📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
วินยปิฏเก
มหาวคฺค-อฏฺกถา
๑. มหาขนฺธกํ
โพธิกถา
อุภินฺนํ ¶ ¶ ปาติโมกฺขานํ, สงฺคีติสมนนฺตรํ;
สงฺคายึสุ มหาเถรา, ขนฺธกํ ขนฺธโกวิทา.
ยํ ตสฺส ทานิ สมฺปตฺโต, ยสฺมา สํวณฺณนากฺกโม;
ตสฺมา โหติ อยํ ตสฺส, อนุตฺตานตฺถวณฺณนา.
ปทภาชนิเย อตฺถา, เยหิ เยสํ ปกาสิตา;
เต เจ ปุน วเทยฺยาม, ปริโยสานํ กทา ภเว.
อุตฺตานา ¶ เจว เย อตฺถา, เตสํ สํวณฺณนาย กึ;
อธิปฺปายานุสนฺธีหิ, พฺยฺชเนน จ เย ปน.
อนุตฺตานา น เต ยสฺมา, สกฺกา าตุํ อวณฺณิตา;
เตสํเยว อยํ ตสฺมา, โหติ สํวณฺณนานโยติ.
๑. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา อุรุเวลายํ วิหรติ นชฺชา เนรฺชราย ตีเร โพธิรุกฺขมูเล ปมาภิสมฺพุทฺโธติ เอตฺถ กิฺจาปิ ‘‘เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา เวรฺชาย’’นฺติอาทีสุ วิย กรณวจเน วิเสสการณํ นตฺถิ, วินยํ ปตฺวา ปน กรณวจเนเนว อยมภิลาโป อาโรปิโตติ อาทิโต ปฏฺาย อารุฬฺหาภิลาปวเสเนเวตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอส นโย อฺเสุปิ อิโต ปเรสุ เอวรูเปสุ.
กึ ปเนตสฺส ¶ วจเน ปโยชนนฺติ? ปพฺพชฺชาทีนํ วินยกมฺมานํ อาทิโต ปฏฺาย นิทานทสฺสนํ. ยา หิ ภควตา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ ตีหิ ¶ สรณคมเนหิ ปพฺพชฺชํ อุปสมฺปท’’นฺติ (มหาว. ๓๔) เอวํ ปพฺพชฺชา เจว อุปสมฺปทา จ อนฺุาตา, ยานิ จ ราชคหาทีสุ อุปชฺฌายอุปชฺฌายวตฺตอาจริยอาจริยวตฺตาทีนิ อนฺุาตานิ, ตานิ อภิสมฺโพธึ ปตฺวา สตฺตสตฺตาหํ โพธิมณฺเฑ วีตินาเมตฺวา พาราณสิยํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตฺวา อิมินา อนุกฺกเมน อิทฺจิทฺจ านํ ปตฺวา อิมสฺมิฺจ อิมสฺมิฺจ วตฺถุสฺมึ ปฺตฺตานีติ เอวเมเตสํ ปพฺพชฺชาทีนํ วินยกมฺมานํ อาทิโต ปฏฺาย นิทานทสฺสนํ เอตสฺส วจเน ปโยชนนฺติ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ อุรุเวลายนฺติ มหาเวลายํ; มหนฺเต วาลิกราสิมฺหีติ อตฺโถ. อถ วา ‘‘อุรู’’ติ วาลิกา วุจฺจติ; ‘‘เวลา’’ติ มริยาทา; เวลาติกฺกมนเหตุ อาหฏา อุรุ อุรุเวลาติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อตีเต กิร อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ ทสสหสฺสกุลปุตฺตา ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ตสฺมึ ปเทเส วิหรนฺตา เอกทิวสํ สนฺนิปติตฺวา กติกวตฺตํ อกํสุ – ‘‘กายกมฺมวจีกมฺมานิ นาม ปเรสมฺปิ ปากฏานิ โหนฺติ, มโนกมฺมํ ปน อปากฏํ; ตสฺมา โย กามวิตกฺกํ วา พฺยาปาทวิตกฺกํ วา วิหึสาวิตกฺกํ วา วิตกฺเกติ, ตสฺส อฺโ โจทโก นาม นตฺถิ, โส อตฺตนาว อตฺตานํ โจเทตฺวา ปตฺตปุเฏน วาลิกํ อาหริตฺวา อิมสฺมึ าเน อากิรตุ, อิทมสฺส ทณฺฑกมฺม’’นฺติ. ตโต ปฏฺาย โย ตาทิสํ วิตกฺกํ วิตกฺเกติ, โส ตตฺถ ปตฺตปุเฏน วาลิกํ อากิรติ. เอวํ ตตฺถ อนุกฺกเมน มหาวาลิกราสิ ชาโต, ตโต นํ ¶ ปจฺฉิมา ชนตา ปริกฺขิปิตฺวา เจติยฏฺานมกาสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อุรุเวลายนฺติ มหาเวลายํ; มหนฺเต วาลิกราสิมฺหีติ อตฺโถ’’ติ. ตเมว สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อถ วา อุรูติ วาลิกา วุจฺจติ; เวลาติ มริยาทา; เวลาติกฺกมนเหตุ อาหฏา อุรุ อุรุเวลาติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ.
โพธิรุกฺขมูเลติ โพธิ วุจฺจติ จตูสุ มคฺเคสุ าณํ; ตํ โพธึ ภควา เอตฺถ ปตฺโตติ รุกฺโขปิ ‘‘โพธิรุกฺโข’’ตฺเวว นามํ ลภิ, ตสฺส โพธิรุกฺขสฺส มูเล โพธิรุกฺขมูเล. ปมาภิสมฺพุทฺโธติ ¶ ปมํ อภิสมฺพุทฺโธ; อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา สพฺพปมํเยวาติ อตฺโถ. เอกปลฺลงฺเกนาติ สกิมฺปิ อนุฏฺหิตฺวา ยถาอาภุชิเตน เอเกเนว ปลฺลงฺเกน. วิมุตฺติสุขปฏิสํเวทีติ วิมุตฺติสุขํ ผลสมาปตฺติสุขํ ปฏิสํเวทยมาโน.
ปฏิจฺจสมุปฺปาทนฺติ ¶ ปจฺจยาการํ. ปจฺจยากาโร หิ อฺมฺํ ปฏิจฺจ สหิเต ธมฺเม อุปฺปาเทตีติ ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาโท’’ติ วุจฺจติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน สพฺพาการสมฺปนฺนํ วินิจฺฉยํ อิจฺฉนฺเตน วิสุทฺธิมคฺคโต คเหตพฺโพ. อนุโลมปฏิโลมนฺติ อนุโลมฺจ ปฏิโลมฺจ. ตตฺถ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทินา นเยน วุตฺโต อวิชฺชาทิโก ปจฺจยากาโร อตฺตนา กตฺตพฺพกิจฺจกรณโต ‘‘อนุโลโม’’ติ วุจฺจติ. ‘‘อวิชฺชาย ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา สงฺขารนิโรโธ’’ติอาทินา นเยน วุตฺโต สฺเวว อนุปฺปาทนิโรเธน นิรุชฺฌมาโน ตํ กิจฺจํ น กโรตีติ ตสฺส อกรณโต ‘‘ปฏิโลโม’’ติ วุจฺจติ. ปุริมนเยน วา วุตฺโต ปวตฺติยา อนุโลโม, อิตโร ตสฺสา ปฏิโลโมติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อาทิโต ปน ปฏฺาย ยาว อนฺตํ, อนฺตโต จ ปฏฺาย ยาว อาทึ ปาเปตฺวา อวุตฺตตฺตา อิโต อฺเนตฺเถน อนุโลมปฏิโลมตา น ยุชฺชติ.
มนสากาสีติ มนสิ อกาสิ. ตตฺถ ยถา อนุโลมํ มนสิ อกาสิ, อิทํ ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อวิชฺชา จ สา ปจฺจโย จาติ อวิชฺชาปจฺจโย. ตสฺมา อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา สมฺภวนฺตีติ อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน สพฺพาการสมฺปนฺนํ วินิจฺฉยํ อิจฺฉนฺเตน วิสุทฺธิมคฺคโตว คเหตพฺโพ.
ยถา ปน ปฏิโลมํ มนสิ อกาสิ, อิทํ ทสฺเสตุํ อวิชฺชาย ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา สงฺขารนิโรโธติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อวิชฺชาย ตฺเววาติ อวิชฺชาย ตุ เอว. อเสสวิราคนิโรธาติ ¶ วิราคสงฺขาเตน มคฺเคน อเสสนิโรธา ¶ . สงฺขารนิโรโธติ สงฺขารานํ อนุปฺปาทนิโรโธ โหติ. เอวํ นิรุทฺธานํ ปน สงฺขารานํ นิโรธา วิฺาณํ นิรุทฺธํ, วิฺาณาทีนฺจ นิโรธา นามรูปาทีนิ นิรุทฺธานิเยว โหนฺตีติ ทสฺเสตุํ สงฺขารนิโรธา วิฺาณนิโรโธติอาทีนิ วตฺวา เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหตีติ วุตฺตํ. ตตฺถ เกวลสฺสาติ สกลสฺส; สุทฺธสฺส วา สตฺตวิรหิตสฺสาติ อตฺโถ. ทุกฺขกฺขนฺธสฺสาติ ทุกฺขราสิสฺส. นิโรโธ โหตีติ อนุปฺปาโท โหติ.
เอตมตฺถํ ¶ วิทิตฺวาติ ยฺวายํ ‘‘อวิชฺชาทิวเสน สงฺขาราทิกสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย จ อวิชฺชานิโรธาทิวเสน จ นิโรโธ โหตี’’ติ วุตฺโต, สพฺพากาเรน เอตมตฺถํ วิทิตฺวา. ตายํ เวลายนฺติ ตายํ ตสฺส อตฺถสฺส วิทิตเวลายํ. อิมํ อุทานํ อุทาเนสีติ อิมํ ตสฺมึ วิทิเต อตฺเถ เหตุโน จ เหตุสมุปฺปนฺนธมฺมสฺส จ ปชานนาย อานุภาวทีปกํ ‘‘ยทา หเว ปาตุภวนฺตี’’ติอาทิกํ โสมนสฺสยุตฺตาณสมุฏฺานํ อุทานํ อุทาเนสิ, อตฺตมนวาจํ นิจฺฉาเรสีติ วุตฺตํ โหติ.
ตสฺสตฺโถ – ยทา หเวติ ยสฺมึ ภเว กาเล. ปาตุภวนฺตีติ อุปฺปชฺชนฺติ. ธมฺมาติ อนุโลมปจฺจยาการปฏิเวธสาธกา โพธิปกฺขิยธมฺมา. อถ วา ปาตุภวนฺตีติ ปกาสนฺติ; อภิสมยวเสน พฺยตฺตา ปากฏา โหนฺติ. ธมฺมาติ จตุอริยสจฺจธมฺมา. อาตาโป วุจฺจติ กิเลสสนฺตาปนฏฺเน วีริยํ; อาตาปิโนติ สมฺมปฺปธานวีริยวโต. ฌายโตติ อารมฺมณูปนิชฺฌานลกฺขเณน จ ลกฺขณูปนิชฺฌานลกฺขเณน จ ฌาเนน ฌายนฺตสฺส. พฺราหฺมณสฺสาติ พาหิตปาปสฺส ขีณาสวสฺส. อถสฺส กงฺขา วปยนฺตีติ อถสฺส เอวํ ปาตุภูตธมฺมสฺส กงฺขา วปยนฺติ. สพฺพาติ ยา เอตา ‘‘โก นุ โข ภนฺเต ผุสตีติ; โน กลฺโล ปฺโหติ ภควา อโวจา’’ติอาทินา, ตถา ‘‘กตมํ นุ โข ภนฺเต ชรามรณํ; กสฺส จ ปนิทํ ชรามรณนฺติ ¶ ; โน กลฺโล ปฺโหติ ภควา อโวจา’’ติอาทินา จ นเยน ปจฺจยากาเร กงฺขา วุตฺตา, ยา จ ปจฺจยาการสฺเสว อปฺปฏิวิทฺธตฺตา ‘‘อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธาน’’นฺติอาทิกา โสฬส กงฺขา อาคตา, ตา สพฺพา วปยนฺติ อปคจฺฉนฺติ นิรุชฺฌนฺติ. กสฺมา? ยโต ปชานาติ สเหตุธมฺมนฺติ ยสฺมา อวิชฺชาทิเกน เหตุนา สเหตุกํ อิมํ สงฺขาราทึ เกวลํ ทุกฺขกฺขนฺธธมฺมํ ปชานาติ อฺาติ ปฏิวิชฺฌตีติ.
๒. ทุติยวาเร – อิมํ อุทานํ อุทาเนสีติ อิมํ ตสฺมึ วิทิเต อตฺเถ ‘‘อวิชฺชาย ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา สงฺขารนิโรโธ’’ติ เอวํ ปกาสิตสฺส นิพฺพานสงฺขาตสฺส ปจฺจยกฺขยสฺส อวโพธานุภาวทีปกํ ¶ วุตฺตปฺปการํ อุทานํ อุทาเนสีติ อตฺโถ. ตตฺรายํ สงฺเขปตฺโถ – ยสฺมา ปจฺจยานํ ขยสงฺขาตํ นิพฺพานํ อเวทิ อฺาสิ ปฏิวิชฺฌิ, ตสฺมา ยทาสฺส อาตาปิโน ฌายโต ¶ พฺราหฺมณสฺส วุตฺตปฺปการา ธมฺมา ปาตุภวนฺติ, อถสฺส ยา นิพฺพานสฺส อวิทิตตฺตา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ตา สพฺพาปิ กงฺขา วปยนฺตีติ.
๓. ตติยวาเร – อิมํ อุทานํ อุทาเนสีติ อิมํ เยน มคฺเคน โส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทยนิโรธสงฺขาโต อตฺโถ กิจฺจวเสน จ อารมฺมณกิริยาย จ วิทิโต, ตสฺส อริยมคฺคสฺส อานุภาวทีปกํ วุตฺตปฺปการํ อุทานํ อุทาเนสีติ อตฺโถ. ตตฺราปายํ สงฺเขปตฺโถ – ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส, ตทา โส พฺราหฺมโณ เตหิ วา อุปฺปนฺเนหิ โพธิปกฺขิยธมฺเมหิ, ยสฺส วา อริยมคฺคสฺส จตุสจฺจธมฺมา ปาตุภูตา, เตน อริยมคฺเคน วิธูปยํ ติฏฺติ มารเสนํ ‘‘กามา เต ปมา เสนา’’ติอาทินา นเยน วุตฺตปฺปการํ มารเสนํ วิธูปยนฺโต วิธเมนฺโต วิทฺธํเสนฺโต ติฏฺติ. กถํ? สูริโยว โอภาสยมนฺตลิกฺขํ, ยถา สูริโย อพฺภุคฺคโต อตฺตโน ปภาย อนฺตลิกฺขํ โอภาเสนฺโตว อนฺธการํ วิธเมนฺโต ติฏฺติ, เอวํ โสปิ พฺราหฺมโณ เตหิ ธมฺเมหิ เตน วา มคฺเคน สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌนฺโตว มารเสนํ วิธูปยนฺโต ติฏฺตีติ.
เอวเมตฺถ ปมํ อุทานํ ปจฺจยาการปจฺจเวกฺขณวเสน, ทุติยํ นิพฺพานปจฺจเวกฺขณวเสน ¶ , ตติยํ มคฺคปจฺจเวกฺขณวเสน อุปฺปนฺนนฺติ เวทิตพฺพํ. อุทาเน ปน ‘‘รตฺติยา ปมํ ยามํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ อนุโลมํ, ทุติยํ ยามํ ปฏิโลมํ, ตติยํ ยามํ อนุโลมปฏิโลม’’นฺติ วุตฺตํ; ตํ สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ‘‘สฺเว อาสนา วุฏฺหิสฺสามี’’ติ รตฺตึ อุปฺปาทิตมนสิการํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตทา หิ ภควา ยสฺส ปจฺจยาการปชานนสฺส จ ปจฺจยกฺขยาธิคมสฺส จ อานุภาวทีปิกา ปุริมา ทฺเว อุทานคาถา, ตสฺส วเสน เอเกกเมว โกฏฺาสํ ปมยามฺจ มชฺฌิมยามฺจ มนสากาสิ, อิธ ปน ปาฏิปทรตฺติยา เอวํ มนสากาสิ. ภควา หิ วิสาขปุณฺณมาย รตฺติยา ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริ, มชฺฌิมยาเม ทิพฺพจกฺขุํ วิโสเธสิ, ปจฺฉิมยาเม ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ อนุโลมปฏิโลมํ มนสิ กตฺวา ‘‘อิทานิ อรุโณ อุคฺคมิสฺสตี’’ติ สพฺพฺุตํ ปาปุณิ. สพฺพฺุตปฺปตฺติสมนนฺตรเมว จ อรุโณ อุคฺคจฺฉิ. ตโต ตํ ทิวสํ เตเนว ปลฺลงฺเกน วีตินาเมตฺวา สมฺปตฺตาย ปาฏิปทรตฺติยา ตีสุ ยาเมสุ เอวํ มนสิ กตฺวา อิมานิ อุทานานิ อุทาเนสิ. อิติ ¶ ปาฏิปทรตฺติยา เอวํ มนสิ กตฺวา ตํ ‘‘โพธิรุกฺขมูเล สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสีที’’ติ เอวํ วุตฺตสตฺตาหํ ตตฺเถว วีตินาเมสิ.
โพธิกถา นิฏฺิตา.
อชปาลกถา
๔. อถ ¶ โข ภควา สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวา โพธิรุกฺขมูลา เยน อชปาลนิคฺโรโธ เตนุปสงฺกมีติ เอตฺถ น ภควา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวา อนนฺตรเมว โพธิรุกฺขมูลา เยน อชปาลนิคฺโรโธ เตนุปสงฺกมิ. ยถา ปน ‘‘ภุตฺวา สยตี’’ติ วุตฺเต น ‘‘หตฺเถ อโธวิตฺวา มุขํ อวิกฺขาเลตฺวา สยนสมีปํ อคนฺตฺวา อฺํ กิฺจิ อาลาปสลฺลาปํ อกตฺวา สยติ’’จฺเจว วุตฺตํ โหติ, โภชนโต ปน ปจฺฉา สยติ, น นสยตีติ อิทเมวตฺถ ทีปิตํ โหติ. เอวมิธาปิ ‘‘น ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวา อนนฺตรเมว ปกฺกามี’’ติ วุตฺตํ โหติ, วุฏฺานโต จ ปน ปจฺฉา ปกฺกามิ, น นปกฺกามีติ ¶ อิทเมเวตฺถ ทีปิตํ โหติ.
อนนฺตรํ ปน อปกฺกมิตฺวา ภควา กึ อกาสีติ? อปรานิปิ ตีณิ สตฺตาหานิ โพธิสมีเปเยว วีตินาเมสิ. ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – ภควติ กิร พุทฺธตฺตํ ปตฺวา สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺเน ‘‘น ภควา วุฏฺาติ; กึ นุ โข อฺเปิ พุทฺธตฺตกรา ธมฺมา อตฺถี’’ติ เอกจฺจานํ เทวตานํ กงฺขา อุทปาทิ. อถ ภควา อฏฺเม ทิวเส สมาปตฺติโต วุฏฺาย เทวตานํ กงฺขํ ตฺวา กงฺขาวิธมนตฺถํ อากาเส อุปฺปติตฺวา ยมกปาฏิหาริยํ ทสฺเสตฺวา ตาสํ กงฺขํ วิธมิตฺวา ปลฺลงฺกโต อีสกํ ปาจีนนิสฺสิเต อุตฺตรทิสาภาเค ตฺวา จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ กปฺปสตสหสฺสฺจ อุปจิตานํ ปารมีนํ พลาธิคมนฏฺานํ ปลฺลงฺกํ โพธิรุกฺขฺจ อนิมิเสหิ อกฺขีหิ โอโลกยมาโน สตฺตาหํ วีตินาเมสิ, ตํ านํ อนิมิสเจติยํ นาม ชาตํ. อถ ปลฺลงฺกสฺส จ ิตฏฺานสฺส จ อนฺตรา ปุรตฺถิมโต จ ปจฺฉิมโต จ อายเต รตนจงฺกเม จงฺกมนฺโต สตฺตาหํ วีตินาเมสิ, ตํ านํ รตนจงฺกมเจติยํ นาม ชาตํ. ตโต ปจฺฉิมทิสาภาเค เทวตา รตนฆรํ มาปยึสุ. ตตฺถ ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา อภิธมฺมปิฏกํ วิเสสโต เจตฺถ อนนฺตนยํ สมนฺตปฏฺานํ ¶ วิจินนฺโต สตฺตาหํ วีตินาเมสิ, ตํ านํ รตนฆรเจติยํ นาม ชาตํ.
เอวํ โพธิสมีเปเยว จตฺตาริ สตฺตาหานิ วีตินาเมตฺวา ปฺจเม สตฺตาเห โพธิรุกฺขมูลา เยน อชปาลนิคฺโรโธ เตนุปสงฺกมิ. ตสฺส กิร นิคฺโรธสฺส ฉายาย อชปาลกา คนฺตฺวา นิสีทนฺติ; เตนสฺส อชปาลนิคฺโรโธตฺเวว นามํ อุทปาทิ. สตฺตาหํ วิมุตฺติสุขปฏิสํเวทีติ ตตฺราปิ ธมฺมํ วิจินนฺโตเยว วิมุตฺติสุขํ ปฏิสํเวเทนฺโต นิสีทิ. โพธิโต ปุรตฺถิมทิสาภาเค เอส รุกฺโข โหติ. เอวํ นิสินฺเน จ ปเนตฺถ ภควติ เอโก พฺราหฺมโณ คนฺตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อถ โข อฺตโร’’ติอาทิ. ตตฺถ หุํหุงฺกชาติโกติ โส กิร ทิฏฺมงฺคลิโก นาม ¶ , มานวเสน โกธวเสน จ ‘‘หุํหุ’’นฺติ กโรนฺโต วิจรติ, ตสฺมา ‘‘หุํหุงฺกชาติโก’’ติ วุจฺจติ. ‘‘หุหุกฺกชาติโก’’ติปิ ¶ ปนฺติ.
เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ เอตํ เตน วุตฺตสฺส วจนสฺส สิขาปตฺตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ. ตสฺสตฺโถ – โย พาหิตปาปธมฺมตาย พฺราหฺมโณ น ทิฏฺมงฺคลิกตาย, หุํหุงฺการกภาวาทิปาปธมฺมยุตฺโต หุตฺวา เกวลํ ชาติมตฺตเกน พฺรหฺมฺํ ปฏิชานาติ, โส พฺราหฺมโณ พาหิตปาปธมฺมตฺตา หุํหุงฺการปฺปหาเนน นิหุํหุงฺโก, ราคาทิกสาวาภาเวน นิกฺกสาโว, ภาวนานุโยคยุตฺตจิตฺตตาย ยตตฺโต, สีลสํวเรน วา สฺตจิตฺตตาย ยตตฺโต, จตุมคฺคาณสงฺขาเตหิ เวเทหิ อนฺตํ, เวทานํ วา อนฺตํ คตตฺตา เวทนฺตคู, มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส วุสิตตฺตา วุสิตพฺรหฺมจริโย. ธมฺเมน พฺรหฺมวาทํ วเทยฺย, ‘‘พฺราหฺมโณ, อห’’นฺติ เอตํ วาทํ ธมฺเมน วเทยฺย, ยสฺส สกเล โลกสนฺนิวาเส กุหิฺจิ เอการมฺมเณปิ ราคุสฺสโท โทสุสฺสโท โมหุสฺสโท มานุสฺสโท ทิฏฺุสฺสโทติ อิเม อุสฺสทา นตฺถีติ.
อชปาลกถา นิฏฺิตา.
มุจลินฺทกถา
๕. อกาลเมโฆติ อสมฺปตฺเต วสฺสกาเล อุปฺปนฺนเมโฆ. อยํ ปน คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเส อุทปาทิ. สตฺตาหวทฺทลิกาติ ตสฺมึ อุปฺปนฺเน สตฺตาหํ อวิจฺฉินฺนวุฏฺิกา อโหสิ. สีตวาตทุทฺทินีติ สา จ ปน สตฺตาหวทฺทลิกา ¶ อุทกผุสิตสมฺมิสฺเสน สีตวาเตน สมนฺตา ปริพฺภมนฺเตน ทูสิตทิวสตฺตา สีตวาตทุทฺทินี นาม อโหสิ. อถ โข มุจลินฺโท นาคราชาติ ตสฺเสว มุจลินฺทรุกฺขสฺส สมีเป โปกฺขรณิยา นิพฺพตฺโต มหานุภาโว นาคราชา. สตฺตกฺขตฺตุํ โภเคหิ ปริกฺขิปิตฺวาติ เอวํ โภเคหิ ปริกฺขิปิตฺวา อุปริมุทฺธนิ มหนฺตํ ผณํ กริตฺวาว ิเต; ตสฺมึ ตสฺส ปริกฺเขปพฺภนฺตรํ โลหปาสาเท ภณฺฑาคารคพฺภปฺปมาณํ อโหสิ, ตสฺมา ภควา นิวาเต ปิหิตทฺวารวาตปาเน กูฏาคาเร นิสินฺโน วิย ชาโต. มา ภควนฺตํ สีตนฺติอาทิ ตสฺส ตถา กริตฺวา านการณปริทีปนํ. โส หิ ‘‘มา ภควนฺตํ สีตํ พาธยิตฺถ, มา อุณฺหํ, มา ฑํสาทิสมฺผสฺโส พาธยิตฺถา’’ติ ตถา กริตฺวา อฏฺาสิ. ตตฺถ กิฺจาปิ สตฺตาหวทฺทลิกาย อุณฺหเมว นตฺถิ, สเจ ปน อนฺตรนฺตรา เมโฆ วิคจฺเฉยฺย อุณฺหํ ภเวยฺย ¶ , ตมฺปิ นํ มา พาธยิตฺถาติ เอวํ ตสฺส จินฺเตตุํ ยุตฺตํ. วิทฺธนฺติ อุพฺพิทฺธํ; เมฆวิคเมน ¶ ทูรีภูตนฺติ อตฺโถ. วิคตวลาหกนฺติ อปคตเมฆํ. เทวนฺติ อากาสํ. สกวณฺณนฺติ อตฺตโน รูปํ.
สุโข วิเวโกติ นิพฺพานสงฺขาโต อุปธิวิเวโก สุโข. ตุฏฺสฺสาติ จตุมคฺคาณสนฺโตเสน สนฺตุฏฺสฺส. สุตธมฺมสฺสาติ ปกาสิตธมฺมสฺส. ปสฺสโตติ ตํ วิเวกํ ยํ วา กิฺจิ ปสฺสิตพฺพํ นาม, ตํ สพฺพํ อตฺตโน วีริยพลาธิคเตน าณจกฺขุนา ปสฺสนฺตสฺส. อพฺยาปชฺชนฺติ อกุปฺปนภาโว; เอเตน เมตฺตาปุพฺพภาโค ทสฺสิโต. ปาณภูเตสุ สํยโมติ สตฺเตสุ จ สํยโม; อวิหึสนภาโว สุโขติ อตฺโถ. เอเตน กรุณาปุพฺพภาโค ทสฺสิโต. สุขา วิราคตา โลเกติ วีตราคตาปิ สุขาติ ทีเปติ. กามานํ สมติกฺกโมติ ยา ‘‘กามานํ สมติกฺกโม’’ติ วุจฺจติ; สา วิราคตาปิ สุขาติ อตฺโถ. เอเตน อนาคามิมคฺโค กถิโต. อสฺมิมานสฺส โย วินโยติ อิมินา ปน อรหตฺตํ กถิตํ; อรหตฺตฺหิ อสฺมิมานสฺส ‘‘ปสฺสทฺธิวินโย’’ติ วุจฺจติ. อิโต ปรฺจ สุขํ นาม นตฺถิ, เตนาห ‘‘เอตํ เว ปรมํ สุข’’นฺติ.
มุจลินฺทกถา นิฏฺิตา.
ราชายตนกถา
๖. มุจลินฺทมูลาติ มหาโพธิโต ปาจีนโกเณ ิตมุจลินฺทรุกฺขมูลา. ราชายตนนฺติ ทกฺขิณทิสาภาเค ิตํ ราชายตนรุกฺขํ อุปสงฺกมิ ¶ . เตน โข ปน สมเยนาติ กตเรน สมเยน. ภควโต กิร ราชายตนมูเล สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺนสฺส สมาธิโต วุฏฺานทิวเส อรุณุคฺคมนเวลายเมว ‘‘โภชนกิจฺเจน ภวิตพฺพ’’นฺติ ตฺวา สกฺโก เทวราชา โอสธหรีตกํ อุปเนสิ. ภควา ตํ ปริภฺุชิ, ปริภุตฺตมตฺตสฺเสว สรีรกิจฺจํ อโหสิ. สกฺโก มุโขทกํ อทาสิ. ภควา มุขํ โธวิตฺวา ตสฺมึเยว รุกฺขมูเล นิสีทิ. เอวํ อุคฺคเต อรุณมฺหิ นิสินฺเน ภควติ.
เตน โข ปน สมเยน ตปุสฺสภลฺลิกา วาณิชาติ ตปุสฺโส จ ภลฺลิโก จาติ ทฺเว ภาตโร วาณิชา. อุกฺกลาติ อุกฺกลชนปทโต. ตํ เทสนฺติ ยสฺมึ เทเส ภควา วิหรติ. กตรสฺมิฺจ เทเส ภควา วิหรติ? มชฺฌิมเทเส. ตสฺมา มชฺฌิมเทสํ คนฺตุํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนา ¶ โหนฺตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. าติสาโลหิตา เทวตาติ เตสํ าติภูตปุพฺพา เทวตา. เอตทโวจาติ สา กิร เนสํ สพฺพสกฏานิ อปฺปวตฺตีนิ อกาสิ. ตโต ¶ เต กึ อิทนฺติ มคฺคเทวตานํ พลึ อกํสุ. เตสํ พลิกมฺมกาเล สา เทวตา ทิสฺสมาเนเนว กาเยน เอตํ อโวจ. มนฺเถน จ มธุปิณฺฑิกาย จาติ อพทฺธสตฺตุนา จ สปฺปิมธุผาณิตาทีหิ โยเชตฺวา พทฺธสตฺตุนา จ. ปติมาเนถาติ อุปฏฺหถ. ตํ โวติ ตํ ปติมานนํ ตุมฺหากํ ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. ยํ อมฺหากนฺติ ยํ ปฏิคฺคหณํ อมฺหากํ อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. ภควโต เอตทโหสีติ โย กิรสฺส ปธานานุโยคกาเล ปตฺโต อโหสิ, โส สุชาตาย ปายาสํ ทาตุํ อาคจฺฉนฺติยา เอว อนฺตรธายิ. เตนสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ปตฺโต เม นตฺถิ, ปุริมกาปิ จ น โข ตถาคตา หตฺเถสุ ปฏิคฺคณฺหนฺติ, กิมฺหิ นุ โข อหํ ปฏิคฺคณฺเหยฺยํ มนฺถฺจ มธุปิณฺฑกฺจา’’ติ.
ปริวิตกฺกมฺายาติ อิโต ปุพฺเพว ภควโต สุชาตาย ทินฺนโภชนํเยว โอชานุปฺปพนฺธนวเสน อฏฺาสิ, เอตฺตกํ กาลํ เนว ชิฆจฺฉา น ปิปาสา น กายทุพฺพลฺยํ อโหสิ. อิทานิ ปนสฺส อาหารํ ปฏิคฺคเหตุกามตาย ‘‘น โข ตถาคตา’’ติอาทินา นเยน ปริวิตกฺโก อุทปาทิ ¶ . ตํ เอวํ อุปฺปนฺนํ อตฺตโน เจตสา ภควโต เจโตปริวิตกฺกมฺาย. จตุทฺทิสาติ จตูหิ ทิสาหิ. เสลมเย ปตฺเตติ มุคฺควณฺณเสลมเย ปตฺเต. อิทํเยว ภควา ปฏิคฺคเหสิ, เตเยว สนฺธาย วุตฺตํ. จตฺตาโร ปน มหาราชาโน ปมํ อินฺทนีลมณิมเย ปตฺเต อุปนาเมสุํ, น เต ภควา อคฺคเหสิ. ตโต อิเม จตฺตาโรปิ มุคฺควณฺณสิลามเย ปตฺเต อุปนาเมสุํ, ภควา จตฺตาโรปิ ปตฺเต อคฺคเหสิ เตสํ ปสาทานุรกฺขณตฺถาย, โน มหิจฺฉตาย. คเหตฺวา จ ปน จตฺตาโรปิ ยถา เอโกว ปตฺโต โหติ ตถา อธิฏฺหิ, จตุนฺนมฺปิ เอกสทิโส ปฺุวิปาโก อโหสิ. เอวํ เอกํ กตฺวา อธิฏฺิเต ปฏิคฺคเหสิ ภควา ปจฺจคฺเฆ เสลมเย ปตฺเต มนฺถฺจ มธุปิณฺฑิกฺจ. ปจฺจคฺเฆติ ปจฺจคฺฆสฺมึ; ปาเฏกฺกํ มหคฺฆสฺมินฺติ อตฺโถ. อถ วา ปจฺจคฺเฆติ อภินเว อพฺภุณฺเห; ตงฺขเณ นิพฺพตฺตสฺมินฺติ อตฺโถ. ทฺเว วาจา เอเตสํ อเหสุนฺติ ทฺเววาจิกา. อถ วา ทฺวีหิ วาจาหิ อุปาสกภาวํ ปตฺตาติ อตฺโถ ¶ . เต เอวํ อุปาสกภาวํ ปฏิเวเทตฺวา ภควนฺตํ อาหํสุ – ‘‘กสฺส ทานิ ภนฺเต อมฺเหหิ อชฺช ปฏฺาย อภิวาทนปจฺจุฏฺานํ กาตพฺพ’’นฺติ? อถ ภควา สีสํ ปรามสิ, เกสา หตฺเถ ลคฺคึสุ. เต เตสํ อทาสิ ‘‘อิเม ตุมฺเห ปริหรถา’’ติ. เต เกสธาตุโย ลภิตฺวา อมเตเนว อภิสิตฺตา หฏฺตุฏฺา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ปกฺกมึสุ.
ราชายตนกถา นิฏฺิตา.
พฺรหฺมยาจนกถา
๗. อถ ¶ โข ภควา สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวา วุตฺตปฺปการเมตํ สพฺพํ กิจฺจํ นิฏฺาเปตฺวา ราชายตนมูลา ปุนปิ เยน อชปาลนิคฺโรโธ เตนุปสงฺกมิ. ปริวิตกฺโก อุทปาทีติ ตสฺมึ นิสินฺนมตฺตสฺเสว สพฺพพุทฺธานํ อาจิณฺณสมาจิณฺโณ อยํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ. กสฺมา ปนายํ สพฺพพุทฺธานํ อุปฺปชฺชตีติ? ธมฺมสฺส มหนฺตภาวํ ครุภาวํ ภาริยภาวํ ปจฺจเวกฺขณาย พฺรหฺมุนา ยาจิเต เทเสตุกามตาย จ. ชานนฺติ หิ พุทฺธา ‘‘เอวํ ปริวิตกฺกิเต พฺรหฺมา อาคนฺตฺวา ธมฺมเทสนํ ยาจิสฺสติ, ตโต สตฺตา ธมฺเม คารวํ อุปฺปาเทสฺสนฺติ, พฺรหฺมครุโก หิ โลกสนฺนิวาโส’’ติ. อิติ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ อยํ วิตกฺโก อุปฺปชฺชตีติ.
ตตฺถ ¶ อธิคโต โข มฺยายนฺติ อธิคโต โข เม อยํ. อาลยรามาติ สตฺตา ปฺจ กามคุเณ อลฺลียนฺติ, ตสฺมา เต ‘‘อาลยา’’ติ วุจฺจนฺติ. เตหิ อาลเยหิ รมนฺตีติ อาลยรามา. อาลเยสุ รตาติ อาลยรตา. อาลเยสุ สุฏฺุมุทิตาติ อาลยสมฺมุทิตา. ยทิทนฺติ นิปาโต. ตสฺส านํ สนฺธาย ‘‘ยํ อิท’’นฺติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ สนฺธาย ‘‘โย อย’’นฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ อิเมสํ ปจฺจยา อิทปฺปจฺจยา, อิทปฺปจฺจยาว อิทปฺปจฺจยตา, อิทปฺปจฺจยตา จ สา ปฏิจฺจสมุปฺปาโท จาติ อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปาโท. โส มมสฺส กิลมโถติ ยา อชานนฺตานํ เทสนา นาม, โส มม กิลมโถ อสฺส; สา มม วิเหสา อสฺสาติ อตฺโถ. ภควนฺตนฺติ ภควโต. อนจฺฉริยาติ อนุ อจฺฉริยา. ปฏิภํสูติ ปฏิภานสงฺขาตสฺส าณสฺส โคจรา อเหสุํ, ปริวิตกฺกยิตพฺพภาวํ ปาปุณึสุ.
หลนฺติ เอตฺถ หกาโร นิปาตมตฺโต; อลนฺติ อตฺโถ. ปกาสิตุนฺติ เทสิตุํ. อลํ ทานิ ¶ เม อิมํ กิจฺเฉน อธิคตํ ธมฺมํ เทเสตุนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปฏิโสตคามินฺติ ปฏิโสตํ วุจฺจติ นิพฺพานํ; นิพฺพานคามินฺติ อตฺโถ. ราครตฺตาติ กามราคภวราคทิฏฺิราเคน รตฺตา. น ทกฺขนฺตีติ น ปสฺสิสฺสนฺติ. ตโมขนฺเธน อาวุฏาติ อวิชฺชาราสินา อชฺโฌตฺถฏา. อปฺโปสฺสุกฺกตายาติ นิรุสฺสุกฺกภาเวน; อเทเสตุกามตายาติ อตฺโถ.
๘. ยตฺร หิ นามาติ ยสฺมึ นาม โลเก. ภควโต ปุรโต ปาตุรโหสีติ ธมฺมเทสนายาจนตฺถํ ทสสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ มหาพฺรหฺมาโน คเหตฺวา อาคมฺม ภควโต ปุรโต ปาตุรโหสิ ¶ . อปฺปรชกฺขชาติกาติ ปฺามเย อกฺขิมฺหิ อปฺปํ ราคโทสโมหรชํ เอเตสํ เอวํสภาวาติ อปฺปรชกฺขชาติกา. ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโรติ ปฏิวิชฺฌิตาโร.
ปาตุรโหสีติ ปาตุภวิ. สมเลหิ จินฺติโตติ ราคาทีหิ มเลหิ สมเลหิ ฉหิ สตฺถาเรหิ จินฺติโต. อปาปุเรตนฺติ วิวร เอตํ. อมตสฺส ทฺวารนฺติ อมตสฺส นิพฺพานสฺส ทฺวารภูตํ อริยมคฺคํ. สุณนฺตุ ธมฺมํ วิมเลนานุพุทฺธนฺติ ¶ อิเม สตฺตา ราคาทิมลานํ อภาวโต วิมเลน สมฺมาสมฺพุทฺเธน อนุพุทฺธํ จตุสจฺจธมฺมํ สุณนฺตุ.
เสเล ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺิโตติ เสลมเย เอกคฺฆเน ปพฺพตมุทฺธนิ ยถาิโตว ยถา จกฺขุมา ปุริโส สมนฺตโต ชนตํ ปสฺเสยฺย, ตฺวมฺปิ สุเมธ สุนฺทรปฺ สพฺพฺุตฺาเณน สมนฺตจกฺขุ ภควา ธมฺมมยํ ปฺามยํ ปาสาทมารุยฺห สยํ อเปตโสโก โสกาวติณฺณํ ชาติชราภิภูตฺจ ชนตํ อเวกฺขสฺสุ อุปธารย.
อุฏฺเหีติ ภควโต ธมฺมเทสนตฺถํ จาริกจรณํ ยาจนฺโต ภณติ. วีราติอาทีสุ ภควา วีริยวนฺตตาย วีโร. เทวปุตฺตมจฺจุกิเลสาภิสงฺขารมารานํ วิชิตตฺตา วิชิตสงฺคาโม. ชาติกนฺตาราทินิตฺถรณสมตฺถตาย สตฺถวาโห. กามจฺฉนฺทอิณสฺส ¶ อภาวโต อณโณ.
๙. อชฺเฌสนนฺติ ยาจนํ. พุทฺธจกฺขุนาติ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาเณน จ อาสยานุสยาเณน จ. อิเมสฺหิ ทฺวินฺนํ าณานํ พุทฺธจกฺขูติ นามํ. อปฺปรชกฺขาติ ปฺาจกฺขุมฺหิ ราคาทิรชํ อปฺปํ เยสํ, เต อปฺปรชกฺขา. เยสํ ตํ มหนฺตํ เต มหารชกฺขา. เยสํ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ ติกฺขานิ เต ติกฺขินฺทฺริยา. เยสํ ตานิ มุทูนิ เต มุทินฺทฺริยา. เยสํ เตเยว สทฺธาทโย อาการา สุนฺทรา เต สฺวาการา. เยสํ เตเยว สทฺธาทโย อาการา อสุนฺทรา เต ทฺวาการา. เย กถิตการณํ สลฺลกฺเขนฺติ, สุเขน สกฺกา โหนฺติ วิฺาเปตุํ เต สุวิฺาปยา. เย ปรโลกฺจ วชฺชฺจ ภยโต ปสฺสนฺติ เต ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิโน. อุปฺปลินิยนฺติ อุปฺปลวเน. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. อนฺโตนิมุคฺคโปสีนีติ ยานิ อุทกสฺส อนฺโต นิมุคฺคาเนว โปสยนฺติ. สโมทกํ ิตานีติ อุทเกน สมํ ิตานิ. อุทกํ อจฺจุคฺคมฺม ิตานีติ อุทกํ อติกฺกมิตฺวา ิตานิ.
อปารุตาติ วิวฏา. อมตสฺส ทฺวาราติ อริยมคฺโค. โส หิ อมตสงฺขาตสฺส นิพฺพานสฺส ทฺวารํ. ปมฺุจนฺตุ สทฺธนฺติ สพฺเพ อตฺตโน สทฺธํ ปมฺุจนฺตุ. ปจฺฉิมปททฺวเย อยมตฺโถ ¶ , อหฺหิ อตฺตโน ปคุณํ สุปฺปวตฺติมฺปิ อิมํ ¶ ปณีตํ อุตฺตมํ ธมฺมํ กายวาจากิลมถสฺี หุตฺวา มนุเชสุ เทวมนุสฺเสสุ น ภาสินฺติ.
พฺรหฺมยาจนกถา นิฏฺิตา.
ปฺจวคฺคิยกถา
๑๐. ปณฺฑิโตติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคโต. พฺยตฺโตติ เวยฺยตฺติเยน สมนฺนาคโต. เมธาวีติ านุปฺปตฺติยา ปฺาย สมนฺนาคโต. อปฺปรชกฺขชาติโกติ สมาปตฺติยา วิกฺขมฺภิตตฺตา นิกฺกิเลสชาติโก วิสุทฺธสตฺโต. อาชานิสฺสตีติ สลฺลกฺเขสฺสติ ปฏิวิชฺฌิสฺสติ. ภควโตปิ โข าณํ อุทปาทีติ สพฺพฺุตฺาณํ อุปฺปชฺชิ ‘‘อิโต สตฺตมทิวสมตฺถเก กาลํกตฺวา อากิฺจฺายตเน นิพฺพตฺโต’’ติ. มหาชานิโยติ สตฺตทิวสพฺภนฺตเร ¶ ปตฺตพฺพมคฺคผลโต ปริหีนตฺตา มหตี ชานิ อสฺสาติ มหาชานิโย อกฺขเณ นิพฺพตฺตตฺตา. อภิโทสกาลํกโตติ หิยฺโย กาลํกโต, โสปิ เนวสฺานาสฺายตเน นิพฺพตฺโตติ อทฺทส. พหูการาติ พหูปการา. ปธานปหิตตฺตํ อุปฏฺหึสูติ ปธานตฺถาย เปสิตตฺตภาวํ มุโขทกทานาทินา อุปฏฺหึสุ.
๑๑. อนฺตรา จ คยํ อนฺตรา จ โพธินฺติ อุปโก โพธิมณฺฑสฺส จ คยาย จ อนฺตเร ภควนฺตํ อทฺทส. อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนนฺติ อทฺธานมคฺคํ ปฏิปนฺนํ.
สพฺพาภิภูติ สพฺพํ เตภูมกธมฺมํ อภิภวิตฺวา ิโต. สพฺพวิทูติ สพฺพํ จตุภูมกธมฺมํ อเวทึ อฺาสึ. สพฺเพสุ ธมฺเมสุ อนูปลิตฺโตติ สพฺเพสุ เตภูมกธมฺเมสุ กิเลสเลเปน อลิตฺโต. สพฺพฺชโหติ สพฺพํ เตภูมกธมฺมํ ชหิตฺวา ิโต. ตณฺหกฺขเย วิมุตฺโตติ ตณฺหกฺขเย นิพฺพาเน อารมฺมณโต วิมุตฺโต. สยํ อภิฺายาติ สพฺพํ จตุภูมกธมฺมํ อตฺตนาว ชานิตฺวา. กมุทฺทิเสยฺยนฺติ กํ อฺํ ‘‘อยํ เม อาจริโย’’ติ อุทฺทิเสยฺยํ.
น เม อาจริโย อตฺถีติ โลกุตฺตรธมฺเม มยฺหํ อาจริโย นาม นตฺถิ. นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโลติ มยฺหํ ปฏิภาคปุคฺคโล นาม นตฺถิ. สีติภูโตติ สพฺพกิเลสคฺคินิพฺพาปเนน สีติภูโต. กิเลสานํเยว นิพฺพุตตฺตา นิพฺพุโต.
กาสีนํ ¶ ¶ ปุรนฺติ กาสิรฏฺเ นครํ. อาหฺฉํ อมตทุนฺทุภินฺติ ธมฺมจกฺกปฺปฏิลาภาย อมตเภรึ ปหริสฺสามีติ คจฺฉามิ.
อรหสิ อนนฺตชิโนติ อนนฺตชิโน ภวิตุํ ยุตฺโต. หุเปยฺยปาวุโสติ อาวุโส เอวมฺปิ นาม ภเวยฺย. สีสํ โอกมฺเปตฺวาติ สีสํ จาเลตฺวา.
๑๒. สณฺเปสุนฺติ กติกํ อกํสุ. พาหุลฺลิโกติ จีวรพาหุลฺลาทีนํ อตฺถาย ปฏิปนฺโน. ปธานวิพฺภนฺโตติ ¶ ปธานโต วิพฺภนฺโต ภฏฺโ ปริหีโน. อาวตฺโต พาหุลฺลายาติ จีวราทิพหุลภาวตฺถาย อาวตฺโต. โอทหถ ภิกฺขเว โสตนฺติ อุปเนถ ภิกฺขเว โสตํ; โสตินฺทฺริยํ ธมฺมสวนตฺถํ อภิมุขํ กโรถาติ อตฺโถ. อมตมธิคตนฺติ อมตํ นิพฺพานํ มยา อธิคตนฺติ ทสฺเสติ. อิริยายาติ ทุกฺกรอิริยาย. ปฏิปทายาติ ทุกฺกรปฏิปทาย. อภิชานาถ เม โนติ อภิชานาถ นุ เม สมนุปสฺสถ. เอวรูปํ ภาสิตเมตนฺติ เอตํ เอวรูปํ วากฺยํ ภาสิตนฺติ อตฺโถ. อสกฺขิ โข ภควา ปฺจวคฺคิเย ภิกฺขู สฺาเปตุนฺติ ‘‘อหํ พุทฺโธ’’ติ ชานาเปตุํ อสกฺขิ.
๑๓. จกฺขุกรณีติ ปฺาจกฺขุํ สนฺธายาห. อิโต ปรํ สพฺพํ ปทตฺถโต อุตฺตานเมว. อธิปฺปายานุสนฺธิโยชนาทิเภทโต ปน ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมฏฺกถายํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. อิโต ปฏฺาย หิ อติวิตฺถารภีรุกสฺส มหาชนสฺส จิตฺตํ อนุรกฺขนฺตา สุตฺตนฺตกถํ อวณฺณยิตฺวา วินยกถํเยว วณฺณยิสฺสาม.
๑๘. สาว ตสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทา อโหสีติ อาสาฬฺหีปุณฺณมาย อฏฺารสหิ เทวตาโกฏีหิ สทฺธึ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺิตสฺส ‘‘เอหิ ภิกฺขู’’ติ ภควโต วจเนน อภินิปฺผนฺนา สาว ตสฺส อายสฺมโต เอหิภิกฺขูปสมฺปทา อโหสิ.
๑๙. อถ โข อายสฺมโต จ วปฺปสฺสาติ อาทิมฺหิ วปฺปตฺเถรสฺส ปาฏิปททิวเส ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ, ภทฺทิยตฺเถรสฺส ทุติยทิวเส, มหานามตฺเถรสฺส ตติยทิวเส, อสฺสชิตฺเถรสฺส จตุตฺถิยนฺติ. อิเมสฺจ ปน ¶ ภิกฺขูนํ กมฺมฏฺาเนสุ อุปฺปนฺนมลวิโสธนตฺถํ ภควา อนฺโตวิหาเรเยว อโหสิ. อุปฺปนฺเน อุปฺปนฺเน กมฺมฏฺานมเล อากาเสน คนฺตฺวา มลํ วิโนเทสิ. ปกฺขสฺส ปน ปฺจมิยํ สพฺเพ เต เอกโต สนฺนิปาเตตฺวา อนตฺตสุตฺเตน โอวทิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อถ โข ภควา ปฺจวคฺคิเย’’ติอาทิ.
๒๔. เตน ¶ โข ปน สมเยน ฉ โลเก อรหนฺโต โหนฺตีติ ปฺจมิยา ปกฺขสฺส โลกสฺมึ ฉ มนุสฺสา อรหนฺโต โหนฺตีติ อตฺโถ.
ปฺจวคฺคิยกถา นิฏฺิตา.
ปพฺพชฺชากถา
๓๑. ปุพฺพานุปุพฺพกานนฺติ ¶ ปเวณิวเสน โปราณานุโปราณานนฺติ อตฺโถ. เตน โข ปน สมเยน เอกสฏฺิ โลเก อรหนฺโต โหนฺตีติ ปุริมา ฉ อิเม จ ปฺจปฺาสาติ อนฺโตวสฺสมฺหิเยว เอกสฏฺิ มนุสฺสา อรหนฺโต โหนฺตีติ อตฺโถ.
ตตฺร ยสอาทีนํ กุลปุตฺตานํ อยํ ปุพฺพโยโค – อตีเต กิร ปฺจปฺาสชนา สหายกา วคฺคพนฺเธน ปฺุานิ กโรนฺตา อนาถสรีรานิ ปฏิชคฺคนฺตา วิจรนฺติ, เต เอกทิวสํ คพฺภินึ อิตฺถึ กาลํกตํ ทิสฺวา ‘‘ฌาเปสฺสามา’’ติ สุสานํ นีหรึสุ. เตสุ ปฺจ ชเน ‘‘ตุมฺเห ฌาเปถา’’ติ สุสาเน เปตฺวา เสสา คามํ ปวิฏฺา. ยโส ทารโก ตํ สรีรํ วิชฺฌิตฺวา ปริวตฺเตตฺวา จ ฌาปยมาโน อสุภสฺํ ปฏิลภิ. โส อิตเรสมฺปิ จตุนฺนํ ชนานํ ‘‘ปสฺสถ โภ อิมํ อสุจึ ปฏิกูล’’นฺติ ทสฺเสสิ. เตปิ ตตฺถ อสุภสฺํ ปฏิลภึสุ. เต ปฺจปิ ชนา คามํ คนฺตฺวา เสสสหายกานํ กถยึสุ. ยโส ปน ทารโก เคหมฺปิ คนฺตฺวา มาตาปิตูนฺนฺจ ภริยาย จ กเถสิ. เต สพฺเพปิ อสุภํ ภาวยึสุ. อยเมเตสํ ปุพฺพโยโค. เตนายสฺมโต ยสสฺส นาฏกชเนสุ สุสานสฺาเยว อุปฺปชฺชิ, ตาเยว จ อุปนิสฺสยสมฺปตฺติยา สพฺเพสํ วิเสสาธิคโม นิพฺพตฺตีติ.
อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสีติ ภควา ยาว ปจฺฉิมกตฺติกปุณฺณมา, ตาว พาราณสิยํ วิหรนฺโต เอกทิวสํ เต ขีณาสเว สฏฺิ ภิกฺขู อามนฺเตสิ.
๓๒. ทิพฺพา ¶ นาม ทิพฺเพสุ วิสเยสุ โลภปาสา. มานุสา นาม มานุสเกสุ วิสเยสุ โลภปาสา. มา เอเกน ทฺเวติ เอเกน มคฺเคน ทฺเว มา อคมิตฺถ. อสฺสวนตาติ อสฺสวนตาย. ปริหายนฺตีติ อนธิคตํ นาธิคจฺฉนฺตา วิเสสาธิคมโต ปริหายนฺติ.
๓๓. อนฺตกาติ ¶ ลามก หีนสตฺต. อนฺตลิกฺขจโรติ ราคปาสํ สนฺธายาห. ตฺหิ โส ‘‘อนฺตลิกฺขจโร’’ติ มนฺตฺวา อาห.
๓๔. นานาทิสา นานาชนปทาติ นานาทิสโต จ นานาชนปทโต จ. อนุชานามิ ภิกฺขเว ตุมฺเหว ทานิ ตาสุ ตาสุ ทิสาสุ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ¶ ปพฺพาเชถาติอาทิมฺหิ ปพฺพชฺชาเปกฺขํ กุลปุตฺตํ ปพฺพาเชนฺเตน เย ปรโต ‘‘น ภิกฺขเว ปฺจหิ อาพาเธหิ ผุฏฺโ ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติอาทึ กตฺวา ยาว ‘‘น อนฺธมูคพธิโร ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ เอวํ ปฏิกฺขิตฺตา ปุคฺคลา, เต วชฺเชตฺวา ปพฺพชฺชาโทสวิรหิโต ปุคฺคโล ปพฺพาเชตพฺโพ. โสปิ จ มาตาปิตูหิ อนฺุาโตเยว. ตสฺส อนุชานนลกฺขณํ ‘‘น ภิกฺขเว อนนฺุาโต มาตาปิตูหิ ปุตฺโต ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ เอตสฺมึ สุตฺเต วณฺณยิสฺสาม.
เอวํ ปพฺพชฺชาโทสวิรหิตํ มาตาปิตูหิ อนฺุาตํ ปพฺพาเชนฺเตนาปิ จ สเจ อจฺฉินฺนเกโส โหติ, เอกสีมาย จ อฺเปิ ภิกฺขู อตฺถิ, เกสจฺเฉทนตฺถาย ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉิตพฺพํ. ตสฺส อาปุจฺฉนาการํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สงฺฆํ อปโลเกตุํ ภณฺฑุกมฺมายา’’ติ เอตฺถ วณฺณยิสฺสาม. สเจ โอกาโส โหติ, สยํ ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีหิ พฺยาวโฏ โหติ, โอกาสํ น ลภติ, เอโก ทหรภิกฺขุ วตฺตพฺโพ ‘‘เอตํ ปพฺพาเชหี’’ติ. อวุตฺโตปิ เจ ทหรภิกฺขุ อุปชฺฌายํ อุทฺทิสฺส ปพฺพาเชติ, วฏฺฏติ. สเจ ทหรภิกฺขุ นตฺถิ, สามเณโรปิ วตฺตพฺโพ ‘‘เอตํ ขณฺฑสีมํ เนตฺวา ปพฺพาเชตฺวา กาสายานิ อจฺฉาเทตฺวา เอหี’’ติ. สรณานิ ปน สยํ ทาตพฺพานิ. เอวํ ภิกฺขุนาว ปพฺพชิโต โหติ. ปุริสฺหิ ภิกฺขุโต อฺโ ปพฺพาเชตุํ น ลภติ, มาตุคามํ ภิกฺขุนิโต อฺโ. สามเณโร ปน สามเณรี วา อาณตฺติยา กาสายานิ ทาตุํ ลภติ. เกโสโรปนํ เยน เกนจิ กตํ สุกตํ.
สเจ ¶ ปน ภพฺพรูโป โหติ สเหตุโก าโต ยสสฺสี กุลปุตฺโต, โอกาสํ กตฺวาปิ สยเมว ปพฺพาเชตพฺโพ. ‘‘มตฺติกามุฏฺึ คเหตฺวา นฺหายิตฺวา เกเส เตเมตฺวา อาคจฺฉาหี’’ติ จ ปน น วิสฺสชฺเชตพฺโพ. ปพฺพชิตุกามานฺหิ ปมํ พลวอุสฺสาโห โหติ, ปจฺฉา ปน กาสายานิ จ เกสหรณสตฺถกฺจ ทิสฺวา อุตฺรสนฺติ, เอตฺโตเยว ปลายนฺติ, ตสฺมา สยเมว นหานติตฺถํ เนตฺวา สเจ นาติทหโร โหติ, ‘‘นหาหี’’ติ วตฺตพฺโพ. เกสา ปนสฺส สยเมว มตฺติกํ คเหตฺวา โธวิตพฺพา. ทหรกุมารโก ปน สยํ อุทกํ โอตริตฺวา โคมยมตฺติกาหิ ฆํสิตฺวา นหาเปตพฺโพ. สเจปิสฺส กจฺฉุ วา ปิฬกา วา โหนฺติ, ยถา มาตา ปุตฺตํ ¶ น ชิคุจฺฉติ ¶ , เอวเมว อชิคุจฺฉนฺเตน สาธุกํ หตฺถปาทสีสานิ ฆํสิตฺวา นหาเปตพฺโพ. กสฺมา? เอตฺตเกน หิ อุปกาเรน กุลปุตฺตา อาจริยุปชฺฌาเยสุ จ สาสเน จ พลวสิเนหา ติพฺพคารวา อนิวตฺติธมฺมา โหนฺติ, อุปฺปนฺนํ อนภิรตึ วิโนเทตฺวา เถรภาวํ ปาปุณนฺติ, กตฺู กตเวทิโน โหนฺติ.
เอวํ นหาปนกาเล ปน เกสมสฺสุํ โอโรปนกาเล วา ‘‘ตฺวํ าโต ยสสฺสี, อิทานิ มยํ ตํ นิสฺสาย ปจฺจเยหิ น กิลมิสฺสามา’’ติ น วตฺตพฺโพ, อฺาปิ อนิยฺยานิกกถา น กเถตพฺพา. อถ ขฺวสฺส ‘‘อาวุโส, สุฏฺุ อุปธาเรหิ สตึ อุปฏฺาเปหี’’ติ วตฺวา ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ อาจิกฺขิตพฺพํ, อาจิกฺขนฺเตน จ วณฺณสณฺานคนฺธาสโยกาสวเสน อสุจิเชคุจฺฉปฏิกูลภาวํ นิชฺชีวนิสฺสตฺตภาวํ วา ปากฏํ กโรนฺเตน อาจิกฺขิตพฺพํ. สเจ หิ โส ปุพฺเพ มทฺทิตสงฺขาโร โหติ ภาวิตภาวโน, กณฺฏกเวธาเปกฺโข วิย ปริปกฺกคณฺโฑ, สูริยุคฺคมนาเปกฺขํ วิย จ ปริณตปทุมํ, อถสฺส อารทฺธมตฺเต กมฺมฏฺานมนสิกาเร อินฺทาสนิ วิย ปพฺพเต กิเลสปพฺพเต จุณฺณยมานํเยว าณํ ปวตฺตติ, ขุรคฺเคเยว อรหตฺตํ ปาปุณาติ. เย หิ เกจิ ขุรคฺเค อรหตฺตํ ปตฺตา, สพฺเพ เต เอวรูปํ สวนํ ลภิตฺวา กลฺยาณมิตฺเตน อาจริเยน ทินฺนนยํ นิสฺสาย โน อนิสฺสาย. ตสฺมาสฺส อาทิโตว เอวรูปี กถา กเถตพฺพาติ.
เกเสสุ ปน โอโรปิเตสุ หลิทฺทิจุณฺเณน วา คนฺธจุณฺเณน วา สีสฺจ สรีรฺจ อุพฺพฏฺเฏตฺวา คิหิคนฺธํ อปเนตฺวา กาสายานิ ติกฺขตฺตุํ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ ¶ วา สกึ วา ปฏิคฺคาเหตพฺโพ. อถาปิสฺส หตฺเถ อทตฺวา อาจริโย วา อุปชฺฌาโย วา สยเมว อจฺฉาเทติ, วฏฺฏติ. สเจปิ อฺํ ทหรํ วา สามเณรํ วา อุปาสกํ วา อาณาเปติ ‘‘อาวุโส, เอตานิ กาสายานิ คเหตฺวา เอตํ อจฺฉาเทหี’’ติ ตํเยว วา อาณาเปติ ‘‘เอตานิ คเหตฺวา อจฺฉาเทหี’’ติ สพฺพํ วฏฺฏติ. สพฺพํ เตน ภิกฺขุนาว ทินฺนํ โหติ.
ยํ ปน นิวาสนํ วา ปารุปนํ วา อนาณตฺติยา ¶ นิวาเสติ วา ปารุปติ วา, ตํ อปเนตฺวา ปุน ทาตพฺพํ. ภิกฺขุนา หิ สหตฺเถน วา อาณตฺติยา วา ทินฺนเมว กาสาวํ วฏฺฏติ, อทินฺนํ น วฏฺฏติ, สเจปิ ตสฺเสว สนฺตกํ โหติ, โก ปน วาโท อุปชฺฌายมูลเก! อยํ ‘‘ปมํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาทาเปตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ การาเปตฺวา’’ติ เอตฺถ วินิจฺฉโย.
ภิกฺขูนํ ¶ ปาเท วนฺทาเปตฺวาติ เย ตตฺถ สนฺนิปติตา ภิกฺขู, เตสํ ปาเท วนฺทาเปตฺวา; อถ สรณคฺคหณตฺถํ อุกฺกุฏิกํ นิสีทาเปตฺวา อฺชลึ ปคฺคณฺหาเปตฺวา เอวํ วเทหีติ วตฺตพฺโพ. ‘‘ยมหํ วทามิ, ตํ วเทหี’’ติ วตฺตพฺโพ. อถสฺส อุปชฺฌาเยน วา อาจริเยน วา ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติอาทินา นเยน สรณานิ ทาตพฺพานิ ยถาวุตฺตปฏิปาฏิยาว น อุปฺปฏิปาฏิยา. สเจ หิ เอกปทมฺปิ เอกกฺขรมฺปิ อุปฺปฏิปาฏิยา เทติ, พุทฺธํ สรณํเยว วา ติกฺขตฺตุํ ทตฺวา ปุน อิตเรสุ เอเกกํ ติกฺขตฺตุํ เทติ, อทินฺนานิ โหนฺติ สรณานิ.
อิมฺจ ปน สรณคมนูปสมฺปทํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อนฺุาตอุปสมฺปทา เอกโต สุทฺธิยา วฏฺฏติ. สามเณรปพฺพชฺชา ปน อุภโตสุทฺธิยาว วฏฺฏติ, โน เอกโต สุทฺธิยา. ตสฺมา อุปสมฺปทาย สเจ อาจริโย ตฺติโทสฺเจว กมฺมวาจาโทสฺจ วชฺเชตฺวา กมฺมํ กโรติ, สุกตํ โหติ. ปพฺพชฺชาย ปน อิมานิ ตีณิ สรณานิ พุการธการาทีนํ พฺยฺชนานํ านกรณสมฺปทํ อหาเปนฺเตเนว อาจริเยนปิ อนฺเตวาสิเกนปิ วตฺตพฺพานิ. สเจ อาจริโย วตฺตุํ สกฺโกติ, อนฺเตวาสิโก น สกฺโกติ; อนฺเตวาสิโก วา สกฺโกติ, อาจริโย น สกฺโกติ; อุโภปิ วา น สกฺโกนฺติ, น วฏฺฏติ. สเจ ปน อุโภปิ สกฺโกนฺติ, วฏฺฏติ.
อิมานิ ¶ จ ปน ททมาเนน ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ เอวํ เอกสมฺพนฺธานิ อนุนาสิกนฺตานิ วา กตฺวา ทาตพฺพานิ, ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ เอวํ วิจฺฉินฺทิตฺวา มการนฺตานิ วา กตฺวา ทาตพฺพานิ. อนฺธกฏฺกถายํ นามํ สาเวตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต พุทฺธรกฺขิโต ยาวชีวํ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ วุตฺตํ, ตํ เอกอฏฺกถายมฺปิ นตฺถิ, ปาฬิยมฺปิ น วุตฺตํ, เตสํ รุจิมตฺตเมว, ตสฺมา น คเหตพฺพํ. น หิ ตถา อวทนฺตสฺส สรณํ กุปฺปตีติ.
อนุชานามิ ภิกฺขเว ¶ อิเมหิ ตีหิ สรณคมเนหิ ปพฺพชฺชํ อุปสมฺปทนฺติ อิเมหิ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามีติอาทีหิ เอวํ ติกฺขตฺตุํ อุภโตสุทฺธิยา วุตฺเตหิ ตีหิ สรณคมเนหิ ปพฺพชฺชฺเจว อุปสมฺปทฺจ อนุชานามีติ อตฺโถ. ตตฺถ ยสฺมา อุปสมฺปทา ปรโต ปฏิกฺขิตฺตา, ตสฺมา สา เอตรหิ สรณมตฺเตเนว น รุหติ. ปพฺพชฺชา ปน ยสฺมา ปรโต ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ ตีหิ สรณคมเนหิ สามเณรปพฺพชฺช’’นฺติ อนฺุาตา เอว, ตสฺมา สา เอตรหิปิ สรณมตฺเตเนว รุหติ. เอตฺตาวตา หิ สามเณรภูมิยํ ปติฏฺิโต โหติ.
สเจ ปเนส มติมา โหติ ปณฺฑิตชาติโก, อถสฺส ตสฺมึเยว าเน สิกฺขาปทานิ อุทฺทิสิตพฺพานิ. กถํ? ยถา ภควตา อุทฺทิฏฺานิ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘อนุชานามิ ¶ , ภิกฺขเว, สามเณรานํ ทส สิกฺขาปทานิ, เตสุ จ สามเณเรหิ สิกฺขิตุํ. ปาณาติปาตา เวรมณี, อทินฺนาทานา เวรมณี, อพฺรหฺมจริยา เวรมณี, มุสาวาทา เวรมณี, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา เวรมณี, วิกาลโภชนา เวรมณี, นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา เวรมณี, มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานา เวรมณี, อุจฺจาสยนมหาสยนา เวรมณี, ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณา เวรมณี’’ติ (มหาว. ๑๐๖).
อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘อหํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนาโม ยาวชีวํ ปาณาติปาตา เวรมณิสิกฺขาปทํ
สมาทิยามี’’ติ เอวํ สรณทานํ วิย สิกฺขาปททานมฺปิ วุตฺตํ, ตํ เนว ปาฬิยํ น อฏฺกถาสุ อตฺถิ, ตสฺมา ยถาปาฬิยาว อุทฺทิสิตพฺพานิ. ปพฺพชฺชา หิ สรณคมเนเหว สิทฺธา, สิกฺขาปทานิ ปน เกวลํ สิกฺขาปริปูรณตฺถํ ¶ ชานิตพฺพานิ. ตสฺมา ตานิ ปาฬิยํ อาคตนเยน อุคฺคเหตุํ อสกฺโกนฺตสฺส ยาย กายจิ ภาสาย อตฺถวเสนปิ อาจิกฺขิตุํ วฏฺฏติ. ยาว ปน อตฺตนา สิกฺขิตพฺพสิกฺขาปทานิ น ชานาติ, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณฏฺานนิสชฺชาทีสุ ปานโภชนาทิวิธิมฺหิ จ น กุสโล โหติ, ตาว โภชนสาลํ วา สลากภาชนฏฺานํ วา อฺํ วา ตถารูปฏฺานํ น เปเสตพฺโพ, สนฺติกาวจโรเยว กาตพฺโพ, พาลทารโก วิย ปฏิชคฺคิตพฺโพ, สพฺพมสฺส กปฺปิยากปฺปิยํ อาจิกฺขิตพฺพํ, นิวาสนปารุปนาทีสุ อาภิสมาจาริเกสุ วิเนตพฺโพ. เตนาปิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทสหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ สามเณรํ ¶ นาเสตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๐๘) เอวํ ปรโต วุตฺตานิ ทส นาสนงฺคานิ อารกา ปริวชฺเชตฺวา อาภิสมาจาริกํ ปริปูเรนฺเตน ทสวิเธ สีเล สาธุกํ สิกฺขิตพฺพนฺติ.
ปพฺพชฺชากถา นิฏฺิตา.
ทุติยมารกถา
๓๕. มยฺหํ โข ภิกฺขเวติ มยา โขติ อตฺโถ. อถ วา โย มยฺหํ โยนิโส มนสิกาโร, เตน เหตุนาติ อตฺโถ. ปุน อนุปฺปตฺตาติ เอตฺถ วิภตฺตึ ปริณาเมตฺวา มยาติ วตฺตพฺพํ.
ทุติยมารกถา นิฏฺิตา.
ภทฺทวคฺคิยกถา
๓๖. ภทฺทวคฺคิยาติ ¶ เต กิร ราชกุมารา รูเปน จ จิตฺเตน จ ภทฺทกา วคฺคพนฺเธน จ วิจรนฺติ, ตสฺมา ‘‘ภทฺทวคฺคิยา’’ติ วุจฺจนฺติ. เตน หิ โวติ เอตฺถ โวกาโร นิปาตมตฺโต. ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทีติ เกสฺจิ โสตาปตฺติมคฺโค, เกสฺจิ สกทาคามิมคฺโค, เกสฺจิ อนาคามิมคฺโค อุทปาทิ. ตโยปิ หิ เอเต มคฺคา ‘‘ธมฺมจกฺขู’’ติ วุจฺจนฺติ. เต กิร ตุณฺฑิลชาตเก ตึสธุตฺตา อเหสุํ, อถ ตุณฺฑิโลวาทํ สุตฺวา ปฺจสีลานิ รกฺขึสุ; อิทํ เนสํ ปุพฺพกมฺมํ.
ภทฺทวคฺคิยกถา นิฏฺิตา.
อุรุเวลปาฏิหาริยกถา
๓๗. ปมุโขติ ปุพฺพงฺคโม. ปาโมกฺโขติ อุตฺตโม วิสุทฺธปฺโ.
๓๘. อนุปหจฺจาติ ¶ อวินาเสตฺวา. เตชสา เตชนฺติ อตฺตโน เตเชน นาคสฺส เตชํ. ปริยาทิเยยฺยนฺติ อภิภเวยฺยํ, วินาเสยฺยํ วาติ. มกฺขนฺติ โกธํ. นตฺเวว จ โข อรหา ยถา อหนฺติ อตฺตานํ ‘‘อรหา อห’’นฺติ มฺมาโน วทติ.
๓๙. เนรฺชรายํ ภควาติอาทิกา คาถาโย ปจฺฉา ปกฺขิตฺตา.
๔๔-๙. วิสฺสชฺเชยฺยนฺติ ¶ สุกฺขาปนตฺถาย ปสาเรตฺวา เปยฺยนฺติ อตฺโถ. ‘‘ภนฺเต อาหร หตฺถ’’นฺติ เอวํ วทนฺโต วิย โอณโตติ อาหรหตฺโถ. อุยฺโยเชตฺวาติ วิสฺสชฺเชตฺวา. มนฺทามุขิโยติ อคฺคิภาชนานิ วุจฺจนฺติ.
๕๑. จิรปฏิกาติ จิรกาลโต ปฏฺาย.
๕๒. เกสมิสฺสนฺติอาทีสุ เกสา เอว เกสมิสฺสํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. ขาริกาชนฺติ ขาริภาโร.
อุรุเวลปาฏิหาริยกถา นิฏฺิตา.
พิมฺพิสารสมาคมกถา
๕๕. ลฏฺิวเนติ ¶ ตาลุยฺยาเน. สุปฺปติฏฺเ เจติเยติ อฺตรสฺมึ วฏรุกฺเข; ตสฺส กิเรตํ นามํ. ทฺวาทสนหุเตหีติ เอตฺถ เอกํ นหุตํ ทสสหสฺสานิ. อชฺฌภาสีติ เตสํ กงฺขาจฺเฉทนตฺถํ อภาสิ.
กิสโกวทาโนติ ตาปสจริยาย กิสสรีรตฺตา ‘‘กิสโก’’ติ ลทฺธนามานํ ตาปสานํ โอวาทโก อนุสาสโก สมาโนติ อตฺโถ. อถ วา สยํ กิสโก ตาปโส สมาโน วทาโน จ อฺเ โอวทนฺโต อนุสาสนฺโตติปิ อตฺโถ. กถํ ปหีนนฺติ เกน การเณน ปหีนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ตฺวํ อุรุเวลวาสิอคฺคิปริจารกานํ ตาปสานํ สยํ โอวาทาจริโย สมาโน กึ ทิสฺวา ปหาสิ, ปุจฺฉามิ ตํ เอตมตฺถํ เกน การเณน ตว อคฺคิหุตฺตํ ปหีน’’นฺติ.
ทุติยคาถาย อยมตฺโถ – เอเต รูปาทิเก กาเม อิตฺถิโย จ ยฺา อภิวทนฺติ, สฺวาหํ เอตํ สพฺพมฺปิ รูปาทิกํ กามปฺปเภทํ ขนฺธุปธีสุ มลนฺติ ตฺวา ยสฺมา อิเม ยิฏฺหุตปฺปเภทา ยฺา มลเมว วทนฺติ, ตสฺมา น ยิฏฺเ ¶ น หุเต อรฺชึ; ยิฏฺเ วา หุเต วา นาภิรมินฺติ อตฺโถ.
ตติยคาถาย ¶ – อถ โกจรหีติ อถ กฺวจรหิ. เสสํ อุตฺตานเมว.
จตุตฺถคาถาย – ปทนฺติ นิพฺพานปทํ. สนฺตสภาวตาย สนฺตํ. อุปธีนํ อภาเวน อนุปธิกํ. ราคกิฺจนาทีนํ อภาเวน อกิฺจนํ. ตีสุ ภเวสุ อลคฺคตาย ยํ กามภวํ ยฺา วทนฺติ, ตสฺมิมฺปิ กามภเว อสตฺตํ. ชาติชรามรณานํ อภาเวน อนฺถาภาวึ. อตฺตนา ภาวิเตน มคฺเคเนว อธิคนฺตพฺพํ, น อฺเน เกนจิ อธิคเมตพฺพนฺติ อนฺเนยฺยํ. ยสฺมา อีทิสํ ปทมทฺทสํ, ตสฺมา น ยิฏฺเ น หุเต อรฺชึ. เตน กึ ทสฺเสติ? โย อหํ เทวมนุสฺสโลกสมฺปตฺติสาธเก น ยิฏฺเ น หุเต อรฺชึ, โส กึ วกฺขามิ ‘‘เอตฺถ นาม เม เทวมนุสฺสโลเก รโต มโน’’ติ.
๕๖. เอวํ สพฺพโลเก อนภิรติภาวํ ปกาเสตฺวา อถ โข อายสฺมา อุรุเวลกสฺสโป ‘‘สาวโกหมสฺมี’’ติ เอวํ ภควโต สาวกภาวํ ปกาเสสิ. ตฺจ โข อากาเส วิวิธานิ ปาฏิหาริยานิ ทสฺเสตฺวา. ธมฺมจกฺขุนฺติ โสตาปตฺติมคฺคาณํ.
๕๗. อสฺสาสกาติ ¶ อาสีสนา; ปตฺถนาติ อตฺโถ. เอสาหํ ภนฺเตติ เอตฺถ ปน กิฺจาปิ มคฺคปฺปฏิเวเธเนวสฺส สิทฺธํ สรณคมนํ, ตตฺถ ปน นิจฺฉยคมนเมว คโต, อิทานิ วาจาย อตฺตสนฺนิยฺยาตนํ กโรติ. มคฺควเสเนวายํ นิยตสรณตํ ปตฺโต, ตํ ปเรสํ วาจาย ปากฏํ กโรนฺโต ปณิปาตคมนฺจ คจฺฉนฺโต เอวํ วทติ.
๕๘. สิงฺคีนิกฺขสวณฺโณติ สิงฺคีสุวณฺณนิกฺเขน สมานวณฺโณ. ทสวาโสติ ทสสุ อริยวาเสสุ วุตฺถวาโส. ทสธมฺมวิทูติ ทสกมฺมปถวิทู. ทสภิ จุเปโตติ ทสหิ อเสกฺเขหิ องฺเคหิ อุเปโต. สพฺพธิทนฺโตติ สพฺเพสุ ทนฺโต; ภควโต หิ จกฺขุอาทีสุ กิฺจิ อทนฺตํ นาม นตฺถิ.
๕๙. ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ เอกมนฺตํ นิสีทีติ ¶ ภควนฺตํ ภุตฺตวนฺตํ ปตฺตโต จ อปนีตปาณึ สลฺลกฺเขตฺวา เอกสฺมึ ปเทเส นิสีทีติ ¶ อตฺโถ. อตฺถิกานนฺติ พุทฺธาภิวาทนคมเนน จ ธมฺมสวเนน จ อตฺถิกานํ. อภิกฺกมนียนฺติ อภิคนฺตุํ สกฺกุเณยฺยํ. อปฺปากิณฺณนฺติ อนากิณฺณํ. อปฺปสทฺทนฺติ วจนสทฺเทน อปฺปสทฺทํ. อปฺปนิคฺโฆสนฺติ นครนิคฺโฆสสทฺเทน อปฺปนิคฺโฆสํ. วิชนวาตนฺติ อนุสฺจรณชนสฺส สรีรวาเตน วิรหิตํ. ‘‘วิชนวาท’’นฺติปิ ปาโ; อนฺโต ชนวาเทน รหิตนฺติ อตฺโถ. ‘‘วิชนปาต’’นฺติปิ ปาโ; ชนสฺจารวิรหิตนฺติ อตฺโถ. มนุสฺสราหเสยฺยกนฺติ มนุสฺสานํ รหสฺสกิริยฏฺานิยํ. ปฏิสลฺลานสารุปฺปนฺติ วิเวกานุรูปํ.
สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปพฺพชฺชากถา
๖๐. สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานาติ สาริปุตฺโต จ โมคฺคลฺลาโน จ. เตหิ กติกา กตา โหติ ‘‘โย ปมํ อมตํ อธิคจฺฉติ, โส อาโรเจตู’’ติ เต กิร อุโภปิ คิหิกาเล อุปติสฺโส โกลิโตติ เอวํ ปฺายมานนามา อฑฺฒเตยฺยสตมาณวกปริวารา คิรคฺคสมชฺชํ อคมํสุ. ตตฺร เนสํ มหาชนํ ทิสฺวา เอตทโหสิ – ‘‘อยํ นาม เอวํ มหาสตฺตนิกาโย อปฺปตฺเต วสฺสสเต มรณมุเข ปติสฺสตี’’ติ. อถ อุโภปิ อุฏฺิตาย ปริสาย อฺมฺํ ปุจฺฉิตฺวา เอกชฺฌาสยา ปจฺจุปฏฺิตมรณสฺา สมฺมนฺตยึสุ ‘‘สมฺม มรเณ สติ อมเตนาปิ ภวิตพฺพํ, หนฺท มยํ อมตํ ปริเยสามา’’ติ อมตปริเยสนตฺถํ สฺจยสฺส ฉนฺนปริพฺพาชกสฺส สนฺติเก สปริสา ¶ ปพฺพชิตฺวา กติปาเหเนว ตสฺส าณวิสเย ปารํ คนฺตฺวา อมตํ อปสฺสนฺตา ปุจฺฉึสุ ‘‘กึ นุ โข, อาจริย, อฺโเปตฺถ สาโร อตฺถี’’ติ? ‘‘นตฺถาวุโส, เอตฺตกเมว อิท’’นฺติ จ สุตฺวา ‘‘ตุจฺฉํ อิทํ อาวุโส นิสฺสารํ, โย ทานิ อมฺเหสุ ปมํ อมตํ อธิคจฺฉติ, โส อิตรสฺส อาโรเจตู’’ติ กติกํ อกํสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เตหิ กติกา กตา โหตี’’ติอาทิ.
ปาสาทิเกน อภิกฺกนฺเตนาติอาทีสุ อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ กรณวจนํ เวทิตพฺพํ. อตฺถิเกหิ ¶ อุปฺาตํ มคฺคนฺติ เอตํ อนุพนฺธนสฺส การณวจนํ; อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ยํนูนาหํ อิมํ ภิกฺขุํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺเธยฺยํ, กสฺมา ¶ ? ยสฺมา อิทํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธนํ นาม อตฺถิเกหิ อุปฺาตํ มคฺคํ าโต เจว อุปคโต จ มคฺโค’’ติ อตฺโถ. อถ วา อตฺถิเกหิ อมฺเหหิ ‘‘มรเณ สติ อมเตนาปิ ภวิตพฺพ’’นฺติ เอวํ เกวลํ อตฺถีติ อุปฺาตํ นิพฺพานํ นาม, ตํ มคฺคนฺโต ปริเยสนฺโตติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
ปิณฺฑปาตํ อาทาย ปฏิกฺกมีติ สุทินฺนกณฺเฑ วุตฺตปฺปการํ อฺตรํ กุฏฺฏมูลํ อุปสงฺกมิตฺวา นิสีทิ. สาริปุตฺโตปิ โข ‘‘อกาโล โข ตาว ปฺหํ ปุจฺฉิตุ’’นฺติ กาลํ อาคมยมาโน เอกมนฺตํ ตฺวา วตฺตปฏิปตฺติปูรณตฺถํ กตภตฺตกิจฺจสฺส เถรสฺส อตฺตโน กมณฺฑลุโต อุทกํ ทตฺวา โธตหตฺถปาเทน เถเรน สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข สาริปุตฺโต ปริพฺพาชโก’’ติอาทิ. น ตาหํ สกฺโกมีติ น เต อหํ สกฺโกมิ. เอตฺถ จ ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺโต เถโร น เอตฺตกํ น สกฺโกติ. อถ โข อิมสฺส ธมฺมคารวํ อุปฺปาเทสฺสามีติ สพฺพากาเรน พุทฺธวิสเย อวิสยภาวํ คเหตฺวา เอวมาห.
เย ธมฺมา เหตุปฺปภวาติ เหตุปฺปภวา นาม ปฺจกฺขนฺธา; เตนสฺส ทุกฺขสจฺจํ ทสฺเสติ. เตสํ เหตุํ ตถาคโต อาหาติ เตสํ เหตุ นาม สมุทยสจฺจํ; ตฺจ ตถาคโต อาหาติ ทสฺเสติ. เตสฺจ โย นิโรโธติ เตสํ อุภินฺนมฺปิ สจฺจานํ โย อปฺปวตฺตินิโรโธ; ตฺจ ตถาคโต อาหาติ อตฺโถ. เตนสฺส นิโรธสจฺจํ ทสฺเสติ. มคฺคสจฺจํ ปเนตฺถ สรูปโต อทสฺสิตมฺปิ นยโต ทสฺสิตํ โหติ, นิโรเธ หิ วุตฺเต ตสฺส สมฺปาปโก มคฺโค วุตฺโตว โหติ. อถ วา เตสฺจ โย นิโรโธติ เอตฺถ เตสํ โย นิโรโธ จ นิโรธุปาโย จาติ เอวํ ทฺเวปิ สจฺจานิ ทสฺสิตานิ โหนฺตีติ. อิทานิ ตเมวตฺถํ ปฏิปาเทนฺโต อาห – ‘‘เอวํวาที มหาสมโณ’’ติ.
เอเสว ธมฺโม ยทิ ตาวเทวาติ สเจปิ อิโต อุตฺตริ นตฺถิ, เอตฺตกเมว อิทํ โสตาปตฺติผลมตฺตเมว ปตฺตพฺพํ, ตถาปิ เอโส เอว ธมฺโมติ อตฺโถ. ปจฺจพฺยตฺถ ปทมโสกนฺติ ยํ ¶ มยํ ¶ ปริเยสมานา วิจราม, ตํ ปทมโสกํ ปฏิวิทฺธาตฺถ ตุมฺเห; ปตฺตํ ตํ ตุมฺเหหีติ อตฺโถ. อทิฏฺํ อพฺภตีตํ พหุเกหิ กปฺปนหุเตหีติ อมฺเหหิ นาม อิทํ ปทํ พหุเกหิ ¶ กปฺปนหุเตหิ อทิฏฺเมว อพฺภตีตํ; อิติ ตสฺส ปทสฺส อทิฏฺภาเวน ทีฆรตฺตํ อตฺตโน มหาชานิภาวํ ทีเปติ.
๖๒. คมฺภีเร าณวิสเยติ คมฺภีเร เจว คมฺภีรสฺส จ าณสฺส วิสยภูเต. อนุตฺตเร อุปธิสงฺขเยติ นิพฺพาเน. วิมุตฺเตติ ตทารมฺมณาย วิมุตฺติยา วิมุตฺเต. พฺยากาสีติ ‘‘เอตํ เม สาวกยุคํ ภวิสฺสติ อคฺคํ ภทฺทยุค’’นฺติ วทนฺโต สาวกปารมิฺาเณ พฺยากาสิ. สาว เตสํ อายสฺมนฺตานํ อุปสมฺปทา อโหสีติ สา เอหิภิกฺขูปสมฺปทาเยว เตสํ อุปสมฺปทา อโหสิ. เอวํ อุปสมฺปนฺเนสุ จ เตสุ มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร สตฺตหิ ทิวเสหิ อรหตฺเต ปติฏฺิโต, สาริปุตฺตตฺเถโร อฑฺฒมาเสน.
อตีเต กิร อโนมทสฺสี นาม พุทฺโธ โลเก อุทปาทิ. ตสฺส สรโท นาม ตาปโส สเก อสฺสเม นานาปุปฺเผหิ มณฺฑปํ กตฺวา ปุปฺผาสเนเยว ภควนฺตํ นิสีทาเปตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺสาปิ ตเถว มณฺฑปํ กตฺวา ปุปฺผาสนานิ ปฺเปตฺวา อคฺคสาวกภาวํ ปตฺเถสิ. ปตฺถยิตฺวา จ สิรีวฑฺฒสฺส นาม เสฏฺิโน เปเสสิ ‘‘มยา อคฺคสาวกฏฺานํ ปตฺถิตํ, ตฺวมฺปิ อาคนฺตฺวา เอกํ านํ ปตฺเถหี’’ติ. เสฏฺิ นีลุปฺปลมณฺฑปํ กตฺวา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ, ตตฺถ โภเชตฺวา ทุติยสาวกภาวํ ปตฺเถสิ. เตสุ สรทตาปโส สาริปุตฺตตฺเถโร ชาโต, สิรีวฑฺโฒ มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโรติ อิทํ เนสํ ปุพฺพกมฺมํ.
๖๓. อปุตฺตกตายาติอาทีสุ เยสํ ปุตฺตา ปพฺพชนฺติ, เตสํ อปุตฺตกตาย. ยาสํ ปตี ปพฺพชนฺติ, ตาสํ เวธพฺยาย วิธวาภาวาย. อุภเยนาปิ กุลุปจฺเฉทาย. สฺจยานีติ สฺจยสฺส อนฺเตวาสิกานิ. มคธานํ คิริพฺพชนฺติ มคธานํ ชนปทสฺส คิริพฺพชํ นครํ. มหาวีราติ มหาวีริยวนฺโต. นยมานานนฺติ นยมาเนสุ. ภุมฺมตฺเถ ¶ สามิวจนํ, อุปโยคตฺเถ วา. กา อุสูยา วิชานตนฺติ ธมฺเมน นยนฺตีติ เอวํ วิชานนฺตานํ กา อิสฺสา.
สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปพฺพชฺชากถา นิฏฺิตา.
อุปชฺฌายวตฺตกถา
๖๔-๕. อนุปชฺฌายกาติ ¶ วชฺชาวชฺชํ อุปนิชฺฌายเกน ครุนา วิรหิตา. อนากปฺปสมฺปนฺนาติ น อากปฺเปน สมฺปนฺนา; สมณสารุปฺปาจารวิรหิตาติ อตฺโถ ¶ . อุปริโภชเนติ โภชนสฺส อุปริ. อุตฺติฏฺปตฺตนฺติ ปิณฺฑาย จรณกปตฺตํ. ตสฺมิฺหิ มนุสฺสา อุจฺฉิฏฺสฺิโน, ตสฺมา อุตฺติฏฺปตฺตนฺติ วุตฺตํ. อถ วา อุฏฺหิตฺวา ปตฺตํ อุปนาเมนฺตีติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อนุชานามิ ภิกฺขเว อุปชฺฌายนฺติ อุปชฺฌายํ คเหตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. ปุตฺตจิตฺตํ อุปฏฺเปสฺสตีติ ปุตฺโต เม อยนฺติ เอวํ เคหสฺสิตเปมวเสน จิตฺตํ อุปฏฺเปสฺสติ. เอส นโย ทุติยปเทปิ. สคารวา สปฺปติสฺสาติ ครุภาวฺเจว เชฏฺกภาวฺจ อุปฏฺเปตฺวา. สภาควุตฺติโนติ สภาคชีวิกา. สาหูติ วาติอาทีนิ ปฺจ ปทานิ อุปชฺฌายภาวสมฺปฏิจฺฉนเววจนานิ. กาเยน วิฺาเปตีติ เอวํ สทฺธิวิหาริเกน ‘‘อุปชฺฌาโย เม ภนฺเต โหหี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วุตฺเต สเจ อุปชฺฌาโย ‘‘สาหู’’ติอาทีสุ ปฺจสุ ปเทสุ ยสฺส กสฺสจิ ปทสฺส วเสน กาเยน วา วาจาย วา กายวาจาหิ วา ‘‘คหิโต ตยา อุปชฺฌาโย’’ติ อุปชฺฌายคฺคหณํ วิฺาเปติ, คหิโต โหติ อุปชฺฌาโย. อิทเมว หิ เอตฺถ อุปชฺฌายคฺคหณํ, ยทิทํ อุปชฺฌายสฺส อิเมสุ ปฺจสุ ปเทสุ ยสฺส กสฺสจิ ปทสฺส วาจาย วา สาวนํ กาเยน วา อตฺถวิฺาปนนฺติ. เกจิ ปน สาธูติ สมฺปฏิจฺฉนํ สนฺธาย วทนฺติ. น ตํ ปมาณํ, อายาจนทานมตฺเตน หิ คหิโต โหติ อุปชฺฌาโย, น เอตฺถ สมฺปฏิจฺฉนํ องฺคํ. สทฺธิวิหาริเกนาปิ น เกวลํ อิมินา เม ปเทน อุปชฺฌาโย คหิโตติ าตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อชฺชตคฺเค ทานิ เถโร มยฺหํ ภาโร, อหมฺปิ เถรสฺส ภาโร’’ติ อิทมฺปิ าตุํ วฏฺฏติ.
๖๖. ตตฺรายํ สมฺมาวตฺตนาติ ยํ วุตฺตํ สมฺมา วตฺติตพฺพนฺติ, ตตฺร อยํ สมฺมาวตฺตนา. กาลสฺเสว อุฏฺาย อุปาหนา โอมฺุจิตฺวาติ สจสฺส ปจฺจูสกาเล จงฺกมนตฺถาย วา โธตปาทปริหรณตฺถาย วา ปฏิมุกฺกา อุปาหนา ปาทคตา โหนฺติ, ตา กาลสฺเสว อุฏฺาย อปเนตฺวา. ทนฺตกฏฺํ ทาตพฺพนฺติ มหนฺตํ มชฺฌิมํ ขุทฺทกนฺติ ¶ ตีณิ ทนฺตกฏฺานิ อุปเนตฺวา ตโต ยํ ตีณิ ทิวสานิ คณฺหาติ, จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย ตาทิสเมว ทาตพฺพํ. สเจ อนิยมํ กตฺวา ยํ วา ตํ วา คณฺหาติ, อถ ยาทิสํ ลภติ ตาทิสํ ทาตพฺพํ.
มุโขทกํ ทาตพฺพนฺติ สีตฺจ อุณฺหฺจ อุทกํ อุปเนตฺวา ตโต ยํ ตีณิ ทิวสานิ วฬฺเชติ, จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย ตาทิสเมว มุขโธวโนทกํ ¶ ทาตพฺพํ. สเจ อนิยมํ กตฺวา ยํ วา ตํ วา คณฺหาติ, อถ ยาทิสํ ลภติ ตาทิสํ ทาตพฺพํ. สเจ ทุวิธมฺปิ วฬฺเชติ, ทุวิธมฺปิ ¶ อุปเนตพฺพํ. อุทกํ มุขโธวนฏฺาเน เปตฺวา วจฺจกุฏิโต ปฏฺาย สมฺมชฺชิตพฺพํ. เถเร วจฺจกุฏึ คเต ปริเวณํ สมฺมชฺชิตพฺพํ; เอวํ ปริเวณํ อสฺุํ โหติ. เถเร วจฺจกุฏิโต อนิกฺขนฺเตเยว อาสนํ ปฺเปตพฺพํ. สรีรกิจฺจํ กตฺวา อาคนฺตฺวา ตสฺมึ นิสินฺนสฺส ‘‘สเจ ยาคุ โหตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตวตฺตํ กาตพฺพํ. อุกฺลาโปติ เกนจิ กจวเรน สงฺกิณฺโณ, สเจ ปน อฺโ กจวโร นตฺถิ, อุทกผุสิตาเนว โหนฺติ, หตฺเถนปิ ปมชฺชิตพฺโพ.
สคุณํ กตฺวาติ ทฺเว จีวรานิ เอกโต กตฺวา, ตา เอกโต กตา ทฺเวปิ สงฺฆาฏิโย ทาตพฺพา. สพฺพฺหิ จีวรํ สงฺฆฏิตตฺตา ‘‘สงฺฆาฏี’’ติ วุจฺจติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สงฺฆาฏิโย ทาตพฺพา’’ติ. นาติทูเร คนฺตพฺพํ นาจฺจาสนฺเนติ เอตฺถ สเจ อุปชฺฌายํ นิวตฺติตฺวา โอโลเกนฺตํ เอเกน วา ทฺวีหิ วา ปทวีติหาเรหิ สมฺปาปุณาติ, เอตฺตาวตา นาติทูเร นาจฺจาสนฺเน คโต โหตีติ เวทิตพฺพํ. ปตฺตปริยาปนฺนํ ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ สเจ อุปชฺฌาเยน ภิกฺขาจาเร ยาคุยา วา ภตฺเต วา ลทฺเธ ปตฺโต อุณฺโห วา ภาริโก วา โหติ, อตฺตโน ปตฺตํ ตสฺส ทตฺวา โส ปตฺโต คเหตพฺโพติ อตฺโถ. น อุปชฺฌายสฺส ภณมานสฺส อนฺตรนฺตรา กถา โอปาเตตพฺพาติ อนฺตรฆเร วา อฺตฺร วา ภณมานสฺส อนิฏฺิเต ตสฺส วจเน อฺา กถา น สมุฏฺาเปตพฺพา. อิโต ปฏฺาย จ ปน ยตฺถ ยตฺถ นกาเรน ปฏิเสโธ กริยติ, สพฺพตฺถ ทุกฺกฏาปตฺติ เวทิตพฺพา. อยฺหิ ขนฺธกธมฺมตา. อาปตฺติสามนฺตา ภณมาโนติ ปทโสธมฺมทุฏฺุลฺลาทิวเสน อาปตฺติยา อาสนฺนวาจํ ภณมาโน. นิวาเรตพฺโพติ ‘‘กึ ภนฺเต อีทิสํ นาม วตฺตุํ วฏฺฏติ, อาปตฺติ ¶ น โหตี’’ติ เอวํ ปุจฺฉนฺเตน วิย วาเรตพฺโพ. วาเรสฺสามีติ ปน กตฺวา ‘‘มหลฺลก, มา เอวํ ภณา’’ติ น วตฺตพฺโพ.
ปมตรํ อาคนฺตฺวาติ สเจ อาสนฺเน คาโม โหติ, วิหาเร วา คิลาโน ภิกฺขุ โหติ, คามโต ปมตรํ อาคนฺตพฺพํ. สเจ ทูเร คาโม โหติ, อุปชฺฌาเยน สทฺธึ อาคจฺฉนฺโต นตฺถิ, เตเนว สทฺธึ คามโต นิกฺขมิตฺวา จีวเรน ปตฺตํ เวเตฺวา อนฺตรามคฺคโต ปมตรํ อาคนฺตพฺพํ ¶ . เอวํ นิวตฺตนฺเตน ปมตรํ อาคนฺตฺวา อาสนปฺาปนาทิ สพฺพํ กิจฺจํ กาตพฺพํ. สินฺนํ โหตีติ ตินฺตํ เสทคฺคหิตํ. จตุรงฺคุลํ กณฺณํ อุสฺสาเรตฺวาติ กณฺณํ จตุรงฺคุลปฺปมาณํ อติเรกํ กตฺวา เอวํ จีวรํ สํหริตพฺพํ. กึ การณา? มา มชฺเฌ ภงฺโค อโหสีติ. สมํ กตฺวา สํหริตสฺส หิ มชฺเฌ ภงฺโค โหติ, ตโต นิจฺจํ ภิชฺชมานํ ทุพฺพลํ โหติ ตํ นิวารณตฺถเมตํ วุตฺตํ. ตสฺมา ยถา อชฺช ภงฺคฏฺาเนเยว สฺเว น ภิชฺชติ, ตถา ทิวเส ทิวเส จตุรงฺคุลํ อุสฺสาเรตฺวา สํหริตพฺพํ. โอโภเค กายพนฺธนํ กาตพฺพนฺติ กายพนฺธนํ สํหริตฺวา จีวรโภเค ปกฺขิปิตฺวา เปตพฺพํ.
สเจ ¶ ปิณฺฑปาโต โหตีติ เอตฺถ โย คาเมเยว วา อนฺตรฆเร วา ปฏิกฺกมเน วา ภฺุชิตฺวา อาคจฺฉติ, ปิณฺฑํ วา น ลภติ, ตสฺส ปิณฺฑปาโต น โหติ, คาเม อภุตฺตสฺส ปน ลทฺธภิกฺขสฺส วา โหติ; ตสฺมา ‘‘สเจ ปิณฺฑปาโต โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สเจปิ ตสฺส น โหติ, ภฺุชิตุกาโม จ โหติ, อุทกํ ทตฺวา อตฺตนา ลทฺธโตปิ ปิณฺฑปาโต อุปเนตพฺโพ. ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพติ ภฺุชมาโน ติกฺขตฺตุํ ‘‘ปานียํ ภนฺเต อาหริยตู’’ติ ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพ. สเจ กาโล อตฺถิ, อุปชฺฌาเย ภุตฺเต สยํ ภฺุชิตพฺพํ. สเจ อุปกฏฺโ กาโล, ปานียํ อุปชฺฌายสฺส สนฺติเก เปตฺวา สยมฺปิ ภฺุชิตพฺพํ.
อนนฺตรหิตายาติ ตฏฺฏิกธมฺมขณฺฑาทีสุ เยน เกนจิ อนตฺถตาย ปํสุสกฺขรมิสฺสาย ภูมิยา ปตฺโถ น เปตพฺโพติ อตฺโถ. สเจ ปน กาฬวณฺณกตา วา สุธาพทฺธา วา โหติ นิรชมตฺติกา, ตถารูปาย ภูมิยา ¶ เปตุํ วฏฺฏติ. โธตวาลิกายปิ เปตุํ วฏฺฏติ. ปํสุรชสกฺขราทีสุ น วฏฺฏติ. ตตฺร ปน ปณฺณํ วา อาธารกํ วา เปตฺวา ตตฺร นิกฺขิปิตพฺโพ. ปารโต อนฺตํ โอรโต โภคนฺติ อิทํ จีวรวํสาทีนํ เหฏฺา หตฺถํ ปเวเสตฺวา อภิมุเขน หตฺเถน สณิกํ นิกฺขิปนตฺถํ วุตฺตํ. อนฺเต ปน คเหตฺวา โภเคน จีวรวํสาทีนํ อุปริ นิกฺขิปนฺตสฺส ภิตฺติยํ โภโค ปฏิหฺติ, ตสฺมา ตถา น กาตพฺพํ.
จุณฺณํ สนฺเนตพฺพนฺติ นฺหานจุณฺณํ อุทเกน เตเมตฺวา ปิณฺฑิ กาตพฺพา. เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพนฺติ เอกสฺมึ นิทฺธูเม าเน เปตพฺพํ. ชนฺตาฆเร ปริกมฺมํ นาม ¶ องฺคารมตฺติกอุณฺโหทกทานาทิกํ สพฺพํ กิจฺจํ. อุทเกปิ ปริกมฺมนฺติ องฺคปจฺจงฺคฆํสนาทิกํ สพฺพํ กิจฺจํ. ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพติ ชนฺตาฆเร อุณฺหสนฺตาเปน ปิปาสา โหติ, ตสฺมา ปุจฺฉิตพฺโพ.
สเจ อุสฺสหตีติ สเจ ปโหติ; น เกนจิ เคลฺเน อภิภูโต โหติ; อคิลาเนน หิ สทฺธิวิหาริเกน สฏฺิวสฺเสนาปิ สพฺพํ อุปชฺฌายวตฺตํ กาตพฺพํ, อนาทเรน อกโรนฺตสฺส วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ. นการปฏิสํยุตฺเตสุ ปน ปเทสุ คิลานสฺสาปิ ปฏิกฺขิตฺตกิริยํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. อปฺปฏิฆํสนฺเตนาติ ภูมิยํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน. กวาฏปิฏฺนฺติ กวาฏฺจ ปิฏฺสงฺฆาตฺจ อจฺฉุปนฺเตน. สนฺตานกนฺติ ยํกิฺจิ กีฏกุลาวกมกฺกฏกสุตฺตาทิ. อุลฺโลกา ปมํ โอหาเรตพฺพนฺติ อุลฺโลกโต ปมํ อุลฺโลกํ อาทึกตฺวา อวหริตพฺพนฺติ อตฺโถ. อาโลกสนฺธิกณฺณภาคาติ อาโลกสนฺธิภาคา จ กณฺณภาคา จ อนฺตรพาหิรวาตปานกวาฏกานิ จ คพฺภสฺส จ จตฺตาโร โกณา ปมชฺชิตพฺพาติ อตฺโถ.
ยถาปฺตฺตํ ¶ ปฺเปตพฺพนฺติ ยถา ปมํ ปฺตฺตํ อโหสิ, ตเถว ปฺเปตพฺพํ. เอตทตฺถเมว หิ ยถาปฺตฺตํ สลฺลกฺเขตฺวา นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพนฺติ ปุริมวตฺตํ ปฺตฺตํ. สเจ ปน ปมํ อชานนฺเตน เกนจิ ปฺตฺตํ อโหสิ, สมนฺตโต ภิตฺตึ ทฺวงฺคุลมตฺเตน วา ติวงฺคุลมตฺเตน วา โมเจตฺวา ปฺเปตพฺพํ. อิทฺหิ ปฺาปนวตฺตํ. สเจ กฏสารโก โหติ อติมหนฺโต จ, ฉินฺทิตฺวา โกฏึ นิวตฺเตตฺวา พนฺธิตฺวา ¶ ปฺเปตพฺโพ. สเจ โกฏึ นิวตฺเตตฺวา พนฺธิตุํ น ชานาติ, น ฉินฺทิตพฺโพ. ปุรตฺถิมา วาตปานา ถเกตพฺพาติ ปุรตฺถิมาย วาตปานา ถเกตพฺพา. เอวํ เสสาปิ วาตปานา ถเกตพฺพา.
วูปกาเสตพฺโพติ อฺตฺถ เนตพฺโพ. วูปกาสาเปตพฺโพติ อฺโ ภิกฺขุ วตฺตพฺโพ ‘‘เถรํ คเหตฺวา อฺตฺถ คจฺฉา’’ติ วิเวเจตพฺพนฺติ วิสฺสชฺชาเปตพฺพํ. วิเวจาเปตพฺพนฺติ อฺโ วตฺตพฺโพ ‘‘เถรํ ทิฏฺิคตํ วิสฺสชฺชาเปหี’’ติ. อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพนฺติ ปริวาสทานตฺถํ โส โส ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา ยาจิตพฺโพ. สเจ อตฺตนา ปฏิพโล โหติ, อตฺตนาว ทาตพฺโพ. โน เจ ปฏิพโล โหติ, อฺเน ทาเปตพฺโพ. กินฺติ นุ โขติ เกน นุ โข อุปาเยน. เอส นโย สพฺพตฺถ. ลหุกาย วา ¶ ปริณาเมยฺยาติ อุกฺเขปนียํ อกตฺวา ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา กเรยฺยาติ อตฺโถ. เตน หิ ‘‘อุปชฺฌายสฺส อุกฺเขปนียกมฺมํ กตฺตุกาโม สงฺโฆ’’ติ ตฺวา เอกเมกํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘มา ภนฺเต อมฺหากํ อุปชฺฌายสฺส กมฺมํ กริตฺถา’’ติ ยาจิตพฺพา. สเจ กโรนฺติเยว, ‘‘ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา กโรถา’’ติ ยาจิตพฺพา. สเจ กโรนฺติเยว, อถ อุปชฺฌาโย ‘‘สมฺมา วตฺตถ ภนฺเต’’ติ ยาจิตพฺโพ. อิติ ตํ สมฺมา วตฺตาเปตฺวา ‘‘ปฏิปฺปสฺสมฺเภถ ภนฺเต กมฺม’’นฺติ ภิกฺขู ยาจิตพฺพา.
สมฺปริวตฺตกํ สมฺปริวตฺตกนฺติ สมฺปริวตฺเตตฺวา สมฺปริวตฺเตตฺวา. น จ อจฺฉินฺเน เถเว ปกฺกมิตพฺพนฺติ ยทิ อปฺปมตฺตกมฺปิ รชนํ คฬติ, น ตาว ปกฺกมิตพฺพํ. น อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉา เอกจฺจสฺส ปตฺโต ทาตพฺโพติอาทิ สพฺพํ อุปชฺฌายสฺส วิสภาคปุคฺคลวเสน กถิตํ. น อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉา คาโม ปวิสิตพฺโพติ ปิณฺฑาย วา อฺเน วา กรณีเยน ปวิสิตุกาเมน อาปุจฺฉิตฺวาว ปวิสิตพฺโพ. สเจ อุปชฺฌาโย กาลสฺเสว วุฏฺาย ทูรํ ภิกฺขาจารํ คนฺตุกาโม โหติ, ‘‘ทหรา ปิณฺฑาย ปวิสนฺตู’’ติ วตฺวา คนฺตพฺพํ. อวตฺวา คเต ปริเวณํ คนฺตฺวา อุปชฺฌายํ อปสฺสนฺเตน คามํ ปวิสิตุํ วฏฺฏติ. สเจ คามํ ปวิสนฺโตปิ ปสฺสติ, ทิฏฺฏฺานโต ปฏฺาย อาปุจฺฉิตุํเยว วฏฺฏติ.
น สุสานํ คนฺตพฺพนฺติ วาสตฺถาย วา ทสฺสนตฺถาย วา น คนฺตพฺพํ. น ทิสา ปกฺกมิตพฺพาติ ¶ ¶ เอตฺถ ปกฺกมิตุกาเมน กมฺมํ อาจิกฺขิตฺวา ยาวตติยํ ยาจิตพฺโพ. สเจ อนุชานาติ, สาธุ; โน เจ อนุชานาติ, ตํ นิสฺสาย วสโต จสฺส อุทฺเทโส วา ปริปุจฺฉา วา กมฺมฏฺานํ วา น สมฺปชฺชติ, อุปชฺฌาโย พาโล โหติ อพฺยตฺโต, เกวลํ อตฺตโน สนฺติเก วสาเปตุกามตาย เอว คนฺตุํ น เทติ, เอวรูเป นิวาเรนฺเตปิ คนฺตุํ วฏฺฏติ. วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพนฺติ เคลฺโต วุฏฺานํ อสฺส อาคเมตพฺพํ; น กตฺถจิ คนฺตพฺพํ. สเจ อฺโ ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อตฺถิ, เภสชฺชํ ปริเยสิตฺวา ตสฺส หตฺเถ ทตฺวา ‘‘ภนฺเต อยํ อุปฏฺหิสฺสตี’’ติ วตฺวา คนฺตพฺพํ.
อุปชฺฌายวตฺตกถา นิฏฺิตา.
สทฺธิวิหาริกวตฺตกถา
๖๗. อุปชฺฌาเยน ¶ สทฺธิวิหาริกมฺหิ สมฺมาวตฺตนายํ – สงฺคเหตพฺโพ อนุคฺคเหตพฺโพติ อุทฺเทสาทีหิสฺส สงฺคโห จ อนุคฺคโห จ กตฺตพฺโพ. ตตฺถ อุทฺเทโสติ ปาฬิวาจนํ. ปริปุจฺฉาติ ปาฬิยา อตฺถวณฺณนา. โอวาโทติ อโนติณฺเณ วตฺถุสฺมึ ‘‘อิทํ กโรหิ, อิทํ มา กริตฺถา’’ติ วจนํ. อนุสาสนีติ โอติณฺเณ วตฺถุสฺมึ. อปิ จ โอติณฺเณ วา อโนติณฺเณ วา ปมํ วจนํ โอวาโท; ปุนปฺปุนํ วจนํ อนุสาสนีติ. สเจ อุปชฺฌายสฺส ปตฺโต โหตีติ สเจ อติเรกปตฺโต โหติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. ปริกฺขาโรติ อฺโปิ สมณปริกฺขาโร. อิธ อุสฺสุกฺกํ นาม ธมฺมิเกน นเยน อุปฺปชฺชมานอุปายปริเยสนํ. อิโต ปรํ ทนฺตกฏฺทานํ อาทึ กตฺวา อาจมนกุมฺภิยา อุทกาสิฺจนปริโยสานํ วตฺตํ คิลานสฺเสว สทฺธิวิหาริกสฺส กาตพฺพํ. อนภิรติวูปกาสนาทิ ปน อคิลานสฺสาปิ กตฺตพฺพเมว. จีวรํ รชนฺเตนาติ ‘‘เอวํ รเชยฺยาสี’’ติ อุปชฺฌายโต อุปายํ สุตฺวา รชนฺเตน. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
สทฺธิวิหาริกวตฺตกถา นิฏฺิตา.
นสมฺมาวตฺตนาทิกถา
๖๘. น สมฺมา วตฺตนฺตีติ ยถาปฺตฺตํ อุปชฺฌายวตฺตํ น ปูเรนฺติ. โย น สมฺมา วตฺเตยฺยาติ โย ยถาปฺตฺตํ วตฺตํ น ปูเรยฺย; โส ทุกฺกฏํ อาปชฺชตีติ อตฺโถ. ปณาเมตพฺโพติ อปสาเทตพฺโพ. น อธิมตฺตํ เปมํ โหตีติ อุปชฺฌายมฺหิ อธิมตฺตํ เคหสฺสิตเปมํ น โหติ. นาธิมตฺตา ¶ ภาวนา โหตีติ อธิมตฺตา เมตฺตาภาวนา น โหติ; วุตฺตปฏิปกฺขนเยน ¶ สุกฺกปกฺโข เวทิตพฺโพ. อลํ ปณาเมตุนฺติ ยุตฺโต ปณาเมตุํ.
อปฺปณาเมนฺโต อุปชฺฌาโย สาติสาโร โหตีติ สโทโส โหติ, อาปตฺตึ อาปชฺชติ; ตสฺมา น สมฺมา วตฺตนฺโต ปณาเมตพฺโพว. น สมฺมาวตฺตนาย จ ยาว จีวรรชนํ ตาว วตฺเต อกริยมาเน อุปชฺฌายสฺส ¶ ปริหานิ โหติ. ตสฺมา ตํ อกโรนฺตสฺส นิสฺสยมุตฺตกสฺสาปิ อมุตฺตกสฺสาปิ อาปตฺติเยว. เอกจฺจสฺส ปตฺตทานโต ปฏฺาย อมุตฺตกนิสฺสยสฺเสว อาปตฺติ.
สทฺธิวิหาริกา สมฺมา วตฺตนฺติ, อุปชฺฌาโย สมฺมา น วตฺตติ, อุปชฺฌายสฺส อาปตฺติ. อุปชฺฌาโย สมฺมา วตฺตติ, สทฺธิวิหาริกา สมฺมา น วตฺตนฺติ, เตสํ อาปตฺติ. อุปชฺฌาเย วตฺตํ สาทิยนฺเต สทฺธิวิหาริกา พหุกาปิ โหนฺติ, สพฺเพสํ อาปตฺติ. สเจ อุปชฺฌาโย ‘‘มยฺหํ อุปฏฺาโก อตฺถิ, ตุมฺเห อตฺตโน สชฺฌายมนสิการาทีสุ โยคํ กโรถา’’ติ วทติ, สทฺธิวิหาริกานํ อนาปตฺติ. สเจ อุปชฺฌาโย สาทิยนํ วา อสาทิยนํ วา น ชานาติ, พาโล โหติ, สทฺธิวิหาริกา พหุกา. เตสุ เอโก วตฺตสมฺปนฺโน ภิกฺขุ ‘‘อุปชฺฌายสฺส กิจฺจํ อหํ กริสฺสามิ, ตุมฺเห อปฺโปสฺสุกฺกา วิหรถา’’ติ เอวฺเจ อตฺตโน ภารํ กตฺวา อิตเร วิสฺสชฺเชติ, ตสฺส ภารกรณโต ปฏฺาย เตสํ อนาปตฺติ.
นสมฺมาวตฺตนาทิกถา นิฏฺิตา.
ราธพฺราหฺมณวตฺถุกถา
๖๙. ราธพฺราหฺมณวตฺถุสฺมึ – กิฺจาปิ อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควตา พาราณสิยํ ตีหิ สรณคมเนหิ อนฺุาตํ ปพฺพชฺชฺเจว อุปสมฺปทฺจ ชานาติ, ภควา ปน ตํ ลหุกํ อุปสมฺปทํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ตฺติจตุตฺถกมฺเมน ครุกํ กตฺวา อุปสมฺปทํ อนฺุาตุกาโม. อถสฺส เถโร อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา ‘‘กถาหํ ภนฺเต ตํ พฺราหฺมณํ ปพฺพาเชมิ อุปสมฺปาเทมี’’ติ อาห. พุทฺธานฺหิ ปริสา อชฺฌาสยกุสลา โหนฺติ, อยฺจ พุทฺธปริสาย อคฺโค.
พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลนาติ เอตฺถ พฺยตฺโต นาม ยสฺส สาฏฺกถํ วินยปิฏกํ วาจุคฺคตํ ปวตฺตติ, ตสฺมึ อสติ ยสฺส อนฺตมโส อิทํ ตฺติจตุตฺถกมฺมวาจามตฺตมฺปิ สุคฺคหิตํ โหติ, วาจุคฺคตํ ปวตฺตติ, อยมฺปิ อิมสฺมึ อตฺเถ พฺยตฺโต. โย ปน กาสโสสเสมฺหาทินา วา เคลฺเน ¶ ¶ ¶ โอฏฺทนฺตชิวฺหาทีนํ วา อสมฺปตฺติยา ปริยตฺติยํ วา อกตปริจยตฺตา น สกฺโกติ ปริมณฺฑเลหิ ปทพฺยฺชเนหิ กมฺมวาจํ สาเวตุํ, พฺยฺชนํ วา ปทํ วา หาเปติ, อฺถา วา วตฺตพฺพํ อฺถา วทติ, อยํ อปฺปฏิพโล. ตพฺพิปรีโต อิมสฺมึ อตฺเถ ‘‘ปฏิพโล’’ติ เวทิตพฺโพ. สงฺโฆ าเปตพฺโพติ สงฺโฆ ชานาเปตพฺโพ. ตโต ปรํ ยํ สงฺโฆ ชานาเปตพฺโพ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต’’ติอาทิมาห.
๗๑. อุปสมฺปนฺนสมนนฺตราติ อุปสมฺปนฺโน หุตฺวา สมนนฺตรา. อนาจารํ อาจรตีติ ปณฺณตฺติวีติกฺกมํ กโรติ. อุลฺลุมฺปตุ มนฺติ อุทฺธรตุ มํ, อกุสลา วุฏฺาเปตฺวา กุสเล ปติฏฺเปตุ; สามเณรภาวา วา อุทฺธริตฺวา ภิกฺขุภาเว ปติฏฺาเปตูติ. อนุกมฺปํ อุปาทายาติ อนุทฺทยํ ปฏิจฺจ; มยิ อนุกปฺปํ กตฺวาติ อตฺโถ.
๗๓. อฏฺิตา โหตีติ นิจฺจปฺปวตฺตินี โหติ. จตฺตาโร นิสฺสเยติ จตฺตาโร ปจฺจเย. ยสฺมา จตฺตาโร ปจฺจเย นิสฺสาย อตฺตภาโว ปวตฺตติ, ตสฺมา เต นิสฺสยาติ วุจฺจนฺติ.
ราธพฺราหฺมณวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
อาจริยวตฺตกถา
๗๕. กินฺตายํ ภิกฺขุ โหตีติ กึ เต อยํ ภิกฺขุ โหติ. อฺเหิ โอวทิโย อนุสาสิโยติ อฺเหิ โอวทิตพฺโพ เจว อนุสาสิตพฺโพ จ. พาหุลฺลาย อาวตฺโต ยทิทํ คณพนฺธิกนฺติ คณพนฺโธ เอตสฺส พาหุลฺลสฺส อตฺถีติ คณพนฺธิกํ, พาหุลฺลํ. ยํ อิทํ คณพนฺธิกํ นาม พาหุลฺลํ, ตทตฺถาย อติลหุํ ตฺวํ อาปนฺโนติ วุตฺตํ โหติ.
๗๖. อพฺยตฺตาติ ปฺาเวยฺยตฺติเยน วิรหิตา. อฺตฺตโรปิ อฺติตฺถิยปุพฺโพติ ปสูโร ปริพฺพาชโก. โส กิร ‘‘ธมฺมํ เถเนสฺสามี’’ติ ¶ อุทายิตฺเถรสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา เตน สหธมฺมิกํ วุจฺจมาโน ตสฺส วาทํ อาโรเปสิ. อนุชานามิ ภิกฺขเว พฺยตฺเตน ภิกฺขุนาติอาทิมฺหิ พฺยตฺโต ปุพฺเพ ภิกฺขุโนวาทกวณฺณนายํ วุตฺตลกฺขโณเยว. โย ปน อนฺเตวาสิโน วา สทฺธิวิหาริกสฺส วา คิลานสฺส สกฺโกติ อุปฏฺานาทีนิ กาตุํ, อยํ อิธ ปฏิพโลติ อธิปฺเปโต. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ปฺจหุปาลิ ¶ , องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. กตเมหิ ปฺจหิ? ปฏิพโล โหติ อนฺเตวาสึ วา สทฺธิวิหารึ วา คิลานํ อุปฏฺาตุํ วา อุปฏฺาเปตุํ วา, อนภิรตํ วูปกาเสตุํ วา ¶ วูปกาสาเปตุํ วา, อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ ธมฺมโต วิโนเทตุํ, อภิธมฺเม วิเนตุํ, อภิวินเย วิเนตู’’นฺติ (ปริ. ๔๑๘).
๗๗. ปกฺขสงฺกนฺเตสูติ ติตฺถิยปกฺขสงฺกนฺเตสุ. อนุชานามิ ภิกฺขเว อาจริยนฺติ อาจารสมาจารสิกฺขาปนกํ อาจริยํ อนุชานามิ. อาจริโย ภิกฺขเว อนฺเตวาสิกมฺหีติอาทิ สพฺพํ ‘‘อุปชฺฌาโย ภิกฺขเว สทฺธิวิหาริกมฺหี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตวเสเนว เวทิตพฺพํ. นามมตฺตเมว หิ เอตฺถ นานํ.
อาจริยวตฺตกถา นิฏฺิตา.
ปณามนาขมนากถา
๘๐. อนฺเตวาสิกา อาจริเยสุ น สมฺมา วตฺตนฺตีติ เอตฺถ ปน ยํ ปุพฺเพ ‘‘นสมฺมาวตฺตนาย จ ยาว จีวรรชนํ, ตาว วตฺเต อกริยมาเน อุปชฺฌายสฺส ปริหานิ โหติ, ตสฺมา ตํ อกโรนฺตสฺส นิสฺสยมุตฺตกสฺสาปิ อมุตฺตกสฺสาปิ อาปตฺติเยวา’’ติ จ, ‘‘เอกจฺจสฺส ปตฺตทานโต ปฏฺาย อมุตฺตกนิสฺสยสฺเสว อาปตฺตี’’ติ จ ลกฺขณํ วุตฺตํ, น เตเนว ลกฺขเณน นิสฺสยนฺเตวาสิกสฺส อาปตฺติ เวทิตพฺพา. นิสฺสยนฺเตวาสิเกน หิ ยาว อาจริยํ นิสฺสาย วสติ, ตาว สพฺพํ อาจริยวตฺตํ กาตพฺพํ. ปพฺพชฺชาอุปสมฺปทาธมฺมนฺเตวาสิเกหิ ปน นิสฺสยมุตฺตเกหิปิ ¶ อาทิโต ปฏฺาย ยาว จีวรรชนํ, ตาว วตฺตํ กาตพฺพํ; อนาปุจฺฉิตฺวา ปตฺตทานาทิมฺหิ ปน เอเตสํ อนาปตฺติ. เอเตสุ จ ปพฺพชฺชนฺเตวาสิโก จ อุปสมฺปทนฺเตวาสิโก จ อาจริยสฺส ยาวชีวํ ภาโร. นิสฺสยนฺเตวาสิโก จ ธมฺมนฺเตวาสิโก จ ยาว สมีเป วสนฺติ, ตาวเทว. ตสฺมา อาจริเยนาปิ เตสุ สมฺมา วตฺติตพฺพํ. อาจริยนฺเตวาสิเกสุ หิ โย โย น สมฺมา วตฺตติ, ตสฺส ตสฺส อาปตฺติ.
ปณามนาขมนากถา นิฏฺิตา.
นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิกถา
๘๓. อุปชฺฌายมฺหา ¶ นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธีสุ – อุปชฺฌาโย ปกฺกนฺโต วาติอาทีสุ อยํ วินิจฺฉโย – ปกฺกนฺโตติ ตมฺหา อาวาสา วิปฺปวสิตุกาโม ปกฺกนฺโต ทิสํ คโต. เอวํ คเต จ ปน ตสฺมึ สเจ วิหาเร นิสฺสยทายโก อตฺถิ, ยสฺส สนฺติเก อฺทาปิ นิสฺสโย วา คหิตปุพฺโพ โหติ, โย วา เอกสมฺโภคปริโภโค, ตสฺส สนฺติเก นิสฺสโย คเหตพฺโพ, เอกทิวสมฺปิ ปริหาโร นตฺถิ. สเจ ตาทิโส นตฺถิ, อฺโ ลชฺชี เปสโล อตฺถิ, ตสฺส ลชฺชีเปสลภาวํ ชานนฺเตน ตทเหว นิสฺสโย ยาจิตพฺโพ. สเจ เทติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. อถ ปน ‘‘ตุมฺหากํ อุปชฺฌาโย ลหุํ อาคมิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉติ, อุปชฺฌาเยน จ ตถา วุตฺตํ, ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ วทติ ‘‘เตน ¶ หิ อุปชฺฌายสฺส อาคมนํ อาคเมถา’’ติ วฏฺฏติ. อถ ปนสฺส ปกติยา เปสลภาวํ น ชานาติ, จตฺตาริ ปฺจ ทิวสานิ ตสฺส ภิกฺขุโน สภาคตํ โอโลเกตฺวา โอกาสํ กาเรตฺวา นิสฺสโย คเหตพฺโพ.
สเจ ปน วิหาเร นิสฺสยทายโก นตฺถิ, อุปชฺฌาโย จ ‘‘อหํ กติปาเหน อาคมิสฺสามิ, มา อุกฺกณฺิตฺถา’’ติ วตฺวา คโต, ยาว อาคมนา ปริหาโร ลพฺภติ. อถาปิ นํ ตตฺถ มนุสฺสา ปริจฺฉินฺนกาลโต อุตฺตริปิ ปฺจ วา ทส วา ทิวสานิ วาเสนฺติเยว, เตน วิหารํ ปวตฺติ เปเสตพฺพา ‘‘ทหรา มา อุกฺกณฺนฺตุ, อหํ อสุกทิวสํ นาม ¶ อาคมิสฺสามี’’ติ. เอวมฺปิ ปริหาโร ลพฺภติ. อถ อาคจฺฉโต อนฺตรามคฺเค นทีปูเรน วา โจราทีหิ วา อุปทฺทโว โหติ, เถโร อุทโกสกฺกนํ วา อาคเมติ, สหาเย วา ปริเยสติ, ตฺเจ ปวตฺตึ ทหรา สุณนฺติ, ยาว อาคมนา ปริหาโร ลพฺภติ. สเจ ปน โส ‘‘อิเธวาหํ วสิสฺสามี’’ติ ปหิณติ, ปริหาโร นตฺถิ. ยตฺถ นิสฺสโย ลพฺภติ, ตตฺถ คนฺตพฺพํ.
วิพฺภนฺเต ปน กาลงฺกเต ปกฺขสงฺกนฺเต วา เอกทิวสมฺปิ ปริหาโร นตฺถิ. ยตฺถ นิสฺสโย ลพฺภติ, ตตฺถ คนฺตพฺพํ. อาณตฺตีติ ปน นิสฺสยปณามนา วุจฺจติ. ตสฺมา ‘‘ปณาเมมิ ต’’นฺติ วา ‘‘มา อิธ ปฏิกฺกมี’’ติ วา ‘‘นีหร เต ปตฺตจีวร’’นฺติ วา ‘‘นาหํ ตยา อุปฏฺาตพฺโพ’’ติ วาติ อิมินา ปาฬินเยน ‘‘มา มํ คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉี’’ติอาทินา ปาฬิมุตฺตกนเยน วา โย นิสฺสยปณามนาย ปณามิโต โหติ, เตน อุปชฺฌาโย ขมาเปตพฺโพ.
สเจ อาทิโตว น ขมติ, ทณฺฑกมฺมํ อาหริตฺวา ติกฺขตฺตุํ ตาว สยเมว ขมาเปตพฺโพ. โน เจ ขมติ, ตสฺมึ วิหาเร มหาเถเร คเหตฺวา ขมาเปตพฺโพ. โน เจ ขมติ, สามนฺตวิหาเร ¶ ภิกฺขู คเหตฺวา ขมาเปตพฺโพ. สเจ เอวมฺปิ น ขมติ, อฺตฺถ คนฺตฺวา อุปชฺฌายสฺส สภาคานํ สนฺติเก วสิตพฺพํ ‘‘อปฺเปว นาม สภาคานํ เม สนฺติเก วสตีติ ตฺวาปิ ขเมยฺยา’’ติ. สเจ เอวมฺปิ น ขมติ, ตตฺเรว วสิตพฺพํ. ตตฺร เจ ทุพฺภิกฺขาทิโทเสน น สกฺกา โหติ วสิตุํ, ตํเยว วิหารํ อาคนฺตฺวา อฺสฺส สนฺติเก นิสฺสยํ คเหตฺวา วสิตุํ วฏฺฏติ. อยมาณตฺติยํ วินิจฺฉโย.
อาจริยมฺหา นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธีสุ อาจริโย ปกฺกนฺโต วา ¶ โหตีติ เอตฺถ โกจิ อาจริโย อาปุจฺฉิตฺวา ปกฺกมติ, โกจิ อนาปุจฺฉิตฺวา. อนฺเตวาสิโกปิ เอวเมว. ตตฺร สเจ อนฺเตวาสิโก อาจริยํ อาปุจฺฉติ ‘‘อสุกํ นาม ภนฺเต านํ คนฺตุํ อิจฺฉามิ เกนจิเทว กรณีเยนา’’ติ, อาจริเยน จ ‘‘กทา คมิสฺสสี’’ติ วุตฺโต ‘‘สายนฺเห วา รตฺตึ วา อุฏฺหิตฺวา คมิสฺสามี’’ติ วทติ, อาจริโยปิ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, ตงฺขณฺเว นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ.
สเจ ¶ ปน ‘‘ภนฺเต อสุกํ นาม านํ คนฺตุกาโมมฺหี’’ติ วุตฺเต อาจริโย ‘‘อสุกสฺมึ นาม คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉา ชานิสฺสสี’’ติ วทติ, โส จ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, ตโต เจ คโต, สุคโต. สเจ ปน น คจฺฉติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อถาปิ ‘‘คจฺฉามี’’ติ วุตฺเต อาจริเยน ‘‘มา ตาว คจฺฉ, รตฺตึ มนฺเตตฺวา ชานิสฺสามา’’ติ วุตฺโต มนฺเตตฺวา คจฺฉติ, สุคโต. โน เจ คจฺฉติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อาจริยํ อนาปุจฺฉา ปกฺกมนฺตสฺส ปน อุปจารสีมาติกฺกเม นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อนฺโตอุปจารสีมโต ปฏินิวตฺตนฺตสฺส น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ.
สเจ ปน อาจริโย อนฺเตวาสิกํ อาปุจฺฉติ ‘‘อาวุโส อสุกํ นาม านํ คมิสฺสามี’’ติ, อนฺเตวาสิเกน จ ‘‘กทา’’ติ วุตฺเต ‘‘สายนฺเห วา รตฺติภาเค วา’’ติ วทติ, อนฺเตวาสิโกปิ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, ตงฺขณฺเว นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ.
สเจ ปน อาจริโย ‘‘สฺเว ปิณฺฑาย จริตฺวา คมิสฺสามี’’ติ วทติ, อิตโร จ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, เอกทิวสํ ตาว นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ปุนทิวเส ปฏิปฺปสฺสทฺโธ โหติ. ‘‘อสุกสฺมึ นาม คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา ชานิสฺสามิ มม คมนํ วา อคมนํ วา’’ติ วตฺวา สเจ น คจฺฉติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อถาปิ ‘‘คจฺฉามี’’ติ ¶ วุตฺเต อนฺเตวาสิเกน ‘‘มา ตาว คจฺฉถ, รตฺตึ มนฺเตตฺวา ชานิสฺสถา’’ติ วุตฺโต มนฺเตตฺวาปิ น คจฺฉติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ.
สเจ อุโภปิ อาจริยนฺเตวาสิกา เกนจิ กรณีเยน พหิสีมํ คจฺฉนฺติ, ตโต เจ อาจริโย คมิยจิตฺเต อุปฺปนฺเน อนาปุจฺฉาว คนฺตฺวา ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺโตเยว นิวตฺตติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมิตฺวา นิวตฺตติ, ปฏิปฺปสฺสทฺโธ โหติ. อาจริยุปชฺฌายา ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมฺม อฺสฺมึ วิหาเร วสนฺติ, นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ.
อาจริเย วิพฺภนฺเต กาลงฺกเต ปกฺขสงฺกนฺเต จ ตงฺขณฺเว ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อาณตฺติยํ ปน สเจปิ ¶ อาจริโย มฺุจิตุกาโมว หุตฺวา นิสฺสยปณามนาย ปณาเมติ, อนฺเตวาสิโก จ ‘‘กิฺจาปิ มํ อาจริโย ปณาเมติ, อถ โข หทเยน มุทุโก’’ติ สาลโยว โหติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติเยว. สเจปิ อาจริโย สาลโย, อนฺเตวาสิโก ¶ นิราลโย, ‘‘น ทานิ อิมํ นิสฺสาย วสิสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, เอวมฺปิ น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อุภินฺนํ สาลยภาเว ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภติเยว. อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเปน ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. ปณามิเตน ทณฺฑกมฺมํ อาหริตฺวา ติกฺขตฺตุํ ขมาเปตพฺโพ. โน เจ ขมติ, อุปชฺฌาเย วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชิตพฺพํ.
อุปชฺฌาเยน วา สโมธานคโตติ เอตฺถ ทสฺสนสวนวเสน สโมธานํ เวทิตพฺพํ. สเจ หิ อาจริยํ นิสฺสาย วสนฺโต สทฺธิวิหาริโก เอกวิหาเร เจติยํ วา วนฺทนฺตํ เอกคาเม ปิณฺฑาย วา จรนฺตํ อุปชฺฌายํ ปสฺสติ, นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อุปชฺฌาโย ปสฺสติ, สทฺธิวิหาริโก ปน น ปสฺสติ, น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. มคฺคปฺปฏิปนฺนํ วา อากาเสน วา คจฺฉนฺตํ อุปชฺฌายํ ทิสฺวา ทูรตฺตา ภิกฺขูติ ชานาติ, อุปชฺฌาโยติ น ชานาติ, น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ชานาติ, ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อุปริปาสาเท อุปชฺฌาโย วสติ, เหฏฺา สทฺธิวิหาริโก, ตํ อทิสฺวาว ยาคุํ ปิวิตฺวา ปกฺกมติ, อาสนสาลาย วา นิสินฺนํ อทิสฺวาว เอกมนฺเต ภฺุชิตฺวา ปกฺกมติ, ธมฺมสฺสวนมณฺฑเป วา นิสินฺนมฺปิ ตํ อทิสฺวาว ธมฺมํ สุตฺวา ปกฺกมติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. เอวํ ตาว ทสฺสนวเสน สโมธานํ เวทิตพฺพํ.
สวนวเสน ปน สเจ อุปชฺฌายสฺส วิหาเร วา อนฺตรฆเร วา ธมฺมํ กเถนฺตสฺส อนุโมทนํ ¶ วา กโรนฺตสฺส สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อุปชฺฌายสฺส เม สทฺโท’’ติ สฺชานาติ, นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อสฺชานนฺตสฺส น ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ อยํ สโมธาเน วินิจฺฉโย.
นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิกถา นิฏฺิตา.
อุปสมฺปาเทตพฺพปฺจกกถา
๘๔. อิทานิ ยํ ปุพฺเพ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน ทสวสฺเสน วา อติเรกทสวสฺเสน วา อุปสมฺปาเทตุํ, นิสฺสยํ ทาตุ’’นฺติ สงฺเขปโต อุปชฺฌายาจริยานํ ลกฺขณํ วุตฺตํ, ตํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปฺจหิ องฺเคหีติ ปฺจหิ อคุณงฺเคหิ. โส หิ สีลกฺขนฺธาทีหิ อสมนฺนาคตตฺตาว ¶ อคุณงฺเคหิ สมนฺนาคโต โหติ. น อุปสมฺปาเทตพฺพนฺติ อุปชฺฌาเยน ¶ หุตฺวา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ. น นิสฺสโย ทาตพฺโพติ อาจริเยน หุตฺวา นิสฺสโย น ทาตพฺโพ. เอตฺถ จ น อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธนาติ จ อตฺตนา น อเสกฺเขนาติ จ อสฺสทฺโธติ จ อาทีสุ ตีสุ ปฺจเกสุ อยุตฺตวเสน ปฏิกฺเขโป กโต, น อาปตฺติองฺควเสน. โย หิ อเสกฺเขหิ สีลกฺขนฺธาทีหิ อสมนฺนาคโต ปเร จ ตตฺถ สมาทเปตุํ อสกฺโกนฺโต อสฺสทฺธิยาทิโทสยุตฺโตว หุตฺวา ปริสํ ปริหรติ, ตสฺส ปริสา สีลาทีหิ ปริหายติเยว, น วฑฺฒติ. ตสฺมา เตน น อุปสมฺปาเทตพฺพนฺติอาทิ อยุตฺตวเสน วุตฺตํ, น อาปตฺติองฺควเสน. น หิ ขีณาสวสฺเสว อุปชฺฌายาจริยภาโว ภควตา อนฺุาโต. ยทิ ตสฺเสว อนฺุาโต อภวิสฺส, ‘‘สเจ อุปชฺฌายสฺส อนภิรติ อุปฺปนฺนา โหตี’’ติอาทึ น วเทยฺย. ยสฺมา ปน ขีณาสวสฺส ปริสา สีลาทีหิ น ปริหายติ, ตสฺมา ‘‘ปฺจหิ ภิกฺขเว องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
อธิสีเล สีลวิปนฺโนติอาทีสุ ปาราชิกฺจ สงฺฆาทิเสสฺจ อาปนฺโน อธิสีเล สีลวิปนฺโน นาม. อิตเร ปฺจาปตฺติกฺขนฺเธ อาปนฺโน อชฺฌาจาเร อาจารวิปนฺโน นาม. สมฺมาทิฏฺึ ปหาย อนฺตคฺคาหิกาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคโต อติทิฏฺิยา ทิฏฺิวิปนฺโน นาม. ยตฺตกํ สุตํ ปริสํ ปริหรนฺตสฺส อิจฺฉิตพฺพํ, เตน วิรหิตตฺตา อปฺปสฺสุโต. ยํ เตน ชานิตพฺพํ อาปตฺตาทิ, ตสฺส อชานนโต ทุปฺปฺโ. อิมสฺมึ ปฺจเก ปุริมานิ ตีณิ ปทานิ อยุตฺตวเสน วุตฺตานิ, ปจฺฉิมานิ ทฺเว อาปตฺติองฺควเสน.
อาปตฺตึ ¶ น ชานาตีติ ‘‘อิทํ นาม มยา กต’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อิมํ นาม อาปตฺตึ อยํ อาปนฺโน’’ติ น ชานาติ. วุฏฺานํ น ชานาตีติ วุฏฺานคามินิโต วา เทสนาคามินิโต วา อาปตฺติโต เอวํ นาม วุฏฺานํ โหตีติ น ชานาติ. อิมสฺมึ ปฺจเก ปุริมานิ ทฺเว ปทานิ อยุตฺตวเสน วุตฺตานิ, ปจฺฉิมานิ ตีณิ อาปตฺติองฺควเสน.
อาภิสมาจาริกาย สิกฺขายาติ ขนฺธกวตฺเต ¶ วิเนตุํ น ปฏิพโล โหตีติ อตฺโถ. อาทิพฺรหฺมจริยกายาติ เสกฺขปณฺณตฺติยํ วิเนตุํ น ปฏิพโลติ อตฺโถ. อภิธมฺเมติ นามรูปปริจฺเฉเท วิเนตุํ น ปฏิพโลติ อตฺโถ. อภิวินเยติ สกเล วินยปิฏเก วิเนตุํ น ปฏิพโลติ อตฺโถ. วิเนตุํ น ปฏิพโลติ จ สพฺพตฺถ สิกฺขาเปตุํ น สกฺโกตีติ ¶ อตฺโถ. ธมฺมโต วิเวเจตุนฺติ ธมฺเมน การเณน วิสฺสชฺชาเปตุํ. อิมสฺมิ ปฺจเก สพฺพปเทสุ อาปตฺติ. อาปตฺตึ น ชานาตีติอาทิปฺจกสฺมิมฺปิ สพฺพปเทสุ อาปตฺติ. อูนทสวสฺสปริโยสานปฺจเกปิ เอเสว นโย. อิติ อาทิโต ตโย ปฺจกา, จตุตฺเถ ตีณิ ปทานิ, ปฺจเม ทฺเว ปทานีติ สพฺเพปิ จตฺตาโร ปฺจกา อยุตฺตวเสน วุตฺตา. จตุตฺถปฺจเก ทฺเว ปทานิ, ปฺจเม ตีณิ, ฉฏฺสตฺตมอฏฺมา ตโย ปฺจกาติ สพฺเพปิ จตฺตาโร ปฺจกา อาปตฺติองฺควเสน วุตฺตา; สุกฺกปกฺเข อฏฺสุ อนาปตฺติเยวาติ.
อุปสมฺปาเทตพฺพปฺจกกถา นิฏฺิตา.
อุปสมฺปาเทตพฺพฉกฺกกถา
๘๕. ฉกฺเกสุ อูนทสวสฺสปทํ วิเสโส, ตํ สพฺพตฺถ อาปตฺติกรํ. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ตตฺถ อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน น สฺวาคตานิ โหนฺตีติ อุภโตวิภงฺควเสน น สฺวาคตานิ. น สุวิภตฺตานีติ มาติกาวิภงฺควเสน. น สุปฺปวตฺตีนีติ วาจุคฺคตวเสน. น สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโสติ มาติกาโต จ วิภงฺคโต จ น สุฏฺุ วินิจฺฉิตานิ.
อุปสมฺปาเทตพฺพฉกฺกกถา นิฏฺิตา.
อฺติตฺถิยปุพฺพวตฺถุกถา
๘๖. อฺติตฺถิยปุพฺพวตฺถุสฺมึ ¶ – โย ตาว อยํ ปสูโร, โส ติตฺถิยปกฺกนฺตกตฺตา น อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย ปน อฺโปิ นยิธ ปพฺพชิตปุพฺโพ อาคจฺฉติ, ตสฺมึ ยํ กตฺตพฺพํ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘โย โส ภิกฺขเว อฺโปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตสฺส จตฺตาโร มาเส ปริวาโส ทาตพฺโพติ อยํ ติตฺถิยปริวาโส นาม; อปฺปฏิจฺฉนฺนปริวาโสติปิ วุจฺจติ. อยํ ปน นคฺคปริพฺพาชกสฺเสว อาชีวกสฺส วา ¶ อเจลกสฺส วา ทาตพฺโพ ¶ . สเจ โสปิ สาฏกํ วา วาฬกมฺพลาทีนํ อฺตรํ ติตฺถิยทฺธชํ วา นิวาเสตฺวา อาคจฺฉติ, นาสฺส ปริวาโส ทาตพฺโพ. อฺสฺส ปน ตาปสปณฺฑรงฺคาทิกสฺส น ทาตพฺโพว.
ปมํ เกสมสฺสุนฺติอาทินา ตสฺส อาทิโตว สามเณรปพฺพชฺชํ ทสฺเสติ. เอวํ ปพฺพาเชนฺเตหิ ปน ตสฺมึ สงฺฆมชฺเฌ นิสินฺเนเยว ‘‘ตฺวํ ปพฺพาเชหิ, ตฺวํ อาจริโย โหหิ, ตฺวํ อุปชฺฌาโย โหหี’’ติ เถรา ภิกฺขู น วตฺตพฺพา. เอวํ วุตฺตา หิ สเจ ตสฺส อาจริยุปชฺฌายภาเวน ชิคุจฺฉนฺตา น สมฺปฏิจฺฉนฺติ, อถ โส ‘‘นยิเม มยฺหํ สทฺทหนฺตี’’ติ กุชฺฌิตฺวาปิ คจฺเฉยฺย. ตสฺมา ตํ เอกมนฺตํ เนตฺวา ตสฺส อาจริยุปชฺฌายา ปริเยสิตพฺพา.
๘๗. เอวํ โข ภิกฺขเว อฺติตฺถิยปุพฺโพ อาราธโก โหติ, เอวํ อนาราธโกติ อยมสฺส ปริวาสวตฺตทสฺสนตฺถํ มาติกา. กถฺจ ภิกฺขเวติอาทิ ตสฺเสว วิภงฺโค. ตตฺถ อติกาเลน คามํ ปวิสตีติ ภิกฺขูนํ วตฺตกรณเวลายเมว คามํ ปิณฺฑาย ปวิสติ. อติทิวา ปฏิกฺกมตีติ กุลฆเรสุ อิตฺถิปุริสทารกทาริกาทีหิ สทฺธึ เคหสฺสิตกถํ กเถนฺโต ตตฺเถว ภฺุชิตฺวา ภิกฺขูสุ ปตฺตจีวรํ ปฏิสาเมตฺวา อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนิ วา กโรนฺเตสุ ปฏิสลฺลีเนสุ วา อาคจฺฉติ; น อุปชฺฌายวตฺตํ นาจริยวตฺตํ กโรติ, อฺทตฺถุ วสนฏฺานํ ปวิสิตฺวา นิทฺทายติ. เอวมฺปิ ภิกฺขเว อฺติตฺถิยปุพฺโพ อนาราธโก โหตีติ เอวมฺปิ กโรนฺโต ปริวาสวตฺตสฺส สมฺปาทโก ปูรโก น โหติ.
เวสิยาโคจโร วาติอาทีสุ เวสิยาติ อามิสกิฺจิกฺขสมฺปทานาทินา สุลภชฺฌาจารา รูปูปชีวิกา อิตฺถิโย. วิธวาติ มตปติกา วา ปวุตฺถปติกา วา อิตฺถิโย; ตา เยน เกนจิ สทฺธึ มิตฺตภาวํ ปตฺเถนฺติ. ถุลฺลกุมาริกาติ โยพฺพนฺนปฺปตฺตา โยพฺพนฺนาตีตา วา กุมาริโย; ตา ปุริสาธิปฺปายาว วิจรนฺติ, เยน เกนจิ สทฺธึ มิตฺตภาวํ ปตฺเถนฺติ. ปณฺฑกาติ อุสฺสนฺนกิเลสา อวูปสนฺตปริฬาหา นปุํสกา; เต ปริฬาหเวคาภิภูตา เยน ¶ เกนจิ สทฺธึ มิตฺตภาวํ ปตฺเถนฺติ ¶ . ภิกฺขุนิโยติ สมานปพฺพชฺชา อิตฺถิโย; ตาหิ สทฺธึ ขิปฺปเมว วิสฺสาโส โหติ, ตโต สีลํ ภิชฺชติ.
ตตฺถ ¶ เวสิยานํ กุเลสุ กุลุปโก หุตฺวา ปิณฺฑปาตจริยาทีหิ วา อปทิสิตฺวา สิเนหสนฺถวชาเตน หทเยน อภิณฺหทสฺสนสลฺลาปกามตาย ตาสํ สนฺติกํ อุปสงฺกมนฺโต ‘‘เวสิยาโคจโร’’ติ วุจฺจติ, โส นจิรสฺเสว ‘‘อสุกเวสิยา สทฺธึ คโต’’ติ วตฺตพฺพตํ ปาปุณาติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. สเจ ปน เวสิยาทโย สลากภตฺตาทีนิ เทนฺติ, ภิกฺขูหิ สทฺธึ คนฺตฺวา สทฺธึเยว ภฺุชิตฺวา วา คเหตฺวา วา อาคนฺตุํ วฏฺฏติ. คิลานา ภิกฺขุนิโย โอวทิตุํ วา ธมฺมํ วา เทเสตุํ อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนิ วา ทาตุํ คจฺฉนฺเตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ คนฺตุํ วฏฺฏติ. โย ปน ตถา อาคนฺตฺวา มิตฺตสนฺถววเสน คจฺฉติ, อยํ อนาราธโก โหติ.
อุจฺจาวจานิ กรณียานีติ มหนฺตขุทฺทกานิ กมฺมานิ. ตตฺถ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา สมคฺเคน สงฺเฆน สนฺนิปติตฺวา กตฺตพฺพานิ เจติยมหาปาสาทปฏิสงฺขรณาทีนิ กมฺมานิ อุจฺจานิ นาม. จีวรโธวนรชนาทีนิ ขนฺธกปริยาปนฺนานิ จ อคฺคิสาลวตฺตาทีนิ อาภิสมาจาริกานิ อวจานิ นาม. ตตฺถ น ทกฺโข โหตีติ เตสุ กมฺเมสุ เฉโก สุสิกฺขิโต น โหติ. น อนลโสติ อุฏฺานวีริยสมฺปนฺโน น โหติ; ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส กมฺมํ อตฺถี’’ติ สุตฺวา ปเคว ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา คพฺภนฺตรํ ปวิสิตฺวา ยาวทตฺถํ สุปิตฺวา สายํ นิกฺขมติ. ตตฺรุปายายาติ เตสุ กมฺเมสุ อุปายภูตาย. วีมํสายาติ านุปฺปตฺติกวีมํสาย. ‘‘อิทเมวํ กตฺตพฺพํ, อิทเมวํ น กตฺตพฺพ’’นฺติ ตสฺมึเยว ขเณ อุปฺปนฺนปฺาย สมนฺนาคโต น โหติ. น อลํ กาตุํ น อลํ สํวิธาตุนฺติ สหตฺถาปิ กาตุํ สมตฺโถ น โหติ; ‘‘คณฺหถ ภนฺเต, คณฺห ทหร, คณฺห สามเณร, สเจ ตุมฺเห วา น กริสฺสถ, อมฺเห วา น กริสฺสาม, โก ทานิ อิมํ กริสฺสตี’’ติ เอวํ อุสฺสาหํ ชเนตฺวา สํวิธาตุํ อฺมฺํ กาเรตุมฺปิ สมตฺโถ น โหติ. ภิกฺขูหิ ‘‘กมฺมํ กริสฺสามา’’ติ วุตฺเต กิฺจิ โรคํ อปทิสติ, ภิกฺขูนํ กมฺมํ กโรนฺตานํ สมีเปเนว วิจรติ, สีสเมว ทสฺเสติ, อยมฺปิ อนาราธโก โหติ.
น ติพฺพจฺฉนฺโท โหตีติ พลวจฺฉนฺโท น ¶ โหติ. อุทฺเทเสติ ปาฬิปริยาปุณเน. ปริปุจฺฉายาติ อตฺถสวเน. อธิสีเลติ ปาติโมกฺขสีเล. อธิจิตฺเตติ โลกิยสมาธิภาวนาย. อธิปฺายาติ โลกุตฺตรมคฺคภาวนาย.
สงฺกนฺโต ¶ โหตีติ อิธาคโต โหติ. ตสฺส สตฺถุโนติ ตสฺส ติตฺถายตนสามิกสฺส. ตสฺส ทิฏฺิยาติ ¶ ตสฺส สนฺตกาย ลทฺธิยา. อิทานิ สาเยว ลทฺธิ ยสฺมา ตสฺส ติตฺถกรสฺส ขมติ เจว รุจฺจติ จ ‘‘อิทเมว สจฺจ’’นฺติ จ ทฬฺหคฺคาเหน คหิตา; ตสฺมา ตสฺส ขนฺติ รุจิ อาทาโยติ วุจฺจติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตสฺส ขนฺติยา ตสฺส รุจิยา ตสฺส อาทายสฺสา’’ติ. อวณฺเณ ภฺมาเนติ ครหาย ภฺมานาย. อนภิรทฺโธติ อปริปุณฺณสงฺกปฺโป; โน ปคฺคหิตจิตฺโต. อุทคฺโคติ อพฺภุนฺนตกายจิตฺโต. อิทํ ภิกฺขเว สงฺฆาตนิกํ อฺติตฺถิยปุพฺพสฺส อนาราธนียสฺมินฺติ ภิกฺขเว ยมิทํ ตสฺส สตฺถุโน ตสฺเสว จ ลทฺธิยา อวณฺเณ ภฺมาเน ‘‘กึ อิเม ปรํ ครหนฺตี’’ติ กายวจีวิการนิพฺพตฺตกํ อนตฺตมนตฺตํ, พุทฺธาทีนฺจ อวณฺเณ ภฺมาเน อตฺตมนตฺตํ, ยฺจ ตสฺเสว สตฺถุโน ตสฺเสว จ ลทฺธิยา วณฺเณ ภฺมาเน อตฺตมนตฺตํ, พุทฺธาทีนฺจ วณฺณภณเน อนตฺตมนตฺตํ, อิทํ อฺติตฺถิยปุพฺพสฺส อนาราธนียสฺมึ สงฺฆาตนิกํ, อนาราธเก ปริวาสวตฺตํ อปูรเก กมฺเม อิทํ ลิงฺคํ, อิทํ ลกฺขณํ, อิทมจลปฺปมาณนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ อนาราธโก โข ภิกฺขเว อฺติตฺถิยปุพฺโพ อาคโต น อุปสมฺปาเทตพฺโพติ อิโต เอเกนปิ องฺเคน สมนฺนาคโต น อุปสมฺปาเทตพฺโพ. สุกฺกปกฺเข สพฺพํ วุตฺตวิปลฺลาเสน เวทิตพฺพํ.
เอวํ อาราธโก โข ภิกฺขเวติ เอวํ นาติกาเลน คามปฺปเวสนา นาติทิวา ปฏิกฺกมนํ, น เวสิยาทิโคจรตา, สพฺรหฺมจารีนํ กิจฺเจสุ ทกฺขตาทิ, อุทฺเทสาทีสุ ติพฺพจฺฉนฺทตา, ติตฺถิยานํ อวณฺณภณเน อตฺตมนตา, พุทฺธาทีนํ อวณฺณภณเน อนตฺตมนตา, ติตฺถิยานํ วณฺณภณเน อนตฺตมนตา, พุทฺธาทีนํ วณฺณภณเน อตฺตมนตาติ อิเมสํ อฏฺนฺนํ ติตฺถิยวตฺตานํ ปริปูรเณน ¶ อาราธโก ปริโตสโก ภิกฺขูนํ อฺติตฺถิยปุพฺโพ อาคโต อุปสมฺปาเทตพฺโพ.
สเจ ปน อุปสมฺปทมาฬเกปิ เอกํ วตฺตํ ภินฺทติ, ปุน จตฺตาโร มาเส ปริวสิตพฺพํ. ยถา ปน ภินฺนสิกฺขาย สิกฺขมานาย ปุน สิกฺขาปทานิ จ สิกฺขาสมฺมุติ จ ทิยฺยติ, เอวํ นยิมสฺส กิฺจิ ปุน ทาตพฺพมตฺถิ. ปุพฺเพ ทินฺนปริวาโสเยว หิ ตสฺส ปริวาโส. ตสฺมา ปุน จตฺตาโร มาเส ปริวสิตพฺพํ. สเจ ปริวสนฺโต อนฺตรา อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตติ, โลกิยธมฺโม ¶ นาม กุปฺปนสภาโว, น อุปสมฺปาเทตพฺโพ. จตฺตาโร มาเส ปูริตวตฺโตว อุปสมฺปาเทตพฺโพ. สเจ ปน ปริวสนฺโต จตฺตาริ มหาภูตานิ ปริคฺคณฺหติ, อุปาทารูปานิ ปริจฺฉินฺทติ, นามรูปํ ววตฺถเปติ, ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนํ อารภติ, โลกิยธมฺโม นาม กุปฺปนสภาโว, เนว อุปสมฺปาเทตพฺโพ. สเจ ปน วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา โสตาปตฺติมคฺคํ ปฏิลภติ, ปริปุณฺณํเยว โหติ วตฺตํ. สมูหตานิ สพฺพทิฏฺิคตานิ อพฺพุฬฺหํ วิจิกิจฺฉาสลฺลํ ¶ ตํทิวสเมว อุปสมฺปาเทตพฺโพ. สเจปิ ติตฺถิยลิงฺเค ิโต โสตาปนฺโน โหติ, ปริวาสกิจฺจํ นตฺถิ, ตทเหว ปพฺพาเชตฺวา อุปสมฺปาเทตพฺโพ.
อุปชฺฌายมูลกํ จีวรํ ปริเยสิตพฺพนฺติ อุปชฺฌายํ อิสฺสรํ กตฺวา ตสฺส จีวรํ ปริเยสิตพฺพํ. ปตฺตมฺปิ ตเถว. ตสฺมา ยทิ อุปชฺฌายสฺส ปตฺตจีวรํ อตฺถิ, ‘‘อิมสฺส เทหี’’ติ วตฺตพฺโพ. อถ นตฺถิ, อฺเ ทาตุกามา โหนฺติ, เตหิปิ อุปชฺฌายสฺเสว ทาตพฺพํ ‘‘อิทํ ตุมฺหากํ กตฺวา อิมสฺส เทถา’’ติ. กสฺมา? ติตฺถิยา นาม วิโลมา โหนฺติ ‘‘สงฺเฆน เม ปตฺตจีวรํ ทินฺนํ, กึ มยฺหํ ตุมฺเหสุ อายตฺต’’นฺติ วตฺวา โอวาทานุสาสนึ น กเรยฺยุํ, อุปชฺฌาเยน ปน อายตฺตชีวิกตฺตา ตสฺส วจนกโร ภวิสฺสติ. เตนสฺส ‘‘อุปชฺฌายมูลกํ จีวรํ ปริเยสิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ภณฺฑุกมฺมายาติ เกโสโรปนตฺถํ. ภณฺฑุกมฺมกถา ปรโต อาคมิสฺสติ.
อคฺคิกาติ อคฺคิปริจรณกา. ชฏิลกาติ ตาปสา. เอเต ภิกฺขเว กิริยวาทิโนติ เอเต กิริยํ น ปฏิพาหนฺติ, ‘‘อตฺถิ กมฺมํ, อตฺถิ กมฺมวิปาโก’’ติ ¶ เอวํทิฏฺิกา. สพฺพพุทฺธา หิ เนกฺขมฺมปารมึ ปูรยมานา เอตเทว ปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ปูเรสุํ, มยาปิ ตเถว ปูริตา, น เอเตสํ สาสเน ปพฺพชฺชา วิโลมา, ตสฺมา อุปสมฺปาเทตพฺพา, น เตสํ ปริวาโส ทาตพฺโพติ. อิมาหํ ภิกฺขเว าตีนํ อาเวณิกํ ปริหารํ ทมฺมีติ อิมํ อหํ เตสํ ปาเฏกฺกํ โอทิสฺสกํ ปริหารํ ททามิ. กสฺมา เอวมาห? เต หิ ติตฺถายตเน ปพฺพชิตาปิ สาสนสฺส อวณฺณกามา น โหนฺติ, อมฺหากํ าติเสฏฺสฺส สาสนนฺติ วณฺณวาทิโนว โหนฺติ, ตสฺมา เอวมาหาติ.
อฺติตฺถิยปุพฺพวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
ปฺจาพาธวตฺถุกถา
๘๘. มคเธสุ ¶ ปฺจ อาพาธา อุสฺสนฺนา โหนฺตีติ มคธนามเก ชนปเท มนุสฺสานฺจ อมนุสฺสานฺจ ปฺจ โรคา อุสฺสนฺนา วุฑฺฒิปฺปตฺตา ผาติปฺปตฺตา โหนฺติ. ชีวกโกมารภจฺจกถา จีวรกฺขนฺธเก อาวิภวิสฺสติ. น ภิกฺขเว ปฺจหิ อาพาเธหิ ผุฏฺโ ปพฺพาเชตพฺโพติ เย เต กุฏฺาทโย ปฺจ อาพาธา อุสฺสนฺนา, เตหิ ผุฏฺโ อภิภูโต น ปพฺพาเชตพฺโพ.
ตตฺถ กุฏฺนฺติ รตฺตกุฏฺํ วา โหตุ กาฬกุฏฺํ วา, ยํกิฺจิ กิฏิภททฺทุกจฺฉุอาทิปฺปเภทมฺปิ สพฺพํ ¶ กุฏฺเมวาติ วุตฺตํ. ตฺเจ นขปิฏฺิปฺปมาณมฺปิ วฑฺฒนกปกฺเข ิตํ โหติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน นิวาสนปารุปเนหิ ปกติปฏิจฺฉนฺเน าเน นขปิฏฺิปฺปมาณํ อวฑฺฒนกปกฺเข ิตํ โหติ, วฏฺฏติ. มุเข ปน หตฺถปาทปิฏฺเสุ วา สเจปิ อวฑฺฒนกปกฺเข ิตํ นขปิฏฺิโต จ ขุทฺทกตรมฺปิ, น วฏฺฏติเยวาติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ติกิจฺฉาเปตฺวา ปพฺพาเชนฺเตนาปิ ปกติวณฺเณ ชาเตเยว ปพฺพาเชตพฺโพ. โคธาปิฏฺิสทิสจุณฺณโอกิรณกสรีรมฺปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ.
คณฺโฑติ เมทคณฺโฑ วา โหตุ อฺโ วา โย โกจิ โกลฏฺิมตฺตโกปิ เจ วฑฺฒนกปกฺเข ิโต คณฺโฑ โหติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน ปน โกลฏฺิมตฺเต อวฑฺฒนกปกฺเข ิโต ¶ วฏฺฏติ. มุขาทิเก อปฺปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน อวฑฺฒนกปกฺเข ิโตปิ น วฏฺฏติ. ติกิจฺฉาเปตฺวา ปพฺพาเชนฺเตนาปิ สรีรํ สฺฉวึ กาเรตฺวาว ปพฺพาเชตพฺโพ. อุณฺณิคณฺฑา นาม โหนฺติ โคถนา วิย องฺคุลิกา วิย จ ตตฺถ ตตฺถ ลมฺพนฺติ, เอเตปิ คณฺฑาเยว. เตสุ สติ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. ทหรกาเล ขีรปิฬกา โยพฺพนฺนกาเล จ มุเข ขรปิฬกา นาม โหนฺติ, มหลฺลกกาเล นสฺสนฺติ, น ตา คณฺฑสงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ, ตาสุ สติ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อฺเ ปน สรีเร ขรปิฬกา นาม อปรา ปทุมกณฺณิกา นาม โหนฺติ, อฺา สาสปพีชกา นาม สาสปมตฺตา เอว สกลสรีรํ ผรนฺติ, ตา สพฺพา กุฏฺชาติกา เอว. ตาสุ สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ.
กิลาโสติ ¶ น ภิชฺชนกํ น ปคฺฆรณกํ ปทุมปุณฺฑรีกปตฺตวณฺณํ กุฏฺํ, เยน คุนฺนํ วิย สพลํ สรีรํ โหติ, ตสฺมึ กุฏฺเ วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. โสโสติ โสสพฺยาธิ; ตสฺมึ สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ. อปมาโรติ ปิตฺตุมฺมาโร วา ยกฺขุมฺมาโร วา; ตตฺถ ปุพฺพเวริเกน อมนุสฺเสน คหิโต ทุตฺติกิจฺโฉ โหติ. อปฺปมตฺตเกปิ ปน อปมาเร สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ.
ปฺจาพาธวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
ราชภฏวตฺถุกถา
๙๐. ราชภฏวตฺถุสฺมึ – ปจฺจนฺตํ อุจฺจินถาติ ปจฺจนฺตํ วฑฺเฒถ. โจเร ปลาเปตฺวา โจรภเยน วุฏฺิเต คาเม อาวาสาเปตฺวา อารกฺขํ ทตฺวา กสิกมฺมาทีนิ ปวตฺตาเปถาติ วุตฺตํ โหติ. ราชา ปน โสตาปนฺนตฺตา ‘‘โจเร ฆาเตถ, หนถา’’ติ น อาณาเปติ. อุปชฺฌายสฺส เทว สีสํ ¶ ฉินฺทิตพฺพนฺติอาทิ สพฺพํ ‘‘ปพฺพชฺชาย อุปชฺฌาโย เสฏฺโ, ตโต อาจริโย, ตโต คโณ’’ติ จินฺเตตฺวา อิทํ โวหาเร อฑฺฑวินิจฺฉเย อาคตนฺติ อาหํสุ. น ภิกฺขเว ราชภโฏ ปพฺพาเชตพฺโพติ เอตฺถ อมจฺโจ วา โหตุ มหามตฺโต วา เสวโก วา กิฺจิ านนฺตรํ ปตฺโต วา อปฺปตฺโต วา, โย โกจิ รฺโ ภตฺตเวตนภโฏ, สพฺโพ ราชภโฏติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. ตสฺส ปน ปุตฺตนตฺตภาตุกา เย ราชโต ภตฺตเวตนํ น คณฺหนฺติ, เต ปพฺพาเชตุํ ¶ วฏฺฏติ. โย ปน ราชโต ลทฺธํ นิพทฺธโภคํ วา มาสสํวจฺฉรปริพฺพยํ วา รฺโเยว นิยฺยาเตติ, ปุตฺตภาตุเก วา ตํ านํ สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา ราชานํ ‘‘น ทานาหํ เทวสฺส ภโฏ’’ติ อาปุจฺฉติ, เยน วา ยํ กมฺมการณา เวตนํ คหิตํ, ตํ กมฺมํ กตํ โหติ, โย วา ปพฺพชสฺสูติ รฺา อนฺุาโต โหติ, ตมฺปิ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.
ราชภฏวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
โจรวตฺถุกถา
๙๑. โจรวตฺถูสุ – มนุสฺสา ปสฺสิตฺวาติ เยหิ คิหิกาเล ทิฏฺปุพฺโพ เย จ ‘‘อยํ โส’’ติ อฺเสํ สุณนฺติ, เต ปสฺสิตฺวา อุพฺพิชฺชนฺติปิ…เป… ทฺวารมฺปิ ¶ ถเกนฺติ. เย ปน น ชานนฺติ, เตสํ ฆเรสุ ภิกฺขํ ลภติ. น ภิกฺขเวติ ภควา สยํ ธมฺมสฺสามี, ตสฺมา อายตึ อกรณตฺถาย ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺโต เอวมาห. ตตฺถ ธชํ พนฺธิตฺวา วิย วิจรตีติ ธชพนฺโธ. มูลเทวาทโย วิย โลเก ปากโฏติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมา โย คามฆาตํ วา ปนฺถทุหนํ วา นคเร สนฺธิจฺเฉทาทิกมฺมํ วา กโรนฺโต วิจรติ, ปฺายติ จ ‘‘อสุโก นาม อิทํ อิทํ กโรตี’’ติ, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปน ราชปุตฺโต รชฺชํ ปตฺเถนฺโต คามฆาตาทีนิ กโรติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพ. ราชาโน หิ ตสฺมึ ปพฺพชิเต ตุสฺสนฺติ, สเจ ปน น ตุสฺสนฺติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. ปุพฺเพ มหาชเน ปากโฏ โจโร ปจฺฉา โจรกมฺมํ ปหาย ปฺจสีลาทีนิ สมาทิยติ, ตฺเจ มนุสฺสา เอวํ ชานนฺติ, ปพฺพาเชตพฺโพ. เย ปน อมฺพลพุชาทิโจรกา สนฺธิจฺเฉทาทิโจรา เอว วา อทิสฺสมานา เถยฺยํ กโรนฺติ, ปจฺฉาปิ อิมินา นาม อิทํ กตนฺติ น ปฺายนฺติ, เตปิ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.
๙๒. การํ ภินฺทิตฺวาติ อฏฺฏพนฺธนาทึ ภินฺทิตฺวา. อภยูวราติ เอตฺถ ภเยน อุปรมนฺตีติ ภยูวรา, เอเต ปน ลทฺธาภยตฺตา น ภยูวราติ อภยูวรา; ปการสฺส เจตฺถ วกาโร กโตติ เวทิตพฺโพ. น ภิกฺขเว การเภทโก ปพฺพาเชตพฺโพติ กาโร วุจฺจติ พนฺธนาคารํ. อิธ ปน อนฺทุพนฺธนํ ¶ ¶ วา โหตุ สงฺขลิกพนฺธนํ วา รชฺชุพนฺธนํ วา คามพนฺธนํ วา นิคมพนฺธนํ วา นครพนฺธนํ วา ปุริสคุตฺติ วา ชนปทพนฺธนํ วา ทีปพนฺธนํ วา, โย เอเตสุ ยํกิฺจิ พนฺธนํ ภินฺทิตฺวา วา ฉินฺทิตฺวา วา มฺุจิตฺวา วา วิวริตฺวา วา ปสฺสมานานํ วา อปสฺสมานานํ วา ปลายติ, โส การเภทโกติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ตสฺมา อีทิโส การเภทโก โจโร ทีปพนฺธนํ ภินฺทิตฺวา ทีปนฺตรํ คโตปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปน น โจโร, เกวลํ หตฺถกมฺมํ อกโรนฺโต ‘‘เอวํ โน อปลายนฺโต กริสฺสตี’’ติ ราชยุตฺตาทีหิ พทฺโธ, โส การํ ภินฺทิตฺวา ปลาโตปิ ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปน คามนิคมปฏฺฏนาทีนิ เกณิยา คเหตฺวา ตํ อสมฺปาเทนฺโต พนฺธนาคารํ ปเวสิโต โหติ, โส ปลายิตฺวา อาคโต น ปพฺพาเชตพฺโพ. โยปิ กสิกมฺมาทีหิ ธนํ สมฺปาเทตฺวา ชีวนฺโต ‘‘นิธานํ อิมินา ลทฺธ’’นฺติ เปสฺุํ อุปสํหริตฺวา เกนจิ พนฺธาปิโต โหติ, ตํ ตตฺเถว ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ, ปลายิตฺวา คตํ ปน คตฏฺาเน ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.
๙๓. น ¶ ภิกฺขเว ลิขิตโกติ เอตฺถ ลิขิตโก นาม น เกวลํ ‘‘ยตฺถ ปสฺสติ ตตฺถ หนฺตพฺโพ’’ติ, อถ โข โย โกจิ โจริกํ วา อฺํ วา ครุํ ราชาปราธํ กตฺวา ปลาโต, ราชา จ นํ ปณฺเณ วา โปตฺถเก วา ‘‘อิตฺถนฺนาโม ยตฺถ ทิสฺสติ, ตตฺถ คเหตฺวา มาเรตพฺโพ’’ติ วา ‘‘หตฺถปาทานิสฺส ฉินฺทิตพฺพานี’’ติ วา ‘‘เอตฺตกํ นาม ทณฺฑํ อาหราเปตพฺโพ’’ติ วา ลิขาเปติ, อยํ ลิขิตโก นาม, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ.
๙๔. กสาหโต กตทณฺฑกมฺโมติ เอตฺถ โย วจนเปสนาทีนิ อกโรนฺโต หฺติ, น โส กตทณฺฑกมฺโม. โย ปน เกณิยา วา อฺถา วา กิฺจิ คเหตฺวา ขาทิตฺวา ปุน ทาตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘อยเมว เต ทณฺโฑ โหตู’’ติ กสาหิ หฺติ, อยํ กสาหโต กตทณฺฑกมฺโม. โส จ กสาหิ วา หโต โหตุ อทฺธทณฺฑกาทีนํ วา อฺตเรน, ยาว อลฺลวโณ โหติ, ตาว น ปพฺพาเชตพฺโพ. วเณ ปน ปากติเก กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน ชาณูหิ วา กปฺปเรหิ วา นาฬิเกรปาสาณาทีหิ วา ฆาเตตฺวา มุตฺโต โหติ, สรีเร จสฺส คณฺิโย ปฺายนฺติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. ผาสุกํ ¶ กตฺวา เอว คณฺีสุ สนฺนิสินฺนาสุ ปพฺพาเชตพฺโพ.
๙๕. ลกฺขณาหโต กตทณฺฑกมฺโมติ เอตฺถ กตทณฺฑกมฺมภาโว ปุริมนเยเนว เวทิตพฺโพ. ยสฺส ปน นลาเฏ วา อูรุอาทีสุ วา ตตฺเตน โลเหน ลกฺขณํ อาหตํ โหติ, โส สเจ ภุชิสฺโส ยาว อลฺลวโณ โหติ, ตาว น ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจปิสฺส วณา รุฬฺหา โหนฺติ, ฉวิยา ¶ สมปริจฺเฉทา, ลกฺขณํ น ปฺายติ, ติมณฺฑลวตฺถสฺส อุตฺตราสงฺเค กเต ปฏิจฺฉนฺโนกาเส เจ โหติ, ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ, อปฺปฏิจฺฉนฺโนกาเส เจ น วฏฺฏติ.
โจรวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
อิณายิกวตฺถุกถา
๙๖. น ภิกฺขเว อิณายิโกติ เอตฺถ อิณายิโก นาม ยสฺส ปิติปิตามเหหิ วา อิณํ คหิตํ โหติ, สยํ วา อิณํ คหิตํ โหติ, ยํ วา อาถเปตฺวา มาตาปิตูหิ กิฺจิ คหิตํ โหติ, โส ตํ ¶ อิณํ ปเรสํ ธาเรตีติ อิณายิโก. ยํ ปน อฺเ าตกา อาถเปตฺวา กิฺจิ คณฺหนฺติ, โส น อิณายิโก. น หิ เต ตํ อาถเปตุํ อิสฺสรา, ตสฺมา ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ, อิตรํ น วฏฺฏติ. สเจ ปนสฺส าติสาโลหิตา ‘‘มยํ ทสฺสาม, ปพฺพาเชถ น’’นฺติ อิณํ อตฺตโน ภารํ กโรนฺติ, อฺโ วา โกจิ ตสฺส อาจารสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘ปพฺพาเชถ นํ, อหํ อิณํ ทสฺสามี’’ติ วทติ, ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. เตสุ อสติ ภิกฺขุนา ตถารูปสฺส อุปฏฺากสฺสาปิ อาโรเจตพฺพํ ‘‘สเหตุโก สตฺโต อิณปลิโพเธน น ปพฺพชตี’’ติ. สเจ โส ปฏิปชฺชติ, ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจปิ อตฺตโน กปฺปิยภณฺฑํ อตฺถิ, ‘‘เอตํ ทสฺสามี’’ติ ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน เนว าตกาทโย ปฏิปชฺชนฺติ, น อตฺตโน ธนํ อตฺถิ, ‘‘ปพฺพาเชตฺวา ภิกฺขาย จริตฺวา โมเจสฺสามี’’ติ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปพฺพาเชติ ทุกฺกฏํ. ปลาโตปิ อาเนตฺวา ทาตพฺโพ. โน เจ เทติ, สพฺพํ อิณํ คีวา โหติ. อชานิตฺวา ปพฺพาชยโต อนาปตฺติ. ปสฺสนฺเตน ปน อาเนตฺวา อิณสามิกานํ ทสฺเสตพฺโพ. อปสฺสนฺตสฺส คีวา น โหติ.
สเจ อิณายิโก อฺํ เทสํ คนฺตฺวา ปุจฺฉิยมาโนปิ ‘‘นาหํ กสฺสจิ กิฺจิ ธาเรมี’’ติ วตฺวา ปพฺพชติ, อิณสามิโก จ ตํ ปริเยสนฺโต ตตฺถ คจฺฉติ, ทหโร ตํ ทิสฺวา ปลายติ, โส จ เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อยํ ภนฺเต เกน ปพฺพาชิโต, มม เอตฺตกํ นาม ธนํ คเหตฺวา ¶ ปลาโต’’ติ วทติ, เถเรน วตฺตพฺพํ ‘‘มยา อุปาสก ‘อณโณ อห’นฺติ วทนฺโต ปพฺพาชิโต, กึ ทานิ กโรมิ, ปสฺส เม ปตฺตจีวรมตฺต’’นฺติ อยํ ตตฺถ สามีจิ. ปลาเต ปน คีวา น โหติ.
สเจ ปน นํ เถรสฺส สมฺมุขาว ทิสฺวา ‘‘อยํ มม อิณายิโก’’ติ วทติ, ‘‘ตว อิณายิกํ ¶ ตฺวเมว ชานาหี’’ติ วตฺตพฺโพ. เอวมฺปิ คีวา น โหติ. สเจปิ โส ‘‘ปพฺพชิโต อยํ อิทานิ กุหึ คมิสฺสตี’’ติ วทติ, เถเรน ‘‘ตฺวํเยว ชานาหี’’ติ วตฺตพฺโพ. เอวมฺปิสฺส ปลาเต คีวา น โหติ. สเจ ปน เถโร ‘‘กุหึ ทานิ อยํ คมิสฺสติ, อิเธว อจฺฉตู’’ติ วทติ, โส เจ ปลายติ, คีวา โหติ. สเจ โส สเหตุกสตฺโต โหติ วตฺตสมฺปนฺโน, เถเรน ‘‘อีทิโส อย’’นฺติ วตฺตพฺพํ. อิณสามิโก เจ ‘‘สาธู’’ติ วิสฺสชฺเชติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. สเจ ปน ‘‘อุปฑฺฒุปฑฺฒํ เทถา’’ติ วทติ, ทาตพฺพํ. อปเรน สมเยน อติอาราธโก โหติ, ‘‘สพฺพํ เทถา’’ติ ¶ วุตฺเตปิ ทาตพฺพเมว. สเจ ปน อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีสุ กุสโล โหติ พหูปกาโร ภิกฺขูนํ, ภิกฺขาจารวตฺเตน ปริเยสิตฺวาปิ อิณํ ทาตพฺพเมวาติ.
อิณายิกวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
ทาสวตฺถุกถา
๙๗. น ภิกฺขเว ทาโสติ เอตฺถ จตฺตาโร ทาสา – อนฺโตชาโต, ธนกฺกีโต, กรมรานีโต, สามํ ทาสพฺยํ อุปคโตติ. ตตฺถ อนฺโตชาโต นาม ชาติทาโส ฆรทาสิยา ปุตฺโต. ธนกฺกีโต นาม มาตาปิตูนํ สนฺติกา ปุตฺโต วา สามิกานํ สนฺติกา ทาโส วา ธนํ ทตฺวา ทาสจาริตฺตํ อาโรเปตฺวา กีโต. เอเต ทฺเวปิ น ปพฺพาเชตพฺพา. ปพฺพาเชนฺเตน ตตฺถ ตตฺถ จาริตฺตวเสน อทาสํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺพา.
กรมรานีโต นาม ติโรรฏฺํ วิโลปํ วา กตฺวา อุปลาเปตฺวา วา ติโรรฏฺโต ภุชิสฺสมานุสกานิ อาหรนฺติ, อนฺโตรฏฺเเยว วา กตาปราธํ กิฺจิ คามํ ราชา ‘‘วิลุมฺปถา’’ติ อาณาเปติ, ตโต มานุสกานิปิ อาหรนฺติ. ตตฺถ สพฺเพ ปุริสา ทาสา, อิตฺถิโย ทาสิโย. เอวรูโป กรมรานีโต ทาโส เยหิ อานีโต, เตสํ สนฺติเก วสนฺโต วา พนฺธนาคาเร พทฺโธ วา ปุริเสหิ รกฺขิยมาโน วา น ปพฺพาเชตพฺโพ. ปลายิตฺวา ปน คโต, คตฏฺาเน ปพฺพาเชตพฺโพ. รฺา ¶ ตุฏฺเน ‘‘กรมรานีตเก มฺุจถา’’ติ วตฺวา วา สพฺพสาธารเณน วา นเยน พนฺธนา โมกฺเข กเต ปพฺพาเชตพฺโพว.
สามํ ทาสพฺยํ อุปคโต นาม ชีวิตเหตุ วา อารกฺขเหตุ วา ‘‘อหํ เต ทาโส’’ติ สยเมว ทาสภาวํ อุปคโต. ราชูนํ หตฺถิอสฺสโคมหึสโคปกาทโย วิย, ตาทิโส ทาโส น ปพฺพาเชตพฺโพ. รฺโ วณฺณทาสีนํ ปุตฺตา โหนฺติ อมจฺจปุตฺตสทิสา, เตปิ น ปพฺพาเชตพฺพา. ภุชิสฺสิตฺถิโย ¶ อสํยตา วณฺณทาสีหิ สทฺธึ วิจรนฺติ, ตาสํ ปุตฺเต ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. สเจ สยเมว ปณฺณํ ¶ อาโรเปนฺติ, น วฏฺฏติ. ภฏิปุตฺตกคณาทีนํ ทาสาปิ เตหิ อทินฺนา น ปพฺพาเชตพฺพา. วิหาเรสุ ราชูหิ อารามิกทาสา นาม ทินฺนา โหนฺติ, เตปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. ภุชิสฺเส ปน กตฺวา ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ‘‘อนฺโตชาตธนกฺกีตเก อาเนตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส อารามิเก เทมาติ เทนฺติ, ตกฺกํ สีเส อาสิตฺตกสทิสาว โหนฺติ, เต ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘อารามิกํ เทมาติ กปฺปิยโวหาเรน เทนฺติ, เยน เกนจิ โวหาเรน ทินฺโน โหตุ, เนว ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ทุคฺคตมนุสฺสา สงฺฆํ นิสฺสาย ชีวิสฺสามาติ วิหาเร กปฺปิยการกา โหนฺติ, เอเตปิ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. ยสฺส มาตาปิตโร ทาสา, มาตา เอว วา ทาสี, ปิตา อทาโส, ตํ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. ยสฺส ปน มาตา อทาสี, ปิตา ทาโส, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุสฺส าตกา วา อุปฏฺากา วา ทาสํ เทนฺติ ‘‘อิมํ ปพฺพาเชถ, ตุมฺหากํ เวยฺยาวจฺจํ กริสฺสตี’’ติ อตฺตโนวาสฺส ทาโส อตฺถิ, ภุชิสฺโส กโตว ปพฺพาเชตพฺโพ. สามิกา ทาสํ เทนฺติ ‘‘อิมํ ปพฺพาเชถ, สเจ อภิรมิสฺสติ, อทาโส วิพฺภมิสฺสติ เจ, อมฺหากํ ทาโสว ภวิสฺสตีติ อยํ ตาวกาลิโก นาม, ตํ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏตี’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. นิสฺสามิกทาโส โหติ, โสปิ ภุชิสฺโส กโตว ปพฺพาเชตพฺโพ. อชานนฺโต ปพฺพาเชตฺวา วา อุปสมฺปาเทตฺวา วา ปจฺฉา ชานาติ, ภุชิสฺสํ กาตุเมว วฏฺฏติ.
อิมสฺส จ อตฺถสฺส ปกาสนตฺถํ อิทํ วตฺถุํ วทนฺติ – เอกา กิร กุลทาสี เอเกน สทฺธึ อนุราธปุรา ปลายิตฺวา โรหเณ วสมานา ¶ ปุตฺตํ ปฏิลภิ, โส ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปนฺนกาเล ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก อโหสิ. อเถกทิวสํ มาตรํ ปุจฺฉิ – ‘‘กึ อุปาสิเก ตุมฺหากํ ภาตา วา ภคินี วา นตฺถิ, น กฺจิ าตกํ ปสฺสามี’’ติ. ‘‘ตาต, อหํ อนุราธปุเร กุลทาสี, ตว ปิตรา สทฺธึ ปลายิตฺวา อิธ วสามี’’ติ. สีลวา ภิกฺขุ ‘‘อสุทฺธา กิร เม ปพฺพชฺชา’’ติ สํเวคํ ลภิตฺวา มาตรํ ตสฺส กุลสฺส นามโคตฺตํ ปุจฺฉิตฺวา อนุราธปุรํ อาคมฺม ตสฺส กุลสฺส ฆรทฺวาเร อฏฺาสิ. ‘‘อติจฺฉถ ภนฺเต’’ติ วุตฺเตปิ นาติกฺกมิ, เต อาคนฺตฺวา ‘‘กึ ภนฺเต’’ติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘ตุมฺหากํ อิตฺถนฺนามา ทาสี ปลาตา อตฺถี’’ติ? อตฺถิ ภนฺเต. อหํ ตสฺสา ปุตฺโต, สเจ มํ ตุมฺเห อนุชานาถ, ปพฺพชฺชํ ลภามิ, ตุมฺเห มยฺหํ สามิกาติ ¶ . เต หฏฺตุฏฺา หุตฺวา ‘‘สุทฺธา ภนฺเต ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชา’’ติ ตํ ภุชิสฺสํ กตฺวา มหาวิหาเร วสาเปสุํ จตูหิ ปจฺจเยหิ ปฏิชคฺคนฺตา. เถโร ตํ กุลํ นิสฺสาย วสมาโนเยว อรหตฺตํ ปาปุณีติ.
ทาสวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
กมฺมารภณฺฑุวตฺถาทิกถา
๙๘-๙. กมฺมารภณฺฑูติ ¶ ตุลาธารมุณฺฑโก สุวณฺณการปุตฺโต, ปฺจสิโข ตรุณทารโกติ วุตฺตํ โหติ. สงฺฆํ อปโลเกตุํ ภณฺฑุกมฺมายาติ สงฺฆํ ภณฺฑุกมฺมตฺถาย อาปุจฺฉิตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. ตตฺรายํ อาปุจฺฉนวิธิ – สีมาปริยาปนฺเน ภิกฺขู สนฺนิปาเตตฺวา ปพฺพชฺชาเปกฺขํ ตตฺถ เนตฺวา ‘‘สงฺฆํ ภนฺเต อิมสฺส ทารกสฺส ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา สกึ วา วตฺตพฺพํ. เอตฺถ จ ‘‘อิมสฺส ทารกสฺส ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉามี’’ติปิ ‘‘อิมสฺส สมณกรณํ อาปุจฺฉามี’’ติปิ ‘‘อิมสฺส ปพฺพาชนํ อาปุจฺฉามี’’ติปิ ‘‘อยํ สมโณ โหตุกาโม’’ติปิ ‘‘อยํ ปพฺพชิตุกาโม’’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติเยว.
สเจ สภาคฏฺานํ โหติ, ทส วา วีสํ วา ตึสํ วา ภิกฺขู วสนฺตีติ ปริจฺเฉโท ปฺายติ, เตสํ ิโตกาสํ วา นิสินฺโนกาสํ วา คนฺตฺวาปิ ปุริมนเยเนว อาปุจฺฉิตพฺพํ. ปพฺพชฺชาเปกฺขํ วินาว ทหรภิกฺขู วา สามเณเร วา เปเสตฺวาปิ ‘‘เอโก ภนฺเต ปพฺพชฺชาเปกฺโข อตฺถิ ตสฺส ภณฺฑุกมฺมํ ¶ อาปุจฺฉามา’’ติอาทินา นเยน อาปุจฺฉาเปตุํ วฏฺฏติ.
สเจ เกจิ ภิกฺขู เสนาสนํ วา คุมฺพาทีนิ วา ปวิสิตฺวา นิทฺทายนฺติ วา สมณธมฺมํ วา กโรนฺติ, อาปุจฺฉกา จ ปริเยสนฺตาปิ อทิสฺวา ‘‘สพฺเพ อาปุจฺฉิตา อมฺเหหี’’ติ สฺิโน โหนฺติ, ปพฺพชฺชา นาม ลหุกํ กมฺมํ, ตสฺมา ปพฺพชิโต สุปพฺพชิโตว ปพฺพาเชนฺตสฺสาปิ อนาปตฺติ.
สเจ ปน มหาวิหาโร โหติ อเนกภิกฺขุสหสฺสาวาโส, สพฺเพ ภิกฺขู สนฺนิปาเตตุมฺปิ ทุกฺกรํ, ปเคว ปฏิปาฏิยา อาปุจฺฉิตุํ, ขณฺฑสีมายํ วา ตฺวา นทีสมุทฺทาทีนิ วา คนฺตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปน นวมุณฺโฑ วา โหติ วิพฺภนฺตโก วา นิคณฺาทีสุ อฺตโร วา ทฺวงฺคุลเกโส ¶ วา อูนทฺวงฺคุลเกโส วา, ตสฺส เกสจฺเฉทนกิจฺจํ นตฺถิ, ตสฺมา ภณฺฑุกมฺมํ อนาปุจฺฉิตฺวาปิ ตาทิสํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. ทฺวงฺคุลาติริตฺตเกโส ปน โย โหติ อนฺตมโส เอกสิขามตฺตธโรปิ, โส ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตพฺโพ. อุปาลิวตฺถุ มหาวิภงฺเค วุตฺตนยเมว.
๑๐๐. อหิวาตกโรเคนาติ มาริพฺยาธินา; ยตฺร หิ โส โรโค อุปฺปชฺชติ, ตํ กุลํ ทฺวิปทจตุปฺปทํ สพฺพํ นสฺสติ, โย ภิตฺตึ วา ฉทนํ วา ภินฺทิตฺวา ปลายติ, ติโรคามาทิคโต ¶ วา โหติ, โส มุจฺจติ. ตถา เจตฺถ ปิตาปุตฺตา มุจฺจึสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปิตาปุตฺตกา เสสา โหนฺตี’’ติ.
กากุฑฺเฑปกนฺติ โย วามหตฺเถน เลฑฺฑุํ คเหตฺวา นิสินฺโน สกฺโกติ อาคตาคเต กาเก อุฑฺฑาเปตฺวา ปุรโต นิกฺขิตฺตํ ภตฺตํ ภฺุชิตุํ, อยํ กากุฑฺเฑปโก นาม, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.
๑๐๒. อิตฺตโรติ อปฺปมตฺตโก; กติปาหเมว วาโส ภวิสฺสตีติ อตฺโถ.
๑๐๓. โอคเณนาติ ปริหีนคเณน; อปฺปมตฺตเกน ภิกฺขุสงฺเฆนาติ อตฺโถ. อพฺยตฺเตน ยาวชีวนฺติ เอตฺถ สจายํ วุฑฺฒตรํ อาจริยํ น ลภติ, อุปสมฺปทาย สฏฺิวสฺโส วา สตฺตติวสฺโส วา โหตุ, นวกตรสฺสาปิ พฺยตฺตสฺส สนฺติเก อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อาจริโย เม อาวุโส โหหิ, อายสฺมโต นิสฺสาย วจฺฉามี’’ติ เอวํ ติกฺขตฺตุํ วตฺวา นิสฺสโย คเหตพฺโพว. คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉนฺเตนาปิ อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉามิ อาจริยา’’ติ วตฺตพฺพํ. เอส นโย สพฺพอาปุจฺฉเนสุ. ปฺจกฉกฺเกสุ เจตฺถ ยตฺตกํ สุตํ นิสฺสยมุตฺตกสฺส ¶ อิจฺฉิตพฺพํ, ตํ ภิกฺขุโนวาทกวณฺณนายํ วุตฺตํ. ตสฺส นตฺถิตาย จ อปฺปสฺสุโต; อตฺถิตาย จ พหุสฺสุโตติ เวทิตพฺโพ. เสสํ วุตฺตนเยเนว.
กมฺมารภณฺฑุวตฺถาทิกถา นิฏฺิตา.
ราหุลวตฺถุกถา
๑๐๕. เยน ¶ กปิลวตฺถุ เตน จาริกํ ปกฺกามีติ เอตฺถ อยํ อนุปุพฺพิกถา. สุทฺโธทนมหาราชา กิร โพธิสตฺตสฺส อภินิกฺขมนทิวสโต ปฏฺาย ‘‘มม ปุตฺโต พุทฺโธ ภวิสฺสามีติ นิกฺขนฺโต, ชาโต นุ โข พุทฺโธ’’ติ ปวตฺติสวนตฺถํ โอหิตโสโตว วิหรติ. โส ภควโต ปธานจริยฺจ สมฺโพธิฺจ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนาทีนิ จ สุณนฺโต ‘‘อิทานิ กิร เม ปุตฺโต ราชคหํ อุปนิสฺสาย วิหรตี’’ติ สุตฺวา เอกํ อมจฺจํ อาณาเปสิ – ‘‘อหํ ตาต วุฑฺโฒ มหลฺลโก, สาธุ เม ชีวนฺตสฺเสว ปุตฺตํ ทสฺเสหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา ปุริสสหสฺสปริวาโร ราชคหํ คนฺตฺวา ภควโต ปาเท วนฺทิตฺวา นิสีทิ. อถสฺส ภควา ธมฺมกถํ กเถสิ, โส ปสีทิตฺวา ปพฺพชฺชฺเจว อุปสมฺปทฺจ ยาจิ. ตโต นํ ภควา เอหิภิกฺขูปสมฺปทาย อุปสมฺปาเทสิ ¶ , โส สปริโส อรหตฺตํ ปตฺวา ตตฺเถว ผลสมาปตฺติสุขํ อนุภวมาโน วิหาสิ. ราชา เตเนว อุปาเยน อปเรปิ อฏฺ ทูเต ปหิณิ, เตปิ สพฺเพ สปริสา ตเถว อรหตฺตํ ปตฺวา ตตฺเถว วิหรึสุ. ‘‘อิมินา นาม การเณน เต นาคจฺฉนฺตี’’ติ รฺโ โกจิ ปวตฺติมตฺตมฺปิ อาโรเจนฺโต นตฺถิ.
อถ ราชา โพธิสตฺเตน สทฺธึ เอกทิวสํชาตํ กาฬุทายึ นาม อมจฺจํ ปหิณิตุกาโม ปุริมนเยเนว ยาจิ, โส ‘‘สเจ อหํ ปพฺพชิตุํ ลภามิ, ทสฺเสสฺสามี’’ติ อาห. ตํ ราชา ‘‘ปพฺพชิตฺวาปิ เม ปุตฺตํ ทสฺเสหี’’ติ ปหิณิ; โสปิ ปุริสสหสฺสปริวาโร คนฺตฺวา ตเถว สปริวาโร อรหตฺตํ ปาปุณิ. โส เอกทิวสํ สมฺภเตสุ สพฺพสสฺเสสุ วิสฺสฏฺกมฺมนฺเตสุ ชนปทมนุสฺเสสุ ปุปฺผิเตสุ ถลชชลชปุปฺเผสุ ปฏิปชฺชนกฺขเม มคฺเค ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา สฏฺิมตฺตาหิ คาถาหิ คมนวณฺณํ วณฺเณสิ. ภควา ‘‘กิเมต’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘ภนฺเต ตุมฺหากํ ปิตา สุทฺโธทนมหาราชา มหลฺลโกมฺหิ, ชีวนฺตสฺเสว เม ปุตฺตํ ทสฺเสหี’’ติ มํ เปเสสิ, สาธุ ภนฺเต ภควา าตกานํ สงฺคหํ กโรตุ, กาโล จาริกํ ปกฺกมิตุนฺติ. เตน หิ ¶ สงฺฆสฺส อาโรเจหิ, ‘‘ภิกฺขู คมิยวตฺตํ ปูเรสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘สาธุ ภนฺเต’’ติ เถโร ตถา อกาสิ. ภควา องฺคมคธวาสีนํ กุลปุตฺตานํ ทสหิ สหสฺเสหิ กปิลวตฺถุวาสีนํ ทสหีติ สพฺเพเหว วีสติสหสฺเสหิ ¶ ขีณาสเวหิ ปริวุโต ราชคหา นิกฺขมิตฺวา ราชคหโต สฏฺิโยชนิกํ กปิลวตฺถุํ ทิวเส ทิวเส โยชนํ คจฺฉนฺโต ทฺวีหิ มาเสหิ ปาปุณิสฺสามีติ อตุริตจาริกํ ปกฺกามิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เยน กปิลวตฺถุ เตน จาริกํ ปกฺกามี’’ติ.
เอวํ ปกฺกนฺเต จ ภควติ อุทายิตฺเถโร นิกฺขนฺตทิวสโต ปฏฺาย สุทฺโธทนมหาราชสฺส เคเห ภตฺตกิจฺจํ กโรติ. ราชา เถรํ ปริวิสิตฺวา ปตฺตํ คนฺธจุณฺเณน อุพฺพฏฺเฏตฺวา อุตฺตมโภชนสฺส ปูเรตฺวา ‘‘ภควโต เทหี’’ติ เถรสฺส หตฺเถ เปติ. เถโรปิ ตเถว กโรติ. อิติ ภควา อนฺตรามคฺเค รฺโเยว ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิ. เถโรปิ จ ภตฺตกิจฺจาวสาเน ทิวเส ทิวเส รฺโ อาโรเจติ ‘‘อชฺช ภควา เอตฺตกํ อาคโต’’ติ, พุทฺธคุณปฏิสํยุตฺตาย จ กถาย สากิยานํ ภควติ สทฺธํ อุปฺปาเทสิ. เตเนว นํ ภควา ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ กุลปฺปสาทกานํ ยทิทํ กาฬุทายี’’ติ เอตทคฺเค เปสิ.
สากิยาปิ โข อนุปฺปตฺเต ภควติ ‘‘อมฺหากํ าติเสฏฺํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ สนฺนิปติตฺวา ภควโต วสนฏฺานํ วีมํสมานา นิคฺโรธสกฺกสฺส อาราโม รมณีโยติ สลฺลกฺเขตฺวา ตตฺถ สพฺพํ ปฏิชคฺคนวิธึ กาเรตฺวา คนฺธปุปฺผาทิหตฺถา ปจฺจุคฺคมนํ กโรนฺตา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิเต ทหรทหเร ¶ นาคริกทารเก จ ทาริกาโย จ ปมํ ปหิณึสุ, ตโต ราชกุมาเร จ ราชกุมาริกาโย จ เตสํ อนนฺตรา สามํ คนฺตฺวา คนฺธปุปฺผจุณฺณาทีหิ ปูชยมานา ภควนฺตํ คเหตฺวา นิคฺโรธารามเมว อคมํสุ. ตตฺร ภควา วีสติสหสฺสขีณาสวปริวุโต ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสีทิ. สากิยา มานชาติกา มานถทฺธา, เต ‘‘สิทฺธตฺถกุมาโร อมฺเหหิ ทหรตโรว อมฺหากํ กนิฏฺโ, ภาคิเนยฺโย, ปุตฺโต, นตฺตา’’ติ จินฺเตตฺวา ทหรทหเร ราชกุมาเร อาหํสุ ¶ – ‘‘ตุมฺเห วนฺทถ, มยํ ตุมฺหากํ ปิฏฺิโต นิสีทิสฺสามา’’ติ.
เตสุ เอวํ นิสินฺเนสุ ภควา เตสํ อชฺฌาสยํ โอโลเกตฺวา ‘‘น มํ าตี วนฺทนฺติ, หนฺท เน วนฺทาปยิสฺสามี’’ติ อภิฺาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อิทฺธิยา อากาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา เตสํ สีเส ปาทปํสุํ โอกิรมาโน ¶ วิย กณฺฑมฺพมูเล ยมกปาฏิหาริยสทิสํ ปาฏิหาริยมกาสิ. ราชา ตํ อจฺฉริยํ ทิสฺวา อาห – ‘‘ภควา ตุมฺหากํ มงฺคลทิวเส พฺราหฺมณสฺส วนฺทนตฺถํ อุปนีตานํ ปาเท โว ปริวตฺติตฺวา พฺราหฺมณสฺส มตฺถเก ปติฏฺิเต ทิสฺวาปิ อหํ ตุมฺเห วนฺทึ, อยํ เม ปมวนฺทนา. วปฺปมงฺคลทิวเส ชมฺพุจฺฉายาย สิริสยเน นิปนฺนานํ โว ชมฺพุจฺฉายาย อปริวตฺตนํ ทิสฺวาปิ ปาเท วนฺทึ, อยํ เม ทุติยวนฺทนา. อิทานิ อิมํ อทิฏฺปุพฺพํ ปาฏิหาริยํ ทิสฺวาปิ ตุมฺหากํ ปาเท วนฺทามิ, อยํ เม ตติยวนฺทนา’’ติ.
สุทฺโธทนมหาราเชน ปน วนฺทิเต ภควติ อวนฺทิตฺวา ิโต นาม เอกสากิโยปิ นาโหสิ, สพฺเพเยว วนฺทึสุ. อิติ ภควา าตโย วนฺทาเปตฺวา อากาสโต โอรุยฺห ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสินฺเน ภควติ สิขาปฺปตฺโต าติสมาคโม อโหสิ, สพฺเพ เอกคฺคา สนฺนิปตึสุ. ตโต มหาเมโฆ โปกฺขรวสฺสํ วสฺสิ, ตมฺพวณฺณมุทกํ เหฏฺา วิรวนฺตํ คจฺฉติ. กสฺสจิ สรีเร เอกพินฺทุมตฺตมฺปิ น ปตติ, ตํ ทิสฺวา สพฺเพ อจฺฉริยพฺภุตชาตา อเหสุํ. ภควา ‘‘น อิทาเนว มยฺหํ าติสมาคเม โปกฺขรวสฺสํ วสฺสติ, อตีเตปิ วสฺสี’’ติ อิมิสฺสา อฏฺุปฺปตฺติยา เวสฺสนฺตรชาตกํ กเถสิ. ธมฺมเทสนํ สุตฺวา สพฺเพ อุฏฺาย วนฺทิตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมึสุ. เอโกปิ ราชา วา ราชมหามตฺโต วา ‘‘สฺเว อมฺหากํ ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา คโต นาม นตฺถิ.
ภควา ทุติยทิวเส วีสติภิกฺขุสหสฺสปริวาโร กปิลวตฺถุํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ, น โกจิ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา นิมนฺเตสิ วา ปตฺตํ วา อคฺคเหสิ. ภควา อินฺทขีเล ิโต อาวชฺเชสิ – ‘‘กถํ นุ โข ปุพฺเพ พุทฺธา กุลนคเร ¶ ปิณฺฑาย จรึสุ, กึ อุปฺปฏิปาฏิยา อิสฺสรชนานํ ¶ ฆรานิ อคมํสุ, อุทาหุ สปทานจาริกํ จรึสู’’ติ. ตโต เอกพุทฺธสฺสปิ อุปฺปฏิปาฏิยา คมนํ อทิสฺวา ‘‘มยาปิ อิทานิ อยเมว วํโส อยํ ปเวณี ปคฺคเหตพฺพา, อายติฺจ เม สาวกาปิ มเมว อนุสิกฺขนฺตา ปิณฺฑจาริยวตฺตํ ปูเรสฺสนฺตี’’ติ โกฏิยํ นิวิฏฺเคหโต ปฏฺาย สปทานํ ปิณฺฑาย จรติ. ‘‘อยฺโย กิร สิทฺธตฺถกุมาโร ปิณฺฑาย จรตี’’ติ จตุภูมกาทีสุ ปาสาเทสุ สีหปฺชรํ วิวริตฺวา มหาชโน ทสฺสนพฺยาวโฏ อโหสิ. ราหุลมาตาปิ เทวี ‘‘อยฺยปุตฺโต กิร อิมสฺมึเยว นคเร มหตา ราชานุภาเวน ¶ สุวณฺณสิวิกาทีหิ วิจริตฺวา อิทานิ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายวตฺถวสโน กปาลหตฺโถ ปิณฺฑาย จรติ, ‘‘โสภติ นุ โข โน วา’’ติ สีหปฺชรํ วิวริตฺวา โอโลกยมานา ภควนฺตํ นานาวิราคสมุชฺชลาย สรีรปฺปภาย นครวีถิโย โอภาเสตฺวา พุทฺธสิริยา วิโรจมานํ ทิสฺวา อุณฺหีสโต ปฏฺาย ยาว ปาทตลา นรสีหคาถาหิ นาม อฏฺหิ คาถาหิ อภิตฺถวิตฺวา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ ปุตฺโต ปิณฺฑาย จรตี’’ติ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา สํวิคฺคหทโย หตฺเถน สาฏกํ สณฺาปยมาโน ตุริตตุริตํ นิกฺขมิตฺวา เวเคน คนฺตฺวา ภควโต ปุรโต ตฺวา อาห – ‘‘กึ ภนฺเต อมฺเห ลชฺชาเปถ, กิมตฺถํ ปิณฺฑาย จรถ, กึ เอตฺตกานํ ภิกฺขูนํ น สกฺกา ภตฺตํ ลทฺธุนฺติ เอวํสฺิโน อหุวตฺถา’’ติ. วํสจาริตฺตเมตํ มหาราช อมฺหากนฺติ. นนุ ภนฺเต อมฺหากํ มหาสมฺมตขตฺติยวํโส นาม วํโส, ตตฺถ จ เอกขตฺติโยปิ ภิกฺขาจาโร นาม นตฺถีติ. อยํ มหาราช วํโส นาม ตว วํโส, อมฺหากํ ปน พุทฺธวํโส วํโส นาม, สพฺพพุทฺธา จ ปิณฺฑจาริกา อเหสุนฺติ อนฺตรวีถิยํ ิโตว –
‘‘อุตฺติฏฺเ นปฺปมชฺเชยฺย, ธมฺมํ สุจริตํ จเร;
ธมฺมจารี สุขํ เสติ, อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จา’’ติ.
อิมํ ¶ คาถมาห. คาถาปริโยสาเน ราชา โสตาปตฺติผลํ สจฺฉากาสิ.
‘‘ธมฺมํ จเร สุจริตํ, น นํ ทุจฺจริตํ จเร;
ธมฺมจารี สุขํ เสติ, อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จา’’ติ.
อิมํ ปน คาถํ สุตฺวา สกทาคามิผเล ปติฏฺาสิ, ธมฺมปาลชาตกํ สุตฺวา อนาคามิผเล ปติฏฺาสิ, มรณสมเย เสตจฺฉตฺตสฺส เหฏฺา สิริสยเน นิปนฺโนเยว อรหตฺตํ ปาปุณิ. อรฺวาเสน ปธานานุโยคกิจฺจํ รฺโ นาโหสิ.
โสตาปตฺติผลฺจ ¶ สจฺฉิกตฺวา เอว ปน ภควโต ปตฺตํ คเหตฺวา สปริสํ ภควนฺตํ มหาปาสาทํ อาโรเปตฺวา ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน ปริวิสิ. ภตฺตกิจฺจาวสาเน สพฺพํ อิตฺถาคารํ อาคนฺตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิ เปตฺวา ราหุลมาตรํ. สา ปน ‘‘คจฺฉ อยฺยปุตฺตํ วนฺทาหี’’ติ ปริชเนน วุจฺจมานาปิ ‘‘สเจ มยฺหํ คุโณ อตฺถิ, สยเมว อยฺยปุตฺโต อาคมิสฺสติ ¶ , อาคตํ นํ วนฺทิสฺสามี’’ติ วตฺวา น อคมาสิ. อถ ภควา ราชานํ ปตฺตํ คาหาเปตฺวา ทฺวีหิ อคฺคสาวเกหิ สทฺธึ ราชธีตาย สิริคพฺภํ คนฺตฺวา ‘‘ราชธีตา ยถารุจิยา วนฺทมานา น กิฺจิ วตฺตพฺพา’’ติ วตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. สา เวเคน อาคนฺตฺวา โคปฺผเกสุ คเหตฺวา ปาทปิฏฺิยํ สีสํ ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา ยถาชฺฌาสยํ วนฺทิ.
ราชา ราชธีตาย ภควติ สิเนหพหุมานาทิคุณสมฺปตฺตึ กเถสิ. ภควา ‘‘อนจฺฉริยํ มหาราช ยํ อิทานิ ปริปกฺเก าเณ ตยา รกฺขิยมานา ราชธีตา อตฺตานํ รกฺขิ, สา ปุพฺเพ อนารกฺขา ปพฺพตปาเท วิจรมานา อปริปกฺเก าเณ อตฺตานํ รกฺขี’’ติ วตฺวา จนฺทกินฺนรีชาตกํ กเถสิ.
ตํทิวสเมว จ นนฺทราชกุมารสฺส เกสวิสฺสชฺชนํ ปฏฺฏพนฺโธ ฆรมงฺคลํ อาวาหมงฺคลํ ฉตฺตมงฺคลนฺติ ปฺจ มหามงฺคลานิ โหนฺติ. ภควา นนฺทํ ปตฺตํ คาหาเปตฺวา มงฺคลํ วตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. ชนปทกลฺยาณี กุมารํ คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘ตุวฏํ โข อยฺยปุตฺต อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ วตฺวา คีวํ ปสาเรตฺวา โอโลเกสิ. โสปิ ภควนฺตํ ‘‘ปตฺตํ คณฺหถา’’ติ ¶ วตฺตุํ อวิสหมาโน วิหารํเยว อคมาสิ. ตํ อนิจฺฉมานํเยว ภควา ปพฺพาเชสิ. อิติ ภควา กปิลปุรํ อาคนฺตฺวา ทุติยทิวเส นนฺทํ ปพฺพาเชสิ.
สตฺตเม ทิวเส ราหุลมาตา กุมารํ อลงฺกริตฺวา ภควโต สนฺติกํ เปเสสิ – ‘‘ปสฺส ตาต เอตํ วีสติสหสฺสสมณปริวุตํ สุวณฺณวณฺณํ พฺรหฺมรูปวณฺณํ สมณํ, อยํ เต ปิตา, เอตสฺส มหนฺตา นิธโย อเหสุํ, ตฺยสฺส นิกฺขมนโต ปฏฺาย น ปสฺสาม, คจฺฉ นํ ทายชฺชํ ยาจ, อหํ ตาต กุมาโร ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา จกฺกวตฺตี ภวิสฺสามิ, ธเนน เม อตฺโถ, ธนํ เม เทหิ, สามิโก หิ ปุตฺโต ปิตุสนฺตกสฺสา’’ติ. ราหุลกุมาโร ภควโต สนฺติกํ คนฺตฺวาว ปิตุสิเนหํ ปฏิลภิตฺวา หฏฺจิตฺโต ‘‘สุขา เต สมณ ฉายา’’ติ วตฺวา อฺมฺปิ พหุํ อตฺตโน อนุรูปํ วทนฺโต อฏฺาสิ. ภควา กตภตฺตกิจฺโจ อนุโมทนํ กตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. กุมาโรปิ ‘‘ทายชฺชํ เม สมณ เทหิ, ทายชฺชํ เม สมณ เทหี’’ติ ภควนฺตํ อนุพนฺธิ. เตน วุตฺตํ ¶ – ‘‘อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน กปิลวตฺถุ…เป… ทายชฺชํ เม สมณ เทหี’’ติ.
อถ ¶ โข ภควา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามนฺเตสีติ ภควา กุมารํ น นิวตฺตาเปสิ, ปริชโนปิ ภควตา สทฺธึ คจฺฉนฺตํ นิวตฺเตตุํ น วิสหติ. อถ อารามํ คนฺตฺวา ‘‘ยํ อยํ ปิตุสนฺตกํ ธนํ อิจฺฉติ, ตํ วฏฺฏานุคตํ สวิฆาตกํ, หนฺทสฺส โพธิมณฺเฑ ปฏิลทฺธํ สตฺตวิธํ อริยธนํ เทมิ, โลกุตฺตรทายชฺชสฺส นํ สามิกํ กโรมี’’ติ อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามนฺเตสิ. อามนฺเตตฺวา จ ปนาห – ‘‘เตน หิ ตฺวํ สาริปุตฺต ราหุลกุมารํ ปพฺพาเชหี’’ติ. ยสฺมา อยํ ทายชฺชํ ยาจติ, ตสฺมา นํ โลกุตฺตรทายชฺชปฏิลาภาย ปพฺพาเชหีติ อตฺโถ.
อิทานิ ยา สา ภควตา พาราณสิยํ ตีหิ สรณคมเนหิ ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ อนฺุาตา, ตโต ยสฺมา อุปสมฺปทํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ครุภาเว เปตฺวา ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน อุปสมฺปทา อนฺุาตา, ปพฺพชฺชา ปน เนว ปฏิกฺขิตฺตา, น ปุน อนฺุาตา, ตสฺมา อนาคเต ภิกฺขูนํ วิมติ อุปฺปชฺชิสฺสติ – ‘‘อยํ ปพฺพชฺชา นาม ปุพฺเพ อุปสมฺปทาสทิสา, กึ นุ โข อิทานิปิ อุปสมฺปทา วิย กมฺมวาจาย ¶ เอว กตฺตพฺพา, อุทาหุ สรณคมเนหี’’ติ. อิมฺจ ปนตฺถํ วิทิตฺวา ภควา ปุน ตีหิ สรณคมเนหิ สามเณรปพฺพชฺชํ อนุชานิตุกาโม, ตสฺมา ธมฺมเสนาปติ ตํ ภควโต อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา ภควนฺตํ ปุน ปพฺพชฺชํ อนุชานาเปตุกาโม อาห – ‘‘กถาหํ ภนฺเต ราหุลกุมารํ ปพฺพาเชมี’’ติ.
อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ราหุลกุมารํ ปพฺพาเชสีติ กุมารสฺส มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร เกเส ฉินฺทิตฺวา กาสายานิ ทตฺวา สรณานิ อทาสิ. มหากสฺสปตฺเถโร โอวาทาจริโย อโหสิ. ยสฺมา ปน อุปชฺฌายมูลกา ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ, อุปชฺฌาโยว ตตฺถ อิสฺสโร, น อาจริโย, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ราหุลกุมารํ ปพฺพาเชสี’’ติ.
เอวํ ‘‘กุมาโร ปพฺพชิโต’’ติ สุตฺวา อุปฺปนฺนสํเวเคน หทเยน อถ โข สุทฺโธทโน สกฺโกติ สพฺพํ วตฺตพฺพํ. ตตฺถ ยสฺมา อฺุฉาจริยาย ชีวโต ปพฺพชิตสฺส อวิเสเสน ‘‘วรํ ยาจามี’’ติ วุตฺเต ‘‘ยาจสฺสู’’ติ วจนํ อปฺปติรูปํ, น จ พุทฺธานํ อาจิณฺณํ, ตสฺมา ‘‘อติกฺกนฺตวรา โข โคตม ตถาคตา’’ติ วุตฺตํ. ยฺจ ภนฺเต กปฺปติ ยฺจ อนวชฺชนฺติ ยํ ตุมฺหากฺเจว ทาตุํ กปฺปติ, อนวชฺชฺจ โหติ, มม จ สมฺปฏิจฺฉนปจฺจยา วิฺูหิ น ครหิตพฺพํ ¶ , ตํ ยาจามีติ อตฺโถ. ตถา นนฺเท อธิมตฺตํ ราหุเลติ ¶ ยเถว กิร โพธิสตฺตํ เอวํ นนฺทมฺปิ ราหุลมฺปิ มงฺคลทิวเส เนมิตฺตกา ‘‘จกฺกวตฺตี ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากรึสุ. อถ ราชา ‘‘ปุตฺตสฺส จกฺกวตฺติสิรึ ปสฺสิสฺสามี’’ติ อุสฺสาหชาโต ภควโต ปพฺพชฺชาย มหนฺตํ อิจฺฉาวิฆาตํ ปาปุณิ. ตโต ‘‘นนฺทสฺส จกฺกวตฺติสิรึ ปสฺสิสฺสามี’’ติ อุสฺสาหํ ชเนสิ, ตมฺปิ ภควา ปพฺพาเชสิ. อิติ ตมฺปิ ทุกฺขํ อธิวาเสตฺวา ‘‘อิทานิ ราหุลสฺส จกฺกวตฺติสิรึ ปสฺสิสฺสามี’’ติ อุสฺสาหํ ชเนสิ, ตมฺปิ ภควา ปพฺพาเชสิ. เตนสฺส ‘‘อิทานิ กุลวํโสปิ ปจฺฉินฺโน, กุโต จกฺกวตฺติสิรี’’ติ อธิกตรํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตถา นนฺเท อธิมตฺตํ ราหุเล’’ติ. รฺโ ปน อิโต ปจฺฉา อนาคามิผลปฺปตฺติ เวทิตพฺพา.
สาธุ ภนฺเต อยฺยาติ อิทํ กสฺมา อาห? โส กิร จินฺเตสิ – ‘‘ยตฺร หิ นาม อหมฺปิ พุทฺธมามโก ธมฺมมามโก สงฺฆมามโก สมาโน อตฺตโน ปิยตรปุตฺเต ปพฺพาชิยมาเน าติวิโยคทุกฺขํ อธิวาเสตุํ น ¶ สกฺโกมิ, อฺเ ชนา ปุตฺตนตฺตเกสุ ปพฺพาชิเตสุ กถํ อธิวาเสสฺสนฺติ, ตสฺมา อฺเสมฺปิ ตาว เอวรูปํ ทุกฺขํ มา อโหสี’’ติ อาห. ภควา ‘‘สาสเน นิยฺยานิกการณํ ราชา วทตี’’ติ ธมฺมกถํ กตฺวา ‘‘น ภิกฺขเว อนนฺุาโต มาตาปิตูหิ ปุตฺโต ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ สิกฺขาปทํ ปฺเปสิ.
ตตฺถ มาตาปิตูหีติ ชนนิชนเก สนฺธาย วุตฺตํ. สเจ ทฺเว อตฺถิ, ทฺเวปิ อาปุจฺฉิตพฺพา. สเจ ปิตา มโต มาตา วา, โย ชีวติ โส อาปุจฺฉิตพฺโพ. ปพฺพชิตาปิ อาปุจฺฉิตพฺพาว. อาปุจฺฉนฺเตน สยํ วา คนฺตฺวา อาปุจฺฉิตพฺพํ, อฺโ วา เปเสตพฺโพ, โส เอว วา เปเสตพฺโพ ‘‘คจฺฉ มาตาปิตโร อาปุจฺฉิตฺวา เอหี’’ติ. สเจ ‘‘อนฺุาโตมฺหี’’ติ วทติ, สทฺทหนฺเตน ปพฺพาเชตพฺโพ. ปิตา สยํ ปพฺพชิโต ปุตฺตมฺปิ ปพฺพาเชตุกาโม โหติ, มาตรํ อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตุ. มาตา วา ธีตรํ ปพฺพาเชตุกามา, ปิตรํ อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตุ. ปิตา ปุตฺตทาเรน อนตฺถิโก ปลายิ, มาตา ‘‘อิมํ ปพฺพาเชถา’’ติ ปุตฺตํ ภิกฺขูนํ เทติ, ‘‘ปิตาสฺส กุหิ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘จิตฺตเกฬิยํ กีฬิตุํ ปลาโต’’ติ วทติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. มาตา เกนจิ ปุริเสน สทฺธึ ปลาตา โหติ, ปิตา ปน ‘‘ปพฺพาเชถา’’ติ เทติ, เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปิตา วิปฺปวุตฺโถ โหติ, มาตา ปุตฺตํ ‘‘ปพฺพาเชถา’’ติ อนุชานาติ, ‘‘ปิตา ¶ ตสฺส กุหิ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘กึ ตุมฺหากํ ปิตรา, อหํ ชานิสฺสามี’’ติ วทติ, ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ.
มาตาปิตโร มตา, ทารโก จูฬมาตาทีนํ สนฺติเก สํวทฺโธ, ตสฺมึ ปพฺพาชิยมาเน าตกา ¶ กลหํ วา กโรนฺติ, ขิยฺยนฺติ วา, ตสฺมา วิวาทุปจฺเฉทนตฺถํ อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตพฺโพ. อนาปุจฺฉา ปพฺพาเชนฺตสฺส ปน อาปตฺติ นตฺถิ. ทหรกาเล คเหตฺวา โปสนกา มาตาปิตโร นาม โหนฺติ, เตสุปิ เอเสว นโย. ปุตฺโต อตฺตานํ นิสฺสาย ชีวติ, น มาตาปิตโร. สเจปิ ราชา โหติ, อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตพฺโพ. มาตาปิตูหิ อนฺุาโต ปพฺพชิตฺวา ปุน วิพฺภมติ, สเจปิ สตกฺขตฺตุํ ปพฺพชิตฺวา วิพฺภมติ, อาคตาคตกาเล ปุนปฺปุนํ อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ เอวํ วทนฺติ – ‘‘อยํ วิพฺภมิตฺวา เคหํ อาคโต อมฺหากํ กมฺมํ น กโรติ, ปพฺพชิตฺวา ตุมฺหากํ วตฺตํ น ปูเรติ, นตฺถิ อิมสฺสาปุจฺฉนกิจฺจํ, อาคตาคตํ ¶ ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ เอวํ นิสฺสฏฺํ ปุน อนาปุจฺฉาปิ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.
โยปิ ทหรกาเลเยว ‘‘อยํ ตุมฺหากํ ทินฺโน, ยทา อิจฺฉถ, ตทา ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ เอวํ ทินฺโน โหติ, โสปิ อาคตาคโต ปุน อนาปุจฺฉาว ปพฺพาเชตพฺโพ. ยํ ปน ทหรกาเลเยว ‘‘อิมํ ภนฺเต ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ อนุชานิตฺวา ปจฺฉา วุฑฺฒิปฺปตฺตกาเล นานุชานนฺติ, อยํ น อนาปุจฺฉา ปพฺพาเชตพฺโพ. เอโก มาตาปิตูหิ สทฺธึ ภณฺฑิตฺวา ‘‘ปพฺพาเชถ ม’’นฺติ อาคจฺฉติ, ‘‘อาปุจฺฉิตฺวา เอหี’’ติ จ วุตฺโต ‘‘นาหํ คจฺฉามิ, สเจ มํ น ปพฺพาเชถ, วิหารํ วา ฌาเปมิ, สตฺเถน วา ตุมฺเห ปหรามิ, ตุมฺหากํ าตกอุปฏฺากานํ วา อารามจฺเฉทนาทีหิ อนตฺถํ อุปฺปาเทมิ, รุกฺขา วา ปติตฺวา มรามิ, โจรมชฺฌํ วา ปวิสามิ, เทสนฺตรํ วา คจฺฉามี’’ติ วทติ, ตํ ชีวสฺเสว รกฺขณตฺถาย ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปนสฺส มาตาปิตโร อาคนฺตฺวา ‘‘กสฺมา อมฺหากํ ปุตฺตํ ปพฺพาชยิตฺถา’’ติ วทนฺติ, เตสํ ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘รกฺขณตฺถาย นํ ปพฺพาชยิมฺห, ปฺายถ ตุมฺเห ปุตฺเตนา’’ติ วตฺตพฺพา. ‘‘รุกฺขา ปติสฺสามี’’ติ อารุหิตฺวา ปน หตฺถปาเท มฺุจนฺตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติเยว.
เอโกปิ ¶ วิเทสํ คนฺตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจติ, อาปุจฺฉิตฺวา เจ คโต, ปพฺพาเชตพฺโพ. โน เจ ทหรภิกฺขุํ เปเสตฺวา อาปุจฺฉาเปตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ, อติทูรฺเจ โหติ; ปพฺพาเชตฺวาปิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ เปเสตฺวา ทสฺเสตุํ วฏฺฏติ. กุรุนฺทิยํ ปน วุตฺตํ – ‘‘สเจ ทูรํ โหติ มคฺโค จ มหากนฺตาโร, ‘คนฺตฺวา อาปุจฺฉิสฺสามา’ติ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ. สเจ ปน มาตาปิตูนํ พหู ปุตฺตา โหนฺติ, เอวฺจ วทนฺติ – ‘‘ภนฺเต เอเตสํ ทารกานํ ยํ อิจฺฉถ, ตํ ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ. ทารเก วีมํสิตฺวา ยํ อิจฺฉติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจปิ สกเลน กุเลน วา คาเมน วา อนฺุาตํ โหติ ‘‘ภนฺเต อิมสฺมึ กุเล วา คาเม วา ยํ อิจฺฉถ, ตํ ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ. ยํ อิจฺฉติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพติ.
ยาวตเก ¶ วา ปน อุสฺสหตีติ ยตฺตเก สกฺโกติ.
ราหุลวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
สิกฺขาปททณฺฑกมฺมวตฺถุกถา
๑๐๖. ทสสุ สิกฺขาปเทสุ ปุริมานํ ปฺจนฺนํ อติกฺกโม นาสนวตฺถุ ¶ , ปจฺฉิมานํ อติกฺกโม ทณฺฑกมฺมวตฺถุ.
๑๐๗. อปฺปติสฺสาติ ภิกฺขู เชฏฺกฏฺาเน อิสฺสริยฏฺาเน น เปนฺติ. อสภาควุตฺติกาติ สมานชีวิกา น ภวนฺติ, วิสภาคชีวิกาติ อตฺโถ. อลาภาย ปริสกฺกตีติ ยถา ลาภํ น ลภนฺติ; เอวํ ปรกฺกมติ. อนตฺถายาติ อุปทฺทวาย. อวาสายาติ ‘‘กินฺติ อิมสฺมึ อาวาเส น วเสยฺยุ’’นฺติ ปรกฺกมติ. อกฺโกสติ ปริภาสตีติ อกฺโกสติ เจว ภยทสฺสเนน จ ตชฺเชติ. เภเทตีติ เปสฺุํ อุปสํหริตฺวา เภเทติ. อาวรณํ กาตุนฺติ ‘‘มา อิธ ปวิสา’’ติ นิวารณํ กาตุํ. ยตฺถ วา วสติ ยตฺถ วา ปฏิกฺกมตีติ ยตฺถ วสติ วา ปวิสติ วา; อุภเยนาปิ อตฺตโน ปริเวณฺจ วสฺสคฺเคน ปตฺตเสนาสนฺจ วุตฺตํ.
มุขทฺวาริกํ อาหารํ อาวรณํ กโรนฺตีติ ‘‘อชฺช มา ขาท, มา ภฺุชา’’ติ เอวํ นิวาเรนฺติ. น ภิกฺขเว มุขทฺวาริโก อาหาโร อาวรณํ กาตพฺโพติ ¶ เอตฺถ ‘‘มา ขาท, มา ภฺุชา’’ติ วทโตปิ ‘‘อาหารํ นิวาเรสฺสามี’’ติ ปตฺตจีวรํ อนฺโต นิกฺขิปโตปิ สพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏํ. อนาจารสฺส ปน ทุพฺพจสามเณรสฺส ทณฺฑกมฺมํ กตฺวา ยาคุํ วา ภตฺตํ วา ปตฺตจีวรํ วา ทสฺเสตฺวา ‘‘เอตฺตเก นาม ทณฺฑกมฺเม อาหเฏ อิทํ ลจฺฉสี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ภควตา หิ อาวรณเมว ทณฺฑกมฺมํ วุตฺตํ. ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปน อปราธานุรูปํ อุทกทารุวาลิกาทีนํ อาหราปนมฺปิ กาตพฺพนฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา ตมฺปิ กาตพฺพํ. ตฺจ โข ‘‘โอรมิสฺสติ วิรมิสฺสตี’’ติ อนุกมฺปาย, น ‘‘นสฺสิสฺสติ วิพฺภมิสฺสตี’’ติอาทินยปฺปวตฺเตน ปาปชฺฌาสเยน ‘‘ทณฺฑกมฺมํ กโรมี’’ติ จ อุณฺหปาสาเณ วา นิปชฺชาเปตุํ ปาสาณิฏฺกาทีนิ วา สีเส นิกฺขิปาเปตุํ อุทกํ วา ปเวเสตุํ น วฏฺฏติ.
สิกฺขาปททณฺฑกมฺมวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
อนาปุจฺฉาวรณวตฺถุอาทิกถา
๑๐๘. น ¶ ภิกฺขเว อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉาติ เอตฺถ ‘‘ตุมฺหากํ สามเณรสฺส อยํ นาม อปราโธ, ทณฺฑกมฺมมสฺส กโรถา’’ติ ติกฺขตฺตุํ วุตฺเต, สเจ อุปชฺฌาโย ทณฺฑกมฺมํ น กโรติ, สยํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจปิ อาทิโตว อุปชฺฌาโย วทติ ‘‘มยฺหํ สามเณรานํ โทเส สติ ตุมฺเห ทณฺฑกมฺมํ กโรถา’’ติ กาตุํ วฏฺฏติเยว. ยถา จ สามเณรานํ เอวํ สทฺธิวิหาริกนฺเตวาสิกานมฺปิ ทณฺฑกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ.
อปลาเฬนฺตีติ ‘‘ตุมฺหากํ ¶ ปตฺตํ ทสฺสาม, จีวรํ ทสฺสามา’’ติ อตฺตโน อุปฏฺานกรณตฺถํ สงฺคณฺหนฺติ. น ภิกฺขเว อฺสฺส ปริสา อปลาเฬตพฺพาติ เอตฺถ สามเณรา วา โหนฺตุ อุปสมฺปนฺนา วา, อนฺตมโส ทุสฺสีลภิกฺขุสฺสาปิ ปรสฺส ปริสภูเต ภินฺทิตฺวา คณฺหิตุํ น วฏฺฏติ, อาทีนวํ ปน วตฺตุํ วฏฺฏติ ‘‘ตยา นฺหายิตุํ อาคเตน คูถมกฺขนํ วิย กตํ ทุสฺสีลํ นิสฺสาย วิหรนฺเตนา’’ติ. สเจ โส สยเมว ชานิตฺวา อุปชฺฌํ วา นิสฺสยํ วา ยาจติ, ทาตุํ วฏฺฏติ.
อนุชานามิ ภิกฺขเว ทสหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ สามเณรํ นาเสตุนฺติ เอตฺถ กณฺฏกสิกฺขาปทวณฺณนายํ วุตฺตาสุ ตีสุ นาสนาสุ ลิงฺคนาสนาว อธิปฺเปตา, ตสฺมา โย ปาณาติปาตาทีสุ เอกมฺปิ กมฺมํ กโรติ, โส ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺโพ. ยถา จ ภิกฺขูนํ ปาณาติปาตาทีสุ นานาอาปตฺติโย โหนฺติ, น ตถา สามเณรานํ. สามเณโร หิ กุนฺถกิปิลฺลิกมฺปิ มาเรตฺวา มงฺคุรณฺฑกมฺปิ ภินฺทิตฺวา นาเสตพฺพตํเยว ¶ ปาปุณาติ, ตาวเทวสฺส สรณคมนานิ จ อุปชฺฌายคฺคหณฺจ เสนาสนคฺคาโห จ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, สงฺฆลาภํ น ลภติ, ลิงฺคมตฺตเมว เอกํ อวสิฏฺํ โหติ. โส สเจ อากิณฺณโทโสว โหติ, อายตึ สํวเร น ติฏฺติ, นิกฺกฑฺฒิตพฺโพ. อถ สหสา วิรชฺฌิตฺวา ‘‘ทุฏฺุ มยา กต’’นฺติ ปุน สํวเร าตุกาโม โหติ, ลิงฺคนาสนกิจฺจํ นตฺถิ. ยถานิวตฺถปารุตสฺเสว สรณานิ ทาตพฺพานิ, อุปชฺฌาโย ทาตพฺโพ, สิกฺขาปทานิ ปน สรณคมเนเนว อิชฺฌนฺติ. สามเณรานฺหิ สรณคมนํ ภิกฺขูนํ อุปสมฺปทกมฺมวาจาสทิสํ, ตสฺมา ภิกฺขูนํ วิย จตุปาริสุทฺธิสีลํ, อิมินาปิ ทสสีลานิ สมาทินฺนาเนว โหนฺติ, เอวํ สนฺเตปิ ทฬฺหีกรณตฺถํ อายตึ สํวเร ปติฏฺาปนตฺถํ ปุน ทาตพฺพานิ. สเจ ปุริมิกาย ปุน สรณานิ คหิตานิ, ปจฺฉิมิกาย วสฺสาวาสิกํ ลจฺฉติ. สเจ ปจฺฉิมิกาย คหิตานิ, สงฺเฆน อปโลเกตฺวา ลาโภ ทาตพฺโพ.
อทินฺนาทาเน ¶ ติณสลากมตฺเตนาปิ วตฺถุนา, อพฺรหฺมจริเย ตีสุ มคฺเคสุ ยตฺถ กตฺถจิ วิปฺปฏิปตฺติยา, มุสาวาเท หสฺสาธิปฺปายตายปิ มุสา ภณิเต อสฺสมโณ โหติ, นาเสตพฺพตํ อาปชฺชติ. มชฺชปาเน ปน ภิกฺขุโน อชานิตฺวาปิ พีชโต ปฏฺาย มชฺชํ ปิวนฺตสฺส ¶ ปาจิตฺติยํ. สามเณโร ชานิตฺวา ปิวนฺโต สีลเภทํ อาปชฺชติ, น อชานิตฺวา. ยานิ ปนสฺส อิตรานิ ปฺจ สิกฺขาปทานิ, เตสุ ภินฺเนสุ น นาเสตพฺโพ, ทณฺฑกมฺมํ กาตพฺพํ. สิกฺขาปเท ปน ปุน ทินฺเนปิ อทินฺเนปิ วฏฺฏติ. ทณฺฑกมฺเมน ปน ปีเฬตฺวา อายตึ สํวเร ปนตฺถาย ทาตพฺพเมว. สามเณรานํ มชฺชปานํ สจิตฺตกํ ปาราชิกวตฺถุ, อยํ วิเสโส.
อวณฺณภาสเน ปน อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธติอาทีนํ ปฏิปกฺขวเสน พุทฺธสฺส วา, สฺวากฺขาโตติอาทีนํ ปฏิปกฺขวเสน ธมฺมสฺส วา, สุปฺปฏิปนฺโนติอาทีนํ ปฏิปกฺขวเสน สงฺฆสฺส วา อวณฺณํ ภาสนฺโต รตนตฺตยํ นินฺทนฺโต ครหนฺโต อาจริยุปชฺฌายาทีหิ ‘‘มา เอวํ อวจา’’ติ อวณฺณภาสเน อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา นิวาเรตพฺโพ. สเจ ยาวตติยํ วุจฺจมาโน น โอรมติ, กณฺฏกนาสนาย นาเสตพฺโพติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘สเจ เอวํ วุจฺจมาโน ตํ ลทฺธึ นิสฺสชฺชติ, ทณฺฑกมฺมํ กาเรตฺวา อจฺจยํ เทสาเปตพฺโพ. สเจ น นิสฺสชฺชติ, ตเถว อาทาย ปคฺคยฺห ¶ ติฏฺติ, ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ. อยเมว หิ นาสนา อิธ อธิปฺเปตาติ.
มิจฺฉาทิฏฺิเกปิ เอเสว นโย. สสฺสตุจฺเฉทานฺหิ อฺตรทิฏฺิโก สเจ อาจริยาทีหิ โอวทิยมาโน นิสฺสชฺชติ, ทณฺฑกมฺมํ กาเรตฺวา อจฺจยํ เทสาเปตพฺโพ. อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺโตว นาเสตพฺโพติ. ภิกฺขุนิทูสโก เจตฺถ กามํ อพฺรหฺมจาริคฺคหเณน คหิโตว อพฺรหฺมจารึ ปน อายตึ สํวเร าตุกามํ สรณานิ ทตฺวา อุปสมฺปาเทตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุนิทูสโก อายตึ สํวเร าตุกาโมปิ ปพฺพชฺชมฺปิ น ลภติ, ปเคว อุปสมฺปทนฺติ เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภิกฺขุนิทูสโก’’ติ อิทํ วิสุํ ทสมํ องฺคํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อนาปุจฺฉาวรณวตฺถุอาทิกถา นิฏฺิตา.
ปณฺฑกวตฺถุกถา
๑๐๙. ทหเร ทหเรติ ตรุเณ ตรุเณ. โมฬิคลฺเลติ ถูลสรีเร. หตฺถิภณฺเฑ อสฺสภณฺเฑติ หตฺถิโคปเก จ อสฺสโคปเก จ.
ปณฺฑโก ¶ ภิกฺขเวติ เอตฺถ อาสิตฺตปณฺฑโก อุสูยปณฺฑโก โอปกฺกมิกปณฺฑโก ปกฺขปณฺฑโก นปุํสกปณฺฑโกติ ปฺจ ¶ ปณฺฑกา. ตตฺถ ยสฺส ปเรสํ องฺคชาตํ มุเขน คเหตฺวา อสุจินา อาสิตฺตสฺส ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ อาสิตฺตปณฺฑโก. ยสฺส ปเรสํ อชฺฌาจารํ ปสฺสโต อุสูยาย อุปฺปนฺนาย ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ อุสูยปณฺฑโก. ยสฺส อุปกฺกเมน พีชานิ อปนีตานิ, อยํ โอปกฺกมิกปณฺฑโก. เอกจฺโจ ปน อกุสลวิปากานุภาเวน กาฬปกฺเข ปณฺฑโก โหติ, ชุณฺหปกฺเข ปนสฺส ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ ปกฺขปณฺฑโก. โย ปน ปฏิสนฺธิยํเยว อภาวโก อุปฺปนฺโน, อยํ นปุํสกปณฺฑโกติ. เตสุ อาสิตฺตปณฺฑกสฺส จ อุสูยปณฺฑกสฺส จ ปพฺพชฺชา น วาริตา, อิตเรสํ ติณฺณํ วาริตา. เตสุปิ ปกฺขปณฺฑกสฺส ยสฺมึ ปกฺเข ปณฺฑโก โหติ, ตสฺมึเยวสฺส ปกฺเข ปพฺพชฺชา วาริตาติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ยสฺส เจตฺถ ปพฺพชฺชา วาริตา, ตํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ – ‘‘อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’’ติ. โสปิ ¶ ลิงฺคนาสเนเนว นาเสตพฺโพ. อิโต ปรํ ‘‘นาเสตพฺโพ’’ติ วุตฺเตสุปิ เอเสว นโย.
ปณฺฑวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
เถยฺยสํวาสกวตฺถุกถา
๑๑๐. ปุราณกุลปุตฺโตติ ปุราณสฺส อนุกฺกเมน ปาริชฺุํ ปตฺตสฺส กุลสฺส ปุตฺโต. มาติปกฺขปิติปกฺขโต โกลฺา ขีณา วินฏฺา มตา อสฺสาติ ขีณโกลฺโ. อนธิคตนฺติ อปฺปตฺตํ. ผาตึกาตุนฺติ วฑฺเฒตุํ. อิงฺฆาติ อุยฺโยชนตฺเถ นิปาโต. อนุยฺุชิยมาโนติ เอกมนฺตํ เนตฺวา เกสมสฺสุโอโรปนกาสายปฏิคฺคหณสรณคมนอุปชฺฌายคฺคหณกมฺมวาจานิสฺสยธมฺเม ปุจฺฉิยมาโน. เอตมตฺถํ อาโรเจสีติ เอตํ สยํ ปพฺพชิตภาวํ อาทิโต ปฏฺาย อาจิกฺขิ.
เถยฺยสํวาสโก ภิกฺขเวติ เอตฺถ ตโย เถยฺยสํวาสกา – ลิงฺคตฺเถนโก, สํวาสตฺเถนโก, อุภยตฺเถนโกติ. ตตฺถ โย สยํ ปพฺพชิตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา น ภิกฺขุวสฺสานิ คเณติ, น ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนํ สาทิยติ, น อาสเนน ปฏิพาหติ, น อุโปสถปวารณาทีสุ สนฺทิสฺสติ, อยํ ลิงฺคมตฺตสฺเสว เถนิตตฺตา ลิงฺคตฺเถนโก นาม.
โย ปน ภิกฺขูหิ ปพฺพาชิโต สามเณโร สมาโนปิ วิเทสํ คนฺตฺวา ‘‘อหํ ทสวสฺโส วา ¶ วีสติวสฺโส วา’’ติ มุสา วตฺวา ภิกฺขุวสฺสานิ คเณติ, ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนํ ¶ สาทิยติ, อาสเนน ปฏิพาหติ, อุโปสถปวารณาทีสุ สนฺทิสฺสติ, อยํ สํวาสมตฺตสฺเสว เถนิตตฺตา สํวาสตฺเถนโก นาม. ภิกฺขุวสฺสคณนาทิโก หิ สพฺโพปิ กิริยเภโท อิมสฺมึ อตฺเถ ‘‘สํวาโส’’ติ เวทิตพฺโพ. สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย ‘‘น มํ โกจิ ชานาตี’’ติ เอวํ ปฏิปชฺชนฺเตปิ เอเสว นโย.
โย ปน สยํ ปพฺพชิตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ภิกฺขุวสฺสานิ คเณติ, ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนํ สาทิยติ, อาสเนน ปฏิพาหติ, อุโปสถปวารณาทีสุ สนฺทิสฺสติ, อยํ ลิงฺคสฺส เจว สํวาสสฺส จ เถนิตตฺตา อุภยตฺเถนโก นาม. อยํ ติวิโธปิ เถยฺยสํวาสโก อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ, ปุน ปพฺพชฺชํ ยาจนฺโตปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ.
เอตฺถ ¶ จ อสมฺโมหตฺถํ อิทํ ปกิณฺณกํ เวทิตพฺพํ –
‘‘ราชทุพฺภิกฺขกนฺตาร-โรคเวริภเยหิ วา;
จีวราหรณตฺถํ วา, ลิงฺคํ อาทิยตีธ โย.
สํวาสํ นาธิวาเสติ, ยาว โส สุทฺธมานโส;
เถยฺยสํวาสโก นาม, ตาว เอส น วุจฺจตี’’ติ.
ตตฺรายํ วิตฺถารนโย – อิเธกจฺจสฺส ราชา กุทฺโธ โหติ, โส ‘‘เอวํ เม โสตฺถิ ภวิสฺสตี’’ติ สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา ปลายติ. ตํ ทิสฺวา รฺโ อาโรเจนฺติ. ราชา ‘‘สเจ ปพฺพชิโต, น ตํ ลพฺภา กิฺจิ กาตุ’’นฺติ ตสฺมึ โกธํ ปฏิวิเนติ, โส ‘‘วูปสนฺตํ เม ราชภย’’นฺติ สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโต ปพฺพาเชตพฺโพ. อถาปิ ‘‘สาสนํ นิสฺสาย มยา ชีวิตํ ลทฺธํ, หนฺท ทานิ อหํ ปพฺพชามี’’ติ อุปฺปนฺนสํเวโค เตเนว ลิงฺเคน อาคนฺตฺวา อาคนฺตุกวตฺตํ น สาทิยติ, ภิกฺขูหิ ปุฏฺโ วา อปุฏฺโ วา ยถาภูตมตฺตานํ อาวิกตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจติ, ลิงฺคํ อปเนตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน วตฺตํ สาทิยติ, ปพฺพชิตาลยํ ทสฺเสติ, สพฺพํ ปุพฺเพ วุตฺตํ วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ ปฏิปชฺชติ, อยํ น ปพฺพาเชตพฺโพ.
อิธ ปเนกจฺโจ ทุพฺภิกฺเข ชีวิตุํ อสกฺโกนฺโต สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา สพฺพปาสณฺฑิยภตฺตานิ ¶ ภฺุชนฺโต ทุพฺภิกฺเข วีติวตฺเต สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโตติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว ¶ .
อปโร มหากนฺตารํ นิตฺถริตุกาโม โหติ, สตฺถวาโห จ ปพฺพชิเต คเหตฺวา คจฺฉติ. โส ‘‘เอวํ มํ สตฺถวาโห คเหตฺวา คมิสฺสตี’’ติ สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา สตฺถวาเหน สทฺธึ กนฺตารํ นิตฺถริตฺวา เขมนฺตํ ปตฺวา สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโตติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว.
อปโร โรคภเย อุปฺปนฺเน ชีวิตุํ อสกฺโกนฺโต สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา สพฺพปาสณฺฑิยภตฺตานิ ภฺุชนฺโต โรคภเย วูปสนฺเต สงฺฆมชฺฌํ ¶ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโตติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว.
อปรสฺส เอโก เวริโก กุทฺโธ โหติ, ฆาเตตุกาโม นํ วิจรติ, โส ‘‘เอวํ เม โสตฺถิ ภวิสฺสตี’’ติ สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา ปลายติ. เวริโก ‘‘กุหึ โส’’ติ ปริเยสนฺโต ‘‘ปพฺพชิตฺวา ปลาโต’’ติ สุตฺวา ‘‘สเจ ปพฺพชิโต, น ตํ ลพฺภา กิฺจิ กาตุ’’นฺติ ตสฺมึ โกธํ ปฏิวิเนติ. โส ‘‘วูปสนฺตํ เม เวริภย’’นฺติ สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโตติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว.
อปโร าติกุลํ คนฺตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย คิหิ หุตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ อิธ วินสฺสิสฺสนฺติ, สเจปิ อิมานิ คเหตฺวา วิหารํ คมิสฺสามิ, อนฺตรามคฺเค มํ ‘โจโร’ติ คเหสฺสนฺติ, ยํนูนาหํ กายปริหาริยานิ กตฺวา คจฺเฉยฺย’’นฺติ จีวราหรณตฺถํ นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ วิหารํ คจฺฉติ. ตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา สามเณรา จ ทหรา จ อพฺภุคฺคจฺฉนฺติ, วตฺตํ ทสฺเสนฺติ. โส น สาทิยติ, ยถาภูตมตฺตานํ อาวิกโรติ. สเจ ภิกฺขู ‘‘น ทานิ มยํ ตํ มฺุจิสฺสามา’’ติ พลกฺกาเรน ปพฺพาเชตุกามา โหนฺติ, กาสายานิ อปเนตฺวา ปุน ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน ‘‘นยิเม มม หีนายาวตฺตภาวํ ชานนฺตี’’ติ ตํเยว ภิกฺขุภาวํ ปฏิชานิตฺวา สพฺพํ ปุพฺเพ วุตฺตํ วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ ปฏิปชฺชติ, อยํ น ปพฺพาเชตพฺโพ.
อปโร มหาสามเณโร าติกุลํ คนฺตฺวา อุปฺปพฺพชิตฺวา กมฺมนฺตานุฏฺาเนน อุพฺพาฬฺโห หุตฺวา ปุน ‘‘ทานิ อหํ สมโณว ภวิสฺสามิ, เถโรปิ เม อุปฺปพฺพชิตภาวํ น ชานาตี’’ติ ตเทว ปตฺตจีวรํ ¶ อาทาย วิหารํ อาคจฺฉติ, นาปิ ตมตฺถํ ภิกฺขูนํ อาโรเจติ, สามเณรภาวํ ปฏิชานาติ, อยํ เถยฺยสํวาสโกเยว ปพฺพชฺชํ น ลภติ. สเจปิสฺส ลิงฺคคฺคหณกาเล ¶ เอวํ โหติ, ‘‘นาหํ กสฺสจิ อาโรเจสฺสามี’’ติ วิหารฺจ คโต อาโรเจติ, คหเณเนว เถยฺยสํวาสโก. อถาปิสฺส ‘‘คหณกาเล อาจิกฺขิสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, วิหารฺจ คนฺตฺวา ‘‘กุหึ ตฺวํ อาวุโส คโต’’ติ วุตฺโต ‘‘น ทานิ มํ อิเม ชานนฺตี’’ติ วฺเจตฺวา นาจิกฺขติ, ‘‘นาจิกฺขิสฺสามี’’ติ สห ธุรนิกฺเขเปน อยมฺปิ เถยฺยสํวาสโกว. สเจ ปนสฺส คหณกาเลปิ ‘‘อาจิกฺขิสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, วิหารํ คนฺตฺวาปิ อาจิกฺขติ, อยํ ปุน ปพฺพชฺชํ ลภติ.
อปโร ¶ ทหรสามเณโร มหนฺโต วา ปน อพฺยตฺโต, โส ปุริมนเยเนว อุปฺปพฺพชิตฺวา ฆเร วจฺฉกรกฺขณาทีนิ กมฺมานิ กาตุํ น อิจฺฉติ, ตเมนํ าตกา ตานิเยว กาสายานิ อจฺฉาเทตฺวา ถาลกํ วา ปตฺตํ วา หตฺเถ ทตฺวา ‘‘คจฺฉ สมโณว โหหี’’ติ ฆรา นีหรนฺติ. โส วิหารํ คจฺฉติ, เนว นํ ภิกฺขู ชานนฺติ ‘‘อยํ อุปฺปพฺพชิตฺวา ปุน สยเมว ปพฺพชิโต’’ติ, นาปิ สยํ ชานาติ, ‘‘โย เอวํ ปพฺพชติ, โส เถยฺยสํวาสโก นาม โหตี’’ติ. สเจ ตํ ปริปุณฺณวสฺสํ อุปสมฺปาเทนฺติ, สูปสมฺปนฺโน. สเจ ปน อนุปสมฺปนฺนกาเลเยว วินยวินิจฺฉเย วตฺตมาเน สุณาติ, ‘‘โย เอวํ ปพฺพชติ, โส เถยฺยสํวาสโก นาม โหตี’’ติ. เตน ‘‘มยา เอวํ กต’’นฺติ ภิกฺขูนํ อาจิกฺขิตพฺพํ, เอวํ ปุน ปพฺพชฺชํ ลภติ. สเจ ‘‘น ทานิ มํ โกจิ ชานาตี’’ติ นาโรเจติ, ธุรํ นิกฺขิตฺตมตฺเต เถยฺยสํวาสโก.
ภิกฺขุ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย ลิงฺคํ อนปเนตฺวา ทุสฺสีลกมฺมํ กตฺวา วา อกตฺวา วา ปุน สพฺพํ ปุพฺเพ วุตฺตํ วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ ปฏิปชฺชติ, เถยฺยสํวาสโก โหติ. สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย สลิงฺเค ิโต เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ อาปชฺชนฺโต เถยฺยสํวาสโก น โหติ, ปพฺพชฺชามตฺตํ ลภติ. อนฺธกฏฺกถายํ ปน เอโส เถยฺยสํวาสโกติ วุตฺตํ, ตํ น คเหตพฺพํ.
เอโก ภิกฺขุ กาสาเย สอุสฺสาโหว โอทาตํ นิวาเสตฺวา เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา ปุน กาสายานิ นิวาเสตฺวา วสฺสคณนาทิเภทํ สพฺพํ วิธึ อาปชฺชติ, อยมฺปิ เถยฺยสํวาสโก น โหติ, ปพฺพชฺชามตฺตํ ลภติ. สเจ ปน ¶ กาสาเย ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา โอทาตํ นิวาเสตฺวา เมถุนํ ¶ ปฏิเสวิตฺวา ปุน กาสายานิ นิวาเสตฺวา วสฺสคณนาทิเภทํ สพฺพํ วิธึ อาปชฺชติ, เถยฺยสํวาสโก โหติ.
สามเณโร สลิงฺเค ิโต เมถุนาทิอสฺสมณกรณธมฺมํ อาปชฺชิตฺวาปิ เถยฺยสํวาสโก น โหติ. สเจปิ กาสาเย สอุสฺสาโหว กาสายานิ อปเนตฺวา เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา ปุน กาสายานิ นิวาเสติ, เนว เถยฺยสํวาสโก โหติ. สเจ ปน กาสาเย ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา นคฺโค วา โอทาตนิวตฺโถ วา เมถุนเสวนาทีหิ อสฺสมโณ ¶ หุตฺวา กาสายํ นิวาเสติ, เถยฺยสํวาสโก โหติ. สเจปิ คิหิภาวํ ปตฺถยมาโน กาสาวํ โอวฏฺฏิกํ วา กตฺวา อฺเน วา อากาเรน คิหินิวาสเนน นิวาเสติ ‘‘โสภติ นุ โข เม คิหิลิงฺคํ, น โสภตี’’ติ วีมํสนตฺถํ, รกฺขติ ตาว. ‘‘โสภตี’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปน ปุน ลิงฺคํ สาทิยนฺโต เถยฺยสํวาสโก โหติ. โอทาตํ นิวาเสตฺวา วีมํสนสมฺปฏิจฺฉเนสุปิ เอเสว นโย.
สเจ ปน นิวตฺถกาสายสฺส อุปริ โอทาตํ นิวาเสตฺวา วีมํสติ วา สมฺปฏิจฺฉติ วา, รกฺขติเยว. ภิกฺขุนิยาปิ เอเสว นโย. สาปิ หิ คิหิภาวํ ปตฺถยมานา สเจ กาสายํ คิหินิวาสนํ นิวาเสติ, ‘‘โสภติ นุ โข เม คิหิลิงฺคํ, น โสภตี’’ติ วีมํสนตฺถํ, รกฺขติ ตาว. สเจ ‘‘โสภตี’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, น รกฺขติ. โอทาตํ นิวาเสตฺวา วีมํสนสมฺปฏิจฺฉเนสุปิ เอเสว นโย. นิวตฺถกาสายสฺส ปน อุปริ โอทาตํ นิวาเสตฺวา วีมํสตุ วา สมฺปฏิจฺฉตุ วา, รกฺขติเยว.
สเจ โกจิ วุฑฺฒปพฺพชิโต วสฺสานิ อคเณตฺวา ปาฬิยมฺปิ อฏฺตฺวา เอกปสฺเสนาคนฺตฺวา มหาเปฬาทีสุ กฏจฺฉุนา อุกฺขิตฺเต ภตฺตปิณฺเฑ ปตฺตํ อุปนาเมตฺวา เสโน วิย มํสเปสึ คเหตฺวา คจฺฉติ, เถยฺยสํวาสโก น โหติ. ภิกฺขุวสฺสานิ ปน คเณตฺวา คณฺหนฺโต เถยฺยสํวาสโก โหติ.
สยํ สามเณโรว สามเณรปฏิปาฏิยา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา คณฺหนฺโต เถยฺยสํวาสโก น โหติ. ภิกฺขุ ภิกฺขุปฏิปาฏิยา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพติ.
เถยฺยสํวาสกวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถา
ติตฺถิยปกฺกนฺตโก ¶ ¶ ภิกฺขเวติ เอตฺถ ปน ติตฺถิเยสุ ปกฺกนฺโต ปวิฏฺโติ ติตฺถิยปกฺกนฺตโก. โส น เกวลํ น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อถ โข น ปพฺพาเชตพฺโพปิ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – อุปสมฺปนฺโน ภิกฺขุ ติตฺถิโย ภวิสฺสามีติ สลิงฺเคเนว เตสํ อุปสฺสยํ คจฺฉติ, ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ. เตสํ ลิงฺเค อาทินฺนมตฺเต ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ. โยปิ ¶ สยเมว ‘‘ติตฺถิโย ภวิสฺสามี’’ติ กุสจีราทีนิ นิวาเสติ, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติเยว. โย ปน นคฺโค นฺหายนฺโต อตฺตานํ โอโลเกตฺวา ‘‘โสภติ เม อาชีวกภาโว, อาชีวโก ภวิสฺสามี’’ติ กาสายานิ อนาทาย นคฺโคว อาชีวกานํ อุปสฺสยํ คจฺฉติ, ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ. สเจ ปนสฺส อนฺตรามคฺเค หิโรตฺตปฺปํ อุปฺปชฺชติ, ทุกฺกฏานิ เทเสตฺวา มุจฺจติ. เตสํ อุปสฺสยํ คนฺตฺวาปิ เตหิ วา โอวทิโต อตฺตนา วา ‘‘อิเมสํ ปพฺพชฺชา อติทุกฺขา’’ติ นิวตฺตนฺโตปิ มุจฺจติเยว.
สเจ ปน ‘‘กึ ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชาย อุกฺกฏฺ’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เกสมสฺสุลฺุจนาทีนี’’ติ วุตฺโต เอกเกสมฺปิ ลฺุจาเปติ, อุกฺกุฏิกปฺปธานาทีนิ วา วตฺตานิ อาทิยติ, โมรปิฺฉาทีนิ วา นิวาเสติ, เตสํ ลิงฺคํ คณฺหาติ, ‘‘อยํ ปพฺพชฺชา เสฏฺา’’ติ เสฏฺภาวํ วา อุปคจฺฉติ, น มุจฺจติ, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ. สเจ ปน ‘‘โสภติ นุ โข เม ติตฺถิยปพฺพชฺชา, นนุ โข โสภตี’’ติ วีมํสนตฺถํ กุสจีราทีนิ วา นิวาเสติ, ชฏํ วา พนฺธติ, ขาริกาชํ วา อาทิยติ, ยาว น สมฺปฏิจฺฉติ, ตาว นํ ลทฺธิ รกฺขติ, สมฺปฏิจฺฉิตมตฺเต ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ. อจฺฉินฺนจีวโร ปน กุสจีราทีนิ นิวาเสนฺโต ราชภยาทีหิ วา ติตฺถิยลิงฺคํ คณฺหนฺโต ลทฺธิยา อภาเวน เนว ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ.
อยฺจ ติตฺถิยปกฺกนฺตโก นาม อุปสมฺปนฺนภิกฺขุนา กถิโต, ตสฺมา สามเณโร สลิงฺเคน ติตฺถายตนํ คโตปิ ปุน ปพฺพชฺชฺจ อุปสมฺปทฺจ ลภตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ปุริโม ปน เถยฺยสํวาสโก อนุปสมฺปนฺเนน กถิโต; ตสฺมา อุปสมฺปนฺโน กูฏวสฺสํ คเณนฺโตปิ อสฺสมโณ น โหติ. ลิงฺเค สอุสฺสาโห ปาราชิกํ อาปชฺชิตฺวา ภิกฺขุวสฺสาทีนิ คเณนฺโตปิ เถยฺยสํวาสโก น โหตีติ.
ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถา นิฏฺิตา.
ติรจฺฉานคตวตฺถุกถา
๑๑๑. นาคโยนิยา ¶ ¶ อฏฺฏียตีติ เอตฺถ กิฺจาปิ โส ปวตฺติยํ กุสลวิปาเกน เทวสมฺปตฺติสทิสํ อิสฺสริยสมฺปตฺตึ อนุโภติ, อกุสลวิปากปฏิสนฺธิกสฺส ¶ ปน ตสฺส สชาติยา เมถุนปฏิเสวเน จ วิสฺสฏฺนิทฺโทกฺกมเน จ นาคสรีรํ ปาตุภวติ อุทกสฺจาริกํ มณฺฑูกภกฺขํ, ตสฺมา โส ตาย นาคโยนิยา อฏฺฏียติ. หรายตีติ ลชฺชติ. ชิคุจฺฉตีติ อตฺตภาวํ ชิคุจฺฉติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิกฺขนฺเตติ ตสฺมึ ภิกฺขุสฺมึ นิกฺขนฺเต. อถ วา ตสฺส ภิกฺขุโน นิกฺขมเนติ อตฺโถ. วิสฺสฏฺโ นิทฺทํ โอกฺกมีติ ตสฺมึ อนิกฺขนฺเต วิสฺสรภเยน สตึ อวิสฺสชฺชิตฺวา กปิมิทฺธวเสเนว นิทฺทายนฺโต นิกฺขนฺเต สตึ วิสฺสชฺชิตฺวา วิสฺสฏฺโ นิราสงฺโก มหานิทฺทํ ปฏิปชฺชิ. วิสฺสรมกาสีติ ภยวเสน สมณสฺํ ปหาย วิรูปํ มหาสทฺทมกาสิ.
ตุมฺเห โขตฺถาติ ตุมฺเห โข อตฺถ; อการสฺส โลปํ กตฺวา วุตฺตํ. ตุมฺเห โข นาคา ฌานวิปสฺสนามคฺคผลานํ อภพฺพตฺตา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อวิรุฬฺหิธมฺมา อตฺถ, วิรุฬฺหิธมฺมา น ภวถาติ อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ. สชาติยาติ นาคิยา เอว. ยทา ปน มนุสฺสิตฺถิอาทิเภทาย อฺชาติยา ปฏิเสวติ, ตทา เทวปุตฺโต วิย โหติ. เอตฺถ จ ปวตฺติยํ อภิณฺหํ สภาวปาตุกมฺมทสฺสนวเสน ‘‘ทฺเว ปจฺจยา’’ติ วุตฺตํ. นาคสฺส ปน ปฺจสุ กาเลสุ สภาวปาตุกมฺมํ โหติ – ปฏิสนฺธิกาเล, ตจชหนกาเล, สชาติยา เมถุนกาเล, วิสฺสฏฺนิทฺโทกฺกมนกาเล, จุติกาเลติ.
ติรจฺฉานคโต ภิกฺขเวติ เอตฺถ นาโค วา โหตุ สุปณฺณมาณวกาทีนํ วา อฺตโร, อนฺตมโส สกฺกํ เทวราชานํ อุปาทาย โย โกจิ อมนุสฺสชาติโย, สพฺโพว อิมสฺมึ อตฺเถ ติรจฺฉานคโตติ เวทิตพฺโพ. โส เนว อุปสมฺปาเทตพฺโพ, น ปพฺพาเชตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโนปิ นาเสตพฺโพติ.
ติรจฺฉานคตวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
มาตุฆาตกาทิวตฺถุกถา
๑๑๒. มาตุฆาตกาทิวตฺถูสุ – นิกฺขนฺตึ กเรยฺยนฺติ นิกฺขมนํ นิคฺคมนํ อปวาหนํ กเรยฺยนฺติ อตฺโถ. มาตุฆาตโก ภิกฺขเวติ เอตฺถ เยน มนุสฺสิตฺถิภูตา ¶ ชนิกา มาตา ¶ สยมฺปิ ¶ มนุสฺสชาติเกเนว สตา สฺจิจฺจ ชีวิตา โวโรปิตา, อยํ อานนฺตริเยน มาตุฆาตกกมฺเมน มาตุฆาตโก, เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ ปฏิกฺขิตฺตา. เยน ปน มนุสฺสิตฺถิภูตาปิ อชนิกา โปสาวนิกา มาตา วา มหามาตา วา จูฬมาตา วา ชนิกาปิ วา น มนุสฺสิตฺถิภูตา มาตา ฆาติตา, ตสฺส ปพฺพชฺชา น วาริตา, น จ อานนฺตริโก โหติ. เยน สยํ ติรจฺฉานภูเตน มนุสฺสิตฺถิภูตา มาตา ฆาติตา, โสปิ อานนฺตริโก น โหติ, ติรจฺฉานคตตฺตา ปนสฺส ปพฺพชฺชา ปฏิกฺขิตฺตา. เสสํ อุตฺตานเมว. ปิตุฆาตเกปิ เอเสว นโย. สเจปิ หิ เวสิยา ปุตฺโต โหติ, ‘‘อยํ เม ปิตา’’ติ น ชานาติ, ยสฺส สมฺภเวน นิพฺพตฺโต, โส เจ อเนน ฆาติโต, ปิตุฆาตโกตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ, อานนฺตริยฺจ ผุสติ.
๑๑๔. อรหนฺตฆาตโกปิ มนุสฺสอรหนฺตวเสเนว เวทิตพฺโพ. มนุสฺสชาติยฺหิ อนฺตมโส อปพฺพชิตมฺปิ ขีณาสวํ ทารกํ ทาริกํ วา สฺจิจฺจ ชีวิตา โวโรเปนฺโต อรหนฺตฆาตโกว โหติ, อานนฺตริยฺจ ผุสติ, ปพฺพชฺชา จสฺส วาริตา. อมนุสฺสชาติกํ ปน อรหนฺตํ มนุสฺสชาติกํ วา อวเสสํ อริยปุคฺคลํ ฆาเตตฺวา อานนฺตริโย น โหติ, ปพฺพชฺชาปิสฺส น วาริตา, กมฺมํ ปน พลวํ โหติ. ติรจฺฉาโน มนุสฺสอรหนฺตมฺปิ ฆาเตตฺวา อานนฺตริโย น โหติ, กมฺมํ ปน ภาริยนฺติ อยเมตฺถ วินิจฺฉโย. เต วธาย โอนียนฺตีติ วธตฺถาย โอนียนฺติ, มาเรตุํ นียนฺตีติ อตฺโถ. ยํ ปน ปาฬิยํ ‘‘สจา จ มย’’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺส สเจ มยนฺติ อยเมวตฺโถ. ‘‘สเจ’’ติ หิ วตฺตพฺเพ เอตฺถ ‘‘สจา จ’’ อิติ อยํ นิปาโต วุตฺโต. ‘‘สเจ จ’’ อิจฺเจว วา ปาโ. ตตฺถ สเจติ สมฺภาวนตฺเถ นิปาโต; จ อิติ ปทปูรณมตฺเต. ‘‘สจชฺช มย’’นฺติปิ ปาโ. ตสฺส สเจ อชฺช มยนฺติ อตฺโถ.
๑๑๕. ภิกฺขุนิทูสโก ภิกฺขเวติ เอตฺถ โย ปกตตฺตํ ภิกฺขุนึ ติณฺณํ มคฺคานํ อฺตรสฺมึ ทูเสติ, อยํ ภิกฺขุนิทูสโก นาม. เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา. โย ปน กายสํสคฺเคน สีลวินาสํ ปาเปติ, ตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ น วาริตา. พลกฺกาเรน โอทาตวตฺถวสนํ กตฺวา อนิจฺฉมานํเยว ¶ ทูเสนฺโตปิ ภิกฺขุนิทูสโกเยว. พลกฺกาเรน ปน โอทาตวตฺถวสนํ กตฺวา อิจฺฉมานํ ทูเสนฺโต ภิกฺขุนิทูสโก ¶ น โหติ. กสฺมา? ยสฺมา คิหิภาเว สมฺปฏิจฺฉิตมตฺเตเยว สา อภิกฺขุนี โหติ. สกึ สีลวิปนฺนํ ปน ปจฺฉา ทูเสนฺโต สิกฺขมานาสามเณรีสุ จ วิปฺปฏิปชฺชนฺโต เนว ภิกฺขุนิทูสโก โหติ, ปพฺพชฺชมฺปิ อุปสมฺปทมฺปิ ลภติ.
สงฺฆเภทโก ¶ ภิกฺขเวติ เอตฺถ โย เทวทตฺโต วิย สาสนํ อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ กตฺวา จตุนฺนํ กมฺมานํ อฺตรวเสน สงฺฆํ ภินฺทติ, อยํ สงฺฆเภทโก นาม. เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา.
โลหิตุปฺปาทโก ภิกฺขเวติ เอตฺถาปิ โย เทวทตฺโต วิย ทุฏฺจิตฺเตน วธกจิตฺเตน ตถาคตสฺส ชีวมานกสรีเร ขุทฺทกมกฺขิกาย ปิวนกมตฺตมฺปิ โลหิตํ อุปฺปาเทติ, อยํ โลหิตุปฺปาทโก นาม. เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา. โย ปน โรควูปสมนตฺถํ ชีวโก วิย สตฺเถน ผาเลตฺวา ปูติมํสฺจ โลหิตฺจ นีหริตฺวา ผาสุํ กโรติ, พหุํ โส ปฺุํ ปสวตีติ.
มาตุฆาตกาทิวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
อุภโตพฺยฺชนกวตฺถุกถา
๑๑๖. อุภโตพฺยฺชนโก ภิกฺขเวติ อิตฺถินิมิตฺตุปฺปาทนกมฺมโต จ ปุริสนิมิตฺตุปฺปาทนกมฺมโต จ อุภโต พฺยฺชนมสฺส อตฺถีติ อุภโตพฺยฺชนโก. กโรตีติ ปุริสนิมิตฺเตน อิตฺถีสุ เมถุนวีติกฺกมํ กโรติ. การาเปตีติ ปรํ สมาทเปตฺวา อตฺตโน อิตฺถินิมิตฺเต การาเปติ, โส ทุวิโธ โหติ – อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนโก, ปุริสอุภโตพฺยฺชนโกติ.
ตตฺถ อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนกสฺส อิตฺถินิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ, ปุริสนิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนกสฺส ปุริสนิมิตฺตํ ปากฏํ, อิตฺถินิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ. อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนกสฺส อิตฺถีสุ ปุริสตฺตํ กโรนฺตสฺส อิตฺถินิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, ปุริสนิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนกสฺส ปุริสานํ อิตฺถิภาวํ อุปคจฺฉนฺตสฺส ปุริสนิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, อิตฺถินิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ. อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนโก สยฺจ คพฺภํ คณฺหาติ, ปรฺจ คณฺหาเปติ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนโก ปน สยํ น คณฺหาติ, ปรํ คณฺหาเปตีติ, อิทเมเตสํ นานากรณํ. กุรุนฺทิยํ ปน วุตฺตํ – ‘‘ยทิ ปฏิสนฺธิยํ ปุริสลิงฺคํ ¶ ปวตฺเต อิตฺถิลิงฺคํ นิพฺพตฺตติ, ยทิ ปฏิสนฺธิยํ อิตฺถิลิงฺคํ ปวตฺเต ปุริสลิงฺคํ นิพฺพตฺตตี’’ติ ¶ . ตตฺถ วิจารณกฺกโม วิตฺถารโต อฏฺสาลินิยา ธมฺมสงฺคหฏฺกถาย เวทิตพฺโพ. อิมสฺส ปน ทุวิธสฺสาปิ อุภโตพฺยฺชนกสฺส เนว ปพฺพชฺชา อตฺถิ, น อุปสมฺปทาติ อิทมิธ เวทิตพฺพํ.
อุภโตพฺยชฺชนกวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
อนุปชฺฌายกาทิวตฺถุกถา
๑๑๗. เตน ¶ โข ปน สมเยนาติ เยน สมเยน ภควตา สิกฺขาปทํ อปฺตฺตํ โหติ, เตน สมเยน. อนุปชฺฌายกนฺติ อุปชฺฌํ อคาหาเปตฺวา สพฺเพน สพฺพํ อุปชฺฌายวิรหิตํ. เอวํ อุปสมฺปนฺนา เนว ธมฺมโต น อามิสโต สงฺคหํ ลภนฺติ, เต ปริหายนฺติเยว, น วฑฺฒนฺติ. น ภิกฺขเว อนุปชฺฌายโกติ อุปชฺฌํ อคาหาเปตฺวา นิรุปชฺฌายโก น อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย อุปสมฺปาเทยฺย อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ สิกฺขาปทปฺตฺติโต ปฏฺาย เอวํ อุปสมฺปาเทนฺตสฺส อาปตฺติ โหติ; กมฺมํ ปน น กุปฺปติ. เกจิ กุปฺปตีติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. สงฺเฆน อุปชฺฌาเยนาติอาทีสุปิ อุภโตพฺยฺชนกุปชฺฌายปริโยสาเนสุ เอเสว นโย.
อนุปชฺฌายกาทิวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
อปตฺตกาทิวตฺถุกถา
๑๑๘. หตฺเถสุ ปิณฺฑาย จรนฺตีติ โย หตฺเถสุ ปิณฺโฑ ลพฺภติ, ตทตฺถาย จรนฺติ. เสยฺยถาปิ ติตฺถิยาติ ยถา อาชีวกนามกา ติตฺถิยา; สูปพฺยฺชเนหิ มิสฺเสตฺวา หตฺเถสุ ปิตปิณฺฑเมว หิ เต ภฺุชนฺติ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอวํ อุปสมฺปาเทนฺตสฺเสว อาปตฺติ โหติ, กมฺมํ ปน น กุปฺปติ. อจีวรกาทิวตฺถูสุปิ เอเสว นโย.
ยาจิตเกนาติ ‘‘ยาว อุปสมฺปทํ กโรม, ตาว เทถา’’ติ ยาจิตฺวา คหิเตน; ตาวกาลิเกนาติ อตฺโถ. อีทิเสน หิ ปตฺเตน วา จีวเรน วา ปตฺตจีวเรน วา อุปสมฺปาเทนฺตสฺเสว อาปตฺติ โหติ, กมฺมํ ปน น กุปฺปติ, ตสฺมา ปริปุณฺณปตฺตจีวโรว อุปสมฺปาเทตพฺโพ. สเจ ตสฺส นตฺถิ, อาจริยุปชฺฌายา จสฺส ทาตุกามา โหนฺติ, อฺเ วา ภิกฺขู นิรเปกฺเขหิ นิสฺสชฺชิตฺวา อธิฏฺานุปคํ ปตฺตจีวรํ ทาตพฺพํ. ปพฺพชฺชาเปกฺขํ ปน ปณฺฑุปลาสํ ยาจิตเกนาปิ ปตฺตจีวเรน ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ, สภาคฏฺาเน วิสฺสาเสน คเหตฺวาปิ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.
สเจ ปน ¶ อปกฺกํ ปตฺตํ จีวรูปคานิ จ วตฺถานิ คเหตฺวา อาคโต โหติ, ยาว ปตฺโต ปจฺจติ, จีวรานิ จ กริยนฺติ, ตาว วิหาเร วสนฺตสฺส ¶ อนามฏฺปิณฺฑปาตํ ทาตุํ วฏฺฏติ, ถาลเก ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ, ปุเรภตฺตํ สามเณรภาคสมโก อามิสภาโค ทาตุํ วฏฺฏติ. เสนาสนคฺคาโห ¶ ปน สลากภตฺตอุทฺเทสภตฺตนิมนฺตนาทีนิ จ น วฏฺฏนฺติ. ปจฺฉาภตฺตมฺปิ สามเณรภาคสโม เตลมธุผาณิตาทิเภสชฺชภาโค วฏฺฏติ. สเจ คิลาโน โหติ, เภสชฺชมสฺส กาตุํ วฏฺฏติ, สามเณรสฺส วิย จ สพฺพํ ปฏิชคฺคนกมฺมนฺติ.
อปตฺตกาทิวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
หตฺถจฺฉินฺนาทิวตฺถุกถา
๑๑๙. หตฺถจฺฉินฺนาทิวตฺถูสุ – หตฺถจฺฉินฺโนติ ยสฺส หตฺถตเล วา มณิพนฺเธ วา กปฺปเร วา ยตฺถ กตฺถจิ เอโก วา ทฺเว วา หตฺถา ฉินฺนา โหนฺติ. ปาทจฺฉินฺโนติ ยสฺส อคฺคปาเท วา โคปฺผเกสุ วา ชงฺฆาย วา ยตฺถ กตฺถจิ เอโก วา ทฺเว วา ปาทา ฉินฺนา โหนฺติ. หตฺถปาทจฺฉินฺโนติ ยสฺส วุตฺตปฺปกาเรเนว จตูสุ หตฺถปาเทสุ ทฺเว วา ตโย วา สพฺเพ วา หตฺถปาทา ฉินฺนา โหนฺติ. กณฺณจฺฉินฺโนติ ยสฺส กณฺณมูเล วา กณฺณสกฺขลิกาย วา เอโก วา ทฺเว วา กณฺณา ฉินฺนา โหนฺติ. ยสฺส ปน กณฺณาวิทฺเธ ฉิชฺชนฺติ, สกฺกา จ โหติ สงฺฆาเฏตุํ, โส กณฺณํ สงฺฆาเฏตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. นาสจฺฉินฺโนติ ยสฺส อชปทเก วา อคฺเค วา เอกปุเฏ วา ยตฺถ กตฺถจิ นาสา ฉินฺนา โหติ. ยสฺส ปน นาสิกา สกฺกา โหติ สนฺเธตุํ, โส ตํ ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. กณฺณนาสจฺฉินฺโน อุภยวเสน เวทิตพฺโพ. องฺคุลิจฺฉินฺโนติ ยสฺส นขเสสํ อทสฺเสตฺวา เอกา วา พหู วา องฺคุลิโย ฉินฺนา โหนฺติ. ยสฺส ปน สุตฺตตนฺตุมตฺตมฺปิ นขเสสํ ปฺายติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อฬจฺฉินฺโนติ ยสฺส จตูสุ องฺคุฏฺเกสุ องฺคุลิยํ วุตฺตนเยเนว เอโก วา พหู วา องฺคุฏฺกา ฉินฺนา โหนฺติ. กณฺฑรจฺฉินฺโนติ ยสฺส กณฺฑรนามกา มหานฺหารู ปุรโต วา ปจฺฉโต วา ฉินฺนา โหนฺติ; เยสุ เอกสฺสปิ ฉินฺนตฺตา อคฺคปาเทน วา จงฺกมติ, มูเลน วา จงฺกมติ, น วา ปาทํ ปติฏฺาเปตุํ สกฺโกติ.
ผณหตฺถโกติ ¶ ยสฺส วคฺคุลิปกฺขกา วิย องฺคุลิโย สมฺพทฺธา โหนฺติ; เอตํ ปพฺพาเชตุกาเมน องฺคุลนฺตริกาโย ผาเลตฺวา สพฺพํ อนฺตรจมฺมํ อปเนตฺวา ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. ยสฺสปิ ฉ องฺคุลิโย ¶ โหนฺติ, ตํ ปพฺพาเชตุกาเมน อธิกองฺคุลึ ฉินฺทิตฺวา ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ.
ขุชฺโชติ โย อุรสฺส วา ปิฏฺิยา วา ปสฺสสฺส วา นิกฺขนฺตตฺตา ขุชฺชสรีโร. ยสฺส ปน ¶ กิฺจิ กิฺจิ องฺคปจฺจงฺคํ อีสกํ วงฺกํ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. มหาปุริโส เอว หิ พฺรหฺมุชฺชุคตฺโต, อวเสโส สตฺโต อขุชฺโช นาม นตฺถิ.
วามโนติ ชงฺฆวามโน วา กฏิวามโน วา อุภยวามโน วา. ชงฺฆวามนสฺส กฏิโต ปฏฺาย เหฏฺิมกาโย รสฺโส โหติ, อุปริมกาโย ปริปุณฺโณ. กฏิวามนสฺส กฏิโต ปฏฺาย อุปริมกาโย รสฺโส โหติ, เหฏฺิมกาโย ปริปุณฺโณ. อุภยวามนสฺส อุโภปิ กายา รสฺสา โหนฺติ, เยสํ รสฺสตฺตา ภูตานํ วิย ปริวฏุโม มหากุจฺฉิฆฏสทิโส อตฺตภาโว โหติ, ตํ ติวิธมฺปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ.
คลคณฺฑีติ ยสฺส กุมฺภณฺฑํ วิย คเล คณฺโฑ โหติ. เทสนามตฺตเมว เจตํ, ยสฺมึ กิสฺมิฺจิ ปน ปเทเส คณฺเฑ สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ. ตตฺถ วินิจฺฉโย – ‘‘น ภิกฺขเว ปฺจหิ อาพาเธหิ ผุฏฺโ ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ เอตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ลกฺขณาหตกสาหตลิขิตเกสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ‘‘น ภิกฺขเว ลกฺขณาหโต’’ติอาทีสุ วุตฺตเมว.
สีปทีติ ภารปาโท วุจฺจติ. ยสฺส ปาโท ถูโล โหติ สฺชาตปิฬโก ขโร, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. ยสฺส ปน น ตาว ขรภาวํ คณฺหาติ, สกฺกา โหติ อุปนาหํ พนฺธิตฺวา อุทกอาวาเฏ ปเวเสตฺวา อุทกวาลิกาย ปูเรตฺวา ยถา สิรา ปฺายนฺติ, ชงฺฆา จ เตลนาฬิกา วิย โหติ, เอวํ มิลาเปตุํ สกฺกา, ตสฺส ปาทํ อีทิสํ กตฺวา ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปุน วฑฺฒติ, อุปสมฺปาเทนฺเตนาปิ ตถา กตฺวาว อุปสมฺปาเทตพฺโพ.
ปาปโรคีติ อริสภคนฺทรปิตฺตเสมฺหกาสโสสาทีสุ เยน เกนจิ โรเคน นิจฺจาตุโร อเตกิจฺฉโรโค เชคุจฺโฉ อมนาโป; อยํ น ปพฺพาเชตพฺโพ.
ปริสทูสโกติ โย อตฺตโน วิรูปตาย ปริสํ ทูเสติ; อติทีโฆ วา โหติ อฺเสํ สีสปฺปมาณนาภิปฺปเทโส, อติรสฺโส ¶ วา อุภยวามนภูตรูปํ ¶ วิย, อติกาโฬ วา ฌาปิตเขตฺเต ขาณุโก วิย, อจฺโจทาโต วา ทธิตกฺกาทีหิ ปมชฺชิตมฏฺตมฺพโลหวณฺโณ, อติกิโส วา มนฺทมํสโลหิโต อฏฺิสิราจมฺมสรีโร วิย, อติถูโล วา ภาริยมํโส, มโหทโร วา มหาภูตสทิโส, อติมหนฺตสีโส วา ปจฺฉึ สีเส กตฺวา ิโต วิย, อติขุทฺทกสีโส วา สรีรสฺส อนนุรูเปน อติขุทฺทเกน สีเสน สมนฺนาคโต, กูฏกูฏสีโส วา ¶ ตาลผลปิณฺฑิสทิเสน สีเสน สมนฺนาคโต, สิขรสีโส วา อุทฺธํ อนุปุพฺพตนุเกน สีเสน สมนฺนาคโต, นาฬิสีโส วา มหาเวฬุปพฺพสทิเสน สีเสน สมนฺนาคโต, กปฺปสีโส วา ปพฺภารสีโส วา จตูสุ ปสฺเสสุ เยน เกนจิ ปสฺเสน โอณเตน สีเสน สมนฺนาคโต, วณสีโส วา ปูติสีโส วา กณฺณิกเกโส วา ปาณเกหิ ขายิตเกทาเร สสฺสสทิเสหิ ตหึ ตหึ อุฏฺิเตหิ เกเสหิ สมนฺนาคโต, นิลฺโลมสีโส วา ถูลถทฺธเกโส วา ตาลหีรสทิเสหิ เกเสหิ สมนฺนาคโต, ชาติปลิเตหิ ปณฺฑรสีโส วา ปกติตมฺพเกโส วา อาทิตฺเตหิ วิย เกเสหิ สมนฺนาคโต, อาวฏฺฏสีโส วา คุนฺนํ สรีเร อาวฏฺฏสทิเสหิ อุทฺธคฺเคหิ เกสาวฏฺเฏหิ สมนฺนาคโต, สีสโลเมหิ สทฺธึ เอกาพทฺธภมุกโลโม วา ชาลพทฺเธน วิย นลาเฏน สมนฺนาคโต.
สมฺพทฺธภมุโก วา นิลฺโลมภมุโก วา มกฺกฏภมุโก วา อติมหนฺตกฺขิ วา อติขุทฺทกกฺขิ วา มหึสจมฺเม วาสิโกเณน ปหริตฺวา กตฉิทฺทสทิเสหิ อกฺขีหิ สมนฺนาคโต, วิสมกฺขิ วา เอเกน มหนฺเตน เอเกน ขุทฺทเกน อกฺขินา สมนฺนาคโต, วิสมจกฺกโล วา เอเกน อุทฺธํ เอเกน อโธติ เอวํ วิสมชาเตหิ อกฺขิจกฺกเลหิ สมนฺนาคโต, เกกโร วา คมฺภีรกฺขิ วา ยสฺส คมฺภีเร อุทปาเน อุทกตารกา วิย อกฺขิตารกา ปฺายนฺติ; นิกฺขนฺตกฺขิ วา ยสฺส กกฺกฏกสฺเสว อกฺขิตารกา นิกฺขนฺตา โหนฺติ; หตฺถิกณฺโณ วา มหตีหิ กณฺณสกฺขลิกาหิ สมนฺนาคโต, มูสิกกณฺโณ วา ชฏุกกณฺโณ วา ขุทฺทิกาหิ กณฺณสกฺขลิกาหิ สมนฺนาคโต, ฉิทฺทมตฺตกณฺโณ วา ยสฺส วินา กณฺณสกฺขลิกาหิ ¶ กณฺณฉิทฺทมตฺตเมว ¶ โหติ; อวิทฺธกณฺโณ วา โยนกชาติโก ปน ปริสทูสโก น โหติ; สภาโวเยว หิ โส ตสฺส กณฺณภคนฺทริโก วา นิจฺจปูตินา กณฺเณน สมนฺนาคโต, คณฺฑกณฺโณ วา สทาปคฺฆริตปุพฺเพน กณฺเณน สมนฺนาคโต, ฏงฺกิตกณฺโณ วา โคภตฺตนาฬิกาย อคฺคสทิเสหิ กณฺเณหิ สมนฺนาคโต, อติปิงฺคลกฺขิ วา มธุปิงฺคลํ ปน ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. นิปฺปขุมกฺขิ วา อสฺสุปคฺฆรณกฺขิ วา ปุปฺผิตกฺขิ วา อกฺขิปาเกน สมนฺนาคตกฺขิ วา.
อติมหนฺตนาสิโก วา อติขุทฺทกนาสิโก วา จิปิฏนาสิโก วา มชฺเฌ อปฺปติฏฺหิตฺวา เอกปสฺเส ิตวงฺกนาสิโก วา, ทีฆนาสิโก วา สุกตุณฺฑสทิสาย ชิวฺหาย เลหิตุํ สกฺกุเณยฺยาย นาสิกาย สมนฺนาคโต, นิจฺจปคฺฆริตสิงฺฆาณิกนาโส วา.
มหามุโข วา ยสฺส ปฏงฺคมณฺฑูกสฺเสว มุขนิมิตฺตํเยว มหนฺตํ โหติ, มุขํ ปน ลาพุสทิสํ ¶ อติขุทฺทกํ, ภินฺนมุโข วา วงฺกมุโข วา มหาโอฏฺโ วา อุกฺขลิมุขวฏฺฏิสทิเสหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต, ตนุกโอฏฺโ วา เภริจมฺมสทิเสหิ ทนฺเต ปิทหิตุํ อสมตฺเถหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต, มหาธโรฏฺโ วา ตนุกอุตฺตโรฏฺโ วา ตนุกอธโรฏฺโ วา มหาอุตฺตโรฏฺโ วา โอฏฺฉินฺนโก วา เอฬมุโข วา อุปฺปกฺกมุโข วา สงฺขตุณฺฑโก วา พหิเสเตหิ อนฺโต อติรตฺเตหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต, ทุคฺคนฺธกุณปมุโข วา.
มหาทนฺโต วา อฏฺกทนฺตสทิเสหิ ทนฺเตหิ สมนฺนาคโต อสุรทนฺโต วา เหฏฺา วา อุปริ วา พหินิกฺขนฺตทนฺโต, ยสฺส ปน สกฺกา โหติ โอฏฺเหิ ปิทหิตุํ กเถนฺตสฺเสว ปฺายติ โน อกเถนฺตสฺส, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. ปูติทนฺโต วา นิทฺทนฺโต วา ยสฺส ปน ทนฺตนฺตเร กลนฺทกทนฺโต วิย สุขุมทนฺโต โหติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.
มหาหนุโก วา โคหนุสทิเสน หนุนา สมนฺนาคโต, ทีฆหนุโก วา จิปิฏหนุโก วา อนฺโตปวิฏฺเน วิย อติรสฺเสน หนุเกน สมนฺนาคโต, ภินฺนหนุโก วา วงฺกหนุโก วา นิมฺมสฺสุทาิโก วา ภิกฺขุนิสทิสมุโข ทีฆคโล วา พกคลสทิเสน คเลน สมนฺนาคโต, รสฺสคโล วา อนฺโตปวิฏฺเน ¶ วิย คเลน สมนฺนาคโต, ภินฺนคโล วา ภฏฺอํสกูโฏ วา อหตฺโถ วา เอกหตฺโถ วา อติรสฺสหตฺโถ ¶ วา อติทีฆหตฺโถ วา ภินฺนอุโร วา ภินฺนปิฏฺิ วา กจฺฉุคตฺโต วา กณฺฑุคตฺโต วา ททฺทุคตฺโต วา โคธาคตฺโต วา, ยสฺส โคธาย วิย คตฺตโต จุณฺณานิ ปตนฺติ, สพฺพฺเจตํ วิรูปกรณํ สนฺธาย วิตฺถาริกวเสน วุตฺตํ. วินิจฺฉโย ปเนตฺถ ‘‘น ภิกฺขเว ปฺจหิ อาพาเธหี’’ติ เอตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
ภฏฺกฏิโก วา มหาอานิสโท วา อุทฺธนกูฏสทิเสหิ อานิสทมํเสหิ อจฺจุคฺคเตหิ สมนฺนาคโต, มหาอูรุโก วา วาตณฺฑิโก วา มหาชาณุโก วา สงฺฆฏฺฏนชาณุโก วา ทีฆชงฺโฆ วา ยฏฺิสทิสชงฺโฆ วิกโฏ วา ปณฺโห วา อุพฺพทฺธปิณฺฑิโก วา, โส ทุวิโธ เหฏฺา โอรุฬฺหาหิ วา อุปริ อารุฬฺหาหิ วา มหตีหิ ชงฺฆปิณฺฑิกาหิ สมนฺนาคโต, มหาชงฺโฆ วา ถูลชงฺฆปิณฺฑิโก วา มหาปาโท วา มหาปณฺหิ วา ปิฏฺิกปาโท วา ปาทเวมชฺฌโต อุฏฺิตชงฺโฆ วงฺกปาโท วา โส ทุวิโธ – อนฺโต วา พหิ วา ปริวตฺตปาโท คณฺิกงฺคุลิ วา สิงฺคิเวรผณสทิสาหิ องฺคุลีหิ สมนฺนาคโต, อนฺธนโข วา กาฬวณฺเณหิ ปูตินเขหิ สมนฺนาคโต, สพฺโพปิ เอส ปริสทูสโก. เอวรูโป ปริสทูสโก น ปพฺพาเชตพฺโพ.
กาโณติ ปสนฺนนฺโธ วา โหตุ ปุปฺผาทีหิ วา อุปหตปสาโท. โย ทฺวีหิ วา เอเกน วา อกฺขินา ¶ น ปสฺสติ, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. มหาปจฺจริยํ ปน เอกกฺขิกาโณ กาโณติ วุตฺโต, ทฺวิอกฺขิกาโณ อนฺเธน สงฺคหิโต. มหาอฏฺกถายํ ชจฺจนฺโธ อนฺโธติ วุตฺโต, ตสฺมา อุภยมฺปิ ปริยาเยน ยุชฺชติ. กุณีติ หตฺถกุณี วา ปาทกุณี วา องฺคุลิกุณี วา; ยสฺส เอเตสุ หตฺถาทีสุ ยํกิฺจิ วงฺกํ ปฺายติ, โส กุณี นาม. ขฺโชติ นตชาณุโก วา ภินฺนชงฺโฆ วา มชฺเฌ สงฺกุฏิตปาทตฺตา กุณฺฑปาทโก วา ปิฏฺิปาทมชฺเฌน จงฺกมนฺโต อคฺเค สงฺกุฏิตปาทตฺตา กุณฺฑปาทโก วา ปิฏฺิปาทคฺเคน จงฺกมนฺโต อคฺคปาเทเนว จงฺกมนขฺโช วา ปณฺหิกาย จงฺกมนขฺโช ¶ วา ปาทสฺส พาหิรนฺเตน จงฺกมนขฺโช วา ปาทสฺส อพฺภนฺตรนฺเตน จงฺกมนขฺโช วา โคปฺผกานํ อุปริ ภคฺคตฺตา สกเลน ปิฏฺิปาเทน จงฺกมนขฺโช วา; สพฺโพเปส ขฺโชเยว, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ.
ปกฺขหโตติ ¶ ยสฺส เอโก หตฺโถ วา ปาโท วา อฑฺฒสรีรํ วา สุขํ น วหติ. ฉินฺนิริยาปโถติ ปีสปฺปิ วุจฺจติ. ชราทุพฺพโลติ ชิณฺณภาเวน ทุพฺพโล อตฺตโน จีวรรชนาทิกมฺมํ กาตุมฺปิ อสมตฺโถ. โย ปน มหลฺลโกปิ พลวา โหติ, อตฺตานํ ปฏิชคฺคิตุํ สกฺโกติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพ. อนฺโธติ ชจฺจนฺโธ วุจฺจติ. มูโคติ ยสฺส วจีเภโท นปฺปวตฺตติ; ยสฺสาปิ ปวตฺตติ, สรณคมนํ ปน ปริปุณฺณํ ภาสิตุํ น สกฺโกติ, ตาทิสํ มมฺมนมฺปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. โย ปน สรณคมนมตฺตํ ปริปุณฺณํ ภาสิตุํ สกฺโกติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.
พธิโรติ โย สพฺเพน สพฺพํ น สุณาติ. โย ปน มหาสทฺทํ สุณาติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อนฺธมูคาทโย อุภยโทสวเสน วุตฺตา. เยสฺจ ปพฺพชฺชา ปฏิกฺขิตฺตา, อุปสมฺปทาปิ เตสํ ปฏิกฺขิตฺตาว. สเจ ปน เต สงฺโฆ อุปสมฺปาเทติ, สพฺเพปิ หตฺถจฺฉินฺนาทโย สูปสมฺปนฺนา, การกสงฺโฆ ปน อาจริยุปชฺฌายา จ อาปตฺติโต น มุจฺจนฺติ. วกฺขติ จ – ‘‘อตฺถิ ภิกฺขเว ปุคฺคโล อปฺปตฺโต โอสารณํ, ตฺเจ สงฺโฆ โอสาเรติ, เอกจฺโจ สุโอสาริโต, เอกจฺโจ ทุโอสาริโต’’ติ ตสฺสตฺโถ อาคตฏฺาเนเยว อาวิ ภวิสฺสตีติ.
หตฺถจฺฉินฺนาทิวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
อลชฺชีนิสฺสยวตฺถุกถา
๑๒๐. อลชฺชีนํ นิสฺสาย วสนฺตีติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ; อลชฺชิปุคฺคเล นิสฺสาย วสนฺตีติ ¶ อตฺโถ. ยาว ภิกฺขุสภาคตํ ชานามีติ นิสฺสยทายกสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขูหิ สภาคตํ ลชฺชิภาวํ ยาว ชานามีติ อตฺโถ. ตสฺมา นวํ านํ คเตน ‘‘เอหิ ภิกฺขุ, นิสฺสยํ คณฺหาหี’’ติ วุจฺจมาเนนาปิ จตูหปฺจาหํ นิสฺสยทายกสฺส ลชฺชิภาวํ อุปปริกฺขิตฺวา นิสฺสโย คเหตพฺโพ.
สเจ ‘‘เถโร ลชฺชี’’ติ ภิกฺขูนํ สนฺติเก สุตฺวา อาคตทิวเสเยว คเหตุกาโม โหติ, เถโร ปน ‘‘อาคเมหิ ตาว, วสนฺโต ชานิสฺสสี’’ติ กติปาหํ อาจารํ อุปปริกฺขิตฺวา นิสฺสยํ เทติ, วฏฺฏติ. ปกติยา นิสฺสยคฺคหณฏฺานํ ¶ คเตน ตทเหว คเหตพฺโพ, เอกทิวสมฺปิ ปริหาโร ¶ นตฺถิ. สเจ ปมยาเม อาจริยสฺส โอกาโส นตฺถิ, โอกาสํ อลภนฺโต ‘‘ปจฺจูสสมเย คเหสฺสามี’’ติ สยติ, อรุณํ อุคฺคตมฺปิ น ชานาติ, อนาปตฺติ. สเจ ปน ‘‘คณฺหิสฺสามี’’ติ อาโภคํ อกตฺวา สยติ, อรุณุคฺคมเน ทุกฺกฏํ. อคตปุพฺพํ านํ คเตน ทฺเว ตีณิ ทิวสานิ วสิตฺวา คนฺตุกาเมน อนิสฺสิเตน วสิตพฺพํ. ‘‘สตฺตาหํ วสิสฺสามี’’ติ อาลยํ กโรนฺเตน ปน นิสฺสโย คเหตพฺโพ. สเจ เถโร ‘‘กึ สตฺตาหํ วสนฺตสฺส นิสฺสเยนา’’ติ วทติ, ปฏิกฺขิตฺตกาลโต ปฏฺาย ลทฺธปริหาโร โหติ.
อลชฺชีนิสฺสยวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
คมิกาทินิสฺสยวตฺถุกถา
๑๒๑. นิสฺสยกรณีโยติ กรณียนิสฺสโย, กรณีโย มยา นิสฺสโย; คเหตพฺโพติ อตฺโถ. นิสฺสยํ อลภมาเนนาติ อตฺตนา สทฺธึ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺเนสุ นิสฺสยทายเก อสติ นิสฺสยํ น ลภติ นาม. เอวํ อลภนฺเตน อนิสฺสิเตน พหูนิปิ ทิวสานิ คนฺตพฺพํ. สเจ ปุพฺเพปิ นิสฺสยํ คเหตฺวา วุตฺถปุพฺพํ กฺจิ อาวาสํ ปวิสติ, เอกรตฺตํ วสนฺเตนาปิ นิสฺสโย คเหตพฺโพ. อนฺตรามคฺเค วิสฺสมนฺโต วา สตฺถํ ปริเยสนฺโต วา กติปาหํ วสติ, อนาปตฺติ. อนฺโตวสฺเส ปน นิพทฺธวาสํ วสิตพฺพํ, นิสฺสโย จ คเหตพฺโพ. นาวาย คจฺฉนฺตสฺส ปน วสฺสาเน อาคเตปิ นิสฺสยํ อลภนฺตสฺส อนาปตฺติ.
ยาจิยมาเนนาติ เตน คิลาเนน ยาจิยมาเนน อนิสฺสิเตน วสิตพฺพํ. สเจ ‘‘ยาจาหิ ม’’นฺติ วุจฺจมาโนปิ คิลาโน มาเนน น ยาจติ, คนฺตพฺพํ.
ผาสุ ¶ โหตีติ สมถวิปสฺสนานํ ปฏิลาภวเสน ผาสุ โหติ. อิมฺหิ ปริหารํ เนว โสตาปนฺโน น สกทาคามี อนาคามี อรหนฺโต ลภนฺติ; น ถามคตสฺส สมาธิโน วา วิปสฺสนาย วา ลาภี, วิสฺสฏฺกมฺมฏฺาเน ปน พาลปุถุชฺชเน กถาว นตฺถิ. ยสฺส โข ปน สมโถ วา วิปสฺสนา วา ตรุโณ โหติ, อยํ อิมํ ปริหารํ ลภติ, ปวารณสงฺคโหปิ เอตสฺเสว อนฺุาโต. ตสฺมา อิมินา ปุคฺคเลน อาจริเย ปวาเรตฺวา คเตปิ ‘‘ยทา ปติรูโป นิสฺสยทายโก อาคจฺฉิสฺสติ, ตสฺส นิสฺสาย วสิสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา ปุน ยาว ¶ อาสาฬฺหีปุณฺณมา, ตาว อนิสฺสิเตน วตฺถุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน อาสาฬฺหีมาเส ¶ อาจริโย นาคจฺฉติ, ยตฺถ นิสฺสโย ลพฺภติ, ตตฺถ คนฺตพฺพํ.
๑๒๒. โคตฺเตนปิ อนุสฺสาเวตุนฺติ มหากสฺสปสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโขติ เอวํ โคตฺตํ วตฺวา อนุสฺสาเวตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ.
๑๒๓. ทฺเว เอกานุสฺสาวเนติ ทฺเว เอกโต อนุสฺสาวเน; เอเกน เอกสฺส อฺเน อิตรสฺสาติ เอวํ ทฺวีหิ วา อาจริเยหิ เอเกน วา เอกกฺขเณ กมฺมวาจํ อนุสฺสาเวนฺเตหิ อุปสมฺปาเทตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ.
ทฺเว ตโย เอกานุสฺสาวเน กาตุํ ตฺจ โข เอเกน อุปชฺฌาเยนาติ ทฺเว วา ตโย วา ชเน ปุริมนเยเนว เอกโต อนุสฺสาวเน กาตุํ อนุชานามิ; ตฺจ โข อนุสฺสาวนกิริยํ เอเกน อุปชฺฌาเยน อนุชานามีติ อตฺโถ. ตสฺมา เอเกน อาจริเยน ทฺเว วา ตโย วา อนุสฺสาเวตพฺพา. ทฺวีหิ วา ตีหิ วา อาจริเยหิ วิสุํ วิสุํ เอเกน เอกสฺสาติ เอวํ เอกปฺปหาเรเนว ทฺเว ติสฺโส วา กมฺมวาจา กาตพฺพา. สเจ ปน นานาจริยา นานุปชฺฌายา โหนฺติ, ติสฺสตฺเถโร สุมนตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ, สุมนตฺเถโร ติสฺสตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ อนุสฺสาเวติ, อฺมฺฺจ คณปูรกา โหนฺติ, วฏฺฏติ. สเจ ปน นานาอุปชฺฌายา โหนฺติ, เอโก อาจริโย โหติ, ‘‘นตฺเวว นานุปชฺฌาเยนา’’ติ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา น วฏฺฏติ. อิทํ สนฺธาย หิ เอส ปฏิกฺเขโป.
คมิกาทินิสฺสยวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
อุปสมฺปทาวิธิกถา
๑๒๖. ปมํ ¶ อุปชฺฌํ คาหาเปตพฺโพติ เอตฺถ วชฺชาวชฺชํ อุปนิชฺฌายตีติ อุปชฺฌา, ตํ อุปชฺฌํ; ‘‘อุปชฺฌาโย เม ภนฺเต โหหี’’ติ เอวํ วทาเปตฺวา คาหาเปตพฺโพ. วิตฺถายนฺตีติ วิตฺถทฺธคตฺตา โหนฺติ. ยํ ชาตนฺติ ยํ ตว สรีเร ชาตํ นิพฺพตฺตํ วิชฺชมานํ, ตํ สงฺฆมชฺเฌ ปุจฺฉนฺเต สนฺตํ อตฺถีติ วตฺตพฺพนฺติอาทิ. อุลฺลุมฺปตุ มนฺติ อุทฺธรตุ มํ.
อุปสมฺปทาวิธิกถา นิฏฺิตา.
จตฺตาโรนิสฺสยาทิกถา
๑๒๘. ตาวเทวาติ ¶ อุปสมฺปนฺนสมนนฺตรเมว. ฉายา เมตพฺพาติ เอกโปริสา วา ทฺวิโปริสา วาติ ฉายา เมตพฺพา. อุตุปฺปมาณํ อาจิกฺขิตพฺพนฺติ ‘‘วสฺสาโน เหมนฺโต คิมฺโห’’ติ เอวํ อุตุปฺปมาณํ อาจิกฺขิตพฺพํ. เอตฺถ จ อุตุเยว อุตุปฺปมาณํ. สเจ วสฺสานาทโย อปริปุณฺณา โหนฺติ, ยตฺตเกหิ ทิวเสหิ ยสฺส โย อุตุ อปริปุณฺโณ, เต ทิวเส สลฺลกฺเขตฺวา โส ทิวสภาโค อาจิกฺขิตพฺโพ. อถ วา ‘‘อยํ นาม อุตุ, โส จ โข ปริปุณฺโณ วา อปริปุณฺโณ วา’’ติ เอวํ อุตุปฺปมาณํ อาจิกฺขิตพฺพํ. ‘‘ปุพฺพณฺโห วา สายนฺโห วา’’ติ เอวํ ทิวสภาโค ¶ อาจิกฺขิตพฺโพ. สงฺคีตีติ อิทเมว สพฺพํ เอกโต กตฺวา ‘‘ตฺวํ กึ ลภสิ, กา เต ฉายา, กึ อุตุปฺปมาณํ, โก ทิวสภาโค’’ติ ปุฏฺโ ‘‘อิทํ นาม ลภามิ – วสฺสํ วา เหมนฺตํ วา คิมฺหํ วา, อยํ เม ฉายา, อิทํ อุตุปฺปมาณํ, อยํ ทิวสภาโคติ วเทยฺยาสี’’ติ เอวํ อาจิกฺขิตพฺพํ.
๑๒๙. โอหายาติ ฉฑฺเฑตฺวา. ทุติยํ ทาตุนฺติ อุปสมฺปทมาฬกโต ปริเวณํ คจฺฉนฺตสฺส ทุติยกํ ทาตุํ อนุชานามิ, จตฺตาริ จ อกรณียานิ อาจิกฺขิตุนฺติ อตฺโถ. ปณฺฑุปลาโสติ ปณฺฑุวณฺโณ ปตฺโต. พนฺธนา ปวุตฺโตติ วณฺฏโต ปติโต. อภพฺโพ หริตตฺถายาติ ปุน หริโต ภวิตุํ อภพฺโพ. ปุถุสิลาติ มหาสิลา.
๑๓๐. อลพฺภมานาย สามคฺคิยา อนาปตฺติ สมฺโภเค สํวาเสติ ยาว ตสฺส อุกฺเขปนียกมฺมกรณตฺถาย สามคฺคี น ลพฺภติ, ตาว เตน สทฺธึ สมฺโภเค จ อุโปสถปวารณาทิกรณเภเท ¶ สํวาเส จ อนาปตฺตีติ. เสสํ สพฺพตฺถ มหาวิภงฺเค วุตฺตานุสาเรน สุวิฺเยฺยตฺตา ปากฏเมวาติ.
จตฺตาโรนิสฺสยาทิกถา นิฏฺิตา.
สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย
ทฺวาสตฺตติอธิกวตฺถุสตปฏิมณฺฑิตสฺส มหาขนฺธกสฺส
อตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.
มหาขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อุโปสถกฺขนฺธกํ
สนฺนิปาตานุชานนาทิกถา
๑๓๒. อุโปสถกฺขนฺธเก ¶ ¶ – อฺติตฺถิยาติ เอตฺถ ติตฺถํ วุจฺจติ ลทฺธิ; อฺํ ติตฺถํ อฺติตฺถํ; อฺติตฺถํ เอเตสํ อตฺถีติ อฺติตฺถิยา; อิโต อฺลทฺธิกาติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺมํ ภาสนฺตีติ ยํ เตสํ กตฺตพฺพากตฺตพฺพํ, ตํ กเถนฺติ. เต ลภนฺตีติ เต มนุสฺสา ลภนฺติ. มูคสูกราติ ถูลสรีรสูกรา.
๑๓๕. อนชฺฌาปนฺโน วา โหติ อาปชฺชิตฺวา วา วุฏฺิโตติ เอตฺถ ยํ อาปตฺตึ ภิกฺขุ อนชฺฌาปนฺโน วา โหติ, อาปชฺชิตฺวา วา วุฏฺิโต, อยํ อสนฺตี นาม อาปตฺตีติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. สมฺปชานมุสาวาเท กึ โหตีติ ยฺวายํ สมฺปชานมุสาวาโท อสฺส โหตีติ วุตฺโต, โส อาปตฺติโต กึ โหติ, กตรา อาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ. ทุกฺกฏํ โหตีติ ทุกฺกฏาปตฺติ โหติ; สา จ โข น ¶ มุสาวาทลกฺขเณน; ภควโต ปน วจเนน วจีทฺวาเร อกิริยสมุฏฺานา อาปตฺติ โหตีติ เวทิตพฺพา. วกฺขติ หิ –
‘‘อนาลปนฺโต มนุเชน เกนจิ,
วาจาคิรํ โน จ ปเร ภเณยฺย;
อาปชฺเชยฺย วาจสิกํ น กายิกํ,
ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๗๙);
อนฺตรายิโกติ อนฺตรายกโร. กิสฺส ผาสุ โหตีติ กิมตฺถาย ผาสุ โหติ. ปมสฺส ฌานสฺส อธิคมายาติ ปมสฺส ฌานสฺส อธิคมนตฺถาย ตสฺส ภิกฺขุโน ผาสุ โหติ สุขํ โหติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อิติ ภควา อุทฺเทสโต จ นิทฺเทสโต จ ปมํ ปาติโมกฺขุทฺเทสํ ทสฺเสสิ.
๑๓๖. เทวสิกนฺติ ¶ ทิวเส ทิวเส. จาตุทฺทเส วา ปนฺนรเส วาติ เอกสฺส อุตุโน ตติเย จ สตฺตเม จ ปกฺเข ทฺวิกฺขตฺตุํ จาตุทฺทเส อวเสเส ฉกฺขตฺตุํ ปนฺนรเส; อยํ ตาว เอโก อตฺโถ. อยํ ปน ปกติจาริตฺตวเสน ¶ วุตฺโต ‘‘สกึ ปกฺขสฺส จาตุทฺทเส วา ปนฺนรเส วา’’ติ วจนโต ปน ตถารูเป ปจฺจเย สติ ยสฺมึ ตสฺมึ จาตุทฺทเส วา ปนฺนรเส วา อุทฺทิสิตุํ วฏฺฏติ, อาวาสิกานํ ภิกฺขูนํ จาตุทฺทโส โหติ, อาคนฺตุกานํ ปนฺนรโส. สเจ อาวาสิกา พหุตรา โหนฺติ, อาคนฺตุเกหิ อาวาสิกานํ อนุวตฺติตพฺพ’’นฺติ วจนโตปิ เจตํ เวทิตพฺพํ.
สีมานุชานนกถา
๑๓๘. ปมํ นิมิตฺตา กิตฺเตตพฺพาติ วินยธเรน ปุจฺฉิตพฺพํ ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺต’’นฺติ? ปพฺพโต ภนฺเตติ. ปุน วินยธเรน ‘‘เอโส ปพฺพโต นิมิตฺต’’นฺติ เอวํ นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ. ‘‘เอตํ ปพฺพตํ นิมิตฺตํ กโรม, กริสฺสาม, นิมิตฺตํ กโต, นิมิตฺตํ โหตุ, โหติ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ ปน กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ. ปาสาณาทีสุปิ เอเสว นโย. ปุรตฺถิมาย อนุทิสาย, ทกฺขิณาย ทิสาย, ทกฺขิณาย อนุทิสาย, ปจฺฉิมาย ทิสาย, ปจฺฉิมาย อนุทิสาย, อุตฺตราย ทิสาย, อุตฺตราย อนุทิสาย, กึ นิมิตฺตํ? อุทกํ ภนฺเต. เอตํ อุทกํ นิมิตฺตนฺติ เอตฺถ ปน อฏฺตฺวา ปุน ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺตํ. ปพฺพโต ภนฺเต. เอโส ปพฺพโต นิมิตฺตนฺติ เอวํ ปมํ ¶ กิตฺติตนิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวาว เปตพฺพํ. เอวฺหิ นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฆฏิตํ โหติ. เอวํ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา อถานนฺตรํ วุตฺตาย กมฺมวาจาย สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. กมฺมวาจาปริโยสาเน นิมิตฺตานํ อนฺโต สีมา โหติ, นิมิตฺตานิ สีมโต พหิ โหนฺติ. ตตฺถ นิมิตฺตานิ สกึ กิตฺติตานิปิ กิตฺติตาเนว โหนฺติ. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ติกฺขตฺตุํ สีมมณฺฑลํ สมฺพนฺธนฺเตน นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพนฺติ วุตฺตํ. ‘‘ปพฺพโต ภนฺเตติ…เป… อุทกํ ภนฺเต’’ติ เอวํ ปน อุปสมฺปนฺโน วา อาจิกฺขตุ อนุปสมฺปนฺโน วา วฏฺฏติเยว.
อิทานิ ปพฺพตนิมิตฺตาทีสุ เอวํ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ – ติวิโธ ปพฺพโต, สุทฺธปํสุปพฺพโต, สุทฺธปาสาณปพฺพโต, อุภยมิสฺสโกติ. โส ติวิโธปิ วฏฺฏติ. วาลิกราสิ ปน น วฏฺฏติ. อิตโรปิ หตฺถิปฺปมาณโต โอมกตโร น วฏฺฏติ. หตฺถิปฺปมาณโต ปน ปฏฺาย สิเนรุปฺปมาโณปิ วฏฺฏติ. สเจ จตูสุ ทิสาสุ จตฺตาโร ตีสุ วา ตโย ปพฺพตา โหนฺติ, จตูหิ วา ตีหิ วา ปพฺพตนิมิตฺเตหิ เอว สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏติ. ทฺวีหิ ปน นิมิตฺเตหิ เอเกน ¶ วา สมฺมนฺนิตุํ น วฏฺฏติ. อิโต ปเรสุ ปาสาณนิมิตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย. ตสฺมา ปพฺพตนิมิตฺตํ ¶ กโรนฺเตน ปุจฺฉิตพฺพํ ‘‘เอกาพทฺโธ น เอกาพทฺโธ’’ติ. สเจ เอกาพทฺโธ โหติ, น กาตพฺโพ. ตฺหิ จตูสุ วา อฏฺสุ วา ทิสาสุ กิตฺเตนฺเตนาปิ เอกเมว นิมิตฺตํ กิตฺติตํ โหติ, ตสฺมา โย เอวํ จกฺกสณฺาเนน วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา ิโต ปพฺพโต, ตํ เอกทิสาย กิตฺเตตฺวา อฺาสุ ทิสาสุ ตํ พหิทฺธา กตฺวา อนฺโต อฺานิ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตพฺพานิ.
สเจ ปพฺพตสฺส ตติยภาคํ วา อุปฑฺฒํ วา อนฺโตสีมาย กตฺตุกามา โหนฺติ, ปพฺพตํ อกิตฺเตตฺวา ยตฺตกํ ปเทสํ อนฺโต กตฺตุกามา, ตสฺส ปรโต ตสฺมึเยว ปพฺพเต ชาตรุกฺขวมฺมิกาทีสุ อฺตรํ นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ. สเจ เอกโยชนทฺวิโยชนปฺปมาณํ สพฺพํ ปพฺพตํ อนฺโต กตฺตุกามา โหนฺติ, ปพฺพตสฺส ปรโต ภูมิยํ ชาตรุกฺขวมฺมิกาทีนิ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตพฺพานิ.
ปาสาณนิมิตฺเต – อยคุโฬปิ ปาสาณสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตสฺมา โย ¶ โกจิ ปาสาโณ วฏฺฏติ. ปมาณโต ปน หตฺถิปฺปมาโณ ปพฺพตสงฺขฺยํ คโต, ตสฺมา โส น วฏฺฏติ. มหาโคณมหามหึสปฺปมาโณ ปน วฏฺฏติ. เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ทฺวตฺตึสปลคุฬปิณฺฑปริมาโณ วฏฺฏติ. ตโต ขุทฺทกตโร อิฏฺกา วา มหนฺตีปิ น วฏฺฏติ. อนิมิตฺตุปคปาสาณราสิปิ น วฏฺฏติ, ปเคว ปํสุวาลิกราสิ. ภูมิสโม ขลมณฺฑลสทิโส ปิฏฺิปาสาโณ วา ภูมิโต ขาณุโก วิย อุฏฺิตปาสาโณ วา โหติ, โสปิ ปมาณุปโค เจ วฏฺฏติ. ปิฏฺิปาสาโณ อติมหนฺโตปิ ปาสาณสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตสฺมา สเจ มหโต ปิฏฺิปาสาณสฺส เอกปฺปเทสํ อนฺโตสีมาย กตฺตุกามา โหนฺติ, ตํ อกิตฺเตตฺวา ตสฺสุปริ อฺโ ปาสาโณ กิตฺเตตพฺโพ. สเจ ปิฏฺิปาสาณุปริ วิหารํ กโรนฺติ, วิหารมชฺเฌน วา ปิฏฺิปาสาโณ วินิวิชฺฌิตฺวา คจฺฉติ, เอวรูโป ปิฏฺิปาสาโณ น วฏฺฏติ. สเจ หิ ตํ กิตฺเตนฺติ, นิมิตฺตสฺส อุปริ วิหาโร โหติ, นิมิตฺตฺจ นาม พหิสีมาย โหติ, วิหาโรปิ พหิสีมายํ อาปชฺชติ. วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตปิฏฺิปาสาโณ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ น กิตฺเตตพฺโพ.
วนนิมิตฺเต – ติณวนํ วา ตจสารตาลนาฬิเกราทิรุกฺขวนํ วา น วฏฺฏติ. อนฺโตสารานํ ปน สากสาลาทีนํ อนฺโตสารมิสฺสกานํ วา รุกฺขานํ ¶ วนํ วฏฺฏติ, ตฺจ โข เหฏฺิมปริจฺเฉเทน จตุปฺจรุกฺขมตฺตมฺปิ ตโต โอรํ น วฏฺฏติ, ปรํ โยชนสติกมฺปิ วฏฺฏติ. สเจ ปน วนมชฺเฌ วิหารํ กโรนฺติ, วนํ น กิตฺเตตพฺพํ. เอกเทสํ อนฺโตสีมาย กตฺตุกาเมหิปิ วนํ อกิตฺเตตฺวา ตตฺถ รุกฺขปาสาณาทโย กิตฺเตตพฺพา. วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตวนํ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ น กิตฺเตตพฺพํ.
รุกฺขนิมิตฺเต ¶ – ตจสาโร ตาลนาฬิเกราทิรุกฺโข น วฏฺฏติ, อนฺโตสาโร ชีวมานโก อนฺตมโส อุพฺเพธโต อฏฺงฺคุโล ปริณาหโต สูจิทณฺฑกปฺปมาโณปิ วฏฺฏติ, ตโต โอรํ น วฏฺฏติ, ปรํ ทฺวาทสโยชโน สุปฺปติฏฺิตนิคฺโรโธปิ วฏฺฏติ. วํสนฬกสราวาทีสุ พีชํ โรเปตฺวา วฑฺฒาปิโต ปมาณุปโคปิ น วฏฺฏติ. ตโต อปเนตฺวา ปน ตงฺขณมฺปิ ¶ ภูมิยํ โรเปตฺวา โกฏฺกํ กตฺวา อุทกํ อาสิฺจิตฺวา กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. นวมูลสาขานิคฺคมนํ อการณํ. ขนฺธํ ฉินฺทิตฺวา โรปิเต ปน เอตํ ยุชฺชติ. กิตฺเตนฺเตน จ ‘‘รุกฺโข’’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ, ‘‘สากรุกฺโขติปิ สาลรุกฺโข’’ติปิ. เอกาพทฺธํ ปน สุปฺปติฏฺิตนิคฺโรธสทิสํ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ.
มคฺคนิมิตฺเต – อรฺเขตฺตนทีตฬากมคฺคาทโย น วฏฺฏนฺติ, ชงฺฆมคฺโค วา สกฏมคฺโค วา วฏฺฏติ, โย นิพฺพิชฺฌิตฺวา ทฺเว ตีณิ คามนฺตรานิ คจฺฉติ. โย ปน ชงฺฆมคฺโค สกฏมคฺคโต โอกฺกมิตฺวา ปุน สกฏมคฺคเมว โอตรติ, เย วา ชงฺฆมคฺคสกฏมคฺคา อวฬฺชา, เต น วฏฺฏนฺติ. ชงฺฆสตฺถสกฏสตฺเถหิ วฬฺชิยมานาเยว วฏฺฏนฺติ. สเจ ทฺเว มคฺคา นิกฺขมิตฺวา ปจฺฉา สกฏธุรมิว เอกีภวนฺติ, ทฺวิธา ภินฺนฏฺาเน วา สมฺพนฺธฏฺาเน วา สกึ กิตฺเตตฺวา ปุน น กิตฺเตตพฺพา, เอกาพทฺธนิมิตฺตฺเหตํ โหติ.
สเจ วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา จตฺตาโร มคฺคา จตูสุ ทิสาสุ คจฺฉนฺติ, มชฺเฌ เอกํ กิตฺเตตฺวา อปรํ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ. เอกาพทฺธนิมิตฺตฺเหตํ โหติ. โกณํ นิพฺพิชฺฌิตฺวา คตมคฺคํ ปน ปรภาเค กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. วิหารมชฺเฌน นิพฺพิชฺฌิตฺวา คตมคฺโค ปน น กิตฺเตตพฺโพ. กิตฺติเต นิมิตฺตสฺส อุปริ วิหาโร โหติ. สเจ สกฏมคฺคสฺส อนฺติมจกฺกมคฺคํ นิมิตฺตํ กโรนฺติ, มคฺโค พหิสีมาย โหติ. สเจ พาหิรจกฺกมคฺคํ นิมิตฺตํ กโรนฺติ, พาหิรจกฺกมคฺโคว พหิสีมาย โหติ, เสสํ อนฺโตสีมํ ภชติ. มคฺคํ ¶ กิตฺเตนฺเตน ‘‘มคฺโค ปนฺโถ ปโถ ปชฺโช’’ติ ทสสุ เยน เกนจิ นาเมน กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. ปริขาสณฺาเนน วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา คตมคฺโค เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ.
วมฺมิกนิมิตฺเต – เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ตํ ทิวสํ ชาโต อฏฺงฺคุลุพฺเพโธ โควิสาณปฺปมาโณปิ วมฺมิโก วฏฺฏติ, ตโต โอรํ น วฏฺฏติ, ปรํ หิมวนฺตปพฺพตสทิโสปิ วฏฺฏติ. วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตํ ปน เอกาพทฺธํ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ.
นทีนิมิตฺเต ¶ – ยสฺสา ธมฺมิกานํ ¶ ราชูนํ กาเล อนฺวทฺธมาสํ อนุทสาหํ อนุปฺจาหนฺติ เอวํ อนติกฺกมิตฺวา เทเว วสฺสนฺเต วลาหเกสุ วิคตมตฺเตสุ โสตํ ปจฺฉิชฺชติ, อยํ นทีสงฺขฺยํ น คจฺฉติ. ยสฺสา ปน อีทิเส สุวุฏฺิกาเล วสฺสานสฺส จาตุมาเส โสตํ น ปจฺฉิชฺชติ, ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ อุตฺตรนฺติยา ภิกฺขุนิยา อนฺตรวาสโก เตมิยติ, อยํ นทีสงฺขฺยํ คจฺฉติ, สีมํ พนฺธนฺตานํ นิมิตฺตํ โหติ. ภิกฺขุนิยา นทีปารคมเนปิ อุโปสถาทิสงฺฆกมฺมกรเณปิ นทีปารสีมสมฺมนฺนเนปิ อยเมว นที.
ยา ปน มคฺโค วิย สกฏธุรสณฺาเนน วา ปริขาสณฺาเนน วา วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา คตา, ตํ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ. วิหารสฺส จตูสุ ทิสาสุ อฺมฺํ วินิพฺพิชฺฌิตฺวา คเต นทิจตุกฺเกปิ เอเสว นโย. อสมฺมิสฺสนทิโย ปน จตสฺโสปิ กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. สเจ วตึ กโรนฺโต วิย รุกฺขปาเท นิขณิตฺวา วลฺลิปลาลาทีหิ นทิโสตํ รุมฺภนฺติ, อุทกฺจ อชฺโฌตฺถริตฺวา อาวรณํ ปวตฺตติเยว, นิมิตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติ. ยถา ปน อุทกํ นปฺปวตฺตติ, เอวํ เสตุมฺหิ กเต อปฺปวตฺตมานา นที นิมิตฺตํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ปวตฺตนฏฺาเน นทินิมิตฺตํ, อปฺปวตฺตนฏฺาเน อุทกนิมิตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติ.
ยา ปน ทุพฺพุฏฺิกาเล วา คิมฺเห วา นิรุทกภาเวน นปฺปวตฺตติ, สา วฏฺฏติ. มหานทิโต อุทกมาติกํ นีหรนฺติ, สา กุนฺนทิสทิสา หุตฺวา ตีณิ สสฺสานิ สมฺปาเทนฺตี นิจฺจํ ปวตฺตติ, กิฺจาปิ ปวตฺตติ, นิมิตฺตํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ยา ปน มูเล มหานทิโต นิคฺคตาปิ กาลนฺตเรน เตเนว นิคฺคตมคฺเคน ¶ นทึ ภินฺทิตฺวา สยฺจ คจฺฉติ, คจฺฉนฺตี ปรโต สุสุมาราทิสมากิณฺณา นาวาทีหิ สฺจริตพฺพา นที โหติ, ตํ นิมิตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติ.
อุทกนิมิตฺเต – นิรุทเก าเน นาวาย วา จาฏิอาทีสุ วา อุทกํ ปูเรตฺวา อุทกนิมิตฺตํ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ, ภูมิคตเมว วฏฺฏติ ¶ . ตฺจ โข อปฺปวตฺตนอุทกํ อาวาฏโปกฺขรณิตฬากชาตสฺสรโลณิสมุทฺทาทีสุ ิตํ, อฏฺิตํ ปน โอฆนทิอุทกวาหกมาติกาทีสุ อุทกํ น วฏฺฏติ. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘คมฺภีเรสุ อาวาฏาทีสุ อุกฺเขปิมํ อุทกํ นิมิตฺตํ น กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ ทุวุตฺตํ อตฺตโนมติมตฺตเมว. ิตํ ปน อนฺตมโส สูกรขตายปิ คามทารกานํ กีฬนวาปิยมฺปิ ตงฺขณฺเว ปถวิยํ อาวาฏกํ กตฺวา กุเฏหิ อาหริตฺวา ปูริตอุทกมฺปิ สเจ ยาว กมฺมวาจาปริโยสานา ติฏฺติ, อปฺปํ วา โหตุ พหุ วา, วฏฺฏติ. ตสฺมึ ปน าเน นิมิตฺตสฺากรณตฺถํ ปาสาณวาลิกาปํสุอาทิราสิ วา ปาสาณตฺถมฺโภ วา ทารุตฺถมฺโภ วา กาตพฺโพ. ตํ กาตฺุจ กาเรตฺุจ ภิกฺขุสฺส วฏฺฏติ. ลาภสีมายํ ปน น วฏฺฏติ ¶ . สมานสํวาสกสีมา กสฺสจิ ปีฬนํ น กโรติ, เกวลํ ภิกฺขูนํ วินยกมฺมเมว สาเธติ, ตสฺมา เอตฺถ วฏฺฏติ.
อิเมหิ จ อฏฺหิ นิมิตฺเตหิ อสมฺมิสฺเสหิปิ อฺมฺํ สมฺมิสฺเสหิปิ สีมํ สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏติเยว. สา เอวํ สมฺมนฺนิตฺวา พชฺฌมานา เอเกน ทฺวีหิ วา นิมิตฺเตหิ อพทฺธา โหติ, ตีณิ ปน อาทึ กตฺวา วุตฺตปฺปการานํ นิมิตฺตานํ สเตนาปิ พทฺธา โหติ. สา ตีหิ สิงฺฆาฏกสณฺานา โหติ, จตูหิ จตุรสฺสา วา สิงฺฆาฏกอฑฺฒจนฺทมุทิงฺคาทิสณฺานา วา, ตโต อธิเกหิ นานาสณฺานา. ตํ พนฺธิตุกาเมหิ สามนฺตวิหาเรสุ ภิกฺขู ตสฺส ตสฺส วิหารสฺส สีมาปริจฺเฉทํ ปุจฺฉิตฺวา, พทฺธสีมวิหารานํ สีมาย สีมนฺตริกํ, อพทฺธสีมวิหารานํ สีมาย อุปจารํ เปตฺวา ทิสาจาริกภิกฺขูนํ นิสฺสฺจารสมเย สเจ เอกสฺมึ คามเขตฺเต สีมํ พนฺธิตุกามา, เย ตตฺถ พทฺธสีมวิหารา, เตสุ ภิกฺขูนํ ‘‘มยํ อชฺช สีมํ พนฺธิสฺสาม, ตุมฺเห สกสีมาปริจฺเฉทโต มา นิกฺขมิตฺถา’’ติ เปเสตพฺพํ. เย อพทฺธสีมวิหารา, เตสุ ภิกฺขู เอกชฺฌํ สนฺนิปาเตตพฺพา, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อาหราเปตพฺโพ ¶ . สเจ อฺานิปิ คามกฺเขตฺตานิ อนฺโตกาตุกามา ¶ , เตสุ คาเมสุ เย ภิกฺขู วสนฺติ, เตหิปิ อาคนฺตพฺพํ. อนาคจฺฉนฺตานํ ฉนฺโท อาหริตพฺโพติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘นานาคามเขตฺตานิ นาม ปาเฏกฺกํ พทฺธสีมาสทิสานิ, น ตโต ฉนฺทปาริสุทฺธิ อาคจฺฉติ. อนฺโตนิมิตฺตคเตหิ ปน ภิกฺขูหิ อาคนฺตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ปุน อาห – ‘‘สมานสํวาสกสีมาสมฺมนฺนนกาเล อาคมนมฺปิ อนาคมนมฺปิ วฏฺฏติ. อวิปฺปวาสสีมาสมฺมนฺนนกาเล ปน อนฺโตนิมิตฺตคเตหิ อาคนฺตพฺพํ, อนาคจฺฉนฺตานํ ฉนฺโท อาหริตพฺโพ’’ติ.
เอวํ สนฺนิปติเตสุ ปน ภิกฺขูสุ ฉนฺทารหานํ ฉนฺเท อาหเฏ เตสุ เตสุ มคฺเคสุ นทีติตฺถคามทฺวาราทีสุ จ อาคนฺตุกภิกฺขูนํ สีฆํ สีฆํ หตฺถปาสานยนตฺถฺจ พหิสีมากรณตฺถฺจ อารามิเก เจว สมณุทฺเทเส จ เปตฺวา เภริสฺํ วา สงฺขสฺํ วา กตฺวา นิมิตฺตกิตฺตนานนฺตรํ วุตฺตาย ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ’’ติอาทิกาย กมฺมวาจาย สีมา พนฺธิตพฺพา. กมฺมวาจาปริโยสาเนเยว นิมิตฺตานิ พหิ กตฺวา เหฏฺา ปถวิสนฺธารกํ อุทกํ ปริยนฺตํ กตฺวา สีมา คตา โหติ.
อิมํ ปน สมานสํวาสกสีมํ สมฺมนฺนนฺเตหิ ปพฺพชฺชุปสมฺปทาทีนํ สงฺฆกมฺมานํ สุขกรณตฺถํ ปมํ ขณฺฑสีมา พนฺธิตพฺพา. ตํ ปน พนฺธนฺเตหิ วตฺตํ ชานิตพฺพํ. สเจ หิ โพธิเจติยภตฺตสาลาทีนิ สพฺพวตฺถูนิ ปติฏฺาเปตฺวา กตวิหาเร พนฺธนฺติ, วิหารมชฺเฌ พหูนํ สโมสรณฏฺาเน ¶ อพนฺธิตฺวา วิหารปจฺจนฺเต วิวิตฺโตกาเส พนฺธิตพฺพา. อกตวิหาเร พนฺธนฺเตหิ โพธิเจติยาทีนํ สพฺพวตฺถูนํ านํ สลฺลกฺเขตฺวา ยถา ปติฏฺิเตสุ วตฺถูสุ วิหารปจฺจนฺเต วิวิตฺโตกาเส โหติ, เอวํ พนฺธิตพฺพา. สา เหฏฺิมปริจฺเฉเทน สเจ เอกวีสติ ภิกฺขู คณฺหาติ, วฏฺฏติ. ตโต โอรํ น วฏฺฏติ, ปรํ ภิกฺขุสหสฺสํ คณฺหนฺตีปิ วฏฺฏติ. ตํ พนฺธนฺเตหิ สีมามาฬกสฺส สมนฺตา นิมิตฺตุปคา ปาสาณา เปตพฺพา, น ขณฺฑสีมาย ¶ ิเตหิ มหาสีมา พนฺธิตพฺพา, น มหาสีมาย ิเตหิ ขณฺฑสีมา, ขณฺฑสีมายเมว ปน ตฺวา ขณฺฑสีมา พนฺธิตพฺพา, มหาสีมายเมว ตฺวา มหาสีมา.
ตตฺรายํ พนฺธนวิธิ – สมนฺตา ‘‘เอโส ปาสาโณ นิมิตฺต’’นฺติ เอวํ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา กมฺมวาจาย สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. อถ ตสฺสา เอว ทฬฺหีกมฺมตฺถํ อวิปฺปวาสกมฺมวาจา กาตพฺพา. เอวฺหิ สีมํ สมูหนิสฺสามาติ อาคตา ¶ สมูหนิตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. สีมํ สมฺมนฺนิตฺวา พหิสีมนฺตริกปาสาณา เปตพฺพา. สีมนฺตริกา ปจฺฉิมโกฏิยา เอกรตนปฺปมาณา วฏฺฏติ. วิทตฺถิปฺปมาณาปิ วฏฺฏตีติ กุรุนฺทิยํ, จตุรงฺคุลปฺปมาณาปิ วฏฺฏตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. สเจ ปน วิหาโร มหา โหติ, ทฺเวปิ ติสฺโสปิ ตตุตฺตริปิ ขณฺฑสีมาโย พนฺธิตพฺพา.
เอวํ ขณฺฑสีมํ สมฺมนฺนิตฺวา มหาสีมาสมฺมุติกาเล ขณฺฑสีมโต นิกฺขมิตฺวา มหาสีมาย ตฺวา สมนฺตา อนุปริยายนฺเตหิ สีมนฺตริกปาสาณา กิตฺเตตพฺพา. ตโต อวเสสนิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา หตฺถปาสํ อวิชหนฺเตหิ กมฺมวาจาย สมานสํวาสกสีมํ สมฺมนฺนิตฺวา ตสฺสา ทฬฺหีกมฺมตฺถํ อวิปฺปวาสกมฺมวาจาปิ กาตพฺพา. เอวฺหิ ‘‘สีมํ สมูหนิสฺสามา’’ติ อาคตา สมูหนิตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. สเจ ปน ขณฺฑสีมาย นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา ตโต สีมนฺตริกาย นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา มหาสีมาย นิมิตฺตานิ กิตฺเตนฺติ, เอวํ ตีสุ าเนสุ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา ยํ สีมํ อิจฺฉนฺติ, ตํ ปมํ พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ สนฺเตปิ ยถาวุตฺเตนเยน ขณฺฑสีมโตว ปฏฺาย พนฺธิตพฺพา. เอวํ พทฺธาสุ ปน สีมาสุ ขณฺฑสีมาย ิตา ภิกฺขู มหาสีมาย กมฺมํ กโรนฺตานํ น โกเปนฺติ, มหาสีมาย วา ิตา ขณฺฑสีมาย กมฺมํ กโรนฺตานํ สีมนฺตริกาย ปน ิตา อุภินฺนมฺปิ น โกเปนฺติ. คามเขตฺเต ตฺวา กมฺมํ กโรนฺตานํ ปน สีมนฺตริกาย ิตา โกเปนฺติ. สีมนฺตริกา หิ คามเขตฺตํ ภชติ.
สีมา จ นาเมสา น เกวลํ ปถวิตเลเยว พทฺธา พทฺธา นาม โหติ. อถ โข ปิฏฺิปาสาเณปิ กุฏิเคเหปิ เลเณปิ ปาสาเทปิ ¶ ปพฺพตมตฺถเกปิ พทฺธา พทฺธาเยว โหติ. ตตฺถ ปิฏฺิปาสาเณ พนฺธนฺเตหิ ปาสาณปิฏฺิยํ ราชึ วา โกฏฺเฏตฺวา อุทุกฺขลํ วา ขณิตฺวา นิมิตฺตํ น กาตพฺพํ ¶ , นิมิตฺตุปคปาสาเณ เปตฺวา นิมิตฺตานิ กิตฺเตตพฺพานิ. กมฺมวาจาปริโยสาเน สีมา ปถวิสนฺธารกํ อุทกํ ปริยนฺตํ กตฺวา โอตรติ. นิมิตฺตปาสาณา ยถาาเน น ติฏฺนฺติ, ตสฺมา สมนฺตโต ราชิ วา อุฏฺาเปตพฺพา, จตูสุ วา โกเณสุ ปาสาณา วิชฺฌิตพฺพา, ‘‘อยํ สีมาปริจฺเฉโท’’ติ วตฺวา อกฺขรานิ วา ฉินฺทิตพฺพานิ. เกจิ อุสูยกา สีมํ ฌาเปสฺสามาติ อคฺคึ เทนฺติ, ปาสาณาว ฌายนฺติ, น สีมา.
กุฏิเคเหปิ ¶ พนฺธนฺเตหิ ภิตฺตึ อกิตฺเตตฺวา เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาสฏฺานํ อนฺโต กริตฺวา ปาสาณนิมิตฺตานิ เปตฺวา สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา, อนฺโตกุฏฺฏเมว สีมา โหติ. สเจ อนฺโตกุฏฺเฏ เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาโส นตฺถิ, ปมุเข นิมิตฺตปาสาเณ เปตฺวา สมฺมนฺนิตพฺพา. สเจ เอวมฺปิ นปฺปโหติ, พหินิพฺโพทกปตนฏฺาเนปิ นิมิตฺตานิ เปตฺวา สมฺมนฺนิตพฺพา. เอวํ สมฺมตาย ปน สพฺพํ กุฏิเคหํ สีมฏฺเมว โหติ.
จตุภิตฺติยเลเณปิ พนฺธนฺเตหิ กุฏฺฏํ อกิตฺเตตฺวา ปาสาณาว กิตฺเตตพฺพา. สเจ อนฺโต โอกาโส นตฺถิ, ปมุเขปิ นิมิตฺตานิ เปตพฺพานิ. สเจ นปฺปโหติ, พหิ นิพฺโพทกปตนฏฺาเนปิ นิมิตฺตปาสาเณ เปตฺวา นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. เอวํ เลณสฺส อนฺโต จ พหิ จ สีมา โหติ.
อุปริปาสาเทปิ ภิตฺตึ อกิตฺเตตฺวา อนฺโต ปาสาเณ เปตฺวา สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. สเจ นปฺปโหติ, ปมุเขปิ ปาสาเณ เปตฺวา สมฺมนฺนิตพฺพา. เอวํ สมฺมตา อุปริปาสาเทเยว โหติ, เหฏฺา น โอตรติ. สเจ ปน พหูสุ ถมฺเภสุ ตุลานํ อุปริ กตปาสาทสฺส เหฏฺิมตเล ¶ กุฏฺโฏ ยถา นิมิตฺตานํ อนฺโต โหติ, เอวํ อุฏฺหิตฺวา ตุลารุกฺเขหิ เอกสมฺพทฺโธ ิโต, เหฏฺาปิ โอตรติ. เอกถมฺภปาสาทสฺส ปน อุปริมตเล พทฺธา สีมา สเจ ถมฺภมตฺถเก เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาโส โหติ, เหฏฺา โอตรติ. สเจ ปาสาทภิตฺติโต นิคฺคเตสุ นิยฺยูหกาทีสุ ปาสาเณ เปตฺวา สีมํ พนฺธนฺติ, ปาสาทภิตฺติ อนฺโตสีมายํ โหติ. เหฏฺา ปนสฺสา โอตรณาโนตรณํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เหฏฺาปาสาเท กิตฺเตนฺเตหิปิ ภิตฺติ จ รุกฺขตฺถมฺภา จ น กิตฺเตตพฺพา. ภิตฺติลคฺเค ปน ปาสาณตฺถมฺเภ กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. เอวํ กิตฺติตา สีมา เหฏฺา ปาสาทสฺส ปริยนฺตถมฺภานํ อนฺโตเยว โหติ. สเจ ปน เหฏฺาปาสาทสฺส กุฑฺโฑ อุปริมตเลน สมฺพทฺโธ โหติ, อุปริปาสาทมฺปิ อภิรุหติ. สเจ ปาสาทสฺส พหิ นิพฺโพทกปตนฏฺาเน นิมิตฺตานิ กโรนฺติ, สพฺโพ ปาสาโท สีมฏฺโ โหติ.
ปพฺพตมตฺถเก ¶ ¶ ตลํ โหติ เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาสารหํ, ตตฺถ ปิฏฺิปาสาเณ วิย สีมํ พนฺธนฺติ. เหฏฺาปพฺพเตปิ เตเนว ปริจฺเฉเทน สีมา โอตรติ. ตาลมูลกปพฺพเตปิ อุปริ สีมา พทฺธา เหฏฺา โอตรเตว. โย ปน วิตานสณฺาโน โหติ, อุปริ เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาโส อตฺถิ, เหฏฺา นตฺถิ, ตสฺส อุปริ พทฺธา สีมา เหฏฺา น โอตรติ. เอวํ มุทิงฺคสณฺาโน วา โหตุ ปณวสณฺาโน วา, ยสฺส เหฏฺา วา มชฺเฌ วา สีมปฺปมาณํ นตฺถิ, ตสฺสุปริ พทฺธา สีมา เหฏฺา เนว โอตรติ. ยสฺส ปน ทฺเว กูฏานิ อาสนฺเน ิตานิ, เอกสฺสปิ อุปริ สีมปฺปมาณํ นปฺปโหติ, ตสฺส กูฏนฺตรํ จินิตฺวา วา ปูเรตฺวา วา เอกาพทฺธํ กตฺวา อุปริ สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา.
เอโก สปฺปผณสทิโส ปพฺพโต, ตสฺสุปริ สีมปฺปมาณสฺส อตฺถิตาย สีมํ พนฺธนฺติ, ตสฺส เจ เหฏฺา อากาสปพฺภารํ โหติ, สีมา น โอตรติ. สเจ ปนสฺส เวมชฺเฌ สีมปฺปมาโณ สุสิรปาสาโณ โหติ, โอตรติ. โส จ ปาสาโณ สีมฏฺโเยว โหติ. อถาปิสฺส เหฏฺา เลณสฺส กุฏฺโฏ อคฺคโกฏึ อาหจฺจ ติฏฺติ ¶ , โอตรติ, เหฏฺา จ อุปริ จ สีมาเยว โหติ. สเจ ปน เหฏฺา อุปริมสฺส สีมาปริจฺเฉทสฺส ปารโต อนฺโต-เลณํ โหติ, พหิ สีมา น โอตรติ. อถาปิ อุปริมสฺส สีมาปริจฺเฉทสฺส โอรโต พหิเลณํ โหติ, อนฺโต สีมา น โอตรติ. อถาปิ อุปริ สีมาย ปริจฺเฉโท ขุทฺทโก, เหฏฺา เลณํ มหนฺตํ สีมาปริจฺเฉทมติกฺกมิตฺวา ิตํ, สีมา อุปริเยว โหติ, เหฏฺา น โอตรติ. ยทิ ปน เลณํ ขุทฺทกํ สพฺพปจฺฉิมสีมาปริมาณํ, อุปริ สีมา มหตี ตํ อชฺโฌตฺถริตฺวา ิตา, สีมา โอตรติ. อถ เลณํ อติขุทฺทกํ สีมปฺปมาณํ น โหติ, สีมา อุปริเยว โหติ, เหฏฺา น โอตรติ. สเจ ตโต อุปฑฺฒํ ภิชฺชิตฺวา ปตติ, สีมปฺปมาณํ เจปิ โหติ, พหิ ปติตํ อสีมา. อปติตํ ปน ยทิ สีมปฺปมาณํ, สีมา โหติเยว.
ขณฺฑสีมา นีจวตฺถุกา โหติ, ตํ ปูเรตฺวา อุจฺจวตฺถุกํ กโรนฺติ, สีมาเยว. สีมาย เคหํ กโรนฺติ, สีมฏฺกเมว โหติ. สีมาย โปกฺขรณึ ขณนฺติ, สีมาเยว. โอโฆ สีมามณฺฑลํ โอตฺถริตฺวา คจฺฉติ, สีมามาฬเก อฏฺฏํ พนฺธิตฺวา กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สีมาย เหฏฺา อุมงฺคนที โหติ, อิทฺธิมา ภิกฺขุ ตตฺถ นิสีทติ, สเจ สา นที ปมํ คตา, สีมา ปจฺฉา พทฺธา ¶ , กมฺมํ น โกเปติ. อถ ปมํ สีมา พทฺธา, ปจฺฉา นที คตา, กมฺมํ โกเปติ. เหฏฺาปถวิตเล ิโต ปน โกเปติเยว.
สีมามาฬเก วฏรุกฺโข โหติ, ตสฺส สาขา วา ตโต นิคฺคตปาโรโห วา มหาสีมาย ปถวิตลํ ¶ วา ตตฺถชาตรุกฺขาทีนิ วา อาหจฺจ ติฏฺติ, มหาสีมํ โสเธตฺวา วา กมฺมํ กาตพฺพํ, เต วา สาขาปาโรหา ฉินฺทิตฺวา พหิฏฺกา กาตพฺพา. อนาหจฺจ ิตสาขาทีสุ อารุฬฺหภิกฺขุ หตฺถปาสํ อาเนตพฺโพ. เอวํ มหาสีมาย ชาตรุกฺขสฺส สาขา วา ปาโรโห วา วุตฺตนเยเนว สีมามาฬเก ปติฏฺาติ, วุตฺตนเยเนว สีมํ โสเธตฺวา วา กมฺมํ กาตพฺพํ, เต วา สาขาปาโรหา ฉินฺทิตฺวา พหิฏฺกา กาตพฺพา.
สเจ สีมามาฬเก กมฺเม กริยมาเน โกจิ ภิกฺขุ สีมามาฬกสฺส อนฺโต ปวิสิตฺวา เวหาสฏฺิตสาขาย นิสีทติ ¶ , ปาทา วาสฺส ภูมิคตา โหนฺติ, นิวาสนปารุปนํ วา ภูมึ ผุสติ, กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ปาเท ปน นิวาสนปารุปนฺจ อุกฺขิปาเปตฺวา กาตุํ วฏฺฏติ. อิทฺจ ลกฺขณํ ปุริมนเยปิ เวทิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – ตตฺร อุกฺขิปาเปตฺวา กาตุํ น วฏฺฏติ, หตฺถปาสเมว อาเนตพฺโพ. สเจ อนฺโตสีมโต ปพฺพโต อพฺภุคจฺฉติ, ตตฺรฏฺโ ภิกฺขุ หตฺถปาสํ อาเนตพฺโพ. อิทฺธิยา อนฺโตปพฺพตํ ปวิฏฺเปิ เอเสว นโย. พชฺฌมานา เอว หิ สีมา ปมาณรหิตํ ปเทสํ น โอตรติ. พทฺธสีมาย ชาตํ ยํกิฺจิ ยตฺถ กตฺถจิ เอกสมฺพทฺเธน คตํ สีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉตีติ.
๑๔๐. ติโยชนปรมนฺติ เอตฺถ ติโยชนํ ปรมํ ปมาณเมติสฺสาติ ติโยชนปรมา; ตํ ติโยชนปรมํ. สมฺมนฺนนฺเตน ปน มชฺเฌ ตฺวา ยถา จตูสุปิ ทิสาสุ ทิยฑฺฒทิยฑฺฒโยชนํ โหติ, เอวํ สมฺมนฺนิตพฺพา. สเจ ปน มชฺเฌ ตฺวา เอเกกทิสโต ติโยชนํ กโรนฺติ, ฉโยชนํ โหตีติ น วฏฺฏติ. จตุรสฺสํ วา ติโกณํ วา สมฺมนฺนนฺเตน ยถา โกณโต โกณํ ติโยชนํ โหติ, เอวํ สมฺมนฺนิตพฺพา. สเจ หิ เยน เกนจิ ปริยนฺเตน เกสคฺคมตฺตมฺปิ ติโยชนํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติฺจ อาปชฺชติ สีมา จ อสีมา โหติ.
นทีปารนฺติ เอตฺถ ปารยตีติ ปารา. กึ ปารยติ? นทึ. นทิยา ปารา นทีปารา, ตํ นทีปารํ; นทึ อชฺโฌตฺถรมานนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ นทิยา ลกฺขณํ ¶ นทีนิมิตฺเต วุตฺตนยเมว. ยตฺถสฺส ธุวนาวา วาติ ยตฺถ นทิยา สีมาพนฺธนฏฺานคเตสุ ติตฺเถสุ นิจฺจสฺจรณนาวา อสฺส, ยา สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน ปาชนปุริเสน สทฺธึ ตโย ชเน วหติ. สเจ ปน สา นาวา อุทฺธํ วา อโธ วา เกนจิเทว กรณีเยน ปุน อาคมนตฺถาย นีตา, โจเรหิ วา หฏา, อวสฺสํ ลพฺภเนยฺยา, ยา ปน วาเตน วา ฉินฺนพนฺธนา วีจีหิ นทิมชฺฌํ นีตา อวสฺสํ อาหริตพฺพา, ปุน ธุวนาวาว ¶ โหติ. อุทเก โอคเต ถลํ อุสฺสาริตาปิ สุธากสฏาทีหิ ปูเรตฺวา ปิตาปิ ธุวนาวาว. สเจ ภินฺนา วา วิสงฺขตปทรา วา น วฏฺฏติ. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘สเจปิ ตาวกาลิกํ นาวํ อาเนตฺวา สีมาพนฺธนฏฺาเน ¶ เปตฺวา นิมิตฺตานิ กิตฺเตนฺติ, ธุวนาวาว โหตี’’ติ. ตตฺร มหาสุมตฺเถโร อาห – ‘‘นิมิตฺตํ วา สีมา วา กมฺมวาจาย คจฺฉติ น นาวาย. ภควตา จ ธุวนาวา อนฺุาตา, ตสฺมา นิพทฺธนาวาเยว วฏฺฏตี’’ติ.
ธุวเสตุ วาติ ยตฺถ รุกฺขสงฺฆาฏมโย วา ปทรพทฺโธ วา ชงฺฆสตฺถเสตุ วา หตฺถิสฺสาทีนํ สฺจรณโยคฺโค มหาเสตุ วา อตฺถิ; อนฺตมโส ตงฺขณฺเว รุกฺขํ ฉินฺทิตฺวา มนุสฺสานํ สฺจรณโยคฺโค เอกปทิกเสตุปิ ธุวเสตุตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. สเจ ปน อุปริ พทฺธานิ เวตฺตลตาทีนิ หตฺเถน คเหตฺวาปิ น สกฺกา โหติ เตน สฺจริตุํ, น วฏฺฏติ.
เอวรูปํ นทีปารสีมํ สมฺมนฺนิตุนฺติ ยตฺถายํ วุตฺตปฺปการา ธุวนาวา วา ธุวเสตุ วา อภิมุขติตฺเถเยว อตฺถิ, เอวรูปํ นทีปารสีมํ สมฺมนฺนิตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. สเจ ธุวนาวา วา ธุวเสตุ วา อภิมุขติตฺเถ นตฺถิ, อีสกํ อุทฺธํ อภิรุหิตฺวา อโธ วา โอโรหิตฺวา อตฺถิ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. กรวีกติสฺสตฺเถโร ปน ‘‘คาวุตมตฺตพฺภนฺตเรปิ วฏฺฏตี’’ติ อาห.
อิมฺจ ปน นทีปารสีมํ สมฺมนฺนนฺเตน เอกสฺมึ ตีเร ตฺวา อุปริโสเต นทีตีเร นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย อตฺตานํ ปริกฺขิปนฺเตน ยตฺตกํ ปริจฺเฉทํ อิจฺฉติ, ตสฺส ปริโยสาเน อโธโสเตปิ นทีตีเร นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ปรตีเร สมฺมุขฏฺาเน นทีตีเร นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ. ตโต ปฏฺาย ยตฺตกํ ปริจฺเฉทํ อิจฺฉติ, ตสฺส วเสน ยาว อุปริโสเต ปมกิตฺติตนิมิตฺตสฺส สมฺมุขา นทีตีเร นิมิตฺตํ, ตาว กิตฺเตตฺวา ปจฺจาหริตฺวา ปมกิตฺติตนิมิตฺเตน ¶ สทฺธึ ฆเฏตพฺพํ. อถ สพฺพนิมิตฺตานํ อนฺโต ิเต ภิกฺขู หตฺถปาสคเต กตฺวา กมฺมวาจาย สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. นทิยํ ิตา อนาคตาปิ กมฺมํ น โกเปนฺติ. สมฺมุติปริโยสาเน เปตฺวา นทึ นิมิตฺตานํ อนฺโต ปารตีเร จ โอริมตีเร จ เอกสีมา โหติ. นที ¶ ปน พทฺธสีมาสงฺขฺยํ น คจฺฉติ, วิสุํ นทิสีมา เอว หิ สา.
สเจ อนฺโตนทิยํ ทีปโก โหติ, ตํ อนฺโตสีมาย กาตุกาเมน ปุริมนเยเนว อตฺตนา ิตตีเร นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา ทีปกสฺส โอริมนฺเต จ ปาริมนฺเต จ นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ. อถ ปรตีเร นทิยา โอริมตีเร นิมิตฺตสฺส สมฺมุขฏฺาเน นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย ปุริมนเยเนว ยาว อุปริโสเต ปมกิตฺติตนิมิตฺตสฺส สมฺมุขา นิมิตฺตํ, ตาว กิตฺเตตพฺพํ. อถ ทีปกสฺส ปาริมนฺเต จ โอริมนฺเต จ นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ปจฺจาหริตฺวา ปมกิตฺติตนิมิตฺเตน ¶ สทฺธึ ฆเฏตพฺพํ. อถ ทฺวีสุ ตีเรสุ ทีปเก จ ภิกฺขู สพฺเพว หตฺถปาสคเต กตฺวา กมฺมวาจาย สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. นทิยํ ิตา อนาคจฺฉนฺตาปิ กมฺมํ น โกเปนฺติ. สมฺมุติปริโยสาเน เปตฺวา นทึ นิมิตฺตานํ อนฺโต ตีรทฺวยฺจ ทีปโก จ เอกสีมา โหติ, นที ปน นทิสีมาเยว.
สเจ ปน ทีปโก วิหารสีมาปริจฺเฉทโต อุทฺธํ วา อโธ วา อธิกตโร โหติ, อถ วิหารสีมาปริจฺเฉทนิมิตฺตสฺส อุชุกเมว สมฺมุขิภูเต ทีปกสฺส โสริมนฺเต นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย ทีปกสิขรํ ปริกฺขิปนฺโตน ปุน ทีปกสฺส โสริมนฺเต นิมิตฺตสมฺมุเข ปาริมนฺเต นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ. ตโต ปรํ ปุริมนเยเนว ปารตีเร สมฺมุขนิมีตฺตมาทึกตฺวา ปารตีรนิมิตฺตานิ จ ทีปกสฺส ปาริมนฺตโสริมนฺตนิมิตฺตานิ จ กิตฺเตตฺวา ปมกิตฺติตนิมิตฺเตน สทฺธึ ฆฏนา กาตพฺพา. เอวํ กิตฺเตตฺวา สมฺมตา สีมา ปพฺพตสณฺฑานา โหติ.
สเจ ปน ทีปโก วิหารสีมาปริจฺเฉทโต อุทฺธมฺปิ อโธปิ อธิกตโร โหติ. ปุริมนเยเนว ทีปกสฺส อุโภปิ สีขรานิ ปริกฺขิปิตฺวา นิมิตฺตานิ กิตฺเตนฺเตน นิมิตฺตฆฏนา กาตพฺพา. เอวํ กิตฺเตตฺวา สมฺมตา สีมา มุทิงฺคสณฺานา โหติ.
สเจ ¶ ทีปโก วิหารสีมาปริจฺเฉทสฺส อนฺโต ขุทฺทโก โหติ, สพฺพปมนเยน ทีปเก นิมิตฺตานิ กิตฺเตตพฺพานิ. เอวํ กิตฺเตตฺวา สมฺมตา สีมา ปณวสณฺานา โหติ.
สีมานุชานนกถา นิฏฺิตา.
อุโปสถาคาราทิกถา
๑๔๑. อนุปริเวณิยนฺติ เอกสีมมหาวิหาเร ตสฺมึ ตสฺมึ ปริเวเณ. อสงฺเกเตนาติ ¶ สงฺเกตํ อกตฺวา. เอกํ สมูหนิตฺวาติ กมฺมวาจาย สมูหนิตฺวา.
๑๔๒. ยโต ปาติโมกฺขํ สุณาตีติ ยตฺถ กตฺถจิ ภิกฺขูนํ หตฺถปาเส นิสินฺโน ยสฺมา ปาติโมกฺขํ สุณาติ; กโตวสฺส อุโปสโถติ อตฺโถ. อิทฺจ วตฺถุวเสน วุตฺตํ, หตฺถปาเส นิสินฺนสฺส ปน อสุณนฺตสฺสาปิ กโตว โหติ อุโปสโถ. นิมิตฺตา กิตฺเตตพฺพาติ อุโปสถปมุขสฺส ขุทฺทกานิ วา มหนฺตานิ วา ปาสาณอิฏฺกทารุขณฺฑทณฺฑกาทีนิ ยานิ กานิจิ ¶ นิมิตฺตานิ อพฺโภกาเส วา มาฬกาทีสุ วา ยตฺถ กตฺถจิ สฺํ กตฺวา กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. อถ วา นิมิตฺตา กิตฺเตตพฺพาติ นิมิตฺตุปคา วา อนิมิตฺตุปคา วา ปริจฺเฉทชานนตฺถํ กิตฺเตตพฺพา.
เถเรหิ ภิกฺขูหิ ปมตรํ สนฺนิปติตุนฺติ เอตฺถ สเจ มหาเถโร ปมตรํ น อาคจฺฉติ, ทุกฺกฏํ. สพฺเพเหว เอกชฺฌํ สนฺนิปติตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพติ เอตฺถ สเจ โปราณโก อาวาโส มชฺเฌ วิหารสฺส โหติ, ปโหติ เจตฺถ ภิกฺขูนํ นิสชฺชฏฺานํ, ตตฺถ สนฺนิปติตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพ. สเจ โปราณโก ปริทุพฺพโล เจว สมฺพาโธ จ อฺโ ปจฺฉา อุฏฺิตาวาโส อสมฺพาโธ, ตตฺถ อุโปสโถ กาตพฺโพ.
ยตฺถ วา ปน เถโร ภิกฺขุ วิหรตีติ เอตฺถาปิ สเจ เถรสฺส วิหาโร สพฺเพสํ ปโหติ, ผาสุโก โหติ, ตตฺถ อุโปสโถ กาตพฺโพ. สเจ ปน โส ปจฺจนฺเต วิสมปฺปเทเส โหติ, เถรสฺส วตฺตพฺพํ – ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ วิหาโร อผาสุกเทโส, นตฺถิ เอตฺถ สพฺเพสํ โอกาโส ¶ , อสุกสฺมึ นาม อาวาเส โอกาโส อตฺถิ, ตตฺถ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ. สเจ เถโร นาคจฺฉติ, ตสฺส ฉนฺทปาริสุทฺธึ อาเนตฺวา สพฺเพสํ ปโหนเก ผาสุกฏฺาเน อุโปสโถ กาตพฺโพ.
อวิปฺปวาสสีมานุชานนกถา
๑๔๓. อนฺธกวินฺทาติ ราชคหโต คาวุตตฺตเย อนฺธกวินฺทํ นาม, ตํ อุปนิสฺสาย เถโร วสติ; ตโต ราชคหํ อุโปสถํ อาคจฺฉนฺโต. ราชคหฺหิ ปริกฺขิปิตฺวา อฏฺารส มหาวิหารา สพฺเพ เอกสีมา, ธมฺมเสนาปตินา เนสํ สีมา พทฺธา, ตสฺมา เวฬุวเน สงฺฆสฺส สามคฺคีทานตฺถํ อาคจฺฉนฺโตติ อตฺโถ. นทึ ตรนฺโตติ สิปฺปินิยํ นาม นทึ อติกฺกมนฺโต. มนํ วุฬฺโห อโหสีติ อีสกํ อปฺปตฺตวุฬฺหภาโว อโหสิ. สา กิร นที คิชฺฌกูฏโต โอตริตฺวา ¶ จณฺเฑน โสเตน วหติ. ตตฺถ เวเคน อาคจฺฉนฺตํ อุทกํ อมนสิกโรนฺโต เถโร มนํ วุฬฺโห อโหสิ, น ปน วุฬฺโห, อุทกพฺภาหตานิสฺส จีวรานิ อลฺลานิ ชาตานิ.
๑๔๔. สมฺมตา สา สีมา สงฺเฆน ติจีวเรน อวิปฺปวาสา เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจาติ อิมิสฺสา กมฺมวาจาย อุปฺปนฺนกาลโต ปฏฺาย ภิกฺขูนํ ปุริมกมฺมวาจา น วฏฺฏติ. อยเมว หิ ถาวรา โหติ. ภิกฺขุนีนํ ปน อยํ น วฏฺฏติ, ปุริมาเยว วฏฺฏติ. กสฺมา? ภิกฺขุนิสงฺโฆ หิ อนฺโตคาเม วสติ. ยทิ เอวํ สิยา, โส เอตาย กมฺมวาจาย ติจีวรปริหารํ ¶ น ลเภยฺย, อตฺถิ จสฺส ปริหาโร, ตสฺมา ปุริมาเยว วฏฺฏติ. ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส หิ ทฺเวปิ สีมาโย ลพฺภนฺติ. ตตฺถ ภิกฺขูนํ สีมํ อชฺโฌตฺถริตฺวาปิ ตสฺสา อนฺโตปิ ภิกฺขุนีนํ สีมํ สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขูนมฺปิ ภิกฺขุนิสีมาย เอเสว นโย. น หิ เต อฺมฺสฺส กมฺเม คณปูรกา โหนฺติ, น กมฺมวาจํ วคฺคํ กโรนฺติ. เอตฺถ จ นิคมนครานมฺปิ คาเมเนว สงฺคโห เวทิตพฺโพ.
คามูปจาโรติ ปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขโป, อปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขโปกาโส. เตสุ อธิฏฺิตเตจีวริโก ภิกฺขุ ปริหารํ น ลภติ. อิติ ¶ ภิกฺขูนํ อวิปฺปวาสสีมา คามฺจ คามูปจารฺจ น โอตฺถรติ, สมานสํวาสกสีมาว โอตฺถรติ. สมานสํวาสกสีมา เจตฺถ อตฺตโน ธมฺมตาย คจฺฉติ. อวิปฺปวาสสีมา ปน ยตฺถ สมานสํวาสกสีมา, ตตฺเถว คจฺฉติ. น หิ ตสฺสา วิสุํ นิมิตฺตกิตฺตนํ อตฺถิ, ตตฺถ สเจ อวิปฺปวาสาย สมฺมุติกาเล คาโม อตฺถิ, ตํ สา น โอตฺถรติ. สเจ ปน สมฺมตาย สีมาย ปจฺฉา คาโม นิวิสติ, โสปิ สีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. ยถา จ ปจฺฉา นิวิฏฺโ, เอวํ ปมํ นิวิฏฺสฺส ปจฺฉา วฑฺฒิตปฺปเทโสปิ สีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. สเจปิ สีมาสมฺมุติกาเล เคหานิ กตานิ, ปวิสิสฺสามาติ อาลโยปิ อตฺถิ, มนุสฺสา ปน อปฺปวิฏฺา, โปราณกคามํ วา สเคหเมว ฉฑฺเฑตฺวา อฺตฺถ คตา, อคาโมเยว เอส, สีมา โอตฺถรติ ¶ . สเจ ปน เอกมฺปิ กุลํ ปวิฏฺํ วา อาคตํ วา อตฺถิ, คาโมเยว สีมา น โอตฺถรติ.
เอวฺจ ปน ภิกฺขเว ติจีวเรน อวิปฺปวาโส สมูหนฺตพฺโพติ เอตฺถ สมูหนนฺเตน ภิกฺขุนา วตฺตํ ชานิตพฺพํ. ตตฺริทํ วตฺตํ – ขณฺฑสีมาย ตฺวา อวิปฺปวาสสีมา น สมูหนฺตพฺพา, ตถา อวิปฺปวาสสีมาย ตฺวา ขณฺฑสีมาปิ. ขณฺฑสีมายํ ปน ิเตน ขณฺฑสีมาว สมูหนิตพฺพา, ตถา อิตราย ิเตน อิตรา. สีมํ นาม ทฺวีหิ การเณหิ สมูหนนฺติ ปกติยา ขุทฺทกํ ปุน อาวาสวฑฺฒนตฺถาย มหตึ วา กาตุํ; ปกติยา มหตึ ปุน อฺเสํ วิหาโรกาสทานตฺถาย ขุทฺทกํ วา กาตุํ. ตตฺถ สเจ ขณฺฑสีมฺจ อวิปฺปวาสสีมฺจ ชานนฺติ, สมูหนิตฺุเจว พนฺธิตฺุจ สกฺขิสฺสนฺติ. ขณฺฑสีมํ ปน ชานนฺตา อวิปฺปวาสํ อชานนฺตาปิ สมูหนิตฺุเจว พนฺธิตฺุจ สกฺขิสฺสนฺติ. ขณฺฑสีมํ อชานนฺตา อวิปฺปวาสํเยว ชานนฺตา เจติยงฺคณโพธิยงฺคณอุโปสถาคาราทีสุ นิราสงฺกฏฺาเนสุ ตฺวา อปฺเปว นาม สมูหนิตุํ สกฺขิสฺสนฺติ, ปฏิพนฺธิตุํ ปน น สกฺขิสฺสนฺเตว. สเจ พนฺเธยฺยุํ, สีมาสมฺเภทํ กตฺวา วิหารํ อวิหารํ กเรยฺยุํ, ตสฺมา น สมูหนิตพฺพา. เย ปน อุโภปิ น ชานนฺติ, เตเนว สมูหนิตุํ น พนฺธิตุํ สกฺขิสฺสนฺติ. อยฺหิ สีมา นาม กมฺมวาจาย วา อสีมา โหติ สาสนนฺตรธาเนน ¶ วา, น จ สกฺกา สีมํ อชานนฺเตหิ กมฺมวาจา กาตุํ, ตสฺมา น สมูหนิตพฺพา. สาธุกํ ปน ตฺวาเยว สมูหนิตพฺพา จ พนฺธิตพฺพา จาติ.
คามสีมาทิกถา
๑๔๗. เอวํ ¶ พทฺธสีมาวเสน สมานสํวาสฺจ เอกูโปสถภาวฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อพทฺธสีเมสุปิ โอกาเสสุ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อสมฺมตาย, ภิกฺขเว, สีมาย อฏฺปิตายา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อฏฺปิตายาติ อปริจฺฉินฺนาย. คามคฺคหเณน เจตฺถ นครมฺปิ คหิตเมว โหติ. ตตฺถ ยตฺตเก ปเทเส ตสฺส คามสฺส โภชกา พลึ ลภนฺติ, โส ปเทโส อปฺโป วา โหตุ มหนฺโต วา, คามสีมาตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. นครนิคมสีมาสุปิ เอเสว นโย. ยมฺปิ เอกสฺมึเยว ¶ คามเขตฺเต เอกํ ปเทสํ ‘‘อยํ วิสุํ คาโม โหตู’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ราชา กสฺสจิ เทติ, โสปิ วิสุํคามสีมา โหติเยว. ตสฺมา สา จ อิตรา จ ปกติคามนครนิคมสีมา พทฺธสีมาสทิสาเยว โหนฺติ, เกวลํ ปน ติจีวรวิปฺปวาสปริหารํ น ลภนฺติ.
เอวํ คามนฺตวาสีนํ สีมาปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อารฺกานํ สีมาปริจฺเฉทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อคามเก เจ’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อคามเก เจติ คามนิคมนครสีมาหิ อปริจฺฉินฺเน อฏวิปฺปเทเส. อถ วา อคามเก เจติ วิชฺฌาฏวิสทิเส อรฺเ ภิกฺขุ วสติ, อถสฺส ิโตกาสโต สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรา สมานสํวาสกสีมาติ อตฺโถ. อยํ สีมา ติจีวรวิปฺปวาสปริหารมฺปิ ลภติ. ตตฺถ เอกํ อพฺภนฺตรํ อฏฺวีสติ หตฺถปฺปมาณํ โหติ. มชฺเฌ ิตสฺส สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรา วินิพฺเพเธน จุทฺทส โหนฺติ. สเจ ทฺเว สงฺฆา วิสุํ วินยกมฺมานิ กโรนฺติ, ทฺวินฺนํ สตฺตพฺภนฺตรานํ อนฺตเร อฺํ เอกํ สตฺตพฺภนฺตรํ อุปจารตฺถาย เปตพฺพํ. เสสา สตฺตพฺภนฺตรสีมกถา มหาวิภงฺเค อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนายํ วุตฺตนเยน คเหตพฺพา.
สพฺพา ภิกฺขเว นที อสีมาติ ยา กาจิ นทีลกฺขณปฺปตฺตา นที นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา ‘‘เอตํ พทฺธสีมํ กโรมา’’ติ กตาปิ อสีมาว โหติ, สา ปน อตฺตโน สภาเวเนว พทฺธสีมาสทิสา, สพฺพเมตฺถ สงฺฆกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สมุทฺทชาตสฺสเรสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ ชาตสฺสโร นาม เยน เกนจิ ขณิตฺวา อกโต สยํชาตโสพฺโภ สมนฺตโต อาคเตน อุทเกน ปูริโต ติฏฺติ.
เอวํ ¶ ¶ นทีสมุทฺทชาตสฺสรานํ พทฺธสีมาภาวํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ตตฺถ อพทฺธสีมาปอจฺเฉทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นทิยา วา ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยํ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สมนฺตา อุทกุกฺเขปาติ ยํ านํ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สมนฺตโต อุทกุกฺเขเปน ปริจฺฉินฺนํ. กถํ ปน อุทกํ อุกฺขิปิตพฺพํ? ยถา อกฺขธุตฺตา ทารุคุฬํ ขิปนฺติ, เอวํ อุทกํ วา วาลิกํ วา หตฺเถน คเหตฺวา ถามมชฺฌิเมน ปุริเสน สพฺพถาเมน ขิปิตพฺพํ. ยตฺถ เอวํ ขิตฺตํ อุทกํ วา วาลิกา วา ปตติ, อยเมโก อุทกุกฺเขโป. ตสฺส อนฺโต หตฺถปาสํ ¶ วิชหิตฺวา ิโต กมฺมํ โกเปติ. ยาว ปริสา วฑฺฒติ, ตาว สีมาปิ วฑฺฒติ. ปริสปริยนฺตโต อุทกุกฺเขโปเยว ปมาณํ. ชาตสฺสรสมุทฺเทสุปิ เอเสว นโย.
เอตฺถ จ สเจ นที นาติทีฆา โหติ, ปภวโต ปฏฺาย ยาว มุขทฺวารา สพฺพตฺถ สงฺโฆ นิสีทติ, อุทกุกฺเขปสีมากมฺมํ นตฺถิ, สกลาปิ นที เอเตสํเยว ภิกฺขูนํ ปโหติ. ยํ ปน มหาสุมตฺเถเรน วุตฺตํ ‘‘โยชนํ ปวตฺตมานาเยว นที, ตตฺราปิ อุปริ อทฺธโยชนํ ปหาย เหฏฺา อทฺธโยชเน กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ, ตํ มหาปทุมตฺเถเรเนว ปฏิกฺขิตฺตํ. ภควตา หิ ‘‘ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ อุตฺตรนฺติยา ภิกฺขุนิยา อนฺตรวาสโก เตมิยตี’’ติ อิทํ นทิยา ปมาณํ วุตฺตํ, น โยชนํ วา อทฺธโยชนํ วา. ตสฺมา ยา อิมสฺส สุตฺตสฺส วเสน ปุพฺเพ วุตฺตลกฺขณา นที, ตสฺสา ปภวโต ปฏฺาย สงฺฆกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตีติ. สเจ ปเนตฺถ พหู ภิกฺขู วิสุํ วิสุํ กมฺมํ กโรนฺติ, สพฺเพหิ อตฺตโน จ อฺเสฺจ อุทกุกฺเขปปริจฺเฉทสฺส อนฺตรา อฺโ อุทกุกฺเขโป สีมนฺตริกตฺถาย เปตพฺโพ. ตโต อธิกํ วฏฺฏติเยว, อูนกํ ปน น วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. ชาตสฺสรสมุทฺเทสุปิ เอเสว นโย.
นทิยา ปน กมฺมํ กริสฺสามาติ คเตหิ สเจ นที ปริปุณฺณา โหติ สมติตฺติกา, อุทกสาฏิกํ นิวาเสตฺวาปิ อนฺโตนทิยํเยว กมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ น สกฺโกนฺติ, นาวายปิ ตฺวา กาตพฺพํ. คจฺฉนฺติยา ปน นาวาย กาตุํ น วฏฺฏติ. กสฺมา? อุทกุกฺเขปมตฺตเมว หิ สีมา, ตํ นาวา สีฆเมว อติกฺกาเมติ. เอวํ สติ อฺิสฺสา สีมาย ตฺติ อฺิสฺสา อนุสาวนา โหติ, ตสฺมา นาวํ อริตฺเตน วา เปตฺวา ปาสาเณ วา ลมฺพิตฺวา ¶ อนฺโตนทิยํ ชาตรุกฺเข วา พนฺธิตฺวา กมฺมํ กาตพฺพํ. อนฺโตนทิยํ พทฺธอฏฺฏเกปิ อนฺโตนทิยํ ชาตรุกฺเขปิ ิเตหิ กาตุํ วฏฺฏติ.
สเจ ปน รุกฺขสฺส สาขา วา ตโต นิกฺขนฺตปาโรโห ¶ วา พหินทีตีเร วิหารสีมาย วา คามสีมาย วา ปติฏฺิโต, สีมํ วา โสเธตฺวา สาขํ วา ฉินฺทิตฺวา กมฺมํ กาตพฺพํ. พหินทีตีเร ¶ ชาตรุกฺขสฺส อนฺโตนทิยํ ปวิฏฺสาขาย วา ปาโรเห วา นาวํ พนฺธิตฺวา กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. กโรนฺเตหิ สีมา วา โสเธตพฺพา, ฉินฺทิตฺวา วาสฺส พหิปติฏฺิตภาโว นาเสตพฺโพ. นทีตีเร ปน ขาณุกํ โกฏฺเฏตฺวา ตตฺถ พทฺธนาวาย น วฏฺฏติเยว.
นทิยํ เสตุํ กโรนฺติ, สเจ อนฺโตนทิยํเยว เสตุ วา เสตุปาทา วา, เสตุมฺหิ ิเตหิ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เสตุ วา เสตุปาทา วา พหิตีเร ปติฏฺิตา, กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ, สีมํ โสเธตฺวา กาตพฺพํ. อถ เสตุปาทา อนฺโต, เสตุ ปน อุภินฺนมฺปิ ตีรานํ อุปริอากาเส ิโต, วฏฺฏติ. อนฺโตนทิยํ ปาสาโณ วา ทีปโก วา โหติ, ตสฺส ยตฺตกํ ปเทสํ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปกาเร ปกติวสฺสกาเล วสฺสานสฺส จตูสุ มาเสสุ อุทกํ โอตฺถรติ, โส นทีสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. อติวุฏฺิกาเล ปน โอเฆน โอตฺถโฏกาโส น คเหตพฺโพ, โส หิ คามสีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ.
นทิโต มาติกํ นีหรนฺตา นทิยํ อาวรณํ กโรนฺติ, ตฺเจ โอตฺถริตฺวา วา วินิพฺพิชฺฌิตฺวา วา อุทกํ คจฺฉติ, สพฺพตฺถ ปวตฺตนฏฺาเน กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน อาวรเณน วา โกฏฺฏกพนฺธเนน วา โสตํ ปจฺฉิชฺชติ, อุทกํ นปฺปวตฺตติ, อปฺปวตฺตนฏฺาเน กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. อาวรณมตฺถเกปิ กาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ โกจิ อาวรณปฺปเทโส ปุพฺเพ วุตฺตปาสาณทีปกปฺปเทโส วิย อุทเกน อชฺโฌตฺถริยติ, ตตฺถ วฏฺฏติ. โส หิ นทีสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. นทึ วินาเสตฺวา ตฬากํ กโรนฺติ, เหฏฺา ปาฬิ พทฺธา, อุทกํ อาคนฺตฺวา ตฬากํ ปูเรตฺวา ติฏฺติ, เอตฺถ กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. อุปริ ปวตฺตนฏฺาเน เหฏฺา จ ฉฑฺฑิตโมทกํ นทึ โอตฺถริตฺวา สนฺทนฏฺานโต ปฏฺาย วฏฺฏติ. เทเว อวสฺสนฺเต เหมนฺตคิมฺเหสุ วา สุกฺขนทิยาปิ วฏฺฏติ. นทิโต นีหฏมาติกาย น วฏฺฏติ. สเจ ¶ สา กาลนฺตเรน ภิชฺชิตฺวา นที โหติ, วฏฺฏติ. กาจิ นที กาลนฺตเรน อุปฺปติตฺวา คามนิคมสีมํ โอตฺถริตฺวา ปวตฺตติ, นทีเยว โหติ, กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน วิหารสีมํ โอตฺถรติ, วิหารสีมาตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ.
สมุทฺเทปิ ¶ กมฺมํ กโรนฺเตหิ ยํ ปเทสํ อุทฺธํ วฑฺฒนอุทกํ วา ปกติวีจิ วา เวเคน อาคนฺตฺวา โอตฺถรติ, ตตฺถ กาตุํ น วฏฺฏติ. ยสฺมึ ปน ปเทเส ปกติวีจิโย โอตฺถริตฺวา สณฺหนฺติ, โส อุทกนฺตโต ปฏฺาย อนฺโตสมุทฺโท นาม, ตตฺถ ิเตหิ กมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ อูมิเวโค พาธติ, นาวาย วา อฏฺฏเก วา ตฺวา กาตพฺพํ. เตสุ วินิจฺฉโย นทิยํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. สมุทฺเท ปิฏฺิปาสาโณ โหติ, ตํ กทาจิ อูมิโย อาคนฺตฺวา โอตฺถรนฺติ ¶ , กทาจิ น โอตฺถรนฺติ, ตตฺถ กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ, โส หิ คามสีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. สเจ ปน วีจีสุ อาคตาสุปิ อนาคตาสุปิ ปกติอุทเกเนว โอตฺถริยติ, วฏฺฏติ. ทีปโก วา ปพฺพโต วา โหติ, โส เจ ทูเร โหติ มจฺฉพนฺธานํ อคมนปเถ, อรฺสีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. เตสํ คมนปริยนฺตสฺส โอรโต ปน คามสีมาสงฺขฺยํ คจฺฉติ. ตตฺถ คามสีมํ อโสเธตฺวา กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. สมุทฺโท คามสีมํ วา นิคมสีมํ วา โอตฺถริตฺวา ติฏฺติ, สมุทฺโทว โหติ, ตตฺถ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน วิหารสีมํ โอตฺถรติ, วิหารสีมาตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ.
ชาตสฺสเร กมฺมํ กโรนฺเตหิปิ ยตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปกาเร วสฺสกาเล วสฺเส ปจฺฉินฺนมตฺเต ปิวิตุํ วา หตฺถปาเท วา โธวิตุํ อุทกํ น โหติ, สุกฺขติ, อยํ น ชาตสฺสโร, คามเขตฺตสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตตฺถ กมฺมํ น กาตพฺพํ. ยตฺถ ปน วุตฺตปฺปกาเร วสฺสกาเล อุทกํ สนฺติฏฺติ, อยเมว ชาตสฺสโร. ตสฺส ยตฺตเก ปเทเส วสฺสานํ จาตุมาเส อุทกํ ติฏฺติ, ตตฺถ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ คมฺภีรํ อุทกํ, อฏฺฏกํ พนฺธิตฺวา ตตฺถ ิเตหิปิ ชาตสฺสรสฺส อนฺโต ชาตรุกฺขมฺหิ พทฺธอฏฺฏเกปิ กาตุํ วฏฺฏติ. ปิฏฺิปาสาณทีปเกสุ ปเนตฺถ นทิยํ วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโย. สมวสฺสเทวกาเล ปโหนกชาตสฺสโร ปน สเจปิ ทุพฺพุฏฺิกาเล วา คิมฺหเหมนฺเตสุ วา สุกฺขติ, นิรุทโก โหติ, ตตฺถ สงฺฆกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. ยํ อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘สพฺโพ ชาตสฺสโร สุกฺโข อโนทโก ¶ , คามเขตฺตํเยว ภชตี’’ติ, ตํ น คเหตพฺพํ. สเจ ปเนตฺถ อุทกตฺถาย อาวาฏํ วา โปกฺขรณีอาทีนิ ¶ วา ขณนฺติ, ตํ านํ อชาตสฺสโร โหติ, คามสีมาสงฺขฺยํ คจฺฉติ. ลาพุติปุสกาทิวปฺเป กเตปิ เอเสว นโย.
สเจ ปน ตํ ปูเรตฺวา ถลํ วา กโรนฺติ, เอกสฺมึ ทิสาภาเค ปาฬึ พนฺธิตฺวา สพฺพเมว ตํ มหาตฬากํ วา กโรนฺติ, สพฺโพปิ อชาตสฺสโร โหติ, คามสีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. โลณีปิ ชาตสฺสรสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส อุทกฏฺาโนกาเส กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตีติ.
๑๔๘. สีมาย สีมํ สมฺภินฺทนฺตีติ อตฺตโน สีมาย ปเรสํ พทฺธสีมํ สมฺภินฺทนฺติ. สเจ หิ โปราณกสฺส วิหารสฺส ปุรตฺถิมาย ทิสาย อมฺโพ เจว ชมฺพู จาติ ทฺเว รุกฺขา อฺมฺํ สํสฏฺวิฏปา โหนฺติ, เตสุ อมฺพสฺส ปจฺฉิมทิสาภาเค ชมฺพู. วิหารสีมา จ ชมฺพุํ อนฺโต กตฺวา อมฺพํ กิตฺเตตฺวา พทฺธา โหติ, อถ ปจฺฉา ตสฺส วิหารสฺส ปุรตฺถิมาย ทิสาย วิหารํ กตฺวา สีมํ พนฺธนฺตา ตํ อมฺพํ อนฺโต กตฺวา ชมฺพุํ กิตฺเตตฺวา พนฺธนฺติ, สีมาย ¶ สีมา สมฺภินฺนา โหติ. เอวํ ฉพฺพคฺคิยา อกํสุ, เตนาห – ‘‘สีมาย สีมํ สมฺภินฺทนฺตี’’ติ.
สีมาย สีมํ อชฺโฌตฺถรนฺตีติ อตฺตโน สีมาย ปเรสํ พทฺธสีมํ อชฺโฌตฺถรนฺติ;
ปเรสํ พทฺธสีมํ สกลํ วา ตสฺสา ปเทสํ วา อนฺโต กตฺวา อตฺตโน สีมํ พนฺธนฺติ. สีมนฺตริกํ เปตฺวา สีมํ สมฺมนฺนิตุนฺติ เอตฺถ สเจ ปมตรํ กตสฺส วิหารสฺส สีมา อสมฺมตา โหติ, สีมาย อุปจาโร เปตพฺโพ. สเจ สมฺมตา โหติ, ปจฺฉิมโกฏิยา หตฺถมตฺตา สีมนฺตริกา เปตพฺพา. กุรุนฺทิยํ วิทตฺถิมตฺตมฺปิ, มหาปจฺจริยํ จตุรงฺคุลมตฺตมฺปิ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. เอกรุกฺโขปิ จ ทฺวินฺนํ สีมานํ นิมิตฺตํ โหติ, โส ปน วฑฺฒนฺโต สีมาสงฺกรํ กโรติ, ตสฺมา น กาตพฺโพ.
อุโปสถเภทาทิกถา
๑๔๙. จาตุทฺทสิโก จ ปนฺนรสิโก จาติ เอตฺถ จาตุทฺทสิกสฺส ปุพฺพกิจฺเจ ‘‘อชฺชุโปสโถ จาตุทฺทโส’’ติ วตฺตพฺพํ.
อธมฺเมน วคฺคนฺติอาทีสุ ¶ สเจ เอกสฺมึ วิหาเร จตูสุ ภิกฺขูสุ วสนฺเตสุ เอกสฺส ฉนฺทปาริสุทฺธึ อาหริตฺวา ตโย ปาริสุทฺธิอุโปสถํ ¶ กโรนฺติ, ตีสุ วา วสนฺเตสุ เอกสฺส ฉนฺทปาริสุทฺธึ อาหริตฺวา ทฺเว ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ, อธมฺเมน วคฺคํ อุโปสถกมฺมํ โหติ. สเจ ปน จตฺตาโรปิ สนฺนิปติตฺวา ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ตโย วา ทฺเว วา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ, อธมฺเมน สมคฺคํ นาม โหติ. สเจ จตูสุ ชเนสุ เอกสฺส ปาริสุทฺธึ อาหริตฺวา ตโย ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ, ตีสุ วา ชเนสุ เอกสฺส ปาริสุทฺธึ อาหริตฺวา ทฺเว ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ธมฺเมน วคฺคํ นาม โหติ. สเจ ปน จตฺตาโร เอกตฺถ วสนฺตา สพฺเพว สนฺนิปติตฺวา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ, ตโย ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ทฺเว อฺมฺํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ธมฺเมน สมคฺคํ นาม โหตีติ.
ปาติโมกฺขุทฺเทสกถา
๑๕๐. นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพนฺติ ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ…เป… อาวิกตา หิสฺส ผาสุ โหตี’’ติ อิมํ นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘อุทฺทิฏฺํ โข อายสฺมนฺโต นิทานํ, ตตฺถายสฺมนฺเต ปุจฺฉามิ – กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธา, ทุติยมฺปิ ปุจฺฉามิ…เป… เอวเมตํ ¶ ธารยามีติ. สุตา โข ปนายสฺมนฺเตหิ จตฺตาโร ปาราชิกา ธมฺมา…เป… อวิวทมาเนหิ สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ เอวํ อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ. เอเตน นเยน เสสาปิ จตฺตาโร ปาติโมกฺขุทฺเทสา เวทิตพฺพา.
สวรภยนฺติ อฏวิมนุสฺสภยํ. ราชนฺตราโยติอาทีสุ สเจ ภิกฺขูสุ ‘‘อุโปสถํ กริสฺสามา’’ติ นิสินฺเนสุ ราชา อาคจฺฉติ, อยํ ราชนฺตราโย. โจรา อาคจฺฉนฺติ, อยํ โจรนฺตราโย. ทวทาโห วา อาคจฺฉติ, อาวาเส วา อคฺคิ อุฏฺหติ, อยํ อคฺคนฺตราโย. เมโฆ วา อุฏฺเติ, โอโฆ วา อาคจฺฉติ, อยํ อุทกนฺตราโย. พหู มนุสฺสา อาคจฺฉนฺติ, อยํ มนุสฺสนฺตราโย. ภิกฺขุํ ยกฺโข คณฺหาติ, อยํ อมนุสฺสนฺตราโย. พฺยคฺฆาทโย จณฺฑมิคา อาคจฺฉนฺติ, อยํ วาฬนฺตราโย. ภิกฺขุํ สปฺปาทโย ฑํสนฺติ, อยํ สรีสปนฺตราโย. ภิกฺขุ คิลาโน วา โหติ, กาลํ วา กโรติ, เวริโน วา ตํ มาเรตุกามา คณฺหนฺติ, อยํ ¶ ชีวิตนฺตราโย. มนุสฺสา เอกํ วา พหู วา ภิกฺขู พฺรหฺมจริยา จาเวตุกามา คณฺหนฺติ, อยํ พฺรหฺมจริยนฺตราโย. เอวรูเปสุ อนฺตราเยสุ สํขิตฺเตน ปาติโมกฺโข อุทฺทิสิตพฺโพ ¶ , ปโม วา อุทฺเทโส อุทฺทิสิตพฺโพ, อาทิมฺหิ ทฺเว ตโย จตฺตาโร วา. เอตฺถ จ ทุติยาทีสุ อุทฺเทเสสุ ยสฺมึ อปริโยสิเต อนฺตราโย โหติ, โสปิ สุเตเนว สาเวตพฺโพ.
อนชฺฌิฏฺาติ อนาณตฺตา อยาจิตา วา. อชฺเฌสนา เจตฺถ สงฺเฆน สมฺมตธมฺมชฺเฌสกายตฺตา วา สงฺฆตฺเถรายตฺตา วา, ตสฺมึ ธมฺมชฺเฌสเก อสติ สงฺฆตฺเถรํ อาปุจฺฉิตฺวา วา เตน ยาจิโต วา ภาสิตุํ ลภติ. สงฺฆตฺเถเรนาปิ สเจ วิหาเร พหู ธมฺมกถิกา โหนฺติ, วารปฏิปาฏิยา วตฺตพฺพา – ‘‘ตฺวํ ธมฺมํ ภณ, ธมฺมํ กเถหิ, ธมฺมทานํ เทหี’’ติ วา วุตฺเตน ตีหิปิ วิธีหิ ธมฺโม ภาสิตพฺโพ. ‘‘โอสาเรหี’’ติ วุตฺโต ปน โอสาเรตุเมว ลภติ, ‘‘กเถหี’’ติ วุตฺโต กเถตุเมว, ‘‘สรภฺํ ภณาหี’’ติ วุตฺโต สรภฺเมว. สงฺฆตฺเถโรปิ จ อุจฺจตเร อาสเน นิสินฺโน ยาจิตุํ น ลภติ. สเจ อุปชฺฌาโย เจว สทฺธิวิหาริโก จ โหนฺติ, อุปชฺฌาโย จ นํ อุจฺจาสเน นิสินฺโน ‘‘ภณาหี’’ติ วทติ, สชฺฌายํ อธิฏฺหิตฺวา ภณิตพฺพํ. สเจ ปเนตฺถ ทหรา ภิกฺขู โหนฺติ, เตสํ ‘‘ภณามี’’ติ ภณิตพฺพํ.
สเจ วิหาเร สงฺฆตฺเถโร อตฺตโนเยว นิสฺสิตเก ภณาเปติ, อฺเ มธุรภาณเกปิ นาชฺเฌสติ, โส อฺเหิ วตฺตพฺโพ – ‘‘ภนฺเต อสุกํ นาม ภณาเปมา’’ติ. สเจ ‘‘ภณาเปถา’’ติ วา วทติ, ตุณฺหี วา โหติ, ภณาเปตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน ปฏิพาหติ, น ภณาเปตพฺพํ. ยทิ อนาคเตเยว สงฺฆตฺเถเร ธมฺมสวนํ อารทฺธํ, ปุน อาคเต เปตฺวา อาปุจฺฉนกิจฺจํ ¶ นตฺถิ. โอสาเรตฺวา ปน กเถนฺเตน อาปุจฺฉิตฺวา วา อฏฺเปตฺวาเยว วา กเถตพฺพํ, กเถนฺตสฺส ปุน อาคเตปิ เอเสว นโย.
อุปนิสินฺนกถายปิ สงฺฆตฺเถโรว สามี, ตสฺมา เตน สยํ วา กเถตพฺพํ, อฺโ วา ภิกฺขุ ‘‘กเถหี’’ติ วตฺตพฺโพ, โน จ โข อุจฺจตเร อาสเน นิสินฺเนน. มนุสฺสานํ ปน ‘‘ภณาหี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. มนุสฺสา อตฺตโน ชานนกภิกฺขุํ อาปุจฺฉนฺติ, เตน เถรํ อาปุจฺฉิตฺวา กเถตพฺพํ. สเจ สงฺฆตฺเถโร ‘‘ภนฺเต อิเม ปฺหํ ปุจฺฉนฺตี’’ติ ปุฏฺโ ‘‘กเถหี’’ติ ¶ วา ภณติ, ตุณฺหี วา โหติ, กเถตุํ วฏฺฏติ. อนฺตรฆเร อนุโมทนาทีสุปิ เอเสว นโย. สเจ สงฺฆตฺเถโร วิหาเร วา อนฺตรฆเร วา ‘‘มํ อนาปุจฺฉิตฺวาปิ ¶ กเถยฺยาสี’’ติ อนุชานาติ, ลทฺธกปฺปิยํ โหติ, สพฺพตฺถ วตฺตุํ วฏฺฏติ.
สชฺฌายํ กโรนฺเตนาปิ เถโร อาปุจฺฉิตพฺโพเยว. เอกํ อาปุจฺฉิตฺวา สชฺฌายนฺตสฺส อปโร อาคจฺฉติ, ปุน อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ. สเจ วิสฺสมิสฺสามีติ ปิตสฺส อาคจฺฉติ, ปุน อารภนฺเตนาปิ อาปุจฺฉิตพฺพํ. สงฺฆตฺเถเร อนาคเตเยว อารทฺธํ สชฺฌายนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. เอเกน สงฺฆตฺเถเรน ‘‘มํ อนาปุจฺฉาปิ ยถาสุขํ สชฺฌายาหี’’ติ อนฺุาเต ยถาสุขํ สชฺฌายิตุํ วฏฺฏติ. อฺสฺมึ ปน อาคเต ตํ อาปุจฺฉิตฺวาว สชฺฌายิตพฺพํ.
๑๕๑. อตฺตนา วา อตฺตานํ สมฺมนฺนิตพฺพํติ อตฺตนา วา อตฺตา สมฺมนฺนิตพฺโพ; ปุจฺฉนฺเตน ปน ปริสํ โอโลเกตฺวา สเจ อตฺตโน อุปทฺทโว นตฺถิ, วินโย ปุจฺฉิตพฺโพ.
๑๕๓. กเตปิ โอกาเส ปุคฺคลํ ตุลยิตฺวาติ ‘‘อตฺถิ นุ โข เม อิโต อุปทฺทโว, นตฺถี’’ติ เอวํ อุปปริกฺขิตฺวา. ปุรมฺหากนฺติ ปมํ อมฺหากํ. ปฏิกจฺเจวาติ ปมตรเมว. ปุคฺคลํ ตุลยิตฺวา โอกาสํ กาตุนฺติ ‘‘ภูตเมว นุ โข อาปตฺตึ วทติ, อภูต’’นฺติ เอวํ อุปปริกฺขิตฺวา โอกาสํ กาตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ.
อธมฺมกมฺมปฏิกฺโกสนาทิกถา
๑๕๔. อธมฺมกมฺมํ วุตฺตนยเมว. ปฏิกฺโกสิตุนฺติ วาเรตุํ. ทิฏฺิมฺปิ อาวิกาตุนฺติ ‘‘อธมฺมกมฺมํ อิทํ น เม ขมตี’’ติ เอวํ อฺสฺส สนฺติเก อตฺตโน ทิฏฺึ ปกาเสตุํ. จตูหิ ปฺจหีติอาทิ ¶ เตสํ อนุปทฺทวตฺถาย วุตฺตํ. สฺจิจฺจ น สาเวนฺตีติ ยถา น สุณนฺติ เอวํ ภณิสฺสามาติ สฺจิจฺจ สณิกํ อุทฺทิสนฺติ.
๑๕๕. เถราธิกนฺติ เถราธีนํ; เถรายตฺตํ ภวิตุนฺติ อตฺโถ. ‘‘เถราเธยฺย’’นฺติปิ ปาโ, ตสฺมา เถเรน สยํ วา อุทฺทิสิตพฺพํ, อฺโ วา อชฺเฌสิตพฺโพ. อชฺเฌสนวิธานฺเจตฺถ ธมฺมชฺเฌสเน วุตฺตนยเมว. โส น ¶ ชานาติ อุโปสถํ วาติอาทีสุ จาตุทฺทสิกปนฺนรสิกเภเทน ทุวิธํ, สงฺฆอุโปสถาทิเภเทน นววิธฺจ อุโปสถํ น ชานาติ, จตุพฺพิธํ อุโปสถกมฺมํ น ชานาติ, ทุวิธํ ปาติโมกฺขํ น ชานาติ, นววิธํ ปาติโมกฺขุทฺเทสํ น ชานาติ. โย ตตฺถ ภิกฺขุ พฺยตฺโต ปฏิพโลติ เอตฺถ กิฺจาปิ ทหรสฺสาปิ พฺยตฺตสฺส ปาติโมกฺโข อนฺุาโต. อถ โข เอตฺถ ¶ อยมธิปฺปาโย. สเจ เถรสฺส ปฺจ วา จตฺตาโร วา ตโย วา ปาติโมกฺขุทฺเทสา นาคจฺฉนฺติ; ทฺเว ปน อขณฺฑา สุวิสทา วาจุคฺคตา โหนฺติ, เถรายตฺโตว ปาติโมกฺขา. สเจ ปน เอตฺตกมฺปิ วิสทํ กาตุํ น สกฺโกติ, พฺยตฺตสฺส ภิกฺขุโน อายตฺโต โหติ.
สามนฺตา อาวาสาติ สามนฺตํ อาวาสํ. สชฺชุกนฺติ ตทเหว อาคมนตฺถาย. นวํ ภิกฺขุํ อาณาเปตุนฺติ เอตฺถ โย สกฺโกติ อุคฺคเหตุํ, เอวรูโป อาณาเปตพฺโพ, น พาโล.
ปกฺขคณนาทิอุคฺคหณานุชานนกถา
๑๕๖. กติมี ภนฺเตติ เอตฺถ กตีนํ ปูรณีติ กติมี. กาลวโตติ กาลสฺเสว; ปเควาติ อตฺโถ.
๑๕๘. ยํ กาลํ สรตีติ เอตฺถ สายมฺปิ ‘‘อชฺชุโปสโถ สมนฺนาหรถา’’ติ อาโรเจตุํ วฏฺฏติ.
๑๕๙. เถเรน ภิกฺขุนา นวํ ภิกฺขุํ อาณาเปตุนฺติ เอตฺถาปิ กิฺจิ กมฺมํ กโรนฺโต วา สทากาลเมว เอโก วา ภารนิตฺถรณโก วา สรภาณกธมฺมกถิกาทีสุ อฺตโร วา น อุโปสถาคารสมฺมชฺชนตฺถํ อาณาเปตพฺโพ, อวเสสา ปน วาเรน อาณาเปตพฺพา. สเจ อาณตฺโต สมฺมฺุชนึ ตาวกาลิกมฺปิ น ลภติ, สาขาภงฺคํ กปฺปิยํ กาเรตฺวา สมฺมชฺชิตพฺพํ, ตมฺปิ อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติ.
๑๖๐. อาสนปฺาปนาณตฺติยมฺปิ ¶ วุตฺตนเยเนว อาณาเปตพฺโพ. อาณตฺเตน จ สเจ อุโปสถาคาเร อาสนานิ นตฺถิ, สงฺฆิกาวาสโตปิ อาหริตฺวา ปฺเปตฺวา ปุน อาหริตพฺพานิ. อาสเนสุ อสติ กฏสารเกปิ ตฏฺฏิกาโยปิ ปฺเปตุํ วฏฺฏติ, ตฏฺฏิกาสุปิ อสติ สาขาภงฺคานิ กปฺปิยํ ¶ กาเรตฺวา ปฺเปตพฺพานิ, กปฺปิยการกํ อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติ.
๑๖๑. ปทีปกรเณปิ วุตฺตนเยเนว อาณาเปตพฺโพ. อาณาเปนฺเตน จ ‘‘อมุกสฺมึ นาม โอกาเส เตลํ วา วฏฺฏิ วา กปลฺลิกา วา อตฺถิ, ตํ คเหตฺวา กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ เตลาทีนิ นตฺถิ, ปริเยสิตพฺพานิ, ปริเยสิตฺวา อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติ. อปิจ กปาเล อคฺคิปิ ชาเลตพฺโพ.
ทิสํคมิกาทิวตฺถุกถา
๑๖๓. สงฺคเหตพฺโพติ ‘‘สาธุ ภนฺเต อาคตาตฺถ, อิธ ภิกฺขา สุลภา สูปพฺยฺชนํ อตฺถิ, วสถ อนุกฺกณฺมานา’’ติ เอวํ ปิยวจเนน สงฺคเหตพฺโพ. ปุนปฺปุนํ ตถากรณวเสน ¶ อนุคฺคเหตพฺโพ. ‘‘อาม วสิสฺสามี’’ติ ปฏิวจนทาปเนน อุปลาเปตพฺโพ. อถ วา จตูหิ ปจฺจเยหิ สงฺคเหตพฺโพ เจว อนุคฺคเหตพฺโพ จ. ปิยวจเนน อุปลาเปตพฺโพ, กณฺณสุขํ อาลปิตพฺโพติ อตฺโถ. จุณฺณาทีหิ อุปฏฺาเปตพฺโพ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ สเจ สกโลปิ สงฺโฆ น กโรติ, สพฺเพสํ ทุกฺกฏํ. อิธ เนว เถรา น ทหรา มุจฺจนฺติ, สพฺเพหิ วาเรน อุปฏฺาเปตพฺโพ. อตฺตโน วาเร อนุปฏฺหนฺตสฺส อาปตฺติ. เตน ปน มหาเถรานํ ปริเวณสมฺมชฺชนทนฺตกฏฺทานาทีนิ น สาทิตพฺพานิ. เอวมฺปิ สติ มหาเถเรหิ สายํปาตํ อุปฏฺานํ อาคนฺตพฺพํ. เตน ปน เตสํ อาคมนํ ตฺวา ปมตรํ มหาเถรานํ อุปฏฺานํ คนฺตพฺพํ. สจสฺส สทฺธึจรา ภิกฺขุอุปฏฺากา อตฺถิ, ‘‘มยฺหํ อุปฏฺากา อตฺถิ, ตุมฺเห อปฺโปสฺสุกฺกา วิหรถา’’ติ วตฺตพฺพํ. อถาปิสฺส สทฺธึจรา นตฺถิ, ตสฺมึเยว ปน วิหาเร เอโก วา ทฺเว วา วตฺตสมฺปนฺนา วทนฺติ ‘‘มยํ เถรสฺส กตฺตพฺพํ กริสฺสาม, อวเสสา ผาสุ วิหรนฺตู’’ติ สพฺเพสํ อนาปตฺติ.
โส อาวาโส คนฺตพฺโพติ อุโปสถกรณตฺถาย อนฺวทฺธมาสํ คนฺตพฺโพ. โส จ โข อุตุวสฺเสเยว, วสฺสาเน ปน ยํ กตฺตพฺพํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘วสฺสํ วสนฺติ พาลา อพฺยตฺตา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ น ภิกฺขเว เตหิ ภิกฺขูหิ ตสฺมึ อาวาเส วสฺสํ วสิตพฺพนฺติ ปุริมิกาย ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน วินา น วสฺสํ อุปคนฺตพฺพํ. สเจ โส วสฺสูปคตานํ ปกฺกมติ ¶ ¶ วา, วิพฺภมติ วา, กาลํ วา กโรติ, อฺสฺมึ สติเยว ปจฺฉิมิกาย วสิตุํ วฏฺฏติ, อสติ อฺตฺถ คนฺตพฺพํ, อคจฺฉนฺตานํ ทุกฺกฏํ. สเจ ปน ปจฺฉิมิกาย ปกฺกมติ วา วิพฺภมติ วา กาลํ วา กโรติ, มาสทฺวยํ วสิตพฺพํ.
ปาริสุทฺธิทานกถา
๑๖๔. กาเยน วิฺาเปตีติ ปาริสุทฺธิทานํ เยน เกนจิ องฺคปจฺจงฺเคน วิฺาเปติ ชานาเปติ; วาจํ ปน นิจฺฉาเรตุํ สกฺโกนฺโต วาจาย วิฺาเปติ; อุภยถา สกฺโกนฺโต กายวาจาหิ. สงฺเฆน ตตฺถ คนฺตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพติ สเจ พหู ตาทิสา คิลานา โหนฺติ, สงฺเฆน ปฏิปาฏิยา ตฺวา สพฺเพ หตฺถปาเส กาตพฺพา. สเจ ทูเร ทูเร โหนฺติ, สงฺโฆ นปฺปโหติ, ตํ ¶ ทิวสํ อุโปสโถ น กาตพฺโพ, นตฺเวว วคฺเคน สงฺเฆน อุโปสโถ กาตพฺโพ.
ตตฺเถว ปกฺกมตีติ สงฺฆมชฺฌํ อนาคนฺตฺวา ตโตว กตฺถจิ คจฺฉติ. สามเณโร ปฏิชานาตีติ ‘‘สามเณโร อห’’นฺติ เอวํ ปฏิชานาติ; ภูตํเยว วา สามเณรภาวํ อาโรเจติ, ปจฺฉา วา สามเณรภูมิยํ ติฏฺตีติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
สงฺฆปฺปตฺโต ปกฺกมตีติ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน อุโปสถตฺถาย สนฺนิปติตานํ จตุนฺนํ ภิกฺขูนํ หตฺถปาสํ ปตฺวา ปกฺกมติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. เอตฺถ จ เอเกน พหูนมฺปิ อาหฏา ปาริสุทฺธิ อาหฏาว โหติ. สเจ ปน โส อนฺตรามคฺเค อฺํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา เยสํ อเนน ปาริสุทฺธิ คหิตา, เตสฺจ อตฺตโน จ ปาริสุทฺธึ เทติ, ตสฺเสว ปาริสุทฺธิ อาคจฺฉติ, อิตรา ปน พิลาฬสงฺขลิกปาริสุทฺธิ นาม โหติ. สา น อาคจฺฉติ.
สุตฺโต น อาโรเจตีติ อาคนฺตฺวา สุปติ, ‘‘อสุเกน ปาริสุทฺธิ ทินฺนา’’ติ น อาโรเจติ. ปาริสุทฺธิหารกสฺส อนาปตฺตีติ เอตฺถ สเจ สฺจิจฺจ นาโรเจติ, ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ, ปาริสุทฺธิ ปน อาหฏาว โหติ. อสฺจิจฺจ อนาโรจิตตฺตา ปนสฺส อนาปตฺติ, อุภินฺนมฺปิ จ อุโปสโถ กโตเยว โหติ.
ฉนฺททานกถา
๑๖๕. ฉนฺททาเนปิ ¶ ปาริสุทฺธิทาเน วุตฺตสทิโสเยว วินิจฺฉโย. ปาริสุทฺธึ เทนฺเตน ฉนฺทมฺปิ ¶ ทาตุนฺติ เอตฺถ สเจ ปาริสุทฺธิเมว เทติ น ฉนฺทํ, อุโปสโถ กโต โหติ. ยํ ปน สงฺโฆ อฺํ กมฺมํ กโรติ, ตํ อกตํ โหติ. ฉนฺทเมว เทติ น ปาริสุทฺธึ, ภิกฺขุสงฺฆสฺส อุโปสโถปิ กมฺมมฺปิ กตเมว โหติ, ฉนฺททายกสฺส ปน อุโปสโถ อกโต โหติ. สเจปิ โกจิ ภิกฺขุ นทิยา วา สีมาย วา อุโปสถํ อธิฏฺหิตฺวา อาคจฺฉติ, ‘‘กโต มยา อุโปสโถ’’ติ อจฺฉิตุํ น ลภติ, สามคฺคี วา ฉนฺโท วา ทาตพฺโพ.
๑๖๗. สรติปิ อุโปสถํ นปิ สรตีติ เอกทา สรติ, เอกทา น สรติ. อตฺถิ เนว สรตีติ โย เอกนฺตํ เนว สรติ, ตสฺส สมฺมุติทานกิจฺจํ นตฺถิ. อนาคจฺฉนฺโตปิ กมฺมํ น โกเปติ.
สงฺฆุโปสถาทิกถา
๑๖๘. โส เทโส สมฺมชฺชิตฺวาติ ตํ เทสํ สมฺมชฺชิตฺวา, อุปโยคตฺเถ ปจฺจตฺตํ. ปานียํ ปริโภชนียนฺติอาทิ ปน อุตฺตานตฺถเมว ¶ . กสฺมา ปเนตํ วุตฺตํ? อุโปสถสฺส ปุพฺพกรณาทิทสฺสนตฺถํ. เตนาหุ อฏฺกถาจริยา –
‘‘สมฺมชฺชนี ปทีโป จ, อุทกํ อาสเนน จ;
อุโปสถสฺส เอตานิ, ปุพฺพกรณนฺติ วุจฺจติ’’.
อิติ อิมานิ จตฺตาริ ‘‘ปุพฺพกรณ’’นฺติ อกฺขาตานิ.
‘‘ฉนฺทปาริสุทฺธิอุตุกฺขานํ, ภิกฺขุคณนา จ โอวาโท;
อุโปสถสฺส เอตานิ, ปุพฺพกิจฺจนฺติ วุจฺจติ.
อิติ อิมานิ ปฺจ ปุพฺพกรณโต ปจฺฉา กตฺตพฺพานิ ‘‘ปุพฺพกิจฺจ’’นฺติ อกฺขาตานิ.
‘‘อุโปสโถ ยาวติกา จ ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา,
สภาคาปตฺติโย จ น วิชฺชนฺติ;
วชฺชนียา จ ปุคฺคลา ตสฺมึ น โหนฺติ,
ปตฺตกลฺลนฺติ วุจฺจติ’’.
อิติ ¶ อิมานิ จตฺตาริ ‘‘ปตฺตกลฺล’’นฺติ อกฺขาตานีติ.
เตหิ ¶ สทฺธินฺติ เตหิ อาคเตหิ สทฺธึ เอตานิ ปุพฺพกรณาทีนิ กตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพ. อชฺช เม อุโปสโถติ เอตฺถ สเจ ปนฺนรโส โหติ, ‘‘อชฺช เม อุโปสโถ ปนฺนรโส’’ติปิ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติ. จาตุทฺทสิเกปิ เอเสว นโย.
อาปตฺติปฏิกมฺมวิธิกถา
๑๖๙. ภควตา ปฺตฺตํ ‘‘น สาปตฺติเกน อุโปสโถ กาตพฺโพ’’ติ อิทํ ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺตี’’ติอาทิวจเนเนว ปาริสุทฺธิทานปฺาปเนน จ ปาริสุทฺธิอุโปสถปฺาปเนน จ ปฺตฺตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตินฺติ ถุลฺลจฺจยาทีสุ เอกิสฺสา นามํ คเหตฺวา ‘‘ถุลฺลจฺจยํ อาปตฺตึ ปาจิตฺติยํ อาปตฺติ’’นฺติ เอวํ วตฺตพฺพํ. ตํ ปฏิเทเสมีติ อิทํ ‘‘ตํ ตุมฺหมูเล, ตํ ตุยฺหมูเล ปฏิเทเสมี’’ติ วุตฺเตปิ สุวุตฺตเมว โหติ. ปสฺสสีติ อิทฺจ ‘‘ปสฺสสิ อาวุโส ตํ อาปตฺตึ, ปสฺสถ ภนฺเต ตํ อาปตฺติ’’นฺติ เอวํ วตฺตพฺพํ. อาม ปสฺสามีติ อิทํ ปน ‘‘อาม ภนฺเต ปสฺสามิ, อาม อาวุโส ปสฺสามี’’ติ เอวํ วุตฺตมฺปิ สุวุตฺตเมว โหติ. อายตึ สํวเรยฺยาสีติ เอตฺถ ปน สเจ วุฑฺฒตโร ‘‘อายตึ สํวเรยฺยาถา’’ติ วตฺตพฺโพ. เอวํ วุตฺเตน ปน ‘‘สาธุ สุฏฺุ สํวริสฺสามี’’ติ ¶ วตฺตพฺพเมว.
ยทา นิพฺเพมติโกติ เอตฺถ สเจ ปเนส นิพฺเพมติโก น โหติ, วตฺถุํ กิตฺเตตฺวาว เทเสตุํ วฏฺฏตีติ อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตตฺรายํ เทสนาวิธิ – สเจ เมฆจฺฉนฺเน สูริเย ‘‘กาโล นุ โข โน’’ติ เวมติโก ภฺุชติ, เตน ภิกฺขุนา ‘‘อหํ ภนฺเต เวมติโก ภฺุชึ’’, สเจ กาโล อตฺถิ, ‘‘สมฺพหุลา ทุกฺกฏา อาปตฺติโย อาปนฺโนมฺหิ, โน เจ อตฺถิ, ‘‘สมฺพหุลา ปาจิตฺติยา อาปนฺโนมฺหี’’ติ เอวํ วตฺถุํ กิตฺเตตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต ยา ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ สมฺพหุลา ทุกฺกฏา วา ปาจิตฺติยา วา อาปตฺติโย อาปนฺโน, ตา ตุมฺหมูเล ปฏิเทเสมี’’ติ วตฺตพฺพํ. เอส นโย สพฺพาปตฺตีสุ.
น ภิกฺขเว สภาคา อาปตฺตีติ เอตฺถ ยํ ทฺเวปิ ชนา วิกาลโภชนาทินา สภาควตฺถุนา อาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ, เอวรูปา วตฺถุสภาคา ‘‘สภาคา’’ติ ¶ วุจฺจติ. วิกาลโภชนปฺปจฺจยา อาปนฺนํ ปน อนติริตฺตโภชนปจฺจยา อาปนฺนสฺส สนฺติเก เทเสตุํ วฏฺฏติ. ยาปิ จายํ วตฺถุสภาคา, สาปิ เทสิตา สุเทสิตาว. อฺํ ปน เทสนปจฺจยา เทสโก, ปฏิคฺคหณปฺปจฺจยา ¶ ปฏิคฺคหโก จาติ อุโภปิ ทุกฺกฏํ อาปชฺชนฺติ, ตํ นานาวตฺถุกํ โหติ, ตสฺมา อฺมฺํ เทเสตุํ วฏฺฏติ.
๑๗๐. สามนฺโต ภิกฺขุ เอวมสฺส วจนีโยติ เอตฺถ สภาโคเยว วตฺตพฺโพ. วิสภาคสฺส หิ วุจฺจมาเน ภณฺฑนกลหสงฺฆเภทาทีนิปิ โหนฺติ, ตสฺมา ตสฺส อวตฺวา ‘‘อิโต วุฏฺหิตฺวา ปฏิกริสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพติ อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตํ.
อนาปตฺติปนฺนรสกาทิกถา
๑๗๒. อนาปตฺติปนฺนรสเก – เต น ชานึสูติ สีมํ โอกฺกนฺตาติ วา โอกฺกมนฺตีติ วาติ น ชานึสุ. อถฺเ อาวาสิกา ภิกฺขู อาคจฺฉนฺตีติ คามํ วา อรฺํ วา เกนจิ กรณีเยน คนฺตฺวา เตสํ นิสินฺนฏฺานํ อาคจฺฉนฺติ. วคฺคา สมคฺคสฺิโนติ เตสํ สีมํ โอกฺกนฺตตฺตา วคฺคา; สีมํ โอกฺกนฺตภาวสฺส อชานนโต สมคฺคสฺิโน.
๑๗๓. วคฺคาวคฺคสฺิปนฺนรสเก – เต ชานนฺตีติ ปพฺพเต วา ถเล วา ิตา สีมํ โอกฺกนฺเต วา โอกฺกมนฺเต วา ปสฺสนฺติ. เวมติกปนฺนรสกํ ¶ อุตฺตานเมว.
๑๗๕. กุกฺกุจฺจปกตปนฺนรสเก – ยถา อิจฺฉาย อภิภูโต ‘‘อิจฺฉาปกโต’’ติ วุจฺจติ, เอวํ ปุพฺพภาเค สนฺนิฏฺานํ กตฺวาปิ กรณกฺขเณ อกปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตาสงฺขาเตน กุกฺกุจฺเจน อภิภูตา ‘‘กุกฺกุจฺจปกตา’’ติ เวทิตพฺพา.
๑๗๖. เภทปุเรกฺขารปนฺนรสเก – อกุสลพลวตาย ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ.
สีโมกฺกนฺติกเปยฺยาลกถา
๑๗๗. อาวาสิเกนอาคนฺตุกเปยฺยาเล – ยถา ปุริเม อาวาสิเกนอาวาสิกเปยฺยาเล ‘‘เต น ชานนฺติ อถฺเ อาวาสิกา’’ติอาทิ วุตฺตํ, เอวํ ‘‘เต น ชานนฺติ อถฺเ อาคนฺตุกา’’ติอาทินา นเยน ¶ สพฺพํ เวทิตพฺพํ. อาคนฺตุเกนอาวาสิกเปยฺยาเล ปน – ยถา ปุริมเปยฺยาเล ‘‘อาวาสิกา ภิกฺขู สนฺนิปตนฺตี’’ติ อาคตํ, เอวํ ‘‘อาคนฺตุกา ภิกฺขู สนฺนิปตนฺตี’’ติ อาเนตพฺพํ ¶ . อาคนฺตุเกนอาคนฺตุกเปยฺยาเล ปน – อุภยปเทสุ อาคนฺตุกวเสน โยเชตพฺโพติ.
๑๗๘. อาวาสิกานํ ภิกฺขูนํ จาตุทฺทโส โหติ, อาคนฺตุกานํ ปนฺนรโสติ เอตฺถ เยสํ ปนฺนรโส, เต ติโรรฏฺโต วา อาคตา, อตีตํ วา อุโปสถํ จาตุทฺทสิกํ อกํสูติ เวทิตพฺพา. อาวาสิกานํ อนุวตฺติตพฺพนฺติ อาวาสิเกหิ ‘‘อชฺชุโปสโถ จาตุทฺทโส’’ติ ปุพฺพกิจฺเจ กริยมาเน อนุวตฺติตพฺพํ, น ปฏิกฺโกสิตพฺพํ. น อกามา ทาตพฺพาติ น อนิจฺฉาย ทาตพฺพา.
ลิงฺคาทิทสฺสนกถา
๑๗๙. อาวาสิกาการนฺติ อาวาสิกานํ อาการํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อากาโร นาม เยน เตสํ วตฺตสมฺปนฺนา วา น วาติ อาจารสณฺานํ คยฺหติ. ลิงฺคํ นาม ยํ เต ตตฺถ ตตฺถ ลีเน คมยติ; อทิสฺสมาเนปิ ชานาเปตีติ อตฺโถ. นิมิตฺตํ นาม ยํ ทิสฺวา เต อตฺถีติ ายนฺติ. อุทฺเทโส นาม เยน เต เอวรูปปริกฺขาราติ อุทฺทิสนฺติ; อปเทสํ ลภนฺตีติ อตฺโถ. สพฺพเมตํ สุปฺตฺตมฺจปีาทีนฺเจว ปทสทฺทาทีนฺจ อธิวจนํ, ยถาโยคํ ปน โยเชตพฺพํ. อาคนฺตุกาการาทีสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ อฺาตกนฺติ อฺเสํ สนฺตกํ. ปาทานํ โธตํ อุทกนิสฺเสกนฺติ ปาทานํ โธตานํ อุทกนิสฺเสกํ. พหุวจนสฺส เอกวจนํ เวทิตพฺพํ. ‘‘ปาทานํ โธตอุทกนิสฺเสก’’นฺติ วา ปาโ; ปาทานํ โธวนอุทกนิสฺเสกนฺติ อตฺโถ.
๑๘๐. นานาสํวาสกาทิวตฺถูสุ – สมานสํวาสกทิฏฺินฺติ ‘‘สมานสํวาสกา เอเต’’ติ ทิฏฺึ. น ปุจฺฉนฺตีติ เตสํ ลทฺธึ ¶ น ปุจฺฉนฺติ; อปุจฺฉิตฺวาว วตฺตปฏิวตฺตึ กตฺวา เอกโต อุโปสถํ กโรนฺติ. นาภิวิตรนฺตีติ นานาสํวาสกภาวํ มทฺทิตุํ อภิภวิตุํ น สกฺโกนฺติ; ตํ ทิฏฺึ น นิสฺสชฺชาเปนฺตีติ อตฺโถ.
นคนฺตพฺพคนฺตพฺพวารกถา
๑๘๑. สภิกฺขุกา อาวาสาติ ยสฺมึ อาวาเส อุโปสถการกา ภิกฺขู อตฺถิ, ตมฺหา อาวาสา ยํ น สกฺโกติ ตทเหว อาคนฺตุํ ¶ , โส อาวาโส อุโปสถํ อกตฺวา น คนฺตพฺโพ. อฺตฺร สงฺเฆนาติ สงฺฆปฺปโหนเกหิ ภิกฺขูหิ วินา. อฺตฺร อนฺตรายาติ ปุพฺเพ วุตฺตํ ทสวิธํ อนฺตรายํ ¶ วินา. สพฺพนฺติเมน ปน ปริจฺเฉเทน อตฺตจตุตฺเถน อนฺตราเย วา สติ คนฺตุํ วฏฺฏติ. อนาวาโสติ นวกมฺมสาลาทิโก โย โกจิ ปเทโส. ยถา จ อาวาสาทโย น คนฺตพฺพา; เอวํ สเจ วิหาเร อุโปสถํ กโรนฺติ, อุโปสถาธิฏฺานตฺถํ สีมาปิ นทีปิ น คนฺตพฺพา. สเจ ปเนตฺถ โกจิ ภิกฺขุ โหติ, ตสฺส สนฺติกํ คนฺตุํ วฏฺฏติ. วิสฺสฏฺอุโปสถาปิ อาวาสา คนฺตุํ วฏฺฏติ; เอวํ คโต อธิฏฺาตุมฺปิ ลภติ. อารฺเกนาปิ ภิกฺขุนา อุโปสถทิวเส คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา อตฺตโน วิหารเมว อาคนฺตพฺพํ. สเจ อฺํ วิหารํ โอกฺกมติ, ตตฺถ อุโปสถํ กตฺวาว อาคนฺตพฺพํ, อกตฺวา น วฏฺฏติ.
๑๘๒. ยํ ชฺา สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุนฺติ ยํ ชาเนยฺย อชฺเชว ตตฺถ คนฺตุํ สกฺโกมีติ; เอวรูโป อาวาโส คนฺตพฺโพ. ตตฺถ ภิกฺขูหิ สทฺธึ อุโปสถํ กโรนฺเตนาปิ หิ อิมินา เนว อุโปสถนฺตราโย กโต ภวิสฺสตีติ.
วชฺชนียปุคฺคลสนฺทสฺสนกถา
๑๘๓. ภิกฺขุนิยา นิสินฺนปริสายาติอาทีสุ หตฺถปาสุปคมนเมว ปมาณํ. อฺตฺร อวุฏฺิตาย ปริสายาติ อิทฺหิ ปาริวาสิยปาริสุทฺธิทานํ นาม ปริสาย วุฏฺิตกาลโต ปฏฺาย น วฏฺฏติ, อวุฏฺิตาย ปน วฏฺฏติ. เตนาห – ‘‘อฺตฺร อวุฏฺิตาย ปริสายา’’ติ. ตสฺส ลกฺขณํ ภิกฺขุนิวิภงฺเค ปริวาสิยฉนฺททานวณฺณนโต คเหตพฺพํ. อนุโปสเถติ จาตุทฺทสิโก จ ปนฺนรสิโก จาติ อิเม ทฺเว อุโปสเถ เปตฺวา อฺสฺมึ ทิวเส. อฺตฺร สงฺฆสามคฺคิยาติ ยา โกสมฺพกภิกฺขูนํ วิย ภินฺเน สงฺเฆ ปุน สงฺฆสามคฺคี กริยติ, ตถารูปึ สงฺฆสามคฺคึ เปตฺวา ¶ . ตทา จ ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ อชฺชุโปสโถ สามคฺคี’’ติ วตฺวา กาตพฺโพ. เย ปน กิสฺมิฺจิเทว อปฺปมตฺตเก อุโปสถํ เปตฺวา ปุน สมคฺคา โหนฺติ, เตหิ อุโปสเถเยว กาตพฺโพติ.
อุโปสถกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. วสฺสูปนายิกกฺขนฺธกํ
วสฺสูปนายิกานุชานนกถา
๑๘๔. วสฺสูปนายิกกฺขนฺธเก ¶ ¶ – อปฺตฺโตติ อนนฺุาโต อสํวิหิโต วา. เต อิธ ภิกฺขูติ เต ภิกฺขู, อิธสทฺโท นิปาตมตฺโต. สงฺฆาตํ อาปาเทนฺตาติ วินาสํ อาปาเทนฺตา. สงฺกสายิสฺสนฺตีติ อปฺโปสฺสุกฺกา นิพทฺธวาสํ วสิสฺสนฺติ. สกุนฺตกาติ สกุณา. วสฺสาเน วสฺสํ อุปคนฺตุนฺติ วสฺสานนามเก เตมาเส วสฺสํ อุปคนฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. กติ นุ โข วสฺสูปนายิกาติ กติ นุ โข วสฺสูปคมนานิ. อปรชฺชุคตายาติ เอตฺถ อปรชฺชุคตาย อสฺสาติ อปรชฺชุคตา, ตสฺสา อปรชฺชุคตาย; อติกฺกนฺตาย อปรสฺมึ ทิวเสติ อตฺโถ. ทุติยนเยปิ มาโส คตาย อสฺสาติ มาสคตา, ตสฺสา มาสคตาย; อติกฺกนฺตาย มาเส ปริปุณฺเณติ อตฺโถ. ตสฺมา อาสาฬฺหีปุณฺณมาย อนนฺตเร ปาฏิปททิวเส, อาสาฬฺหีปุณฺณมิโต วา อปราย ปุณฺณมาย อนนฺตเร ปาฏิปททิวเสเยว วิหารํ ปฏิชคฺคิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺเปตฺวา สพฺพํ เจติยวนฺทนาทิสามีจิกมฺมํ นิฏฺาเปตฺวา ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมี’’ติ สกึ วา ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ วา วาจํ นิจฺฉาเรตฺวา วสฺสํ อุปคนฺตพฺพํ.
วาจํ นิจฺฉาเรตฺวา วสฺสํ อุปคนฺตพฺพํ.
วสฺสาเนจาริกาปฏิกฺเขปาทิกถา
๑๘๕-๖. โย ปกฺกเมยฺยาติ เอตฺถ อนเปกฺขคมเนน วา อฺตฺถ อรุณํ อุฏฺาปเนน วา อาปตฺติ เวทิตพฺพา. โย อติกฺกเมยฺยาติ เอตฺถ วิหารคณนาย อาปตฺติโย เวทิตพฺพา. สเจ หิ ตํ ทิวสํ วิหารสตสฺส อุปจารํ โอกฺกมิตฺวา อติกฺกมติ, สตํ อาปตฺติโย. สเจ ปน วิหารูปจารํ อติกฺกมิตฺวา อฺสฺส วิหารสฺส อุปจารํ อโนกฺกมิตฺวาว นิวตฺตติ, เอกา เอว อาปตฺติ. เกนจิ อนฺตราเยน ปุริมิกํ อนุปคเตน ปจฺฉิมิกา อุปคนฺตพฺพา.
วสฺสํ ¶ อุกฺกฑฺฒิตุกาโมติ วสฺสนามกํ ¶ ปมมาสํ อุกฺกฑฺฒิตุกาโม, สาวณมาสํ อกตฺวา ปุน อาสาฬฺหีมาสเมว กตฺตุกาโมติ อตฺโถ. อาคเม ชุณฺเหติ อาคเม มาเสติ อตฺโถ. อนุชานามิ ภิกฺขเว ราชูนํ อนุวตฺติตุนฺติ เอตฺถ วสฺสุกฺกฑฺฒเน ภิกฺขูนํ กาจิ ปริหานิ นาม นตฺถีติ อนุวตฺติตุํ ¶ อนฺุาตํ, ตสฺมา อฺสฺมิมฺปิ ธมฺมิเก กมฺเม อนุวตฺติตพฺพํ. อธมฺมิเก ปน น กสฺสจิ อนุวตฺติตพฺพํ.
สตฺตาหกรณียานุชานนกถา
๑๘๗-๘. สตฺตาหกรณีเยสุ – สตฺตาหกรณีเยน คนฺตุนฺติ สตฺตาหพฺภนฺตเร ยํ กตฺตพฺพํ ตํ สตฺตาหกรณียํ, เตน สตฺตาหกรณีเยน กรณภูเตน คนฺตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. ปหิเต คนฺตุนฺติ อิเมหิ สตฺตหิ ภิกฺขุอาทีหิ ทูเต ปหิเตเยว คนฺตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. สตฺตาหํ สนฺนิวตฺโต กาตพฺโพติ สตฺตาเหเยว สนฺนิวตฺติตพฺโพ, อฏฺโม อรุโณ ตตฺเถว น อุฏฺาเปตพฺโพติ อตฺโถ.
ภิกฺขุนิสงฺฆํ อุทฺทิสฺสาติ อิโต ปฏฺาย วจฺจกุฏิ ชนฺตาฆรํ ชนฺตาฆรสาลาติ อิมานิ ตีณิ ปริหีนานิ.
๑๘๙. อุโทสิตาทีนิ อุโทสิตสิกฺขาปทาทีสุ วุตฺตาเนว. รสวตีติ ภตฺตเคหํ วุจฺจติ. วาเรยฺยํ สฺจริตฺตสิกฺขาปเท วุตฺตเมว. ปุรายํ สุตฺตนฺโต ปลุชฺชตีติ ยาว อยํ สุตฺตนฺโต น ปลุชฺชติ, ยาว อยํ สุตฺตนฺโต น วินสฺสติ. อฺตรํ วา ปนสฺส กิจฺจํ โหติ กรณียํ วาติ เอเตน ปริสงฺขตํ ยํกิฺจิ กรณียํ สงฺคหิตํ โหติ. สพฺพตฺถ จ ‘‘อิจฺฉามิ ทานฺจ ทาตุํ ธมฺมฺจ โสตุํ ภิกฺขู จ ปสฺสิตุ’’นฺติ อิมินาว กปฺปิยวจเนน เปสิเต คนฺตพฺพํ, เอเตสํ วา เววจเนน. เปยฺยาลกฺกโม ปน เอวํ เวทิตพฺโพ, ยถา ‘‘อุปาสเกน สงฺฆํ อุทฺทิสฺส วิหาราทโย การาปิตา โหนฺติ, สมฺพหุเล ภิกฺขู อุทฺทิสฺส, เอกํ ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส, ภิกฺขุนิสงฺฆํ อุทฺทิสฺส, สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย, เอกํ ภิกฺขุนึ, สมฺพหุลา สิกฺขมานาโย, เอกํ สิกฺขมานํ, สมฺพหุเล สามเณเร, เอกํ สามเณรํ, สมฺพหุลา สามเณริโย, เอกํ สามเณรึ อุทฺทิสฺส อตฺตโน อตฺถาย นิเวสนํ การาปิตํ โหตี’’ติ วุตฺตํ; เอวเมว ‘‘อุปาสิกาย, ภิกฺขุนา, ภิกฺขุนิยา, สิกฺขมานาย, สามเณเรน, สามเณริยา สงฺฆํ อุทฺทิสฺสา’’ติ สพฺพํ วตฺตพฺพํ. เอเตสุ สตฺตปฺปกาเรสุ กรณีเยสุ ¶ ปหิเต คนฺตพฺพํ.
ปฺจนฺนํอปฺปหิเตปิอนุชานนกถา
๑๙๓. ปฺจนฺนํ ¶ สตฺตาหกรณีเยนาติ เอเตสํ ภิกฺขุอาทีนํ สหธมฺมิกานํ ‘‘คิลานภตฺตํ วา คิลานุปฏฺากภตฺตํ วา เภสชฺชํ วา ปริเยสิสฺสามิ ¶ , ปุจฺฉิสฺสามิ วา, อุปฏฺหิสฺสามิ วา’’ติ เอวมาทินา ปรโต วิตฺถาเรตฺวา ทสฺสิเตน การเณน อปฺปหิเตปิ คนฺตพฺพํ, ปเคว ปหิเต. ภิกฺขุ คิลาโน โหติ, อนภิรติ อุปฺปนฺนา โหติ, กุกฺกุจฺจํ อุปฺปนฺนํ โหติ, ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน โหติ ปริวาสารโห, มูลาย ปฏิกสฺสนารโห โหติ, มานตฺตารโห, อพฺภานารโห, สงฺโฆ กมฺมํ กตฺตุกาโม โหติ, กตํ วา สงฺเฆน กมฺมํ โหตีติ เอเตหิ ทสหิ การเณหิ ภิกฺขุสฺส สนฺติกํ คนฺตพฺพํ. ภิกฺขุนิยา สนฺติกํ นวหิ การเณหิ คนฺตพฺพํ, สิกฺขมานาย สนฺติกํ ฉหิ – อาทิโต จตูหิ, สิกฺขา กุปฺปิตา โหติ, อุปสมฺปชฺชิตุกามา โหตีติ. สามเณรสฺสาปิ ฉหิ – อาทิโต จตูหิ, วสฺสํ ปุจฺฉิตุกาโม อุปสมฺปชฺชิตุกาโม โหตีติ. สามเณริยา อุปสมฺปทํ อปเนตฺวา สิกฺขาปทํ ทาตุกาโม โหตีติ อิมินา สทฺธึ ปฺจหิ. ปรโต มาตาปิตูนํ อนฺุาตฏฺาเนปิ เอเสว นโย. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘เย มาตาปิตูนํ อุปฏฺากา าตกา วา อฺาตกา วา เตสมฺปิ อปฺปหิเต คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ เนว อฏฺกถายํ, น ปาฬิยา วุตฺตํ, ตสฺมา น คเหตพฺพํ.
ปหิเตเยวอนุชานนกถา
๑๙๙. ภิกฺขุคติโกติ เอกสฺมึ วิหาเร ภิกฺขูหิ สทฺธึ วสนกปุริโส. อุนฺทฺริยตีติ ปลุชฺชติ. ภณฺฑํ เฉทาปิตนฺติ ทพฺพสมฺภารภณฺฑํ เฉทาปิตํ. อาวหาเปยฺยุนฺติ อาหราเปยฺยุํ. ทชฺชาหนฺติ ทชฺเช อหํ. สงฺฆกรณีเยนาติ เอตฺถ ยํกิฺจิ อุโปสถาคาราทีสุ เสนาสเนสุ เจติยฉตฺตเวทิกาทีสุ วา กตฺตพฺพํ, อนฺตมโส ภิกฺขุโน ปุคฺคลิกเสนาสนมฺปิ, สพฺพํ สงฺฆกรณียเมว. ตสฺมา ตสฺส นิปฺผาทนตฺถํ ทพฺพสมฺภาราทีนิ วา อาหริตุํ วฑฺฒกีปฺปภุตีนํ ภตฺตเวตนาทีนิ วา ทาเปตุํ คนฺตพฺพํ.
อยํ ปเนตฺถ ปาฬิมุตฺตกรตฺติจฺเฉทวินิจฺฉโย – ธมฺมสวนตฺถาย อนิมนฺติเตน คนฺตุํ น วฏฺฏติ. สเจ เอกสฺมึ มหาวาเส ปมํเยว กติกา กตา โหติ – ‘‘อสุกทิวสํ นาม สนฺนิปติตพฺพ’’นฺติ ¶ , นิมนฺติโตเยว นาม โหติ, คนฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ภณฺฑกํ โธวิสฺสามี’’ติ คนฺตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน ¶ อาจริยุปชฺฌายา ปหิณนฺติ, วฏฺฏติ. นาติทูเร วิหาโร โหติ, ตตฺถ คนฺตฺวา อชฺเชว อาคมิสฺสามีติ สมฺปาปุณิตุํ น สกฺโกติ, วฏฺฏติ. อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนํ อตฺถายปิ ¶ คนฺตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘อาจริยํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ ปน คนฺตุํ ลภติ. สเจ ปน นํ อาจริโย ‘‘อชฺช มา คจฺฉา’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. อุปฏฺากกุลํ วา าติกุลํ วา ทสฺสนาย คนฺตุํ น ลภตีติ.
อนฺตราเยอนาปตฺติวสฺสจฺเฉทกถา
๒๐๑. เยน คาโม เตน คนฺตุนฺติอาทีสุ สเจ คาโม อวิทูรํ คโต โหติ, ตตฺถ ปิณฺฑาย จริตฺวา วิหารเมว อาคนฺตฺวา วสิตพฺพํ. สเจ ทูรํ คโต, สตฺตาหวาเรน อรุโณ อุฏฺาเปตพฺโพ. น สกฺกา เจ โหติ, ตตฺเรว สภาคฏฺาเน วสิตพฺพํ. สเจ มนุสฺสา ยถาปวตฺตานิ สลากภตฺตาทีนิ เทนฺติ, ‘‘น มยํ ตสฺมึ วิหาเร วสิมฺหา’’ติ วตฺตพฺพา. ‘‘มยํ วิหารสฺส วา ปาสาทสฺส วา น เทม, ตุมฺหากํ เทม, ยตฺถ กตฺถจิ วสิตฺวา ภฺุชถา’’ติ วุตฺเต ปน ยถาสุขํ ภฺุชิตพฺพํ, เตสํเยว ตํ ปาปุณาติ. ‘‘ตุมฺหากํ วสนฏฺาเน ปาปุณาเปตฺวา ภฺุชถา’’ติ วุตฺเต ปน ยตฺถ วสนฺติ, ตตฺถ เนตฺวา วสฺสคฺเคน ปาปุณาเปตฺวา ภฺุชิตพฺพํ.
สเจ ปวาริตกาเล วสฺสาวาสิกํ เทนฺติ, ยทิ สตฺตาหวาเรน อรุณํ อุฏฺาปยึสุ, คเหตพฺพํ. ฉินฺนวสฺเสหิ ปน ‘‘น มยํ ตตฺถ วสิมฺห, ฉินฺนวสฺสา มย’’นฺติ วตฺตพฺพํ. ยทิ ‘‘เยสํ อมฺหากํ เสนาสนํ ปาปิตํ, เต คณฺหนฺตู’’ติ วทนฺติ, คเหตพฺพํ. ยํ ปน วิหาเร อุปนิกฺขิตฺตกํ มา วินสฺสีติ อิธ อาหฏํ จีวราทิเวภงฺคิยภณฺฑํ, ตํ ตตฺเถว คนฺตฺวา อปโลเกตฺวา ภาเชตพฺพํ. ‘‘อิโต อยฺยานํ จตฺตาโร ปจฺจเย เทถา’’ติ กปฺปิยการกานํ ทินฺเน เขตฺตวตฺถุอาทิเก ตตฺรุปฺปาเทปิ เอเสว นโย. สงฺฆิกฺหิ เวภงฺคิยภณฺฑํ อนฺโตวิหาเร วา พหิสีมาย วา โหตุ, พหิสีมาย ิตานํ อปโลเกตฺวา ภาเชตุํ ¶ น วฏฺฏติ. อุภยตฺถ ิตมฺปิ ปน อนฺโตสีมาย ิตานํ อปโลเกตฺวา ภาเชตุํ วฏฺฏติเยว.
สงฺฆเภเทอนาปตฺติวสฺสจฺเฉทกถา
๒๐๒. สงฺโฆ ¶ ภินฺโนติ เอตฺถ ภินฺเน สงฺเฆ คนฺตฺวา กรณียํ นตฺถิ, โย ปน ‘‘ภิชฺชิสฺสตี’’ติ อาสงฺกิโต, ตํ สนฺธาย ‘‘ภินฺโน’’ติ วุตฺตํ. สมฺพหุลาหิ ภิกฺขุนีหิ สงฺโฆ ภินฺโนติ เอตฺถ น ภิกฺขุนีหิ สงฺโฆ ภินฺโนติ ทฏฺพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘น โข อุปาลิ ภิกฺขุนี สงฺฆํ ภินฺทตี’’ติ. เอตา ปน นิสฺสาย อนุพลํ กตฺวา ยํ สงฺฆํ ‘‘ภิกฺขู ภินฺเทยฺยุ’’นฺติ อาสงฺกา โหติ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
วชาทีสุวสฺสูปคมนกถา
๒๐๓. วโชติ ¶ โคปาลกานํ นิวาสฏฺานํ. เยน วโชติ เอตฺถ วเชน สทฺธึ คตสฺส วสฺสจฺเฉเท อนาปตฺติ.
อุปกฏฺายาติ อาสนฺนาย. สตฺเถ วสฺสํ อุปคนฺตุนฺติ เอตฺถ วสฺสูปนายิกทิวเส เตน ภิกฺขุนา อุปาสกา วตฺตพฺพา ‘‘กุฏิกา ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ. สเจ กริตฺวา เทนฺติ, ตตฺถ ปวิสิตฺวา ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ. โน เจ เทนฺติ, สาลาสงฺเขเปน ิตสกฏสฺส เหฏฺา อุปคนฺตพฺพํ. ตมฺปิ อลภนฺเตน อาลโย กาตพฺโพ. สตฺเถ ปน วสฺสํ อุปคนฺตุํ น วฏฺฏติ. อาลโย นาม ‘‘อิธ วสฺสํ วสิสฺสามี’’ติ จิตฺตุปฺปาทมตฺตํ. สเจ มคฺคปฺปฏิปนฺเนเยว สตฺเถ ปวารณทิวโส โหติ, ตตฺเถว ปวาเรตพฺพํ. อถ สตฺโถ อนฺโตวสฺเสเยว ภิกฺขุนา ปตฺถิตฏฺานํ ปตฺวา อติกฺกมติ, ปตฺถิตฏฺาเน วสิตฺวา ตตฺถ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปวาเรตพฺพํ. อถาปิ สตฺโถ อนฺโตวสฺเสเยว อนฺตรา เอกสฺมึ คาเม ติฏฺติ วา วิปฺปกิรติ วา, ตสฺมึเยว คาเม ภิกฺขูหิ สทฺธึ วสิตฺวา ปวาเรตพฺพํ, อปวาเรตฺวา ตโต ปรํ คนฺตุํ น วฏฺฏติ.
นาวายํ วสฺสํ อุปคจฺฉนฺเตนาปิ กุฏิยํเยว อุปคนฺตพฺพํ. ปริเยสิตฺวา อลภนฺเตน อาลโย กาตพฺโพ. สเจ อนฺโตเตมาสํ นาวา สมุทฺเทเยว โหติ, ตตฺเถว ปวาเรตพฺพํ. อถ นาวา กูลํ ลภติ, อยฺจ ปรโต คนฺตุกาโม โหติ, คนฺตุํ น วฏฺฏติ. นาวาย ลทฺธคาเมเยว วสิตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปวาเรตพฺพํ. สเจปิ นาวา อนุตีรเมว อฺตฺถ คจฺฉติ, ภิกฺขุ จ ปมํ ลทฺธคาเมเยว วสิตุกาโม, นาวา คจฺฉตุ ภิกฺขุนา ตตฺเถว วสิตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปวาเรตพฺพํ ¶ .
อิติ ¶ วเช สตฺเถ นาวายนฺติ ตีสุ าเนสุ นตฺถิ วสฺสจฺเฉเท อาปตฺติ, ปวาเรตฺุจ ลภติ. ปุริเมสุ ปน ‘‘วาเฬหิ อุพฺพาฬฺหา โหนฺตี’’ติอาทีสุ สงฺฆเภทปริยนฺเตสุ วตฺถูสุ เกวลํ อนาปตฺติ โหติ, ปวาเรตุํ ปน น ลภติ.
๒๐๔. น ภิกฺขเว รุกฺขสุสิเรติ เอตฺถ สุทฺเธ รุกฺขสุสิเรเยว น วฏฺฏติ; มหนฺตสฺส ปน รุกฺขสุสิรสฺส อนฺโต ปทรจฺฉทนํ กุฏิกํ กตฺวา ปวิสนทฺวารํ โยเชตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ. รูกฺขํ ฉินฺทิตฺวา ขาณุกมตฺถเก ปทรจฺฉทนํ กุฏิกํ กตฺวาปิ วฏฺฏติเยว. รุกฺขวิฏภิยาติ ¶ เอตฺถาปิ สุทฺเธ วิฏปมตฺเต น วฏฺฏติ. มหาวิฏเป ปน อฏฺฏกํ พนฺธิตฺวา ตตฺถ ปทรจฺฉทนํ กุฏิกํ กตฺวา อุปคนฺตพฺพํ. อเสนาสนิเกนาติ ยสฺส ปฺจนฺนํ ฉทนานํ อฺตเรน ฉนฺนํ โยชิตทฺวารพนฺธนํ เสนาสนํ นตฺถิ, เตน น อุปคนฺตพฺพํ. น ภิกฺขเว ฉวกุฏิกายนฺติ ฉวกุฏิกา นาม ฏงฺกิตมฺจาทิเภทา กุฏิ, ตตฺถ อุปคนฺตุํ น วฏฺฏติ. สุสาเน ปน อฺํ กุฏิกํ กตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ. น ภิกฺขเว ฉตฺเตติ เอตฺถาปิ จตูสุ ถมฺเภสุ ฉตฺตํ เปตฺวา อาวรณํ กตฺวา ทฺวารํ โยเชตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ, ฉตฺตกุฏิกา นาเมสา โหติ. จาฏิยาติ เอตฺถาปิ มหนฺเตน กปลฺเลน ฉตฺเต วุตฺตนเยน กุฏึ กตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ.
อธมฺมิกกติกาทิกถา
๒๐๕. เอวรูปา กติกาติ เอตฺถ อฺาปิ ยา อีทิสี อธมฺมิกา กติกา โหติ, สา น กาตพฺพาติ อตฺโถ. ตสฺสา ลกฺขณํ มหาวิภงฺเค วุตฺตํ.
๒๐๗-๘. ปฏิสฺสเว จ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอตฺถ น เกวลํ ‘‘อิมํ เตมาสํ อิธ วสฺสํ วสถา’’ติ เอตสฺเสว ปฏิสฺสเว อาปตฺติ, ‘‘อิมํ เตมาสํ ภิกฺขํ คณฺหถ, อุโภปิ มยํ อิธ วสฺสํ วสิสฺสาม, เอกโต อุทฺทิสาเปสฺสามา’’ติ ¶ เอวมาทินาปิ ตสฺส ตสฺส ปฏิสฺสเว ทุกฺกฏํ. ตฺจ โข ปมํ สุทฺธจิตฺตสฺส ปจฺฉา วิสํวาทนปจฺจยา, ปมมฺปิ อสุทฺธจิตฺตสฺส ปน ปฏิสฺสเว ปาจิตฺติยํ, วิสํวาทเน ทุกฺกฏนฺติ ปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏํ ยุชฺชติ.
โส ¶ ตทเหว อกรณีโยติอาทีสุ สเจ วสฺสํ อนุปคนฺตฺวา วา ปกฺกมติ, อุปคนฺตฺวา วา สตฺตาหํ พหิทฺธา วีตินาเมติ, ปุริมิกา จ น ปฺายติ, ปฏิสฺสเว จ อาปตฺติ. วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปน อรุณํ อนุฏฺาเปตฺวา ตทเหว สตฺตาหกรณีเยน ปกฺกมนฺตสฺสาปิ อนฺโตสตฺตาเห นิวตฺตนฺตสฺส อนาปตฺติ, โก ปน วาโท ทฺวีหตีหํ วสิตฺวา อนฺโตสตฺตาเห นิวตฺตนฺตสฺส. ทฺวีหตีหํ วสิตฺวาติ เอตฺถาปิ นิรเปกฺเขเนว อุปจาราติกฺกเม วสฺสจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. สเจ อิธ วสิสฺสามีติ อาลโย อตฺถิ, อสติยา ปน วสฺสํ น อุเปติ, คหิตเสนาสนํ สุคฺคหิตํ, ฉินฺนวสฺโส น โหติ, ปวาเรตุํ ลภติเยว.
สตฺตาหํ อนาคตาย ปวารณายาติ เอตฺถ นวมิโต ปฏฺาย คนฺตุํ วฏฺฏติ, อาคจฺฉตุ วา มา วา, อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมวาติ.
วสฺสูปนายิกกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปวารณากฺขนฺธกํ
อผาสุกวิหารกถา
๒๐๙. ปวารณากฺขนฺธเก ¶ ¶ – เนว อาลเปยฺยาม น สลฺลเปยฺยามาติ เอตฺถ อาลาโป นาม ปมวจนํ; สลฺลาโป ปจฺฉิมวจนํ. หตฺถวิลงฺฆเกนาติ หตฺถุกฺเขปเกน. ปสุสํวาสนฺติ ปสูนํ วิย สํวาสํ. ปสโวปิ หิ อตฺตโน อุปฺปนฺนํ สุขทุกฺขํ อฺมฺสฺส น อาโรเจนฺติ, ปฏิสนฺถารํ น กโรนฺติ, ตถา เอเตปิ น อกํสุ; ตสฺมา เนสํ สํวาโส ‘‘ปสุสํวาโส’’ติ วุจฺจติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. น ภิกฺขเว มูคพฺพตํ ติตฺถิยสมาทานนฺติ ‘‘อิมํ เตมาสํ น กเถตพฺพ’’นฺติ เอวรูปํ วตสมาทานํ น กาตพฺพํ; อธมฺมกติกา เหสา. อฺมฺานุโลมตาติ อฺมฺํ วตฺตุํ อนุโลมภาโว. ‘‘วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺโต’’ติ ¶ หิ วทนฺตํ สกฺกา โหติ กิฺจิ วตฺตุํ; น อิตรํ. อาปตฺติวุฏฺานตา วินยปุเรกฺขารตาติ อาปตฺตีหิ วุฏฺานภาโว วินยํ ปุรโต กตฺวา จรณภาโว. ‘‘วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺโต’’ติ หิ เอวํ วทนฺโต อาปตฺตีหิ วุฏฺหิสฺสติ, วินยฺจ ปุรกฺขตฺวา วิหริสฺสตีติ วุจฺจติ.
๒๑๐. สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ อชฺช ปวารณา, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ปวาเรยฺยาติ อยํ สพฺพสงฺคาหิกา นาม ตฺติ; เอวฺหิ วุตฺเต เตวาจิกํ ทฺเววาจิกํ เอกวาจิกฺจ ปวาเรตุํ วฏฺฏติ. สมานวสฺสิกํ น วฏฺฏติ. ‘‘เตวาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ วุตฺเต ปน เตวาจิกเมว วฏฺฏติ, อฺํ น วฏฺฏติ. ‘‘ทฺเววาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ วุตฺเต ทฺเววาจิกฺจ เตวาจิกฺจ วฏฺฏติ, เอกวาจิกฺจ สมานวสฺสิกฺจ น วฏฺฏติ. ‘‘เอกวาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ วุตฺเต ปน เอกวาจิก-ทฺเววาจิก-เตวาจิกานิ วฏฺฏนฺติ, สมานวสฺสิกเมว น วฏฺฏติ. ‘‘สมานวสฺสิก’’นฺติ วุตฺเต สพฺพํ วฏฺฏติ.
๒๑๑. อจฺฉนฺตีติ นิสินฺนาว โหนฺติ, น อุฏฺหนฺติ. ตทมนฺตราติ ตทนฺตรา; ตาวตกํ กาลนฺติ อตฺโถ.
ปวารณาเภทกถา
๒๑๒. จาตุทฺทสิกา ¶ ¶ จ ปนฺนรสิกา จาติ เอตฺถ จาตุทฺทสิกาย ‘‘อชฺช ปวารณา จาตุทฺทสี’’ติ เอวํ ปุพฺพกิจฺจํ กาตพฺพํ, ปนฺนรสิกาย ‘‘อชฺช ปวารณา ปนฺนรสี’’ติ.
ปวารณกมฺเมสุ สเจ เอกสฺมึ วิหาเร ปฺจสุ ภิกฺขูสุ วสนฺเตสุ เอกสฺส ปวารณํ อาหริตฺวา จตฺตาโร คณตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, จตูสุ ตีสุ วา วสนฺเตสุ เอกสฺส ปวารณํ อาหริตฺวา ตโย วา ทฺเว วา สงฺฆตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, สพฺพเมตํ อธมฺเมนวคฺคํ ปวารณกมฺมํ.
สเจ ปน สพฺเพปิ ปฺจ ชนา เอกโต สนฺนิปติตฺวา คณตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, จตฺตาโร ตโย วา ทฺเว วา วสนฺตา เอกโต สนฺนิปติตฺวา สงฺฆตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, สพฺพเมตํ อธมฺเมนสมคฺคํ ปวารณกมฺมํ.
สเจ ปฺจสุ ชเนสุ เอกสฺส ปวารณํ อาหริตฺวา จตฺตาโร สงฺฆตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, จตูสุ ตีสุ วา เอกสฺส ปวารณํ อาหริตฺวา ตโย วา ทฺเว วา คณตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, สพฺพเมตํ ธมฺเมนวคฺคํ ปวารณกมฺมํ ¶ .
สเจ ปน สพฺเพปิ ปฺจ ชนา เอกโต สนฺนิปติตฺวา สงฺฆตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, จตฺตาโร วา ตโย วา เอกโต สนฺนิปติตฺวา คณตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, ทฺเว อฺมฺํ ปวาเรนฺติ, เอกโก วสนฺโต อธิฏฺานปวารณํ กโรติ, สพฺพเมตํ ธมฺเมนสมคฺคํ นาม ปวารณกมฺมนฺติ.
ปวารณาทานานุชานนกถา
๒๑๓. ทินฺนา โหติ ปวารณาติ เอตฺถ เอวํ ทินฺนาย ปวารณาย ปวารณาหารเกน สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ ปวาเรตพฺพํ – ‘‘ติสฺโส ภนฺเต ภิกฺขุ สงฺฆํ ปวาเรติ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทตุ ตํ ภนฺเต สงฺโฆ อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสติ. ทุติยมฺปิ…เป… ตติยมฺปิ ภนฺเต ติสฺโส ภิกฺขุ สงฺฆํ ปวาเรติ…เป… ปฏิกริสฺสตี’’ติ ¶ . สเจ ปน วุฑฺฒตโร โหติ, ‘‘อายสฺมา ภนฺเต ติสฺโส’’ติ วตฺตพฺพํ; เอวฺหิ เตน ตสฺสตฺถาย ปวาริตํ โหตีติ.
ปวารณํ ¶ เทนฺเตน ฉนฺทมฺปิ ทาตุนฺติ เอตฺถ ฉนฺททานํ อุโปสถกฺขนฺธเก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิธาปิ จ ฉนฺททานํ อวเสสกมฺมตฺถาย. ตสฺมา สเจ ปวารณํ เทนฺโต ฉนฺทํ เทติ, วุตฺตนเยน อาหฏาย ปวารณาย เตน จ ภิกฺขุนา สงฺเฆน จ ปวาริตเมว โหติ. อถ ปวารณเมว เทติ, น ฉนฺทํ, ตสฺส จ ปวารณาย อาโรจิตาย สงฺเฆน จ ปวาริเต สพฺเพสํ สุปฺปวาริตํ โหติ, อฺํ ปน กมฺมํ กุปฺปติ. สเจ ฉนฺทเมว เทติ น ปวารณํ, สงฺฆสฺส ปวารณา จ เสสกมฺมานิ จ น กุปฺปนฺติ, เตน ปน ภิกฺขุนา อปฺปวาริตํ โหติ. ปวารณทิวเส ปน พหิสีมายํ ปวารณํ อธิฏฺหิตฺวา อาคเตนปิ ฉนฺโท ทาตพฺโพ, เตน สงฺฆสฺส ปวารณกมฺมํ น กุปฺปติ.
๒๑๘. อชฺช เม ปวารณาติ เอตฺถ สเจ จาตุทฺทสิกา โหติ, ‘‘อชฺช เม ปวารณา จาตุทฺทสี’’ติ สเจ ปนฺนรสิกา ‘‘อชฺช เม ปวารณา ปนฺนรสี’’ติ เอวํ อธิฏฺาตพฺพํ.
๒๑๙. ตทหุปวารณาย อาปตฺตินฺติอาทิ วุตฺตนยเมว.
อนาปตฺติปนฺนรสกาทิกถา
๒๒๒. ปุน ปวาเรตพฺพนฺติ ปุน ปุพฺพกิจฺจํ กตฺวา ตฺตึ เปตฺวา สงฺฆตฺเถรโต ปฏฺาย ปวาเรตพฺพํ. เสสํ อุโปสถกฺขนฺธกวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๒๒๘. อาคนฺตุเกหิ ¶ อาวาสิกานํ อนุวตฺติตพฺพนฺติ ‘‘อชฺช ปวารณา จาตุทฺทสี’’ติ เอตเทว ปุพฺพกิจฺจํ กาตพฺพํ. ปนฺนรสิกวาเรปิ เอเสว นโย. อาวาสิเกหิ นิสฺสีมํ คนฺตฺวา ปวาเรตพฺพนฺติ อสฺสาวสาเน อยํ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย – สเจ ปุริมิกาย ปฺจ ภิกฺขู วสฺสํ อุปคตา, ปจฺฉิมิกายปิ ปฺจ, ปุริเมหิ ตฺตึ เปตฺวา ปวาริเต ปจฺฉิเมหิ เตสํ สนฺติเก ปาริสุทฺธิอุโปสโถ กาตพฺโพ, น เอกสฺมึ อุโปสถคฺเค ทฺเว ตฺติโย เปตพฺพา. สเจปิ ปจฺฉิมิกาย อุปคตา จตฺตาโร ตโย ทฺเว เอโก วา โหติ, เอเสว นโย. อถ ปุริมิกาย จตฺตาโร ปจฺฉิมิกายปิ จตฺตาโร ตโย ทฺเว เอโก วา เอเสว นโย. อถาปิ ปุริมิกาย ตโย, ปจฺฉิมิกายปิ ตโย ทฺเว วา, เอเสว นโย. อิทฺเหตฺถ ลกฺขณํ – สเจ ปุริมิกาย อุปคเตหิ ปจฺฉิมิกาย ¶ อุปคตา โถกตรา ¶ เจว โหนฺติ สมสมา จ, สงฺฆปวารณาย คณํ ปูเรนฺติ, สงฺฆปวารณาวเสน ตฺติ เปตพฺพาติ.
สเจ ปน ปุริมิกาย ตโย, ปจฺฉิมิกาย เอโก โหติ, เตน สทฺธึ เต จตฺตาโร โหนฺติ, จตุนฺนํ สงฺฆตฺตึ เปตฺวา ปวาเรตุํ น วฏฺฏติ. คณตฺติยา ปน โส คณปูรโก โหติ, ตสฺมา คณวเสน ตฺตึ เปตฺวา ปุริเมหิ ปวาเรตพฺพํ. อิตเรน เตสํ สนฺติเก ปาริสุทฺธิอุโปสโถ กาตพฺโพ. สเจ ปุริมิกาย ทฺเว ปจฺฉิมิกาย ทฺเว วา เอโก วา โหติ, เอเสว นโย. สเจ ปุริมิกาย เอโก, ปจฺฉิมิกายปิ เอโก โหติ, เอเกน เอกสฺส สนฺติเก ปวาเรตพฺพํ, เอเกน ปาริสุทฺธิอุโปสโถ กาตพฺโพ. สเจ ปน ปุริมวสฺสูปคเตหิ ปจฺฉิมวสฺสูปคตา เอเกนปิ อธิกตรา โหนฺติ, ปมํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตฺวา ปจฺฉา โถกตเรหิ เตสํ สนฺติเก ปวาเรตพฺพํ.
กตฺติกจาตุมาสินิยา ปวารณาย ปน สเจ ปมํ วสฺสูปคเตหิ มหาปวารณาย ปวาริเตหิ ปจฺฉา อุปคตา อธิกตรา วา สมสมา วา โหนฺติ, ปวารณาตฺตึ เปตฺวา ปวาเรตพฺพํ. เตหิ ปวาริเต ปจฺฉา อิตเรหิ ปาริสุทฺธิอุโปสโถ กาตพฺโพ. อถ มหาปวารณาย ปวาริตา พหู ภิกฺขู โหนฺติ, ปจฺฉิมวสฺสูปคตา ¶ โถกตรา วา เอโก วา, ปาติโมกฺเข อุทฺทิฏฺเ ปจฺฉา เตสํ สนฺติเก เตน ปวาเรตพฺพํ.
๒๓๓. น จ ภิกฺขเว อปฺปวารณาย ปวาเรตพฺพํ, อฺตฺร สงฺฆสามคฺคิยาติ เอตฺถ โกสมฺพกสามคฺคีสทิสาว สามคฺคี เวทิตพฺพา. ‘‘อชฺช ปวารณา สามคฺคี’’ติ เอวฺเจตฺถ ปุพฺพกิจฺจํ กาตพฺพํ. เย ปน กิสฺมิฺจิเทว อปฺปมตฺตเก ปวารณํ เปตฺวา สมคฺคา โหนฺติ, เตหิ ปวารณายเมว ปวารณา กาตพฺพา. สามคฺคีปวารณํ กโรนฺเตหิ จ ปมปวารณํ เปตฺวา ปาฏิปทโต ปฏฺาย ยาว กตฺติกจาตุมาสินี ปุณฺณมา, เอตฺถนฺตเร กาตพฺพา, ตโต ปจฺฉา วา ปุเร วา น วฏฺฏติ.
ทฺเววาจิกาทิปวารณากถา
๒๓๔. ทฺเววาจิกํ ปวาเรตุนฺติ เอตฺถ ตฺตึ เปนฺเตนาปิ ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ สงฺโฆ ทฺเววาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ วตฺตพฺพํ, เอกวาจิเก ‘‘เอกวาจิกํ ¶ ปวาเรยฺยา’’ติ, สมานวสฺสิเกปิ ‘‘สมานวสฺสิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ วตฺตพฺพํ, เอตฺถ จ พหูปิ สมานวสฺสา เอกโต ปวาเรตุํ ลภนฺติ.
ปวารณาปนกถา
๒๓๖. ภาสิตาย ¶ ลปิตาย อปริโยสิตายาติ เอตฺถ สพฺพสงฺคาหิกฺจ ปุคฺคลิกฺจาติ ทุวิธํ ปวารณาปนํ. ตตฺถ สพฺพสงฺคาหิเก ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ…เป… สงฺโฆ เตวาจิกํ ปวาเร’’ อิติ สุการโต ยาว เรกาโร, ตาว ภาสิตา ลปิตา อปริโยสิตาว โหติ ปวารณา. เอตฺถนฺตเร เอกปเทปิ เปนฺเตน ปิตา โหติ ปวารณา. ‘ยฺย’กาเร ปน ปตฺเต ปริโยสิตา โหติ, ตสฺมา ตโต ปฏฺาย เปนฺเตน ปิตาปิ อฏฺปิตา โหติ. ปุคฺคลิกปเน ปน – ‘‘สงฺฆํ ภนฺเต ปวาเรมิ…เป… ตติยมฺปิ ภนฺเต สงฺฆํ ปวาเรมิ ทิฏฺเน วา…เป… ปสฺสนฺโต ปฏี’’ติ สงฺการโต ยาว อยํ สพฺพปจฺฉิโม ‘ฏิ’กาโร ตาว ภาสิตา ลปิตา อปริโยสิตาว โหติ ปวารณา, เอตฺถนฺตเร เอกปเทปิ เปนฺเตน ปิตา โหติ ปวารณา, ‘‘กริสฺสามี’’ติ วุตฺเต ปน ปริโยสิตา โหติ, ตสฺมา ‘‘กริสฺสามี’’ติ เอตสฺมึ ปเท ปตฺเต ปิตาปิ อฏฺปิตา โหติ. เอส นโย ทฺเววาจิกเอกวาจิกสมานวสฺสิกาสุปิ. เอตาสุปิ ¶ หิ ฏิการาวสานํเยว ปนเขตฺตนฺติ.
๒๓๗. อนุยฺุชิยมาโนติ ‘‘กิมฺหิ นํ เปสี’’ติ ปรโต วุตฺตนเยน ปุจฺฉิยมาโน. โอมทฺทิตฺวาติ เอตานิ ‘‘อลํ ภิกฺขุ มา ภณฺฑน’’นฺติอาทีนิ วจนานิ วตฺวา, วจโนมทฺทนา หิ อิธ โอมทฺทนาติ อธิปฺเปตา. อนุทฺธํสิตํ ปฏิชานาตีติ ‘‘อมูลเกน ปาราชิเกน อนุทฺธํสิโต อยํ มยา’’ติ เอวํ ปฏิชานาติ. ยถาธมฺมนฺติ สงฺฆาทิเสเสน อนุทฺธํสเน ปาจิตฺติยํ; อิตเรหิ ทุกฺกฏํ. นาเสตฺวาติ ลิงฺคนาสนาย นาเสตฺวา.
๒๓๘. สาสฺส ยถาธมฺมํ ปฏิกตาติ เอตฺตกเมว วตฺวา ปวาเรถาติ วตฺตพฺพา, อสุกา นาม อาปตฺตีติ อิทํ ปน น วตฺตพฺพํ, เอตฺหิ กลหสฺส มุขํ โหติ.
วตฺถุปนาทิกถา
๒๓๙. อิทํ วตฺถุ ปฺายติ น ปุคฺคโลติ เอตฺถ โจรา กิร อรฺวิหาเร โปกฺขรณิโต มจฺเฉ คเหตฺวา ปจิตฺวา ขาทิตฺวา อคมํสุ. โส ¶ ตํ วิปฺปการํ ทิสฺวา อาราเม วา กิฺจิ ธุตฺเตน กตํ วิปฺปการํ ทิสฺวา ‘‘ภิกฺขุสฺส อิมินา กมฺเมน ภวิตพฺพ’’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา เอวมาห. วตฺถุํ เปตฺวา สงฺโฆ ปวาเรยฺยาติ ‘‘ยทา ตํ ปุคฺคลํ ชานิสฺสาม, ตทา นํ โจเทสฺสาม. อิทานิ ปน สงฺโฆ ปวาเรตู’’ติ อยเมตฺถ อตฺโถ. อิทาเนว นํ วเทหีติ สเจ อิมินา ¶ วตฺถุนา กฺจิ ปุคฺคลํ ปริสงฺกสิ, อิทาเนว นํ อปทิสาหีติ อตฺโถ. สเจ อปทิสติ, ตํ ปุคฺคลํ อนุวิชฺชิตฺวา ปวาเรตพฺพํ; โน เจ อปทิสติ, อุปปริกฺขิตฺวา ชานิสฺสามาติ ปวาเรตพฺพํ.
อยํ ปุคฺคโล ปฺายติ น วตฺถูติ เอตฺถ เอโก ภิกฺขุ มาลาคนฺธวิเลปเนหิ เจติยํ วา ปูเชสิ, อริฏฺํ วา ปิวิ, ตสฺส ตทนุรูโป สรีรคนฺโธ อโหสิ; โส ตํ คนฺธํ สนฺธาย ‘‘อิมสฺส ภิกฺขุโน เอวรูโป สรีรคนฺโธ’’ติ วตฺถุํ ปกาเสนฺโต เอวมาห. ปุคฺคลํ เปตฺวา สงฺโฆ ปวาเรยฺยาติ เอตํ ปุคฺคลํ เปตฺวา สงฺโฆ ปวาเรตุ. อิทาเนว นํ วเทหีติ ยํ ตฺวํ ปุคฺคลํ เปสิ, ตสฺส ปุคฺคลสฺส อิทาเนว โทสํ วท. สเจ อยมสฺส โทโสติ วทติ, ตํ ¶ ปุคฺคลํ โสเธตฺวา ปวาเรตพฺพํ. อถ นาหํ ชานามีติ วทติ, อุปปริกฺขิตฺวา ชานิสฺสามาติ ปวาเรตพฺพํ.
อิทํ วตฺถุ จ ปุคฺคโล จ ปฺายตีติ ปุริมนเยเนว โจเรหิ มจฺเฉ คเหตฺวา ปจิตฺวา ปริภุตฺตฏฺานฺจ คนฺธาทีหิ นหานฏฺานฺจ ทิสฺวา ‘‘ปพฺพชิตสฺส กมฺม’’นฺติ มฺมาโน โส เอวมาห. อิทาเนว นํ วเทหีติ อิทาเนว เตน วตฺถุนา ปริสงฺกิตํ ปุคฺคลํ วเทหิ; อิทํ ปน อุภยมฺปิ ทิสฺวา ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย วินิจฺฉินิตฺวาว ปวาเรตพฺพํ. กลฺลํ วจนายาติ กลฺลํ โจทนาย; โจเทตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. กสฺมา? ปวารณโต ปุพฺเพ อวินิจฺฉิตตฺตา ปจฺฉา จ ทิสฺวา โจทิตตฺตาติ. อุกฺโกฏนกํ ปาจิตฺติยนฺติ อิทฺหิ อุภยํ ปุพฺเพ ปวารณาย ทิสฺวา วินิจฺฉินิตฺวาว ภิกฺขู ปวาเรนฺติ, ตสฺมา ปุน ตํ อุกฺโกเฏนฺตสฺส อาปตฺติ.
ภณฺฑนการกวตฺถุกถา
๒๔๐. ทฺเว ตโย อุโปสเถ จาตุทฺทสิเก กาตุนฺติ เอตฺถ จตุตฺถปฺจมา ทฺเว, ตติโย ปน ปกติยาปิ จตุทฺทสิโกเยวาติ. ตสฺมา ¶ ตติยจตุตฺถา วา ตติยจตุตฺถปฺจมา วา ทฺเว ตโย จาตุทฺทสิกา กาตพฺพา. อถ จตุตฺเถ กเต สุณนฺติ, ปฺจโม จาตุทฺทสิโก กาตพฺโพ. เอวมฺปิ ทฺเว จาตุทฺทสิกา โหนฺติ. เอวํ กโรนฺตา ภณฺฑนการกานํ เตรเส วา จาตุทฺทเส วา อิเม ปนฺนรสีปวารณํ ปวาเรสฺสนฺติ. เอวํ ปวาเรนฺเตหิ จ พหิสีมาย สามเณเร เปตฺวา ‘‘เต อาคจฺฉนฺตี’’ติ สุตฺวา ลหุํ ลหุํ สนฺนิปติตฺวา ปวาเรตพฺพํ. เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘เต เจ ภิกฺขเว…เป… ตถา กโรนฺตู’’ติ วุตฺตํ.
อสํวิหิตาติ ¶ สํวิทหนรหิตา อาคมนชานนตฺถาย อกตสํวิทหิตา; อวิฺาตาว หุตฺวาติ อตฺโถ. เตสํ วิกฺขิตฺวาติ ‘‘กิลนฺตตฺถ มุหุตฺตํ วิสฺสมถา’’ติอาทินา นเยน สมฺโมหํ กตฺวาติ อตฺโถ. โน เจ ลเภถาติ โน เจ พหิสีมํ คนฺตุํ ลเภยฺยุํ; ภณฺฑนการกานํ สามเณเรหิ จ ทหรภิกฺขูหิ จ นิรนฺตรํ อนุพทฺธาว โหนฺติ. อาคเม ชุณฺเหติ ยํ สนฺธาย อาคเม ชุณฺเห ปวาเรยฺยามาติ ตฺตึ เปสุํ, ตสฺมึ อาคเม ชุณฺเห โกมุทิยา ¶ จาตุมาสินิยา อกามา ปวาเรตพฺพํ, อวสฺสํ ปวาเรตพฺพํ, น หิ ตํ อติกฺกมิตฺวา ปวาเรตุํ ลพฺภติ. เตหิ เจ ภิกฺขเว ภิกฺขูหิ ปวาริยมาเนติ เอวํ จาตุมาสินิยา ปวาริยมาเน.
ปวารณาสงฺคหกถา
๒๔๑. อฺตโร ผาสุวิหาโรติ ตรุณสมโถ วา ตรุณวิปสฺสนา วา. ปริพาหิรา ภวิสฺสามาติ อนิพทฺธรตฺติฏฺานทิวาฏฺานาทิภาเวน ภาวนานุโยคํ สมฺปาเทตุํ อสกฺโกนฺตา พาหิรา ภวิสฺสาม. สพฺเพเหว เอกชฺฌํ สนฺนิปติตพฺพนฺติ อิมินา ฉนฺททานํ ปฏิกฺขิปติ. ภินฺนสฺส หิ สงฺฆสฺส สมคฺคกรณกาเล ติณวตฺถารกสมเถ อิมสฺมิฺจ ปวารณาสงฺคเหติ อิเมสุ ตีสุ าเนสุ ฉนฺทํ ทาตุํ น วฏฺฏติ. ปวารณาสงฺคโห นามายํ วิสฺสฏฺกมฺมฏฺานานํ ถามคตสมถวิปสฺสนานํ โสตาปนฺนาทีนฺจ น ทาตพฺโพ. ตรุณสมถวิปสฺสนาลาภิโน ปน สพฺเพ วา โหนฺตุ, อุปฑฺฒา วา, เอกปุคฺคโล วา เอกสฺสปิ วเสน ทาตพฺโพเยว. ทินฺเน ปวารณาสงฺคเห ¶ อนฺโตวสฺเส ปริหาโรว โหติ, อาคนฺตุกา เตสํ เสนาสนํ คเหตุํ น ลภนฺติ. เตหิปิ ฉินฺนวสฺเสหิ น ภวิตพฺพํ, ปวาเรตฺวา ปน อนฺตราปิ จาริกํ ปกฺกมิตุํ ลภนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘เตหิ เจ ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปวารณากฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จมฺมกฺขนฺธกํ
โสณโกฬิวิสวตฺถุกถา
๒๔๒. จมฺมกฺขนฺธเก ¶ ¶ – อิสฺสริยาธิปจฺจนฺติ อิสฺสรภาเวน จ อธิปติภาเวน จ สมนฺนาคตํ. รชฺชนฺติ ราชภาวํ, รฺา กตฺตพฺพกิจฺจํ วา. โสโณ นาม โกฬิวิโสติ เอตฺถ โสโณติ ตสฺส นามํ; โกฬิวิโสติ โคตฺตํ. ปาทตเลสุ โลมานีติ รตฺเตสุ ปาทตเลสุ สุขุมานิ อฺชนวณฺณานิ กมฺมจิตฺตีกตานิ โลมานิ ชาตานิ โหนฺติ. โส กิร ปุพฺเพ อสีติสหสฺสานํ ปุริสานํ เชฏฺปุริโส หุตฺวา เตหิ สทฺธึ ปจฺเจกพุทฺธสฺส วสนฏฺาเน ปณฺณสาลํ กตฺวา อตฺตโน สสฺสิริกํ อุณฺณปาวารกํ ปจฺเจกพุทฺธสฺส ปาเทหิ อกฺกมนฏฺาเน ปาทปฺุฉนิกํ กตฺวา เปสิ. เตมาสํ ปน สพฺเพว ปจฺเจกพุทฺธํ อุปฏฺหึสุ. อยํ ตสฺส จ เตสฺจ อสีติยา คามิกสหสฺสานํ ¶ ปุพฺพโยโค.
อสีติคามิกสหสฺสานีติ เตสุ คาเมสุ วสนฺตานํ กุลปุตฺตานํ อสีติสหสฺสานิ. เกนจิเทว กรณีเยนาติ เกนจิ กรณีเยน วิย; น ปนสฺส กิฺจิ กรณียํ อตฺถิ อฺตฺร ตสฺส ทสฺสนา. ราชา กิร ตานิปิ อสีติกุลปุตฺตสหสฺสานิ สนฺนิปาตาเปนฺโต ‘‘เอวํ อปริสงฺกนฺโต โสโณ อาคมิสฺสตี’’ติ สนฺนิปาตาเปสิ. ทิฏฺธมฺมิเก อตฺเถติ ‘‘กสิวณิชฺชาทีนิ ธมฺเมน กตฺตพฺพานิ, มาตาปิตโร ธมฺเมน โปสิตพฺพา’’ติ เอวมาทินา นเยน อิธโลกหิเต อตฺเถ อนุสาสิตฺวา. โส โน ภควาติ โส อมฺหากํ ภควา ตุมฺเห สมฺปรายิเก อตฺเถ อนุสาสิสฺสตีติ อตฺโถ.
ภควนฺตํ ปฏิเวเทมีติ ภควนฺตํ ชานาเปมิ. ปาฏิกาย นิมุชฺชิตฺวาติ โสปานสฺส เหฏฺา อฑฺฒจนฺทปาสาเณ นิมุชฺชิตฺวา. ยสฺส ทานิ ภนฺเต ภควา กาลํ มฺตีติ ยสฺส เตสํ หิตกิริยตฺถสฺส ภควา กาลํ ชานาติ. วิหารปจฺฉายายนฺติ วิหารปจฺจนฺเต ฉายายํ. สมนฺนาหรนฺตีติ ปสาทวเสน ปุนปฺปุนํ มนสิ กโรนฺติ. ภิยฺโยโสมตฺตายาติ ภิยฺโยโสมตฺตาย ปุน วิสิฏฺตรํ ทสฺเสหีติ อตฺโถ. อนฺตรธายตีติ อทสฺสนํ โหติ.
โสณสฺส ปพฺพชฺชากถา
๒๔๓. โลหิเตน ¶ ¶ ผุโฏ โหตีติ โลหิเตน มกฺขิโต โหติ. ควาฆาตนนฺติ ยตฺถ คาโว หฺนฺติ, ตาทิโสติ อตฺโถ. กุสโล นาม วีณาย วาทนกุสโล. วีณาย ตนฺติสฺสเรติ วีณาย ตนฺติยา สเร. อจฺจายตาติ อติอายตา ขรมุจฺฉิตา. สรวตีติ สรสมฺปนฺนา. กมฺมฺาติ กมฺมกฺขมา. อติสิถิลาติ มนฺทมุจฺฉนา. สเม คุเณ ปติฏฺิตาติ มชฺฌิเม สเร เปตฺวา มุจฺฉิตา. วีริยสมตํ อธิฏฺหาติ วีริยสมฺปยุตฺตสมตํ อธิฏฺาหิ, วีริยํ สมเถน โยเชหีติ อตฺโถ. อินฺทฺริยานฺจ สมตํ ปฏิวิชฺฌาติ สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ สมตํ สมภาวํ. ตตฺถ สทฺธํ ปฺาย, ปฺฺจ สทฺธาย, วีริยํ สมาธินา, สมาธิฺจ วีริเยน โยชยมาโน อินฺทฺริยานํ สมตํ ปฏิวิชฺฌ. ตตฺถ จ นิมิตฺตํ คณฺหาหีติ ตสฺมึ สมเถ สติ, เยน อาทาเส มุขพิมฺเพเนว นิมิตฺเตน อุปฺปชฺชิตพฺพํ ¶ , ตํ สมถนิมิตฺตํ วิปสฺสนานิมิตฺตํ มคฺคนิมิตฺตํ ผลนิมิตฺตฺจ คณฺหาหิ, นิพฺพตฺเตหีติ อตฺโถ.
๒๔๔. อฺํ พฺยากเรยฺยนฺติ อรหา อหนฺติ ชานาเปยฺยํ. ฉ านานีติ ฉ การณานิ. อธิมุตฺโต โหตีติ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ปจฺจกฺขํ กตฺวา ิโต โหติ. เนกฺขมฺมาธิมุตฺโตติอาทิ สพฺพํ อรหตฺตวเสน วุตฺตํ. อรหตฺตฺหิ สพฺพกิเลเสหิ นิกฺขนฺตตฺตา เนกฺขมฺมํ, เตเหว ปวิวิตฺตตฺตา ปวิเวโก, พฺยาปชฺชาภาวโต อพฺยาปชฺชํ, อุปาทานสฺส ขยนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา อุปาทานกฺขโย, ตณฺหากฺขยนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา ตณฺหกฺขโย, สมฺโมหาภาวโต อสมฺโมโหติ จ วุจฺจติ.
เกวลํ สทฺธามตฺตกนฺติ ปฏิเวธรหิตํ เกวลํ ปฏิเวธปฺาย อสมฺมิสฺสํ สทฺธามตฺตกํ. ปฏิจยนฺติ ปุนปฺปุนํ กรเณน วุฑฺฒึ. วีตราคตฺตาติ มคฺคปฺปฏิเวเธน ราคสฺส วิคตตฺตาเยว เนกฺขมฺมสงฺขาตํ อรหตฺตํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิโต โหติ. ผลสมาปตฺติวิหาเรเนว วิหรติ, ตนฺนินฺนมานโสเยว โหตีติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.
ลาภสกฺการสิโลกนฺติ ¶ จตุปจฺจยลาภฺจ เตสํเยว สุกตภาวฺจ วณฺณภณนฺจ. นิกามยมาโนติ อิจฺฉมาโน ปตฺถยมาโน. ปวิเวกาธิมุตฺโตติ วิเวเก อธิมุตฺโต อหนฺติ เอวํ อรหตฺตํ พฺยากโรตีติ อตฺโถ.
สีลพฺพตปรามาสนฺติ สีลฺจ วตฺจ ปรามสิตฺวา คหิตคหณมตฺตํ. สารโต ปจฺจาคจฺฉนฺโตติ ¶ สารภาเวน ชานนฺโต. อพฺยาปชฺชาธิมุตฺโตติ อพฺยาปชฺชํ อรหตฺตํ พฺยากโรตีติ อตฺโถ. อิมินาว นเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ภุสาติ พลวนฺโต. เนวสฺส จิตฺตํ ปริยาทิยนฺตีติ เอตสฺส ขีณาสวสฺส จิตฺตํ คเหตฺวา าตุํ น สกฺโกนฺติ. อมิสฺสีกตนฺติ อมิสฺสกตํ. กิเลสาหิ อารมฺมเณน สทฺธึ จิตฺตํ มิสฺสํ กโรนฺติ, เตสํ อภาวา อมิสฺสีกตํ. ิตนฺติ ปติฏฺิตํ. อาเนฺชปฺปตฺตนฺติ อจลนปฺปตฺตํ. วยฺจสฺสานุปสฺสตีติ ¶ ตสฺส จิตฺตสฺส อุปฺปาทมฺปิ วยมฺปิ ปสฺสติ.
เนกฺขมฺมํ อธิมุตฺตสฺสาติ อรหตฺตํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิตสฺส. เสสปเทหิปิ อรหตฺตเมว กถิตํ. อุปาทานกฺขยสฺสาติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. อสมฺโมหฺจ เจตโสติ จิตฺตสฺส จ อสมฺโมหํ อธิมุตฺตสฺส. ทิสฺวา อายตนุปฺปาทนฺติ อายตนานํ อุปฺปาทฺจ วยฺจ ทิสฺวา. สมฺมา จิตฺตํ วิมุจฺจตีติ สมฺมา เหตุนา นเยน อิมาย วิปสฺสนาย ปฏิปตฺติยา ผลสมาปตฺติวเสน จิตฺตํ วิมุจฺจติ, นิพฺพานารมฺมเณ อธิมุจฺจติ. สนฺตจิตฺตสฺสาติ นิพฺพุตจิตฺตสฺส. ตาทิโนติ อิฏฺานิฏฺเ อนุนยปฏิเฆหิ อกมฺปิยตฺตา ตาที, ตสฺส ตาทิโน.
ทิคุณาทิอุปาหนปฏิกฺเขปกถา
๒๔๕. อฺํ พฺยากโรนฺตีติ อรหตฺตํ พฺยากโรนฺติ. อตฺโถ จ วุตฺโตติ เยน อรหาติ ายติ, โส อตฺโถ วุตฺโต. สุตฺตตฺโถ ปน สุตฺตวณฺณนโตเยว คเหตพฺโพ. อตฺตา จ อนุปนีโตติ อหํ อรหาติ เอวํ พฺยฺชนวเสน อตฺตา น อุปนีโต. อถ จ ปนิเธกจฺเจ โมฆปุริสาติ อฺเ ปน ตุจฺฉปุริสา หสมานา วิย อสนฺตเมว อฺํ วจนมตฺเตน สนฺตํ กตฺวา พฺยากโรนฺติ. เอกปลาสิกนฺติ เอกปฏลํ ¶ . อสีติสกฏวาเหติ เอตฺถ ทฺเว สกฏภารา เอโก วาโหติ เวทิตพฺโพ. สตฺตหตฺถิกฺจ อนีกนฺติ เอตฺถ ฉ หตฺถินิโย เอโก จ หตฺถีติ อิทเมกํ อนีกํ. อีทิสานิ สตฺต อนีกานิ สตฺตหตฺถิกํ อนีกํ นาม. ทิคุณาติ ทฺวิปฏลา. ติคุณาติ ติปฏลา. คณงฺคุณูปาหนาติ จตุปฏลโต ปฏฺาย วุจฺจติ.
สพฺพนีลิกาทิปฏิกฺเขปกถา
๒๔๖. สพฺพนีลิกาติ สพฺพาว นีลิกา. เอส นโย สพฺพปีติกาทีสุปิ. ตตฺถ จ นีลิกา อุมาปุปฺผวณฺณา โหติ, ปีติกา กณิการปุปฺผวณฺณา, โลหิติกา ชยสุมนปุปฺผวณฺณา ¶ , มฺชิฏฺิกา มฺชิฏฺวณฺณา เอว, กณฺหา อทฺทาริฏฺกวณฺณา, มหารงฺครตฺตา สตปทิปิฏฺิวณฺณา, มหานามรตฺตา สมฺภินฺนวณฺณา โหติ ปณฺฑุปลาสวณฺณา. กุรุนฺทิยํ ปน ¶ ‘‘ปทุมปุปฺผวณฺณา’’ติ วุตฺตา. เอตาสุ ยํกิฺจิ ลภิตฺวา รชนํ โจฬเกน ปฺุฉิตฺวา วณฺณํ ภินฺทิตฺวา ธาเรตุํ วฏฺฏติ. อปฺปมตฺตเกปิ ภินฺเน วฏฺฏติเยว.
นีลกวทฺธิกาติ ยาสํ วทฺธาเยว นีลา. เอเสว นโย สพฺพตฺถ. เอตาปิ วณฺณเภทํ กตฺวา ธาเรตพฺพา. ขลฺลกพทฺธาติ ปณฺหิปิธานตฺถํ ตเล ขลฺลกํ พนฺธิตฺวา กตา. ปุฏพทฺธาติ โยนกอุปาหนา วุจฺจติ, ยา ยาวชงฺฆโต สพฺพปาทํ ปฏิจฺฉาเทติ. ปาลิคุณฺิมาติ ปลิคุณฺิตฺวา กตา; ยา อุปริ ปาทมตฺตเมว ปฏิจฺฉาเทติ, น ชงฺฆํ. ตูลปุณฺณิกาติ ตูลปิจุนา ปูเรตฺวา กตา. ติตฺติรปตฺติกาติ ติตฺติรปตฺตสทิสา วิจิตฺตพทฺธา. เมณฺฑวิสาณวทฺธิกาติ กณฺณิกฏฺาเน เมณฺฑกสิงฺคสณฺาเน วทฺเธ โยเชตฺวา กตา. อชวิสาณวทฺธิกาทีสุปิ เอเสว นโย. วิจฺฉิกาฬิกาปิ ตตฺเถว วิจฺฉิกนงฺคุฏฺสณฺาเน วทฺเธ โยเชตฺวา กตา. โมรปิฺฉปริสิพฺพิตาติ ตเลสุ วา วทฺเธสุ วา โมรปิฺเฉหิ สุตฺตกสทิเสหิ ปริสิพฺพิตา. จิตฺราติ วิจิตฺรา; เอตาสุ ยํกิฺจิ ลภิตฺวา, สเจ ตานิ ขลฺลกาทีนิ อปเนตฺวา สกฺกา โหนฺติ วฬฺชิตุํ, วฬฺเชตพฺพา. เตสุ ปน สติ วฬฺชนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. สีหจมฺมปริกฺขฏา นาม ปริยนฺเตสุ จีวเร อนุวาตํ วิย สีหจมฺมํ โยเชตฺวา กตา. ลูวกจมฺมปริกฺขฏาติ ปกฺขิพิฬาลจมฺมปริกฺขฏา ¶ . เอตาสุปิ ยา กาจิ ลภิตฺวา ตํ จมฺมํ อปเนตฺวา ธาเรตพฺพา.
๒๔๗. โอมุกฺกนฺติ ปฏิมฺุจิตฺวา อปนีตํ. นวาติ อปริภุตฺตา.
อชฺฌาราเมอุปาหนปฏิกฺเขปกถา
๒๔๘. อภิชีวนิกสฺสาติ เยน สิปฺเปน อภิชีวนฺติ, ชีวิกํ กปฺเปนฺติ, ตสฺส การณาติ อตฺโถ. อิธ โข ตํ ภิกฺขเวติ เอตฺถ ตนฺติ นิปาตมตฺตํ, อิธ โข ภิกฺขเว โสเภยฺยาถาติ ¶ อตฺโถ. ยํ ตุมฺเหติ เย ตุมฺเห. อถ วา ยทิ ตุมฺเหติ วุตฺตํ โหติ. ยทิสทฺทสฺส หิ อตฺเถ อยํ นิปาโต. อาจริเยสูติอาทิมฺหิ ปพฺพชฺชาจริโย, อุปสมฺปทาจริโย, นิสฺสยาจาริโย, อุทฺเทสาจริโยติ อิเม จตฺตาโรปิ อิธ อาจริยา เอว. อวสฺสิกสฺส ฉพฺพสฺโส อาจริยมตฺโต. โส หิ จตุวสฺสกาเล ตํ นิสฺสาย วจฺฉติ; เอวํ เอกวสฺสสฺส สตฺตวสฺโส, ทุวสฺสสฺส อฏฺวสฺโส, ติวสฺสสฺส นววสฺโส, จตุวสฺสสฺส ทสวสฺโส. อิเมปิ อาจริยมตฺตา เอว ¶ . อุปชฺฌายสฺส สนฺทิฏฺสมฺภตฺตา ปน สหายภิกฺขู, เย วา ปน เกจิ ทสหิ วสฺเสหิ มหนฺตตรา เต สพฺเพปิ อุปชฺฌายมตฺตา นาม. เอตฺตเกสุ ภิกฺขูสุ อนุปาหเนสุ จงฺกมนฺเตสุ สอุปาหนสฺส จงฺกมโต อาปตฺติ.
๒๔๙. ปาทขีลาพาโธ นาม ปาทโต ขีลสทิสํ มํสํ นิกฺขนฺตํ โหติ.
๒๕๑. ติณปาทุกาติ เยน เกนจิ ติเณน กตปาทุกา. หินฺตาลปาทุกาติ ขชฺชูรีปตฺเตหิ กตปาทุกา; หินฺตาลปตฺเตหิปิ น วฏฺฏติเยว. กมลปาทุกาติ กมลติณํ นาม อตฺถิ, เตน กตปาทุกา; อุสีรปาทุกาติปิ วทนฺติ. กมฺพลปาทุกาติ อุณฺณาหิ กตปาทุกา. อสงฺกมนียาติ ภูมิยํ สุปฺปติฏฺิตา นิจฺจลา อสํหาริยา.
๒๕๒. องฺคชาตํ ฉุปนฺตีติ องฺคชาเตเนว องฺคชาตํ ฉุปนฺติ. โอคาเหตฺวา มาเรนฺตีติ อนฺโต อุทเก ทฬฺหํ คเหตฺวา มาเรนฺติ.
ยานาทิปฏิกฺเขปกถา
๒๕๓. อิตฺถิยุตฺเตนาติ ¶ เธนุยุตฺเตน. ปุริสนฺตเรนาติ ปุริสสารถินา. ปุริสยุตฺเตนาติ โคณยุตฺเตน. อิตฺถนฺตเรนาติ อิตฺถิสารถินา. คงฺคามหิยายาติ คงฺคามหกีฬิกาย. ปุริสยุตฺตํ หตฺถวฏฺฏกนฺติ เอตฺถ ปุริสยุตฺตํ อิตฺถิสารถิ วา โหตุ, ปุริสสารถิ วา วฏฺฏติ. หตฺถวฏฺฏกํ ปน อิตฺถิโย วา วฏฺเฏนฺตุ ปุริสา วา, วฏฺฏติเยว. ยานุคฺฆาเตนาติ ยานํ อภิรุหนฺตสฺส สพฺโพ กาโย จลติ ตปฺปจฺจยา. สิวิกนฺติ ปีกสิวิกํ. ปาฏงฺกินฺติ วํเส ลคฺเคตฺวา กตํ ปฏโปตลิกํ.
๒๕๔. อุจฺจาสยนมหาสยนนานีติ ¶ เอตฺถ อุจฺจาสยนนฺติ ปมาณาติกฺกนฺตํ มฺจํ. มหาสยนนฺติ อกปฺปิยตฺถรณํ, อาสนฺทีอาทีสุ อาสนฺทีติ ปมาณาติกฺกนฺตาสนํ. ปลฺลงฺโกติ ปาเทสุ วาฬรูปานิ เปตฺวา กโต. โคนโกติ ทีฆโลมโก มหาโกชโว; จตุรงฺคุลาธิกานิ กิร ตสฺส โลมานิ. จิตฺตกาติ วานจิตฺโร อุณฺณามยตฺถรโณ. ปฏิกาติ อุณฺณามโย เสตตฺถรโณ. ปฏลิกาติ ฆนปุปฺผโก อุณฺณามยโลหิตตฺถรโณ; โย อามลกปฏฺโฏติปิ วุจฺจติ. ตูลิกาติ ปกติตูลิกาเยว. วิกติกาติ สีหพฺยคฺฆาทิรูปวิจิตฺโร อุณฺณามยตฺถรโณ. อุทฺทโลมีติ เอกโต อุคฺคตโลมํ อุณฺณามยตฺถรณํ; ‘‘อุทฺธโลมี’’ติปิ ปาโ. เอกนฺตโลมีติ อุภโต อุคฺคตโลมํ อุณฺณามยตฺถรณํ. กฏฺฏิสฺสนฺติ รตนปริสิพฺพิตํ โกเสยฺยกฏฺฏิสฺสมยํ ปจฺจตฺถรณํ ¶ . โกเสยฺยนฺติ รตนปริสิพฺพิตํ โกสิยสุตฺตมยํ ปจฺจตฺถรณํ; สุทฺธโกเสยฺยํ ปน วฏฺฏติ.
กุตฺตกนฺติ โสฬสนฺนํ นาฏกิตฺถีนํ ตฺวา นจฺจนโยคฺคํ อุณฺณามยอตฺถรณํ. หตฺถตฺถรอสฺสตฺถราติ หตฺถิอสฺสปิฏฺีสุ อตฺถรณกอตฺถรณา เอว. รถตฺถเรปิ เอเสว นโย. อชินปฺปเวณีติ อชินจมฺเมหิ มฺจปฺปมาเณน สิพฺพิตฺวา กตา ปเวณี. กทลีมิคปวรปจฺจตฺถรณนฺติ กทลีมิคจมฺมํ นาม อตฺถิ, เตน กตํ ปวรปจฺจตฺถรณํ, อุตฺตมปจฺจตฺถรณนฺติ อตฺโถ. ตํ กิร เสตวตฺถสฺส อุปริ กทลีมิคจมฺมํ ปตฺถริตฺวา สิพฺพิตฺวา กโรนฺติ. สอุตฺตรจฺฉทนฺติ สห อุตฺตรจฺฉทเนน; อุปริพทฺเธน รตฺตวิตาเนน ¶ สทฺธินฺติ อตฺโถ ¶ . เสตวิตานมฺปิ เหฏฺา อกปฺปิยปจฺจตฺถรเณ สติ น วฏฺฏติ, อสติ ปน วฏฺฏติ. อุภโตโลหิตกูปธานนฺติ สีสูปธานฺจ ปาทูปธานฺจาติ มฺจสฺส อุภโตโลหิตกูปธานํ, เอตํ น กปฺปติ. ยํ ปน เอกเมว อุปธานํ อุโภสุ ปสฺเสสุ รตฺตํ วา โหติ, ปทุมวณฺณํ วา จิตฺรํ วา, สเจ ปมาณยุตฺตํ, วฏฺฏติ. มหาอุปธานํ ปน ปฏิกฺขิตฺตํ.
สพฺพจมฺมปฏิกฺเขปาทิกถา
๒๕๕. ทีปิจฺฉาโปติ ทีปิโปตโก. โอคุมฺผิยนฺตีติ ภิตฺติทณฺฑกาทีสุ เวเตฺวา พนฺธนฺติ.
๒๕๖. อภินิสีทิตุนฺติ อภินิสฺสาย นิสีทิตุํ; อปสฺสยํ กตฺวา นิสีทิตุนฺติ อตฺโถ. คิลาเนน ภิกฺขุนา สอุปาหเนนาติ เอตฺถ คิลาโน นาม โย น สกฺโกติ อนุปาหโน คามํ ปวิสิตุํ.
๒๕๗. กุรรฆเรติ เอวํนามเก นคเร; เอเตนสฺส โคจรคาโม วุตฺโต. ปปตเก ปพฺพเตติ ปปตนามเก ปพฺพเต; เอเตนสฺส นิวาสนฏฺานํ วุตฺตํ. โสโณติ ตสฺส นามํ. โกฏิอคฺฆนกํ ปน กณฺณปิฬนฺธนกํ ธาเรติ, ตสฺมา ‘‘กุฏิกณฺโณ’’ติ วุจฺจติ; โกฏิกณฺโณติ อตฺโถ. ปาสาทิกนฺติ ปสาทชนกํ. ปสาทนียนฺติ อิทํ ตสฺเสว อตฺถเววจนํ. อุตฺตมทมถสมถนฺติ อุตฺตมํ ทมถฺจ สมถฺจ ปฺฺจ สมาธิฺจ กายูปสมฺจ จิตฺตูปสมฺจาติปิ อตฺโถ. ทนฺตนฺติ สพฺเพสํ วิสูกายิกวิปฺผนฺทิตานํ อุปจฺฉินฺนตฺตา ทนฺตํ; ขีณกิเลสนฺติ อตฺโถ. คุตฺตนฺติ สํวรคุตฺติยา คุตฺตํ. สนฺตินฺทฺริยนฺติ ยตินฺทฺริยํ. นาคนฺติ อาคุวิรหิตํ. ติณฺณํ เม วสฺสานํ อจฺจเยนาติ ¶ มม ปพฺพชฺชาทิวสโต ปฏฺาย ติณฺณํ วสฺสานํ อจฺจเยน. อุปสมฺปทํ อลตฺถนฺติ อหํ อุปสมฺปทํ อลภึ ¶ . กณฺหุตฺตราติ กณฺหมตฺติกุตฺตรา; อุปริ วฑฺฒิตกณฺหมตฺติกาติ อตฺโถ. โคกณฺฏกหตาติ คุนฺนํ ขุเรหิ อกฺกนฺตภูมิโต สมุฏฺิเตหิ โคกณฺฏเกหิ อุปหตา. เต กิร โคกณฺฏเก เอกปฏลิกา อุปาหนา รกฺขิตุํ น สกฺโกนฺติ; เอวํ ขรา โหนฺติ. เอรคู, โมรคู, มชฺชารู, ชนฺตูติ อิมา จตสฺโสปิ ติณชาติโย; เอเตหิ กฏสารเก จ ตฏฺฏิกาโย จ กโรนฺติ. เอตฺถ เอรคูติ ¶ เอรกติณํ; ตํ โอฬาริกํ. โมรคูติณํ ตมฺพสีสํ มุทุกํ สุขสมฺผสฺสํ, เตน กตตฏฺฏิกา นิปชฺชิตฺวา วุฏฺิตมตฺเต ปุน อุทฺธุมาตา หุตฺวา ติฏฺติ. มชฺชารุนา สาฏเกปิ กโรนฺติ. ชนฺตุสฺส มณิสทิโส วณฺโณ โหติ. เสนาสนํ ปฺเปสีติ ภิสึ วา กฏสารกํ วา ปฺเปสิ; ปฺเปตฺวา จ ปน โสณสฺส อาโรเจติ – ‘‘อาวุโส สตฺถา ตยา สทฺธึ เอกาวาเส วสิตุกาโม, คนฺธกุฏิยํเยว เต เสนาสนํ ปฺตฺต’’นฺติ.
๒๕๘. อยํ ขฺวสฺส กาโลติ อยํ โข กาโล ภเวยฺย. ปริทสฺสีติ ปริทสฺเสสิ. ‘‘อิทฺจิทฺจ วเทยฺยาสีติ ยํ เม อุปชฺฌาโย ชานาเปสิ, ตสฺส อยํ กาโล ภเวยฺย, หนฺท ทานิ อาโรเจมิ ตํ สาสน’’นฺติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.
๒๕๙. วินยธรปฺจเมนาติ อนุสฺสาวนาจริยปฺจเมน. อนุชานามิ ภิกฺขเว สพฺพปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ คุณงฺคุณูปาหนนฺติ เอตฺถ มนุสฺสจมฺมํ เปตฺวา เยน เกนจิ จมฺเมน อุปาหนา วฏฺฏติ. อุปาหนโกสกสตฺถโกสกกฺุจิกโกสเกสุปิ เอเสว นโย. จมฺมานิ อตฺถรณานีติ เอตฺถ ปน ยํกิฺจิ เอฬกจมฺมํ อชจมฺมฺจ อตฺถริตฺวา นิปชฺชิตุํ วา นิสีทิตุํ วา วฏฺฏติ. มิคจมฺเม เอณีมิโค วาตมิโค ปสทมิโค กุรงฺคมิโค มิคมาตุโก โรหิตมิโคติ ¶ เอเตสํเยว จมฺมานิ วฏฺฏนฺติ. อฺเสํ ปน –
มกฺกโฏ กาฬสีโห จ, สรโภ กทลีมิโค;
เย จ วาฬมิคา เกจิ, เตสํ จมฺมํ น วฏฺฏติ.
ตตฺถ วาฬมิคาติ สีหพฺยคฺฆอจฺฉตรจฺฉา; น เกวลฺจ เอเตสํเยว, เยสํ ปน จมฺมํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ, เต เปตฺวา อวเสสา อนฺตมโส โคมหึสสสพิฬาราทโยปิ สพฺเพ อิมสฺมึ อตฺเถ วาฬมิคาตฺเวว เวทิตพฺพา. เอเตสฺหิ สพฺเพสํ จมฺมํ น วฏฺฏติ. น ตาว ตํ คณนูปคํ ยาว น หตฺถํ คจฺฉตีติ ยาว อาหริตฺวา วา น ทินฺนํ, ตุมฺหากํ ภนฺเต จีวรํ อุปฺปนฺนนฺติ ปหิณิตฺวา วา นาโรจิตํ, ตาว คณนํ น อุเปติ. สเจ อนธิฏฺิตํ, วฏฺฏติ; อธิฏฺิตฺจ คณนํ น อุเปตีติ อตฺโถ. ยทา ปน อาเนตฺวา วา ทินฺนํ โหติ, อุปฺปนฺนนฺติ วา สุตํ, ตโต ปฏฺาย ทสาหเมว ปริหารํ ลภตีติ.
จมฺมกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. เภสชฺชกฺขนฺธกํ
ปฺจเภสชฺชาทิกถา
๒๖๐. เภสชฺชกฺขนฺธเก ¶ ¶ – สารทิเกน อาพาเธนาติ สรทกาเล อุปฺปนฺเนน ปิตฺตาพาเธน, ตสฺมิฺหิ กาเล วสฺโสทเกนปิ เตเมนฺติ, กทฺทมมฺปิ มทฺทนฺติ, อนฺตรนฺตรา อาตโปปิ ขโร โหติ, เตน เตสํ ปิตฺตํ โกฏฺพฺภนฺตรคตํ โหติ. อาหารตฺถฺจ ผเรยฺยาติ อาหารตฺถํ สาเธยฺย.
๒๖๑. นจฺฉาเทนฺตีติ น ชิรนฺติ, น วาตโรคํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตุํ สกฺโกนฺติ. เสเนสิตานีติ สินิทฺธานิ. ภตฺตาจฺฉาทเกนาติ ภตฺตํ อโรจิเกน.
๒๖๒. อจฺฉวสนฺติอาทีสุ นิสฺสคฺคิยวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. กาเล ปฏิคฺคหิตนฺติอาทีสุ มชฺฌนฺหิเก อวีติวตฺเต ปฏิคฺคเหตฺวา ปจิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา จาติ อตฺโถ. เตลปริโภเคน ¶ ปริภฺุชิตุนฺติ สตฺตาหกาลิกเตลปริโภเคน ปริภฺุชิตุํ.
๒๖๓. มูลเภสชฺชาทิ วินิจฺฉโยปิ ขุทฺทกวณฺณนายํ วุตฺโตเยว. ตสฺมา อิธ ยํ ยํ ปุพฺเพ อวุตฺตํ ตํ ตเทว วณฺณยิสฺสาม. วจตฺตนฺติ เสตวจํ. นิสทํ นิสทโปตกนฺติ ปิสนสิลา จ ปิสนโปโต จ. ผคฺควนฺติ ลตาชาติ. นตฺตมาลนฺติ กรฺชํ. หิงฺคุหิงฺคุชตุหิงฺคุสิปาฏิกา หิงฺคุชาติโยเยว. ตกตกปตฺติตกปณฺณิโย ลาขาชาติโย.
สามุทฺทนฺติ สมุทฺทตีเร วาลุกา วิย สนฺติฏฺติ. กาฬโลณนฺติ ปกติโลณํ. สินฺธวนฺติ เสตวณฺณํ ปพฺพเต อุฏฺหติ. อุพฺภิทนฺติ ภูมิโต องฺกุรํ อุฏฺหติ. พิลนฺติ ทพฺพสมฺภาเรหิ สทฺธึ ปจิตํ, ตํ รตฺตวณฺณํ.
๒๖๔-๖. กาโย วา ทุคฺคนฺโธติ กสฺสจิ อสฺสาทีนํ วิย กายคนฺโธ โหติ, ตสฺสาปิ สิรีสโกสุมฺพาทิจุณฺณานิ วา คนฺธจุณฺณานิ วา สพฺพานิ วฏฺฏนฺติ. ฉกณนฺติ โคมยํ. รชนนิปฺปกฺกนฺติ ¶ รชนกสฏํ. ปากติกจุณฺณมฺปิ โกฏฺเฏตฺวา อุทเกน เตเมตฺวา นฺหายิตุํ วฏฺฏติ; เอตมฺปิ รชนนิปฺปกฺกสงฺเขปเมว คจฺฉติ.
อามกมํสฺจ ¶ ขาทิ อามกโลหิตฺจ ปิวีติ น ตํ ภิกฺขุ ขาทิ น ปิวิ, อมนุสฺโส ขาทิตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปกฺกนฺโต, เตน วุตฺตํ – ‘‘ตสฺส โส อมนุสฺสิกาพาโธ ปฏิปฺปสฺสมฺภี’’ติ.
อฺชนนฺติ สพฺพสงฺคาหิกวจนเมตํ. กาฬฺชนนฺติ เอกา อฺชนชาติ. รสฺชนํ นานาสมฺภาเรหิ กตํ. โสตฺชนนฺติ ¶ นทีโสตาทีสุ อุปฺปชฺชนกํ อฺชนํ. เครุโก นาม สุวณฺณเครุโก. กปลฺลนฺติ ทีปสิขโต คหิตมสิ. อฺชนูปปึสเนหีติ อฺชเนน สทฺธึ เอกโต ปึสิตพฺเพหิ, น หิ กิฺจิ อฺนูปปึสนํ น วฏฺฏติ. จนฺทนนฺติ โลหิตจนฺทนาทิกํ ยํกิฺจิ. ตคราทีนิ ปากฏานิ, อฺานิปิ นีลุปฺปลาทีนิ วฏฺฏนฺติเยว.
อฏฺิมยนฺติ มนุสฺสฏฺึ เปตฺวา อวเสสอฏฺิมยํ. ทนฺตมยนฺติ หตฺถิทนฺตาทิสพฺพทนฺตมยํ. วิสาณมเยปิ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิ, นฬมยาทโย เอกนฺตกปฺปิยาเยว. สลากฏฺานิยนฺติ ยตฺถ สลากํ โอทหนฺติ, ตํ สุสิรทณฺฑกํ วา ถวิกํ วา อนุชานามีติ อตฺโถ. อํสพทฺธโกติ อฺชนิตฺถวิกาย อํสพทฺธโก. ยมกนตฺถุกรณินฺติ สมโสตาหิ ทฺวีหิ ปนาฬิกาหิ เอกํ นตฺถุกรณึ.
๒๖๗. อนุชานามิ ภิกฺขเว เตลปากนฺติ ยํกิฺจิ เภสชฺชปกฺขิตฺตํ สพฺพํ อนฺุาตเมว โหติ. อติปกฺขิตฺตมชฺชานีติ อติวิย ขิตฺตมชฺชานิ; พหุํ มชฺชํ ปกฺขิปิตฺวา โยชิตานีติ อตฺโถ.
องฺควาโตติ หตฺถปาเท วาโต. สมฺภารเสทนฺติ นานาวิธปณฺณภงฺคเสทํ. มหาเสทนฺติ มหนฺตํ เสทํ; โปริสปฺปมาณํ อาวาฏํ องฺคารานํ ปูเรตฺวา ปํสุวาลิกาทีหิ ปิทหิตฺวา ตตฺถ นานาวิธานิ วาตหรณปณฺณานิ สนฺถริตฺวา เตลมกฺขิเตน คตฺเตน ตตฺถ นิปชฺชิตฺวา สมฺปริวตฺตนฺเตน สรีรํ เสเทตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. ภงฺโคทกนฺติ นานาปณฺณภงฺคกุถิตํ อุทกํ; เตหิ ปณฺเณหิ จ อุทเกน จ สิฺจิตฺวา สิฺจิตฺวา เสเทตพฺโพ. อุทกโกฏฺกนฺติ อุทกโกฏฺเ จาฏึ วา โทณึ วา อุณฺโหทกสฺส ปูเรตฺวา ตตฺถ ปวิสิตฺวา เสทกมฺมกรณํ อนุชานามีติ อตฺโถ.
ปพฺพวาโต ¶ ¶ โหตีติ ปพฺเพ ปพฺเพ วาโต วิชฺฌติ. โลหิตํ โมเจตุนฺติ สตฺถเกน โลหิตํ ¶ โมเจตุํ. ปชฺชํ อภิสงฺขริตุนฺติ เยน ผาลิตปาทา ปากติกา โหนฺติ; ตํ นาฬิเกราทีสุ นานาเภสชฺชานิ ปกฺขิปิตฺวา ปชฺชํ อภิสงฺขริตุํ; ปาทานํ สปฺปายเภสชฺชํ ปจิตุนฺติ อตฺโถ. ติลกกฺเกน อตฺโถติ ปิฏฺเหิ ติเลหิ อตฺโถ. กพฬิกนฺติ วณมุเข สตฺตุปิณฺฑํ ปกฺขิปิตุํ. สาสปกุฑฺเฑนาติ สาสปปิฏฺเน. วฑฺฒมํสนฺติ อธิกมํสํ อาณิ วิย อุฏฺหติ. โลณสกฺขริกาย ฉินฺทิตุนฺติ ขุเรน ฉินฺทิตุํ. วิกาสิกนฺติ เตลรุนฺธนปิโลติกํ. สพฺพํ วณปฏิกมฺมนฺติ ยํกิฺจิ วณปริกมฺมํ นาม อตฺถิ; สพฺพํ อนุชานามีติ อตฺโถ.
๒๖๘. สามํ คเหตฺวาติ อิทํ น เกวลํ สปฺปทฏฺสฺเสว, อฺสฺมิมฺปิ ทฏฺวิเส สติ สามํ คเหตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ; อฺเสุ ปน การเณสุ ปฏิคฺคหิตเมว วฏฺฏติ. กโต น ปุน ปฏิคฺคเหตพฺโพติ สเจ ภูมิปฺปตฺโต, ปฏิคฺคเหตพฺโพ; อปฺปตฺตํ ปน คเหตุํ วฏฺฏติ.
๒๖๙. ฆรทินฺนกาพาโธติ วสีกรณปานกสมุฏฺิตโรโค. สีตาโลฬินฺติ นงฺคเลน กสนฺตสฺส ผาเล ลคฺคมตฺติกํ อุทเกน อาโลเฬตฺวา ปาเยตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ.
ทุฏฺคหณิโกติ วิปนฺนคหณิโก; กิจฺเฉน อุจฺจาโร นิกฺขมตีติ อตฺโถ. อามิสขารนฺติ สุกฺโขทนํ ฌาเปตฺวา ตาย ฉาริกาย ปคฺฆริตํ ขาโรทกํ. มุตฺตหรีตกนฺติ โคมุตฺตปริภาวิตํ หรีตกํ. อภิสนฺนกาโยติ อุสฺสนฺนโทสกาโย. อจฺฉกฺชิยนฺติ ตณฺฑุโลทกมณฺโฑ. อกฏยุสนฺติ อสินิทฺโธ มุคฺคปจิตปานีโย. กฏากฏนฺติ โสว โธตสินิทฺโธ. ปฏิจฺฉาทนีเยนาติ มํสรเสน.
คุฬาทิอนุชานนกถา
๒๗๒. สเจ ภิกฺขเว ปกฺกาปิ มุคฺคา ชายนฺตีติ ปกฺกา มุคฺคา สเจปิ ชายนฺติ, ยถาสุขํ ปริภฺุชิตพฺพา. ปกฺกตฺตา หิ เต กปฺปิยา เอว.
๒๗๔. อนฺโตวุตฺถนฺติ ¶ ¶ อกปฺปิยกุฏิยํ วุตฺถํ. สามํ ปกฺกนฺติ เอตฺถ ยํกิฺจิ อามิสํ ภิกฺขุโน ปจิตุํ น วฏฺฏติ. สเจปิสฺส อุณฺหยาคุยา สุลสิปณฺณานิ วา สิงฺคิเวรํ วา โลณํ วา ปกฺขิปนฺติ, ตมฺปิ จาเลตุํ น วฏฺฏติ, ‘‘ยาคุํ นิพฺพาเปมี’’ติ ปน จาเลตุํ วฏฺฏติ. อุตฺตณฺฑุลภตฺตํ ลภิตฺวาปิ ปิทหิตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน มนุสฺสา ปิทหิตฺวาว เทนฺติ, วฏฺฏติ; ‘‘ภตฺตํ ¶ วา มา นิพฺพายตู’’ติ ปิทหิตุํ วฏฺฏติ. ขีรตกฺกาทีสุ ปน สกึ กุถิเตสุ อคฺคึ ทาตุํ วฏฺฏติ, ปุนปากสฺส อนฺุาตตฺตา. อุกฺกปิณฺฑกาปิ ขาทนฺตีติ พิฬามูสิกโคธามงฺคุสา ขาทนฺติ. ทมกาติ วิฆาสาทา.
๒๗๖. ตโต นีหฏนฺติ ยตฺถ นิมนฺติตา ภฺุชนฺติ, ตโต นีหฏํ.
๒๗๘. วนฏฺํ โปกฺขรฏฺนฺติ วเน เจว ปทุมินิคจฺเฉ จ ชาตํ. อพีชนฺติ ตรุณผลํ, ยสฺส พีชํ น องฺกุรํ ชเนติ. นิพฺพฏฺฏพีชนฺติ พีชํ นิพฺพฏฺเฏตฺวา อปเนตฺวา ปริภฺุชิตพฺพกํ อมฺพปนสาทิ.
๒๗๙. ทุโรปโย วโณติ ทุกฺเขน รุหติ, ทุกฺเขน ปากติโก โหตีติ อตฺโถ. ทุปฺปริหารํ สตฺถนฺติ สมฺพาเธ ทุกฺเขน สตฺถํ ปริหเรยฺยํ. สตฺถกมฺมํ วา วตฺถิกมฺมํ วาติ ยถาปริจฺฉินฺเน โอกาเส เยน เกนจิ สตฺเถน วา สูจิยา วา กณฺฏเกน วา สตฺติกาย วา ปาสาณสกฺขลิกาย วา นเขน วา ฉินฺทนํ วา ผาลนํ วา วิชฺฌนํ วา เลขนํ วา น กาตพฺพํ; สพฺพฺเหตํ สตฺถกมฺมเมว โหติ. เยน เกนจิ ปน จมฺเมน วา วตฺเถน วา วตฺถิปีฬนมฺปิ น กาตพฺพํ; สพฺพฺเหตํ วตฺถิกมฺมเมว โหติ. เอตฺถ จ สมฺพาธสฺส สามนฺตา ทฺวงฺคุลาติ อิทํ สตฺถกมฺมํเยว สนฺธาย วุตฺตํ. วตฺถิกมฺมํ ปน สมฺพาเธเยว ¶ ปฏิกฺขิตฺตํ. ตตฺถ ปน ขารํ อาทาตุํ เยน เกนจิ รชฺชุเกน วา พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. ยทิ เตน ฉิชฺชติ, สุจฺฉินฺนํ. อณฺฑวุฑฺฒิโรเคปิ สตฺถกมฺมํ น วฏฺฏติ, ตสฺมา อณฺฑํ ผาเลตฺวา พีชานิ อุทฺธริตฺวา ‘‘อโรคํ กริสฺสามี’’ติ น กตฺตพฺพํ. อคฺคิตาปนเภสชฺชาลิมฺปเนสุ ปน ปฏิกฺเขโป นตฺถิ. วจฺจมคฺเค เภสชฺชมกฺขิตา อาทานวฏฺฏิ วา เวฬุนาฬิกา วา วฏฺฏติ, ยาย ขารกมฺมํ วา กโรนฺติ, เตลํ วา ปเวเสนฺติ.
๒๘๐. ปวตฺตมํสนฺติ ¶ มตสฺส มํสํ. มาฆาโตติ ตํ ทิวสํ น ลพฺภา เกนจิ กิฺจิ ชีวิตา โวโรเปตุํ. โปตฺถนิกนฺติ มํสจฺเฉทนสตฺถกํ วุจฺจติ. กิมฺปิมายาติ กิมฺปิ อิมาย. น ภควา อุสฺสหตีติ น ภควา สกฺโกติ. ยตฺร หิ นามาติ ยสฺมา นาม. ปฏิเวกฺขีติ วีมํสิ; ปฏิปุจฺฉีติ วุตฺตํ โหติ. อปฺปฏิเวกฺขิตฺวาติ อปฺปฏิปุจฺฉิตฺวา. สเจ ปน อสุกมํสนฺติ ชานาติ, ปฏิปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ, อชานนฺเตน ปน ปุจฺฉิตฺวาว ขาทิตพฺพํ.
หตฺถิมํสาทิปฏิกฺเขปกถา
๒๘๑. สุนขมํสนฺติ ¶ เอตฺถ อรฺโกกา นาม สุนขสทิสา โหนฺติ, เตสํ มํสํ วฏฺฏติ. โย ปน คามสุนขิยา วา โกเกน โกกสุนขิยา วา คามสุนเขน สํโยคา อุปฺปนฺโน, ตสฺส มํสํ น วฏฺฏติ, โส หิ อุภยํ ภชตีติ. อหิมํสนฺติ กสฺสจิ อปาทกสฺส ทีฆชาติกสฺส มํสํ น วฏฺฏติ. สีหมํสาทีนิ ปากฏาเนว.
เอตฺถ จ มนุสฺสมํสํ สชาติตาย ปฏิกฺขิตฺตํ, หตฺถิอสฺสมํสํ ราชงฺคตาย, สุนขมํสฺจ อหิมํสฺจ ปฏิกูลตาย, สีหมํสาทีนิ ปฺจ อตฺตโน อนุปทฺทวตฺถายาติ. อิเมสํ มนุสฺสาทีนํ ทสนฺนํ มํสมฺปิ อฏฺิปิ โลหิตมฺปิ จมฺมมฺปิ โลมมฺปิ สพฺพํ น วฏฺฏติ, ยํกิฺจิ ตฺวา วา อตฺวา วา ขาทนฺตสฺส อาปตฺติเยว. ยทา ชานาติ, ตทา เทเสตพฺพา. ‘‘อปุจฺฉิตฺวา ขาทิสฺสามี’’ติ คณฺหโต ปฏิคฺคหเณ ทุกฺกฏํ, ‘‘ปุจฺฉิตฺวา ขาทิสฺสามี’’ติ คณฺหโต อนาปตฺติ. อุทฺทิสฺส กตํ ปน ชานิตฺวา ขาทนฺตสฺเสว อาปตฺติ, ปจฺฉา ชานนฺโต อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพติ.
ยาคุมธุโคฬกาทิกถา
๒๘๒. เอกตฺตโกติ ¶ เอกโก, นตฺถิ เม ทุติโยติ อตฺโถ. ปหูตํ ยาคฺุจ มธุโคฬกฺจ ปฏิยาทาเปตฺวาติ โส กิร สตสหสฺสํ วยํ กตฺวา ปฏิยาทาเปสิ. อนุโมทนาคาถาปริโยสาเน ‘‘ปตฺถยตํ อิจฺฉต’’นฺติ ปทานํ ‘‘อลเมว ทาตุ’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. สเจ ปน ‘‘ปตฺถยตา อิจฺฉตา’’ติ ปาโ อตฺถิ, โสเยว คเหตพฺโพ.
๒๘๓. โภชฺชยาคุนฺติ ยา ปวารณํ ชเนติ. ยทคฺเคนาติ ยํ อาทึ กตฺวา. สคฺคา เต อารทฺธาติ สคฺคนิพฺพตฺตกปฺุํ อุปจิตนฺติ อตฺโถ. ยถาธมฺโม ¶ กาเรตพฺโพติ ปรมฺปรโภชเนน กาเรตพฺโพ, โภชฺชยาคุยา หิ ปวารณา โหตีติ.
๒๘๔. นาหํ ตํ กจฺจานาติ ตสฺมึ กิร อวสิฏฺคุเฬ เทวตา สุขุโมชํ ปกฺขิปึสุ, สา อฺเสํ ปริณามํ น คจฺฉติ, ตสฺมา เอวมาห. คิลานสฺส คุฬนฺติ ตถารูเปน พฺยาธินา คิลานสฺส ปจฺฉาภตฺตํ คุฬํ อนุชานามีติ อตฺโถ.
ปาฏลิคามวตฺถุกถา
๒๘๕. สพฺพสนฺถรินฺติ ¶ ยถา สพฺพํ สนฺถตํ โหติ, เอวํ.
๒๘๖. สุนิธวสฺสการาติ สุนิโธ จ วสฺสกาโร จ ทฺเว พฺราหฺมณา มคธรฺโ มหามตฺตา มหามจฺจา. วชฺชีนํ ปฏิพาหายาติ วชฺชิราชกุลานํ อายมุขปจฺฉินฺทนตฺถํ. วตฺถูนีติ ฆรวตฺถูนิ. จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุนฺติ ตา กิร เทวตา วตฺถุวิชฺชาปากานํ สรีเร อธิมุจฺจิตฺวา เอวํ จิตฺตานิ นาเมนฺติ. กสฺมา? อมฺหากํ ยถานุรูปํ สกฺการํ กริสฺสนฺตีติ อตฺโถ. ตาวตึเสหีติ โลเก กิร สกฺกํ เทวราชานํ วิสฺสกมฺมฺจ อุปาทาย ตาวตึสา ปณฺฑิตาติ สทฺโท อพฺภุคฺคโต, เตเนวาห ตาวตึเสหีติ, ตาวตึเสหิ สทฺธึ มนฺเตตฺวา วิย มาเปนฺตีติ อตฺโถ. ยาวตา อริยํ อายตนนฺติ ยตฺตกํ อริยมนุสฺสานํ โอสรณฏฺานํ นาม อตฺถิ. ยาวตา วณิปฺปโถติ ¶ ยตฺตกํ วาณิชานํ อาภตภณฺฑสฺส ราสิวเสเนว กยวิกฺกยฏฺานํ นาม อตฺถิ. อิทํ อคฺคนครนฺติ เตสํ อริยายตนวณิปฺปถานํ อิทํ อคฺคนครํ ภวิสฺสติ. ปุฏเภทนนฺติ ปุฏเภทนฏฺานํ โมจนฏฺานนฺติ วุตฺตํ โหติ. อคฺคิโต วาติอาทีสุ สมุจฺจยตฺโถ วา สทฺโท. ตตฺร หิ เอกสฺส โกฏฺาสสฺส อคฺคิโต, เอกสฺส อุทกโต, เอกสฺส อพฺภนฺตรโต, อฺมฺเภทา อนฺตราโย ภวิสฺสติ. อุฬุมฺปนฺติ ปารคมนตฺถาย อาณิโย อาโกเฏตฺวา กตํ. กุลฺลนฺติ วลฺลิอาทีหิ พนฺธิตฺวา กตํ.
อณฺณวนฺติ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน โยชนมตฺตํ คมฺภีรสฺส จ ปุถุลฺลสฺส จ อุทกฏฺานสฺเสตํ อธิวจนํ. สรนฺติ อิธ นที อธิปฺเปตา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เย ¶ คมฺภีรํ วิตฺถตํ ตณฺหาสรํ ตรนฺติ, เต อริยมคฺคสงฺขาตํ เสตุํ กตฺวาน วิสชฺช ปลฺลลานิ อนามสิตฺวาว อุทกภริตานิ นินฺนฏฺานานิ; อยํ ปน อิทํ อปฺปมตฺตกํ อุทกํ อุตฺตริตุกาโมปิ กุลฺลฺหิ ปริชโน พนฺธติ, พุทฺธา ปน พุทฺธสาวกา จ วินา เอว กุลฺเลน ติณฺณา เมธาวิโน ชนาติ.
๒๘๗. อนนุโพธาติ อพุชฺฌเนน. สนฺธาวิตนฺติ ภวโต ภวํ คมนวเสน สนฺธาวิตํ. สํสริตนฺติ ปุนปฺปุนํ คมนวเสน สํสริตํ. มมฺเจว ตุมฺหากฺจาติ มยา จ ตุมฺเหหิ จ. อถ วา สนฺธาวิตํ สํสริตนฺติ สนฺธาวนํ สํสรณํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ อโหสีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. สํสิตนฺติ สํสริตํ. ภวเนตฺติ สมูหตาติ ภวโต ภวคมนา สนฺธาวนา ตณฺหารชฺชุ สุฏฺุ หตา ฉินฺนา อปฺปวตฺติกตา.
๒๘๙. นีลาติ ¶ อิทํ สพฺพสงฺคาหกํ. นีลวณฺณาติอาทิ ตสฺเสว วิภาคทสฺสนตฺถํ. ตตฺถ น เตสํ ปกติวณฺณา นีลา, นีลวิเลปนานํ ¶ วิจิตฺตตาวเสเนตํ วุตฺตํ. ปฏิวฏฺเฏสีติ ปหาเรสิ. สาหารํ ทชฺเชยฺยาถาติ สชนปทํ ทเทยฺยาถ. องฺคุลึ โผเฏสุนฺติ องฺคุลึ จาเลสุํ. อมฺพกายาติ อิตฺถิกาย. โอโลเกถาติ ปสฺสถ. อปโลเกถาติ ปุนปฺปุนํ ปสฺสถ. อุปสํหรถาติ อุปเนถ. อิมํ ลิจฺฉวิปริสํ ตุมฺหากํ จิตฺเตน ตาวตึสปริสํ หรถ, ตาวตึสสฺส สมกํ กตฺวา ปสฺสถาติ อตฺโถ.
สีหเสนาปติวตฺถุอาทิกถา
๒๙๐. ธมฺมสฺส จ อนุธมฺมํ พฺยากโรนฺตีติ ภควตา วุตฺตการณสฺส อนุการณํ กเถนฺติ. สหธมฺมิโก วาทานุวาโทติ อปเรหิ วุตฺตการเณน สการโณ หุตฺวา ตุมฺหากํ วาโท วิฺุครหิตพฺพํ การณํ โกจิ อปฺปมตฺตโกปิ กึ น อาคจฺฉติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘กึ สพฺพกาเรนาปิ ตุมฺหากํ วาเท คารยฺหการณํ นตฺถี’’ติ. อนพฺภกฺขาตุกามาติ อภิภวิตฺวา น อาจิกฺขิตุกามา.
๒๙๓. อนุวิจฺจการนฺติ อนุวิทิตฺวา จินฺเตตฺวา ตุลยิตฺวา กาตพฺพํ กโรหีติ วุตฺตํ โหติ. าตมนุสฺสานนฺติ โลเก ปากฏานํ. สาธุ โหตีติ ¶ สุนฺทรํ โหติ. ปฏากํ ปริหเรยฺยุนฺติ ปฏากํ อุกฺขิปิตฺวา นคเร โฆสนฺตา อาหิณฺเฑยฺยุํ. กสฺมา? ‘‘เอวํ โน อมฺหากํ มหนฺตภาโว ภวิสฺสตี’’ติ. โอปานภูตนฺติ ปฏิยตฺตอุทปาโน วิย ิตํ. กุลนฺติ นิเวสนํ. ทาตพฺพํ มฺเยฺยาสีติ มา อิเมสํ เทยฺยธมฺมํ อุปจฺฉินฺทิตฺถ, สมฺปตฺตานฺหิ ทาตพฺพเมวาติ โอวทติ. โอกาโรติ อวกาโร ลามกภาโว. สามุกฺกํสิกาติ อตฺตนาเยว อุทฺธริตฺวา คหิตา; อสาธารณํ อฺเสนฺติ อตฺโถ. อุทฺทิสฺส กตนฺติ อุทฺทิสิตฺวา กตํ.
๒๙๔. ปฏิจฺจกมฺมนฺติ อตฺตานํ ปฏิจฺจ กตนฺติ อตฺโถ. อถ วา ปฏิจฺจกมฺมนฺติ นิมิตฺตกมฺมสฺเสตํ อธิวจนํ, ตํ ปฏิจฺจกมฺมํ เอตฺถ อตฺถีติ มํสมฺปิ ปฏิจฺจกมฺมนฺติ วุตฺตํ. โย หิ เอวรูปํ มํสํ ปริภฺุชติ, โสปิ ตสฺส กมฺมสฺส ทายาโท โหติ, วธกสฺส วิย ตสฺสาปิ ปาณฆาตกมฺมํ โหตีติ อธิปฺปาโย ¶ . ชิริทนฺติติ ชิรนฺติ อพฺภาจิกฺขนฺตา น ชิรนฺติ, อพฺภกฺขานสฺส อนฺตํ น คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. ติโกฏิปริสุทฺธกถา สงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนายํ วุตฺตา.
กปฺปิยภูมิอนุชานนกถา
๒๙๕. สกฏปริวฏฺฏนฺติ ¶ สกเฏหิ ปริกฺเขปํ วิย กตฺวา อจฺฉนฺติ. ปจฺจนฺติมนฺติ อภิลาปมตฺตเมตํ ‘‘ยํ สงฺโฆ อากงฺขตี’’ติ วุตฺตตฺตา ปน ธุรวิหาโรปิ สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏติ, กมฺมวาจํ อวตฺวา อปโลกเนนาปิ วฏฺฏติเยว. กาโกรวสทฺทนฺติ ตตฺถ ตตฺถ ปวิฏฺานํ อามิสขาทนตฺถาย อนุปฺปเคเยว สนฺนิปติตานํ กากานํ โอรวสทฺทํ. ยโสโช นาม กปิลสุตฺตปริโยสาเน ปพฺพชิตานํ ปฺจนฺนํ สตานํ อคฺคปุริโส.
อุสฺสาวนนฺติกนฺติอาทีสุ อุสฺสาวนนฺติกา ตาว เอวํ กตฺตพฺพา. โย ถมฺภานํ วา อุปริ ภิตฺติปาเท วา นิขนิตฺวา วิหาโร กริยติ, ตสฺส เหฏฺา ถมฺภปฏิจฺฉกา ปาสาณา ภูมิคติกา เอว. ปมถมฺภํ ปน ปมภิตฺติปาทํ วา ปติฏฺาเปนฺเตหิ พหูหิ สมฺปริวาเรตฺวา ‘‘กปฺปิยกุฏึ กโรม, กปฺปิยกุฏึ กโรมา’’ติ วาจํ นิจฺฉาเรนฺเตหิ มนุสฺเสสุ อุกฺขิปิตฺวา ปติฏฺาเปนฺเตสุ อามสิตฺวา วา สยํ อุกฺขิปิตฺวา วา ถมฺเภ วา ภิตฺติปาโท วา ปติฏฺาเปตพฺโพ. กุรุนฺทิมหาปจฺจรีสุ ปน ‘‘กปฺปิยกุฏิ กปฺปิยกุฏี’’ติ วตฺวา ปติฏฺาเปตพฺพนฺติ วุตฺตํ. อนฺธกฏฺกถายํ ‘‘สงฺฆสฺส กปฺปิยกุฏึ อธิฏฺามี’’ติ วุตฺตํ. ตํ ปน อวตฺวาปิ อฏฺกถาสุ วุตฺตนเยน วุตฺเต ¶ โทโส นตฺถิ. อิทํ ปเนตฺถ สาธารณลกฺขณํ, ถมฺภปติฏฺานฺจ วจนปริโยสานฺจ สมกาลํ วฏฺฏติ. สเจ หิ อนิฏฺิเต วจเน ถมฺโภ ปติฏฺาติ, อปฺปติฏฺิเต วา ตสฺมึ วจนํ นิฏฺาติ, อกตา โหติ กปฺปิยกุฏิ. เตเนว มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ – ‘‘พหูหิ สมฺปริวาเรตฺวา วตฺตพฺพํ, อวสฺสฺหิ เอตฺถ เอกสฺสปิ วจนนิฏฺานฺจ ถมฺภปติฏฺานฺจ เอกโต ภวิสฺสตี’’ติ.
อิฏฺกสิลามตฺติกากุฏฺฏิกาสุ ปน กุฏีสุ เหฏฺา จยํ พนฺธิตฺวา วา อพนฺธิตฺวา วา กโรนฺตุ, ยโต ปฏฺาย ภิตฺตึ อุฏฺาเปตุกามา ¶ โหนฺติ, ตํ สพฺพปมํ อิฏฺกํ วา สิลํ วา มตฺติกาปิณฺฑํ วา คเหตฺวา วุตฺตนเยเนว กปฺปิยกุฏิ กาตพฺพา. อิฏฺกาทโย หิ ภิตฺติยา ปมิฏฺกาทีนํ เหฏฺา น วฏฺฏนฺติ, ถมฺภา ปน อุปริ อุคฺคจฺฉนฺติ, ตสฺมา วฏฺฏนฺติ. อนฺธกฏฺกถายํ ‘‘ถมฺเภหิ กริยมาเน จตูสุ โกเณสุ จตฺตาโร ถมฺภา อิฏฺกาทิกุฏฺเฏ จตูสุ โกเณสุ ทฺเว ติสฺโส อิฏฺกา อธิฏฺาตพฺพา’’ติ วุตฺตํ. ตถา ปน อกตายปิ โทโส นตฺถิ, อฏฺกถาสุ หิ วุตฺตเมว ปมาณํ.
โคนิสาทิกา ทุวิธา – อารามโคนิสาทิกา, วิหารโคนิสาทิกาติ. ตาสุ ยตฺถ เนว อาราโม ¶ น เสนาสนานิ ปริกฺขิตฺตานิ โหนฺติ, อยํ ‘‘อารามโคนิสาทิกา’’ นาม. ยตฺถ เสนาสนานิ สพฺพานิ วา เอกจฺจานิ วา ปริกฺขิตฺตานิ, อาราโม อปริกฺขิตฺโต, อยํ ‘‘วิหารโคนิสาทิกา’’ นาม. อิติ อุภยตฺราปิ อารามสฺส อปริกฺขิตฺตภาโวเยว ปมาณํ. อาราโม ปน อุปฑฺฒปริกฺขิตฺโตปิ พหุตรํ ปริกฺขิตฺโตปิ ปริกฺขิตฺโตเยว นามาติ กุรุนฺทิมหอาปจฺจริยาทีสุ วุตฺตํ. เอตฺถ กปฺปิยกุฏึ ลทฺธุํ วฏฺฏติ.
คหปตีติ มนุสฺสา อาวาสํ กตฺวา ‘‘กปฺปิยกุฏึ เทม, ปริภฺุชถา’’ติ วทนฺติ, เอสา คหปติ นาม. ‘‘กปฺปิยกุฏึ กาตุํ เทมา’’ติ วุตฺเตปิ วฏฺฏติเยว. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘ยสฺมา ภิกฺขุํ เปตฺวา เสสสหธมฺมิกานํ สพฺเพสฺจ เทวมนุสฺสานํ หตฺถโต ปฏิคฺคโห จ สนฺนิธิ จ อนฺโตวุตฺถฺจ เตสํ สนฺตกํ ภิกฺขุสฺส วฏฺฏติ, ตสฺมา เตสํ เคหานิ วา เตหิ ทินฺนา กปฺปิยกุฏิ วา คหปตีติ วุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. ปุนปิ วุตฺตํ – ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส วิหารํ เปตฺวา ภิกฺขุนุปสฺสโย วา อารามิกานํ วา ติตฺถิยานํ วา เทวตานํ วา นาคานํ วา อปิ พฺรหฺมานํ วิมานํ กปฺปิยกุฏิ โหตี’’ติ, ตํ สุวุตฺตํ; สงฺฆสนฺตกเมว ¶ หิ ภิกฺขุสนฺตกํ วา เคหํ คหปติกุฏิกา น โหติ. สมฺมุติกา นาม กมฺมวาจํ สาเวตฺวา กตาติ.
ยํ อิมาสุ จตูสุ กปฺปิยภูมีสุ วุตฺถํ อามิสํ, ตํ สพฺพํ อนฺโตวุตฺถสงฺขฺยํ น คจฺฉติ. ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ อนฺโตวุตฺถอนฺโตปกฺกโมจนตฺถฺหิ กปฺปิยกุฏิโย อนฺุาตา. ยํ ปน อกปฺปิยภูมิยํ ¶ สหเสยฺยปฺปโหนเก เคเห วุตฺถํ สงฺฆิกํ วา ปุคฺคลิกํ วา ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุนิยา วา สนฺตกํ เอกรตฺตมฺปิ ปิตํ, ตํ อนฺโตวุตฺถํ; ตตฺถ ปกฺกฺจ อนฺโตปกฺกํ นาม โหติ, เอตํ น กปฺปติ. สตฺตาหกาลิกํ ปน ยาวชีวิกฺจ วฏฺฏติ.
ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – สามเณโร ภิกฺขุสฺส ตณฺฑุลาทิกํ อามิสํ อาหริตฺวา กปฺปิยกุฏิยํ นิกฺขิปิตฺวา ปุนทิวเส ปจิตฺวา เทติ, อนฺโตวุตฺถํ น โหติ. ตตฺถ อกปฺปิยกุฏิยํ นิกฺขิตฺตสปฺปิอาทีสุ ยํกิฺจิ ปกฺขิปิตฺวา เทติ, มุขสนฺนิธิ นาม โหติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘อนฺโตวุตฺถํ โหตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ นามมตฺตเมว นานากรณํ. ภิกฺขุ อกปฺปิยกุฏิยํ ปิตสปฺปิฺจ ยาวชีวิกปณฺณฺจ เอกโต ปจิตฺวา ปริภฺุชติ, สตฺตาหํ นิรามิสํ วฏฺฏติ. สเจ อามิสสํสฏฺํ กตฺวา ปริภฺุชติ, อนฺโตวุตฺถฺเจว สามํปากฺจ โหติ. เอเตนุปาเยน สพฺพสํสคฺคา เวทิตพฺพา.
อิมา ปน กปฺปิยกุฏิโย กทา ชหิตวตฺถุกา โหนฺติ? อุสฺสาวนนฺติกา ตาว ยา ถมฺภานํ ¶ อุปริ ภิตฺติปาเท วา นิขณิตฺวา กตา, สา สพฺเพสุ ถมฺเภสุ จ ภิตฺติปาเทสุ จ อปนีเตสุ ชหิตวตฺถุกา โหติ. สเจ ปน ถมฺเภ วา ภิตฺติปาเท วา ปริวตฺเตนฺติ, โย โย ิโต ตตฺถ ตตฺถ ปติฏฺาติ, สพฺเพสุปิ ปริวตฺติเตสุ อชหิตวตฺถุกาว โหติ. อิฏฺกาทีหิ กตา จยสฺส อุปริ ภิตฺติอตฺถาย ปิตํ อิฏฺกํ วา สิลํ วา มตฺติกาปิณฺฑํ วา อาทึกตฺวา วินาสิตกาเล ชหิตวตฺถุกา โหติ. เยหิ ปน อิฏฺกาทีหิ อธิฏฺิตา, เตสุ อปนีเตสุปิ ตทฺาสุ ปติฏฺิตาสุ อชหิตวตฺถุกาว โหติ.
โคนิสาทิกา ปาการาทีหิ ปริกฺเขเป กเต ชหิตวตฺถุกา โหติ. ปุน ตสฺมึ อาราเม กปฺปิยกุฏิ ลทฺธุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน ปุนปิ ปาการาทโย ตตฺถ ตตฺถ ขณฺฑา โหนฺติ, ตโต ตโต คาโว ปวิสนฺติ, ปุน กปฺปิยกุฏิ โหติ. อิตรา ปน ทฺเว โคปานสีมตฺตํ เปตฺวา ¶ สพฺพสฺมึ ฉทเน วินฏฺเ ชหิตวตฺถุกา โหนฺติ. สเจ โคปานสีนํ อุปริ เอกมฺปิ ปกฺขปาสกมณฺฑลํ อตฺถิ, รกฺขติ.
ยตฺร ปนิมา จตสฺโสปิ กปฺปิยภูมิโย นตฺถิ, ตตฺถ กึ กาตพฺพํ? อนุปสมฺปนฺนสฺส ¶ ทตฺวา ตสฺส สนฺตกํ กตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ. ตตฺริทํ วตฺถุ – กรวิกติสฺสตฺเถโร กิร วินยธรปาโมกฺโข มหาสีวตฺเถรสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. โส ทีปาโลเกน สปฺปิกุมฺภํ ปสฺสิตฺวา ‘‘ภนฺเต กิเมต’’นฺติ ปุจฺฉิ. เถโร ‘‘อาวุโส คามโต สปฺปิกุมฺโภ อาภโต, ลูขทิวเส สปฺปินา ภฺุชนตฺถายา’’ติ อาห. ตโต นํ ติสฺสตฺเถโร ‘‘น วฏฺฏติ ภนฺเต’’ติ อาห. เถโร ปุนทิวเส ปมุเข นิกฺขิปาเปสิ. ติสฺสตฺเถโร ปุน เอกทิวเส อาคโต ตํ ทิสฺวา ตเถว ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ภนฺเต สหเสยฺยปฺปโหนกฏฺาเน เปตุํ น วฏฺฏตี’’ติ อาห. เถโร ปุนทิวเส พหิ นีหราเปตฺวา นิกฺขิปาเปสิ, ตํ โจรา หรึสุ. โส ปุน เอกทิวสํ อาคตํ ติสฺสตฺเถรํ อาห – ‘‘อาวุโส ตยา ‘น วฏฺฏตี’ติ วุตฺโต โส กุมฺโภ พหิ นิกฺขิตฺโต โจเรหิ อวหโต’’ติ. ตโต นํ ติสฺสตฺเถโร อาห – ‘‘นนุ ภนฺเต อนุปสมฺปนฺนสฺส ทาตพฺโพ อสฺส, อนุปสมฺปนฺนสฺส หิ ทตฺวา ตสฺส สนฺตกํ กตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ.
๒๙๖-๙. เมณฺฑกวตฺถุ อุตฺตานเมว. อปิ เจตฺถ อนุชานามิ ภิกฺขเว ปฺจ โครเสติ อิเม ปฺจ โครเส วิสุํ ปริโภเคน ปริภฺุชิตุมฺปิ อนุชานามีติ อตฺโถ. ปาเถยฺยํ ปริเยสิตุนฺติ เอตฺถ สเจ เกจิ สยเมว ตฺวา เทนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ; โน เจ เทนฺติ, าติปวาริตฏฺานโต วา ภิกฺขาจารวตฺเตน วา ปริเยสิตพฺพํ. ตถา อลภนฺเตน อฺาติกอปวาริตฏฺานโต ¶ ยาจิตฺวาปิ คเหตพฺพํ. เอกทิวเสน คมนีเย มคฺเค เอกภตฺตตฺถาย ปริเยสิตพฺพํ. ทีเฆ อทฺธาเน ยตฺตเกน กนฺตารํ นิตฺถรติ, ตตฺตกํ ปริเยสิตพฺพํ.
เกณิยชฏิลวตฺถุกถา
๓๐๐. กาเชหิ คาหาเปตฺวาติ ปฺจหิ กาชสเตหิ สุสงฺขตสฺส พทรปานสฺส กุฏสหสฺสํ คาหาเปตฺวา. เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวาติ ‘‘สาธุ ภิกฺขเว ปานํ อปิวนฺตา สมณสฺส โคตมสฺส ¶ สาวกา ปจฺจยพาหุลฺลิกาติ วาทํ น อุปฺปาทยิตฺถ, มยิ จ คารวํ อกตฺถ, มม จ ตุมฺเหสุ คารวํ ชนยิตฺถ, อิติ โว อหํ อิมินา การเณน สุฏฺุ ปสนฺโน’’ติอาทินา นเยน ธมฺมึ กถํ กตฺวา อนุชานามิ ภิกฺขเว อฏฺ ปานานีติอาทิมาห.
ตตฺถ อมฺพปานนฺติ อาเมหิ วา ปกฺเกหิ วา อมฺเพหิ กตปานํ. ตตฺถ ¶ อาเมหิ กโรนฺเตน อมฺพตรุณานิ ภินฺทิตฺวา อุทเก ปกฺขิปิตฺวา อาตเป อาทิจฺจปาเกน ปจิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา ตทหุปฏิคฺคหิเตหิ มธุสกฺกรกปฺปูราทีหิ โยเชตฺวา กาตพฺพํ. เอวํ กตํ ปุเรภตฺตเมว กปฺปติ. อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ ลภิตฺวา ปน ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสปริโภเคนาปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตํ นิรามิสปริโภเคน ยาว อรุณุคฺคมนา วฏฺฏติเยว. เอส นโย สพฺพปาเนสุ.
เตสุ ปน ชมฺพุปานนฺติ ชมฺพุผเลหิ กตปานํ. โจจปานนฺติ อฏฺิเกหิ กทลิผเลหิ กตปานํ. โมจปานนฺติ อนฏฺิเกหิ กทลิผเลหิ กตปานํ. มธุกปานนฺติ มธุกานํ ชาติรเสน กตปานํ; ตํ ปน อุทกสมฺภินฺนํ วฏฺฏติ, สุทฺธํ น วฏฺฏติ. มุทฺทิกปานนฺติ มุทฺทิกา อุทเก มทฺทิตฺวา อมฺพปานํ วิย กตปานํ. สาลูกปานนฺติ รตฺตุปฺปลนีลุปฺปลาทีนํ สาลูเก มทฺทิตฺวา กตปานํ. ผารุสกปานนฺติ ผารุสกผเลหิ อมฺพปานํ วิย กตปานํ. อิมานิ อฏฺ ปานานิ สีตานิปิ อาทิจฺจปากานิปิ วฏฺฏนฺติ, อคฺคิปากานิ น วฏฺฏนฺติ. ธฺผลรสนฺติ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ผลรสํ. ฑากรสนฺติ ปกฺกฑากรสํ. ยาวกาลิกปตฺตานฺหิ ปุเรภตฺตํเยว รโส กปฺปติ. ยาวชีวิกานํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตสปฺปิอาทีหิ สทฺธึ ปกฺกานํ สตฺตาหํ กปฺปติ. สเจ ปน สุทฺธอุทเกน ปจติ, ยาวชีวมฺปิ วฏฺฏติ. ขีราทีหิ ปน สทฺธึ ปจิตุํ น วฏฺฏติ. อฺเหิ ปกฺกมฺปิ ฑากรสสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ยาวกาลิกปตฺตานมฺปิ สีโตทเกน มทฺทิตฺวา กตรโส วา อาทิจฺจปาโก วา วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. เปตฺวา มธุกปุปฺผรสนฺติ เอตฺถ มธุกปุปฺผรโส อคฺคิปาโก วา โหตุ อาทิจฺจปาโก วา, ปจฺฉาภตฺตํ ¶ น วฏฺฏติ. ปุเรภตฺตมฺปิ ยํ ปานํ คเหตฺวา มชฺชํ กโรนฺติ, โส อาทิโต ปฏฺาย น วฏฺฏติ. มธุกปุปฺผํ ปน อลฺลํ วา สุกฺขํ วา ภชฺชิตํ วา เตน ¶ กตผาณิตํ วา ยโต ปฏฺาย มชฺชํ น กโรนฺติ, ตํ สพฺพํ ปุเรภตฺตํ วฏฺฏติ. อุจฺฉุรโส นิกสโฏ ปจฺฉาภตฺตํ วฏฺฏติ ¶ . อิติ ปานานิ อนุชานนฺเตน อิเมปิ จตฺตาโร รสา อนฺุาตาติ. อคฺคิหุตฺตมุขา ยฺาติอาทีสุ อคฺคิหุตํ เสฏฺํ, อคฺคิหุตํ มุขนฺติ วุตฺตํ โหติ.
โรชมลฺลาทิวตฺถุกถา
๓๐๑-๒. โรชวตฺถุ อุตฺตานตฺถเมว. ตตฺถ สงฺกรํ อกํสูติ กติกํ อกํสุ. อุฬารํ โข เต อิทนฺติ สุนฺทรํ โข เต อิทํ. นาหํ ภนฺเต อานนฺท พหุกโตติ นาหํ พุทฺธาทิคตปสาทพหุมาเนน อิธาคโตติ ทสฺเสติ. สพฺพฺจ ฑากนฺติ สปฺปิอาทีหิ ปกฺกํ วา อปกฺกํ วา ยํกิฺจิ ฑากํ. ปิฏฺขาทนียนฺติ ปิฏฺมยํ ขาทนียํ; โรโช กิร อิทํ อุภยมฺปิ สตสหสฺสํ วยํ กตฺวา ปฏิยาทาเปสิ.
๓๐๓. มฺชุกาติ มธุรวจนา. ปฏิภาเนยฺยกาติ สเก สิปฺเป ปฏิภานสมฺปนฺนา. ทกฺขาติ เฉกา, อนลสา วา. ปริโยทาตสิปฺปาติ นิทฺโทสสิปฺปา. นาฬิยาวาปเกนาติ นาฬิยา จ อาวาปเกน จ. อาวาปโก นาม ยตฺถ ลทฺธํ ลทฺธํ อาวปนฺติ, ปกฺขิปนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. น จ ภิกฺขเว นหาปิตปุพฺเพน ขุรภณฺฑนฺติ เอตฺถ คเหตฺวา ปริหริตุเมว น วฏฺฏติ, อฺสฺส สนฺตเกน เกเส เฉเทตุํ วฏฺฏติ. สเจ เวตนํ คเหตฺวา ฉินฺทติ, น วฏฺฏติ. โย อนหาปิตปุพฺโพ ตสฺส ปริหริตุมฺปิ วฏฺฏติ, ตํ วา อฺํ วา คเหตฺวา เกเส เฉเทตุมฺปิ วฏฺฏติ.
๓๐๔. ภาคํ ทตฺวาติ ทสมภาคํ ทตฺวา; อิทํ กิร ชมฺพุทีเป โปราณกจาริตฺตํ, ตสฺมา ทสโกฏฺาเส กตฺวา เอโก โกฏฺาโส ภูมิสามิกานํ ทาตพฺโพ.
จตุมหาปเทสกถา
๓๐๕. ยํ ภิกฺขเว มยา อิทํ น กปฺปตีติ อิเม จตฺตาโร มหาปเทเส ภควา ภิกฺขูนํ นยคฺคหณตฺถาย อาห. ตตฺถ ธมฺมสงฺคาหกตฺเถรา สุตฺตํ คเหตฺวา ปริมทฺทนฺตา อิทํ อทฺทสํสุ. เปตฺวา ธฺผลรสนฺติ สตฺตธฺรสานิ ปจฺฉาภตฺตํ น กปฺปนฺตีติ ปฏิกฺขิตฺตานิ. ตาลนาฬิเกรปนสลพุชอลาพุกุมฺภณฺฑปุสฺสผลติปุสผลเอฬาลุกานิ ¶ ¶ , นว มหาผลานิ สพฺพฺจ อปรณฺณํ, ธฺคติกเมว. ตํ กิฺจาปิ น ปฏิกฺขิตฺตํ, อถ โข อกปฺปิยํ อนุโลเมติ, ตสฺมา ปจฺฉาภตฺตํ น กปฺปติ. อฏฺ ¶ ปานานิ อนฺุาตานิ. อวเสสานิ เวตฺตตินฺติณิกมาตุลุงฺคกปิตฺถโกสมฺพกรมนฺทาทิขุทฺทกผลปานานิ อฏฺปานคติกาเนว, ตานิ กิฺจาปิ น อนฺุาตานิ, อถ โข กปฺปิยํ อนุโลเมนฺติ, ตสฺมา กปฺปนฺติ. เปตฺวา หิ สานุโลมํ ธฺผลรสํ อฺํ ผลปานํ นาม อกปฺปิยํ นตฺถิ, สพฺพํ ยามกาลิกํเยวาติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ.
ภควตา ฉ จีวรานิ อนฺุาตานิ. ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ เตสํ อนุโลมานิ ทุกูลํ, ปตฺตุณฺณํ, จีนปฏฺฏํ, โสมารปฏฺฏํ, อิทฺธิมยิกํ, เทวทตฺติยนฺติ อปรานิ ฉ อนฺุาตานิ. ตตฺถ ‘‘ปตฺตุณฺณ’’นฺติ ปตฺตุณฺณเทเส ปาณเกหิ สฺชาตวตฺถํ. ทฺเว ปฏา เทสนาเมเนว วุตฺตา. ตานิ ตีณิ โกเสยฺยสฺสานุโลมานิ. ทุกูลํ สาณสฺส, อิตรานิ ทฺเว กปฺปาสิกสฺส วา สพฺเพสํ วา.
ภควตา เอกาทส ปตฺเต ปฏิกฺขิปิตฺวา ทฺเว ปตฺตา อนฺุาตา – โลหปตฺโต เจว มตฺติกาปตฺโต จ. โลหถาลกํ, มตฺติกาถาลกํ, ตมฺพโลหถาลกนฺติ เตสํเยว อนุโลมานิ. ภควตา ตโย ตุมฺพา อนฺุาตา – โลหตุมฺโพ, กฏฺตุมฺโพ, ผลตุมฺโพติ. กุณฺฑิกา, กฺจนโก, อุทกตุมฺโพติ เตสํเยว อนุโลมานิ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ปานียสงฺขปานียสราวกานิ เอเตสํ อนุโลมานี’’ติ วุตฺตํ. ปฏฺฏิกา, สูกรนฺตนฺติ ทฺเว กายพนฺธนานิ อนฺุาตานิ, ทุสฺสปฏฺเฏน รชฺชุเกน จ กตกายพนฺธนานิ เตสํ อนุโลมานิ. เสตจฺฉตฺตํ, กิลฺชจฺฉตฺตํ, ปณฺณจฺฉตฺตนฺติ ตีณิ ฉตฺตานิ อนฺุาตานิ. เอกปณฺณจฺฉตฺตํ เตสํเยว อนุโลมนฺติ อิมินา นเยน ปาฬิฺจ อฏฺกถฺจ อนุเปกฺขิตฺวา อฺานิปิ กปฺปิยากปฺปิยานํ อนุโลมานิ เวทิตพฺพานิ.
ตทหุปฏิคฺคหิตํ กาเล กปฺปตีติอาทิ สพฺพํ สมฺภินฺนรสํ สนฺธาย วุตฺตํ. สเจ หิ ฉลฺลิมฺปิ อนปเนตฺวา สกเลเนว นาฬิเกรผเลน สทฺธึ ปานกํ ปฏิคฺคหิตํ โหติ ¶ , นาฬิเกรํ อปเนตฺวา ตํ วิกาเลปิ กปฺปติ. อุปริ สปฺปิปิณฺฑํ เปตฺวา สีตลปายาสํ เทนฺติ, ยํ ปายาเสน อสํสฏฺํ สปฺปิ, ตํ อปเนตฺวา สตฺตาหํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. พทฺธมธุผาณิตาทีสุปิ เอเสว นโย. ตกฺโกลชาติผลาทีหิ อลงฺกริตฺวา ปิณฺฑปาตํ เทนฺติ, ตานิ อุทฺธริตฺวา โธวิตฺวา ยาวชีวํ ปริภฺุชิตพฺพานิ. ยาคุยํ ปกฺขิปิตฺวา ทินฺนสิงฺคิเวราทีสุปิ เตลาทีสุ ปกฺขิปิตฺวา ทินฺนลฏฺิมธุกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวํ ยํ ยํ อสมฺภินฺนรสํ โหติ, ตํ ตํ เอกโต ปฏิคฺคหิตมฺปิ ¶ ยถา ¶ สุทฺธํ โหติ, ตถา โธวิตฺวา วา ตจฺเฉตฺวา วา ตสฺส ตสฺส กาลวเสน ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
สเจ ปน สมฺภินฺนรสํ โหติ สํสฏฺํ, น วฏฺฏติ. ยาวกาลิกฺหิ อตฺตนา สทฺธึ สมฺภินฺนรสานิ ตีณิปิ ยามกาลิกาทีนิ อตฺตโน สภาวํ อุปเนติ, ยามกาลิกํ ทฺเวปิ สตฺตาหกาลิกาทีนิ อตฺตโน สภาวํ อุปเนติ, สตฺตาหกาลิกมฺปิ อตฺตนา สทฺธึ สํสฏฺํ ยาวชีวิกํ อตฺตโน สภาวฺเว อุปเนติ; ตสฺมา เตน ตทหุปฏิคฺคหิเตน สทฺธึ ตทหุปฏิคฺคหิตํ วา ปุเรปฏิคฺคหิตํ วา ยาวชีวิกํ สตฺตาหํ กปฺปติ ทฺวีหปฏิคฺคหิเตน ฉาหํ, ตีหปฏิคฺคหิเตน ปฺจาหํ…เป… สตฺตาหปฏิคฺคหิเตน ตทเหว กปฺปตีติ เวทิตพฺพํ. ตสฺมาเยว หิ ‘‘สตฺตาหกาลิเกน ภิกฺขเว ยาวชีวิกํ ตทหุปฏิคฺคหิต’’นฺติ อวตฺวา ‘‘ปฏิคฺคหิตํ สตฺตาหํ กปฺปตี’’ติ วุตฺตํ.
กาลยามสตฺตาหาติกฺกเมสุ เจตฺถ วิกาลโภชนสนฺนิธิเภสชฺชสิกฺขาปทานํ วเสน อาปตฺติโย เวทิตพฺพา. อิเมสุ จ ปน จตูสุ กาลิเกสุ ยาวกาลิกํ ยามกาลิกนฺติ อิทเมว ทฺวยํ อนฺโตวุตฺถกฺเจว สนฺนิธิการกฺจ โหติ, สตฺตาหกาลิกฺจ ยาวชีวิกฺจ อกปฺปิยกุฏิยํ นิกฺขิปิตุมฺปิ วฏฺฏติ, สนฺนิธิมฺปิ น ชเนตีติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
เภสชฺชกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. กถินกฺขนฺธกํ
กถินานุชานนกถา
๓๐๖. กถินกฺขนฺธเก ¶ ¶ – ปาเวยฺยกาติ ปาเวยฺยรฏฺวาสิโน. ปาเวยฺยํ นาม โกสเลสุ ปจฺฉิมทิสาภาเค รฏฺํ; ตตฺถ ¶ วาสิโนติ วุตฺตํ โหติ. โกสลรฺโ เอกปิตุกภาตูนํ ภทฺทวคฺคิยตฺเถรานํ เอตํ อธิวจนํ. เตสุ สพฺพเชฏฺโก อนาคามี, สพฺพปจฺฉิมโก โสตาปนฺโน, เอโกปิ อรหา วา ปุถุชฺชโน วา นตฺถิ. อารฺิกาติ ธุตงฺคสมาทานวเสน อารฺิกา; น อรฺวาสมตฺเตน. ปิณฺฑปาติกาทิภาเวปิ เตสํ เอเสว นโย. สีสวเสน เจตํ วุตฺตํ. อิเม ปน เตรสาปิ ธุตงฺคานิ สมาทาเยว วตฺตนฺติ. อุทกสงฺคเหติ อุทเกน สงฺคหิเต ฆฏิเต สํสฏฺเ; ถเล จ นินฺเน จ เอโกทกีภูเตติ อตฺโถ.
อุทกจิกฺขลฺเลติ อกฺกนฺตอกฺกนฺตฏฺาเน อุทกจิกฺขลฺโล อุฏฺหิตฺวา ยาว อานิสทา ปหรติ, อีทิเส จิกฺขลฺเลติ อตฺโถ. โอกปุณฺเณหีติ อุทกปุณฺเณหิ. เตสํ กิร จีวรานิ ฆนานิ, เตสุ ปติตํ อุทกํ น ปคฺฆรติ ฆนตฺตา ปุฏพทฺธํ วิย ติฏฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘โอกปุณฺเณหิ จีวเรหี’’ติ. ‘‘โอฆปุณฺเณหี’’ติปิ ปาโ.
อวิวทมานา วสฺสํ วสิมฺหาติ เอตฺถ อาคนฺตุกฏฺาเน เสนาสนผาสุตาย อภาเวน จ ภควโต ทสฺสนาลาเภน อุกฺกณฺิตตาย จ เต ภิกฺขู ผาสุํ น วสึสุ, ตสฺมา ‘‘อวิวทมานา ผาสุกํ วสฺสํ วสิมฺหา’’ติ นาโวจุํ. ธมฺมึ กถํ กตฺวาติ ภควา เตสํ ภิกฺขูนํ อนมตคฺคิยกถํ กเถสิ. เต สพฺเพปิ กถาปริโยสาเน อรหตฺตํ ปาปุณิตฺวา นิสินฺนฏฺานโตเยว อากาเส อุปฺปติตฺวา อคมํสุ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ธมฺมึ กถํ กตฺวา’’ติ. ตโต ภควา ‘‘สเจ กถินตฺถาโร ปฺตฺโต อภวิสฺส, เอเต ภิกฺขู เอกํ จีวรํ เปตฺวา สนฺตรุตฺตเรน อาคจฺฉนฺตา น เอวํ กิลนฺตา อสฺสุ, กถินตฺถาโร จ นาเมส สพฺพพุทฺเธหิ อนฺุาโต’’ติ จินฺเตตฺวา กถินตฺถารํ อนุชานิตุกาโม ภิกฺขู อามนฺเตสิ, อามนฺเตตฺวา จ ปน ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห.
ตตฺถ ¶ ¶ อตฺถตกถินานํ โวติ นิปาตมตฺตํ โวกาโร; อตฺถตกถินานนฺติ อตฺโถ. เอวฺหิ สติ ปรโต ‘‘โส เนสํ ภวิสฺสตี’’ติ ยุชฺชติ. อถ วา โวติ สามิวจนเมเวตํ. โส เนสนฺติ เอตฺถ ปน โส จีวรุปฺปาโท เย อตฺถตกถินา, เตสํ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ.
ตตฺถ อนามนฺตจาโรติ ยาว กถินํ น อุทฺธริยติ, ตาว อนามนฺเตตฺวา จรณํ กปฺปิสฺสติ ¶ , จาริตฺตสิกฺขาปเทน อนาปตฺติ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. อสมาทานจาโรติ ติจีวรํ อสมาทาย จรณํ; จีวรวิปฺปวาโส กปฺปิสฺสตีติ อตฺโถ. คณโภชนนฺติ คณโภชนมฺปิ กปฺปิสฺสติ. ยาวทตฺถจีวรนฺติ ยาวตฺตเกน จีวเรน อตฺโถ, ตาวตฺตกํ อนธิฏฺิตํ อวิกปฺปิตํ กปฺปิสฺสตีติ อตฺโถ. โย จ ตตฺถ จีวรุปฺปาโทติ ตตฺถ กถินตฺถตสีมายํ มตกจีวรํ วา โหตุ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ทินฺนํ วา สงฺฆิเกน ตตฺรุปฺปาเทน อาภตํ วา, เยน เกนจิ อากาเรน ยํ สงฺฆิกจีวรํ อุปฺปชฺชติ, ตํ เตสํ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ.
เอวฺจ ปน ภิกฺขเว กถินํ อตฺถริตพฺพนฺติ เอตฺถ กถินตฺถารํ เก ลภนฺติ, เก น ลภนฺตีติ? คณนวเสน ตาว ปจฺฉิมโกฏิยา ปฺจ ชนา ลภนฺติ, อุทฺธํ สตสหสฺสมฺปิ, ปฺจนฺนํ เหฏฺา น ลภนฺติ. วุตฺถวสฺสวเสน ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปมปวารณาย ปวาริตา ลภนฺติ, ฉินฺนวสฺสา วา ปจฺฉิมิกาย อุปคตา วา น ลภนฺติ, อฺสฺมึ วิหาเร วุตฺถวสฺสาปิ น ลภนฺตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ปุริมิกาย อุปคตานํ ปน สพฺเพ คณปูรกา โหนฺติ, อานิสํสํ น ลภนฺติ, อานิสํโส อิตเรสํเยว โหติ. สเจ ปุริมิกาย อุปคตา จตฺตาโร วา โหนฺติ ตโย วา ทฺเว วา เอโก วา, อิตเร คณปูรเก กตฺวา กถินํ อตฺถริตพฺพํ. อถ จตฺตาโร ภิกฺขู อุปคตา, เอโก ปริปุณฺณวสฺโส สามเณโร, โส เจ ปจฺฉิมิกาย อุปสมฺปชฺชติ, คณปูรโก เจว โหติ, อานิสํสฺจ ลภติ. ตโย ภิกฺขู ทฺเว สามเณรา, ทฺเว ภิกฺขู ตโย สามเณรา, เอโก ภิกฺขุ จตฺตาโร สามเณราติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สเจ ปุริมิกาย อุปคตา กถินตฺถารกุสลา น โหนฺติ, อตฺถารกุสลา ขนฺธกภาณกเถรา ปริเยสิตฺวา อาเนตพฺพา. กมฺมวาจํ สาเวตฺวา กถินํ อตฺถราเปตฺวา ทานฺจ ภฺุชิตฺวา คมิสฺสนฺติ. อานิสํโส ปน อิตเรสํเยว โหติ.
กถินํ ¶ เกน ทินฺนํ วฏฺฏติ? เยน เกนจิ เทเวน วา มนุสฺเสน วา ปฺจนฺนํ วา สหธมฺมิกานํ อฺตเรน ทินฺนํ วฏฺฏติ. กถินทายกสฺส วตฺตํ อตฺถิ, สเจ โส ตํ อชานนฺโต ปุจฺฉติ – ‘‘ภนฺเต กถํ กถินํ ทาตพฺพ’’นฺติ ตสฺส เอวํ อาจิกฺขิตพฺพํ – ‘‘ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรปฺปโหนกํ สูริยุคฺคมนสมเย วตฺถํ ‘กถินจีวรํ เทมา’ติ ทาตุํ วฏฺฏติ ¶ , ตสฺส ปริกมฺมตฺถํ ¶ เอตฺตกา นาม สูจิโย, เอตฺตกํ สุตฺตํ, เอตฺตกํ รชนํ, ปริกมฺมํ กโรนฺตานํ เอตฺตกานํ ภิกฺขูนํ ยาคุภตฺตฺจ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ.
กถินตฺถารเกนาปิ ธมฺเมน สเมน อุปฺปนฺนํ กถินํ อตฺถรนฺเตน วตฺตํ ชานิตพฺพํ. ตนฺตวายเคหโต หิ อาภตสนฺตาเนเนว ขลิมกฺขิตสาฏโก น วฏฺฏติ, มลีนสาฏโกปิ น วฏฺฏติ, ตสฺมา กถินตฺถารสาฏกํ ลภิตฺวา สุฏฺุ โธวิตฺวา สูจิอาทีนิ จีวรกมฺมูปกรณานิ สชฺเชตฺวา พหูหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ตทเหว สิพฺพิตฺวา นิฏฺิตสูจิกมฺมํ รชิตฺวา กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา กถินํ อตฺถริตพฺพํ. สเจ ตสฺมึ อนตฺถเตเยว อฺํ กถินสาฏกํ อาหรติ, อฺานิ จ พหูนิ กถินานิสํสวตฺถานิ เทติ, โย อานิสํสํ พหุํ เทติ, ตสฺส สนฺตเกเนว อตฺถริตพฺพํ. อิตโร ยถา ตถา โอวทิตฺวา สฺาเปตพฺโพ.
กถินํ ปน เกน อตฺถริตพฺพํ? ยสฺส สงฺโฆ กถินจีวรํ เทติ. สงฺเฆน ปน กสฺส ทาตพฺพํ? โย ชิณฺณจีวโร โหติ. สเจ พหู ชิณฺณจีวรา โหนฺติ, วุฑฺฒสฺส ทาตพฺพํ. วุฑฺเฒสุปิ โย มหาปริโส ตทเหว จีวรํ กตฺวา อตฺถริตุํ สกฺโกติ, ตสฺส ทาตพฺพํ. สเจ วุฑฺโฒ น สกฺโกติ นวกตโร สกฺโกติ, ตสฺส ทาตพฺพํ. อปิจ สงฺเฆน มหาเถรสฺส สงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘ตุมฺเห ภนฺเต คณฺหถ, มยํ กตฺวา ทสฺสามา’’ติ วตฺตพฺพํ. ตีสุ จีวเรสุ ยํ ชิณฺณํ โหติ, ตทตฺถาย ทาตพฺพํ. ปกติยา ทุปฏฺฏจีวรสฺส ทุปฏฺฏตฺถาเยว ทาตพฺพํ. สเจปิสฺส เอกปฏฺฏจีวรํ ฆนํ โหติ, กถินสาฏโก จ เปลโว, สารุปฺปตฺถาย ทุปฏฺฏปฺปโหนกเมว ทาตพฺพํ, ‘‘อหํ อลภนฺโต เอกปฏฺฏํ ปารุปามี’’ติ วทนฺตสฺสาปิ ทุปฏฺฏํ ทาตุํ วฏฺฏติ. โย ปน โลภปกติโก โหติ, ตสฺส น ทาตพฺพํ. เตนาปิ ‘‘กถินํ อตฺถริตฺวา ปจฺฉา สิพฺพิตฺวา ทฺเว จีวรานิ กริสฺสามี’’ติ น คเหตพฺพํ. ยสฺส ปน ทียติ, ตสฺส เยน วิธินา ทาตพฺพํ, ตํ ¶ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวฺจ ปน ภิกฺขเว กถินํ อตฺถริตพฺพ’’นฺติ อารภิตฺวา สุณาตุ เม ภนฺเตติอาทิกา ทานกมฺมวาจา ตาว วุตฺตา.
เอวํ ทินฺเน ปน กถิเน สเจ ตํ กถินทุสฺสํ นิฏฺิตปริกมฺมเมว โหติ ¶ , อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ นิฏฺิตปริกมฺมํ โหติ, ‘‘อหํ เถโร’’ติ วา ‘‘พหุสฺสุโต’’ติ วา เอเกนาปิ อกาตุํ น ลพฺภติ, สพฺเพเหว สนฺนิปติตฺวา โธวนสิพฺพนรชนานิ นิฏฺาเปตพฺพานิ. อิทฺหิ กถินวตฺตํ นาม พุทฺธปฺปสตฺถํ. อตีเต ปทุมุตฺตโรปิ ภควา กถินวตฺตํ อกาสิ. ตสฺส กิร อคฺคสาวโก สุชาตตฺเถโร นาม กถินํ คณฺหิ, ตํ สตฺถา อฏฺสฏฺิยา ภิกฺขุสตสหสฺเสหิ สทฺธึ นิสีทิตฺวา อกาสิ.
กตปริโยสิตํ ¶ ปน กถินํ คเหตฺวา อตฺถารเกน ภิกฺขุนา ‘‘สเจ สงฺฆาฏิยา กถินํ อตฺถริตุกาโม โหติ, โปราณิกา สงฺฆาฏิ ปจฺจุทฺธริตพฺพา, นวา สงฺฆาฏิ อธิฏฺาตพฺพา. ‘อิมาย สงฺฆาฏิยา กถินํ อตฺถรามี’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา’’ติอาทินา ปริวาเร วุตฺตวิธาเนน กถินํ อตฺถริตพฺพํ. อตฺถริตฺวา จ ปน ‘‘เตน กถินตฺถารเกน ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อตฺถตํ ภนฺเต สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทถา’ติ เตหิ อนุโมทเกหิ ภิกฺขูหิ เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อตฺถตํ อาวุโส สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทามา’’ติ เอวมาทินา ปริวาเร วุตฺตวิธาเนเนว อนุโมทาเปตพฺพํ, อิตเรหิ จ อนุโมทิตพฺพํ. เอวํ สพฺเพสํ อตฺถตํ โหติ กถินํ. วุตฺตฺเหตํ ปริวาเร ‘‘ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ อตฺถตํ โหติ กถินํ – อตฺถารกสฺส จ อนุโมทกสฺส จา’’ติ (ปริ. ๔๐๓). ปุนปิ วุตฺตํ – ‘‘น สงฺโฆ กถินํ อตฺถรติ, น คโณ กถินํ อตฺถรติ, ปุคฺคโล กถินํ อตฺถรติ, สงฺฆสฺส อนุโมทนา คณสฺส อนุโมทนา ปุคฺคลสฺส อตฺถารา สงฺฆสฺส อตฺถตํ โหติ กถินํ, คณสฺส อตฺถตํ โหติ กถินํ, ปุคฺคลสฺส อตฺถตํ โหติ กถินํ’’ติ (ปริ. ๔๑๔).
เอวํ อตฺถเต ปน กถิเน สเจ กถินจีวเรน สทฺธึ อาภตํ อานิสํสํ ทายกา ‘‘เยน อมฺหากํ กถินํ คหิตํ, ตสฺเสว เทมา’’ติ เทนฺติ ¶ , ภิกฺขุสงฺโฆ อนิสฺสโร. อถ อวิจาเรตฺวาว ทตฺวา คจฺฉนฺติ, ภิกฺขุสงฺโฆ อิสฺสโร. ตสฺมา สเจ กถินตฺถารกสฺส เสสจีวรานิปิ ทุพฺพลานิ โหนฺติ, สงฺเฆน อปโลเกตฺวา เตสมฺปิ อตฺถาย วตฺถานิ ทาตพฺพานิ. กมฺมวาจา ปน เอกาเยว วฏฺฏติ. อวเสเส กถินานิสํเส พลววตฺถานิ ¶ วสฺสาวาสิกฏฺิติกาย ทาตพฺพานิ, ิติกาย อภาเว เถราสนโต ปฏฺาย ทาตพฺพานิ, ครุภณฺฑํ น ภาเชตพฺพํ. สเจ ปน เอกสีมาย พหู วิหารา โหนฺติ, สพฺเพ ภิกฺขู สนฺนิปาเตตฺวา เอกตฺถ กถินํ อตฺถริตพฺพํ, วิสุํ วิสุํ อตฺถริตุํ น วฏฺฏติ.
๓๐๘. อิทานิ ยถา จ กถินํ อตฺถตํ โหติ, ยถา จ อนตฺถตํ, ตํ วิธึ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ เอวฺจ ปน ภิกฺขเว อตฺถตํ โหติ กถินํ เอวํ อนตฺถตนฺติ วตฺวา อกรณียฺเจว มหาภูมิกฺจ อนตฺถตลกฺขณํ ตาว ทสฺเสนฺโต น อุลฺลิขิตมตฺเตนาติอาทิเก จตุวีสติ อากาเร ทสฺเสสิ. ตโต ปรํ อตฺถตลกฺขณํ ทสฺเสนฺโต อหเตน อตฺถตนฺติอาทิเก สตฺตรส อากาเร ทสฺเสสิ. ปริวาเรปิ หิ ‘‘จตุวีสติยา อากาเรหิ อนตฺถตํ โหติ กถินํ, สตฺตรสหิ อากาเรหิ อตฺถตํ โหติ กถิน’’นฺติ อิทเมว ลกฺขณํ วุตฺตํ.
ตตฺถ ¶ อุลฺลิขิตมตฺเตนาติ ทีฆโต จ ปุถุลโต จ ปมาณคฺคหณมตฺเตน. ปมาณฺหิ คณฺหนฺโต ตสฺส ตสฺส ปเทสสฺส สฺชานนตฺถํ นขาทีหิ วา ปริจฺเฉทํ ทสฺเสนฺโต อุลฺลิขติ, นลาฏาทีสุ วา ฆํสติ, ตสฺมา ตํ ปมาณคฺคหณํ ‘‘อุลฺลิขิตมตฺต’’นฺติ วุจฺจติ. โธวนมตฺเตนาติ กถินทุสฺสโธวนมตฺเตน. จีวรวิจารณมตฺเตนาติ ‘‘ปฺจกํ วา สตฺตกํ วา นวกํ วา เอกาทสกํ วา โหตู’’ติ เอวํ วิจาริตมตฺเตน. เฉทนมตฺเตนาติ ยถาวิจาริตสฺส วตฺถสฺส เฉทนมตฺเตน. พนฺธนมตฺเตนาติ โมฆสุตฺตกาโรปนมตฺเตน. โอวฏฺฏิยกรณมตฺเตนาติ โมฆสุตฺตกานุสาเรน ทีฆสิพฺพิตมตฺเตน. กณฺฑุสกรณมตฺเตนาติ มุทฺธิยปตฺตพนฺธนมตฺเตน. ทฬฺหีกมฺมกรณมตฺเตนาติ ทฺเว จิมิลิกาโย เอกโต กตฺวา สิพฺพิตมตฺเตน. อถ วา ปมจิมิลิกา ฆเฏตฺวา ปิตา โหติ, กถินสาฏกํ ตสฺสา กุจฺฉิจิมิลิกํ กตฺวา สิพฺพิตมตฺเตนาติปิ อตฺโถ. มหาปจฺจริยํ ¶ ‘‘ปกติจีวรสฺส อุปสฺสยทาเนนา’’ติ วุตฺตํ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ปกติปตฺตพทฺธจีวรํ ทุปฏฺฏํ กาตุํ กุจฺฉิจิมิลิกํ อลฺลิยาปนมตฺเตนา’’ติ วุตฺตํ. อนุวาตกรณมตฺเตนาติ ปิฏฺิอนุวาตาโรปนมตฺเตน. ปริภณฺฑกรณมตฺเตนาติ กุจฺฉิอนอุวาตาโรปนมตฺเตน. โอวทฺเธยฺยกรณมตฺเตนาติ อาคนฺตุกปตฺตาโรปนมตฺเตน ¶ . กถินจีวรโต วา ปตฺตํ คเหตฺวา อฺสฺมึ อกถินจีวเร ปตฺตาโรปนมตฺเตน.
กมฺพลมทฺทนมตฺเตนาติ เอกวารํเยว รชเน ปกฺขิตฺเตน ทนฺตวณฺเณน ปณฺฑุปลาสวณฺเณน วา. สเจ ปน สกึ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา รตฺตมฺปิ สารุปฺปํ โหติ, วฏฺฏติ. นิมิตฺตกเตนาติ ‘‘อิมินา ทุสฺเสน กถินํ อตฺถริสฺสามี’’ติ เอวํ นิมิตฺตกเตน. เอตฺตกเมว หิ ปริวาเร วุตฺตํ. อฏฺกถาสุ ปน ‘‘อยํ สาฏโก สุนฺทโร, สกฺกา อิมินา กถินํ อตฺถริตุ’นฺติ เอวํ นิมิตฺตกมฺมํ กตฺวา ลทฺเธนา’’ติ วุตฺตํ. ปริกถากเตนาติ ‘‘กถินํ นาม ทาตุํ วฏฺฏติ, กถินทายโก พหุํ ปฺุํ ปสวตี’’ติ เอวํ ปริกถาย อุปฺปาทิเตน. กถินํ นาม อติอุกฺกฏฺํ วฏฺฏติ, มาตรมฺปิ วิฺาเปตุํ น วฏฺฏติ, อากาสโต โอติณฺณสทิสเมว วฏฺฏตีติ. กุกฺกุกเตนาติ ตาวกาลิเกน. สนฺนิธิกเตนาติ เอตฺถ ทุวิโธ สนฺนิธิ กรณสนฺนิธิ จ นิจยสนฺนิธิ จ. ตตฺถ ตทเหว อกตฺวา เปตฺวา กรณํ กรณสนฺนิธิ. สงฺโฆ อชฺช กถินทุสฺสํ ลภิตฺวา ปุนทิวเส เทติ, อยํ นิจยสนฺนิธิ.
นิสฺสคฺคิเยนาติ รตฺตินิสฺสคฺคิเยน. ปริวาเรปิ วุตฺตํ – ‘‘นิสฺสคฺคิยํ นาม กริยมาเน อรุณํ อุฏฺหตี’’ติ. อกปฺปกเตนาติ อนาทินฺนกปฺปพินฺทุนา. อฺตฺร สงฺฆาฏิยาติอาทีสุ เปตฺวา สงฺฆาฏิอุตฺตราสงฺคอนฺตรวาสเก อฺเน ปจฺจตฺถรณาทินา อตฺถตํ อนตฺถตํ โหตีติ. อฺตฺร ปฺจเกน วา อติเรกปฺจเกน วาติ ปฺจ วา อติเรกานิ วา ขณฺฑานิ กตฺวา มหามณฺฑลอฑฺฒมณฺฑลานิ ¶ ทสฺเสตฺวา กเตเนว วฏฺฏติ. เอวฺหิ สมณฺฑลิกตํ โหติ, ตํ เปตฺวา อฺเน อจฺฉินฺนเกน วา ทฺวตฺติจตุขณฺเฑน วา น วฏฺฏติ. อฺตฺร ปุคฺคลสฺส อตฺถาราติ ปุคฺคลสฺส อตฺถารํ เปตฺวา น อฺเน สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา อตฺถาเรน อตฺถตํ โหติ. นิสฺสีมฏฺโ อนุโมทตีติ พหิอุปจารสีมาย ิโต อนุโมทติ.
๓๐๙. อหเตนาติ ¶ อปริภุตฺเตน. อหตกปฺเปนาติ อหตสทิเสน เอกวารํ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา โธเตน. ปิโลติกายาติ หตวตฺถกสาฏเกน ¶ . ปํสุกูเลนาติ เตวีสติยา เขตฺเตสุ อุปฺปนฺนปํสุกูเลน. ปํสุกูลิกภิกฺขุนา โจฬกภิกฺขํ อาหิณฺฑิตฺวา ลทฺธโจฬเกหิ กตจีวเรนาติปิ กุรุนฺทิมหาปจฺจรีสุ วุตฺตํ. ปาปณิเกนาติ อาปณทฺวาเร ปติตปิโลติกํ คเหตฺวา กถินตฺถาย เทติ, เตนาปิ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตวิปลฺลาเสเนว เวทิตพฺพํ. อิมสฺมึ ปน าเน ‘‘สห กถินสฺส อตฺถารา กติ ธมฺมา ชายนฺตี’’ติอาทิ พหุอฏฺกถาสุ วุตฺตํ, ตํ สพฺพํ ปริวาเร ปาฬิอารูฬฺหเมว, ตสฺมา ตตฺถ อาคตนเยเนว เวทิตพฺพํ. น หิ เตน อิธ อวุจฺจมาเนน กถินตฺถารกสฺส กิฺจิ ปริหายติ.
๓๑๐. เอวํ กถินตฺถารํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อุพฺภารํ ทสฺเสตุํ กถฺจ ภิกฺขเว อุพฺภตํ โหติ กถินนฺติอาทิมาห. ตตฺถ มาติกาติ มาตโร; ชเนตฺติโยติ อตฺโถ. กถินุพฺภารฺหิ เอตา อฏฺ ชเนตฺติโย. ตาสุ ปกฺกมนํ อนฺโต อสฺสาติ ปกฺกมนนฺติกา. เอวํ เสสาปิ เวทิตพฺพา.
อาทายสตฺตกกถา
๓๑๑. น ปจฺเจสฺสนฺติ น ปุน อาคมิสฺสํ. เอตสฺมึ ปน ปกฺกมนนฺติเก กถินุทฺธาเร ปมํ จีวรปลิโพโธ ฉิชฺชติ, ปจฺฉา อาวาสปลิโพโธ. เอวํ ปกฺกมโต หิ จีวรปลิโพโธ อนฺโตสีมายเมว ฉิชฺชติ, อาวาสปลิโพโธ สีมาติกฺกเม. วุตฺตมฺปิ เจตํ ปริวาเร –
‘‘ปกฺกมนนฺติโก กถินุทฺธาโร, วุตฺโต อาทิจฺจพนฺธุนา;
เอตฺจ ตาหํ วิสฺสชฺชิสฺสํ, จีวรปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ;
ปจฺฉา อาวาสปลิโพโธ ฉิชฺชตี’’ติ. (ปริ. ๔๑๕);
จีวรํ อาทายาติ อกตจีวรํ อาทาย. พหิสีมคตสฺสาติ อฺํ สามนฺตวิหารํ คตสฺส. เอวํ โหตีติ ตสฺมึ วิหาเร เสนาสนผาสุกํ วา สหายสมฺปตฺตึ วา ทิสฺวา เอวํ โหติ ¶ . เอตสฺมึ ปน นิฏฺานนฺติเก กถินุทฺธาเร อาวาสปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ, โส หิ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ จิตฺเต อุปฺปนฺนมตฺเตเยว ฉิชฺชติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘นิฏฺานนฺติโก ¶ กถินุทฺธาโร, วุตฺโต อาทิจฺจพนฺธุนา;
เอตฺจ ตาหํ วิสฺสชฺชิสฺสํ, อาวาสปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ;
จีวเร นิฏฺิเต จีวรปลิโพโธ ฉิชฺชตี’’ติ.
เอเตน ¶ นเยน เสสมาติกาวิภชเนปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – ‘‘สนฺนิฏฺานนฺติเก ทฺเวปิ ปลิโพธา เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺสนฺติ จิตฺเต อุปฺปนฺนมตฺเตเยว เอกโต ฉิชฺชนฺตีติ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร, วุตฺโต อาทิจฺจพนฺธุนา;
เอตฺจ ตาหํ วิสฺสชฺชิสฺสํ, ทฺเว ปลิโพธา อปุพฺพํ อจริมํ ฉิชฺชนฺตี’’ติ.
เอวํ สพฺพกถินุทฺธาเรสุ ปลิโพธุปจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. โส ปน ยสฺมา อิมินา จ วุตฺตนเยน ปริวาเร จ อาคตภาเวน สกฺกา ชานิตุํ, ตสฺมา วิตฺถารโต น วุตฺโต. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขโป – นาสนนฺติเก อาวาสปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ, จีวเร นฏฺเ จีวรปลิโพโธ ฉิชฺชติ. ยสฺมา จีวเร นฏฺเ จีวรปลิโพโธ ฉิชฺชติ, ตสฺมา ‘‘นาสนนฺติโก’’ติ วุตฺตํ.
สวนนฺติเก จีวรปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ, ตสฺมา ตสฺส สห สวเนน อาวาสปลิโพโธ ฉิชฺชติ.
อาสาวจฺเฉทิเก อาวาสปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ. จีวราสาย อุปจฺฉินฺนาย จีวรปลิโพโธ ฉิชฺชติ. อยํ ปน ยสฺมา ‘‘อนาสาย ลภติ; อาสาย น ลภติ; ตสฺส เอวํ โหติ ‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’’นฺติอาทินา นเยน อิตเรหิ อุทฺธาเรหิ สทฺธึ โวมิสฺสกเทสโน อเนกปฺปเภโท โหติ, ตสฺมา ปรโต วิสุํ วิตฺถาเรตฺวา วุตฺโต, อิธ น วุตฺโต. อิธ ปน สวนนฺติกสฺส อนนฺตรํ สีมาติกฺกนฺติโก วุตฺโต. ตตฺถ จีวรปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ, ตสฺส พหิสีเม อาวาสปลิโพโธ ฉิชฺชติ. สหุพฺภาเร ทฺเว ปลิโพธา อปุพฺพํ อจริมํ ฉิชฺชนฺตีติ.
๓๑๖-๓๒๕. เอวํ ¶ ¶ อาทายวาเร สตฺตกถินุทฺธาเร ทสฺเสตฺวา ปุน สมาทายวาเรปิ วิปฺปกตจีวรสฺส อาทายสมาทายวาเรสุปิ ยถาสมฺภวํ เตเยว ทสฺสิตา. ตโต ปรํ อนฺโตสีมายํ ‘‘ปจฺเจสฺสํ น ปจฺเจสฺส’’นฺติ อิมํ วิธึ อนามสิตฺวาว ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ อิมเมว อามสิตฺวา อนธิฏฺิเตนา’’ติอาทินา นเยน จ เย เย ยุชฺชนฺติ, เต เต ทสฺสิตา. ตโต ปรํ ‘‘จีวราสาย ปกฺกมตี’’ติอาทินา นเยน อิตเรหิ สทฺธึ โวมิสฺสกนเยน อเนกกฺขตฺตุํ อาสาวจฺเฉทิกํ ทสฺเสตฺวา ปุน ทิสํคมิยวเสน จ ผาสุวิหาริกวเสน จ นิฏฺานนฺติเกสุ ยุชฺชมานา กถินุทฺธารา ทสฺสิตา. เอวํ ¶ ปเภทโต กถินุทฺธารํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เย เตน เตน กถินุทฺธาเรน ปลิโพธา ฉิชฺชนฺตีติ วุตฺตา, เตสํ ปฏิปกฺเข ทสฺเสนฺโต ทฺเวเม ภิกฺขเว กถินสฺส ปลิโพธาติอาทิมาห. ตตฺถ จตฺเตนาติ เยน จิตฺเตน โส อาวาโส จตฺโต โหติ, ตํ จตฺตํ นาม, เตน จตฺเตน. วนฺตมุตฺเตสุปิ เอเสว นโย. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
กถินกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. จีวรกฺขนฺธกํ
ชีวกวตฺถุกถา
๓๒๖. จีวรกฺขนฺธเก ¶ ¶ – ปทกฺขิณาติ เฉกา กุสลา. อภิสฏาติ อภิคตา. เกหิ อภิคตาติ? อตฺถิเกหิ อตฺถิเกหิ มนุสฺเสหิ; กรณตฺเถ ปน สามิวจนํ กตฺวา ‘‘อตฺถิกานํ อตฺถิกานํ มนุสฺสาน’’นฺติ วุตฺตํ. ปฺาสาย จ รตฺตึ คจฺฉตีติ ปฺาส กหาปเณ คเหตฺวา รตฺตึ คจฺฉติ. เนคโมติ กุฏุมฺพิยคโณ.
๓๒๗. สาลวตึ กุมารึ คณิกํ วุฏฺาเปสีติ นาครา ทฺเว สตสหสฺสานิ, ราชา สตสหสฺสนฺติ ตีณิ สตสหสฺสานิ, อฺฺจ อารามุยฺยานวาหนาทิปริจฺเฉทํ ทตฺวา วุฏฺาเปสุํ; คณิกฏฺาเน เปสุนฺติ อตฺโถ. ปฏิสเตน จ รตฺตึ คจฺฉตีติ รตฺตึ ปฏิสเตน คจฺฉติ. คิลานํ ปฏิเวเทยฺยนฺติ คิลานภาวํ ชานาเปยฺยํ. กตฺตรสุปฺเปติ ชิณฺณสุปฺเป.
๓๒๘. กา เม เทว มาตา, โก ปิตาติ กสฺมา ปุจฺฉิ? ตํ กิร อฺเ ราชทารกา กีฬนฺตา กลเห อุฏฺิเต ‘‘นิมฺมาติโก นิปฺปิติโก’’ติ วทนฺติ. ยถา จ อฺเสํ ทารกานํ ฉณาทีสุ จุฬมาตามหามาตาทโย กิฺจิ ปณฺณาการํ เปเสนฺติ, ตถา ตสฺส น โกจิ กิฺจิ เปเสติ. อิติ โส ตํ สพฺพํ จินฺเตตฺวา ‘‘นิมฺมาติโกเยว นุ โข อห’’นฺติ ชานนตฺถํ ‘‘กา เม เทว มาตา, โก ปิตา’’ติ ปุจฺฉิ.
ยนฺนูนาหํ สิปฺปํ สิกฺเขยฺยนฺติ ยํนูน อหํ เวชฺชสิปฺปํ สิกฺเขยฺยนฺติ จินฺเตสิ. ตสฺส กิร เอตทโหสิ – ‘‘อิมานิ โข หตฺถิอสฺสสิปฺปาทีนิ ปรูปฆาตปฏิสํยุตฺตานิ, เวชฺชสิปฺปํ เมตฺตาปุพฺพภาคํ สตฺตานํ หิตปฏิสํยุตฺต’’นฺติ. ตสฺมา เวชฺชสิปฺปเมว สนฺธาย ‘‘ยํนูนาหํ สิปฺปํ สิกฺเขยฺย’’นฺติ จินฺเตสิ. อปิจายํ อิโต กปฺปสตสหสฺสสฺส ¶ อุปริ ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต อุปฏฺากํ ‘‘พุทฺธุปฏฺาโก อย’’นฺติ จตุปริสนฺตเร ปตฺถตคุณํ เวชฺชํ ทิสฺวา ‘‘อโห วตาหมฺปิ เอวรูปํ านนฺตรํ ปาปุเณยฺย’’นฺติ จินฺเตตฺวา สตฺตาหํ พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ทานํ ทตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ¶ ‘‘อหมฺปิ ภควา ตุมฺหากํ ¶ อุปฏฺาโก อสุกเวชฺโช วิย อนาคเต พุทฺธุปฏฺาโก ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนมกาสิ. ตาย ปุริมปตฺถนาย โจทิยมาโนเปส เวชฺชสิปฺปเมว สนฺธาย ‘‘ยํนูนาหํ สิปฺปํ สิกฺเขยฺย’’นฺติ จินฺเตสิ.
๓๒๙. ทิสาปาโมกฺโขติ สพฺพทิสาสุ วิทิโต ปากโฏ ปธาโน วาติ อตฺโถ. ตสฺมิฺจ สมเย ตกฺกสีลโต วาณิชา อภยราชกุมารํ ทสฺสนาย อคมํสุ. เต ชีวโก ‘‘กุโต ตุมฺเห อาคตา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ตกฺกสีลโต’’ติ วุตฺเต ‘‘อตฺถิ ตตฺถ เวชฺชสิปฺปาจริโย’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อาม กุมาร, ตกฺกสีลายํ ทิสาปาโมกฺโข เวชฺโช ปฏิวสตี’’ติ สุตฺวา ‘‘เตน หิ ยทา คจฺฉถ, มยฺหํ อาโรเจยฺยาถา’’ติ อาห. เต ตถา อกํสุ. โส ปิตรํ อนาปุจฺฉา เตหิ สทฺธึ ตกฺกสีลํ อคมาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อภยํ ราชกุมารํ อนาปุจฺฉา’’ติอาทิ.
อิจฺฉามหํ อาจริย สิปฺปํ สิกฺขิตุนฺติ ตํ กิร อุปสงฺกมนฺตํ ทิสฺวา โส เวชฺโช ‘‘โกสิ ตฺวํ ตาตา’’ติ ปุจฺฉิ. โส ‘‘พิมฺพิสารมหาราชสฺส นตฺตา อภยกุมารสฺส ปุตฺโตมฺหี’’ติ อาห. ‘‘กสฺมา ปน ตฺวมสิ ตาต อิธาคโต’’ติ, ตโต โส ‘‘ตุมฺหากํ สนฺติเก สิปฺปํ สิกฺขิตุ’’นฺติ วตฺวา อิจฺฉามหํ อาจริย สิปฺปํ สิกฺขิตุนฺติ อาห. พหฺุจ คณฺหาตีติ ยถา อฺเ ขตฺติยกุมาราทโย อาจริยสฺส ธนํ ทตฺวา กิฺจิ กมฺมํ อกตฺวา สิกฺขนฺติเยว, น โส เอวํ. โส ปน กิฺจิ ธนํ อทตฺวา ธมฺมนฺเตวาสิโกว หุตฺวา เอกํ กาลํ อุปชฺฌายสฺส กมฺมํ กโรติ, เอกํ กาลํ สิกฺขติ. เอวํ สนฺเตปิ อภินีหารสมฺปนฺโน กุลปุตฺโต อตฺตโน เมธาวิตาย พหฺุจ คณฺหาติ, ลหฺุจ คณฺหาติ, สุฏฺุ จ อุปธาเรติ, คหิตฺจสฺส น สมฺมุสฺสติ.
สตฺต จ เม วสฺสานิ อธียนฺตสฺส นยิมสฺส สิปฺปสฺส อนฺโต ปฺายตีติ เอตฺถ อยํ กิร ชีวโก ยตฺตกํ อาจริโย ชานาติ, ยํ อฺเ โสฬสหิ วสฺเสหิ อุคฺคณฺหนฺติ, ตํ สพฺพํ สตฺตหิ วสฺเสหิ อุคฺคเหสิ ¶ . สกฺกสฺส ปน เทวรฺโ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ พุทฺธานํ อุปฏฺาโก อคฺควิสฺสาสโก ภวิสฺสติ, หนฺท นํ เภสชฺชโยชนํ สิกฺขาเปมี’’ติ อาจริยสฺส สรีเร อชฺฌาวสิตฺวา ยถา เปตฺวา กมฺมวิปากํ อวเสสโรคํ เอเกเนว เภสชฺชโยเคน ติกิจฺฉิตุํ สกฺโกติ, ตถา นํ เภสชฺชโยชนํ สิกฺขาเปสิ. โส ปน ‘‘อาจริยสฺส สนฺติเก สิกฺขามี’’ติ มฺติ, ตสฺมา ‘‘สมตฺโถ อิทานิ ชีวโก ติกิจฺฉิตุ’’นฺติ ¶ สกฺเกน วิสฺสฏฺมตฺเต เอวํ จินฺเตตฺวา อาจริยํ ปุจฺฉิ. อาจริโย ปน ‘‘น อิมินา มมานุภาเวน อุคฺคหิตํ, เทวตานุภาเวน อุคฺคหิต’’นฺติ ตฺวาว เตน หิ ภเณติอาทิมาห. สมนฺตา โยชนํ อาหิณฺฑนฺโตติ ¶ ทิวเส ทิวเส เอเกเกน ทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา จตฺตาโร ทิวเส อาหิณฺฑนฺโต. ปริตฺตํ ปาเถยฺยํ ปาทาสีติ อปฺปมตฺตกํ อทาสิ. กสฺมา? ตสฺส กิร เอตทโหสิ – ‘‘อยํ มหากุลสฺส ปุตฺโต คตมตฺโตเยว ปิติปิตามหานํ สนฺติกา มหาสกฺการํ ลภิสฺสติ, ตโต มยฺหํ วา สิปฺปสฺส วา คุณํ น ชานิสฺสติ, อนฺตรามคฺเค ปน ขีณปาเถยฺโย สิปฺปํ ปโยเชตฺวา อวสฺสํ มยฺหฺจ สิปฺปสฺส จ คุณํ ชานิสฺสตี’’ติ ปริตฺตํ ทาเปสิ.
เสฏฺิภริยาทิวตฺถุกถา
๓๓๐. ปสเตนาติ เอกหตฺถปุเฏน. ปิจุนาติ กปฺปาสปฏเลน. ยตฺรหิ นามาติ ยา นาม. กิมฺปิมายนฺติ กิมฺปิ เม อยํ. อุปชานาเมตสฺส สํยมสฺสาติ กตสฺส จ โรคูปสมสฺส จ อุปการํ ชานามาติ อธิปฺปาโย.
๓๓๑. สพฺพาลงฺการํ ตุยฺหํ โหตูติ ราชา กิร ‘‘สเจ อิมํ คณฺหิสฺสติ, ปมาณยุตฺเต าเน นํ เปสฺสามิ. สเจ น คณฺหิสฺสติ, อพฺภนฺตริกํ นํ วิสฺสาสกํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เอวมาห. อภยกุมารสฺสาปิ นาฏกานมฺปิ จิตฺตํ อุปฺปชฺชิ ‘‘อโห วต น คณฺเหยฺยา’’ติ. โสปิ เตสํ จิตฺตํ ตฺวา วิย ‘‘อิทํ เม เทว อยฺยิกานํ อาภรณํ, นยิทํ มยฺหํ คณฺหิตุํ ปติรูป’’นฺติ วตฺวา อลํ เทวาติอาทิมาห. อธิการํ เม เทโว สรตูติ กตสฺส อุปการํ เม เทโว สรตูติ อตฺโถ. ราชา ปสนฺโน สพฺพาการสมฺปนฺนํ เคหฺจ อมฺพวนุยฺยานฺจ อนุสํวจฺฉรํ สตสหสฺสอุฏฺานกํ คามฺจ มหาสกฺการฺจ ทตฺวา เตน หิ ภเณติอาทิมาห.
ราชคหเสฏฺิวตฺถุกถา
๓๓๒. สกฺขิสฺสสิ ¶ ปน ตฺวํ คหปตีติ กสฺมา อาห? อิริยาปถสมฺปริวตฺตเนน กิร มตฺถลุงฺคํ น สณฺาติ, อสฺส จ ตีหิ สตฺตาเหหิ นิจฺจลสฺส ¶ นิปนฺนสฺส มตฺถลุงฺคํ สณฺหิสฺสตีติ ตฺวา อปฺเปว นาม สตฺตสตฺตมาเส ปฏิชานิตฺวา สตฺตสตฺตทิวเสปิ นิปชฺเชยฺยาติ นํ เอวมาห. เตเนว ปรโต วุตฺตํ ‘‘อปิ จ ปฏิกจฺเจว มยา าโต’’ติ. สีสจฺฉวึ อุปฺปาเฏตฺวาติ สีสจมฺมํ อปเนตฺวา. สิพฺพินึ วินาเมตฺวาติ สิพฺพินึ วิวริตฺวา. นาหํ อาจริย สกฺโกมีติ ตสฺส กิร สรีเร มหาฑาโห อุปฺปชฺชิ, ตสฺมา เอวมาห. ตีหิ สตฺตาเหหีติ ตีหิ ปสฺเสหิ เอเกเกน สตฺตาเหน.
๓๓๓. ชนํ ¶ อุสฺสาเรตฺวาติ ชนํ นีหราเปตฺวา.
ปชฺโชตราชวตฺถุกถา
๓๓๔. เชคุจฺฉํ เม สปฺปีติ อยํ กิร ราชา วิจฺฉิกสฺส ชาโต, วิจฺฉิกวิสปฏิฆาตาย จ สปฺปิ เภสชฺชํ โหติ วิจฺฉิกานํ ปฏิกูลํ, ตสฺมา เอวมาห. อุทฺเทกํ ทสฺสตีติ อุคฺคารํ ทสฺสติ. ปฺาส โยชนิกา โหตีติ ปฺาส โยชนานิ คนฺตุํ สมตฺถา โหติ. น เกวลฺจสฺส รฺโ หตฺถินีเยว, นาฬาคิริ นาม หตฺถี โยชนสตํ คจฺฉติ, เจลกณฺโณ จ มฺุจเกโส จาติ ทฺเว อสฺสา วีสโยชนสตํ คจฺฉนฺติ, กาโก ทาโส สฏฺิโยชนานิ คจฺฉติ.
เอกสฺส กิร กุลปุตฺตสฺส อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ เอกทิวสํ ภฺุชิตุํ นิสินฺนสฺส ปจฺเจกพุทฺโธ ทฺวาเร ตฺวา อคมาสิ, ตสฺเสโก ปุริโส ‘‘ปจฺเจกพุทฺโธ อาคนฺตฺวา คโต’’ติ อาโรเจสิ. โส สุตฺวา ‘‘คจฺฉ, เวเคน ปตฺตํ อาหรา’’ติ อาหราเปตฺวา อตฺตโน สชฺชิตํ ภตฺตํ สพฺพํ ทตฺวา เปเสสิ. อิตโร ตํ อาหริตฺวา ปจฺเจกพุทฺธสฺส หตฺเถ เปตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต ตุมฺหากํ กเตน อิมินา กายเวยฺยาวติเกน ยตฺถ ยตฺถ นิพฺพตฺโตปิ วาหนสมฺปนฺโน โหมี’’ติ ปตฺถนํ อกาสิ. โส อยํ เอตรหิ ปชฺโชโต นาม ราชา ชาโต, ตาย ปตฺถนาย อยํ วาหนสมฺปตฺติ.
สปฺปึ ปาเยตฺวาติ สปฺปิฺจ ปาเยตฺวา; ปริจาริกานฺจ อาหาราจาเร วิธึ อาจิกฺขิตฺวา. นเขน เภสชฺชํ โอลุมฺเปตฺวาติ นเขน เภสชฺชํ โอทหิตฺวา; ปกฺขิปิตฺวาติ อตฺโถ. นิจฺฉาเรสีติ วิเรเจสิ.
สิเวยฺยกทุสฺสยุคกถา
๓๓๕. สิเวยฺยกํ ¶ นาม อุตฺตรกุรูสุ สิวถิกํ อวมงฺคลวตฺถํ. ตตฺถ กิร มนุสฺสา มตํ เตน วตฺเถน เวเตฺวา นิกฺขิปนฺติ, ตํ ¶ ‘‘มํสเปสี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา หตฺถิโสณฺฑกสกุณา อุกฺขิปิตฺวา หิมวนฺตกูเฏ เปตฺวา วตฺถํ อปเนตฺวา ขาทนฺติ. อถ วนจรกา วตฺถํ ทิสฺวา รฺโ อาหรนฺติ. เอวมิทํ ปชฺโชเตน ลทฺธํ. สิวิรฏฺเ กุสลา อิตฺถิโย ตีหิ อํสูหิ สุตฺตํ กนฺตนฺติ, เตน สุตฺเตน วายิตวตฺถํ เอตนฺติปิ วทนฺติ.
สมตฺตึสวิเรจนกถา
๓๓๖. สิเนเหถาติ ¶ กึ ปน ภควโต กาโย ลูโขติ น ลูโข? ภควโต หิ อาหาเร สทา เทวตา ทิพฺโพชํ ปกฺขิปนฺติ, สิเนหปานํ ปน สพฺพตฺถ โทเส เตเมติ, สิรา มุทุกา กโรติ, เตนายํ เอวมาห. ตีณิ อุปฺปลหตฺถานีติ เอกํ โอฬาริกโทสหรณตฺถํ, เอกํ มชฺฌิมโทสหรณตฺถํ, เอกํ สุขุมโทสหรณตฺถํ. นจิรสฺเสว ปกตตฺโต อโหสีติ เอวํ ปกตตฺเต ปน กาเย นาครา ทานํ สมฺปาเทสุํ. ชีวโก อาคนฺตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ภควา อชฺช นาครา ตุมฺหากํ ทานํ ทาตุกามา, มา อนฺโตคามํ ปิณฺฑาย ปวิสถา’’ติ. มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร จินฺเตสิ – ‘‘กุโต นุ โข อชฺช ภควโต ปมํ ปิณฺฑปาโต ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ. ตโต จินฺเตสิ – ‘‘โสโณ เสฏฺิปุตฺโต เขตฺตปริกมฺมโต ปฏฺาย อฺเหิ อสาธารณานํ ขีโรทกเสจนสํวทฺธานํ คนฺธสาลีนํ โอทนํ ภฺุชติ, ตโต ภควโต ปิณฺฑปาตํ อาหริสฺสามี’’ติ อิทฺธิยา คนฺตฺวา ตสฺส ปาสาทตเล อตฺตานํ ทสฺเสสิ. โส เถรสฺส ปตฺตํ คเหตฺวา ปณีตํ ปิณฺฑปาตํ อทาสิ. เถรสฺส จ คมนาการํ ทิสฺวา ‘‘ภฺุชถ ภนฺเต’’ติ อาห. เถโร ตมตฺถํ อาโรเจสิ ‘‘ภฺุชถ ภนฺเต, อหํ อฺํ ภควโต ทสฺสามี’’ติ เถรํ โภเชตฺวา คนฺเธหิ ปตฺตํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา ปิณฺฑปาตสฺส ปูเรตฺวา อทาสิ, ตํ เถโร อาหริตฺวา ภควโต อทาสิ.
ราชาปิ โข พิมฺพิสาโร ‘‘อชฺช ภควา กึ ภฺุชิสฺสตี’’ติ วิหารํ อาคนฺตฺวา ปวิสมาโนว ปิณฺฑปาตคนฺธํ ฆายิตฺวา ภฺุชิตุกาโม อโหสิ ¶ . ภควโต ¶ ทฺวีสุเยว ปิณฺฑปาเตสุ ภาชนคเตสุ เทวตา โอชํ ปกฺขิปึสุ – ยฺจ สุชาตา อทาสิ; ยฺจ ปรินิพฺพานกาเล จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต; อฺเสุ กพเฬ กพเฬ ปกฺขิปึสุ, ตสฺมา ภควา รฺโ อิจฺฉํ ชานิตฺวา อปกฺขิตฺโตชเมว โถกํ ปิณฺฑปาตํ รฺโ ทาเปสิ. โส ปริภฺุชิตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘กึ ภนฺเต, อุตฺตรกุรุโต อาภตํ โภชน’’นฺติ? ‘‘น มหาราช, อุตฺตรกุรุโต; อปิจ โข ตเวว รฏฺวาสิโน คหปติปุตฺตสฺส โภชนํ เอต’’นฺติ วตฺวา โสณสฺส สมฺปตฺตึ อาจิกฺขิ. ตํ สุตฺวา ราชา โสณํ ทฏฺุกาโม หุตฺวา จมฺมกฺขนฺธเก วุตฺตนเยน อสีติยา กุลปุตฺตสหสฺเสหิ สทฺธึ โสณสฺส อาคมนํ อกาสิ. เต ภควโต ธมฺมเทสนํ สุตฺวา โสตาปนฺนา ชาตา. โสโณ ปน ปพฺพชิตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺิโต. ภควาปิ เอตทตฺถเมว รฺโ ปิณฺฑปาตํ ทาเปสิ.
วรยาจนกถา
๓๓๗. เอวํ ¶ กตภตฺตกิจฺเจ ภควติ อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ ตํ สิเวยฺยกํ ทุสฺสยุคํ อาทาย…เป… เอตทโวจ. อติกฺกนฺตวราติ เอตฺถ วินิจฺฉโย มหาขนฺธเก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ภควา ภนฺเต ปํสุกูลิโก ภิกฺขุสงฺโฆ จาติ ภควโต หิ พุทฺธตฺตํ ปตฺตโต ปฏฺาย ยาว อิทํ วตฺถํ, เอตฺถนฺตเร วีสติ วสฺสานิ น โกจิ คหปติจีวรํ สาทิยิ, สพฺเพ ปํสุกูลิกาว อเหสุํ. เตนายํ เอวมาห. คหปติจีวรนฺติ คหปตีหิ ทินฺนจีวรํ. ธมฺมิยา กถายาติ วตฺถทานานิสํสปฏิสํยุตฺตาย กถาย. อิตรีตเรนาปีติ อปฺปคฺเฆนปิ มหคฺเฆนปิ; เยน เกนจีติ อตฺโถ. ปาวาโรติ สโลมโก กปฺปาสาทิเภโท. อนุชานามิ ภิกฺขเว โกชวนฺติ เอตฺถ ปกติโกชวเมว วฏฺฏติ, มหาปิฏฺิยโกชวํ น วฏฺฏติ. มหาปิฏฺิยโกชวนฺติ อุณฺณามโย ปาวารสทิโส โกชโว.
กมฺพลานุชานนาทิกถา
๓๓๘. กาสิราชาติ กาสีนํ ราชา; ปเสนทิสฺส เอกปิติกภาตา เอส. อฑฺฒกาสิยนฺติ เอตฺถ กาสีติ สหสฺสํ วุจฺจติ ตํ อคฺฆนโก กาสิโย ¶ . อยํ ปน ปฺจสตานิ อคฺฆติ, ตสฺมา ‘‘อฑฺฒกาสิโย’’ติ วุตฺโต. เตเนวาห – ‘‘อุปฑฺฒกาสีนํ ขมมาน’’นฺติ.
๓๓๙. อุจฺจาวจานีติ สุนฺทรานิ จ อสุนฺทรานิ จ. ภงฺคํ ¶ นาม โขมาทีหิ ปฺจหิ สุตฺเตหิ มิสฺเสตฺวา กตํ; วากมยเมวาติปิ วทนฺติ.
๓๔๐. เอกํเยว ภควตา จีวรํ อนฺุาตํ น ทฺเวติ เต กิร อิตรีตเรน จีวเรนาติ เอตสฺส ‘‘คหปติเกน วา ปํสุกูเลน วา’’ติ เอวํ อตฺถํ สลฺลกฺขึสุ. นาคเมสุนฺติ ยาว เต สุสานโต อาคจฺฉนฺติ, ตาว เต น อจฺฉึสุ; ปกฺกมึสุเยว. นากามา ภาคํ ทาตุนฺติ น อนิจฺฉาย ทาตุํ; ยทิ ปน อิจฺฉนฺติ, ทาตพฺโพ. อาคเมสุนฺติ อุปจาเร อจฺฉึสุ. เตนาห ภควา อาห – ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว อาคเมนฺตานํ อกามา ภาคํ ทาตุ’’นฺติ. ยทิ ปน มนุสฺสา ‘‘อิธาคตา เอว คณฺหนฺตู’’ติ เทนฺติ, สฺาณํ วา กตฺวา คจฺฉนฺติ ‘‘สมฺปตฺตา คณฺหนฺตู’’ติ สมฺปตฺตานํ สพฺเพสมฺปิ ปาปุณนฺติ. สเจ ฉฑฺเฑตฺวา คตา, เยน คหิตํ, โส เอว สามี. สทิสา สุสานํ โอกฺกมึสูติ สพฺเพ สมํ โอกฺกมึสุ; เอกทิสาย วา โอกฺกมึสูติปิ ¶ อตฺโถ. เต กติกํ กตฺวาติ ลทฺธํ ปํสุกูลํ สพฺเพ ภาเชตฺวา คณฺหิสฺสามาติ พหิเมว กติกํ กตฺวา.
๓๔๒. จีวรปฏิคฺคาหกนฺติ โย คหปติเกหิ สงฺฆสฺส ทียมานํ จีวรํ คณฺหาติ. โย น ฉนฺทาคตึ คจฺเฉยฺยาติอาทีสุ จีวรปฏิคฺคาหเกสุ ปจฺฉา อาคตานมฺปิ อตฺตโน าตกาทีนํ ปมตรํ ปฏิคฺคณฺหนฺโต วา เอกจฺจสฺมึ เปมํ ทสฺเสตฺวา คณฺหนฺโต วา โลภปกติกตาย อตฺตโน ปริณาเมนฺโต วา ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ นาม. ปมตรํ อาคตสฺสาปิ โกธวเสน ปจฺฉา คณฺหนฺโต วา ทุคฺคตมนุสฺเสสุ อวมฺํ กตฺวา คณฺหนฺโต วา ‘‘กึ โว ฆเร ปโนกาโส นตฺถิ, ตุมฺหากํ สนฺตกํ คเหตฺวา คจฺฉถา’’ติ เอวํ สงฺฆสฺส ลาภนฺตรายํ กโรนฺโต วา โทสาคตึ คจฺฉติ นาม. โย ปน มุฏฺสฺสติ อสมฺปชาโน, อยํ โมหาคตึ คจฺฉติ นาม. ปจฺฉา อาคตานมฺปิ อิสฺสรานมฺปิ ภเยน ปมตรํ ปฏิคฺคณฺหนฺโต วา ‘‘จีวรปฏิคฺคาหกฏฺานํ นาเมตํ ภาริย’’นฺติ สนฺตสนฺโต วา ภยาคตึ คจฺฉติ ¶ นาม. ‘‘มยา อิทฺจิทฺจ คหิตํ, อิทฺจึทฺจ น คหิต’’นฺติ เอวํ ชานนฺโต คหิตาคหิตํ ชานาติ นาม. ตสฺมา โย น ฉนฺทาคติอาทิวเสน คจฺฉติ, าตกอฺาตกอฑฺฒทุคฺคเตสุ วิเสสํ อกตฺวา ¶ อาคตปอปาฏิยา คณฺหาติ, สีลาจารปฏิปตฺติยุตฺโต โหติ, สติมา เมธาวี พหุสฺสุโต, สกฺโกติ ทายกานํ วิสฺสฏฺวาจาย ปริมณฺฑเลหิ ปทพฺยฺชเนหิ อนุโมทนํ กโรนฺโต ปสาทํ ชเนตุํ, เอวรูโป สมฺมนฺนิตพฺโพ.
เอวฺจ ปน ภิกฺขเว สมฺมนฺนิตพฺโพติ เอตฺถ ปน เอตาย ยถาวุตฺตาย กมฺมวาจายปิ อปโลกเนนาปิ อนฺโตวิหาเร สพฺพสงฺฆมชฺเฌปิ ขณฺฑสีมายปิ สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏติเยว. เอวํ สมฺมเตน จ วิหารปจฺจนฺเต วา ปธานฆเร วา น อจฺฉิตพฺพํ. ยตฺถ ปน อาคตาคตา มนุสฺสา สุขํ ปสฺสนฺติ, ตาทิเส ธุรวิหารฏฺาเน พีชนึ ปสฺเส เปตฺวา สุนิวตฺเถน สุปารุเตน นิสีทิตพฺพนฺติ.
ตตฺเถว อุชฺฌิตฺวาติ ‘‘ปฏิคฺคหณเมว อมฺหากํ ภาโร’’ติ วตฺวา คหิตฏฺาเนเยว ฉฑฺเฑตฺวา คจฺฉนฺติ. จีวรนิทหกนฺติ จีวรปฏิสามกํ. โย น ฉนฺทาคตึ คจฺเฉยฺยาติอาทีสุ เจตฺถ อิโต ปรฺจ สพฺพตฺถ วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. สมฺมุติวินิจฺฉโยปิ กถิตานุสาเรเนว ชานิตพฺโพ.
ภณฺฑาคารสมฺมุติอาทิกถา
๓๔๓. วิหารํ ¶ วาติอาทีสุ โย อารามมชฺเฌ อารามิกสามเณราทีหิ อวิวิตฺโต สพฺเพสํ สโมสรณฏฺาเน วิหาโร วา อฑฺฒโยโค วา โหติ, โส สมฺมนฺนิตพฺโพ. ปจฺจนฺตเสนาสนํ ปน น สมฺมนฺนิตพฺพํ. อิทํ ปน ภณฺฑาคารํ ขณฺฑสีมํ คนฺตฺวา ขณฺฑสีมาย นิสินฺเนหิ สมฺมนฺนิตุํ น วฏฺฏติ, วิหารมชฺเฌเยว สมฺมนฺนิตพฺพํ.
คุตฺตาคุตฺตฺจ ชาเนยฺยาติ เอตฺถ ยสฺส ตาว ฉทนาทีสุ โกจิ โทโส นตฺถิ, ตํ คุตฺตํ. ยสฺส ปน ฉทนติณํ วา ฉทนิฏฺกา วา ยตฺถ กตฺถจิ ปติตา, เยน โอวสฺสติ วา, มูสิกาทีนํ ¶ วา ปเวโส โหติ, ภิตฺติอาทีสุ วา กตฺถจิ ฉิทฺทํ โหติ, อุปจิกา วา อุฏฺหนฺติ, ตํ สพฺพํ อคุตฺตํ นาม. ตํ สลฺลกฺเขตฺวา ปฏิสงฺขริตพฺพํ. สีตสมเย ทฺวารฺจ วาตปานฺจ สุปิหิตํ กาตพฺพํ, สีเตน หิ จีวรานิ กณฺณกิตานิ โหนฺติ. อุณฺหสมเย อนฺตรนฺตรา วาตปฺปเวสนตฺถํ วิวริตพฺพํ. เอวํ กโรนฺโต หิ คุตฺตาคุตฺตํ ชานาติ นาม.
อิเมหิ ¶ ปน จีวรปฏิคฺคาหกาทีหิ ตีหิปิ อตฺตโน วตฺตํ ชานิตพฺพํ. ตตฺถ จีวรปฏิคฺคาหเกน ตาว ยํ ยํ มนุสฺสา ‘‘กาลจีวร’’นฺติ วา ‘‘อกาลจีวร’’นฺติ วา ‘‘อจฺเจกจีวร’’นฺติ วา ‘‘วสฺสิกสาฏิก’’นฺติ วา ‘‘นิสีทน’’นฺติ วา ‘‘ปจฺจตฺถรณ’’นฺติ วา ‘‘มุขปฺุฉนโจฬ’’นฺติ วา เทนฺติ, ตํ สพฺพํ เอกราสึ กตฺวา มิสฺเสตฺวา น คณฺหิตพฺพํ, วิสุํ วิสุํ กตฺวาว คณฺหิตฺวา จีวรนิทหกสฺส ตเถว อาจิกฺขิตฺวา ทาตพฺพํ. จีวรนิทหเกนาปิ ภณฺฑาคาริกสฺส ททมาเนน อิทํ กาลจีวรํ…เป… อิทํ มุขปฺุฉนโจฬนฺติ อาจิกฺขิตฺวาว ทาตพฺพํ. ภณฺฑาคาริเกนาปิ ตเถว วิสุํ วิสุํ วิย สฺาณํ กตฺวา เปตพฺพํ. ตโต สงฺเฆน ‘‘กาลจีวรํ อาหรา’’ติ วุตฺเต กาลจีวรเมว ทาตพฺพํ…เป… มุขปฺุฉนโจฬกํ อาหราติ วุตฺเต ตเทว ทาตพฺพํ.
อิติ ภควตา จีวรปฏิคฺคาหโก อนฺุาโต, จีวรนิทหโก อนฺุาโต, ภณฺฑาคารํ อนฺุาตํ, ภณฺฑาคาริโก อนฺุาโต, น พาหุลิกตาย น อสนฺตุฏฺิยา; อปิจ โข สงฺฆสฺสานุคฺคหาย. สเจ หิ อาหฏาหฏํ คเหตฺวา ภิกฺขู ภาเชยฺยุํ, เนว อาหฏํ น อนาหฏํ น ทินฺนํ นาทินฺนํ น ลทฺธํ นาลทฺธํ ชาเนยฺยุํ, อาหฏาหฏํ เถราสเน วา ทเทยฺยุํ, ขณฺฑาขณฺฑํ วา ฉินฺทิตฺวา คณฺเหยฺยุํ; เอวํ สติ อยุตฺตปริโภโค จ โหติ, น จ สพฺเพสํ สงฺคโห กโต โหติ. ภณฺฑาคาเร ปน จีวรํ เปตฺวา อุสฺสนฺนกาเล เอเกกสฺส ภิกฺขุโน ติจีวรํ วา ทฺเว ทฺเว วา ¶ เอเกกํ วา จีวรํ ทสฺสนฺติ, ลทฺธาลทฺธํ ชานิสฺสนฺติ, อลทฺธภาวํ ตฺวา สงฺคหํ กาตุํ มฺิสฺสนฺตีติ.
น ภิกฺขเว ภณฺฑาคาริโก วุฏฺาเปตพฺโพติ เอตฺถ อฺเปิ อวุฏฺาปนียา ชานิตพฺพา. จตฺตาโร หิ น วุฏฺาเปตพฺพา – วุฑฺฒตโร ¶ , ภณฺฑาคาริโก, คิลาโน, สงฺฆโต ลทฺธเสนาสโนติ. ตตฺถ วุฑฺฒตโร อตฺตโน วุฑฺฒตาย นวกตเรน น วุฏฺาเปตพฺโพ, ภณฺฑาคาริโก สงฺเฆน สมฺมนฺนิตฺวา ภณฺฑาคารสฺส ทินฺนตาย, คิลาโน อตฺตโน คิลานตาย, สงฺโฆ ปน พหุสฺสุตสฺส อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีหิ พหุปการสฺส ภารนิตฺถารกสฺส ผาสุกํ อาวาสํ อนุฏฺาปนียํ กตฺวา เทติ, ตสฺมา โส อุปการตาย จ สงฺฆโต ลทฺธตาย จ น วุฏฺาเปตพฺโพติ.
อุสฺสนฺนํ ¶ โหตีติ พหุ ราสิกตํ โหติ, ภณฺฑาคารํ น คณฺหาติ. สมฺมุขีภูเตนาติ อนฺโตอุปจารสีมายํ ิเตน. ภาเชตุนฺติ กาลํ โฆเสตฺวา ปฏิปาฏิยา ภาเชตุํ. โกลาหลํ อกาสีติ ‘‘อมฺหากํ อาจริยสฺส เทถ, อุปชฺฌายสฺส เทถา’’ติ เอวํ มหาสทฺทํ อกาสิ. จีวรภาชนกงฺเคสุ สภาคานํ ภิกฺขูนํ อปาปุณนฺตมฺปิ มหคฺฆํ จีวรํ เทนฺโต ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ นาม. อฺเสํ วุฑฺฒตรานํ ปาปุณนฺตมฺปิ มหคฺฆํ จีวรํ อทตฺวา อปฺปคฺฆํ เทนฺโต โทสาคตึ คจฺฉติ นาม. โมหมูฬฺโห จีวรทานวตฺตํ อชานนฺโต โมหาคตึ คจฺฉติ นาม. มุขรานํ นวกานมฺปิ ภเยน อปาปุณนฺตเมว มหคฺฆํ จีวรํ เทนฺโต ภยาคตึ คจฺฉติ นาม. โย เอวํ น คจฺฉติ, สพฺเพสํ ตุลาภูโต ปมาณภูโต มชฺฌตฺโต โหติ, โส สมฺมนฺนิตพฺโพ. ภาชิตาภาชิตนฺติ ‘‘เอตฺตกานิ วตฺถานิ ภาชิตานิ, เอตฺตกานิ อภาชิตานี’’ติ ชานนฺโต ‘‘ภาชิตาภาชิตฺจ ชาเนยฺยา’’ติ วุจฺจติ.
อุจฺจินิตฺวาติ ‘‘อิทํ ถูลํ, อิทํ สณฺหํ, อิทํ ฆนํ, อิทํ ตนุกํ, อิทํ ปริภุตฺตํ, อิทํ อปริภุตฺตํ, อิทํ ทีฆโต เอตฺตกํ ปุถุลโต เอตฺตก’’นฺติ เอวํ วตฺถานิ วิจินิตฺวา. ตุลยิตฺวาติ ‘‘อิทํ เอตฺตกํ อคฺฆติ, อิทํ เอตฺตก’’นฺติ เอวํ อคฺฆปริจฺเฉทํ กตฺวา. วณฺณาวณฺณํ กตฺวาติ สเจ สพฺเพสํ เอเกกเมว ทสคฺฆนกํ ปาปุณาติ, อิจฺเจตํ กุสลํ; โน เจ ปาปุณาติ, ยํ นว วา อฏฺ วา อคฺฆติ, ตํ อฺเน เอกอคฺฆนเกน จ ทฺวิอคฺฆนเกน จ สทฺธึ พนฺธิตฺวา เอเตน อุปาเยน สเม ปฏิวีเส เปตฺวาติ อตฺโถ. ภิกฺขู คเณตฺวา วคฺคํ พนฺธิตฺวาติ สเจ เอเกกสฺส ทิยมาเน ทิวโส นปฺปโหติ, ทส ทส ภิกฺขู ¶ คเณตฺวา ทส ทส จีวรปฏิวีเส เอกวคฺคํ พนฺธิตฺวา เอกํ ภณฺฑิกํ กตฺวา เอวํ จีวรปฏิวีสํ เปตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. เอวํ ปิเตสุ ¶ จีวรปฏิวีเสสุ กุโส ปาเตตพฺโพ. เตหิปิ ภิกฺขูหิ ปุน กุสปาตํ กตฺวา ภาเชตพฺพํ.
สามเณรานํ อุปฑฺฒปฏิวีสนฺติ เอตฺถ เย สามเณรา อตฺติสฺสรา ภิกฺขุสงฺฆสฺส กตฺตพฺพกมฺมํ น กโรนฺติ, อุทฺเทสปริปุจฺฉาสุ ยุตฺตา อาจริยุปชฺฌายานํเยว วตฺตปฏิปตฺตึ กโรนฺติ, อฺเสํ น กโรนฺติ, เอเตสํเยว อุปฑฺฒภาโค ทาตพฺโพ. เย ปน ปุเรภตฺตฺจ ปจฺฉาภตฺตฺจ ภิกฺขุสงฺฆสฺเสว กตฺตพฺพกิจฺจํ กโรนฺติ, เตสํ สมโก ทาตพฺโพ. อิทฺจ ปิฏฺิสมเย ¶ อุปฺปนฺเนน ภณฺฑาคาเร ปิเตน อกาลจีวเรเนว กถิตํ. กาลจีวรํ ปน สมกเมว ทาตพฺพํ. ตตฺรุปฺปาทวสฺสาวาสิกํ สมฺมฺุชนีพนฺธนาทิ สงฺฆสฺส ผาติกมฺมํ กตฺวา คเหตพฺพํ. เอตฺเหตฺถ สพฺเพสํ วตฺตํ. ภณฺฑาคาริกจีวเรปิ สเจ สามเณรา อาคนฺตฺวา ‘‘ภนฺเต มยํ ยาคุํ ปจาม, ภตฺตํ ปจาม, ขชฺชกํ ปจาม, อปฺปหริตกํ กโรม, ทนฺตกฏฺํ อาหราม, รงฺคฉลฺลึ กปฺปิยํ กตฺวา เทม, กึ อมฺเหหิ น กตํ นามา’’ติ อุกฺกุฏฺึ กโรนฺติ, สมภาโคว ทาตพฺโพ. เอตํ เย จ วิรชฺฌิตฺวา กโรนฺติ, เยสฺจ กรณภาโว น ปฺายติ, เต สนฺธาย วุตฺตํ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘สเจ สามเณรา ‘กสฺมา มยํ ภนฺเต สงฺฆกมฺมํ น กโรม, กริสฺสามา’ติ ยาจนฺติ, สมปฏิวีโส ทาตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ.
อุตฺตริตุกาโมติ นทึ วา กนฺตารํ วา อุตฺตริตุกาโม; สตฺถํ ลภิตฺวา ทิสา ปกฺกมิตุกาโมติ อตฺโถ. สกํ ภาคํ ทาตุนฺติ อิทํ ภณฺฑาคารโต จีวรานิ นีหริตฺวา ปฺุเช กเต ฆณฺฏิยา ปหฏาย ภิกฺขุสงฺเฆ สนฺนิปติเต สตฺถํ ลภิตฺวา คนฺตุกาโม ‘‘สตฺถโต มา ปริหายี’’ติ เอตมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตสฺมา อนีหเตสุ วา จีวเรสุ อปฺปหฏาย วา ฆณฺฏิยา อสนฺนิปติเต วา ¶ สงฺเฆ ทาตุํ น วฏฺฏติ. จีวเรสุ ปน นีหเตสุ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภิกฺขุสงฺเฆ สนฺนิปติเต จีวรภาชเกน ‘‘อิมสฺส ภิกฺขุโน โกฏฺาเสน เอตฺตเกน ภวิตพฺพ’’นฺติ ตกฺเกตฺวา นยคฺคาเหน จีวรํ ทาตพฺพํ. ตุลาย ตุลิตมิว หิ สมสมํ ทาตุํ น สกฺกา, ตสฺมา อูนํ วา โหตุ อธิกํ วา, เอวํ ตกฺเกน นเยน ทินฺนํ สุทินฺนํ. เนว อูนกํ ปุน ทาตพฺพํ, นาติริตฺตํ ปฏิคฺคณฺหิตพฺพนฺติ.
อติเรกภาเคนาติ ทส ภิกฺขู โหนฺติ, สาฏกาปิ ทเสว, เตสุ เอโก ทฺวาทส อคฺฆติ, เสสา ทสคฺฆนกา. สพฺเพสุ ทสคฺฆนกวเสน กุเส ปาติเต ยสฺส ภิกฺขุโน ทฺวาทสคฺฆนโก กุโส ปาติโต, โส ‘‘เอตฺตเกน มม จีวรํ ปโหตี’’ติ เตน อติเรกภาเคน คนฺตุกาโม โหติ. ภิกฺขู ‘‘อติเรกํ อาวุโส สงฺฆสฺส สนฺตก’’นฺติ วทนฺติ, ตํ สุตฺวา ภควา ‘‘สงฺฆิเก จ ¶ คณสนฺตเก จ อปฺปกํ นาม นตฺถิ, สพฺพตฺถ สํยโม กาตพฺโพ, คณฺหนฺเตนาปิ กุกฺกุจฺจายิตพฺพ’’นฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว อนุกฺเขเป ทินฺเน’’ติ อาห. ตตฺถ อนุกฺเขโป นาม ยํกิฺจิ อนุกฺขิปิตพฺพํ อนุปฺปทาตพฺพํ กปฺปิยภณฺฑํ; ยตฺตกํ ¶ ตสฺส ปฏิวีเส อธิกํ, ตตฺตเก อคฺฆนเก ยสฺมึ กิสฺมิฺจิ กปฺปิยภณฺเฑ ทินฺเนติ อตฺโถ.
วิกลเก โตเสตฺวาติ เอตฺถ จีวรวิกลกํ ปุคฺคลวิกลกนฺติ ทฺเว วิกลกา. จีวรวิกลกํ นาม สพฺเพสํ ปฺจ ปฺจ วตฺถานิ ปตฺตานิ, เสสานิปิ อตฺถิ, เอเกกํ ปน น ปาปุณาติ, ฉินฺทิตฺวา ทาตพฺพานิ. ฉินฺทนฺเตหิ จ อฑฺฒมณฺฑลาทีนํ วา อุปาหนตฺถวิกาทีนํ วา ปโหนกานิ ขณฺฑานิ กตฺวา ทาตพฺพานิ, เหฏฺิมปริจฺเฉเทน จตุรงฺคุลวิตฺถารมฺปิ อนุวาตปฺปโหนกายามํ ขณฺฑํ กตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ, อปริโภคํ ปน น กาตพฺพนฺติ เอวเมตฺถ จีวรสฺส อปฺปโหนกภาโว จีวรวิกลกํ. ฉินฺทิตฺวา ทินฺเน ปน ตํ โตสิตํ โหติ, อถ กุสปาโต กาตพฺโพ. สเจปิ เอกสฺส ภิกฺขุโน โกฏฺาเส เอกํ วา ทฺเว วา วตฺถานิ นปฺปโหนฺติ, ตตฺถ อฺํ สามณกํ ปริกฺขารํ เปตฺวา โย เตน ตุสฺสติ, ตสฺส ตํ ภาคํ ทตฺวา ปจฺฉา กุสปาโต กาตพฺโพ. อิทมฺปิ จีวรวิกลกนฺติ อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตํ.
ปุคฺคลวิกลกํ นาม ทส ทส ภิกฺขู คเณตฺวา วคฺคํ กโรนฺตานํ เอโก วคฺโค น ปูรติ, อฏฺ ¶ วา นว วา โหนฺติ, เตสํ อฏฺ วา นว วา โกฏฺาสา ‘‘ตุมฺเห อิเม คเหตฺวา วิสุํ ภาเชถา’’ติ ทาตพฺพา. เอวมยํ ปุคฺคลานํ อปฺปโหนกภาโว ปุคฺคลวิกลกํ. วิสุํ ทินฺเน ปน ตํ โตสิตํ โหติ, เอวํ โตเสตฺวา กุสปาโต กาตพฺโพติ. อถ วา วิกลเก โตเสตฺวาติ โย จีวรวิภาโค อูนโก, ตํ อฺเน ปริกฺขาเรน สมํ กตฺวา กุสปาโต กาตพฺโพ.
จีวรรชนกถา
๓๔๔. ฉกเณนาติ โคมเยน. ปณฺฑุมตฺติกายาติ ตมฺพมตฺติกาย. มูลรชนาทีสุ หลิทฺทึ เปตฺวา สพฺพํ มูลรชนํ วฏฺฏติ. มฺชิฏฺิฺจ ตุงฺคหารฺจ เปตฺวา สพฺพํ ขนฺธรชนํ วฏฺฏติ. ตุงฺคหาโร นาม เอโก สกณฺฏกรุกฺโข, ตสฺส หริตาลวณฺณํ ขนฺธรชนํ โหติ. โลทฺทฺจ กณฺฑุลฺจ เปตฺวา สพฺพํ ตจรชนํ วฏฺฏติ. อลฺลิปตฺตํ นีลิปตฺตฺจ เปตฺวา สพฺพํ ปตฺตรชนํ วฏฺฏติ. คิหิปริภุตฺตํ ปน อลฺลิปตฺเตน เอกวารํ รชิตุํ วฏฺฏติ. กึสุกปุปฺผฺจ กุสุมฺภปุปฺผฺจ เปตฺวา สพฺพํ ปุปฺผรชนํ วฏฺฏติ. ผลรชเน ปน น กิฺจิ น วฏฺฏติ.
สีตุทกาติ ¶ ¶ อปกฺกรชนํ วุจฺจติ. อุตฺตราฬุมฺปนฺติ วฏฺฏาธารกํ, รชนกุมฺภิยา มชฺเฌ เปตฺวา ตํ อาธารกํ ปริกฺขิปิตฺวา รชนํ ปกฺขิปิตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. เอวฺหิ กเต รชนํ น อุตฺตรติ. อุทเก วา นขปิฏฺิกาย วาติ สเจ ปริปกฺกํ โหติ, อุทกปาติยา ทินฺโน เถโว สหสา น วิสรติ, นขปิฏฺิยมฺปิ อวิสรนฺโต ติฏฺติ. รชนุฬุงฺกนฺติ รชนอุฬุงฺกํ. ทณฺฑกถาลกนฺติ ตเมว สทณฺฑกํ. รชนโกลมฺพนฺติ รชนกุณฺฑํ. โอมทฺทนฺตีติ สมฺมทฺทนฺติ. น จ อจฺฉินฺเน เถเว ปกฺกมิตุนฺติ ยาว รชนพินฺทุ คฬิตํ น ฉิชฺชติ, ตาว น อฺตฺร คนฺตพฺพํ. ปตฺถินฺนนฺติ อติรชิตตฺตา ถทฺธํ. อุทเก โอสาเรตุนฺติ อุทเก ปกฺขิปิตฺวา ¶ เปตุํ. รชเน ปน นิกฺขนฺเต ตํ อุทกํ ฉฑฺเฑตฺวา จีวรํ มทฺทิตพฺพํ. ทนฺตกาสาวานีติ เอกํ วา ทฺเว วา วาเร รชิตฺวา ทนฺตวณฺณานิ ธาเรนฺติ.
ฉินฺนกจีวรานุชานนกถา
๓๔๕. อจฺฉิพทฺธนฺติ จตุรสฺสเกทารกพทฺธํ. ปาฬิพทฺธนฺติ อายามโต จ วิตฺถารโต จ ทีฆมริยาทพทฺธํ. มริยาทพทฺธนฺติ อนฺตรนฺตรา รสฺสมริยาทพทฺธํ. สิงฺฆาฏกพทฺธนฺติ มริยาทาย มริยาทํ วินิวิชฺฌิตฺวา คตฏฺาเน สิงฺฆาฏกพทฺธํ; จตุกฺกสณฺานนฺติ อตฺโถ. สํวิทหิตุนฺติ กาตุํ. อุสฺสหสิ ตฺวํ อานนฺทาติ สกฺโกสิ ตฺวํ อานนฺท. อุสฺสหามิ ภควาติ ตุมฺเหหิ ทินฺนนเยน สกฺโกมีติ ทสฺเสติ. ยตฺร หิ นามาติ โย นาม. กุสิมฺปิ นามาติอาทีสุ กุสีติ อายามโต จ วิตฺถารโต จ อนุวาตาทีนํ ทีฆปตฺตานเมตํ อธิวจนํ. อฑฺฒกุสีติ อนฺตรนฺตรา รสฺสปตฺตานํ นามํ. มณฺฑลนฺติ ปฺจขณฺฑิกจีวรสฺส เอเกกสฺมึ ขณฺเฑ มหามณฺฑลํ. อฑฺฒมณฺฑลนฺติ ขุทฺทกมณฺฑลํ. วิวฏฺฏนฺติ มณฺฑลฺจ อฑฺฒมณฺฑลฺจ เอกโต กตฺวา สิพฺพิตํ มชฺฌิมขณฺฑํ.
อนุวิวฏฺฏนฺติ ตสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ ทฺเว ขณฺฑานิ. คีเวยฺยกนฺติ คีวาเวนฏฺาเน ทฬฺหีกรณตฺถํ อฺํ สุตฺตสํสิพฺพิตํ อาคนฺตุกปตฺตํ. ชงฺเฆยฺยกนฺติ ชงฺฆปาปุณนฏฺาเน ตเถว สํสิพฺพิตํ ปตฺตํ. คีวฏฺาเน จ ชงฺฆฏฺาเน จ ปตฺตานเมเวตํ นามนฺติปิ วทนฺติ. พาหนฺตนฺติ อนุวิวฏฺฏานํ พหิ เอเกกํ ขณฺฑํ. อิติ ปฺจขณฺฑิกจีวเรเนตํ วิจาริตนฺติ. อถ วา อนุวิวฏฺฏนฺติ วิวฏฺฏสฺส ¶ เอกปสฺสโต ทฺวินฺนํ เอกปสฺสโต ทฺวินฺนนฺติ จตุนฺนมฺปิ ขณฺฑานเมตํ นามํ. พาหนฺตนฺติ สุปฺปมาณํ จีวรํ ปารุปนฺเตน สํหริตฺวา พาหาย อุปริ ปิตา อุโภ อนฺตา พหิมุขา ติฏฺนฺติ, เตสํ เอตํ นามํ. อยเมว หิ นโย มหาอฏฺกถายํ วุตฺโตติ.
ติจีวรานุชานนกถา
๓๔๖. จีวเรหิ ¶ อุพฺภณฺฑิเกติ จีวเรหิ อุพฺภณฺเฑ กเต; ยถา อุกฺขิตฺตภณฺฑา ¶ โหนฺติ เอวํ กเต; อุกฺขิตฺตภณฺฑิกภาวํ อาปาทิเตติ อตฺโถ. จีวรภิสินฺติ เอตฺถ ภิสีติ ทฺเว ตีณิ เอกโต กตฺวา ภิสิสงฺเขเปน สํหริตจีวรานิ วุตฺตานิ. เต กิร ภิกฺขู ‘‘ทกฺขิณาคิริโต ภควา ลหุํ ปฏินิวตฺติสฺสตี’’ติ ตตฺถ คจฺฉนฺตา ชีวกวตฺถุสฺมึ ลทฺธจีวรานิ เปตฺวา อคมํสุ. อิทานิ ปน จิเรน อาคมิสฺสตีติ มฺมานา อาทาย ปกฺกมึสุ. อนฺตรฏฺกาสูติ มาฆสฺส จ ผคฺคุณสฺส จ อนฺตรา อฏฺสุ. น ภควนฺตํ สีตํ อโหสีติ ภควโต สีตํ นาโหสิ. เอตทโหสิ เยปิ โข เต กุลปุตฺตาติ น ภควา อชฺโฌกาเส อนิสีทิตฺวา เอตมตฺถํ น ชานาติ, มหาชนสฺาปนตฺถํ ปน เอวมกาสิ. สีตาลุกาติ สีตปกติกา; เย ปกติยาว สีเตน กิลมนฺติ. ทิคุณํ สงฺฆาฏินฺติ ทุปฏฺฏํ สงฺฆาฏึ. เอกจฺจิยนฺติ เอกปฏฺฏํ. อิติ ‘‘ภควา อตฺตนา จตูหิ จีวเรหิ ยาเปติ, อมฺหากํ ปน ติจีวรํ อนุชานาตี’’ติ วจนสฺส โอกาสํ อุปจฺฉินฺทิตุํ ทิคุณํ สงฺฆาฏึ อนุชานาติ, เอกจฺจิเก อิตเร. เอวฺหิ เนสํ จตฺตาริ ภวิสฺสนฺตีติ.
อติเรกจีวราทิกถา
๓๔๘. อคฺคฬํ อจฺฉุเปยฺยนฺติ ฉิทฺทฏฺาเน ปิโลติกขณฺฑํ ลคฺคาเปยฺยํ. อหตกปฺปานนฺติ เอกวารํ โธตานํ. อุตุทฺธฏานนฺติ อุตุโต ทีฆกาลโต อุทฺธฏานํ หตวตฺถกานํ, ปิโลติกานนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปาปณิเกติ อนฺตราปณโต ปติตปิโลติกจีวเร. อุสฺสาโห กรณีโยติ ปริเยสนา กาตพฺพา. ปริจฺเฉโท ปเนตฺถ นตฺถิ, ปฏฺฏสตมฺปิ วฏฺฏติ. สพฺพมิทํ สาทิยนฺตสฺส ภิกฺขุโน วเสน วุตฺตํ. อคฺคฬํ ตุนฺนนฺติ เอตฺถ อุทฺธริตฺวา อลฺลียาปนขณฺฑํ อคฺคฬํ, สุตฺเตน สํสิพฺพิตํ ตุนฺนํ; วฏฺเฏตฺวา กรณํ โอวฏฺฏิกํ ¶ . กณฺฑุสกํ วุจฺจติ มุทฺทิกา. ทฬฺหีกมฺมนฺติ อนุทฺธริตฺวาว อุปสฺสยํ กตฺวา อลฺลียาปนกํ วตฺถขณฺฑํ.
๓๔๙-๓๕๑. วิสาขาวตฺถุ อุตฺตานตฺถํ. ตโต ปรํ ปุพฺเพ วินิจฺฉิตเมว. โสวคฺคิกนฺติ สคฺคปฺปตฺตเหตุกํ. เตเนวาห ‘‘โสวคฺคิก’’นฺติ ¶ . โสกํ อปเนตีติ โสกนุทํ. อนามยาติ อโรคา. สคฺคมฺหิ กายมฺหีติ สคฺโคปปนฺนา.
๓๕๓. ปุถุชฺชนา กาเมสุ วีตราคาติ ฌานลาภิโน.
๓๕๖. สนฺทิฏฺโติ ¶ ทิฏฺมตฺตกมิตฺโต. สมฺภตฺโตติ เอกสมฺโภโค ทฬฺหมิตฺโต. อาลปิโตติ ‘‘มม สนฺตกํ ยํ อิจฺเฉยฺยาสิ, ตํ คณฺหาหี’’ติ เอวํ วุตฺโต. เอเตสุ ตีสุ อฺตรนาเมน สทฺธึ ชีวติ, คหิเต อตฺตมโน โหตีติ อิเมหิ คหิตวิสฺสาโส รุหติ.
ปจฺฉิมวิกปฺปนุปคจีวราทิกถา
๓๕๙. ปํสุกูลกโตติ กตปํสุกูโล. ครุโก โหตีติ ชิณฺณชิณฺณฏฺาเน อคฺคฬาโรปเนน ครุโก โหติ. สุตฺตลูขํ กาตุนฺติ สุตฺเตเนว อคฺคฬํ กาตุนฺติ อตฺโถ. วิกณฺโณ โหตีติ สุตฺตํ อจฺเฉตฺวา อจฺเฉตฺวา สิพฺพนฺตานํ เอโก สงฺฆาฏิโกโณ ทีโฆ โหติ. วิกณฺณํ อุทฺธริตุนฺติ ทีฆโกณํ ฉินฺทิตุํ. โอกิริยนฺตีติ ฉินฺนโกณโต คฬนฺติ. อนุวาตํ ปริภณฺฑนฺติ อนุวาตฺเจว ปริภณฺฑฺจ. ปตฺตา ลุชฺชนฺตีติ มหนฺเตสุ ปตฺตมุเขสุ ทินฺนานิ สุตฺตานิ คฬนฺติ, ตโต ปตฺตา ลุชฺชนฺติ. อฏฺปทกํ กาตุนฺติ อฏฺปทกจฺฉนฺเนน ปตฺตมุขํ สิพฺพิตุํ.
๓๖๐. อนฺวาธิกมฺปิ อาโรเปตุนฺติ อาคนฺตุกปตฺตมฺปิ ทาตุํ. อิทํ ปน อปฺปโหนเก อาโรเปตพฺพํ. สเจ ปโหติ, อาคนฺตุกปตฺตํ น วฏฺฏติ, ฉินฺทิตพฺพเมว.
๓๖๑. น จ ภิกฺขเว สทฺธาเทยฺยนฺติ เอตฺถ เสสาตีนํ เทนฺโต วินิปาเตติเยว. มาตาปิตโร ปน สเจ รชฺเช ิตา ปตฺถยนฺติ, ทาตพฺพํ.
๓๖๒. คิลาโนติ ¶ คิลานตาย คเหตฺวา คนฺตุํ อสมตฺโถ. วสฺสิกสงฺเกตนฺติ วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส. นทีปารนฺติ นทิยา ปาเร ภตฺตํ ภฺุชิตพฺพํ โหติ. อคฺคฬคุตฺติวิหาโรติ สพฺเพสฺเวว เจเตสุ คิลานวสฺสิกสงฺเกตนทีปารคมนอตฺถตกถินภาเวสุ อคฺคฬคุตฺติเยว ปมาณํ. คุตฺเต เอว หิ วิหาเร เอเตสุ การเณสุ นิกฺขิปิตฺวา พหิ คนฺตุํ วฏฺฏติ, น อคุตฺเต. อารฺกสฺส ปน วิหาโร น สุคุตฺโต โหติ, เตน ภณฺฑุกฺขลิกาย ปกฺขิปิตฺวา ปาสาณสุสิร รุกฺขสุสิราทีสุ ¶ สุปฺปฏิจฺฉนฺเนสุ เปตฺวา คนฺตพฺพํ.
สงฺฆิกจีวรุปฺปาทกถา
๓๖๓. ตุยฺเหว ภิกฺขุ ตานิ จีวรานีติ อฺตฺถ คเหตฺวา หฏานิปิ ตุยฺเหว; น เตสํ อฺโ โกจิ อิสฺสโรติ. เอวฺจ ปน วตฺวา อนาคเตปิ นิกฺกุกฺกุจฺจา คณฺหิสฺสนฺตีติ ทสฺเสตุํ ¶ อิธ ปนาติอาทิมาห. ตสฺเสว ตานิ จีวรานิ ยาว กถินสฺส อุพฺภาราติ สเจ คณปูรเก ภิกฺขู ลภิตฺวา กถินํ อตฺถตํ โหติ, ปฺจมาเส; โน เจ อตฺถตํ โหติ, เอกํ จีวรมาสเมว. ยํ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ วา เทนฺติ, ‘‘สงฺฆํ อุทฺทิสฺส เทมา’’ติ วา เทนฺติ, ‘‘วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส เทมา’’ติ วา เทนฺติ, ‘‘วสฺสาวาสิกํ เทมา’’ติ วา เทนฺติ, สเจปิ มตกจีวรํ อวิภชิตฺวา ตํ วิหารํ ปวิสนฺติ, ตํ สพฺพํ ตสฺเสว ภิกฺขุโน โหติ. ยมฺปิ โส วสฺสาวาสตฺถาย วฑฺฒึ ปโยเชตฺวา ปิตอุปนิกฺเขปโต วา ตตฺรุปฺปาทโต วา วสฺสาวาสิกํ คณฺหาติ, สพฺพํ สุคฺคหิตเมว โหติ. อิทเมตฺถ ลกฺขณํ, เยน เตนากาเรน สงฺฆสฺส อุปฺปนฺนํ วตฺถํ อตฺถตกถินสฺส ปฺจมาเส, อนตฺถตกถินสฺส เอกํ จีวรมาสํ ปาปุณาตีติ. ยํ ปน ‘‘อิทํ อิธ วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส เทมา’’ติ วา ‘‘วสฺสาวาสิกํ เทมา’’ติ วา วตฺวา ทินฺนํ, ตํ อนตฺถตกถินสฺสาปิ ปฺจมาเส ปาปุณาติ. ตโต ปรํ ปน อุปฺปนฺนํ วสฺสาวาสิกํ ปุจฺฉิตพฺพํ – ‘‘กึ อตีตวสฺเส อิทํ วสฺสาวาสิกํ, อุทาหุ อนาคตวสฺเส’’ติ! กสฺมา? ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนตฺตา.
อุตุกาลนฺติ วสฺสานโต อฺํ กาลํ. ตานิ จีวรานิ อาทาย สาวตฺถึ คนฺตฺวาติ เอตฺถ ตานิ จีวรานิ คตคตฏฺาเน สงฺฆิกาเนว โหนฺติ, ภิกฺขูหิ ทิฏฺมตฺตเมเวตฺถ ปมาณํ. ตสฺมา สเจ เกจิ ปฏิปถํ อาคจฺฉนฺตา ‘‘กุหึ ¶ อาวุโส คจฺฉสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘กึ อาวุโส มยํ สงฺโฆ น โหมา’’ติ ตตฺเถว ภาเชตฺวา คณฺหนฺติ, สุคฺคหิตานิ. สเจปิ เอส มคฺคา โอกฺกมิตฺวา กฺจิ วิหารํ วา อาสนสาลํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต เอกํ เคหเมว วา ปวิสติ, ตตฺร จ นํ ภิกฺขู ทิสฺวา ตมตฺถํ ปุจฺฉิตฺวา ภาเชตฺวา คณฺหนฺติ, สุคฺคหิตาเนว.
อธิฏฺาตุนฺติ เอตฺถ อธิฏฺหนฺเตน วตฺตํ ชานิตพฺพํ ¶ . เตน หิ ภิกฺขุนา ฆณฺฏึ ปหริตฺวา กาลํ โฆเสตฺวา โถกํ อาคเมตฺวา สเจ ฆณฺฏิสฺาย วา กาลสฺาย วา ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, เตหิ สทฺธึ ภาเชตพฺพานิ. โน เจ อาคจฺฉนฺติ, ‘‘มยฺหิมานิ จีวรานิ ปาปุณนฺตี’’ติ อธิฏฺาตพฺพานิ. เอวํ อธิฏฺิเต สพฺพานิ ตสฺเสว โหนฺติ, ิติกา ปน น ติฏฺติ.
สเจ เอเกกํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อยํ ปมภาโค มยฺหํ ปาปุณาติ, อยํ ทุติยภาโค’’ติ เอวํ คณฺหาติ, คหิตานิ จ สุคฺคหิตานิ โหนฺติ, ิติกา จ ติฏฺติ. เอวํ ปาเปตฺวา คณฺหนฺเตนาปิ อธิฏฺิตเมว โหติ. สเจ ปน ฆณฺฏึ ปหริตฺวา วา อปฺปหริตฺวา วา กาลมฺปิ โฆเสตฺวา วา อโฆเสตฺวา วา ‘‘อหเมเวตฺถ มยฺหเมว อิมานิ จีวรานี’’ติ คณฺหาติ, ทุคฺคหิตานิ ¶ โหนฺติ. อถ ‘‘อฺโ โกจิ อิธ นตฺถิ, มยฺหํ เอตานิ ปาปุณนฺตี’’ติ คณฺหาติ, สุคฺคหิตานิ.
ปาติเต กุเสติ เอกโกฏฺาเส กุสทณฺฑเก ปาติตมตฺเต สเจปิ ภิกฺขุสหสฺสํ โหติ, คหิตเมว นาม จีวรํ. นากามา ภาโค ทาตพฺโพ. สเจ ปน อตฺตโน รุจิยา ทาตุกามา โหนฺติ, เทนฺตุ. อนุภาเคปิ เอเสว นโย.
สจีวรานีติ ‘‘กาลจีวรมฺปิ สงฺฆสฺส อิโตว ทสฺสาม, วิสุํ สชฺชิยมาเน อติจิรํ โหตี’’ติ ขิปฺปํเยว สจีวรานิ ภตฺตานิ อกํสุ. เถเร อาคมฺม อุปฺปนฺนานีติ ตุมฺเหสุ ปสาเทน ขิปฺปํ อุปฺปนฺนานิ.
สงฺฆสฺส เทมาติ จีวรานิ เทนฺตีติ สกลมฺปิ จีวรกาลํ สณิกํ สณิกํ เทนฺติเยว. ปุริเมสุ ปน ทฺวีสุ วตฺถูสุ ปจฺฉินฺนทานตฺตา อทํสูติ วุตฺตํ. สมฺพหุลา เถราติ วินยธรปาโมกฺขเถรา. อิทํ ปน วตฺถุํ สทฺธึ ปุริเมน ทฺเวภาติกวตฺถุนา ปรินิพฺพุเต ภควติ อุปฺปนฺนํ, อิเม จ เถรา ทิฏฺปุพฺพา ตถาคตํ, ตสฺมา ปุริเมสุ วตฺถูสุ ตถาคเตน ปฺตฺตนเยเนว กเถสุํ.
อุปนนฺทสกฺยปุตฺตวตฺถุกถา
๓๖๔. คามกาวาสํ ¶ อคมาสีติ อปฺเปว นาม จีวรานิ ภาเชนฺตา มยฺหมฺปิ สงฺคหํ กเรยฺยุนฺติ จีวรภาชนกาลํ สลฺลกฺเขตฺวาว อคมาสิ. สาทิยิสฺสสีติ คณฺหิสฺสสิ. เอตฺถ จ กิฺจาปิ ตสฺส ภาโค น ปาปุณาติ. อถ โข ‘‘นครวาสิโก อยํ มุขโร ธมฺมกถิโก’’ติ เต ภิกฺขู ‘‘สาทิยิสฺสสี’’ติ อาหํสุ. โย สาทิเยยฺย อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอตฺถ ปน กิฺจาปิ ลหุกา อาปตฺติ, อถ โข คหิตานิ คหิตฏฺาเน ¶ ทาตพฺพานิ. สเจปิ นฏฺานิ วา ชิณฺณานิ วา โหนฺติ, ตสฺเสว คีวา. เทหีติ วุตฺเต อเทนฺโต ธุรนิกฺเขเป ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ.
เอกาธิปฺปายนฺติ เอกํ อธิปฺปายํ; เอกํ ปุคฺคลปฏิวีสเมว เทถาติ อตฺโถ. อิทานิ ยถา โส ทาตพฺโพ, ตํ ทสฺเสตุํ ตนฺตึ เปนฺโต อิธ ปนาติอาทิมาห. ตตฺถ สเจ อมุตฺร อุปฑฺฒํ อมุตฺร อุปฑฺฒนฺติ เอเกกสฺมึ เอกาหเมกาหํ วา สตฺตาหํ สตฺตาหํ วา สเจ วสติ, เอเกกสฺมึ วิหาเร ยํ ¶ เอโก ปุคฺคโล ลภติ, ตโต ตโต อุปฑฺฒํ อุปฑฺฒํ ทาตพฺพํ. เอวํ เอกาธิปฺปาโย ทินฺโน โหติ. ยตฺถ วา ปน พหุตรนฺติ สเจ เอกสฺมึ วิหาเร วสนฺโต อิตรสฺมึ สตฺตาหวาเรน อรุณเมว อุฏฺาเปติ, เอวํ ปุริมสฺมึ พหุตรํ วสติ นาม. ตสฺมา ตโต พหุตรํ วสิตวิหารโต ตสฺส ปฏิวีโส ทาตพฺโพ. เอวมฺปิ เอกาธิปฺปาโย ทินฺโน โหติ. อิทฺจ นานาลาเภหิ นานูปจาเรหิ เอกสีมวิหาเรหิ กถิตํ, นานาสีมวิหาเร ปน เสนาสนคฺคาโห ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. ตสฺมา ตตฺถ จีวรปฏิวีโส น ปาปุณาติ. เสสํ ปน อามิสเภสชฺชาทิ สพฺพํ สพฺพตฺถ อนฺโตสีมคตสฺส ปาปุณาติ.
คิลานวตฺถุกถา
๓๖๕. มฺจเก นิปาเตสุนฺติ เอวํ โธวิตฺวา อฺํ กาสาวํ นิวาเสตฺวา มฺจเก นิปชฺชาเปสุํ; นิปชฺชาเปตฺวา จ ปนายสฺมา อานนฺโท มุตฺตกรีสกิลิฏฺํ กาสาวํ โธวิตฺวา ภูมิยํ ปริภณฺฑํ อกาสิ. โย ภิกฺขเว มํ อุปฏฺเหยฺย, โส คิลานํ อุปฏฺเหยฺยาติ โย มํ โอวาทานุสาสนีกรเณน อุปฏฺเหยฺย, โส คิลานํ อุปฏฺเหยฺย; มม โอวาทการเกน คิลาโน อุปฏฺาตพฺโพติ อยเมเวตฺถ อตฺโถ. ภควโต จ คิลานสฺส จ อุปฏฺานํ เอกสทิสนฺติ เอวํ ปเนตฺถ อตฺโถ น คเหตพฺโพ. สงฺเฆน อุปฏฺาตพฺโพติ ยสฺเสเต อุปชฺฌาทโย ตสฺมึ วิหาเร นตฺถิ, อาคนฺตุโก โหติ เอกจาริโก ภิกฺขุ, โส สงฺฆสฺส ภาโร, ตสฺมา สงฺเฆน ¶ อุปฏฺาตพฺโพ. โน เจ อุปฏฺเหยฺย, สกลสฺส สงฺฆสฺส อาปตฺติ. วารํ เปตฺวา ชคฺคนฺเตสุ ปน โย อตฺตโน วาเร น ชคฺคติ, ตสฺเสว อาปตฺติ. สงฺฆตฺเถโรปิ วารโก น มุจฺจติ. สเจ สกโล สงฺโฆ เอกสฺส ภารํ กโรติ, เอโก วา วตฺตสมฺปนฺโน ภิกฺขุ ¶ อหเมว ชคฺคิสฺสามีติ ปฏิชคฺคติ, สงฺโฆ อาปตฺติโต มุจฺจติ.
๓๖๖. อภิกฺกมนฺตํ วา อภิกฺกมตีติอาทีสุ วฑฺฒนฺตํ วา อาพาธํ ‘‘อิทํ นาม เม ปริภฺุชนฺตสฺส วฑฺฒติ, อิทํ ปริภฺุชนฺตสฺส ปริหายติ, อิทํ ปริภฺุชนฺตสฺส ติฏฺตี’’ติ ยถาภูตํ นาวิกโรตีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. นาลนฺติ น ปติรูโป, น ยุตฺโต อุปฏฺาตุํ. เภสชฺชํ สํวิธาตุนฺติ เภสชฺชํ โยเชตุํ อสมตฺโถ โหติ. อามิสนฺตโรติ อามิสํ อสฺส อนฺตรนฺติ อามิสนฺตโร. อนฺตรนฺติ การณํ วุจฺจติ; อามิสการณา ยาคุภตฺตปตฺตจีวรานิ ปตฺเถนฺโต อุปฏฺาตีติ อตฺโถ.
มตสนฺตกกถา
๓๖๗. กาลงฺกเตติ ¶ กาลกิริยาย. คิลานุปฏฺากานํ ทาตุนฺติ เอตฺถ อนนฺตรํ วุตฺตาย กมฺมวาจาย ทินฺนมฺปิ อปโลเกตฺวา ทินฺนมฺปิ ทินฺนเมว โหติ, วฏฺฏติ.
๓๖๙. ยํ ตตฺถ ลหุภณฺฑํ ยํ ตตฺถ ครุภณฺฑนฺติ เอตฺถ ลหุภณฺฑครุภณฺฑานํ นานากรณํ ปรโต วณฺณยิสฺสาม. คิลานุปฏฺากลาเภ ปน อยํ อาทิโต ปฏฺาย วินิจฺฉโย –
สเจ สกเล ภิกฺขุสงฺเฆ อุปฏฺหนฺเต กาลํ กโรติ, สพฺเพปิ สามิกา. อถ เอกจฺเจหิ วาเร กเต เอกจฺเจหิ อกเตเยว กาลํ กโรติ, ตตฺถ เอกจฺเจ อาจริยา วทนฺติ – ‘‘สพฺเพปิ อตฺตโน วาเร สมฺปตฺเต กเรยฺยุํ, ตสฺมา สพฺเพปิ สามิโน’’ติ. เอกจฺเจ วทนฺติ – ‘‘เยหิ ชคฺคิโต เต เอว ลภนฺติ, อิตเร น ลภนฺตี’’ติ. สามเณเร กาลงฺกเต สเจ จีวรํ อตฺถิ, คิลานุปฏฺากานํ ทาตพฺพํ. โน เจ อตฺถิ ยํ อตฺถิ, ตํ ทาตพฺพํ. อฺสฺมึ ปริกฺขาเร สติ จีวรภาคํ กตฺวา ทาตพฺพํ.
ภิกฺขุ ¶ จ สามเณโร จ สเจ สมํ อุปฏฺหึสุ, สมโก ภาโค ทาตพฺโพ. อถ สามเณโรว อุปฏฺหติ, ภิกฺขุสฺส สํวิทหนมตฺตเมว โหติ, สามเณรสฺส เชฏฺกภาโค ทาตพฺโพ. สเจ สามเณโร ภิกฺขุนา อานีตอุทเกน ยาคุํ ปจิตฺวา ปฏิคฺคาหาปนมตฺตเมว กโรติ, ภิกฺขุ อุปฏฺหติ, ภิกฺขุสฺส เชฏฺกภาโค ทาตพฺโพ.
พหู ภิกฺขู สมคฺคา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ, สพฺเพสํ สมโก ภาโค ทาตพฺโพ. โย ปเนตฺถ ¶ วิเสเสน อุปฏฺหติ, ตสฺส วิเสโส กาตพฺโพ. เยน ปน เอกทิวสมฺปิ คิลานุปฏฺากวเสน ยาคุภตฺตํ วา ปจิตฺวา ทินฺนํ, นหานํ วา ปฏิยาทิตํ, โสปิ คิลานุปฏฺาโกว. โย สมีปํ อนาคนฺตฺวา เภสชฺชตณฺฑุลาทีนิ เปเสติ, อยํ คิลานุปฏฺาโก น โหติ. โย ปริเยสิตฺวา คาหาเปตฺวา อาคจฺฉติ, อยํ คิลานุปฏฺาโกว.
เอโก วตฺตสีเสน ชคฺคติ; เอโก ปจฺจาสาย, มตกาเล อุโภปิ ปจฺจาสีสนฺติ, อุภินฺนมฺปิ ทาตพฺพํ. เอโก อุปฏฺหิตฺวา คิลานสฺส วา กมฺเมน อตฺตโน วา กมฺเมน กตฺถจิ คโต ‘‘ปุน อาคนฺตฺวา ชคฺคิสฺสามี’’ติ, เอตสฺสปิ ทาตพฺพํ. เอโก จิรํ อุปฏฺหิตฺวา ‘‘อิทานิ น ¶ สกฺโกมี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา คจฺฉติ, สเจปิ ตํทิวสเมว คิลาโน กาลํกโรติ, อุปฏฺากภาโค น ทาตพฺโพ.
คิลานุปฏฺาโก นาม คิหิ วา โหตุ ปพฺพชิโต วา, อนฺตมโส มาตุคาโมปิ, สพฺเพ ภาคํ ลภนฺติ. สเจ ตสฺส ภิกฺขุโน ปตฺตจีวรมตฺตเมว โหติ, อฺํ นตฺถิ; สพฺพํ คิลานุปฏฺากานํเยว ทาตพฺพํ. สเจปิ สหสฺสํ อคฺฆติ, อฺํ ปน พหุมฺปิ ปริกฺขารํ เต น ลภนฺติ; สงฺฆสฺเสว โหติ. อวเสสํ ภณฺฑํ พหุกฺเจว มหคฺฆฺจ, ติจีวรํ อปฺปคฺฆํ; ตโต คเหตฺวา ติจีวรปริกฺขาโร ทาตพฺโพ. สพฺพฺเจตํ สงฺฆิกโตว ลพฺภติ.
สเจ ปน โส ชีวมาโนเยว สพฺพํ อตฺตโน ปริกฺขารํ นิสฺสชฺชิตฺวา กสฺสจิ อทาสิ, โกจิ วา วิสฺสาสํ อคฺคเหสิ, ยสฺส ทินฺนํ, เยน จ คหิตํ, ตสฺเสว โหติ. ตสฺส รุจิยา เอว คิลานุปฏฺากา ลภนฺติ, อฺเสํ อทตฺวา ทูเร ปิตปริกฺขาราปิ ตตฺถ ตตฺถ สงฺฆสฺเสว โหนฺติ. ทฺวินฺนํ สนฺตกํ โหติ อวิภตฺตํ, เอกสฺมึ กาลงฺกเต อิตโร สามี ¶ . พหูนมฺปิ สนฺตเก เอเสว นโย. สพฺเพสุ มเตสุ สงฺฆิกํ โหติ. สเจปิ อวิภชิตฺวา สทฺธิวิหาริกาทีนํ เทนฺติ อทินฺนเมว โหติ. วิภชิตฺวา ทินฺนํ ปน สุทินฺนํ. ตํ เตสุ มเตสุปิ สทฺธิวิหาริกาทีนํเยว โหติ, น สงฺฆสฺส.
กุสจีราทิปฏิกฺเขปกถา
๓๗๑. กุสจีราทีสุ ¶ อกฺกนาฬนฺติ อกฺกนาฬมยํ. โปตฺถโกติ มกจิมโย วุจฺจติ. เสสานิ ปมปาราชิกวณฺณนายํ วุตฺตานิ. เตสุ โปตฺถเก เอว ทุกฺกฏํ. เสเสสุ ถุลฺลจฺจยานีติ. อกฺกทุสฺสกทลิทุสฺสเอรกทุสฺสานิ ปน โปตฺถกคติกาเนว.
๓๗๒. สพฺพนีลกาทีนิ รชนํ โธวิตฺวา ปุน รชิตฺวา ธาเรตพฺพานิ. น สกฺกา เจ โหนฺติ โธวิตุํ, ปจฺจตฺถรณานิ วา กาตพฺพานิ. ทุปฏฺฏจีวรสฺส วา มชฺเฌ ทาตพฺพานิ. เตสํ วณฺณนานตฺตํ อุปาหนาสุ วุตฺตนยเมว. อจฺฉินฺนทสทีฆทสานิ ทสา ฉินฺทิตฺวา ธาเรตพฺพานิ. กฺจุกํ ลภิตฺวา ผาเลตฺวา รชิตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. เวเนปิ เอเสว นโย. ติรีฏกํ ปน รุกฺขฉลฺลิมยํ; ตํ ปาทปฺุฉนํ กาตุํ วฏฺฏติ.
๓๗๔. ปติรูเป คาหเกติ สเจ โกจิ ภิกฺขุ ‘‘อหํ ตสฺส คณฺหามี’’ติ คณฺหาติ, ทาตพฺพนฺติ ¶ อตฺโถ. เอวเมเตสุ เตวีสติยา ปุคฺคเลสุ โสฬส ชนา น ลภนฺติ, สตฺต ชนา ลภนฺตีติ.
สงฺเฆภินฺเนจีวรุปฺปาทกถา
๓๗๖. สงฺโฆ ภิชฺชตีติ ภิชฺชิตฺวา โกสมฺพกภิกฺขู วิย ทฺเว โกฏฺาสา โหนฺติ. เอกสฺมึ ปกฺเขติ เอกสฺมึ โกฏฺาเส ทกฺขิโณทกฺจ คนฺธาทีนิ จ เทนฺติ, เอกสฺมึ จีวรานิ. สงฺฆสฺเสเวตนฺติ สกลสฺส สงฺฆสฺส ทฺวินฺนมฺปิ โกฏฺาสานํ เอตํ โหติ, ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ทฺวีหิปิ ปกฺเขหิ เอกโต ภาเชตพฺพํ. ปกฺขสฺเสเวตนฺติ เอวํ ทินฺเน ยสฺส โกฏฺาสสฺส อุทกํ ทินฺนํ, ตสฺส อุทกเมว โหติ; ยสฺส จีวรํ ทินฺนํ, ตสฺเสว จีวรํ. ยตฺถ ปน ทกฺขิโณทกํ ปมาณํ โหติ, ตตฺถ เอโก ปกฺโข ทกฺขิโณทกสฺส ¶ ลทฺธตฺตา จีวรานิ ลภติ, เอโก จีวรานเมว ลทฺธตฺตาติ อุโภหิปิ เอกโต หุตฺวา ยถาวุฑฺฒํ ภาเชตพฺพํ. อิทํ กิร ปรสมุทฺเท ลกฺขณนฺติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตสฺมึเยว ปกฺเขติ เอตฺถ ปน อิตโร ปกฺโข อนิสฺสโรเยว. จีวรเปสนวตฺถูนิ ปากฏาเนว.
อฏฺจีวรมาติกากถา
๓๗๙. อิทานิ อาทิโต ปฏฺาย วุตฺตจีวรานํ ปฏิลาภเขตฺตํ ทสฺเสตุํ ¶ ‘‘อฏฺิมา ภิกฺขเว มาติกา’’ติอาทิมาห. สีมาย เทตีติอาทิ ปุคฺคลาธิฏฺานนเยน วุตฺตํ. เอตฺถ ปน สีมาย ทานํ เอกา มาติกา, กติกาย ทานํ ทุติยา…เป… ปุคฺคลสฺส ทานํ อฏฺมา. ตตฺถ สีมาย ทมฺมีติ เอวํ สีมํ ปรามสิตฺวา เทนฺโต สีมาย เทติ นาม. เอส นโย สพฺพตฺถ.
สีมาย เทติ, ยาวติกา ภิกฺขู อนฺโตสีมคตา เตหิ ภาเชตพฺพนฺติอาทิมฺหิ ปน มาติกานิทฺเทเส สีมาย เทตีติ เอตฺถ ตาว ขณฺฑสีมา, อุปจารสีมา, สมานสํวาสสีมา, อวิปฺปวาสสีมา, ลาภสีมา, คามสีมา, นิคมสีมา, นครสีมา, อพฺภนฺตรสีมา, อุทกุกฺเขปสีมา, ชนปทสีมา, รฏฺสีมา, รชฺชสีมา, ทีปสีมา, จกฺกวาฬสีมาติ ปนฺนรส สีมา เวทิตพฺพา.
ตตฺถ ขณฺฑสีมา สีมากถายํ วุตฺตาว. อุปจารสีมา ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขเปน อปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขปารหฏฺาเนน ปริจฺฉินฺนา โหติ. อปิจ ภิกฺขูนํ ธุวสนฺนิปาตฏฺานโต ¶ วา ปริยนฺเต ิตโภชนสาลโต วา นิพทฺธวสนกอาวาสโต วา ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺโต อุปจารสีมา เวทิตพฺพา, สา ปน อาวาเสสุ วฑฺฒนฺเตสุ วฑฺฒติ, ปริหายนฺเตสุ ปริหายติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ภิกฺขูสุปิ วฑฺฒนฺเตสุ วฑฺฒตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา สเจ วิหาเร สนฺนิปติตภิกฺขูหิ สทฺธึ เอกาพทฺธา หุตฺวา โยชนสตมฺปิ ปูเรตฺวา นิสีทนฺติ, โยชนสตมฺปิ อุปจารสีมาว โหติ, สพฺเพสํ ลาโภ ปาปุณาติ. สมานสํวาสอวิปฺปวาสสีมาทฺวยมฺปิ วุตฺตเมว.
ลาภสีมา ¶ นาม เนว สมฺมาสมฺพุทฺเธน อนฺุาตา, น ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปิตา; อปิจ โข ราชราชมหามตฺตา วิหารํ กาเรตฺวา คาวุตํ วา อฑฺฒโยชนํ วา โยชนํ วา สมนฺตโต ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘อยํ อมฺหากํ วิหารสฺส ลาภสีมา’’ติ นามลิขิตเก ถมฺเภ นิขณิตฺวา ‘‘ยํ เอตฺถนฺตเร อุปฺปชฺชติ, สพฺพํ ตํ อมฺหากํ วิหารสฺส เทมา’’ติ สีมํ เปนฺติ, อยํ ลาภสีมา นาม. คามนิคมนครอพฺภนฺตรอุทกุกฺเขปสีมาปิ วุตฺตา เอว. ชนปทสีมา นาม – กาสิโกสลรฏฺาทีนํ อนฺโต พหู ชนปทา โหนฺติ, ตตฺถ ¶ เอเกโก ชนปทปริจฺเฉโท ชนปทสีมา. รฏฺสีมา นาม กาสิโกสลาทิรฏฺปริจฺเฉโท. รชฺชสีมา นาม ‘‘โจฬโภโค เกรฬโภโค’’ติ เอวํ เอเกกสฺส รฺโ อาณาปวตฺติฏฺานํ. ทีปสีมา นาม สมุทฺทนฺเตน ปริจฺฉินฺนมหาทีปา จ อนฺตรทีปา จ. จกฺกวาฬสีมา นาม จกฺกวาฬปพฺพเตเนว ปริจฺฉินฺนา.
เอวเมตาสุ สีมาสุ ขณฺฑสีมาย เกนจิ กมฺเมน สนฺนิปติตํ สงฺฆํ ทิสฺวา ‘‘เอตฺเถว สีมาย สงฺฆสฺส เทมี’’ติ วุตฺเต ยาวติกา ภิกฺขู อนฺโตขณฺฑสีมคตา, เตหิ ภาเชตพฺพํ. เตสํเยว หิ ตํ ปาปุณาติ. อฺเสํ สีมนฺตริกาย วา อุปจารสีมาย วา ิตานมฺปิ น ปาปุณาติ. ขณฺฑสีมาย ิเต ปน รุกฺเข วา ปพฺพเต วา ิตสฺส เหฏฺา วา ปถวีเวมชฺฌคตสฺส ปาปุณาติเยว. ‘‘อิมิสฺสา อุปจารสีมาย สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ ปน ขณฺฑสีมาสีมนฺตริกาสุ ิตานมฺปิ ปาปุณาติ. ‘‘สมานสํวาสสีมาย ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ ปน ขณฺฑสีมาสีมนฺตริกาสุ ิตานํ น ปาปุณาติ. อวิปฺปวาสสีมาลาภสีมาสุ ทินฺนํ ตาสุ สีมาสุ อนฺโตคตานํ ปาปุณาติ. คามสีมาทีสุ ทินฺนํ ตาสํ สีมานํ อพฺภนฺตเร พทฺธสีมาย ิตานมฺปิ ปาปุณาติ. อพฺภนฺตรสีมาอุทกุกฺเขปสีมาสุ ทินฺนํ ตตฺถ อนฺโตคตานํเยว ปาปุณาติ. ชนปทรฏฺรชฺชทีปจกฺกวาฬสีมาสุปิ คามสีมาทีสุ วุตฺตสทิโสเยว วินิจฺฉโย.
สเจ ปน ชมฺพุทีเป ิโต ‘‘ตมฺพปณฺณิทีเป สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ เทติ, ตมฺพปณฺณิทีปโต เอโกปิ ¶ คนฺตฺวา สพฺเพสํ คณฺหิตุํ ลภติ. สเจปิ ตตฺเรว เอโก สภาคภิกฺขุ สภาคานํ ภาคํ คณฺหาติ, น วาเรตพฺโพ. เอวํ ตาว โย สีมํ ปรามสิตฺวา เทติ, ตสฺส ทาเน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
โย ¶ ปน อสุกสีมายาติ วตฺตุํ น ชานาติ, เกวลํ สีมาติ วจนมตฺตเมว ชานนฺโต วิหารํ คนฺตฺวา ‘‘สีมาย ทมฺมี’’ติ วา ‘‘สีมฏฺกสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วา ภณติ, โส ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘‘สีมา นาม พหุวิธา, กตรสีมํ สนฺธาย ภณสี’’ติ ¶ ? สเจ วทติ – ‘‘อหํ อสุกสีมาติ น ชานามิ, สีมฏฺกสงฺโฆ ภาเชตฺวา คณฺหาตู’’ติ กตรสีมาย ภาเชตพฺพํ? มหาสีวตฺเถโร กิราห – ‘‘อวิปฺปวาสสีมายา’’ติ. ตโต นํ อาหํสุ – ‘‘อวิปฺปวาสสีมา นาม ติโยชนาปิ โหติ, เอวํ สนฺเต ติโยชเน ิตา ลาภํ คณฺหิสฺสนฺติ, ติโยชเน ตฺวา อาคนฺตุกวตฺตํ ปูเรตฺวา อารามํ ปวิสิตพฺพํ ภวิสฺสติ, คมิโก ติโยชนํ คนฺตฺวา เสนาสนํ อาปุจฺฉิสฺสติ, นิสฺสยปฏิปนฺนสฺส ติโยชนาติกฺกเม นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภิสฺสติ, ปาริวาสิเกน ติโยชนํ อติกฺกมิตฺวา อรุณํ อุฏฺาเปตพฺพํ ภวิสฺสติ, ภิกฺขุนิยา ติโยชเน ตฺวา อารามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉิตพฺพํ ภวิสฺสติ, สพฺพมฺเปตํ อุปจารสีมาย ปริจฺเฉทวเสเนว กาตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมา อุปจารสีมายเมว ภาเชตพฺพ’’นฺติ.
กติกายาติ สมานลาภกติกาย. เตเนวาห – ‘‘สมฺพหุลา อาวาสา สมานลาภา โหนฺตี’’ติ. ตตฺเรวํ กติกา กาตพฺพา, เอกสฺมึ วิหาเร สนฺนิปติเตหิ ภิกฺขูหิ ยํ วิหารํ สงฺคณฺหิตุกามา สมานลาภํ กาตุํ อิจฺฉนฺติ, ตสฺส นามํ คเหตฺวา อสุโก นาม วิหาโร โปราณโกติ วา พุทฺธาธิวุตฺโถติ วา อปฺปลาโภติ วา ยํกิฺจิ การณํ วตฺวา ตํ วิหารํ อิมินา วิหาเรน สทฺธึ เอกลาภํ กาตุํ สงฺฆสฺส รุจฺจตีติ ติกฺขตฺตุํ สาเวตพฺพํ. เอตฺตาวตา ตสฺมึ วิหาเร นิสินฺโนปิ อิธ นิสินฺโนว โหติ, ตสฺมึ วิหาเรปิ สงฺเฆน เอวเมว กาตพฺพํ. เอตฺตาวตา อิธ นิสินฺโนปิ ตสฺมึ นิสินฺโนว โหติ. เอกสฺมึ ลาเภ ภาชิยมาเน อิตรสฺมึ ิตสฺส ภาคํ คเหตุํ วฏฺฏติ. เอวํ เอเกน วิหาเรน สทฺธึ พหูปิ อาวาสา เอกลาภา กาตพฺพา.
ภิกฺขาปฺตฺติยาติ อตฺตโน ปริจฺจาคปฺาปนฏฺาเน. เตเนวาห – ‘‘ยตฺถ สงฺฆสฺส ธุวการา กริยนฺตี’’ติ. ตสฺสตฺโถ – ยสฺมึ วิหาเร อิมสฺส จีวรทายกสฺส สนฺตกํ สงฺฆสฺส ปากวฏฺฏํ วา วตฺตติ, ยสฺมึ วา วิหาเร ภิกฺขู อตฺตโน ภารํ กตฺวา สทา เคเห โภเชติ, ยตฺถ วา ¶ อเนน อาวาโส การิโต, สลากภตฺตาทีนิ วา นิพทฺธานิ, เยน ปน สกโลปิ วิหาโร ¶ ปติฏฺาปิโต, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, อิเม ธุวการา นาม. ตสฺมา สเจ โส ‘‘ยตฺถ มยฺหํ ธุวการา กรียนฺติ, ตตฺถ ทมฺมี’’ติ วา ‘‘ตตฺถ เทถา’’ติ วา ภณติ, พหูสุ เจปิ าเนสุ ธุวการา โหนฺติ, สพฺพตฺถ ¶ ทินฺนเมว โหติ.
สเจ ปน เอกสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู พหุตรา โหนฺติ, เตหิ วตฺตพฺพํ – ‘‘ตุมฺหากํ ธุวกาเร เอกตฺถ ภิกฺขู พหู เอกตฺถ อปฺปกา’’ติ. สเจ ‘‘ภิกฺขุคณนาย คณฺหถา’’ติ ภณติ, ตถา ภาเชตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ จ วตฺถเภสชฺชาทิ อปฺปกมฺปิ สุเขน ภาชิยติ. ยทิ ปน มฺโจ วา ปีกํ วา เอกเมว โหติ, ตํ ปุจฺฉิตฺวา ยสฺส วา วิหารสฺส เอกวิหาเรปิ วา ยสฺส เสนาสนสฺส โส วิจาเรติ, ตตฺถ ทาตพฺพํ. สเจ ‘‘อสุกภิกฺขุ คณฺหาตู’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. อถ ‘‘มยฺหํ ธุวกาเร เทถา’’ติ วตฺวา อวิจาเรตฺวาว คจฺฉติ, สงฺฆสฺสาปิ วิจาเรตุํ วฏฺฏติ. เอวํ ปน วิจาเรตพฺพํ – ‘‘สงฺฆตฺเถรสฺส วสนฏฺาเน เทถา’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ตสฺส เสนาสนํ ปริปุณฺณํ โหติ, ยตฺถ นปฺปโหติ, ตตฺถ ทาตพฺพํ. สเจ เอโก ภิกฺขุ ‘‘มยฺหํ วสนฏฺาเน เสนาสนปริโภคภณฺฑํ นตฺถี’’ติ วทติ, ตตฺถ ทาตพฺพํ.
สงฺฆสฺส เทตีติ วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ เทติ. สมฺมุขีภูเตนาติ อุปจารสีมาย ิเตน สงฺเฆน ฆณฺฏึ ปหริตฺวา กาลํ โฆเสตฺวา ภาเชตพฺพํ. สีมฏฺสฺส อสมฺปตฺตสฺสาปิ ภาคํ คณฺหนฺโต น วาเรตพฺโพ. วิหาโร มหา โหติ, เถราสนโต ปฏฺาย วตฺเถสุ ทิยฺยมาเนสุ อลสชาติกา มหาเถรา ปจฺฉา อาคจฺฉนฺติ, ‘‘ภนฺเต วีสติวสฺสานํ ทิยฺยติ, ตุมฺหากํ ิติกา อติกฺกนฺตา’’ติ น วตฺตพฺพา, ิติกํ เปตฺวา เตสํ ทตฺวา ปจฺฉา ิติกาย ทาตพฺพํ.
อสุกวิหาเร กิร พหุํ จีวรํ อุปฺปนฺนนฺติ สุตฺวา โยชนนฺตริกวิหารโตปิ ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, สมฺปตฺตสมฺปตฺตานํ ิตฏฺานโต ปฏฺาย ทาตพฺพํ. อสมฺปตฺตานมฺปิ อุปจารสีมํ ปวิฏฺานํ อนฺเตวาสิกาทีสุ คณฺหนฺเตสุ ทาตพฺพเมว. ‘‘พหิอุปจารสีมาย ิตานํ เทถา’’ติ วทนฺติ, น ทาตพฺพํ. สเจ ปน อุปจารสีมํ โอกฺกนฺเตหิ เอกาพทฺธา หุตฺวา อตฺตโน วิหารทฺวาเร วา อนฺโตวิหาเรเยว วา โหนฺติ, ปริสวเสน วฑฺฒิตา นาม โหติ สีมา ¶ , ตสฺมา ทาตพฺพํ. สงฺฆนวกสฺส ทินฺเนปิ ปจฺฉา อาคตานํ ทาตพฺพเมว. ทุติยภาเค ปน เถราสนํ อารุฬฺเห ¶ อาคตานํ ปมภาโค น ปาปุณาติ, ทุติยภาคโต วสฺสคฺเคน ทาตพฺพํ.
เอกสฺมึ วิหาเร ทส ภิกฺขู โหนฺติ, ‘‘ทส วตฺถานิ สงฺฆสฺส เทมา’’ติ เทนฺติ, ปาเฏกฺกํ ภาเชตพฺพานิ ¶ . สเจ ‘‘สพฺพาเนว อมฺหากํ ปาปุณนฺตี’’ติ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, ทุปฺปาปิตานิ เจว ทุคฺคหิตานิ จ คตคตฏฺาเน สงฺฆิกาเนว โหนฺติ. เอกํ ปน อุทฺธริตฺวา ‘‘อิทํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส ทตฺวา ‘‘เสสานิ อมฺหากํ ปาปุณนฺตี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ.
เอกเมว วตฺถํ สงฺฆสฺส เทมาติ อาหรนฺติ, อภาเชตฺวาว อมฺหากํ ปาปุณนฺตีติ คณฺหนฺติ, ทุปฺปาปิตฺเจว ทุคฺคหิตฺจ. สตฺถเกน ปน หลิทฺทิอาทินา วา เลขํ กตฺวา เอกํ โกฏฺาสํ ‘‘อิมํ านํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส ปาเปตฺวา ‘‘เสสํ อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ. ยํ ปน วตฺถสฺเสว ปุปฺผํ วา วลิ วา, เตน ปริจฺเฉทํ กาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ เอกํ ตนฺตํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อิทํ านํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส ทตฺวา ‘‘เสสํ อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คณฺหนฺติ, วฏฺฏติ. ขณฺฑํ ขณฺฑํ ฉินฺทิตฺวา ภาชิยมานํ วฏฺฏติเยว.
เอกภิกฺขุเก วิหาเร สงฺฆสฺส จีวเรสุ อุปฺปนฺเนสุ สเจ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว โส ภิกฺขุ ‘‘สพฺพานิ มยฺหํ ปาปุณนฺตี’’ติ คณฺหาติ, สุคฺคหิตานิ, ิติกา ปน น ติฏฺติ. สเจ เอเกกํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อิทํ มยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ คณฺหาติ, ิติกา ติฏฺติ. ตตฺถ อฏฺิตาย ิติกาย ปุน อฺสฺมึ จีวเร อุปฺปนฺเน สเจ เอโก ภิกฺขุ อาคจฺฉติ, มชฺเฌ ฉินฺทิตฺวา ทฺวีหิปิ คเหตพฺพํ. ิตาย ิติกาย ปุน อฺสฺมึ จีวเร อุปฺปนฺเน สเจ นวกตโร อาคจฺฉติ, ิติกา เหฏฺา โอโรหติ. สเจ วุฑฺฒตโร อาคจฺฉติ, ิติกา อุทฺธํ อาโรหติ. อถฺโ นตฺถิ, ปุน อตฺตโน ปาเปตฺวา คเหตพฺพํ.
‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ วา ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส เทมา’’ติ วา เยน เกนจิ อากาเรน สงฺฆํ อามสิตฺวา ทินฺนํ ปน ปํสุกูลิกานํ น วฏฺฏติ, ‘‘คหปติจีวรํ ปฏิกฺขิปามิ ปํสุกูลิกงฺคํ สมาทิยามี’’ติ วุตฺตตฺตา, น ปน อกปฺปิยตฺตา ¶ . ภิกฺขุสงฺเฆน อปโลเกตฺวา ทินฺนมฺปิ น คเหตพฺพํ. ยํ ปน ภิกฺขุ ¶ อตฺตโน สนฺตกํ เทติ, ตํ ภิกฺขุทตฺติยํ นาม วฏฺฏติ, ปํสุกูลํ ปน น โหติ. เอวํ สนฺเตปิ ธุตงฺคํ น ภิชฺชติ. ‘‘ภิกฺขูนํ เทม, เถรานํ เทมา’’ติ วุตฺเต ปน ปํสุกูลิกานมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘อิทํ วตฺถํ สงฺฆสฺส เทม, อิมินา อุปาหนตฺถวิกปตฺตตฺถวิกอาโยคอํสพทฺธกาทีนิ กโรนฺตู’’ติ ทินฺนมฺปิ วฏฺฏติ.
ปตฺตตฺถวิกาทีนํ อตฺถาย ทินฺนานิ พหูนิปิ โหนฺติ, จีวรตฺถายปิ ปโหนฺติ, ตโต จีวรํ กตฺวา ปารุปิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน สงฺโฆ ภาชิตาติริตฺตานิ วตฺถานิ ฉินฺทิตฺวา อุปาหนตฺถวิกาทีนํ ¶ อตฺถาย ภาเชติ, ตโต คเหตุํ น วฏฺฏติ. สามิเกหิ วิจาริตเมว หิ วฏฺฏติ, น อิตรํ.
‘‘ปํสุกูลิกสงฺฆสฺส ธมกรณปฏาทีนํ อตฺถาย เทมา’’ติ วุตฺเตปิ คเหตุํ วฏฺฏติ, ปริกฺขาโร นาม ปํสุกูลิกานมฺปิ อิจฺฉิตพฺโพ. ยํ ตตฺถ อติเรกํ โหติ, ตํ จีวเรปิ อุปเนตุํ วฏฺฏติ. สุตฺตํ สงฺฆสฺส เทนฺติ, ปํสุกูลิเกหิปิ คเหตพฺพํ. อยํ ตาว วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺเนสุ วินิจฺฉโย.
สเจ ปน พหิอุปจารสีมายํ อทฺธานปฺปฏิปนฺเน ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส วา สงฺฆนวกสฺส วา อาโรเจติ, สเจปิ โยชนํ ผริตฺวา ปริสา ิตา โหติ, เอกพทฺธา เจ, สพฺเพสํ ปาปุณาติ. เย ปน ทฺวาทสหิ หตฺเถหิ ปริสํ อสมฺปตฺตา, เตสํ น ปาปุณาติ.
อุภโตสงฺฆสฺส เทตีติ เอตฺถ ‘‘อุภโตสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ ‘‘ทฺวิธา สงฺฆสฺส ทมฺมิ, ทฺวินฺนํ สงฺฆานํ ทมฺมิ, ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส จ ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ อุภโตสงฺฆสฺส ทินฺนเมว โหติ. อุปฑฺฒํ ทาตพฺพนฺติ ทฺเวภาเค สเม กตฺวา เอโก ทาตพฺโพ. ‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต สเจ ทส ทส ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ โหนฺติ, เอกวีสติ ปฏิวีเส กตฺวา เอโก ปุคฺคลสฺส ทาตพฺโพ, ทส ภิกฺขุสงฺฆสฺส, ทส ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส เยน ปุคฺคลิโก ลทฺโธ โส สงฺฆโตปิ อตฺตโน วสฺสคฺเคน คเหตุํ ลภติ. กสฺมา? อุภโตสงฺฆคฺคหเณน คหิตตฺตา.
‘‘อุภโตสงฺฆสฺส ¶ จ เจติยสฺส จ ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. อิธ ปน เจติยสฺส สงฺฆโต ปาปุณนโกฏฺาโส นาม นตฺถิ, เอกปุคฺคลสฺส ¶ ปตฺตโกฏฺาสสโมว โกฏฺาโส โหติ.
‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน ทฺวาวีสติ โกฏฺาเส กตฺวา ทส ภิกฺขูนํ, ทส ภิกฺขุนีนํ, เอโก ปุคฺคลสฺส, เอโก เจติยสฺส ทาตพฺโพ. ตตฺถ ปุคฺคโล สงฺฆโตปิ อตฺตโน วสฺสคฺเคน ปุน คเหตุํ ลภติ, เจติยสฺส เอโกเยว.
‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนฺจ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปน น มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา ทาตพฺพํ, ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา ทาตพฺพํ. ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจา’’ติ ¶ วุตฺเต ปน ปุคฺคโล วิสุํ น ลภติ, ปาปุณนฏฺานโต เอกเมว ลภติ. กสฺมา? ภิกฺขุสงฺฆคฺคหเณน คหิตตฺตา. ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เจติยสฺส เอกปุคฺคลปฏิวีโส ลพฺภติ, ปุคฺคลสฺส วิสุํ น ลพฺภติ, ตสฺมา เอกํ เจติยสฺส ทตฺวา อวเสสํ ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา ภาเชตพฺพํ.
‘‘ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา น ทาตพฺพํ, ปุคฺคลคณนาย เอว วิภชิตพฺพํ. ‘‘ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ เอวํ วุตฺเตปิ เจติยสฺส เอกปุคฺคลปฏิวีโส ลพฺภติ, ปุคฺคลสฺส วิสุํ นตฺถิ, ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา เอว ภาเชตพฺพํ. ยถา จ ภิกฺขุสงฺฆํ อาทึ กตฺวา นโย นีโต, เอวํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ อาทึ กตฺวาปิ เนตพฺโพ. ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺเต ปุคฺคลสฺส วิสุํ น ลพฺภติ, วสฺสคฺเคเนว คเหตพฺพํ. ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน เจติยสฺส วิสุํ ปฏิวีโส ลพฺภติ. ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เจติยสฺเสว ลพฺภติ, น ปุคฺคลสฺส.
‘‘ภิกฺขูนฺจ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺเตปิ วิสุํ น ลพฺภติ. ‘‘ภิกฺขูนฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน เจติยสฺส ลพฺภติ. ‘‘ภิกฺขูนฺจ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เจติยสฺเสว วิสุํ ลพฺภติ, น ปุคฺคลสฺส. ภิกฺขุนิสงฺฆํ อาทึ กตฺวาปิ เอวเมว โยเชตพฺพํ.
ปุพฺเพ พุทฺธปฺปมุขสฺส อุภโตสงฺฆสฺส ทานํ เทนฺติ, ภควา มชฺเฌ นิสีทติ, ทกฺขิณโต ภิกฺขู วามโต ภิกฺขุนิโย นิสีทนฺติ, ภควา อุภินฺนํ สงฺฆตฺเถโร ¶ , ตทา ภควา อตฺตนา ลทฺธปจฺจเย อตฺตนาปิ ปริภฺุชติ, ภิกฺขูนมฺปิ ¶ ทาเปติ. เอตรหิ ปน ปณฺฑิตมนุสฺสา สธาตุกํ ปฏิมํ วา เจติยํ วา เปตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส อุภโตสงฺฆสฺส ทานํ เทนฺติ. ปฏิมาย วา เจติยสฺส วา ปุรโต อาธารเก ปตฺตํ เปตฺวา ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา พุทฺธานํ เทมาติ, ตตฺถ ยํ ปมํ ขาทนียํ โภชนียํ เทนฺติ, วิหารํ วา อาหริตฺวา อิทํ เจติยสฺส เทมาติ ปิณฺฑปาตฺจ มาลาคนฺธาทีนิ จ เทนฺติ, ตตฺถ กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ? มาลาคนฺธาทีนิ ตาว เจติเย อาโรเปตพฺพานิ, วตฺเถหิ ปฏากา, เตเลน ปทีปา กาตพฺพา, ปิณฺฑปาตมธุผาณิตาทีนิ ปน โย นิพทฺธเจติยชคฺคโก โหติ ปพฺพชิโต วา คหฏฺโ วา, ตสฺเสว ทาตพฺพานิ. นิพทฺธชคฺคเก อสติ อาหฏภตฺตํ เปตฺวา วตฺตํ กตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. อุปกฏฺเ กาเล ภฺุชิตฺวา ปจฺฉาปิ วตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติเยว.
มาลาคนฺธาทีสุ ¶ จ ยํ กิฺจิ ‘‘อิทํ หริตฺวา เจติยสฺสปูชํ กโรถา’’ติ วุตฺเต ทูรมฺปิ หริตฺวา ปูเชตพฺพํ. ‘‘ภิกฺขํ สงฺฆสฺส หรา’’ติ วุตฺเตปิ หริตพฺพํ. สเจ ปน ‘‘อหํ ปิณฺฑาย จรามิ, อาสนสาลาย ภิกฺขู อตฺถิ, เต อาหริสฺสนฺตี’’ติ วุตฺเต ‘‘ภนฺเต ตุยฺหํเยว ทมฺมี’’ติ วทติ, ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. อถ ปน ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทสฺสามี’’ติ หรนฺตสฺส คจฺฉโต อนฺตราว กาโล อุปกฏฺโ โหติ, อตฺตโน ปาเปตฺวา ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
วสฺสํวุฏฺสงฺฆสฺส เทตีติ วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ วสฺสํวุฏฺสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ เทติ. ยาวติกา ภิกฺขู ตสฺมึ อาวาเส วสฺสํวุฏฺาติ ยตฺตกา วสฺสจฺเฉทํ อกตฺวา ปุริมวสฺสํวุฏฺา, เตหิ ภาเชตพฺพํ, อฺเสํ น ปาปุณาติ. ทิสาปกฺกนฺตสฺสาปิ สติ ปฏิคฺคาหเก ยาว กถินสฺสุพฺภารา ทาตพฺพํ, อนตฺถเต ปน กถิเน อนฺโตเหมนฺเต เอวฺจ วตฺวา ทินฺนํ, ปจฺฉิมวสฺสํวุฏฺานมฺปิ ปาปุณาตีติ ลกฺขณฺู วทนฺติ. อฏฺกถาสุ ปเนตํ น วิจาริตํ.
สเจ ปน พหิอุปจารสีมายํ ิโต ‘‘วสฺสํวุฏฺสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ, สมฺปตฺตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ. อถ ‘‘อสุกวิหาเร วสฺสํวุฏฺสงฺฆสฺสา’’ติ วทติ, ตตฺร วสฺสํวุฏฺานเมว ยาว กถินสฺสุพฺภารา ปาปุณาติ. สเจ ปน คิมฺหานํ ปมทิวสโต ¶ ปฏฺาย เอวํ วทติ, ตตฺร สมฺมุขีภูตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ. กสฺมา? ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนตฺตา. อนฺโตวสฺเสเยว ‘‘วสฺสํ วสนฺตานํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ฉินฺนวสฺสา น ลภนฺติ, วสฺสํ วสนฺตาว ลภนฺติ. จีวรมาเส ¶ ปน ‘‘วสฺสํ วสนฺตานํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปจฺฉิมิกาย วสฺสูปคตานํเยว ปาปุณาติ, ปุริมิกาย วสฺสูปคตานฺจ ฉินฺนวสฺสานฺจ น ปาปุณาติ.
จีวรมาสโต ปฏฺาย ยาว เหมนฺตสฺส ปจฺฉิโม ทิวโส, ตาว วสฺสาวาสิกํ เทมาติ วุตฺเต กถินํ อตฺถตํ วา โหตุ อนตฺถตํ วา อตีตวสฺสํวุฏฺานเมว ปาปุณาติ. คิมฺหานํ ปมทิวสโต ปฏฺาย วุตฺเต ปน มาติกา อาโรเปตพฺพา – ‘‘อตีตวสฺสาวาสสฺส ปฺจ มาสา อติกฺกนฺตา, อนาคโต จตุมาสจฺจเยน ภวิสฺสติ, กตรวสฺสาวาสสฺส เทตี’’ติ? สเจ ‘‘อตีตวสฺสํวุฏฺานํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ตํอนฺโตวสฺสํวุฏฺานเมว ปาปุณาติ, ทิสาปกฺกนฺตานมฺปิ สภาคา คณฺหิตุํ ลภนฺติ.
สเจ ‘‘อนาคเต วสฺสาวาสิกํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ตํ เปตฺวา วสฺสูปนายิกทิวเส คเหตพฺพํ. อถ ‘‘อคุตฺโต วิหาโร, โจรภยํ อตฺถิ, น สกฺกา เปตุํ, คณฺหิตฺวา วา อาหิณฺฑิตุ’’นฺติ ¶ วุตฺเต ‘‘สมฺปตฺตานํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ภาเชตฺวา คเหตพฺพํ. สเจ วทติ ‘‘อิโต เม ภนฺเต ตติเย วสฺเส วสฺสาวาสิกํ น ทินฺนํ, ตํ ทมฺมี’’ติ, ตสฺมึ อนฺโตวสฺเส วุฏฺภิกฺขูนํ ปาปุณาติ. สเจ เต ทิสา ปกฺกนฺตา, อฺโ วิสฺสาสิโก คณฺหาติ, ทาตพฺพํ. อถ เอโกเยว อวสิฏฺโ, เสสา กาลงฺกตา, สพฺพํ เอกสฺเสว ปาปุณาติ. สเจ เอโกปิ นตฺถิ, สงฺฆิกํ โหติ, สมฺมุขีภูเตหิ ภาเชตพฺพํ.
อาทิสฺส เทตีติ อาทิสิตฺวา ปริจฺฉินฺทิตฺวา เทติ; ยาคุยา วาติอาทีสุ อยมตฺโถ – ยาคุยา วา…เป… เภสชฺเช วา อาทิสฺส เทติ. ตตฺรายํ โยชนา – ภิกฺขู อชฺชตนาย วา สฺวาตนาย วา ยาคุยา นิมนฺเตตฺวา เตสํ ฆรํ ปวิฏฺานํ ยาคุํ เทติ, ยาคุํ ทตฺวา ปีตาย ยาคุยา ‘‘อิมานิ จีวรานิ, เยหิ มยฺหํ ยาคุ ปีตา, เตสํ ทมฺมี’’ติ เทติ, เยหิ นิมนฺติเตหิ ยาคุ ปีตา, เตสํเยว ปาปุณาติ. เยหิ ปน ภิกฺขาจารวตฺเตน ฆรทฺวาเรน คจฺฉนฺเตหิ วา ฆรํ ปวิฏฺเหิ วา ยาคุ ลทฺธา, เยสํ วา อาสนสาลโต ปตฺตํ อาหริตฺวา มนุสฺเสหิ นีตา, เยสํ วา เถเรหิ เปสิตา, เตสํ น ปาปุณาติ. สเจ ¶ ปน นิมนฺติตภิกฺขูหิ สทฺธึ อฺเปิ พหู อาคนฺตฺวา อนฺโตเคหฺจ พหิเคหฺจ ปูเรตฺวา นิสินฺนา, ทายโก จ เอวํ วทติ – ‘‘นิมนฺติตา วา โหนฺตุ อนิมนฺติตา วา, เยสํ มยา ยาคุ ทินฺนา, สพฺเพสํ อิมานิ วตฺถานิ โหนฺตู’’ติ สพฺเพสํ ปาปุณนฺติ. เยหิ ปน เถรานํ หตฺถโต ยาคุ ลทฺธา ¶ , เตสํ น ปาปุณนฺติ. อถ โส ‘‘เยหิ มยฺหํ ยาคุ ปีตา, สพฺเพสํ โหนฺตู’’ติ วทติ, สพฺเพสํ ปาปุณนฺติ. ภตฺตขาทนีเยสุปิ เอเสว นโย.
จีวเร วาติ ปุพฺเพปิ เยน วสฺสํ วาเสตฺวา ภิกฺขูนํ จีวรํ ทินฺนปุพฺพํ โหติ, โส เจ ภิกฺขู โภเชตฺวา วทติ – ‘‘เยสํ มยา ปุพฺเพ จีวรํ ทินฺนํ, เตสํเยว อิมํ จีวรํ วา สุตฺตํ วา สปฺปิมธุผาณิตาทีนิ วา โหนฺตู’’ติ, สพฺพํ เตสํเยว ปาปุณาติ. เสนาสเน วาติ โย มยา การิเต วิหาเร วา ปริเวเณ วา วสติ, ตสฺสิทํ โหตู’’ติ วุตฺเต ตสฺเสว โหติ. เภสชฺเช วาติ ‘‘มยํ กาเลน กาลํ เถรานํ สปฺปิอาทีนิ เภสชฺชานิ เทม, เยหิ ตานิ ลทฺธานิ, เตสํเยวิทํ โหตู’’ติ วุตฺเต เตสํเยว โหติ.
ปุคฺคลสฺส เทตีติ ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ เอวํ ปรมฺมุขา วา ปาทมูเล เปตฺวา ‘‘อิมํ ภนฺเต ตุมฺหากํ ทมฺมี’’ติ เอวํ สมฺมุขา วา เทติ. สเจ ปน ‘‘อิทํ ตุมฺหากฺจ ตุมฺหากํ อนฺเตวาสิกานฺจ ทมฺมี’’ติ เอวํ วทติ, เถรสฺส จ อนฺเตวาสิกานฺจ ปาปุณาติ. อุทฺเทสํ คเหตุํ อาคโต คเหตฺวา คจฺฉนฺโต จ อตฺถิ, ตสฺสาปิ ปาปุณาติ. ‘‘ตุมฺเหหิ สทฺธึ นิพทฺธจาริกภิกฺขูนํ ¶ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต อุทฺเทสนฺเตวาสิกานํ วตฺตํ กตฺวา อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนิ คเหตฺวา วิจรนฺตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ. อยํ ปุคฺคลสฺส เทตีติ อิมสฺมึ ปเท วินิจฺฉโย. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
จีวรกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. จมฺเปยฺยกฺขนฺธกํ
กสฺสปโคตฺตภิกฺขุวตฺถุกถา
๓๘๐. จมฺเปยฺยกฺขนฺธเก ¶ ¶ – คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเรติ คคฺครานามิกาย อิตฺถิยา การิตโปกฺขรณิยา ตีเร. ตนฺติพทฺโธติ ตสฺมึ อาวาเส กตฺตพฺพตาตนฺติปฏิพทฺโธ. อุสฺสุกฺกมฺปิ อกาสิ ยาคุยาติอาทีสุ มนุสฺเสหิ อาคนฺตุเกสุ อาคเตสุ ¶ อาจิกฺเขยฺยาถาติ วุตฺตฏฺาเนเยว อุสฺสุกฺกํ กาตุํ วฏฺฏติ; น อวุตฺตฏฺาเน. คจฺฉ ตฺวํ ภิกฺขูติ สตฺถา ตสฺส ภิกฺขุโน ตตฺเถว เสนาสนํ สปฺปายนฺติ อทฺทส, เตเนวมาห.
๓๘๒. อธมฺเมน วคฺคกมฺมํ กโรนฺตีติอาทีนํ ปรโต ปาฬิยํเยว นานากรณํ อาคมิสฺสติ.
๓๘๕. อฺตฺราปิ ธมฺมา กมฺมํ กโรนฺตีติ อฺตฺราปิ ธมฺมํ กมฺมํ กโรนฺติ, อยเมว วา ปาโ. ภูเตน วตฺถุนา กตํ ธมฺเมน กตํ นาม โหติ, ตถา น กโรนฺตีติ อตฺโถ. อฺตฺราปิ วินยา กมฺมํ, อฺตฺราปิ สตฺถุสาสนา กมฺมนฺติ เอเตสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน วินโยติ โจทนา จ สารณา จ. สตฺถุสาสนนฺติ ตฺติสมฺปทา อนุสฺสาวนสมฺปทา จ; ตาหิ วินา กมฺมํ กโรนฺตีติ อตฺโถ. ปฏิกุฏฺกตนฺติ ปฏิกุฏฺฺเจว กตฺจ; ยํ อฺเสุ ปฏิกฺโกสนฺเตสุ กตํ ตํ ปฏิกุฏฺฺเจว โหติ กตฺจ; ตาทิสมฺปิ กมฺมํ กโรนฺตีติ อตฺโถ.
๓๘๗. ฉยิมานิ ภิกฺขเว กมฺมานิ อธมฺมกมฺมนฺติอาทีสุ ปน ‘‘ธมฺโม’’ติ ปาฬิยา อธิวจนํ. ตสฺมา ยํ ยถาวุตฺตาย ปาฬิยา น กริยติ, ตํ อธมฺมกมฺมนฺติ เวทิตพฺพํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน ปาฬิยํเยว อาคโต. โส จ โข ตฺติทุติยตฺติจตุตฺถกมฺมานํเยว วเสน. ยสฺมา ปน ตฺติกมฺเม ตฺติทุติยตฺติจตุตฺเถสุ วิย หาปนํ วา อฺถา กรณํ วา นตฺถิ, อปโลกนกมฺมฺจ สาเวตฺวาว กริยติ, ตสฺมา ตานิ ปาฬิยํ น ทสฺสิตานิ, เตสํ สพฺเพสมฺปิ กมฺมานํ วินิจฺฉยํ ปรโต วณฺณยิสฺสาม.
จตุวคฺคกรณาทิกถา
๓๘๘. อิทานิ ¶ ¶ ยทิทํ ฉฏฺํ ธมฺเมน สมคฺคกมฺมํ นาม, ตํ เยหิ สงฺเฆหิ กาตพฺพํ, เตสํ ปเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฺจ สงฺฆา’’ติอาทิ วุตฺตํ. กมฺมปฺปตฺโตติ กมฺมํ ปตฺโต, กมฺมยุตฺโต กมฺมารโห; น กิฺจิ กมฺมํ กาตุํ นารหตีติ อตฺโถ.
๓๘๙. จตุวคฺคกรณฺเจ ภิกฺขเว กมฺมํ ภิกฺขุนิจตุตฺโถติอาทิ ปริสโต กมฺมวิปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ อุกฺขิตฺตกคฺคหเณน กมฺมนานาสํวาสโก คหิโต, นานาสํวาสกคฺคหเณน ลทฺธินานาสํวาสโก. นานาสีมาย ิตจตุตฺโถติ สีมนฺตริกาย วา พหิสีมาย วา หตฺถปาเส ิเตนาปิ สทฺธึ จตุวคฺโค หุตฺวาติ อตฺโถ.
๓๙๓. ปาริวาสิกจตุตฺโถติอาทิ ¶ ปริวาสาทิกมฺมานํเยว ปริสโต วิปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, เตสํ วินิจฺฉยํ ปรโต วณฺณยิสฺสาม.
๓๙๔. เอกจฺจสฺส ภิกฺขเว สงฺฆมชฺเฌ ปฏิกฺโกสนา รุหตีติอาทิ ปฏิกุฏฺกตกมฺมสฺส กุปฺปากุปฺปภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ปกตตฺตสฺสาติ อวิปนฺนสีลสฺส ปาราชิกํ อนชฺฌาปนฺนสฺส. อานนฺตริกสฺสาติ อตฺตโน อนนฺตรํ นิสินฺนสฺส.
ทฺเวนิสฺสารณาทิกถา
๓๙๕. ทฺเวมา ภิกฺขเว นิสฺสารณาติอาทิ วตฺถุโต กมฺมานํ กุปฺปากุปฺปภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘อปฺปตฺโต นิสฺสารณํ, ตฺเจ สงฺโฆ นิสฺสาเรติ, สุนิสฺสาริโต’’ติ อิทํ ปพฺพาชนียกมฺมํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปพฺพาชนียกมฺเมน หิ วิหารโต นิสฺสาเรนฺติ, ตสฺมา ตํ ‘‘นิสฺสารณา’’ติ วุจฺจติ. ตฺเจส ยสฺมา กุลทูสโก น โหติ, ตสฺมา อาเวณิเกน ลกฺขเณน อปฺปตฺโต. ยสฺมา ปนสฺส อากงฺขมาโน สงฺโฆ ปพฺพาชนียกมฺมํ กเรยฺยาติ วุตฺตํ, ตสฺมา สุนิสฺสาริโต โหติ. ตฺเจ สงฺโฆ นิสฺสาเรตีติ สเจ สงฺโฆ ตชฺชนียกมฺมาทิวเสน นิสฺสาเรติ, โส ยสฺมา ตตฺถ ‘‘ติณฺณํ ภิกฺขเว ภิกฺขูนํ อากงฺขมาโน สงฺโฆ ตชฺชนียกมฺมํ กเรยฺย – เอโก ภณฺฑนการโก โหติ กลหการโก วิวาทการโก ภสฺสการโก สงฺเฆ อธิกรณการโก, เอโก พาโล ¶ โหติ อพฺยตฺโต อาปตฺติพหุโล อนปทาโน, เอโก คิหิสํสฏฺโ วิหรติ อนนุโลมิเกหิ ¶ คิหิสํสคฺเคหี’’ติ (จูฬว. ๓๙๕) เอวํ เอเกเกนปิ องฺเคน นิสฺสารณา อนฺุาตา, ตสฺมา สุนิสฺสาริโต.
๓๙๖. โอสารณาติ ปเวสนา. ตตฺถ ตฺเจ สงฺโฆ โอสาเรตีติ อุปสมฺปทกมฺมวเสน ปเวเสติ. โทสาริโตติ ทุโอสาริโต. สหสฺสกฺขตฺตุมฺปิ อุปสมฺปาทิโต อนุปสมฺปนฺโนว โหติ อาจริยุปชฺฌายา จ สาติสารา, ตถา เสโส การกสงฺโฆ, น โกจิ อาปตฺติโต มุจฺจติ. อิติ อิเม เอกาทส อภพฺพปุคฺคลา โทสาริตา. หตฺถจฺฉินฺนาทโย ปน ทฺวตฺตึส สุโอสาริตา, อุปสมฺปาทิตา อุปสมฺปนฺนาว โหนฺติ, น เต ลพฺภา กิฺจิ วตฺตุํ. อาจริยุปชฺฌายา ปน การกสงฺโฆ จ สาติสารา, น โกจิ อาปตฺติโต มุจฺจติ.
๓๙๗. อิธ ปน ภิกฺขเว ภิกฺขุสฺส น โหติ อาปตฺติ ทฏฺพฺพาติอาทิ อภูตวตฺถุวเสน อธมฺมกมฺมํ, ภูตวตฺถุวเสน ธมฺมกมฺมฺจ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ ปฏินิสฺสชฺชิตาติ ปฏินิสฺสชฺชิตพฺพา.
อุปาลิปุจฺฉากถา
๔๐๐. อุปาลิปฺเหสุปิ วตฺถุวเสเนว ¶ ธมฺมาธมฺมกมฺมํ วิภตฺตํ. ตตฺถ ทฺเว นยา – เอกมูลโก จ ทฺวิมูลโก จ. เอกมูลโก อุตฺตาโนเยว. ทฺวิมูลเก ยถา สติวินโย อมูฬฺหวินเยน สทฺธึ เอกา ปุจฺฉา กตา, เอวํ อมูฬฺหวินยาทโยปิ ตสฺสปาปิยฺยสิกาทีหิ. อวสาเน ปน อุปสมฺปทารหํ อุปสมฺปาเทตีติ เอกเมว ปทํ โหติ. ปรโต ภิกฺขูนมฺปิ สติวินยํ อาทึ กตฺวา เอเกเกน สทฺธึ เสสปทานิ โยเชตพฺพานิ.
ตชฺชนียกมฺมกถา
๔๐๗. อิธ ปน ภิกฺขเว ภิกฺขุ ภณฺฑนการโกติอาทิ ‘‘อธมฺเมนวคฺคํ, อธมฺเมนสมคฺคํ; ธมฺเมนวคฺคํ, ธมฺมปติรูปเกนวคฺคํ, ธมฺมปติรูปเกนสมคฺค’’นฺติ อิเมสํ วเสน จกฺกํ พนฺธิตฺวา ตชฺชนียาทีสุ สตฺตสุ กมฺเมสุ ปฏิปสฺสทฺธีสุ จ ¶ วิปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ อนปทาโนติ อปทานวิรหิโต. อปทานํ วุจฺจติ ปริจฺเฉโท; อาปตฺติปริจฺเฉทวิรหิโตติ อตฺโถ. ตโต ปรํ ปฏิกุฏฺกตกมฺมปฺปเภทํ ทสฺเสตุํ สาเยว ปาฬิ ‘‘อกตํ กมฺม’’นฺติอาทีหิ สํสนฺทิตฺวา ¶ วุตฺตา. ตตฺถ น กิฺจิ ปาฬิอนุสาเรน น สกฺกา วิทิตุํ, ตสฺมา วณฺณนํ น วิตฺถารยิมฺหาติ.
จมฺเปยฺยกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. โกสมฺพกกฺขนฺธกํ
โกสมฺพกวิวาทกถา
๔๕๑. โกสมฺพกกฺขนฺธเก ¶ ¶ – ตํ ภิกฺขุํ อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺขิปึสูติ เอตฺถ อยมนุปุพฺพิกถา – ทฺเว กิร ภิกฺขู เอกสฺมึ อาวาเส วสนฺติ วินยธโร จ สุตฺตนฺติโก จ. เตสุ สุตฺตนฺติโก ภิกฺขุ เอกทิวสํ วจฺจกุฏึ ปวิฏฺโ อาจมนอุทกาวเสสํ ภาชเน เปตฺวาว นิกฺขมิ. วินยธโร ปจฺฉา ปวิฏฺโ ตํ อุทกํ ทิสฺวา นิกฺขมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ ปุจฺฉิ – ‘‘อาวุโส, ตยา อิทํ อุทกํ ปิต’’นฺติ? ‘‘อามาวุโส’’ติ. ‘‘กึ ตฺวํ เอตฺถ อาปตฺติภาวํ น ชานาสี’’ติ? ‘‘อาม, น ชานามี’’ติ. ‘‘โหติ, อาวุโส เอตฺถ อาปตฺตี’’ติ? ‘‘สเจ โหติ, เทสิสฺสามี’’ติ. ‘‘สเจ ปน เต, อาวุโส, อสฺจิจฺจ อสติยา กตํ, นตฺถิ ¶ อาปตฺตี’’ติ. โส ตสฺสา อาปตฺติยา อนาปตฺติทิฏฺิ อโหสิ.
วินยธโรปิ อตฺตโน นิสฺสิตกานํ ‘‘อยํ สุตฺตนฺติโก อาปตฺตึ อาปชฺชมาโนปิ น ชานาตี’’ติ อาโรเจสิ. เต ตสฺส นิสฺสิตเก ทิสฺวา ‘‘ตุมฺหากํ อุปชฺฌาโย อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาปิ อาปตฺติภาวํ น ชานาตี’’ติ อาหํสุ. เต คนฺตฺวา อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส อาโรเจสุํ. โส เอวมาห – ‘‘อยํ วินยธโร ปุพฺเพ อนาปตฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘อิทานิ อาปตฺตี’’ติ วทติ. มุสาวาที เอโสติ. เต คนฺตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ อุปชฺฌาโย มุสาวาที’’ติ เอวํ อฺมฺํ กลหํ วฑฺฒยึสุ. ตโต วินยธโร โอกาสํ ลภิตฺวา ตสฺส อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺเขปนียกมฺมํ อกาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตํ ภิกฺขุํ อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺขิปึสู’’ติ.
๔๕๓. ภินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ ภินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆติ เอตฺถ น ตาว ภินฺโน; อปิจ โข ยถา เทเว วุฏฺเ ‘‘อิทานิ สสฺสํ นิปฺผนฺน’’นฺติ วุจฺจติ, อวสฺสฺหิ ตํ นิปฺผชฺชิสฺสติ, เอวเมว อิมินา การเณน อายตึ อวสฺสํ ภิชฺชิสฺสติ, โส จ โข กลหวเสน น สงฺฆเภทวเสน, ตสฺมา ‘‘ภินฺโน’’ติ วุตฺตํ. สมฺภมอตฺถวเสน เจตฺถ อาเมฑิตํ เวทิตพฺพํ.
๔๕๔. เอตมตฺถํ ¶ ¶ ภาสิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามีติ กสฺมา เอวํ ภาสิตฺวา ปกฺกามิ? สเจ หิ ภควา อุกฺเขปเก วา ‘‘อการเณ ตุมฺเหหิ โส ภิกฺขุ อุกฺขิตฺโต’’ติ วเทยฺย, อุกฺขิตฺตานุวตฺตเก วา ‘‘ตุมฺเห อาปตฺตึ อาปนฺนา’’ติ วเทยฺย, ‘‘เอเตสํ ภควา ปกฺโข, เอเตสํ ภควา ปกฺโข’’ติ วตฺวา อาฆาตํ พนฺเธยฺยุํ, ตสฺมา ตนฺติเมว เปตฺวา เอตมตฺถํ ภาสิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.
๔๕๕. อตฺตนา วา อตฺตานนฺติ เอตฺถ โย สงฺเฆน อุกฺเขปนียกตานํ อธมฺมวาทีนํ ปกฺเข นิสินฺโน ‘‘ตุมฺเห กึ ภณถา’’ติ เตสฺจ อิตเรสฺจ ลทฺธึ สุตฺวา ‘‘อิเม อธมฺมวาทิโน, อิตเร ธมฺมวาทิโน’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทติ, อยํ เตสํ มชฺเฌ นิสินฺโนว เตสํ นานาสํวาสโก โหติ, กมฺมํ โกเปติ, อิตเรสมฺปิ หตฺถปาสํ อนาคตตฺตา โกเปติ. เอวํ อตฺตนา วา อตฺตานํ นานาสํวาสกํ กโรติ. สมานสํวาสกนฺติ เอตฺถาปิ โย อธมฺมวาทีนํ ปกฺเข นิสินฺโน ‘‘อธมฺมวาทิโน อิเม, อิตเร ธมฺมวาทิโน’’ติ เตสํ มชฺฌํ ปวิสติ, ยตฺถ วา ตตฺถ ¶ วา ปน ปกฺเข นิสินฺโน ‘‘อิเม ธมฺมวาทิโน’’ติ คณฺหาติ, อยํ อตฺตนา วา อตฺตานํ สมานสํวาสกํ กโรตีติ เวทิตพฺโพ.
๔๕๖. กายกมฺมํ วจีกมฺมนฺติ เอตฺถ กาเยน ปหรนฺตา กายกมฺมํ อุปทํเสนฺติ, ผรุสํ วทนฺตา วจีกมฺมํ อุปทํเสนฺตีติ เวทิตพฺพา. หตฺถปรามาสํ กโรนฺตีติ โกธวเสน หตฺเถหิ อฺมฺํ ปรามสนํ กโรนฺติ. อธมฺมิยายมาเนติ อธมฺมิยานิ กิจฺจานิ กุรุมาเน. อสมฺโมทิกาวตฺตมานายาติ อสมฺโมทิกาย วตฺตมานาย. อยเมว วา ปาโ. สมฺโมทนกถาย อวตฺตมานายาติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา น อฺมฺนฺติ เอตฺถ ทฺเว ปนฺติโย กตฺวา อุปจารํ มฺุจิตฺวา นิสีทิตพฺพํ, ธมฺมิยายมาเน ปน สมฺโมทิกาย วตฺตมานาย อาสนนฺตริกาย นิสีทิตพฺพํ, เอเกกํ อาสนํ อนฺตรํ กตฺวา นิสีทิตพฺพํ.
๔๕๗-๔๕๘. มา ภณฺฑนนฺติอาทีสุ ‘‘อกตฺถา’’ติ ปาเสสํ คเหตฺวา ‘‘มา ภณฺฑนํ อกตฺถา’’ติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อธมฺมวาทีติ อุกฺขิตฺตานุวตฺตเกสุ อฺตโร. อยํ ปน ภิกฺขุ ภควโต อตฺถกาโม, อยํ กิรสฺส อธิปฺปาโย ¶ ‘‘อิเม ภิกฺขู โกธาภิภูตา สตฺถุ วจนํ น คณฺหนฺติ, มา ภควา เอเต โอวทนฺโต กิลมิตฺถา’’ติ ตสฺมา เอวมาห. ภควา ปน ‘‘ปจฺฉาปิ สฺํ ลภิตฺวา โอรมิสฺสนฺตี’’ติ เตสํ อนุกมฺปาย อตีตวตฺถุํ อาหริตฺวา กเถสิ. ตตฺถ อนตฺถโตติ อนตฺโถ อโต; เอตสฺมา เม ปุริสา อนตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา อนตฺถโตติ อนตฺถโท. เสสํ ปากฏเมว.
๔๖๔. ปุถุสทฺโทติอาทิคาถาสุ ¶ ปน ปุถุ มหา สทฺโท อสฺสาติ ปุถุสทฺโท. สมชโนติ สมาโน เอกสทิโส ชโน; สพฺโพ จายํ ภณฺฑนการโกชโน สมนฺตโต สทฺทนิจฺฉารเณน ปุถุสทฺโท เจว สทิโส จาติ วุตฺตํ โหติ. น พาโล โกจิ มฺถาติ ตตฺถ โกจิ เอโกปิ ‘‘อหํ พาโล’’ติ น มฺิตฺถ; สพฺเพปิ ปณฺฑิตมานิโนเยว. นาฺํ ภิยฺโย อมฺรุนฺติ โกจิ เอโกปิ ‘‘อหํ พาโล’’ติ จ น มฺิตฺถ; ภิยฺโย จ สงฺฆสฺมึ ภิชฺชมาเน อฺมฺปิ เอกํ ‘‘มยฺหํ การณา สงฺโฆ ภิชฺชตี’’ติ อิทํ การณํ น มฺิตฺถาติ อตฺโถ.
ปริมุฏฺาติ ปริมุฏฺสฺสติโน. วาจาโคจรภาณิโนติ ราการสฺส รสฺสาเทโส กโต ¶ , วาจาโคจรา น สติปฏฺานาทิโคจรา. ภาณิโน จ กถํ ภาณิโน? ยาวิจฺฉนฺติ มุขายามํ ยาว มุขํ ปสาเรตุํ อิจฺฉนฺติ, ตาว ปสาเรตฺวา ภาณิโน, เอโกปิ สงฺฆคารเวน มุขสงฺโกจํ น กโรตีติ อตฺโถ. เยน นีตาติ เยน กลเหน อิมํ นิลฺลชฺชภาวํ นีตา. น ตํ วิทูติ น ตํ ชานนฺติ, ‘‘เอวํ สาทีนโว อย’’นฺติ.
เย จ ตํ อุปนยฺหนฺตีติ ตํ ‘‘อกฺโกจฺฉิ มํ, อวธิ ม’’นฺติอาทิกํ อาการํ เย จ อุปนยฺหนฺติ. สนนฺตโนติ โปราโณ.
ปเรติ ปณฺฑิเต เปตฺวา ตโต อฺเ ภณฺฑนการกา ปเร นาม. เต เอตฺถ สงฺฆมชฺเฌ กลหํ กโรนฺตา ‘‘มยํ ยมามเส อุปยมาม; สตตํ สมิตํ มจฺจุสนฺติกํ คจฺฉามา’’ติ น ชานนฺติ. เย จ ตตฺถ วิชานนฺตีติ เย ตตฺถ ปณฺฑิตา ‘‘มยํ มจฺจุสมีปํ คจฺฉามา’’ติ วิชานนฺติ. ตโต ¶ สมฺมนฺติ เมธคาติ เอวฺหิ เต ชานนฺตา โยนิโสมนสิการํ อุปฺปาเทตฺวา เมธคานํ กลหานํ วูปสมาย ปฏิปชฺชนฺติ.
อฏฺิจฺฉินฺนาติ อยํ คาถา พฺรหฺมทตฺตฺจ ทีฆาวุกุมารฺจ สนฺธาย วุตฺตา. เตสมฺปิ โหติ สงฺคติ, กสฺมา ตุมฺหากํ น โหติ, เยสํ โว เนว มาตาปิตูนํ อฏฺีนิ ฉินฺนานิ, น ปาณา หตา, น ควาสฺสธนานิ หฏานีติ.
สเจ ลเภถาติอาทิคาถา ปณฺฑิตสหายสฺส จ พาลสหายสฺส จ วณฺณาวณฺณทีปนตฺถํ วุตฺตา. อภิภุยฺย สพฺพานิ ปริสฺสยานีติ ปากฏปริสฺสเย จ ปฏิจฺฉนฺนปริสฺสเย จ อภิภวิตฺวา เตน สทฺธึ อตฺตมโน สติมา จเรยฺย.
ราชาว ¶ รฏฺํ วิชิตนฺติ ยถา อตฺตโน วิชิตํ รฏฺํ มหาชนกราชา จ อรินฺทมมหาราชา จ ปหาย เอกกา จรึสุ; เอวํ จเรยฺยาติ อตฺโถ. มาตงฺครฺเว นาโคติ มาตงฺโค อรฺเ นาโคว. มาตงฺโคติ หตฺถี วุจฺจติ; นาโคติ มหนฺตาธิวจนเมตํ. ยถา หิ มาตุโปสโก มาตงฺคนาโค อรฺเ เอโก จริ, น จ ปาปานิ ¶ อกาสิ. ยถา จ ปาลิเลยฺยโก, เอวํ เอโก จเร, น จ ปาปานิ กยิราติ วุตฺตํ โหติ.
ปาลิเลยฺยกคมนกถา
๔๖๗. ปาลิเลยฺยเก วิหรติ รกฺขิตวนสณฺเฑติ ปาลิเลยฺยกํ อุปนิสฺสาย รกฺขิตวนสณฺเฑ วิหรติ. หตฺถินาโคติ มหาหตฺถี. หตฺถิกลเภหีติ หตฺถิโปตเกหิ. หตฺถิจฺฉาเปหีติ ขีรูปเกหิ ทหรโปตเกหิ. ฉินฺนคฺคานีติ เตหิ ปุรโต ปุรโต คจฺฉนฺเตหิ ฉินฺนคฺคานิ ขายิตาวเสสานิ ขาณุสทิสานิ ติณานิ ขาทติ. โอภคฺโคภคฺคนฺติ เตน หตฺถินาเคน อุจฺจฏฺานโต ภฺชิตฺวา ภฺชิตฺวา ปาติตํ. อสฺส สาขาภงฺคนฺติ เอตสฺส สนฺตกํ สาขาภงฺคํ เต ขาทนฺติ. อาวิลานีติ เตหิ ปมตรํ โอตริตฺวา ปิวนฺเตหิ อาลุลิตานิ กทฺทโมทกานิ ปิวติ. โอคาหาติ ติตฺถโต.
นาคสฺส นาเคนาติ หตฺถินาคสฺส พุทฺธนาเคน. อีสาทนฺตสฺสาติ รถอีสาสทิสทนฺตสฺส. ยเทโก รมตี วเนติ ยสฺมา พุทฺธนาโค วิย อยมฺปิ หตฺถินาโค เอโก ปวิวิตฺโต วเน รมติ; ตสฺมาสฺส นาคสฺส ¶ นาเคน จิตฺตํ สเมติ, เอกีภาวรติยา เอกสทิสํ โหตีติ อตฺโถ.
ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวาติ เอตฺถ เตมาสํ ภควา ตตฺถ วิหาสีติ เวทิตพฺโพ. เอตฺตาวตา โกสมฺพเกหิ กิร อุพฺพาฬฺโห ภควา เตมาสํ อรฺํ ปวิสิตฺวา วสีติ สพฺพตฺถ กถา ปตฺถฏา อโหสิ.
อถ โข โกสมฺพกา อุปาสกาติ อถ โข อิมํ กถาสลฺลาปํ สุตฺวา โกสมฺพิวาสิโน อุปาสกา.
อฏฺารสวตฺถุกถา
๔๖๘. อธมฺมํ ธมฺโมติอาทีนิ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ สงฺฆเภทกกฺขนฺธเก วณฺณยิสฺสาม.
๔๗๕. ตํ ¶ อุกฺขิตฺตกํ ภิกฺขุํ โอสาเรตฺวาติ ตํ คเหตฺวา สีมํ คนฺตฺวา อาปตฺตึ เทสาเปตฺวา กมฺมวาจาย โอสาเรตฺวา. ตาวเทว อุโปสโถติ ตํทิวสเมว อุโปสถกฺขนฺธเก วุตฺตนเยเนว สามคฺคีอุโปสโถ กาตพฺโพ.
๔๗๖. อมูลา มูลํ คนฺตฺวาติ น มูลา มูลํ คนฺตฺวา; ตํ วตฺถุํ อวินิจฺฉินิตฺวาติ อตฺโถ. อยํ วุจฺจติ อุปาลิ สงฺฆสามคฺคี อตฺถาเปตา พฺยฺชนูเปตาติ อตฺถโต อปคตา, ‘‘สงฺฆสามคฺคี’’ติ อิมํ ปน พฺยฺชนมตฺตํ อุเปตา.
๔๗๗. สงฺฆสฺส กิจฺเจสูติ สงฺฆสฺส กรณีเยสุ อุปฺปนฺเนสุ. มนฺตนาสูติ ¶ วินยมนฺตนาสุ. อตฺเถสุ ชาเตสูติ วินยอตฺเถสุ อุปฺปนฺเนสุ. วินิจฺฉเยสูติ เตสํเยว อตฺถานํ วินิจฺฉเยสุ. มหตฺถิโกติ มหาอุปกาโร. ปคฺคหารโหติ ปคฺคณฺหิตุํ วุตฺโต.
อนานุวชฺโช ปเมน สีลโตติอาทิมฺหิเยว ตาว สีลโต น อุปวชฺโช. อเวกฺขิตาจาโรติ อเปกฺขิตาจาโร; อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการีติอาทินา นเยน อุปปริกฺขิตาจาโร. อฏฺกถาสุ ปน ‘‘อปฺปฏิจฺฉนฺนาจาโร’’ติ วุตฺตํ.
วิสยฺหาติ ¶ อภิภวิตฺวา. อนุยฺยุตํ ภณนฺติ อนฺุาตํ อนปคตํ ภณนฺโต. ยสฺมา หิ โส อนุยฺยุตํ ภณติ, อุสูยาย วา อคติคมนวเสน วา การณาปคตํ น ภณติ, ตสฺมา อตฺถํ น หาเปติ. อุสูยาย ปน อคติคมนวเสน วา ภณนฺโต อตฺถํ หาเปติ, การณํ น เทติ, ตสฺมา โส ปริสคโต ฉมฺภติ เจว เวธติ จ. โย อีทิโส น โหติ, อยํ ‘‘ปคฺคหารโห’’ติ ทสฺเสติ.
กิฺจ ภิยฺโย ‘‘ตเถว ปฺห’’นฺติ คาถา, ตสฺสตฺโถ – ยถา จ อนุยฺยุตํ ภณนฺโต อตฺถํ น หาเปติ, ตเถว ปริสาย มชฺเฌ ปฺหํ ปุจฺฉิโต สมาโน น เจว ปชฺฌายติ, น จ มงฺกุ โหติ. โย หิ อตฺถํ น ชานาติ, โส ปชฺฌายติ. โย วตฺตุํ น สกฺโกติ, โส มงฺกุ โหติ. โย ปน อตฺถฺจ ชานาติ, วตฺตฺุจ สกฺโกติ; โส น ปชฺฌายติ, น มงฺกุ โหติ. กาลาคตนฺติ กเถตพฺพยุตฺตกาเล อาคตํ. พฺยากรณารหนฺติ ปฺหสฺส อตฺถานุโลมตาย พฺยากรณานุจฺฉวิกํ. วโจติ วทนฺโต; เอวรูปํ วจนํ ภณนฺโตติ อตฺโถ. รฺเชตีติ โตเสติ. วิฺูปริสนฺติ วิฺูนํ ปริสํ.
อาเจรกมฺหิ ¶ จ สเกติ อตฺตโน อาจริยวาเท. อลํ ปเมตุนฺติ วีมํสิตุํ ตํ ตํ การณํ ปฺาย ตุลยิตุํ สมตฺโถ. ปคุโณติ กตปริจโย ลทฺธาเสวโน. กเถตเวติ กเถตพฺเพ. วิรทฺธิโกวิโทติ วิรทฺธฏฺานกุสโล.
ปจฺจตฺถิกา เยน วชนฺตีติ อยํ คาถา ยาทิเส กเถตพฺเพ ปคุโณ, ตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตา. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ยาทิเสน กถิเตน ปจฺจตฺถิกา จ นิคฺคหํ คจฺฉนฺติ, มหาชโน จ สฺปนํ คจฺฉติ; สฺตฺตึ อวโพธนํ คจฺฉตีติ ¶ อตฺโถ. ยฺจ กเถนฺโต สกํ อาทายํ อตฺตโน อาจริยวาทํ น หาเปติ, ยสฺมึ วตฺถุสฺมึ อธิกรณํ อุปฺปนฺนํ, ตทนุรูปํ อนุปฆาตกรํ ปฺหํ พฺยากรมาโน ตาทิเส กเถตพฺเพ ปคุโณ โหตีติ.
ทูเตยฺยกมฺเมสุ อลนฺติ อฏฺหิ ทูตงฺเคหิ สมนฺนาคตตฺตา สงฺฆสฺส ทูเตยฺยกมฺเมสุ สมตฺโถ. สุฏฺุ อุคฺคณฺหาตีติ สมุคฺคโห. อิทํ วุตฺตํ โหติ ¶ – ยถา นาม อาหุนํ อาหุติปิณฺฑํ สมุคฺคณฺหนฺติ, เอวํ ปีติโสมนสฺสชาเตเนว เจตสา สงฺฆสฺส กิจฺเจสุ สมุคฺคโห, สงฺฆสฺสกิจฺเจสุ ตสฺส ตสฺส กิจฺจสฺส ปฏิคฺคาหโกติ อตฺโถ. กรํ วโจติ วจนํ กโรนฺโต. น เตน มฺตีติ เตน วจนกรเณน ‘‘อหํ กโรมิ, สงฺฆภารํ นิตฺถรามี’’ติ น มานาติมานํ ชปฺเปติ.
อาปชฺชติ ยาวตเกสุ วตฺถูสูติ ยตฺตเกสุ วตฺถูสุ อาปตฺตึ อาปชฺชมาโน อาปชฺชติ. โหติ ยถา จ วุฏฺิตีติ ตสฺสา จ อาปตฺติยา ยถา วุฏฺานํ โหติ. เอเต วิภงฺคาติ เยสุ วตฺถูสุ อาปชฺชติ, ยถา จ วุฏฺานํ โหติ, อิเมสํ อตฺถานํ โชตกา เอเต วิภงฺคา. อุภยสฺสาติ อุภเย อสฺส. สฺวาคตาติ สุฏฺุ อาคตา. อาปตฺติวุฏฺานปทสฺส โกวิโทติ อาปตฺติวุฏฺานการณกุสโล.
ยานิ จาจรนฺติ ยานิ จ ภณฺฑนการณาทีนิ อาจรนฺโต ตชฺชนียกมฺมาทิวเสน นิสฺสารณํ คจฺฉติ. โอสารณํ ตํวุสิตสฺส ชนฺตุโนติ ตํ วตฺตํ วุสิตสฺส ชนฺตุโน, ยา โอสารณา กาตพฺพา, เอตมฺปิ ชานาติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
โกสมฺพกกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย
มหาวคฺควณฺณนา สมตฺตา.
มหาวคฺค-อฏฺกถา นิฏฺิตา.