📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
วินยปิฏเก
ปาจิตฺติย-อฏฺกถา
๕. ปาจิตฺติยกณฺฑํ
๑. มุสาวาทวคฺโค
๑. มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา
เยสํ ¶ ¶ ¶ นวหิ วคฺเคหิ, สงฺคโห สุปฺปติฏฺิโต;
ขุทฺทกานํ อยํ ทานิ, เตสํ ภวติ วณฺณนา.
๑. ตตฺถ มุสาวาทวคฺคสฺส ตาว ปมสิกฺขาปเท หตฺถโกติ ตสฺส เถรสฺส นามํ. สกฺยานํ ¶ ปุตฺโตติ สกฺยปุตฺโต. พุทฺธกาเล กิร สกฺยกุลโต อสีติ ปุริสสหสฺสานิ ปพฺพชึสุ, เตสํ โส อฺตโรติ. วาทกฺขิตฺโตติ ‘‘วาทํ กริสฺสามี’’ติ เอวํ ปริวิตกฺกิเตน วาเทน ปรวาทิสนฺติกํ ขิตฺโต ปกฺขิตฺโต ปหิโต เปสิโตติ อตฺโถ. วาทมฺหิ วา สเกน จิตฺเตน ขิตฺโต. ยตฺร ยตฺร วาโท ตตฺร ตตฺเรว สนฺทิสฺสตีติปิ วาทกฺขิตฺโต. อวชานิตฺวา อวชานาตีติ อตฺตโน วาเท กฺจิ โทสํ สลฺลกฺเขนฺโต ‘‘นายํ มม วาโท’’ติ อวชานิตฺวา ปุน กเถนฺโต กเถนฺโต นิทฺโทสตํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘มเมว อยํ วาโท’’ติ ปฏิชานาติ. ปฏิชานิตฺวา อวชานาตีติ กิสฺมิฺจิเทว วจเน อานิสํสํ สลฺลกฺเขนฺโต ‘‘อยํ มม วาโท’’ติ ปฏิชานิตฺวา ปุน กเถนฺโต กเถนฺโต ตตฺถ โทสํ สลฺลกฺเขตฺวา ¶ ‘‘นายํ มม วาโท’’ติ อวชานาติ. อฺเนฺํ ปฏิจรตีติ อฺเน การเณน อฺํ การณํ ปฏิจรติ ปฏิจฺฉาเทติ อชฺโฌตฺถรติ, ‘‘รูปํ อนิจฺจํ ชานิตพฺพโต’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘ชาติธมฺมโต’’ติอาทีนิ วทติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘เอตสฺส ปฏิจฺฉาทนเหตุํ อฺํ พหุํ กเถตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – ยํ ตํ ปฏิชานนฺจ อวชานนฺจ, ตสฺส ปฏิจฺฉาทนตฺถํ ‘‘โก อาห ¶ , กึ อาห, กิสฺมึ อาหา’’ติ เอวมาทิ พหุํ ภาสตีติ. ปุน มหาอฏฺกถายํ ‘‘อวชานิตฺวา ปฏิชานนฺโต ปฏิชานิตฺวา อวชานนฺโต เอว จ อฺเนฺํ ปฏิจรตี’’ติ วุตฺตํ. สมฺปชานมุสา ภาสตีติ ชานนฺโต มุสา ภาสติ. สงฺเกตํ กตฺวา วิสํวาเทตีติ ปุเรภตฺตาทีสุ ‘‘อสุกสฺมึ นาม กาเล อสุกสฺมึ นาม ปเทเส วาโท โหตู’’ติ สงฺเกตํ กตฺวา สงฺเกตโต ปุเร วา ปจฺฉา วา คนฺตฺวา ‘‘ปสฺสถ โภ, ติตฺถิยา น อาคตา ปราชิตา’’ติ ปกฺกมติ.
๒. สมฺปชานมุสาวาเทติ ชานิตฺวา ชานนฺตสฺส จ มุสา ภณเน.
๓. วิสํวาทนปุเรกฺขารสฺสาติ วิสํวาทนจิตฺตํ ปุรโต กตฺวา วทนฺตสฺส. วาจาติ มิจฺฉาวาจาปริยาปนฺนวจนสมุฏฺาปิกา เจตนา. คิราติ ตาย เจตนาย สมุฏฺาปิตสทฺทํ ทสฺเสติ. พฺยปฺปโถติ วจนปโถ; วาจาเยว หิ อฺเสมฺปิ ทิฏฺานุคติมาปชฺชนฺตานํ ปถภูตโต พฺยปฺปโถติ วุจฺจติ. วจีเภโทติ วจีสฺิตาย วาจาย เภโท; ปเภทคตา วาจา เอว เอวํ วุจฺจติ. วาจสิกา วิฺตฺตีติ วจีวิฺตฺติ. เอวํ ปมปเทน สุทฺธเจตนา, มชฺเฌ ตีหิ ตํสมุฏฺาปิตสทฺทสหิตา เจตนา, อนฺเต เอเกน วิฺตฺติสหิตา เจตนา ‘‘กถิตา’’ติ เวทิตพฺพา. อนริยโวหาราติ อนริยานํ พาลปุถุชฺชนานํ โวหารา.
เอวํ สมฺปชานมุสาวาทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนฺเต วุตฺตานํ สมฺปชานมุสาวาทสงฺขาตานํ อนริยโวหารานํ ¶ ลกฺขณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อทิฏฺํ ทิฏฺํ เม’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อทิฏฺํ ทิฏฺํ เมติ เอวํ วทโต วจนํ ตํสมุฏฺาปิกา วา เจตนา เอโก อนริยโวหาโรติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อปิเจตฺถ จกฺขุวเสน อคฺคหิตารมฺมณํ อทิฏฺํ, โสตวเสน อคฺคหิตํ อสุตํ, ฆานาทิวเสน มุนิตฺวา ตีหิ อินฺทฺริเยหิ เอกาพทฺธํ วิย กตฺวา ปตฺวา อคฺคหิตํ อมุตํ, อฺตฺร ปฺจหิ อินฺทฺริเยหิ สุทฺเธน ¶ วิฺาเณเนว อคฺคหิตํ อวิฺาตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปาฬิยํ ปน ‘‘อทิฏฺํ นาม น จกฺขุนา ทิฏฺ’’นฺติ เอวํ โอฬาริเกเนว นเยน เทสนา กตาติ. ทิฏฺาทีสุ จ อตฺตนาปิ ¶ ปเรนปิ ทิฏฺํ ทิฏฺเมว. เอวํ สุตมุตวิฺาตานีติ อยเมโก ปริยาโย. อปโร นโย ยํ อตฺตนา ทิฏฺํ ทิฏฺเมว ตํ. เอส นโย สุตาทีสุ. ยํ ปน ปเรน ทิฏฺํ, ตํ อตฺตนา สุตฏฺาเน ติฏฺติ. เอวํ มุตาทีนิปิ.
๔. อิทานิ เตสํ อนริยโวหารานํ วเสน อาปตฺตึ อาโรเปตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ตีหากาเรหี’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ ‘‘ตีหิ อากาเรหิ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชินฺติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ เอวมาทิจตุตฺถปาราชิกปาฬิวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. เกวลฺหิ ตตฺถ ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติ อิธ ‘‘อทิฏฺํ ทิฏฺํ เม’’ติ, ตตฺถ จ ‘‘อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ ‘‘อิธ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ เอวํ วตฺถุมตฺเต อาปตฺติมตฺเต จ วิเสโส, เสสํ เอกลกฺขณเมวาติ.
๙. ตีหากาเรหิ ทิฏฺเ เวมติโกติอาทีนมฺปิ อตฺโถ ‘‘ทิฏฺสฺส โหติ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชนฺโต ทิฏฺเ เวมติโก’’ติ เอวมาทิทุฏฺโทสปาฬิวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ปาฬิมตฺตเมว หิ เอตฺถ วิเสโส, อตฺเถ ปน สเถรวาเท กิฺจิ นานากรณํ นตฺถิ.
๑๑. สหสา ภณตีติ อวีมํสิตฺวา อนุปธาเรตฺวา วา เวเคน ทิฏฺมฺปิ ‘‘อทิฏฺํ เม’’ติ ภณติ. อฺํ ภณิสฺสามีติ อฺํ ภณตีติ มนฺทตฺตา ชฬตฺตา ปกฺขลนฺโต ‘‘จีวร’’นฺติ วตฺตพฺเพ ‘‘จีร’’นฺติ อาทึ ภณติ. โย ปน สามเณเรน ‘‘อปิ ภนฺเต มยฺหํ อุปชฺฌายํ ปสฺสิตฺถา’’ติ วุตฺโต เกฬึ กุรุมาโน ‘‘ตว อุปชฺฌาโย ทารุสกฏํ โยเชตฺวา คโต ภวิสฺสตี’’ติ วา สิงฺคาลสทฺทํ สุตฺวา ‘‘กสฺสายํ ภนฺเต สทฺโท’’ติ วุตฺโต ‘‘มาตุยา เต ยาเนน คจฺฉนฺติยา กทฺทเม ลคฺคจกฺกํ อุทฺธรนฺตานํ อยํ สทฺโท’’ติ วา เอวํ เนว ทวา น รวา อฺํ ภณติ, โส อาปตฺตึ อาปชฺชติเยว. อฺา ปูรณกถา นาม โหติ, เอโก คาเม โถกํ เตลํ ลภิตฺวา วิหารํ อาคโต สามเณรํ ภณติ – ‘‘ตฺวํ อชฺช กุหึ คโต, คาโม เอกเตโล อโหสี’’ติ ¶ วา ปจฺฉิกาย ปิตํ ปูวขณฺฑํ ลภิตฺวา ¶ ‘‘อชฺช คาเม ปจฺฉิกาหิ ปูเว จาเรสุ’’นฺติ วา, อยํ มุสาวาโทว โหติ. เสสํ อุตฺตานเมวาติ.
ติสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต ¶ วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
มุสาวาทสิกฺขาปทํ ปมํ.
๒. โอมสวาทสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๒. ทุติยสิกฺขาปเท โอมสนฺตีติ โอวิชฺฌนฺติ. ขุํเสนฺตีติ อกฺโกสนฺติ. วมฺเภนฺตีติ ปธํเสนฺติ.
๑๓. ภูตปุพฺพนฺติ อิทํ วตฺถุํ ภควา โอมสวาทครหณตฺถํ อาหริ. นนฺทิวิสาโล นามาติ นนฺทีติ ตสฺส พลีพทฺทสฺส นามํ, วิสาณานิ ปนสฺส วิสาลานิ, ตสฺมา ‘‘นนฺทิวิสาโล’’ติ วุจฺจติ. โพธิสตฺโต เตน สมเยน นนฺทิวิสาโล นาม โหติ. พฺราหฺมโณ ตํ ยาคุภตฺตาทีหิ อติวิย โปเสสิ. อถ โส พฺราหฺมณํ อนุกมฺปมาโน ‘‘คจฺฉ ตฺว’’นฺติอาทิมาห. ตตฺเถว อฏฺาสีติ อเหตุกปฏิสนฺธิกาเลปิ ปรขุํสนํ อมนาปโตเยว ปจฺเจสิ, ตสฺมา พฺราหฺมณสฺส โทสํ ทสฺเสตุกาโม อฏฺาสิ. สกฏสตํ อติพทฺธํ ปวฏฺเฏสีติ ปฏิปาฏิยา เปตฺวา เหฏฺารุกฺเข ทตฺวา เอกาพทฺธํ กตฺวา มุคฺคมาสวาลุกาทีหิ ปุณฺณํ สกฏสตํ ปวฏฺเฏนฺโต, กิฺจาปิ ปุพฺเพ ปติฏฺิตารปฺปเทสํ ปุน อเร ปตฺเต ปวฏฺฏิตํ โหติ, โพธิสตฺโต ปน ปุริมสกเฏน ปติฏฺิตฏฺาเน ปจฺฉิมสกฏํ ปติฏฺาเปตุํ สกฏสตปฺปมาณํ ปเทสํ ปวฏฺเฏสิ. โพธิสตฺตานฺหิ สิถิลกรณํ นาม นตฺถิ. เตน จตฺตมโน อหูติ เตน พฺราหฺมณสฺส ธนลาเภน อตฺตโน กมฺเมน จ โส นนฺทิวิสาโล อตฺตมโน อโหสิ.
๑๕. อกฺโกเสนปีติ ¶ เอตฺถ ปน ยสฺมา ปรโต ‘‘ทฺเว อกฺโกสา – หีโน จ อกฺโกโส อุกฺกฏฺโ จ อกฺโกโส’’ติ วิภชิตุกาโม, ตสฺมา ยถา ปุพฺเพ ‘‘หีเนนปิ อกฺโกเสน ขุํเสนฺตี’’ติ วุตฺตํ; เอวํ อวตฺวา ‘‘อกฺโกเสน’’ อิจฺเจวมาห. เวนชาตีติ ตจฺฉกชาติ; เวณุการชาตีติปิ วทนฺติ. เนสาทชาตีติ มิคลุทฺทกาทิชาติ.
รถการชาตีติ ¶ จมฺมการชาติ. ปุกฺกุสชาตีติ ปุปฺผฉฑฺฑกชาติ. อวกณฺณกาทิ ทาสานํ นามํ โหติ; ตสฺมา หีนํ. โอฺาตนฺติ อวฺาตํ; ‘‘อฺุาต’’นฺติปิ ปนฺติ. อวฺาตนฺติ วมฺเภตฺวา าตํ. หีฬิตนฺติ ชิคุจฺฉิตํ ¶ . ปริภูตนฺติ กิเมเตนาติติ ปริภวกตํ. อจิตฺตีกตนฺติ น ครุกตํ.
โกฏฺกกมฺมนฺติ ตจฺฉกกมฺมํ. มุทฺทาติ หตฺถมุทฺทาคณนา. คณนาติ อจฺฉิทฺทกาทิอวเสสคณนา. เลขาติ อกฺขรเลขา. มธุเมหาพาโธ เวทนาย อภาวโต ‘‘อุกฺกฏฺโ’’ติ วุตฺโต. ปาฏิกงฺขาติ อิจฺฉิตพฺพา. ยกาเรน วา ภกาเรน วาติ ยการภกาเร โยเชตฺวา โย อกฺโกโส. กาฏโกฏจิกาย วาติ ‘‘กาฏ’’นฺติ ปุริสนิมิตฺตํ, ‘‘โกฏจิกา’’ติ อิตฺถินิมิตฺตํ; เอเตหิ วา โย อกฺโกโส, เอโส หีโน นาม อกฺโกโสติ.
๑๖. อิทานิ เตสํ ชาติอาทีนํ ปเภทวเสน อาปตฺตึ อาโรเปตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อุปสมฺปนฺโน อุปสมฺปนฺน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ขุํเสตุกาโม วมฺเภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโมติ อกฺโกสิตุกาโม ปธํสิตุกาโม ครหิตุกาโม นิตฺเตชํ กตฺตุกาโมติ อตฺโถ. หีเนน หีนนฺติ หีเนน ชาติวจเนน หีนชาติกํ. เอเตน อุปาเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
เอตฺถ จ หีเนน หีนํ วทนฺโต กิฺจาปิ สจฺจํ วทติ, โอมสิตุกามตาย ปนสฺส วาจาย วาจาย ปาจิตฺติยํ. อุกฺกฏฺเน หีนํ วทนฺโต จ กิฺจาปิ อลิกํ ภณติ, โอมสิตุกามตาย ปน อิมินาว สิกฺขาปเทน ปาจิตฺติยํ อาปชฺชติ, น ปุริเมน. โยปิ ‘‘อติจณฺฑาโลสิ, อติพฺราหฺมโณสิ, ทุฏฺจณฺฑาโลสิ, ทุฏฺพฺราหฺมโณสี’’ติอาทีนิ วทติ, โสปิ อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ.
๒๖. สนฺติ ¶ อิเธกจฺเจติ วาเร ปน ปริหริตฺวา วุตฺตภาเวน ทุกฺกฏํ. เอเสว นโย เย นูน…เป… น มยนฺติ วาเรสุปิ. อนุปสมฺปนฺเน ปน จตูสุปิ วาเรสุ ทุกฺกฏเมว. โจโรสิ คณฺิเภทโกสีติอาทิวจเนหิ ปน อุปสมฺปนฺเนปิ อนุปมฺปนฺเนปิ สพฺพวาเรสุ ทุกฺกฏเมว. ทวกมฺยตาย ปน อุปสมฺปนฺเนปิ อนุปสมฺปนฺเนปิ สพฺพวาเรสุ ทุพฺภาสิตํ. ทวกมฺยตา นาม เกฬิหสาธิปฺปายตา. อิมสฺมิฺจ สิกฺขาปเท เปตฺวา ภิกฺขุํ ภิกฺขุนีอาทโย สพฺพสตฺตา อนุปสมฺปนฺนฏฺาเน ิตาติ ¶ เวทิตพฺพา.
๓๕. อตฺถปุเรกฺขารสฺสาติอาทีสุ ปาฬิยา อตฺถํ วณฺณยนฺโต อตฺถปุเรกฺขาโร; ปาฬึ วาเจนฺโต ¶ ธมฺมปุเรกฺขาโร; อนุสิฏฺิยํ ตฺวา ‘‘อิทานิปิ จณฺฑาโลสิ, ปาปํ มา อกาสิ, มา ตโม ตมปรายโณ อโหสี’’ติอาทินา นเยน กเถนฺโต อนุสาสนีปุเรกฺขาโร นามาติ เวทิตพฺโพ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ. ทุพฺภาสิตาปตฺติ ปเนตฺถ วาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, อกุสลจิตฺตํ, ทฺวิเวทนํ สุขา จ มชฺฌตฺตา จาติ.
โอมสวาทสิกฺขาปทํ ทุติยํ.
๓. เปสฺุสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๖. ตติยสิกฺขาปเท – ภณฺฑนชาตานนฺติ สฺชาตภณฺฑนานํ. ภณฺฑนนฺติ กลหสฺส ปุพฺพภาโค, ‘‘อิมินา จ อิมินา จ อิทํ กตํ; เอวํ วุตฺเต เอวํ วกฺขามา’’ติอาทิกํ สกสกปกฺเข สมฺมนฺตนํ. กลโหติ อาปตฺติคามิโก กายวาจาวีติกฺกโม. วิวาโทติ วิคฺคาหิกกถา. ตํ วิวาทํ อาปนฺนานํ วิวาทาปนฺนานํ. เปสฺุนฺติ ปิสุณวาจํ, ปิยภาวสฺส สฺุกรณวาจนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๓๗. ภิกฺขุเปสฺุเติ ¶ ภิกฺขูนํ เปสฺุเ; ภิกฺขุโต สุตฺวา ภิกฺขุนา ภิกฺขุสฺส อุปสํหฏเปสฺุเติ อตฺโถ.
๓๘. ทฺวีหากาเรหีติ ทฺวีหิ การเณหิ. ปิยกมฺยสฺส วาติ ‘‘เอวํ อหํ เอตสฺส ปิโย ภวิสฺสามี’’ติ อตฺตโน ปิยภาวํ ปตฺถยมานสฺส วา. เภทาธิปฺปายสฺส วาติ ‘‘เอวมยํ เอเตน สทฺธึ ภิชฺชิสฺสตี’’ติ ปรสฺส ปเรน เภทํ อิจฺฉนฺตสฺส วา. ชาติโตปีติอาทิ สพฺพํ ปุริมสิกฺขาปเท วุตฺตนยเมว. อิธาปิ ภิกฺขุนึ อาทึ กตฺวา สพฺเพ อนุปสมฺปนฺนา นาม.
น ปิยกมฺยสฺส น เภทาธิปฺปายสฺสาติ เอกํ อกฺโกสนฺตํ เอกฺจ ขมนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อโห นิลฺลชฺโช, อีทิสมฺปิ นาม ภวนฺตํ ปุน วตฺตพฺพํ มฺิสฺสตี’’ติ เอวํ เกวลํ ปาปครหิตาย ภณนฺตสฺส อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว. ติสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต ¶ จ สมุฏฺาติ ¶ , กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
เปสฺุสิกฺขาปทํ ตติยํ.
๔. ปทโสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๔. จตุตฺถสิกฺขาปเท – อปฺปติสฺสาติ อปฺปติสฺสวา. อุปาสกาติ วุตฺเต วจนมฺปิ น โสตุกามา; อนาทราติ อตฺโถ. อปฺปติสฺสยา วา อนีจวุตฺติโนติ อตฺโถ. อสภาควุตฺติกาติ วิสภาคชีวิกา, ยถา ภิกฺขูสุ วตฺติตพฺพํ; เอวํ อปฺปวตฺตวุตฺติโนติ อตฺโถ.
๔๕. ปทโส ธมฺมํ วาเจยฺยาติ เอกโต ปทํ ปทํ ธมฺมํ วาเจยฺย; โกฏฺาสํ โกฏฺาสํ วาเจยฺยาติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน ตํ โกฏฺาสนามกํ ปทํ จตุพฺพิธํ โหติ, ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปทํ อนุปทํ อนฺวกฺขรํ อนุพฺยฺชน’’นฺติ ปทภาชนํ วุตฺตํ. ตตฺถ ปทนฺติ เอโก คาถาปาโท อธิปฺเปโต. อนุปทนฺติ ทุติยปาโท. อนฺวกฺขรนฺติ เอเกกมกฺขรํ. อนุพฺยฺชนนฺติ ปุริมพฺยฺชเนน สทิสํ ปจฺฉาพฺยฺชนํ. ยํ กิฺจิ วา เอกมกฺขรํ อนฺวกฺขรํ, อกฺขรสมูโห อนุพฺยฺชนํ, อกฺขรานุพฺยฺชนสมูโห ปทํ. ปมปทํ ปทเมว, ทุติยํ อนุปทนฺติ เอวเมตฺถ นานากรณํ เวทิตพฺพํ.
อิทานิ ¶ ปทํ นาม เอกโต ปฏฺเปตฺวา เอกโต โอสาเปนฺตีติ คาถาพนฺธํ ธมฺมํ วาเจนฺโต ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ เอกเมกํ ปทํ สามเณเรน สทฺธึ เอกโต อารภิตฺวา เอกโตเยว นิฏฺาเปติ. เอวํ วาเจนฺตสฺส ปทคณนาย ปาจิตฺติยา เวทิตพฺพา. อนุปทํ นาม ปาเฏกฺกํ ปฏฺเปตฺวา เอกโต โอสาเปนฺตีติ เถเรน ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ วุตฺเต สามเณโร ตํ ปทํ อปาปุณิตฺวา ‘‘มโนเสฏฺา มโนมยา’’ติ ทุติยปทํ เอกโต ภณติ, อิเม ปาเฏกฺกํ ปฏฺเปตฺวา เอกโต โอสาเปนฺติ นาม. เอวํ วาเจนฺตสฺสาปิ อนุปทคณนาย ปาจิตฺติยา. อนฺวกฺขรํ นาม รูปํ อนิจฺจนฺติ ¶ วุจฺจมาโน ‘‘รู’’ติ โอปาเตตีติ ‘‘รูปํ อนิจฺจนฺติ ภณ สามเณรา’’ติ วุจฺจมาโน รูการมตฺตเมว เอกโต วตฺวา ติฏฺติ. เอวํ วาเจนฺตสฺสาปิ อนฺวกฺขรคณนาย ปาจิตฺติยา. คาถาพนฺเธปิ จ เอส นโย ลพฺภติเยว. อนุพฺยฺชนํ นาม รูปํ อนิจฺจนฺติ วุจฺจมาโน เวทนา อนิจฺจาติ สทฺทํ นิจฺฉาเรตีติ ‘‘รูปํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจํ, เวทนา อนิจฺจา’’ติ อิมํ สุตฺตํ วาจยมาโน เถเรน ‘‘รูปํ อนิจฺจ’’นฺติ วุจฺจมาโน สามเณโร สีฆปฺตาย ¶ ‘‘เวทนา อนิจฺจา’’ติ อิมํ อนิจฺจปทํ เถรสฺส ‘‘รูปํ อนิจฺจ’’นฺติ เอเตน อนิจฺจปเทน สทฺธึ เอกโต ภณนฺโต วาจํ นิจฺฉาเรติ. เอวํ วาเจนฺตสฺสาปิ อนุพฺยฺชนคณนาย ปาจิตฺติยา. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขโป – อิเมสุ ปทาทีสุ ยํ ยํ เอกโต ภณติ เตน เตน อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ.
พุทฺธภาสิโตติ สกลํ วินยปิฏกํ อภิธมฺมปิฏกํ ธมฺมปทํ จริยาปิฏกํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ สุตฺตนิปาโต วิมานวตฺถุ เปตวตฺถุ พฺรหฺมชาลาทีนิ จ สุตฺตานิ. สาวกภาสิโตติ จตุปริสปริยาปนฺเนหิ สาวเกหิ ภาสิโต อนงฺคณสมฺมาทิฏฺิอนุมานสุตฺตจุฬเวทลฺลมหาเวทลฺลาทิโก. อิสิภาสิโตติ พาหิรปริพฺพาชเกหิ ภาสิโต สกโล ปริพฺพาชกวคฺโค, พาวริยสฺส อนฺเตวาสิกานํ โสฬสนฺนํ พฺราหฺมณานํ ปุจฺฉาติ เอวมาทิ. เทวตาภาสิโตติ เทวตาหิ ภาสิโต; โส เทวตาสํยุตฺตเทวปุตฺตสํยุตฺตมารสํยุตฺตพฺรหฺมสํยุตฺตสกฺกสํยุตฺตาทิวเสน เวทิตพฺโพ.
อตฺถูปสฺหิโตติ อฏฺกถานิสฺสิโต. ธมฺมูปสฺหิโตติ ปาฬินิสฺสิโต; อุภเยนาปิ วิวฏฺฏูปนิสฺสิตเมว วทติ. กิฺจาปิ วิวฏฺฏูปนิสฺสิตํ วทติ, ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺหธมฺมํเยว ปน ปทโส วาเจนฺตสฺส อาปตฺติ ¶ . วิวฏฺฏูปนิสฺสิเตปิ นานาภาสาวเสน คาถาสิโลกพนฺธาทีหิ อภิสงฺขเต อนาปตฺติ. ติสฺโส สงฺคีติโย อนารุฬฺเหปิ กุลุมฺพสุตฺตํ ราโชวาทสุตฺตํ ติกฺขินฺทฺริยํ จตุปริวฏฺฏํ นนฺโทปนนฺทนฺติ อีทิเส อาปตฺติเยว. อปลาลทมนมฺปิ วุตฺตํ, มหาปจฺจริยมฺปน ปฏิสิทฺธํ. เมณฺฑกมิลินฺทปฺเหสุ เถรสฺส สกปฏิภาเน อนาปตฺติ, ยํ รฺโ สฺาปนตฺถํ อาหริตฺวา วุตฺตํ, ตตฺถ อาปตฺติ. วณฺณปิฏกองฺคุลิมาลปิฏกรฏฺปาลคอชตอาฬวกคชฺชิตคุฬฺหมคฺคคุฬฺหเวสฺสนฺตรคุฬฺหวินยเวทลฺลปิฏกานิ ปน อพุทฺธวจนานิเยวาติ ¶ วุตฺตํ. สีลูปเทโส นาม ธมฺมเสนาปตินา วุตฺโตติ วทนฺติ, ตสฺมึ อาปตฺติเยว. อฺานิปิ มคฺคกถาอารมฺมณกถาพุทฺธิกทณฺฑก าณวตฺถุอสุภกถาทีนิ อตฺถิ, เตสุ สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา วิภตฺตา, ธุตงฺคปฺเห ปฏิปทา วิภตฺตา; ตสฺมา เตสุ อาปตฺตีติ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยาทีสุ ปน สงฺคีตึ อนารุฬฺเหสุ ราโชวาทติกฺขินฺทฺริยจตุปริวฏฺฏนนฺโทปนนฺทกุลุมฺพสุตฺเตสุเยว อาปตฺตีติ วตฺวา อวเสเสสุ ยํ พุทฺธวจนโต อาหริตฺวา วุตฺตํ, ตเทว อาปตฺติวตฺถุ โหติ, น อิตรนฺติ อยมตฺโถ ปริคฺคหิโต.
๔๘. เอกโต อุทฺทิสาเปนฺโตติ อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ เอกโต อุทฺเทสํ คณฺหนฺโตปิ เอกโต วทติ อนาปตฺตีติ อตฺโถ.
ตตฺรายํ ¶ วินิจฺฉโย – อุปสมฺปนฺโน จ อนุปสมฺปนฺโน จ นิสีทิตฺวา อุทฺทิสาเปนฺติ. อาจริโย นิสินฺนานํ ภณามีติ เตหิ สทฺธึ เอกโต วทติ, อาจริยสฺส อาปตฺติ. อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ คณฺหนฺตสฺส อนาปตฺติ. ทฺเวปิ ิตา คณฺหนฺติ, เอเสว นโย. ทหรภิกฺขุ นิสินฺโน, สามเณโร ิโต, นิสินฺนสฺส ภณามีติ ภณโต อนาปตฺติ. สเจ ทหโร ติฏฺติ, อิตโร นิสีทติ, ิตสฺส ภณามีติ ภณโตปิ อนาปตฺติ. สเจ พหูนํ ภิกฺขูนํ อนฺตเร เอโก สามเณโร นิสินฺโน โหติ, ตสฺมึ นิสินฺเน ปทโส ธมฺมํ วาเจนฺตสฺส อาจริยสฺส อจิตฺตกาปตฺติ. สเจ สามเณโร อุปจารํ มฺุจิตฺวา ิโต วา นิสินฺโน วา โหติ, เยสํ วาเจติ, เตสุ อปริยาปนฺนตฺตา เอเกน ทิสาภาเคน ปลายนกคนฺถํ นาม คณฺหาตีติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ, ตสฺมา อนาปตฺติ. เอกโต สชฺฌายํ กโรนฺโตปิ อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ อุปสมฺปนฺโน เอกโต สชฺฌายํ กโรนฺโต ¶ เตน สทฺธึเยว ภณติ, อนาปตฺติ. อนุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก อุทฺเทสํ คณฺหนฺตสฺสปิ เตน สทฺธึ เอกโต ภณนฺตสฺส อนาปตฺติ. อยมฺปิ หิ เอกโต สชฺฌายํ กโรติจฺเจว สงฺขฺยํ คจฺฉติ.
เยภุยฺเยน ปคุณํ คนฺถํ ภณนฺตํ โอปาเตตีติ สเจ เอกคาถาย เอโก ปาโท น อาคจฺฉติ, เสสํ อาคจฺฉติ, อยํ เยภุยฺเยน ปคุณคนฺโถ นาม. เอเตน ¶ นเยน สุตฺเตปิ เวทิตพฺโพ. ตํ โอปาเตนฺตสฺส เอวํ ภณาหีติ เอกโตปิ ภณนฺตสฺส อนาปตฺติ. โอสาเรนฺตํ โอปาเตตีติ สุตฺตํ อุจฺจาเรนฺตํ ปริสมชฺเฌ ปริสงฺกมานํ เอวํ วเทหีติ เตน สทฺธึ เอกโตปิ วทนฺตสฺส อนาปตฺติ. ยํ ปน มหาปจฺจริยาทีสุ ‘‘มยา สทฺธึ มา วทา’’ติ วุตฺโต ยทิ วทติ, ‘‘อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ มหาอฏฺกถายํ นตฺถิ, นตฺถิภาโวเยว จสฺส ยุตฺโต. กสฺมา? กิริยสมุฏฺานตฺตา. อิตรถา หิ กิริยากิริยํ ภเวยฺย. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.
ปทโสธมฺมสมุฏฺานํ – วาจโต จ วาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ปทโสธมฺมสิกฺขาปทํ จตุตฺถํ.
๕. สหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๙. ปฺจมสิกฺขาปเท – มุฏฺสฺสตี อสมฺปชานาติ ปุพฺพภาเค สติสมฺปชฺสฺส อกรณวเสเนตํ วุตฺตํ, ภวงฺโคติณฺณกาเล ปน กุโต สติสมฺปชฺนฺติ! วิกูชมานาติ วิปฺปลปมานา ¶ . กากจฺฉมานาติ นาสาย กากสทฺทํ วิย นิรตฺถกสทฺทํ มฺุจมานา. อุปาสกาติ ปมตรํ อุฏฺิตอุปาสกา.
๕๐. เอตทโวจุนฺติ ‘‘ภควตา อาวุโส ราหุล สิกฺขาปทํ ปฺตฺต’’นฺติ ภิกฺขู สิกฺขาปทคารเวเนว เอตํ อโวจุํ. ปกติยา ปน เต ภควติ จ คารเวน อายสฺมโต จ ราหุลสฺส สิกฺขากามตาย ตสฺส อายสฺมโต วสนฏฺานํ อาคตสฺส จูฬมฺจกํ วา อปสฺเสนํ วา ยํ อตฺถิ ตํ ปฺเปตฺวา จีวรํ วา อุตฺตราสงฺคํ วา อุสฺสีสกรณตฺถาย เทนฺติ ¶ . ตตฺริทํ ตสฺสายสฺมโต สิกฺขากามตาย – ภิกฺขู กิร ตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา มุฏฺิสมฺมฺุชนิฺจ กจวรฉฑฺฑนกฺจ พหิ ขิปนฺติ. อถฺเหิ ‘‘อาวุโส เกนิทํ ปาติต’’นฺติ วุตฺเต อฺเ เอวํ วทนฺติ – ‘‘ภนฺเต, ราหุโล อิมสฺมึ ปเทเส สฺจริ, เตน นุ โข ปาติต’’นฺติ. โส ปนายสฺมา ‘‘น มยฺหํ ภนฺเต อิทํ กมฺม’’นฺติ เอกทิวสมฺปิ อวตฺวา ตํ ปฏิสาเมตฺวา ภิกฺขู ขมาเปตฺวา คจฺฉติ. วจฺจกุฏิยา เสยฺยํ กปฺเปสีติ ตํเยว ¶ สิกฺขากามตํ อนุพฺรูหนฺโต ธมฺมเสนาปติมหาโมคฺคลฺลานอานนฺทตฺเถราทีนํ สนฺติกํ อคนฺตฺวา ภควโต วฬฺชนกวจฺจกุฏิยํ เสยฺยํ กปฺเปสิ. สา กิร กุฏิ กวาฏพทฺธา คนฺธปริภณฺฑกตา สโมสริตปุปฺผทามา เจติยฏฺานมิว ติฏฺติ, อปริโภคา อฺเสํ.
๕๑. อุตฺตริทิรตฺตติรตฺตนฺติ ภควา สามเณรานํ สงฺคหกรณตฺถาย ติรตฺตํ ปริหารํ อทาสิ. น หิ ยุตฺตํ กุลทารเก ปพฺพาเชตฺวา นานุคฺคเหตุนฺติ. สหเสยฺยนฺติ เอกโต เสยฺยํ. เสยฺยาติ กายปฺปสารณสงฺขาตํ สยนมฺปิ วุจฺจติ, ยสฺมึ เสนาสเน สยนฺติ, ตมฺปิ. ตตฺถ เสนาสนํ ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘เสยฺยา นาม สพฺพจฺฉนฺนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. กายปฺปสารณํ ทสฺเสตุํ อนุปสมฺปนฺเน นิปนฺเน ภิกฺขุ นิปชฺชตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺมา อยเมตฺถ อตฺโถ – ‘‘เสนาสนสงฺขาตํ เสยฺยํ ปวิสิตฺวา กายปฺปสารณสงฺขาตํ เสยฺยํ กปฺเปยฺย วิทเหยฺย สมฺปาเทยฺยา’’ติ. สพฺพจฺฉนฺนาติอาทินา ปน ตสฺสา เสนาสนสงฺขาตาย เสยฺยาย ลกฺขณํ วุตฺตํ. ตสฺมา ยํ เสนาสนํ อุปริ ปฺจหิ ฉทเนหิ อฺเน วา เกนจิ สพฺพเมว ปฏิจฺฉนฺนํ, อยํ สพฺพจฺฉนฺนา นาม เสยฺยา. อฏฺกถาสุ ปน ปากฏโวหารํ คเหตฺวา วาจุคฺคตวเสน ‘‘สพฺพจฺฉนฺนา นาม ปฺจหิ ฉทเนหิ ฉนฺนา’’ติ วุตฺตํ. กิฺจาปิ วุตฺตํ? อถ โข ทุสฺสกุฏิยํ วสนฺตสฺสาปิ น สกฺกา อนาปตฺติ กาตุํ, ตสฺมา ยํ กิฺจิ ปฏิจฺฉาทนสมตฺถํ อิธ ฉทนฺจ ปริจฺฉนฺนฺจ เวทิตพฺพํ. ปฺจวิธจฺฉทเนเยว หิ คยฺหมาเน ปทรจฺฉนฺเนปิ สหเสยฺยา น ภเวยฺย. ยํ ปน เสนาสนํ ภูมิโต ปฏฺาย ยาว ฉทนํ อาหจฺจ ปากาเรน วา อฺเน วา เกนจิ อนฺตมโส วตฺเถนาปิ ปริกฺขิตฺตํ, อยํ สพฺพปริจฺฉนฺนา นาม เสยฺยา. ฉทนํ อนาหจฺจ สพฺพนฺติเมน ปริยาเยน ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพเธน ปาการาทินา ¶ ปริกฺขิตฺตาปิ สพฺพปริจฺฉนฺนาเยวาติ กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตํ. ยสฺสา ปน อุปริ พหุตรํ านํ ฉนฺนํ, อปฺปํ อจฺฉนฺนํ, สมนฺตโต ¶ วา พหุตรํ ปริกฺขิตฺตํ, อปฺปํ อปริกฺขิตฺตํ, อยํ เยภุยฺเยน ฉนฺนา เยภุยฺเยน ปริจฺฉนฺนา นาม. อิมินา ¶ หิ ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจปิ สตฺตภูมโก ปาสาโท เอกูปจาโร โหติ, สตคพฺภํ วา จตุสฺสาลํ วา, เอกเสยฺยาอิจฺเจว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘จตุตฺเถ ทิวเส อตฺถงฺคเต สูริเย อนุปสมฺปนฺเน นิปนฺเน ภิกฺขุ นิปชฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติอาทิ.
ตตฺถ จ นิปชฺชนมตฺเตเนว ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน สมฺพหุลา สามเณรา, เอโก ภิกฺขุ, สามเณรคณนาย ปาจิตฺติยา. เต เจ อุฏฺายุฏฺาย นิปชฺชนฺติ, เตสํ ปโยเค ปโยเค ภิกฺขุสฺส อาปตฺติ. ภิกฺขุสฺส อุฏฺายุฏฺาย นิปชฺชเน ปน ภิกฺขุสฺเสว ปโยเคน ภิกฺขุสฺส อาปตฺติ. สเจ ปน สมฺพหุลา ภิกฺขู เอโก สามเณโร สพฺเพสํ อาปตฺตึ กโรติ, ตสฺส อุฏฺายุฏฺาย นิปชฺชเนนปิ ภิกฺขูนํ อาปตฺติเยว. อุภเยสํ สมฺพหุลภาเวปิ เอเสว นโย.
อปิเจตฺถ เอกาวาสาทิกมฺปิ จตุกฺกํ เวทิตพฺพํ. โย หิ เอกสฺมึ อาวาเส เอเกเนว อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ ติรตฺตํ สหเสยฺยํ กปฺเปติ, ตสฺส จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย เทวสิกา อาปตฺติ. โยปิ เอกสฺมึเยว อาวาเส นานาอนุปสมฺปนฺเนหิ สทฺธึ ติรตฺตํ สหเสยฺยํ กปฺเปติ, ตสฺสปิ. โยปิ นานาอาวาเสสุ เอเกเนว อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ ติรตฺตํ สหเสยฺยํ กปฺเปติ, ตสฺสปิ. โยปิ นานาอาวาเสสุ นานาอนุปสมฺปนฺเนหิ สทฺธึ โยชนสตมฺปิ คนฺตฺวา สหเสยฺยํ กปฺเปติ, ตสฺสปิ จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย เทวสิกา อาปตฺติ.
อยฺจ สหเสยฺยาปตฺติ นาม ‘‘ภิกฺขุํ เปตฺวา อวเสโส อนุปสมฺปนฺโน นามา’’ติ วจนโต ติรจฺฉานคเตนปิ สทฺธึ โหติ, ตตฺร ติรจฺฉานคตสฺส ปริจฺเฉโท เมถุนธมฺมาปตฺติยา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ตสฺมา สเจปิ โคธาพิฬาลมงฺคุสาทีสุ โกจิ ปวิสิตฺวา ภิกฺขุโน วสนเสนาสเน เอกูปจารฏฺาเน สยติ, สหเสยฺยาว โหติ.
ยทิ ปน ถมฺภานํ อุปริ กตปาสาทสฺส อุปริมตเลน สทฺธึ อสมฺพทฺธภิตฺติกสฺส ภิตฺติยา อุปริ ิตสุสิรตุลาสีสสฺส สุสิเรน ปวิสิตฺวา ตุลาย อพฺภนฺตเร สยิตฺวา เตเนว สุสิเรน นิกฺขมิตฺวา คจฺฉติ ¶ , เหฏฺาปาสาเท ¶ สยิตภิกฺขุสฺส อนาปตฺติ. สเจ ฉทเน ฉิทฺทํ โหติ, เตน ปวิสิตฺวา อนฺโตฉทเน วสิตฺวา เตเนว ปกฺกมติ, นานูปจาเร อุปริมตเล ฉทนพฺภนฺตเร สยิตสฺส อาปตฺติ, เหฏฺิมตเล สยิตสฺส อนาปตฺติ. สเจ อนฺโตปาสาเทเนว อาโรหิตฺวา ¶ สพฺพตลานิ ปริภฺุชนฺติ, เอกูปจารานิ โหนฺติ, เตสุ ยตฺถ กตฺถจิ สยิตสฺส อาปตฺติ.
สภาสงฺเขเปน กเต อฑฺฒกุฏฺฏกเสนาสเน สยิตสฺส วาฬสงฺฆาฏาทีสุ กโปตาทโย ปวิสิตฺวา สยนฺติ, อาปตฺติเยว. ปริกฺเขปสฺส พหิคเต นิพฺพโกสพฺภนฺตเร สยนฺติ, อนาปตฺติ. ปริมณฺฑลํ วา จตุรสฺสํ วา เอกจฺฉทนาย คพฺภมาลาย สตคพฺภํ เจปิ เสนาสนํ โหติ, ตตฺร เจ เอเกน สาธารณทฺวาเรน ปวิสิตฺวา วิสุํ ปากาเรน อปริจฺฉินฺนคพฺภูปจาเร สพฺพคพฺเภ ปวิสนฺติ, เอกคพฺเภปิ อนุปสมฺปนฺเน นิปนฺเน สพฺพคพฺเภสุ นิปนฺนานํ อาปตฺติ. สเจ สปมุขา คพฺภา โหนฺติ, ปมุขสฺส อุปริ อจฺฉนฺนํ อุจฺจวตฺถุกํ เจปิ โหติ, ปมุเข สยิโต คพฺเภ สยิตานํ อาปตฺตึ น กโรติ. สเจ ปน คพฺภจฺฉทเนเนว สทฺธึ สมฺพทฺธจฺฉทนํ โหติ, ตตฺร สยิโต สพฺเพสํ อาปตฺตึ กโรติ. กสฺมา? สพฺพจฺฉนฺนตฺตา สพฺพปริจฺฉนฺนตฺตา จ, คพฺภปริกฺเขโปเยว หิสฺส ปริกฺเขโปติ. เอเตเนว หิ นเยน อฏฺกถาสุ โลหปาสาทปริกฺเขปสฺส จตูสุ ทฺวารโกฏฺเกสุ อาปตฺติ วุตฺตา.
ยํ ปน อนฺธกฏฺกถายํ ‘‘อปริกฺขิตฺเต ปมุเข อนาปตฺตีติ ภูมิยํ วินา ชคติยา ปมุขํ สนฺธาย กถิน’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ อนฺธกรฏฺเ ปาเฏกฺกสนฺนิเวสา เอกจฺฉทนา คพฺภปาฬิโย สนฺธาย วุตฺตํ. ยฺจ ตตฺถ ‘‘ภูมิยํ วินา ชคติยา’’ติ วุตฺตํ, ตํ เนว อฏฺกถาสุ อตฺถิ; น ปาฬิยา สเมติ. ทสหตฺถุพฺเพธาปิ หิ ชคติ ปริกฺเขปสงฺขฺยํ น คจฺฉติ. ตสฺมา ยมฺปิ ตตฺถ ทุติยสิกฺขาปเท ชคติยา ปมาณํ วตฺวา ‘‘เอตํ เอกูปจารํ ปริจฺฉนฺนํ นาม โหตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ น คเหตพฺพํ. เยปิ เอกสาลทฺวิสาลติสาลจตุสฺสาลสนฺนิเวสา มหาปาสาทา เอกสฺมึ โอกาเส ปาเท โธวิตฺวา ปวิฏฺเน สกฺกา โหนฺติ สพฺพตฺถ อนุปริคนฺตุํ ¶ , เตสุปิ สหเสยฺยาปตฺติยา น มุจฺจติ. สเจ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน อุปจารํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา กตา โหนฺติ, เอกูปจารฏฺาเนเยว อาปตฺติ.
ทฺวีหิ ¶ ทฺวาเรหิ ยุตฺตสฺส สุธาฉทนมณฺฑปสฺส มชฺเฌ ปาการํ กโรนฺติ, เอเกน ทฺวาเรน ปวิสิตฺวา เอกสฺมึ ปริจฺเฉเท อนุปสมฺปนฺโน สยติ, เอกสฺมึ ภิกฺขุ, อนาปตฺติ. ปากาเร โคธาทีนํ ปวิสนมตฺตมฺปิ ฉิทฺทํ โหติ, เอกสฺมิฺจ ปริจฺเฉเท โคธา สยนฺติ, อนาปตฺติเยว. น หิ ฉิทฺเทน เคหํ เอกูปจารํ นาม โหติ. สเจ ปาการมชฺเฌ ฉินฺทิตฺวา ทฺวารํ โยเชนฺติ, เอกูปจารตาย อาปตฺติ. ตํ ทฺวารํ กวาเฏน ปิทหิตฺวา สยนฺติ, อาปตฺติเยว. น หิ ทฺวารปิทหเนน เคหํ นานูปจารํ นาม โหติ, ทฺวารํ วา อทฺวารํ. กวาฏฺหิ สํวรณวิวรเณหิ ยถาสุขํ ¶ วฬฺชนตฺถาย กตํ, น วฬฺชนูปจฺเฉทนตฺถาย. สเจ ปน ตํ ทฺวารํ ปุน อิฏฺกาหิ ปิทหนฺติ, อทฺวารํ โหติ, ปุริเม นานูปจารภาเวเยว ติฏฺติ. ทีฆปมุขํ เจติยฆรํ โหติ. เอกํ กวาฏํ อนฺโต, เอกํ พหิ, ทฺวินฺนํ กวาฏานํ อนฺตเร อนุปสมฺปนฺโน อนฺโตเจติยฆเร สยนฺตสฺส อาปตฺตึ กโรติ, เอกูปจารตฺตา.
ตตฺร ยสฺส ‘‘สิยา อยํ เอกูปจารนานูปจารตา นาม อุโทสิตสิกฺขาปเท วุตฺตา, อิธ ปน ‘เสยฺยา นาม สพฺพจฺฉนฺนา สพฺพปริจฺฉนฺนา เยภุยฺเยน ฉนฺนา เยภุยฺเยน ปริจฺฉนฺนา’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, ปิหิตทฺวาโร จ คพฺโภ สพฺพปริจฺฉนฺโนว โหติ. ตสฺมา ตตฺถ อนฺโต สยิเตเนว สทฺธึ อาปตฺติ, พหิ สยิเตน อนาปตฺตี’’ติ. โส เอวํ วตฺตพฺโพ – ‘‘อปิหิตทฺวาเร ปน กสฺมา พหิ สยิเตน อาปตฺตี’’ติ? ปมุขสฺส คพฺเภน สทฺธึ สพฺพจฺฉนฺนตฺตา. ‘‘กึ ปน คพฺเภ ปิหิเต ฉทนํ วิทฺธสฺตํ โหตี’’ติ? น วิทฺธสฺตํ, คพฺเภน สทฺธึ ปมุขสฺส สพฺพปริจฺฉนฺนตา น โหติ. ‘‘กึ ปริกฺเขโป วิทฺธสฺโต’’ติ? อทฺธา วกฺขติ ‘‘น วิทฺธสฺโต, กวาเฏน อุปจาโร ปริจฺฉนฺโน’’ติ. เอวํ ทูรมฺปิ คนฺตฺวา ปุน เอกูปจารนานูปจารตํเยว ปจฺจาคมิสฺสติ.
อปิจ ยทิ พฺยฺชนมตฺเตเยว อตฺโถ สุวิฺเยฺโย สิยา, สพฺพจฺฉนฺนาติ วจนโต ปฺจนฺนํ อฺตเรน ฉทเนน ฉนฺนา เอว เสยฺยา สิยา, น อฺเน. เอวฺจ สติ ปทรจฺฉนฺนาทีสุ อนาปตฺติ สิยา. ตโต ยทตฺถํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, สฺเวว อตฺโถ ปริหาเยยฺย ¶ . ปริหายตุ วา มา วา, กถํ อวุตฺตํ คเหตพฺพนฺติ; โก วา วทติ ‘‘อวุตฺตํ คเหตพฺพ’’นฺติ? วุตฺตฺเหตํ อนิยเตสุ – ‘‘ปฏิจฺฉนฺนํ นาม อาสนํ กุฏฺเฏน วา กวาเฏน วา กิลฺเชน ¶ วา สาณิปากาเรน วา รุกฺเขน วา ถมฺเภน วา โกฏฺลิกาย วา เยน เกนจิ ปฏิจฺฉนฺนํ โหตี’’ติ. ตสฺมา ยถา ตตฺถ เยน เกนจิ ปฏิจฺฉนฺนํ ปฏิจฺฉนฺนเมว, เอวมิธาปิ คเหตพฺพํ. ตสฺมา เสนาสนํ ขุทฺทกํ วา โหตุ มหนฺตํ วา อฺเน สทฺธึ สมฺพทฺธํ วา อสมฺพทฺธํ วา ทีฆํ วา วฏฺฏํ วา จตุรสฺสํ วา เอกภูมกํ วา, อเนกภูมกํ วา, ยํ ยํ เอกูปจารํ สพฺพตฺถ เยน เกนจิ ปฏิจฺฉาทเนน สพฺพจฺฉนฺเน สพฺพปริจฺฉนฺเน เยภุยฺเยน วา ฉนฺเน เยภุยฺเยน วา ปริจฺฉนฺเน สหเสยฺยาปตฺติ โหตีติ.
๕๓. อุปฑฺฒจฺฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอตฺถ สพฺพจฺฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเนติ เอวมาทีสุปิ มหาปจฺจริยํ ทุกฺกฏเมวาติ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘สพฺพจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, สพฺพจฺฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, เยภุยฺเยนฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน ¶ ปาจิตฺติยํ, สพฺพปริจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, สพฺพปริฉนฺเน อุปฑฺฒจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน อุปฑฺฒจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, ปาฬิยํ วุตฺตปาจิตฺติเยน สทฺธึ สตฺต ปาจิตฺติยานี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘สพฺพจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, เยภุยฺเยนฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, สพฺพปริจฺฉนฺเน จูฬกจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน จูฬกจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, ปาฬิยํ ทุกฺกเฏน สห ปฺจ ทุกฺกฏานี’’ติ วุตฺตํ.
‘‘อุปฑฺฒจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน อนาปตฺติ, อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน จูฬกจฺฉนฺเน อนาปตฺติ, จูฬกจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน อนาปตฺติ, สพฺพจฺฉนฺเน สพฺพอปริจฺฉนฺเนติ จ เอตฺถ เสนมฺพมณฺฑปวณฺณํ ¶ โหตี’’ติ วุตฺตํ. อิมินาเปตํ เวทิตพฺพํ – ‘‘ยถา ชคติ ปริกฺเขปสงฺขย น คจฺฉตี’’ติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.
เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กายโต จ กายจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
สหเสยฺยสิกฺขาปทํ ปฺจมํ.
๖. ทุติยสหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๕. ทุติยสหเสยฺยสิกฺขาปเท ¶ – อาวสถาคารนฺติ อาคนฺตุกานํ วสนาคารํ. ปฺตฺตํ โหตีติ ปฺุกามตาย กตฺวา ปิตํ โหติ. เยน สา อิตฺถี เตนุปสงฺกมีติ อสุกสฺมึ นาม าเน อาวสถาคารํ ปฺตฺตํ อตฺถีติ มนุสฺสานํ สุตฺวา อุปสงฺกมิ. คนฺธคนฺธินีติ อครุกุงฺกุมาทีนํ คนฺธานํ คนฺโธ คนฺธคนฺโธ, โส อสฺสา อตฺถีติ คนฺธคนฺธินี. สาฏกํ นิกฺขิปิตฺวาติ อปฺเปว นามสฺส อิมมฺปิ วิปฺปการํ ปสฺสนฺตสฺส ราโค อุปฺปชฺเชยฺยาติ จินฺเตตฺวา เอวมกาสิ. โอกฺขิปิตฺวาติ อโธ ขิปิตฺวา. อจฺจโยติ อปราโธ. มํ อจฺจคมาติ มํ อติกฺกมฺม อภิภวิตฺวา ปวตฺโต. เสสํ ปมสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยเมว หิ วิเสโส – ปมสิกฺขาปเท จตุตฺถทิวเส อาปตฺติ อิธ ปมทิวเสปิ. ยกฺขีเปตีหิ ทิสฺสมานกรูปาหิ ติรจฺฉานคติตฺถิยา จ เมถุนธมฺมวตฺถุภูตาย เอว ทุกฺกฏํ. เสสาหิ อนาปตฺติ. สมุฏฺานาทีนิ ปมสทิสาเนวาติ.
ทุติยสหเสยฺยสิกฺขาปทํ ฉฏฺํ.
๗. ธมฺมเทสนาสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๐. สตฺตมสิกฺขาปเท ¶ – ฆรณีติ ฆรสามินี. นิเวสนทฺวาเรติ นิเวสนสฺส มหาทฺวาเร. ฆรสุณฺหาติ ตสฺมึ ฆเร สุณฺหา. อาวสถทฺวาเรติ โอวรกทฺวาเร. วิสฺสฏฺเนาติ สุนิคฺคเตน สทฺเทน. วิวเฏนาติ สุฏฺุ ปกาเสน อสํวุเตน. ธมฺโม เทเสตพฺโพติ อยํ สรณสีลาทิเภโท ธมฺโม กเถตพฺโพ. อฺาตุนฺติ อาชานิตุํ. วิฺุนา ปุริสวิคฺคเหนาติ วิฺุนา ปุริเสน, ปุริสวิคฺคหํ คเหตฺวาปิ ิเตน น ยกฺเขน น เปเตน น ติรจฺฉานคเตน.
๖๖. อนาปตฺติ วิฺุนา ปุริสวิคฺคเหนาติ วิฺุนา ปุริสวิคฺคเหน สทฺธึ ิตาย พหุมฺปิ ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส อนาปตฺติ. ฉปฺปฺจวาจาหีติ ¶ ฉหิ ปฺจหิ วาจาหิ โย เทเสติ, ตสฺสปิ อนาปตฺติ. ตตฺถ เอโก คาถาปาโท เอกวาจาติ เอวํ สพฺพตฺถ วาจาปมาณํ เวทิตพฺพํ. สเจ อฏฺกถํ ธมฺมปทํ ชาตกาทิวตฺถุํ วา กเถตุกาโม โหติ, ฉปฺปฺจปทมตฺตเมว กเถตุํ ¶ วฏฺฏติ. ปาฬิยา สทฺธึ กเถนฺเตน เอกปทํ ปาฬิโต ปฺจ อฏฺกถาโตติ เอวํ ฉ ปทานิ อนติกฺกาเมตฺวาว กเถตพฺโพ. ปทโสธมฺเม วุตฺตปฺปเภโท หิ อิธาปิ สพฺโพ ธมฺโมเยว. ตสฺมึ เทเสตีติ ตสฺมึ ขเณ เทเสติ. สมฺปทานตฺเถ วา เอตํ ภุมฺมวจนํ. ตสฺสา เทเสตีติ อตฺโถ. อฺิสฺสา มาตุคามสฺสาติ เอกิสฺสา เทเสตฺวา ปุน อาคตาคตาย อฺิสฺสาปิ เทเสตีติ เอวํ เอกาสเน นิสินฺโน มาตุคามสตสหสฺสนฺนมฺปิ เทเสตีติ อตฺโถ. มหาปจฺจริยฏฺกถายํ วุตฺตํ สมํ นิสินฺนานํ มาตุคามานํ ‘‘ตุมฺหากํ เอเกกิสฺสา เอเกกํ คาถํ เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถาติ เทเสติ, อนาปตฺติ. ปมํ เอเกกิสฺสา เอเกกํ คาถํ กเถสฺสามีติ อาโภคํ กตฺวา ชานาเปตฺวา กเถตุํ วฏฺฏติ, น ปจฺฉาติ. ปฺหํ ปุจฺฉติ ปฺหํ ปุฏฺโ กเถตีติ มาตุคาโม ‘‘ทีฆนิกาโย นาม ภนฺเต กิมตฺถํ ทีเปตี’’ติ ปุจฺฉติ. เอวํ ปฺหํ ปุฏฺโ ภิกฺขุ สพฺพํ เจปิ ทีฆนิกายํ กเถติ, อนาปตฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.
ปทโสธมฺมสมุฏฺานํ – วาจโต จ วาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ธมฺมเทสนาสิกฺขาปทํ สตฺตมํ.
๘. ภูตาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๗. อฏฺมสิกฺขาปเท ¶ – วตฺถุกถาย ตาว ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ จตุตฺถปาราชิกวณฺณนายํ วุตฺตนยเมว. อยเมว หิ วิเสโส – ตตฺถ อภูตํ อาโรเจสุํ, อิธ ภูตํ. ภูตมฺปิ ปุถุชฺชนา อาโรเจสุํ, น อริยา. อริยานฺหิ ปยุตฺตวาจา นาม นตฺถิ, อตฺตโน คุเณ อาโรจยมาเน ปน อฺเ ¶ น ปฏิเสเธสุํ, ตถาอุปฺปนฺเน จ ปจฺจเย สาทิยึสุ, ตถาอุปฺปนฺนภาวํ อชานนฺตา.
‘‘อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุ’’นฺติอาทิมฺหิ ปน เย อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสึสุ, เต อาโรเจสุนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘กจฺจิ ปน โว ภิกฺขเว ภูต’’นฺติ ปุจฺฉิเต ปน สพฺเพปิ ‘‘ภูตํ ภควา’’ติ ปฏิชานึสุ. อริยานมฺปิ หิ อพฺภนฺตเร ภูโต อุตฺตริมนุสฺสธมฺโมติ. อถ ภควา ¶ อริยมิสฺสกตฺตา ‘‘โมฆปุริสา’’ติ อวตฺวา ‘‘กถฺหิ นาม ตุมฺเห ภิกฺขเว’’ติ วตฺวา ‘‘อุทรสฺส การณา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา อริยา อฺเสํ สุตฺวา ‘‘อยฺโย กิร, ภนฺเต, โสตาปนฺโน’’ติอาทินา นเยน ปสนฺเนหิ มนุสฺเสหิ ปุจฺฉิยมานา อปฺตฺเต สิกฺขาปเท อนาทีนวทสฺสิโน สุทฺธจิตฺตตาย อตฺตโน จ ปเรสฺจ วิเสสาธิคมํ ปฏิชานึสุ. เอวํ ปฏิชานนฺเตหิ จ เตหิ ยํ อฺเ อุทรสฺส การณา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสิตฺวา ปิณฺฑปาตํ อุปฺปาเทสุํ, ตํ สุทฺธจิตฺตตาย สาทิยนฺเตหิปิ อุทรสฺส การณา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส วณฺโณ ภาสิโต วิย โหติ. ตสฺมา สพฺพสงฺคาหิเกเนว นเยน ‘‘กถฺหิ นาม ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อุทรสฺส การณา คิหีนํ อฺมฺํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสิสฺสถา’’ติ อาห. เสสํ จตุตฺถปาราชิกวตฺถุสทิสเมว. สิกฺขาปทวิภงฺเคปิ เกวลํ ตตฺถ ปาราชิกฺเจว ถุลฺลจฺจยฺจ อิธ ภูตตฺตา ปาจิตฺติยฺเจว ทุกฺกฏฺจ อยํ วิเสโส. เสสํ วุตฺตนยเมว.
๗๗. ‘‘อุปสมฺปนฺนสฺส ภูตํ อาโรเจตี’’ติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมเมว สนฺธาย วุตฺตํ. ปรินิพฺพานกาเล หิ อนฺตรา วา อติกฑฺฒิยมาเนน อุปสมฺปนฺนสฺส ภูตํ อาโรเจตุํ วฏฺฏติ. สุตปริยตฺติสีลคุณํ ปน อนุปสมฺปนฺนสฺสาปิ อาโรเจตุํ วฏฺฏติ. อาทิกมฺมิกสฺส อนาปตฺติ. ‘‘อุมฺมตฺตกสฺสา’’ติ อิทํ ปน อิธ น วุตฺตํ. กสฺมา? ทิฏฺิสมฺปนฺนานํ อุมฺมาทสฺส วา จิตฺตกฺเขปสฺส วา อภาวาติ. มหาปจฺจริยมฺปิ หิ วิจาริตํ ‘‘ฌานลาภี ปน ปริหีเน ฌาเน อุมฺมตฺตโก ภเวยฺย, ตสฺสปิ ภูตาโรจนปจฺจยา อนาปตฺติ น วตฺตพฺพา, ภูตสฺเสว อภาวโต’’ติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ภูตาโรจนํ ¶ นาเมตํ ปุพฺเพ อวุตฺเตหิ ตีหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺาติ – กายโต วาจโต กายวาจโต จาติ. กิริยํ ¶ , โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, กุสลาพฺยากตจิตฺเตหิ ทฺวิจิตฺตํ, สุขมชฺฌตฺตเวทนาหิ ทฺวิเวทนนฺติ.
ภูตาโรจนสิกฺขาปทํ อฏฺมํ.
๙. ทุฏฺุลฺลาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๘. นวมสิกฺขาปเท ¶ – ทุฏฺุลฺลา นาม อาปตฺติ จตฺตาริ จ ปาราชิกานิ เตรส จ สงฺฆาทิเสสาติ อิมิสฺสา ปาฬิยา ‘‘ปาราชิกานิ ทุฏฺุลฺลสทฺทตฺถทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ, สงฺฆาทิเสสํ ปน อิธ อธิปฺเปต’’นฺติ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ. ตตฺรายํ วิจารณา – สเจ ปาราชิกํ อาโรเจนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ น ภเวยฺย, ยถา สมาเนปิ ภิกฺขุ-ภิกฺขุนีนํ อุปสมฺปนฺนสทฺเท ยตฺถ ภิกฺขุนี อนธิปฺเปตา โหติ, ตตฺถ ภิกฺขุํ เปตฺวา อวเสโส อนุปสมฺปนฺโนติ วุจฺจติ; เอวมิธ สมาเนปิ ปาราชิกสงฺฆาทิเสสานํ ทุฏฺุลฺลสทฺเท ยทิ ปาราชิกํ อนธิปฺเปตํ, ‘‘ทุฏฺุลฺลา นาม อาปตฺติ เตรส สงฺฆาทิเสสา’’ติ เอตเทว วตฺตพฺพํ สิยา. ตตฺถ ภเวยฺย ‘‘โย ปาราชิกํ อาปนฺโน, โส ภิกฺขุภาวโต จุโต, ตสฺมา ตสฺส อาปตฺตึ อาโรเจนฺโต ทุกฺกฏํ อาปชฺชตี’’ติ. เอวํ สติ อกฺโกสนฺโตปิ ทุกฺกฏํ อาปชฺเชยฺย, ปาจิตฺติยเมว จ อาปชฺชติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อสุทฺโธ โหติ ปุคฺคโล อฺตรํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน, ตฺเจ อสุทฺธทิฏฺิ สมาโน โอกาสํ การาเปตฺวา อกฺโกสาธิปฺปาโย วทติ, อาปตฺติ โอมสวาทสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๘๙). เอวํ ปาฬิยา วิจาริยมานาย ปาราชิกํ อาโรเจนฺตสฺสาปิ ปาจิตฺติยเมว ทิสฺสติ. กิฺจาปิ ทิสฺสติ, อถ โข สพฺพอฏฺกถาสุ วุตฺตตฺตา อฏฺกถาจริยาว เอตฺถ ปมาณํ, น อฺา วิจารณา. ปุพฺเพปิ จ อาโวจุมฺห – ‘‘พุทฺเธน ธมฺโม วินโย จ วุตฺโต, โย ตสฺส ปุตฺเตหิ ตเถว าโต’’ติอาทิ (ปารา. อฏฺ. ๑.คนฺถารมฺภกถา). อฏฺกถาจริยา หิ พุทฺธสฺส อธิปฺปายํ ชานนฺติ.
อิมินาปิ เจตํ ปริยาเยน เวทิตพฺพํ. อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยาติ หิ วุตฺตํ. ภิกฺขุสมฺมุติยา จ อาโรจนํ อายตึ สํวรตฺถาย ปุน ตถารูปํ อาปตฺตึ อนาปชฺชนตฺถาย ภควตา อนฺุาตํ, น ตสฺส ภิกฺขุโน อวณฺณมตฺตปฺปกาสนตฺถาย, สาสเน จสฺส ปติฏฺานิเสธนตฺถาย ¶ , น จ ปาราชิกํ อาปนฺนสฺส ปุน ตถารูปาย อาปตฺติยา อนาปชฺชเนน ภิกฺขุภาโว ¶ นาม อตฺถิ. ตสฺมา ‘‘ปาราชิกานิ ทุฏฺุลฺลสทฺทตฺถทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ, สงฺฆาทิเสสํ ปน อิธาธิปฺเปต’’นฺติ ยํ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ, ตํ สุวุตฺตเมว.
๘๐. อตฺถิ ¶ ภิกฺขุสมฺมุติ อาปตฺติปริยนฺตาติอาทีสุ ปน ยา อยํ ภิกฺขุสมฺมุติ วุตฺตา, สา น กตฺถจิ อาคตา, อิธ วุตฺตตฺตาเยว ปน อภิณฺหาปตฺติกํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา เอวเมส ปเรสุ หิโรตฺตปฺเปนาปิ อายตึ สํวรํ อาปชฺชิสฺสตีติ ตสฺส ภิกฺขุโน หิเตสิตาย ติกฺขตฺตุํ อปโลเกตฺวา สงฺเฆน กาตพฺพาติ เวทิตพฺพาติ.
๘๒. อทุฏฺุลฺลํ อาปตฺตึ อาโรเจติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ ปฺจปิ อาปตฺติกฺขนฺเธ อาโรเจนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. มหาปจฺจริยํ ปน ปาราชิกํ อาโรเจนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว วุตฺตํ. อนุปสมฺปนฺนสฺส ทุฏฺุลฺลํ วา อทุฏฺุลฺลํ วา อชฺฌาจารนฺติ เอตฺถ อาทิโต ปฺจ สิกฺขาปทานิ ทุฏฺุลฺโล นาม อชฺฌาจาโร, เสสานิ อทุฏฺุลฺโล. สุกฺกวิสฺสฏฺิกายสํสคฺคทุฏฺุลฺลอตฺตกามา ปนสฺส อชฺฌาจาโร นามาติ วุตฺตํ.
๘๓. วตฺถุํ อาโรเจตีติ ‘‘อยํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ อาปนฺโน, ทุฏฺุลฺลํ อาปนฺโน, อตฺตกามํ อาปนฺโน’’ กายสํสคฺคํ อาปนฺโนติ เอวํ วทนฺตสฺส อนาปตฺติ. อาปตฺตึ อาโรเจตีติ เอตฺถ ‘‘อยํ ปาราชิกํ อาปนฺโน, สงฺฆาทิเสสํ ถุลฺลจฺจยํ ปาจิตฺติยํ ปาฏิเทสนียํ ทุกฺกฏํ ทุพฺภาสิตํ อาปนฺโน’’ติ วทติ อนาปตฺติ. ‘‘อยํ อสุจึ โมเจตฺวา สงฺฆาทิเสสํ อาปนฺโน’’ติอาทินา ปน นเยน วตฺถุนา สทฺธึ อาปตฺตึ ฆเฏตฺวา อาโรเจนฺตสฺเสว อาปตฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
ทุฏฺุลฺลาโรจนสิกฺขาปทํ นวมํ.
๑๐. ปถวีขณนสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๖. ทสมสิกฺขาปเท – ชาตา จ ปถวี อชาตา จ ปถวีติ อิเมหิ ปเทหิ ชาตปถวิฺจ อชาตปถวิฺจ ทสฺเสติ. อปฺปปาสาณาทีสุ อปฺปา ปาสาณา เอตฺถาติ อปฺปปาสาณาติ เอวมตฺโถ ¶ ทฏฺพฺโพ. ตตฺถ มุฏฺิปฺปมาณโต ¶ อุปริ ปาสาณาติ เวทิตพฺพา, มุฏฺิปฺปมาณา ¶ สกฺขรา. กถลาติ กปาลขณฺฑานิ. มรุมฺพาติ กฏสกฺขรา. วาลิกาติ วาลุกาเยว. เยภุยฺเยน ปํสุกาติ ตีสุ โกฏฺาเสสุ ทฺเว โกฏฺาสา ปํสุ, เอโก ปาสาณาทีสุ อฺตโร. อทฑฺฒาปีติ อุทฺธนปตฺตปจนกุมฺภการาวาปาทิวเสน ตถา ตถา อทฑฺฒา. สา ปน วิสุํ นตฺถิ, สุทฺธปํสุอาทีสุ อฺตราว เวทิตพฺพา. เยภุยฺเยนสกฺขราติ พหุตรา สกฺขรา. หตฺถิกุจฺฉิยํ กิร เอกปจฺฉิปูรํ อาหราเปตฺวา โทณิยํ โธวิตฺวา ปถวิยา เยภุยฺเยน สกฺขรภาวํ ตฺวา สยํ ภิกฺขู โปกฺขรณึ ขณึสุ. ยานิ ปน มชฺเฌ ‘‘อปฺปปํสุ อปฺปมตฺติกา’’ติ ทฺเว ปทานิ, ตานิ เยภุยฺเยนปาสาณาทิปฺจกเมว ปวิสนฺติ เตสํเยว หิ ทฺวินฺนํ ปเภททสฺสนเมตํ. สยํ ขณติ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ เอตฺถ ปหาเร ปหาเร ปาจิตฺติยํ เวทิตพฺพํ. สกึ อาณตฺโต พหุกมฺปิ ขณตีติ สเจปิ สกลทิวสํ ขณติ, อาณาปกสฺส เอกํเยว ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน กุสิโต โหติ, ปุนปฺปุนํ อาณาเปตพฺโพ. ตํ อาณาเปตฺวา ขณาเปนฺตสฺส วาจาย วาจาย ปาจิตฺติยํ. อยํ ตาว ปาฬิวณฺณนา.
อยํ ปน ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย – ‘‘โปกฺขรณึ ขณา’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. ขตาเยว หิ โปกฺขรณี นาม โหติ, ตสฺมา อยํ กปฺปิยโวหาโร. เอส นโย ‘‘วาปึ ตฬากํ อาวาฏํ ขณา’’ติอาทีสุปิ. ‘‘อิมํ โอกาสํ ขณ, อิมสฺมึ โอกาเส โปกฺขรณึ ขณา’’ติ วตฺตุํ ปน น วฏฺฏติ. ‘‘กนฺทํ ขณ, มูลํ ขณา’’ติ อนิยาเมตฺวา วตฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อิมํ วลฺลึ ขณ, อิมสฺมึ โอกาเส กนฺทํ วา มูลํ วา ขณา’’ติ วตฺตุํ น วฏฺฏติ. โปกฺขรณึ โสเธนฺเตหิ โย กุเฏหิ อุสฺสิฺจิตุํ สกฺกา โหติ ตนุกกทฺทโม, ตํ อปเนตุํ วฏฺฏติ, พหลํ น วฏฺฏติ. อาตเปน สุกฺขกทฺทโม ผลติ, ตตฺร โย เหฏฺา ปถวิยา อสมฺพทฺโธ, ตเมว อปเนตุํ วฏฺฏติ. อุทเกน คตฏฺาเน อุทกปปฺปฏโก นาม โหติ, วาตปฺปหาเรน จลติ, ตํ อปเนตุํ วฏฺฏติ.
โปกฺขรณีอาทีนํ ตฏํ ¶ ภิชฺชิตฺวา อุทกสามนฺตา ปตติ, สเจ โอมกจาตุมาสํ โอวฏฺํ, ฉินฺทิตุํ วา ภินฺทิตุํ วา วฏฺฏติ, จาตุมาสโต อุทฺธํ น ¶ วฏฺฏติ. สเจ ปน อุทเกเยว ปตติ, เทเว อติเรกจาตุมาสํ โอวฏฺเปิ อุทเกเยว อุทกสฺส ปติตตฺตา วฏฺฏติ. ปาสาณปิฏฺิยํ โสณฺฑึ ขณนฺติ, สเจ ตตฺถ ปมเมว สุขุมรชํ ปตติ, ตฺเจ เทเวน โอวฏฺํ โหติ, จาตุมาสจฺจเยน อกปฺปิยปถวีสงฺขฺยํ คจฺฉติ. อุทเก ปริยาทิณฺเณ โสณฺฑึ โสเธนฺเตหิ ตํ วิโกเปตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปมเมว อุทเกน ปูรติ, ปจฺฉา รชํ ปตติ, ตํ วิโกเปตุํ วฏฺฏติ. ตตฺถ หิ เทเว วสฺสนฺเตปิ อุทเกเยว อุทกํ ปตตีติ. ปิฏฺิปาสาเณ สุขุมรชํ โหติ, เทเว ผุสายนฺเต อลฺลียติ, ตมฺปิ จาตุมาสจฺจเยน วิโกเปตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน อกตปพฺภาเร วมฺมิโก อุฏฺิโต โหติ, ยถาสุขํ วิโกเปตุํ วฏฺฏติ. สเจ อพฺโภกาเส อุฏฺหติ, โอมกจาตุมาสํ ¶ โอวฏฺโเยว วฏฺฏติ. รุกฺขาทีสุ อารุฬฺหอุปจิกามตฺติกายปิ เอเสว นโย. คณฺฑุปฺปาทคูถมูสิกุกฺกรโคกณฺฏกาทีสุปิ เอเสว นโย.
โคกณฺฏโก นาม คาวีนํ ขุรจฺฉินฺนกทฺทโม วุจฺจติ. สเจ ปน เหฏฺิมตเลน ภูมิสมฺพนฺโธ โหติ, เอกทิวสมฺปิ น วฏฺฏติ. กสิตฏฺาเนปิ นงฺคลจฺฉินฺนมตฺติกาปิณฺฑํ คณฺหนฺตสฺส เอเสว นโย. ปุราณเสนาสนํ โหติ อจฺฉทนํ วา วินฏฺจฺฉทนํ วา, อติเรกจาตุมาสํ โอวฏฺํ ชาตปถวีสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. ตโต อวเสสํ ฉทนิฏฺกํ วา โคปานสีอาทิกํ อุปกรณํ วา ‘‘อิฏฺกํ คณฺหามิ โคปนสึ ภิตฺติปาทํ ปทรตฺถรณํ ปาสาณตฺถมฺภํ คณฺหามี’’ติ สฺาย คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เตน สทฺธึ มตฺติกา ปตติ, อนาปตฺติ. ภิตฺติมตฺติกํ คณฺหนฺตสฺส ปน อาปตฺติ. สเจ ยา ยา อตินฺตา ตํ ตํ คณฺหาติ, อนาปตฺติ.
อนฺโตเคเห มตฺติกาปฺุโช โหติ, ตสฺมึ ¶ เอกทิวสํ โอวฏฺเ เคหํ ฉาเทนฺติ, สเจ สพฺโพ ตินฺโต จาตุมาสจฺจเยน ชาตปถวีเยว. อถสฺส อุปริภาโคเยว ตินฺโต, อนฺโต อตินฺโต, ยตฺตกํ ตินฺตํ ตํ กปฺปิยการเกหิ กปฺปิยโวหาเรน อปนาเมตฺวา เสสํ ยถาสุขํ วฬฺเชตุํ วฏฺฏติ. อุทเกน เตเมตฺวา เอกาพทฺธาเยว หิ ชาตปถวี โหติ, น อิตราติ.
อพฺโภกาเส ¶ มตฺติกาปากาโร โหติ, อติเรกจาตุมาสํ เจ โอวฏฺโ ชาตปถวีสงฺขฺยํ คจฺฉติ. ตตฺถ ลคฺคปํสุํ ปน อลฺลหตฺเถน ฉุปิตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ. สเจ อิฏฺกปากาโร โหติ, เยภุยฺเยนกถลฏฺาเน ติฏฺติ, ยถาสุขํ วิโกเปตุํ วฏฺฏติ. อพฺโภกาเส ิตมณฺฑปตฺถมฺภํ อิโต จิโต จ สฺจาเลตฺวา ปถวึ วิโกเปนฺเตน คเหตุํ น วฏฺฏติ, อุชุกเมว อุทฺธริตุํ วฏฺฏติ. อฺมฺปิ สุกฺขรุกฺขํ วา สุกฺขขาณุกํ วา คณฺหนฺตสฺส เอเสว นโย. นวกมฺมตฺถํ ปาสาณํ วา รุกฺขํ วา ทณฺฑเกหิ อุจฺจาเลตฺวา ปวฏฺเฏนฺตา คจฺฉนฺติ, ตตฺถ ปถวี ภิชฺชติ, สเจ สุทฺธจิตฺตา ปวฏฺเฏนฺติ, อนาปตฺติ. อถ ปน เตน อปเทเสน ปถวึ ภินฺทิตุกามาเยว โหนฺติ, อาปตฺติ. สาขาทีนิ กฑฺฒนฺตานมฺปิ ปถวิยํ ทารูนิ ผาเลนฺตานมฺปิ เอเสว นโย.
ปถวิยํ อฏฺิสูจิกณฺฏกาทีสุปิ ยํกิฺจิ อาโกเฏตุํ วา ปเวเสตุํ วา น วฏฺฏติ. ปสฺสาวธาราย เวเคน ปถวึ ภินฺทิสฺสามีติ เอวํ ปสฺสาวมฺปิ กาตุํ น วฏฺฏติ, กโรนฺตสฺส ภิชฺชติ, อาปตฺติ. วิสมภูมึ สมํ กริสฺสามีติ สมฺมฺุชนิยา ฆํสิตุมฺปิ น วฏฺฏติ, วตฺตสีเสเนว หิ สมฺมชฺชิตพฺพํ. เกจิ กตฺตรยฏฺิยา ภูมึ โกฏฺเฏนฺติ, ปาทงฺคุฏฺเกน วิลิขนฺติ, ‘‘จงฺกมิตฏฺานํ ทสฺเสสฺสามา’’ติ ปุนปฺปุนํ ภูมึ ภินฺทนฺตา จงฺกมนฺติ, สพฺพํ น วฏฺฏติ. วีริยสมฺปคฺคหตฺถํ ¶ ปน สมณธมฺมํ กโรนฺเตน สุทฺธจิตฺเตน จงฺกมิตุํ วฏฺฏติ, ‘‘หตฺถํ โธวิสฺสามา’’ติ ปถวิยํ ฆํสนฺติ, น ¶ วฏฺฏติ. อฆํสนฺเตน ปน อลฺลหตฺถํ ปถวิยํ เปตฺวา รชํ คเหตุํ วฏฺฏติ. เกจิ กณฺฑุกจฺฉุอาทีหิ อาพาธิกา ฉินฺนตฏาทีสุ องฺคปจฺจงฺคานิ ฆํสนฺติ น วฏฺฏติ.
๘๗. ขณติ วา ขณาเปติ วาติ อนฺตมโส ปาทงฺคุฏฺเกนปิ สมฺมชฺชนีสลากายปิ สยํ วา ขณติ, อฺเน วา ขณาเปติ. ภินฺทติ วา เภทาเปติ วาติ อนฺตมโส อุทกมฺปิ ฉฑฺเฑนฺโต สยํ วา ภินฺทติ, อฺเน วา ภินฺทาเปติ. ทหติ วา ทหาเปติ วาติ อนฺตมโส ปตฺตมฺปิ ปจนฺโต สยํ วา ทหติ, อฺเน วา ทหาเปติ. ยตฺตเกสุ าเนสุ อคฺคึ เทติ วา ทาเปติ วา ตตฺตกานิ ปาจิตฺติยานิ. ปตฺตํ ปจนฺเตนปิ หิ ปุพฺเพ ปกฺกฏฺาเนเยว หิ ปจิตพฺโพ. อทฑฺฒาย ปถวิยา อคฺคึ เปตุํ น วฏฺฏติ. ปตฺตปจนกปาลสฺส ปน อุปริ อคฺคึ เปตุํ วฏฺฏติ. ทารูนํ อุปริ เปติ ¶ , โส อคฺคิ ตานิ ทหนฺโต คนฺตฺวา ปถวึ ทหติ, น วฏฺฏติ. อิฏฺกกปาลาทีสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺราปิ หิ อิฏฺกาทีนํเยว อุปริ เปตุํ วฏฺฏติ. กสฺมา? เตสํ อนุปาทานตฺตา. น หิ ตานิ อคฺคิสฺส อุปาทานสงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ. สุกฺขขาณุสุกฺขรุกฺขาทีสุปิ อคฺคึ ทาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน ปถวึ อปฺปตฺตเมว นิพฺพาเปตฺวา คมิสฺสามีติ เทติ, วฏฺฏติ. ปจฺฉา นิพฺพาเปตุํ น สกฺโกติ, อวิสยตฺตา อนาปตฺติ. ติณุกฺกํ คเหตฺวา คจฺฉนฺโต หตฺเถ ฑยฺหมาเน ภูมิยํ ปาเตติ, อนาปตฺติ. ปติตฏฺาเนเยว อุปาทานํ ทตฺวา อคฺคึ กาตุํ วฏฺฏตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ทฑฺฒปถวิยา จ ยตฺตกํ านํ อุสุมาย อนุคตํ, สพฺพํ วิโกเปตุํ วฏฺฏตีติ ตตฺเถว วุตฺตํ. โย ปน อชานนโก ภิกฺขุ อรณีสหิเตน อคฺคึ นิพฺพตฺเตตฺวา หตฺเถน อุกฺขิปิตฺวา ‘‘กึ กโรมี’’ติ วทติ, ‘‘ชาเลหี’’ติ วตฺตพฺโพ, ‘‘หตฺโถ ฑยฺหตี’’ติ วทติ, ‘‘ยถา น ฑยฺหติ ตถา กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. ‘‘ภูมิยํ ปาเตหี’’ติ ปน น วตฺตพฺโพ. สเจ หตฺเถ ฑยฺหมาเน ปาเตติ ‘‘ปถวึ ทหิสฺสามี’’ติ อปาติตตฺตา อนาปตฺติ. ปติตฏฺาเน ปน อคฺคึ กาตุํ วฏฺฏตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ.
๘๘. อนาปตฺติ อิมํ ชานาติอาทีสุ ‘‘อิมสฺส ถมฺภสฺส อาวาฏํ ชาน, มหามตฺติกํ ชาน, ถุสมตฺติกํ ชาน, มหามตฺติกํ เทหิ, ถุสมตฺติกํ เทหิ, มตฺติกํ อาหร, ปํสุํ อาหร, มตฺติกาย ¶ อตฺโถ, ปํสุนา อตฺโถ, อิมสฺส ถมฺภสฺส อาวาฏํ กปฺปิยํ กโรหิ, อิมํ มตฺติกํ กปฺปิยํ กโรหิ, อิมํ ปํสุํ กปฺปิยํ กโรหี’’ติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อสฺจิจฺจาติ ¶ ปาสาณรุกฺขาทีนิ วา ปวฏฺเฏนฺตสฺส กตฺตรทณฺเฑน วา อาหจฺจ อาหจฺจ คจฺฉนฺตสฺส ปถวี ภิชฺชติ, สา ‘‘เตน ภินฺทิสฺสามี’’ติ เอวํ สฺจิจฺจ อภินฺนตฺตา อสฺจิจฺจ ภินฺนา นาม โหติ. อิติ อสฺจิจฺจ ภินฺทนฺตสฺส อนาปตฺติ. อสติยาติ อฺวิหิโต เกนจิ สทฺธึ กิฺจิ กเถนฺโต ปาทงฺคุฏฺเกน วา กตฺตรยฏฺิยา วา ปถวึ วิลิขนฺโต ติฏฺติ, เอวํ อสติยา วิลิขนฺตสฺส วา ภินฺทนฺตสฺส วา อนาปตฺติ. อชานนฺตสฺสาติ อนฺโตเคเห โอวฏฺํ ฉนฺนํ ปถวึ ‘‘อกปฺปิยปถวี’’ติ น ชานาติ, ‘‘กปฺปิยปถวี’’ติ สฺาย วิโกเปติ, ‘‘ขณามิ ภินฺทามิ ทหามี’’ติ วา น ชานาติ ¶ , เกวลํ สงฺโคปนตฺถาย ขณิตฺตาทีนิ วา เปติ, ฑยฺหมานหตฺโถ วา อคฺคึ ปาเตติ, เอวํ อชานนฺตสฺส อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ปถวีขณนสิกฺขาปทํ ทสมํ.
สมตฺโต วณฺณนากฺกเมน มุสาวาทวคฺโค ปโม.
๒. ภูตคามวคฺโค
๑. ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๙. เสนาสนวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท – อนาทิยนฺโตติ ตสฺสา วจนํ อคณฺหนฺโต. ทารกสฺส พาหุํ อาโกเฏสีติ อุกฺขิตฺตํ ผรสุํ นิคฺคเหตุํ อสกฺโกนฺโต มนุสฺสานํ จกฺขุวิสยาตีเต มหาราชสนฺติกา ลทฺเธ รุกฺขฏฺกทิพฺพวิมาเน นิปนฺนสฺส ทารกสฺส พาหุํ ถนมูเลเยว ฉินฺทิ. น โข เมตํ ปติรูปนฺติอาทิมฺหิ อยํ สงฺเขปวณฺณนา – หิมวนฺเต กิร ปกฺขทิวเสสุ เทวตาสนฺนิปาโต โหติ, ตตฺถ รุกฺขธมฺมํ ปุจฺฉนฺติ – ‘‘ตฺวํ รุกฺขธมฺเม ิตา น ิตา’’ติ? รุกฺขธมฺโม นาม รุกฺเข ฉิชฺชมาเน รุกฺขเทวตาย มโนปโทสสฺส อกรณํ. ตตฺถ ยา เทวตา รุกฺขธมฺเม อฏฺิตา โหติ, สา เทวตาสนฺนิปาตํ ปวิสิตุํ น ลภติ. อิติ สา เทวตา ¶ อิมฺจ รุกฺขธมฺเม อฏฺานปจฺจยํ ¶ อาทีนวํ อทฺทส, ภควโต จ สมฺมุขา สุตปุพฺพธมฺมเทสนานุสาเรน ตถาคตสฺส ฉทฺทนฺตาทิกาเล ปุพฺพจริตํ อนุสฺสริ. เตนสฺสา เอตทโหสิ – ‘‘น โข เมตํ ปติรูปํ…เป… โวโรเปยฺย’’นฺติ. ยํนูนาหํ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจยฺยนฺติ อิทํ ปนสฺสา ‘‘อยํ ภิกฺขุ สปิติโก ปุตฺโต, อทฺธา ภควา อิมํ อิมสฺส อชฺฌาจารํ สุตฺวา มริยาทํ พนฺธิสฺสติ, สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสตี’’ติ ปฏิสฺจิกฺขนฺติยา อโหสิ. สจชฺช ตฺวํ เทวเตติ สเจ อชฺช ตฺวํ เทวเต. ปสเวยฺยาสีติ ชเนยฺยาสิ อุปฺปาเทยฺยาสิ. เอวฺจ ปน วตฺวา ภควา ตํ เทวตํ สฺาเปนฺโต –
‘‘โย ¶ เว อุปฺปติตํ โกธํ, รถํ ภนฺตํว วารเย;
ตมหํ สารถึ พฺรูมิ, รสฺมิคฺคาโห อิตโร ชโน’’ติ. (ธ. ป. ๒๒๒);
อิมํ คาถมภาสิ. คาถาปริโยสาเน สา เทวตา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาสิ. ปุน ภควา สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสนฺโต –
‘‘โย อุปฺปติตํ วิเนติ โกธํ, วิสฏํ สปฺปวิสํว โอสเธหิ;
โส ภิกฺขุ ชหาติ โอรปารํ, อุรโค ชิณฺณมิวตฺตจํ ปุราณ’’นฺติ. (สุ. นิ. ๑);
อิมํ คาถมภาสิ. ตตฺร ปมคาถา ธมฺมปเท สงฺคหํ อารุฬฺหา, ทุติยา สุตฺตนิปาเต, วตฺถุ ปน วินเยติ. อถ ภควา ธมฺมํ เทเสนฺโตเยว ตสฺสา เทวตาย วสนฏฺานํ อาวชฺชนฺโต ปติรูปํ านํ ทิสฺวา ‘‘คจฺฉ, เทวเต, อสุกสฺมึ โอกาเส รุกฺโข วิวิตฺโต, ตสฺมึ อุปคจฺฉา’’ติ อาห. โส กิร รุกฺโข น อาฬวิรฏฺเ, เชตวนสฺส อนฺโตปริกฺเขเป, ยสฺส เทวปุตฺตสฺส ปริคฺคโห อโหสิ, โส จุโต; ตสฺมา ‘‘วิวิตฺโต’’ติ วุตฺโต. ตโต ปฏฺาย จ ปน สา เทวตา สมฺมาสมฺพุทฺธโต ลทฺธปริหารา พุทฺธุปฏฺายิกา อโหสิ. ยทา เทวตาสมาคโม โหติ, ตทา มเหสกฺขเทวตาสุ อาคจฺฉนฺตีสุ ¶ อฺา อปฺเปสกฺขา เทวตา ยาว มหาสมุทฺทจกฺกวาฬปพฺพตา ตาว ปฏิกฺกมนฺติ. อยํ ปน อตฺตโน วสนฏฺาเน นิสีทิตฺวาว ธมฺมํ สุณาติ. ยมฺปิ ปมยาเม ภิกฺขู ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ, มชฺฌิมยาเม เทวตา, ตํ สพฺพํ ตตฺเถว นิสีทิตฺวา สุณาติ. จตฺตาโร จ มหาราชาโนปิ ภควโต อุปฏฺานํ อาคนฺตฺวา คจฺฉนฺตา ตํ เทวตํ ทิสฺวาว คจฺฉนฺติ.
๙๐. ภูตคามปาตพฺยตายาติ ¶ เอตฺถ ภวนฺติ อหุวฺุจาติ ภูตา; ชายนฺติ วฑฺฒนฺติ ชาตา วฑฺฒิตา จาติ อตฺโถ. คาโมติ ราสิ; ภูตานํ คาโมติ ภูตคาโม; ภูตา เอว วา คาโม ภูตคาโม; ปติฏฺิตหริตติณรุกฺขาทีนเมตํ อธิวจนํ. ปาตพฺยสฺส ภาโว ปาตพฺยตา; เฉทนเภทนาทีหิ ยถารุจิ ปริภฺุชิตพฺพตาติ อตฺโถ. ตสฺสา ภูตคามปาตพฺยตาย; นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมวจนํ, ภูตคามปาตพฺยตาเหตุ, ภูตคามสฺส เฉทนาทิปจฺจยา ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ.
๙๑. อิทานิ ¶ ตํ ภูตคามํ วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ภูตคาโม นาม ปฺจ พีชชาตานีติอาทิมาห. ตตฺถ ภูตคาโม นามาติ ภูตคามํ อุทฺธริตฺวา ยสฺมึ สติ ภูตคาโม โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฺจ พีชชาตานี’’ติ อาหาติ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ. เอวํ สนฺเตปิ ‘‘ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ มูเล ชายนฺตี’’ติอาทีนิ น สเมนฺติ. น หิ มูลพีชาทีนิ มูลาทีสุ ชายนฺติ, มูลาทีสุ ชายมานานิ ปน ตานิ พีชากตานิ, ตสฺมา เอวเมตฺถ วณฺณนา เวทิตพฺพา – ภูตคาโม นามาติ วิภชิตพฺพปทํ. ปฺจาติ ตสฺส วิภาคปริจฺเฉโท. พีชชาตานีติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ. ตสฺสตฺโถ – พีเชหิ ชาตานิ พีชชาตานิ; รุกฺขาทีนเมตํ อธิวจนํ. อปโร นโย – พีชานิ จ ตานิ วิชาตานิ จ ปสูตานิ นิพฺพตฺตปณฺณมูลานีติ พีชชาตานิ. เอเตน อลฺลวาลิกาทีสุ ปิตานํ นิพฺพตฺตปณฺณมูลานํ สิงฺคิเวราทีนํ สงฺคโห กโต โหติ.
อิทานิ เยหิ พีเชหิ ชาตตฺตา รุกฺขาทีนิ พีชชาตานีติ วุตฺตานิ, ตานิ ทสฺเสนฺโต ‘‘มูลพีช’’นฺติอาทิมาห. เตสํ อุทฺเทโส ปากโฏ เอว. นิทฺเทเส ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ มูเล ชายนฺติ มูเล สฺชายนฺตีติ เอตฺถ พีชโต นิพฺพตฺเตน พีชํ ทสฺสิตํ ¶ , ตสฺมา เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ อาลุวกเสรุกมลุปฺปลปุณฺฑรีกกุวลยกนฺทปาฏลิมูลาทิเภเท มูเล คจฺฉวลฺลิรุกฺขาทีนิ ชายนฺติ สฺชายนฺติ, ตานิ ยมฺหิ มูเล ชายนฺติ เจว สฺชายนฺติ จ ตฺจ, ปาฬิยํ วุตฺตํ หลิทฺทาทิ จ สพฺพมฺปิ เอตํ มูลพีชํ นาม. เอเสว นโย ขนฺธพีชาทีสุ. เยวาปนกขนฺธพีเชสุ ปเนตฺถ อมฺพาฏกอินฺทสาลนุหีปาฬิภทฺทกณิการาทีนิ ขนฺธพีชานิ, อมูลวลฺลิ จตุรสฺสวลฺลิกณวีราทีนิ ผฬุพีชานิ มกจิสุมนชยสุมนาทีนิ อคฺคพีชานิ, อมฺพชมฺพูปนสฏฺิอาทีนิ พีชพีชานีติ ทฏฺพฺพานิ.
๙๒. อิทานิ ยํ วุตฺตํ ‘‘ภูตคามปาตพฺยตาย ปาจิตฺติย’’นฺติ ตตฺถ สฺาวเสน อาปตฺตานาปตฺติเภทํ ปาตพฺยตาเภทฺจ ทสฺเสนฺโต พีเช พีชสฺีติอาทิมาห. ตตฺถ ยถา ‘‘สาลีนํ ¶ เจปิ โอทนํ ภฺุชตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๗๖) สาลิตณฺฑุลานํ โอทโน ‘‘สาลีนํ โอทโน’’ติ วุจฺจติ, เอวํ พีชโต สมฺภูโต ภูตคาโม ‘‘พีช’’นฺติ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. ยํ ¶ ปน ‘‘พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๑๐) วุตฺตํ ภูตคามปริโมจนํ กตฺวา ปิตํ พีชํ, ตํ ทุกฺกฏวตฺถุ. อถ วา ยเทตํ ‘‘ภูตคาโม นามา’’ติ สิกฺขาปทวิภงฺคสฺส อาทิปทํ, เตน สทฺธึ โยเชตฺวา ยํ พีชํ ภูตคาโม นาม โหติ, ตสฺมึ พีเช พีชสฺี สตฺถกาทีนิ คเหตฺวา สยํ วา ฉินฺทติ อฺเน วา เฉทาเปติ, ปาสาณาทีนิ คเหตฺวา สยํ วา ภินฺทติ อฺเน วา เภทาเปติ, อคฺคึ อุปสํหริตฺวา สยํ วา ปจติ อฺเน วา ปจาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยถารุตํ ปน คเหตฺวา ภูตคามวินิมุตฺตสฺส พีชสฺส ฉินฺทนาทิเภทาย ปาตพฺยตาย ปาจิตฺติยํ น วตฺตพฺพํ.
อยฺเหตฺถ วินิจฺฉยกถา – ภูตคามํ วิโกเปนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ ภูตคามปริโมจิตํ ปฺจวิธมฺปิ พีชคามํ วิโกเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. พีชคามภูตคาโม นาเมส อตฺถิ อุทกฏฺโ, อตฺถิ ถลฏฺโ ¶ . ตตฺถ อุทกฏฺโ สาสปมตฺติกา ติลพีชกาทิเภทา สปณฺณิกา อปณฺณิกา จ สพฺพา เสวาลชาติ อนฺตมโส อุทกปปฺปฏกํ อุปาทาย ‘‘ภูตคาโม’’ติ เวทิตพฺโพ. อุทกปปฺปฏโก นาม อุปริ ถทฺโธ ผรุสวณฺโณ, เหฏฺา มุทุ นีลวณฺโณ โหติ. ตตฺถ ยสฺส เสวาลสฺส มูลํ โอรูหิตฺวา ปถวิยํ ปติฏฺิตํ, ตสฺส ปถวี านํ. โย อุทเก สฺจรติ, ตสฺส อุทกํ. ปถวิยํ ปติฏฺิตํ ยตฺถ กตฺถจิ วิโกเปนฺตสฺส อุทฺธริตฺวา วา านนฺตรํ สงฺกาเมนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. อุทเก สฺจรนฺตํ วิโกเปนฺตสฺเสว ปาจิตฺติยํ. หตฺเถหิ ปน อิโต จิโต จ วิยูหิตฺวา นฺหายิตุํ วฏฺฏติ, สกลฺหิ อุทกํ ตสฺส านํ. ตสฺมา น โส เอตฺตาวตา านนฺตรํ สงฺกามิโต โหติ. อุทกโต ปน อุทเกน วินา สฺจิจฺจ อุกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ, อุทเกน สทฺธึ อุกฺขิปิตฺวา ปุน อุทเก ปกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ. ปริสฺสาวนนฺตเรน นิกฺขมติ, กปฺปิยํ การาเปตฺวาว อุทกํ ปริภฺุชิตพฺพํ. อุปฺปลินีปทุมินีอาทีนิ ชลชวลฺลิติณานิ อุทกโต อุทฺธรนฺตสฺส วา ตตฺเถว วิโกเปนฺตสฺส วา ปาจิตฺติยํ. ปเรหิ อุปฺปาฏิตานิ วิโกเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ตานิ หิ พีชคาเม สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ติลพีชกสาสปมตฺตกเสวาโลปิ อุทกโต อุทฺธโต อมิลาโต อคฺคพีชสงฺคหํ คจฺฉติ. มหาปจฺจริยาทีสุ ¶ ‘‘อนนฺตกติลพีชกอุทกปปฺปฏกาทีนิ ทุกฺกฏวตฺถุกานี’’ติ วุตฺตํ, ตตฺถ การณํ น ทิสฺสติ. อนฺธกฏฺกถายํ ‘‘สมฺปุณฺณภูตคาโม น โหติ, ตสฺมา ทุกฺกฏ’’นฺติ วุตฺตํ, ตมฺปิ น สเมติ, ภูตคาเม หิ ปาจิตฺติยํ, พีชคาเม ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. อสมฺปุณฺณภูตคาโม นาม ตติโย โกฏฺาโส เนว ปาฬิยํ น อฏฺกถาสุ อาคโต. อถ เอตํ พีชคามสงฺคหํ คจฺฉิสฺสตีติ ¶ , ตมฺปิ น ยุตฺตํ, อภูตคามมูลตฺตา ตาทิสสฺส พีชคามสฺสาติ. อปิจ ‘‘ครุกลหุเกสุ ครุเก าตพฺพ’’นฺติ เอตํ วินยลกฺขณํ.
ถลฏฺเ – ฉินฺนรุกฺขานํ อวสิฏฺโ หริตขาณุ นาม โหติ. ตตฺถ กกุธกรฺชปิยงฺคุปนสาทีนํ ขาณุ อุทฺธํ ¶ วฑฺฒติ, โส ภูตคาเมน สงฺคหิโต. ตาลนาฬิเกราทีนํ ขาณุ อุทฺธํ น วฑฺฒติ, โส พีชคาเมน สงฺคหิโต. กทลิยา ปน อผลิตาย ขาณุ ภูตคาเมน สงฺคหิโต, ผลิตาย พีชคาเมน. กทลี ปน ผลิตา ยาว นีลปณฺณา, ตาว ภูตคาเมเนว สงฺคหิตา, ตถา ผลิโต เวฬุ. ยทา ปน อคฺคโต ปฏฺาย สุสฺสติ, ตทา พีชคาเมน สงฺคหํ คจฺฉติ. กตรพีชคาเมน? ผฬุพีชคาเมน. กึ ตโต นิพฺพตฺตติ? น กิฺจิ. ยทิ หิ นิพฺพตฺเตยฺย, ภูตคาเมเนว สงฺคหํ คจฺเฉยฺย. อินฺทสาลาทิรุกฺเข ฉินฺทิตฺวา ราสึ กโรนฺติ, กิฺจาปิ ราสิกตทณฺฑเกหิ รตนปฺปมาณาปิ สาขา นิกฺขมนฺติ, พีชคาเมเนว สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ตตฺถ มณฺฑปตฺถาย วา วติอตฺถาย วา วลฺลิอาโรปนตฺถาย วา ภูมิยํ นิขณนฺติ, มูเลสุ เจว ปณฺเณสุ จ นิคฺคเตสุ ปุน ภูตคามสงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ. มูลมตฺเตสุ ปน ปณฺณมตฺเตสุ วา นิคฺคเตสุ พีชคาเมน สงฺคหิตา เอว.
ยานิ กานิจิ พีชานิ ปถวิยํ วา อุทเกน สิฺจิตฺวา ปิตานิ, กปาลาทีสุ วา อลฺลปํสุํ ปกฺขิปิตฺวา นิกฺขิตฺตานิ โหนฺติ, สพฺพานิ มูลมตฺเต ปณฺณมตฺเต วา นิคฺคเตปิ พีชานิเยว. สเจปิ มูลานิ จ อุปริ องฺกุโร จ นิคฺคจฺฉติ, ยาว องฺกุโร หริโต น โหติ, ตาว พีชานิเยว. มุคฺคาทีนํ ปน ปณฺเณสุ อุฏฺิเตสุ วีหิอาทีนํ วา องฺกุเร หริเต นีลปณฺณวณฺเณ ชาเต ภูตคามสงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ตาลฏฺีนํ ปมํ สูกรทาา วิย มูลํ นิคฺคจฺฉติ. นิคฺคเตปิ ยาว อุปริ ปตฺตวฏฺฏิ น นิคฺคจฺฉติ, ตาว พีชคาโมเยว. นาฬิเกรสฺส ตจํ ภินฺทิตฺวา ทนฺตสูจิ วิย องฺกุโร นิคฺคจฺฉติ ¶ , ยาว มิคสิงฺคสทิสา นีลปตฺตวฏฺฏิ น โหติ, ตาว พีชคาโมเยว. มูเล อนิคฺคเตปิ ตาทิสาย ปตฺตวฏฺฏิยา ชาตาย อมูลกภูตคาเม สงฺคหํ คจฺฉติ.
อมฺพฏฺิอาทีนิ วีหิอาทีหิ วินิจฺฉินิตพฺพานิ. วนฺทากา วา อฺา วา ยา กาจิ รุกฺเข ชายิตฺวา รุกฺขํ โอตฺถรติ, รุกฺโขว ตสฺสา านํ, ตํ วิโกเปนฺตสฺส วา ตโต อุทฺธรนฺตสฺส วา ปาจิตฺติยํ. เอกา อมูลิกา ลตา โหติ, องฺคุลิเวโก วิย วนปฺปคุมฺพทณฺฑเก เวเติ, ตสฺสาปิ อยเมว วินิจฺฉโย. เคหมุขปาการเวทิกาเจติยาทีสุ นีลวณฺโณ ¶ เสวาโล โหติ, ยาว ทฺเว ตีณิ ปตฺตานิ น สฺชายนฺติ ตาว อคฺคพีชสงฺคหํ คจฺฉติ ¶ . ปตฺเตสุ ชาเตสุ ปาจิตฺติยวตฺถุ. ตสฺมา ตาทิเสสุ าเนสุ สุธาเลปมฺปิ ทาตุํ น วฏฺฏติ. อนุปสมฺปนฺเนน ลิตฺตสฺส อุปริสฺเนหเลโป ทาตุํ วฏฺฏติ. สเจ นิทาฆสมเย สุกฺขเสวาโล ติฏฺติ, ตํ สมฺมฺุชนีอาทีหิ ฆํสิตฺวา อปเนตุํ วฏฺฏติ. ปานียฆฏาทีนํ พหิ เสวาโล ทุกฺกฏวตฺถุ, อนฺโต อพฺโพหาริโก. ทนฺตกฏฺปูวาทีสุ กณฺณกมฺปิ อพฺโพหาริกเมว. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘สเจ เครุกปริกมฺมกตา ภิตฺติ กณฺณกิตา โหติ, โจฬกํ เตเมตฺวา ปีเฬตฺวา ปมชฺชิตพฺพา’’ติ (มหาว. ๖๖).
ปาสาณชาติปาสาณททฺทุเสวาลเสเลยฺยกาทีนิ อหริตวณฺณานิ อปตฺตกานิ จ ทุกฺกฏวตฺถุกานิ. อหิจฺฉตฺตกํ ยาว มกุฬํ โหติ, ตาว ทุกฺกฏวตฺถุ. ปุปฺผิตกาลโต ปฏฺาย อพฺโพหาริกํ. อลฺลรุกฺขโต ปน อหิจฺฉตฺตกํ คณฺหนฺโต รุกฺขตฺตจํ วิโกเปติ, ตสฺมา ตตฺถ ปาจิตฺติยํ. รุกฺขปปฺปฏิกายปิ เอเสว นโย. ยา ปน อินฺทสาลกกุธาทีนํ ปปฺปฏิกา รุกฺขโต มุจฺจิตฺวา ติฏฺติ, ตํ คณฺหนฺตสฺส อนาปตฺติ. นิยฺยาสมฺปิ รุกฺขโต มุจฺจิตฺวา ิตํ สุกฺขรุกฺเข วา ลคฺคํ คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. อลฺลรุกฺขโต น วฏฺฏติ. ลาขายปิ เอเสว นโย. รุกฺขํ จาเลตฺวา ปณฺฑุปลาสํ วา ปริณตกณิการาทิปุปฺผํ วา ปาเตนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว. หตฺถกุกฺกุจฺเจน มุทุเกสุ อินฺทสาลนุหีขนฺธาทีสุ วา ตตฺถชาตกตาลปณฺณาทีสุ วา อกฺขรํ ฉินฺทนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย.
สามเณรานํ ¶ ปุปฺผํ โอจินนฺตานํ สาขํ โอนาเมตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. เตหิ ปน ปุปฺเผหิ ปานียํ น วาเสตพฺพํ. ปานียวาสตฺถิเกน สามเณรํ อุกฺขิปิตฺวา โอจินาเปตพฺพานิ. ผลสาขาปิ อตฺตนา ขาทิตุกาเมน น โอนาเมตพฺพา. สามเณรํ อุกฺขิปิตฺวา ผลํ คาหาเปตพฺพํ. ยํกิฺจิ คจฺฉํ วา ลตํ วา อุปฺปาเฏนฺเตหิ สามเณเรหิ สทฺธึ คเหตฺวา อากฑฺฒิตุํ น วฏฺฏติ. เตสํ ปน อุสฺสาหชนนตฺถํ อนากฑฺฒนฺเตน กฑฺฒนาการํ ทสฺเสนฺเตน วิย อคฺเค คเหตุํ วฏฺฏติ. เยสํ รุกฺขานํ สาขา รุหติ, เตสํ สาขํ มกฺขิกาพีชนาทีนํ อตฺถาย กปฺปิยํ อการาเปตฺวา คหิตํ ตเจ ¶ วา ปตฺเต วา อนฺตมโส นเขนปิ วิลิขนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. อลฺลสิงฺคิเวราทีสุปิ เอเสว นโย. สเจ ปน กปฺปิยํ การาเปตฺวา สีตเล ปเทเส ปิตสฺส มูลํ สฺชายติ, อุปริภาเค ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติ. สเจ องฺกุโร ชายติ, เหฏฺาภาเค ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติ. มูเล จ นีลงฺกุเร จ ชาเต น วฏฺฏติ.
ฉินฺทติ วา เฉทาเปติ วาติ อนฺตมโส สมฺมฺุชโนสลากายปิ ติณานิ ฉินฺทิสฺสามีติ ภูมึ สมฺมชฺชนฺโต สยํ วา ฉินฺทติ, อฺเน วา เฉทาเปติ. ภินฺทติ วา เภทาเปติ วาติ อนฺตมโส ¶ จงฺกมนฺโตปิ ฉิชฺชนกํ ฉิชฺชตุ, ภิชฺชนกํ ภิชฺชตุ, จงฺกมิตฏฺานํ ทสฺเสสฺสามีติ สฺจิจฺจ ปาเทหิ อกฺกมนฺโต ติณวลฺลิอาทีนิ สยํ วา ภินฺทติ อฺเน วา เภทาเปติ. สเจปิ หิ ติณํ วา ลตํ วา คณฺึ กโรนฺตสฺส ภิชฺชติ, คณฺิปิ น กาตพฺโพ. ตาลรุกฺขาทีสุ ปน โจรานํ อนารุหนตฺถาย ทารุมกฺกฏกํ อาโกเฏนฺติ, กณฺฏเก พนฺธนฺติ, ภิกฺขุสฺส เอวํ กาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ทารุมกฺกฏโก รุกฺเข อลฺลีนมตฺโตว โหติ, รุกฺขํ น ปีเฬติ, วฏฺฏติ. ‘‘รุกฺขํ ฉินฺท, ลตํ ฉินฺท, กนฺทํ วา มูลํ วา อุปฺปาเฏหี’’ติ วตฺตุมฺปิ วฏฺฏติ, อนิยามิตตฺตา. นิยาเมตฺวา ปน ‘‘อิมํ รุกฺขํ ฉินฺทา’’ติอาทิ วตฺตุํ น วฏฺฏติ. นามํ คเหตฺวาปิ ‘‘อมฺพรุกฺขํ จตุรสฺสวลฺลึ อาลุวกนฺทํ มฺุชติณํ อสุกรุกฺขจฺฉลฺลึ ฉินฺท ภินฺท อุปฺปาเฏหี’’ติอาทิวจนมฺปิ อนิยามิตเมว โหติ. ‘‘อิมํ อมฺพรุกฺข’’นฺติอาทิวจนเมว หิ นิยามิตํ นาม, ตํ น วฏฺฏติ.
ปจติ วา ปจาเปติ วาติ อนฺตมโส ปตฺตมฺปิ ปจิตุกาโม ติณาทีนํ อุปริ สฺจิจฺจ อคฺคึ กโรนฺโต สยํ วา ปจติ, อฺเน วา ปจาเปตีติ ¶ สพฺพํ ปถวีขณนสิกฺขาปเท วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. อนิยาเมตฺวา ปน ‘‘มุคฺเค ปจ, มาเส ปจา’’ติอาทิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อิเม มุคฺเค ปจ, อิเม มาเส ปจา’’ติ เอวํ วตฺตุํ น วฏฺฏติ.
อนาปตฺติ อิมํ ชานาติอาทีสุ ‘‘อิมํ มูลเภสชฺชํ ชาน, อิมํ มูลํ วา ปณฺณํ วา เทหิ, อิมํ รุกฺขํ วา ลตํ วา อาหร, อิมินา ปุปฺเผน วา ผเลน วา ปณฺเณน วา อตฺโถ, อิมํ รุกฺขํ วา ลตํ วา ผลํ ¶ วา กปฺปิยํ กโรหี’’ติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอตฺตาวตา ภูตคามปริโมจนํ กตํ โหติ. ปริภฺุชนฺเตน ปน พีชคามปริโมจนตฺถํ ปุน กปฺปิยํ กาเรตพฺพํ.
กปฺปิยกรณฺเจตฺถ อิมินา สุตฺตานุสาเรน เวทิตพฺพํ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ ผลํ ปริภฺุชิตุํ อคฺคิปริชิตํ สตฺถปริชิตํ นขปริชิตํ อพีชํ นิพฺพฏฺฏพีชเมว ปฺจม’’นฺติ. ตตฺถ ‘‘อคฺคิปริชิต’’นฺติ อคฺคินา ปริชิตํ อธิภูตํ ทฑฺฒํ ผุฏฺนฺติ อตฺโถ. ‘‘สตฺถปริชิต’’นฺติ สตฺเถน ปริชิตํ อธิภูตํ ฉินฺนํ วิทฺธํ วาติ อตฺโถ. เอส นโย นขปริชิเต. อพีชนิพฺพฏฺฏพีชานิ สยเมว กปฺปิยานิ. อคฺคินา กปฺปิยํ กโรนฺเตน กฏฺคฺคิโคมยคฺคิอาทีสุ เยน เกนจิ อนฺตมโส โลหขณฺเฑนปิ อาทิตฺเตน กปฺปิยํ กาตพฺพํ. ตฺจ โข เอกเทเส ผุสนฺเตน ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวาว กาตพฺพํ. สตฺเถน กโรนฺเตน ยสฺส กสฺสจิ โลหมยสตฺถสฺส อนฺตมโส สูจินขจฺเฉทนานมฺปิ ตุณฺเฑน วา ธาราย วา เฉทํ วา ¶ เวธํ วา ทสฺเสนฺเตน ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวาว กาตพฺพํ. นเขน กปฺปิยํ กโรนฺเตน ปูตินเขน น กาตพฺพํ. มนุสฺสานํ ปน สีหพฺยคฺฆทีปิมกฺกฏาทีนํ สกุนฺตานฺจ นขา ติขิณา โหนฺติ, เตหิ กาตพฺพํ. อสฺสมหึสสูกรมิคโครูปาทีนํ ขุรา อติขิณา, เตหิ น กาตพฺพํ, กตมฺปิ อกตํ โหติ. หตฺถินขา ปน ขุรา น โหนฺติ, เตหิ วฏฺฏติ. เยหิ ปน กาตุํ วฏฺฏติ, เตหิ ตตฺถชาตเกหิปิ อุทฺธริตฺวา คหิตเกหิปิ เฉทํ วา เวธํ วา ทสฺเสนฺเตน ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวาว กาตพฺพํ.
ตตฺถ สเจปิ พีชานํ ปพฺพตมตฺโต ราสิ รุกฺขสหสฺสํ วา ฉินฺทิตฺวา เอกาพทฺธํ กตฺวา อุจฺฉูนํ วา มหาภาโร พนฺธิตฺวา ปิโต โหติ, เอกสฺมึ พีเช วา รุกฺขสาขาย วา อุจฺฉุมฺหิ วา กปฺปิเย กเต สพฺพํ กตํ โหติ. อุจฺฉู จ ทารูนิ จ เอกโต พทฺธานิ โหนฺติ, อุจฺฉุํ กปฺปิยํ กริสฺสามีติ ทารุํ ¶ วิชฺฌติ, วฏฺฏติเยว. สเจ ปน ยาย รชฺชุยา วา วลฺลิยา วา พทฺธานิ, ตํ วิชฺฌติ, น ¶ วฏฺฏติ. อุจฺฉุขณฺฑานํ ปจฺฉึ ปูเรตฺวา อาหรนฺติ, เอกสฺมึ ขณฺเฑ กปฺปิเย กเต สพฺพํ กตเมว โหติ. มริจปกฺกาทีหิ มิสฺเสตฺวา ภตฺตํ อาหรนฺติ, ‘‘กปฺปิยํ กโรหี’’ติ วุตฺเต สเจปิ ภตฺตสิตฺเถ วิชฺฌติ, วฏฺฏติเยว. ติลตณฺฑุลาทีสุปิ เอเสว นโย. ยาคุยา ปกฺขิตฺตานิ ปน เอกาพทฺธานิ หุตฺวา น สนฺติฏฺนฺติ, ตตฺถ เอกเมกํ วิชฺฌิตฺวา กปฺปิยํ กาตพฺพเมว. กปิตฺถผลาทีนํ อนฺโต มิฺชํ กฏาหํ มฺุจิตฺวา สฺจรติ, ภินฺทาเปตฺวา กปฺปิยํ การาเปตพฺพํ. เอกาพทฺธํ โหติ, กฏาเหปิ กาตุํ วฏฺฏติ.
อสฺจิจฺจาติ ปาสาณรุกฺขาทีนิ วา ปวฏฺเฏนฺตสฺส สาขํ วา กฑฺฒนฺตสฺส กตฺตรทณฺเฑน วา ภูมึ ปหริตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ติณานิ ฉิชฺชนฺติ, ตานิ เตน ฉินฺทิสฺสามีติ เอวํ สฺจิจฺจ อจฺฉินฺนตฺตา อสฺจิจฺจ ฉินฺนานิ นาม โหนฺติ. อิติ อสฺจิจฺจ ฉินฺทนฺตสฺส อนาปตฺติ.
อสติยาติ อฺวิหิโต เกนจิ สทฺธึ กิฺจิ กเถนฺโต ปาทงฺคุฏฺเกน วา หตฺเถน วา ติณํ วา ลตํ วา ฉินฺทนฺโต ติฏฺติ, เอวํ อสติยา ฉินฺทนฺตสฺส อนาปตฺติ.
อชานนฺตสฺสาติ เอตฺถพฺภนฺตเร พีชคาโมติ วา ภูตคาโมติ วา น ชานาติ, ฉินฺทามีติปิ น ชานาติ, เกวลํ วติยา วา ปลาลปฺุเช วา นิขาทนํ วา ขณิตฺตึ วา กุทาลํ วา สงฺโคปนตฺถาย เปติ, ฑยฺหมานหตฺโถ วา อคฺคึ ปาเตติ, ตตฺร เจ ติณานิ ฉิชฺชนฺติ วา ฑยฺหนฺติ วา อนาปตฺติ. มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกวณฺณนายํ ปน สพฺพอฏฺกถาสุ ‘‘สเจ ¶ ภิกฺขุ รุกฺเขน วา อชฺโฌตฺถโฏ โหติ, โอปาเต วา ปติโต สกฺกา จ โหติ รุกฺขํ ฉินฺทิตฺวา ภูมึ วา ขณิตฺวา นิกฺขมิตุํ, ชีวิตเหตุปิ อตฺตนา น กาตพฺพํ. อฺเน ปน ภิกฺขุนา ภูมึ วา ขณิตฺวา รุกฺขํ วา ฉินฺทิตฺวา อลฺลรุกฺขโต วา ทณฺฑกํ ฉินฺทิตฺวา ตํ รุกฺขํ ปวฏฺเฏตฺวา นิกฺขาเมตุํ วฏฺฏติ, อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ การณํ ¶ น ทิสฺสติ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทวฑาเห ฑยฺหมาเน ปฏคฺคึ ทาตุํ, ปริตฺตํ กาตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๘๓) อิทํ ปน เอกเมว สุตฺตํ ทิสฺสติ. สเจ เอตสฺส อนุโลมํ ‘‘อตฺตโน น วฏฺฏติ, อฺสฺส วฏฺฏตี’’ติ ¶ อิทํ นานากรณํ น สกฺกา ลทฺธุํ. อตฺตโน อตฺถาย กโรนฺโต อตฺตสิเนเหน อกุสลจิตฺเตเนว กโรติ, ปโร ปน การฺุเน, ตสฺมา อนาปตฺตีติ เจ. เอตมฺปิ อการณํ. กุสลจิตฺเตนาปิ หิ อิมํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ. สพฺพอฏฺกถาสุ ปน วุตฺตตฺตา น สกฺกา ปฏิเสเธตุํ. คเวสิตพฺพา เอตฺถ ยุตฺติ. อฏฺกถาจริยานํ วา สทฺธาย คนฺตพฺพนฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ภูตคามสิกฺขาปทํ ปมํ.
๒. อฺวาทกสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๔. ทุติยสิกฺขาปเท – อนาจารํ อาจริตฺวาติ อกาตพฺพํ กตฺวา; กายวจีทฺวาเรสุ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อฺเนฺํ ปฏิจรตีติ อฺเน วจเนน อฺํ วจนํ ปฏิจรติ ปฏิจฺฉาเทติ อชฺโฌตฺถรติ; อิทานิ ตํ ปฏิจรณวิธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘โก อาปนฺโน’’ติอาทิมาห. ตตฺรายํ วจนสมฺพนฺโธ – โส กิร กิฺจิ วีติกฺกมํ ทิสฺวา ‘‘อาวุโส, อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ สงฺฆมชฺเฌ อาปตฺติยา อนุยฺุชิยมาโน ‘‘โก อาปนฺโน’’ติ วทติ. ‘‘ตโต ตฺว’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อหํ กึ อาปนฺโน’’ติ วทติ. อถ ‘‘ปาจิตฺติยํ วา ทุกฺกฏํ วา’’ติ วุตฺเต วตฺถุํ ปุจฺฉนฺโต ‘‘อหํ กิสฺมึ อาปนฺโน’’ติ วทติ. ตโต ‘‘อสุกสฺมึ นาม วตฺถุสฺมิ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อหํ กถํ อาปนฺโน, กึ กโรนฺโต อาปนฺโนมฺหี’’ติ ปุจฺฉติ. อถ ‘‘อิทํ นาม กโรนฺโต อาปนฺโน’’ติ วุตฺเต ‘‘กํ ภณถา’’ติ วทติ. ตโต ‘‘ตํ ภณามา’’ติ วุตฺเต ‘‘กึ ภณถา’’ติ วทติ.
อปิเจตฺถ ¶ อยํ ปาฬิมุตฺตโกปิ อฺเนฺํ ปฏิจรณวิธิ – ภิกฺขูหิ ‘‘ตว สิปาฏิกาย กหาปโณ ทิฏฺโ, กิสฺเสวมสารุปฺปํ กโรสี’’ติ วุตฺโต ‘‘สุทิฏฺํ, ภนฺเต, น ปเนโส กหาปโณ; ติปุมณฺฑลํ เอต’’นฺติ ภณนฺโต วา ‘‘ตฺวํ สุรํ ปิวนฺโต ทิฏฺโ, กิสฺเสวํ กโรสี’’ติ วุตฺโต ¶ ‘‘สุทิฏฺโ ¶ , ภนฺเต, น ปเนสา สุรา, เภสชฺชตฺถาย สมฺปาทิตํ อริฏฺ’’นฺติ ภณนฺโต วา ‘‘ตฺวํ ปฏิจฺฉนฺเน อาสเน มาตุคาเมน สทฺธึ นิสินฺโน ทิฏฺโ, กิสฺเสวมสารุปฺปํ กโรสี’’ติ วุตฺโต ‘‘เยน ทิฏฺํ สุทิฏฺํ, วิฺู ปเนตฺถ ทุติโย อตฺถิ, โส กิสฺส น ทิฏฺโ’’ติ ภณนฺโต วา, ‘‘อีทิสํ ตยา กิฺจิ ทิฏฺ’’นฺติ ปุฏฺโ ‘‘น สุณามี’’ติ โสตมุปเนนฺโต วา, โสตทฺวาเร ปุจฺฉนฺตานํ จกฺขุํ อุปเนนฺโต วา, อฺเนฺํ ปฏิจรตีติ เวทิตพฺโพ. อฺวาทกํ โรเปตูติ อฺวาทกํ อาโรเปตุ; ปติฏฺาเปตูติ อตฺโถ. วิเหสกํ โรเปตูติ เอตสฺมิมฺปิ เอเสว นโย.
๙๘. อฺวาทเก วิเหสเก ปาจิตฺติยนฺติ เอตฺถ อฺํ วทตีติ อฺวาทกํ; อฺเนฺํ ปฏิจรณสฺเสตํ นามํ. วิเหเสตีติ วิเหสกํ; ตุณฺหีภูตสฺเสตํ นามํ, ตสฺมึ อฺวาทเก วิเหสเก. ปาจิตฺติยนฺติ วตฺถุทฺวเย ปาจิตฺติยทฺวยํ วุตฺตํ.
๑๐๐. อโรปิเต อฺวาทเกติ กมฺมวาจาย อนาโรปิเต อฺวาทเก. อโรปิเต วิเหสเกติ เอตสฺมิมฺปิ เอเสว นโย.
๑๐๑. ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺีติอาทีสุ ยํ ตํ อฺวาทกวิเหสกโรปนกมฺมํ กตํ, ตฺเจ ธมฺมกมฺมํ โหติ, โส จ ภิกฺขุ ตสฺมึ ธมฺมกมฺมสฺี อฺวาทกฺจ วิเหสกฺจ กโรติ, อถสฺส ตสฺมึ อฺวาทเก จ วิเหสเก จ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๑๐๒. อชานนฺโต ปุจฺฉตีติ อาปตฺตึ วา อาปนฺนภาวํ อชานนฺโตเยว ‘‘กึ ตุมฺเห ภณถ, อหํ น ชานามี’’ติ ปุจฺฉติ. คิลาโน วา น กเถตีติ มุเข ตาทิโส พฺยาธิ โหติ, เยน กเถตุํ น สกฺโกติ. สงฺฆสฺส ภณฺฑนํ วาติอาทีสุ สงฺฆมชฺเฌ กถิเต ตปฺปจฺจยา สงฺฆสฺส ภณฺฑนํ วา กลโห วา วิวาโท วา ภวิสฺสติ, โส มา อโหสีติ มฺมาโน น กเถตีติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เสสํ อุตฺตานเมวาติ.
ติสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, สิยา กิริยํ ¶ , สิยา อกิริยํ, อฺเนฺํ ปฏิจรนฺตสฺส หิ กิริยํ ¶ โหติ, ตุณฺหีภาเวน วิเหสนฺตสฺส อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
อฺวาทกสิกฺขาปทํ ทุติยํ.
๓. อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๐๓. ตติยสิกฺขาปเท – ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ ภิกฺขู อุชฺฌาเปนฺตีติ ‘‘ฉนฺทาย ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต’’ติอาทีนิ วทนฺตา ตํ อายสฺมนฺตํ เตหิ ภิกฺขูหิ อวชานาเปนฺติ, อวฺาย โอโลกาเปนฺติ, ลามกโต วา จินฺตาเปนฺตี’’ติ อตฺโถ. ลกฺขณํ ปเนตฺถ สทฺทสตฺถานุสาเรน เวทิตพฺพํ. โอชฺฌาเปนฺตีติปิ ปาโ. อยเมวตฺโถ ¶ . ฉนฺทายาติ ฉนฺเทน ปกฺขปาเตน; อตฺตโน อตฺตโน สนฺทิฏฺสมฺภตฺตานํ ปณีตานิ ปฺเปตีติ อธิปฺปาโย. ขิยฺยนฺตีติ ‘‘ฉนฺทาย ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต’’ติอาทีนิ วทนฺตา ปกาเสนฺติ.
๑๐๕. อุชฺฌาปนเก ขิยฺยนเก ปาจิตฺติยนฺติ เอตฺถ เยน วจเนน อุชฺฌาเปนฺติ, ตํ อุชฺฌาปนกํ. เยน จ ขิยฺยนฺติ ตํ ขิยฺยนกํ. ตสฺมึ อุชฺฌาปนเก ขิยฺยนเก. ปาจิตฺติยนฺติ วตฺถุทฺวเย ปาจิตฺติยทฺวยํ วุตฺตํ.
๑๐๖. อุชฺฌาปนกํ นาม อุปสมฺปนฺนํ สงฺเฆน สมฺมตํ เสนาสนปฺาปกํ วา…เป… อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชนกํ วาติ เอเตสํ ปทานํ ‘‘มงฺกุกตฺตุกาโม’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อวณฺณํ กตฺตุกาโม อยสํ กตฺตุกาโมติ อิเมสํ ปน วเสน อุปสมฺปนฺนนฺติอาทีสุ ‘‘อุปสมฺปนฺนสฺสา’’ติ เอวํ วิภตฺติวิปริณาโม กาตพฺโพ. อุชฺฌาเปติ วา ขิยฺยติ วา อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ เอตฺถ ปน ยสฺมา ‘‘ขิยฺยนกํ นามา’’ติ เอวํ มาติกาปทํ อุทฺธริตฺวาปิ ‘‘อุชฺฌาปนกํ นามา’’ติ อิมสฺส ปทสฺส วุตฺตวิภงฺโคเยว วตฺตพฺโพ โหติ, อฺวาทกสิกฺขาปเท วิย อฺโ วิเสโส นตฺถิ, ตสฺมา ตํ วิสุํ อนุทฺธริตฺวา อวิภชิตฺวา นิคมนเมว เอกโต กตนฺติ เวทิตพฺพํ. ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺีติอาทีสุ ยํ ตสฺส อุปสมฺปนฺนสฺส สมฺมุติกมฺมํ กตํ ตฺเจ ธมฺมกมฺมํ โหติ, โส จ ภิกฺขุ ตสฺมึ ธมฺมกมฺมสฺี อุชฺฌาปนกฺจ ขิยฺยนกฺจ กโรติ, อถสฺส ตสฺมึ อุชฺฌาปนเก จ ขิยฺยนเก จ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อนุปสมฺปนฺนํ ¶ ¶ อุชฺฌาเปติ วา ขิยฺยติ วาติ เอตฺถ อุปสมฺปนฺนํ สงฺเฆน สมฺมตํ อฺํ อนุปสมฺปนฺนํ อุชฺฌาเปติ อวชานาเปติ, ตสฺส วา ตํ สนฺติเก ขิยฺยตีติ อตฺโถ. อุปสมฺปนฺนํ สงฺเฆน อสมฺมตนฺติ กมฺมวาจาย อสมฺมตํ เกวลํ ‘‘ตเวโส ภาโร’’ติ สงฺเฆน อาโรปิตภารํ ภิกฺขูนํ วา ผาสุวิหารตฺถาย สยเมว ตํ ภารํ วหนฺตํ, ยตฺร วา ทฺเว ตโย ภิกฺขู วิหรนฺติ, ตตฺร วา ตาทิสํ กมฺมํ กโรนฺตนฺติ อธิปฺปาโย. อนุปสมฺปนฺนํ สงฺเฆน สมฺมตํ วา อสมฺมตํ วาติ เอตฺถ ปน กิฺจาปิ อนุปสมฺปนฺนสฺส เตรส สมฺมุติโย ทาตุํ น วฏฺฏนฺติ. อถ โข อุปสมฺปนฺนกาเล ลทฺธสมฺมุติโก ปจฺฉา อนุปสมฺปนฺนภาเว ิโต, ตํ สนฺธาย ‘‘สงฺเฆน ¶ สมฺมตํ วา’’ติ วุตฺตํ. ยสฺส ปน พฺยตฺตสฺส สามเณรสฺส เกวลํ สงฺเฆน วา สมฺมเตน วา ภิกฺขุนา ‘‘ตฺวํ อิทํ กมฺมํ กโรหี’’ติ ภาโร กโต, ตาทิสํ สนฺธาย ‘‘อสมฺมตํ วา’’ติ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ติสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทํ ตติยํ.
๔. ปมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๐๘. จตุตฺถสิกฺขาปเท – เหมนฺติเก กาเลติ เหมนฺตกาเล หิมปาตสมเย. กายํ โอตาเปนฺตาติ มฺจปีาทีสุ นิสินฺนา พาลาตเปน กายํ โอตาเปนฺตา. กาเล อาโรจิเตติ ยาคุภตฺตาทีสุ ยสฺส กสฺสจิ กาเล อาโรจิเต. โอวฏฺํ โหตีติ หิมวสฺเสน โอวฏฺํ ตินฺตํ โหติ.
๑๑๐. อวสฺสิกสงฺเกเตติ วสฺสิกวสฺสานมาสาติ เอวํ อปฺตฺเต จตฺตาโร เหมนฺติเก จตฺตาโร จ คิมฺหิเก อฏฺ มาเสติ อตฺโถ. มณฺฑเป วาติ สาขามณฺฑเป วา ปทรมณฺฑเป วา. รุกฺขมูเล วาติ ¶ ยสฺส กสฺสจิ รุกฺขสฺส เหฏฺา. ยตฺถ กากา วา กุลลา วา น อูหทนฺตีติ ยตฺถ ธุวนิวาเสน กุลาวเก กตฺวา วสมานา เอเต กากกุลลา วา อฺเ วา สกุนฺตา ตํ เสนาสนํ น อูหทนฺติ, ตาทิเส รุกฺขมูเล นิกฺขิปิตุํ อนุชานามีติ. ตสฺมา ยตฺถ โคจรปฺปสุตา สกุนฺตา วิสฺสมิตฺวา คจฺฉนฺติ, ตสฺส รุกฺขสฺส มูเล นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ. ยสฺมึ ปน ธุวนิวาเสน กุลาวเก กตฺวา วสนฺติ, ตสฺส รุกฺขสฺส มูเล น นิกฺขิปิตพฺพํ. ‘‘อฏฺ ¶ มาเส’’ติ วจนโต เยสุ ชนปเทสุ วสฺสกาเล น วสฺสติ, เตสุปิ จตฺตาโร มาเส นิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติเยว. ‘‘อวสฺสิกสงฺเกเต’’ติ วจนโต ยตฺถ เหมนฺเต เทโว วสฺสติ, ตตฺถ เหมนฺเตปิ อชฺโฌกาเส นิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ. คิมฺเห ปน สพฺพตฺถ วิคตวลาหกํ วิสุทฺธํ นภํ โหติ, เอวรูเป กาเล เกนจิเทว กรณีเยน อชฺโฌกาเส มฺจปีํ นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ.
อพฺโภกาสิเกนาปิ วตฺตํ ชานิตพฺพํ, ตสฺส หิ สเจ ปุคฺคลิกมฺจโก อตฺถิ, ตตฺเถว สยิตพฺพํ. สงฺฆิกํ คณฺหนฺเตน ¶ เวตฺเตน วา วาเกน วา วีตมฺจโก คเหตพฺโพ. ตสฺมึ อสติ ปุราณมฺจโก คเหตพฺโพ. ตสฺมิมฺปิ อสติ นววายิโม วา โอนทฺธโก วา คเหตพฺโพ. คเหตฺวา จ ปน ‘‘อหํ อุกฺกฏฺรุกฺขมูลิโก อุกฺกฏฺอพฺโภกาสิโก’’ติ จีวรกุฏิมฺปิ อกตฺวา อสมเย อชฺโฌกาเส รุกฺขมูเล วา ปฺเปตฺวา นิปชฺชิตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน จตุคฺคุเณนปิ จีวเรน กตกุฏิ อเตเมนฺตํ รกฺขิตุํ น สกฺโกติ, สตฺตาหวทฺทลิกาทีนิ ภวนฺติ, ภิกฺขุโน กายานุคติกตฺตา วฏฺฏติ.
อรฺเ ปณฺณกุฏีสุ วสนฺตานํ สีลสมฺปทาย ปสนฺนจิตฺตา มนุสฺสา นวํ มฺจปีํ เทนฺติ ‘‘สงฺฆิกปริโภเคน ปริภฺุชถา’’ติ วสิตฺวา คจฺฉนฺเตหิ สามนฺตวิหาเร สภาคภิกฺขูนํ เปเสตฺวา คนฺตพฺพํ, สภาคานํ อภาเว อโนวสฺสเก นิกฺขิปิตฺวา คนฺตพฺพํ, อโนวสฺสเก อสติ รุกฺเข ลคฺเคตฺวา คนฺตพฺพํ. เจติยงฺคเณ สมฺมชฺชนึ คเหตฺวา โภชนสาลงฺคณํ วา อุโปสถาคารงฺคณํ วา ปริเวณทิวาฏฺานอคฺคิสาลาทีสุ วา อฺตรํ สมฺมชฺชิตฺวา โธวิตฺวา ปุน สมฺมชฺชนีมาฬเกเยว เปตพฺพา. อุโปสถาคาราทีสุ อฺตรสฺมึ คเหตฺวา อวเสสานิ สมฺมชฺชนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย.
โย ¶ ปน ภิกฺขาจารมคฺคํ สมฺมชฺชนฺโตว คนฺตุกาโม โหติ, เตน สมฺมชฺชิตฺวา สเจ อนฺตรามคฺเค สาลา อตฺถิ, ตตฺถ เปตพฺพา. สเจ นตฺถิ, วลาหกานํ อนุฏฺิตภาวํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘ยาวาหํ คามโต นิกฺขมามิ, ตาว น วสฺสิสฺสตี’’ติ ชานนฺเตน ยตฺถ กตฺถจิ นิกฺขิปิตฺวา ปุน ปจฺจาคจฺฉนฺเตน ปากติกฏฺาเน เปตพฺพา. สเจ วสฺสิสฺสตีติ ชานนฺโต อชฺโฌกาเส เปติ, ทุกฺกฏนฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. สเจ ปน ตตฺร ตตฺเรว สมฺมชฺชนตฺถาย สมฺมชฺชนี นิกฺขิตฺตา โหติ, ตํ ตํ านํ สมฺมชฺชิตฺวา ตตฺร ตตฺเรว นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ. อาสนสาลํ สมฺมชฺชนฺเตน วตฺตํ ชานิตพฺพํ. ตตฺริทํ วตฺตํ – มชฺฌโต ปฏฺาย ปาทฏฺานาภิมุขา วาลิกา หริตพฺพา. กจวรํ หตฺเถหิ คเหตฺวา พหิ ฉฑฺเฑตพฺพํ.
๑๑๑. มสารโกติ ¶ มฺจปาเท วิชฺฌิตฺวา ตตฺถ อฏนิโย ปเวเสตฺวา กโต. พุนฺทิกาพทฺโธติ อฏนีหิ มฺจปาเท ฑํสาเปตฺวา ปลฺลงฺกสงฺเขเปน กโต. กุฬีรปาทโกติ ¶ อสฺสเมณฺฑกาทีนํ ปาทสทิเสหิ ปาเทหิ กโต. โย วา ปน โกจิ วงฺกปาทโก, อยํ วุจฺจติ กุฬีรปาทโก. อาหจฺจปาทโกติ อยํ ปน ‘‘อาหจฺจปาทโก นาม มฺโจ องฺเค วิชฺฌิตฺวา กโต โหตี’’ติ เอวํ ปรโต ปาฬิยํเยว วุตฺโต, ตสฺมา อฏนิโย วิชฺฌิตฺวา ตตฺถ ปาทสิขํ ปเวเสตฺวา อุปริ อาณึ ทตฺวา กตมฺโจ ‘‘อาหจฺจปาทโก’’ติ เวทิตพฺโพ. ปีเปิ เอเสว นโย. อนฺโต สํเวเตฺวา พทฺธํ โหตีติ เหฏฺา จ อุปริ จ วิตฺถตํ มชฺเฌ สงฺขิตฺตํ ปณวสณฺานํ กตฺวา พทฺธํ โหติ, ตํ กิร มชฺเฌ สีหพฺยคฺฆจมฺมปริกฺขิตฺตมฺปิ กโรนฺติ. อกปฺปิยจมฺมํ นาเมตฺถ นตฺถิ. เสนาสนฺหิ โสวณฺณมยมฺปิ วฏฺฏติ, ตสฺมา ตํ มหคฺฆํ โหติ. อนุปสมฺปนฺนํ สนฺถราเปติ ตสฺส ปลิโพโธติ เยน สนฺถราปิตํ, ตสฺส ปลิโพโธ. เลฑฺฑุปาตํ อติกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาตํ อติกฺกมนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ.
อยํ ปเนตฺถ วินิจฺฉโย – เถโร โภชนสาลายํ ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา ทหรํ อาณาเปติ ‘‘คจฺฉ ทิวาฏฺาเน มฺจปีํ ปฺเปหี’’ติ. โส ตถา กตฺวา นิสินฺโน. เถโร ยถารุจึ วิจริตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา ถวิกํ วา อุตฺตราสงฺคํ วา เปติ, ตโต ปฏฺาย เถรสฺส ปลิโพโธ. นิสีทิตฺวา สยํ ¶ คจฺฉนฺโต เนว อุทฺธรติ, น อุทฺธราเปติ, เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน เถโร ตตฺถ ถวิกํ วา อุตฺตราสงฺคํ วา อฏฺเปตฺวา จงฺกมนฺโตว ทหรํ ‘‘คจฺฉ ตฺว’’นฺติ ภณติ, เตน ‘‘อิทํ ภนฺเต มฺจปี’’นฺติ อาจิกฺขิตพฺพํ. สเจ เถโร วตฺตํ ชานาติ ‘‘ตฺวํ คจฺฉ, อหํ ปากติกํ กริสฺสามี’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ พาโล โหติ อนุคฺคหิตวตฺโต ‘‘คจฺฉ, มา อิธ ติฏฺ, เนว นิสีทิตุํ น นิปชฺชิตุํ เทมี’’ติ ทหรํ ตชฺเชติเยว. ทหเรน ‘‘ภนฺเต สุขํ สยถา’’ติ กปฺปํ ลภิตฺวา วนฺทิตฺวา คนฺตพฺพํ. ตสฺมึ คเต เถรสฺเสว ปลิโพโธ. ปุริมนเยเนว จสฺส อาปตฺติ เวทิตพฺพา.
อถ ปน อาณตฺติกฺขเณเยว ทหโร ‘‘มยฺหํ ภนฺเต ภณฺฑกโธวนาทิ กิฺจิ กรณียํ อตฺถี’’ติ วทติ, เถโร จ นํ ‘‘ตฺวํ ปฺเปตฺวา คจฺฉาหี’’ติ วตฺวา โภชนสาลโต นิกฺขมิตฺวา อฺตฺถ คจฺฉติ, ปาทุทฺธาเรน กาเรตพฺโพ. สเจ ตตฺเถว คนฺตฺวา นิสีทติ ปุริมนเยเนว จสฺส เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม อาปตฺติ. สเจ ปน เถโร สามเณรํ อาณาเปติ ¶ , สามเณเร ตตฺถ มฺจปีํ ปฺเปตฺวา นิสินฺเนปิ โภชนสาลโต อฺตฺถ คจฺฉนฺโต ปาทุทฺธาเรน กาเรตพฺโพ. คนฺตฺวา นิสินฺโน ปุน คมนกาเล เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. สเจ ปน ¶ อาณาเปนฺโต มฺจปีํ ปฺเปตฺวา ตตฺเถว นิสีทาติ อาณาเปติ, ยตฺริจฺฉติ ตตฺร คนฺตฺวา อาคนฺตุํ ลภติ. สยํ ปน ปากติกํ อกตฺวา คจฺฉนฺตสฺส เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม ปาจิตฺติยํ. อนฺตรสนฺนิปาเต มฺจปีานิ ปฺเปตฺวา นิสินฺเนหิ คมนกาเล อารามิกานํ อิมํ ปฏิสาเมถาติ วตฺตพฺพํ, อวตฺวา คจฺฉนฺตานํ เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม อาปตฺติ.
มหาธมฺมสวนํ นาม โหติ ตตฺถ อุโปสถาคารโตปิ โภชนสาลโตปิ อาหริตฺวา มฺจปีานิ ปฺเปนฺติ. อาวาสิกานํเยว ปลิโพโธ. สเจ อาคนฺตุกา ‘‘อิทํ อมฺหากํ อุปชฺฌายสฺส อิทํ อาจริยสฺสา’’ติ คณฺหนฺติ, ตโต ปฏฺาย เตสํเยว ปลิโพโธ. คมนกาเล ปากติกํ อกตฺวา เลฑฺฑุปาตํ อติกฺกมนฺตานํ อาปตฺติ. มหาปจฺจริยํ ปุน วุตฺตํ – ‘‘ยาว อฺเ น นิสีทนฺติ, ตาว เยหิ ปฺตฺตํ, เตสํ ภาโร. อฺเสุ อาคนฺตฺวา นิสินฺเนสุ นิสินฺนกานํ ภาโร. สเจ เต อนุทฺธริตฺวา วา อนุทฺธราเปตฺวา วา คจฺฉนฺติ, ทุกฺกฏํ. กสฺมา? อนาณตฺติยา ปฺปิตตฺตา’’ติ. ธมฺมาสเน ปฺตฺเต ยาว อุสฺสารโก วา ¶ ธมฺมกถิโก วา นาคจฺฉติ, ตาว ปฺาปกานํ ปลิโพโธ, ตสฺมึ อาคนฺตฺวา นิสินฺเน ตสฺส ปลิโพโธ. สกลํ อโหรตฺตํ ธมฺมสวนํ โหติ, อฺโ อุสฺสารโก วา ธมฺมกถิโก วา อุฏฺหติ, อฺโ นิสีทติ, โย โย อาคนฺตฺวา นิสีทติ, ตสฺส ตสฺส ภาโร. อุฏฺหนฺเตน ปน ‘‘อิทมาสนํ ตุมฺหากํ ภาโร’’ติ วตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจปิ อิตรสฺมึ อนาคเตเยว ปมํ นิสินฺโน อุฏฺาย คจฺฉติ, ตสฺมิฺจ อนฺโตอุปจารฏฺเเยว อิตโร อาคนฺตฺวา นิสีทติ, อุฏฺาย คโต อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ. สเจ ปน อิตรสฺมึ อนาคเตเยว ปมํ นิสินฺโน อุฏฺายาสนา เลฑฺฑุปาตํ อติกฺกมติ, อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. สพฺพตฺถ จ ‘‘เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม ปมปาเท ทุกฺกฏํ, ทุติเย ปาจิตฺติย’’นฺติ อยํ นโย มหาปจฺจริยํ วุตฺโต.
๑๑๒. จิมิลิกํ วาติอาทีสุ จิมิลิกา นาม สุธาทิปริกมฺมกตาย ภูมิยา วณฺณานุรกฺขณตฺถํ กตา โหติ ¶ , ตํ เหฏฺา ปตฺถริตฺวา อุปริ กฏสารกํ ปตฺถรนฺติ. อุตฺตรตฺถรณํ นาม มฺจปีานํ อุปริ อตฺถริตพฺพกํ ปจฺจตฺถรณํ. ภูมตฺถรณํ นาม ภูมิยํ อตฺถริตพฺพา กฏสารกาทิวิกติ. ตฏฺฏิกํ นาม ตาลปณฺเณหิ วา วาเกหิ วา กตตฏฺฏิกา. จมฺมขณฺโฑ นาม สีหพฺยคฺฆทีปิตรจฺฉจมฺมาทีสุปิ ยํกิฺจิ จมฺมํ. อฏฺกถาสุ หิ เสนาสนปริโภเค ปฏิกฺขิตฺตจมฺมํ นาม น ทิสฺสติ, ตสฺมา สีหจมฺมาทีนํ ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ. ปาทปฺุฉนี นาม รชฺชุเกหิ วา ปิโลติกาหิ วา ปาทปฺุฉนตฺถํ กตา. ผลกปีํ นาม ผลกมยํ ปีํ. อถ วา ผลกฺเจว ทารุมยปีฺจ; เอเตน สพฺพมฺปิ ทารุภณฺฑาทิ สงฺคหิตํ. มหาปจฺจริยํ ปน วิตฺถาเรเนว วุตฺตํ – ‘‘อาธารกํ ปตฺตปิธานํ ปาทกถลิกํ ตาลวณฺฏํ พีชนีปตฺตกํ ¶ ยํกิฺจิ ทารุภณฺฑํ อนฺตมโส ปานียอุฬุงฺกํ ปานียสงฺขํ อชฺโฌกาเส นิกฺขิปิตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ. มหาอฏฺกถายํ ปน เอส นโย ทุติยสิกฺขาปเท ทสฺสิโต. อชฺโฌกาเส รชนํ ปจิตฺวา รชนภาชนํ รชนอุฬุงฺโก รชนโทณิกาติ สพฺพํ อคฺคิสาลาย ปฏิสาเมตพฺพํ. สเจ อคฺคิสาลา นตฺถิ, อโนวสฺสเก ปพฺภาเร นิกฺขิปิตพฺพํ. ตสฺมิมฺปิ อสติ ยตฺถ โอโลเกนฺตา ภิกฺขู ปสฺสนฺติ, ตาทิเส าเน เปตฺวาปิ คนฺตุํ วฏฺฏติ.
อฺสฺส ¶ ปุคฺคลิเกติ ยสฺมึ วิสฺสาสคฺคาโห น รุหติ, ตสฺส สนฺตเก ทุกฺกฏํ. ยสฺมึ ปน วิสฺสาโส รุหติ, ตสฺส สนฺตกํ อตฺตโน ปุคฺคลิกมิว โหตีติ มหาปจฺจริยาทีสุ วุตฺตํ.
๑๑๓. อาปุจฺฉํ คจฺฉตีติ โย ภิกฺขุ วา สามเณโร วา อารามิโก วา ลชฺชี โหติ, อตฺตโน ปลิโพธํ วิย มฺติ, โย ตถารูปํ อาปุจฺฉิตฺวา คจฺฉติ, ตสฺส อนาปตฺติ. โอตาเปนฺโต คจฺฉตีติ อาตเป โอตาเปนฺโต อาคนฺตฺวา อุทฺธริสฺสามีติ คจฺฉติ; เอวํ คจฺฉโต อนาปตฺติ. เกนจิ ปลิพุทฺธํ โหตีติ เสนาสนํ เกนจิ อุปทฺทุตํ โหตีติ อตฺโถ. สเจปิ หิ วุฑฺฒตโร ภิกฺขุ อุฏฺาเปตฺวา คณฺหาติ, สเจปิ ยกฺโข วา เปโต วา อาคนฺตฺวา นิสีทติ, โกจิ วา อิสฺสโร อาคนฺตฺวา คณฺหาติ, เสนาสนํ ปลิพุทฺธํ โหติ, สีหพฺยคฺฆาทีสุ วา ปน ตํ ปเทสํ อาคนฺตฺวา ¶ ิเตสุปิ เสนาสนํ ปลิพุทฺธํ โหติเยว. เอวํ เกนจิ ปลิพุทฺเธ อนุทฺธริตฺวาปิ คจฺฉโต อนาปตฺติ. อาปทาสูติ ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตราเยสุ. เสสํ อุตฺตานเมวาติ.
กถินสมุฏฺานํ – กายวาจโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ปมเสนาสนสิกฺขาปทํ จตุตฺถํ.
๕. ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๑๖. ทุติยเสนาสนสิกฺขาปเท – ภิสีติ มฺจกภิสิ วา ปีกภิสิ วา. จิมิลิกาทีนิปิ ปุริมสิกฺขาปเท วุตฺตปฺปการานิเยว. นิสีทนนฺติ สทสํ เวทิตพฺพํ. ปจฺจตฺถรณนฺติ ปาวาโร โกชโวติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. ติณสนฺถาโรติ เยสํ เกสฺจิ ติณานํ สนฺถาโร ¶ . เอส นโย ปณฺณสนฺถาเร. ปริกฺเขปํ อติกฺกมนฺตสฺสาติ เอตฺถ ปมปาทํ อติกฺกาเมนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ทุติยาติกฺกเม ปาจิตฺติยํ. อปริกฺขิตฺตสฺส อุปจาโร นาม เสนาสนโต ทฺเว เลฑฺฑุปาตา.
อนาปุจฺฉํ ¶ วา คจฺเฉยฺยาติ เอตฺถ ภิกฺขุมฺหิ สติ ภิกฺขุ อาปุจฺฉิตพฺโพ. ตสฺมึ อสติ สามเณโร, ตสฺมึ อสติ อารามิโก, ตสฺมิมฺปิ อสติ เยน วิหาโร การิโต โส วิหารสามิโก, ตสฺส วา กุเล โย โกจิ อาปุจฺฉิตพฺโพ. ตสฺมิมฺปิ อสติ จตูสุ ปาสาเณสุ มฺจํ เปตฺวา มฺเจ อวเสสมฺจปีานิ อาโรเปตฺวา อุปริ ภิสิอาทิกํ ทสวิธมฺปิ เสยฺยํ ราสึ กริตฺวา ทารุภณฺฑํ มตฺติกาภณฺฑํ ปฏิสาเมตฺวา ทฺวารวาตปานานิ ปิทหิตฺวา คมิยวตฺตํ ปูเรตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ ปน เสนาสนํ โอวสฺสติ, ฉทนตฺถฺจ ติณํ วา อิฏฺกา วา อานีตา โหนฺติ, สเจ อุสฺสหติ, ฉาเทตพฺพํ. โน เจ สกฺโกติ, โย โอกาโส อโนวสฺสโก, ตตฺถ มฺจปีาทีนิ นิกฺขิปิตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ สพฺพมฺปิ โอวสฺสติ, อุสฺสหนฺเตน อนฺโตคาเม อุปาสกานํ ฆเร เปตพฺพํ. สเจ เตปิ ‘‘สงฺฆิกํ นาม ภนฺเต ภาริยํ, อคฺคิทาหาทีนํ ภายามา’’ติ น สมฺปฏิจฺฉนฺติ, อชฺโฌกาเสปิ ปาสาณานํ อุปริ มฺจํ เปตฺวา เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว นิกฺขิปิตฺวา ติเณหิ จ ปณฺเณหิ จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ. ยฺหิ ตตฺถ องฺคมตฺตมฺปิ อวสิสฺสติ, ตํ อฺเสํ ตตฺถ อาคตานํ ภิกฺขูนํ อุปการํ ภวิสฺสตีติ ¶ .
๑๑๗. วิหารสฺส อุปจาเรติอาทีสุ วิหารสฺสูปจาโร นาม ปริเวณํ. อุปฏฺานสาลาติ ปริเวณโภชนสาลา. มณฺฑโปติ ปริเวณมณฺฑโป. รุกฺขมูลนฺติ ปริเวณรุกฺขมูลํ. อยํ ตาว นโย กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺโต. กิฺจาปิ วุตฺโต, อถ โข วิหาโรติ อนฺโตคพฺโภ วา อฺํ วา สพฺพปริจฺฉนฺนํ คุตฺตเสนาสนํ เวทิตพฺพํ. วิหารสฺส อุปจาเรติ ตสฺส พหิ อาสนฺเน โอกาเส. อุปฏฺานสาลายํ วาติ โภชนสาลายํ วา. มณฺฑเป วาติ อปริจฺฉนฺเน ปริจฺฉนฺเน วาปิ พหูนํ สนฺนิปาตมณฺฑเป. รุกฺขมูเล วตฺตพฺพํ นตฺถิ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ วุตฺตปฺปการฺหิ ทสวิธํ เสยฺยํ อนฺโตคพฺภาทิมฺหิ คุตฺตฏฺาเน ปฺเปตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ยสฺมา เสยฺยาปิ เสนาสนมฺปิ อุปจิกาหิ ปลุชฺชติ, วมฺมิกราสิเยว โหติ, ตสฺมา ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. พหิ ปน อุปฏฺานสาลาทีสุ ปฺเปตฺวา คจฺฉนฺตสฺส เสยฺยามตฺตเมว นสฺเสยฺย, านสฺส อคุตฺตตาย ¶ น เสนาสนํ, ตสฺมา เอตฺถ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. มฺจํ วา ปีํ วาติ เอตฺถ ยสฺมา น สกฺกา มฺจปีํ สหสา อุปจิกาหิ ขายิตุํ, ตสฺมา ตํ วิหาเรปิ สนฺถริตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. วิหารูปจาเร ปน ตํ วิหารจาริกํ อาหิณฺฑนฺตาปิ ทิสฺวา ปฏิสาเมสฺสนฺติ.
๑๑๘. อุทฺธริตฺวา ¶ คจฺฉตีติ เอตฺถ อุทฺธริตฺวา คจฺฉนฺเตน มฺจปีกวาฏํ สพฺพํ อปเนตฺวา สํหริตฺวา จีวรวํเส ลคฺเคตฺวา คนฺตพฺพํ. ปจฺฉา อาคนฺตฺวา วสนกภิกฺขุนาปิ ปุน มฺจปีํ วา ปฺเปตฺวา สยิตฺวา คจฺฉนฺเตน ตเถว กาตพฺพํ. อนฺโตกุฏฺฏโต เสยฺยํ พหิกุฏฺเฏ ปฺเปตฺวา วสนฺเตน คมนกาเล คหิตฏฺาเนเยว ปฏิสาเมตพฺพํ. อุปริปาสาทโต โอโรเปตฺวา เหฏฺาปาสาเท วสนฺตสฺสปิ เอเสว นโย. รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเนสุ มฺจปีํ ปฺเปตฺวาปิ คมนกาเล ปุน คหิตฏฺาเนเยว เปตพฺพํ.
อาปุจฺฉํ คจฺฉตีติ เอตฺถายํ อาปุจฺฉิตพฺพานาปุจฺฉิตพฺพวินิจฺฉโย – ยา ตาว ภูมิยํ ทีฆสาลา วา ปณฺณสาลา ¶ วา โหติ, ยํ วา รุกฺขตฺถมฺเภสุ, กตเคหํ อุปจิกานํ อุฏฺานฏฺานํ โหติ, ตโต ปกฺกมนฺเตน ตาว อาปุจฺฉิตฺวาว ปกฺกมิตพฺพํ. ตสฺมิฺหิ กติปยานิ ทิวสานิ อชคฺคิยมาเน วมฺมิกาว สนฺติฏฺนฺติ. ยํ ปน ปาสาณปิฏฺิยํ วา ปาสาณตฺถมฺเภสุ วา กตเสนาสนํ สิลุจฺจยเลณํ วา สุธาลิตฺตเสนาสนํ วา ยตฺถ อุปจิกาสงฺกา นตฺถิ, ตโต ปกฺกมนฺตสฺส อาปุจฺฉิตฺวาปิ อนาปุจฺฉิตฺวาปิ คนฺตุํ วฏฺฏติ, อาปุจฺฉนํ ปน วตฺตํ. สเจ ตาทิเสปิ เสนาสเน เอเกน ปสฺเสน อุปจิกา อาโรหนฺติ, อาปุจฺฉิตฺวาว คนฺตพฺพํ. โย ปน อาคนฺตุโก ภิกฺขุ สงฺฆิกํ เสนาสนํ คเหตฺวา วสนฺตํ ภิกฺขุํ อนุวตฺตนฺโต อตฺตโน เสนาสนํ อคฺคเหตฺวา วสติ, ยาว โส น คณฺหาติ, ตาว ตํ เสนาสนํ ปุริมภิกฺขุสฺเสว ปลิโพโธ. ยทา ปน โส เสนาสนํ คเหตฺวา อตฺตโน อิสฺสริเยน วสติ, ตโต ปฏฺาย อาคนฺตุกสฺเสว ปลิโพโธ. สเจ อุโภปิ วิภชิตฺวา คณฺหนฺติ, อุภินฺนมฺปิ ปลิโพโธ. มหาปจฺจริยํ ปน วุตฺตํ – ‘‘สเจ ทฺเว ตโย เอกโต หุตฺวา ปฺเปนฺติ, คมนกาเล สพฺเพหิปิ อาปุจฺฉิตพฺพํ. เตสุ เจ ปมํ คจฺฉนฺโต ‘ปจฺฉิโม ชคฺคิสฺสตี’ติ อาโภคํ กตฺวา คจฺฉติ วฏฺฏติ. ปจฺฉิมสฺส อาโภเคน มุตฺติ นตฺถิ. พหู เอกํ เปเสตฺวา สนฺถราเปนฺติ, คมนกาเล สพฺเพหิ วา อาปุจฺฉิตพฺพํ ¶ , เอกํ วา เปเสตฺวา อาปุจฺฉิตพฺพํ. อฺโต มฺจปีาทีนิ อาเนตฺวา อฺตฺร วสิตฺวาปิ คมนกาเล ตตฺเถว เนตพฺพานิ. สเจ อฺาวาสโต อาเนตฺวา วสมานสฺส อฺโ วุฑฺฒตโร อาคจฺฉติ, น ปฏิพาหิตพฺโพ, ‘มยา ภนฺเต อฺาวาสโต อานีตํ, ปากติกํ กเรยฺยาถา’ติ วตฺตพฺพํ. เตน ‘เอวํ กริสฺสามี’ติ สมฺปฏิจฺฉิเต อิตรสฺส คนฺตุํ วฏฺฏติ. เอวมฺตฺถ หริตฺวาปิ สงฺฆิกปริโภเคน ปริภฺุชนฺตสฺส นฏฺํ วา ชิณฺณํ วา โจเรหิ วา หฏํ คีวา น โหติ, ปุคฺคลิกปริโภเคน ปริภฺุชนฺตสฺส ปน คีวา โหติ. อฺสฺส มฺจปีํ ปน สงฺฆิกปริโภเคน วา ปุคฺคลิกปริโภเคน วา ปริภฺุชนฺตสฺส นฏฺํ คีวาเยว’’.
เกนจิ ปลิพุทฺธํ โหตีติ วุฑฺฒตรภิกฺขูอิสฺสริยยกฺขสีหวาฬมิคกณฺหสปฺปาทีสุ เยน เกนจิ ¶ เสนาสนํ ปลิพุทฺธํ โหติ. สาเปกฺโข คนฺตฺวา ตตฺถ ิโต อาปุจฺฉติ, เกนจิ ปลิพุทฺโธ โหตีติ อชฺเชว อาคนฺตฺวา ปฏิชคฺคิสฺสามีติ เอวํ สาเปกฺโข ¶ นทีปารํ วา คามนฺตรํ วา คนฺตฺวา ยตฺถสฺส คมนจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ตตฺเถว ิโต กฺจิ เปเสตฺวา อาปุจฺฉติ, นทีปูรราชโจราทีสุ วา เกนจิ ปลิพุทฺโธ โหติ อุปทฺทุโต, น สกฺโกติ ปจฺจาคนฺตุํ, เอวํภูตสฺสปิ อนาปตฺติ. เสสํ ปมสิกฺขาปเท วุตฺตนยเมว สทฺธึ สมุฏฺานาทีหีติ.
ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทํ ปฺจมํ.
๖. อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๑๙. ฉฏฺสิกฺขาปเท – ปลิพุนฺเธนฺตีติ ปมตรํ คนฺตฺวา ปตฺตจีวรํ อติหริตฺวา รุมฺภิตฺวา ติฏฺนฺติ. เถรา ภิกฺขู วุฏฺาเปนฺตีติ ‘‘อมฺหากํ อาวุโส ปาปุณาตี’’ติ วสฺสคฺเคน คเหตฺวา วุฏฺาเปนฺติ. อนุปขชฺช เสยฺยํ กปฺเปนฺตีติ ‘‘ตุมฺหากํ ภนฺเต มฺจฏฺานํเยว ปาปุณาติ, น สพฺโพ วิหาโร. อมฺหากํ ทานิ อิทํ านํ ปาปุณาตี’’ติ อนุปวิสิตฺวา มฺจปีํ ปฺเปตฺวา นิสีทนฺติปิ นิปชฺชนฺติปิ สชฺฌายมฺปิ กโรนฺติ.
๑๒๐. ชานนฺติ ‘‘อนุฏฺาปนีโย อย’’นฺติ ชานนฺโต; เตเนวสฺส วิภงฺเค ‘‘วุฑฺโฒติ ชานาตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. วุฑฺโฒ หิ อตฺตโน วุฑฺฒตาย อนุฏฺาปนีโย ¶ , คิลาโน คิลานตาย, สงฺโฆ ปน ภณฺฑาคาริกสฺส วา ธมฺมกถิกวินยธราทีนํ วา คณวาจกอาจริยสฺส วา พหูปการตํ คุณวิสิฏฺตฺจ สลฺลกฺเขนฺโต ธุววาสตฺถาย วิหารํ สมฺมนฺนิตฺวา เทติ, ตสฺมา ยสฺส สงฺเฆน ทินฺโน, โสปิ อนุฏฺาปนีโย. กามฺเจตฺถ คิลานสฺสาปิ สงฺโฆเยว อนุจฺฉวิกํ เสนาสนํ เทติ, คิลาโน ปน ‘‘อปโลเกตฺวา สงฺเฆน อทินฺนเสนาสโนปิ น ปีเฬตพฺโพ อนุกมฺปิตพฺโพ’’ติ ทสฺเสตุํ วิสุํ วุตฺโต.
๑๒๑. อุปจาเรติ เอตฺถ มฺจปีานํ ตาว มหลฺลเก วิหาเร สมนฺตา ทิยฑฺโฒ หตฺโถ อุปจาโร, ขุทฺทเก ยโต ปโหติ ตโต ทิยฑฺโฒ หตฺโถ, ปาเท โธวิตฺวา ปวิสนฺตสฺส ปสฺสาวตฺถาย นิกฺขมนฺตสฺส จ ยาว ทฺวาเร นิกฺขิตฺตปาทโธวนปาสาณโต ปสฺสาวฏฺานโต จ มฺจปีํ, ตาว ทิยฑฺฒหตฺถวิตฺถาโร มคฺโค อุปจาโร นาม. ตสฺมึ มฺจสฺส วา ปีสฺส วา อุปจาเร ิตสฺส วา ภิกฺขุโน ปวิสนฺตสฺส วา นิกฺขมนฺตสฺส วา อุปจาเร โย อนุปขชฺช เสยฺยํ กปฺเปตุกาโม เสยฺยํ สนฺถรติ วา สนฺถราเปติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส.
อภินิสีทติ ¶ ¶ วา อภินิปชฺชติ วาติ เอตฺถ อภินิสีทนมตฺเตน อภินิปชฺชนมตฺเตเนว วา ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน ทฺเวปิ กโรติ, ทฺเว ปาจิตฺติยานิ. อุฏฺายุฏฺาย นิสีทโต วา นิปชฺชโต วา ปโยเค ปโยเค ปาจิตฺติยํ.
๑๒๒. อุปจารํ เปตฺวา เสยฺยํ สนฺถรติ วา สนฺถราเปติ วาติ อิมสฺมึ อิโต ปเร จ ‘‘วิหารสฺส อุปจาเร’’ติอาทิเก ทุกฺกฏวาเรปิ ยถา อิธ อภินิสีทนมตฺเต อภินิปชฺชนมตฺเต อุภยกรเณ ปโยคเภเท จ ปาจิตฺติยปฺปเภโท วุตฺโต, เอวํ ทุกฺกฏปฺปเภโท เวทิตพฺโพ. เอวรูเปน หิ วิสภาคปุคฺคเลน เอกวิหาเร วา เอกปริเวเณ วา วสนฺเตน อตฺโถ นตฺถิ, ตสฺมา สพฺพตฺเถวสฺส นิวาโส วาริโต. อฺสฺส ปุคฺคลิเกติ อิธาปิ วิสฺสาสิกสฺส ปุคฺคลิกํ อตฺตโน ปุคฺคลิกสทิสเมว, ตตฺถ อนาปตฺติ.
๑๒๓. อาปทาสูติ ¶ สเจ พหิ วสนฺตสฺส ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตราโย โหติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ โย ปวิสติ, ตสฺสาปิ อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมวาติ. ปมปาราชิกสมุฏฺานํ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
อนุปขชฺชสิกฺขาปทํ ฉฏฺํ.
๗. นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๒๖. สตฺตมสิกฺขาปเท – เอเกน ปโยเคน พหุเกปิ ทฺวาเร อติกฺกาเมตีติ เย จตุภูมกปฺจภูมกา ปาสาทา ฉสตฺตโกฏฺกานิ วา จตุสฺสาลานิ, ตาทิเสสุ เสนาสเนสุ หตฺเถสุ วา คีวาย วา คเหตฺวา อนฺตรา อฏฺเปนฺโต เอเกน ปโยเคน อติกฺกาเมติ, เอกเมว ปาจิตฺติยํ. เปตฺวา เปตฺวา นานาปโยเคหิ อติกฺกาเมนฺตสฺส ทฺวารคณนาย ปาจิตฺติยานิ. หตฺเถน อนามสิตฺวา ‘‘นิกฺขมา’’ติ วตฺวา วาจาย นิกฺกฑฺฒนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย.
อฺํ อาณาเปตีติ เอตฺถ ‘‘อิมํ นิกฺกฑฺฒา’’ติ อาณตฺติมตฺเต ทุกฺกฏํ. สเจ โส สกึ อาณตฺโต พหุเกปิ ทฺวาเร อติกฺกาเมติ, เอกํ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน ‘‘เอตฺตกานิ ทฺวารานิ นิกฺกฑฺฒาหี’’ติ วา ‘‘ยาว มหาทฺวารํ ตาว นิกฺกฑฺฒาหี’’ติ วา เอวํ นิยาเมตฺวา อาณตฺโต โหติ, ทฺวารคณนาย ปาจิตฺติยานิ.
ตสฺส ¶ ปริกฺขารนฺติ ยํกิฺจิ ตสฺส สนฺตกํ ปตฺตจีวรปริสฺสาวนธมกรณมฺจปีภิสิพิมฺโพหนาทิเภทํ, อนฺตมโส รชนฉลฺลิมฺปิ; โย นิกฺกฑฺฒติ วา นิกฺกฑฺฒาเปติ วา; ตสฺส วตฺถุคณนาย ทุกฺกฏานิ ¶ . คาฬฺหํ พนฺธิตฺวา ปิเตสุ ปน เอกาว อาปตฺตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.
๑๒๗. อฺสฺส ปุคฺคลิเกติ อิธาปิ วิสฺสาสิกปุคฺคลิกํ อตฺตโน ปุคฺคลิกสทิสเมว. ยถา จ อิธ; เอวํ สพฺพตฺถ. ยตฺร ปน วิเสโส ภวิสฺสติ, ตตฺร วกฺขาม.
๑๒๘. อลชฺชึ นิกฺกฑฺฒติ วาติอาทีสุ ภณฺฑนการกกลหการกเมว สกลสงฺฆารามโต นิกฺกฑฺฒิตุํ ลภติ, โส หิ ปกฺขํ ลภิตฺวา สงฺฆมฺปิ ¶ ภินฺเทยฺย. อลชฺชีอาทโย ปน อตฺตโน วสนฏฺานโตเยว นิกฺกฑฺฒิตพฺพา, สกลสงฺฆารามโต นิกฺกฑฺฒิตุํ น วฏฺฏติ. อุมฺมตฺตกสฺสาติ สยํ อุมฺมตฺตกสฺส อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมวาติ.
ติสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปทํ สตฺตมํ.
๘. เวหาสกุฏิสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๒๙. อฏฺมสิกฺขาปเท – อุปริเวหาสกุฏิยาติ อุปริ อจฺฉนฺนตลาย ทฺวิภูมิกกุฏิยา วา ติภูมิกาทิกุฏิยา วา. มฺจํ สหสา อภินิสีทีติ มฺจํ สหสา อภิภวิตฺวา อชฺโฌตฺถริตฺวา นิสีทิ. ภุมฺมตฺเถ วา เอตํ อุปโยควจนํ; มฺเจ นิสีทีติ อตฺโถ. อภีติ อิทํ ปน ปทโสภนตฺถํ อุปสคฺคมตฺตเมว. นิปฺปติตฺวาติ นิปติตฺวา นิกฺขมิตฺวา วา. ตสฺส หิ อุปริ อาณีปิ น ทินฺนา, ตสฺมา นิกฺขนฺโต. วิสฺสรมกาสีติ วิรูปํ อาตุรสฺสรมกาสิ.
๑๓๑. เวหาสกุฏิ นาม มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส อสีสฆฏฺฏาติ ยา ปมาณมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สพฺพเหฏฺิมาหิ ตุลาหิ สีสํ น ฆฏฺเฏติ, เอเตน อิธ อธิปฺเปตา เวหาสกุฏิ ทสฺสิตา โหติ, น เวหาสกุฏิลกฺขณํ. ยา หิ กาจิ อุปริ อจฺฉินฺนตลา ทฺวิภูมิกา กุฏิ ติภูมิกาทิกุฏิ ¶ วา ‘‘เวหาสกุฏี’’ติ วุจฺจติ. อิธ ปน อสีสฆฏฺฏา อธิปฺเปตา. อภินิสีทนาทีสุ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ปโยควเสน อาปตฺติเภโท เวทิตพฺโพ.
๑๓๓. อเวหาสกุฏิยาติ ภูมิยํ กตปณฺณสาลาทีสุ อนาปตฺติ. น หิ สกฺกา ¶ ตตฺถ ปรสฺส ปีฬา กาตุํ. สีสฆฏฺฏายาติ ยายํ สีสฆฏฺฏา โหติ, ตตฺถาปิ อนาปตฺติ. น หิ สกฺกา ตตฺถ เหฏฺาปาสาเท อโนณเตน วิจริตุํ, ตสฺมา อสฺจรณฏฺานตฺตา ปรปีฬา น ภวิสฺสติ ¶ . เหฏฺา อปริโภคํ โหตีติ ยสฺสา เหฏฺา ทพฺพสมฺภาราทีนํ นิกฺขิตฺตตฺตา อปริโภคํ โหติ, ตตฺถาปิ อนาปตฺติ. ปทรสฺจิตํ โหตีติ ยสฺสา อุปริมตลํ ทารุผลเกหิ วา ฆนสนฺถตํ โหติ, สุธาทิปริกมฺมกตํ วา ตตฺถาปิ อนาปตฺติ. ปฏาณิ ทินฺนา โหตีติ มฺจปีานํ ปาทสิขาสุ อาณี ทินฺนา โหติ, ยตฺถ นิสีทนฺเตปิ น นิปฺปตนฺติ, ตาทิเส มฺจปีเ นิสีทโตปิ อนาปตฺติ. ตสฺมึ ิโตติ อาหจฺจปาทเก มฺเจ วา ปีเ วา ิโต อุปริ นาคทนฺตกาทีสุ ลคฺคิตกํ จีวรํ วา กิฺจิ วา คณฺหาติ วา, อฺํ วา ลคฺเคติ, ตสฺสาปิ อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว. เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กายโต จ กายจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
เวหาสกุฏิสิกฺขาปทํ อฏฺมํ.
๙. มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๓๕. นวมสิกฺขาปเท – ยาว ทฺวารโกสาติ เอตฺถ ทฺวารโกโส นาม ปิฏฺสงฺฆาฏสฺส สมนฺตา กวาฏวิตฺถารปฺปมาโณ โอกาโส. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ทฺวารพาหโต ปฏฺาย ทิยฑฺโฒ หตฺโถ’’ติ วุตฺตํ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ทฺวารสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ กวาฏปฺปมาณ’’นฺติ. มหาอฏฺกถายํ ‘‘กวาฏํ นาม ทิยฑฺฒหตฺถมฺปิ โหติ ทฺวิหตฺถมฺปิ อฑฺฒเตยฺยหตฺถมฺปี’’ติ วุตฺตํ, ตํ สุวุตฺตํ. ตเทว หิ สนฺธาย ภควตาปิ ‘‘ปิฏฺสงฺฆาฏสฺส สมนฺตา หตฺถปาสา’’ติ อยํ อุกฺกฏฺนิทฺเทโส กโต. อคฺคฬฏฺปนายาติ สกวาฏกทฺวารพนฺธฏฺปนาย; สกวาฏกสฺส ทฺวารพนฺธสฺส นิจฺจลภาวตฺถายาติ อตฺโถ. ทฺวารฏฺปนายาติ อิทมฺปิ หิ ปทภาชนํ อิมเมวตฺถํ สนฺธาย ภาสิตํ. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย – กวาฏฺหิ ลหุปริวฏฺฏกํ วิวรณกาเล ภิตฺตึ อาหนติ, ปิทหนกาเล ทฺวารพนฺธํ. เตน อาหนเนน ภิตฺติ ¶ กมฺปติ, ตโต มตฺติกา จลติ, จลิตฺวา สิถิลา วา โหติ ปตติ วา. เตนาห ภควา ‘‘ยาว ทฺวารโกสา อคฺคฬฏฺปนายา’’ติ. ตตฺถ กิฺจาปิ ‘‘อิทํ นาม กตฺตพฺพ’’นฺติ ¶ เนว มาติกายํ น ปทภาชเน วุตฺตํ, อฏฺุปฺปตฺติยํ ปน ‘‘ปุนปฺปุนํ ฉาทาเปสิ ปุนปฺปุนํ เลปาเปสี’’ติ อธิการโต ยาว ทฺวารโกสา อคฺคฬฏฺปนาย ปุนปฺปุนํ ลิมฺปิตพฺโพ วา เลปาเปตพฺโพ วาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
ยํ ¶ ปน ปทภาชเน ‘‘ปิฏฺสงฺฆาฏสฺส สมนฺตา หตฺถปาสา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺส เวมชฺเฌ ทฺวารํ โหติ, อุปริภาเค อุจฺจา ภิตฺติ, ตสฺส ตีสุ ทิสาสุ สมนฺตา หตฺถปาสา อุปจาโร โหติ, ขุทฺทกสฺส วิหารสฺส ทฺวีสุ ทิสาสุ อุปจาโร โหติ. ตตฺราปิ ยํ ภิตฺตึ วิวริยมานํ กวาฏํ อาหนติ, สา อปริปูรอุปจาราปิ โหติ. อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน ปน ตีสุ ทิสาสุ สมนฺตา หตฺถปาสา ทฺวารสฺส นิจฺจลภาวตฺถาย เลโป อนฺุาโต. สเจ ปนสฺส ทฺวารสฺส อโธภาเคปิ เลโปกาโส อตฺถิ, ตมฺปิ ลิมฺปิตุํ วฏฺฏติ. อาโลกสนฺธิปริกมฺมายาติ เอตฺถ อาโลกสนฺธีติ วาตปานกวาฏกา วุจฺจนฺติ, เตปิ วิวรณกาเล วิทตฺถิมตฺตมฺปิ อติเรกมฺปิ ภิตฺติปฺปเทสํ ปหรนฺติ. อุปจาโร ปเนตฺถ สพฺพทิสาสุ ลพฺภติ, ตสฺมา สพฺพทิสาสุ กวาฏวิตฺถารปฺปมาโณ โอกาโส อาโลกสนฺธิปริกมฺมตฺถาย ลิมฺปิตพฺโพ วา เลปาเปตพฺโพ วาติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.
เสตวณฺณนฺติอาทิกํ น มาติกาย ปทภาชนํ. อิมินา หิ วิหารสฺส ภาริกตฺตํ นาม นตฺถีติ ปทภาชเนเยว อนฺุาตํ, ตสฺมา สพฺพเมตํ ยถาสุขํ กตฺตพฺพํ.
เอวํ เลปกมฺเม ยํ กตฺตพฺพํ, ตํ ทสฺเสตฺวา ปุน ฉทเน กตฺตพฺพํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทฺวตฺติจฺฉทนสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ทฺวตฺติจฺฉทนสฺส ปริยายนฺติ ฉทนสฺส ทฺวตฺติปริยายํ; ปริยาโย วุจฺจติ ปริกฺเขโป, ปริกฺเขปทฺวยํ วา ปริกฺเขปตฺตยํ วา อธิฏฺาตพฺพนฺติ อตฺโถ. อปฺปหริเต ิเตนาติ อหริเต ิเตน. หริตนฺติ เจตฺถ สตฺตธฺเภทํ ปุพฺพณฺณํ มุคฺคมาสติลกุลตฺถอลาพุกุมฺภณฺฑาทิเภทฺจ อปรณฺณํ อธิปฺเปตํ. เตเนวาห – ‘‘หริตํ นาม ปุพฺพณฺณํ อปรณฺณ’’นฺติ.
สเจ หริเต ิโต ¶ อธิฏฺาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอตฺถ ปน ยสฺมิมฺปิ เขตฺเต วุตฺตํ พีชํ น ตาว สมฺปชฺชติ, วสฺเส วา ปน ปติเต สมฺปชฺชิสฺสติ, ตมฺปิ หริตสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. ตสฺมา เอวรูเป เขตฺเตปิ ิเตน น อธิฏฺาตพฺพํ, อหริเตเยว ิเตน อธิฏฺาตพฺพํ. ตตฺราปิ อยํ ปริจฺเฉโท, ปิฏฺิวํสสฺส วา กูฏาคารกณฺณิกาย วา อุปริ ถุปิกาย วา ปสฺเส นิสินฺโน ฉทนมุขวฏฺฏิอนฺเตน โอโลเกนฺโต ยสฺมึ ภูมิภาเค ิตํ ปสฺสติ, ยสฺมิฺจ ภูมิภาเค ¶ ิโต, ตํ อุปริ นิสินฺนกํ ปสฺสติ, ตสฺมึ ¶ าเน อธิฏฺาตพฺพํ. ตสฺส อนฺโต อหริเตปิ ตฺวา อธิฏฺาตุํ น ลพฺภติ. กสฺมา? วิหารสฺส หิ ปตนฺตสฺส อยํ ปตโนกาโสติ.
๑๓๖. มคฺเคน ฉาเทนฺตสฺสาติ เอตฺถ มคฺเคน ฉาทนํ นาม อปริกฺขิปิตฺวา อุชุกเมว ฉาทนํ; ตํ อิฏฺกสิลาสุธาหิ ลพฺภติ. ทฺเว มคฺเค อธิฏฺหิตฺวาติ ทฺเว มคฺคา สเจ ทุจฺฉนฺนา โหนฺติ, อปเนตฺวาปิ ปุนปฺปุนํ ฉาเทตุํ ลพฺภติ, ตสฺมา ยถา อิจฺฉติ; ตถา ทฺเว มคฺเค อธิฏฺหิตฺวา ตติยํมคฺคํ ‘‘อิทานิ เอวํ ฉาเทหี’’ติ อาณาเปตฺวา ปกฺกมิตพฺพํ. ปริยาเยนาติ ปริกฺเขเปน. เอวํฉทนํ ปน ติณปณฺเณหิ ลพฺภติ. ตสฺมา อิธาปิ ยถา อิจฺฉติ ตถา ทฺเว ปริยาเย อธิฏฺหิตฺวา ตติยํ ปริยายํ ‘‘อิทานิ เอวํ ฉาเทหี’’ติ อาณาเปตฺวา ปกฺกมิตพฺพํ. สเจ น ปกฺกมติ, ตุณฺหีภูเตน าตพฺพํ. สพฺพมฺปิ เจตํ ฉทนํ ฉทนูปริ เวทิตพฺพํ. อุปรูปริจฺฉนฺโน หิ วิหาโร จิรํ อโนวสฺสโก โหตีติ มฺมานา เอวํ ฉาเทนฺติ. ตโต เจ อุตฺตรินฺติ ติณฺณํ มคฺคานํ วา ปริยายานํ วา อุปริ จตุตฺเถ มคฺเค วา ปริยาเย วา.
๑๓๗. กรเฬ กรเฬติ ติณมุฏฺิยํ ติณมุฏฺิยํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ. ฉสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทํ นวมํ.
๑๐. สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๔๐. ทสมสิกฺขาปเท – ชานํ สปฺปาณกนฺติ สปฺปาณกํ เอตนฺติ ยถา ตถา วา ชานนฺโต. สิฺเจยฺย วา สิฺจาเปยฺย วาติ เตน ¶ อุทเกน สยํ วา สิฺเจยฺย, อฺํ วา อาณาเปตฺวา สิฺจาเปยฺย. ปาฬิยํ ปน ‘‘สิฺเจยฺยาติ สยํ สิฺจตี’’ติ อีทิสานํ วจนานํ อตฺโถ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ธารํ อวิจฺฉินฺทิตฺวา สิฺจนฺตสฺส เอกสฺมึ อุทกฆเฏ เอกาว อาปตฺติ. เอส นโย สพฺพภาชเนสุ. ธารํ วิจฺฉินฺทนฺตสฺส ปน ปโยเค ปโยเค อาปตฺติ ¶ . มาติกํ สมฺมุขํ กโรติ, ทิวสมฺปิ สนฺทตุ, เอกาว อาปตฺติ. สเจ ตตฺถ ตตฺถ พนฺธิตฺวา อฺโต อฺโต เนติ, ปโยเค ¶ ปโยเค อาปตฺติ. สกฏภารมตฺตฺเจปิ ติณํ เอกปโยเคน อุทเก ปกฺขิปติ, เอกาว อาปตฺติ. เอเกกํ ติณํ วา ปณฺณํ วา ปกฺขิปนฺตสฺส ปโยเค ปโยเค อาปตฺติ. มตฺติกายปิ อฺเสุปิ กฏฺโคมยาทีสุ เอเสว นโย. อิทํ ปน มหาอุทกํ สนฺธาย น วุตฺตํ, ยํ ติเณ วา มตฺติกาย วา ปกฺขิตฺตาย ปริยาทานํ คจฺฉติ, อาวิลํ วา โหติ, ยตฺถ ปาณกา มรนฺติ, ตาทิสํ อุทกํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ติสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ ติเวทนนฺติ.
สปฺปาณกสิกฺขาปทํ ทสมํ.
สมตฺโต วณฺณนากฺกเมน เสนาสนวคฺโค ทุติโย.
๓. โอวาทวคฺโค
๑. โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๔๑-๑๔๔. ภิกฺขุนิวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท – ลาภิโน โหนฺตีติ เอตฺถ น เตสํ ภิกฺขุนิโย เทนฺติ, น ทาเปนฺติ, มหากุเลหิ ปพฺพชิตา ปน กุลธีตโร อตฺตโน สนฺติกํ อาคตานํ าติมนุสฺสานํ ‘‘กุโต อยฺเย โอวาทํ อุทฺเทสํ ปริปุจฺฉํ ลภถา’’ติ ปุจฺฉนฺตานํ ‘‘อสุโก จ อสุโก จ เถโร โอวทตี’’ติ อสีติมหาสาวเก อุทฺทิสิตฺวา กถานุสาเรน เตสํ สีลสุตาจารชาติโคตฺตาทิเภทํ วิชฺชมานคุณํ กถยนฺติ. เอวรูปา หิ วิชฺชมานคุณา กเถตุํ วฏฺฏนฺติ. ตโต ปสนฺนจิตฺตา มนุสฺสา เถรานํ จีวราทิเภทํ มหนฺตํ ลาภสกฺการํ อภิหรึสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ลาภิโน โหนฺติ จีวร…เป… ปริกฺขาราน’’นฺติ.
ภิกฺขุนิโย ¶ อุปสงฺกมิตฺวาติ เตสํ กิร สนฺติเก ตาสุ เอกา ภิกฺขุนีปิ น อาคจฺฉติ, ลาภตณฺหาย ปน อากฑฺฒิยมานหทยา ตาสํ อุปสฺสยํ อคมํสุ. ตํ ¶ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ภิกฺขุนิโย อุปสงฺกมิตฺวา’’ติ. ตาปิ ภิกฺขุนิโย จลจิตฺตตาย เตสํ วจนํ อกํสุเยว ¶ . เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข ตา ภิกฺขุนิโย…เป… นิสีทึสู’’ติ. ติรจฺฉานกถนฺติ สคฺคมคฺคคมเนปิ ติรจฺฉานภูตํ ราชกถาทิมเนกวิธํ นิรตฺถกกถํ. อิทฺโธติ สมิทฺโธ, สหิตตฺโถ คมฺภีโร พหุรโส ลกฺขณปฏิเวธสํยุตฺโตติ อธิปฺปาโย.
๑๔๕-๑๔๗. อนุชานามิ ภิกฺขเวติ เอตฺถ ยสฺมา เต ภิกฺขู ‘‘มา ตุมฺเห ภิกฺขเว ภิกฺขุนิโย โอวทิตฺถา’’ติ วุจฺจมานา อทิฏฺสจฺจตฺตา ตถาคเต อาฆาตํ พนฺธิตฺวา อปายุปคา ภเวยฺยุํ, ตสฺมา เนสํ ตํ อปายุปคตํ ปริหรนฺโต ภควา อฺเเนว อุปาเยน เต ภิกฺขุโนวาทโต ปริพาหิเร กตฺตุกาโม อิมํ ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุตึ อนุชานีติ เวทิตพฺโพ. เอวํ อิธ ปริพาหิเร กตฺตุกามตาย อนุชานิตฺวา ปรโต กโรนฺโตว ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว อฏฺหงฺเคหิ สมนฺนาคต’’นฺติอาทิมาห. อิมานิ หิ อฏฺงฺคานิ ฉพฺพคฺคิยานํ สุปินนฺเตนปิ น ภูตปุพฺพานีติ.
ตตฺถ สีลมสฺส อตฺถีติ สีลวา. อิทานิ ยฺจ ตํ สีลํ, ยถา จ ตํ ตสฺส อตฺถิ นาม โหติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปาติโมกฺโขว สํวโร ปาติโมกฺขสํวโร. ปาติโมกฺขสํวเรน สํวุโต สมนฺนาคโตติ ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต.
วิหรตีติ วตฺตติ. วุตฺตฺเหตํ วิภงฺเค –
‘‘ปาติโมกฺขนฺติ สีลํ ปติฏฺา อาทิ จรณํ สํยโม สํวโร โมกฺขํ ปโมกฺขํ กุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา; สํวโรติ กายิโก อวีติกฺกโม วาจสิโก อวีติกฺกโม กายิกวาจสิโก อวีติกฺกโม. สํวุโตติ อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต โหติ สมุเปโต อุปคโต สมุปคโต อุปปนฺโน สมุปปนฺโน สมฺปนฺโน สมนฺนาคโต, เตน วุจฺจติ ‘ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต’ติ. วิหรตีติ อิริยติ วตฺตติ ปาเลติ ยเปติ ยาเปติ จรติ วิหรติ, เตน วุจฺจติ ‘วิหรตี’’’ติ ¶ (วิภ. ๕๑๑-๕๑๒).
อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ ¶ มิจฺฉาชีวปฏิเสธเกน น เวฬุทานาทินา อาจาเรน, เวสิยาทิอโคจรํ ปหาย สทฺธาสมฺปนฺนกุลาทินา จ โคจเรน สมฺปนฺโน. อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวีติ อปฺปมตฺตเกสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, ตานิ วชฺชานิ ภยโต ทสฺสนสีโลติ วุตฺตํ โหติ. สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสูติ อธิสีลสิกฺขาทิภาเวน ติธา ิเตสุ สิกฺขาปเทสุ ตํ ตํ สิกฺขาปทํ สมาทาย สมฺมา อาทาย สาธุกํ คเหตฺวา อวิชหนฺโต สิกฺขตีติ ¶ อตฺโถ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน โย อิจฺฉติ, เตน วิสุทฺธิมคฺคโต คเหตพฺโพ.
พหุ สุตมสฺสาติ พหุสฺสุโต. สุตํ ธาเรตีติ สุตธโร; ยทสฺส ตํ พหุ สุตํ นาม, ตํ น สุตมตฺตเมว; อถ โข นํ ธาเรตีติ อตฺโถ. มฺชูสายํ วิย รตนํ สุตํ สนฺนิจิตมสฺมินฺติ สุตสนฺนิจโย. เอเตน ยํ โส สุตํ ธาเรติ, ตสฺส มฺชูสาย โคเปตฺวา สนฺนิจิตรตนสฺเสว จิรกาเลนาปิ อวินาสนํ ทสฺเสติ. อิทานิ ตํ สุตํ สรูปโต ทสฺเสนฺโต ‘‘เย เต ธมฺมา’’ติอาทิมาห, ตํ เวรฺชกณฺเฑ วุตฺตนยเมว. อิทํ ปเนตฺถ นิคมนํ – ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ, ตสฺมา พหุสฺสุโต. ธาตา, ตสฺมา สุตธโร. วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา; ตสฺมา สุตสนฺนิจโย. ตตฺถ วจสา ปริจิตาติ วาจาย ปคุณา กตา. มนสานุเปกฺขิตาติ มนสา อนุเปกฺขิตา, อาวชฺชนฺตสฺส ทีปสหสฺเสน โอภาสิตา วิย โหนฺติ. ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธาติ อตฺถโต จ การณโต จ ปฺาย สุฏฺุ ปฏิวิทฺธา สุปจฺจกฺขกตา โหนฺติ.
อยํ ปน พหุสฺสุโต นาม ติวิโธ โหติ – นิสฺสยมุจฺจนโก, ปริสุปฏฺาปโก, ภิกฺขุโนวาทโกติ. ตตฺถ นิสฺสยมุจฺจนเกน อุปสมฺปทาย ปฺจวสฺเสน สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน ทฺเว มาติกา ปคุณา วาจุคฺคตา กาตพฺพา ปกฺขทิวเสสุ ธมฺมสาวนตฺถาย สุตฺตนฺตโต จตฺตาโร ภาณวารา, สมฺปตฺตานํ ¶ ปริกถนตฺถาย อนฺธกวินฺทมหาราหุโลวาทอมฺพฏฺสทิโส เอโก กถามคฺโค, สงฺฆภตฺตมงฺคลามงฺคเลสุ อนุโมทนตฺถาย ติสฺโส อนุโมทนา, อุโปสถปวารณาทิชานนตฺถํ กมฺมากมฺมวินิจฺฉโย ¶ , สมณธมฺมกรณตฺถํ สมาธิวเสน วา วิปสฺสนาวเสน วา อรหตฺตปริโยสานเมกํ กมฺมฏฺานํ, เอตฺตกํ อุคฺคเหตพฺพํ. เอตฺตาวตา หิ อยํ พหุสฺสุโต โหติ จาตุทฺทิโส, ยตฺถ กตฺถจิ อตฺตโน อิสฺสริเยน วสิตุํ ลภติ.
ปริสุปฏฺาปเกน อุปสมฺปทาย ทสวสฺเสน สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน ปริสํ อภิวินเย วิเนตุํ ทฺเว วิภงฺคา ปคุณา วาจุคฺคตา กาตพฺพา, อสกฺโกนฺเตน ตีหิ ชเนหิ สทฺธึ ปริวตฺตนกฺขมา กาตพฺพา, กมฺมากมฺมฺจ ขนฺธกวตฺตฺจ อุคฺคเหตพฺพํ. ปริสาย ปน อภิธมฺเม วินยนตฺถํ สเจ มชฺฌิมภาณโก โหติ มูลปณฺณาสโก อุคฺคเหตพฺโพ, ทีฆภาณเกน มหาวคฺโค, สํยุตฺตภาณเกน เหฏฺิมา วา ตโย วคฺคา มหาวคฺโค วา, องฺคุตฺตรภาณเกน เหฏฺา วา อุปริ วา อุปฑฺฒนิกาโย อุคฺคเหตพฺโพ, อสกฺโกนฺเตน ติกนิปาตโต ปฏฺาย เหฏฺา อุคฺคเหตุมฺปิ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘เอกํ อุคฺคณฺหนฺเตน จตุกฺกนิปาตํ วา ปฺจกนิปาตํ วา คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ ¶ วุตฺตํ. ชาตกภาณเกน สาฏฺกถํ ชาตกํ อุคฺคเหตพฺพํ, ตโต โอรํ น วฏฺฏติ. ธมฺมปทมฺปิ สห วตฺถุนา อุคฺคเหตุํ วฏฺฏตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ตโต ตโต สมุจฺจยํ กตฺวา มูลปณฺณาสกมตฺตํ วฏฺฏติ, น วฏฺฏตีติ? ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ กุรุนฺทฏฺกถายํ ปฏิกฺขิตฺตํ, อิตราสุ วิจารณาเยว นตฺถิ. อภิธมฺเม กิฺจิ อุคฺคเหตพฺพนฺติ น วุตฺตํ. ยสฺส ปน สาฏฺกถมฺปิ วินยปิฏกํ อภิธมฺมปิฏกฺจ ปคุณํ, สุตฺตนฺเต จ วุตฺตปฺปกาโร คนฺโถ นตฺถิ, ปริสํ อุปฏฺาเปตุํ น ลภติ. เยน ปน สุตฺตนฺตโต วินยโต จ วุตฺตปฺปมาโณ คนฺโถ อุคฺคหิโต, อยํ ปริสุปฏฺาปโก พหุสฺสุโต โหติ ทิสาปาโมกฺโข เยนกามงฺคโม, ปริสํ อุปฏฺาเปตุํ ลภติ.
ภิกฺขุโนวาทเกน ¶ ปน สาฏฺกถานิ ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคเหตพฺพานิ, อสกฺโกนฺเตน จตูสุ นิกาเยสุ เอกสฺส อฏฺกถา ปคุณา กาตพฺพา, เอกนิกาเยน หิ เสสนิกาเยสุปิ ปฺหํ กเถตุํ สกฺขิสฺสติ. สตฺตสุ ปกรเณสุ จตุปฺปกรณสฺส อฏฺกถา ปคุณา กาตพฺพา, ตตฺถ ลทฺธนเยน หิ เสสปกรเณสุ ปฺหํ กเถตุํ สกฺขิสฺสติ. วินยปิฏกํ ปน นานตฺถํ นานาการณํ, ตสฺมา ตํ สทฺธึ อฏฺกถาย ปคุณํ กาตพฺพเมว. เอตฺตาวตา หิ ภิกฺขุโนวาทโก พหุสฺสุโต นาม โหตีติ.
อุภยานิ ¶ โข ปนสฺสาติอาทิ ปน ยสฺมา อฺสฺมึ สกเล นวงฺเคปิ พาหุสฺสจฺเจ สติ สาฏฺกถํ วินยปิฏกํ วินา น วฏฺฏติเยว, ตสฺมา วิสุํ วุตฺตํ. ตตฺถ วิตฺถาเรนาติ อุภโตวิภงฺเคน สทฺธึ. สฺวาคตานีติ สุฏฺุ อาคตานิ. ยถา อาคตานิ ปน สฺวาคตานิ โหนฺติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุวิภตฺตานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สุวิภตฺตานีติ สุฏฺุ วิภตฺตานิ ปทปจฺจาภฏฺสงฺกรโทสวิรหิตานิ. สุปฺปวตฺตีนีติ ปคุณานิ วาจุคฺคตานิ. สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโสติ ขนฺธกปริวารโต อาหริตพฺพสุตฺตวเสน สุฏฺุ วินิจฺฉิตานิ. อนุพฺยฺชนโสติ อกฺขรปทปาริปูริยา จ สุวินิจฺฉิตานิ อขณฺฑานิ อวิปรีตกฺขรานิ. เอเตน อฏฺกถา ทีปิตา, อฏฺกถาโต หิ เอส วินิจฺฉโย โหตีติ.
กลฺยาณวาโจติ สิถิลธนิตาทีนํ ยถาวิธานวจเนน ปริมณฺฑลปทพฺยฺชนาย โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคฬาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา. กลฺยาณวากฺกรโณติ มธุรสฺสโร, มาตุคาโม หิ สรสมฺปตฺติรโต, ตสฺมา ปริมณฺฑลปทพฺยฺชนมฺปิ วจนํ สรสมฺปตฺติรหิตํ หีเฬติ. เยภุยฺเยน ภิกฺขุนีนํ ปิโย โหติ มนาโปติ สพฺพาสํ ปิโย นาม ทุลฺลโภ, พหุตรานํ ปน ปณฺฑิตานํ ภิกฺขุนีนํ สีลาจารสมฺปตฺติยา ปิโย โหติ มนวฑฺฒนโก. ปฏิพโล โหติ ภิกฺขุนิโย โอวทิตุนฺติ สุตฺตฺจ การณฺจ ทสฺเสนฺโต วฏฺฏภเยน ตชฺเชตฺวา ¶ ภิกฺขุนิโย โอวทิตุํ ตาทิสํ ธมฺมํ เทเสตุํ สมตฺโถ โหติ. กาสายวตฺถวสนายาติ กาสายวตฺถนิวตฺถาย. ครุธมฺมนฺติ คิหิกาเล ภิกฺขุนิยา กายสํสคฺคํ ¶ วา สิกฺขมานาสามเณรีสุ เมถุนธมฺมํ วา อนชฺฌาปนฺนปุพฺโพ โหติ. มาตุคาโม หิ ปุพฺเพ กตมนุสฺสรนฺโต สํวเร ิตสฺสาปิ ธมฺมเทสนาย คารวํ น กโรติ. อถ วา ตสฺมิเยว อสทฺธมฺเม จิตฺตํ อุปฺปาเทติ. วีสติวสฺโส วาติ อุปสมฺปทาย วีสติวสฺโส ตโต อติเรกวสฺโส วา. เอวรูโป หิ วิสภาเคหิ วตฺถูหิ ปุนปฺปุนํ สมาคจฺฉนฺโตปิ ทหโร วิย สหสา สีลวินาสํ น ปาปุณาติ, อตฺตโน วยํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อยุตฺตฏฺาเน ฉนฺทราคํ วิเนตุํ ปฏิพโล โหติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘วีสติวสฺโส วา โหติ อติเรกวีสติวสฺโส วา’’ติ.
เอตฺถ ¶ จ ‘‘สีลวา’’ติอาทิ เอกมงฺคํ, ‘‘พหุสฺสุโต โหตี’’ติอาทิ ทุติยํ, ‘‘อุภยานิ โข ปนสฺสา’’ติอาทิ ตติยํ, ‘‘กลฺยาณวาโจ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ’’ติ จตุตฺถํ, ‘‘เยภุยฺเยน ภิกฺขุนีนํ ปิโย โหติ มนาโป’’ติ ปฺจมํ, ‘‘ปฏิพโล โหติ ภิกฺขุนิโย โอวทิตุ’’นฺติ ฉฏฺํ, ‘‘น โข ปเนต’’นฺติอาทิ สตฺตมํ, ‘‘วีสติวสฺโส’’ติอาทิ อฏฺมนฺติ เวทิตพฺพํ.
๑๔๘. ตฺติจตุตฺเถนาติ ปุพฺเพ วตฺถุสฺมึ วุตฺเตเนว. ครุธมฺเมหีติ ครุเกหิ ธมฺเมหิ, เต หิ คารวํ กตฺวา ภิกฺขุนีหิ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพตฺตา ครุธมฺมาติ วุจฺจนฺติ. เอกโตอุปสมฺปนฺนายาติ เอตฺถ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก เอกโตอุปสมฺปนฺนาย, โย ครุธมฺเมน โอวทติ, ตสฺส ทุกฺกฏํ. ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย ปน ยถาวตฺถุกเมว.
๑๔๙. ปริเวณํ สมฺมชฺชิตฺวาติ สเจ ปาโต อสมฺมฏฺํ สมฺมฏฺมฺปิ วา ปุน ติณปณฺณาทีหิ อุกฺลาปํ ปาทปฺปหาเรหิ จ วิกิณฺณวาลิกํ ชาตํ, สมฺมชฺชิตพฺพํ. อสมฺมฏฺฺหิ ตํ ทิสฺวา ‘‘อยฺโย อตฺตโน นิสฺสิตเก ทหรภิกฺขูปิ วตฺตปฏิปตฺติยํ น โยเชติ, ธมฺมํเยว กเถตี’’ติ ตา ภิกฺขุนิโย อโสตุกามา วิย ภเวยฺยุํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปริเวณํ สมฺมชฺชิตฺวา’’ติ. อนฺโตคามโต ปน ภิกฺขุนิโย อาคจฺฉนฺติโย ปิปาสิตา จ กิลนฺตา จ โหนฺติ, ตา ปานียฺจ หตฺถปาทมุขสีตลกรณฺจ ปจฺจาสีสนฺติ, ตสฺมิฺจ อสติ ปุริมนเยเนว อคารวํ ชเนตฺวา อโสตุกามาปิ โหนฺติ ¶ . เตน วุตฺตํ – ‘‘ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ.
อาสนนฺติ นีจปีกผลกตฏฺฏิกกฏสารกาทิเภทํ อนฺตมโส สาขาภงฺคมฺปิ ‘‘อิทํ ตาสํ อาสนํ ¶ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ อาสนํ ปฺเปตฺวา. ธมฺมเทสนาปตฺติโมจนตฺถํ ปน ทุติโย อิจฺฉิตพฺโพ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ทุติยํ คเหตฺวา นิสีทิตพฺพ’’นฺติ. นิสีทิตพฺพนฺติ น วิหารปจฺจนฺเต, อถ โข วิหารมชฺเฌ อุโปสถาคารสฺส วา โภชนสาลาย วา ทฺวาเร สพฺเพสํ โอสรณฏฺาเน นิสีทิตพฺพํ. สมคฺคาตฺถาติ สพฺพา อาคตตฺถาติ อตฺโถ. วตฺตนฺตีติ อาคจฺฉนฺติ; ปคุณา วาจุคฺคตาติ อตฺโถ. นิยฺยาเทตพฺโพติ อปฺเปตพฺโพ. โอสาเรตพฺโพติ ปาฬิ วตฺตพฺพา. วสฺสสตูปสมฺปนฺนายาติอาทิ วตฺตพฺพปาฬิทสฺสนํ.
ตตฺถ ¶ สามีจิกมฺมนฺติ มคฺคสมฺปทานพีชนปานียาปุจฺฉนาทิกํ อนุจฺฉวิกวตฺตํ. เอตฺถ จ ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุสฺส อภิวาทนํ นาม อนฺโตคาเม วา พหิคาเม วา อนฺโตวิหาเร วา พหิวิหาเร วา อนฺตรฆเร วา รถิกาย วา อนฺตมโส ราชุสฺสารณายปิ วตฺตมานาย เทเว วสฺสมาเน สกทฺทมาย ภูมิยา ฉตฺตปตฺตหตฺถายปิ หตฺถิอสฺสาทีหิ อนุพทฺธายปิ กาตพฺพเมว. เอกาพทฺธาย ปาฬิยา ภิกฺขาจารํ ปวิสนฺเต ทิสฺวา เอกสฺมึ าเน ‘‘วนฺทามิ อยฺยา’’ติ วนฺทิตุํ วฏฺฏติ. สเจ อนฺตรนฺตรา ทฺวาทสหตฺเถ มฺุจิตฺวา คจฺฉนฺติ, วิสุํ วิสุํ วนฺทิตพฺพา. มหาสนฺนิปาเต นิสินฺเน เอกสฺมึเยว าเน วนฺทิตุํ วฏฺฏติ. เอส นโย อฺชลิกมฺเมปิ. ยตฺถ กตฺถจิ นิสินฺนาย ปน ปจฺจุฏฺานํ กาตพฺพํ, ตสฺส ตสฺส สามีจิกมฺมสฺส อนุรูเป ปเทเส จ กาเล จ ตํ ตํ กาตพฺพํ.
สกฺกตฺวาติ ยถา กโต สุกโต โหติ, เอวํ กตฺวา. ครุํกตฺวาติ ตตฺถ คารวํ ชเนตฺวา. มาเนตฺวาติ มเนน ปิยํ กตฺวา. ปูเชตฺวาติ อิเมสํเยว ติณฺณํ กิจฺจานํ กรเณน ปูเชตฺวา. อนติกฺกมนีโยติ น อติกฺกมิตพฺโพ.
อภิกฺขุเก อาวาเสติ เอตฺถ สเจ ภิกฺขุนุปสฺสยโต อฑฺฒโยชนพฺภนฺตเร โอวาททายกา ภิกฺขู น วสนฺติ, อยํ อภิกฺขุโก ¶ อาวาโส นาม. เอตฺถ วสฺสํ น วสิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อภิกฺขุโก นาม อาวาโส น สกฺกา โหติ โอวาทาย วา สํวาสาย วา คนฺตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๔๘). น จ สกฺกา ตโต ปรํ ปจฺฉาภตฺตํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา อาคนฺตุํ. สเจ ตตฺถ วสฺสํ วสิตุํ อนิจฺฉมานา ภิกฺขุนิโย าตกา วา อุปฏฺากา วา เอวํวทนฺติ – ‘‘วสถ, อยฺเย, มยํ ภิกฺขู อาเนสฺสามา’’ติ วฏฺฏติ. สเจ ปน วุตฺตปฺปมาเณ ปเทเส วสฺสํ อุปคนฺตุกามา ภิกฺขู อาคนฺตฺวา สาขามณฺฑเปปิ เอกรตฺตํ วุตฺถา โหนฺติ; น นิมนฺติตา หุตฺวา คนฺตุกามา. เอตฺตาวตาปิ สภิกฺขุโก อาวาโส โหติ, เอตฺถ วสฺสํ อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ. อุปคจฺฉนฺตีหิ จ ปกฺขสฺส เตรสิยํเยว ภิกฺขู ยาจิตพฺพา – ‘‘มยํ อยฺยา ตุมฺหากํ โอวาเทน ¶ วสิสฺสามา’’ติ. ยโต ปน อุชุนา มคฺเคน อฑฺฒโยชเน ภิกฺขูนํ วสนฏฺานํ, เตน ปน มคฺเคน คจฺฉนฺตีนํ ชีวิตนฺตราโย วา พฺรหฺมจริยนฺตราโย วา โหติ, อฺเน มคฺเคน คจฺฉนฺตีนํ ¶ อติเรกฑฺฒโยชนํ โหติ, อยํ อภิกฺขุกาวาสฏฺาเนเยว ติฏฺติ. สเจ ปน ตโต คาวุตมตฺเต อฺโ ภิกฺขุนุปสฺสโย เขมฏฺาเน โหติ, ตาหิ ภิกฺขุนีหิ ตา ภิกฺขุนิโย ยาจิตฺวา ปุน คนฺตฺวา ภิกฺขู ยาจิตพฺพา ‘‘อยฺยา อมฺหากํ อุชุมคฺเค อนฺตราโย อตฺถิ, อฺเน มคฺเคน อติเรกฑฺฒโยชนํ โหติ. อนฺตรามคฺเค ปน อมฺหากํ อุปสฺสยโต คาวุตมตฺเต อฺโ ภิกฺขุนุปสฺสโย อตฺถิ, อยฺยานํ สนฺติกา ตตฺถ อาคตโอวาเทน วสิสฺสามา’’ติ. เตหิ ภิกฺขูหิ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. ตโต ตาหิ ภิกฺขุนีหิ ตํ ภิกฺขุนุปสฺสยํ อาคนฺตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพ, ตา วา ภิกฺขุนิโย ทิสฺวา อตฺตโน อุปสฺสยเมว คนฺตฺวา กาตุมฺปิ วฏฺฏติ.
สเจ ปน วสฺสํ อุปคนฺตุกามา ภิกฺขู จาตุทฺทเส วิหารํ อาคจฺฉนฺติ, ภิกฺขุนีหิ จ ‘‘อิธ อยฺยา วสฺสํ วสิสฺสถา’’ติ ปุจฺฉิตา ‘‘อามา’’ติ วตฺวา ปุน ตาหิ ‘‘เตนหิ อยฺยา มยมฺปิ ตุมฺหากํ โอวาทํ อนุชีวนฺติโย วสิสฺสามา’’ติ วุตฺตา ทุติยทิวเส คาเม ภิกฺขาจารสมฺปทํ อปสฺสนฺตา ‘‘น สกฺกา อิธ วสิตุ’’นฺติ ปกฺกมนฺติ. อถ ตา ภิกฺขุนิโย อุโปสถทิวเส วิหารํ คนฺตฺวา ภิกฺขู น ปสฺสนฺติ, เอตฺถ กึ กาตพฺพนฺติ? ยตฺถ ภิกฺขู วสนฺติ, ตตฺถ คนฺตฺวา ปจฺฉิมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตพฺพํ. ‘‘ปจฺฉิมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตุํ อาคมิสฺสนฺตี’’ติ วา อาโภคํ กตฺวา อาคตานํ ¶ สนฺติเก โอวาเทน วสิตพฺพํ. สเจ ปน ปจฺฉิมิกายปิ น เกจิ อาคจฺฉนฺติ, อนฺตรามคฺเค จ ราชภยํ วา โจรภยํ วา ทุพฺภิกฺขํ วา โหติ, อภิกฺขุกาวาเส วสนฺติยา อาปตฺติ, วสฺสจฺเฉทํ กตฺวา คจฺฉนฺติยาปิ อาปตฺติ, สา รกฺขิตพฺพา. อาปทาสุ หิ อภิกฺขุเก อาวาเส วสนฺติยา อนาปตฺติ วุตฺตา. สเจ อาคนฺตฺวา วสฺสํ อุปคตา ภิกฺขู ปุน เกนจิ การเณน ปกฺกมนฺติ, วสิตพฺพเมว. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อนาปตฺติ วสฺสูปคตา ภิกฺขู ปกฺกนฺตา วา โหนฺติ วิพฺภนฺตา วา กาลงฺกตา วา ปกฺขสงฺกนฺตา วา อาปทาสุ อุมฺมตฺติกาย อาทิกมฺมิกายา’’ติ. ปวาเรนฺติยา ปน ยตฺถ ภิกฺขู อตฺถิ, ตตฺถ คนฺตฺวา ปวาเรตพฺพํ.
อนฺวทฺธมาสนฺติ อทฺธมาเส อทฺธมาเส. ทฺเว ธมฺมา ปจฺจาสีสิตพฺพาติ ทฺเว ธมฺมา อิจฺฉิตพฺพา. อุโปสถปุจฺฉกนฺติ อุโปสถปุจฺฉนํ, ตตฺถ ปนฺนรสิเก อุโปสเถ ปกฺขสฺส จาตุทฺทสิยํ จาตุทฺทสิเก เตรสิยํ คนฺตฺวา อุโปสโถ ¶ ปุจฺฉิตพฺโพ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ปกฺขสฺส เตรสิยํเยว คนฺตฺวา ‘อยํ อุโปสโถ จาตุทฺทสิโก ปนฺนรสิโก’ติ ปุจฺฉิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. อุโปสถทิวเส ¶ โอวาทตฺถาย อุปสงฺกมิตพฺพํ. ปาฏิปททิวสโต ปน ปฏฺาย ธมฺมสวนตฺถาย คนฺตพฺพํ. อิติ ภควา อฺสฺส กมฺมสฺส โอกาสํ อทตฺวา นิรนฺตรํ ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก คมนเมว ปฺเปสิ. กสฺมา? มนฺทปฺตฺตา มาตุคามสฺส. มนฺทปฺโ หิ มาตุคาโม, ตสฺมา นิจฺจํ ธมฺมสวนํ พหูปการํ. เอวฺจ สติ ‘‘ยํ มยํ ชานาม, ตเมว อยฺยา ชานนฺตี’’ติ มานํ อกตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ ปยิรูปาสมานา สาตฺถิกํ ปพฺพชฺชํ กริสฺสนฺติ, ตสฺมา ภควา เอวมกาสิ. ภิกฺขุนิโยปิ ‘‘ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชิสฺสามา’’ติ สพฺพาเยว นิรนฺตรํ วิหารํ อุปสงฺกมึสุ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘เตน โข ปน สมเยน สพฺโพ ภิกฺขุนิสงฺโฆ โอวาทํ คจฺฉติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ ‘ชายาโย อิมา อิเมสํ, ชาริโย อิมา อิเมสํ, อิทานิเม อิมาหิ สทฺธึ อภิรมิสฺสนฺตี’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ – ‘น, ภิกฺขเว, สพฺเพน ภิกฺขุนิสงฺเฆน โอวาโท คนฺตพฺโพ, คจฺเฉยฺย เจ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ ภิกฺขเว จตูหิ ปฺจหิ ภิกฺขุนีหิ ¶ โอวาทํ คนฺตุ’นฺติ. ปุนปิ ตเถว อุชฺฌายึสุ. ปุน ภควา ‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺเว ติสฺโส ภิกฺขุนิโย โอวาทํ คนฺตุ’’’นฺติ อาห.
ตสฺมา ภิกฺขุนิสงฺเฆน ทฺเว ติสฺโส ภิกฺขุนิโย ยาจิตฺวา เปเสตพฺพา – ‘‘เอถยฺเย, ภิกฺขุสงฺฆํ โอวาทูปสงฺกมนํ ยาจถ, ภิกฺขุนิสงฺโฆ อยฺยา…เป… โอวาทูปสงฺกมน’’นฺติ (จูฬว. ๔๑๓). ตาหิ ภิกฺขุนีหิ อารามํ คนฺตพฺพํ. ตโต โอวาทปฏิคฺคาหกํ เอกํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา โส ภิกฺขุ เอกาย ภิกฺขุนิยา เอวมสฺส วจนีโย ‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ, อยฺย, ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปาเท วนฺทติ, โอวาทูปสงฺกมนฺจ ยาจติ, ลภตุ กิร อยฺย ภิกฺขุนิสงฺโฆ โอวาทูปสงฺกมน’’นฺติ. เตน ภิกฺขุนา ปาติโมกฺขุทฺเทสโก ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย ‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ ภนฺเต ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปาเท วนฺทติ, โอวาทูปสงฺกมนฺจ ยาจติ, ลภตุ กิร ภนฺเต ภิกฺขุนิสงฺโฆ โอวาทูปสงฺกมน’’นฺติ. ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน วตฺตพฺโพ ‘‘อตฺถิ โกจิ ภิกฺขุ ภิกฺขุโนวาทโก สมฺมโต’’ติ. สเจ โหติ โกจิ ภิกฺขุ ¶ ภิกฺขุโนวาทโก สมฺมโต, ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน วตฺตพฺโพ ‘‘อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ ภิกฺขุโนวาทโก สมฺมโต, ตํ ภิกฺขุนิสงฺโฆ อุปสงฺกมตู’’ติ.
สเจ น โหติ โกจิ ภิกฺขุ ภิกฺขุโนวาทโก สมฺมโต, ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน วตฺตพฺโพ – ‘‘โก ¶ อายสฺมา อุสฺสหติ ภิกฺขุนิโย โอวทิตุ’’นฺติ. สเจ โกจิ ภิกฺขุ อุสฺสหติ ภิกฺขุนิโย โอวทิตุํ, โส จ โหติ อฏฺหงฺเคหิ สมนฺนาคโต, สมฺมนฺนิตฺวา วตฺตพฺโพ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ ภิกฺขุโนวาทโก สมฺมโต, ตํ ภิกฺขุนิสงฺโฆ อุปสงฺกมตู’’ติ.
สเจ ปน โกจิ น อุสฺสหติ ภิกฺขุนิโย โอวทิตุํ, ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน วตฺตพฺโพ – ‘‘นตฺถิ โกจิ ภิกฺขุ ภิกฺขุโนวาทโก สมฺมโต, ปาสาทิเกน ภิกฺขุนิสงฺโฆ สมฺปาเทตู’’ติ. เอตฺตาวตา หิ สกลํ สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สาสนมาโรจิตํ โหติ. เตน ภิกฺขุนา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปาฏิปเท ภิกฺขุนีนํ อาโรเจตพฺพํ. ภิกฺขุนิสงฺเฆนปิ ตา ภิกฺขุนิโย เปเสตพฺพา ‘‘คจฺฉถยฺเย, ปุจฺฉถ ‘กึ ¶ อยฺย ลภติ ภิกฺขุนิสงฺโฆ โอวาทูปสงฺกมน’’’นฺติ. ตาหิ ‘‘สาธุ อยฺเย’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อารามํ คนฺตฺวา ตํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วตฺตพฺพํ – ‘‘กึ อยฺย ลภติ ภิกฺขุนิสงฺโฆ โอวาทูปสงฺกมน’’นฺติ. เตน วตฺตพฺพํ – ‘‘นตฺถิ โกจิ ภิกฺขุ ภิกฺขุโนวาทโก สมฺมโต, ปาสาทิเกน ภิกฺขุนิสงฺโฆ สมฺปาเทตู’’ติ. ตาหิ ‘‘สาธุ อยฺยา’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. เอกโต อาคตานํ วเสน เจตํ วุตฺตํ, ตาสุ ปน เอกาย ภิกฺขุนิยา วตฺตพฺพฺจ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพฺจ, อิตรา ตสฺสา สหายิกา.
สเจ ปน ภิกฺขุนิสงฺโฆ วา ภิกฺขุสงฺโฆ วา น ปูรติ, อุภยโตปิ วา คณมตฺตเมว ปุคฺคลมตฺตํ วา โหติ, เอกา ภิกฺขุนี วา พหูหิ ภิกฺขุนุปสฺสเยหิ โอวาทตฺถาย เปสิตา โหติ, ตตฺรายํ วจนกฺกโม – ‘‘ภิกฺขุนิโย อยฺย ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปาเท วนฺทนฺติ, โอวาทูปสงฺกมนฺจ ยาจนฺติ, ลภนฺตุ กิร อยฺย ภิกฺขุนิโย โอวาทูปสงฺกมน’’นฺติ. ‘‘อหํ อยฺย ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปาเท วนฺทามิ; โอวาทูปสงฺกมนฺจ ยาจามิ, ลภามหํ อยฺย โอวาทูปสงฺกมน’’นฺติ.
‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ ¶ อยฺย อยฺยานํ ปาเท วนฺทติ, โอวาทูปสงฺกมนฺจ ยาจติ, ลภตุ กิร อยฺย ภิกฺขุนีสงฺโฆ โอวาทูปสงฺกมน’’นฺติ. ‘‘ภิกฺขุนิโย อยฺย อยฺยานํ ปาเท วนฺทนฺติ, โอวาทูปสงฺกมนฺจ ยาจนฺติ, ลภนฺตุ กิร อยฺย ภิกฺขุนิโย โอวาทูปสงฺกมน’’นฺติ. ‘‘อหํ อยฺย อยฺยานํ ปาเท วนฺทามิ, โอวาทูปสงฺกมนฺจ ยาจามิ, ลภามหํ อยฺย โอวาทูปสงฺกมน’’นฺติ.
‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ อยฺย อยฺยสฺส ปาเท วนฺทติ, โอวาทูปสงฺกมนฺจ ยาจติ, ลภตุ กิร อยฺย ภิกฺขุนิสงฺโฆ โอวาทูปสงฺกมน’’นฺติ. ‘‘ภิกฺขุนิโย อยฺย อยฺยสฺส ปาเท วนฺทนฺติ ¶ ; โอวาทูปสงฺกมนฺจ ยาจนฺติ, ลภนฺตุ กิร อยฺย ภิกฺขุนิโย โอวาทูปสงฺกมน’’นฺติ. ‘‘อหํ อยฺย อยฺยสฺส ปาเท วนฺทามิ, โอวาทูปสงฺกมนฺจ ยาจามิ, ลภามหํ อยฺย โอวาทูปสงฺกมน’’นฺติ.
‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ จ อยฺย ภิกฺขุนิโย จ ภิกฺขุนี จ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อยฺยานํ อยฺยสฺส ปาเท วนฺทติ วนฺทนฺติ วนฺทติ, โอวาทูปสงฺกมนฺจ ยาจติ ยาจนฺติ ยาจติ, ลภตุ กิร ลภนฺตุ กิร ลภตุ กิร อยฺย ภิกฺขุนิสงฺโฆ จ ภิกฺขุนิโย จ ภิกฺขุนี จ โอวาทูปสงฺกมน’’นฺติ.
เตนปิ ภิกฺขุนา อุโปสถกาเล เอวํ วตฺตพฺพํ – ‘‘ภิกฺขุนิโย ภนฺเต ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปาเท วนฺทนฺติ, โอวาทูปสงฺกมนฺจ ยาจนฺติ, ลภนฺตุ กิร ภนฺเต ภิกฺขุนิโย โอวาทูปสงฺกมน’’นฺติ. ‘‘ภิกฺขุนี ภนฺเต ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปาเท ¶ วนฺทติ, โอวาทูปสงฺกมนฺจ ยาจติ, ลภตุ กิร ภนฺเต ภิกฺขุนี โอวาทูปสงฺกมน’’นฺติ.
‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ ภนฺเต, ภิกฺขุนิโย ภนฺเต, ภิกฺขุนี ภนฺเต อายสฺมนฺตานํ ปาเท วนฺทติ, โอวาทูปสงฺกมนฺจ ยาจติ, ลภตุ กิร ภนฺเต ภิกฺขุนี โอวาทูปสงฺกมน’’นฺติ.
‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ จ ภนฺเต, ภิกฺขุนิโย จ ภิกฺขุนี จ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อายสฺมนฺตานํ ปาเท วนฺทติ วนฺทนฺติ วนฺทติ, โอวาทูปสงฺกมนฺจ ยาจติ ยาจนฺติ ยาจติ, ลภตุ กิร ลภนฺตุ กิร ลภตุ กิร ภนฺเต ภิกฺขุนิสงฺโฆ จ ภิกฺขุนิโย จ ภิกฺขุนี จ โอวาทูปสงฺกมน’’นฺติ.
ปาติโมกฺขุทฺเทสเกนาปิ สเจ สมฺมโต ภิกฺขุ อตฺถิ, ปุริมนเยเนว ตํ ภิกฺขุนิโย, ตํ ภิกฺขุนี, ตํ ภิกฺขุนิสงฺโฆ จ ภิกฺขุนิโย จ ภิกฺขุนี จ อุปสงฺกมนฺตุ อุปสงฺกมตุ อุปสงฺกมตูติ วตฺตพฺพํ. สเจ นตฺถิ, ปาสาทิเกน ¶ ภิกฺขุนิสงฺโฆ จ ภิกฺขุนิโย จ ภิกฺขุนี จ สมฺปาเทตุ สมฺปาเทนฺตุ สมฺปาเทตูติ วตฺตพฺพํ.
โอวาทปฏิคฺคาหเกน ปาฏิปเท ปจฺจาหริตฺวา ตเถว วตฺตพฺพํ. โอวาทํ ปน พาลคิลานคมิเก เปตฺวา อฺโ สเจปิ อารฺโก โหติ, อปฺปฏิคฺคเหตุํ น ลภติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –
‘‘อนุชานามิ ¶ , ภิกฺขเว, เปตฺวา พาลํ เปตฺวา คิลานํ เปตฺวา คมิกํ อวเสเสหิ โอวาทํ คเหตุ’’นฺติ (จูฬว. ๔๑๔).
ตตฺถ โย จาตุทฺทสิกปนฺนรสิเกสุ วา อุโปสเถสุ ปาฏิปเท วา คนฺตุกาโม, โส คมิโก ทุติยปกฺขทิวเส คจฺฉนฺโตปิ อคฺคเหตุํ น ลภติ, ‘‘น, ภิกฺขเว, โอวาโท น คเหตพฺโพ, โย น คณฺเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๔๑๔) วุตฺตํ อาปตฺตึ อาปชฺชติเยว. โอวาทํ คเหตฺวา จ อุโปสถคฺเค อนาโรเจตุํ วา ปาฏิปเท ภิกฺขุนีนํ อปจฺจาหริตุํ วา น วฏฺฏติ. วุตฺตฺเหตํ ¶ –
‘‘น, ภิกฺขเว, โอวาโท น อาโรเจตพฺโพ. โย น อาโรเจยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๔๑๕).
อปรมฺปิ วุตฺตํ –
‘‘น, ภิกฺขเว, โอวาโท น ปจฺจาหริตพฺโพ. โย น ปจฺจาหเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๔๑๕).
ตตฺถ อารฺเกน ปจฺจาหรณตฺถํ สงฺเกโต กาตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อารฺเกน ภิกฺขุนา โอวาทํ คเหตุํ, สงฺเกตฺจ กาตุํ, อตฺร ปฏิหริสฺสามี’’ติ. ตสฺมา อารฺโก ภิกฺขุ สเจ ภิกฺขุนีนํ วสนคาเม ภิกฺขํ ลภติ, ตตฺเถว จริตฺวา ภิกฺขุนิโย ทิสฺวา อาโรเจตฺวา คนฺตพฺพํ. โน จสฺส ตตฺถ ภิกฺขา สุลภา โหติ, สามนฺตคาเม จริตฺวา ภิกฺขุนีนํ คามํ อาคมฺม ตเถว กาตพฺพํ. สเจ ทูรํ คนฺตพฺพํ โหติ, สงฺเกโต กาตพฺโพ – ‘‘อหํ อมุกํ นาม ตุมฺหากํ คามทฺวาเร สภํ วา มณฺฑปํ วา รุกฺขมูลํ วา อุปสงฺกมิสฺสามิ, ตตฺถ อาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ ¶ . ภิกฺขุนีหิ ตตฺถ คนฺตพฺพํ, อคนฺตุํ น ลพฺภติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา สงฺเกตํ น คนฺตพฺพํ. ยา น คจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๔๑๕).
อุภโตสงฺเฆ ตีหิ าเนหิ ปวาเรตพฺพนฺติ เอตฺถ ภิกฺขุนีหิ จาตุทฺทเส อตฺตนา ปวาเรตฺวา อุโปสเถ ภิกฺขุสงฺเฆ ปวาเรตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘อนุชานามิ ¶ , ภิกฺขเว, อชฺชตนาย ปวาเรตฺวา อปรชฺชุ ภิกฺขุสงฺฆํ ปวาเรตุ’’นฺติ (จูฬว. ๔๒๗).
ภิกฺขุนิขนฺธเก วุตฺตนเยเนว เจตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘เตน โข ปน สมเยน สพฺโพ ภิกฺขุนิสงฺโฆ ปวาเรนฺโต โกลาหลมกาสิ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เอกํ ภิกฺขุนึ พฺยตฺตํ ปฏิพลํ สมฺมนฺนิตุํ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อตฺถาย ภิกฺขุสงฺฆํ ปวาเรตุํ. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนิตพฺพา. ปมํ ภิกฺขุนี ยาจิตพฺพา, ยาจิตฺวา พฺยตฺตาย ภิกฺขุนิยา ปฏิพลาย สงฺโฆ าเปตพฺโพ –
‘‘สุณาตุ เม, อยฺเย สงฺโฆ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุนึ สมฺมนฺเนยฺย ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อตฺถาย ภิกฺขุสงฺฆํ ปวาเรตุํ. เอสา ตฺติ.
‘‘สุณาตุ เม, อยฺเย สงฺโฆ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุนึ สมฺมนฺเนยฺย ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อตฺถาย ภิกฺขุสงฺฆํ ปวาเรตุํ. ยสฺสา อยฺยาย ขมติ อิตฺถนฺนามาย ภิกฺขุนิยา สมฺมุติ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อตฺถาย ภิกฺขุสงฺฆํ ¶ ปวาเรตุํ, สา ตุณฺหสฺส; ยสฺสา นกฺขมติ, สา ภาเสยฺย.
‘‘สมฺมตา สงฺเฆน อิตฺถนฺนามา ภิกฺขุนี ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อตฺถาย ภิกฺขุสงฺฆํ ปวาเรตุํ. ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (จูฬว. ๔๒๗).
ตาย ¶ สมฺมตาย ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุนิสงฺฆํ อาทาย ภิกฺขุสงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ อยฺย, ภิกฺขุสงฺฆํ ปวาเรติ – ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา. วทตยฺย ภิกฺขุสงฺโฆ ภิกฺขุนิสงฺฆํ อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสติ. ทุติยมฺปิ อยฺย, ตติยมฺปิ อยฺย, ภิกฺขุนิสงฺโฆ…เป… ปฏิกริสฺสตี’’ติ.
สเจ ภิกฺขุนิสงฺโฆ น ปูรติ, ‘‘ภิกฺขุนิโย อยฺย ภิกฺขุสงฺฆํ ปวาเรนฺติ – ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทตยฺย ภิกฺขุสงฺโฆ ภิกฺขุนิโย อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺติโย ¶ ปฏิกริสฺสนฺตี’’ติ จ, ‘‘อหํ อยฺย ภิกฺขุสงฺฆํ ปวาเรมิ – ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทตุ มํ อยฺย ภิกฺขุสงฺโฆ อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺตี ปฏิกริสฺสามี’’ติ จ เอวํ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ.
สเจ ภิกฺขุสงฺโฆ น ปูรติ, ‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ อยฺยา อยฺเย ปวาเรติ – ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตยฺยา ภิกฺขุนิสงฺฆํ อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสตี’’ติ จ, ‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ อยฺย อยฺยํ ปวาเรติ – ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทตยฺโย ภิกฺขุนิสงฺฆํ อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสตี’’ติ จ เอวํ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ.
อุภินฺนํ อปาริปูริยา ‘‘ภิกฺขุนิโย อยฺยา อยฺเย ปวาเรนฺติ – ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตยฺยา ภิกฺขุนิโย อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺติโย ปฏิกริสฺสนฺตี’’ติ จ, ‘‘ภิกฺขุนิโย อยฺย อยฺยํ ปวาเรนฺติ – ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทตยฺโย ภิกฺขุนิโย อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺติโย ปฏิกริสฺสนฺตี’’ติ จ, ‘‘อหํ อยฺยา อยฺเย ปวาเรมิ – ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อยฺยา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺตี ปฏิกริสฺสามี’’ติ จ, ‘‘อหํ อยฺย อยฺยํ ปวาเรมิ – ทิฏฺเน ¶ วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทตุ มํ อยฺโย อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺตี ปฏิกริสฺสามี’’ติ จ เอวํ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ.
มานตฺตจรณฺจ อุปสมฺปทาปริเยสนา จ ยถาาเนเยว อาวิ ภวิสฺสติ.
น ¶ ภิกฺขุนิยา เกนจิ ปริยาเยนาติ ทสหิ วา อกฺโกสวตฺถูหิ อฺเน วา เกนจิ ปริยาเยน ภิกฺขุ เนว อกฺโกสิตพฺโพ, น ปริภาสิตพฺโพ, น ภเยน ตชฺเชตพฺโพ. โอวโฏติ ปิหิโต วาริโต ปฏิกฺขิตฺโต. วจนเยว วจนปโถ. อโนวโฏติ อปิหิโต อวาริโต อปฺปฏิกฺขิตฺโต. ตสฺมา ภิกฺขุนิยา อาธิปจฺจฏฺาเน เชฏฺกฏฺาเน ตฺวา ‘‘เอวํ อภิกฺกม, เอวํ ปฏิกฺกม, เอวํ นิวาเสหิ, เอวํ ปารุปาหี’’ติ เกนจิ ปริยาเยน เนว ภิกฺขุ โอวทิตพฺโพ, น อนุสาสิตพฺโพ. โทสํ ปน ทิสฺวา ‘‘ปุพฺเพ มหาเถรา น เอวํ อภิกฺกมนฺติ, น ปฏิกฺกมนฺติ, น นิวาเสนฺติ, น ปารุปนฺติ, อีทิสํ กาสาวมฺปิ น ธาเรนฺติ, น เอวํ อกฺขีนิ อฺเชนฺตี’’ติอาทินา นเยน วิชฺชมานโทสํ ทสฺเสตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขูหิ ปน ‘‘อยํ วุฑฺฒสมณี เอวํ นิวาเสติ, เอวํ ปารุปติ, มา เอวํ นิวาเสหิ, มา เอวํ ¶ ปารุปาหิ, มา ติลกมฺมปณฺณกมฺมาทีนิ กโรหี’’ติ ยถาสุขํ ภิกฺขุนึ โอวทิตุํ อนุสาสิตุํ วฏฺฏติ.
สมคฺคมฺหยฺยาติ ภณนฺตนฺติ ‘‘สมคฺคา อมฺห อยฺย’’ อิติ ภณนฺตํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ. อฺํ ธมฺมํ ภณตีติ อฺํ สุตฺตนฺตํ วา อภิธมฺมํ วา. สมคฺคมฺหยฺยาติ วจเนน หิ โอวาทํ ปจฺจาสีสนฺติ, ตสฺมา เปตฺวา โอวาทํ อฺํ ธมฺมํ ภณนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. โอวาทํ อนิยฺยาเทตฺวาติ เอโส ภคินิโย โอวาโทติ อวตฺวา.
๑๕๐. อธมฺมกมฺเมติอาทีสุ ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติกมฺมํ กมฺมนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ อธมฺมกมฺเม ทฺวินฺนํ นวกานํ วเสน อฏฺารส ปาจิตฺติยานิ. ธมฺมกมฺเม ทุติยสฺส นวกสฺส อวสานปเท อนาปตฺติ, เสเสสุ สตฺตรส ทุกฺกฏานิ.
๑๕๒. อุทฺเทสํ เทนฺโตติ อฏฺนฺนํ ครุธมฺมานํ ปาฬึ อุทฺทิสนฺโต. ปริปุจฺฉํ เทนฺโตติ ตสฺสาเยว ปคุณาย ครุธมฺมปาฬิยา อฏฺกถํ กเถนฺโตติ อตฺโถ. โอสาเรหิ อยฺยาติ วุจฺจมาโน โอสาเรตีติ เอวํ วุจฺจมาโน อฏฺครุธมฺมปาฬึ ¶ โอสาเรตีติ อตฺโถ. เอวํ อุทฺเทสํ เทนฺโต, ปริปุจฺฉํ เทนฺโต, โย จ โอสาเรหีติ วุจฺจมาโน อฏฺ ครุธมฺเม ภณติ, ตสฺส ปาจิตฺติเยน อนาปตฺติ. อฺํ ธมฺมํ ภณนฺตสฺส ทุกฺกเฏน อนาปตฺติ. ปฺหํ ปุจฺฉติ, ปฺหํ ปุฏฺโ กเถตีติ ภิกฺขุนี ครุธมฺมนิสฺสิตํ วา ขนฺธาทินิสฺสิตํ วา ปฺหํ ปุจฺฉติ, ตํ โย ภิกฺขุ กเถติ, ตสฺสาปิ ¶ อนาปตฺติ. อฺสฺสตฺถาย ภณนฺตนฺติ จตุปริสตึ ธมฺมํ เทเสนฺตํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา ภิกฺขุนิโย สุณนฺติ, ตตฺราปิ ภิกฺขุสฺส อนาปตฺติ. สิกฺขมานาย สามเณริยาติ เอตาสํ เทเสนฺตสฺสาปิ อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.
ปทโสธมฺมสมุฏฺานํ – วาจโต จ วาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ ติเวทนนฺติ.
โอวาทสิกฺขาปทํ ปมํ.
๒. อตฺถงฺคตสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๕๓. ทุติยสิกฺขาปเท – ปริยาเยนาติ วาเรน, ปฏิปาฏิยาติ อตฺโถ. อธิเจตโสติ อธิจิตฺตวโต ¶ , สพฺพจิตฺตานํ อธิเกน อรหตฺตผลจิตฺเตน สมนฺนาคตสฺสาติ อตฺโถ. อปฺปมชฺชโตติ นปฺปมชฺชโต, อปฺปมาเทน กุสลานํ ธมฺมานํ สาตจฺจกิริยาย สมนฺนาคตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. มุนิโนติ ‘‘โย มุนาติ อุโภ โลเก, มุนิ เตน ปวุจฺจตี’’ติ (ธ. ป. ๒๖๙) เอวํ อุภยโลกมุนเนน วา, โมนํ วุจฺจติ าณํ, เตน าเณน สมนฺนาคตตฺตา วา ขีณาสโว มุนิ นาม วุจฺจติ, ตสฺส มุนิโน. โมนปเถสุ สิกฺขโตติ อรหตฺตาณสงฺขาตสฺส โมนสฺส ปเถสุ สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺเมสุ ตีสุ วา สิกฺขาสุ สิกฺขโต. อิทฺจ ปุพฺพภาคปฏิปทํ คเหตฺวา วุตฺตํ, ตสฺมา เอวํ ปุพฺพภาเค สิกฺขโต อิมาย สิกฺขาย มุนิภาวํ ปตฺตสฺส มุนิโนติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. โสกา น ภวนฺติ ตาทิโนติ ตาทิสสฺส ขีณาสวมุนิโน อพฺภนฺตเร อิฏฺวิโยคาทิวตฺถุกา โสกา น สนฺติ. อถ วา ตาทิโนติ ตาทิลกฺขณสมนฺนาคตสฺส เอวรูปสฺส มุนิโน โสกา น ภวนฺตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. อุปสนฺตสฺสาติ ราคาทีนํ อุปสเมน อุปสนฺตสฺส. สทา สตีมโตติ สติเวปุลฺลปฺปตฺตตฺตา นิจฺจกาลํ สติยา อวิรหิตสฺส ¶ . อากาเส อนฺตลิกฺเขติ อนฺตลิกฺขสงฺขาเต อากาเส, น กสิณุคฺฆาฏิเม, น ปน รูปปริจฺเฉเท. จงฺกมติปิ ติฏฺติปีติ ตาสํ ภิกฺขุนีนํ กถํ ¶ สุตฺวา ‘‘อิมา ภิกฺขุนิโย มํ ‘เอตฺตกเมว อยํ ชานาตี’ติ อวมฺนฺติ, หนฺท ทานิ เอตาสํ อตฺตโน อานุภาวํ ทสฺเสมี’’ติ ธมฺมพหุมานํ อุปฺปาเทตฺวา อภิฺาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย เอวรูปํ อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทสฺเสสิ – ‘‘อากาเส อนฺตลิกฺเข จงฺกมติปิ…เป… อนฺตรธายติปี’’ติ. ตตฺถ อนฺตรธายติปีติ อนฺตรธายติปิ อทสฺสนมฺปิ คจฺฉตีติ อตฺโถ. ตฺเจว อุทานํ ภณติ อฺฺจ พหุํ พุทฺธวจนนฺติ เถโร กิร อตฺตโน ภาตุเถรสฺส สนฺติเก –
‘‘ปทุมํ ยถา โกกนุทํ สุคนฺธํ,
ปาโต สิยา ผุลฺลมวีตคนฺธํ;
องฺคีรสํ ปสฺส วิโรจมานํ,
ตปนฺตมาทิจฺจมิวนฺตลิกฺเข’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๒๓);
อิมํ คาถํ อุทฺทิสาเปตฺวา จตฺตาโร มาเส สชฺฌายิ. น จ ปคุณํ กตฺตุมสกฺขิ. ตโต นํ เถโร ‘‘อภพฺโพ ตฺวํ อิมสฺมึ สาสเน’’ติ วิหารา นิกฺกฑฺฒาเปสิ, โส โรทมาโน ทฺวารโกฏฺเก อฏฺาสิ. อถ ภควา พุทฺธจกฺขุนา เวเนยฺยสตฺเต โอโลเกนฺโต ตํ ทิสฺวา วิหารจาริกํ จรมาโน วิย ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘จูฬปนฺถก, กสฺมา โรทสี’’ติ อาห. โส ตมตฺถํ อาโรเจสิ. อถสฺส ภควา สุทฺธํ ปิโลติกขณฺฑํ ทตฺวา ‘‘อิทํ ‘รโชหรณํ รโชหรณ’นฺติ ปริมชฺชาหี’’ติ ¶ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อตฺตโน นิวาสฏฺาเน นิสีทิตฺวา ตสฺส เอกมนฺตํ ปริมชฺชิ, ปริมชฺชิตฏฺานํ กาฬกมโหสิ. โส ‘‘เอวํ ปริสุทฺธมฺปิ นาม วตฺถํ อิมํ อตฺตภาวํ นิสฺสาย กาฬกํ ชาต’’นฺติ สํเวคํ ปฏิลภิตฺวา วิปสฺสนํ อารภิ. อถสฺส ภควา อารทฺธวีริยภาวํ ตฺวา ‘‘อธิเจตโส’’ติ อิมํ โอภาสคาถํ อภาสิ. เถโร คาถาปริโยสาเน อรหตฺตํ ปาปุณิ. ตสฺมา เถโร ปกติยาว อิมํ คาถํ มมายติ, โส ตํ อิมิสฺสา คาถาย มมายนภาวํ ชานาเปตุํ ¶ ตํเยว ภณติ. อฺฺจ อนฺตรนฺตรา อาหริตฺวา พหุํ พุทฺธวจนํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตฺเจว อุทานํ ภณติ, อฺฺจ พหุํ พุทฺธวจน’’นฺติ.
๑๕๖. เอกโต อุปสมฺปนฺนายาติ ¶ ภิกฺขุนิสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนาย, ภิกฺขุสงฺเฆ ปน อุปสมฺปนฺนํ โอวทนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อิทมฺปิ จ ปทโสธมฺมสมุฏฺานเมว.
อตฺถงฺคตสิกฺขาปทํ ทุติยํ.
๓. ภิกฺขุนุปสฺสยสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๖๒. ตติยสิกฺขาปเท – อฺตฺร สมยา โอวทติ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติอาทีสุ อฏฺหิ ครุธมฺเมหิ โอวทนฺตสฺเสว ปาจิตฺติยํ, อฺเน ธมฺเมน ทุกฺกฏนฺติ เวทิตพฺพํ. เอกโตอุปสมฺปนฺนายาติ ภิกฺขุนิสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนาย, ภิกฺขุสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนาย ปน โอวทโต ปาจิตฺติยเมว. อิโต ปรมฺปิ ยตฺถ ยตฺถ ‘‘เอกโตอุปสมฺปนฺนา’’ติ วุจฺจติ, สพฺพตฺถ อยเมว อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เสสํ อุตฺตานเมว.
กถินสมุฏฺานํ – กายวาจโต, กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ภิกฺขุนุปสฺสยสิกฺขาปทํ ตติยํ.
อิทํ ปเนตฺถ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ ปกิณฺณกํ – อสมฺมโต เจ ภิกฺขุ อตฺถงฺคเต สูริเย ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปสงฺกมิตฺวา อฏฺหิ ครุธมฺเมหิ โอวทติ, ตีณิ ปาจิตฺติยานิ. อฺเน ธมฺเมน โอวทโต ทฺเว ทุกฺกฏานิ, เอกํ ปาจิตฺติยํ. กถํ? อสมฺมตมูลกํ ทุกฺกฏํ, อุปสฺสยํ คนฺตฺวา อฺเน ธมฺเมน โอวทนมูลกํ ทุกฺกฏํ, อตฺถงฺคเต สูริเย โอวทนมูลกํ ปาจิตฺติยนฺติ. สมฺมตสฺส อตฺถงฺคเต สูริเย ตตฺถ คนฺตฺวา อฏฺหิ ครุธมฺเมหิ โอวทนฺตสฺส เอกา อนาปตฺติ, ทฺเว ปาจิตฺติยานิ. กถํ? สมฺมตตฺตา ¶ อนาปตฺติ, อตฺถงฺคเต สูริเย โอวทนมูลกํ เอกํ, คนฺตฺวา ครุธมฺเมหิ โอวทนมูลกํ เอกนฺติ ทฺเว ปาจิตฺติยานิ. ตสฺเสว อฺเน ธมฺเมน โอวทโต เอกา อนาปตฺติ, เอกํ ทุกฺกฏํ, เอกํ ปาจิตฺติยํ. กถํ? สมฺมตตฺตา อนาปตฺติ, คนฺตฺวา อฺเน ธมฺเมน โอวทนมูลกํ ทุกฺกฏํ, อตฺถงฺคเต สูริเย โอวทนมูลกํ ปาจิตฺติยนฺติ. ทิวา ¶ ¶ ปน คนฺตฺวา โอวทโต สมฺมตสฺส จ อสมฺมตสฺส จ รตฺตึ โอวทนมูลกํ เอกํ ปาจิตฺติยํ อปเนตฺวา อวเสสา อาปตฺตานาปตฺติโย เวทิตพฺพาติ.
ปกิณฺณกกถา นิฏฺิตา.
๔. อามิสสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๖๔. จตุตฺถสิกฺขาปเท – น พหุกตาติ น กตพหุมานา, น ธมฺเม พหุมานํ กตฺวา โอวทนฺตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ภิกฺขุโนวาทกํ อวณฺณํ กตฺตุกาโม’’ติอาทีนํ อุชฺฌาปนเก วุตฺตนเยเนวตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อุปสมฺปนฺนํ สงฺเฆน อสมฺมตนฺติ เอตฺถ อสมฺมโต นาม สมฺมเตน วา สงฺเฆน วา ภารํ กตฺวา ปิโต เวทิตพฺโพ. อนุปสมฺปนฺนํ สมฺมตํ วา อสมฺมตํ วาติ เอตฺถ ปน ภิกฺขุกาเล สมฺมุตึ ลภิตฺวา สามเณรภูมิยํ ิโต สมฺมโต, สมฺมเตน วา สงฺเฆน วา ปิโต พหุสฺสุโต สามเณโร อสมฺมโตติ เวทิตพฺโพ. เสสํ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
อามิสสิกฺขาปทํ จตุตฺถํ.
๕. จีวรทานสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๖๙. ปฺจมสิกฺขาปเท – วิสิขายาติ รถิกาย. ปิณฺฑาย จรตีติ นิพทฺธจารวเสน อภิณฺหํ จรติ. สนฺทิฏฺาติ สนฺทิฏฺมิตฺตา อเหสุํ. เสสเมตฺถ ปทโต อุตฺตานตฺถํ, วินิจฺฉยโต จีวรปฏิคฺคหณสิกฺขาปเท ¶ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ สทฺธึ สมุฏฺานาทีหิ. ตตฺร หิ ภิกฺขุ ปฏิคฺคาหโก, อิธ ภิกฺขุนี, อยํ วิเสโส. เสสํ ตาทิสเมวาติ.
จีวรทานสิกฺขาปทํ ปฺจมํ.
๖. จีวรสิพฺพนสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๗๕. ฉฏฺสิกฺขาปเท ¶ – อุทายีติ ลาฬุทายี. ปฏฺโติ ปฏิพโล, นิปุโณ เจว สมตฺโถ จาติ วุตฺตํ โหติ. อฺตรา ภิกฺขุนีติ ตสฺเสว ปุราณทุติยิกา. ปฏิภานจิตฺตนฺติ อตฺตโน ปฏิภาเนน กตจิตฺตํ, โส กิร จีวรํ รชิตฺวา ตสฺส มชฺเฌ นานาวณฺเณหิ วิปฺปกตเมถุนํ อิตฺถิปุริสรูปมกาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘มชฺเฌ ปฏิภานจิตฺตํ วุฏฺาเปตฺวา’’ติ. ยถาสํหฏนฺติ ยถาสํหริตเมว.
๑๗๖. จีวรนฺติ ยํ นิวาสิตุํ วา ปารุปิตุํ วา สกฺกา โหติ, เอวฺหิ มหาปจฺจริยาทีสุ ¶ วุตฺตํ. สยํ สิพฺพตีติ เอตฺถ สิพฺพิสฺสามีติ วิจาเรนฺตสฺสาปิ ฉินฺทนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏํ, สิพฺพนฺตสฺส ปน ปาจิตฺติยํ. อาราปเถ อาราปเถติ สูจึ ปเวเสตฺวา ปเวเสตฺวา นีหรเณ. สเจ ปน สกลสูจึ อนีหรนฺโต ทีฆสุตฺตปฺปเวสนตฺถํ สตกฺขตฺตุมฺปิ วิชฺฌิตฺวา นีหรติ, เอกเมว ปาจิตฺติยํ. สกึ อาณตฺโตติ สกึ ‘‘จีวรํ สิพฺพา’’ติ วุตฺโต. พหุกมฺปิ สิพฺพตีติ สเจปิ สพฺพํ สูจิกมฺมํ ปริโยสาเปตฺวา จีวรํ นิฏฺาเปติ, เอกเมว ปาจิตฺติยํ. อถ ปน ‘‘อิมสฺมึ จีวเร กตฺตพฺพกมฺมํ ตว ภาโร’’ติ วุตฺโต กโรติ, อาณตฺตสฺส อาราปเถ อาราปเถ เอกเมกํ ปาจิตฺติยํ, อาณาปกสฺส เอกวาจาย สมฺพหุลานิปิ. ปุนปฺปุนํ อาณตฺติยํ ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.
เยปิ สเจ อาจริยุปชฺฌาเยสุ อตฺตโน าติกานํ จีวรํ สิพฺพนฺเตสุ เตสํ นิสฺสิตกา ‘‘อาจริยุปชฺฌายวตฺตํ วา กถินวตฺตํ วา กโรมา’’ติ สิพฺพนฺติ, เตสมฺปิ อาราปถคณนาย อาปตฺติโย. อาจริยุปชฺฌายา อตฺตโน าติกานํ จีวรํ อนฺเตวาสิเกหิ สิพฺพาเปนฺติ, อาจริยุปชฺฌายานํ ทุกฺกฏํ, อนฺเตวาสิกานํ ปาจิตฺติยํ. อนฺเตวาสิกา อตฺตโน าติกานํ อาจริยุปชฺฌาเยหิ สิพฺพาเปนฺติ, ตตฺราปิ เอเสว นโย. อนฺเตวาสิกานมฺปิ อาจริยุปชฺฌายานมฺปิ าติกาย จีวรํ โหติ, อาจริยุปชฺฌายา ปน อนฺเตวาสิเก วฺเจตฺวา สิพฺพาเปนฺติ, อุภินฺนมฺปิ ทุกฺกฏํ. กสฺมา? อนฺเตวาสิกานํ อฺาติกสฺาย สิพฺพิตตฺตา ¶ , อิตเรสํ อกปฺปิเย นิโยชิตตฺตา. ตสฺมา ‘‘อิทํ เต มาตุ จีวรํ, อิทํ ภคินิยา’’ติ อาจิกฺขิตฺวา สิพฺพาเปตพฺพํ.
๑๗๙. อฺํ ¶ ปริกฺขารนฺติ ยํกิฺจิ อุปาหนตฺถวิกาทึ. เสสํ อุตฺตานเมว. ฉสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
จีวรสิพฺพนสิกฺขาปทํ ฉฏฺํ.
๗. สํวิธานสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๘๑. สตฺตมสิกฺขาปเท – ปจฺฉา คจฺฉนฺตีนํ โจรา อจฺฉินฺทึสูติ ปจฺฉา คจฺฉนฺตีนํ ปตฺตจีวรํ โจรา หรึสุ. ทูเสสุนฺติ ตา ภิกฺขุนิโย โจรา ทูสยึสุ, สีลวินาสํ ปาปยึสูติ อตฺโถ ¶ .
๑๘๒-๓. สํวิธายาติ สํวิทหิตฺวา, คมนกาเล สงฺเกตํ กตฺวาติ อตฺโถ. กุกฺกุฏสมฺปาเทติ เอตฺถ ยสฺมา คามา นิกฺขมิตฺวา กุกฺกุโฏ ปทสาว อฺํ คามํ คจฺฉติ, อยํ กุกฺกุฏสมฺปาโทติ วุจฺจติ. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – สมฺปทนฺติ เอตฺถาติ สมฺปาโท. เก สมฺปทนฺติ? กุกฺกุฏา. กุกฺกุฏานํ สมฺปาโท กุกฺกุฏสมฺปาโท. อถ วา สมฺปาโทติ คมนํ, กุกฺกุฏานํ สมฺปาโท เอตฺถ อตฺถีติปิ กุกฺกุฏสมฺปาโท. กุกฺกุฏสมฺปาเต อิติปิ ปาโ, ตตฺถ ยสฺส คามสฺส เคหจฺฉทนปิฏฺิโต กุกฺกุโฏ อุปฺปติตฺวา อฺสฺส เคหจฺฉทนปิฏฺิยํ ปตติ, อยํ กุกฺกุฏสมฺปาโตติ วุจฺจติ. วจนตฺโถ ปเนตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ทฺวิธา วุตฺตปฺปกาโรปิ เจส คาโม อจฺจาสนฺโน โหติ, อุปจาโร น ลพฺภติ. ยสฺมึ ปน คาเม ปจฺจูเส วสฺสนฺตสฺส กุกฺกุฏสฺส สทฺโท อนนฺตเร คาเม สุยฺยติ, ตาทิเสหิ คาเมหิ สมฺปุณฺณรฏฺเ คามนฺตเร คามนฺตเร ปาจิตฺติยนฺติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. กิฺจาปิ วุตฺตํ, ‘‘คามนฺตเร คามนฺตเร อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ วจนโต ปน สเจปิ รตนมตฺตนฺตโร คาโม โหติ, โย ตสฺส มนุสฺเสหิ ปิตอุปจาโร, ตํ โอกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติเยว.
ตตฺรายํ อาปตฺติวินิจฺฉโย – สํวิธานกาเล หิ สเจ อุโภปิ ภิกฺขุนุปสฺสเย วา อนฺตราราเม วา อาสนสาลาย วา ติตฺถิยเสยฺยาย วา ตฺวา สํวิทหนฺติ, อนาปตฺติ กปฺปิยภูมิ ¶ กิรายํ. ตสฺมา เอตฺถ สํวิทหนปจฺจยา ¶ ทุกฺกฏาปตฺตึ น วทนฺติ, คจฺฉนฺตสฺส ยถาวตฺถุกเมว. สเจ ปน อนฺโตคาเม ภิกฺขุนุปสฺสยทฺวาเร รถิกาย อฺเสุ วา จตุกฺกสิงฺฆาฏกหตฺถิสาลาทีสุ สํวิทหนฺติ, ภิกฺขุโน อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. เอวํ สํวิทหิตฺวา คามโต นิกฺขมนฺติ, นิกฺขมเน อนาปตฺติ, อนนฺตรคามสฺส อุปจาโรกฺกมเน ปน ภิกฺขุโน ปาจิตฺติยํ. ตตฺราปิ ‘‘ปมปาเท ทุกฺกฏํ, ทุติยปาเท ปาจิตฺติย’’นฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. คามโต นิกฺขมิตฺวา ปน ยาว อนนฺตรคามสฺส อุปจารํ น โอกฺกมนฺติ ¶ , เอตฺถนฺตเร สํวิทหิเตปิ ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ, อนนฺตรคามสฺส อุปจาโรกฺกมเน ปุริมนเยเนว อาปตฺติ. สเจ ทูรํ คนฺตุกามา โหนฺติ, คามูปจารคณนาย โอกฺกมเน โอกฺกมเน อาปตฺติ, ตสฺส ตสฺส ปน คามสฺส อติกฺกมเน อนาปตฺติ. สเจ ปน ภิกฺขุนี ‘‘อสุกํ นาม คามํ คมิสฺสามี’’ติ อุปสฺสยโต นิกฺขมติ, ภิกฺขุปิ ตเมว คามํ สนฺธาย ‘‘อสุกํ นาม คามํ คมิสฺสามี’’ติ วิหารโต นิกฺขมติ. อถ ทฺเวปิ คามทฺวาเร สมาคนฺตฺวา ‘‘ตุมฺเห กุหึ คจฺฉถ, อสุกํ นาม คามํ ตุมฺเห กุหินฺติ, มยมฺปิ ตตฺเถวา’’ติ วตฺวา ‘‘เอหิ ทานิ, คจฺฉามา’’ติ สํวิธาย คจฺฉนฺติ, อนาปตฺติ. กสฺมา? ปุพฺพเมว คมิสฺสามาติ นิกฺขนฺตตฺตาติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ตํ เนว ปาฬิยา น เสสอฏฺกถาย สเมติ.
อทฺธโยชเน อทฺธโยชเนติ เอกเมกํ อทฺธโยชนํ อติกฺกมนฺตสฺส อิทานิ อติกฺกมิสฺสตีติ ปมปาเท ทุกฺกฏํ, ทุติยปาเท ปาจิตฺติยํ. อิมสฺมิฺหิ นเย อติกฺกมเน อาปตฺติ, โอกฺกมเน อนาปตฺติ.
๑๘๔. ภิกฺขุ สํวิทหตีติ นครทฺวาเร วา รถิกาย วา ภิกฺขุนึ ทิสฺวา ‘‘อสุกํ คามํ นาม คตปุพฺพตฺถา’’ติ วทติ, ‘‘นามฺหิ อยฺย คตปุพฺพา’’ติ ‘‘เอหิ คจฺฉามา’’ติ วา ‘‘สฺเว อหํ คมิสฺสามิ, ตฺวมฺปิ อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ วา วทติ. ภิกฺขุนี สํวิทหตีติ คามนฺตเร เจติยวนฺทนตฺถํ คามโต นิกฺขมนฺตํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา ‘‘อยฺย กุหึ คจฺฉถา’’ติ วทติ. ‘‘อสุกํ นาม คามํ เจติยวนฺทนตฺถ’’นฺติ. ‘‘อหมฺปิ อยฺย อาคจฺฉามี’’ติ เอวํ ภิกฺขุนีเยว สํวิทหติ, น ภิกฺขุ.
๑๘๕. วิสงฺเกเตนาติ เอตฺถ ‘‘ปุเรภตฺตํ คจฺฉิสฺสามา’’ติ วตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ คจฺฉนฺติ, ‘‘อชฺช วา คมิสฺสามา’’ติ วตฺวา สฺเว คจฺฉนฺติ. เอวํ กาลวิสงฺเกเตเยว ¶ อนาปตฺติ, ทฺวารวิสงฺเกเต ปน มคฺควิสงฺเกเต วา สติปิ อาปตฺติเยว. อาปทาสูติ รฏฺเภเท จกฺกสมารุฬฺหา ชนปทา ปริยายนฺติ เอวรูปาสุ อาปทาสุ อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมวาติ.
จตุสมุฏฺานํ ¶ – กายโต กายวาจโต กายจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
สํวิธานสิกฺขาปทํ สตฺตมํ.
๘. นาวาภิรุหนสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๘๘. อฏฺมสิกฺขาปเท ¶ – สํวิธายาติ โลกสฺสาทมิตฺตสนฺถววเสน กีฬาปุเรกฺขารา สํวิทหิตฺวา. อุทฺธํคามินินฺติ อุทฺธํ นทิยา ปฏิโสตํ คจฺฉนฺตึ. ยสฺมา ปน โย อุทฺธํ ชวนโต อุชฺชวนิกาย นาวาย กีฬติ, โส ‘‘อุทฺธํคามินึ อภิรุหตี’’ติ วุจฺจติ. เตนสฺส ปทภาชเน อตฺถเมว ทสฺเสตุํ ‘‘อุชฺชวนิกายา’’ติ วุตฺตํ. อโธคามินินฺติ อโธ อนุโสตํ คจฺฉนฺตึ. ยสฺมา ปน โย อโธ ชวนโต โอชวนิกาย นาวาย กีฬติ, โส ‘‘อโธคามินึ อภิรุหตี’’ติ วุจฺจติ. เตนสฺสาปิ ปทภาชเน อตฺถเมว ทสฺเสตุํ ‘‘โอชวนิกายา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ยํ ติตฺถสมฺปฏิปาทนตฺถํ อุทฺธํ วา อโธ วา หรนฺติ, เอตฺถ อนาปตฺติ. ติริยํ ตรณายาติ อุปโยคตฺเถ นิสฺสกฺกวจนํ.
๑๘๙. คามนฺตเร คามนฺตเรติ เอตฺถ ยสฺสา นทิยา เอกํ ตีรํ กุกฺกุฏสมฺปาทคาเมหิ นิรนฺตรํ, เอกํ อคามกํ อรฺํ, ตสฺสา สคามกตีรปสฺเสน คมนกาเล คามนฺตรคณนาย ปาจิตฺติยานิ, อคามกตีรปสฺเสน คมนกาเล อทฺธโยชนคณนาย. ยา ปน โยชนวิตฺถตา โหติ, ตสฺสา มชฺเฌน คมเนปิ อทฺธโยชนคณนาย ปาจิตฺติยานิ เวทิตพฺพานิ. อนาปตฺติ ติริยํ ตรณายาติ เอตฺถ น เกวลํ นทิยา, โยปิ มหาติตฺถปฏฺฏนโต ตามลิตฺตึ วา สุวณฺณภูมึ วา คจฺฉติ, ตสฺสาปิ อนาปตฺติ. สพฺพอฏฺกถาสุ หิ นทิยํเยว อาปตฺติ วิจาริตา, น สมุทฺเท.
๑๙๑. วิสงฺเกเตนาติ ¶ อิธาปิ กาลวิสงฺเกเตเนว อนาปตฺติ, ติตฺถวิสงฺเกเตน ปน นาวาวิสงฺเกเตน วา คจฺฉนฺตสฺส อาปตฺติเยว. เสสํ ปมสิกฺขาปทสทิสเมว สทฺธึ สมุฏฺานาทีหีติ.
นาวาภิรุหนสิกฺขาปทํ อฏฺมํ.
๙. ปริปาจิตสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๙๒. นวมสิกฺขาปเท ¶ – มหานาเค ติฏฺมาเนติ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ, มหานาเคสุ ติฏฺมาเนสูติ อตฺโถ. อถ วา มหานาเค ติฏฺมาเน ‘‘อทิสฺวา’’ติ อยเมตฺถ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ. อิตรถา หิ อตฺโถ น ยุชฺชติ. อนฺตรากถาติ อวสานํ อปฺปตฺวา อารมฺภสฺส จ อวสานสฺส จ เวมชฺฌฏฺานํ ปตฺตกถา. วิปฺปกตาติ กยิรมานา โหติ. สจฺจํ มหานาคา โข ตยา คหปตีติ อทฺธจฺฉิเกน โอโลกยมานา ¶ เถเร ปวิสนฺเต ทิสฺวา เตหิ สุตภาวํ ตฺวา เอวมาห.
๑๙๔. ภิกฺขุนิปริปาจิตนฺติ ภิกฺขุนิยา ปริปาจิตํ, คุณปฺปกาสเนน นิปฺผาทิตํ; ลทฺธพฺพํ กตนฺติ อตฺโถ. ปทภาชเน ปนสฺส ภิกฺขุนิฺจ ตสฺสา ปริปาจนาการฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘ภิกฺขุนี นาม อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนา, ปริปาเจติ นาม ปุพฺเพ อทาตุกามาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ปุพฺเพ คิหิสมารมฺภาติ เอตฺถ ปุพฺเพติ ปมํ. สมารมฺโภติ สมารทฺธํ วุจฺจติ, ปฏิยาทิตสฺเสตํ อธิวจนํ. คิหีนํ สมารมฺโภ คิหิสมารมฺโภ. ภิกฺขุนิยา ปริปาจนโต ปมเมว ยํ คิหีนํ ปฏิยาทิตํ ภตฺตํ, ตโต อฺตฺร ตํ ปิณฺฑปาตํ เปตฺวา อฺํ ภฺุชนฺตสฺส อาปตฺติ, ตํ ปน ภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ปทภาชเน ปน ยสฺมา าตกปวาริเตหิ ภิกฺขุสฺสตฺถาย อสมารทฺโธปิ ปิณฺฑปาโต อตฺถโต สมารทฺโธว โหติ, ยถาสุขํ อาหราเปตพฺพโต, ตสฺมา พฺยฺชนํ อนาทิยิตฺวา อตฺถเมว ทสฺเสตุํ ‘‘คิหิสมารมฺโภ นาม าตกา วา โหนฺติ ปวาริตา วา’’ติ วุตฺตํ.
๑๙๕. ปกติปฏิยตฺตนฺติ ¶ ปกติยา ตสฺเสว ภิกฺขุโน อตฺถาย ปฏิยาทิตํ โหติ ‘‘เถรสฺส ทสฺสามา’’ติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ตสฺส อฺสฺสา’’ติ อวตฺวา ‘‘ภิกฺขูนํ ทสฺสามาติ ปฏิยตฺตํ โหตี’’ติ อวิเสเสน วุตฺตํ.
๑๙๗. ปฺจ โภชนานิ เปตฺวา สพฺพตฺถ อนาปตฺตีติ ยาคุขชฺชกผลาผเล สพฺพตฺถ ภิกฺขุนิปริปาจิเตปิ อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว. ปมปาราชิกสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ปริปาจิตสิกฺขาปทํ นวมํ.
๑๐. รโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๙๘. ทสมสิกฺขาปเท ¶ – สพฺโพ ปาฬิอตฺโถ จ วินิจฺฉโย จ ทุติยอนิยเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อิทฺหิ สิกฺขาปทํ ทุติยานิยเตน จ อุปริ อุปนนฺธสฺส จตุตฺถสิกฺขาปเทน จ สทฺธึ เอกปริจฺเฉทํ, อฏฺุปฺปตฺติวเสน ปน วิสุํ ปฺตฺตนฺติ.
รโหนิสชฺชสิกฺขาปทํ ทสมํ.
สมตฺโต วณฺณนากฺกเมน ภิกฺขุนิวคฺโค ตติโย.
๔. โภชนวคฺโค
๑. อาวสถปิณฺฑสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๐๓. โภชนวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท – อาวสถปิณฺโฑติ อาวสเถ ปิณฺโฑ. สมนฺตา ปริกฺขิตฺตํ อทฺธิกคิลานคพฺภินิปพฺพชิตานํ ¶ ยถานุรูปํ ปฺตฺตมฺจปีํ อเนกคพฺภปมุขปริจฺเฉทํ อาวสถํ กตฺวา ตตฺถ ปฺุกามตาย ปิณฺโฑ ปฺตฺโต โหติ, ยาคุภตฺตเภสชฺชาทิ สพฺพํ เตสํ เตสํ ทานตฺถาย ปิตํ โหตีติ อตฺโถ. หิยฺโยปีติ สฺเวปิ. อปสกฺกนฺตีติ ¶ อปคจฺฉนฺติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺตีติ ติตฺถิเย อปสฺสนฺตา ‘‘ติตฺถิยา กุหึ คตา’’‘‘อิเม ปสฺสิตฺวา ปกฺกนฺตา’’ติ สุตฺวา อุชฺฌายนฺติ. กุกฺกุจฺจายนฺโตติ กุกฺกุจฺจํ กโรนฺโต, อกปฺปิยสฺํ อุปฺปาเทนฺโตติ อตฺโถ.
๒๐๖. สกฺโกติ ตมฺหา อาวสถา ปกฺกมิตุนฺติ อทฺธโยชนํ วา โยชนํ วา คนฺตุํ สกฺโกติ. น สกฺโกตีติ เอตฺตกเมว น สกฺโกติ. อโนทิสฺสาติ อิเมสํเยว วา เอตฺตกานํเยว วาติ เอกํ ปาสณฺฑํ อนุทฺทิสิตฺวา สพฺเพสํ ปฺตฺโต โหติ. ยาวทตฺโถติ โภชนมฺปิ เอตฺตกนฺติ อปริจฺฉินฺทิตฺวา ยาวทตฺโถ ปฺตฺโต โหติ. สกึ ภฺุชิตพฺพนฺติ เอกทิวสํ ภฺุชิตพฺพํ, ทุติยทิวสโต ปฏฺาย ปฏิคฺคหเณ ทุกฺกฏํ, อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ปาจิตฺติยํ.
อยํ ¶ ปเนตฺถ วินิจฺฉโย – เอกกุเลน วา นานากุเลหิ วา เอกโต หุตฺวา เอกสฺมึ าเน วา นานาาเนสุ วา ‘‘อชฺช เอกสฺมึ; สฺเว เอกสฺมิ’’นฺติ เอวํ อนิยมิตฏฺาเน วา ปฺตฺตํ เอกสฺมึ าเน เอกทิวสํ ภฺุชิตฺวา ทุติยทิวเส ตสฺมึ าเน อฺสฺมึ วา ภฺุชิตุํ น วฏฺฏติ. นานากุเลหิ ปน นานาาเนสุ ปฺตฺตํ เอกสฺมึ าเน เอกทิวสํ ภฺุชิตฺวา ทุติยทิวเส อฺตฺถ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ปฏิปาฏึ ปน เขเปตฺวา ปุน อาทิโต ปฏฺาย ภฺุชิตุํ น วฏฺฏตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. เอกปูคนานาปูคเอกคามนานาคาเมสุปิ เอเสว นโย. โยปิ เอกกุลสฺส วา นานากุลานํ วา เอกโต ปฺตฺโต ตณฺฑุลาทีนํ อภาเวน อนฺตรนฺตรา ฉิชฺชติ, โสปิ น ภฺุชิตพฺโพ. สเจ ปน ‘‘น สกฺโกม ทาตุ’’นฺติ อุปจฺฉินฺทิตฺวา ปุน กลฺยาณจิตฺเต อุปฺปนฺเน ทาตุํ อารภนฺติ, เอตํ ปุน เอกทิวสํ ภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.
๒๐๘. อนาปตฺติ คิลานสฺสาติ คิลานสฺส อนุวสิตฺวา ภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติ. คจฺฉนฺโต วาติ โย คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค เอกทิวสํ คตฏฺาเน จ เอกทิวสํ ภฺุชติ, ตสฺสาปิ อนาปตฺติ. อาคจฺฉนฺเตปิ เอเสว นโย. คนฺตฺวา ปจฺจาคจฺฉนฺโตปิ อนฺตรามคฺเค เอกทิวสํ อาคตฏฺาเน จ เอกทิวสํ ภฺุชิตุํ ลภติ. คจฺฉิสฺสามีติ ภฺุชิตฺวา นิกฺขนฺตสฺส ¶ นที วา ปูรติ โจราทิภยํ วา โหติ, โส นิวตฺติตฺวา เขมภาวํ ตฺวา คจฺฉนฺโต ปุน เอกทิวสํ ภฺุชิตุํ ลภตีติ สพฺพมิทํ มหาปจฺจริยาทีสุ วุตฺตํ ¶ . โอทิสฺส ปฺตฺโต โหตีติ ภิกฺขูนํเยว อตฺถาย อุทฺทิสิตฺวา ปฺตฺโต โหติ. น ยาวทตฺโถติ ยาวทตฺถํ ปฺตฺโต น โหติ, โถกํ โถกํ ลพฺภติ, ตาทิสํ นิจฺจมฺปิ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ปฺจ โภชนานิ เปตฺวา สพฺพตฺถาติ ยาคุขชฺชกผลาผลาทิเภเท สพฺพตฺถ อนาปตฺติ. ยาคุอาทีนิ หิ นิจฺจมฺปิ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. เสสํ อุตฺตานเมว. เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กายโต จ กายจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
อาวสถปิณฺฑสิกฺขาปทํ ปมํ.
๒. คณโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๐๙. ทุติยสิกฺขาปเท – ปริหีนลาภสกฺกาโรติ โส กิร อชาตสตฺตุนา ราชานํ มาราเปตฺวาปิ อภิมาเร โยเชตฺวาปิ รุหิรุปฺปาทํ กตฺวาปิ คุฬฺหปฏิจฺฉนฺโน อโหสิ. ยทา ปน ทิวาเยว ¶ ธนปาลกํ ปโยเชสิ, ตทา ปากโฏ ชาโต. ‘‘กถํ เทวทตฺโต หตฺถึ ปโยเชสี’’ติ ปริกถาย อุปฺปนฺนาย ‘‘น เกวลํ หตฺถึ ปโยเชสิ, ราชานมฺปิ มาราเปสิ, อภิมาเรปิ เปเสสิ, สิลมฺปิ ปวิชฺฌิ, ปาโป เทวทตฺโต’’ติ ปากโฏ อโหสิ. ‘‘เกน สทฺธึ อิทํ กมฺมมกาสี’’ติ จ วุตฺเต ‘‘รฺา อชาตสตฺตุนา’’ติ อาหํสุ. ตโต นาครา ‘‘กถฺหิ นาม ราชา เอวรูปํ โจรํ สาสนกณฺฏกํ คเหตฺวา วิจริสฺสตี’’ติ อุฏฺหึสุ. ราชา นครสงฺโขภํ ตฺวา เทวทตฺตํ นีหริ. ตโต ปฏฺาย จสฺส ปฺจถาลิปากสตานิ อุปจฺฉินฺทิ, อุปฏฺานมฺปิสฺส น อคมาสิ, อฺเปิสฺส มนุสฺสา น กิฺจิ ทาตพฺพํ วา กาตพฺพํ วา มฺึสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปริหีนลาภสกฺกาโร’’ติ. กุเลสุ วิฺาเปตฺวา วิฺาเปตฺวา ภฺุชตีติ ‘‘มา เม คโณ ภิชฺชี’’ติ ปริสํ โปเสนฺโต ‘‘ตฺวํ เอกสฺส ภิกฺขุโน ภตฺตํ เทหิ, ตฺวํ ทฺวินฺน’’นฺติ เอวํ วิฺาเปตฺวา สปริโส กุเลสุ ภฺุชติ.
๒๑๑. จีวรํ ปริตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ ภตฺตํ อคณฺหนฺตานํ จีวรํ น เทนฺติ, ตสฺมา ปริตฺตํ อุปฺปชฺชติ.
๒๑๒. จีวรการเก ¶ ภิกฺขู ภตฺเตน นิมนฺเตนฺตีติ คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา จิเรน จีวรํ นิฏฺาเปนฺเต ทิสฺวา ‘‘เอวํ ลหุํ นิฏฺาเปตฺวา ¶ จีวรํ ปริภฺุชิสฺสนฺตี’’ติ ปฺุกามตาย นิมนฺเตนฺติ.
๒๑๕. นานาเวรชฺชเกติ นานาวิเธหิ อฺรชฺเชหิ อาคเต. ‘‘นานาวิรชฺชเก’’ติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ.
๒๑๗-๘. คณโภชเนติ คณสฺส โภชเน. อิธ จ คโณ นาม จตฺตาโร ภิกฺขู อาทึ กตฺวา ตตุตฺตรึ ภิกฺขู อธิปฺเปตา, เตเนว สพฺพนฺติมํ ปริจฺเฉทํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ยตฺถ จตฺตาโร ภิกฺขู…เป… เอตํ คณโภชนํ นามา’’ติ. ตํ ปเนตํ คณโภชนํ ทฺวีหากาเรหิ ปสวติ นิมนฺตนโต วา วิฺตฺติโต วา. กถํ นิมนฺตนโต ปสวติ? จตฺตาโร ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, โอทเนน นิมนฺเตมิ, โอทนํ เม คณฺหถ อากงฺขถ โอโลเกถ อธิวาเสถ ปฏิมาเนถา’’ติ เอวํ เยน เกนจิ เววจเนน วา ภาสนฺตเรน วา ปฺจนฺนํ โภชนานํ นามํ คเหตฺวา นิมนฺเตติ. เอวํ เอกโต นิมนฺติตา ปริจฺฉินฺนกาลวเสน อชฺชตนาย วา สฺวาตนาย วา เอกโต คจฺฉนฺติ, เอกโต คณฺหนฺติ, เอกโต ภฺุชนฺติ, คณโภชนํ โหติ, สพฺเพสํ อาปตฺติ. เอกโต นิมนฺติตา เอกโต วา นานโต วา คจฺฉนฺติ, เอกโต คณฺหนฺติ, นานโต ภฺุชนฺติ ¶ , อาปตฺติเยว. ปฏิคฺคหณเมว หิ เอตฺถ ปมาณํ. เอกโต นิมนฺติตา เอกโต วา นานโต วา คจฺฉนฺติ, นานโต คณฺหนฺติ, เอกโต วา นานโต วา ภฺุชนฺติ, อนาปตฺติ. จตฺตาริ ปริเวณานิ วา วิหาเร วา คนฺตฺวา นานโต นิมนฺติตา เอกฏฺาเน ิเตสุเยว วา เอโก ปุตฺเตน เอโก ปิตราติ เอวมฺปิ นานโต นิมนฺติตา เอกโต วา นานโต วา คจฺฉนฺตุ, เอกโต วา นานโต วา ภฺุชนฺตุ, สเจ เอกโต คณฺหนฺติ, คณโภชนํ โหติ, สพฺเพสํ อาปตฺติ. เอวํ ตาว นิมนฺตนโต ปสวติ.
กถํ วิฺตฺติโต? จตฺตาโร ภิกฺขู เอกโต ิตา วา นิสินฺนา วา อุปาสกํ ทิสฺวา ‘‘อมฺหากํ จตุนฺนมฺปิ ภตฺตํ เทหี’’ติ วา วิฺาเปยฺยุํ, ปาเฏกฺกํ วา ปสฺสิตฺวา ‘‘มยฺหํ เทหิ, มยฺหํ เทหี’’ติ เอวํ เอกโต วา นานโต วา วิฺาเปตฺวา เอกโต วา คจฺฉนฺตุ นานโต วา, ภตฺตํ คเหตฺวาปิ เอกโต วา ภฺุชนฺตุ นานโต วา, สเจ เอกโต คณฺหนฺติ, คณโภชนํ โหติ, สพฺเพสํ อาปตฺติ. เอวํ วิฺตฺติโต ปสวติ.
ปาทาปิ ¶ ผลิตาติ ยถา มหาจมฺมสฺส ปรโต มํสํ ทิสฺสติ; เอวํ ผาลิตา, วาลิกาย วา สกฺขราย วา ปหฏมตฺเต ทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺติ, น สกฺกา โหติ อนฺโตคาเม ปิณฺฑาย จริตุํ. อีทิเส ¶ เคลฺเ คิลานสมโยติ ภฺุชิตพฺพํ, น เลสกปฺปิยํ กาตพฺพํ.
จีวเร กยิรมาเนติ ยทา สาฏกฺจ สุตฺตฺจ ลภิตฺวา จีวรํ กโรนฺติ ตทา; วิสฺุหิ จีวรการสมโย นาม นตฺถิ. ตสฺมา โย ตตฺถ จีวเร กตฺตพฺพํ ยํกิฺจิ กมฺมํ กโรติ, มหาปจฺจริยฺหิ ‘‘อนฺตมโส สูจิเวธนโก’’ติปิ วุตฺตํ, เตน จีวรการสมโยติ ภฺุชิตพฺพํ. กุรุนฺทิยํ ปน วิตฺถาเรเนว วุตฺตํ. โย จีวรํ วิจาเรติ, ฉินฺทติ, โมฆสุตฺตํ เปติ, อาคนฺตุกปฏฺฏํ เปติ, ปจฺจาคตํ สิพฺพติ, อาคนฺตุกปฏฺฏํ พนฺธติ, อนุวาตํ ฉินฺทติ ฆฏฺเฏติ อาโรเปติ, ตตฺถ ปจฺจาคตํ สิพฺพติ, สุตฺตํ กโรติ วเลติ, ปิปฺผลิกํ นิเสติ, ปริวตฺตนํ กโรติ, สพฺโพปิ จีวรํ กโรติเยวาติ วุจฺจติ. โย ปน สมีเป นิสินฺโน ชาตกํ วา ธมฺมปทํ วา กเถติ, อยํ น จีวรการโก. เอตํ เปตฺวา เสสานํ คณโภชเน อนาปตฺตีติ.
อทฺธโยชนนฺติ เอตฺตกมฺปิ อทฺธานํ คนฺตุกาเมน. โย ปน ทูรํ คนฺตุกาโม, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. คจฺฉนฺเตนาติ อทฺธานํ คจฺฉนฺเตน, อทฺธโยชนพฺภนฺตเร คาวุเตปิ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. คเตน ภฺุชิตพฺพนฺติ คเตน เอกทิวสํ ภฺุชิตพฺพํ. นาวาภิรุหเนปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – อภิรุฬฺเหน อิจฺฉิตฏฺานํ คนฺตฺวาปิ ยาว น โอโรหติ ตาว ภฺุชิตพฺพนฺติ ¶ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. จตุตฺเถ อาคเตติ อยํ อนฺติมปริจฺเฉโท, จตุตฺเถปิ อาคเต ยตฺถ น ยาเปนฺติ; โส มหาสมโย. ยตฺถ ปน สตํ วา สหสฺสํ วา สนฺนิปตนฺติ, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ตสฺมา ตาทิเส กาเล ‘‘มหาสมโย’’ติ อธิฏฺหิตฺวา ภฺุชิตพฺพํ. โย โกจิ ปริพฺพาชกสมาปนฺโนติ สหธมฺมิเกสุ วา ติตฺถิเยสุ วา อฺตโร, เอเตสฺหิ เยน เกนจิ กเต ภตฺเต ‘‘สมณภตฺตสมโย’’ติ ภฺุชิตพฺพํ.
๒๒๐. อนาปตฺติ สมเยติ สตฺตสุ สมเยสุ อฺตรสฺมึ อนาปตฺติ. ทฺเว ตโย เอกโตติ เยปิ อกปฺปิยนิมนฺตนํ สาทิยิตฺวา ทฺเว วา ตโย วา เอกโต คเหตฺวา ภฺุชนฺติ, เตสมฺปิ อนาปตฺติ.
ตตฺถ ¶ อนิมนฺติตจตุตฺถํ, ปิณฺฑปาติกจตุตฺถํ, อนุปสมฺปนฺนจตุตฺถํ, ปตฺตจตุตฺถํ, คิลานจตุตฺถนฺติ ปฺจนฺนํ จตุกฺกานํ วเสน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ ¶ . กถํ? อิเธกจฺโจ จตฺตาโร ภิกฺขู ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ นิมนฺเตติ. เตสุ ตโย คตา, เอโก น คโต. อุปาสโก ‘‘เอโก ภนฺเต เถโร กุหิ’’นฺติ ปุจฺฉติ. นาคโต อุปาสกาติ. โส อฺํ ตงฺขณปฺปตฺตํ กฺจิ ‘‘เอหิ ภนฺเต’’ติ ปเวเสตฺวา จตุนฺนมฺปิ ภตฺตํ เทติ, สพฺเพสํ อนาปตฺติ. กสฺมา? คณปูรกสฺส อนิมนฺติตตฺตา. ตโย เอว หิ ตตฺถ นิมนฺติตา คณฺหึสุ, เตหิ คโณ น ปูรติ, คณปูรโก จ อนิมนฺติโต, เตน คโณ ภิชฺชตีติ อิทํ อนิมนฺติตจตุตฺถํ.
ปิณฺฑปาติกจตุตฺเถ – นิมนฺตนกาเล เอโก ปิณฺฑปาติโก โหติ, โส นาธิวาเสติ. คมนเวลาย ปน ‘‘เอหิ ภนฺเต’’ติ วุตฺเต อนธิวาสิตตฺตา อนาคจฺฉนฺตมฺปิ ‘‘เอถ ภิกฺขํ ลจฺฉถา’’ติ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, โส ตํ คณํ ภินฺทติ. ตสฺมา สพฺเพสํ อนาปตฺติ.
อนุปสมฺปนฺนจตุตฺเถ – สามเณเรน สทฺธึ นิมนฺติตา โหนฺติ, โสปิ คณํ ภินฺทติ.
ปตฺตจตุตฺเถ – เอโก สยํ อคนฺตฺวา ปตฺตํ เปเสติ; เอวมฺปิ คโณ ภิชฺชติ. ตสฺมา สพฺเพสํ อนาปตฺติ.
คิลานจตุตฺเถ – คิลาเนน สทฺธึ นิมนฺติตา โหนฺติ, ตตฺถ คิลานสฺเสว อนาปตฺติ, อิตเรสํ ปน คณปูรโก โหติ. น หิ คิลาเนน คโณ ภิชฺชติ. ตสฺมา เตสํ อาปตฺติเยว. มหาปจฺจริยํ ปน อวิเสเสน วุตฺตํ.
สมยลทฺธโก ¶ สยเมว มุจฺจติ, เสสานํ คณปูรกตฺตา อาปตฺติกโร โหติ. ตสฺมา จีวรทานสมยลทฺธกาทีนมฺปิ วเสน จตุกฺกานิ เวทิตพฺพานิ. สเจ ปน อธิวาเสตฺวา คเตสุปิ จตูสุ ชเนสุ เอโก ปณฺฑิโต ภิกฺขุ ‘‘อหํ ตุมฺหากํ คณํ ภินฺทิสฺสามิ, นิมนฺตนํ สาทิยถา’’ติ วตฺวา ยาคุขชฺชกาวสาเน ภตฺตตฺถาย ปตฺตํ คณฺหนฺตานํ อทตฺวา ‘‘อิเม ตาว ภิกฺขู โภเชตฺวา วิสฺสชฺเชถ, อหํ ปจฺฉา อนุโมทนํ กตฺวา คมิสฺสามี’’ติ นิสินฺโน. เตสุ ภุตฺวา คเตสุ ‘‘เทถ ภนฺเต ปตฺต’’นฺติ อุปาสเกน ปตฺตํ คเหตฺวา ภตฺเต ทินฺเน ภฺุชิตฺวา อนุโมทนํ ¶ กตฺวา คจฺฉติ, สพฺเพสํ อนาปตฺติ. ปฺจนฺนฺหิ โภชนานํเยว วเสน คณโภชเน วิสงฺเกตํ นตฺถิ. โอทเนน นิมนฺติตา กุมฺมาสํ คณฺหนฺตาปิ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ. ตานิ จ เตหิ เอกโต น คหิตานิ. ยาคุอาทีสุ ปน วิสงฺเกตํ โหติ, ตานิ เตหิ เอกโต คหิตานีติ. เอวํ เอโก ปณฺฑิโต อฺเสมฺปิ อนาปตฺตึ กโรติ.
ตสฺมา สเจ โกจิ สงฺฆภตฺตํ กตฺตุกาเมน นิมนฺตนตฺถาย ¶ เปสิโต วิหารํ อาคมฺม ‘‘ภนฺเต, สฺเว อมฺหากํ ฆเร ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ อวตฺวา ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วา ‘‘สงฺฆภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วา ‘‘สงฺโฆ ภตฺตํ คณฺหาตู’’ติ วา วทติ, ภตฺตุทฺเทสเกน ปณฺฑิเตน ภวิตพฺพํ, เนมนฺตนิกา คณโภชนโต ปิณฺฑปาติกา จ ธุตงฺคเภทโต โมเจตพฺพา. กถํ? เอวํ ตาว วตฺตพฺพํ – ‘‘สฺเว น สกฺกา อุปาสกา’’ติ. ‘‘ปุนทิวเส, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ปุนทิวเสปิ น สกฺกา’’ติ. เอวํ ยาว อทฺธมาสมฺปิ หริตฺวา ปุน วตฺตพฺโพ – ‘‘ตฺวํ กึ อวจา’’ติ? สเจ ปุนปิ ‘‘สงฺฆภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ตโต ‘‘อิมํ ตาว อุปาสก ปุปฺผํ กปฺปิยํ กโรหิ, อิมํ ติณ’’นฺติ เอวํ วิกฺเขปํ กตฺวา ปุน ‘‘กึ กถยิตฺถา’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ. สเจ ปุนปิ ตเถว วทติ, ‘‘อาวุโส, ตฺวํ ปิณฺฑปาติเก วา มหาเถเร วา น ลจฺฉสิ, สามเณเร ลจฺฉสี’’ติ วตฺตพฺโพ. ‘‘นนุ, ภนฺเต อสุกสฺมิฺจ อสุกสฺมิฺจ คาเม ภทนฺเต โภเชสุํ, อหํ กสฺมา น ลภามี’’ติ จ วุตฺเต ‘‘เต นิมนฺเตตุํ ชานนฺติ, ตฺวํ น ชานาสี’’ติ. เต กถํ นิมนฺเตสุํ ภนฺเตติ? เต เอวมาหํสุ – ‘‘อมฺหากํ, ภนฺเต, ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ. สเจ โสปิ ตเถว วทติ, วฏฺฏติ. อถ ปุนปิ ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ‘‘น ทานิ ตฺวํ, อาวุโส, พหู ภิกฺขู ลจฺฉสิ, ตโย เอว ลจฺฉสี’’ติ วตฺตพฺโพ. ‘‘นนุ, ภนฺเต, อสุกสฺมิฺจ อสุกสฺมิฺจ คาเม สกลํ ภิกฺขุสงฺฆํ โภเชสุํ, อหํ กสฺมา น ลภามี’’ติ? ‘‘ตฺวํ นิมนฺเตตุํ น ชานาสี’’ติ. ‘‘เต กถํ นิมนฺเตสุ’’นฺติ? เต ‘‘ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ อาหํสูติ. สเจ โสปิ ‘‘ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. อถ ปุนปิ ‘‘ภตฺตเมวา’’ติ วทติ, ตโต วตฺตพฺโพ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, นตฺถมฺหากํ ตว ภตฺเตนตฺโถ, นิพทฺธโคจโร เอส อมฺหากํ, มยเมตฺถ ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติ. ตํ ‘‘จรถ, ภนฺเต’’ติ วตฺวา อาคตํ ปุจฺฉนฺติ – ‘‘กึ โภ ลทฺธา ภิกฺขู’’ติ ¶ . ‘‘กึ เอเตน พหุ เอตฺถ วตฺตพฺพํ, ‘เถรา สฺเว ปิณฺฑาย จริสฺสามา’ติ อาหํสุ. มา ทานิ ตุมฺเห ปมชฺชิตฺถา’’ติ. ทุติยทิวเส เจติยวตฺตํ กตฺวา ิตา ภิกฺขู สงฺฆตฺเถเรน ¶ วตฺตพฺพา – ‘‘อาวุโส, ธุรคาเม สงฺฆภตฺตํ อปณฺฑิตมนุสฺโส ปน อคมาสิ ¶ , คจฺฉาม ธุรคาเม ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติ. ภิกฺขูหิ เถรสฺส วจนํ กาตพฺพํ, น ทุพฺพเจหิ ภวิตพฺพํ, คามทฺวาเร อฏฺตฺวาว ปิณฺฑาย จริตพฺพํ. เตสุ ปตฺตานิ คเหตฺวา นิสีทาเปตฺวา โภเชนฺเตสุ ภฺุชิตพฺพํ. สเจ อาสนสาลาย ภตฺตํ เปตฺวา รถิกาสุ อาหิณฺฑนฺตา อาโรเจนฺติ – ‘‘อาสนสาลาย, ภนฺเต, ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ น วฏฺฏติ.
อถ ปน ภตฺตํ อาทาย ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, ปฏิกจฺเจว วา วิหารํ อภิหริตฺวา ปติรูเป าเน เปตฺวา อาคตาคตานํ เทนฺติ, อยํ อภิหฏภิกฺขา นาม วฏฺฏติ. สเจ ปน ภตฺตสาลาย ทานํ สชฺเชตฺวา ตํ ตํ ปริเวณํ ปหิณนฺติ ‘‘ภตฺตสาลาย ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ, น วฏฺฏติ. เย ปน มนุสฺสา ปิณฺฑจาริเก ภิกฺขู ทิสฺวา อาสนสาลํ สมฺมชฺชิตฺวา ตตฺถ นิสีทาเปตฺวา โภเชนฺติ, น เต ปฏิกฺขิปิตพฺพา. เย ปน คาเม ภิกฺขํ อลภิตฺวา คามโต นิกฺขมนฺเต ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘ภนฺเต ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, เต ปฏิกฺขิปิตพฺพา, น วา นิวตฺติตพฺพํ. สเจ ‘‘นิวตฺตถ, ภนฺเต, ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, ‘‘นิวตฺตถา’’ติ วุตฺตปเท นิวตฺติตุํ วฏฺฏติ. ‘‘นิวตฺตถ ภนฺเต, ฆเร ภตฺตํ กตํ, คาเม ภตฺตํ กต’’นฺติ วทนฺติ, เคเห จ คาเม จ ภตฺตํ นาม ยสฺส กสฺสจิ โหตีติ นิวตฺติตุํ วฏฺฏติ. ‘‘นิวตฺตถ, ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ สมฺพนฺธํ กตฺวา วทนฺติ, นิวตฺติตุํ น วฏฺฏติ. อาสนสาลโต ปิณฺฑาย จริตุํ นิกฺขมนฺเต ทิสฺวา ‘‘นิสีทถ ภนฺเต ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. นิจฺจภตฺตนฺติ ธุวภตฺตํ วุจฺจติ. ‘‘นิจฺจภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, พหูนมฺปิ เอกโต คเหตุํ วฏฺฏติ. สลากภตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
คณโภชนสิกฺขาปทํ ทุติยํ.
๓. ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๒๑. ตติยสิกฺขาปเท – น โข อิทํ โอรกํ ภวิสฺสติ, ยถยิเม มนุสฺสา สกฺกจฺจํ ภตฺตํ กโรนฺตีติ, เยน นิยาเมน อิเม มนุสฺสา ¶ สกฺกจฺจํ ภตฺตํ ¶ ¶ กโรนฺติ, เตน ายติ – ‘‘อิทํ สาสนํ อิทํ วา พุทฺธปฺปมุเข สงฺเฆ ทานํ น โข โอรกํ ภวิสฺสติ, ปริตฺตํ ลามกํ เนว ภวิสฺสตี’’ติ. กิรปติโกติ เอตฺถ ‘‘กิโร’’ติ ตสฺส กุลปุตฺตสฺส นามํ; อธิปจฺจฏฺเน ปน ‘‘กิรปติโก’’ติ วุจฺจติ. โส กิร อิสฺสโร อธิปติ มาสอุตุสํวจฺฉรนิยาเมน เวตนํ ทตฺวา กมฺมการเก กมฺมํ กาเรติ. พทรา ปฏิยตฺตาติ อุปจารวเสน วทติ. พทรมิสฺเสนาติ พทรสาฬเวน.
๒๒๒. อุสฺสูเร อาหริยิตฺถาติ อติทิวา อาหริยิตฺถ.
๒๒๖. มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมีติ อยํ ภตฺตวิกปฺปนา นาม สมฺมุขาปิ ปรมฺมุขาปิ วฏฺฏติ. สมฺมุขา ทิสฺวา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วตฺวา ภฺุชิตพฺพํ, อทิสฺวา ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส วิกปฺเปมี’’ติ วตฺวา ภฺุชิตพฺพํ. มหาปจฺจริยาทีสุ ปน ปรมฺมุขาวิกปฺปนาว วุตฺตา. สา จายํ ยสฺมา วินยกมฺเมน สงฺคหิตา, ตสฺมา ภควโต วิกปฺเปตุํ น วฏฺฏติ. ภควติ หิ คนฺธกุฏิยํ นิสินฺเนปิ สงฺฆมชฺเฌ นิสินฺเนปิ สงฺเฆน คณปฺปโหนเก ภิกฺขู คเหตฺวา ตํ ตํ กมฺมํ กตํ สุกตเมว โหติ, ภควา เนว กมฺมํ โกเปติ; น สมฺปาเทติ. น โกเปติ ธมฺมิสฺสรตฺตา, น สมฺปาเทติ อคณปูรกตฺตา.
๒๒๙. ทฺเว ตโย นิมนฺตเน เอกโต ภฺุชตีติ ทฺเว ตีณิ นิมนฺตนานิ เอกปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา มิสฺเสตฺวา เอกํ กตฺวา ภฺุชตีติ อตฺโถ. ทฺเว ตีณิ กุลานิ นิมนฺเตตฺวา เอกสฺมึ าเน นิสีทาเปตฺวา อิโต จิโต จ อาหริตฺวา ภตฺตํ อากิรนฺติ, สูปพฺยฺชนํ อากิรนฺติ, เอกมิสฺสกํ โหติ, เอตฺถ อนาปตฺตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. สเจ ปน มูลนิมนฺตนํ เหฏฺา โหติ, ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ อุปริ, ตํ อุปริโต ปฏฺาย ภฺุชนฺตสฺส อาปตฺติ. หตฺถํ ปน อนฺโต ปเวเสตฺวา ปมนิมนฺตนโต เอกมฺปิ กพฬํ อุทฺธริตฺวา ภุตฺตกาลโต ปฏฺาย ยถา ตถา วา ภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติ. สเจปิ ตตฺถ ขีรํ วา รสํ วา อากิรนฺติ, เยน อชฺโฌตฺถตํ ภตฺตํ เอกรสํ โหติ, โกฏิโต ปฏฺาย ภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ – ‘‘ขีรภตฺตํ วา ¶ รสภตฺตํ วา ลภิตฺวา นิสินฺนสฺส ตตฺเถว อฺเปิ ขีรภตฺตํ วา รสภตฺตํ วา อากิรนฺติ, ขีรํ วา รสํ วา ปิวโต อนาปตฺติ. ภฺุชนฺเตน ปน ปมํ ลทฺธมํสขณฺฑํ วา ภตฺตปิณฺฑํ ¶ วา มุเข ปกฺขิปิตฺวา โกฏิโต ปฏฺาย ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. สปฺปิปายาเสปิ เอเสว นโย’’ติ.
มหาอุปาสโก ¶ ภิกฺขุํ นิมนฺเตติ, ตสฺส กุลํ อุปคตสฺส อุปาสโกปิ ตสฺส ปุตฺตทารภาติกภคินิอาทโยปิ อตฺตโน อตฺตโน โกฏฺาสํ อาหริตฺวา ปตฺเต ปกฺขิปนฺติ, อุปาสเกน ปมํ ทินฺนํ อภฺุชิตฺวา ปจฺฉา ลทฺธํ ภฺุชนฺตสฺส ‘‘อนาปตฺตี’’ติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. กุรุนฺทฏฺกถายํ ปน วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ‘‘สเจ ปาเฏกฺกํ ปจนฺติ, อตฺตโน อตฺตโน ปกฺกภตฺตโต อาหริตฺวา เทนฺติ, ตตฺถ ปจฺฉา อาหฏํ ปมํ ภฺุชนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. ยทิ ปน สพฺเพสํ เอโกว ปาโก โหติ, ปรมฺปรโภชนํ น โหตี’’ติ วุตฺตํ. มหาอุปาสโก นิมนฺเตตฺวา นิสีทาเปติ, อฺโ มนุสฺโส ปตฺตํ คณฺหาติ, น ทาตพฺพํ. กึ ภนฺเต น เทถาติ? นนุ อุปาสก ตยา นิมนฺติตมฺหาติ! โหตุ ภนฺเต, ลทฺธํ ลทฺธํ ภฺุชถาติ วทติ, ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. อฺเน อาหริตฺวา ภตฺเต ทินฺเน อาปุจฺฉิตฺวาปิ ภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ.
อนุโมทนํ กตฺวา คจฺฉนฺตํ ธมฺมํ โสตุกามา ‘‘สฺเวปิ ภนฺเต อาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ สพฺเพ นิมนฺเตนฺติ, ปุนทิวเส อาคนฺตฺวา ลทฺธํ ลทฺธํ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. กสฺมา? สพฺเพหิ นิมนฺติตตฺตา. เอโก ภิกฺขุ ปิณฺฑาย จรนฺโต ภตฺตํ ลภติ, ตมฺโ อุปาสโก นิมนฺเตตฺวา ฆเร นิสีทาเปติ, น จ ตาว ภตฺตํ สมฺปชฺชติ. สเจ โส ภิกฺขุ ปิณฺฑาย จริตฺวา ลทฺธภตฺตํ ภฺุชติ, อาปตฺติ. อภุตฺวา นิสินฺเน ‘‘กึ ภนฺเต น ภฺุชสี’’ติ วุตฺเต ‘‘ตยา นิมนฺติตตฺตา’’ติ วตฺวา ลทฺธํ ลทฺธํ ภฺุชถ ภนฺเต’’ติ วุตฺโต ภฺุชติ, วฏฺฏติ.
สกเลน คาเมนาติ สกเลน คาเมน เอกโต หุตฺวา นิมนฺติตสฺเสว ยตฺถ กตฺถจิ ภฺุชโต อนาปตฺติ. ปูเคปิ เอเสว นโย. นิมนฺติยมาโน ภิกฺขํ คเหสฺสามีติ ภณตีติ ‘‘ภตฺตํ คณฺหา’’ติ นิมนฺติยมาโน ¶ ‘‘น มยฺหํ ตว ภตฺเตนตฺโถ, ภิกฺขํ คณฺหิสฺสามี’’ติ วทติ. เอตฺถ ปน มหาปทุมตฺเถโร อาห – ‘‘เอวํ วทนฺโต อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อนิมนฺตนํ กาตุํ สกฺโกติ, ภฺุชนตฺถาย ปน โอกาโส กโต โหตีติ เนว คณโภชนโต น จาริตฺตโต มุจฺจตี’’ติ. มหาสุมตฺเถโร อาห – ‘‘ยทคฺเคน อนิมนฺตนํ กาตุํ สกฺโกติ, ตทคฺเคน เนว คณโภชนํ น จาริตฺตํ โหตี’’ติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
กถินสมุฏฺานํ ¶ – กายวาจโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยากิริยํ เอตฺถ หิ โภชนํ กิริยา, อวิกปฺปนํ อกิริยา, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทํ ตติยํ.
๔. กาณมาตาสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๓๐. จตุตฺถสิกฺขาปเท ¶ – กาณมาตาติ กาณาย มาตา. สา กิรสฺสา ธีตา อภิรูปา อโหสิ, เย เย ตํ ปสฺสนฺติ, เต เต ราเคน กาณา โหนฺติ, ราคนฺธา โหนฺตีติ อตฺโถ. ตสฺมา ปเรสํ กาณภาวกรณโต ‘‘กาณา’’ติ วิสฺสุตา อโหสิ. ตสฺสา วเสน มาตาปิสฺสา ‘‘กาณมาตา’’ติ ปากฏา ชาตา. อาคตนฺติ อาคมนํ. กิสฺมึ วิยาติ กีทิสํ วิย; ลชฺชนกํ วิย โหตีติ อธิปฺปาโย. ริตฺตหตฺถํ คนฺตุนฺติ ริตฺตา หตฺถา อสฺมึ คมเน ตทิทํ ริตฺตหตฺถํ, ตํ ริตฺตหตฺถํ คมนํ คนฺตุํ ลชฺชนกํ วิย โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ปริกฺขยํ อคมาสีติ อุปาสิกา อริยสาวิกา ภิกฺขู ทิสฺวา สนฺตํ อทาตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมา ตาว ทาเปสิ, ยาว สพฺพํ ปริกฺขยํ อคมาสิ. ธมฺมิยา กถายาติ เอตฺถ กาณาปิ มาตุ อตฺถาย เทสิยมานํ ธมฺมํ สุณนฺตี เทสนาปริโยสาเน โสตาปนฺนา อโหสิ. อุฏฺายาสนา ปกฺกามีติ อาสนโต อุฏฺหิตฺวา คโต. โสปิ ปุริโส ‘‘สตฺถา กิร กาณมาตาย นิเวสนํ อคมาสี’’ติ สุตฺวา กาณํ อาเนตฺวา ปกติฏฺาเนเยว เปสิ.
๒๓๑. อิมสฺมึ ปน วตฺถุสฺมึ อุปฺปนฺนมตฺเต อปฺปฺตฺเตเยว สิกฺขาปเท ปาเถยฺยวตฺถุ อุทปาทิ, ตสฺมา อนนฺตรเมว เจตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เตน โข ปน สมเยนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. โสปิ จ อุปาสโก อริยสาวกตฺตา สพฺพเมว ทาเปสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปริกฺขยํ อคมาสี’’ติ.
๒๓๓. ยํกิฺจิ ปเหณกตฺถายาติ ปณฺณาการตฺถาย ปฏิยตฺตํ ยํกิฺจิ อติรสกโมทกสกฺขลิกาทิ สพฺพํ อิธ ปูโวตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ยํกิฺจิ ¶ ¶ ปาเถยฺยตฺถายาติ มคฺคํ คจฺฉนฺตานํ อนฺตรามคฺคตฺถาย ปฏิยตฺตํ ยํกิฺจิ พทฺธสตฺตุอพทฺธสตฺตุติลตณฺฑุลาทิ สพฺพํ อิธ มนฺโถตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ตโต เจ อุตฺตรินฺติ สเจปิ ตติยํ ปตฺตํ ถูปีกตํ คณฺหาติ, ปูวคณนาย ปาจิตฺติยํ.
ทฺวตฺติปตฺตปูเร ปฏิคฺคเหตฺวาติ มุขวฏฺฏิยา เหฏฺิมเลขาย สมปูเร ปตฺเต คเหตฺวา. อมุตฺร มยา ทฺวตฺติปตฺตปูราติ เอตฺถ สเจ ทฺเว คหิตา, ‘‘อตฺร มยา ทฺเว ปตฺตปูรา ปฏิคฺคหิตา, ตฺวํ เอกํ คณฺเหยฺยาสี’’ติ วตฺตพฺพํ. เตนาปิ อฺํ ปสฺสิตฺวา ‘‘ปมํ อาคเตน ทฺเว ปตฺตปูรา คหิตา, มยา เอโก, มา ตฺวํ คณฺหี’’ติ วตฺตพฺพํ. เยน ปมํ เอโก คหิโต, ตสฺสาปิ ปรมฺปราโรจเน เอเสว นโย. เยน ปน สยเมว ตโย คหิตา, เตน อฺํ ทิสฺวา ‘‘มา โข เอตฺถ ปฏิคฺคณฺหิ’’ จฺเจว วตฺตพฺพํ. ปฏิกฺกมนํ นีหริตฺวาติ อาสนสาลํ หริตฺวา, อาสนสาลํ คจฺฉนฺเตน ¶ จ ฉฑฺฑิตสาลา น คนฺตพฺพา. ยตฺถ มหา ภิกฺขุสงฺโฆ นิสีทติ, ตตฺถ คนฺตพฺพํ. มหาปจฺจริยํ ปน วุตฺตํ ‘‘ยา ลทฺธฏฺานโต อาสนฺนา อาสนสาลา, ตตฺถ คนฺตพฺพํ. อตฺตโน ‘สนฺทิฏฺานํ วา สมฺภตฺตานํ วา เอกนิกายิกานํ วา ทสฺสามี’ติ อฺตฺถ คนฺตุํ น ลพฺภติ. สเจ ปนสฺส นิพทฺธนิสีทนฏฺานํ โหติ, ทูรมฺปิ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ.
สํวิภชิตพฺพนฺติ สเจ ตโย ปตฺตปูรา คหิตา, เอกํ อตฺตโน เปตฺวา ทฺเว ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทาตพฺพา. สจฺเจ ทฺเว คหิตา, เอกํ อตฺตโน เปตฺวา เอโก สงฺฆสฺส ทาตพฺโพ, ยถามิตฺตํ ปน ทาตุํ น ลพฺภติ. เยน เอโก คหิโต, น เตน กิฺจิ อกามา ทาตพฺพํ, ยถารุจิ กาตพฺพํ.
๒๓๕. คมเน ปฏิปฺปสฺสทฺเธติ อนฺตรามคฺเค อุปทฺทวํ วา ทิสฺวา อนตฺถิกตาย วา ‘‘มยํ อิทานิ น เปสิสฺสาม, น คมิสฺสามา’’ติ เอวํ คมเน ปฏิปฺปสฺสทฺเธ อุปจฺฉินฺเน. าตกานํ ปวาริตานนฺติ เอเตสํ พหุมฺปิ เทนฺตานํ ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส อนาปตฺติ. อฏฺกถาสุ ปน ‘‘เตสมฺปิ ปาเถยฺยปเหณกตฺถาย ปฏิยตฺตโต ปมาณเมว วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ฉสมุฏฺานํ ¶ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
กาณมาตาสิกฺขาปทํ จตุตฺถํ.
๕. ปมปวารณสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๓๖. ปฺจมสิกฺขาปเท ¶ – ภิกฺขู ภุตฺตาวี ปวาริตาติ พฺราหฺมเณน ‘‘คณฺหถ, ภนฺเต, ยาว อิจฺฉถา’’ติ เอวํ ยาวทตฺถปวารณาย, สยฺจ ‘‘อลํ, อาวุโส, โถกํ โถกํ เทหี’’ติ เอวํ ปฏิกฺเขปปวารณาย ปวาริตา. ปฏิวิสฺสเกติ สามนฺตฆรวาสิเก.
๒๓๗. กาโกรวสทฺทนฺติ กากานํ โอรวสทฺทํ; สนฺนิปติตฺวา วิรวนฺตานํ สทฺทํ. อลเมตํ สพฺพนฺติ เอตฺถ ติการํ อวตฺวาว ‘‘อลเมตํ สพฺพํ’’ เอตฺตกํ วตฺตุํ วฏฺฏติ.
๒๓๘-๙. ภุตฺตาวีติ ภุตฺตวา. ตตฺถ จ ยสฺมา เยน เอกมฺปิ สิตฺถํ สงฺขาทิตฺวา วา อสงฺขาทิตฺวา ¶ วา อชฺโฌหริตํ โหติ, โส ‘‘ภุตฺตาวี’’ติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ, เตนสฺส ปทภาชเน ‘‘ภุตฺตาวี นาม ปฺจนฺนํ โภชนาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ปวาริโตติ กตปวารโณ, กตปฏิกฺเขโป. โสปิ จ ยสฺมา น ปฏิกฺเขปมตฺเตน, อถ โข ปฺจงฺควเสน, เตนสฺส ปทภาชเน ‘‘ปวาริโต นาม อสนํ ปฺายตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺมา ‘‘อสนํ ปฺายตี’’ติ อิมินา วิปฺปกตโภชโน, ‘‘ปวาริโต’’ติ วุตฺโต. โย จ วิปฺปกตโภชโน, เตน กิฺจิ ภุตฺตํ, กิฺจิ อภุตฺตํ, ยฺจ ภุตฺตํ; ตํ สนฺธาย ‘‘ภุตฺตาวี’’ติปิ สงฺขฺยํ คจฺฉติ, ตสฺมา ภุตฺตาวีวจเนน วิสุํ กฺจิ อตฺถสิทฺธึ น ปสฺสาม. ‘‘ทิรตฺตติรตฺตํ, ฉปฺปฺจวาจาหี’’ติอาทีสุ (ปาจิ. ๖๑-๖๒) ปน ทิรตฺตาทิวจนํ วิย ปวาริตปทสฺส ปริวารกภาเวน พฺยฺชนสิลิฏฺตาย เจตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อสนํ ปฺายตีติอาทีสุ วิปฺปกตโภชนํ ทิสฺสติ, ภฺุชมาโน เจโส ปุคฺคโล โหตีติ อตฺโถ. โภชนํ ปฺายตีติ ปวารณปฺปโหนกโภชนํ ทิสฺสติ. โอทนาทีนํ เจ อฺตรํ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ โภชนํ โหตีติ อตฺโถ. หตฺถปาเส ิโตติ ปวารณปฺปโหนกํ โภชนํ คณฺหิตฺวา ทายโก อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาเณ โอกาเส โหตีติ อตฺโถ. อภิหรตีติ โส เจ ทายโก ตสฺส ตํ ภตฺตํ กาเยน อภิหรตีติ อตฺโถ. ปฏิกฺเขโป ปฺายตีติ ปฏิกฺเขโป ทิสฺสติ; ตฺเจ อภิหฏํ โส ภิกฺขุ กาเยน วา วาจาย ¶ วา ปฏิกฺขิปตีติ อตฺโถ. เอวํ ปฺจนฺนํ องฺคานํ วเสน ปวาริโต นาม โหตีติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ปฺจหิ ¶ อุปาลิ อากาเรหิ ปวารณา ปฺายติ – อสนํ ปฺายติ, โภชนํ ปฺายติ, หตฺถปาเส ิโต, อภิหรติ, ปฏิกฺเขโป ปฺายตี’’ติ (ปริ. ๔๒๘).
ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ‘‘อสน’’นฺติอาทีสุ ตาว ยฺจ อสฺนาติ ยฺจ โภชนํ หตฺถปาเส ิเตน อภิหฏํ ปฏิกฺขิปติ, ตํ ‘‘โอทโน, กุมฺมาโส, สตฺตุ, มจฺโฉ, มํส’’นฺติ อิเมสํ อฺตรเมว เวทิตพฺพํ. ตตฺถ โอทโน นาม – สาลิ, วีหิ, ยโว, โคธุโม, กงฺคุ, วรโก, กุทฺรูสโกติ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ตณฺฑุเลหิ นิพฺพตฺโต. ตตฺถ ‘‘สาลี’’ติ อนฺตมโส นีวารํ อุปาทาย สพฺพาปิ สาลิชาติ. ‘‘วีหี’’ติ สพฺพาปิ วีหิชาติ. ‘‘ยวโคธุเมสุ’’ เภโท นตฺถิ. ‘‘กงฺคู’’ติ เสตรตฺตกาฬเภทา สพฺพาปิ กงฺคุชาติ. ‘‘วรโก’’ติ อนฺตมโส วรกโจรกํ อุปาทาย สพฺพา เสตวณฺณา วรกชาติ. ‘‘กุทฺรูสโก’’ติ กาฬโก ทฺรโว เจว สามากาทิเภทา จ สพฺพาปิ ติณธฺชาติ.
นีวารวรกโจรกา ¶ เจตฺถ ‘‘ธฺานุโลมา’’ติ วทนฺติ. ธฺานิ วา โหนฺตุ ธฺานุโลมานิ วา, เอเตสํ วุตฺตปฺปเภทานํ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ตณฺฑุเล คเหตฺวา ‘‘ภตฺตํ ปจิสฺสามา’’ติ วา ‘‘ยาคุํ ปจิสฺสามา’’ติ วา ‘‘อมฺพิลปายาสาทีสุ อฺตรํ ปจิสฺสามา’’ติ วา ยํกิฺจิ สนฺธาย ปจนฺตุ, สเจ อุณฺหํ สีตลํ วา ภฺุชนฺตานํ โภชนกาเล คหิตคหิตฏฺาเน โอธิ ปฺายติ, โอทนสงฺคหเมว คจฺฉติ, ปวารณํ ชเนติ. สเจ โอธิ น ปฺายติ, ยาคุสงฺคหํ คจฺฉติ, ปวารณํ น ชเนติ.
โยปิ ปายาโส วา ปณฺณผลกฬีรมิสฺสกา อมฺพิลยาคุ วา อุทฺธนโต โอตาริตมตฺตา อพฺภุณฺหา โหติ, อาวชฺชิตฺวา ปิวิตุํ สกฺกา, หตฺเถน คหิโตกาเสปิ โอธึ น ทสฺเสติ, ปวารณํ น ชเนติ. สเจ ปน อุสุมาย วิคตาย สีตลีภูตา ฆนภาวํ คจฺฉติ, โอธึ ทสฺเสติ, ปุน ปวารณํ ชเนติ. ปุพฺเพ ตนุภาโว น รกฺขติ. สเจปิ ทธิตกฺกาทีนิ อาโรเปตฺวา พหุปณฺณผลกฬีเร ปกฺขิปิตฺวา มุฏฺิมตฺตาปิ ตณฺฑุลา ปกฺขิตฺตา โหนฺติ, โภชนกาเล เจ โอธิ ปฺายติ, ปวารณํ ชเนติ. อยาคุเก ¶ นิมนฺตเน ‘‘ยาคุํ ทสฺสามา’’ติ ภตฺเต อุทกกฺชิกขีราทีนิ อากิริตฺวา ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ เทนฺติ. กิฺจาปิ ตนุกา โหนฺติ, ปวารณํ ชเนติเยว ¶ . สเจ ปน ปกฺกุถิเตสุ อุทกาทีสุ ปกฺขิปิตฺวา ปจิตฺวา เทนฺติ, ยาคุสงฺคหเมว คจฺฉติ. ยาคุสงฺคหํ คเตปิ ตสฺมึ วา อฺสฺมึ วา ยตฺถ มจฺฉมํสํ ปกฺขิปนฺติ, สเจ สาสปมตฺตมฺปิ มจฺฉมํสขณฺฑํ วา นฺหารุ วา ปฺายติ, ปวารณํ ชเนติ.
สุทฺธรสโก ปน รสกยาคุ วา น ชเนติ. เปตฺวา วุตฺตธฺานํ ตณฺฑุเล อฺเหิ เวณุตณฺฑุลาทีหิ วา กนฺทมูลผเลหิ วา เยหิ เกหิจิ กตํ ภตฺตมฺปิ ปวารณํ น ชเนติ, ปเคว ฆนยาคุ. สเจ ปเนตฺถ มจฺฉมํสํ ปกฺขิปนฺติ, ชเนติ. มหาปจฺจริยํ ‘‘ปุปฺผอตฺถาย ภตฺตมฺปิ ปวารณํ ชเนตี’’ติ วุตฺตํ. ปุปฺผิอตฺถาย ภตฺตํ นาม ปุปฺผิขชฺชกตฺถาย กุถิตตูทเก ปกฺขิปิตฺวา เสทิตตณฺฑุลา วุจฺจนฺติ. สเจ ปน เต ตณฺฑุเล สุกฺขาเปตฺวา ขาทนฺติ, วฏฺฏติ; เนว สตฺตุสงฺขฺยํ น ภตฺตสงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ. ปุน เตหิ กตภตฺตํ ปวาเรติเยว. เต ตณฺฑุเล สปฺปิเตลาทีสุ วา ปจนฺติ, ปูวํ วา กโรนฺติ, น ปวาเรนฺติ. ปุถุกา วา ตาหิ กตสตฺตุภตฺตาทีนิ วา น ปวาเรนฺติ.
กุมฺมาโส นาม ยเวหิ กตกุมฺมาโส. อฺเหิ ปน มุคฺคาทีหิ กตกุมฺมาโส ปวารณํ น ชเนติ. สตฺตุ นาม สาลิวีหิยเวหิ กตสตฺตุ. กงฺคุวรกกุทฺรูสกสีสานิปิ ภชฺชิตฺวา อีสกํ ¶ โกฏฺเฏตฺวา ถุเส ปลาเปตฺวา ปุน ทฬฺหํ โกฏฺเฏตฺวา จุณฺณํ กโรนฺติ. สเจปิ ตํ อลฺลตฺตา เอกาพทฺธํ โหติ, สตฺตุสงฺคหเมว คจฺฉติ. ขรปากภชฺชิตานํ วีหีนํ ตณฺฑุเล โกฏฺเฏตฺวา เทนฺติ, ตมฺปิ จุณฺณํ สตฺตุสงฺคหเมว คจฺฉติ. สมปากภชฺชิตานํ ปน วีหีนํ วา วีหิปลาปานํ วา ตณฺฑุลา ภชฺชิตตณฺฑุลา เอว วา น ปวาเรนฺติ. เตสํ ปน ตณฺฑุลาทีนํ จุณฺณํ ปวาเรติ. ขรปากภชฺชิตานํ วีหีนํ ¶ กุณฺฑกมฺปิ ปวาเรติ. สมปากภชฺชิตานํ ปน อาตปสุกฺขานํ วา กุณฺฑกํ น ปวาเรติ. ลาชา วา เตหิ กตภตฺตสตฺตุอาทีนิ วา น ปวาเรนฺติ. ภชฺชิตปิฏฺํ วา ยํกิฺจิ สุทฺธขชฺชกํ วา น ปวาเรติ. มจฺฉมํสปูริตขชฺชกํ ปน สตฺตุโมทโก วา ปวาเรติ. มจฺโฉ มํสฺจ ปากฏเมว. อยํ ปน วิเสโส – สเจปิ ยาคุํ ปิวนฺตสฺส ยาคุสิตฺถมตฺตาเนว ทฺเว มจฺฉขณฺฑานิ วา มํสขณฺฑานิ วา เอกภาชเน วา นานาภาชเน วา เทนฺติ, ตานิ เจ อขาทนฺโต อฺํ ยํกิฺจิ ปวารณปฺปโหนกํ ปฏิกฺขิปติ ¶ , น ปวาเรติ. ตโต เอกํ ขาทิตํ, เอกํ หตฺเถ วา ปตฺเต วา โหติ, โส เจ อฺํ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. ทฺเวปิ ขาทิตานิ โหนฺติ, มุเข สาสปมตฺตมฺปิ อวสิฏฺํ นตฺถิ, สเจปิ อฺํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ.
กปฺปิยมํสํ ขาทนฺโต กปฺปิยมํสํ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. กปฺปิยมํสํ ขาทนฺโต อกปฺปิยมํสํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กสฺมา? อวตฺถุตาย. ยฺหิ ภิกฺขุโน ขาทิตุํ วฏฺฏติ, ตํเยว ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ. อิทํ ปน ชานนฺโต อกปฺปิยตฺตา ปฏิกฺขิปติ, อชานนฺโตปิ ปฏิกฺขิปิตพฺพฏฺาเน ิตเมว ปฏิกฺขิปติ นาม, ตสฺมา น ปวาเรติ. สเจ ปน อกปฺปิยมํสํ ขาทนฺโต กปฺปิยมํสํ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. กสฺมา? วตฺถุตาย. ยฺหิ เตน ปฏิกฺขิตฺตํ, ตํ ปวารณาย วตฺถุ. ยํ ปน ขาทติ, ตํ กิฺจาปิ ปฏิกฺขิปิตพฺพฏฺาเน ิตํ, ขาทิยมานํ ปน มํสภาวํ น ชหติ, ตสฺมา ปวาเรติ. อกปฺปิยมํสํ ขาทนฺโต อกปฺปิยมํสํ ปฏิกฺขิปติ, ปุริมนเยเนว น ปวาเรติ. กปฺปิยมํสํ วา อกปฺปิยมํสํ วา ขาทนฺโต ปฺจนฺนํ โภชนานํ ยํกิฺจิ กปฺปิยโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. กุลทูสกเวชฺชกมฺมอุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนสาทิตรูปิยาทีหิ นิพฺพตฺตํ พุทฺธปฏิกุฏฺํ อเนสนาย อุปฺปนฺนํ อกปฺปิยโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กปฺปิยโภชนํ วา อกปฺปิยโภชนํ วา ภฺุชนฺโตปิ กปฺปิยโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. อกปฺปิยโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรตีติ สพฺพตฺถ วุตฺตนเยเนว การณํ เวทิตพฺพํ.
เอวํ ¶ ‘‘อสน’’นฺติอาทีสุ ยฺจ อสฺนาติ, ยฺจ โภชนํ หตฺถปาเส ิเตน อภิหฏํ ปฏิกฺขิปนฺโต ปวารณํ อาปชฺชติ, ตํ ตฺวา อิทานิ ยถา อาปชฺชติ, ตสฺส ชานนตฺถํ อยํ วินิจฺฉโย ¶ – ‘‘‘อสนํ โภชน’นฺติ เอตฺถ ตาว เยน เอกสิตฺถมฺปิ อชฺโฌหฏํ โหติ, โส สเจ ปตฺตมุขหตฺถานํ ยตฺถ กตฺถจิ ปฺจสุ โภชเนสุ เอกสฺมิมฺปิ สติ อฺํ ปฺจสุ โภชเนสุ เอกมฺปิ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. กตฺถจิ โภชนํ นตฺถิ, อามิสคนฺธมตฺตํ ปฺายติ, น ปวาเรติ. มุเข จ หตฺเถ จ โภชนํ นตฺถิ, ปตฺเต อตฺถิ, ตสฺมึ ปน อาสเน น ภฺุชิตุกาโม, วิหารํ ปวิสิตฺวา ภฺุชิตุกาโม, อฺสฺส วา ทาตุกาโม, ตสฺมึ เจ อนฺตเร โภชนํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กสฺมา? วิปฺปกตโภชนภาวสฺส อุปจฺฉินฺนตฺตา. โยปิ อฺตฺร คนฺตฺวา ภฺุชิตุกาโม มุเข ภตฺตํ ¶ คิลิตฺวา เสสํ อาทาย คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค อฺํ โภชนํ ปฏิกฺขิปติ, ตสฺสาปิ ปวารณา น โหตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ยถา จ ปตฺเต; เอวํ หตฺเถปิ. มุเขปิ วา วิชฺชมานโภชนํ สเจ อนชฺโฌหริตุกาโม โหติ, ตสฺมิฺจ ขเณ อฺํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. เอกสฺมิฺหิ ปเท วุตฺตลกฺขณํ สพฺพตฺถ เวทิตพฺพํ โหติ. อปิจ กุรุนฺทิยํ เอส นโย ทสฺสิโตเยว. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘มุเข ภตฺตํ คิลิตํ, หตฺเถ ภตฺตํ วิฆาสาทสฺส ทาตุกาโม, ปตฺเต ภตฺตํ ภิกฺขุสฺส ทาตุกาโม, สเจ ตสฺมึ ขเณ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรตี’’ติ. หตฺถปาเส ิโตติ เอตฺถ ปน สเจ ภิกฺขุ นิสินฺโน โหติ, อาสนสฺส ปจฺฉิมนฺตโต ปฏฺาย, สเจ ิโต, ปณฺหิอนฺตโต ปฏฺาย, สเจ นิปนฺโน, เยน ปสฺเสน นิปนฺโน, ตสฺส ปาริมนฺตโต ปฏฺาย, ทายกสฺส นิสินฺนสฺส วา ิตสฺส วา นิปนฺนสฺส วา เปตฺวา ปสาริตหตฺถํ ยํ อาสนฺนตรํ องฺคํ, ตสฺส โอริมนฺเตน ปริจฺฉินฺทิตฺวา อฑฺฒเตยฺยหตฺโถ ‘‘หตฺถปาโส’’ติ เวทิตพฺโพ. ตสฺมึ ตฺวา อภิหฏํ ปฏิกฺขิปนฺตสฺเสว ปวารณา โหติ, น ตโต ปรํ.
อภิหรตีติ หตฺถปาสพฺภนฺตเร ิโต คหณตฺถํ อุปนาเมติ. สเจ ปน อนนฺตรนิสินฺโนปิ ภิกฺขุ หตฺเถ วา อูรูสุ วา อาธารเก วา ิตปตฺตํ อนภิหริตฺวาว ‘‘ภตฺตํ คณฺหา’’ติ วทติ, ตํ ปฏิกฺขิปโต ¶ ปวารณา นตฺถิ. ภตฺตปจฺฉึ อาเนตฺวา ปุรโต ภูมิยํ เปตฺวา ‘‘คณฺหาหี’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. อีสกํ ปน อุทฺธริตฺวา วา อปนาเมตฺวา วา ‘‘คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ. เถราสเน นิสินฺโน เถโร ทูเร นิสินฺนสฺส ทหรภิกฺขุสฺส ปตฺตํ เปเสตฺวา ‘‘อิโต โอทนํ คณฺหาหี’’ติ วทติ, คณฺหิตฺวา ปน คโต ตุณฺหี ติฏฺติ, ทหโร ‘‘อลํ มยฺห’’นฺติ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กสฺมา? เถรสฺส ทูรภาวโต ทูตสฺส จ อนภิหรณโตติ. สเจ ปน คเหตฺวา อาคโต ภิกฺขุ ‘‘อิทํ ภตฺตํ คณฺหา’’ติ วทติ, ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ.
ปริเวสนาย เอโก เอเกน หตฺเถน โอทนปจฺฉึ เอเกน กฏจฺฉุํ คเหตฺวา ภิกฺขู ปริวิสติ, ¶ ตตฺร เจ อฺโ อาคนฺตฺวา ‘‘อหํ ปจฺฉึ ธาเรสฺสามิ, ตฺวํ โอทนํ เทหี’’ติ วตฺวา คหิตมตฺตกเมว กโรติ, ปริเวสโก เอว ปน ตํ ธาเรติ, ตสฺมา สา อภิหฏาว โหติ. ตโต ทาตุกามตาย คณฺหนฺตํ ปฏิกฺขิปนฺตสฺส ปวารณา โหติ. สเจ ¶ ปน ปริวิสเกน ผุฏฺมตฺตาว โหติ, อิตโรว นํ ธาเรติ, ตโต ทาตุกามตาย คณฺหนฺตํ ปฏิกฺขิปนฺตสฺส ปวารณา น โหติ. กฏจฺฉุนา อุทฺธฏภตฺเต ปน โหติ. กฏจฺฉุอภิหาโรเยว หิ ตสฺส อภิหาโร. ทฺวินฺนํ สมภาเรปิ ปฏิกฺขิปนฺโต ปวาเรติเยวาติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. อนนฺตรสฺส ภิกฺขุโน ภตฺเต ทิยฺยมาเน อิตโร ปตฺตํ หตฺเถหิ ปิทหติ, ปวารณา นตฺถิ. กสฺมา? อฺสฺส อภิหเฏ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา.
ปฏิกฺเขโป ปฺายตีติ เอตฺถ วาจาย อภิหฏํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถิ. กาเยน อภิหฏํ ปน กาเยน วา วาจาย วา ปฏิกฺขิปนฺตสฺส ปวารณา โหตีติ เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ กาเยน ปฏิกฺเขโป นาม องฺคุลึ วา หตฺถํ วา มจฺฉิกพีชนึ วา จีวรกณฺณํ วา จาเลติ, ภมุกาย วา อาการํ กโรติ, กุทฺโธ วา โอโลเกติ, วาจาย ปฏิกฺเขโป นาม ‘‘อล’’นฺติ วา, ‘‘น คณฺหามี’’ติ วา, ‘‘มา อากิรา’’ติ วา, ‘‘อปคจฺฉา’’ติ วา วทติ; เอวํ เยน เกนจิ อากาเรน กาเยน วา วาจาย วา ปฏิกฺขิตฺเต ปวารณา โหติ.
เอโก อภิหเฏ ภตฺเต ปวารณาย ภีโต หตฺถ อปเนตฺวา ปุนปฺปุนํ ปตฺเต โอทนํ อากิรนฺตํ ‘‘อากิร อากิร ¶ โกฏฺเฏตฺวา ปูเรหี’’ติ วทติ, เอตฺถ กถนฺติ? มหาสุมตฺเถโร ตาว ‘‘อนากิรณตฺถาย วุตฺตตฺตา ปวารณา โหตี’’ติ อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘‘อากิร ปูเรหี’ติ วทนฺตสฺส นาม ‘กสฺสจิ ปวารณา อตฺถี’ติ วตฺวา ‘น ปวาเรตี’’’ติ อาห. อปโร ภตฺตํ อภิหรนฺตํ ภิกฺขุํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘กึ อาวุโส อิโตปิ กิฺจิ คณฺหิสฺสสิ, ทมฺมิ เต กิฺจี’’ติ อาห. ตตฺราปิ ‘‘‘เอวํ นาคมิสฺสตี’ติ วุตฺตตฺตา ‘ปวารณา โหตี’’’ติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘‘คณฺหิสฺสสี’ติ วทนฺตสฺส นาม ‘กสฺสจิ ปวารณา อตฺถี’ติ วตฺวา ‘น ปวาเรตี’’’ติ อาห.
เอโก สมํสกํ รสํ อภิหริตฺวา ‘‘รสํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ตํ สุตฺวา ปฏิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถิ. ‘‘มจฺฉรสํ มํสรส’’นฺติ วุตฺเต ปฏิกฺขิปโต โหติ, ‘‘อิทํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเตปิ โหติเยว. มํสํ วิสุํ กตฺวา ‘‘มํสรสํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ตตฺถ เจ สาสปมตฺตมฺปิ มํสขณฺฑํ อตฺถิ ¶ ¶ , ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ. สเจ ปน ปริสฺสาวิโต โหติ, ‘‘วฏฺฏตี’’ติ อภยตฺเถโร อาห.
มํสรเสน อาปุจฺฉนฺตํ มหาเถโร ‘‘มุหุตฺตํ อาคเมหี’’ติ วตฺวา ‘‘ถาลกํ อาวุโส อาหรา’’ติ อาห. เอตฺถ กถนฺติ? มหาสุมตฺเถโร ตาว ‘‘อภิหารกสฺส คมนํ ปมํ อุปจฺฉินฺนํ, ตสฺมา ปวาเรตี’’ติ อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘อยํ กุหึ คจฺฉติ, กีทิสํ เอตสฺส คมนํ, คณฺหนฺตสฺสาปิ นาม ปวารณา อตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘น ปวาเรตี’’ติ อาห. กฬีรปนสาทีหิ มิสฺเสตฺวา มํสํ ปจนฺติ, ตํ คเหตฺวา ‘‘กฬีรสูปํ คณฺหถ, ปนสพฺยฺชนํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, เอวมฺปิ น ปวาเรติ. กสฺมา? อปวารณารหสฺส นาเมน วุตฺตตฺตา. สเจ ปน ‘‘มจฺฉสูปํ มํสสูป’’นฺติ วา ‘‘อิมํ คณฺหถา’’ติ วา วทนฺติ, ปวาเรติ. มํสกรมฺพโก นาม โหติ, ตํ ทาตุกาโมปิ ‘‘กรมฺพกํ คณฺหถา’’ติ วทติ, วฏฺฏติ; น ปวาเรติ. ‘‘มํสกรมฺพก’’นฺติ วา ‘‘อิท’’นฺติ วา วุตฺเต ปน ปวาเรติ. เอเสว นโย สพฺเพสุ มจฺฉมํสมิสฺสเกสุ.
โย ปน นิมนฺตเน ภฺุชมาโน มํสํ อภิหฏํ ‘‘อุทฺทิสฺส ¶ กต’’นฺติ มฺมาโน ปฏิกฺขิปติ, ปวาริโตว โหตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. มิสฺสกกถา ปน กุรุนฺทิยํ สุฏฺุ วุตฺตา. เอวฺหิ ตตฺถ วุตฺตํ – ปิณฺฑปาตจาริโก ภิกฺขุ ภตฺตมิสฺสกํ ยาคุํ อาหริตฺวา ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ วทติ, น ปวาเรติ. ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ปวาเรติ. กสฺมา? เยนาปุจฺฉิโต, ตสฺส อตฺถิตาย. อยเมตฺถ อธิปฺปาโย – ‘‘ยาคุมิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ตตฺร เจ ยาคุ พหุตรา วา โหติ สมสมา วา, น ปวาเรติ. ยาคุ มนฺทา, ภตฺตํ พหุตรํ, ปวาเรติ. อิทฺจ สพฺพอฏฺกถาสุ วุตฺตตฺตา น สกฺกา ปฏิกฺขิปิตุํ, การณํ ปเนตฺถ ทุทฺทสํ. ‘‘ภตฺตมิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ภตฺตํ พหุกํ วา สมํ วา อปฺปตรํ วา โหติ, ปวาเรติเยว. ภตฺตํ วา ยาคุํ วา อนามสิตฺวา ‘‘มิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ตตฺร เจ ภตฺตํ พหุตรํ วา สมกํ วา โหติ, ปวาเรติ. อปฺปตรํ น ปวาเรติ. อิทฺจ กรมฺพเกน น สมาเนตพฺพํ. กรมฺพโก หิ มํสมิสฺสโกปิ โหติ อมํสมิสฺสโกปิ, ตสฺมา ‘‘กรมฺพก’’นฺติ วุตฺเต ปวารณา นตฺถิ. อิทํ ปน ภตฺตมิสฺสกเมว. เอตฺถ วุตฺตนเยเนว ปวารณา โหติ. พหุรเส ภตฺเต รสํ, พหุขีเร ขีรํ พหุสปฺปิมฺหิ จ ¶ ปายาเส สปฺปึ คณฺหถาติ วิสุํ กตฺวา เทติ, ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถิ.
โย ปน คจฺฉนฺโต ปวาเรติ, โส คจฺฉนฺโตว ภฺุชิตุํ ลภติ. กทฺทมํ วา อุทกํ วา ปตฺวา ¶ ิเตน อติริตฺตํ กาเรตพฺพํ. สเจ อนฺตรา นที ปูรา โหติ, นทีตีเร คุมฺพํ อนุปริยายนฺเตน ภฺุชิตพฺพํ. อถ นาวา วา เสตุ วา อตฺถิ, ตํ อภิรุหิตฺวาปิ จงฺกมนฺเตนว ภฺุชิตพฺพํ, คมนํ น อุปจฺฉินฺทิตพฺพํ. ยาเน วา หตฺถิอสฺสปิฏฺเ วา จนฺทมณฺฑเล วา สูริยมณฺฑเล วา นิสีทิตฺวา ปวาริเตน ยาว มชฺฌนฺหิกํ, ตาว เตสุ คจฺฉนฺเตสุปิ นิสินฺเนเนว ภฺุชิตพฺพํ. โย ิโต ปวาเรติ, ิเตเนว, โย นิสินฺโน ปวาเรติ, นิสินฺเนเนว ภฺุชิตพฺพํ. ตํ ตํ อิริยาปถํ โกเปนฺเตน อติริตฺตํ กาเรตพฺพํ. โย อุกฺกุฏิโก นิสีทิตฺวา ปวาเรติ, เตน อุกฺกุฏิเกเนว ภฺุชิตพฺพํ. ตสฺส ปน เหฏฺา ปลาลปีํ วา กิฺจิ วา นิสีทนกํ ทาตพฺพํ. ปีเก นิสีทิตฺวา ปวาริเตน อาสนํ อจาเลตฺวาว จตสฺโส ทิสา ปริวตฺตนฺเตน ภฺุชิตุํ ลพฺภติ. มฺเจ นิสีทิตฺวา ¶ ปวาริเตน อิโต วา เอตฺโต วา สํสริตุํ น ลพฺภติ. สเจ ปน นํ สห มฺเจน อุกฺขิปิตฺวา อฺตฺร เนนฺติ, วฏฺฏติ. นิปชฺชิตฺวา ปวาริเตน นิปนฺเนเนว ภฺุชิตพฺพํ. ปริวตฺตนฺเตน เยน ปสฺเสน นิปนฺโน, ตสฺส านํ นาติกฺกเมตพฺพํ.
อนติริตฺตนฺติ น อติริตฺตํ; น อธิกนฺติ อตฺโถ. ตํ ปน ยสฺมา กปฺปิยกตาทีหิ สตฺตหิ วินยกมฺมากาเรหิ อกตํ วา คิลานสฺส อนธิกํ วา โหติ, ตสฺมา ปทภาชเน ‘‘อกปฺปิยกต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อกปฺปิยกตนฺติ ยํ ตตฺถ ผลํ วา กนฺทมูลาทิ วา ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ กปฺปิยํ อกตํ; ยฺจ อกปฺปิยมํสํ วา อกปฺปิยโภชนํ วา, เอตํ อกปฺปิยํ นาม. ตํ อกปฺปิยํ ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ เอวํ อติริตฺตํ กตมฺปิ อกปฺปิยกตนฺติ เวทิตพฺพํ. อปฺปฏิคฺคหิตกตนฺติ ภิกฺขุนา อปฺปฏิคฺคหิตํเยว ปุริมนเยเนว อติริตฺตํ กตํ. อนุจฺจาริตกตนฺติ กปฺปิยํ การาเปตุํ อาคเตน ภิกฺขุนา อีสกมฺปิ อนุกฺขิตฺตํ วา อนปนามิตํ วา กตํ. อหตฺถปาเส กตนฺติ กปฺปิยํ การาเปตุํ อาคตสฺส หตฺถปาสโต พหิ ิเตน กตํ. อภุตฺตาวินา กตนฺติ โย ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ อติริตฺตํ กโรติ, เตน ปวารณปฺปโหนกํ โภชนํ อภุตฺเตน กตํ. ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อาสนา วุฏฺิเตน กตนฺติ อิทํ อุตฺตานเมว. อลเมตํ สพฺพนฺติ อวุตฺตนฺติ วจีเภทํ กตฺวา เอวํ อวุตฺตํ โหติ. อิติ อิเมหิ ¶ สตฺตหิ วินยกมฺมากาเรหิ ยํ อติริตฺตํ กปฺปิยํ อกตํ, ยฺจ น คิลานาติริตฺตํ, ตทุภยมฺปิ อนติริตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อติริตฺตํ ปน ตสฺเสว ปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺพํ. อปิเจตฺถ ภุตฺตาวินา กตํ โหตีติ อนนฺตเร นิสินฺนสฺส สภาคสฺส ภิกฺขุโน ปตฺตโต เอกมฺปิ สิตฺถํ วา มํสหีรํ วา ขาทิตฺวา กตมฺปิ ภุตฺตาวินาว กตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. อาสนา อวุฏฺิเตนาติ เอตฺถ ปน อสมฺโมหตฺถํ อยํ ¶ วินิจฺฉโย – ทฺเว ภิกฺขู ปาโตว ภฺุชมานา ปวาริตา โหนฺติ – เอเกน ตตฺเถว นิสีทิตพฺพํ, อิตเรน นิจฺจภตฺตํ วา สลากภตฺตํ วา อาเนตฺวา อุปฑฺฒํ ตสฺส ภิกฺขุโน ปตฺเต อากิริตฺวา ¶ หตฺถํ โธวิตฺวา เสสํ เตน ภิกฺขุนา กปฺปิยํ การาเปตฺวา ภฺุชิตพฺพํ. กสฺมา? ยฺหิ ตสฺส หตฺเถ ลคฺคํ, ตํ อกปฺปิยํ โหติ. สเจ ปน ปมํ นิสินฺโน ภิกฺขุ สยเมว ตสฺส ปตฺตโต หตฺเถน คณฺหาติ, หตฺถโธวนกิจฺจํ นตฺถิ. สเจ ปน เอวํ กปฺปิยํ การาเปตฺวา ภฺุชนฺตสฺส ปุน กิฺจิ พฺยฺชนํ วา ขาทนียํ วา ปตฺเต อากิรนฺติ, เยน ปมํ กปฺปิยํ กตํ, โส ปุน กาตุํ น ลภติ. เยน อกตํ, เตน กาตพฺพํ. ยฺจ อกตํ, ตํ กาตพฺพํ. ‘‘เยน อกต’’นฺติ อฺเน ภิกฺขุนา เยน ปมํ น กตํ, เตน กาตพฺพํ. ‘‘ยฺจ อกต’’นฺติ เยน ปมํ กปฺปิยํ กตํ, เตนาปิ ยํ อกตํ ตํ กาตพฺพํ. ปมภาชเน ปน กาตุํ น ลพฺภติ. ตตฺถ หิ กริยมานํ ปมํ กเตน สทฺธึ กตํ โหติ, ตสฺมา อฺสฺมึ ภาชเน กาตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. เอวํ กตํ ปน เตน ภิกฺขุนา ปมํ กเตน สทฺธึ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
กปฺปิยํ กโรนฺเตน จ น เกวลํ ปตฺเตเยว, กุณฺเฑปิ ปจฺฉิยมฺปิ ยตฺถ กตฺถจิ ปุรโต เปตฺวา โอนามิตภาชเน กาตพฺพํ. ตํ สเจปิ ภิกฺขุสตํ ปวาริตํ โหติ, สพฺเพสํ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ, อปฺปวาริตานมฺปิ วฏฺฏติ. เยน ปน กปฺปิยํ กตํ, ตสฺส น วฏฺฏติ. สเจปิ ปวาเรตฺวา ปิณฺฑาย ปวิฏฺํ ภิกฺขุํ ปตฺตํ คเหตฺวา อวสฺสํ ภฺุชนเก มงฺคลนิมนฺตเน นิสีทาเปนฺติ, อติริตฺตํ กาเรตฺวาว ภฺุชิตพฺพํ. สเจ ตตฺถ อฺโ ภิกฺขุ นตฺถิ, อาสนสาลํ วา วิหารํ วา ปตฺตํ เปเสตฺวา กาเรตพฺพํ. กปฺปิยํ กโรนฺเตน ปน อนุปสมฺปนฺนสฺส หตฺเถ ิตํ น กาตพฺพํ. สเจ อาสนสาลายํ อพฺยตฺโต ภิกฺขุ โหติ, สยํ คนฺตฺวา กปฺปิยํ การาเปตฺวา อาเนตฺวา ภฺุชิตพฺพํ.
คิลานาติริตฺตนฺติ ¶ เอตฺถ น เกวลํ ยํ คิลานสฺส ภุตฺตาวเสสํ โหติ, ตํ คิลานาติริตฺตํ; อถ โข ยํกิฺจิ คิลานํ อุทฺทิสฺส อชฺช วา สฺเว วา ยทา วา อิจฺฉติ, ตทา ขาทิสฺสตีติ อาหฏํ, ตํ สพฺพํ ‘‘คิลานาติริตฺต’’นฺติ เวทิตพฺพํ. ยํ ยามกาลิกาทีสุ อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ทุกฺกฏํ, ตํ อสํสฏฺวเสน ¶ วุตฺตํ. สเจ ปน อามิสสํสฏฺานิ โหนฺติ, อาหารตฺถายปิ อนาหารตฺถายปิ ปฏิคฺคเหตฺวา อชฺโฌหรนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว.
๒๔๑. สติ ปจฺจเยติ ยามกาลิกํ ปิปาสาย สติ ปิปาสจฺเฉทนตฺถํ, สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกฺจ ¶ เตน เตน อุปสเมตพฺพเก อาพาเธ สติ ตสฺส อุปสมนตฺถํ ปริภฺุชโต อนาปตฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
กถินสมุฏฺานํ – กายวาจโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ปมปวารณสิกฺขาปทํ ปฺจมํ.
๖. ทุติยปวารณสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๔๒. ฉฏฺสิกฺขาปเท – อนาจารํ อาจรตีติ ปณฺณตฺติวีติกฺกมํ กโรติ. อุปนนฺธีติ อุปนาหํ ชเนนฺโต ตสฺมึ ปุคฺคเล อตฺตโน โกธํ พนฺธิ; ปุนปฺปุนํ อาฆาตํ ชเนสีติ อตฺโถ. อุปนทฺโธ ภิกฺขูติ โส ชนิตอุปนาโห ภิกฺขุ.
๒๔๓. อภิหฏฺุํ ปวาเรยฺยาติ อภิหริตฺวา ‘‘หนฺท ภิกฺขุ ขาท วา ภฺุช วา’’ติ เอวํ ปวาเรยฺย. ปทภาชเน ปน ‘‘หนฺท ภิกฺขู’’ติอาทึ อนุทฺธริตฺวา สาธารณเมว อภิหฏฺุํ ปวารณาย อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยาวตกํ อิจฺฉสิ ตาวตกํ คณฺหาหี’’ติ วุตฺตํ. ชานนฺติ ปวาริตภาวํ ชานนฺโต. ตํ ปนสฺส ชานนํ ยสฺมา ตีหากาเรหิ โหติ, ตสฺมา ‘‘ชานาติ นาม สามํ วา ชานาตี’’ติอาทินา นเยน ปทภาชนํ วุตฺตํ. อาสาทนาเปกฺโขติ อาสาทนํ โจทนํ มงฺกุกรณภาวํ อเปกฺขมาโน.
ปฏิคฺคณฺหาติ ¶ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ ยสฺส อภิหฏํ ตสฺมึ ปฏิคฺคณฺหนฺเต อภิหารกสฺส ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ. อิตรสฺส ปน สพฺโพ อาปตฺติเภโท ปมสิกฺขาปเท วุตฺโต, อิมสฺมึ ปน สิกฺขาปเท สพฺพา อาปตฺติโย อภิหารกสฺเสว เวทิตพฺพา. เสสํ ปมสิกฺขาปเท วุตฺตนยตฺตา ปากฏเมว.
ติสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
ทุติยปวารณสิกฺขาปทํ ฉฏฺํ.
๗. วิกาลโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๔๗. สตฺตมสิกฺขาปเท ¶ – คิรคฺคสมชฺโชติ คิริมฺหิ อคฺคสมชฺโช, คิริสฺส วา อคฺคเทเส สมชฺโช. โส กิร สตฺตเม ทิวเส ภวิสฺสตีติ ¶ นคเร โฆสนา กริยติ, นครสฺส พหิทฺธา สเม ภูมิภาเค ปพฺพตจฺฉายาย มหาชนกาโย สนฺนิปตติ, อเนกปฺปการานิ นฏนาฏกานิ ปวตฺตนฺติ, เตสํ ทสฺสนตฺถํ มฺจาติมฺเจ พนฺธนฺติ. สตฺตรสวคฺคิยา อปฺตฺเต สิกฺขาปเท ทหราว อุปสมฺปนฺนา, เต ‘‘นาฏกานิ อาวุโส ปสฺสิสฺสามา’’ติ ตตฺถ อคมํสุ. อถ เนสํ าตกา ‘‘อมฺหากํ อยฺยา อาคตา’’ติ ตุฏฺจิตฺตา นฺหาเปตฺวา วิลิมฺเปตฺวา โภเชตฺวา อฺมฺปิ ปูวขาทนียาทึ หตฺเถ อทํสุ. เต สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘มนุสฺสา สตฺตรสวคฺคิเย ภิกฺขู ปสฺสิตฺวา’’ติอาทิ.
๒๔๘-๙. วิกาเลติ วิคเต กาเล. กาโลติ ภิกฺขูนํ โภชนกาโล อธิปฺเปโต, โส จ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน มชฺฌนฺหิโก, ตสฺมึ วีติวตฺเตติ อธิปฺปาโย. เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘วิกาโล นาม มชฺฌนฺหิเก วีติวตฺเต ยาว อรุณุคฺคมนา’’ติ วุตฺตํ, ิตมชฺฌนฺหิโกปิ กาลสงฺคหํ คจฺฉติ. ตโต ปฏฺาย ปน ขาทิตุํ วา ภฺุชิตุํ วา น สกฺกา, สหสา ปิวิตุํ สกฺกา ภเวยฺย, กุกฺกุจฺจเกน ปน น กตฺตพฺพํ. กาลปริจฺเฉทชานนตฺถฺจ กาลตฺถมฺโภ โยเชตพฺโพ, กาลนฺตเรว ภตฺตกิจฺจํ กาตพฺพํ.
อวเสสํ ¶ ขาทนียํ นามาติ เอตฺถ ยํ ตาว สกฺขลิโมทกาทิปุพฺพณฺณาปรณฺณมยํ, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ยมฺปิ วนมูลาทิปฺปเภทํ อามิสคติกํ โหติ, เสยฺยถิทํ – มูลขาทนียํ กนฺทขาทนียํ มูฬาลขาทนียํ มตฺถกขาทนียํ ขนฺธขาทนียํ ตจขาทนียํ ปตฺตขาทนียํ ปุปฺผขาทนียํ ผลขาทนียํ อฏฺิขาทนียํ ปิฏฺขาทนียํ นิยฺยาสขาทนียนฺติ, อิทมฺปิ ขาทนียสงฺขฺยเมว คจฺฉติ.
ตตฺถ ปน อามิสคติกสลฺลกฺขณตฺถํ อิทํ มุขมตฺตนิทสฺสนํ – มูลขาทนีเย ตาว มูลกมูลํ ขารกมูลํ จจฺจุมูลํ ตมฺพกมูลํ ตณฺฑุเลยฺยกมูลํ วตฺถุเลยฺยกมูลํ วชกลิมูลํ ชชฺฌรีมูลนฺติ เอวมาทีนิ สูเปยฺยปณฺณมูลานิ ¶ อามิสคติกานิ. เอตฺถ จ วชกลิมูเล ชรฏฺํ ฉินฺทิตฺวา ฉฑฺเฑนฺติ, ตํ ยาวชีวิกํ โหติ. อฺมฺปิ เอวรูปํ เอเตเนว นเยน เวทิตพฺพํ. มูลกขารกชชฺฌรีมูลานํ ปน ชรฏฺานิปิ อามิสคติกาเนวาติ วุตฺตํ. ยานิ ปน ปาฬิยํ –
‘‘อนุชานามิ ¶ , ภิกฺขเว, มูลานิ เภสชฺชานิ หลิทฺทึ สิงฺคิเวรํ วจํ วจตฺตํ อติวิสํ กฏุกโรหิณึ อุสีรํ ภทฺทมุตฺตกํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ มูลานิ เภสชฺชานิ เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๖๓) –
วุตฺตานิ, ตานิ ยาวชีวิกานิ. เตสํ จูฬปฺจมูลํ มหาปฺจมูลนฺติอาทินา นเยน คณิยมานานํ คณนาย อนฺโต นตฺถิ. ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณาภาโวเยว ปน เตสํ ลกฺขณํ. ตสฺมา ยํกิฺจิ มูลํ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรติ, ตํ ยาวกาลิกํ; อิตรํ ยาวชีวิกนฺติ เวทิตพฺพํ. เตสุ พหุํ วตฺวาปิ หิ อิมสฺมึเยว ลกฺขเณ าตพฺพํ. นามสฺาสุ ปน วุจฺจมานาสุ ตํ ตํ นามํ อชานนฺตานํ สมฺโมโหเยว โหติ, ตสฺมา นามสฺาย อาทรํ อกตฺวา ลกฺขณเมว ทสฺสิตํ.
ยถา จ มูเล; เอวํ กนฺทาทีสุปิ ยํ ลกฺขณํ ทสฺสิตํ, ตสฺเสว วเสน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ยฺจ ตํ ปาฬิยํ หลิทฺทาทิ อฏฺวิธํ วุตฺตํ, ตสฺส ขนฺธตจปุปฺผผลมฺปิ สพฺพํ ยาวชีวิกนฺติ วุตฺตํ.
กนฺทขาทนีเย ¶ ทุวิโธ กนฺโท – ทีโฆ จ รสฺโส จ ภิสกึสุกกนฺทาทิ วฏฺโฏ อุปฺปลกเสรุกกนฺทาทิ, ยํ ‘‘คณฺี’’ติปิ วทนฺติ. ตตฺถ สพฺเพสํ กนฺทานํ ชิณฺณชรฏฺานฺจ ฉลฺลิ จ สุขุมมูลานิ จ ยาวชีวิกานิ. ตรุโณ ปน สุขขาทนีโย, สาลกลฺยาณีโปตกกนฺโท กึสุกโปตกกนฺโท อมฺพาฏกกนฺโท เกตกกนฺโท มาลุวกนฺโท ภิสสงฺขาโต ปทุมปุณฺฑรีกกนฺโท ปิณฺฑาลุมสาลุอาทโย จ ¶ ขีรวลฺลิกนฺโท อาลุวกนฺโท สิคฺคุกนฺโท ตาลกนฺโท นีลุปฺปลรตฺตุปฺปลกุมุทโสคนฺธิกานํ กนฺทา กทลิกนฺโท เวฬุกนฺโท กเสรุกกนฺโทติ เอวมาทโย เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถฺจ โภชนียตฺถฺจ ผรณกกนฺทา ยาวกาลิกา.
ขีรวลฺลิกนฺโท อโธโต ยาวชีวิโก, โธโต ยาวกาลิโก. ขีรกาโกลีชีวิกอุสภกลสุณาทิกนฺทา ปน ยาวชีวิกา. เต ปาฬิยํ – ‘‘ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ มูลานิ เภสชฺชานี’’ติ เอวํ มูลเภสชฺชสงฺคเหเนว สงฺคหิตา.
มูฬาลขาทนีเย ปน ปทุมมูฬาลํ ปุณฺฑรีกมุฬาลสทิสเมว. เอรกมูลํ กนฺทุลมูลนฺติ เอวมาทิ ¶ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถฺจ โภชนียตฺถฺจ ผรณกมุฬาลํ ยาวกาลิกํ. หลิทฺทิสิงฺคิเวรมกจิจตุรสฺสวลฺลิเกตกตาลหินฺตาลกุนฺตาลนาฬิเกรปูครุกฺขาทิมุฬาลํ ปน ยาวชีวิกํ, ตํ สพฺพมฺปิ ปาฬิยํ – ‘‘ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ มูลานิ เภสชฺชานี’’ติ (มหาว. ๒๖๓) เอวํ มูลเภสชฺชสงฺคเหเนว สงฺคหิตํ.
มตฺถกขาทนีเย ตาลหินฺตาลกุนฺตาลเกตกนาฬิเกรปูครุกฺขขชฺชูรีเวตฺตเอรกกทลีนํ กฬีรสงฺขาตา มตฺถกา เวณุกฬีโร นฬกฬีโร อุจฺฉุกฬีโร มูลกกฬีโร สาสปกฬีโร สตาวริกฬีโร สตฺตนฺนํ ธฺานํ กฬีราติ เอวมาทิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณโก รุกฺขวลฺลิอาทีนํ มตฺถโก ยาวกาลิโก. หลิทฺทิสิงฺคิเวรวจมกจิลสุณานํกฬีรา ตาลหินฺตาลกุนฺตาลนาฬิเกรกฬีรานฺจ ฉินฺทิตฺวา ปาติโต ชรฏฺพุนฺโท ยาวชีวิโก.
ขนฺธขาทนีเย ¶ อนฺโตปถวีคโต สาลกลฺยาณีขนฺโธ อุจฺฉุขนฺโธ นีลุปฺปลรตฺตุปฺปลกุมุทโสคนฺธิกานํ ขนฺธกาติ เอวมาทิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณโก ขนฺโธ ยาวกาลิโก. อุปฺปลชาตีนํ ปณฺณทณฺฑโก ปทุมชาตีนํ สพฺโพปิ ทณฺฑโก การวินฺทกทณฺฑาทโย จ อวเสสสพฺพขนฺธา ¶ ยาวชีวิกา.
ตจขาทนีเย อุจฺฉุตโจว เอโก ยาวกาลิโก, โสปิ สรโส. เสโส สพฺโพ ยาวชีวิโก. เตสํ ปน มตฺถกขนฺธตจานํ ติณฺณํ ปาฬิยํ กสาวเภสชฺเชน สงฺคโห เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กสาวานิ เภสชฺชานิ นิมฺพกสาวํ, กุฏชกสาวํ, ปโฏลกสาวํ, ผคฺควกสาวํ นตฺตมาลกสาวํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ กสาวานิ เภสชฺชานิ เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๖๓).
เอตฺถ หิ เอเตสมฺปิ สงฺคโห สิชฺฌติ. วุตฺตกสาวานิ จ สพฺพานิ กปฺปิยานีติ เวทิตพฺพานิ.
ปตฺตขาทนีเย ¶ มูลกํ ขารโก จจฺจุ ตมฺพโก ตณฺฑุเลยฺยโก ปปุนฺนาโค วตฺถุเลยฺยโก วชกลิ ชชฺฌรี เสลฺลุ สิคฺคุ กาสมทฺทโก อุมฺมา จีนมุคฺโค มาโส ราชมาโส เปตฺวา มหานิปฺผาวํ อวเสสนิปฺผาโว อคฺคิมนฺโถ สุนิสนฺนโก เสตวรโณ นาฬิกา ภูมิยํ ชาตโลณีติ เอเตสํ ปตฺตานิ อฺานิ จ เอวรูปานิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณกานิ ปตฺตานิ เอกํเสน ยาวกาลิกานิ. ยา ปนฺา มหานขปิฏฺิมตฺตา ปณฺณโลณิ รุกฺเข จ คจฺเฉ จ อาโรหติ, ตสฺสา ปตฺตํ ยาวชีวิกํ. พฺรหฺมีปตฺตฺจ ยาวกาลิกนฺติ ทีปวาสิโน วทนฺติ. อมฺพปลฺลวํ ยาวกาลิกํ, อโสกปลฺลวํ ปน ยาวชีวิกํ.
ยานิ วา ปนฺานิ ปาฬิยํ –
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปณฺณานิ เภสชฺชานิ นิมฺพปณฺณํ กุฏชปณฺณํ ปโฏลปณฺณํ สุลสิปณฺณํ กปฺปาสกปณฺณํ ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ ¶ ปณฺณานิ เภสชฺชานิ เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๖๓) –
วุตฺตานิ, ตานิ ยาวชีวิกานิ. น เกวลฺจ ปณฺณานิเยว เตสํ ¶ ปุปฺผผลาทีนิปิ ยาวชีวิกานิ. ปณฺณานํ ผคฺควปณฺณํ อชฺชุกปณฺณํ ผณิชฺชกปณฺณํ ปโฏลปณฺณํ ตมฺพูลปณฺณํ ปทุมินิปณฺณนฺติ เอวํ คณนวเสน อนฺโต นตฺถิ.
ปุปฺผขาทนีเย มูลกปุปฺผํ ขารกปุปฺผํ จจฺจุปุปฺผํ ตมฺพกปุปฺผํ วชกลิปุปฺผํ ชชฺฌรีปุปฺผํ จูฬนิปฺผาวปุปฺผํ มหานิปฺผาวปุปฺผํ กเสรุกปุปฺผํ นาฬิเกรตาลเกตกานํ ตรุณปุปฺผานิ เสตวรณปุปฺผํ สิคฺคุปุปฺผํ อุปฺปลปทุมชาติกานํ ปุปฺผานิ กณฺณิกมตฺตํ อคนฺธิกปุปฺผํ กฬีรปุปฺผํ ชีวนฺตีปุปฺผนฺติ เอวมาทิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณกปุปฺผํ ยาวกาลิกํ. อโสกพกุลกุยฺยกปุนฺนาคจมฺปกชาติกณวีรกณิการกุนฺทนวมาลิกมลฺลิกาทีนํ ปน ปุปฺผํ ยาวชีวิกํ ตสฺส คณนาย อนฺโต นตฺถิ. ปาฬิยํ ปนสฺส กสาวเภสชฺเชเนว สงฺคโห เวทิตพฺโพ.
ผลขาทนีเย ปนสลพุชตาลนาฬิเกรอมฺพชมฺพูอมฺพาฏกตินฺติณิกมาตุลุงฺคกปิตฺถลาพุกุมฺภณฺฑปุสฺสผลติมฺพรูสกติปุสวาติงฺคณโจจโมจมธุกาทีนํ ผลานิ ยานิ โลเก เตสุ ¶ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรนฺติ, สพฺพานิ ตานิ ยาวกาลิกานิ. นามคณนวเสน เนสํ น สกฺกา ปริยนฺตํ ทสฺเสตุํ. ยานิ ปน ปาฬิยํ –
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ผลานิ เภสชฺชานิ – พิลงฺคํ, ปิปฺผลึ, มริจํ, หรีตกํ, วิภีตกํ, อามลกํ, โคฏฺผลํ, ยานิ ¶ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ ผลานิ เภสชฺชานิ เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๖๓) –
วุตฺตานิ, ตานิ ยาวชีวิกานิ. เตสมฺปิ อปริปกฺกานิ อจฺฉิว พิมฺพวรณเกตกกาสฺมรีอาทีนํ ผลานิ ชาติผลํ กฏุกผลํ เอฬา ตกฺโกลนฺติ เอวํ นามวเสน น สกฺกา ปริยนฺตํ ทสฺเสตุํ.
อฏฺิขาทนีเย ¶ ลพุชฏฺิ ปนสฏฺิ อมฺพาฏกฏฺิ สาลฏฺิ ขชฺชูรีเกตกติมฺพรูสกานํ ตรุณผลฏฺิ ตินฺติณิกฏฺิ พิมฺพผลฏฺิ อุปฺปล ปทุมชาตีนํ โปกฺขรฏฺีติ เอวมาทีนิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ มนุสฺสานํ ปกติอาหารวเสน ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณกานิ อฏฺีนิ ยาวกาลิกานิ. มธุกฏฺิ ปุนฺนาคฏฺิ หรีตกาทีนํ อฏฺีนิ สิทฺธตฺถกฏฺิ ราชิกฏฺีติ เอวมาทีนิ อฏฺีนิ ยาวชีวิกานิ. เตสํ ปาฬิยํ ผลเภสชฺเชเนว สงฺคโห เวทิตพฺโพ.
ปิฏฺขาทนีเย สตฺตนฺนํ ตาว ธฺานํ ธฺานุโลมานํ อปรณฺณานฺจ ปิฏฺํ ปนสปิฏฺํ ลพุชปิฏฺํ อมฺพาฏกปิฏฺํ สาลปิฏฺํ โธตกตาลปิฏฺฺจ ขีรวลฺลิปิฏฺฺจาติ เอวมาทีนิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณกานิ ปิฏฺานิ ยาวกาลิกานิ. อโธตกํ ตาลปิฏฺํ ขีรวลฺลิปิฏฺํ อสฺสคนฺธาทิปิฏฺานิ จ ยาวชีวิกานิ. เตสํ ปาฬิยํ กสาเวหิ จ มูลผเลหิ จ สงฺฆโห เวทิตพฺโพ.
นิยฺยาสขาทนีเย เอโก อุจฺฉุนิยฺยาโสว สตฺตาหกาลิโก. เสสา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ชตูนิ เภสชฺชานิ – หิงฺคุํ หิงฺคุชตุํ หิงฺคุสิปาฏิกํ ตกํ ตกปตฺตึ ตกปณฺณึ สชฺชุลสํ ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ ชตูนิ เภสชฺชานี’’ติ (มหาว. ๒๖๓) เอวํ ปาฬิยํ วุตฺตนิยฺยาสา ยาวชีวิกา. ตตฺถ เยวาปนกวเสน สงฺคหิตานํ อมฺพนิยฺยาโส กณิการนิยฺยาโสติ เอวํ นามวเสน น สกฺกา ปริยนฺตํ ทสฺเสตุํ. เอวํ อิเมสุ มูลขาทนียาทีสุ ¶ ยํกิฺจิ ยาวกาลิกํ, สพฺพมฺปิ อิมสฺมึ อตฺเถ ‘‘อวเสสํ ขาทนียํ นามา’’ติ สงฺคหิตํ ¶ .
โภชนียํ นาม ปฺจ โภชนานีติอาทิมฺหิ ยํ วตฺตพฺพํ ตํ วุตฺตเมว. ขาทิสฺสามิ ภฺุชิสฺสามีติ, ปฏิคฺคณฺหาตีติ โย ภิกฺขุ วิกาเล เอตํ ขาทนียํ โภชนียฺจ ปฏิคฺคณฺหาติ, ตสฺส ปฏิคฺคหเณ ตาว อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กายโต จ กายจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
วิกาลโภชนสิกฺขาปทํ สตฺตมํ.
๘. สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๕๒. อฏฺมสิกฺขาปเท ¶ – เพลฏฺสีโส นาม ชฏิลสหสฺสพฺภนฺตโร มหาเถโร. อรฺเ วิหรตีติ เชตวนสฺส อวิทูเร ปธานฆเร เอกสฺมึ อาวาเส วสติ. สุกฺขกุรนฺติ อสูปพฺยฺชนํ โอทนํ. โส กิร อนฺโตคาเม ภฺุชิตฺวา ปจฺฉา ปิณฺฑาย จริตฺวา ตาทิสํ โอทนํ อาหรติ, ตฺจ โข อปฺปิจฺฉตาย, น ปจฺจยคิทฺธตาย. เถโร กิร สตฺตาหํ นิโรธสมาปตฺติยา วีตินาเมตฺวา สมาปตฺติโต วุฏฺาย ตํ ปิณฺฑปาตํ อุทเกน เตเมตฺวา ภฺุชติ, ตโต ปุน สตฺตาหํ สมาปตฺติยา นิสีทติ. เอวํ ทฺเวปิ ตีณิปิ จตฺตาริปิ สตฺตาหานิ วีตินาเมตฺวา คามํ ปิณฺฑาย ปวิสติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘จิเรน คามํ ปิณฺฑาย ปวิสตี’’ติ.
๒๕๓. กาโร กรณํ กิริยาติ อตฺถโต เอกํ, สนฺนิธิกาโร อสฺสาติ สนฺนิธิการํ; สนฺนิธิการเมว สนฺนิธิการกํ. ปฏิคฺคเหตฺวา เอกรตฺตํ วีตินามิตสฺเสตํ อธิวจนํ. เตเนวสฺส ปทภาชเน วุตฺตํ – ‘‘สนฺนิธิการกํ นาม อชฺช ปฏิคฺคหิตํ อปรชฺชู’’ติ.
ปฏิคฺคณฺหาติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอวํ สนฺนิธิกตํ ยํกิฺจิ ยาวกาลิกํ วา ยามกาลิกํ วา อชฺโฌหริตุกามตาย คณฺหนฺตสฺส ปฏิคฺคหเณ ตาว อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อชฺโฌหรโต ปน เอกเมกสฺมึ อชฺโฌหาเร ปาจิตฺติยํ. สเจปิ ปตฺโต ทุทฺโธโต โหติ, ยํ องฺคุลิยา ฆํสนฺตสฺส เลขา ปฺายติ, คณฺิกปตฺตสฺส วา คณฺิกนฺตเร สฺเนโห ปวิฏฺโ โหติ, โส ¶ อุณฺเห โอตาเปนฺตสฺส ปคฺฆรติ, อุณฺหยาคุยา วา คหิตาย สนฺทิสฺสติ, ตาทิเส ปตฺเตปิ ปุนทิวเส ภฺุชนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. ตสฺมา ปตฺตํ โธวิตฺวา ปุน ตตฺถ อจฺโฉทกํ วา อาสิฺจิตฺวา องฺคุลิยา วา ฆํสิตฺวา นิสฺเนหภาโว ¶ ชานิตพฺโพ. สเจ หิ อุทเก วา สฺเนหภาโว ปตฺเต วา องฺคุลิเลขา ปฺายติ, ทุทฺโธโต โหติ. เตลวณฺณปตฺเต ปน องฺคุลิเลขา ปฺายติ, สา อพฺโพหาริกา. ยํ ภิกฺขู นิรเปกฺขา สามเณรานํ ปริจฺจชนฺติ, ตฺเจ สามเณรา นิทหิตฺวา เทนฺติ, สพฺพํ วฏฺฏติ. สยํ ปฏิคฺคเหตฺวา อปริจฺจตฺตเมว หิ ทุติยทิวเส น วฏฺฏติ. ตโต หิ เอกสิตฺถมฺปิ อชฺโฌหรโต ปาจิตฺติยเมว.
อกปฺปิยมํเสสุ ¶ มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจเยน สทฺวึ ปาจิตฺติยํ, อวเสเสสุ ทุกฺกเฏน สทฺธึ. ยามกาลิกํ สติ ปจฺจเย อชฺโฌหรโต ปาจิตฺติยํ. อาหารตฺถาย อชฺโฌหรโต ทุกฺกเฏน สทฺธึ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปวาริโต หุตฺวา อนติริตฺตกตํ อชฺโฌหรติ, ปกติอามิเส ทฺเว ปาจิตฺติยานิ, มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจเยน สทฺธึ ทฺเว, เสสอกปฺปิยมํเส ทุกฺกเฏน สทฺธึ, ยามกาลิกํ สติ ปจฺจเย สามิเสน มุเขน อชฺโฌหรโต ทฺเว, นิรามิเสน เอกเมว. อาหารตฺถาย อชฺโฌหรโต วิกปฺปทฺวเยปิ ทุกฺกฏํ วฑฺฒติ. สเจ วิกาเล อชฺโฌหรติ, ปกติโภชเน สนฺนิธิปจฺจยา จ วิกาลโภชนปจฺจยา จ ทฺเว ปาจิตฺติยานิ, อกปฺปิยมํเสสุ ถุลฺลจฺจยฺจ ทุกฺกฏฺจ วฑฺฒติ. ยามกาลิเกสุ วิกาลปจฺจยา อนาปตฺติ, อนติริตฺตปจฺจยา ปน วิกาเล สพฺพวิกปฺเปสุ อนาปตฺติ.
๒๕๕. สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ อาหารตฺถายาติ อาหารตฺถาย ปฏิคฺคณฺหโต ปฏิคฺคหณปจฺจยา ตาว ทุกฺกฏํ, อชฺโฌหรโต ปน สเจ นิรามิสํ โหติ, อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ทุกฺกฏํ. อถ อามิสสํสฏฺํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตํ โหติ, ยถาวตฺถุกํ ปาจิตฺติยเมว.
๒๕๖. อนาปตฺติ ยาวกาลิกนฺติอาทิมฺหิ วิกาลโภชนสิกฺขาปเท นิทฺทิฏฺํ ขาทนียโภชนียํ ยาว มชฺฌนฺติกสงฺขาโต กาโล, ตาว ภฺุชิตพฺพโต ยาวกาลิกํ. สทฺธึ อนุโลมปาเนหิ อฏฺวิธํ ปานํ ยาว รตฺติยา ปจฺฉิมยามสงฺขาโต ยาโม, ตาว ปริภฺุชิตพฺพโต ยาโม กาโล อสฺสาติ ยามกาลิกํ. สปฺปิอาทิ ปฺจวิธํ เภสชฺชํ สตฺตาหํ นิเธตพฺพโต สตฺตาโห กาโล อสฺสาติ สตฺตาหกาลิกํ. เปตฺวา อุทกํ อวเสสํ สพฺพมฺปิ ยาวชีวํ ปริหริตฺวา สติ ปจฺจเย ปริภฺุชิตพฺพโต ยาวชีวกนฺติ วุจฺจติ ¶ .
ตตฺถ อรุโณทเยว ปฏิคฺคหิตํ ยาวกาลิกํ สตกฺขตฺตุมฺปิ นิทหิตฺวา ยาวกาโล นาติกฺกมติ ¶ ตาว, ยามกาลิกํ เอกํ อโหรตฺตํ, สตฺตาหกาลิกํ สตฺตรตฺตํ, อิตรํ สติ ปจฺจเย, ยาวชีวมฺปิ ปริภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อฏฺกถาสุ ปน อิมสฺมึ าเน ปานกถา กปฺปิยานุโลมกถา ‘‘กปฺปติ นุ โข ยาวกาลิเกน ยามกาลิก’’นฺติอาทิกถา จ กปฺปิยภูมิกถา จ วิตฺถาริตา, ตํ มยํ อาคตฏฺาเนเยว กถยิสฺสาม.
เอฬกโลมสมุฏฺานํ ¶ – กายโต จ กายจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
สนฺนิธิการกสิกฺขาปทํ อฏฺมํ.
๙. ปณีตโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๕๗. นวมสิกฺขาปเท – ปณีตโภชนานีติ อุตฺตมโภชนานิ. กสฺส สมฺปนฺนํ น มนาปนฺติ สมฺปตฺติยุตฺตํ กสฺส น ปิยํ. สาทุนฺติ สุรสํ.
๒๕๙. โย ปน ภิกฺขุ เอวรูปานิ ปณีตโภชนานิ อคิลาโน อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภฺุเชยฺยาติ เอตฺถ สุทฺธานิ สปฺปิอาทีนิ วิฺาเปตฺวา ภฺุชนฺโต ปาจิตฺติยํ นาปชฺชติ, เสขิเยสุ สูโปทนวิฺตฺติทุกฺกฏํ อาปชฺชติ, โอทนสํสฏฺานิ ปน วิฺาเปตฺวา ภฺุชนฺโต ปาจิตฺติยํ อาปชฺชตีติ เวทิตพฺโพ, อยํ กิเรตฺถ อธิปฺปาโย. เตเนว จ ‘‘ปณีตานี’’ติ อวตฺวา ‘‘ปณีตโภชนานี’’ติ สุตฺเต วุตฺตํ. ‘‘ปณีตานี’’ติ หิ วุตฺเต สปฺปิอาทีนํเยว คหณํ โหติ, ‘‘ปณีตโภชนานี’’ติ วุตฺเต ปน ปณีตสํสฏฺานิ สตฺตธฺนิพฺพตฺตานิ โภชนานิ ปณีตโภชนานีติ อยมตฺโถ ปฺายติ.
อิทานิ วิฺาเปติ ปโยเค ทุกฺกฏนฺติอาทีสุ อยํ วินิจฺฉโย – ‘‘สปฺปินา ภตฺตํ เทหิ, สปฺปึ อากิริตฺวา เทหิ, สปฺปิมิสฺสกํ กตฺวา เทหิ, สหสปฺปินา เทหิ, สปฺปิฺจ ภตฺตฺจ เทหี’’ติ วิฺาเปนฺตสฺส วิฺตฺติยา ทุกฺกฏํ, ปฏิคฺคหเณ ทุกฺกฏํ, อชฺโฌหาเร ปาจิตฺติยํ. ‘‘สปฺปิภตฺตํ เทหี’’ติ วุตฺเต ปน ยสฺมา สาลิภตฺตํ วิย สปฺปิภตฺตํ นาม นตฺถิ; ตสฺมา สูโปทนวิฺตฺติทุกฺกฏเมว เวทิตพฺพํ.
สเจ ¶ ปน ‘‘สปฺปินา ภตฺตํ เทหี’’ติ วุตฺเต ภตฺตํ ทตฺวา ‘‘สปฺปึ กตฺวา ภฺุชา’’ติ นวนีตํ วา ขีรํ วา ทธึ วา เทติ, มูลํ วา ¶ ปน เทติ, ‘‘อิมินา สปฺปึ คเหตฺวา ภฺุชา’’ติ ยถาวตฺถุกเมว. ‘‘โคสปฺปินา ภตฺตํ เทหี’’ติ วุตฺเต ปน โคสปฺปินา วา เทตุ, โคสปฺปิมฺหิ อสติ, ปุริมนเยเนว โคนวนีตาทีนิ วา คาวึเยว วา เทตุ ‘‘อิโต สปฺปินา ภฺุชา’’ติ ยถาวตฺถุกเมว. สเจ ¶ ปน โคสปฺปินา ยาจิโต อชิยา สปฺปิอาทีหิ เทติ, วิสงฺเกตํ. เอวฺหิ สติ อฺํ ยาจิเตน อฺํ ทินฺนํ นาม โหติ, ตสฺมา อนาปตฺติ. เอส นโย อชิยา สปฺปินา เทหีติ อาทีสุปิ.
‘‘กปฺปิยสปฺปินา เทหี’’ติ วุตฺเต อกปฺปิยสปฺปินา เทติ, วิสงฺเกตเมว. ‘‘อกปฺปิยสปฺปินาติ วุตฺเต อกปฺปิยสปฺปินา เทติ, ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ ทุกฺกฏเมว. อกปฺปิยสปฺปิมฺหิ อสติ ปุริมนเยเนว อกปฺปิยนวนีตาทีนิ เทติ ‘‘สปฺปึ กตฺวา ภฺุชา’’ติ อกปฺปิยสปฺปินาว ทินฺนํ โหติ. ‘‘อกปฺปิยสปฺปินา’’ติ วุตฺเต กปฺปิเยน เทติ, วิสงฺเกตํ. ‘‘สปฺปินา’’ติ วุตฺเต เสเสสุ นวนีตาทีสุ อฺตเรน เทติ, วิสงฺเกตเมว. เอส นโย นวนีเตน เทหีติอาทีสุปิ. เยน เยน หิ วิฺตฺติ โหติ, ตสฺมึ วา ตสฺส มูเล วา ลทฺเธ, ตํ ตํ ลทฺธเมว โหติ.
สเจ ปน อฺํ ปาฬิยา อาคตํ วา อนาคตํ วา เทนฺติ, วิสงฺเกตํ. ปาฬิยํ อาคตนวนีตาทีนิ เปตฺวา อฺเหิ นวนีตาทีหิ วิฺาเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ยถา จ ‘‘สปฺปิภตฺตํ เทหี’’ติ วุตฺเต สาลิภตฺตสฺส วิย สปฺปิภตฺตสฺส อภาวา สูโปทนวิฺตฺติทุกฺกฏเมว โหตีติ วุตฺตํ. เอวํ นวนีตภตฺตํ เทหีติอาทีสุปิ. ปฏิปาฏิยา เอกเมกํ วิตฺถาเรตฺวา วุจฺจมาเนปิ หิ อยเมวตฺโถ วตฺตพฺโพ สิยา, โส จ สงฺเขเปนปิ สกฺกา าตุํ, กึ ตตฺถ วิตฺถาเรน? เตน วุตฺตํ – ‘‘เอส นโย นวนีเตน เทหีติอาทีสุปี’’ติ.
สเจ ปน สพฺเพหิปิ สปฺปิอาทีหิ เอกฏฺาเน วา นานาฏฺาเน วา วิฺาเปตฺวา ปฏิลทฺธํ เอกภาชเน อากิริตฺวา เอกรสํ กตฺวา ตโต กุสคฺเคนาปิ ชิวฺหคฺเค พินฺทุํ เปตฺวา อชฺโฌหรติ, นว ปาจิตฺติยานิ อาปชฺชติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ปริวาเร –
‘‘กายิกานิ น วาจสิกานิ,
สพฺพานิ นานาวตฺถุกานิ;
อปุพฺพํ ¶ อจริมํ อาปชฺเชยฺย เอกโต,
ปฺหาเมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๘๑);
๒๖๑. อคิลาโน ¶ คิลานสฺีติ เอตฺถ สเจ คิลานสฺีปิ หุตฺวา เภสชฺชตฺถาย ปฺจ เภสชฺชานิ วิฺาเปติ, มหานามสิกฺขาปเทน กาเรตพฺโพ ¶ . นว ปณีตโภชนานิ วิฺาเปนฺโต ปน อิมินา สิกฺขาปเทน กาเรตพฺโพ. ภิกฺขุนีนํ ปน เอตานิ ปาฏิเทสนียวตฺถูนิ โหนฺติ, สูโปทนวิฺตฺติยํ อุภเยสมฺปิ เสขปณฺณตฺติทุกฺกฏเมว. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
จตุสมุฏฺานํ – กายโต กายวาจโต กายจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ,
กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ปณีตโภชนสิกฺขาปทํ นวมํ.
๑๐. ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๖๓. ทสมสิกฺขาปเท – จตูสุ ปจฺจเยสุ อนฺตมโส ทนฺตกฏฺมฺปิ สพฺพํ ปํสุกูลเมว อสฺสาติ สพฺพปํสุกูลิโก. โส กิร สุสาเน ฉฑฺฑิตภาชนเมว ปตฺตํ กตฺวา ตตฺถ ฉฑฺฑิตโจฬเกเหว จีวรํ กตฺวา ตตฺถ ฉฑฺฑิตมฺจปีกานิเยว คเหตฺวา ปริภฺุชติ. อยฺยโวสาฏิตกานีติ เอตฺถ อยฺยา วุจฺจนฺติ กาลงฺกตา ปิติปิตามหา. โวสาฏิตกานิ วุจฺจนฺติ เตสํ อตฺถาย สุสานาทีสุ ฉฑฺฑิตกานิ ขาทนียโภชนียานิ; มนุสฺสา กิร กาลงฺกเต าตเก อุทฺทิสฺส ยํ เตสํ สชีวกาเล ปิยํ โหติ, ตํ เอเตสุ สุสานาทีสุ ปิณฺฑํ ปิณฺฑํ กตฺวา ‘‘าตกา โน ปริภฺุชนฺตูติ เปนฺติ. โส ภิกฺขุ ตํ คเหตฺวา ภฺุชติ, อฺํ ปณีตมฺปิ ทิยฺยมานํ น อิจฺฉติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สุสาเนปิ รุกฺขมูเลปิ อุมฺมาเรปิ อยฺยโวสาฏิตกานิ สามํ คเหตฺวา ปริภฺุชตี’’ติ. เถโรติ ถิโร ฆนพทฺโธ. วโรติ ถูโล; ถูโล จ ฆนสรีโร จายํ ภิกฺขูติ วุตฺตํ โหติ. มนุสฺสมํสํ มฺเ ขาทตีติ มนุสฺสมํสํ ขาทตีติ นํ สลฺลกฺเขม; มนุสฺสมํสํ ขาทนฺตา หิ อีทิสา ภวนฺตีติ อยํ เตสํ อธิปฺปาโย.
๒๖๔. อุทกทนฺตโปเน กุกฺกุจฺจายนฺตีติ เอตฺถ เต ภิกฺขู ‘‘อทินฺนํ มุขทฺวารํ อาหารํ อาหเรยฺยา’’ติ ¶ ปทสฺส สมฺมา อตฺถํ อสลฺลกฺเขตฺวา กุกฺกุจฺจายิสุํ, ภควา ปน ยถาอุปฺปนฺนสฺส วตฺถุสฺส วเสน ปิตา วิย ทารเก เต ภิกฺขู สฺาเปนฺโต อนุปฺตฺตึ เปสิ.
๒๖๕. อทินฺนนฺติ ¶ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน ¶ วา คณฺหนฺตสฺส กายกายปฏิพทฺธนิสฺสคฺคิยานํ อฺตรวเสน น ทินฺนํ. เอตเทว หิ สนฺธาย ปทภาชเน ‘‘อทินฺนํ นาม อปฺปฏิคฺคหิตกํ วุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. ทุติยปาราชิเก ปน ‘‘อทินฺนํ นาม ปรปริคฺคหิตกํ วุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. ทินฺนนฺติ อิทํ ปน ตสฺเสว อทินฺนสฺส ปฏิปกฺขวเสน ลกฺขณทสฺสนตฺถํ อุทฺธฏํ. นิทฺเทเส จสฺส ‘‘กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา นิสฺสคฺคิเยน วา เทนฺเต’’ติ เอวํ อฺสฺมึ ททมาเน ‘‘หตฺถปาเส ิโต กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา ปฏิคฺคณฺหาตีติ ตํ เอวํ ทิยฺยมานํ อนฺตมโส รถเรณุมฺปิ สเจ ปุพฺเพ วุตฺตลกฺขเณ หตฺถปาเส ิโต กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา ปฏิคฺคณฺหาติ, เอตํ เอวํ ปฏิคฺคหิตํ ทินฺนํ นาม วุจฺจติ. น ‘‘อิทํ คณฺห, อิทํ ตว โหตู’’ติอาทิวจเนน นิสฺสฏฺํ.
ตตฺถ กาเยนาติ หตฺถาทีสุ เยน เกนจิ สรีราวยเวน; อนฺตมโส ปาทงฺคุลิยาปิ ทิยฺยมานํ กาเยน ทินฺนํ นาม โหติ, ปฏิคฺคหเณปิ เอเสว นโย. เยน เกนจิ หิ สรีราวยเวน คหิตํ กาเยน คหิตเมว โหติ. สเจปิ นตฺถุกรณิยา ทิยฺยมานํ นาสาปุเฏน อกลฺลโก วา มุเขน ปฏิคฺคณฺหาติ. อาโภคมตฺตเมว หิ เอตฺถ ปมาณนฺติ อยํ นโย มหาปจฺจริยํ วุตฺโต. กายปฏิพทฺเธนาติ กฏจฺฉุอาทีสุ เยน เกนจิ อุปกรเณน ทินฺนํ กายปฏิพทฺเธน ทินฺนํ นาม โหติ. ปฏิคฺคหเณปิ เอเสว นโย. เยน เกนจิ สรีรปฏิพทฺเธน ปตฺตถาลกาทินา คหิตํ กายปฏิพทฺเธน คหิตเมว โหติ. นิสฺสคฺคิเยนาติ กายโต จ กายปฏิพทฺธโต จ โมเจตฺวา หตฺถปาเส ิตสฺส กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา ปาติยมานมฺปิ นิสฺสคฺคิเยน ปโยเคน ทินฺนํ นาม โหติ. อยํ ตาว ปาฬิวณฺณนา.
อยํ ปเนตฺถ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย – ปฺจงฺเคหิ ปฏิคฺคหณํ รุหติ – ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส อุจฺจารณมตฺตํ โหติ, หตฺถปาโส ปฺายติ, อภิหาโร ปฺายติ, เทโว วา มนุสฺโส วา ติรจฺฉานคโต วา กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา นิสฺสคฺคิเยน วา เทติ, ตํ เจ ภิกฺขุ กาเยน ¶ วา กายปฏิพทฺเธน วา ปฏิคฺคณฺหาติ. เอวํ ปฺจหงฺเคหิ ปฏิคฺคหณํ รุหติ.
ตตฺถ ิตนิสินฺนนิปนฺนานํ ปวารณสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว หตฺถปาโส เวทิตพฺโพ. สเจ ปน ¶ ทายกปฏิคฺคาหเกสุ เอโก อากาเส โหติ, เอโก ¶ ภูมิยํ, ภูมฏฺสฺส จ สีเสน อากาสฏฺสฺส จ เปตฺวา ทาตุํ วา คเหตุํ วา ปสาริตหตฺถํ, ยํ อาสนฺนตรํ องฺคํ, ตสฺส โอริมนฺเตน หตฺถปาสปฺปมาณํ ปริจฺฉินฺทิตพฺพํ. สเจปิ เอโก กูเป โหติ, เอโก กูปตเฏ, เอโก วา ปน รุกฺเข, เอโก ปถวิยํ, วุตฺตนเยเนว หตฺถปาสปฺปมาณํ ปริจฺฉินฺทิตพฺพํ. เอวรูเป หตฺถปาเส ตฺวา สเจปิ ปกฺขี มุขตุณฺฑเกน วา หตฺถี วา โสณฺฑาย คเหตฺวา ปุปฺผํ วา ผลํ วา เทติ, ปฏิคฺคหณํ รุหติ. สเจ ปน อทฺธฏฺมรตนสฺสาปิ หตฺถิโน ขนฺเธ นิสินฺโน, เตน โสณฺฑาย ทิยฺยมานํ คณฺหาติ, วฏฺฏติเยว.
เอโก พหูนิ ภตฺตพฺยฺชนภาชนานิ สีเส กตฺวา ภิกฺขุสฺส สนฺติกํ อาคนฺตฺวา ิตโกว คณฺหถาติ วทติ, น ตาว อภิหาโร ปฺายติ, ตสฺมา น คเหตพฺพํ. สเจ ปน อีสกมฺปิ โอนมติ, ภิกฺขุนา หตฺถํ ปสาเรตฺวา เหฏฺิมภาชนํ เอกเทเสนาปิ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. เอตฺตาวตา สพฺพภาชนานิ ปฏิคฺคหิตานิ โหนฺติ, ตโต ปฏฺาย โอโรเปตฺวา วา อุคฺฆาเฏตฺวา วา ยํ อิจฺฉติ, ตํ คเหตฺวา ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. สภตฺตปจฺฉิอาทิมฺหิ ปน เอกภาชเน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, กาเชน ภตฺตํ หรนฺโตปิ สเจ กาชํ โอนาเมตฺวา เทติ, วฏฺฏติ. ตึสหตฺโถ เวณุ โหติ, เอกสฺมึ อนฺเต คุฬกุมฺโภ พทฺโธ, เอกสฺมึ สปฺปิกุมฺโภ, ตฺเจ ปฏิคฺคณฺหาติ, สพฺพํ ปฏิคฺคหิตเมว. อุจฺฉุยนฺตโทณิโต ปคฺฆรนฺตเมว รสํ คณฺหถาติ วทติ, อภิหาโร น ปฺายตีติ น คเหตพฺโพ. สเจ ปน กสฏํ ฉฑฺเฑตฺวา หตฺเถน อุสฺสิฺจิตฺวา อุสฺสิฺจิตฺวา เทติ, วฏฺฏติ.
พหู ปตฺตา มฺเจ วา ปีเ วา กฏสารเก วา โทณิยํ วา ผลเก วา ปิตา โหนฺติ, ยตฺถ ิตสฺส ทายโก หตฺถปาเส โหติ, ตตฺถ ตฺวา ปฏิคฺคหณสฺาย มฺจาทีนิ องฺคุลิยาปิ ผุสิตฺวา ิเตน วา นิสินฺเนน วา นิปนฺเนน วา ยํ เตสุ ปตฺเตสุ ทิยฺยติ, ตํ สพฺพํ ปฏิคฺคหิตํ โหติ. สเจปิ ปฏิคฺคเหสฺสามีติ มฺจาทีนิ อารุหิตฺวา นิสีทติ, วฏฺฏติเยว ¶ . สเจ ปน มฺจาทีนิ หตฺเถน คเหตฺวา มฺเจ นิสีทติ, วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.
ปถวิยํ ปน สเจปิ กุจฺฉิยา กุจฺฉึ อาหจฺจ ิตา โหนฺติ, ยํ ยํ องฺคุลิยา วา สูจิยา วา ผุสิตฺวา นิสินฺโน โหติ, ตตฺถ ตตฺถ ทิยฺยมานเมว ปฏิคฺคหิตํ โหติ. ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ มหากฏสารหตฺถตฺถรณาทีสุ ปิตปตฺเต ปฏิคฺคหณํ น รุหตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ หตฺถปาสาติกฺกมํ สนฺธาย ¶ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. หตฺถปาเส ปน สติ ยตฺถ กตฺถจิ วฏฺฏติ อฺตฺร ตตฺถชาตกา.
ตตฺถชาตเก ¶ ปน ปทุมินิปณฺเณ วา กึสุกปณฺณาทิมฺหิ วา น วฏฺฏติ. น หิ ตํ กายปฏิพทฺธสงฺขฺยํ คจฺฉติ. ยถา จ ตตฺถชาตเก; เอวํ ขาณุเก พนฺธิตฺวา ปิตมฺจาทิมฺหิ อสํหาริเม ผลเก วา ปาสาเณ วา น รุหติเยว, เตปิ หิ ตตฺถชาตกสงฺเขปุปคา โหนฺติ. ภูมิยํ อตฺถเตสุ สุขุเมสุ ตินฺติณิกาทิปณฺเณสุปิ ปฏิคฺคหณํ น รุหติ, น หิ ตานิ สนฺธาเรตุํ สมตฺถานีติ. มหนฺเตสุ ปน ปทุมินิปณฺณาทีสุ รุหติ. สเจ หตฺถปาสํ อติกฺกมฺม ิโต ทีฆทณฺฑเกน อุฬุงฺเกน เทติ, อาคนฺตฺวา เทหีติ วตฺตพฺโพ. วจนํ อสุตฺวา วา อนาทิยิตฺวา วา ปตฺเต อากิรติเยว, ปุน ปฏิคฺคเหตพฺพํ. ทูเร ตฺวา ภตฺตปิณฺฑํ ขิปนฺเตปิ เอเสว นโย.
สเจ ปตฺตตฺถวิกโต นีหริยมาเน ปตฺเต รชนจุณฺณานิ โหนฺติ, สติ อุทเก โธวิตพฺโพ, อสติ รชนจุณฺณํ ปุจฺฉิตฺวา ปฏิคฺคเหตฺวา วา ปิณฺฑาย จริตพฺพํ. สเจ ปิณฺฑาย จรนฺตสฺส รชํ ปตติ, ปฏิคฺคเหตฺวา ภิกฺขา คณฺหิตพฺพา. อปฺปฏิคฺคเหตฺวา คณฺหโต วินยทุกฺกฏํ. ตํ ปน ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ภฺุชโต อนาปตฺติ. สเจ ปน ‘‘ปฏิคฺคเหตฺวา เทถา’’ติ วุตฺเต วจนํ อสุตฺวา วา อนาทิยิตฺวา วา ภิกฺขํ เทนฺติเยว, วินยทุกฺกฏํ นตฺถิ, ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา อฺา ภิกฺขา คเหตพฺพา.
สเจ มหาวาโต ตโต ตโต รชํ ปาเตติ, น สกฺกา โหติ ภิกฺขํ คเหตุํ, ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส ทสฺสามี’’ติ สุทฺธจิตฺเตน อาโภคํ กตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ ปิณฺฑาย จริตฺวา วิหารํ วา อาสนสาลํ วา คนฺตฺวา ตํ อนุปสมฺปนฺนสฺส ทตฺวา ปุน เตน ทินฺนํ วา ตสฺส วิสฺสาเสน วา ปฏิคฺคเหตฺวา ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
สเจ ภิกฺขาจาเร สรชํ ปตฺตํ ภิกฺขุสฺส เทติ, โส วตฺตพฺโพ – ‘‘อิมํ ปฏิคฺคเหตฺวา ภิกฺขํ วา คณฺเหยฺยาสิ, ปริภฺุเชยฺยาสิ วา’’ติ เตน ตถา กาตพฺพํ. สเจ ¶ รชํ อุปริ อุปฺปิลวติ, กฺชิกํ ปวาเหตฺวา เสสํ ภฺุชิตพฺพํ. สเจ อนฺโต ปวิฏฺํ โหติ, ปฏิคฺคเหตพฺพํ. อนุปสมฺปนฺเน อสติ หตฺถโต อโมเจนฺเตน, ยตฺถ อนุปสมฺปนฺโน อตฺถิ ตตฺถ เนตฺวา ปฏิคฺคเหตพฺพํ ¶ . สุกฺขภตฺเต ปติตรชํ อปเนตฺวา ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ อติสุขุมํ โหติ, อุปริภตฺเตน สทฺธึ อปเนตพฺพํ, ปฏิคฺคเหตฺวา วา ภฺุชิตพฺพํ. ยาคุํ วา สูปํ วา ปุรโต เปตฺวา อาลุเลนฺตานํ ภาชนโต ผุสิตานิ อุคฺคนฺตฺวา ปตฺเต ปตนฺติ, ปตฺโต ปฏิคฺคเหตพฺโพ.
อุฬุงฺเกน อาหริตฺวา เทนฺตานํ ปมตรํ อุฬุงฺกโต เถวา ปตฺเต ปตนฺติ, สุปติตา, อภิหฏตฺตา ¶ โทโส นตฺถิ. สเจปิ จรุเกน ภตฺเต อากิริยมาเน จรุกโต มสิ วา ฉาริกา วา ปตติ, อภิหฏตฺตา เนวตฺถิ โทโส. อนนฺตรสฺส ภิกฺขุโน ทิยฺยมานํ ปตฺตโต อุปฺปติตฺวา อิตรสฺส ปตฺเต ปตติ, สุปติตํ. ปฏิคฺคหิตเมว หิ ตํ โหติ.
สเจ ชชฺฌริสาขาทึ ผาเลตฺวา เอกสฺส ภิกฺขุโน เทนฺตานํ สาขโต ผุสิตานิ อฺสฺส ปตฺเต ปตนฺติ, ปตฺโต ปฏิคฺคเหตพฺโพ. ยสฺส ปตฺตสฺส อุปริ ผาเลนฺติ, ตสฺส ปตฺเต ปติเตสุ ทาตุกามตาย อภิหฏตฺตา โทโส นตฺถิ. ปายาสสฺส ปูเรตฺวา ปตฺตํ เทนฺติ, อุณฺหตฺตา เหฏฺา คเหตุํ น สกฺโกติ, มุขวฏฺฏิยาปิ คเหตุํ วฏฺฏติ. สเจ ตถาปิ น สกฺโกติ, อาธารเกน คณฺหิตพฺโพ.
อาสนสาลาย ปตฺตํ คเหตฺวา นิสินฺโน ภิกฺขุ นิทฺทํ โอกฺกนฺโต โหติ, เนว อาหริยมานํ น ทิยฺยมานํ ชานาติ, อปฺปฏิคฺคหิตํ โหติ. สเจ ปน อาโภคํ กตฺวา นิสินฺโน โหติ, วฏฺฏติ. สเจปิ โส หตฺเถน อาธารกํ มฺุจิตฺวา ปาเทน เปลฺเลตฺวา นิทฺทายติ, วฏฺฏติเยว. ปาเทน อาธารกํ อกฺกมิตฺวา ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส ปน ชาครนฺตสฺสปิ อนาทรปฏิคฺคหณํ โหติ, ตสฺมา น กาตพฺพํ. เกจิ เอวํ อาธารเกน ปฏิคฺคหณํ กายปฏิพทฺธปฏิพทฺเธน ปฏิคฺคหณํ นาม โหติ, ตสฺมา น วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ตํ เตสํ วจนมตฺตเมว. อตฺถโต ปน สพฺพมฺเปตํ กายปฏิพทฺธเมว โหติ. กายสํสคฺเคปิ เจส นโย ทสฺสิโตว. ยมฺปิ ภิกฺขุสฺส ทิยฺยมานํ ปตติ, ตมฺปิ สามํ คเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ตตฺริทํ ¶ สุตฺตํ –
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ ทิยฺยมานํ ปตติ, ตํ สามํ คเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ ปริจฺจตฺตํ ตํ, ภิกฺขเว, ทายเกหี’’ติ (จูฬว. ๒๗๓).
อิทฺจ ¶ ปน สุตฺตํ เนยฺยตฺถํ. ตสฺมา เอวเมตฺถ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ – ยํ ทิยฺยมานํ ทายกสฺส หตฺถโต ปริคฬิตฺวา สุทฺธาย วา ภูมิยา ปทุมินิปณฺณวตฺถกฏสารกาทีสุ วา ปตติ, ตํ สามํ คเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ยํ ปน สรชาย ภูมิยา ปตติ, ตํ รชํ ปฺุฉิตฺวา วา โธวิตฺวา วา ปฏิคฺคเหตฺวา วา ปริภฺุชิตพฺพํ. สเจ ปน ปวฏฺฏนฺตํ อฺสฺส ภิกฺขุโน สนฺติกํ คจฺฉติ, เตน อาหราเปตุมฺปิ วฏฺฏติ. สเจ ตํ ภิกฺขุํ วทติ ‘‘ตฺวํเยว ขาทา’’ติ ตสฺสาปิ ขาทิตุํ วฏฺฏติ. อนาณตฺเตน ปน เตน น คเหตพฺพํ. อนาณตฺเตนาปิ ‘‘อิตรสฺส ทสฺสามี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. กสฺมา ปเนตํ อิตรสฺส ภิกฺขุโน คเหตุํ ¶ น วฏฺฏตีติ? ภควตา อนนฺุาตตฺตา. ภควตา หิ ‘‘สามํ คเหตฺวา ปริภฺุชิตุ’’นฺติ วทนฺเตน ยสฺเสว ตํ ทิยฺยมานํ ปตติ, ตสฺส อปฺปฏิคฺคหิตกมฺปิ ตํ คเหตฺวา ปริโภโค อนฺุาโต. ‘‘ปริจฺจตฺตํ ตํ ภิกฺขเว ทายเกหี’’ติ วจเนน ปเนตฺถ ปรสนฺตกาภาโว ทีปิโต. ตสฺมา อฺสฺส สามํ คเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏติ, ตสฺส ปน อาณตฺติยา วฏฺฏตีติ อยํ กิเรตฺถ อธิปฺปาโย.
ยสฺมา จ ตํ อปฺปฏิคฺคหิตกตฺตา อนฺุาตํ, ตสฺมา ยถาิตํเยว อนามสิตฺวา เกนจิ ปิทหิตฺวา ปิตํ ทุติยทิวเสปิ ปริภฺุจิตุํ วฏฺฏติ, สนฺนิธิปจฺจยา อนาปตฺติ. ปฏิคฺคเหตฺวา ปน ปริภฺุชิตพฺพํ. ตํทิวสํเยว หิ ตสฺส สามํ คเหตฺวา ปริโภโค อนฺุาโต, น ตโต ปรนฺติ อยมฺปิ กิเรตฺถ อธิปฺปาโย.
อิทานิ อพฺโพหาริกนโย วุจฺจติ – ภฺุชนฺตานฺหิ ทนฺตา ขิยฺยนฺติ, นขา ขิยฺยนฺติ, ปตฺตสฺส วณฺโณ ขิยฺยติ, สพฺพํ อพฺโพหาริกํ. ยมฺปิ สตฺถเกน อุจฺฉุอาทีสุ ผาลิเตสุ มลํ ปฺายติ, เอตํ นวสมุฏฺิตํ นาม ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ. สตฺถกํ โธวิตฺวา ผาลิเตสุ มลํ น ปฺายติ, โลหคนฺธมตฺตํ โหติ, ตํ อพฺโพหาริกํ. ยมฺปิ สตฺถกํ คเหตฺวา ปริหรนฺติ, เตน ผาลิเตปิ เอเสว นโย. น หิ ตํ ปริโภคตฺถาย ปริหรนฺตีติ. มูลเภสชฺชาทีนิ ปิสนฺตานํ วา ¶ โกฏฺเฏนฺตานํ วา นิสทนิสทโปตกอุทุกฺขลมุสลาทีนิ ขิยฺยนฺติ, ปริหรณกวาสึ ตาเปตฺวา เภสชฺชตฺถาย ตกฺเก วา ขีเร วา ปกฺขิปนฺติ, ตตฺถ นีลิกา ปฺายติ. สตฺถเก วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโย. อามกตกฺกาทีสุ ปน สยํ น ปกฺขิปิตพฺพา. ปกฺขิปติ เจ, สามปากโต น มุจฺจติ.
เทเว ¶ วสฺสนฺเต ปิณฺฑาย จรนฺตสฺส สรีรโต วา จีวรโต วา กิลิฏฺอุทกํ ปตฺเต ปตติ, ตํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ. รุกฺขมูลาทีสุ ภฺุชนฺตสฺส ปติเตปิ เอเสว นโย. สเจ ปน สตฺตาหํ วสฺสนฺเต เทเว สุทฺธํ อุทกํ โหติ, อพฺโภกาสโต วา ปตติ, วฏฺฏติ. สามเณรสฺส โอทนํ เทนฺเตน ตสฺส ปตฺตคตํ อจฺฉุปนฺเตเนว ทาตพฺโพ. ปตฺโต วาสฺส ปฏิคฺคเหตพฺโพ. อปฺปฏิคฺคหิเต โอทนํ ฉุปิตฺวา ปุน อตฺตโน ปตฺเต โอทนํ คณฺหนฺตสฺส อุคฺคหิตโก โหติ.
สเจ ปน ทาตุกาโม หุตฺวา ‘‘อาหร สามเณร ปตฺตํ, โอทนํ คณฺหา’’ติ วทติ, อิตโร จ ‘‘อลํ มยฺห’’นฺติ ปฏิกฺขิปติ, ปุน ตเวเวตํ มยา ปริจฺจตฺต’’นฺติ จ วุตฺเตปิ ‘‘น มยฺหํ เอเตนตฺโถ’’ติ วทติ. สตกฺขตฺตุมฺปิ ปริจฺจชตุ, ยาว อตฺตโน หตฺถคตํ ปฏิคฺคหิตเมว โหติ.
สเจ ¶ ปน อาธารเก ิตํ นิรเปกฺโข ‘‘คณฺหา’’ติ วทติ, ปุน ปฏิคฺคเหตพฺพํ. สาเปกฺโข อาธารเก ปตฺตํ เปตฺวา ‘‘เอตฺโต ปูวํ วา ภตฺตํ วา คณฺหา’’ติ สามเณรํ วทติ, สามเณโร หตฺถํ โธวิตฺวา สเจปิ สตกฺขตฺตุํ คเหตฺวา อตฺตโน ปตฺตคตํ อผุสนฺโตว อตฺตโน ปตฺเต ปกฺขิปติ, ปุน ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. ยทิ ปน อตฺตโน ปตฺตคตํ ผุสิตฺวา ตโต คณฺหาติ, สามเณรสนฺตเกน สํสฏฺํ โหติ, ปุน ปฏิคฺคเหตพฺพํ. เกจิ ปน ‘‘สเจปิ คยฺหมานํ ฉิชฺชิตฺวา ตตฺถ ปตติ, ปุน ปฏิคฺคเหตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ. ตํ ‘‘เอกํ ภตฺตปิณฺฑํ คณฺห, เอกํ ปูวํ คณฺห, อิมสฺส คุฬปิณฺฑสฺส เอตฺตกํ ปเทสํ คณฺหา’’ติ เอวํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วุตฺเต เวทิตพฺพํ. อิธ ปน ปริจฺเฉโท นตฺถิ. ตสฺมา ยํ สามเณรสฺส ปตฺเต ปตติ, ตเทว ปฏิคฺคหณํ วิชหติ. หตฺถคตํ ปน ยาว สามเณโร วา ‘‘อล’’นฺติ น โอรมติ, ภิกฺขุ วา น วาเรติ, ตาว ภิกฺขุสฺเสว สนฺตกํ, ตสฺมา ปฏิคฺคหณํ น วิชหติ.
สเจ อตฺตโน วา ภิกฺขูนํ วา ยาคุปจนกภาชเน ¶ เกสฺจิ อตฺถาย โอทนํ ปกฺขิปติ, ‘‘สามเณร, ภาชนสฺส อุปริ หตฺถํ กโรหี’’ติ วตฺวา ตสฺส หตฺเถ ปกฺขิปิตพฺพํ, ตสฺส หตฺถโต ภาชเน ปติตฺหิ ทุติยทิวเส ภาชนสฺส อกปฺปิยภาวํ น กโรติ, ปริจฺจตฺตตฺตา. สเจ เอวํ อกตฺวา ปกฺขิปติ, ปตฺตมิว ภาชนํ นิรามิสํ กตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ. ทายกา ยาคุกุฏํ เปตฺวา คตา, ตํ ทหรสามเณโร ปฏิคฺคณฺหาเปตุํ น สกฺโกติ, ภิกฺขุ ปตฺตํ อุปนาเมติ, สามเณโร กุฏสฺส คีวํ ปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิยํ ¶ เปตฺวา อาวชฺเชติ, ปตฺตคตา ยาคุ ปฏิคฺคหิตาว โหติ. อถ วา ภิกฺขุ ภูมิยํ หตฺถํ เปติ, สามเณโร ปวฏฺเฏตฺวา ตตฺถ อาโรเปติ, วฏฺฏติ. ปูวปจฺฉิภตฺตปจฺฉิอุจฺฉุภาราทีสุปิ เอเสว นโย.
สเจ ปฏิคฺคหณูปคํ ภารํ ทฺเว ตโย สามเณรา เทนฺติ, เอเกน วา พลวตา อุกฺขิตฺตํ ทฺเว ตโย ภิกฺขู คณฺหนฺติ, วฏฺฏติ. มฺจสฺส วา ปีสฺส วา ปาเท เตลฆฏํ วา ผาณิตฆฏํ วา นวนีตฆฏํ วา ลคฺเคนฺติ, ภิกฺขุสฺส มฺเจปิ ปีเปิ นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. อุคฺคหิตกํ นาม น โหติ.
นาคทนฺตเก วา องฺกุสเก วา ทฺเว เตลฆฏา ลคฺคิตา โหนฺติ, อุปริ ปฏิคฺคหิตโก เหฏฺา อปฺปฏิคฺคหิตโก, อุปริมํ คเหตุํ วฏฺฏติ. เหฏฺา ปฏิคฺคหิตโก อุปริ อปฺปฏิคฺคหิตโก, อุปริมํ คเหตฺวา อิตรํ คณฺหโต อุปริโม อุคฺคหิตโก โหติ. เหฏฺามฺเจ อปฺปฏิคฺคหิตกํ เตลถาลกํ โหติ, ตํ เจ สมฺมชฺชนฺโต สมฺมฺุชนิยา ฆฏฺเฏติ, อุคฺคหิตกํ น โหติ. ปฏิคฺคหิตกํ คณฺหิสฺสามีติ อปฺปฏิคฺคหิตกํ คเหตฺวา ตฺวา ปุน เปติ, อุคฺคหิตกํ น โหติ. พหิ ¶ นีหริตฺวา สฺชานาติ, พหิ อฏฺเปตฺวา หริตฺวา ตตฺเถว เปตพฺพํ, นตฺถิ โทโส. สเจ ปน ปุพฺเพ วิวริตฺวา ปิตํ น ปิทหิตพฺพํ; ยถา ปุพฺเพ ิตํ ตเถว เปตพฺพํ. สเจ พหิ เปติ, ปุน น ฉุปิตพฺพํ.
เหฏฺาปาสาทํ โอโรหนฺโต นิสฺเสณิมชฺเฌ สฺชานาติ, อโนกาสตฺตา อุทฺธํ วา อโธ วา หริตฺวา เปตพฺพํ. ปฏิคฺคหิตเก เตลาทิมฺหิ กณฺณกํ อุฏฺเติ, สิงฺคิเวราทิมฺหิ ฆนจุณฺณํ, ตํสมุฏฺานเมว ¶ นาเมตํ, ปุน ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ.
ตาลํ วา นาฬิเกรํ วา อารุฬฺโห โยตฺเตน ผลปิณฺฑึ โอตาเรตฺวา อุปริ ิโตว คณฺหถาติ วทติ, น คเหตพฺพํ. สเจ อฺโ ภูมิยํ ิโต โยตฺตปาสเก คเหตฺวา อุกฺขิปิตฺวา เทติ, วฏฺฏติ. สผลํ มหาสาขํ กปฺปิยํ กาเรตฺวา ปฏิคฺคณฺหาติ, ผลานิ ปฏิคฺคหิตาเนว โหนฺติ, ยถาสุขํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
อนฺโตวติยํ ตฺวา วตึ ฉินฺทิตฺวา อุจฺฉุํ วา ติมฺพรูสกํ วา เทนฺติ, หตฺถปาเส สติ วฏฺฏติ. วติทณฺฑเกสุ อปฺปหริตฺวา นิคฺคตํ คณฺหนฺตสฺส วฏฺฏติ. ปหริตฺวา นิคฺคเต อฏฺกถาสุ โทโส น ทสฺสิโต. มยํ ปน ยํ ¶ านํ ปหฏํ, ตโต สยํปติตเมว โหตีติ ตกฺกยาม. ตสฺมิมฺปิ อฏฺตฺวา คจฺฉนฺเต ยุชฺชติ, สุงฺกฆาตโต ปวฏฺเฏตฺวา พหิปติตภณฺฑํ วิย. วตึ วา ปาการํ วา ลงฺฆาเปตฺวา เทนฺติ, สเจ ปน น ปุถุโล ปากาโร, อนฺโตปากาเร จ พหิปากาเร จ ิตสฺส หตฺถปาโส ปโหติ, หตฺถสตมฺปิ อุทฺธํ คนฺตฺวา สมฺปตฺตํ คเหตุํ วฏฺฏติ.
ภิกฺขุ คิลานํ สามเณรํ ขนฺเธน วหติ, โส ผลาผลํ ทิสฺวา คเหตฺวา ขนฺเธ นิสินฺโนว เทติ, วฏฺฏติ. อปโร ภิกฺขุํ วหนฺโต ขนฺเธ นิสินฺนสฺส ภิกฺขุโน เทติ, วฏฺฏติเยว.
ภิกฺขุ ผลินึ สาขํ ฉายตฺถาย คเหตฺวา คจฺฉติ, ผลานิ ขาทิตุํ จิตฺเต อุปฺปนฺเน ปฏิคฺคหาเปตฺวา ขาทิตุํ วฏฺฏติ. มจฺฉิกวารณตฺถํ กปฺปิยํ กาเรตฺวา ปฏิคฺคณฺหาติ, ขาทิตุกาโม เจ โหติ, มูลปฏิคฺคหณเมว วฏฺฏติ, ขาทนฺตสฺส นตฺถิ โทโส.
ภิกฺขุ ปฏิคฺคหณารหํ ภณฺฑํ มนุสฺสานํ ยาเน เปตฺวา มคฺคํ คจฺฉติ, ยานํ กทฺทเม ลคฺคติ, ทหโร จกฺกํ คเหตฺวา อุกฺขิปติ, วฏฺฏติ, อุคฺคหิตกํ นาม น โหติ. นาวาย เปตฺวา นาวํ อริตฺเตน วา ปาเชติ, หตฺเถน วา กฑฺฒติ, วฏฺฏติ. อุฬุมฺเปปิ เอเสว นโย. จาฏิยํ ¶ กุณฺฑเก วา เปตฺวาปิ ตํ อนุปสมฺปนฺเนน คาหาเปตฺวา อนุปสมฺปนฺนํ พาหายํ คเหตฺวา ตริตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมิมฺปิ อสติ อนุปสมฺปนฺนํ คาหาเปตฺวา ตํ พาหายํ คเหตฺวา ตริตุํ วฏฺฏติ.
อุปาสกา คมิกภิกฺขูนํ ปาเถยฺยตณฺฑุเล ¶ เทนฺติ. สามเณรา ภิกฺขูนํ ตณฺฑุเล คเหตฺวา อตฺตโน ตณฺฑุเล คเหตุํ น สกฺโกนฺติ, ภิกฺขู เตสํ ตณฺฑุเล คณฺหนฺติ. สามเณรา อตฺตนา คหิตตณฺฑุเลสุ ขีเณสุ อิตเรหิ ตณฺฑุเลหิ ยาคุํ ปจิตฺวา สพฺเพสํ ปตฺตานิ ปฏิปาฏิยา เปตฺวา ยาคุํ อากิรนฺติ. ปณฺฑิโต สามเณโร อตฺตโน ปตฺตํ คเหตฺวา เถรสฺส เทติ, เถรสฺส ปตฺตํ อนุเถรสฺสาติ เอวํ สพฺพานิ ปริวตฺเตติ, สพฺเพหิ สามเณรสฺส สนฺตกํ ภุตฺตํ โหติ, วฏฺฏติ.
สเจปิ สามเณโร อปณฺฑิโต โหติ, อตฺตโน ปตฺเต ยาคุํ สยเมว ปาตุํ อารภติ, ‘‘อาวุโส ตุยฺหํ ยาคุํ มยฺหํ เทหี’’ติ เอวํ เถเรหิ ปฏิปาฏิยา ยาจิตฺวาปิ ปิวิตุํ วฏฺฏติ, สพฺเพหิ สามเณรสฺส สนฺตกเมว ¶ ภุตฺตํ โหติ, เนว อุคฺคหิตปจฺจยา น สนฺนิธิปจฺจยา วชฺชํ ผุสนฺติ. เอตฺถ ปน มาตาปิตูนํ เตลาทีนิ ฉายาทีนํ อตฺถาย สาขาทีนิ จ หรนฺตานํ อิเมสฺจ วิเสโส น ทิสฺสติ. ตสฺมา การณํ อุปปริกฺขิตพฺพํ.
สามเณโร ภตฺตํ ปจิตุกาโม ตณฺฑุเล โธวิตฺวา นิจฺจาเลตุํ น สกฺโกติ. ภิกฺขุนา ตณฺฑุเล จ ภาชนฺจ ปฏิคฺคเหตฺวา ตณฺฑุเล โธวิตฺวา นิจฺจาเลตฺวา ภาชนํ อุทฺธนํ อาโรเปตพฺพํ, อคฺคิ น กาตพฺโพ, ปกฺกกาเล วิวริตฺวา ปกฺกภาโว ชานิตพฺโพ. สเจ ทุปฺปกฺกํ โหติ, ปากตฺถาย ปิทหิตุํ น วฏฺฏติ. รชสฺส วา ฉาริกาย วา อปตนตฺถาย วฏฺฏติ, ปกฺกกาเล อาโรเปตุมฺปิ ภฺุชิตุมฺปิ วฏฺฏติ, ปุน ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ.
สามเณโร ปฏิพโล ปจิตุํ, ขโณ ปนสฺส นตฺถิ, กตฺถจิ คนฺตุกาโม. ภิกฺขุนา สตณฺฑุโลทกภาชนํ ปฏิคฺคเหตฺวา อุทฺธนํ อาโรเปตฺวา อคฺคึ ชาเลตฺวา คจฺฉาหีติ วตฺตพฺโพ. ตโต ปรํ ปุริมนเยเนว สพฺพํ กาตุํ วฏฺฏติ.
ภิกฺขุ ยาคุอตฺถาย สุทฺธํ ภาชนํ อาโรเปตฺวา อุทกํ ตาเปติ, วฏฺฏติ. ตตฺเต อุทเก สามเณโร ตณฺฑุเล ปกฺขิปติ, ตโต ปฏฺาย ภิกฺขุนา อคฺคิ น กาตพฺโพ. ปกฺกยาคุํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปาตุํ วฏฺฏติ.
สามเณโร ยาคุํ ปจติ, หตฺถกุกฺกุจฺจโก ภิกฺขุ กีฬนฺโต ภาชนํ อามสติ, ปิธานํ อามสติ ¶ , อุคฺคตํ เผณํ ฉินฺทิตฺวา หรติ, ตสฺเสว ปาตุํ น วฏฺฏติ, ทุรุปจิณฺณํ นาม โหติ. สเจ ปน ทพฺพึ วา อุฬุงฺกํ วา คเหตฺวา อนุกฺขิปนฺโต อาลุเฬติ, สพฺเพสํ น วฏฺฏติ, สามปากฺเจว ¶ โหติ ทุรุปจิณฺณฺจ. สเจ อุกฺขิปติ, อุคฺคหิตกมฺปิ โหติ.
ภิกฺขุนา ปิณฺฑาย จริตฺวา อาธารเก ปตฺโต ปิโต โหติ, ตตฺร เจ อฺโ โลลภิกฺขุ กีฬนฺโต ปตฺตํ อามสติ, ปตฺตปิธานํ อามสติ, ตสฺเสว ตโต ลทฺธํ ภตฺตํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน ปตฺตํ อุกฺขิปิตฺวา เปติ, สพฺเพสํ น วฏฺฏติ. ตตฺถชาตกผลานิ สาขาย วา วลฺลิยา วา คเหตฺวา จาเลติ, ตสฺเสว ตโต ลทฺธํ ผลํ น วฏฺฏติ, ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏฺจ อาปชฺชติ. ผลรุกฺขํ ปน อปสฺสยิตุํ วา ตตฺถ กณฺฑเก วา พนฺธิตุํ วฏฺฏติ, ทุรุปจิณฺณํ น โหตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.
อรฺเ ¶ ปติตํ ปน อมฺพผลาทึ ทิสฺวา สามเณรสฺส ทสฺสามีติ อาหริตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. สีหวิฆาสาทึ ทิสฺวาปิ สามเณรสฺส ทสฺสามีติ ปฏิคฺคเหตฺวา วา อปฺปฏิคฺคเหตฺวา วา อาหริตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน สกฺโกติ วิตกฺกํ โสเธตุํ, ตโต ลทฺธํ ขาทิตุมฺปิ วฏฺฏติ, เนว อามกมํสปฏิคฺคหณปจฺจยา น อุคฺคหิตกปจฺจยา วชฺชํ ผุสติ.
มาตาปิตูนํ อตฺถาย เตลาทีนิ คเหตฺวา คจฺฉโต อนฺตรามคฺเค พฺยาธิ อุปฺปชฺชติ, ตโต ยํ อิจฺฉติ, ตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน มูเลปิ ปฏิคฺคหิตํ โหติ, ปุน ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. มาตาปิตูนํ ตณฺฑุเล อาหริตฺวา เทติ, เต ตโตเยว ยาคุอาทีนิ สมฺปาเทตฺวา ตสฺส เทนฺติ, วฏฺฏติ สนฺนิธิปจฺจยา วา อุคฺคหิตกปจฺจยา วา โทโส นตฺถิ.
ภิกฺขุ ปิทหิตฺวา อุทกํ ตาเปติ, ยาว ปริกฺขยา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปเนตฺถ ฉาริกา ปตติ, ปฏิคฺคเหตพฺพํ. ทีฆสณฺฑาเสน ถาลกํ คเหตฺวา เตลํ ปจนฺตสฺส ฉาริกา ปตติ, หตฺเถน อมฺุจนฺเตเนว ปจิตฺวา โอตาเรตฺวา ปฏิคฺคเหตพฺพํ. สเจ องฺคาราปิ ทารูนิ วา ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตานิ, มูลปฏิคฺคหณเมว วฏฺฏติ.
ภิกฺขุ อุจฺฉุํ ขาทติ, สามเณโร ‘‘มยฺหมฺปิ เทถา’’ติ วทติ. ‘‘อิโต ฉินฺทิตฺวา คณฺหา’’ติ วุตฺโต คณฺหาติ, อวเสเส ปุน ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. คุฬปิณฺฑกํ ขาทนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. วุตฺโตกาสโต ฉินฺทิตฺวา คหิตาวเสสฺหิ อชหิตปฏิคฺคหณเมว โหติ.
ภิกฺขุ ¶ คุฬํ ภาเชนฺโต ปฏิคฺคเหตฺวา โกฏฺาเส กโรติ, ภิกฺขูปิ สามเณราปิ อาคนฺตฺวา เอกคหเณเนว เอกเมกํ โกฏฺาสํ คณฺหนฺติ ¶ , คหิตาวเสสํ ปฏิคฺคหิตเมว โหติ. สเจ โลลสามเณโร คณฺหิตฺวา คณฺหิตฺวา ปุน เปติ, ตสฺส คหิตาวเสสํ อปฺปฏิคฺคหิตกํ โหติ.
ภิกฺขุ ธูมวฏฺฏึ ปฏิคฺคเหตฺวา ธูมํ ปิวติ, มุขฺจ กณฺโ จ มโนสิลาย ลิตฺโต วิย โหติ, ยาวกาลิกํ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ, ยาวกาลิเกน ยาวชีวิกสํสคฺเค โทโส นตฺถิ.
ปตฺตํ ¶ วา รชนํ วา ปจนฺตสฺส กณฺณนาสมุขจฺฉิทฺเทหิ ธูโม ปวิสติ, พฺยาธิปจฺจยา ปุปฺผํ วา ผลํ วา อุปสิงฺฆติ, อพฺโพหาริกตฺตา วฏฺฏติ. ภตฺตุคฺคาโร ตาลุํ อาหจฺจ อนฺโตเยว ปวิสติ, อวิสยตฺตา วฏฺฏติ. มุขํ ปวิฏฺํ ปน อชฺโฌหรโต วิกาเล อาปตฺติ. ทนฺตนฺตเร ลคฺคสฺส อามิสสฺส รโส ปวิสติ, อาปตฺติเยว. สเจ สุขุมํ อามิสํ โหติ, รโส น ปฺายติ, อพฺโพหาริกปกฺขํ ภชติ.
อุปกฏฺเ กาเล นิรุทกฏฺาเน ภตฺตํ ภฺุชิตฺวา กกฺขาเรตฺวา ทฺเว ตโย เขฬปิณฺเฑ ปาเตตฺวา อุทกฏฺานํ คนฺตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตพฺพํ. ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตสิงฺคิเวราทีนํ องฺกุรา นิกฺขมนฺติ, ปุน ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. โลเณ อสติ สมุทฺโททเกน โลณกิจฺจํ กาตุํ วฏฺฏติ. ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตํ โลโณทกํ โลณํ โหติ, โลณํ วา อุทกํ โหติ, รโส วา ผาณิตํ โหติ, ผาณิตํ วา รโส โหติ, มูลปฏิคฺคหณเมว วฏฺฏติ. หิมกรกา อุทกคติกา เอว. ปริหาริเกน กตกฏฺินา อุทกํ ปสาเทนฺติ, ตํ อพฺโพหาริกํ, อามิเสน สทฺธึ วฏฺฏติ. อามิสคติเกหิ กปิตฺถผลาทีหิ ปสาทิตํ ปุเรภตฺตเมว วฏฺฏติ.
โปกฺขรณีอาทีสุ อุทกํ พหลํ โหติ, วฏฺฏติ. สเจ ปน มุเข จ หตฺเถ จ ลคฺคติ, น วฏฺฏติ, ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ. เขตฺเตสุ กสิตฏฺาเน พหลํ อุทกํ โหติ, ปฏิคฺคเหตพฺพํ. สเจ สนฺทิตฺวา กนฺทราทีนิ ปวิสิตฺวา นทึ ปูเรติ, วฏฺฏติ. กกุธโสพฺภาทโย โหนฺติ, รุกฺขโต ปติเตหิ ปุปฺเผหิ สฺฉนฺโนทกา, สเจ ปุปฺผรโส น ปฺายติ, ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. ปริตฺตํ อุทกํ โหติ, รโส ปฺายติ, ปฏิคฺคเหตพฺพํ. ปพฺพตกนฺทราทีสุ กาฬวณฺณปณฺณสฺฉนฺนอุทเกปิ เอเสว นโย.
ปานียฆเฏ สเรณุกานิ วา สวณฺฏขีรานิ วา ปุปฺผานิ ปกฺขิตฺตานิ โหนฺติ, ปฏิคฺคเหตพฺพํ. ปุปฺผานิ วา ปฏิคฺคเหตฺวา ¶ ปกฺขิปิตพฺพานิ. ปาฏลิจมฺปกมลฺลิกา ปกฺขิตฺตา โหนฺติ ¶ , วาสมตฺตํ ติฏฺติ ตํ อพฺโพหาริกํ, ทุติยทิวเสปิ อามิเสน สทฺธึ วฏฺฏติ. ภิกฺขุนา ปิตปุปฺผวาสิตกปานียโต สามเณโร ปานียํ คเหตฺวา ปีตาวเสสํ ตตฺเถว อากิรติ, ปฏิคฺคเหตพฺพํ. ปทุมสราทีสุ อุทกํ สนฺถริตฺวา ิตํ ปุปฺผเรณุํ ฆเฏน ¶ วิกฺขมฺเภตฺวา อุทกํ คเหตุํ วฏฺฏติ. กปฺปิยํ การาเปตฺวา ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตํ ทนฺตกฏฺํ โหติ, สเจ ตสฺส รสํ ปิวิตุกาโม, มูลปฏิคฺคหณเมว วฏฺฏติ. อปฺปฏิคฺคเหตฺวา ปิตํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ. อชานนฺตสฺส รเส ปวิฏฺเปิ อาปตฺติเยว. อจิตฺตกฺหิ อิทํ สิกฺขาปทํ.
มหาภูเตสุ กึ วฏฺฏติ, กึ น วฏฺฏตีติ? ขีรํ ตาว วฏฺฏติ, กปฺปิยมํสขีรํ วา อกปฺปิยมํสขีรํ วา โหตุ, ปิวนฺตสฺส อนาปตฺติ. อสฺสุ เขโฬ สิงฺฆาณิกา มุตฺตํ กรีสํ เสมฺหํ ทนฺตมลํ อกฺขิคูถโก กณฺณคูถโก สรีเร อุฏฺิตโลณนฺติ อิทํ สพฺพํ วฏฺฏติ. ยํ ปเนตฺถ านโต จวิตฺวา ปตฺเต วา หตฺเถ วา ปตติ, ตํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ. องฺคลคฺคํ ปฏิคฺคหิตกเมว. อุณฺหํปายาสํ ภฺุชนฺตสฺส เสโท องฺคุลิอนุสาเรน เอกาพทฺโธว หุตฺวา ปายาเส สนฺติฏฺติ, ปิณฺฑาย วา จรนฺตสฺส หตฺถโต ปตฺตสฺส มุขวฏฺฏึโต วา ปตฺตตลํ โอโรหติ, เอตฺถ ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. ฌามมหาภูเตสุ อิทํ นาม น วฏฺฏตีติ นตฺถิ, ทุชฺฌาปิตํ ปน น วฏฺฏติ. สุชฺฌาปิตํ มนุสฺสฏฺิมฺปิ จุณฺณํ กตฺวา เลเห อุปเนตุํ วฏฺฏติ.
จตฺตาริ มหาวิกฏานิ อสติ กปฺปิยการเก สามมฺปิ คเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ จ ทุพฺพโจปิ อสมตฺโถปิ กปฺปิยการโก อสนฺตปกฺเขเยว ติฏฺติ. ฉาริกาย อสติ สุกฺขทารุํ ฌาเปตฺวา ฉาริกา คเหตพฺพา. สุกฺขทารุมฺหิ อสติ อลฺลทารุํ รุกฺขโต ฉินฺทิตฺวาปิ กาตุํ วฏฺฏติ. อิทํ ปน จตุพฺพิธมฺปิ มหาวิกฏํ กาโลทิสฺสํ นาม สปฺปทฏฺกฺขเณเยว วฏฺฏติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กายโต จ กายจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ ¶ , ติเวทนนฺติ.
ทนฺตโปนสิกฺขาปทํ ทสมํ.
สมตฺโต วณฺณนากฺกเมน โภชนวคฺโค จตุตฺโถ.
๕. อเจลกวคฺโค
๑. อเจลกสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๖๙. อเจลกวคฺคสฺส ¶ ¶ ๙ ปมสิกฺขาปเท – ปริเวสนนฺติ ปริวิสนฏฺานํ. ปริพฺพาชกสมาปนฺโนติ ปพฺพชฺชํ สมาปนฺโน. เทติ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ สมติตฺติกํ ยาคุปตฺตํ เอกปโยเคน เทติ, เอกํ ปาจิตฺติยํ. อวจฺฉินฺทิตฺวา อวจฺฉินฺทิตฺวา เทติ, ปโยเค ปโยเค ปาจิตฺติยํ. เอเสว นโย ปูวภตฺตาทีสุ. ติตฺถิเย อติตฺถิยสฺีติ มาตา วา ปิตา วา ติตฺถิเยสุ ปพฺพชติ, เตสํ มาตาปิตุสฺาย เทนฺตสฺสาปิ ปาจิตฺติยเมว โหติ. ทาเปตีติ อนุปสมฺปนฺเนน ทาเปติ.
๒๗๓. อุปนิกฺขิปิตฺวา เทตีติ ตถารูเป ภาชเน เปตฺวา ตํ ภาชนํ เตสํ สนฺติเก ภูมิยํ นิกฺขิปิตฺวา เทติ, เตสํ วา ภาชนํ นิกฺขิปาเปตฺวา ตตฺถ เทติ, ปตฺตํ อาธารเก วา ภูมิยํ วา เปตฺวาปิ ‘‘อิโต คณฺหถา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. สเจ ติตฺถิโย วทติ ‘‘มยฺหํ นาม อิทํ สนฺตกํ, อิธ น อากิรถา’’ติ อากิริตพฺพํ. ตสฺส สนฺตกตฺตา สหตฺถา ทานํ นาม น โหติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
อเจลกสิกฺขาปทํ ปมํ.
๒. อุยฺโยชนสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๗๔. ทุติยสิกฺขาปเท – ปฏิกฺกมเนปีติ อาสนสาลายมฺปิ. ภตฺตวิสฺสคฺคนฺติ ภตฺตกิจฺจํ. น สมฺภาเวสีติ น ปาปุณิ.
๒๗๖. อนาจารนฺติ วุตฺตาวเสสํ กายวจีทฺวารวีติกฺกมํ. ทสฺสนูปจารํ วา สวนูปจารํ วา ¶ วิชหนฺตสฺสาติ เอตฺถ ยทิ ิโต วา นิสินฺโน วา อุยฺโยเชติ; โย อุยฺโยชิโต, โส วิชหติ, ตสฺส จ อาปตฺติ นาม นตฺถิ. ตสฺมึ ปน วิชหนฺเตปิ อตฺถโต อิตเรน วิชหิตเมว โหติ. ตสฺมา โย อุยฺโยเชติ, ตสฺเสวายํ อาปตฺติ. ตตฺถ สเจ ¶ อุปจารพฺภนฺตเร เอโก ปาโท โหติ, ทุกฺกฏํ. สีมาติกฺกเม ปาจิตฺติยํ. เอตฺถ จ ทสฺสนูปจารสฺส อพฺโภกาเส ทฺวาทสหตฺถปฺปมาณํ, ตถา สวนูปจารสฺส. สเจ ปน อนฺตรา กุฏฺฏทฺวารปาการาทโย โหนฺติ, เตหิ อนฺตริตภาโว ทสฺสนูปจาราติกฺกโม, ตสฺส วเสน อาปตฺติ ¶ เวทิตพฺพา. น อฺโ โกจิ ปจฺจโย โหตีติ เปตฺวา วุตฺตปฺปการมนาจารํ อฺํ กิฺจิ การณํ น โหติ.
๒๗๗. กลิสาสนํ อาโรเปตีติ ‘‘กลี’’ติ โกโธ; ตสฺส สาสนํ อาโรเปติ; โกธสฺส อาณํ อาโรเปติ; โกธวเสน านนิสชฺชาทีสุ โทสํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ปสฺสถ โภ อิมสฺส านํ, นิสชฺชํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ ขาณุโก วิย ติฏฺติ, สุนโข วิย นิสีทติ, มกฺกโฏ วิย อิโต จิโต จ วิโลเกตี’’ติ เอวํ อมนาปวจนํ วทติ ‘‘อปฺเปว นาม อิมินาปิ อุพฺพาฬฺโห ปกฺกเมยฺยา’’ติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
อุยฺโยชนสิกฺขาปทํ ทุติยํ.
๓. สโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๗๙. ตติยสิกฺขาปเท – สยนิฆเรติ สยนิยฆเร. ยโต อยฺยสฺส ภิกฺขา ทินฺนาติ ยสฺมา ภิกฺขา ทินฺนา, ยํ อาคเตน ลทฺธพฺพํ ตํ โว ลทฺธํ; คจฺฉถาติ อธิปฺปาโย. ปริยุฏฺิโตติ ราคปริยุฏฺิโต; เมถุนาธิปฺปาโยติ อตฺโถ.
๒๘๐. สห อุโภหิ ชเนหีติ สโภชนํ; ตสฺมึ สโภชเน. อถ วา สโภชเนติ สโภเค. ราคปริยุฏฺิตสฺส หิ ปุริสสฺส อิตฺถี โภโค อิตฺถิยา จ ปุริโส. เตเนวสฺส ปทภาชเน – ‘‘อิตฺถี เจว โหติ ปุริโส จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. มหลฺลเก ฆเรติ มหลฺลเก สยนิฆเร. ปิฏฺสงฺฆาฏสฺส หตฺถปาสํ วิชหิตฺวาติ ตสฺส สยนิฆเร คพฺภสฺส โย ปิฏฺสงฺฆาโฏ, ตสฺส หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา; อนฺโตสยนสฺส อาสนฺเน ¶ าเน นิสีทตีติ อตฺโถ. อีทิสฺจ สยนิฆรํ ¶ มหาจตุสฺสาลาทีสุ โหติ. ปิฏฺิวํสํ อติกฺกมิตฺวาติ อิมินา มชฺฌาติกฺกมํ ทสฺเสติ. ตสฺมา ยถา วา ตถา วา กตสฺส ขุทฺทกสฺส สยนิฆรสฺส มชฺฌาติกฺกเม อาปตฺติ เวทิตพฺพา. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
ปมปาราชิกสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทฺวิเวทนนฺติ.
สโภชนสิกฺขาปทํ ตติยํ.
๒๘๔. จตุตฺถปฺจมสิกฺขาปเทสุ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ อนิยตทฺวเย วุตฺตนยเมว. ยถา จ สโภชนสิกฺขาปทํ ¶ , เอวเมตานิปิ ปมปาราชิกสมุฏฺานาเนวาติ.
รโหปฏิจฺฉนฺนสิกฺขาปทํ จตุตฺถํ, รโหนิสชฺชสิกฺขาปทํ ปฺจมํ.
๖. จาริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๙๔. ฉฏฺสิกฺขาปเท – เทถาวุโส ภตฺตนฺติ เอตฺถ ตํ กิร ภตฺตํ อภิหฏํ อโหสิ, ตสฺมา เอวมาหํสุ. อนภิหเฏ ปน เอวํ วตฺตุํ น ลพฺภติ, ปยุตฺตวาจา โหติ.
๒๙๕. เตน หิ ภิกฺขเว ปฏิคฺคเหตฺวา นิกฺขิปถาติ อิทํ ปน ภควา กุลสฺส สทฺธานุรกฺขณตฺถาย อาห. ยทิ ‘‘ภาเชตฺวา ขาทถา’’ติ วเทยฺย, มนุสฺสานํ ปสาทฺถตฺตํ สิยา. อุสฺสาริยิตฺถาติ ปฏิหริยิตฺถ; ฆรํเยว นํ คเหตฺวา อคมํสูติ วุตฺตํ โหติ.
๒๙๘. สนฺตํ ภิกฺขุนฺติ เอตฺถ กิตฺตาวตา สนฺโต โหติ, กิตฺตาวตา อสนฺโตติ? อนฺโตวิหาเร ยตฺถ ิตสฺส กุลานิ ปยิรุปาสนจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ตโต ปฏฺาย ยํ ปสฺเส วา อภิมุเข วา ปสฺสติ, ยสฺส สกฺกา โหติ ปกติวจเนน อาโรเจตุํ, อยํ สนฺโต นาม. อิโต จิโต จ ปริเยสิตฺวา อาโรจนกิจฺจํ นาม นตฺถิ. โย หิ เอวํ ปริเยสิตพฺโพ, โส อสนฺโตเยว. อปิจ อนฺโตอุปจารสีมาย ภิกฺขุํ ทิสฺวา อาปุจฺฉิสฺสามีติ คนฺตฺวา ตตฺถ ยํ ปสฺสติ, โส ¶ อาปุจฺฉิตพฺโพ. โน เจ ปสฺสติ, อสนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา ปวิฏฺโ นาม โหติ.
๓๐๒. อนฺตรารามนฺติ ¶ อนฺโตคาเม วิหาโร โหติ, ตํ คจฺฉติ. ภตฺติยฆรนฺติ นิมนฺติตฆรํ วา สลากภตฺตาทิทายกานํ วา ฆรํ. อาปทาสูติ ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตราเยสุ สติ คนฺตุํ วฏฺฏติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
กถินสมุฏฺานํ – กายวาจโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยากิรยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
จาริตฺตสิกฺขาปทํ ฉฏฺํ.
๗. มหานามสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๐๓. สตฺตมสิกฺขาปเท – มหานาโม นาม ภควโต จูฬปิตุปุตฺโต มาสมตฺเตน มหลฺลกตโร ทฺวีสุ ผเลสุ ปติฏฺิโต อริยสาวโก. เภสชฺชํ อุสฺสนฺนํ โหตีติ วชโต อาหริตฺวา ปิตสปฺปิ พหุ โหติ.
๓๐๖. สาทิตพฺพาติ ตสฺมึ สมเย โรโค นตฺถีติ น ปฏิกฺขิปิตพฺพา; โรเค สติ วิฺาเปสฺสามีติ อธิวาเสตพฺพา. เอตฺตเกหิ เภสชฺเชหิ ปวาเรมีติ นามวเสน สปฺปิเตลาทีสุ ทฺวีหิ ตีหิ วา ปริมาณวเสน ปตฺเถน นาฬิยา อาฬฺหเกนาติ ¶ วา.อฺํ เภสชฺชํ วิฺาเปตีติ สปฺปินา ปวาริโต เตลํ วิฺาเปติ, อาฬฺหเกน ปวาริโต โทณํ. น เภสชฺเชน กรณีเยนาติ มิสฺสกภตฺเตนปิ เจ ยาเปตุํ สกฺโกติ, น เภสชฺชกรณียํ นาม โหติ.
๓๑๐. ปวาริตานนฺติ เย อตฺตโน ปุคฺคลิกาย ปวารณาย ปวาริตา; เตสํ ปวาริตานุรูเปน วิฺตฺติยา อนาปตฺติ. สงฺฆวเสน ปวาริเตสุ ปน ปมาณํ สลฺลกฺเขตพฺพเมวาติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ฉสมุฏฺานํ ¶ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
มหานามสิกฺขาปทํ สตฺตมํ.
๘. อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๑๑. อฏฺเม ¶ – อพฺภุยฺยาโตติ อภิอุยฺยาโต; ปรเสนํ อภิมุโข คมิสฺสามีติ นครโต นิคฺคโตติ อตฺโถ. อุยฺยุตฺตนฺติ กตอุยฺโยคํ; คามโต นิกฺขนฺตนฺติ อตฺโถ.
๓๑๔. ทฺวาทสปุริโส หตฺถีติ จตฺตาโร อาโรหกา เอเกกปาทรกฺขกา ทฺเว ทฺเวติ เอวํ ทฺวาทสปุริโส โหติ. ติปุริโส อสฺโสติ เอโก อาโรหโก ทฺเว ปาทรกฺขกาติ เอวํ ติปุริโส โหติ. จตุปุริโส รโถติ เอโก สารถิ เอโก โยโธ ทฺเว อาณิรกฺขกาติ เอวํ จตุปุริโส โหติ. จตฺตาโร ปุริสา สรหตฺถาติ อาวุธหตฺถา จตฺตาโร ปุริสาติ อยํ ปจฺฉิมโกฏิยา จตุรงฺคสมนฺนาคตา เสนา นาม. อีทิสํ เสนํ ทสฺสนาย คจฺฉโต ปเท ปเท ทุกฺกฏํ. ทสฺสนูปจารํ วิชหิตฺวาติ เกนจิ อนฺตริตา วา นินฺนํ โอรุฬฺหา วา น ทิสฺสติ; อิธ ตฺวา น สกฺกา ทฏฺุนฺติ อฺํ านํ คนฺตฺวา ปสฺสโต ปโยเค ปโยเค ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ.
๓๑๕. เอกเมกนฺติ หตฺถิอาทีสุ จตูสุ องฺเคสุ เอกเมกํ; อนฺตมโส เอกปุริสารุฬฺหกหตฺถิมฺปิ เอกมฺปิ สรหตฺถํ ปุริสํ. อนุยฺยุตฺตา นาม ราชา อุยฺยานํ วา นทึ วา คจฺฉติ; เอวํ อนุยฺยุตฺตา โหติ.
๓๑๖. อาปทาสูติ ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตราเยสุ สติ เอตฺถ คโต มฺุจิสฺสามีติ คจฺฉโต อนาปตฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทํ อฏฺมํ.
๙. เสนาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๑๙. นวเม ¶ ¶ – อตฺถงฺคเต สูริเย เสนาย วสตีติ ติฏฺตุ วา นิสีทตุ วา สยตุ วา สเจปิ อากาเส อิทฺธิยา กฺจิ อิริยาปถํ กปฺเปติ, ปาจิตฺติยเมว. เสนา วา ปฏิเสนาย รุทฺธา โหตีติ ยถา สฺจาโร ฉิชฺชติ; เอวํ ¶ รุทฺธา โหติ. ปลิพุทฺโธติ เวริเกน วา อิสฺสเรน วา รุทฺโธ. เสสํ อุตฺตานเมว. เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
เสนาวาสสิกฺขาปทํ นวมํ.
๑๐. อุยฺโยธิกสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๒๒. ทสเม – อุคฺคนฺตฺวา อุคฺคนฺตฺวา เอตฺถ ยุชฺฌนฺตีติ อุยฺโยธิกํ; สมฺปหารฏฺานสฺเสตํ อธิวจนํ. พลสฺส อคฺคํ ชานนฺติ เอตฺถาติ พลคฺคํ; พลคณนฏฺานนฺติ อตฺโถ. เสนาย วิยูหํ เสนาพฺยูหํ; เสนานิเวสสฺเสตํ อธิวจนํ. ตโย หตฺถี ปจฺฉิมํ หตฺถานีกนฺติ โย ปุพฺเพ วุตฺโต ทฺวาทสปุริโส หตฺถีติ เตน หตฺถินา ตโย หตฺถี. เสเสสุปิ เอเสว นโย. เสสํ อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ สทฺธึ สมุฏฺานาทีหีติ.
อุยฺโยธิกสิกฺขาปทํ ทสมํ.
สมตฺโต วณฺณนากฺกเมน อเจลกวคฺโค ปฺจโม.
๖. สุราปานวคฺโค
๑. สุราปานสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๒๖. สุราปานวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท – ภทฺทวติกาติ เอโก คาโม, โส ภทฺทิกาย วติยา สมนฺนาคตตฺตา เอตํ นาม ลภิ. ปถาวิโนติ อทฺธิกา. เตชสา เตชนฺติ อตฺตโน เตชสา อานุภาเวน นาคสฺส เตชํ. กาโปติกาติ กโปตปาทสมวณฺณรตฺโตภาสา. ปสนฺนาติ สุรามณฺฑสฺเสตํ ¶ อธิวจนํ. อนนุจฺฉวิยํ ภิกฺขเว สาคตสฺสาติ ปฺจาภิฺสฺส สโต มชฺชปานํ นาม น อนุจฺฉวิยนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๓๒๘. ปุปฺผาสโว นาม มธุกปุปฺผาทีนํ รเสน กโต. ผลาสโว นาม มุทฺทิกผลาทีนิ มทฺทิตฺวา เตสํ รเสน กโต. มธฺวาสโว นาม มุทฺทิกานํ ชาติรเสน กโต; มกฺขิกมธุนาปิ กริยตีติ ¶ วทนฺติ. คุฬาสโว นาม อุจฺฉุรสาทีหิ กริยติ. สุรา นาม ปิฏฺกิณฺณปกฺขิตฺตา; นาฬิเกราทีนมฺปิ รเสน กตา สุราตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ, ตสฺสาเยว กิณฺณปกฺขิตฺตาย มณฺเฑ คหิเต เมรโยตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉตีติ วทนฺติ. อนฺตมโส กุสคฺเคนปิ ปิวตีติ เอตํ สุรํ วา เมรยํ วา พีชโต ปฏฺาย กุสคฺเคน ปิวโตปิ ปาจิตฺติยนฺติ ¶ อตฺโถ. เอเกน ปน ปโยเคน พหุมฺปิ ปิวนฺตสฺส เอกา อาปตฺติ. วิจฺฉินฺทิตฺวา วิจฺฉินฺทิตฺวา ปิวโต ปโยคคณนาย อาปตฺติโย.
๓๒๙. อมชฺชฺจ โหติ มชฺชวณฺณํ มชฺชคนฺธํ มชฺชรสนฺติ โลณโสวีรกํ วา สุตฺตํ วา โหติ. สูปสมฺปาเกติ วาสคาหาปนตฺถํ อีสกํ มชฺชํ ปกฺขิปิตฺวา สูปํ ปจนฺติ, ตสฺมึ อนาปตฺติ. มํสสมฺปาเกปิ เอเสว นโย. เตลํ ปน วาตเภสชฺชตฺถํ มชฺเชน สทฺธึ ปจนฺติ, ตสฺมิมฺปิ อนติกฺขิตฺตมชฺเชเยว อนาปตฺติ, ยํ ปน อติกฺขิตฺตมชฺชํ โหติ, เอตฺถ มชฺชสฺส วณฺณคนฺธรสา ปฺายนฺติ, ตสฺมึ อาปตฺติเยว. อมชฺชํ อริฏฺนฺติ โย อริฏฺโ มชฺชํ น โหติ, ตสฺมึ อนาปตฺติ. อามลกาทีนํเยว กิร รเสน อริฏฺํ กโรนฺติ, โส มชฺชวณฺณคนฺธรโสเยว โหติ, น จ มชฺชํ; ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. โย ปน สมฺภารปกฺขิตฺโต, โส มชฺชํ โหติ, พีชโต ปฏฺาย น วฏฺฏติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ. วตฺถุอชานนตาย เจตฺถ อจิตฺตกตา เวทิตพฺพา, อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย โลกวชฺชตาติ.
สุราปานสิกฺขาปทํ ปมํ.
๒. องฺคุลิปโตทกสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๓๐. ทุติเย ¶ – องฺคุลิปโตทเกนาติ องฺคุลีหิ อุปกจฺฉกาทิฆฏฺฏนํ วุจฺจติ. อุตฺตสนฺโตติ อติหาเสน กิลมนฺโต. อนสฺสาสโกติ อุปจฺฉินฺนอสฺสาสปสฺสาสสฺจาโร หุตฺวา. อนุปสมฺปนฺนํ กาเยน กายนฺติ เอตฺถ ภิกฺขุนีปิ อนุปสมฺปนฺนฏฺาเน ิตา, ตมฺปิ ขิฑฺฑาธิปฺปาเยน ผุสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
ปมปาราชิกสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทฺวิเวทนนฺติ.
องฺคุลิปโตทกสิกฺขาปทํ ทุติยํ.
๓. หสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๓๕. ตติเย ¶ – อปฺปกตฺุโนติ ยํ ภควตา ปกตํ ปฺตฺตํ, ตํ น ชานนฺตีติ อตฺโถ.
๓๓๖. อุทเก หสธมฺเมติ อุทกกีฬิกา ¶ วุจฺจติ. อุปริโคปฺผเกติ โคปฺผกานํ อุปริภาคปฺปมาเณ. หสาธิปฺปาโยติ กีฬาธิปฺปาโย. นิมุชฺชติ วาติอาทีสุ นิมุชฺชนตฺถาย โอโรหนฺตสฺส ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ. นิมุชฺชนุมฺมุชฺชเนสุ ปโยเค ปโยเค ปาจิตฺติยํ. นิมุชฺชิตฺวา อนฺโตอุทเกเยว คจฺฉนฺตสฺส หตฺถวารปทวาเรสุ สพฺพตฺถ ปาจิตฺติยํ. ปลวตีติ ตรติ. หตฺเถหิ ตรนฺตสฺส หตฺถวาเร หตฺถวาเร ปาจิตฺติยํ. ปาเทสุปิ เอเสว นโย. เยน เยน องฺเคน ตรติ, ตสฺส ตสฺส ปโยเค ปโยเค ปาจิตฺติยํ. ตีรโต วา รุกฺขโต วา อุทเก ปตติ, ปาจิตฺติยเมว. นาวาย กีฬตีติ ผิยาริตฺตาทีหิ นาวํ ปาเชนฺโต วา ตีเร อุสฺสาเรนฺโต วา นาวาย กีฬติ, ทุกฺกฏํ.
หตฺเถน วาติอาทีสุปิ ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. เกจิ หตฺเถน อุทเก ขิตฺตาย กถลาย ปตนุปฺปตนวาเรสุ ทุกฺกฏํ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. ตตฺถ หิ เอกปโยคตฺตา เอกเมว ทุกฺกฏํ, อปิจ อุปริโคปฺผเก วุตฺตานิ อุมฺมุชฺชนาทีนิ เปตฺวา อฺเน เยน เกนจิ อากาเรน อุทกํ โอตริตฺวา วา อโนตริตฺวา วา ยตฺถ กตฺถจิ ิตํ อุทกํ ¶ อนฺตมโส พินฺทุํ คเหตฺวา ขิปนกีฬายปิ กีฬนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว, อตฺถโชตกํ ปน อกฺขรํ ลิขิตุํ วฏฺฏติ, อยเมตฺถ วินิจฺฉโย. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
ปมปาราชิกสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
หสธมฺมสิกฺขาปทํ ตติยํ.
๔. อนาทริยสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๔๒. จตุตฺเถ – กถายํ นสฺเสยฺยาติ กถํ อยํ ธมฺโม ตนฺติ ปเวณี นสฺเสยฺย. ตํ วา น สิกฺขิตุกาโมติ เยน ปฺตฺเตน วุจฺจติ, ตํ ปฺตฺตํ น สิกฺขิตุกาโม. อปฺตฺเตนาติ สุตฺเต วา อภิธมฺเม วา อาคเตน.
๓๔๔. เอวํ ¶ อมฺหากํ อาจริยานํ อุคฺคโหติ เอตฺถ คารยฺโห อาจริยุคฺคโห น คเหตพฺโพ; ปเวณิยา อาคโต อาจริยุคฺคโหว คเหตพฺโพ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘โลกวชฺเช อาจริยุคฺคโห น วฏฺฏติ, ปณฺณตฺติวชฺเช ปน วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ‘‘สุตฺตํ สุตฺตานุโลมฺจ อุคฺคหิตกานํเยว อาจริยานํ อุคฺคโห ปมาณํ, อชานนฺตานํ กถา อปฺปมาณนฺติ วุตฺตํ. ตํ สพฺพํ ปเวณิยา อาคเตสโมธานํ คจฺฉติ. เสสํ อุตฺตานเมวาติ.
ติสมุฏฺานํ ¶ – กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
อนาทริยสิกฺขาปทํ จตุตฺถํ.
๕. ภึสาปนสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๔๕. ปฺจเม – รูปูปหาราทโย มนุสฺสวิคฺคเห วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เสสํ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิ อนาทริยสทิสาเนวาติ.
ภึสาปนสิกฺขาปทํ ปฺจมํ.
๖. โชติสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๕๐. ฉฏฺเ ¶ – ภคฺคาติ ชนปทสฺส นามํ. สํสุมารคิรนฺติ นครสฺส. เภสกฬาวนนฺติ ตนฺนิสฺสิตวนสฺส. ตํ ปน มิคานํ ผาสุวิหารตฺถาย ทินฺนตฺตา มิคทาโยติ วุจฺจติ. สมาทหิตฺวาติ ชาเลตฺวา. ปริปาเตสีติ อนุพนฺธิ.
๓๕๒. ปทีเปปีติ ปทีปุชฺชลเนปิ. โชติเกปีติ ปตฺตปจนเสทกมฺมาทีสุ โชติกรเณ. ตถารูปปจฺจยาติ ปทีปาทิปจฺจยา.
๓๕๔-๕. สยํ สมาทหตีติ เอตฺถ โชตึ สมาทหิตุกามตาย อรณิสณฺปนโต ปฏฺาย ยาว ชาลา น อุฏฺหติ, ตาว สพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏํ. ปฏิลาตํ อุกฺขิปตีติ ทยฺหมานํ อลาตํ ¶ ปติตํ อุกฺขิปติ, ปุน ยถาาเน เปตีติ อตฺโถ. เอวํ อวิชฺฌาตํ อุกฺขิปิตฺวา ปกฺขิปนฺตสฺเสว ทุกฺกฏํ, วิชฺฌาตํ ปุน ชาลาเปนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว.
๓๕๖. ตถารูปปจฺจยาติ เปตฺวา ปทีปาทีนิ อฺเนปิ ตถารูเปน ปจฺจเยน สมาทหนฺตสฺส อนาปตฺติ. อาปทาสูติ ทุฏฺวาฬมิคอมนุสฺเสหิ อุปทฺทโว โหติ, ตตฺถ สมาทหนฺตสฺสาปิ อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมวาติ. ฉสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
โชติสิกฺขาปทํ ฉฏฺํ.
๗. นหานสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๖๔. สตฺตเม – จุณฺเณน วา มตฺติกาย วาติ เอตฺถ จุณฺณมตฺติกานํ อภิสงฺขรณกาลโต ปฏฺาย สพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏํ.
๓๖๖. ปารํ คจฺฉนฺโต นฺหายตีติ เอตฺถ สุกฺขาย นทิยา วาลิกํ อุกฺกิริตฺวา กตอาวาฏเกสุปิ นฺหายิตุํ วฏฺฏติ. อาปทาสูติ ภมราทีหิ ¶ อนุพทฺธสฺส อุทเก นิมุชฺชิตุํ วฏฺฏตีติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
นหานสิกฺขาปทํ สตฺตมํ.
๘. ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๖๘-๙. อฏฺเม ¶ – นวํ ปน ภิกฺขุนา จีวรลาเภนาติ เอตฺถ อลภีติ ลโภ; ลโภเยว ลาโภ. กึ อลภิ? จีวรํ. กีทิสํ? นวํ. อิติ ‘‘นวจีวรลาเภนา’’ติ วตฺตพฺเพ อนุนาสิกโลปํ อกตฺวา ‘‘นวจีวรลาเภนา’’ติ วุตฺตํ; ปฏิลทฺธนวจีวเรนาติ อตฺโถ. มชฺเฌ ิตปททฺวเย ปนาติ นิปาโต. ภิกฺขุนาติ เยน ลทฺธํ ตสฺส นิทสฺสนํ. ปทภาชเน ปน พฺยฺชนํ อนาทิยิตฺวา ยํ ลทฺธํ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘จีวรํ นาม ฉนฺนํ จีวราน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. จีวรนฺติ เอตฺถ ยํ นิวาเสตุํ วา ปารุปิตุํ วา สกฺกา โหติ, ตเทว เวทิตพฺพํ. เตเนว ‘‘วิกปฺปนุปคปจฺฉิม’’นฺติ ¶ น วุตฺตํ. กํสนีลนฺติ จมฺมการนีลํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘อโยมลํ โลหมลํ เอตํ กํสนีลํ นามา’’ติ วุตฺตํ. ปลาสนีลนฺติ โย โกจิ นีลวณฺโณ ปณฺณรโส. ทุพฺพณฺณกรณํ อาทาตพฺพนฺติ เอตํ กปฺปพินฺทุํ สนฺธาย วุตฺตํ; น นีลาทีหิ สกลจีวรสฺส ทุพฺพณฺณกรณํ. ตฺจ ปน กปฺปํ อาทิยนฺเตน จีวรํ รชิตฺวา จตูสุ วา โกเณสุ ตีสุ วา ทฺวีสุ วา เอกสฺมึ วา โกเณ โมรสฺส อกฺขิมณฺฑลมตฺตํ วา มงฺกุลปิฏฺิมตฺตํ วา อาทาตพฺพํ. มหาปจฺจริยํ ‘‘ปตฺเต วา คณฺิยํ วา น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘วฏฺฏติเยวา’’ติ วุตฺตํ. ปาฬิกปฺปกณฺณิกกปฺปาทโย ปน สพฺพตฺถ ปฏิสิทฺธา, ตสฺมา เปตฺวา เอกํ วฏฺฏพินฺทุํ อฺเน เกนจิปิ วิกาเรน กปฺโป น กาตพฺโพ.
๓๗๑. อคฺคเฬติอาทีสุ เอตานิ อคฺคฬาทีนิ กปฺปกตจีวเร ปจฺฉา อาโรเปตฺวา กปฺปกรณกิจฺจํ นตฺถิ. เสสํ อุตฺตานเมว. เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ; กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปทํ อฏฺมํ.
๙. วิกปฺปนสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๗๔. นวเม ¶ – ตสฺส วา อทินฺนนฺติ จีวรสามิกสฺส ‘‘ปริภฺุช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ เอวํ วตฺวา อทินฺนํ. ตสฺส วา อวิสฺสสนฺโตติ เยน วินยกมฺมํ กตํ, ตสฺส อวิสฺสาเสน วา. เตน ¶ ปน ทินฺนํ วา ตสฺส วิสฺสาเสน วา ปริภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติ. เสสเมตฺถ ตึสกวณฺณนายํ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมวาติ. กถินสมุฏฺานํ – กายวาจโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
วิกปฺปนสิกฺขาปทํ นวมํ.
๑๐. จีวราปนิธานสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๗๗-๘๑. ทสเม – อปนิเธนฺตีติ อปเนตฺวา นิเธนฺติ. หสาเปกฺโขติ หสาธิปฺปาโย. อฺํ ปริกฺขารนฺติ ปาฬิยา อนาคตํ ปตฺตตฺถวิกาทึ. ธมฺมึ กถํ กตฺวาติ ‘‘สมเณน นาม อนิหิตปริกฺขาเรน ¶ ภวิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ เอวํ ธมฺมกถํ กเถตฺวา ทสฺสามีติ นิกฺขิปโต อนาปตฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
จีวราปนิธานสิกฺขาปทํ ทสมํ.
สมตฺโต วณฺณนากฺกเมน สุราปานวคฺโค ฉฏฺโ.
๗. สปฺปาณกวคฺโค
๑. สฺจิจฺจปาณสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๘๒. สปฺปาณกวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท – อิสฺสาโส โหตีติ คิหิกาเล ธนุคฺคหาจริโย โหติ. ชีวิตา โวโรปิตาติ ชีวิตา วิโยชิตา.
สิกฺขาปเทปิ โวโรเปยฺยาติ วิโยเชยฺย. ยสฺมา ปน โวหารมตฺตเมเวตํ; น เหตฺถ กิฺจิ วิโยชิเต สีสาลงฺกาเร สีสํ วิย ชีวิตา โวโรปิเต ปาเณปิ ชีวิตํ นาม วิสุํ ติฏฺติ, อฺทตฺถุ อนฺตรธานเมว ¶ คจฺฉติ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ปทภาชเน ‘‘ชีวิตินฺทฺริยํ อุปจฺฉินฺทตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิมสฺมิฺจ สิกฺขาปเท ติรจฺฉานคโตเยว ‘‘ปาโณ’’ติ เวทิตพฺโพ. ตํ ขุทฺทกมฺปิ มหนฺตมฺปิ มาเรนฺตสฺส อาปตฺตินานากรณํ นตฺถิ. มหนฺเต ปน อุปกฺกมมหนฺตตฺตา อกุสลมหตฺตํ โหติ. ปาเณ ปาณสฺีติ อนฺตมโส มฺจปีํ โสเธนฺโต มงฺคุลพีชเกปิ ปาณสฺี นิกฺการุณิกตาย ¶ ตํ ภินฺทนฺโต อปเนติ, ปาจิตฺติยํ. ตสฺมา เอวรูเปสุ าเนสุ การฺุํ อุปฏฺเปตฺวา อปฺปมตฺเตน วตฺตํ กาตพฺพํ. เสสํ มนุสฺสวิคฺคเห วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ สทฺธึ สมุฏฺานาทีหีติ.
สฺจิจฺจปาณสิกฺขาปทํ ปมํ.
๒. สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๘๗. ทุติเย ¶ – สปฺปาณกนฺติ เย ปาณกา ปริโภเคน มรนฺติ, เตหิ ปาณเกหิ สปฺปาณกํ, ตาทิสฺหิ ชานํ ปริภฺุชโต ปโยเค ปโยเค ปาจิตฺติยํ. ปตฺตปูรมฺปิ อวิจฺฉินฺทิตฺวา เอกปโยเคน ปิวโต เอกา อาปตฺติ. ตาทิเสน อุทเกน สามิสํ ปตฺตํ อาวิฺฉิตฺวา โธวโตปิ ตาทิเส อุทเก อุณฺหยาคุปตฺตํ นิพฺพาปยโตปิ ตํ อุทกํ หตฺเถน วา อุฬุงฺเกน วา คเหตฺวา นฺหายโตปิ ปโยเค ปโยเค ปาจิตฺติยํ. อุทกโสณฺฑึ วา โปกฺขรณึ วา ปวิสิตฺวา พหินิกฺขมนตฺถาย วีจึ อุฏฺาปยโตปิ. โสณฺฑึ วา โปกฺขรณึ วา โสเธนฺเตหิ ตโต คหิตอุทกํ อุทเกเยว อาสิฺจิตพฺพํ. สมีปมฺหิ อุทเก อสติ กปฺปิยอุทกสฺส อฏฺ วา ทส วา ฆเฏ อุทกสณฺานกปฺปเทเส อาสิฺจิตฺวา ตตฺถ อาสิฺจิตพฺพํ. ‘‘ปวฏฺฏิตฺวา อุทเก ปติสฺสตี’’ติ อุณฺหปาสาเณ อุทกํ นาสิฺจิตพฺพํ. กปฺปิยอุทเกน ปน ปาสาณํ นิพฺพาเปตฺวา อาสิฺจิตุํ วฏฺฏติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ,
วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ. เอตฺถ จ ปฏงฺคปาณกานํ ปตนํ ตฺวาปิ สุทฺธจิตฺตตาย ทีปชาลเน วิย สปฺปาณกภาวํ ตฺวาปิ อุทกสฺาย ปริภฺุชิตพฺพโต ปณฺณตฺติวชฺชตา เวทิตพฺพาติ.
สปฺปาณกสิกฺขาปทํ ทุติยํ.
๓. อุกฺโกฏนสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๙๒. ตติยสิกฺขาปเท ¶ – อุกฺโกเฏนฺตีติ ตสฺส ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘อกตํ กมฺม’’นฺติอาทีนิ วทนฺตา อุจฺจาเลนฺติ; ยถาปติฏฺิตภาเวน ปติฏฺาตุํ น เทนฺติ.
๓๙๓. ยถาธมฺมนฺติ โย ยสฺส อธิกรณสฺส วูปสมนาย ธมฺโม วุตฺโต, เตเนว ธมฺเมนาติ อตฺโถ. นิหตาธิกรณนฺติ นิหตํ อธิกรณํ; สตฺถารา วุตฺตธมฺเมเนว วูปสมิตํ อธิกรณนฺติ อตฺโถ.
๓๙๕. ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺีติ เยน กมฺเมน ตํ ¶ อธิกรณํ วูปสมิตํ, ตฺเจ ธมฺมกมฺมํ โหติ, ตสฺมึ ธมฺมกมฺเม อยมฺปิ ธมฺมกมฺมสฺี หุตฺวา ยทิ อุกฺโกเฏติ, ปาจิตฺติยํ อาปชฺชตีติ ¶ อตฺโถ. เอเตน นเยน เสสปทานิปิ เวทิตพฺพานิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน ‘‘อิเมสํ จตุนฺนํ อธิกรณานํ กติ อุกฺโกฏนา’’ติอาทินา นเยน ปริวาเร วุตฺโต. อฏฺกถาสุ ตํ สพฺพํ อาหริตฺวา ตสฺเสวตฺโถ วณฺณิโต. มยํ ปน ตํ ตตฺเถว วณฺณยิสฺสาม. อิธ อาหริตฺวา วณฺณิยมาเน หิ สุฏฺุตรํ สมฺโมโห ภเวยฺยาติ น วณฺณยิมฺห. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
อุกฺโกฏนสิกฺขาปทํ ตติยํ.
๔. ทุฏฺุลฺลสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๙๙. จตุตฺเถ – ทุฏฺุลฺลา นาม อาปตฺตีติ เอตฺถ จตฺตาริ ปาราชิกานิ อตฺถุทฺธารวเสน ทสฺสิตานิ, สงฺฆาทิเสสาปตฺติ ปน อธิปฺเปตา, ตํ ฉาเทนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. ธุรํ นิกฺขิตฺตมตฺเตติ ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺเต. สเจปิ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา อาโรเจติ, น รกฺขติ; ธุรํ นิกฺขิตฺตมตฺเตเยว ปาจิตฺติยนฺติ วุตฺตํ โหติ. สเจ ปน เอวํ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา ปฏิจฺฉาทนตฺถเมว อฺสฺส อาโรเจติ, โสปิ อฺสฺสาติ เอเตนุปาเยน สมณสตมฺปิ สมณสหสฺสมฺปิ อาปตฺตึ อาปชฺชติเยว ตาว, ยาว โกฏิ น ฉิชฺชติ. กทา ปน โกฏิ ฉิชฺชตีติ? มหาสุมตฺเถโร ตาว วทติ – ‘‘อาปตฺตึ อาปนฺโน เอกสฺส ¶ อาโรเจติ, โส ปฏินิวตฺติตฺวา ตสฺเสว อาโรเจติ; เอวํ โกฏิ ฉิชฺชตี’’ติ. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘อยฺหิ วตฺถุปุคฺคโลเยว. อาปตฺตึ อาปนฺโน ปน เอกสฺส ภิกฺขุโน อาโรเจติ, อยํ อฺสฺส อาโรเจติ, โส ปฏินิวตฺติตฺวา เยนสฺส อาโรจิตํ, ตสฺเสว อาโรเจติ; เอวํ ตติเยน ปุคฺคเลน ทุติยสฺส อาโรจิเต โกฏิ ฉินฺนา โหตี’’ติ.
๔๐๐. อทุฏฺุลฺลํ อาปตฺตินฺติ อวเสเส ปฺจาปตฺติกฺขนฺเธ. อนุปสมฺปนฺนสฺส ทุฏฺุลฺลํ วา อทุฏฺุลฺลํ วา อชฺฌาจารนฺติ เอตฺถ อนุปสมฺปนฺนสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺิ จ กายสํสคฺโค จาติ อยํ ทุฏฺุลฺลอชฺฌาจาโร นาม. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ. ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ – กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ, อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ ¶ , ทุกฺขเวทนนฺติ.
ทุฏฺุลฺลสิกฺขาปทํ จตุตฺถํ.
๕. อูนวีสติวสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๐๒. ปฺจมสิกฺขาปเท – ¶ องฺคุลิโย ทุกฺขา ภวิสฺสนฺตีติ อกฺขรานิ ลิขนฺตสฺส องฺคุลิโย ทุกฺขา ภวิสฺสนฺตีติ จินฺเตสุํ. อุรสฺส ทุกฺโขติ คณนํ สิกฺขนฺเตน พหุํ จินฺเตตพฺพํ โหติ, เตนสฺส อุโร ทุกฺโข ภวิสฺสตีติ มฺึสุ. อกฺขีนิ ทุกฺขา ภวิสฺสนฺตีติ รูปสุตฺตํ สิกฺขนฺเตน กหาปณา ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา ปสฺสิตพฺพา โหนฺติ, เตนสฺส อกฺขีนิ ทุกฺขานิ ภวิสฺสนฺตีติ มฺึสุ. ฑํสาทีสุ ฑํสาติ ปิงฺคลมกฺขิกาโย. ทุกฺขานนฺติ ทุกฺขมานํ. ติพฺพานนฺติ พหลานํ. ขรานนฺติ ติขิณานํ. กฏุกานนฺติ ผรุสานํ; อมนาปตาย วา กฏุกรสสทิสานํ. อสาตานนฺติ อมธุรานํ. ปาณหรานนฺติ ชีวิตหรานํ.
๔๐๔. สีมํ สมฺมนฺนตีติ นวํ สีมํ พนฺธติ. กุรุนฺทิยํ ปน อุทกุกฺเขปปริจฺฉินฺทเนปิ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. ปริปุณฺณวีสติวสฺโสติ ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปฏฺาย ปริปุณฺณวีสติวสฺโส; คพฺภวีโสปิ หิ ปริปุณฺณวีสติวสฺโสตฺเวว สงฺขฺเย คจฺฉติ. ยถาห –
‘‘เตน ¶ โข ปน สมเยน อายสฺมา กุมารกสฺสโป คพฺภวีโส อุปสมฺปนฺโน โหติ. อถ โข อายสฺมโต กุมารกสฺสปสฺส เอตทโหสิ – ‘ภควตา ปฺตฺตํ, น อูนวีสติวสฺโส ปุคฺคโล อุปสมฺปาเทตพฺโพติ. อหฺจมฺหิ คพฺภวีโส อุปสมฺปนฺโน. อุปสมฺปนฺโน นุโขมฺหิ, นนุ โข อุปสมฺปนฺโน’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ยํ ภิกฺขเว มาตุกุจฺฉิมฺหิ ปมํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ปมํ วิฺาณํ ปาตุภูตํ ตทุปาทาย สาวสฺส ชาติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คพฺภวีสํ อุปสมฺปาเทตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๒๔).
ตตฺถ โย ทฺวาทสมาเส มาตุกุจฺฉิสฺมึ วสิตฺวา มหาปวารณาย ชาโต, โส ตโต ปฏฺาย ยาว เอกูนวีสติเม วสฺเส มหาปวารณา, ตํ อติกฺกมิตฺวา ปาฏิปเท อุปสมฺปาเทตพฺโพ. เอเตนุปาเยน หายนวฑฺฒนํ เวทิตพฺพํ.
โปราณกตฺเถรา ปน เอกูนวีสติวสฺสํ สามเณรํ นิกฺขมนียปุณฺณมาสึ อติกฺกมฺม ปาฏิปททิวเส อุปสมฺปาเทนฺติ, ตํ กสฺมาติ? วุจฺจเต – เอกสฺมึ ¶ วสฺเส ฉ จาตุทฺทสิกอุโปสถา โหนฺติ. อิติ วีสติยา วสฺเสสุ จตฺตาโร มาสา ปริหายนฺติ. ราชาโน ตติเย ตติเย วสฺเส วสฺสํ อุกฺกฑฺฒนฺติ. อิติ อฏฺารสสุ วสฺเสสุ ฉ มาสา วฑฺฒนฺติ, ตโต อุโปสถวเสน ¶ ปริหีเน จตฺตาโร มาเส อปเนตฺวา ทฺเว มาสา อวเสสา โหนฺติ, เต ทฺเว มาเส คเหตฺวา วีสติวสฺสานิ ปริปุณฺณานิ โหนฺตีติ นิกฺกงฺขา หุตฺวา นิกฺขมนียปุณฺณมาสึ อติกฺกมฺม ปาฏิปเท อุปสมฺปาเทนฺติ. เอตฺถ ปน โย ปวาเรตฺวา วีสติวสฺโส ภวิสฺสติ, ตํ สนฺธาย ‘‘เอกูนวีสติวสฺส’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺมา โย มาตุกุจฺฉิสฺมึ ทฺวาทสมาเส วสิ, โส เอกวีสติวสฺโส โหติ. โย สตฺตมาเส วสิ, โส สตฺตมาสาธิกวีสติวสฺโส. ฉมาสชาโต ปน น ชีวติ.
๔๐๖. อนาปตฺติ อูนวีสติวสฺสํ ปริปุณฺณวีสติวสฺสสฺีติ เอตฺถ กิฺจาปิ อุปสมฺปาเทนฺตสฺส อนาปตฺติ, ปุคฺคโล ปน อนุปสมฺปนฺโนว โหติ. สเจ ปน โส ทสวสฺสจฺจเยน อฺํ อุปสมฺปาเทติ, ตฺเจ มฺุจิตฺวา คโณ ปูรติ, สูปสมฺปนฺโน. โสปิ จ ยาว น ชานาติ, ตาวสฺส เนว สคฺคนฺตราโย ¶ น โมกฺขนฺตราโย, ตฺวา ปน ปุน อุปสมฺปชฺชิตพฺพํ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ,
วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
อูนวีสติวสฺสสิกฺขาปทํ ปฺจมํ.
๖. เถยฺยสตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๐๗. ฉฏฺเ – ปฏิยาโลกนฺติ สูริยาโลกสฺส ปฏิมุขํ; ปจฺฉิมทิสนฺติ อตฺโถ. กมฺมิยาติ สุงฺกฏฺาเน กมฺมิกา.
๔๐๙. ราชานํ วา เถยฺยํ คจฺฉนฺตีติ ราชานํ วา เถเนตฺวา วฺเจตฺวา รฺโ สนฺตกํ กิฺจิ คเหตฺวา อิทานิ น ตสฺส ทสฺสามาติ คจฺฉนฺติ.
๔๑๑. วิสงฺเกเตนาติ กาลวิสงฺเกเตน ทิวสวิสงฺเกเตน จ คจฺฉโต อนาปตฺติ. มคฺควิสงฺเกเตน ปน อฏวิวิสงฺเกเตน วา อาปตฺติเยว. เสสเมตฺถ ภิกฺขุนิวคฺเค วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมว. เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
เถยฺยสตฺถสิกฺขาปทํ ฉฏฺํ.
๗. สํวิธานสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๑๒. สตฺตเม ¶ ¶ – ปธูเปนฺโต นิสีทีติ ปชฺฌายนฺโต อตฺตานํเยว ปริภาสนฺโต นิสีทิ. นายฺโย โส ภิกฺขุ มํ นิปฺปาเตสีติ อยฺโย อยํ ภิกฺขุ มํ น นิกฺขาเมสิ; น มํ คเหตฺวา อคมาสีติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิธานสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ สทฺธึ สมุฏฺานาทีหีติ.
สํวิธานสิกฺขาปทํ สตฺตมํ.
๘. อริฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๑๗. อฏฺเม ¶ – คทฺเธ พาธยึสูติ คทฺธพาธิโน; คทฺธพาธิโน ปุพฺพปุริสา อสฺสาติ คทฺธพาธิปุพฺโพ, ตสฺส คทฺธพาธิปุพฺพสฺส คิชฺฌฆาตกกุลปฺปสุตสฺสาติ อตฺโถ.
สคฺคโมกฺขานํ อนฺตรายํ กโรนฺตีติ อนฺตรายิกา. เต กมฺมกิเลสวิปากอุปวาทอาณาวีติกฺกมวเสน ปฺจวิธา. ตตฺถ ปฺจานนฺตริยกมฺมา กมฺมนฺตรายิกา นาม. ตถา ภิกฺขุนีทูสกกมฺมํ, ตํ ปน โมกฺขสฺเสว อนฺตรายํ กโรติ, น สคฺคสฺส. นิยตมิจฺฉาทิฏฺิธมฺมา กิเลสนฺตรายิกา นาม. ปณฺฑกติรจฺฉานคตอุภโตพฺยฺชนกานํ ปฏิสนฺธิธมฺมา วิปากนฺตรายิกา นาม. อริยูปวาทา อุปวาทนฺตรายิกา นาม, เต ปน ยาว อริเย น ขมาเปนฺติ ตาวเทว, น ตโต ปรํ. สฺจิจฺจ อาปนฺนา อาปตฺติโย อาณาวีติกฺกมนฺตรายิกา นาม, ตาปิ ยาว ภิกฺขุภาวํ วา ปฏิชานาติ, น วุฏฺาติ วา น เทเสติ วา ตาวเทว, น ตโต ปรํ.
ตตฺรายํ ภิกฺขุ พหุสฺสุโต ธมฺมกถิโก เสสนฺตรายิเก ชานาติ, วินเย ปน อโกวิทตฺตา ปณฺณตฺติวีติกฺกมนฺตรายิเก น ชานาติ, ตสฺมา รโหคโต เอวํ จินฺเตสิ – ‘‘อิเม อาคาริกา ปฺจ กามคุเณ ปริภฺุชนฺตา โสตาปนฺนาปิ สกทาคามิโนปิ อนาคามิโนปิ โหนฺติ, ภิกฺขูปิ มนาปิกานิ จกฺขุวิฺเยฺยานิ รูปานิ ปสฺสนฺติ…เป… กายวิฺเยฺเย โผฏฺพฺเพ ผุสนฺติ, มุทุกานิ อตฺถรณปาวุรณาทีนิ ปริภฺุชนฺติ, เอตํ สพฺพํ วฏฺฏติ. กสฺมา อิตฺถิรูปา…เป… อิตฺถิโผฏฺพฺพา เอว น วฏฺฏนฺติ, เอเตปิ วฏฺฏนฺตี’’ติ. เอวํ รเสน รสํ สํสนฺทิตฺวา สจฺฉนฺทราคปริโภคฺจ นิจฺฉนฺทราคปริโภคฺจ เอกํ กตฺวา ถูลวาเกหิ สทฺธึ อติสุขุมสุตฺตํ ¶ ฆเฏนฺโต วิย สาสเปน สทฺธึ สิเนรุํ อุปสํหรนฺโต วิย ปาปกํ ทิฏฺิคตํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘กึ ภควตา ¶ มหาสมุทฺทํ พนฺธนฺเตน วิย มหตา อุสฺสาเหน ปมปาราชิกํ ปฺตฺตํ, นตฺถิ เอตฺถ โทโส’’ติ สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ ปฏิวิรุชฺฌนฺโต ภพฺพปุคฺคลานํ อาสํ ฉินฺทนฺโต ชินสฺส อาณาจกฺเก ปหารมทาสิ. เตนาห – ‘‘ตถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามี’’ติอาทิ.
อฏฺิกงฺกลูปมาติอาทิมฺหิ ¶ อฏฺิกงฺกลูปมา อปฺปสฺสาทฏฺเน. มํสเปสูปมา พหุสาธารณฏฺเน. ติณุกฺกูปมา อนุทหนฏฺเน. องฺคารกาสูปมา มหาภิตาปนฏฺเน. สุปินกูปมา อิตฺตรปจฺจุปฏฺานฏฺเน. ยาจิตกูปมา ตาวกาลิกฏฺเน. รุกฺขผลูปมา สพฺพงฺคปจฺจงฺคปลิภฺชนฏฺเน. อสิสูนูปมา อธิกุฏฺฏนฏฺเน. สตฺติสูลูปมา วินิวิชฺฌนฏฺเน. สปฺปสิรูปมา สาสงฺกสปฺปฏิภยฏฺเนาติ อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน ปปฺจสูทนิยํ มชฺฌิมฏฺกถายํ (ม. นิ. ๑.๒๓๔ อาทโย; ๒.๔๒ อาทโย) คเหตพฺโพ. เอวํ พฺยาโขติ เอวํ วิย โข. เสสเมตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมว.
สมนุภาสนสมุฏฺานํ – กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ, อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
อริฏฺสิกฺขาปทํ อฏฺมํ.
๙. อุกฺขิตฺตสมฺโภคสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๒๔-๕. นวเม – อกฏานุธมฺเมนาติ อนุธมฺโม วุจฺจติ อาปตฺติยา อทสฺสเน วา อปฺปฏิกมฺเม วา ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค วา ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน อุกฺขิตฺตกสฺส อนุโลมวตฺตํ ทิสฺวา กตา โอสารณา; โส โอสารณสงฺขาโต อนุธมฺโม ยสฺส น กโต, อยํ อกฏานุธมฺโม นาม, ตาทิเสน สทฺธินฺติ อตฺโถ. เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘อกฏานุธมฺโม นาม อุกฺขิตฺโต อโนสาริโต’’ติ วุตฺตํ.
เทติ วา ปฏิคฺคณฺหาติ วาติ เอกปโยเคน พหุมฺปิ ททโต วา คณฺหโต วา เอกํ ปาจิตฺติยํ. วิจฺฉินฺทิตฺวา วิจฺฉินฺทิตฺวา เทนฺตสฺส จ คณฺหนฺตสฺส จ ปโยคคณนาย ปาจิตฺติยานิ ¶ . เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
อุกฺขิตฺตสมฺโภคสิกฺขาปทํ นวมํ.
๑๐. กณฺฏกสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๒๘. ทสเม ¶ – ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนนฺติ อริฏฺสฺส วิย เอตสฺสาปิ อโยนิโส อุมฺมุชฺชนฺตสฺส อุปฺปนฺนํ. นาเสตูติ เอตฺถ ติวิธา นาสนา – สํวาสนาสนา, ลิงฺคนาสนา, ทณฺฑกมฺมนาสนาติ. ตตฺถ อาปตฺติยา อทสฺสนาทีสุ อุกฺเขปนา สํวาสนาสนา ¶ นาม. ‘‘ทูสโก นาเสตพฺโพ (ปารา. ๖๖) เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถา’’ติ (ปารา. ๓๘๔) อยํ ลิงฺคนาสนา นาม. ‘‘อชฺชตคฺเค เต อาวุโส สมณุทฺเทส น เจว โส ภควา สตฺถา อปทิสิตพฺโพ’’ติ อยํ ทณฺฑกมฺมนาสนา นาม. อยํ อิธ อธิปฺเปตา. เตนาห – ‘‘เอวฺจ ปน ภิกฺขเว นาเสตพฺโพ…เป… วินสฺสา’’ติ. ตตฺถ จราติ คจฺฉ. ปิเรติ ปร อมามก. วินสฺสาติ นสฺส; ยตฺถ เต น ปสฺสาม, ตตฺถ คจฺฉาติ.
๔๒๙. อุปลาเปยฺยาติ สงฺคณฺเหยฺย. อุปฏฺาเปยฺยาติ เตน อตฺตโน อุปฏฺานํ การาเปยฺย. เสสํ อริฏฺสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ สทฺธึ สมุฏฺานาทีหีติ.
กณฺฏกสิกฺขาปทํ ทสมํ.
สมตฺโต วณฺณนากฺกเมน สปฺปาณกวคฺโค สตฺตโม.
๘. สหธมฺมิกวคฺโค
๑. สหธมฺมิกสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๓๔. สหธมฺมิกวคฺคสฺส ¶ ปมสิกฺขาปเท – เอตสฺมึ สิกฺขาปเทติ เอตสฺมึ สิกฺขาปเท ยํ วุตฺตํ, ตํ น ตาว สิกฺขิสฺสามิ. อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ เอตฺถ ปน วาจาย วาจาย อาปตฺติ เวทิตพฺพา. สิกฺขมาเนน ภิกฺขเว ภิกฺขุนาติ โอวาทํ สิรสา สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สิกฺขิตุกาเมเนว หุตฺวา อาชานิตพฺพฺเจว ปุจฺฉิตพฺพฺจ อุปปริกฺขิตพฺพฺจ. เสสเมตฺถ ทุพฺพจสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว ปทตฺถโต เวทิตพฺพํ. วินิจฺฉยโต อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
สหธมฺมิกสิกฺขาปทํ ปมํ.
๒. วิเลขนสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๓๘. ทุติเย ¶ – วินยกถํ กเถตีติ วินยกถา นาม กปฺปิยากปฺปิยอาปตฺตานาปตฺติสํวรปหานปฏิสํยุตฺตกถา, ตํ กเถติ. วินยสฺส วณฺณํ ภาสตีติ วินยสฺส วณฺโณ นาม ปฺจนฺนมฺปิ สตฺตนฺนมฺปิ อาปตฺติกฺขนฺธานํ วเสน มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา ปทภาชเนน วณฺณนา, ตํ ภาสติ. วินยปริยตฺติยา วณฺณํ ภาสตีติ วินยํ ปริยาปุณนฺตานํ วินยปริยตฺติมูลกํ วณฺณํ คุณํ อานิสํสํ ภาสติ. วินยธโร หิ วินยปริยตฺติมูลเก ปฺจานิสํเส ฉานิสํเส สตฺตานิสํเส อฏฺานิสํเส นวานิสํเส ทสานิสํเส เอกาทสานิสํเส จ ลภติ เต สพฺเพ ภาสตีติ อตฺโถ. กตเม ปฺจานิสํเส ลภตีติ? อตฺตโน สีลกฺขนฺธสุคุตฺติอาทิเก ¶ . วุตฺตฺเหตํ –
‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อานิสํสา วินยธเร ปุคฺคเล – อตฺตโน สีลกฺขนฺโธ สุคุตฺโต โหติ สุรกฺขิโต, กุกฺกุจฺจปกตานํ ปฏิสรณํ โหติ, วิสารโท สงฺฆมชฺเฌ โวหรติ, ปจฺจตฺถิเก ¶ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคณฺหาติ, สทฺธมฺมฏฺิติยา ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ (ปริ. ๓๒๕).
กถมสฺส อตฺตโน สีลกฺขนฺโธ สุคุตฺโต โหติ สุรกฺขิโต? อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต ฉหากาเรหิ อาปชฺชติ – อลชฺชิตา, อฺาณตา, กุกฺกุจฺจปกตตา, อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตา, กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตา, สติสมฺโมสาติ.
กถํ อลชฺชิตาย อาปตฺตึ อาปชฺชติ? อกปฺปิยภาวํ ชานนฺโตเยว มทฺทิตฺวา วีติกฺกมํ กโรติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘สฺจิจฺจ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, อาปตฺตึ ปริคูหติ;
อคติคมนฺจ คจฺฉติ, เอทิโส วุจฺจติ อลชฺชิปุคฺคโล’’ติ. (ปริ. ๓๕๙);
กถํ อฺาณตาย อาปชฺชติ? อฺาณปุคฺคโล หิ มนฺโท โมมูโห กตฺตพฺพากตฺตพฺพํ อชานนฺโต อกตฺตพฺพํ กโรติ, กตฺตพฺพํ วิราเธติ; เอวํ อฺาณตาย อาปชฺชติ.
กถํ ¶ กุกฺกุจฺจปกตตาย อาปชฺชติ? กปฺปิยากปฺปิยํ นิสฺสาย กุกฺกุจฺเจ อุปฺปนฺเน วินยธรํ ปุจฺฉิตฺวา กปฺปิยฺเจ กตฺตพฺพํ สิยา, อกปฺปิยฺเจ น กตฺตพฺพํ, อยํ ปน ‘‘วฏฺฏตี’’ติ มทฺทิตฺวา วีติกฺกมติเยว; เอวํ กุกฺกุจฺจปกตตาย อาปชฺชติ.
กถํ อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตาย อาปชฺชติ? อจฺฉมํสํ สูกรมํสนฺติ ขาทติ, ทีปิมํสํ มิคมํสนฺติ ขาทติ, อกปฺปิยโภชนํ กปฺปิยโภชนนฺติ ภฺุชติ, วิกาเล กาลสฺาย ภฺุชติ, อกปฺปิยปานกํ กปฺปิยปานกนฺติ ปิวติ; เอวํ อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตาย อาปชฺชติ.
กถํ กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตาย อาปชฺชติ? สูกรมํสํ อจฺฉมํสนฺติ ขาทติ, มิคมํสํ ทีปิมํสนฺติ ขาทติ, กปฺปิยโภชนํ อกปฺปิยโภชนนฺติ ภฺุชติ, กาเล วิกาลสฺาย ภฺุชติ, กปฺปิยปานกํ อกปฺปิยปานกนฺติ ปิวติ; เอวํ กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตาย อาปชฺชติ.
กถํ ¶ สติสมฺโมสาย อาปชฺชติ? สหเสยฺยจีวรวิปฺปวาสเภสชฺชจีวรกาลาติกฺกมนปจฺจยา อาปตฺติฺจ สติสมฺโมสาย อาปชฺชติ; เอวมิเธกจฺโจ ¶ ภิกฺขุ อิเมหิ ฉหากาเรหิ อาปตฺตึ อาปชฺชติ.
วินยธโร ปน อิเมหิ ฉหากาเรหิ อาปตฺตึ นาปชฺชติ. กถํ ลชฺชิตาย นาปชฺชติ? โส หิ ‘‘ปสฺสถ โภ, อยํ กปฺปิยากปฺปิยํ ชานนฺโตเยว ปณฺณตฺติวีติกฺกมํ กโรตี’’ติ อิมํ ปรูปวาทํ รกฺขนฺโตปิ นาปชฺชติ; เอวํ ลชฺชิตาย นาปชฺชติ. สหสา อาปนฺนมฺปิ เทสนาคามินึ เทเสตฺวา วุฏฺานคามินิยา วุฏฺหิตฺวา สุทฺธนฺเต ปติฏฺาติ. ตโต –
‘‘สฺจิจฺจ อาปตฺตึ น อาปชฺชติ, อาปตฺตึ น ปริคูหติ;
อคติคมนฺจ น คจฺฉติ, เอทิโส วุจฺจติ ลชฺชิปุคฺคโล’’ติ. (ปริ. ๓๕๙)
อิมสฺมึ ลชฺชิภาเว ปติฏฺิโตว โหติ.
กถํ าณตาย นาปชฺชติ? โส หิ กปฺปิยากปฺปิยํ ชานาติ, ตสฺมา กปฺปิยเมว กโรติ, อกปฺปิยํ น กโรติ; เอวํ าณตาย นาปชฺชติ.
กถํ อกุกฺกุจฺจปกตตาย นาปชฺชติ? โส หิ กปฺปิยากปฺปิยํ นิสฺสาย กุกฺกุจฺเจ อุปฺปนฺเน วตฺถุํ โอโลเกตฺวา มาติกํ ปทภาชนํ อนฺตราปตฺตึ ¶ อาปตฺตึ อนาปตฺติฺจ โอโลเกตฺวา กปฺปิยฺเจ โหติ กโรติ, อกปฺปิยฺเจ น กโรติ; เอวํ อกุกฺกุจฺจปกตตาย นาปชฺชติ.
กถํ อกปฺปิยาทิสฺิตาย นาปชฺชติ? โส หิ กปฺปิยากปฺปิยํ ชานาติ, ตสฺมา อกปฺปิเย กปฺปิยสฺี น โหติ, กปฺปิเย อกปฺปิยสฺี น โหติ; สุปฺปติฏฺิตา จสฺส สติ โหติ, อธิฏฺาตพฺพํ อธิฏฺเติ, วิกปฺเปตพฺพํ วิกปฺเปติ. อิติ อิเมหิ ฉหากาเรหิ อาปตฺตึ นาปชฺชติ. อาปตฺตึ อนาปชฺชนฺโต อขณฺฑสีโล โหติ ปริสุทฺธสีโล; เอวมสฺส อตฺตโน สีลกฺขนฺโธ สุคุตฺโต โหติ สุรกฺขิโต.
กถํ กุกฺกุจฺจปกตานํ ปฏิสรณํ โหติ? ติโรรฏฺเสุ ติโรชนปเทสุ จ อุปฺปนฺนกุกฺกุจฺจา ภิกฺขู ‘‘อสุกสฺมึ กิร วิหาเร วินยธโร วสตี’’ติ ทูรโตปิ ตสฺส สนฺติกํ อาคนฺตฺวา กุกฺกุจฺจํ ¶ ปุจฺฉนฺติ, โส เตหิ กตสฺส กมฺมสฺส วตฺถุํ โอโลเกตฺวา อาปตฺตานาปตฺติครุกลหุกาทิเภทํ สลฺลกฺเขตฺวา เทสนาคามินึ เทสาเปตฺวา วุฏฺานคามินิยา วุฏฺาเปตฺวา สุทฺธนฺเต ปติฏฺาเปติ; เอวํ กุกฺกุจฺจปกตานํ ปฏิสรณํ โหติ.
วิสารโท สงฺฆมชฺเฌ โวหรตีติ อวินยธรสฺส หิ สงฺฆมชฺเฌ ¶ กเถนฺตสฺส ภยํ สารชฺชํ โอกฺกมติ, วินยธรสฺส ตํ น โหติ. กสฺมา? ‘‘เอวํ กเถนฺตสฺส โทโส โหติ; เอวํ น โทโส’’ติ ตฺวา กถนโต.
ปจฺจตฺถิเก สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคณฺหาตีติ เอตฺถ ทฺวิธา ปจฺจตฺถิกา นาม – อตฺตปจฺจตฺถิกา จ สาสนปจฺจตฺถิกา จ. ตตฺถ เมตฺติยภุมฺมชกา จ ภิกฺขู วฑฺโฒ จ ลิจฺฉวี อมูลเกน อนฺติมวตฺถุนา โจเทสุํ, อิเม อตฺตปจฺจตฺถิกา นาม. เย วา ปนฺเปิ ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา, สพฺเพ เต อตฺตปจฺจตฺถิกา. วิปรีตทสฺสนา ปน อริฏฺภิกฺขุกณฺฏกสามเณรเวสาลิกวชฺชิปุตฺตกา ปรูปหารอฺาณกงฺขาปรวิตรณาทิวาทา มหาสงฺฆิกาทโย จ อพุทฺธสาสนํ ‘‘พุทฺธสาสน’’นฺติ วตฺวา กตปคฺคหา สาสนปจฺจตฺถิกา นาม. เต สพฺเพปิ สหธมฺเมน สการเณน วจเนน ยถา ตํ อสทฺธมฺมํ ปติฏฺาเปตุํ น สกฺโกนฺติ, เอวํ สุนิคฺคหิตํ กตฺวา นิคฺคณฺหาติ.
สทฺธมฺมฏฺิติยา ¶ ปฏิปนฺโน โหตีติ เอตฺถ ปน ติวิโธ สทฺธมฺโม ปริยตฺติปฏิปตฺติอธิคมวเสน. ตตฺถ เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ ปริยตฺติสทฺธมฺโม นาม. เตรส ธุตงฺคคุณา จุทฺทส ขนฺธกวตฺตานิ ทฺเวอสีติ มหาวตฺตานีติ อยํ ปฏิปตฺติสทฺธมฺโม นาม. จตฺตาโร มคฺคา จ ผลานิ จาติ อยํ อธิคมสทฺธมฺโม นาม.
ตตฺถ เกจิ เถรา ‘‘โย โว, อานนฺท, มยา ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต ปฺตฺโต, โส โว มมจฺจเยน สตฺถา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๖) อิมินา สุตฺเตน ‘‘สาสนสฺส ปริยตฺติ มูล’’นฺติ วทนฺติ. เกจิ เถรา ‘‘อิเม จ สุภทฺท ภิกฺขู สมฺมา วิหเรยฺยุํ, อสฺุโ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๔) อิมินา สุตฺเตน ‘‘สาสนสฺส ปฏิปตฺติมูล’’นฺติ วตฺวา ‘‘ยาว ปฺจ ภิกฺขู สมฺมา ปฏิปนฺนา สํวิชฺชนฺติ, ตาว สาสนํ ิตํ โหตี’’ติ อาหํสุ. อิตเร ปน เถรา ปริยตฺติยา อนฺตรหิตาย สุปฺปฏิปนฺนสฺสปิ ธมฺมาภิสมโย นตฺถี’’ติ อาหํสุ. สเจ ปฺจ ภิกฺขู จตฺตาริ ปาราชิกานิ รกฺขณกา โหนฺติ, เต สทฺเธ กุลปุตฺเต ปพฺพาเชตฺวา ปจฺจนฺติเม ชนปเท อุปสมฺปาเทตฺวา ทสวคฺคํ คณํ ปูเรตฺวา มชฺฌิเม ชนปเทปิ อุปสมฺปทํ ¶ กริสฺสนฺติ, เอเตนุปาเยน วีสติวคฺคคณํ สงฺฆํ ปูเรตฺวา อตฺตโนปิ อพฺภานกมฺมํ กตฺวา สาสนํ วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ คมยิสฺสนฺติ. เอวมยํ วินยธโร ¶ ติวิธสฺสาปิ สทฺธมฺมสฺส จิรฏฺิติยา ปฏิปนฺโน โหตีติ เอวมยํ วินยธโร อิเม ตาว ปฺจานิสํเส ปฏิลภตีติ เวทิตพฺโพ.
กตเม ฉ อานิสํเส ลภตีติ? ตสฺสาเธยฺโย อุโปสโถ, ปวารณา, สงฺฆกมฺมํ, ปพฺพชฺชา, อุปสมฺปทา, นิสฺสยํ เทติ สามเณรํ อุปฏฺาเปติ.
เย อิเม จาตุทฺทสิโก, ปนฺนรสิโก, สามคฺคิอุโปสโถ, สงฺเฆ อุโปสโถ, คเณ ปุคฺคเล อุโปสโถ, สุตฺตุทฺเทโส, ปาริสุทฺธิ, อธิฏฺานอุโปสโถติ นว อุโปสถา, สพฺเพ เต วินยธรายตฺตา.
ยาปิ จ อิมา จาตุทฺทสิกา ปนฺนรสิกา, สามคฺคิปวารณา, สงฺเฆ ปวารณา คเณ ปุคฺคเล ปวารณา, เตวาจิกา, ทฺเววาจิกา, สมานวสฺสิกา ปวารณาติ นว ปวารณาโย, ตาปิ วินยธรายตฺตา เอว, ตสฺส สนฺตกา, โส ตาสํ สามี.
ยานิปิ ¶ อิมานิ อปโลกนกมฺมํ ตฺติกมฺมํ ตฺติทุติยกมฺมํ ตฺติจตุตฺถกมฺมนฺติ จตฺตาริ สงฺฆกมฺมานิ, ตานิ วินยธรายตฺตานิ.
ยาปิ จายํ อุปชฺฌาเยน หุตฺวา กุลปุตฺตานํ ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ กาตพฺพา, อยมฺปิ วินยธรายตฺตาว. น หิ อฺโ ทฺวิปิฏกธโรปิ เอตํ กาตุํ ลภติ. โส เอว นิสฺสยํ เทติ, สามเณรํ อุปฏฺาเปติ. อฺโ เนว นิสฺสยํ ทาตุํ ลภติ, น สามเณรํ อุปฏฺาเปตุํ. สามเณรูปฏฺานํ ปจฺจาสีสนฺโต ปน วินยธรสฺส สนฺติเก อุปชฺฌํ คาหาเปตฺวา วตฺตปฏิปตฺตึ สาทิตุํ ลภติ. เอตฺถ จ นิสฺสยทานฺเจว สามเณรูปฏฺานฺจ เอกมงฺคํ.
อิติ อิเมสุ ฉสุ อานิสํเสสุ เอเกน สทฺธึ ปุริมา ปฺจ ฉ โหนฺติ, ทฺวีหิ สทฺธึ สตฺต, ตีหิ สทฺธึ อฏฺ, จตูหิ สทฺธึ นว, ปฺจหิ สทฺธึ ทส, สพฺเพหิ เปเตหิ สทฺธึ เอกาทสาติ เอวํ วินยธโร ปุคฺคโล ปฺจ ฉ สตฺต อฏฺ นว ทส เอกาทส จ อานิสํเส ลภตีติ เวทิตพฺโพ. เอวํ ภควา อิเม อานิสํเส ทสฺเสนฺโต วินยปริยตฺติยา วณฺณํ ภาสตีติ เวทิตพฺโพ.
อาทิสฺส ¶ อาทิสฺสาติ ปุนปฺปุนํ ววตฺถเปตฺวา วิสุํ วิสุํ กตฺวา. อายสฺมโต อุปาลิสฺส วณฺณํ ภาสตีติ วินยปริยตฺตึ นิสฺสาย ¶ อุปาลิตฺเถรสฺส คุณํ ภาสติ โถเมติ ปสํสติ. กสฺมา? อปฺเปว นาม มม วณฺณนํ สุตฺวาปิ ภิกฺขู อุปาลิสฺส สนฺติเก วินยํ อุคฺคเหตพฺพํ ปริยาปุณิตพฺพํ มฺเยฺยุํ, เอวมิทํ สาสนํ อทฺธนิยํ ภวิสฺสติ, ปฺจวสฺสสหสฺสานิ ปวตฺติสฺสตีติ.
เตธ พหู ภิกฺขูติ เต อิมํ ภควโต วณฺณนํ สุตฺวา ‘‘อิเม กิรานิสํเส เนว สุตฺตนฺติกา น อาภิธมฺมิกา ลภนฺตี’’ติ ยถาปริกิตฺติตานิสํสาธิคเม อุสฺสาหชาตา พหู ภิกฺขู เถรา จ นวา จ มชฺฌิมา จ อายสฺมโต อุปาลิสฺส สนฺติเก วินยํ ปริยาปุณนฺตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. อิธาติ นิปาตมตฺตเมว.
๔๓๙-๔๐. อุทฺทิสฺสมาเนติ อาจริเยน อนฺเตวาสิกสฺส อุทฺทิสฺสมาเน, โส ปน ยสฺมา อาจริเย อตฺตโน รุจิยา อุทฺทิสนฺเต วา อาจริยํ ยาจิตฺวา ¶ อนฺเตวาสิเกน อุทฺทิสาเปนฺเต วา โย นํ ธาเรติ, ตสฺมึ สชฺฌายํ กโรนฺเต วา อุทฺทิสฺสมาโน นาม โหติ, ตสฺมา ‘‘อุทฺทิสนฺเต วา อุทฺทิสาเปนฺเต วา สชฺฌายํ วา กโรนฺเต’’ติ ปทภาชนํ วุตฺตํ. ขุทฺทานุขุทฺทเกหีติ ขุทฺทเกหิ จ อนุขุทฺทเกหิ จ. ยาวเทวาติ เตสํ สํวตฺตนมริยาทปริจฺเฉทวจนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เอตานิ หิ เย อุทฺทิสนฺติ, อุทฺทิสาเปนฺติ สชฺฌายนฺติ วา, เตสํ ตาว สํวตฺตนฺติ ยาว ‘‘กปฺปติ นุ โข, น กปฺปติ นุ โข’’ติ กุกฺกุจฺจสงฺขาโต วิปฺปฏิสาโร วิเหสา วิจิกิจฺฉาสงฺขาโต มโนวิเลโข จ อุปฺปชฺชติเยว. อถ วา ยาวเทวาติ อติสยววตฺถาปนํ; ตสฺส สํวตฺตนฺตีติ อิมินา สมฺพนฺโธ, กุกฺกุจฺจาย วิเหสาย วิเลขาย อติวิย สํวตฺตนฺติเยวาติ วุตฺตํ โหติ. อุปสมฺปนฺนสฺส วินยํ วิวณฺเณตีติ อุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก ตสฺส ตสฺมึ วิมตึ อุปฺปาเทตุกาโม วินยํ วิวณฺเณติ นินฺทติ ครหติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
วิเลขนสิกฺขาปทํ ทุติยํ.
๓. โมหนสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๔๔. ตติเย ¶ – อนฺวทฺธมาสนฺติ อนุปฏิปาฏิยา อทฺธมาเส อทฺธมาเส; ยสฺมา ปน โส อุโปสถทิวเส อุทฺทิสิยติ, ตสฺมา ‘‘อนุโปสถิก’’นฺติ ปทภาชเน วุตฺตํ. อุทฺทิสฺสมาเนติ อุทฺทิสิยมาเน ¶ . ยสฺมา ปน โส ปาติโมกฺขุทฺเทสเก อุทฺทิสนฺเต อุทฺทิสิยมาโน นาม โหติ, ตสฺมา ‘‘อุทฺทิสนฺเต’’ติ ปทภาชเน วุตฺตํ. ยฺจ ตตฺถ อาปตฺตึ อาปนฺโนติ ตสฺมึ อนาจาเร จิณฺเณ ยํ อาปตฺตึ อาปนฺโน. ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพติ อฺาเณน อาปนฺนตฺตา ตสฺสา อาปตฺติยา โมกฺโข นตฺถิ, ยถา ปน ธมฺโม จ วินโย จ ิโต, ตถา กาเรตพฺโพ. เทสนาคามินิฺเจ อาปนฺโน โหติ, เทสาเปตพฺโพ, วุฏฺานคามินิฺเจ, วุฏฺาเปตพฺโพติ อตฺโถ. สาธุกนฺติ สุฏฺุ. อฏฺึกตฺวาติ อตฺถิกภาวํ กตฺวา; อตฺถิโก หุตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.
๔๔๗. ธมฺมกมฺเมติอาทีสุ ¶ โมหาโรปนกมฺมํ อธิปฺเปตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
โมหนสิกฺขาปทํ ตติยํ.
๔. ปหารสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๔๙. จตุตฺเถ – ปหารํ เทนฺตีติ ‘‘อาวุโส ปีกํ ปฺเปถ, ปาทโธวนํ อาหรถา’’ติอาทีนิ วตฺวา ตถา อกโรนฺตานํ ปหารํ เทนฺติ.
๔๕๑. ปหารํ เทติ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ เอตฺถ ปหริตุกามตาย ปหาเร ทินฺเน สเจปิ มรติ ปาจิตฺติยเมว. ปหาเรน หตฺโถ วา ปาโท วา ภิชฺชติ, สีสํ วา ภินฺนํ โหติ, ปาจิตฺติยเมว. ‘‘ยถายํ สงฺฆมชฺเฌ น วิโรจติ, ตถา นํ กโรมี’’ติ เอวํ วิรูปกรณาธิปฺปาเยน กณฺณํ วา นาสํ วา ฉินฺทติ, ทุกฺกฏํ.
๔๕๒. อนุปสมฺปนฺนสฺสาติ คหฏฺสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา อิตฺถิยา วา ปุริสสฺส วา อนฺตมโส ติรจฺฉานคตสฺสาปิ ปหารํ เทติ, ทุกฺกฏํ. สเจ ปน รตฺตจิตฺโต อิตฺถึ ปหรติ, สงฺฆาทิเสโส.
๔๕๓. เกนจิ ¶ วิเหิยมาโนติ มนุสฺเสน วา ติรจฺฉานคเตน วา วิเหิยมาโน. โมกฺขาธิปฺปาโยติ ตโต อตฺตโน โมกฺขํ ปตฺถยมาโน. ปหารํ เทตีติ กายกายปฏิพทฺธนิสฺสคฺคิยานํ อฺตเรน ปหารํ เทติ, อนาปตฺติ. สเจปิ อนฺตรามคฺเค โจรํ วา ปจฺจตฺถิกํ วา วิเหเตุกามํ ทิสฺวา ‘‘อุปาสก, เอตฺเถว ติฏฺ, มา อาคมี’’ติ วตฺวา วจนํ อนาทิยิตฺวา อาคจฺฉนฺตํ ‘‘คจฺฉ เร’’ติ มุคฺคเรน วา สตฺถเกน วา ปหริตฺวา ยาติ, โส เจ เตน ปหาเรน มรติ, อนาปตฺติเยว. วาฬมิเคสุปิ เอเสว นโย. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิ ปนสฺส ¶ ปมปาราชิกสทิสานิ, อิทํ ปน ทุกฺขเวทนนฺติ.
ปหารสิกฺขาปทํ จตุตฺถํ.
๕. ตลสตฺติกสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๕๔. ปฺจเม ¶ – ตลสตฺติกํ อุคฺคิรนฺตีติ ปหารทานาการํ ทสฺเสตฺวา กายมฺปิ กายปฏิพทฺธมฺปิ อุจฺจาเรนฺติ. เต ปหารสมุจฺจิตา โรทนฺตีติ เต ปหารปริจิตา ปุพฺเพปิ ลทฺธปหารตฺตา อิทานิ จ ปหารํ ทสฺสนฺตีติ มฺมานา โรทนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘ปหารสฺส มุจฺจิตา’’ติปิ สชฺฌายนฺติ, ตตฺถ ‘‘ปหารสฺส ภีตา’’ติ อตฺโถ.
๔๕๗. อุคฺคิรติ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ เอตฺถ สเจ อุคฺคิริตฺวา วิรทฺโธ ปหารํ เทติ, อวสฺสํ ธาเรตุํ อสกฺโกนฺตสฺส ปหาโร สหสา ปตติ, น ปหริตุกามตาย ทินฺนตฺตา ทุกฺกฏํ. เตน ปหาเรน หตฺถาทีสุ ยํกิฺจิ ภิชฺชติ, ทุกฺกฏเมว.
๔๕๘. โมกฺขาธิปฺปาโย ตลสตฺติกํ อุคฺคิรตีติ เอตฺถ ปุพฺเพ วุตฺเตสุ วตฺถูสุ ปุริมนเยเนว ตลสตฺติกํ อุคฺคิรนฺตสฺส อนาปตฺติ. สเจปิ วิรชฺฌิตฺวา ปหารํ เทติ, อนาปตฺติเยว. เสสํ ปุริมสทิสเมว สทฺธึ สมุฏฺานาทีหีติ.
ตลสตฺติกสิกฺขาปทํ ปฺจมํ.
๖. อมูลกสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๕๙. ฉฏฺเ – อนุทฺธํเสนฺตีติ เต กิร สยํ อากิณฺณโทสตฺตา ‘‘เอวํ ภิกฺขู อมฺเห เนว ¶ โจเทสฺสนฺติ, น สาเรสฺสนฺตี’’ติ อตฺตปริตฺตาณํ กโรนฺตา ปฏิกจฺเจว ภิกฺขู อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน โจเทนฺติ. เสสเมตฺถ เตรสกมฺหิ อมูลกสิกฺขาปเท วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
อมูลกสิกฺขาปทํ ฉฏฺํ.
๗. สฺจิจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๖๔. สตฺตเม – อุปทหนฺตีติ อุปฺปาเทนฺติ. กุกฺกุจฺจํ อุปทหติ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ วาจาย วาจาย อาปตฺติ. อนุปสมฺปนฺนสฺสาติ สามเณรสฺส ¶ . มาตุคาเมน สทฺธึ รโห มฺเ ตยา นิสินฺนํ นิปนฺนํ ภุตฺตํ ปีตํ, สงฺฆมชฺเฌ อิทฺจิทฺจ กตนฺติอาทินา นเยน กุกฺกุจฺจํ อุปทหติ, วาจาย วาจาย ทุกฺกฏํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิปิ ¶ อมูลกสทิสาเนวาติ.
สฺจิจฺจสิกฺขาปทํ สตฺตมํ.
๘. อุปสฺสุติสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๗๑. อฏฺเม – อธิกรณชาตานนฺติ เอเตหิ ภณฺฑนาทีหิ อุปฺปนฺนวิวาทาธิกรณานํ. อุปสฺสุตินฺติ สุติสมีปํ; ยตฺถ ตฺวา สกฺกา โหติ เตสํ วจนํ โสตุํ, ตตฺถาติ อตฺโถ. คจฺฉติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอตฺถ ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ. มนฺเตนฺตนฺติ อฺเน สทฺธึ อฺสฺมึ มนฺตยมาเน; ‘‘มนฺเตนฺเต’’ติ วา ปาโ, อยเมวตฺโถ.
๔๗๓. วูปสมิสฺสามีติ อุปสมํ คมิสฺสามิ, กลหํ น กริสฺสามิ. อตฺตานํ ปริโมเจสฺสามีติ มม อการกภาวํ กเถตฺวา อตฺตานํ โมเจสฺสามิ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, สิยา กิริยํ โสตุกามตาย คมนวเสน, สิยา อกิริยํ ิตฏฺานํ อาคนฺตฺวา มนฺตยมานานํ อชานาปนวเสน, ¶ รูปิยํ อฺวาทกํ อุปสฺสุตีติ อิมานิ หิ ตีณิ สิกฺขาปทานิ เอกปริจฺเฉทานิ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
อุปสฺสุติสิกฺขาปทํ อฏฺมํ.
๙. กมฺมปฏิพาหนสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๗๔. นวเม – สเจ จ มยํ ชาเนยฺยามาติ สเจ มยํ ชาเนยฺยาม; จกาโร ปน นิปาตมตฺตเมว. ธมฺมิกานนฺติ ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน กตตฺตา ธมฺมา เอเตสุ อตฺถีติ ธมฺมิกานิ; เตสํ ธมฺมิกานํ จตุนฺนํ สงฺฆกมฺมานํ. ขิยฺยติ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ เอตฺถ วาจาย วาจาย ปาจิตฺติยํ ¶ . เสสํ อุตฺตานเมว. ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
กมฺมปฏิพาหนสิกฺขาปทํ นวมํ.
๑๐. ฉนฺทํอทตฺวาคมนสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๘๑. ทสเม – วตฺถุ วา อาโรจิตนฺติ โจทเกน จ จุทิตเกน จ อตฺตโน กถา กถิตา, อนุวิชฺชโก สมฺมโต, เอตฺตาวตาปิ วตฺถุเมว อาโรจิตํ โหติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ – กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ, กิริยากิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ ¶ , อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
ฉนฺทํ อทตฺวา คมนสิกฺขาปทํ ทสมํ.
๑๑. ทุพฺพลสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๘๔. เอกาทสเม – ยถามิตฺตตาติ ยถามิตฺตตาย; โย โย มิตฺโต, ตสฺส ตสฺส เทตีติ วุตฺตํ โหติ. เอส นโย สพฺพปเทสุ. เสสํ อุชฺฌาปนกาทีสุ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมว.
ติสมุฏฺานํ ¶ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
ทุพฺพลสิกฺขาปทํ เอกาทสมํ.
๑๒. ปริณามนสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๘๙. ทฺวาทสเม – ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ ตึสเก ปริณามนสิกฺขาปเท วุตฺตนยเมว. อยเมว หิ วิเสโส – ตตฺถ อตฺตโน ปริณามิตตฺตา นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, อิธ ปุคฺคลสฺส ปริณามิตตฺตา สุทฺธิกปาจิตฺติยนฺติ.
ติสมุฏฺานํ ¶ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ปริณามนสิกฺขาปทํ ทฺวาทสมํ.
สมตฺโต วณฺณนากฺกเมน สหธมฺมิกวคฺโค อฏฺโม.
๙. รตนวคฺโค
๑. อนฺเตปุรสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๙๔. ราชวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท – โอรโกติ ปริตฺตโก. อุปริปาสาทวรคโตติ ปาสาทวรสฺส อุปริคโต. อยฺยานํ วาหสาติ อยฺยานํ การณา; เตหิ ชานาปิตตฺตา ชานามีติ วุตฺตํ โหติ.
๔๙๗. ปิตรํ ปตฺเถตีติ อนฺตรํ ปสฺสิตฺวา ฆาเตตุํ อิจฺฉติ. ราชนฺเตปุรํ หตฺถิสมฺมทฺทนฺติอาทีสุ หตฺถีหิ สมฺมทฺโท เอตฺถาติ หตฺถิสมฺมทฺทํ; หตฺถิสมฺพาธนฺติ อตฺโถ. อสฺสรถสมฺมทฺทปเทปิ ¶ เอเสว นโย. ‘‘สมฺมตฺต’’นฺติ เกจิ ปนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. ‘‘รฺโ อนฺเตปุเร หตฺถิสมฺมทฺท’’นฺติปิ ปาโ, ตตฺถ หตฺถีนํ สมฺมทฺทํ หตฺถิสมฺมทฺทนฺติ อตฺโถ, รฺโ อนฺเตปุเร หตฺถิสมฺมทฺโท อตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. เอส นโย เสสปเทสุปิ. รชนียานีติ ตสฺมึ อนฺเตปุเร เอทิสานิ รูปาทีนิ.
๔๙๘. มุทฺธาวสิตฺตสฺสาติ มุทฺธนิ อวสิตฺตสฺส. อนิกฺขนฺโต ราชา อิโตติ อนิกฺขนฺตราชกํ, ตสฺมึ อนิกฺขนฺตราชเก; สยนิฆเรติ อตฺโถ. รตนํ ¶ วุจฺจติ มเหสี, นิคฺคตนฺติ นิกฺขนฺตํ, อนิคฺคตํ รตนํ อิโตติ อนิคฺคตรตนกํ, ตสฺมึ อนิคฺคตรตนเก; สยนิฆเรติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
กถินสมุฏฺานํ – กายวาจโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
อนฺเตปุรสิกฺขาปทํ ปมํ.
๒. รตนสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๐๒-๓. ทุติเย ¶ – วิสฺสริตฺวาติ ปมุสฺสิตฺวา. ปุณฺณปตฺตํ นาม สตโต ปฺจ กหาปณา. กฺยาหํ กริสฺสามีติ กึ อหํ กริสฺสามิ. อาภรณํ โอมฺุจิตฺวาติ มหาลตํ นาม นวโกฏิอคฺฆนกํ อลงฺการํ อปเนตฺวา.
๕๐๖. อปริกฺขิตฺตสฺส อุปจาโรติ เอตฺถ อุปจาโร นาม อารามสฺส ทฺเว เลฑฺฑุปาตา – ‘‘อาวสถสฺส ปน สุปฺปปาโต วา มุสลปาโต วา’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. อุคฺคณฺหาติ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ เอตฺถ ชาตรูปรชตํ อตฺตโน อตฺถาย อุคฺคณฺหนฺตสฺส วา อุคฺคณฺหาเปนฺตสฺส วา นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, สงฺฆคณปุคฺคลเจติยนวกมฺมานํ อตฺถาย ทุกฺกฏํ, อวเสสํ มุตฺตาทิรตนํ อตฺตโน วา สงฺฆาทีนํ วา อตฺถาย อุคฺคณฺหนฺตสฺส วา อุคฺคณฺหาเปนฺตสฺส วา ทุกฺกฏํ. กปฺปิยวตฺถุ วา อกปฺปิยวตฺถุ วา โหตุ, อนฺตมโส มาตุ กณฺณปิฬนฺธนตาฬปณฺณมฺปิ คิหิสนฺตกํ ภณฺฑาคาริกสีเสน ปฏิสาเมนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว.
สเจ ¶ ปน มาตาปิตูนํ สนฺตกํ อวสฺสํ ปฏิสาเมตพฺพํ กปฺปิยภณฺฑํ โหติ, อตฺตโน อตฺถาย คเหตฺวา ปฏิสาเมตพฺพํ. ‘‘อิทํ ปฏิสาเมตฺวา เทหี’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ ‘‘ปฏิสาเมหี’’ติ ปาเตตฺวา คจฺฉนฺติ, ปลิโพโธ นาม โหติ, ปฏิสาเมตุํ วฏฺฏติ. วิหาเร กมฺมํ กโรนฺตา วฑฺฒกีอาทโย วา ราชวลฺลภา วา อตฺตโน อุปกรณภณฺฑํ วา สยนภณฺฑํ วา ‘‘ปฏิสาเมตฺวา เทถา’’ติ วทนฺติ, ฉนฺเทนปิ ภเยนปิ น กาตพฺพเมว, คุตฺตฏฺานํ ปน ทสฺเสตุํ วฏฺฏติ. พลกฺกาเรน ปาเตตฺวา คเตสุ จ ปฏิสาเมตุํ วฏฺฏติ.
อชฺฌาราเม วา อชฺฌาวสเถ วาติ เอตฺถ สเจ มหาวิหารสทิโส มหาราโม โหติ, ตตฺถ ปาการปริกฺขิตฺเต ปริเวเณ ยตฺถ ภิกฺขูหิ ¶ วา สามเณเรหิ วา คหิตํ ภวิสฺสตีติ สงฺกา อุปฺปชฺชติ, ตาทิเส เอว าเน อุคฺคณฺหิตฺวา วา อุคฺคณฺหาเปตฺวา วา เปตพฺพํ. มหาโพธิทฺวารโกฏฺกอมฺพงฺคณสทิเสสุ ปน มหาชนสฺจรณฏฺาเนสุ น คเหตพฺพํ, ปลิโพโธ น โหติ. กุรุนฺทิยํ ปน วุตฺตํ ‘‘เอโก มคฺคํ คจฺฉนฺโต นิมนุสฺสฏฺาเน กิฺจิ ภณฺฑํ ปสฺสติ, อากิณฺณมนุสฺเสปิ ชาเต มนุสฺสา ตเมว ¶ ภิกฺขุํ อาสงฺกนฺติ, ตสฺมา มคฺคา โอกฺกมฺม นิสีทิตพฺพํ. สามิเกสุ อาคเตสุ ตํ อาจิกฺขิตพฺพํ. สเจ สามิเก น ปสฺสติ ปติรูปํ กริสฺสตี’’ติ.
รูเปน วา นิมิตฺเตน วา สฺาณํ กตฺวาติ เอตฺถ รูปํ นาม อนฺโตภณฺฑิกาย ภณฺฑํ; ตสฺมา ภณฺฑิกํ มฺุจิตฺวา คเณตฺวา เอตฺตกา กหาปณา วา ชาตรูปรชตํ วาติ สลฺลกฺเขตพฺพํ. นิมิตฺตนฺติ ลฺฉนาทิ; ตสฺมา ลฺฉิตาย ภณฺฑิกาย มตฺติกาลฺฉนนฺติ วา ลาขาลฺฉนนฺติ วา นีลปิโลติกาย ภณฺฑิกา กตาติ วา เสตปิโลติกาย กตาติ วา เอวมาทิ สพฺพํ สลฺลกฺเขตพฺพํ.
ภิกฺขู ปติรูปาติ ลชฺชิโน กุกฺกุจฺจกา. โลลชาติกานฺหิ หตฺเถ เปตุํ น ลภติ. โย ปน เนว ตมฺหา อาวาสา ปกฺกมติ, น สามิเก ปสฺสติ, เตนาปิ อตฺตโน จีวราทิมูลํ น กาตพฺพํ; ถาวรํ ปน เสนาสนํ วา เจติยํ วา โปกฺขรณี วา กาเรตพฺพา. สเจ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน สามิโก อาคจฺฉติ, ‘‘อุปาสก ตว สนฺตเกน อิทํ นาม กตํ, อนุโมทาหี’’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ อนุโมทติ, อิจฺเจตํ กุสลํ; โน เจ อนุโมทติ, ‘‘มม ธนํ เทถา’’ติ โจเทติเยว, อฺํ สมาทเปตฺวา ทาตพฺพํ.
๕๐๗. รตนสมฺมตํ ¶ วิสฺสาสํ คณฺหาตีติอาทีสุ อามาสเมว สนฺธาย วุตฺตํ. อนามาสํ น วฏฺฏติเยว. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ฉสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
รตนสิกฺขาปทํ ทุติยํ.
๓. วิกาลคามปฺปวิสนสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๐๘. ตติเย – ติรจฺฉานกถนฺติ อริยมคฺคสฺส ติรจฺฉานภูตํ กถํ. ราชกถนฺติ ราชปฏิสํยุตฺต กถํ. โจรกถาทีสุปิ เอเสว นโย.
๕๑๒. สนฺตํ ภิกฺขุนฺติ เอตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ ¶ , ตํ จาริตฺตสิกฺขาปเท วุตฺตเมว. สเจ สมฺพหุลา เกนจิ กมฺเมน คามํ ปวิสนฺติ, ‘‘วิกาเล คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉามี’’ติ ¶ สพฺเพหิ อฺมฺํ อาปุจฺฉิตพฺพํ. ตสฺมึ คาเม ตํ กมฺมํ น สมฺปชฺชตีติ อฺํ คามํ คจฺฉนฺติ, คามสตมฺปิ โหตุ, ปุน อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ. สเจ ปน อุสฺสาหํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตฺวา วิหารํ คจฺฉนฺตา อนฺตรา อฺํ คามํ ปวิสิตุกามา โหนฺติ, ปุน อาปุจฺฉิตพฺพเมว.
กุลฆเร วา อาสนสาลาย วา ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา เตลภิกฺขาย วา สปฺปิภิกฺขาย วา จริตุกาโม โหติ, สเจ ปสฺเส ภิกฺขุ อตฺถิ, อาปุจฺฉิตฺวา คนฺตพฺพํ. อสนฺเต นตฺถีติ คนฺตพฺพํ. วีถึ โอตริตฺวา ภิกฺขุํ ปสฺสติ, อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ, อนาปุจฺฉิตฺวาปิ จริตพฺพเมว. คามมชฺเฌน มคฺโค โหติ, เตน คจฺฉนฺตสฺส เตลาทิภิกฺขาย จริสฺสามีติ จิตฺเต อุปฺปนฺเน สเจ ปสฺเส ภิกฺขุ อตฺถิ, อาปุจฺฉิตฺวา จริตพฺพํ. มคฺคา อโนกฺกมฺม ภิกฺขาย จรนฺตสฺส ปน อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ, อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจาโร อทินฺนาทาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
๕๑๕. อนฺตรารามนฺติอาทีสุ น เกวลํ อนาปุจฺฉา กายพนฺธนํ อพนฺธิตฺวา สงฺฆาฏึ อปารุปิตฺวา คจฺฉนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ. อาปทาสูติ สีโห วา พฺยคฺโฆ วา อาคจฺฉติ, เมโฆ วา อุฏฺเติ, อฺโ วา โกจิ อุปทฺทโว อุปฺปชฺชติ, อนาปตฺติ. เอวรูปาสุ อาปทาสุ พหิคามโต อนฺโตคามํ ปวิสิตุํ วฏฺฏติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
กถินสมุฏฺานํ ¶ – กายวาจโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
วิกาลคามปฺปวิสนสิกฺขาปทํ ตติยํ.
๔. สูจิฆรสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๑๗-๒๐. จตุตฺเถ – เภทนเมว เภทนกํ; ตํ อสฺส อตฺถีติ เภทนกเมว. อรณิเกติ อรณิธนุเก. วิเธติ เวธเก. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ฉสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
สูจิฆรสิกฺขาปทํ จตุตฺถํ.
๕. มฺจสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๒๒. ปฺจเม ¶ – เฉทนกํ วุตฺตนยเมว.
๕๒๕. ฉินฺทิตฺวา ปริภฺุชตีติ เอตฺถ สเจ น ฉินฺทิตุกาโม โหติ, ภูมิยํ นิขณิตฺวา ¶ ปมาณํ อุปริ ทสฺเสติ, อุตฺตานํ วา กตฺวา ปริภฺุชติ, อุกฺขิปิตฺวา วา ตุลาสงฺฆาเฏ เปตฺวา อฏฺฏํ กตฺวา ปริภฺุชติ, สพฺพํ วฏฺฏติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ฉสมุฏฺานํ.
มฺจสิกฺขาปทํ ปฺจมํ.
๖. ตูโลนทฺธสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๒๖. ฉฏฺเ – ตูลํ โอนทฺธเมตฺถาติ ตูโลนทฺธํ; ตูลํ ปกฺขิปิตฺวา อุปริ จิมิลิกาย โอนทฺธนฺติ วุตฺตํ โหติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ฉสมุฏฺานํ.
ตูโลนทฺธสิกฺขาปทํ ฉฏฺํ.
๗. นิสีทนสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๓๑-๔. สตฺตเม ¶ – นิสีทนํ อนฺุาตํ โหตีติ กตฺถ อนฺุาตํ? จีวรกฺขนฺธเก ปณีตโภชนวตฺถุสฺมึ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กายคุตฺติยา จีวรคุตฺติยา เสนาสนคุตฺติยา นิสีทน’’นฺติ (มหาว. ๓๕๓). เสยฺยถาปิ ปุราณาสิโกฏฺโติ ยถา นาม ปุราณจมฺมกาโรติ อตฺโถ. ยถา หิ จมฺมกาโร จมฺมํ วิตฺถตํ กริสฺสามีติ อิโต จิโต จ สมฺฉติ, กฑฺฒติ; เอวํ โสปิ ตํ นิสีทนํ. เตน ตํ ภควา เอวมาห – ‘‘นิสีทนํ นาม สทสํ วุจฺจตี’’ติ สนฺถตสทิสํ สนฺถริตฺวา เอกสฺมึ อนฺเต สุคตวิทตฺถิยา วิทตฺถิมตฺเต ปเทเส ทฺวีสุ าเนสุ ผาเลตฺวา ติสฺโส ทสา กริยนฺติ, ตาหิ ทสาหิ สทสํ นาม วุจฺจติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ฉสมุฏฺานํ.
นิสีทนสิกฺขาปทํ สตฺตมํ.
๘. กณฺฑุปฏิจฺฉาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๓๗. อฏฺเม ¶ – กณฺฑุปฏิจฺฉาทิ อนฺุาตา โหตีติ กตฺถ อนฺุาตา? จีวรกฺขนฺธเก เพลฏฺสีสวตฺถุสฺมึ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยสฺส กณฺฑุ วา ปิฬกา วา อสฺสาโว วา ถุลฺลกจฺฉุ วา อาพาโธ ตสฺส กณฺฑุปฏิจฺฉาทิ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๔).
๕๓๙. ยสฺส อโธนาภิ อุพฺภชาณุมณฺฑลนฺติ ยสฺส ภิกฺขุโน นาภิยา เหฏฺา ชาณุมณฺฑลานํ อุปริ. กณฺฑูติ กจฺฉุ. ปิฬกาติ โลหิตตุณฺฑิกา สุขุมปิฬกา. อสฺสาโวติ อริสภคนฺทรมธุเมหาทีนํ วเสน อสุจิปคฺฆรณกํ. ถุลฺลกจฺฉุ วา อาพาโธติ มหาปิฬกาพาโธ วุจฺจติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ฉสมุฏฺานํ.
กณฺฑุปฏิจฺฉาทิสิกฺขาปทํ อฏฺมํ.
๙. วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๔๒. นวเม ¶ – วสฺสิกสาฏิกา อนฺุาตา โหตีติ กตฺถ อนฺุาตา? จีวรกฺขนฺธเก ¶ วิสาขาวตฺถุสฺมึ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสิกสาฏิก’’นฺติ (มหาว. ๓๕๒). เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ฉสมุฏฺานํ.
วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทํ นวมํ.
๑๐. นนฺทตฺเถรสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๔๗. ทสเม – จตุรงฺคุโลมโกติ จตูหิ องฺคุเลหิ อูนกปฺปมาโณ. เสสํ อุตฺตานเมว. ฉสมุฏฺานํ.
นนฺทตฺเถรสิกฺขาปทํ ทสมํ.
สมตฺโต วณฺณนากฺกเมน รตนวคฺโค นวโม.
อุทฺทิฏฺา โขติอาทิ วุตฺตนยเมวาติ.
สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย
ขุทฺทกวณฺณนา สมตฺตา.
ปาจิตฺติยกณฺฑํ นิฏฺิตํ.
๖. ปาฏิเทสนียกณฺฑํ
๑. ปมปาฏิเทสนียสิกฺขาปทวณฺณนา
ปาฏิเทสนียา ¶ ¶ ¶ ธมฺมา, ขุทฺทกานํ อนนฺตรา;
ปิตา เย อยํ ทานิ, เตสํ ภวติ วณฺณนา.
๕๕๒. ปมปาฏิเทสนีเย ตาว ปฏิกฺกมนกาเลติ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปฏิอาคมนกาเล. สพฺเพว อคฺคเหสีติ สพฺพเมว อคฺคเหสิ. ปเวเธนฺตีติ กมฺปมานา. อเปหีติ อปคจฺฉ.
๕๕๓-๕. คารยฺหํ อาวุโสติอาทิ ปฏิเทเสตพฺพาการทสฺสนํ. รถิกาติ รจฺฉา. พฺยูหนฺติ อนิพฺพิชฺฌิตฺวา ิตา คตปจฺจาคตรจฺฉา. สิงฺฆาฏกนฺติ จตุกฺโกณํ วา ติโกณํ วา มคฺคสโมธานฏฺานํ. ฆรนฺติ กุลฆรํ. เอเตสุ ยตฺถ กตฺถจิ ตฺวา คณฺหนฺตสฺส คหเณ ทุกฺกฏํ, อชฺโฌหาเร อชฺโฌหารคณนาย ปาฏิเทสนียํ. หตฺถิสาลาทีสุ คณฺหนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. ภิกฺขุนี รถิกาย ตฺวา เทติ, ภิกฺขุ สเจปิ อนฺตรารามาทีสุ ตฺวา คณฺหาติ, อาปตฺติเยว. ‘‘อนฺตรฆรํ ปวิฏฺายา’’ติ หิ วจนโต ภิกฺขุนิยา อนฺตรฆเร ตฺวา ททมานาย วเสเนตฺถ อาปตฺติ เวทิตพฺพา, ภิกฺขุสฺส ิตฏฺานํ ปน อปฺปมาณํ. ตสฺมา สเจปิ วีถิอาทีสุ ิโต ภิกฺขุ อนฺตรารามาทีสุ ตฺวา ททมานาย ภิกฺขุนิยา คณฺหาติ, อนาปตฺติเยว.
ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ อาหารตฺถาย ปฏิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ อิทํ อามิเสน อสมฺภินฺนํ สนฺธาย วุตฺตํ, สมฺภินฺเน ปน ¶ เอกรเส ปาฏิเทสนียเมว. เอกโต อุปสมฺปนฺนายาติ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย. ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย ปน ยถาวตฺถุกเมว.
๕๕๖. ทาเปติ น เทตีติ อฺาติกา อฺเน เกนจิ ทาเปติ ตํ คณฺหนฺตสฺส อนาปตฺติ. อุปนิกฺขิปิตฺวา เทตีติ ภูมิยํ เปตฺวา ‘‘อิทํ อยฺย ตุมฺหากํ ทมฺมี’’ติ เทติ, เอวํ ทินฺนํ ‘‘สาธุ ภคินี’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตาย เอว วา ภิกฺขุนิยา อฺเน วา เกนจิ ปฏิคฺคหาเปตฺวา ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. สิกฺขมานาย ¶ สามเณริยาติ เอตาสํ ททมานานํ คณฺหนฺตสฺส อนาปตฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ปมปาฏิเทสนียํ.
๒. ทุติยปาฏิเทสนียสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๕๘. ทุติเย ¶ – อปสกฺก ตาว ภคินีติอาทิ อปสาเทตพฺพาการทสฺสนํ.
๕๖๑. อตฺตโน ภตฺตํ ทาเปติ น เทตีติ เอตฺถ สเจปิ อตฺตโน ภตฺตํ เทติ, อิมินา สิกฺขาปเทน อนาปตฺติเยว, ปุริมสิกฺขาปเทน อาปตฺติ. อฺเสํ ภตฺตํ เทติ น ทาเปตีติ เอตฺถ สเจปิ ทาเปยฺย, อิมินา สิกฺขาปเทน อาปตฺติ ภเวยฺย. เทนฺติยา ปน เนว อิมินา น ปุริเมน อาปตฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. กถินสมุฏฺานํ – กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ทุติยปาฏิเทสนียํ.
๓. ตติยปาฏิเทสนียสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๖๒. ตติเย – อุภโตปสนฺนนฺติ ทฺวีหิ ปสนฺนํ อุปาสเกนปิ อุปาสิกายปิ. ตสฺมึ กิร กุเล อุโภปิ เต โสตาปนฺนาเยว. โภเคน หายตีติ เอทิสฺหิ กุลํ สเจปิ อสีติโกฏิธนํ ¶ โหติ, โภเคหิ หายติเยว. กสฺมา? ยสฺมา ตตฺถ เนว อุปาสิกา น อุปาสโก โภเค รกฺขติ.
๕๖๙. ฆรโต นีหริตฺวา เทนฺตีติ อาสนสาลํ วา วิหารํ วา อาเนตฺวา เทนฺติ. สเจปิ อนาคเต ภิกฺขุมฺหิ ปมํเยว นีหริตฺวา ทฺวาเร เปตฺวา ปจฺฉา สมฺปตฺตสฺส เทนฺติ, วฏฺฏติ. ภิกฺขุํ ปน ทิสฺวา อนฺโตเคหโต นีหริตฺวา ทิยฺยมานํ น วฏฺฏตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว ¶ . เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ตติยปาฏิเทสนียํ.
๔. จตุตฺถปาฏิเทสนียสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๗๐. จตุตฺเถ – อวรุทฺธา โหนฺตีติ ปฏิวิรุทฺธา โหนฺติ.
๕๗๓. ปฺจนฺนํ ปฏิสํวิทิตนฺติ ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ ยํกิฺจิ เปเสตฺวา ขาทนียํ โภชนียํ อาหริสฺสามาติ ปฏิสํวิทิตํ กตมฺปิ อปฺปฏิสํวิทิตเมวาติ อตฺโถ. อารามํ อารามูปจารํ เปตฺวาติ อารฺกเสนาสนารามฺจ ตสฺส อุปจารฺจ ¶ เปตฺวา; อุปจารโต นิกฺขนฺตํ อนฺตรามคฺเค ภิกฺขุํ ทิสฺวา วา คามํ อาคตสฺส วา ปฏิสํวิทิตํ กตมฺปิ อปฺปฏิสํวิทิตเมว โหตีติ เวทิตพฺพํ. สเจ สาสงฺกํ โหติ สาสงฺกนฺติ อาจิกฺขิตพฺพนฺติ กสฺมา อาจิกฺขิตพฺพํ? อาราเม โจเร วสนฺเต อมฺหากํ นาโรเจนฺตีติ วจนปฏิโมจนตฺถํ. โจรา วตฺตพฺพา มนุสฺสา อิธูปจรนฺตีติ กสฺมา วตฺตพฺพํ? อตฺตโน อุปฏฺาเกหิ อมฺเห คณฺหาเปนฺตีติ วจนปฏิโมจนตฺถํ.
ยาคุยา ปฏิสํวิทิเต ตสฺสา ปริวาโร อาหริยฺยตีติ ยาคุยา ปฏิสํวิทิตํ กตฺวา ‘‘กึ สุทฺธยาคุยา ทินฺนาย ปูวภตฺตาทีนิปิ เอติสฺสา ยาคุยา ปริวารํ กตฺวา ทสฺสามา’’ติ เอวํ ยํ กิฺจิ อาหรนฺติ, สพฺพํ ปฏิสํวิทิตเมว โหติ. ภตฺเตน ปฏิสํวิทิเตติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อสุกํ นาม กุลํ ปฏิสํวิทิตํ กตฺวา ขาทนียาทีนิ คเหตฺวา คจฺฉตีติ สุตฺวา อฺานิปิ เตน สทฺธึ อตฺตโน เทยฺยธมฺมํ อาหรนฺติ, วฏฺฏติ. ยาคุยา ปฏิสํวิทิตํ กตฺวา ปูวํ วา ภตฺตํ วา อาหรนฺติ, เอตมฺปิ วฏฺฏตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ.
๕๗๕. คิลานสฺสาติ ¶ อปฺปฏิสํวิทิเตปิ คิลานสฺส อนาปตฺติ. ปฏิสํวิทิเต วา คิลานสฺส วา เสสกนฺติ เอกสฺสตฺถาย ปฏิสํวิทิตํ กตฺวา อาหฏํ, ตสฺส เสสกํ อฺสฺสาปิ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. จตุนฺนํ ปฺจนฺนํ วา ปฏิสํวิทิตํ กตฺวา พหุํ อาหฏํ โหติ, อฺเสมฺปิ ทาตุํ อิจฺฉนฺติ, เอตมฺปิ ¶ ปฏิสํวิทิตเสสกเมว, สพฺเพสมฺปิ วฏฺฏติ. อถ อธิกเมว โหติ, สนฺนิธึ โมเจตฺวา ปิตํ ทุติยทิวเสปิ วฏฺฏติ. คิลานสฺส อาหฏาวเสเสปิ เอเสว นโย. ยํ ปน อปฺปฏิสํวิทิตเมว กตฺวา อาภตํ, ตํ พหิอารามํ เปเสตฺวา ปฏิสํวิทิตํ กาเรตฺวา อาหราเปตพฺพํ, ภิกฺขูหิ วา คนฺตฺวา อนฺตรามคฺเค คเหตพฺพํ. ยมฺปิ วิหารมชฺเฌน คจฺฉนฺตา วา วนจรกาทโย วา วนโต อาหริตฺวา เทนฺติ, ปุริมนเยเนว ปฏิสํวิทิตํ กาเรตพฺพํ. ตตฺถชาตกนฺติ อาราเม ชาตกเมว; มูลขาทนียาทึ อฺเน กปฺปิยํ กตฺวา ทินฺนํ ปริภฺุชโต อนาปตฺติ. สเจ ปน ตํ คามํ หริตฺวา ปจิตฺวา อาหรนฺติ, น วฏฺฏติ. ปฏิสํวิทิตํ กาเรตพฺพํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
กถินสมุฏฺานํ – กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
จตุตฺถปาฏิเทสนียํ ¶ .
สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย
ปาฏิเทสนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปาฏิเทสนียกณฺฑํ นิฏฺิตํ.
๗. เสขิยกณฺฑํ
๑. ปริมณฺฑลวคฺควณฺณนา
ยานิ ¶ ¶ สิกฺขิตสิกฺเขน, เสขิยานีติ ตาทินา;
ภาสิตานิ อยํ ทานิ, เตสมฺปิ วณฺณนากฺกโม.
๕๗๖. ตตฺถ ปริมณฺฑลนฺติ สมนฺตโต มณฺฑลํ. นาภิมณฺฑลํ ชาณุมณฺฑลนฺติ อุทฺธํ นาภิมณฺฑลํ อโธ ชาณุมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺเตน ชาณุมณฺฑลสฺส เหฏฺา ชงฺฆฏฺิกโต ปฏฺาย อฏฺงฺคุลมตฺตํ นิวาสนํ โอตาเรตฺวา นิวาเสตพฺพํ, ตโต ปรํ โอตาเรนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ วุตฺตํ. ยถา นิสินฺนสฺส ชาณุมณฺฑลโต เหฏฺา จตุรงฺคุลมตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ; เอวํ นิวาเสนฺตสฺส ปน นิวาสนํ ปมาณิกํ วฏฺฏติ. ตตฺริทํ ปมาณํ – ทีฆโต มุฏฺิปฺจกํ, ติริยํ อฑฺฒเตยฺยหตฺถํ. ตาทิสสฺส ปน อลาเภ ติริยํ ทฺวิหตฺถปมาณมฺปิ วฏฺฏติ ชาณุมณฺฑลปฏิจฺฉาทนตฺถํ, นาภิมณฺฑลํ ปน จีวเรนาปิ สกฺกา ปฏิจฺฉาเทตุนฺติ. ตตฺถ เอกปฏฺฏจีวรํ เอวํ นิวตฺถมฺปิ นิวตฺถฏฺาเน น ติฏฺติ, ทุปฏฺฏํ ปน ติฏฺติ.
โอลมฺเพนฺโต นิวาเสติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอตฺถ น เกวลํ ปุรโต จ ปจฺฉโต จ โอลมฺเพตฺวา นิวาเสนฺตสฺเสว ทุกฺกฏํ, เย ปนฺเ ‘‘เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู คิหินิวตฺถํ นิวาเสนฺติ หตฺถิโสณฺฑกํ มจฺฉวาลกํ จตุกฺกณฺณกํ ตาลวณฺฏกํ สตวลิกํ นิวาเสนฺตี’’ติอาทินา (จูฬว. ๒๘๐) นเยน ขนฺธเก นิวาสนโทสา วุตฺตา, ตถา นิวาเสนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว. เต สพฺเพ วุตฺตนเยน ปริมณฺฑลํ นิวาเสนฺตสฺส น โหนฺติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปน ตตฺเถว อาวิ ภวิสฺสติ.
อสฺจิจฺจาติ ¶ ปุรโต วา ปจฺฉโต วา โอลมฺเพตฺวา นิวาเสสฺสามีติ เอวํ อสฺจิจฺจ; อถ โข ปริมณฺฑลํเยว นิวาเสสฺสามีติ วิรชฺฌิตฺวา อปริมณฺฑลํ นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺติ. อสฺสติยาติ อฺวิหิตสฺสาปิ ตถา นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺติ. อชานนฺตสฺสาติ เอตฺถ นิวาสนวตฺตํ อชานนฺตสฺส โมกฺโข นตฺถิ. นิวาสนวตฺตฺหิ สาธุกํ อุคฺคเหตพฺพํ, ตสฺส อนุคฺคหณเมวสฺส อนาทริยํ. ตํ ปน สฺจิจฺจ อนุคฺคณฺหนฺตสฺส ยุชฺชติ, ตสฺมา อุคฺคหิตวตฺโตปิ โย อารุฬฺหภาวํ ¶ วา โอรุฬฺหภาวํ วา น ชานาติ, ตสฺส ¶ อนาปตฺติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ปริมณฺฑลํ นิวาเสตุํ อชานนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. โย ปน สุกฺขชงฺโฆ วา มหาปิณฺฑิกมํโส วา โหติ, ตสฺส สารุปฺปตฺถาย ชาณุมณฺฑลโต อฏฺงฺคุลาธิกมฺปิ โอตาเรตฺวา นิวาเสตุํ วฏฺฏติ.
คิลานสฺสาติ ชงฺฆาย วา ปาเท วา วโณ โหติ, อุกฺขิปิตฺวา วา โอตาเรตฺวา วา นิวาเสตุํ วฏฺฏติ. อาปทาสูติ วาฬมิคา วา โจรา วา อนุพนฺธนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ อนาปตฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
ปมปาราชิกสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ. ผุสฺสเทวตฺเถโร ‘‘อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, ติเวทน’’นฺติ อาห. อุปติสฺสตฺเถโร ปน ‘‘อนาทริยํ ปฏิจฺจา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘โลกวชฺชํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทน’’นฺติ อาห.
๕๗๗. ปริมณฺฑลํ ปารุปิตพฺพนฺติ ‘‘เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู คิหิปารุตํ ปารุปนฺตี’’ติ (จูฬว. ๒๘๐) เอวํ วุตฺตํ อเนกปฺปการํ คิหิปารุปนํ อปารุปิตฺวา อิธ วุตฺตนเยเนว อุโภ กณฺเณ สมํ กตฺวา ปารุปนวตฺตํ ปูเรนฺเตน ปริมณฺฑลํ ปารุปิตพฺพํ. อิมานิ จ ทฺเว สิกฺขาปทานิ อวิเสเสน วุตฺตานิ. ตสฺมา วิหาเรปิ อนฺตรฆเรปิ ปริมณฺฑลเมว นิวาเสตพฺพฺจ ปารุปิตพฺพฺจาติ. สมุฏฺานาทีนิ ปมสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ สทฺธึ เถรวาเทน.
๕๗๘. กายํ วิวริตฺวาติ ชตฺตุมฺปิ อุรมฺปิ วิวริตฺวา. สุปฺปฏิจฺฉนฺเนนาติ น สสีสํ ปารุเตน; อถ โข คณฺิกํ ปฏิมฺุจิตฺวา อนุวาตนฺเตน คีวํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา อุโภ กณฺเณ สมํ กตฺวา ปฏิสํหริตฺวา ยาว มณิพนฺธํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา อนฺตรฆเร คนฺตพฺพํ. ทุติยสิกฺขาปเท ¶ – คลวาฏกโต ปฏฺาย สีสํ มณิพนฺธโต ปฏฺาย หตฺเถ ปิณฺฑิกมํสโต จ ปฏฺาย ปาเท วิวริตฺวา นิสีทิตพฺพํ.
๕๗๙. วาสูปคตสฺสาติ วาสตฺถาย อุปคตสฺส รตฺติภาเค วา ทิวสภาเค วา กายํ วิวริตฺวาปิ นิสีทโต อนาปตฺติ.
๕๘๐. สุสํวุโตติ หตฺถํ วา ปาทํ วา อกีฬาเปนฺโต; สุวินีโตติ อตฺโถ.
๕๘๒. โอกฺขิตฺตจกฺขูติ ¶ เหฏฺา ขิตฺตจกฺขุ หุตฺวา. ยุคมตฺตํ เปกฺขมาโนติ ¶ ยุคยุตฺตโก หิ ทนฺโต อาชาเนยฺโย ยุคมตฺตํ เปกฺขติ, ปุรโต จตุหตฺถปฺปมาณํ ภูมิภาคํ; อิมินาปิ เอตฺตกํ เปกฺขนฺเตน คนฺตพฺพํ. โย อนาทริยํ ปฏิจฺจ ตหํ ตหํ โอโลเกนฺโตติ โย ตํตํทิสาภาคํ ปาสาทํ กูฏาคารํ วีถึ โอโลเกนฺโต คจฺฉติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. เอกสฺมึ ปน าเน ตฺวา หตฺถิอสฺสาทิปริสฺสยาภาวํ โอโลเกตุํ วฏฺฏติ. นิสีทนฺเตนาปิ โอกฺขิตฺตจกฺขุนาว นิสีทิตพฺพํ.
๕๘๔. อุกฺขิตฺตกายาติ อุกฺเขเปน; อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ กรณวจนํ เอกโต วา อุภโต วา อุกฺขิตฺตจีวโร หุตฺวาติ อตฺโถ. อนฺโตอินฺทขีลโต ปฏฺาย น เอวํ คนฺตพฺพํ. นิสินฺนกาเล ปน ธมกรณํ นีหรนฺเตนาปิ จีวรํ อนุกฺขิปิตฺวาว นีหริตพฺพนฺติ.
ปโม วคฺโค.
๒. อุชฺชคฺฆิกวคฺควณฺณนา
๕๘๖. อุชฺชคฺฆิกายาติ มหาหสิตํ หสนฺโต. วุตฺตนเยเนเวตฺถ กรณวจนํ.
๕๘๘. อปฺปสทฺโท อนฺตรฆเรติ เอตฺถ กิตฺตาวตา อปฺปสทฺโท โหติ? ทฺวาทสหตฺเถ เคเห อาทิมฺหิ สงฺฆตฺเถโร, มชฺเฌ ทุติยตฺเถโร, อนฺเต ตติยตฺเถโรติ เอวํ นิสินฺเนสุ สงฺฆตฺเถโร ทุติเยน สทฺธึ มนฺเตติ, ทุติยตฺเถโร ตสฺส สทฺทฺเจว สุณาติ, กถฺจ ววตฺถเปติ. ตติยตฺเถโร ปน สทฺทเมว สุณาติ, กถํ น ววตฺถเปติ. เอตฺตาวตา อปฺปสทฺโท โหติ. สเจ ปน ตติยตฺเถโร กถํ ววตฺถเปติ, มหาสทฺโท นาม โหติ.
๕๙๐. กายํ ¶ ปคฺคเหตฺวาติ นิจฺจลํ กตฺวา อุชุเกน กาเยน สเมน อิริยาปเถน คนฺตพฺพฺเจว นิสีทิตพฺพฺจ.
๕๙๒. พาหุํ ปคฺคเหตฺวาติ นิจฺจลํ กตฺวา.
๕๙๔. สีสํ ปคฺคเหตฺวาติ นิจฺจลํ อุชุํ ปยิตฺวา.
ทุติโย วคฺโค.
๓. ขมฺภกตวคฺควณฺณนา
๕๙๖-๘. ขมฺภกโต ¶ นาม กฏิยํ หตฺถํ เปตฺวา กตขมฺโภ. โอคุณฺิโตติ สสีสํ ปารุโต.
๖๐๐. อุกฺกุฏิกายาติ เอตฺถ อุกฺกุฏิกา วุจฺจติ ปณฺหิโย อุกฺขิปิตฺวา อคฺคปาเทหิ วา, อคฺคปาเท วา อุกฺขิปิตฺวา ปณฺหีหิเยว วา ภูมึ ผุสนฺตสฺส คมนํ. กรณวจนํ ปเนตฺถ วุตฺตลกฺขณเมว.
๖๐๑. ทุสฺสปลฺลตฺถิกายาติ เอตฺถ อาโยคปลฺลตฺถิกาปิ ทุสฺสปลฺลตฺถิกา เอว.
๖๐๒. สกฺกจฺจนฺติ สตึ อุปฏฺเปตฺวา.
๖๐๓. อากิรนฺเตปีติ ปิณฺฑปาตํ เทนฺเตปิ. ปตฺตสฺีติ ปตฺเต สฺํ กตฺวา.
๖๐๔. สมสูปโก ¶ นาม ยตฺถ ภตฺตสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาโณ สูโป โหติ. มุคฺคสูโป มาสสูโปติ เอตฺถ กุลตฺถาทีหิ กตสูปาปิ สงฺคหํ คจฺฉนฺติเยวาติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. รสรเสติ เอตฺถ เปตฺวา ทฺเว สูเป อวเสสานิ โอโลณีสากสูเปยฺยมจฺฉรสมํสรสาทีนิ รสรสาติ เวทิตพฺพานิ. ตํ รสรสํ พหุมฺปิ คณฺหนฺตสฺส อนาปตฺติ.
๖๐๕. สมติตฺติกนฺติ สมปุณฺณํ สมภริตํ. ถูปีกตํ ปิณฺฑปาตํ ปฏิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ ¶ เอตฺถ ถูปีกโต นาม ปตฺตสฺส อนฺโตมุขวฏฺฏิเลขํ อติกฺกมิตฺวา กโต; ปตฺเต ปกฺขิตฺโต รจิโต ปูริโตติ อตฺโถ. เอวํ กตํ อคเหตฺวา อนฺโตมุขวฏฺฏิเลขาสมปฺปมาโณ คเหตพฺโพ.
ตตฺถ ถูปีกตํ นาม ‘‘ปฺจหิ โภชเนหิ กต’’นฺติ อภยตฺเถโร อาห. ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร ปน ‘‘ปิณฺฑปาโต นาม ยาคุปิ ภตฺตมฺปิ ขาทนียมฺปิ จุณฺณปิณฺโฑปิ ทนฺตกฏฺมฺปิ ทสิกสุตฺตมฺปี’’ติ อิทํ สุตฺตํ วตฺวา ทสิกสุตฺตมฺปิ ถูปีกตํ น วฏฺฏตีติ อาห. เตสํ วาทํ สุตฺวา ภิกฺขู โรหณํ คนฺตฺวา จูฬสุมนตฺเถรํ ปุจฺฉึสุ – ‘‘ภนฺเต ถูปีกตปิณฺฑปาโต เกน ปริจฺฉินฺโน’’ติ? เตสฺจ เถรานํ วาทํ อาโรเจสุํ. เถโร สุตฺวา อาห ¶ – ‘‘อโห, จูฬนาโค สาสนโต ภฏฺโ, อหํ เอตสฺส สตฺตกฺขตฺตุํ วินยํ วาเจนฺโต น กทาจิ เอวํ อวจํ, อยํ กุโต ลภิตฺวา เอวํ วทสี’’ติ. ภิกฺขู เถรํ ยาจึสุ – ‘‘กเถถ ทานิ, ภนฺเต, เกน ปริจฺฉินฺโน’’ติ? ‘‘ยาวกาลิเกนาวุโส’’ติ เถโร อาห. ตสฺมา ยํกิฺจิ ยาคุภตฺตํ วา ผลาผลํ วา อามิสชาติกํ สมติตฺติกเมว คเหตพฺพํ. ตฺจ โข อธิฏฺานุปเคน ปตฺเตน, อิตเรน ปน ถูปีกตมฺปิ วฏฺฏติ. ยามกาลิกสตฺตาหกาลิกยาวชีวิกานิ ปน อธิฏฺานุปคปตฺเตปิ ถูปีกตานิ วฏฺฏนฺติ. ทฺวีสุ ปตฺเตสุ ภตฺตํ คเหตฺวา เอกสฺมึ ปูเรตฺวา วิหารํ เปเสตุํ วฏฺฏตีติ มหาปจฺจริยํ ปน วุตฺตํ. ยํ ปตฺเต ปกฺขิปิยมานํ ปูวอุจฺฉุขณฺฑผลาผลาทิ เหฏฺา โอโรหติ, ตํ ถูปีกตํ นาม น โหติ. ปูววฏํสกํ เปตฺวา ปิณฺฑปาตํ เทนฺติ, ถูปีกตเมว โหติ. ปุปฺผวฏํสกตกฺโกลกฏุกผลาทิวฏํสเก ปน เปตฺวา ทินฺนํ ถูปีกตํ น โหติ. ภตฺตสฺส อุปริ ถาลกํ วา ปตฺตํ วา เปตฺวา ปูเรตฺวา ¶ คณฺหาติ, ถูปีกตํ นาม น โหติ. กุรุนฺทิยมฺปิ วุตฺตํ – ‘‘ถาลเก วา ปณฺเณ วา ปกฺขิปิตฺวา ตํ ปตฺตมตฺถเก เปตฺวา เทนฺติ, ปาเฏกฺกภาชนํ วฏฺฏตี’’ติ.
อิธ อนาปตฺติยํ คิลาโน น อาคโต, ตสฺมา คิลานสฺสปิ ถูปีกตํ น วฏฺฏติ. สพฺพตฺถ ปน ปฏิคฺคเหตุเมว น วฏฺฏติ. ปฏิคฺคหิตํ ปน สุปฏิคฺคหิตเมว โหติ, ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ.
ตติโย วคฺโค.
๔. สกฺกจฺจวคฺควณฺณนา
๖๐๖. สกฺกจฺจนฺติ เอตฺถาปิ อสกฺกจฺจํ ปฏิคฺคหเณเยว อาปตฺติ, ปฏิคฺคหิตํ ปน สุปฏิคฺคหิตเมว. สกฺกจฺจนฺติ จ ปตฺตสฺีติ จาติ อุภยํ วุตฺตนยเมว.
๖๐๘. สปทานนฺติ ¶ ตตฺถ ตตฺถ โอธึ อกตฺวา อนุปฏิปาฏิยา. สมสูปเก วตฺตพฺพํ วุตฺตเมว.
๖๑๐. ถูปกโตติ มตฺถกโต; เวมชฺฌโตติ อตฺโถ.
๖๑๑. ปฏิจฺฉาเทตฺวา ¶ เทนฺตีติ มาฆาตสมยาทีสุ ปฏิจฺฉนฺนํ พฺยฺชนํ กตฺวา เทนฺติ. วิฺตฺติยํ วตฺตพฺพํ นตฺถิ.
๖๑๔. อุชฺฌานสฺีสิกฺขาปเทปิ คิลาโน น มุจฺจติ.
๖๑๕. นาติมหนฺโต กพโฬติ มยูรณฺฑํ อติมหนฺตํ, กุกฺกุฏณฺฑํ อติขุทฺทกํ, เตสํ เวมชฺฌปฺปมาโณ. ขชฺชเกติ เอตฺถ มูลขาทนียาทิ สพฺพํ คเหตพฺพํ.
จตุตฺโถ วคฺโค.
๕. กพฬวคฺควณฺณนา
๖๑๗. อนาหเฏติ อนาหริเต; มุขทฺวารํ อสมฺปาปิเตติ อตฺโถ.
๖๑๙. สกพเฬนาติ เอตฺถ ธมฺมํ กเถนฺโต หรีตกํ วา ลฏฺิมธุกํ วา มุเข ปกฺขิปิตฺวา กเถติ. ยตฺตเกน วจนํ อปริปุณฺณํ น โหติ, ตตฺตเก มุขมฺหิ สนฺเต กเถตุํ วฏฺฏติ.
๖๒๐. ปิณฺฑุกฺเขปกนฺติ ปิณฺฑํ อุกฺขิปิตฺวา อุกฺขิปิตฺวา.
๖๒๑. กพฬาวจฺเฉทกนฺติ กพฬํ อวจฺฉินฺทิตฺวา อวจฺฉินฺทิตฺวา.
๖๒๒. อวคณฺฑการกนฺติ มกฺกโฏ วิย คณฺเฑ กตฺวา กตฺวา.
๖๒๓. หตฺถนิทฺธุนกนฺติ ¶ หตฺถํ นิทฺธุนิตฺวา นิทฺธุนิตฺวา.
๖๒๔. สิตฺถาวการกนฺติ สิตฺถานิ อวกิริตฺวา อวกิริตฺวา.
๖๒๕. ชิวฺหานิจฺฉารกนฺติ ชิวฺหํ นิจฺฉาเรตฺวา นิจฺฉาเรตฺวา.
๖๒๖. จปุจปุการกนฺติ จปุ จปูติ เอวํ สทฺทํ กตฺวา กตฺวา.
ปฺจโม วคฺโค.
๖. สุรุสุรุวคฺควณฺณนา
๖๒๗. สุรุสุรุการกนฺติ ¶ สุรุสุรูติ เอวํ สทฺทํ กตฺวา กตฺวา. ทโวติ ปริหาสวจนํ; ตํ เยน เกนจิ ปริยาเยน ‘‘กึ พุทฺโธ ¶ , สิลกพุทฺโธ, ปฏิพุทฺโธ; กึ ธมฺโม, โคธมฺโม, อชธมฺโม; กึ สงฺโฆ, มิคสงฺโฆ, ปสุสงฺโฆ’’ติอาทินา นเยน ตีณิ รตนานิ อารพฺภ น กาตพฺพนฺติ อตฺโถ.
๖๒๘. หตฺถนิลฺเลหกนฺติ หตฺถํ นิลฺเลหิตฺวา นิลฺเลหิตฺวา. ภฺุชนฺเตน หิ องฺคุลิมตฺตมฺปิ นิลฺเลหิตุํ น วฏฺฏติ. ฆนยาคุผาณิตปายาสาทิเก ปน องฺคุลีหิ คเหตฺวา องฺคุลิโย มุเข ปเวเสตฺวา ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ปตฺตนิลฺเลหกโอฏฺนิลฺเลหเกสุปิ เอเสว นโย. ตสฺมา เอกงฺคุลิยาปิ ปตฺโต น นิลฺเลหิตพฺโพ, เอกโอฏฺโปิ ชิวฺหาย น นิลฺเลหิตพฺโพ, โอฏฺมํเสหิ เอว ปน คเหตฺวา อนฺโต ปเวเสตุํ วฏฺฏติ.
๖๓๑. โกกนเทติ เอวํนามเก. โกกนทนฺติ ปทุมํ วุจฺจติ, โส จ ปาสาโท ปทุมสณฺาโน, เตนสฺส โกกนโทตฺเวว นามํ อกํสุ. น สามิเสน หตฺเถน ปานียถาลกนฺติ เอตํ ปฏิกฺกูลวเสน ปฏิกฺขิตฺตํ, ตสฺมา สงฺฆิกมฺปิ ปุคฺคลิกมฺปิ คิหิสนฺตกมฺปิ อตฺตโน สนฺตกมฺปิ สงฺขมฺปิ สราวมฺปิ ถาลกมฺปิ น คเหตพฺพเมว, คณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. สเจ ปน หตฺถสฺส เอกเทโส อามิสมกฺขิโต น โหติ, เตน ปเทเสน คเหตุํ วฏฺฏติ.
๖๓๒. อุทฺธริตฺวา วาติ สิตฺถานิ อุทกโต อุทฺธริตฺวา เอกสฺมึ าเน ราสึ กตฺวา อุทกํ ¶ ฉฑฺเฑติ. ภินฺทิตฺวา วาติ สิตฺถานิ ภินฺทิตฺวา อุทกคติกานิ กตฺวา ฉฑฺเฑติ. ปฏิคฺคเห วาติ ปฏิคฺคเหน ปฏิจฺฉนฺโต นํ ปฏิคฺคเห ฉฑฺเฑติ. นีหริตฺวาติ พหิ นีหริตฺวา ฉฑฺเฑติ; เอวํ ฉฑฺเฑนฺตสฺส อนาปตฺติ.
๖๓๔. เสตจฺฉตฺตนฺติ วตฺถปลิคุณฺิตํ ปณฺฑรจฺฉตฺตํ. กิลฺชจฺฉตฺตนฺติ วิลีวจฺฉตฺตํ. ปณฺณจฺฉตฺตนฺติ ตาลปณฺณาทีหิ เยหิ เกหิจิ กตํ. มณฺฑลพทฺธํ สลากพทฺธนฺติ อิทํ ปน ติณฺณมฺปิ ฉตฺตานํ ปฺชรทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตานิ หิ มณฺฑลพทฺธานิ เจว โหนฺติ สลากพทฺธานิ จ. ยมฺปิ ตตฺถชาตกทณฺฑเกน กตํ เอกปณฺณจฺฉตฺตํ โหติ, ตมฺปิ ฉตฺตเมว. เอเตสุ ยํกิฺจิ ฉตฺตํ ปาณิมฺหิ ¶ อสฺสาติ ฉตฺตปาณิ. โส ตํ ฉตฺตํ ธารยมาโน วา อํเส วา กตฺวา อูรุมฺหิ วา เปตฺวา ยาว หตฺเถน น มุจฺจติ, ตาวสฺส ธมฺมํ เทเสตุํ น วฏฺฏติ, เทเสนฺตสฺส วุตฺตนเยน ทุกฺกฏํ. สเจ ปนสฺส อฺโ ฉตฺตํ ¶ ธาเรติ, ฉตฺตปาทุกาย วา ิตํ โหติ, หตฺถโต อปคตมตฺเต ฉตฺตปาณิ นาม น โหติ. ตสฺส ธมฺมํ เทเสตุํ วฏฺฏติ. ธมฺมปริจฺเฉโท ปเนตฺถ ปทโสธมฺเม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
๖๓๕. ทณฺฑปาณิสฺสาติ เอตฺถ ทณฺโฑ นาม มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส จตุหตฺถปฺปมาโณ ทณฺฑปาณิภาโว ปนสฺส ฉตฺตปาณิมฺหิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
๖๓๖. สตฺถปาณิมฺหิปิ เอเสว นโย. อสึ สนฺนหิตฺวา ิโตปิ หิ สตฺถปาณิสงฺขฺยํ น คจฺฉติ.
๖๓๗. อาวุธปาณิสฺสาติ เอตฺถ กิฺจาปิ วุตฺตํ – ‘‘อาวุธํ นาม จาโป โกทณฺโฑ’’ติ, อถ โข สพฺพาปิ ธนุวิกติ สทฺธึ สรวิกติยา อาวุธนฺติ เวทิตพฺพํ. ตสฺมา สทฺธึ วา สเรน ธนุํ คเหตฺวา สุทฺธธนุํ วา สุทฺธสรํ วา สชิยธนุํ วา นิชฺชิยธนุํ วา คเหตฺวา ิตสฺส วา นิสินฺนสฺส วา ธมฺโม เทเสตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปนสฺส ธนุํ กณฺเปิ ปฏิมุกฺกํ โหติ, ยาว หตฺเถน น คณฺหาติ, ตาว ธมฺมํ เทเสตุํ วฏฺฏติเยวาติ.
ฉฏฺโ วคฺโค.
๗. ปาทุกวคฺควณฺณนา
๖๓๘. อกฺกนฺตสฺสาติ ¶ ฉตฺตทณฺฑเก องฺคุลนฺตรํ อปฺปเวเสตฺวา เกวลํ ปาทุกํ อกฺกมิตฺวา ิตสฺส. ปฏิมุกฺกสฺสาติ ปฏิมฺุจิตฺวา ิตสฺส. อุปาหนายปิ เอเสว นโย. โอมุกฺโกติ ปเนตฺถ ปณฺหิกพทฺธํ โอมฺุจิตฺวา ิโต วุจฺจติ.
๖๔๐. ยานคตสฺสาติ เอตฺถ สเจปิ ทฺวีหิ ชเนหิ หตฺถสงฺฆาเฏน คหิโต, สาฏเก วา เปตฺวา วํเสน วยฺหติ, อยุตฺเต วา วยฺหาทิเก ยาเน ¶ , วิสงฺขริตฺวา วา ปิเต จกฺกมตฺเตปิ นิสินฺโน ยานคโตตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. สเจ ปน ทฺเวปิ เอกยาเน นิสินฺนา โหนฺติ, วฏฺฏติ. วิสุํ นิสินฺเนสุปิ อุจฺเจ ยาเน นิสินฺเนน นีเจ นิสินฺนสฺส เทเสตุํ วฏฺฏติ, สมปฺปมาเณปิ วฏฺฏติ. ปุริเม ยาเน นิสินฺเนน ปจฺฉิเม นิสินฺนสฺส วฏฺฏติ. ปจฺฉิเม ปน อุจฺจตเรปิ นิสินฺเนน เทเสตุํ น วฏฺฏติ.
๖๔๑. สยนคตสฺสาติ อนฺตมโส กฏสารเกปิ ปกติภูมิยมฺปิ นิปนฺนสฺส อุจฺเจปิ มฺจปีเ วา ภูมิปเทเส วา ิเตน นิสินฺเนน วา เทเสตุํ น วฏฺฏติ. สยนคเตน ปน สยนคตสฺส อุจฺจตเร วา สมปฺปมาเณ วา นิปนฺเนน เทเสตุํ วฏฺฏติ. นิปนฺเนน จ ิตสฺส วา นิสินฺนสฺส วา เทเสตุํ วฏฺฏติ, นิสินฺเนนาปิ ิตสฺส วา นิสินฺนสฺส วา วฏฺฏติ. ิเตน ิตสฺเสว ¶ วฏฺฏติ.
๖๔๒. ปลฺลตฺถิกายาติ อาโยคปลฺลตฺถิกาย วา หตฺถปลฺลตฺถิกาย วา ทุสฺสปลฺลตฺถิกาย วา ยาย กายจิ ปลฺลตฺถิกาย นิสินฺนสฺส อคิลานสฺส เทเสตุํ น วฏฺฏติ.
๖๔๓. เวิตสีสสฺสาติ ทุสฺสเวเนน วา โมฬิอาทีหิ วา ยถา เกสนฺโต น ทิสฺสติ; เอวํ เวิตสีสสฺส.
๖๔๔. โอคุณฺิตสีสสฺสาติ สสีสํ ปารุตสฺส.
๖๔๕. ฉมายํ นิสินฺเนนาติ ภูมิยํ นิสินฺเนน. อาสเน นิสินฺนสฺสาติ อนฺตมโส วตฺถมฺปิ ติณานิปิ สนฺถริตฺวา นิสินฺนสฺส.
๖๔๗. ฉปกสฺสาติ ¶ จณฺฑาลสฺส. ฉปกีติ จณฺฑาลี. นิลีโนติ ปฏิจฺฉนฺโน หุตฺวา. ยตฺร หิ นามาติ โย หิ นาม. สพฺพมิทํ จริมํ กตนฺติ ตตฺเถว ปริปตีติ ‘‘สพฺโพ อยํ โลโก สงฺกรํ คโต นิมฺมริยาโท’’ติ อิมํ วจนํ วตฺวา ตตฺเถว เตสํ ทฺวินฺนมฺปิ อนฺตรา รุกฺขโต ปติโต. ปติตฺวา จ ปน อุภินฺนมฺปิ ปุรโต ตฺวา อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘อุโภ อตฺถํ น ชานนฺติ…เป… อสฺมา กุมฺภมิวาภิทา’’ติ.
ตตฺถ อุโภ อตฺถํ น ชานนฺตีติ ทฺเวปิ ชนา ปาฬิยา อตฺถํ น ชานนฺติ. ธมฺมํ น ปสฺสเรติ ปาฬึ น ปสฺสนฺติ. กตเม เต อุโภติ? ‘‘โย จายํ มนฺตํ ¶ วาเจติ, โย จาธมฺเมนธียตี’’ติ. เอวํ พฺราหฺมณฺจ ราชานฺจ อุโภปิ อธมฺมิกภาเว เปสิ.
ตโต พฺราหฺมโณ สาลีนนฺติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ชานามหํ โภ ‘‘อยํ อธมฺโม’’ติ; อปิ จ โข มยา ทีฆรตฺตํ สปุตฺตทารปริชเนน รฺโ สนฺตโก สาลีนํ โอทโน ภุตฺโต. สุจิมํสูปเสจโนติ นานปฺปการวิกติสมฺปาทิตํ สุจิมํสูปเสจนํ มิสฺสีกรณมสฺสาติ สุจิมํสูปเสจโน. ตสฺมา ธมฺเม น วตฺตามีติ ยสฺมา เอวํ มยา รฺโ โอทโน ภุตฺโต, อฺเ จ พหู ลาภา ลทฺธา, ตสฺมา ธมฺเม อหํ น วตฺตามิ อุทเร พทฺโธ หุตฺวา, น ธมฺมํ อชานนฺโต. อยฺหิ ธมฺโม อริเยหิ วณฺณิโต ปสตฺโถ โถมิโตติ ชานามิ.
อถ นํ ฉปโก ‘‘ธิรตฺถู’’ติอาทินา คาถาทฺวเยน อชฺฌภาสิ. ตสฺสตฺโถ – โย ตยา ธนลาโภ จ ยสลาโภ จ ลทฺโธ, ธิรตฺถุ ตํ ธนลาภํ ยสลาภฺจ ¶ พฺราหฺมณ. กสฺมา? ยสฺมา อยํ ตยา ลทฺโธ ลาโภ อายตึ อปาเยสุ วินิปาตนเหตุนา สมฺปติ จ อธมฺมจรเณน วุตฺติ นาม โหติ. เอวรูปา ยา วุตฺติ อายตึ วินิปาเตน อิธ อธมฺมจรเณน วา นิปฺปชฺชติ, กึ ตาย วุตฺติยา? เตน วุตฺตํ –
‘‘ธิรตฺถุ ตํ ธนลาภํ, ยสลาภฺจ พฺราหฺมณ;
ยา วุตฺติ วินิปาเตน, อธมฺมจรเณน วา’’ติ.
ปริพฺพช มหาพฺรหฺเมติ มหาพฺราหฺมณ อิโต ทิสา สีฆํ ปลายสฺสุ. ปจนฺตฺเปิ ปาณิโนติ อฺเปิ สตฺตา ปจนฺติ เจว ภฺุชนฺติ จ; น เกวลํ ตฺวฺเจว ราชา จ. มา ตฺวํ อธมฺโม อาจริโต อสฺมา กุมฺภมิวาภิทาติ สเจ หิ ตฺวํ อิโต อปริพฺพชิตฺวา อิมํ อธมฺมํ อาจริสฺสสิ ¶ , ตโต ตฺวํ โส อธมฺโม เอวํ อาจริโต ยถา อุทกกุมฺภํ ปาสาโณ ภินฺเทยฺย; เอวํ เภจฺฉติ, เตน มยํ ตํ วทาม –
‘‘ปริพฺพช มหาพฺรหฺเม, ปจนฺตฺเปิ ปาณิโน;
มา ตฺวํ อธมฺโม อาจริโต, อสฺมา กุมฺภมิวาภิทา’’ติ.
อุจฺเจ อาสเนติ อนฺตมโส ภูมิปฺปเทเสปิ อุนฺนตฏฺาเน นิสินฺนสฺส เทเสตุํ น วฏฺฏติ.
๖๔๘. น ¶ ิโต นิสินฺนสฺสาติ สเจปิ เถรุปฏฺานํ คนฺตฺวา ิตํ ทหรภิกฺขุํ อาสเน นิสินฺโน มหาเถโร ปฺหํ ปุจฺฉติ, น กเถตพฺพํ. คารเวน ปน เถรํ อุฏฺหิตฺวา ปุจฺฉถาติ วตฺตุํ น สกฺกา, ปสฺเส ิตภิกฺขุสฺส กเถมีติ กเถตุํ วฏฺฏติ.
๖๔๙. น ปจฺฉโต คจฺฉนฺเตนาติ เอตฺถ สเจ ปุรโต คจฺฉนฺโต ปจฺฉโต คจฺฉนฺตํ ปฺหํ ปุจฺฉติ, น กเถตพฺพํ. ปจฺฉิมสฺส ภิกฺขุโน กเถมีติ กเถตุํ วฏฺฏติ. สทฺธึ อุคฺคหิตธมฺมํ ปน สชฺฌายิตุํ วฏฺฏติ. สมธุเรน คจฺฉนฺตสฺส กเถตุํ วฏฺฏติ.
๖๕๐. น อุปฺปเถนาติ เอตฺถาปิ สเจ ทฺเวปิ สกฏปเถ เอเกกจกฺกปเถน วา อุปฺปเถน วา สมธุรํ คจฺฉนฺติ, วฏฺฏติ.
๖๕๑. อสฺจิจฺจาติ ปฏิจฺฉนฺนฏฺานํ คจฺฉนฺตสฺส สหสา อุจฺจาโร วา ปสฺสาโว วา นิกฺขมติ, อสฺจิจฺจ กโต นาม อนาปตฺติ.
๖๕๒. น หริเตติ เอตฺถ ยมฺปิ ¶ ชีวรุกฺขสฺส มูลํ ปถวิยํ ทิสฺสมานํ คจฺฉติ, สาขา วา ภูมิลคฺคา คจฺฉติ, สพฺพํ หริตสงฺขาตเมว. ขนฺเธ นิสีทิตฺวา อปฺปหริตฏฺาเน ปาเตตุํ วฏฺฏติ. อปฺปหริตฏฺานํ โอโลเกนฺตสฺเสว สหสา นิกฺขมติ, คิลานฏฺาเน ิโต โหติ, วฏฺฏติ. อปฺปหริเต กโตติ อปฺปหริตํ อลภนฺเตน ติณณฺฑุปกํ วา ปลาลณฺฑุปกํ วา เปตฺวา กโตปิ ปจฺฉา หริตํ โอตฺถรติ, วฏฺฏติเยว. เขเฬน เจตฺถ สิงฺฆาณิกาปิ สงฺคหิตาติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.
๖๕๓. น อุทเกติ เอตํ ปริโภคอุทกเมว สนฺธาย วุตฺตํ, วจฺจกุฏิสมุทฺทาทิอุทเกสุ ปน ¶ อปริโภเคสุ อนาปตฺติ. เทเว วสฺสนฺเต สมนฺตโต อุทโกโฆ โหติ, อนุทกฏฺานํ โอโลเกนฺตสฺเสว นิกฺขมติ, วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ – ‘‘เอตาทิเส กาเล อนุทกฏฺานํ อลภนฺเตน กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. เสสํ สพฺพสิกฺขาปเทสุ อุตฺตานตฺถเมว.
สตฺตโม วคฺโค.
สมุฏฺานาทิทีปนตฺถาย ปเนตฺถ อิทํ ปกิณฺณกํ – อุชฺชคฺฆิกอุจฺจาสทฺทปฏิสํยุตฺตานิ จตฺตาริ, สกพเฬน มุเขน พฺยาหรณํ เอกํ, ฉมานีจาสนานปจฺฉโตคมนอุปฺปถคมนปฏิสํยุตฺตานิ ปฺจาติ อิมานิ ทส สิกฺขาปทานิ สมนุภาสนสมุฏฺานานิ กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺหนฺติ, กิริยานิ, สฺาวิโมกฺขานิ ¶ , สจิตฺตกานิ, โลกวชฺชานิ, กายกมฺมวจีกมฺมานิ, อกุสลจิตฺตานิ, ทุกฺขเวทนานีติ.
สูโปทนวิฺตฺติสิกฺขาปทํ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ กายจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
ฉตฺตปาณิทณฺฑปาณิสตฺถปาณิอาวุธปาณิปาทุกอุปาหนยานสยนปลฺลตฺถิกเวิตโอคุณฺิตนามกานิ เอกาทส สิกฺขาปทานิ ธมฺมเทสนสมุฏฺานานิ วาจาจิตฺตโต สมุฏฺหนฺติ, กิริยากิริยานิ, สฺาวิโมกฺขานิ, สจิตฺตกานิ, โลกวชฺชานิ, วจีกมฺมานิ, อกุสลจิตฺตานิ, ทุกฺขเวทนานีติ.
อวเสสานิ เตปณฺณาส สิกฺขาปทานิ ปมปาราชิกสมุฏฺานานีติ.
สพฺพเสขิเยสุ อาพาธปจฺจยา อนาปตฺติ, ถูปีกตปิณฺฑปาเต สูปพฺยฺชเนน ปฏิจฺฉาทเน อุชฺฌานสฺิมฺหีติ ตีสุ สิกฺขาปเทสุ คิลาโน นตฺถีติ.
เสขิยวณฺณนา นิฏฺิตา.
เสขิยกณฺฑํ นิฏฺิตํ.
๘. สตฺตาธิกรณสมถา
๖๕๕. อธิกรณสมเถสุ ¶ ¶ – สตฺตาติ เตสํ ธมฺมานํ สงฺขฺยาปริจฺเฉโท. จตุพฺพิธํ อธิกรณํ สเมนฺติ วูปสเมนฺตีติ อธิกรณสมถา. เตสํ วิตฺถาโร ขนฺธเก จ ปริวาเร จ วุตฺโต, ตสฺสตฺถํ ตตฺเถว วณฺณยิสฺสาม. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย
ภิกฺขุวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
อนนฺตราเยน ยถา, นิฏฺิตา วณฺณนา อยํ;
อนนฺตราเยน ตถา, สนฺตึ ปปฺโปนฺตุ ปาณิโน.
จิรํ ติฏฺตุ สทฺธมฺโม, กาเล วสฺสํ จิรํ ปชํ;
ตปฺเปตุ เทโว ธมฺเมน, ราชา รกฺขตุ เมทนินฺติ.
มหาวิภงฺโค นิฏฺิโต.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ภิกฺขุนีวิภงฺควณฺณนา
๑. ปาราชิกกณฺฑํ (ภิกฺขุนีวิภงฺควณฺณนา)
โย ¶ ¶ ¶ ภิกฺขูนํ วิภงฺคสฺส, สงฺคหิโต อนนฺตรํ;
ภิกฺขุนีนํ วิภงฺคสฺส, ตสฺส สํวณฺณนากฺกโม.
ปตฺโต ยโต ตโต ตสฺส, อปุพฺพปทวณฺณนํ;
กาตุํ ปาราชิเก ตาว, โหติ สํวณฺณนา อยํ.
๑. ปมปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๕๖. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ…เป… สาฬฺโห มิคารนตฺตาติ เอตฺถ สาฬฺโหติ ตสฺส นามํ; มิคารมาตุยา ปน นตฺตา โหติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘มิคารนตฺตา’’ติ. นวกมฺมิกนฺติ นวกมฺมาธิฏฺายิกํ. ปณฺฑิตาติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคตา. พฺยตฺตาติ เวยฺยตฺติเกน สมนฺนาคตา. เมธาวินีติ ปาฬิคฺคหเณ สติปุพฺพงฺคมาย ปฺาย อตฺถคฺคหเณ ปฺาปุพฺพงฺคมาย สติยา สมนฺนาคตา. ทกฺขาติ เฉกา; อวิรชฺฌิตฺวา สีฆํ กตฺตพฺพการินีติ อตฺโถ. อนลสาติ อาลสิยวิรหิตา. ตตฺรุปายายาติ เตสุ เตสุ กมฺเมสุ อุปายภูตาย. วีมํสายาติ กตฺตพฺพกมฺมุปปริกฺขาย ¶ . สมนฺนาคตาติ สมฺปยุตฺตา. อลํ กาตุนฺติ สมตฺถา ตํ ตํ กมฺมํ กาตุํ. อลํ สํวิธาตุนฺติ เอวฺจ เอวฺจ อิทํ โหตูติ เอวํ สํวิทหิตุมฺปิ สมตฺถา. กตากตํ ชานิตุนฺติ กตฺจ อกตฺจ ชานิตุํ. เตติ เต อุโภ; สา จ สุนฺทรีนนฺทา โส จ สาฬฺโหติ อตฺโถ. ภตฺตคฺเคติ ปริเวสนฏฺาเน. นิกูเฏติ โกณสทิสํ กตฺวา ทสฺสิเต ¶ คมฺภีเร. วิสฺสโร เม ภวิสฺสตีติ วิรูโป เม สโร ¶ ภวิสฺสติ; วิปฺปการสทฺโท ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. ปติมาเนนฺตีติ อเปกฺขมานา. กฺยาหนฺติ กึ อหํ. ชราทุพฺพลาติ ชราย ทุพฺพลา. จรณคิลานาติ ปาทโรเคน สมนฺนาคตา.
๖๕๗-๘. อวสฺสุตาติ กายสํสคฺคราเคน อวสฺสุตา; ตินฺตา กิลินฺนาติ อตฺโถ. ปทภาชเน ปนสฺส ตเมว ราคํ คเหตฺวา ‘‘สารตฺตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สารตฺตาติ วตฺถํ วิย รงฺคชาเตน กายสํสคฺคราเคน สุฏฺุ รตฺตา. อเปกฺขวตีติ ตสฺเสว ราคสฺส วเสน ตสฺมึ ปุริเส ปวตฺตาย อเปกฺขาย สมนฺนาคตา. ปฏิพทฺธจิตฺตาติ เตน ราเคน ตสฺมึ ปุริเส พนฺธิตฺวา ปิตจิตฺตา วิย. เอส นโย ทุติยปทวิภงฺเคปิ. ปุริสปุคฺคลสฺสาติ ปุริสสงฺขาตสฺส ปุคฺคลสฺส. อธกฺขกนฺติ อกฺขกานํ อโธ. อุพฺภชาณุมณฺฑลนฺติ ชาณุมณฺฑลานํ อุปริ. ปทภาชเน ปน ปทปฏิปาฏิยา เอว ‘‘เหฏฺกฺขกํ อุปริชาณุมณฺฑล’’นฺติ วุตฺตํ. เอตฺถ จ อุพฺภกปฺปรมฺปิ อุพฺภชาณุมณฺฑเลเนว สงฺคหิตํ. เสสํ มหาวิภงฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ปุริมาโย อุปาทายาติ สาธารณปาราชิเกหิ ปาราชิกาโย จตสฺโส อุปาทายาติ อตฺโถ. อุพฺภชาณุมณฺฑลิกาติ อิทํ ปน อิมิสฺสา ปาราชิกาย นามมตฺตํ, ตสฺมา ปทภาชเน น วิจาริตํ.
๖๕๙. เอวํ อุทฺทิฏฺสิกฺขาปทํ ปทานุกฺกเมน วิภชิตฺวา อิทานิ อวสฺสุตาทิเภเทน อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุภโตอวสฺสุเต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อุภโตอวสฺสุเตติ อุภโตอวสฺสเว; ภิกฺขุนิยา เจว ปุริสสฺส จ กายสํสคฺคราเคน อวสฺสุตภาเว สตีติ อตฺโถ. กาเยน กายํ อามสตีติ ภิกฺขุนี ยถาปริจฺฉินฺเนน กาเยน ปุริสสฺส ยํกิฺจิ กายํ ปุริโส วา เยน เกนจิ กาเยน ภิกฺขุนิยา ยถาปริจฺฉินฺนํ กายํ อามสติ, อุภยถาปิ ภิกฺขุนิยา ปาราชิกํ. กาเยน กายปฏิพทฺธนฺติ วุตฺตปฺปกาเรเนว อตฺตโน กาเยน ปุริสสฺส กายปฏิพทฺธํ. อามสตีติ เอตฺถ สยํ วา อามสตุ, ตสฺส วา อามสนํ สาทิยตุ, ถุลฺลจฺจยเมว. กายปฏิพทฺเธน กายนฺติ อตฺตโน วุตฺตปฺปการกายปฏิพทฺเธน ปุริสสฺส กายํ. อามสตีติ อิธาปิ สยํ วา อามสตุ, ตสฺส วา อามสนํ สาทิยตุ, ถุลฺลจฺจยเมว. อวเสสปเทสุปิ อิมินาว ¶ นเยน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
สเจ ¶ ¶ ปน ภิกฺขุ เจว ภิกฺขุนี จ โหติ, ตตฺร เจ ภิกฺขุนี อามสติ, ภิกฺขุ นิจฺจโล หุตฺวา จิตฺเตน สาทิยติ, ภิกฺขุ อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ. สเจ ภิกฺขุ อามสติ, ภิกฺขุนี นิจฺจลา หุตฺวา จิตฺเตเนว อธิวาเสติ, กายงฺคํ อโจปยมานาปิ ปาราชิกกฺเขตฺเต ปาราชิเกน, ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเต ถุลฺลจฺจเยน, ทุกฺกฏกฺเขตฺเต ทุกฺกเฏน กาเรตพฺพา. กสฺมา? ‘‘กายสํสคฺคํ สาทิเยยฺยา’’ติ วุตฺตตฺตา. อยํ อฏฺกถาสุ วินิจฺฉโย. เอวํ ปน สติ กิริยาสมุฏฺานตา น ทิสฺสติ, ตสฺมา ตพฺพหุลนเยน สา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
๖๖๐. อุพฺภกฺขกนฺติ อกฺขกานํ อุปริ. อโธชาณุมณฺฑลนฺติ ชาณุมณฺฑลานํ เหฏฺา. เอตฺถ จ อโธกปฺปรมฺปิ อโธชาณุมณฺฑเลเนว สงฺคหิตํ.
๖๖๒. เอกโตอวสฺสุเตติ เอตฺถ กิฺจาปิ เอกโตติ อวิเสเสน วุตฺตํ, ตถาปิ ภิกฺขุนิยา เอว อวสฺสุเต สติ อยํ อาปตฺติเภโท วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
ตตฺรายํ อาทิโต ปฏฺาย วินิจฺฉโย – ภิกฺขุนี กายสํสคฺคราเคน อวสฺสุตา, ปุริโสปิ ตเถว. อธกฺขเก อุพฺภชาณุมณฺฑเล กายปฺปเทเส กายสํสคฺคสาทิยเน สติ ภิกฺขุนิยา ปาราชิกํ. ภิกฺขุนิยา กายสํสคฺคราโค, ปุริสสฺส เมถุนราโค วา เคหสฺสิตเปมํ วา สุทฺธจิตฺตํ วา โหตุ, ถุลฺลจฺจยเมว. ภิกฺขุนิยา เมถุนราโค, ปุริสสฺส กายสํสคฺคราโค วา เมถุนราโค วา คเหสฺสิตเปมํ วา สุทฺธจิตฺตํ วา โหตุ, ทุกฺกฏํ. ภิกฺขุนิยา เคหสฺสิตเปมํ, ปุริสสฺส วุตฺเตสุ จตูสุ ยํ วา ตํ วา โหตุ, ทุกฺกฏเมว. ภิกฺขุนิยา สุทฺธจิตฺตํ, ปุริสสฺส วุตฺเตสุ จตูสุ ยํ วา ตํ วา โหตุ, อนาปตฺติ.
สเจ ปน ภิกฺขุ เจว โหติ ภิกฺขุนี จ อุภินฺนํ กายสํสคฺคราโค, ภิกฺขุสฺส สงฺฆาทิเสโส, ภิกฺขุนิยา ปาราชิกํ. ภิกฺขุนิยา กายสํสคฺคราโค, ภิกฺขุสฺส เมถุนราโค วา เคหสฺสิตเปมํ วา, ภิกฺขุนิยา ถุลฺลจฺจยํ, ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏํ. อุภินฺนํ เมถุนราโค วา เคหสฺสิตเปมํ วา, อุภินฺนมฺปิ ทุกฺกฏเมว. ยสฺส ยตฺถ สุทฺธจิตฺตํ, ตสฺส ตตฺถ อนาปตฺติ. อุภินฺนมฺปิ สุทฺธจิตฺตํ, อุภินฺนมฺปิ อนาปตฺติ.
๖๖๓. อนาปตฺติ ¶ อสฺจิจฺจาติอาทีสุ วิรชฺฌิตฺวา วา อามสนฺติยา อฺวิหิตาย วา ‘‘อยํ ปุริโส วา อิตฺถี วา’’ติ อชานนฺติยา วา เตน ผุฏฺายปิ ตํ ผสฺสํ อสาทิยนฺติยา วา อามสเนปิ สติ อนาปตฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว ¶ .
ปมปาราชิกสมุฏฺานํ ¶ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทฺวิเวทนนฺติ.
ปมปาราชิกํ.
๒. ทุติยปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๖๔. ทุติเย ปาราชิเก – กจฺจิ โน สาติ กจฺจิ นุ สา. อวณฺโณติ อคุโณ. อกิตฺตีติ นินฺทา. อยโสติ ปริวารวิปตฺติ; ปรมฺมุขครหา วา.
๖๖๕. วชฺชปฏิจฺฉาทิกาติ อิทมฺปิ อิมิสฺสา ปาราชิกาย นามมตฺตเมว, ตสฺมา ปทภาชเน น วิจาริตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
๖๖๖. สา วา อาโรเจตีติ ยา ปาราชิกํ อาปนฺนา, สา สยํ อาโรเจติ. อฏฺนฺนํ ปาราชิกานํ อฺตรนฺติ ภิกฺขูหิ สาธารณานํ จตุนฺนํ อสาธารณานฺจ จตุนฺนเมว อฺตรํ. อิทฺจ ปาราชิกํ ปจฺฉา ปฺตฺตํ, ตสฺมา ‘‘อฏฺนฺน’’นฺติ วิภงฺเค วุตฺตํ. ปุริเมน ปน สทฺธึ ยุคฬตฺตา อิมสฺมึ โอกาเส ปิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ธุรํ นิกฺขิตฺตมตฺเตติ ธุเร นิกฺขิตฺตมตฺเต. วิตฺถารกถา ปเนตฺถ สปฺปาณกวคฺคมฺหิ ทุฏฺุลฺลสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. ตตฺร หิ ปาจิตฺติยํ, อิธ ปาราชิกนฺติ อยเมว วิเสโส. เสสํ ตาทิสเมว. วชฺชปฏิจฺฉาทิกาติ อิทมฺปิอิมิสฺสา ปาราชิกาย นามมตฺถาเมว, ตสฺมา ปทภาชเน น วิจาริตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ – กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ, อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
ทุติยปาราชิกํ.
๓. ตติยปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๖๙. ตติเย ¶ – ธมฺเมนาติ ภูเตน วตฺถุนา. วินเยนาติ โจเทตฺวา สาเรตฺวา. ปทภาชนํ ปนสฺส ‘‘เยน ธมฺเมน เยน วินเยน อุกฺขิตฺโต สุอุกฺขิตฺโต โหตี’’ติ อิมํ อธิปฺปายมตฺตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. สตฺถุสาสเนนาติ ตฺติสมฺปทาย เจว อนุสาวนสมฺปทาย จ. ปทภาชเน ¶ ปนสฺส ‘‘ชินสาสเนน พุทฺธสาสเนนา’’ติ เววจนมตฺตเมว วุตฺตํ. สงฺฆํ วา คณํ วาติอาทีสุ เยน สงฺเฆน กมฺมํ กตํ, ตํ สงฺฆํ วา ตตฺถ สมฺพหุลปุคฺคลสงฺขาตํ ¶ คณํ วา, เอกปุคฺคลํ วา ตํ กมฺมํ วา น อาทิยติ, น อนุวตฺตติ, น ตตฺถ อาทรํ ชเนตีติ อตฺโถ. สมานสํวาสกา ภิกฺขู วุจฺจนฺติ สหายา, โส เตหิ สทฺธึ นตฺถีติ เอตฺถ ‘‘เอกกมฺมํ เอกุทฺเทโส สมสิกฺขตา’’ติ อยํ ตาว สํวาโส; สมาโน สํวาโส เอเตสนฺติ สมานสํวาสกา.เอวรูปา ภิกฺขู ภิกฺขุสฺส ตสฺมึ สํวาเส สห อยนภาเวน สหายาติ วุจฺจนฺติ. อิทานิ เยน สํวาเสน เต สมานสํวาสกาติ วุตฺตา, โส สํวาโส ตสฺส อุกฺขิตฺตกสฺส เตหิ สทฺธึ นตฺถิ. เยหิ จ สทฺธึ ตสฺส โส สํวาโส นตฺถิ, น เตน เต ภิกฺขู อตฺตโน สหายา กตา โหนฺติ. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สมานสํวาสกา ภิกฺขู วุจฺจนฺติ สหายา, โส เตหิ สทฺธึ นตฺถิ, เตน วุจฺจติ อกตสหาโย’’ติ. เสสํ สงฺฆเภทสิกฺขาปทาทีสุ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมว.
สมนุภาสนสมุฏฺานํ – กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ, อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
ตติยปาราชิกํ.
๔. จตุตฺถปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๗๕. จตุตฺเถ – อวสฺสุตาติ โลกสฺสาทมิตฺตสนฺถววเสน กายสํสคฺคราเคน อวสฺสุตา. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. ปุริสปุคฺคลสฺส หตฺถคฺคหณํ วาติอาทีสุ ปน ยํ ปุริสปุคฺคเลน หตฺเถ คหณํ กตํ, ตํ ปุริสปุคฺคลสฺส หตฺถคฺคหณนฺติ วุตฺตํ. เอเสว นโย สงฺฆาฏิกณฺณคฺคหเณปิ. หตฺถคฺคหณนฺติ เอตฺถ จ หตฺถคฺคหณฺจ อฺมฺปิ อปาราชิกกฺเขตฺเต คหณฺจ ¶ เอกชฺฌํ กตฺวา หตฺถคฺคหณนฺติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘หตฺถคฺคหณํ วา สาทิเยยฺยาติ หตฺโถ นาม กปฺปรํ อุปาทาย ยาว อคฺคนขา, เอตสฺส อสทฺธมฺมสฺส ปฏิเสวนตฺถาย อุพฺภกฺขกํ อโธชาณุมณฺฑลํ คหณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถ จ อสทฺธมฺโมติ กายสํสคฺโค เวทิตพฺโพ, น เมถุนธมฺโม. น หิ เมถุนสฺส สามนฺตา ¶ ถุลฺลจฺจยํ โหติ. ‘‘วิฺู ปฏิพโล กายสํสคฺคํ สมาปชฺชิตุนฺติ วจนมฺปิ เจตฺถ สาธกํ.
‘‘ติสฺสิตฺถิโย เมถุนํ ตํ น เสเว,
ตโย ปุริเส ตโย จ อนริยปณฺฑเก;
น ¶ จาจเร เมถุนํ พฺยฺชนสฺมึ,
เฉชฺชา สิยา เมถุนธมฺมปจฺจยา;
ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๘๑);
อิมาย ปริวาเร วุตฺตาย เสทโมจกคาถาย วิรุชฺฌตีติ เจ? น; เมถุนธมฺมสฺส ปุพฺพภาคตฺตา. ปริวาเรเยว หิ ‘‘เมถุนธมฺมสฺส ปุพฺพภาโค ชานิตพฺโพ’’ติ ‘‘วณฺณาวณฺโณ กายสํสคฺโค ทุฏฺุลฺลวาจา อตฺตกามปาริจริยาคมนุปฺปาทน’’นฺติ เอวํ สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทีนิ ปฺจ สิกฺขาปทานิ เมถุนธมฺมสฺส ปุพฺพภาโคติ วุตฺตานิ. ตสฺมา กายสํสคฺโค เมถุนธมฺมสฺส ปุพฺพภาคตฺตา ปจฺจโย โหติ. อิติ เฉชฺชา สิยา เมถุนธมฺมปจฺจยาติ เอตฺถ อิมินา ปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอเตนุปาเยน สพฺพปเทสุ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อปิจ ‘‘สงฺเกตํ วา คจฺเฉยฺยา’’ติ เอตสฺส ปทภาชเน ‘‘อิตฺถนฺนามํ อาคจฺฉา’’ติ. เอวํนามกํ านํ อาคจฺฉาติ อตฺโถ.
๖๗๖. อฏฺมํ วตฺถุํ ปริปูเรนฺตี อสฺสมณี โหตีติ อนุโลมโต วา ปฏิโลมโต วา เอกนฺตริกาย วา เยน เตน นเยน อฏฺมํ วตฺถุํ ปริปูเรนฺตีเยว อสฺสมณี โหติ. ยา ปน เอกํ วา วตฺถุํ สตฺต วา วตฺถูนิ สตกฺขตฺตุมฺปิ ปูเรติ, เนว อสฺสมณี โหติ. อาปนฺนา อาปตฺติโย เทเสตฺวา มุจฺจติ. อปิเจตฺถ คณนูปิกา อาปตฺติ เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อตฺถาปตฺติ เทสิตา คณนูปิกา, อตฺถาปตฺติ เทสิตา น คณนูปิกา’’ติ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – อิทานิ นาปชฺชิสฺสามีติ ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา เทสิตา คณนูปิกา เทสิตคณนํ อุเปติ ปาราชิกสฺส องฺคํ น ¶ โหติ. ตสฺมา ยา เอกํ อาปนฺนา ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา เทเสตฺวา ปุน กิเลสวเสน อาปชฺชติ, ปุน เทเสติ, เอวํ อฏฺ วตฺถูนิ ปูเรนฺตีปิ ปาราชิกา น โหติ. ยา ปน อาปชฺชิตฺวา ปุนปิ อฺํ วตฺถุํ อาปชฺชิสฺสามีติ ¶ สอุสฺสาหาว เทเสติ, ตสฺสา สา อาปตฺติ นคณนูปิกา, เทสิตาปิ อเทสิตา โหติ, เทสิตคณนํ น คจฺฉติ, ปาราชิกสฺเสว องฺคํ โหติ. อฏฺเม วตฺถุมฺหิ ปริปุณฺณมตฺเต ปาราชิกา โหติ. เสสํ อุตฺตานเมวาติ.
ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ – กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทฺวิเวทนนฺติ.
จตุตฺถปาราชิกํ.
อุทฺทิฏฺา ¶ โข อยฺยาโย อฏฺ ปาราชิกา ธมฺมาติ ภิกฺขู อารพฺภ ปฺตฺตา สาธารณา จตฺตาโร อิเม จ จตฺตาโรติ เอวํ ปาติโมกฺขุทฺเทสมคฺเคน อุทฺทิฏฺา โข อยฺยาโย อฏฺ ปาราชิกา ธมฺมาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เสสํ มหาวิภงฺเค วุตฺตนยเมวาติ.
สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย ภิกฺขุนีวิภงฺเค
ปาราชิกกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปาราชิกกณฺฑํ นิฏฺิตํ.
๒. สงฺฆาทิเสสกณฺฑํ (ภิกฺขุนีวิภงฺควณฺณนา)
๑. ปมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
ปาราชิกานนฺตรสฺส ¶ ¶ , อยํ ทานิ ภวิสฺสติ;
สงฺฆาทิเสสกณฺฑสฺส, อนุตฺตานตฺถวณฺณนา.
๖๗๘. อุโทสิตนฺติ ภณฺฑสาลา. มายฺโย เอวํ อวจาติ อยฺโย มา เอวํ อวจ. อปินายฺยาติ อปินุ อยฺยา. อจฺจาวทถาติ อติกฺกมิตฺวา วทถ; อกฺโกสถาติ วุตฺตํ โหติ.
๖๗๙. อุสฺสยวาทิกาติ มานุสฺสยวเสน โกธุสฺสยวเสน วิวทมานา. ยสฺมา ปน สา อตฺถโต อฏฺฏการิกา โหติ, ตสฺมา ‘‘อุสฺสยวาทิกา นาม อฑฺฑการิกา วุจฺจตี’’ติ ปทภาชเน วุตฺตํ. เอตฺถ จ อฑฺโฑติ โวหาริกวินิจฺฉโย วุจฺจติ, ยํ ปพฺพชิตา ‘‘อธิกรณ’’นฺติปิ วทนฺติ. ทุติยํ วา ปริเยสตีติ สกฺขึ ¶ วา สหายํ วา ปริเยสติ, ทุกฺกฏํ. คจฺฉติ วาติ อุปสฺสโย วา โหตุ ภิกฺขาจารมคฺโค วา, ยตฺถ ิตาย ‘‘อฑฺฑํ กริสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตโต โวหาริกานํ สนฺติกํ คจฺฉนฺติยา ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ. เอกสฺส อาโรเจตีติ ทฺวีสุ ชเนสุ ยสฺส กสฺสจิ เอกสฺส กถํ โย โกจิ โวหาริกานํ อาโรเจติ. ทุติยสฺส อาโรเจตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
อยํ ปเนตฺถ อสมฺโมหตฺถาย วิตฺถารกถา – ยตฺถ กตฺถจิ อนฺตมโส ภิกฺขุนุปสฺสยํ อาคเตปิ โวหาริเก ทิสฺวา ภิกฺขุนี อตฺตโน กถํ อาโรเจติ, ภิกฺขุนิยา ทุกฺกฏํ. อุปาสโก อตฺตโน กถํ อาโรเจติ, ภิกฺขุนิยา ถุลฺลจฺจยํ. ปมํ อุปาสโก อตฺตโน กถํ อาโรเจติ ¶ , ภิกฺขุนิยา ทุกฺกฏํ. อถ สา อตฺตโน กถํ อาโรเจติ, ถุลฺลจฺจยํ. ภิกฺขุนี อุปาสกํ วทติ – ‘‘มม จ ตว จ กถํ ตฺวํเยว อาโรเจหี’’ติ, โส อตฺตโน วา กถํ ปมํ อาโรเจตุ ภิกฺขุนิยา วา, ปมาโรจเน ทุกฺกฏํ, ทุติยาโรจเน ถุลฺลจฺจยํ. อุปาสโก ภิกฺขุนึ วทติ – ‘‘มม จ ตว จ กถํ ตฺวํเยว อาโรเจหี’’ติ, เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
ภิกฺขุนี ¶ กปฺปิยการเกน กถาเปติ, ตตฺถ กปฺปิยการโก วา ภิกฺขุนิยา กถํ ปมํ อาโรเจตุ, อิตโร วา อตฺตโน กถํ, กปฺปิยการโก วา อุภินฺนมฺปิ กถํ, อิตโร วา อุภินฺนมฺปิ กถํ อาโรเจตุ, ยถา วา ตถา วา อาโรจิยมาเน ปเม อาโรจเน ภิกฺขุนิยา ทุกฺกฏํ, ทุติเย ถุลฺลจฺจยํ. ยถา วา ตถา วา อาโรจิตํ ปน อุภินฺนมฺปิ กถํ สุตฺวา โวหาริเกหิ วินิจฺฉเย กเต อฑฺฑปริโยสานํ นาม โหติ, ตสฺมึ อฑฺฑปริโยสาเน ภิกฺขุนิยา ชเยปิ ปราชเยปิ สงฺฆาทิเสโส. สเจ ปน คติคตํ อธิกรณํ โหติ, สุตปุพฺพํ โวหาริเกหิ. อถ เต ภิกฺขุนิฺจ อฑฺฑการกฺจ ทิสฺวาว ‘‘ตุมฺหากํ กถนกิจฺจํ นตฺถิ, ชานาม มยํ เอตฺถ ปวตฺติ’’นฺติ สยเมว วินิจฺฉินิตฺวา เทนฺติ, เอวรูเป อฑฺฑปริโยสาเนปิ ภิกฺขุนิยา อนาปตฺติ.
ปมํ อาปตฺติ เอตสฺสาติ ปมาปตฺติโก; วีติกฺกมกฺขเณเยว อาปชฺชิตพฺโพติ อตฺโถ, ตํ ปมาปตฺติกํ. ปทภาชเน ปน อธิปฺปายมตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สห วตฺถุชฺฌาจารา ¶ อาปชฺชติ อสมนุภาสนายา’’ติ วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – สห วตฺถุชฺฌาจารา ยํ ภิกฺขุนี อาปชฺชติ, น ตติยาย สมนุภาสนาย, อยํ ปมเมว สห วตฺถุชฺฌาจาเรน อาปชฺชิตพฺพตฺตา ปมาปตฺติโกติ. ภิกฺขุนิสงฺฆโต นิสฺสาเรตีติ นิสฺสารณีโย; ตํ นิสฺสารณียํ. ปทภาชเน ปน อธิปฺปายมตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺฆมฺหา นิสฺสารียตีติ วุตฺตํ. ตตฺถ ยํ อาปนฺนา ภิกฺขุนี สงฺฆโต นิสฺสารียติ, โส นิสฺสารณีโยติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. น หิ โส เอว ธมฺโม สงฺฆมฺหา เกนจิ นิสฺสารียติ. เตน ปน ธมฺเมน ภิกฺขุนี นิสฺสารียติ, ตสฺมา โส นิสฺสาเรตีติ นิสฺสารณีโย.
อากฑฺฒิยมานา คจฺฉตีติ อฑฺฑการกมนุสฺเสหิ สยํ วา อาคนฺตฺวา ทูตํ วา เปเสตฺวา เอหีติ วุจฺจมานา โวหาริกานํ สนฺติกํ คจฺฉติ, ตโต อฑฺฑการโก อตฺตโน วา กถํ ปมํ อาโรเจตุ ภิกฺขุนิยา วา, เนว ปมาโรจเน ทุกฺกฏํ, น ทุติยาโรจเน ถุลฺลจฺจยํ. อมจฺเจหิ วินิจฺฉินิตฺวา กเต อฑฺฑปริโยสาเนปิ อนาปตฺติเยว. สเจปิ อฑฺฑการโก ภิกฺขุนึ ¶ วทติ ‘‘มม จ ตว จ กถํ ตฺวเมว กเถหี’’ติ; กเถนฺติยาปิ กถํ สุตฺวา กเต อฑฺฑปริโยสาเนปิ อนาปตฺติเยว.
รกฺขํ ¶ ยาจตีติ ธมฺมิกํ รกฺขํ ยาจติ, อนาปตฺติ. อิทานิ ยถายาจิตา รกฺขา ธมฺมิกา โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ อโนทิสฺส อาจิกฺขตีติ อาห. ตตฺถ อตีตํ อารพฺภ อตฺถิ โอทิสฺสอาจิกฺขนา, อตฺถิ อโนทิสฺสอาจิกฺขนา, อนาคตํ อารพฺภาปิ อตฺถิ โอทิสฺสอาจิกฺขนา, อตฺถิ อโนทิสฺสอาจิกฺขนา.
กถํ อตีตํ อารพฺภ โอทิสฺสอาจิกฺขนา โหติ? ภิกฺขุนุปสฺสเย คามทารกา ธุตฺตาทโย วา เย เกจิ อนาจารํ วา อาจรนฺติ, รุกฺขํ วา ฉินฺทนฺติ, ผลาผลํ วา หรนฺติ, ปริกฺขาเร วา อจฺฉินฺทนฺติ. ภิกฺขุนี โวหาริเก อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อมฺหากํ อุปสฺสเย อิทํ นาม กต’’นฺติ วทติ. ‘‘เกนา’’ติ วุตฺเต ¶ ‘‘อสุเกน จ อสุเกน จา’’ติ อาจิกฺขติ. เอวํ อตีตํ อารพฺภ โอทิสฺสอาจิกฺขนา โหติ, สา น วฏฺฏติ. ตฺเจ สุตฺวา เต โวหาริกา เตสํ ทณฺฑํ กโรนฺติ, สพฺพํ ภิกฺขุนิยา คีวา โหติ. ทณฺฑํ คณฺหิสฺสนฺตีติ อธิปฺปาเยปิ สติ คีวาเยว โหติ. สเจ ปน ตสฺส ทณฺฑํ คณฺหถาติ วทติ, ปฺจมาสกมตฺเต คหิเต ปาราชิกํ โหติ.
‘‘เกนา’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘อสุเกนาติ วตฺตุํ อมฺหากํ น วฏฺฏติ, ตุมฺเหเยว ชานิสฺสถ. เกวลฺหิ มยํ รกฺขํ ยาจาม, ตํ โน เทถ, อวหฏภณฺฑฺจ อาหราเปถา’’ติ วตฺตพฺพํ. เอวํ อโนทิสฺส อาจิกฺขนา โหติ, สา วฏฺฏติ. เอวํ วุตฺเต สเจปิ เต โวหาริกา การเก คเวสิตฺวา เตสํ ทณฺฑํ กโรนฺติ, สพฺพํ สาปเตยฺยมฺปิ คหิตํ ภิกฺขุนิยา, เนว คีวา น อาปตฺติ.
ปริกฺขารํ หรนฺเต ทิสฺวา เตสํ อนตฺถกามตาย โจโร โจโรติ วตฺตุมฺปิ น วฏฺฏติ. เอวํ วุตฺเตปิ หิ ยํ เตสํ ทณฺฑํ กโรนฺติ, สพฺพมฺปิ ภิกฺขุนิยา คีวา โหติ. อตฺตโน วจนกรํ ปน ‘‘อิมินา เม ปริกฺขาโร คหิโต, ตํ อาหราเปหิ, มา จสฺส ทณฺฑํ กโรหี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ทาสทาสีวาปิอาทีนํ อตฺถาย อฑฺฑํ กโรนฺติ, อยํ อกปฺปิยอฑฺโฑ นาม, น วฏฺฏติ.
กถํ อนาคตํ อารพฺภ โอทิสฺสอาจิกฺขนา โหติ? วุตฺตนเยเนว ปเรหิ อนาจาราทีสุ กเตสุ ภิกฺขุนี โวหาริเก เอวํ วทติ ‘‘อมฺหากํ อุปสฺสเย อิทฺจิทฺจ กโรนฺติ, รกฺขํ โน ¶ เทถ อายตึ อกรณตฺถายา’’ติ. ‘‘เกน เอวํ กต’’นฺติ วุตฺเต จ ‘‘อสุเกน อสุเกน จา’’ติ ¶ อาจิกฺขติ. เอวํ อนาคตํ อารพฺภ โอทิสฺสอาจิกฺขนา โหติ, สาปิ น วฏฺฏติ. เตสฺหิ ทณฺเฑ กเต ปุริมนเยเนว สพฺพํ ภิกฺขุนิยา คีวา. เสสํ ปุริมสทิสเมว.
สเจ ปน โวหาริกา ‘‘ภิกฺขุนุปสฺสเย เอวรูปํ อนาจารํ กโรนฺตานํ อิมํ นาม ทณฺฑํ กโรมา’’ติ เภรึ จราเปตฺวา อาณาย อติฏฺมาเน ปริเยสิตฺวา ทณฺฑํ กโรนฺติ, ภิกฺขุนิยา เนว คีวา น อาปตฺติ.
โย จายํ ภิกฺขุนีนํ วุตฺโต, ภิกฺขูนมฺปิ เอเสว นโย. ภิกฺขุโนปิ หิ โอทิสฺสอาจิกฺขนา น วฏฺฏติ. ยํ ตถา อาจิกฺขิเต ทณฺฑํ กโรนฺติ, สพฺพํ ¶ คีวา โหติ. วุตฺตนเยเนว ทณฺฑํ คณฺหาเปนฺตสฺส ปาราชิกํ. โย ปน ‘‘ทณฺฑํ กริสฺสนฺตี’’ติ ชานนฺโตปิ อโนทิสฺส กเถติ, เต จ ปริเยสิตฺวา ทณฺฑํ กโรนฺติเยว, น โทโส. วิหารสีมาย รุกฺขาทีนิ ฉินฺทนฺตานํ วาสิผรสุอาทีนิ คเหตฺวา ปาสาเณหิ โกฏฺเฏนฺติ, น วฏฺฏติ. สเจ ธารา ภิชฺชติ, การาเปตฺวา ทาตพฺพา. อุปธาวิตฺวา เตสํ ปริกฺขาเร คณฺหนฺติ, ตมฺปิ น กาตพฺพํ, ลหุปริวตฺตฺหิ จิตฺตํ, เถยฺยเจตนาย อุปฺปนฺนาย มูลจฺเฉชฺชมฺปิ คจฺเฉยฺย. เสสํ อุตฺตานเมว.
กถินสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
สตฺตรสเก ปมสิกฺขาปทํ.
๒. ทุติยสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๘๒. ทุติเย – วรภณฺฑนฺติ มุตฺตามณิเวฬุริยาทิ มหคฺฆภณฺฑํ.
๖๘๓. อนปโลเกตฺวาติ อนาปุจฺฉิตฺวา. คณํ วาติ มลฺลคณภฏิปุตฺตคณาทิกํ. ปูคนฺติ ธมฺมคณํ. เสณินฺติ คนฺธิกเสณิทุสฺสิกเสณิอาทิกํ. ยตฺถ ยตฺถ หิ ราชาโน คณาทีนํ คามนิคเม นิยฺยาเตนฺติ ‘‘ตุมฺเหว เอตฺถ อนุสาสถา’’ติ, ตตฺถ ตตฺถ เต เอว อิสฺสรา โหนฺติ. ตสฺมา เต สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ราชานํ วา คณาทิเก วา อาปุจฺฉิตฺวาปิ ภิกฺขุนิสงฺโฆ ¶ อาปุจฺฉิตพฺโพว. เปตฺวา กปฺปนฺติ ติตฺถิเยสุ วา ¶ อฺภิกฺขุนีสุ วา ปพฺพชิตปุพฺพํ กปฺปคติกํ เปตฺวาติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
โจรีวุฏฺาปนสมุฏฺานํ – เกนจิ กรณีเยน ปกฺกนฺตาสุ ภิกฺขุนีสุ อคนฺตฺวา ขณฺฑสีมํ ยถานิสินฺนฏฺาเนเยว อตฺตโน นิสฺสิตกปริสาย สทฺธึ วุฏฺาเปนฺติยา วาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ, ขณฺฑสีมํ วา นทึ วา คนฺตฺวา วุฏฺาเปนฺติยา กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ, อนาปุจฺฉา วุฏฺาปนวเสน กิริยากิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ทุติยสิกฺขาปทํ.
๓. ตติยสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๙๒. ตติเย ¶ – ปริกฺเขปํ อติกฺกาเมนฺติยาติ เอตฺถ เอกํ ปาทํ อติกฺกาเมนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, ทุติเยน อติกฺกนฺตมตฺเต สงฺฆาทิเสโส. อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารนฺติ เอตฺถ ปริกฺเขปารหฏฺานํ เอเกน ปาเทน อติกฺกมติ ถุลฺลจฺจยํ, ทุติเยน อติกฺกนฺตมตฺเต สงฺฆาทิเสโส. อปิเจตฺถ สกคามโต นิกฺขมนฺติยา คามนฺตรปจฺจยา อนาปตฺติ, นิกฺขมิตฺวา ปน คามนฺตรํ คจฺฉนฺติยา ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ, เอเกน ปาเทน อิตรสฺส คามสฺส ปริกฺเขเป วา อุปจาเร วา อติกฺกนฺตมตฺเต ถุลฺลจฺจยํ, ทุติเยน อติกฺกนฺตมตฺเต สงฺฆาทิเสโส. ตโต นิกฺขมิตฺวา ปุน สกคามํ ปวิสนฺติยาปิ เอเสว นโย. สเจ ปน ขณฺฑปากาเรน วา วติฉิทฺเทน วา ภิกฺขุนิวิหารภูมิเยว สกฺกา โหติ ปวิสิตุํ, เอวํ ปวิสมานาย กปฺปิยภูมึ นาม ปวิฏฺา โหติ, ตสฺมา วฏฺฏติ. สเจปิ หตฺถิปิฏฺิอาทีหิ วา อิทฺธิยา วา ปวิสติ, วฏฺฏติเยว. ปทสา คมนเมว หิ อิธาธิปฺเปตํ. เตเนว ‘‘ปมํ ปาทํ อติกฺกาเมนฺติยา’’ติอาทิมาห.
ทฺเว คามา ภิกฺขุนิวิหาเรน สมฺพทฺธวติกา โหนฺติ, ยสฺมึ คาเม ภิกฺขุนิวิหาโร, ตตฺถ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปุน วิหารํ ปวิสิตฺวา สเจ วิหารมชฺเฌน อิตรสฺส คามสฺส มคฺโค อตฺถิ, คนฺตุํ วฏฺฏติ. ตโต ปน คามโต เตเนว มคฺเคน ปจฺจาคนฺตพฺพํ. สเจ คามทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา อาคจฺฉติ, ปุริมนเยเนว อาปตฺติเภโท เวทิตพฺโพ. สกคามโต เกนจิ ¶ กรณีเยน ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ นิกฺขนฺตาย ปุน ปวิสนกาเล หตฺถิ วา มุจฺจติ, อุสฺสารณา วา โหติ, อิตรา ¶ ภิกฺขุนิโย สหสา คามํ ปวิสนฺติ, ยาว อฺา ภิกฺขุนี อาคจฺฉติ, ตาว พหิคามทฺวาเร าตพฺพํ. สเจ น อาคจฺฉติ, ทุติยิกา ภิกฺขุนี ปกฺกนฺตา นาม โหติ, ปวิสิตุํ วฏฺฏติ.
ปุพฺเพ มหาคาโม โหติ, มชฺเฌ ภิกฺขุนิวิหาโร. ปจฺฉา ตํ คามํ จตฺตาโร ชนา ลภิตฺวา วิสุํ วิสุํ วติปริกฺเขปํ กตฺวา วิภชิตฺวา ภฺุชนฺติ, วิหารโต เอกํ คามํ คนฺตุํ วฏฺฏติ. ตโต อปรํ คามํ ทฺวาเรน วา วติฉิทฺเทน ¶ วา ปวิสิตุํ น วฏฺฏติ. ปุน วิหารเมว ปจฺจาคนฺตุํ วฏฺฏติ. กสฺมา? วิหารสฺส จตุคามสาธารณตฺตา.
อนฺตรวาสโก เตมิยตีติ ยตฺถ ยถา ติมณฺฑลปฏิจฺฉาทนํ โหติ; เอวํ นิวตฺถาย ภิกฺขุนิยา วสฺสกาเล ติตฺเถน วา อติตฺเถน วา โอตริตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ อุตฺตรนฺติยา เอกทฺวงฺคุลมตฺตมฺปิ อนฺตรวาสโก เตมิยติ. เสสํ นทีลกฺขณํ นทีนิมิตฺตกถาย อาวิ ภวิสฺสติ. เอวรูปํ นทึ ติตฺเถน วา อติตฺเถน วา โอตริตฺวา อุตฺตรณกาเล ปมํ ปาทํ อุทฺธริตฺวา ตีเร เปนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, ทุติยปาทุทฺธาเร สงฺฆาทิเสโส. เสตุนา คจฺฉติ, อนาปตฺติ. ปทสา โอตริตฺวา อุตฺตรณกาเล เสตุํ อาโรหิตฺวา อุตฺตรนฺติยาปิ อนาปตฺติ. เสตุนา ปน คนฺตฺวา อุตฺตรณกาเล ปทสา คจฺฉนฺติยา อาปตฺติเยว. ยานนาวาอากาสคมนาทีสุปิ เอเสว นโย. โอริมตีรโต ปน ปรตีรเมว อกฺกมนฺติยา อนาปตฺติ. รชนกมฺมตฺถํ คนฺตฺวา ทารุสงฺกฑฺฒนาทิกิจฺเจน ทฺเว ติสฺโส อุภยตีเรสุ วิจรนฺติ, วฏฺฏติ. สเจ ปเนตฺถ กาจิ กลหํ กตฺวา อิตรํ ตีรํ คจฺฉติ, อาปตฺติ. ทฺเว เอกโต อุตฺตรนฺติ, เอกา มชฺเฌ นทิยา กลหํ กตฺวา นิวตฺติตฺวา โอริมตีรเมว อาคจฺฉติ, อาปตฺติ. อิตริสฺสา ปน อยํ ปกฺกนฺตฏฺาเน ิตา โหติ, ตสฺมา ปรตีรํ คจฺฉนฺติยาปิ อนาปตฺติ. นฺหายิตุํ วา ปาตุํ วา โอติณฺณา ตเมว ตีรํ ปจฺจุตฺตรติ, อนาปตฺติ.
สห อรุณุคฺคมนาติ เอตฺถ สเจ สชฺฌายํ วา ปธานํ วา อฺํ วา กิฺจิ กมฺมํ กุรุมานา ปุเรอรุเณเยว ทุติยิกาย สนฺติกํ คมิสฺสามีติ อาโภคํ กโรติ, อชานนฺติยา เอว จสฺสา อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, อนาปตฺติ. อถ ปน ‘‘ยาว อรุณุคฺคมนา อิเธว ภวิสฺสามี’’ติ วา อนาโภเคน วา วิหารสฺส เอกเทเส อจฺฉติ, ทุติยิกาย หตฺถปาสํ น ¶ โอตรติ, อรุณุคฺคมเน สงฺฆาทิเสโส. หตฺถปาโสเยว หิ อิธ ปมาณํ, หตฺถปาสาติกฺกเม เอกคพฺโภปิ น รกฺขติ.
อคามเก ¶ อรฺเติ เอตฺถ ‘‘นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ เอวํ วุตฺตลกฺขณเมว อรฺํ. ตํ ปเนตํ เกวลํ คามาภาเวน ‘‘อคามก’’นฺติ วุตฺตํ, น วิฺฌาฏวิสทิสตาย. ตาทิเส ¶ อรฺเ โอกฺกนฺเต ทสฺสนูปจาเร วิชหิเต สเจปิ สวนูปจาโร อตฺถิ, อาปตฺติ. เตเนว วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ภิกฺขุนีสุ มหาโพธิองฺคณํ ปวิสนฺตีสุ เอกา พหิ ติฏฺติ, ตสฺสาปิ อาปตฺติ. โลหปาสาทํ ปวิสนฺตีสุปิ ปริเวณํ ปวิสนฺตีสุปิ เอเสว นโย. มหาเจติยํ วนฺทมานาสุ เอกา อุตฺตรทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา คจฺฉติ, ตสฺสาปิ อาปตฺติ. ถูปารามํ ปวิสนฺตีสุ เอกา พหิ ติฏฺติ, ตสฺสาปิ อาปตฺตี’’ติ. เอตฺถ จ ทสฺสนูปจาโร นาม ยตฺถ ิตํ ทุติยิกา ปสฺสติ. สเจ ปน สาณิปาการนฺตริกาปิ โหติ, ทสฺสนูปจารํ วิชหติ นาม. สวนูปจาโร นาม ยตฺถ ิตา มคฺคมูฬฺหสทฺเทน วิย ธมฺมสวนาโรจนสทฺเทน วิย จ ‘‘อยฺเย’’ติ สทฺทายนฺติยา สทฺทํ สุณาติ. อชฺโฌกาเส ทูเรปิ ทสฺสนูปจาโร นาม โหติ. โส เอวรูเป สวนูปจาเร วิชหิเต น รกฺขติ, วิชหิตมตฺเตว อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส.
เอกา มคฺคํ คจฺฉนฺตี โอหียติ. สอุสฺสาหา เจ หุตฺวา อิทานิ ปาปุณิสฺสามีติ อนุพนฺธติ, อนาปตฺติ. สเจ ปุริมาโย อฺเน มคฺเคน คจฺฉนฺติ, ปกฺกนฺตา นาม โหนฺติ, อนาปตฺติเยว. ทฺวินฺนํ คจฺฉนฺตีนํ เอกา อนุพนฺธิตุํ อสกฺโกนฺตี ‘‘คจฺฉตุ อย’’นฺติ โอหียติ, อิตราปิ ‘‘โอหียตุ อย’’นฺติ, คจฺฉติ, ทฺวินฺนมฺปิ อาปตฺติ. สเจ ปน คจฺฉนฺตีสุ ปุริมาปิ อฺํ มคฺคํ คณฺหาติ, ปจฺฉิมาปิ อฺํ, เอกา เอกิสฺสา ปกฺกนฺตฏฺาเน ติฏฺติ, ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺติ.
๖๙๓. ปกฺขสงฺกนฺตา วาติ ติตฺถายตนํ สงฺกนฺตา, เสสํ อุตฺตานเมว. ปมปาราชิกสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ตติยสิกฺขาปทํ.
๔. จตุตฺถสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๙๔-๘. จตุตฺเถ ¶ – ปาทปีํ นาม โธตปาทฏฺปนกํ. ปาทกลิกา นาม อโธตปาทฏฺปนกํ ¶ . อนฺาย คณสฺส ฉนฺทนฺติ ตสฺเสว การกคณสฺส ฉนฺทํ อชานิตฺวา. วตฺเต วตฺตนฺตินฺติ เตจตฺตาลีสปฺปเภเท เนตฺถารวตฺเต วตฺตมานํ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ – กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ, กิริยากิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ ¶ , โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
จตุตฺถสิกฺขาปทํ.
๕. ปฺจมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๐๑. ปฺจเม – เอกโต อวสฺสุเตติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุนิยา อวสฺสุตภาโว ทฏฺพฺโพ’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปเนตํ น วุตฺตํ, ตํ ปาฬิยา สเมติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ปมปาราชิกสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทฺวิเวทนนฺติ.
ปฺจมสิกฺขาปทํ.
๖. ฉฏฺสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๐๕-๖. ฉฏฺเ – ยโต ตฺวนฺติ ยสฺมา ตฺวํ. อุยฺโยเชติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติอาทิกา สงฺฆาทิเสสปริโยสานา อาปตฺติโย กสฺสา โหนฺตีติ? อุยฺโยชิกาย. วุตฺตฺเจตํ ปริวาเรปิ –
‘‘น เทติ น ปฏิคฺคณฺหาติ, ปฏิคฺคโห เตน น วิชฺชติ;
อาปชฺชติ ครุกํ น ลหุกํ, ตฺจ ปริโภคปจฺจยา;
ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๘๑);
อยฺหิ ¶ คาถา อิมํ อุยฺโยชิกํ สนฺธาย วุตฺตา. อิตริสฺสา ปน อาปตฺติเภโท ปมสิกฺขาปเท วิภตฺโตติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ ¶ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ฉฏฺสิกฺขาปทํ.
๗. สตฺตมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๐๙. สตฺตเม – ยาวตติยกปทตฺโถ มหาวิภงฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. เสสํ อุตฺตานเมวาติ.
สมนุภาสนสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
สตฺตมสิกฺขาปทํ.
๘. อฏฺมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๑๕. อฏฺเม – กิสฺมิฺจิเทว อธิกรเณติ จตุนฺนํ อฺตรสฺมึ. ปทภาชเน ปน เกวลํ อธิกรณวิภาคํ ทสฺเสตุํ ¶ ‘‘อธิกรณํ นาม จตฺตาริ อธิกรณานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เสสํ อุตฺตานเมว สทฺธึ สมุฏฺานาทีหีติ.
อฏฺมสิกฺขาปทํ.
๙. นวมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๒๓. นวเม – สํสฏฺาติ มิสฺสีภูตา. อนนุโลมิเกนาติ ปพฺพชิตานํ อนนุโลเมน กายิกวาจสิเกน. สํสฏฺาติ คิหีนํ โกฏฺฏนปจนคนฺธปิสนมาลาคนฺถนาทินา กายิเกน สาสนปฏิสาสนาหรณสฺจริตฺตาทินา วาจสิเกน จ สํสฏฺา. ปาโป กิตฺติสทฺโท เอตาสนฺติ ปาปสทฺทา ¶ . ปาโป อาชีวสงฺขาโต สิโลโก เอตาสนฺติ ปาปสิโลกา. เสสํ อุตฺตานเมว สทฺธึ สมุฏฺานาทีหีติ.
นวมสิกฺขาปทํ.
๑๐. ทสมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๒๗. ทสเม ¶ – เอวาจาราติ เอวํอาจารา. ยาทิโส ตุมฺหากํ อาจาโร, ตาทิสา อาจาราติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อฺุายาติ อวฺาย นีจํ กตฺวา ชานนาย. ปริภเวนาติ กึ อิมา กริสฺสนฺตีติ เอวํ ปริภวิตฺวา ชานเนน. อกฺขนฺติยาติ อสหนตาย; โกเธนาติ อตฺโถ. เวภสฺสิยาติ พลวภสฺสภาเวน; อตฺตโน พลปฺปกาสเนน สมุตฺราสเนนาติ อตฺโถ. ทุพฺพลฺยาติ ตุมฺหากํ ทุพฺพลภาเวน. สพฺพตฺถ อฺุาย จ ปริภเวน จาติ เอวํ สมุจฺจยตฺโถ ทฏฺพฺโพ. วิวิจฺจถาติ วินา โหถ. เสสํ อุตฺตานเมว สทฺธึ สมุฏฺานาทีหีติ.
ทสมสิกฺขาปทํ.
อุทฺทิฏฺา โข อยฺยาโย สตฺตรส สงฺฆาทิเสสาติ เอตฺถ ฉนฺนํ ปมาปตฺติกานํ อนนฺตรา สฺจริตฺตํ, ทฺเว ทุฏฺโทสาติ อิมานิ ตีณิ สิกฺขาปทานิ มหาวิภงฺคโต ปกฺขิปิตฺวา นว ปมาปตฺติกา, จตุนฺนํ ยาวตติยกานํ อนนฺตรา มหาวิภงฺคโตปิ จตฺตาโร ยาวตติยเก ปกฺขิปิตฺวา อฏฺ ยาวตติยกา เวทิตพฺพา. เอวํ สพฺเพปิ ปาติโมกฺขุทฺเทสมคฺเคน ¶ อุทฺทิฏฺา โข อยฺยาโย สตฺตรส สงฺฆาทิเสสา ธมฺมาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เสสํ อุตฺตานเมว อฺตฺร ปกฺขมานตฺตา. ตํ ปน ขนฺธเก วิตฺถาเรน วณฺณยิสฺสามาติ.
สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย ภิกฺขุนีวิภงฺเค
สตฺตรสกวณฺณนา นิฏฺิตา.
สงฺฆาทิเสสกณฺฑํ นิฏฺิตํ.
๓. นิสฺสคฺคิยกณฺฑํ (ภิกฺขุนีวิภงฺควณฺณนา)
ปมนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา
ตึส ¶ ¶ นิสฺสคฺคิยา ธมฺมา, ภิกฺขุนีนํ ปกาสิตา;
เย เตสํ ทานิ ภวติ, อยํ สํวณฺณนากฺกโม.
๗๓๓. อามตฺติกาปณนฺติ อมตฺตานิ วุจฺจนฺติ ภาชนานิ; ตานิ เย วิกฺกิณนฺติ, เต วุจฺจนฺติ อามตฺติกา; เตสํ อาปโณ อามตฺติกาปโณ; ตํ วา ปสาเรสฺสนฺตีติ อตฺโถ.
๗๓๔. ปตฺตสนฺนิจยํ กเรยฺยาติ ปตฺตสนฺนิธึ กเรยฺย; เอกาหํ อนธิฏฺหิตฺวา วา อวิกปฺเปตฺวา วา ปตฺตํ เปยฺยาติ อตฺโถ. เสสํ มหาวิภงฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยเมว หิ วิเสโส – ตตฺถ ทสาหํ ปริหาโร, อิธ เอกาหมฺปิ นตฺถิ. เสสํ ตาทิสเมว.
อิทมฺปิ กถินสมุฏฺานํ – กายวาจโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, อกิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ปมสิกฺขาปทํ.
ทุติยนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๓๘. ทุติเย – ทุจฺโจฬาติ วิรูปโจฬา; ชิณฺณโจฬาติ อตฺโถ. อปยฺยาหีติ อปิ อยฺยาหิ.
๗๔๐. อาทิสฺส ¶ ทินฺนนฺติ สมฺปตฺตา ภาเชนฺตูติ วตฺวาปิ อิทํ คณสฺส อิทํ ตุมฺหากํ ทมฺมีติ วตฺวา วา ทาตุกมฺยตาย ปาทมูเล เปตฺวา วา ทินฺนมฺปิ อาทิสฺส ทินฺนํ นาม โหติ. เอตํ สพฺพมฺปิ อกาลจีวรํ. อยฺยาย ทมฺมีติ เอวํ ปฏิลทฺธํ ปน ยถาทาเนเยว อุปเนตพฺพํ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ทุติยสิกฺขาปทํ.
ตติยนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๔๓-๕. ตติเย ¶ ¶ – หนฺทาติ คณฺห. สยํ อจฺฉินฺทตีติ เอกํ ทตฺวา เอกํ อจฺฉินฺทนฺติยา เอกํ นิสฺสคฺคิยํ, พหูสุ พหูนิ. สเจ สํหริตฺวา ปิตานิ เอกโต อจฺฉินฺทติ, วตฺถุคณนาย อาปตฺติโย. พนฺธิตฺวา ปิเตสุ ปน เอกาว อาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
ตติยสิกฺขาปทํ.
จตุตฺถนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๔๘. จตุตฺเถ – กเยนาติ มูเลน. น เม อาวุโส สปฺปินา อตฺโถ; เตเลน เม อตฺโถติ อิทํ กิร สา อาหฏสปฺปึ ทตฺวา เตลมฺปิ อาหริสฺสตีติ มฺมานา อาห. วิฺาเปตฺวาติ ชานาเปตฺวา; อิทํ นาม อาหราติ ยาจิตฺวา วา.
๗๕๒. ตฺเว วิฺาเปตีติ ยํ ปมํ วิฺตฺตํ ตํ โถกํ นปฺปโหติ, ตสฺมา ปุน ตฺเว วิฺาเปตีติ อตฺโถ. อฺฺจ วิฺาเปตีติ สเจ ปมํ สปฺปิวิฺตฺตํ, ยมกํ ปจิตพฺพนฺติ จ เวชฺเชน วุตฺตตฺตา เตเลน อตฺโถ โหติ, ตโต เตเลนาปิ เม อตฺโถติ เอวํ อฺฺจ วิฺาเปติ. อานิสํสํ ทสฺเสตฺวาติ สเจ กหาปณสฺส สปฺปิ อาภตํ โหติ, อิมินา ¶ มูเลน ทิคุณํ เตลํ ลพฺภติ, เตนาปิ จ อิทํ กิจฺจํ นิปฺผชฺชติ, ตสฺมา เตลํ อาหราติ เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา วิฺาเปตีติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ฉสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
จตุตฺถสิกฺขาปทํ.
ปฺจมนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๕๓. ปฺจเม ¶ – น เม สิกฺขมาเนติ อิทํ กิร สา กุลธีตา ‘‘อยํ อทฺธา เอวํ วุตฺตา อิทํ เตลํ เปตฺวา สปฺปิมฺปิ เม อตฺตโน กุลฆรา อาหริสฺสตี’’ติ มฺมานา อาห. เจตาเปตฺวาติ ชานาเปตฺวา อิจฺเจว อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ จตุตฺถสทิสเมวาติ.
ปฺจมสิกฺขาปทํ.
ฉฏฺนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๕๘. ฉฏฺเ ¶ – ฉนฺทกนฺติ ‘‘อิทํ นาม ธมฺมกิจฺจํ กริสฺสาม, ยํ สกฺโกถ; ตํ เทถา’’ติ เอวํ ปเรสํ ฉนฺทฺจ รุจิฺจ อุปฺปาเทตฺวา คหิตปริกฺขารสฺเสตํ อธิวจนํ. อฺทตฺถิเกนาติ อฺสฺสตฺถาย ทินฺเนน. อฺุทฺทิสิเกนาติ อฺํ อุทฺทิสิตฺวา ทินฺเนน. สงฺฆิเกนาติ สงฺฆสฺส ปริจฺจตฺเตน.
๗๖๒. เสสกํ อุปเนตีติ ยทตฺถาย ทินฺโน, ตํ เจตาเปตฺวา อวเสสํ อฺสฺสตฺถาย อุปเนติ. สามิเก อปโลเกตฺวาติ ‘‘ตุมฺเหหิ จีวรตฺถาย ทินฺโน, อมฺหากฺจ จีวรํ อตฺถิ, เตลาทีหิ ปน อตฺโถ’’ติ เอวํ อาปุจฺฉิตฺวา อุปเนติ. อาปทาสูติ ตถารูเปสุ อุปทฺทเวสุ; ภิกฺขุนิโย วิหารํ ฉฑฺเฑตฺวา ปกฺกมนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ ยํ วา ตํ วา เจตาเปตุํ วฏฺฏติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ฉสมุฏฺานํ ¶ – กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ฉฏฺสิกฺขาปทํ.
สตฺตมนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๖๔. สตฺตเม – สฺาจิเกนาติ สยํ ยาจิตเกน. เอตเทเวตฺถ นานากรณํ. เสสํ ฉฏฺสทิสเมวาติ.
สตฺตมสิกฺขาปทํ.
อฏฺมนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๖๙. อฏฺเม ¶ – มหาชนิเกนาติ คณสฺส ปริจฺจตฺเตน. เอตเทเวตฺถ นานากรณํ.
อฏฺมสิกฺขาปทํ.
นวมนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๗๔. นวมสิกฺขาปเท – สฺาจิเกนาติ อิทํ ปทํ อิโต อธิกตรํ.
นวมสิกฺขาปทํ.
ทสมนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๗๘. ทสเม – ปริเวณํ อุนฺทฺริยตีติ ปริเวณํ วินสฺสติ; ปริปตตีติ อตฺโถ. อิทฺจ ปทํ ปุคฺคลิเกน สฺาจิเกนาติ อิทฺจ เอตฺตกเมว นานากรณํ. เสสํ ปุพฺพสทิสเมวาติ.
ทสมสิกฺขาปทํ.
เอกาทสมนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๘๔. เอกาทสเม ¶ ¶ – ครุปาวุรณนฺติ สีตกาเล ปาวุรณํ. จตุกฺกํสปรมนฺติ เอตฺถ กํโส นาม จตุกฺกหาปณิโก โหติ; ตสฺมา ปทภาชเน ‘‘โสฬสกหาปณคฺฆนก’’นฺติ วุตฺตํ.
เอกาทสมสิกฺขาปทํ.
ทฺวาทสมนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๘๙. ทฺวาทสเม – ลหุปาวุรณนฺติ อุณฺหกาเล ปาวุรณํ. เสสํ สิกฺขาปททฺวเยปิ อุตฺตานเมว.
ฉสมุฏฺานํ ¶ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ทฺวาทสมสิกฺขาปทํ.
อุทฺทิฏฺา โข อยฺยาโย ตึส นิสฺสคฺคิยา ปาจิตฺติยา ธมฺมาติ เอตฺถ มหาวิภงฺเค จีวรวคฺคโต โธวนฺจ ปฏิคฺคหณฺจาติ ทฺเว สิกฺขาปทานิ อปเนตฺวา อกาลจีวรํ กาลจีวรนฺติ อธิฏฺหิตฺวา ภาชิตสิกฺขาปเทน จ ปริวตฺเตตฺวา อจฺฉินฺนจีวเรน จ ปมวคฺโค ปูเรตพฺโพ. ปุน เอฬกโลมวคฺคสฺส อาทิโต สตฺต สิกฺขาปทานิ อปเนตฺวา สตฺต อฺทตฺถิกานิ ปกฺขิปิตฺวา ทุติยวคฺโค ปูเรตพฺโพ. ตติยวคฺคโต ปมปตฺตํ วสฺสิกสาฏิกํ อารฺกสิกฺขาปทนฺติ อิมานิ ตีณิ อปเนตฺวา ปตฺตสนฺนิจยครุปาวุรณลหุปาวุรณสิกฺขาปเทหิ ตติยวคฺโค ปูเรตพฺโพ. อิติ ภิกฺขุนีนํ ทฺวาทส สิกฺขาปทานิ เอกโตปฺตฺตานิ, อฏฺารส อุภโตปฺตฺตานีติ เอวํ สพฺเพปิ ปาติโมกฺขุทฺเทสมคฺเคน ‘‘อุทฺทิฏฺา โข อยฺยาโย ตึส นิสฺสคฺคิยา ปาจิตฺติยา ธมฺมา’’ติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ.
สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย ภิกฺขุนีวิภงฺเค
ตึสกวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิสฺสคฺคิยกณฺฑํ นิฏฺิตํ.
๔. ปาจิตฺติยกณฺฑํ (ภิกฺขุนีวิภงฺควณฺณนา)
๑. ลสุณวคฺโค
๑. ปมลสุณสิกฺขาปทวณฺณนา
ตึสกานนฺตรํ ¶ ¶ ธมฺมา, ฉสฏฺิสตสงฺคหา;
สงฺคีตา เย อยํ ทานิ, โหติ เตสมฺปิ วณฺณนา.
๗๙๓. ตตฺถ ลสุณวคฺคสฺส ตาว ปมสิกฺขาปเท – ทฺเว ตโย ภณฺฑิเกติ ทฺเว วา ตโย วา โปฏฺฏลิเก; สมฺปุณฺณมิฺชานเมตํ ¶ อธิวจนํ. น มตฺตํ ชานิตฺวาติ ปมาณํ อชานิตฺวา เขตฺตปาลสฺส วาเรนฺตสฺส พหุํ ลสุณํ หราเปสิ.
อฺตรํ หํสโยนินฺติ สุวณฺณหํสโยนึ. โส ตาสํ เอเกกนฺติ โส หํโส ชาติสฺสโร อโหสิ, อถ ปุพฺพสิเนเหน อาคนฺตฺวา ตาสํ เอเกกํ ปตฺตํ เทติ, ตํ ตาปนตาลนจฺเฉทนกฺขมํ สุวณฺณเมว โหติ.
๗๙๕. มาคธกนฺติ มคเธสุ ชาตํ. มคธรฏฺเ ชาตลสุณเมว หิ อิธ ลสุณนฺติ อธิปฺเปตํ, ตมฺปิ ภณฺฑิกลสุณเมว, น เอกทฺวิติมิฺชกํ. กุรุนฺทิยํ ปน ชาตเทสํ อวตฺวา ‘‘มาคธกํ นาม ภณฺฑิกลสุณ’’นฺติ วุตฺตํ. อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเรติ เอตฺถ สเจ ทฺเว ตโย ภณฺฑิเก เอกโตเยว สงฺขาทิตฺวา อชฺโฌหรติ, เอกํ ปาจิตฺติยํ. ภินฺทิตฺวา เอเกกํ มิฺชํ ขาทนฺติยา ปน ปโยคคณนาย ปาจิตฺติยานีติ.
๗๙๗. ปลณฺฑุกาทีนํ ¶ วณฺเณน วา มิฺชาย วา นานตฺตํ เวทิตพฺพํ – วณฺเณน ตาว ปลณฺฑุโก ปณฺฑุวณฺโณ โหติ. ภฺชนโก โลหิตวณฺโณ. หริตโก หริตปณฺณวณฺโณ. มิฺชาย ปน ปลณฺฑุกสฺส เอกา มิฺชา โหติ, ภฺชนกสฺส ทฺเว, หริตกสฺส ติสฺโส. จาปลสุโณ อมิฺชโก, องฺกุรมตฺตเมว หิ ตสฺส โหติ. มหาปจฺจริยาทีสุ ปน ‘‘ปลณฺฑุกสฺส ตีณิ มิฺชานิ, ภฺชนกสฺส ทฺเว, หริตกสฺส เอก’’นฺติ วุตฺตํ ¶ . เอเต ปลณฺฑุกาทโย สภาเวเนว วฏฺฏนฺติ. สูปสมฺปากาทีสุ ปน มาคธกมฺปิ วฏฺฏติ. ตฺหิ ปจฺจมาเนสุ มุคฺคสูปาทีสุ วา มจฺฉมํสวิกติยา วา เตลาทีสุ วา พทรสาฬวาทีสุ วา อมฺพิลสากาทีสุ วา อุตฺตริภงฺเคสุ วา ยตฺถ กตฺถจิ อนฺตมโส ยาคุภตฺเตปิ ปกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ลสุณสิกฺขาปทํ ปมํ.
๒. ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๙๙. ทุติเย – สมฺพาเธติ ปฏิจฺฉนฺโนกาเส. ตสฺส วิภาคทสฺสนตฺถํ ปน ‘‘อุโภ อุปกจฺฉกา มุตฺตกรณ’’นฺติ วุตฺตํ. เอกมฺปิ ¶ โลมนฺติ กตฺตริยา วา สณฺฑาสเกน วา ขุเรน วา เยน เกนจิ เอกปโยเคน วา นานาปโยเคน วา เอกํ วา พหูนิ วา สํหราเปนฺติยา ปโยคคณนาย ปาจิตฺติยานิ, น โลมคณนาย.
๘๐๑. อาพาธปจฺจยาติ กณฺฑุกจฺฉุอาทิอาพาธปจฺจยา สํหราเปนฺติยา อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว. จตุสมุฏฺานํ – กายโต กายวาจโต กายจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ทุติยสิกฺขาปทํ.
๓. ตติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๐๓-๔. ตติเย ¶ – ตลฆาตเกติ มุตฺตกรณตลฆาตเน. อนฺตมโส อุปฺปลปตฺเตนาปีติ เอตฺถ ปตฺตํ ตาว มหนฺตํ, เกสเรนาปิ ปหารํ เทนฺติยา อาปตฺติเยว.
๘๐๕. อาพาธปจฺจยาติ ¶ คณฺฑํ วา วณํ วา ปหริตุํ วฏฺฏติ. เสสํ อุตฺตานเมว. ปมปาราชิกสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ตติยสิกฺขาปทํ.
๔. จตุตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๐๖. จตุตฺเถ – ปุราณราโชโรธาติ ปุราเณ คิหิภาเว รฺโ โอโรธา. จิราจิรํ คจฺฉตีติ จิเรน จิเรน คจฺฉติ. ธาเรถาติ สกฺโกถ. กสฺสิทํ กมฺมนฺติ วุตฺเต อนาโรจิเตปิ เอตา มยิ อาสงฺกํ กริสฺสนฺตีติ มฺมานา เอวมาห – ‘‘มยฺหิทํ กมฺม’’นฺติ.
๘๐๗. ชตุมฏฺเกติ ชตุนา กเต มฏฺทณฺฑเก. วตฺถุวเสเนเวตํ วุตฺตํ, ยํกิฺจิ ปน ทณฺฑกํ ปเวเสนฺติยา อาปตฺติเยว. เตนาห – ‘‘อนฺตมโส อุปฺปลปตฺตมฺปิ มุตฺตกรณํ ปเวเสตี’’ติ. เอตมฺปิ จ อติมหนฺตํ, เกสรมตฺตมฺปิ ปน ปเวเสนฺติยา อาปตฺติ เอว. เสสํ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิ ตลฆาตเก วุตฺตสทิสาเนวาติ.
จตุตฺถสิกฺขาปทํ.
๕. ปฺจมสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๑๐. ปฺจเม ¶ – อติคมฺภีรํ อุทกสุทฺธิกํ อาทิยนฺตีติ อติอนฺโต ปเวเสตฺวา อุทเกน โธวนํ กุรุมานา.
๘๑๒. เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกาเมตีติ วิตฺถารโต ตติยํ วา จตุตฺถํ วา องฺคุลํ คมฺภีรโต ทฺวินฺนํ ปพฺพานํ อุปริ เกสคฺคมตฺตมฺปิ ปเวเสนฺติยา ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ มหาปจฺจริยํ ¶ – ‘‘เอกิสฺสา องฺคุลิยา ตีณิ ปพฺพานิ อาทาตุํ น ลภติ, ติณฺณํ วา จตุนฺนํ วา เอเกกมฺปิ ปพฺพํ อาทาตุํ น ¶ ลภตี’’ติ. เสสํ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิปิ ตลฆาตเก วุตฺตสทิสาเนวาติ.
ปฺจมสิกฺขาปทํ.
๖. ฉฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๑๕. ฉฏฺเ – ภตฺตวิสฺสคฺคนฺติ ภตฺตกิจฺจํ. ปานีเยน จ วิธูปเนน จ อุปติฏฺิตฺวาติ เอเกน หตฺเถน ปานียถาลกํ เอเกน พีชนึ คเหตฺวา พีชมานา สมีเป ตฺวาติ อตฺโถ. อจฺจาวทตีติ ปุพฺเพปิ ตุมฺเห เอวํ ภฺุชถ, อหํ เอวํ อุปฏฺานํ กโรมี’’ติ ปพฺพชิตจาริตฺตํ อติกฺกมิตฺวา เคหสฺสิตกถํ กเถตีติ อตฺโถ.
๘๑๗. ยํกิฺจิ ปานียนฺติ สุทฺธอุทกํ วา โหตุ, ตกฺกทธิมตฺถุรสขีราทีนํ วา อฺตรํ. ยา กาจิ พีชนีติ อนฺตมโส จีวรกณฺโณปิ. หตฺถปาเส ติฏฺติ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ อิธ านปจฺจยาว ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ปหารปจฺจยา ปน ขนฺธเก ทุกฺกฏํ ปฺตฺตํ.
๘๑๙. เทติ ทาเปตีติ ปานียํ วา สูปาทึ วา อิมํ ปิวถ, อิมินา ภฺุชถาติ เทติ; ตาลวณฺฏํ อิมินา พีชนฺตา ภฺุชถาติ เทติ; อฺเน วา อุภยมฺปิ ทาเปติ, อนาปตฺติ. อนุปสมฺปนฺนํ อาณาเปตีติ อุปติฏฺนตฺถํ สามเณรึ อาณาเปติ, อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ฉฏฺสิกฺขาปทํ.
๗. สตฺตมสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๒๒. สตฺตเม ¶ – ภฺุชิสฺสามีติ ปฏิคฺคณฺหาติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ อิทํ ปโยคทุกฺกฏํ นาม, ตสฺมา น เกวลํ ปฏิคฺคหเณเยว ¶ โหติ, ปฏิคฺคณฺหิตฺวา ปน อรฺโต อาหรเณปิ ¶ สุกฺขาปเนปิ วทฺทลิทิวเส ภชฺชนตฺถาย อุทฺธนสชฺชเนปิ กปลฺลสชฺชเนปิ ทพฺพิสชฺชเนปิ ทารูนิ อาทาย อคฺคิกรเณปิ กปลฺลมฺหิ ธฺปกฺขิปเนปิ ทพฺพิยา สงฺฆฏฺฏเนสุปิ โกฏฺฏนตฺถํ อุทุกฺขลมุสลาทิสชฺชเนสุปิ โกฏฺฏนปปฺโผฏนโธวนาทีสุปิ ยาว มุเข เปตฺวา อชฺโฌหรณตฺถํ ทนฺเตหิ สงฺขาทติ, ตาว สพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏานิ, อชฺโฌหรณกาเล ปน อชฺโฌหรณคณนาย ปาจิตฺติยานิ. เอตฺถ จ วิฺตฺติ เจว โภชนฺจ ปมาณํ. ตสฺมา สยํ วิฺาเปตฺวา อฺาย ภชฺชนโกฏฺฏนปจนานิ การาเปตฺวา ภฺุชนฺติยาปิ อาปตฺติ. อฺาย วิฺาเปตฺวา สยํ ภชฺชนาทีนิ กตฺวา ภฺุชนฺติยาปิ อาปตฺติ. มหาปจฺจริยํ ปน วุตฺตํ – ‘‘อิทํ อามกธฺํ นาม มาตรมฺปิ วิฺาเปตฺวา ภฺุชนฺติยา ปาจิตฺติยเมว, อวิฺตฺติยา ลทฺธํ สยํ ภชฺชนาทีนิ กตฺวา วา การาเปตฺวา วา ภฺุชนฺติยา ทุกฺกฏํ. อฺาย วิฺตฺติยา ลทฺธํ สยํ วา ภชฺชนาทีนิ กตฺวา ตาย วา การาเปตฺวา อฺาย วา การาเปตฺวา ภฺุชนฺติยาปิ ทุกฺกฏเมวา’’ติ. ปุนปิ วุตฺตํ ‘‘อฺาย วิฺตฺติยา ลทฺธํ, สยํ ภชฺชนาทีนิ กตฺวา ภฺุชนฺติยา ปาจิตฺติยเมว. ภชฺชนาทีนิ การาเปตฺวา ภฺุชนฺติยา ปน ทุกฺกฏ’’นฺติ. ตํ ปุพฺพาปรวิรุทฺธํ โหติ, น หิ ภชฺชนาทีนํ กรเณ วา การาปเน วา วิเสโส อตฺถิ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘อฺาย วิฺตฺตํ ภฺุชนฺติยา ทุกฺกฏ’’นฺติ อวิเสเสน วุตฺตํ.
๘๒๓. อาพาธปจฺจยาติ เสทกมฺมาทีนํ อตฺถาย ธฺวิฺตฺติยา อนาปตฺติ. ‘‘อวิฺตฺติยา ลพฺภมานํ ปน นวกมฺมตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. อปรณฺณํ วิฺาเปตีติ เปตฺวา สตฺต ธฺานิ มุคฺคมาสาทึ วา ลาพุกุมฺภณฺฑาทึ วา อฺํ ยํกิฺจิ าตกปวาริตฏฺาเน ¶ วิฺาเปนฺติยา อนาปตฺติ. อามกธฺํ ปน าตกปวาริตฏฺาเน น วฏฺฏติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
จตุสมุฏฺานํ – กายโต กายวาจโต กายจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
สตฺตมสิกฺขาปทํ.
๘. อฏฺมสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๒๔. อฏฺเม ¶ – นิพฺพิฏฺโ ราชภโฏ รฺโ ภติ เกณิ เอเตนาติ นิพฺพิฏฺราชภโฏ, เอกํ ¶ านนฺตรํ เกณิยา คเหตฺวา ตโต ลทฺธอุทโยติ อตฺโถ. ตฺเว ภฏปถํ ยาจิสฺสามีติ รฺโ เกณึ ทตฺวา ปุน ตํเยว านนฺตรํ ยาจิสฺสามีติ จินฺเตนฺโต. ปริภาสีติ ตา ภิกฺขุนิโย ‘‘มา ปุน เอวํ กริตฺถา’’ติ สนฺตชฺเชสิ.
๘๒๖. สยํ ฉฑฺเฑตีติ จตฺตาริปิ วตฺถูนิ เอกปโยเคน ฉฑฺเฑนฺติยา เอกาว อาปตฺติ, ปาเฏกฺกํ ฉฑฺเฑนฺติยา วตฺถุคณนาย อาปตฺติโย. อาณตฺติยมฺปิ เอเสว นโย. ทนฺตกฏฺฉฑฺฑเนปิ ภิกฺขุนิยา ปาจิตฺติยเมว. ภิกฺขุสฺส สพฺพตฺถ ทุกฺกฏํ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ฉสมุฏฺานํ – กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
อฏฺมสิกฺขาปทํ.
๙. นวมสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๓๐-๒. นวเม – ยํ มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภคํ โรปิมนฺติ เขตฺตํ วา โหตุ นาฬิเกราทิอาราโม วา, ยตฺถ กตฺถจิ โรปิมหริตฏฺาเน เอตานิ วตฺถูนิ ฉฑฺเฑนฺติยา ปุริมนเยเนว อาปตฺติเภโท เวทิตพฺโพ. เขตฺเต วา อาราเม วา นิสีทิตฺวา ภฺุชมานา อุจฺฉุอาทีนิ วา ขาทนฺตี; คจฺฉมานา อุจฺฉิฏฺโทกจลกาทีนิ หริตฏฺาเน ฉฑฺเฑติ, อนฺตมโส อุทกํ ปิวิตฺวา มตฺถกจฺฉินฺนนาฬิเกรมฺปิ ฉฑฺเฑติ, ปาจิตฺติยเมว. ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ. กสิตฏฺาเน ปน นิกฺขิตฺตพีเช ยาว องฺกุรํ น อุฏฺหติ, ตาว สพฺเพสํ ทุกฺกฏํ ¶ . อนิกฺขิตฺตพีเชสุ เขตฺตโกณาทีสุ วา อสฺชาตโรปิเมสุ เขตฺตมริยาทาทีสุ วา ฉฑฺเฑตุํ วฏฺฏติ. มนุสฺสานํ กจวรฉฑฺฑนฏฺาเนปิ วฏฺฏติ. ฉฑฺฑิตเขตฺเตติ มนุสฺเสสุ สสฺสํ อุทฺธริตฺวา คเตสุ ฉฑฺฑิตเขตฺตํ นาม โหติ, ตตฺถ วฏฺฏติ. ยตฺถ ปน ลายิตมฺปิ ปุพฺพณฺณาทิ ปุน อุฏฺหิสฺสตีติ รกฺขนฺติ, ตตฺถ ยถาวตฺถุกเมว. เสสํ อุตฺตานเมว. ฉสมุฏฺานํ – กิริยากิริยํ…เป… ติเวทนนฺติ.
นวมสิกฺขาปทํ.
๑๐. ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๓๕. ทสเม ¶ ¶ – ยํกิฺจิ นจฺจนฺติ นฏาทโย วา นจฺจนฺตุ โสณฺฑา วา, อนฺตมโส โมรสุวมกฺกฏาทโยปิ, สพฺพมฺเปตํ นจฺจเมว. ยํกิฺจิ คีตนฺติ ยํกิฺจิ นฏาทีนํ วา คีตํ โหตุ, อริยานํ ปรินิพฺพานกาเล รตนตฺตยคุณูปสํหิตํ สาธุกีฬิตคีตํ วา อสํยตภิกฺขูนํ ธมฺมภาณกคีตํ วา, สพฺพมฺเปตํ คีตเมว. ยํกิฺจิ วาทิตนฺติ ตนฺติพทฺธาทิวาทนียภณฺฑวาทิตํ วา โหตุ, กุฏเภริวาทิตํ วา, อนฺตมโส อุทกเภริวาทิตมฺปิ, สพฺพมฺเปตํ วาทิตเมว.
๘๓๖. ทสฺสนาย คจฺฉติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ ปทวารคณนาย อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ยตฺถ ิตา ปสฺสติ วา สุณาติ วาติ เอกปโยเคน โอโลเกนฺตี ปสฺสติ, เตสํเยว คีตวาทิตํ สุณาติ, เอกเมว ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน เอกํ ทิสํ โอโลเกตฺวา นจฺจํ ปสฺสติ, ปุน อฺโต โอโลเกตฺวา คายนฺเต ปสฺสติ อฺโต วาเทนฺเต, ปาเฏกฺกา อาปตฺติโย. ภิกฺขุนี สยมฺปิ นจฺจิตุํ วา คายิตุํ วา วาทิตุํ วา น ลภติ, อฺเ ‘‘นจฺจ, คาย, วาเทหี’’ติ วตฺตุมฺปิ น ลภติ. ‘‘เจติยสฺส อุปหารํ เทถ, อุปาสกา’’ติ วตฺตุมฺปิ ‘‘ตุมฺหากํ เจติยสฺส อุปฏฺานํ กโรมา’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตุมฺปิ ¶ น ลภติ. สพฺพตฺถ ปาจิตฺติยนฺติ สพฺพอฏฺกถาสุ วุตฺตํ. ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ. ‘‘ตุมฺหากํ เจติยสฺส อุปฏฺานํ กโรมา’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘อุปฏฺานกรณํ นาม สุนฺทร’’นฺติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.
๘๓๗. อาราเม ิตาติ อาราเม ตฺวา อนฺตราราเม วา พหิอาราเม วา นจฺจาทีนิ ปสฺสติ วา สุณาติ วา, อนาปตฺติ. สติ กรณีเยติ สลากภตฺตาทีนํ วา อตฺถาย อฺเน วา เกนจิ กรณีเยน คนฺตฺวา คตฏฺาเน ปสฺสติ วา สุณาติ วา, อนาปตฺติ. อาปทาสูติ ตาทิเสน อุปทฺทเวน อุปทฺทุตา สมชฺชฏฺานํ ปวิสติ, เอวํ ปวิสิตฺวา ปสฺสนฺติยา วา สุณนฺติยา วา อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ทสมสิกฺขาปทํ.
ลสุณวคฺโค ปโม.
๒. อนฺธการวคฺโค
๑. ปมสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๓๙. อนฺธการวคฺคสฺส ¶ ¶ ปมสิกฺขาปเท – อปฺปทีเปติ ปทีปจนฺทสูริยอคฺคีสุ เอเกนาปิ อโนภาสิเต. เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘อนาโลเก’’ติ วุตฺตํ. สลฺลเปยฺย วาติ เคหสฺสิตกถํ กเถยฺย.
๘๔๑. อรโหเปกฺขา อฺวิหิตาติ น รโหอสฺสาทาเปกฺขา รโหอสฺสาทโต อฺวิหิตาว หุตฺวา าตึ วา ปุจฺฉติ, ทาเน วา ปูชาย วา มนฺเตติ. เสสํ อุตฺตานเมว. เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทฺวิเวทนนฺติ.
ปมสิกฺขาปทํ.
๒. ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๔๒. ทุติเย – ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเสติ อิทเมว นานํ. เสสํ สพฺพํ ปุริมสทิสเมวาติ.
ทุติยสิกฺขาปทํ.
๓. ตติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๔๖. ตติเย ¶ – อชฺโฌกาเสติ นานํ, เสสํ สพฺพํ ตาทิสเมวาติ.
ตติยสิกฺขาปทํ.
๔. จตุตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๕๐-๓. จตุตฺเถ ¶ – นิกณฺณิกนฺติ กณฺณมูลํ วุจฺจติ; กณฺณมูเล ชปฺเปยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. สติ กรณีเยติ สลากภตฺตาทีนํ อาหรณตฺถาย วิหาเร วา ทุนฺนิกฺขิตฺตํ ปฏิสามนตฺถาย. เสสํ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิ ปุริมสทิสาเนวาติ.
จตุตฺถสิกฺขาปทํ.
๕. ปฺจมสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๕๔. ปฺจเม ¶ – ฆรํ โสเธนฺตาติ เตสํ กิร เอตทโหสิ – ‘‘เถริยา โกจิ กายิกวาจสิโก วีติกฺกโม น ทิสฺสติ, ฆรมฺปิ ตาว โสเธมา’’ติ, ตโต ฆรํ โสเธนฺตา นํ อทฺทสํสุ.
๘๕๖. อโนวสฺสกํ อติกฺกาเมนฺติยาติ ปมํ ปาทํ อติกฺกาเมนฺติยา ทุกฺกฏํ, ทุติยํ อติกฺกาเมนฺติยา ปาจิตฺติยํ, อุปจาราติกฺกเม เอเสว นโย.
๘๕๘. คิลานายาติ ยา ตาทิเสน เคลฺเน อาปุจฺฉิตุํ น สกฺโกติ. อาปทาสูติ ฆเร อคฺคิ วา อุฏฺิโต โหติ, โจรา วา; เอวรูเป อุปทฺทเว อนาปุจฺฉา ปกฺกมติ, อนาปตฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
กถินสมุฏฺานํ – กายวาจโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ปฺจมสิกฺขาปทํ.
๖. ฉฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๖๐. ฉฏฺเ – อภินิสีเทยฺยาติ นิสีเทยฺย. นิสีทิตฺวา คจฺฉนฺติยา เอกา อาปตฺติ, อนิสีทิตฺวา นิปชฺชิตฺวา คจฺฉนฺติยา เอกา, นิสีทิตฺวา นิปชฺชิตฺวา คจฺฉนฺติยา ทฺเว.
๘๖๓. ธุวปฺตฺเตติ ¶ ภิกฺขุนีนํ อตฺถาย นิจฺจปฺตฺเต. เสสํ อุตฺตานเมว. กถินสมุฏฺานํ…เป… ติเวทนนฺติ.
ฉฏฺสิกฺขาปทํ.
๗. สตฺตมสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๖๔. สตฺตเมปิ ¶ – สพฺพํ ฉฏฺเ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
สตฺตมสิกฺขาปทํ.
๘. อฏฺมสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๖๙. อฏฺเม ¶ – สพฺพํ อุตฺตานเมว. ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
อฏฺมสิกฺขาปทํ.
๙. นวมสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๗๕. นวเม – อภิสเปยฺยาติ สปถํ กเรยฺย. นิรเยน อภิสปติ นาม ‘‘นิรเย นิพฺพตฺตามิ, อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺตามิ, นิรเย นิพฺพตฺตตุ, อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺตตู’’ติ เอวมาทินา นเยน อกฺโกสติ. พฺรหฺมจริเยน อภิสปติ นาม ‘‘คิหินี โหมิ, โอทาตวตฺถา โหมิ, ปริพฺพาชิกา โหมิ, อิตรา วา เอทิสา โหตู’’ติ เอวมาทินา นเยน อกฺโกสติ; วาจาย วาจาย ปาจิตฺติยํ. เปตฺวา ปน นิรยฺจ พฺรหฺมจริยฺจ ‘‘สุนขี สูกรี กาณา กุณี’’ติอาทินา นเยน อกฺโกสนฺติยา วาจาย วาจาย ทุกฺกฏํ.
๘๗๘. อตฺถปุเรกฺขารายาติ อฏฺกถํ กเถนฺติยา. ธมฺมปุเรกฺขารายาติ ปาฬึ วาเจนฺติยา. อนุสาสนิปุเรกฺขารายาติ ‘‘อิทานิปิ ตฺวํ เอทิสา, สาธุ วิรมสฺสุ, โน เจ วิรมสิ, อทฺธา ปุน ¶ เอวรูปานิ กมฺมานิ กตฺวา นิรเย อุปฺปชฺชิสฺสสิ, ติรจฺฉานโยนิยา อุปฺปชฺชิสฺสสี’’ติ เอวํ อนุสาสนิยํ ตฺวา วทนฺติยา อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
นวมสิกฺขาปทํ.
๑๐. ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๗๙. ทสเม – สพฺพํ อุตฺตานเมว. ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ – กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลกมฺมํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
ทสมสิกฺขาปทํ.
อนฺธการวคฺโค ทุติโย.
๓. นคฺควคฺโค
๑. ปมสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๘๓-๖. นคฺควคฺคสฺส ¶ ¶ ปมสิกฺขาปเท – พฺรหฺมจริยํ จิณฺเณนาติ พฺรหฺมจริเยน จิณฺเณน; อถ วา พฺรหฺมจริยสฺส จรเณนาติ; เอวํ กรณตฺเถ วา สามิอตฺเถ วา อุปโยควจนํ เวทิตพฺพํ. อจฺฉินฺนจีวริกายาติ อิทํ อุทกสาฏิกํ สนฺธาย วุตฺตํ, น อฺํ จีวรํ. ตสฺมา อุทกสาฏิกาย อจฺฉินฺนาย วา นฏฺาย วา นคฺคาย นฺหายนฺติยา อนาปตฺติ. สเจปิ อุทกสาฏิกจีวรํ มหคฺฆํ โหติ, น สกฺกา นิวาเสตฺวา พหิ คนฺตุํ, เอวมฺปิ นคฺคาย นฺหายิตุํ วฏฺฏติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
เอฬกโลมสมุฏฺานํ ¶ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ปมสิกฺขาปทํ.
๒. ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๘๗. ทุติเย – สพฺพํ อุตฺตานเมว. ฉสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ทุติยสิกฺขาปทํ.
๓. ตติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๙๓-๔. ตติเย – อนนฺตรายิกินีติ ทสสุ อนฺตราเยสุ เอเกนปิ อนฺตราเยน อนนฺตรายา. ธุรํ นิกฺขิตฺตมตฺเตติ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา สเจปิ ปจฺฉา สิพฺพติ, อาปตฺติเยวาติ อตฺโถ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ – อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
ตติยสิกฺขาปทํ.
๔. จตุตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๙๘-๙. จตุตฺเถ ¶ – ปฺจ อหานิ ปฺจาหํ, ปฺจาหเมว ปฺจาหิกํ. สงฺฆาฏีนํ จาโร สงฺฆาฏิจาโร; ปริโภควเสน วา โอตาปนวเสน วา สงฺฆฏิตฏฺเน สงฺฆาฏีติ ลทฺธนามานํ ปฺจนฺนํ จีวรานํ ปริวตฺตนนฺติ อตฺโถ. ตสฺมาเยว ปทภาชเน ‘‘ปฺจมํ ทิวสํ ปฺจ จีวรานี’’ติอาทิมาห. อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ เอตฺถ จ เอกสฺมึ จีวเร เอกา อาปตฺติ; ปฺจสุ ปฺจ.
๙๐๐. อาปทาสูติ ¶ มหคฺฆํ จีวรํ, น สกฺกา โหติ โจรภยาทีสุ ปริภฺุชิตุํ; เอวรูเป อุปทฺทเว อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว. กถินสมุฏฺานํ ¶ – อกิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
จตุตฺถสิกฺขาปทํ.
๕. ปฺจมสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๐๓. ปฺจเม – จีวรสงฺกมนียนฺติ สงฺกเมตพฺพํ จีวรํ; อฺิสฺสา สนฺตกํ อนาปุจฺฉา คหิตํ ปุน ปฏิทาตพฺพจีวรนฺติ อตฺโถ.
๙๐๖. อาปทาสูติ สเจ อปารุตํ วา อนิวตฺถํ วา โจรา หรนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ ธาเรนฺติยา อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว. กถินสมุฏฺานํ – กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ปฺจมสิกฺขาปทํ.
๖. ฉฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๐๙-๑๐. ฉฏฺเ – อฺํ ปริกฺขารนฺติ ยํกิฺจิ ถาลกาทีนํ วา สปฺปิเตลาทีนํ วา อฺตรํ. อานิสํสนฺติ ‘‘กิตฺตกํ อคฺฆนกํ ทาตุกามตฺถา’’ติ ปุจฺฉติ, ‘‘เอตฺตกํ นามา’’ติ วทนฺติ, ‘‘อาคเมถ ตาว, อิทานิ วตฺถํ มหคฺฆํ, กติปาเหน กปฺปาเส อาคเต สมคฺฆํ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ วตฺวา นิวาเรนฺติยา อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ ¶ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ฉฏฺสิกฺขาปทํ.
๗. สตฺตมสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๑๑. สตฺตเม ¶ – ปกฺกมึสูติ อฺาสมฺปิ อาคมนํ อาคเมนฺตี ‘‘อทฺธา อมฺหากมฺปิ อาคเมสฺสตี’’ติ ตตฺถ ตตฺถ อคมํสุ. ปฏิพาเหยฺยาติ ปฏิเสเธยฺย.
๙๑๕. อานิสํสนฺติ ‘‘เอกิสฺสา เอกํ สาฏกํ นปฺปโหติ, อาคเมถ ตาว, กติปาเหน อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตโต ภาเชสฺสามี’’ติ เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา ปฏิพาหนฺติยา อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
สตฺตมสิกฺขาปทํ.
๘. อฏฺมสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๑๖-๘. อฏฺเม ¶ – นฏา นาม เย นาฏกํ นาเฏนฺติ. นฏกา นาม เย นจฺจนฺติ. ลงฺฆกา นาม เย วํสวรตฺตาทีสุ ลงฺฆนกมฺมํ กโรนฺติ. โสกชฺฌายิกา นาม มายาการา. กุมฺภถูณิกา นาม ฆฏเกน กีฬนกา; พิมฺพิสกวาทกาติปิ วทนฺติ. เทติ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ เอตฺถ จีวรคณนาย อาปตฺติโย เวทิตพฺพา. เสสํ อุตฺตานเมว.
ฉสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
อฏฺมสิกฺขาปทํ.
๙. นวมสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๒๑-๔. นวเม ¶ – ทุพฺพลจีวรปจฺจาสายาติ ทุพฺพลาย จีวรปจฺจาสาย. อานิสํสนฺติ กิฺจาปิ ‘‘น มยํ อยฺเย สกฺโกมา’’ติ วทนฺติ, ‘‘อิทานิ ปน เตสํ กปฺปาโส อาคมิสฺสติ ¶ , สทฺโธ ปสนฺโน ปุริโส อาคมิสฺสติ, อทฺธา ทสฺสตี’’ติ เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา นิวาเรนฺติยา อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
นวมสิกฺขาปทํ.
๑๐. ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๒๗. ทสเม – กถินุทฺธารํ น ทสฺสนฺตีติ กีทิโส กถินุทฺธาโร ทาตพฺโพ, กีทิโส น ทาตพฺโพติ? ยสฺส อตฺถารมูลโก อานิสํโส มหา, อุพฺภารมูลโก อปฺโป, เอวรูโป น ทาตพฺโพ. ยสฺส ปน อตฺถารมูลโก อานิสํโส อปฺโป, อุพฺภารมูลโก มหา, เอวรูโป ทาตพฺโพ. สมานิสํโสปิ สทฺธาปริปาลนตฺถํ ทาตพฺโพว.
๙๓๑. อานิสํสนฺติ ภิกฺขุนิสงฺโฆ ชิณฺณจีวโร, กถินานิสํสมูลโก มหาลาโภติ ¶ เอวรูปํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา ปฏิพาหนฺติยา อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ทสมสิกฺขาปทํ.
นคฺควคฺโค ตติโย.
๔. ตุวฏฺฏวคฺโค
๑. ปมสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๓๓. ตุวฏฺฏวคฺคสฺส ¶ ¶ ปมสิกฺขาปเท – ตุวฏฺเฏยฺยุนฺติ นิปชฺเชยฺยุํ. เสสํ อุตฺตานเมว. เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ปมสิกฺขาปทํ.
๒. ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๓๗. ทุติเย – เอกํ อตฺถรณฺเจว ปาวุรณฺจ เอตาสนฺติ เอกตฺถรณปาวุรณา; สํหาริมานํ ปาวารตฺถรณกฏสารกาทีนํ เอกํ อนฺตํ อตฺถริตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา ตุวฏฺเฏนฺตีนเมตํ อธิวจนํ.
๙๔๐. ววตฺถานํ ทสฺเสตฺวาติ มชฺเฌ กาสาวํ วา กตฺตรยฏฺึ วา อนฺตมโส กายพนฺธนมฺปิ เปตฺวา นิปชฺชนฺตีนํ อนาปตฺตีติ อตฺโถ. เสสํ อุตฺตานเมว. เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ทุติยสิกฺขาปทํ.
๓. ตติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๔๑. ตติเย – อุฬารสมฺภาวิตาติ อุฬารกุลา ปพฺพชิตตฺตา คุเณหิ จ อุฬารตฺตา อุฬาราติ สมฺภาวิตา. อิสฺสาปกตาติ อิสฺสาย อปกตา; อภิภูตาติ อตฺโถ. สฺตฺติ พหุลา เอตาสนฺติ สฺตฺติพหุลา; ทิวสํ มหาชนํ สฺาปยมานาติ อตฺโถ. วิฺตฺติ พหุลา เอตาสนฺติ วิฺตฺติพหุลา. วิฺตฺตีติ เหตูทาหรณาทีหิ วิวิเธหิ นเยหิ าปนา เวทิตพฺพา, น ยาจนา.
๙๔๓. จงฺกมเน ¶ ¶ นิวตฺตนคณนาย อาปตฺติโย เวทิตพฺพา. ติฏฺติ วาติอาทีสุ ปโยคคณนาย. อุทฺทิสติ วาติอาทีสุ ปทาทิคณนาย. เสสํ อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ – กิริยากิริยํ ¶ , สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
ตติยสิกฺขาปทํ.
๔. จตุตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๔๙. จตุตฺเถ – สติ อนฺตราเยติ ทสวิเธ อนฺตราเย สติ. ปริเยสิตฺวา น ลภตีติ อฺํ อุปฏฺายิกํ น ลภติ. คิลานายาติ สยํ คิลานาย. อาปทาสูติ ตถารูเป อุปทฺทเว สติ อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ – อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
จตุตฺถสิกฺขาปทํ.
๕. ปฺจมสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๕๒. ปฺจเม – อฺํ อาณาเปตีติ เอตฺถ สเจ นิกฺกฑฺฒาติ อาณตฺตา เอกปโยเคน พหูนิปิ ทฺวารานิ อติกฺกาเมติ, เอกา อาปตฺติ. อถ อิมฺจิมฺจ ทฺวารํ อติกฺกาเมหีติ เอวํ อาณตฺตา อติกฺกาเมติ, ทฺวารคณนาย อาปตฺติโย. เสสํ อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
ปฺจมสิกฺขาปทํ.
๖. ฉฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๕๕. ฉฏฺเ ¶ ¶ – สพฺพํ อุตฺตานเมว. สมนุภาสนสมุฏฺานํ – อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
ฉฏฺสิกฺขาปทํ.
๗-๘-๙. สตฺตมอฏฺมนวมสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๖๑. สตฺตมอฏฺมนวเมสุ สพฺพํ อุตฺตานเมว. สพฺพานิ เอฬกโลมสมุฏฺานานิ, กิริยานิ, โนสฺาวิโมกฺขานิ, อจิตฺตกานิ, ปณฺณตฺติวชฺชานิ, กายกมฺมานิ, ติจิตฺตานิ ติเวทนานีติ.
สตฺตมอฏฺมนวมสิกฺขาปทานิ.
๑๐. ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๗๓. ทสเม – อาหุนฺทริกาติ สมฺพาธา.
๙๗๕. ธุรํ นิกฺขิตฺตมตฺเตติ สเจปิ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา ปกฺกมติ, อาปตฺติเยวาติ ¶ อตฺโถ. ปวาเรตฺวา ปฺจ โยชนานิ คจฺฉนฺติยาปิ อนาปตฺติ. ฉสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. สเจ ปน ตีณิ คนฺตฺวา เตเนว มคฺเคน ปจฺจาคจฺฉติ, น วฏฺฏติ. อฺเน มคฺเคน อาคนฺตุํ วฏฺฏติ.
๙๗๖. อนฺตราเยติ ทสวิเธ อนฺตราเย – ปรํ คจฺฉิสฺสามีติ นิกฺขนฺตา, นทีปูโร ปน อาคโต, โจรา วา มคฺเค โหนฺติ, เมโฆ วา อุฏฺาติ, นิวตฺติตุํ วฏฺฏติ. เสสํ อุตฺตานเมว. ปมปาราชิกสมุฏฺานํ – อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
ทสมสิกฺขาปทํ.
ตุวฏฺฏวคฺโค จตุตฺโถ.
๕. จิตฺตาคารวคฺโค
๑. ปมสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๗๘. จิตฺตาคารวคฺคสฺส ¶ ¶ ปมสิกฺขาปเท – ราชาคารนฺติ รฺโ กีฬนฆรํ. จิตฺตาคารนฺติ กีฬนจิตฺตสาลํ. อารามนฺติ กีฬนอุปวนํ. อุยฺยานนฺติ กีฬนุยฺยานํ. โปกฺขรณีนฺติ กีฬนโปกฺขรณึ. ตสฺมาเยว ปทภาชเน ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ รฺโ กีฬิตุ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ทสฺสนาย คจฺฉติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอตฺถ ปทวารคณนาย ทุกฺกฏํ. ยตฺถ ิตา ปสฺสตีติ เอตฺถ ปน สเจ เอกสฺมึเยว าเน ิตา ปทํ อนุทฺธรมานา ปฺจปิ ปสฺสติ, เอกเมว ปาจิตฺติยํ. ตํ ตํ ทิสาภาคํ โอโลเกตฺวา ปสฺสนฺติยา ปน ปาเฏกฺกา อาปตฺติโย. ภิกฺขุสฺส ปน สพฺพตฺถ ทุกฺกฏํ.
๙๘๑. อาราเม ิตาติ อชฺฌาราเม ราชาคาราทีนิ กโรนฺติ, ตานิ ปสฺสนฺติยา อนาปตฺติ. คจฺฉนฺตี วา อาคจฺฉนฺตี วาติ ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถาย คจฺฉนฺติยา มคฺโค โหติ, ตานิ ปสฺสติ, อนาปตฺติ. สติ กรณีเย คนฺตฺวาติ รฺโ สนฺติกํ เกนจิ กรณีเยน คนฺตฺวา ปสฺสติ, อนาปตฺติ. อาปทาสูติ เกนจิ อุปทฺทุตา ปวิสิตฺวา ปสฺสติ, อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ปมสิกฺขาปทํ.
๒. ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๘๒. ทุติเย ¶ – อภินิสีทนาภินิปชฺชเนสุ ปโยคคณนาย อาปตฺติโย เวทิตพฺพา. เสสํ อุตฺตานเมว.
เอฬกโลมสมุฏฺานํ ¶ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ทุติยสิกฺขาปทํ.
๓. ตติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๘๘. ตติเย ¶ – อุชฺชวุชฺชเวติ ยตฺตกํ หตฺเถน อฺฉิตํ โหติ, ตสฺมึ ตกฺกมฺหิ เวิเต เอกา อาปตฺติ. กนฺตนโต ปน ปุพฺเพ กปฺปาสวิจินนํ อาทึ กตฺวา สพฺพปโยเคสุ หตฺถวารคณนาย ทุกฺกฏํ.
๙๘๙. กนฺติตสุตฺตนฺติ ทสิกสุตฺตาทึ สงฺฆาเฏตฺวา กนฺตติ, ทุกฺกนฺติตํ วา ปฏิกนฺตติ. เสสํ อุตฺตานเมว. เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ตติยสิกฺขาปทํ.
๔. จตุตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๙๒. จตุตฺเถ – ยาคุํ วาติอาทีสุ ตณฺฑุลโกฏฺฏนํ อาทึ กตฺวา สพฺเพสุ ปุพฺพปโยเคสุ ปโยคคณนาย ทุกฺกฏํ. ยาคุภตฺเตสุ ภาชนคณนาย, ขาทนียาทีสุ รูปคณนาย ปาจิตฺติยานิ.
๙๙๓. ยาคุปาเนติ มนุสฺเสหิ สงฺฆสฺสตฺถาย กริยมาเน ยาคุปาเน วา สงฺฆภตฺเต วา เตสํ สหายิกภาเวน ยํกิฺจิ ปจนฺติยา อนาปตฺติ. เจติยปูชาย สหายิกา หุตฺวา คนฺธาทีนิ ปูเชติ, วฏฺฏติ. อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺสาติ สเจปิ มาตาปิตโร อาคจฺฉนฺติ, ยํกิฺจิ พีชนึ วา สมฺมฺุชนิทณฺฑกํ วา การาเปตฺวา เวยฺยาวจฺจกรฏฺาเน เปตฺวาว ยํกิฺจิ ปจิตุํ วฏฺฏติ. เสสํ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิ ตติยสทิสาเนวาติ.
จตุตฺถสิกฺขาปทํ.
๕. ปฺจมสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๙๖. ปฺจเม ¶ – อสติ อนฺตราเยติ ทสวิเธ อนฺตราเย อสติ. ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา วินิจฺฉินนฺตี อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาว วินิจฺฉินาติ.
๙๙๘. ปริเยสิตฺวา ¶ น ลภตีติ สหายิกา ภิกฺขุนิโย ¶ น ลภติ. เสสํ อุตฺตานเมว. ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ – อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ ทุกฺขเวทนนฺติ.
ปฺจมสิกฺขาปทํ.
๖. ฉฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๙๙. ฉฏฺเ – สพฺพํ นคฺควคฺเค อาคาริกสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส, ตํ ฉสมุฏฺานํ. อิทํ ‘‘สหตฺถา’’ติ วุตฺตตฺตา เอฬกโลมสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ฉฏฺสิกฺขาปทํ.
๗. สตฺตมสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๐๐๗. สตฺตเม – ปุน ปริยาเยนาติ ปุนวาเร. อาปทาสูติ มหคฺฆจีวรํ สรีรโต โมเจตฺวา สุปฏิสามิตมฺปิ โจรา หรนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ อนิสฺสชฺชิตฺวา นิวาเสนฺติยา อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมวาติ.
กถินสมุฏฺานํ – กายวาจโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
สตฺตมสิกฺขาปทํ.
๘. อฏฺมสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๐๐๘. อฏฺเม ¶ – อนิสฺสชฺชิตฺวาติ รกฺขณตฺถาย อทตฺวา; ‘‘อิมํ ชคฺเคยฺยาสี’’ติ เอวํ อนาปุจฺฉิตฺวาติ อตฺโถ.
๑๐๑๒. ปริเยสิตฺวา น ลภตีติ ปฏิชคฺคิกํ น ลภติ. คิลานายาติ วจีเภทํ กาตุํ อสมตฺถาย. อาปทาสูติ รฏฺเ ภิชฺชนฺเต อาวาเส ¶ ฉฑฺเฑตฺวา คจฺฉนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิ อนนฺตรสิกฺขาปทสทิสาเนวาติ.
อฏฺมสิกฺขาปทํ.
๙. นวมสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๐๑๕-๖. นวเม – พาหิรกํ อนตฺถสํหิตนฺติ หตฺถิอสฺสรถธนุถรุสิปฺปอาถพฺพณขีลนวสีกรณโสสาปนมนฺตาคทปฺปโยคาทิเภทํ ¶ ปรูปฆาตกรํ. ปริตฺตนฺติ ยกฺขปริตฺตนาคมณฺฑลาทิเภทํ สพฺพมฺปิ วฏฺฏติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ปทโสธมฺมสมุฏฺานํ – วาจโต วาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
นวมสิกฺขาปทํ.
๑๐. ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๐๑๘. ทสเม วาเจยฺยาติ ปทํ วิเสโส, เสสํ นวเม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ สทฺธึ สมุฏฺานาทีหีติ.
ทสมสิกฺขาปทํ.
จิตฺตาคารวคฺโค ปฺจโม.
๖. อารามวคฺโค
๑. ปมสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๐๒๕. อารามวคฺคสฺส ¶ ปมสิกฺขาปเท – ปริกฺเขปํ อติกฺกาเมนฺติยา, อุปจารํ โอกฺกมนฺติยาติ เอตฺถ ปมปาเท ทุกฺกฏํ, ทุติยปาเท ปาจิตฺติยํ.
๑๐๒๗. สีสานุโลกิกาติ ปมํ ปวิสนฺตีนํ ภิกฺขุนีนํ สีสํ อนุโลเกนฺตี ปวิสติ, อนาปตฺติ. ยตฺถ ภิกฺขุนิโยติ ยตฺถ ภิกฺขุนิโย ปมตรํ ปวิสิตฺวา สชฺฌายเจติยวนฺทนาทีนิ กโรนฺติ, ตตฺถ ตาสํ ¶ สนฺติกํ คจฺฉามีติ คนฺตุํ วฏฺฏติ. อาปทาสูติ เกนจิ อุปทฺทุตา โหติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ ปวิสิตุํ วฏฺฏติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ – กิริยากิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ปมสิกฺขาปทํ.
๒. ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๐๒๘. ทุติเย – อายสฺมา กปฺปิตโกติ อยํ ชฏิลสหสฺสพฺภนฺตโร เถโร. สํหรีติ สงฺกาเมสิ. สํหโฏติ สงฺกามิโต. กาสาวโฏติ นฺหาปิตา กาสาวํ นิวาเสตฺวา กมฺมํ กโรนฺติ, ตํ สนฺธายาหํสุ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
ทุติยสิกฺขาปทํ.
๓. ตติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๐๓๖. ตติเย ¶ ¶ – อนุสาสนิปุเรกฺขารายาติ อิทานิปิ ตฺวํ พาลา อพฺยตฺตาติอาทินา นเยน อนุสาสนิปกฺเข ตฺวา วทนฺติยา อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิ อนนฺตรสิกฺขาปทสทิสาเนวาติ.
ตติยสิกฺขาปทํ.
๔. จตุตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๐๓๗. จตุตฺเถ – สพฺพํ อุตฺตานเมว. จตุสมุฏฺานํ – กายโต กายวาจโต กายจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. นิมนฺติตาย อนาปุจฺฉา ภฺุชนฺติยา อาปตฺติสมฺภวโต สิยา กิริยากิริยํ, ปวาริตาย กปฺปิยํ กาเรตฺวาปิ อกาเรตฺวาปิ ภฺุชนฺติยา อาปตฺติสมฺภวโต ¶ สิยา กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
จตุตฺถสิกฺขาปทํ.
๕. ปฺจมสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๐๔๓. ปฺจเม – กุเล มจฺฉโร กุลมจฺฉโร, กุลมจฺฉโร เอติสฺสา อตฺถีติ กุลมจฺฉรินี กุลํ วา มจฺฉรายตีติ กุลมจฺฉรินี. กุลสฺส อวณฺณนฺติ ตํ กุลํ อสฺสทฺธํ อปฺปสนฺนนฺติ. ภิกฺขุนีนํ อวณฺณนฺติ ภิกฺขุนิโย ทุสฺสีลา ปาปธมฺมาติ.
๑๐๔๕. สนฺตํเยว อาทีนวนฺติ กุลสฺส วา ภิกฺขุนีนํ วา สนฺตํ อคุณํ. เสสํ อุตฺตานเมว. ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ ทุกฺขเวทนนฺติ.
ปฺจมสิกฺขาปทํ.
๖. ฉฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๐๔๘. ฉฏฺเ ¶ – โอวาทายาติ ครุธมฺมตฺถาย. สํวาสายาติ อุโปสถปวารณาปุจฺฉนตฺถาย. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน ภิกฺขุโนวาทกสิกฺขาปทวณฺณนายํ วุตฺโตเยว.
เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ฉฏฺสิกฺขาปทํ.
๗. สตฺตมสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๐๕๓. สตฺตเม ¶ – ปริเยสิตฺวา น ลภตีติ ภิกฺขุนึ น ลภติ. เสสํ อุตฺตานเมว. อิมสฺสาปิ วิตฺถาโร ภิกฺขุโนวาทเก วุตฺโตเยว.
ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ ¶ – อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
สตฺตมสิกฺขาปทํ.
๘. อฏฺมสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๐๕๖. อฏฺเม – เอกกมฺมนฺติอาทีหิ อุโปสถปวารณาเยว วุตฺตา. เสสํ อุตฺตานเมว. อิมสฺสาปิ วิตฺถาโร ภิกฺขุโนวาทเก วุตฺโตเยว.
ปมปาราชิกสมุฏฺานํ – อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
อฏฺมสิกฺขาปทํ.
๙. นวมสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๐๕๘. นวเม ¶ – สพฺพํ อุตฺตานเมว. อิมสฺสาปิ วิตฺถาโร ภิกฺขุโนวาทเก วุตฺโตเยว.
ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ – อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
นวมสิกฺขาปทํ.
๑๐. ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๐๖๒. ทสเม – ปสาเขติ อโธกาเย. อโธกาโย หิ ยสฺมา ตโต รุกฺขสฺส สาขา วิย อุโภ อูรู ปภิชฺชิตฺวา คตา, ตสฺมา ปสาโขติ วุจฺจติ.
๑๐๖๕. ภินฺทาติอาทีสุ สเจ ‘‘ภินฺท, ผาเลหี’’ติ สพฺพานิ อาณาเปติ, โส จ ตเถว กโรติ, ฉ อาณตฺติทุกฺกฏานิ ฉ จ ปาจิตฺติยานิ อาปชฺชติ. อถาปิ เอวํ อาณาเปติ – ‘‘อุปาสก, ยํกิฺจิ เอตฺถ กาตพฺพํ, ตํ สพฺพํ กโรหี’’ติ, โส จ สพฺพานิปิ เภทนาทีนิ กโรติ; เอกวาจาย ฉ ¶ ทุกฺกฏานิ ฉ ปาจิตฺติยานีติ ทฺวาทส อาปตฺติโย. สเจ ปน เภทนาทีสุปิ เอกํเยว วตฺวา ‘‘อิทํ กโรหี’’ติ อาณาเปติ, โส จ สพฺพานิ กโรติ, ยํ อาณตฺตํ, ตสฺเสว กรเณ ปาจิตฺติยํ. เสเสสุ อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
กถินสมุฏฺานํ – กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ ¶ , อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ทสมสิกฺขาปทํ.
อารามวคฺโค ฉฏฺโ.
๗. คพฺภินิวคฺโค
๑. ปมสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๐๖๙. คพฺภินิวคฺคสฺส ¶ ปมสิกฺขาปเท – อาปนฺนสตฺตาติ กุจฺฉิปวิฏฺสตฺตา.
ปมสิกฺขาปทํ.
๒. ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๐๗๓-๔. ทุติเย – ปายนฺตินฺติ ถฺํ ปายมานํ. มาตา วา โหตีติ ยํ ทารกํ ปาเยติ, ตสฺส มาตา วา โหติ ธาติ วา. เสสํ อุตฺตานเมว. อุภยมฺปิ ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ทุติยสิกฺขาปทํ.
๓. ตติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๐๗๗. ตติเย – สิกฺขาสมฺมุตึ ทาตุนฺติ กสฺมา ทาเปสิ? ‘‘มาตุคาโม นาม โลโล โหติ ทฺเว วสฺสานิ ฉสุ ธมฺเมสุ อสิกฺขิตฺวา สีลานิ ปูรยมาโน กิลมติ, สิกฺขิตฺวา ปน ปจฺฉา น กิลมิสฺสติ, นิตฺถริสฺสตี’’ติ ทาเปสิ.
๑๐๗๙. ปาณาติปาตา ¶ เวรมณึ ทฺเว วสฺสานิ อวีติกฺกมฺม สมาทานํ สมาทิยามีติ ยํ ตํ ปาณาติปาตา เ