ยาจนฺติ. อาโภคํ กตฺวาติ อิทํ กตฺตพฺพตาทสฺสนวเสน วุตฺตํ, ‘‘อาโภคํ ปน อกตฺวาปิ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ ลิขิตํ. เอเต ทส าตเก เปตฺวาติ เตสํ ปุตฺตนตฺตาทโยปิ ตปฺปฏิพทฺธตฺตา าตกา เอวาติ เตปิ เอตฺเถว สงฺคหิตา. เตน อฺเสนฺติ อิมินา อฺาตกานํ คหณํ เวทิตพฺพํ. เตเนวาห ‘‘เอเตสํ ปุตฺตปรมฺปรายา’’ติอาทิ. กุลปริวฏฺโฏติ กุลานํ ปฏิปาฏิ, กุลปรมฺปราติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘มยฺหํ ทสฺสนฺติ กริสฺสนฺตี’’ติ ปจฺจาสาย กโรนฺตสฺสปิ ยาจิตฺวาปิ คเหตพฺพฏฺานตาย าตเกสุ เวชฺชกมฺมํ วา กุลทูสกาปตฺติ วา น โหตีติ วทนฺติ. สพฺพปเทสุปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ จูฬมาตุยาติอาทีสุ สพฺพปเทสุ ‘‘จูฬมาตุยา สามิโก’’ติอาทินา โยเชตฺวา เหฏฺา วุตฺตนเยน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

วุตฺตนเยน ปริเยสิตฺวาติ อิมินา ‘‘าติสามเณเรหิ วา’’ติอาทินา วุตฺตมตฺถํ อติทิสฺสติ. อปจฺจาสีสนฺเตนาติ ‘‘มยฺหํ ทสฺสนฺติ กริสฺสนฺตี’’ติ เอวํ อตฺตโน อตฺถาย อปจฺจาสีสนฺเตน. ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปน อุปการกตฺตํ ปจฺจาสีสนฺเตน กาตุํ วฏฺฏติ. ‘‘เภสชฺชํ อาจิกฺขถา’’ติ วุตฺเตปิ ยถา ‘‘อฺมฺํ ปน กถา กาตพฺพา’’ติ อิทํ ปริยายตฺตา วฏฺฏติ, เอวํ เหฏฺา วุตฺตนเยน ‘‘อิทฺจิทฺจ คเหตฺวา กโรนฺตี’’ติ อิมินา ปริยาเยน กเถนฺตสฺสปิ เนวตฺถิ โทโสติ อาจริยา.

วินยลกฺขณํ อชานนฺตสฺส อนาจริยสฺส ตทนุรูปโวหาราสมฺภวโต อีทิสสฺส ลาภสฺส อุปฺปตฺติ นาม นตฺถีติ ‘‘อาจริยภาโค นามาย’’นฺติ วุตฺตํ, วินเย ปกตฺุนา อาจริเยน ลภิตพฺพภาโค อยนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปุปฺผปูชนตฺถาย ทินฺเนปิ อกปฺปิยโวหาเรน วิธานสฺส อยุตฺตตฺตา ‘‘กปฺปิยวเสนา’’ติ วุตฺตํ, ‘‘ปุปฺผํ อาหรถา’’ติอาทินา กปฺปิยโวหารวเสนาติ อตฺโถ.

ยทิ ‘‘ปริตฺตํ กโรถา’’ติ วุตฺเต กโรนฺติ, คิหิเวยฺยาวจฺจกรณฏฺาเน ติฏฺตีติ ‘‘ปริตฺตํ กโรถ, ภนฺเตติ วุตฺเต น กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ‘‘ภณถา’’ติ วุตฺเต ปน ธมฺมกถาย อชฺเฌสนฏฺาเน ิตตฺตา ‘‘กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ธมฺมฺหิ อนชฺฌิฏฺเนปิ กเถตุํ วฏฺฏติ, ปเคว อชฺฌิฏฺเน. จาเลตฺวา สุตฺตํ ปริมชฺชิตฺวาติ ปริตฺตํ กโรนฺเตน กาตพฺพวิธึ ทสฺเสติ. วิหารโต…เป… ทุกฺกฏนฺติ อฺาตกานํเยว ททโต ทุกฺกฏํ. โน เจ ชานนฺตีติ ยทิ เอวํ วตฺตุํ น ชานนฺติ. อุทกนฺติ ทกฺขิโณทกํ. ปาเทสุ อปนีเตสุ อวมงฺคลสฺิโน โหนฺตีติ อาห ‘‘น ปาทา อปเนตพฺพา’’ติ. คนฺตุํ วฏฺฏตีติ ‘‘ปริวารตฺถาย อาคจฺฉนฺตู’’ติ วุตฺเตปิ เอวํ สลฺลกฺเขตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ.

อนามฏฺปิณฺฑปาโตติ อปพฺพชิตสฺส หตฺถโต ลทฺโธ อตฺตนา อฺเน วา ปพฺพชิเตน อคฺคหิตอคฺโค ปิณฺฑปาโต. ถาลเกติ อิมินา ปตฺโตปิ คหิโตเยวาติ ทฏฺพฺพํ. ทามริกโจรสฺสาติ รชฺชํ ปตฺถยมานสฺส ปากฏโจรสฺส. โจรนาควตฺถูติ เอตฺถ ‘‘โจรนาคสฺส กิร อามฏฺํ เทนฺโต กุชฺฌิสฺสติ, อนามฏฺํ น วฏฺฏตีติ เถโร ปตฺตคฺคหณหตฺเถเนว อคฺคํ คเหตฺวา ปตฺเต ภตฺตํ สพฺพมทาสิ, โส เตน ตุสฺสิ. ‘เอตฺตกํ มยฺห’นฺติ ภตฺตสฺส เอกปสฺเสเยว โถกํ เปตฺวาปิ ปุน เตน สทฺธึ สพฺพมฺปิ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ จูฬคณฺิปเท วุตฺตํ.

อามิสสฺส ธมฺมสฺส จ อลาเภน อตฺตโน ปรสฺส จ อนฺตเร สมฺภวนฺตสฺส ฉิทฺทสฺส วิวรสฺส เภทสฺส ปฏิสนฺถรณํ ปิทหนํ คณฺหนํ ปฏิสนฺถาโร. อยฺหิ โลกสนฺนิวาโส อลพฺภมาเนน อามิเสน จ ธมฺเมน จาติ ทฺวีหิ ฉิทฺโท, ตสฺส ตํ ฉิทฺทํ ยถา น ปฺายติ, เอวํ ปีสฺส วิย ปจฺจตฺถรเณน อามิเสน จ ธมฺเมน จ ปฏิสนฺถรณํ อามิสปฏิสนฺถาโร ธมฺมปฏิสนฺถาโร จาติ วุจฺจติ. ตตฺถ ธมฺมปฏิสนฺถาโร กสฺสจิ น กาตพฺโพ นตฺถิ. ยสฺส กสฺสจิ หิ คหฏฺสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา ธมฺเมน สงฺคโห กาตพฺโพเยว. ‘‘ปฏิสนฺถาโร ปน กสฺส กาตพฺโพ, กสฺส น กาตพฺโพ’’ติ อิทํ ปน อามิสปฏิสนฺถารํ สนฺธาย วุตฺตํ. อุพฺพาเสตฺวาติ สมนฺตโต ติโยชนํ วิลุมฺปนฺโต มนุสฺเส ปลาเปตฺวา อฺเสํ อวาสํ กตฺวา. สงฺฆสฺสตฺถาย อาหฏาติ ปากวฏฺฏโต ตํทิวสสฺสตฺถาย อาหฏา. วรโปตฺถจิตฺตตฺถรณนฺติ อเนกปฺปการอุตฺตมรูปวิจิตฺตตฺถรณํ.

๑๘๗. สตฺตรสวคฺคิเยสุ ปุพฺเพ เอกสฺส องฺคุลิปโตเทน มาริตตฺตา เสสโสฬสชเนสุ อุทรํ อารุหิตฺวา นิสินฺนเมกํ เปตฺวา ‘‘เสสาปิ ปนฺนรส ชนา’’ติ วุตฺตํ. อทูหลปาสาณา วิยาติ อทูหเล อาโรปิตปาสาณา วิย. กมฺมาธิปฺปายาติ ตชฺชนียาทิกมฺมกรณาธิปฺปายา. อาวาเหตฺวาติ อาวิสาเปตฺวา. วาฬวิหารนฺติ จณฺฑสตฺเตหิ อธิฏฺิตวิหารํ.

๑๘๙. โย รุกฺเขน โอตฺถโตปิ น มรตีติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ภูตคามสิกฺขาปทฏฺกถายํ สยเมว วกฺขติ. เอวฺหิ ตตฺถ วุตฺตํ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๒) –

‘‘มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกวณฺณนายํ ปน สพฺพอฏฺกถาสุ ‘สเจ ภิกฺขุ รุกฺเขน วา อชฺโฌตฺถโต โหติ โอปาเต วา ปติโต, สกฺกา จ โหติ เอเกน ปสฺเสน รุกฺขํ ฉินฺทิตฺวา ภูมึ วา ขณิตฺวา นิกฺขมิตุํ, ชีวิตเหตุปิ อตฺตนา น กาตพฺพํ, อฺเน ปน ภิกฺขุนา ภูมึ วา ขณิตฺวา รุกฺขํ วา ฉินฺทิตฺวา อลฺลรุกฺขโต วา ทณฺฑกํ ฉินฺทิตฺวา ตํ รุกฺขํ ปวฏฺเฏตฺวา นิกฺขมาเปตุํ วฏฺฏติ, อนาปตฺตี’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ การณํ น ทิสฺสติ, ‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทวฑาเห ฑยฺหมาเน ปฏคฺคึ ทาตุํ ปริตฺตํ กาตุ’นฺติ (จูฬว. ๒๘๓) อิทํ ปน เอกเมว สุตฺตํ ทิสฺสติ. สเจ เอตสฺส อนุโลมํ, อตฺตโน น วฏฺฏติ, อฺสฺส วฏฺฏตีติ อิทํ นานากรณํ น สกฺกา ลทฺธุํ. อตฺตโน อตฺถาย กโรนฺโต อตฺตสิเนเหน อกุสลจิตฺเตเนว กโรติ, ปโร ปน การุฺเน. ตสฺมา อนาปตฺตีติ เจ, เอตมฺปิ อการณํ. กุสลจิตฺเตนปิ หิ อิมํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, สพฺพฏฺกถาสุ ปน วุตฺตตฺตา น สกฺกา ปฏิเสเธตุํ, คเวสิตพฺพา เอตฺถ ยุตฺติ, อฏฺกถาจริยานํ วา สทฺธาย คนฺตพฺพ’’นฺติ.

ตสฺมา ยํ เอตฺถ อิโต อฺถา เกนจิ ปปฺจิตํ, คณฺิปเทสุ จ การณํ วุตฺตํ, ตํ น สารโต ปจฺเจตพฺพํ.

๑๙๐. อลฺล…เป… ปาจิตฺติยนฺติ สุกฺขฏฺาเนปิ อคฺคึ ปาเตตฺวา อิมินา อธิปฺปาเยน อาลิมฺเปนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว. ทุกฺกฏนฺติ สุกฺขฏฺาเน วา สุกฺขํ ‘‘อสุกฺข’’นฺติ อววตฺถเปตฺวา วา อคฺคึ ปาเตนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. กีฬาธิปฺปาเยปิ เอเสว นโย. กีฬาธิปฺปาโย จ ปฏปฏายมานสทฺทสฺสาทวเสเนว เวทิตพฺโพ. ปฏิปกฺขภูโต อคฺคิ ปฏคฺคิ. ปริตฺตกรณนฺติ อารกฺขกรณํ. สยํ วา อุฏฺิตนฺติ วาเตริตานํ เวฬุอาทีนํ อฺมฺสงฺฆฏฺฏเนน สมุฏฺิตํ. นิรุปาทาโนติ อินฺธนรหิโต.

๑๙๑-๑๙๒. เขตฺตเมว โอติณฺณตฺตา ปาราชิกนฺติ ‘‘ทฺวีหี’’ติ วุตฺเต ทฺวีหิปิ ปหาเรหิ มรณสฺส ปจฺจาสีสนโต เอเกน วินา ทฺวินฺนํ อภาวโต จ ปาราชิกํ. ‘‘ทฺวีหิเยวาติ นิยมิเต ปน เอเกน ปหาเรน มาริเต นตฺถิ ปาราชิก’’นฺติ วทนฺติ. ปมํ อาหิตพลเวคสฺส ปุพฺพานุจิณฺณวเสน ธมฺมานํ เทสนฺตรุปฺปตฺติยา คมนมตฺตํ เปตฺวา ชีวิตินฺทฺริยสฺส ตตฺถ อวิชฺชมานตฺตา ‘‘สีสจฺเฉทกสฺสา’’ติ วุตฺตํ. อิมสฺส วตฺถุสฺสาติ อาฆาตนวตฺถุสฺส. ‘‘ปานปริโภเคนาติ วุตฺตตฺตา โลณโสวีรกํ ยามกาลิก’’นฺติ วทนฺติ.

วินีตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย สารตฺถทีปนิยํ

ตติยปาราชิกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. จตุตฺถปาราชิกํ

จตุสจฺจวิทูติ จตฺตาริ สจฺจานิ สมาหฏานิ จตุสจฺจํ, ตํ อเวทิ ปฏิวิชฺฌีติ จตุสจฺจวิทู. สติปิ สาวกานํ ปจฺเจกพุทฺธานฺจ จตุสจฺจวิทุภาเว อนฺปุพฺพกตฺตา ภควโต จตุสจฺจทสฺสนสฺส ตตฺถ จ สพฺพฺุตาย พเลสุ จ วสีภาวสฺส ปตฺติโต ปรสนฺตาเนสุ ปสาริตภาเวน ปากฏตฺตา จ ภควาว วิเสเสน ‘‘จตุสจฺจวิทู’’ติ โถมนํ อรหติ.

วคฺคุมุทาตีริยภิกฺขุวตฺถุวณฺณนา

๑๙๓. อธิฏฺเมาติ สํวิทหาม. ทูตกมฺมนฺติ คิหีนํ ปณฺณํ วา สาสนํ วา คเหตฺวา ตตฺถ ตตฺถ คมนํ. อิริยาปถํ สณฺเปตฺวาติ ปธานานุรูปํ กตฺวา. ปุจฺฉนฺตานํ วาติ ‘‘อยฺยา สนฺตอิริยาปถา อติวิย อุปสนฺตา, กตรํ วิเสสมธิคจฺฉึสู’’ติ ปุจฺฉนฺตานํ. อนาคตสมฺพนฺเธ ปน อสตีติ ‘‘ภาสิโต ภวิสฺสตี’’ติ ปาเสสํ กตฺวา อนาคตสมฺพนฺเธ อสติ. ‘‘ภาสิโต’’ติ อตีตวจนํ กถํ อนาคตวจเนน สมฺพนฺธมุปคจฺฉตีติ อาห ‘‘ลกฺขณํ ปน สทฺทสตฺถโต ปริเยสิตพฺพ’’นฺติ. อีทิเส หิ าเน ‘‘ธาตุสมฺพนฺเธ ปจฺจยา’’ติ อิมินา ลกฺขเณน ธาตฺวตฺถสมฺพนฺเธ สติ อยถากาลวิหิตาปิ ปจฺจยา สาธโว ภวนฺตีติ สทฺทสตฺถวิทู วทนฺติ.

๑๙๔. วณฺณวาติ อิมินา สกลสรีรานุคตวณฺณสฺส มนาปตา วุตฺตา. ปสนฺนมุขวณฺณาติ อิมินา สกลสรีรวณฺณโตปิ อธิกตรํ มุขวณฺณสฺส มนาปตา วุตฺตา. วิปฺปสนฺนฉวิวณฺณาติ อิมินา ปน วิชฺชมานสฺเสว สรีรวณฺณสฺส อติวิย ปสนฺนตา วุตฺตา. ยสฺมา อินฺทฺริยานํ อูนตฺตํ วา ปูรณตฺตํ วา นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘อภินิวิฏฺโกาสสฺส ปริปุณฺณตฺตา’’ติ วุตฺตํ. ฉฏฺสฺส อภินิวิฏฺโกาโส หทยวตฺถุ, ปฺจปสาทานํ อภินิวิฏฺโกาสสฺส ปริปุณฺณตาวจเนเนว หทยวตฺถุอาทิสกลสรีรสฺส ปริปุณฺณตา ทสฺสิตาเยว โหตีติ อาห – ‘‘มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยาน’’นฺติ. ยถา ตนฺติ เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ. ภนฺตมิคปฺปฏิภาคาติ กตฺตพฺพากตฺตพฺพสฺส อชานนโต ภนฺตมิคสทิสา. จตุจกฺกนฺติ จตุอิริยาปถํ. อิริยาปโถ หิ อิธ ปวตฺตนฏฺเน ‘‘จกฺก’’นฺติ อธิปฺเปโต. นวทฺวารนฺติ นวหิ วณมุเขหิ นวทฺวารํ. ทุกฺขนฺติ สีสโรคาทิทุกฺขํ. สพฺพกิจฺเจสูติ ปตฺตปจนจีวรรชนโยคฏฺานาทิกิจฺเจสุ. ยาเปตุนฺติ วหิตุํ ปวตฺเตตุํ. เตนาห ‘‘คเมตุ’’นฺติ.

๑๙๕. สนฺโตติ อิมินา เตสํ วิชฺชมานตํ ทสฺเสติ, สํวิชฺชมานาติ อิมินา ปน เตสํ อุปลพฺภมานตํ ทสฺเสติ. เตนาห – ‘‘อตฺถิ เจว อุปลพฺภนฺติ จา’’ติ. อุปลพฺภนฺตีติ ทิสฺสนฺติ, ายนฺตีติ อตฺโถ. ปนฺถทูหนกมฺมนฺติ ปนฺถฆาตนกมฺมํ. หนนฺโตติ มาเรนฺโต. ฆาเตนฺโตติ มาราเปนฺโต. อถ วา หนนฺโตติ พนฺธนตาฬนาทีหิ หึสนฺโต. ฆาเตนฺโตติ มาเรนฺโต. ฉินฺทนฺโตติ ปเรสํ หตฺถาทีนิ ฉินฺทนฺโต. ปจนฺโตติ ทณฺเฑน อุปฺปีเฬนฺโต. ปจนฺเหตฺถ ทหนํ วิพาธนํ อธิปฺเปตํ. ปจนฺโตติ วา ตชฺเชนฺโต ตาเสนฺโต. อถ วา ปจนฺโตติ คาเมสุ อคฺคิปาตนวเสน เคหาทีนิ ฌาเปตฺวา ตตฺถ อเชฬกาทีนิ ปจนฺโต.

เย สิกฺขาปเทสุ พหุลคารวา น โหนฺติ อาปตฺติวีติกฺกมพหุลา, เต สิกฺขาปเทสุ อติพฺพคารวา. อุทฺธเตติ อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตาย กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตาย อวชฺเช วชฺชสฺิตาย วชฺเช อวชฺชสฺิตาย จ อุทฺธจฺจปกติเก. อุนฺนเฬติ อุคฺคตนเฬ, อุฏฺิตตุจฺฉมาเนติ วุตฺตํ โหติ. จปเลติ ปตฺตจีวรมณฺฑนาทินา จาปลฺเลน ยุตฺเต. มุขเรติ มุขขเร, ขรวจเนติ วุตฺตํ โหติ. วิกิณฺณวาเจติ อสํยตวจเน ทิวสมฺปิ นิรตฺถกวจนปฺปลาปิเน. มุฏฺา นฏฺา สติ เอเตสนฺติ มุฏฺสฺสตี, สติวิรหิเตติ วุตฺตํ โหติ. อสมฺปชาเนติ นิปฺปฺเ. ปากตินฺทฺริเยติ สํวราภาเวน คิหิกาเล วิย วิวฏอินฺทฺริเย. อาจริยุปชฺฌาเยหิ ปริจฺจตฺตเกติ ธมฺเมน อามิเสน จ อสงฺคเหตฺวา อาจริยุปชฺฌาเยหิ ปริจฺจตฺเต อนาเถ อปฺปติฏฺเ. ลาภครุเกติ ปจฺจยครุเก.

อิริยาปถสณฺปนาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน ปจฺจยปฏิเสวนสามนฺตชปฺปานํ คหณํ เวทิตพฺพํ. มหานิทฺเทเส (มหานิ. ๘๗) หิ อิริยาปถสณฺปนปจฺจยปฏิเสวนสามนฺตชปฺปนวเสน ติวิธํ กุหกวตฺถุ อาคตํ. ตตฺถ ปาปิจฺฉสฺเสว สโต สมฺภาวนาธิปฺปายกเตน อิริยาปเถน วิมฺหาปนํ อิริยาปถสณฺปนสงฺขาตํ กุหกวตฺถุ. ตถา จีวราทีหิ นิมนฺติตสฺส ตทตฺถิกสฺเสว สโต ปาปิจฺฉตํ นิสฺสาย ปฏิกฺเขปเนน เต จ คหปติเก อตฺตนิ สุปฺปติฏฺิตสทฺเธ ตฺวา ปุน เตสํ ‘‘อโห อยฺโย อปฺปิจฺโฉ, น กิฺจิ ปฏิคฺคณฺหิตุํ อิจฺฉติ, สุลทฺธํ วต โน อสฺส, สเจ อปฺปมตฺตกมฺปิ กิฺจิ ปฏิคฺคณฺเหยฺยา’’ติ นานาวิเธหิ อุปาเยหิ ปณีตานิ จีวราทีนิ อุปเนนฺตานํ ตทนุคฺคหกามตํเยว อาวิกตฺวา ปฏิคฺคหเณน จ ตโต ปภุติ อสีติสกฏภาเรหิ อุปนามนเหตุภูตํ วิมฺหาปนํ ปจฺจยปฏิเสวนสงฺขาตํ กุหกวตฺถูติ เวทิตพฺพํ. ปาปิจฺฉสฺเสว ปน สโต อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาธิคมปริทีปนวาจาย ตถา ตถา วิมฺหาปนํ สามนฺตชปฺปนสงฺขาตํ กุหกวตฺถูติ เวทิตพฺพํ. จิตฺตลปพฺพตาทิวิหาโร โลกสมฺมตเสนาสนํ นาม. โลกสมฺมต …เป… อุปาเยหิ สํวณฺณิยมานคุโณติ สมฺพนฺโธ. ปริปาเจตุนฺติ ปริณาเมตุํ. สุทฺธจิตฺเตน อตฺตโน คนฺถธุราทิกมฺมํ กตฺวา วิจรนฺตานํ ตมฺมูลกปจฺจยปริโภเค โทสาภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘เย ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภิกฺขาจาเร อสมฺปชฺชมาเนติ โคจรคาเม ภิกฺขาย จริตฺวา ลภิตพฺพปิณฺฑปาเต อสมฺปชฺชนฺเต. เต จ วตฺตสีเสน สพฺพมฺเปตํ กโรนฺติ, น ลาภนิมิตฺตํ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตนฺติปเวณิฆฏนกา สาสนโชตกา’’ติ.

กิจฺเฉนาติ น ทุกฺขาย ปฏิปทาย. พุทฺธานฺหิ จตฺตาโรปิ มคฺคา สุขาปฏิปทาว โหนฺติ, ปารมีปูรณกาเล ปน สราคโทสโมหสฺเสว สโต อาคตานํ ยาจกานํ อลงฺกตปฺปฏิยตฺตํ สีสํ กนฺติตฺวา คลโลหิตํ นีหริตฺวา สุอฺชิตานิ อกฺขีนิ อุปฺปาเฏตฺวา กุลวํสปฺปติฏฺาปกํ ปุตฺตํ มนาปจารินึ ภริยนฺติ เอวมาทีนิ เทนฺตสฺส อฺานิปิ ขนฺติวาทีสทิเสสุ อตฺตภาเวสุ เฉชฺชเภชฺชาทีนิ ปาปุณนฺตสฺส อาคมนียปฏิปทํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. กสิเรนาติ ตสฺเสว เววจนํ.

เอกสฺเสว ทาตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย ครุภาวโต ‘‘ครุภณฺฑานี’’ติ วุตฺตํ, สพฺเพสํ ภาเชตฺวาปิ คเหตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย ‘‘ครุปริกฺขารานี’’ติ วุตฺตํ. สาธารณปริกฺขารภาเวนาติ สงฺฆิกตฺตา สพฺพภิกฺขุสาธารณปริกฺขารภาเวน. สงฺคณฺหาติ อุปลาเปตีติ อิทํ อเถยฺยจิตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตเนวาห – ‘‘ตถาภาวโต เถเนตฺวา’’ติ, อวิสฺสชฺชิยอเวภงฺคิยภาวโต เถเนตฺวาติ อตฺโถ. ครุภณฺฑฺหิ กุลสงฺคหตฺถาย วิสฺสชฺเชนฺโต วิภชนฺโต จ ตสฺส อวิสฺสชฺชิยอวเอภงฺคิยภาวํ เถเนติ. กุลทูสกทุกฺกฏํ อาปชฺชตีติ เอตฺถ ‘‘โย วิสฺสชฺเชยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา วิสฺสชฺชนปจฺจยา ถุลฺลจฺจเยนปิ น มุจฺจติ.

อสนฺตนฺติ อวิชฺชมานํ. อภูตนฺติ อนุปฺปนฺนํ. อนุปฺปนฺนตฺตา หิ ตสฺส ตํ อสนฺตนฺติ. ปุริมสฺส ปจฺฉิมํ การณวจนํ. อุลฺลปตีติ อุคฺคตายุโก ลปติ. สีลฺหิ ภิกฺขุโน อายุ, ตํ ตสฺส ตถาลปนสมกาลเมว วิคจฺฉติ. อสนฺตสมฺภาวนายาติ อตฺตโน อวิชฺชมานคุเณหิ สมฺภาวนาย. เอวฺหิ คณฺหตา…เป… เถเนตฺวา คหิตา โหนฺตีติ เอตฺถ อสนฺตสมฺภาวนาย รฏฺปิณฺฑสฺส เถเนตฺวา คหิตตฺตา โลกุตฺตรธมฺโมปิ เถนิโตเยว โหติ. กิตวสฺเสวาติ กิตวสฺส สกุณคฺคหณมิว. เกราฏิกสฺสาติ สสฺส. โคตฺตํ วุจฺจติ สาธารณนามํ, มตฺต-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ, ตสฺมา สมณาติ โคตฺตมตฺตํ อนุภวนฺติ ธาเรนฺตีติ โคตฺรภุโน, นามมตฺตสมณาติ วุตฺตํ โหติ.

วคฺคุมุทาตีริยภิกฺขุวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.

อธิมานวตฺถุวณฺณนา

๑๙๖. เหฏฺิมมคฺเคหิ าตมริยาทาย เอว ชานนโต อฺา อคฺคมคฺคปฺา, ตสฺสา ผลภาวโต อคฺคผลปฺา ตํสหคตา สมฺมาสงฺกปฺปาทโย จ อฺาติ วุตฺตาติ อาห ‘‘อฺํ พฺยากรึสูติ อรหตฺตํ พฺยากรึสู’’ติ. อริยสาวกสฺส ตาว นุปฺปชฺชตีติ ปหีนาธิมานปจฺจยตฺตา นุปฺปชฺชติ. สีลวโตปิ…เป… นุปฺปชฺชติ อการกภาวโต. ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวาติ กลาปสมฺมสนวเสน ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา. อารทฺธวิปสฺสกสฺสาติ อุทยพฺพยานุปสฺสนาย อารทฺธวิปสฺสกสฺส. สุทฺธสมถลาภี วิปสฺสนาย กมฺมํ อกตฺวาปิ กิเลสสมุทาจารํ อปสฺสนฺโต เกวลํ อฺาณพเลน ‘‘อริโยหมสฺมี’’ติ มฺตีติ อาห ‘‘สุทฺธสมถลาภึ วา’’ติ. ‘‘อรหา อห’’นฺติ มฺติ อุจฺจวาลงฺกวาสี มหานาคตฺเถโร วิย.

ตลงฺครวาสี ธมฺมทินฺนตฺเถโร กิร นาม เอโก ปภินฺนปฺปฏิสมฺภิโท มหาขีณาสโว มหโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส โอวาททายโก อโหสิ. โส เอกทิวสํ อตฺตโน ทิวาฏฺาเน นิสีทิตฺวา ‘‘กินฺนุ โข อมฺหากํ อาจริยสฺส อุจฺจวาลงฺกวาสีมหานาคตฺเถรสฺส สมณภาวกิจฺจํ มตฺถกปฺปตฺตํ, โน’’ติ อาวชฺเชนฺโต ปุถุชฺชนภาวเมวสฺส ทิสฺวา ‘‘มยิ อคจฺฉนฺเต ปุถุชฺชนกาลกิริยเมว กริสฺสตี’’ติ จ ตฺวา อิทฺธิยา เวหาสํ อุปฺปติตฺวา ทิวาฏฺาเน นิสินฺนสฺส เถรสฺส สมีเป โอโรหิตฺวา วนฺทิตฺวา วตฺตํ ทสฺเสตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. ‘‘กึ, อาวุโส ธมฺมทินฺน, อกาเล อาคโตสี’’ติ จ วุตฺโต ‘‘ปฺหํ, ภนฺเต, ปุจฺฉิตุํ อาคโตมฺหี’’ติ อาห. ตโต ‘‘ปุจฺฉาวุโส, ชานมานา กถยิสฺสามา’’ติ วุตฺโต ปฺหสหสฺสํ ปุจฺฉิ. เถโร ปุจฺฉิตํ ปุจฺฉิตํ ปฺหํ อสชฺชมาโนว กเถสิ. ตโต ‘‘อติติกฺขํ โว, ภนฺเต, าณํ, กทา ตุมฺเหหิ อยํ ธมฺโม อธิคโต’’ติ วุตฺโต ‘‘อิโต สฏฺิวสฺสกาเล, อาวุโส’’ติ อาห. สมาธิมฺหิ, ภนฺเต, วฬฺเชถาติ. น อิทํ, อาวุโส, ภาริยนฺติ. เตน หิ, ภนฺเต, เอกํ หตฺถึ มาเปถาติ. เถโร สพฺพเสตํ หตฺถึ มาเปสิ. อิทานิ, ภนฺเต, ยถา อยํ หตฺถี อฺชิตกณฺโณ ปสาริตนงฺคุฏฺโ โสณฺฑํ มุเข ปกฺขิปิตฺวา เภรวํ โกฺจนาทํ กโรนฺโต ตุมฺหากํ อภิมุขํ อาคจฺฉติ, ตถา นํ กโรถาติ. เถโร ตถา กตฺวา เวเคน อาคจฺฉโต หตฺถิสฺส เภรวํ อาการํ ทิสฺวา อุฏฺาย ปลายิตุํ อารทฺโธ. ตเมนํ ขีณาสวตฺเถโร หตฺถํ ปสาเรตฺวา จีวรกณฺเณ คเหตฺวา ‘‘ภนฺเต, ขีณาสวสฺส สารชฺชํ นาม โหตี’’ติ อาห. โส ตสฺมึ กาเล อตฺตโน ปุถุชฺชนภาวํ ตฺวา ‘‘อวสฺสโย เม, อาวุโส, ธมฺมทินฺน โหหี’’ติ วตฺวา ปาทมูเล อุกฺกุฏิกํ นิสีทิ. ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ อวสฺสโย ภวิสฺสามิจฺเจวาหํ อาคโต, มา จินฺตยิตฺถา’’ติ กมฺมฏฺานํ กเถสิ. เถโร กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา จงฺกมํ โอรุยฺห ตติเย ปทวาเร อคฺคผลํ อรหตฺตํ ปาปุณิ. เถโร กิร โทสจริโต อโหสิ.

อธิมานวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.

สวิภงฺคสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๙๗-๑๙๘. ยสฺมา ปนาติอาทิ ‘‘อสนฺตํ อภูตํ อสํวิชฺชมาน’’นฺติ เอเตสํ การณวจนํ. ตตฺถ นฺติ ยํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ. อนภิชานนฺติ อตฺตนิ อตฺถิภาวํ อชานนฺโต. สมุทาจรตีติ ‘‘อตฺถิ มยฺหํ เอส ธมฺโม’’ติ กเถติ ชานาเปติ วา. ‘‘อสนฺตํ อภูต’’นฺติ อิมสฺส การณวจนํ สนฺตาเน อนุปฺปนฺโนติ. าเณน จ อสจฺฉิกโตติ อิทํ ปน ‘‘อสํวิชฺชมาน’’นฺติ เอตสฺส การณวจนํ. ปกติมนุสฺเสหิ อุตฺตริตรานํ พุทฺธาทิอุตฺตมปุริสานํ อธิคมธมฺโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺโมติ อาห ‘‘อุตฺตริมนุสฺสาน’’นฺติอาทิ. นฺติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ. อถ ปทภาชเน พหุวจนนิทฺเทโส กสฺมา กโตติ อาห ‘‘ปทภาชเน ปนา’’ติอาทิ. กิฺจาปิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม อพฺยากโตปิ โหติ, อาโรคฺยฏฺเน ปน พาหิติกสุตฺเต วิย ‘‘กุสเล ธมฺเม’’ติ วุตฺตํ. อสฺสาติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส. ขณลยมุหุตฺต-สทฺทา อฺตฺถ ภินฺนตฺถาปิ โหนฺติ, อิธ ปน ขณปริยายวเสเนว ‘‘ตํ ขณํ ตํ ลยํ ตํ มุหุตฺต’’นฺติ ปาฬิยํ วุตฺตํ.

อธิคนฺตพฺพโต อธิคโม, ฌานาทิ, อธิคมสฺส ปุจฺฉา อธิคมปุจฺฉา. เตนาห ‘‘ฌานวิโมกฺขาทีสู’’ติอาทิ. อุปายปุจฺฉาติ อธิคมุปายปุจฺฉา. กินฺตีติ เกน ปกาเรน, เกน วิธินาติ อตฺโถ. กตเมสํ ตฺวํ ธมฺมานํ ลาภีติ อิทํ ปน ปุพฺเพ ‘‘กึ เต อธิคต’’นฺติ อนิทฺธาริตเภทา ฌานาทิวิเสสา ปุจฺฉิตาติ อิทานิ เตสํ นิทฺธาเรตฺวา ปุจฺฉนาการทสฺสนํ.

ตสฺมาติ ยสฺมา ยถาวุตฺเตหิ ฉหากาเรหิ อธิคมพฺยากรณํ โสเธตพฺพํ, ตสฺมา. เอตฺตาวตาวาติ เอตฺตเกน พฺยากรณมตฺเตเนว น สกฺกาตพฺโพ. พฺยากรณฺหิ เอกจฺจสฺส อยาถาวโตปิ โหตีติ. อิเมสุ ปน ฉสุ าเนสุ โสธนตฺถํ วตฺตพฺโพติ ยถา นาม ชาตรูปปติรูปกมฺปิ ชาตรูปํ วิย ขายตีติ ชาตรูปํ นิฆํสนตาปนจฺเฉทเนหิ โสเธตพฺพํ, เอวเมว อิเมสุ อิทาเนว วุตฺเตสุ ฉสุ าเนสุ ปกฺขิปิตฺวา โสธนตฺถํ วตฺตพฺโพ. วิโมกฺขาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน สมาธิสมาปตฺติาณทสฺสนมคฺคภาวนาผลสจฺฉิกิริยาทึ สงฺคณฺหาติ. ปากโฏ โหตีติ อธิคตวิเสสสฺส สติสมฺโมสาภาวโต. เสสปุจฺฉาสุปิ ปากโฏ โหตีติ ปเท เอเสว นโย.

สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคตมคฺเคน ปหีนกิเลสา ปากฏา โหนฺตีติ อิทํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ. กสฺสจิ หิ อตฺตนา อธิคตมคฺควชฺฌกิเลเสสุ สนฺเทโห อุปฺปชฺชติเยว มหานามสฺส สกฺกสฺส วิย. โส หิ สกทาคามี สมาโนปิ ‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ ‘โก สุ นาม เม ธมฺโม อชฺฌตฺตํ อปฺปหีโน, เยน เม เอกทา โลภธมฺมาปิ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺติ, โทสธมฺมาปิ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺติ, โมหธมฺมาปิ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺตี’’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๗๕) ภควนฺตํ ปุจฺฉิ. อยํ กิร ราชา สกทาคามิมคฺเคน โลภโทสโมหา นิรวเสสา ปหียนฺตีติ สฺี อโหสิ. กึ อริยสาวกสฺส เอวํ สนฺเทโห อุปฺปชฺชตีติ? อาม อุปฺปชฺชติ. กสฺมา? ปณฺณตฺติยํ อโกวิทตฺตา. ‘‘อยํ กิเลโส อสุกมคฺควชฺโฌ’’ติ อิมิสฺสา ปณฺณตฺติยา อโกวิทสฺส หิ อริยสาวกสฺส เอวํ โหติ. กึ ตสฺส ปจฺจเวกฺขณา นตฺถีติ? อตฺถิ, สา ปน น สพฺเพสํ ปริปุณฺณา โหติ. เอโก หิ ปหีนกิเลสเมว ปจฺจเวกฺขติ, เอโก อวสิฏฺกิเลสเมว, เอโก มคฺคเมว, เอโก ผลเมว, เอโก นิพฺพานเมว. อิมาสุ ปน ปฺจสุ ปจฺจเวกฺขณาสุ เอกํ วา ทฺเว วา โน ลทฺธุํ น วฏฺฏติ. อิติ ยสฺส ปจฺจเวกฺขณา น ปริปุณฺณา, ตสฺส มคฺควชฺฌกิเลสปณฺณตฺติยํ อโกวิทตฺตา เอวํ โหติ. อุคฺคหปริปุจฺฉากุสลาติ สชฺฌายมคฺคสํวณฺณนาสุ นิปุณา.

ยาย ปฏิปทาย ยสฺส อริยมคฺโค อาคจฺฉติ, สา ปุพฺพภาคปฏิปตฺติ อาคมนปฏิปทา. โสเธตพฺพาติ สุทฺธา อุทาหุ น สุทฺธาติ วิจารณวเสน โสเธตพฺพา. น สุชฺฌตีติ ตตฺถ ตตฺถ ปมาทปฏิปตฺติสพฺภาวโต. อปเนตพฺโพติ อตฺตโน ปฏิฺาย อปเนตพฺโพ. ‘‘สุชฺฌตี’’ติ วตฺวา สุชฺฌนาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทีฆรตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ปฺายตีติ เอตฺถาปิ ‘‘ยที’’ติ ปทํ อาเนตฺวา ยทิ โส ภิกฺขุ ตาย ปฏิปทาย ปฺายตีติ สมฺพนฺโธ. จตูสุ ปจฺจเยสุ อลคฺคตฺตา ‘‘อากาเส ปาณิสเมน เจตสา’’ติ วุตฺตํ. วุตฺตสทิสนฺติ ตสฺส ภิกฺขุโน พฺยากรณํ อิมสฺมึ สุตฺเต วุตฺเตน สทิสํ, สมนฺติ อตฺโถ.

ขีณาสวปฏิปตฺติสทิสา ปฏิปทา โหตีติ ทีฆรตฺตํ สุวิกฺขมฺภิตกิเลสตฺตา. ขีณาสวสฺส นาม…เป… น โหตีติ ปหีนวิปลฺลาสตฺตา ชีวิตนิกนฺติยา จ อภาวโต น โหติ. ปุถุชฺชนสฺส ปน อปฺปหีนวิปลฺลาสตฺตา ชีวิตนิกนฺติสพฺภาวโต จ อปฺปมตฺตเกนปิ โหติ.

ตตฺริมานิ วตฺถูนิ – ทีฆภาณกอภยตฺเถโร กิร เอกํ ปิณฺฑปาติกํ ปริคฺคเหตุํ อสกฺโกนฺโต ทหรสฺส สฺํ อทาสิ. โส ตํ นหายมานํ กลฺยาณีนทีมุขทฺวาเร นิมุชฺชิตฺวา ปาเท อคฺคเหสิ. ปิณฺฑปาติโก ‘‘กุมฺภีโล’’ติ สฺาย มหาสทฺทํ อกาสิ, ตทา นํ ‘‘ปุถุชฺชโน’’ติ ชานึสุ. จนฺทมุขติสฺสราชกาเล ปน มหาวิหาเร สงฺฆตฺเถโร ขีณาสโว ทุพฺพลจกฺขุโก วิหาเรเยว อจฺฉติ. ตํ ราชา ‘‘เถรํ ปริคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ ภิกฺขูสุ ภิกฺขาจารํ คเตสุ อปฺปสทฺโท อุปสงฺกมิตฺวา สปฺโป วิย ปาเท อคฺคเหสิ. เถโร สิลาถมฺโภ วิย นิจฺจโล หุตฺวา ‘‘โก เอตฺถา’’ติ อาห. อหํ, ภนฺเต, ติสฺโสติ. สุคนฺธํ วายสิ โน ติสฺสาติ. เอวํ ขีณาสวสฺส ภยํ นาม นตฺถิ. เอกจฺโจ ปน ปุถุชฺชโนปิ อติสูโร โหติ นิพฺภโย, โส รชนีเยน อารมฺมเณน ปริคฺคณฺหิตพฺโพ. วสภราชาปิ หิ เอกํ เถรํ ปริคฺคณฺหมาโน ฆเร นิสีทาเปตฺวา ตสฺส สนฺติเก พทรสาฬวํ มทฺทมาโน นิสีทิ. มหาเถรสฺส เขโฬ จลิโต, เถรสฺส ปุถุชฺชนภาโว อาวิภูโต. ขีณาสวสฺส หิ รสตณฺหา นาม สุปฺปหีนา, ทิพฺเพสุปิ รเสสุ นิกนฺติ นาม น โหติ. ตสฺมา อิเมหิ อุปาเยหิ ปริคฺคเหตฺวา สจสฺส ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา รสตณฺหา วา อุปฺปชฺชติ, ‘‘น ตฺวํ อรหา’’ติ อปเนตพฺโพ.

อสนฺตคุณสมฺภาวนลกฺขณา ปาปิจฺฉาติ อาห – ‘‘ยา สา อิเธกจฺโจ…เป… อาทินา นเยนา’’ติ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘อสฺสทฺโธ สมาโน ‘สทฺโธติ มํ ชโน ชานาตู’ติ อิจฺฉติ, อปฺปสฺสุโตว สมาโน ‘พหุสฺสุโตติ มํ ชโน ชานาตู’ติ อิจฺฉติ, สงฺคณิการาโมว สมาโน ‘ปวิวิตฺโตติ มํ ชโน ชานาตู’ติ อิจฺฉติ, กุสีโตว สมาโน ‘อารทฺธวีริโยติ มํ ชโน ชานาตู’ติ อิจฺฉติ, มุฏฺสฺสตีว สมาโน ‘อุปฏฺิตสฺสตีติ มํ ชโน ชานาตู’ติ อิจฺฉติ, อสมาหิโตว สมาโน ‘สมาหิโตติ มํ ชโน ชานาตู’ติ อิจฺฉติ, ทุปฺปฺโว สมาโน ‘ปฺวาติ มํ ชโน ชานาตู’ติ อิจฺฉติ, อขีณาสโวว สมาโน ‘ขีณาสโวติ มํ ชโน ชานาตู’ติ อิจฺฉติ, ยา เอวรูปา อิจฺฉา อิจฺฉาคตา ปาปิจฺฉตา ราโค สาราโค จิตฺตสฺส สาราโค, อยํ วุจฺจติ ปาปิจฺฉตา’’ติ (วิภ. ๘๕๑) เอวํ วุตฺตํ ปาฬิปเทสํ สงฺคณฺหาติ. ปาปิกายาติ ลามิกาย อิจฺฉาย. อปกโตติ ปาปิกาย อิจฺฉาย สมฺมาอาชีวโต อเปโต กโตติ อิจฺฉาย อปกโต. ตถาภูโต จ มิจฺฉาชีเวน อภิภูโต ปราชิโต นาม โหตีติ อาห ‘‘อภิภูโต ปราชิโต’’ติ.

สามฺํ ทุปฺปรามฏฺํ นิรยายุปกฑฺฒตีติ ยถา กุโส เยน ทุคฺคหิโต, ตสฺส หตฺถํ อนุกนฺตติ ผาเลติ, เอวเมว สมณธมฺมสงฺขาตํ สามฺมฺปิ ขณฺฑสีลาทิตาย ทุปฺปรามฏฺํ นิรยาย อุปกฑฺฒติ, นิรเย นิพฺพตฺตาเปตีติ อตฺโถ. สิถิโลติ โอลียิตฺวา กรเณน สิถิลคฺคาเหน กโต. ปริพฺพาโชติ ขณฺฑาทิภาวปฺปตฺโต สมณธมฺโม. ภิยฺโย อากิรเต รชนฺติ อพฺภนฺตเร วิชฺชมานํ ราครชาทึ เอวรูโป สมณธมฺโม อปเนตุํ น สกฺโกติ, อถ โข ตสฺส อุปริ อปรมฺปิ ราครชาทึ อากิรตีติ อตฺโถ. ภิกฺขุภาโวติ ปาราชิกํ อาปชฺชิตฺวา ‘‘สมโณ อห’’นฺติ ปฏิชานนโต โวหารมตฺตสิทฺโธ ภิกฺขุภาโว. อชานเมวาติ ปาเ เอวาติ อวธารณตฺเถ นิปาโต. อชานเมวนฺติ ปาเ ปน เอวํ ชานามิ เอวํ ปสฺสามีติ อวจนฺติ โยเชตพฺพํ.

ปทภาชนียวณฺณนา

๑๙๙. อสุภชฺฌานาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน กายคตาสติชฺฌานฺจ กสิณชฺฌานฺจ สงฺคณฺหาติ. เตน ‘‘กายคตาสติชฺฌานํ ปถวีกสิณชฺฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติอาทึ วทนฺโตปิ ปาราชิโกว โหตีติ เวทิตพฺพํ. วิโมกฺโขติ เอตฺถ วิ-สทฺโท วิเสสตฺโถ วิวิธตฺโถ วาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สุฏฺุ มุตฺโต’’ติอาทิ. วิโมกฺโขติ จตฺตาโร อริยมคฺคา. ตสฺส สคุณโต สุฺตาทินามลาภํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘โส ปนาย’’ นฺติอาทิ. มคฺโค หิ นาม ปฺจหิ การเณหิ นามํ ลภติ สรเสน วา ปจฺจนีเกน วา สคุเณน วา อารมฺมเณน วา อาคมเนน วา. สเจ หิ สงฺขารุเปกฺขา อนิจฺจโต สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ, อนิมิตฺตวิโมกฺเขน วิมุจฺจติ, สเจ ทุกฺขโต สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ, อปฺปณิหิตวิโมกฺเขน วิมุจฺจติ, สเจ อนตฺตโต สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ, สุฺตวิโมกฺเขน วิมุจฺจติ, อิทํ สรสโต นามํ นาม. ยสฺมา ปเนส อนิจฺจานุปสฺสนาย สงฺขารานํ ฆนวินิพฺโภคํ กตฺวา นิจฺจนิมิตฺตธุวนิมิตฺตสสฺสตนิมิตฺตานิ ปชหนฺโต อาคโต, ตสฺมา อนิมิตฺโต. ทุกฺขานุปสฺสนาย ปน สุขสฺํ ปหาย ปณิธึ ปตฺถนํ สุกฺขาเปตฺวา อาคตตฺตา อปฺปณิหิโต. อนตฺตานุปสฺสนาย อตฺตสตฺตปุคฺคลสฺํ ปหาย สงฺขารานํ สุฺโต ทิฏฺตฺตา สุฺโตติ อิทํ ปจฺจนีกโต นามํ นาม.

ราคาทีหิ ปเนส สุฺตตฺตา สุฺโต. รูปนิมิตฺตาทีนํ ราคนิมิตฺตาทีนํเยว วา อภาเวน อนิมิตฺโต. ราคาทิปณิธิอาทีนํ อภาวโต อปฺปณิหิโตติ อิทมสฺส สคุณโต นามํ. สฺวายํ สุฺตํ อนิมิตฺตํ อปฺปณิหิตฺจ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรตีติ สุฺโต อนิมิตฺโต อปฺปณิหิโตติ วุจฺจติ, อิทมสฺส อารมฺมณโต นามํ. อาคมนํ ปน ทุวิธํ วิปสฺสนาคมนํ มคฺคาคมนฺจ. ตตฺถ มคฺเค วิปสฺสนาคมนํ ลพฺภติ, ผเล มคฺคาคมนํ. อนตฺตานุปสฺสนา หิ สุฺตา นาม, สุฺตวิปสฺสนาย มคฺโค สุฺโต. อนิจฺจานุปสฺสนา อนิมิตฺตา นาม, อนิมิตฺตวิปสฺสนาย มคฺโค อนิมิตฺโต. อิทํ ปน นามํ น อภิธมฺมปริยาเยน ลพฺภติ. ตถา หิ ตํ สงฺขารนิมิตฺตสฺส อวิชหนโต น นิปฺปริยาเยน อนิมิตฺตํ, สุตฺตนฺตปริยาเยน ปน ลพฺภติ. ตตฺร หิ โคตฺรภุาณํ อนิมิตฺตํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา อนิมิตฺตนามกํ หุตฺวา สยํ อาคมนิยฏฺาเน ตฺวา มคฺคสฺส นามํ เทตีติ วทนฺติ, เตน มคฺโค อนิมิตฺโตติ วุตฺโต. มคฺคาคมเนน ปน ผลํ อนิมิตฺตนฺติ ยุชฺชติเยว. ทุกฺขานุปสฺสนา สงฺขาเรสุ ปณิธึ สุกฺขาเปตฺวา อาคตตฺตา อปฺปณิหิตา นาม, อปฺปณิหิตวิปสฺสนาย มคฺโค อปฺปณิหิโต, อปฺปณิหิตมคฺคสฺส ผลํ อปฺปณิหิตํ. เอวํ วิปสฺสนา อตฺตโน นามํ มคฺคสฺส เทติ, มคฺโค ผลสฺสาติ อิทํ อาคมนโต นามํ. สุฺตฺตาติ วิวิตฺตตฺตา. น หิ มคฺเค ราคาทโย สนฺติ, อุปรูปริ อุปฺปชฺชนกราคาทีนํ การณตฺตา ราคาทโย นิมิตฺตนฺติ อาห ‘‘ราคโทสโมหนิมิตฺเตหี’’ติ. สวิคฺคหานํ วิย อุปฏฺานมฺเปตฺถ นิมิตฺตนฺติ วทนฺติ. ราคาทโยว ปวตฺติฏฺานฏฺเน ปณิธีติ อาห ‘‘ราคโทสโมหปณิธีน’’นฺติ.

วตฺถุวิชฺชาทึ สนฺธาย อวจนโต ‘‘วิชฺชานํ ลาภีมฺหี’’ติ วุตฺเตปิ โหติ. เอเกกโกฏฺาสวเสนาติ สติปฏฺานจตุกฺกาทิเอเกกโกฏฺาสวเสน. กิฺจาปิ มหาอฏฺกถายมฺปิ เอเกกโกฏฺาสวเสเนว ทสฺสิตํ, ตตฺถ ปน ‘‘โลกุตฺตรานํ สติปฏฺานาน’’นฺติอาทินา ปจฺเจกํ โลกุตฺตร-สทฺทํ โยเชตฺวา เอเกกโกฏฺาสวเสเนว วุตฺตํ, อิธ โลกุตฺตร-สทฺเทน วินาติ อยเมตฺถ วิเสโส. ตตฺถาติ เตสุ โกฏฺาเสสุ.

นนุ จ ‘‘กิเลสปฺปหานเมวา’’ติ กสฺมา วุตฺตํ. น หิ กิเลสานํ ปหานมตฺตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม โหตีติ โย วเทยฺย, ตํ สนฺธาย กิเลสปฺปหานสฺส มคฺคกิจฺจตฺตา กิจฺจวเสน มคฺโค ทีปิโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. กามราคํ สนฺธาย ‘‘ตติยมคฺเคน หิ ราคโทสานํ ปหาน’’นฺติ วุตฺตํ, น ปน รูปราคอรูปราเค สนฺธาย. น หิ เต เตน ปหียนฺติ จตุตฺถมคฺเคน ปหาตพฺพตฺตา.

ราคา จิตฺตํ วินีวรณตาติ ราคา จิตฺตสฺส วินีวรณตาติ วุตฺตํ โหติ. ราคา วิมุตฺตสฺส จิตฺตสฺส ตสฺเสว ราคนีวรณสฺส อภาเวน วิคตนีวรณตฺตา วินีวรณตาติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอส นโย เสเสสุปิ.

ยา จ ปฺจ วิชฺชาติ โยเชตพฺพํ. นิพฺพฏฺฏิตโลกุตฺตรตฺตาติ วิสุํเยว โลกโต อปคตโลกุตฺตรตฺตา. ยถา วินา โลกุตฺตร-สทฺเทน ‘‘สติปฏฺานาทีนํ ลาภีมฺหี’’ติ วุตฺเตปิ ปาราชิกํ โหติ, เอวมิธาปิ ‘‘อตฺถปฏิสมฺภิทาย ลาภีมฺหีติ วุตฺเตปิ โหติเยวา’’ติ วตฺตุํ ยุชฺชติ. กิฺจาปิ ยุชฺชติ, อถ โข มหาอฏฺกถายํ วิภาเคน วุตฺตตฺตา น สกฺกา เอวมิทํ วตฺตุนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘มหาอฏฺกถายํ ปน…เป… น สกฺกา อฺํ ปมาณํ กาตุ’’นฺติ วุตฺตํ. ตมฺปิ ตตฺเถว ปฏิกฺขิตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ.

สุทฺธิกวารกถาวณฺณนา

๒๐๐. อุลฺลปนาการนฺติ สมาปชฺชินฺติอาทิอุลฺลปนาการํ. อาปตฺติเภทนฺติ ‘‘น ปฏิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติอาทิอาปตฺติเภทํ. ปุน อาเนตฺวา ปมชฺฌานาทีหิ น โยชิตนฺติ เอตฺถ ‘‘ปมชฺฌาเนนา’’ติ ปาโติ คณฺิปเท วุตฺตํ, ตเทว ยุตฺตํ.

กตฺตุสาธโนปิ ภณิต-สทฺโท โหตีติ อาห ‘‘อถ วา’’ติอาทิ. เยน จิตฺเตน มุสา ภณติ, เตเนว จิตฺเตน น สกฺกา ‘‘มุสา ภณามี’’ติ ชานิตุํ, อนฺตรนฺตรา ปน อฺเน จิตฺเตน ‘‘มุสา ภณามี’’ติ ชานาตีติ วุตฺตํ ‘‘ภณนฺตสฺส โหติ มุสา ภณามี’’ติ. อยเมตฺถ อตฺโถ ทสฺสิโตติ ตีหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต มุสาวาโทติ อยเมตฺถ อตฺโถ ทสฺสิโต. น สกฺกา น ภวิตุนฺติ ปุพฺพภาคโต ปฏฺาย อาโภคํ กตฺวา ภณิตตฺตา น สกฺกา น ภวิตุํ. อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพติ ปุพฺพภาคกฺขเณ ‘‘มุสา ภณิสฺสามี’’ติ อาโภคํ วินา สหสา ภณนฺตสฺส วจนกฺขเณ ‘‘มุสา เอต’’นฺติ อุปฏฺิเตปิ นิวตฺเตตุมสกฺกุเณยฺยตาย อวิสยภาวโต อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ. ทวาติ สหสา. รวาติ อฺํ วตฺตุกามสฺส ขลิตฺวา อฺภณนํ.

ตํ ชานาตีติ ตําณํ, ตสฺส ภาโว ตําณตา, าณสฺส อตฺถสํเวทนนฺติ อตฺโถ. าณสโมธานนฺติ าณสฺส พหุภาโว, เอกจิตฺตุปฺปาเท อเนกาณตาติ อตฺโถ. น หิ สกฺกา…เป… ชานิตุนฺติ อารมฺมณกรณสฺส อภาวโต วุตฺตํ. อสมฺโมหาวโพโธ จ อีทิสสฺส าณสฺส นตฺถิ, ‘‘ภณิสฺสามี’’ติ ปวตฺตจิตฺตํ ‘‘ภณามี’’ติ ปวตฺตจิตฺตสฺส ปจฺจโย หุตฺวา นิรุชฺฌติ, ตฺจ ‘‘ภณิต’’นฺติ ปวตฺตจิตฺตสฺส ปจฺจโย หุตฺวาติ อาห – ‘‘ปุริมํ ปุริมํ ปน…เป… นิรุชฺฌตี’’ติ. ตสฺมึ ปุพฺพภาเค สติ ‘‘เสสทฺวยํ น เหสฺสตี’’ติ เอตํ นตฺถิ, อวสฺสํ โหติเยวาติ วุตฺตํ โหติ, ภณิสฺสามีติ ปุพฺพภาเค สติ ‘‘ภณามิ ภณิต’’นฺติ เอตํ ทฺวยํ น น โหติ, โหติเยวาติ อธิปฺปาโย. เอกํ วิย ปกาสตีติ อเนกกฺขเณ อุปฺปนฺนมฺปิ จิตฺตํ เอกกฺขเณ อุปฺปนฺนสทิสํ หุตฺวา ปกาสติ. สมาปชฺชินฺติอาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน สมาปชฺชามิ, สมาปนฺโนติ อิมานิ ทฺเว สงฺคณฺหาติ. ตตฺถ สมาปชฺชึ, สมาปนฺโนติ อิเมสํ อสติปิ กาลนานตฺเต วจนวิเสสํ สนฺธาย วิสุํ คหณํ.

๒๐๗. สกภาวปริจฺจชนวเสนาติ อตฺตโน สนฺตกภาวสฺส ปริจฺจชนวเสน. มคฺคุปฺปตฺติโต ปุพฺเพ วิย ‘‘สราโค สโทโส’’ติ วตฺตพฺพตาภาวโต จตฺตมฺปิ เกจิ คณฺหนฺติ, นยิทเมวนฺติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘วนฺโต’’ติ วุตฺตํ. น หิ ยํ เยน วนฺตํ, โส ปุน ตํ อาทิยติ. เตนาห ‘‘อนาทิยนภาวทสฺสนวเสนา’’ติ. วนฺตมฺปิ กิฺจิ สนฺตติลคฺคํ สิยา, นยิทเมวนฺติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘มุตฺโต’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘สนฺตติโต วิโมจนวเสนา’’ติ. มุตฺตมฺปิ กิฺจิ มุตฺตพนฺธนํ วิย ผลํ กุหิฺจิ ติฏฺติ, น เอวมิทนฺติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ปหีโน’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘กฺวจิ อนวฏฺานทสฺสนวเสนา’’ติ. ยถา กิฺจิ ทุนฺนิสฺสฏฺํ ปุน อาทาย สมฺมเทว นิสฺสฏฺํ ปฏินิสฺสฏฺนฺติ วุจฺจติ, เอวํ วิปสฺสนาย นิสฺสฏฺํ อาทินฺนสทิสํ มคฺเคน ปหีนํ ปฏินิสฺสฏฺํ นาม โหตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ปฏินิสฺสฏฺโ’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘อาทินฺนปุพฺพสฺส ปฏินิสฺสคฺคทสฺสนวเสนา’’ติ. อุกฺเขฏิโตติ อุตฺตาสิโต, อุตฺตาเสตฺวา ปลาปิโตติ วุตฺตํ โหติ. โย จ อุตฺตาเสตฺวา ปลาปิโต, น ปุน โส ตํ านํ อาคจฺฉตีติ อาห ‘‘ปุน อนลฺลียนภาวทสฺสนวเสนา’’ติ, ปุน อาคนฺตฺวา สนฺตาเน อนุปฺปตฺติภาวทสฺสนวเสนาติ อตฺโถ. ขิฏ-สทฺทํ สทฺทสตฺถวิทู อุตฺตาสตฺเถ ปนฺตีติ อาห – ‘‘สฺวายมตฺโถ สทฺทสตฺถโต ปริเยสิตพฺโพ’’ติ. อณุเยว อณุสหคตํ, อติขุทฺทกนฺติ วุตฺตํ โหติ.

สุทฺธิกวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

วตฺตุกามวารกถาวณฺณนา

๒๑๕. เกวลฺหิยนฺติ เกวลฺหิ อยํ. ‘‘วาโร’’ติ อชฺฌาหริตพฺพํ. ตงฺขณฺเว ชานาตีติ ‘‘ปมชฺฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติอาทิมฺหิ วุตฺเต ตทตฺถสฺส ปกติยา วิชานนลกฺขณํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอวํ ปน วจีเภทํ อกตฺวา ปกฺกมนาทีสุ อฺตโร ภิกฺขุ ‘‘มํ อรหาติ ชานาตู’’ติ ตมฺหา อาวาสา ปมํ ปกฺกมตีติ อาคตวตฺถุมฺหิ วิย ตสฺมึ ขเณ อวิทิเตปิ นิกฺขนฺตมตฺเต ปาราชิกํ. ชานนลกฺขณนฺติ ‘‘ตงฺขเณ ชานนํ นาม อีทิส’’นฺติ วุตฺตลกฺขณํ. วิฺตฺติปเถติ กายวจีวิฺตฺตีนํ คหณโยคฺเค ปเทเส, ปกติจกฺขุนา ปกติโสเตน จ ทฏฺุํ โสตุฺจ อรหฏฺาเนติ วุตฺตํ โหติ. เตน วิฺตฺติปถํ อติกฺกมิตฺวา ิโต เจ โกจิ ทิพฺเพน จกฺขุนา ทิพฺพาย จ โสตธาตุยา ทิสฺวา สุตฺวา จ ชานาติ, น ปาราชิกนฺติ ทีเปติ. อสฺสุตปุพฺพสฺส ‘‘กิมิทํ วุตฺต’’นฺติ สํสยุปฺปตฺติสพฺภาวโต ‘‘สุตํ โหตี’’ติ วุตฺตํ. ปมํ วจนมตฺตํ อสฺสุตปุพฺเพนปิ ‘‘ปมชฺฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘กิมิท’’นฺติ สนฺเทหํ อนุปฺปาเทตฺวา ‘‘ฌานํ นาม กิเรส สมาปชฺชี’’ติ เอตฺตกมตฺเตปิ าเต ปาราชิกํ โหติเยว.

อนาปตฺติเภทกถาวณฺณนา

๒๒๒. อนุลฺลปนาธิปฺปายสฺสาติ อติกฺกมิตฺวา อวตฺตุกามสฺส, ‘‘อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม อย’’นฺติ อสลฺลกฺเขนฺตสฺสาติ อธิปฺปาโย. สรูปโต ปน ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ อนุลฺลปนาธิปฺปายสฺสา’’ติ วินีตวตฺถูสุ ตตฺถ ตตฺถ อาคตวตฺถุวเสน เวทิตพฺโพ. ‘‘อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม อย’’นฺติ อสลฺลกฺเขตฺวา วทนฺโตปิ โวหารโต อฺํ พฺยากโรนฺโต นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อฺํ พฺยากโรนฺตสฺสา’’ติ.

ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

ภายนฺโตปีติ ‘‘อิมสฺส มยิ นตฺถิภาวํ อฺเปิ ชานนฺตา อตฺถิ นุ โข’’ติ ภายนฺโตปิ.

วินีตวตฺถุวณฺณนา

๒๒๓. เสกฺขภูมิยนฺติ อิมินา ฌานภูมิมฺปิ สงฺคณฺหาติ. ติณฺณํ วิเวกานนฺติ กายจิตฺตอุปธิวิเวกานํ.

ปิณฺฑาย จรณสฺส โภชนปริโยสานตฺตา วุตฺตํ ‘‘ยาว โภชนปริโยสาน’’นฺติ. ภุตฺวา อาคจฺฉนฺตสฺสปิ ปุน วุตฺตนเยเนว สมฺภาวนิจฺฉาย จีวรสณฺปนาทีนิ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว.

๒๒๕. อาราธนีโย, อาวุโส, ธมฺโม อารทฺธวีริเยนาติ วตฺถุทฺวยํ เอกสทิสมฺปิ ทฺวีหิ ภิกฺขูหิ วิสุํ วิสุํ อาโรจิตตฺตา ภควตา วินิจฺฉินิตํ สพฺพมฺปิ วินีตวตฺถูสุ อาโรเปตพฺพนฺติ ปาฬิยํ อาโรปิตํ.

๒๒๖. ปสาทภฺนฺติ เกวลํ ปสาทมตฺเตน ภณนํ, น ปน ‘‘สภาวโต เอเต อรหนฺโตเยวา’’ติ จินฺเตตฺวา. เตเนเวตฺถ อนาปตฺติ วุตฺตา. ยทิ ปน ‘‘เอเต สภาวโต อรหนฺโตเยวา’’ติ มฺมาโน ‘‘อายนฺตุ โภนฺโต อรหนฺโต’’ติอาทีนิ วทติ, น สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ.

๒๒๗. ปทสา คมนํ สนฺธาย กติกาย กตตฺตา ‘‘ยาเนน วา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิชฺชามยิทฺธึ สนฺธาย ‘‘อิทฺธิยา’’ติ วุตฺตํ. อฺมฺํ รกฺขนฺตีติ ‘‘โย อิมมฺหา อาวาสา ปมํ ปกฺกมิสฺสติ, ตํ มยํ ‘อรหา’ติ ชานิสฺสามา’’ติ เอวํ กติกาย กตตฺตา อปุพฺพาจริมํ อสุทฺธจิตฺเตน คจฺฉนฺตาปิ สห นิกฺขนฺตภาวโต อฺมฺํ รกฺขนฺติ. เกจิ ปน ‘‘หตฺถปาสํ อวิชหิตฺวา อฺมฺสฺส หตฺถํ คณฺหนฺโต วิย คจฺฉนฺโตปิ ‘อุฏฺเถ คจฺฉาม, เอถ คจฺฉามา’ติ เอวํ สํวิทหิตฺวา คมเน ปุพฺพาปรํ คจฺฉนฺโตปิ นาปชฺชตี’’ติ วทนฺติ. เอตํ ปน อธมฺมิกํ กติกวตฺตนฺติ ‘‘อิธ อรหนฺโตเยว วสนฺตูติ ยทิ ภิกฺขู กติกํ กโรนฺติ, เอตํ อธมฺมิกํ กติกวตฺต’’นฺติ จูฬคณฺิปเท วุตฺตํ. เหฏฺา วุตฺตํ ปน สพฺพมฺปิ กติกวตฺตํ สนฺธาย เอตํ วุตฺตนฺติ อมฺหากํ ขนฺติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. นานาเวรชฺชกาติ นานาชนปทวาสิโน. สงฺฆลาโภติ ยถาวุฑฺฒํ อตฺตโน ปาปุณนโกฏฺาโส. อยฺจ ปฏิกฺเขโป อิมินาว นีหาเรน พหิสีมฏฺานํ อวิเสเสน สงฺฆลาภสฺส สามิภาวาปาทนํ สนฺธาย กโต. วิเสสโต ปน พหิสีมฏฺานมฺปิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา เอเกกโกฏฺาสโต ‘‘เอตฺตกํ ทาตุํ, อีทิสํ วา ทาตุํ, เอตฺตกานํ วา ทาตุํ, อีทิสสฺส วา ทาตุํ รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’ติ อปโลกนกมฺมํ กตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ.

๒๒๘. อายสฺมา จ ลกฺขโณติอาทีสุ โก ปนายสฺมา ลกฺขโณ, กสฺมา จสฺส ลกฺขโณติ นามํ อโหสิ, โก จายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน, กสฺมา จ สิตํ ปาตฺวากาสีติ ตํ สพฺพํ ปกาเสตุํ ‘‘ยฺวาย’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ลกฺขณสมฺปนฺเนนาติ ปุริสลกฺขณสมฺปนฺเนน. พฺรหฺมสเมนาติ พฺรหฺมตฺตภาวสเมน. อีสกํ หสิตํ สิตนฺติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘มนฺทหสิต’’นฺติ. อฏฺิกสงฺขลิกนฺติ นยิทํ อวิฺาณกํ อฏฺิสงฺขลิกมตฺตํ, อถ โข เอโก เปโตติ อาห ‘‘เปตโลเก นิพฺพตฺตํ สตฺต’’นฺติ. เอเต อตฺตภาวาติ เปตตฺตภาวา. น อาปาถํ อาคจฺฉนฺตีติ เทวตฺตภาวา วิย ปกติยา อาปาถํ น อาคจฺฉนฺติ. เตสํ ปน รุจิยา อาปาถํ อาคจฺเฉยฺยุํ. มนุสฺสานํ ทุกฺขาภิภูตานํ อนาถภาวทสฺสนปทฏฺานา กรุณาติ อาห ‘‘การุฺเ กตฺตพฺเพ’’ติ. อตฺตโน จ สมฺปตฺตึ พุทฺธาณสฺส จ สมฺปตฺตินฺติ ปจฺเจกํ สมฺปตฺติ-สทฺโท โยเชตพฺโพ. ตทุภยํ วิภาเวตุํ ‘‘ตฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘อตฺตโน จ สมฺปตฺตึ อนุสฺสริตฺวา สิตํ ปาตฺวากาสี’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ธมฺมธาตูติ สพฺพฺุตฺาณํ สนฺธาย วทติ, ธมฺมธาตูติ วา ธมฺมานํ สภาโว. อุปปตฺตีติ ชาติ. อุปปตฺติสีเสน หิ ตถารูปํ อตฺตภาวํ วทติ. ทุสฺสทฺธาปยา โหนฺติ, ตทสฺส เตสํ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย. ทุสฺสทฺธาปยาติ อิทฺจ น ลกฺขณตฺเถรํ สนฺธาย วุตฺตํ, เย ปน สุณนฺติ ‘‘เอวํ กิร วุตฺต’’นฺติ, เต สนฺธาย. อถ ลกฺขณตฺเถโร กสฺมา น อทฺทส, กิมสฺส ทิพฺพจกฺขุ นตฺถีติ? โน นตฺถิ, มหาโมคฺคลฺลาโน ปน อาวชฺเชนฺโต อทฺทส, อิตโร อนาวชฺชเนน น อทฺทส.

วิตุเฑนฺตีติ วินิวิชฺฌิตฺวา เฑนฺติ, อสิธารูปเมหิ ติขิเณหิ โลหตุณฺฑเกหิ วิชฺฌิตฺวา วิชฺฌิตฺวา อิโต จิโต จ คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘วินิวิชฺฌิตฺวา คจฺฉนฺตี’’ติ. ‘‘วิตุทนฺตี’’ติ วา ปาโ. ผาสุฬนฺตริกาหีติ ภุมฺมตฺเถ นิสฺสกฺกวจนํ. โลหตุณฺฑเกหีติ โลหสลากาสทิเสหิ, กาฬโลหมเยเหว วา ตุณฺฑเกหิ. ปสาทุสฺสทาติ อิมินา อฏฺิสงฺฆาตมตฺตํ หุตฺวา ปฺายมานานมฺปิ กายปฺปสาทสฺส พลวภาวํ ทสฺเสติ. ปกฺกคณฺฑสทิสาติ อิมินา ปน อติวิย มุทุสภาวตํ ทสฺเสติ. อจฺฉริยํ วตาติ ครหนจฺฉริยํ นาเมตํ.

จกฺขุภูตาติ สมฺปตฺตทิพฺพจกฺขุกา, โลกสฺส จกฺขุภูตาติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยตฺราติ เหตุอตฺเถ นิปาโตติ อาห ‘‘ยตฺราติ การณวจน’’นฺติ. อปฺปมาเณ สตฺตนิกาเย, เต จ โข วิภาเคน กามภวาทิเภเท ภเว, นิรยาทิเภทา คติโย, นานตฺตกายนานตฺตสฺีอาทิวิฺาณฏฺิติโย, ตถารูเป สตฺตาวาเส จ สพฺพฺุตฺาณฺจ เม อุปเนตุํ ปจฺจกฺขํ กโรนฺเตน.

โคฆาตโกติ คุนฺนํ อภิณฺหํ หนนโก. เตนาห ‘‘วธิตฺวา วธิตฺวา’’ติ. ตสฺสาติ คุนฺนํ หนนกมฺมสฺส. อปราปริยกมฺมสฺสาติ อปราปริยเวทนียกมฺมสฺส. พลวตา โคฆาตกกมฺเมน วิปาเก ทียมาเน อลทฺโธกาสํ อปราปริยเวทนียํ, ตสฺมึ วิปกฺกวิปาเก อิทานิ ลทฺโธกาสํ ‘‘อวเสสกมฺม’’นฺติ วุตฺตํ. กมฺมสภาคตายาติ กมฺมสฺส สภาคภาเวน สทิสภาเวน. อารมฺมณสภาคตายาติ อารมฺมณสฺส สภาคภาเวน สทิสภาเวน. ยาทิเส หิ อารมฺมเณ ปุพฺเพ ตํ กมฺมํ ตสฺส จ วิปาโก ปวตฺโต, ตาทิเสเยว อารมฺมเณ อิทํ กมฺมํ อิมสฺส วิปาโก จ ปวตฺโตติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสนา’’ติ. ภวติ หิ ตํสทิเสปิ ตพฺโพหาโร ยถา โส เอว ติตฺติโร, ตานิเยว โอสธานีติ. ยสฺมา กมฺมสริกฺขกวิสเย ‘‘กมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา’’ติ ทฺวยเมว วุตฺตํ, ยสฺมา จ คตินิมิตฺตํ วิย กมฺมํ กมฺมนิมิตฺตฺจ กมฺมโต ภินฺนํ วิสุํ หุตฺวา น ติฏฺติ, ตสฺมา สริกฺขกวิปากทานสฺส การณภาวโต ยตฺถ กมฺมสริกฺขเกน วิปาเกน ภวิตพฺพํ, ตตฺถ กมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา คเหตฺวา ปฏิสนฺธิ โหตีติ วทนฺติ. เตเนวาห – ‘‘ตสฺส กิร…เป… นิมิตฺตํ อโหสี’’ติ. ตตฺถ นิมิตฺตํ อโหสีติ ปุพฺเพ กตูปจิตสฺส เปตูปปตฺตินิพฺพตฺตนวเสน กโตกาสสฺส ตสฺส กมฺมสฺส นิมิตฺตภูตํ อิทานิ ตถา อุปฏฺหนฺตํ ตสฺส วิปากสฺส นิมิตฺตํ อารมฺมณํ อโหสิ. โสติ โคฆาตโก. อฏฺิกสงฺขลิกเปโต ชาโต กมฺมสริกฺขกวิปากวเสน.

๒๒๙. เปสิโย กตฺวาติ คาวึ วธิตฺวา วธิตฺวา โคมํสํ ผาเลตฺวา เปสิโย กตฺวา. สุกฺขาเปตฺวาติ กาลนฺตรํ ปนตฺถํ สุกฺขาเปตฺวา. สุกฺขาปิตมํสเปสีนฺหิ วลฺลูรสมฺาติ. นิปฺปกฺขจมฺเมติ วิคตปกฺขจมฺเม. อุรพฺเภ หนฺตีติ โอรพฺภิโก. เอฬเกติ อเช. นิวาปปุฏฺเติ อตฺตนา ทินฺนนิวาเปน โปสิเต อสินา วธิตฺวา วธิตฺวา วิกฺกิณนฺโต. เอกํ มิคนฺติ ทีปกมิคํ. การณาหีติ ยาตนาหิ. ตฺวาติ กมฺมฏฺานํ ตฺวา. เปสุฺุปสํหารวเสน อิโต สุตํ อมุตฺร, อมุตฺร วา สุตํ อิธ สูเจตีติ สูจโก. อนยพฺยสนํ ปาเปสิ มนุสฺเสติ สมฺพนฺโธ.

วินิจฺฉยามจฺโจติ รฺา อฑฺฑกรเณ ปิโต วินิจฺฉยมหามตฺโต. โส หิ คามชนกายํ กูฏฏฺเน วฺเจตีติ ‘‘คามกูโฏ’’ติ วุจฺจติ. เกจิ ‘‘ตาทิโสเยว คามเชฏฺโก คามกูโฏ’’ติ วทนฺติ. สเมน ภวิตพฺพํ ธมฺมฏฺโติ วตฺตพฺพโต. รหสฺสงฺเค นิสีทนวเสน วิสมา นิสชฺชา อโหสิ. ผุสนฺโตติ เถยฺยาย ผุสนฺโต.

๒๓๐. อนิสฺสโรติ มาตุคาโม สสามิโก อตฺตโน ผสฺเส อนิสฺสโร. ธํสิตฺวาติ ภสฺสิตฺวา อปคนฺตฺวา. มงฺคนวเสน อุลตีติ มงฺคุลิ, วิรูปพีภจฺฉภาเวน ปวตฺตตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘วิรูปํ ทุทฺทสิกํ พีภจฺฉ’’นฺติ.

อุทฺธํ อุทฺธํ อคฺคินา ปกฺกสรีรตาย อุปฺปกฺกํ, เหฏฺโต ปคฺฆรณวเสน กิลินฺนสรีรตาย โอกิลินี, อิโต จิโต จ องฺคารสมฺปริกิณฺณตาย โอกิรินี. เตนาห ‘‘สา กิรา’’ติอาทิ. องฺคารจิตเกติ องฺคารสฺจเย. สรีรโต ปคฺฆรนฺติ อสุจิทุคฺคนฺธเชคุจฺฉานิ เสทคตานิ. ตสฺส กิร รฺโติ กาลิงฺคสฺส รฺโ. นาฏกินีติ นจฺจนกิจฺเจ อธิคตา อิตฺถี. เสทนฺติ เสทนํ, ตาปนนฺติ อตฺโถ.

อสีสกํ กพนฺธํ หุตฺวา นิพฺพตฺติ กมฺมายูหนกาเล ตถา นิมิตฺตคฺคหณปริจยโต. ลามกภิกฺขูติ หีนาจารตาย ลามโก, ภิกฺขุเวสตาย ภิกฺขาหาเรน ชีวนโต จ ภิกฺขุ. จิตฺตเกฬินฺติ จิตฺตรุจิยํ ตํ ตํ กีฬนฺโต. อยเมวาติ ภิกฺขุวตฺถุสฺมึ วุตฺตนโย เอว.

๒๓๑. นิสฺเสวาลปณกกทฺทโมติ ติลพีชกาทิเภเทน เสวาเลน นีลมณฺฑูกปิฏฺิวณฺเณน อุทกปิฏฺํ ฉาเทตฺวา นิพฺพตฺตปณเกน กทฺทเมน จ วิรหิโต. สุนฺทเรหิ ติตฺเถหีติ สุขาวคาหณฏฺานตาย กทฺทมาทิโทสวิรหโต จ สุนฺทเรหิ ติตฺเถหิ. ตโต อุทกทหโต ตํเหตุ, ตํ อุปนิสฺสายาติ อตฺโถ. นาคภวนคโตปิ หิ โส รหโท ตโต อุปริมนุสฺสโลเก ชลาสเยน สมฺพนฺโธ โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตโต อยํ ตโปทา สนฺทตี’’ติ. อถ วา ตโตติ นาคภวเน อุทกทหโต อยํ ตโปทา สนฺทติ. ตฺหิ อุปริภูมิตลํ อาโรหติ, อุณฺหภาเวน ตปนโต ตปํ อุทกํ เอติสฺสาติ อนฺวตฺถนามวเสน ตโปทาติ วุจฺจติ. เปตโลโกติ เปตานํ อาวาสฏฺานํ. เกจิ ปน ‘‘เปตโลโกติ โลหกุมฺภีนิรยา อิธาธิปฺเปตา’’ติ วทนฺติ, นครสฺส ปน ปริโต ปพฺพตปาทวนนฺตเรสุ พหู เปตาวาสาปิ สนฺเตว. สฺวายมตฺโถ เปตวตฺถุปาฬิยา ลกฺขณสํยุตฺเตน อิมาย จ วินีตวตฺถุปาฬิยา ทีเปตพฺโพ.

กตหตฺถาติ ถิรตรํ ลกฺเขสุ อวิรชฺฌนสรกฺเขปา. อีทิสา ปน ตตฺถ วสีภูตา กตหตฺถา นาม โหนฺติ, ตสฺมา โย สิปฺปเมว อุคฺคณฺหาติ, โส กตหตฺโถ นาม น โหติ, อิเม ปน กตหตฺถา, จิณฺณวสีภาวาติ วุตฺตํ โหติ. สิปฺปทสฺสนวเสน กตํ ราชกุลานิ อุเปจฺจ อสนํ สรกฺเขโป เอเตหีติ กตุปาสนา, ราชกุลาทีสุ ทสฺสิตสิปฺปาติ วุตฺตํ โหติ. ปภคฺโคติ ปราชิโต.

๒๓๒. โทสทสฺสน ปุพฺพก รูป วิราค ภาวนา สงฺขาต ปฏิปกฺข ภาวนาวเสน ปฏิฆสฺานํ สุปฺปหีนตฺตา มหตาปิ สทฺเทน อรูปสมาปตฺติโต น วุฏฺาติ, ตถา ปน น สุปฺปหีนตฺตา สพฺพรูปาวจรสมาปตฺติโต วุฏฺานํ สิยาติ อิธ อาเนฺชสมาธีติ จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘อเนชํ อจลํ กายวาจาวิปฺผนฺทวิรหิตํ จตุตฺถชฺฌานสมาธิ’’นฺติ. อฺตฺถ ปน สมาธิปจฺจนีกานํ อติทูรตาย น อิฺชตีติ อาเนฺโชติ อรูปาวจรสมาธิ วุจฺจติ. สมาธิปริปนฺถเก ธมฺเมติ วิตกฺกวิจาราทิเก สนฺธาย วทติ. วิตกฺกาทีสุ อาทีนวสลฺลกฺขณสฺส น สุฏฺุกตภาวํ สนฺธายาห ‘‘น สุฏฺุ ปริโสเธตฺวา’’ติ.

นนุ จายมายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภควโต ปมวสฺเสว อภินวปฺปตฺตอรหตฺโต, อิทฺจ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมปาราชิกํ วีสติมวสฺสโต อุปริ ปฺตฺตํ, กถํ อิมสฺส วตฺถุโน อิมสฺมึ ปาราชิเก ภควตา วินิจฺฉิตภาโว วุตฺโตติ? นายํ โทโส. อยฺเหตฺถ อาจริยานํ กถามคฺโค – อปฺตฺเตปิ สิกฺขาปเท เถรสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘อตฺตโน อปฺปติรูปํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ เอส วทตี’’ติ มฺมานา ภิกฺขู เถรสฺส โทสํ อาโรเปนฺตา อุชฺฌายึสุ. ภควา จ เถรสฺส ตถาวจเน การณํ ทสฺเสตฺวา นิทฺโทสภาวํ กโรนฺโต ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, โมคฺคลฺลานสฺสา’’ติ อาห. สงฺคีติการกา ปน อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาธิการตฺตา ตมฺปิ วตฺถุํ อาเนตฺวา อิธ อาโรเปสุนฺติ.

สาวกานํ อุปฺปฏิปาฏิยา อนุสฺสรณํ นตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘น อุปฺปฏิปาฏิยา’’ติ อาห. อสฺสมาปตฺตินฺติ สฺาวิราคภาวนาย วาโยกสิณนิพฺพตฺติตํ จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺตึ วทติ. ปุพฺเพนิวาสาณํ จุติปฏิสนฺธึ คณฺหนฺตมฺปิ อนนฺตรปจฺจยกฺกมวนฺตานํ อรูปธมฺมานํ วเสเนว คณฺหาตีติ อาห – ‘‘ตติเย อตฺตภาเว จุติเมว อทฺทสา’’ติ. นยโต สลฺลกฺเขสีติ วฏฺเฏ สํสรณกสตฺตานํ ขนฺธานํ อภาวกาโล นาม นตฺถิ, อสฺภเว ปน อจิตฺตกา หุตฺวา ปฺจ กปฺปสตานิ ปวตฺตนฺติ, อิมินา นเยน สลฺลกฺเขสิ. ทุกฺกรํ กตนฺติ ขนฺธวิกลสฺส ปุพฺเพนิวาสสฺส อนุสฺสรณํ เปตฺวา สมฺมาสมฺพุทฺธํ น สกฺกา อฺเหิ กาตุนฺติ นยโต สลฺลกฺเขนฺเตนปิ ทุกฺกรํ กตนฺติ อธิปฺปาโย. ปฏิวิทฺธาติ ปฏิวิทฺธสทิสา. ยถา นาม โกจิ ธนุสิปฺเป กตหตฺโถ เอกํ เกสสงฺขาตํ วาลํ สตกฺขตฺตุํ วิทาเลตฺวา ตโต เอกํ อํสุํ คเหตฺวา วาติงฺคณผลสฺส มชฺฌฏฺาเน พนฺธิตฺวา อปรํ อํสุํ กณฺฑสฺส อคฺคโกฏิยํ ยถา ตสฺส อํสุสฺส อูกามตฺตํ วา ลิกฺขามตฺตํ วา กณฺฑสฺส อคฺคโกฏิโต อธิกํ หุตฺวา ติฏฺติ, เอวํ พนฺธิตฺวา อุสภมตฺเต าเน ิโต กณฺฑพทฺธาย วาลโกฏิยา วาติงฺคณพทฺธํ วาลสฺส โกฏึ ปฏิวิชฺเฌยฺย, เอวเมว อิมินาปิ กตํ ทุกฺกรนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอตทคฺคนฺติ เอโส อคฺโค. ยทิทนฺติ โย อยํ. ลิงฺควิปลฺลาสวเสเนตํ วุตฺตํ.

วินีตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิคมนวณฺณนา

๒๓๓. อิธาติ อิมสฺมึ ภิกฺขุวิภงฺเค. อุทฺทิฏฺาติ อิธ ปาติโมกฺขวเสน อโนสาริตตฺตา จตฺตาโร ปาราชิกาว อุทฺทิฏฺา กถิตาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ยทิ เอวํ เหฏฺา ถุลฺลจฺจยทุกฺกฏานมฺปิ วุตฺตตฺตา ปาราชิกาว อุทฺทิฏฺาติ กสฺมา วุตฺตาติ? ปาราชิกาธิการตฺตา สนฺเตสุปิ ถุลฺลจฺจยทุกฺกเฏสุ อิธ ปาราชิกาว วุตฺตา. เยสํ…เป… อสํวาโสติ อิมมตฺถํ วา ทีเปตุกาโม ตํสมฺพนฺเธน ‘‘อุทฺทิฏฺา จตฺตาโร ปาราชิกา’’ติ อาห. ตตฺถายสฺมนฺเตติอาทิกํ ปน อนุฺาตปาติโมกฺขุทฺเทสกฺกโมปิ อยเมว, นาฺโติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ภิกฺขุนีนํ อสาธารณานิ จตฺตารีติ อุพฺภชาณุมณฺฑลิกา วชฺชปฏิจฺฉาทิกา อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา อฏฺวตฺถุกาติ อิมานิ จตฺตาริ ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ นาม. เอเตสุ อุพฺภชาณุมณฺฑลิกา นาม ยา กายสํสคฺคราเคน อวสฺสุตา เตเนว ราเคน อวสฺสุตสฺส มนุสฺสปุริสสฺส อกฺขกานํ อโธ ชาณุมณฺฑลานํ กปฺปรานฺจ อุปริ เยน เกนจิ สรีราวยเวน อามสนาทึ สาทิยติ, ตสฺสา อธิวจนํ. ยา ปน ภิกฺขุนี อฺิสฺสา ภิกฺขุนิยา ปาราชิกสงฺขาตํ วชฺชํ ชานํ ปฏิจฺฉาเทติ, สา วชฺชปฏิจฺฉาทิกา นาม. สมคฺเคน ปน สงฺเฆน อุกฺขิตฺตํ ภิกฺขุํ ยา ภิกฺขุนี ยํทิฏฺิโก โส โหติ, ตสฺสา ทิฏฺิยา คหณวเสน อนุวตฺตติ, สา อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา นาม. ยา ปน กายสํสคฺคราเคน ตินฺตา ตถาวิธสฺเสว ปุริสสฺส หตฺถคฺคหณํ วา สงฺฆาฏิกณฺณคฺคหณํ วา สาทิยติ, กายสํสคฺคสงฺขาตสฺส อสทฺธมฺมสฺส ปฏิเสวนตฺถาย ปุริสสฺส หตฺถปาเส สนฺติฏฺติ วา, ตตฺถ ตฺวา สลฺลปติ วา, สงฺเกตํ วา คจฺฉติ, ปุริสสฺส อาคมนํ วา สาทิยติ, เกนจิ วา ปฏิจฺฉนฺโนกาสํ ปวิสติ, หตฺถปาเส วา ตฺวา กายํ อุปสํหรติ, อยํ อฏฺวตฺถุกา นามาติ เวทิตพฺพํ.

วตฺถุวิปนฺนาติ ปพฺพชฺชุปสมฺปทาย อวตฺถุภาวโต วตฺถุวิปนฺนา. เนสฺหิ ‘‘น, ภิกฺขเว, ปณฺฑโก ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทินา ปพฺพชฺชา อุปสมฺปทา จ ปฏิกฺขิตฺตา. ตสฺมา เต ภิกฺขุภาวาย อภพฺพตฺตา ปาราชิกาปนฺนสทิสตาย ‘‘ปาราชิกา’’ติ วุตฺตา. ตพฺภาวภาวิตาย ภิกฺขุภาโว วสติ เอตฺถาติ วตฺถุ, ปุคฺคลานํ ภิกฺขุภาวารหตา. สา ปน ปพฺพชฺชกฺขนฺธกาคตสพฺพโทสวิรหิตสมฺปตฺติยุตฺตตา. ตํ วิปนฺนํ ปณฺฑกภาวาทิโยเคน เยสํ เต วตฺถุวิปนฺนา. อเหตุกปฏิสนฺธิกาติ อิมินา เตสํ วิปากาวรเณน สมนฺนาคตภาวํ ทสฺเสนฺโต มคฺคาวรเณ การณมาห. ปาราชิกาปนฺนสทิสตฺตา ปาราชิกา. เถยฺยสํวาสกาทิกมฺมํ มาตุฆาตาทิกํ วิย อานนฺตริยํ น โหตีติ อาห ‘‘อิเมสํ ติณฺณํ สคฺโค อวาริโต’’ติ.

ทีฆตาย ลมฺพมานํ องฺคชาตเมตสฺสาติ ลมฺพี. โส เอตฺตาวตา น ปาราชิโก, อถ โข ยทา อนภิรติยา ปีฬิโต อตฺตโน องฺคชาตํ มุเข วา วจฺจมคฺเค วา ปเวเสติ, ตทา ปาราชิโก โหติ. มุทุ ปิฏฺิ เอตสฺสาติ มุทุปิฏฺิโก, กตปริกมฺมาย มุทุกาย ปิฏฺิยา สมนฺนาคโต. โสปิ ยทา อนภิรติยา ปีฬิโต อตฺตโน องฺคชาตํ อตฺตโน มุขวจฺจมคฺเคสุ อฺตรํ ปเวเสติ, ตทา ปาราชิโก โหติ. ปรสฺส องฺคชาตํ อตฺตโน มุเขน คณฺหาตีติ โย อนภิรติยา ปีฬิโต ปรสฺส สุตฺตสฺส วา ปมตฺตสฺส วา องฺคชาตํ อตฺตโน มุเขน คณฺหาติ. ปรสฺส องฺคชาเต อภินิสีทตีติ โย อนภิรติยา ปีฬิโต ปรสฺส องฺคชาตํ กมฺมนิยํ ทิสฺวา อตฺตโน วจฺจมคฺเคน ตสฺสูปริ นิสีทติ, ตํ อตฺตโน วจฺจมคฺคํ ปเวเสตีติ อตฺโถ.

เอตฺถาห – มาตุฆาตกปิตุฆาตกอรหนฺตฆาตกา ตติยปาราชิกํ อาปนฺนา, ภิกฺขุนีทูสโก ลมฺพีอาทโย จตฺตาโร ปมปาราชิกํ อาปนฺนา เอวาติ กถํ จตุวีสตีติ? วุจฺจเต – มาตุฆาตกาทโย หิ จตฺตาโร อิธ อนุปสมฺปนฺนา เอว อธิปฺเปตา, ลมฺพีอาทโย จตฺตาโร กิฺจาปิ ปมปาราชิเกน สงฺคหิตา, ยสฺมา ปน เอเตน ปริยาเยน เมถุนํ ธมฺมํ อปฺปฏิเสวิโน โหนฺติ, ตสฺมา วิสุํ วุตฺตาติ. เอเตน ปริยาเยนาติ อุภินฺนํ ราคปริยุฏฺานสงฺขาเตน ปริยาเยน. ทุติยวิกปฺเป กจฺจิตฺถาติ เอตฺถ กจฺจิ อตฺถาติ ปทจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.

นิคมนวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย สารตฺถทีปนิยํ

จตุตฺถปาราชิกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สงฺฆาทิเสสกณฺฑํ

๑. สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทวณฺณนา

อิทานิ ปาราชิกสํวณฺณนาสมนนฺตรา ยา เตรสกาทิสํวณฺณนา สมารทฺธา, ตสฺสาปิ –

อนากุลา อสนฺเทหา, ปริปุณฺณวินิจฺฉยา;

อตฺถพฺยฺชนสมฺปนฺนา, โหติ สารตฺถทีปนี.

เตรสกสฺสาติ เตรส สิกฺขาปทานิ ปริมาณานิ อสฺส กณฺฑสฺสาติ เตรสกํ, ตสฺส เตรสกสฺส กณฺฑสฺสาติ อตฺโถ.

๒๓๔. อนภิรโตติ อฺตฺถ คิหิภาวํ ปตฺถยมาโน วุจฺจติ, อิธ ปน กามราควเสน อุกฺกณฺิตตาย วิกฺขิตฺตจิตฺตตาย สมนฺนาคโต อธิปฺเปโตติ อาห วิกฺขิตฺตจิตฺโตติอาทิ.

๒๓๖-๒๓๗. สฺเจตนิกาติ เอตฺถ สํ-สทฺโท วิชฺชมานตฺถตาย สาตฺถโกติ ทสฺเสนฺโต อาห สํวิชฺชติ เจตนา อสฺสาติ. ตตฺถ เจตนาติ วีติกฺกมวสปฺปวตฺตา ปุพฺพภาคเจตนา. อสฺสาติ สุกฺกวิสฺสฏฺิยา. อิมสฺมึ วิกปฺเป อิก-สทฺทสฺส วิสุํ อตฺโถ นตฺถีติ อาห สฺเจตนาว สฺเจตนิกาติ. อิทานิ สํ-สทฺทสฺส อตฺถํ อนเปกฺขิตฺวา อิก-สทฺโทว อสฺสตฺถิอตฺถํ ปกาเสตีติ ทสฺเสนฺโต สฺเจตนา วา อสฺสา อตฺถีติ สฺเจตนิกาติ ทุติยวิกปฺปมาห. สํวิชฺชติ เจตนา อสฺสาติ ปทภาชเน วตฺตพฺเพ พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวา ชานนฺโตติอาทิ วุตฺตํ. อุปกฺกมามีติ ชานนฺโตติ โมจนตฺถํ อุปกฺกมามีติ ชานนฺโต.

อาสยเภทโตติ ปิตฺตาทิอาสยเภทโต. พุทฺธปจฺเจกพุทฺธานมฺปิ หิ รฺโปิ จกฺกวตฺติสฺส ปิตฺตเสมฺหปุพฺพโลหิตาสเยสุ จตูสุ อฺตโร อาสโย โหติเยว, มนฺทปฺานํ ปน จตฺตาโรปิ อาสยา โหนฺติ. ธาตุนานตฺตโตติ ปถวีธาตุอาทีนํ จตุนฺนํ ธาตูนํ, จกฺขาทีนํ วา อฏฺารสนฺนํ ธาตูนํ, รสโสณิตาทีนํ วา ธาตูนํ นานตฺตโต.

วตฺถิสีสนฺติ วตฺถิปุฏสฺส อพฺภนฺตเร มตฺถกปสฺสํ. ‘‘ราค…เป… อสกฺโกนฺโต’’ติ ราคปริยุฏฺานํ สนฺธาย วุตฺตํ. ราชา ปน ‘‘สมฺภวสฺส สกลกาโย าน’’นฺติ สุตปุพฺพตฺตา วีมํสนตฺถํ เอวมกาสีติ วทนฺติ. ทกโสตนฺติ มุตฺตมคฺคํ, องฺคชาตปฺปเทสนฺติ วุตฺตํ โหติ. ทกโสโตโรหณโต ปฏฺาย ปน อุปาทินฺนโต วินิมุตฺตตาย สมฺภเว อุตุสมุฏฺานเมว รูปํ อวสิสฺสติ, เสสํ ติสมุฏฺานํ นตฺถีติ เวทิตพฺพํ. อาโปธาตุยา สนฺตานวเสน ปวตฺตมานาย อวตฺถาวิเสโส สมฺภโว, โส จตุสมุฏฺานิโก อฏฺกถายํ จตุสมุฏฺานิเกสุ สมฺภวสฺส วุตฺตตฺตา. โส ปน โสฬสวสฺสกาเล อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ราควเสน านาจาวนํ โหตีติ วทนฺติ, ตสฺมา ยํ วุตฺตํ กถาวตฺถุอฏฺกถายํ ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺิ นาม ราคสมุฏฺานา โหตี’’ติ, ตํ สมฺภวสฺส านาจาวนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ, น ปน สมฺภโว จิตฺตสมุฏฺาโนเยวาติ ทีเปตุํ, เตเนว ตตฺถ วิสฺสฏฺิคฺคหณํ กตํ. ‘‘ขีณาสวานํ ปน พฺรหฺมานฺจ สมฺภโว นตฺถี’’ติ อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน วุตฺตํ, ตสฺมา ยํ วุตฺตํ กถาวตฺถุอฏฺกถายํ (กถา. อฏฺ. ๓๐๗) ‘‘ตาสํ เทวตานํ สุกฺกวิสฺสฏฺิ นาม นตฺถี’’ติ, ตมฺปิ านาจาวนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ, น ปน เทวตานํ สพฺพโส สมฺภวสฺส อภาวํ สนฺธาย. ฉนฺนมฺปิ ปน กามาวจรเทวตานํ กามา ปากติกาเยว. มนุสฺสา วิย หิ เต ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติวเสเนว เมถุนํ ปฏิเสวนฺติ, เกวลํ ปน นิสฺสนฺทาภาโว เตสํ วตฺตพฺโพ. ตงฺขณิกปริฬาหวูปสมาวหํ สมฺผสฺสสุขเมว หิ เตสํ กามกิจฺจํ. เกจิ ปน ‘‘จาตุมหาราชิกตาวตึสานํเยว ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติยา กามกิจฺจํ อิชฺฌติ, ยามานํ อฺมฺํ อาลิงฺคนมตฺเตน, ตุสิตานํ หตฺถามสนมตฺเตน, นิมฺมานรตีนํ หสิตมตฺเตน, ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ โอโลกิตมตฺเตน กามกิจฺจํ อิชฺฌตี’’ติ วทนฺติ, ตํ อฏฺกถายํ ปฏิกฺขิตฺตํ ตาทิสสฺส กาเมสุ วิรชฺชนสฺส เตสุ อภาวโต กามานฺจ อุตฺตรุตฺตริ ปณีตตรปณีตตมภาวโต.

ตเถวาติ ‘‘โมจนสฺสาเทน นิมิตฺเต อุปกฺกมโต’’ติอาทึ อติทิสติ. ‘‘วิสฺสฏฺีติ านโต จาวนา วุจฺจตี’’ติ วุตฺตตฺตา ทกโสตํ โอติณฺณมตฺเตติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ทกโสโตโรหณฺเจตฺถาติอาทิ. เอตฺถาติ ตีสุปิ วาเทสุ. อธิวาเสตฺวาติ นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา ปุน วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน อธิวาเสตฺวา. อนฺตรา นิวาเรตุนฺติ านโต จุตํ ทกโสตํ โอตริตุํ อทตฺวา อนฺตรา นิวาเรตุํ. เตนาห – านา จุตฺหิ อวสฺสํ ทกโสตํ โอตรตีติ. านาจาวนมตฺเตเนวาติ ทกโสตํ อโนติณฺเณปีติ อธิปฺปาโย. เอตฺถ จ ‘‘สกโล กาโย าน’’นฺติ วาเท านาจาวนํ วทนฺเตน สกลสรีรโต จุตสฺสปิ ทกโสโตโรหณโต ปุพฺเพ อปฺปมตฺตกสฺส อนฺตราฬสฺส สมฺภวโต วุตฺตํ. สกลสรีเร วา ตสฺมึ ตสฺมึ ปเทเส ิตสฺส านา จุตํ สนฺธาย ‘‘านาจาวนมตฺเตเนวา’’ติ วุตฺตํ. นิมิตฺเต อุปกฺกมนฺตสฺเสวาติ โมจนสฺสาเทน อุปกฺกมนฺตสฺส. หตฺถปริกมฺมาทีสุ สติปิ โมจนสฺสาเท นิมิตฺเต อุปกฺกมาภาวโต นตฺถิ อาปตฺตีติ อาห ‘‘หตฺตปริกมฺม…เป… อนาปตฺตี’’ติ. อยํ สพฺพาจริยสาธารณวินิจฺฉโยติ ‘‘ทกโสโตโรหณฺเจตฺถา’’ติอาทินา วุตฺโต ติณฺณมฺปิ อาจริยานํ สาธารโณ วินิจฺฉโย.

โขภกรณปจฺจโย นาม วิสภาคเภสชฺชเสนาสนาหาราทิปจฺจโย. อตฺถกามตาย วา อนตฺถกามตาย วาติ ปสนฺนา อตฺถกามตาย, กุทฺธา อนตฺถกามตาย. อตฺถาย วา อนตฺถาย วาติ สภาวโต ภวิตพฺพาย อตฺถาย วา อนตฺถาย วา. อุปสํหรนฺตีติ อตฺตโน เทวานุภาเวน อุปเนนฺติ. โพธิสตฺตมาตา วิย ปุตฺตปฏิลาภนิมิตฺตนฺติ ตทา กิร ปุเร ปุณฺณมาย สตฺตมทิวสโต ปฏฺาย วิคตสุราปานํ มาลาคนฺธาทิวิภูติสมฺปนฺนํ นกฺขตฺตกีฬํ อนุภวมานา โพธิสตฺตมาตา สตฺตเม ทิวเส ปาโตว อุฏฺาย คนฺโธทเกน นฺหายิตฺวา สพฺพาลงฺการวิภูสิตา วรโภชนํ ภุฺชิตฺวา อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา สิริสยเน นิปนฺนา นิทฺทํ โอกฺกมมานา อิมํ สุปินํ อทฺทส – จตฺตาโร กิร นํ มหาราชาโน สยเนเนว สทฺธึ อุกฺขิปิตฺวา อโนตตฺตทหํ เนตฺวา นฺหาเปตฺวา ทิพฺพวตฺถํ นิวาเสตฺวา ทิพฺพคนฺเธหิ วิลิมฺเปตฺวา ทิพฺพปุปฺผานิ ปิฬนฺธิตฺวา ตโต อวิทูเร รชตปพฺพโต, ตสฺส อนฺโต กนกวิมานํ อตฺถิ, ตสฺมึ ปาจีนโต สีสํ กตฺวา นิปชฺชาเปสุํ. อถ โพธิสตฺโต เสตวรวารโณ หุตฺวา ตโต อวิทูเร เอโก สุวณฺณปพฺพโต, ตตฺถ จริตฺวา ตโต โอรุยฺห รชตปพฺพตํ อภิรุหิตฺวา กนกวิมานํ ปวิสิตฺวา มาตรํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ทกฺขิณปสฺสํ ผาเลตฺวา กุจฺฉึ ปวิฏฺสทิโส อโหสิ. อิมํ สุปินํ สนฺธาย เอตํ วุตฺตํ ‘‘โพธิสตฺตมาตา วิย ปุตฺตปฏิลาภนิมิตฺต’’นฺติ.

ปฺจ มหาสุปิเนติ (อ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๑๙๖) มหนฺเตหิ ปุริเสหิ ปสฺสิตพฺพโต มหนฺตานฺจ อตฺถานํ นิมิตฺตภาวโต มหาสุปิเน. เต ปน ปฺจ มหาสุปิเน เนว โลกิยมหาชโน ปสฺสติ, น มหาราชาโน, น จกฺกวตฺติราชาโน, น อคฺคสาวกา, น ปจฺเจกพุทฺธา, น สมฺมาสมฺพุทฺธา, เอโก สพฺพฺุโพธิสตฺโตเยว ปสฺสติ. เตน วุตฺตํ ‘‘โพธิสตฺโต วิย ปฺจ มหาสุปิเน’’ติ. อมฺหากฺจ ปน โพธิสตฺโต กทา เต สุปิเน ปสฺสีติ? ‘‘สฺเว พุทฺโธ ภวิสฺสามี’’ติ จาตุทฺทสิยํ ปกฺขสฺส รตฺติวิภายนกาเล ปสฺสิ. กาลวเสน หิ ทิวา ทิฏฺโ สุปิโน น สเมติ, ตถา ปมยาเม มชฺฌิมยาเม จ. ปจฺฉิมยาเม พลวปจฺจูเส ปน อสิตปีตสายิเต สมฺมาปริณามคเต กายสฺมึ โอชาย ปติฏฺิตาย อรุเณ อุคฺคจฺฉมาเน ทิฏฺสุปิโน สเมติ. อิฏฺนิมิตฺตํ สุปินํ ปสฺสนฺโต อิฏฺํ ปฏิลภติ, อนิฏฺนิมิตฺตํ ปสฺสนฺโต อนิฏฺํ, ตสฺมา โพธิสตฺโตปิ สุปินํ ปสฺสนฺโต รตฺติวิภายนกาเล ปสฺสิ.

เก ปน เต ปฺจ มหาสุปินาติ? ตถาคตสฺส อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปุพฺเพว สมฺโพธา อนภิสมฺพุทฺธสฺส โพธิสตฺตสฺเสว สโต ปฺจ มหาสุปินา ปาตุรเหสุํ (อ. นิ. ๕.๑๙๖) – อยํ มหาปถวี มหาสยนํ อโหสิ, หิมวา ปพฺพตราชา พิมฺโพหนํ อโหสิ, ปุรตฺถิเม สมุทฺเท วามหตฺโถ โอหิโต อโหสิ, ปจฺฉิเม สมุทฺเท ทกฺขิณหตฺโถ โอหิโต อโหสิ, ทกฺขิณสมุทฺเท อุโภ ปาทา โอหิตา อเหสุํ, อยํ ปโม มหาสุปิโน ปาตุรโหสิ.

ปุน จปรํ ทพฺพติณสงฺขาตา ติริยา นาม ติณชาติ นงฺคลมตฺเตน รตฺตทณฺเฑน นาภิโต อุคฺคนฺตฺวา ตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว วิทตฺถิมตฺตํ รตนมตฺตํ พฺยามมตฺตํ ยฏฺิมตฺตํ คาวุตมตฺตํ อฑฺฒโยชนมตฺตํ โยชนมตฺตนฺติ เอวํ อุคฺคนฺตฺวา อเนกโยชนสหสฺสํ นภํ อาหจฺจ ิตา อโหสิ, อยํ ทุติโย มหาสุปิโน ปาตุรโหสิ.

ปุน จปรํ เสตา กิมี กณฺหสีสา ปาเทหิ อุสฺสกฺกิตฺวา ยาว ชาณุมณฺฑลา ปฏิจฺฉาเทสุํ, อยํ ตติโย มหาสุปิโน ปาตุรโหสิ.

ปุน จปรํ จตฺตาโร สกุณา นานาวณฺณา จตูหิ ทิสาหิ อาคนฺตฺวา ปาทมูเล นิปติตฺวา สพฺพเสตา สมฺปชฺชึสุ, อยํ จตุตฺโถ มหาสุปิโน ปาตุรโหสิ.

ปุน จปรํ โพธิสตฺโต มหโต มีฬฺหปพฺพตสฺส อุปรูปริ จงฺกมติ อลิปฺปมาโน มีฬฺเหน, อยํ ปฺจโม มหาสุปิโน ปาตุรโหสิ. อิเม ปฺจ มหาสุปินา.

ตตฺถ ปโม อนุตฺตราย สมฺมาสมฺโพธิยา ปุพฺพนิมิตฺตํ, ทุติโย อริยสฺส อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺส เทวมนุสฺเสสุ สุปฺปกาสิตภาวสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ตติโย พหูนํ โอทาตวสนานํ คิหีนํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา สรณคมนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, จตุตฺโถ ขตฺติยาทีนํ จตุนฺนํ วณฺณานํ ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตฺวา อนุตฺตรวิมุตฺติสจฺฉิกิริยาย ปุพฺพนิมิตฺตํ, ปฺจโม จตุนฺนํ ปจฺจยานํ ลาภิตาย เตสุ จ อนุปลิตฺตภาวสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ.

อปิจ ยํ โส จกฺกวาฬมหาปถวึ สิริสยนภูตํ อทฺทส, ตํ พุทฺธภาวสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ยํ หิมวนฺตํ ปพฺพตราชานํ พิมฺโพหนํ อทฺทส, ตํ สพฺพฺุตฺาณพิมฺโพหนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ยํ จตฺตาโร หตฺถปาเท สมุทฺทสฺส อุปรูปริภาเคน คนฺตฺวา จกฺกวาฬมตฺถเก ิเต อทฺทส, ตํ ธมฺมจกฺกสฺส อปฺปฏิวตฺติยภาเว ปุพฺพนิมิตฺตํ. ยํ อตฺตานํ อุตฺตานกํ นิปนฺนํ อทฺทส, ตํ ตีสุ ภเวสุ อวกุชฺชานํ สตฺตานํ อุตฺตานมุขภาวสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ยํ อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา ปสฺสนฺโต วิย อโหสิ, ตํ ทิพฺพจกฺขุปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ยํ ยาว ภวคฺคา เอกาโลกํ อโหสิ, ตํ อนาวรณาณสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. เสสํ วุตฺตนยเมว. อิติ ตํตํวิเสสาธิคมนิมิตฺตภูเต ปฺจ มหาสุปิเน ปสฺสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘โพธิสตฺโต วิย ปฺจ มหาสุปิเน’’ติ.

โกสลราชา วิย โสฬส สุปิเนติ –

‘‘อุสภา รุกฺขา คาวิโย ควา จ,

อสฺโส กํโส สิงฺคาลี จ กุมฺโภ;

โปกฺขรณี จ อปากจนฺทนํ,

ลาพูนิ สีทนฺติ สิลา ปฺลวนฺติ.

‘‘มณฺฑูกิโย กณฺหสปฺเป คิลนฺติ,

กากํ สุวณฺณา ปริวารยนฺติ;

ตสา วกา เอฬกานํ ภยา หี’’ติ. (ชา. ๑.๑.๗๗) –

อิเม โสฬส สุปิเน ปสฺสนฺโต โกสลราชา วิย.

. เอกทิวสํ กิร โกสลราชา รตฺตึ นิทฺทูปคโต ปจฺฉิมยาเม โสฬส สุปิเน ปสฺสิ (ชา. อฏฺ. ๑.๑.มหาสุปินชาตกวณฺณนา). ตตฺถ จตฺตาโร อฺชนวณฺณา กาฬอุสภา ‘‘ยุชฺฌิสฺสามา’’ติ จตูหิ ทิสาหิ ราชงฺคณํ อาคนฺตฺวา ‘‘อุสภยุทฺธํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ มหาชเน สนฺนิปติเต ยุชฺฌนาการํ ทสฺเสตฺวา นทิตฺวา คชฺชิตฺวา อยุชฺฌิตฺวาว ปฏิกฺกนฺตา. อิมํ ปมํ สุปินํ อทฺทส.

. ขุทฺทกา รุกฺขา เจว คจฺฉา จ ปถวึ ภินฺทิตฺวา วิทตฺถิมตฺตมฺปิ รตนมตฺตมฺปิ อนุคฺคนฺตฺวาว ปุปฺผนฺติ เจว ผลนฺติ จ. อิมํ ทุติยํ อทฺทส.

. คาวิโย ตทหุชาตานํ วจฺฉานํ ขีรํ ปิวนฺติโย อทฺทส. อยํ ตติโย สุปิโน.

. ธุรวาเห อาโรหปริณาหสมฺปนฺเน มหาโคเณ ยุคปรมฺปราย อโยเชตฺวา ตรุเณ โคทมฺเม ธุเร โยเชนฺเต อทฺทส, เต ธุรํ วหิตุํ อสกฺโกนฺตา ฉฑฺเฑตฺวา อฏฺํสุ, สกฏานิ นปฺปวตฺตึสุ. อยํ จตุตฺโถ สุปิโน.

. เอกํ อุภโตมุขํ อสฺสํ อทฺทส, ตสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ ยวสีสํ เทนฺติ, โส ทฺวีหิปิ มุเขหิ ขาทติ. อยํ ปฺจโม สุปิโน.

. มหาชโน สตสหสฺสคฺฆนกํ สุวณฺณปาตึ สมฺมชฺชิตฺวา ‘‘อิธ ปสฺสาวํ กโรหี’’ติ เอกสฺส ชรสิงฺคาลสฺส อุปนาเมสิ, ตํ ตตฺถ ปสฺสาวํ กโรนฺตํ อทฺทส. อยํ ฉฏฺโ สุปิโน.

. เอโก ปุริโส รชฺชุํ วฏฺเฏตฺวา ปาทมูเล นิกฺขิปติ, เตน นิสินฺนปีสฺส เหฏฺา สยิตา ฉาตสิงฺคาลี ตสฺส อชานนฺตสฺเสว ตํ ขาทติ. อิมํ สตฺตมํ สุปินํ อทฺทส.

. ราชทฺวาเร พหูหิ ตุจฺฉกุมฺเภหิ ปริวาเรตฺวา ปิตํ เอกํ มหนฺตํ ปูริตกุมฺภํ อทฺทส, จตฺตาโรปิ ปน วณฺณา จตูหิ ทิสาหิ จตูหิ อนุทิสาหิ จ ฆเฏหิ อุทกํ อาหริตฺวา ปูริตกุมฺภเมว ปูเรนฺติ, ปูริตปูริตํ อุทกํ อุตฺตริตฺวา ปลายติ, เตปิ ปุนปฺปุนํ ตตฺเถว อุทกํ อาสิฺจนฺติ, ตุจฺฉกุมฺเภ โอโลเกนฺตาปิ นตฺถิ. อยํ อฏฺโม สุปิโน.

. เอกํ ปฺจปทุมสฺฉนฺนํ คมฺภีรํ สพฺพโตติตฺถํ โปกฺขรณึ อทฺทส, สมนฺตโต ทฺวิปทจตุปฺปทา โอตริตฺวา ตตฺถ ปานียํ ปิวนฺติ, ตสฺสา มชฺเฌ คมฺภีรฏฺาเน อุทกํ อาวิลํ, ตีรปฺปเทเส ทฺวิปทจตุปฺปทานํ อกฺกมนฏฺาเน อจฺฉํ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ. อยํ นวโม สุปิโน.

๑๐. เอกิสฺสาเยว จ กุมฺภิยา ปจฺจมานํ โอทนํ อปากํ อทฺทส, ‘‘อปาก’’นฺติ วิจาเรตฺวา วิภชิตฺวา ปิตํ วิย ตีหากาเรหิ ปจฺจมานํ เอกสฺมึ ปสฺเส อติกิลินฺโน โหติ, เอกสฺมึ อุตฺตณฺฑุโล, เอกสฺมึ สุปกฺโกติ. อยํ ทสโม สุปิโน.

๑๑. สตสหสฺสคฺฆนกํ จนฺทนสารํ ปูติตกฺเกน วิกฺกิณนฺเต อทฺทส. อยํ เอกาทสโม สุปิโน.

๑๒. ตุจฺฉลาพูนิ อุทเก สีทนฺตานิ อทฺทส. อยํ ทฺวาทสโม สุปิโน.

๑๓. มหนฺตมหนฺตา กูฏาคารปฺปมาณา ฆนสิลา นาวา วิย อุทเก ปฺลวมานา อทฺทส. อยํ เตรสโม สุปิโน.

๑๔. ขุทฺทกมธุกปุปฺผปฺปมาณา มณฺฑูกิโย มหนฺเต กณฺหสปฺเป เวเคน อนุพนฺธิตฺวา อุปฺปลนาเฬ วิย ฉินฺทิตฺวา มํสํ ขาทิตฺวา คิลนฺติโย อทฺทส. อยํ จุทฺทสโม สุปิโน.

๑๕. ทสหิ อสทฺธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ คามโคจรํ กากํ กฺจนวณฺณวณฺณตาย ‘‘สุวณฺณา’’ติ ลทฺธนาเม สุวณฺณราชหํเส ปริวาเรนฺเต อทฺทส. อยํ ปนฺนรสโม สุปิโน.

๑๖. ปุพฺเพ ทีปิโน เอฬเก ขาทนฺติ, เต ปน เอฬเก ทีปิโน อนุพนฺธิตฺวา มุรามุราติ ขาทนฺเต อทฺทส, อถฺเ ตสา วกา เอฬเก ทูรโตว ทิสฺวา ตสิตา ตาสปฺปตฺตา หุตฺวา เอฬกานํ ภยา ปลายิตฺวา คุมฺพคหนานิ ปวิสิตฺวา นิลียึสุ. อยํ โสฬสโม สุปิโน.

. ตตฺถ อธมฺมิกานํ ราชูนํ อธมฺมิกานฺจ มนุสฺสานํ กาเล โลเก วิปริวตฺตมาเน กุสเล โอสนฺเน อกุสเล อุสฺสนฺเน โลกสฺส ปริหีนกาเล เทโว น สมฺมา วสฺสิสฺสติ, เมฆปาทา ฉิชฺชิสฺสนฺติ, สสฺสานิ มิลายิสฺสนฺติ, ทุพฺภิกฺขํ ภวิสฺสติ, วสฺสิตุกามา วิย จตูหิ ทิสาหิ เมฆา อุฏฺหิตฺวา อิตฺถิกาหิ อาตเป ปตฺถฏานํ วีหิอาทีนํ เตมนภเยน อนฺโต ปเวสิตกาเล ปุริเสสุ กุทาลปิฏเก อาทาย อาฬิพนฺธนตฺถาย นิกฺขนฺเตสุ วสฺสนาการํ ทสฺเสตฺวา คชฺชิตฺวา วิชฺชุลตา นิจฺฉาเรตฺวา อุสภา วิย อยุชฺฌิตฺวา อวสฺสิตฺวาว ปลายิสฺสนฺติ. อยํ ปมสฺส วิปาโก.

. โลกสฺส ปริหีนกาเล มนุสฺสานํ ปริตฺตายุกกาเล สตฺตา ติพฺพราคา ภวิสฺสนฺติ, อสมฺปตฺตวยาว กุมาริโย ปุริสนฺตรํ คนฺตฺวา อุตุนิโย เจว คพฺภินิโย จ หุตฺวา ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒิสฺสนฺติ. ขุทฺทกรุกฺขานํ ปุปฺผํ วิย หิ ตาสํ อุตุนิภาโว, ผลํ วิย จ ปุตฺตธีตโร ภวิสฺสนฺติ. อยํ ทุติยสฺส วิปาโก.

. มนุสฺสานํ เชฏฺาปจายิกกมฺมสฺส นฏฺกาเล สตฺตา มาตาปิตูสุ วา สสฺสุสสุเรสุ วา ลชฺชํ อนุปฏฺเปตฺวา สยเมว กุฏุมฺพํ สํวิทหนฺตาว ฆาสจฺฉาทนมตฺตมฺปิ มหลฺลกานํ ทาตุกามา ทสฺสนฺติ, อทาตุกามา น ทสฺสนฺติ, มหลฺลกา อนาถา หุตฺวา อสยํวสี ทารเก อาราเธตฺวา ชีวิสฺสนฺติ ตทหุชาตานํ วจฺฉานํ ขีรํ ปิวนฺติโย มหาคาวิโย วิย. อยํ ตติยสฺส วิปาโก.

. อธมฺมิกราชูนํ กาเล อธมฺมิกราชาโน ปณฺฑิตานํ ปเวณิกุสลานํ กมฺมนิตฺถรณสมตฺถานํ มหามตฺตานํ ยสํ น ทสฺสนฺติ, ธมฺมสภายํ วินิจฺฉยฏฺาเนปิ ปณฺฑิเต โวหารกุสเล มหลฺลเก อมจฺเจ น เปสฺสนฺติ. ตพฺพิปรีตานํ ปน ตรุณตรุณานํ ยสํ ทสฺสนฺติ, ตถารูเป เอว จ วินิจฺฉยฏฺาเน เปสฺสนฺติ, เต ราชกมฺมานิ เจว ยุตฺตายุตฺตฺจ อชานนฺตา เนว ตํ ยสํ อุกฺขิปิตุํ สกฺขิสฺสนฺติ, น ราชกมฺมานิ นิตฺถริตุํ, เต อสกฺโกนฺตา กมฺมธุรํ ฉฑฺเฑสฺสนฺติ, มหลฺลกาปิ ปณฺฑิตา อมจฺจา ยสํ อลภนฺตา กิจฺจานิ นิตฺถริตุํ สมตฺถาปิ ‘‘กึ อมฺหากํ เอเตหิ, มยํ พาหิรกา ชาตา, อพฺภนฺตริกา ตรุณทารกา ชานิสฺสนฺตี’’ติ อุปฺปนฺนานิ กมฺมานิ น กริสฺสนฺติ, เอวํ สพฺพถาปิ เตสํ ราชูนํ หานิเยว ภวิสฺสติ, ธุรํ วหิตุํ อสมตฺถานํ วจฺฉทมฺมานํ ธุเร โยชิตกาโล วิย, ธุรวาหานฺจ มหาโคณานํ ยุคปรมฺปราย อโยชิตกาโล วิย ภวิสฺสติ. อยํ จตุตฺถสฺส วิปาโก.

. อธมฺมิกราชกาเลเยว อธมฺมิกพาลราชาโน อธมฺมิเก โลลมนุสฺเส วินิจฺฉเย เปสฺสนฺติ, เต ปาปปุฺเสุ อนาทรา พาลา สภายํ นิสีทิตฺวา วินิจฺฉยํ เทนฺตา อุภินฺนมฺปิ อตฺถปจฺจตฺถิกานํ หตฺถโต ลฺชํ คเหตฺวา ขาทิสฺสนฺติ อสฺโส วิย ทฺวีหิ มุเขหิ ยวสีสํ. อยํ ปฺจมสฺส วิปาโก.

. อธมฺมิกาเยว วิชาติราชาโน ชาติสมฺปนฺนานํ กุลปุตฺตานํ อาสงฺกาย ยสํ น ทสฺสนฺติ, อกุลีเน วฑฺเฒสฺสนฺติ, เอวํ มหากุลานิ ทุคฺคตานิ ภวิสฺสนฺติ, ลามกกุลานิ อิสฺสรานิ. เต จ กุลีนา ปุริสา ชีวิตุํ อสกฺโกนฺตา ‘‘อิเม นิสฺสาย ชีวิสฺสามา’’ติ อกุลีนานํ ธีตโร ทสฺสนฺติ, อิติ ตาสํ กุลธีตานํ อกุลีเนหิ สทฺธึ สํวาโส ชรสิงฺคาลสฺส สุวณฺณปาติยํ ปสฺสาวกรณสทิโส ภวิสฺสติ. อยํ ฉฏฺสฺส วิปาโก.

. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล อิตฺถิโย ปุริสโลลา สุราโลลา อลงฺการโลลา วิสิขาโลลา อามิสโลลา ภวิสฺสนฺติ ทุสฺสีลา ทุราจารา. ตา สามิเกหิ กสิโครกฺขาทีนิ กมฺมานิ กตฺวา กิจฺเฉน กสิเรน สมฺภตํ ธนํ ชาเรหิ สทฺธึ สุรํ ปิวนฺติโย มาลาคนฺธวิเลปนํ ธารยมานา อนฺโตเคเห อจฺจายิกมฺปิ กิจฺจํ อโนโลเกตฺวา เคหปริกฺเขปสฺส อุปริภาเคนปิ ฉิทฺทฏฺาเนหิปิ ชาเร อุปธารยมานา สฺเว วปิตพฺพยุตฺตกํ พีชมฺปิ โกฏฺเฏตฺวา ยาคุภตฺตขชฺชกานิ สชฺเชตฺวา ขาทมานา วิลุมฺปิสฺสนฺติ เหฏฺาปีกนิปนฺนกฉาตกสิงฺคาลี วิย วฏฺเฏตฺวา วฏฺเฏตฺวา ปาทมูเล นิกฺขิตฺตรชฺชุํ. อยํ สตฺตมสฺส วิปาโก.

. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล โลโก ปริหายิสฺสติ, รฏฺํ นิโรชํ ภวิสฺสติ, ราชาโน ทุคฺคตา กปณา ภวิสฺสนฺติ. โย อิสฺสโร ภวิสฺสติ, ตสฺส ภณฺฑาคาเร สตสหสฺสมตฺตา กหาปณา ภวิสฺสนฺติ, เต เอวํ ทุคฺคตา สพฺเพ ชนปเท อตฺตโน กมฺมํ การยิสฺสนฺติ, อุปทฺทุตา มนุสฺสา สเก กมฺมนฺเต ฉฑฺเฑตฺวา ราชูนํเยว อตฺถาย ปุพฺพณฺณาปรณฺณานิ วปนฺตา รกฺขนฺตา ลายนฺตา มทฺทนฺตา ปเวเสนฺตา อุจฺฉุเขตฺตานิ กโรนฺตา ยนฺตานิ วาเหนฺตา ผาณิตาทีนิ ปจนฺตา ปุปฺผาราเม ผลาราเม จ กโรนฺตา ตตฺถ ตตฺถ นิปฺผนฺนานิ ปุปฺผผลาทีนิ อาหริตฺวา รฺโ โกฏฺาคารเมว ปูเรสฺสนฺติ, อตฺตโน เคเหสุ ตุจฺฉโกฏฺเ โอโลเกนฺตาปิ น ภวิสฺสนฺติ, ตุจฺฉตุจฺฉกุมฺเภ อโนโลเกตฺวา ปูริตกุมฺภปูรณสทิสเมว ภวิสฺสติ. อยํ อฏฺมสฺส วิปาโก.

. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล ราชาโน อธมฺมิกา ภวิสฺสนฺติ, ฉนฺทาทิวเสน อคตึ คจฺฉนฺตา รชฺชํ กาเรสฺสนฺติ, ธมฺเมน วินิจฺฉยํ นาม น ทสฺสนฺติ, ลฺชวิตฺตกา ภวิสฺสนฺติ ธนโลลา, รฏฺวาสิเกสุ เตสํ ขนฺติเมตฺตานุทฺทยํ นาม น ภวิสฺสติ, กกฺขฬา ผรุสา อุจฺฉุยนฺเต อุจฺฉุคณฺิกา วิย มนุสฺเส ปีเฬนฺตา นานปฺปการํ พลึ อุปฺปาเทตฺวา ธนํ คณฺหิสฺสนฺติ, มนุสฺสา พลิปีฬิตา กิฺจิ ทาตุํ อสกฺโกนฺตา คามนิคมาทโย ฉฑฺเฑตฺวา ปจฺจนฺตํ คนฺตฺวา วาสํ กปฺเปสฺสนฺติ, มชฺฌิมชนปโท สุฺโ ภวิสฺสติ, ปจฺจนฺโต ฆนวาโส เสยฺยถาปิ โปกฺขรณิยา มชฺเฌ อุทกํ อาวิลํ ปริยนฺเต วิปฺปสนฺนํ. อยํ นวมสฺส วิปาโก.

๑๐. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล ราชาโน อธมฺมิกา ภวิสฺสนฺติ, เตสุ อธมฺมิเกสุ ราชยุตฺตาปิ พฺราหฺมณคหปติกาปิ เนคมชานปทาปีติ สมณพฺราหฺมเณ อุปาทาย สพฺเพ มนุสฺสา อธมฺมิกา ภวิสฺสนฺติ, ตโต เตสํ อารกฺขเทวตา พลิปฏิคฺคาหิกเทวตา รุกฺขเทวตา อากาสฏฺกเทวตาติ เอวํ เทวตาปิ อธมฺมิกา ภวิสฺสนฺติ, อธมฺมิกราชูนํ รชฺเช วาตา วิสมา ขรา วายิสฺสนฺติ, เต อากาสฏฺกวิมานานิ กมฺเปสฺสนฺติ, เตสุ กมฺปิเตสุ เทวตา กุปิตา เทวํ วสฺสิตุํ น ทสฺสนฺติ, วสฺสมาโนปิ สกลรฏฺเ เอกปฺปหาเรเนว น วสฺสิสฺสติ, วสฺสมาโนปิ สพฺพตฺถ กสิกมฺมสฺส วา วปฺปกมฺมสฺส วา อุปกาโร หุตฺวา น วสฺสิสฺสติ. ยถา จ รฏฺเ, เอวํ ชนปเทปิ คาเมปิ เอกตฬากสฺสเรปิ เอกปฺปหาเรเนว น วสฺสิสฺสติ, ตฬากสฺส อุปริภาเค วสฺสนฺโต เหฏฺาภาเค น วสฺสิสฺสติ, เหฏฺา วสฺสนฺโต อุปริ น วสฺสิสฺสติ, เอกสฺมึ ภาเค สสฺสํ อติวสฺเสน นสฺสิสฺสติ, เอกสฺมึ อวสฺสนฺโต มิลายิสฺสติ, เอกสฺมึ สมฺมา วสฺสมาโน สมฺปาเทสฺสติ, เอวํ เอกสฺส รฺโ รชฺเช วุตฺตา สสฺสา ติปฺปการา ภวิสฺสนฺติ เอกกุมฺภิยา โอทโน วิย. อยํ ทสมสฺส วิปาโก.

๑๑. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล สาสเน ปริหายนฺเต ปจฺจยโลลา อลชฺชิกา พหู ภิกฺขู ภวิสฺสนฺติ, เต ภควตา ปจฺจยโลลุปฺปํ นิมฺมเถตฺวา กถิตธมฺมเทสนํ จีวราทิจตุปจฺจยเหตุ ปเรสํ เทเสสฺสนฺติ, ปจฺจเยหิ มุจฺฉิตฺวา นิรตฺถกปกฺเข ิตา นิพฺพานาภิมุขํ กตฺวา เทเสตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ, เกวลํ ‘‘ปทพฺยฺชนสมฺปตฺติฺเจว มธุรสทฺทฺจ สุตฺวา มหคฺฆานิ จีวรานิ ทสฺสนฺติ’’อิจฺเจวํ เทเสสฺสนฺติ. อปเร อนฺตรวีถิจตุกฺกราชทฺวาราทีสุ นิสีทิตฺวา กหาปณอฑฺฒกหาปณปาทมาสกรูปาทีนิปิ นิสฺสาย เทเสสฺสนฺติ. อิติ ภควตา นิพฺพานคฺฆนกํ กตฺวา เทสิตํ ธมฺมํ จตุปจฺจยตฺถาย เจว กหาปณอฑฺฒกหาปณาทิอตฺถาย จ วิกฺกิณิตฺวา เทเสนฺตา สตสหสฺสคฺฆนกํ จนฺทนสารํ ปูติตกฺเกน วิกฺกิณนฺตา วิย ภวิสฺสนฺติ. อยํ เอกาทสมสฺส วิปาโก.

๑๒. อธมฺมิกราชกาเล โลเก วิปริวตฺตนฺเตเยว ราชาโน ชาติสมฺปนฺนานํ กุลปุตฺตานํ ยสํ น ทสฺสนฺติ, อกุลีนานฺเว ทสฺสนฺติ, เต อิสฺสรา ภวิสฺสนฺติ, อิตเร ทลิทฺทา. ราชสมฺมุเขปิ ราชทฺวาเรปิ อมจฺจสมฺมุเขปิ วินิจฺฉยฏฺาเนปิ ตุจฺฉลาพุสทิสานํ อกุลีนานํเยว กถา โอสีทิตฺวา ิตา วิย นิจฺจลา สุปฺปติฏฺิตา ภวิสฺสติ, สงฺฆสนฺนิปาเตปิ สงฺฆกมฺมคณกมฺมฏฺาเนสุ เจว ปตฺตจีวรปริเวณาทิวินิจฺฉยฏฺาเนสุ จ ทุสฺสีลานํ ปาปปุคฺคลานํเยว กถา นิยฺยานิกา ภวิสฺสติ, น ลชฺชิภิกฺขูนนฺติ เอวํ สพฺพถาปิ ตุจฺฉลาพูนํ สีทนกาโล วิย ภวิสฺสติ. อยํ ทฺวาทสมสฺส วิปาโก.

๑๓. ตาทิเสเยว กาเล อธมฺมิกราชาโน อกุลีนานํ ยสํ ทสฺสนฺติ, เต อิสฺสรา ภวิสฺสนฺติ, กุลีนา ทุคฺคตา. เตสุ น เกจิ คารวํ กริสฺสนฺติ, อิตเรสุเยว กริสฺสนฺติ, ราชสมฺมุเข วา อมจฺจสมฺมุเข วา วินิจฺฉยฏฺาเน วา วินิจฺฉยกุสลานํ ฆนสิลาสทิสานํ กุลปุตฺตานํ กถา น โอคาหิตฺวา ปติฏฺหิสฺสติ. เตสุ กเถนฺเตสุ ‘‘กึ อิเม กเถนฺตี’’ติ อิตเร ปริหาสเมว กริสฺสนฺติ, ภิกฺขุสนฺนิปาเตปิ วุตฺตปฺปกาเรสุ าเนสุ เนว เปสเล ภิกฺขู ครุกาตพฺเพ มฺิสฺสนฺติ, นาปิ เนสํ กถา ปริโยคาหิตฺวา ปติฏฺหิสฺสติ, สิลานํ ปฺลวกาโล วิย ภวิสฺสติ. อยํ เตรสมสฺส วิปาโก.

๑๔. โลเก ปริหายนฺเตเยว มนุสฺสา ติพฺพราคาทิชาติกา กิเลสานุวตฺตกา หุตฺวา ตรุณตรุณานํ อตฺตโน ภริยานํ วเส วตฺติสฺสนฺติ, เคเห ทาสกมฺมกราทโยปิ โคมหึสาทโยปิ หิรฺสุวณฺณมฺปิ สพฺพํ ตาสํเยว อายตฺตํ ภวิสฺสติ, ‘‘อสุกหิรฺสุวณฺณํ วา ปริจฺเฉทาทิชาตํ วา กห’’นฺติ วุตฺเต ‘‘ยตฺถ วา ตตฺถ วา โหตุ, กึ ตุยฺหิมินา พฺยาปาเรน, ตฺวํ มยฺหํ ฆเร สนฺตํ วา อสนฺตํ วา ชานิตุกาโม ชาโต’’ติ วตฺวา นานปฺปกาเรหิ อกฺโกสิตฺวา มุขสตฺตีหิ โกฏฺเฏตฺวา ทาสเจฏกํ วิย วเส กตฺวา อตฺตโน อิสฺสริยํ ปวตฺเตสฺสนฺติ, เอวํ มธุกปุปฺผปฺปมาณมณฺฑูกโปติกานํ อาสีวิเส กณฺหสปฺเป คิลนกาโล วิย ภวิสฺสติ. อยํ จุทฺทสมสฺส วิปาโก.

๑๕. ทุพฺพลราชกาเล ราชาโน หตฺถิสิปฺปาทีสุ อกุสลา ยุทฺเธสุ อวิสารทา ภวิสฺสนฺติ, เต อตฺตโน ราชาธิปจฺจํ อาสงฺกมานา สมานชาติกานํ กุลปุตฺตานํ อิสฺสริยํ อทตฺวา อตฺตโน ปาทมูลิกนฺหาปกกปฺปกาทีนํ ทสฺสนฺติ, ชาติโคตฺตสมฺปนฺนา กุลปุตฺตา ราชกุเล ปติฏฺํ อลภมานา ชีวิกํ กปฺเปตุํ อสมตฺถา หุตฺวา อิสฺสริยฏฺาเน ชาติโคตฺตหีเน อกุลีเน อุปฏฺหนฺตา วิจริสฺสนฺติ, สุวณฺณราชหํเสหิ กากสฺส ปริวาริตกาโล วิย ภวิสฺสติ. อยํ ปนฺนรสมสฺส วิปาโก.

๑๖. อธมฺมิกราชกาเลเยว จ อกุลีนาว ราชวลฺลภา อิสฺสรา ภวิสฺสนฺติ, กุลีนา อปฺปฺาตา ทุคฺคตา. เต ราชวลฺลภา ราชานํ อตฺตโน กถํ คาหาเปตฺวา วินิจฺฉยฏฺานาทีสุ พลวนฺโต หุตฺวา ทุพฺพลานํ ปเวณิอาคตานิ เขตฺตวตฺถุอาทีนิ ‘‘อมฺหากํ สนฺตกานิ เอตานี’’ติ อภิยุฺชิตฺวา เต ‘‘น ตุมฺหากํ, อมฺหาก’’นฺติ อาคนฺตฺวา วินิจฺฉยฏฺานาทีสุ วิวทนฺเต เวตฺตลตาทีหิ ปหาราเปตฺวา คีวายํ คเหตฺวา อปกฑฺฒาเปตฺวา ‘‘อตฺตโน ปมาณํ น ชานาถ, อมฺเหหิ สทฺธึ วิวทถ, อิทานิ โว รฺโ กเถตฺวา หตฺถปาทจฺเฉทาทีนิ กาเรสฺสามา’’ติ สนฺตชฺเชสฺสนฺติ, เต เตสํ ภเยน อตฺตโน สนฺตกานิ เขตฺตวตฺถูนิ ‘‘ตุมฺหากํเยว ตานิ, คณฺหถา’’ติ นิยฺยาเตตฺวา อตฺตโน เคหานิ ปวิสิตฺวา ภีตา นิปชฺชิสฺสนฺติ. ปาปภิกฺขูปิ เปสเล ภิกฺขู ยถารุจิ วิเหเสฺสนฺติ, เปสลา ภิกฺขู ปฏิสรณํ อลภมานา อรฺํ ปวิสิตฺวา คหนฏฺาเนสุ นิลียิสฺสนฺติ, เอวํ หีนชจฺเจหิ เจว ปาปภิกฺขูหิ จ อุปทฺทุตานํ ชาติมนฺตกุลปุตฺตานฺเจว เปสลภิกฺขูนฺจ เอฬกานํ ภเยน ตสวกานํ ปลายนกาโล วิย ภวิสฺสติ. อยํ โสฬสมสฺส วิปาโก. เอวํ ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส ปุพฺพนิมิตฺตภูเต โสฬส สุปิเน ปสฺสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘โกสลราชา วิย โสฬส สุปิเน’’ติ. เอตฺถ จ ปุพฺพนิมิตฺตโต อตฺตโน อตฺถานตฺถนิมิตฺตํ สุปินํ ปสฺสนฺโต อตฺตโน กมฺมานุภาเวน ปสฺสติ, โกสลราชา วิย โลกสฺส อตฺถานตฺถนิมิตฺตํ สุปินํ ปสฺสนฺโต ปน สพฺพสตฺตสาธารณกมฺมานุภาเวน ปสฺสตีติ เวทิตพฺพํ.

กุทฺธา หิ เทวตาติ นาคมหาวิหาเร มหาเถรสฺส กุทฺธา เทวตา วิย. โรหเณ กิร นาคมหาวิหาเร มหาเถโร ภิกฺขุสงฺฆํ อนปโลเกตฺวาว เอกํ นาครุกฺขํ ฉินฺทาเปสิ. รุกฺเข อธิวตฺถา เทวตา เถรสฺส กุทฺธา ปมเมว นํ สจฺจสุปิเนน ปโลเภตฺวา ปจฺฉา ‘‘อิโต เต สตฺตทิวสมตฺถเก อุปฏฺาโก ราชา มริสฺสตี’’ติ สุปิเน อาโรเจสิ. เถโร ตํ กถํ อาหริตฺวา ราโชโรธานํ อาจิกฺขิ. ตา เอกปฺปหาเรเนว มหาวิรวํ วิรวึสุ. ราชา ‘‘กึ เอต’’นฺติ ปุจฺฉิ. ตา ‘เอวํ เถเรน วุตฺต’’นฺติ อาโรจยึสุ. ราชา ทิวเส คณาเปตฺวา สตฺตาเห วีติวตฺเต เถรสฺส หตฺถปาเท ฉินฺทาเปสิ. เอกนฺตสจฺจเมว โหตีติ ผลสฺส สจฺจภาวโต วุตฺตํ, ทสฺสนํ ปน วิปลฺลตฺถเมว. เตเนว ปหีนวิปลฺลาสา ปุพฺพนิมิตฺตภูตมฺปิ สุปินํ น ปสฺสนฺติ, ทฺวีหิ ตีหิ วา การเณหิ กทาจิ สุปินํ ปสฺสนฺตีติ อาห ‘‘สํสคฺคเภทโต’’ติ. ‘‘อเสกฺขา น ปสฺสนฺติ ปหีนวิปลฺลาสตฺตา’’ติ วจนโต จตุนฺนมฺปิ การณานํ วิปลฺลาโส เอว มูลการณนฺติ ทฏฺพฺพํ.

นฺติ สุปินกาเล ปวตฺตํ ภวงฺคจิตฺตํ. รูปนิมิตฺตาทิอารมฺมณนฺติ กมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตโต อฺํ รูปนิมิตฺตาทิอารมฺมณํ น โหติ. อีทิสานีติ ปจฺจกฺขโต อนุภูตปุพฺพปริกปฺปิตรูปาทิอารมฺมณานิ เจว ราคาทิสมฺปยุตฺตานิ จ. สพฺโพหาริกจิตฺเตนาติ ปกติจิตฺเตน. ทฺวีหิ อนฺเตหิ มุตฺโตติ กุสลากุสลสงฺขาเตหิ ทฺวีหิ อนฺเตหิ มุตฺโต. อาวชฺชนตทารมฺมณกฺขเณติ อิทํ ยาว ตทารมฺมณุปฺปตฺติ, ตาว ปวตฺตํ จิตฺตวารํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘สุปิเนเนว ทิฏฺํ วิย เม, สุตํ วิย เมติ กถนกาเล ปน อพฺยากโตเยว อาวชฺชนมตฺตสฺเสว อุปฺปชฺชนโต’’ติ วทนฺติ. เอวํ วทนฺเตหิ ปฺจทฺวาเร ทุติยโมฆวาเร วิย มโนทฺวาเรปิ อาวชฺชนํ ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชิตฺวา ชวนฏฺาเน ตฺวา ภวงฺคํ โอตรตีติ อธิปฺเปตนฺติ ทฏฺพฺพํ เอกจิตฺตกฺขณิกสฺส อาวชฺชนสฺส อุปฺปตฺติยํ ‘‘ทิฏฺํ วิย เม, สุตํ วิย เม’’ติ กปฺปนาย อสมฺภวโต.

เอตฺถ จ ‘‘สุปินนฺเตปิ ตทารมฺมณวจนโต ปจฺจุปฺปนฺนวเสน วา อตีตวเสน วา สภาวธมฺมาปิ สุปินนฺเต อารมฺมณํ โหนฺตี’’ติ วทนฺติ. ‘‘ยทิปิ สุปินนฺเต วิภูตํ หุตฺวา อุปฏฺิเต รูปาทิวตฺถุมฺหิ ตทารมฺมณํ วุตฺตํ, ตถาปิ สุปินนฺเต อุปฏฺิตนิมิตฺตสฺส ปริกปฺปวเสน คเหตพฺพตาย ทุพฺพลภาวโต ทุพฺพลวตฺถุกตฺตาติ วุตฺต’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘กรชกายสฺส นิรุสฺสาหสนฺตภาวปฺปตฺติโต ตนฺนิสฺสิตํ หทยวตฺถุ น สุปฺปสนฺนํ โหติ, ตโต ตนฺนิสฺสิตาปิ จิตฺตุปฺปตฺติ น สุปฺปสนฺนา อสุปฺปสนฺนวฏฺฏินิสฺสิตทีปปฺปภา วิย, ตสฺมา ทุพฺพลวตฺถุกตฺตาติ เอตฺถ ทุพฺพลหทยวตฺถุกตฺตา’’ติ อตฺถํ วทนฺติ, วีมํสิตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพํ.

สุปินนฺตเจตนาติ มโนทฺวาริกชวนวเสน ปวตฺตา สุปินนฺเต เจตนา. สุปินฺหิ ปสฺสนฺโต มโนทฺวาริเกเนว ชวเนน ปสฺสติ, น ปฺจทฺวาริเกน. ปฏิพุชฺฌนฺโต จ มโนทฺวาริเกเนว ปฏิพุชฺฌติ, น ปฺจทฺวาริเกน. นิทฺทายนฺตสฺส หิ มหาวฏฺฏึ ชาเลตฺวา ทีเป จกฺขุสมีปํ อุปนีเต ปมํ จกฺขุทฺวาริกํ อาวชฺชนํ ภวงฺคํ น อาวฏฺเฏติ, มโนทฺวาริกเมว อาวฏฺเฏติ, อถ ชวนํ ชวิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. ทุติยวาเร จกฺขุทฺวาริกํ อาวชฺชนํ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏติ, ตโต จกฺขุวิฺาณาทีนิ ชวนปริโยสานานิ ปวตฺตนฺติ, ตทนนฺตรํ ภวงฺคํ ปวตฺตติ. ตติยวาเร มโนทฺวาริกอาวชฺชเนน ภวงฺเค อาวฏฺฏิเต มโนทฺวาริกชวนํ ชวติ, เตน จิตฺเตน ‘‘กึ อยํ อิมสฺมึ าเน อาโลโก’’ติ ชานาติ. ตถา นิทฺทายนฺตสฺส กณฺณสมีเป ตูริเยสุ ปคฺคหิเตสุ ฆานสมีเป สุคนฺเธสุ วา ทุคฺคนฺเธสุ วา ปุปฺเผสุ อุปนีเตสุ มุเข สปฺปิมฺหิ วา ผาณิเต วา ปกฺขิตฺเต ปิฏฺิยํ ปาณินา ปหาเร ทินฺเน ปมํ โสตทฺวาริกาทีนิ อาวชฺชนานิ ภวงฺคํ น อาวฏฺเฏนฺติ, มโนทฺวาริกเมว อาวฏฺเฏติ, อถ ชวนํ ชวิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. ทุติยวาเร โสตทฺวาริกาทีนิ อาวชฺชนานิ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏนฺติ, ตโต โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณาทีนิ ชวนปริโยสานานิ ปวตฺตนฺติ, ตทนนฺตรํ ภวงฺคํ ปวตฺตติ. ตติยวาเร มโนทฺวาริกอาวชฺชเนน ภวงฺเค อาวฏฺฏิเต มโนทฺวาริกชวนํ ชวติ, เตน จิตฺเตน ตฺวา ‘‘กึ อยํ อิมสฺมึ าเน สทฺโท, สงฺขสทฺโท เภริสทฺโท’’ติ วา ‘‘กึ อยํ อิมสฺมึ าเน คนฺโธ, มูลคนฺโธ สารคนฺโธ’’ติ วา ‘‘กึ อิทํ มยฺหํ มุเข ปกฺขิตฺตํ, สปฺปิ ผาณิต’’นฺติ วา ‘‘เกนมฺหิ ปิฏฺิยํ ปหโฏ, อติถทฺโธ เม ปหาโร’’ติ วา วตฺตา โหติ, เอวํ มโนทฺวาริกชวเนเนว ปฏิพุชฺฌติ, น ปฺจทฺวาริเกน. สุปินมฺปิ เตเนว ปสฺสติ, น ปฺจทฺวาริเกน.

อสฺสาติ อสฺส อาปตฺตินิกายสฺส. นนุ จ อยุตฺโตยํ นิทฺเทโส ‘‘สงฺโฆ อาทิมฺหิ เจว เสเส จ อิจฺฉิตพฺโพ อสฺสา’’ติ. น หิ อาปตฺตินิกายสฺส อาทิมฺหิ เจว เสเส จ สงฺโฆ อิจฺฉิโต, กิฺจรหิ วุฏฺานสฺสาติ อิมํ โจทนํ มนสิ สนฺนิธาย ยถา น วิรุชฺฌติ, ตถา อธิปฺปายํ วิวรนฺโต ‘‘กึ วุตฺตํ โหตี’’ติอาทิมาห. อาปตฺติโต วุฏฺานสฺส อาทิมฺหิ เจว เสเส จ อิจฺฉิโต สงฺโฆ อาปตฺติยาว อิจฺฉิโต นาม โหตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. อาปตฺติวุฏฺานนฺติ อาปตฺติโต วุฏฺานํ, อนาปตฺติกภาวูปคมนนฺติ อตฺโถ. วจนการณนฺติ ‘‘สงฺฆาทิเสโส’’ติ เอวํ วจเน การณํ. สมุทาเย นิรุฬฺโห นิกาย-สทฺโท ตเทกเทเส ปวตฺตมาโนปิ ตาย เอว รุฬฺหิยา ปวตฺตตีติ อาห รุฬีสทฺเทนาติ. อถ วา กิฺจิ นิมิตฺตํ คเหตฺวา สติปิ อฺสฺมึ ตํนิมิตฺตยุตฺเต กิสฺมิฺจิเทว วิสเย สมฺมุติยา จิรกาลตาวเสน นิมิตฺตวิรเหปิ ปวตฺตนิรุฬฺโห รุฬฺหี นาม. ยถา มหิยํ เสตีติ มหึโส, คจฺฉตีติ โคติ, เอวํ นิกาย-สทฺทสฺสปิ รุฬฺหิภาโว เวทิตพฺโพ. เอกสฺมิมฺปิ วิสิฏฺเ สติปิ สามฺา วิย สมุทาเย ปวตฺตโวหาโร อวยเวปิ ปวตฺตตีติ อาห อวยเว สมูหโวหาเรน วาติ. นวมสฺส อธิปฺปายสฺสาติ วีมํสาธิปฺปายสฺส.

๒๓๘-๒๓๙. โลมา เอเตสํ สนฺตีติ โลมสา, พหุโลมาติ วุตฺตํ โหติ. อโรโค ภวิสฺสามีติ ราคปริฬาหวูปสมโต นิโรโค ภวิสฺสามิ. โมจเนนาติ โมจนตฺถาย อุปกฺกมกรเณน. อุปกฺกมกรณฺเหตฺถ โมจนนฺติ อธิปฺเปตํ โมเจติ เอเตนาติ กตฺวา. พีชํ ภวิสฺสตีติ โจฬคฺคหณาทิกมฺมํ สนฺธาย วุตฺตํ.

๒๔๐. ทฺเว อาปตฺติสหสฺสานีติ ขณฺฑจกฺกาทิเภทํ อนามสิตฺวา วุตฺตํ, อิจฺฉนฺเตน ปน ขณฺฑจกฺกาทิเภเทนปิ อาปตฺติคณนา กาตพฺพา. มิสฺสกจกฺกนฺติ อุภโตวฑฺฒนกํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอตฺถ จ นีลฺจ ปีตกฺจาติอาทินา เอกกฺขเณ อเนกวณฺณานํ โมจนาธิปฺปายวจนํ ยถาธิปฺปาเยน โมจนํ ภวตุ วา มา วา, อิมินาปิ อธิปฺปาเยน อุปกฺกมิตฺวา โมเจนฺตสฺส อาปตฺติ โหตีติ ทสฺสนตฺถํ. น หิ เอกสฺมึ ขเณ นีลาทีนํ สพฺเพสมฺปิ มุตฺติ สมฺภวติ. อฺํ วทตีติ อตฺตโน โทสํ อุชุํ วตฺตุํ อสกฺโกนฺโต ปุน ปุฏฺโ อฺํ ภณติ.

โมจนสฺสาโทติ โมจนสฺส ปุพฺพภาเค ปวตฺตอสฺสาโท. เตเนว ‘‘โมเจตุํ อสฺสาโท โมจนสฺสาโท’’ติ วุตฺตํ. เคหสฺสิตเปมนฺติ เอตฺถ เคห-สทฺเทน เคเห ิตา มาตุภคินีอาทโย อชฺฌตฺติกาตกา คหิตา. เตสุ มาตุเปมาทิวเสน อุปฺปนฺโน สิเนโห เคหสฺสิตเปมํ, อฺตฺถ ปน เคหสฺสิตเปมนฺติ ปฺจกามคุณิกราโค วุจฺจติ. สมฺปยุตฺตอสฺสาทสีเสนาติ ราคสมฺปยุตฺตสุขเวทนามุเขน. เอเกน ปเทนาติ เคหสฺสิตเปม-ปเทน.

ตเถวาติ โมจนสฺสาทเจตนาย เอว. ปุพฺพภาเค โมจนสฺสาทวเสน กตปฺปโยคํ อวิชหิตฺวาว สยิตตฺตา ‘‘สเจ ปน…เป… สงฺฆาทิเสโส’’ติ วุตฺตํ. ปุน สุทฺธจิตฺเต อุปฺปนฺเน ตสฺส ปโยคสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา ‘‘สุทฺธจิตฺโต…เป… อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. ชคฺคนตฺถายาติ โธวนตฺถาย. อโนกาสนฺติ องฺคชาตปฺปเทสํ.

๒๖๓-๒๖๔. เคหสฺสิตกามวิตกฺกนฺติ ปฺจกามคุณสนฺนิสฺสิตํ กามวิตกฺกํ. วตฺถึ ทฬฺหํ คเหตฺวาติ องฺคชาตสฺส อคฺเค ปสฺสาวนิคฺคมนฏฺาเน จมฺมํ ทฬฺหํ คเหตฺวา. นิมิตฺเต อุปกฺกมาภาวโต ‘‘โมจนสฺสาทาธิปฺปายสฺสปิ มุตฺเต อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ.

๒๖๕. ‘‘เอหิ เม ตฺวํ, อาวุโส, สามเณราติ อาณตฺติยา อฺเน กโตปิ ปโยโค อตฺตนาว กโต นาม โหตีติ กตฺวา อาปตฺติ วุตฺตา. ยทิ ปน อนาณตฺโต สยเมว กโรติ, องฺคปาริปูริยา อภาวโต อนาปตฺตี’’ติ วทนฺติ. สุตฺตสามเณรวตฺถุสฺมึ อสุจิมฺหิ มุตฺเตปิ องฺคชาตสฺส คหณปจฺจยา ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, น ปน มุตฺตปจฺจยา.

๒๖๖. กายตฺถมฺภนวตฺถุสฺมึ จลนวเสน ยถา องฺคชาเตปิ อุปกฺกโม สมฺภวติ, ตถาปิ วิชมฺภิตตฺตา อาปตฺติ วุตฺตา. ‘‘ปจฺฉโต วา’’ติ วจนโต อุโภสุ ปสฺเสสุ กฏิยํ อูรุปฺปเทโสปิ คหิโตเยวาติ ทฏฺพฺพํ, ตสฺมา อุโภสุปิ ปสฺเสสุ ตฺวา อิมสฺมึ โอกาเส นิมิตฺตนฺติ อุปนิชฺฌายนฺตสฺสปิ อาปตฺติเยว. ‘‘องฺคชาต’’นฺติ วจนโต นิมิตฺตนฺติ ปสฺสาวมคฺโคว วุตฺโต. อุมฺมีลนนิมีลนวเสน ปน น กาเรตพฺโพติ อุมฺมีลนนิมีลนปฺปโยควสเอน อาปตฺติเภโท น กาเรตพฺโพติ อตฺโถ. อเนกกฺขตฺตุมฺปิ อุมฺมีเลตฺวา นิมีเลตฺวา อุปนิชฺฌายนฺตสฺส เอกเมว ทุกฺกฏนฺติ วุตฺตํ โหติ. อกฺขีนิ อวิปฺผนฺเทตฺวา อภิมุขํ สมฺปตฺตสฺส มาตุคามสฺส นิมิตฺโตโลกเนปิ อาปตฺติเยวาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ทารุธีตลิกเลปจิตฺตานํ องฺคชาตุปนิชฺฌาเนปิ ทุกฺกฏ’’นฺติ วทนฺติ.

๒๖๗. ปุปฺผาวลีติ กีฬาวิเสสสฺสาธิวจนํ. ตํ กีฬนฺตา นทีอาทีสุ ฉินฺนตฏํ อุทเกน จิกฺขลฺลํ กตฺวา ตตฺถ อุโภ ปาเท ปสาเรตฺวา นิสินฺนา ปปตนฺติ. ‘‘ปุปฺผาวลิย’’นฺติปิ ปาโ. ปเวเสนฺตสฺสาติ ทฺวิกมฺมกตฺตา วาลิกํ องฺคชาตนฺติ อุภยตฺถาปิ อุปโยควจนํ กตํ. วาลิกนฺติ วาลิกายาติ อตฺโถ. เจตนา, อุปกฺกโม, มุจฺจนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ เวทิตพฺพานิ.

สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๖๙. ทุติเย เยสุ วิวเฏสุ อนฺธกาโร โหติ, ตานิ วิวรนฺโตติ พฺราหฺมณิยา สทฺธึ กายสํสคฺคํ สมาปชฺชิตุกาโม เอวมกาสิ. เตน กตสฺสปิ วิปฺปการสฺส อตฺตนิ กตตฺตา ‘‘อตฺตโน วิปฺปการ’’นฺติ วุตฺตํ. อุฬารตฺตตาติ อุฬารจิตฺตตา, ปณีตาธิมุตฺตตาติ วุตฺตํ โหติ.

๒๗๐. โอติณฺโณติ อิทํ กมฺมสาธนํ กตฺตุสาธนํ วา โหตีติ ตทุภยวเสน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยกฺขาทีหิ วิย สตฺตา’’ติอาทิมาห. อสมเปกฺขิตฺวาติ ยถาสภาวํ อนุปปริกฺขิตฺวา, ยถา เต รติชนกา รูปาทโย วิสยา อนิจฺจทุกฺขาสุภานตฺตากาเรน อวตฺถิตา, ตถา อปสฺสิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.

๒๗๑. สฺมเวลนฺติ สีลมริยาทํ. อาจาโรติ อาจรณํ หตฺถคหณาทิกิริยา. อสฺสาติ ‘‘กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยา’’ติ ปทสฺส.

๒๗๓. เอเตสํ ปทานํ วเสนาติ อามสนาทิปทานํ วเสน. อิโต จิโต จ…เป… สฺโจเปตีติ อตฺตโน หตฺถํ วา กายํ วา ติริยํ อิโต จิโต จ สฺจาเรติ. ‘‘กายโต อโมเจตฺวาวาติ วจนโต มตฺถกโต ปฏฺาย หตฺถํ โอตาเรนฺตสฺส กายโต โมเจตฺวา นิวตฺถสาฏกูปริ โอมสนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ, สาฏกโต โอตาเรตฺวา ชงฺฆโต ปฏฺาย กายํ โอมสนฺตสฺส ปุน สงฺฆาทิเสโส’’ติ วทนฺติ.

ทฺวาทสสุปิ อามสนาทิปฺปโยเคสุ เอเกกสฺมึ ปโยเค กายโต อโมจิเต เอเกกาว อาปตฺติ โหตีติ อาห ‘‘มูลคฺคหณเมว ปมาณ’’นฺติ. อิทฺจ เอเกน หตฺเถน กายํ คเหตฺวา อิตเรน หตฺเถน กายปรามสนํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอเกน ปน หตฺเถน กายปฏิพทฺธํ คเหตฺวา อิตเรน ตตฺถ ตตฺถ กายํ ปรามสโต ปโยคคณนาย อาปตฺติ. อยํ ปน สงฺฆาทิเสโส น เกวลํ วตฺถุวเสเนว, อปิจ สฺาวเสนปีติ อาห ‘‘อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิสฺส สงฺฆาทิเสโส’’ติ. ปาฬิยํ ติรจฺฉานคโต จ โหตีติ เอตฺถ ติรจฺฉานคติตฺถิยา ติรจฺฉานคตปุริสสฺส จ คหณํ เวทิตพฺพํ.

สมสาราโคติ กายสํสคฺคราเคน เอกสทิสราโค. ปุริมนเยเนวาติ รชฺชุวตฺถาทีหิ ปริกฺขิปิตฺวา คหเณ วุตฺตนเยน. ปุน ปุริมนเยเนวาติ สมสาราโค วุตฺโต. อนนฺตรนเยเนวาติ กายปฏิพทฺธอามสนนเยน. เวณิคฺคหเณน โลมานมฺปิ สงฺคหิตตฺตา โลมานํ ผุสเนปิ สงฺฆาทิเสโส วุตฺโต. อิทานิ วุตฺตเมวตฺถํ ปกาเสตุกาโม ‘‘อุปาทินฺนเกน หี’’ติอาทิมาห.

ยถานิทฺทิฏฺนิทฺเทเสติ ยถาวุตฺตกายสํสคฺคนิทฺเทเส. เตนาติ เตน ยถาวุตฺตการเณน. สฺาย วิราคิตมฺหีติ สฺาย วิรทฺธาย. ลิงฺคพฺยตฺตเยน ‘‘วิราคิตมฺหี’’ติ วุตฺตํ. อิมํ นาม วตฺถุนฺติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อาคตํ สนฺธาย วทติ. อฺมฺปิ ยํ กิฺจิ วตฺถุํ สนฺธาย วทตีติปิ เกจิ. สารตฺตนฺติ กายสํสคฺคราเคน สารตฺตํ. วิรตฺตนฺติ กายสํสคฺคราครหิตํ มาตุภคินีอาทึ สนฺธาย วทติ. ‘‘วิรตฺตํ คณฺหิสฺสามี’’ติ วิรตฺตํ คณฺหิ, ทุกฺกฏนฺติ มาตุเปมาทิวเสน คหเณ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ.

อิมาย ปาฬิยา สเมตีติ สมฺพนฺโธ. กถํ สเมตีติ เจ? ยทิ หิ ‘‘อิตฺถิยา กายปฏิพทฺธํ คณฺหิสฺสามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺเน อิตฺถิสฺา วิราคิตา ภเวยฺย, กายปฏิพทฺธคฺคหเณ ถุลฺลจฺจยํ วทนฺเตน ภควตา ‘‘อิตฺถี จ โหติ อิตฺถิสฺี จา’’ติ น วตฺตพฺพํ สิยา, วุตฺตฺจ, ตสฺมา ‘‘อิตฺถิยา กายปฏิพทฺธํ คณฺหิสฺสามี’’ติ กายํ คณฺหนฺตสฺส อิตฺถิสฺา วิราคิตา นาม น โหตีติ ‘‘กายปฏิพทฺธํ คณฺหิสฺสามีติ กายํ คณฺหนฺโต ยถาวตฺถุกเมว อาปชฺชตี’’ติ มหาสุมตฺเถเรน วุตฺตวาโท อิมาย ปาฬิยา สเมติ. โย ปเนตฺถ ‘‘สติปิ อิตฺถิสฺาย กายปฏิพทฺธํ คณฺหนฺตสฺส คหณสมเย ‘กายปฏิพทฺธํ คณฺหิสฺสามี’ติ สฺํ เปตฺวา ‘อิตฺถึ คณฺหามี’ติ สฺาย อภาวโต วตฺถุสฺานํ ภินฺนตฺตา อยุตฺต’’นฺติ วเทยฺย, โส ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘กึ กายปฏิพทฺธํ วตฺถาทึ คณฺหนฺโต อิตฺถิยา ราเคน คณฺหาติ, อุทาหุ วตฺถาทีสุ ราเคนา’’ติ. ยทิ ‘‘วตฺถาทีสุ ราเคน คณฺหาตี’’ติ วเทยฺย, อิตฺถิยา กายปฏิพทฺธํ อหุตฺวา อฺตฺถ ิตํ วตฺถาทึ คณฺหนฺตสฺสปิ ถุลฺลจฺจยํ สิยา, ตสฺมา อิตฺถี อิตฺถิสฺา สารตฺตภาโว คหณฺจาติ องฺคปาริปูริสพฺภาวโต มหาสุมตฺเถรวาโทว ยุตฺตวาโท. อฏฺกถาวินิจฺฉเยหิ จ สเมตีติ เอตฺถาปิ อยมธิปฺปาโย – ยทิ สฺาวิราเคน วิราคิตํ นาม สิยา, ‘‘สมฺพหุลา อิตฺถิโย พาหาหิ ปริกฺขิปิตฺวา คณฺหามี’’ติ เอวํสฺิสฺส ‘‘มชฺฌคติตฺถิโย กายปฏิพทฺเธน คณฺหามี’’ติ เอวรูปาย สฺาย อภาวโต มชฺฌคตานํ วเสน ถุลฺลจฺจยํ น สิยา, เอวํ สนฺเตปิ อฏฺกถาย ถุลฺลจฺจยสฺส วุตฺตตฺตา สฺาวิราเคน วิราคิตํ นาม น โหตีติ อยมตฺโถ สิทฺโธเยวาติ. นีเลน ทุวิฺเยฺยสภาวโต กาฬิตฺถี วุตฺตา.

๒๗๙. เสวนาธิปฺปาโยติ ผสฺสสุขเสวนาธิปฺปาโย. อิตฺถิยา กาเยน ภิกฺขุสฺส กายปฏิพทฺธามสนวาเรปิ ผสฺสํ ปฏิวิชานาตีติ อิทํ อตฺตโน กายปฏิพทฺธามสเนปิ กายสมฺพนฺธสภาวโต วุตฺตํ. เอตฺถาติ นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยวาเร. โมกฺขาธิปฺปาโยติ เอตฺถ ปมํ กายสํสคฺคราเค สติปิ ปจฺฉา โมกฺขาธิปฺปายสฺส อนาปตฺติ.

๒๘๑. ปาริปนฺถิกาติ วิลุมฺปนิกา, อนฺตรายิกาติ วุตฺตํ โหติ. นทีโสเตน วุยฺหมานํ มาตรนฺติ อุกฺกฏฺปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, อฺาสุปิ ปน อิตฺถีสุ การุฺาธิปฺปาเยน มาตริ วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชนฺตสฺส เนวตฺถิ โทโสติ วทนฺติ. ‘‘มาตร’’นฺติ วุตฺตตฺตา อฺาสํ น วฏฺฏตีติ วทนฺตาปิ อตฺถิ. ติณณฺฑุปกนฺติ หิรีเวราทิมูเลหิ กตจุมฺพฏกํ. ตาลปณฺณมุทฺทิกนฺติ ตาลปณฺเณหิ กตองฺคุลิมุทฺทิกํ. ปริวตฺเตตฺวาติ อตฺตโน นิวาสนปารุปนภาวโต อปเนตฺวา, จีวรตฺถาย อปนาเมตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. จีวรตฺถาย ปาทมูเล เปติ, วฏฺฏตีติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ, ปจฺจตฺถรณวิตานาทิอตฺถมฺปิ วฏฺฏติเยว, ปูชาทิอตฺถํ ตาวกาลิกมฺปิ คเหตุํ วฏฺฏติ.

อิตฺถิสณฺาเนน กตนฺติ เอตฺถ เหฏฺิมปริจฺเฉทโต ปาราชิกวตฺถุภูตติรจฺฉานคติตฺถีนมฺปิ อนามาสภาวโต ตาทิสํ อิตฺถิสณฺาเนน กตํ ติรจฺฉานคตรูปมฺปิ อนามาสนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ภิกฺขุนีหิ ปฏิมารูปํ อามสิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ อาจริยา. อิตฺถิรูปานิ ทสฺเสตฺวา กตํ วตฺถฺจ ปจฺจตฺถรณฺจ ภิตฺติฺจ อิตฺถิรูปํ อนามสิตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. ภินฺทิตฺวาติ เอตฺถ หตฺเถน อคฺคเหตฺวาว เกนจิเทว ทณฺฑาทินา ภินฺทิตพฺพํ. เอตฺถ จ ‘‘อนามาสมฺปิ หตฺเถน อปรามสิตฺวา ทณฺฑาทินา เกนจิ ภินฺทิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิธ วุตฺตตฺตา ‘‘ปํสุกูลํ คณฺหนฺเตน มาตุคามสรีเรปิ สตฺถาทีหิ วณํ กตฺวา คเหตพฺพ’’นฺติ วุตฺตตฺตา จ คหิตมณฺฑูกสปฺปินึ ทณฺฑาทีหิ นิปฺปีเฬตฺวา มณฺฑูกํ วิสฺสชฺชาเปตุํ วฏฺฏติ.

มคฺคํ อธิฏฺายาติ มคฺเค คจฺฉามีติ เอวํ มคฺคสฺี หุตฺวาติ อตฺโถ. กีฬนฺเตนาติ อิทํ คิหิสนฺตกํ สนฺธาย วุตฺตํ, ภิกฺขุสนฺตกํ ปน เยน เกนจิ อธิปฺปาเยน อนามสิตพฺพเมว ทุรุปจิณฺณภาวโต. ตาลปนสาทีนีติ เจตฺถ อาทิ-สทฺเทน นาฬิเกรลพุชติปุสอลาพุกุมฺภณฺฑปุสฺสผลเอฬาลุกผลานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ‘‘ยถาวุตฺตผลานํเยว เจตฺถ กีฬาธิปฺปาเยน อามสนํ น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา ปาสาณสกฺขราทีนิ กีฬาธิปฺปาเยนปิ อามสิตุํ วฏฺฏติ.

มุตฺตาติ หตฺถิกุมฺภชาทิกา อฏฺวิธา มุตฺตา. ตถา หิ หตฺถิกุมฺภํ, วราหทาํ, ภุชงฺคสีสํ, วลาหกํ, เวฬุ, มจฺฉสิโร, สงฺโข, สิปฺปีติ อฏฺ มุตฺตาโยนิโย. ตตฺถ หตฺถิกุมฺภชา ปีตวณฺณา ปภาวิหีนา. วราหทาชา วราหทาวณฺณาว. ภุชงฺคสีสชา นีลาทิวณฺณา สุวิสุทฺธา วฏฺฏลา. วลาหกชา อาภาสูรา ทุพฺพิภาครูปา รตฺติภาเค อนฺธการํ วิทฺธมนฺติโย ติฏฺนฺติ, เทวูปโภคา เอว จ โหนฺติ. เวฬุชา กรกผลสมานวณฺณา น อาภาสูรา, เต จ เวฬู อมนุสฺสโคจเร เอว ปเทเส ชายนฺติ. มจฺฉสิรชา ปาีนปิฏฺิสมอานวณฺณา วฏฺฏลา ลฆโว จ โหนฺติ ปภาวิหีนา จ, เต จ มจฺฉา สมุทฺทมชฺเฌเยว ชายนฺติ. สงฺขชา สงฺขอุทรจฺฉวิวณฺณา โกลผลปฺปมาณาปิ โหนฺติ ปภาวิหีนาว. สิปฺปิชา ปภาวิเสสยุตฺตา โหนฺติ นานาสณฺานา. เอวํ ชาติโต อฏฺวิธาสุ มุตฺตาสุ ยา มจฺฉสงฺขสิปฺปิชา, ตา สามุทฺทิกา. ภุชงฺคชาปิ กาจิ สามุทฺทิกา โหนฺติ, อิตรา อสามุทฺทิกา. ยสฺมา พหุลํ สามุทฺทิกาว มุตฺตา โลเก ทิสฺสนฺติ, ตตฺถาปิ สปฺปิชาว, อิตรา กทาจิ กาจิ, ตสฺมา สมฺโมหวิโนทนิยํ ‘‘มุตฺตาติ สามุทฺทิกา มุตฺตา’’ติ วุตฺตํ.

มณีติ เปตฺวา เวฬุริยาทิเก เสโส โชติรสาทิเภโท สพฺโพปิ มณิ. เวฬุริโยติ วํสวณฺณมณิ. สงฺโขติ สามุทฺทิกสงฺโข. สิลาติ กาฬสิลาปณฺฑุสิลาเสตสิลาทิเภทา สพฺพาปิ สิลา. รชตนฺติ กหาปณาทิกํ วุตฺตาวเสสํ รตนสมฺมตํ. ชาตรูปนฺติ สุวณฺณํ. โลหิตงฺโกติ รตฺตมณิ. มสารคลฺลนฺติ กพรมณิ. ภณฺฑมูลตฺถายาติ ปตฺตจีวราทิภณฺฑมูลตฺถาย. กุฏฺโรคสฺสาติ นิทสฺสนมตฺตํ, ตาย วูปสเมตพฺพสฺส ยสฺส กสฺสจิ โรคสฺสตฺถายปิ วฏฺฏติเยว. ‘‘เภสชฺชตฺถฺจ อธิฏฺาเยว มุตฺตา วฏฺฏตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. อากรมุตฺโตติ อากรโต มุตฺตมตฺโต. ‘‘ภณฺฑมูลตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิมินา จ อามสิตุมฺปิ วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. ปจิตฺวา กโตติ กาจกาเรหิ ปจิตฺวา กโต.

โธตวิทฺโธ จ รตนมิสฺโสติ อลงฺการตฺถํ กฺจนลตาทึ ทสฺเสตฺวา กโต รตนขจิโต โธตวิทฺโธ อนามาโส. โธตวิทฺโธ จ รตนมิสฺโส จาติ วิสุํ วา ปทํ สมฺพนฺธิตพฺพํ. ปานียสงฺโขติ อิมินา จ สงฺเขน กตปานียภาชนปิธานาทิสมณปริกฺขาโรปิ อามสิตุํ วฏฺฏตีติ สิทฺธํ. เสสนฺติ รตนมิสฺสํ เปตฺวา อวเสสํ. มุคฺควณฺณํเยว รตนสมฺมิสฺสํ กโรนฺติ, น อฺนฺติ อาห ‘‘มุคฺควณฺณาวา’’ติ, มุคฺควณฺณา รตนมิสฺสาว น วฏฺฏตีติ วุตฺตํ โหติ. เสสาติ รตนสมฺมิสฺสํ เปตฺวา อวเสสา มุคฺควณฺณา นีลสิลา.

พีชโต ปฏฺายาติ ธาตุปาสาณโต ปฏฺาย. สุวณฺณเจติยนฺติ ธาตุกรณฺฑกํ. ปฏิกฺขิปีติ ‘‘ธาตุฏฺปนตฺถาย คณฺหถา’’ติ อวตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ คณฺหถา’’ติ เปสิตตฺตา ปฏิกฺขิปิ. สุวณฺณพุพฺพุฬกนฺติ สุวณฺณตารกํ. ‘‘เกฬาปยิตุนฺติ อิโต จิโต จ สฺจารนฺเตหิ อามสิตุํ วฏฺฏตี’’ติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. กจวรเมว หริตุํ วฏฺฏตีติ เจติยโคปกา วา ภิกฺขู โหนฺตุ อฺเ วา, หตฺเถนปิ ปุฺฉิตฺวา กจวรํ อปเนตุํ วฏฺฏติ, มลมฺปิ ปมชฺชิตุํ วฏฺฏติเยว.

อารกูฏโลหนฺติ กิตฺติมโลหํ. ตีณิ หิ กิตฺติมโลหานิ กํสโลหํ, วฏฺฏโลหํ, อารกูฏนฺติ. ตตฺถ ติปุตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ กํสโลหํ, สีสตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ วฏฺฏโลหํ, ปกติรสตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ อารกูฏํ. เตเนว ตํกรเณน นิพฺพตฺตตฺตา ‘‘กิตฺติมโลห’’นฺติ วุจฺจติ. ‘‘ชาตรูปคติกเมวาติ วุตฺตตฺตา อารกูฏํ สุวณฺณสทิสเมว อามสิตุํ น วฏฺฏติ, อฺํ ปน วฏฺฏตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘อารกูฏํ อนามสิตพฺพโต ชาตรูปคติกเมวาติ วุตฺตํ, ตสฺมา อุภยมฺปิ ชาตรูปํ วิย อามสิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. ปมํ วุตฺโตเยว จ อตฺโถ คณฺิปทกาเรหิ อธิปฺเปโต. ปฏิชคฺคิตุํ วฏฺฏตีติ เสนาสนปฏิพทฺธตฺตา วุตฺตํ.

สามิกานํ เปเสตพฺพนฺติ สามิกานํ สาสนํ เปเสตพฺพํ. ภินฺทิตฺวาติ หตฺเถน อคฺคเหตฺวา อฺเน เยน เกนจิ ภินฺทิตฺวา. เภริสงฺฆาโฏติ สงฺฆฏิตจมฺมเภรี. วีณาสงฺฆาโฏติ สงฺฆฏิตจมฺมวีณา. จมฺมวินทฺธานํ เภริวีณานเมตํ อธิวจนํ. ตุจฺฉโปกฺขรนฺติ อวินทฺธจมฺมํ เภริโปกฺขรํ วีณาโปกฺขรฺจ. อาโรปิตจมฺมนฺติ เภริอาทีนํ วินทฺธนตฺถาย มุขวฏฺฏิยํ อาโรปิตจมฺมํ ตโต อุทฺธริตฺวา วิสุํ ปิตจมฺมฺจ. โอนหิตุํ วาติ เภริโปกฺขราทีนิ จมฺมํ อาโรเปตฺวา วินนฺธิตุํ. โอนหาเปตุํ วาติ ตเถว อฺเหิ วินนฺธาเปตุํ. ปาราชิกปฺปโหนกกาเลติ อกุถิตกาเล.

๒๘๒. สงฺกมาทิ ภูมิคติกตฺตา น กายปฏิพทฺธฏฺานิยนฺติ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. เอกปทิกสงฺกโมติ ขุทฺทกเสตุ. สกฏมคฺคสงฺกโมติ สกฏมคฺคภูโต มหาเสตุ. านา จาเลตุนฺติ รชฺชุํ านา จาเลตุํ. ปฏิจฺฉาเทตพฺพาติ อปเนตพฺพา. มนุสฺสิตฺถี, อิตฺถิสฺิตา, กายสํสคฺคราโค, เตน ราเคน วายาโม, หตฺถคฺคาหาทิสมาปชฺชนนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.

กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๘๓. ตติเย อุตฺตรปทโลเปน ฉินฺนโอตฺตปฺปา ‘‘ฉินฺนิกา’’ติ วุตฺตาติ อาห ‘‘ฉินฺนิกาติ ฉินฺนโอตปฺปา’’ติ.

๒๘๕. ยถา ยุวา ยุวตินฺติ เอเตน โอภาสเน นิราสงฺกภาวํ ทสฺเสติ. เมถุนุปสฺหิตาหีติ อิทํ ทุฏฺุลฺลวาจาย สิขาปฺปตฺตลกฺขณทสฺสนํ. อิตฺถิลกฺขเณนาติ วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘สุภลกฺขเณนา’’ติ วุตฺตํ. น ตาว สีสํ เอตีติ ‘‘อิตฺถิลกฺขเณน สมนฺนาคตาสี’’ติอาทินา วณฺณภณนํ สงฺฆาทิเสสาปตฺติชนกํ หุตฺวา มตฺถกํ น ปาปุณาติ. วณฺณภณนฺหิ เยนากาเรน ภณนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส โหติ, เตนากาเรน ภณนฺตสฺส สิขาปฺปตฺตํ นาม โหติ. ‘‘อิตฺถิลกฺขเณน สมนฺนาคตาสีติอาทิกํ ปน ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาทราควเสน ภณนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ.

เอกาทสหิ ปเทหิ อฆฏิเต สีสํ น เอตีติ ‘‘อนิมิตฺตาสี’’ติอาทีหิ เอกาทสหิ ปเทหิ อฆฏิเต อวณฺณภณนํ สีสํ น เอติ, อวณฺณภณนํ นาม น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ฆฏิเตปีติ เอกาทสหิ ปเทหิ อวณฺณภณเน ฆฏิเตปิ. อิเมหิ ตีหิ ฆฏิเตเยว สงฺฆาทิเสโสติ ‘‘สิขรณี’’ติอาทีหิ ตีหิเยว ปเทหิ อวณฺณภณเน ฆฏิเตเยว สงฺฆาทิเสโส ปสฺสาวมคฺคสฺส นิยตวจนตฺตา อจฺโจฬาริกตฺตา จ. อนิมิตฺตาสีติอาทีหิ ปน อฏฺหิ ปเทหิ ฆฏิเต เกวลํ อวณฺณภณนเมว สมฺปชฺชติ, น สงฺฆาทิเสโส, ตสฺมา ตานิ ถุลฺลจฺจยวตฺถูนีติ เกจิ. อกฺโกสนมตฺตตฺตา ทุกฺกฏวตฺถูนีติ อปเร. ปริพฺพาชิกาวตฺถุสฺมึ วิย ถุลฺลจฺจยเมเวตฺถ ยุตฺตตรํ ทิสฺสติ. กุฺจิกปณาลิมตฺตนฺติ กุฺจิกาฉิทฺทมตฺตํ.

๒๘๖-๒๘๗. ครุกาปตฺตินฺติ ภิกฺขุนิยา กายสํสคฺเค ปาราชิกาปตฺตึ สนฺธาย วทติ. หสนฺโต หสนฺโตติ สภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อหสนฺโตปิ วาจสฺสาทราเคน ปุนปฺปุนํ วทติ, อาปตฺติเยว. กายจิตฺตโตติ หตฺถมุทฺทาย โอภาสนฺตสฺส กายจิตฺตโต สมุฏฺาติ.

๒๘๘. ตสฺมา ทุกฺกฏนฺติ อปฺปฏิวิชานนเหตุ ทุกฺกฏํ, ปฏิวิชานนฺติยา ปน อเขตฺตปทตฺตา ถุลฺลจฺจเยน ภวิตพฺพํ. เตเนว ปริพฺพาชิกาวตฺถุสฺมึ ปฏิวิชานนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ วกฺขติ.

๒๘๙. อสทฺธมฺมํ สนฺธายาหาติ ‘‘วาปิต’’นฺติ อิมสฺส พีชนิกฺเขปวจนตฺตา วุตฺตํ. สํสีทตีติ วหติ ปวตฺตติ. อถ วา สํสีทตีติ สํสีทิสฺสติ. มนุสฺสิตฺถี, อิตฺถิสฺิตา, ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาทราโค, เตน ราเคน โอภาสนํ, ตงฺขณวิชานนนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.

ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๙๐. จตุตฺเถ จีวรนฺติ นิวาสนาทิ ยํ กิฺจิ จีวรํ. ปิณฺฑปาตนฺติ โย โกจิ อาหาโร. โส หิ ปิณฺโฑลฺเยน ภิกฺขุโน ปตฺเต ปตนโต ตตฺถ ตตฺถ ลทฺธภิกฺขานํ ปิณฺฑานํ ปาโต สนฺนิปาโตติ วา ปิณฺฑปาโตติ วุจฺจติ. เสนาสนนฺติ สยนฺจ อาสนฺจ. ยตฺถ หิ วิหาราทิเก เสติ นิปชฺชติ อาสติ นิสีทติ, ตํ เสนาสนํ. ปติ เอติ เอตสฺมาติ ปจฺจโยติ อาห ‘‘ปติกรณฏฺเน ปจฺจโย’’ติ. โรคสฺส ปติอยนฏฺเน วา ปจฺจโย, ปจฺจนีกคมนฏฺเนาติ อตฺโถ, วูปสมนตฺเถนาติ วุตฺตํ โหติ. ธาตุกฺโขภลกฺขณสฺส หิ ตํเหตุกทุกฺขเวทนาลกฺขณสฺส วา โรคสฺส ปฏิปกฺขภาโว ปติอยนฏฺโ. ยสฺส กสฺสจีติ สปฺปิอาทีสุ ยสฺส กสฺสจิ. สปฺปายสฺสาติ หิตสฺส วิการวูปสเมนาติ อธิปฺปาโย. ภิสกฺกสฺส กมฺมํ เตน วิธาตพฺพโต, เตนาห ‘‘อนุฺาตตฺตา’’ติ. นครปริกฺขาเรหีติ นครํ ปริวาเรตฺวา รกฺขณเกหิ. อาวาฏปริกฺเขโป ปริขา อุทฺทาโป ปากาโร เอสิกา ปลิโฆ ปาการมตฺถกมณฺฑลนฺติ สตฺต นครปริกฺขาราติ วทนฺติ. เสตปริกฺขาโรติ สุวิสุทฺธสีลาลงฺกาโร. อริยมคฺโค หิ อิธ ‘‘รโถ’’ติ อธิปฺเปโต. ตสฺส จ สมฺมาวาจาทโย อลงฺการฏฺเน ‘‘ปริกฺขาโร’’ติ วุตฺตา. จกฺกวีริโยติ วีริยจกฺโก. ชีวิตปริกฺขาราติ ชีวิตสฺส ปวตฺติการณานิ. สมุทาเนตพฺพาติ สมฺมา อุทฺธํ อุทฺธํ อาเนตพฺพา ปริเยสิตพฺพา. ปริวาโรปิ โหติ อนฺตรายานํ ปริโต วารณโต, เตนาห – ‘‘ชีวิต…เป… รกฺขณโต’’ติ. ตตฺถ อนฺตรนฺติ วิวรํ, โอกาโสติ อตฺโถ. รกฺขณโตติ เวริกานํ อนฺตรํ อทตฺวา อตฺตโน สามีนํ ปริวาเรตฺวา ิตเสวกา วิย รกฺขณโต. อสฺสาติ ชีวิตสฺส. การณภาวโตติ จิรปฺปวตฺติยา การณภาวโต. รสายนภูตฺหิ เภสชฺชํ สุจิรมฺปิ กาลํ ชีวิตํ ปวตฺเตติเยว.

๒๙๑. อุปจาเรติ ยตฺถ ิโต วิฺาเปตุํ สกฺโกติ, ตาทิเส. กาโม เจว เหตุ จ ปาริจริยา จ อตฺโถ. เสสํ พฺยฺชนนฺติอาทีสุ ปาฬิยํ ‘‘อตฺตกาม’’นฺติ ปทํ อุทฺธริตฺวา อตฺตโน กามํ, อตฺตโน เหตุํ, อตฺตโน อธิปฺปายํ, อตฺตโน ปาริจริยนฺติ จตฺตาโร อตฺถา ปทภาชเน วุตฺตา. เตสุ ปเม อตฺถวิกปฺเป กาโม จ เหตุ จ ปาริจริยา จ อตฺโถ, เสสํ อธิปฺปายปทเมกํ พฺยฺชนํ ปมวิคฺคเห ตทตฺถสฺส อสมฺภวภาวโต นิรตฺถกตฺตา. ทุติเย ปน อตฺถวิกปฺเป อธิปฺปาโย จ ปาริจริยา จ อตฺโถ, กาโม จ เหตุ จาติ เสสํ ปททฺวยํ พฺยฺชนํ เตสํ ตตฺถ อตฺถาภาวโตติ เอวํ จตฺตาริ ปทานิ ทฺวินฺนํ วิคฺคหานํ วเสน โยชิตานีติ เกจิ วทนฺติ. คณฺิปเท จ อยเมวตฺโถ วุตฺโต. จูฬมชฺฌิมมหาคณฺิปเทสุ ปน ‘‘ปมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป กาโม จ เหตุ จ ปาริจริยา จ อธิปฺปายตฺโถ, เสสํ เมถุนธมฺมสงฺขาเตน กาเมนาติอาทิ วิคฺคหวากฺยํ อกฺขรวิวรณมตฺตโต พฺยฺชนมตฺตํ. ทุติเย อตฺถวิกปฺเป อธิปฺปาโย จ ปาริจริยา จ อธิปฺปายตฺโถ, เสสํ อตฺตนา กามิตา อิจฺฉิตาติอาทิ วิคฺคหวากฺยํ อกฺขรวิวรณมตฺตโต พฺยฺชนมตฺต’’นฺติ เอวมตฺโถ วุตฺโต. ‘‘พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวา’’ติ วจนโต อยเมวตฺโถ อิธ ยุตฺตตโรติ วิฺายติ. พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวาติ อิมินา หิ อฏฺกถายํ วุตฺตวิคฺคหวเสน พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวาติ อยมตฺโถ ทีปิโต.

อิทานิ ยถาวุตฺตเมวตฺถํ ปทภาชเนน สํสนฺทิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺตโน กามํ อตฺตโน เหตุํ อตฺตโน ปาริจริยนฺติ หิ วุตฺเต ชานิสฺสนฺติ ปณฺฑิตา’’ติอาทิ อารทฺธํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อตฺตโน เหตุ’’นฺติ วุตฺเต อตฺตโน อตฺถายาติ อยมตฺโถ วิฺายติ. ‘‘อตฺตโน กามํ อตฺตโน ปาริจริย’’นฺติ จ วุตฺเต กาเมน ปาริจริยาติ อยมตฺโถ วิฺายติ. ตสฺมา อตฺตโน กามํ อตฺตโน เหตุํ อตฺตโน ปาริจริยนฺติ อิเมหิ ตีหิ ปเทหิ อตฺตโน อตฺถาย กาเมน ปาริจริยา อตฺตกามปาริจริยาติ อยมตฺถวิกปฺโป วุตฺโตติ วิฺู ชานิสฺสนฺติ. ‘‘อตฺตโน อธิปฺปาย’’นฺติ วุตฺเต ปน อธิปฺปายสทฺทสฺส กามิตสทฺเทน สมานตฺถภาวโต อตฺตโน ปาริจริยนฺติ อิมสฺส จ อุภยวิคฺคหสามฺโต อตฺตโน อิจฺฉิตกามิตฏฺเน อตฺตกามปาริจริยาติ อยมตฺถวิกปฺโป ทฺวีหิ ปเทหิ ทสฺสิโตติ วิฺู ชานิสฺสนฺตีติ.

เอตทคฺคนฺติ เอสา อคฺคา. ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปเท กิฺจาปิ เมถุนยาจนํ อาคตํ, ตถาปิ ตํ ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาทราควเสน วุตฺตํ, อิธ ปน อตฺตโน เมถุนสฺสาทราควเสนาติ อยํ วิเสโส. วินีตวตฺถูสุ ‘‘เตน หิ ภคินิ อคฺคทานํ เทหี’’ติ อิทํ อตฺตโน อตฺถาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. มนุสฺสิตฺถี, อิตฺถิสฺิตา, อตฺตกามปาริจริยาย ราโค, เตน ราเคน วณฺณภณนํ, ตงฺขณวิชานนนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.

อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สฺจริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๙๖. ปฺจเม ปณฺฑิตสฺส ภาโว ปณฺฑิจฺจํ, าณสฺเสตํ อธิวจนํ. คติมนฺตาติ าณคติยา สมนฺนาคตา. ปณฺฑิตาติ อิมินา สภาวาเณน สมนฺนาคตตา วุตฺตา, พฺยตฺตาติ อิมินา อิตฺถิกตฺตพฺเพสุ วิสารทปฺาย. เตนาห ‘‘อุปายฺู วิสารทา’’ติ. เมธาวินีติ านุปฺปตฺติปฺาสงฺขาตาย ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺถกิจฺเจ อุปฏฺิเต านโส ตงฺขเณ เอว อุปฺปชฺชนปฺาย สมนฺนาคตา. เตนาห ‘‘ทิฏฺํ ทิฏฺํ กโรตี’’ติ. เฉกาติ ยาคุภตฺตสมฺปาทนาทีสุ นิปุณา. อุฏฺานวีริยสมฺปนฺนาติ กายิเกน วีริเยน สมนฺนาคตา, ยถา อฺา กุสีตา นิสินฺนฏฺาเน นิสินฺนาว โหนฺติ, ิตฏฺาเน ิตาว, เอวํ อหุตฺวา วิปฺผาริเกน จิตฺเตน สพฺพกิจฺจํ นิปฺผาเทตีติ วุตฺตํ โหติ. กุมาริกายาติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, เหตุมฺหิ วา กรณวจนํ. เตนาห ‘‘กุมาริกาย การณา’’ติ. อาวหนํ อาวาโห, ปริคฺคหภาเวน ทาริกาย คณฺหาปนํ, ตถา ทาปนํ วิวาโห. เตนาห ‘‘ทารกสฺสา’’ติอาทิ.

๒๙๗-๒๙๘. ภตฺตปาจนํ สนฺธาย รนฺธาปนํ วุตฺตํ, ยสฺส กสฺสจิ ปาจนํ สนฺธาย ปจาปนํ วุตฺตํ. ทุฏฺุํ กุลํ คตา ทุคฺคตาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยตฺถ วา คตา’’ติอาทิมาห. อาหรณํ อาหาโร. น อุปาหฏนฺติ น ทินฺนํ. กโย คหณํ, วิกฺกโย ทานํ. ตทุภยํ สงฺคณฺหิตฺวา ‘‘โวหาโร’’ติ วุตฺตํ. มณฺฑิตปสาธิโตติ เอตฺถ พาหิรุปกรเณน อลงฺกรณํ มณฺฑนํ, อชฺฌตฺติกานํ เกสาทีนํเยว สณฺปนํ ปสาธนํ.

๓๐๐. ‘‘อพฺภุตํ กาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ อิมินา ทุกฺกฏํ โหตีติ ทีเปติ. ‘‘ปราชิเตน ทาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตตฺตา อเทนฺโต ธุรนิกฺเขเปน กาเรตพฺโพ. อจิรกาเล อธิกาโร เอตสฺส อตฺถีติ อจิรกาลาธิการิกํ, สฺจริตฺตํ. ‘‘อจิรกาลาจาริก’’นฺติ วา ปาโ, อจิรกาเล อาจาโร อชฺฌาจาโร เอตสฺสาติ อจิรกาลาจาริกํ.

กิฺจาปิ เอหิภิกฺขูปสมฺปนฺนา เจว สรณคมนูปสมฺปนฺนา จ สฺจริตฺตาทิปณฺณตฺติวชฺชํ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ, เตสํ ปน น สพฺพกาลิกตฺตา เต วชฺเชตฺวา สพฺพกาลานุรูปํ ตนฺตึ เปนฺโต ภควา อิธาปิ ตฺติจตุตฺเถเนว กมฺเมน อุปสมฺปนฺนํ ภิกฺขุํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺร ยฺวายํ ภิกฺขุ…เป… อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปโต ภิกฺขู’’ติ ปทภาชนํ อาห, น ปน เนสํ สฺจริตฺตาทิอาปชฺชเน อภพฺพภาวโต. ขีณาสวาปิ หิ อปฺปสฺสุตา กิฺจาปิ โลกวชฺชํ นาปชฺชนฺติ, ปณฺณตฺติยํ ปน อโกวิทตฺตา วิหารการํ กุฏิการํ สหาคารํ สหเสยฺยนฺติ เอวรูปา กายทฺวาเร อาปตฺติโย อาปชฺชนฺติ, สฺจริตฺตํ ปทโสธมฺมํ อุตฺตริฉปฺปฺจวาจํ ภูตาโรจนนฺติ เอวรูปา วจีทฺวาเร อาปตฺติโย อาปชฺชนฺติ, อุปนิกฺขิตฺตสาทิยนวเสน มโนทฺวาเร รูปิยปฏิคฺคหณาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ.

๓๐๑. สฺจรณํ สฺจโร, โส เอตสฺส อตฺถีติ สฺจรี, ตสฺส ภาโว สฺจริตฺตํ. เตนาห ‘‘สฺจรณภาว’’นฺติ, อิตฺถิปุริสานํ อนฺตเร สฺจรณภาวนฺติ อตฺโถ. ชายตฺตเน ชารตฺตเนติ จ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, ชายภาวตฺถํ ชารภาวตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. ชายภาเวติ ภริยภาวาย. ชารภาเวติ สามิกภาวาย. กิฺจาปิ อิมสฺส ปทภาชเน ‘‘ชารี ภวิสฺสสี’’ติ อิตฺถิลิงฺควเสน ปทภาชนํ วุตฺตํ, ชารตฺตเนติ ปน นิทฺเทสสฺส อุภยลิงฺคสาธารณตฺตา ปุริสลิงฺควเสนปิ โยเชตฺวา อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิตฺถิยา มตึ ปุริสสฺส อาโรเจนฺโต ชารตฺตเน อาโรเจตี’’ติอาทิมาห. เอตฺถ หิ ‘‘ชาโร ภวิสฺสสี’’ติ อิตฺถิยา มตึ ปุริสสฺส อาโรเจนฺโต ชารตฺตเน อาโรเจติ นาม. ปาฬิยํ ปน อิตฺถิลิงฺควเสเนว โยชนา กตา, ตทนุสาเรน ปุริสลิงฺควเสนปิ สกฺกา โยเชตุนฺติ.

อิทานิ ปาฬิยํ วุตฺตนเยนปิ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. ปติ ภวิสฺสสีติ วุตฺตเมวตฺถํ ‘‘สามิโก ภวิสฺสสี’’ติ ปริยายวจเนน วิเสเสตฺวา ทสฺเสติ. อิทฺจ ชารตฺตเนติ นิทฺเทสสฺส อุภยลิงฺคสาธารณตฺตา วุตฺตํ. มุหุตฺติกา ภวิสฺสสีติ อสามิกํ สนฺธาย วุตฺตํ, ชารี ภวิสฺสสีติ สสามิกํ สนฺธาย. อนฺตมโส ตงฺขณิกายปีติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตนฺติ อาห ‘‘เอเตเนวุปาเยนา’’ติอาทิ.

๓๐๓. เสริวิหารนฺติ สจฺฉนฺทจารํ. อตฺตโน วสนฺติ อตฺตโน อาณํ. โคตฺตนฺติ โคตมโคตฺตาทิกํ โคตฺตํ. ธมฺโมติ ปณฺฑรงฺคปริพฺพาชกาทีนํ, เตสํ เตสํ วา กุลานํ ธมฺโม. โคตฺตวนฺเตสุ โคตฺตสทฺโท, ธมฺมจารีสุ จ ธมฺมสทฺโท วตฺตตีติ อาห ‘‘สโคตฺเตหี’’ติอาทิ. ตตฺถ สโคตฺเตหีติ สมานโคตฺเตหิ, เอกวํสชาเตหีติ อตฺโถ. สหธมฺมิเกหีติ เอกสฺส สตฺถุสาสเน สหจริตพฺพธมฺเมหิ, สมานกุลธมฺเมหิ วา. เตเนวาห ‘‘เอกํ สตฺถาร’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ‘‘เอกํ สตฺถารํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิเตหี’’ติ อิมินา ปณฺฑรงฺคปริพฺพาชกาทโย วุตฺตา, เอกคณปริยาปนฺเนหีติ มาลาการาทิเอกคณปริยาปนฺเนหิ.

สสามิกา สารกฺขา. ยสฺสา คมเน รฺา ทณฺโฑ ปิโต, สา สปริทณฺฑา. ปจฺฉิมานํ ทฺวินฺนนฺติ สารกฺขสปริทณฺฑานํ มิจฺฉาจาโร โหติ ตาสํ สสามิกภาวโต. น อิตราสนฺติ อิตราสํ มาตุรกฺขิตาทีนํ อฏฺนฺนํ ปุริสนฺตรคมเน นตฺถิ มิจฺฉาจาโร ตาสํ อสามิกภาวโต. ยา หิ สามิกสฺส สนฺตกํ ผสฺสํ เถเนตฺวา ปเรสํ อภิรตึ อุปฺปาเทนฺติ, ตาสํ มิจฺฉาจาโร, น จ มาตาทโย ตาสํ ผสฺเส อิสฺสรา. มาตาทโย หิ น อตฺตนา ผสฺสานุภวนตฺถํ ตา รกฺขนฺติ, เกวลํ อนาจารํ นิเสเธนฺตา ปุริสนฺตรคมนํ ตาสํ วาเรนฺติ. ปุริสสฺส ปน เอตาสุ อฏฺสุปิ โหติเยว มิจฺฉาจาโร มาตาทีหิ ยถา ปุริเสน สทฺธึ สํวาสํ น กปฺเปติ, ตถา รกฺขิตตฺตา ปเรสํ รกฺขิตโคปิตํ ผสฺสํ เถเนตฺวา ผุฏฺภาวโต.

ธเนน กีตาติ ภริยภาวตฺถํ ธเนน กีตา. เตนาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ. โภเคนาติ โภคเหตุ. โภคตฺถฺหิ วสนฺตี ‘‘โภควาสินี’’ติ วุจฺจติ. ลภิตฺวาติ โย นํ วาเสติ, ตสฺส หตฺถโต ลภิตฺวา. อุทกปตฺตํ อามสิตฺวา คหิตา โอทปตฺตกินี. เตนาห ‘‘อุภินฺน’’นฺติอาทิ. ธเชน อาหฏาติ เอตฺถ ธชโยคโต เสนาว ธชสทฺเทน วุตฺตา, อุสฺสิตทฺธชาย เสนาย อาหฏาติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘อุสฺสิตทฺธชายา’’ติอาทิ.

๓๐๕. พหิทฺธา วิมฏฺํ นาม โหตีติ อฺตฺถ อาโรจิตํ นาม โหติ. ตํ กิริยํ สมฺปาเทสฺสตีติ ตสฺสา อาโรเจตฺวา ตํ กิจฺจํ สมฺปาเทตุ วา มา วา, ตํกิริยาสมฺปาทเน โยคฺยตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทารกํ ทาริกฺจ อชานาเปตฺวา เตสํ มาตาปิตุอาทีหิ มาตาปิตุอาทีนํเยว สนฺติกํ สาสเน เปสิเตปิ หรณวีมํสนปจฺจาหรณสงฺขาตาย ติวงฺคสมฺปตฺติยา สงฺฆาทิเสโส โหติเยวาติ ทฏฺพฺพํ. ยํ อุทฺทิสฺส สาสนํ เปสิตํ, ตํเยว สนฺธาย ตสฺสา มาตุอาทีนํ อาโรจิเต วตฺถุโน เอกตฺตา มาตุอาทโยปิ เขตฺตเมวาติ เขตฺตเมว โอติณฺณภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทิ อุทาหฏํ. อิมินา สเมตีติ เอตฺถายมธิปฺปาโย – ยถา สยํ อนาโรเจตฺวา อฺเน อนฺเตวาสิอาทินา อาโรจาเปนฺตสฺส วิสงฺเกโต นตฺถิ, เอวํ ตสฺสา สยํ อนาโรเจตฺวา อาโรจนตฺถํ มาตุอาทีนํ วทนฺตสฺสปิ นตฺถิ วิสงฺเกโตติ. ฆรํ นยตีติ ฆรณี. มูลฏฺานฺจ วเสนาติ เอตฺถ ปุริสสฺส มาตุอาทโย สาสนเปสเน มูลภูตตฺตา ‘‘มูลฏฺา’’ติ วุจฺจนฺติ. มาตุรกฺขิตาย มาตา ภิกฺขุํ ปหิณตีติ เอตฺถ อตฺตโน วา ธีตุ สนฺติกํ ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา โหตู’’ติ ภิกฺขุํ ปหิณติ, ปุริสสฺส วา สนฺติกํ ‘‘มม ธีตา อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา โหตู’’ติ ปหิณตีติ คเหตพฺพํ. เอส นโย เสเสสุปิ. ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตาติ ปมสงฺฆาทิเสเส วุตฺตนยตฺตา.

๓๓๘. เอตฺโตว ปกฺกมตีติ ปุน อาคนฺตฺวา อาณาปกสฺส อนาโรเจตฺวา ตโตเยว ปกฺกมติ. อฺเน กรณีเยนาติ คมนเหตุวิสุทฺธิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เตเนว ปน กรณีเยน คนฺตฺวาปิ กิฺจิ อนาโรเจนฺโต น วีมํสติ นาม. อนภินนฺทิตฺวาติ อิทํ ตถา ปฏิปชฺชมานํ สนฺธาย วุตฺตํ, สติปิ อภินนฺทเน สาสนํ อนาโรเจนฺโต ปน น วีมํสติ นาม. ตติยปเท วุตฺตนเยนาติ ‘‘โส ตสฺสา วจนํ อนภินนฺทิตฺวา’’ติอาทินา วุตฺตนเยน. วตฺถุคณนายาติ สมฺพหุลานํ อิตฺถิปุริสานํ สมภาเว สติ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ อิตฺถิปุริสวตฺถูนํ คณนาย. สเจ ปน เอกโต อธิกา โหนฺติ, อธิกานํ คณนาย อาปตฺติเภโท เวทิตพฺโพ.

๓๓๙-๓๔๐. ปาฬิยํ จตุตฺถวาเร อสติปิ ‘‘คจฺฉนฺโต น สมฺปาเทติ, อาคจฺฉนฺโต วิสํวาเทติ, อนาปตฺตี’’ติ อิทํ อตฺถโต อาปนฺนเมวาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘จตุตฺเถ อนาปตฺตี’’ติ. การุกานนฺติ วฑฺฒกีอาทีนํ. ตจฺฉกอโยการตนฺตวายรชกนฺหาปิตกา ปฺจ การโว ‘‘การุกา’’ติ วุจฺจนฺติ. เอวรูเปน…เป… อนาปตฺตีติ ตาทิสํ คิหิเวยฺยาวจฺจมฺปิ น โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ.

กายโต สมุฏฺาตีติ ปณฺณตฺตึ วา อลํวจนียภาวํ วา อชานนฺตสฺส กายโต สมุฏฺาติ. วาจโต สมุฏฺาตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. กายวาจโต สมุฏฺาตีติ ปณฺณตฺตึ ชานิตฺวา อลํวจนียภาวํ อชานนฺตสฺสปิ กายวาจโต สมุฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ. อลํวจนียา โหนฺตีติ เทสจาริตฺตวเสน ปณฺณทานาทินา ปริจฺจตฺตา โหนฺติ. ปณฺณตฺตึ ปน ชานิตฺวาติ เอตฺถ อลํวจนียภาวํ วาติ จ ทฏฺพฺพํ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. สฺจริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘ตทุภยํ ปน ชานิตฺวา เอเตเหว ตีหิ นเยหิ สมาปชฺชนฺตสฺส ตาเนว ตีณิ ตทุภยชานนจิตฺเตน สจิตฺตกานิ โหนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา ปณฺณตฺติชานนจิตฺเตนาติ เอตฺถาปิ ตทุภยชานนํ วตฺตพฺพํ. ภิกฺขุํ อชานาเปตฺวา อตฺตโน อธิปฺปายํ ปณฺเณ ลิขิตฺวา ทินฺนํ หรนฺตสฺสปิ อาปตฺติ โหติ, อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส อจิตฺตกตฺตาติ น คเหตพฺพํ. ปาฬิยํ ปน ‘‘อาโรเจตี’’ติ วุตฺตตฺตา อฏฺกถายฺจ ตตฺถ ตตฺถ อาโรจนสฺเสว ทสฺสิตตฺตา กาเยน วา วาจาย วา อาโรเจนฺตสฺเสว อาปตฺติ โหตีติ คเหตพฺพํ.

๓๔๑. ทุฏฺุลฺลาทีสุปีติ อาทิ-สทฺเทน สฺจริตฺตมฺปิ สงฺคณฺหาติ. เอตฺถ ปน กิฺจาปิ อิตฺถี นาม มนุสฺสิตฺถี, น ยกฺขี, น เปตี, น ติรจฺฉานคตา, ปุริโส นาม มนุสฺสปุริโส, น ยกฺโขติอาทิ น วุตฺตํ, ตถาปิ มนุสฺสชาติกาว อิตฺถิปุริสา อิธ อธิปฺเปตา. ตสฺมา เยสุ สฺจริตฺตํ สมาปชฺชติ, เตสํ มนุสฺสชาติกตา, น นาลํวจนียตา, ปฏิคฺคณฺหนวีมํสนปจฺจาหรณานีติ อิมาเนตฺถ ปฺจงฺคานิ.

สฺจริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. กุฏิการสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๔๒. ฉฏฺเ เอตฺตเกนาติ เอตฺตเกน ทารุอาทินา. อปริจฺฉินฺนปฺปมาณาโยติ อปริจฺฉินฺนทารุอาทิปฺปมาณาโย. มูลจฺเฉชฺชาย ปุริสํ ยาจิตุํ น วฏฺฏตีติ ปรสนฺตกภาวโต โมเจตฺวา อตฺตโนเยว สนฺตกํ กตฺวา ยาจิตุํ น วฏฺฏติ. เอวํ มูลจฺเฉชฺชาย อฺาตกอปฺปวาริตฏฺานโต ยาจนฺตสฺส อฺาตกวิฺตฺติยา ทุกฺกฏํ. ทาสํ อตฺตโน อตฺถาย สาทิยนฺตสฺสปิ ทุกฺกฏเมว ‘‘ทาสิทาสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๐, ๑๙๔) วจนโต. าตกปวาริตฏฺานโต ปน ทาสํ มูลจฺเฉชฺชาย ยาจนฺตสฺส สาทิยนวเสน ทุกฺกฏํ. สกกมฺมํ น ยาจิตพฺพาติ ปาณาติปาตสิกฺขาปทรกฺขณตฺถํ วุตฺตํ. อนิยเมตฺวาปิ น ยาจิตพฺพาติ มนุสฺสานํ อฺถา คาหสฺสปิ สมฺภวโต วุตฺตํ, สุทฺธจิตฺเตน ปน หตฺถกมฺมํ ยาจนฺตสฺส อาปตฺติ นาม นตฺถิ.

สพฺพกปฺปิยภาวทีปนตฺถนฺติ สพฺพโส กปฺปิยภาวทีปนตฺถํ. มูลํ เทถาติ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ ยสฺมา มูลํ ทสฺสามาติ เตหิ ปมํ วุตฺตตฺตา วิฺตฺติ น โหติ, ยสฺมา จ มูลนฺติ ภณิตํ สามฺวจนโต อกปฺปิยวจนํ น โหติ, ตสฺมา มูลํ เทถาติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อนชฺฌาวุตฺถกนฺติ อปริคฺคหิตํ. อกปฺปิยกหาปณาทิ น ทาตพฺพนฺติ กิฺจาปิ อกปฺปิยกหาปณาทึ อสาทิยนฺเตน กปฺปิยโวหารโต ทาตุํ วฏฺฏติ, ตถาปิ สารุปฺปํ น โหติ. มนุสฺสา จ เอตสฺส สนฺตกํ กิฺจิ อตฺถีติ วิเหเตพฺพํ มฺนฺตีติ อกปฺปิยกหาปณาทิทานํ ปฏิกฺขิตฺตํ. ตเถว ปาเจตฺวาติ หตฺถกมฺมวเสเนว ปาเจตฺวา. ‘‘กึ, ภนฺเต’’ติ เอตฺตเกปิ ปุจฺฉิเต ยทตฺถาย ปวิฏฺโ, ตํ กเถตุํ วฏฺฏติ ปุจฺฉิตปฺหตฺตา.

วตฺตนฺติ จาริตฺตํ, อาปตฺติ ปน น โหตีติ อธิปฺปาโย. กปฺปิยํ การาเปตฺวา ปฏิคฺคเหตพฺพานีติ สาขาย ลคฺครชสฺมึ ปตฺเต ปติเตปิ สาขํ ฉินฺทิตฺวา ขาทิตุกามตายปิ สติ สุขปริโภคตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘นทึ วา…เป… อาหรา’’ติ วตฺถุํ วฏฺฏตีติ อปริคฺคหิตตฺตา วุตฺตํ. เคหโต…เป… ปริภุฺชิตพฺพนฺติ ปริคฺคหิตอุทกตฺตา วิฺตฺติยา ทุกฺกฏํ โหตีติ อธิปฺปาโย. อลชฺชีหิ…เป… น กาเรตพฺพนฺติ อิทํ อุตฺตริภงฺคาธิการตฺตา อชฺโฌหรณียํ สนฺธาย วุตฺตํ. พาหิรปริโภเคสุ ปน อลชฺชีหิปิ หตฺถกมฺมํ กาเรตุํ วฏฺฏตีติ.

โคณํ ปน…เป… อาหราเปตุํ น วฏฺฏตีติ อตฺตโน อตฺถาย มูลจฺเฉชฺชวเสน อาหราเปตุํ น วฏฺฏติ. อาหราเปนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ อฺาตกวิฺตฺติยา ทุกฺกฏํ. อตฺตโน อตฺถาย สาทิยเนปิ ทุกฺกฏเมว ‘‘หตฺถิควาสฺสวฬวปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๐, ๑๙๔) วุตฺตตฺตา. เตเนวาห ‘‘าตกปวาริตฏฺานโตปิ มูลจฺเฉชฺชาย ยาจิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ. รกฺขิตฺวาติ ยถา โจรา น หรนฺติ, เอวํ รกฺขิตฺวา. ชคฺคิตฺวาติ ติณทานาทีหิ ชคฺคิตฺวา. น สมฺปฏิจฺฉิตพฺพนฺติ อตฺตโน อตฺถาย โคเณ สาทิยนสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา วุตฺตํ.

สกฏํ เทถาติ…เป… วฏฺฏตีติ มูลจฺเฉชฺชวเสน สกฏํ เทถาติ วตฺตุํ น วฏฺฏติ. ตาวกาลิกํ วฏฺฏตีติ ตาวกาลิกํ กตฺวา สพฺพตฺถ ยาจิตุํ วฏฺฏติ. วลฺลิอาทีสุ จ ปรปริคฺคหิเตสุ เอเสว นโยติ โยเชตพฺพํ. ครุภณฺฑปฺปโหนเกสุเยว จ วลฺลิอาทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน เวฬุมุฺชปพฺพชติณมตฺติกานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ยํ ปน วตฺถุวเสน อปฺปํ หุตฺวา อคฺฆวเสน มหนฺตํ หริตาลหิงฺคุลกาทิ, ตํ ครุภณฺฑํ อปฺปโหนฺตมฺปิ ยาจิตุํ น วฏฺฏตีติ วทนฺติ.

สาติ วิฺตฺตึ ปรามสติ. สา จ อิธ ปริกถาทินา เยน เกนจิ อธิปฺปายวิฺาปนํ วิฺตฺตีติ คเหตพฺพา. เตนาห ‘‘สพฺเพน สพฺพ’’นฺติ, สพฺพปฺปกาเรนาติ อตฺโถ. เตน ‘‘ปริกถาทิวเสนปิ วิฺาปนํ น วฏฺฏตี’’ติ ทีเปติ. ปริกโถภาสนิมิตฺตกมฺมมฺปิ หิ จีวรปิณฺฑปาเตสุ ทฺวีสุ ปจฺจเยสุ น วฏฺฏติ. อิทานิ เสนาสนปจฺจเย อธิปฺเปตํ วิฺตฺตึ ปริกถาทีหิ วิเสเสตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อาหร เทหีติ วิฺตฺติมตฺตเมว น วฏฺฏตี’’ติ อาห. ปริกโถภาสนิมิตฺตกมฺมานิ วฏฺฏนฺตีติ เอตฺถ ปริกถา นาม ปริยาเยน กถนํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส เสนาสนํ สมฺพาธนฺติอาทิวจนํ. โอภาโส นาม อุชุกเมว อกเถตฺวา ยถา อธิปฺปาโย วิภูโต โหติ, เอวํ โอภาสนํ, อุปาสกา, ตุมฺเห กุหึ วสถาติ? ปาสาเท, ภนฺเตติ. ภิกฺขูนํ ปน, อุปาสกา, ปาสาโท น วฏฺฏตีติอาทิวจนํ. นิมิตฺตกมฺมํ นาม ปจฺจเย อุทฺทิสฺส ยถา อธิปฺปาโย วิฺายติ, เอวํ นิมิตฺตกมฺมํ, เสนาสนตฺถํ ภูมิปริกมฺมาทีนิ กโรนฺตสฺส ‘‘กึ, ภนฺเต, กโรสิ, โก การาเปตี’’ติ วุตฺเต ‘‘น โกจี’’ติอาทิวจนํ.

อิทานิ คิลานปจฺจเย วิฺตฺติอาทิกํ สพฺพมฺปิ วฏฺฏตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘คิลานปจฺจเย ปนา’’ติอาทิ. ตถา อุปฺปนฺนํ ปน เภสชฺชํ โรเค วูปสนฺเต ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, น วฏฺฏตีติ? ตตฺถ วินยธรา ‘‘ภควตา โรคสีเสน ปริโภคสฺส ทฺวารํ ทินฺนํ, ตสฺมา อโรคกาเลปิ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, อาปตฺติ น โหตี’’ติ วทนฺติ. สุตฺตนฺติกา ปน ‘‘กิฺจาปิ อาปตฺติ น โหติ, อาชีวํ ปน โกเปติ, ตสฺมา สลฺเลขปฺปฏิปตฺติยํ ิตสฺส น วฏฺฏติ, สลฺเลขํ โกเปตี’’ติ วทนฺติ. อุกฺกมนฺตีติ อปคจฺฉนฺติ.

๓๔๔. มณิ กณฺเ อสฺสาติ มณิกณฺโ, มณินา อุปลกฺขิโต วา กณฺโ อสฺสาติ มณิกณฺโติ มชฺฌปทโลปีสมาโส ทฏฺพฺโพ. เทววณฺณนฺติ เทวตฺตภาวํ. ปสนฺนาการนฺติ ปสนฺเนหิ กาตพฺพกิจฺจํ, กายเวยฺยาวจฺจสงฺขาตํ อุปฏฺานนฺติ วุตฺตํ โหติ. มณิยาจนาย ตสฺส อนาคมเนน อตฺตโน วฑฺฒิ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘มณินา เม อตฺโถ’’ติ, มนฺตปทนีหาเรน วา ตถา วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

๓๔๕. วตฺตมานสมีเปติ วตฺตมานสฺส สมีเป อตีเต. เอวํ วตฺตุํ ลพฺภตีติ ‘‘อาคโตสี’’ติ วตฺตพฺเพ วตฺตมานสมีปตฺตา ‘‘อาคจฺฉสี’’ติ เอวํ วตฺตมานโวหาเรน วตฺตุํ ลพฺภติ. ลกฺขณํ ปเนตฺถ สทฺทสตฺถานุสารโต เวทิตพฺพํ. โส เอว นโยติ ‘‘อาคโตมฺหี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘อาคจฺฉามี’’ติ อยมฺปิ วตฺตมานสมีเป วตฺตมานโวหาโรติ ทสฺเสติ.

๓๔๘-๓๔๙. ยสฺมา ปน น สกฺกา เกวลํ ยาจนาย กิฺจิ กาตุํ, ตสฺมา ‘‘สยํ ยาจิตเกหิ อุปกรเณหี’’ติ อธิปฺปายตฺโถ วุตฺโต. อุทฺธํมุขํ ลิตฺตา อุลฺลิตฺตา, อโธมุขํ ลิตฺตา อวลิตฺตา. ยสฺมา ปน อุทฺธํมุขํ ลิมฺปนฺตา เยภุยฺเยน อนฺโต ลิมฺปนฺติ, อโธมุขํ ลิมฺปนฺตา จ พหิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อุลฺลิตฺตาติ อนฺโตลิตฺตา, อวลิตฺตาติ พหิลิตฺตา’’ติ. ตตฺถ อุลฺลิตฺตา นาม เปตฺวา ตุลาปิฏฺสงฺฆาตวาตปานธูมฉิทฺทาทิเภทํ อเลโปกาสํ อวเสเส เลโปกาเส กุฏฺเฏหิ สทฺธึ ฆเฏตฺวา ฉทนสฺส อนฺโต สุธาย วา มตฺติกาย วา ลิตฺตา. อวลิตฺตา นาม วุตฺตนเยเนว ฉทนสฺส พหิ ลิตฺตา. อุลฺลิตฺตาวลิตฺตา นาม ตเถว ฉทนสฺส อนฺโต จ พหิ จ ลิตฺตา.

พฺยฺชนํ สเมตีติ ‘‘การยมาเนนา’’ติ เหตุกตฺตุวเสน อุทฺทิฏฺปทสฺส ‘‘การาเปนฺเตนา’’ติ เหตุกตฺตุวเสเนว นิทฺเทสสฺส กตตฺตา พฺยฺชนํ สเมติ. ยทิ เอวํ ‘‘กโรนฺโต วา การาเปนฺโต วา’’ติ กสฺมา ตสฺส ปทภาชนํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ. ‘‘อตฺตนา วิปฺปกตํ ปเรหิ ปริโยสาเปตี’’ติอาทิวจนโต ‘‘กโรนฺเตนปิ อิธ วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ อิธ วุตฺตนเยเนวาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว. อุโภเปเตติ การกการาปกา. การยมาเนนาติ อิมินาว ปเทน สงฺคหิตาติ กถํ สงฺคหิตา. น หิ การยมาโน กโรนฺโต นาม โหติ, เอวํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ – ยสฺมา กโรนฺเตนปิ การยมาเนนปิ อิธ วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ, ตสฺมา การยมาเนน เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ วุตฺเต ปเคว กโรนฺเตนาติ อิทํ อตฺถโต อาคตเมวาติ ‘‘การยมาเนนา’’ติ ภควตา วุตฺตํ. ตโต ‘‘การยมาเนนา’’ติ วุตฺเต สามตฺถิยโต ลพฺภมาโนปิ อตฺโถ เตเนว สงฺคหิโต นาม โหตีติ. พฺยฺชนํ วิโลมิตํ ภเวยฺยาติ ยสฺมา ‘‘การยมาเนนา’’ติ อิมสฺส ‘‘กโรนฺเตนา’’ติ อิทํ ปริยายวจนํ น โหติ, ตสฺมา กโรนฺเตน วา การาเปนฺเตน วาติ ปทตฺถวเสน นิทฺเทเส กเต พฺยฺชนํ วิรุทฺธํ ภเวยฺยาติ อธิปฺปาโย. อตฺถมตฺตเมวาติ ปทตฺถโต สามตฺถิยโต จ ลพฺภมานํ อตฺถมตฺตเมว.

อุทฺเทโสติ อุทฺทิสิตพฺโพ. อพฺโพหาริกนฺติ อปฺปมาณํ. ‘‘อายามโต จ วิตฺถารโต จา’’ติ อวตฺวา วิกปฺปตฺถสฺส วา-สทฺทสฺส วุตฺตตฺตา เอกโตภาเคน วฑฺฒิเตปิ อาปตฺติเยวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โย ปนา’’ติอาทิมาห. ติหตฺถาติ วฑฺฒกีหตฺเถน ติหตฺถา. ปมาณยุตฺโต มฺโจติ ปกติวิทตฺถิยา นววิทตฺถิปฺปมาโณ มฺโจ. ปมาณิกา กาเรตพฺพาติ อุกฺกฏฺปฺปมาณํ สนฺธาย วุตฺตตฺตา อุกฺกฏฺปฺปมาณยุตฺตาว กุฏิ อเทสิตวตฺถุกา น วฏฺฏติ, ปมาณโต ปน อูนตรา อเทสิตวตฺถุกาปิ วฏฺฏตีติ กสฺสจิ สนฺเทโห สิยาติ ตํนิวตฺตนตฺถํ ‘‘ปมาณโต อูนตรมฺปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปมาณโต อูนตรนฺติ ปาฬิยํ วุตฺตปฺปมาณโต อูนตรํ. ปจฺฉิเมน ปมาเณน จตุหตฺถโต อูนตรา กุฏิ นาม น โหตีติ จตุหตฺถโต ปฏฺาย กุฏิลกฺขณปฺปตฺตํ กุฏึ ทสฺเสตุํ ‘‘จตุหตฺถํ ปฺจหตฺถมฺปี’’ติ วุตฺตํ. กลลเลโปติ เกนจิ สิเลเสน กตเลโป, ตมฺพมตฺติกาทิกลลเลโป วา. อเลโป เอวาติ อพฺโพหาริกาเยวาติ อธิปฺปาโย. ปิฏฺสงฺฆาโฏ ทฺวารพาหา. โอโลเกตฺวาปีติ อปโลเกตฺวาปิ, อปโลกนกมฺมวเสนปิ กาตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย.

๓๕๓. ยถา สีหาทีนํ โคจราย ปกฺกมนฺตานํ นิพทฺธคมนมคฺโค น วฏฺฏติ, เอวํ หตฺถีนมฺปิ นิพทฺธคมนมคฺโค น วฏฺฏติ. เอเตสนฺติ สีหาทีนํ. จาริภูมีติ โคจรภูมิ. น คหิตาติ น วาริตาติ อธิปฺปาโย. อาโรคฺยตฺถายาติ นิรุปทฺทวตฺถาย. เสสานีติ ปุพฺพณฺณนิสฺสิตาทีนิ. ปุพฺพณฺณนิสฺสิตนฺติ เอตฺถ ปุพฺพณฺณวิรุหนฏฺานํ ปุพฺพณฺณ-สทฺเทน คหิตํ. เตนาห – ‘‘สตฺตนฺนํ ธฺานํ…เป… ิต’’นฺติ. อภิหนนฺติ เอตฺถาติ อพฺภาฆาตํ. ‘‘เวริฆร’’นฺติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘โจรานํ มารณตฺถาย กต’’นฺติ วุตฺตํ. ธมฺมคนฺธิกาติ หตฺถปาทาทิฉินฺทนคนฺธิกา.

อาวิชฺชิตุํ น สกฺกา โหตีติ ฉินฺทตฏาทิสมฺภวโต น สกฺกา โหติ อาวิชฺชิตุํ. ปาจินนฺติ กุฏิวตฺถุสามนฺตา จินิตพฺพอธิฏฺานํ. กิฺจาปิ อิธ ปุพฺพปโยคสหปโยคานํ อทินฺนาทาเน วิย วิเสโส นตฺถิ, ตถาปิ เตสํ วิภาเคน ทสฺสนํ ฉินฺทิตฺวา ปุน กาตพฺพาติ เอตฺถ กุฏิยา เภทนปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ กตํ. ตทตฺถายาติ ตจฺฉนตฺถาย. เอวํ กตนฺติ อเทสิตวตฺถุํ ปมาณาติกฺกนฺตํ วา กตํ. ทารุนา กตํ กุฏฺฏํ เอตฺถาติ ทารุกุฏฺฏิกา, กุฏิ. สิลากุฏฺฏิกนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ปณฺณสาลนฺติ พหิ ปณฺเณหิ ฉาเทตพฺพํ อุลฺลิตฺตาวลิตฺตํ กุฏิเมว วทติ. เตเนวาห ‘‘สภิตฺติจฺฉทนํ ลิมฺปิสฺสามี’’ติ.

อนฺโตเลเปเนว นิฏฺาเปตุกามํ สนฺธาย ‘‘อนฺโตเลเป วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. พหิเลเป วาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ตสฺมึ ทฺวารพทฺเธ วา วาตปาเน วา ปิเตติ โยเชตพฺพํ. ตสฺโสกาสนฺติ ตสฺส ทฺวารพทฺธสฺส วา วาตปานสฺส วา โอกาสํ. ปุน วฑฺเฒตฺวา วาติ ปุพฺเพว ปิโตกาสํ ขุทฺทกํ เจ, เภทเนน ปุน วฑฺเฒตฺวา. เลโป น ฆฏิยตีติ ปุพฺเพ ทินฺนเลโป ทฺวารพทฺเธน วา วาตปาเนน วา สทฺธึ น ฆฏิยติ, เอกาพทฺธํ หุตฺวา น ติฏฺตีติ วุตฺตํ โหติ. นฺติ ทฺวารพทฺธํ วา วาตปานํ วา. ปมเมว สงฺฆาทิเสโสติ เลปกิจฺจสฺส นิฏฺิตตฺตา ทฺวารพทฺธํ วา วาตปานํ วา ปนโต ปุพฺเพเยว สงฺฆาทิเสโส. อฏฺงฺคุลมตฺเตน อปฺปตฺตจฺฉทนํ กตฺวาติ เอตฺถ เอวํ เม อาปตฺติ น สิยาติ ภิตฺติยํ วา ฉทเน วา เอกงฺคุลมตฺตมฺปิ โอกาสํ เลเปน อฆเฏตฺวา เปติ, วฏฺฏตีติ วทนฺติ. มตฺติกากุฏฺฏเมว มตฺติกาเลปสงฺขฺยํ คจฺฉตีติ อาห – ‘‘สเจ มตฺติกาย กุฏฺฏํ กโรติ, ฉทนเลเปน สทฺธึ ฆฏเน อาปตฺตี’’ติ. อุภินฺนํ อนาปตฺตีติ ปุริมสฺส เลปสฺส อฆฏิตตฺตา ทุติยสฺส อตฺตุทฺเทสิกตาสมฺภวโต อุภินฺนํ อนาปตฺติ, ตสฺมา วินาปิ วตฺตสีเสน เตน อนาณตฺโต ตสฺส กโรมีติ กโรติ, อุภินฺนํ อนาปตฺติเยว. สเจ เตน อาณตฺโต กโรติ, มูลฏฺสฺเสว อาปตฺติ.

๓๕๔. ฉตฺตึส จตุกฺกานิ นาม ‘‘ภิกฺขุ กุฏึ กโรตี’’ติอาทิมฺหิ ปมวาเร อเทสิตวตฺถุกจตุกฺกํ เทสิตวตฺถุกจตุกฺกํ ปมาณาติกฺกนฺตจตุกฺกํ ปมาณิกจตุกฺกํ อเทสิตวตฺถุกปฺปมาณาติกฺกนฺตจตุกฺกํ เทสิตวตฺถุกปฺปมาณิกจตุกฺกนฺติ ฉ จตุกฺกานิ, เอวํ สมาทิสติวาราทีสุปิ ปฺจสูติ ฉตฺตึส. อาปตฺติเภททสฺสนตฺถํ วุตฺตานีติ ‘‘สารมฺเภ เจ ภิกฺขุ วตฺถุสฺมึ อปริกฺกมเน’’ติ อวิเสเสน มาติกาย วุตฺตตฺตา สารมฺภอปริกฺกมเนสุปิ สงฺฆาทิเสโสว สิยาติ มิจฺฉาคาหนิวตฺตนตฺถํ สารมฺเภ อปริกฺกมเน จ ทุกฺกฏํ, อเทสิตวตฺถุกตาย ปมาณาติกฺกนฺตตาย จ สงฺฆาทิเสโสติ เอวํ อาปตฺติเภททสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ.

๓๕๕-๓๖๑. ‘‘ทฺวีหิ สงฺฆาทิเสเสหี’’ติ วตฺตพฺเพ วิภตฺติพฺยตฺตเยน จ วจนพฺยตฺตเยน จ ทฺวินฺนํ สงฺฆาทิเสเสนาติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ทฺวีหิ สงฺฆาทิเสเสหิ…เป… อตฺโถ เวทิตพฺโพ’’ติ. ‘‘อฺสฺส วา ทาตพฺพา’’ติ วุตฺตตฺตา วิปฺปกตํ กุฏึ ลภิตฺวา อตฺตโน อตฺถาย กโรนฺตสฺสปิ อาทิโต ปฏฺาย อกตตฺตา อนาปตฺติเยวาติ วทนฺติ. อปจินิตพฺพาติ วิทฺธํเสตพฺพา. ภูมิสมํ กตฺวาติ กุฏิวตฺถุสมํ กตฺวา.

๓๖๔. น เหตฺถ เลโป ฆฏิยตีติ ฉทนเลปสฺส อภาวโต วุตฺตํ, วิสุํเยว อนุฺาตตฺตา ปน สเจปิ เลณสฺส อนฺโต อุปริภาเค จิตฺตกมฺมาทิกรณตฺถํ เลปํ เทนฺติ, วฏฺฏติเยว. เลปทานวเสน อกตา อิฏฺกาทิคุหา คุหา นามาติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ติเณหิ วา ปณฺเณหิ วา ฉาทิตกุฏิกาว วุตฺตาติ ‘‘กุกฺกุฏจฺฉิกเคหํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา ‘‘ฉทนํ ทณฺฑเกหี’’ติอาทินา ปุน ตํ ทสฺเสนฺเตหิ ติณปณฺณจฺฉทนา กุฏิกาว วุตฺตา. ฉทนํ ทณฺฑเกหิ ชาลพนฺธํ กตฺวาติ ฉทนํ ทีฆโต ติริยโต จ ปิตทณฺฑเกหิ ชาลํ วิย พนฺธิตฺวา. โอคุมฺเผตฺวาติ ติณาทึ วิทฺธํเสตฺวา. ภิตฺติเลเปน สทฺธึ เลเป ฆฏิเตติ เอตฺถ อุลฺลิตฺตาวลิตฺตภาวสฺส ฉทนํ สนฺธาย วุตฺตตฺตา สเจปิ ภิตฺติเลเปน อนตฺถิโก โหติ, ฉทนเลเป สมนฺตโต ภิตฺติยา อปฺปมตฺตเกนปิ ฆฏิเต ภิตฺติเลเปน วินาปิ อาปตฺติเยวาติ วทนฺติ. อุปจิกาโมจนตฺถเมว เหฏฺา ปาสาณกุฏฺฏํ กตฺวา ตํ อลิมฺปิตฺวา อุปริ ลิมฺปติ, เลโป น ฆฏิยติ นาม, อนาปตฺติเยวาติ อิมินา อฏฺกถาวจเนน ตํ น สเมติ. ตตฺถ เกจิ วทนฺติ ‘‘ภิตฺตึ อลิมฺปิตุกามตาย อภาวโต ฉทนเลเป ปาสาณกุฏฺเฏน สทฺธึ ฆฏิเตปิ ตตฺถ อนาปตฺติ วุตฺตา’’ติ, ตมฺปิ น ยุตฺตํ. ‘‘อุปจิกาโมจนตฺถเมวา’’ติ หิ วุตฺตตฺตา ปาสาณกุฏฺเฏ ปุน ลิมฺปิตุกามตาย อภาโวเยว วิฺายติ, เตเนว ‘‘ตํ อลิมฺปิตฺวา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘อุลฺลิตฺตาทิภาโว…เป… ฉทนเมว สนฺธาย วุตฺโต’’ติ อิทํ สติปิ ภิตฺติเลเป ฉทนเลเปน วินา อาปตฺติ น โหตีติ ฉทนเลปสฺส ปธานภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น ปน ภิตฺติเลเปน วินาปิ อาปตฺติ โหตีติ ทสฺสนตฺถนฺติ วทนฺติ, อิทเมว เจตฺถ ยุตฺตตรนฺติ อมฺหากํ ขนฺติ. เอตฺถาติ ติณกุฏิกาย.

เอตฺถ จ ติณกุฏิกาย เอว สพฺพถา อนาปตฺติภาวสฺส ทสฺสนํ ปริวารปาฬึ อาเนตฺวา ติณกุฏิกาย สารมฺภาทิปจฺจยาปิ อนาปตฺติภาโว สุเขน สกฺกา สาเธตุนฺติ กตํ. ติณกุฏิกาย จ สพฺพถา อนาปตฺติภาเว สาธิเต เตเนว นเยน เลณคุหาทีสุปิ สารมฺภาทิปจฺจยาปิ อนาปตฺติภาโว สกฺกา วิฺาตุนฺติ. เตเนว ‘‘ยํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตถา หิ ติณกุฏิกาย สารมฺภาทิปจฺจยาปิ อนาปตฺติภาเว สาธิเต เตเนว นเยน อฺสฺสตฺถาย กโรนฺตสฺสปิ สารมฺภาทิปจฺจยาปิ อนาปตฺติภาโว อตฺถโต ทสฺสิโตเยว โหติ. เอวฺจ สติ ภิกฺขุ สมาทิสิตฺวา ปกฺกมติ ‘‘กุฏึ เม กโรถา’’ติ, สมาทิสติ จ เทสิตวตฺถุกา จ โหตุ อนารมฺภา จ สปริกฺกมนา จาติ, ตสฺส กุฏึ กโรนฺติ อเทสิตวตฺถุกํ สารมฺภํ อปริกฺกมนํ. ‘‘อาปตฺติ การุกานํ ติณฺณํ ทุกฺกฏาน’’นฺติ ปาฬิยํ อฺสฺสตฺถาย กโรนฺตสฺสปิ สารมฺภาทิปจฺจยาปิ ทุกฺกฏํ กสฺมา วุตฺตนฺติ อิมํ โจทนํ มนสิ นิธาย ‘‘ยํ ปน…เป… อกรณปจฺจยา วุตฺต’’นฺติ อิทํ วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – อฺสฺสตฺถาย กโรนฺตสฺสปิ สารมฺภาทิปจฺจยาปิ อนาปตฺติเยว. ‘‘อาปตฺติ การุกานํ ติณฺณํ ทุกฺกฏาน’’นฺติ อิทํ ปน อฺสฺสตฺถาย กโรนฺตสฺส น สารมฺภาทิปจฺจยา อาปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, กิฺจรหิ ยถาสมาทิฏฺาย อกรณปจฺจยา อาปตฺติทสฺสนตฺถนฺติ. ยสฺมา พหูสุ โปตฺถเกสุ สตโสธิตสมฺมเต จ ปุราณโปตฺถเก อยเมว ปากฺกโม ทิสฺสติ, ตสฺมา ยถาทิฏฺปาานุกฺกเมเนเวตฺถ อตฺโถ ปกาสิโต. กตฺถจิ โปตฺถเก ปน ‘‘กุฏิลกฺขณปฺปตฺตมฺปิ กุฏึ…เป… อนาปตฺตี’’ติ อิมสฺสานนฺตรํ ‘‘ยํ ปนา’’ติอาทิปาํ ลิขนฺติ, เอวฺจ สติ ตตฺถ อธิปฺปาโย ปากโฏเยว. อนาปตฺตีติ วตฺวาติ อุโปสถาคารฺจ ภวิสฺสติ, อหฺจ วสิสฺสามีติอาทีสุ วาสาคารตฺถาย เอว อนิยมิตตฺตา อนาปตฺตีติ วตฺวา.

ปมาณาติกฺกนฺตกุฏิกรณลกฺขณา กิริยาเยว, อเทสิตวตฺถุมูลิกายปิ อาปตฺติยา องฺคํ โหติ ปมาณาติกฺกนฺตมูลิกายปิ, ตทุภยํ เอกโต กตฺวา ‘‘กิริยากิริยโต’’ติ วุตฺตํ. วตฺถุํ อเทสาเปตฺวา ปมาณยุตฺตํ กุฏึ กโรนฺตสฺสปิ วตฺถุํ เทสาเปตฺวา อกิริยาย กุฏิกรณกิริยาย จ สมุฏฺานโต กิริยากิริยโตว สมุฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ. อจิตฺตกนฺติ ปณฺณตฺติอชานนจิตฺเตน อจิตฺตกํ. อุลฺลิตฺตาทีนํ อฺตรตา, เหฏฺิมปฺปมาณสมฺภโว, อเทสิตวตฺถุตา, ปมาณาติกฺกนฺตตา, อตฺตุทฺเทสิกตา, วาสาคารตา, เลปฆฏฺฏนาติ อิมาเนตฺถ ฉ วา สตฺต วา องฺคานิ.

กุฏิการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. วิหารการสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๖๕. สตฺตเม เอวํนามเก นคเรติ โกสมฺพีนามเก. ตสฺส กิร นครสฺส อารามโปกฺขรณีอาทีสุ เตสุ เตสุ าเนสุ โกสมฺพรุกฺขาว อุสฺสนฺนา อเหสุํ, ตสฺมา โกสมฺพีติ สงฺขฺยํ อคมาสิ. กุสุมฺพสฺส นาม อิสิโน อสฺสมโต อวิทูเร มาปิตตฺตาติ เอเก. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กุสุมฺพสฺส อิสิโน นิวาสภูมิ โกสมฺพี, ตสฺส จ อวิทูเร ภวตฺตา นครํ โกสมฺพีติ สงฺขฺยํ คตนฺติ. โฆสิตนามเกน กิร เสฏฺินา โส การิโตติ เอตฺถ โก โฆสิตเสฏฺิ, กถฺจาเนน โส อาราโม การิโตติ? ปุพฺเพ กิร อทฺทิลรฏฺํ นาม อโหสิ. ตโต โกตูหลโก นาม ทลิทฺโท ฉาตกภเยน สปุตฺตทาโร สุภิกฺขํ รฏฺํ คจฺฉนฺโต ปุตฺตํ วหิตุํ อสกฺโกนฺโต ฉฑฺเฑตฺวา อคมาสิ. มาตา นิวตฺติตฺวา ตํ คเหตฺวา คตา. เต เอกํ โคปาลกคามํ ปวิสึสุ. โคปาลกานฺจ ตทา พหุปายาโส ปฏิยตฺโต โหติ, ตโต ปายาสํ ลภิตฺวา ภุฺชึสุ. อถ โส ปุริโส พหุตรํ ปายาสํ ภุตฺโต ชีราเปตุํ อสกฺโกนฺโต รตฺติภาเค กาลํ กตฺวา ตตฺเถว สุนขิยา กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา กุกฺกุโร ชาโต, โส โคปาลกสฺส ปิโย อโหสิ. โคปาลโก จ ปจฺเจกพุทฺธํ อุปฏฺาติ. ปจฺเจกพุทฺโธปิ ภตฺตกิจฺจกาเล กุกฺกุรสฺส เอกํ ปิณฺฑํ เทติ. โส ปจฺเจกพุทฺเธ สิเนหํ อุปฺปาเทตฺวา โคปาลเกน สทฺธึ ปณฺณสาลมฺปิ คจฺฉติ, โคปาลเก อสนฺนิหิเต ภตฺตเวลายํ สยเมว คนฺตฺวา กาลาโรจนตฺถํ ปณฺณสาลทฺวาเร ภุสฺสติ, อนฺตรามคฺเคปิ จณฺฑมิเค ทิสฺวา ภุสฺสิตฺวา ปลาเปติ. โส ปจฺเจกพุทฺเธ มุทุเกน จิตฺเตน กาลํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺติ. ตตฺราสฺส ‘‘โฆสกเทวปุตฺโต’’ตฺเวว นามํ อโหสิ.

โส เทวโลกโต จวิตฺวา โกสมฺพิยํ เอกสฺมึ กุลฆเร นิพฺพตฺติ. ตํ อปุตฺตโก กิร เสฏฺิ ตสฺส มาตาปิตูนํ ธนํ ทตฺวา ปุตฺตํ กตฺวา อคฺคเหสิ. อถ อตฺตโน ปุตฺเต ชาเต สตฺตกฺขตฺตุํ ฆาตาเปตุํ อุปกฺกมิ. โส ปุฺวนฺตตาย สตฺตสุปิ าเนสุ มรณํ อปฺปตฺวา อวสาเน เอกาย เสฏฺิธีตาย เวยฺยตฺติเยน ลทฺธชีวิโก อปรภาเค ปิตุ อจฺจเยน เสฏฺิฏฺานํ ปตฺวา โฆสิตเสฏฺิ นาม ชาโต. อฺเปิ โกสมฺพิยํ กุกฺกุฏเสฏฺิ, ปาวาริยเสฏฺีติ ทฺเว เสฏฺิโน อตฺถิ, อิมินา สทฺธึ ตโย อเหสุํ.

เตน จ สมเยน เตสํ สหายกานํ เสฏฺีนํ กุลูปกา ปฺจสตา อิสโย ปพฺพตปาเท วสึสุ. เต กาเลน กาลํ โลณมฺพิลเสวนตฺถํ มนุสฺสปถํ อาคจฺฉนฺติ. อเถกสฺมึ วาเร คิมฺหสมเย มนุสฺสปถํ อาคจฺฉนฺตา นิรุทกํ มหากนฺตารํ อติกฺกมิตฺวา กนฺตารปริโยสาเน มหนฺตํ นิคฺโรธรุกฺขํ ทิสฺวา จินฺเตสุํ ‘‘ยาทิโส อยํ รุกฺโข, อทฺธา เอตฺถ มเหสกฺขาย เทวตาย ภวิตพฺพํ, สาธุ วตสฺส, สเจ โน ปานียํ วา ปริโภชนียํ วา ทเทยฺยา’’ติ. เทวตา อิสีนํ อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา ‘‘อิเมสํ สงฺคหํ กริสฺสามี’’ติ อตฺตโน อานุภาเวน วิฏปนฺตรโต นงฺคลสีสมตฺตํ อุทกธารํ ปวตฺเตสิ. อิสิคโณ รชตกฺขนฺธสทิสํ อุทกวฏฺฏึ ทิสฺวา อตฺตโน ภาชเนหิ อุทกํ คเหตฺวา ปริโภคํ กตฺวา จินฺเตสิ ‘‘เทวตาย อมฺหากํ ปริโภคุทกํ ทินฺนํ, อิทํ ปน อคามกํ มหารฺํ, สาธุ วตสฺส, สเจ โน อาหารมฺปิ ทเทยฺยา’’ติ. เทวตา อิสีนํ อุปกปฺปนวเสน ทิพฺพานิ ยาคุขชฺชกาทีนิ ทตฺวา สนฺตปฺเปสิ.

อิสโย จินฺตยึสุ ‘‘เทวตาย อมฺหากํ ปริโภคุทกมฺปิ โภชนมฺปิ สพฺพํ ทินฺนํ, สาธุ วตสฺส, สเจ โน อตฺตานํ ทสฺเสยฺยา’’ติ. เทวตา เตสํ อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา อุปฑฺฒกายํ ทสฺเสสิ. เทวเต มหตี เต สมฺปตฺติ, กึ กมฺมํ กตฺวา อิมํ สมฺปตฺตึ อธิคตาสีติ. นาติมหนฺตํ ปริตฺตกํ กมฺมํ กตฺวาติ. อุปฑฺฒุโปสถกมฺมํ นิสฺสาย หิ เทวตาย สมฺปตฺติ ลทฺธา. อนาถปิณฺฑิกสฺส กิร เคเห อยํ เทวปุตฺโต กมฺมกาโร อโหสิ. เสฏฺิสฺส หิ เคเห อุโปสถทิวเสสุ อนฺตมโส ทาสกมฺมกาเร อุปาทาย สพฺโพ ชโน อุโปสถิโก โหติ. เอกทิวสํ อยํ กมฺมกาโร เอกโกว ปาโต อุฏฺาย กมฺมนฺตํ คโต. มหาเสฏฺิ นิวาปํ ลภมานมนุสฺเส สลฺลกฺเขนฺโต เอตสฺเสเวกสฺส อรฺํ คตภาวํ ตฺวา อสฺส สายมาสตฺถาย นิวาปํ อทาสิ. ภตฺตการทาสี เอกสฺเสว ภตฺตํ ปจิตฺวา อรฺโต อาคตสฺส ภตฺตํ วฑฺเฒตฺวา อทาสิ. กมฺมกาโร จินฺตยิ ‘‘อฺเสุ ทิวเสสุ อิมสฺมึ กาเล เคหํ เอกสทฺทํ อโหสิ, อชฺช อติวิย สนฺนิสินฺนํ, กึ นุ โข เอต’’นฺติ. ตสฺส สา อาจิกฺขิ ‘‘อชฺช อิมสฺมึ เคเห สพฺเพ มนุสฺสา อุโปสถิกา, มหาเสฏฺิ ตุยฺเหเวกสฺส นิวาปํ อทาสี’’ติ. เอวํ อมฺมาติ. อาม สามีติ. ‘‘อิมสฺมึ กาเล อุโปสถํ สมาทินฺนสฺส อุโปสถกมฺมํ โหติ, น โหตี’’ติ มหาเสฏฺึ ปุจฺฉ อมฺมาติ. ตาย คนฺตฺวา ปุจฺฉิโต มหาเสฏฺิ อาห – ‘‘สกลอุโปสถกมฺมํ น โหติ, อุปฑฺฒกมฺมํ ปน โหติ, อุโปสถิโก โหตี’’ติ. กมฺมกาโร ภตฺตํ อภุฺชิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา อุโปสถิโก หุตฺวา วสนฏฺานํ คเหตฺวา นิปชฺชิ. ตสฺส อาหารปริกฺขีณกายสฺส รตฺตึ วาโต กุปฺปิ. โส ปจฺจูสสมเย กาลํ กตฺวา อุปฑฺฒุโปสถกมฺมนิสฺสนฺเทน มหาวตฺตนิอฏวิทฺวาเร นิคฺโรธรุกฺขเทวปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ.

โส ตํ ปวตฺตึ อิสีนํ อาโรเจสิ. อิสโย ปุจฺฉึสุ ‘‘ตุมฺเหหิ มยํ ‘พุทฺโธ ธมฺโม สงฺโฆ’ติ อสฺสุตปุพฺพํ สาวิตา, อุปฺปนฺโน นุ โข โลเก พุทฺโธ’’ติ. อาม, ภนฺเต, อุปฺปนฺโนติ. อิทานิ กุหึ วสตีติ. สาวตฺถิยํ นิสฺสาย เชตวเน, ภนฺเตติ. อิสโย ‘‘ติฏฺถ ตุมฺเห, มยํ สตฺถารํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ หฏฺตุฏฺา นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน โกสมฺพีนครํ สมฺปาปุณึสุ. มหาเสฏฺิโน ‘‘อิสโย อาคตา’’ติ ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา ‘‘สฺเว อมฺหากํ ภิกฺขํ คณฺหถ, ภนฺเต’’ติ นิมนฺเตตฺวา ปุนทิวเส อิสิคณสฺส มหาทานํ อทํสุ. อิสโย ‘‘ภุตฺวาว คจฺฉามา’’ติ อาปุจฺฉึสุ. ภนฺเต, ตุมฺเห อฺสฺมึ กาเล เอกมฺปิ มาสํ ทฺเวปิ ตโยปิ จตฺตาโรปิ มาเส วสิตฺวา คจฺฉถ, อิมสฺมึ ปน วาเร หิยฺโย อาคนฺตฺวา ‘‘อชฺเชว คจฺฉามา’’ติ วทถ, กึ อิทนฺติ. อาม คหปตโย พุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน, น โข ปน สกฺกา ชีวิตนฺตราโย ชานิตุํ, เตน มยํ ตุริตา คจฺฉามาติ. เตน หิ, ภนฺเต, มยมฺปิ อาคจฺฉาม, อมฺเหหิ สทฺธึเยว คจฺฉถาติ. ‘‘ตุมฺเห อคาริยา นาม มหาชฏา, ติฏฺถ ตุมฺเห, มยํ ปุเรตรํ คมิสฺสามา’’ติ นิกฺขมิตฺวา เอกฏฺาเน ทฺเว ทิวสานิ อวสิตฺวา ตุริตคมเนน สาวตฺถึ ปตฺวา เชตวนวิหาเร สตฺถุ สนฺติกเมว อคมํสุ. ตตฺถ มธุรธมฺมกถํ สุตฺวา สพฺเพว ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ.

เตปิ ตโย เสฏฺิโน ปฺจหิ ปฺจหิ สกฏสเตหิ สปฺปิมธุผาณิตาทีนิ เจว ปฏฺฏุณฺณทุกูลาทีนิ จ อาทาย โกสมฺพิโต นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน สาวตฺถึ ปตฺวา เชตวนสามนฺเต ขนฺธาวารํ พนฺธิตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. สตฺถา ติณฺณมฺปิ สหายานํ มธุรธมฺมกถํ กเถสิ. เต พลวโสมนสฺสชาตา สตฺถารํ นิมนฺเตตฺวา ปุนทิวเส มหาทานํ อทํสุ, ปุน นิมนฺเตตฺวา ปุนทิวเสติ เอวํ อฑฺฒมาสํ ทานํ ทตฺวา ‘‘ภนฺเต, อมฺหากํ ชนปทํ อาคมนาย ปฏิฺํ เทถา’’ติ ปาทมูเล นิปชฺชึสุ. ภควา ‘‘สุฺาคาเร โข คหปตโย ตถาคตา อภิรมนฺตี’’ติ อาห. ‘‘เอตฺตาวตา ปฏิฺา ทินฺนา นาม โหตี’’ติ คหปตโย สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘ทินฺนา โน ภควตา ปฏิฺา’’ติ ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา ทสพลํ วนฺทิตฺวา นิกฺขมิตฺวา อนฺตรามคฺเค โยชเน โยชเน วิหารํ กาเรตฺวา อนุปุพฺเพน โกสมฺพึ ปตฺวา ‘‘โลเก พุทฺโธ อุปฺปนฺโน’’ติ กถยึสุ. ตโย ชนา อตฺตโน อตฺตโน อาราเม มหนฺตํ ธนปริจฺจาคํ กตฺวา ภควโต วิหาเร การาเปสุํ. ตตฺถ กุกฺกุฏเสฏฺินา การิโต กุกฺกุฏาราโม นาม อโหสิ. ปาวาริกเสฏฺินา อมฺพวเน การิโต ปาวาริกมฺพวนํ นาม. โฆสิเตน การิโต โฆสิตาราโม นาม อโหสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘โฆสิตนามเกน กิร เสฏฺินา โส การิโต’’ติ.

โย อภินิกฺขมนกาเล สทฺธึ นิกฺขนฺโต, ยสฺส จ สตฺถารา ปรินิพฺพานกาเล พฺรหฺมทณฺโฑ อาณตฺโต, ตํ สนฺธายาห ‘‘โพธิสตฺตกาเล อุปฏฺากฉนฺนสฺสา’’ติ. อิมินา จ โย มชฺฌิมนิกาเย ฉนฺโนวาทสุตฺเต (ม. นิ. ๓.๓๘๙ อาทโย) คิลาโน หุตฺวา ธมฺมเสนาปตินา โอวทิยมาโนปิ มารณนฺติกเวทนํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต ติณฺเหน สตฺเถน กณฺนาฬึ ฉินฺทิตฺวา มรณภเย อุปฺปนฺเน คตินิมิตฺเต จ อุปฏฺิเต อตฺตโน ปุถุชฺชนภาวํ ตฺวา สํวิคฺโค วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา สงฺขาเร ปริคฺคณฺหนฺโต อรหตฺตํ ปตฺวา สมสีสี หุตฺวา ปรินิพฺพายิ, อยํ โส น โหตีติ ทสฺเสติ. ปูชาวจนปฺปโยเค กตฺตริ สามิวจนสฺสปิ อิจฺฉิตตฺตา อาห ‘‘คามสฺส วา ปูชิต’’นฺติ. ลกฺขณํ ปเนตฺถ สทฺทสตฺถานุสารโต เวทิตพฺพํ. เอเกโก โกฏฺาโสติ เอเกโก ภาโค.

๓๖๖. กิริยโต สมุฏฺานภาโวติ เกวลํ กิริยามตฺตโต สมุฏฺานภาวํ ปฏิกฺขิปติ, วตฺถุโน ปน อเทสนาย กุฏิกรณกิริยาย จ สมุฏฺานโต กิริยากิริยโต สมุฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ภิกฺขู วา อนภิเนยฺยาติ เอตฺถ วา-สทฺโท ‘‘อยํ วา โส มหานาโค’’ติอาทีสุ วิย อวธารณตฺโถติ ทฏฺพฺโพ.

วิหารการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ปมทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๘๐. อฏฺเม ปากาเรน ปริกฺขิตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. โคปุรฏฺฏาลกยุตฺตนฺติ ทฺวารปาสาเทน จ ตตฺถ ตตฺถ ปาการมตฺถเก ปติฏฺาปิตอฏฺฏาลเกหิ จ ยุตฺตํ. เวฬูหิ ปริกฺขิตฺตตฺตา อพฺภนฺตเร ปุปฺผูปคผลูปครุกฺขสฺฉนฺนตฺตา จ นีโลภาสํ. ฉายูทกสมฺปตฺติยา ภูมิภาคสมฺปตฺติยา จ มโนรมํ. กาฬกเวเสนาติ กลนฺทกรูเปน. นิวาปนฺติ โภชนํ. นฺติ อุยฺยานํ. ทพฺโพติ ตสฺส เถรสฺส นามนฺติ ทพฺพตฺถมฺเภ ปติตตฺตา ทพฺโพติ ตสฺส เถรสฺส นามํ อโหสิ.

กสฺสปทสพลสฺส สาสโนสกฺกนกาเล กิร สตฺต ภิกฺขู เอกจิตฺตา หุตฺวา อฺเ สาสเน อคารวํ กโรนฺเต ทิสฺวา ‘‘อิธ กึ กโรม, เอกมนฺเต สมณธมฺมํ กตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสามา’’ติ นิสฺเสณึ พนฺธิตฺวา อุจฺจํ ปพฺพตสิขรํ อภิรุหิตฺวา อตฺตโน จิตฺตพลํ ชานนฺตา ‘‘นิสฺเสณึ ปาเตนฺตุ, ชีวิเต สาลยา โอตรนฺตุ, มา ปจฺฉานุตปฺปิโน อหุวตฺถา’’ติ วตฺวา สพฺเพ เอกจิตฺตา หุตฺวา นิสฺเสณึ ปาเตตฺวา ‘‘อปฺปมตฺตา โหถ, อาวุโส’’ติ อฺมฺํ โอวทิตฺวา จิตฺตรุจิเยสุ าเนสุ นิสีทิตฺวา สมณธมฺมํ กาตุํ อารภึสุ.

ตตฺเรโก เถโร ปฺจเม ทิวเส อรหตฺตํ ปตฺวา ‘‘มม กิจฺจํ นิปฺผนฺนํ, อหํ อิมสฺมึ าเน กึ กริสฺสามี’’ติ อิทฺธิยา อุตฺตรกุรุโต ปิณฺฑปาตํ อาหริตฺวา อาห – ‘‘อาวุโส, อิมํ ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชถ, ภิกฺขาจารกิจฺจํ มมายตฺตํ โหตุ, ตุมฺเห อตฺตโน กมฺมํ กโรถา’’ติ. กึ นุ มยํ, อาวุโส, นิสฺเสณึ ปาเตนฺตา เอวํ อวจุมฺห ‘‘โย ปมํ ธมฺมํ สจฺฉิกโรติ, โส ภิกฺขํ อาหรตุ, เตนาภตํ เสสา ปริภุฺชิตฺวา สมณธมฺมํ กริสฺสนฺตี’’ติ. นตฺถิ, อาวุโสติ. ตุมฺเห อตฺตโน ปุพฺพเหตุนาว ลภิตฺถ, มยมฺปิ สกฺโกนฺตา วฏฺฏสฺสนฺตํ กริสฺสาม, คจฺฉถ ตุมฺเหติ. เถโร เต สฺาเปตุํ อสกฺโกนฺโต ผาสุกฏฺาเน ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิตฺวา คโต. อปโรปิ เถโร สตฺตเม ทิวเส อนาคามิผลํ ปตฺวา ตโต จุโต สุทฺธาวาสพฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺโต, อิตเร เถรา เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทวมนุสฺเสสุ สํสริตฺวา เตสุ เตสุ กุเลสุ นิพฺพตฺตา. เอโก คนฺธารรฏฺเ ตกฺกสิลนคเร ราชเคเห นิพฺพตฺโต, เอโก ปจฺจนฺติมรฏฺเ ปริพฺพาชิกาย กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺโต, เอโก พาหิยรฏฺเ กุฏุมฺพิยเคเห นิพฺพตฺโต, เอโก ราชคเห กุฏุมฺพิยเคเห นิพฺพตฺโต.

อยํ ปน ทพฺพตฺเถโร มลฺลรฏฺเ อนุปิยนคเร เอกสฺส มลฺลรฺโ เคเห ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. ตสฺส มาตา อุปวิชฺา กาลมกาสิ. มตสรีรํ สุสานํ เนตฺวา ทารุจิตกํ อาโรเปตฺวา อคฺคึ อทํสุ. อคฺคิเวคสนฺตตฺตํ อุทรปฏลํ ทฺเวธา อโหสิ. ทารโก อตฺตโน ปุฺพเลน อุปฺปติตฺวา เอกสฺมึ ทพฺพตฺถมฺเภ นิปติ, ตํ ทารกํ คเหตฺวา อยฺยิกาย อทํสุ. สา ตสฺส นามํ คณฺหนฺตี ทพฺพตฺถมฺเภ ปติตฺวา ลทฺธชีวิกตฺตา ‘‘ทพฺโพ’’ติ ตสฺส นามํ อกาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ทพฺโพติ ตสฺส เถรสฺส นาม’’นฺติ.

ตสฺส สตฺตวสฺสิกกาเล สตฺถา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต มลฺลรฏฺเ จาริกํ จรมาโน อนุปิยนิคมํ ปตฺวา อนุปิยมฺพวเน วิหรติ. ทพฺพกุมาโร สตฺถารํ ทิสฺวา สห ทสฺสเนเนว ปสีทิตฺวา ปพฺพชิตุกาโม หุตฺวา ‘‘อหํ ทสพลสฺส สนฺติเก ปพฺพชิสฺสามี’’ติ อยฺยิกํ อาปุจฺฉิ. สา ‘‘สาธุ ตาตา’’ติ ทพฺพกุมารํ อาทาย สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ภนฺเต, อิมํ กุมารํ ปพฺพาเชถา’’ติ อาห. สตฺถา อฺตรสฺส ภิกฺขุโน สฺํ อทาสิ ‘‘ภิกฺขุ อิมํ ทารกํ ปพฺพาเชหี’’ติ. โส เถโร สตฺถุ วจนํ สุตฺวา ทพฺพกุมารํ ปพฺพาเชนฺโต ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ อาจิกฺขิ. ปุพฺพเหตุสมฺปนฺโน กตาภินีหาโร ปมเกสวฏฺฏิยา โวโรปนกฺขเณเยว โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาสิ, ทุติยาย เกสวฏฺฏิยา โอโรปิยมานาย สกทาคามิผเล, ตติยาย อนาคามิผเล, สพฺพเกสานํ ปน โอโรปนฺจ อรหตฺตผลสจฺฉิกิริยา จ อปจฺฉา อปุเร อโหสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เถโร กิร สตฺตวสฺสิโกว สํเวคํ ลภิตฺวา ปพฺพชิโต ขุรคฺเคเยว อรหตฺตํ ปาปุณีติ เวทิตพฺโพ’’ติ.

สาวเกน ปตฺตพฺพนฺติ ยถุปนิสฺสยํ เตน เตน สาวเกน ปตฺตพฺพํ. ติสฺโส วิชฺชาติอาทิ ยถาสมฺภววเสน วุตฺตํ. คุณชาตนฺติ ‘‘ยฺจ กิฺจิ สาวเกน ปตฺตพฺพ’’นฺติ นปุํสกลิงฺคสมฺพนฺธทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. จตูสุ สจฺเจสุ จตูหิ มคฺเคหิ โสฬสวิธสฺส กิจฺจสฺส กตตฺตาติ ทุกฺขสมุทยนิโรธมคฺคสงฺขาเตสุ จตูสุ สจฺเจสุ ทุกฺขปริฺา สมุทยปฺปหานํ นิโรธสจฺฉิกิริยา มคฺคภาวนาติ เอเกกสฺส มคฺคสฺส จตุนฺนํ จตุนฺนํ กิจฺจานํ วเสน โสฬสวิธสฺส กิจฺจสฺส กตตฺตา. ตโต ตโต ปฏิกฺกมิตฺวาติ ตโต ตโต กิจฺจโต อารมฺมณโต จ ปฏิวตฺติตฺวา. สิลาปฏฺฏเกติ ปาสาณผลเก. เตรสาปีติ ภตฺตุทฺเทสกเสนาสนคฺคาหาปกภณฺฑาคาริกจีวรปฏิคฺคาหกจีวรภาชนกยาคุภาชนกผลภาชนกขชฺชภาชนกอปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชกสาฏิยคฺคาหาปกปตฺตคฺคาหาปกอารามิกเปสกสามเณรเปสกสมฺมุตีนํ วเสน เตรสาปิ สมฺมุติโย ทาตุํ วฏฺฏนฺติ.

๓๘๒. อปิสูติ เอตฺถ สูติ นิปาตมตฺตํ, อปิ-สทฺโท อฏฺานปฺปยุตฺโต ‘‘วิกาเล’’ติ อิมสฺส อนนฺตรํ ทฏฺพฺโพ, วิกาเลปิ อาคจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. ชานนฺตาติ ทูรภาวํ ชานนฺตา. เอวํ สพฺพปเทสูติ เอตฺถ กติกสณฺานาทีนํ นานปฺปการตฺตา ตสฺมึ ตสฺมึ วิหาเร กติกวตฺตาทีนิ วิสุํ วิสุํ กถาเปตีติ เวทิตพฺพํ. สพฺพวิหาเรสุ จ คมนมคฺเค สมปฺปมาเณ กตฺวา อธิฏฺาตีติ วทนฺติ. อยฺหิ นิมฺมิตานํ ธมฺมตาติ อนิยเมตฺวา นิมฺมิตานํ อยํ ‘‘เอกสฺมึ ภาสมานสฺมิ’’นฺติอาทิ ธมฺมตา. ตถา หิ เย วณฺณวยสรีราวยวปริกฺขารกิริยาวิเสสาทีหิ นิยมํ อกตฺวา นิมฺมิตา โหนฺติ, เต อนิยเมตฺวา นิมฺมิตตฺตา อิทฺธิมตา สทิสาว โหนฺติ. านนิสชฺชาทีสุ ภาสิตตุณฺหีภาวาทีสุ วา ยํ ยํ อิทฺธิมา กโรติ, ตํ ตเทว กโรนฺติ. สเจ ปน นานปฺปกาเร กาตุกาโม โหติ, เกจิ ปมวเย, เกจิ มชฺฌิมวเย, เกจิ ปจฺฉิมวเย, ตถา ทีฆเกเส, อุปฑฺฒมุณฺเฑ, มิสฺสกเกเส, อุปฑฺฒรตฺตจีวเร, ปณฺฑุกจีวเร, ปทภาณธมฺมกถาสรภฺปฺหปุจฺฉนปฺหวิสฺสชฺชนจีวรสิพฺพนโธวนาทีนิ กโรนฺเต, อปเรปิ วา นานปฺปการเก กาตุกาโม โหติ, เตน ปาทกชฺฌานโต วุฏฺาย ‘‘เอตฺตกา ภิกฺขู ปมวยา โหนฺตู’’ติอาทินา นเยน ปริกมฺมํ กตฺวา ปุน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อธิฏฺิเต อธิฏฺานจิตฺเตน สทฺธึ อิจฺฉิติจฺฉิตปฺปการาเยว โหนฺติ. อวตฺถุกวจนํ น โหตีติ นิมฺมิตานํ ‘‘อยํ มฺโจ’’ติอาทิวจนํ อวตฺถุกํ น โหติ สพฺพตฺถ มฺจปีานํ สมฺภวโต.

๓๘๓. เอกจาริกภตฺตนฺติ อติมนาปตฺตา วิสุํ ิติกาย ปาเปตพฺพํ ภตฺตํ. ตทฺธิตโวหาเรนาติ จตฺตาริ ปริมาณมสฺส จตุกฺกนฺติ เอวํ ตทฺธิตโวหาเรน. โอทนสฺส ปุจฺฉาย สาธกตมตฺตา อาห – ‘‘กรณตฺเถเยว กรณวจน’’นฺติ, โอทเนน กรณภูเตน ปุจฺฉนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. เย จ โอทเนน กรณภูเตน ปุจฺฉนฺติ, เตสํ ปุจฺฉนาการทสฺสนตฺถํ ‘‘กึ, ภนฺเต, โอทนํ เทมาติ ปุจฺฉนฺตี’’ติ วุตฺตํ.

ภโวติ ภวิตพฺโพ. อสมนฺนาหริตฺวาติ อาโภคํ อกตฺวา. รตฺตึ สมฺมนฺตยมานาติ กฺจิ กาลํ สุปิตฺวา วุฏฺาย สมฺมนฺตยมานา. รตฺติยฺหิ ปมยามมชฺฌิมยาเมสุ สุปิตฺวา ปพุทฺธานํ อชฺชตนกาเลปิ อนชฺชตนาภิมาโน โหติ, ตสฺมา เต ‘‘หิยฺโย’’ติ อาหํสุ. เย ปน รตฺติยํ กมฺมปฺปสุตา ชาคริยมนุยุตฺตา โหนฺติ, เตสํ อชฺชตนาภิมาโนเยว, ตสฺมา เต ‘‘อชฺช’’อิจฺเจว โวหรนฺติ, น ‘‘หิยฺโย’’ติ. ปธูปายนฺตาติ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนกโกธวเสน ปธูปายนฺตา.

๓๘๔. ทพฺพ ทพฺพาติ ทุติโย ทพฺพ-สทฺโท ปณฺฑิตาธิวจโนติ อาห ‘‘ทพฺพา ปณฺฑิตา’’ติ. เอวํ น นิพฺเพเนฺตีติ สมฺพนฺโธ. นิพฺเพเนฺตีติ อตฺตานํ โทสโต โมเจนฺติ. วุฏฺานลกฺขณํ มฺมานาติ วุฏฺานลกฺขณนฺติ มฺมานา. น ฆฏิยตีติ เถรสฺส สุสีลปฏิฺาย ตสฺสา ทุสฺสีลปฏิฺาวจนํ น ฆฏิยตีติ อธิปฺปาโย. เอตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. นาเสถาติ เสตกํ ทตฺวา คิหิภาวํ ปาเปถาติ อตฺโถ. ลิงฺคนาสนา เหตฺถ อธิปฺเปตา. อิมเมว จ ทสฺเสตุํ ‘‘ติสฺโส นาสนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอกกมฺมาทิสํวาสสฺส อกรณํ สํวาสนาสนา. ทณฺฑกมฺมนาสนา นาม วาลุกาทีนิ โอกิริตฺวา ยาว ขมาเปติ, ตาว ทณฺฑกมฺมวเสน นิกฺกฑฺฒนํ. จร ปิเร วินสฺสาติ นิกฺกฑฺฒนาการทสฺสนํ. ตตฺถ จราติ คจฺฉ, อเปหีติ วุตฺตํ โหติ. ปิเรติ ปร อมามก, อมฺหากํ อนชฺฌตฺติกภูตาติ อตฺโถ. ปิเรติ หิ ปร-สทฺเทน สมานตฺถํ สมฺโพธนวจนํ. อถ วา ปิเรติ ‘‘ปรโต’’ติ อิมินา สมานตฺถํ นิปาตปทํ, ตสฺมา จร ปิเรติ ปรโต คจฺฉ, มา อิธ ติฏฺาติ อตฺโถ. วินสฺสาติ อทสฺสนํ คจฺฉ.

ยสฺมา เต ภิกฺขู อตฺตานํ อปฺปกาเสตฺวา ิตา, ตสฺมา อนุยุฺชถาติ อิมสฺส คเวสถ ชานาถาติ อตฺโถ วุตฺโต. การโก โหตีติ ‘‘อยฺเยนมฺหิ ทูสิตา’’ติ ปฏิฺาตตฺตา ตาย ปฏิฺาย ยทิ นาสิตา, เถโร การโก โหติ, สโทโสติ อตฺโถ. อการโก โหตีติ ตาย กตปฏิฺํ อนเปกฺขิตฺวา ยทิ ภควตา ปกติทุสฺสีลภาวํเยว สนฺธาย สา นาสิตา, เถโร อการโก โหตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘สกาย ปฏิฺาย นาเสถา’’ติ วุตฺเต ‘‘อยฺเยนมฺหิ ทูสิตา’’ติ ตาย กตปฏิฺาย ภูตตา อาปชฺชตีติ อาห – ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ วาเท เถโร การโก โหติ สโทโส’’ติ. ภิกฺขุนึ อนุทฺธํเสติ, ทุกฺกฏนฺติ อิมินา มหาอฏฺกถาวาโท ทสฺสิโต. มุสาวาเท ปาจิตฺติยนฺติ วุตฺตนฺติ ภิกฺขุนึ อนุทฺธํเสนฺตสฺส มุสาวาเท ปาจิตฺติยนฺติ วุตฺตํ.

ตตฺราติ เตสุ ทุกฺกฏปาจิตฺติเยสุ. อิโต ปฏฺาย ‘‘ตสฺมา ปาจิตฺติยเมว ยุชฺชตี’’ติ วจนปริยนฺตํ ทฺวีสุปิ อฏฺกถาสุ อธิปฺปายวิภาวนํ. ตตฺถ ปุริมนเยติ ‘‘ภิกฺขุนึ อนุทฺธํเสติ, ทุกฺกฏ’’นฺติ วุตฺตอฏฺกถานเย. ทุกฺกฏเมว ยุชฺชตีติ กสฺมา วุตฺตนฺติ เจ? ตตฺถ การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา’’ติอาทิมาห. ภิกฺขุโน ภิกฺขุสฺมึ สงฺฆาทิเสโสติ ภิกฺขุํ อมูลเกน อนฺติมวตฺถุนา อนุทฺธํเสนฺตสฺส ภิกฺขุโน สงฺฆาทิเสโสติ อตฺโถ. ปจฺฉิมนเยปิ ‘‘ภิกฺขุนึ อนุทฺธํเสนฺตสฺส มุสาวาเท ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตํ. กุรุนฺทีนเยปิ มุสาวาทตฺตา ปาจิตฺติยเมว ยุชฺชตีติ วิสํวาทปุเรกฺขตาย ปาจิตฺติยเมว ยุชฺชตีติ อธิปฺปาโย. ยทิ เอวํ ภิกฺขุํ อมูลเกน อนฺติมวตฺถุนา อนุทฺธํเสนฺตสฺส อกฺโกสนฺตสฺส จ มุสาวาทตฺตา ปาจิตฺติเยเนว ภวิตพฺพนฺติ เจ? ตตฺถ สติปิ มุสาวาเท วจนปฺปมาณโต สงฺฆาทิเสสโอมสวาทปาจิตฺติเยเหว ภวิตพฺพํ, น สมฺปชานมุสาวาทปาจิตฺติเยนาติ ทสฺเสตุํ ‘‘วจนปฺปมาณโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วจนปฺปมาณโตติ ภควตา วุตฺตปาฬิวจนปฺปมาณโต. อิทานิ ตํ วจนํ ทสฺเสตุํ ‘‘อนุทฺธํสนาธิปฺปาเยนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภิกฺขุสฺส ปน ภิกฺขุนิยา ทุกฺกฏนฺติ วจนํ นตฺถีติ ภิกฺขุนิยา อนุทฺธํสเน ภิกฺขุโน ทุกฺกฏนฺติ วจนํ นตฺถิ ตถา ปาฬิยํ อนาคตตฺตา. สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยนฺติ วจนมตฺถีติ สามฺโต วุตฺตํ สมฺปชานมุสาวาทสิกฺขาปทํ ทสฺเสติ.

อิทานิ ทฺวีสุปิ อฏฺกถาวาเทสุ อธิปฺปายํ วิภาเวตฺวา เตสุ ปจฺฉิมวาเท โทสํ ทสฺเสตฺวา ปุริมวาทํ ปติฏฺเปตุกาโม อาจริโย ‘‘ตตฺร ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺราติ ‘‘ปาจิตฺติยเมว ยุชฺชตี’’ติ วุตฺตวาเท. อนุทฺธํสนาธิปฺปาเย อสติ ปาจิตฺติยนฺติ อิมินา สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยสฺส โอกาสํ ทสฺเสติ. วิสุํ ปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยโต วิสุํ อฺเมว ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. เอเตหิ นาสนา นตฺถีติ สามฺโต วุตฺตํ, อิมิสฺสา ปน ทุกฺกเฏน นาสนา นตฺถีติ อธิปฺปาโย. ยทิ เอวํ กสฺมา นํ ภควา นาเสตีติ อาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ.

๓๘๕-๓๘๖. ทูสิโตติ ทุฏฺสทฺทสฺส กมฺมสาธนตํ ทสฺเสติ. ทูสยติ ปรํ วินาเสตีติ ทูสโก. อิมินา ‘‘ทูสยตีติ โทโส’’ติ โทสสทฺทสฺส กตฺตุสาธนตา วุตฺตา. ปกติภาวํ ชหาปิโตติ ทุสสทฺทสฺส วิกติยํ ปิตตฺตา วุตฺตํ, ปกติยา โสมฺมภาวํ ชหาปิโตติ อตฺโถ, วิการมาปาทิโตติ วุตฺตํ โหติ. อาการนานตฺเตนาติ ทูสิตาการสฺส ทูสกาการสฺส จ นานตฺเตน. อนภิรทฺโธติ อตุฏฺโ. โย ปน อตุฏฺโ, โส สุขิโต นาม น โหตีติ อาห ‘‘น สุขิโต’’ติ. ‘‘อาราธิโต ราชา’’ติอาทีสุ ปสาทิโตติ อตฺถสมฺภวโต ‘‘น วา ปสาทิโต’’ติ วุตฺตํ. ขีลสทฺโท ถทฺธภาววจโน กจวรปริยาโย จ โหตีติ อาห – ‘‘จิตฺตถทฺธภาวจิตฺตกจวรสงฺขาตํ ปฏิฆขีล’’นฺติ. ขีลยติ เตน จิตฺตํ ถทฺธภาวํ อาปชฺชตีติ ขีลํ, จิตฺตสฺส ถทฺธภาโว. โส จ อตฺถโต ปฏิโฆเยว. จิตฺตสฺส ถทฺธภาวลกฺขโณ หิ ปฏิโฆ, ตสฺมิฺจ อุปฺปนฺเน จิตฺตํ อุกฺลาปชาตฏฺานํ วิย อมนุฺํ โหติ, ตสฺมา กจวรสทิสตฺตาปิ ปฏิโฆว ‘‘ขีล’’นฺติ วุตฺโต. เตนาห ‘‘ปฏิฆขีล’’นฺติ. จิตฺตสฺส ถทฺธภาวตฺตา กจวรสทิสตฺตา จ ปฏิโฆเยว ขีลํ ปฏิฆขีลํ. นปฺปตีโตติ ปีติสุขาทีหิ น อภิคโต น อนุคโต, น อุเปโตติ อตฺโถ. โย จ ปีติสุขาทีหิ อนุปคโต, โส เตหิ วชฺชิโต นาม โหตีติ อาห ‘‘ปีติสุขาทีหิ วชฺชิโต’’ติ. โย จ เตหิ วชฺชิโต, น โส เตน อภิสโฏ นาม โหตีติ อาห ‘‘น อภิสโฏ’’ติ, ปีติสุขาทีหิ น ปตฺถโฏติ อตฺโถ.

เยนาติ เยน โกเปน. ทุฏฺโติ มาติกาย อาคตปทํ ทสฺเสติ, กุปิโตติ ปทภาชเน อาคตปทํ. อตฺถโต เอกตฺเตปิ อุภินฺนํ ปทานํ วเสน ‘‘อุภยมฺปี’’ติ วุตฺตํ. เอวํ ‘‘เตน จ โกเปน เตน จ โทเสนา’’ติ อิเมสํ ปทานํ วเสน ‘‘ทฺวีหี’’ติ วุตฺตํ, อตฺถโต ปน โทโสเยว. โส จ สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺโนติ อาห ‘‘อิเมหิ ทฺวีหิ สงฺขารกฺขนฺธเมว ทสฺเสตี’’ติ. ‘‘อนตฺตมนตา อนภิรทฺธี’’ติ วจเนหิ โทมนสฺสเวทนาว วุตฺตาติ อาห ‘‘อิเมหิ ทฺวีหิ เวทนากฺขนฺธํ ทสฺเสตี’’ติ.

ยทา ปน โจทเกน อทิฏฺํ อสุตํ อปริสงฺกิตํ วา โหติ, ตทา อมูลกํ นาม โหตีติ อาห ‘‘ตํ ปนสฺส…เป… โจทกวเสน อธิปฺเปต’’นฺติ. ยทิ จุทิตกวเสน อธิปฺเปตํ สิยา, อมูลกํ นาม อนชฺฌาปนฺนนฺติ ปทภาชนํ วเทยฺยาติ อธิปฺปาโย. ยํ ปาราชิกนฺติ ภิกฺขุโน อนุรูเปสุ เอกูนวีสติยา ปาราชิเกสุ อฺตรํ. ปทภาชเน ปน ปาฬิยํ อาคตาเนว คเหตฺวา ‘‘จตุนฺนํ อฺตเรนา’’ติ วุตฺตํ. เอตนฺติ จุทิตกสฺส อาปนฺนานาปนฺนตฺตํ. อิธาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท.

ตเถวาติ ปสาทโสเตน ทิพฺพโสเตน วาติ อิมมตฺถํ อติทิสติ. สุตฺวาว ชานิตพฺพโต ‘‘สุตฏฺาเนเยว ติฏฺตี’’ติ วุตฺตํ. ปริสงฺกนํ ปริสงฺกิตํ, ทิฏฺานุคตํ ปริสงฺกิตํ ทิฏฺปริสงฺกิตํ. เอวํ เสเสสุปิ. อิเมสนฺติ กตฺตุอตฺเถ สามิวจนํ, อิเมหีติ อตฺโถ. กริสฺสนฺติ วาติ เอตฺถ วิภตฺติปริณามํ กตฺวา อิเมติ โยเชตพฺพํ. ทิฏฺํ อตฺถิ สมูลกํ, อตฺถิ อมูลกนฺติ อิทํ อชฺฌาจารสฺส สพฺภาวาสพฺภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. อตฺถิ สฺาสมูลกํ, อตฺถิ สฺาอมูลกนฺติ อิทํ ปน ทิฏฺสฺาย สพฺภาวาสพฺภาวํ สนฺธาย.

สมีเป ตฺวาติ ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเร สมีเป ตฺวาติ วทนฺตีติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ปรโต ปน ‘‘ทูตํ วา ปณฺณํ วา สาสนํ เปเสตฺวา โจเทนฺตสฺส สีสํ น เอตี’’ติ ปรมฺมุขาโจทนาย เอว อนาปตฺติยา วุตฺตตฺตา ‘‘สมีเป ตฺวา’’ติ อิทํ สมฺมุขภาวมตฺตทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ อมฺหากํ ขนฺติ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา) องฺคํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘จาวนาธิปฺปาเยน สมฺมุขาโจทนา’’ติ วุตฺตํ, น จ สมฺมุขภาโว ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเรเยวาติ นิยโม สกฺกา วตฺถุํ. วินยวินิจฺฉยฺจ ปตฺวา ครุเกเยว าตพฺพนฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา อุปปริกฺขิตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพํ. โจทาปกสฺเสว วาจาย วาจาย สงฺฆาทิเสโสติ อาณตฺตสฺส วาจาย วาจาย โจทาปกสฺส สงฺฆาทิเสโส. มยาปิ ทิฏฺํ สุตํ อตฺถีติ อิทํ อาณตฺตสฺสปิ โจทกภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, เอวํ ปน อวตฺวาปิ ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนสี’’ติ อิทเมว วจนํ ปรสฺส วจนํ วิย อกตฺวา อนุทฺธํสนาธิปฺปาเยน วทนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโสเยว. สติปิ ปน อนุทฺธํสนาธิปฺปาเย ‘‘อสุเกน เอวํ วุตฺต’’นฺติ ทสฺเสตฺวา วทนฺตสฺส นตฺถิ สงฺฆาทิเสโสติ วทนฺติ.

สมฺพหุลา สมฺพหุเล สมฺพหุเลหิ วตฺถูหิ โจเทนฺตีติ เอตฺถ สมฺพหุเลติ พหุตฺตนิทฺเทเส การณํ น ทิสฺสติ. วตฺถุโจทกานํเยว หิ เอกาเนกวเสน อิทํ จตุกฺกมาคตํ, น จุทิตกสฺสปิ เอกาเนกวเสน. ตถา หิ เอกสฺเสว จุทิตกสฺส วเสน เอกวตฺถุเอกโจทกเอกวตฺถุนานาโจทกนานาวตฺถุเอกโจทกนานาวตฺถุนานาโจทกปฺปเภทํ อิทํ จตุกฺกมาคตํ, เตเนว จตุตฺถโจทนํ ทสฺเสนฺเตนปิ ‘‘อิมิสฺสา โจทนาย นานาวตฺถูนิ นานาโจทกา’’ติ วุตฺตํ, น ปน ‘‘นานาจุทิตกา’’ติ, ตสฺมา ‘‘สมฺพหุเล’’ติ พหุตฺตนิทฺเทเส การณํ น ทิสฺสติ. อถ วา ปมํ ตีสุปิ โจทนาสุ เอกตฺเตน จุทิตกํ นิทฺทิสิตฺวาปิ อิธ พหุตฺเตน นิทฺเทโส ‘‘น เกวลํ เอกสฺมึเยว จุทิตเก โจทนา สมฺภวติ, อถ โข สมฺพหุเลสุปี’’ติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ กโต.

โจเทตุํ ปน โก ลภติ, โก น ลภตีติอาทิ อนุทฺธํสนาธิปฺปายํ วินาปิ โจทนาลกฺขณํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. สีลสมฺปนฺโนติ อิทํ ทุสฺสีลสฺส วจนํ อปฺปมาณนฺติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ. ภิกฺขุนีนํ ปน ภิกฺขุํ โจเทตุํ อนิสฺสรตฺตา ‘‘ภิกฺขุนิเมวา’’ติ วุตฺตํ. สติปิ ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูสุ อนิสฺสรภาเว ตาหิ กตโจทนาปิ โจทนารุหตฺตา โจทนาเยวาติ อธิปฺปาเยน ‘‘ปฺจปิ สหธมฺมิกา ลภนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ภิกฺขุสฺส สุตฺวา โจเทตีติอาทินา โจทโก เยสํ สุตฺวา โจเทติ, เตสมฺปิ วจนํ ปมาณเมวาติ สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา เตสํ โจทนาปิ รุหเตวาติ ทสฺเสตุํ เถโร สุตฺตํ นิทสฺเสสิ.

ทูตํ วา ปณฺณํ วา สาสนํ วา เปเสตฺวาติ ‘‘ตฺวํเยว คนฺตฺวา โจเทหี’’ติ ทูตํ วา เปเสตฺวา โย ตํ โจเทตุํ สกฺโกติ, ตสฺส มุขสาสนํ วา ปณฺณํ วา เปเสตฺวา. สีสํ น เอตีติ สงฺฆาทิเสโส น โหตีติ อธิปฺปาโย. กิฺจาปิ ปาฬิยํ ‘‘โจเทติ วา โจทาเปติ วา’’ติ สามฺโต วุตฺตตฺตา ทูตสาสนาทีหิ โจทาเปนฺตสฺสปิ อาปตฺติเยวาติ ปฺายติ, ‘‘สีสํ น เอตี’’ติ อิทํ ปน อฏฺกถาจริยปฺปมาเณน คเหตพฺพํ. สมเยนาติ ปกติยา สทฺทํ สุตฺวา อตฺถวิชานนสมเยน.

ครุกานํ ทฺวินฺนนฺติ ปาราชิกสงฺฆาทิเสสานํ. อวเสสานํ วเสนาติ ปฺจลหุกาปตฺตีนํ วเสน. ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิ ทสวตฺถุกา มิจฺฉาทิฏฺิ. ‘‘อนฺตวา โลโก, อนนฺตวา โลโก’’ติอาทินยปฺปวตฺตา ทิฏฺิ สสฺสตุจฺเฉทสงฺขาตํ อนฺตํ คณฺหาตีติ อนฺตคฺคาหิกา. อาชีวเหตุ ปฺตฺตานํ ฉนฺนํ สิกฺขาปทานํ วเสนาติ อาชีวเหตุ อาชีวการณา ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต อสนฺตํ อภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส, อาชีวเหตุ อาชีวการณา สฺจริตฺตํ สมาปชฺชติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส, อาชีวเหตุ อาชีวการณา โย เต วิหาเร วสติ, โส ภิกฺขุ อรหาติ ภณติ, ปฏิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส, อาชีวเหตุ อาชีวการณา ภิกฺขุ ปณีตโภชนานิ อคิลาโน อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภุฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส, อาชีวเหตุ อาชีวการณา ภิกฺขุนี ปณีตโภชนานิ อคิลานา อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภุฺชติ, อาปตฺติ ปาฏิเทสนียสฺส, อาชีวเหตุ อาชีวการณา ภิกฺขุ สูปํ วา โอทนํ วา อคิลาโน อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภุฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส, อาชีววิปตฺติปจฺจยา อิมา ฉ อาปตฺติโย อาปชฺชตีติ เอวํ ปริวารปาฬิยํ (ปริ. ๒๘๗) ทสฺสิตานํ ฉนฺนํ สิกฺขาปทานํ วเสน. ทิฏฺิวิปตฺติอาชีววิปตฺตีหิ โจเทนฺโตปิ ตมฺมูลิกาย อาปตฺติยา เอว โจเทติ.

‘‘กสฺมา มํ น วนฺทสี’’ติ ปุจฺฉิเต ‘‘อสฺสมโณสิ อสกฺยปุตฺติโยสี’’ติ อวนฺทนการณสฺส วุตฺตตฺตา อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺโน น วนฺทิตพฺโพติ วทนฺติ. โจเทตุกามตาย เอว อวนฺทิตฺวา อตฺตนา วตฺตพฺพสฺส วุตฺตมตฺถํ เปตฺวา อวนฺทิยภาเว ตํ การณํ น โหตีติ จูฬคณฺิปเท มชฺฌิมคณฺิปเท จ วุตฺตํ. อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺนสฺส อวนฺทนีเยสุ อวุตฺตตฺตา เตน สทฺธึ สยนฺตสฺส สหเสยฺยาปตฺติยา อภาวโต ตสฺส จ ปฏิคฺคหณสฺส รุหนโต ตเทว ยุตฺตตรนฺติ วิฺายติ. กิฺจาปิ ยาว โส ภิกฺขุภาวํ ปฏิชานาติ, ตาว วนฺทิตพฺโพ. ยทา ปน ‘‘อสฺสมโณมฺหี’’ติ ปฏิชานาติ, ตทา น วนฺทิตพฺโพติ อยเมตฺถ วิเสโส เวทิตพฺโพ. อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺนสฺส หิ ภิกฺขุภาวํ ปฏิชานนฺตสฺเสว ภิกฺขุภาโว, น ตโต ปรํ. ภิกฺขุภาวํ อปฺปฏิชานนฺโต หิ อนุปสมฺปนฺนปกฺขํ ภชติ. ยสฺมา อามิสํ เทนฺโต อตฺตโน อิจฺฉิตฏฺาเนเยว เทติ, ตสฺมา ปฏิปาฏิยา นิสินฺนานํ ยาคุภตฺตาทีนิ เทนฺเตน เอกสฺส โจเทตุกามตาย อทินฺเนปิ โจทนา นาม น โหตีติ อาห ‘‘น ตาวตา โจทนา โหตี’’ติ.

ตึสานีติ ตึส เอเตสมตฺถีติ ตึสานิ, ตึสวนฺตานีติ อตฺโถ, ตึสาธิกานีติ วุตฺตํ โหติ. คุณวจนตฺตา ตทฺธิตโลปํ กตฺวา ‘‘ตึสานี’’ติ วุตฺตํ. อถ วา ตึส โจทนา อธิกา เอเตสูติ ตึสานิ. ตสฺมึ อธิกมิติ ฑการปจฺจเย สติ รูปมิทํ ทฏฺพฺพํ. นวุตานีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

อุพฺพาหิกาย ตํ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตพฺพนฺติ อุพฺพาหิกาย สมฺมเตหิ ตํ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตพฺพํ. อลชฺชุสฺสนฺนาย หิ ปริสาย ทสหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตพฺโพ. ‘‘สีลวา โหติ ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน’’ติอาทินา สมถกฺขนฺธเก (จูฬว. ๒๓๑) วุตฺตทสงฺคสมฺปตฺติยา สมนฺนาคตา ทฺเว ตโย ภิกฺขู อุจฺจินิตฺวา ตตฺเถว วุตฺตาย ตฺติทุติยกมฺมวาจาย สมฺมนฺนิตพฺพา. เอวํ สมฺมเตหิ ปน เตหิ ภิกฺขูหิ วิสุํ วา นิสีทิตฺวา ตสฺสาเยว วา ปริสาย ‘‘อฺเหิ น กิฺจิ กเถตพฺพ’’นฺติ สาเวตฺวา ตํ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตพฺพํ. ตุมฺหากนฺติ จุทิตกโจทเก สนฺธาย วุตฺตํ.

กิมฺหีติ กิสฺมึ วตฺถุสฺมึ. กิมฺหิ นมฺปิ น ชานาสีติ กิมฺหิ นนฺติ วจนมฺปิ น ชานาสิ. นาสฺส อนุโยโค ทาตพฺโพติ นาสฺส ปุจฺฉา ปฏิปุจฺฉา ทาตพฺพา. ‘‘ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหายา’’ติอาทิวจนโต ‘‘อลชฺชีนิคฺคหตฺถาย…เป… ปฺตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. เอหิตีติ อาคมิสฺสติ. ทิฏฺสนฺตาเนนาติ ทิฏฺสมฺพนฺเธน, ทิฏฺนิยาเมนาติ วุตฺตํ โหติ. วิวาทวตฺถุสงฺขาเต อตฺเถ ปจฺจตฺถิกา อตฺถปฺปจฺจตฺถิกา. สฺํ ทตฺวาติ เตสํ กถํ ปจฺฉินฺทิตฺวา อตฺตโน วจนํ สาเธตุํ สฺํ กตฺวา. อสุทฺธสฺาย อุปฺปนฺนตฺตา ‘‘อนนุจฺฉวิโก’’ติ อาห. เอกสมฺโภคปริโภคาติ อิทํ อตฺตโน สนฺติกา เตสํ โมจนตฺถํ วุตฺตํ, น ปน เตสํ อฺมฺสมฺโภเค โยชนตฺถํ. วินิจฺฉโย น กาตพฺโพติ ‘‘อมฺหากํ วจเน อฏฺาตพฺพสภาวา เอเต อลชฺชิโน’’ติ ชานนฺเตน วินิจฺฉโย น กาตพฺโพ.

วิรทฺธํ โหตีติ อตฺตนา กตโทสปฺปฏิจฺฉาทนตฺถํ กฺจิ มุสาวาทํ กตฺวา วิรทฺธํ โหติ. ปฏิฺํ น เทตีติ สเจ มยา กตโทสํ วกฺขามิ, มยฺหํ อนุวตฺตกา ภิชฺชิสฺสนฺตีติ ‘‘กตํ มยา’’ติ ปฏิฺํ น เทติ. สุทฺโธ โหตูติ เตสํ วจเนน สุทฺโธ นาม โหตุ, เตสํ วจเนน เอกทฺเววารมสฺส วินิจฺฉโย ทาตพฺโพติ อธิปฺปาโย. าเน น ติฏฺตีติ ลชฺชิฏฺาเน น ติฏฺติ. วินิจฺฉโย น ทาตพฺโพติ อลชฺชิภาวมาปนฺนตฺตา น ทาตพฺโพ.

อมูลกมฺปิ สมูลกมฺปิ มูลํ คเหตฺวา วทนฺตีติ อาห ‘‘ทฺเว มูลานี’’ติ. กาเลน วกฺขามีติอาทีสุ เอโก เอกํ โอกาสํ กาเรตฺวา โจเทนฺโต กาเลน วทติ นาม. สงฺฆมชฺเฌ คณมชฺเฌ สลากคฺคยาคุอคฺควิตกฺกมาฬกภิกฺขาจารมคฺคอาสนสาลาทีสุ อุปฏฺาเกหิ ปริวาริตกฺขเณ วา โจเทนฺโต อกาเลน วทติ นาม. ตจฺเฉน วทนฺโต ภูเตน วทติ นาม. ‘‘อมฺโภ มหลฺลก-ปริสาวจร-ปํสุกูลิก-ธมฺมกถิก-ปติรูปํ ตว อิท’’นฺติ วทนฺโต ผรุเสน วทติ นาม. การณนิสฺสิตํ ปน กตฺวา ‘‘ภนฺเต มหลฺลกาตฺถ, ปริสาวจรา ปํสุกูลิกา ธมฺมกถิกาตฺถ, ปติรูปํ ตุมฺหากํ อิท’’นฺติ วทนฺโต สณฺเหน วทติ นาม. การณนิสฺสิตํ กตฺวา วทนฺโต อตฺถสฺหิเตน วทติ นาม. เมตฺตจิตฺโต วกฺขามิ, โน โทสนฺตโรติ เมตฺตจิตฺตํ อุปฏฺาเปตฺวา วกฺขามิ, น ทุฏฺจิตฺโต หุตฺวา. ปนฺนรสสุ ธมฺเมสูติ ปริสุทฺธกายสมาจารตา, ปริสุทฺธวจีสมาจารตา, สพฺรหฺมจารีสุ เมตฺตจิตฺตตา, พหุสฺสุตตา, อุภินฺนํ ปาติโมกฺขานํ วิตฺถาเรน สฺวาคตสุวิภตฺตสุปฺปวตฺตสุวินิจฺฉิตตา, ‘‘กาเลน วกฺขามี’’ติอาทินา วุตฺตปฺจธมฺมา, การุฺตา, หิเตสิตา, อนุกมฺปตา, อาปตฺติวุฏฺานตา, วินยปุเรกฺขารตาติ อิเมสุ ปนฺนรสสุ ธมฺเมสุ. ตตฺถ การุฺตาติ การุณิกภาโว. อิมินา กรุณา จ กรุณาปุพฺพภาโค จ ทสฺสิโต. หิเตสิตาติ หิตคเวสนตา. อนุกมฺปตาติ เตน หิเตน สํโยชนา. ทฺวีหิปิ เมตฺตา จ เมตฺตาปุพฺพภาโค จ ทสฺสิโต. อาปตฺติวุฏฺานตาติ อาปตฺติโต วุฏฺาเปตฺวา สุทฺธนฺเต ปติฏฺาปนา. วตฺถุํ โจเทตฺวา สาเรตฺวา ปฏิฺํ อาโรเปตฺวา ยถาปฏิฺาย กมฺมกรณํ วินยปุเรกฺขารตา นาม. สจฺเจ จ อกุปฺเป จาติ วจีสจฺเจ จ อกุปฺปตาย จ. จุทิตเกน หิ สจฺจฺจ วตฺตพฺพํ, โกโป จ น กาตพฺโพ, เนว อตฺตนา กุชฺฌิตพฺโพ, น ปโร ฆฏฺเฏตพฺโพติ อตฺโถ.

ภุมฺมปฺปตฺติยาติ ภุมฺมวจเน สมฺปตฺเต, ภุมฺมตฺเถ อิทํ อุปโยควจนนฺติ วุตฺตํ โหติ. อธิกรียนฺติ เอตฺถาติ อธิกรณานิ. เก อธิกรียนฺติ? สมถา. กถํ อธิกรียนฺติ? สมนวเสน. อธิกรณํ สเมนฺติ วูปสเมนฺตีติ หิ สมถา. อถ วา สมนตฺถาย ปวตฺตมาเนหิ สมเถหิ อธิกาตพฺพานีติ อธิกรณานิ. ยถา หิ สมนวเสน สมถานํ วิวาทาทีสุ อธิกตฺตุภาโว, เอวํ วิวาทาทีนํ เตหิ อธิกตฺตพฺพตาปิ. เตนาห ‘‘สมเถหิ อธิกรณียตา’’ติ. อิมินา อธิกรณสทฺทสฺส กมฺมสาธนตา วุตฺตา. คาหนฺติ ‘‘อสุกํ โจเทสฺสามี’’ติ มนสา โจทนาย คหณํ. เจตนนฺติ ‘‘โจเทสฺสามี’’ติ อุปฺปนฺนเจตนํ. อกฺขนฺตินฺติ จุทิตเก อุปฺปนฺนํ อกฺขนฺตึ. โวหารนฺติ โจทนาวสปฺปตฺตวจนํ. ปณฺณตฺตินฺติ โจทนาวสปฺปวตฺตนามปณฺณตฺตึ. อตฺตาทานํ คเหตฺวาติ โจทนํ มนสา คเหตฺวา. ตํ อธิกรณนฺติ ตํ คาหลกฺขณํ อธิกรณํ.

ตสฺมา ปณฺณตฺติ อธิกรณนฺติ อฏฺกถาสุ กตสนฺนิฏฺานํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตมฺปิ น ยุตฺตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ ปเนต’’นฺติอาทิมาห. เตติ อฏฺกถาจริยา. ปาราชิกธมฺโมติ ปาราชิกาปตฺติ. อจฺจนฺตอกุสลตฺตาติ โลกวชฺชภาวโต ปาราชิกาปตฺติยา เอกนฺตอกุสลตฺตา. ยาย ปณฺณตฺติยาติ นามปณฺณตฺตึ สนฺธาย วทติ. อภิลาเปนาติ ตสฺเสว เววจนํ. ปฺตฺโตติ โวหารวเสน กถิโต. อธิกรเณ ปวตฺตตฺตา จ อธิกรณนฺติ มฺจฏฺเสุ มฺจโวหาโร วิย. ยสฺมา อมูลเกน โจเทนฺโต จุทิตเก ปุคฺคเล ตํ อธิกรณํ นตฺถีติ สลฺลกฺเขติ, ตสฺมา ตสฺส วจนํ อภิเธยฺยสุฺนฺติ อาห ‘‘สภาวโต นตฺถี’’ติ. ตฺจ โข อิเธวาติ ตฺจ ยถาวุตฺตปริยาเยน ปณฺณตฺติยา อธิกรณภาโว อิเธว อิมสฺมึเยว สิกฺขาปเท. ‘‘มาตาปิ ปุตฺเตน วิวทตี’’ติอาทินยปฺปวตฺตสฺส วิวาทสฺส อธิกรณภาโว น สมฺภวติ สมเถหิ อนธิกรณียตฺตาติ อาห ‘‘อิเธกจฺโจ วิวาโท’’ติ.

อฏฺารสเภทกรวตฺถูนีติ ลกฺขณวจนเมตํ ยถา ‘‘ยทิ เม พฺยาธิตา ทเหยฺยุํ, ทาตพฺพมิทโมสธ’’นฺติ, ตสฺมา เตสุ อฺตรฺตรํ นิสฺสาย อุปฺปนฺโน วิวาโท ‘‘อฏฺารสเภทกรวตฺถูนิ นิสฺสาย อุปฺปนฺโน’’ติ วุจฺจติ. อนุวาโทติ อุปวทนา เจว โจทนา จ. ตตฺถ อุปวทนา นาม อกฺโกโส. ปฺจปิ อาปตฺติกฺขนฺธาติ มาติกาย อาคตา ปฺจ อาปตฺติกฺขนฺธา. สตฺตาติ เตเยว ปฺจ, วิภงฺเค อาคตา ถุลฺลจฺจยทุพฺภาสิตาปตฺติโย ทฺเวติ สตฺต. กิจฺจยตาติ กตฺตพฺพตา. กรณียตาติ ตสฺเสว เววจนํ. อุภเยนปิ อปโลกนาทิสงฺฆกมฺมํเยว ทสฺเสติ, เตนาห ‘‘อปโลกนกมฺม’’นฺติอาทิ.

อาปตฺตาธิกรณํ เปตฺวา เสสาธิกรเณหิ โจทนาเยว นตฺถีติ อาห ‘‘อิมสฺมึ ปนตฺเถ…เป… อาปตฺตาธิกรณเมว อธิปฺเปต’’นฺติ. สปทานุกฺกมนิทฺเทสสฺสาติ ปทานํ อนุกฺกเมน นิทฺเทโส ปทานุกฺกมนิทฺเทโส, ปทภาชนสฺเสตํ อธิวจนํ. เตน สห วตฺตมานํ สปทานุกฺกมนิทฺเทสํ, สิกฺขาปทํ, ตสฺส ปทานุกฺกมนิทฺเทสสหิตสฺส สิกฺขาปทสฺสาติ อตฺโถ, ปทภาชนสหิตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.

อสฺสาติ กตฺตุอตฺเถ สามิวจนํ, อเนนาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘เอเตน โจทเกนา’’ติอาทิ. อิธาคเตสูติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อาคเตสุ. อฺตฺร อาคเตสูติ อิโต อฺตฺร โอมสวาทาทิสิกฺขาปทปาฬิยํ อาคเตสุ. ทุสฺสีโลติ นิสฺสีโล สีลวิรหิโต. ปาปธมฺโมติ ทุสฺสีลตฺตา เอว หีนชฺฌาสยตาย ลามกสภาโว. อสุจิสงฺกสฺสรสมาจาโรติ อปริสุทฺธกายกมฺมาทิตาย อสุจิ หุตฺวา สงฺกาย สริตพฺพสมาจาโร. ทุสฺสีโล หิ กิฺจิเทว อสารุปฺปํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ อสุเกน กตํ ภวิสฺสตี’’ติ ปเรสํ อาสงฺกนีโย โหติ, เกนจิเทว วา กรณีเยน มนฺตยนฺเต ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘กจฺจิ นุ โข อิเม มยา กตกมฺมํ ชานิตฺวา มนฺเตนฺตี’’ติ อตฺตโนเยว สงฺกาย สริตพฺพสมาจาโร. ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโตติ ลชฺชิตพฺพตาย ปฏิจฺฉาเทตพฺพกมฺมนฺโต. อสฺสมโณติ น สมโณ. สลากคฺคหณาทีสุ ‘‘อหมฺปิ สมโณ’’ติ มิจฺฉาปฏิฺาย สมณปฏิฺโ. อเสฏฺจาริตาย อพฺรหฺมจารี. อุโปสถาทีสุ ‘‘อหมฺปิ พฺรหฺมจารี’’ติ มิจฺฉาปฏิฺาย พฺรหฺมจาริปฏิฺโ. ปูตินา กมฺเมน สีลวิปตฺติยา อนฺโต อนุปวิฏฺตฺตา อนฺโตปูติ. ฉทฺวาเรหิ ราคาทิกิเลสานุวสฺสเนน ตินฺตตฺตา อวสฺสุโต. สฺชาตราคาทิกจวรตฺตา สีลวนฺเตหิ ฉฑฺเฑตพฺพตฺตา จ กสมฺพุชาโต.

อิธ ปาฬิยนฺติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ปาฬิยํ. เชฏฺพฺพติโกติ กลิเทวีวตนิยุตฺโต. กลิเทวี กิร สิรีเทวิยา เชฏฺา, ตสฺมา ตสฺสา วตธโร ‘‘เชฏฺพฺพติโก’’ติ วุจฺจติ. ตํ ปน วตํ สมาทิยิตฺวา ปูเรนฺโต สกลสรีเร มสึ มกฺเขตฺวา กากปตฺตานิ มุฏฺิยํ กตฺวา กลิเทวึ ผลเก ลิขาเปตฺวา ตํ กาชโกฏิยํ พนฺธิตฺวา โถเมนฺโต วิจรติ. ยทคฺเคนาติ ยตฺตเกน. ตทคฺเคนาติ ตตฺตเกน. โน กปฺเปตีติอาทิ เวมติกภาวทีปนตฺถเมว วุตฺตนฺติ มหาปทุมตฺเถรสฺส อธิปฺปาโย. ทุติยตฺเถโร ปน ‘‘โน กปฺเปติ, นสฺสรติ, ปมุฏฺโ’’ติ เอเตหิ เวมติกภาวาวตฺถาย อทีปนโต อฺโ เวมติกภาโว, อฺานิ โน กปฺปนาทีนีติ จตุนฺนมฺปิ วิภาเคน อตฺถํ ทสฺเสติ, ตสฺมา ตสฺส วาโท ยุตฺตตโรติ ปจฺฉา วุตฺโต. ทสฺสเน เวมติโก โหตีติ ปุคฺคเล าเตปิ ตสฺส กิริยาย สมฺมา อทิฏฺภาวโต จิรกาลาติกฺกมโต วา ตํ กิริยํ กโรนฺโต ‘‘เอส มยา ทิฏฺโ วา, น วา’’ติ ทสฺสเน เวมติโก โหติ. ปุคฺคเล เวมติโก โหตีติ เตน กตกมฺเม าเตปิ ตํ กมฺมํ กโรนฺตสฺส สมฺมา อทิฏฺภาวโต กาลนฺตรภาวโต วา ‘‘ตสฺส กมฺมสฺส การโก อยํ วา, โน’’ติ ปุคฺคเล เวมติโก โหติ.

๓๘๙. ‘‘ตชฺชนียกมฺมาทิสตฺตวิธมฺปิ กมฺมํ กริสฺสามา’’ติ อาปตฺติยา โจเทนฺตสฺส อธิปฺปาโย กมฺมาธิปฺปาโย. ‘‘อาปตฺติโต วุฏฺาเปสฺสามี’’ติ อธิปฺปาโย วุฏฺานาธิปฺปาโย. อนุทฺธํเสนฺตสฺสาติ อิมินา จาวนาธิปฺปายํ ทสฺเสติ. อกฺโกสาธิปฺปาเยน วทนฺตสฺส ปาจิตฺติยนฺติ อกฺโกสาธิปฺปาเยน สตฺตหิปิ อาปตฺติกฺขนฺเธหิ สมฺมุขา วทนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. ทุกฺกฏนฺติ อกฺโกสาธิปฺปาเยน วทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.

‘‘เอวํ สํวทฺธา หิ ตสฺส ภควโต ปริสา ยทิทํ อฺมฺวจเนน อฺมฺวุฏฺาปเนนา’’ติ วจนโต กุรุนฺทฏฺกถานยํ ปติฏฺเปนฺโต ‘‘กุรุนฺทิยํ ปนา’’ติอาทิมาห. สพฺพตฺเถวาติ สพฺพอฏฺกถาสุ. ยฺย-กาเร สมฺปตฺเต เร-กาโร อติกฺกนฺโต นาม โหตีติ อาห ‘‘เร-กาเร อนติกฺกนฺเต’’ติ. อุโปสถสฺส ตฺติกมฺมภาวโต ตฺติยา สมตฺตาย อุโปสโถ กโต นาม โหตีติ อาห ‘‘ยฺย-กาเร สมฺปตฺเต น ลพฺภตี’’ติ.

อิทฺจิทฺจาติ ‘‘ปาณาติปาตํ อทินฺนาทาน’’นฺติอาทึ. ‘‘อสุโก จ อสุโก จ อสฺสมโณ อนุปาสโก’’ติ อกฺโกสาธิปฺปาเยน ปรมฺมุขา วทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, สมฺมุขา วทนฺตสฺส ปน ปาจิตฺติยเมว. ยถา ‘‘อสูริยํ ปสฺสติ กฺา’’ติ เอตฺถ ‘‘สูริยํ น ปสฺสติ กฺา’’ติ อยมตฺโถ ลพฺภติ, เอวํ ‘‘อโนกาสํ การาเปตฺวา’’ติ เอตฺถาปิ ‘‘โอกาสํ อการาเปตฺวา’’ติ อยมตฺโถ ลพฺภตีติ อาห ‘‘ยํ ปนา’’ติอาทิ. ยํ โจเทติ, ตสฺส อุปสมฺปนฺโนติ สงฺขฺยูปคมนํ, ตสฺมึ สุทฺธสฺิตา, เยน ปาราชิเกน โจเทติ, ตสฺส ทิฏฺาทิวเสน อมูลกตา, จาวนาธิปฺปาเยน สมฺมุขา โจทนา, ตสฺส ตงฺขณวิชานนนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.

ปมทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ทุติยทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๙๑. นวเม ทิสฺวาติ อชิกาย วิปฺปฏิปชฺชนฺตํ ฉคลกํ ทิสฺวา. เมตฺติยํ ภิกฺขุนินฺติ ตสฺสา ภิกฺขุนิกาลํ คเหตฺวา ภูตปุพฺพโวหาเรน โวหรนฺติ. เวฬุวเนเยวาติ เถรสฺส ภิกฺขาจารเวลํ อคฺคเหตฺวา เตหิ วุตฺตภตฺตุทฺเทสเวลํเยว สนฺธาย วุตฺตํ. กจฺจิ โนติ กจฺจิ นุ. เอตมตฺถํ อาโรเจสุนฺติ อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺส กฺจิเทสํ เลสมตฺตํ อุปาทาย ปาราชิเกน ธมฺเมน อนุทฺธํสิตภาวํ อาโรเจสุํ.

อฺภาคสฺสาติ อฺโกฏฺาสสฺส, เถรสฺส มนุสฺสชาติภิกฺขุภาวโต อฺสฺส ติรจฺฉานชาติฉคลกภาวสงฺขาตสฺส โกฏฺาสสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. อิทนฺติ สามฺโต นปุํสกนิทฺเทเสน ฉคลกํ นิทฺทิสติ, อิทํ ฉคลกชาตนฺติ อตฺโถ, อยํ ฉคลโกติ วุตฺตํ โหติ. อธิกรณสทฺทาเปกฺโข วา นปุํสกนิทฺเทโส, อิทํ ฉคลกสงฺขาตํ อธิกรณนฺติ วุตฺตํ โหติ. อฺภาโคติ ยถาวุตฺตติรจฺฉานชาติฉคลกภาวสงฺขาโต อฺภาโค, อฺโกฏฺาโสติ อตฺโถ. อสฺสาติ ฉคลกสฺส. ‘‘อฺภาคสมฺพนฺธี อฺภาคิย’’นฺติ ปมวิคฺคหสฺส อตฺโถ, ‘‘อฺภาควนฺตํ อฺภาคิย’’นฺติ ทุติยวิคฺคหสฺส. ทฺวีหิปิ วิคฺคเหหิ อฺภาคิยนฺติ ฉคลโกว วุตฺโต. ติรจฺฉานชาติฉคลกภาวฺจ เปตฺวา ปรมตฺถโต วิสุํ ฉคลเก อสติปิ ‘‘ปฏิมาย สรีร’’นฺติอาทีสุ วิย อเภเทปิ เภทกปฺปนาย ปวตฺตโลกโวหารวเสน ‘‘อฺภาคสฺส อิทํ, อฺภาโค วา อสฺส อตฺถี’’ติ วุตฺตํ.

อิทานิ ทฺวีหิปิ วิคฺคเหหิ วุตฺตมตฺถํ วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘โย หิ โส’’ติอาทิมาห. โสติ โส ฉคลโก. ตสฺส ‘‘โหตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ตโตติ ตโต มนุสฺสชาติโต ภิกฺขุภาวโต จ. โส วา อฺภาโคติ ยถาวุตฺตติรจฺฉานชาติฉคลกภาวสงฺขาโต อฺภาโค. อสฺสาติ ฉคลกสฺส. โส ฉคลโก อฺภาคิยสงฺขาตํ ลภตีติ โยเชตพฺพํ. ‘‘อธิกรณนฺติ อาธาโร, วตฺถุ อธิฏฺาน’’นฺติ เหฏฺา วุตฺตมตฺถํ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมา จา’’ติอาทิมาห. เตสนฺติ เมตฺติยภูมชกานํ. อิมนฺติ ฉคลกํ. นามกรณสฺายาติ นามกรณสงฺขาตาย สฺาย โส ฉคลโก อธิกรณนฺติ เวทิตพฺโพติ โยเชตพฺพํ. ตฺหิ สนฺธายาติ ‘‘อวสฺสํ ตุมฺเหหิ เลโส โอฑฺฑิโต, กึ วทถ, กึ ปสฺสิตฺถา’’ติ อนุยุตฺเตหิ เตหิ ภิกฺขูหิ ‘‘ฉคลกสฺส วิปฺปฏิปตฺตึ ทิสฺวา ทพฺพสฺส นามํ ตสฺส กริมฺหา’’ติ วุตฺตตฺตา ตสฺส นามกรณสฺาย อธิฏฺานภูตํ ตํ ฉคลกํ สนฺธาย. เต ภิกฺขูติ เต อนุยุฺชกา ภิกฺขู. อาปตฺติเลสมฺปิ ปุคฺคลสฺมึเยว อาโรเปตฺวา วุตฺตตฺตา ‘‘ปุคฺคลานํเยว เลสา’’ติ วุตฺตํ. ปทภาชเน ปน…เป… เวทิตพฺพนฺติ อิมินา นามกรณสฺาย อาธารภูตสฺส ฉคลกสงฺขาตสฺส อธิกรณสฺส อวจเน การณํ วุตฺตํ.

๓๙๓. ‘‘อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺสา’’ติ เอตฺถ ปาฬิอาคตอธิกรณสทฺทปติรูปกํ อฺํ อธิกรณสทฺทํ ปาฬิอาคตตทฺสาธารณตาย อุภยปทตฺถํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อธิกรณํ นาม จตฺตาริ อธิกรณานี’’ติ วุตฺตํ. อตฺถุทฺธารวเสน หิ อตฺถํ ทสฺเสนฺเตน ปาฬิยํ อาคตสทฺทปติรูปโก อฺโ สทฺโท อุภยปทตฺโถ อุทฺธริตพฺโพ, น จ อฺํ อุทฺธริตฺวา อฺสฺส อตฺโถ วตฺตพฺโพ, ตสฺมา ปาฬิอาคตอธิกรณสทฺทปติรูปโก อฺโเยว อุภยปทตฺถสาธารโณ อธิกรณสทฺโท อุทฺธโฏติ ทฏฺพฺพํ. เตเนวาห ‘‘อธิกรณนฺติ วจนสามฺโต อตฺถุทฺธารวเสน ปวตฺตานิ จตฺตาริ อธิกรณานี’’ติ. ยา จ สา อวสาเน…เป… โจทนา วุตฺตาติ ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสํ อชฺฌาปชฺชนฺโต ทิฏฺโ โหติ, สงฺฆาทิเสเส สงฺฆาทิเสสทิฏฺี โหติ, ตฺเจ ปาราชิเกน โจเทตีติอาทิโจทนํ สนฺธาย วทติ.

เมถุนวีติกฺกมาปตฺติโย วตฺถุโต สภาคา, อิตราสํ ปน อทินฺนาทานาทิอาปตฺตีนํ สมาเนปิ ปาราชิกาปตฺติภาเว วตฺถุโต วิสภาคาติ อาห ‘‘สภาควิสภาควตฺถุโต’’ติ. สภาวสริกฺขาสริกฺขโตติ สภาเวน สทิสาสทิสภาวโต. ปมปาราชิกฺหิ ปมปาราชิกาปตฺติยา เมถุนราเคน สภาวโต สทิสํ, โทสสมฺปยุตฺตมนุสฺสวิคฺคเหน อสทิสํ. นนุ จ ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ อาปตฺตาธิกรณสฺส สิยา ตพฺภาคิยํ, สิยา อฺภาคิย’’นฺติ วุตฺตตฺตา อุทฺเทสานุกฺกเมน ตพฺภาคิยตํ อนิทฺทิสิตฺวา อฺภาคิยตา ปมํ กสฺมา นิทฺทิฏฺาติ อาห ‘‘อาทิโต ปฏฺายา’’ติอาทิ. วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘สภาควิสภาควตฺถุโต’’ติอาทินา วุตฺตนเยน.

‘‘สงฺฆกมฺมานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺน’’นฺติ วุตฺตตฺตา สงฺฆกมฺมโต กิจฺจาธิกรณํ วิสุํ วิย ทิสฺสตีติ อาห ‘‘กึ ปนา’’ติอาทิ. ‘‘กิจฺจเมว กิจฺจาธิกรณ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘สงฺฆกมฺมานเมเวตํ อธิวจน’’นฺติ วุตฺตํ. ยทิ เอวํ ‘‘สงฺฆกมฺมานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺน’’นฺติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘เอวํ สนฺเตปี’’ติอาทิ. ตสฺส ตสฺส สงฺฆกมฺมสฺส ภควตา วุตฺตํ อิติกตฺตพฺพตาลกฺขณํเยว ตโต สงฺฆกมฺมสฺส นิปฺผชฺชนโต ผลูปจาเรน สงฺฆกมฺมนฺติ วตฺตพฺพตํ อรหตีติ อาห ‘‘ยํ กมฺมลกฺขณํ มนสิ กโรติ, ตํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโต’’ติ. ปริวาสาทิสงฺฆกมฺมํ นิสฺสาย มานตฺตาทีนํ อุปฺปชฺชนโต อุกฺเขปนียกมฺมสีมาสมฺมุติกมฺมาทีนิ อิสฺสาย โอสารณสีมาสมูหนนาทิกมฺมานํ อุปฺปชฺชนโต จ ‘‘ปุริมํ ปุริมํ สงฺฆกมฺม’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

๓๙๕-๔๐๐. สวตฺถุกํ กตฺวาติ ปุคฺคลาธิฏฺานํ กตฺวา. ทีฆาทิโนติ ทีฆรสฺสกาฬโอทาตาทิโน. ทิฏฺาทิโนติ ทิฏฺสุตาทิโน. โลหปตฺตสทิโสติ อโยปตฺตสทิโส. องฺคานิ ปมทุฏฺโทเส วุตฺตสทิสานิ, อิธ ปน กฺจิเทสํ เลสมตฺตํ อุปาทิยนา อธิกา.

ทุติยทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ปมสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๑๐. ทสเม เย ทุพฺพลา โหนฺติ อปฺปถามา, น สกฺโกนฺติ อรฺกาทีนิ เสวนฺตา ทุกฺขสฺสนฺตํ กาตุํ, เต สนฺธายาห ‘‘พหูนํ กุลปุตฺตานํ มคฺคนฺตรายาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อธิวาสนขนฺติสมฺปนฺโนติ ‘‘ขโม โหติ สีตสฺสา’’ติอาทินา วุตฺตสีตุณฺหาทิสหนลกฺขณาย ขนฺติยา สมนฺนาคโต. พฺยฺชนปทเมว ปรมํ อสฺสาติ ปทปรโม. ยสฺส หิ ปุคฺคลสฺส พหุมฺปิ สุณโต พหุมฺปิ ภณโต พหุมฺปิ ธารยโต พหุมฺปิ วาจยโต น ตาย ชาติยา ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ ‘‘ปทปรโม’’ติ วุจฺจติ. อภิสมฺภุณิตฺวาติ นิปฺผาเทตฺวา. นาภิสมฺภุณาตีติ น สมฺปาเทติ, อรฺวาสํ สมฺปาเทตุํ น สกฺโกตีติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺมโต อเปตํ อุทฺธมฺมํ. อสพฺพฺู อสฺสาติ เตสํ อนุรูปสฺส อชานนโต อสพฺพฺู ภเวยฺย. ‘‘น, ภิกฺขเว, อเสนาสนิเกน วสฺสํ อุปคนฺตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๒๐๔) วจนโต ‘‘จตฺตาโร ปน…เป… ปฏิกฺขิตฺตเมวา’’ติ วุตฺตํ. อิทเมว วจนํ สนฺธาย ปาฬิยมฺปิ ‘‘อฏฺ มาเส โข มยา เทวทตฺต รุกฺขมูลเสนาสนํ อนุฺาต’’นฺติ วุตฺตํ.

ตีหิ โกฏีหีติ ตีหิ อากาเรหิ, ตีหิ การเณหีติ อตฺโถ. ตทุภยวิมุตฺตปริสงฺกิตนฺติ ทิฏฺํ สุตนฺติ อิทํ อุภยํ อนิสฺสาย ‘‘กึ นุ โข อิทํ ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส วธิตฺวา สมฺปาทิต’’นฺติ เกวลเมว ปริสงฺกิตํ. มจฺฉพนฺธนํ ชาลํ, วาคุรา มิคพนฺธนี. กปฺปตีติ ยทิ เตสํ วจเนน อาสงฺกา อุปจฺฉินฺนา โหติ, วฏฺฏติ. ปวตฺตมํสนฺติ วิกฺกายิกมํสํ. มงฺคลาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน อาหุนปาหุนาทิเก สงฺคณฺหาติ. ภิกฺขูนํเยว อตฺถายาติ เอตฺถ อฏฺานปฺปยุตฺโต เอว-สทฺโท, ภิกฺขูนํ อตฺถาย อกตเมวาติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตสฺมา ‘‘ภิกฺขูนฺจ ทสฺสาม, มงฺคลาทีนฺจ อตฺถาย ภวิสฺสตี’’ติ มิสฺเสตฺวา กตมฺปิ น วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. เกจิ ปน ‘‘ภิกฺขูนํเยวาติ อวธารเณน ภิกฺขูนฺจ อฺเสฺจ อตฺถาย กตํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. ยตฺถ จ นิพฺเพมติโก โหตีติ ภิกฺขูนํ อตฺถาย กเตปิ สพฺเพน สพฺพํ ปริสงฺกิตาภาวมาห. ตเมวตฺถํ อาวิกาตุํ ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิตเรสํ วฏฺฏตีติ อชานนฺตานํ วฏฺฏติ, ชานโต เอเวตฺถ อาปตฺติ โหตีติ. เตเยวาติ เย อุทฺทิสฺส กตํ, เตเยว. อุทฺทิสกตมํสปริโภคโต อกปฺปิยมํสปริโภคสฺส วิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘อกปฺปิยมํสํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปุริมสฺมึ สจิตฺตกา อาปตฺติ, อิตรสฺมึ อจิตฺตกา. เตนาห ‘‘อกปฺปิยมํสํ อชานิตฺวา ภุฺชนฺตสฺสปิ อาปตฺติเยวา’’ติ. ‘‘ปริโภคกาเล ปุจฺฉิตฺวา ปริภุฺชิสฺสามีติ วา คเหตฺวา ปุจฺฉิตฺวา ปริภุฺชิตพฺพ’’นฺติ วจนโต อกปฺปิยมํสํ อชานิตฺวา คณฺหนฺตสฺส ปฏิคฺคหเณน อนาปตฺติ สิยา. อชานิตฺวาปิ ภุฺชนฺตสฺเสว หิ อาปตฺติ วุตฺตา. วตฺตนฺติ วทนฺตีติ อิมินา อาปตฺติ นตฺถีติ ทสฺเสติ.

สลฺเลขา วุตฺติ เอเตสนฺติ สลฺเลขวุตฺติโน. พาหุลิโกติ เอกสฺส -การสฺส โลปํ กตฺวา วุตฺตํ. กปฺปนฺติ อายุกปฺปํ. สงฺฆเภทโก หิ เอกํ กปฺปํ อสีติภาเค กตฺวา ตโต เอกภาคมตฺตํ กาลํ นิรเย ติฏฺเยฺยาติ อายุกปฺปํ สนฺธาย ‘‘กปฺปํ นิรยมฺหิ ปจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. กปฺปฏฺกถายํ (วิภ. อฏฺ. ๘๐๙) ปน ‘‘สณฺหนฺเต หิ กปฺเป กปฺปเวมชฺเฌ วา สงฺฆเภทํ กตฺวา กปฺปวินาเสเยว มุจฺจติ. สเจปิ หิ สฺเว กปฺโป วินสฺสิสฺสตีติ อชฺช สงฺฆเภทํ กโรติ, สฺเวว มุจฺจติ, เอกทิวสเมว นิรเย ปจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถาปิ กปฺปวินาเสเยวาติ อายุกปฺปวินาเสเยวาติ อตฺเถ สติ นตฺถิ วิโรโธ. สณฺหนฺเตติ อิทมฺปิ ‘‘สฺเว วินสฺสิสฺสตี’’ติ วิย อภูตปริกปฺปนวเสน วุตฺตํ. ‘‘เอกทิวสเมว นิรเย ปจฺจตี’’ติ เอตฺถาปิ ตโต ปรํ กปฺปาภาเว อายุกปฺปสฺสปิ อภาวโตติ อวิโรธโต อตฺถโยชนา ทฏฺพฺพา. พฺรหฺมํ ปุฺนฺติ เสฏฺํ ปุฺํ. กปฺปํ สคฺคมฺหิ โมทตีติ เอตฺถาปิ อายุกปฺปเมว.

๔๑๑. ลทฺธินานาสํวาสเกนาติ ภาวปฺปธาโนยํ นิทฺเทโส, ลทฺธินานาสํวาสกภาเวนาติ อตฺโถ. กมฺมนานาสํวาสเกนาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อฺถา นานาสํวาสเกน สหิตสฺส สมานสํวาสกสฺสปิ สงฺฆสฺส อสมานสํวาสกตฺตํ อาปชฺเชยฺย. ตตฺถ ลทฺธินานาสํวาสโก นาม อุกฺขิตฺตานุวตฺตโก. โส หิ อตฺตโน ลทฺธิยา นานาสํวาสโก ชาโตติ ‘‘ลทฺธินานาสํวาสโก’’ติ วุจฺจติ. กมฺมนานาสํวาสโก นาม อุกฺเขปนียกมฺมกโต. โส หิ อุกฺเขปนียกมฺมวเสน นานาสํวาสโก โหตีติ ‘‘กมฺมนานาสํวาสโก’’ติ วุจฺจติ. วิรหิโตติ วิมุตฺโต. กายสามคฺคีทานํ เตสุ เตสุ สงฺฆกมฺเมสุ หตฺถปาสูปคมนวเสน เวทิตพฺพํ.

‘‘เภทาย ปรกฺกเมยฺยา’’ติ วิสุํ วุตฺตตฺตา เภทนสํวตฺตนิกสฺส อธิกรณสฺส สมาทาย ปคฺคณฺหโต ปุพฺเพปิ ปกฺขปริเยสนาทิวเสน สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนฺตสฺส สมนุภาสนกมฺมํ กาตพฺพนฺติ เวทิตพฺพํ. อิมานิ วตฺถูนีติ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ. กมฺเมนาติ อปโลกนาทีสุ จตูสุ กมฺเมสุ อฺตเรน กมฺเมน. อุทฺเทเสนาติ ปฺจสุ ปาติโมกฺขุทฺเทเสสุ อฺตเรน อุทฺเทเสน. โวหาเรนาติ ตาหิ ตาหิ อุปปตฺตีหิ ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติอาทิอฏฺารสเภทกรวตฺถุทีปเกน โวหาเรน. อนุสฺสาวนายาติ ‘‘นนุ ตุมฺเห ชานาถ มยฺหํ อุจฺจากุลา ปพฺพชิตภาวํ พหุสฺสุตภาวฺจ, มาทิโส นาม อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุสาสนํ คาเหยฺยาติ จิตฺตมฺปิ อุปฺปาเทตุํ ตุมฺหากํ ยุตฺตํ, กึ มยฺหํ อวีจิ นีลุปฺปลวนํ วิย สีตโล, กิมหํ อปายโต น ภายามี’’ติอาทินา นเยน กณฺณมูเล วจีเภทํ กตฺวา อนุสฺสาวเนน. สลากคฺคาเหนาติ เอวํ อนุสฺสาเวตฺวา เตสํ จิตฺตํ อุปตฺถมฺเภตฺวา อนิวตฺติธมฺเม กตฺวา ‘‘คณฺหถ อิมํ สลาก’’นฺติ สลากคฺคาเหน. ปฺจหิ การเณหิ สงฺฆเภโท โหตีติ เอตฺถ กมฺมเมว อุทฺเทโส วา สงฺฆเภเท ปธานการณนฺติ เวทิตพฺพํ. โวหารานุสฺสาวนสลากคฺคาหา ปน ปุพฺพภาคา. อฏฺารสวตฺถุทีปนวสเอน หิ โวหรนฺเตน ตตฺถ รุจิชนนตฺถํ อนุสฺสาเวตฺวา สลากาย คหิตายปิ อภินฺโนว โหติ สงฺโฆ. ยทา ปน เอวํ จตฺตาโร วา อติเรกา วา สลากํ คเหตฺวา อาเวณิกกมฺมํ วา อุทฺเทสํ วา กโรนฺติ, ตทา สงฺโฆ ภินฺโน นาม โหติ. อพฺภุสฺสิตนฺติ อพฺภุคฺคตํ. อจฺเฉยฺยาติ วิหเรยฺย, ปวตฺเตยฺยาติ อตฺโถ.

‘‘ลชฺชี รกฺขิสฺสตี’’ติ วจนโต อาปตฺติภเยน อาโรจนํ ลชฺชีนํเยว ภาโรติ อาห ‘‘ลชฺชีหิ ภิกฺขูหี’’ติ. อลชฺชิสฺสปิ อนาโรเจนฺตสฺส อาปตฺติเยว ‘‘เย ปสฺสนฺติ, เย สุณนฺตี’’ติ วจนโต. สมาคจฺฉตูติ เอกี ภวตุ. เอกีภาโว จ สมานลทฺธิวเสน โหตีติ อาห ‘‘เอกลทฺธิโก โหตู’’ติ. สมฺปตฺติยาติ สีลาทิสมฺปตฺติยา. ปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺส อนาปตฺติภาวโต ‘‘โสตฺถิภาโว ตสฺส ภิกฺขุโน’’ติ วุตฺตํ. อปฺปฏินิสฺสชฺชโต ทุกฺกฏนฺติ วิสุํ วิสุํ วทนฺตานํ คณนาย ทุกฺกฏํ. ปโหนฺเตนาติ คนฺตุํ สมตฺเถน อคิลาเนน. สงฺฆเภทสฺส ครุกภาวโต อวสฺสํ กตฺตพฺพตาทสฺสนตฺถํ ‘‘ทูเรปิ ภาโรเยวา’’ติ วุตฺตํ, อาปตฺติ ปน อทฺธโยชนพฺภนฺตเร คนฺตุํ สมตฺถสฺส อคิลานสฺเสว เวทิตพฺพา.

๔๑๖. อสมนุภาสนฺตสฺสาติ กมฺมการเก กตฺตุนิทฺเทโสติ อาห ‘‘อสมนุภาสิยมานสฺสา’’ติ. ตติยกมฺมวาจาย ปฏินิสฺสชฺชนฺโต ตฺติยา ทุกฺกฏํ ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจเย จ อาปชฺชติเยวาติ อาห ‘‘ปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺส สงฺฆาทิเสเสน อนาปตฺตี’’ติ. อสฺสาติ เทวทตฺตสฺส. กเตน ภวิตพฺพนฺติ สมนุภาสนกมฺเมน กเตน ภวิตพฺพํ. อตฺตโน รุจิมตฺเตน วเทยฺยาติอาทิกมฺมิกตฺตา อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺสปิ อนาปตฺตีติ อธิปฺปาเยน วเทยฺย. อปฺตฺเต สิกฺขาปเท สมนุภาสนกมฺมสฺเสว อภาวโต ‘‘น หิ ปฺตฺตํ สิกฺขาปทํ วีติกฺกมนฺตสฺสา’’ติ วุตฺตํ. สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺเตเนว หิ สมนุภาสนกมฺมํ อนุฺาตํ. อุทฺทิสฺส อนุฺาตโตติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โรมนฺถกสฺส โรมนฺถน’’นฺติอาทึ (จูฬว. ๒๗๓) อุทฺทิสฺส อนุฺาตํ สนฺธาย วทนฺติ. อนาปตฺติยนฺติ อนาปตฺติวาเร. อาปตฺตึ โรเปตพฺโพติ อนิสฺสชฺชนปจฺจยา อาปนฺนปาจิตฺติยาปตฺตึ อุกฺเขปนียกมฺมกรณตฺถํ อาโรเปตพฺโพติ อตฺโถ.

อาปตฺติเยว น ชาตาติ สงฺฆาทิเสสาปตฺติ น ชาตาเยวาติ อตฺโถ. สา ปเนสาติ สา ปน เอสา อนาปตฺติ. ติวงฺคิกนฺติ กายวาจาจิตฺตวเสน ติวงฺคิกํ, กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘นปฺปฏินิสฺสชฺชามี’’ติ สฺาย อภาเวน มุจฺจนโต สฺาวิโมกฺขํ. สจิตฺตกนฺติ ‘‘นปฺปฏินิสฺสชฺชามี’’ติ ชานนจิตฺเตน สจิตฺตกํ. เภทาย ปรกฺกมนํ, ธมฺมกมฺเมน สมนุภาสนํ, กมฺมวาจาปริโยสานํ, อปฺปฏินิสฺสชฺชนนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

ปมสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. ทุติยสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๑๗-๔๑๘. เอกาทสเม ยํ วจนํ สมคฺเคปิ วคฺเค อวยวภูเต กโรติ ภินฺทติ, ตํ กลหการกวจนํ อิธ วคฺคนฺติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘วคฺคํ อสามคฺคิปกฺขิยวจนํ วทนฺตี’’ติ. อสามคฺคิปกฺเข ภวา อสามคฺคิปกฺขิยา, กลหกา. เตสํ วจนํ อสามคฺคิปกฺขิยวจนํ, อสามคฺคิปกฺเข วา ภวํ วจนํ อสามคฺคิปกฺขิยวจนํ. ยสฺมา อุพฺพาหิกาทิกมฺมํ พหูนมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘น หิ สงฺโฆ สงฺฆสฺส กมฺมํ กโรตี’’ติ อิทํ นิคฺคหวเสน กตฺตพฺพกมฺมํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. องฺคานิ ปเนตฺถ เภทาย ปรกฺกมนํ ปหาย อนุวตฺตนํ ปกฺขิปิตฺวา เหฏฺา วุตฺตสทิสาเนว.

ทุติยสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. ทุพฺพจสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๒๔. ทฺวาทสเม วมฺภนวจนนฺติ ครหวจนํ. อปสาเทตุกาโมติ ขิปิตุกาโม, ตชฺเชตุกาโม วา, ฆฏฺเฏตุกาโมติ วุตฺตํ โหติ. สฏสทฺโท ปติตสทฺเทน สมานตฺโถ. วิเสสนสฺส จ ปรนิปาตํ กตฺวา ติณกฏฺปณฺณสฏนฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ตตฺถ ตตฺถ ปติตํ ติณกฏฺปณฺณ’’นฺติ. เกนาปีติ วาตสทิเสน นทีสทิเสน จ เกนาปิ.

๔๒๕-๔๒๖. วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺโยติ กิสฺมิฺจิ วุจฺจมาเน อสหนโต โอวทิตุํ อสกฺกุเณยฺโย. ทุกฺขํ วโจ เอตสฺมึ วิปฺปฏิกูลคฺคาเห วิปจฺจนีกวาเท อนาทเร ปุคฺคเลติ ทุพฺพโจ. เตนาห ‘‘ทุกฺเขน กิจฺเฉน วทิตพฺโพ’’ติอาทิ. ทุพฺพจภาวกรณีเยหีติ ทุพฺพจภาวการเกหิ. กตฺตุอตฺเถ อนียสทฺโท ทฏฺพฺโพ. เตเนวาห ‘‘เย ธมฺมา ทุพฺพจํ ปุคฺคลํ กโรนฺตี’’ติอาทิ. ปาปิกา อิจฺฉา เอตสฺสาติ ปาปิจฺโฉ, ตสฺส ภาโว ปาปิจฺฉตา, อสนฺตคุณสมฺภาวนตา ปฏิคฺคหเณ จ อมตฺตฺุตา ปาปิจฺฉตาติ เวทิตพฺพา. อตฺตุกฺกํสกา จ เต ปรวมฺภกา จาติ อตฺตุกฺกํสกปรวมฺภกา. เย อตฺตานํ อุกฺกํสนฺติ อุกฺขิปนฺติ อุจฺเจ าเน เปนฺติ, ปรฺจ วมฺเภนฺติ ครหนฺติ นีเจ าเน เปนฺติ, เตสเมตํ อธิวจนํ. เตสํ ภาโว อตฺตุกฺกํสกปรวมฺภกตา. กุชฺฌนสีโล โกธโน, ตสฺส ภาโว โกธนตา. กุชฺฌนลกฺขณสฺส โกธสฺเสตํ อธิวจนํ.

ปุพฺพกาเล โกโธ, อปรกาเล อุปนาโหติ อาห ‘‘โกธเหตุ อุปนาหิตา’’ติ. ตตฺถ อุปนหนสีโล, อุปนาโห วา เอตสฺส อตฺถีติ อุปนาหี, ตสฺส ภาโว อุปนาหิตา. ปุนปฺปุนํ จิตฺตปริโยนทฺธลกฺขณสฺส โกธสฺเสเวตํ อธิวจนํ. สกิฺหิ อุปฺปนฺโน โกโธ โกโธเยว, ตตุตฺตริ อุปนาโห. อภิสงฺโคติ ทุมฺโมจนีโย พลวอุปนาโห. โส อสฺส อตฺถีติ อภิสงฺคี, ตสฺส ภาโว อภิสงฺคิตา. ทุมฺโมจนียสฺส พลวอุปนาหสฺเสตํ อธิวจนํ. โจทกํ ปฏิปฺผรณตาติ โจทกสฺส ปฏิวิรุทฺเธน ปจฺจนีเกน หุตฺวา อวฏฺานํ. โจทกํ อปสาทนตาติ ‘‘กึ นุ โข ตุยฺหํ พาลสฺส อพฺยตฺตสฺส ภณิเตน, ตฺวมฺปิ นาม ภณิตพฺพํ มฺิสฺสสี’’ติ เอวํ โจทกสฺส ฆฏฺฏนา. โจทกสฺส ปจฺจาโรปนตาติ ‘‘ตฺวมฺปิ โขสิ อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ตํ ตาว ปฏิกโรหี’’ติ เอวํ โจทกสฺส อุปริ ปฏิอาโรปนตา.

อฺเน อฺํ ปฏิจรณตาติ อฺเน การเณน, วจเนน วา อฺสฺส การณสฺส, วจนสฺส วา ปฏิจฺฉาทนวเสน จรณตา. ปฏิจฺฉาทนตฺโถ เอว วา จรสทฺโท อเนกตฺถตฺตา ธาตูนนฺติ ปฏิจฺฉาทนตาติ อตฺโถ. ตาย สมนฺนาคโต หิ ปุคฺคโล ยํ โจทเกน โทสวิภาวนการณํ, วจนํ วา วุตฺตํ, ตํ ตโต อฺเเนว โจทนาย อมูลิกภาวทีปเนน การเณน, ตทตฺถโพธเกน วจเนน วา ปฏิจฺฉาเทติ. ‘‘อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ วุตฺเต ‘‘โก อาปนฺโน, กึ อาปนฺโน, กิสฺมึ อาปนฺโน, กํ ภณถ, กึ ภณถา’’ติ วา วตฺวา ‘‘เอวรูปํ กิฺจิ ตยา ทิฏฺ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘น สุณามี’’ติ โสตํ วา อุปนาเมตฺวา วิกฺเขปํ กโรนฺโตปิ อฺเนฺํ ปฏิจฺฉาเทติ. ‘‘อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ ปุฏฺเ ‘‘ปาฏลิปุตฺตํ คโตมฺหี’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘น ตว ปาฏลิปุตฺตคมนํ ปุจฺฉาม, อาปตฺตึ ปุจฺฉามา’’ติ วุตฺเต ตโต ‘‘ราชคหํ คโตมฺหี’’ติ วตฺวา ‘‘ราชคหํ วา ยาหิ พฺราหฺมณคหํ วา, อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ วุตฺเต ‘‘ตตฺถ เม สูกรมํสํ ลทฺธ’’นฺติอาทีนิ วตฺวา พหิทฺธา กถาวิกฺขิปนมฺปิ อตฺถโต อฺเนฺํ ปฏิจรณเมวาติ วิสุํ น คหิตํ.

อปทาเนนาติ อตฺตโน จริยาย. อปทียนฺติ หิ โทสา เอเตน ทกฺขียนฺติ, ลุยนฺติ ฉิชฺชนฺตีติ วา อปทานํ, สตฺตานํ สมฺมา มิจฺฉา วา วตฺตปฺปโยโค. น สมฺปายนตาติ ‘‘อาวุโส, ตฺวํ กุหึ วสสิ, กํ นิสฺสาย วสสี’’ติ วา ‘‘ยํ ตฺวํ วเทสิ ‘มยา เอส อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต ทิฏฺโ’ติ, ตฺวํ ตสฺมึ สมเย กึ กโรสิ, อยํ กึ กโรติ, กตฺถ จ ตฺวํ อโหสิ, กตฺถ อย’’นฺติ วา อาทินา นเยน จริยํ ปุฏฺเน สมฺปาเทตฺวา อกถนํ.

มกฺขิปฬาสิตาติ เอตฺถ ปรคุณมกฺขนลกฺขโณ มกฺโข, โส เอตสฺส อตฺถีติ มกฺขี. ตาทิโส ปุคฺคโล อคาริโย อนคาริโย วา สมาโน ปเรสํ สุกตกรณํ วินาเสติ. อคาริโยปิ หิ เกนจิ อนุกมฺปเกน ทลิทฺโท สมาโน อุจฺจฏฺาเน ปิโต, อปเรน สมเยน ‘‘กึ ตยา มยฺหํ กต’’นฺติ ตสฺส สุกตกรณํ วินาเสติ. อนคาริโยปิ สามเณรกาลโต ปภุติ อาจริเยน วา อุปชฺฌาเยน วา จตูหิ ปจฺจเยหิ อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีหิ จ อนุคฺคเหตฺวา ธมฺมกถานยปกรณโกสลฺลาทีนิ สิกฺขาปิโต, อปเรน สมเยน ราชราชมหามตฺตาทีหิ สกฺกโต ครุกโต อาจริยุปชฺฌาเยสุ อจิตฺตีกโต จรมาโน ‘‘อยํ อมฺเหหิ ทหรกาเล เอว อนุคฺคหิโต สํวทฺธิโต จ, อถ จ ปนิทานิ นิสฺสิเนโห ชาโต’’ติ วุจฺจมาโน ‘‘กึ มยฺหํ ตุมฺเหหิ กต’’นฺติ เตสํ สุกตกรณํ วินาเสติ.

‘‘พหุสฺสุเตปิ ปุคฺคเล อชฺโฌตฺถริตฺวา อีทิสสฺส เจว พหุสฺสุตสฺส อนิยตา คติ, ตว วา มม วา โก วิเสโส’’ติอาทินา นเยน อุปฺปชฺชมาโน ยุคคฺคาหลกฺขโณ ปฬาโส. โส ปรคุเณหิ อตฺตโน คุณานํ สมกรณรโส. ตถา เหส ปเรสํ คุเณ ฑํสิตฺวา วิย อตฺตโน คุเณหิ สเม กโรตีติ ปฬาโสติ วุจฺจติ, โส เอตสฺส อตฺถีติ ปฬาสี. มกฺขี จ ปฬาสี จ มกฺขิปฬาสิโน, เตสํ ภาโว มกฺขิปฬาสิตา. อตฺถโต ปน มกฺโข เจว ปฬาโส จ.

อิสฺสติ ปรสมฺปตฺตึ น สหตีติ อิสฺสุกี. มจฺฉรายติ อตฺตโน สมฺปตฺตึ นิคูหติ, ปเรสํ สาธารณภาวํ น สหติ, มจฺเฉรํ วา เอตสฺส อตฺถีติ มจฺฉรี. สยติ น สมฺมา ภาสตีติ สโ, อตฺตโน อวิชฺชมานคุณปฺปกาสนลกฺขเณน สาเยฺเยน สมนฺนาคโต เกราฏิกปุคฺคโล. เกราฏิโก จ อานนฺทมจฺโฉ วิย โหติ. อานนฺทมจฺโฉ นาม กิร มจฺฉานํ นงฺคุฏฺํ ทสฺเสติ, สปฺปานํ สีสํ ‘‘ตุมฺเหหิ สทิโส อห’’นฺติ ชานาเปตุํ, เอวเมว เกราฏิโก ปุคฺคโล ยํ ยํ สุตฺตนฺติกํ วา อาภิธมฺมิกํ วา อุปสงฺกมติ, ตํ ตํ เอวํ วทติ ‘‘อหํ ตุมฺหากํ อนฺเตวาสี, ตุมฺเห มยฺหํ อนุกมฺปกา, นาหํ ตุมฺเห มุฺจามี’’ติ ‘‘เอวเมเต ‘สคารโว อยํ อมฺเหสุ สปฺปติสฺโส’ติ มฺิสฺสนฺตี’’ติ. สาเยฺเยน หิ สมนฺนาคตสฺส ปุคฺคลสฺส อสนฺตคุณสมฺภาวเนน จิตฺตานุรูปกิริยาวิหรโต ‘‘เอวํจิตฺโต เอวํกิริโย’’ติ ทุวิฺเยฺยตฺตา กุจฺฉึ วา ปิฏฺึ วา ชานิตุํ น สกฺกา. ยโต โส –

‘‘วาเมน สูกโร โหติ, ทกฺขิเณน อชามิโค;

สเรน เนลโก โหติ, วิสาเณน ชรคฺคโว’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๒๙๖; วิภ. อฏฺ. ๘๙๔; มหานิ. อฏฺ. ๑๖๖) –

เอวํ วุตฺตยกฺขสูกรสทิโส โหติ. กตปาปปฏิจฺฉาทนลกฺขณา มายา, สา อสฺส อตฺถีติ มายาวี.

ถมฺภสมงฺคิตาย ถทฺโธ. วาตภริตภสฺตาสทิสถทฺธภาวปคฺคหิตสิรอนิวาตวุตฺติการกโรติ ถมฺโภ. เยน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล คิลิตนงฺคลสทิโส วิย อชคโร, วาตภริตภสฺตา วิย จ ถทฺโธ หุตฺวา ครุฏฺานิเย ทิสฺวา โอนมิตุมฺปิ น อิจฺฉติ, ปริยนฺเตเนว จรติ. อพฺภุนฺนติลกฺขโณ อติมาโน, โส เอตสฺส อตฺถีติ อติมานี.

สํ อตฺตโน ทิฏฺึ ปรามสติ สภาวํ อติกฺกมิตฺวา ปรโต อามสตีติ สนฺทิฏฺิปรามาสี. อาธานํ คณฺหาตีติ อาธานคฺคาหี. ‘‘อาธาน’’นฺติ ทฬฺหํ วุจฺจติ, ทฬฺหคฺคาหีติ อตฺโถ. ยุตฺตํ การณํ ทิสฺวาว ลทฺธึ ปฏินิสฺสชฺชตีติ ปฏินิสฺสคฺคี, ทุกฺเขน กิจฺเฉน กสิเรน พหุมฺปิ การณํ ทสฺเสตฺวา น สกฺกา ปฏินิสฺสคฺคึ กาตุนฺติ ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี, โย อตฺตโน ทิฏฺึ ‘‘อิทเมว สจฺจ’’นฺติ ทฬฺหํ คณฺหิตฺวา อปิ พุทฺธาทีหิ การณํ ทสฺเสตฺวา วุจฺจมาโน น ปฏินิสฺสชฺชติ, ตสฺเสตํ อธิวจนํ. ตาทิโส หิ ปุคฺคโล ยํ ยเทว ธมฺมํ วา อธมฺมํ วา สุณาติ, ตํ สพฺพํ ‘‘เอวํ อมฺหากํ อาจริเยหิ กถิตํ, เอวํ อมฺเหหิ สุต’’นฺติ กุมฺโมว องฺคานิ สเก กปาเล อนฺโตเยว สโมทหติ. ยถา หิ กจฺฉโป อตฺตโน ปาทาทิเก องฺเค เกนจิ ฆฏฺฏิเต สพฺพานิ องฺคานิ อตฺตโน กปาเลเยว สโมทหติ, น พหิ นีหรติ, เอวมยมฺปิ ‘‘น สุนฺทโร ตว คาโห, ฉฑฺเฑหิ น’’นฺติ วุตฺโต ตํ น วิสฺสชฺเชติ, อนฺโตเยว อตฺตโน หทเย เอว เปตฺวา วิจรติ. ยถา กุมฺภีลา คหิตํ น ปฏินิสฺสชฺชนฺติ, เอวํ กุมฺภีลคฺคาหํ คณฺหาติ, น วิสฺสชฺเชติ. มกฺขิปฬาสิตาทิยุคฬตฺตเยน ทสฺสิเต มกฺขปฬาสาทโย ฉ ธมฺเม วิสุํ วิสุํ คเหตฺวา ‘‘เอกูนวีสติ ธมฺมา’’ติ วุตฺตํ. อนุมานสุตฺตฏฺกถายํ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๘๑) ปน มกฺขปฬาสาทโยปิ ยุคฬวเสน เอกํ กตฺวา ‘‘โสฬส ธมฺมา’’ติ วุตฺตํ.

ปกาเรหิ อาวหนํ ปทกฺขิณํ, ตโต ปทกฺขิณโต คหณสีโล ปทกฺขิณคฺคาหี, น ปทกฺขิณคฺคาหี อปฺปทกฺขิณคฺคาหี. โย วุจฺจมาโน ‘‘ตุมฺเห มํ กสฺมา วทถ, อหํ อตฺตโน กปฺปิยากปฺปิยํ สาวชฺชานวชฺชํ อตฺถานตฺถํ ชานามี’’ติ วทติ, อยํ อนุสาสนึ ปทกฺขิณโต น คณฺหาติ, วามโตว คณฺหาติ, ตสฺมา ‘‘อปฺปทกฺขิณคฺคาหี’’ติ วุจฺจติ, เตนาห ‘‘ยถานุสิฏฺ’’นฺติอาทิ.

อุทฺเทเสติ ปาติโมกฺขุทฺเทเส. อถ สพฺพาเนว สิกฺขาปทานิ กถํ ปาติโมกฺขุทฺเทสปริยาปนฺนานีติ อาห ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺติ, โส อาวิกเรยฺยาติ เอวํ สงฺคหิตตฺตา’’ติ. ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺตี’’ติ หิ อิมินา สพฺพาปิ อาปตฺติโย นิทานุทฺเทเส สงฺคหิตาเยว โหนฺติ. ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ สิกฺขิตพฺพตฺตาติ ลพฺภมานวเสน วุตฺตํ. สหธมฺมิเกน สหการเณนาติปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ‘‘วจนายา’’ติ นิสฺสกฺเก สมฺปทานวจนนฺติ อาห ‘‘ตโต มม วจนโต’’ติ. องฺคานิ เจตฺถ ปมสงฺฆเภทสทิสานิ. อยํ ปน วิเสโส – ยถา ตตฺถ เภทาย ปรกฺกมนํ, เอวํ อิธ อวจนียกรณตา ทฏฺพฺพา.

ทุพฺพจสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๓. กุลทูสกสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๓๑. เตรสเม กีฏาคิรีติ ตสฺส นิคมสฺส นามํ. ตฺหิ สนฺธาย ปรโต ‘‘น อสฺสชิปุนพฺพสุเกหิ ภิกฺขูหิ กีฏาคิริสฺมึ วตฺถพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. เตน ปน โยคโต โส ชนปโทปิ ‘‘กีฏาคิริ’’อิจฺเจว สงฺขฺยํ คโตติ อาห ‘‘เอวํนามเก ชนปเท’’ติ. อาวาเส นิยุตฺตา อาวาสิกา, นิพทฺธวาสิโน. เต อกตํ เสนาสนํ กโรนฺติ, ชิณฺณํ ปฏิสงฺขโรนฺติ, กเต อิสฺสรา โหนฺติ. เตนาห ‘‘โส เยสํ อายตฺโต…เป… เต อาวาสิกา’’ติ. นิวาโส นิวาสมตฺตํ เอเตสํ อตฺถีติ เนวาสิกาติ อาห ‘‘เย ปน เกวล’’นฺติอาทิ. เตติ อสฺสชิปุนพฺพสุกา. ฉ ชนาติ ปณฺฑุโก โลหิตโก เมตฺติโย ภูมชโก อสฺสชิ ปุนพฺพสุโกติ อิเม ฉ ชนา. สมฺมาติ อาลปนวจนเมตํ. อายมุขภูตาติ อายสฺส มุขภูตา. ธุรฏฺาเนติ สาวตฺถิยา อวิทูเร าเน. วสฺสาเน เหมนฺเต จาติ ทฺวีสุ อุตูสุ วสฺสนโต ‘‘ทฺวีหิ เมเฆหี’’ติ วุตฺตํ. ทิยฑฺฒภิกฺขุสหสฺสโต คณาจริยานํ ฉนฺนํ ชนานํ อธิกตฺตา ‘‘สมธิก’’นฺติ วุตฺตํ, สาธิกนฺติ อตฺโถ. -กาโร ปทสนฺธิวเสน อาคโต. อกตวตฺถุนฺติ อกตปุพฺพํ อภินววตฺถุํ.

กณิการาทโย ปุปฺผรุกฺขา, ชาติสุมนาทโย ปุปฺผคจฺฉา. โกฏฺฏนนฺติ สยํ ฉินฺทนํ. โกฏฺฏาปนนฺติ ‘‘อิมํ ฉินฺท ภินฺทา’’ติ อฺเหิ เฉทาปนํ. อาฬิยา พนฺธนนฺติ ยถา คจฺฉมูเล อุทกํ สนฺติฏฺติ, ตถา สมนฺตโต พนฺธนํ. อุทกสฺสาติ อกปฺปิยอุทกสฺส. กปฺปิยอุทกสิฺจนนฺติ อิมินาว สิฺจาปนมฺปิ สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. นนุ ‘‘อุทกสฺส เสจนํ เสจาปน’’นฺติ อิมินาว สามฺโต กปฺปิยากปฺปิยอุทกสิฺจนาทึ สกฺกา สงฺคเหตุํ, ตสฺมา กปฺปิยอุทกสิฺจนาทิ กสฺมา วิสุํ วุตฺตนฺติ? ‘‘อารามาทิอตฺถํ โรปิเต อกปฺปิยโวหาเรสุปิ กปฺปิยอุทกสิฺจนาทิ วฏฺฏตี’’ติ วกฺขมานตฺตา อิธาปิ วิภาคํ กตฺวา กปฺปิยอุทกสิฺจนาทิ วิสุํ ทสฺสิตํ. หตฺถมุขปาทโธวนนฺหาโนทกสิฺจนนฺติ อิมินาปิ ปการนฺตเรน กปฺปิยอุทกสิฺจนเมว ทสฺเสติ. ‘‘อกปฺปิยโวหาโร’’ติ โกฏฺฏนขณนาทิวเสน สยํ กรณสฺสปิ กถํ สงฺคโหติ? อกปฺปิยนฺติ โวหรียตีติ อกปฺปิยโวหาโรติ อกปฺปิยภูตํ กรณการาปนาทิ สพฺพเมว สงฺคหิตํ, น ปน อกปฺปิยวจนมตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. กปฺปิยโวหาเรปิ เอเสว นโย. สุกฺขมาติกาย อุชุกรณนฺติ อิมินา ปุราณปณฺณาทิหรณมฺปิ สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. กุทาลาทีนิ ภูมิยํ เปตฺวา านโต หตฺเถน คเหตฺวา านเมว ปากฏตรนฺติ ‘‘โอภาโส’’ติ วุตฺตํ.

มหาปจฺจริวาทมฺหิ ปติฏฺเปตุกาโม ปจฺฉา วทติ. วนตฺถายาติ อิทํ เกจิ ‘‘วตตฺถายา’’ติ ปนฺติ, เตสํ วติอตฺถายาติ อตฺโถ. อกปฺปิยโวหาเรปิ เอกจฺจํ วฏฺฏตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘น เกวลฺจ เสส’’นฺติอาทิมาห. ยํ กิฺจิ มาติกนฺติ สุกฺขมาติกํ วา อสุกฺขมาติกํ วา. ‘‘กปฺปิยอุทกํ สิฺจิตุ’’นฺติ อิมินา ‘‘กปฺปิยอุทกํ สิฺจถาติ วตฺตุมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ ทสฺเสติ. สยํ โรเปตุมฺปิ วฏฺฏตีติ อิมินา ‘‘โรเปหีติ วตฺตุํ วฏฺฏตี’’ติปิ สิทฺธํ. อฺตฺถาย วา กโรนฺตสฺสาติ วตฺถุปูชาทิอตฺถํ กโรนฺตสฺส. กสฺมา น อนาปตฺตีติ วตฺถุปูชนตฺถาย คนฺถนาทีสุ กสฺมา น อนาปตฺติ. อนาปตฺติเยวาติ ปฏิวจนํ ทตฺวา อิทานิ ตเมว อนาปตฺติภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถาหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ อารามาทิอตฺถาย รุกฺขโรปเน. ตถา วตฺถุปูชนตฺถายปิ อนาปตฺติเยวาติ รตนตฺตยปูชนตฺถายปิ กปฺปิยโวหาเรน ปริยายาทีหิ จ คนฺถาปเน อนาปตฺติเยวาติ อตฺโถ.

‘‘ตถา วตฺถุปูชนตฺถายา’’ติ หิ สามฺโต วุตฺเตปิ ‘‘ยถา หิ ตตฺถ กปฺปิยโวหาเรน ปริยายาทีหิ จา’’ติ วุตฺตตฺตา กปฺปิยโวหาราทีหิ คนฺถาปเน เอว อนาปตฺติ วิฺายติ, น สยํ คนฺถเน, เตเนว ปโร สยํ คนฺถนมฺปิ กสฺมา น วฏฺฏตีติ โจเทนฺโต ‘‘นนุ จา’’ติอาทิมาห. ยถา อารามาทิอตฺถํ กปฺปิยปถวิยํ สยํ โรเปตุมฺปิ วฏฺฏติ, ตถา วตฺถุปูชนตฺถาย สยํ คนฺถเนปิ กสฺมา น วฏฺฏตีติ โจทกสฺส อธิปฺปาโย. วุตฺตนฺติอาทิ อาจริยสฺส ปริหาโร. อถ ‘‘น ปน มหาอฏฺกถาย’’นฺติ กสฺมา วทติ. มหาปจฺจริอาทีสุ วุตฺตมฺปิ หิ ปมาณเมวาติ นายํ วิโรโธ, มหาอฏฺกถายํ อวุตฺตมฺปิ ตตฺเถว วุตฺเตน สํสนฺทิตฺวา ปมาณเมวาติ ปติฏฺาเปตุํ วุตฺตตฺตา. ตํ กถนฺติ มฺเยฺยาสีติ สมฺพนฺโธ. มหาอฏฺกถายฺจ กปฺปิยอุทกเสจนํ วุตฺตํ, ตํ กถนฺติ เอตฺถายมธิปฺปาโย. กิฺจาปิ มหาอฏฺกถายํ อารามาทิอตฺถาย กปฺปิยปถวิยํ สยํ โรปนํ น วุตฺตํ, กปฺปิยอุทกสฺส ปน สยํ สิฺจนํ วุตฺตเมว, ตสฺมา ยถา อารามาทิอตฺถาย กปฺปิยอุทกํ สยํ สิฺจิตุมฺปิ วฏฺฏติ, ตถา วตฺถุปูชนตฺถาย สยํ คนฺถนมฺปิ กสฺมา น วฏฺฏตีติ. ตมฺปิ น วิรุชฺฌตีติ ยเทตํ อารามาทิอตฺถาย สยํ โรปนํ กปฺปิยอุทกสิฺจนฺจ วุตฺตํ, ตมฺปิ น วิรุชฺฌติ. กถํ ตํ น วิรุชฺฌตีติ อาห ‘‘ตตฺรหี’’ติอาทิ. เอตํ วุตฺตนฺติ มาลาวจฺฉํ โรเปนฺติปิ โรปาเปนฺติปิ สิฺจนฺติปิ สิฺจาเปนฺติปีติ เอตํ วุตฺตํ. อฺตฺร ปน ปริยาโย อตฺถีติ ‘‘มาลาวจฺฉํ โรเปนฺติปิ โรปาเปนฺติปิ สิฺจนฺติปิ สิฺจาเปนฺติปี’’ติ กุลสงฺคหตฺถาย โรปนสิฺจนํ สนฺธาย วุตฺตตฺตา ตโต อฺตฺร อารามาทิอตฺถาย มาลาวจฺฉโรปเน ปริยาโย อตฺถิ. ตตฺถ ปริยายํ อิธ จ ปริยายาภาวํ ตฺวาติ ตตฺถ ‘‘มาลาวจฺฉํ โรเปนฺตี’’ติอาทีสุ ‘‘มาลาวจฺฉ’’นฺติ วิเสสวจนสพฺภาวโต ปริยายํ, อิธ ‘‘คนฺเถนฺตี’’ติอาทีสุ ตถาวิธวิเสสวจนาภาวโต ปริยายาภาวฺจ ตฺวา.

นนุ จ ยถา ‘‘คนฺเถนฺตี’’ติ สามฺโต วุตฺตตฺตา ปริยาโย น ลพฺภตีติ ยสฺส กสฺสจิ อตฺถาย สยํ คนฺถนํ น วฏฺฏติ, เอวํ ‘‘คนฺถาเปนฺตี’’ติ สามฺโต วุตฺตตฺตา ปริยาเยน คนฺถาปนมฺปิ น วฏฺฏตีติ อาปชฺชติ. เอวฺจ สติ ปรโต ‘‘เอวํ ชาน, เอวํ กเต โสเภยฺย, ยถา เอตานิ ปุปฺผานิ น วิกิริยนฺติ, ตถา กโรหีติอาทินา กปฺปิยวจเนน กาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิทํ วิรุชฺฌตีติ? น วิรุชฺฌติ, ปริยาเยน หิ การาปนํ คนฺถาปนเมว น โหติ, ตสฺมา ยถาวุตฺตนเยน ปริยายโต การาปนํ วฏฺฏติ. สพฺพํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ เหฏฺา วุตฺตํ วินิจฺฉยเมว สงฺเขปโต นิคเมติ. หรณาทีสุ กสฺมา อนาปตฺตีติ วตฺถุปูชนตฺถาย หรณาทีสุ กสฺมา อนาปตฺติ. กุลิตฺถิอาทีนํ อตฺถาย หรณโตติ กุลิตฺถิอาทีนํ หรณสฺส ตตฺถ วุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย. เตเนวาห ‘‘หรณาธิกาเร หี’’ติอาทิ. มาลนฺติ ปุปฺผทามํ. มฺชรี วิยาติ กุสุมมฺชรี วิย. หารสทิสนฺติ มุตฺตาหารสทิสํ.

ปาจิตฺติยฺเจว ทุกฺกฏฺจาติ ปถวีขณนปจฺจยา ปาจิตฺติยํ, กุลสงฺคหปจฺจยา ทุกฺกฏํ. อกปฺปิยโวหาเรนาติ ‘‘อิทํ ขณ, อิทํ โรเปหี’’ติอาทิอกปฺปิยโวหาเรน. ทุกฺกฏเมวาติ กุลสงฺคหปจฺจยา ทุกฺกฏํ. อุภยตฺถาติ กปฺปิยากปฺปิยปถวิยํ. สพฺพตฺถาติ กุลสงฺคหปริโภคอารามาทิอตฺถาย โรปิเต. ทุกฺกฏมฺปีติ น เกวลํ ปาจิตฺติยเมว. กปฺปิเยนาติ กปฺปิเยน อุทเกน. เตสํเยว ทฺวินฺนนฺติ กุลทูสนปริโภคานํ. ทุกฺกฏนฺติ กุลสงฺคหตฺถาย สยํ สิฺจเน กปฺปิยโวหาเรน อกปฺปิยโวหาเรน วา สิฺจาปเน จ ทุกฺกฏํ, ปริโภคตฺถาย ปน สยํ สิฺจเน อกปฺปิยโวหาเรน สิฺจาปเน จ ทุกฺกฏํ. อาปตฺติพหุลตา เวทิตพฺพาติ เอตฺถ สยํ สิฺจเน ธาราปจฺเฉทคณนาย อาปตฺติคณนา เวทิตพฺพา. สิฺจาปเน ปน ปุนปฺปุนํ อาณาเปนฺตสฺส วาจาย วาจาย อาปตฺติ, สกึ อาณตฺตสฺส พหูนํ สิฺจเนปิ เอกาว.

ทุกฺกฏปาจิตฺติยานีติ กุลสงฺคหปจฺจยา ทุกฺกฏํ, ภูตคามปาตพฺยตาย ปาจิตฺติยํ. อฺตฺถาติ วตฺถุปูชาทิอตฺถาย โอจินเน. สกึ อาณตฺโตติ อกปฺปิยโวหาเรน อาณตฺโต. ปาจิตฺติยเมวาติ อกปฺปิยวจเนน อาณตฺตตฺตา ปาจิตฺติยํ. กปฺปิยวจเนน ปน วตฺถุปูชาทิอตฺถาย โอจินาเปนฺตสฺส อนาปตฺติเยว.

คนฺถเนน นิพฺพตฺตํ คนฺติมํ. เอส นโย เสเสสุปิ. น วฏฺฏตีติ กุลสงฺคหตฺถาย วตฺถุปูชาทิอตฺถาย วา วุตฺตนเยน กโรนฺตสฺส จ การาเปนฺตสฺส จ ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ. ปุริมนเยเนวาติ ‘‘ภิกฺขุสฺส วา’’ติอาทินา วุตฺตนเยน. ธมฺมาสนวิตาเน พทฺธกณฺฏเกสุ ปุปฺผานิ วิชฺฌิตฺวา เปนฺตีติ สมฺพนฺโธ. อุปรูปริ วิชฺฌิตฺวา ฉตฺตสทิสํ กตฺวา อาวุณนโต ‘‘ฉตฺตาติฉตฺตํ วิยา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘กทลิกฺขนฺธมฺหี’’ติอาทินา วุตฺตํ สพฺพเมว สนฺธาย ‘‘ตํ อติโอฬาริกเมวา’’ติ วุตฺตํ, สยํ กโรนฺตสฺส อกปฺปิยวจเนเนว การาเปนฺตสฺส จ ทุกฺกฏเมวาติ อตฺโถ. ปุปฺผวิชฺฌนตฺถนฺติ วุตฺตตฺตา ปุปฺผานิ วิชฺฌิตุํเยว กณฺฏกํ พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ, ปุปฺผทามาทิพนฺธนตฺถํ ปน วฏฺฏติ. กณฺฏกมฺปิ พนฺธิตุํ น วฏฺฏตีติ จ อิทํ อฏฺกถาจริยปฺปมาเณน คเหตพฺพํ. ปเวเสตุํ น วฏฺฏตีติ วุตฺตตฺตา ปุปฺผจฺฉิทฺเท อปเวเสตฺวา อุปรูปริ เปตุํ วฏฺฏติ. ชาลมยํ วิตานํ ชาลวิตานํ. นาคทนฺตกมฺปิ สจฺฉิทฺทกํเยว คเหตพฺพํ. ปุปฺผปฏิจฺฉกํ ทณฺฑาทีหิ กตปุปฺผาธารณํ, ตมฺปิ สจฺฉิทฺทเมว อิธ วุตฺตํ. อโสกปิณฺฑิยาติ อโสกปุปฺผมฺชริกาย. ‘‘ธมฺมรชฺชุ นาม เจติยํ วา โพธึ วา ปุปฺผปเวสนตฺถํ อาวิชฺฌิตฺวา พทฺธรชฺชู’’ติ มหาคณฺิปเท มชฺฌิมคณฺิปเท จ วุตฺตํ, ตสฺมา ตถาพทฺธาย รชฺชุยา เจติยสฺส จ อนฺตเร ปุปฺผานิ ปเวเสตุํ วฏฺฏตีติ วิฺายติ. คณฺิปเท ปน ‘‘ธมฺมรชฺชุนฺติ สิถิลํ วฏฺฏิกํ รชฺชุํ กตฺวา โพธึ วา เจติยํ วา ปริกฺขิปิตฺวา ธมฺมาสเน วา ลมฺพิตฺวา ตตฺถ ปุปฺผานิ ปเวเสนฺตี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา สิถิลวฏฺฏิกาย รชฺชุยา อนฺตเรปิ ปุปฺผานิ ปเวเสตุํ วฏฺฏตีติ วิฺายติ, วีมํสิตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพํ. อุภยตฺถาปิ ปเนตฺถ เนวตฺถิ วิโรโธติ อมฺหากํ ขนฺติ.

มตฺถกทามนฺติ ธมฺมาสนาทิมตฺถเก ลมฺพกทามํ. ปุปฺเผหิ เวเนฺตีติ ปุปฺผทาเมน เวเนฺติ. เตสํเยวาติ อุปฺปลาทีนํเยว. วาเกน วา ทณฺฑเกน วาติ วิสุํ อจฺฉินฺเนน ปุปฺผสหิเตเนว วาเกน วา ทณฺฑเกน วา. ขนฺเธ ปิตกาสาวสฺสาติ ขนฺเธ ปิตสงฺฆาฏึ สนฺธาย วุตฺตํ. ตฺหิ ตถา พนฺธิตุํ สกฺกา ภเวยฺย. อิมินาว อฺมฺปิ ตาทิสํ กาสาวํ วา วตฺถํ วา วุตฺตนเยน พนฺธิตฺวา ตตฺถ ปุปฺผานิ ปกฺขิปิตุํ วฏฺฏตีติ สิทฺธํ. อํสภณฺฑิกํ ปสิพฺพเก ปกฺขิตฺตสทิสตฺตา เวิมํ นาม น ชาตํ, ตสฺมา สิถิลพนฺธสฺส อนฺตรนฺตรา ปกฺขิปิตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ.

ปุปฺผปเฏ จ ทฏฺพฺพนฺติ ปุปฺผปฏํ กโรนฺตสฺส ทีฆโต ปุปฺผทามสฺส หรณปจฺจาหรณวเสน ปูรณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ติริยโต หรณํ ปน วายิมํ นาม โหติ, น ปูริมํ. ปุริมฏฺานํ อติกฺกาเมตีติ เอตฺถ ‘‘อผุสาเปตฺวาปิ อติกฺกาเมนฺตสฺส อาปตฺติเยวา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ‘‘ปุริมฏฺานํ อติกฺกาเมตี’’ติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา ตํ ยุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘อฺมฺํ อผุสาเปตฺวา อเนกกฺขตฺตุํ ปริกฺขิปิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺตีติ วุตฺตํ, ตตฺถ การณํ น ทิสฺสติ. พนฺธิตุํ วฏฺฏตีติ ปุปฺผรหิตาย สุตฺตโกฏิยา วากโกฏิยา วา พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. เอกวารํ หริตฺวา วา ปริกฺขิปิตฺวา วาติ อิทํ ปุพฺเพ วุตฺตเจติยาทิปริกฺเขปํ ปุปฺผปฏกรณฺจ สนฺธาย วุตฺตํ, ตสฺมา เจติยํ วา โพธึ วา ปริกฺขิปนฺเตน เอกวารํ ปริกฺขิปิตฺวา ปุริมฏฺานํ สมฺปตฺเต อฺสฺส ทาตพฺพํ, เตนปิ เอกวารํ ปริกฺขิปิตฺวา ตเถว กาตพฺพํ. ปุปฺผปฏํ กโรนฺเตน จ เอกวารํ หริตฺวา อฺสฺส ทาตพฺพํ, เตนปิ ตเถว กาตพฺพํ. สเจปิ ทฺเวเยว ภิกฺขู อุโภสุ ปสฺเสสุ ตฺวา ปริยาเยน หรนฺติ, วฏฺฏติเยวาติ วทนฺติ.

ปูริตนฺติ ทีฆโต ปสารณวเสน ปูริตํ. วายิตุํ น ลภตีติ ทีฆโต ปสาริเต ติริยโต หรณํ วายนํ นาม โหตีติ เอกวารมฺปิ ปุปฺผคุณํ ติริยโต หริตุํ น วฏฺฏติ. ปุปฺผานิ เปนฺเตนาติ อคนฺถิตานิ ปากติกปุปฺผานิ เปนฺเตน. ปุปฺผทามํ ปน ปูชนตฺถาย ภูมิยํ เปนฺเตน ผุสาเปตฺวา วา อผุสาเปตฺวา วา ทิคุณํ กตฺวา เปตุํ น วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ฆฏิกทามโอลมฺพโกติ อนฺเต ฆฏิกาการยุตฺโต ยมกทามโอลมฺพโก. เอเกกํ ปน ทามํ นิกฺขนฺตสุตฺตโกฏิยาว พนฺธิตฺวา โอลมฺพิตุํ วฏฺฏติ, ปุปฺผทามทฺวยํ สงฺฆฏิตุกาเมนปิ นิกฺขนฺตสุตฺตโกฏิยาว สุตฺตโกฏึ สงฺฆฏิตุํ วฏฺฏติ. อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณปริกฺเขโปติ อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณสฺส ปุนปฺปุนํ หรณปจฺจาหรณวเสน ปูเรตฺวา ปริกฺขิปนํ. เตเนว ตํ ปูริเม ปวิฏฺํ, ตสฺมา เอตมฺปิ อฑฺฒจนฺทาการํ ปุนปฺปุนํ หรณปจฺจาหรณวเสน ปูริตํ น วฏฺฏติ. เอกวารํ ปน อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณํ หริตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ปุปฺผทามกรณนฺติ เอตฺถ สุตฺตโกฏิยํ คเหตฺวาปิ เอกโต กาตุํ น วฏฺฏตีติ วทนฺติ. เคณฺฑุกขรปตฺตทามานํ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา เจลาทีหิ กตทามมฺปิ น วฏฺฏติ อกปฺปิยานุโลมตฺตาติ วทนฺติ.

‘‘ลาสิยนาฏกํ นาเฏนฺตี’’ติ วตฺวา ตเมว ปริยายนฺตเรน ทสฺเสตุํ ‘‘เรจกํ เทนฺตี’’ติ วุตฺตํ, อภินยํ ทสฺเสนฺตีติ อตฺโถ, อตฺตโน อธิปฺปายํ ปกาเสตฺวา ‘‘เอวํ นจฺจิตพฺพ’’นฺติ ปมํ อุฏฺหิตฺวา นจฺจนาการํ ทสฺเสนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. เกจิ ปน ‘‘มุเข องฺคุลิโย ปกฺขิปิตฺวา สทฺทํ กโรนฺตา จกฺกมิว อตฺตานํ ภมยมานา เรจกํ เทนฺติ นามา’’ติ วทนฺติ. เอเกกาย ปนฺติยา อฏฺ อฏฺ ปทานิ อสฺสาติ อฏฺปทํ. ‘‘อฏฺาปท’’นฺติปิ ปนฺติ. ทสปเทปิ เอเสว นโย. ปทานีติ จ สาริอาทีนํ ปติฏฺานฏฺานานิ. ทสปทํ นาม ทฺวีหิ ปนฺตีหิ วีสติยา ปเทหิ กีฬนชูตํ. อากาเสเยว กีฬนฺตีติ ‘‘อยํ สารี อสุกปทํ มยา นีตา, อยํ อสุกปท’’นฺติ เกวลํ มุเขเนว วทนฺตา อากาเสเยว ชูตํ กีฬนฺติ. ชูตผลเกติ ชูตมณฺฑเล. ปาสกกีฬาย กีฬนฺตีติ ปาสกํ วุจฺจติ ฉสุ ปสฺเสสุ เอเกกํ ยาว ฉกฺกํ ทสฺเสตฺวา กตกีฬนํ, ตํ วฑฺเฒตฺวา ยถาลทฺธเอกกาทิวเสน สาริโย อปเนนฺตา อุปเนนฺตา จ กีฬนฺติ. ฆเฏน กีฬา ฆฏิกาติ เอเก.

มฺชฏฺิยา วาติ มฺชฏฺิรุกฺขสารํ คเหตฺวา ปกฺกกสาวํ สนฺธาย วทติ. สลากหตฺถนฺติ ตาลหีราทีนํ กลาปสฺเสตํ อธิวจนํ. พหูสุ สลากาสุ วิเสสรหิตํ เอกํ สลากํ คเหตฺวา ตาสุ ปกฺขิปิตฺวา ปุน ตํเยว อุทฺธรนฺตา สลากหตฺเถน กีฬนฺตีติ เกจิ. ปณฺเณน วํสากาเรน กตา นาฬิกา ปณฺณนาฬิกา. เตเนวาห ‘‘ตํ ธมนฺตา’’ติ. ปุจฺฉนฺตสฺส มุขาคตํ อกฺขรํ คเหตฺวา นฏฺมุฏฺิลาภาลาภาทิชานนกีฬา อกฺขริกาติปิ วทนฺติ. หตฺถิสฺมินฺติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, หตฺถินิมิตฺตสิปฺเปติ อตฺโถ. อสฺสสฺมินฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ‘‘อุสฺเสเฬนฺติ อปฺโผเฏนฺตี’’ติ ทฺวินฺนํ ปทานํ อตฺโถ ปากโฏเยวาติ น วุตฺโต. ตตฺถ อุสฺเสเฬนฺตีติ มุเขน อุสฺเสฬนสทฺทํ ปมุฺจนฺติ, มหนฺตํ กตฺวา อพฺยตฺตสทฺทํ ปวตฺเตนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘อชานํ สฺํ เทนฺตา อชปาลกา วิย มุเขน วาตํ นิจฺฉาเรนฺตา สุขุมํ อพฺยตฺตนาทํ ปวตฺเตนฺตี’’ติปิ วทนฺติ. อปฺโผเฏนฺตีติ ภุชหตฺถสงฺฆฏฺฏนสทฺทํ ปวตฺเตนฺติ, วามหตฺถํ อุเร เปตฺวา ทกฺขิเณน ปาณินา ตตฺถ ตาฬเนน สทฺทํ กโรนฺตีติ อตฺโถ. มุขฑิณฺฑิมนฺติ มุขเภริยา เอตํ อธิวจนํ.

๔๓๒. ปสาทาวเหนาติ ปสาทชนนเกน. อภิกฺกมนํ อภิกฺกนฺตนฺติ อาห ‘‘คมเนนา’’ติ. ปฏิกฺกมนํ ปฏิกฺกนฺตํ. นิวตฺตเนนาติ นิวตฺติมตฺตํ ทสฺเสติ. นิวตฺเตตฺวา ปน คมนํ คมนเมว. อภิมุขํ โลกิตํ อาโลกิตนฺติ อาห ‘‘ปุรโต ทสฺสเนนา’’ติ. อิโต จิโต จ ทสฺสเนนาติ อนุทิสาเปกฺขนํ ทสฺเสติ. ยํทิสาภิมุโข คจฺฉติ ติฏฺติ นิสีทติ, ตทภิมุขํ เปกฺขนํ อาโลกิตํ, ตทนุคตทิสาโลกนํ ‘‘วิโลกิต’’นฺติ หิ วุจฺจติ. อฺานิปิ เหฏฺา อุปริ ปจฺฉโต เปกฺขนวเสน โอโลกิตอุลฺโลกิตาปโลกิตานิ นาม โหนฺติ. ตานิ ปน น สมณสารุปฺปานิ อปฺปสาทาวหานิ, เตเนเวตฺถ อาโลกิตวิโลกิตาเนว คหิตานิ. เตสนฺติ สมาเส คุณีภูตานิปิ ปพฺพานิ ปรามสติ. ‘‘ปพฺพสงฺโกจเนนา’’ติ หิ วุตฺตตฺตา ปพฺพานิ ตตฺถ คุณีภูตานิ สงฺโกจนสฺส ปธานตฺตา. สติสมฺปชฺเหีติ สาตฺถกตาทิปริคฺคาหิกาย สติยา ตถาปวตฺตสมฺปชฺเน จ สมนฺตโต ปกาเรหิ, ปกฏฺํ วา สวิเสสํ ชานาตีติ สมฺปชาโน, ตสฺส ภาโว สมฺปชฺํ. ตถาปวตฺตาณสฺเสตํ อธิวจนํ. อภิสงฺขตตฺตาติ สมฺมา ปวตฺติตตฺตา. เหฏฺาขิตฺตจกฺขูติ ขนฺธํ อนาเมตฺวาว อโธขิตฺตจกฺขุ. ขนฺธํ นาเมตฺวา หิ เหฏฺาวโลกนํ น สมณสารุปฺปํ. ‘‘โอกฺขิตฺตจกฺขู’’ติ จ อิมินา ยุคมตฺตทสฺสิตา วุตฺตา.

โพนฺโทติ โลโล มนฺทธาตุโกติ อตฺโถ. ภกุฏึ กตฺวาติ ภมุกเภทํ กตฺวา. สาขลฺเยน ยุตฺตาติ ‘‘ตตฺถ กตมํ สาขลฺยํ? ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๓๕๐) นเยน วุตฺตสาขลฺเยน สมนฺนาคตา, มุทุวจนาติ อตฺโถ. เนลาติ เอลํ วุจฺจติ โทโส, นาสฺสา เอลนฺติ เนลา, นิทฺโทสาติ อตฺโถ. กณฺณสุขาติ พฺยฺชนมธุรตาย กณฺณานํ สุขา, สูจินา วิชฺฌนํ วิย กณฺณสูลํ น ชเนติ. ทานนิพทฺธานีติ นิพทฺธทานานิ.

‘‘สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเน อามนฺเตสี’’ติ วตฺวา ‘‘คจฺฉถ ตุมฺเห สาริปุตฺตา’’ติ วจนโต ‘‘สาริปุตฺตา’’ติ อิทํ เอกเสสนเยน วุตฺตนฺติ อยมตฺโถ ปากโฏเยวาติ น วุตฺโต. ‘‘สาริปุตฺตา’’ติ หิ อิทํ เอกเสสนเยน วุตฺตํ วิรูเปกเสสสฺสปิ อิจฺฉิตตฺตา, เตเนเวตฺถ พหุวจนนิทฺเทโส กโตติ. สทฺธสฺส ปสนฺนสฺสาติ รตนตฺตยสฺส สทฺธาย สมนฺนาคตสฺส ตโตเยว จ ปสนฺนสฺส, กมฺมผลสทฺธาย วา สมนฺนาคตตฺตา สทฺธสฺส รตนตฺตยปฺปสาทพหุลตาย ปสนฺนสฺส.

๔๓๓. อาปตฺตึ โรเปตพฺพาติ กุลทูสกกมฺเมน อาปนฺนาปตฺตึ โรเปตพฺพา. ตสฺมึ วิหาเรติ พหิคาเม วิหารํ สนฺธาย วุตฺตํ. อนฺโตคาเม วิหาโร ปน ‘‘ตสฺมึ คาเม น วสิตพฺพ’’นฺติ อิมินาว สงฺคหิโต คามคฺคหเณเนว คหิตตฺตา. ‘‘ตสฺมึ วิหาเร’’ติ วจนโต ตสฺส คามสฺส สามนฺตา อฺสฺมึ วิหาเร วสิตุํ วฏฺฏติ. สามนฺตคาเม ปิณฺฑาย น จริตพฺพนฺติ ตสฺมึ วิหาเร วาสสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ยทิ ตตฺถ วสติ, เตน สามนฺตคาเมปิ ปิณฺฑาย น จริตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. ตสฺมึ คาเม ปิณฺฑาย น จริตพฺพนฺติ ยสฺมึ คาเม กุลทูสกกมฺมํ กตํ, ตสฺมึ คาเม น จริตพฺพํ. ยสฺมิฺหิ คาเม วา นิคเม วา กุลทูสกกมฺมํ กตํ, ยสฺมิฺจ วิหาเร วสติ, เนว ตสฺมึ คาเม วา นิคเม วา จริตุํ ลพฺภติ, น วิหาเร วสิตุํ. สามนฺตวิหาเร วสนฺเตน ปน สามนฺตคาเม จริตุํ วฏฺฏติ ตตฺถ วาสสฺส อปฺปฏิกฺขิตฺตตฺตา.

๔๓๕. อฏฺารส วตฺตานีติ ‘‘น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ, น ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติ สาทิตพฺพา, สมฺมเตน ภิกฺขุนิโย น โอวทิตพฺพา, ยาย อาปตฺติยา สงฺเฆน ปพฺพาชนียกมฺมํ กตํ โหติ, น สา อาปตฺติ อาปชฺชิตพฺพา อฺา วา ตาทิสิกา ตโต วา ปาปิฏฺตรา, กมฺมํ น ครหิตพฺพํ, กมฺมิกา น ครหิตพฺพา, น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อุโปสโถ เปตพฺโพ, น ปวารณา เปตพฺพา, น สวจนียํ กาตพฺพํ, น อนุวาโท เปตพฺโพ, น โอกาโส กาเรตพฺโพ, น โจเทตพฺโพ, น สาเรตพฺโพ, น ภิกฺขูหิ สมฺปโยเชตพฺพ’’นฺติ เอวมาคตานิ อฏฺารส วตฺตานิ.

อสฺสชิปุนพฺพสุกปฺปธานา อสฺสชิปุนพฺพสุกาติ วุตฺตา สหจรณาเยน. อนุโลมปฏิปทํ อปฺปฏิปชฺชนตายาติ ยถาปฺตฺตสมฺมาวตฺตสงฺขาตํ อนุโลมปฏิปทํ อปฺปฏิปชฺชนตาย, เยน วตฺเตน จิณฺเณน สงฺโฆ อนุโลมิโก โหติ, ตสฺมึ อวตฺตนโตติ วุตฺตํ โหติ. น ปนฺนโลมา โหนฺตีติ ปติตโลมา น โหนฺติ, อนุกูลวุตฺติโน น โหนฺตีติ อตฺโถ. นิตฺถรณมคฺคํ น ปฏิปชฺชนฺตีติ อนุโลมวตฺตสงฺขาตํ นิตฺถรณูปายํ น ปฏิปชฺชนฺติ, เยน วตฺเตน จิณฺเณน สาปตฺติกภาวโต นิตฺติณฺณา โหนฺติ, ตสฺมึ นิตฺถรณกวตฺตสฺมึ น วตฺตนฺติ, อาปตฺติวุฏฺานตฺถํ ตุริตตุริตา ฉนฺทชาตา น โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหีติ ชาตินามโคตฺตกมฺมสิปฺปอาพาธลิงฺคกิเลสอาปตฺติหีนสงฺขาเตหิทสหิ อกฺโกสการเณหิ. ฉนฺทคามิตา ปาเปนฺตีติอาทีสุ -กาโร ‘‘สยํ อภิฺา’’ติอาทีสุ วิย ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ อาห ‘‘ฉนฺทคามิตายปิ ปาเปนฺตี’’ติอาทิ. เตสนฺติ อสฺสชิปุนพฺพสุกานํ คณปาโมกฺขานํ.

๔๓๖-๔๓๗. นิคมสฺส อปากฏตฺตา ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิมาห. ปรสนฺตกํ เทติ, ทุกฺกฏเมวาติ วิสฺสาสคฺคาเหน ปรสนฺตกํ คเหตฺวา เทนฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตฺจ โข วตฺถุปูชนตฺถายาติ มาตาปิตูนมฺปิ เทนฺเตน วตฺถุปูชนตฺถาย เอว ทาตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. ‘‘มณฺฑนตฺถาย ปน สิวลิงฺคาทิปูชนตฺถายาติ เอตฺตกเมว วุตฺตตฺตา อิมํ วิกฺกิณิตฺวา ชีวิกมฺปิ กปฺเปสฺสนฺตีติ มาตุอาทีนํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. กสฺสจิปีติ าตกสฺส อฺาตกสฺส วา กสฺสจิปิ. าติสามเณเรเหวาติ อนุจฺฉวิกตฺตา วุตฺตํ. สมฺปตฺตานํ สามเณรานํ อุปฑฺฒภาคํ ทาตุํ วฏฺฏตีติ สงฺฆิกสฺส ลาภสฺส อุปจารสีมคตานํ สามเณรานมฺปิ สนฺตกตฺตา เตสมฺปิ อุปฑฺฒภาโค ลพฺภเตวาติ กตฺวา วุตฺตํ. จูฬกนฺติ อุปฑฺฒภาคโตปิ อุปฑฺฒํ. จตุตฺถภาคสฺเสตํ อธิวจนํ.

‘‘สามเณรา…เป… เปนฺตี’’ติ อิทํ วสฺสคฺเคน อภาชิยํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ มคฺเค วา เจติยงฺคเณ วา. ทาเปตุํ น ลภนฺตีติ สามเณเรหิ ทาเปตุํ อนนุจฺฉวิกตฺตา วุตฺตํ. น หิ ตํ ปุปฺผทานํ นาม สิยา. ยทิ หิ ตถา อาคตานํ เตสํ ทานํ ปุปฺผทานํ ภเวยฺย, สามเณเรหิปิ ทาตุํ น ลพฺเภยฺย. สยเมวาติ สามเณรา สยเมว. ยาคุภตฺตาทีนิ อาทายาติ อิทํ ภิกฺขูนํ อตฺถาย ยาคุภตฺตาทิสมฺปาทนํ สนฺธาย วุตฺตตฺตา ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ อวิเสเสน วุตฺตํ.

วุตฺตนเยเนวาติ มาตาปิตูนํ ตาว หริตฺวาปิ หราเปตฺวาปิ ปกฺโกสิตฺวาปิ ปกฺโกสาเปตฺวาปิ ทาตุํ วฏฺฏติ, เสสาตกานํ ปกฺโกสาเปตฺวาว. มาตาปิตูนฺจ หราเปนฺเตน าติสามเณเรเหว หราเปตพฺพํ, อิตเร ปน ยทิ สยเมว อิจฺฉนฺติ, วฏฺฏตีติ อิมํ ปุปฺเผ วุตฺตนยํ ผเลปิ อติทิสติ, ตสฺมา ผลมฺปิ มาตาปิตูนํ หรณหราปนาทินา ทาตุํ วฏฺฏติ, เสสาตีนํ ปกฺโกสาเปตฺวาว. อิทานิ ‘‘โย หริตฺวา วา หราเปตฺวา วา…เป… อิสฺสรวตาย ททโต ถุลฺลจฺจย’’นฺติ อิมํ ปุปฺเผ วุตฺตนยํ ผเลปิ สงฺขิปิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘กุลสงฺคหตฺถาย ปนา’’ติอาทิมาห. ขีณปริพฺพยานนฺติ อาคนฺตุเก สนฺธาย วุตฺตํ. ผลปริจฺเฉเทน วาติ ‘‘เอตฺตกานิ ผลานิ ทาตพฺพานี’’ติ เอวํ ผลปริจฺเฉเทน วา. รุกฺขปริจฺเฉเทน วาติ ‘‘อิเมหิ รุกฺเขหิ ทาตพฺพานี’’ติ เอวํ รุกฺขปริจฺเฉเทน วา. ปริจฺฉินฺเนสุปิ รุกฺเขสุ ‘‘อิธ ผลานิ สุนฺทรานิ, อิโต คณฺหถา’’ติ วทนฺเตน กุลสงฺคโห กโต นาม โหตีติ อาห ‘‘เอวํ ปน น วตฺตพฺพ’’นฺติ.

รุกฺขจฺฉลฺลีติ รุกฺขตฺตโจ. เตสํ เตสํ คิหีนํ คามนฺตรเทสนฺตราทีสุ สาสนปฏิสาสนหรณํ ชงฺฆเปสนิกํ. เตนาห ‘‘คิหีนํ ทูเตยฺยํ สาสนหรณกมฺม’’นฺติ. ทูตสฺส กมฺมํ ทูเตยฺยํ. ปมํ สาสนํ อคฺคเหตฺวาปิ…เป… ปเท ปเท ทุกฺกฏนฺติ อิทํ ตสฺส สาสนํ อาโรเจสฺสามีติ อิมินา อธิปฺปาเยน คมนํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตสฺส ปน สาสนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา สยเมว การุฺเ ิโต คนฺตฺวา อตฺตโน ปติรูปํ สาสนํ อาโรเจติ, อนาปตฺติ. ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการนฺติ ‘‘มม วจเนน ภควโต ปาเท วนฺทถา’’ติอาทินา วุตฺตปฺปการํ สิกฺขาปเท ปมํ วุตฺตํ. ปกฺกมตายสฺมาติ อิทํ ปพฺพาชนียกมฺมวเสน วุตฺตํ. ปุน ปกฺกมตายสฺมาติ อิทํ ปน ปพฺพาชนียกมฺมกตสฺส วตฺตวเสน วุตฺตํ. ปมสงฺฆเภทสทิสาเนวาติ เอตฺถ องฺเคสุปิ ยถา ตตฺถ ปรกฺกมนํ, เอวํ อิธ ฉนฺทาทีหิ ปาปนํ ทฏฺพฺพํ. เสสํ ตาทิสเมวาติ.

กุลทูสกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิคมนวณฺณนา

๔๔๒. ปมํ อาปตฺติ อาปชฺชนํ เอเตสนฺติ ปมาปตฺติกา. ตตฺตกานิ อหานีติ ปฏิจฺฉาทิตทิวสโต ปฏฺาย ยาว อาโรจิตทิวโส, ตาว ทิวสปกฺขมาสสํวจฺฉรวเสน ยตฺตโก กาโล อติกฺกนฺโต, ตตฺตกํ กาลนฺติ อตฺโถ. อกาเมน อวเสนาติ เอตฺถ อปฺปฏิกมฺมกตาย อาปตฺติยา สคฺคโมกฺขาวรณภาวโต อนิจฺฉนฺเตนปิ ปริวสิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. อวฺหาตพฺโพติ อพฺภานกมฺมวเสน ปกฺโกสิตพฺโพ. เต จ ภิกฺขู คารยฺหาติ เอตฺถ เย อูนภาวํ ตฺวา อพฺเภนฺติ, เต ภิกฺขู จ ครหิตพฺพา สาติสารา สโทสา, ทุกฺกฏํ อาปชฺชนฺตีติ อยมตฺโถ ปากโฏเยวาติ น วุตฺโต. สามีจีติ วตฺตํ.

อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย สารตฺถทีปนิยํ

เตรสกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อนิยตกณฺฑํ

๑. ปมอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๔๓. ปุตฺตสทฺเทน สามฺนิทฺเทสโต เอกเสสนเยน วา ปุตฺตีปิ คหิตาติ อาห ‘‘พหู ธีตโร จา’’ติ. ทานปฺปทาเนสูติ ขุทฺทเกสุ เจว มหนฺเตสุ จ ทาเนสุ. ฉณํ นาม อตฺตโน เคเห กตฺตพฺพมงฺคลนฺติ อาห ‘‘อาวาหวิวาหมงฺคลาทีสู’’ติ. เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ผคฺคุณมาสาทีสุ อุตฺตรผคฺคุณาทิอภิลกฺขิตทิวเสสุ สปริชนานํ มนุสฺสานํ มงฺคลกรณมฺปิ สงฺคณฺหาติ. อนฺตรุสฺสเวสูติ มหุสฺสวสฺส อนฺตรนฺตรา ปวตฺติตอุสฺสเวสุ. อาสาฬฺหีปวารณนกฺขตฺตาทีสูติ เอตฺถ นกฺขตฺตสทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ตตฺถ อาสาฬฺหีนกฺขตฺตนฺติ วสฺสูปคมนปูชาทิวสํ สนฺธาย วุตฺตํ, ปวารณนกฺขตฺตนฺติ ปวารณปูชาทิวสํ สนฺธาย. อาทิ-สทฺเทน ยสฺมึ นกฺขตฺเต คามนิคมวาสิโน ตโย สตฺต วา ทิวเส นกฺขตฺตโฆสนํ กตฺวา ยถาวิภวํ อลงฺกตปฏิยตฺตา โภเค ปริภุฺชนฺตา นกฺขตฺตกีฬํ กีฬนฺติ, ตมฺปิ สงฺคณฺหาติ. อิเมปิ ทารกาติ อตฺตโน ทารเก สนฺธาย วทนฺติ. ตทนนฺตรนฺติ ภิกฺขูนํ โภชนานนฺตรํ.

๔๔๔-๔๔๕. ตํ กมฺมนฺติ ตํ อชฺฌาจารกมฺมํ. ภิกฺขุ นิสินฺเนติ เอตฺถ ภิกฺขูติ ภุมฺมตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ, ภุมฺมวจนสฺส วา โลปํ กตฺวา นิทฺเทโสติ อาห ‘‘ภิกฺขุมฺหิ นิสินฺเน’’ติ. ปาฬิยํ ‘‘โสตสฺส รโห’’ติ อิทํ อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตํ, ‘‘ปฏิจฺฉนฺเน อาสเน’’ติ ปน วจนโต ‘‘สกฺกา โหติ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตุ’’นฺติ จ วุตฺตตฺตา จกฺขุสฺส รโห อิธาธิปฺเปโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘กิฺจาปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพติ รโห นิสชฺชาปตฺติยา ปริจฺเฉโท ววตฺถานํ เวทิตพฺพํ. อิทานิ จกฺขุสฺส รเหเนว อาปตฺตึ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘สเจปิ หี’’ติอาทิมาห. ปิหิตกวาฏสฺสาติ อิมินา ปฏิจฺฉนฺนภาวโต จกฺขุสฺส รโหสพฺภาวํ ทสฺเสติ. อปิหิตกวาฏสฺสาติ อิมินา อปฺปฏิจฺฉนฺนภาวํ ทสฺเสติ. อปฺปฏิจฺฉนฺเน จ ทุติยสิกฺขาปเท อาคตนเยน โสตสฺส รหวเสนปิ ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘อนฺโตทฺวาทสหตฺเถปิ โอกาเส’’ติ. ‘‘อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ’’ติ หิ อิทํ โสตสฺส รหาภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยทิ หิ จกฺขุสฺเสว รหาภาวํ สนฺธาย วเทยฺย, ‘‘อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ’’ติ น วเทยฺย อปฺปฏิจฺฉนฺเน ตโต ทูรตเร นิสินฺเนปิ จกฺขุสฺส รหาสมฺภวโต. ยสฺมา นิสีทิตฺวา นิทฺทายนฺโต กปิมิทฺธปเรโต กฺจิ กาลํ จกฺขูนิ อุมฺมีเลติ, กฺจิ กาลํ นิมีเลติ, น จ มหานิทฺทํ โอกฺกมติ, ตสฺมา ‘‘นิทฺทายนฺโตปิ อนาปตฺตึ กโรตี’’ติ วุตฺตํ. นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺโต ปน ตาทิโส น โหตีติ อาห ‘‘นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺโต น กโรตี’’ติ, อนาปตฺตึ น กโรตีติ อตฺโถ.

ปฏิลทฺธโสตาปตฺติผลาติ อนฺติมปริจฺเฉทโต อริยสาวิกํ ทสฺเสติ. ปฏิวิทฺธจตุสจฺจาติ โสตาปตฺติมคฺเคน ปฏิวิทฺธจตุสจฺจา. ติณฺณํ ธมฺมานํ อฺตเรน กาเรตพฺโพติ นิสชฺชํ ปฏิชานมานสฺส ติณฺณํ ธมฺมานํ อฺตรสมาโยโค โหติเยวาติ วุตฺตํ. ปาราชิเกน ปน สงฺฆาทิเสเสน จ ปาจิตฺติเยน จ เตนากาเรน นิสชฺชํ ปฏิชานมาโนว กาเรตพฺโพ. น อปฺปฏิชานมาโนติ อลชฺชีปิ อปฺปฏิชานมาโน อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพติ อวิเสเสน วุตฺตํ. โส หิ ยาว น ปฏิชานาติ, ตาว เนว สุทฺโธ, น อสุทฺโธติ วา วตฺตพฺโพ, วตฺตานุสนฺธินา ปน กาเรตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ปฏิฺา ลชฺชีสุ กตา, อลชฺชีสุ เอวํ น วิชฺชติ;

พหุมฺปิ อลชฺชี ภาเสยฺย, วตฺตานุสนฺธิเตน การเย’’ติ. (ปริ. ๓๕๙);

เยน วา สา สทฺเธยฺยวจสา อุปาสิกา วเทยฺย, เตน โส ภิกฺขุ กาเรตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘ปฏิชานมาโน’’ติ อวุตฺเตปิ อธิการตฺตา ‘‘ปฏิชานมาโนว เตน โส ภิกฺขุ กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ตถารูปาย อุปาสิกาย วจเนน อฺถตฺตาภาวโต ทิฏฺํ นาม ตถาปิ โหติ, อฺถาปิ โหตีติ ทสฺสเนน อฺถตฺตสมฺภวํ ทสฺเสติ. เอวํ มหิทฺธิกา นาม…เป… วทาเปถาติ อิทํ ‘‘เอวํ มหิทฺธิกาปิ ตุมฺเห เอวรูเป อาสงฺกนีเย าเน กสฺมา อนุปปริกฺขิตฺวา นิสินฺนตฺถ, ตุมฺหาทิเสหิ นาม อนฺตรฆเร นิสีทนฺเตหิ อุปปริกฺขิตฺวา ปติรูเป าเน นิสีทิตพฺพ’’นฺติ เถรํ โอวทนฺโต อาห, น ปน อสทฺทหนฺโต. เถโร อตฺตโน อนุปปริกฺขิตฺวา อนิสินฺนภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนฺตรฆรสฺเสเวโส อาวุโส โทโส’’ติ อาห. เอวมกาสินฺติ อตฺตโน นิคูหิตพฺพมฺปิ คุณํ ปกาเสนฺโต เอวํ วิย อิทฺธิปาฏิหาริยํ อกาสึ. รกฺเขยฺยาสิ มนฺติ ‘‘มา มํ อฺเปิ เอวํ ชานนฺตู’’ติ อตฺตโน คุณํ อชานาเปตุกาโม วทติ.

๔๔๖-๔๕๑. มาตุคามสฺส เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺโตติ เอตฺถ ‘‘มคฺเค’’ติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพติ อาห ‘‘มาตุคามสฺส มคฺเค’’ติ. รโห นิสชฺชสฺสาทสฺส อสติปิ เมถุนราคภาเว ตปฺปฏิพทฺธกิเลสตฺตา วุตฺตํ ‘‘เมถุนธมฺมสนฺนิสฺสิตกิเลโส วุจฺจตี’’ติ, เตเนว สนฺนิสฺสิตคฺคหณํ กตํ. ตํ สนฺธาย อคเตปิ อสุทฺธจิตฺเตน คตตฺตา ‘‘อสฺสาเท อุปฺปนฺเน ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตํ. รหสฺสาโท อุปฺปชฺชติ อนาปตฺตีติ สุทฺธจิตฺเตน คนฺตฺวา นิสินฺนตฺตา จิตฺตุปฺปาทมตฺเตเนตฺถ อาปตฺติ น โหตีติ วุตฺตํ. อยํ ธมฺโม อนิยโตติ เอตฺถ ติณฺณํ อาปตฺตีนํ ยํ อาปตฺตึ วา วตฺถุํ วา ปฏิชานาติ, ตสฺส วเสน กาเรตพฺพตาย อนิยโตติ อยมตฺโถ ปากโฏเยวาติ น วุตฺโต. ยํ อาปตฺตึ ปฏิชานาติ, ตสฺสา วเสเนตฺถ องฺคเภโท เวทิตพฺโพ.

ปมอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๕๒. ‘‘เอโก’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘นิสชฺชํ กปฺเปตุํ ปฏิกฺขิตฺต’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ น ฆฏตีติ อาห ‘‘ยํ เอโก…เป… สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ’’ติ. เอตํ ปจฺจตฺตวจนนฺติ ‘‘เอโก’’ติ อิทํ ปจฺจตฺตวจนํ.

๔๕๓. พหิ ปริกฺขิตฺตนฺติ พหิ ปาการาทินา ปริกฺขิตฺตํ. ปริเวณงฺคณนฺติ ปริเวณมาฬกํ สนฺธาย วุตฺตํ. อิตฺถีปิ ปุริโสปีติ เอตฺถ ปเม กสฺมา อิตฺถิสตมฺปิ อนาปตฺตึ น กโรติ, อิธ เอกาปิ กสฺมา อนาปตฺตึ กโรตีติ? วุจฺจเต – ปมสิกฺขาปทํ ‘‘สกฺกา โหติ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตุ’’นฺติ วุตฺตตฺตา เมถุนธมฺมวเสน อาคตํ, น จ เมถุนสฺส มาตุคาโม ทุติโย โหติ. อิตฺถิโย หิ อฺมฺิสฺสา วชฺชํ ปฏิจฺฉาเทนฺติ, เตเนว เวสาลิยํ มหาวเน ทฺวารํ วิวริตฺวา นิปนฺเน ภิกฺขุมฺหิ สมฺพหุลา อิตฺถิโย ยาวทตฺถํ กตฺวา ปกฺกมึสุ, ตสฺมา ตตฺถ ‘‘อิตฺถิสตมฺปิ อนาปตฺตึ น กโรตี’’ติ วุตฺตํ. อิทํ ปน สิกฺขาปทํ ทุฏฺุลฺลวาจาวเสน อาคตํ ‘‘อลฺจ โข โหติ มาตุคามํ ทุฏฺุลฺลาหิ วาจาหิ โอภาสิตุ’’นฺติ วุตฺตตฺตา. ทุฏฺุลฺลวาจฺจ สุตฺวา มาตุคาโมปิ น ปฏิจฺฉาเทติ. เตเนว ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปเท ยา ตา อิตฺถิโย หิริมนา, ตา นิกฺขมิตฺวา ภิกฺขู อุชฺฌาเปสุํ, ตสฺมา อิธ ‘‘อิตฺถีปิ อนาปตฺตึ กโรตี’’ติ วุตฺตํ. อิธ อปฺปฏิจฺฉนฺนตฺตา อิตฺถีปิ อนาปตฺตึ กโรติ, ตตฺถ ปฏิจฺฉนฺนตฺตา อิตฺถิสตมฺปิ อนาปตฺตึ น กโรตีติ จ วทนฺติ.

กายสํสคฺควเสน อนนฺโธ วุตฺโต, ทุฏฺุลฺลวาจาวเสน อพธิโร. อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ โอกาเสติ โสตสฺส รหาภาโว วุตฺโต, เอเตน ‘‘โสตสฺส รโห ทฺวาทสหตฺเถน ปริจฺฉินฺทิตพฺโพ’’ติ ทสฺเสติ. ตสฺมา ทฺวาทสหตฺถโต พหิ นิสินฺโน อนาปตฺตึ น กโรติ สติปิ จกฺขุสฺส รหาภาเว โสตสฺส รหสพฺภาวโต. อิมสฺมิฺหิ สิกฺขาปเท อปฺปฏิจฺฉนฺนตฺตา โสตสฺส รโหเยว อธิปฺเปโต. ปาฬิยํ ปน ‘‘จกฺขุสฺส รโห’’ติ อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตํ. เกนจิ ปน ‘‘ทฺเวปิ รหา อิธ อธิปฺเปตา’’ติ วุตฺตํ, ตํ น คเหตพฺพํ. น หิ อปฺปฏิจฺฉนฺเน โอกาเส จกฺขุสฺส รโห สมฺภวติ ทฺวาทสหตฺถโต พหิ ทสฺสนวิสเย ทูรตเร นิสินฺนสฺสปิ ทฏฺุํ สกฺกุเณยฺยภาวโต. นิทฺทายนฺโตปีติ อิมินา ‘‘นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺโตปิ คหิโตเยวา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ‘‘นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺเตปิ สติปิ จกฺขุสฺส รเห อพธิรตฺตา โสตสฺส รโห นตฺถี’’ติ คณฺิปทการานํ อธิปฺปาโย. ยถา ปน นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺโต อนฺโธ วิย กิฺจิ น ปสฺสตีติ จกฺขุสฺส รโห สมฺภวติ, ตถา พธิโร วิย กิฺจิ สทฺทํ น สุณาตีติ โสตสฺส รโหปิ สมฺภวตีติ สกฺกา วตฺตุํ. อฏฺกถายฺจ ิโต วา นิสินฺโน วาติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, ปมสิกฺขาปเท วิย ‘‘นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺโตปิ อนาปตฺตึ น กโรตี’’ติ อิทํ ปน น วุตฺตํ, ตสฺมา วีมํสิตฺวา ยถา น วิรุชฺฌติ, ตถา คเหตพฺพํ.

โสตสฺส รหสฺเสว อิธาธิปฺเปตตฺตา ‘‘พธิโร ปน จกฺขุมาปี’’ติ วุตฺตํ. อนฺธสฺส อปฺปฏิจฺฉนฺนมฺปิ ปฏิจฺฉนฺนปกฺขํ ภชตีติ ปมสิกฺขาปทสฺส วิสยตฺตา วุตฺตํ ‘‘อนฺโธ วา อพธิโรปิ น กโรตี’’ติ. ยเถว หิ ตตฺถ อปิหิตกวาฏสฺส คพฺภสฺส อนฺโต สมีเปปิ ิโต อนฺโธ อนาปตฺตึ น กโรติ, เอวมยมฺปีติ ทฏฺพฺพํ. อุภยตฺถาปีติ ทฺวีสุปิ อนิยเตสุ. ยสฺมา ทฺวีหิ สิกฺขาปเทหิ อุทายิตฺเถรํ อารพฺภ วิสุํ ปฺตฺตา กาจิ อาปตฺติ นาม นตฺถิ, ตสฺมา ตสฺส ตสฺส สิกฺขาปทสฺส อาทิกมฺมิเก สนฺธาย อาทิกมฺมิกานํ อนาปตฺติ วุตฺตา. อุปนนฺทตฺเถราทโย หิ รโห นิสชฺชาทีนํ อาทิกมฺมิกา. ภควตา ปน ปมํ ปฺตฺตสิกฺขาปทานิเยว คเหตฺวา อุปนนฺทวตฺถุสฺมึ อนิยตกฺกโม ทสฺสิโต. ยทิ อิเมหิ สิกฺขาปเทหิ วิสุํ ปฺตฺตา อาปตฺติ นาม นตฺถิ, อถ กสฺมา ภควตา อนิยตทฺวยํ ปฺตฺตนฺติ? เอวรูปายปิ อุปาสิกาย วุจฺจมาโน ปฏิชานมาโนเยว อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ, น อปฺปฏิชานมาโนติ ทสฺเสนฺเตน ภควตา ยาย กายจิ อาปตฺติยา เยน เกนจิ โจทิเต ปฏิฺาตกรณํเยว ทฬฺหํ กตฺวา วินยวินิจฺฉยลกฺขณํ ปิตํ. อถ ภิกฺขุนีนํ อนิยตํ กสฺมา น วุตฺตนฺติ? อิทเมว ลกฺขณํ สพฺพตฺถ อนุคตนฺติ น วุตฺตํ.

ทุติยอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย สารตฺถทีปนิยํ

อนิยตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. นิสฺสคฺคิยกณฺฑํ

๑. จีวรวคฺโค

๑. ปมกถินสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๕๙. สมิตาวินาติ สมิตปาเปน. โคตมเก เจติเยติ โคตมยกฺขสฺส เจติยฏฺาเน กตวิหาโร วุจฺจติ. ปริภุฺชิตุํ อนุฺาตํ โหตีติ ภควตา คหปติจีวเร อนุฺาเต พหูนิ จีวรานิ ลภิตฺวา ภณฺฑิกํ กตฺวา สีเสปิ ขนฺเธปิ กฏิยาปิ เปตฺวา อาคจฺฉนฺเต ภิกฺขู ทิสฺวา จีวเร สีมํ พนฺธนฺเตน ติจีวรํ ปริโภคตฺถาย อนุฺาตํ, น ปน อธิฏฺานวเสน. นหายนฺติ เอตฺถาติ นหานํ, นหานติตฺถํ.

๔๖๐. เอโก กิร พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ ‘‘พุทฺธรตนสฺส จ สงฺฆรตนสฺส จ ปูชา ปฺายติ, กถํ นุ โข ธมฺมรตนํ ปูชิตํ นาม โหตี’’ติ. โส ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปุจฺฉิ. ภควา อาห ‘‘สเจปิ พฺราหฺมณ ธมฺมรตนํ ปูเชตุกาโม, เอกํ พหุสฺสุตํ ปูเชหี’’ติ. พหุสฺสุตํ ภนฺเต อาจิกฺขถาติ. ภิกฺขุสงฺฆํ ปุจฺฉาติ. โส ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘พหุสฺสุตํ ภนฺเต อาจิกฺขถา’’ติ อาห. อานนฺทตฺเถโร พฺราหฺมณาติ. พฺราหฺมโณ เถรํ สหสฺสคฺฆนเกน จีวเรน ปูเชสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปฏิลาภวเสน อุปฺปนฺน’’นฺติ. อุปฺปนฺน-สทฺโท นิปฺผนฺนปริยาโยปิ โหตีติ ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต อาห ‘‘โน นิปฺผตฺติวเสนา’’ติ. ปมเมว หิ ตํ ตนฺตวายกมฺเมน นิปฺผนฺนํ.

เถรสฺส สนฺติเก อุปชฺฌํ คาหาเปตฺวา สยํ อนุสฺสาวนกมฺมํ กโรตีติ เอตฺถ สาริปุตฺตตฺเถโรปิ ตเถว กโรตีติ ทฏฺพฺพํ. เอวํ เอกเมเกน อตฺตโน ปตฺตจีวรํ ทตฺวา ปพฺพาเชตฺวา อุปชฺฌํ คณฺหาปิตานิ ปฺจ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ อเหสุํ. อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อติวิย มมายตีติ อานนฺทตฺเถโร ตาว มมายตุ อขีณาสวภาวโต, สาริปุตฺตตฺเถโร กถนฺติ? น อิทํ มมายนํ เคหสฺสิตเปมวเสน, อถ โข คุณสมฺภาวนาวเสนาติ นายํ โทโส. นวมํ วา ทิวสํ ทสมํ วาติ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ, นวเม วา ทสเม วา ทิวเสติ อตฺโถ. สเจ ภเวยฺยาติ สเจ กสฺสจิ เอวํ สิยา. วุตฺตสทิสเมวาติ เอตฺถ ‘‘วุตฺตทิวสเมวา’’ติปิ ปนฺติ. ธาเรตุนฺติ เอตฺถ ‘‘อาหา’’ติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ.

๔๖๒-๔๖๓. นิฏฺิตจีวรสฺมินฺติ ภุมฺมวจนสฺส โลปํ กตฺวา นิทฺเทโสติ อาห ‘‘นิฏฺิเต จีวรสฺมิ’’นฺติ, จีวรสฺส กรณปลิโพเธ อุปจฺฉินฺเนติ วุตฺตํ โหติ. ปาสปฏฺฏคณฺิกปฏฺฏปริโยสานํ ยํ กิฺจิ กาตพฺพํ, ตํ กตฺวาติ โยเชตพฺพํ. สูจิยา ปฏิสามนนฺติ อิทํ สูจิกมฺมสฺส สมฺมา ปรินิฏฺิตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, สูจิกมฺมนิฏฺานเมเวตฺถ ปมาณํ. เอเตสมฺปีติ วินฏฺาทึ ปรามสติ.

กถิเน จ อุพฺภตสฺมินฺติ ยํ สงฺฆสฺส กถินํ อตฺถตํ, ตสฺมึ กถิเน จ อุพฺภเตติ อตฺโถ. ทุติยสฺส ปลิโพธสฺส อภาวํ ทสฺเสตีติ อาวาสปลิโพธสฺส อภาวํ ทสฺเสติ. เอตฺถ จ ‘‘นิฏฺิตจีวรสฺมึ อุพฺภตสฺมึ กถิเน’’ติ อิเมหิ ทฺวีหิ ปเทหิ ทฺวินฺนํ ปลิโพธานํ อภาวทสฺสเนน อตฺถตกถินสฺส ปฺจมาสพฺภนฺตเร ยาว จีวรปลิโพโธ อาวาสปลิโพโธ จ น อุปจฺฉิชฺชติ, ตาว อนธิฏฺิตํ อวิกปฺปิตํ อติเรกจีวรํ ทสาหโต ปรมฺปิ เปตุํ วฏฺฏตีติ ทีเปติ. อตฺถตกถินสฺส หิ ยาว กถินสฺส อุพฺภารา อนามนฺตจาโร อสมาทานจาโร ยาวทตฺถจีวรํ คณโภชนํ โย จ ตตฺถ จีวรุปฺปาโทติ อิเม ปฺจานิสํสา ลพฺภนฺติ. ปกฺกมนํ อนฺโต อสฺสาติ ปกฺกมนนฺติกา. เอวํ เสสาปิ เวทิตพฺพา. วิตฺถาโร ปเนตฺถ อาคตฏฺาเนเยว อาวิ ภวิสฺสติ.

โขมนฺติ โขมสุตฺเตหิ วายิตํ โขมปฏจีวรํ, ตถา เสสานิ. สาณนฺติ สาณวากสุตฺเตหิ กตจีวรํ. ภงฺคนฺติ โขมสุตฺตาทีนิ สพฺพานิ เอกจฺจานิ วา มิสฺเสตฺวา กตจีวรํ. ภงฺคมฺปิ วากมยเมวาติ เกจิ. ทุกูลํ ปฏฺฏุณฺณํ โสมารปฏํ จีนปฏํ อิทฺธิชํ เทวทินฺนนฺติ อิมานิ ปน ฉ จีวรานิ เอเตสํเยว อนุโลมานีติ วิสุํ น วุตฺตานิ. ทุกูลฺหิ สาณสฺส อนุโลมํ วากมยตฺตา. ปฏฺฏุณฺณเทเส สฺชาตวตฺถํ ปฏฺฏุณฺณํ. ‘‘ปฏฺฏุณฺณโกเสยฺยวิเสโส’’ติ หิ อภิธานโกเส วุตฺตํ. โสมารเทเส จีนเทเส จ ชาตวตฺถานิ โสมารจีนปฏานิ. ปฏฺฏุณฺณาทีนิ ตีณิ โกเสยฺยสฺส อนุโลมานิ ปาณเกหิ กตสุตฺตมยตฺตา. อิทฺธิชํ เอหิภิกฺขูนํ ปุฺิทฺธิยา นิพฺพตฺตจีวรํ, ตํ โขมาทีนํ อฺตรํ โหตีติ เตสํ เอว อนุโลมํ. เทวตาหิ ทินฺนํ จีวรํ เทวทินฺนํ, ตํ กปฺปรุกฺเข นิพฺพตฺตํ ชาลินิยา เทวกฺาย อนุรุทฺธตฺเถรสฺส ทินฺนวตฺถสทิสํ, ตมฺปิ โขมาทีนํเยว อนุโลมํ โหติ เตสุ อฺตรภาวโต.

มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส วิทตฺถึ สนฺธาย ‘‘ทฺเว วิทตฺถิโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิมินา ทีฆโต วฑฺฒกีหตฺถปฺปมาณํ วิตฺถารโต ตโต อุปฑฺฒปฺปมาณํ วิกปฺปนุปคนฺติ ทสฺเสติ. ตถา หิ ‘‘สุคตวิทตฺถิ นาม อิทานิ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ติสฺโส วิทตฺถิโย, วฑฺฒกีหตฺเถน ทิยฑฺโฒ หตฺโถ โหตี’’ติ กุฏิการสิกฺขาปทฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๘-๓๔๙) วุตฺตํ, ตสฺมา สุคตงฺคุเลน ทฺวาทสงฺคุลํ วฑฺฒกีหตฺเถน ทิยฑฺโฒ หตฺโถติ สิทฺธํ. เอวฺจ กตฺวา สุคตงฺคุเลน อฏฺงฺคุลํ วฑฺฒกีหตฺถปฺปมาณนฺติ อิทํ อาคตเมวาติ.

ตํ อติกฺกามยโตติ เอตฺถ นฺติ จีวรํ กาลํ วา ปรามสติ. ตสฺส โย อรุโณติ ตสฺส จีวรุปฺปาททิวสสฺส โย อติกฺกนฺโต อรุโณ. จีวรุปฺปาททิวเสน สทฺธินฺติ จีวรุปฺปาททิวสสฺส อติกฺกนฺตอรุเณน สทฺธินฺติ อตฺโถ. ทิวสสทฺเทน หิ ตํทิวสนิสฺสิโต อรุโณ วุตฺโต. พนฺธิตฺวาติ รชฺชุอาทีหิ พนฺธิตฺวา. เวเตฺวาติ วตฺถาทีติ เวเตฺวา.

วจนีโยติ สงฺฆํ อเปกฺขิตฺวา วุตฺตํ. อฺถาปิ วตฺตพฺพนฺติ เอตฺถ ‘‘ยาย กายจิ ภาสาย ปทปฏิปาฏิยา อวตฺวาปิ อตฺถมตฺเต วุตฺเต วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. เตนาติ อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺหนฺเตน. ปฏิคฺคาหเกน ‘‘ปสฺสสี’’ติ วุตฺเต เทสเกน วตฺตพฺพวจนํ ทสฺเสติ ‘‘อาม ปสฺสามี’’ติ. ปุน ปฏิคฺคาหเกน วตฺตพฺพวจนมาห ‘‘อายตึ สํวเรยฺยาสี’’ติ. เอวํ วุตฺเต ปุน เทสเกน วตฺตพฺพวจนํ ‘‘สาธุ สุฏฺุ สํวริสฺสามี’’ติ. อิมินา อตฺตโน อายตึ สํวเร ปติฏฺิตภาวํ ทสฺเสติ. ทฺวีสุ ปน สมฺพหุลาสุ วาติ ทฺวีสุ สมฺพหุลาสุ วา อาปตฺตีสุ ปุริมนเยเนว วจนเภโท เวทิตพฺโพ. ตฺติยํ อาปตฺตึ สรติ วิวรตีติ เอตฺถ ทฺเว อาปตฺติโยติ วา สมฺพหุลา อาปตฺติโยติ วา วตฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. จีวรทาเนปีติ นิสฺสฏฺจีวรสฺส ทาเนปิ. วตฺถุวเสนาติ จีวรคณนาย. คณสฺส วุตฺตา ปาฬิเยเวตฺถ ปาฬีติ ทฺวีสุ อิมาหํ อายสฺมนฺตานํ นิสฺสชฺชามีติ วจเน วิเสสาภาวโต วุตฺตํ. เอวํ…เป… วตฺตุํ วฏฺฏตีติ วตฺวา ตตฺถ การณมาห ‘‘อิโต ครุกตรานี’’ติอาทิ. ตตฺถ อิโตติ อิโต นิสฺสฏฺจีวรทานโต. ตฺติกมฺมโต ตฺติทุติยกมฺมํ ครุกตรนฺติ อาห ‘‘อิโต ครุกตรานี’’ติ. อิมาหํ จีวรนฺติ เอตฺถ ‘‘อิมํ จีวร’’นฺติปิ ปนฺติ.

๔๖๘. อิธ สฺา รกฺขตีติ อิทํ เวมติกํ อนติกฺกนฺตสฺฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. โยปิ เอวํสฺี, ตสฺสปีติ น เกวลํ อติกฺกนฺเต อติกฺกนฺตสฺิสฺส, อถ โข เวมติกสฺส อนติกฺกนฺตสฺิสฺสปีติ อตฺโถ. ‘‘น อิธ สฺา รกฺขตี’’ติอาทินา วุตฺตมตฺถํ เสสตฺติเกปิ อติทิสติ. เอส นโย สพฺพตฺถาติ เอส นโย อวินฏฺาทีสุปีติ อฺเสํ จีวเรสุ อุปจิกาทีหิ ขายิเตสุ ‘‘มยฺหมฺปิ จีวรํ ขายิต’’นฺติ เอวํสฺี โหตีติอาทินา โยเชตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. อนฏฺโต อวิลุตฺตสฺส วิเสสมาห ‘‘ปสยฺหาวหารวเสนา’’ติ. เถยฺยาวหารวเสน คหิตฺหิ นฏฺนฺติ อธิปฺเปตํ, ปสยฺหาวหารวเสน คหิตํ วิลุตฺตนฺติ. อนาปตฺติ อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภุฺชตีติ อิทํ นิสีทนสนฺถตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ เยน หิ ปุราณสนฺถตสฺส สามนฺตา สุคตวิทตฺถึ อนาทิยิตฺวา อฺํ นวํ นิสีทนสนฺถตํ กตํ, ตสฺส ตํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ. ตสฺมา ‘‘อนาปตฺติ อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภุฺชตี’’ติ อิทํ ปรสฺส นิสฺสคฺคิยํ อปรสฺส ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตีติ อิมมตฺถํ สาเธติ. ปริโภคํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อนติกฺกนฺเต อติกฺกนฺตสฺิสฺส เวมติกสฺส จ ปริภุฺชนฺตสฺเสว ทุกฺกฏํ, น ปน อปริภุฺชิตฺวา เปนฺตสฺสาติ อธิปฺปาโย.

๔๖๙. ติจีวรํ อธิฏฺาตุนฺติ นามํ วตฺวา อธิฏฺาตุํ. น วิกปฺเปตุนฺติ นามํ วตฺวา น วิกปฺเปตุํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. ตสฺมา ติจีวราทีนิ อธิฏฺหนฺเตน ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติอาทินา นามํ วตฺวา อธิฏฺาตพฺพํ. วิกปฺเปนฺเตน ปน ‘‘อิมํ สงฺฆาฏิ’’นฺติอาทินา ตสฺส ตสฺส จีวรสฺส นามํ อคฺคเหตฺวาว ‘‘อิมํ จีวรํ ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วิกปฺเปตพฺพํ. ติจีวรํ วา โหตุ อฺํ วา, ยทิ ตํ ตํ นามํ คเหตฺวา วิกปฺเปติ, อวิกปฺปิตํ โหติ, อติเรกจีวรฏฺาเนเยว ติฏฺติ. ตโต ปรํ วิกปฺเปตุนฺติ ‘‘จตุมาสโต ปรํ วิกปฺเปตฺวา ปริภุฺชิตุํ อนุฺาต’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘ตโต ปรํ วิกปฺเปตฺวา ยาว อาคามิสํวจฺฉเร วสฺสานํ จาตุมาสํ, ตาว เปตุํ อนุฺาต’’นฺติปิ วทนฺติ. ‘‘ตโต ปรํ วิกปฺเปตุํ อนุชานามีติ เอตฺตาวตา วสฺสิกสาฏิกํ กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิฺจ ตํ ตํ นามํ คเหตฺวา วิกปฺเปตุํ อนุฺาตนฺติ เอวมตฺโถ น คเหตพฺโพ ตโต ปรํ วสฺสิกสาฏิกาทินามสฺเสว อภาวโต. ตสฺมา ตโต ปรํ วิกปฺเปนฺเตนปิ นามํ คเหตฺวา น วิกปฺเปตพฺพํ. อุภินฺนมฺปิ ตโต ปรํ วิกปฺเปตฺวา ปริโภคสฺส อนุฺาตตฺตา ตถา วิกปฺปิตํ อฺนาเมน อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชิตพฺพ’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ.

ปจฺจุทฺธรามีติ เปมิ, ปริจฺจชามีติ วา อตฺโถ. อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามีติ เอตฺถ ‘‘อิมํ จีวรํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามีติ เอวมฺปิ วตฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ, ตมฺปิ ‘‘อิมํ จีวรํ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺามี’’ติ อิมินา สเมติ. กายวิการํ กโรนฺเตนาติ หตฺเถน จีวรํ ปรามสนฺเตน วา จาเลนฺเตน วา. ทุวิธนฺติ สมฺมุขปรมฺมุขเภเทสุ ทุวิธํ. หตฺถปาเสติ อิทํ ทฺวาทสหตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตสฺมา ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเร ิตํ ‘‘อิม’’นฺติ วตฺวา อธิฏฺาตพฺพํ. ตโต ปรํ ‘‘เอต’’นฺติ วตฺวา อธิฏฺาตพฺพนฺติ เกจิ วทนฺติ. คณฺิปเทสุ ปเนตฺถ น กิฺจิ วุตฺตํ. ปาฬิยํ อฏฺกถายฺจ สพฺพตฺถ ‘‘หตฺถปาโส’’ติ อฑฺฒเตยฺยหตฺโถ วุจฺจติ, ตสฺมา อิธ วิเสสวิกปฺปนาย การณํ คเวสิตพฺพํ. สามนฺตวิหาโร นาม ยตฺถ ตทเหว คนฺตฺวา นิวตฺติตุํ สกฺกา. ‘‘สามนฺตวิหาเร’’ติ อิทํ เทสนาสีสมตฺตํ, ตสฺมา ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา ทูเร ิตมฺปิ อธิฏฺาตพฺพนฺติ วทนฺติ. ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวาติ จ อิทํ ปิตฏฺานสลฺลกฺขณํ อนุจฺฉวิกนฺติ กตฺวา วุตฺตํ, จีวรสลฺลกฺขณเมเวตฺถ ปมาณํ.

อธิฏฺหิตฺวา ปิตวตฺเถหีติ ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺหิตฺวา ปิตวตฺเถหิ. อธิฏฺานโต ปุพฺเพ สงฺฆาฏิอาทิโวหารสฺส อภาวโต ‘‘อิมํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ ปริกฺขารโจฬสฺส วิสุํ ปจฺจุทฺธารวิธึ ทสฺเสติ. ปริกฺขารโจฬนาเมน ปน อธิฏฺิตตฺตา ‘‘อิมํ ปริกฺขารโจฬํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ วุตฺเตปิ เนวตฺถิ โทโสติ วิฺายติ. ปจฺจุทฺธริตฺวา ปุน อธิฏฺาตพฺพานีติ อิทฺจ สงฺฆาฏิอาทิจีวรนาเมน อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชิตุกามํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปริกฺขารโจฬนาเมเนว อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส ปน ปุพฺเพกตอธิฏฺานเมว อธิฏฺานํ. อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถีติ อิมินา กปฺปพินฺทุทานกิจฺจมฺปิ นตฺถีติ ทสฺเสติ. มุฏฺิปฺจกาทิติจีวรปฺปมาณยุตฺตํ สนฺธาย ‘‘ติจีวรํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุนฺติ ปริกฺขารโจฬํ กตฺวา อธิฏฺาตุํ. พทฺธสีมายํ อวิปฺปวาสสีมาสมฺมุติสพฺภาวโต จีวรวิปฺปวาเสปิ เนวตฺถิ โทโสติ น ตตฺถ ทุปฺปริหารตาติ อาห ‘‘อพทฺธสีมายํ ทุปฺปริหาร’’นฺติ.

อนติริตฺตปฺปมาณาติ สุคตวิทตฺถิยา ทีฆโส ฉ วิทตฺถิโย ติริยํ อฑฺฒเตยฺยวิทตฺถิฺจ อนติกฺกนฺตปฺปมาณาติ อตฺโถ. นนุ จ วสฺสิกสาฏิกา วสฺสานาติกฺกเมน, กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ อาพาธวูปสเมน อธิฏฺานํ วิชหติ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. กถินสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘วสฺสิกสาฏิกา วสฺสานมาสาติกฺกเมนปิ, กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ อาพาธวูปสเมนปิ อธิฏฺานํ วิชหตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘ตโต ปรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพา’’ติ กสฺมา วุตฺตํ. สติ หิ อธิฏฺาเน ปจฺจุทฺธาโร ยุตฺโตติ? เอตฺถ ตาว ตีสุปิ คณฺิปเทสุ อิทํ วุตฺตํ ‘‘ปจฺจุทฺธริตฺวาติ อิทํ ปจฺจุทฺธรณํ สนฺธาย น วุตฺตํ, ปจฺจุทฺธริตฺวาติ ปน วสฺสิกสาฏิกภาวโต อปเนตฺวาติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. ตสฺมา เหมนฺตสฺส ปมทิวสโต ปฏฺาย อนฺโตทสาเห วสฺสิกสาฏิกภาวโต อปเนตฺวา วิกปฺเปตพฺพาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘ตโต ปรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพา’ติ วุตฺต’’นฺติ.

เกจิ ปน ‘‘ยถา กถินมาสพฺภนฺตเร อุปฺปนฺนจีวรํ กถินมาสาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํ โหติ, เอวมยํ วสฺสิกสาฏิกาปิ วสฺสานมาสาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยา โหติ, ตสฺมา กตฺติกปุณฺณมทิวเส ปจฺจุทฺธริตฺวา ตโต ปรํ เหมนฺตสฺส ปมทิวเส วิกปฺเปตพฺพาติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. ปจฺจุทฺธริตฺวา ตโต ปรํ วิกปฺเปตพฺพาติ ปทโยชนา เวทิตพฺพา’’ติ จ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ. กถินมาเส อุปฺปนฺนฺหิ จีวรํ อติเรกจีวรฏฺาเน ิตตฺตา อวสานทิวเส อนธิฏฺิตํ กถินมาสาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํ โหติ. อยํ ปน วสฺสิกสาฏิกา อธิฏฺหิตฺวา ปิตตฺตา น เตน สทิสาติ วสฺสานาติกฺกเม กถํ นิสฺสคฺคิยา โหติ. อนธิฏฺิตอวิกปฺปิตเมว หิ ตํตํกาลาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํ โหติ, ตสฺมา เหมนฺเตปิ วสฺสิกสาฏิกา ทสาหํ ปริหารํ ลภติเยว. เอวํ กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิปิ อาพาธวูปสเมน อธิฏฺานํ วิชหติ, ตสฺมา ตโต ปรํ ทสาหํ ปริหารํ ลภติ, ทสาหํ ปน อนติกฺกมิตฺวา วิกปฺเปตพฺพาติ.

เกจิ ปน ‘‘อธิฏฺานเภทลกฺขเณ อวุตฺตตฺตา วสฺสิกสาฏิกา วสฺสานมาสาติกฺกเมปิ, กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ อาพาเธ วูปสนฺเตปิ อธิฏฺานํ น วิชหติ, ตสฺมา ‘ตโต ปรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพา’ติ อิทํ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ มาติกาฏฺกถาย น สเมติ, สมนฺตปาสาทิกาย ปน สเมติ. ตถา หิ ‘‘วสฺสิกสาฏิกา วสฺสานมาสาติกฺกเมนปิ, กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ อาพาธวูปสเมนปิ อธิฏฺานํ วิชหตี’’ติ อิทํ สมนฺตปาสาทิกายํ นตฺถิ, ปริวารฏฺกถายฺจ ‘‘อตฺถาปตฺติ เหมนฺเต อาปชฺชติ, โน คิมฺเห’’ติ เอตฺถ อิทํ วุตฺตํ ‘‘กตฺติกปุณฺณมาสิยา ปจฺฉิเม ปาฏิปททิวเส วิกปฺเปตฺวา ปิตํ วสฺสิกสาฏิกํ นิวาเสนฺโต เหมนฺเต อาปชฺชติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘กตฺติกปุณฺณมทิวเส อปจฺจุทฺธริตฺวา เหมนฺเต อาปชฺชตี’ติ วุตฺตํ, ตมฺปิ สุวุตฺตํ. จาตุมาสํ อธิฏฺาตุํ, ตโต ปรํ วิกปฺเปตุนฺติ หิ วุตฺต’’นฺติ (ปริ. อฏฺ. ๓๒๓).

ตตฺถ มหาอฏฺกถายํ นิวาสนปจฺจยา ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, กุรุนฺทฏฺกถายํ ปน อปจฺจุทฺธารปจฺจยา. ตสฺมา กุรุนฺทิยํ วุตฺตนเยเนว วสฺสิกสาฏิกา วสฺสานมาสาติกฺกเมปิ อธิฏฺานํ น วิชหตีติ ปฺายติ. กุรุนฺทิยฺหิ ‘‘วสฺสานํ จาตุมาสํ อธิฏฺาตุํ, ตโต ปรํ วิกปฺเปตุ’’นฺติ วจนโต ยทิ กตฺติกปุณฺณมายํ น ปจฺจุทฺธเรยฺย, อวิชหิตาธิฏฺานา วสฺสิกสาฏิกา เหมนฺตํ สมฺปตฺตา วิกปฺปนกฺเขตฺเต อธิฏฺานสพฺภาวโต ทุกฺกฏํ ชเนติ, ตสฺมา กตฺติกปุณฺณมายํ เอว ปจฺจุทฺธริตฺวา เหมนฺเต วิกปฺเปตพฺพาติ อิมินา อธิปฺปาเยน ‘‘กตฺติกปุณฺณมทิวเส อปจฺจุทฺธริตฺวา เหมนฺเต อาปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา วีมํสิตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพํ.

นหานตฺถาย อนุฺาตตฺตา ‘‘วณฺณเภทมตฺตรตฺตาปิ เจสา วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ทฺเว ปน น วฏฺฏนฺตีติ ทฺวินฺนํ อธิฏฺานาภาวโต วุตฺตํ. ‘‘สเจ วสฺสาเน อปรา วสฺสิกสาฏิกา อุปฺปนฺนา โหติ, ปุริมวสฺสิกสาฏิกํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตฺวา จ อธิฏฺาตพฺพา’’ติ วทนฺติ. ปมาณยุตฺตนฺติ ทีฆโส สุคตวิทตฺถิยา ทฺเว วิทตฺถิโย, วิตฺถารโต ทิยฑฺฒา, ทสา วิทตฺถีติ อิมินา ปมาเณน ยุตฺตํ. ปมาณิกาติ สุคตวิทตฺถิยา ทีฆโส จตสฺโส วิทตฺถิโย, ติริยํ ทฺเว วิทตฺถิโยติ เอวํ วุตฺตปฺปมาณยุตฺตา. ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพาติ เอตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. ‘‘สกึ อธิฏฺิตํ อธิฏฺิตเมว โหติ, ปุน น ปจฺจุทฺธรียติ กาลปริจฺเฉทาภาวโต’’ติ วทนฺติ. อปเร ปน ‘‘เอกวจเนนปิ วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘สกึ อธิฏฺิตํ อธิฏฺิตเมวา’ติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. อุภยตฺถาปิ อสฺส วจนสฺส อิธ วจเน อปุพฺพํ ปโยชนํ น ทิสฺสติ, เตเนว มาติกาฏฺกถายํ อิมสฺมึ าเน ‘‘สกึ อธิฏฺิตํ อธิฏฺิตเมว โหตี’’ติ อิทํ ปทํ น วุตฺตํ.

‘‘อตฺตโน สนฺตกภาวโต โมเจตฺวา ปิตํ สนฺธาย มหาปจฺจริยํ อนาปตฺติ วุตฺตา’’ติ วทนฺติ. อิมินา เภสชฺชํ เจตาเปสฺสามิ, อิทํ มาตุยา ทสฺสามีติ เปนฺเตน อธิฏฺาตพฺพํ, อิทํ เภสชฺชสฺส, อิทํ มาตุยาติ วิสฺสชฺเชตฺวา สกสนฺตกภาวโต โมจิเต อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. เสนาสนปริกฺขารตฺถาย ทินฺนปจฺจตฺถรเณติ เอตฺถ ‘‘อนิวาเสตฺวา อปารุปิตฺวา จ เกวลํ มฺจปีเสุเยว อตฺถริตฺวา ปริภุฺชิยมานํ ปจฺจตฺถรณํ อตฺตโน สนฺตกมฺปิ อนธิฏฺาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. เหฏฺา ปน ‘‘ปจฺจตฺถรณมฺปิ อธิฏฺาตพฺพเมวา’’ติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา อตฺตโน สนฺตกํ อธิฏฺาตพฺพเมวาติ อมฺหากํ ขนฺติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.

‘‘หีนายาวตฺตเนนาติ สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย คิหิภาวูปคมเนนา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ อฺสฺส ทาเน วิย จีวเร นิราลยภาเวเนว ปริจฺจตฺตตฺตา. เกจิ ปน ‘‘หีนายาวตฺตเนนาติ ภิกฺขุนิยา คิหิภาวูปคมเนนา’’ติ เอวมตฺถํ คเหตฺวา ‘‘ภิกฺขุ ปน วิพฺภมนฺโตปิ ยาว สิกฺขํ น ปจฺจกฺขาติ, ตาว ภิกฺขุเยวาติ อธิฏฺานํ น วิชหตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ ‘‘ภิกฺขุนิยา หีนายาวตฺตเนนา’’ติ วิเสเสตฺวา อวุตฺตตฺตา. ภิกฺขุนิยา หิ คิหิภาวูปคมเน อธิฏฺานวิชหนํ วิสุํ วตฺตพฺพํ นตฺถิ ตสฺสา วิพฺภมเนเนว อสฺสมณีภาวโต. สิกฺขาปจฺจกฺขาเนนาติ ปน อิทํ สเจ ภิกฺขุลิงฺเค ิโตว สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, ตสฺส กายลคฺคมฺปิ จีวรํ อธิฏฺานํ วิชหตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. กนิฏฺงฺคุลินขวเสนาติ เหฏฺิมปริจฺเฉทํ ทสฺเสติ. ปมาณจีวรสฺสาติ ปจฺฉิมปฺปมาณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทฺเว จีวรานิ ปารุปนฺตสฺสาติ อนฺตรฆรปฺปเวสนตฺถาย สุปฺปฏิจฺฉนฺนสิกฺขาปเท วุตฺตนเยน สงฺฆาฏึ อุตฺตราสงฺคฺจ เอกโต กตฺวา ปารุปนฺตสฺส. สงฺฆริตฏฺาเนติ ทฺวีสุปิ อนฺเตสุ สงฺฆริตฏฺาเน. เอส นโยติ อิมินา ปมาณยุตฺเตสุ ยตฺถ กตฺถจิ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ วิชหติ, มหนฺเตสุ ปน ตโต ปเรน ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ น วิชหตีติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต. สพฺเพสูติ ติจีวราทิเภเทสุ สพฺพจีวเรสุ.

อฺํ ปจฺฉิมปฺปมาณํ นาม นตฺถีติ สุตฺเต อาคตํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. อิทานิ ตเมว วิภาเวตุํ ‘‘ยฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ตํ อติกฺกมยโต เฉทนกํ ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘ตโต อุตฺตริ ปฏิสิทฺธตฺตา’’ติ. ตํ น สเมตีติ ปริกฺขารโจฬสฺส วิกปฺปนุปคปจฺฉิมํ ปจฺฉิมปฺปมาณนฺติ คเหตฺวา อิตเรสํ ติจีวราทีนํ มุฏฺิปฺจกาทิเภทํ ปจฺฉิมปฺปมาณํ สนฺธาย ‘‘เอส นโย’’ติอาทิวจนํ น สเมติ ตาทิสสฺส ปจฺฉิมปฺปมาณสฺส สุตฺเต อภาวโตติ อธิปฺปาโย. อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตวจนํ น สเมตีติ อิมินาว ปฏิกฺเขเปน วิกปฺปนุปคปจฺฉิมสฺส อนฺโต ยตฺถ กตฺถจิ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ วิชหตีติ อยมฺปิ นโย ปฏิกฺขิตฺโตเยวาติ ทฏฺพฺพํ. ติจีวรฺหิ เปตฺวา เสสจีวเรสุ ฉิทฺเทน อธิฏฺานวิชหนํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา อธิฏฺหิตฺวา ปิเตสุ เสสจีวเรสุ วิกปฺปนุปคปจฺฉิมํ อปฺปโหนฺตํ กตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺเนสุปิ อธิฏฺานวิชหนํ นตฺถิ. สเจ ปน อธิฏฺานโต ปุพฺเพเยว ตาทิสํ โหติ, อจีวรตฺตา อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ. ขุทฺทกํ จีวรนฺติ มุฏฺิปฺจกาทิเภทปฺปมาณโต อนูนเมว ขุทฺทกจีวรํ. มหนฺตํ วา ขุทฺทกํ กโรตีติ เอตฺถ ติณฺณํ จีวรานํ จตูสุ ปสฺเสสุ ยสฺมึ ปเทเส ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ น วิชหติ, ตสฺมึ ปเทเส สมนฺตโต ฉินฺทิตฺวา ขุทฺทกํ กโรนฺตสฺส อธิฏฺานํ น วิชหตีติ อธิปฺปาโย.

สมฺมุขาวิกปฺปนา ปรมฺมุขาวิกปฺปนาติ เอตฺถ สมฺมุเขน วิกปฺปนา ปรมฺมุเขน วิกปฺปนาติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวนฺติ อาสนฺนทูรภาวํ. อาสนฺนทูรภาโว จ อธิฏฺาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺตีติ เอตฺถ อธิฏฺานสฺสปิ อนฺโตคธตฺตา สเจ สงฺฆาฏิอาทินาเมน อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชิตุกาโม โหติ, อธิฏฺานํ กาตพฺพํ. โน เจ, น กาตพฺพํ, วิกปฺปนเมว ปมาณํ, ตสฺมา อติเรกจีวรํ นาม น โหติ. มิตฺโตติ ทฬฺหมิตฺโต. สนฺทิฏฺโติ ทิฏฺมิตฺโต นาติทฬฺหมิตฺโต. วิกปฺปิตวิกปฺปนา นาเมสา วฏฺฏตีติ อธิฏฺิตอธิฏฺานํ วิยาติ อธิปฺปาโย อวิเสเสน วุตฺตวจนนฺติ ติจีวราทึ อธิฏฺเติ, วสฺสิกสาฏิกํ กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิฺจ วิกปฺเปตีติ อวตฺวา สพฺพจีวรานํ อวิเสเสน วิกปฺเปตีติ วุตฺตวจนํ. ติจีวรสงฺเขเปนาติ ติจีวรนีหาเรน, สงฺฆาฏิอาทิอธิฏฺานวเสนาติ วุตฺตํ โหติ.

ตุยฺหํ เทมีติอาทีสุ ‘‘ตสฺมึ กาเล น คณฺหิตุกาโมปิ สเจ น ปฏิกฺขิปติ, ปุน คณฺหิตุกามตาย สติ คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. อิตฺถนฺนามสฺสาติ ปรมฺมุเข ิตํ สนฺธาย วทติ. ‘‘ตุยฺหํ คณฺหาหี’’ติ วุตฺเต ‘‘มยฺหํ คณฺหามี’’ติ วทติ, สุทินฺนํ สุคฺคหิตฺจาติ เอตฺถ ‘‘ยถา ปรโต ‘ตว สนฺตกํ กโรหี’ติ วุตฺเต ทุทฺทินฺนมฺปิ ‘สาธุ, ภนฺเต, มยฺหํ คณฺหามี’ติ วจเนน ‘สุคฺคหิตํ โหตี’ติ วุตฺตํ, เอวมิธาปิ ‘ตุยฺหํ คณฺหาหี’ติ วุตฺเต สุทินฺนตฺตา ‘มยฺหํ คณฺหามี’ติ อวุตฺเตปิ ‘สุทินฺนเมวา’’’ติ วทนฺติ. ‘‘คณฺหาหีติ จ อาณตฺติยา คหณสฺส ตปฺปฏิพทฺธตากรณวเสน ปวตฺตตฺตา ตทา คณฺหามีติ จิตฺเต อนุปฺปาทิเต ปจฺฉา คเหตุํ น ลภตี’’ติ วทนฺติ.

ตํ น ยุชฺชตีติ วินยกมฺมสฺส กรณวเสน คเหตฺวา ทินฺนตฺตา วุตฺตํ. สเจ ปน ปโร สจฺจโตเยว วิสฺสาสํ คณฺหาติ, ปุน เกนจิ การเณน เตน ทินฺนํ ตสฺส น วฏฺฏตีติ นตฺถิ. นิสฺสคฺคิยํ ปน จีวรํ ชานิตฺวา วา อชานิตฺวา วา คณฺหนฺตํ ‘‘มา คณฺหาหี’’ติ นิวารณตฺถํ วุตฺตํ. กายวาจาหิ กตฺตพฺพอธิฏฺานวิกปฺปนานํ อกตตฺตา โหตีติ อาห ‘‘กายวาจาโต สมุฏฺาตี’’ติ. จีวรสฺส อตฺตโน สนฺตกตา, ชาติปฺปมาณยุตฺตตา, ฉินฺนปลิโพธภาโว, อติเรกจีวรตา, ทสาหาติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.

ปมกถินสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๗๑-๔๗๓. ทุติเย อถานนฺทตฺเถโร กถํ โอกาสํ ปฏิลภติ, กึ กโรนฺโต จ อาหิณฺฑตีติ อาห ‘‘เถโร กิรา’’ติอาทิ. อวิปฺปวาเสติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, อวิปฺปวาสตฺถนฺติ อตฺโถ, วิปฺปวาสปจฺจยา ยา อาปตฺติ, ตทภาวตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๔๗๕-๔๗๖. เอวํ ฉินฺนปลิโพโธติ เอวํ อิเมหิ จีวรนิฏฺานกถินุพฺภาเรหิ ฉินฺนปลิโพโธ. อธิฏฺิเตสูติ ติจีวราธิฏฺานนเยน อธิฏฺิเตสุ. ติจีวเรน วิปฺปวุตฺโถ โหตีติ ‘‘รุกฺโข ฉินฺโน, ปโฏ ทฑฺโฒ’’ติอาทีสุ วิย อวยเวปิ สมุทายโวหาโร ลพฺภตีติ วุตฺตํ.

๔๗๗-๔๗๘. ปริขาย วา ปริกฺขิตฺโตติ อิมินา จ สมนฺตา นทีตฬากาทิอุทเกน ปริกฺขิตฺโตปิ ปริกฺขิตฺโตเยวาติ ทสฺเสติ. เอตฺตาวตาติ ‘‘ปริกฺขิตฺโต’’ติ อิมินา วจเนน. อากาเส อรุณํ อุฏฺาเปตีติ ฆรสฺส อุปริ อากาเส อฑฺฒเตยฺยรตนปฺปมาณํ อติกฺกมิตฺวา อรุณํ อุฏฺาเปติ. ฆรํ นิเวสนุโทสิตาทิลกฺขณเมว, น ปน ปาฏิเยกฺกํ ฆรํ นาม อตฺถีติ อาห ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ.

๔๗๙. ปาฬิยํ วุตฺตนเยน ‘‘สภาเย’’ติ อวตฺวา ‘‘สภาย’’นฺติ ปจฺจตฺตวจนํ สภาย-สทฺทสฺส นปุํสกลิงฺคตาวิภาวนตฺถํ วุตฺตํ. สภา-สทฺทปริยาโยปิ หิ สภาย-สทฺโท นปุํสกลิงฺคยุตฺโต อิธ วุตฺโตติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ลิงฺคพฺยตฺตเยน สภา วุตฺตา’’ติ อาห. จีวรหตฺถปาเส วสิตพฺพํ นตฺถีติ จีวรหตฺถปาเสเยว วสิตพฺพนฺติ นตฺถิ. ยํ ตสฺสา…เป… น วิชหิตพฺพนฺติ เอตฺถ ตสฺสา วีถิยา สมฺมุขฏฺาเน สภายทฺวารานํ คหเณเนว ตตฺถ สพฺพานิปิ เคหานิ สา จ อนฺตรวีถิ คหิตาเยว โหติ. อติหริตฺวา ฆเร นิกฺขิปตีติ ตํ วีถึ มุฺจิตฺวา ิเต อฺสฺมึ ฆเร นิกฺขิปติ. ปุรโต วา ปจฺฉโต วา หตฺถปาเสติ ฆรสฺส หตฺถปาสํ สนฺธาย วทติ.

นิเวสนาทีสุ ปริกฺขิตฺตตาย เอกูปจารตา, อปริกฺขิตฺตตาย นานูปจารตา จ เวทิตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอเตเนวุปาเยนา’’ติอาทิมาห. นิเวสนาทีนิ คามโต พหิ สนฺนิวิฏฺานิ คหิตานีติ เวทิตพฺพํ. อนฺโตคาเม ิตานฺหิ คามคฺคหเณน คหิตตฺตา คามปริหาโรเยวาติ. สพฺพตฺถาปีติ คามาทีสุ อชฺโฌกาสปริยนฺเตสุ ปนฺนรสสุ. ปริกฺเขปาทิวเสนาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อปริกฺเขปสฺเสว คหณํ เวทิตพฺพํ, น เอกกุลาทีนมฺปิ.

๔๘๐-๔๘๗. โอวรโก นาม คพฺภสฺส อพฺภนฺตเร อฺโ คพฺโภติปิ วทนฺติ. มุณฺฑจฺฉทนปาสาโทติ จนฺทิกงฺคณยุตฺโต ปาสาโท.

๔๘๙. สตฺโถติ ชงฺฆสตฺโถ สกฏสตฺโถ วา. ปริยาทิยิตฺวาติ วินิวิชฺฌิตฺวา. วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวติ ‘‘อนฺโตปวิฏฺเน…เป… ิโต โหตี’’ติ. ตตฺถ อนฺโตปวิฏฺเนาติ คามสฺส นทิยา วา อนฺโตปวิฏฺเน. นทีปริหาโร จ ลพฺภตีติ เอตฺถ ‘‘วิสุํ นทีปริหารสฺส อวุตฺตตฺตา คามาทีหิ อฺตฺถ วิย จีวรหตฺถปาโสเยว นทีปริหาโร’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. วิหารสีมนฺติ อวิปฺปวาสสีมํ สนฺธายาห. วิหารํ คนฺตฺวา วสิตพฺพนฺติ อนฺโตสีมาย ยตฺถ กตฺถจิ วสิตพฺพํ. สตฺถสมีเปเยวาติ อิทํ ยถาวุตฺตอพฺภนฺตรปริจฺเฉทวเสน วุตฺตํ. ปาฬิยํ นานากุลสฺส สตฺโถ โหติ, สตฺเถ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพนฺติ เอตฺถ หตฺถปาโส นาม สตฺถสฺส หตฺถปาโสติ เวทิตพฺพํ.

๔๙๐. เอกกุลสฺส เขตฺเตติ อปริกฺขิตฺตํ สนฺธาย วทติ. ยสฺมา ‘‘นานากุลสฺส ปริกฺขิตฺเต เขตฺเต จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา เขตฺตทฺวารมูเล วา ตสฺส หตฺถปาเส วา วตฺถพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา ทฺวารมูลโต อฺตฺถ อนฺโตเขตฺเตปิ วสนฺเตน จีวรํ หตฺถปาเส กตฺวาเยว วสิตพฺพํ.

๔๙๑-๔๙๔. ‘‘วิหาโร นาม สปริกฺขิตฺโต วา อปริกฺขิตฺโต วา สกโล อาวาโส’’ติ วทนฺติ. ยสฺมึ วิหาเรติ เอตฺถ ปน เอกํ เคหเมว วุตฺตํ. เอกกุลนานากุลสนฺตกตา เจตฺถ การาปกานํ วเสน เวทิตพฺพา. ฉายาย ผุฏฺโกาสสฺส อนฺโต เอวาติ ยทา มหาวีถิยํ อุชุกเมว คจฺฉนฺตํ สูริยมณฺฑลํ มชฺฌนฺหิกํ ปาปุณาติ, ตทา ยํ โอกาสํ ฉายา ผรติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อคมนปเถติ ยํ ตทเหว คนฺตฺวา ปุน อาคนฺตุํ สกฺกา น โหติ, ตาทิสํ สนฺธาย วุตฺตํ.

๔๙๕. นทึ โอตรตีติ หตฺถปาสํ มุฺจิตฺวา โอตรติ. น อาปชฺชตีติ ปริโภคปจฺจยา ทุกฺกฏํ นาปชฺชติ. เตนาห ‘‘โส หี’’ติอาทิ. อปริโภคารหตฺตาติ อิมินาว นิสฺสคฺคิยจีวรํ อนิสฺสชฺเชตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส ทุกฺกฏํ อจิตฺตกนฺติ สิทฺธํ. เอกํ ปารุปิตฺวา เอกํ อํสกูเฏ เปตฺวา คนฺตพฺพนฺติ อิทํ พหูนํ สฺจารฏฺาเน เอวํ อกตฺวา คมนํ น สารุปฺปนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. พหิคาเม เปตฺวา…เป… วินยกมฺมํ กาตพฺพนฺติ วุตฺตตฺตา อธิฏฺาเน วิย ปรมฺมุขา ิตมฺปิ นิสฺสคฺคิยํ จีวรํ นิสฺสชฺชิตุํ นิสฺสฏฺจีวรฺจ ทาตุํ วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ.

คมเน สอุสฺสาหตฺตา ‘‘นิสฺสโย ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภตี’’ติ วุตฺตํ. มุหุตฺตํ สยิตฺวา…เป… นิสฺสโย จ ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ เอตฺถ ‘‘อุสฺสาเห อปริจฺจตฺเตปิ คมนสฺส อุปจฺฉินฺนตฺตา ปุน อุฏฺาย สอุสฺสาหํ คจฺฉนฺตานมฺปิ อนฺตรา อรุเณ อุฏฺิเต นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติเยวา’’ติ วทนฺติ. ปรโต มุหุตฺตํ ตฺวาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อฺมฺสฺส วจนํ อคฺคเหตฺวา คตาติ เอตฺถ สเจ เอวํ คจฺฉนฺตา ‘‘ปุรารุณา อฺมฺํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ อุสฺสาหํ วินาว คตา โหนฺติ, อรุณุคฺคมเน นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิ น วตฺตพฺพา ปมตรํเยว ปฏิปฺปสฺสมฺภนโต. อถ ‘‘ปุรารุณา ปสฺสิสฺสามา’’ติ สอุสฺสาหาว คจฺฉนฺติ, นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิเยว น วตฺตพฺพา. เอวฺจ สติ ‘‘สห อรุณุคฺคมนา นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภตี’’ติ กสฺมา วุตฺตํ? วุจฺจเต – สอุสฺสหตฺตา ปมตรํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิ น วุตฺตา. สติปิ จ อุสฺสาหภาเว เอกโต คมนสฺส อุปจฺฉินฺนตฺตา ‘‘มุหุตฺตํ ตฺวา’’ติ เอตฺถ วิย สห อรุณุคฺคมนา ปฏิปฺปสฺสทฺธิเยว วุตฺตา.

อนฺโตสีมายํ คามนฺติ อวิปฺปวาสสีมาสมฺมุติยา ปจฺฉา ปติฏฺาปิตคามํ สนฺธาย วทติ คามํ อนฺโต กตฺวา อวิปฺปวาสสีมาสมฺมุติยา อภาวโต. เนว จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺตีติ อวิปฺปวาสสีมาภาวโต วุตฺตํ, น นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ สอุสฺสาหภาวโต. อนฺตรามคฺเคเยว จ เนสํ อรุณํ อุคฺคจฺฉตีติ ธมฺมํ สุตฺวา อาคจฺฉนฺตานํ อรุณํ อุคฺคจฺฉติ. อสฺสติยา คจฺฉตีติ อสฺสติยา อตฺตโน จีวรํ อปจฺจุทฺธริตฺวา เถรสฺส จีวรํ อปจฺจุทฺธราเปตฺวา คจฺฉติ. เอวํ คเต ตสฺมึ ปจฺฉา เถเรน สริตฺวา ปฏิปชฺชิตพฺพวิธึ ทสฺเสติ ‘‘อตฺตโน จีวรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา ทหรสฺส จีวรํ วิสฺสาเสน คเหตฺวา เปตพฺพ’’นฺติ. คนฺตฺวา วตฺตพฺโพติ อาคตกิจฺจํ นิฏฺเปตฺวา วิหารํ คเตน ปฏิปชฺชิตพฺพวิธึ ทสฺเสติ. อนธิฏฺิตจีวรตา, อนตฺถตกถินตา, อลทฺธสมฺมุติตา, รตฺติวิปฺปวาโสติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ตติยกถินสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๙๗-๔๙๙. ตติเย ปาฬิยํ จีวรปจฺจาสา นิกฺขิปิตุนฺติ เอตฺถ จีวรปจฺจาสาย สติยา นิกฺขิปิตุนฺติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. ภณฺฑิกาพทฺธานิ ภณฺฑิกพทฺธานีติปิ ปนฺติ, ภณฺฑิกํ กตฺวา พทฺธานีติ อตฺโถ. นิฏฺิตจีวรสฺมึ ภิกฺขุนาติ เอตฺถ ปุริมสิกฺขาปเท วิย สามิวเสเนว กรณวจนสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๕๐๐. อนตฺถเต กถิเน จีวรมาเส ภิกฺขุโน อุปฺปนฺนจีวรํ อนธิฏฺิตํ อวิกปฺปิตํ ตสฺมึ มาเส เปตุํ วฏฺฏตีติ อาห ‘‘เอกํ ปจฺฉิมกตฺติกมาสํ เปตฺวา’’ติ. เกจิ ปน ‘‘กาเลปิ อาทิสฺส ทินฺนํ, เอตํ อกาลจีวรนฺติ วจนโต อนตฺถเต กถิเน ปจฺฉิมกตฺติกมาสสงฺขาเต จีวรมาเส อุปฺปนฺนจีวรสฺสปิ ปจฺจาสาจีวเร อสติ ทสาหปริหาโรเยว, ตโต ปรํ เปตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ อฏฺกถาย น สเมติ. ตถา หิ อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๔๖-๖๔๙ อาทโย) ‘‘ปวารณมาสสฺส ชุณฺหปกฺขปฺจมิยํ อุปฺปนฺนสฺส อจฺเจกจีวรสฺส อนตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิโก มาโส, อตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิกา ปฺจ มาสา ปริหาโร’’ติ วุตฺตํ. ตเมว จ ปริหารํ สนฺธาย ‘‘ฉฏฺิโต ปฏฺาย ปน อุปฺปนฺนํ อนจฺเจกจีวรมฺปิ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปิตจีวรมฺปิ เอตํ ปริหารํ ลภติเยวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๔๖-๖๔๙) วุตฺตํ. ตสฺมา จีวรมาเส ทสาหโต ปรมฺปิ อนธิฏฺิตํ อวิกปฺปิตมฺปิ เปตุํ วฏฺฏติ.

ยทิ เอวํ ‘‘กาเลปิ อาทิสฺส ทินฺนํ, เอตํ อกาลจีวร’’นฺติ อิทํ กสฺมา วุตฺตนฺติ เจ? อกาลจีวรสามฺโต อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตํ ปมานิยเต โสตสฺส รโห วิย. เอกาทสมาเส สตฺตมาเส จ อุปฺปนฺนฺหิ จีวรํ วุตฺถวสฺเสหิ เสเสหิ จ สมฺมุขีภูเตหิ ภาเชตุํ ลพฺภตีติ อกาลจีวรํ นาม ชาตํ. กาเล ปน ‘‘สงฺฆสฺส อิทํ อกาลจีวรํ ทมฺมี’’ติ อนุทฺทิสิตฺวา ‘‘สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ วุตฺถวสฺเสหิเยว ภาเชตพฺพํ, น อฺเหีติ กาลจีวรนฺติ วุจฺจติ. อาทิสฺส ทินฺนํ ปน สมฺมุขีภูเตหิ สพฺเพหิเยว ภาเชตพฺพนฺติ อกาลจีวรํ, ตสฺมา กาเลปิ อาทิสฺส ทินฺนสฺส วุตฺถวสฺเสหิ เสเสหิ จ สมฺปตฺเตหิ ภาชนียตฺตา อกาลจีวรสามฺโต ‘‘กาเลปิ อาทิสฺส ทินฺนํ, เอตํ อกาลจีวร’’นฺติ อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตํ. ยทิ เอวํ ‘‘เอกปุคฺคลสฺส วา อิทํ ตุยฺหํ ทมฺมีติ ทินฺน’’นฺติ กสฺมา วุตฺตํ. น หิ ปุคฺคลสฺส อาทิสฺส ทินฺนํ เกนจิ ภาชนียํ โหตีติ? นายํ วิโรโธ อาทิสฺส วจนสามฺโต ลพฺภมานมตฺถํ ทสฺเสตุํ ตถา วุตฺตตฺตา.

เอวํ ปน อวตฺวาติ ‘‘ตโต เจ อุตฺตริ’’นฺติ อิมสฺส ‘‘มาสปรมโต อุตฺตริ’’นฺติ ปทภาชนํ อวตฺวา. ตาว อุปฺปนฺนํ ปจฺจาสาจีวรนฺติ ปจฺจตฺตวจนํ ‘‘อตฺตโน คติกํ กโรตี’’ติ กรณกิริยาย กตฺตุภาวโต. อนฺตรา อุปฺปนฺนฺหิ ปจฺจาสาจีวรํ มาสปรมํ มูลจีวรํ เปตุํ อทตฺวา อตฺตโน ทสาหปรมตาย เอว ปริจฺฉินฺทตีติ อตฺตโน คติกํ กโรติ. ตโต อุทฺธํ มูลจีวรนฺติ เอตฺถ ปน มูลจีวรนฺติ ปจฺจตฺตวจนํ. วีสติมทิวสโต อุทฺธฺหิ อุปฺปนฺนํ ปจฺจาสาจีวรํ ทสาหปรมํ คนฺตุํ อทตฺวา มูลจีวรํ อตฺตนา สทฺธึ กรณสมฺพนฺธตามตฺเตน สกกาลวเสน ปริจฺฉินฺทตีติ อตฺตโน คติกํ กโรติ. ปจฺจาสาจีวเร ปน ลภิตฺวา วิสุํ เปนฺตสฺส ทสาหํ อนติกฺกนฺเต นตฺถิ ตปฺปจฺจยา อาปตฺติ. ปาฬิยํ ทสาหา กาเรตพฺพนฺติ เอตฺถ ทสาหาติ กรณตฺเถ นิสฺสกฺกวจนํ, ทสาเหนาติ อตฺโถ. ปฺจาหุปฺปนฺเนติอาทึ รสฺสํ กตฺวาปิ ปนฺติ. เอกวีเส อุปฺปนฺเน…เป… นวาหา กาเรตพฺพนฺติอาทิ ปจฺจาสาจีวรสฺส อุปฺปนฺนทิวสํ เปตฺวา วุตฺตํ.

อฺํ ปจฺจาสาจีวรํ…เป… กาเรตพฺพนฺติ อิทํ สติยา เอว ปจฺจาสาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สเจ ปน ‘‘อิโต ปฏฺาย จีวรํ น ลภิสฺสามี’’ติ ปจฺจาสา อุปจฺฉินฺนา, มูลจีวรมฺปิ ทสาหํ เจ สมฺปตฺตํ, ตทเหว อธิฏฺาตพฺพํ. ปจฺจาสาจีวรมฺปิ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตพฺพนฺติ ปมตรํ อุปฺปนฺนํ วิสภาคปจฺจาสาจีวรํ สนฺธาย วทติ. อฺมฺนฺติ อฺํ อฺํ, อยเมว วา ปาโ. องฺคํ ปเนตฺถ ปมกถิเน วุตฺตสทิสเมว. เกวลฺหิ ตตฺถ ทสาหาติกฺกโม, อิธ มาสาติกฺกโมติ อยํ วิเสโส.

ตติยกถินสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปุราณจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๐๓. จตุตฺเถ ภตฺตวิสฺสคฺคนฺติ ปาฬิปทสฺส ภตฺตกิจฺจนฺติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ, ‘‘ภตฺตสํวิธาน’’นฺติปิ เกจิ. ตตฺถ นาม ตฺวนฺติ อิมสฺสปิ โส นาม ตฺวนฺติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ, ‘‘ตาย นาม ตฺว’’นฺติ เกจิ.

๕๐๕. ปิตา จ มาตา จ ปิตโร, ปิตูนํ ปิตโร ปิตามหา, เตสํเยว ยุโค ปิตามหยุโค, ตสฺมา ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา ปิตามหทฺวนฺทาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอวฺหิ ปิตามหคฺคหเณเนว มาตามโหปิ คหิโตติ. ‘‘ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา’’ติ วจนโต เหฏฺา จ อุทฺธฺจ อฏฺมยุโค าติ นาม น โหติ. เทสนามุขเมว เจตนฺติ ปิตามหยุคาติ ปิตามห-คฺคหณํ เทสนามุขํ ปิตามหีมาตามหีอาทีนมฺปิ อธิปฺเปตตฺตา. ปิตุ มาตา ปิตามหี. มาตุ ปิตา มาตามโห. มาตุ มาตา มาตามหี. เอตฺถ กิฺจาปิ ปฺจสตสากิยานีนํ วเสน ภิกฺขุภาเว ตฺวา ปริวตฺตลิงฺคาย ภิกฺขุนิยา จ วเสน เอกโตอุปสมฺปนฺนา ภิกฺขุนี ลพฺภติ, ตถาปิ ปกตินิยาเมเนว ทสฺเสตุํ ‘‘ภิกฺขุนี นาม อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘กปฺปํ กตฺวาติ วจนโต ทินฺนกปฺปเมว ปาจิตฺติยํ ชเนตี’’ติ วทนฺติ. ‘‘ปุราณจีวรํ นาม สกึ นิวตฺถมฺปิ สกึ ปารุตมฺปี’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตนฺติ อาห ‘‘อนฺตมโส ปริโภคสีเสนา’’ติอาทิ. ‘‘กาเยน ผุสิตฺวา ปริโภโคเยว ปริโภโค นามา’’ติ กุรุนฺทิยํ อธิปฺปาโย.

๕๐๖. กายวิการํ กตฺวาติ อิทํ ยาว ‘‘โอรโต เปตี’’ติ ปทํ, ตาว สพฺพปเทสุ สมฺพนฺธิตพฺพํ. ยถา สา ‘‘โธวาเปตุกาโม อย’’นฺติ ชานาติ, เอวํ กายวิการํ กตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘กายวิการํ กตฺวา’’ติ วจนโต กายวาจาหิ กฺจิ วิการํ อกตฺวา หตฺเถน หตฺเถ เทนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ. อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ โอกาเสติ อิทํ วิเสสนํ ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺพํ. ตถา หิ หตฺเถน หตฺเถ เทนฺตสฺส ปาทมูเล จ เปตฺวา เทนฺตสฺส ‘‘อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ โอกาเส’’ติ อิทํ วตฺตพฺพนฺติ นตฺถิ อฺถา อสมฺภวโต. สติ หิ สมฺภเว พฺยภิจาเร จ วิเสสนํ สาตฺถกํ โหติ. อุปริ ‘‘ขิปตี’’ติอาทีนิ ปน สนฺธาย อิทํ วิเสสนํ วุตฺตํ, ตสฺมา อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ โอกาเส ตฺวา อุปริ ขิปนฺตสฺส อฺสฺส หตฺเถ เปเสนฺตสฺส จ อาปตฺติ. อุปจารํ ปน มุฺจิตฺวา กายวาจาหิ วิการํ กตฺวา อาณาเปนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ. อุปจาเรติ อนฺโตทฺวาทสหตฺถเมว โอกาสํ วทติ. อุปจารํ มุฺจิตฺวาติ ทฺวาทสหตฺถูปจารํ มุฺจิตฺวา.

เอเกน วตฺถุนาติ ปมํ กตฺวา นิฏฺาปิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. รชเน อนาปตฺตีติ รชนํ ปจฺจาสีสนฺตสฺสปิ ‘‘โธวิตฺวา อาเนหี’’ติ วุตฺตตฺตา อนาปตฺติ อนาณตฺติยา กตตฺตา. ‘‘อวุตฺตา โธวตี’’ติ อิมินา ‘‘อวุตฺตา รชติ, อวุตฺตา อาโกเฏตี’’ติ อิทมฺปิ วุตฺตเมว โหตีติ อาห – ‘‘อวุตฺตา โธวตีติ อิมินา ลกฺขเณน อนาปตฺตี’’ติ. สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชตีติ ปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทฺเว ทุกฺกฏานิ อาปชฺชติ. ยถาวตฺถุกเมวาติ นิสฺสคฺคิยเมวาติ อตฺโถ. ปฺจ สตานิ ปริมาณเมตาสนฺติ ปฺจสตา.

๕๐๗. จีวรํ โธวาติ…เป… อาณาเปนฺตสฺสาติ เอตฺถ ตาย โธวนํ ปจฺจาสีสนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ. ปุราณจีวรตา, อุปจาเร ตฺวา อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา อาณาปนํ, ตสฺสา โธวนาทีนิ จาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

ปุราณจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. จีวรปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๐๘. ปฺจเม อปฺตฺเต สิกฺขาปเทติ คณมฺหา โอหียนสิกฺขาปเท อปฺตฺเต. วิหารวารนฺติ วิหารปฏิชคฺคนวารํ. โกฏฺาสสมฺปตฺตีติ สกลา องฺคปจฺจงฺคสมฺปตฺติ. สพฺพปริยนฺตนฺติ ฉฏฺสฺส อฺจีวรสฺส อภาวา ปฺจนฺนํ จีวรานํ เอกเมกํ สพฺเพสํ ปริยนฺตนฺติ สพฺพปริยนฺตํ. อนฺตรวาสกาทีสุ หิ ปฺจสุ เอกเมกํ อฺสฺส ฉฏฺสฺส อภาวา ปฺจนฺนํ อนฺตเมว โหติ. อถวา ปฺจสุ จีวเรสุ เอกเมกํ อตฺตโน อฺสฺส ทุติยสฺส อภาวา อนฺตเมว โหตีติ สพฺพเมว ปริยนฺตนฺติ สพฺพปริยนฺตํ, สพฺพโส วา ปริยนฺตนฺติ สพฺพปริยนฺตํ. เตนาห – ‘‘อฺํ…เป… นตฺถี’’ติ. ยถา ตสฺส มโนรโถ น ปูรตีติ ‘‘สรีรปาริปูรึ ปสฺสิสฺสามี’’ติ ตสฺส อุปฺปนฺโน มโนรโถ ยถา น ปูรติ. เอวํ หตฺถตเลเยว ทสฺเสตฺวาติ สรีรํ อทสฺเสตฺวาว ทาตพฺพจีวรํ หตฺถตเล ‘‘หนฺทา’’ติ ทสฺเสตฺวา.

๕๑๐. วิหตฺถตายาติ วิหตหตฺถตาย, อคณตาย อปฺปจฺจยตาย อปฺปฏิสรณตายาติ วุตฺตํ โหติ. สมภิตุนฺนตฺตาติ ปีฬิตตฺตา. ปริวตฺเตตพฺพํ ปริวตฺตํ, ปริวตฺตเมว ปาริวตฺตกํ, ปริวตฺเตตฺวา ทียมานนฺติ อตฺโถ.

๕๑๒. อุปจาเรติ ทฺวาทสหตฺถูปจารํ สนฺธาย วทติ. อุปจารํ วา มุฺจิตฺวา ขิปนฺตีติ ทฺวาทสหตฺถํ มุฺจิตฺวา โอรโต เปนฺติ, น ปุริมสิกฺขาปเท วิย ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเรเยวาติ อธิปฺปาโย. อฺตฺร ปาริวตฺตกาติ ยํ อนฺตมโส หรีตกขณฺฑมฺปิ ทตฺวา วา ทสฺสามีติ อาโภคํ กตฺวา วา ปาริวตฺตกํ คณฺหาติ, ตํ เปตฺวา. อจิตฺตกภาเวน น สเมตีติ ยถา อฺาติกาย าติกสฺิสฺส เวมติกสฺส จ คณฺหโต อจิตฺตกตฺตา อาปตฺติ, เอวมิธาปิ ‘‘ภิกฺขุนิยา สนฺตกํ อิท’’นฺติ อชานิตฺวา คณฺหโตปิ อาปตฺติเยวาติ อธิปฺปาโย. วสฺสาวาสิกํ เทตีติ ปุคฺคลิกํ กตฺวา เทติ. ปํสุกูลํ อตฺตโน อตฺถาย ปิตภาวํ ชานิตฺวา คณฺหนฺเตนปิ อฺสฺส สนฺตกํ คหิตํ นาม น โหตีติ อาห – ‘‘สเจ ปน สงฺการกูฏาทีสู’’ติอาทิ. อสามิกฺหิ ปํสุกูลนฺติ วุจฺจติ. ปํสุกูลํ อธิฏฺหิตฺวาติ ‘‘อสามิกํ อิท’’นฺติ สฺํ อุปฺปาเทตฺวา. เอวํ ปน ปํสุกูลสฺํ อนุปฺปาเทตฺวา คณฺหิตุํ น วฏฺฏติ.

๕๑๓. อฺาติกาย อฺาติกสฺีติ ติกปาจิตฺติยนฺติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ. ตีณิ ปริมาณมสฺสาติ ติกํ, ติกฺจ ตํ ปาจิตฺติยฺจาติ ติกปาจิตฺติยํ, ตีณิ ปาจิตฺติยานีติ อตฺโถ.

๕๑๔. ปตฺตตฺถวิกาทึ ยํกิฺจีติ อนธิฏฺานุปคํ สนฺธาย วทติ. ‘‘จีวรํ นาม ฉนฺนํ จีวรานํ อฺตรํ จีวรํ วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิม’’นฺติ หิ วุตฺตตฺตา อธิฏฺานุปคํ ยํกิฺจิ น วฏฺฏติ. เตเนวาห – ‘‘วิกปฺปนุปคปจฺฉิมจีวรปฺปมาณ’’นฺติอาทิ. ยสฺมา ภิสิจฺฉวิ มหนฺตาปิ เสนาสนสงฺคหิตตฺตา จีวรสงฺขฺยํ น คจฺฉตีติ เนว อธิฏฺานุปคา น วิกปฺปนุปคา จ, ตสฺมา อนธิฏฺานุปคสามฺโต วุตฺตํ. สเจปิ มฺจปฺปมาณา ภิสิจฺฉวิ โหติ, วฏฺฏติเยวาติ. โก ปน วาโท ปตฺตตฺถวิกาทีสูติ มหติยาปิ ตาว ภิสิจฺฉวิยา อนธิฏฺานุปคตฺตา อนาปตฺติ, ตโต ขุทฺทกตเรสุ อนธิฏฺานุปเคสุ ปตฺตตฺถวิกาทีสุ กิเมว วตฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. ปฏิคฺคหณํ กิริยา, อปริวตฺตนํ อกิริยา. วิกปฺปนุปคจีวรตา, ปาริวตฺตกาภาโว, อฺาติกาย หตฺถโต คหณนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

จีวรปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๑๕. ฉฏฺเ ปติกิฏฺโติ นิหีโน, ลามโกติ อตฺโถ. โลลชาติโกติ โลลสภาโว. ปฏุเยว ปฏฺโฏ. เตนาห ‘‘เฉโก’’ติอาทิ. กิสฺมึ วิยาติ เอตฺถ ‘‘กิสฺมึ วิยา’’ติ นิปาตวเสน สมานตฺถํ ‘‘กึสุ วิยา’’ติ นิปาตปทนฺติ อาห ‘‘กึสุ วิยา’’ติ, กึ วิยาติ อตฺโถ, ทุกฺขํ วิยาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘กิเลโส วิยา’’ติอาทิ. ธมฺมวเสน อุปจารวเสน นิมนฺตนา ธมฺมนิมนฺตนาติ ปาฬิปทสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สเจ ปน ‘‘วเทยฺยาถ, ภนฺเต, เยนตฺโถ’’ติ อิทํ สจฺจเมว วุตฺตํ สิยา, ปวาริโตเยว โหติ. ยสฺมา ปน ปวาเรตฺวาปิ อทาตุกาโม อปฺปวาริตฏฺาเนเยว ติฏฺติ, ตสฺมา ภควา ปวาริตาปวาริตภาวํ อวิจาเรตฺวา ‘‘าตโก เต, อุปนนฺท, อฺาตโก’’ติ าตกอฺาตกภาวํเยว วิจาเรสิ. มุสึสูติ วิลุมฺปึสุ.

๕๑๗. อนุปุพฺพกถาติ อนุปุพฺเพน วินิจฺฉยกถา. เสสปริกฺขารานํ สทฺธิวิหาริเกหิ คหิตตฺตา นิวาสนปารุปนมตฺตเมว อวสิฏฺนฺติ อาห ‘‘นิวาสนปารุปนมตฺตํเยว หริตฺวา’’ติ. สทฺธิวิหาริกานํ ตาว อาคมนสฺส วา อนาคมนสฺส วา อชานนตาย วุตฺตํ ‘‘เถเรหิ เนว ตาว…เป… ภฺชิตพฺพ’’นฺติ. ปเรสมฺปิ อตฺถาย ลภนฺตีติ อตฺตโน จีวรํ ททมานา สยํ สาขาภงฺเคน ปฏิจฺฉาเทนฺตีติ เตสํ อตฺถายปิ ภฺชิตุํ ลภนฺติ. ‘‘ติเณน วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาคนฺตพฺพ’’นฺติ วจนโต อีทิเสสุ ภูตคามปาตพฺยตาปิ อนุฺาตาเยว โหตีติ อาห – ‘‘เนว ภูตคามปาตพฺยตาย ปาจิตฺติยํ โหตี’’ติ. น เตสํ ธารเณ ทุกฺกฏนฺติ เตสํ ติตฺถิยทฺธชานํ ธารเณปิ ทุกฺกฏํ นตฺถิ.

ยานิ จ เนสํ วตฺถานิ เทนฺตีติ สมฺพนฺโธ. เถรานํ สยเมว ทินฺนตฺตา วุตฺตํ ‘‘อจฺฉินฺนจีวรฏฺาเน ิตตฺตา’’ติ. ยทิ ลทฺธึ คณฺหาติ, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก นาม โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ลทฺธึ อคฺคเหตฺวา’’ติ. ‘‘โน เจ โหติ สงฺฆสฺส วิหารจีวรํ วา…เป… อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ อิมินา อนฺตรามคฺเค ปวิฏฺวิหารโต นิกฺขมิตฺวา อฺตฺถ อตฺตโน อภิรุจิตฏฺานํ คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. อิมินา จ ‘‘ยํ อาวาสํ ปมํ อุปคจฺฉตี’’ติ วุตฺตํ อนฺตรามคฺเค ิตวิหารมฺปิ สเจ นคฺโค หุตฺวา คจฺฉติ, ทุกฺกฏเมวาติ เวทิตพฺพํ. ยทิ เอวํ ตตฺถ กสฺมา น วุตฺตนฺติ เจ? อโนกาสตฺตา. ตตฺถ หิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อจฺฉินฺนจีวรสฺส วา…เป… จีวรํ วิฺาเปตุ’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺเธน สงฺฆิกมฺปิ จีวรํ นิวาเสตุํ ปารุปิตุฺจ อนุชานนฺโต ‘‘ยํ อาวาสํ ปมํ…เป… คเหตฺวา ปารุปิตุ’’นฺติ อาห, ตสฺมา ตตฺถ อโนกาสตฺตา ทุกฺกฏํ น วุตฺตํ.

วิหารจีวรนฺติ เสนาสนจีวรํ. จิมิลิกาหีติ ปฏปิโลติกาหิ. ตสฺส อุปรีติ ภูมตฺถรณสฺส อุปริ. วิเทสคเตนาติ อฺํ จีวรํ อลภิตฺวา วิเทสคเตน. เอกสฺมึ…เป… เปตพฺพนฺติ เอตฺถ ‘‘เลเสน คเหตฺวา อคตตฺตา เปนฺเตน จ สงฺฆิกปริโภเคเนว ปิตตฺตา อฺสฺมึ เสนาสเน นิยมิตมฺปิ อฺตฺถ เปตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. ปริโภเคเนวาติ อฺํ จีวรํ อลภิตฺวา ปริภุฺชเนน.

๕๑๙-๕๒๑. ปริโภคชิณฺณนฺติ ยถา เตน จีวเรน สรีรํ ปฏิจฺฉาเทตุํ น สกฺกา, เอวํ ชิณฺณํ. กปฺปิยโวหาเรนาติ กยวิกฺกยาปตฺติโต โมจนตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘วิฺาเปนฺตสฺสา’’ติ อิมสฺเสว อตฺถํ วิภาเวติ ‘‘เจตาเปนฺตสฺส ปริวตฺตาเปนฺตสฺสา’’ติ. อตฺตโน ธเนน หิ วิฺาปนํ นาม ปริวตฺตนเมวาติ อธิปฺปาโย. สงฺฆวเสน ปวาริตานํ วิฺาปเน วตฺตํ ทสฺเสติ ‘‘ปมาณเมว วฏฺฏตี’’ติ. สงฺฆวเสน หิ ปวาริเต สพฺเพสํ สาธารณตฺตา อธิกํ วิฺาเปตุํ น วฏฺฏติ. ยํ ยํ ปวาเรตีติ ยํ ยํ จีวราทึ ทสฺสามีติ ปวาเรติ. วิฺาปนกิจฺจํ นตฺถีติ วินา วิฺตฺติยา ทียมานตฺตา วิฺาเปตฺวา กึ กริสฺสตีติ อธิปฺปาโย. อฺสฺสตฺถายาติ เอตฺถาปิ ‘‘าตกานํ ปวาริตาน’’นฺติ อิทํ อนุวตฺตติเยวาติ อาห ‘‘อตฺตโน าตกปวาริเต’’ติอาทิ. วิกปฺปนุปคจีวรตา, สมยาภาโว, อฺาตกวิฺตฺติ, ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๒๒. สตฺตเม ปาฬิยํ ปคฺคาหิกสาลนฺติ ทุสฺสวาณิชกานํ อาปณํ. ‘‘ปคฺคาหิตสาล’’นฺติปิ ปนฺติ.

๕๒๓-๕๒๔. อภีติ อุปสคฺโคติ ตสฺส วิเสสตฺถาภาวํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘หริตุนฺติ อตฺโถ’’ติ. วร-สทฺทสฺส อิจฺฉายํ วตฺตมานตฺตา อาห ‘‘อิจฺฉาเปยฺยา’’ติ. ทฏฺุ เขมโตติ เอตฺถ คาถาพนฺธวเสน อนุนาสิกโลโป ทฏฺพฺโพ. สอนฺตรนฺติ อนฺตรวาสกสหิตํ. อุตฺตรนฺติ อุตฺตราสงฺคํ. อสฺส จีวรสฺสาติ สาทิตพฺพจีวรสฺส. อจฺฉินฺนสพฺพจีวเรนาติ อจฺฉินฺนานิ สพฺพานิ ตีณิ จีวรานิ อสฺสาติ อจฺฉินฺนสพฺพจีวโร, เตนาติ อตฺโถ. ยสฺส หิ อจฺฉินฺทนสมเย ตีณิ จีวรานิ สนฺนิหิตานิ โหนฺติ, ตานิ สพฺพานิ อจฺฉินฺนานีติ โส ‘‘อจฺฉินฺนสพฺพจีวโร’’ติ วุจฺจติ. เตเนว ‘‘อจฺฉินฺนสพฺพจีวเรน ติจีวรเกนา’’ติ วุตฺตํ. ติจีวรเกนาติ หิ อจฺฉินฺทนสมเย ติจีวรสฺส สนฺนิหิตภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ปน วินยเตจีวริกภาวํ ธุตงฺคเตจีวริกภาวํ วา สนฺธาย. เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ ‘‘สนฺตรุตฺตรปรมํ เตน ภิกฺขุนา ตโต จีวรํ สาทิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตวิธินา ปฏิปชฺชิตพฺพํ. อฺเนาติ อจฺฉินฺนอสพฺพจีวเรน. ยสฺส ตีสุ จีวเรสุ เอกํ วา ทฺเว วา จีวรานิ อจฺฉินฺนานิ โหนฺติ, เตนาติ อตฺโถ. อฺถาปีติ ‘‘สนฺตรุตฺตรปรม’’นฺติ วุตฺตวิธานโต อฺถาปิ. ยสฺส หิ ตีสุ ทฺเว จีวรานิ อจฺฉินฺนานิ โหนฺติ, เอกํ สาทิตพฺพํ. เอกสฺมึ อจฺฉินฺเน น สาทิตพฺพนฺติ น ตสฺส สนฺตรุตฺตรปรมสาทิยนํ สมฺภวติ, อยเมว จ อตฺโถ ปทภาชเนน วิภาวิโต. เตนาห ‘‘ตํ วิภาคํ ทสฺเสตุ’’นฺติ.

เกจิ ปน ‘‘ติจีวรเกนาติ วุตฺตตฺตา ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬวเสน อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชโต ตสฺมึ นฏฺเ พหูนิปิ คเหตุํ ลภตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. ปทภาชนสฺส หิ อธิปฺปายํ ทสฺเสนฺเตน ยสฺมา ปน ‘‘อจฺฉินฺนสพฺพจีวเรน…เป… ตํ วิภาคํ ทสฺเสตุ’’นฺติ วุตฺตํ, ปทภาชเน จ น ตาทิโส อตฺโถ อุปลพฺภติ, ตสฺมา ตํ น คเหตพฺพเมว. ยมฺปิ มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘ยสฺส อธิฏฺิตจีวรสฺส ตีณิ นฏฺานี’’ติ, ตตฺถาปิ อธิฏฺิตคฺคหณํ สรูปกถนมตฺตนฺติ คเหตพฺพํ, น ปน ติจีวราธิฏฺาเนน อธิฏฺิตจีวรสฺเสวาติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ ปาฬิยํ อฏฺกถายฺจ ตถา อตฺถสฺส อสมฺภวโต. น หิ ติจีวราธิฏฺาเนน อธิฏฺิตจีวรสฺเสว อิทํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตนฺติ สกฺกา วิฺาตุํ. ปุริมสิกฺขาปเทน หิ อจฺฉินฺนจีวรสฺส อฺาตกวิฺตฺติยา อนุฺาตตฺตา ปมาณํ อชานิตฺวา วิฺาปนวตฺถุสฺมึ ปมาณโต สาทิยนํ อนุชานนฺเตน ภควตา อิทํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ตสฺมา ‘‘ปริกฺขารโจฬิกสฺส พหุมฺปิ สาทิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อยมตฺโถ เนว ปาฬิยา สเมติ, น จ ภควโต อธิปฺปายํ อนุโลเมติ.

ยสฺส ตีณิ นฏฺานิ, เตน ทฺเว สาทิตพฺพานีติ เอตฺถ ยสฺส ติจีวรโต อธิกมฺปิ จีวรํ อฺตฺถ ิตํ อตฺถิ, ตทาตสฺส จีวรสฺส อลพฺภนียภาวโต เตนปิ สาทิตุํ วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. ปกติยาว สนฺตรุตฺตเรน จรตีติ สาสงฺกสิกฺขาปทวเสน วา อวิปฺปวาสสมฺมุติวเสน วา ตติยสฺส อลาเภน วา จรติ. ‘‘ทฺเว นฏฺานี’’ติ อธิการตฺตา วุตฺตํ ‘‘ทฺเว สาทิตพฺพานี’’ติ. เอกํ สาทิยนฺเตเนว สโม ภวิสฺสตีติ ติณฺณํ จีวรานํ ทฺวีสุ นฏฺเสุ เอกํ สาทิยนฺเตน สโม ภวิสฺสติ อุภินฺนมฺปิ สนฺตรุตฺตรปรมตาย อวฏฺานโต. ยสฺส เอกํเยว โหตีติ อฺเน เกนจิ การเณน วินฏฺเสสจีวรํ สนฺธาย วุตฺตํ.

๕๒๖. ‘‘เสสกํ ตุยฺเหว โหตูติ เทนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ปมาณยุตฺตํ คณฺหิสฺสาม, เสสกํ อาหริสฺสามา’’ติ วตฺวา คเหตฺวา คมนสมเยปิ ‘‘เสสกมฺปิ ตุมฺหากฺเว โหตู’’ติ วทนฺติ, ลทฺธกปฺปิยเมว. ปวาริตานนฺติ อจฺฉินฺนกาลโต ปุพฺเพเยว ปวาริตานํ. ปาฬิยา น สเมตีติ สนฺตรุตฺตรปรมโต อุตฺตริ สาทิยเน อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ ‘‘อนาปตฺติ าตกานํ ปวาริตาน’’นฺติ วุตฺตตฺตา น สเมติ. สนฺตรุตฺตรปรมํ สาทิยนฺตสฺส หิ อาปตฺติปฺปสงฺโคเยว นตฺถิ, สติ จ สิกฺขาปเทน อาปตฺติปฺปสงฺเค อนาปตฺติ ยุตฺตา ทสฺเสตุนฺติ อธิปฺปาโย. เกจิ ปน ‘‘ปมาณเมว วฏฺฏตีติ อิทํ สลฺเลขทสฺสนตฺถํ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ.

ยสฺมา ปนิทํ…เป… น วุตฺตนฺติ เอตฺถายมธิปฺปาโย – ‘‘อฺสฺสตฺถายา’’ติ วุจฺจมาเน อฺเสํ อตฺถาย ปมาณํ อติกฺกมิตฺวาปิ คณฺหิตุํ วฏฺฏตีติ อาปชฺชติ, ตฺจ อฺสฺสตฺถาย วิฺาปนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตตฺตา วตฺถุนา สํสนฺทิยมานํ น สเมติ. น หิ ยํ วตฺถุํ นิสฺสาย สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ตสฺมึเยว อนาปตฺติวจนํ ยุตฺตนฺติ. คณฺิปเทสุ ปน ตีสุปิ ‘‘อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส อตฺตโน สาทิยนปฏิพทฺธตาวเสน ปวตฺตตฺตา ‘อฺสฺสตฺถายา’ติ วตฺตุํ โอกาโสเยว นตฺถิ, ตสฺมา น วุตฺต’’นฺติ กถิตํ. อิธ ‘‘อฺสฺสตฺถายา’’ติ อวุตฺตตฺตา อฺเสํ อตฺถาย าตกปวาริเตสุ อธิกํ วิฺาเปนฺตสฺส อาปตฺตีติ เจ? น, ตตฺถ ปุริมสิกฺขาปเทเนว อนาปตฺติสิทฺธิโต. ตตุตฺตริตา, อจฺฉินฺนาทิการณตา, อฺาตกวิฺตฺติ, ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ปมอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๒๗. อฏฺเม อปิ มยฺยาติ ปาเปิ โสเยวตฺโถ. อยฺยาติ ปน พหุวจเนน อามนฺตนํ กตํ.

๕๒๘-๕๒๙. อปทิสฺสาติ ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสามี’’ติ เอวํ อปทิสิตฺวา. ปจฺจยํ กตฺวาติ การณํ กตฺวา. อุทฺทิสฺสาติ เอตฺถ โย กตฺตาติ ‘‘อุทฺทิสฺสา’’ติ อิมินา วุตฺตอุทฺทิสนกิริยาย โย กตฺตา. จีวรํ เจตาเปนฺติ ปริวตฺเตนฺติ เอเตนาติ จีวรเจตาปนฺนํ. น-การาคมํ กตฺวา จีวรเจตาปนฺนนฺติ วุตฺตํ, ‘‘จีวรเจตาปน’’นฺติปิ ปนฺติ. ปจุรโวหารวเสนาติ เยภุยฺยโวหารวเสน. เยภุยฺยวเสน หิ ฆรสามิกํ ทฏฺุกามา ตสฺส ฆรํ คจฺฉนฺตีติ ตเถว พหุลํ โวหาโร. พฺยฺชนมตฺตเมวาติ อตฺโถ เนตพฺโพ นตฺถีติ อธิปฺปาโย.

๕๓๑. สมเกปิ ปน อนาปตฺตีติ ยทคฺฆนกํ โส ทาตุกาโม โหติ, ตทคฺฆนเก อนาปตฺติ มูลํ วฑฺเฒตฺวา อธิกวิธานํ อนาปนฺนตฺตา. เอตฺถ จ ‘‘ทาตุกาโมมฺหี’’ติ อตฺตโน สนฺติเก อวุตฺเตปิ ทาตุกามตํ สุตฺวา ยทคฺฆนกํ โส ทาตุกาโม โหติ, ตทคฺฆนกํ อาหราเปตุํ วฏฺฏติ. อคฺฆวฑฺฒนกฺหิ อิทํ สิกฺขาปทนฺติ เอตฺถ อคฺฆวฑฺฒนํ เอตสฺส อตฺถีติ อคฺฆวฑฺฒนกํ, อคฺฆวฑฺฒนํ สนฺธาย อิทํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. จีวรํ เทหีติ สงฺฆาฏิอาทีสุ ยํกิฺจิ จีวรํ สนฺธาย วทติ. จีวเร ภิยฺโยกมฺยตา, อฺาตกวิฺตฺติ, ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

ปมอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕๓๒. ทุติยอุปกฺขเฏ วตฺตพฺพํ นตฺถิ.

๑๐. ราชสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๓๗-๕๓๙. ราชสิกฺขาปเท ปน ‘‘อชฺชณฺโห’’ติ ปาเ ‘‘อชฺชุณฺโห’’ติปิ ปนฺติ. โภโคติ ภุฺชิตพฺโพ. ยํ วุตฺตํ มาติกาฏฺกถายํ ‘‘อิมินา จีวรเจตาปนฺเนน จีวรํ เจตาเปตฺวา อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวเรน อจฺฉาเทหีติ อิทํ อาคมนสุทฺธึ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. สเจ หิ ‘อิทํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน เทหี’ติ เปเสยฺย, อาคมนสฺส อสุทฺธตฺตา อกปฺปิยวตฺถุํ อารพฺภ ภิกฺขุนา กปฺปิยการโกปิ นิทฺทิสิตพฺโพ น ภเวยฺยา’’ติ, ตตฺถ อาคมนสฺส สุทฺธิยา วา อสุทฺธิยา วา วิเสสปฺปโยชนํ น ทิสฺสติ. สติปิ หิ อาคมนสฺส อสุทฺธภาเว ทูโต อตฺตโน กุสลตาย กปฺปิยโวหาเรน วทติ, ‘‘กปฺปิยการโก น นิทฺทิสิตพฺโพ’’ติ อิทํ นตฺถิ, น จ ทูเตน กปฺปิยโวหารวเสน วุตฺเต ทายเกน อิทํ กถํ เปสิตนฺติ อีทิสี วิจารณา อุปลพฺภติ, อวิจาเรตฺวา จ ตํ น สกฺกา ชานิตุํ, ยทิ ปน อาคมนสฺส อสุทฺธตฺตา กปฺปิยการโก นิทฺทิสิตพฺโพ น ภเวยฺย, จีวรานํ อตฺถาย ทูตสฺส หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุสฺมึ เปสิเต สพฺพตฺถ ทายเกน กถํ เปสิตนฺติ ปุจฺฉิตฺวาว กปฺปิยการโก นิทฺทิสิตพฺโพ ภเวยฺย. ตสฺมา อสติปิ อาคมนสุทฺธิยํ สเจ โส ทูโต อตฺตโน กุสลตาย กปฺปิยโวหารวเสน วทติ, ทูตสฺเสว วจนํ คเหตพฺพํ. ยทิ หิ อาคมนสุทฺธิเยเวตฺถ ปมาณํ, มูลสามิเกน กปฺปิยโวหารวเสน เปสิตสฺส ทูตสฺส อกปฺปิยโวหารวเสน วทโตปิ กปฺปิยการโก นิทฺทิสิตพฺโพ ภเวยฺย, ตสฺมา สพฺพตฺถ ทูตวจนเมว ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ.

อิมินา จีวรเจตาปนฺเนนาติอาทินา ปน อิมมตฺถํ ทสฺเสติ – กปฺปิย วเสน อาคตมฺปิ จีวรมูลํ อีทิเสน ทูตวจเนน อกปฺปิยํ โหติ, ตสฺมา ตํ ปฏิกฺขิปิตพฺพนฺติ. เตเนวาห – ‘‘เตน ภิกฺขุนา โส ทูโต เอวมสฺส วจนีโย’’ติอาทิ. สุวณฺณํ, รชตํ, กหาปโณ, มาสโกติ อิมานิ หิ จตฺตาริ นิสฺสคฺคิยวตฺถูนิ, มุตฺตา, มณิ, เวฬุริโย, สงฺโข, สิลา, ปวาฬํ, โลหิตงฺโก, มสารคลฺลํ, สตฺต ธฺานิ, ทาสิทาสํ, เขตฺตํ, วตฺถุ, ปุปฺผารามผลารามาทโยติ อิมานิ ทุกฺกฏวตฺถูนิ จ อตฺตโน วา เจติยสงฺฆคณปุคฺคลานํ วา อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏนฺติ, ตสฺมา ตํ สาทิตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘น โข มยํ, อาวุโส, จีวรเจตาปนฺนํ ปฏิคฺคณฺหามา’’ติ วุตฺตํ, ‘‘จีวรฺจ โข มยํ ปฏิคฺคณฺหามา’’ติ อิทํ ปน อตฺตานํ อุทฺทิสฺส อาภตตฺตา วตฺตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา วุตฺตํ. ‘‘เวยฺยาวจฺจกโร นิทฺทิสิตพฺโพ’’ติ อิทํ ‘‘อตฺถิ ปนายสฺมโต โกจิ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ กปฺปิยวจเนน วุตฺตตฺตา อนุฺาตํ. สเจ ปน ทูโต ‘‘โก อิมํ คณฺหาตี’’ติ วา ‘‘กสฺส เทมี’’ติ วา วทติ, น นิทฺทิสิตพฺโพ. ‘‘อารามิโก วา อุปาสโก วา’’ติ อิทํ สารุปฺปตาย วุตฺตํ, เปตฺวา ปน ปฺจ สหธมฺมิเก โย โกจิ กปฺปิยการโก วฏฺฏติ. ‘‘เอโส โข, อาวุโส, ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ อิทํ ภิกฺขุสฺส กปฺปิยวจนทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เอวเมว หิ วตฺตพฺพํ, ‘‘เอตสฺส เทหี’’ติอาทิ น วตฺตพฺพํ. โส วา เจตาเปสฺสติ วาติ เอตฺถ เอโก วา-สทฺโท ปทปูรโณ, ‘‘สฺตฺโต โส มยา’’ติอาทิ ปน ทูเตน เอวํ อาโรจิเตเยว ตํ โจเทตุํ วฏฺฏติ, เนวาสฺส หตฺเถ ทตฺวา คตมตฺตการเณนาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.

เอตานิ หิ วจนานิ…เป… น วตฺตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘เอวํ วทนฺโต ปฏิกฺขิตฺตสฺส กตตฺตา วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ, โจทนา ปน โหติเยวา’’ติ มหาคณฺิปเท มชฺฌิมคณฺิปเท จ วุตฺตํ. อุทฺทิฏฺโจทนาปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวาติ ‘‘ทุติยมฺปิ วตฺตพฺโพ’’ติอาทินา ทสฺเสตฺวา. ปุจฺฉิยมาโนติ เอตฺถ ปุจฺฉิยมาเนนาติ อตฺโถ คเหตพฺโพติ อาห ‘‘กรณตฺเถ ปจฺจตฺตวจน’’นฺติ. อาคตการณํ ภฺชตีติ อาคตการณํ วินาเสติ.

เอตฺถ เกจิ วทนฺติ ‘‘อาคตการณํ นาม จีวรคฺคหณํ, ตํ ภฺชตีติ วุตฺตตฺตา ปุน ตํ จีวรํ เยน เกนจิ อากาเรน คเหตุํ น วฏฺฏตี’’ติ. เกจิ ปน ‘‘อาคตการณํ นาม กายวาจาหิ โจทนา, ตํ ภฺชตีติ วุตฺตตฺตา ปุน ตํ เยน เกนจิ อากาเรน โจเทตุํ น ลภติ. สเจ สยเมว เทติ, มูลสามิโก วา ทาเปติ, คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. อปเร ปน ‘‘อาคตการณํ นาม านํ, ตํ ภฺชตีติ วุตฺตตฺตา ยถา ‘อตฺโถ เม, อาวุโส, จีวเรนา’ติ เอกาย โจทนาย ทฺเว านานิ ภฺชติ, เอวมิธาปิ สเจ อาสเน นิสีทติ, เอกาย นิสชฺชาย ทฺเว านานิ ภฺชติ. อามิสํ เจ ปฏิคฺคณฺหาติ, เอเกน ปฏิคฺคหเณน ทฺเว านานิ ภฺชติ. ธมฺมํ เจ ภาสติ, ธมฺมเทสนาสิกฺขาปเท วุตฺตปริจฺเฉทาย เอกาย วาจาย ทฺเว านานิ ภฺชตี’’ติ วทนฺติ. อิเมสํ ปน สพฺเพสมฺปิ วาทํ ‘‘อยุตฺต’’นฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ตีสุปิ คณฺิปเทสุ อิทํ วุตฺตํ ‘‘อาคตการณํ นาม านเมว, ตสฺมา ‘น กตฺตพฺพ’นฺติ วาริตสฺส กตตฺตา นิสชฺชาทีสุ กเตสุ ฉสุ าเนสุ เอกํ านํ ภฺชตี’’ติ.

ตตฺร ตตฺร าเน ติฏฺตีติ อิทํ โจทกสฺส ิตฏฺานโต อปกฺกมฺม ตตฺร ตตฺร อุทฺทิสฺส านํเยว สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘สามํ วา คนฺตพฺพํ, ทูโต วา ปาเหตพฺโพ’’ติ อิทํ สภาวโต โจเทตุํ อนิจฺฉนฺเตนปิ กาตพฺพเมวาติ วทนฺติ. มุขํ วิวริตฺวา สยเมว กปฺปิยการกตฺตํ อุปคโตติ มุขเววฏิกกปฺปิยการโก. อวิจาเรตุกามตายาติ อิมสฺมึ ปกฺเข ‘‘นตฺถมฺหากํ กปฺปิยการโก’’ติ อิทํ ‘‘ตาทิสํ กโรนฺโต กปฺปิยการโก นตฺถี’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน วุตฺตํ.

‘‘เมณฺฑกสิกฺขาปเท วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา อิทานิ ตํ เมณฺฑกสิกฺขาปทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิมาห. อิทเมว หิ ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สทฺธา ปสนฺนา’’ติอาทิวจนํ เภสชฺชกฺขนฺธเก เมณฺฑกวตฺถุสฺมึ (มหาว. ๒๙๙) วุตฺตตฺตา ‘‘เมณฺฑกสิกฺขาปท’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ หิ เมณฺฑเกน นาม เสฏฺินา –

‘‘สนฺติ, ภนฺเต, มคฺคา กนฺตารา อปฺโปทกา อปฺปภกฺขา, น สุกรา อปาเถยฺเยน คนฺตุํ, สาธุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาเถยฺยํ อนุชานาตู’’ติ –

ยาจิเตน ภควตา –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปาเถยฺยํ ปริเยสิตุํ. ตณฺฑุโล ตณฺฑุลตฺถิเกน, มุคฺโค มุคฺคตฺถิเกน, มาโส มาสตฺถิเกน, โลณํ โลณตฺถิเกน, คุโฬ คุฬตฺถิเกน, เตลํ เตลตฺถิเกน, สปฺปิ สปฺปิตฺถิเกนา’’ติ –

วตฺวา อิทํ วุตฺตํ –

‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, มนุสฺสา สทฺธา ปสนฺนา, เต กปฺปิยการกานํ หตฺเถ หิรฺํ อุปนิกฺขิปนฺติ ‘อิมินา อยฺยสฺส ยํ กปฺปิยํ, ตํ เทถา’ติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ ตโต กปฺปิยํ, ตํ สาทิตุํ, น ตฺเววาหํ ภิกฺขเว เกนจิ ปริยาเยน ชาตรูปรชตํ สาทิตพฺพํ ปริเยสิตพฺพนฺติ วทามี’’ติ.

หิรฺํ อุปนิกฺขิปนฺตีติ เอตฺถาปิ ภิกฺขุสฺส อาโรจนํ อตฺถิเยวาติ คเหตพฺพํ. อฺถา อนิทฺทิฏฺกปฺปิยการกตฺตํ ภชตีติ น โจเทตพฺโพ สิยา. ยทิ มูลํ สนฺธาย โจเทติ, ตํ สาทิตเมว สิยาติ อาห ‘‘มูลํ อสาทิยนฺเตนา’’ติ.

‘‘อฺาตกอปฺปวาริเตสุ วิย ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ อิทํ อตฺตนา โจทนาานฺจ น กาตพฺพนฺติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อฺํ ปน กปฺปิยการกํ เปเสตฺวา โลกจาริตฺตวเสน อนุยุฺชิตฺวาปิ กปฺปิยวตฺถุํ อาหราเปตุํ วฏฺฏติ อตฺตานํ อุทฺทิสฺส นิกฺขิตฺตสฺส อตฺตโน สนฺตกตฺตา’’ติ เกจิ วทนฺติ, ตํ อฏฺกถายํ ‘‘อฺาตกอปฺปวาริเตสุ วิย ปฏิปชฺชิตพฺพํ. สเจ สยเมว จีวรํ อาเนตฺวา เทนฺติ, คเหตพฺพํ. โน เจ, กิฺจิ น วตฺตพฺพา’’ติ ทฬฺหํ กตฺวา วุตฺตตฺตา น คเหตพฺพนฺติ อมฺหากํ ขนฺติ. น หิ อฺาตกอปฺปวาริตํ สยํ อวิฺาเปตฺวา อฺเน วิฺาเปตุํ วฏฺฏติ, น จ ยตฺถ อฺํ เปเสตฺวา อาหราเปตุํ วฏฺฏติ, ตตฺถ สยํ คนฺตฺวา น อาหราเปตพฺพนฺติ สกฺกา วตฺถุํ. ยทิ เจตฺถ อฺเน อาหราเปตุํ วฏฺฏติ, ‘‘อฺาตกอปฺปวาริเตสุ วิย ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติอาทิวจนเมว นิรตฺถกํ สิยา. ‘‘ทูเตนา’’ติ อิมสฺส พฺยภิจารํ ทสฺเสติ ‘‘สยํ อาหริตฺวาปี’’ติ. ททนฺเตสูติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถายาติ อิมินา ปน ‘‘จีวรเจตาปนฺน’’นฺติ อิมสฺส พฺยภิจารํ ทสฺเสติ. ‘‘เอเสว นโย’’ติ วุตฺตตฺตา ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถาย ทินฺเนปิ านโจทนาทิ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว กาตพฺพํ.

ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ อาปตฺตีติ ปฏิคฺคหเณ ปาจิตฺติยํ, ปริโภเค ทุกฺกฏํ. สฺเวว สาปตฺติโกติ ทุกฺกฏาปตฺตึ สนฺธาย วทติ. อิทฺจ อฏฺกถาปมาเณเนว คเหตพฺพํ. ‘‘ปรสฺส นิทฺโทสภาวทสฺสนตฺถํ สฺเวว สาปตฺติโก สโทโสติ วุตฺตํ โหตี’’ติปิ วทนฺติ. ‘‘โจเทตีติ วุตฺตตฺตา ปน อาปตฺติยา โจเทตีติ กตฺวา สฺเวว สาปตฺติโกติ อิทํ ทุกฺกฏํเยว สนฺธาย วตฺตุํ ยุตฺต’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ อาปตฺติเยวาติ ทุกฺกฏเมว สนฺธาย วุตฺตํ. ตฬากสฺสปิ เขตฺตสงฺคหิตตฺตา ตสฺส ปฏิคฺคหเณปิ อาปตฺติ วุตฺตา. จตฺตาโร ปจฺจเย สงฺโฆ ปริภุฺชตูติ เทตีติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุสงฺโฆ จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภุฺจตุ, ตฬากํ ทมฺมี’’ติ วา ‘‘จตุปจฺจยปริโภคตฺถํ ตฬากํ ทมฺมี’’ติ วา วทติ, วฏฺฏติเยว. ‘‘อิโต ตฬากโต อุปฺปนฺเน จตฺตาโร ปจฺจเย ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.

อมฺหากํ เอกํ กปฺปิยการกํ เปถาติ วุตฺเตติ อิทํ อีทิสํเยว สนฺธาย วุตฺตํ. กปฺปิยกฺกเมน สมฺปฏิจฺฉิเตสุ เขตฺตตฬากาทีสุ ปน อวุตฺเตปิ กปฺปิยการกํ เปตุํ ลพฺภติเยว. ยสฺมา ปรสนฺตกํ นาเสตุํ ภิกฺขูนํ น วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘น สสฺสกาเล’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ชนปทสฺส สามิโกติ อิมินาว โย ตํ ชนปทํ วิจาเรติ, เตนปิ อจฺฉินฺทิตฺวา ทินฺนํ วฏฺฏติเยวา’’ติ วทนฺติ. อุทกวาหกนฺติ อุทกมาติกํ. กปฺปิยโวหาเรปีติ เอตฺถ ‘‘วิธานํ วกฺขามา’’ติ ปาเสโส. อุทกวเสนาติ อุทกปริโภคตฺถํ. สุทฺธจิตฺตานนฺติ เกวลํ อุทกปริโภคตฺถเมวาติ อธิปฺปาโย. อลชฺชินา การาปิเต วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อาห ‘‘ลชฺชีภิกฺขุนา’’ติ. ปกติภาโค นาม อิมสฺมึ รฏฺเ จตุอมฺพณมตฺตํ. อกฏฺปุพฺพํ นวสสฺสํ นาม. อปริจฺฉินฺนภาเคติ ‘‘เอตฺตเก ภูมิภาเค เอตฺตโก ภาโค ทาตพฺโพ’’ติ เอวํ อปริจฺฉินฺนภาเค.

รชฺชุยา วา ทณฺเฑน วาติ เอตฺถ ‘‘ปาเทหิปิ มินิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. ขเล วา ตฺวา รกฺขตีติ เอตฺถ ปน เถเนตฺวา คณฺหนฺเต ทิสฺวา ‘‘มา คณฺหถา’’ติ นิวาเรนฺโต รกฺขติ นาม. สเจ ปน อวิจาเรตฺวา เกวลํ ตุณฺหีภูโตว รกฺขณตฺถาย โอโลเกนฺโต ติฏฺติ, วฏฺฏติ. สเจปิ ตสฺมึ ตุณฺหีภูเต โจริกาย หรนฺติ, ‘‘มยํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อาโรเจสฺสามา’’ติ เอวํ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. นีหราเปติ ปฏิสาเมตีติ เอตฺถาปิ ‘‘สเจ ปริยาเยน วทติ, วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. อปุพฺพสฺส อนุปฺปาทิตตฺตา อฺเสํ วฏฺฏตีติ อาห ‘‘ตสฺเสว ตํ อกปฺปิย’’นฺติ.

นนุ จ ทุพฺพิจาริตมตฺเตน ตสฺเสว ตํ อกปฺปิยํ, น สพฺเพสํ รูปิยสํโวหาเร จตุตฺถปตฺโต วิย. วุตฺตฺหิ ตตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๙) ‘‘โย ปน รูปิยํ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘เถรสฺส ปตฺตํ กิณิตฺวา เทหี’ติ ปหิตกปฺปิยการเกน สทฺธึ กมฺมารกุลํ คนฺตฺวา ปตฺตํ ทิสฺวา ‘อิเม กหาปเณ คเหตฺวา อิมํ เทหี’ติ กหาปเณ ทาเปตฺวา คหิโต, อยํ ปตฺโต เอตสฺเสว ภิกฺขุโน น วฏฺฏติ ทุพฺพิจาริตตฺตา, อฺเสํ ปน วฏฺฏติ มูลสฺส อสมฺปฏิจฺฉิตตฺตา’’ติ. ตสฺมา ยํ เต อาหรนฺติ, สพฺเพสํ อกปฺปิยํ. กสฺมา? กหาปณานํ วิจาริตตฺตาติ อิทํ กสฺมา วุตฺตนฺติ? เอตฺถ เกจิ วทนฺติ ‘‘กหาปเณ สาทิยิตฺวา วิจาริตํ สนฺธาย เอวํ วุตฺต’’นฺติ. สงฺฆิกตฺตา จ นิสฺสชฺชิตุํ น สกฺกา, ตสฺมา สพฺเพสํ น กปฺปตีติ เตสํ อธิปฺปาโย. เกจิ ปน ‘‘อสาทิยิตฺวาปิ กหาปณานํ วิจาริตตฺตา รูปิยสํโวหาโร กโต โหติ, สงฺฆิกตฺตา จ นิสฺสชฺชิตุํ น สกฺกา, ตสฺมา สพฺเพสํ น กปฺปตี’’ติ วทนฺติ. คณฺิปเทสุ ปน ตีสุปิ อิทํ วุตฺตํ ‘‘จตุตฺถปตฺโต คิหิสนฺตกานํเยว กหาปณานํ วิจาริตตฺตา อฺเสํ กปฺปติ, อิธ ปน สงฺฆิกานํ วิจาริตตฺตา สพฺเพสํ น กปฺปตี’’ติ. สพฺเพสมฺปิ วาโท เตน เตน ปริยาเยน ยุชฺชติเยว.

จตุสาลทฺวาเรติ โภชนสาลํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปริยาเยน กถิตตฺตาติ ‘‘คณฺหา’’ติ อวตฺวา ‘‘สีมา คตา’’ติ ปริยาเยน กถิตตฺตา. ปกติภูมิกรณตฺถํ ‘‘เหฏฺา คหิตํ ปํสุ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ทาสํ ทมฺมีติ เอตฺถ ‘‘มนุสฺสํ ทมฺมีติ วุตฺเต วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. กุกฺกุฏสูกรา…เป… วฏฺฏตีติ เอตฺถ กุกฺกุฏสูกเรสุ ทียมาเนสุ ‘‘อิเมหิ อมฺหากํ อตฺโถ นตฺถิ, สุขํ ชีวนฺตุ, อรฺเ วิสฺสชฺเชถา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘เขตฺตวตฺถุปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหตี’’ติอาทิวจนโต (ที. นิ. ๑.๑๐, ๑๙๔) เขตฺตาทีนํ ปฏิคฺคหเณ อยํ สพฺโพ วินิจฺฉโย วุตฺโต. กปฺปิยการกสฺส ภิกฺขุนา นิทฺทิฏฺภาโว, ทูเตน อปฺปิตตา, ตตุตฺตริ วายาโม, เตน วายาเมน ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

ราชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิโต จีวรวคฺโค ปโม.

๒. โกสิยวคฺโค

๑. โกสิยสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๔๒. ปาฬิยํ ‘‘โกสิยการเก’’ติ เอตฺถ โกสํ กโรนฺตีติ โกสการกาติ ลทฺธโวหารานํ ปาณกานํ โกสโต นิพฺพตฺตํ โกสิยํ, ตํ กโรนฺตีติ โกสิยการกา, ตนฺตวายา. สํหนนํ สงฺฆาโต, วินาโสติ อตฺโถ. โกสิยมิสฺสกนฺติ โกสิยตนฺตุนา มิสฺสํ. ‘‘อวายิม’’นฺติ วุตฺตตฺตา วายิตฺวา เจ กโรนฺติ, อนาปตฺติ. อนาปตฺติ วิตานํ วาติอาทินา วิตานาทีนํ อตฺถาย กรเณปิ เตนากาเรน ปริโภเคปิ อนาปตฺติ วุตฺตา.

เอวมฺปิ มิสฺเสตฺวา กตเมว โหตีติ อิมินา วาเตน อาหริตฺวา ปาติเตปิ อจิตฺตกตฺตา อาปตฺติเยวาติ ทสฺเสติ. โกสิยมิสฺสกตา, อตฺตโน อตฺถาย สนฺถตสฺส กรณํ การาปนํ, ปฏิลาโภ จาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

โกสิยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕๔๗. สุทฺธกาฬกสิกฺขาปทํ อุตฺตานตฺถเมว.

๓. ทฺเวภาคสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๕๒. ทฺเวภาคสิกฺขาปเท ปน ทฺเว ภาคาติ อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท กาฬกานํ อธิกคฺคหณสฺส ปฏิกฺเขปวเสน สิกฺขาปทสฺส ปฺตฺตตฺตา. ตติยํ โอทาตานํ จตุตฺถํ โคจริยานนฺติ อยํ เหฏฺิมปริจฺเฉโท เตสํ อธิกคฺคหเณ ปฏิกฺเขปาภาวโต, ตสฺมา กาฬกานํ ภาคทฺวยโต อธิกํ น วฏฺฏติ, เสสานํ ปน วุตฺตปฺปมาณโต อธิกมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘กาฬกานํเยว จ อธิกคฺคหณสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา กาฬกานํ อุปฑฺฒํ โอทาตานํ วา โคจริยานํ วา อุปฑฺฒํ คเหตฺวาปิ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ‘‘อนาปตฺติ พหุตรํ โอทาตานํ พหุตรํ โคจริยานํ อาทิยิตฺวา กโรติ, สุทฺธํ โอทาตานํ สุทฺธํ โคจริยานํ อาทิยิตฺวา กโรตี’’ติ อิมินา ตํ สเมติ. ‘‘กาฬเก โอทาเต จ เปตฺวา เสสา โคจริเยสุเยว สงฺคหํ คจฺฉนฺตี’’ติ วทนฺติ. ทฺเว โกฏฺาสา กาฬกานนฺติ เอตฺถ ปน ‘‘เอกสฺสปิ กาฬกโลมสฺส อติเรกภาเว นิสฺสคฺคิยํ โหตี’’ติ มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ทฺเวภาคสิกฺขาปทวณฺณนา) ตฺตํ, ตํ ‘‘ธารยิตฺวา ทฺเว ตุลา อาทาตพฺพา’’ติ วจนโต ตุลาธารณาย น สเมติ. น หิ โลเม คเณตฺวา ตุลาธารณา กรียติ, อถ คเณตฺวาว ธารยิตพฺพํ สิยา, กึ ตุลาธารณาย, ตสฺมา เอวเมตฺถ อธิปฺปาโย ยุตฺโต สิยา – อจิตฺตกตฺตา สิกฺขาปทสฺส ปุพฺเพ ตุลาย ธารยิตฺวา ปิเตสุ เอกมฺปิ โลมํ ตตฺถ ปเตยฺย, นิสฺสคฺคิยนฺติ. อฺถา ทุพฺพิฺเยฺยภาวโต ทฺเว ตุลา นาทาตพฺพา, อูนกตราว อาทาตพฺพา สิยุํ.

ทฺเวภาคสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๕๗. ฉพฺพสฺสสิกฺขาปเท ปน ‘‘เยสํ โน สนฺถเต ทารกา อุหทนฺติปิ อุมฺมิหนฺติปิ, เยสํ โน สนฺถตา อุนฺทูเรหิปิ ขชฺชนฺตี’’ติ เอวํ ปาฬิปทานํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. หท กรีโสสฺสคฺเค, มิห เสจเนติ ปนิมสฺสตฺถํ สนฺธายาห ‘‘วจฺจมฺปิ ปสฺสาวมฺปิ กโรนฺตี’’ติ. ปวารณาอุโปสถปาฏิปททิวเสสุ สนฺถตํ กริตฺวา ปุน ฉฏฺเ วสฺเส ปริปุณฺเณ ปวารณาอุโปสถปาฏิปททิวเสสุ กโรนฺโต ‘‘ฉพฺพสฺสานิ กโรตี’’ติ วุจฺจติ. ทุติยทิวสโต ปฏฺาย กโรนฺโต ปน อติเรกฉพฺพสฺสานิ กโรติ นาม.

ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๖๕-๖. นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปเท ปน ปฺายิสฺสตีติ สเจ สา กติกา มนาปา ภวิสฺสติ, มนาปตาย ภิกฺขุสงฺโฆ สนฺทิสฺสิสฺสติ. สเจ อมนาปา, อมนาปตาย สนฺทิสฺสิสฺสตีติ อธิปฺปาโย, อารฺกงฺคาทีนิ ตีณิ ปาฬิยํ ปธานงฺควเสน วุตฺตานิ, เสสานิปิ เต สมาทิยึสุเยวาติ เวทิตพฺพํ. เตเนวาห ‘‘สนฺถเต จตุตฺถจีวรสฺิตายา’’ติ. อุชฺฌิตฺวาติ วิสฺสชฺเชตฺวา.

๕๖๗. นิสีทนสนฺถตตฺตา นิวาสนปารุปนกิจฺจํ นตฺถีติ อาห ‘‘สกึ นิสินฺนฺเจว นิปนฺนฺจา’’ติ. วิทตฺถิมตฺตนฺติ สุคตวิทตฺถึ สนฺธาย วทติ. อิทฺจ เหฏฺิมปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘วิตานาทีนํเยว อตฺถาย กรเณ อนาปตฺติวจนโต สเจ นิปชฺชนตฺถาย กโรนฺติ, อาปตฺติเยวา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. อกปฺปิยตฺตา ปน ‘‘ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อิทฺจ นิสีทนสนฺถตํ นาม นิสีทนจีวรเมว, นาฺนฺติ วทนฺติ. นิสีทนสิกฺขาปเทปิ นิสีทนํ นาม สทสํ วุจฺจตีติ จ อฏฺกถายฺจสฺส ‘‘สนฺถตสทิสํ สนฺถริตฺวา เอกสฺมึ อนฺเต สุคตวิทตฺถิยา วิทตฺถิมตฺเต ปเทเส ทฺวีสุ าเนสุ ผาเลตฺวา ติสฺโส ทสา กรียนฺติ, ตาหิ ทสาหิ สทสํ นาม วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๓๑) วจนโต อิธาปิ ‘‘นิสีทนํ นาม สทสํ วุจฺจตี’’ติ จ ‘‘สนฺถเต จตุตฺถจีวรสฺิตายา’’ติ จ วจนโต ตํ ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ. เกจิ ปน ‘‘นิสีทนสนฺถตํ เอฬกโลมานิ สนฺถริตฺวา สนฺถตํ วิย กโรนฺติ, ตํ อวายิมํ อนธิฏฺานุปคํ, นิสีทนจีวรํ ปน ฉนฺนํ จีวรานํ อฺตเรน กโรติ อธิฏฺานุปคํ, ตํ กโรนฺตา จ นนฺตกานิ สนฺถริตฺวา สนฺถตสทิสํ กโรนฺตี’’ติ วทนฺติ, วีมํสิตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพํ.

นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. เอฬกโลมสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๗๑. เอฬโลมสิกฺขาปเท ปน อาสุมฺภีติ เอตฺถ ‘‘อสุมฺภี’’ติ ปนฺติ. กิลนฺตาติ อิมินา กิลนฺตตาย เต โอนมิตฺวา ปาเตตุํ น สกฺโกนฺตีติ ทสฺเสติ. อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนสฺสาติ อิทํ วตฺถุมตฺตทีปนวเสน ปาฬิยํ วุตฺตํ. ยตฺถ กตฺถจิ ปน ธมฺเมน ลภิตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติเยว. ติโยชนปรมนฺติ จ คหิตฏฺานโต ติโยชนปฺปมาณํ เทสนฺติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ.

๕๗๒. สหตฺถาติ กรณตฺเถ นิสฺสกฺกวจนนฺติ อาห ‘‘สหตฺเถนา’’ติ. อสนฺเต หารเกติ ปาฬิยํ ภิกฺขุโน อนุรูปตาทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น ปน หารเก วิชฺชมาเน ติโยชนพฺภนฺตเร สหตฺถา หรนฺตสฺส อาปตฺติทสฺสนตฺถํ. ติโยชนโต พหิ พหิติโยชนนฺติ อาห ‘‘ติโยชนโต พหิ ปาเตตี’’ติ. เตน หริเตปิ อาปตฺติเยวาติ สอุสฺสาหตฺตา อนาณตฺติยา หฏตฺตา จ. สติปิ หิ สอุสฺสาหภาเว อาณตฺติยา เจ หรติ, อนาปตฺติ ‘‘อฺํ หราเปตี’’ติ วจนโต. อฺโ หริสฺสตีติ อธิปฺปายาภาวโต ‘‘สุทฺธจิตฺเตน ปิต’’นฺติ วุตฺตํ. สอุสฺสาหตฺตาติ ติโยชนาติกฺกมเน สอุสฺสาหตฺตา. อิทฺจ ‘‘อฺโ หริสฺสตี’’ติ อสุทฺธจิตฺเตน ปิตํ สนฺธาย วุตฺตํ, อจิตฺตกตฺตาติ อิทํ ปน สุทฺธจิตฺเตน ปิตํ สนฺธาย. อนาปตฺติ ปาฬิยา น สเมตีติ ‘‘ติโยชนํ หรตี’’ติอาทิปาฬิยา, วิเสสโต ‘‘อฺํ หราเปตี’’ติ ปาฬิยา จ น สเมติ.

สเจ สามิกํ ชานาเปตฺวา เปติ, อาณตฺติยา หราเปติ นามาติ อาห ‘‘สามิกสฺส อชานนฺตสฺเสวา’’ติ. อคจฺฉนฺเตปีติ คมนํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา ิตยาเนปิ. เหฏฺา วา คจฺฉนฺโตติ ภูมิยํ คจฺฉนฺโต. อฺํ หราเปตีติ เอตฺถ อฺ-คฺคหเณน สามฺโต ติรจฺฉานคตาปิ สงฺคหิตาติ อาห – ‘‘อฺํ หราเปตีติ วจนโต อนาปตฺตี’’ติ. สุงฺกฆาเต อาปตฺติ โหตีติ อฺํ หราเปนฺตสฺส อาปตฺติ. ตตฺถ อนาปตฺตีติ อฺวิหิตสฺส เถยฺยจิตฺตาภาวโต อนาปตฺติ.

๕๗๕. ‘‘ตํ หรนฺตสฺสาติ ปุน ติโยชนํ หรนฺตสฺสา’’ติ มหาคณฺิปเท วุตฺตํ. ตํ ปน มาติกาฏฺกถายํ องฺเคสุ ‘‘ปมปฺปฏิลาโภ สติ อิมินา วจเนน น สเมติ. ‘‘ปมปฺปฏิลาโภ’’ติ หิ อิทํ ทุติยปฺปฏิลาโภ อาปตฺติยา องฺคํ น โหตีติ ทีเปติ, ตสฺมา ปาฬิยํ อฏฺกถายฺจ วิเสสาภาวโต อจฺฉินฺนํ ปฏิลภิตฺวา หรนฺตสฺส ปุน ติโยชนาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ วุตฺตาติ อมฺหากํ ขนฺติ. อฺถา อจฺฉินฺนํ ปฏิลภิตฺวา ปุน ติโยชนํ หรตีติ วเทยฺย. วีมํสิตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพํ. อนาปตฺติ กตภณฺฑนฺติ เอตฺถ ‘‘กมฺพลโกชวาทิกตภณฺฑมฺปิ. ปกติจีวเร ลคฺคโลมานิ อาปตฺตึ ชเนนฺติเยวา’’ติ วทนฺติ. ตนุกปตฺตตฺถวิกนฺตเร อฆฏฺฏนตฺถํ ปกฺขิปนฺติ. ปกฺขิตฺตนฺติ กณฺณจฺฉิทฺเท ปกฺขิตฺตํ. นิธานมุขํ นามาติ อิมินา กตภณฺฑสงฺขฺยํ น คจฺฉตีติ ทสฺเสติ. เอฬกโลมานํ อกตภณฺฑตา, ปมปฺปฏิลาโภ, อตฺตนา อาทาย วา อฺสฺส อชานนฺตสฺส ยาเน ปกฺขิปิตฺวา วา ติโยชนาติกฺกมนํ, อาหรณปจฺจาหรณํ, อวาสาธิปฺปายตาติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.

เอฬกโลมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕๗๖. เอฬกโลมโธวาปนสิกฺขาปทํ อุตฺตานตฺถเมว.

๘. รูปิยสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๘๓-๕๘๔. รูปิยสิกฺขาปเท ปน สตฺถุวณฺโณติ สตฺถุนา สมานวณฺโณ. สตฺถุโน วณฺโณ สตฺถุวณฺโณ, สตฺถุวณฺโณ วิย วณฺโณ อสฺสาติ สตฺถุวณฺโณติ มชฺฌปทโลปีสมาโส ทฏฺพฺโพ. ปากติโก นาม เอตรหิ ปกติกหาปโณ. รุกฺขผลพีชมโยติ ตินฺติณิกาทิรุกฺขานํ ผลพีเชน กโต. อิจฺเจตํ สพฺพมฺปีติ ยถาวุตฺตเภทํ สพฺพมฺปิ จตุพฺพิธํ นิสฺสคฺคิยวตฺถุ โหตีติ สมฺพนฺโธ. ชาตรูปมาสโกติ สุวณฺณกหาปโณ.

คณฺเหยฺยาติ อตฺตโน อตฺถาย ทียมานํ วา กตฺถจิ ิตํ วา นิปฺปริคฺคหํ ทิสฺวา สยํ คณฺเหยฺย. ‘‘อิทํ อยฺยสฺส โหตู’’ติ เอวํ สมฺมุขา วา ‘‘อสุกสฺมึ นาม าเน มม หิรฺสุวณฺณํ อตฺถิ, ตํ ตุยฺหํ โหตู’’ติ เอวํ ปรมฺมุขา ิตํ วา เกวลํ วาจาย วา หตฺถมุทฺทาย วา ‘‘ตุยฺห’’นฺติ วตฺวา ปริจฺจตฺตสฺส กายวาจาหิ อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา จิตฺเตน สาทิยนํ อุปนิกฺขิตฺตสาทิยนํ นาม. ‘‘สาทิยตี’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวติ ‘‘คณฺหิตุกาโม โหตี’’ติ. ‘‘อิทํ คุตฺตฏฺาน’’นฺติ อาจิกฺขิตพฺพนฺติ ปจฺจยปริโภคํเยว สนฺธาย อาจิกฺขิตพฺพํ. ‘‘อิธ นิกฺขิปาหี’’ติ วุตฺเต ‘‘อุคฺคณฺหาเปยฺย วา’’ติ วุตฺตลกฺขเณน นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ อาห – ‘‘อิธ นิกฺขิปาหีติ น วตฺตพฺพ’’นฺติ. ปรโต ‘‘อิมํ คณฺหา’’ติ น วตฺตพฺพนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. กปฺปิยฺจ อกปฺปิยฺจ นิสฺสาย ิตเมว โหตีติ ยสฺมา ตโต อุปฺปนฺนปจฺจยปริโภโค กปฺปติ, ตสฺมา กปฺปิยํ นิสฺสาย ิตํ. ยสฺมา ปน ทุพฺพิจารณาย ตโต อุปฺปนฺนปจฺจยปริโภโคปิ น กปฺปติ, ตสฺมา อกปฺปิยํ นิสฺสาย ิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

น เตน กิฺจิ กปฺปิยภณฺฑํ เจตาปิตนฺติ เอตฺถ เจตาปิตํ เจ, นตฺถิ ปริโภคุปาโย, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ. อกปฺปิยฺหิ นิสฺสคฺคิยํ วตฺถุํ อุคฺคณฺหิตฺวา ตํ อนิสฺสชฺชิตฺวาว เจตาปิตํ กปฺปิยภณฺฑํ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺมฺปิ สพฺเพสํ น กปฺปติ. เกจิ ปน ‘‘ยสฺมา นิสฺสคฺคิยํ วตฺถุํ ปฏิคฺคเหตฺวา เจตาปิตํ กปฺปิยภณฺฑํ สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชามีติ นิสฺสฏฺํ วินาว อุปายํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘น เตน กิฺจิ กปฺปิยภณฺฑํ เจตาปิต’นฺติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. ‘‘อารามิกานํ วา ปตฺตภาคนฺติ อิทํ คิหีนํ หตฺถคโตปิ โสเยว ภาโคติ กตฺวา วุตฺตํ. สเจ ปน เตน อฺํ ปริวตฺเตตฺวา อารามิกา เทนฺติ, ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ มชฺฌิมคณฺิปเท จูฬคณฺิปเท จ วุตฺตํ. ตโต หริตฺวาติ อฺเสํ ปตฺตภาคโต หริตฺวา. กสิณปริกมฺมนฺติ อาโลกกสิณปริกมฺมํ. มฺจปีาทีนิ วาติ เอตฺถ ‘‘ตโต คหิตมฺจปีาทีนิ ปริวตฺเตตฺวา อฺํ เจ คหิตํ, วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. ฉายาปีติ โภชนสาลาทีนํ ฉายาปิ. ปริจฺเฉทาติกฺกนฺตาติ เคหปริจฺเฉทํ อติกฺกนฺตา, ฉายาย คตคตฏฺานํ เคหํ นาม น โหตีติ อธิปฺปาโย. มคฺเคนปีติ เอตฺถ ‘‘สเจ อฺโ มคฺโค นตฺถิ, มคฺคํ อธิฏฺหิตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. กีตายาติ เตน วตฺถุนา กีตาย. อุปนิกฺเขปํ เปตฺวา สงฺโฆ ปจฺจเย ปริภุฺชตีติ สเจ อุปาสโก ‘‘อติพหุ เอตํ หิรฺํ, อิทํ, ภนฺเต, อชฺเชว น วินาเสตพฺพ’’นฺติ วตฺวา สยํ อุปนิกฺเขปํ เปติ, อฺเน วา ปาเปติ, เอตํ อุปนิกฺเขปํ เปตฺวา ตโต อุทยํ ปริภุฺชนฺโต สงฺโฆ ปจฺจเย ปริภุฺชติ, เตน วตฺถุนา คหิตตฺตา ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ วุตฺตํ.

๕๘๕. ปติโตกาสํ อสมนฺนาหรนฺเตน ปาเตตพฺพนฺติ อิทํ นิรเปกฺขภาวทสฺสนปรนฺติ เวทิตพฺพํ, ตสฺมา ปติตฏฺาเน าเตปิสฺส คูถํ ฉฑฺเฑนฺตสฺส วิย นิรเปกฺขภาโวเยเวตฺถ ปมาณนฺติ เวทิตพฺพํ. อสนฺตสมฺภาวนายาติ อตฺตนิ อวิชฺชมานอุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนํ สนฺธาย วุตฺตํ. เถยฺยปริโภโค นาม อนรหสฺส ปริโภโค. ภควตา หิ อตฺตโน สาสเน สีลวโต ปจฺจยา อนุฺาตา, น ทุสฺสีลสฺส. ทายกานมฺปิ สีลวโต เอว ปริจฺจาโค, น ทุสฺสีลสฺส อตฺตโน การานํ มหปฺผลภาวสฺส ปจฺจาสีสนโต. อิติ สตฺถารา อนนุฺาตตฺตา ทายเกหิ จ อปริจฺจตฺตตฺตา ทุสฺสีลสฺส ปริโภโค เถยฺยปริโภโค. อิณวเสน ปริโภโค อิณปริโภโค, ปฏิคฺคาหกโต ทกฺขิณาวิสุทฺธิยา อภาวโต อิณํ คเหตฺวา ปริโภโค วิยาติ อตฺโถ. ตสฺมาติ ‘‘สีลวโต’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ การณภาเวน ปจฺจามสติ. จีวรํ ปริโภเค ปริโภเคติ กายโต โมเจตฺวา โมเจตฺวา ปริโภเค. ปุเรภตฺต…เป… ปจฺฉิมยาเมสุ ปจฺจเวกฺขิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ตถา อสกฺโกนฺเตน ยถาวุตฺตกาลวิเสสวเสน เอกสฺมึ ทิวเส จตุกฺขตฺตุํ ติกฺขตฺตุํ ทฺวิกฺขตฺตุํ สกึเยว วา ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ.

สจสฺส อปจฺจเวกฺขโตว อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, อิณปริโภคฏฺาเน ติฏฺตีติ เอตฺถ ‘‘หิยฺโย ยํ มยา จีวรํ ปริภุตฺตํ, ตํ ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตาย…เป… หิริโกปีนปฺปฏิจฺฉาทนตฺถํ, หิยฺโย โย มยา ปิณฺฑปาโต ปริภุตฺโต, โส เนว ทวายาติอาทินา สเจ อตีตปริโภคปจฺจเวกฺขณํ น กเรยฺย, อิณปริโภคฏฺาเน ติฏฺตี’’ติ วทนฺติ, วีมํสิตพฺพํ. เสนาสนมฺปิ ปริโภเค ปริโภเคติ ปเวเส ปเวเส. เอวํ ปน อสกฺโกนฺเตน ปุเรภตฺตาทีสุ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ. ตํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว สกฺกา วิฺาตุนฺติ อิธ วิสุํ น วุตฺตํ. สติปจฺจยตาติ สติยา ปจฺจยภาโว, ปฏิคฺคหณสฺส ปริโภคสฺส จ ปจฺจเวกฺขณสติยา ปจฺจยภาโว ยุชฺชติ, ปจฺจเวกฺขิตฺวาว ปฏิคฺคเหตพฺพํ ปริภุฺชิตพฺพฺจาติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘สตึ กตฺวา’’ติอาทิ. เอวํ สนฺเตปีติ ยทิปิ ทฺวีสุปิ าเนสุ ปจฺจเวกฺขณา ยุตฺตา, เอวํ สนฺเตปิ. อปเร ปนาหุ ‘‘สติปจฺจยตาติ สติเภสชฺชปริโภคสฺส ปจฺจยภาเว ปจฺจเยติ อตฺโถ. เอวํ สนฺเตปีติ ปจฺจเย สติปี’’ติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ. ตถา หิ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ ปจฺจเวกฺขณาย วิสุชฺฌติ, น ปจฺจยสพฺภาวมตฺเตน.

นนุ จ ‘‘ปริโภเค กโรนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ อิมินา ปาติโมกฺขสํวรสีลํ วุตฺตํ, ตสฺมา ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสฺส ปาติโมกฺขสํวรสีลสฺส จ โก วิเสโสติ? วุจฺจเต – ปุริเมสุ ตาว ตีสุ ปจฺจเยสุ วิเสโส ปากโฏเยว, คิลานปจฺจเย ปน ยถา วตึ กตฺวา รุกฺขมูเล โคปิเต ตสฺส ผลานิปิ รกฺขิตานิเยว โหนฺติ, เอวเมว ปจฺจเวกฺขณาย ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีเล รกฺขิเต ตปฺปฏิพทฺธํ ปาติโมกฺขสํวรสีลมฺปิ นิปฺผนฺนํ นาม โหติ. คิลานปจฺจยํ อปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส สีลํ ภิชฺชมานํ ปาติโมกฺขสํวรสีลเมว ภิชฺชติ, ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ ปน ปจฺฉาภตฺตปุริมยามาทีสุ ยาว อรุณุคฺคมนา อปจฺจเวกฺขนฺตสฺเสว ภิชฺชติ. ปุเรภตฺตฺหิ อปจฺจเวกฺขิตฺวาปิ คิลานปจฺจยํ ปริภุฺชนฺตสฺส อนาปตฺติ, อิทเมเตสํ นานากรณํ.

เอวํ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสฺส วิสุทฺธึ ทสฺเสตฺวา เตเนว ปสงฺเคน สพฺพาปิ สุทฺธิโย ทสฺเสตุํ ‘‘จตุพฺพิธา หิ สุทฺธี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุชฺฌติ เอตายาติ สุทฺธิ, ยถาธมฺมํ เทสนาว สุทฺธิ เทสนาสุทฺธิ. วุฏฺานสฺสปิ เจตฺถ เทสนาย เอว สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ฉินฺนมูลาปตฺตีนํ ปน อภิกฺขุตาปฏิฺาว เทสนา. อธิฏฺานวิสิฏฺโ สํวโรว สุทฺธิ สํวรสุทฺธิ. ธมฺเมน สเมน ปจฺจยานํ ปริเยฏฺิ เอว สุทฺธิ ปริเยฏฺิสุทฺธิ. จตูสุ ปจฺจเยสุ วุตฺตวิธินา ปจฺจเวกฺขณาว สุทฺธิ ปจฺจเวกฺขณสุทฺธิ. เอส ตาว สุทฺธีสุ สมาสนโย. สุทฺธิมนฺเตสุ สีเลสุ เทสนา สุทฺธิ เอตสฺสาติ เทสนาสุทฺธิ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. น ปุน เอวํ กริสฺสามีติ เอตฺถ เอวนฺติ สํวรเภทํ สนฺธายาห. ปหายาติ วชฺเชตฺวา, อกตฺวาติ อตฺโถ. ทาตพฺพฏฺเน ทายํ, ตํ อาทิยนฺตีติ ทายาทา, อนนุฺาเตสุ สพฺเพน สพฺพํ ปริโภคาภาวโต อนุฺาเตสุเยว จ ปริโภคสพฺภาวภาวโต ภิกฺขูหิ ปริภุฺชิตพฺพปจฺจยา ภควโต สนฺตกา. ธมฺมทายาทสุตฺตฺเจตฺถ สาธกนฺติ –

‘‘ธมฺมทายาทา เม, ภิกฺขเว, ภวถ, มา อามิสทายาทา. อตฺถิ เม ตุมฺเหสุ อนุกมฺปา, ‘กินฺติ เม สาวกา ธมฺมทายาทา ภเวยฺยุํ, โน อามิสทายาทา’’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๙) –

เอวํ ปวตฺตํ ธมฺมทายาทสุตฺตฺจ เอตฺถ เอตสฺมึ อตฺเถ สาธกํ.

อวีตราคานํ ตณฺหาปรวสตาย ปจฺจยปริโภเค สามิภาโว นตฺถิ, ตทภาเวน วีตราคานํ ตตฺถ สามิภาโว ยถารุจิ ปริโภคสพฺภาวโต. ตถา หิ เต ปฏิกูลมฺปิ อปฺปฏิกูลากาเรน อปฺปฏิกูลมฺปิ ปฏิกูลากาเรน ตทุภยมฺปิ วชฺเชตฺวา อชฺฌุเปกฺขนากาเรน ปจฺจเย ปริภุฺชนฺติ, ทายกานฺจ มโนรถํ ปริปูเรนฺติ. เตนาห – ‘‘เต หิ ตณฺหาย ทาสพฺยํ อตีตตฺตา สามิโน หุตฺวา ปริภุฺชนฺตี’’ติ. โย ปนายํ สีลวโต ปจฺจเวกฺขิตปริโภโค, โส อิณปริโภคสฺส ปจฺจนีกตฺตา อาณณฺยปริโภโค นาม โหติ. ยถา หิ อิณายิโก อตฺตโน รุจิยา อิจฺฉิตเทสํ คนฺตุํ น ลภติ, เอวํ อิณปริโภคยุตฺโต โลกโต นิสฺสริตุํ น ลภตีติ ตปฺปฏิปกฺขตฺตา สีลวโต ปจฺจเวกฺขิตปริโภโค อาณณฺยปริโภโคติ วุจฺจติ, ตสฺมา นิปฺปริยายโต จตุปริโภควินิมุตฺโต วิสุํเยวายํ ปริโภโคติ เวทิตพฺโพ. โส อิธ วิสุํ น วุตฺโต, ทายชฺชปริโภเคเยว วา สงฺคหํ คจฺฉตีติ. สีลวาปิ หิ อิมาย สิกฺขาย สมนฺนาคตตฺตา เสกฺโขตฺเวว วุจฺจติ. สพฺเพสนฺติ อริยานํ ปุถุชฺชนานฺจ.

กถํ ปุถุชฺชนานํ อิเม ปริโภคา สมฺภวนฺตีติ? อุปจารวเสน. โย หิ ปุถุชฺชนสฺสปิ สลฺเลขปฺปฏิปตฺติยํ ิตสฺส ปจฺจยเคธํ ปหาย ตตฺถ อนุปลิตฺเตน จิตฺเตน ปริโภโค, โส สามิปริโภโค วิย โหติ. สีลวโต ปน ปจฺจเวกฺขิตปริโภโค ทายชฺชปริโภโค วิย โหติ ทายกานํ มโนรถสฺส อวิราธนโต. เตเนว วุตฺตํ ‘‘ทายชฺชปริโภเคเยว วา สงฺคหํ คจฺฉตี’’ติ. กลฺยาณปุถุชฺชนสฺส ปริโภเค วตฺตพฺพเมว นตฺถิ ตสฺส เสกฺขสงฺคหโต. เสกฺขสุตฺตฺเหตสฺส อตฺถสฺส สาธกํ.

ลชฺชินา สทฺธึ ปริโภโค นาม ลชฺชิสฺส สนฺตกํ คเหตฺวา ปริโภโค. อลชฺชินา สทฺธินฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อาทิโต ปฏฺาย หิ อลชฺชี นาม นตฺถีติ อิมินา ทิฏฺทิฏฺเสุเยว อาสงฺกา น กาตพฺพาติ ทสฺเสติ. อตฺตโน ภารภูตา สทฺธิวิหาริกาทโย. โสปิ นิวาเรตพฺโพติ โย ปสฺสติ, เตน นิวาเรตพฺโพ. ยสฺมา อลชฺชีปริโภโค นาม ลชฺชิโน วุจฺจติ, ตสฺมา อาปตฺติ นาม นตฺถิ อุภินฺนมฺปิ อลชฺชีภาวโต, ‘‘อลชฺชีปริโภโค’’ติ อิทํ นามมตฺตเมว น ลพฺภตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อาปตฺติ ปน อตฺถิเยวาติ วทนฺตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ.

อธมฺมิโยติ อเนสนาทีหิ อุปฺปนฺโน. ธมฺมิโยติ ภิกฺขาจริยาทีหิ อุปฺปนฺโน. สงฺฆสฺเสว เทตีติ ภตฺตํ อคฺคเหตฺวา อตฺตนา ลทฺธสลากํเยว เทติ. สเจ ปน ลชฺชี อลชฺชึ ปคฺคณฺหาติ…เป… อนฺตรธาเปตีติ เอตฺถ เกวลํ ปคฺคณฺหิตุกามตาย เอวํ กาตุํ น วฏฺฏติ, ธมฺมสฺส ปน สาสนสฺส โสตูนฺจ อนุคฺคหตฺถาย วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. ปุริมนเยน ‘‘โส อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา อิมสฺส อาปตฺติเยวาติ วทนฺติ. อุทฺเทสคฺคหณาทินา ธมฺมสฺส ปริโภโค ธมฺมปริโภโค. ธมฺมานุคฺคเหน คณฺหนฺตสฺส อาปตฺติยา อภาเวปิ เถโร ตสฺส อลชฺชิภาวํเยว สนฺธาย ‘‘ปาโป กิราย’’นฺติอาทิมาห. ตสฺส ปน สนฺติเกติ มหารกฺขิตตฺเถรสฺส สนฺติเก.

๕๘๖. ราโชโรธาทโยติอาทิ ‘‘อิทํ คณฺหิสฺสามี’’ติ เจตนามตฺตสมฺภวโต วุตฺตํ. อสฺสติยา ทินฺนนฺติ เอตฺถ อสฺสติยา ทินฺนํ นาม อปริจฺจตฺตํ โหติ, ตสฺมา ทสนฺเต พทฺธกหาปณาทิ อสฺสติยา ทินฺนํ ภิกฺขุนา วตฺถสฺาย ปฏิคฺคหิตฺจ, ตโต เนว รูปิยํ ทินฺนํ, นาปิ ปฏิคฺคหิตฺจ โหตีติ เอตฺถ อาปตฺติเทสนากิจฺจํ นตฺถิ, ตํ ปน ทายกานเมว ปฏิทาตพฺพํ. เตน อกปฺปิยวตฺถุนา เต เจ ทายกา สปฺปิอาทีนิ กิณิตฺวาน สงฺฆสฺส ตสฺส จ ภิกฺขุโน เทนฺติ, สพฺเพสํ กปฺปติ ทายกานํเยว สนฺตกตฺตา. อฏฺกถายํ ปน ปุฺกาเมหิ ปริจฺจชิตฺวา ทินฺนเมว สนฺธาย ‘‘ปุฺกามา…เป… รูปิเย อรูปิยสฺี รูปิยํ ปฏิคฺคณฺหาตีติ เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา ปริจฺจชิตฺวา ทินฺนํ วตฺถสฺาย คณฺหโตปิ นิสฺสคฺคิยเมว. เตน ยทิ เต ทายกา โน อาคนฺตฺวา คณฺหนฺติ, ทายเก ปุจฺฉิตฺวา อตฺตโน อตฺถาย เจ ปริจฺจตฺตํ, สงฺเฆ นิสฺสชฺชิตฺวา อาปตฺติ เทเสตพฺพา. ตว โจฬกํ ปสฺสาหีหิ อิมินา คิหิสนฺตเกปิ ‘‘อิทํ คณฺหถา’’ติอาทิอกปฺปิยโวหาเรน วิธานํ ภิกฺขุโน น กปฺปตีติ ทีเปติ. เอกปริจฺเฉทานีติ กิริยากิริยภาวโต เอกปริจฺเฉทานิ. ชาตรูปรชตภาโว, อตฺตุทฺเทสิกตา, กหาปณาทีสุ อฺตรภาโวติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

รูปิยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๘๗. รูปิยสํโวหารสิกฺขาปเท ชาตรูปาทิจตุพฺพิธมฺปิ นิสฺสคฺคิยวตฺถุ อิธ รูปิยคฺคหเณเนว คหิตนฺติ อาห ‘‘ชาตรูปรชตปริวตฺตน’’นฺติ. ปฏิคฺคหิตปริวตฺตเนติ สาทิตรูปิยสฺส ปริวตฺตเน, อสาทิยิตฺวา วา กปฺปิเยน คาเหน ปฏิคฺคหิตรูปิยปริวตฺตเน.

๕๘๙. -การสฺส -การํ กตฺวา ‘‘สีสูปก’’นฺติ ลิขิตํ, ปทภาชเน ฆนกตนฺติ ปิณฺฑํ กตํ. สตฺถุวณฺโณติอาทีสุ ‘‘สตฺถุวณฺโณ จ กหาปโณ จ…เป… เย จ โวหารํ คจฺฉนฺตี’’ติ เอวํ สพฺพตฺถ สมุจฺจโย เวทิตพฺโพ. รูปิเย รูปิยสฺีติ สกสนฺตกํ วทติ. รูปิยํ เจตาเปตีติ ปรสนฺตกํ วทติ. ‘‘นิสฺสคฺคิยวตฺถุนา ทุกฺกฏวตฺถุํ วา กปฺปิยวตฺถุํ วา เจตาเปนฺตสฺสปิ เอเสว นโย’’ติ อิทํ กสฺมา วุตฺตํ. น หิ ‘‘รูปิเย รูปิยสฺี อรูปิยํ เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติอาทิตฺติโก ปาฬิยํ วุตฺโตติ อาห ‘‘โย หี’’ติอาทิ. ตสฺสานุโลมตฺตาติ เอตฺถายมธิปฺปาโย – รูปิยสํโวหาโร นาม น เกวลํ รูปิเยน รูปิยปริวตฺตนเมว, อถ โข ‘‘อรูปิเย รูปิยสฺี รูปิยํ เจตาเปตี’’ติ วุตฺตตฺตา อรูปิเยน รูปิยเจตาปนมฺปิ รูปิยสํโวหาโร นาม โหตีติ เอตสฺมึ ปกฺเขปิ รูปิเย สติ รูปิยสํโวหาโรเยว โหตีติ อยมตฺโถ อวุตฺโตปิ วิฺายตีติ. อรูปิยํ นาม ทุกฺกฏวตฺถุกปฺปิยวตฺถูนิ. เอกนฺเตน รูปิยปกฺเขติ เอเกน อนฺเตน รูปิยปกฺเขติ อยํ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ‘‘เอกโต รูปิยปกฺเข’’ติ วา ปาโ เวทิตพฺโพ. ‘‘เอกรูปิยปกฺเข’’ติปิ ปนฺติ, ตตฺถาปิ เอกโต รูปิยปกฺเขติ อยเมวตฺโถ คเหตพฺโพ.

กปฺปิยวตฺถุนา กปฺปิยวตฺถุโน กยวิกฺกเยปิ ตาว นิสฺสคฺคิยํ โหติ, ทุกฺกฏวตฺถุนา ทุกฺกฏวตฺถุโน กยวิกฺกเย กสฺมา น โหตีติ อนฺธกฏฺกถาย อธิปฺปาโย. อิทํ สิกฺขาปทํ…เป… อรูปิเยน จ รูปิยเจตาปนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. อิธาติ อิมสฺมึ รูปิยสํโวหารสิกฺขาปเท. ตตฺถาติ กยวิกฺกยสิกฺขาปเท. เตเนวาติ กปฺปิยวตฺถุนาเยว.

ปุน กปฺปิยภาวํ เนตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา ‘‘มหาอกปฺปิโย นามา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘น สกฺกา เกนจิ อุปาเยน กปฺปิโย กาตุนฺติ อิทํ ปฺจนฺนํเยว สหธมฺมิกานํ อนฺตเร ปริวตฺตนํ สนฺธาย วุตฺตํ, คิหีหิ ปน คเหตฺวา อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา ทินฺนํ สพฺเพสํ กปฺปตี’’ติ วทนฺติ. ‘‘น สกฺกา เกนจิ อุปาเยน กปฺปิโย กาตุ’’นฺติ ปน อิมินาว ปฏิคฺคหิตรูปิยํ อนิสฺสชฺชิตฺวาว เตน เจตาปิตํ กปฺปิยภณฺฑมฺปิ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏตีติ สิทฺธํ.

เย ปน ‘‘ปฏิคฺคหิตรูปิยํ อนิสฺสชฺชิตฺวาปิ เตน ปริวตฺติตํ กปฺปิยภณฺฑํ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, เตสํ ‘‘น สกฺกา เกนจิ อุปาเยน กปฺปิโย กาตุ’’นฺติ อิทํ น ยุชฺชติ. เต ปเนตฺถ เอวํ วทนฺติ ‘‘ยสฺมา นิสฺสชฺชิตพฺพวตฺถุํ อนิสฺสชฺชิตฺวาว อุปรูปริ อฺํ อฺํเยว กตํ, ตสฺมา ปริจฺเฉทาภาวโต อิธ นิสฺสชฺชิตุํ อวตฺวา ‘น สกฺกา เกนจิ อุปาเยน กปฺปิโย กาตุ’นฺติ วุตฺตํ, ปริจฺเฉทาภาวโตเยว ‘มูเล มูลสามิกานํ, ปตฺเต จ ปตฺตสามิกานํ ทินฺเน กปฺปิโย โหตี’ติ จ น วุตฺต’’นฺติ. ยทิ ปฏิคฺคหิตรูปิยํ อนิสฺสชฺชิตฺวา เจตาปิตํ กปฺปิยภณฺฑมฺปิ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, เอวํ สนฺเต อิธาปิ อวสานวตฺถุํ คเหตฺวา สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ กสฺมา น วฏฺฏติ, ‘‘โย ปน รูปิยํ อุคฺคณฺหิตฺวา…เป… ปตฺเต จ ปตฺตสามิกานํ ทินฺเน กปฺปิโย โหตี’’ติ อิมินาปิ ปฏิคฺคหิตรูปิยํ อนิสฺสชฺชิตฺวา เจตาปิตํ กปฺปิยภณฺฑมฺปิ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏตีติ สิทฺธํ. ยทิ ตํ นิสฺสฏฺํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺเฏยฺย, ‘‘มูเล มูลสามิกานํ, ปตฺเต จ ปตฺตสามิกานํ ทินฺเน กปฺปิโย โหตี’’ติ น วเทยฺย. อปเร ปเนตฺถ เอวํ วทนฺติ ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ โหติ, รูปิยปฏิคฺคาหกสฺส น วฏฺฏติ, ตสฺมา ตสฺสปิ ยถา วฏฺฏติ, ตถา ทสฺสนตฺถํ ‘มูเล มูลสามิกาน’นฺติอาทิ วุตฺต’’นฺติ.

ทุติยปตฺตสทิโสเยวาติ อิมินา ปฺจนฺนมฺปิ สหธมฺมิกานํ น กปฺปตีติ ทสฺเสติ. ตตฺถ การณมาห ‘‘มูลสฺส สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา’’ติ. อถ มูลสฺส สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา รูปิยปฏิคฺคาหกสฺส ตาว อกปฺปิโย โหตุ, เสสานํ ปน กสฺมา น กปฺปตีติ มฺมาโน ปุจฺฉติ ‘‘กสฺมา เสสานํ น กปฺปตี’’ติ. การณมาห ‘‘มูลสฺส อนิสฺสฏฺตฺตา’’ติ. ปตฺตสฺส กปฺปิยภาเวปิ สมฺปฏิจฺฉิตมูลสฺส นิสฺสชฺชิตพฺพสฺส อนิสฺสฏฺตฺตา เตน คหิตปตฺโต เสสานมฺปิ น กปฺปติ. ยทิ หิ เตน สมฺปฏิจฺฉิตมูลํ สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสฏฺํ สิยา, เตน กปฺปิเยน กมฺเมน อารามิกาทีหิ คเหตฺวา ทินฺนปตฺโต รูปิยปฏิคฺคาหกํ เปตฺวา เสสานํ วฏฺฏติ. อปเร ปน ‘‘มูลํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา คหิตปตฺโตปิ ยทิ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺโ, เสสานํ กปฺปตี’’ติ วทนฺติ. เอวํ สนฺเต ‘‘มูลสฺส อนิสฺสฏฺตฺตา’’ติ น วตฺตพฺพํ, ‘‘สงฺฆสฺส อนิสฺสฏฺตฺตา’’ติ เอวเมว วตฺตพฺพํ.

ทุพฺพิจาริตตฺตาติ อิมินา รูปิยสํโวหาโร อเนน กโตติ ทสฺเสติ. อฺเสํ ปน วฏฺฏตีติ ยสฺมาเนน รูปิยสํโวหารมตฺตเมว กตํ, น มูลํ สมฺปฏิจฺฉิตํ, ตสฺมา วินยกมฺมวเสน สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺกาลโต ปฏฺาย อฺเสํ วฏฺฏติ. อิมสฺมึเยว จ อตฺเถ ปมาณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มหาสุมตฺเถรสฺส กิรา’’ติอาทิมาห. อปเร ปน ‘‘ทุพฺพิจาริตตฺตาติ อิมินา เกวลํ คิหิสนฺตกภาเวน ิเต ทุพฺพิจาริตมตฺตํ วุตฺตํ, น รูปิยสํโวหาราปชฺชนํ, ตสฺมา รูปิยสํโวหาราภาวโต โส ปตฺโต นิสฺสชฺชิตุํ น สกฺกาติ ตสฺส น กปฺปติ, อนิสฺสฏฺโปิ อฺเสํ กปฺปติ. อนิสฺสฏฺสฺเสว จ อฺเสํ กปฺปิยภาวทสฺสนตฺถํ ‘มหาสุมตฺเถรสฺส กิรา’ติอาทิวตฺถูนิ อุทาหฏานิ. สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชีติ อิทฺจ อฺเสํ กปฺปิยตฺตา เกวลํ สงฺฆสฺส ปริจฺจตฺตภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ปน วินยกมฺมวเสน สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺภาวํ. อิมสฺส จ อตฺถสฺส สปฺปิสฺส ปูเรตฺวาติ อิทํ วจนํ สาธก’’นฺติ วทนฺติ.

๕๙๑. รูปิยปฏิคฺคหณรูปิยสํโวหาเรสุ เยน เอเกกเมว กตํ, เตน ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว นิสฺสชฺชิตพฺพํ. เยน ปน ปฏิคฺคหิตรูปิเยเนว สํโวหาโร กโต, เตน กถํ นิสฺสชฺชิตพฺพนฺติ? นยิทํ ทุกฺกรํ, ‘‘อหํ, ภนฺเต, นานปฺปการกํ รูปิยสํโวหารํ สมาปชฺชิ’’นฺติ เอวเมว นิสฺสชฺชิตพฺพํ. ‘‘อิมสฺมึ สิกฺขาปเทปิ ‘อรูปิเย รูปิยสฺี, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’ติอาทิตฺติกสฺส อวสานปเท อนาปตฺติยา วุตฺตตฺตา กปฺปิยวตฺถุวเสเนว อิทํ ติกํ วุตฺต’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘อรูปิยคฺคหเณน กปฺปิยวตฺถุทุกฺกฏวตฺถูนํ สงฺคโหติ ปุริมปททฺวยํ กปฺปิยวตฺถุทุกฺกฏวตฺถูนํ วเสน วุตฺตํ, อวสานปทเมว กปฺปิยวตฺถุวเสน วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น ยุชฺชติ อนาปตฺติมิสฺสิเต อวสานตฺติเก สฺานานตฺตํ เปตฺวา วตฺถุนานตฺตสฺส อภาวโต. ทุกฺกฏวตฺถุนา ปน ทุกฺกฏวตฺถุโน เจตาปนํ เนว อิธ, น ตตฺถ ปาฬิยํ วุตฺตนฺติ วจนเมตฺถ สาธกํ. ยํ อตฺตโน ธเนน ปริวตฺตติ, ตสฺส วา ธนสฺส วา รูปิยภาโว เจว, ปริวตฺตนฺจาติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.

รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. กยวิกฺกยสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๙๓. กยวิกฺกยสิกฺขาปเท ปาฬิยํ ชานาหีติ เอตฺถ อุปธาเรหีติ อตฺโถ, สุฏฺุ อุปธาเรตฺวา คณฺห, อิทํ น มนาปนฺติ ปุน ทาตุํ น สกฺขิสฺสสีติ อธิปฺปาโย.

๕๙๔-๕๙๕. กยนฺติ ปรภณฺฑสฺส คหณํ. วิกฺกยนฺติ อตฺตโน ภณฺฑสฺส ทานํ. เตนาห ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติอาทิ. ยสฺมา กยิตํ นาม ปรสฺส หตฺถโต คหิตํ วุจฺจติ, วิกฺกีตฺจ ปรสฺส หตฺเถ ทินฺนํ, ตสฺมา ‘‘กยิตฺจ โหติ ปรภณฺฑํ อตฺตโน หตฺถคตํ กโรนฺเตน, วิกฺกีตฺจ อตฺตโน ภณฺฑํ ปรหตฺถคตํ กโรนฺเตนา’’ติ วุตฺตํ. ยทิ เอวํ ปาฬิยํ ปรโต ‘‘กยิตฺจ โหติ วิกฺกยิตฺจา’’ติ วตฺวา ‘‘อตฺตโน ภณฺฑํ ปรหตฺถคตํ ปรภณฺฑํ อตฺตโน หตฺถคต’’นฺติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อิมินา อิมนฺติอาทิวจนานุรูปโต ปนา’’ติอาทิ. อิมินาติ หิ สกสนฺตกํ วุตฺตํ. ตทนุรูปโต ปาฬิยํ ปมํ อตฺตโน ภณฺฑํ ทสฺสิตํ, น กยวิกฺกยปทานุรูปโต. ตฺหิ วิปรีตโต ปรสนฺตกคฺคหณํ ปุรกฺขตฺวา ิตํ.

กามํ เสสาตเกปิ ‘‘อิมํ เทหี’’ติ วทโต วิฺตฺติ น โหติ, สทฺธาเทยฺยวินิปาตนสฺสปิ ปน อภาวํ ทสฺเสตุกาโม ‘‘มาตรํ ปน ปิตรํ วา’’ติ อาห. วิฺตฺติ น โหตีติ อิทํ วิสุํ วิฺาปนํ สนฺธาย วุตฺตํ. อฺํ กิฺจิ อวตฺวา เอวํ วทนฺโต อฺาตกํ วิฺาเปติ นามาติ อาห – ‘‘อฺาตกํ ‘อิมํ เทหี’ติ วทโต วิฺตฺตี’’ติ. อฺํ กิฺจิ อวตฺวา ‘‘อิมํ คณฺหาหี’’ติ ทินฺนํ อฺาตกสฺส ทินฺนํ นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘สทฺธาเทยฺยวินิปาตน’’นฺติ. ติสฺโส อาปตฺติโยติ อฺาตกวิฺตฺติสทฺธาเทยฺยวินิปาตนกยวิกฺกยาปตฺติสงฺขาตา ติสฺโส อาปตฺติโย.

อิมํ นาม กโรหีติ วทติ, วฏฺฏตีติ เอตฺถ ภุตฺโตสิ, อิทานิ กสฺมา น กโรสีติ วตฺถุมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ กิฺจาปิ สติเยว นิสฺสคฺคิยวตฺถุมฺหิ ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ, อสติปิ ปน ตสฺมึ ปาจิตฺติยนฺติ อิทํ อฏฺกถาปมาเณน คเหตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘กิฺจาปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริภุตฺเตติ สปฺปิอาทึ สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ อตฺตโน ธเนน ปริวตฺเตติ, เยน จ ปริวตฺเตติ, เตสํ กปฺปิยวตฺถุตา, อสหธมฺมิกตา, กยวิกฺกยาปชฺชนฺจาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

กยวิกฺกยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิโต โกสิยวคฺโค ทุติโย.

๓. ปตฺตวคฺโค

๑. ปตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๙๘-๖๐๒. ปตฺตวคฺคสฺส ปเม ภณฺฑนฺติ วิกฺเกตพฺพภณฺฑํ. ยสฺมา วณฺณสทฺโท สณฺานชาติรูปายตนการณปมาณคุณปสํสาทีสุ ทิสฺสติ. ‘‘มหนฺตํ สปฺปราชวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๔๒) หิ สณฺานํ วุจฺจติ. ‘‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณ, หีโน อฺโ วณฺโณ’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๔๐๒) ชาติ. ‘‘ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๓๐๓) รูปายตนํ.

‘‘น หรามิ น ภฺชามิ, อารา สิงฺฆามิ วาริชํ;

อถ เกน นุ วณฺเณน, คนฺธตฺเถโนติ วุจฺจตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๓๔; ชา. ๑.๖.๑๑๖) –

อาทีสุ การณํ. ‘‘ตโย ปตฺตสฺส วณฺณา’’ติอาทีสุ (ปารา. ๖๐๒) ปมาณํ. ‘‘กทา สฺุฬฺหา ปน เต คหปติ อิเม สมณสฺส โคตมสฺส วณฺณา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๗๗) คุโณ. ‘‘วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๓) ปสํสา. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ตโย ปตฺตสฺส วณฺณาติ ตีณิ ปตฺตสฺส ปมาณานี’’ติ.

อฑฺฒเตรสปลา โหตีติ เอตฺถ ‘‘มาสานํ อฑฺฒเตรสปลานิ คณฺหาตี’’ติ วทนฺติ. ‘‘มคธนาฬิ นาม ฉปสตา นาฬี’’ติ เกจิ. ‘‘อฏฺปสตา’’ติ อปเร. ตตฺถ ปุริมานํ มเตน ติปสตาย นาฬิยา ทฺเว นาฬิโย เอกา มคธนาฬิ โหติ, ปจฺฉิมานํ จตุปสตาย นาฬิยา ทฺเว นาฬิโย เอกา มคธนาฬิ. อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน ปน ‘‘ปกติยา จตุมุฏฺิกํ กุฑุวํ, จตุกุฑุวํ นาฬิกํ, ตาย นาฬิยา โสฬส นาฬิโย โทณํ, ตํ ปน มคธนาฬิยา ทฺวาทส นาฬิโย โหนฺตี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา เตน นเยน ‘‘มคธนาฬิ นาม ปฺจ กุฑุวานิ เอกฺจ มุฏฺึ เอกาย มุฏฺิยา ตติยฺจ ภาคํ คณฺหาตี’’ติ เวทิตพฺพํ.

สพฺพสมฺภารสงฺขโตติ ชีรกาทิสพฺพสมฺภาเรหิ สงฺขโต. อาโลปสฺส อาโลปสฺส อนุรูปนฺติ เอตฺถ ‘‘พฺยฺชนสฺส มตฺตา นาม โอทนจตุตฺโถ ภาโค’’ติ พฺรหฺมายุสุตฺตสฺส อฏฺกถายํ (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๓๘๗) วุตฺตตฺตา อาโลปสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาณํ พฺยฺชนํ อาโลปสฺส อนุรูปนฺติ คเหตพฺพํ. อิธ ปน สูปสฺเสว โอทนจตุตฺถภาคปฺปมาณตํ ทสฺเสตฺวา เอตสฺส ลกฺขเณ ทสฺสิเต อิตรสฺสปิ ทสฺสิตเมว โหตีติ พฺยฺชนสฺส ตถา วิเสเสตฺวา ปมาณํ น ทสฺสิตํ.

มคธนาฬิยา อุปฑฺฒปฺปมาโณ อิธ ปตฺโถติ อาห ‘‘ปตฺโถทนนฺติ มคธนาฬิยา อุปฑฺฒนาฬิโกทน’’นฺติ. อิมินา จ ‘‘ปตฺถทฺวยํ มคธนาฬี’’ติ ทสฺสิตํ โหติ. ปตฺโถ จ ‘‘จตุปโล กุฑุโว, จตุกุฑุโว ปตฺโถ’’ติ อิมินา โลกิยโวหาเรน เวทิตพฺโพ. ภาชนปริโภเคนาติ อุทกาหรณาทินา ภาชนปริโภเคน.

๖๐๗. โธเตติ ปริโภคาวสานทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น ปน โธเตเยว ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ ตโต ปุเรตรํ ปริโภคกาเลเยว อาปชฺชนโต.

๖๐๘. ปฺจหิ ทฺวีหีติ อิทํ ‘‘เอตฺตาวตา กาฬวณฺณตา สมฺปชฺชตี’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘ยทิ ปน เอเกนปิ ปาเกน กาฬวณฺโณ โหติ, อธิฏฺานุปโคเยวา’’ติ วทนฺติ. หตฺถานาคตสฺสปิ อธิฏฺาตพฺพภาวทสฺสนตฺถํ ‘‘ยทิหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิมินา จ ทูเร ิตมฺปิ อธิฏฺาตุํ วิกปฺเปตุฺจ ลภติ, ปิตฏฺานสลฺลกฺขณฺจ น ปมาณนฺติ เวทิตพฺพํ. สุตฺวา วาติ ปตฺตการเกน เปสิตภิกฺขุนา อนาณตฺโต เกวลํ ตสฺส กเถนฺตสฺส วจนมตฺตํ สุตฺวา. น ปมาณนฺติ เตน อเปสิตตฺตา. สามนฺตวิหาเรติ อิทํ อุปจารมตฺตํ, ตโต ทูเร ิตมฺปิ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติเยว. ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวาติ อิทมฺปิ อุปจารมตฺตํ, ปตฺตสลฺลกฺขณเมเวตฺถ ปมาณํ. ปตฺเต วา ฉิทฺทํ โหตีติ มุขวฏฺฏิโต เหฏฺา ทฺวงฺคุลมตฺโตกาสโต ปฏฺาย ยตฺถ กตฺถจิ ฉิทฺทํ โหติ. เสสเมตฺถ ปมกถิเน วุตฺตนยเมว.

ปตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อูนปฺจพนฺธนสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๑๐. ทุติยสิกฺขาปเท หตฺเถสุ ปิณฺฑาย จรตีติ ปาฬิปทสฺส หตฺเถสุ ลภิตพฺพปิณฺฑตฺถาย จรตีติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๖๑๒-๖๑๓. ‘‘ตสฺส โส อปตฺโตติ วจนโต โส ปตฺโต อธิฏฺานมฺปิ วิชหติ อปตฺตตฺตา. อปตฺตภาวโตเยว หิ ‘ปฺจพนฺธนํ ปตฺตํ เจตาเปตี’ติ ปาฬิยํ น วุตฺต’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘อปตฺโตติ อิทํ ‘อฺํ ปตฺตํ วิฺาเปตุํ วฏฺฏตี’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, โส ปน ปตฺโต อธิฏฺานํ น วิชหตี’’ติ วทนฺติ, ตํ ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ ‘‘ยสฺส ปฺจ เอกาเยว วา ทสงฺคุลา, โส พทฺโธปิ อพทฺโธปิ อปตฺโตเยวา’’ติ วกฺขมานตฺตา. น หิ มุขวฏฺฏิยา ปฺจสุ าเนสุ ทฺวงฺคุลมตฺตาหิ ราชีหิ อธิฏฺานํ วิชหตีติ สกฺกา วตฺตุํ, เอกาย ปน ราชิยา ทสงฺคุลาย สเจ ตตฺถ วุตฺตปฺปมาโณ ฉิทฺโท ปฺายติ, ฉิทฺเทเนว อธิฏฺานวิชหนํ สิยาติ ยุตฺตํ วตฺตุํ. พนฺธโนกาเส สติ อสติ วา พนฺธนวิรหิโต ปตฺโต อพนฺธโนติ วุตฺโต, พนฺธโนกาสวิรหิโตเยว ปน อพนฺธโนกาโสติ วุตฺโต.

ติปุสุตฺตเกน วา พนฺธิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘พนฺธิตพฺโพ’’ติ ปาโ คเหตพฺโพ. ปุราณโปตฺถเกปิ หิ อยเมว ปาโ ทิสฺสติ. สุทฺเธหิ…เป… น วฏฺฏตีติ อิทํ อุณฺหโภชเน ปกฺขิตฺเต วิลียมานตฺตา วุตฺตํ. ผาณิตํ ฌาเปตฺวา ปาสาณจุณฺเณน พนฺธิตุํ วฏฺฏตีติ ปาสาณจุณฺเณน สทฺธึ ผาณิตํ ปจิตฺวา ตถาปกฺเกน ปาสาณจุณฺเณน พนฺธิตุํ วฏฺฏติ.

๖๑๕. อนุกมฺปาย น คณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ วุตฺตตฺตา ยสฺส โส ปตฺโต น รุจฺจติ, ตสฺสปิ อคณฺหนฺตสฺส อนาปตฺติ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. อูนปฺจพนฺธนสีกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘สเจ เถรสฺส ปตฺโต น รุจฺจติ, อปฺปิจฺฉตาย วา น คณฺหาติ, วฏฺฏตี’’ติ. ปตฺตปริยนฺโตติ ปริยนฺตปตฺโต, อวสานปตฺโตติ อตฺโถ. ‘‘สงฺฆมชฺเฌ ปตฺตํ คาหาเปนฺเตน อลชฺชึ อคาหาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว อาธารกนฺติ วุตฺตตฺตา ปีาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ อาธารํ เปตฺวา ตตฺถ ปตฺตํ เปตุํ วฏฺฏติ อาธารปโนกาสสฺส อนิยมิตตฺตา’’ติ วทนฺติ. อปริโภเคนาติ อยุตฺตปริโภเคน.

๖๑๖. ปาฬิยํ ‘‘อพนฺธเนน ปตฺเตน อพนฺธนํ ปตฺตํ. เอกพนฺธนํ ปตฺตํ… ทฺวิพนฺธนํ ปตฺตํ… ติพนฺธนํ… จตุพนฺธนํ… อพนฺธโนกาสํ… เอก… ทฺวิ… ติ… จตุพนฺธโนกาสํ ปตฺตํ เจตาเปตี’’ติ เอวํ เอเกเกน ปตฺเตน ทสธา ทสวิธํ ปตฺตํ เจตาปนวเสน เอกนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสตํ วุตฺตํ. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ปมาณยุตฺตํ อคฺคหิตกาฬวณฺณมฺปิ ปตฺตํ วิฺาเปนฺตสฺส อาปตฺติเยวาติ ทฏฺพฺพํ. อธิฏฺานุปคปตฺตสฺส อูนปฺจพนฺธนตา, อตฺตุทฺเทสิกตา, อกตวิฺตฺติ, ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

อูนปฺจพนฺธนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๒๒. ตติยสิกฺขาปเท เยสํ มํสํ กปฺปตีติ อิทํ นิสฺสคฺคิยวตฺถุทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น ปน เยสํ มํสํ น กปฺปติ, เตสํ สปฺปิอาทีนิ น กปฺปนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ. มนุสฺสขีราทีนิปิ หิ โน น กปฺปนฺติ, กุโต สสสฺส สปฺปีติ อาห ‘‘เยสฺหิ ขีรํ อตฺถิ, สปฺปิปิ เตสํ อตฺถิเยวา’’ติ. ‘‘อิทฺจ เยภุยฺเยน วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. อุคฺคหิตกํ กตฺวา นิกฺขิตฺตนฺติ อปฺปฏิคฺคหิตํ สยเมว คเหตฺวา นิกฺขิตฺตํ. สยํกตํ นิรามิสเมว วฏฺฏตีติ ตทหุปุเรภตฺตเมว สนฺธาย วุตฺตํ. อถ สยํกตํ นิรามิสํ ภุฺชนฺตสฺส กสฺมา สามํปาโก น โหตีติ อาห – ‘‘นวนีตํ ตาเปนฺตสฺส หิ สามํปาโก น โหตี’’ติ. สวตฺถุกปฏิคฺคหิตสฺส วตฺถุคติกตฺตา อาห – ‘‘สวตฺถุกสฺส ปฏิคฺคหิตตฺตา’’ติ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิเตหีติ ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตขีรทธีหิ. ปุเรภตฺตมฺปิ จ อุคฺคหิตเกหิ กตํ อพฺภฺชนาทีสุ อุปเนตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. อุภเยสมฺปีติ ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตขีรทธีหิ จ ปุเรภตฺตํ อุคฺคหิตเกหิ จ กตานํ. เอเสว นโยติ นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ อตฺโถ. อกปฺปิยมํสสปฺปิมฺหีติ อกปฺปิยมํสสตฺตานํ สปฺปิมฺหิ. การณปติรูปกํ วตฺวาติ สชาติยานํ สปฺปิภาวโตติ การณปติรูปกํ วตฺวา.

สปฺปินเยเนว เวทิตพฺพนฺติ นิรามิสเมว สตฺตาหํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. เอตฺถาติ นวนีเต. โธตํ วฏฺฏตีติ อโธตํ เจ, สวตฺถุกปฏิคฺคหิตํ โหติ, ตสฺมา โธตํ ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏตีติ เถรานํ อธิปฺปาโย. ตกฺกโต อุทฺธฏมตฺตเมว ขาทึสูติ เอตฺถ ตกฺกโต อุทฺธฏมตฺตํ อโธตมฺปิ ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชนฺตา โธวิตฺวา ปจิตฺวา วา ปริภุฺชึสูติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. เถรสฺส หิ ทธิคุฬิกาทิสหิตมฺปิ ปฏิคฺคหิตํ ปจฺฉา โธวิตฺวา ปจิตฺวา วา ปริภุฺชนฺตสฺส สวตฺถุกปฏิคฺคหเณ โทโส นตฺถีติ อธิปฺปาโย, เตเนว เถรสฺส อธิปฺปายํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘ตสฺมา นวนีตํ ปริภุฺชนฺเตน…เป… อยเมตฺถ อธิปฺปาโย’’ติ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘ตกฺกโต อุทฺธฏมตฺตเมว ขาทึสู’’ติ วจนสฺส อธิปฺปายํ อชานนฺตา ‘‘ตกฺกโต อุทฺธฏมตฺตํ อโธตมฺปิ ทธิคุฬิกาทิสหิตํ วิกาเลปิ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. น หิ ทธิคุฬิกาทิอามิเสน สํสฏฺรสํ นวนีตํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตีติ สกฺกา วตฺตุํ. นวนีตํ ปริภุฺชนฺเตนาติ อโธวิตฺวา ปฏิคฺคหิตนวนีตํ ปริภุฺชนฺเตน. ทธิ เอว ทธิคตํ ยถา ‘‘คูถคตํ มุตฺตคต’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๑๑๙). ขยํ คมิสฺสตีติ วจนโต ขีรํ ปกฺขิปิตฺวา ปกฺกสปฺปิอาทิปิ วิกาเล กปฺปตีติ เวทิตพฺพํ. กุกฺกุจฺจายนฺติ กุกฺกุจฺจกาติ อิมินา อตฺตนาปิ ตตฺถ กุกฺกุจฺจสพฺภาวํ ทีเปติ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘นิพฺพฏฺฏิตสปฺปิ วา นวนีตํ วา ปจิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวาติ ตานิ ขีรทธีนิ ปฏิคฺคเหตฺวา.

ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตเภสชฺเชหีติ ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตยาวชีวิกเภสชฺเชหิ. วุตฺตนเยน ยถา ตณฺฑุลาทีนิ น ปจฺจนฺติ, ตถา ลชฺชีเยว สมฺปาเทตฺวา เทตีติ ลชฺชีสามเณรคฺคหณํ, อปิจ อลชฺชินา อชฺโฌหริตพฺพํ ยํ กิฺจิ อภิสงฺขราเปตุํ น วฏฺฏติ, ตสฺมาปิ เอวมาห. ติเล ปฏิคฺคเหตฺวา กตเตลนฺติ อตฺตนา ภชฺชนาทีนิ อกตฺวา คหิตเตลํ. เตเนว ‘‘สามิสมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. นิพฺพฏฺฏิตตฺตาติ ยาวกาลิกวตฺถุโต วิเวจิตตฺตา. อุภยมฺปีติ อตฺตนา จ ปเรน จ กตํ. ยาว อรุณสฺส อุคฺคมนา ติฏฺติ, นิสฺสคฺคิยนฺติ สตฺตมทิวเส กตเตลํ สเจ ยาว อรุณุคฺคมนา ติฏฺติ, นิสฺสคฺคิยํ.

๖๒๓. อจฺฉวสนฺติ ทุกฺกฏวตฺถุโน วสาย อนุฺาตตฺตา ตํสทิสานํ ทุกฺกฏวตฺถูนํเยว อกปฺปิยมํสสตฺตานํ วสา อนุฺาตา, น ถุลฺลจฺจยวตฺถูนํ มนุสฺสานํ วสาติ อาห ‘‘เปตฺวา มนุสฺสวส’’นฺติ. สํสฏฺนฺติ ปริสฺสาวิตํ. ‘‘กาเล ปฏิคฺคหิตํ วิกาเล อนุปสมฺปนฺเนนปิ นิปฺปกฺกํ สํสฏฺฺจ ปริภุฺชนฺตสฺส ทฺเวปิ ทุกฺกฏานิ โหนฺติเยวา’’ติ วทนฺติ. ยสฺมา ขีรทธิอาทีนิ ปกฺขิปิตฺวา เตลํ ปจนฺติ, ตสฺมา กสฏํ น วฏฺฏติ, เตลเมว วฏฺฏติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปกฺกเตลกสเฏ วิย กุกฺกุจฺจายตี’’ติ. ‘‘สเจ วสาย สทฺธึ ปกฺกตฺตา น วฏฺฏติ, อิทํ กสฺมา วฏฺฏตี’’ติ ปุจฺฉนฺตา ‘‘ภนฺเต’’ติอาทิมาหํสุ. เอตํ วฏฺฏตีติ นนุ เอตํ ทธิคุฬิกาทีหิ ปกฺกํ นวนีตํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ.

‘‘มธุกรีหิ นาม มธุมกฺขิกาหีติ อยํ ขุทฺทกมกฺขิกานํ ภมรมกฺขิกานฺจ สามฺนิทฺเทโส’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘ทณฺฑเกสุ มธุกรา มธุกรี มกฺขิกา นามา’’ติ วตฺวา ‘‘ตาหิ มธุกรีอาทีหิ ตีหิ มกฺขิกาหิ กตํ มธุ นามา’’ติ วทนฺติ. ภมรมกฺขิกาหีติ มหาภมรมกฺขิกาหิ. สิเลสสทิสนฺติ ฆนปกฺกํ วุตฺตํ. อิตรนฺติ ตนุกมธุ. มธุปฏลนฺติ มธุรหิตํ เกวลํ มธุปฏลํ. ‘‘สเจ มธุสหิตํ ปฏลํ ปฏิคฺคเหตฺวา นิกฺขิปนฺติ, ปฏลสฺส ภาชนฏฺานิยตฺตา มธุโน วเสน สตฺตาหาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํ โหตี’’ติ วทนฺติ, ‘‘มธุมกฺขิตํ ปน มธุคติกเมวา’’ติ อิมินา ตํ น สเมติ.

‘‘ผาณิตํ นาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺต’’นฺติ ปาฬิยํ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา อฏฺกถายฺจ ‘‘อุจฺฉุรสํ อุปาทาย…เป… อวตฺถุกา อุจฺฉุวิกติ ‘ผาณิต’นฺติ เวทิตพฺพา’’ติ วจนโต อุจฺฉุรโสปิ นิกฺกสโฏ สตฺตาหกาลิโกติ เวทิตพฺโพ. เกนจิ ปน ‘‘มธุมฺหิ จตฺตาโร กาลิกา ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺพา, อุจฺฉุมฺหิ จา’’ติ วตฺวา ‘‘สมกฺขิกณฺฑเสฬกํ ยาวกาลิกํ, อเนฬกํ อุทกสมฺภินฺนํ ยามกาลิกํ, อสมฺภินฺนํ สตฺตาหกาลิกํ, มธุสิตฺถํ ปริสุทฺธํ ยาวชีวิกํ, ตถา อุจฺฉุ วา รโส วา สกสโฏ ยาวกาลิโก, นิกฺกสโฏ อุทกสมฺภินฺโน ยามกาลิโก, อสมฺภินฺโน สตฺตาหกาลิโก, สุทฺธกสฏํ ยาวชีวิก’’นฺติ จ วตฺวา อุตฺตริปิ พหุธา ปปฺจิตํ. ตตฺถ ‘‘อุทกสมฺภินฺนํ มธุ วา อุจฺฉุรโส วา อุทกสมฺภินฺโน ยามกาลิโก’’ติ อิทํ เนว ปาฬิยํ, น อฏฺกถายํ ทิสฺสติ. ‘‘ยาวกาลิกํ สมานํ ครุตรมฺปิ มุทฺทิกาชาติรสํ อตฺตนา สํสฏฺํ ลหุกํ ยามกาลิกภาวํ อุปเนนฺตํ อุทกํ ลหุตรํ สตฺตาหกาลิกํ อตฺตนา สํสฏฺํ ครุตรํ ยามกาลิกภาวํ อุปเนตี’’ติ เอตฺถ การณํ โสเยว ปุจฺฉิตพฺโพ, สพฺพตฺถ ปาฬิยํ อฏฺกถายฺจ อุทกสมฺเภเทน ครุตรสฺสปิ ลหุภาโวปคมนํเยว ทสฺสิตํ. ปาฬิยมฺปิ หิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานสฺส คุฬํ, อคิลานสฺส คุโฬทก’’นฺติ (มหาว. ๒๘๔) วทนฺเตน อคิลาเนน ปริภุฺชิตุํ อยุตฺโตปิ คุโฬ อุทกสมฺภินฺโน อคิลานสฺสปิ วฏฺฏตีติ อนุฺาโต.

ยมฺปิ จ ‘‘อุจฺฉุ เจ ยาวกาลิโก, อุจฺฉุรโส เจ ยามกาลิโก, ผาณิตํ เจ สตฺตาหกาลิกํ, ตโจ เจ ยาวชีวิโก’’ติ อฏฺกถาวจนํ ทสฺเสตฺวา ‘‘อุจฺฉุรโส อุทกสมฺภินฺโน ยามกาลิโก’’ติ อฺเน เกนจิ วุตฺตํ, ตมฺปิ ตถาวิธสฺส อฏฺกถาวจนสฺส อิมิสฺสา สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย อภาวโต น สารโต ปจฺเจตพฺพํ. ตโตเยว จ ‘‘อุจฺฉุรโส อุทเกน สมฺภินฺโนปิ อสมฺภินฺโนปิ สตฺตาหกาลิโกเยวา’’ติ เกจิ อาจริยา วทนฺติ. เภสชฺชกฺขนฺธเก จ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุจฺฉุรส’’นฺติ (มหาว. ๓๐๐) เอตฺถ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ อวิเสเสน วุตฺตํ ‘‘อุจฺฉุรโส สตฺตาหกาลิโก’’ติ.

สยํกตํ นิรามิสเมว วฏฺฏตีติ เอตฺถ อปริสฺสาวิตํ ปฏิคฺคหิตมฺปิ กรณสมเย ปริสฺสาเวตฺวา กสฏํ อปเนตฺวาว อตฺตนา กตนฺติ คเหตพฺพํ. ฌามอุจฺฉุผาณิตนฺติ อคฺคินา ทฑฺเฒ อุจฺฉุเขตฺเต ฌามอุจฺฉุนา กตผาณิตํ. โกฏฺฏิตอุจฺฉุผาณิตนฺติ ขุทฺทานุขุทฺทกํ ฉินฺทิตฺวา โกฏฺเฏตฺวา นิปฺปีเฬตฺวา ปกฺกํ เยภุยฺเยน จ สกสฏํ ผาณิตํ. ตาทิสสฺส จ กสฏสฺส อพฺโพหาริกตฺตา ‘‘ตํ ยุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. สีตุทเกน กตนฺติ มธุกปุปฺผานิ สีโตทเก ปกฺขิปิตฺวา มทฺทิตฺวา ปุปฺผรเส อุทกคเต สติ ตํ อุทกํ คเหตฺวา ปจิตฺวา กตผาณิตํ. ขีรํ ปกฺขิปิตฺวา กตํ มธุกผาณิตํ ยาวกาลิกนฺติ เอตฺถ ขีรํ ปกฺขิปิตฺวา ปกฺกเตลํ กสฺมา วิกาเล วฏฺฏตีติ เจ? เตเล ปกฺขิตฺตขีรํ เตลเมว โหติ, อฺํ ปน ขีรํ ปกฺขิปิตฺวา กตํ ขีรภาวํ คณฺหาตีติ อิทเมตฺถ การณํ. ยทิ เอวํ ขณฺฑสกฺขรมฺปิ ขีรํ ปกฺขิปิตฺวา กโรนฺติ, ตํ กสฺมา วฏฺฏตีติ อาห ‘‘ขณฺฑสกฺขรํ ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ขีรชลฺลิกนฺติ ขีรเผณํ.

เภสชฺโชทิสฺสํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘สตฺตวิธฺหิ โอทิสฺสํ นามา’’ติอาทินา อิตรานิปิ อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตานิ. วิกฏานีติ อปกติเภสชฺชตฺตา วิกฏานิ, วิรูปานีติ อตฺโถ. ทุกฺกฏวตฺถูนมฺปิ อกปฺปิยมํสานํ วสาย อนุฺาตตฺตา ‘‘วโสทิสฺส’’นฺติ วุตฺตํ. โอฬาริกานมฺปิ อาหารตฺถํ ผริตุํ สมตฺถานํ สปฺปิอาทีนํ เภสชฺชนาเมน อนุฺาตตฺตา ‘‘เภสชฺโชทิสฺส’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สติ ปจฺจเยติ วุตฺตตฺตา ปฏิคฺคหิตเภสชฺชานิ ทุติยทิวสโต ปฏฺาย ปุเรภตฺตมฺปิ สติ ปจฺจเย ปริภุฺชิตพฺพานิ, น อาหารตฺถํ เภสชฺชตฺถาย ปฏิคฺคหิตตฺตา’’ติ วทนฺติ.

๖๒๔. ทฺวารวาตปานกวาเฏสูติ มหาทฺวารสฺส วาตปานานฺจ กวาฏผลเกสุ. กสาเว ปกฺขิตฺตานิ ตานิ อตฺตโน สภาวํ ปริจฺจชนฺติ, ตสฺมา ‘‘มกฺเขตพฺพานี’’ติ วุตฺตํ, ฆุณปาณกาทิปริหารตฺถํ มกฺเขตพฺพานีติ อตฺโถ. อธิฏฺเตีติ ‘‘อิทานิ มยฺหํ อชฺโฌหรณียํ น ภวิสฺสติ, พาหิรปริโภคตฺถาย คมิสฺสตี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตีติ อตฺโถ. เตเนวาห – ‘‘สปฺปิฺจ เตลฺจ วสฺจ มุทฺธนิ เตลํ วา อพฺภฺชนํ วา’’ติอาทิ. ‘‘เอวํ อธิฏฺิตฺจ ปฏิคฺคหณํ วิชหตี’’ติ วทนฺติ.

๖๒๕. สเจ ทฺวินฺนํ สนฺตกํ เอเกน ปฏิคฺคหิตํ อวิภตฺตํ โหติ, ปริภุฺชิตุํ ปน น วฏฺฏตีติ เอตฺถ มชฺเฌ ปาโ ปริหีโน, เอวํ ปเนตฺถ ปาโ เวทิตพฺโพ ‘‘สเจ ทฺวินฺนํ สนฺตกํ เอเกน ปฏิคฺคหิตํ อวิภตฺตํ โหติ, สตฺตาหาติกฺกเม ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺติ, ปริภุฺชิตุํ ปน น วฏฺฏตี’’ติ. อฺถา ปน สทฺทปฺปโยโคปิ น สงฺคจฺฉติ. คณฺิปเทปิ จ อยเมว ปาโ ทสฺสิโต. ตตฺถ ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺตีติ ยถา อฺสฺส สนฺตกํ เอเกน ปฏิคฺคหิตํ สตฺตาหาติกฺกเมน นิสฺสคฺคิยํ น โหติ ปรสนฺตกภาวโต, เอวมิทมฺปิ อวิภตฺตตฺตา อุภยสาธารณมฺปิ อวินิพฺโภคภาวโต นิสฺสคฺคิยํ น โหตีติ อธิปฺปาโย. ปริภุฺชิตุํ ปน น วฏฺฏตีติ ภิกฺขุนา ปฏิคฺคหิตตฺตา สตฺตาหาติกฺกเม ยสฺส กสฺสจิ ภิกฺขุโน ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ ปฏิคฺคหิตสปฺปิอาทีนํ ปริโภคสฺส สตฺตาเหเนว ปริจฺฉินฺนตฺตา. ‘‘ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหปรมํ สนฺนิธิการกํ ปริภุฺชิตพฺพานี’’ติ หิ วุตฺตํ. คณฺิปเทสุ ปน ตีสุปิ อิธ ปาสฺส ปริหีนภาวํ อสลฺลกฺเขตฺวา ‘‘ปริภุฺชิตุํ ปน น วฏฺฏตีติ อิทํ อนฺโตสตฺตาเห ปริโภคํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ สฺาย วิสฺสาสคฺคาหาภาวโต ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ เอวมตฺโถ วุตฺโต, โส น คเหตพฺโพ.

อาวุโส, อิมํ เตลํ สตฺตาหมตฺตํ ปริภุฺช ตฺวนฺติ อิมินา เยน ปฏิคฺคหิตํ, เตน อนฺโตสตฺตาเหเยว ปรสฺส วิสฺสชฺชิตภาวํ ทสฺเสติ. กสฺส อาปตฺตีติ ปมํ ตาว อุภินฺนํ สาธารณตฺตา อนาปตฺติ วุตฺตา. อิทานิ ปน เอเกน อิตรสฺส วิสฺสฏฺภาวโต อุภยสาธารณตา นตฺถีติ วิภตฺตสทิสํ หุตฺวา ิตํ, ตสฺมา เอตฺถ ปฏิคฺคหิตสฺส สตฺตาหาติกฺกเม เอกสฺส อาปตฺติยา ภวิตพฺพนฺติ มฺมาโน ‘‘กึ ปฏิคฺคหณปจฺจยา ปฏิคฺคาหกสฺส อาปตฺติ, อุทาหุ ยสฺส สนฺตกํ ชาตํ, ตสฺสา’’ติ ปุจฺฉติ. นิสฺสฏฺภาวโตเยว จ อิธ ‘‘อวิภตฺตภาวโต’’ติ การณํ อวตฺวา ‘‘เยน ปฏิคฺคหิตํ, เตน วิสฺสชฺชิตตฺตา’’ติ วุตฺตํ. อิทฺจ วิสฺสฏฺภาวโต อุภยสาธารณตํ ปหาย เอกสฺส สนฺตกํ โหนฺตมฺปิ เยน ปฏิคฺคหิตํ, ตโต อฺสฺส สนฺตกํ ชาตํ, ตสฺมา ปรสนฺตกปฏิคฺคหเณ วิย ปฏิคฺคาหกสฺส ปฏิคฺคหณปจฺจยา นตฺถิ อาปตฺตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น ปน ‘‘เยน ปฏิคฺคหิตํ, เตน วิสฺสชฺชิตตฺตา’’ติ วจนโต อวิสฺสชฺชิเต สติ อวิภตฺเตปิ สตฺตาหาติกฺกเม อาปตฺตีติ ทสฺสนตฺถํ อวิสฺสชฺชิเต อวิภตฺตภาวโตเยว อนาปตฺติยา สิทฺธตฺตา. สเจ ปน อิตโร เยน ปฏิคฺคหิตํ, ตสฺเสว อนฺโตสตฺตาเห อตฺตโน ภาคมฺปิ วิสฺสชฺเชติ, สตฺตาหาติกฺกเม สิยา อาปตฺติ เยน ปฏิคฺคหิตํ, ตสฺเสว สนฺตกภาวมาปนฺนตฺตา อิตรสฺส อปฺปฏิคฺคหิตตฺตา. อิมินา ตสฺส สนฺตกภาเวปิ อฺเน ปฏิคฺคหิตสกสนฺตเก วิย เตน อปฺปฏิคฺคหิตภาวโต อนาปตฺตีติ ทีเปติ. อิทํ ปน อธิปฺปายํ อชานิตฺวา อิโต อฺถา คณฺิปทการาทีหิ ปปฺจิตํ, น ตํ สารโต ปจฺเจตพฺพํ.

อปริโภคํ โหตีติ กสฺสจิ อมนุฺสฺส ปติตตฺตา ปริโภคารหํ น โหติ. เยน จิตฺเตนาติ เยน ปริจฺจชิตุกามตาจิตฺเตน. ‘‘อนฺโตสตฺตาเห’’ติ อธิการตฺตา ‘‘อนฺโตสตฺตาเห อนเปกฺโข ทตฺวา ปฏิลภิตฺวา ปริภุฺชตี’’ติ อิมํ สมฺพนฺธํ สนฺธาย มหาสุมตฺเถเรน ‘‘เอวํ อนฺโตสตฺตาเห ทตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. มหาปทุมตฺเถโร ปน ยทิ เอวํ ‘‘วิสฺสชฺเชตี’’ติ อิมินาว ตํ สิทฺธํ, สตฺตาหาติกฺกนฺตํ ปน นิสฺสฏฺํ ปฏิลภิตฺวา ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ, ตสฺมา ตสฺส ปริโภคมุขทสฺสนมิทนฺติ อาห – ‘‘นยิทํ ยาจิตพฺพ’’นฺติอาทิ. อฺเน ภิกฺขุนาติ เอตฺถ สุทฺธจิตฺเตน ทินฺนตฺตา สยมฺปิ อาหราเปตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติเยว. สปฺปิอาทีนํ ปฏิคฺคหิตภาโว, อตฺตโน สนฺตกตา, สตฺตาหาติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๒๗. จตุตฺเถ สิพฺพนรชนกปฺปปริโยสาเนน นิฏฺาเปตฺวาติ สูจิกมฺมนิฏฺาเนน สกิมฺปิ วณฺณเภทมตฺตรชเนน กปฺปพินฺทุกรเณน จ นิฏฺาเปตฺวา. สมเยติ วสฺสานสมเย.

๖๒๘. กุจฺฉิสมโยติ อนฺโตสมโย. ‘‘อยเมโก อฑฺฒมาโส ปริเยสนกฺเขตฺตฺเจว กรณกฺเขตฺตฺจ. เอตสฺมิฺหิ อนฺตเร วสฺสิกสาฏิกํ อลทฺธํ ปริเยสิตุํ ลทฺธํ กาตุฺจ วฏฺฏติ, นิวาเสตุํ อธิฏฺาตุฺจ น วฏฺฏตี’’ติ โปตฺถเกสุ ปาโ ทิสฺสติ, โส อปาโ. เอวํ ปเนตฺถ ปาเน ภวิตพฺพํ ‘‘อยเมโก อฑฺฒมาโส ปริเยสนกฺเขตฺตํ. เอตสฺมิฺหิ อนฺตเร วสฺสิกสาฏิกํ อลทฺธํ ปริเยสิตุํ วฏฺฏติ, ลทฺธํ กาตุํ นิวาเสตุํ อธิฏฺาตุฺจ น วฏฺฏตี’’ติ. น หิ คิมฺหานํ ปจฺฉิมมาสสฺส ปโม อฑฺฒมาโส กรณกฺเขตฺตํ โหติ. ‘‘อฑฺฒมาโส เสโส คิมฺหานนฺติ กตฺวา นิวาเสตพฺพ’’นฺติ วจนโต ปน คิมฺหานํ ปจฺฉิมมาสสฺส ปจฺฉิโม อฑฺฒมาโส กรณกฺเขตฺตฺเจว นิวาสนกฺเขตฺตฺจ โหติ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. วหิสกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘คิมฺหานํ ปจฺฉิโม มาโส ปริเยสนกฺเขตฺตํ, ปจฺฉิโม อฑฺฒมาโส กรณนิวาสนกฺเขตฺตมฺปี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา ปาฬิยา มาติกาฏฺกถาย จ อวิโรธํ อิจฺฉนฺเตน วุตฺตนเยเนว ปาโ คเหตพฺโพ.

‘‘วิฺตฺตึ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺส อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน อนาปตฺตี’’ติ วทนฺเตน ‘‘ปิฏฺิสมยตฺตา อิมินา สิกฺขาปเทน อาปตฺตี’’ติ ทีปิตา โหติ. น หิ าตกปวาริตฏฺานโต ปิฏฺิสมเย สตุปฺปาทกรณมตฺเตนปิ สมฺภวนฺตี อาปตฺติ ตโต ครุกตราย วิฺตฺติยา น โหตีติ สกฺกา วตฺตุํ. เตเนว ภทนฺตพุทฺธทตฺตาจริเยน วุตฺตํ –

‘‘กตฺวา ปน สตุปฺปาทํ, วสฺสิกสาฏิจีวรํ;

นิปฺผาเทนฺตสฺส ภิกฺขุสฺส, สมเย ปิฏฺิสมฺมเต.

‘‘โหติ นิสฺสคฺคิยาปตฺติ, าตกาาตกาทิโน;

เตสุเยว จ วิฺตฺตึ, กตฺวา นิปฺผาทเน ตถา’’ติ.

เกนสฺส โหติ อาปตฺตีติ อสฺส มาตรํ จีวรํ ยาจนฺตสฺส เกน สิกฺขาปเทน อาปตฺตีติ ปุจฺฉติ. ‘‘ปริณตํ วิฺาเปนฺตสฺส ปริณามนสิกฺขาปเทน อาปตฺตี’’ติ โจทนาภาวํ ทสฺเสติ โน จ สงฺเฆ ปริณตนฺติ. อถ อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทนาติ เจ, เอตมฺปิ นตฺถีติ อาห ‘‘อนาปตฺติ จ าตเก’’ติ. ‘‘าตเก วิฺาเปนฺตสฺสา’’ติ ปาเสโส. อิมมตฺถํ สนฺธายาติ ปิฏฺิสมเย วสฺสิกสาฏิกตฺถํ าตกปวาริตฏฺาเน สตุปฺปาทกรเณน อาปตฺตึ, อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน อนาปตฺติฺจ สนฺธาย.

อฺาตกอปฺปวาริตฏฺานโต…เป… ทุกฺกฏนฺติ อิทํ วสฺสิกสาฏิกํ อทินฺนปุพฺเพ สนฺธาย วุตฺตํ. เตเนเวตฺถ วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, ทินฺนปุพฺเพสุ ปน วตฺตเภโท นตฺถิ. เตเนวาห – ‘‘เย มนุสฺสา…เป… วตฺตเภโท นตฺถี’’ติ. อิทนฺติ ยถาวุตฺตนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยํ. วิฺตฺตึ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺสาติ อฺาตกอปฺปวาริตฏฺานโต วิฺตฺตึ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺส. ปกติยา วสฺสิกสาฏิกทายกา นาม สงฺฆวเสน วา ปุคฺคลวเสน วา อปวาเรตฺวา อนุสํวจฺฉรํ วสฺสิกสาฏิกานํ ทายกา. อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน อนาปตฺตีติ เอตฺถ อิมินาปิ สิกฺขาปเทน อนาปตฺตีติ เวทิตพฺพํ. กุจฺฉิสมเย หิ อตฺตโน าตกปวาริตฏฺานโต ‘‘เทถ เม วสฺสิกสาฏิก’’นฺติอาทินา วิฺาเปนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ. เตเนวาห – ‘‘น วตฺตพฺพา เทถ เมติ อิทฺหิ ปริเยสนกาเล อฺาตกอปฺปวาริเต เอว สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ. มาติกาฏฺกถายฺหิ (กงฺขา. อฏฺ. วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘อตฺตโน าตกปวาริตฏฺานโต ปน ‘เทถ เม วสฺสิกสาฏิกจีวร’นฺติอาทิกาย วิฺตฺติยาปิ ปริเยสิตพฺพ’’นฺติ.

๖๒๙. ‘‘อากาสโต ปติตอุทเกเนวาติ วจนโต ฉทนโกฏิยา ปติตอุทเกน นหายนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ.

๖๓๐. ฉ มาเส ปริหารํ ลภตีติ เอเตน อนฺโตวสฺเสปิ ยาว วสฺสานสฺส ปจฺฉิมทิวสา อกตา ปริหารํ ลภตีติ ทีปิตํ โหติ. ยสฺมา มูลจีวรํ กโรนฺเตน เหมนฺตสฺส ปจฺฉิมุโปสถทิวเสเยว กาตพฺพํ, ตสฺมา คิมฺหานโต เอกูนตึสทิวเส ปริหารํ ลภติ, เอวํ สนฺเตปิ อปฺปกํ อูนมธิกํ วา คณนูปคํ น โหตีติ กตฺวา ‘‘ตโต ปรมฺปิ…เป… เอกมาส’’นฺติ วุตฺตํ. เอกาหทฺวีหาทิวเสน…เป… ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จาติ อิมินา เอกาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ, ทฺวีหานาคตาย…เป… ทสาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ, อนฺโตวสฺเส วา ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จาติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต. ตตฺถ อาสาฬฺหิมาสสฺส ชุณฺหปกฺขปุณฺณมิยํ ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ วสฺสิกสาฏิกา ‘‘เอกาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จา’’ติ วุจฺจติ. เอเตเนว นเยน ชุณฺหปกฺขสฺส ฉฏฺิยํ ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ ‘‘ทสาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จา’’ติ วุจฺจติ. ยาว ปมกตฺติกเตมาสปุณฺณมี, ตาว อนฺโตเตมาเส ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ ‘‘อนฺโตวสฺเส ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จา’’ติ วุจฺจติ. ปมกตฺติกเตมาสปุณฺณมิโต ปรฺหิ ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ ยาว จีวรกาโล นาติกฺกมติ, ตาว อนธิฏฺหิตฺวา เปตุํ วฏฺฏตีติ น ตตฺรายํ วิจารณา สมฺภวติ.

ตสฺมึเยว อนฺโตทสาเห อธิฏฺาตพฺพาติ อวิเสเสน วุตฺเตปิ วสฺสานโต ปุพฺเพ เอกาหทฺวีหาทิวเสน อนาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เตหิ ทิวเสหิ สทฺธึ ทสาหํ อนติกฺกมนฺเตน วสฺสูปนายิกทิวสโต ปฏฺาย อธิฏฺานกฺเขตฺตํ สมฺปตฺตาเยว อธิฏฺาตพฺพา, น ตโต ปุพฺเพ อธิฏฺานสฺส อเขตฺตตฺตา. อนฺโตวสฺเส ปน ลทฺธา ตสฺมึเยว อนฺโตวสฺเส ลทฺธทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อนติกฺกาเมตฺวา อธิฏฺาตพฺพา.

นนุ จ วสฺสานโต ปุพฺเพ อนธิฏฺหิตฺวา ทสาหํ อติกฺกาเมตุํ วฏฺฏติเยว, ตสฺมา อธิฏฺานสฺส อเขตฺตภูเตปิ ทิวเส คเหตฺวา ‘‘อนฺโตทสาเห อธิฏฺาตพฺพ’’นฺติ กสฺมา วุตฺตํ? ยถา ‘‘อนฺโตวสฺเส ลทฺธาปิ ยาว น นิฏฺาติ, ตาว อนธิฏฺหิตฺวา ทสาหํ อติกฺกาเมตุํ วฏฺฏตี’’ติ อกตาย อนธิฏฺานกฺเขตฺตสทิสาปิ อติกฺกนฺตทิวสา ทสาหํ อติกฺกาเมตฺวา นิฏฺิตาย คณนูปคา โหนฺตีติ นิฏฺิตทิวเสเยว อธิฏฺาตพฺพา, เอวมิธาปิ วสฺสานโต ปุพฺเพ อนธิฏฺานกฺเขตฺตภูตาปิ ทิวสา ลทฺธทิวสโต ปฏฺาย คณนูปคา โหนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ยทิ เอวํ ‘‘ตสฺมึเยว อนฺโตทสาเห’’ติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา ทสาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ฉฏฺิยํ ลทฺธา ปุณฺณมิยํ อธิฏฺาตพฺพาติ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ ‘‘จาตุมาสํ อธิฏฺาตุ’’นฺติ วจเนเนว ปฏิกฺขิตฺตตฺตา. เอวํ สนฺเต ‘‘ทสาหานาคตายา’’ติ อิมินา กึ ปโยชนนฺติ เจ? วสฺสานโต ปุพฺเพเยว ทสาเห อติกฺกนฺเต วสฺสูปนายิกทิวเส นิฏฺิตา ตทเหว อธิฏฺาตพฺพาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ อิทเมตฺถ ปโยชนํ. เตเนวาห – ‘‘ทสาหาติกฺกเม นิฏฺิตา ตทเหว อธิฏฺาตพฺพา’’ติ.

ทสาเห อปฺปโหนฺเต จีวรกาลํ นาติกฺกเมตพฺพาติ เตมาสพฺภนฺตเร ทสาเห อปฺปโหนฺเต ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ จีวรกาลํ นาติกฺกเมตพฺพาติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘ปมกตฺติกเตมาสปุณฺณมิโต ปุพฺเพ สตฺตมิโต ปฏฺาย ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ วสฺสิกสาฏิกา ทสาเห อนติกฺกนฺเตเยว จีวรกาลํ โอติณฺณตฺตา ตตฺถ อนธิฏฺหิตฺวาปิ เปตุํ วฏฺฏตี’’ติ. อิมินา จ อิมํ ทีเปติ – อกตา เจ วสฺสิกสาฏิกา, วสฺสานํ จาตุมาสํ อกตตฺตาเยว ปริหารํ ลภติ, กตาย ปน ทสาหปรมสิกฺขาปทํ อวิโกเปตฺวา ปริหาโร วตฺตพฺโพติ.

ยทา วา ตทา วา อธิฏฺาตุํ วฏฺฏตีติ จาตุมาสพฺภนฺตเร ทสาเห อติกฺกนฺเตปิ นตฺถิ โทโสติ อธิปฺปาโย. ‘‘กทา อธิฏฺาตพฺพา…เป… ยทิ นปฺปโหติ, ยาว กตฺติกปุณฺณมา ปริหารํ ลภตี’’ติ อิมินาปิ กุรุนฺทิวจเนน อกตาย วสฺสิกสาฏิกาย จาตุมาสํ ปริหาโร, กตาย ทสาหเมว ปริหาโรติ อยมตฺโถ ทีปิโตเยวาติ อาห ‘‘อปิจา’’ติอาทิ.

ปาฬิยํ อจฺฉินฺนจีวรสฺส นฏฺจีวรสฺสาติอาทินา นิสฺสคฺคิเยน อนาปตฺติ วุตฺตา, อุทาหุ นคฺคสฺส นหายโต ทุกฺกเฏน อนาปตฺติ วุตฺตาติ? กิเมตฺถ ปุจฺฉิตพฺพํ. สพฺพสิกฺขาปเทสุ หิ ยตฺถ ยตฺถ มูลสิกฺขาปเทน อาปตฺติปฺปสงฺโค, ตตฺถ ตตฺถ อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ อนาปตฺติวาโร อารภียตีติ อิธาปิ นิสฺสคฺคิเยน อนาปตฺติทสฺสนตฺถนฺติ ยุตฺตํ วตฺตุํ. น หิ มูลาปตฺติยา อนาปตฺตึ อทสฺเสตฺวา อนฺตรา วุตฺตาย เอว อาปตฺติยา อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ อนาปตฺติวาโร อารภียตีติ. เตเนว ตีสุปิ คณฺิปเทสุ อิทํ วุตฺตํ ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺส นฏฺจีวรสฺส จาติ เอตฺถ อจฺฉินฺนเสสจีวรสฺส นฏฺเสสจีวรสฺส จ อสมเย นิวาเสนฺตสฺส ปริเยสนฺตสฺส จ อนาปตฺติ. อาปทาสูติ เอตฺถ อนิวตฺถํ โจรา หรนฺตีติ อสมเย นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ. มาติกาฏฺกถายมฺปิ (กงฺขา. อฏฺ. วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺส วา นฏฺจีวรสฺส วา อนิวตฺถํ โจรา หรนฺตีติ เอวํ อาปทาสุ วา นิวาสยโต อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺตี’’ติ. อฏฺกถายํ ปน นคฺคสฺส นหายโต ทุกฺกเฏเนว อนาปตฺตึ สนฺธาย ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺสาติ เอตํ วสฺสิกสาฏิกเมว สนฺธาย วุตฺตํ. เตสฺหิ นคฺคานํ กาโยวสฺสาปเน อนาปตฺติ. เอตฺถ จ มหคฺฆวสฺสิกสาฏิกํ นิวาเสตฺวา นหายนฺตสฺส โจรุปทฺทโว อาปทา นามา’’ติ ยํ วุตฺตํ, ตตฺถ การณํ ปริเยสิตพฺพํ.

อถ อุภเยนปิ อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺสา’’ติอาทิ อารทฺธนฺติ เอวมธิปฺปาโย สิยา, เอวมฺปิ ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺสาติ เอตํ วสฺสิกสาฏิกเมว สนฺธาย วุตฺต’’นฺติอาทินา วิเสเสตฺวา น วตฺตพฺพํ. เอวฺหิ วตฺตพฺพํ สิยา ‘‘อจฺฉินฺนเสสจีวรสฺส นฏฺเสสจีวรสฺส วา อสมเย นิวาเสนฺตสฺส ปริเยสนฺตสฺส จ นิสฺสคฺคิเยน อนาปตฺติ, อจฺฉินฺนวสฺสิกสาฏิกสฺส นฏฺวสฺสิกสาฏิกสฺส วา นคฺคสฺส นหายโต ทุกฺกเฏน อนาปตฺติ, อาปทาสุ อนิวตฺถํ โจรา หรนฺตีติ อสมเย นิวาสยโต นิสฺสคฺคิเยน อนาปตฺติ, มหคฺฆวสฺสิกสาฏิกํ นิวาเสตฺวา นหายนฺตสฺส โจรา หรนฺติ, นคฺคสฺส นหายโต ทุกฺกเฏน อนาปตฺตี’’ติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

องฺเคสุ ปน วสฺสิกสาฏิกาย อตฺตุทฺเทสิกตา, อสมเย ปริเยสนตา, ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมานิ ตาว ปริเยสนาปตฺติยา ตีณิ องฺคานิ. สจีวรตา, อาปทาภาโว, วสฺสิกสาฏิกาย สกภาโว, อสมเย นิวาสนนฺติ อิมานิ นิวาสนาปตฺติยา จตฺตาริ องฺคานิ.

วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๓๑. ปฺจเม ยมฺปิ ตฺยาหนฺติ เอตฺถ นฺติ การณวจนํ, ตสฺมา เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ – มยา สทฺธึ ชนปทจาริกํ ปกฺกมิสฺสตีติ ยํ การณํ นิสฺสาย อหํ เต, อาวุโส, จีวรํ อทาสึ, ตํ น กโรสีติ กุปิโต อนตฺตมโน อจฺฉินฺทีติ. นฺติ วา จีวรํ ปรามสติ, ตตฺถ ‘‘มยา สทฺธึ ชนปทจาริกํ ปกฺกมิสฺสตีติ ยมฺปิ เต อหํ จีวรํ อทาสึ, ตํ จีวรํ คณฺหิสฺสามีติ กุปิโต อนตฺตมโน อจฺฉินฺที’’ติ สมฺพนฺธิตพฺพํ.

๖๓๓. อาณตฺโต พหูนิ คณฺหาติ, เอกํ ปาจิตฺติยนฺติ ‘‘จีวรํ คณฺหา’’ติ อาณตฺติยา เอกจีวรวิสยตฺตา เอกเมว ปาจิตฺติยํ. วาจาย วาจาย ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถ อจฺฉินฺเนสุ วตฺถุคณนาย ปาจิตฺติยานิ. เอกวาจาย สมฺพหุลา อาปตฺติโยติ อิทํ อจฺฉินฺเนสุ วตฺถุคณนาย อาปชฺชิตพฺพํ ปาจิตฺติยาปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. อาณตฺติยา อาปชฺชิตพฺพํ ปน ทุกฺกฏํ เอกเมว.

๖๓๔. เอวนฺติ อิมินา ‘‘วตฺถุคณนาย ทุกฺกฏานี’’ติ อิทํ ปรามสติ. เอเสว นโยติ สิถิลํ คาฬฺหฺจ ปกฺขิตฺตาสุ อาปตฺติยา พหุตฺตํ เอกตฺตฺจ อติทิสฺสติ.

๖๓๕. อาวุโส, มยนฺติอาทีสุ คณฺหิตุกามตาย เอวํ วุตฺเตปิ เตเนว ทินฺนตฺตา อนาปตฺติ. อมฺหากํ สนฺติเก อุปชฺฌํ คณฺหิสฺสตีติ อิทํ สามเณรสฺสปิ ทานํ ทีเปติ. ตสฺมา กิฺจาปิ ปาฬิยํ ‘‘ภิกฺขุสฺส สามํ จีวรํ ทตฺวา’’ติ วุตฺตํ, ตถาปิ อนุปสมฺปนฺนกาเล ทตฺวาปิ อุปสมฺปนฺนกาเล อจฺฉินฺทนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมวาติ เวทิตพฺพํ. อจฺฉินฺทนสมเย อุปสมฺปนฺนภาโวเยว เหตฺถ ปมาณํ. เทตีติ ตุฏฺโ วา กุปิโต วา เทติ. รุนฺธถาติ นิวาเรถ. เอวํ ปน ทาตุํ น วฏฺฏตีติ เอตฺถ เอวํ ทินฺนํ น ตาว ตสฺส สนฺตกนฺติ อนธิฏฺหิตฺวาว ปริภุฺชิตพฺพนฺติ เวทิตพฺพํ. อาหราเปตุํ ปน วฏฺฏตีติ เอวํ ทินฺนํ ภติสทิสตฺตา อาหราเปตุํ วฏฺฏติ. จชิตฺวา ทินฺนนฺติ วุตฺตนเยน อทตฺวา อนเปกฺเขน หุตฺวา ตสฺเสว ทินฺนํ. ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพติ สกสฺาย วินา คณฺหนฺโต ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. วิกปฺปนุปคปจฺฉิมจีวรตา, สามํ ทินฺนตา, สกสฺิตา, อุปสมฺปนฺนตา, โกธวเสน อจฺฉินฺทนํ อจฺฉินฺทาปนํ วาติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.

จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สุตฺตวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๓๖. ฉฏฺเ ปาฬิยํ จีวรการสมเยติ อิมินา วสฺสํวุตฺถภิกฺขูนํ จีวรกมฺมสมยตฺตา จีวรมาโส วุตฺโต, อถฺโปิ ปน จีวรกมฺมกาโล จีวรการสมโยติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

๖๓๘. ปฺจหิปิ มิสฺเสตฺวาติ โขมาทีหิ ปฺจหิ มิสฺเสตฺวา. วีตวีตฏฺานํ ยตฺถ สํหริตฺวา เปนฺติ, ตสฺส ตุรีติ อธิวจนํ. สุตฺตํ ปเวเสตฺวา เยน อาโกเฏนฺตา ฆนภาวํ สมฺปาเทนฺติ, ตํ เวมนฺติ วุจฺจติ. ยํ ยนฺติ ยํ ยํ ปโยคํ. ตนฺตูนํ อตฺตโน สนฺตกตฺตา วีตวีตฏฺานํ ปฏิลทฺธเมว โหตีติ อาห ‘‘ทีฆโต…เป… วีเต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ. ปาฬิยมฺปิ หิ อิมินาว อธิปฺปาเยน ‘‘ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิย’’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา ยาว จีวรํ วฑฺฒติ, ตาว อิมินา ปมาเณน อาปตฺติโย วฑฺฒนฺติ.

เสโส กปฺปิโยติ เอตฺถ หตฺถกมฺมยาจนวเสน. ปุพฺเพ วุตฺตนเยน นิสฺสคฺคิยนฺติ ทีฆโส วิทตฺถิมตฺเต ติริยํ หตฺถมตฺเต จ วีเต นิสฺสคฺคิยํ. เตเนวาติ อกปฺปิยตนฺตวาเยน. ตเถว ทุกฺกฏนฺติ ปริจฺเฉเท ปริจฺเฉเท ทุกฺกฏํ. เกทารพทฺธาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน อจฺฉิมณฺฑลพทฺธาทิ คหิตํ. ตนฺเต ิตํเยว อธิฏฺาตพฺพนฺติ เอตฺถ ‘‘ปจฺฉา วีตฏฺานํ อธิฏฺิตคติกเมว โหติ, ปุน อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ. สเจ ปน ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา อนฺตรนฺตรา อวีตํ โหติ, ปุน อธิฏฺาตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ. เอเสว นโยติ วิกปฺปนุปคปฺปมาณมตฺเต วีเต ตนฺเต ิตํเยว อธิฏฺาตพฺพนฺติ อตฺโถ. จีวรตฺถาย วิฺาปิตสุตฺตํ, อตฺตุทฺเทสิกตา, อกปฺปิยตนฺตวาเยน วายาปนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. สุตฺตวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา) ปน วายาเปยฺยาติ เอตฺถ ‘‘จีวรํ เม, อาวุโส, วายถาติ อกปฺปิยวิฺตฺติยา วายาเปยฺยา’’ติ อตฺถํ วตฺวา องฺเคสุปิ ‘‘อกปฺปิยตนฺตวาเยน อกปฺปิยวิฺตฺติยา วายาปน’’นฺติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ, ตถาวิธํ ปน วิเสสวจนํ เนว ปาฬิยํ, น อฏฺกถายํ อุปลพฺภติ. ปาฬิยมฺปิ ‘‘าตกานํ ปวาริตาน’’นฺติ เอตฺตกเมว อนาปตฺติวาเร วุตฺตํ, อฏฺกถายฺจ สุตฺตตนฺตวายานเมว กปฺปิยากปฺปิยภาเวน พหุธา นโย ทสฺสิโต, น กปฺปิยากปฺปิยวิฺตฺติวเสนาติ. ‘‘อกปฺปิยวิฺตฺติยา วายาเปยฺยา’’ติ จ วิเสเสตฺวา วทนฺเตน อยํ นาม กปฺปิยวิฺตฺตีติ วิสุํ น ทสฺสิตํ, ตสฺมา วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.

สุตฺตวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. มหาเปสการสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๔๒. สตฺตเม กิฺจิมตฺตํ อนุปทชฺเชยฺยาติ อิทํ ตสฺส กตฺตพฺพาการมตฺตทสฺสนํ, ทานํ ปเนตฺถ องฺคํ น โหติ สุตฺตวฑฺฒนวเสเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตา. เตเนว ปทภาชเนปิ ‘‘ตสฺส วจเนน อายตํ วา วิตฺถตํ วา อปฺปิตํ วา กโรติ, ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิย’’นฺติ สุตฺตวฑฺฒนาการเมว ทสฺเสตฺวา อาปตฺติ วุตฺตา. มาติกาฏฺกถายมฺปิ (กงฺขา. อฏฺ. มหาเปสการสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘น ภิกฺขุโน ปิณฺฑปาตทานมตฺเตน ตํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ. สเจ ปน เต ตสฺส วจเนน จีวรสามิกานํ หตฺถโต สุตฺตํ คเหตฺวา อีสกมฺปิ อายตํ วา วิตฺถตํ วา อปฺปิตํ วา กโรนฺติ, อถ เตสํ ปโยเค ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหตี’’ติ. อายตาทีสุ สตฺตสุ อากาเรสุ อาทิมฺหิ ตโย อากาเร สุตฺตวฑฺฒเนน วินา น สกฺกา กาตุนฺติ อาห ‘‘สุตฺตวฑฺฒนอาการเมว ทสฺเสตี’’ติ. สุวีตาทโย หิ อากาเร วินาปิ สุตฺตวฑฺฒเนน สกฺกา กาตุํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อฺาตกอปฺปวาริตานํ ตนฺตวาเย อุปสงฺกมิตฺวา วิกปฺปมาปชฺชนตา, จีวรสฺส อตฺตุทฺเทสิกตา, ตสฺส วจเนน สุตฺตวฑฺฒนํ, จีวรสฺส ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

มหาเปสการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๔๖. อฏฺเม อสมฺโมหตฺถนฺติ ทสาหานาคตปเท อสมฺโมหตฺถํ. ปมปทสฺสาติ ทสาหานาคตปทสฺส. ตานิ ทิวสานีติ เตสุ ทิวเสสุ. อุปฺปชฺเชยฺยาติ สงฺฆโต วา คณโต วา อุชุกํ อตฺตโนเยว วา อุปฺปชฺเชยฺย. ปฺจมิโตติ เอตฺถ วสฺสํ วสนฺตสฺส สงฺฆสฺส ปฺจมิโต ปุพฺเพ อุปฺปนฺนํ อจฺเจกจีวรํ ปฺจมิยํ วิภชิตฺวา คหิตํ อจฺเจกจีวรปริหารเมว ลภติ. อุชุกํ อตฺตโนเยว อุปฺปนฺนํ เจ, ปฺจมิยํ อุปฺปนฺนเมว อจฺเจกจีวรปริหารํ ลภติ, น ตโต ปุพฺเพติ ทฏฺพฺพํ.

สทฺธามตฺตกนฺติ ธมฺมสฺสวนาทีหิ ตงฺขณุปฺปนฺนํ สทฺธามตฺตกํ. อาโรจิตํ จีวรนฺติ อาโรเจตฺวา ทินฺนจีวรํ. ฉฏฺิยํ อุปฺปนฺนจีวรสฺส เอกาทสโม อรุโณ จีวรกาเล อุฏฺาตีติ อาห ‘‘ฉฏฺิโต ปฏฺายา’’ติอาทิ. ปิตจีวรมฺปีติ ปธานจีวรทสฺสนมุเขน สพฺพมฺปิ อติเรกจีวรํ วุตฺตํ. อถ ‘‘จีวรมาเสปิ อติเรกจีวรํ นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิทํ กุโต ลทฺธนฺติ เจ? ‘‘วิสุํ อนนุฺาเตปิ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ‘จีวรกาลสมโย นาม อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส, อตฺถเต กถิเน ปฺจ มาสา’ติ วทนฺเตน ตติยกถินสิกฺขาปเท ‘อกาลจีวรํ นาม อนตฺถเต กถิเน เอกาทสมาเส อุปฺปนฺนํ, อตฺถเต กถิเน สตฺตมาเส อุปฺปนฺน’นฺติ วทนฺเตน จ อนุฺาตเมว โหตี’’ติ วทนฺติ. ‘‘อฏฺกถาวจนปฺปมาเณน คเหตพฺพ’’นฺติ จ เกจิ.

๖๕๐. อิทานิ ปมกถินาทิสิกฺขาปเทหิ ตสฺส ตสฺส จีวรสฺส ลพฺภมานํ ปริหารํ อิเธว อุปสํหริตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อิติ อติเรกจีวรสฺส ทสาหํ ปริหาโร’’ติอาทิมาห. ‘‘อนตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิโก มาโส, อตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิกา ปฺจ มาสา’’ติ อยเมว ปาโ คเหตพฺโพ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘กามฺเจส ‘ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพ’นฺติ อิมินาว สิทฺโธ, อฏฺุปฺปตฺติวเสน ปน อปุพฺพํ วิย อตฺถํ ทสฺเสตฺวา สิกฺขาปทํ ปิต’’นฺติ ปาํ วตฺวา ‘‘ทสทิวสาธิโก มาโส, ทสทิวสาธิกา ปฺจ มาสาติ ปาเน ภวิตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ ตสฺส ปมาทปาตฺตา. น หิ ทสาเหน อสมฺปตฺตาย กตฺติกเตมาสิกปุณฺณมาย จีวรกาลโต ปุพฺเพ ทส ทิวสา อธิกา โหนฺติ. เอวฺหิ สติ ‘‘นวาหานาคตํ กตฺติกเตมาสิกปุณฺณม’’นฺติ วตฺตพฺพํ.

มาติกาฏฺกถายมฺปิ (กงฺขา. อฏฺ. อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘ปวารณมาสสฺส ชุณฺหปกฺขปฺจมิโต ปฏฺาย อุปฺปนฺนสฺส จีวรสฺส นิธานกาโล ทสฺสิโต โหตี’’ติ วตฺวา ‘‘กามฺเจส ‘ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพ’นฺติ อิมินาว สิทฺโธ, อฏฺุปฺปตฺติวเสน ปน อปุพฺพํ วิย อตฺถํ ทสฺเสตฺวา สิกฺขาปทํ ปิต’’นฺติ ปาโ ทสฺสิโต, โสปิ ปมาทปาโเยว. ‘‘ชุณฺหปกฺขปฺจมิโต ปฏฺายา’’ติ จ วุตฺตตฺตา ตตฺเถว ปุพฺพาปรวิโรโธปิ สิยา, ฉฏฺิโต ปฏฺายาติ วตฺตพฺพํ. เอวฺหิ สติ ‘‘ทสาหปรมสิกฺขาปเทเนว สิทฺธ’’นฺติ สกฺกา วตฺตุํ. อิมเมว จ ปมาทปาํ คเหตฺวา ภทนฺตพุทฺธทตฺตาจริเยน จ –

‘‘ตสฺสาจฺจายิกวตฺถสฺส, กถิเน ตุ อนตฺถเต;

ปริหาเรกมาโสว, ทสาหปรโม มโต.

‘‘อตฺถเต กถิเน ตสฺส, ปฺจ มาสา ปกาสิตา;

ปริหาโร มุนินฺเทน, ทสาหปรมา ปนา’’ติ. –

วุตฺตํ.

อจฺเจกจีวรกาเล อุปฺปนฺนตฺตา ‘‘อจฺเจกจีวรสทิเส’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ปฺจมิยํ อุปฺปนฺนํ อนจฺเจกจีวรํ ทสาหํ อติกฺกามยโต จีวรกาลโต ปุพฺเพเยว อาปตฺติ โหติ, น จีวรกาลาติกฺกเม, ตสฺมา จีวรกาลาติกฺกเม ปุน อาปชฺชิตพฺพาย อาปตฺติยา อภาวํ สนฺธาย ‘อนจฺเจกจีวเร อนจฺเจกจีวรสฺี อนาปตฺตี’ติ วุตฺต’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. วิกปฺปนุปคปจฺฉิมปฺปมาณสฺส อจฺเจกจีวรสฺส อตฺตโน สนฺตกตา, ทสาหานาคตาย กตฺติกเตมาสิกปุณฺณมาย อุปฺปนฺนภาโว, อนธิฏฺิตอวิกปฺปิตตา, จีวรกาลาติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๕๒. นวเม อนฺตรฆเรติ อนฺตเร ฆรานิ เอตฺถ, เอตสฺสาติ วา อนฺตรฆรนฺติ ลทฺธโวหาเร โคจรคาเม. เตนาห ‘‘อนฺโตคาเม’’ติ. ปาฬิยํ วิปฺปวสนฺตีติ อิทํ ยสฺมึ วิหาเร วสนฺตา อนฺตรฆเร จีวรํ นิกฺขิปึสุ, ตโต อฺตฺถ วสนฺเต สนฺธาย วุตฺตํ. ตสฺมิฺหิ วิหาเร อนฺตรฆเร จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา วสิตุํ อนุฺาตตฺตา ตตฺถ วาโส วิปฺปวาโส นาม น โหติ. ทุพฺพลโจฬา ทุจฺโจฬา วิรูปโจฬา วา, ทุจฺโจฬตฺตา เอว ลูขจีวรา.

๖๕๓. ‘‘ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ อิมสฺส วิภงฺเค ‘‘อุปสมฺปชฺชา’’ติ อุทฺธริตพฺเพ ‘‘อุปสมฺปชฺช’’นฺติ อุทฺธริตฺวา ‘‘โย ปมสฺส ฌานสฺส ลาโภ ปฏิลาโภ’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ สนฺธายาห ‘‘อุปสมฺปชฺชนฺติอาทีสุ วิยา’’ติ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘อนาปุจฺฉํ วา ปกฺกเมยฺยา’’ติอาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อุปคนฺตฺวาติ อุป-สทฺทสฺส อตฺถมาห. วสิตฺวาติ อขณฺฑํ วสิตฺวา. ‘‘เยน ยสฺส หิ สมฺพนฺโธ, ทูรฏฺมฺปิ จ ตสฺส ต’’นฺติ วจนโต ‘‘อิมสฺส…เป… อิมินา สมฺพนฺโธ’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อิมสฺสาติ ‘‘อุปวสฺส’’นฺติ ปทสฺส. นิกฺขิเปยฺยาติ เปยฺย.

เอตฺตาวตา จ ปุริมิกาย อุปคนฺตฺวา อขณฺฑํ กตฺวา วุตฺถวสฺเสน อารฺเกสุ เสนาสเนสุ วิหรนฺเตน สกลํ กตฺติกมาสํ ติจีวเรน วิปฺปวสิตุํ อนุฺาตํ โหติ. อนตฺถตกถินสฺส หิ จีวรมาเส วิปฺปวาโส น วฏฺฏติ อตฺถตกถินานํเยว อสมาทานจารสฺส อนุฺาตตฺตา. เกจิ ปน ‘‘อนตฺถตกถินานํ จีวรมาเสปิ อสมาทานจาโร ลพฺภตี’’ติ วตฺวา พหุธา ปปฺเจนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. พฺยฺชนวิจารณนฺติ ‘‘อุปวสฺส อุปวสฺสิตฺวา’’ติอาทิวิจารณํ. ตสฺสปีติ ‘‘วุตฺถวสฺสาน’’นฺติ วิภงฺคปทสฺส. วุตฺถวสฺสานนฺติ จ นิทฺธารเณ สามิวจนํ. เตนาห – ‘‘เอวรูปานํ ภิกฺขูนํ อพฺภนฺตเร’’ติ. เสนาสเนสูติ เอตฺถ ตถารูเปสูติ สมฺพนฺธิตพฺพํ.

ปริกฺเขปารหฏฺานโตติ เอตฺถ ‘‘ปริกฺเขปารหฏฺานํ นาม ทฺเว เลฑฺฑุปาตา’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. อปริกฺขิตฺตสฺส ปน คามสฺส ปริยนฺเต ิตฆรูปจารโต ปฏฺาย เอโก เลฑฺฑุปาโต ปริกฺเขปารหฏฺานนฺติ อิทเมตฺถ สนฺนิฏฺานํ. เตเนว วิสุทฺธิมคฺเคปิ (วิสุทฺธิ. ๑.๓๑) วุตฺตํ ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส ปมเลฑฺฑุปาตโต ปฏฺายา’’ติ. สพฺพปมนฺติ คามาภิมุขทิสาภาคโต สพฺพปมํ. ตํ ปริจฺเฉทํ กตฺวาติ ตํ ปมเสนาสนาทึ ปริจฺเฉทํ กตฺวา. อิทฺจ วินยธรานํ มเตน วุตฺตํ, มชฺฌิมภาณกานํ มเตน ปน ‘‘เสนาสนาทีนํ อุปจาเร ิตสฺส เอกเลฑฺฑุปาตํ มุฺจิตฺวา มินิตพฺพ’’นฺติ มชฺฌิมภาณกา วทนฺติ. เตเนว มชฺฌิมนิกายฏฺกถายํ ‘‘วิหารสฺสปิ คามสฺเสว อุปจารํ นีหริตฺวา อุภินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺตรา มินิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ปฺจธนุสติกนฺติ อาโรปิเตน อาจริยธนุนา ปฺจธนุสตปฺปมาณํ. ตโต ตโต มคฺคํ ปิทหตีติ ตตฺถ ตตฺถ ขุทฺทกมคฺคํ ปิทหติ. ธุตงฺคโจโรติ อิมินา อิมสฺสปิ สิกฺขาปทสฺส องฺคสมฺปตฺติยา อภาวํ ทีเปติ.

‘‘สาสงฺกานี’’ติ สมฺมตานีติ โจรานํ นิวิฏฺโกาสาทิทสฺสเนน ‘‘สาสงฺกานี’’ติ สมฺมตานิ. สนฺนิหิตพลวภยานีติ โจเรหิ มนุสฺสานํ หตวิลุตฺตาโกฏิตภาวทสฺสนโต สนฺนิหิตพลวภยานีติ อตฺโถ. สเจ ปจฺฉิมิกายาติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ พฺยติเรกมุเขน วิภาเวติ. ยตฺร หิ ปิณฺฑายาติอาทินา วุตฺตปฺปมาณเมว วิเสเสตฺวา ทสฺเสติ. สาสงฺกสปฺปฏิภยเมวาติ เอตฺถ สาสงฺกํ วา สปฺปฏิภยํ วา โหตุ, วฏฺฏติเยว.

ปาฬิยํ ‘‘สิยา จ ตสฺส ภิกฺขุโน โกจิเทว ปจฺจโย เตน จีวเรน วิปฺปวาสาย, ฉารตฺตปรมํ เตน ภิกฺขุนา เตน จีวเรน วิปฺปวสิตพฺพ’’นฺติ อิมินา อนฺตรฆเร จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺมึ วิหาเร วสนฺตสฺส อฺตฺถ คมนกิจฺเจ สติ วิหารโต พหิ ฉารตฺตํ วิปฺปวาโส อนุฺาโต. วสนฏฺานโต หิ อฺตฺถ ฉารตฺตํ วิปฺปวาโส วุตฺโต, น ตสฺมึ วิหาเร วสนฺตสฺส. เตน จ ‘‘ปุน คามสีมํ โอกฺกมิตฺวาติ เอตฺถ สเจ โคจรคามโต ปุรตฺถิมาย ทิสาย เสนาสนํ, อยฺจ ปจฺฉิมทิสํ คโต โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตโตเยว จ มาติกาฏฺกถายมฺปิ (กงฺขา. อฏฺ. สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘ตโต เจ อุตฺตริ วิปฺปวเสยฺยา’’ติ เอตฺถ ‘‘ฉารตฺตโต อุตฺตริ ตสฺมึ เสนาสเน สตฺตมํ อรุณํ อุฏฺาเปยฺยา’’ติ อตฺโถ วุตฺโต. ภทนฺตพุทฺธทตฺตาจริเยน ปน ปากฏตรํ กตฺวา อยเมวตฺโถ วุตฺโต. วุตฺตฺหิ เตน –

‘‘ยํ คามํ โคจรํ กตฺวา, ภิกฺขุ อารฺเก วเส;

ตสฺมึ คาเม เปตุํ ตํ, มาสเมกนฺตุ วฏฺฏติ.

‘‘อฺตฺเถว วสนฺตสฺส, ฉารตฺตปรมํ มตํ;

อยมสฺส อธิปฺปาโย, ปฏิจฺฉนฺโน ปกาสิโต’’ติ.

‘‘โกสมฺพิยํ อฺตโร ภิกฺขุ คิลาโน โหตี’’ติ อาคตตฺตา ‘‘โกสมฺพกสมฺมุติ อนุฺาตา’’ติ วุตฺตํ. โกสมฺพกสฺส ภิกฺขุโน สมฺมุติ โกสมฺพกสมฺมุติ. เสนาสนํ อาคนฺตฺวาติ วุสิตวิหารสฺเสว สนฺธาย วุตฺตตฺตา ตสฺมึ คามูปจาเรปิ อฺสฺมึ วิหาเร อรุณํ อุฏฺาเปตุํ น วฏฺฏติ. วสิตฺวาติ อรุณํ อุฏฺาเปตฺวา. คตฏฺานสฺส อติทูรตฺตา ‘‘เอวํ อสกฺโกนฺเตนา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺเถวาติ ตสฺมึเยว คตฏฺาเน.

สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ปริณตสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๕๗-๖๕๙. ทสเม อุทฺทิสฺส ปิตภาเคติ อตฺตโน ฆเรปิ อุทฺทิสิตฺวา วิสุํ ปิตโกฏฺาเส. ‘‘เอกํ มยฺหํ, เอกํ อิมสฺส เทหี’’ติ เอวํ เอกวาจาย อาปชฺชิตพฺพตฺตา ‘‘อาปชฺเชยฺย เอกโต’’ติ วุตฺตํ. ตุมฺหากํ สปฺปิอาทีนิ อาภตานีติ ตุมฺหากํ อตฺถาย อาภตานิ สปฺปิอาทีนิ. ปริณตภาวํ ชานิตฺวาปิ วุตฺตวิธินา วิฺาเปนฺเตน เตสํ สนฺตกเมว วิฺาปิตํ นาม โหตีติ อาห – ‘‘มยฺหมฺปิ เทถาติ วทติ, วฏฺฏตี’’ติ.

๖๖๐. ปุปฺผมฺปิ อาโรเปตุํ น วฏฺฏตีติ อิทํ ปริณตํ สนฺธาย วุตฺตํ. สเจ ปน เอกสฺมึ เจติเย ปูชิตํ ปุปฺผํ คเหตฺวา อฺสฺมึ เจติเย ปูเชติ, วฏฺฏติ. ิตํ ทิสฺวาติ เสสกํ คเหตฺวา ิตํ ทิสฺวา. อิมสฺส สุนขสฺส มา เทหิ, เอตสฺส เทหีติ อิทํ ปริณเตเยว. ติรจฺฉานคตสฺส ปริจฺจชิตฺวา ทินฺเน ปน ตํ ปลาเปตฺวา อฺํ ภุฺชาเปตุํ วฏฺฏติ. ‘‘กตฺถ เทมาติอาทินา เอเกนากาเรน ปาฬิยํ อนาปตฺติ ทสฺสิตา, เอวํ ปน อปุจฺฉิเตปิ อปริณตํ อิทนฺติ ชานนฺเตน อตฺตโน รุจิยา ยตฺถ อิจฺฉติ, ตตฺถ ทาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ยตฺถ อิจฺฉถ, ตตฺถ เทถาติ เอตฺถาปิ ‘‘ตุมฺหากํ รุจิยา’’ติ วุตฺตตฺตา ยตฺถ อิจฺฉติ, ตตฺถ ทาเปตุํ ลภติ. ปาฬิยํ อาคตนเยเนวาติ ‘‘ยตฺถ ตุมฺหากํ เทยฺยธมฺโม’’ติอาทินา นเยน. สงฺฆปริณตภาโว, ตํ ตฺวา อตฺตโน ปริณามนํ, ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

ปริณตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิโต ปตฺตวคฺโค ตติโย.

อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย สารตฺถทีปนิยํ

นิสฺสคฺคิยวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุติโย ภาโค นิฏฺิโต.