📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

วินยปิฏเก

จูฬวคฺค-อฏฺกถา

๑. กมฺมกฺขนฺธกํ

ตชฺชนียกมฺมกถา

. จูฬวคฺคสฺส ปเม กมฺมกฺขนฺธเก ตาว ปณฺฑุกโลหิตกาติ ปณฺฑุโก เจว โลหิตโก จาติ ฉพฺพคฺคิเยสุ ทฺเว ชนา; เตสํ นิสฺสิตกาปิ ปณฺฑุกโลหิตกาตฺเวว ปฺายนฺติ. พลวาพลวํ ปฏิมนฺเตถาติ สุฏฺุพลวํ ปฏิวทถ. อลมตฺถตราติ สมตฺถตรา.

ตชฺชนียกมฺมกถา นิฏฺิตา.

อธมฺมกมฺมทฺวาทสกกถา

. อสมฺมุขา กตนฺติอาทีสุ สงฺฆธมฺมวินยปุคฺคลสมฺมุขานํ วินา กตํ, จุทิตกํ อปฺปฏิปุจฺฉิตฺวา กตํ, ตสฺเสว อปฺปฏิฺาย กตํ. อเทสนาคามินิยาติ ปาราชิกาปตฺติยา วา สงฺฆาทิเสสาปตฺติยา วา. เอตฺถ ปุริมเกสุ ตีสุ ติเกสุ นว ปทา อธมฺเมนกตํ วคฺเคนกตนฺติ อิเมหิ สทฺธึ เอเกกํ คเหตฺวา นว ติกา วุตฺตา. เอวํ สพฺเพปิ ทฺวาทส ติกา โหนฺติ. ปฏิปกฺขวเสน สุกฺกปกฺเขสุปิ เอเตเยว ทฺวาทส ติกา วุตฺตา.

. อนนุโลมิเกหิ คิหิสํสคฺเคหีติ ปพฺพชิตานํ อนนุจฺฉวิเกหิ สหโสกิตาทีหิ คิหิสํสคฺเคหิ.

ติณฺณํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนนฺติอาทิ เอเกเกนาปิ องฺเคน ตชฺชนียกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตชฺชนียสฺส หิ วิเสเสน ภณฺฑนการกตฺตํ องฺคํ, นิยสฺสสฺส อภิณฺหาปตฺติกตฺตํ, ปพฺพาชนียสฺส กุลทูสกตฺตํ วุตฺตํ. อิเมสุ ปน ตีสุ องฺเคสุ เยน เกนจิ สพฺพานิปิ กาตุํ วฏฺฏติ. ยทิ เอวํ ยํ จมฺเปยฺยกฺขนฺธเก วุตฺตํ – ‘‘ตชฺชนียกมฺมารหสฺส นิยสฺสกมฺมํ กโรติ…เป… อุปสมฺปทารหํ อพฺเภติ; เอวํ โข อุปาลิ อธมฺมกมฺมํ โหติ อวินยกมฺมํ, เอวฺจ ปน สงฺโฆ สาติสาโร โหตี’’ติ อิทํ วิรุชฺฌตีติ. อิทฺจ น วิรุชฺฌติ. กสฺมา? วจนตฺถนานตฺตโต, ‘‘ตชฺชนียกมฺมารหสฺสา’’ติ อิมสฺส หิ วจนสฺส กมฺมสนฺนิฏฺานํ อตฺโถ. ‘‘ติณฺณํ, ภิกฺขเว’’ติอาทิวจนสฺส องฺคสมฺภโว, ตสฺมา ยทา สงฺเฆน สนฺนิปติตฺวา ‘‘อิทํ นาม อิมสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ กโรมา’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตํ โหติ, ตทา กมฺมารโห นาม โหติ. ตสฺส อิมินา ลกฺขเณน ตชฺชนียาทิกมฺมารหสฺส นิยสฺสกมฺมาทิกรณํ อธมฺมกมฺมฺเจว อวินยกมฺมฺจาติ เวทิตพฺพํ. ยสฺส ปน ภณฺฑนการกาทีสุ องฺเคสุ อฺตรํ องฺคํ อตฺถิ, ตสฺส อากงฺขมาโน สงฺโฆ ยถานุฺาเตสุ องฺเคสุ จ กมฺเมสุ จ เยน เกนจิ องฺเคน ยํกิฺจิ กมฺมํ ววตฺถเปตฺวา ตํ ภิกฺขุํ กมฺมารหํ กตฺวา กมฺมํ กเรยฺย. อยเมตฺถ วินิจฺฉโย. เอวํ ปุพฺเพนาปรํ สเมติ.

ตตฺถ กิฺจาปิ ตชฺชนียกมฺเม ภณฺฑนการกวเสน กมฺมวาจา วุตฺตา, อถ โข พาลสฺส อพฺยตฺตสฺส อาปตฺติพหุลสฺส ตชฺชนียกมฺมํ กโรนฺเตน พาลอพฺยตฺตวเสเนว กมฺมวาจา กาตพฺพา. เอวฺหิ ภูเตน วตฺถุนา กตํ กมฺมํ โหติ, น จ อฺสฺส กมฺมสฺส วตฺถุนา. กสฺมา? ยสฺมา อิทมฺปิ อนุฺาตนฺติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อฏฺารส สมฺมาวตฺตนวตฺถูนิ ปาริวาสิกกฺขนฺธเก วณฺณยิสฺสาม.

อธมฺมกมฺมทฺวาทสกกถา นิฏฺิตา.

นปฺปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพอฏฺารสกาทิกถา

. โลมํ ปาเตนฺตีติ ปนฺนโลมา โหนฺติ; ภิกฺขู อนุวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. เนตฺถารํ วตฺตนฺตีติ นิตฺถรนฺตานํ เอตนฺติ เนตฺถารํ; เยน สกฺกา นิสฺสารณา นิตฺถริตุํ, ตํ อฏฺารสวิธํ สมฺมาวตฺตนํ วตฺตนฺตีติ อตฺโถ. กิตฺตกํ กาลํ วตฺตํ ปูเรตพฺพนฺติ? ทส วา ปฺจ วา ทิวสานิ. อิมสฺมิฺหิ กมฺมกฺขนฺธเก เอตฺตเกน วตฺตํ ปูริตเมว โหติ.

นปฺปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพอฏฺารสกาทิกถา นิฏฺิตา.

นิยสฺสกมฺมกถา

๑๑. เสยฺยสกวตฺถุสฺมึ – อปิสฺสุ ภิกฺขู ปกตาติ อปิสฺสุ ภิกฺขู นิจฺจํ พฺยาวฏา โหนฺติ. เสสํ ตชฺชนีเย วุตฺตสทิสเมว.

นิยสฺสกมฺมกถา นิฏฺิตา.

ปพฺพาชนียกมฺมกถา

๒๑. อสฺสชิปุนพฺพสุกวตฺถุ สงฺฆาทิเสสวณฺณนายํ วุตฺตํ.

๒๗. กายิเกน ทเวนาติอาทีสุ ปเนตฺถ กายิโก ทโว นาม กายกีฬา วุจฺจติ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. กายิโก อนาจาโร นาม กายทฺวาเร ปฺตฺตสิกฺขาปทวีติกฺกโม วุจฺจติ. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. กายิกํ อุปฆาติกํ นาม กายทฺวาเร ปฺตฺตสิกฺขาปทสฺส อสิกฺขนภาเวน อุปหนนํ วุจฺจติ; นาสนํ วินาสนนฺติ อตฺโถ. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. กายิโก มิจฺฉาชีโว นาม ปฏิกฺขิตฺตเวชฺชกมฺมาทิวเสน เตลปจนอริฏฺปจนาทีนิ. วาจสิโก มิจฺฉาชีโว นาม คิหีนํ สาสนสมฺปฏิจฺฉนาโรจนาทีนิ. กายิกวาจสิโก นาม ตทุภยํ. เสสํ ตชฺชนีเย วุตฺตนยเมว.

ปพฺพาชนียกมฺมกถา นิฏฺิตา.

ปฏิสารณียกมฺมกถา

๓๓. สุธมฺมวตฺถุสฺมึ ปน – อนปโลเกตฺวาติ น อาปุจฺฉิตฺวา. เอตทโวจาติ กึ เต คหปติ เถรานํ ปฏิยตฺตนฺติ สพฺพํ วิวราเปตฺวา ทิสฺวา เอตํ อโวจ. เอกา จ โข อิธ นตฺถิ ยทิทํ ติลสํคุฬิกาติ ยา อยํ ติลสกฺขลิกา นาม วุจฺจติ, สา นตฺถีติ อตฺโถ. ตสฺส กิร คหปติโน วํเส อาทิมฺหิ เอโก ปูวิโย อโหสิ. เตน นํ เถโร ชาติยา ขุํเสตุกาโม เอวมาห. ยเทว กิฺจีติ เอวํ พหุํ พุทฺธวจนํ รตนํ ปหาย กิฺจิเทว ติลสํคุฬิกาวจนํ ภาสิตํ. กุกฺกุฏโปตกอุทาหรเณน อิทํ ทสฺเสติ ‘‘ยถา โส เนว กากวสฺสิตํ น กุกฺกุฏวสฺสิตํ อกาสิ, เอวํ ตยาปิ เนว ภิกฺขุวจนํ น คิหิวจนํ วุตฺต’’นฺติ.

ปฏิสารณียกมฺมกถา นิฏฺิตา.

อธมฺมกมฺมาทิทฺวาทสกกถา

๓๗. อสมฺมุขา กตนฺติอาทโย ติกา วุตฺตปฺปการา เอว.

๓๙. องฺคสมนฺนาคโม ปุริเมหิ อสทิโส. ตตฺถ ยถา ลาภํ น ลภนฺติ; เอวํ ปริสกฺกนฺโต ปรกฺกมนฺโต อลาภาย ปริสกฺกติ นาม. เอส นโย อนตฺถาทีสุ. ตตฺถ อนตฺโถติ อตฺถภงฺโค. อนาวาโสติ ตสฺมึ าเน อวสนํ. คิหีนํ พุทฺธสฺส อวณฺณนฺติ คิหีนํ สนฺติเก พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ. ธมฺมิกํ ปฏิสฺสวํ น สจฺจาเปตีติ ยถา สจฺโจ โหติ, เอวํ น กโรติ; วสฺสาวาสํ ปฏิสฺสุณิตฺวา น คจฺฉติ, อฺํ วา เอวรูปํ กโรติ. ปฺจนฺนํ ภิกฺขเวติอาทิ เอกงฺเคนปิ กมฺมารหภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถฺเจว, ตชฺชนีเย จ วุตฺตนยเมว.

อธมฺมกมฺมาทิทฺวาทสกกถา นิฏฺิตา.

อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺเขปนียกมฺมกถา

๔๖. ฉนฺนวตฺถุสฺมึ อาวาสปรมฺปรฺจ ภิกฺขเว สํสถาติ สพฺพาวาเสสุ อาโรเจถ.

๕๐. ภณฺฑนการโกติอาทีสุ ภณฺฑนาทิปจฺจยา อาปนฺนํ อาปตฺตึ โรเปตฺวา ตสฺสา อทสฺสเนเยว กมฺมํ กาตพฺพํ. ติกา วุตฺตปฺปการา เอว.

๕๑. สมฺมาวตฺตนายํ ปเนตฺถ เตจตฺตาลีส วตฺตานิ. ตตฺถ น อนุทฺธํเสตพฺโพติ น โจเทตพฺโพ. น ภิกฺขุ ภิกฺขูหีติ อฺโ ภิกฺขุ อฺเหิ ภิกฺขูหิ น ภินฺทิตพฺโพ. น คิหิทฺธโชติ โอทาตวตฺถานิ อจฺฉินฺนทสปุปฺผทสานิ จ น ธาเรตพฺพานิ. น ติตฺถิยทฺธโชติ กุสจีราทีนิ น ธาเรตพฺพานิ. น อาสาเทตพฺโพติ น อปสาเทตพฺโพ. อนฺโต วา พหิ วาติ วิหารสฺส อนฺโต วา พหิ วา. น ติตฺถิยาทิปทตฺตยํ อุตฺตานเมว. เสสํ สพฺพํ ปาริวาสิกกฺขนฺธเก วณฺณยิสฺสาม. เสสํ ตชฺชนีเย วุตฺตนยเมว. อาปตฺติยา อปฺปฏิกมฺเม อุกฺเขปนียกมฺมํ อิมินา สทิสเมว.

๖๕. อริฏฺวตฺถุ ขุทฺทกวณฺณนายํ วุตฺตํ. ‘‘ภณฺฑนการโก’’ติอาทีสุ ยํ ทิฏฺึ นิสฺสาย ภณฺฑนาทีนิ กโรติ, ตสฺสา อปฺปฏินิสฺสคฺเคเยว กมฺมํ กาตพฺพํ. เสสํ ตชฺชนีเย วุตฺตนยเมว. สมฺมาวตฺตนายมฺปิ หิ อิธ เตจตฺตาลีสํเยว วตฺตานีติ.

อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺเขปนียกมฺมกถา นิฏฺิตา.

กมฺมกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปาริวาสิกกฺขนฺธกํ

ปาริวาสิกวตฺตกถา

๗๕. ปาริวาสิกกฺขนฺธเก ปาริวาสิกาติ ปริวาสํ ปริวสนฺตา. ตตฺถ จตุพฺพิโธ ปริวาโส – อปฺปฏิจฺฉนฺนปริวาโส, ปฏิจฺฉนฺนปริวาโส, สุทฺธนฺตปริวาโส, สโมธานปริวาโสติ. เตสุ ‘‘โย, ภิกฺขเว, อฺโปิ อฺติตฺถิยปุพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขติ ปพฺพชฺชํ, อากงฺขติ อุปสมฺปทํ, ตสฺส จตฺตาโร มาเส ปริวาโส ทาตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๘๖) เอวํ มหาขนฺธเก วุตฺโต ติตฺถิยปริวาโส อปฺปฏิจฺฉนฺนปริวาโส นาม. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ ตํ วุตฺตเมว. อยํ ปน อิธ อนธิปฺเปโต. เสสา ตโย เยน สงฺฆาทิเสสาปตฺติ อาปนฺนา เจว โหติ ปฏิจฺฉาทิตา จ, ตสฺส ทาตพฺพา. เตสุ ยํ วตฺตพฺพํ ตํ สมุจฺจยกฺขนฺธเก วกฺขาม. เอเต ปน อิธ อธิปฺเปตา. ตสฺมา เอเตสุ ยํกิฺจิ ปริวาสํ ปริวสนฺตา ‘‘ปาริวาสิกา’’ติ เวทิตพฺพา.

ปกตตฺตานํ ภิกฺขูนนฺติ เปตฺวา นวกตรํ ปาริวาสิกํ อวเสสานํ อนฺตมโส มูลายปฏิกสฺสนารหาทีนมฺปิ. อภิวาทนปจฺจุฏฺานนฺติ ยํ เต อภิวาทนาทึ กโรนฺติ, ตํ สาทิยนฺติ, สมฺปฏิจฺฉนฺติ; น ปฏิกฺขิปนฺตีติ อตฺโถ. ตตฺถ สามีจิกมฺมนฺติ เปตฺวา อภิวาทนาทีนิ อฺสฺส อนุจฺฉวิกสฺส พีชนวาตทานาทิโน อาภิสมาจาริกสฺเสตํ อธิวจนํ. อาสนาภิหารนฺติ อาสนสฺส อภิหรณํ, อาสนํ คเหตฺวา อภิคมนํ ปฺาปนเมว วา. เสยฺยาภิหาเรปิ เอเสว นโย. ปาโททกนฺติ ปาทโธวนอุทกํ. ปาทปีนฺติ โธตปาทฏฺปนกํ. ปาทกถลิกนฺติ อโธตปาทฏฺปนกํ ปาทฆํสนํ วา. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ สทฺธิวิหาริกานมฺปิ สาทิยนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว, ตสฺมา เต วตฺตพฺพา – ‘‘อหํ วินยกมฺมํ กโรมิ, มยฺหํ วตฺตํ มา กโรถ, มา มํ คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉถา’’ติ. สเจ สทฺธาปพฺพชิตา กุลปุตฺตา ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, ตุมฺหากํ วินยกมฺมํ กโรถา’’ติ วตฺวา วตฺตํ กโรนฺติ, คามปฺปเวสนมฺปิ อาปุจฺฉนฺติเยว, วาริตกาลโต ปฏฺาย อนาปตฺติ. มิถุ ยถาวุฑฺฒนฺติ ปาริวาสิกภิกฺขูนํ อฺมฺํ โย โย วุฑฺโฒ เตน เตน นวกตรสฺส สาทิตุํ.

ปฺจ ยถาวุฑฺฒนฺติ ปกตตฺเตหิปิ สทฺธึ วุฑฺฒปฏิปาฏิยา เอว. ตสฺมา ปาติโมกฺเข อุทฺทิสฺสมาเน หตฺถปาเส นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ปาฬิยา อนิสีทิตฺวา ปาฬึ วิหาย หตฺถปาสํ อมุฺจนฺเตน นิสีทิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ปาริสุทฺธิอุโปสเถ กรียมาเน สงฺฆนวกฏฺาเน นิสีทิตฺวา ตตฺเถว นิสินฺเนน อตฺตโน ปาฬิยา ปาริสุทฺธิอุโปสโถ กาตพฺโพ. ปวารณายปิ สงฺฆนวกฏฺาเน นิสีทิตฺวา ตตฺเถว นิสินฺเนน อตฺตโน ปาฬิยา ปวาเรตพฺพํ. สงฺเฆน ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภาชียมานํ วสฺสิกสาฏิกมฺปิ อตฺตโน ปตฺตฏฺาเน คเหตุํ วฏฺฏติ.

โอโณชนนฺติ วิสฺสชฺชนํ วุจฺจติ. สเจ หิ ปาริวาสิกสฺส ทฺเว ตีณิ อุทฺเทสภตฺตาทีนิ ปาปุณนฺติ, อฺา จสฺส ปุคฺคลิกภตฺตปจฺจาสา โหติ, ตานิ ปฏิปาฏิยา คเหตฺวา ‘‘ภนฺเต, เหฏฺา คาเหถ, อชฺช มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสา อตฺถิ, สฺเว คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺวา วิสฺสชฺเชตพฺพานิ. เอวํ ตานิ ปุนทิวเสสุ คณฺหิตุํ ลภติ. ปุนทิวเส สพฺพปมํ เอตสฺส ทาตพฺพนฺติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ยทิ ปน น คณฺหาติ น วิสฺสชฺเชติ, ปุนทิวเส น ลภติ, อิทํ โอโณชนํ นาม ปาริวาสิกสฺเสว โอทิสฺส อนุฺาตํ. กสฺมา? ตสฺส หิ สงฺฆนวกฏฺาเน นิสินฺนสฺส ภตฺตคฺเค ยาคุขชฺชกาทีนิ ปาปุณนฺติ วา น วา, ตสฺมา โส ‘‘ภิกฺขาหาเรน มา กิลมิตฺถา’’ติ อิทมสฺส สงฺคหกรณตฺถาย โอทิสฺส อนุฺาตํ.

ภตฺตนฺติ อาคตาคเตหิ วุฑฺฒปฏิปาฏิยา คเหตฺวา คนฺตพฺพํ วิหาเร สงฺฆสฺส จตุสฺสาลภตฺตํ, เอตํ ยถาวุฑฺฒํ ลภติ. ปาฬิยา ปน คนฺตุํ วา าตุํ วา น ลภติ, ตสฺมา ปาฬิโต โอสกฺกิตฺวา หตฺถปาเส ิเตน หตฺถํ ปสาเรตฺวา ยถา เสโน นิปติตฺวา คณฺหาติ, เอวํ คณฺหิตพฺพํ. อารามิกสมณุทฺเทเสหิ อาหราเปตุํ น ลภติ. สเจ สยเมว อาหรนฺติ, วฏฺฏติ. รฺโ มหาเปฬภตฺเตปิ เอเสว นโย. จตุสฺสาลภตฺเต ปน สเจ โอโณชนํ กตฺตุกาโม โหติ, อตฺตโน อตฺถาย อุกฺขิตฺเต ปิณฺเฑ ‘‘อชฺช เม ภตฺตํ อตฺถิ, สฺเว คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺตพฺพํ. ปุนทิวเส ทฺเว ปิณฺเฑ ลภตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. อุทฺเทสภตฺตาทีนิปิ ปาฬิโต โอสกฺกิตฺวาว คเหตพฺพานิ. ยตฺถ ปน นิสีทาเปตฺวา ปริวิสนฺติ, ตตฺถ สามเณรานํ เชฏฺเกน ภิกฺขูนํ สงฺฆนวเกน หุตฺวา นิสีทิตพฺพํ.

๗๖. อิทานิ ยา อยํ สมฺมาวตฺตนา วุตฺตา, ตตฺถ น อุปสมฺปาเทตพฺพนฺติ อุปชฺฌาเยน หุตฺวา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ; วตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา ปน อุปสมฺปาเทตุํ วฏฺฏติ. อาจริเยน หุตฺวาปิ กมฺมวาจา น สาเวตพฺพา, อฺสฺมึ อสติ วตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา สาเวตุํ วฏฺฏติ. น นิสฺสโยติ อาคนฺตุกานํ นิสฺสโย น ทาตพฺโพ. เยหิปิ ปกติยาว นิสฺสโย คหิโต, เต วตฺตพฺพา – ‘‘อหํ วินยกมฺมํ กโรมิ, อสุกตฺเถรสฺส นาม สนฺติเก นิสฺสยํ คณฺหถ, มยฺหํ วตฺตํ มา กโรถ, มา มํ คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉถา’’ติ. สเจ เอวํ วุตฺเตปิ กโรนฺติเยว, วาริตกาลโต ปฏฺาย กโรนฺเตสุปิ อนาปตฺติ.

น สามเณโรติ อฺโ สามเณโร น คเหตพฺโพ. อุปชฺฌํ ทตฺวา คหิตสามเณราปิ วตฺตพฺพา – ‘‘อหํ วินยกมฺมํ กโรมิ, มยฺหํ วตฺตํ มา กโรถ, มา มํ คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉถา’’ติ. สเจ เอวํ วุตฺเตปิ กโรนฺติเยว, วาริตกาลโต ปฏฺาย กโรนฺเตสุปิ อนาปตฺติ. ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติ นาม อาธิปจฺจฏฺานภูตาติ ปฏิกฺขิตฺตา, ตสฺมา ภิกฺขุสงฺฆสฺส วตฺตพฺพํ – ‘‘ภนฺเต, อหํ วินยกมฺมํ กโรมิ, ภิกฺขุโนวาทกํ ชานาถา’’ติ, ปฏิพลสฺส วา ภิกฺขุสฺส ภาโร กาตพฺโพ. อาคตา ภิกฺขุนิโย ‘‘สงฺฆสนฺติกํ คจฺฉถ, สงฺโฆ โว โอวาททายกํ ชานิสฺสตี’’ติ วา ‘‘อหํ วินยกมฺมํ กโรมิ, อสุกภิกฺขุสฺส นาม สนฺติกํ คจฺฉถ, โส โว โอวาทํ ทสฺสตี’’ติ วา วตฺตพฺพา.

สา อาปตฺตีติ สุกฺกวิสฺสฏฺิยา ปริวาเส ทินฺเน สุกฺกวิสฺสฏฺิ นาปชฺชิตพฺพา. อฺา วา ตาทิสิกาติ กายสํสคฺคาทิครุกาปตฺติ. ตโต วา ปาปิฏฺตราติ ปาราชิกาปตฺติ; สตฺตสุ หิ อาปตฺตีสุ ทุพฺภาสิตาปตฺติ ปาปิฏฺา; ทุกฺกฏาปตฺติ ปาปิฏฺตรา; ทุกฺกฏาปตฺติ ปาปิฏฺา, ปาฏิเทสนียาปตฺติ ปาปิฏฺตราติ เอวํ ปาจิตฺติยถุลฺลจฺจยสงฺฆาทิเสสปาราชิกาปตฺตีสุ นโย เนตพฺโพ. ตาสํ วตฺถูสุปิ ทุพฺภาสิตวตฺถุ ปาปิฏฺํ, ทุกฺกฏวตฺถุ ปาปิฏฺตรนฺติ ปุริมนเยเนว เภโท เวทิตพฺโพ. ปณฺณตฺติวชฺชสิกฺขาปเท ปน วตฺถุปิ อาปตฺติปิ ปาปิฏฺา. โลกวชฺเช อุภยมฺปิ ปาปิฏฺตรํ.

กมฺมนฺติ ปริวาสกมฺมวาจา วุจฺจติ. ตํ กมฺมํ ‘‘อกตํ ทุกฺกฏ’’นฺติอาทีหิ วา ‘‘กึ อิทํ กมฺมํ นาม กสิกมฺมํ โครกฺขกมฺม’’นฺติอาทีหิ วา วจเนหิ น ครหิตพฺพํ. กมฺมิกาติ เยหิ ภิกฺขูหิ กมฺมํ กตํ, เต วุจฺจนฺติ, เต ‘‘พาลา อพฺยตฺตา’’ติอาทีหิ วจเนหิ น ครหิตพฺพา. สวจนียํ กาตพฺพนฺติ ปลิโพธตฺถาย วา ปกฺโกสนตฺถาย วา สวจนียํ น กาตพฺพํ, ปลิโพธตฺถาย หิ กโรนฺโต ‘‘อหํ อายสฺมนฺตํ อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ สวจนียํ กโรมิ, อิมมฺหา อาวาสา เอกปทมฺปิ มา ปกฺกามิ, ยาว น ตํ อธิกรณํ วูปสนฺตํ โหตี’’ติ เอวํ กโรติ. ปกฺโกสนตฺถาย กโรนฺโต ‘‘อหํ เต สวจนียํ กโรมิ, เอหิ มยา สทฺธึ วินยธรานํ สมฺมุขีภาวํ คจฺฉามา’’ติ เอวํ กโรติ; ตทุภยมฺปิ น กาตพฺพํ.

น อนุวาโทติ วิหาเร เชฏฺกฏฺานํ น กาตพฺพํ. ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน วา ธมฺมชฺเฌสเกน วา น ภวิตพฺพํ. นาปิ เตรสสุ สมฺมุตีสุ เอกสมฺมุติวเสนาปิ อิสฺสริยกมฺมํ กาตพฺพํ. น โอกาโสติ ‘‘กโรตุ เม อายสฺมา โอกาสํ, อหํ ตํ วตฺตุกาโม’’ติ เอวํ ปกตตฺตสฺส โอกาโส น กาเรตพฺโพ, วตฺถุนา วา อาปตฺติยา วา น โจเทตพฺโพ, ‘‘อยํ ปุพฺเพ เต โทโส’’ติ น สาเรตพฺโพ. น ภิกฺขูหิ สมฺปโยเชตพฺพนฺติ อฺมฺํ โยเชตฺวา กลโห น กาเรตพฺโพ.

ปุรโตติ สงฺฆตฺเถเรน หุตฺวา ปุรโต น คนฺตพฺพํ, ทฺวาทสหตฺถํ อุปจารํ มุฺจิตฺวา เอกเกน คนฺตพฺพํ. นิสีทเนปิ เอเสว นโย. อาสนปริยนฺโตติ ภตฺตคฺคาทีสุ สงฺฆนวกาสนํ วุจฺจติ; สฺวาสฺส ทาตพฺโพ, ตตฺถ นิสีทิตพฺพํ. เสยฺยาปริยนฺโตติ เสยฺยานํ ปริยนฺโต, สพฺพลามกํ มฺจปีํ. อยฺหิ วสฺสคฺเคน อตฺตโน ปตฺตฏฺาเน เสยฺยํ คเหตุํ น ลภติ. สพฺพภิกฺขูหิ วิจินิตฺวา คหิตาวเสสา มงฺกุลคูถภริตา เวตฺตลตาทิวินทฺธา ลามกเสยฺยา อสฺส ทาตพฺพา. วิหารปริยนฺโตติ ยถา จ เสยฺยา, เอวํ วสนอาวาโสปิ วสฺสคฺเคน อตฺตโน ปตฺตฏฺาเน ตสฺส น วฏฺฏติ. สพฺพภิกฺขูหิ วิจินิตฺวา คหิตาวเสสา ปน รโชหตภูมิ ชตุกมูสิกภริตา ปณฺณสาลา อสฺส ทาตพฺพา. สเจ ปกตตฺตา สพฺเพ รุกฺขมูลิกา อพฺโภกาสิกา จ โหนฺติ, ฉนฺนํ น อุเปนฺติ, สพฺเพปิ เอเตหิ วิสฺสฏฺาวาสา นาม โหนฺติ. เตสุ ยํ อิจฺฉติ, ตํ ลภติ. วสฺสูปนายิกทิวเส ปจฺจยํ เอกปสฺเส ตฺวา วสฺสคฺเคน คณฺหิตุํ ลภติ. เสนาสนํ น ลภติ, นิพทฺธวสฺสาวาสิกํ เสนาสนํ คณฺหิตุกาเมน วตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา คเหตพฺพํ.

เตน จ โส สาทิตพฺโพติ ยํ อสฺส อาสนาทิปริยนฺตํ ภิกฺขู เทนฺติ, โส เอว สาทิตพฺโพ. ปุเรสมเณน วา ปจฺฉาสมเณน วาติ าติปวาริตฏฺาเน ‘‘เอตฺตเก ภิกฺขู คเหตฺวา อาคจฺฉถา’’ติ นิมนฺติเตน ‘‘ภนฺเต, อสุกํ นาม กุลํ ภิกฺขู นิมนฺเตสิ, เอถ ตตฺถ คจฺฉามา’’ติ เอวํ สํวิธาย ภิกฺขู ปุเรสมเณ วา ปจฺฉาสมเณ วา กตฺวา น คนฺตพฺพํ. ‘‘ภนฺเต, อสุกสฺมึ นาม คาเม มนุสฺสา ภิกฺขูนํ อาคมนํ อิจฺฉนฺติ, สาธุ วตสฺส สเจ เตสํ สงฺคหํ กเรยฺยาถา’’ติ เอวํ ปน ปริยาเยน กเถตุํ วฏฺฏติ.

น อารฺิกงฺคนฺติ อาคตาคตานํ อาโรเจตุํ หรายมาเนน อารฺิกธุตงฺคํ น สมาทาตพฺพํ. เยนาปิ ปกติยา สมาทินฺนํ, เตน ทุติยํ ภิกฺขุํ คเหตฺวา อรฺเ อรุณํ อุฏฺาเปตพฺพํ, น จ เอกเกน วตฺถพฺพํ. ตถา ภตฺตคฺคาทีสุ อาสนปริยนฺเต นิสชฺชาย หรายมาเนน ปิณฺฑปาติกธุตงฺคมฺปิ น สมาทาตพฺพํ. โย ปน ปกติยาว ปิณฺฑปาติโก ตสฺส ปฏิเสโธ นตฺถิ.

น จ ตปฺปจฺจยาติ ‘‘นีหฏภตฺโต หุตฺวา วิหาเรเยว นิสีทิตฺวา ภุฺชนฺโต รตฺติโย คณยิสฺสามิ, คจฺฉโต เม ภิกฺขุํ ทิสฺวา อนาโรเจนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโท สิยา’’ติ อิมินา การเณน ปิณฺฑปาโต น นีหราเปตพฺโพ. มา มํ ชานึสูติ ‘‘มา มํ เอกภิกฺขุปิ ชานาตู’’ติ จ อิมินา อชฺฌาสเยน วิหาเร สามเณเรหิ ปจาเปตฺวา ภุฺชิตุมฺปิ น ลภติ. คามํ ปิณฺฑาย ปวิสิตพฺพเมว. คิลานสฺส ปน นวกมฺมอาจริยุปชฺฌายกิจฺจาทิปสุตสฺส วา วิหาเรเยว อจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. สเจปิ คาเม อเนกสตา ภิกฺขู วิจรนฺติ, น สกฺกา โหติ อาโรเจตุํ, คามกาวาสํ คนฺตฺวา สภาคฏฺาเน วสิตุํ วฏฺฏติ.

อาคนฺตุเกนาติ กฺจิ วิหารํ คเตน ตตฺถ ภิกฺขูนํ อาโรเจตพฺพํ. สเจ สพฺเพ เอกฏฺาเน ิเต ปสฺสติ, เอกฏฺาเน ิเตเนว อาโรเจตพฺพํ. อถ รุกฺขมูลาทีสุ วิสุํ วิสุํ ิตา โหนฺติ, ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา อาโรเจตพฺพํ. สฺจิจฺจ อนาโรเจนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโท จ โหติ, วตฺตเภเท จ ทุกฺกฏํ. อถ วิจินนฺโต เอกจฺเจ น ปสฺสติ, รตฺติจฺเฉโทว โหติ, น วตฺตเภททุกฺกฏํ.

อาคนฺตุกสฺสาติ อตฺตโน วสนวิหารํ อาคตสฺสาปิ เอกสฺส วา พหูนํ วา วุตฺตนเยเนว อาโรเจตพฺพํ. รตฺติจฺเฉทวตฺตเภทาปิ เจตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. สเจ อาคนฺตุกา มุหุตฺตํ วิสฺสมิตฺวา วา อวิสฺสมิตฺวา เอว วา วิหารมชฺเฌน คจฺฉนฺติ, เตสมฺปิ อาโรเจตพฺพํ. สเจ ตสฺส อชานนฺตสฺเสว คจฺฉนฺติ, อยฺจ ปน คตกาเล ชานาติ, คนฺตฺวา อาโรเจตพฺพํ. สมฺปาปุณิตุํ อสกฺโกนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโทว โหติ, น วตฺตเภททุกฺกฏํ. เยปิ อนฺโตวิหารํ อปฺปวิสิตฺวา อุปจารสีมํ โอกฺกมิตฺวา คจฺฉนฺติ, อยฺจ เนสํ ฉตฺตสทฺทํ วา อุกฺกาสิตสทฺทํ วา ขิปิตสทฺทํ วา สุตฺวาว อาคนฺตุกภาวํ ชานาติ, คนฺตฺวา อาโรเจตพฺพํ. คตกาเล ชานนฺเตนปิ อนุพนฺธิตฺวา อาโรเจตพฺพเมว. สมฺปาปุณิตุํ อสกฺโกนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโทว โหติ, น วตฺตเภททุกฺกฏํ. โยปิ รตฺตึเยว อาคนฺตฺวา รตฺตึเยว คจฺฉติ, โสปิสฺส รตฺติจฺเฉทํ กโรติ, อฺาตตฺตา ปน วตฺตเภททุกฺกฏํ นตฺถิ. สเจ อชานิตฺวาว อพฺภานํ กโรติ, อกตเมว โหตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ตสฺมา อธิกา รตฺติโย คเหตฺวา กาตพฺพํ, อยํ อปณฺณกปฏิปทา.

นทีอาทีสุ นาวาย คจฺฉนฺตมฺปิ ปรตีเร ิตมฺปิ อากาเสน คจฺฉนฺตมฺปิ ปพฺพตตลอรฺาทีสุ ทูเร ิตมฺปิ ภิกฺขุํ ทิสฺวา สเจ ‘‘ภิกฺขู’’ติ ววตฺถานํ อตฺถิ, นาวาทีหิ วา คนฺตฺวา มหาสทฺทํ กตฺวา วา เวเคน อนุพนฺธิตฺวา วา อาโรเจตพฺพํ, อนาโรเจนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโท เจว วตฺตเภททุกฺกฏฺจ. สเจ วายมนฺโตปิ สมฺปาปุณิตุํ วา สาเวตุํ วา น สกฺโกติ, รตฺติจฺเฉโทว โหติ, น วตฺตเภททุกฺกฏํ. สงฺฆเสนาภยตฺเถโร ปน วิสยาวิสเยน กเถติ – ‘‘วิสเย กิร อนาโรเจนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโท เจว วตฺตเภททุกฺกฏฺจ โหติ, อวิสเย ปน อุภยมฺปิ นตฺถี’’ติ. กรวีกติสฺสตฺเถโร ‘‘สมโณ อยนฺติ ววตฺถานเมว ปมาณํ, สเจปิ อวิสโย โหติ, วตฺตเภททุกฺกฏเมว นตฺถิ, รตฺติจฺเฉโท ปน โหติเยวา’’ติ อาห.

อุโปสเถติ ‘‘อุโปสถํ สมฺปาปุณิสฺสามา’’ติ อาคนฺตุกา ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, อิทฺธิยา คจฺฉนฺตาปิ อุโปสถภาวํ ตฺวา โอตริตฺวา อุโปสถํ กโรนฺติ, ตสฺมา อาคนฺตุกโสธนตฺถํ อุโปสถทิวเส อาโรเจตพฺพํ. ปวารณายปิ เอเสว นโย. คิลาโนติ คนฺตุํ อสมตฺโถ. ทูเตนาติ เอตฺถ อนุปสมฺปนฺนํ เปเสตุํ น วฏฺฏติ, ภิกฺขุํ เปเสตฺวา อาโรจาเปตพฺพํ.

อภิกฺขุโก อาวาโสติ สุฺวิหาโร; ยตฺถ เอโกปิ ภิกฺขุ นตฺถิ, ตตฺถ วาสตฺถาย น คนฺตพฺพํ. น หิ ตตฺถ วุตฺถรตฺติโย คณนูปิกา โหนฺติ, ปกตตฺเตน ปน สทฺธึ วฏฺฏติ. ทสวิธนฺตราเย ปน สเจปิ รตฺติโย คณนูปิกา น โหนฺติ, อนฺตรายโต ปริมุจฺจนตฺถาย คนฺตพฺพเมว. เตน วุตฺตํ – ‘‘อฺตฺร อนฺตรายา’’ติ. นานาสํวาสเกหิ สทฺธึ วินยกมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. เตสํ อนาโรจเนปิ รตฺติจฺเฉโท นตฺถิ, อภิกฺขุกาวาสสทิสเมว โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ยตฺถสฺสุ ภิกฺขู นานาสํวาสกา’’ติ. เสสํ อุโปสถกฺขนฺธเก วุตฺตนยเมว.

๘๑. เอกจฺฉนฺเน อาวาเสติอาทีสุ อาวาโส นาม วสนตฺถาย กตเสนาสนํ. อนาวาโส นาม เจติยฆรํ โพธิฆรํ สมฺมุฺชนิอฏฺฏโก ทารุอฏฺฏโก ปานียมาโฬ วจฺจกุฏิ ทฺวารโกฏฺโกติ เอวมาทิ. ตติยปเทน ตทุภยมฺปิ คหิตํ. เอเตสุ ยตฺถ กตฺถจิ เอกจฺฉนฺเน ฉทนโต อุทกปตนฏฺานปริจฺฉินฺเน โอกาเส อุกฺขิตฺตโก วสิตุํ น ลภติ. ‘‘ปาริวาสิโก ปน อนฺโตอาวาเสเยว น ลภตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘อวิเสเสน อุทกปาเตน วาริต’’นฺติ วุตฺตํ. กุรุนฺทิยํ ‘‘เอเตสุ เอตฺตเกสุ ปฺจวณฺณจฺฉทนพทฺธฏฺาเนสุ ปาริวาสิกสฺส จ อุกฺขิตฺตกสฺส จ ปกตตฺเตน สทฺธึ อุทกปาเตน วาริต’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺมา นานูปจาเรปิ เอกจฺฉนฺเน น วฏฺฏติ. สเจ ปเนตฺถ ตทหุปสมฺปนฺเนปิ ปกตตฺเต ปมํ ปวิสิตฺวา นิปนฺเน สฏฺิวสฺโสปิ ปาริวาสิโก ปจฺฉา ปวิสิตฺวา ชานนฺโต นิปชฺชติ, รตฺติจฺเฉโท เจว วตฺตเภททุกฺกฏฺจ. อชานนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโทว น วตฺตเภททุกฺกฏํ. สเจ ปน ตสฺมึ ปมํ นิปนฺเน ปจฺฉา ปกตตฺโต ปวิสิตฺวา นิปชฺชติ, ปาริวาสิโก จ ชานาติ, รตฺติจฺเฉโท เจว วตฺตเภททุกฺกฏฺจ. โน เจ ชานาติ, รตฺติจฺเฉโทว น วตฺตเภททุกฺกฏํ.

วุฏฺาตพฺพํ นิมนฺเตตพฺโพติ ตทหุปสมฺปนฺนมฺปิ ทิสฺวา วุฏฺาตพฺพเมว; วุฏฺาย จ ‘‘อหํ อิมินา สุขนิสินฺโน วุฏฺาปิโต’’ติ ปรมฺมุเขน น คนฺตพฺพํ, ‘‘อิทํ อาจริย-อาสนํ, เอตฺถ นิสีทถา’’ติ เอวํ นิมนฺเตตพฺโพเยว. นวเกน ปน ‘‘มหาเถรํ โอพทฺธํ กโรมี’’ติ ปาริวาสิกตฺเถรสฺส สนฺติกํ น คนฺตพฺพํ. เอกาสเนติ สมานวสฺสิกาสเน มฺเจ วา ปีเ วา. น ฉมายํ นิสินฺเนติ ปกตตฺเต ภูมิยํ นิสินฺเน อิตเรน อนฺตมโส ติณสนฺถาเรปิ อุจฺจตเร วาลิกาตเลปิ วา น นิสีทิตพฺพํ, ทฺวาทสหตฺถํ ปน อุปจารํ มุฺจิตฺวา นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. เอกจงฺกเมติ สหาเยน วิย สทฺธึ จงฺกมนฺโต เอกสฺมึ จงฺกเม.

ฉมายํ จงฺกมนฺตนฺติ ฉมายํ จงฺกมนฺเต, อยเมว วา ปาโ. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – อกตปริจฺเฉทาย ภูมิยา จงฺกมนฺเต ปริจฺเฉทํ กตฺวา วาลิกํ อากิริตฺวา อาลมฺพนํ โยเชตฺวา กตจงฺกเม นีเจปิ น จงฺกมิตพฺพํ, โก ปน วาโท อิฏฺกาจยสมฺปนฺเน เวทิกาปริกฺขิตฺเตติ! สเจ ปน ปาการปริกฺขิตฺโต โหติ ทฺวารโกฏฺกยุตฺโต ปพฺพตนฺตรวนนฺตรคุมฺพนฺตเรสุ วา สุปฺปฏิจฺฉนฺโน, ตาทิเส จงฺกเม จงฺกมิตุํ วฏฺฏติ. อปฺปฏิจฺฉนฺเนปิ อุปจารํ มุฺจิตฺวา วฏฺฏติ.

วุฑฺฒตเรนาติ เอตฺถ สเจ วุฑฺฒตเร ปาริวาสิเก ปมํ นิปนฺเน อิตโร ชานนฺโต ปจฺฉา นิปชฺชติ, รตฺติจฺเฉโท จสฺส โหติ วตฺตเภเท จ ทุกฺกฏํ. วุฑฺฒตรสฺส ปน รตฺติจฺเฉโทว น วตฺตเภททุกฺกฏํ. อชานิตฺวา นิปชฺชติ, ทฺวินฺนมฺปิ วตฺตเภโท นตฺถิ, รตฺติจฺเฉโท ปน โหติ. อถ นวกปาริวาสิเก ปมํ นิปนฺเน วุฑฺฒตโร ปจฺฉา นิปชฺชติ, นวโก จ ชานาติ, รตฺติ จสฺส ฉิชฺชติ, วตฺตเภเท จ ทุกฺกฏํ โหติ. วุฑฺฒตรสฺส รตฺติจฺเฉโทว น วตฺตเภโท. โน เจ ชานาติ, ทฺวินฺนมฺปิ วตฺตเภโท นตฺถิ, รตฺติจฺเฉโท ปน โหติ. สเจ ทฺเวปิ อปจฺฉาปุริมํ นิปชฺชนฺติ, วุฑฺฒตรสฺส รตฺติจฺเฉโทว อิตรสฺส วตฺตเภโทปีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ทฺเว ปาริวาสิกา สมวสฺสา, เอโก ปมํ นิปนฺโน, เอโก ชานนฺโตว ปจฺฉา นิปชฺชติ, รตฺติ จ ฉิชฺชติ, วตฺตเภเท จ ทุกฺกฏํ. ปมํ นิปนฺนสฺส รตฺติจฺเฉโทว น วตฺตเภโท. สเจ ปจฺฉา นิปชฺชนฺโตปิ น ชานาติ, ทฺวินฺนมฺปิ วตฺตเภโท นตฺถิ, รตฺติจฺเฉโท ปน โหติ. สเจ ทฺเวปิ อปจฺฉาปุริมํ นิปชฺชนฺติ, ทฺวินฺนมฺปิ รตฺติจฺเฉโทเยว, น วตฺตเภโท. สเจ หิ ทฺเว ปาริวาสิกา เอกโต วเสยฺยุํ, เต อฺมฺสฺส อชฺฌาจารํ ตฺวา อคารวา วา วิปฺปฏิสาริโน วา หุตฺวา ปาปิฏฺตรํ วา อาปตฺตึ อาปชฺเชยฺยุํ วิพฺภเมยฺยุํ วา, ตสฺมา เนสํ สหเสยฺยา สพฺพปฺปกาเรน ปฏิกฺขิตฺตา. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. มูลายปฏิกสฺสนารหาทโย เจตฺถ ปาริวาสิกานํ ปกตตฺตฏฺาเน ิตาติ เวทิตพฺพา.

ปาริวาสิกจตุตฺโถ เจ, ภิกฺขเว, ปริวาสนฺติ เอตฺถ ปาริวาสิกํ จตุตฺถํ กตฺวา อฺสฺส ปริวาสทานาทีนิ กาตุํ น วฏฺฏติ. เอเตสฺเววายํ คณปูรโก น โหติ, เสสสงฺฆกมฺเมสุ โหติ. คเณ ปน อปฺปโหนฺเต วตฺตํ นิกฺขิปาเปตฺวา คณปูรโก กาตพฺโพติ.

๘๓. อิมํ ปน วตฺตกถํ สุตฺวา วินยธรอุปาลิตฺเถรสฺส รโหคตสฺส เอวํ ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘ภควตา พหุ ปาริวาสิกวตฺตํ ปฺตฺตํ, กติหิ นุ โข เอตฺถ การเณหิ รตฺติจฺเฉโท โหตี’’ติ! โส ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ตมตฺถํ ปุจฺฉิ. ภควา จสฺส พฺยากาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อายสฺมา อุปาลิ…เป… รตฺติจฺเฉทา’’ติ. ตตฺถ สหวาโสติ ยฺวายํ ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเนติอาทินา นเยน วุตฺโต เอกโต วาโส. วิปฺปวาโสติ เอกกสฺเสว วาโส. อนาโรจนาติ อาคนฺตุกาทีนํ อนาโรจนา. เอเตสุ ตีสุ เอเกเกน การเณน รตฺติจฺเฉโท โหติ.

๘๔. น สกฺโกนฺตีติ สงฺฆสฺส มหนฺตตาย ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา สพฺเพสํ อาโรเจตุํ อสกฺโกนฺตา โสเธตุํ น สกฺโกนฺติ. ปริวาสํ นิกฺขิปามิ, วตฺตํ นิกฺขิปามีติ อิเมสุ ทฺวีสุ ปเทสุ เอเกนาปิ นิกฺขิตฺโตว โหติ ปริวาโส; ทฺวีหิ สุนิกฺขิตฺโตเยว. สมาทาเนปิ เอเสว นโย. เอวํ วตฺตํ สมาทิยิตฺวา ปริวุตฺถปริวาสสฺส มานตฺตํ คณฺหโต ปุน วตฺตสมาทานกิจฺจํ นตฺถิ, สมาทินฺนวตฺโตเยว เหส ตสฺมาสฺส ฉารตฺตํ มานตฺตํ ทาตพฺพํ, จิณฺณมานตฺโต อพฺเภตพฺโพ. เอวํ อนาปตฺติโก หุตฺวา สุทฺธนฺเต ปติฏฺิโต ติสฺโส สิกฺขา ปูเรตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสตีติ.

ปาริวาสิกวตฺตกถา นิฏฺิตา.

มูลายปฏิกสฺสนารหวตฺตกถา

๘๖. มูลายปฏิกสฺสนารหา ภิกฺขู สาทิยนฺติ ปกตตฺตานนฺติ เปตฺวา นวกตรํ มูลายปฏิกสฺสนารหํ อวเสสานํ อนฺตมโส ปาริวาสิกาทีนมฺปิ. อิเมสฺหิ ปาริวาสิกมูลายปฏิกสฺสนารหมานตฺตารหมานตฺตาจาริกพฺภานารหานํ ปฺจนฺนํ เปตฺวา อตฺตโน อตฺตโน นวกตรํ, เสสา สพฺเพ ปกตตฺตา เอว. กสฺมา? มิถุ ยถาวุฑฺฒํ อภิวาทนาทีนํ อนุฺาตตฺตา. เตน วุตฺตํ – ‘‘อวเสสานํ อนฺตมโส ปาริวาสิกาทีนมฺปี’’ติ. มูลายปฏิกสฺสนารหาทิลกฺขณํ ปน เนสํ ปรโต อาวิภวิสฺสติ. เสสเมตฺถ อิโต ปเรสุ จ มานตฺตารหาทิวตฺเตสุ ปาริวาสิกวตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๘๗. มูลายปฏิกสฺสนารหจตุตฺโถ เจติอาทีสุปิ ยเถว ปาริวาสิโก; เอวํ เอเตปิ เอเตสุ วินยกมฺเมสุ คณปูรกา น โหนฺติ, เสสสงฺฆกมฺเมสุ โหนฺติ.

มูลายปฏิกสฺสนารหวตฺตกถา นิฏฺิตา.

มานตฺตจาริกวตฺตกถา

๙๐. มานตฺตจาริกสฺส วตฺเตสุ ‘‘เทวสิกํ อาโรเจตพฺพ’’นฺติ วิเสโส.

๙๒. รตฺติจฺเฉเทสุ อูเน คเณติ เอตฺถ คโณติ จตฺตาโร วา อติเรกา วา; ตสฺมา สเจปิ ตีหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ วสติ, รตฺติจฺเฉโท โหติเยว. มานตฺตนิกฺเขปสมาทาเนสุ วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโย. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

มานตฺตจาริกวตฺตกถา นิฏฺิตา.

ปาริวาสิกกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สมุจฺจยกฺขนฺธกํ

สุกฺกวิสฺสฏฺิกถา

๙๗. สมุจฺจยกฺขนฺธเก ฉารตฺตํ มานตฺตนฺติ เอตฺถ จตุพฺพิธํ มานตฺตํ – อปฺปฏิจฺฉนฺนมานตฺตํ, ปฏิจฺฉนฺนมานตฺตํ, ปกฺขมานตฺตํ, สโมธานมานตฺตนฺติ. ตตฺถ อปฺปฏิจฺฉนฺนมานตฺตํ นาม – ยํ อปฺปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวาสํ อทตฺวา เกวลํ อาปตฺตึ อาปนฺนภาเวเนว มานตฺตารหสฺส มานตฺตํ ทิยฺยติ. ปฏิจฺฉนฺนมานตฺตํ นาม – ยํ ปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวุตฺถปริวาสสฺส ทิยฺยติ. ปกฺขมานตฺตํ นาม – ยํ ปฏิจฺฉนฺนาย วา อปฺปฏิจฺฉนฺนาย วา อาปตฺติยา อทฺธมาสํ ภิกฺขุนีนํ ทิยฺยติ. สโมธานมานตฺตํ นาม – ยํ โอธาย เอกโต กตฺวา ทิยฺยติ. เตสุ อิทํ ‘‘อปฺปฏิจฺฉนฺนาย ฉารตฺตํ มานตฺต’’นฺติ วจนโต ‘‘อปฺปฏิจฺฉนฺนมานตฺต’’นฺติ เวทิตพฺพํ. ตํ เทนฺเตน สเจ เอกํ อาปตฺตึ อาปนฺโน โหติ, อิธ วุตฺตนเยน ทาตพฺพํ. สเจ ทฺเว วา ติสฺโส วา ตตุตฺตรึ วา อาปนฺโน, ยเถว ‘‘เอกํ อาปตฺติ’’นฺติ วุตฺตํ; เอวํ ‘‘ทฺเว อาปตฺติโย, ติสฺโส อาปตฺติโย’’ติ วตฺตพฺพํ. ตตุตฺตริ ปน สเจปิ สตํ วา สหสฺสํ วา โหติ, ‘‘สมฺพหุลา’’ติ วตฺตพฺพํ. นานาวตฺถุกาโยปิ เอกโต กตฺวา ทาตพฺพา, ตาสํ ทานวิธึ ปริวาสทาเน กถยิสฺสาม.

เอวํ อาปตฺติวเสน กมฺมวาจํ กตฺวา ทินฺเน มานตฺเต ‘‘เอวเมตํ ธารยามี’’ติ กมฺมวาจาปริโยสาเน มาฬกสีมายเมว ‘‘มานตฺตํ สมาทิยามิ, วตฺตํ สมาทิยามี’’ติ วุตฺตนเยน วตฺตํ สมาทาตพฺพํ. วตฺตํ สมาทิยิตฺวา ตตฺเถว สงฺฆสฺส อาโรเจตพฺพํ, อาโรเจนฺเตน จ เอวํ อาโรเจตพฺพํ –

‘‘อหํ, ภนฺเต, เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ สฺเจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ อปฺปฏิจฺฉนฺนํ, โสหํ สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา อปฺปฏิจฺฉนฺนาย ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา อปฺปฏิจฺฉนฺนาย ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ. โสหํ มานตฺตํ จรามิ, เวทยามหํ, ภนฺเต ‘เวทยตี’ติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ.

อิมฺจ ปน อตฺถํ คเหตฺวา ยาย กายจิ ภาสาย อาโรเจตุํ วฏฺฏติเยว. อาโรเจตฺวา สเจ นิกฺขิปิตุกาโม, วุตฺตนเยเนว สงฺฆมชฺเฌ นิกฺขิปิตพฺพํ. มาฬกโต ภิกฺขูสุ นิกฺขนฺเตสุ เอกสฺสปิ สนฺติเก นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ. มาฬกโต นิกฺขมิตฺวา สตึ ปฏิลภนฺเตน สหคจฺฉนฺตสฺส สนฺติเก นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ โสปิ ปกฺกนฺโต, อฺสฺส ยสฺส มาฬเก นาโรจิตํ, ตสฺส อาโรเจตฺวา นิกฺขิปิตพฺพํ. อาโรเจนฺเตน ปน อวสาเน ‘‘เวทยตีติ มํ อายสฺมา ธาเรตู’’ติ วตฺตพฺพํ. ทฺวินฺนํ อาโรเจนฺเตน ‘‘อายสฺมนฺตา ธาเรนฺตู’’ติ, ติณฺณํ อาโรเจนฺเตน ‘‘อายสฺมนฺโต ธาเรนฺตู’’ติ วตฺตพฺพํ. นิกฺขิตฺตกาลโต ปฏฺาย ปกตตฺตฏฺาเน ติฏฺติ.

สเจ อปฺปภิกฺขุโก วิหาโร โหติ, สภาคา ภิกฺขู วสนฺติ, วตฺตํ อนิกฺขิปิตฺวา อนฺโตวิหาเรเยว รตฺติโย คเณตพฺพา. อถ น สกฺกา โสเธตุํ, วุตฺตนเยเนว วตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺจูสสมเย จตูหิ ปฺจหิ วา ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขปโต, อปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขปารหฏฺานโต ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมิตฺวา มหามคฺคโต โอกฺกมฺม คุมฺเพน วา วติยา วา ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน นิสีทิตพฺพํ. อนฺโตอรุเณเยว วุตฺตนเยน วตฺตํ สมาทิยิตฺวา อาโรเจตพฺพํ. สเจ อฺโ โกจิ ภิกฺขุ เกนจิเทว กรณีเยน ตํ านํ อาคจฺฉติ, สเจ เอส ตํ ปสฺสติ, สทฺทํ วาสฺส สุณาติ, อาโรเจตพฺพํ. อนาโรเจนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโท เจว วตฺตเภโท จ.

อถ ทฺวาทสหตฺถํ อุปจารํ โอกฺกมิตฺวา อชานนฺตสฺเสว คจฺฉติ, รตฺติจฺเฉโท โหติ เอว, วตฺตเภโท ปน นตฺถิ. อาโรจิตกาลโต ปฏฺาย จ เอกํ ภิกฺขุํ เปตฺวา เสเสหิ สติ กรณีเย คนฺตุมฺปิ วฏฺฏติ. อรุเณ อุฏฺิเต ตสฺส ภิกฺขุสฺส สนฺติเก วตฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ โสปิ เกนจิ กมฺเมน ปุเรอรุเณเยว คจฺฉติ, อฺํ วิหารโต นิกฺขนฺตํ วา อาคนฺตุกํ วา ยํ ปมํ ปสฺสติ, ตสฺส สนฺติเก อาโรเจตฺวา วตฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. อยฺจ ยสฺมา คณสฺส อาโรเจตฺวา ภิกฺขูนฺจ อตฺถิภาวํ สลฺลกฺเขตฺวาว วสิ, เตนสฺส อูเน คเณ จรณโทโส วา วิปฺปวาโส วา น โหติ. สเจ น กฺจิ ปสฺสติ, วิหารํ คนฺตฺวา อตฺตนา สทฺธึ คตภิกฺขูสุ เอกสฺส สนฺติเก นิกฺขิปิตพฺพนฺติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘ยํ ปมํ ปสฺสติ, ตสฺส อาโรเจตฺวา นิกฺขิปิตพฺพํ; อยํ นิกฺขิตฺตวตฺตสฺส ปริหาโร’’ติ อาห.

เอวํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อขณฺฑํ จริตฺวา ยตฺถ สิยา วีสติคโณ ภิกฺขุสงฺโฆ, ตตฺถ โส ภิกฺขุ อพฺเภตพฺโพ. อพฺเภนฺเตหิ จ ปมํ อพฺภานารโห กาตพฺโพ. อยฺหิ นิกฺขิตฺตวตฺตตฺตา ปกตตฺตฏฺาเน ิโต, ปกตตฺตสฺส จ อพฺภานํ กาตุํ น วฏฺฏติ, ตสฺมา วตฺตํ สมาทาเปตพฺโพ. วตฺเต สมาทินฺเน อพฺภานารโห โหติ. เตนาปิ วตฺตํ สมาทิยิตฺวา อาโรเจตฺวา อพฺภานํ ยาจิตพฺพํ. อนิกฺขิตฺตวตฺตสฺส ปุน วตฺตสมาทานกิจฺจํ นตฺถิ. โส หิ ฉารตฺตาติกฺกเมเนว อพฺภานารโห โหติ, ตสฺมา โส อพฺเภตพฺโพ. ตตฺร ยฺวายํ ‘‘เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, อพฺเภตพฺโพ’’ติ ปาฬิยํเยว อพฺภานวิธิ วุตฺโต, อยฺจ เอกาปตฺติวเสน วุตฺโต. สเจ ปน ทฺเว ติสฺโส สมฺพหุลา วา เอกวตฺถุกา วา นานาวตฺถุกา วา อาปตฺติโย โหนฺติ, ตาสํ วเสน กมฺมวาจา กาตพฺพา. เอวํ อปฺปฏิจฺฉนฺนมานตฺตํ ทาตพฺพํ. ปฏิจฺฉนฺนมานตฺตํ ปน ยสฺมา ปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวุตฺถปริวาสสฺส ทาตพฺพํ โหติ, ตสฺมา นํ ปริวาสกถายํเยว กถยิสฺสาม.

ปริวาสกถา

๑๐๒. ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สงฺโฆ อุทายิสฺส ภิกฺขุโน เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา เอกาหปฏิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ เทตู’’ติอาทินา นเยน ปาฬิยํ อเนเกหิ อากาเรหิ ปริวาโส จ มานตฺตฺจ วุตฺตํ. ตสฺส ยสฺมา อาคตาคตฏฺาเน วินิจฺฉโย วุจฺจมาโน ปาฬิ วิย อติวิตฺถารํ อาปชฺชติ, น จ สกฺกา โหติ สุเขน ปริคฺคเหตุํ, ตสฺมา นํ สโมธาเนตฺวา อิเธว ทสฺสยิสฺสาม.

อยฺหิ อิธ อธิปฺเปโต ปริวาโส นาม – ปฏิจฺฉนฺนปริวาโส, สุทฺธนฺตปริวาโส, สโมธานปริวาโสติ ติวิโธ โหติ. ตตฺถ ปฏิจฺฉนฺนปริวาโส ตาว ยถาปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ทาตพฺโพ. กสฺสจิ หิ เอกาหปฏิจฺฉนฺนา อาปตฺติ โหติ ยถา อยํ อุทายิตฺเถรสฺส, กสฺสจิ ทฺวีหาทิปฏิจฺฉนฺนา ยถา ปรโต อาคตา อุทายิตฺเถรสฺเสว, กสฺสจิ เอกา อาปตฺติ โหติ ยถา อยํ, กสฺสจิ ทฺเว ติสฺโส ตตุตฺตริ วา ยถา ปรโต อาคตา, ตสฺมา ปฏิจฺฉนฺนปริวาสํ เทนฺเตน ปมํ ตาว ปฏิจฺฉนฺนภาโว ชานิตพฺโพ.

อยฺหิ อาปตฺติ นาม ทสหากาเรหิ ปฏิจฺฉนฺนา โหติ. ตตฺถายํ มาติกา – อาปตฺติ จ โหติ อาปตฺติสฺี จ, ปกตตฺโต จ โหติ ปกตตฺตสฺี จ, อนนฺตรายิโก จ โหติ อนนฺตรายิกสฺี จ, ปหุ จ โหติ ปหุสฺี จ, ฉาเทตุกาโม จ โหติ ฉาเทติ จาติ.

ตตฺถ อาปตฺติ จ โหติ อาปตฺติสฺี จาติ ยํ อาปนฺโน, สา อาปตฺติเยว โหติ. โสปิ จ ตตฺถ อาปตฺติสฺีเยว. อิติ ชานนฺโต ฉาเทติ, ฉนฺนาว โหติ. อถ ปนายํ ตตฺถ อนาปตฺติสฺี, อจฺฉนฺนา โหติ, อนาปตฺติ ปน อาปตฺติสฺายปิ อนาปตฺติสฺายปิ ฉาเทนฺเตนาปิ อจฺฉาทิตาว โหติ. ลหุกํ วา ครุกาติ ครุกํ วา ลหุกาติ ฉาเทติ, อลชฺชิปกฺเข ติฏฺติ, อาปตฺติ ปน อจฺฉนฺนา โหติ. ครุกํ ลหุกาติ มฺมาโน เทเสติ, เนว เทสิตา โหติ, น ฉนฺนา. ครุกํ ครุกาติ ตฺวา ฉาเทติ, ฉนฺนา โหติ. ครุกลหุกภาวํ น ชานาติ, อาปตฺตึ ฉาเทมีติ ฉาเทติ, ฉนฺนาว โหติ.

ปกตตฺโตติ ติวิธํ อุกฺเขปนียกมฺมํ อกโต – โส เจ ปกตตฺตสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, ฉนฺนา โหติ. อถ ‘‘มยฺหํ สงฺเฆน กมฺมํ กต’’นฺติ อปกตตฺตสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, อจฺฉนฺนา โหติ. อปกตตฺเตน ปกตตฺตสฺินา วา อปกตตฺตสฺินา วา ฉาทิตาปิ อจฺฉนฺนาว โหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘อาปชฺชติ ครุกํ สาวเสสํ,

ฉาเทติ อนาทริยํ ปฏิจฺจ;

น ภิกฺขุนี โน จ ผุเสยฺย วชฺชํ,

ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๘๑);

อยฺหิ ปฺโห อุกฺขิตฺตเกน กถิโต.

อนนฺตรายิโกติ ยสฺส ทสสุ อนฺตราเยสุ เอโกปิ นตฺถิ, โส เจ อนนฺตรายิกสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, ฉนฺนา โหติ. สเจปิ โส ภีรุกชาติกตาย อนฺธกาเร อมนุสฺสจณฺฑมิคภเยน อนฺตรายิกสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, อจฺฉนฺนาว โหติ. ยสฺส หิ ปพฺพตวิหาเร วสนฺตสฺส กนฺทรํ วา นทึ วา อติกฺกมิตฺวา อาโรเจตพฺพํ โหติ, อนฺตรามคฺเค จ จณฺฑวาฬอมนุสฺสาทิภยํ อตฺถิ, มคฺเค อชครา นิปชฺชนฺติ, นที ปูรา โหติ, เอกสฺมึ ปน สติเยว อนฺตราเย อนฺตรายิกสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, อจฺฉนฺนาว โหติ. อนฺตรายิกสฺส ปน อนฺตรายิกสฺาย วา อนนฺตรายิกสฺาย วา ฉาทยโต อจฺฉนฺนาว โหติ.

ปหูติ โย สกฺโกติ ภิกฺขุโน สนฺติกํ คนฺตุฺเจว อาโรเจตุฺจ; โส เจ ปหุสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, ฉนฺนา โหติ. สจสฺส มุเข อปฺปมตฺตโก คณฺโฑ วา โหติ, หนุกวาโต วา วิชฺฌติ, ทนฺโต วา รุชฺชติ, ภิกฺขา วา มนฺทา ลทฺธา โหติ, ตาวตเกน ปน เนว วตฺตุํ น สกฺโกติ น คนฺตุํ; อปิจ โข น สกฺโกมีติ สฺี โหติ, อยํ ปหุ หุตฺวา อปฺปหุสฺี นาม. อิมินา ฉาทิตาปิ อจฺฉาทิตา. อปฺปหุนา ปน วตฺตุํ วา คนฺตุํ วา อสมตฺเถน ปหุสฺินา วา อปฺปหุสฺินา วา ฉาทิตา โหตุ, อจฺฉาทิตาว.

ฉาเทตุกาโม จ โหติ ฉาเทติ จาติ อิทํ อุตฺตานตฺถเมว. สเจ ปน ฉาเทสฺสามีติ ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา ปุเรภตฺเต วา ปจฺฉาภตฺเต วา ปมยามาทีสุ วา ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกมิตฺวา อนฺโตอรุเณเยว อาโรเจติ, อยํ ฉาเทตุกาโม น ฉาเทติ นาม.

ยสฺส ปน อภิกฺขุเก าเน วสนฺตสฺส อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา สภาคสฺส ภิกฺขุโน อาคมนํ อาคเมนฺตสฺส สภาคสนฺติกํ วา คจฺฉนฺตสฺส อทฺธมาโสปิ มาโสปิ อติกฺกมติ, อยํ น ฉาเทตุกาโม ฉาเทติ นาม, อยมฺปิ อจฺฉนฺนาว โหติ.

โย ปน อาปนฺนมตฺโตว อคฺคึ อกฺกนฺตปุริโส วิย สหสา อปกฺกมิตฺวา สภาคฏฺานํ คนฺตฺวา อาวิ กโรติ, อยํ น ฉาเทตุกาโมว น ฉาเทติ นาม. สเจ ปน สภาคํ ทิสฺวาปิ ‘‘อยํ เม อุปชฺฌาโย วา อาจริโย วา’’ติ ลชฺชาย นาโรเจติ, ฉนฺนาว โหติ อาปตฺติ. อุปชฺฌายาทิภาโว หิ อิธ อปฺปมาณํ อเวริสภาคมตฺตเมว ปมาณํ, ตสฺมา อเวริสภาคสฺส สนฺติเก อาโรเจตพฺพา.

โย ปน วิสภาโค โหติ สุตฺวา ปกาเสตุกาโม, เอวรูปสฺส อุปชฺฌายสฺสาปิ สนฺติเก น อาโรเจตพฺพา. ตตฺถ ปุเรภตฺตํ วา อาปตฺตึ อาปนฺโน โหตุ ปจฺฉาภตฺตํ วา, ทิวา วา รตฺตึ วา ยาว อรุณํ น อุคฺคจฺฉติ ตาว อาโรเจตพฺพํ. อุทฺธสฺเต อรุเณ ปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ปฏิจฺฉาทนปจฺจยา จ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. สภาคสงฺฆาทิเสสํ อาปนฺนสฺส ปน สนฺติเก อาวิ กาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ อาวิ กโรติ, อาปตฺติ อาวิกตา โหติ, ทุกฺกฏา ปน น มุจฺจติ, ตสฺมา สุทฺธสฺส สนฺติเก อาวิกาตพฺพา. อาวิกโรนฺโต จ ‘‘ตุยฺหํ สนฺติเก เอกํ อาปตฺตึ อาวิกโรมี’’ติ วา ‘‘อาจิกฺขามี’’ติ วา ‘‘อาโรเจมี’’ติ วา ‘‘มม เอกํ อาปตฺตึ อาปนฺนภาวํ ชานาหี’’ติ วา วทตุ, ‘‘เอกํ ครุกาปตฺตึ อาวิกโรมี’’ติอาทินา วา นเยน วทตุ, สพฺเพหิปิ อากาเรหิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาว โหตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. สเจ ปน ลหุกาปตฺตึ อาวิกโรมีติอาทินา นเยน วทติ, ปฏิจฺฉนฺนา โหติ, วตฺถุํ อาโรเจติ, อาปตฺตึ อาโรเจติ, อุภยํ อาโรเจติ, ติวิเธนาปิ อาโรจิตาว โหติ. อิติ อิมานิ ทส การณานิ อุปลกฺเขตฺวา ปฏิจฺฉนฺนปริวาสํ เทนฺเตน ปมเมว ปฏิจฺฉนฺนภาโว ชานิตพฺโพ.

ตโต ปฏิจฺฉนฺนทิวเส จ อาปตฺติโย จ สลฺลกฺเขตฺวา สเจ เอกาหปฏิจฺฉนฺนา โหติ – ‘‘อหํ, ภนฺเต, เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ สฺเจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ เอกาหปฏิจฺฉนฺน’’นฺติ เอวํ ยาจาเปตฺวา อิธ วุตฺตนเยเนว กมฺมวาจํ วตฺวา ปริวาโส ทาตพฺโพ. อถ ทฺวีหตีหาทิปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ทฺวีหปฏิจฺฉนฺนํ ตีหปฏิจฺฉนฺนํ จตูหปฏิจฺฉนฺนํ ปฺจาหปฏิจฺฉนฺนํ ฉาหปฏิจฺฉนฺนํ สตฺตาหปฏิจฺฉนฺนํ อฏฺาหปฏิจฺฉนฺนํ นวาหปฏิจฺฉนฺนํ ทสาหปฏิจฺฉนฺนํ เอกาทสาหปฏิจฺฉนฺนํ ทฺวาทสาหปอจฺฉนฺนํ เตรสาหปฏิจฺฉนฺนํ จุทฺทสาหปฏิจฺฉนฺนนฺติ เอวํ ยาว จุทฺทส ทิวสานิ ทิวสวเสน โยชนา กาตพฺพา. ปฺจทส ทิวสานิ ปฏิจฺฉนฺนาย ปกฺขปฏิจฺฉนฺนนฺติ วตฺวา โยชนา กาตพฺพา. ตโต ยาว เอกูนตึสติโม ทิวโส, ตาว อติเรกปกฺขปฏิจฺฉนฺนนฺติ.

ตโต มาสปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกมาสปฏิจฺฉนฺนํ ทฺเวมาสปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกทฺเวมาสปฏิจฺฉนฺนํ เตมาสปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกเตมาสปฏิจฺฉนฺนํ จตุมาสปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกจตุมาสปฏิจฺฉนฺนํ ปฺจมาสปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกปฺจมาสปฏิจฺฉนฺนํ ฉมาสปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกฉมาสปฏิจฺฉนฺนํ สตฺตมาสปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกสตฺตมาสปฏิจฺฉนฺนํ อฏฺมาสปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกอฏฺมาสปฏิจฺฉนฺนํ นวมาสปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกนวมาสปฏิจฺฉนฺนํ ทสมาสปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกทสมาสปฏิจฺฉนฺนํ เอกาทสมาสปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกเอกาทสมาสปฏิจฺฉนฺนนฺติ เอวํ โยชนา กาตพฺพา. สํวจฺฉเร ปริปุณฺเณ เอกสํวจฺฉรปฏิจฺฉนฺนนฺติ. ตโต ปรํ อติเรกเอกสํวจฺฉร… ทฺเวสํวจฺฉร… อติเรกทฺเวสํวจฺฉร… ติสํวจฺฉร… อติรเกติสํวจฺฉร… จตุสํวจฺฉร… อติเรกจตุสํวจฺฉร… ปฺจสํวจฺฉร… อติเรกปฺจสํวจฺฉรปฏิจฺฉนฺนนฺติ เอวํ ยาว สฏฺิสํวจฺฉร… อติเรกสฏฺิสํวจฺฉรปฏิจฺฉนฺนนฺติ วา ตโต วา ภิยฺโยปิ วตฺวา โยชนา กาตพฺพา.

สเจ ปน ทฺเว ติสฺโส ตตุตฺตริ วา อาปตฺติโย โหนฺติ, ยถา อิธ เอกํ อาปตฺตินฺติ วุตฺตํ; เอวํ ทฺเว อาปตฺติโย ติสฺโส อาปตฺติโยติ วตฺตพฺพํ. ตโต ปรํ ปน สตํ วา โหตุ สหสฺสํ วา, สมฺพหุลาติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. นานาวตฺถุกาสุปิ ‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ – เอกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ, เอกํ กายสํสคฺคํ, เอกํ ทุฏฺุลฺลวาจํ, เอกํ อตฺตกามํ, เอกํ สฺจริตฺตํ, เอกาหปฏิจฺฉนฺนาโย’’ติ เอวํ คณนวเสน วา ‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ นานาวตฺถุกาโย เอกาหปฏิจฺฉนฺนาโย’’ติ เอวํ วตฺถุกิตฺตนวเสน วา, ‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกาหปฏิจฺฉนฺนาโย’’ติ เอวํ นามมตฺตวเสน วา โยชนา กาตพฺพา.

ตตฺถ นามํ ทุวิธํ – สชาติสาธารณฺจ สพฺพสาธารณฺจ. ตตฺถ สงฺฆาทิเสโสติ สชาติสาธารณํ, อาปตฺตีติ สพฺพสาธารณํ; ตสฺมา ‘‘สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกาหปฏิจฺฉนฺนาโย’’ติ เอวํ สพฺพสาธารณนามวเสนปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อิทฺหิ สพฺพมฺปิ ปริวาสาทิกํ วินยกมฺมํ วตฺถุวเสน โคตฺตวเสน นามวเสน อาปตฺติวเสน จ กาตุํ วฏฺฏติเยว.

ตตฺถ ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺี’’ติ วตฺถุ เจว โคตฺตฺจ. ‘‘สงฺฆาทิเสโส’’ติ นามฺเจว อาปตฺติ จ. ‘‘กายสํสคฺโค’’ติ วตฺถุ เจว โคตฺตฺจ. ‘‘สงฺฆาทิเสโส’’ติ นามฺเจว อาปตฺติ จ, ตตฺถ ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺึ กายสํสคฺค’’นฺติอาทินา วจเนนาปิ ‘‘นานาวตฺถุกาโย’’ติ วจเนนาปิ วตฺถุ เจว โคตฺตฺจ คหิตํ โหติ. ‘‘สงฺฆาทิเสโส’’ติ วจเนนาปิ ‘‘อาปตฺติโย’’ติ วจเนนาปิ นามฺเจว อาปตฺติ จ คหิตา โหติ. อิธ ปน เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ สฺเจตนิกํ ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺิ’’นฺติ นามมฺปิ วตฺถุโคตฺตานิปิ คหิตาเนว. ยถา จ อิธ ‘‘อยํ อุทายิ ภิกฺขู’’ติ วุตฺตํ; เอวํ โย โย อาปนฺโน โหติ, ตสฺส ตสฺส นามํ คเหตฺวา ‘‘อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขู’’ติ กมฺมวาจา กาตพฺพา.

กมฺมวาจาปริโยสาเน จ เตน ภิกฺขุนา มาฬกสีมายเมว ‘‘ปริวาสํ สมาทิยามิ, วตฺตํ สมาทิยามี’’ติ วุตฺตนเยเนว วตฺตํ สมาทาตพฺพํ. สมาทิยิตฺวา ตตฺเถว สงฺฆสฺส อาโรเจตพฺพํ, อาโรเจนฺเตน จ เอวํ อาโรเจตพฺพํ –

‘‘อหํ, ภนฺเต, เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ สฺเจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ เอกาหปฏิจฺฉนฺนํ, โสหํ สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา เอกาหปฏิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา เอกาหปฏิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวสามิ – ‘เวทยามหํ, ภนฺเต, เวทยตี’ติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ.

อิมฺจ ปนตฺถํ คเหตฺวา ยาย กายจิ ภาสาย อาโรเจตุํ วฏฺฏติเยว. อาโรเจตฺวา สเจ นิกฺขิปิตุกาโม, วุตฺตนเยเนว สงฺฆมชฺเฌ นิกฺขิปิตพฺพํ. มาฬกโต ภิกฺขูสุ นิกฺขนฺเตสุ เอกสฺสาปิ สนฺติเก นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ. มาฬกโต นิกฺขมิตฺวา สตึ ปฏิลภนฺเตน สหคจฺฉนฺตสฺส สนฺติเก นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ โสปิ ปกฺกนฺโต, อฺสฺส ยสฺส มาฬเก นาโรจิตํ, ตสฺส อาโรเจตฺวา นิกฺขิปิตพฺพํ. อาโรเจนฺเตน จ อวสาเน ‘‘เวทยตีติ มํ อายสฺมา ธาเรตู’’ติ วตฺตพฺพํ. ทฺวินฺนํ อาโรเจนฺเตน ‘‘อายสฺมนฺตา ธาเรนฺตู’’ติ, ติณฺณํ อาโรเจนฺเตน ‘‘อายสฺมนฺโต ธาเรนฺตู’’ติ วตฺตพฺพํ. นิกฺขิตฺตกาลโต ปฏฺาย ปกตตฺตฏฺาเน ติฏฺติ.

สเจ อปฺปภิกฺขุโก วิหาโร โหติ, สภาคา ภิกฺขู วสนฺติ, วตฺตํ อนิกฺขิปิตฺวา วิหาเรเยว รตฺติปริคฺคโห กาตพฺโพ. อถ น สกฺกา โสเธตุํ, วุตฺตนเยเนว วตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺจูสสมเย เอเกน ภิกฺขุนา สทฺธึ มานตฺตวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว อุปจารสีมํ อติกฺกมิตฺวา มหามคฺคา โอกฺกมฺม ปฏิจฺฉนฺเน าเน นิสีทิตฺวา อนฺโตอรุเณเยว วุตฺตนเยเนว วตฺตํ สมาทิยิตฺวา ตสฺส ภิกฺขุโน ปริวาโส อาโรเจตพฺโพ. อาโรเจนฺเตน สเจ นวกตโร โหติ, ‘‘อาวุโส’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ วุฑฺฒตโร, ‘‘ภนฺเต’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ อฺโ โกจิ ภิกฺขุ เกนจิเทว กรณีเยน ตํ านํ อาคจฺฉติ, สเจ เอส ตํ ปสฺสติ, สทฺทํ วาสฺส สุณาติ, อาโรเจตพฺพํ; อนาโรเจนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโท เจว วตฺตเภโท จ. อถ ทฺวาทสหตฺถํ อุปจารํ โอกฺกมิตฺวา อชานนฺตสฺเสว คจฺฉติ, รตฺติจฺเฉโทเยว โหติ, วตฺตเภโท ปน นตฺถิ.

อุคฺคเต อรุเณ วตฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ โส ภิกฺขุ เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกนฺโต โหติ, ยํ อฺํ สพฺพปมํ ปสฺสติ, ตสฺส อาโรเจตฺวา นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ ปน กฺจิ น ปสฺสติ, วิหารํ คนฺตฺวา อตฺตนา สทฺธึ คตภิกฺขุสฺส สนฺติเก นิกฺขิปิตพฺพนฺติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘ยํ ปมํ ปสฺสติ, ตสฺส อาโรเจตฺวา นิกฺขิปิตพฺพํ, อยํ นิกฺขิตฺตวตฺตสฺส ปริหาโร’’ติ อาห.

เอวํ ยตฺตกานิ ทิวสานิ อาปตฺติ ปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ตตฺตกานิ ตโต อธิกตรานิ วา กุกฺกุจฺจวิโนทนตฺถาย ปริวสิตฺวา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา วตฺตํ สมาทิยิตฺวา มานตฺตํ ยาจิตพฺพํ. อยฺหิ วตฺเต สมาทินฺเน เอว มานตฺตารโห โหติ นิกฺขิตฺตวตฺเตน ปริวุตฺถตฺตา. อนิกฺขิตฺตวตฺตสฺส ปน ปุน สมาทานกิจฺจํ นตฺถิ, โส หิ ปฏิจฺฉนฺนทิวสาติกฺกเมเนว มานตฺตารโห โหติ, ตสฺมา ตสฺส มานตฺตํ ทาตพฺพเมว. อิทํ ปฏิจฺฉนฺนมานตฺตํ นาม. ตํ เทนฺเตน สเจ เอกาปตฺติ โหติ, ปาฬิยํ วุตฺตนเยเนว ทาตพฺพํ. อถ ทฺเว วา ติสฺโส วา ‘‘โสหํ ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ทฺวินฺนํ อาปตฺตีนํ ติสฺสนฺนํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจามี’’ติ ปริวาเส วุตฺตนเยเนว อาปตฺติโย จ ทิวเส จ สลฺลกฺเขตฺวา โยชนา กาตพฺพา.

อปฺปฏิจฺฉนฺนาปตฺตึ ปฏิจฺฉนฺนาปตฺติยา สโมธาเนตฺวาปิ ทาตุํ วฏฺฏติ. กถํ? ปฏิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ วสิตฺวา –

‘‘อหํ, ภนฺเต, เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ สฺเจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ เอกาหปฏิจฺฉนฺนํ, โสหํ สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา เอกาหปฏิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา เอกาหปฏิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวุตฺถปริวาโส. อหํ, ภนฺเต, เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ สฺเจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ อปฺปฏิจฺฉนฺนํ. โสหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สฺเจตนิกานํ สุกฺกวิสฺสฏฺีนํ ปฏิจฺฉนฺนาย จ อปฺปฏิจฺฉนฺนาย จ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจามี’’ติ.

อถสฺส ตทนุรูปํ กมฺมวาจํ กตฺวา มานตฺตํ ทาตพฺพํ. สเจ ปฏิจฺฉนฺนา ทฺเว, อปฺปฏิจฺฉนฺนา เอกา ‘‘ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนาย จา’’ติ วตฺตพฺพํ. อถ ปฏิจฺฉนฺนา เอกา, อปฺปฏิจฺฉนฺนา ทฺเว, ‘‘ปฏิจฺฉนฺนาย จ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจา’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ปฏิจฺฉนฺนาปิ ทฺเว, อปฺปฏิจฺฉนฺนาปิ ทฺเว, ‘‘ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจา’’ติ วตฺตพฺพํ. สพฺพตฺถ อนุรูปํ กมฺมวาจํ กตฺวา มานตฺตํ ทาตพฺพํ. จิณฺณมานตฺตสฺส จ ตทนุรูปเมว กมฺมวาจํ กตฺวา อพฺภานํ กาตพฺพํ. อิธ ปน เอกาปตฺติวเสน วุตฺตํ. อิติ ยํ ปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวาสาวสาเน มานตฺตํ ทิยฺยติ, อิทํ ปฏิจฺฉนฺนมานตฺตํ นาม. เอวเมตฺถ เอเกเนว โยชนามุเขน ปฏิจฺฉนฺนปริวาโส จ ปฏิจฺฉนฺนมานตฺตฺจ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปกฺขมานตฺตํ สโมธานมานตฺตฺจ อวเสสปริวาสกถาวสาเน กถยิสฺสาม.

สุทฺธนฺตปริวาโส สโมธานปริวาโสติ หิ ทฺเว ปริวาสา อวเสสา. ตตฺถ ‘‘สุทฺธนฺตปริวาโส’’ นาม ปรโต อธมฺมิกมานตฺตจาราวสาเน ‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปนฺโน โหติ, อาปตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, รตฺติปริยนฺตํ น ชานาตี’’ติ อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ อนุฺาตปริวาโส. โส ทุวิโธ – จูฬสุทฺธนฺโต, มหาสุทฺธนฺโตติ. ทุวิโธปิ เจส รตฺติปริจฺเฉทํ สกลํ วา เอกจฺจํ วา อชานนฺตสฺส จ อสฺสรนฺตสฺส จ ตตฺถ เวมติกสฺส จ ทาตพฺโพ. อาปตฺติปริยนฺตํ ปน เอตฺตกา อหํ อาปตฺติโย อาปนฺโนติ ชานาตุ วา มา วา, อการณเมตํ.

ตตฺถ โย อุปสมฺปทโต ปฏฺาย อนุโลมกฺกเมน วา อาโรจิตทิวสโต ปฏฺาย ปฏิโลมกฺกเมน วา ‘‘อสุกฺจ อสุกฺจ ทิวสํ วา ปกฺขํ วา มาสํ วา สํวจฺฉรํ วา ตว สุทฺธภาวํ ชานาสี’’ติ ปุจฺฉิยมาโน ‘‘อาม, ภนฺเต, ชานามิ, เอตฺตกํ นาม กาลํ อหํ สุทฺโธ’’ติ วทติ, ตสฺส ทินฺโน สุทฺธนฺตปริวาโส ‘‘จูฬสุทฺธนฺโต’’ติ วุจฺจติ.

ตํ คเหตฺวา ปริวสนฺเตน ยตฺตกํ กาลํ อตฺตโน สุทฺธึ ชานาติ, ตตฺตกํ อปเนตฺวา อวเสสํ มาสํ วา ทฺเวมาสํ วา ปริวสิตพฺพํ. สเจ มาสมตฺตํ อสุทฺโธมฺหีติ สลฺลกฺเขตฺวา อคฺคเหสิ ปริวสนฺโต จ ปุน อฺํ มาสํ สรติ, ตมฺปิ มาสํ ปริวสิตพฺพเมว. ปุน ปริวาสทานกิจฺจํ นตฺถิ. อถ ทฺเวมาสํ อสุทฺโธมฺหีติ สลฺลกฺเขตฺวา อคฺคเหสิ, ปริวสนฺโต จ มาสมตฺตเมวาหํ อสุทฺโธมฺหีติ สนฺนิฏฺานํ กโรติ, มาสเมว ปริวสิตพฺพํ. ปุน ปริวาสทานกิจฺจํ นตฺถิ. อยฺหิ สุทฺธนฺตปริวาโส นาม อุทฺธมฺปิ อาโรหติ, เหฏฺาปิ โอโรหติ, อิทมสฺส ลกฺขณํ. อฺสฺมึ ปน อาปตฺติวุฏฺาเน อิทํ ลกฺขณํ – โย อปฺปฏิจฺฉนฺนํ อาปตฺตึ ปฏิจฺฉนฺนาติ วินยกมฺมํ กโรติ, ตสฺส อาปตฺติ วุฏฺาติ. โย ปฏิจฺฉนฺนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนาติ วินยกมฺมํ กโรติ, ตสฺส น วุฏฺาติ. อจิรปฏิจฺฉนฺนํ จิรปฏิจฺฉนฺนาติ กโรนฺตสฺสาปิ วุฏฺาติ. จิรปฏิจฺฉนฺนํ อจิรปฏิจฺฉนฺนาติ กโรนฺตสฺส น วุฏฺาติ. เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา สมฺพหุลาติ กโรนฺตสฺสาปิ วุฏฺาติ, เอกํ วินา สมฺพหุลานํ อภาวโต. สมฺพหุลา ปน อาปชฺชิตฺวา เอกํ อาปชฺชินฺติ กโรนฺตสฺส น วุฏฺาติ.

โย ปน ยถาวุตฺเตน อนุโลมปฏิโลมนเยน ปุจฺฉิยมาโนปิ รตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ เนว สรติ เวมติโก วา โหติ, ตสฺส ทินฺโน สุทฺธนฺตปริวาโส ‘‘มหาสุทฺธนฺโต’’ติ วุจฺจติ. ตํ คเหตฺวา คหิตทิวสโต ปฏฺาย ยาว อุปสมฺปททิวโส, ตาว รตฺติโย คเณตฺวา ปริวสิตพฺพํ. อยํ อุทฺธํ นาโรหติ, เหฏฺา ปน โอโรหติ. ตสฺมา สเจ ปริวสนฺโต รตฺติปริจฺเฉเท สนฺนิฏฺานํ กโรติ, มาโส วา สํวจฺฉโร วา มยฺหํ อาปนฺนสฺสาติ มาสํ วา สํวจฺฉรํ วา ปริวสิตพฺพํ. ปริวาสยาจนทานลกฺขณํ ปเนตฺถ ปรโต ปาฬิยํ อาคตนเยเนว เวทิตพฺพํ. กมฺมวาจาปริโยสาเน วตฺตสมาทานมานตฺตอพฺภานานิ วุตฺตนยาเนว. อยํ สุทฺธนฺตปริวาโส นาม.

‘‘สโมธานปริวาโส’’ นาม ติวิโธ โหติ – โอธานสโมธาโน, อคฺฆสโมธาโน, มิสฺสกสโมธาโนติ. ตตฺถ ‘‘โอธานสโมธาโน’’ นาม – อนฺตราปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ปฏิจฺฉาเทนฺตสฺส ปริวุตฺถทิวเส โอธุนิตฺวา มกฺเขตฺวา ปุริมาย อาปตฺติยา มูลทิวสปริจฺเฉเท ปจฺฉา อาปนฺนํ อาปตฺตึ สโมทหิตฺวา ทาตพฺพปริวาโส วุจฺจติ. โส ปรโต ‘‘เตน หิ ภิกฺขเว สงฺโฆ อุทายึ ภิกฺขุํ อนฺตรา เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา ปฺจาหปฏิจฺฉนฺนาย มูลาย ปฏิกสฺสิตฺวา ปุริมาย อาปตฺติยา สโมธานปริวาสํ เทตู’’ติ อิโต ปฏฺาย วิตฺถารโต ปาฬิยํเยว อาคโต.

อยํ ปเนตฺถ วินิจฺฉโย – โย ปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวาสํ คเหตฺวา ปริวสนฺโต วา มานตฺตารโห วา มานตฺตํ จรนฺโต วา อพฺภานารโห วา อฺํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ปุริมาย อาปตฺติยา สมา วา อูนตรา วา รตฺติโย ปฏิจฺฉาเทติ, ตสฺส มูลายปฏิกสฺสเนน เต ปริวุตฺถทิวเส จ มานตฺตจิณฺณทิวเส จ สพฺเพ โอธุนิตฺวา อทิวเส กตฺวา ปจฺฉา อาปนฺนาปตฺตึ มูลาปตฺติยํ สโมธาย ปริวาโส ทาตพฺโพ. เตน สเจ มูลาปตฺติ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนา, อนฺตราปตฺติ อูนกปกฺขปฏิจฺฉนฺนา, ปุน ปกฺขเมว ปริวาโส ปริวสิตพฺโพ. อถาปิ อนฺตราปตฺติ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาว ปกฺขเมว ปริวสิตพฺพํ. เอเตนุปาเยน ยาว สฏฺิวสฺสปฏิจฺฉนฺนา มูลาปตฺติ, ตาว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. สฏฺิวสฺสานิ ปริวสิตฺวา มานตฺตารโห หุตฺวาปิ หิ เอกทิวสํ อนฺตราปตฺตึ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปุนปิ สฏฺิวสฺสานิ ปริวาสารโห โหติ.

สเจ ปน อนฺตราปตฺติ มูลาปตฺติโต อติเรกปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ตตฺถ ‘‘กึ กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺเต มหาสุมตฺเถโร อาห – ‘‘อเตกิจฺโฉ อยํ ปุคฺคโล, อเตกิจฺโฉ นาม อาวิการาเปตฺวา วิสฺสชฺเชตพฺโพ’’ติ. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘กสฺมา อเตกิจฺโฉ นาม, นนุ อยํ สมุจฺจยกฺขนฺธโก นาม พุทฺธานํ ิตกาลสทิโส, อาปตฺติ นาม ปฏิจฺฉนฺนา วา โหตุ อปฺปฏิจฺฉนฺนา วา สมกอูนตรอติเรกปฏิจฺฉนฺนา วา วินยธรสฺส กมฺมวาจํ โยเชตุํ สมตฺถภาโวเยเวตฺถ ปมาณํ, ตสฺมา ยา อติเรกปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ตํ มูลาปตฺตึ กตฺวา ตตฺถ อิตรํ สโมธาย ปริวาโส ทาตพฺโพ’’ติ. อยํ ‘‘โอธานสโมธาโน’’ นาม.

‘‘อคฺฆสโมธาโน’’ นาม สมฺพหุลาสุ อาปตฺตีสุ ยา เอกา วา ทฺเว วา ติสฺโส วา สมฺพหุลา วา อาปตฺติโย สพฺพจิรปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธาย ตาสํ รตฺติปริจฺเฉทวเสน อวเสสานํ อูนตรปฏิจฺฉนฺนานํ อาปตฺตีนํ ปริวาโส ทิยฺยติ. อยํ วุจฺจติ อคฺฆสโมธาโน. โสปิ ปรโต ‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปนฺโน โหติ, เอกา อาปตฺติ เอกาหปฏิจฺฉนฺนา เอกา อาปตฺติ ทฺวีหปฏิจฺฉนฺนา’’ติอาทินา นเยน ปาฬิยํ อาคโตเยว.

ยสฺส ปน สตํ อาปตฺติโย ทสาหปฏิจฺฉนฺนา, อปรมฺปิ สตํ อาปตฺติโย ทสาหปฏิจฺฉนฺนาติ เอวํ ทสกฺขตฺตุํ กตฺวา อาปตฺติสหสฺสํ ทิวสสตปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, เตน กึ กาตพฺพนฺติ? สพฺพํ สโมทหิตฺวา ทส ทิวเส ปริวสิตพฺพํ. เอวํ เอเกเนว ทสาเหน ทิวสสตมฺปิ ปริวสิตเมว โหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ทสสตํ รตฺติสตํ, อาปตฺติโย ฉาทยิตฺวาน;

ทส รตฺติโย วสิตฺวาน, มุจฺเจยฺย ปาริวาสิโก’’ติ. (ปริ. ๔๗๗);

อยํ อคฺฆสโมธาโน นาม.

‘‘มิสฺสกสโมธาโน’’ นาม – โย นานาวตฺถุกา อาปตฺติโย เอกโต กตฺวา ทิยฺยติ. ตตฺรายํ นโย –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ, เอกํ กายสํสคฺคํ, เอกํ ทุฏฺุลฺลวาจํ, เอกํ อตฺตกามํ, เอกํ สฺจริตฺตํ, เอกํ กุฏิการํ, เอกํ วิหารการํ, เอกํ ทุฏฺโทสํ, เอกํ อฺภาคิยํ, เอกํ สงฺฆเภทํ, เอกํ เภทานุวตฺตกํ, เอกํ ทุพฺพจํ, เอกํ กุลทูสกํ, โสหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจามี’’ติ –

ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา ตทนุรูปาย กมฺมวาจาย ปริวาโส ทาตพฺโพ.

เอตฺถ จ สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ นานาวตฺถุกาโยติปิ สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชินฺติปิ เอวํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน วตฺถุวเสนปิ โคตฺตวเสนปิ นามวเสนปิ อาปตฺติวเสนปิ โยเชตฺวา กมฺมวาจํ กาตุํ วฏฺฏติเยวาติ อยํ มิสฺสกสโมธาโน. สพฺพปริวาสกมฺมวาจาวสาเน ปน นิกฺขิตฺตานิกฺขิตฺตวตฺตาทิกถา ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพาติ.

ปริวาสกถา นิฏฺิตา.

อิทานิ ยํ วุตฺตํ ‘‘ปกฺขมานตฺตฺจ สโมธานมานตฺตฺจ อวเสสปริวาสกถาวสาเน กถยิสฺสามา’’ติ, ตสฺโสกาโส สมฺปตฺโต, ตสฺมา วุจฺจติ – ‘‘ปกฺขมานตฺต’’นฺติ ภิกฺขุนิยา ทาตพฺพมานตฺตํ. ตํ ปน ปฏิจฺฉนฺนายปิ อปฺปฏิจฺฉนฺนายปิ อาปตฺติยา อฑฺฒมาสเมว ทาตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺนาย ภิกฺขุนิยา อุภโตสงฺเฆ ปกฺขมานตฺตํ จริตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๔๐๓). ตํ ปน ภิกฺขุนีหิ อตฺตโน สีมํ โสเธตฺวา วิหารสีมาย วา วิหารสีมํ โสเธตุํ อสกฺโกนฺตีหิ ขณฺฑสีมาย วา สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน จตุวคฺคคณํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ เอกา อาปตฺติ โหติ เอกิสฺสา วเสน, สเจ ทฺเว วา ติสฺโส วา สมฺพหุลา วา เอกวตฺถุกา วา นานาวตฺถุกา วา ตาสํ ตาสํ วเสน วตฺถุโคตฺตนามอาปตฺตีสุ ยํ ยํ อิจฺฉติ ตํ ตํ อาทาย โยชนา กาตพฺพา.

ตตฺริทํ เอกาปตฺติวเสน มุขมตฺตทสฺสนํ, ตาย อาปนฺนาย ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุนิสงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขุนีนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘อหํ, อยฺเย, เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ คามนฺตรํ, สาหํ, อยฺเย, เอกิสฺสา อาปตฺติยา คามนฺตราย ปกฺขมานตฺตํ ยาจามี’’ติ.

เอวํ ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา พฺยตฺตาย ภิกฺขุนิยา ปฏิพลาย สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม อยฺเย สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนามา ภิกฺขุนี เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิ คามนฺตรํ, สา สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา คามนฺตราย ปกฺขมานตฺตํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามาย ภิกฺขุนิยา เอกิสฺสา อาปตฺติยา คามนฺตราย ปกฺขมานตฺตํ ทเทยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม อยฺเย สงฺโฆ, อยํ…เป… ทุติยมฺปิ… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ. สุณาตุ เม อยฺเย สงฺโฆ…เป… เทติ… ทินฺนํ สงฺเฆน อิตฺถนฺนามาย ภิกฺขุนิยา เอกิสฺสา อาปตฺติยา คามนฺตราย ปกฺขมานตฺตํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี; เอวเมตํ ธารยามี’’ติ.

กมฺมวาจาปริโยสาเน วตฺตํ สมาทิยิตฺวา ภิกฺขุมานตฺตกถาย วุตฺตนเยเนว สงฺฆสฺส อาโรเจตฺวา นิกฺขิตฺตวตฺตํ วสิตุกามาย ตตฺเถว สงฺฆมชฺเฌ วา ปกฺกนฺตาสุ ภิกฺขุนีสุ เอกภิกฺขุนิยา วา ทุติยิกาย วา สนฺติเก วุตฺตนเยเนว นิกฺขิปิตพฺพํ. อฺิสฺสา ปน อาคนฺตุกาย สนฺติเก อาโรเจตฺวา นิกฺขิปิตพฺพํ. นิกฺขิตฺตกาลโต ปฏฺาย ปกตตฺตฏฺาเน ติฏฺติ. ปุน สมาทิยิตฺวา อรุณํ อุฏฺาเปนฺติยา ปน ภิกฺขุนีนํเยว สนฺติเก วสิตุํ น ลภติ. ‘‘อุภโตสงฺเฆ ปกฺขมานตฺตํ จริตพฺพ’’นฺติ หิ วุตฺตํ. ตสฺมา อสฺสา อาจริยุปชฺฌายาหิ วิหารํ คนฺตฺวา สงฺคาหกปกฺเข ิโต เอโก มหาเถโร วา ธมฺมกถิโก วา ภิกฺขุ วตฺตพฺโพ – ‘‘เอกิสฺสา ภิกฺขุนิยา วินยกมฺมํ กตฺตพฺพมตฺถิ, ตตฺร โน อยฺยา, จตฺตาโร ภิกฺขู เปเสถา’’ติ. สงฺคหํ อกาตุํ น ลพฺภติ, เปเสสฺสามีติ วตฺตพฺพํ. จตูหิ ปกตตฺตภิกฺขุนีหิ มานตฺตจารินึ ภิกฺขุนึ คเหตฺวา อนฺโตอรุเณเยว นิกฺขมิตฺวา คามูปจารโต ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมิตฺวา มคฺคา โอกฺกมฺม คุมฺพวติอาทีหิ ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน นิสีทิตพฺพํ. วิหารูปจารโตปิ ทฺเว เลฑฺฑุปาตา อติกฺกมิตพฺพา จตูหิ ปกตตฺตภิกฺขูหิปิ ตตฺถ คนฺตพฺพํ. คนฺตฺวา ปน ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ น เอกฏฺาเน นิสีทิตพฺพํ, ปฏิกฺกมิตฺวา อวิทูรฏฺาเน นิสีทิตพฺพํ. กุรุนฺทิมหาปจฺจรีสุ ปน ‘‘ภิกฺขุนีหิปิ พฺยตฺตํ เอกํ วา ทฺเว วา อุปาสิกาโย ภิกฺขูหิปิ เอกํ วา ทฺเว วา อุปาสเก อตฺตรกฺขณตฺถาย คเหตฺวา คนฺตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. กุรุนฺทิยํเยว จ ภิกฺขุนุปสฺสยสฺส จ วิหารสฺส จ อุปจารํ มุฺจิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ, คามสฺสาติ น วุตฺตํ.

เอวํ นิสินฺเนสุ ปน ภิกฺขูสุ จ ภิกฺขุนีสุ จ ตาย ภิกฺขุนิยา ‘‘มานตฺตํ สมาทิยามิ, วตฺตํ สมาทิยามี’’ติ วตฺตํ สมาทิยิตฺวา ภิกฺขุนีสงฺฆสฺส ตาว เอวํ อาโรเจตพฺพํ –

‘‘อหํ, อยฺเย, เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ คามนฺตรํ, สาหํ สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา คามนฺตราย ปกฺขมานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ เอกิสฺสา อาปตฺติยา คามนฺตราย ปกฺขมานตฺตํ อทาสิ, สาหํ ปกฺขมานตฺตํ จรามิ, ‘เวทยามหํ, อยฺเย, เวทยตี’ติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ.

ตโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา เอวํ อาโรเจตพฺพํ – ‘‘อหํ, อยฺยา, เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ …เป… เวทยามหํ, อยฺยา, เวทยตีติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ. อิธาปิ ยาย กายจิ ภาสาย อาโรเจตุํ วฏฺฏติ.

อาโรเจตฺวา จ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺเสว สนฺติเก นิสีทิตพฺพํ, อาโรจิตกาลโต ปฏฺาย ภิกฺขูนํ คนฺตุํ วฏฺฏติ. สเจ สาสงฺกํ โหติ, ภิกฺขุนิโย ตตฺเถว านํ ปจฺจาสีสนฺติ, าตพฺพํ. สเจ อฺโ ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา ตํ านํ เอติ, ปสฺสนฺติยา อาโรเจตพฺพํ. โน เจ อาโรเจติ, รตฺติจฺเฉโท เจว วตฺตเภททุกฺกฏฺจ. สเจ อชานนฺติยา เอว อุปจารํ โอกฺกมิตฺวา คจฺฉติ, รตฺติจฺเฉโทว โหติ, น วตฺตเภททุกฺกฏํ. สเจ ภิกฺขุนิโย อุปชฺฌายาทีนํ วตฺตกรณตฺถํ ปเคว คนฺตุกามา โหนฺติ, รตฺติวิปฺปวาสคณโอหียนคามนฺตราปตฺติรกฺขณตฺถํ เอกํ ภิกฺขุนึ เปตฺวา คนฺตพฺพํ. ตาย อรุเณ อุฏฺิเต ตสฺสา สนฺติเก วตฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. เอเตนุปาเยน อขณฺฑา ปฺจทส รตฺติโย มานตฺตํ จริตพฺพํ.

อนิกฺขิตฺตวตฺตาย ปน ปาริวาสิกกฺขนฺธเก วุตฺตนเยเนว สมฺมา วตฺติตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – ‘‘อาคนฺตุกสฺส อาโรเจตพฺพ’’นฺติ เอตฺถ ยตฺตกา ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา ตํ คามํ ภิกฺขู วา ภิกฺขุนิโย วา อาคจฺฉนฺติ, สพฺเพสํ อาโรเจตพฺพํ. อนาโรเจนฺติยา รตฺติจฺเฉโท จ วตฺตเภททุกฺกฏฺจ. สเจปิ รตฺตึ โกจิ ภิกฺขุ ตํ คามูปจารํ โอกฺกมิตฺวา คจฺฉติ, รตฺติจฺเฉโท โหติเยว, อชานนปจฺจยา ปน วตฺตเภทโต มุจฺจติ. กุรุนฺทิอาทีสุ ปน อนิกฺขิตฺตวตฺตภิกฺขูนํ วุตฺตนเยเนว กเถตพฺพนฺติ วุตฺตํ. ตํ ปาริวาสิกวตฺตาทีนํ อุปจารสีมาย ปริจฺฉินฺนตฺตา ยุตฺตตรํ ทิสฺสติ. อุโปสเถ อาโรเจตพฺพํ, ปวารณาย อาโรเจตพฺพํ, จตุนฺนํ ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ เทวสิกํ อาโรเจตพฺพํ. สเจ ภิกฺขูนํ ตสฺมึ คาเม ภิกฺขาจาโร สมฺปชฺชติ, ตตฺเถว คนฺตพฺพํ. โน เจ สมฺปชฺชติ, อฺตฺร จริตฺวาปิ ตตฺร อาคนฺตฺวา อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา คนฺตพฺพํ. พหิคาเม วา สงฺเกตฏฺานํ กาตพฺพํ – ‘‘อสุกสฺมึ นาม าเน อมฺเห ปสฺสิสฺสสี’’ติ. ตาย สงฺเกตฏฺานํ คนฺตฺวา อาโรเจตพฺพํ. สงฺเกตฏฺาเน อทิสฺวา วิหารํ คนฺตฺวา อาโรเจตพฺพํ. วิหาเร สพฺพภิกฺขูนํ อาโรเจตพฺพํ. สเจ สพฺเพสํ สกฺกา น โหติ อาโรเจตุํ, พหิอุปจารสีมาย ตฺวา ภิกฺขุนิโย เปเสตพฺพา. ตาหิ อานีตานํ จตุนฺนํ ภิกฺขูนํ อาโรเจตพฺพํ. สเจ วิหาโร ทูโร โหติ สาสงฺโก, อุปาสเก จ อุปาสิกาโย จ คเหตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ ปน อยํ เอกา วสติ, รตฺติวิปฺปวาสํ อาปชฺชติ, ตสฺมาสฺสา เอกา ปกตตฺตา ภิกฺขุนี สมฺมนฺนิตฺวา ทาตพฺพา เอกจฺฉนฺเน วสนตฺถาย.

เอวํ อขณฺฑํ มานตฺตํ จริตฺวา วีสติคเณ ภิกฺขุนิสงฺเฆ วุตฺตนเยเนว อพฺภานํ กาตพฺพํ. สเจ มานตฺตํ จรมานา อนฺตราปตฺตึ อาปชฺชติ, มูลาย ปฏิกสฺสิตฺวา ตสฺสา อาปตฺติยา มานตฺตํ ทาตพฺพนฺติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. อิทํ ‘‘ปกฺขมานตฺตํ’’ นาม.

‘‘สโมธานมานตฺตํ’’ ปน ติวิธํ โหติ – โอธานสโมธานํ, อคฺฆสโมธานํ, มิสฺสกสโมธานนฺติ. ตตฺถ ยเทตํ ปรโต อุทายิตฺเถรสฺส ปฺจาหปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวาสํ ปริวสนฺตสฺส ปริวาเส จ มานตฺตารหฏฺาเน จ อนฺตราปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา มูลายปฏิกสฺสิตสฺส ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สงฺโฆ อุทายิสฺส ภิกฺขุโน ติสฺสนฺนํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ เทตู’’ติ มานตฺตํ อนุฺาตํ, อิทํ ‘‘โอธานสโมธานํ’’ นาม. อิทฺหิ ปุนปฺปุนํ มูลายปฏิกสฺสเนน ปริวุตฺถทิวเส โอธุนิตฺวา ปุริมาปตฺตีหิ สทฺธึ สโมธาย ทินฺนํ, ตสฺมา โอธานสโมธานนฺติ วุจฺจติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘สโมธานปริวาสํ วุตฺถสฺส ทาตพฺพํ มานตฺตํ สโมธานมานตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ตมฺปิ เตน ปริยาเยน ยุชฺชติ.

อคฺฆสโมธานํ ปน มิสฺสกสโมธานฺจ อคฺฆสโมธานมิสฺสกสโมธานปริวาสาวสาเน ทาตพฺพมานตฺตเมว วุจฺจติ, ตํ ปริวาสกมฺมวาจานุสาเรน โยเชตฺวา ทาตพฺพํ. เอตฺตาวตา ยํ วุตฺตํ ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สงฺโฆ อุทายิสฺส ภิกฺขุโน เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา เอกาหปฏิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ เทตูติอาทินา นเยน ปาฬิยํ อเนเกหิ อากาเรหิ ปริวาโส จ มานตฺตฺจ วุตฺตํ, ตสฺส ยสฺมา อาคตาคตาเน วินิจฺฉโย วุจฺจมาโน ปาฬิ วิย อติวิตฺถารํ อาปชฺชติ, น จ สกฺกา โหติ สุเขน ปริคฺคเหตุํ, ตสฺมา นํ สโมธาเนตฺวา อิเธว ทสฺเสสฺสามา’’ติ, ตทิทํ อตฺถโต สมฺปาทิตํ โหติ.

ปฏิจฺฉนฺนปริวาสกถา

๑๐๒. อิทานิ ยา ตาว อยํ ปฏิจฺฉนฺนาย เอกิสฺสา อาปตฺติยา วเสน ปาฬิ วุตฺตา, สา อุตฺตานตฺถาว.

๑๐๘. ตโต ปรํ ทฺวีหตีหจตูหปฺจาหปฏิจฺฉนฺนานํ วเสน ปาฬึ วตฺวา ปฺจาหปฏิจฺฉนฺนาย ปริวาสโต ปฏฺาย อนฺตราปตฺติ ทสฺสิตา. ยสฺมา ปน ตํ อาปตฺตึ อาปนฺโน มูลายปฏิกสฺสนารโห นาม โหติ, ตสฺมาสฺส ตตฺถ มูลายปฏิกสฺสนํ อนุฺาตํ. สเจ ปน นิกฺขิตฺตวตฺโต อาปชฺชติ, มูลายปฏิกสฺสนารโห น โหติ. กสฺมา? ยสฺมา น โส ปริวสนฺโต อาปนฺโน, ปกตตฺตฏฺาเน ิโต อาปนฺโน, ตสฺมา ตสฺสา อาปตฺติยา วิสุํ มานตฺตํ จริตพฺพํ. สเจ ปฏิจฺฉนฺนา โหติ ปริวาโสปิ วสิตพฺโพ. ยฺเจตํ มูลายปฏิกสฺสนํ วุตฺตํ, ตสฺมิมฺปิ กเต ปริวุตฺถทิวสา มกฺขิตา โหนฺติ. อิติ ปริวาเส อนฺตราปตฺตึ ทสฺเสตฺวา ปุน มานตฺตารหสฺส อนฺตราปตฺตึ ทสฺเสตฺวา มูลายปฏิกสฺสนํ วุตฺตํ, ตสฺมิมฺปิ กเต ปริวุตฺถทิวสา มกฺขิตาว โหนฺติ. ตโต ปริวุตฺถปริวาสสฺส ตาสํ ติสฺสนฺนมฺปิ อาปตฺตีนํ สโมธานมานตฺตํ ทสฺสิตํ. ตโต มานตฺตจาริกสฺส อนฺตราปตฺตึ ทสฺเสตฺวา มูลายปฏิกสฺสนํ วุตฺตํ. ตสฺมึ ปน ปฏิกสฺสเน กเต มานตฺตจิณฺณทิวสาปิ ปริวุตฺถทิวสาปิ มกฺขิตาว โหนฺติ. ตโต อพฺภานารหสฺส อนฺตราปตฺตึ ทสฺเสตฺวา มูลายปฏิกสฺสนํ วุตฺตํ. ตสฺมิมฺปิ กเต สพฺเพ เต มกฺขิตาว โหนฺติ. ตโต ปรํ สพฺพา อนฺตราปตฺติโย โยเชตฺวา อพฺภานกมฺมํ ทสฺสิตํ. เอวํ ปฏิจฺฉนฺนวาเร เอกาหปฏิจฺฉนฺนาทิวเสน ปฺจ, อนฺตราปตฺติวเสน จตสฺโสติ นว กมฺมวาจา ทสฺสิตา โหนฺติ.

ปฏิจฺฉนฺนปริวาสกถา นิฏฺิตา.

สโมธานปริวาสกถา

๑๒๕. ตโต ปรํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา อนฺโตปริวาสโต ปฏฺาย ปฺจาหปฏิจฺฉนฺนาย อนฺตราปตฺติยา วเสน สโมธานปริวาโส จ, สโมธานมานตฺตฺจ ทสฺสิตํ. เอตฺถ จ มานตฺตจาริกมานตฺตารหกาเลปิ อาปนฺนาย อาปตฺติยา มูลายปฏิกสฺสเน กเต มานตฺตจิณฺณทิวสาปิ ปริวาสปริวุตฺถทิวสาปิ สพฺเพ มกฺขิตาว โหนฺติ. กสฺมา? ยสฺมา ปฏิจฺฉนฺนา อนฺตราปตฺติ. เตเนว วุตฺตํ – ‘‘มูลาย ปฏิกสฺสิตฺวา ปุริมาย อาปตฺติยา สโมธานปริวาสํ ทตฺวา ฉารตฺตํ มานตฺตํ เทตู’’ติ. ตโต ปรํ สพฺพา อนฺตราปตฺติโย โยเชตฺวา อพฺภานกมฺมํ ทสฺเสตฺวา สุกฺกวิสฺสฏฺิวตฺถุ นิฏฺาปิตํ.

สโมธานปริวาสกถา นิฏฺิตา.

สุกฺกวิสฺสฏฺิกถา จ นิฏฺิตา.

อคฺฆสโมธานปริวาสกถา

๑๓๔. ตโต เอกาปตฺติมูลกฺจ อาปตฺติวฑฺฒนกฺจาติ ทฺเว นเย ทสฺเสตฺวา อคฺฆสโมธานปริวาโส ทสฺสิโต.

ตโต สฺจิจฺจ อนาโรจิตาปตฺติวตฺถุํ ทสฺเสตฺวา สฺจิจฺจ อชานนอสฺสรณเวมติกภาเวหิ อนาโรจิตาย อาปตฺติยา ปจฺฉา ลชฺชิธมฺเม วา าณสรณนิพฺเพมติกภาเวสุ วา อุปฺปนฺเนสุ ยํ กาตพฺพํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิธ ปน ภิกฺขเว’’ติอาทินา นเยน ปาฬิ ปิตา. ตโต อชานนอสฺสรณเวมติกปฏิจฺฉนฺนานํ อปฺปฏิจฺฉนฺนภาวํ ทสฺเสตุํ ตเถว ปาฬิ ปิตา.

อคฺฆสโมธานปริวาสกถา นิฏฺิตา.

ทฺเวมาสปริวาสกถา

๑๓๘. ตโต ทฺวินฺนํ อาปตฺตีนํ ทฺเวมาสปฏิจฺฉนฺนานํ เอกมาสปริวาสยาจนวตฺถุํ ทสฺเสตฺวา อสฺจิจฺจ อชานนอสฺสรณเวมติกภาเวหิ อนาโรจิเต อิตรสฺมึ มาเส ปจฺฉา ลชฺชิธมฺมาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ยํ กาตพฺพํ, ตํ ทสฺเสตุํ อชานนอสฺสรณเวมติกปฏิจฺฉนฺนสฺส จ อาปนฺนภาวํ ทสฺเสตุํ ปุริมนเยเนว ปาฬิ ปิตา.

ทฺเวมาสปริวาสกถา นิฏฺิตา.

สุทฺธนฺตปริวาสาทิกถา

๑๕๖. ตโต ‘‘อาปตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, รตฺติปริยนฺตํ น ชานาตี’’ติอาทินา นเยน สุทฺธนฺตปริวาโส ทสฺสิโต.

๑๖๐. ตโต ปรํ ปาริวาสิกํ อาทึ กตฺวา วิพฺภมิตฺวา ปุนอุปสมฺปนฺนาทีสุ ปฏิปตฺติทสฺสนตฺถํ ปาฬิ ปิตา.

๑๖๕. ตตฺถ ‘‘อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณา อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย’’ติอาทีสุ อาปตฺติปริจฺเฉทวเสน ปริมาณาโย เจว อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย จาติ อตฺโถ.

๑๖๖. ปจฺฉิมสฺมึ อาปตฺติกฺขนฺเธติ เอโกว โส อาปตฺติกฺขนฺโธ, ปจฺฉา ฉาทิตตฺตา ปน ‘‘ปจฺฉิมสฺมึ อาปตฺติกฺขนฺเธ’’ติ วุตฺตํ. ปุริมสฺมินฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

๑๘๐. ววตฺถิตา สมฺภินฺนาติ สภาควิสภาคานเมเวตํ ปริยายวจนํ.

สุทฺธนฺตปริวาสาทิกถา นิฏฺิตา.

ทฺเวภิกฺขุวารเอกาทสกาทิกถา

๑๘๑. ตโต ปรํ โย ปฏิจฺฉาเทติ, ตสฺมึ ปฏิปตฺติทสฺสนตฺถํ ‘‘ทฺเว ภิกฺขู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ มิสฺสกนฺติ ถุลฺลจฺจยาทีหิ มิสฺสกํ. สุทฺธกนฺติ สงฺฆาทิเสสํ วินา ลหุกาปตฺติกฺขนฺธเมว.

๑๘๔. ตโต ปรํ อวิสุทฺธวิสุทฺธภาวทสฺสนตฺถํ ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ พฺยฺชนโต วา อธิปฺปายโต วา อนุตฺตานํ นาม กิฺจิ นตฺถิ, ตสฺมา ตฺจ อิโต ปุพฺเพ อวุตฺตฺจ สพฺพํ ปาฬิอนุสาเรเนว เวทิตพฺพนฺติ.

ทฺเวภิกฺขุวารเอกาทสกาทิกถา นิฏฺิตา.

สมุจฺจยกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สมถกฺขนฺธกํ

สมฺมุขาวินยกถา

๑๘๖-๑๘๗. สมถกฺขนฺธเก – ‘‘อธมฺมวาที ปุคฺคโล’’ติอาทีนิ ฉ มาติกาปทานิ นิกฺขิปิตฺวา ‘‘อธมฺมวาที ปุคฺคโล ธมฺมวาทึ ปุคฺคลํ สฺาเปตี’’ติอาทินา นเยน วิตฺถาโร วุตฺโต. ตตฺถ สฺาเปตีติ การณปติรูปกานิ วตฺวา ปริโตเสตฺวา ชานาเปติ. นิชฺฌาเปตีติ ยถา โส ตํ อตฺถํ นิชฺฌายติ, โอโลเกติ; เอวํ กโรติ. เปกฺขติ อนุเปกฺขตีติ ยถา โส ตํ อตฺถํ เปกฺขติ เจว ปุนปฺปุนฺจ เปกฺขติ; เอวํ กโรติ. ทสฺเสติ อนุทสฺเสตีติ เตสฺเว ปริยายวจนานิ. อธมฺเมน วูปสมฺมตีติ ยสฺมา โส อธมฺมเมว ‘‘อยํ ธมฺโม’’ติอาทินา นเยน โมเหตฺวา ทสฺเสติ, ตสฺมา อธมฺเมน วูปสมฺมติ นาม.

๑๘๘. ธมฺเมน วูปสมฺมตีติ ยสฺมา ธมฺมวาที ธมฺมเมว ‘‘อยํ ธมฺโม’’ติอาทินา นเยน อโมเหตฺวา ทสฺเสติ, ตสฺมา ธมฺเมน วูปสมฺมติ นาม.

สมฺมุขาวินยกถา นิฏฺิตา.

สติวินยกถา

๑๙๕. ปฺจิมานิ ภิกฺขเว ธมฺมิกานิ สติวินยสฺส ทานานีติ เอตฺถ สุทฺธสฺส อนาปตฺติกสฺส ทานํ เอกํ, อนุวทิตสฺส ทานํ เอกํ, ยาจิตสฺส ทานํ เอกํ, สงฺเฆน ทานํ เอกํ, ธมฺเมน สมคฺคทานํ เอกนฺติ เอวํ ปฺจ. เอตานิ ปน เอเกกองฺควเสน น ลพฺภนฺติ, ตสฺมา เทสนามตฺตเมเวตํ, ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ ปน สติวินยทานํ ธมฺมิกนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ตตฺถ จ อนุวทนฺตีติ โจเทนฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว. อยํ ปน สติวินโย ขีณาสวสฺเสว ทาตพฺโพ น อฺสฺส, อนฺตมโส อนาคามิโนปิ. โส จ โข อฺเน โจทิยมานสฺเสว, น อโจทิยมานสฺส. ทินฺเน จ ปน ตสฺมึ โจทกสฺส กถา น รุหติ. โจเทนฺโตปิ ‘‘อยํ ขีณาสโว สติวินยลทฺโธ, โก ตุยฺหํ กถํ คเหสฺสตี’’ติ อปสาเทตพฺพตํ อาปชฺชติ.

สติวินยกถา นิฏฺิตา.

อมูฬฺหวินยกถา

๑๙๖. ภาสิตปริกฺกนฺตนฺติ วาจาย ภาสิตํ กาเยน ปริกฺกนฺตํ; ปริกฺกมิตฺวา กตนฺติ อตฺโถ. สรตายสฺมา เอวรูปึ อาปตฺตึ อาปชฺชิตาติ เอตฺถ สรตุ อายสฺมา เอวรูปึ อาปตฺตึ อาปชฺชิตา; อายสฺมา เอวรูปิยา อาปตฺติยาติ อยมตฺโถ. อาปชฺชิตฺวาติ วา ปาโ, ตสฺสตฺโถ – ปมํ อาปชฺชิตฺวา ปจฺฉา ตํ อาปตฺตึ สรตุ อายสฺมาติ.

อมูฬฺหวินยกถา นิฏฺิตา.

เยภุยฺยสิกากถา

๒๐๒. เยภุยฺยสิกาย วูปสเมตุนฺติ เอตฺถ ยสฺสา กิริยาย ธมฺมวาทิโน พหุตรา, เอสา เยภุยฺยสิกา นาม.

๒๐๔. อธมฺมิกสลากคฺคาเหสุ โอรมตฺตกนฺติ ปริตฺตํ อปฺปมตฺตกํ ภณฺฑนมตฺตเมว. น จ คติคตนฺติ ทฺเว ตโย อาวาเส น คตํ, ตตฺถ ตตฺเถว วา ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ อวินิจฺฉิตํ. น จ สริตสาริตนฺติ ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ เตหิ ภิกฺขูหิ สยํ สริตํ วา อฺเหิ สาริตํ วา น โหติ. ชานาตีติ สลากํ คาเหนฺโต ชานาติ ‘‘อธมฺมวาที พหุตรา’’ติ. อปฺเปว นามาติ อิมินา นีหาเรน สลากาย คาหิยมานาย ‘‘อปิ นาม อธมฺมวาทิโน พหุตรา อสฺสู’’ติ อยมสฺส อชฺฌาสโย โหติ. อปเรสุปิ ทฺวีสุ เอเสว นโย.

อธมฺเมน คณฺหนฺตีติ อธมฺมวาทิโน ‘‘เอวํ มยํ พหู ภวิสฺสามา’’ติ ทฺเว ทฺเว สลากาโย คณฺหนฺติ. วคฺคา คณฺหนฺตีติ ทฺเว ธมฺมวาทิโน เอกํ ธมฺมวาทิสลากํ คณฺหนฺติ ‘‘เอวํ ธมฺมวาทิโน น พหู ภวิสฺสนฺตี’’ติ มฺมานา. น จ ยถาทิฏฺิยา คณฺหนฺตีติ ธมฺมวาทิโน หุตฺวา ‘‘พลวปกฺขํ ภชิสฺสามา’’ติ อธมฺมวาทิสลากํ คณฺหนฺติ. ธมฺมิกสลากคฺคาเหสุ อยเมวตฺโถ ปริวตฺเตตฺวา เวทิตพฺโพ. เอวํ สลากํ คาเหตฺวา สเจ พหุตรา ธมฺมวาทิโน โหนฺติ; ยถา เต วทนฺติ, เอวํ ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพํ, เอวํ เยภุยฺยสิกาย วูปสนฺตํ โหติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน ปรโตปิ อาคมิสฺสติ.

เยภุยฺยสิกากถา นิฏฺิตา.

ตสฺสปาปิยสิกากถา

๒๐๗. อสุจีติ อสุจีหิ กายวจีกมฺเมหิ สมนฺนาคโต. อลชฺชีติ สฺจิจฺจ อาปชฺชนาทินา อลชฺชิลกฺขเณน สมนฺนาคโต. สานุวาโทติ สอุปวาโท. อิติ อิเมสฺจ ติณฺณํ องฺคานํ วเสน ตีณิ กรณานิ, สงฺเฆน กรณํ, ธมฺเมน สมคฺเคน กรณนฺติ อิมานิ จ ทฺเวติ ปฺจ ตสฺสปาปิยสิกากมฺมสฺส กรณานิ นาม โหนฺติ. เสสเมตฺถ ตชฺชนียาทีสุ วุตฺตนยเมว. อยํ ปเนตฺถ วจนตฺโถ – อิทฺหิ โย ปาปุสฺสนฺนตาย ปาปิโย ปุคฺคโล, ตสฺส กตฺตพฺพโต ‘‘ตสฺสปาปิยสิกากมฺม’’นฺติ วุจฺจติ.

ตสฺสปาปิยสิกากถา นิฏฺิตา.

ติณวตฺถารกาทิกถา

๒๑๒. กกฺขฬตฺตาย วาฬตฺตายาติ กกฺขฬภาวาย เจว วาฬภาวาย จ. เภทายาติ สงฺฆเภทาย. สพฺเพเหว เอกชฺฌนฺติ กสฺสจิ ฉนฺทํ อนาหริตฺวา คิลาเนปิ ตตฺเถว อาเนตฺวา เอกโต สนฺนิปติตพฺพํ. ติณวตฺถารเกน วูปสเมยฺยาติ เอตฺถ อิทํ กมฺมํ ติณวตฺถารกสทิสตฺตา ‘‘ติณวตฺถารโก’’ติ วุตฺตํ. ยถา หิ คูถํ วา มุตฺตํ วา ฆฏฺฏิยมานํ ทุคฺคนฺธตาย พาธติ, ติเณหิ อวตฺถริตฺวา สุปฺปฏิจฺฉาทิตสฺส ปนสฺส โส คนฺโธ น พาธติ; เอวเมว ยํ อธิกรณํ มูลานุมูลํ คนฺตฺวา วูปสมิยมานํ กกฺขฬตฺตาย วาฬตฺตาย เภทาย สํวตฺตติ, ตํ อิมินา กมฺเมน วูปสนฺตํ คูถํ วิย ติณวตฺถารเกน ปฏิจฺฉนฺนํ สุวูปสนฺตํ โหตีติ อิทํ กมฺมํ ติณวตฺถารกสทิสตฺตา ‘‘ติณวตฺถารโก’’ติ วุตฺตํ.

๒๑๓. ถุลฺลวชฺชนฺติ ปาราชิกฺเจว สงฺฆาทิเสสฺจ. คิหิปฏิสํยุตฺตนฺติ คิหีนํ หีเนน ขุํสนวมฺภนธมฺมิกปฏิสฺสเวสุ อาปนฺนํ อาปตฺตึ.

๒๑๔. เอวฺจ ปน ภิกฺขเว เต ภิกฺขู ตาหิ อาปตฺตีหิ วุฏฺิตา โหนฺตีติ เอวํ ติณวตฺถารกกมฺมวาจาย กตาย กมฺมวาจาปริโยสาเน ยตฺตกา ตตฺถ สนฺนิปติตา อนฺตมโส สุตฺตาปิ สมาปนฺนาปิ อฺวิหิตาปิ สพฺเพ เต ภิกฺขู ยาว อุปสมฺปทมณฺฑลโต ปฏฺาย ถุลฺลวชฺชฺจ คิหิปฏิสํยุตฺตฺจ เปตฺวา อวเสสา อาปตฺติโย อาปนฺนา, สพฺพาหิ ตาหิ อาปตฺตีหิ วุฏฺิตา โหนฺติ. เย ปน ‘‘น เมตํ ขมตี’’ติ อฺมฺํ ทิฏฺาวิกมฺมํ กโรนฺติ, เตหิ วา สทฺธึ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาปิ ตตฺถ อนาคตา, อาคนฺตฺวา วา ฉนฺทํ ทตฺวา ปริเวณาทีสุ นิสินฺนา, เต อาปตฺตีหิ น วุฏฺหนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เปตฺวา ทิฏฺาวิกมฺมํ เปตฺวา เย น ตตฺถ โหนฺตี’’ติ.

ติณวตฺถารกาทิกถา นิฏฺิตา.

อธิกรณกถา

๒๑๕. ภิกฺขุนีนํ อนุปขชฺชาติ ภิกฺขุนีนํ อนฺโต ปวิสิตฺวา. วิวาทาธิกรณาทีนํ วจนตฺโถ ทุฏฺโทสวณฺณนายํ วุตฺโตเยว. วิปจฺจตาย โวหาโรติ จิตฺตทุกฺขตฺถํ โวหาโร; ผรุสวจนนฺติ อตฺโถ. โย ตตฺถ อนุวาโทติ โย เตสุ อนุวทนฺเตสุ อุปวาโท. อนุวทนาติ อาการนิทสฺสนเมตํ; อุปวทนาติ อตฺโถ. อนุลฺลปนา อนุภณนาติ อุภยํ อนุวทนเววจนมตฺตเมว. อนุสมฺปวงฺกตาติ ปุนปฺปุนํ กายจิตฺตวาจาหิ ตตฺเถว สมฺปวงฺกตา; อนุวทนภาโวติ อตฺโถ. อพฺภุสฺสหนตาติ ‘‘กสฺมา เอวํ น อุปวทิสฺสามิ, อุปวทิสฺสามิเยวา’’ติ อุสฺสาหํ กตฺวา อนุวทนา. อนุพลปฺปทานนฺติ ปุริมวจนสฺส การณํ ทสฺเสตฺวา ปจฺฉิมวจเนน พลปฺปทานํ.

กิจฺจยตา กรณียตาติ เอตฺถ กิจฺจเมว กิจฺจยํ, กิจฺจยสฺส ภาโว กิจฺจยตา, กรณียสฺส ภาโว กรณียตา; อุภยมฺเปตํ สงฺฆกมฺมสฺเสว อธิวจนํ. อปโลกนกมฺมนฺติอาทิ ปน ตสฺเสว ปเภทวจนํ. ตตฺถ อปโลกนกมฺมํ นาม สีมฏฺกสงฺฆํ โสเธตฺวา ฉนฺทารหานํ ฉนฺทํ อาหริตฺวา สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา ติกฺขตฺตุํ สาเวตฺวา กตฺตพฺพกมฺมํ. ตฺติกมฺมํ นาม วุตฺตนเยเนว สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา เอกาย ตฺติยา กตฺตพฺพกมฺมํ. ตฺติทุติยกมฺมํ นาม วุตฺตนเยเนว สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา เอกาย ตฺติยา เอกาย จ อนุสฺสาวนายาติ เอวํ ตฺติทุติยาย อนุสฺสาวนาย กตฺตพฺพกมฺมํ. ตฺติจตุตฺถกมฺมํ นาม วุตฺตนเยเนว สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา เอกาย ตฺติยา ตีหิ จ อนุสฺสาวนาหีติ เอวํ ตฺติจตุตฺถาหิ ตีหิ อนุสฺสาวนาหิ กตฺตพฺพกมฺมํ.

ตตฺถ อปโลกนกมฺมํ อปโลเกตฺวาว กาตพฺพํ, ตฺติกมฺมาทิวเสน น กาตพฺพํ. ตฺติกมฺมมฺปิ เอกํ ตฺตึ เปตฺวาว กาตพฺพํ, อปโลกนกมฺมาทิวเสน น กาตพฺพํ. ตฺติทุติยกมฺมํ ปน อปโลเกตฺวา กตฺตพฺพมฺปิ อตฺถิ, อกตฺตพฺพมฺปิ อตฺถิ. ตตฺถ สีมาสมฺมุติ สีมาสมูหนนํ กถินทานํ กถินุพฺภาโร กุฏิวตฺถุเทสนา วิหารวตฺถุเทสนาติ อิมานิ ฉ กมฺมานิ ครุกานิ, อปโลเกตฺวา กาตุํ น วฏฺฏนฺติ. ตฺติทุติยกมฺมวาจํ สาเวตฺวาว กาตพฺพานิ. อวเสสา เตรส สมฺมุติโย เสนาสนคฺคาหกมตกจีวรทานาทิสมฺมุติโย จาติ เอวรูปานิ ลหุกกมฺมานิ อปโลเกตฺวาปิ กาตุํ วฏฺฏนฺติ. ตฺติกมฺมตฺติจตุตฺถกมฺมวเสน ปน น กาตพฺพเมว. ตฺติจตุตฺถกมฺมํ ตฺติฺจ ติสฺโส จ กมฺมวาจาโย สาเวตฺวาว กาตพฺพํ, อปโลกนกมฺมาทิวเสน น กาตพฺพนฺติ อยเมตฺถ สงฺเขโป.

วิตฺถารโต ปน อิมานิ จตฺตาริ กมฺมานิ ‘‘กติหากาเรหิ วิปชฺชนฺตี’’ติอาทินา นเยน ปริวาราวสาเน กมฺมวคฺเค เอเตสํ วินิจฺฉโย อาคโตเยว. ยํ ปน ตตฺถ อนุตฺตานํ, ตํ กมฺมวคฺเคเยว วณฺณยิสฺสาม. เอวฺหิ สติ น อฏฺาเน วณฺณนา ภวิสฺสติ, อาทิโต ปฏฺาย จ ตสฺส ตสฺส กมฺมสฺส วิฺาตตฺตา สุวิฺเยฺโย ภวิสฺสติ.

๒๑๖. วิวาทาธิกรณสฺส กึ มูลนฺติอาทีนิ ปาฬิวเสเนว เวทิตพฺพานิ.

๒๒๐. ‘‘วิวาทาธิกรณํ สิยา กุสล’’นฺติอาทีสุ เยน วิวทนฺติ, โส จิตฺตุปฺปาโท วิวาโท, สมเถหิ จ อธิกรณียตาย อธิกรณนฺติ เอวมาทินา นเยน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

๒๒๒. อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ สิยา อพฺยากตํ, นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสลนฺติ เอตฺถ สนฺธาย ภาสิตวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ยสฺมิฺหิ ปถวิขณนาทิเก อาปตฺตาธิกรเณ กุสลจิตฺตํ องฺคํ โหติ, ตสฺมึ สติ น สกฺกา วตฺตุํ ‘‘นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ, ตสฺมา นยิทํ องฺคปฺปโหนกจิตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อิทํ ปน สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ ตาว อาปตฺตาธิกรณํ โลกวชฺชํ, ตํ เอกนฺตโต อกุสลเมว, ตตฺถ ‘‘สิยา อกุสล’’นฺติ วิกปฺโป นตฺถิ. ยํ ปน ปณฺณตฺติวชฺชํ, ตํ ยสฺมา สฺจิจฺจ ‘‘อิมํ อาปตฺตึ วีติกฺกมามี’’ติ วีติกฺกมนฺตสฺเสว อกุสลํ โหติ, อสฺจิจฺจ ปน กิฺจิ อชานนฺตสฺส สหเสยฺยาทิวเสน อาปชฺชโต อพฺยากตํ โหติ, ตสฺมา ตตฺถ สฺจิจฺจาสฺจิจฺจวเสน อิมํ วิกปฺปภาวํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ – ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ, สิยา อพฺยากตํ, นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ.

สเจ ปน ‘‘ยํ กุสลจิตฺโต อาปชฺชติ, อิทํ วุจฺจติ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ วเทยฺย, อจิตฺตกานํ ปน เอฬกโลมปทโสธมฺมาทิสมุฏฺานานมฺปิ กุสลจิตฺตํ อาปชฺเชยฺย, น จ ตตฺถ วิชฺชมานมฺปิ กุสลจิตฺตํ อาปตฺติยา องฺคํ. กายวจีวิฺตฺติวเสน ปน จลิตปฺปวตฺตานํ กายวาจานํ อฺตรเมว องฺคํ, ตฺจ รูปกฺขนฺธปริยาปนฺนตฺตา อพฺยากตนฺติ.

ยํ ชานนฺโตติอาทิมฺหิ ปน อยมตฺโถ – ยํ จิตฺตํ อาปตฺติยา องฺคํ โหติ, เตน วตฺถุํ ชานนฺโต ‘‘อิทํ วีติกฺกมามี’’ติ จ วีติกฺกมากาเรน สทฺธึ ชานนฺโต สฺชานนฺโต วีติกฺกมเจตนาวเสน เจเตตฺวา ปกปฺเปตฺวา อุปกฺกมวเสน มทฺทนฺโต อภิวิตริตฺวา นิราสงฺกจิตฺตํ เปเสตฺวา ยํ อาปตฺตาธิกรณํ วีติกฺกมํ อาปชฺชติ, ตสฺส เอวํ วีติกฺกมโต โย วีติกฺกโม, อิทํ วุจฺจติ ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ อกุสล’’นฺติ.

อพฺยากตวาเรปิ ยํ จิตฺตํ อาปตฺติยา องฺคํ โหติ, ตสฺส อภาเวน อชานนฺโต วีติกฺกมากาเรน จ สทฺธึ อชานนฺโต อสฺชานนฺโต อาปตฺติองฺคภูตาย วีติกฺกมเจตนาย อภาเวน อเจเตตฺวา สฺจิจฺจ มทฺทนสฺส อภาเวน อนภิวิตริตฺวา นิราสงฺกจิตฺตํ อเปเสตฺวา ยํ อาปตฺตาธิกรณํ วีติกฺกมํ อาปชฺชติ, ตสฺส เอวํ วีติกฺกมโต โย วีติกฺกโม, อิทํ วุจฺจติ ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ อพฺยากต’’นฺติ.

๒๒๔. อยํ วิวาโท โน อธิกรณนฺติอาทีสุ สมเถหิ อธิกรณียตาย อภาวโต โนอธิกรณนฺติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อธิกรณกถา นิฏฺิตา.

อธิกรณวูปสมนสมถกถา

๒๒๘. ยาวติกา จ ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตาติ เอตฺถ จตุวคฺคกรเณ กมฺเม จตฺตาโร, ปฺจวคฺคกรเณ ปฺจ, ทสวคฺคกรเณ ทส, วีสติวคฺคกรเณ วีสติ ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตาติ เวทิตพฺพา.

๒๓๐. สุปริคฺคหิตนฺติ สุฏฺุ ปริคฺคหิตํ กตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. สมฺปฏิจฺฉิตฺวา จ ปน ‘‘อชฺช ภณฺฑกํ โธวาม, อชฺช ปตฺตํ ปจาม, อชฺเชโก ปลิโพโธ อตฺถี’’ติ มานนิคฺคหตฺถาย กติปาหํ อติกฺกาเมตพฺพํ.

๒๓๑. อนนฺตานิ เจว ภสฺสานิ ชายนฺตีติ อปริมาณานิ อิโต จิโต จ วจนานิ อุปฺปชฺชนฺติ. ‘‘ภาสานี’’ติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ. อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตพฺโพติ อปโลเกตฺวา วา สมฺมนฺนิตพฺโพ ปรโต วุตฺตาย ตฺติทุติยาย วา กมฺมวาจาย. เอวํ สมฺมเตหิ ปน ภิกฺขูหิ วิสุํ วา นิสีทิตฺวา ตสฺสาเยว วา ปริสาย ‘‘อฺเหิ อสมฺมเตหิ น กิฺจิ กเถตพฺพ’’นฺติ สาเวตฺวา ตํ อธิกรณํ วินิจฺฉิตพฺพํ.

๒๓๓. ตตฺราสฺสาติ ตสฺสํ ปริสติ ภเวยฺย. เนว สุตฺตํ อาคตนฺติ น มาติกา อาคตา. โน สุตฺตวิภงฺโคติ วินโยปิ น ปคุโณ. พฺยฺชนจฺฉายาย อตฺถํ ปฏิพาหตีติ พฺยฺชนมตฺตเมว คเหตฺวา อตฺถํ ปฏิเสเธติ. ชาตรูปรชตเขตฺตวตฺถุปฏิคฺคหณาทีสุ วินยธเรหิ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา การิยมาเน ทิสฺวา ‘‘กึ อิเม อาปตฺติยา กาเรถ, ‘นนุ ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหตี’ติ เอวํ สุตฺเต ปฏิวิรติมตฺตเมว วุตฺตํ, นตฺถิ เอตฺถ อาปตฺตี’’ติ วทติ. อปโร ธมฺมกถิโก สุตฺตสฺส อาคตตฺตา โอลมฺเพตฺวา นิวาเสนฺตานํ อาปตฺติยา อาโรปิยมานาย ‘‘กึ อิเมสํ อาปตฺตึ โรเปถ, ‘นนุ ปริมณฺฑลํ นิวาเสสฺสามีติ สิกฺขา กรณียา’ติ เอวํ สิกฺขากรณมตฺตเมเวตฺถ วุตฺตํ, นตฺถิ เอตฺถ อาปตฺตี’’ติ วทติ.

๒๓๔. ยถา พหุตรา ภิกฺขูติ เอตฺถ เอเกนปิ อธิกา พหุตราว โก ปน วาโท ทฺวีหิ ตีหีติ.

อธิกรณวูปสมนสมถกถา นิฏฺิตา.

ติวิธสลากคฺคาหกถา

๒๓๕. สฺตฺติยาติ สฺาปนตฺถาย. คูฬฺหกนฺติอาทีสุ อลชฺชุสฺสนฺนาย ปริสาย คูฬฺหโก สลากคฺคาโห กาตพฺโพ, ลชฺชุสฺสนฺนาย ปริสาย วิวฏโก, พาลุสฺสนฺนาย สกณฺณชปฺปโก. วณฺณาวณฺณาโย กตฺวาติ ธมฺมวาทีนฺจ อธมฺมวาทีนฺจ สลากาโย นิมิตฺตสฺํ อาโรเปตฺวา อฺมฺํ วิสภาคา กาตพฺพา. ตโต ตา สพฺพาปิ จีวรโภเค กตฺวา วุตฺตนเยน คาเหตพฺพา. ทุคฺคโหติ ปจฺจุกฺกฑฺฒิตพฺพนฺติ ‘‘ทุคฺคหิตา สลากาโย’’ติ วตฺวา ปุน คเหตฺวา ยาวตติยํ คาเหตพฺพา. สุคฺคโหติ สาเวตพฺพนฺติ เอกสฺมิมฺปิ ธมฺมวาทิมฺหิ อติเรกชาเต ‘‘สุคฺคหิตา สลากาโย’’ติ สาเวตพฺพํ. ยถา จ เต ธมฺมวาทิโน วทนฺติ ตถา ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพนฺติ. อถ ยาวตติยมฺปิ อธมฺมวาทิโนว พหุตรา โหนฺติ, อชฺช ‘‘อกาโล, สฺเว ชานิสฺสามา’’ติ วุฏฺหิตฺวา อลชฺชีนํ ปกฺขเภทตฺถาย ธมฺมวาทิปกฺขํ ปริเยสิตฺวา ปุนทิวเส สลากคฺคาโห กาตพฺโพ. อยํ คูฬฺหโก สลากคฺคาโห.

สกณฺณชปฺปเก ปน คหิเต วตฺตพฺโพติ เอตฺถ สเจ สงฺฆตฺเถโร อธมฺมวาทิสลากํ คณฺหาติ, โส เอวํ อวโพเธตพฺโพ – ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห มหลฺลกา วโยอนุปฺปตฺตา, ตุมฺหากํ เอตํ น ยุตฺตํ, อยํ ปน ธมฺมวาทิสลากา’’ติ อสฺส อิตรา สลากา ทสฺเสตพฺพา. สเจ โส ตํ คณฺหาติ, ทาตพฺพา. อถ เนว อวพุชฺฌติ, ตโต ‘‘มา กสฺสจิ อาโรเจหี’’ติ วตฺตพฺโพ. เสสํ วุตฺตนยเมว. วิวฏโก วิวฏตฺโถเยว.

ติวิธสลากคฺคาหกถา นิฏฺิตา.

ตสฺสปาปิยสิกาวินยกถา

๒๓๘. ปาราชิกสามนฺตํ วาติ เอตฺถ เมถุนธมฺเม ปาราชิกสามนฺตํ นาม ทุกฺกฏํ โหติ. อทินฺนาทานาทีสุ ถุลฺลจฺจยํ. นิพฺเพเนฺตนฺติ ‘‘น สรามี’’ติ วจเนน นิพฺเพยมานํ. อติเวเตีติ ‘‘อิงฺฆายสฺมา’’ติอาทิวจเนหิ อติเวิยติ. สรามิ โข อหํ อาวุโสติ ปาราชิกปฏิจฺฉาทนตฺถาย เอวํ ปฏิชานาติ. ปุน เตน อติเวิยมาโน ‘‘สรามิ โข’’ติ ปฏิฺํ ทตฺวา ‘‘อิทานิ มํ นาเสสฺสนฺตี’’ติ ภเยน ‘‘ทวาย เม’’ติอาทิมาห. เอตสฺส ตสฺสปาปิยสิกากมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ สีลวา ภวิสฺสติ, วตฺตํ ปริปูเรตฺวา ปฏิปฺปสฺสทฺธึ ลภติ, โน เจ ตถา นาสิตโกว ภวิสฺสติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ตสฺสปาปิยสิกาวินยกถา นิฏฺิตา.

สมถกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธกํ

ขุทฺทกวตฺถุกถา

๒๔๓. ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธเก มลฺลมุฏฺิกาติ มุฏฺิกมลฺลา. คามมุทฺทวาติ ฉวิราคมณฺฑนานุยุตฺตา นาคริกมนุสฺสา. คามโมทฺทวาติปิ ปาโ; เอเสวตฺโถ. ถมฺเภติ นฺหานติตฺเถ นิขณิตฺวา ปิตตฺถมฺเภ.

กุฏฺเฏติ อิฏฺกาสิลาทารุกุฏฺฏานํ อฺตรสฺมึ. อฏฺฏาเน นฺหายนฺตีติ เอตฺถ อฏฺฏานํ นาม รุกฺขํ ผลกํ วิย ตจฺเฉตฺวา อฏฺปทากาเรน ราชิโย ฉินฺทิตฺวา นฺหานติตฺเถ นิขณนฺติ, ตตฺถ จุณฺณานิ อากิริตฺวา มนุสฺสา กายํ ฆํสนฺติ. คนฺธพฺพหตฺถเกนาติ นฺหานติตฺเถ ปิเตน ทารุมยหตฺเถน, เตน กิร จุณฺณานิ คเหตฺวา มนุสฺสา สรีรํ ฆํสนฺติ. กุรุวินฺทกสุตฺติยาติ กุรุวินฺทกปาสาณจุณฺณานิ ลาขาย พนฺธิตฺวา กตคุฬิกกลาปโก วุจฺจติ, ตํ อุโภสุ อนฺเตสุ คเหตฺวา สรีรํ ฆํสนฺติ. วิคฺคยฺห ปริกมฺมํ การาเปนฺตีติ อฺมฺํ สรีเรน สรีรํ ฆํสนฺติ. มลฺลกํ นาม มกรทนฺตเก ฉินฺทิตฺวา มลฺลกมูลสณฺาเนน กตํ มลฺลกนฺติ วุจฺจติ, อิทํ คิลานสฺสาปิ น วฏฺฏติ.

๒๔๔. อกตมลฺลกํ นาม ทนฺเต อจฺฉินฺทิตฺวา กตํ, อิทํ อคิลานสฺเสว น วฏฺฏติ; อิฏฺกาขณฺฑํ ปน กปาลขณฺฑํ วา วฏฺฏติ. อุกฺกาสิกนฺติ วตฺถวฏฺฏึ; ตสฺมา นฺหายนฺตสฺส ยสฺส กสฺสจิ นฺหานสาฏกวฏฺฏิยา ปิฏฺึ ฆํสิตุํ วฏฺฏติ. ปุถุปาณิกนฺติ หตฺถปริกมฺมํ วุจฺจติ, ตสฺมา สพฺเพสํ หตฺเถน ปิฏฺิปริกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ.

๒๔๕. วลฺลิกาติ กณฺณโต นิกฺขนฺตมุตฺโตลมฺพกาทีนํ เอตํ อธิวจนํ; น เกวลฺจ วลฺลิกา เอว, ยํกิฺจิ กณฺณปิฬนฺธนํ อนฺตมโส ตาลปณฺณมฺปิ น วฏฺฏติ. ปามงฺคนฺติ ยํกิฺจิ ปลมฺพกสุตฺตํ. กณฺสุตฺตกนฺติ ยํกิฺจิ คีวูปคอาภรณํ. กฏิสุตฺตกนฺติ ยํกิฺจิ กฏิปิฬนฺธนํ อนฺตมโส สุตฺตตนฺตุมตฺตมฺปิ. โอวฏฺฏิกนฺติ วลยํ. กายูราทีนิ ปากฏาเนว, อกฺขกานํ เหฏฺา พาหาภรณํ ยํกิฺจิ อาภรณํ น วฏฺฏติ.

๒๔๖. ทุมาสิกํ วา ทุวงฺคุลํ วาติ เอตฺถ สเจ เกสา อนฺโตทฺเวมาเส ทฺวงฺคุลํ ปาปุณนฺติ, อนฺโตทฺเวมาเสว ฉินฺทิตพฺพา. ทฺวงฺคุเลหิ อติกฺกาเมตุํ น วฏฺฏติ. สเจปิ น ทีฆา, ทฺเวมาสโต เอกทิวสมฺปิ อติกฺกาเมตุํ น วฏฺฏติเยว; เอวมยํ อุภเยนปิ อุกฺกฏฺปริจฺเฉโทว วุตฺโต, ตโต โอรํ ปน นวฏฺฏนภาโว นาม นตฺถิ.

โกจฺเฉน โอสณฺเนฺตีติ โกจฺเฉน โอลิขิตฺวา สนฺนิสีทาเปนฺติ. ผณเกนาติ ทนฺตมยาทีสุ เยน เกนจิ. หตฺถผณเกนาติ หตฺเถเนว ผณกิจฺจํ กโรนฺตา องฺคุลีหิ โอสณฺเนฺติ. สิตฺถเตลเกนาติ มธุสิตฺถกนิยฺยาสาทีสุ เยน เกนจิ จิกฺกเลน. อุทกเตลเกนาติ อุทกมิสฺสเกน เตเลน. มณฺฑนตฺถาย สพฺพตฺถ ทุกฺกฏํ, อุทฺธโลเมน ปน อนุโลมนิปาตนตฺถํ หตฺถํ เตเมตฺวา สีสํ ปุฺฉิตพฺพํ. อุณฺหาภิตตฺตรชสิรานมฺปิ อลฺลหตฺเถน ปุฺฉิตุํ วฏฺฏติ.

๒๔๗. น ภิกฺขเว อาทาเส วา อุทกปตฺเต วาติ เอตฺถ กํสปตฺตาทีนิปิ เยสุ มุขนิมิตฺตํ ปฺายติ, สพฺพานิ อาทาสสงฺขเมว คจฺฉนฺติ. กฺชิยาทีนิปิ จ อุทกปตฺตสงฺขเมว. ตสฺมา ยตฺถ กตฺถจิ โอโลเกนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. อาพาธปจฺจยาติ ‘‘สฺฉวิ นุ โข เม วโณ, อุทาหุ น ตาวา’’ติ ชานนตฺถํ; ‘‘ชิณฺโณ นุ โขมฺหิ โน’’ติ เอวํ อายุสงฺขารํ โอโลกนตฺถมฺปิ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ.

มุขํ อาลิมฺปนฺตีติ วิปฺปสนฺนฉวิราคกเรหิ มุขาเลปเนหิ อาลิมฺปนฺติ. อุมฺมทฺเทนฺตีติ นานาอุมฺมทฺทเนหิ อุมฺมทฺเทนฺติ. จุณฺเณนฺตีติ มุขจุณฺณเกน มกฺเขนฺติ. มโนสิลิกาย มุขํ ลฺเฉนฺตีติ มโนสิลาย ติลกาทีนิ ลฺฉนานิ กโรนฺติ, ตานิ หริตาลาทีหิปิ น วฏฺฏนฺติเยว. องฺคราคาทโย ปากฏาเยว. สพฺพตฺถ ทุกฺกฏํ.

๒๔๘. ภิกฺขเว นจฺจํ วาติอาทีสุ ยํกิฺจิ นจฺจํ อนฺตมโส โมรนจฺจมฺปิ ทสฺสนาย คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. สยมฺปิ นจฺจนฺตสฺส วา นจฺจาเปนฺตสฺส วา ทุกฺกฏเมว. คีตมฺปิ ยํกิฺจิ นฏคีตํ วา สาธุคีตํ วา อนฺตมโส ทนฺตคีตมฺปิ ‘‘ยํ คายิสฺสามา’’ติ ปุพฺพภาเค โอกูชนฺตา กโรนฺติ, เอตมฺปิ น วฏฺฏติ. สยํ คายนฺตสฺสาปิ คายาเปนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว. วาทิตมฺปิ ยํกิฺจิ น วฏฺฏติ. ยํ ปน นิฏฺุภนฺโต วา สาสงฺเก วา ิโต อจฺฉริกํ วา โผเฏติ, ปาณึ วา ปหรติ, ตตฺถ อนาปตฺติ. สพฺพํ อนฺตราราเม ิตสฺส ปสฺสโต อนาปตฺติ. ‘‘ปสฺสิสฺสามี’’ติ วิหารโต วิหารํ คจฺฉนฺตสฺส อาปตฺติเยว. อาสนสาลาย นิสินฺโน ปสฺสติ, อนาปตฺติ. ‘‘ปสฺสิสฺสามี’’ติ อุฏฺหิตฺวา คจฺฉโต อาปตฺติ. วีถิยํ ตฺวา คีวํ ปริวตฺเตตฺวา ปสฺสโตปิ อาปตฺติเยว.

๒๔๙. สรกุตฺตินฺติ สรกิริยํ. ภงฺโค โหตีติ อลทฺธํ อุปฺปาเทตุํ น สกฺโกติ; ลทฺธํ สมาปชฺชิตุํ. ปจฺฉิมา ชนตาติ อมฺหากํ อาจริยาปิ อุปชฺฌายาปิ เอวํ คายึสูติ ปจฺฉิโม ชโน ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชติ; ตเถว คายติ. น ภิกฺขเว อายตเกนาติ เอตฺถ อายตโก นาม ตํ ตํ วตฺตํ ภินฺทิตฺวา อกฺขรานิ วินาเสตฺวา ปวตฺโต. ธมฺเม ปน สุตฺตนฺตวตฺตํ นาม อตฺถิ, ชาตกวตฺตํ นาม อตฺถิ, คาถาวตฺตํ นาม อตฺถิ, ตํ วินาเสตฺวา อติทีฆํ กาตุํ น วฏฺฏติ. จตุรสฺเสน วตฺเตน ปริมณฺฑลานิ ปทพฺยฺชนานิ ทสฺเสตพฺพานิ. สรภฺนฺติ สเรน ภณนํ. สรภฺเ กิร ตรงฺควตฺตโธตกวตฺตคลิตวตฺตาทีนิ ทฺวตฺตึส วตฺตานิ อตฺถิ. เตสุ ยํ อิจฺฉติ, ตํ กาตุํ ลภติ. สพฺเพสํ ปทพฺยฺชนํ อวินาเสตฺวา วิการํ อกตฺวา สมณสารุปฺเปน จตุรสฺเสน นเยน ปวตฺตนํเยว ลกฺขณํ.

พาหิรโลมึ อุณฺณินฺติ อุณฺณโลมานิ พหิ กตฺวา อุณฺณปาวารํ ปารุปนฺติ; ตถา ธาเรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. โลมานิ อนฺโต กตฺวา ปารุปิตุํ วฏฺฏติ. สมณกปฺปกถา ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนายํ วุตฺตา.

๒๕๑. น ภิกฺขเว อตฺตโน องฺคชาตนฺติ องฺคชาตํ ฉินฺทนฺตสฺเสว ถุลฺลจฺจยํ. อฺํ ปน กณฺณนาสาองฺคุลิอาทึ ยํกิฺจิ ฉินฺทนฺตสฺส ตาทิสํ วา ทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. อหิกีฏทฏฺาทีสุ ปน อฺอาพาธปจฺจยา วา โลหิตํ วา โมเจนฺตสฺส ฉินฺทนฺตสฺส วา อนาปตฺติ.

๒๕๒. จนฺทนคณฺิ อุปฺปนฺนา โหตีติ จนฺทนฆฏิกา อุปฺปนฺนา โหติ. โส กิร อุทฺธฺจ อโธ จ ชาลานิ ปริกฺขิปาเปตฺวา คงฺคาย นทิยา กีฬติ, ตสฺส นทีโสเตน วุยฺหมานา จนฺทนคณฺิ อาคนฺตฺวา ชาเล ลคฺคา, ตมสฺส ปุริสา อาหริตฺวา อทํสุ; เอวํ สา อุปฺปนฺนา โหติ. อิทฺธิปาฏิหาริยนฺติ เอตฺถ วิกุพฺพนิทฺธิปาฏิหาริยํ ปฏิกฺขิตฺตํ, อธิฏฺานิทฺธิ ปน อปฺปฏิกฺขิตฺตาติ เวทิตพฺพา.

น ภิกฺขเว โสวณฺณมโย ปตฺโตติอาทีสุ สเจปิ คิหี ภตฺตคฺเค สุวณฺณตฏฺฏิกาทีสุ พฺยฺชนํ กตฺวา อุปนาเมนฺติ, อามสิตุมฺปิ น วฏฺฏติ. ผลิกมยกาจมยกํสมยานิ ปน ตฏฺฏิกาทีนิ ภาชนานิ ปุคฺคลิกปริโภเคเนว น วฏฺฏนฺติ, สงฺฆิกปริโภเคน วา คิหิวิกฏานิ วา วฏฺฏนฺติ. ‘‘ตมฺพโลหมโยปิ ปตฺโตว น วฏฺฏติ, ถาลกํ ปน วฏฺฏตี’’ติ อิทํ สพฺพํ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. มณิมโยติ เอตฺถ ปน อินฺทนีลาทิมณิมโย วุตฺโต. กํสมโยติ เอตฺถ วฏฺฏโลหมโยปิ สงฺคหิโต.

๒๕๓. ลิขิตุนฺติ ตนุกรณตฺถาเยตํ วุตฺตํ. ปกติมณฺฑลนฺติ มกรทนฺตจฺฉินฺนกมณฺฑลเมว.

๒๕๔. อาวฏฺฏิตฺวาติ อฺมฺํ ปหริตฺวา. ปตฺตาธารกนฺติ เอตฺถ ‘‘ทนฺตวลฺลิเวตฺตาทีหิ กเต ภูมิอาธารเก ตโย, ทารุอาธารเก ทฺเว ปตฺเต อุปรูปริ เปตุํ วฏฺฏตี’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ – ‘‘ภูมิอาธารเก ติณฺณํ ปตฺตานํ อโนกาโส, ทฺเว เปตุํ วฏฺฏติ. ทารุอาธารกทณฺฑาธารเกสุปิ สุสชฺชิเตสุ เอเสว นโย. ภมโกฏิสทิโส ปน ทารุอาธารโก ตีหิ ทณฺฑเกหิ พทฺโธ ทณฺฑกาธาโร จ เอกสฺสปิ ปตฺตสฺส อโนกาโส, ตตฺถ เปตฺวาปิ หตฺเถน คเหตฺวา เอว นิสีทิตพฺพํ. ภูมิยํ ปน นิกฺกุชฺชิตฺวา เอกเมว เปตพฺพ’’นฺติ.

มิฑฺฒนฺเตติ อาลินฺทกมิฑฺฒิกาทีนํ อนฺเต. สเจ ปน ปริวตฺเตตฺวา ตตฺเถว ปติฏฺาติ, เอวรูปาย วิตฺถิณฺณาย มิฑฺฒิยา เปตุํ วฏฺฏติ. ปริภณฺฑนฺเตติ พาหิรปสฺเส กตาย ตนุกมิฑฺฒิกาย อนฺเต. มิฑฺฒิยํ วุตฺตนเยเนเวตฺถาปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

โจฬกนฺติ ยํ ปตฺถริตฺวา ปตฺโต ปียติ; ตสฺมึ ปน อสติ กฏสารเก วา ตฏฺฏิกาย วา มตฺติกาปริภณฺฑกตาย ภูมิยา วา ยตฺถ น ทุสฺสติ, ตถารูปาย วาลิกาย วา เปตุํ วฏฺฏติ. ปํสุรชาทีสุ ปน ขรภูมิยํ วา เปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ปตฺตมาฬกํ อิฏฺกาหิ วา ทารูหิ วา กาตุํ วฏฺฏติ. ปตฺตกุณฺโฑลิกาติ มหามุขกุณฺฑสณฺานา ภณฺฑกุกฺขลิกา วุจฺจติ. โย ลคฺเคยฺยาติ ยตฺถ กตฺถจิ ลคฺเคนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. จีวรวํเสปิ พนฺธิตฺวา เปตุํ น วฏฺฏติ. ภณฺฑกฏฺปนตฺถเมว วา กตํ โหตุ นิสีทนสยนตฺถํ วา ยตฺถ กตฺถจิ มฺเจ วา ปีเ วา เปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, อฺเน ปน ภณฺฑเกน สทฺธึ พนฺธิตฺวา เปตุํ วฏฺฏติ. อฏนิยํ พนฺธิตฺวา โอลมฺเพตุํ วา วฏฺฏติ, พนฺธิตฺวาปิ อุปริ เปตุํ น วฏฺฏติเยว. สเจ ปน มฺโจ วา ปีํ วา อุกฺขิปิตฺวา จีวรวํสาทีสุ อฏฺฏกฉนฺเนน ปิตํ โหติ, ตตฺถ เปตุํ วฏฺฏติ. อํสวทฺธนเกน อํสกูเฏ ลคฺเคตฺวา องฺเก เปตุํ วฏฺฏติ. ฉตฺเต ภตฺตปูโรปิ อํสกูเฏ ลคฺคิตปตฺโตปิ เปตุํ น วฏฺฏติ, ภณฺฑเกน ปน สทฺธึ พนฺธิตฺวา วา อฏฺฏกํ กตฺวา วา ปิเต โย โกจิ เปตุํ วฏฺฏติ.

๒๕๕. ปตฺตหตฺเถนาติ เอตฺถ น เกวลํ ยสฺส ปตฺโต หตฺเถ, โส เอว ปตฺตหตฺโถ, น เกวลฺจ กวาฏเมว ปณาเมตุํ น ลภติ; อปิจ โข ปน หตฺเถ วา ปิฏฺิปาเท วา ยตฺถ กตฺถจิ สรีราวยเว ปตฺตสฺมึ สติ หตฺเถน วา ปาเทน วา สีเสน วา เยน เกนจิ สรีราวยเวน กวาฏํ วา ปณาเมตุํ ฆฏิกํ วา อุกฺขิปิตุํ สูจึ วา กุฺจิกาย อปาปุริตุํ น ลภติ. อํสกูเฏ ปน ปตฺตํ ลคฺเคตฺวา ยถาสุขํ อวาปุริตุํ ลภติ.

ตุมฺพกฏาหนฺติ ลาพุกฏาหํ วุจฺจติ, ตํ ปริหริตุํ น วฏฺฏติ. ลภิตฺวา ปน ตาวกาลิกํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ฆฏิกฏาเหปิ เอเสว นโย. ฆฏิกฏาหนฺติ ฆฏิกปาลํ. อภุํ เมติ อุตฺราสวจนเมตํ. สพฺพปํสุกูลิเกนาติ เอตฺถ จีวรฺจ มฺจปีฺจ ปํสุกูลํ วฏฺฏติ, อชฺโฌหรณียํ ปน ทินฺนกเมว คเหตพฺพํ.

จลกานีติ จพฺเพตฺวา อปวิทฺธามิสานิ. อฏฺิกานีติ มจฺฉมํสอฏฺิกานิ. อุจฺฉิฏฺโทกนฺติ มุขวิกฺขาลโนทกํ. เอเตสุ ยํกิฺจิ ปตฺเตน นีหรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ปตฺตํ ปฏิคฺคหํ กตฺวา หตฺถํ โธวิตุมฺปิ น ลภติ. หตฺถโธตปาทโธตอุทกมฺปิ ปตฺเต อากิริตฺวา นีหริตุํ น วฏฺฏติ. อนุจฺฉิฏฺํ สุทฺธปตฺตํ อุจฺฉิฏฺหตฺเถน คณฺหิตุํ น วฏฺฏติ, วามหตฺเถน ปเนตฺถ อุทกํ อาสิฺจิตฺวา เอกํ อุทกคณฺฑุสํ คเหตฺวา อุจฺฉิฏฺหตฺเถน คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เอตฺตาวตาปิ หิ โส อุจฺฉิฏฺปตฺโต โหติ, หตฺถํ ปน พหิ อุทเกน วิกฺขาเลตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ. มจฺฉมํสผลาผลาทีนิ ขาทนฺโต ยํ ตตฺถ อฏฺึ วา จลกํ วา ฉฑฺเฑตุกาโม โหติ, ตํ ปตฺเต เปตุํ น ลภติ. ยํ ปน ปฏิขาทิตุกาโม โหติ, ตํ ปตฺเต เปตุํ ลภติ. อฏฺิกกณฺฏกาทีนิ ตตฺเถว กตฺวา หตฺเถน ลุฺจิตฺวา ขาทิตุํ วฏฺฏติ. มุขโต นีหฏํ ปน ยํกิฺจิ ปุน ขาทิตุกาโม โหติ, ตํ ปตฺเต เปตุํ น ลภติ. สิงฺคิเวรนาฬิเกรขณฺฑานิ ฑํสิตฺวา ปุน เปตุํ ลภติ.

๒๕๖. นมตกนฺติ สตฺถกเวนกํ ปิโลติกขณฺฑํ. ทณฺฑสตฺถกนฺติ ปิปฺผลกํ วา อฺมฺปิ วา ยํกิฺจิ ทณฺฑํ โยเชตฺวา กตสตฺถกํ.

กณฺณกิตา โหนฺตีติ มลคฺคหิตา โหนฺติ. กิณฺเณน ปูเรตุนฺติ กิณฺณจุณฺเณน ปูเรตุํ. สตฺตุยาติ หลิทฺทิมิสฺสเกน ปิฏฺจุณฺเณน. สริตกนฺติ ปาสาณจุณฺณํ วุจฺจติ; เตน ปูเรตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. มธุสิตฺถเกน สาเรตุนฺติ มธุสิตฺถเกน มกฺเขตุํ. สริตกํ ปริภิชฺชตีติ ตํ มกฺขิตมธุสิตฺถกํ ภิชฺชติ. สริตสิปาฏิกนฺติ มธุสิตฺถกปิโลติกํ; สตฺถโกสกสิปาฏิยา ปน สริตสิปาฏิกาย อนุโลมาติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. กถินนฺติ นิสฺเสณิมฺปิ ตตฺถ อตฺถริตพฺพกฏสารกกิลฺชานํ อฺตรมฺปิ. กถินรชฺชุนฺติ ยาย ทุปฏฺฏจีวรํ สิพฺพนฺตา กถิเน จีวรมฺปิ พนฺธนฺติ. กถินํ นปฺปโหตีติ ทีฆสฺส ภิกฺขุโน ปมาเณน กตํ กถินํ; ตตฺถ รสฺสสฺส ภิกฺขุโน จีวรํ ปตฺถริยมานํ นปฺปโหติ, อนฺโตเยว โหติ; ทณฺฑเก น ปาปุณาตีติ อตฺโถ. ทณฺฑกถินนฺติ ตสฺส มชฺเฌ อิตรสฺส ภิกฺขุโน ปมาเณน อฺํ นิสฺเสณึ พนฺธิตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ.

พิทลกนฺติ ทณฺฑกถินปฺปมาเณน กฏสารกสฺส ปริยนฺเต ปฏิสํหริตฺวา ทุคุณกรณํ. สลากนฺติ ทุปฏฺฏจีวรสฺส อนฺตเร ปเวสนสลากํ. วินนฺธนรชฺชุนฺติ มหานิสฺเสณิยา สทฺธึ ขุทฺทกํ นิสฺเสณึ วินนฺธิตุํ รชฺชุํ. วินนฺธนสุตฺตนฺติ ขุทฺทกนิสฺเสณิยา จีวรํ วินนฺธิตุํ สุตฺตกํ. วินนฺธิตฺวา จีวรํ สิพฺเพตุนฺติ เตน สุตฺตเกน ตตฺถ จีวรํ วินนฺธิตฺวา สิพฺพิตุํ. วิสมา โหนฺตีติ กาจิ ขุทฺทกา โหนฺติ, กาจิ มหนฺตา. กฬิมฺภกนฺติ ปมาณสฺากรณํ ยํกิฺจิ ตาลปณฺณาทึ. โมฆสุตฺตกนฺติ วฑฺฒกีนํ ทารูสุ กาฬสุตฺเตน วิย หลิทฺทิสุตฺเตน สฺากรณํ. องฺคุลิยา ปฏิคฺคณฺหนฺตีติ สูจิมุขํ องฺคุลิยา ปฏิจฺฉนฺติ. ปฏิคฺคหนฺติ องฺคุลิโกสกํ.

๒๕๗. อาเวสนวิตฺถกํ นาม ยํกิฺจิ ปาติจงฺโกฏกาทิ. อุจฺจวตฺถุกนฺติ ปํสุํ อากิริตฺวา อุจฺจวตฺถุกํ กาตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. โอคุมฺเผตฺวา อุลฺลิตฺตาวลิตฺตํ กาตุนฺติ ฉทนํ โอธุนิตฺวา ฆนทณฺฑกํ กตฺวา อนฺโต เจว พหิ จ มตฺติกาย ลิมฺปิตุนฺติ อตฺโถ. โคฆํสิกายาติ เวฬุํ วา รุกฺขทณฺฑํ วา อนฺโตกตฺวา เตน สทฺธึ สงฺฆริตุนฺติ อตฺโถ. พนฺธนรชฺชุนฺติ ตถา สงฺฆริตสฺส พนฺธนรชฺชุํ.

๒๕๘. กฏจฺฉุปริสฺสาวนํ นาม ตีสุ ทณฺฑเกสุ วินนฺธิตฺวา กตํ.

๒๕๙. โย น ทเทยฺยาติ อปริสฺสาวนกสฺเสว โย น ททาติ, ตสฺส อาปตฺติ. โย ปน อตฺตโน หตฺเถ ปริสฺสาวเน วิชฺชมาเนปิ ยาจติ, ตสฺส น อกามา ทาตพฺพํ. ทณฺฑปริสฺสาวนนฺติ รชกานํ ขารปริสฺสาวนํ วิย จตูสุ ปาเทสุ พทฺธนิสฺเสณิกาย สาฏกํ พนฺธิตฺวา มชฺเฌทณฺฑเก อุทกํ อาสิฺจิตพฺพํ, ตํ อุโภปิ โกฏฺาเส ปูเรตฺวา ปริสฺสวติ. โอตฺถรกํ นาม ยํ อุทเก โอตฺถริตฺวา ฆฏเกน อุทกํ คณฺหนฺติ, ตฺหิ จตูสุ ทณฺฑเกสุ วตฺถํ พนฺธิตฺวา อุทเก จตฺตาโร ขาณุเก นิขณิตฺวา เตสุ พนฺธิตฺวา สพฺพปริยนฺเต อุทกโต โมเจตฺวา มชฺเฌ โอตฺถริตฺวา ฆเฏน อุทกํ คณฺหนฺติ. มกสกุฏิกาติ จีวรกุฏิกา วุจฺจติ.

๒๖๐. อภิสนฺนกายาติ เสมฺหาทิโทสุสฺสนฺนกายา. อคฺคฬวฏฺฏิ นาม ทฺวารพาหาย สมปฺปมาโณเยว อคฺคฬตฺถมฺโภ วุจฺจติ, ยตฺถ ตีณิ จตฺตาริ ฉิทฺทานิ กตฺวา สูจิโย เทนฺติ. กปิสีสกํ นาม ทฺวารพาหํ วิชฺฌิตฺวา ตตฺถ ปเวสิโต อคฺคฬปาสโก วุจฺจติ. สูจิกาติ ตตฺถ มชฺเฌ ฉิทฺทํ กตฺวา ปเวสิตา. ฆฏิกาติ อุปริ โยชิตา. มณฺฑลิกํ กาตุนฺติ นีจวตฺถุกํ จินิตุํ. ธูมเนตฺตนฺติ ธูมนิกฺขมนฉิทฺทํ. วาเสตุนฺติ คนฺเธน วาเสตุํ. อุทกฏฺานนฺติ อุทกตฺถปนฏฺานํ. ตตฺถ ฆเฏน อุทกํ เปตฺวา สราวเกน วฬฺเชตพฺพํ. โกฏฺโกติ ทฺวารโกฏฺโก.

๒๖๑. ติสฺโส ปฏิจฺฉาทิโยติ เอตฺถ ชนฺตาฆรปฏิจฺฉาทิ จ อุทกปฏิจฺฉาทิ จ ปริกมฺมํ กโรนฺตสฺเสว วฏฺฏติ, เสเสสุ อภิวาทนาทีสุ น วฏฺฏติ. วตฺถปฏิจฺฉาทิ สพฺพกมฺเมสุ วฏฺฏติ. อุทกํ น โหตีติ นฺหาโนทกํ น โหติ.

๒๖๒. ตุลนฺติ ปณฺณิกานํ วิย อุทกอุพฺพาหนกตุลํ. กรกฏโก วุจฺจติ โคเณ วา โยเชตฺวา หตฺเถหิ วา คเหตฺวา ทีฆวรตฺตาทีหิ อากฑฺฒนยนฺตํ. จกฺกวฏฺฏกนฺติ อรหฏฆฏิยนฺตํ. จมฺมขณฺฑํ นาม ตุลาย วา กรกฏเก วา โยเชตพฺพกํ จมฺมภาชนํ. ปากฏา โหตีติ อปริกฺขิตฺตา โหติ. อุทกปุฺฉนีติ ทณฺฑมยาปิ วิสาณมยาปิ ทารุมยาปิ วฏฺฏติ, ตสฺสา อสติ โจฬเกนาปิ อุทกํ ปจฺจุทฺธริตุํ วฏฺฏติ.

๒๖๓. อุทกมาติกนฺติ อุทกสฺส อาคมนมาติกํ. นิลฺเลขชนฺตาฆรํ นาม อาวิทฺธปกฺขปาสกํ วุจฺจติ, โคปานสีนํ อุปริ มณฺฑเล ปกฺขปาสเก เปตฺวา กตกูฏจฺฉทนสฺเสตํ นามํ. จาตุมาสํ นิสีทเนนาติ นิสีทเนน จตฺตาโร มาเส น วิปฺปวสิตพฺพนฺติ อตฺโถ.

๒๖๔. ปุปฺผาภิกิณฺเณสูติ ปุปฺเผหิ สนฺถเตสุ. นมตกํ นาม เอฬกโลเมหิ กตํ อวายิมํ จมฺมขณฺฑปริหาเรน ปริภุฺชิตพฺพํ. อาสิตฺตกูปธานํ นาม ตมฺพโลเหน วา รชเตน วา กตาย เปฬาย เอตํ อธิวจนํ, ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ปน ทารุมยาปิ น วฏฺฏติ. มโฬริกาติ ทณฺฑธารโก วุจฺจติ. ยฏฺิอาธารกปณฺณาธารกปจฺฉิกปิฏฺานิปิ เอตฺเถว ปวิฏฺานิ. อาธารกสงฺเขปคมนโต หิ ปฏฺาย ฉิทฺทํ วิทฺธมฺปิ อวิทฺธมฺปิ วฏฺฏติเยว. เอกภาชเนติ เอตฺถ สเจ เอโก ภิกฺขุ ภาชนโต ผลํ วา ปูวํ วา คเหตฺวา คจฺฉติ, ตสฺมึ อปคเต อิตรสฺส เสสกํ ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. อิตรสฺสาปิ ตสฺมึ ขีเณ ปุน คเหตุํ วฏฺฏติ.

๒๖๕. อฏฺหงฺเคหีติ เอตฺถ เอเกเกนปิ องฺเคน สมนฺนาคตสฺส อนฺโตสีมาย วา นิสฺสีมํ คนฺตฺวา นทีอาทีสุ วา นิกฺกุชฺชิตุํ วฏฺฏติเยว. เอวํ นิกฺกุชฺชิเต ปน ปตฺเต ตสฺส เคเห โกจิ เทยฺยธมฺโม น คเหตพฺโพ – ‘‘อสุกสฺส เคเห ภิกฺขํ มา คณฺหิตฺถา’’ติ อฺเสุ วิหาเรสุปิ เปเสตพฺพํ. อุกฺกุชฺชนกาเล ปน ยาวตติยํ ยาจาเปตฺวา หตฺถปาสํ วิชหาเปตฺวา ตฺติทุติยกมฺเมน อุกฺกุชฺชิตพฺโพ.

๒๖๘. ปุรกฺขตฺวาติ อคฺคโต กตฺวา. สํหรนฺตูติ สํหริยนฺตุ. เจลปฏิกนฺติ เจลสนฺถรํ. โส กิร ‘‘สเจ อหํ ปุตฺตํ ลจฺฉามิ, อกฺกมิสฺสติ เม ภควา เจลปฏิก’’นฺติ อิมินา อชฺฌาสเยน สนฺถริ, อภพฺโพ เจส ปุตฺตลาภาย; ตสฺมา ภควา น อกฺกมิ. ยทิ อกฺกเมยฺย, ปจฺฉา ปุตฺตํ อลภนฺโต ‘‘นายํ สพฺพฺู’’ติ ทิฏฺึ คณฺเหยฺย. อิทํ ตาว ภควโต อนกฺกมเน การณํ. ยสฺมา ปน ภิกฺขูปิ เย อชานนฺตา อกฺกเมยฺยุํ, เต คิหีนํ ปริภูตา ภเวยฺยุํ; ตสฺมา ภิกฺขู ปริภวโต โมเจตุํ สิกฺขาปทํ ปฺเปสิ. อิทํ สิกฺขาปทปฺาปเน การณํ.

มงฺคลตฺถาย ยาจิยมาเนนาติ อปคตคพฺภา วา โหตุ ครุคพฺภา วา, เอวรูเปสุ าเนสุ มงฺคลตฺถาย ยาจิยมาเนน อกฺกมิตุํ วฏฺฏติ. โธตปาทกํ นาม ปาทโธวนฏฺาเน โธเตหิ ปาเทหิ อกฺกมนตฺถาย ปจฺจตฺถรณํ อตฺถตํ โหติ, ตํ อกฺกมิตุํ วฏฺฏติ.

๒๖๙. กตกํ นาม ปทุมกณฺณิกาการํ ปาทฆํสนตฺถํ กณฺฏเก อุฏฺาเปตฺวา กตํ. ตํ วฏฺฏํ วา โหตุ จตุรสฺสาทิเภทํ วา, พาหุลิกานุโยคตฺตา ปฏิกฺขิตฺตเมว, เนว ปฏิคฺคเหตุํ น ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. สกฺขราติ ปาสาโณ วุจฺจติ; ปาสาณเผณโกปิ วฏฺฏติ. วิธูปนนฺติ วีชนี วุจฺจติ. ตาลวณฺฏํ ปน ตาลปณฺเณหิ วา กตํ โหตุ เวฬุทนฺตวิลีเวหิ วา โมรปิฺเฉหิ วา จมฺมวิกตีหิ วา สพฺพํ วฏฺฏติ. มกสพีชนี ทนฺตมยวิสาณมยทณฺฑกาปิ วฏฺฏติ, วากมยพีชนิยา เกตกปาโรหกุนฺตาลปณฺณาทิมยาปิ สงฺคหิตา.

๒๗๐. คิลานสฺส ฉตฺตนฺติ เอตฺถ ยสฺส กายฑาโห วา ปิตฺตโกโป วา โหติ, จกฺขุ วา ทุพฺพลํ, อฺโ วา โกจิ อาพาโธ วินา ฉตฺเตน อุปฺปชฺชติ, ตสฺส คาเม วา อรฺเ วา ฉตฺตํ วฏฺฏติ. วสฺเส ปน จีวรคุตฺตตฺถํ วาฬมิคโจรภเยสุ จ อตฺตคุตฺตตฺถมฺปิ วฏฺฏติ. เอกปณฺณจฺฉตฺตํ ปน สพฺพตฺเถว วฏฺฏติ.

อสิสฺสาติ อสิ อสฺส. วิชฺโชตลตีติ วิชฺโชตติ. ทณฺฑสมฺมุตินฺติ เอตฺถ ปมาณยุตฺโต จตุหตฺโถเยว ทณฺโฑ สมฺมนฺนิตฺวา ทาตพฺโพ. ตโต อูนาติริตฺโต วินาปิ สมฺมุติยา สพฺเพสํ วฏฺฏติ. สิกฺกา ปน อคิลานสฺส น วฏฺฏติ, คิลานสฺสาปิ สมฺมนฺนิตฺวาว ทาตพฺพา.

๒๗๓. โรมนฺถกสฺสาติ เอตฺถ เปตฺวา โรมนฺถกํ เสสานํ อาคตํ อุคฺคารํ มุเข สนฺธาเรตฺวา คิลนฺตานํ อาปตฺติ. สเจ ปน อสนฺธาริตเมว ปรคลํ คจฺฉติ, วฏฺฏติ.

ยํ ทิยฺยมานนฺติ ยํ ทายเกหิ ทิยฺยมานํ ปฏิคฺคหิตภาชนโต พหิ ปติตํ, ตํ ภิกฺขุนา สามํ คเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. อิทํ โภชนวคฺเค วณฺณิตเมว.

๒๗๔. กุปฺปํ กริสฺสามีติ สทฺทํ กริสฺสามิ. นขาทีหิ นขจฺเฉทเน อาปตฺติ นตฺถิ, อนุรกฺขณตฺถํ ปน นขจฺเฉทนํ อนุฺาตํ. วีสติมฏฺนฺติ วีสติปิ นเข ลิขิตมฏฺเ การาเปนฺติ. มลมตฺตนฺติ นขโต มลมตฺตํ อปกฑฺฒิตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ.

๒๗๕. ขุรสิปาฏิกนฺติ ขุรโกสกํ. มสฺสุํ กปฺปาเปนฺตีติ กตฺตริยา มสฺสุํ เฉทาเปนฺติ. มสฺสุํ วฑฺฒาเปนฺตีติ มสฺสุํ ทีฆํ กาเรนฺติ. โคโลมิกนฺติ หนุกมฺหิ ทีฆํ กตฺวา ปิตํ เอฬกมสฺสุ วุจฺจติ. จตุรสฺสกนฺติ จตุโกณํ. ปริมุขนฺติ อุเร โลมสํหรณํ. อฑฺฒทุกนฺติ อุทเร โลมราชิฏฺปนํ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ มสฺสุกปฺปาปนาทีสุ สพฺพตฺถ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อาพาธปฺปจฺจยา สมฺพาเธ โลมนฺติ คณฺฑวณรุธิอาทิอาพาธปฺปจฺจยา. กตฺตริกายาติ คณฺฑวณรุธิสีสโรคาพาธปฺปจฺจยา. สกฺขราทีหิ นาสิกาโลมคฺคาหาปเน อาปตฺติ นตฺถิ. อนุรกฺขณตฺถํ ปน สณฺฑาโส อนุฺาโต. น ภิกฺขเว ปลิตํ คาหาเปตพฺพนฺติ เอตฺถ ยํ ภมุกาย วา นลาเฏ วา ทาิกาย วา อุคฺคนฺตฺวา พีภจฺฉํ ิตํ, ตาทิสํ โลมํ ปลิตํ วา อปลิตํ วา คาหาเปตุํ วฏฺฏติ.

๒๗๗. กํสปตฺถริกาติ กํสภณฺฑวาณิชา. พนฺธนมตฺตนฺติ วาสิกตฺตรยฏฺิอาทีนํ พนฺธนมตฺตํ.

๒๗๘. ภิกฺขเว อกายพนฺธเนนาติ เอตฺถ อพนฺธิตฺวา นิกฺขมนฺเตน ยตฺถ สรติ, ตตฺถ พนฺธิตพฺพํ. อาสนสาลาย พนฺธิสฺสามีติ คนฺตุํ วฏฺฏติ. สริตฺวา ยาว น พนฺธติ, น ตาว ปิณฺฑาย จริตพฺพํ. กลาพุกํ นาม พหุรชฺชุกํ. เทฑฺฑุภกํ นาม อุทกสปฺปสีสสทิสํ. มุรชํ นาม มุรชวฏฺฏิสณฺานํ เวเตฺวา กตํ. มทฺทวีณํ นาม ปามงฺคสณฺานํ. อีทิสฺหิ เอกมฺปิ น วฏฺฏติ, ปเคว พหูนิ. ปฏฺฏิกํ สูกรนฺตกนฺติ เอตฺถ ปกติวีตา วา มจฺฉกณฺฏกวายิมา วา ปฏฺฏิกา วฏฺฏติ, เสสา กุฺชรจฺฉิกาทิเภทา น วฏฺฏนฺติ. สูกรนฺตกํ นาม กุฺชิกาโกสกสณฺานํ โหติ. เอกรชฺชุกํ ปน มุทฺทิกกายพนฺธนฺจ สูกรนฺตกํ อนุโลเมติ. อนุชานามิ ภิกฺขเว มุรชํ มทฺทวีณนฺติ อิทํ ทสาสุเยว อนุฺาตํ. ปามงฺคทสา เจตฺถ จตุนฺนํ อุปริ น วฏฺฏติ. โสภณํ นาม เวเตฺวา มุขวฏฺฏิสิพฺพนํ. คุณกํ นาม มุทิงฺคสณฺาเนน สิพฺพนํ; เอวํ สิพฺพิตา หิ อนฺตา ถิรา โหนฺติ. ปวนนฺโตติ ปาสนฺโต วุจฺจติ.

๒๘๐. หตฺถิโสณฺฑกํ นาม นาภิมูลโต หตฺถิโสณฺฑสณฺานํ โอลมฺพกํ กตฺวา นิวตฺถํ โจฬิกอิตฺถีนํ นิวาสนํ วิย. มจฺฉวาฬกํ นาม เอกโต ทสนฺตํ เอกโต ปาสนฺตํ โอลมฺเพตฺวา นิวตฺถํ. จตุกณฺณกํ นาม อุปริ ทฺเว, เหฏฺโต ทฺเวติ เอวํ จตฺตาโร กณฺเณ ทสฺเสตฺวา นิวตฺถํ. ตาลวณฺฏกํ นาม ตาลวณฺฏากาเรน สาฏกํ โอลมฺเพตฺวา นิวาสนํ. สตวลิกํ นาม ทีฆสาฏกํ อเนกกฺขตฺตุํ โอภฺชิตฺวา โอวฏฺฏิกํ กโรนฺเตน นิวตฺถํ, วามทกฺขิณปสฺเสสุ วา นิรนฺตรํ วลิโย ทสฺเสตฺวา นิวตฺถํ. สเจ ปน ชาณุโต ปฏฺาย เอกา วา ทฺเว วา วลิโย ปฺายนฺติ, วฏฺฏติ.

สํเวลฺลิยํ นิวาเสนฺตีติ มลฺลกมฺมการาทโย วิย กจฺฉํ พนฺธิตฺวา นิวาเสนฺติ; เอวํ นิวาเสตุํ คิลานสฺสปิ มคฺคปฺปฏิปนฺนสฺสปิ น วฏฺฏติ. ยมฺปิ มคฺคํ คจฺฉนฺตา เอกํ วา ทฺเว วา โกเณ อุกฺขิปิตฺวา อนฺตรวาสกสฺส อุปริ ลคฺเคนฺติ, อนฺโต วา เอกํ กาสาวํ ตถา นิวาเสตฺวา พหิ อปรํ นิวาเสนฺติ, สพฺพํ น วฏฺฏติ. คิลาโน ปน อนฺโต กาสาวสฺส โอวฏฺฏิกํ ทสฺเสตฺวา อปรํ อุปริ นิวาเสตุํ ลภติ. อคิลาเนน ทฺเว นิวาเสนฺเตน สคุณํ กตฺวา นิวาเสตพฺพานิ. อิติ ยฺจ อิธ ปฏิกฺขิตฺตํ, ยฺจ เสขิยวณฺณนายํ; ตํ สพฺพํ วชฺเชตฺวา นิพฺพิการํ ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺเตน ปริมณฺฑลํ นิวาเสตพฺพํ. ยํกิฺจิ วิการํ กโรนฺโต ทุกฺกฏา น มุจฺจติ. น ภิกฺขเว คิหิปารุตํ ปารุปิตพฺพนฺติ เอวํ ปฏิกฺขิตฺตํ คิหิปารุตํ อปารุปิตฺวา, อุโภ กณฺเณ สมํ กตฺวา ปารุปนํ ปริมณฺฑลปารุปนํ นาม, ตํ ปารุปิตพฺพํ.

ตตฺถ ยํกิฺจิ เสตปฏปารุตํ ปริพฺพาชกปารุตํ เอกสาฏกปารุตํ โสณฺฑปารุตํ อนฺเตปุริกปารุตํ มหาเชฏฺกปารุตํ กุฏิปเวสกปารุตํ พฺราหฺมณปารุตํ ปาฬิการกปารุตนฺติ เอวมาทิ ปริมณฺฑลลกฺขณโต อฺถา ปารุตํ, สพฺพเมตํ คิหิปารุตํ นาม. ตสฺมา ยถา เสตปฏา อฑฺฒปาลกนิคณฺา ปารุปนฺติ, ยถา จ เอกจฺเจ ปริพฺพาชกา อุรํ วิวริตฺวา ทฺวีสุ อํสกูเฏสุ ปาวุรณํ เปนฺติ, ยถา จ เอกสาฏกา มนุสฺสา นิวตฺถสาฏกสฺส เอเกนนฺเตน ปิฏฺึ ปารุปิตฺวา อุโภ กณฺเณ อุโภสุ อํสกูเฏสุ เปนฺติ, ยถา จ สุราโสณฺฑาทโย สาฏเกน คีวํ ปริกฺขิปนฺตา อุโภ อนฺเต อุทเร วา โอลมฺเพนฺติ; ปิฏฺิยํ วา ขิปนฺติ, ยถา จ อนฺเตปุริกาโย อกฺขิตารกมตฺตํ ทสฺเสตฺวา โอคุณฺิกํ ปารุปนฺติ, ยถา จ มหาเชฏฺา ทีฆสาฏกํ นิวาเสตฺวา ตสฺเสว เอเกนนฺเตน สกลสรีรํ ปารุปนฺติ, ยถา จ กสฺสกา เขตฺตกุฏึ ปวิสนฺตา สาฏกํ ปลิเวเตฺวา อุปกจฺฉเก ปกฺขิปิตฺวา ตสฺเสว เอเกนนฺเตน สรีรํ ปารุปนฺติ, ยถา จ พฺราหฺมณา อุภินฺนํ อุปกจฺฉกานํ อนฺตเรน สาฏกํ ปเวเสตฺวา อํสกูเฏสุ ปกฺขิปนฺติ, ยถา จ ปาฬิการโก ภิกฺขุ เอกํสปารุปเนน ปารุตํ วามพาหุํ วิวริตฺวา จีวรํ อํสกูฏํ อาโรเปติ; เอวํ อปารุปิตฺวา สพฺเพปิ เอเต อฺเ จ เอวรูเป ปารุปนโทเส วชฺเชตฺวา นิพฺพิการํ ปริมณฺฑลํ ปารุปิตพฺพํ. ตถา อปารุปิตฺวา อาราเม วา อนฺตรฆเร วา อนาทเรน ยํกิฺจิ วิการํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.

๒๘๑. มุณฺฑวฏฺฏีติ ยถา รฺโ กุหิฺจิ คจฺฉโต ปริกฺขารภณฺฑวหนมนุสฺสาติ อธิปฺปาโย. อนฺตรากาชนฺติ มชฺเฌ ลคฺเคตฺวา ทฺวีหิ วหิตพฺพภารํ.

๒๘๒. อจกฺขุสฺสนฺติ จกฺขูนํ หิตํ น โหติ; ปริหานึ ชเนติ. นจฺฉาเทตีติ น รุจฺจติ. อฏฺงฺคุลปรมนฺติ มนุสฺสานํ ปมาณงฺคุเลน อฏฺงฺคุลปรมํ. อติมฏาหกนฺติ อติขุทฺทกํ.

๒๘๓. ทายํ อาลิมฺเปนฺตีติ ติณวนาทีสุ อคฺคึ เทนฺติ. ปฏคฺคินฺติ ปฏิอคฺคึ. ปริตฺตนฺติ อปฺปหริตกรเณน วา ปริขาขณเนน วา ปริตฺตาณํ. เอตฺถ ปน อนุปสมฺปนฺเน สติ สยํ อคฺคึ ทาตุํ น ลภติ, อสติ อคฺคิมฺปิ ทาตุํ ลภติ, ภูมึ ตจฺเฉตฺวา ติณานิปิ หริตุํ, ปริขมฺปิ ขณิตุํ, อลฺลสาขํ ภฺชิตฺวาปิ อคฺคึ นิพฺพาเปตุํ ลภติ, เสนาสนํ ปตฺตํ วา อปฺปตฺตํ วา ตถา นิพฺพาเปตุํ ลภติเยว. อุทเกน ปน กปฺปิเยเนว ลภติ, น อิตเรน.

๒๘๔. สติ กรณีเยติ สุกฺขกฏฺาทิคฺคหณกิจฺเจ สติ. โปริสิยนฺติ ปุริสปฺปมาณํ. อาปทาสูติ วาฬมิคาทโย วา ทิสฺวา มคฺคมูฬฺโห วา ทิสา โอโลเกตุกาโม หุตฺวา ทวฑาหํ วา อุทโกฆํ วา อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา เอวรูปาสุ อาปทาสุ อติอุจฺจมฺปิ รุกฺขํ อาโรหิตุํ วฏฺฏติ.

๒๘๕. กลฺยาณวากฺกรณาติ มธุรสทฺทา. ฉนฺทโส อาโรเปมาติ เวทํ วิย สกฺกตภาสาย วาจนามคฺคํ อาโรเปม. สกาย นิรุตฺติยาติ เอตฺถ สกา นิรุตฺติ นาม สมฺมาสมฺพุทฺเธน วุตฺตปฺปกาโร มาคธิโก โวหาโร.

๒๘๖. โลกายตํ นาม สพฺพํ อุจฺฉิฏฺํ, สพฺพํ อนุจฺฉิฏฺํ, เสโต กาโก, กาโฬ พโก; อิมินา จ อิมินา จ การเณนาติ เอวมาทินิรตฺถกการณปฏิสํยุตฺตํ ติตฺถิยสตฺถํ.

๒๘๘. อนฺตรา อโหสีติ อนฺตริตา อโหสิ ปฏิจฺฉนฺนา.

๒๘๙. อาพาธปฺปจฺจยาติ ยสฺส อาพาธสฺส ลสุณํ เภสชฺชํ; ตปฺปจฺจยาติ อตฺโถ.

๒๙๐. ปสฺสาวปาทุกนฺติ เอตฺถ ปาทุกา อิฏฺกาหิปิ สิลาหิปิ ทารูหิปิ กาตุํ วฏฺฏติ. วจฺจปาทุกายปิ เอเสว นโย. ปริเวณนฺติ วจฺจกุฏิปริกฺเขปพฺภนฺตรํ.

๒๙๓. ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพติ ทุกฺกฏวตฺถุมฺหิ ทุกฺกเฏน ปาจิตฺติยวตฺถุมฺหิ ปาจิตฺติเยน กาเรตพฺโพ. ปหรณตฺถํ กตํ ปหรณีติ วุจฺจติ, ยสฺส กสฺสจิ อาวุธสงฺขาตสฺเสตํ อธิวจนํ, ตํ เปตฺวา อฺํ สพฺพํ โลหภณฺฑํ อนุชานามีติ อตฺโถ. กตกฺจ กุมฺภการิกฺจาติ เอตฺถ กตกํ วุตฺตเมว. กุมฺภการิกฺจาติ ธนิยสฺเสว สพฺพมตฺติกามยกุฏิ วุจฺจติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ขุทฺทกวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. เสนาสนกฺขนฺธกํ

วิหารานุชานนกถา

๒๙๔. เสนาสนกฺขนฺธเก อปฺตฺตํ โหตีติ อนนุฺาตํ โหติ. วิหาโร นาม อฑฺฒโยคาทิมุตฺตโก อวเสสาวาโส. อฑฺฒโยโคติ สุปณฺณวงฺกเคหํ. ปาสาโทติ ทีฆปาสาโท. หมฺมิยนฺติ อุปริอากาสตเล ปติฏฺิตกูฏาคาโร ปาสาโทเยว. คุหาติ อิฏฺกาคุหา สิลาคุหา ทารุคุหา ปํสุคุหา. อาคตานาคตสฺส จาตุทฺทิสสฺส สงฺฆสฺสาติ อาคตสฺส จ อนาคตสฺส จ จตูสุ ทิสาสุ อปฺปฏิหตจารสฺส จาตุทฺทิสสฺส สงฺฆสฺส.

๒๙๕. อนุโมทนคาถาสุ – สีตํ อุณฺหนฺติ อุตุวิสภาควเสน วุตฺตํ. สิสิเร จาปิ วุฏฺิโยติ เอตฺถ สิสิโรติ สมฺผุสิตกวาโต วุจฺจติ. วุฏฺิโยติ อุชุกเมฆวุฏฺิโย เอว. เอตานิ สพฺพานิ ปฏิหนฺตีติ อิมินาว ปเทน โยเชตพฺพานิ.

ปฏิหฺตีติ วิหาเรน ปฏิหฺติ. เลณตฺถนฺติ นิลียนตฺถํ. สุขตฺถนฺติ สีตาทิปริสฺสยาภาเวน สุขวิหารตฺถํ. ฌายิตุฺจ วิปสฺสิตุนฺติ อิทมฺปิ ปททฺวยํ ‘‘สุขตฺถฺจา’’ติ อิมินาว ปเทน โยเชตพฺพํ. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ – สุขตฺถฺจ วิหารทานํ, กตมํ สุขตฺถํ? ฌายิตุํ วิปสฺสิตุฺจ ยํ สุขํ, ตทตฺถํ. อถ วา ปรปเทนปิ โยเชตพฺพํ – ฌายิตุฺจ วิปสฺสิตุฺจ วิหารทานํ; อิธ ฌายิสฺสนฺติ วิปสฺสิสฺสนฺตีติ ททโต วิหารทานํ สงฺฆสฺส อคฺคํ พุทฺเธน วณฺณิตํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘โส จ สพฺพทโท โหติ, โย ททาติ อุปสฺสย’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๔๒).

ยสฺมา จ อคฺคํ วณฺณิตํ, ‘‘ตสฺมา หิ ปณฺฑิโต โปโส’’ติ คาถา. วาสเยตฺถ พหุสฺสุเตติ เอตฺถ วิหาเร ปริยตฺติพหุสฺสุเต จ ปฏิเวธพหุสฺสุเต จ วาเสยฺย. เตสํ อนฺนฺจาติ ยํ เตสํ อนุจฺฉวิกํ อนฺนฺจ ปานฺจ วตฺถานิ จ มฺจปีาทิเสนาสนานิ จ, ตํ สพฺพํ เตสุ อุชุภูเตสุ อกุฏิลจิตฺเตสุ. ทเทยฺยาติ นิทเหยฺย. ตฺจ โข วิปฺปสนฺเนน เจตสา น จิตฺตปฺปสาทํ วิราเธตฺวา, เอวํ วิปฺปสนฺนจิตฺตสฺส หิ เต ตสฺส ธมฺมํ เทเสนฺติ…เป… ปรินิพฺพาติ อนาสโวติ.

๒๙๖. อาวิฺฉนจฺฉิทฺทํ อาวิฺฉนรชฺชุนฺติ เอตฺถ รชฺชุ นาม สเจปิ ทีปินงฺคุฏฺเน กตา โหติ, วฏฺฏติเยว; น กาจิ น วฏฺฏติ. ตีณิ ตาฬานีติ ติสฺโส กุฺจิกาโย. ยนฺตกํ สูจิกนฺติ เอตฺถ ยํ ยํ ชานาติ ตํ ตํ ยนฺตกํ, ตสฺส วิวรณสูจิกฺจ กาตุํ วฏฺฏติ. เวทิกาวาตปานํ นาม เจติเย เวทิกาสทิสํ. ชาลวาตปานํ นาม ชาลกพทฺธํ. สลากวาตปานํ นาม ถมฺภกวาตปานํ. จกฺกลิกนฺติ เอตฺถ โจฬกปาทปุฺฉนํ พนฺธิตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. วาตปานภิสีติ วาตปานปฺปมาเณน ภิสึ กตฺวา พนฺธิตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. มิฑฺฒินฺติ มิฑฺฒกํ. พิทลมฺจกนฺติ เวตฺตมฺจํ; เวฬุวิลีเวหิ วา วีตํ.

๒๙๗. อาสนฺทิโกติ จตุรสฺสปีํ วุจฺจติ. อุจฺจกมฺปิ อาสนฺทิกนฺติ วจนโต เอกโตภาเคน ทีฆปีเมว หิ อฏฺงฺคุลปาทกํ วฏฺฏติ, จตุรสฺสอาสนฺทิโก ปน ปมาณาติกฺกนฺโตปิ วฏฺฏตีติ เวทิตพฺโพ. สตฺตงฺโค นาม ตีสุ ทิสาสุ อปสฺสยํ กตฺวา กตมฺโจ, อยมฺปิ ปมาณาติกฺกนฺโต วฏฺฏติ. ภทฺทปีนฺติ เวตฺตมยํ ปีํ วุจฺจติ. ปีิกาติ ปิโลติกาพทฺธปีเมว. เอฬกปาทปีํ นาม ทารุปฏฺฏิกาย อุปริ ปาเท เปตฺวา โภชนผลกํ วิย กตปีํ วุจฺจติ. อามลกวฏฺฏิกปีํ นาม อามลกากาเรน โยชิตํ พหุปาทกปีํ. อิมานิ ตาว ปาฬิยํ อาคตปีานิ. ทารุมยํ ปน สพฺพํ ปีํ วฏฺฏตีติ อยเมตฺถ วินิจฺฉโย. โกจฺฉนฺติ อุสิรมยํ วา มุฺชปพฺพชมยํ วา.

อฏฺงฺคุลปรมํ มฺจปฏิปาทกนฺติ เอตฺถ มนุสฺสานํ ปมาณงฺคุลเมว อฏฺงฺคุลํ. จิมิลิกา นาม ปริกมฺมกตาย ภูมิยา ฉวิสํรกฺขณตฺถาย อตฺถรณํ วุจฺจติ. รุกฺขตูลนฺติ สิมฺพลิรุกฺขาทีนํ เยสํ เกสฺจิ รุกฺขานํ ตูลํ. ลตาตูลนฺติ ขีรวลฺลิอาทีนํ ยาสํ กาสฺจิ วลฺลีนํ ตูลํ. โปฏกิตูลนฺติ โปฏกิติณาทีนํ เยสํ เกสฺจิ ติณชาติกานํ อนฺตมโส อุจฺฉุนฬาทีนมฺปิ ตูลํ. เอเตหิ ตีหิ สพฺพภูตคามา สงฺคหิตา โหนฺติ. รุกฺขวลฺลิติณชาติโย หิ มุฺจิตฺวา อฺโ ภูตคาโม นาม นตฺถิ, ตสฺมา ยสฺส กสฺสจิ ภูตคามสฺส ตูลํ พิมฺโพหเน วฏฺฏติ, ภิสึ ปน ปาปุณิตฺวา สพฺพมฺเปตํ อกปฺปิยตูลนฺติ วุจฺจติ. น เกวลฺจ พิมฺโพหเน เอตํ ตูลเมว, หํสโมราทีนํ สพฺพสกุณานํ สีหาทีนํ สพฺพจตุปฺปทานฺจ โลมมฺปิ วฏฺฏติ. ปิยงฺคุปุปฺผพกุฬปุปฺผาทิ ปน ยํกิฺจิ ปุปฺผํ น วฏฺฏติ. ตมาลปตฺตํ สุทฺธเมว น วฏฺฏติ, มิสฺสกํ ปน วฏฺฏติ. ภิสีนํ อนุฺาตํ ปฺจวิธํ อุณฺณาทิตูลมฺปิ วฏฺฏติ.

อทฺธกายิกานีติ อุปฑฺฒกายปฺปมาณานิ, เยสุ กฏิโต ปฏฺาย ยาว สีสํ อุปทหนฺติ. สีสปฺปมาณํ นาม ยสฺส วิตฺถารโต ตีสุ กณฺเณสุ ทฺวินฺนํ กณฺณานํ อนฺตรํ มินียมานํ วิทตฺถิ เจว จตุรงฺคุลฺจ โหติ, มชฺฌฏฺานํ มุฏฺิรตนํ โหติ. ทีฆโต ปน ทิยฑฺฒรตนํ วา ทฺวิรตนํ วาติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. อยํ สีสปฺปมาณสฺส อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท. อิโต อุทฺธํ น วฏฺฏติ, เหฏฺา ปน วฏฺฏติ. อคิลานสฺส สีสุปธานฺจ ปาทุปธานฺจาติ ทฺวยเมว วฏฺฏติ. คิลานสฺส พิมฺโพหนานิ สนฺถริตฺวา อุปริ ปจฺจตฺถรณํ กตฺวา นิปชฺชิตุมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘ยานิ ปน ภิสีนํ อนุฺาตานิ ปฺจ กปฺปิยตูลานิ, เตหิ พิมฺโพหนํ มหนฺตมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ ผุสฺสเทวตฺเถโร อาห. วินยธรอุปติสฺสตฺเถโร ปน ‘‘พิมฺโพหนํ กริสฺสามี’ติ กปฺปิยตูลํ วา อกปฺปิยตูลํ วา ปกฺขิปิตฺวา กโรนฺตสฺส ปมาณเมว วฏฺฏตี’’ติ อาห.

ปฺจ ภิสิโยติ ปฺจหิ อุณฺณาทีหิ ปูริตภิสิโย. ตูลคณนาย หิ เอตาสํ คณนา วุตฺตา. ตตฺถ อุณฺณคฺคหเณน น เกวลํ เอฬกโลมเมว คหิตํ, เปตฺวา มนุสฺสโลมํ ยํกิฺจิ กปฺปิยากปฺปิยมํสชาตีนํ ปกฺขิจตุปฺปทานํ โลมํ, สพฺพํ อิธ อุณฺณคฺคหเณเนว คหิตํ. ตสฺมา ฉนฺนํ จีวรานํ ฉนฺนํ อนุโลมจีวรานฺจ อฺตเรน ภิสิจฺฉวึ กตฺวา ตํ สพฺพํ ปกฺขิปิตฺวา ภิสึ กาตุํ วฏฺฏติ. เอฬกโลมานิ ปน อปกฺขิปิตฺวา กมฺพลเมว จตุคฺคุณํ วา ปฺจคุณํ วา ปกฺขิปิตฺวา กตาปิ อุณฺณภิสิสงฺขฺยเมว คจฺฉติ.

โจฬภิสิอาทีสุ ยํกิฺจิ นวโจฬํ วา ปุราณโจฬํ วา สํหริตฺวา วา อนฺโต ปกฺขิปิตฺวา วา กตา โจฬภิสิ, ยํกิฺจิ วากํ ปกฺขิปิตฺวา กตา วากภิสิ, ยํกิฺจิ ติณํ ปกฺขิปิตฺวา กตา ติณภิสิ, อฺตฺร สุทฺธตมาลปตฺตํ ยํกิฺจิ ปณฺณํ ปกฺขิปิตฺวา กตา ปณฺณภิสีติ เวทิตพฺพา. ตมาลปตฺตํ ปน อฺเน มิสฺสเมว วฏฺฏติ, สุทฺธํ น วฏฺฏติ. ภิสิยา ปมาณนิยโม นตฺถิ, มฺจภิสิ ปีภิสิ ภูมตฺถรณภิสิ จงฺกมนภิสิ ปาทปุฺฉนภิสีติ เอตาสํ อนุรูปโต สลฺลกฺเขตฺวา อตฺตโน รุจิวเสน ปมาณํ กาตพฺพํ. ยํ ปเนตํ อุณฺณาทิปฺจวิธตูลมฺปิ ภิสิยํ วฏฺฏติ, ตํ ‘‘มสูรเกปิ วฏฺฏตี’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. เอเตน มสูรกํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตีติ สิทฺธํ โหติ.

มฺจภิสึ ปีเ สนฺถรนฺตีติ มฺจภิสึ ปีเ อตฺถรนฺติ; อตฺถรณตฺถาย หรนฺตีติ ยุชฺชติ. อุลฺโลกํ อกริตฺวาติ เหฏฺา จิมิลิกํ อทตฺวา. โผสิตุนฺติ รชเนน วา หลิทฺทิยา วา อุปริ ผุสิตานิ ทาตุํ. ภตฺติกมฺมนฺติ ภิสิจฺฉวิยา อุปริ ภตฺติกมฺมํ. หตฺถภตฺตินฺติ ปฺจงฺคุลิภตฺตึ.

๒๙๘. อิกฺกาสนฺติ รุกฺขนิยฺยาสํ วา สิเลสํ วา. ปิฏฺมทฺทนฺติ ปิฏฺขลึ. กุณฺฑกมตฺติกนฺติ กุณฺฑกมิสฺสกมตฺติกํ. สาสปกุฏฺฏนฺติ สาสปปิฏฺํ. สิตฺถเตลกนฺติ วิลีนมธุสิตฺถกํ. อจฺจุสฺสนฺนํ โหตีติ พินฺทุ พินฺทุ หุตฺวา ติฏฺติ. ปจฺจุทฺธริตุนฺติ ปุฺฉิตุํ. คณฺฑุมตฺติกนฺติ คณฺฑุปฺปาทคูถมตฺติกํ. กสาวนฺติ อามลกหรีตกานํ กสาวํ.

๒๙๙. น ภิกฺขเว ปฏิภานจิตฺตนฺติ เอตฺถ น เกวลํ อิตฺถิปุริสรูปเมว, ติรจฺฉานรูปมฺปิ อนฺตมโส คณฺฑุปฺปาทรูปมฺปิ ภิกฺขุโน สยํ กาตุํ วา ‘‘กโรหี’’ติ วตฺตุํ วา น วฏฺฏติ, ‘‘อุปาสก ทฺวารปาลํ กโรหี’’ติ วตฺตุมฺปิ น ลพฺภติ. ชาตกปกรณอสทิสทานาทีนิ ปน ปสาทนียานิ นิพฺพิทาปฏิสํยุตฺตานิ วา วตฺถูนิ ปเรหิ การาเปตุํ ลพฺภติ. มาลากมฺมาทีนิ สยมฺปิ กาตุํ ลพฺภติ.

๓๐๐. อฬกมนฺทาติ เอกงฺคณา มนุสฺสาภิกิณฺณา. ตโย คพฺเภติ เอตฺถ สิวิกาคพฺโภติ จตุรสฺสคพฺโภ. นาฬิกาคพฺโภติ วิตฺถารโต ทิคุณติคุณายาโม ทีฆคพฺโภ. หมฺมิยคพฺโภติ อากาสตเล กูฏาคารคพฺโภ วา มุณฺฑจฺฉทนคพฺโภ วา.

กลงฺกปาทกนฺติ รุกฺขํ วิชฺฌิตฺวา ตตฺถ ขาณุเก อาโกเฏตฺวา กตํ, ตํ อาหริมํ ภิตฺติปาทํ ชิณฺณกุฏฺฏปาทสฺส อุปตฺถมฺภนตฺถํ ภูมิยํ ปติฏฺาเปตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. ปริตฺตาณกิฏิกนฺติ วสฺสปริตฺตาณตฺถํ กิฏิกํ. อุทฺทสุธนฺติ วจฺฉกโคมเยน เจว ฉาริกาย จ สทฺธึ มทฺทิตมตฺติกํ.

อาฬินฺโท นาม ปมุขํ วุจฺจติ. ปฆนํ นาม ยํ นิกฺขมนฺตา จ ปวิสนฺตา จ ปาเทหิ หนนฺติ, ตสฺส วิหารทฺวาเร อุภโต กุฏฺฏํ นีหริตฺวา กตปเทสสฺเสตํ อธิวจนํ, ‘‘ปฆาน’’นฺติปิ วุจฺจติ. ปกุฏฺฏนฺติ มชฺเฌ คพฺภสฺส สมนฺตา ปริยาคาโร วุจฺจติ. ‘‘ปกุฏ’’นฺติปิ ปาโ. โอสารกนฺติ อนาฬินฺทเก วิหาเร วํสํ ทตฺวา ตโต ทณฺฑเก โอสาเรตฺวา กตฉทนปมุขํ. สํสารณกิฏิโก นาม จกฺกลยุตฺโต กิฏิโก.

๓๐๑. ปานียภาชนนฺติ ปิวนฺตานํ ปานียทานภาชนํ. อุฬุงฺโก จ ถาลกฺจ ปานียสงฺขสฺส อนุโลมานิ.

๓๐๓. อเปสีติ ทีฆทารุมฺหิ ขาณุเก ปเวเสตฺวา กณฺฏกสาขาหิ วินนฺธิตฺวา กตํ ทฺวารถกนกํ. ปลิโฆติ คามทฺวาเรสุ วิย จกฺกยุตฺตํ ทฺวารถกนกํ.

๓๐๕. อสฺสตรีหิ ยุตฺตา รถา อสฺสตรีรถา. อามุตฺตมณิกุณฺฑลาติ อามุตฺตมณิกุณฺฑลานิ.

ปรินิพฺพุโตติ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต. สีติภูโตติ กิเลสาตปาภาเวน สีติภูโต. นิรูปธีติ กิเลสุปธิอภาเวน นิรูปธีติ วุจฺจติ.

สพฺพา อาสตฺติโย เฉตฺวาติ รูปาทีสุ วา วิสเยสุ สพฺพภเวสุ วา ปตฺถนาโย ฉินฺทิตฺวา. หทเย ทรนฺติ จิตฺเต กิเลสทรถํ วิเนตฺวา. เวยฺยายิกนฺติ วยกรณํ วุจฺจติ.

๓๐๗. อาเทยฺยวาโจติ ตสฺส วจนํ พหู ชนา อาทิยิตพฺพํ โสตพฺพํ มฺนฺตีติ อตฺโถ. อาราเม อกํสูติ เย สธนา, เต อตฺตโน ธเนน อกํสุ. เย มนฺทธนา เจว อธนา จ, เตสํ ธนํ อทาสิ. อิติ โส สตสหสฺสกหาปเณ สตสหสฺสคฺฆนกฺจ ภณฺฑํ ทตฺวา ปฺจจตฺตาลีสโยชนิเก อทฺธาเน โยชเน โยชเน วิหารปติฏฺานํ กตฺวา สาวตฺถึ อคมาสิ.

โกฏิสนฺถรํ สนฺถราเปสีติ กหาปณโกฏิยา กหาปณโกฏึ ปฏิปาเทตฺวา สนฺถริ. เย ตตฺถ รุกฺขา วา โปกฺขรณิโย วา เตสํ ปริกฺเขปปฺปมาณํ คเหตฺวา อฺสฺมึ าเน สนฺถริตฺวา อทาสิ. เอวมสฺส อฏฺารสโกฏิกํ นิธานํ ปริกฺขยํ อคมาสิ.

กุมารสฺส เอตทโหสีติ คหปติโน เอวํ พหุธนํ จชนฺตสฺสาปิ มุขสฺส วิปฺปสนฺนาการํ ทิสฺวา เอตํ อโหสิ. โกฏฺกํ มาเปสีติ สตฺตภูมิกํ ทฺวารโกฏฺกปาสาทํ มาเปสิ.

อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เชตวเน วิหาเร การาเปสิ…เป… มณฺฑเป การาเปสีติ อปราหิปิ อฏฺารสหิ โกฏีหิ เอเต วิหาราทโย การาเปสิ อฏฺกรีสปฺปมาณาย ภูมิยา. วิปสฺสิสฺส หิ ภควโต ปุนพฺพสุมิตฺโต คหปติ โยชนปฺปมาณํ ภูมึ สุวณฺณิฏฺกาสนฺถเรน กิณิตฺวา วิหารํ การาเปสิ. สิขิสฺส ปน สิริวฑฺโฒ คหปติ ติคาวุตปฺปมาณํ สุวณฺณยฏฺิสนฺถเรน, เวสฺสภุสฺส โสตฺถิโช คหปติ อฑฺฒโยชนปฺปมาณํ สุวณฺณผาลสนฺถเรน, กกุสนฺธสฺส ปน อจฺจุโต คหปติ คาวุตปฺปมาณํ สุวณฺณหตฺถิปทสนฺถเรน, โกณาคมนสฺส อุคฺโค คหปติ อฑฺฒคาวุตปฺปมาณํ สุวณฺณิฏฺกาสนฺถเรน, กสฺสปสฺส สุมงฺคโล คหปติ วีสติอุสภปฺปมาณํ สุวณฺณกจฺฉปสนฺถเรน, อมฺหากํ ภควโต สุทตฺโต คหปติ อฏฺกรีสปฺปมาณํ ภูมึ กหาปณสนฺถเรน กิณิตฺวา วิหารํ การาเปสีติ; เอวํ อนุปุพฺเพน ปริหายนฺติ สมฺปตฺติโยติ อลเมว สพฺพสมฺปตฺตีสุ วิรชฺชิตุํ อลํ วิมุจฺจิตุนฺติ.

๓๐๘. ขณฺฑนฺติ ภินฺโนกาโส. ผุลฺลนฺติ ผลิโตกาโส. ปฏิสงฺขริสฺสตีติ ปากติกํ กริสฺสติ. ลทฺธนวกมฺเมน ปน ภิกฺขุนา วาสิผรสุนิขาทนาทีนิ คเหตฺวา สยํ น กาตพฺพํ, กตากตํ ชานิตพฺพํ.

๓๑๐. ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต คนฺตฺวาติ เถโร กิร คิลาเน ปฏิชคฺคนฺโต ชิณฺเณ วุฑฺเฒ สงฺคณฺหนฺโต สพฺพปจฺฉโต อาคจฺฉติ. อิทมสฺส จาริตฺตํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต คนฺตฺวา’’ติ. อคฺคาสนนฺติ เถราสนํ. อคฺโคทกนฺติ ทกฺขิโณทกํ. อคฺคปิณฺฑนฺติ สงฺฆตฺเถรปิณฺฑํ. อนฺตรา สตฺถีนํ กริตฺวาติ จตุนฺนํ ปาทานํ อนฺตเร กริตฺวา.

๓๑๕. ปติฏฺาเปสีติ อฏฺารสโกฏิปริจฺจาคํ กตฺวา ปติฏฺาเปสิ. เอวํ สพฺพาปิ จตุปณฺณาสโกฏิโย ปริจฺจชิ.

วิหารานุชานนกถา นิฏฺิตา.

อาสนปฺปฏิพาหนาทิกถา

๓๑๖. วิปฺปกตโภชโนติ อนฺตรฆเร วา วิหาเร วา อรฺเ วา ยตฺถ กตฺถจิ ภุฺชมาโน ภิกฺขุ อนิฏฺิเต โภชเน น วุฏฺาเปตพฺโพ. อนฺตรฆเร ปจฺฉา อาคเตน ภิกฺขํ คเหตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ มนุสฺสา วา ภิกฺขู วา ‘‘ปวิสถา’’ติ วทนฺติ, ‘‘มยิ ปวิสนฺเต ภิกฺขู อุฏฺหิสฺสนฺตี’’ติ วตฺตพฺพํ. ‘‘เอถ, ภนฺเต, อาสนํ อตฺถี’’ติ วุตฺเตน ปน ปวิสิตพฺพํ. สเจ โกจิ กิฺจิ น วทติ, อาสนสาลํ คนฺตฺวา อติสมีปํ อคนฺตฺวา สภาคฏฺาเน าตพฺพํ. โอกาเส กเต ‘‘ปวิสถา’’ติ วุตฺเตน ปน ปวิสิตพฺพํ. สเจ ปน ยํ อาสนํ ตสฺส ปาปุณาติ, ตตฺถ อภุฺชนฺโต ภิกฺขุ นิสินฺโน โหติ, ตํ อุฏฺาเปตุํ วฏฺฏติ. ยาคุขชฺชกาทีสุ ปน ยํกิฺจิ ปิวิตฺวา วา ขาทิตฺวา วา ยาว อฺโ อาคจฺฉติ, ตาว นิสินฺนํ ริตฺตหตฺถมฺปิ วุฏฺาเปตุํ น วฏฺฏติ. วิปฺปกตโภชโนเยว หิ โส โหติ.

สเจ วุฏฺาเปตีติ สเจ อาปตฺตึ อติกฺกมิตฺวาปิ วุฏฺาเปติเยว. ปวาริโต จ โหตีติ ยํ โส วุฏฺาเปติ, อยฺจ ภิกฺขุ ปวาริโต จ โหติ, เตน วตฺตพฺโพ – ‘‘คจฺฉ อุทกํ อาหราหี’’ติ. วุฑฺฒตรฺหิ ภิกฺขุํ อาณาเปตุํ อิทเมว เอกํ านนฺติ. สเจ โส อุทกมฺปิ น อาหรติ, ตโต ยฺจ นวกตเรน กตฺตพฺพํ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สาธุกํ สิตฺถานี’’ติอาทิมาห.

คิลานสฺส ปติรูปํ เสยฺยนฺติ เอตฺถ โย กาสภคนฺทราติสาราทีหิ คิลาโน โหติ, เขฬมลฺลกวจฺจกปาลาทีนิ เปตพฺพานิ โหนฺติ. กุฏฺิ วา โหติ, เสนาสนํ ทูเสติ; เอวรูปสฺส เหฏฺาปาสาทปณฺณสาลาทีสุ อฺตรํ เอกมนฺตํ เสนาสนํ ทาตพฺพํ. ยสฺมึ วสนฺเต เสนาสนํ น ทุสฺสติ, ตสฺส วรเสยฺยาปิ ทาตพฺพาว. โยปิ สิเนหปานวิเรจนนตฺถุกมฺมาทีสุ ยํกิฺจิ เภสชฺชํ กโรติ, สพฺโพ โส คิลาโนเยว, ตสฺสาปิ สลฺลกฺเขตฺวา ปติรูปํ เสนาสนํ ทาตพฺพํ. เลสกปฺเปนาติ อปฺปเกน สีสาพาธาทิมตฺเตน. ภิกฺขู คเณตฺวาติ ‘‘เอตฺตกา นาม ภิกฺขู’’ติ วิหาเร ภิกฺขูนํ ปริจฺเฉทํ ตฺวา.

อาสนปฺปฏิพาหนาทิกถา นิฏฺิตา.

เสนาสนคฺคาหกถา

๓๑๘. เสยฺยาติ มฺจฏฺานานิ วุจฺจนฺติ. เสยฺยคฺเคนาติ เสยฺยาปริจฺเฉเทน, วสฺสูปนายิกทิวเส กาลํ โฆเสตฺวา เอกมฺจฏฺานํ เอกสฺส ภิกฺขุโน คาเหตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. เสยฺยคฺเคน คาเหนฺตาติ เสยฺยาปริจฺเฉเทน คาหิยมานา. เสยฺยา อุสฺสารยึสูติ มฺจฏฺานานิ อติเรกานิ อเหสุํ. วิหารคฺคาทีสุปิ เอเสว นโย. อนุภาคนฺติ ปุน อปรมฺปิ ภาคํ ทาตุํ. อติมนฺเทสุ หิ ภิกฺขูสุ เอเกกสฺส ภิกฺขุโน ทฺเว ตีณิ ปริเวณานิ ทาตพฺพานิ. น อกามา ทาตพฺโพติ อนิจฺฉาย น ทาตพฺโพ. ตตฺถ วสฺสูปนายิกทิวเส คหิเต อนุภาเค ปจฺฉา อาคตานํ น อตฺตโน อรุจิยา โส อนุภาโค ทาตพฺโพ. สเจ ปน เยน คหิโต, โส จ อตฺตโน รุจิยา ตํ อนุภาคํ วา ปมภาคํ วา เทติ, วฏฺฏติ.

นิสฺสีเม ิตสฺสาติ อุปจารสีมโต พหิ ิตสฺส. อนฺโต อุปจารสีมาย ปน ทูเร ิตสฺสาปิ ลพฺภติเยว. เสนาสนํ คเหตฺวาติ วสฺสูปนายิกทิวเส คเหตฺวา. สพฺพกาลํ ปฏิพาหนฺตีติ จตุมาสจฺจเยน อุตุกาเลปิ ปฏิพาหนฺติ. ตีสุ เสนาสนคฺคาเหสุ ปุริมโก จ ปจฺฉิมโก จาติ อิเม ทฺเว คาหา ถาวรา.

อนฺตรามุตฺตเก อยํ วินิจฺฉโย – เอกสฺมึ วิหาเร มหาลาภเสนาสนํ โหติ. เสนาสนสามิกา วสฺสูปคตํ ภิกฺขุํ สพฺพปจฺจเยหิ สกฺกจฺจํ อุปฏฺหิตฺวา ปวาเรตฺวา คมนกาเล พหุํ สมณปริกฺขารํ เทนฺติ. มหาเถรา ทูรโตปิ อาคนฺตฺวา วสฺสูปนายิกทิวเส ตํ คเหตฺวา ผาสุํ วสิตฺวา วุตฺถวสฺสา ลาภํ คณฺหิตฺวา ปกฺกมนฺติ. อาวาสิกา ‘‘มยํ เอตฺถุปฺปนฺนํ ลาภํ น ลภาม, นิจฺจํ อาคนฺตุกมหาเถราว ลภนฺติ, เตเยว นํ อาคนฺตฺวา ปฏิชคฺคิสฺสนฺตี’’ติ ปลุชฺชนฺตมฺปิ น โอโลเกนฺติ. ภควา ตสฺส ปฏิชคฺคนตฺถํ ‘‘อปรชฺชุคตาย ปวารณาย อายตึ วสฺสาวาสตฺถาย อนฺตรามุตฺตโก คาเหตพฺโพ’’ติ อาห.

ตํ คาเหนฺเตน สงฺฆตฺเถโร วตฺตพฺโพ – ‘‘ภนฺเต อนฺตรามุตฺตกเสนาสนํ คณฺหถา’’ติ. สเจ คณฺหาติ, ทาตพฺพํ; โน เจ เอเตเนว อุปาเยน อนุเถรํ อาทึ กตฺวา โย คณฺหาติ, ตสฺส อนฺตมโส สามเณรสฺสาปิ ทาตพฺพํ. เตน ตํ เสนาสนํ อฏฺมาเส ปฏิชคฺคิตพฺพํ. ฉทนภิตฺติภูมีสุ ยํ กิฺจิ ขณฺฑํ วา ผุลฺลํ วา โหติ, ตํ สพฺพํ ปฏิสงฺขริตพฺพํ. อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีหิ ทิวสํ เขเปตฺวา รตฺตึ ตตฺถ วสิตุมฺปิ วฏฺฏติ. รตฺตึ ปริเวเณ วสิตฺวา ตตฺถ ทิวสํ เขเปตุมฺปิ วฏฺฏติ. รตฺตินฺทิวํ ตตฺเถว วสิตุมฺปิ วฏฺฏติ. อุตุกาเล อาคตานํ วุฑฺฒานํ น ปฏิพาหิตพฺพํ. วสฺสูปนายิกทิวเส ปน สมฺปตฺเต สเจ สงฺฆตฺเถโร ‘‘มยฺหํ อิทํ เสนาสนํ เทถา’’ติ วทติ, น ลภติ. ‘‘ภนฺเต, อิทํ อนฺตรามุตฺตกํ คเหตฺวา อฏฺมาเส เอเกน ภิกฺขุนา ปฏิชคฺคิต’’นฺติ วตฺวา น ทาตพฺพํ. อฏฺมาเส ปฏิชคฺคกภิกฺขุสฺเสว คหิตํ โหติ.

ยสฺมึ ปน เสนาสเน เอกสํวจฺฉเร ทฺวิกฺขตฺตุํ ปจฺจเย เทนฺติ ฉมาสจฺจเยน ฉมาสจฺจเยน, ตํ อนฺตรามุตฺตกํ น คาเหตพฺพํ. ยสฺมึ วา ติกฺขตฺตุํ เทนฺติ จตุมาสจฺจเยน จตุมาสจฺจเยน, ยสฺมึ วา จตุกฺขตฺตุํ เทนฺติ เตมาสจฺจเยน เตมาสจฺจเยน, ตํ อนฺตรามุตฺตกํ น คาเหตพฺพํ. ปจฺจเยเนว หิ ตํ ปฏิชคฺคนํ ลภิสฺสติ. ยสฺมึ ปน เอกสํวจฺฉเร สกิเทว พหุปจฺจเย เทนฺติ, เอตํ อนฺตรามุตฺตกํ คาเหตพฺพนฺติ. อยํ ตาว อนฺโตวสฺเส วสฺสูปนายิกทิวเสน ปาฬิยํ อาคตเสนาสนคฺคาหกถา.

อยํ ปน เสนาสนคฺคาโห นาม ทุวิโธ โหติ – อุตุกาเล จ วสฺสาวาเส จ. ตตฺถ อุตุกาเล ตาว เกจิ อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปุเรภตฺตํ อาคจฺฉนฺติ, เกจิ ปจฺฉาภตฺตํ ปมยามํ วา มชฺฌิมยามํ วา ปจฺฉิมยามํ วา เย ยทา อาคจฺฉนฺติ, เตสํ ตทาว ภิกฺขู อุฏฺาเปตฺวา เสนาสนํ ทาตพฺพํ. อกาโล นาม นตฺถิ. เสนาสนปฺาปเกน ปน ปณฺฑิเตน ภวิตพฺพํ, เอกํ วา ทฺเว วา มฺจฏฺานานิ เปตพฺพานิ. สเจ วิกาเล เอโก วา ทฺเว วา เถรา อาคจฺฉนฺติ, เต วตฺตพฺพา – ‘‘ภนฺเต, อาทิโต ปฏฺาย วุฏฺาปิยมาเน สพฺเพปิ ภิกฺขู อุพฺภณฺฑิกา ภวิสฺสนฺติ, ตุมฺเห อมฺหากํ วสนฏฺาเนเยว วสถา’’ติ.

พหูสุ ปน อาคเตสุ วุฏฺาเปตฺวา ปฏิปาฏิยา ทาตพฺพํ. สเจ เอเกกํ ปริเวณํ ปโหติ, เอเกกํ ปริเวณํ ทาตพฺพํ. ตตฺถ อคฺคิสาลทีฆสาลมณฺฑลมาลาทโย สพฺเพปิ ตสฺเสว ปาปุณนฺติ. เอวํ อปฺปโหนฺเต ปาสาทคฺเคน ทาตพฺพํ. ปาสาเทสุ อปฺปโหนฺเตสุ โอวรกคฺเคน ทาตพฺพํ. โอวรเกสุ อปฺปโหนฺเตสุ เสยฺยคฺเคน ทาตพฺพํ. เสยฺยคฺเคสุ อปฺปโหนฺเตสุ มฺจฏฺาเนน ทาตพฺพํ. มฺจฏฺาเน อปฺปโหนฺเต เอกปีกฏฺานวเสน ทาตพฺพํ. ภิกฺขุโน ปน ิโตกาสมตฺตํ น คาเหตพฺพํ. เอตฺหิ เสนาสนํ นาม น โหติ. ปีกฏฺาเน ปน อปฺปโหนฺเต เอกํ มฺจฏฺานํ วา ปีกฏฺานํ วา วาเรน วาเรน คเหตฺวา ‘‘ภนฺเต, วิสฺสมถา’’ติ ติณฺณํ ชนานํ ทาตพฺพํ, น หิ สกฺกา สีตสมเย สพฺพรตฺตึ อชฺโฌกาเส วสิตุํ. มหาเถเรน ปมยามํ วิสฺสมิตฺวา นิกฺขมิตฺวา ทุติยตฺเถรสฺส วตฺตพฺพํ – ‘‘อาวุโส, อิธ ปวิสาหี’’ติ. สเจ มหาเถโร นิทฺทาครุโก โหติ, กาลํ น ชานาติ, อุกฺกาสิตฺวา ทฺวารํ อาโกเฏตฺวา ‘‘ภนฺเต, กาโล ชาโต, สีตํ อนุทหตี’’ติ วตฺตพฺพํ. เตน นิกฺขมิตฺวา โอกาโส ทาตพฺโพ, อทาตุํ น ลภติ. ทุติยตฺเถเรนปิ มชฺฌิมยามํ วิสฺสมิตฺวา ปุริมนเยเนว อิตรสฺส ทาตพฺพํ. นิทฺทาครุโก วุตฺตนเยเนว วุฏฺาเปตพฺโพ. เอวํ เอกรตฺตึ เอกมฺจฏฺานํ ติณฺณํ ทาตพฺพํ. ชมฺพุทีเป ปน เอกจฺเจ ภิกฺขู ‘‘เสนาสนํ นาม มฺจฏฺานํ วา ปีฏฺานํ วา กิฺจิเทว กสฺสจิ สปฺปายํ โหติ, กสฺสจิ อสปฺปาย’’นฺติ อาคนฺตุกา โหนฺตุ วา มา วา, เทวสิกํ เสนาสนํ คาเหนฺติ. อยํ อุตุกาเล เสนาสนคฺคาโห นาม.

วสฺสาวาเส ปน อตฺถิ อาคนฺตุกวตฺตํ, อตฺถิ อาวาสิกวตฺตํ, อาคนฺตุเกน ตาว สกฏฺานํ มุฺจิตฺวา อฺตฺถ คนฺตฺวา วสิตุกาเมน วสฺสูปนายิกทิวสเมว ตตฺถ น คนฺตพฺพํ. วสนฏฺานํ วา หิ ตตฺร สมฺพาธํ ภเวยฺย, ภิกฺขาจาโร วา น สมฺปชฺเชยฺย, เตน น ผาสุํ วิหเรยฺย. ตสฺมา ‘‘อิทานิ มาสมตฺเตน วสฺสูปนายิกา ภวิสฺสตี’’ติ ตํ วิหารํ ปวิสิตพฺพํ. ตตฺถ มาสมตฺตํ วสนฺโต สเจ อุทฺเทสตฺถิโก อุทฺเทสสมฺปตฺตึ สลฺลกฺเขตฺวา, สเจ กมฺมฏฺานิโก กมฺมฏฺานสปฺปายตํ สลฺลกฺเขตฺวา, สเจ ปจฺจยตฺถิโก ปจฺจยลาภํ สลฺลกฺเขตฺวา อนฺโตวสฺเส สุขํ วสิสฺสติ.

สกฏฺานโต จ ตตฺถ คจฺฉนฺเตน น โคจรคาโม ฆฏฺเฏตพฺโพ, น ตตฺถ มนุสฺสา วตฺตพฺพา – ‘‘ตุมฺเห นิสฺสาย สลากภตฺตาทีนิ วา ยาคุขชฺชกาทีนิ วา วสฺสาวาสิกํ วา นตฺถิ, อยํ เจติยสฺส ปริกฺขาโร, อยํ อุโปสถาคารสฺส, อิทํ ตาฬฺเจว สูจิ จ สมฺปฏิจฺฉถ ตุมฺหากํ วิหาร’’นฺติ. เสนาสนํ ปน ชคฺคิตฺวา ทารุภณฺฑมตฺติกาภณฺฑานิ ปฏิสาเมตฺวา คมิยวตฺตํ ปูเรตฺวา คนฺตพฺพํ. เอวํ คจฺฉนฺเตนาปิ ทหเรหิ ปตฺตจีวรภณฺฑิกาโย อุกฺขิปาเปตฺวา เตลนาฬิกตฺตรทณฺฑาทีนิ คาหาเปตฺวา ฉตฺตํ ปคฺคยฺห อตฺตานํ ทสฺเสนฺเตน คามทฺวาเรเนว น คนฺตพฺพํ, ปฏิจฺฉนฺเนน อฏวิมคฺเคน คนฺตพฺพํ. อฏวิมคฺเค อสติ คุมฺพาทีนิ มทฺทนฺเตน น คนฺตพฺพํ, คมิยวตฺตํ ปน ปูเรตฺวา วิตกฺกํ ฉินฺทิตฺวา สุทฺธจิตฺเตน คมนวตฺเตเนว คนฺตพฺพํ. สเจ ปน คามทฺวาเรน มคฺโค โหติ, คจฺฉนฺตฺจ นํ สปริวารํ ทิสฺวา มนุสฺสา ‘‘อมฺหากํ เถโร วิยา’’ติ อุปธาวิตฺวา ‘‘กุหึ, ภนฺเต, สพฺพปริกฺขาเร คเหตฺวา คจฺฉถา’’ติ วทนฺติ, เตสุ เจ เอโก เอวํ วทติ – ‘‘วสฺสูปนายิกกาโล นามายํ, ยตฺถ อนฺโตวสฺเส นิพทฺธภิกฺขาจาโร ภณฺฑปฏิจฺฉาทนฺจ ลพฺภติ, ตตฺถ ภิกฺขู คจฺฉนฺตี’’ติ. ตสฺส เจ สุตฺวา เต มนุสฺสา ‘‘ภนฺเต, อิมสฺมิมฺปิ คาเม ชโน ภุฺชติ เจว นิวาเสติ จ, มา อฺตฺถ คจฺฉถา’’ติ วตฺวา มิตฺตามจฺเจ ปกฺโกสาเปตฺวา สพฺเพ สมฺมนฺตยิตฺวา วิหาเร นิพทฺธวตฺตฺจ สลากภตฺตาทีนิ จ วสฺสาวาสิกฺจ ปฏฺเปตฺวา ‘‘อิเธว ภนฺเต วสถา’’ติ ยาจนฺติ, สพฺพํ สาทิตุํ วฏฺฏติ. สพฺพฺเหตํ กปฺปิยฺเจว อนวชฺชฺจ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘‘กุหึ คจฺฉถา’ติ วุตฺเต ‘อสุกฏฺาน’นฺติ วตฺวา, ‘กสฺมา ตตฺถ คจฺฉถา’ติ วุตฺเต ‘การณํ อาจิกฺขิตพฺพ’’’นฺติ วุตฺตํ. อุภยมฺปิ ปเนตฺถ สุทฺธจิตฺตตฺตาว อนวชฺชํ. อิทํ อาคนฺตุกวตฺตํ นาม.

อิทํ ปน อาวาสิกวตฺตํ – ปฏิกจฺเจว หิ อาวาสิเกหิ วิหาโร ชคฺคิตพฺโพ. ขณฺฑผุลฺลปฏิสงฺขรณปริภณฺฑานิ กาตพฺพานิ. รตฺติฏฺานทิวาฏฺานวจฺจกุฏิปสฺสาวฏฺานานิ ปธานฆรวิหารมคฺโคติ อิมานิ สพฺพานิ ปฏิชคฺคิตพฺพานิ, เจติเย สุธากมฺมํ มุทฺทเวทิกาย เตลมกฺขนํ มฺจปีปฏิชคฺคนนฺติ อิทมฺปิ สพฺพํ กาตพฺพํ – ‘‘วสฺสํ วสิตุกามา อาคนฺตฺวา อุทฺเทสปริปุจฺฉากมฺมฏฺานานุโยคาทีนิ กโรนฺตา สุขํ วสิสฺสนฺตี’’ติ. กตปริกมฺเมหิ อาสาฬฺหีชุณฺหปฺจมิโต ปฏฺาย วสฺสาวาสิกํ ปุจฺฉิตพฺพํ. กตฺถ ปุจฺฉิตพฺพํ? ยโต ปกติยา ลพฺภติ. เยหิ ปน น ทินฺนปุพฺพํ, เต ปุจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ. กสฺมา ปุจฺฉิตพฺพํ? กทาจิ หิ มนุสฺสา เทนฺติ, กทาจิ ทุพฺภิกฺขาทีหิ อุปทฺทุตา น เทนฺติ. ตตฺถ เย น ทสฺสนฺติ, เต อปุจฺฉิตฺวา วสฺสาวาสิเก คาหิเต คาหิตภิกฺขูนํ ลาภนฺตราโย โหติ, ตสฺมา ปุจฺฉิตฺวาว คาเหตพฺพํ, ปุจฺฉนฺเตน ‘‘ตุมฺหากํ วสฺสาวาสิกคฺคาหกกาโล อุปกฏฺโ’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ วทนฺติ ‘‘ภนฺเต, อิมํ สํวจฺฉรํ ฉาตกาทีหิ อุปทฺทุตมฺห, น สกฺโกม ทาตุ’’นฺติ วา ‘‘ยํ มยํ ปุพฺเพ เทม, ตโต อูนตรํ ทสฺสามา’’ติ วา ‘‘อิทานิ กปฺปาโส สุลโภ, ยํ ปุพฺเพ เทม, ตโต พหุตรํ ทสฺสามา’’ติ วา วทนฺติ, ตํ สลฺลกฺเขตฺวา ตทนุรูเปน นเยน เตสํ เตสํ เสนาสเน ภิกฺขูนํ วสฺสาวาสิกํ คาเหตพฺพํ.

สเจ มนุสฺสา วทนฺติ – ‘‘ยสฺส อมฺหากํ วสฺสาวาสิกํ ปาปุณาติ, โส เตมาสํ ปานียํ อุปฏฺาเปตุ, วิหารมคฺคํ ชคฺคตุ, เจติยงฺคณโพธิยงฺคณานิ ชคฺคตุ, โพธิรุกฺเข อุทกํ อาสิฺจตู’’ติ, ยสฺส ตํ ปาปุณาติ, ตสฺส อาจิกฺขิตพฺพํ. โย ปน คาโม ปฏิกฺกมฺม โยชนทฺวิโยชนนฺตเร โหติ, ตตฺร เจ กุลานิ อุปนิกฺเขปํ เปตฺวา วิหาเร วสฺสาวาสิกํ เทนฺติเยว, ตานิ กุลานิ อปุจฺฉิตฺวาปิ เตสํ เสนาสเน วตฺตํ กตฺวา วสนฺตสฺส วสฺสาวาสิกํ คาเหตพฺพํ. สเจ ปน เตสํ เสนาสเน ปํสุกูลิโก วสติ, อาคตฺจ ตํ ทิสฺวา ‘‘ตุมฺหากํ วสฺสาวาสิกํ เทมา’’ติ วทนฺติ, เตน สงฺฆสฺส อาจิกฺขิตพฺพํ. สเจ ตานิ กุลานิ สงฺฆสฺส ทาตุํ น อิจฺฉนฺติ, ‘‘ตุมฺหากํเยว เทมา’’ติ วทนฺติ, สภาโค ภิกฺขุ ‘‘วตฺตํ กตฺวา คณฺหาหี’’ติ วตฺตพฺโพ. ปํสุกูลิกสฺส ปเนตํ น วฏฺฏติ, อิติ สทฺธาเทยฺเย ทายกมนุสฺสา ปุจฺฉิตพฺพา.

ตตฺรุปฺปาเท ปน กปฺปิยการกา ปุจฺฉิตพฺพา. กถํ ปุจฺฉิตพฺพา? ‘‘กึ, อาวุโส, สงฺฆสฺส ภณฺฑปฏิจฺฉาทนํ ภวิสฺสตี’’ติ. สเจ วทนฺติ – ‘‘ภวิสฺสติ, ภนฺเต, เอเกกสฺส นวหตฺถํ สาฏกํ ทสฺสาม, วสฺสาวาสิกํ คาเหถา’’ติ, คาเหตพฺพํ. สเจปิ วทนฺติ – ‘‘สาฏกํ นตฺถิ; วตฺถุ ปน อตฺถิ, คาเหถ, ภนฺเต’’ติ, วตฺถุมฺหิ สนฺเตปิ คาเหตุํ วฏฺฏติเยว. กปฺปิยการกานฺหิ หตฺเถ ‘‘กปฺปิยภณฺฑํ ปริภุฺชถา’’ติ ทินฺนวตฺถุโต ยํ ยํ กปฺปํ, ตํ ตํ สพฺพํ ปริภุฺชิตุํ อนุฺาตํ.

ยํ ปเนตฺถ ปิณฺฑปาตตฺถาย คิลานปจฺจยตฺถาย วา อุทฺทิสฺส ทินฺนํ, ตํ จีวเร อุปนาเมนฺเตหิ สงฺฆสุฏฺุตาย อปโลเกตฺวา อุปนาเมตพฺพํ. เสนาสนตฺถาย อุทฺทิสฺส ทินฺนํ ครุภณฺฑํ โหติ, จีวรวเสเนว จตุปจฺจยวเสน วา ทินฺนํ จีวเร อุปนาเมนฺตานํ อปโลกนกมฺมกิจฺจํ นตฺถิ, อปโลกนกมฺมํ กโรนฺเตหิ จ ปุคฺคลวเสเนว กาตพฺพํ, สงฺฆวเสน น กาตพฺพํ. ชาตรูปรชตวเสนาปิ อามกธฺวเสน วา อปโลกนกมฺมํ น วฏฺฏติ. กปฺปิยภณฺฑวเสน จีวรตณฺฑุลาทิวเสเนว จ วฏฺฏติ. ตํ ปน เอวํ กตฺตพฺพํ – ‘‘อิทานิ สุภิกฺขํ สุลภปิณฺฑํ, ภิกฺขู จีวเรน กิลมนฺติ, เอตฺตกํ นาม ตณฺฑุลภาคํ ภิกฺขูนํ จีวรํ กาตุํ รุจฺจตี’’ติ. ‘‘คิลานปจฺจโย สุลโภ คิลาโน วา นตฺถิ, เอตฺตกํ นาม ตณฺฑุลภาคํ ภิกฺขูนํ จีวรํ กาตุํ รุจฺจตี’’ติ.

เอวํ จีวรปจฺจยํ สลฺลกฺเขตฺวา เสนาสนสฺส กาเล โฆสิเต สนฺนิปติเต สงฺเฆ เสนาสนคฺคาหโก สมฺมนฺนิตพฺโพ. สมฺมนฺนนฺเตน จ ทฺเว สมฺมนฺนิตพฺพาติ วุตฺตํ. เอวฺหิ นวโก วุฑฺฒตรสฺส, วุฑฺโฒ จ นวกสฺส คาเหสฺสติ. มหนฺเต ปน มหาวิหารสทิเส วิหาเร ตโย จตฺตาโร ชนา สมฺมนฺนิตพฺพา. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘อฏฺปิ โสฬสปิ ชเน สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. เตสํ สมฺมุติ กมฺมวาจายปิ อปโลกเนนปิ วฏฺฏติเยว.

เตหิ สมฺมเตหิ ภิกฺขูหิ เสนาสนํ สลฺลกฺเขตพฺพํ, เจติยฆรํ โพธิฆรํ อาสนฆรํ สมฺมุฺชนิอฏฺโฏ ทารุอฏฺโฏ วจฺจกุฏิ อิฏฺกสาลา วฑฺฒกิสาลา ทฺวารโกฏฺโก ปานียมาโฬ มคฺโค โปกฺขรณีติ เอตานิ หิ อเสนาสนานิ, วิหาโร อฑฺฒโยโค ปาสาโท หมฺมิยํ คุหา มณฺฑโป รุกฺขมูลํ เวฬุคุมฺโพติ อิมานิ เสนาสนานิ, ตานิ คาเหตพฺพานิ. คาเหนฺเตน จ ‘‘ปมํ ภิกฺขู คเณตุํ, ภิกฺขู คเณตฺวา เสยฺยา คเณตุ’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตนเยน คาเหตพฺพานิ. สเจ สงฺฆิโก จ สทฺธาเทยฺโย จาติ ทฺเว จีวรปจฺจยา โหนฺติ, เตสุ ยํ ภิกฺขู ปมํ คณฺหิตุํ อิจฺฉนฺติ, ตํ คาเหตฺวา ตสฺส ิติกโต ปฏฺาย อิตโร คาเหตพฺโพ.

สเจ ปน ภิกฺขูนํ อปฺปตาย ปริเวณคฺเคน เสนาสเน คาหิยมาเน เอกํ ปริเวณํ มหาลาภํ โหติ, ทส วา ทฺวาทส วา จีวรานิ ลภนฺติ, ตํ วิชเฏตฺวา อฺเสุ อลาภเกสุ อาวาเสสุ ปกฺขิปิตฺวา อฺเสมฺปิ ภิกฺขูนํ คาเหตพฺพนฺติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘น เอวํ กาตพฺพํ, มนุสฺสา หิ อตฺตโน อาวาสชคฺคนตฺถาย ปจฺจยํ เทนฺติ, ตสฺมา อฺเหิ ภิกฺขูหิ ตตฺถ ปวิสิตพฺพ’’นฺติ. สเจ ปเนตฺถ มหาเถโร ปฏิกฺโกสติ – ‘‘มาวุโส, เอวํ คาเหถ, ภควโต อนุสิฏฺึ กโรถ, วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปริเวณคฺเคน คาเหตุ’’’นฺติ ตสฺส ปฏิกฺโกสนาย อฏฺตฺวา ‘‘ภนฺเต ภิกฺขู พหู, ปจฺจโย มนฺโท, สงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ ตํ สฺาเปตฺวา คาเหตพฺพเมว.

คาเหนฺเตน จ สมฺมเตน ภิกฺขุนา มหาเถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา เอวํ วตฺตพฺพํ – ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ เสนาสนํ ปาปุณาติ, คณฺหถ ปจฺจยํ ธาเรถา’’ติ. ‘‘อสุกกุลสฺส ปจฺจโย อสุกเสนาสนฺจ มยฺหํ ปาปุณาติ, อาวุโส’’ติ, ‘‘ปาปุณาติ, ภนฺเต, คณฺหถ น’’นฺติ, ‘‘คณฺหามิ, อาวุโส’’ติ, คหิตํ โหติ. สเจ ปน ‘‘คหิตํ โว, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘คหิตํ เม’’ติ วา ‘‘คณฺหิสฺสถ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘คณฺหิสฺสามี’’ติ วา วทติ, ‘‘อคหิตํ โหตี’’ติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘อตีตานาคตวจนํ วา โหตุ, วตฺตมานวจนํ วา, สตุปฺปาทมตฺตอาลยกรณมตฺตเมว เจตฺถ ปมาณํ, ตสฺมา คหิตเมว โหตี’’ติ.

โยปิ ปํสุกูลิโก ภิกฺขุ เสนาสนํ คเหตฺวา ปจฺจยํ วิสฺสชฺเชติ, อยมฺปิ น อฺสฺมึ อาวาเส ปกฺขิปิตพฺโพ. ตสฺมึเยว ปริเวเณ อคฺคิสาลาย วา ทีฆสาลาย วา รุกฺขมูเล วา อฺสฺส คาเหตุํ วฏฺฏติ. ปํสุกูลิโก ‘‘วสามี’’ติ เสนาสนํ ชคฺคิสฺสติ, อิตโร ‘‘ปจฺจยํ คณฺหามี’’ติ, เอวํ ทฺวีหิ การเณหิ เสนาสนํ สุชคฺคิตตรํ ภวิสฺสติ. มหาปจฺจริยํ ปน วุตฺตํ – ‘‘ปํสุกูลิเก วาสตฺถาย เสนาสนํ คณฺหนฺเต เสนาสนคฺคาหาปเกน วตฺตพฺพํ – ‘ภนฺเต, อิธ ปจฺจโย อตฺถิ, โส กึ กาตพฺโพ’ติ. เตน ‘เหฏฺา อฺํ คาหาเปหี’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ ปน กิฺจิ อวตฺวาว วสติ, วุตฺถวสฺสสฺส จ ปาทมูเล เปตฺวา สาฏกํ เทนฺติ, วฏฺฏติ. อถ วสฺสาวาสิกํ เทมาติ วทนฺติ, ตสฺมึ เสนาสเน วสฺสํวุตฺถภิกฺขูนํ ปาปุณาตี’’ติ. เยสํ ปน เสนาสนํ นตฺถิ; เกวลํ ปจฺจยเมว เทนฺติ, เตสํ ปจฺจยํ อวสฺสาวาสิเก เสนาสเน คาเหตุํ วฏฺฏติ.

มนุสฺสา ถูปํ กตฺวา วสฺสาวาสิกํ คาหาเปนฺติ, ถูโป นาม อเสนาสนํ, ตสฺส สมีเป รุกฺเข วา มณฺฑเป วา อุปนิพนฺธิตฺวา คาหาเปตพฺพํ. เตน ภิกฺขุนา เจติยํ ปฏิชคฺคิตพฺพํ. โพธิรุกฺขโพธิฆรอาสนฆรสมฺมุฺชนิอฏฺฏทารุอฏฺฏวจฺจกุฏิทฺวารโกฏฺกปานียมาฬกทนฺตกฏฺมาฬเกสุปิ เอเสว นโย. โภชนสาลา ปน เสนาสนเมว, ตสฺมา ตํ เอกสฺส วา พหูนํ วา ปริจฺฉินฺทิตฺวา คาเหตุํ วฏฺฏตีติ สพฺพมิทํ วิตฺถาเรน มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.

เสนาสนคฺคาหาปเกน ปน ปาฏิปทอรุณโต ปฏฺาย ยาว ปุน อรุณํ น ภิชฺชติ ตาว คาเหตพฺพํ, อิทฺหิ เสนาสนคฺคาหสฺส เขตฺตํ. สเจ ปาโตว คาหิเต เสนาสเน อฺโ วิตกฺกจาริโก ภิกฺขุ อาคนฺตฺวา เสนาสนํ ยาจติ, ‘‘คหิตํ, ภนฺเต, เสนาสนํ, วสฺสูปคโต สงฺโฆ, รมณีโย วิหาโร, รุกฺขมูลาทีสุ ยตฺถ อิจฺฉถ ตตฺถ วสถา’’ติ วตฺตพฺโพ. วสฺสูปคเตหิ อนฺโตวสฺเส นิพทฺธวตฺตํ เปตฺวา วสฺสูปคตา ภิกฺขู ‘‘สมฺมุฺชนิโย พนฺธถา’’ติ วตฺตพฺพา. สุลภา เจ ทณฺฑกา เจว สลากาโย จ โหนฺติ, เอเกเกน ฉ ปฺจ มุฏฺิสมฺมุฺชนิโย, ทฺเว ติสฺโส ยฏฺิสมฺมุฺชนิโย วา พนฺธิตพฺพา. ทุลฺลภา เจ โหนฺติ, ทฺเว ติสฺโส มุฏฺิสมฺมุฺชนิโย เอกา ยฏฺิสมฺมุฺชนี พนฺธิตพฺพา. สามเณเรหิ ปฺจ ปฺจ อุกฺกา โกฏฺเฏตพฺพา. วสนฏฺาเน กสาวปริภณฺฑํ กาตพฺพํ.

วตฺตํ กโรนฺเตหิ ปน ‘‘น อุทฺทิสิตพฺพํ, น อุทฺทิสาเปตพฺพํ, น สชฺฌาโย กาตพฺโพ, น ปพฺพาเชตพฺพํ, น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น ธมฺมสวนํ กาตพฺพํ, สพฺเพว หิ เอเต ปปฺจา. นิปฺปปฺจา หุตฺวา สมณธมฺมเมว กริสฺสามา’’ติ วา ‘‘สพฺเพ เตรส ธุตงฺคานิ สมาทิยนฺตุ, เสยฺยํ อกปฺเปตฺวา านจงฺกเมหิ วีตินาเมนฺตุ, มูคพฺพตํ คณฺหนฺตุ, สตฺตาหกรณีเยน คตาปิ ภาชนียภณฺฑํ ลภนฺตู’’ติ วา เอวรูปํ อธมฺมิกวตฺตํ น กาตพฺพํ. เอวํ ปน กาตพฺพํ – ปริยตฺติธมฺโม นาม ติวิธมฺปิ สทฺธมฺมํ ปติฏฺาเปติ; ตสฺมา สกฺกจฺจํ อุทฺทิสถ, อุทฺทิสาเปถ, สชฺฌายํ กโรถ, ปธานฆเร วสนฺตานํ สงฺฆฏฺฏนํ อกตฺวา อนฺโตวิหาเร นิสีทิตฺวา อุทฺทิสถ, อุทฺทิสาเปถ, สชฺฌายํ กโรถ, ธมฺมสวนํ สมิทฺธํ กโรถ, ปพฺพาเชนฺตา โสเธตฺวา ปพฺพาเชถ, โสเธตฺวา อุปสมฺปาเทถ, โสเธตฺวา นิสฺสยํ เทถ, เอโกปิ หิ กุลปุตฺโต ปพฺพชฺชํ อุปสมฺปทฺจ ลภิตฺวา สกลสาสนํ ปติฏฺาเปติ, อตฺตโน ถาเมน ยตฺตกานิ สกฺโกถ ตตฺตกานิ ธุตงฺคานิ สมาทิยถ. อนฺโตวสฺสํ นาเมตํ สกลทิวสํ รตฺติยา จ ปมปจฺฉิมยาเมสุ อปฺปมตฺเตหิ ภวิตพฺพํ, วีริยํ อารภิตพฺพํ. โปราณกมหาเถราปิ สพฺพปลิโพเธ ฉินฺทิตฺวา อนฺโตวสฺเส เอกจาริกวตฺตํ ปูรยึสุ, ภสฺเส มตฺตํ ชานิตฺวา ทสวตฺถุกกถํ ทสอสุภทสานุสฺสติอฏฺตึสารมฺมณกถฺจ กาตุํ วฏฺฏติ, อาคนฺตุกานํ วตฺตํ กาตุํ สตฺตาหกรณีเยน คตานํ อปโลเกตฺวา ทาตุํ วฏฺฏตีติ เอวรูปํ วตฺตํ กาตพฺพํ.

อปิจ ภิกฺขู โอวทิตพฺพา – ‘‘วิคฺคาหิกปิสุณผรุสวจนานิ มา วทถ, ทิวเส ทิวเส สีลานิ อาวชฺเชนฺตา จตุรารกฺขํ อหาเปนฺตา มนสิการพหุลา วิหรถา’’ติ. ทนฺตกฏฺขาทนวตฺตํ อาจิกฺขิตพฺพํ, เจติยํ วา โพธึ วา วนฺทนฺเตน คนฺธมาลํ วา ปูเชนฺเตน ปตฺตํ วา ถวิกาย ปกฺขิปนฺเตน น กเถตพฺพํ, ภิกฺขาจารวตฺตํ อาจิกฺขิตพฺพํ – ‘‘อนฺโตคาเม มนุสฺเสหิ สทฺธึ ปจฺจยสฺุตฺตกถา วา วิสภาคกถา วา น กเถตพฺพา, รกฺขิตินฺทฺริเยหิ ภวิตพฺพํ, ขนฺธกวตฺตฺจ เสขิยวตฺตฺจ ปูเรตพฺพ’’นฺติ เอวรูปา พหุกาปิ นิยฺยานิกกถา อาจิกฺขิตพฺพาติ.

ปจฺฉิมวสฺสูปนายิกทิวเส ปน สเจ กาลํ โฆเสตฺวา สนฺนิปติเต สงฺเฆ โกจิ ทสหตฺถํ วตฺถํ อาหริตฺวา วสฺสาวาสิกํ เทติ, อาคนฺตุโก สเจ ภิกฺขุ สงฺฆตฺเถโร โหติ, ตสฺส ทาตพฺพํ. นวโก เจ โหติ, สมฺมเตน ภิกฺขุนา สงฺฆตฺเถโร วตฺตพฺโพ – ‘‘สเจ ภนฺเต อิจฺฉถ, ปมภาคํ มุฺจิตฺวา อิทํ วตฺถํ คณฺหถา’’ติ, อมุฺจนฺตสฺส น ทาตพฺพํ. สเจ ปน ปุพฺเพ คาหิตํ มุฺจิตฺวา คณฺหาติ, ทาตพฺพํ. เอเตเนวุปาเยน ทุติยตฺเถรโต ปฏฺาย ปริวตฺเตตฺวา ปตฺตฏฺาเน อาคนฺตุกสฺส ทาตพฺพํ. สเจ ปมวสฺสูปคตา ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ วา วตฺถานิ อลตฺถุํ, ลทฺธํ ลทฺธํ เอเตเนวุปาเยน วิสฺสชฺชาเปตฺวา ยาว อาคนฺตุกสฺส สมกํ โหติ, ตาว ทาตพฺพํ. เตน ปน สมเก ลทฺเธ อวสิฏฺโ อนุภาโค เถราสเน ทาตพฺโพ. ปจฺจุปฺปนฺเน ลาเภ สติ ิติกาย คาเหตุํ กติกํ กาตุํ วฏฺฏติ.

สเจ ทุพฺภิกฺขํ โหติ, ทฺวีสุปิ วสฺสูปนายิกาสุ วสฺสูปคตา ภิกฺขู ภิกฺขาย กิลมนฺตา ‘‘อาวุโส, อิธ วสนฺตา สพฺเพว กิลมาม, สาธุ วต ทฺเวภาคา โหม, เยสํ าติปวาริตฏฺานานิ อตฺถิ, เต ตตฺถ วสิตฺวา ปวารณาย อาคนฺตฺวา อตฺตโน ปตฺตํ วสฺสาวาสิกํ คณฺหนฺตู’’ติ วทนฺติ, เตสุ เย ตตฺถ วสิตฺวา ปวารณาย อาคจฺฉนฺติ, เตสํ อปโลเกตฺวา วสฺสาวาสิกํ ทาตพฺพํ. สาทิยนฺตาปิ หิ เต เนว วสฺสาวาสิกสฺส สามิโน, ขียนฺตาปิ จ อาวาสิกา เนว อทาตุํ ลภนฺติ. กุรุนฺทิยํ ปน วุตฺตํ – ‘‘กติกวตฺตํ กาตพฺพํ – ‘สพฺเพสํ โน อิธ ยาคุภตฺตํ นปฺปโหติ, สภาคฏฺาเน วสิตฺวา อาคจฺฉถ, ตุมฺหากํ ปตฺตํ วสฺสาวาสิกํ ลภิสฺสถา’ติ. ตฺเจ เอโก ปฏิพาหติ, สุปฏิพาหิตํ; โน เจ ปฏิพาหติ, กติกา สุกตา. ปจฺฉา เตสํ ตตฺถ วสิตฺวา อาคตานํ อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ, อปโลกนกาเล ปฏิพาหิตุํ น ลพฺภตี’’ติ. ปุนปิ วุตฺตํ – ‘‘สเจ วสฺสูปคเตสุ เอกจฺจานํ วสฺสาวาสิเก อปาปุณนฺเต ภิกฺขู กติกํ กโรนฺติ – ‘ฉินฺนวสฺสานํ วสฺสาวาสิกฺจ อิทานิ อุปฺปชฺชนกวสฺสาวาสิกฺจ อิเมสํ ทาตุํ รุจฺจตี’ติ เอวํ กติกาย กตาย คาหิตสทิสเมว โหติ, อุปฺปนฺนุปฺปนฺนํ เตสเมว ทาตพฺพ’’นฺติ.

เตมาสํ ปานียํ อุปฏฺาเปตฺวา วิหารมคฺคเจติยงฺคณโพธิยงฺคณานิ ชคฺคิตฺวา โพธิรุกฺเข อุทกํ สิฺจิตฺวา ปกฺกนฺโตปิ วิพฺภนฺโตปิ วสฺสาวาสิกํ ลภติเยว. ภตินิวิฏฺฺหิ เตน กตํ. สงฺฆิกํ ปน อปโลกนกมฺมํ กตฺวา คาหิตํ อนฺโตวสฺเส วิพฺภนฺโตปิ ลภเตว. ปจฺจยวเสน คาหิตํ ปน น ลภตีติ วทนฺติ.

สเจ วุตฺถวสฺโส ทิสํคมิโก ภิกฺขุ อาวาสิกสฺส หตฺถโต กิฺจิเทว กปฺปิยภณฺฑํ คเหตฺวา ‘‘อสุกกุเล มยฺหํ วสฺสาวาสิกํ ปตฺตํ, ตํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา คตฏฺาเน วิพฺภมติ, วสฺสาวาสิกํ สงฺฆิกํ โหติ. สเจ ปน มนุสฺเส สมฺมุขา สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา คจฺฉติ, ลภติ. ‘‘อิทํ วสฺสาวาสิกํ อมฺหากํ เสนาสเน วุตฺถภิกฺขุโน เทมา’’ติ วุตฺเต, ยสฺส คาหิตํ ตสฺเสว โหติ. สเจ ปน เสนาสนสามิกสฺส ปิยกมฺยตาย ปุตฺตธีตาทโย พหูนิ วตฺถานิ อาหริตฺวา ‘‘อมฺหากํ เสนาสเน เทมา’’ติ เทนฺติ, ตตฺถ วสฺสูปคตสฺส เอกเมว วตฺถํ ทาตพฺพํ, เสสานิ สงฺฆิกานิ โหนฺติ, วสฺสาวาสิกฏฺิติกาย คาเหตพฺพานิ. ิติกาย อสติ เถราสนโต ปฏฺาย คาเหตพฺพานิ. เสนาสเน วสฺสูปคตํ ภิกฺขุํ นิสฺสาย อุปฺปนฺเนน จิตฺตปฺปสาเทน พหูนิ วตฺถานิ อาหริตฺวา ‘‘เสนาสนสฺส เทมา’’ติ ทินฺเนสุปิ เอเสว นโย. สเจ ปน ปาทมูเล เปตฺวา ‘‘เอตสฺส ภิกฺขุโน เทมา’’ติ วทนฺติ, ตสฺเสว โหนฺติ.

เอกสฺส เคเห ทฺเว วสฺสาวาสิกานิ – ปมภาโค สามเณรสฺส คาหิโต โหติ, ทุติโย เถราสเน. โส เอกํ ทสหตฺถํ, เอกํ อฏฺหตฺถํ สาฏกํ เปเสติ ‘‘วสฺสาวาสิกํ ปตฺตภิกฺขูนํ เทถา’’ติ วิจินิตฺวา วรภาคํ สามเณรสฺส ทตฺวา อนุภาโค เถราสเน ทาตพฺโพ. สเจ ปน อุโภปิ ฆรํ เนตฺวา โภเชตฺวา สยเมว ปาทมูเล เปติ, ยํ ยสฺส ทินฺนํ, ตเทว ตสฺส โหติ.

อิโต ปรํ มหาปจฺจริยํ อาคตนโย โหติ – ‘‘เอกสฺส ฆเร ทหรสามเณรสฺส วสฺสาวาสิกํ ปาปุณาติ, โส เจ ปุจฺฉติ – ‘อมฺหากํ วสฺสาวาสิกํ กสฺส ปตฺต’นฺติ, ‘สามเณรสฺสา’ติ อวตฺวา ‘ทานกาเล ชานิสฺสสี’ติ วตฺวา ทานทิวเส เอกํ มหาเถรํ เปเสตฺวา นีหราเปตพฺพํ. สเจ ยสฺส วสฺสาวาสิกํ ปตฺตํ, โส วิพฺภมติ วา กาลํ วา กโรติ, มนุสฺสา เจ ปุจฺฉนฺติ – ‘กสฺส อมฺหากํ วสฺสาวาสิกํ ปตฺต’นฺติ, เตสํ ยถาภูตํ อาจิกฺขิตพฺพํ. สเจ เต วทนฺติ – ‘ตุมฺหากํ เทมา’ติ, ตสฺส ภิกฺขุโน ปาปุณาติ. อถ สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา เทนฺติ, สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา ปาปุณาติ. สเจ วสฺสูปคตา สุทฺธปํสุกูลิกาเยว โหนฺติ, อาเนตฺวา ทินฺนํ วสฺสาวาสิกํ เสนาสนปริกฺขารํ วา กตฺวา เปตพฺพํ, พิมฺโพหนาทีนิ วา กาตพฺพานี’’ติ. อิทํ เนวาสิกวตฺตํ.

เสนาสนคฺคาหกถา นิฏฺิตา.

อุปนนฺทวตฺถุกถา

๓๑๙. อุปนนฺทวตฺถุสฺมึ ตตฺถ ตยา โมฆปุริส คหิตํ อิธ มุตฺตํ, อิธ ตยา คหิตํ ตตฺร มุตฺตนฺติ เอตฺถ อยมตฺโถ – ยํ ตยา ตตฺถ เสนาสนํ คหิตํ, ตํ เต คณฺหนฺเตเนว อิธ มุตฺตํ โหติ. ‘‘อิธ ทานาหํ, อาวุโส, มุฺจามี’’ติ วทนฺเตน ปน ตํ ตตฺราปิ มุตฺตํ. เอวํ ตฺวํ อุภยตฺถ ปริพาหิโรติ.

อยํ ปเนตฺถ วินิจฺฉโย – คหเณน คหณํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, คหเณน อาลโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, อาลเยน คหณํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, อาลเยน อาลโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. กถํ? อิเธกจฺโจ วสฺสูปนายิกทิวเส เอกสฺมึ วิหาเร เสนาสนํ คเหตฺวา สามนฺตวิหารํ คนฺตฺวา ตตฺราปิ คณฺหาติ, ตสฺส อิมินา คหเณน ปุริมํ คหณํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อปโร ‘‘อิธ วสิสฺสามี’’ติ อาลยมตฺตํ กตฺวา สามนฺตวิหารํ คนฺตฺวา ตตฺถ เสนาสนํ คณฺหาติ, ตสฺส อิมินา คหเณน ปุริโม อาลโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. เอโก ‘‘อิธ วสิสฺสามี’’ติ เสนาสนํ วา คเหตฺวา อาลยํ วา กตฺวา สามนฺตวิหารํ คนฺตฺวา ‘‘อิเธว ทานิ วสิสฺสามี’’ติ อาลยํ กโรติ, อิจฺจสฺส อาลเยน วา คหณํ อาลเยน วา อาลโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, สพฺพตฺถ ปจฺฉิเม คหเณ วา อาลเย วา ติฏฺติ. โย ปน ‘‘เอกสฺมึ วิหาเร เสนาสนํ คเหตฺวา อฺสฺมึ วิหาเร วสิสฺสามี’’ติ คจฺฉติ, ตสฺส อุปจารสีมาติกฺกเม เสนาสนคฺคาโห ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. ยทิ ปน ‘‘ตตฺถ ผาสุ ภวิสฺสติ, วสิสฺสามิ; โน เจ, อาคมิสฺสามี’’ติ คนฺตฺวา อผาสุภาวํ ตฺวา ปจฺจาคจฺฉติ, วฏฺฏติ.

๓๒๐. ติวสฺสนฺตเรนาติ เอตฺถ ติวสฺสนฺตโร นาม โย ทฺวีหิ วสฺเสหิ มหนฺตตโร วา ทหรตโร วา โหติ. โย ปน เอเกน วสฺเสน มหนฺตตโร วา ทหรตโร วา โหติ, โย วา สมานวสฺโส, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. อิเม สพฺเพ เอกสฺมึ มฺเจ วา ปีเ วา ทฺเว ทฺเว หุตฺวา นิสีทิตุํ ลภนฺติ. ยํ ติณฺณํ ปโหติ, ตํ สํหาริมํ วา โหตุ อสํหาริมํ วา, ตถารูเป อปิ ผลกขณฺเฑ อนุปสมฺปนฺเนนาปิ สทฺธึ นิสีทิตุํ วฏฺฏติ.

หตฺถินขกนฺติ หตฺถิกุมฺเภ ปติฏฺิตํ; เอวํ กตสฺส กิเรตํ นามํ. สพฺพํ ปาสาทปริโภคนฺติ สุวณฺณรชตาทิวิจิตฺรานิ กวาฏานิ มฺจปีานิ ตาลวณฺฏานิ สุวณฺณรชตมยปานียฆฏปานียสราวานิ ยํกิฺจิ จิตฺตกมฺมกตํ, สพฺพํ วฏฺฏติ. ‘‘ปาสาทสฺส ทาสิทาสํ เขตฺตวตฺถุํ โคมหึสํ เทมา’’ติ วทนฺติ, ปาเฏกฺกํ คหณกิจฺจํ นตฺถิ, ปาสาเท ปฏิคฺคหิเต ปฏิคฺคหิตเมว โหติ. โคนกาทีนิ สงฺฆิกวิหาเร วา ปุคฺคลิกวิหาเร วา มฺจปีเกสุ อตฺถริตฺวา ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏนฺติ. ธมฺมาสเน ปน คิหิวิกฏนิหาเรน ลพฺภนฺติ, ตตฺราปิ นิปชฺชิตุํ น วฏฺฏติ.

อุปนนฺทวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

อวิสฺสชฺชิยวตฺถุกถา

๓๒๑. ปฺจิมานีติ ราสิวเสน ปฺจ, สรูปวเสน ปเนตานิ พหูนิ โหนฺติ. ตตฺถ อาราโม นาม ปุปฺผาราโม วา ผลาราโม วา. อารามวตฺถุ นาม เตสํเยว อารามานํ อตฺถาย ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปิโตกาโส; เตสุ วา อาราเมสุ วินฏฺเสุ เตสํ โปราณกภูมิภาโค. วิหาโร นาม ยํกิฺจิ ปาสาทาทิเสนาสนํ. วิหารวตฺถุ นาม ตสฺส ปติฏฺาโนกาโส. มฺโจ นาม – มสารโก, พุนฺทิกาพทฺโธ, กุฬีรปาทโก อาหจฺจปาทโกติ อิเมสํ ปุพฺเพ วุตฺตานํ จตุนฺนํ มฺจานํ อฺตโร. ปีํ นาม มสารกาทีนํเยว จตุนฺนํ ปีานํ อฺตรํ. ภิสิ นาม อุณฺณภิสิอาทีนํ ปฺจนฺนํ อฺตรา. พิมฺโพหนํ นาม วุตฺตปฺปการานํ พิมฺโพหนานํ อฺตรํ. โลหกุมฺภี นาม กาฬโลเหน วา ตมฺพโลเหน วา เยน เกนจิ โลเหน กตา กุมฺภี. โลหภาณกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน ภาณกนฺติ อรฺชโร วุจฺจติ. วารโกติ ฆโฏ. กฏาหํ กฏาหเมว. วาสิอาทีสุ วลฺลิอาทีสุ จ ทุวิฺเยฺยํ นาม นตฺถิ. เอวํ –

ทฺวิสงฺคหานิ ทฺเว โหนฺติ, ตติยํ จตุสงฺคหํ;

จตุตฺถํ นวโกฏฺาสํ, ปฺจมํ อฏฺเภทนํ.

อิติ ปฺจหิ ราสีหิ, ปฺจนิมฺมลโลจโน;

ปฺจวีสวิธํ นาโถ, ครุภณฺฑํ ปกาสยิ.

ตตฺรายํ วินิจฺฉยกถา – อิทฺหิ สพฺพมฺปิ ครุภณฺฑํ อิธ อวิสฺสชฺชิยํ, กีฏาคิริวตฺถุสฺมึ ‘‘อเวภงฺคิย’’นฺติ วุตฺตํ. ปริวาเร ปน –

‘‘อวิสฺสชฺชิยํ อเวภงฺคิยํ, ปฺจ วุตฺตา มเหสินา;

วิสฺสชฺเชนฺตสฺส ปริภุฺชนฺตสฺส อนาปตฺติ,

ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๗๙) –

อาคตํ. ตสฺมา มูลจฺเฉชฺชวเสน อวิสฺสชฺชิยํ อเวภงฺคิยฺจ ปริวตฺตนวเสน ปน วิสฺสชฺเชนฺตสฺส ปริภุฺชนฺตสฺส จ อนาปตฺตีติ เอวเมตฺถ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ.

ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – อิทํ ตาว ปฺจวิธมฺปิ จีวรปิณฺฑปาตเภสชฺชตฺถาย อุปเนตุํ น วฏฺฏติ. ถาวเรน จ ถาวรํ ครุภณฺเฑน จ ครุภณฺฑํ ปริวตฺเตตุํ วฏฺฏติ. ถาวเร ปน เขตฺตํ วตฺถุ ตฬากํ มาติกาติ เอวรูปํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส วิจาเรตุํ วา สมฺปฏิจฺฉิตุํ วา อธิวาเสตุํ วา น วฏฺฏติ, กปฺปิยการเกเหว วิจาริตโต กปฺปิยภณฺฑํ วฏฺฏติ. อาราเมน ปน อารามํ อารามวตฺถุํ วิหารํ วิหารวตฺถุนฺติ อิมานิ จตฺตาริ ปริวตฺเตตุํ วฏฺฏติ.

ตตฺรายํ ปริวตฺตนนโย – สงฺฆสฺส นาฬิเกราราโม ทูเร โหติ, กปฺปิยการกา วา พหุตรํ ขาทนฺติ. ยมฺปิ น ขาทนฺติ, ตโต สกฏเวตนํ ทตฺวา อปฺปเมว หรนฺติ. อฺเสํ ปน ตสฺส อารามสฺส อวิทูรคามวาสีนํ มนุสฺสานํ วิหารสฺส สมีเป อาราโม โหติ, เต สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา สเกน อาราเมน ตํ อารามํ ยาจนฺติ, สงฺเฆน ‘‘รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’ติ อปโลเกตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตพฺโพ. สเจปิ ภิกฺขูนํ รุกฺขสหสฺสํ โหติ, มนุสฺสานํ ปฺจ สตานิ, ‘‘ตุมฺหากํ อาราโม ขุทฺทโก’’ติ น วตฺตพฺพํ. กิฺจาปิ หิ อยํ ขุทฺทโก, อถ โข อิตรโต พหุตรํ อายํ เทติ. สเจปิ สมกเมว เทติ; เอวมฺปิ อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ปริภุฺชิตุํ สกฺกาติ คเหตพฺพเมว. สเจ ปน มนุสฺสานํ พหุตรา รุกฺขา โหนฺติ, ‘‘นนุ ตุมฺหากํ พหุตรา รุกฺขา’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ‘‘อติเรกํ อมฺหากํ ปุฺํ โหตุ, สงฺฆสฺส เทมา’’ติ วทนฺติ, ชานาเปตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขูนํ รุกฺขา ผลธาริโน, มนุสฺสานํ รุกฺขา น ตาว ผลํ คณฺหนฺติ, กิฺจาปิ น คณฺหนฺติ, น จิเรน คณฺหิสฺสนฺตีติ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพเมว. มนุสฺสานํ รุกฺขา ผลธาริโน, ภิกฺขูนํ น ตาว ผลํ คณฺหนฺติ, ‘‘นนุ ตุมฺหากํ รุกฺขา ผลธาริโน’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ‘‘คณฺหถ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปุฺํ ภวิสฺสตี’’ติ เทนฺติ, ชานาเปตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ; เอวํ อาราเมน อาราโม ปริวตฺเตตพฺโพ. เอเตเนว นเยน อารามวตฺถุปิ วิหาโรปิ วิหารวตฺถุปิ อาราเมน ปริวตฺเตตพฺพํ. อารามวตฺถุนา จ มหนฺเตน วา ขุทฺทเกน วา อารามอารามวตฺถุ วิหารวิหารวตฺถูนิ.

กถํ วิหาเรน วิหาโร ปริวตฺเตตพฺโพ? สงฺฆสฺส อนฺโตคาเม เคหํ โหติ, มนุสฺสานํ วิหารมชฺเฌ ปาสาโท, อุโภปิ อคฺเฆน สมกา, สเจ มนุสฺสา เตน ปาสาเทน ตํ เคหํ ยาจนฺติ, สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขูนํ เจ มหคฺฆตรํ เคหํ โหติ, ‘‘มหคฺฆตรํ อมฺหากํ เคห’’นฺติ วุตฺเต ‘‘กิฺจาปิ มหคฺฆตรํ, ปพฺพชิตานํ อสารุปฺปํ, น สกฺกา ตตฺถ ปพฺพชิเตหิ วสิตุํ, อิทํ ปน สารุปฺปํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ; เอวมฺปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน มนุสฺสานํ มหคฺฆํ โหติ, ‘‘นนุ ตุมฺหากํ เคหํ มหคฺฆ’’นฺติ วตฺตพฺพํ. ‘‘โหตุ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปุฺํ ภวิสฺสติ, คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ปน สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ วิหาเรน วิหาโร ปริวตฺเตตพฺโพ. เอเตเนว นเยน วิหารวตฺถุปิ อาราโมปิ อารามวตฺถุปิ วิหาเรน ปริวตฺเตตพฺพํ. วิหารวตฺถุนา จ มหคฺเฆน วา อปฺปคฺเฆน วา วิหารวิหารวตฺถุอารามอารามวตฺถูนิ. เอวํ ตาว ถาวเรน ถาวรปริวตฺตนํ เวทิตพฺพํ.

ครุภณฺเฑน ครุภณฺฑปริวตฺตเน ปน มฺจปีํ มหนฺตํ วา โหตุ ขุทฺทกํ วา, อนฺตมโส จตุรงฺคุลปาทกํ วา คามทารเกหิ ปํสฺวาคารเกสุ กีฬนฺเตหิ กตมฺปิ สงฺฆสฺส ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑํ โหติ. สเจปิ ราชราชมหามตฺตาทโย เอกปฺปหาเรเนว มฺจสตํ วา มฺจสหสฺสํ วา เทนฺติ, สพฺเพ กปฺปิยมฺจา สมฺปฏิจฺฉิตพฺพา, สมฺปฏิจฺฉิตฺวา วุฑฺฒปฏิปาฏิยา ‘‘สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชถา’’ติ ทาตพฺพา, ปุคฺคลิกวเสน น ทาตพฺพา. อติเรกมฺเจ ภณฺฑาคาราทีสุ ปฺเปตฺวา ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตุมฺปิ วฏฺฏติ. พหิสีมาย ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ ทินฺนมฺโจ สงฺฆตฺเถรสฺส วสนฏฺาเน ทาตพฺโพ. ตตฺถ เจ พหู มฺจา โหนฺติ, มฺเจน กมฺมํ นตฺถิ; ยสฺส วสนฏฺาเน กมฺมํ อตฺถิ, ตตฺถ ‘‘สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชถา’’ติ ทาตพฺโพ. มหคฺเฆน สตคฺฆนเกน วา สหสฺสคฺฆนเกน วา สตสหสฺสคฺฆนเกน วา มฺเจน อฺํ มฺจสตํ ลภติ, ปริวตฺเตตฺวา คเหตพฺพํ. น เกวลํ มฺเจน มฺโจเยว, อารามอารามวตฺถุวิหารวิหารวตฺถุปีภิสิพิมฺโพหนานิปิ ปริวตฺเตตุํ วฏฺฏนฺติ. เอส นโย ปีภิสิพิมฺโพหเนสุปิ. เอเตสุ หิ กปฺปิยากปฺยิยํ วุตฺตนยเมว. ตตฺถ อกปฺปิยํ น ปริภุฺชิตพฺพํ, กปฺปิยํ สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชิตพฺพํ. อกปฺปิยํ วา มหคฺฆํ กปฺปิยํ วา ปริวตฺเตตฺวา วุตฺตวตฺถูนิ คเหตพฺพานิ. อครุภณฺฑุปคํ ปน ภิสิพิมฺโพหนํ นาม นตฺถิ.

โลหกุมฺภี โลหภาณกํ โลหกฏาหนฺติ อิมานิ ตีณิ มหนฺตานิ วา โหนฺตุ ขุทฺทกานิ วา อนฺตมโส ปสตมตฺตอุทกคณฺหนกานิปิ ครุภณฺฑานิเยว. โลหวารโก ปน กาฬโลหตมฺพโลหวฏฺฏโลหกํสโลหานํ เยน เกนจิ กโต สีหฬทีเป ปาทคณฺหนโก ภาเชตพฺโพ. ปาโท จ นาม มคธนาฬิยา ปฺจนาฬิมตฺตํ คณฺหาติ, ตโต อธิกคณฺหนโก ครุภณฺฑํ. อิมานิ ตาว ปาฬิยํ อาคตานิ โลหภาชนานิ.

ปาฬิยํ ปน อนาคตานิปิ ภิงฺคารปฏิคฺคหอุฬุงฺกทพฺพิกฏจฺฉุปาติตฏฺฏกสรกสมุคฺคองฺคารกปลฺลธูมกฏจฺฉุอาทีนิ ขุทฺทกานิ วา มหนฺตานิ วา สพฺพานิ ครุภณฺฑานิ. ปตฺโต, อยถาลกํ, ตมฺพโลหถาลกนฺติ อิมานิ ปน ภาชนียานิ. กํสโลหวฏฺฏโลหภาชนวิกติ สงฺฆิกปริโภเคน วา คิหิวิกฏา วา วฏฺฏติ, ปุคฺคลิกปริโภเคน น วฏฺฏติ. กํสโลหาทิภาชนํ สงฺฆสฺส ทินฺนมฺปิ หิ ปาริหาริยํ น วฏฺฏติ. ‘‘คิหิวิกฏนิหาเรเนว ปริภุฺชิตพฺพ’’นฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.

เปตฺวา ปน ภาชนวิกตึ อฺสฺมิมฺปิ กปฺปิยโลหภณฺเฑ – อฺชนี, อฺชนิสลากา, กณฺณมลหรณี, สูจิ, ปณฺณสูจิ, ขุทฺทโก, ปิปฺผลโก, ขุทฺทกํ, อารกณฺฏกํ, กุฺจิกา, ตาฬํ, กตฺตรยฏฺิ เวธโก, นตฺถุทานํ, ภินฺทิวาโล, โลหกูโฏ, โลหกุฏฺฏิ, โลหคุโฬ, โลหปิณฺฑิ, โลหจกฺกลิกํ, อฺมฺปิ วิปฺปกตโลหภณฺฑํ ภาชนียํ. ธูมเนตฺตผาลทีปรุกฺขทีปกปลฺลกโอลมฺพกทีปอิตฺถิปุริสติรจฺฉานคตรูปกานิ ปน อฺานิ วา ภิตฺติจฺฉทนกวาฏาทีสุ อุปเนตพฺพานิ, อนฺตมโส โลหขิลกํ อุปาทาย สพฺพานิ โลหภณฺฑานิ ครุภณฺฑานิเยว โหนฺติ, อตฺตนา ลทฺธานิปิ ปริหริตฺวา ปุคฺคลิกปริโภเคน น ปริภุฺชิตพฺพานิ, สงฺฆิกปริโภเคน วา คิหิวิกฏานิ วา วฏฺฏนฺติ. ติปุภณฺเฑปิ เอเสว นโย. ขีรปาสาณมยานิ ตฏฺฏกสรกาทีนิ ครุภณฺฑานิเยว.

ฆฏโก ปน เตลภาชนํ วา ปาทคณฺหนกโต อติเรกเมว ครุภณฺฑํ. สุวณฺณรชตหารกูฏชาติผลิกภาชนานิ คิหิวิกฏานิปิ น วฏฺฏนฺติ, ปเคว สงฺฆิกปริโภเคน วา ปุคฺคลิกปริโภเคน วา. เสนาสนปริโภเค ปน อามาสมฺปิ อนามาสมฺปิ สพฺพํ วฏฺฏติ.

วาสิอาทีสุ ยาย วาสิยา เปตฺวา ทณฺฑกฏฺจฺเฉทนํ วา อุจฺฉุตจฺฉนํ วา อฺํ มหากมฺมํ กาตุํ น สกฺกา, อยํ ภาชนียา. ตโต มหตฺตรี เยน เกนจิ อากาเรน กตา วาสิ ครุภณฺฑเมว. ผรสุ ปน อนฺตมโส เวชฺชานํ สิราเวธนผรสุปิ ครุภณฺฑเมว. กุาริยํ ผรสุสทิโส เอว วินิจฺฉโย. ยา ปน อาวุธสงฺเขเปน กตา, อยํ อนามาสา. กุทาโล อนฺตมโส จตุรงฺคุลมตฺโตปิ ครุภณฺฑเมว. นิขาทนํ จตุรสฺสมุขํ วา โหตุ โทณิมุขํ วา วงฺกํ วา อุชุกํ วา, อนฺตมโส สมฺมุฺชนิทณฺฑกเวธนมฺปิ ทณฺฑพทฺธํ เจ, ครุภณฺฑเมว. สมฺมุฺชนิทณฺฑขณนกํ ปน อทณฺฑกํ ผลมตฺตเมว, ยํ สกฺกา สิปาฏิกาย ปกฺขิปิตฺวา ปริหริตุํ, ตํ ภาชนียํ. สิขรมฺปิ นิขาทเนเนว สงฺคหิตํ. เยหิ มนุสฺเสหิ วิหาเร วาสิอาทีนิ ทินฺนานิ โหนฺติ, เต จ ฆเร ทฑฺเฒ วา โจเรหิ วา วิลุตฺเต ‘‘เทถ โน, ภนฺเต, อุปกรเณ, ปุน ปากติเก กริสฺสามา’’ติ วทนฺติ, ทาตพฺพา. สเจ อาหรนฺติ, น วาเรตพฺพา; อนาหรนฺตาปิ น โจเทตพฺพา.

กมฺมารตฏฺฏการจุนฺทการนฬการมณิการปตฺตพนฺธกานํ อธิกรณิมุฏฺิกสณฺฑาสตุลาทีนิ สพฺพานิ โลหมยอุปกรณานิ สงฺเฆ ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑานิ. ติปุโกฏฺฏกสุวณฺณการจมฺมการอุปกรเณสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – ติปุโกฏฺฏกอุปกรเณสุปิ ติปุจฺเฉทนสตฺถกํ, สุวณฺณการอุปกรเณสุ สุวณฺณจฺเฉทนสตฺถกํ, จมฺมการอุปกรเณสุ กตปริกมฺมจมฺมฉิทฺทนกํ ขุทฺทกสตฺถกนฺติ อิมานิ ภาชนียภณฺฑานิ. นหาปิตตุนฺนการอุปกรเณสุปิ เปตฺวา มหากตฺตรึ มหาสณฺฑาสํ มหาปิปฺผลกฺจ สพฺพํ ภาชนียํ. มหากตฺตริอาทีนิ ครุภณฺฑานิ.

วลฺลิอาทีสุ เวตฺตวลฺลิอาทิกา ยา กาจิ อฑฺฒพาหุปฺปมาณา วลฺลิ สงฺฆสฺส ทินฺนา วา ตตฺถชาตกา วา รกฺขิตโคปิตา ครุภณฺฑํ โหติ, สา สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเต สเจ อติเรกา โหติ, ปุคฺคลิกกมฺเมปิ อุปเนตุํ วฏฺฏติ; อรกฺขิตา ปน ครุภณฺฑเมว น โหติ. สุตฺตมกจิวากนาฬิเกรหีรจมฺมมยา รชฺชุกา วา โยตฺตานิ วา วาเก จ นาฬิเกรหีเร จ วฏฺเฏตฺวา กตา เอกวฏฺฏา วา ทฺวิวฏฺฏา วา สงฺฆสฺส ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑํ. สุตฺตํ ปน อวฏฺเฏตฺวา ทินฺนํ มกจิวากนาฬิเกรหีรา จ ภาชนียา. เยหิ ปเนตานิ รชฺชุกโยตฺตาทีนิ ทินฺนานิ โหนฺติ, เต อตฺตโน กรณีเยน หรนฺตา น วาเรตพฺพา.

โย โกจิ อนฺตมโส อฏฺงฺคุลสูจิทณฺฑมตฺโตปิ เวฬุ สงฺฆสฺส ทินฺโน วา ตตฺถชาตโก วา รกฺขิตโคปิโต ครุภณฺฑํ, โสปิ สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเต อติเรโก ปุคฺคลิกกมฺเม ทาตุํ วฏฺฏติ. ปาทคณฺหนกเตลนาฬิ ปน กตฺตรยฏฺิ, อุปาหนทณฺฑโก, ฉตฺตทณฺโฑ, ฉตฺตสลากาติ อิทเมตฺถ ภาชนียภณฺฑํ. ทฑฺฒเคหมนุสฺสา คณฺหิตฺวา คจฺฉนฺตา น วาเรตพฺพา. รกฺขิตโคปิตํ เวฬุํ คณฺหนฺเตน สมกํ วา อติเรกํ วา ถาวรํ อนฺตมโส ตํอคฺฆนกมฺปิ ผาติกมฺมํ กตฺวา คเหตพฺโพ. ผาติกมฺมํ อกตฺวา คณฺหนฺเตน ตตฺเถว วฬฺเชตพฺโพ, คมนกาเล สงฺฆิกาวาเส เปตฺวา คนฺตพฺพํ. อสติยา คเหตฺวา คเตน ปหิณิตฺวา ทาตพฺโพ. เทสนฺตรํ คเตน สมฺปตฺตวิหาเร สงฺฆิกาวาเส เปตพฺโพ.

ติณนฺติ มุฺชํ ปพฺพชฺจ เปตฺวา อวเสสํ ยํกิฺจิ ติณํ. ยตฺถ ปน ติณํ นตฺถิ, ตตฺถ ปณฺเณหิ ฉาเทนฺติ; ตสฺมา ปณฺณมฺปิ ติเณเนว สงฺคหิตํ. อิติ มุฺชาทีสุ ยํกิฺจิ มุฏฺิปฺปมาณมฺปิ ติณํ ตาลปณฺณาทีสุ จ เอกํ ปณฺณมฺปิ สงฺฆสฺส ทินฺนํ วา ตตฺถชาตกํ วา พหาราเม สงฺฆสฺส ติณวตฺถุโต ชาตติณํ วา รกฺขิตโคปิตํ ครุภณฺฑํ โหติ, ตมฺปิ สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเต อติเรกํ ปุคฺคลิกกมฺเม ทาตุํ วฏฺฏติ. ทฑฺฒเคหมนุสฺสา คเหตฺวา คจฺฉนฺตา น วาเรตพฺพา. อฏฺงฺคุลปฺปมาโณปิ ริตฺตโปตฺถโก ครุภณฺฑเมว.

มตฺติกา ปกติมตฺติกา วา โหตุ ปฺจวณฺณา วา สุธา วา สชฺชุรสกงฺคุฏฺสิเลสาทีสุ วา ยํกิฺจิ, ทุลฺลภฏฺาเน อาเนตฺวา วา ทินฺนํ ตตฺถชาตกํ วา รกฺขิตโคปิตํ ตาลผลปกฺกมตฺตํ ครุภณฺฑํ โหติ. ตมฺปิ สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ นิฏฺิเต อติเรกํ ปุคฺคลิกกมฺเม ทาตุํ วฏฺฏติ. หิงฺคุหิงฺคุลกหริตาลมโนสิลฺชนานิ ปน ภาชนียภณฺฑานิ.

ทารุภณฺเฑ โย โกจิ อฏฺงฺคุลสูจิทณฺฑมตฺโตปิ ทารุภณฺฑโก ทารุทุลฺลภฏฺาเน สงฺฆสฺส ทินฺโน วา ตตฺถชาตโก วา รกฺขิตโคปิโต, อยํ ครุภณฺฑํ โหตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน สพฺพมฺปิ ทารุเวฬุจมฺมปาสาณาทิวิกตึ ทารุภณฺเฑน สงฺคณฺหิตฺวา ‘‘เตน โข ปน สมเยน สงฺฆสฺส อาสนฺทิโก อุปฺปนฺโน โหตี’’ติ อิโต ปฏฺาย ทารุภณฺฑวินิจฺฉโย วุตฺโต.

ตตฺรายํ อตฺถุทฺธาโร, อาสนฺทิโก, สตฺตงฺโค, ภทฺทปีํ, ปีิกา, เอฬกปาทกปีํ, อามลกวฏฺฏกปีํ, ผลกํ, โกจฺฉํ, ปลาลปีกนฺติ อิเมสุ ตาว ยํกิฺจิ ขุทฺทกํ วา โหตุ มหนฺตํ วา, สงฺฆสฺส ทินฺนํ ครุภณฺฑํ โหติ. ปลาลปีเน เจตฺถ กทลิปตฺตาทิปีานิปิ สงฺคหิตานิ. พฺยคฺฆจมฺมโอนทฺธมฺปิ วาฬรูปปริกฺขิตฺตํ, รตนปริสิพฺพิตํ, โกจฺฉกํ ครุภณฺฑเมว.

วงฺกผลกํ, ทีฆผลกํ, จีวรโธวนผลกํ, ฆฏฺฏนผลกํ, ฆฏฺฏนมุคฺคโร, ทนฺตกฏฺจฺเฉทนคณฺิกา, ทณฺฑมุคฺคโร, อมฺพณํ, รชนโทณิ, อุทกปฏิจฺฉโก, ทารุมโย วา ทนฺตมโย วา เวฬุมโย วา สปาทโกปิ อปาทโกปิ สมุคฺโค, มฺชูสา, ปาทคณฺหนกโต อติเรกปฺปมาโณ กรณฺโฑ, อุทกโทณิ, อุทกกฏาหํ, อุฬุงฺโก, กฏจฺฉุ, ปานียสราวํ, ปานียสงฺโขติ เอเตสุปิ ยํกิฺจิ สงฺเฆ ทินฺนํ ครุภณฺฑํ. สงฺขถาลกํ ปน ภาชนียํ, ตถา ทารุมโย อุทกตุมฺโพ.

ปาทกถลิกมณฺฑลํ ทารุมยํ วา โหตุ โจฬปณฺณาทิมยํ วา สพฺพํ ครุภณฺฑํ. อาธารโก ปตฺตปิธานํ, ตาลวณฺฏํ, พีชนี, จงฺโกฏกํ, ปจฺฉิ, ยฏฺิสมฺมุฺชนี มุฏฺิสมฺมุฺชนีติ เอเตสุปิ ยํกิฺจิ ขุทฺทกํ วา มหนฺตํ วา ทารุเวฬุปณฺณจมฺมาทีสุ เยน เกนจิ กตํ ครุภณฺฑเมว.

ถมฺภตุลาโสปานผลกาทีสุ ทารุมยํ วา ปาสาณมยํ วา ยํกิฺจิ เคหสมฺภารรูปํ, โย โกจิ กฏสารโก, ยํกิฺจิ ภูมตฺถรณํ, ยํกิฺจิ อกปฺปิยจมฺมํ, สพฺพํ สงฺเฆ ทินฺนํ ครุภณฺฑํ, ภูมตฺถรณํ กาตุํ วฏฺฏติ. เอฬกจมฺมํ ปน ปจฺจตฺถรณคติกํ โหติ, ตมฺปิ ครุภณฺฑเมว. กปฺปิยจมฺมานิ ภาชนียานิ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘สพฺพํ มฺจปฺปมาณํ จมฺมํ ครุภณฺฑ’’นฺติ วุตฺตํ.

อุทุกฺขลํ, มุสลํ, สุปฺปํ, นิสทํ, นิสทโปโต, ปาสาณโทณิ, ปาสาณกฏาหํ, ตุริเวมภสฺตาทิ สพฺพํ เปสการาทิภณฺฑํ, สพฺพํ กสิภณฺฑํ, สพฺพํ จกฺกยุตฺตกยานํ ครุภณฺฑเมว. มฺจปาโท, มฺจอฏนี, ปีปาโท, ปีอฏนี, วาสิผรสุอาทีนํ ทณฺฑาติ เอเตสุ ยํกิฺจิ วิปฺปกตตจฺฉนกมฺมํ อนิฏฺิตเมว ภาชนียํ, ตจฺฉิตมฏฺํ ปน ครุภณฺฑํ โหติ. อนุฺาตวาสิยา ปน ทณฺโฑ ฉตฺตมุฏฺิปณฺณํ กตฺตรยฏฺิ อุปาหนา อรณิสหิตํ ธมฺมกรโณ ปาทคณฺหนกโต อนติริตฺตํ อามลกตุมฺพํ อามลกฆโฏ ลาพุกตุมฺพํ ลาพุฆโฏ วิสาณกตุมฺพนฺติ สพฺพเมตํ ภาชนียํ, ตโต มหนฺตตรํ ครุภณฺฑํ.

หตฺถิทนฺโต วา ยํกิฺจิ วิสาณํ วา อตจฺฉิตํ ยถาชาตเมว ภาชนียํ, เตหิ กตมฺจปาทาทีสุ ปุริมสทิโสเยว วินิจฺฉโย. ตจฺฉิตนิฏฺิโตปิ หิงฺคุกรณฺฑโก อฺชนกรณฺฑโก คณฺิกา วิโธ อฺชนี อฺชนิสลากา อุทกปุฺฉนีติ อิทํ สพฺพํ ภาชนียเมว.

มตฺติกาภณฺเฑ สพฺพํ มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภคํ ฆฏปิราทิกุลาลภาชนํ ปตฺตกฏาหํ องฺคารกฏาหํ ธูมทานกํ ทีปรุกฺขโก ทีปกปลฺลิกา จยนิฏฺกา ฉทนิฏฺกา ถูปิกาติ สงฺฆสฺส ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑํ, ปาทคณฺหนกโต อนติริตฺตปฺปมาโณ ปน ฆฏโก ปตฺตํ ถาลกํ กฺจนโก กุณฺฑิกาติ อิทเมตฺถ ภาชนียภณฺฑํ. ยถา จ มตฺติกาภณฺเฑ; เอวํ โลหภณฺเฑปิ กุณฺฑิกา ภาชนียโกฏฺาสเมว ภชตีติ อยเมตฺถ อนุปุพฺพิกถา.

อวิสฺสชฺชิยวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

นวกมฺมทานกถา

๓๒๓. ภณฺฑิกาฏฺปนมตฺเตนาติ ทฺวารพาหานํ อุปริ กโปตภณฺฑิกโยชนมตฺเตน. ปริภณฺฑกรณมตฺเตนาติ โคมยปริภณฺฑกสาวปริภณฺฑกรณมตฺเตน. ธูมกาลิกนฺติ อิทํ ยาวสฺส จิตกธูโม น ปฺายติ, ตาว อยํ วิหาโร เอตสฺเสวาติ เอวํ ธูมกาเล อปโลเกตฺวา กตปริโยสิตํ วิหารํ เทนฺติ. วิปฺปกตนฺติ เอตฺถ วิปฺปกโต นาม ยาว โคปานสิโย น อาโรหนฺติ. โคปานสีสุ ปน อารุฬฺหาสุ พหุกโต นาม โหติ, ตสฺมา ตโต ปฏฺาย น ทาตพฺโพ, กิฺจิเทว สมาทเปตฺวา กาเรสฺสติ. ขุทฺทเก วิหาเร กมฺมํ โอโลเกตฺวา ฉปฺปฺจวสฺสิกนฺติ กมฺมํ โอโลเกตฺวา จตุหตฺถวิหาเร จตุวสฺสิกํ, ปฺจหตฺเถ ปฺจวสฺสิกํ, ฉหตฺเถ ฉวสฺสิกํ ทาตพฺพํ. อฑฺฒโยโค ปน ยสฺมา สตฺตฏฺหตฺโถ โหติ, ตสฺมา เอตฺถ ‘‘สตฺตฏฺวสฺสิก’’นฺติ วุตฺตํ. สเจ ปน โส นวหตฺโถ โหติ นววสฺสิกมฺปิ ทาตพฺพํ. มหลฺลเก ปน ทสหตฺเถ เอกาทสหตฺเถ วิหาเร วา ปาสาเท วา ทสวสฺสิกํ วา เอกาทสวสฺสิกํ วา ทาตพฺพํ. ทฺวาทสหตฺเถ ปน ตโต อธิเก วา โลหปาสาทสทิเสปิ ทฺวาทสวสฺสิกเมว ทาตพฺพํ, น ตโต อุตฺตริ.

นวกมฺมิโก ภิกฺขุ อนฺโตวสฺเส ตํ อาวาสํ ลภติ, อุตุกาเล ปฏิพาหิตุํ น ลภติ. สเจ โส อาวาโส ชีรติ, อาวาสสามิกสฺส วา ตสฺส วํเส อุปฺปนฺนสฺส วา กสฺสจิ กเถตพฺพํ – ‘‘อาวาโส เต นสฺสติ, ชคฺคถ เอตํ อาวาส’’นฺติ. สเจ โส น สกฺโกติ, ภิกฺขูหิ าตี วา อุปฏฺาเก วา สมาทเปตฺวา ชคฺคิตพฺโพ. สเจ เตปิ น สกฺโกนฺติ, สงฺฆิเกน ปจฺจเยน ชคฺคิตพฺโพ. ตสฺมิมฺปิ อสติ เอกํ อาวาสํ วิสฺสชฺเชตฺวา อวเสสา ชคฺคิตพฺพา. พหู วิสฺสชฺเชตฺวา เอกํ สณฺาเปตุมฺปิ วฏฺฏติเยว.

ทุพฺภิกฺเข ภิกฺขูสุ ปกฺกนฺเตสุ สพฺเพ อาวาสา นสฺสนฺติ, ตสฺมา เอกํ วา ทฺเว วา ตโย วา อาวาเส วิสฺสชฺเชตฺวา ตโต ยาคุภตฺตจีวราทีนิ ปริภุฺชนฺเตหิ เสสาวาสา ชคฺคิตพฺพาเยว. กุรุนฺทิยํ ปน วุตฺตํ ‘‘สงฺฆิเก ปจฺจเย อสติ เอโก ภิกฺขุ ‘ตุยฺหํ เอกํ มฺจฏฺานํ คเหตฺวา ชคฺคาหี’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ พหุตรํ อิจฺฉติ, ติภาคํ วา อุปฑฺฒภาคํ วา ทตฺวาปิ ชคฺคาเปตพฺพํ. อถ ‘ถมฺภมตฺตเมเวตฺถ อวสิฏฺํ, พหุกมฺมํ กาตพฺพ’นฺติ น อิจฺฉติ, ‘ตุยฺหํ ปุคฺคลิกเมว กตฺวา ชคฺค; เอวมฺปิ หิ สงฺฆสฺส ภณฺฑกฏฺปนฏฺานํ นวกานฺจ วสนฏฺานํ ลภิสฺสตี’ติ ชคฺคาเปตพฺโพ. เอวํ ชคฺคิโต ปน ตสฺมึ ชีวนฺเต ปุคฺคลิโก โหติ, มเต สงฺฆิโกเยว. สเจ สทฺธิวิหาริกานํ ทาตุกาโม โหติ, กมฺมํ โอโลเกตฺวา ติภาคํ วา อุปฑฺฒํ วา ปุคฺคลิกํ กตฺวา ชคฺคาเปตพฺโพ. เอวฺหิ สทฺธิวิหาริกานํ ทาตุํ ลภติ. เอวํ ชคฺคนเก ปน อสติ ‘เอกํ อาวาสํ วิสฺสชฺเชตฺวา’ติอาทินา นเยน ชคฺคาเปตพฺโพ’’ติ.

อิทมฺปิ จ อฺํ ตตฺเถว วุตฺตํ – ทฺเว ภิกฺขู สงฺฆิกํ ภูมึ คเหตฺวา โสเธตฺวา สงฺฆิกํ เสนาสนํ กโรนฺติ. เยน สา ภูมิ ปมํ คหิตา, โส สามี. อุโภปิ ปุคฺคลิกํ กโรนฺติ, โสเยว สามี. โส สงฺฆิกํ กโรติ, อิตโร ปุคฺคลิกํ กโรติ, อฺํ เจ พหุํ เสนาสนฏฺานํ อตฺถิ, ปุคฺคลิกํ กโรนฺโตปิ น วาเรตพฺโพ. อฺสฺมึ ปน ตาทิเส ปฏิรูเป าเน อสติ ตํ ปฏิพาหิตฺวา สงฺฆิกํ กโรนฺเตเนว กาตพฺพํ. ยํ ปน ตสฺส ตตฺถ วยกมฺมํ กตํ, ตํ ทาตพฺพํ. สเจ ปน กตาวาเส วา อาวาสกรณฏฺาเน วา ฉายูปคผลูปครุกฺขา โหนฺติ, อปโลเกตฺวา หาเรตพฺพา. ปุคฺคลิกา เจ โหนฺติ, สามิกา อาปุจฺฉิตพฺพา; โน เจ เทนฺติ, ยาวตติยํ อาปุจฺฉิตฺวา ‘‘รุกฺขอคฺฆนกมูลํ ทสฺสามา’’ติ หาเรตพฺพา.

โย ปน สงฺฆิกวลฺลิมตฺตมฺปิ อคฺคเหตฺวา อาหริเมน อุปกรเณน สงฺฆิกาย ภูมิยา ปุคฺคลิกวิหารํ กาเรติ, อุปฑฺฒํ สงฺฆิกํ โหติ; อุปฑฺฒํ ปุคฺคลิกํ. ปาสาโท เจ โหติ, เหฏฺาปาสาโท สงฺฆิโก; อุปริ ปุคฺคลิโก. สเจ โส เหฏฺาปาสาทํ อิจฺฉติ, ตสฺส โหติ. อถ เหฏฺา จ อุปริ จ อิจฺฉติ, อุภยตฺถ อุปฑฺฒํ ลภติ. ทฺเว เสนาสนานิ กาเรติ – เอกํ สงฺฆิกํ, เอกํ ปุคฺคลิกํ. สเจ วิหาเร อุฏฺิเตน ทพฺพสมฺภาเรน กาเรติ, ตติยภาคํ ลภติ. สเจ อกตฏฺาเน จยํ วา ปมุขํ วา กโรติ, พหิกุฏฺเฏ อุปฑฺฒํ สงฺฆสฺส, อุปฑฺฒํ ตสฺส. อถ มหนฺตํ วิสมํ ปูเรตฺวา อปเท ปทํ ทสฺเสตฺวา กตํ โหติ, อนิสฺสโร ตตฺถ สงฺโฆ.

เอกํ วรเสยฺยนฺติ เอตฺถ นวกมฺมทานฏฺาเน วา วสฺสคฺเคน ปตฺตฏฺาเน วา ยํ อิจฺฉติ, ตํ เอกํ วรเสยฺยํ อนุชานามีติ อตฺโถ.

ปริโยสิเต ปกฺกมติ ตสฺเสเวตนฺติ ปุน อาคนฺตฺวา วสนฺตสฺส อนฺโตวสฺสํ ตสฺเสว ตํ; อนาคจฺฉนฺตสฺส ปน สทฺธิวิหาริกาทโย คเหตุํ น ลภนฺติ.

นวกมฺมทานกถา นิฏฺิตา.

อฺตฺรปฏิโภคปฏิกฺเขปาทิกถา

๓๒๔. นาติหรนฺตีติ อฺตฺร หริตฺวา น ปริภุฺชนฺติ. คุตฺตตฺถายาติ ยํ ตตฺถ มฺจปีาทิ, ตสฺส คุตฺตตฺถาย, ตํ อฺตฺร หริตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. ตสฺมา ตํ อฺตฺร หริตฺวา สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชนฺตสฺส นฏฺํ สุนฏฺํ, ชิณฺณํ สุชิณฺณํ. สเจ อโรคํ ตสฺมึ วิหาเร ปฏิสงฺขเต ปุน ปากติกํ กาตพฺพํ. ปุคฺคลิกปริโภเคน ปริภุฺชโต นฏฺํ วา ชิณฺณํ วา คีวา โหติ, ตสฺมึ ปฏิสงฺขเต ทาตพฺพเมว. สเจ ตโต โคปานสิอาทีนิ คเหตฺวา อฺสฺมึ สงฺฆิกาวาเส โยเชนฺติ, สุโยชิตานิ. ปุคฺคลิกาวาเส โยเชนฺเตหิ ปน มูลํ วา ทาตพฺพํ, ปฏิปากติกํ วา กาตพฺพํ ฉฑฺฑิตวิหารโต มฺจปีาทีนิ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺโต อุทฺธาเรเยว ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. ปุน อาวาสิกกาเล ทสฺสามีติ คเหตฺวา สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชนฺตสฺส นฏฺํ สุนฏฺํ, ชิณฺณํ สุชิณฺณํ. อโรคฺเจ ปากติกํ กาตพฺพํ. ปุคฺคลิกปริโภเคน ปริภุฺชนฺตสฺส นฏฺํ คีวา โหติ. ตโต ทฺวารวาตปานาทีนิ สงฺฆิกาวาเส วา ปุคฺคลิกาวาเส วา โยชิตานิ ปฏิทาตพฺพานิเยว.

ผาติกมฺมตฺถายาติ วฑฺฒิกมฺมตฺถาย. ผาติกมฺมฺเจตฺถ สมกํ วา อติเรกํ วา อคฺฆนกํ มฺจปีาทิเสนาสนเมว วฏฺฏติ.

จกฺกลิกนฺติ กมฺพลาทีหิ เวเตฺวา กตจกฺกลิกํ. อลฺเลหิ ปาเทหีติ เยหิ อกฺกนฺตฏฺาเน อุทกํ ปฺายติ, เอวรูเปหิ ปาเทหิ ปริภณฺฑกตภูมิ วา เสนาสนํ วา น อกฺกมิตพฺพํ. สเจ ปน อุทกสิเนหมตฺตเมว ปฺายติ, น อุทกํ, วฏฺฏติ. ปาทปุฺฉนึ ปน อลฺลปาเทหิปิ อกฺกมิตุํ วฏฺฏติเยว. สอุปาหเนน โธตปาเทหิ อกฺกมิตพฺพฏฺาเนเยว น วฏฺฏติ.

โจฬเกน ปลิเวเตุนฺติ สุธาภูมิยํ วา ปริภณฺฑภูมิยํ วา สเจ ตฏฺฏิกา วา กฏสารโก วา นตฺถิ, โจฬเกน ปาทา เวเตพฺพา, ตสฺมึ อสติ ปณฺณมฺปิ อตฺถริตุํ วฏฺฏติ. กิฺจิ อนตฺถริตฺวา เปนฺตสฺส ปน ทุกฺกฏํ. ยทิ ปน ตตฺถ เนวาสิกา อนตฺถตายปิ ภูมิยา เปนฺติ, อโธตปาเทหิปิ วฬฺเชนฺติ, ตเถว วฬฺเชตุํ วฏฺฏติ.

น ภิกฺขเว ปริกมฺมกตา ภิตฺตีติ เสตภิตฺติ วา จิตฺตกมฺมกตา วา. น เกวลฺจ ภิตฺติเมว, ทฺวารมฺปิ วาตปานมฺปิ อปสฺเสนผลกมฺปิ ปาสาณตฺถมฺภมฺปิ รุกฺขตฺถมฺภมฺปิ จีวเรน วา เกนจิ วา อปฺปฏิจฺฉาเทตฺวา อปสฺสยิตุํ น ลพฺภติเยว.

โธตปาทกาติ โธตปาทกา หุตฺวา โธเตหิ ปาเทหิ อกฺกมิตพฺพฏฺาเน นิปชฺชิตุํ กุกฺกุจฺจายนฺติ. ‘‘โธตปาทเก’’ติปิ ปาโ. โธเตหิ ปาเทหิ อกฺกมิตพฺพฏฺานสฺเสตํ อธิวจนํ. ปจฺจตฺถริตฺวาติ ปริภณฺฑกตํ ภูมึ วา ภูมตฺถรณเสนาสนํ วา สงฺฆิกมฺจปีํ วา อตฺตโน สนฺตเกน ปจฺจตฺถรเณน ปจฺจตฺถริตฺวาว นิปชฺชิตพฺพํ. สเจ นิทฺทายโตปิ ปจฺจตฺถรเณ สงฺกุฏิเต โกจิ สรีราวยโว มฺจํ วา ปีํ วา ผุสติ, อาปตฺติเยว. โลเมสุ ปน โลมคณนาย อาปตฺติเยว. ปริโภคสีเสน อปสฺสยนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. หตฺถตลปาทตเลหิ ปน ผุสิตุํ วา อกฺกมิตุํ วา วฏฺฏติ. มฺจปีํ นีหรนฺตสฺส กาเย ปฏิหฺติ, อนาปตฺติ.

อฺตฺรปริโภคปฏิกฺเขปาทิกถา นิฏฺิตา.

สงฺฆภตฺตาทิอนุชานนกถา

๓๒๕. สกฺโกนฺติ สงฺฆภตฺตํ กาตุนฺติ สกลสฺส สงฺฆสฺส ภตฺตํ กาตุํ น สกฺโกนฺติ. อุทฺเทสภตฺตนฺติอาทีสุ ‘‘เอกํ วา ทฺเว วา…เป… ทส วา ภิกฺขู สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา เทถา’’ติ เอวํ อุทฺเทเสน ลทฺธภิกฺขูนํ ภตฺตํ กาตุํ อิจฺฉนฺติ. อปเร ตเถว ภิกฺขู ปริจฺฉินฺทิตฺวา นิมนฺเตตฺวา เตสํ ภตฺตํ กาตุํ อิจฺฉนฺติ. อปเร สลากาโย ฉินฺทิตฺวา, อปเร ปกฺขิกํ อุโปสถิกํ ปาฏิปทิกนฺติ เอวํ นิยาเมตฺวา, เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา…เป… ทสนฺนํ วา ภิกฺขูนํ ภตฺตํ กาตุํ อิจฺฉนฺติ. อิติ เอตานิ ภตฺตานิ อุทฺเทสภตฺตํ นิมนฺตนนฺติ อิมํ โวหารํ ปตฺตานิ. ยสฺมา ปน เต สเจปิ ทุพฺภิกฺเข น สกฺโกนฺติ, สุภิกฺเข ชาเต ปน ปุน สงฺฆภตฺตํ กาตุํ สกฺขิสฺสนฺติ, ตสฺมา ภควา ตมฺปิ อนฺโต กตฺวา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สงฺฆภตฺตํ อุทฺเทสภตฺต’’นฺติอาทิมาห.

ตตฺถ สงฺฆภตฺเต ิติกา นาม นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘อมฺหากํ อชฺช ทส ทฺวาทส ทิวสา ภุฺชนฺตานํ อิทานิ อฺโต ภิกฺขู อาเนถา’’ติ น เอวํ ตตฺถ วตฺตพฺพํ. ‘‘ปุริมทิวเสสุ อมฺเหหิ น ลทฺธํ, อิทานิ ตํ อมฺหากํ คาเหถา’’ติ เอวมฺปิ วตฺตุํ น ลพฺภติ. ตฺหิ อาคตาคตานํ ปาปุณาติเยว.

สงฺฆภตฺตาทิอนุชานนกถา นิฏฺิตา.

อุทฺเทสภตฺตกถา

อุทฺเทสภตฺตาทีสุ ปน อยํ นโย – รฺา วา ราชมหามตฺเตน วา สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา ‘‘เอตฺตเก ภิกฺขู อาเนถา’’ติ ปหิเต กาลํ โฆเสตฺวา ิติกา ปุจฺฉิตพฺพา. สเจ อตฺถิ, ตโต ปฏฺาย คาเหตพฺพํ; โน เจ, เถราสนโต ปฏฺาย คาเหตพฺพํ. อุทฺเทสเกน ปิณฺฑปาติกานมฺปิ น อติกฺกาเมตพฺพํ. เต ปน ธุตงฺคํ รกฺขนฺตา สยเมว อติกฺกมิสฺสนฺติ; เอวํ คาหิยมาเน อลสชาติกา มหาเถรา ปจฺฉา อาคจฺฉนฺติ, ‘‘ภนฺเต, วีสติวสฺสานํ คาหิยติ, ตุมฺหากํ ิติกา อติกฺกนฺตา’’ติ น วตฺตพฺพา, ิติกํ เปตฺวา เตสํ คาเหตฺวา ปจฺฉา ิติกาย คาเหตพฺพํ. ‘‘อสุกวิหาเร พหุํ อุทฺเทสภตฺตํ อุปฺปนฺน’’นฺติ สุตฺวา โยชนนฺตริกวิหารโตปิ ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, สมฺปตฺตสมฺปตฺตานํ ิตฏฺานโต ปฏฺาย คาเหตพฺพํ. อสมฺปตฺตานมฺปิ อุปจารสีมํ ปวิฏฺานํ อนฺเตวาสิกาทีสุ คณฺหนฺเตสุ คาเหตพฺพเมว. พหิอุปจารสีมาย ิตานํ คาเหถาติ วทนฺติ, น คาเหตพฺพํ. สเจ ปน อุปจารสีมํ โอกฺกนฺเตหิ เอกาพทฺธา หุตฺวา อตฺตโน วิหารทฺวาเร วา อนฺโตวิหาเรเยว วา โหนฺติ, ปริสาวเสน วฑฺฒิตา นาม สีมา โหติ, ตสฺมา คาเหตพฺพํ. สงฺฆนวกสฺส ทินฺเนปิ ปจฺฉา อาคตานํ คาเหตพฺพเมว. ทุติยภาเค ปน เถราสนํ อารุฬฺเห ปุน อาคตานํ ปมภาโค น ปาปุณาติ, ทุติยภาคโต วสฺสคฺเคน คาเหตพฺพํ.

เอกสฺมึ วิหาเร เอกํ ภตฺตุทฺเทสฏฺานํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา คาวุตปฺปมาณายปิ อุปจารสีมาย ยตฺถ กตฺถจิ อาโรจิตํ อุทฺเทสภตฺตํ, ตสฺมึเยว ภตฺตุทฺเทสฏฺาเน คาเหตพฺพํ. เอโก เอกสฺส ภิกฺขุโน ปหิณาติ ‘‘สฺเวปิ สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา ทส ภิกฺขู ปหิณถา’’ติ, เตน โส อตฺโถ ภตฺตุทฺเทสกสฺส อาโรเจตพฺโพ. สเจ ตํ ทิวสํ ปมุสฺสติ, ทุติยทิวเส ปาโตว อาโรเจตพฺโพ. อถ ปมุสฺสิตฺวาว ปิณฺฑาย ปวิสนฺโต สรติ, ยาว อุปจารสีมํ นาติกฺกมติ, ตาว ยา โภชนสาลาย ปกติฏฺิติกา, ตสฺสาเยว วเสน คาเหตพฺพํ. สเจปิ อุปจารสีมํ อติกฺกนฺตา ภิกฺขู จ อุปจารสีมฏฺเกหิ เอกาพทฺธา โหนฺติ, อฺมฺํ ทฺวาทสหตฺถนฺตรํ อวิชหิตฺวา คจฺฉนฺติ, ปกติฏฺิติกาย วเสน คาเหตพฺพํ. ภิกฺขูนํ ปน ตาทิเส เอกาพทฺเธ อสติ พหิอุปจารสีมาย ยสฺมึ าเน สรติ, ตตฺถ นวํ ิติกํ กตฺวา คาเหตพฺพํ. อนฺโตคาเม อาสนสาลาย สรนฺเตน อาสนสาลาย ิติกาย คาเหตพฺพํ. ยตฺถ กตฺถจิ สริตฺวา คาเหตพฺพเมว, อคาเหตุํ น วฏฺฏติ. น หิ เอตํ ทุติยทิวเส ลพฺภตีติ.

สเจ สกวิหารโต อฺํ วิหารํ คจฺฉนฺเต ภิกฺขู ทิสฺวา โกจิ อุทฺเทสภตฺตํ อุทฺทิสาเปติ, ยาว อนฺโตอุปจาเร วา อุปจารสีมฏฺเกหิ สทฺธึ วุตฺตนเยน เอกาพทฺธา วา โหนฺติ, ตาว สกวิหาเร ิติกาวเสเนว คาเหตพฺพํ. พหิอุปจาเร ิตานํ ทินฺนํ ปน ‘‘สงฺฆโต ภนฺเต เอตฺตเก นาม ภิกฺขู อุทฺทิสถา’’ติ วุตฺเต สมฺปตฺตานํ คาเหตพฺพํ. ตตฺถ ทฺวาทสหตฺถนฺตรํ อวิชหิตฺวา เอกาพทฺธนเยน ทูเร ิตาปิ สมฺปตฺตาเยวาติ เวทิตพฺพํ. สเจ ยํ วิหารํ คจฺฉนฺติ, ตตฺถ ปวิฏฺานํ อาโรเจนฺติ, ตสฺส วิหารสฺส ิติกาวเสน คาเหตพฺพํ. สเจปิ คามทฺวาเร วา วีถิยํ วา จตุกฺเก วา อนฺตรฆเร วา ภิกฺขู ทิสฺวา โกจิ สงฺฆุทฺเทสํ อาโรเจติ, ตสฺมึ ตสฺมึ าเน อนฺโตอุปจารคตานํ คาเหตพฺพํ.

ฆรูปจาโร เจตฺถ ‘‘เอกํ ฆรํ เอกูปจารํ, เอกํ ฆรํ นานูปจารํ, นานาฆรํ เอกูปจารํ, นานาฆรํ นานูปจาร’’นฺติ อิเมสํ วเสน เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ยํ เอกกุลสฺส ฆรํ เอกวฬฺชํ โหติ, ตํ สุปฺปปาตปริจฺเฉทสฺส อนฺโต เอกูปจารํ นาม. ตตฺถุปฺปนฺโน อุทฺเทสลาโภ ตสฺมึ อุปจาเร ภิกฺขาจารวตฺเตนปิ ิตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ, เอตํ ‘‘เอกํ ฆรํ เอกูปจารํ’’ นาม.

ยํ ปน เอกํ ฆรํ ทฺวินฺนํ ภริยานํ สุขวิหารตฺถาย มชฺเฌ ภิตฺตึ อุฏฺาเปตฺวา นานาทฺวารวฬฺชํ กตํ, ตตฺถุปฺปนฺโน อุทฺเทสลาโภ ภิตฺติอนฺตริกสฺส น ปาปุณาติ, ตสฺมึ ตสฺมึ าเน นิสินฺนสฺเสว ปาปุณาติ, เอตํ ‘‘เอกํ ฆรํ นานูปจารํ’’ นาม.

ยสฺมึ ปน ฆเร พหู ภิกฺขู นิมนฺเตตฺวา อนฺโตเคหโต ปฏฺาย เอกาพทฺเธ กตฺวา ปฏิวิสฺสกฆรานิปิ ปูเรตฺวา นิสีทาเปนฺติ, ตตฺถุปฺปนฺโน อุทฺเทสลาโภ สพฺเพสํ ปาปุณาติ. ยมฺปิ นานากุลสฺส นิเวสนํ มชฺเฌ ภิตฺตึ อกตฺวา เอกทฺวาเรเนว วฬฺชนฺติ, ตตฺราปิ เอเสว นโย. เอตํ ‘‘นานาฆรํ เอกูปจารํ’’ นาม.

โย ปน นานานิเวสเนสุ นิสินฺนานํ ภิกฺขูนํ อุทฺเทสลาโภ อุปฺปชฺชติ, กิฺจาปิ ภิตฺติจฺฉิทฺเทน ภิกฺขู ทิสฺสนฺติ, ตสฺมึ ตสฺมึ นิเวสเน นิสินฺนานํเยว ปาปุณาติ, เอตํ ‘‘นานาฆรํ นานูปจารํ’’ นาม.

โย ปน คามทฺวารวีถิจตุกฺเกสุ อฺตรสฺมึ าเน อุทฺเทสภตฺตํ ลภิตฺวา อฺสฺมึ ภิกฺขุสฺมึ อสติ อตฺตโนว ปาปุณาเปตฺวา ทุติยทิวเสปิ ตสฺมึเยว าเน อฺํ ลภติ, เตน ยํ อฺํ นวกํ วา วุฑฺฒํ วา ภิกฺขุํ ปสฺสติ, ตสฺส คาเหตพฺพํ. สเจ โกจิ นตฺถิ, อตฺตโนว ปาเปตฺวา ภุฺชิตพฺพํ.

สเจ อาสนสาลาย นิสีทิตฺวา กาลํ ปฏิมาเนนฺเตสุ ภิกฺขูสุ โกจิ อาคนฺตฺวา ‘‘สงฺฆุทฺเทสปตฺตํ เทถ, อุทฺเทสปตฺตํ เทถ, สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา ปตฺตํ เทถ, สงฺฆิกํ ปตฺตํ เทถา’’ติ วา วทติ, อุทฺเทสปตฺตํ ิติกาย คาเหตฺวา ทาตพฺพํ. ‘‘สงฺฆุทฺเทสภิกฺขุํ เทถ, สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา ภิกฺขุํ เทถ, สงฺฆิกํ ภิกฺขุํ เทถา’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย.

อุทฺเทสโก ปเนตฺถ เปสโล ลชฺชี เมธาวี อิจฺฉิตพฺโพ, เตน ติกฺขตฺตุํ ิติกํ ปุจฺฉิตฺวา สเจ โกจิ ิติกํ ชานนฺโต นตฺถิ, เถราสนโต คาเหตพฺพํ. สเจ ปน ‘‘อหํ ชานามิ, ทสวสฺเสน ลทฺธ’’นฺติ โกจิ ภณติ, ‘‘อตฺถาวุโส, ทสวสฺสา ภิกฺขู’’ติ ปุจฺฉิตพฺพํ. สเจ ตสฺส สุตฺวา ‘‘ทสวสฺสมฺห ทสวสฺสมฺหา’’ติ พหู อาคจฺฉนฺติ, ‘‘ตุยฺหํ ปาปุณาติ, ตุยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ อวตฺวา ‘‘สพฺเพ อปฺปสทฺทา โหถา’’ติ วตฺวา ปฏิปาฏิยา เปตพฺพา. เปตฺวา ‘‘กติ อิจฺฉถา’’ติ อุปาสโก ปุจฺฉิตพฺโพ. ‘‘เอตฺตเก นาม, ภนฺเต, ภิกฺขู’’ติ วุตฺเต ‘‘ตุยฺหํ ปาปุณาติ, ตุยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ อวตฺวา สพฺพนวกสฺส วสฺสคฺคฺจ อุตุ จ ทิวสภาโค จ ฉายา จ ปุจฺฉิตพฺพา. สเจ ฉายายปิ ปุจฺฉิยมานาย อฺโ วุฑฺฒตโร อาคจฺฉติ, ตสฺส ทาตพฺพํ. อถ ฉายํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ตุยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ วุตฺเต วุฑฺฒตโร อาคจฺฉติ, น ลภติ. กถาปปฺเจน หิ นิสินฺนสฺสาปิ นิทฺทายนฺตสฺสาปิ คาหิตํ สุคฺคาหิตํ, อติกฺกนฺตํ สุอติกฺกนฺตํ, ภาชนียภณฺฑฺหิ นาเมตํ สมฺปตฺตสฺเสว ปาปุณาติ, ตตฺถ สมฺปตฺตภาโว อุปจาเรน ปริจฺฉินฺทิตพฺโพ. อาสนสาลาย จ อนฺโตปริกฺเขโป อุปจาโร, ตสฺมึ ิตสฺส ลาโภ ปาปุณาตีติ.

โกจิ อาสนสาลโต อฏฺ อุทฺเทสปตฺเต อาหราเปตฺวา สตฺต ปตฺเต ปณีตโภชนานํ เอกํ อุทกสฺส ปูเรตฺวา อาสนสาลายํ ปหิณาติ, คเหตฺวา อาคตา กิฺจิ อวตฺวา ภิกฺขูนํ หตฺเถสุ ปติฏฺาเปตฺวา ปกฺกมนฺติ. เยน ยํ ลทฺธํ, ตสฺเสว ตํ โหติ. เยน ปน อุทกํ ลทฺธํ, ตสฺส อติกฺกนฺตมฺปิ ิติกํ เปตฺวา อฺํ อุทฺเทสภตฺตํ คาเหตพฺพํ. ตฺจ ลูขํ วา ลภตุ ปณีตํ วา ติจีวรปริวารํ วา, ตสฺเสเวตํ. อีทิโส หิสฺส ปุฺวิเสโส. อุทกํ ปน ยสฺมา อามิสํ น โหติ, ตสฺมา อฺํ อุทฺเทสภตฺตํ ลพฺภติ.

สเจ ปน เต คเหตฺวา อาคตา ‘‘อิทํ กิร ภนฺเต สพฺพํ ภาเชตฺวา ภุฺชถา’’ติ วตฺวา คจฺฉนฺติ, สพฺเพหิ ภาเชตฺวา ภุฺชิตฺวา อุทกํ ปาตพฺพํ. สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา ‘‘อฏฺ มหาเถเร เทถ, มชฺฌิเม เทถ, นวเก เทถ, ปริปุณฺณวสฺสสามเณเร เทถ, มชฺฌิมภาณกาทโย เทถ, มยฺหํ าติภิกฺขู เทถา’’ติ วทนฺตสฺส ปน ‘‘อุปาสก, ตฺวํ เอวํ วทสิ, ิติกาย ปน เตสํ น ปาปุณาตี’’ติ วตฺวา ิติกาวเสเนว ทาตพฺพา. ทหรสามเณเรหิ ปน อุทฺเทสภตฺเตสุ ลทฺเธสุ สเจ ทายกานํ ฆเร มงฺคลํ โหติ, ‘‘ตุมฺหากํ อาจริยุปชฺฌาเย เปเสถา’’ติ วตฺตพฺพํ.

ยสฺมึ ปน อุทฺเทสภตฺเต ปมภาโค สามเณรานํ ปาปุณาติ, อนุภาโค มหาเถรานํ, น ตตฺถ สามเณรา ‘‘มยํ ปมภาคํ ลภิมฺหา’’ติ ปุรโต คนฺตุํ ลภนฺติ, ยถาปฏิปาฏิยา เอว คนฺตพฺพํ. ‘‘สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา ‘ตุมฺเห เอถา’ติ วุตฺเต ‘มยฺหํ อฺทาปิ ชานิสฺสสิ, ิติกา ปน เอวํ คจฺฉตี’’’ติ ิติกาวเสเนว คาเหตพฺพํ. อถ ‘‘สงฺฆุทฺเทสปตฺตํ เทถา’’ติ วตฺวา อคาหิเตเยว ปตฺเต ยสฺส กสฺสจิ ปตฺตํ คเหตฺวา ปูเรตฺวา อาหรติ, อาหฏมฺปิ ิติกาย เอว คาเหตพฺพํ.

เอโก ‘‘สงฺฆุทฺเทสปตฺตํ อาหรา’’ติ เปสิโต ‘‘ภนฺเต, เอกํ ปตฺตํ เทถ, นิมนฺตนภตฺตํ อาหริสฺสามี’’ติ วทติ, โส เจ อุทฺเทสภตฺตฆรโต อยํ อาคโตติ ตฺวา ภิกฺขูหิ ‘‘นนุ ตฺวํ อสุกฆรโต อาคโต’’ติ วุตฺโต ‘‘อาม, ภนฺเต, น นิมนฺตนภตฺตํ, อุทฺเทสภตฺต’’นฺติ ภณติ, ิติกาย คเหตพฺพํ. โย ปน ‘‘เอกํ ปตฺตํ อาหรา’’ติ วุตฺโต ‘‘‘กิ’นฺติ วตฺวา อาหรามี’’ติ วตฺวา ‘‘ยถา เต รุจฺจตี’’ติ วุตฺโต อาคจฺฉติ, อยํ วิสฺสฏฺทูโต นาม. อุทฺเทสปตฺตํ วา ปฏิปาฏิปตฺตํ วา ปุคฺคลิกปตฺตํ วา ยํ อิจฺฉติ, ตํ ตสฺส ทาตพฺพํ. เอโก พาโล อพฺยตฺโต ‘‘อุทฺเทสปตฺตํ อาหรา’’ติ เปสิโต วตฺตุํ น ชานาติ, ตุณฺหีภูโต ติฏฺติ, โส ‘‘กสฺส สนฺติกํ อาคโตสี’’ติ วา ‘‘กสฺส ปตฺตํ หริสฺสสี’’ติ วา น วตฺตพฺโพ. เอวฺหิ วุตฺโต ปุจฺฉาสภาเคน ‘‘ตุมฺหากํ สนฺติกํ อาคโตมฺหี’’ติ ‘‘ตุมฺหากํ ปตฺตํ หริสฺสามี’’ติ วา วเทยฺย, ตโต ตํ ภิกฺขุํ อฺเ ภิกฺขู ชิคุจฺฉนฺตา น โอโลเกยฺยุํ. ‘‘กุหึ คจฺฉสิ, กึ กโรนฺโต อาหิณฺฑสี’’ติ ปน วตฺตพฺโพ. ตสฺส ‘‘อุทฺเทสปตฺตตฺถาย อาคโตมฺหี’’ติ วทนฺตสฺส คาเหตฺวา ปตฺโต ทาตพฺโพ.

เอกา กูฏฏฺิติกา นาม โหติ. รฺโ วา หิ ราชมหามตฺตสฺส วา เคเห อติปณีตานิ อฏฺ อุทฺเทสภตฺตานิ นิจฺจํ ทิยฺยนฺติ, ตานิ เอกจาริกภตฺตานิ กตฺวา ภิกฺขู วิสุํ ิติกาย ปริภุฺชนฺติ. เอกจฺเจ ภิกฺขู ‘‘สฺเว ทานิ อมฺหากํ ปาปุณิสฺสนฺตี’’ติ อตฺตโน ิติกํ สลฺลกฺเขตฺวา คตา, เตสุ อนาคเตสุเยว อฺเ อาคนฺตุกา ภิกฺขู อาคนฺตฺวา อาสนสาลาย นิสีทนฺติ; ตงฺขณฺเว ราชปุริสา อาคนฺตฺวา ‘‘ปณีตภตฺตปตฺเต เทถา’’ติ วทนฺติ. อาคนฺตุกา ิติกํ อชานนฺตา คาเหนฺติ. ตงฺขณฺเว จ ิติกํ ชานนกภิกฺขู อาคนฺตฺวา ‘‘กึ คาเหถา’’ติ วทนฺติ. ‘‘ราชเคเห ปณีตภตฺต’’นฺติ. ‘‘กติวสฺสโต ปฏฺายา’’ติ? ‘‘เอตฺตกวสฺสโต นามา’’ติ. ‘‘มา คาเหถา’’ติ นิวาเรตฺวา ิติกาย คาเหตพฺพํ. คาหิเต อาคเตหิปิ ปตฺตทานกาเล อาคเตหิปิ ทินฺนกาเล อาคเตหิปิ ราชเคหโต ปตฺเต ปูเรตฺวา อาหฏกาเล อาคเตหิปิ ราชา ‘‘อชฺช ภิกฺขูเยว อาคจฺฉนฺตู’’ติ เปเสตฺวา ภิกฺขูนํเยว หตฺเถ ปิณฺฑปาตํ เทติ; เอวํ ทินฺนปิณฺฑปาตํ คเหตฺวา อาคตกาเล อาคเตหิปิ ิติกํ ชานนกภิกฺขูหิ ‘‘มา ภุฺชิตฺถา’’ติ วาเรตฺวา ิติกายเมว คาเหตพฺพํ.

อถ เน ราชา โภเชตฺวา ปตฺเตปิ เนสํ ปูเรตฺวา เทติ, ยํ อาหฏํ ตํ ิติกาย คาเหตพฺพํ. สเจ ปน ‘‘มา ตุจฺฉหตฺถา คจฺฉนฺตู’’ติ โถกเมว ปตฺเตสุ ปกฺขิตฺตํ โหติ, ตํ น คาเหตพฺพํ. อถ ภุฺชิตฺวา ตุจฺฉปตฺตาว อาคจฺฉนฺติ, ยํ เตหิ ภุตฺตํ, ตํ เนสํ คีวา โหตีติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘คีวากิจฺจํ เอตฺถ นตฺถิ, ิติกํ ปน อชานนฺเตหิ ยาว ชานนกา อาคจฺฉนฺติ, ตาว นิสีทิตพฺพํ สิยา; เอวํ สนฺเตปิ ภุตฺตํ สุภุตฺตํ, อิทานิ ปตฺตฏฺาเนน คาเหตพฺพ’’นฺติ.

เอโก ติจีวรปริวาโร สตคฺฆนโก ปิณฺฑปาโต อวสฺสิกสฺส ภิกฺขุโน ปตฺโต, วิหาเร จ ‘‘เอวรูโป ปิณฺฑปาโต อวสฺสิกสฺส ปตฺโต’’ติ ลิขิตฺวา เปสุํ. อถ สฏฺิวสฺสจฺจเยน อฺโ ตถารูโป ปิณฺฑปาโต อุปฺปนฺโน, อยํ กึ อวสฺสิกฏฺิติกาย คาเหตพฺโพ, อุทาหุ สฏฺิวสฺสิกฏฺิติกายาติ. สฏฺิวสฺสิกฏฺิติกายาติ วุตฺตํ, อยฺหิ ภิกฺขุ ิติกํ คเหตฺวาเยว วฑฺฒิโตติ.

เอโก อุทฺเทสภตฺตํ ภุฺชิตฺวา สามเณโร ชาโต, ปุน ตํ ภตฺตํ สามเณรฏฺิติกาย ปตฺตํ คณฺหิตุํ ลภติ. อยํ กิร อนฺตราภฏฺโก นาม. โย ปน ปริปุณฺณวสฺโส สามเณโร ‘‘สฺเว อุทฺเทสภตฺตํ ลภิสฺสตี’’ติ อชฺเชว อุปสมฺปชฺชติ, อติกฺกนฺตา ตสฺส ิติกา. เอกสฺส ภิกฺขุโน อุทฺเทสภตฺตํ ปตฺตํ, ปตฺโต จสฺส น ตุจฺโฉ โหติ, โส อฺสฺส สมีเป นิสินฺนสฺส ปตฺตํ ทาเปติ, ตฺเจ เถยฺยาย หรนฺติ, คีวา โหติ. สเจ ปน โส ภิกฺขุ ‘‘มยฺหํ ปตฺตํ ทมฺมี’’ติ สยเมว เทติ, อสฺส คีวา น โหติ. อถาปิ เตน ภตฺเตน อนตฺถิโก หุตฺวา ‘‘อลํ มยฺหํ, ตเวตํ ภตฺตํ ทมฺมิ, ปตฺตํ เปเสตฺวา อาหราเปหี’’ติ อฺํ วทติ, ยํ ตโต อาหรียติ สพฺพํ ปตฺตสามิกสฺส โหติ. ปตฺตฺเจ เถยฺยาย หรนฺติ, สุหโฏ; ภตฺตสฺส ทินฺนตฺตา คีวา น โหติ.

วิหาเร ทส ภิกฺขู โหนฺติ, เตสุ นว ปิณฺฑปาติกา, เอโก สาทิยนโก. ‘‘ทส อุทฺเทสปตฺเต เทถา’’ติ วุตฺเต ปิณฺฑปาติกา คเหตุํ น อิจฺฉนฺติ. อิตโร ภิกฺขุ ‘‘สพฺพานิ มยฺหํ ปาปุณนฺตี’’ติ คณฺหาติ, ิติกา น โหติ. เอเกกํ เจ ปาเปตฺวา คณฺหาติ, ิติกา ติฏฺติ. เอวํ คาเหตฺวา ทสหิปิ ปตฺเตหิ อาหราเปตฺวา ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ สงฺคหํ กโรถา’’ติ นว ปตฺเต ปิณฺฑปาติกานํ เทติ, ภิกฺขุทตฺติยํ นาเมตํ, คณฺหิตุํ วฏฺฏติ.

สเจ โส อุปาสโก ‘‘ภนฺเต, ฆรํ อาคนฺตพฺพ’’นฺติ วทติ, โส จ ภิกฺขุ เต ภิกฺขู ‘‘เอถ, ภนฺเต, มยฺหํ สหายา โหถา’’ติ ตสฺส ฆรํ คจฺฉติ. ยํ ตตฺถ ลภติ, สพฺพํ ตสฺเสว โหติ. อิตเร เตน ทินฺนํ ลภนฺติ. อถ เนสํ ฆเรเยว นิสีทาเปตฺวา ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา ยาคุขชฺชกาทีนิ เทนฺติ, ‘‘ภนฺเต, ยํ มนุสฺสา เทนฺติ, ตํ คณฺหถา’’ติ ตสฺส ภิกฺขุโน วจเนเนว อิตเรสํ วฏฺฏติ. ภุตฺตาวีนํ ปตฺเต ปูเรตฺวา คณฺหิตฺวา คมนตฺถาย เทนฺติ, สพฺพํ ตสฺเสว ภิกฺขุโน โหติ, เตน ทินฺนํ อิตเรสํ วฏฺฏติ.

ยทิ ปน เต วิหาเรเยว เตน ภิกฺขุนา ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ ภิกฺขํ คณฺหถ, มนุสฺสานฺจ วจนํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตา คจฺฉนฺติ, ยํ ตตฺถ ภุฺชนฺติ เจว นีหรนฺติ จ, สพฺพํ ตํ ตสฺเสว สนฺตกํ. อถาปิ ‘‘มยฺหํ ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ อวุตฺตา ‘‘มนุสฺสานํ วจนํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ คจฺฉนฺติ, ตตฺร เจ เอกสฺส มธุเรน สเรน อนุโมทนํ กโรนฺตสฺส สุตฺวา เถรานฺจ อุปสเม ปสีทิตฺวา พหุํ สมณปริกฺขารํ เทนฺติ, อยํ เถเรสุ ปสาเทน อุปฺปนฺโน ‘‘อกตภาโค’’ นาม, ตสฺมา สพฺเพสํ ปาปุณาติ.

เอโก สงฺฆโต อุทฺทิสาเปตฺวา ิติกาย คาหิตํ ปตฺตํ หริตฺวา ปณีตสฺส ขาทนียโภชนียสฺส ปูเรตฺวา อาหริตฺวา ‘‘อิมํ, ภนฺเต, สพฺโพ สงฺโฆ ปริภุฺชตู’’ติ เทติ, สพฺเพหิ ภาเชตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. ปตฺตสามิกสฺส ปน อติกฺกนฺตมฺปิ ิติกํ เปตฺวา อฺํ อุทฺเทสภตฺตํ ทาตพฺพํ. อถ ‘‘ปมํเยว สพฺพํ สงฺฆิกํ ปตฺตํ เทถา’’ติ วทติ, เอกสฺส ลชฺชิภิกฺขุโน สนฺตโก ปตฺโต ทาตพฺโพ. อาหริตฺวา จ ‘‘สพฺโพ สงฺโฆ ปริภุฺชตู’’ติ วุตฺเต ภาเชตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ.

เอโก ปาติยา ภตฺตํ อาหริตฺวา ‘‘สงฺฆุทฺเทสํ ทมฺมี’’ติ วทติ, เอเกกํ อาโลปํ อทตฺวา ิติกาย เอกสฺส ยาปนมตฺตํ กตฺวา ทาตพฺพํ. อถ โส ภตฺตํ อาหริตฺวา กิฺจิ วตฺตุํ อชานนฺโต ตุณฺหีภูโต อจฺฉติ, ‘‘กสฺส เต อานีตํ, กสฺส ทาตุกาโมสี’’ติ น วตฺตพฺพํ. ปุจฺฉาสภาเคน หิ ‘‘ตุมฺหากํ อานีตํ, ตุมฺหากํ ทาตุกาโมมฺหี’’ติ วเทยฺย, ตโต ตํ ภิกฺขุํ อฺเ ภิกฺขู ชิคุจฺฉนฺตา คีวํ ปริวตฺเตตฺวา โอโลเกตพฺพมฺปิ น มฺเยฺยุํ. สเจ ปน ‘‘กุหึ ยาสิ, กึ กโรนฺโต อาหิณฺฑสี’’ติ วุตฺเต ‘‘อุทฺเทสภตฺตํ คเหตฺวา อาคโตมฺหี’’ติ วทติ, เอเกน ลชฺชิภิกฺขุนา ิติกาย คาเหตพฺพํ. สเจ อาภตํ พหุ โหติ, สพฺเพสํ ปโหติ, ิติกากิจฺจํ นตฺถิ, เถราสนโต ปฏฺาย ปตฺตํ ปูเรตฺวา ทาตพฺพํ.

‘‘สงฺฆุทฺเทสปตฺตํ เทถา’’ติ วุตฺเต ‘‘กึ อาหริสฺสสี’’ติ อวตฺวา ปกติฏฺิติกาย เอว คาเหตพฺพํ. โย ปน ปายาโส วา รสปิณฺฑปาโต วา นิจฺจํ ลพฺภติ; เอวรูปานํ ปณีตโภชนานํ อาเวณิกา ิติกา กาตพฺพา, ตถา สปริวาราย ยาคุยา มหคฺฆานํ ผลานํ ปณีตานฺจ ขชฺชกานํ. ปกติภตฺตยาคุผลขชฺชกานํ ปน เอกาว ิติกา กาตพฺพา. ‘‘สปฺปึ อาหริสฺสามี’’ติ วุตฺเต สพฺพสปฺปีนํ เอกาว ิติกา วฏฺฏติ, ตถา สพฺพเตลานํ. ‘‘มธุํ อาหริสฺสามี’’ติ วุตฺเต ปน มธุโน เอกาว ิติกา วฏฺฏติ, ตถา ผาณิตสฺส ลฏฺิมธุกาทีนฺจ เภสชฺชานํ. สเจ ปน คนฺธมาลํ สงฺฆุทฺเทสํ เทนฺติ, ปิณฺฑปาติกสฺส วฏฺฏติ, น วฏฺฏตีติ. อามิสสฺเสว ปฏิกฺขิตฺตตฺตา วฏฺฏติ, สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ทินฺนตฺตา ปน น คเหตพฺพนฺติ วทนฺติ.

อุทฺเทสภตฺตกถา นิฏฺิตา.

นิมนฺตนภตฺตกถา

นิมนฺตนํ ปุคฺคลิกฺเจ, สยเมว อิสฺสโร. สงฺฆิกํ ปน อุทฺเทสภตฺเต วุตฺตนเยเนว คาเหตพฺพํ. สเจ ปเนตฺถ ทูโต พฺยตฺโต โหติ, ‘‘ภนฺเต, ราชเคเห ภิกฺขุสงฺฆสฺส ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ อวตฺวา ‘‘ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ. อถ ทูโต อพฺยตฺโต ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ภตฺตุทฺเทสโก พฺยตฺโต ‘‘ภตฺต’’นฺติ อวตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห ยาถา’’ติ วทติ; เอวมฺปิ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ. ตุมฺหากํ ปฏิปาฏิยา ‘‘ภตฺตํ ปาปุณาตี’’ติ วุตฺเต ปน น วฏฺฏติ. สเจ นิมนฺเตตุํ อาคตมนุสฺโส อาสนสาลํ ปวิสิตฺวา ‘‘อฏฺ ภิกฺขู เทถา’’ติ วา ‘‘อฏฺ ปตฺเต เทถา’’ติ วา วทติ; เอวมฺปิ ปิณฺฑปาติกานํ วฏฺฏติ, ‘‘ตุมฺเห จ ตุมฺเห จ คจฺฉถา’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ปน ‘‘อฏฺ ภิกฺขู เทถ; ภตฺตํ คณฺหถ, อฏฺ ปตฺเต เทถ; ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ปฏิปาฏิยา คาเหตพฺพํ. คาเหนฺเตน ปน วิจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘ภตฺต’’นฺติ อวทนฺเตน ‘‘ตุมฺเห จ ตุมฺเห จ คจฺฉถา’’ติ วุตฺเต ปิณฺฑปาติกานํ วฏฺฏติ. ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปตฺตํ เทถ, ตุมฺเห เอถา’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘สาธุ, อุปาสกา’’ติ คนฺตพฺพํ. สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา ‘‘ตุมฺเห เอถา’’ติ วุตฺเตปิ ยถาิติกาย คาเหตพฺพํ.

นิมนฺตนภตฺตฆรโต ปน ปตฺตตฺถาย อาคตสฺส อุทฺเทสภตฺเต วุตฺตนเยเนว ิติกาย ปตฺโต ทาตพฺโพ. เอโก ‘‘สงฺฆโต ปฏิปาฏิยา ปตฺต’’นฺติ อวตฺวา เกวลํ ‘‘เอกํ ปตฺตํ เทถา’’ติ วตฺวา อคาหิเตเยว ปตฺเต ยสฺส กสฺสจิ ปตฺตํ คเหตฺวา ปูเรตฺวา อาหรติ, ตํ ปตฺตสามิกสฺเสว โหติ, อุทฺเทสภตฺเต วิย ิติกาย น คาเหตพฺพํ. อิธาปิ โย อาคนฺตฺวา ตุณฺหีภูโต ติฏฺติ, โส ‘‘กสฺส สนฺติกํ อาคโตสี’’ติ วา ‘‘กสฺส ปตฺตํ หริสฺสสี’’ติ วา น วตฺตพฺโพ.

ปุจฺฉาสภาเคน หิ ‘‘ตุมฺหากํ สนฺติกํ อาคโต, ตุมฺหากํ ปตฺตํ หริสฺสามี’’ติ วเทยฺย, ตโต โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ ชิคุจฺฉนีโย อสฺส. ‘‘กุหึ คจฺฉสิ, กึ กโรนฺโต อาหิณฺฑสี’’ติ ปน วุตฺเต ‘‘ตสฺส ปตฺตตฺถาย อาคโตมฺหี’’ติ วทนฺตสฺส ปฏิปาฏิยา ภตฺตฏฺิติกาย คาเหตฺวา ปตฺโต ทาตพฺโพ. ‘‘ภตฺตาหรณกปตฺตํ เทถา’’ติ วุตฺเตปิ ปฏิปาฏิยา ภตฺตฏฺิติกาย เอว ทาตพฺโพ. สเจ อาหริตฺวา ‘‘สพฺโพ สงฺโฆ ภุฺชตู’’ติ วทติ, ภาเชตฺวา ภุฺชิตพฺพํ. ปตฺตสามิกสฺส อติกฺกนฺตมฺปิ ิติกํ เปตฺวา อฺํ ปฏิปาฏิภตฺตํ คาเหตพฺพํ.

เอโก ปาติยา ภตฺตํ อาหริตฺวา ‘‘สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ, อาโลปภตฺตฏฺิติกโต ปฏฺาย อาโลปสงฺเขเปน ภาเชตพฺพํ. สเจ ปน ตุณฺหีภูโต อจฺฉติ, ‘‘กสฺส เต อาภตํ, กสฺส ทาตุกาโมสี’’ติ น วตฺตพฺโพ. สเจ ปน ‘‘กุหึ คจฺฉสิ, กึ กโรนฺโต อาหิณฺฑสี’’ติ วุตฺเต ‘‘สงฺฆสฺส เม ภตฺตํ อาภตํ, เถรานํ เม ภตฺตํ อาภต’’นฺติ วทติ, คเหตฺวา อาโลปภตฺตฏฺิติกาย ภาเชตพฺพํ. สเจ ปน เอวํ อาภตํ พหุํ โหติ, สกลสฺส สงฺฆสฺส พหุ โหติ, อภิหฏภิกฺขา นาม ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ, ิติกาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ, เถราสนโต ปฏฺาย ปตฺตํ ปูเรตฺวา ทาตพฺพํ.

อุปาสโก สงฺฆตฺเถรสฺส วา คนฺถธุตงฺควเสน อภิฺาตสฺส วา ภตฺตุทฺเทสกสฺส วา ปหิณาติ ‘‘อมฺหากํ ภตฺตคหณตฺถาย อฏฺ ภิกฺขู คเหตฺวา อาคจฺฉถา’’ติ, สเจปิ าติอุปฏฺาเกหิ เปสิตํ โหติ, อิเม ตโย ชนา ปุจฺฉิตุํ น ลภนฺติ, อารุฬฺหาเยว มาติกํ, สงฺฆโต อฏฺ ภิกฺขู อุทฺทิสาเปตฺวา อตฺตนวเมหิ คนฺตพฺพํ. กสฺมา? ภิกฺขุสงฺฆสฺส หิ เอเต ภิกฺขู นิสฺสาย ลาโภ อุปฺปชฺชตีติ. คนฺถธุตงฺคาทีหิ ปน อนภิฺาโต อาวาสิกภิกฺขุ ปุจฺฉิตุํ ลภติ, ตสฺมา เตน ‘‘กึ สงฺฆโต คณฺหามิ, อุทาหุ เย ชานามิ, เตหิ สทฺธึ อาคจฺฉามี’’ติ มาติกํ อาโรเปตฺวา ยถา ทายกา วทนฺติ, ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพํ. ‘‘ตุมฺหากํ นิสฺสิตเก วา เย วา ชานาถ, เต คเหตฺวา เอถา’’ติ วุตฺเต ปน เย อิจฺฉนฺติ, เตหิ สทฺธึ คนฺตุํ ลภติ. สเจ ‘‘อฏฺ ภิกฺขู ปหิณถา’’ติ เปเสนฺติ, สงฺฆโตว เปเสตพฺพา. อตฺตนา สเจ อฺสฺมึ คาเม สกฺกา โหติ ภิกฺขา ลภิตุํ, อฺโ คาโม คนฺตพฺโพ. น สกฺกา เจ โหติ ลภิตุํ, โสเยว คาโม ปิณฺฑาย ปวิสิตพฺโพ.

นิมนฺติตภิกฺขู อาสนสาลาย นิสินฺนา โหนฺติ, ตตฺร เจ มนุสฺสา ‘‘ปตฺเต เทถา’’ติ อาคจฺฉนฺติ, อนิมนฺติเตหิ น ทาตพฺพา. ‘‘เอเต นิมนฺติตภิกฺขู’’ติ วตฺตพฺพํ. ‘‘ตุมฺเหปิ เทถา’’ติ วุตฺเต ปน ทาตุํ วฏฺฏติ. อุสฺสวาทีสุ มนุสฺสา สยเมว ปริเวณานิ จ ปธานฆรานิ จ คนฺตฺวา ติปิฏเก จ ธมฺมกถิเก จ ภิกฺขุสเตนปิ สทฺธึ นิมนฺเตนฺติ. ตทา เยปิ ชานนฺติ, เต คเหตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ. กสฺมา? น หิ มหาภิกฺขุสงฺเฆน อตฺถิกา มนุสฺสา ปริเวณานิ จ ปธานฆรานิ คจฺฉนฺติ, สนฺนิปาตฏฺานโตว ยถาสตฺติ ยถาพลํ ภิกฺขู คณฺหิตฺวา คจฺฉนฺตีติ.

สเจ ปน สงฺฆตฺเถโร วา คนฺถธุตงฺควเสน อภิฺาตโก วา ภตฺตุทฺเทสโก วา อฺตฺร วา วสฺสํ วสิตฺวา กตฺถจิ วา คนฺตฺวา ปุน สกฏฺานํ อาคจฺฉนฺติ, มนุสฺสา จ อาคนฺตุกสฺส สกฺการํ กโรนฺติ, เอกวารํ เย ชานนฺติ, เต คเหตฺวา คนฺตพฺพํ. ปฏิพทฺธกาลโต ปน ปฏฺาย ทุติยวาเร อารทฺเธ สงฺฆโตเยว คเหตฺวา คนฺตพฺพํ. อภินวอาคนฺตุกาว หุตฺวา าตี วา อุปฏฺาเก วา ปสฺสิสฺสามาติ คจฺฉนฺติ, ตตฺร เตสํ าตี จ อุปฏฺากา จ สกฺการํ กโรนฺติ. เอตฺถ ปน เย ชานนฺติ, เต คเหตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ.

โย ปน อติลาภี โหติ, สกฏฺานฺจ อาคนฺตุกฏฺานฺจ เอกสทิสํ, สพฺพตฺถ มนุสฺสา สงฺฆภตฺตํ สชฺเชตฺวาว นิสีทนฺติ, เตน สงฺฆโตว คเหตฺวา คนฺตพฺพนฺติ อยํ นิมนฺตเน วิเสโส. อวเสโส สพฺพปฺโห อุทฺเทสภตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘อฏฺ มหาเถเร เทถา’’ติ วุตฺเต ‘‘อฏฺ มหาเถราว ทาตพฺพา’’ติ วุตฺตํ. เอส นโย มชฺฌิมาทีสุ. สเจ ปน อวิเสเสตฺวา ‘‘อฏฺ ภิกฺขู เทถา’’ติ วทติ, สงฺฆโต ทาตพฺพา.

นิมนฺตนภตฺตกถา นิฏฺิตา.

สลากภตฺตกถา

สลากภตฺเต ปน ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สลากาย วา ปฏฺฏิกาย วา อุปนิพนฺธิตฺวา โอปุฺชิตฺวา อุทฺทิสิตุ’’นฺติ วจนโต รุกฺขสารมยาย สลากาย วา เวฬุวิลีวตาลปณฺณาทิมยาย ปฏฺฏิกาย วา ‘‘อสุกสฺส นาม สลากภตฺต’’นฺติ เอวํ อกฺขรานิ อุปนิพนฺธิตฺวา ปจฺฉิยํ วา จีวรโภเค วา กตฺวา สพฺพา สลากาโย โอปุฺชิตฺวา ปุนปฺปุนํ เหฏฺุปริวเสเนว อาโลเฬตฺวา ปฺจงฺคสมนฺนาคเตน ภตฺตุทฺเทสเกน สเจ ิติกา อตฺถิ, ิติกโต ปฏฺาย; โน เจ อตฺถิ, เถราสนโต ปฏฺาย สลากา ทาตพฺพา. ปจฺฉา อาคตานมฺปิ เอกาพทฺธวเสน ทูเร ิตานมฺปิ อุทฺเทสภตฺเต วุตฺตนเยเนว ทาตพฺพา.

สเจ วิหารสฺส สมนฺตโต พหู โคจรคามา, ภิกฺขู ปน น พหุกา, คามวเสนปิ สลากาโย ปาปุณนฺติ, ‘‘ตุมฺหากํ อสุกคาเม สลากภตฺตํ ปาปุณาตี’’ติ คามวเสเนว คาเหตพฺพา. เอวํ คาเหนฺเตน สเจปิ เอเกกสฺมึ คาเม นานปฺปการานิ สฏฺิสลากภตฺตานิ, สพฺพานิ คาหิตาเนว โหนฺติ, ตสฺส ปตฺตคามสมีเป อฺานิปิ ทฺเว ตีณิ สลากภตฺตานิ โหนฺติ, ตานิปิ ตสฺเสว ทาตพฺพานิ. น หิ สกฺกา เตสํ การณา อฺํ ภิกฺขุํ ปหิณิตุนฺติ.

สเจ เอกจฺเจสุ คาเมสุ พหูนิ สลากภตฺตานิ สลฺลกฺเขตฺวา สตฺตนฺนมฺปิ อฏฺนฺนมฺปิ ภิกฺขูนํ ทาตพฺพานิ. ททนฺเตน ปน จตุนฺนํ ปฺจนฺนํ ภตฺตานํ สลากาโย เอกโต พนฺธิตฺวา ทาตพฺพา. สเจ ตํ คามํ อติกฺกมิตฺวา อฺโ คาโม โหติ, ตสฺมิฺจ เอกเมว สลากภตฺตํ, ตํ ปน ปาโตว เทนฺติ, ตมฺปิ เอเตสุ ภิกฺขูสุ เอกสฺส นิคฺคเหน ทตฺวา ‘‘ปาโตว ตํ คเหตฺวา ปจฺฉา โอริมคาเม อิตรานิ ภตฺตานิ คณฺหาหี’’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ โอริมคาเม สลากภตฺเตสุ อคาหิเตสฺเวว คาหิตสฺาย คจฺฉติ, ปรภาคคาเม สลากภตฺตํ คาเหตฺวา ปุน วิหารํ อาคนฺตฺวา อิตรานิ คาเหตฺวา โอริมคาโม คนฺตพฺโพ. ‘‘น หิ พหิสีมาย สงฺฆลาโภ คาเหตุํ ลพฺภตี’’ติ อยํ นโย กุรุนฺทิยํ วุตฺโต.

สเจ ปน ภิกฺขู พหู โหนฺติ, คามวเสน สลากา น ปาปุณนฺติ, วีถิวเสน วา วีถิยํ เอกเคหวเสน วา กุลวเสน วา คาเหตพฺพา. วีถิอาทีสุ จ ยตฺถ พหูนิ ภตฺตานิ, ตตฺถ คาเม วุตฺตนเยเนว พหูนํ ภิกฺขูนํ คาเหตพฺพานิ. สลากาสุ อสติ อุทฺทิสิตฺวาปิ คาเหตพฺพานิ.

สลากทายเกน ปน วตฺตํ ชานิตพฺพํ. เตน หิ กาลสฺเสว วุฏฺาย ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา โภชนสาลํ คนฺตฺวา อสมฺมฏฺฏฺานํ สมฺมชฺชิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺาเปตฺวา ‘‘อิทานิ ภิกฺขูหิ วตฺตํ กตํ ภวิสฺสตี’’ติ กาลํ สลฺลกฺเขตฺวา ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภิกฺขูสุ สนฺนิปติเตสุ ปมเมว วารคาเม สลากภตฺตํ คาเหตพฺพํ. ‘‘ตุยฺหํ อสุกสฺมึ นาม วารคาเม สลากา ปาปุณาติ ตตฺร คจฺฉา’’ติ วตฺตพฺพํ.

สเจ อติเรกคาวุเต คาโม โหติ, ตํ ทิวสํ คจฺฉนฺตา กิลมนฺติ, ‘‘สฺเว ตุยฺหํ วารคาเม ปาปุณาตี’’ติ อชฺเชว คาเหตพฺพํ. โย วารคามํ เปสิยมาโน น คจฺฉติ, อฺํ สลากํ มคฺคติ, น ทาตพฺพา. สทฺธานฺหิ มนุสฺสานํ ปุฺหานิ สงฺฆสฺส จ ลาภจฺเฉโท โหติ, ตสฺมา ตสฺส ทุติเยปิ ตติเยปิ ทิวเส อฺา สลากา น ทาตพฺพา, ‘‘อตฺตโน ปตฺตฏฺานํ คนฺตฺวา ภุฺชาหี’’ติ วตฺตพฺโพ, ตีณิ ปน ทิวสานิ อคจฺฉนฺตสฺส วารคามโต โอริมวารคาเม สลากา คาเหตพฺพา. ตฺเจ น คณฺหาติ, ตโต ปฏฺาย ตสฺส อฺํ สลากํ ทาตุํ น วฏฺฏติ, ทณฺฑกมฺมํ ปน คาฬฺหํ กาตพฺพํ, สฏฺิโต วา ปณฺณาสโต วา น ปริหาเปตพฺพํ. วารคาเม คาเหตฺวา วิหารวาโร คาเหตพฺโพ, ‘‘ตุยฺหํ วิหารวาโร ปาปุณาตี’’ติ วตฺตพฺพํ. วิหารวาริกสฺส ทฺเว ติสฺโส ยาคุสลากาโย ติสฺโส จตสฺโส วา ภตฺตสลากาโย จ ทาตพฺพา, นิพทฺธํ กตฺวา ปน น ทาตพฺพา. ยาคุภตฺตทายกา หิ ‘‘อมฺหากํ ยาคุภตฺตํ วิหารโคปกาว ภุฺชนฺตี’’ติ อฺถตฺตํ อาปชฺเชยฺยุํ, ตสฺมา อฺเสุ กุเลสุ ทาตพฺพา.

สเจ วิหารวาริกานํ สภาคา อาหริตฺวา เทนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ; โน เจ, วารํ คาเหตฺวา เตสํ ยาคุภตฺตํ อาหราเปตพฺพํ. ตาว เนสํ สลากา ผาติกมฺมเมว ภวนฺติ, วสฺสคฺเคน ปตฺตฏฺาเน ปน อฺมฺปิ ปณีตภตฺตสลากํ คณฺหิตุํ ลภนฺติเยว. อติเรกอุตฺตริภงฺคสฺส เอกจาริกภตฺตสฺส วิสุํ ิติกํ กตฺวา สลากา ทาตพฺพา.

สเจ เยน สลากา ลทฺธา, โส ตํทิวสํ ตํ ภตฺตํ น ลภติ, ปุนทิวเส คาเหตพฺพํ. ภตฺตเมว ลภติ, น อุตฺตริภงฺคํ; เอวมฺปิ ปุน คาเหตพฺพํ. ขีรภตฺตสฺส สลากายปิ เอเสว นโย. สเจ ปน ขีรเมว ลภติ, น ภตฺตํ; ขีรลาภโต ปฏฺาย ปุน น คาเหตพฺพํ. ทฺเว ตีณิ เอกจาริกภตฺตานิ เอกสฺเสว ปาปุณนฺติ, ทุพฺภิกฺขสมเย สงฺฆนวเกน ลทฺธกาเล วิชเฏตฺวา วิสุํ คาเหตพฺพานิ, ปากติกสลากภตฺตํ อลทฺธสฺสาปิ ปุนทิวเส คาเหตพฺพํ.

สเจ ขุทฺทโก วิหาโร โหติ, สพฺเพ ภิกฺขู เอกสมฺโภคา, อุจฺฉุสลากํ คาเหนฺเตน ยสฺส กสฺสจิ สมฺมุขีภูตสฺส ปาเปตฺวา มหาเถราทีนํ ทิวา ตจฺเฉตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. รสสลากํ ปาเปตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปริสฺสาเวตฺวา วา ผาณิตํ วา กาเรตฺวา ปิณฺฑปาติกาทีนมฺปิ ทาตพฺพํ. อาคนฺตุกานํ อาคตานาคตภาวํ ตฺวา คาเหตพฺพา, มหาอาวาเส ิติกํ กตฺวา คาเหตพฺพา.

ตกฺกสลากมฺปิ สภาคฏฺาเน ปาเปตฺวา วา ปจาเปตฺวา วา ธูมาเปตฺวา วา เถรานํ ทาตุํ วฏฺฏติ. มหาอาวาเส วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ ผลสลากปูวสลากเภสชฺชคนฺธมาลสลากาโยปิ วิสุํ ิติกาย คาเหตพฺพา. เภสชฺชาทิสลากาโย เจตฺถ กิฺจาปิ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏนฺติ, สลากวเสน คาหิตตฺตา ปน น สาทิตพฺพา. อคฺคภิกฺขามตฺตํ สลากภตฺตํ เทนฺติ, ิติกํ ปุจฺฉิตฺวา คาเหตพฺพํ. อสติยา ิติกาย เถราสนโต ปฏฺาย คาเหตพฺพํ. สเจ ตาทิสานิ ภตฺตานิ พหูนิ โหนฺติ, เอเกกสฺส ภิกฺขุโน ทฺเว ตีณิ ทาตพฺพานิ; โน เจ, เอเกกเมว ทตฺวา ปฏิปาฏิยา คตาย ปุน เถราสนโต ปฏฺาย ทาตพฺพํ. สเจ อนฺตราว อุปจฺฉิชฺชติ, ิติกา สลฺลกฺเขตพฺพา. ยทิ ปน ตาทิสํ ภตฺตํ นิพทฺธเมว โหติ, ยสฺส ปาปุณาติ, โส วตฺตพฺโพ ‘‘ลทฺธา วา อลทฺธา วา สฺเวปิ คณฺเหยฺยาสี’’ติ. เอกํ อนิพทฺธํ โหติ, ลภนทิวเส ปน ยาวทตฺถํ ลภติ, อลภนทิวสา พหุตรา โหนฺติ, ตํ ยสฺส ปาปุณาติ, โส อลภิตฺวา ‘‘สฺเว คณฺเหยฺยาสี’’ติ วตฺตพฺโพ.

โย สลากาสุ คาหิตาสุ ปจฺฉา อาคจฺฉติ, ตสฺส อติกฺกนฺตาว สลากา น อุปฏฺาเปตฺวา ทาตพฺพา. สลากํ นาม ฆณฺฏิปฺปหรณโต ปฏฺาย อาคนฺตฺวา หตฺถํ ปสาเรนฺโตว ลภติ. อฺสฺส อาคนฺตฺวา สมีเป ิตสฺสาปิ อติกฺกนฺตา อติกฺกนฺตาว โหติ. สเจ ปนสฺส อฺโ คณฺหนฺโต อตฺถิ, สยํ อนาคโตปิ ลภติ. สภาคฏฺาเน อสุโก อนาคโตติ ตฺวา ‘‘อยํ ตสฺส สลากา’’ติ เปตุํ วฏฺฏติ. สเจ ‘‘อนาคตสฺส น ทาตพฺพา’’ติ กติกํ กโรนฺติ, อธมฺมิกา โหติ. อนฺโตอุปจาเร ิตสฺส หิ ภาชนียภณฺฑํ ปาปุณาติ. สเจ ปน ‘‘อนาคตสฺส เทถา’’ติ มหาสทฺทํ กโรนฺติ, ทณฺฑกมฺมํ เปตพฺพํ, ‘‘อาคนฺตฺวา คณฺหนฺตู’’ติ วตฺตพฺพํ.

ฉปฺปฺจสลากา นฏฺา โหนฺติ, ภตฺตุทฺเทสโก ทายกานํ นามํ นสฺสรติ, โส เจ นฏฺสลากา มหาเถรสฺส วา อตฺตโน วา ปาเปตฺวา ภิกฺขู วเทยฺย, ‘‘มยา อสุกคาเม สลากภตฺตํ มยฺหํ ปาปิตํ, ตุมฺเห ตตฺถ ลทฺธํ สลากภตฺตํ ภุฺเชยฺยาถา’’ติ, วฏฺฏติ. วิหาเร อปาปิตํ ปน อาสนสาลาย ตํ ภตฺตํ ลภิตฺวา ตตฺเถว ปาเปตฺวา ภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘อชฺช ปฏฺาย มยฺหํ สลากภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ตตฺร อาสนสาลาย คาเหตุํ น วฏฺฏติ, วิหารํ อาเนตฺวา คาเหตพฺพํ. ‘‘สฺเว ปฏฺายา’’ติ วุตฺเต ปน ภตฺตุทฺเทสกสฺส อาจิกฺขิตพฺพํ ‘‘สฺเว ปฏฺาย อสุกกุลํ นาม สลากภตฺตํ เทติ, สลากคฺคาหณกาเล สเรยฺยาสี’’ติ. ทุพฺภิกฺเข สลากภตฺตํ ปจฺฉินฺทิตฺวา สุภิกฺเข ชาเต กิฺจิ ทิสฺวา ‘‘อชฺช ปฏฺาย อมฺหากํ สลากภตฺตํ คณฺหถา’’ติ ปุน ปฏฺเปนฺติ, อนฺโตคาเม อคาเหตฺวา วิหารํ อาเนตฺวาว คาเหตพฺพํ. อิทฺหิ ‘‘สลากภตฺตํ’’ นาม. อุทฺเทสภตฺตสทิสํ น โหติ, วิหารเมว สนฺธาย ทิยฺยติ, ตสฺมา พหิอุปจาเร คาเหตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘สฺเว ปฏฺายา’’ติ วุตฺเต ปน วิหาเร คาเหตพฺพเมว.

คมิโก ภิกฺขุ ยํ ทิสาภาคํ คนฺตุกาโม, ตตฺถ อฺเน วารคามสลากา ลทฺธา โหติ, ตํ คเหตฺวา อิตรํ ภิกฺขุํ ‘‘มยฺหํ ปตฺตสลากํ ตฺวํ คณฺหาหี’’ติ วตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ. เตน ปน อุปจารสีมํ อนติกฺกนฺเตเยว ตสฺมึ ตสฺส สลากา คาเหตพฺพา.

ฉฑฺฑิตวิหาเร มนุสฺสา โพธิเจติยาทีนิ ชคฺคิตฺวา ภุฺชนฺตูติ สลากภตฺตํ ปฏฺเปนฺติ, ภิกฺขู สกฏฺาเนสุ วสิตฺวา กาลสฺเสว คนฺตฺวา ตตฺถ วตฺตํ กริตฺวา ตํ ภตฺตํ ภุฺชนฺติ, วฏฺฏติ. สเจ เตสุ สฺวาตนาย อตฺตโน ปาเปตฺวา คเตสุ อาคนฺตุโก ภิกฺขุ ฉฑฺฑิตวิหาเร วสิตฺวา กาลสฺเสว วตฺตํ กตฺวา ฆณฺฏึ ปหริตฺวา สลากภตฺตํ อตฺตโน ปาเปตฺวา อาสนสาลํ คจฺฉติ, โสว ตสฺส ภตฺตสฺส อิสฺสโร. โย ปน ภิกฺขูสุ วตฺตํ กโรนฺเตสุเยว ภูมิยํ ทฺเว ตโย สมฺมุฺชนิปฺปหาเร ทตฺวา ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ‘‘ธุรคาเม สลากภตฺตํ มยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ คจฺฉติ, ตสฺส ตํ โจริกาย คหิตตฺตา น ปาปุณาติ, วตฺตํ กตฺวา ปาเปตฺวา ปจฺฉา คตภิกฺขูนํเยว โหติ.

เอโก คาโม อติทูเร โหติ, ภิกฺขู นิจฺจํ คนฺตุํ น อิจฺฉนฺติ, มนุสฺสา ‘‘มยํ ปุฺเน ปริพาหิรา โหมา’’ติ วทนฺติ, เย ตสฺส คามสฺส อาสนฺนวิหาเร สภาคภิกฺขู, เต วตฺตพฺพา ‘‘อิเมสํ ภิกฺขูนํ อนาคตทิวเส ตุมฺเห ภุฺชถา’’ติ. สลากา ปน เทวสิกํ ปาเปตพฺพา, ตา จ โข ปน ฆณฺฏิปฺปหรณมตฺเตน วา ปจฺฉิจาลนมตฺเตน วา ปาปิตา น โหนฺติ, ปจฺฉึ ปน คเหตฺวา สลากา ปีเก อากิริตพฺพา, ปจฺฉิ ปน มุขวฏฺฏิยํ น คเหตพฺพา. สเจ หิ ตตฺถ อหิ วา วิจฺฉิโก วา ภเวยฺย, ทุกฺขํ อุปฺปาเทยฺย; ตสฺมา เหฏฺา คเหตฺวา ปจฺฉึ ปรมฺมุขํ กตฺวา สลากา อากิริตพฺพา ‘‘สเจปิ สปฺโป ภวิสฺสติ, เอตฺโตว ปลายิสฺสตี’’ติ. เอวํ สลากา อากิริตฺวา คามาทิวเสน ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว คาเหตพฺพา. อปิจ เอกํ มหาเถรสฺส ปาเปตฺวา ‘‘อวเสสา มยฺหํ ปาปุณนฺตี’’ติ อตฺตโน ปาเปตฺวา วตฺตํ กตฺวา เจติยํ วนฺทิตฺวา วิตกฺกมาฬเก ิเตหิ ภิกฺขูหิ ‘‘ปาปิตา, อาวุโส, สลากา’’ติ วุตฺเต ‘‘อาม, ภนฺเต, ตุมฺเห คตคตคาเม สลากภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วตฺตพฺพํ; เอวํ ปาปิตาปิ หิ สุปาปิตาว โหนฺติ.

ภิกฺขู สพฺพรตฺตึ ธมฺมสวนตฺถํ อฺํ วิหารํ คจฺฉนฺตา ‘‘มยํ ตตฺถ ทานํ อคฺคเหตฺวาว อมฺหากํ โคจรคาเมว ปิณฺฑาย จริตฺวา อาคมิสฺสามา’’ติ สลากา อคฺคเหตฺวาว คตา, วิหาเร เถรสฺส ปตฺตสลากภตฺตํ ภุฺชิตุํ อาคจฺฉนฺติ, วฏฺฏติ. อถ มหาเถโรปิ ‘‘อหํ อิธ กึ กโรมี’’ติ เตหิเยว สทฺธึ คจฺฉติ, เตหิ คตวิหาเร อภุฺชิตฺวาว โคจรคามํ อนุปฺปตฺเตหิ ‘‘เทถ, ภนฺเต, ปตฺเต สลากยาคุอาทีนิ อาหริสฺสามา’’ติ วุตฺเต ปตฺตา น ทาตพฺพา. ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, น เทถา’’ติ ‘‘วิหารฏฺกํ ภตฺตํ วิหาเร วุตฺถานํ ปาปุณาติ, มยํ อฺสฺมึ วิหาเร วุตฺถา’’ติ. ‘‘เทถ, ภนฺเต, น มยํ วิหาเร ปาลิกาย เทม, ตุมฺหากํ เทม, คณฺหถ อมฺหากํ ภิกฺข’’นฺติ วุตฺเต ปน วฏฺฏติ.

สลากภตฺตกถา นิฏฺิตา.

ปกฺขิกภตฺตาทิกถา

ปกฺขิกาทีสุ ปน ยํ อภิลกฺขิเตสุ จาตุทฺทสี ปฺจทสี ปฺจมี อฏฺมีติ อิเมสุ ปกฺเขสุ กมฺมปฺปสุเตหิ อุโปสถํ กาตุํ สติกรณตฺถาย ทิยฺยติ, ตํ ปกฺขิกํ นาม. ตํ สลากภตฺตคติกเมว โหติ, คาเหตฺวา ภุฺชิตพฺพํ. สเจ สลากภตฺตมฺปิ ปกฺขิกภตฺตมฺปิ พหุ สพฺเพสํ วินิวิชฺฌิตฺวา คจฺฉติ, ทฺเวปิ ภตฺตานิ วิสุํ วิสุํ คาเหตพฺพานิ. สเจ ภิกฺขุสงฺโฆ มหา, ปกฺขิกํ คาเหตฺวา ตสฺส ิติกาย สลากภตฺตํ คาเหตพฺพํ, สลากภตฺตํ วา คาหาเปตฺวา ตสฺส ิติกาย ปกฺขิกํ คาเหตพฺพํ. เยสํ น ปาปุณาติ, เต ปิณฺฑาย จริสฺสนฺติ. สเจ ทฺเวปิ ภตฺตานิ พหูนิ, ภิกฺขู มนฺทา; สลากภตฺตํ นาม เทวสิกํ ลพฺภติ, ตสฺมา ตํ เปตฺวา ‘‘ปกฺขิกํ อาวุโส ภุฺชถา’’ติ ปกฺขิกเมว คาเหตพฺพํ. ปกฺขิกํ ปณีตํ เทนฺติ, วิสุํ ิติกา กาตพฺพา. ‘‘สฺเว ปกฺโข’’ติ อชฺช ปกฺขิกํ น คาเหตพฺพํ. สเจ ปน ทายกา วทนฺติ ‘‘สฺเว อมฺหากํ ฆเร ลูขภตฺตํ ภวิสฺสติ, อชฺเชว ปกฺขิกภตฺตํ อุทฺทิสถา’’ติ, เอวํ วฏฺฏติ.

อุโปสถิกํ นาม อนฺวฑฺฒมาเส อุโปสถงฺคานิ สมาทิยิตฺวา ยํ อตฺตนา ภุฺชติ, ตเทว ทิยฺยติ. ปาฏิปทิกํ นาม ‘‘อุโปสเถ พหู สทฺธา ปสนฺนา ภิกฺขูนํ สกฺการํ กโรนฺติ, ปาฏิปเท ปน ภิกฺขู กิลมนฺติ, ปาฏิปเท ทินฺนํ ทุพฺภิกฺขทานสทิสํ มหปฺผลํ โหติ, อุโปสถกมฺเมน วา ปริสุทฺธสีลานํ ทุติยทิวเส ทินฺนํ มหปฺผลํ โหตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ปาฏิปเท ทิยฺยนกทานํ, ตมฺปิ อุภยํ สลากภตฺตคติกเมว. อิติ อิมานิ สตฺตปิ ภตฺตานิ ปิณฺฑปาติกานํ น วฏฺฏนฺติ, ธุตงฺคเภทํ กโรนฺติเยว.

อปรานิปิ จีวรกฺขนฺธเก วิสาขาย วรํ ยาจิตฺวา ทินฺนานิ อาคนฺตุกภตฺตํ คมิยภตฺตํ คิลานภตฺตํ คิลานุปฏฺากภตฺตนฺติ จตฺตาริ ภตฺตานิ ปาฬิยํ อาคตาเนว, ตตฺถ อาคนฺตุกานํ ทินฺนํ ภตฺตํ ‘‘อาคนฺตุกภตฺตํ’’. เอส นโย เสเสสุ. สเจ ปเนตฺถ อาคนฺตุกภตฺตานิปิ อาคนฺตุกาปิ พหู โหนฺติ, สพฺเพสํ เอเกกํ คาเหตพฺพํ, ภตฺเตสุ อปฺปโหนฺเตสุ ิติกาย คาเหตพฺพํ. เอโก อาคนฺตุโก ปมเมว อาคนฺตฺวา สพฺพํ อาคนฺตุกภตฺตํ อตฺตโน คาเหตฺวา นิสีทติ, สพฺพํ ตสฺเสว โหติ, ปจฺฉา อาคเตหิ อาคนฺตุเกหิ เตน ทินฺนานิ ปริภุฺชิตพฺพานิ. เตนปิ เอกํ อตฺตโน คเหตฺวา เสสานิ ทาตพฺพานิ. อยํ อุฬาโร.

สเจ ปน โย ปมํ อาคนฺตฺวาปิ อตฺตโน อคฺคเหตฺวา ตุณฺหีภูโต นิสีทติ, ปจฺฉา อาคเตหิ สทฺธึ ปฏิปาฏิยา คณฺหิตพฺพํ. สเจ นิจฺจํ อาคนฺตุกา อาคจฺฉนฺติ, อาคตทิวเสเยว ภุฺชิตพฺพํ, อนฺตรนฺตรา เจ อาคจฺฉนฺติ, ทฺเว ตีณิ ทิวสานิ ภุฺชิตพฺพํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘สตฺต ทิวสานิ ภุฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ.

อาวาสิโก กตฺถจิ คนฺตฺวา อาคโต, เตนาปิ อาคนฺตุกภตฺตํ ปริภุฺชิตพฺพํ. สเจ ปน ตํ วิหาเร นิพนฺธาปิตํ โหติ, วิหาเร คาเหตพฺพํ. อถ วิหาโร ทูเร โหติ, อาสนสาลาย นิพนฺธาปิตํ อาสนสาลาย คาเหตพฺพํ. สเจ ปน ทายกา ‘‘อาคนฺตุเกสุ อสติ อาวาสิกาปิ ปริภุฺชนฺตู’’ติ วทนฺติ, วฏฺฏติ.

คมิยภตฺเตปิ อยเมว กถามคฺโค. อยํ ปน วิเสโส – อาคนฺตุโก อาคนฺตุกภตฺตเมว ลภติ, คมิโก อาคนฺตุกภตฺตมฺปิ คมิยภตฺตมฺปิ. อาวาสิโกปิ ปกฺกมิตุกาโม คมิโก โหติ; คมิยภตฺตํ ลภติ. ยถา ปน อาคนฺตุกภตฺตํ; เอวมิทํ ทฺเว วา ตีณิ วา สตฺต วา ทิวสานิ น ลพฺภติ. ‘‘คมิสฺสามี’’ติ ภุตฺโต ตํทิวสํ เกนจิเทว การเณน น คโต, ปุนทิวเสปิ ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, สอุสฺสาหตฺตา. ‘‘คมิสฺสามี’’ติ ภุตฺตสฺส โจรา วา ปนฺถํ รุนฺธนฺติ อุทกํ วา, เทโว วา วสฺสติ, สตฺโถ วา น คจฺฉติ, สอุสฺสาเหน ภุฺชิตพฺพํ. เอเต อุปทฺทเว โอโลเกนฺเตน ‘‘ทฺเว ตโย ทิวเส ภุฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ‘‘คมิสฺสามี’’ติ ปน เลสํ โอฑฺเฑตฺวา ภุฺชิตุํ น ลภติ.

คิลานภตฺตมฺปิ สเจ สพฺเพสํ คิลานานํ ปโหติ, สพฺเพสํ ทาตพฺพํ; โน เจ, ิติกํ กตฺวา คาเหตพฺพํ. เอโก คิลาโน อโรครูโป สกฺโกติ อนฺโตคามํ คนฺตุํ, เอโก น สกฺโกติ, อยํ ‘‘มหาคิลาโน’’ นาม. เอตสฺส คิลานภตฺตํ ทาตพฺพํ. ทฺเว มหาคิลานา – เอโก ลาภี อภิฺาโต พหุํ ขาทนียํ โภชนียํ ลภติ, เอโก อนาโถ อปฺปลาภตาย อนฺโตคามํ ปวิสติ – เอตสฺส คิลานภตฺตํ ทาตพฺพํ. คิลานภตฺเต ปน ทิวสปริจฺเฉโท นตฺถิ. ยาว โรโค น วูปสมฺมติ, สปฺปายโภชนํ อภุฺชนฺโต น ยาเปติ, ตาว ภุฺชิตพฺพํ. ยทา ปน มิสฺสกยาคุํ วา มิสฺสกภตฺตํ วา ภุตฺตสฺสาปิ โรโค น กุปฺปติ, ตโต ปฏฺาย น ภุฺชิตพฺพํ.

คิลานุปฏฺากภตฺตมฺปิ ยํ สพฺเพสํ ปโหติ, ตํ สพฺเพสํ ทาตพฺพํ; โน เจ ปโหติ, ิติกํ กตฺวา คาเหตพฺพํ. อิทมฺปิ ทฺวีสุ คิลาเนสุ มหาคิลานุปฏฺากสฺส คาเหตพฺพํ, ทฺวีสุ มหาคิลาเนสุ อนาถคิลานุปฏฺากสฺส. ยํ กุลํ คิลานภตฺตมฺปิ เทติ คิลานุปฏฺากภตฺตมฺปิ, ตตฺถ ยสฺส คิลานสฺส ภตฺตํ ปาปุณาติ ตทุปฏฺากสฺสาปิ ตตฺเถว คาเหตพฺพํ. คิลานุปฏฺากภตฺเตปิ ทิวสปริจฺเฉโท นตฺถิ, ยาว คิลาโน ลภติ, ตาวสฺส อุปฏฺาโกปิ ลภตีติ. อิมานิ จตฺตาริ ภตฺตานิ สเจ เอวํ ทินฺนานิ โหนฺติ ‘‘อาคนฺตุกคมิกคิลานุปฏฺากา มม ภิกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ, ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ. สเจ ปน อาคนฺตุกาทีนํ ภตฺตํ นิพนฺธาเปมิ, ‘‘มม ภตฺตํ คณฺหนฺตู’’ติ เอวํ ทินฺนานิ โหนฺติ, ปิณฺฑปาติกานํ น วฏฺฏติ.

อปรานิปิ ‘‘ธุรภตฺตํ, กุฏิภตฺตํ, วารภตฺต’’นฺติ ตีณิ ภตฺตานิ. ตตฺถ ธุรภตฺตนฺติ นิจฺจภตฺตํ วุจฺจติ, ตํ ทุวิธํ – สงฺฆิกํ ปุคฺคลิกฺจ. ตตฺถ ยํ ‘‘สงฺฆสฺส ธุรภตฺตํ เทมา’’ติ นิพนฺธาปิตํ, ตํ สลากภตฺตคติกํ. ‘‘มม นิพทฺธํ ภิกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ วตฺวา ทินฺนํ ปน ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ. ปุคฺคลิเกปิ ‘‘ตุมฺหากํ ธุรภตฺตํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปิณฺฑปาติโก เจ, น วฏฺฏติ. ‘‘มม นิพทฺธํ ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ปน วฏฺฏติ, สาทิตพฺพํ. สเจปิ ปจฺฉา กติปาเห วีติวตฺเต ‘‘ธุรภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทติ, มูเล สุฏฺุ สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา วฏฺฏติ.

กุฏิภตฺตํ นาม ยํ สงฺฆสฺส อาวาสํ กาเรตฺวา ‘‘อมฺหากํ เสนาสนวาสิโน อมฺหากํเยว ภตฺตํ คณฺหนฺตู’’ติ เอวํ นิพนฺธาปิตํ, ตํ สลากภตฺตคติกเมว โหติ, คเหตฺวา ภุฺชิตพฺพํ. ‘‘อมฺหากํ เสนาสนวาสิโน อมฺหากํเยว ภิกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ วุตฺเต ปน ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ. ยํ ปน ปุคฺคเล ปสีทิตฺวา ตสฺส วา อาวาสํ กตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ เทมา’’ติ ทินฺนํ, ตํ ตสฺเสว โหติ, ตสฺมึ กตฺถจิ คเต นิสฺสิตเกหิ ภุฺชิตพฺพํ.

วารภตฺตํ นาม ทุพฺภิกฺขสมเย ‘‘วาเรน ภิกฺขู ชคฺคิสฺสามา’’ติ ธุรเคหโต ปฏฺาย ทินฺนํ, ตมฺปิ ภิกฺขาวจเนน ทินฺนํ ปิณฺฑปาติกานํ วฏฺฏติ. ‘‘วารภตฺต’’นฺติ วุตฺเต ปน สลากภตฺตคติกํ โหติ. สเจ ตณฺฑุลาทีนิ เปเสนฺติ, ‘‘สามเณรา ปจิตฺวา เทนฺตู’’ติ, ปิณฺฑปาติกานํ วฏฺฏติ. อิติ อิมานิ จ ตีณิ อาคนฺตุกภตฺตาทีนิ จ จตฺตารีติ สตฺต, ตานิ สงฺฆภตฺตาทีหิ สห จุทฺทส ภตฺตานิ โหนฺติ.

อฏฺกถายํ ปน วิหารภตฺตํ, อฏฺกภตฺตํ, จตุกฺกภตฺตํ, คุฬฺหกภตฺตนฺติ อฺานิปิ จตฺตาริ ภตฺตานิ วุตฺตานิ. ตตฺถ วิหารภตฺตํ นาม วิหาเร ตตฺรุปฺปาทภตฺตํ, ตํ สงฺฆภตฺเตน คหิตํ. ตํ ปน ติสฺสมหาวิหารจิตฺตลปพฺพตาทีสุ ปฏิสมฺภิทาปตฺเตหิ ขีณาสเวหิ ยถา ปิณฺฑปาติกานมฺปิ สกฺกา โหติ ปริภุฺชิตุํ, ตถา ปฏิคฺคหิตตฺตา ตาทิเสสุ าเนสุ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘อฏฺนฺนํ ภิกฺขูนํ เทม, จตุนฺนํ เทมา’’ติ เอวํ ทินฺนํ ปน อฏฺกภตฺตฺเจว จตุกฺกภตฺตฺจ; ตมฺปิ ภิกฺขาวจเนน ทินฺนํ ปิณฺฑปาติกานํ วฏฺฏติ. มหาภิสงฺขาริเกน อติรสกปูเวน ปตฺตํ ปูเรตฺวา ถเกตฺวา ทินฺนํ คุฬฺหกภตฺตํ นาม. อิมานิ ตีณิ สลากภตฺตคติกาเนว.

อปรมฺปิ คุฬกภตฺตํ นาม อตฺถิ, อิเธกจฺเจ มนุสฺสา มหาธมฺมสวนฺจ วิหารปูชฺจ กาเรตฺวา สกลสงฺฆสฺส ทาตุํ น สกฺโกมาติ, ‘‘ทฺเว ตีณิ ภิกฺขุสตานิ อมฺหากํ ภิกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ ภิกฺขุปริจฺเฉทชานนตฺถํ คุฬเก เทนฺติ, อิทํ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ. อิติ จีวรกฺขนฺธเก จีวรภาชนียํ, อิมสฺมึ ปน เสนาสนกฺขนฺธเก เสนาสนภาชนียฺเจว ปิณฺฑปาตภาชนียฺจ วุตฺตํ.

คิลานปจฺจยภาชนียํ ปน เอวํ เวทิตพฺพํ – สปฺปิอาทีสุ เภสชฺเชสุ ราชราชมหามตฺตา สปฺปิสฺส ตาว กุมฺภสตมฺปิ กุมฺภสหสฺสมฺปิ วิหารํ เปเสนฺติ, ฆณฺฏึ ปหริตฺวา เถราสนโต ปฏฺาย คหิตภาชนํ ปูเรตฺวา ทาตพฺพํ, ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ. สเจ อลสชาติกา มหาเถรา ปจฺฉา อาคจฺฉนฺติ, ‘‘ภนฺเต, วีสติวสฺสานํ ทิยฺยติ, ตุมฺหากํ ิติกา อติกฺกนฺตา’’ติ น วตฺตพฺพา, ิติกํ เปตฺวา เตสํ ทตฺวา ปจฺฉา ิติกาย ทาตพฺพํ.

‘‘อสุกวิหาเร พหุ สปฺปิ อุปฺปนฺน’’นฺติ สุตฺวา โยชนนฺตรวิหารโตปิ ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, สมฺปตฺตสมฺปตฺตานํ ิตฏฺานโต ปฏฺาย ทาตพฺพํ. อสมฺปตฺตานมฺปิ อุปจารสีมํ ปวิฏฺานํ อนฺเตวาสิกาทีสุ คณฺหนฺเตสุ ทาตพฺพเมว. ‘‘พหิอุปจารสีมาย ิตานํ เทถา’’ติ วทนฺติ, น ทาตพฺพํ. สเจ ปน อุปจารสีมํ โอกฺกนฺเตหิ เอกาพทฺธา หุตฺวา อตฺตโน วิหารทฺวาเร วา อนฺโตวิหาเรเยว วา โหนฺติ, ปริสาวเสน วฑฺฒิตา นาม สีมา โหติ, ตสฺมา ทาตพฺพํ. สงฺฆนวกสฺส ทินฺเนปิ ปจฺฉา อาคตานํ ทาตพฺพเมว. ทุติยภาเค ปน เถราสนํ อารุฬฺเห ปจฺฉา อาคตานํ ปมภาโค น ปาปุณาติ, ทุติยภาคโต วสฺสคฺเคน ทาตพฺพํ. อุปจารสีมํ ปวิสิตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ ทินฺนํ โหติ, สพฺพสนฺนิปาตฏฺาเนเยว ภาเชตพฺพํ.

ยสฺมึ วิหาเร ทส ภิกฺขู, ทเสว จ สปฺปิกุมฺภา ทิยฺยนฺติ, เอเกกกุมฺภวเสเนว ภาเชตพฺพํ. เอโก สปฺปิกุมฺโภ โหติ, ทส ภิกฺขูหิ ภาเชตฺวา คเหตพฺพํ. สเจ ยถาิตํเยว ‘‘อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คณฺหนฺติ, ทุคฺคหิตํ; คตคตฏฺาเน สงฺฆิกเมว โหติ. กุมฺภํ ปน อาวชฺเชตฺวา ถาลเก โถกํ สปฺปึ กตฺวา ‘‘อิทํ มหาเถรสฺส ปาปุณาติ, อวเสสํ อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ วตฺวา ตมฺปิ กุมฺเภเยว อากิริตฺวา ยถิจฺฉิตํ คเหตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ. สเจ ถินํ สปฺปิ โหติ, เลขํ กตฺวา ‘‘เลขโต ปรภาโค มหาเถรสฺส ปาปุณาติ, อวเสสํ อมฺหาก’’นฺติ คหิตมฺปิ สุคฺคหิตํ, วุตฺตปริจฺเฉทโต อูนาธิเกสุปิ ภิกฺขูสุ จ สปฺปิกุมฺเภสุ จ เอเตเนวุปาเยน ภาเชตพฺพํ.

สเจ ปเนโก ภิกฺขุ, เอโกปิ กุมฺโภ โหติ, ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ‘‘อยํ มยฺหํ ปาปุณาตี’’ติปิ คเหตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อยํ ปมภาโค มยฺหํ ปาปุณาติ, อยํ ทุติยภาโค’’ติ เอวํ โถกํ โถกมฺปิ ปาเปตุํ วฏฺฏติ. เอส นโย นวนีตาทีสุปิ. ยสฺมึ ปน วิปฺปสนฺเน ติลเตลาทิมฺหิ เลขา น สนฺติฏฺติ, ตํ อุทฺธริตฺวา ภาเชตพฺพํ. สิงฺคิเวรมริจาทิเภสชฺชมฺปิ อวเสสปตฺตถาลกาทิสมณปริกฺขาโรปิ สพฺโพ วุตฺตานุรูเปเนว นเยน สุฏฺุ สลฺลกฺเขตฺวา ภาเชตพฺโพติ.

ปาฬึ อฏฺกถฺเจว, โอโลเกตฺวา วิจกฺขโณ;

สงฺฆิเก ปจฺจเย เอวํ, อปฺปมตฺโตว ภาชเยติ.

อิติ สพฺพากาเรน ปจฺจยภาชนียกถา นิฏฺิตา.

สมฺมนฺนิตฺวา ปิตยาคุภาชกาทีหิ ภาชนียฏฺานํ อาคตมนุสฺสานํ อนาปุจฺฉิตฺวาว อุปฑฺฒภาโค ทาตพฺโพ, อสมฺมเตหิ ปน อปโลเกตฺวา ทาตพฺโพ. สมฺมเตน อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชนเกน ภิกฺขุนา จีวรกมฺมํ กโรนฺตสฺส ‘‘สูจึ เทหี’’ติ วทโต เอกา ทีฆา, เอกา รสฺสาติ ทฺเว สูจิโย ทาตพฺพา. ‘‘อวิภตฺตํ สงฺฆิกํ ภณฺฑ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพกิจฺจํ นตฺถิ. ปิปฺผลกตฺถิกสฺส เอโก ปิปฺผลโก, อทฺธานกนฺตารํ ปฏิปชฺชิตุกามสฺส อุปาหนยุคฬํ, กายพนฺธนตฺถิกสฺส กายพนฺธนํ, ‘‘อํสพทฺธโก เม ชิณฺโณ’’ติ อาคตสฺส อํสพทฺธโก, ปริสฺสาวนตฺถิกสฺส ปริสฺสาวนํ ทาตพฺพํ. ธมฺมกรณตฺถิกสฺส ธมฺมกรโณ. สเจ ปฏโก น โหติ, ธมฺมกรโณ ปฏเกน สทฺธึ ทาตพฺโพ. ‘‘อาคนฺตุกปฏฺฏํ อาโรเปสฺสามี’’ติ ยาจนฺตสฺส กุสิยา จ อฑฺฒกุสิยา จ ปโหนกํ ทาตพฺพํ. ‘‘มณฺฑลํ นปฺปโหตี’’ติ อาคตสฺส มณฺฑลํ เอกํ ทาตพฺพํ, อฑฺฒมณฺฑลานิ ทฺเว ทาตพฺพานิ. ทฺเว มณฺฑลานิ ยาจนฺตสฺส น ทาตพฺพานิ. อนุวาตปริภณฺฑตฺถิกสฺส เอกสฺส จีวรสฺส ปโหนกํ ทาตพฺพํ. สปฺปินวนีตาทิอตฺถิกสฺส คิลานสฺส เอกํ เภสชฺชํ นาฬิมตฺตํ กตฺวา ตโต ตติยโกฏฺาโส ทาตพฺโพ. เอวํ ตีณิ ทิวสานิ ทตฺวา นาฬิยา ปริปุณฺณาย จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย สงฺฆํ ปุจฺฉิตฺวา ทาตพฺพํ. คุฬปิณฺเฑปิ เอกทิวสํ ตติยภาโค ทาตพฺโพ. เอวํ ตีหิ ทิวเสหิ นิฏฺิเต ปิณฺเฑ ตโต ปรํ สงฺฆํ ปุจฺฉิตฺวา ทาตพฺพํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ปกฺขิกภตฺตาทิกถา นิฏฺิตา.

เสนาสนกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สงฺฆเภทกกฺขนฺธกํ

ฉสกฺยปพฺพชฺชากถา

๓๓๐. สงฺฆเภทกกฺขนฺธเก อภิฺาตา อภิฺาตาติ ปากฏา ปากฏา. สกฺยกุมารา นาม กาฬุทายิปฺปภุตโย ทส ทูตา สทฺธึ ปริวาเรหิ อฺเ จ พหู ชนา. อมฺหากนฺติ อมฺเหสุ; อมฺหากํ กุลโตติ วา วุตฺตํ โหติ. ฆราวาสตฺถํ อนุสาสิสฺสามีติ ฆราวาเส ยํ กตฺตพฺพํ, ตํ ชานาเปสฺสามิ. อุทกํ นินฺเนตพฺพนฺติ ยถา อุทกํ สพฺพฏฺาเน สมํ โหติ, เอวํ กาตพฺพํ. นิทฺธาเปตพฺพนฺติ ติณานิ อุทฺธริตพฺพานิ. ภุสิกา อุทฺธราเปตพฺพาติ สุขุมปลาลมิสฺสธฺา ปลาลิกา ปลาเปตพฺพา. โอปุนาเปตพฺพนฺติ สุขุมปลาลํ อปเนตพฺพํ. ตฺวฺเว ฆราวาสตฺเถน อุปชานาหีติ ตฺวฺเว ฆราวาสตฺถํ ชานาหิ. อหํ ตยา ยถาสุขํ ปพฺพชาหีติ เอตฺถ อหํ ตยา สทฺธึ ปพฺพชิสฺสามีติ สหายสิเนเหน สหสา วตฺตุกาโม หุตฺวา ปุน รชฺชสิริโลเภน ปริกฑฺฒิยมานหทโย ‘‘อหํ ตยา’’ติ เอตฺตกเมว วตฺวา เสสํ วตฺตุํ นาสกฺขีติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๓๓๑. นิปฺปาติตาติ นิกฺขมิตา. มานสฺสิโนติ มานสฺสยิโน; มานนิสฺสิตาติ วุตฺตํ โหติ.

๓๓๒. ยสฺสนฺตรโต น สนฺติ โกปาติ ตติยมคฺเคน สมูหตตฺตา ยสฺส จิตฺเต โกปา น สนฺติ. ยสฺมา ปน ภโวติ สมฺปตฺติ, วิภโวติ วิปตฺติ; ตถา ภโวติ วุฑฺฒิ, วิภโวติ หานิ; ภโวติ สสฺสตํ, วิภโวติ อุจฺเฉโท; ภโวติ ปุฺํ, วิภโวติ ปาปํ; วิภโวติ จ อภโวติ จ อตฺถโต เอกเมว, ตสฺมา อิติภวาภวตฺจ วีติวตฺโตติ เอตฺถ ยา เอสา สมฺปตฺติวิปตฺติวุฑฺฒิหานิสสฺสตุจฺเฉทปุฺปาปวเสน อิติ อเนกปฺปการา ภวาภวตา วุจฺจติ; จตูหิปิ มคฺเคหิ ยถาสมฺภวํ เตน เตน นเยน ตํ อิติภวาภวตฺจ วีติวตฺโตติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. นานุภวนฺตีติ น สมฺปาปุณนฺติ; ตสฺส ทสฺสนํ เทวานมฺปิ ทุลฺลภนฺติ อธิปฺปาโย.

๓๓๓. อหิเมขลิกาติ อหึ กฏิยํ พนฺธิตฺวา. อุจฺฉงฺเคติ องฺเก.

๓๓๔. สมฺมนฺนตีติ สมฺมาเนติ. ยํ ตุโม กริสฺสตีติ ยํ โส กริสฺสติ.

ฉสกฺยปพฺพชฺชากถา นิฏฺิตา.

ปกาสนียกมฺมาทิกถา

๓๓๖. เขฬาสกสฺสาติ เอตฺถ มิจฺฉาชีเวน อุปฺปนฺนปจฺจยา อริเยหิ วนฺตพฺพา เขฬสทิสา, ตถารูเป ปจฺจเย อยํ อชฺโฌหรตีติ กตฺวา เขฬาสโกติ ภควตา วุตฺโต.

๓๔๐. ปตฺถทฺเธน กาเยนาติ โปตฺถกรูปสทิเสน นิจฺจเลน กาเยน.

๓๔๒. มยํ โข ภเณ ราชาตกา นามาติ ราชา อมฺเห ชานาตีติ ราชาตกสฺส ภาเวน อตฺตานํ อุกฺกํสนฺโต อาห. ปหฏฺกณฺณวาโลติ พนฺธเน นิจฺจเล กตฺวา.

ทุกฺขฺหิ กุฺชร นาคมาสโทติ โภ กุฺชร พุทฺธนาคํ อาสาทนํ วธกจิตฺเตน อุปคมนํ นาม ทุกฺขํ. นาคหตสฺสาติ พุทฺธนาคํ ฆาตกสฺส.

ปฏิกุฏิโยว โอสกฺกีติ ตถาคตาภิมุโขเยว ปิฏฺิเมหิ ปาเทหิ อวสกฺกิ. อลกฺขิโกติ เอตฺถ น ลกฺเขตีติ อลกฺขิโก; น ชานาตีติ อตฺโถ, อหํ ปาปกมฺมํ กโรมีติ น ชานาติ. น ลกฺขิตพฺโพติ วา อลกฺขิโก; น ปสฺสิตพฺโพติ อตฺโถ.

๓๔๓. ติกโภชนนฺติ เอตฺถ ตีหิ ชเนหิ ภุฺชิตพฺพโภชนํ. ตํ ปฺาเปสฺสามีติ ตํ อนุชานิสฺสามิ. คณโภชเน ปน ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพติ. ปฺจวตฺถุยาจนกถา สงฺฆาทิเสสวณฺณนายํ วุตฺตา. กปฺปนฺติ อายุกปฺปํ. พฺรหฺมํ ปุฺนฺติ เสฏฺํ ปุฺํ. กปฺปํ สคฺคมฺหีติ อายุกปฺปเมว.

ปกาสนียกมฺมาทิกถา นิฏฺิตา.

สงฺฆเภทกกถา

๓๔๔. อถ โข เทวทตฺโต สงฺฆํ ภินฺทิตฺวาติ โส กิร เอวํ สลากํ คาเหตฺวา ตตฺเถว อาเวณิกํ อุโปสถํ กตฺวา คโต, เตเนตํ วุตฺตํ.

๓๔๕. ปิฏฺิ เม อาคิลายตีติ จิรนิสชฺชาย เวทนาภิภูตา พาธติ. ตมหํ อายมิสฺสามีติ ตํ อหํ ปสาเรสฺสามิ. อาเทสนาปาฏิหาริยานุสาสนี นาม ‘‘เอวมฺปิ เต มโน, ตถาปิ เต มโน’’ติ เอวํ ปรสฺส จิตฺตํ ชานิตฺวา ตทนุรูปา ธมฺมเทสนา.

๓๔๖. มมานุกุพฺพนฺติ มมานุกิริยํ กุรุมาโน. กปโณติ ทุกฺขิโต. มหาวราหสฺสาติ มหานาคสฺส. มหึ วิกุพฺพโตติ ปถวึ ปทาเลนฺตสฺส. ภิสํ ฆสมานสฺสาติ ภิสํ ขาทนฺตสฺส. นทีสุ ชคฺคโตติ เอตฺถ โส กิร หตฺถินาโค สายนฺหสมยํ ตํ นทินามกํ โปกฺขรณึ โอคาเหตฺวา กิลนฺโต สพฺพรตฺตึ วีตินาเมสิ, ชาลิกํ กโรติ, เตน วุตฺตํ ‘‘นทีสุ ชคฺคโต’’ติ.

๓๔๗. สุตาติ โสตา. อสนฺทิทฺโธ จ อกฺขาตีติ นิสฺสนฺเทโห หุตฺวา อกฺขาติ อนุสนฺธิวเสน โยเชตฺวา โยเชตฺวา.

๓๕๐. อปาเย นิพฺพตฺติสฺสตีติ อาปายิโก. เอวํ เนรยิโก. กปฺปํ สฺสตีติ กปฺปฏฺโ. อิทานิ พุทฺธสหสฺเสนาปิ ติกิจฺฉิตุํ น สกฺกาติ อเตกิจฺโฉ.

มา ชาตุ โกจิ โลกสฺมินฺติ มา กทาจิปิ โกจิ สตฺโต โลกสฺมึ. อุทปชฺชถาติ อุปปชฺชถ. ชลํว ยสสา อฏฺาติ ยสสา ชลนฺโต วิย ิโต. เทวทตฺโตติ เม สุตนฺติ ‘‘อีทิโส เทวทตฺโต’’ติ ภควตา สุตมฺปิ อตฺถิ, ตเทว คเหตฺวา อิทํ วุตฺตํ. โส ปมาทมนุจิณฺโณติ เอตฺถ ปมาทํ อนุจินาตีติ อนุจิณฺโณ, ปมาโท อปฺปหีโนติ อตฺโถ. อาสชฺช นนฺติ ปาปเกน จิตฺเตน ปตฺวา, วิโสเสตฺวาติ วา อตฺโถ. อวีจินิรยํ ปตฺโตติ อิทํ ปน อาสีสายํ อตีตวจนํ. เภสฺมาติ ภยานโก.

สงฺฆเภทกกถา นิฏฺิตา.

อุปาลิปฺหากถา

๓๕๑. เอกโต อุปาลิ เอโกติ ธมฺมวาทิปกฺเข เอโก. เอกโต ทฺเวติ อธมฺมวาทิปกฺเข ทฺเว. จตุตฺโถ อนุสฺสาเวตีติ สงฺฆํ ภินฺทิสฺสามีติ อธมฺมวาทิจตุตฺโถ หุตฺวา อนุสฺสาเวติ; อนุนยนฺโต สาเวติ ‘‘น ตุมฺหากํเยว นรกภยํ อตฺถิ, อมฺหากมฺปิ อตฺถิ, น อมฺหากํ อวีจิมคฺโค ปิหิโต, น มยํ อกุสลา น ภายาม. ยทิ หิ อยํ อธมฺโม อวินโย อสตฺถุสาสนํ วา ภเวยฺย, น มยํ คณฺเหยฺยามา’’ติอาทินา นเยน ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติ เอวํ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ โพเธตีติ อตฺโถ. สลากํ คาเหตีติ เอวํ อนุสฺสาเวตฺวา ปน ‘‘อิทํ คณฺหถ, อิทํ โรเจถา’’ติ วทนฺโต สลากํ คาเหติ.

เอกโต อุปาลิ ทฺเว โหนฺตีติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวํ โข อุปาลิ สงฺฆราชิ เจว โหติ สงฺฆเภโท จาติ เอวํ โหติ; น ปน เอตฺตาวตา สงฺโฆ ภินฺโน โหติ.

ภิกฺขุ โข อุปาลิ ปกตตฺโต สมานสํวาสโก สมานสีมายํ ิโต สงฺฆํ ภินฺทตีติ เอตฺถ สิยา เอวํ ‘‘เทวทตฺโต กถํ ปกตตฺโต’’ติ. กถํ ตาว น ปกตตฺโต, รฺโ ฆาตาปิตตฺตา รุหิรุปฺปาทสฺส จ กตตฺตาติ? ตตฺถ วทาม – อาณตฺติยา ตาว วิรทฺธตฺตา รฺโ ฆาตาปนํ นตฺถิ. ‘‘เตน หิ ตฺวํ, กุมาร, ปิตรํ หนฺตฺวา ราชา โหหิ, อหํ ภควนฺตํ หนฺตฺวา พุทฺโธ ภวิสฺสามี’’ติ เอวฺหิ ตสฺส อาณตฺติ. กุมาโร ปน ราชา หุตฺวา ปจฺฉา ปิตรํ มาเรสิ; เอวํ ตาว อาณตฺติยา วิรทฺธตฺตา รฺโ ฆาตาปนํ นตฺถิ. รุหิรุปฺปาเท ปน กตมตฺเตเยว รุหิรุปฺปาทปจฺจยา ภควตา อภพฺพตา น วุตฺตา, น จ สกฺกา ภควโต วจนํ วินาเยว ตสฺส อภพฺพตา อาโรเปตุํ.

‘‘รุหิรุปฺปาทโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’’ติ –

อิทํ ปน ภควตา สงฺฆเภทโต ปจฺฉา วุตฺตํ, ตสฺมา ปกตตฺเตเนว เตน สงฺโฆ ภินฺโนติ.

อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปนฺตีติอาทีสุ อฏฺารสสุ เภทกรวตฺถูสุ สุตฺตนฺตปริยาเยน ตาว ทส กุสลกมฺมปถา ธมฺโม, ทส อกุสลกมฺมปถา อธมฺโม. ตถา จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโคติ สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา ธมฺโม นาม; ตโย สติปฏฺานา, ตโย สมฺมปฺปธานา, ตโย อิทฺธิปาทา, ฉ อินฺทฺริยานิ, ฉ พลานิ, อฏฺ โพชฺฌงฺคา, นวงฺคิโก มคฺโคติ จ จตฺตาโร อุปาทานา, ปฺจ นีวรณา, สตฺต อนุสยา, อฏฺ มิจฺฉตฺตาติ จ อยํ อธมฺโม.

ตตฺถ ยํกิฺจิ เอกํ อธมฺมโกฏฺาสํ คเหตฺวา ‘‘อิมํ อธมฺมํ ธมฺโมติ กริสฺสาม; เอวํ อมฺหากํ อาจริยกุลํ นิสฺสาย นิยฺยานิกํ ภวิสฺสติ, มยฺจ โลเก ปากฏา ภวิสฺสามา’’ติ ตํ อธมฺมํ ‘‘ธมฺโม อย’’นฺติ กถยนฺตา อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปนฺติ นาม. ตเถว ธมฺมโกฏฺาเสสุ จ เอกํ คเหตฺวา อยํ อธมฺโมติ กเถนฺตา ธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปนฺติ นาม. วินยปริยาเยน ปน ภูเตน วตฺถุนา โจเทตฺวา สาเรตฺวา ยถาปฏิฺาย กาตพฺพํ กมฺมํ ธมฺโม นาม, อภูเตน วตฺถุนา อโจเทตฺวา อสาเรตฺวา อปฏิฺาย กาตพฺพํ กมฺมํ อธมฺโม นาม.

สุตฺตนฺตปริยาเยน ราควินโย โทสวินโย โมหวินโย สํวโร ปหานํ ปฏิสงฺขาติ อยํ วินโย นาม, ราคาทีนํ อวินโย อสํวโร อปฺปหานํ อปฺปฏิสงฺขาติ อยํ อวินโย นาม. วินยปริยาเยน วตฺถุสมฺปตฺติ ตฺติสมฺปตฺติ อนุสฺสาวนสมฺปตฺติ สีมาสมฺปตฺติ ปริสาสมฺปตฺตีติ อยํ วินโย นาม, วตฺถุวิปตฺติ…เป… ปริสาวิปตฺตีติ อยํ อวินโย นาม.

สุตฺตนฺตปริยาเยน จตฺตาโร สติปฏฺานา… อฏฺงฺคิโก มคฺโคติ อิทํ ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน; ตโย สติปฏฺานา, ตโย สมฺมปฺปธานา, ตโย อิทฺธิปาทา, ฉ อินฺทฺริยานิ, ฉ พลานิ, อฏฺ โพชฺฌงฺคา, นวงฺคิโก มคฺโคติ อิทํ อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน. วินยปริยาเยน จตฺตาโร ปาราชิกา, เตรส สงฺฆาทิเสสา, ทฺเว อนิยตา, ตึส นิสฺสคฺคิยา ปาจิตฺติยาติ อิทํ ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน; ตโย ปาราชิกา, จุทฺทส สงฺฆาทิเสสา, ตโย อนิยตา, เอกตฺตึส นิสฺสคฺคิยา ปาจิตฺติยาติ อิทํ อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน.

สุตฺตนฺตปริยาเยน เทวสิกํ ผลสมาปตฺติสมาปชฺชนํ, มหากรุณาสมาปตฺติสมาปชฺชนํ, พุทฺธจกฺขุนา โลกโวโลกนํ, อฏฺุปฺปตฺติวเสน สุตฺตนฺตเทสนา, ชาตกกถาติ อิทํ อาจิณฺณํ; น เทวสิกํ ผลสมาปตฺติสมาปชฺชนํ…เป… น ชาตกกถาติ อิทํ อนาจิณฺณํ. วินยปริยาเยน นิมนฺติตสฺส วสฺสาวาสํ วสิตฺวา อปโลเกตฺวา จาริยปกฺกมนํ, ปวาเรตฺวา จาริยปกฺกมนํ, อาคนฺตุเกหิ สทฺธึ ปมํ ปฏิสนฺถารกรณนฺติ อิทํ อาจิณฺณํ; ตสฺเสว อาจิณฺณสฺส อกรณํ อนาจิณฺณํ นาม.

สุตฺตนฺตปริยาเยน จตฺตาโร สติปฏฺานา…เป… อฏฺงฺคิโก มคฺโคติ อิทํ ปฺตฺตํ นาม; ตโย สติปฏฺานา…เป… นวงฺคิโก มคฺโคติ อิทํ อปฺตฺตํ นาม. วินยปริยาเยน จตฺตาโร ปาราชิกา…เป… ตึส นิสฺสคฺคิยา ปาจิตฺติยาติ อิทํ ปฺตฺตํ นาม; ตโย ปาราชิกา…เป… เอกตฺตึส นิสฺสคฺคิยา ปาจิตฺติยาติ อิทํ อปฺตฺตํ นาม.

‘‘อนาปตฺติ อชานนฺตสฺส, อเถยฺยจิตฺตสฺส, น มรณาธิปฺปายสฺส, อนุลฺลปนาธิปฺปายสฺส, น โมจนาธิปฺปายสฺสา’’ติ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตา อนาปตฺติ อนาปตฺติ นาม. ‘‘ชานนฺตสฺส, เถยฺยจิตฺตสฺสา’’ติอาทินา นเยน วุตฺตา อาปตฺติ อาปตฺติ นาม. ปฺจาปตฺติกฺขนฺธา ลหุกาปตฺติ นาม, ทฺเว อาปตฺติกฺขนฺธา ครุกาปตฺติ นาม. ฉ อาปตฺติกฺขนฺธา สาวเสสาปตฺติ นาม, เอโก ปาราชิกาปตฺติกฺขนฺโธ อนวเสสาปตฺติ นาม. ทฺเว อาปตฺติกฺขนฺธา ทุฏฺุลฺลาปตฺติ นาม, ปฺจาปตฺติกฺขนฺธา อทุฏฺุลฺลาปตฺติ นาม.

ปุริมนเยเนว ปเนตฺถ วุตฺตปฺปการํ ธมฺมํ ‘‘อธมฺโม อย’’นฺติ กถยนฺตา ‘‘ธมฺมํ อธมฺโม’’ติ ทีเปนฺติ นาม. อวินยํ ‘‘วินโย อย’’นฺติ…เป… อทุฏฺุลฺลาปตฺตึ ‘‘ทุฏฺุลฺลาปตฺติ อย’’นฺติ กถยนฺตา ‘‘อทุฏฺุลฺลาปตฺตึ ทุฏฺุลฺลาปตฺตี’’ติ ทีเปนฺติ นาม. เอวํ ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติ วา…เป… ‘‘อทุฏฺุลฺลาปตฺตึ ทุฏฺุลฺลาปตฺตี’’ติ วา ทีเปตฺวา ปกฺขํ ลภิตฺวา จตุนฺนํ สงฺฆกมฺมานํ อฺตรํ สงฺฆกมฺมํ เอกสีมายํ วิสุํ กโรนฺเตหิ สงฺโฆ ภินฺโน นาม โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เต อิเมหิ อฏฺารสหิ วตฺถูหิ อปกสฺสนฺตี’’ติอาทิ.

ตตฺถ อปกสฺสนฺตีติ ปริสํ อากฑฺฒนฺติ, วิชเฏนฺติ, เอกมนฺตํ อุสฺสาเรนฺติ จ. อวปกาสนฺตีติ อติ วิย ปกาเสนฺติ ยถา วิสํสฏฺาว โหนฺติ, เอวํ กโรนฺติ. อาเวนินฺติ วิสุํ. เอตฺตาวตา โข อุปาลิ สงฺโฆ ภินฺโน โหตีติ เอวํ อฏฺารสสุ เภทกรวตฺถูสุ ยํกิฺจิ เอกมฺปิ วตฺถุํ ทีเปตฺวา เตน เตน การเณน ‘‘อิมํ คณฺหถ, อิมํ โรเจถา’’ติ สฺาเปตฺวา สลากํ คาหาเปตฺวา วิสุํ สงฺฆกมฺเม กเต สงฺโฆ ภินฺโน โหติ. ปริวาเร ปน ‘‘ปฺจหิ อุปาลิ อากาเรหิ สงฺโฆ ภิชฺชตี’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตสฺส อิมินา อิธ วุตฺเตน สงฺฆเภทลกฺขเณน อตฺถโต นานากรณํ นตฺถิ. ตํ ปนสฺส นานากรณาภาวํ ตตฺเถว ปกาสยิสฺสาม. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

อุปาลิปฺหากถา นิฏฺิตา.

สงฺฆเภทกกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. วตฺตกฺขนฺธกํ

อาคนฺตุกวตฺตกถา

๓๕๗. วตฺตกฺขนฺธเก อิทานิ อารามํ ปวิสิสฺสามีติ อิมินา อุปจารสีมสมีปํ ทสฺเสติ; ตสฺมา อุปจารสีมํ ปตฺวา อุปาหนาโอมุฺจนาทิ สพฺพํ กาตพฺพํ. คเหตฺวาติ อุปาหนทณฺฑเกน คเหตฺวา. ปฏิกฺกมนฺตีติ สนฺนิปตนฺติ. วิสฺสชฺเชตพฺพนฺติ ปตฺถริตพฺพํ. โคจโร ปุจฺฉิตพฺโพติ ‘‘โคจรคาโม อาสนฺเน อุทาหุ ทูเร, กาลสฺเสว ปิณฺฑาย จริตพฺพํ อุทาหุ ทิวา’’ติ เอวํ ภิกฺขาจาโร ปุจฺฉิตพฺโพ. อโคจโร นาม มิจฺฉาทิฏฺิกานํ วา คาโม ปริจฺฉินฺนภิกฺโข วา คาโม; ยตฺถ เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา ภิกฺขา ทิยฺยติ, โสปิ ปุจฺฉิตพฺโพ. ปานียํ ปุจฺฉิตพฺพนฺติ ‘‘กึ อิมิสฺสา โปกฺขรณิยา ปานียํเยว ปิวนฺติ, นหานาทิปริโภคมฺปิ กโรนฺตี’’ติ เอวํ ปานียฺเจว ปริโภชนียฺจ ปุจฺฉิตพฺพํ. เกสุจิ าเนสุ วาฬมิคา วา อมนุสฺสา วา โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘กํ กาลํ ปวิสิตพฺพํ, กํ กาลํ นิกฺขมิตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพํ.

พหิ ิเตนาติ พหิ นิกฺขมนฺตสฺส อหิโน วา อมนุสฺสสฺส วา มคฺคํ ทตฺวา ิเตน นิลฺโลเกตพฺโพ. สเจ อุสฺสหติ โสเธตพฺโพติ ยทิ สกฺโกติ, สพฺโพ วิหาโร โสเธตพฺโพ. อสกฺโกนฺเตน อตฺตโน วสโนกาโส ชคฺคิตพฺโพ. สพฺพํ โสเธตุํ สกฺโกนฺตสฺส ปน ทสฺสิเต วิหารโสธนวตฺเต วินิจฺฉโย มหาขนฺธเก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

อาคนฺตุกวตฺตกถา นิฏฺิตา.

อาวาสิกวตฺตกถา

๓๕๙. อาวาสิกวตฺเต อาสนํ ปฺเปตพฺพนฺติ เอวมาทิ สพฺพํ วุฑฺฒตเร อาคเต จีวรกมฺมํ วา นวกมฺมํ วา เปตฺวาปิ กาตพฺพํ. เจติยงฺคณํ สมฺมชฺชนฺเตน สมฺมชฺชนึ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺส วตฺตํ กาตุํ อารภิตพฺพํ. ปณฺฑิโต หิ อาคนฺตุโก ‘‘สมฺมชฺชาหิ ตาว เจติยงฺคณ’’นฺติ วกฺขติ. คิลานเภสชฺชํ กโรนฺเตน ปน สเจ นาติอาตุโร คิลาโน โหติ, เภสชฺชํ อกตฺวา วตฺตเมว กาตพฺพํ. มหาคิลานสฺส ปน เภสชฺชเมว กาตพฺพํ. ปณฺฑิโต หิ อาคนฺตุโก ‘‘กโรหิ ตาว เภสชฺช’’นฺติ วกฺขติ. ปานีเยน ปุจฺฉนฺเตน สเจ สกึ อานีตํ ปานียํ สพฺพํ ปิวติ, ‘‘ปุน อาเนมี’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพเยว. อปิจ พีชเนนปิ พีชิตพฺโพ, พีชนฺเตน สกึ ปาทปิฏฺิยํ พีชิตฺวา สกึ มชฺเฌ สกึ สีเส พีชิตพฺพํ, ‘‘อลํ โหตู’’ติ วุตฺเตน ตโต มนฺทตรํ พีชิตพฺพํ. ปุน ‘‘อล’’นฺติ วุตฺเตน ตโต มนฺทตรํ พีชิตพฺพํ. ตติยวารํ วุตฺเตน พีชนี เปตพฺพา. ปาทาปิสฺส โธวิตพฺพา, โธวิตฺวา สเจ อตฺตโน เตลํ อตฺถิ, เตน มกฺเขตพฺพา. โน เจ อตฺถิ, ตสฺส สนฺตเกน มกฺเขตพฺพา. อุปาหนาปุฺฉนํ ปน อตฺตโน รุจิวเสน กาตพฺพํ. เตเนว เหตฺถ ‘‘สเจ อุสฺสหตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา อุปาหนา อปุฺฉนฺตสฺสาปิ อนาปตฺติ. ‘‘กตฺถ มยฺหํ เสนาสนํ ปาปุณาตี’’ติ ปุจฺฉิเตน เสนาสนํ ปฺเปตพฺพํ, ‘‘เอตํ ตุมฺหากํ เสนาสนํ ปาปุณาตี’’ติ เอวํ อาจิกฺขิตพฺพนฺติ อตฺโถ. ปปฺโผเฏตฺวา หิ ปตฺถริตุํ ปน วฏฺฏติเยว.

นวกสฺส วตฺเต – ปานียํ อาจิกฺขิตพฺพนฺติ ‘‘เอตํ ปานียํ คเหตฺวา ปิวาหี’’ติ อาจิกฺขิตพฺพํ. ปริโภชนีเยปิ เอเสว นโย. เสสํ ปุริมสทิสเมว. มหาอาวาเสปิ อตฺตโน สนฺติกํ สมฺปตฺตสฺส อาคนฺตุกสฺส วตฺตํ อกาตุํ น ลภติ.

อาวาสิกวตฺตกถา นิฏฺิตา.

คมิกวตฺตกถา

๓๖๐. คมิกวตฺเตสุ ทารุภณฺฑนฺติ เสนาสนกฺขนฺธเก วุตฺตํ มฺจปีาทิ. มตฺติกาภณฺฑมฺปิ รชนภาชนาทิ สพฺพํ ตตฺถ วุตฺตปฺปเภทเมว. ตํ สพฺพํ อคฺคิสาลาย วา อฺตรสฺมึ วา คุตฺตฏฺาเน ปฏิสาเมตฺวา คนฺตพฺพํ. อโนวสฺสเก ปพฺภาเรปิ เปตุํ วฏฺฏติ. เสนาสนํ อาปุจฺฉิตพฺพนฺติ เอตฺถ ยํ ปาสาณปิฏฺิยํ วา ปาสาณตฺถมฺเภสุ วา กตเสนาสนํ, ยตฺถ อุปจิกา นาโรหนฺติ, ตํ อนาปุจฺฉนฺตสฺสาปิ อนาปตฺติ. จตูสุ ปาสาณเกสูติอาทิ อุปจิกานํ อุปฺปตฺติฏฺาเน ปณฺณสาลาทิเสนาสเน กตฺตพฺพาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อปฺเปว นาม องฺคานิปิ เสเสยฺยุนฺติ อยํ อชฺโฌกาเส ปิตมฺหิ อานิสํโส. โอวสฺสกเคเห ปน ติเณสุ จ มตฺติกาปิณฺเฑสุ จ อุปริ ปตนฺเตสุ มฺจปีานํ องฺคานิปิ วินสฺสนฺติ.

คมิกวตฺตกถา นิฏฺิตา.

อนุโมทนวตฺตกถา

๓๖๒. อนุโมทนวตฺถุสฺมึ อิทฺธํ อโหสีติ สมฺปนฺนํ อโหสิ. จตูหิ ปฺจหีติ สงฺฆตฺเถเรน อนุโมทนตฺถาย นิสินฺเน เหฏฺา ปฏิปาฏิยา จตูหิ นิสีทิตพฺพํ. อนุเถเร นิสินฺเน มหาเถเรน จ เหฏฺา จ ตีหิ นิสีทิตพฺพํ. ปฺจเม นิสินฺเน อุปริ จตูหิ นิสีทิตพฺพํ. สงฺฆตฺเถเรน เหฏฺา ทหรภิกฺขุสฺมึ อชฺฌิฏฺเปิ สงฺฆตฺเถรโต ปฏฺาย จตูหิ นิสีทิตพฺพเมว. สเจ ปน อนุโมทโก ภิกฺขุ ‘‘คจฺฉถ ภนฺเต, อาคเมตพฺพกิจฺจํ นตฺถี’’ติ วทติ, คนฺตุํ วฏฺฏติ. มหาเถเรน ‘‘คจฺฉาม อาวุโส’’ติ วุตฺเต ‘‘คจฺฉถา’’ติ วทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘พหิคาเม อาคเมสฺสามา’’ติ อาโภคํ กตฺวาปิ พหิคามํ คนฺตฺวา อตฺตโน นิสฺสิตเก ‘‘ตุมฺเห ตสฺส อาคมนํ อาคเมถา’’ติ วตฺวาปิ คนฺตุํ วฏฺฏติเยว. สเจ ปน มนุสฺสา อตฺตโน รุจิเกน เอเกน อนุโมทนํ กาเรนฺติ, เนว ตสฺส อนุโมทโต อาปตฺติ, น มหาเถรสฺส ภาโร โหติ. อุปนิสินฺนกถายเมว หิ มนุสฺเสสุ กถาเปนฺเตสุ มหาเถโร อาปุจฺฉิตพฺโพ, มหาเถเรน จ อนุโมทนาย อชฺฌิฏฺโว อาคเมตพฺโพติ อิทเมตฺถ ลกฺขณํ. วจฺจิโตติ สฺชาตวจฺโจ; วจฺจปีฬิโตติ อธิปฺปาโย.

อนุโมทนวตฺตกถา นิฏฺิตา.

ภตฺตคฺควตฺตกถา

๓๖๔. ภตฺตคฺควตฺเต ‘‘อนฺโตคาโม วา โหตุ วิหาโร วา, มนุสฺสานํ ปริเวสนฏฺานํ คจฺฉนฺเตน จีวรํ ปารุปิตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธนเมว วฏฺฏตี’’ติ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ. น เถเร ภิกฺขู อนุปขชฺชาติ เถเร ภิกฺขู อติอลฺลียิตฺวา น นิสีทิตพฺพํ. สเจ มหาเถรสฺส นิสินฺนาสเนน สมกํ อาสนํ โหติ, พหูสุ อาสเนสุ สติ เอกํ ทฺเว อาสนานิ เปตฺวา นิสีทิตพฺพํ. ภิกฺขู คเณตฺวา ปฺตฺตาสเนสุ อนิสีทิตฺวา มหาเถเรน นิสีทาติ วุตฺเตน นิสีทิตพฺพํ. โน เจ มหาเถโร วทติ, ‘‘อิทํ, ภนฺเต, อาสนํ อุจฺจ’’นฺติ วตฺตพฺพํ. ‘‘นิสีทา’’ติ วุตฺเต นิสีทิตพฺพํ. สเจ ปน เอวํ อาปุจฺฉิเตปิ น วทติ, นิสีทนฺตสฺส อนาปตฺติ; มหาเถรสฺเสว อาปตฺติ. นวโก หิ เอวรูเป อาสเน อนาปุจฺฉา นิสีทนฺโต อาปชฺชติ, เถโร อาปุจฺฉิเต อนนุชานนฺโต. น สงฺฆาฏึ โอตฺถริตฺวาติ น สงฺฆาฏึ อวตฺถริตฺวา นิสีทิตพฺพํ.

อุโภหิ หตฺเถหีติ ปตฺตโธวนอุทกํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทกฺขิโณทกํ ปน ปุรโต อาธารเก ปตฺตํ เปตฺวา คเหตพฺพํ. สาธุกนฺติ อุทกสทฺทํ อกโรนฺเตน.

สูปสฺส โอกาโสติ ยถา สูปสฺส โอกาโส โหติ; เอวํ มตฺตาย โอทโน คณฺหิตพฺโพติ อตฺโถ. สมกํ สมฺปาเทหีติ อิทํ น เกวลํ สปฺปิอาทีสุเยว โอทเนปิ วตฺตพฺพํ. สปฺปิอาทีสุ ปน ยํ อปฺปํ โหติ เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา อนุรูปกํ, ตํ สพฺเพสํ สมกํ สมฺปาเทหีติ วุตฺเต มนุสฺสานํ วิหสา โหติ, ตสฺมา ตาทิสํ สกึ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา คเหตฺวา เสสํ น คเหตพฺพํ.

น ตาว เถเรน ภุฺชิตพฺพนฺติ อิทํ ยํ ปริจฺฉินฺนภิกฺขุกํ ภตฺตคฺคํ, ยตฺถ มนุสฺสา สพฺเพสํ ปาเปตฺวา ทาตุกามา โหนฺติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ ปน มหาภตฺตคฺคํ โหติ, ยตฺถ เอกสฺมึ ปเทเส ภุฺชนฺติ, เอกสฺมึ ปเทเส อุทกํ ทิยฺยติ, ตตฺถ ยถาสุขํ ภุฺชิตพฺพํ.

น ตาว อุทกนฺติ อิทํ หตฺถโธวนอุทกํ สนฺธาย วุตฺตํ. อนฺตรา ปิปาสิเตน ปน คเล วิลคฺคามิเสน วา ปานียํ ปิวิตฺวา หตฺถา น โธวิตพฺพา. สเจ มนุสฺสา ‘‘โธวถ ภนฺเต ปตฺตฺจ หตฺเถ จา’’ติ วทนฺติ, ภิกฺขู วา ‘‘ตุมฺเห อุทกํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, วฏฺฏติ.

นิวตฺตนฺเตนาติ ภตฺตคฺคโต อุฏฺาย นิวตฺตนฺเตน สงฺเฆน เอวํ นิวตฺติตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. กถํ? ‘‘นวเกหี’’ติ สพฺพํ ทฏฺพฺพํ. สมฺพาเธสุ หิ ฆเรสุ มหาเถรานํ นิกฺขมโนกาโส น โหติ, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ. เอวํ นิวตฺตนฺเตหิ ปน นวเกหิ เคหทฺวาเร ตฺวา เถเรสุ นิกฺขนฺเตสุ ปฏิปาฏิยา คนฺตพฺพํ. สเจ ปน มหาเถรา ธุเร นิสินฺนา โหนฺติ, นวกา อนฺโตเคเห, เถราสนโต ปฏฺาย ปฏิปาฏิยา เอว นิกฺขมิตพฺพํ. กาเยน กายํ อฆฏฺเฏนฺเตน ยถา อนฺตเรน มนุสฺสา คนฺตุํ สกฺโกนฺติ, เอวํ วิรฬาย ปฏิปาฏิยา คนฺตพฺพํ.

ภตฺตคฺควตฺตกถา นิฏฺิตา.

ปิณฺฑจาริกวตฺตกถา

๓๖๖. ปิณฺฑจาริกวตฺเต – กมฺมํ วา นิกฺขิปตีติ กปฺปาสํ วา สุปฺปํ วา มุสลํ วา ยํ คเหตฺวา กมฺมํ กโรนฺติ, ิตา วา นิสินฺนา วา โหนฺติ, ตํ นิกฺขิปติ. น จ ภิกฺขาทายิกายาติ อิตฺถี วา โหตุ ปุริโส วา, ภิกฺขาทานสมเย มุขํ น อุลฺโลเกตพฺพํ.

ปิณฺฑจาริกวตฺตกถา นิฏฺิตา.

อารฺิกวตฺตกถา

๓๖๘. อารฺิกวตฺเต – เสนาสนา โอตริตพฺพนฺติ วสนฏฺานโต นิกฺขมิตพฺพํ.

ปตฺตํ ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวาติ เอตฺถ สเจ พหิคาเม อุทกํ นตฺถิ, อนฺโตคาเมเยว ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา อถ พหิคาเม อตฺถิ, พหิคาเม ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา ปตฺโต โธวิตฺวา โวทโก กตฺวา ถวิกาย ปกฺขิปิตพฺโพ.

ปริโภชนียํ อุปฏฺาเปตพฺพนฺติ สเจ ภาชนานิ นปฺปโหนฺติ, ปานียเมว ปริโภชนียมฺปิ กตฺวา อุปฏฺาเปตพฺพํ. ภาชนํ อลภนฺเตน เวฬุนาฬิกายปิ อุปฏฺาเปตพฺพํ. ตมฺปิ อลภนฺตสฺส ยถา สมีเป อุทกอาวาโฏ โหติ, เอวํ กาตพฺพํ. อรณิสหิเต สติ อคฺคึ อกาตุมฺปิ วฏฺฏติ. ยถา จ อารฺิกสฺส, เอวํ กนฺตารปฺปฏิปนฺนสฺสาปิ อรณิสหิตํ อิจฺฉิตพฺพํ. คณวาสิโน ปน เตน วินาปิ วฏฺฏติ. นกฺขตฺตาเนว นกฺขตฺตปทานิ.

อารฺิกวตฺตกถา นิฏฺิตา.

เสนาสนวตฺตกถา

๓๖๙. เสนาสนวตฺเต – ทฺวารํ นาม ยสฺมา มหาวฬฺชํ, ตสฺมา ตตฺถ อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ, เสสานิ ปน อุทฺเทสทานาทีนิ อาปุจฺฉิตฺวาว กาตพฺพานิ. เทวสิกมฺปิ อาปุจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. อถาปิ ‘‘ภนฺเต อาปุจฺฉิตเมว โหตู’’ติ วุตฺเต วุฑฺฒตโร ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, สยเมว วา ‘‘ตฺวํ ยถาสุขํ วิหราหี’’ติ วทติ; เอวมฺปิ วฏฺฏติ. สภาคสฺส วิสฺสาเสนาปิ วฏฺฏติเยว. เยน วุฑฺโฒ เตน ปริวตฺติตพฺพนฺติ วุฑฺฒาภิมุเขน ปริวตฺติตพฺพํ. โภชนสาลาทีสุปิ เอวเมว ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

เสนาสนวตฺตกถา นิฏฺิตา.

ชนฺตาฆรวตฺตาทิกถา

๓๗๑. ชนฺตาฆรวตฺเต ปริภณฺฑนฺติ พหิชคติ.

๓๗๓. อาจมนวตฺถุสฺมึ สติ อุทเกติ เอตฺถ สเจ อุทกํ อตฺถิ, ปฏิจฺฉนฺนฏฺานํ ปน นตฺถิ, ภาชเนน นีหริตฺวา อาจมิตพฺพํ. ภาชเน อสติ ปตฺเตน นีหริตพฺพํ. ปตฺเตปิ อสติ อสนฺตํ นาม โหติ. ‘‘อิทํ อติวิวฏํ ปุรโต อฺํ อุทกํ ภวิสฺสตี’’ติ คตสฺส อุทกํ อลภนฺตสฺเสว ภิกฺขาจารเวลา โหติ, กฏฺเน วา เกนจิ วา ปุฺฉิตฺวา คนฺตพฺพํ, ภุฺชิตุมฺปิ อนุโมทนมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ. อาคตปฏิปาฏิยาติ วจฺจกุฏิยํ ปสฺสาวฏฺาเน นฺหานติตฺเถติ ตีสุปิ อาคตปฏิปาฏิเยว ปมาณํ.

๓๗๔. วจฺจกุฏิวตฺเต – น ทนฺตกฏฺํ ขาทนฺเตนาติ อยํ วจฺจกุฏิยาปิ อวจฺจกุฏิยาปิ สพฺพตฺเถว ปฏิกฺเขโป. น ผรุเสน กฏฺเนาติ ผาลิตกฏฺเน วา ขเรน วา คณฺิเกน วา กณฺฏเกน วา สุสิเรน วา ปูตินา วา น อวเลขิตพฺพํ. อวเลขนกฏฺํ ปน อคฺคเหตฺวา ปวิฏฺสฺส อาปตฺติ นตฺถิ.

น อาจมนสราวเกติ สพฺพสาธารณฏฺานํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ตตฺร หิ อฺเ อฺเ อาคจฺฉนฺติ, ตสฺมา อุทกํ น เสเสตพฺพํ. ยํ ปน สงฺฆิเกปิ วิหาเร เอกเทเส นิพทฺธคมนตฺถาย กตํ านํ โหติ ปุคฺคลิกฏฺานํ วา, ตสฺมึ วฏฺฏติ. วิเรจนํ ปิวิตฺวา ปุนปฺปุนํ ปวิสนฺตสฺสาปิ วฏฺฏติเยว.

อูหตาติ อูหทิตา; พหิ วจฺจมกฺขิตาติ อตฺโถ. โธวิตพฺพาติ อุทกํ อาหริตฺวา โธวิตพฺพา. อุทกํ อตฺถิ, ภาชนํ นตฺถิ, อสนฺตํ นาม โหติ. ภาชนํ อตฺถิ, อุทกํ นตฺถิ, เอตมฺปิ อสนฺตํ. อุภเย ปน อสติ อสนฺตเมว, กฏฺเน วา เกนจิ วา ปุฺฉิตฺวา คนฺตพฺพํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ชนฺตาฆรวตฺตาทิกถา นิฏฺิตา.

วตฺตกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ปาติโมกฺขฏฺปนกฺขนฺธกํ

ปาติโมกฺขุทฺเทสยาจนกถา

๓๘๓. ปาติโมกฺขฏฺปนกฺขนฺธเก (นนฺทิมุขิยา รตฺติยาติ อรุณุฏฺิตกาเลปิ หิ นนฺทิมุขา วิย รตฺติ ขายติ. เตนาห ‘‘นนฺทิมุขิยา รตฺติยา’’ติ. อนฺโตปูตินฺติ อตฺตจิตฺตสนฺตาเน กิเลสปูติภาเวน อนฺโตปูตึ. อวสฺสุตนฺติ กิเลสวสฺสนวเสน อวสฺสุตํ. กสมฺพุกชาตนฺติ อากิณฺณโทสตาย สํกิลิฏฺชาตํ.) ยาว พาหาคหณาปิ นามาติ ‘‘อปริสุทฺธา อานนฺท ปริสา’’ติ วจนํ สุตฺวาเยว หิ เตน ปกฺกมิตพฺพํ สิยา, เอวํ อปกฺกมิตฺวา ยาว พาหาคหณาปิ นาม โส โมฆปุริโส อาคเมสฺสติ, อจฺฉริยมิทนฺติ ทสฺเสติ.

๓๘๔. น อายตเกเนว ปปาโตติ น ปมเมว คมฺภีโร; อนุปุพฺเพน คมฺภีโรติ อตฺโถ. ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตตีติ วีจีนํ โอสกฺกนกนฺทรํ มริยาทเวลํ นาติกฺกมติ. ตีรํ วาเหตีติ ตีรโต อปฺเปติ; อุสฺสาเรตีติ อตฺโถ. อฺาปฏิเวโธติ อรหตฺตปฺปตฺติ.

๓๘๕. ฉนฺนมติวสฺสตีติ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ปฏิจฺฉาเทนฺโต อฺํ นวํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ อิทเมตํ สนฺธาย วุตฺตํ. วิวฏํ นาติวสฺสตีติ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา วิวรนฺโต อฺํ นาปชฺชติ อิทเมตํ สนฺธาย วุตฺตํ.

ปาติโมกฺขุทฺเทสยาจนกถา นิฏฺิตา.

ปาติโมกฺขสวนารหกถา

๓๘๖. ปิตํ โหติ ปาติโมกฺขนฺติ เอตฺถ ปุเร วา ปจฺฉา วา ปิตมฺปิ อฏฺปิตํ โหติ, เขตฺเต ปิตเมว ปน ปิตํ นาม โหติ. ตสฺมา ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อชฺชุโปสโถ ปนฺนรโส, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อุโปสถํ กเรยฺยา’’ติ เอตฺถ ยาว เร-การํ ภณติ, ตาว เปตพฺพํ, อิทฺหิ เขตฺตํ. ยฺย-กาเร ปน วุตฺเต เปนฺเตน ปจฺฉา ปิตํ นาม โหติ. ‘‘สุณาตุ เม’’ติ อนารทฺเธเยว เปนฺเตน ปุเร ปิตํ โหติ.

ปาติโมกฺขสวนารหกถา นิฏฺิตา.

ธมฺมิกาธมฺมิกปาติโมกฺขฏฺปนกถา

๓๘๗. อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ อกตายาติ เตน ปุคฺคเลน สา วิปตฺติ กตา วา โหตุ อกตา วา, ปาติโมกฺขฏฺปนกสฺส สฺาอมูลิกวเสน อมูลิกา โหติ. กตากตายาติ กตฺจ อกตฺจ อุภยํ คเหตฺวา วุตฺตํ.

ธมฺมิกํ สามคฺคึ น อุเปตีติ กมฺมํ โกเปตุกามตาย สงฺฆสฺส กมฺเม กรียมาเน เนว อาคจฺฉติ, น ฉนฺทํ เทติ, สมฺมุขีภูโตว ปฏิกฺโกสติ, เตน ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. อิจฺจสฺสาปิ สาปตฺติกสฺเสว ปาติโมกฺขํ ปิตํ โหติ. ปจฺจาทิยตีติ ‘‘ปุน กาตพฺพํ กมฺม’’นฺติ ปจฺจาทิยติ, เตน อุกฺโกฏนเกน ปาจิตฺติยํ อาปชฺชติ. อิจฺจสฺสาปิ สาปตฺติกสฺเสว ปาติโมกฺขํ ปิตํ โหติ.

ธมฺมิกาธมฺมิกปาติโมกฺขฏฺปนกถา นิฏฺิตา.

ธมฺมิกปาติโมกฺขฏฺปนกถา

๓๘๘. เยหิ อากาเรหิ เยหิ ลิงฺเคหิ เยหิ นิมิตฺเตหีติ เอตฺถ มคฺเคนมคฺคปฏิปาทนาทีสุ อาการาทิสฺา เวทิตพฺพา. เตน ทิฏฺเน เตน สุเตน ตาย ปริสงฺกายาติ เอตฺถ ทิฏฺฺจ สุตฺจ ปาฬิยํ อาคตเมว. สเจ ปน เตหิ ทิฏฺสุเตหิ ปริสงฺกํ อุปฺปาเทยฺย, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ตาย ปริสงฺกายา’’ติ.

ธมฺมิกปาติโมกฺขฏฺปนกถา นิฏฺิตา.

อตฺตาทานองฺคกถา

๓๙๘. อตฺตาทานํ อาทาตุกาเมนาติ เอตฺถ สาสนํ โสเธตุกาโม ภิกฺขุ ยํ อธิกรณํ อตฺตนา อาทิยติ, ตํ อตฺตาทานนฺติ วุจฺจติ. อกาโล อิมํ อตฺตาทานํ อาทาตุนฺติ เอตฺถ ราชภยํ โจรภยํ ทุพฺภิกฺขภยํ วสฺสารตฺโตติ อยํ อกาโล, วิปรีโต กาโล.

อภูตํ อิทํ อตฺตาทานนฺติ อสนฺตมิทํ, มยา อธมฺโม วา ธมฺโมติ, ธมฺโม วา อธมฺโมติ, อวินโย วา วินโยติ, วินโย วา อวินโยติ, ทุสฺสีโล วา ปุคฺคโล สีลวาติ, สีลวา วา ทุสฺสีโลติ คหิโตติ อตฺโถ; วิปริยาเยน ภูตํ เวทิตพฺพํ. อนตฺถสํหิตํ อิทํ อตฺตาทานนฺติ เอตฺถ ยํ ชีวิตนฺตรายาย วา พฺรหฺมจริยนฺตรายาย วา สํวตฺตติ, อิทํ อนตฺถสํหิตํ, วิปรีตํ อตฺถสํหิตํ นาม.

น ลภิสฺสามิ สนฺทิฏฺเ สมฺภตฺเต ภิกฺขูติ อปฺเปกทา หิ ราชภยาทีสุ เอวรูปา อตฺตโน ปกฺขสฺส อุปตฺถมฺภกา ภิกฺขู ลทฺธุํ น สกฺกา โหนฺติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘น ลภิสฺสามี’’ติ. อปฺเปกทา ปน เขมสุภิกฺขาทีสุ ลทฺธุํ สกฺกา โหนฺติ, ตํ สนฺธาย ‘‘ลภิสฺสามี’’ติ วุตฺตํ.

ภวิสฺสติ สงฺฆสฺส ตโตนิทานํ ภณฺฑนนฺติ โกสมฺพกานํ วิย ภณฺฑนํ กลโห วิคฺคโห วิวาโท สงฺฆเภโท จ ภวิสฺสตีติ. ปจฺฉาปิ อวิปฺปฏิสารกรํ ภวิสฺสตีติ สุภทฺทํ วุฑฺฒปพฺพชิตํ นิคฺคเหตฺวา ปฺจสติกสงฺคีตึ กโรนฺตสฺส มหากสฺสปตฺเถรสฺเสว, ทสวตฺถุเก อธิกรเณ ทสภิกฺขุสหสฺสานิ นิคฺคเหตฺวา สตฺตสติกสงฺคีตึ กโรนฺตสฺส อายสฺมโต ยสสฺเสว, สฏฺิภิกฺขุสหสฺสานิ นิคฺคเหตฺวา สหสฺสิกสงฺคีตึ กโรนฺตสฺส โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถรสฺเสว จ ปจฺฉา สมนุสฺสรณกรณํ โหติ, สาสนสฺส จ วิคตุปกฺกิเลสจนฺทิมสูริยสสฺสิริกตาย สํวตฺตติ.

อตฺตาทานองฺคกถา นิฏฺิตา.

โจทเกนปจฺจเวกฺขิตพฺพธมฺมกถา

๓๙๙. อจฺฉิทฺเทน อปฺปฏิมํเสนาติอาทีสุ เยน คหฏฺปพฺพชิเตสุ โย โกจิ ปหโฏ วา โหติ, คิหีนํ คณฺฑผาลนาทีนิ เวชฺชกมฺมานิ วา กตานิ, ตสฺส กายสมาจาโร อุปจิกาหิ ขายิตตาลปณฺณมิว ฉิทฺโท จ ปฏิมาสิตุํ ยตฺถ กตฺถจิ คเหตฺวา อากฑฺฒิตุํ สกฺกุเณยฺยตาย สปฺปฏิมํโส จ โหติ, วิปรีโต อจฺฉิทฺโท อปฺปฏิมํโสติ เวทิตพฺโพติ. วจีสมาจาโร ปน มุสาวาทโอมสวาทเปสุฺอมูลกานุทฺธํสนาทีหิ ฉิทฺโท จ สปฺปฏิมํโส จ โหติ, วิปรีโต อจฺฉิทฺโท อปฺปฏิมํโส.

เมตฺตํ นุ โข เม จิตฺตนฺติ ปลิโพเธ ฉินฺทิตฺวา กมฺมฏฺานภาวนานุโยเคน อธิคตํ เมตฺตจิตฺตํ. อนาฆาตนฺติ อาฆาตวิรหิตํ, วิกฺขมฺภนวเสน วิหตาฆาตนฺติ อตฺโถ. อิทํ ปนาวุโส กตฺถ วุตฺตํ ภควตาติ อิทํ สิกฺขาปทํ กตรสฺมึ นคเร วุตฺตนฺติ อตฺโถ.

โจทเกนปจฺจเวกฺขิตพฺพธมฺมกถา นิฏฺิตา.

โจทเกนอุปฏฺาเปตพฺพกถา

๔๐๐. กาเลน วกฺขามีติอาทีสุ เอโก เอกํ โอกาสํ กาเรตฺวา โจเทนฺโต กาเลน วทติ นาม. สงฺฆมชฺฌคณมชฺฌสลากคฺคยาคุอคฺควิตกฺกมาฬกภิกฺขาจารมคฺคอาสนสาลาทีสุ อุปฏฺาเกหิ ปริวาริตกฺขเณ วา โจเทนฺโต อกาเลน วทติ นาม. ตจฺเฉน วทนฺโต ภูเตน วทติ นาม. ‘‘อมฺโภ มหลฺลก, ปริสาวจร, ปํสุกูลิก, ธมฺมกถิก, ปติรูปํ ตว อิท’’นฺติ วทนฺโต ผรุเสน วทติ นาม. การณนิสฺสิตํ ปน กตฺวา ‘‘ภนฺเต มหลฺลกตฺถ, ปริสาวจรา, ปํสุกูลิกา, ธมฺมกถิกตฺถ, ปติรูปํ ตุมฺหากํ อิท’’นฺติ วทนฺโต สณฺเหน วทติ นาม. การณนิสฺสิตํ กตฺวา วทนฺโต อตฺถสํหิเตน วทติ นาม. เมตฺตจิตฺโต วกฺขามิ โน โทสนฺตโรติ เมตฺตจิตฺตํ อุปฏฺเปตฺวา วกฺขามิ, น ทุฏฺจิตฺโต หุตฺวา.

โจทเกนอุปฏฺาเปตพฺพกถา นิฏฺิตา.

โจทกจุทิตกปฏิสํยุตฺตกถา

๔๐๑. อชฺฌตฺตํ มนสิกริตฺวาติ อตฺตโน จิตฺเต อุปฺปาเทตฺวา. การุฺตาติ กรุณาภาโว. อิมินา กรุณฺจ กรุณาปุพฺพภาคฺจ ทสฺเสติ. หิเตสิตาติ หิตคเวสนตา. อนุกมฺปิตาติ เตน หิเตน สํโยชนตา. ทฺวีหิปิ เมตฺตฺจ เมตฺตาปุพฺพภาคฺจ ทสฺเสติ. อาปตฺติวุฏฺานตาติ อาปตฺติโต วุฏฺาเปตฺวา สุทฺธนฺเต ปติฏฺาปนา. วตฺถุํ โจเทตฺวา สาเรตฺวา ปฏิฺํ อาโรเปตฺวา ยถาปฏิฺาย กมฺมกรณํ วินยปุเรกฺขารตา นาม. อิเม ปฺจ ธมฺเมติ เย เอเต การุฺตาติอาทินา นเยน วุตฺตา, อิเม ปฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ มนสิ กริตฺวา ปโร โจเทตพฺโพติ.

สจฺเจ จ อกุปฺเป จาติ วจีสจฺเจ จ อกุปฺปนตาย จ. จุทิตเกน หิ สจฺจฺจ วตฺตพฺพํ, โกโป จ น กาตพฺโพ. เนว อตฺตนา กุชฺฌิตพฺโพ, น ปโร ฆฏฺเฏตพฺโพติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

โจทกจุทิตกปฏิสํยุตฺตกถา นิฏฺิตา.

ปาติโมกฺขฏฺปนกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ภิกฺขุนิกฺขนฺธกํ

มหาปชาปติโคตมีวตฺถุกถา

๔๐๒. ภิกฺขุนิกฺขนฺธเก อลํ โคตมิ มา เต รุจฺจีติ กสฺมา ปฏิกฺขิปติ, นนุ สพฺเพสมฺปิ พุทฺธานํ จตสฺโส ปริสา โหนฺตีติ? กามํ โหนฺติ, กิลเมตฺวา ปน อเนกกฺขตฺตุํ ยาจิเตน อนุฺาตํ ปพฺพชฺชํ ‘‘ทุกฺเขน ลทฺธา อยํ อมฺเหหี’’ติ สมฺมา ปริปาเลสฺสนฺตีติ ภทฺทกํ กตฺวา อนุชานิตุกาโม ปฏิกฺขิปติ. อฏฺครุธมฺมกถา มหาวิภงฺเคเยว กถิตา.

๔๐๓. กุมฺภเถนเกหีติ กุมฺเภ ทีปํ ชาเลตฺวา เตน อาโลเกน ปรฆเร ภณฺฑํ วิจินิตฺวา เถนกโจเรหิ.

เสตฏฺิกา นาม โรคชาตีติ เอโก ปาณโก นาฬิมชฺฌคตํ กณฺฑํ วิชฺฌติ, เยน วิทฺธตฺตา นิกฺขนฺตมฺปิ สาลิสีสํ ขีรํ คเหตุํ น สกฺโกติ.

มฺชิฏฺิกา นาม โรคชาตีติ อุจฺฉูนํ อนฺโตรตฺตภาโว. มหโต ตฬากสฺส ปฏิกจฺเจว อาฬินฺติ อิมินา ปน เอตมตฺถํ ทสฺเสติ – ยถา มหโต ตฬากสฺส อาฬิยา อพทฺธายปิ กิฺจิ อุทกํ ติฏฺเยฺย, ปมเมว พทฺธาย ปน ยํ อพทฺธปจฺจยา น ติฏฺเยฺย, ตมฺปิ ติฏฺเยฺย; เอวเมว เย อิเม อนุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมึ ปฏิกจฺเจว อวีติกฺกมนตฺถาย ครุธมฺมา ปฺตฺตา. เตสุ อปฺตฺเตสุปิ มาตุคามสฺส ปพฺพชิตตฺตา ปฺเจว วสฺสสตานิ สทฺธมฺโม ติฏฺเยฺย. ปฏิกจฺเจว ปฺตฺตตฺตา ปน อปรานิปิ ปฺจวสฺสสตานิ สฺสตีติ เอวํ ปมํ วุตฺตํ วสฺสสหสฺสเมว สฺสตีติ. วสฺสสหสฺสนฺติ เจตํ ปฏิสมฺภิทาปเภทปฺปตฺตขีณาสววเสเนว วุตฺตํ. ตโต ปน อุตฺตริมฺปิ สุกฺขวิปสฺสกขีณาสววเสน วสฺสสหสฺสํ, อนาคามิวเสน วสฺสสหสฺสํ, สกทาคามิวเสน วสฺสสหสฺสํ, โสตาปนฺนวเสน วสฺสสหสฺสนฺติ เอวํ ปฺจวสฺสสหสฺสานิ ปฏิเวธสทฺธมฺโม สฺสติ. ปริยตฺติธมฺโมปิ ตานิเยว. น หิ ปริยตฺติยา อสติ ปฏิเวโธ อตฺถิ, นาปิ ปริยตฺติยา สติ ปฏิเวโธ น โหติ; ลิงฺคํ ปน ปริยตฺติยา อนฺตรหิตายปิ จิรํ ปวตฺติสฺสตีติ.

มหาปชาปติโคตมีวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

ภิกฺขุนีอุปสมฺปทานุชานนกถา

๔๐๔. อนุชานามิ ภิกฺขเว ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนิโย อุปสมฺปาเทตุนฺติ อิมาย อนุปฺตฺติยา ภิกฺขู ปฺจสตา สากิยานิโย มหาปชาปติยา สทฺธิวิหารินิโย กตฺวา อุปสมฺปาเทสุํ. อิติ ตา สพฺพาปิ เอกโตอุปสมฺปนฺนา นาม อเหสุํ. เย โข ตฺวํ โคตมีติ อิมินา โอวาเทน โคตมี อรหตฺตํ ปตฺตา.

๔๐๙. กมฺมํ น กรียตีติ ตชฺชนียาทิ สตฺตวิธมฺปิ กมฺมํ น กรียติ. ขมาเปนฺตีติ น ปุน เอวํ กริสฺสามีติ ขมาเปนฺติ.

๔๑๐. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนีนํ กมฺมํ โรเปตฺวา นิยฺยาเทตุนฺติ เอตฺถ ตชฺชนียาทีสุ ‘‘อิทํ นาม กมฺมํ เอติสฺสา กาตพฺพ’’นฺติ เอวํ โรเปตฺวา ‘‘ตํ ทานิ ตุมฺเหว กโรถา’’ติ นิยฺยาเทตพฺพํ. สเจ ปน อฺสฺมึ โรปิเต อฺํ กโรนฺติ, ‘‘ตชฺชนียกมฺมารหสฺส นิยสฺสกมฺมํ กโรตี’’ติ เอตฺถ วุตฺตนเยน กาเรตพฺพตํ อาปชฺชนฺติ.

๔๑๑. กทฺทโมทเกนาติ เอตฺถ น เกวลํ กทฺทโมทเกน, วิปฺปสนฺนอุทกรชนกทฺทมาทีสุปิ เยน เกนจิ โอสิฺจนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. อวนฺทิโย โส ภิกฺขเว ภิกฺขุ ภิกฺขุนิสงฺเฆน กาตพฺโพติ ภิกฺขุนุปสฺสเย สนฺนิปติตฺวา ‘‘อสุโก นาม อยฺโย ภิกฺขุนีนํ อปสาทนียํ ทสฺเสติ, เอตสฺส อยฺยสฺส อวนฺทิยกรณํ รุจฺจตี’’ติ เอวํ ติกฺขตฺตุํ สาเวตพฺพํ. เอตฺตาวตา อวนฺทิโย กโต โหติ. ตโต ปฏฺาย ยถา สามเณเร ทิสฺวา น วนฺทนฺติ; เอวเมว ทิสฺวาปิ น วนฺทิตพฺโพ. เตน ภิกฺขุนา สมฺมา วตฺตนฺเตน ภิกฺขุนุปสฺสยํ อาคนฺตฺวา วิหาเรเยว สงฺฆํ วา คณํ วา เอกปุคฺคลํ วา อุปสงฺกมิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ มยฺหํ ขมตู’’ติ ขมาเปตพฺพํ. เตน ภิกฺขุนา ภิกฺขุนีนํ สนฺติกํ อาคนฺตฺวา ‘‘เอโส ภิกฺขุ ตุมฺเห ขมาเปตี’’ติ วตฺตพฺพํ. ตโต ปฏฺาย โส วนฺทิตพฺโพ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารํ ปน กมฺมวิภงฺเค วกฺขาม.

โอภาเสนฺตีติ อสทฺธมฺเมน โอภาเสนฺติ. ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ สมฺปโยเชนฺตีติ ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ ปุริเส อสทฺธมฺเมน สมฺปโยเชนฺติ. อวนฺทิยกรณํ วุตฺตนยเมว. อาวรณนฺติ วิหารปฺปเวสเน นิวารณํ. โอวาทํ เปตุนฺติ เอตฺถ น ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา เปตพฺโพ. โอวาทตฺถาย ปน อาคตา ภิกฺขุนิโย วตฺตพฺพา ‘‘อสุกา นาม ภิกฺขุนี สาปตฺติกา, ตสฺสา โอวาทํ เปมิ, มา ตาย สทฺธึ อุโปสถํ กริตฺถา’’ติ. กายวิวรณาทีสุปิ ทณฺฑกมฺมํ วุตฺตนยเมว.

๔๑๓. น ภิกฺขเว ภิกฺขุนิยา โอวาโท น คนฺตพฺโพติอาทิ ภิกฺขุนิวิภงฺควณฺณนายํ วุตฺตเมว.

๔๑๖. ผาสุกา นเมนฺตีติ คิหิทาริกาโย วิย ฆนปฏฺฏเกน กายพนฺธเนน ผาสุกา นมนตฺถาย พนฺธนฺติ. เอกปริยากตนฺติ เอกวารํ ปริกฺขิปนกํ.

วิลีเวน ปฏฺเฏนาติ สณฺเหหิ เวฬุวิลีเวหิ กตปฏฺเฏน. ทุสฺสปฏฺเฏนาติ เสตวตฺถปฏฺเฏน. ทุสฺสเวณิยาติ ทุสฺเสน กตเวณิยา. ทุสฺสวฏฺฏิยาติ ทุสฺเสน กตวฏฺฏิยา. โจฬปฏฺฏาทีสุ โจฬกาสาวํ โจฬนฺติ เวทิตพฺพํ.

อฏฺิลฺเลนาติ โคชงฺฆฏฺิเกน. ชฆนนฺติ กฏิปฺปเทโส วุจฺจติ. หตฺถํ โกฏฺฏาเปนฺตีติ อคฺคพาหํ โกฏฺฏาเปตฺวา โมรปตฺตาทีหิ จิตฺตาลงฺการํ กโรนฺติ. หตฺถโกจฺฉนฺติ ปิฏฺิหตฺถํ. ปาทนฺติ ชงฺฆํ. ปาทโกจฺฉนฺติ ปิฏฺิปาทํ.

๔๑๗. มุขลิมฺปนาทีนิ วุตฺตนยาเนว. อวงฺคํ กโรนฺตีติ อกฺขี อฺชนฺติโย อวงฺคเทเส อโธมุขํ เลขํ กโรนฺติ. วิเสสกนฺติ คณฺฑปฺปเทเส วิจิตฺรสณฺานํ วิเสสกํ กโรนฺติ. โอโลเกนฺตีติ วาตปานํ วิวริตฺวา วีถึ โอโลเกนฺติ. สาโลเก ติฏฺนฺตีติ ทฺวารํ วิวริตฺวา อุปฑฺฒกายํ ทสฺเสนฺติโย ติฏฺนฺติ. นจฺจนฺติ นฏสมชฺชํ กาเรนฺติ. เวสึ วุฏฺาเปนฺตีติ คณิกํ วุฏฺาเปนฺติ. ปานาคารํ เปนฺตีติ สุรํ วิกฺกิณนฺติ. สูนํ เปนฺตีติ มํสํ วิกฺกิณนฺติ. อาปณนฺติ นานาภณฺฑานํ อเนกวิธํ อาปณํ ปสาเรนฺติ. ทาสํ อุปฏฺาเปนฺตีติ ทาสํ คเหตฺวา เตน อตฺตโน เวยฺยาวจฺจํ กาเรนฺติ. ทาสีอาทีสุปิ เอเสว นโย. หริตกปกฺกิกํ ปกิณนฺตีติ หริตกฺเจว ปกฺกฺจ ปกิณนฺติ; ปกิณฺณกาปณํ ปสาเรนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.

๔๑๘. สพฺพนีลกาทิกถา กถิตาเยว.

๔๑๙. ภิกฺขุนี เจ, ภิกฺขเว, กาลํ กโรนฺตีติอาทีสุ อยํ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย – สเจ หิ ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ โย โกจิ กาลํ กโรนฺโต ‘‘มมจฺจเยน มยฺหํ ปริกฺขาโร อุปชฺฌายสฺส โหตุ, อาจริยสฺส โหตุ, สทฺธิวิหาริกสฺส โหตุ, อนฺเตวาสิกสฺส โหตุ, มาตุ โหตุ, ปิตุ โหตุ, อฺสฺส วา ยสฺส กสฺสจิ โหตู’’ติ วทติ เตสํ น โหติ, สงฺฆสฺเสว โหติ. น หิ ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ อจฺจยทานํ รุหติ, คิหีนํ ปน รุหติ. ภิกฺขุ หิ ภิกฺขุนิวิหาเร กาลํ กโรติ, ตสฺส ปริกฺขาโร ภิกฺขูนํเยว โหติ. ภิกฺขุนี ภิกฺขุวิหาเร กาลํ กโรติ, ตสฺสา ปริกฺขาโร ภิกฺขุนีนํเยว โหติ.

๔๒๐. ปุราณมลฺลีติ ปุราเณ คิหิกาเล มลฺลกสฺส ภริยา. ปุริสพฺยฺชนนฺติ ปุริสนิมิตฺตํ, ฉินฺนํ วา โหตุ อจฺฉินฺนํ วา, ปฏิจฺฉนฺนํ วา อปฺปฏิจฺฉนฺนํ วา. สเจ เอตสฺมึ าเน ปุริสพฺยฺชนนฺติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา อุปนิชฺฌายติ, ทุกฺกฏํ.

๔๒๑. อตฺตโน ปริโภคตฺถาย ทินฺนํ นาม ยํ ‘‘ตุมฺเหเยว ปริภุฺชถา’’ติ วตฺวา ทินฺนํ, ตํ อฺสฺส ททโต ทุกฺกฏํ. อคฺคํ คเหตฺวา ปน ทาตุํ วฏฺฏติ. สเจ อสปฺปายํ, สพฺพํ อปเนตุํ วฏฺฏติ. จีวรํ เอกาหํ วา ทฺวีหํ วา ปริภุฺชิตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. ปตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย.

ภิกฺขูนํ สนฺนิธึ ภิกฺขุนีหิ ปฏิคฺคาหาเปตฺวาติ หิยฺโย ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตมํสํ อชฺช อฺสฺมึ อนุปสมฺปนฺเน อสติ ภิกฺขูหิ ปฏิคฺคาหาเปตฺวา ภิกฺขุนีหิ ปริภุฺชิตพฺพํ. ภิกฺขูหิ ปฏิคฺคหิตฺหิ ภิกฺขุนีนํ อปฺปฏิคฺคหิตกฏฺาเน ติฏฺติ, ภิกฺขุนีนํ ปฏิคฺคหิตมฺปิ ภิกฺขูสุ เอเสว นโย.

๔๒๖. อาสนํ สํกสายนฺติโย กาลํ วีตินาเมสุนฺติ อฺํ วุฏฺาเปตฺวา อฺํ นิสีทาเปนฺติโย โภชนกาลํ อติกฺกาเมสุํ.

อฏฺนฺนํ ภิกฺขุนีนํ ยถาวุฑฺฒนฺติ เอตฺถ สเจ ปุเร อฏฺสุ นิสินฺนาสุ ตาสํ อพฺภนฺตริมา อฺา อาคจฺฉติ, สา อตฺตโน นวกํ อุฏฺาเปตฺวา นิสีทิตุํ ลภติ. ยา ปน อฏฺหิปิ นวกตรา, สา สเจปิ สฏฺิวสฺสา โหติ, อาคตปฏิปาฏิยาว นิสีทิตุํ ลภติ. อฺตฺถ สพฺพตฺถ ยถาวุฑฺฒํ น ปฏิพาหิตพฺพนฺติ เปตฺวา ภตฺตคฺคํ อฺสฺมึ จตุปจฺจยภาชนียฏฺาเน ‘‘อหํ ปุพฺเพ อาคตา’’ติ วุฑฺฒํ ปฏิพาหิตฺวา กิฺจิ น คเหตพฺพํ; ยถาวุฑฺฒเมว วฏฺฏติ. ปวารณากถา กถิตาเยว.

๔๒๙. อิตฺถิยุตฺตนฺติอาทีหิ สพฺพยานานิ อนุฺาตานิ. ปาฏงฺกินฺติ ปฏโปฏฺฏลิกํ.

๔๓๐. ทูเตน อุปสมฺปทา ทสนฺนํ อนฺตรายานํ เยน เกนจิ วฏฺฏติ. กมฺมวาจาปริโยสาเน สา ภิกฺขุนี ภิกฺขุนุปสฺสเย ิตา วา โหตุ นิปนฺนา วา ชาครา วา นิทฺทํ โอกฺกนฺตา วา, อุปสมฺปนฺนาว โหติ. ตาวเทว ฉายาทีนิ อาคตาย ทูตภิกฺขุนิยา อาจิกฺขิตพฺพานิ.

๔๓๑. อุโทสิโตติ ภณฺฑสาลา. น สมฺมตีติ นปฺปโหติ. อุปสฺสยนฺติ ฆรํ. นวกมฺมนฺติ สงฺฆสฺสตฺถาย ภิกฺขุนิยา นวกมฺมมฺปิ กาตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ.

๔๓๒. ตสฺสา ปพฺพชิตายาติ ตสฺสา ปพฺพชิตกาเล. ยาว โส ทารโก วิฺุตํ ปาปุณาตีติ ยาว ขาทิตุํ ภุฺชิตุํ นหายิตุฺจ มณฺฑิตุฺจ อตฺตโน ธมฺมตาย สกฺโกตีติ อตฺโถ.

เปตฺวา สาคารนฺติ สหคารเสยฺยมตฺตํ เปตฺวา. ยถา อฺสฺมึ ปุริเส; เอวํ ทุติยิกาย ภิกฺขุนิยา ตสฺมึ ทารเก ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. มาตา ปน นหาเปตุํ ปาเยตุํ โภเชตุํ มณฺเฑตุํ อุเร กตฺวา สยิตุฺจ ลภติ.

๔๓๔. ยเทว สา วิพฺภนฺตาติ ยสฺมา สา วิพฺภนฺตา อตฺตโน รุจิยา ขนฺติยา โอทาตานิ วตฺถานิ นิวตฺถา, ตสฺมาเยว สา อภิกฺขุนี, น สิกฺขาปจฺจกฺขาเนนาติ ทสฺเสติ. สา ปุน อุปสมฺปทํ น ลภติ.

สา อาคตา น อุปสมฺปาเทตพฺพาติ น เกวลํ น อุปสมฺปาเทตพฺพา, ปพฺพชฺชมฺปิ น ลภติ. โอทาตานิ คเหตฺวา วิพฺภนฺตา ปน ปพฺพชฺชามตฺตํ ลภติ.

อภิวาทนนฺติอาทีสุ ปุริสา ปาเท สมฺพาหนฺตา วนฺทนฺติ, เกเส ฉินฺทนฺติ, นเข ฉินฺทนฺติ, วณปฏิกมฺมํ กโรนฺติ, ตํ สพฺพํ กุกฺกุจฺจายนฺตา น สาทิยนฺตีติ อตฺโถ. ตตฺเรเก อาจริยา ‘‘สเจ เอกโต วา อุภโต วา อวสฺสุตา โหนฺติ สารตฺตา, ยถาวตฺถุกเมว’’. เอเก อาจริยา ‘‘นตฺถิ เอตฺถ อาปตฺตี’’ติ วทนฺติ. เอวํ อาจริยวาทํ ทสฺเสตฺวา อิทํ โอทิสฺส อนุฺาตํ วฏฺฏตีติ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ. ตํ ปมาณํ. ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว สาทิตุ’’นฺติ หิ วจเนเนว ตํ กปฺปิยํ.

๔๓๕. ปลฺลงฺเกน นิสีทนฺตีติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสีทนฺติ. อฑฺฒปลฺลงฺกนฺติ เอกํ ปาทํ อาภุชิตฺวา กตปลฺลงฺกํ. เหฏฺา วิวเฏ อุปริ ปฏิจฺฉนฺเนติ เอตฺถ สเจ กูโป ขโต โหติ, อุปริ ปน ปทรมตฺตเมว สพฺพทิสาสุ ปฺายติ, เอวรูเปปิ วฏฺฏติ.

๔๓๖. กุกฺกุสํ มตฺติกนฺติ กุณฺฑกฺเจว มตฺติกฺจ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ภิกฺขุนีอุปสมฺปทานุชานนกถา นิฏฺิตา.

ภิกฺขุนิกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. ปฺจสติกกฺขนฺธกํ

ขุทฺทานุขุทฺทกสิกฺขาปทกถา

๔๔๑. ปฺจสติกกฺขนฺธเก จตฺตาริ ปาราชิกานิ เปตฺวา อวเสสานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานีติ เอวมาทิ เอกสิกฺขาปทมฺปิ อปริจฺจชิตฺวา สพฺเพสํ สงฺคเหตพฺพภาวทสฺสนตฺถํ ปริยาเยน วุตฺตํ. อิทํ โว สมณานนฺติ อิทํ สมณานํ. ปทปูรณมตฺเต โวกาโร.

๔๔๓. อิทมฺปิ เต อาวุโส อานนฺท ทุกฺกฏนฺติ ‘‘อิทํ ตยา ทุฏฺุ กต’’นฺติ เกวลํ ครหนฺเตหิ เถเรหิ วุตฺตํ, น อาปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. น หิ เต อาปตฺตานาปตฺตึ น ชานนฺติ. อิทาเนว เจตํ อนุสฺสาวิตํ – ‘‘สงฺโฆ อปฺตฺตํ น ปฺเปติ, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทตี’’ติ. เทเสหิ ตํ ทุกฺกฏนฺติ อิทมฺปิ จ ‘‘อาม, ภนฺเต, ทุฏฺุ มยา กต’’นฺติ เอวํ ปฏิชานาหิ, ตํ ทุกฺกฏนฺติ อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ, น อาปตฺติเทสนํ. เถโร ปน ยสฺมา อสติยา น ปุจฺฉิ น อนาทเรน, ตสฺมา ตตฺถ ทุฏฺุกตภาวมฺปิ อสลฺลกฺเขนฺโต ‘‘นาหํ ตํ ทุกฺกฏํ ปสฺสามี’’ติ วตฺวา เถเรสุ คารวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิจายสฺมนฺตานํ สนฺธาย เทเสมิ ตํ ทุกฺกฏ’’นฺติ อาห. ยถา ตุมฺเห วทถ, ตถา ปฏิชานามีติ วุตฺตํ โหติ. เอเสว นโย อวเสเสสุ จตูสุ าเนสุ. เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ นิทานวณฺณนายเมว วุตฺตํ.

ขุทฺทานุขุทฺทกสิกฺขาปทกถา นิฏฺิตา.

ปฺจสติกกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. สตฺตสติกกฺขนฺธกํ

ทสวตฺถุกถา

๔๔๖. สตฺตสติกกฺขนฺธเก ภิกฺขคฺเคนาติ ภิกฺขุอคฺเคน, ภิกฺขู คเณตฺวา ตตฺตเก ปฏิวีเส เปสุนฺติ อตฺโถ. มหิยาติ หิมปาตสมเย หิมวลาหกา.

๔๔๗. อวิชฺชานิวุฏาติ อวิชฺชาปฏิจฺฉนฺนา. โปสาติ ปุริสา. ปิยรูปํ อภินนฺทนฺติ ปตฺเถนฺตีติ ปิยรูปาภินนฺทิโน. อวิทฺทสูติ อวิชานนฺตา. ราครเชหิ สรชา. มคสทิสาติ มคา. สห เนตฺติยาติ สเนตฺติกา. วฑฺเฒนฺติ กฏสินฺติ ปุนปฺปุนํ กเฬวรํ นิกฺขิปมานา ภูมึ วฑฺเฒนฺติ. เอวํ วฑฺเฒนฺตาว โฆรํ อาทิยนฺติ ปุนพฺภวํ.

๔๕๔. ปาปกํ โน อาวุโส กตนฺติ อาวุโส อมฺเหหิ ปาปกํ กตนฺติ อตฺโถ.

๔๕๕. กตเมน ตฺวํ ภูมิ วิหาเรนาติ เอตฺถ ภูมีติ ปิยวจนเมตํ. ปิยํ วตฺตุกาโม กิร อายสฺมา สพฺพกามี นวเก ภิกฺขู เอวํ อามนฺเตติ. กุลฺลกวิหาเรนาติ อุตฺตานวิหาเรน.

๔๕๗. สาวตฺถิยา สุตฺตวิภงฺเคติ กถํ สุตฺตวิภงฺเค ปฏิกฺขิตฺตํ โหติ? ตตฺร หิ ‘‘สนฺนิธิ นาม อชฺช ปฏิคฺคหิตํ อปรชฺชู’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘สนฺนิธิการเก อสนฺนิธิการกสฺี ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาทติ วา ภุฺชติ วา อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ อาปตฺตึ วทนฺเตน ปฏิกฺขิตฺตํ โหติ. ตตฺเรเก มฺนฺติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ สนฺนิธิการกํ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา’’ติ หิ วุตฺตํ, อิทฺจ โลณํ นาม ยาวชีวิกตฺตา สนฺนิธิภาวํ นาปชฺชติ. ยมฺปิ อโลณกํ อามิสํ ปฏิคฺคเหตฺวา เตน สทฺธึ ปริภุฺชติ, ตํ ตทหุปฏิคฺคหิตเมว, ตสฺมา ‘‘‘ยาวกาลิเกน, ภิกฺขเว, ยาวชีวิกํ ตทหุปฏิคฺคหิตํ กาเล กปฺปติ, วิกาเล น กปฺปตี’ติ วจนโต ทุกฺกเฏเนตฺถ ภวิตพฺพ’’นฺติ. เต วตฺตพฺพา – ‘‘ตุมฺหากํ มเตน ทุกฺกเฏนปิ น ภวิตพฺพํ, น หิ เอตฺถ ยาวชีวิกํ ตทหุปฏิคฺคหิตํ, ยาวกาลิกเมว ตทหุปฏิคฺคหิตํ, น จ ตํ วิกาเล ปริภุตฺตํ. ยทิ วา ‘‘วิกาเล น กปฺปตี’’ติ วจเนน ตุมฺเห ทุกฺกฏํ มฺเถ, ยาวชีวิกมิสฺสํ ยาวกาลิกํ วิกาเล ภุฺชนฺตสฺส วิกาลโภชนปาจิตฺติยํ น ภเวยฺย. ตสฺมา น พฺยฺชนมตฺตํ คเหตพฺพํ, อตฺโถ อุปปริกฺขิตพฺโพ.

อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ยาวกาลิเกน ยาวชีวิกํ ตทหุปฏิคฺคหิตํ ยทิ สมฺภินฺนรสํ โหติ, ยาวกาลิกคติกเมว โหติ. ตสฺมา ‘‘โย ปน ภิกฺขุ วิกาเล ขาทนียํ วา โภชนียํ วา’’ติ อิมินา สิกฺขาปเทน กาเล กปฺปติ, วิกาเล น กปฺปติ. น อิธ ‘‘น กปฺปตี’’ติ วจนมตฺเตเนตฺถ ทุกฺกฏํ โหติ. ยเถว ยาวชีวิกํ ตทหุปฏิคฺคหิตํ ยาวกาลิเกน สมฺภินฺนรสํ วิกาเล น กปฺปติ, วิกาลโภชนปาจิตฺติยาวหํ โหติ. เอวํ อชฺช ปฏิคฺคหิตมฺปิ อปรชฺชุ ยาวกาลิเกน สมฺภินฺนรสํ น กปฺปติ, สนฺนิธิโภชนปาจิตฺติยาวหํ โหติ. ตํ ‘‘สนฺนิธิกตํ อิท’’นฺติ อชานนฺโตปิ น มุจฺจติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘สนฺนิธิการเก อสนฺนิธิการกสฺี ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาทติ วา ภุฺชติ วา อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ. ตสฺมา ‘‘กตฺถ ปฏิกฺขิตฺต’’นฺติ อิมิสฺสา ปุจฺฉาย ‘‘ปริสุทฺธมิทํ พฺยากรณํ สาวตฺถิยา สุตฺตวิภงฺเค’’ติ.

ราชคเห อุโปสถสํยุตฺเตติ อิทํ ‘‘น ภิกฺขเว เอกสฺมึ อาวาเส ทฺเว อุโปสถาคารานิ สมฺมนฺนิตพฺพานิ; โย สมฺมนฺเนยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ เอตํ สนฺธาย วุตฺตํ. วินยาติสาเร ทุกฺกฏนฺติ ‘‘น ภิกฺขเว เอกสฺมึ อาวาเส ทฺเว อุโปสถาคารานิ สมฺมนฺนิตพฺพานี’’ติ เอตสฺส วินยสฺส อติสาเร ทุกฺกฏํ. จมฺเปยฺยเก วินยวตฺถุสฺมินฺติ อิทํ ‘‘อธมฺเมน เจ ภิกฺขเว วคฺคกมฺมํ, อกมฺมํ น จ กรณีย’’นฺติ เอวมาทึ กตฺวา จมฺเปยฺยกฺขนฺธเก อาคตํ วินยวตฺถุํ สนฺธาย วุตฺตํ.

เอกจฺโจ กปฺปตีติ อิทํ ธมฺมิกํ อาจิณฺณํ สนฺธาย วุตฺตํ. เฉทนเก ปาจิตฺติยนฺติ สุตฺตวิภงฺเค หิ ‘‘นิสีทนํ นาม สทสํ วุจฺจตี’’ติ อาคตํ, ตสฺมา ทฺวินฺนํ สุคตวิทตฺถีนํ อุปริ ทสาเยว วิทตฺถิมตฺตา ลพฺภติ. ทสาย วินา ตํ ปมาณํ กโรนฺตสฺส อิทํ อาคตเมว โหติ – ‘‘ตํ อติกฺกามยโต เฉทนกํ ปาจิตฺติย’’นฺติ. ตสฺมา ‘‘กึ อาปชฺชตี’’ติ ปุฏฺโ ‘‘เฉทนเก ปาจิตฺติย’’นฺติ อาห. เฉทนกสิกฺขาปเท วุตฺตปาจิตฺติยํ อาปชฺชตีติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ทสวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย

สตฺตสติกกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทฺวิวคฺคสงฺคหา วุตฺตา, ทฺวาวีสติปเภทนา;

ขนฺธกา สาสเน ปฺจกฺขนฺธทุกฺขปฺปหายิโน.

ยา เตสํ วณฺณนา เอสา, อนฺตรายํ วินา ยถา;

สิทฺธา สิชฺฌนฺตุ กลฺยาณา, เอวํ อาสาปิ ปาณินนฺติ.

จูฬวคฺค-อฏฺกถา นิฏฺิตา.