📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
วินยปิฏเก
ปริวาร-อฏฺกถา
โสฬสมหาวาโร
ปฺตฺติวารวณฺณนา
วิสุทฺธปริวารสฺส ¶ ¶ ¶ , ปริวาโรติ สาสเน;
ธมฺมกฺขนฺธสรีรสฺส, ขนฺธกานํ อนนฺตรา.
สงฺคหํ โย สมารุฬฺโห, ตสฺส ปุพฺพาคตํ นยํ;
หิตฺวา ทานิ กริสฺสามิ, อนุตฺตานตฺถวณฺณนํ.
๑. ตตฺถ ¶ ยํ เตน ภควตา…เป… ปฺตฺตนฺติ อาทินยปฺปวตฺตาย ตาว ปุจฺฉาย อยํ สงฺเขปตฺโถ – โย โส ภควา สาสนสฺส จิรฏฺิติกตฺถํ ธมฺมเสนาปตินา สทฺธมฺมคารวพหุมานเวคสมุสฺสิตํ อฺชลึ สิรสฺมึ ปติฏฺาเปตฺวา ยาจิโต ทส อตฺถวเส ปฏิจฺจ วินยปฺตฺตึ ปฺเปสิ, เตน ภควตา ตสฺส ตสฺส สิกฺขาปทสฺส ปฺตฺติกาลํ ชานตา, ตสฺสา ตสฺสา สิกฺขาปทปฺตฺติยา ทส อตฺถวเส ปสฺสตา; อปิจ ปุพฺเพนิวาสาทีหิ ชานตา, ทิพฺเพน จกฺขุนา ปสฺสตา, ตีหิ วิชฺชาหิ ฉหิ วา ปน อภิฺาหิ ชานตา, สพฺพตฺถ อปฺปฏิหเตน สมนฺตจกฺขุนา ปสฺสตา, สพฺพธมฺมชานนสมตฺถาย ปฺาย ชานตา, สพฺพสตฺตานํ จกฺขุวิสยาตีตานิ ติโรกุฏฺฏาทิคตานิ จาปิ รูปานิ อติวิสุทฺเธน มํสจกฺขุนา จ ปสฺสตา, อตฺตหิตสาธิกาย สมาธิปทฏฺานาย ปฏิเวธปฺาย ชานตา, ปรหิตสาธิกาย กรุณาปทฏฺานาย ¶ เทสนาปฺาย ปสฺสตา, อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ‘‘ยํ ปมํ ปาราชิกํ ปฺตฺตํ, ตํ กตฺถ ปฺตฺตํ, กํ อารพฺภ ปฺตฺตํ, กิสฺมึ วตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, อตฺถิ ตตฺถ ปฺตฺติ…เป… เกนาภต’’นฺติ.
๒. ปุจฺฉาวิสฺสชฺชเน ¶ ปน ‘‘ยํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปมํ ปาราชิก’’นฺติ อิทํ เกวลํ ปุจฺฉาย อาคตสฺส อาทิปทสฺส ปจฺจุทฺธรณมตฺตเมว, ‘‘กตฺถ ปฺตฺตนฺติ เวสาลิยา ปฺตฺตํ; กํ อารพฺภาติ สุทินฺนํ กลนฺทปุตฺตํ อารพฺภา’’ติ เอวมาทินา ปน นเยน ปุนปิ เอตฺถ เอเกกํ ปทํ ปุจฺฉิตฺวาว วิสฺสชฺชิตํ. เอกา ปฺตฺตีติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺย ปาราชิโก โหติ อสํวาโส’’ติ อยํ เอกา ปฺตฺติ. ทฺเว อนุปฺตฺติโยติ ‘‘อนฺตมโส ติรจฺฉานคตายปี’’ติ จ, ‘‘สิกฺขํ อปจฺจกฺขายา’’ติ จ มกฺกฏิวชฺชิปุตฺตกวตฺถูนํ วเสน วุตฺตา – อิมา ทฺเว อนุปฺตฺติโย. เอตฺตาวตา ‘‘อตฺถิ ตตฺถ ปฺตฺติ อนุปฺตฺติ อนุปฺปนฺนปฺตฺตี’’ติ อิมิสฺสา ปุจฺฉาย ทฺเว โกฏฺาสา วิสฺสชฺชิตา โหนฺติ. ตติยํ วิสฺสชฺเชตุํ ปน ‘‘อนุปฺปนฺนปฺตฺติ ตสฺมึ นตฺถี’’ติ วุตฺตํ. อยฺหิ อนุปฺปนฺนปฺตฺติ นาม อนุปฺปนฺเน โทเส ปฺตฺตา; สา อฏฺครุธมฺมวเสน ภิกฺขุนีนํเยว อาคตา, อฺตฺร นตฺถิ. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อนุปฺปนฺนปฺตฺติ ตสฺมึ นตฺถี’’ติ. สพฺพตฺถปฺตฺตีติ มชฺฌิมเทเส เจว ปจฺจนฺติมชนปเทสุ จ สพฺพตฺถปฺตฺติ. วินยธรปฺจเมน คเณน ‘‘อุปสมฺปทา, คุณงฺคุณูปาหนา, ธุวนหานํ, จมฺมตฺถรณ’’นฺติ อิมานิ หิ จตฺตาริ สิกฺขาปทานิ มชฺฌิมเทเสเยว ปฺตฺติ. เอตฺเถว เอเตหิ อาปตฺติ โหติ, น ปจฺจนฺติมชนปเทสุ. เสสานิ สพฺพาเนว สพฺพตฺถปฺตฺติ นาม.
สาธารณปฺตฺตีติ ¶ ภิกฺขูนฺเจว ภิกฺขุนีนฺจ สาธารณปฺตฺติ; สุทฺธภิกฺขูนเมว หิ สุทฺธภิกฺขุนีนํ วา ปฺตฺตํ สิกฺขาปทํ อสาธารณปฺตฺติ นาม โหติ. อิทํ ปน ภิกฺขุํ อารพฺภ อุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมึ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ฉนฺทโส เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺย, อนฺตมโส ติรจฺฉานคเตนปิ ปาราชิกา โหติ อสํวาสา’’ติ ภิกฺขุนีนมฺปิ ¶ ปฺตฺตํ, วินีตกถามตฺตเมว หิ ตาสํ นตฺถิ, สิกฺขาปทํ ปน อตฺถิ, เตน วุตฺตํ ‘‘สาธารณปฺตฺตี’’ติ. อุภโตปฺตฺติยมฺปิ เอเสว นโย. พฺยฺชนมตฺตเมว หิ เอตฺถ นานํ, ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนมฺปิ สาธารณตฺตา สาธารณปฺตฺติ, อุภินฺนมฺปิ ปฺตฺตตฺตา อุภโตปฺตฺตีติ. อตฺเถ ปน เภโท นตฺถิ.
นิทาโนคธนฺติ ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺติ โส อาวิกเรยฺยา’’ติ เอตฺถ สพฺพาปตฺตีนํ อนุปวิฏฺตฺตา นิทาโนคธํ; นิทาเน อนุปวิฏฺนฺติ อตฺโถ. ทุติเยน อุทฺเทเสนาติ นิทาโนคธํ นิทานปริยาปนฺนมฺปิ สมานํ ‘‘ตตฺริเม จตฺตาโร ¶ ปาราชิกา ธมฺมา’’ติอาทินา ทุติเยเนว อุทฺเทเสน อุทฺเทสํ อาคจฺฉติ. จตุนฺนํ วิปตฺตีนนฺติ สีลวิปตฺติอาทีนํ. ปมา หิ ทฺเว อาปตฺติกฺขนฺธา สีลวิปตฺติ นาม, อวเสสา ปฺจ อาจารวิปตฺติ นาม. มิจฺฉาทิฏฺิ จ อนฺตคฺคาหิกทิฏฺิ จ ทิฏฺิวิปตฺติ นาม, อาชีวเหตุ ปฺตฺตานิ ฉ สิกฺขาปทานิ อาชีววิปตฺติ นาม. อิติ อิมาสํ จตุนฺนํ วิปตฺตีนํ อิทํ ปาราชิกํ สีลวิปตฺติ นาม โหติ.
เอเกน สมุฏฺาเนนาติ ทฺวงฺคิเกน เอเกน สมุฏฺาเนน. เอตฺถ หิ จิตฺตํ องฺคํ โหติ, กาเยน ปน อาปตฺตึ อาปชฺชติ. เตน วุตฺตํ ‘‘กายโต จ จิตฺตโต จ สมุฏฺาตี’’ติ. ทฺวีหิ สมเถหิ สมฺมตีติ ‘‘อาปนฺโนสี’’ติ สมฺมุขา ปุจฺฉิยมาโน ‘‘อาม อาปนฺโนมฺหี’’ติ ปฏิชานาติ, ตาวเทว ภณฺฑนกลหวิคฺคหา วูปสนฺตา โหนฺติ, สกฺกา จ โหติ ตํ ปุคฺคลํ อปเนตฺวา อุโปสโถ วา ปวารณา วา กาตุํ. อิติ สมฺมุขาวินเยน จ ปฏิฺาตกรเณน จาติ ทฺวีหิ สมเถหิ สมฺมติ, น จ ตปฺปจฺจยา โกจิ อุปทฺทโว โหติ. ยํ ปน อุปริ ปฺตฺติวคฺเค ‘‘น กตเมน สมเถน สมฺมตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ สมถํ โอตาเรตฺวา อนาปตฺติ กาตุํ น สกฺกาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ.
ปฺตฺติ วินโยติ ‘‘โย ปน ภิกฺขู’’ติอาทินา นเยน วุตฺตมาติกา ปฺตฺติ วินโยติ อตฺโถ. วิภตฺตีติ ปทภาชนํ วุจฺจติ; วิภตฺตีติ หิ วิภงฺคสฺเสเวตํ นามํ. อสํวโรติ ¶ วีติกฺกโม. สํวโรติ อวีติกฺกโม. เยสํ วตฺตตีติ เยสํ วินยปิฏกฺจ อฏฺกถา จ สพฺพา ปคุณาติ อตฺโถ. เต ธาเรนฺตีติ เต เอตํ ปมปาราชิกํ ¶ ปาฬิโต จ อตฺถโต จ ธาเรนฺติ; น หิ สกฺกา สพฺพํ วินยปิฏกํ อชานนฺเตน เอตสฺส อตฺโถ ชานิตุนฺติ. เกนาภตนฺติ อิทํ ปมปาราชิกํ ปาฬิวเสน จ อตฺถวเสน จ ยาว อชฺชตนกาลํ เกน อานีตนฺติ. ปรมฺปราภตนฺติ ปรมฺปราย อานีตํ.
๓. อิทานิ ยาย ปรมฺปราย อานีตํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุปาลิ ทาสโก เจวา’’ติอาทินา นเยน โปราณเกหิ มหาเถเรหิ คาถาโย ปิตา ¶ . ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ นิทานวณฺณนายเมว วุตฺตํ. อิมินา นเยน ทุติยปาราชิกาทิปุจฺฉาวิสฺสชฺชเนสุปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ.
มหาวิภงฺเค ปฺตฺติวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
กตาปตฺติวาราทิวณฺณนา
๑๕๗. อิโต ปรํ ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺโต กติ อาปตฺติโย อาปชฺชตี’’ติ อาทิปฺปเภโท กตาปตฺติวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย จตุนฺนํ วิปตฺตีนํ กติ วิปตฺติโย ภชนฺตี’’ติ อาทิปฺปเภโท วิปตฺติวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ กติหิ อาปตฺติกฺขนฺเธหิ สงฺคหิตา’’ติ อาทิปฺปเภโท สงฺคหวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย ฉนฺนํ อาปตฺติสมุฏฺานานํ กติหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺหนฺตี’’ติ อาทิปฺปเภโท สมุฏฺานวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย จตุนฺนํ อธิกรณานํ กตมํ อธิกรณ’’นฺติ อาทิปฺปเภโท อธิกรณวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย สตฺตนฺนํ สมถานํ กติหิ สมเถหิ สมฺมนฺตี’’ติ อาทิปฺปเภโท สมถวาโร, ตทนนฺตโร สมุจฺจยวาโร จาติ อิเม สตฺต วารา อุตฺตานตฺถา เอว.
๑๘๘. ตโต ปรํ ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนปจฺจยา ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺต’’นฺติอาทินา นเยน ปุน ปจฺจยวเสน เอโก ปฺตฺติวาโร, ตสฺส วเสน ปุริมสทิสา เอว กตาปตฺติวาราทโย สตฺต วาราติ เอวํ อปเรปิ อฏฺ วารา วุตฺตา, เตปิ อุตฺตานตฺถา เอว. อิติ อิเม อฏฺ, ปุริมา อฏฺาติ มหาวิภงฺเค โสฬส วารา ทสฺสิตา. ตโต ปรํ เตเนว นเยน ภิกฺขุนิวิภงฺเคปิ ¶ โสฬส วารา อาคตาติ เอวมิเม อุภโตวิภงฺเค ทฺวตฺตึส วารา ปาฬินเยเนว ¶ เวทิตพฺพา. น เหตฺถ กิฺจิ ปุพฺเพ อวินิจฺฉิตํ นาม อตฺถิ.
มหาวิภงฺเค จ ภิกฺขุนิวิภงฺเค จ
โสฬสมหาวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมุฏฺานสีสวณฺณนา
๒๕๗. ตทนนฺตราย ¶ ¶ ปน สมุฏฺานกถาย อนตฺตา อิติ นิจฺฉยาติ อนตฺตา อิติ นิจฺฉิตา. สภาคธมฺมานนฺติ อนิจฺจาการาทีหิ สภาคานํ สงฺขตธมฺมานํ. นามมตฺตํ น นายตีติ นามมตฺตมฺปิ น ปฺายติ. ทุกฺขหานินฺติ ทุกฺขฆาตนํ. ขนฺธกา ยา จ มาติกาติ ขนฺธกา ยา จ มาติกาติ อตฺโถ. อยเมว วา ปาโ. สมุฏฺานํ นิยโต กตนฺติ สมุฏฺานํ นิยโตกตํ นิยตกตํ; นิยตสมุฏฺานนฺติ อตฺโถ. เอเตน ภูตาโรจนโจริวุฏฺาปนอนนฺุาตสิกฺขาปทตฺตยสฺส สงฺคโห ปจฺเจตพฺโพ. เอตาเนว หิ ตีณิ สิกฺขาปทานิ นิยตสมุฏฺานานิ, อฺเหิ สทฺธึ อสมฺภินฺนสมุฏฺานานิ.
สมฺเภทํ นิทานฺจฺนฺติ อฺมฺปิ สมฺเภทฺจ นิทานฺจ. ตตฺถ สมฺเภทวจเนน สมุฏฺานสมฺเภทสฺส คหณํ ปจฺเจตพฺพํ, ตานิ หิ ตีณิ สิกฺขาปทานิ เปตฺวา เสสานิ สมฺภินฺนสมุฏฺานานิ. นิทานวจเนน สิกฺขาปทานํ ปฺตฺติเทสสงฺขาตํ นิทานํ ปจฺเจตพฺพํ. สุตฺเต ทิสฺสนฺติ อุปรีติ สิกฺขาปทานํ สมุฏฺานนิยโม สมฺเภโท นิทานนฺติ อิมานิ ตีณิ สุตฺตมฺหิ เอว ทิสฺสนฺติ; ปฺายนฺตีติ อตฺโถ. ตตฺถ ‘‘เอเกน สมุฏฺาเนน สมุฏฺาติ, กายโต จ จิตฺตโต จา’’ติอาทิมฺหิ ตาว ปุริมนเย สมุฏฺานนิยโม จ สมฺเภโท จ ทิสฺสนฺติ. อิตรํ ปน นิทานํ นาม –
‘‘เวสาลิยา ราชคเห, สาวตฺถิยา จ อาฬวี;
โกสมฺพิยา จ สกฺเกสุ, ภคฺเคสุ เจว ปฺตฺตา’’ติ.
เอวํ อุปริ ทิสฺสติ, ปรโต อาคเต สุตฺเต ทิสฺสตีติ เวทิตพฺพํ.
‘‘วิภงฺเค ¶ ทฺวีสู’’ติ คาถาย อยมตฺโถ – ยํ สิกฺขาปทํ ทฺวีสุ วิภงฺเคสุ ปฺตฺตํ อุโปสถทิวเส ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ อุทฺทิสนฺติ, ตสฺส ยถาายํ สมุฏฺานํ ปวกฺขามิ, ตํ เม สุณาถาติ.
สฺจริตฺตานุภาสนฺจาติ สฺจริตฺตฺจ สมนุภาสนฺจ. อติเรกฺจ จีวรนฺติ อติเรกจีวรํ ¶ ; กถินนฺติ อตฺโถ. โลมานิ ปทโสธมฺโมติ เอฬกโลมานิ ¶ จ ปทโสธมฺโม จ. ภูตํ สํวิธาเนน จาติ ภูตาโรจนฺจ สํวิทหิตฺวา อทฺธานปฺปฏิปชฺชนฺจ. เถยฺยเทสนา โจรึ จาติ เถยฺยสตฺโถ จ ฉตฺตปาณิสฺส อคิลานสฺส ธมฺมเทสนา จ โจริวุฏฺาปนฺจ. อนนฺุาตาย เตรสาติ มาตาปิตุสามิเกหิ อนนฺุาตาย สทฺธึ อิมานิ เตรส สมุฏฺานานิ โหนฺติ. สทิสา อิธ ทิสฺสเรติ อิธ อุภโตวิภงฺเค เอเตสุ เตรสสุ สมุฏฺานสีเสสุ เอเกกสฺมึ อฺานิปิ สทิสานิ สมุฏฺานานิ ทิสฺสนฺติ.
ปมปาราชิกสมุฏฺานวณฺณนา
๒๕๘. อิทานิ ตานิ ทสฺเสตุํ ‘‘เมถุนํ สุกฺกสํสคฺโค’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เมถุนนฺติ อิทํ ตาว ปมปาราชิกํ นาม เอกํ สมุฏฺานสีสํ, เสสานิ เตน สทิสานิ. ตตฺถ สุกฺกสํสคฺโคติ สุกฺกวิสฺสฏฺิ เจว กายสํสคฺโค จ. อนิยตา ปมิกาติ ปมํ อนิยตสิกฺขาปทํ. ปุพฺพูปปริปาจิตาติ ‘‘ชานํ ปุพฺพูปคตํ ภิกฺขุ’’นฺติ สิกฺขาปทฺจ ภิกฺขุนิปริปาจิตปิณฺฑปาตสิกฺขาปทฺจ. รโห ภิกฺขุนิยา สหาติ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ รโห นิสชฺชสิกฺขาปทฺจ.
สโภชเน รโห ทฺเว จาติ สโภชเน กุเล อนุปขชฺชนิสชฺชสิกฺขาปทฺจ ทฺเว รโหนิสชฺชสิกฺขาปทานิ จ. องฺคุลิ อุทเก หสนฺติ องฺคุลิปโตทกฺจ อุทเก หสธมฺมสิกฺขาปทฺจ. ปหาเร อุคฺคิเร เจวาติ ปหารทานสิกฺขาปทฺจ ตลสตฺติกอุคฺคิรณสิกฺขาปทฺจ. เตปฺาสา จ เสขิยาติ ปริมณฺฑลนิวาสนาทีนิ ขุทฺทกวณฺณนาวสาเน วุตฺตานิ เตปฺาส เสขิยสิกฺขาปทานิ จ.
อธกฺขคามาวสฺสุตาติ ภิกฺขุนีนํ อธกฺขกสิกฺขาปทฺจ คามนฺตรคมนํ อวสฺสุตา อวสฺสุตสฺส ¶ หตฺถโต ขาทนียโภชนียคฺคหณสิกฺขาปทฺจ. ตลมฏฺฺจ สุทฺธิกาติ ตลฆาตกํ ชตุมฏฺํ อุทกสุทฺธิกาทิยนฺจ. วสฺสํวุฏฺา จ โอวาทนฺติ วสฺสํวุฏฺา ฉปฺปฺจโยชนานิ สิกฺขาปทฺจ โอวาทาย อคมนสิกฺขาปทฺจ. นานุพนฺเธ ปวตฺตินินฺติ ยา ปน ภิกฺขุนี วุฏฺาปิตํ ปวตฺตินึ ทฺเว วสฺสานิ นานุพนฺเธยฺยาติ วุตฺตสิกฺขาปทํ.
อิเม ¶ สิกฺขาติ อิมา สิกฺขาโย; ลิงฺควิปริยาโย กโต. กายมานสิกา กตาติ กายจิตฺตสมุฏฺานา กตา.
ทุติยปาราชิกสมุฏฺานวณฺณนา
๒๕๙. อทินฺนนฺติ ¶ อิทํ ตาว อทินฺนาทานนฺติ วา ทุติยปาราชิกนฺติ วา เอกํ สมุฏฺานสีสํ, เสสานิ เตน สทิสานิ. ตตฺถ วิคฺคหุตฺตรีติ มนุสฺสวิคฺคหอุตฺตริมนุสฺสธมฺมสิกฺขาปทานิ. ทุฏฺุลฺลา อตฺตกามินนฺติ ทุฏฺุลฺลวาจาอตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปทานิ. อมูลา อฺภาคิยาติ ทฺเว ทุฏฺโทสสิกฺขาปทานิ. อนิยตา ทุติยิกาติ ทุติยํ อนิยตสิกฺขาปทํ.
อจฺฉินฺเท ปริณามเนติ สามํ จีวรํ ทตฺวา อจฺฉินฺทนฺจ สงฺฆิกลาภสฺส อตฺตโน ปริณามนฺจ. มุสา โอมสเปสุณาติ มุสาวาโท จ โอมสวาโท จ ภิกฺขุเปสฺฺุจ. ทุฏฺุลฺลา ปถวีขเณติ ทุฏฺุลฺลาปตฺติอาโรจนฺจ ปถวีขณฺจ. ภูตํ อฺาย อุชฺฌาเปติ ภูตคามอฺวาทกอุชฺฌาปนกสิกฺขาปทานิ.
นิกฺกฑฺฒนํ สิฺจนฺจาติ วิหารโต นิกฺกฑฺฒนฺจ อุทเกน ติณาทิสิฺจนฺจ. อามิสเหตุ ภุตฺตาวีติ ‘‘อามิสเหตุ ภิกฺขุนิโย โอวทนฺตี’’ติ สิกฺขาปทฺจ, ภุตฺตาวึ อนติริตฺเตน ขาทนียาทินา ปวารณาสิกฺขาปทฺจ. เอหิ อนาทริ ภึสาติ ‘‘เอหาวุโส คามํ วา’’ติ สิกฺขาปทฺจ, อนาทริยฺจ ภิกฺขุภึสาปนกฺจ. อปนิเธ จ ชีวิตนฺติ ปตฺตาทีนํ อปนิธานสิกฺขาปทฺจ, สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตาโวโรปนฺจ.
ชานํ สปฺปาณกํ กมฺมนฺติ ชานํ สปฺปาณกอุทกสิกฺขาปทฺจ ปุนกมฺมาย อุกฺโกฏนฺจ. อูนสํวาสนาสนาติ ¶ อูนวีสติวสฺสสิกฺขาปทฺจ อุกฺขิตฺตเกน สทฺธึ สํวาสสิกฺขาปทฺจ นาสิตกสามเณรสมฺโภคสิกฺขาปทฺจ. สหธมฺมิกํ วิเลขาติ สหธมฺมิกํ วุจฺจมานสิกฺขาปทฺจ, วิเลขาย สํวตฺตนฺตีติ อาคตสิกฺขาปทฺจ. โมโห อมูลเกน จาติ โมหนเก ปาจิตฺติยสิกฺขาปทฺจ, อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน อนุทฺธํสนสิกฺขาปทฺจ.
กุกฺกุจฺจํ ธมฺมิกํ จีวรํ ทตฺวาติ กุกฺกุจฺจอุปทหนฺจ, ธมฺมิกานํ กมฺมานํ ฉนฺทํ ทตฺวา ขียนฺจ, จีวรํ ทตฺวา ขียนฺจ. ปริณาเมยฺย ปุคฺคเลติ สงฺฆิกํ ลาภํ ¶ ปุคฺคลสฺส ปริณามนสิกฺขาปทํ. กึ เต อกาลํ อจฺฉินฺเทติ ‘‘กึ เต อยฺเย เอโส ปุริสปุคฺคโล กริสฺสตี’’ติ อาคตสิกฺขาปทฺจ, ‘‘อกาลจีวรํ กาลจีวร’’นฺติ อธิฏฺหิตฺวา ภาชนสิกฺขาปทฺจ, ภิกฺขุนิยา สทฺธึ จีวรํ ปริวตฺเตตฺวา อจฺฉินฺทนสิกฺขาปทฺจ. ทุคฺคหี นิรเยน ¶ จาติ ทุคฺคหิเตน ทุปฺปธาริเตน ปรํ อุชฺฌาปนสิกฺขาปทฺจ, นิรเยน วา พฺรหฺมจริเยน วา อภิสปนสิกฺขาปทฺจ.
คณํ วิภงฺค ทุพฺพลนฺติ ‘‘คณสฺส จีวรลาภํ อนฺตรายํ กเรยฺยา’’ติ จ ‘‘ธมฺมิกํ จีวรวิภงฺคํ ปฏิพาเหยฺยา’’ติ จ ‘‘ทุพฺพลจีวรปจฺจาสาย จีวรกาลสมยํ อติกฺกาเมยฺยา’’ติ จ วุตฺตสิกฺขาปทานิ. กถินา ผาสุ ปสฺสยนฺติ ‘‘ธมฺมิกํ กถินุทฺธารํ ปฏิพาเหยฺย, ภิกฺขุนิยา สฺจิจฺจ อผาสุํ กเรยฺย, ภิกฺขุนิยา อุปสฺสยํ ทตฺวา กุปิตา อนตฺตมนา นิกฺกฑฺเฒยฺย วา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทานิ. อกฺโกสจณฺฑี มจฺฉรีติ ‘‘ภิกฺขุํ อกฺโกเสยฺย วา ปริภาเสยฺย วา, จณฺฑิกตา คณํ ปริภาเสยฺย, กุเล มจฺฉรินี อสฺสา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทานิ. คพฺภินิฺจ ปายนฺติยาติ ‘‘คพฺภินึ วุฏฺาเปยฺย, ปายนฺตึ วุฏฺาเปยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทานิ.
ทฺเววสฺสํ สิกฺขา สงฺเฆนาติ ‘‘ทฺเว วสฺสานิ ฉสุ ธมฺเมสุ อสิกฺขิตสิกฺขํ สิกฺขมานํ วุฏฺาเปยฺย, สิกฺขิตสิกฺขํ สิกฺขมานํ สงฺเฆน อสมฺมตํ วุฏฺาเปยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทานิ. ตโย เจว คิหีคตาติ อูนทฺวาทสวสฺสํ คิหิคตํ, ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสํ คิหิคตํ ‘‘ทฺเว วสฺสานิ ฉสุ ธมฺเมสุ อสิกฺขิตสิกฺขํ ทฺเว วสฺสานิ สิกฺขิตสิกฺขํ สงฺเฆน อสมฺมต’’นฺติ วุตฺตสิกฺขาปทานิ. กุมาริภูตา ติสฺโสติ ‘‘อูนวีสติวสฺสํ กุมาริภูต’’นฺติอาทินา นเยน วุตฺตา ¶ ติสฺโส. อูนทฺวาทสสมฺมตาติ ‘‘อูนทฺวาทสวสฺสา วุฏฺาเปยฺย, ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสา สงฺเฆน อสมฺมตา วุฏฺาเปยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํ.
อลํ ตาว โสกาวาสนฺติ ‘‘อลํ ตาว เต อยฺเย วุฏฺาปิเตนา’’ติ จ, ‘‘จณฺฑึ โสกาวาสํ สิกฺขมานํ วุฏฺาเปยฺยา’’ติ จ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํ. ฉนฺทา อนุวสฺสา จ ทฺเวติ ‘‘ปาริวาสิกฉนฺททาเนน สิกฺขมานํ วุฏฺาเปยฺย, อนุวสฺสํ วุฏฺาเปยฺย, เอกํ วสฺสํ ทฺเว วุฏฺาเปยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทตฺตยํ. สมุฏฺานา ติกา กตาติ ติกสมุฏฺานา กตา.
สฺจริตฺตสมุฏฺานวณฺณนา
๒๖๐. สฺจรี ¶ กุฏิ วิหาโรติ สฺจริตฺตํ สฺาจิกาย กุฏิกรณํ มหลฺลกวิหารกรณฺจ. โธวนฺจ ปฏิคฺคโหติ อฺาติกาย ¶ ภิกฺขุนิยา ปุราณจีวรโธวาปนฺจ จีวรปฏิคฺคหณฺจ. วิฺตฺตุตฺตริ อภิหฏฺุนฺติ อฺาตกํ คหปตึ จีวรวิฺาปนํ ตตุตฺตริสาทิยนสิกฺขาปทฺจ. อุภินฺนํ ทูตเกน จาติ ‘‘จีวรเจตาปนฺนํ อุปกฺขฏํ โหตี’’ติ อาคตสิกฺขาปททฺวยฺจ ทูเตน จีวรเจตาปนฺนปหิตสิกฺขาปทฺจ.
โกสิยา สุทฺธทฺเวภาคา, ฉพฺพสฺสานิ นิสีทนนฺติ ‘‘โกสิยมิสฺสกํ สนฺถต’’นฺติอาทีนิ ปฺจ สิกฺขาปทานิ. ริฺจนฺติ รูปิกา เจวาติ วิภงฺเค ‘‘ริฺจนฺติ อุทฺเทส’’นฺติ อาคตํ เอฬกโลมโธวาปนํ รูปิยปฺปฏิคฺคหณสิกฺขาปทฺจ. อุโภ นานปฺปการกาติ รูปิยสํโวหารกยวิกฺกยสิกฺขาปททฺวยํ.
อูนพนฺธนวสฺสิกาติ อูนปฺจพนฺธนปตฺตสิกฺขาปทฺจ วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทฺจ. สุตฺตํ วิกปฺปเนน จาติ สุตฺตํ วิฺาเปตฺวา จีวรวายาปนฺจ ตนฺตวาเย อุปสงฺกมิตฺวา จีวเร วิกปฺปาปชฺชนฺจ. ทฺวารทานสิพฺพานิ จาติ ยาว ทฺวารโกสา อคฺคฬฏฺปนาย, ‘‘อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรํ ทเทยฺย, จีวรํ สิพฺเพยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทตฺตยํ. ปูวปจฺจยโชติ จาติ ปูเวหิ วา มนฺเถหิ วา อภิหฏฺุํ ปวารณาสิกฺขาปทํ จาตุมาสปจฺจยปฺปวารณาโชติสมาทหนสิกฺขาปทานิ จ.
รตนํ ¶ สูจิ มฺโจ จ, ตูลํ นิสีทนกณฺฑุ จ, วสฺสิกา จ สุคเตนาติ รตนสิกฺขาปทฺเจว สูจิฆรสิกฺขาปทาทีนิ จ สตฺต สิกฺขาปทานิ. วิฺตฺติ อฺํ เจตาปนา, ทฺเว สงฺฆิกา มหาชนิกา, ทฺเว ปุคฺคลลหุกา ครูติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี อฺํ วิฺาเปตฺวา อฺํ วิฺาเปยฺยา’’ติอาทีนิ นว สิกฺขาปทานิ. ทฺเว วิฆาสา สาฏิกา จาติ ‘‘อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา สงฺการํ วา วิฆาสํ วา ติโรกุฏฺเฏ วา ติโรปากาเร วา ฉฑฺเฑยฺย วา ฉฑฺฑาเปยฺย วา, หริเต ฉฑฺเฑยฺย วา ฉฑฺฑาเปยฺย วา’’ติ เอวํ วุตฺตานิ ทฺเว วิฆาสสิกฺขาปทานิ จ อุทกสาฏิกาสิกฺขาปทฺจ. สมณจีวเรน จาติ ‘‘สมณจีวรํ ทเทยฺยา’’ติ อิทเมตํ สนฺธาย วุตฺตํ.
สมนุภาสนาสมุฏฺานวณฺณนา
๒๖๑. เภทานุวตฺตทุพฺพจทูสทุฏฺุลฺลทิฏฺิ ¶ จาติ สงฺฆเภทานุวตฺตกทุพฺพจกุลทูสกทุฏฺุลฺลปฺปฏิจฺฉาทนทิฏฺิอปฺปฏินิสฺสชฺชนสิกฺขาปทานิ. ฉนฺทํ อุชฺชคฺฆิกา ทฺเว จาติ ¶ ฉนฺทํ อทตฺวา คมนสิกฺขาปทํ อุชฺชคฺฆิกาย อนฺตรฆเร คมนนิสีทนสิกฺขาปททฺวยฺจ. ทฺเว จ สทฺทาติ ‘‘อปฺปสทฺโท อนฺตรฆเร คมิสฺสามิ, นิสีทิสฺสามี’’ติ สิกฺขาปททฺวยฺจ. น พฺยาหเรติ ‘‘น สกพเฬน มุเขน พฺยาหริสฺสามี’’ติ สิกฺขาปทํ.
ฉมา นีจาสเน านํ, ปจฺฉโต อุปฺปเถน จาติ ฉมายํ นิสีทิตฺวา, นีเจ อาสเน นิสีทิตฺวา; ิเตน นิสินฺนสฺส, ปจฺฉโต คจฺฉนฺเตน ปุรโต คจฺฉนฺตสฺส, อุปฺปเถน คจฺฉนฺเตน ปเถน คจฺฉนฺตสฺส ธมฺมเทสนาสิกฺขาปทานิ. วชฺชานุวตฺติคหณาติ วชฺชปฺปฏิจฺฉาทน, อุกฺขิตฺตานุวตฺตก, หตฺถคฺคหณาทิสงฺขาตานิ ตีณิ ปาราชิกานิ. โอสาเร ปจฺจาจิกฺขนาติ ‘‘อนปโลเกตฺวา การกสงฺฆํ อนฺาย คณสฺส ฉนฺทํ โอสาเรยฺยา’’ติ จ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติ จ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํ.
กิสฺมึ สํสฏฺา ทฺเว วธีติ ‘‘กิสฺมิฺจิเทว อธิกรเณ ปจฺจากตา’’ติ จ ‘‘ภิกฺขุนิโย ปเนว สํสฏฺา วิหรนฺตี’’ติ จ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี เอวํ วเทยฺย สํสฏฺาว อยฺเย ตุมฺเห วิหรถา’’ติ จ ‘‘อตฺตานํ วธิตฺวา วธิตฺวา โรเทยฺยา’’ติ จ วุตฺตสิกฺขาปทานิ. วิสิพฺเพ ทุกฺขิตาย จาติ ‘‘ภิกฺขุนิยา จีวรํ วิสิพฺเพตฺวา วา วิสิพฺพาเปตฺวา วา’’ติ จ ‘‘ทุกฺขิตํ ¶ สหชีวินิ’’นฺติ จ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํ. ปุน สํสฏฺา น วูปสเมติ ‘‘สํสฏฺา วิหเรยฺย คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา’’ติ เอวํ ปุน วุตฺตสํสฏฺสิกฺขาปทฺจ ‘‘เอหยฺเย, อิมํ อธิกรณํ วูปสเมหี’’ติ วุจฺจมานา, ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา ‘‘สา ปจฺฉา อนนฺตรายิกินี เนว วูปสมฺเมยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อารามฺจ ปวารณาติ ‘‘ชานํ สภิกฺขุกํ อารามํ อนาปุจฺฉา ปวิเสยฺยา’’ติ จ ‘‘อุภโตสงฺเฆ ตีหิ าเนหิ น ปวาเรยฺยา’’ติ จ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํ.
อนฺวทฺธํ สหชีวินึ ทฺเวติ ‘‘อนฺวทฺธมาสํ ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุสงฺฆโต ทฺเว ธมฺมา ปจฺจาสีสิตพฺพา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทฺจ, ‘‘สหชีวินึ วุฏฺาเปตฺวา ทฺเว วสฺสานิ เนว อนุคฺคณฺเหยฺย, สหชีวินึ วุฏฺาเปตฺวา เนว วูปกาเสยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ. จีวรํ อนุพนฺธนาติ ‘‘สเจ เม ตฺวํ, อยฺเย, จีวรํ ทสฺสสิ, เอวาหํ ¶ ตํ วุฏฺาเปสฺสามี’’ติ จ ‘‘สเจ มํ ตฺวํ, อยฺเย, ทฺเว วสฺสานิ อนุพนฺธิสฺสสิ, เอวาหํ ตํ วุฏฺาเปสฺสามี’’ติ จ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํ.
กถินสมุฏฺานวณฺณนา
๒๖๒. อุพฺภตํ ¶ กถินํ ตีณีติ ‘‘นิฏฺิตจีวรสฺมึ ภิกฺขุนา อุพฺภตสฺมึ กถิเน’’ติ วุตฺตานิ อาทิโตว ตีณิ สิกฺขาปทานิ. ปมํ ปตฺตเภสชฺชนฺติ ‘‘ทสาหปรมํ อติเรกปตฺโต’’ติ วุตฺตํ ปมปตฺตสิกฺขาปทฺจ ‘‘ปฏิสายนียานิ เภสชฺชานี’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อจฺเจกฺจาปิ สาสงฺกนฺติ อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทฺจ ตทนนฺตรเมว สาสงฺกสิกฺขาปทฺจ. ปกฺกมนฺเตน วา ทุเวติ ‘‘ตํ ปกฺกมนฺโต เนว อุทฺธเรยฺยา’’ติ ภูตคามวคฺเค วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํ.
อุปสฺสยํ ปรมฺปราติ ‘‘ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ภิกฺขุนิโย โอวเทยฺยา’’ติ จ ‘‘ปรมฺปรโภชเน ปาจิตฺติย’’นฺติ จ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํ. อนติริตฺตํ นิมนฺตนาติ ‘‘อนติริตฺตํ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา’’ติ จ ‘‘นิมนฺติโต สภตฺโต สมาโน’’ติ จ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํ. วิกปฺปํ รฺโ วิกาเลติ ‘‘สามํ จีวรํ วิกปฺเปตฺวา’’ติ จ ‘‘รฺโ ขตฺติยสฺสา’’ติ จ ‘‘วิกาเล คามํ ปวิเสยฺยา’’ติ จ วุตฺตสิกฺขาปทตฺตยํ. โวสาสารฺเกน จาติ ¶ ‘‘โวสาสมานรูปา ิตา’’ติ จ ‘‘ตถารูเปสุ อารฺเกสุ เสนาสเนสุ ปุพฺเพ อปฺปฏิสํวิทิต’’นฺติ จ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํ.
อุสฺสยา สนฺนิจยฺจาติ ‘‘อุสฺสยวาทิกา’’ติ จ ‘‘ปตฺตสนฺนิจยํ กเรยฺยา’’ติ จ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํ. ปุเร ปจฺฉา วิกาเล จาติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ปุเรภตฺตํ กุลานิ อุปสงฺกมิตฺวา’’ติ จ, ‘‘ปจฺฉาภตฺตํ กุลานิ อุปสงฺกมิตฺวา’’ติ จ, ‘‘วิกาเล กุลานิ อุปสงฺกมิตฺวา’’ติ จ วุตฺตสิกฺขาปทตฺตยํ. ปฺจาหิกา สงฺกมนีติ ‘‘ปฺจาหิกา สงฺฆาฏิจารํ อติกฺกเมยฺยา’’ติ จ ‘‘จีวรสงฺกมนียํ ธาเรยฺยา’’ติ จ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํ. ทฺเวปิ อาวสเถน จาติ ‘‘อาวสถจีวรํ อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภฺุเชยฺย, อาวสถํ อนิสฺสชฺชิตฺวา จาริกํ ปกฺกเมยฺยา’’ติ จ เอวํ อาวสเถน สทฺธึ วุตฺตสิกฺขาปทานิ จ ทฺเว.
ปสาเข อาสเน เจวาติ ‘‘ปสาเข ชาตํ คณฺฑํ วา’’ติ จ ‘‘ภิกฺขุสฺส ปุรโต อนาปุจฺฉา อาสเน นิสีเทยฺยา’’ติ จ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํ.
เอฬกโลมสมุฏฺานวณฺณนา
๒๖๓. เอฬกโลมา ¶ ทฺเว เสยฺยาติ เอฬกโลมสิกฺขาปทฺเจว ทฺเว จ สหเสยฺยสิกฺขาปทานิ. อาหจฺจ ปิณฺฑโภชนนฺติ อาหจฺจปาทกสิกฺขาปทฺจ อาวสถปิณฺฑโภชนสิกฺขาปทฺจ. คณวิกาลสนฺนิธีติ คณโภชนวิกาลโภชนสนฺนิธิการกสิกฺขาปทตฺตยํ ¶ . ทนฺตโปเนน เจลกาติ ทนฺตโปนสิกฺขาปทฺจ อเจลกสิกฺขาปทฺจ. อุยฺยุตฺตํ เสนํ อุยฺโยธีติ ‘‘อุยฺยุตฺตํ เสนํ ทสฺสนาย คจฺเฉยฺย, เสนาย วเสยฺย, อุยฺโยธิกํ วา…เป… อนีกทสฺสนํ วา คจฺเฉยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทตฺตยํ. สุรา โอเรน นฺหายนาติ สุราปานสิกฺขาปทฺจ โอเรนทฺธมาสนหานสิกฺขาปทฺจ. ทุพฺพณฺเณ ทฺเว เทสนิกาติ ‘‘ติณฺณํ ทุพฺพณฺณกรณาน’’นฺติ วุตฺตสิกฺขาปทฺจ วุตฺตาวเสสปาฏิเทสนียทฺวยฺจ. ลสุณุปติฏฺเ นจฺจนาติ ลสุณสิกฺขาปทํ, ‘‘ภิกฺขุสฺส ภฺุชนฺตสฺส ปานีเยน วา วิธูปเนน วา อุปติฏฺเยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทํ, ‘‘นจฺจํ วา คีตํ วา วาทิตํ วา ทสฺสนาย คจฺเฉยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อิโต ปรํ ปาฬึ วิรชฺฌิตฺวา ลิขนฺติ. ยถา ปน อตฺถํ วณฺณยิสฺสาม; เอวเมตฺถ อนุกฺกโม เวทิตพฺโพ.
นฺหานมตฺถรณํ ¶ เสยฺยาติ ‘‘นคฺคา นหาเยยฺย, เอกตฺถรณปาวุรณา ตุวฏฺเฏยฺยุํ, เอกมฺเจ ตุวฏฺเฏยฺยุ’’นฺติ วุตฺตสิกฺขาปทตฺตยํ. อนฺโตรฏฺเ ตถา พหีติ ‘‘อนฺโตรฏฺเ สาสงฺกสมฺมเต, ติโรรฏฺเ สาสงฺกสมฺมเต’’ติ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํ. อนฺโตวสฺสํ จิตฺตาคารนฺติ ‘‘อนฺโตวสฺสํ จาริกํ ปกฺกเมยฺย, ราชาคารํ วา จิตฺตาคารํ วา…เป… โปกฺขรณึ วา ทสฺสนาย คจฺเฉยฺยา’’ติ จ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํ. อาสนฺทึ สุตฺตกนฺตนาติ ‘‘อาสนฺทึ วา ปลฺลงฺกํ วา ปริภฺุเชยฺย, สุตฺตํ กนฺเตยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํ.
เวยฺยาวจฺจํ สหตฺถา จาติ ‘‘คิหิเวยฺยาวจฺจํ กเรยฺย, อคาริกสฺส วา ปริพฺพาชกสฺส วา ปริพฺพาชิกาย วา สหตฺถา ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ทเทยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํ. อภิกฺขุกาวาเสน จาติ ‘‘อภิกฺขุเก อาวาเส วสฺสํ วเสยฺยา’’ติ อิทเมตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ฉตฺตํ ยานฺจ สงฺฆาณินฺติ ‘‘ฉตฺตุปาหนํ ธาเรยฺย, ยาเนน ยาเยยฺย, สงฺฆาณึ ธาเรยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทตฺตยํ. อลงฺการคนฺธวาสิตนฺติ ‘‘อิตฺถาลงฺการํ ธาเรยฺย, คนฺธจุณฺณเกน นหาเยยฺย, วาสิตเกน ปิฺาเกน นหาเยยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทตฺตยํ. ภิกฺขุนีติอาทินา ‘‘ภิกฺขุนิยา อุมฺมทฺทาเปยฺยา’’ติอาทีนิ จตฺตาริ สิกฺขาปทานิ วุตฺตานิ. อสงฺกจฺจิกา อาปตฺตีติ ‘‘อสงฺกจฺจิกา ¶ คามํ ปวิเสยฺย ปาจิตฺติย’’นฺติ เอวํ วุตฺตอาปตฺติ จ. จตฺตารีสา จตุตฺตรีติ ¶ เอตานิ สพฺพานิปิ จตุจตฺตาลีส สิกฺขาปทานิ วุตฺตานิ.
กาเยน น วาจาจิตฺเตน, กายจิตฺเตน น วาจโตติ กาเยน เจว กายจิตฺเตน จ สมุฏฺหนฺติ; น วาจาจิตฺเตน น วาจโตติ อตฺโถ. ทฺวิสมุฏฺานิกา สพฺเพ, สมา เอฬกโลมิกาติ อิทํ อุตฺตานตฺถเมว.
ปทโสธมฺมสมุฏฺานวณฺณนา
๒๖๔. ปทฺตฺร อสมฺมตาติ ‘‘ปทโส ธมฺมํ, มาตุคามสฺส อุตฺตริฉปฺปฺจวาจาหิ ธมฺมํ เทเสยฺย, อฺตฺร วิฺุนา ปุริสวิคฺคเหน, อสมฺมโต ภิกฺขุนิโย โอวเทยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทตฺตยํ. ตถา อตฺถงฺคเตน จาติ ‘‘อตฺถงฺคเต สูริเย โอวเทยฺยา’’ติ อิทเมตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ติรจฺฉานวิชฺชา ทฺเวติ ‘‘ติรจฺฉานวิชฺชํ ปริยาปุเณยฺย, วาเจยฺยา’’ติ เอวํ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยํ ¶ . อโนกาโส จ ปุจฺฉนาติ ‘‘อโนกาสกตํ ภิกฺขุํ ปฺหํ ปุจฺเฉยฺยา’’ติ อิทเมตํ สนฺธาย วุตฺตํ.
อทฺธานสมุฏฺานวณฺณนา
๒๖๕. อทฺธานนาวํ ปณีตนฺติ ‘‘ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิธาย เอกทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺเชยฺย, เอกํ นาวํ อภิรุเหยฺย, ปณีตโภชนานิ อคิลาโน อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภฺุเชยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทตฺตยํ. มาตุคาเมน สํหเรติ มาตุคาเมน สทฺธึ สํวิธาย คมนฺจ ‘‘สมฺพาเธ โลมํ สํหราเปยฺยา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. ธฺํ นิมนฺติตา เจวาติ ‘‘ธฺํ วิฺาเปตฺวา วา’’ติ จ ‘‘นิมนฺติตา วา ปวาริตา วา ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาเทยฺย วา ภฺุเชยฺย วา’’ติ วุตฺตสิกฺขาปทฺจ. อฏฺ จาติ ภิกฺขุนีนํ วุตฺตา อฏฺ ปาฏิเทสนียา วา.
เถยฺยสตฺถสมุฏฺานวณฺณนา
๒๖๖. เถยฺยสตฺถํ อุปสฺสุตีติ เถยฺยสตฺเถน สทฺธึ สํวิธาย เอกทฺธานมคฺคคมนฺจ อุปสฺสุติติฏฺนฺจ. สูปวิฺาปเนน จาติ อิทํ สูโปทนวิฺตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. รตฺติฉนฺนฺจ โอกาสนฺติ ‘‘รตฺตนฺธกาเร อปฺปทีเป, ปฏิจฺฉนฺเน ¶ โอกาเส, อชฺโฌกาเส ปุริเสน สทฺธิ’’นฺติ เอวํ วุตฺตสิกฺขาปทตฺตยํ. พฺยูเหน สตฺตมาติ อิทํ ตทนนฺตรเมว ‘‘รถิกาย วา พฺยูเห วา สิงฺฆาฏเก วา ปุริเสน สทฺธิ’’นฺติ อาคตสิกฺขาปทํ สนฺธาย วุตฺตํ.
ธมฺมเทสนาสมุฏฺานวณฺณนา
๒๖๗. ธมฺมเทสนาสมุฏฺานานิ เอกาทส ¶ อุตฺตานาเนว. เอวํ ตาว สมฺภินฺนสมุฏฺานํ เวทิตพฺพํ. นิยตสมุฏฺานํ ปน ติวิธํ, ตํ เอเกกสฺเสว สิกฺขาปทสฺส โหติ, ตํ วิสุํเยว ทสฺเสตุํ ‘‘ภูตํ กาเยน ชายตี’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ อุตฺตานเมว. เนตฺติธมฺมานุโลมิกนฺติ วินยปาฬิธมฺมสฺส อนุโลมนฺติ.
สมุฏฺานสีสวณฺณนา นิฏฺิตา.
อนฺตรเปยฺยาลํ
กติปุจฺฉาวารวณฺณนา
๒๗๑. อิทานิ ¶ ¶ อาปตฺติอาทิโกฏฺาเสสุ โกสลฺลชนนตฺถํ ‘‘กติ อาปตฺติโย’’ติอาทินา นเยน มาติกํ เปตฺวา นิทฺเทสปฺปฏินิทฺเทสวเสน วิภงฺโค วุตฺโต.
ตตฺถ กติ อาปตฺติโยติ มาติกาย จ วิภงฺเค จ อาคตาปตฺติปุจฺฉา. เอส นโย ทุติยปเทปิ. เกวลฺเหตฺถ อาปตฺติโย เอว ราสิวเสน ขนฺธาติ วุตฺตา. วินีตวตฺถูนีติ ตาสํ อาปตฺตีนํ วินยปุจฺฉา; ‘‘วินีตํ วินโย วูปสโม’’ติ อิทฺหิ อตฺถโต เอกํ, วินีตานิเยว วินีตวตฺถูนีติ อยเมตฺถ ปทตฺโถ. อิทานิ เยสุ สติ อาปตฺติโย โหนฺติ, อสติ น โหนฺติ, เต ทสฺเสตุํ ‘‘กติ อคารวา’’ติ ปุจฺฉาทฺวยํ. วินีตวตฺถูนีติ อยํ ปน เตสํ อคารวานํ วินยปุจฺฉา. ยสฺมา ปน ตา อาปตฺติโย วิปตฺตึ อาปตฺตา นาม นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘กติ วิปตฺติโย’’ติ อยํ อาปตฺตีนํ วิปตฺติภาวปุจฺฉา. กติ อาปตฺติสมุฏฺานานีติ ตาสํเยว อาปตฺตีนํ สมุฏฺานปุจฺฉา. วิวาทมูลานิ อนุวาทมูลานีติ อิมา ‘‘วิวาทาธิกรณํ อนุวาทาธิกรณ’’นฺติ อาคตานํ วิวาทานุวาทานํ มูลปุจฺฉา. สารณียา ธมฺมาติ วิวาทานุวาทมูลานํ อภาวกรธมฺมปุจฺฉา. เภทกรวตฺถูนีติ อยํ ‘‘เภทนสํวตฺตนิกํ วา อธิกรณ’’นฺติอาทีสุ วุตฺตเภทกรณปุจฺฉา. อธิกรณานีติ เภทกรวตฺถูสุ สติ อุปฺปชฺชนธมฺมปุจฺฉา. สมถาติ เตสํเยว วูปสมนธมฺมปุจฺฉา. ปฺจ อาปตฺติโยติ มาติกาย อาคตวเสน วุตฺตา. สตฺตาติ วิภงฺเค อาคตวเสน.
อารกา เอเตหิ รมตีติ อารติ; ภุสา วา รติ อารติ. วินา เอเตหิ รมตีติ วิรติ ¶ . ปจฺเจกํ ปจฺเจกํ วิรมตีติ ปฏิวิรติ. เวรํ มณติ วินาเสตีติ เวรมณี. น เอตาย เอเต อาปตฺติกฺขนฺธา ¶ กรียนฺตีติ อกิริยา. ยํ เอตาย อสติ อาปตฺติกฺขนฺธกรณํ อุปฺปชฺเชยฺย, ตสฺส ปฏิปกฺขโต อกรณํ. อาปตฺติกฺขนฺธอชฺฌาปตฺติยา ปฏิปกฺขโต อนชฺฌาปตฺติ. เวลนโต เวลา; จลยนโต วินาสนโตติ อตฺโถ ¶ . นิยฺยานํ สิโนติ พนฺธติ นิวาเรตีติ เสตุ. อาปตฺติกฺขนฺธานเมตํ อธิวจนํ. โส เสตุ เอตาย ปฺตฺติยา หฺตีติ เสตุฆาโต. เสสวินีตวตฺถุนิทฺเทเสสุปิ เอเสว นโย.
พุทฺเธ อคารวาทีสุ โย พุทฺเธ ธรมาเน อุปฏฺานํ น คจฺฉติ, ปรินิพฺพุเต เจติยฏฺานํ โพธิฏฺานํ น คจฺฉติ, เจติยํ วา โพธึ วา น วนฺทติ, เจติยงฺคเณ สฉตฺโต สอุปาหโน จรติ, นตฺเถตสฺส พุทฺเธ คารโวติ เวทิตพฺโพ. โย ปน สกฺโกนฺโตเยว ธมฺมสฺสวนํ น คจฺฉติ, สรภฺํ น ภณติ, ธมฺมกถํ น กเถติ, ธมฺมสฺสวนคฺคํ ภินฺทิตฺวา คจฺฉติ, วิกฺขิตฺโต วา อนาทโร วา นิสีทติ, นตฺเถตสฺส ธมฺเม คารโว. โย เถรนวมชฺฌิเมสุ จิตฺตีการํ น ปจฺจุปฏฺาเปติ, อุโปสถาคารวิตกฺกมาฬกาทีสุ กายปฺปาคพฺภิยํ ทสฺเสติ, ยถาวุฑฺฒํ น วนฺทติ, นตฺเถตสฺส สงฺเฆ คารโว. ติสฺโส สิกฺขา สมาทาย อสิกฺขมาโนเยว ปน สิกฺขาย อคารโวติ เวทิตพฺโพ. ปมาเท จ สติวิปฺปวาเส ติฏฺมาโนเยว อปฺปมาทลกฺขณํ อพฺรูหยมาโน อปฺปมาเท อคารโวติ เวทิตพฺโพ. ตถา อามิสปฺปฏิสนฺถารํ ธมฺมปฺปฏิสนฺถารนฺติ อิมํ ทุวิธํ ปฏิสนฺถารํ อกโรนฺโตเยว ปฏิสนฺถาเร อคารโวติ เวทิตพฺโพ. คารวนิทฺเทเส วุตฺตวิปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๒๗๒. วิวาทมูลนิทฺเทเส ‘‘สตฺถริปิ อคารโว’’ติอาทีนํ พุทฺเธ อคารวาทีสุ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อปฺปติสฺโสติ อนีจวุตฺติ; น สตฺถารํ เชฏฺกํ กตฺวา วิหรติ. อชฺฌตฺตํ วาติ อตฺตโน สนฺตาเน วา อตฺตโน ปกฺเข วา; สกาย ปริสายาติ อตฺโถ. พหิทฺธา วาติ ปรสนฺตาเน วา ปรปกฺเข วา. ตตฺร ตุมฺเหติ ตสฺมึ อชฺฌตฺตพหิทฺธาเภเท สปรสนฺตาเน วา สปรปริสาย วา. ปหานาย วายเมยฺยาถาติ เมตฺตาภาวนาทีหิ นเยหิ ปหานตฺถํ วายเมยฺยาถ; เมตฺตาภาวนาทินเยน หิ ตํ อชฺฌตฺตมฺปิ พหิทฺธาปิ ปหียติ. อนวสฺสวายาติ อปฺปวตฺติภาวาย.
สนฺทิฏฺิปรามาสีติ ¶ สกเมว ทิฏฺึ ปรามสติ; ยํ อตฺตนา ทิฏฺิคตํ คหิตํ, อิทเมว สจฺจนฺติ คณฺหาติ ¶ . อาธานคฺคาหีติ ทฬฺหคฺคาหี.
๒๗๓. อนุวาทมูลนิทฺเทโส ¶ กิฺจาปิ วิวาทมูลนิทฺเทเสเนว สมาโน, อถ โข อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ นิสฺสาย วิวทนฺตานํ โกธูปนาหาทโย วิวาทมูลานิ. ตถา วิวทนฺตา ปน สีลวิปตฺติอาทีสุ อฺตรวิปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ‘‘อสุโก ภิกฺขุ อสุกํ นาม วิปตฺตึ อาปนฺโน’’ติ วา, ‘‘ปาราชิกํ อาปนฺโนสิ, สงฺฆาทิเสสํ อาปนฺโนสี’’ติ วา อนุวทนฺติ. เอวํ อนุวทนฺตานํ โกธูปนาหาทโย อนุวาทมูลานีติ อยเมตฺถ วิเสโส.
๒๗๔. สารณียธมฺมนิทฺเทเส เมตฺตจิตฺเตน กตํ กายกมฺมํ เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม. อาวิ เจว รโห จาติ สมฺมุขา จ ปรมฺมุขา จ. ตตฺถ นวกานํ จีวรกมฺมาทีสุ สหายภาวคมนํ สมฺมุขา เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม. เถรานํ ปน ปาทโธวนพีชนวาตทานาทิเภทมฺปิ สพฺพํ สามีจิกมฺมํ สมฺมุขา เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม. อุภเยหิปิ ทุนฺนิกฺขิตฺตานํ ทารุภณฺฑาทีนํ เตสุ อวมฺํ อกตฺวา อตฺตนา ทุนฺนิกฺขิตฺตานํ วิย ปฏิสามนํ ปรมฺมุขา เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม. อยมฺปิ ธมฺโม สารณีโยติ อยํ เมตฺตากายกมฺมสงฺขาโต ธมฺโม สริตพฺโพ สติชนโก; โย นํ กโรติ, ตํ ปุคฺคลํ; เยสํ กโต โหติ, เต ปสนฺนจิตฺตา ‘‘อโห สปฺปุริโส’’ติ อนุสฺสรนฺตีติ อธิปฺปาโย. ปิยกรโณติ ตํ ปุคฺคลํ สพฺรหฺมจารีนํ ปิยํ กโรติ. ครุกรโณติ ตํ ปุคฺคลํ สพฺรหฺมจารีนํ ครุํ กโรติ. สงฺคหายาติอาทีสุ สพฺรหฺมจารีหิ สงฺคเหตพฺพภาวาย. เตหิ สทฺธึ อวิวาทาย สมคฺคภาวาย เอกีภาวาย จ สํวตฺตติ.
เมตฺตํ วจีกมฺมนฺติอาทีสุ เทวตฺเถโร ติสฺสตฺเถโรติ เอวํ ปคฺคยฺห วจนํ สมฺมุขา เมตฺตํ วจีกมฺมํ นาม. วิหาเร อสนฺเต ปน ตํ ปฏิปุจฺฉนฺตสฺส ‘‘กุหึ อมฺหากํ เทวตฺเถโร, กุหึ อมฺหากํ ติสฺสตฺเถโร, กทา นุ โข อาคมิสฺสตี’’ติ เอวํ มมายนวจนํ ปรมฺมุขา เมตฺตํ วจีกมฺมํ นาม. เมตฺตาสิเนหสินิทฺธานิ ปน นยนานิ อุมฺมีเลตฺวา ปสนฺเนน มุเขน โอโลกนํ สมฺมุขา เมตฺตํ มโนกมฺมํ นาม. ‘‘เทวตฺเถโร ติสฺสตฺเถโร อโรโค โหตุ, อปฺปาพาโธ’’ติ สมนฺนาหรณํ ปรมฺมุขา เมตฺตํ มโนกมฺมํ นาม.
อปฺปฏิวิภตฺตโภคีติ เนว อามิสํ ปฏิวิภชิตฺวา ภฺุชติ, น ปุคฺคลํ. โย หิ ‘‘เอตฺตกํ ¶ ปเรสํ ทสฺสามิ, เอตฺตกํ อตฺตนา ¶ ภฺุชิสฺสามิ, เอตฺตกํ วา อสุกสฺส ¶ จ อสุกสฺส จ ทสฺสามิ, เอตฺตกํ อตฺตนา ภฺุชิสฺสามี’’ติ วิภชิตฺวา ภฺุชติ, อยํ ปฏิวิภตฺตโภคี นาม. อยํ ปน เอวํ อกตฺวา อาภตํ ปิณฺฑปาตํ เถราสนโต ปฏฺาย ทตฺวา คหิตาวเสสํ ภฺุชติ. ‘‘สีลวนฺเตหี’’ติ วจนโต ทุสฺสีลสฺส อทาตุมฺปิ วฏฺฏติ, สารณียธมฺมปูรเกน ปน สพฺเพสํ ทาตพฺพเมวาติ วุตฺตํ. คิลาน-คิลานุปฏฺาก-อาคนฺตุก-คมิกจีวรกมฺมาทิปสุตานํ วิเจยฺย ทาตุมฺปิ วฏฺฏติ. น หิ เอเต วิจินิตฺวา เทนฺเตน ปุคฺคลวิภาโค กโต โหติ, อีทิสานฺหิ กิจฺฉลาภตฺตา วิเสโส กาตพฺโพเยวาติ อยํ กโรติ.
อขณฺฑานีติอาทีสุ ยสฺส สตฺตสุ อาปตฺติกฺขนฺเธสุ อาทิมฺหิ วา อนฺเต วา สิกฺขาปทํ ภินฺนํ โหติ, ตสฺส สีลํ ปริยนฺเต ฉินฺนสาฏโก วิย ขณฺฑํ นาม. ยสฺส ปน เวมชฺเฌ ภินฺนํ, ตสฺส มชฺเฌ ฉิทฺทสาฏโก วิย ฉิทฺทํ นาม โหติ. ยสฺส ปฏิปาฏิยา ทฺเว ตีณิ ภินฺนานิ, ตสฺส ปิฏฺิยํ วา กุจฺฉิยํ วา อุฏฺิเตน วิสภาควณฺเณน กาฬรตฺตาทีนํ อฺตรสรีรวณฺณา คาวี วิย สพลํ นาม โหติ. ยสฺส อนฺตรนฺตรา ภินฺนานิ, ตสฺส อนฺตรนฺตรา วิสภาควณฺณพินฺทุวิจิตฺรา คาวี วิย กมฺมาสํ นาม โหติ. ยสฺส ปน สพฺเพน สพฺพํ อภินฺนานิ สีลานิ, ตสฺส ตานิ สีลานิ อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ นาม โหนฺติ. ตานิ ปเนตานิ ภุชิสฺสภาวกรณโต ภุชิสฺสานิ. วิฺูหิ ปสตฺถตฺตา วิฺุปฺปสตฺถานิ. ตณฺหาทิฏฺีหิ อปรามฏฺตฺตา อปรามฏฺานิ. อุปจารสมาธึ อปฺปนาสมาธึ วา สํวตฺตยนฺตีติ สมาธิสํวตฺตนิกานีติ วุจฺจนฺติ. สีลสามฺคโต วิหรตีติ เตสุ เตสุ ทิสาภาเคสุ วิหรนฺเตหิ กลฺยาณสีเลหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สมานภาวูปคตสีโล วิหรติ.
ยายํ ทิฏฺีติ มคฺคสมฺปยุตฺตา สมฺมาทิฏฺิ. อริยาติ นิทฺโทสา. นิยฺยาตีติ นิยฺยานิกา. ตกฺกรสฺสาติ โย ตถาการี โหติ, ตสฺส. ทุกฺขกฺขยายาติ สพฺพทุกฺขสฺส ขยตฺถํ. เสสํ ยาว สมถเภทปริโยสานา อุตฺตานตฺถเมว.
กติปุจฺฉาวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
ขนฺธกปุจฺฉาวาโร
ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนาวณฺณนา
๓๒๐. อุปสมฺปทํ ¶ ¶ ปุจฺฉิสฺสนฺติ อุปสมฺปทกฺขนฺธกํ ปุจฺฉิสฺสํ. สนิทานํ สนิทฺเทสนฺติ นิทาเนน จ นิทฺเทเสน จ ¶ สทฺธึ ปุจฺฉิสฺสามิ. สมุกฺกฏฺปทานํ กติ อาปตฺติโยติ ยานิ ตตฺถ สมุกฺกฏฺานิ อุตฺตมานิ ปทานิ วุตฺตานิ, เตสํ สมุกฺกฏฺปทานํ อุตฺตมปทานํ สงฺเขปโต กติ อาปตฺติโย โหนฺตีติ. เยน เยน หิ ปเทน ยา ยา อาปตฺติ ปฺตฺตา, สา สา ตสฺส ตสฺส ปทสฺส อาปตฺตีติ วุจฺจติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สมุกฺกฏฺปทานํ กติ อาปตฺติโย’’ติ. ทฺเว อาปตฺติโยติ อูนวีสติวสฺสํ อุปสมฺปาเทนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, เสเสสุ สพฺพปเทสุ ทุกฺกฏํ.
ติสฺโสติ ‘‘นสฺสนฺเตเต วินสฺสนฺเตเต, โก เตหิ อตฺโถ’’ติ เภทปุเรกฺขารานํ อุโปสถกรเณ ถุลฺลจฺจยํ, อุกฺขิตฺตเกน สทฺธึ อุโปสถกรเณ ปาจิตฺติยํ, เสเสสุ ทุกฺกฏนฺติ เอวํ อุโปสถกฺขนฺธเก ติสฺโส อาปตฺติโย. เอกาติ วสฺสูปนายิกกฺขนฺธเก เอกา ทุกฺกฏาปตฺติเยว.
ติสฺโสติ เภทปุเรกฺขารสฺส ปวารยโต ถุลฺลจฺจยํ, อุกฺขิตฺตเกน สทฺธึ ปาจิตฺติยํ, เสเสสุ ทุกฺกฏนฺติ เอวํ ปวารณากฺขนฺธเกปิ ติสฺโส อาปตฺติโย.
ติสฺโสติ วจฺฉตรึ อุคฺคเหตฺวา มาเรนฺตานํ ปาจิตฺติยํ, รตฺเตน จิตฺเตน องฺคชาตฉุปเน ถุลฺลจฺจยํ, เสเสสุ ทุกฺกฏนฺติ เอวํ จมฺมสํยุตฺเตปิ ติสฺโส อาปตฺติโย. เภสชฺชกฺขนฺธเกปิ สมนฺตา ทฺวงฺคุเล ถุลฺลจฺจยํ, โภชฺชยาคุยา ปาจิตฺติยํ, เสเสสุ ทุกฺกฏนฺติ เอวํ ติสฺโส อาปตฺติโย.
กถินํ ¶ เกวลํ ปฺตฺติเมว, นตฺถิ ตตฺถ อาปตฺติ. จีวรสํยุตฺเต กุสจีรวากจีเรสุ ถุลฺลจฺจยํ, อติเรกจีวเร นิสฺสคฺคิยํ, เสเสสุ ทุกฺกฏนฺติ อิมา ติสฺโส อาปตฺติโย.
จมฺเปยฺยเก เอกา ทุกฺกฏาปตฺติเยว. โกสมฺพก-กมฺมกฺขนฺธก-ปาริวาสิกสมุจฺจยกฺขนฺธเกสุปิ เอกา ทุกฺกฏาปตฺติเยว.
สมถกฺขนฺธเก ¶ ฉนฺททายโก ขิยฺยติ, ขิยฺยนกํ ปาจิตฺติยํ, เสเสสุ ทุกฺกฏนฺติ อิมา ทฺเว อาปตฺติโย. ขุทฺทกวตฺถุเก อตฺตโน องฺคชาตํ ฉินฺทติ, ถุลฺลจฺจยํ, โรมฏฺเ ปาจิตฺติยํ, เสเสสุ ทุกฺกฏนฺติ อิมา ติสฺโส อาปตฺติโย. เสนาสนกฺขนฺธเก ครุภณฺฑวิสฺสชฺชเน ถุลฺลจฺจยํ, สงฺฆิกา วิหารา นิกฺกฑฺฒเน ปาจิตฺติยํ, เสเสสุ ทุกฺกฏนฺติ อิมา ติสฺโส อาปตฺติโย.
สงฺฆเภเทเภทกานุวตฺตกานํ ถุลฺลจฺจยํ, คณโภชเน ปาจิตฺติยนฺติ อิมา ทฺเว อาปตฺติโย. สมาจารํ ปุจฺฉิสฺสนฺติ วุตฺเต วตฺตกฺขนฺธเก เอกา ทุกฺกฏาปตฺติเยว. สา สพฺพวตฺเตสุ อนาทริเยน โหติ. ตถา ปาติโมกฺขฏฺปเน. ภิกฺขุนิกฺขนฺธเก ¶ อปฺปวารณาย ปาจิตฺติยํ, เสเสสุ ทุกฺกฏนฺติ ทฺเว อาปตฺติโย. ปฺจสติกสตฺตสติเกสุ เกวลํ ธมฺโม สงฺคหํ อาโรปิโต, นตฺถิ ตตฺถ อาปตฺตีติ.
ขนฺธกปุจฺฉาวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
เอกุตฺตริกนโย
เอกกวารวณฺณนา
๓๒๑. อาปตฺติกรา ¶ ¶ ธมฺมา ชานิตพฺพาติอาทิมฺหิ เอกุตฺตริกนเย อาปตฺติกรา ธมฺมา นาม ฉ อาปตฺติสมุฏฺานานิ. เอเตสฺหิ วเสน ปุคฺคโล อาปตฺตึ อาปชฺชติ, ตสฺมา ‘‘อาปตฺติกรา’’ติ วุตฺตา. อนาปตฺติกรา นาม สตฺต สมถา. อาปตฺติ ชานิตพฺพาติ ตสฺมึ ตสฺมึ สิกฺขาปเท จ วิภงฺเค จ วุตฺตา อาปตฺติ ชานิตพฺพา. อนาปตฺตีติ ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ อสาทิยนฺตสฺสา’’ติอาทินา นเยน อนาปตฺติ ชานิตพฺพา. ลหุกาติ ลหุเกน วินยกมฺเมน วิสุชฺฌนโต ปฺจวิธา อาปตฺติ. ครุกาติ ครุเกน วินยกมฺเมน วิสุชฺฌนโต สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติ. เกนจิ อากาเรน อนาปตฺติภาวํ อุปเนตุํ อสกฺกุเณยฺยโต ปาราชิกาปตฺติ จ. สาวเสสาติ เปตฺวา ปาราชิกํ เสสา. อนวเสสาติ ปาราชิกาปตฺติ. ทฺเว อาปตฺติกฺขนฺธา ทุฏฺุลฺลา; อวเสสา อทุฏฺุลฺลา. สปฺปฏิกมฺมทุกํ สาวเสสทุกสทิสํ. เทสนาคามินิทุกํ ลหุกทุกสงฺคหิตํ.
อนฺตรายิกาติ สตฺตปิ อาปตฺติโย สฺจิจฺจ วีติกฺกนฺตา สคฺคนฺตรายฺเจว โมกฺขนฺตรายฺจ กโรนฺตีติ อนฺตรายิกา. อชานนฺเตน วีติกฺกนฺตา ปน ปณฺณตฺติวชฺชาปตฺติ เนว สคฺคนฺตรายํ น โมกฺขนฺตรายํ กโรตีติ อนนฺตรายิกา. อนฺตรายิกํ อาปนฺนสฺสาปิ เทสนาคามินึ เทเสตฺวา วุฏฺานคามินิโต วุฏฺาย สุทฺธิปตฺตสฺส สามเณรภูมิยํ ิตสฺส จ อวาริโต สคฺคโมกฺขมคฺโคติ. สาวชฺชปฺตฺตีติ โลกวชฺชา. อนวชฺชปฺตฺตีติ ปณฺณตฺติวชฺชา. กิริยโต สมุฏฺิตา นาม ยํ กโรนฺโต อาปชฺชติ ปาราชิกาปตฺติ วิย. อกิริยโตติ ¶ ยํ อกโรนฺโต อาปชฺชติ, จีวรอนธิฏฺานาปตฺติ วิย. กิริยากิริยโตติ ยํ กโรนฺโต จ อกโรนฺโต จ อาปชฺชติ, กุฏิการาปตฺติ วิย.
ปุพฺพาปตฺตีติ ปมํ อาปนฺนาปตฺติ. อปราปตฺตีติ ปาริวาสิกาทีหิ ปจฺฉา อาปนฺนาปตฺติ. ปุพฺพาปตฺตีนํ อนฺตราปตฺติ นาม มูลวิสุทฺธิยา อนฺตราปตฺติ. อปราปตฺตีนํ อนฺตราปตฺติ นาม อคฺฆวิสุทฺธิยา ¶ อนฺตราปตฺติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ปุพฺพาปตฺติ นาม ปมํ อาปนฺนา. อปราปตฺติ นาม มานตฺตารหกาเล อาปนฺนา. ปุพฺพาปตฺตีนํ อนฺตราปตฺติ นาม ปริวาเส อาปนฺนา. อปราปตฺตีนํ อนฺตราปตฺติ ¶ นาม มานตฺตจาเร อาปนฺนา’’ติ วุตฺตํ. อิทมฺปิ เอเกน ปริยาเยน ยุชฺชติ.
เทสิตา คณนูปคา นาม ยา ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา ปุน น อาปชฺชิสฺสามีติ เทสิตา โหติ. อคณนูปคา นาม ยา ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวา สอุสฺสาเหเนว จิตฺเตน อปริสุทฺเธน เทสิตา โหติ. อยฺหิ เทสิตาปิ เทสิตคณนํ น อุเปติ. อฏฺเม วตฺถุสฺมึ ภิกฺขุนิยา ปาราชิกเมว โหติ. ปฺตฺติ ชานิตพฺพาติอาทีสุ นวสุ ปเทสุ ปมปาราชิกปุจฺฉาย วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
ถุลฺลวชฺชาติ ถุลฺลโทเส ปฺตฺตา ครุกาปตฺติ. อถุลฺลวชฺชาติ ลหุกาปตฺติ. คิหิปฏิสํยุตฺตาติ สุธมฺมตฺเถรสฺส อาปตฺติ, ยา จ ธมฺมิกสฺส ปฏิสฺสวสฺส อสจฺจาปเน อาปตฺติ, อวเสสา น คิหิปฏิสํยุตฺตา. ปฺจานนฺตริยกมฺมาปตฺติ นิยตา, เสสา อนิยตา. อาทิกโรติ สุทินฺนตฺเถราทิ อาทิกมฺมิโก. อนาทิกโรติ มกฺกฏิสมณาทิ อนุปฺตฺติการโก. อธิจฺจาปตฺติโก นาม โย กทาจิ กรหจิ อาปตฺตึ อาปชฺชติ. อภิณฺหาปตฺติโก นาม โย นิจฺจํ อาปชฺชติ.
โจทโก นาม โย วตฺถุนา วา อาปตฺติยา วา ปรํ โจเทติ. โย ปน เอวํ โจทิโต อยํ จุทิตโก นาม. ปฺจทสสุ ธมฺเมสุ อปฺปติฏฺหิตฺวา อภูเตน วตฺถุนา โจเทนฺโต อธมฺมโจทโก นาม, เตน ตถา โจทิโต อธมฺมจุทิตโก นาม. วิปริยาเยน ธมฺมโจทกจุทิตกา เวทิตพฺพา. มิจฺฉตฺตนิยเตหิ วา สมฺมตฺตนิยเตหิ วา ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต นิยโต, วิปรีโต อนิยโต.
สาวกา ¶ ภพฺพาปตฺติกา นาม, พุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ อภพฺพาปตฺติกา นาม. อุกฺเขปนียกมฺมกโต อุกฺขิตฺตโก นาม, อวเสสจตุพฺพิธตชฺชนียาทิกมฺมกโต อนุกฺขิตฺตโก นาม. อยฺหิ อุโปสถํ วา ปวารณํ วา ธมฺมปริโภคํ วา อามิสปริโภคํ วา น โกเปติ. ‘‘เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถ, ทูสโก นาเสตพฺโพ, กณฺฏโก สมณุทฺเทโส นาเสตพฺโพ’’ติ เอวํ ลิงฺคทณฺฑกมฺม-สํวาสนาสนาหิ นาสิตพฺโพ นาสิตโก นาม. เสสา สพฺเพ อนาสิตกา. เยน สทฺธึ อุโปสถาทิโก สํวาโส อตฺถิ, อยํ สมานสํวาสโก, อิตโร ¶ นานาสํวาสโก ¶ . โส กมฺมนานาสํวาสโก ลทฺธินานาสํวาสโกติ ทุวิโธ โหติ. ปนํ ชานิตพฺพนฺติ ‘‘เอกํ ภิกฺขเว อธมฺมิกํ ปาติโมกฺขฏฺปน’’นฺติอาทินา นเยน วุตฺตํ ปาติโมกฺขฏฺปนํ ชานิตพฺพนฺติ อตฺโถ.
เอกกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุกวารวณฺณนา
๓๒๒. ทุเกสุ สจิตฺตกา อาปตฺติ สฺาวิโมกฺขา, อจิตฺตกา โนสฺาวิโมกฺขา. ลทฺธสมาปตฺติกสฺส อาปตฺติ นาม ภูตาโรจนาปตฺติ, อลทฺธสมาปตฺติกสฺส อาปตฺติ นาม อภูตาโรจนาปตฺติ. สทฺธมฺมปฏิสฺุตฺตา นาม ปทโสธมฺมาทิกา, อสทฺธมฺมปฏิสฺุตฺตา นาม ทุฏฺุลฺลวาจาปตฺติ. สปริกฺขารปฏิสฺุตฺตา นาม นิสฺสคฺคิยวตฺถุโน อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริโภเค, ปตฺตจีวรานํ นิทหเน, กิลิฏฺจีวรานํ อโธวเน, มลคฺคหิตปตฺตสฺส อปจเนติ เอวํ อยุตฺตปริโภเค อาปตฺติ. ปรปริกฺขารปฏิสฺุตฺตา นาม สงฺฆิกมฺจปีาทีนํ อชฺโฌกาเส สนฺถรณอนาปุจฺฉาคมนาทีสุ อาปชฺชิตพฺพา อาปตฺติ. สปุคฺคลปฏิสฺุตฺตา นาม ‘‘มุทุปิฏฺิกสฺส ลมฺพิสฺส อูรุนา องฺคชาตํ ปีเฬนฺตสฺสา’’ติอาทินา นเยน วุตฺตาปตฺติ. ปรปุคฺคลปฏิสฺุตฺตา นาม เมถุนธมฺมกายสํสคฺคปหารทานาทีสุ วุตฺตาปตฺติ, ‘‘สิขรณีสี’’ติ สจฺจํ ภณนฺโต ครุกํ อาปชฺชติ, ‘‘สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติย’’นฺติ มุสา ภณนฺโต ลหุกํ. อภูตาโรจเน มุสา ภณนฺโต ครุกํ. ภูตาโรจเน สจฺจํ ภณนฺโต ลหุกํ.
‘‘สงฺฆกมฺมํ วคฺคํ กริสฺสามี’’ติ อนฺโตสีมาย เอกมนฺเต นิสีทนฺโต ภูมิคโต อาปชฺชติ นาม. สเจ ปน องฺคุลิมตฺตมฺปิ อากาเส ติฏฺเยฺย, น อาปชฺเชยฺย, เตน วุตฺตํ ‘‘โน เวหาสคโต’’ติ. เวหาสกุฏิยา อาหจฺจปาทกํ มฺจํ วา ปีํ วา อภินิสีทนฺโต เวหาสคโต ¶ อาปชฺชติ นาม. สเจ ปน ตํ ภูมิยํ ปฺาเปตฺวา นิปชฺเชยฺย น อาปชฺเชยฺย, เตน วุตฺตํ – ‘‘โน ภูมิคโต’’ติ. คมิโย คมิยวตฺตํ อปูเรตฺวา คจฺฉนฺโต นิกฺขมนฺโต อาปชฺชติ นาม, โน ปวิสนฺโต. อาคนฺตุโก อาคนฺตุกวตฺตํ อปูเรตฺวา สฉตฺตุปาหโน ปวิสนฺโต ปวิสนฺโต อาปชฺชติ นาม, โน นิกฺขมนฺโต.
อาทิยนฺโต ¶ อาปชฺชติ นาม ภิกฺขุนี อติคมฺภีรํ อุทกสุทฺธิกํ ¶ อาทิยมานา; ทุพฺพณฺณกรณํ อนาทิยิตฺวา จีวรํ ปริภฺุชนฺโต ปน อนาทิยนฺโต อาปชฺชติ นาม. มูคพฺพตาทีนิ ติตฺถิยวตฺตานิ สมาทิยนฺโต สมาทิยนฺโต อาปชฺชติ นาม. ปาริวาสิกาทโย ปน ตชฺชนียาทิกมฺมกตา วา อตฺตโน วตฺตํ อสมาทิยนฺตา อาปชฺชนฺติ, เต สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อตฺถาปตฺติ น สมาทิยนฺโต อาปชฺชตี’’ติ. อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรํ สิพฺพนฺโต เวชฺชกมฺมภณฺฑาคาริกกมฺมจิตฺตกมฺมาทีนิ วา กโรนฺโต กโรนฺโต อาปชฺชติ นาม. อุปชฺฌายวตฺตาทีนิ อกโรนฺโต อกโรนฺโต อาปชฺชติ นาม. อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรํ ททมาโน เทนฺโต อาปชฺชติ นาม. สทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกานํ จีวราทีนิ อเทนฺโต อเทนฺโต อาปชฺชติ นาม. อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรํ คณฺหนฺโต ปฏิคฺคณฺหนฺโต อาปชฺชติ นาม. ‘‘น ภิกฺขเว โอวาโท น คเหตพฺโพ’’ติ วจนโต โอวาทํ อคณฺหนฺโต น ปฏิคฺคณฺหนฺโต อาปชฺชติ นาม.
นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภฺุชนฺโต ปริโภเคน อาปชฺชติ นาม. ปฺจาหิกํ สงฺฆาฏิจารํ อติกฺกามยมานา อปริโภเคน อาปชฺชติ นาม. สหคารเสยฺยํ รตฺตึ อาปชฺชติ นาม, โน ทิวา, ทฺวารํ อสํวริตฺวา ปฏิสลฺลียนฺโต ทิวา อาปชฺชติ, โน รตฺตึ. เอกรตฺตฉารตฺตสตฺตาหทสาหมาสาติกฺกเมสุ วุตฺตอาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต อรุณุคฺเค อาปชฺชติ นาม, ปวาเรตฺวา ภฺุชนฺโต น อรุณุคฺเค อาปชฺชติ นาม.
ภูตคามฺเจว องฺคชาตฺจ ฉินฺทนฺโต ฉินฺทนฺโต อาปชฺชติ นาม, เกเส วา นเข วา น ฉินฺทนฺโต น ฉินฺทนฺโต อาปชฺชติ นาม. อาปตฺตึ ฉาเทนฺโต ฉาเทนฺโต อาปชฺชติ นาม, ‘‘ติเณน วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาคนฺตพฺพํ, นตฺเวว นคฺเคน อาคนฺตพฺพํ, โย อาคจฺเฉยฺย อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ อิมํ ปน อาปตฺตึ น ฉาเทนฺโต อาปชฺชติ นาม. กุสจีราทีนิ ¶ ธาเรนฺโต ธาเรนฺโต อาปชฺชติ นาม, ‘‘อยํ เต ภิกฺขุ ปตฺโต ยาว เภทนาย ธาเรตพฺโพ’’ติ อิมํ อาปตฺตึ น ธาเรนฺโต อาปชฺชติ นาม.
‘‘อตฺตนา วา อตฺตานํ นานาสํวาสกํ กโรตี’’ติ เอกสีมายํ ทฺวีสุ สงฺเฆสุ นิสินฺเนสุ เอกสฺมึ ปกฺเข นิสีทิตฺวา ปรปกฺขสฺส ลทฺธึ คณฺหนฺโต ยสฺมึ ¶ ปกฺเข นิสินฺโน เตสํ อตฺตนาว อตฺตานํ นานาสํวาสกํ กโรติ นาม. เยสํ สนฺติเก นิสินฺโน เตสํ คณปูรโก หุตฺวา กมฺมํ โกเปติ, อิตเรสํ หตฺถปาสํ อนาคตตฺตา. สมานสํวาสเกปิ เอเสว ¶ นโย. เยสฺหิ โส ลทฺธึ โรเจติ, เตสํ สมานสํวาสโก โหติ, อิตเรสํ นานาสํวาสโก. สตฺต อาปตฺติโย สตฺต อาปตฺติกฺขนฺธาติ อาปชฺชิตพฺพโต อาปตฺติโย, ราสฏฺเน ขนฺธาติ เอวํ ทฺเวเยว นามานิ โหนฺตีติ นามวเสน ทุกํ ทสฺสิตํ. กมฺเมน วา สลากคฺคาเหน วาติ เอตฺถ อุทฺเทโส เจว กมฺมฺจ เอกํ, โวหาโร เจว อนุสฺสาวนา จ สลากคฺคาโห จ เอกํ, โวหารานุสฺสาวนสลากคฺคาหา ปุพฺพภาคา, กมฺมฺเจว อุทฺเทโส จ ปมาณํ.
อทฺธานหีโน นาม อูนวีสติวสฺโส. องฺคหีโน นาม หตฺถจฺฉินฺนาทิเภโท. วตฺถุวิปนฺโน นาม ปณฺฑโก ติรจฺฉานคโต อุภโตพฺยฺชนโก จ. อวเสสา เถยฺยสํวาสกาทโย อฏฺ อภพฺพปุคฺคลา กรณทุกฺกฏกา นาม. ทุกฺกฏกิริยา ทุกฺกฏกมฺมา, อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว กเตน อตฺตโน กมฺเมน อภพฺพฏฺานํ ปตฺตาติ อตฺโถ. อปริปูโร นาม อปริปุณฺณปตฺตจีวโร. โน จ ยาจติ นาม อุปสมฺปทํ น ยาจติ. อลชฺชิสฺส จ พาลสฺส จาติ อลชฺชี สเจปิ เตปิฏโก โหติ, พาโล จ สเจปิ สฏฺิวสฺโส โหติ, อุโภปิ นิสฺสาย น วตฺถพฺพํ. พาลสฺส จ ลชฺชิสฺส จาติ เอตฺถ พาลสฺส ‘‘ตฺวํ นิสฺสยํ คณฺหา’’ติ อาณายปิ นิสฺสโย ทาตพฺโพ, ลชฺชิสฺส ปน ยาจนฺตสฺเสว. สาติสารนฺติ สโทสํ; ยํ อชฺฌาจรนฺโต อาปตฺตึ อาปชฺชติ.
กาเยน ปฏิกฺโกสนา นาม หตฺถวิการาทีหิ ปฏิกฺโกสนา. กาเยน ปฏิชานาตีติ หตฺถวิการาทีหิ ปฏิชานาติ. อุปฆาติกา นาม อุปฆาตา. สิกฺขูปฆาติกา นาม สิกฺขูปฆาโต. โภคูปฆาติกา นาม ปริโภคูปฆาโต, ตตฺถ ติสฺโส สิกฺขา อสิกฺขโต สิกฺขูปฆาติกาติ เวทิตพฺพา. สงฺฆิกํ วา ปุคฺคลิกํ วา ทุปฺปริโภคํ ภฺุชโต โภคูปฆาติกาติ เวทิตพฺพา. ทฺเว เวนยิกาติ ทฺเว อตฺถา วินยสิทฺธา. ปฺตฺตํ นาม สกเล วินยปิฏเก กปฺปิยากปฺปิยวเสน ปฺตฺตํ. ปฺตฺตานุโลมํ นาม จตูสุ มหาปเทเสสุ ทฏฺพฺพํ. เสตุฆาโตติ ¶ ปจฺจยฆาโต; เยน จิตฺเตน อกปฺปิยํ กเรยฺย, ตสฺส จิตฺตสฺสาปิ อนุปฺปาทนนฺติ อตฺโถ. มตฺตการิตาติ มตฺตาย ¶ ปมาเณน กรณํ; ปมาเณ านนฺติ อตฺโถ. กาเยน อาปชฺชตีติ กายทฺวาริกํ กาเยน อาปชฺชติ; วจีทฺวาริกํ วาจาย. กาเยน วุฏฺาตีติ ติณวตฺถารกสมเถ ¶ วินาปิ เทสนาย กาเยเนว วุฏฺาติ; เทเสตฺวา วุฏฺหนฺโต ปน วาจาย วุฏฺาติ. อพฺภนฺตรปริโภโค นาม อชฺโฌหรณปริโภโค. พาหิรปริโภโค นาม สีสมกฺขนาทิ.
อนาคตํ ภารํ วหตีติ อเถโรว สมาโน เถเรหิ วหิตพฺพํ พีชนคาหธมฺมชฺเฌสนาทิภารํ วหติ; ตํ นิตฺถริตุํ วีริยํ อารภติ. อาคตํ ภารํ น วหตีติ เถโร เถรกิจฺจํ น กโรติ, ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว เถเรน ภิกฺขุนา สามํ วา ธมฺมํ ภาสิตุํ, ปรํ วา อชฺเฌสิตุํ, อนุชานามิ ภิกฺขเว เถราเธยฺยํ ปาติโมกฺข’’นฺติ เอวมาทิ สพฺพํ ปริหาเปตีติ อตฺโถ. น กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ กุกฺกุจฺจายตีติ น กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ กุกฺกุจฺจายิตฺวา กโรติ. กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ น กุกฺกุจฺจายตีติ กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ น กุกฺกุจฺจายิตฺวา กโรติ. เอเตสํ ทฺวินฺนํ ทิวา จ รตฺโต จ อาสวา วฑฺฒนฺตีติ อตฺโถ. อนนฺตรทุเกปิ วุตฺตปฏิปกฺขวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เสสํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมวาติ.
ทุกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
ติกวารวณฺณนา
๓๒๓. ติเกสุ อตฺถาปตฺติ ติฏฺนฺเต ภควติ อาปชฺชตีติ อตฺถิ อาปตฺติ, ยํ ติฏฺนฺเต ภควติ อาปชฺชตีติ อตฺโถ. เอเสว นโย สพฺพตฺถ. ตตฺถ โลหิตุปฺปาทาปตฺตึ ติฏฺนฺเต อาปชฺชติ. ‘‘เอตรหิ โข ปนานนฺท, ภิกฺขู อฺมฺํ อาวุโสวาเทน สมุทาจรนฺติ, น โว มมจฺจเยน เอวํ สมุทาจริตพฺพํ, นวเกน, อานนฺท, ภิกฺขุนา เถโร ภิกฺขู ‘ภนฺเต’ติ วา ‘อายสฺมา’ติ วา สมุทาจริตพฺโพ’’ติ วจนโต เถรํ อาวุโสวาเทน สมุทาจรณปจฺจยา อาปตฺตึ ปรินิพฺพุเต ภควติ อาปชฺชติ, โน ติฏฺนฺเต. อิมา ทฺเว อาปตฺติโย เปตฺวา อวเสสา ธรนฺเตปิ ภควติ อาปชฺชติ, ปรินิพฺพุเตปิ.
ปวาเรตฺวา อนติริตฺตํ ภฺุชนฺโต อาปตฺตึ กาเล อาปชฺชติ โน วิกาเล. วิกาลโภชนาปตฺตึ ¶ ปน วิกาเล อาปชฺชติ โน กาเล. อวเสสา ¶ กาเล เจว อาปชฺชติ วิกาเล จ. สหคารเสยฺยํ รตฺตึ อาปชฺชติ, ทฺวารํ อสํวริตฺวา ปฏิสลฺลียนํ ทิวา. เสสา รตฺติฺเจว ทิวา จ. ‘‘ทสวสฺโสมฺหิ อติเรกทสวสฺโสมฺหี’’ติ พาโล อพฺยตฺโต ปริสํ อุปฏฺาเปนฺโต ทสวสฺโส อาปชฺชติ โน อูนทสวสฺโส ¶ . ‘‘อหํ ปณฺฑิโต พฺยตฺโต’’ติ นโว วา มชฺฌิโม วา ปริสํ อุปฏฺาเปนฺโต อูนทสวสฺโส อาปชฺชติ โน ทสวสฺโส. เสสา ทสวสฺโส เจว อาปชฺชติ อูนทสวสฺโส จ. ‘‘ปฺจวสฺโสมฺหี’’ติ พาโล อพฺยตฺโต อนิสฺสาย วสนฺโต ปฺจวสฺโส อาปชฺชติ. ‘‘อหํ ปณฺฑิโต พฺยตฺโต’’ติ นวโก อนิสฺสาย วสนฺโต อูนปฺจวสฺโส อาปชฺชติ. เสสํ ปฺจวสฺโส เจว อาปชฺชติ อูนปฺจวสฺโส จ. อนุปสมฺปนฺนํ ปทโสธมฺมํ วาเจนฺโต, มาตุคามสฺส ธมฺมํ เทเสนฺโต เอวรูปํ อาปตฺตึ กุสลจิตฺโต อาปชฺชติ, ปาราชิก-สุกฺกวิสฺสฏฺิ-กายสํสคฺค-ทุฏฺุลฺล-อตฺตกามปาริจริย-ทุฏฺโทส-สงฺฆเภทปหารทาน-ตลสตฺติกาทิเภทํ อกุสลจิตฺโต อาปชฺชติ, อสฺจิจฺจ สหคารเสยฺยาทึ อพฺยากตจิตฺโต อาปชฺชติ, ยํ อรหาว อาปชฺชติ, สพฺพํ อพฺยากตจิตฺโตว อาปชฺชติ, เมถุนธมฺมาทิเภทมาปตฺตึ สุขเวทนาสมงฺคี อาปชฺชติ, ทุฏฺโทสาทิเภทํ ทุกฺขเวทนาสมงฺคี, ยํ สุขเวทนาสมงฺคี อาปชฺชติ, ตํเยว มชฺฌตฺโต หุตฺวา อาปชฺชนฺโต อทุกฺขมสุขเวทนาสมงฺคี อาปชฺชติ.
ตโย ปฏิกฺเขปาติ พุทฺธสฺส ภควโต ตโย ปฏิกฺเขปา. จตูสุ ปจฺจเยสุ มหิจฺฉตา อสนฺตุฏฺิตา กิเลสสลฺเลขนปฏิปตฺติยา อโคปายนา, อิเม หิ ตโย ธมฺมา พุทฺเธน ภควตา ปฏิกฺขิตฺตา. อปฺปิจฺฉตาทโย ปน ตโย พุทฺเธน ภควตา อนฺุาตา, เตน วุตฺตํ ‘‘ตโย อนฺุาตา’’ติ.
‘‘ทสวสฺโสมฺหี’’ติ ปริสํ อุปฏฺาเปนฺโต ‘‘ปฺจวสฺโสมฺหี’’ติ นิสฺสยํ อคณฺหนฺโต พาโล อาปชฺชติ โน ปณฺฑิโต, อูนทสวสฺโส ‘‘พฺยตฺโตมฺหี’’ติ พหุสฺสุตตฺตา ปริสํ อุปฏฺาเปนฺโต อูนปฺจวสฺโส จ นิสฺสยํ อคณฺหนฺโต ปณฺฑิโต อาปชฺชติ โน พาโล; อวเสสํ ปณฺฑิโต เจว อาปชฺชติ พาโล จ. วสฺสํ อนุปคจฺฉนฺโต กาเฬ อาปชฺชติ โน ชุณฺเห; มหาปวารณาย อปฺปวาเรนฺโต ชุณฺเห อาปชฺชติ โน กาเฬ; อวเสสํ กาเฬ เจว อาปชฺชติ ชุณฺเห จ. วสฺสูปคมนํ กาเฬ ¶ กปฺปติ โน ชุณฺเห; มหาปวารณาย ปวารณา ชุณฺเห กปฺปติ โน กาเฬ; เสสํ อนฺุาตกํ กาเฬ เจว กปฺปติ ชุณฺเห จ.
กตฺติกปุณฺณมาสิยา ¶ ปจฺฉิเม ปาฏิปททิวเส วิกปฺเปตฺวา ปิตํ วสฺสิกสาฏิกํ นิวาเสนฺโต เหมนฺเต อาปชฺชติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘กตฺติกปุณฺณมทิวเส อปจฺจุทฺธริตฺวา เหมนฺเต อาปชฺชตี’’ติ ¶ วุตฺตํ, ตมฺปิ สุวุตฺตํ. ‘‘จาตุมาสํ อธิฏฺาตุํ ตโต ปรํ วิกปฺเปตุ’’นฺติ หิ วุตฺตํ. อติเรกมาเส เสเส คิมฺหาเน ปริเยสนฺโต อติเรกฑฺฒมาเส เสเส กตฺวา นิวาเสนฺโต จ คิมฺเห อาปชฺชติ นาม. สติยา วสฺสิกสาฏิกาย นคฺโค กายํ โอวสฺสาเปนฺโต วสฺเส อาปชฺชติ นาม. ปาริสุทฺธิอุโปสถํ วา อธิฏฺานุโปสถํ วา กโรนฺโต สงฺโฆ อาปชฺชติ. สุตฺตุทฺเทสฺจ อธิฏฺานุโปสถฺจ กโรนฺโต คโณ อาปชฺชติ. เอกโก สุตฺตุทฺเทสํ ปาริสุทฺธิอุโปสถฺจ กโรนฺโต ปุคฺคโล อาปชฺชติ. ปวารณายปิ เอเสว นโย.
สงฺฆุโปสโถ จ สงฺฆปวารณา จ สงฺฆสฺเสว กปฺปติ. คณุโปสโถ จ คณปวารณา จ คณสฺเสว กปฺปติ. อธิฏฺานุโปสโถ จ อธิฏฺานปวารณา จ ปุคฺคลสฺเสว กปฺปติ. ‘‘ปาราชิกํ อาปนฺโนมฺหี’’ติอาทีนิ ภณนฺโต วตฺถุํ ฉาเทติ น อาปตฺตึ, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิ’’นฺติอาทีนิ ภณนฺโต อาปตฺตึ ฉาเทติ โน วตฺถุํ, โย เนว วตฺถุํ น อาปตฺตึ อาโรเจติ, อยํ วตฺถฺุเจว ฉาเทติ อาปตฺติฺจ.
ปฏิจฺฉาเทตีติ ปฏิจฺฉาทิ. ชนฺตาฆรเมว ปฏิจฺฉาทิ ชนฺตาฆรปฏิจฺฉาทิ. อิตราสุปิ เอเสว นโย. ทฺวารํ ปิทหิตฺวา อนฺโตชนฺตาฆเร ิเตน ปริกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. อุทเก โอติณฺเณนาปิ เอตเทว วฏฺฏติ. อุภยตฺถ ขาทิตุํ ภฺุชิตุํ วา น วฏฺฏติ. วตฺถปฏิจฺฉาทิ สพฺพกปฺปิยตาย ปฏิจฺฉนฺเนน สพฺพํ กาตุํ วฏฺฏติ. วหนฺตีติ ยนฺติ นิยฺยนฺติ; นินฺทํ วา ปฏิกฺโกสํ วา น ลภนฺติ. จนฺทมณฺฑลํ อพฺภามหิกาธูมรชราหุวิมุตฺตํ วิวฏํเยว วิโรจติ, น เตสุ อฺตเรน ปฏิจฺฉนฺนํ. ตถา สูริยมณฺฑลํ, ธมฺมวินโยปิ วิวริตฺวา วิภชิตฺวา เทสิยมาโนว วิโรจติ โน ปฏิจฺฉนฺโน.
อฺเน ¶ เภสชฺเชน กรณีเยน อฺํ วิฺาเปนฺโต คิลาโน อาปชฺชติ, น เภสชฺเชน กรณีเยน เภสชฺชํ วิฺาเปนฺโต อคิลาโน อาปชฺชติ, อวเสสํ อาปตฺตึ คิลาโน เจว อาปชฺชติ อคิลาโน จ.
อนฺโต อาปชฺชติ โน พหีติ อนุปขชฺช เสยฺยํ กปฺเปนฺโต อนฺโต อาปชฺชติ โน พหิ, พหิ ¶ อาปชฺชติ โน อนฺโตติ สงฺฆิกํ มฺจาทึ อชฺโฌกาเส สนฺถริตฺวา ปกฺกมนฺโต พหิ อาปชฺชติ โน อนฺโต, อวเสสํ ปน อนฺโต เจว อาปชฺชติ พหิ จ. อนฺโตสีมายาติ อาคนฺตุโก อาคนฺตุกวตฺตํ อทสฺเสตฺวา สฉตฺตุปาหโน วิหารํ ปวิสนฺโต อุปจารสีมํ โอกฺกนฺตมตฺโตว อาปชฺชติ. พหิสีมายาติ คมิโก ¶ ทารุภณฺฑปฏิสามนาทิคมิกวตฺตํ อปูเรตฺวา ปกฺกมนฺโต อุปจารสีมํ อติกฺกนฺตมตฺโตว อาปชฺชติ. อวเสสํ อนฺโตสีมาย เจว อาปชฺชติ พหิสีมาย จ. สติ วุฑฺฒตเร อนชฺฌิฏฺโ ธมฺมํ ภาสนฺโต สงฺฆมชฺเฌ อาปชฺชติ นาม. คณมชฺเฌปิ ปุคฺคลสนฺติเกปิ เอเสว นโย. กาเยน วุฏฺาตีติ ติณวตฺถารกสมเถน วุฏฺาติ. กายํ อจาเลตฺวา วาจาย เทเสนฺตสฺส วาจาย วุฏฺาติ. วจีสมฺปยุตฺตํ กายกิริยํ กตฺวา เทเสนฺตสฺส กาเยน วาจาย วุฏฺาติ นาม. สงฺฆมชฺเฌ เทสนาคามินีปิ วุฏฺานคามินีปิ วุฏฺาติ. คณปุคฺคลมชฺเฌ ปน เทสนาคามินีเยว วุฏฺาติ.
อาคาฬฺหาย เจเตยฺยาติ อาคาฬฺหาย ทฬฺหภาวาย เจเตยฺย; ตชฺชนียกมฺมาทิกตสฺส วตฺตํ น ปูรยโต อิจฺฉมาโน สงฺโฆ อุกฺเขปนียกมฺมํ กเรยฺยาติ อตฺโถ. อลชฺชี จ โหติ พาโล จ อปกตตฺโต จาติ เอตฺถ พาโล ‘‘อยํ ธมฺมาธมฺมํ น ชานาติ’’ อปกตตฺโต วา ‘‘อาปตฺตานาปตฺตึ น ชานาตี’’ติ น เอตฺตาวตา กมฺมํ กาตพฺพํ; พาลภาวมูลกํ ปน อปกตตฺตภาวมูลกฺจ อาปตฺตึ อาปนฺนสฺส กมฺมํ กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. อธิสีเล สีลวิปนฺโน นาม ทฺเว อาปตฺติกฺขนฺเธ อาปนฺโน; อาจารวิปนฺโน นาม ปฺจ อาปตฺติกฺขนฺเธ อาปนฺโน; ทิฏฺิวิปนฺโน นาม อนฺตคฺคาหิกาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคโต. เตสํ อาปตฺตึ อปสฺสนฺตานํ อปฺปฏิกโรนฺตานํ ทิฏฺิฺจ อนิสฺสชฺชนฺตานํเยว กมฺมํ กาตพฺพํ.
กายิโก ทโว นาม ปาสกาทีหิ ชูตกีฬนาทิเภโท อนาจาโร; วาจสิโก ทโว นาม มุขาลมฺพรกรณาทิเภโท อนาจาโร; กายิกวาจสิโก นาม นจฺจนคายนาทิเภโท ทฺวีหิปิ ทฺวาเรหิ อนาจาโร ¶ . กายิโก อนาจาโร นาม กายทฺวาเร ปฺตฺตสิกฺขาปทวีติกฺกโม; วาจสิโก อนาจาโร นาม วจีทฺวาเร ปฺตฺตสิกฺขาปทวีติกฺกโม; กายิกวาจสิโก นาม ทฺวารทฺวเยปิ ปฺตฺตสิกฺขาปทวีติกฺกโม. กายิเกน อุปฆาติเกนาติ กายทฺวาเร ปฺตฺตสฺส สิกฺขาปทสฺส อสิกฺขเนน, โย หิ ตํ น สิกฺขติ, โส นํ อุปฆาเตติ, ตสฺมา ตสฺส ตํ อสิกฺขนํ ‘‘กายิกํ อุปฆาติก’’นฺติ วุจฺจติ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. กายิเกน มิจฺฉาชีเวนาติ ชงฺฆเปสนิกาทินา วา คณฺฑผาลนาทินา วา เวชฺชกมฺเมน ¶ ; วาจสิเกนาติ สาสนอุคฺคหณอาโรจนาทินา; ตติยปทํ อุภยสมฺปโยควเสน ¶ วุตฺตํ.
อลํ ภิกฺขุ มา ภณฺฑนนฺติ อลํ ภิกฺขุ มา ภณฺฑนํ กริ, มา กลหํ, มา วิวาทํ กรีติ อตฺโถ. น โวหริตพฺพนฺติ น กิฺจิ วตฺตพฺพํ; วทโตปิ หิ ตาทิสสฺส วจนํ น โสตพฺพํ มฺนฺติ. น กิสฺมิฺจิ ปจฺเจกฏฺาเนติ กิสฺมิฺจิ พีชนคฺคาหาทิเก เอกสฺมิมฺปิ เชฏฺกฏฺาเน น เปตพฺโพติ อตฺโถ. โอกาสกมฺมํ กาเรนฺตสฺสาติ ‘‘กโรตุ อายสฺมา โอกาสํ, อหํ ตํ วตฺตุกาโม’’ติ เอวํ โอกาสํ กาเรนฺตสฺส. นาลํ โอกาสกมฺมํ กาตุนฺติ ‘‘กึ ตฺวํ กริสฺสสี’’ติ โอกาโส น กาตพฺโพ. สวจนียํ นาทาตพฺพนฺติ วจนํ น อาทาตพฺพํ, วจนมฺปิ น โสตพฺพํ; ยตฺถ คเหตฺวา คนฺตุกาโม โหติ, น ตตฺถ คนฺตพฺพนฺติ อตฺโถ.
ตีหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน วินโยติ ยํ โส ชานาติ, โส ตสฺส วินโย นาม โหติ; โส น ปุจฺฉิตพฺโพติ อตฺโถ. อนุโยโค น ทาตพฺโพติ ‘‘อิทํ กปฺปตี’’ติ ปุจฺฉนฺตสฺส ปุจฺฉาย โอกาโส น ทาตพฺโพ, ‘‘อฺํ ปุจฺฉา’’ติ วตฺตพฺโพ. อิติ โส เนว ปุจฺฉิตพฺโพ นาสฺส ปุจฺฉา โสตพฺพาติ อตฺโถ. วินโย น สากจฺฉาตพฺโพติ วินยปฺโห น สากจฺฉิตพฺโพ, กปฺปิยากปฺปิยกถา น สํสนฺเทตพฺพา.
อิทมปฺปหายาติ เอตํ พฺรหฺมจาริปฏิฺาตาทิกํ ลทฺธึ อวิชหิตฺวา. สุทฺธํ พฺรหฺมจารินฺติ ขีณาสวํ ภิกฺขุํ. ‘‘ปาตพฺยตํ อาปชฺชตี’’ติ ปาตพฺยภาวํ ปฏิเสวนํ อาปชฺชติ. ‘‘อิทมปฺปหายา’’ติ วจนโต ปน ตํ พฺรหฺมจาริปฏิฺาตํ ปหาย ขีณาสวํ ‘‘มุสา มยา ภณิตํ, ขมถ เม’’ติ ¶ ขมาเปตฺวา ‘‘นตฺถิ กาเมสุ โทโส’’ติ ลทฺธึ วิชหิตฺวา คติวิโสธนํ กเรยฺย. อกุสลมูลานีติ อกุสลานิ เจว มูลานิ จ, อกุสลานํ วา มูลานิ อกุสลมูลานิ. กุสลมูเลสุปิ เอเสว นโย. ทุฏฺุ จริตานิ วิรูปานิ วา จริตานิ ทุจฺจริตานิ. สุฏฺุ จริตานิ สุนฺทรานิ วา จริตานิ สุจริตานิ. กาเยน กรณภูเตน กตํ ทุจฺจริตํ กายทุจฺจริตํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. เสสํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมวาติ.
ติกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุกฺกวารวณฺณนา
๓๒๔. จตุกฺเกสุ ¶ สกวาจาย อาปชฺชติ ปรวาจาย วุฏฺาตีติ วจีทฺวาริกํ ปทโสธมฺมาทิเภทํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ติณวตฺถารกสมถฏฺานํ คโต ปรสฺส กมฺมวาจาย วุฏฺาติ ¶ . ปรวาจาย อาปชฺชติ สกวาจาย วุฏฺาตีติ ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค ปรสฺส กมฺมวาจาย อาปชฺชติ, ปุคฺคลสฺส สนฺติเก เทเสนฺโต สกวาจาย วุฏฺาติ. สกวาจาย อาปชฺชติ สกวาจาย วุฏฺาตีติ วจีทฺวาริกํ ปทโสธมฺมาทิเภทํ อาปตฺตึ สกวาจาย อาปชฺชติ, เทเสตฺวา วุฏฺหนฺโตปิ สกวาจาย วุฏฺาติ. ปรวาจาย อาปชฺชติ ปรวาจาย วุฏฺาตีติ ยาวตติยกํ สงฺฆาทิเสสํ ปรสฺส กมฺมวาจาย อาปชฺชติ, วุฏฺหนฺโตปิ ปรสฺส ปริวาสกมฺมวาจาทีหิ วุฏฺาติ. ตโต ปเรสุ กายทฺวาริกํ กาเยน อาปชฺชติ, เทเสนฺโต วาจาย วุฏฺาติ. วจีทฺวาริกํ วาจาย อาปชฺชติ, ติณวตฺถารเก กาเยน วุฏฺาติ. กายทฺวาริกํ กาเยน อาปชฺชติ, ตเมว ติณวตฺถารเก กาเยน วุฏฺาติ. วจีทฺวาริกํ วาจาย อาปชฺชติ, ตเมว เทเสนฺโต วาจาย วุฏฺาติ. สงฺฆิกมฺจสฺส อตฺตโน ปจฺจตฺถรเณน อนตฺถรโต กายสมฺผุสเน โลมคณนาย อาปชฺชิตพฺพาปตฺตึ สหคารเสยฺยาปตฺติฺจ ปสุตฺโต อาปชฺชติ, ปพุชฺฌิตฺวา ปน อาปนฺนภาวํ ตฺวา เทเสนฺโต ปฏิพุทฺโธ วุฏฺาติ. ชคฺคนฺโต อาปชฺชิตฺวา ปน ติณวตฺถารกสมถฏฺาเน สยนฺโต ปฏิพุทฺโธ อาปชฺชติ ปสุตฺโต วุฏฺาติ นาม. ปจฺฉิมปททฺวยมฺปิ วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ.
อจิตฺตกาปตฺตึ ¶ อจิตฺตโก อาปชฺชติ นาม. ปจฺฉา เทเสนฺโต สจิตฺตโก วุฏฺาติ. สจิตฺตกาปตฺตึ สจิตฺตโก อาปชฺชติ นาม. ติณวตฺถารกฏฺาเน สยนฺโต อจิตฺตโก วุฏฺาติ. เสสปททฺวยมฺปิ วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ. โย สภาคํ อาปตฺตึ เทเสติ, อยํ เทสนาปจฺจยา ทุกฺกฏํ อาปชฺชนฺโต ปาจิตฺติยาทีสุ อฺตรํ เทเสติ, ตฺจ เทเสนฺโต ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. ตํ ปน ทุกฺกฏํ อาปชฺชนฺโต ปาจิตฺติยาทิโต วุฏฺาติ. ปาจิตฺติยาทิโต จ วุฏฺหนฺโต ตํ อาปชฺชติ. อิติ เอกสฺส ปุคฺคลสฺส เอกเมว ปโยคํ สนฺธาย ‘‘อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต เทเสตี’’ติ อิทํ จตุกฺกํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
กมฺมจตุกฺเก ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺคาปตฺตึ กมฺเมน อาปชฺชติ, เทเสนฺโต อกมฺเมน วุฏฺาติ. วิสฺสฏฺิอาทิกํ อกมฺเมน อาปชฺชติ, ปริวาสาทินา กมฺเมน วุฏฺาติ. สมนุภาสนํ ¶ กมฺเมเนว อาปชฺชติ, กมฺเมน วุฏฺาติ. เสสํ อกมฺเมน อาปชฺชติ, อกมฺเมน วุฏฺาติ.
ปริกฺขารจตุกฺเก ปโม ¶ สกปริกฺขาโร, ทุติโย สงฺฆิโกว ตติโย เจติยสนฺตโก, จตุตฺโถ คิหิปริกฺขาโร. สเจ ปน โส ปตฺตจีวรนวกมฺมเภสชฺชานํ อตฺถาย อาหโฏ โหติ, อวาปุรณํ ทาตุํ อนฺโต ปาเปตฺุจ วฏฺฏติ.
สมฺมุขาจตุกฺเก ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺคาปตฺตึ สงฺฆสฺส สมฺมุขา อาปชฺชติ, วุฏฺานกาเล ปน สงฺเฆน กิจฺจํ นตฺถีติ ปรมฺมุขา วุฏฺาติ. วิสฺสฏฺิอาทิกํ ปรมฺมุขา อาปชฺชติ, สงฺฆสฺส สมฺมุขา วุฏฺาติ. สมนุภาสนํ สงฺฆสฺส สมฺมุขา เอว อาปชฺชติ, สมฺมุขา วุฏฺาติ. เสสํ สมฺปชานมุสาวาทาทิเภทํ ปรมฺมุขาว อาปชฺชติ, ปรมฺมุขาว วุฏฺาติ. อชานนฺตจตุกฺกํ อจิตฺตกจตุกฺกสทิสํ.
ลิงฺคปาตุภาเวนาติ สยิตสฺเสว ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา ลิงฺคปริวตฺเต ชาเต สหคารเสยฺยาปตฺติ โหติ อิทเมว ตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. อุภินฺนมฺปิ ปน อสาธารณาปตฺติ ลิงฺคปาตุภาเวน วุฏฺาติ. สหปฏิลาภจตุกฺเก ยสฺส ภิกฺขุโน ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, โส สห ลิงฺคปฏิลาเภน ปมํ อุปฺปนฺนวเสน เสฏฺภาเวน จ ปุริมํ ปุริสลิงฺคํ ชหติ, ปจฺฉิเม อิตฺถิลิงฺเค ปติฏฺาติ, ปุริสกุตฺตปุริสาการาทิวเสน ปวตฺตา กายวจีวิฺตฺติโย ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, ภิกฺขูติ วา ปุริโสติ วา เอวํ ปวตฺตา ปณฺณตฺติโย ¶ นิรุชฺฌนฺติ, ยานิ ภิกฺขุนีหิ อสาธารณานิ ฉจตฺตาลีส สิกฺขาปทานิ เตหิ อนาปตฺติเยว โหติ. ทุติยจตุกฺเก ปน ยสฺสา ภิกฺขุนิยา ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, สา ปจฺฉาสมุปฺปตฺติยา วา หีนภาเวน วา ปจฺฉิมนฺติ สงฺขฺยํ คตํ อิตฺถิลิงฺคํ ชหติ, วุตฺตปฺปกาเรน ปุริมนฺติ สงฺขฺยํ คเต ปุริสลิงฺเค ปติฏฺาติ. วุตฺตวิปรีตา วิฺตฺติโย ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, ภิกฺขุนีติ วา อิตฺถีติ วา เอวํ ปวตฺตา ปณฺณตฺติโยปิ นิรุชฺฌนฺติ, ยานิ ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ สตํ ตึสฺจ สิกฺขาปทานิ, เตหิ อนาปตฺติเยว โหติ.
จตฺตาโร สามุกฺกํสาติ จตฺตาโร มหาปเทสา, เต หิ ภควตา อนุปฺปนฺเน วตฺถุมฺหิ สยํ อุกฺกํสิตฺวา อุกฺขิปิตฺวา ปิตตฺตา ‘‘สามุกฺกํสา’’ติ วุจฺจนฺติ. ปริโภคาติ อชฺโฌหรณียปริโภคา ¶ , อุทกํ ปน อกาลิกตฺตา อปฺปฏิคฺคหิตกํ วฏฺฏติ. ยาวกาลิกาทีนิ อปฺปฏิคฺคหิตกานิ อชฺโฌหริตุํ น วฏฺฏนฺติ. จตฺตาริ มหาวิกฏานิ กาโลทิสฺสตฺตา ยถาวุตฺเต กาเล วฏฺฏนฺติ. อุปาสโก สีลวาติ ปฺจ วา ทส ¶ วา สีลานิ โคปยมาโน.
อาคนฺตุกาทิจตุกฺเก สฉตฺตุปาหโน สสีสํ ปารุโต วิหารํ ปวิสนฺโต ตตฺถ วิจรนฺโต จ อาคนฺตุโกว อาปชฺชติ, โน อาวาสิโก. อาวาสิกวตฺตํ อกโรนฺโต ปน อาวาสิโก อาปชฺชติ, โน อาคนฺตุโก. เสสํ กายวจีทฺวาริกํ อาปตฺตึ อุโภปิ อาปชฺชนฺติ, อสาธารณํ อาปตฺตึ เนว อาคนฺตุโก อาปชฺชติ, โน อาวาสิโก. คมิยจตุกฺเกปิ คมิยวตฺตํ อปูเรตฺวา คจฺฉนฺโต คมิโก อาปชฺชติ, โน อาวาสิโก. อาวาสิกวตฺตํ อกโรนฺโต ปน อาวาสิโก อาปชฺชติ, โน คมิโก. เสสํ อุโภปิ อาปชฺชนฺติ, อสาธารณํ อุโภปิ นาปชฺชนฺติ. วตฺถุนานตฺตตาทิจตุกฺเก จตุนฺนํ ปาราชิกานํ อฺมฺํ วตฺถุนานตฺตตาว โหติ,น อาปตฺตินานตฺตตา. สพฺพาปิ หิ สา ปาราชิกาปตฺติเยว. สงฺฆาทิเสสาทีสุปิ เอเสว นโย. ภิกฺขุสฺส จ ภิกฺขุนิยา จ อฺมฺํ กายสํสคฺเค ภิกฺขุสฺส สงฺฆาทิเสโส ภิกฺขุนิยา ปาราชิกนฺติ เอวํ อาปตฺตินานตฺตตาว โหติ, น วตฺถุนานตฺตตา, อุภินฺนมฺปิ หิ กายสํสคฺโคว วตฺถุ. ตถา ‘‘ลสุณกฺขาทเน ภิกฺขุนิยา ปาจิตฺติยํ, ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ เอวมาทินาเปตฺถ นเยน โยชนา เวทิตพฺพา. จตุนฺนํ ปาราชิกานํ เตรสหิ สงฺฆาทิเสเสหิ สทฺธึ วตฺถุนานตฺตตา เจว อาปตฺตินานตฺตตา ¶ จ. เอวํ สงฺฆาทิเสสาทีนํ อนิยตาทีหิ. อาทิโต ปฏฺาย จตฺตาริ ปาราชิกานิ เอกโต อาปชฺชนฺตานํ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ เนว วตฺถุนานตฺตตา โน อาปตฺตินานตฺตตา. วิสุํ อาปชฺชนฺเตสุปิ เสสา สาธารณาปตฺติโย อาปชฺชนฺเตสุปิ เอเสว นโย.
วตฺถุสภาคาทิจตุกฺเก ภิกฺขุสฺส จ ภิกฺขุนิยา จ กายสํสคฺเค วตฺถุสภาคตา, โน อาปตฺติสภาคตา, จตูสุ ปาราชิเกสุ อาปตฺติสภาคตา, โน วตฺถุสภาคตา. เอส นโย สงฺฆาทิเสสาทีสุ. ภิกฺขุสฺส จ ภิกฺขุนิยา จ จตูสุ ปาราชิเกสุ วตฺถุสภาคตา เจว อาปตฺติสภาคตา จ. เอส นโย สพฺพาสุ สาธารณาปตฺตีสุ. อสาธารณาปตฺติยํ เนว วตฺถุสภาคตา โน อาปตฺติสภาคตา. โย หิ ปุริมจตุกฺเก ปโม ปฺโห, โส อิธ ทุติโย; โย จ ตตฺถ ทุติโย, โส อิธ ปโม. ตติยจตุตฺเถสุ นานากรณํ นตฺถิ.
อุปชฺฌายจตุกฺเก สทฺธิวิหาริกสฺส อุปชฺฌาเยน กตฺตพฺพวตฺตสฺส อกรเณ อาปตฺตึ อุปชฺฌาโย ¶ อาปชฺชติ, โน สทฺธิวิหาริโก อุปชฺฌายสฺส กตฺตพฺพวตฺตํ อกโรนฺโต สทฺธิวิหาริโก อาปชฺชติ, โน อุปชฺฌาโย; เสสํ อุโภปิ ¶ อาปชฺชนฺติ, อสาธารณํ อุโภปิ นาปชฺชนฺติ. อาจริยจตุกฺเกปิ เอเสว นโย.
อาทิยนฺตจตุกฺเก ปาทํ วา อติเรกปาทํ วา สหตฺถา อาทิยนฺโต ครุกํ อาปชฺชติ, อูนกปาทํ คณฺหาหีติ อาณตฺติยา อฺํ ปโยเชนฺโต ลหุกํ อาปชฺชติ. เอเตน นเยน เสสปทตฺตยํ เวทิตพฺพํ.
อภิวาทนารหจตุกฺเก ภิกฺขุนีนํ ตาว ภตฺตคฺเค นวมภิกฺขุนิโต ปฏฺาย อุปชฺฌายาปิ อภิวาทนารหา โน ปจฺจุฏฺานารหา. อวิเสเสน จ วิปฺปกตโภชนสฺส ภิกฺขุสฺส โย โกจิ วุฑฺฒตโร. สฏฺิวสฺสสฺสาปิ ปาริวาสิกสฺส สมีปคโต ตทหุปสมฺปนฺโนปิ ปจฺจุฏฺานารโห โน อภิวาทนารโห. อปฺปฏิกฺขิตฺเตสุ าเนสุ วุฑฺโฒ นวกสฺส อภิวาทนารโห เจว ปจฺจุฏฺานารโห จ. นวโก ปน วุฑฺฒสฺส เนว อภิวาทนารโห น ปจฺจุฏฺานารโห. อาสนารหจตุกฺกสฺส ปมปทํ ปุริมจตุกฺเก ทุติยปเทน, ทุติยปทฺจ ปมปเทน อตฺถโต สทิสํ.
กาลจตุกฺเก ¶ ปวาเรตฺวา ภฺุชนฺโต กาเล อาปชฺชติ โน วิกาเล, วิกาลโภชนาปตฺตึ วิกาเล อาปชฺชติ โน กาเล, เสสํ กาเล เจว อาปชฺชติ วิกาเล จ, อสาธารณํ เนว กาเล โน วิกาเล. ปฏิคฺคหิตจตุกฺเก ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตามิสํ กาเล กปฺปติ โน วิกาเล. ปานกํ วิกาเล กปฺปติ, ปุนทิวสมฺหิ โน กาเล. สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ กาเล เจว กปฺปติ วิกาเล จ. อตฺตโน อตฺตโน กาลาตีตํ ยาวกาลิกาทิตฺตยํ อกปฺปิยมํสํ อุคฺคหิตกมปฺปฏิคฺคหิตกฺจ เนว กาเล กปฺปติ โน วิกาเล.
ปจฺจนฺติมจตุกฺเก สมุทฺเท สีมํ พนฺธนฺโต ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ อาปชฺชติ, โน มชฺฌิเมสุ; ปฺจวคฺเคน คเณน อุปสมฺปาเทนฺโต คุณงฺคุณูปาหนํ ธุวนหานํ จมฺมตฺถรณานิ จ มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ อาปชฺชติ โน ปจฺจนฺติเมสุ. อิมานิ จตฺตาริ ‘‘อิธ น กปฺปนฺตี’’ติ วทนฺโตปิ ปจฺจนฺติเมสุ อาปชฺชติ, ‘‘อิธ กปฺปนฺตี’’ติ วทนฺโต ปน มชฺฌิเมสุ อาปชฺชติ. เสสาปตฺตึ อุภยตฺถ อาปชฺชติ, อสาธารณํ น กตฺถจิ อาปชฺชติ. ทุติยจตุกฺเก ปฺจวคฺเคน คเณน อุปสมฺปทาทิ จตุพฺพิธมฺปิ วตฺถุ ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ กปฺปติ. ‘‘อิทํ กปฺปตี’’ติ ¶ ทีเปตุมฺปิ ตตฺเถว กปฺปติ โน มชฺฌิเมสุ. ‘‘อิทํ น กปฺปตี’’ติ ทีเปตุํ ปน มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ กปฺปติ โน ปจฺจนฺติเมสุ ¶ . เสสํ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ปฺจ โลณานี’’ติอาทิ อนฺุาตกํ อุภยตฺถ กปฺปติ. ยํ ปน อกปฺปิยนฺติ ปฏิกฺขิตฺตํ, ตํ อุภยตฺถาปิ น กปฺปติ.
อนฺโตอาทิจตุกฺเก อนุปขชฺช เสยฺยาทึ อนฺโต อาปชฺชติ โน พหิ, อชฺโฌกาเส สงฺฆิกมฺจาทีนิ นิกฺขิปิตฺวา ปกฺกมนฺโต พหิ อาปชฺชติ โน อนฺโต, เสสํ อนฺโต เจว พหิ จ, อสาธารณํ เนว อนฺโต น พหิ. อนฺโตสีมาทิจตุกฺเก อาคนฺตุโก วตฺตํ อปูเรนฺโต อนฺโตสีมาย อาปชฺชติ, คมิโย พหิสีมาย มุสาวาทาทึ อนฺโตสีมาย จ พหิสีมาย จ อาปชฺชติ,อสาธารณํ น กตฺถจิ. คามจตุกฺเก อนฺตรฆรปฏิสํยุตฺตํ เสขิยปฺตฺตึ คาเม อาปชฺชติ โน อรฺเ. ภิกฺขุนี อรุณํ อุฏฺาปยมานา อรฺเ อาปชฺชติ โน คาเม. มุสาวาทาทึ คาเม เจว อาปชฺชติ อรฺเ จ, อสาธารณํ น กตฺถจิ.
จตฺตาโร ¶ ปุพฺพกิจฺจาติ ‘‘สมฺมชฺชนี ปทีโป จ อุทกํ อาสเนน จา’’ติ อิทํ จตุพฺพิธํ ปุพฺพกรณนฺติ วุจฺจตีติ วุตฺตํ. ‘‘ฉนฺทปาริสุทฺธิอุตุกฺขานํ ภิกฺขุคณนา จ โอวาโท’’ติ อิเม ปน ‘‘จตฺตาโร ปุพฺพกิจฺจา’’ติ เวทิตพฺพา. จตฺตาโร ปตฺตกลฺลาติ อุโปสโถ ยาวติกา จ ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา เต อาคตา โหนฺติ, สภาคาปตฺติโย น วิชฺชนฺติ, วชฺชนียา จ ปุคฺคลา ตสฺมึ น โหนฺติ, ปตฺตกลฺลนฺติ วุจฺจตีติ. จตฺตาริ อนฺปาจิตฺติยานีติ ‘‘เอตเทว ปจฺจยํ กริตฺวา อนฺํ ปาจิตฺติย’’นฺติ เอวํ วุตฺตานิ อนุปขชฺชเสยฺยากปฺปนสิกฺขาปทํ ‘‘เอหาวุโส คามํ วา นิคมํ วา’’ติ สิกฺขาปทํ, สฺจิจฺจ กุกฺกุจฺจอุปทหนํ, อุปสฺสุติติฏฺนนฺติ อิมานิ จตฺตาริ. จตสฺโส ภิกฺขุสมฺมุติโยติ ‘‘เอกรตฺตมฺปิ เจ ภิกฺขุ ติจีวเรน วิปฺปวเสยฺย อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา, อฺํ นวํ สนฺถตํ การาเปยฺย อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา, ตโต เจ อุตฺตริ วิปฺปวเสยฺย อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา, ทุฏฺุลฺลํ อาปตฺตึ อนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรเจยฺย อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา’’ติ เอวํ อาคตา เตรสหิ สมฺมุตีหิ มุตฺตา สมฺมุติโย. คิลานจตุกฺเก อฺเภสชฺเชน กรณีเยน โลลตาย อฺํ วิฺาเปนฺโต คิลาโน อาปชฺชติ, อเภสชฺชกรณีเยน เภสชฺชํ วิฺาเปนฺโต อคิลาโน อาปชฺชติ, มุสาวาทาทึ อุโภปิ อาปชฺชนฺติ, อสาธารณํ อุโภปิ นาปชฺชนฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
จตุกฺกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจกวารวณฺณนา
๓๒๕. ปฺจเกสุ ¶ ¶ ปฺจ ปุคฺคลา นิยตาติ อานนฺตริยานเมเวตํ คหณํ. ปฺจ เฉทนกา อาปตฺติโย นาม ปมาณาติกฺกนฺเต มฺจปีเ นิสีทนกณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิวสฺสิกสาฏิกาสุ สุคตจีวเร จ เวทิตพฺพา. ปฺจหากาเรหีติ อลชฺชิตา, อฺาณตา, กุกฺกุจฺจปฺปกตตา, อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตา, กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตาติ อิเมหิ ปฺจหิ. ปฺจ อาปตฺติโย มุสาวาทปจฺจยาติ ปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกฏสงฺฆาทิเสสปาจิตฺติยา. อนามนฺตจาโรติ ‘‘สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา ปุเรภตฺตํ ปจฺฉาภตฺตํ กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺเชยฺยา’’ติ อิมสฺส อาปุจฺฉิตฺวา จารสฺส อภาโว. อนธิฏฺานนฺติ ‘‘คณโภชเน อฺตฺร สมยา’’ติ วุตฺตํ ¶ สมยํ อธิฏฺหิตฺวา โภชนํ อธิฏฺานํ นาม; ตถา อกรณํ อนธิฏฺานํ. อวิกปฺปนา นาม ยา ปรมฺปรโภชเน วิกปฺปนา วุตฺตา, ตสฺสา อกรณํ. อิมานิ หิ ปฺจ ปิณฺฑปาติกสฺส ธุตงฺเคเนว ปฏิกฺขิตฺตานิ. อุสฺสงฺกิตปริสงฺกิโตติ เย ปสฺสนฺติ, เย สุณนฺติ, เตหิ อุสฺสงฺกิโต เจว ปริสงฺกิโต จ. อปิ อกุปฺปธมฺโม ขีณาสโวปิ สมาโน, ตสฺมา อโคจรา ปริหริตพฺพา. น หิ เอเตสุ สนฺทิสฺสมาโน อยสโต วา ครหโต วา มุจฺจติ. โสสานิกนฺติ สุสาเน ปติตกํ. ปาปณิกนฺติ อาปณทฺวาเร ปติตกํ. ถูปจีวรนฺติ วมฺมิกํ ปริกฺขิปิตฺวา พลิกมฺมกตํ. อาภิเสกิกนฺติ นหานฏฺาเน วา รฺโ อภิเสกฏฺาเน วา ฉฑฺฑิตจีวรํ. ภตปฏิยาภตนฺติ สุสานํ เนตฺวา ปุน อานีตกํ. ปฺจ มหาโจรา อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม วุตฺตา.
ปฺจาปตฺติโย กายโต สมุฏฺนฺตีติ ปเมน อาปตฺติสมุฏฺาเนน ปฺจ อาปตฺติโย อาปชฺชติ, ‘‘ภิกฺขุ กปฺปิยสฺี สฺาจิกาย กุฏึ กโรตี’’ติ เอวํ อนฺตรเปยฺยาเล วุตฺตาปตฺติโย. ปฺจ อาปตฺติโย กายโต จ วาจโต จาติ ตติเยน อาปตฺติสมุฏฺาเนน ปฺจ อาปตฺติโย อาปชฺชติ, ‘‘ภิกฺขุ กปฺปิยสฺี สํวิทหิตฺวา กุฏึ กโรตี’’ติ เอวํ ตตฺเถว วุตฺตา อาปตฺติโย. เทสนาคามินิโยติ เปตฺวา ปาราชิกฺจ สงฺฆาทิเสสฺจ อวเสสา.
ปฺจ กมฺมานีติ ตชฺชนียนิยสฺสปพฺพาชนียปฏิสารณียานิ จตฺตาริ อุกฺเขปนียฺจ ติวิธมฺปิ เอกนฺติ ปฺจ. ยาวตติยเก ปฺจาติ อุกฺขิตฺตานุวตฺติกาย ภิกฺขุนิยา ยาวตติยํ สมนุภาสนาย อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺติยา ปาราชิกํ ถุลฺลจฺจยํ ทุกฺกฏนฺติ ติสฺโส ¶ , เภทกานุวตฺตกาทิสมนุภาสนาสุ สงฺฆาทิเสโส, ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค ปาจิตฺติยํ. อทินฺนนฺติ ¶ อฺเน อทินฺนํ. อวิทิตนฺติ ปฏิคฺคณฺหามีติ เจตนาย อภาเวน อวิทิตํ. อกปฺปิยนฺติ ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ อกปฺปิยกตํ; ยํ วา ปนฺมฺปิ อกปฺปิยมํสํ อกปฺปิยโภชนํ. อกตาติริตฺตนฺติ ปวาเรตฺวา อติริตฺตํ อกตํ. สมชฺชทานนฺติ นฏสมชฺชาทิทานํ. อุสภทานนฺติ โคคณสฺส อนฺตเร อุสภวิสฺสชฺชนํ. จิตฺตกมฺมทานนฺติ อาวาสํ กาเรตฺวา ตตฺถ จิตฺตกมฺมํ กาเรตุํ วฏฺฏติ. อิทํ ปน ปฏิภานจิตฺตกมฺมทานํ สนฺธาย วุตฺตํ. อิมานิ หิ ปฺจ กิฺจาปิ โลกสฺส ปฺุสมฺมตานิ, อถ โข อปฺุานิ อกุสลานิเยว ¶ . อุปฺปนฺนํ ปฏิภานนฺติ เอตฺถ ปฏิภานนฺติ กเถตุกมฺยตา วุจฺจติ. อิเม ปฺจ ทุปฺปฏิวิโนทยาติ น สุปฏิวิโนทยา; อุปาเยน ปน การเณน อนุรูปาหิ ปจฺจเวกฺขนาอนุสาสนาทีหิ สกฺกา ปฏิวิโนเทตุนฺติ อตฺโถ.
สกจิตฺตํ ปสีทตีติ เอตฺถ อิมานิ วตฺถูนิ – กฏอนฺธการวาสี ผุสฺสเทวตฺเถโร กิร เจติยงฺคณํ สมฺมชฺชิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา สินฺทุวารกุสุมสนฺถตมิว สมวิปฺปกิณฺณวาลิกํ เจติยงฺคณํ โอโลเกนฺโต พุทฺธารมฺมณํ ปีติปาโมชฺชํ อุปฺปาเทตฺวา อฏฺาสิ. ตสฺมึ ขเณ มาโร ปพฺพตปาเท นิพฺพตฺตกาฬมกฺกโฏ วิย หุตฺวา เจติยงฺคเณ โคมยํ วิปฺปกิรนฺโต คโต. เถโร นาสกฺขิ อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ, สมฺมชฺชิตฺวา อคมาสิ. ทุติยทิวเสปิ ชรคฺคโว หุตฺวา ตาทิสเมว วิปฺปการํ อกาสิ. ตติยทิวเส วงฺกปาทํ มนุสฺสตฺตภาวํ นิมฺมินิตฺวา ปาเทน ปริกสนฺโต อคมาสิ. เถโร ‘‘เอวรูโป พีภจฺฉปุริโส สมนฺตา โยชนปฺปมาเณสุ โคจรคาเมสุ นตฺถิ, สิยา นุ โข มาโร’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘มาโรสิ ตฺว’’นฺติ อาห. ‘‘อาม, ภนฺเต, มาโรมฺหิ, น ทานิ เต วฺเจตุํ อสกฺขิ’’นฺติ. ‘‘ทิฏฺปุพฺโพ ตยา ตถาคโต’’ติ? ‘‘อาม, ทิฏฺปุพฺโพ’’ติ. ‘‘มาโร นาม มหานุภาโว โหติ, อิงฺฆ ตาว พุทฺธสฺส ภควโต อตฺตภาวสทิสํ อตฺตภาวํ นิมฺมินาหี’’ติ? ‘‘น สกฺกา, ภนฺเต, ตาทิสํ รูปํ นิมฺมินิตุํ; อปิจ โข ปน ตํสริกฺขกํ ปติรูปกํ นิมฺมินิสฺสามี’’ติ สกภาวํ วิชหิตฺวา พุทฺธรูปสทิเสน อตฺตภาเวน อฏฺาสิ ¶ . เถโร มารํ โอโลเกตฺวา ‘‘อยํ ตาว สราคโทสโมโห เอวํ โสภติ, กถํ นุ โข ภควา น โสภติ สพฺพโส วีตราคโทสโมโห’’ติ พุทฺธารมฺมณํ ปีตึ ปฏิลภิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. มาโร ‘‘วฺจิโตมฺหิ ตยา, ภนฺเต’’ติ อาห. เถโรปิ ‘‘กึ อตฺถิ ชรมาร, ตาทิสํ วฺเจตุ’’นฺติ อาห. โลกนฺตรวิหาเรปิ ทตฺโต นาม ทหรภิกฺขุ เจติยงฺคณํ สมฺมชฺชิตฺวา โอโลเกนฺโต โอทาตกสิณํ ปฏิลภิ. อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตสิ. ตโต วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ผลตฺตยํ สจฺฉากาสิ.
ปรจิตฺตํ ¶ ปสีทตีติ เอตฺถ อิมานิ วตฺถูนิ – ติสฺโส นาม ทหรภิกฺขุ ชมฺพุโกลเจติยงฺคณํ สมฺมชฺชิตฺวา สงฺการฉฑฺฑนึ หตฺเถน คเหตฺวาว อฏฺาสิ ¶ . ตสฺมึ ขเณ ติสฺสทตฺตตฺเถโร นาม นาวาโต โอรุยฺห เจติยงฺคณํ โอโลเกนฺโต ภาวิตจิตฺเตน สมฺมฏฺฏฺานนฺติ ตฺวา ปฺหาสหสฺสํ ปุจฺฉิ, อิตโร สพฺพํ วิสฺสชฺเชสิ. อฺตรสฺมิมฺปิ วิหาเร เถโร เจติยงฺคณํ สมฺมชฺชิตฺวา วตฺตํ ปริจฺฉินฺทิ. โยนกวิสยโต เจติยวนฺทกา จตฺตาโร เถรา อาคนฺตฺวา เจติยงฺคณํ ทิสฺวา อนฺโต อปฺปวิสิตฺวา ทฺวาเรเยว ตฺวา เอโก เถโร อฏฺ กปฺเป อนุสฺสริ, เอโก โสฬส, เอโก วีสติ, เอโก ตึส กปฺเป อนุสฺสริ.
เทวตา อตฺตมนา โหนฺตีติ เอตฺถ อิทํ วตฺถุ – เอกสฺมึ กิร วิหาเร เอโก ภิกฺขุ เจติยงฺคณฺจ โพธิยงฺคณฺจ สมฺมชฺชิตฺวา นหายิตุํ คโต. เทวตา ‘‘อิมสฺส วิหารสฺส กตกาลโต ปฏฺาย เอวํ วตฺตํ ปูเรตฺวา สมฺมฏฺปุพฺโพ ภิกฺขุ นตฺถี’’ติ ปสนฺนจิตฺตา ปุปฺผหตฺถา อฏฺํสุ. เถโร อาคนฺตฺวา ‘‘กตรคามวาสิกาตฺถา’’ติ อาห. ‘‘ภนฺเต, อิเธว วสาม, อิมสฺส วิหารสฺส กตกาลโต ปฏฺาย เอวํ วตฺตํ ปูเรตฺวา สมฺมฏฺปุพฺโพ ภิกฺขุ นตฺถีติ ตุมฺหากํ, ภนฺเต, วตฺเต ปสีทิตฺวา ปุปฺผหตฺถา ิตามฺหา’’ติ เทวตา อาหํสุ.
ปาสาทิกสํวตฺตนิกนฺติ เอตฺถ อิทํ วตฺถุ – เอกํ กิร อมจฺจปุตฺตํ อภยตฺเถรฺจ อารพฺภ อยํ กถา อุทปาทิ ‘‘กึ นุ โข อมจฺจปุตฺโต ปาสาทิโก, อภยตฺเถโรติ อุโภปิ เน เอกสฺมึ าเน โอโลเกสฺสามา’’ติ. าตกา อมจฺจปุตฺตํ อลงฺกริตฺวา มหาเจติยํ วนฺทาเปสฺสามาติ อคมํสุ. เถรมาตาปิ ปาสาทิกํ จีวรํ กาเรตฺวา ปุตฺตสฺส ปหิณิ, ‘‘ปุตฺโต เม เกเส ฉินฺทาเปตฺวา อิมํ จีวรํ ปารุปิตฺวา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต มหาเจติยํ วนฺทตู’’ติ. อมจฺจปุตฺโต ¶ าติปริวุโต ปาจีนทฺวาเรน เจติยงฺคณํ อารุฬฺโห, อภยตฺเถโร ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ทกฺขิณทฺวาเรน เจติยงฺคณํ อารุหิตฺวา เจติยงฺคเณ เตน สทฺธึ สมาคนฺตฺวา อาห – ‘‘กึ ตฺวํ, อาวุโส, มหลฺลกตฺเถรสฺส สมฺมฏฺฏฺาเน กจวรํ ฉฑฺเฑตฺวา มยา สทฺธึ ยุคคฺคาหํ คณฺหาสี’’ติ. อตีตตฺตภาเว กิร อภยตฺเถโร มหลฺลกตฺเถโร นาม หุตฺวา โคจรคาเม เจติยงฺคณํ สมฺมชฺชิ, อมจฺจปุตฺโต มหาอุปาสโก หุตฺวา สมฺมฏฺฏฺาเน กจวรํ คเหตฺวา ฉฑฺเฑสิ.
สตฺถุสาสนํ กตํ โหตีติ อิทํ สมฺมชฺชนวตฺตํ นาม พุทฺเธหิ วณฺณิตํ, ตสฺมา ตํ กโรนฺเตน สตฺถุสาสนํ กตํ โหติ. ตตฺริทํ วตฺถุ – อายสฺมา ¶ กิร สาริปุตฺโต หิมวนฺตํ คนฺตฺวา เอกสฺมึ ¶ ปพฺภาเร อสมฺมชฺชิตฺวาว นิโรธํ สมาปชฺชิตฺวา นิสีทิ. ภควา อาวชฺชนฺโต เถรสฺส อสมฺมชฺชิตฺวา นิสินฺนภาวํ ตฺวา อากาเสน คนฺตฺวา เถรสฺส ปุรโต อสมฺมฏฺฏฺาเน ปาทานิ ทสฺเสตฺวา ปจฺจาคฺฉิ. เถโร สมาปตฺติโต วุฏฺิโต ภควโต ปาทานิ ทิสฺวา พลวหิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา ชณฺณุเกหิ ปติฏฺาย ‘‘อสมฺมชฺชิตฺวา นิสินฺนภาวํ วต เม สตฺถา อฺาสิ, สงฺฆมชฺเฌ ทานิ โจทนํ กาเรสฺสามี’’ติ ทสพลสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา นิสีทิ. ภควา ‘‘กุหึ คโตสิ, สาริปุตฺตา’’ติ วตฺวา ‘‘น ปติรูปํ ทานิ เต มยฺหํ อนนฺตเร าเน ตฺวา วิจรนฺตสฺส อสมฺมชฺชิตฺวา นิสีทิตุ’’นฺติ อาห. ตโต ปฏฺาย เถโร คณฺิกปฏิมฺุจนฏฺาเนปิ ติฏฺนฺโต ปาเทน กจวรํ วิยูหิตฺวาว ติฏฺติ.
อตฺตโน ภาสปริยนฺตํ น อุคฺคณฺหาตีติ ‘‘อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ เอตฺตกํ สุตฺตํ อุปลพฺภติ, เอตฺตโก วินิจฺฉโย, เอตฺตกํ สุตฺตฺจ วินิจฺฉยฺจ วกฺขามี’’ติ เอวํ อตฺตโน ภาสปริยนฺตํ น อุคฺคณฺหาติ. ‘‘อยํ โจทกสฺส ปุริมกถา, อยํ ปจฺฉิมกถา, อยํ จุทิตกสฺส ปุริมกถา, อยํ ปจฺฉิมกถา, เอตฺตกํ คยฺหูปคํ, เอตฺตกํ น คยฺหูปค’’นฺติ เอวํ อนุคฺคณฺหนฺโต ปน ปรสฺส ภาสปริยนฺตํ น อุคฺคณฺหาติ นาม. อาปตฺตึ น ชานาตีติ ปาราชิกํ วา สงฺฆาทิเสสํ วาติ สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ นานากรณํ น ชานาติ. มูลนฺติ ทฺเว อาปตฺติยา มูลานิ กาโย จ วาจา จ, ตานิ น ชานาติ. สมุทยนฺติ ฉ อาปตฺติสมุฏฺานานิ อาปตฺติสมุทโย ¶ นาม, ตานิ น ชานาติ. ปาราชิกาทีนํ วตฺถุํ น ชานาตีติปิ วุตฺตํ โหติ. นิโรธนฺติ อยํ อาปตฺติ เทสนาย นิรุชฺฌติ, วูปสมฺมติ, อยํ วุฏฺาเนนาติ เอวํ อาปตฺตินิโรธํ น ชานาติ. สตฺต สมเถ อชานนฺโต ปน อาปตฺตินิโรธคามินิปฏิปทํ น ชานาติ.
อธิกรณปฺจเก อธิกรณํ นาม จตฺตาริ อธิกรณานิ. อธิกรณสฺส มูลํ นาม เตตฺตึส มูลานิ – วิวาทาธิกรณสฺส ทฺวาทส มูลานิ, อนุวาทาธิกรณสฺส จุทฺทส, อาปตฺตาธิกรณสฺส ฉ, กิจฺจาธิกรณสฺส เอกํ; ตานิ ปรโต อาวิ ภวิสฺสนฺติ. อธิกรณสมุทโย นาม อธิกรณสมุฏฺานํ. วิวาทาธิกรณํ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ นิสฺสาย อุปฺปชฺชติ; อนุวาทาธิกรณํ จตสฺโส วิปตฺติโย; อาปตฺตาธิกรณํ สตฺตาปตฺติกฺขนฺเธ; กิจฺจาธิกรณํ จตฺตาริ สงฺฆกิจฺจานีติ อิมํ วิภาคํ น ชานาตีติ อตฺโถ ¶ . อธิกรณนิโรธํ น ชานาตีติ ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน มูลามูลํ คนฺตฺวา วินิจฺฉยสมถํ ปาเปตุํ น สกฺโกติ ¶ ; ‘‘อิทํ อธิกรณํ ทฺวีหิ, อิทํ จตูหิ, อิทํ ตีหิ อิทํ เอเกน สมเถน สมฺมตี’’ติ เอวํ สตฺต สมเถ อชานนฺโต ปน อธิกรณนิโรธคามินิปฏิปทํ น ชานาติ นาม. วตฺถุํ น ชานาตีติ ‘‘อิทํ ปาราชิกสฺส วตฺถุ, อิทํ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ เอวํ สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ วตฺถุํ น ชานาติ. นิทานนฺติ ‘‘สตฺตนฺนํ นิทานานํ อิทํ สิกฺขาปทํ เอตฺถ ปฺตฺตํ, อิทํ เอตฺถา’’ติ น ชานาติ. ปฺตฺตึ น ชานาตีติ ตสฺมึ ตสฺมึ สิกฺขาปเท ปมปฺตฺตึ น ชานาติ. อนุปฺตฺตินฺติ ปุนปฺปุนํ ปฺตฺตึ น ชานาติ. อนุสนฺธิวจนปถนฺติ กถานุสนฺธิ-วินิจฺฉยานุสนฺธิวเสน วตฺถุํ น ชานาติ. ตฺตึ น ชานาตีติ สพฺเพน สพฺพํ ตฺตึ น ชานาติ. ตฺติยา กรณํ น ชานาตีติ ตฺติกิจฺจํ น ชานาติ, โอสารณาทีสุ นวสุ าเนสุ ตฺติกมฺมํ นาม โหติ, ตฺติทุติยตฺติจตุตฺถกมฺเมสุ ตฺติยา กมฺมปฺปตฺโต หุตฺวา ติฏฺตีติ น ชานาติ. น ปุพฺพกุสโล โหติ น อปรกุสโลติ ปุพฺเพ กเถตพฺพฺจ ปจฺฉา กเถตพฺพฺจ น ชานาติ, ตฺติ นาม ปุพฺเพ เปตพฺพา, ปจฺฉา น เปตพฺพาติปิ น ชานาติ. อกาลฺู จ โหตีติ กาลํ น ชานาติ, อนชฺฌิฏฺโ อยาจิโต ภาสติ, ตฺติกาลมฺปิ ตฺติเขตฺตมฺปิ ¶ ตฺติโอกาสมฺปิ น ชานาติ.
มนฺทตฺตา โมมูหตฺตาติ เกวลํ อฺาเณน โมมูหภาเวน ธุตงฺเค อานิสํสํ อชานิตฺวา. ปาปิจฺโฉติ เตน อรฺวาเสน ปจฺจยลาภํ ปตฺถยมาโน. ปวิเวกนฺติ กายจิตฺตอุปธิวิเวกํ. อิทมตฺถิตนฺติ อิมาย กลฺยาณาย ปฏิปตฺติยา อตฺโถ เอตสฺสาติ อิทมตฺถิ, อิทมตฺถิโน ภาโว อิทมตฺถิตา; ตํ อิทมตฺถิตํเยว นิสฺสาย น อฺํ กิฺจิ โลกามิสนฺติ อตฺโถ.
อุโปสถํ น ชานาตีติ นววิธํ อุโปสถํ น ชานาติ. อุโปสถกมฺมนฺติ อธมฺเมนวคฺคาทิเภทํ จตุพฺพิธํ อุโปสถกมฺมํ น ชานาติ. ปาติโมกฺขนฺติ ทฺเว มาติกา น ชานาติ. ปาติโมกฺขุทฺเทสนฺติ สพฺพมฺปิ นววิธํ ปาติโมกฺขุทฺเทสํ น ชานาติ. ปวารณนฺติ นววิธํ ปวารณํ น ชานาติ. ปวารณากมฺมํ อุโปสถกมฺมสทิสเมว.
อปาสาทิกปฺจเก ¶ – อปาสาทิกนฺติ กายทุจฺจริตาทิ อกุสลกมฺมํ วุจฺจติ. ปาสาทิกนฺติ กายสุจริตาทิ กุสลกมฺมํ วุจฺจติ. อติเวลนฺติ เวลํ อติกฺกมฺม พหุตรํ กาลํ กุเลสุ อปฺปํ วิหาเรติ อตฺโถ. โอตาโรติ กิเลสานํ อนฺโต โอตรณํ. สํกิลิฏฺนฺติ ทุฏฺุลฺลาปตฺติกายสํสคฺคาทิเภทํ ¶ . วิสุทฺธิปฺจเกปวารณาคฺคหเณน นววิธาปิ ปวารณา เวทิตพฺพา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปฺจกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
ฉกฺกวารวณฺณนา
๓๒๖. ฉกฺเกสุ – ฉ สามีจิโยติ ‘‘โส จ ภิกฺขุ อนพฺภิโต, เต จ ภิกฺขู คารยฺหา, อยํ ตตฺถ สามีจิ’’, ‘‘ยฺุชนฺตายสฺมนฺโต สกํ, มา โว สกํ วินสฺสาติ อยํ ตตฺถ สามีจิ’’, ‘‘อยํ เต ภิกฺขุ ปตฺโต ยาว เภทนาย ธาเรตพฺโพติ อยํ ตตฺถ สามีจิ’’, ‘‘ตโต นีหริตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวิภชิตพฺพํ, อยํ ตตฺถ สามีจิ’’, ‘‘อฺาตพฺพํ ปริปุจฺฉิตพฺพํ ปริปฺหิตพฺพํ, อยํ ตตฺถ สามีจิ’’, ‘‘ยสฺส ภวิสฺสติ โส หริสฺสตีติ อยํ ตตฺถ สามีจี’’ติ อิมา ภิกฺขุปาติโมกฺเขเยว ฉ สามีจิโย. ฉ เฉทนกาติ ปฺจเก วุตฺตา ปฺจ ภิกฺขุนีนํ อุทกสาฏิกาย สทฺธึ ฉ. ฉหากาเรหีติ อลชฺชิตา อฺาณตา กุกฺกุจฺจปกตตา อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตา กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตา สติสมฺโมสาติ. ตตฺถ เอกรตฺตฉารตฺตสตฺตาหาติกฺกมาทีสุ อาปตฺตึ สติสมฺโมเสน ¶ อาปชฺชติ. เสสํ วุตฺตนยเมว. ฉ อานิสํสา วินยธเรติ ปฺจเก วุตฺตา ปฺจ ตสฺสาเธยฺโย อุโปสโถติ อิมินา สทฺธึ ฉ.
ฉ ปรมานีติ ‘‘ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพํ, มาสปรมํ เตน ภิกฺขุนา ตํ จีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ, สนฺตรุตฺตรปรมํ เตน ภิกฺขุนา ตโต จีวรํ สาทิตพฺพํ, ฉกฺขตฺตุปรมํ ตุณฺหีภูเตน อุทฺทิสฺส าตพฺพํ, นวํ ปน ภิกฺขุนา สนฺถตํ การาเปตฺวา ฉพฺพสฺสานิ ธาเรตพฺพํ ฉพฺพสฺสปรมตา ธาเรตพฺพํ, ติโยชนปรมํ สหตฺถา ธาเรตพฺพานิ, ทสาหปรมํ อติเรกปตฺโต ธาเรตพฺโพ, สตฺตาหปรมํ สนฺนิธิการกํ ปริภฺุชิตพฺพานิ, ฉารตฺตปรมํ เตน ภิกฺขุนา เตน จีวเรน วิปฺปวสิตพฺพํ, จตุกฺกํสปรมํ, อฑฺฒเตยฺยกํสปรมํ, ทฺวงฺคุลปพฺพปรมํ อาทาตพฺพํ, อฏฺงฺคุลปรมํ มฺจปฏิปาทกํ ¶ , อฏฺงฺคุลปรมํ ทนฺตกฏฺ’’นฺติ อิมานิ จุทฺทส ปรมานิ. ตตฺถ ปมานิ ฉ เอกํ ฉกฺกํ, ตโต เอกํ อปเนตฺวา เสเสสุ เอเกกํ ปกฺขิปิตฺวาติอาทินา นเยน อฺานิปิ ฉกฺกานิ กาตพฺพานิ.
ฉ ¶ อาปตฺติโยติ ตีณิ ฉกฺกานิ อนฺตรเปยฺยาเล วุตฺตานิ. ฉ กมฺมานีติ ตชฺชนีย-นิยสฺส-ปพฺพาชนีย-ปฏิสารณียานิ จตฺตาริ, อาปตฺติยา อทสฺสเน จ อปฺปฏิกมฺเม จ วุตฺตทฺวยมฺปิ เอกํ, ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค เอกนฺติ ฉ. นหาเนติ โอเรนฑฺฒมาสํ นหาเน; วิปฺปกตจีวราทิฉกฺกทฺวยํ กถินกฺขนฺธเก นิทฺทิฏฺํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ฉกฺกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
สตฺตกวารวณฺณนา
๓๒๗. สตฺตเกสุ – สตฺต สามีจิโยติ ปุพฺเพ วุตฺเตสุ ฉสุ ‘‘สา จ ภิกฺขุนี อนพฺภิตา, ตา จ ภิกฺขุนิโย คารยฺหา, อยํ ตตฺถ สามีจี’’ติ อิมํ ปกฺขิปิตฺวา สตฺต เวทิตพฺพา. สตฺต อธมฺมิกา ปฏิฺาตกรณาติ ‘‘ภิกฺขุ ปาราชิกํ อชฺฌาปนฺโน โหติ, ปาราชิเกน โจทิยมาโน ‘สงฺฆาทิเสสํ อชฺฌาปนฺโนมฺหี’ติ ปฏิชานาติ, ตํ สงฺโฆ สงฺฆาทิเสเสน กาเรติ, อธมฺมิกํ ปฏิฺาตกรณ’’นฺติ เอวํ สมถกฺขนฺธเก นิทฺทิฏฺา. ธมฺมิกาปิ ตตฺเถว นิทฺทิฏฺา. สตฺตนฺนํ อนาปตฺติ สตฺตาหกรณีเยน คนฺตุนฺติ วสฺสูปนายิกกฺขนฺธเก วุตฺตํ ¶ . สตฺตานิสํสา วินยธเรติ ‘‘ตสฺสาเธยฺโย อุโปสโถ ปวารณา’’ติ อิเมหิ สทฺธึ ปฺจเก วุตฺตา ปฺจ สตฺต โหนฺติ. สตฺต ปรมานีติ ฉกฺเก วุตฺตานิเยว สตฺตกวเสน โยเชตพฺพานิ. กตจีวรนฺติอาทีนิ ทฺเว สตฺตกานิ กถินกฺขนฺธเก นิทฺทิฏฺานิ.
ภิกฺขุสฺส น โหติ อาปตฺติ ทฏฺพฺพา, ภิกฺขุสฺส โหติ อาปตฺติ ทฏฺพฺพา, ภิกฺขุสฺส โหติ อาปตฺติ ปฏิกาตพฺพาติ อิมานิ ตีณิ สตฺตกานิ, ทฺเว อธมฺมิกานิ, เอกํ ธมฺมิกํ; ตานิ ตีณิปิ จมฺเปยฺยเก นิทฺทิฏฺานิ. อสทฺธมฺมาติ อสตํ ธมฺมา, อสนฺโต วา ธมฺมา; อโสภนา หีนา ลามกาติ อตฺโถ. สทฺธมฺมาติ สตํ พุทฺธาทีนํ ธมฺมา; สนฺโต วา ธมฺมา สุนฺทรา อุตฺตมาติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
สตฺตกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
อฏฺกวารวณฺณนา
๓๒๘. อฏฺเกสุ ¶ ¶ – อฏฺานิสํเสติ ‘‘น มยํ อิมินา ภิกฺขุนา สทฺธึ อุโปสถํ กริสฺสาม, วินา อิมินา ภิกฺขุนา อุโปสถํ กริสฺสาม, น มยํ อิมินา ภิกฺขุนา สทฺธึ ปวาเรสฺสาม, สงฺฆกมฺมํ กริสฺสาม, อาสเน นิสีทิสฺสาม, ยาคุปาเน นิสีทิสฺสาม, ภตฺตคฺเค นิสีทิสฺสาม, เอกจฺฉนฺเน วสิสฺสาม, ยถาวุฑฺฒํ อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ อฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ กริสฺสาม, วินา อิมินา ภิกฺขุนา กริสฺสามา’’ติ เอวํ โกสมฺพกกฺขนฺธเก วุตฺเต อานิสํเส. ทุติยอฏฺเกปิ เอเสว นโย, ตมฺปิ หิ เอวเมว โกสมฺพกกฺขนฺธเก วุตฺตํ.
อฏฺ ยาวตติยกาติ ภิกฺขูนํ เตรสเก จตฺตาโร, ภิกฺขุนีนํ สตฺตรสเก ภิกฺขูหิ อสาธารณา จตฺตาโรติ อฏฺ. อฏฺหากาเรหิ กุลานิ ทูเสตีติ กุลานิ ทูเสติ ปุปฺเผน วา ผเลน วา จุณฺเณน วา มตฺติกาย วา ทนฺตกฏฺเน วา เวฬุยา วา เวชฺชิกาย วา ชงฺฆเปสนิเกน วาติ อิเมหิ อฏฺหิ. อฏฺ มาติกา จีวรกฺขนฺธเก, อปรา อฏฺ กถินกฺขนฺธเก วุตฺตา. อฏฺหิ อสทฺธมฺเมหีติ ลาเภน อลาเภน ยเสน อยเสน สกฺกาเรน อสกฺกาเรน ปาปิจฺฉตาย ปาปมิตฺตตาย. อฏฺ โลกธมฺมา นาม ลาเภ สาราโค, อลาเภ ปฏิวิโรโธ; เอวํ ยเส อยเส, ปสํสาย นินฺทาย, สุเข สาราโค, ทุกฺเข ปฏิวิโรโธติ. อฏฺงฺคิโก มุสาวาโทติ ‘‘วินิธาย สฺ’’นฺติ ¶ อิมินา สทฺธึ ปาฬิยํ อาคเตหิ สตฺตหีติ อฏฺหิ องฺเคหิ อฏฺงฺคิโก.
อฏฺ อุโปสถงฺคานีติ –
‘‘ปาณํ น หเน น จาทินฺนมาทิเย,
มุสา น ภาเส น จ มชฺชโป สิยา;
อพฺรหฺมจริยา วิรเมยฺย เมถุนา,
รตฺตึ น ภฺุเชยฺย วิกาลโภชนํ.
‘‘มาลํ น ธาเร น จ คนฺธมาจเร,
มฺเจ ฉมายํว สเยถ สนฺถเต;
เอตฺหิ ¶ อฏฺงฺคิกมาหุโปสถํ,
พุทฺเธน ทุกฺขนฺตคุนา ปกาสิต’’นฺติ. (อ. นิ. ๓.๗๑);
เอวํ ¶ วุตฺตานิ อฏฺ. อฏฺ ทูเตยฺยงฺคานีติ ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โสตา จ โหติ สาเวตา จา’’ติอาทินา นเยน สงฺฆเภทเก วุตฺตานิ. ติตฺถิยวตฺตานิ มหาขนฺธเก นิทฺทิฏฺานิ. อนติริตฺตา จ อติริตฺตา จ ปวารณาสิกฺขาปเท นิทฺทิฏฺา. อฏฺนฺนํ ปจฺจุฏฺาตพฺพนฺติ ภตฺตคฺเค วุฑฺฒภิกฺขุนีนํ, อาสนมฺปิ ตาสํเยว ทาตพฺพํ. อุปาสิกาติ วิสาขา. อฏฺานิสํสา วินยธเรติ ปฺจเก วุตฺเตสุ ปฺจสุ ‘‘ตสฺสาเธยฺโย อุโปสโถ, ปวารณา, สงฺฆกมฺม’’นฺติ อิเม ตโย ปกฺขิปิตฺวา อฏฺ เวทิตพฺพา. อฏฺ ปรมานีติ ปุพฺเพ วุตฺตปรมาเนว อฏฺกวเสน โยเชตฺวา เวทิตพฺพานิ. อฏฺสุ ธมฺเมสุ สมฺมา วตฺติตพฺพนฺติ ‘‘น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อุโปสโถ เปตพฺโพ, น ปวารณา เปตพฺพา’’ติอาทินา นเยน สมถกฺขนฺธเก นิทฺทิฏฺเสุ อฏฺสุ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
อฏฺกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
นวกวารวณฺณนา
๓๒๙. นวเกสุ – นว อาฆาตวตฺถูนีติ ‘‘อนตฺถํ เม อจรี’’ติอาทีนิ นว. นว อาฆาตปฏิวินยาติ ‘‘อนตฺถํ เม อจริ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภาติ อาฆาตํ ปฏิวิเนตี’’ติอาทีนิ นว. นว วินีตวตฺถูนีติ นวหิ อาฆาตวตฺถูหิ อารติ วิรติ ปฏิวิรติ เสตุฆาโต. นวหิ สงฺโฆ ภิชฺชตีติ ‘‘นวนฺนํ วา, อุปาลิ, อติเรกนวนฺนํ วา สงฺฆราชิ เจว โหติ สงฺฆเภโท จา’’ติ. นว ปรมานีติ ปุพฺเพ วุตฺตปรมาเนว นวกวเสน โยเชตฺวา เวทิตพฺพานิ. นว ตณฺหามูลกา นาม ตณฺหํ ปฏิจฺจ ปริเยสนา, ปริเยสนํ ปฏิจฺจ ลาโภ, ลาภํ ปฏิจฺจ วินิจฺฉโย, วินิจฺฉยํ ปฏิจฺจ ฉนฺทราโค, ฉนฺทราคํ ¶ ปฏิจฺจ อชฺโฌสานํ, อชฺโฌสานํ ปฏิจฺจ ปริคฺคโห, ปริคฺคหํ ปฏิจฺจ มจฺฉริยํ, มจฺฉริยํ ปฏิจฺจ อารกฺขา, อารกฺขาธิกรณํ ทณฺฑาทานสตฺถาทานกลหวิคฺคหวิวาทตุวํตุวํเปสฺุมุสาวาทา. นว วิธมานาติ ‘‘เสยฺยสฺส เสยฺโยหมสฺมี’’ติมานาทโย. นว จีวรานีติ ติจีวรนฺติ วา วสฺสิกสาฏิกาติ วาติอาทินา นเยน วุตฺตานิ. น วิกปฺเปตพฺพานีติ อธิฏฺิตกาลโต ปฏฺาย น วิกปฺเปตพฺพานิ ¶ . นว อธมฺมิกานิ ทานานีติ สงฺฆสฺส ปริณตํ อฺสงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา ปริณาเมติ, เจติยสฺส ปริณตํ อฺเจติยสฺส วา สงฺฆสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา ปริณาเมติ ¶ , ปุคฺคลสฺส ปริณตํ อฺปุคฺคลสฺส วา สงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา ปริณาเมตีติ เอวํ วุตฺตานิ.
นว ปฏิคฺคหปริโภคาติ เอเตสํเยว ทานานํ ปฏิคฺคหา จ ปริโภคา จ. ตีณิ ธมฺมิกานิ ทานานีติ สงฺฆสฺส นินฺนํ สงฺฆสฺเสว เทติ, เจติยสฺส นินฺนํ เจติยสฺเสว, ปุคฺคลสฺส นินฺนํ ปุคฺคลสฺเสว เทตีติ อิมานิ ตีณิ. ปฏิคฺคหปฏิโภคาปิ เตสํเยว ปฏิคฺคหา จ ปริโภคา จ. นว อธมฺมิกา สฺตฺติโยติ อธมฺมวาทิปุคฺคโล, อธมฺมวาทิสมฺพหุลา, อธมฺมวาทิสงฺโฆติ เอวํ ตีณิ ติกานิ สมถกฺขนฺธเก นิทฺทิฏฺานิ. ธมฺมิกา สฺตฺติโยปิ ธมฺมวาที ปุคฺคโลติอาทินา นเยน ตตฺเถว นิทฺทิฏฺา. อธมฺมกมฺเม ทฺเว นวกานิ โอวาทวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปทนิทฺเทเส ปาจิตฺติยวเสน วุตฺตานิ. ธมฺมกมฺเม ทฺเว นวกานิ ตตฺเถว ทุกฺกฏวเสน วุตฺตานิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
นวกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทสกวารวณฺณนา
๓๓๐. ทสเกสุ – ทส อาฆาตวตฺถูนีติ นวเกสุ วุตฺตานิ นว ‘‘อฏฺาเน วา ปน อาฆาโต ชายตี’’ติ อิมินา สทฺธึ ทส โหนฺติ. อาฆาตปฏิวินยาปิ ตตฺถ วุตฺตา นว ‘‘อฏฺาเน วา ปน อาฆาโต ชายติ, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภาติ อาฆาตํ ปฏิวิเนตี’’ติ อิมินา สทฺธึ ทส เวทิตพฺพา. ทส วินีตวตฺถูนีติ ทสหิ อาฆาตวตฺถูหิ วิรติสงฺขาตานิ ทส. ทสวตฺถุกา มิจฺฉาทิฏฺีติ ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิวเสน เวทิตพฺพา, ‘‘อตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิวเสน สมฺมาทิฏฺิ, ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติอาทินา วเสน ปน อนฺตคฺคาหิกา ทิฏฺิ เวทิตพฺพา. ทส มิจฺฉตฺตาติ มิจฺฉาทิฏฺิอาทโย ¶ มิจฺฉาวิมุตฺติปริโยสานา, วิปรีตา สมฺมตฺตา. สลากคฺคาหา สมถกฺขนฺธเก นิทฺทิฏฺา.
ทสหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตพฺโพติ ‘‘สีลวา โหตี’’ติอาทินา นเยน ¶ สมถกฺขนฺธเก วุตฺเตหิ ทสหิ. ทส อาทีนวา ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน ราชสิกฺขาปเท นิทฺทิฏฺา. ทส ทานวตฺถูนีติ อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลา คนฺธํ วิเลปนํ เสยฺยาวสถํ ปทีเปยฺยํ. ทส รตนานีติ มุตฺตามณิเวฬุริยาทีนิ. ทส ปํสุกูลานีติ โสสานิกํ, ปาปณิกํ ¶ , อุนฺทูรกฺขายิตํ, อุปจิกกฺขายิตํ, อคฺคิทฑฺฒํ, โคขายิตํ, อชิกกฺขายิตํ, ถูปจีวรํ, อาภิเสกิยํ, ภตปฏิยาภตนฺติ เอเตสุ อุปสมฺปนฺเนน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ. ทส จีวรธารณาติ ‘‘สพฺพนีลกานิ จีวรานิ ธาเรนฺตี’’ติ วุตฺตวเสน ทสาติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘นวสุ กปฺปิยจีวเรสุ อุทกสาฏิกํ วา สงฺกจฺจิกํ วา ปกฺขิปิตฺวา ทสา’’ติ วุตฺตํ.
อวนฺทนียปุคฺคลา เสนาสนกฺขนฺธเก นิทฺทิฏฺา. ทส อกฺโกสวตฺถูนิ โอมสวาเท นิทฺทิฏฺานิ. ทส อาการา เปสฺุสิกฺขาปเท นิทฺทิฏฺา. ทส เสนาสนานีติ มฺโจ, ปีํ, ภิสิ, พิมฺโพหนํ, จิมิลิกา, อุตฺตรตฺถรณํ, ตฏฺฏิกา, จมฺมขณฺโฑ, นิสีทนํ, ติณสนฺถาโร, ปณฺณสนฺถาโรติ. ทส วรานิ ยาจึสูติ วิสาขา อฏฺ, สุทฺโธทนมหาราชา เอกํ, ชีวโก เอกํ. ยาคุอานิสํสา จ อกปฺปิยมํสานิ จ เภสชฺชกฺขนฺธเก นิทฺทิฏฺานิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ทสกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
เอกาทสกวารวณฺณนา
๓๓๑. เอกาทสเกสุ – เอกาทสาติ ปณฺฑกาทโย เอกาทส. เอกาทส ปาทุกาติ ทส รตนมยา, เอกา กฏฺปาทุกา. ติณปาทุกมฺุชปาทุกปพฺพชปาทุกาทโย ปน กฏฺปาทุกสงฺคหเมว คจฺฉนฺติ. เอกาทส ปตฺตาติ ตมฺพโลหมเยน วา ทารุมเยน วา สทฺธึ ทส รตนมยา. เอกาทส จีวรานีติ สพฺพนีลกาทีนิ เอกาทส. ยาวตติยกาติ อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา ภิกฺขุนี, สงฺฆาทิเสสา อฏฺ, อริฏฺโ, จณฺฑกาฬีติ. เอกาทส อนฺตรายิกา นาม ‘‘นสิ อนิมิตฺตา’’ติ อาทโย. เอกาทส ¶ จีวรานิ อธิฏฺาตพฺพานีติ ติจีวรํ, วสฺสิกสาฏิกา, นิสีทนํ, ปจฺจตฺถรณํ, กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ, มุขปฺุฉนโจฬํ, ปริกฺขารโจฬํ, อุทกสาฏิกา, สงฺกจฺจิกาติ. น วิกปฺเปตพฺพานีติ เอตาเนว อธิฏฺิตกาลโต ปฏฺาย น วิกปฺเปตพฺพานิ. คณฺิกา ¶ จ วิธา จ สุตฺตมเยน สทฺธึ เอกาทส โหนฺติ, เต สพฺเพ ขุทฺทกกฺขนฺธเก นิทฺทิฏฺา. ปถวิโย ปถวิสิกฺขาปเท นิทฺทิฏฺา. นิสฺสยปฏิปสฺสทฺธิโย อุปชฺฌายมฺหา ปฺจ, อาจริยมฺหา ฉ; เอวํ เอกาทส. อวนฺทิยปุคฺคลา นคฺเคน สทฺธึ เอกาทส, เต สพฺเพ เสนาสนกฺขนฺธเก นิทฺทิฏฺา ¶ . เอกาทส ปรมานิ ปุพฺเพ วุตฺเตสุ จุทฺทสสุ เอกาทสกวเสน โยเชตฺวา เวทิตพฺพานิ. เอกาทส วรานีติ มหาปชาปติยา ยาจิตวเรน สทฺธึ ปุพฺเพ วุตฺตานิ ทส. เอกาทส สีมาโทสาติ ‘‘อติขุทฺทกํ สีมํ สมฺมนฺนนฺตี’’ติอาทินา นเยน กมฺมวคฺเค อาคมิสฺสนฺติ.
อกฺโกสกปริภาสเก ปุคฺคเล เอกาทสาทีนวา นาม ‘‘โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺโกสโก ปริภาสโก อริยูปวาที, สพฺรหฺมจารีนํ อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ โส เอกาทสนฺนํ พฺยสนานํ อฺตรํ พฺยสนํ น นิคจฺเฉยฺย. กตเมสํ เอกาทสนฺนํ? อนธิคตํ นาธิคจฺฉติ, อธิคตา ปริหายติ, สทฺธมฺมสฺส น โวทายนฺติ, สทฺธมฺเมสุ วา อธิมานิโก โหติ, อนภิรโต วา พฺรหฺมจริยํ จรติ, อฺตรํ วา สํกิลิฏฺํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, สิกฺขํ วา ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ, คาฬฺหํ วา โรคาตงฺกํ ผุสติ, อุมฺมาทํ วา ปาปุณาติ จิตฺตกฺเขปํ วา, สมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, กายสฺส เภทา ปรมฺมรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชตี’’ติ (อ. นิ. ๑๑.๖). เอตฺถ จ สทฺธมฺโมติ พุทฺธวจนํ อธิปฺเปตํ.
อาเสวิตายาติ อาทิโต ปฏฺาย เสวิตาย. ภาวิตายาติ นิปฺผาทิตาย วฑฺฒิตาย
วา. พหุลีกตายาติ ปุนปฺปุนํ กตาย. ยานีกตายาติ สุยุตฺตยานสทิสาย กตาย. วตฺถุกตายาติ ยถา ปติฏฺา โหติ; เอวํ กตาย. อนุฏฺิตายาติ อนุ อนุ ปวตฺติตาย; นิจฺจาธิฏฺิตายาติ อตฺโถ. ปริจิตายาติ สมนฺตโต จิตาย; สพฺพทิสาสุ จิตาย อาจิตาย ภาวิตาย อภิวฑฺฒิตายาติ อตฺโถ. สุสมารทฺธายาติ สุฏฺุ สมารทฺธาย; วสีภาวํ อุปนีตายาติ อตฺโถ. น ปาปกํ สุปินนฺติ ปาปกเมว น ปสฺสติ, ภทฺรกํ ปน วุฑฺฒิการณภูตํ ¶ ปสฺสติ. เทวตา รกฺขนฺตีติ อารกฺขเทวตา ธมฺมิกํ รกฺขํ ปจฺจุปฏฺาเปนฺติ. ตุวฏํ จิตฺตํ สมาธิยตีติ ขิปฺปํ จิตฺตํ สมาธิยติ. อุตฺตริ อปฺปฏิวิชฺฌนฺโตติ เมตฺตาฌานโต อุตฺตรึ อรหตฺตํ อสจฺฉิกโรนฺโต เสโข วา ปุถุชฺชโน วา หุตฺวา กาลํ กโรนฺโต พฺรหฺมโลกูปโค โหติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
เอกาทสกวารวณฺณนา ปริโยสานา
เอกุตฺตริกวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุโปสถาทิปุจฺฉาวิสฺสชฺชนา
๓๓๒. ‘‘อุโปสถกมฺมสฺส ¶ ¶ โก อาที’’ติอาทีนํ ปุจฺฉานํ วิสฺสชฺชเน สามคฺคี อาทีติ ‘‘อุโปสถํ กริสฺสามา’’ติ สีมํ โสเธตฺวา ฉนฺทปาริสุทฺธึ อาหริตฺวา สนฺนิปติตานํ กายสามคฺคี อาทิ. กิริยา มชฺเฌติ ปุพฺพกิจฺจํ กตฺวา ปาติโมกฺขโอสารณกิริยา มชฺเฌ. นิฏฺานํ ปริโยสานนฺติ ‘‘ตตฺถ สพฺเพเหว สมคฺเคหิ สมฺโมทมาเนหิ อวิวทมาเนหิ สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ อิทํ ปาติโมกฺขนิฏฺานํ ปริโยสานํ. ปวารณากมฺมสฺส สามคฺคี อาทีติ ‘‘ปวารณํ กริสฺสามา’’ติ สีมํ โสเธตฺวา ฉนฺทปวารณํ อาหริตฺวา สนฺนิปติตานํ กายสามคฺคี อาทิ. กิริยา มชฺเฌติ ปวารณาตฺติ จ ปวารณากถา จ มชฺเฌ, สงฺฆนวกสฺส ‘‘ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสามี’’ติ วจนํ ปริโยสานํ. ตชฺชนียกมฺมาทีสุ วตฺถุ นาม เยน วตฺถุนา กมฺมารโห โหติ, ตํ วตฺถุ. ปุคฺคโลติ เยน ตํ วตฺถุ กตํ, โส ปุคฺคโล. กมฺมวาจา ปริโยสานนฺติ ‘‘กตํ สงฺเฆน อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตชฺชนียกมฺมํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ เอวํ ตสฺสา ตสฺสา กมฺมวาจาย อวสานวจนํ ปริโยสานํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ
อุโปสถาทิปุจฺฉาวิสฺสชฺชนาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อตฺถวสปกรณาวณฺณนา
๓๓๔. อตฺถวสปกรเณ – ทส อตฺถวเสติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ ตํ ปมปาราชิกวณฺณนายเมว วุตฺตํ. ยํ สงฺฆสุฏฺุ ตํ สงฺฆผาสูติอาทีสุ อุปริมํ อุปริมํ ปทํ เหฏฺิมสฺส เหฏฺิมสฺส ปทสฺส อตฺโถ.
อตฺถสตํ ¶ ธมฺมสตนฺติอาทิมฺหิ ปน ยเทตํ ทสสุ ปเทสุ เอเกกํ มูลํ กตฺวา ทสกฺขตฺตุํ โยชนาย ปทสตํ ¶ วุตฺตํ. ตตฺถ ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส ปทสฺส วเสน อตฺถสตํ ปุริมสฺส ปุริมสฺส วเสน ธมฺมสตํ เวทิตพฺพํ. อถ วา เย ทส อตฺถวเส ปฏิจฺจ ตถาคเตน สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, เย ปุพฺเพ ปมปาราชิกวณฺณนายํ ‘‘ตตฺถ สงฺฆสุฏฺุตา นาม สงฺฆสฺส สุฏฺุภาโว ‘สุฏฺุ เทวา’ติ อาคตฏฺาเน วิย ‘สุฏฺุ ภนฺเต’ติ วจนสมฺปฏิจฺฉนภาโว, โย จ ตถาคตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉติ, ตสฺส ตํ ทีฆรตฺตํ ¶ หิตาย สุขาย โหติ, ตสฺมา สงฺฆสฺส ‘สุฏฺุ ภนฺเต’ติ มม วจนสมฺปฏิจฺฉนตฺถํ ปฺเปสฺสามิ อสมฺปฏิจฺฉเน อาทีนวํ สมฺปฏิจฺฉเน จ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา น พลกฺกาเรน อภิภวิตฺวาติ เอตมตฺถํ อาวิกโรนฺโต อาห – สงฺฆสุฏฺุตายา’’ติ เอวมาทินา นเยน วณฺณิตา, เตสํ อิธ ทสกฺขตฺตุํ อาคตตฺตา อตฺถสตํ ตทตฺถโชตกานฺจ ปทานํ วเสน ธมฺมสตํ เวทิตพฺพํ. อิทานิ อตฺถโชตกานํ นิรุตฺตีนํ วเสน นิรุตฺติสตํ, ธมฺมภูตานํ นิรุตฺตีนํ วเสน นิรุตฺติสตนฺติ ทฺเว นิรุตฺติสตานิ, อตฺถสเต าณสตํ, ธมฺมสเต าณสตํ, ทฺวีสุ นิรุตฺติสเตสุ ทฺเว าณสตานีติ จตฺตาริ าณสตานิ จ เวทิตพฺพานิ.
‘‘อตฺถสตํ ธมฺมสตํ, ทฺเว นิรุตฺติสตานิ;
จตฺตาริ าณสตานิ, อตฺถวเส ปกรเณ’’ติ.
อิติ หิ ยํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตนฺติ.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย
มหาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
ปมคาถาสงฺคณิกํ
สตฺตนคเรสุ ปฺตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๓๕. เอกํสํ ¶ ¶ จีวรํ กตฺวาติ เอกสฺมึ อํสกูเฏ จีวรํ กตฺวา; สาธุกํ อุตฺตราสงฺคํ กตฺวาติ อตฺโถ. ปคฺคณฺหิตฺวาน อฺชลินฺติ ทสนขสโมธานสมุชฺชลํ อฺชลึ อุกฺขิปิตฺวา. อาสีสมานรูโป วาติ ปจฺจาสีสมานรูโป วิย. กิสฺส ตฺวํ อิธ มาคโตติ เกน การเณน กิมตฺถํ ปตฺถยมาโน ตฺวํ อิธ อาคโต. โก เอวมาห? สมฺมาสมฺพุทฺโธ. กํ เอวมาห? อายสฺมนฺตํ อุปาลึ. อิติ อายสฺมา อุปาลิ ภควนฺตํ ¶ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ทฺวีสุ วินเยสู’’ติ อิมํ คาถํ ปุจฺฉิ. อถสฺส ภควา ‘‘ภทฺทโก เต อุมฺมงฺโค’’ติอาทีนิ วตฺวา ตํ วิสฺสชฺเชสิ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อิติ อิเม สพฺพปฺเห พุทฺธกาเล อุปาลิตฺเถโร ปุจฺฉิ. ภควา พฺยากาสิ. สงฺคีติกาเล ปน มหากสฺสปตฺเถโร ปุจฺฉิ. อุปาลิตฺเถโร พฺยากาสิ.
ตตฺถ ภทฺทโก เต อุมฺมงฺโคติ ภทฺทกา เต ปฺหา; ปฺหา หิ อวิชฺชนฺธการโต อุมฺมุชฺชิตฺวา ิตตฺตา ‘‘อุมฺมงฺโค’’ติ วุจฺจติ. ตคฺฆาติ การณตฺเถ นิปาโต. ยสฺมา มํ ปุจฺฉสิ, ตสฺมา เต อหมกฺขิสฺสนฺติ อตฺโถ. สมฺปฏิจฺฉนตฺเถ วา, ‘‘ตคฺฆา’’ติ หิ อิมินา วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อกฺขิสฺสนฺติ อาห. ‘‘สมาทหิตฺวา วิสิพฺเพนฺติ, สามิเสน, สสิตฺถก’’นฺติ อิมานิ ตีณิเยว สิกฺขาปทานิ ภคฺเคสุ ปฺตฺตานิ.
จตุวิปตฺติวณฺณนา
๓๓๖. ยํ ตํ ปุจฺฉิมฺหาติ ยํ ตฺวํ อปุจฺฉิมฺหา. อกิตฺตยีติ อภาสิ. โนติ อมฺหากํ ¶ . ตํ ตํ พฺยากตนฺติ ยํ ยํ ปุฏฺํ, ตํ ตเทว พฺยากตํ. อนฺถาติ อฺถา อกตฺวา พฺยากตํ.
เย ทุฏฺุลฺลา สา สีลวิปตฺตีติ เอตฺถ กิฺจาปิ สีลวิปตฺติ นาม ปฺเห นตฺถิ, อถ โข ทุฏฺุลฺลํ วิสฺสชฺเชตุกามตาเยตํ วุตฺตํ. จตูสุ หิ วิปตฺตีสุ ทุฏฺุลฺลํ เอกาย วิปตฺติยา สงฺคหิตํ, อทุฏฺุลฺลํ ตีหิ วิปตฺตีหิ สงฺคหิตํ. ตสฺมา ‘‘เย ทุฏฺุลฺลา สา สีลวิปตฺตี’’ติ วตฺวา ตเมว วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘ปาราชิกํ สงฺฆาทิเสโส สีลวิปตฺตีติ วุจฺจตี’’ติ อาห.
อิทานิ ¶ ติสฺสนฺนํ วิปตฺตีนํ วเสน อทุฏฺุลฺลํ ทสฺเสตุํ ‘‘ถุลฺลจฺจย’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ โย จายํ, อกฺโกสติ หสาธิปฺปาโยติ อิทํ ทุพฺภาสิตสฺส วตฺถุทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.
อพฺภาจิกฺขนฺตีติ ‘‘ตถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามี’’ติ วทนฺตา อพฺภาจิกฺขนฺติ.
อยํ สา อาชีววิปตฺติสมฺมตาติ อยํ ฉหิ สิกฺขาปเทหิ สงฺคหิตา อาชีววิปตฺติ นาม จตุตฺถา วิปตฺติ สมฺมตาติ เอตฺตาวตา ‘‘อทุฏฺุลฺล’’นฺติ อิทํ วิสฺสชฺชิตํ โหติ.
อิทานิ ‘‘เย จ ยาวตติยกา’’ติ ปฺหํ วิสฺสชฺเชตุํ ‘‘เอกาทสา’’ติอาทิมาห.
เฉทนกาทิวณฺณนา
๓๓๗. ยสฺมา ปน ‘‘เย จ ยาวตติยกา’’ติ อยํ ปฺโห ‘‘เอกาทส ยาวตติยกา’’ติ เอวํ สงฺขาวเสน วิสฺสชฺชิโต, ตสฺมา สงฺขานุสนฺธิวเสเนว ‘‘กติ เฉทนกานี’’ติอาทิเก อฺเ อนฺตราปฺเห ปุจฺฉิ. เตสํ วิสฺสชฺชนตฺถํ ‘‘ฉ เฉทนกานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘เอกํ ¶ เภทนกํ, เอกํ อุทฺทาลนกํ, โสทส ชานนฺติ ปฺตฺตา’’ติ อิทเมว อปุพฺพํ. เสสํ มหาวคฺเค วิภตฺตเมว. ยํ ปเนตํ อปุพฺพํ ตตฺถ เอกํ เภทนกนฺติ สูจิฆรํ. เอกํ อุทฺทาลนกนฺติ ตูโลนทฺธมฺจปีํ. โสทสาติ โสฬส. ชานนฺติ ปฺตฺตาติ ‘‘ชาน’’นฺติ เอวํ วตฺวา ปฺตฺตา, เต เอวํ เวทิตพฺพา – ‘‘ชานํ สงฺฆิกํ ลาภํ ปริณตํ ¶ อตฺตโน ปริณาเมยฺย, ชานํ ปุพฺพุปคตํ ภิกฺขุํ อนุปขชฺช นิสชฺชํ กปฺเปยฺย, ชานํ สปฺปาณกํ อุทกํ ติณํ วา มตฺติกํ วา สิฺเจยฺย วา สิฺจาเปยฺย วา, ชานํ ภิกฺขุนิปริปาจิตํ ปิณฺฑปาตํ ภฺุเชยฺย, ชานํ อาสาทนาเปกฺโข ภุตฺตสฺมึ ปาจิตฺติยํ, ชานํ สปฺปาณกํ อุทกํ ปริภฺุเชยฺย, ชานํ ยถาธมฺมํ นิหตาธิกรณํ, ชานํ ทุฏฺุลฺลํ อาปตฺตึ ปฏิจฺฉาเทยฺย, ชานํ อูนวีสติวสฺสํ ปุคฺคลํ อุปสมฺปาเทยฺย, ชานํ เถยฺยสตฺเถน สทฺธึ, ชานํ ตถาวาทินา ภิกฺขุนา อกตานุธมฺเมน, ชานํ ตถานาสิตํ สมณุทฺเทสํ, ชานํ สงฺฆิกํ ลาภํ ปริณตํ ปุคฺคลสฺส ปริณาเมยฺย, ชานํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺนํ ภิกฺขุนึ เนว อตฺตนา ปฏิโจเทยฺย, ชานํ โจรึ วชฺฌํ วิทิตํ อนปโลเกตฺวา, ชานํ สภิกฺขุกํ อารามํ อนาปุจฺฉา ปวิเสยฺยา’’ติ.
อสาธารณาทิวณฺณนา
๓๓๘. อิทานิ ¶ ‘‘สาธารณํ อสาธารณ’’นฺติ อิมํ ปุริมปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺโต ‘‘วีสํ ทฺเว สตานี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ภิกฺขุนีหิ อสาธารเณสุ ฉ สงฺฆาทิเสสาติ วิสฺสฏฺิ, กายสํสคฺโค, ทุฏฺุลฺลํ, อตฺตกาม, กุฏิ, วิหาโรติ. ทฺเว อนิยเตหิ อฏฺาติ ทฺวีหิ อนิยเตหิ สทฺธึ อฏฺ อิเม.
นิสฺสคฺคิยานิ ทฺวาทสาติ –
โธวนฺจ ปฏิคฺคโห, โกเสยฺยสุทฺธทฺเวภาคา;
ฉพฺพสฺสานิ นิสีทนํ, ทฺเว โลมา ปโม ปตฺโต;
วสฺสิกา อารฺเกน จาติ – อิเม ทฺวาทส.
ทฺเววีสติ ขุทฺทกาติ –
สกโล ภิกฺขุนีวคฺโค, ปรมฺปรฺจ โภชนํ;
อนติริตฺตํ อภิหฏํ, ปณีตฺจ อเจลกํ;
อูนํ ทุฏฺุลฺลฉาทนํ.
มาตุคาเมน ¶ สทฺธิฺจ, ยา จ อนิกฺขนฺตราชเก;
สนฺตํ ¶ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา, วิกาเล คามปฺปเวสนา.
นิสีทเน จ ยา สิกฺขา, วสฺสิกา ยา จ สาฏิกา;
ทฺวาวีสติ อิมา สิกฺขา, ขุทฺทเกสุ ปกาสิตาติ.
ภิกฺขูหิ อสาธารเณสุปิ สงฺฆมฺหา ทส นิสฺสเรติ ‘‘สงฺฆมฺหา นิสฺสารียตี’’ติ เอวํ วิภงฺเค วุตฺตา, มาติกายํ ปน ‘‘นิสฺสารณียํ สงฺฆาทิเสส’’นฺติ เอวํ อาคตา ทส. นิสฺสคฺคิยานิ ทฺวาทสาติ ภิกฺขุนิวิภงฺเค วิภตฺตานิ นิสฺสคฺคิยาเนว. ขุทฺทกาปิ ตตฺถ วิภตฺตขุทฺทกา เอว. ตถา จตฺตาโร ปาฏิเทสนียา, อิติ สตฺเจว ตึสฺจ สิกฺขา วิภงฺเค ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูหิ อสาธารณา. เสสํ อิมสฺมึ สาธารณาสาธารณวิสฺสชฺชเน อุตฺตานเมว.
อิทานิ วิปตฺติโย จ ‘‘เยหิ สมเถหิ สมฺมนฺตี’’ติ อิทํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺโต อฏฺเว ปาราชิกาติอาทิมาห. ตตฺถ ทุราสทาติ อิมินา เตสํ สปฺปฏิภยตํ ¶ ทสฺเสติ. กณฺหสปฺปาทโย วิย หิ เอเต ทุราสทา ทุรูปคมนา ทุราสชฺชนา, อาปชฺชิยมานา มูลจฺเฉทาย สํวตฺตนฺติ. ตาลวตฺถุสมูปมาติ สพฺพํ ตาลํ อุทฺธริตฺวา ตาลสฺส วตฺถุมตฺตกรเณน สมูปมา. ยถา วตฺถุมตฺตกโต ตาโล น ปุน ปากติโก โหติ, เอวํ น ปุน ปากติกา โหนฺติ.
เอวํ สาธารณํ อุปมํ ทสฺเสตฺวา ปุน เอเกกสฺส วุตฺตํ อุปมํ ทสฺเสนฺโต ปณฺฑุปลาโสติอาทิมาห. อวิรุฬฺหี ภวนฺติ เตติ ยถา เอเต ปณฺฑุปลาสาทโย ปุนหริตาทิภาเวน อวิรุฬฺหิธมฺมา โหนฺติ; เอวํ ปาราชิกาปิ ปุน ปกติสีลาภาเวน อวิรุฬฺหิธมฺมา โหนฺตีติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา ‘‘วิปตฺติโย จ เยหิ สมเถหิ สมฺมนฺตี’’ติ เอตฺถ อิมา ตาว อฏฺ ปาราชิกวิปตฺติโย เกหิจิ สมเถหิ น สมฺมนฺตีติ เอวํ ทสฺสิตํ โหติ. ยา ปน วิปตฺติโย สมฺมนฺติ, ตา ทสฺเสตุํ เตวีสติ สงฺฆาทิเสสาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตีหิ สมเถหีติ สพฺพสงฺคาหิกวจนเมตํ. สงฺฆาทิเสสา หิ ทฺวีหิ สมเถหิ สมฺมนฺติ, น ติณวตฺถารเกน. เสสา ตีหิปิ สมฺมนฺติ.
ทฺเว อุโปสถา ทฺเว ปวารณาติ อิทํ ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ วเสน วุตฺตํ. วิภตฺติมตฺตทสฺสเนเนว ¶ เจตํ วุตฺตํ, น สมเถหิ วูปสมนวเสน. ภิกฺขุอุโปสโถ, ภิกฺขุนิอุโปสโถ, ภิกฺขุปวารณา, ภิกฺขุนิปวารณาติ อิมาปิ หิ จตสฺโส วิภตฺติโย ¶ ; วิภชนานีติ อตฺโถ. จตฺตาริ กมฺมานีติ อธมฺเมนวคฺคาทีนิ อุโปสถกมฺมานิ. ปฺเจว อุทฺเทสา จตุโร ภวนฺติ อนฺถาติ ภิกฺขูนํ ปฺจ อุทฺเทสา ภิกฺขุนีนํ จตุโร ภวนฺติ, อฺถา น ภวนฺติ; อิมา อปราปิ วิภตฺติโย. อาปตฺติกฺขนฺธา จ ภวนฺติ สตฺต, อธิกรณานิ จตฺตารีติ อิมา ปน วิภตฺติโย สมเถหิ สมฺมนฺติ, ตสฺมา สตฺตหิ สมเถหีติอาทิมาห. อถ วา ‘‘ทฺเว อุโปสถา ทฺเว ปวารณา จตฺตาริ กมฺมานิ ปฺเจว อุทฺเทสา จตุโร ภวนฺติ, อนฺถา’’ติ อิมาปิ จตสฺโส วิภตฺติโย นิสฺสาย ‘‘นสฺสนฺเตเต วินสฺสนฺเตเต’’ติอาทินา นเยน ยา อาปตฺติโย อาปชฺชนฺติ, ตา ยสฺมา วุตฺตปฺปกาเรเหว สมเถหิ สมฺมนฺติ, ตสฺมา ตํมูลกานํ อาปตฺตีนํ สมถทสฺสนตฺถมฺปิ ตา วิภตฺติโย วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. กิจฺจํ เอเกนาติ กิจฺจาธิกรณํ เอเกน สมเถน สมฺมติ.
ปาราชิกาทิอาปตฺติวณฺณนา
๓๓๙. เอวํ ¶ ปุจฺฉานุกฺกเมน สพฺพปฺเห วิสฺสชฺเชตฺวา อิทานิ ‘‘อาปตฺติกฺขนฺธา จ ภวนฺติ สตฺตา’’ติ เอตฺถ สงฺคหิตอาปตฺติกฺขนฺธานํ ปจฺเจกํ นิพฺพจนมตฺตํ ทสฺเสนฺโต ปาราชิกนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปาราชิกนฺติ คาถาย อยมตฺโถ – ยทิทํ ปุคฺคลาปตฺติสิกฺขาปทปาราชิเกสุ อาปตฺติปาราชิกํ นาม วุตฺตํ, ตํ อาปชฺชนฺโต ปุคฺคโล ยสฺมา ปราชิโต ปราชยมาปนฺโน สทฺธมฺมา จุโต ปรทฺโธ ภฏฺโ นิรงฺกโต จ โหติ, อนิหเต ตสฺมึ ปุคฺคเล ปุน อุโปสถปฺปวารณาทิเภโท สํวาโส นตฺถิ. เตเนตํ อิติ วุจฺจตีติ เตน การเณน เอตํ อาปตฺติปาราชิกนฺติ วุจฺจติ. อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ยสฺมา ปราชิโต โหติ เตน, ตสฺมา เอตํ ปาราชิกนฺติ วุจฺจติ.
ทุติยคาถายปิ พฺยฺชนํ อนาทิยิตฺวา อตฺถมตฺตเมว ทสฺเสตุํ สงฺโฆว เทติ ปริวาสนฺติอาทิ วุตฺตํ. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – อิมํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา วุฏฺาตุกามสฺส ยํ ตํ อาปตฺติวุฏฺานํ ตสฺส อาทิมฺหิ เจว ปริวาสทานตฺถาย อาทิโต เสเส มชฺเฌ มานตฺตทานตฺถาย มูลายปฏิกสฺสเนน วา สห มานตฺตทานตฺถาย, อวสาเน อพฺภานตฺถาย จ สงฺโฆ อิจฺฉิตพฺโพ, น ¶ เหตฺถ เอกมฺปิ กมฺมํ วินา สงฺเฆน สกฺกา กาตุนฺติ สงฺโฆ, อาทิมฺหิ เจว เสเส จ อิจฺฉิตพฺโพ อสฺสาติ สงฺฆาทิเสโส.
ตติยคาถาย อนิยโต น นิยโตติ ยสฺมา น นิยโต, ตสฺมา อนิยโต อยมาปตฺติกฺขนฺโธติ อตฺโถ. กึ การณา น นิยโตติ? อเนกํสิกตํ ¶ ปทํ, ยสฺมา อิทํ สิกฺขาปทํ อเนกํเสน กตนฺติ อตฺโถ. กถํ อเนกํเสน? ติณฺณมฺตรํ านํ, ติณฺณํ ธมฺมานํ อฺตเรน กาเรตพฺโพติ หิ ตตฺถ วุตฺตํ, ตสฺมา ‘‘อนิยโต’’ติ ปวุจฺจติ, โส อาปตฺติกฺขนฺโธ อนิยโตติ วุจฺจติ. ยถา จ ติณฺณํ อฺตรํ านํ, เอวํ ทฺวินฺนํ ธมฺมานํ อฺตรํ านํ ยตฺถ วุตฺตํ, โสปิ อนิยโต เอว.
จตุตฺถคาถาย อจฺจโย เตน สโม นตฺถีติ เทสนาคามินีสุ อจฺจเยสุ เตน สโม ถูโล อจฺจโย นตฺถิ, เตเนตํ อิติ วุจฺจติ; ถูลตฺตา อจฺจยสฺส เอตํ ถุลฺลจฺจยนฺติ วุจฺจตีติ อตฺโถ.
ปฺจมคาถาย ¶ นิสฺสชฺชิตฺวาน เทเสติ เตเนตนฺติ นิสฺสชฺชิตฺวา เทเสตพฺพโต นิสฺสคฺคิยนฺติ วุจฺจตีติ อตฺโถ.
ฉฏฺคาถาย ปาเตติ กุสลํ ธมฺมนฺติ สฺจิจฺจ อาปชฺชนฺตสฺส กุสลธมฺมสงฺขาตํ กุสลจิตฺตํ ปาเตติ, ตสฺมา ปาเตติ จิตฺตนฺติ ปาจิตฺติยํ. ยํ ปน จิตฺตํ ปาเตติ, ตํ ยสฺมา อริยมคฺคํ อปรชฺฌติ, จิตฺตสมฺโมหการณฺจ โหติ, ตสฺมา ‘‘อริยมคฺคํ อปรชฺฌติ, จิตฺตสมฺโมหนฏฺาน’’นฺติ จ วุตฺตํ.
ปาฏิเทสนียคาถาสุ ‘‘คารยฺหํ อาวุโส ธมฺมํ อาปชฺชิ’’นฺติ วุตฺตคารยฺหภาวการณทสฺสนตฺถเมว ภิกฺขุ อฺาตโก สนฺโตติอาทิ วุตฺตํ. ปฏิเทเสตพฺพโต ปน สา อาปตฺติ ปาฏิเทสนียาติ วุจฺจติ.
ทุกฺกฏคาถาย อปรทฺธํ วิรทฺธฺจ ขลิตนฺติ สพฺพเมตํ ‘‘ยฺจ ทุกฺกฏ’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตสฺส ทุกฺกฏสฺส ปริยายวจนํ. ยฺหิ ทุฏฺุ กตํ วิรูปํ วา กตํ, ตํ ทุกฺกฏํ. ตํ ปเนตํ ยถา สตฺถารา วุตฺตํ; เอวํ อกตตฺตา อปรทฺธํ, กุสลํ วิรชฺฌิตฺวา ปวตฺตตฺตา วิรทฺธํ, อริยวตฺตปฏิปทํ อนารุฬฺหตฺตา ¶ ขลิตํ. ยํ มนุสฺโส กเรติ อิทํ ปนสฺส โอปมฺมนิทสฺสนํ. ตสฺสตฺโถ – ยถา หิ ยํ โลเก มนุสฺโส อาวิ วา ยทิ วา รโห ปาปํ กโรติ, ตํ ทุกฺกฏนฺติ ปเวเทนฺติ; เอวมิทมฺปิ พุทฺธปฺปฏิกุฏฺเน ลามกภาเวน ปาปํ, ตสฺมา ทุกฺกฏนฺติ เวทิตพฺพํ.
ทุพฺภาสิตคาถาย ทุพฺภาสิตํ ทุราภฏฺนฺติ ทุฏฺุ อาภฏฺํ ภาสิตํ ลปิตนฺติ ทุราภฏฺํ. ยํ ทุราภฏฺํ, ตํ ทุพฺภาสิตนฺติ อตฺโถ. กิฺจ ภิยฺโย? สํกิลิฏฺฺจ ยํ ปทํ, สํกิลิฏฺํ ยสฺมา ตํ ปทํ โหตีติ อตฺโถ. ตถา ยฺจ วิฺู ครหนฺติ, ยสฺมา จ นํ ¶ วิฺู ครหนฺตีติ อตฺโถ. เตเนตํ อิติ วุจฺจตีติ เตน สํกิลิฏฺภาเวน จ วิฺุครหเนนาปิ จ เอตํ อิติ วุจฺจติ; ‘‘ทุพฺภาสิต’’นฺติ เอวํ วุจฺจตีติ อตฺโถ.
เสขิยคาถาย ‘‘อาทิ เจตํ จรณฺจา’’ติอาทินา นเยน เสขสฺส สนฺตกภาวํ ทีเปติ. ตสฺมา เสขสฺส อิทํ เสขิยนฺติ อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ. อิทํ ‘‘ครุกลหุกฺจาปี’’ติอาทิปฺเหหิ อสงฺคหิตสฺส ‘‘หนฺท วากฺยํ สุโณม เต’’ติ อิมินา ปน อายาจนวจเนน สงฺคหิตสฺส อตฺถสฺส ทีปนตฺถํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ฉนฺนมติวสฺสตีติอาทิมฺหิปิ ¶ เอเสว นโย. ตตฺถ ฉนฺนมติวสฺสตีติ เคหํ ตาว ติณาทีหิ อจฺฉนฺนํ อติวสฺสติ. อิทํ ปน อาปตฺติสงฺขาตํ เคหํ ฉนฺนํ อติวสฺสติ; มูลาปตฺติฺหิ ฉาเทนฺโต อฺํ นวํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ. วิวฏํ นาติวสฺสตีติ เคหํ ตาว อวิวฏํ สุจฺฉนฺนํ นาติวสฺสติ. อิทํ ปน อาปตฺติสงฺขาตํ เคหํ วิวฏํ นาติวสฺสติ; มูลาปตฺติฺหิ วิวรนฺโต เทสนาคามินึ เทเสตฺวา วุฏฺานคามินิโต วุฏฺหิตฺวา สุทฺธนฺเต ปติฏฺาติ. อายตึ สํวรนฺโต อฺํ อาปตฺตึ นาปชฺชติ. ตสฺมา ฉนฺนํ วิวเรถาติ เตน การเณน เทสนาคามินึ เทเสนฺโต วุฏฺานคามินิโต จ วุฏฺหนฺโต ฉนฺนํ วิวเรถ. เอวํ ตํ นาติวสฺสตีติ เอวฺเจตํ วิวฏํ นาติวสฺสตีติ อตฺโถ.
คติ มิคานํ ปวนนฺติ อชฺโฌกาเส พฺยคฺฆาทีหิ ปริปาติยมานานํ มิคานํ ปวนํ รุกฺขาทิคหนํ อรฺํ คติ ปฏิสรณํ โหติ, ตํ ปตฺวา เต อสฺสาสนฺติ. เอเตเนว นเยน อากาโส ปกฺขีนํ คติ. อวสฺสํ อุปคมนฏฺเน ปน วิภโว คติ ธมฺมานํ, สพฺเพสมฺปิ สงฺขตธมฺมานํ วินาโสว เตสํ คติ. น หิ เต วินาสํ อคจฺฉนฺตา าตุํ สกฺโกนฺติ. สุจิรมฺปิ ¶ ตฺวา ปน นิพฺพานํ อรหโต คติ, ขีณาสวสฺส อรหโต อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุ เอกํเสน คตีติ อตฺโถ.
ปมคาถาสงฺคณิกวณฺณนา นิฏฺิตา.
อธิกรณเภทํ
อุกฺโกฏนเภทาทิวณฺณนา
๓๔๐. อธิกรณเภเท ¶ ¶ ¶ อิเม ทส อุกฺโกฏาติ อธิกรณานํ อุกฺโกเฏตฺวา ปุน อธิกรณอุกฺโกเฏน สมถานํ อุกฺโกฏํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิวาทาธิกรณํ อุกฺโกเฏนฺโต กติ สมเถ อุกฺโกเฏตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิวาทาธิกรณํ อุกฺโกเฏนฺโต ทฺเว สมเถ อุกฺโกเฏตีติ สมฺมุขาวินยฺจ เยภุยฺยสิกฺจ อิเม ทฺเว อุกฺโกเฏติ, ปฏิเสเธติ; ปฏิกฺโกสตีติ อตฺโถ. อนุวาทาธิกรณํ อุกฺโกเฏนฺโต จตฺตาโรติ สมฺมุขาวินยํ, สติวินยํ, อมูฬฺหวินยํ, ตสฺสปาปิยสิกนฺติ อิเม จตฺตาโร สมเถ อุกฺโกเฏติ. อาปตฺตาธิกรณํ อุกฺโกเฏนฺโต ตโยติ สมฺมุขาวินยํ, ปฏิฺาตกรณํ, ติณวตฺถารกนฺติ อิเม ตโย สมเถ อุกฺโกเฏติ. กิจฺจาธิกรณํ อุกฺโกเฏนฺโต เอกนฺติ สมฺมุขาวินยํ อิมํ เอกํ สมถํ อุกฺโกเฏติ.
๓๔๑. กติ อุกฺโกฏาติอาทิปุจฺฉานํ วิสฺสชฺชเน ปน ทฺวาทสสุ อุกฺโกเฏสุ อกตํ กมฺมนฺติอาทโย ตาว ตโย อุกฺโกฏา วิเสสโต ทุติเย อนุวาทาธิกรเณ ลพฺภนฺติ. อนิหตํ กมฺมนฺติอาทโย ตโย ปเม วิวาทาธิกรเณ ลพฺภนฺติ. อวินิจฺฉิตนฺติอาทโย ตโย ตติเย อาปตฺตาธิกรเณ ลพฺภนฺติ. อวูปสนฺตนฺติอาทโย ตโย จตุตฺเถ กิจฺจาธิกรเณ ลพฺภนฺติ; อปิจ ทฺวาทสาปิ จ เอเกกสฺมึ อธิกรเณ ลพฺภนฺติเยว.
ตตฺถชาตกํ อธิกรณํ อุกฺโกเฏตีติ ยสฺมึ วิหาเร ‘‘มยฺหํ อิมินา ปตฺโต คหิโต, จีวรํ คหิต’’นฺติอาทินา นเยน ปตฺตจีวราทีนํ อตฺถาย อธิกรณํ อุปฺปนฺนํ โหติ, ตสฺมึเยว จ นํ วิหาเร อาวาสิกา สนฺนิปติตฺวา ‘‘อลํ อาวุโส’’ติ อตฺตปจฺจตฺถิเก สฺาเปตฺวา ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉเยเนว ¶ วูปสเมนฺติ, อิทํ ตตฺถชาตกํ อธิกรณํ นาม. เยนาปิ วินิจฺฉเยน สมิตํ, โสปิ เอโก สมโถเยว. อิมํ อุกฺโกเฏนฺตสฺสาปิ ปาจิตฺติยํ.
ตตฺถชาตกํ วูปสนฺตนฺติ สเจ ปน ตํ อธิกรณํ เนวาสิกา วูปสเมตุํ น สกฺโกนฺติ, อถฺโ วินยธโร อาคนฺตฺวา ‘‘กึ อาวุโส อิมสฺมึ ¶ วิหาเร อุโปสโถ วา ปวารณา วา ิตา’’ติ ปุจฺฉติ, เตหิ จ ตสฺมึ การเณ กถิเต ตํ อธิกรณํ ขนฺธกโต จ ปริวารโต จ สุตฺเตน วินิจฺฉินิตฺวา วูปสเมติ, อิทํ ตตฺถชาตกํ วูปสนฺตํ นาม อธิกรณํ. เอตํ อุกฺโกเฏนฺตสฺสาปิ ปาจิตฺติยเมว.
อนฺตรามคฺเคติ เต อตฺตปจฺจตฺถิกา ‘‘น มยํ เอตสฺส วินิจฺฉเย ติฏฺาม, นายํ วินเย กุสโล, อสุกสฺมึ ¶ นาม คาเม วินยธรา เถรา วสนฺติ, ตตฺถ คนฺตฺวา วินิจฺฉินิสฺสามา’’ติ คจฺฉนฺตา อนฺตรามคฺเคเยว การณํ สลฺลกฺเขตฺวา อฺมฺํ วา สฺาเปนฺติ, อฺเ วา เต ภิกฺขู นิชฺฌาเปนฺติ, อิทมฺปิ วูปสนฺตเมว โหติ. เอวํ วูปสนฺตํ อนฺตรามคฺเค อธิกรณํ อุกฺโกเฏติ โย, ตสฺสาปิ ปาจิตฺติยเมว.
อนฺตรามคฺเค วูปสนฺตนฺติ น เหว โข ปน อฺมฺํ สฺตฺติยา วา สภาคภิกฺขุนิชฺฌาปเนน วา วูปสนฺตํ โหติ; อปิจ โข ปฏิปถํ อาคจฺฉนฺโต เอโก วินยธโร ทิสฺวา ‘‘กตฺถ อาวุโส คจฺฉถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อสุกํ นาม คามํ, อิมินา นาม การเณนา’’ติ วุตฺเต ‘‘อลํ, อาวุโส, กึ ตตฺถ คเตนา’’ติ ตตฺเถว ธมฺเมน วินเยน ตํ อธิกรณํ วูปสเมติ, อิทํ อนฺตรามคฺเค วูปสนฺตํ นาม. เอตํ อุกฺโกเฏนฺตสฺสาปิ ปาจิตฺติยเมว.
ตตฺถ คตนฺติ สเจ ปน ‘‘อลํ, อาวุโส, กึ ตตฺถ คเตนา’’ติ วุจฺจมานาปิ ‘‘มยํ ตตฺเถว คนฺตฺวา วินิจฺฉยํ ปาเปสฺสามา’’ติ วินยธรสฺส วจนํ อนาทิยิตฺวา คจฺฉนฺติเยว, คนฺตฺวา สภาคานํ ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจนฺติ. สภาคา ภิกฺขู ‘‘อลํ, อาวุโส, สงฺฆสนฺนิปาตํ นาม ครุก’’นฺติ ตตฺเถว นิสีทาเปตฺวา วินิจฺฉินิตฺวา สฺาเปนฺติ, อิทมฺปิ วูปสนฺตเมว โหติ. เอวํ วูปสนฺตํ ตตฺถ คตํ อธิกรณํ อุกฺโกเฏติ โย, ตสฺสาปิ ปาจิตฺติยเมว.
ตตฺถ ¶ คตํ วูปสนฺตนฺติ น เหว โข ปน สภาคภิกฺขูนํ สฺตฺติยา วูปสนฺตํ โหติ; อปิจ โข สงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา อาโรจิตํ สงฺฆมชฺเฌ วินยธรา วูปสเมนฺติ, อิทํ ตตฺถ คตํ วูปสนฺตํ นาม. เอตํ อุกฺโกเฏนฺตสฺสาปิ ปาจิตฺติยเมว.
สติวินยนฺติ ขีณาสวสฺส ทินฺนํ สติวินยํ อุกฺโกเฏติ, ปาจิตฺติยเมว. อุมฺมตฺตกสฺส ทินฺเน อมูฬฺหวินเย ปาปุสฺสนฺนสฺส ทินฺนาย ตสฺสปาปิยสิกายปิ เอเสว นโย.
ติณวตฺถารกํ ¶ อุกฺโกเฏตีติ สงฺเฆน ติณวตฺถารกสมเถน วูปสมิเต อธิกรเณ ‘‘อาปตฺติ นาม เอกํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เทสิยมานา วุฏฺาติ, ยํ ปเนตํ นิทฺทายนฺตสฺสาปิ อาปตฺติวุฏฺานํ นาม, เอตํ มยฺหํ น ขมตี’’ติ เอวํ วทนฺโตปิ ติณวตฺถารกํ อุกฺโกเฏติ นาม, ตสฺสาปิ ปาจิตฺติยเมว.
ฉนฺทาคตึ คจฺฉนฺโต อธิกรณํ อุกฺโกเฏตีติ วินยธโร หุตฺวา อตฺตโน อุปชฺฌายาทีนํ ¶ อตฺถาย ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติอาทีนิ ทีเปตฺวา ปุพฺเพ วินิจฺฉิตํ อธิกรณํ ทฺวาทสสุ อุกฺโกเฏสุ เยน เกนจิ อุกฺโกเฏนฺโต ฉนฺทาคตึ คจฺฉนฺโต อธิกรณํ อุกฺโกเฏติ นาม. ทฺวีสุ ปน อตฺตปจฺจตฺถิเกสุ เอกสฺมึ ‘‘อนตฺถํ เม อจรี’’ติอาทินา นเยน สมุปฺปนฺนาฆาโต, ตสฺส ปราชยํ อาโรปนตฺถํ ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติอาทีนิ ทีเปตฺวา ปุพฺเพ วินิจฺฉิตํ อธิกรณํ ทฺวาทสสุ อุกฺโกเฏสุ เยน เกนจิ อุกฺโกเฏนฺโต โทสาคตึ คจฺฉนฺโต อธิกรณํ อุกฺโกเฏติ นาม. มนฺโท ปน โมมูโห โมมูหตฺตา เอว ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติอาทีนิ ทีเปตฺวา วุตฺตนเยเนว อุกฺโกเฏนฺโต โมหาคตึ คจฺฉนฺโต อธิกรณํ อุกฺโกเฏติ นาม. สเจ ปน ทฺวีสุ อตฺตปจฺจตฺถิเกสุ เอโก วิสมานิ กายกมฺมาทีนิ คหนมิจฺฉาทิฏฺึ พลวนฺเต จ ปกฺขนฺตริเย อภิฺาเต ภิกฺขู นิสฺสิตตฺตา วิสมนิสฺสิโต คหนนิสฺสิโต พลวนิสฺสิโต จ โหติ, ตสฺส ภเยน ‘‘อยํ เม ชีวิตนฺตรายํ วา พฺรหฺมจริยนฺตรายํ วา กเรยฺยา’’ติ ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติอาทีนิ ทีเปตฺวา วุตฺตนเยเนว อุกฺโกเฏนฺโต ภยาคตึ คจฺฉนฺโต อธิกรณํ อุกฺโกเฏติ นาม.
ตทหุปสมฺปนฺโนติ เอโก สามเณโร พฺยตฺโต โหติ พหุสฺสุโต, โส วินิจฺฉเย ปราชยํ ปตฺวา มงฺกุภูเต ภิกฺขู ทิสฺวา ปุจฺฉติ ‘‘กสฺมา มงฺกุภูตาตฺถา’’ติ? เต ตสฺส ตํ อธิกรณํ อาโรเจนฺติ. โส เต เอวํ วเทติ ‘‘โหตุ, ภนฺเต, มํ อุปสมฺปาเทถ, อหํ ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสามี’’ติ ¶ . เต ตํ อุปสมฺปาเทนฺติ. โส ทุติยทิวเส เภรึ ปหริตฺวา สงฺฆํ สนฺนิปาเตติ. ตโต ภิกฺขูหิ ‘‘เกน สงฺโฆ สนฺนิปาติโต’’ติ วุตฺเต ‘‘มยา’’ติ วทติ. ‘‘กสฺมา สนฺนิปาติโต’’ติ? ‘‘หิยฺโย อธิกรณํ ทุพฺพินิจฺฉิตํ, ตมหํ วินิจฺฉินิสฺสามี’’ติ. ‘‘ตฺวํ ปน หิยฺโย กุหึ คโต’’ติ? ‘‘อนุปสมฺปนฺโนมฺหิ, ภนฺเต, อชฺช ปน อุปสมฺปนฺโนมฺหี’’ติ. โส วตฺตพฺโพ ‘‘อิทํ อาวุโส ตุมฺหาทิสานํ ภควตา สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ‘ตทหุปสมฺปนฺโน ¶ อุกฺโกเฏติ, อุกฺโกฏนกํ ปาจิตฺติย’นฺติ, คจฺฉ อาปตฺตึ เทเสหี’’ติ. อาคนฺตุเกปิ เอเสว นโย.
การโกติ เอกํ สงฺเฆน สทฺธึ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตฺวา ปริเวณคตํ ปราชิตา ภิกฺขู วทนฺติ ‘‘กิสฺส, ภนฺเต, ตุมฺเหหิ เอวํ วินิจฺฉิตํ อธิกรณํ, นนุ เอวํ วินิจฺฉินิตพฺพ’’นฺติ. โส ‘‘กสฺมา ปมํเยว เอวํ น วทิตฺถา’’ติ ตํ ¶ อธิกรณํ อุกฺโกเฏติ. เอวํ โย การโก อุกฺโกเฏติ, ตสฺสาปิ อุกฺโกฏนกํ ปาจิตฺติยํ. ฉนฺททายโกติ เอโก อธิกรณวินิจฺฉเย ฉนฺทํ ทตฺวา สภาเค ภิกฺขู ปราชยํ ปตฺวา อาคเต มงฺกุภูเต ทิสฺวา ‘‘สฺเว ทานิ อหํ วินิจฺฉินิสฺสามี’’ติ สงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘กสฺมา สนฺนิปาเตสี’’ติ วุตฺเต ‘‘หิยฺโย อธิกรณํ ทุพฺพินิจฺฉิตํ, ตมหํ อชฺช วินิจฺฉินิสฺสามี’’ติ. ‘‘หิยฺโย ปน ตฺวํ กตฺถ คโต’’ติ. ‘‘ฉนฺทํ ทตฺวา นิสินฺโนมฺหี’’ติ. โส วตฺตพฺโพ ‘‘อิทํ อาวุโส ตุมฺหาทิสานํ ภควตา สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ‘ฉนฺททายโก อุกฺโกเฏติ, อุกฺโกฏนกํ ปาจิตฺติย’นฺติ, คจฺฉ อาปตฺตึ เทเสหี’’ติ.
อธิกรณนิทานาทิวณฺณนา
๓๔๒. วิวาทาธิกรณํ กึนิทานนฺติอาทีสุ กึ นิทานมสฺสาติ กึนิทานํ. โก สมุทโย อสฺสาติ กึสมุทยํ. กา ชาติ อสฺสาติ กึชาติกํ. โก ปภโว อสฺสาติ กึปภวํ. โก สมฺภาโร อสฺสาติ กึสมฺภารํ. กึ สมุฏฺานํ อสฺสาติ กึสมุฏฺานํ. สพฺพาเนตานิ การณเววจนานิเยว.
วิวาทนิทานนฺติอาทีสุปิ อฏฺารสเภทกรวตฺถุสงฺขาโต วิวาโท นิทานเมตสฺสาติ วิวาทนิทานํ. วิวาทํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกวิวาทวเสเนตํ วุตฺตํ. อนุวาโท นิทานํ อสฺสาติ อนุวาทนิทานํ ¶ . อิทมฺปิ อนุวาทํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกอนุวาทวเสน วุตฺตํ. อาปตฺติ นิทานํ อสฺสาติ อาปตฺตินิทานํ. อาปตฺตาธิกรณปจฺจยา จตสฺโส อาปตฺติโย อาปชฺชตีติ เอวํ อาปตฺตึ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกอาปตฺติวเสเนตํ วุตฺตํ. กิจฺจยํ นิทานมสฺสาติ กิจฺจยนิทานํ; จตุพฺพิธํ สงฺฆกมฺมํ การณมสฺสาติ อตฺโถ. อุกฺขิตฺตานุวตฺติกาย ภิกฺขุนิยา ยาวตติยํ สมนุภาสนาทีนํ กิจฺจํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกกิจฺจานํ วเสเนตํ วุตฺตํ. อยํ จตุนฺนมฺปิ อธิกรณานํ วิสฺสชฺชนปกฺเข เอกปทโยชนา. เอเตนานุสาเรน สพฺพปทานิ โยเชตพฺพานิ.
ทุติยปุจฺฉาย ¶ เหตุนิทานนฺติอาทิมฺหิ วิสฺสชฺชเน นวนฺนํ กุสลากุสลาพฺยากตเหตูนํ วเสน เหตุนิทานาทิตา เวทิตพฺพา. ตติยปุจฺฉาย วิสฺสชฺชเน พฺยฺชนมตฺตํ นานํ. เหตุเยว หิ เอตฺถ ปจฺจโยติ วุตฺโต.
๓๔๓. มูลปุจฺฉาย วิสฺสชฺชเน ทฺวาทส มูลานีติ โกธอุปนาหยุคฬกาทีนิ ฉ วิวาทามูลานิ, โลภโทสโมหา ตโย, อโลภาโทสาโมหา ตโยติ อิมานิ อชฺฌตฺตสนฺตานปฺปวตฺตานิ ทฺวาทส มูลานิ. จุทฺทส มูลานีติ ตาเนว ทฺวาทส ¶ กายวาจาหิ สทฺธึ จุทฺทส โหนฺติ. ฉ มูลานีติ กายาทีนิ ฉ สมุฏฺานานิ.
สมุฏฺานปุจฺฉาย วิสฺสชฺชเน อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ สมุฏฺานานิ, ตฺหิ เอเตสุ อฏฺารสสุ เภทกรวตฺถูสุ สมุฏฺาติ, เอเตหิ วา การณภูเตหิ สมุฏฺาติ. เตนสฺเสตานิ สมุฏฺานานิ วุจฺจนฺติ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
๓๔๔. วิวาทาธิกรณํ อาปตฺตีติอาทิเภเท เอเกน อธิกรเณน กิจฺจาธิกรเณนาติ อิทํ เยน อธิกรเณน สมฺมนฺติ, ตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ, น ปเนตานิ เอกํสโต กิจฺจาธิกรเณเนว สมฺมนฺติ. น หิ ปุคฺคลสฺส สนฺติเก เทเสนฺตสฺส กิจฺจาธิกรณํ นาม อตฺถิ.
น กตเมน สมเถนาติ สาวเสสาปตฺติ วิย น สมฺมติ. น หิ สกฺกา สา เทเสตุํ, น ตโต วุฏฺาย สุทฺธนฺเต ปติฏฺาตุํ.
๓๔๘. วิวาทาธิกรณํ โหติ อนุวาทาธิกรณนฺติอาทิ นโย อุตฺตาโนเยว.
๓๔๙. ตโต ¶ ปรํ ยตฺถ สติวินโยติอาทิกา สมฺมุขาวินยํ อมฺุจิตฺวา ฉ ยมกปุจฺฉา วุตฺตา, ตาสํ วิสฺสชฺชเนเนว อตฺโถ ปกาสิโต.
๓๕๑. สํสฏฺาทิปุจฺฉานํ วิสฺสชฺชเน สํสฏฺาติ สติวินยกมฺมวาจากฺขณสฺมึเยว ทฺวินฺนมฺปิ สมถานํ สิทฺธตฺตา สมฺมุขาวินโยติ วา สติวินโยติ วา อิเม ธมฺมา สํสฏฺา, โน วิสํสฏฺา. ยสฺมา ปน กทลิกฺขนฺเธ ปตฺตวฏฺฏีนํ วิย น สกฺกา เตสํ วินิพฺภุชิตฺวา นานากรณํ ทสฺเสตุํ, เตน วุตฺตํ ¶ ‘‘น จ ลพฺภา อิเมสํ ธมฺมานํ วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวา นานากรณํ ปฺาเปตุ’’นฺติ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
สตฺตสมถนิทานวณฺณนา
๓๕๒. กึนิทาโนติ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชเน นิทานํ นิทานมสฺสาติ นิทานนิทาโน. ตตฺถ สงฺฆสมฺมุขตา, ธมฺมสมฺมุขตา, วินยสมฺมุขตา, ปุคฺคลสมฺมุขตาติ อิทํ สมฺมุขาวินยสฺส นิทานํ. สติเวปุลฺลปตฺโต ขีณาสโว ลทฺธุปวาโท สติวินยสฺส นิทานํ. อุมฺมตฺตโก ภิกฺขุ อมูฬฺหวินยสฺส นิทานํ. โย จ เทเสติ, ยสฺส จ เทเสติ, อุภินฺนํ สมฺมุขีภาโว ปฏิฺาตกรณสฺส นิทานํ. ภณฺฑนชาตานํ อธิกรณํ วูปสเมตุํ อสกฺกุเณยฺยตา เยภุยฺยสิกาย นิทานํ. ปาปุสฺสนฺโน ปุคฺคโล ตสฺสปาปิยสิกาย นิทานํ. ภณฺฑนชาตานํ พหุ อสฺสามณกอชฺฌาจาโร ติณวตฺถารกสฺส นิทานํ. เหตุปจฺจยวารา วุตฺตนยา เอว.
๓๕๓. มูลปุจฺฉาย วิสฺสชฺชนํ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานปุจฺฉาย กิฺจาปิ ¶ ‘‘สตฺตนฺนํ สมถานํ กตเม ฉตฺตึส สมุฏฺานา’’ติ วุตฺตํ, สมฺมุขาวินยสฺส ปน กมฺมสงฺคหาภาเวน สมุฏฺานาภาวโต ฉนฺนํเยว สมถานํ ฉ สมุฏฺานานิ วิภตฺตานิ. ตตฺถ กมฺมสฺส กิริยาติ ตฺติ เวทิตพฺพา. กรณนฺติ ตสฺสาเยว ตฺติยา เปตพฺพกาเล ปนํ. อุปคมนนฺติ สยํ อุปคมนํ; อตฺตนาเยว ตสฺส กมฺมสฺส กรณนฺติ อตฺโถ. อชฺฌุปคมนนฺติ อชฺเฌสนุปคมนํ; อฺํ สทฺธิวิหาริกาทิกํ ‘‘อิทํ กมฺมํ กโรหี’’ติ อชฺเฌสนนฺติ อตฺโถ. อธิวาสนาติ ‘‘รุจฺจติ เม เอตํ, กโรตุ สงฺโฆ’’ติ เอวํ อธิวาสนา; ฉนฺททานนฺติ อตฺโถ. อปฺปฏิกฺโกสนาติ ‘‘น เมตํ ขมติ, มา เอวํ กโรถา’’ติ อปฺปฏิเสธนา. อิติ ฉนฺนํ ฉกฺกานํ วเสน ฉตฺตึส สมุฏฺานา เวทิตพฺพา.
สตฺตสมถนานาตฺถาทิวณฺณนา
๓๕๔. นานาตฺถปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ ¶ อุตฺตานเมว. อธิกรณปุจฺฉาวิสฺสชฺชเน อยํ วิวาโท โน อธิกรณนฺติ อยํ มาตาปุตฺตาทีนํ วิวาโท วิรุทฺธวาทตฺตา วิวาโท นาม โหติ, สมเถหิ ปน อธิกรณียตาย อภาวโต อธิกรณํ น โหติ. อนุวาทาทีสุปิ เอเสว นโย. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
อธิกรณเภทวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุติยคาถาสงฺคณิกํ
โจทนาทิปุจฺฉาวิสฺสชฺชนาวณฺณนา
๓๕๙. ทุติยคาถาสงฺคณิยํ ¶ ¶ โจทนาติ วตฺถฺุจ อาปตฺติฺจ ทสฺเสตฺวา โจทนา. สารณาติ โทสสารณา. สงฺโฆ กิมตฺถายาติ สงฺฆสนฺนิปาโต กิมตฺถาย. มติกมฺมํ ปน กิสฺส การณาติ มติกมฺมํ วุจฺจติ มนฺตคฺคหณํ; ตํ กิสฺส การณาติ อตฺโถ.
โจทนา สารณตฺถายาติ วุตฺตปฺปการา โจทนา, เตน จุทิตกปุคฺคเลน โจทกโทสสารณตฺถาย. นิคฺคหตฺถาย สารณาติ โทสสารณา ปน ตสฺส ปุคฺคลสฺส นิคฺคหตฺถาย. สงฺโฆ ปริคฺคหตฺถายาติ ตตฺถ สนฺนิปติโต สงฺโฆ วินิจฺฉยปริคฺคหณตฺถาย; ธมฺมาธมฺมํ ตุลนตฺถาย สุวินิจฺฉิตทุพฺพินิจฺฉิตํ ชานนตฺถายาติ อตฺโถ. มติกมฺมํ ปน ปาฏิเยกฺกนฺติ สุตฺตนฺติกตฺเถรานฺจ วินยธรตฺเถรานฺจ มนฺตคฺคหณํ ¶ ปาเฏกฺกํ ปาเฏกฺกํ วินิจฺฉยสนฺนิฏฺาปนตฺถํ.
มา โข ปฏิฆนฺติ จุทิตเก วา โจทเก วา โกปํ มา ชนยิ. สเจ อนุวิชฺชโก ตุวนฺติ สเจ ตฺวํ สงฺฆมชฺเฌ โอติณฺณํ อธิกรณํ วินิจฺฉิตุํ นิสินฺโน วินยธโร.
วิคฺคาหิกนฺติ ‘‘น ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานาสี’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ. อนตฺถสํหิตนฺติ ยา อนตฺถํ ชนยติ, ปริสํ โขเภตฺวา อุฏฺาเปติ, เอวรูปึ กถํ มา อภณิ. สุตฺเต วินเย วาติอาทีสุ สุตฺตํ นาม อุภโตวิภงฺโค. วินโย นาม ขนฺธโก. อนุโลโม นาม ปริวาโร. ปฺตฺตํ นาม สกลํ วินยปิฏกํ. อนุโลมิกํ นาม จตฺตาโร มหาปเทสา.
อนุโยควตฺตํ ¶ นิสามยาติ อนุยฺุชนวตฺตํ นิสาเมหิ. กุสเลน พุทฺธิมตา กตนฺติ เฉเกน ปณฺฑิเตน าณปารมิปฺปตฺเตน ภควตา นีหริตฺวา ปิตํ. สุวุตฺตนฺติ สุปฺาปิตํ. สิกฺขาปทานุโลมิกนฺติ สิกฺขาปทานํ อนุโลมํ. อยํ ตาว ปทตฺโถ, อยํ ปเนตฺถ สาธิปฺปายสงฺเขปวณฺณนา – ‘‘สเจ ตฺวํ อนุวิชฺชโก, มา สหสา ภณิ, มา อนตฺถสํหิตํ วิคฺคาหิกกถํ ¶ ภณิ. ยํ ปน กุสเลน พุทฺธิมตา โลกนาเถน เอเตสุ สุตฺตาทีสุ อนุโยควตฺตํ กถํ สุปฺตฺตํ สพฺพสิกฺขาปทานํ อนุโลมํ, ตํ นิสามย ตํ อุปธาเรหี’’ติ. คตึ น นาเสนฺโต สมฺปรายิกนฺติ อตฺตโน สมฺปราเย สุคตินิพฺพตฺตึ อนาเสนฺโต อนุโยควตฺตํ นิสามย. โย หิ ตํ อนิสาเมตฺวา อนุยฺุชติ, โส สมฺปรายิกํ อตฺตโน คตึ นาเสติ, ตสฺมา ตฺวํ อนาเสนฺโต นิสามยาติ อตฺโถ. อิทานิ ตํ อนุโยควตฺตํ ทสฺเสตุํ หิเตสีติอาทิมาห. ตตฺถ หิเตสีติ หิตํ เอสนฺโต คเวสนฺโต; เมตฺตฺจ เมตฺตาปุพฺพภาคฺจ อุปฏฺเปตฺวาติ อตฺโถ. กาเลนาติ ยุตฺตปตฺตกาเลน; อชฺเฌสิตกาเลเยว ตว ภาเร กเต อนุยฺุชาติ อตฺโถ.
สหสา โวหารํ มา ปธาเรสีติ โย เอเตสํ สหสา โวหาโร โหติ, สหสา ภาสิตํ, ตํ มา ปธาเรสิ, มา คณฺหิตฺถ.
ปฏิฺานุสนฺธิเตน การเยติ เอตฺถ อนุสนฺธิตนฺติ กถานุสนฺธิ วุจฺจติ, ตสฺมา ปฏิฺานุสนฺธินา การเย; กถานุสนฺธึ สลฺลกฺเขตฺวา ปฏิฺาย การเยติ อตฺโถ. อถ วา ปฏิฺาย จ อนุสนฺธิเตน จ การเย, ลชฺชึ ปฏิฺาย การเย; อลชฺชึ วตฺตานุสนฺธินาติ อตฺโถ. ตสฺมา เอว ¶ ปฏิฺา ลชฺชีสูติ คาถมาห. ตตฺถ วตฺตานุสนฺธิเตน การเยติ วตฺตานุสนฺธินา การเย, ยา อสฺส วตฺเตน สทฺธึ ปฏิฺา สนฺธิยติ, ตาย ปฏิฺาย การเยติ อตฺโถ.
สฺจิจฺจาติ ชานนฺโต อาปชฺชติ. ปริคูหตีติ นิคูหติ น เทเสติ น วุฏฺาติ.
สา อหมฺปิ ชานามีติ ยํ ตุมฺเหหิ วุตฺตํ, ตํ สจฺจํ, อหมฺปิ นํ เอวเมว ชานามิ. อฺฺจ ตาหนฺติ อฺฺจ ตํ อหํ ปุจฺฉามิ.
ปุพฺพาปรํ ¶ น ชานาตีติ ปุเรกถิตฺจ ปจฺฉากถิตฺจ น ชานาติ. อโกวิโทติ ตสฺมึ ปุพฺพาปเร อกุสโล. อนุสนฺธิวจนปถํ น ชานาตีติ กถานุสนฺธิวจนํ วินิจฺฉยานุสนฺธิวจนฺจ น ชานาติ.
สีลวิปตฺติยา โจเทตีติ ทฺวีหิ อาปตฺติกฺขนฺเธหิ โจเทติ. อาจารทิฏฺิยาติ อาจารวิปตฺติยา เจว ทิฏฺิวิปตฺติยา จ. อาจารวิปตฺติยา โจเทนฺโต ปฺจหาปตฺติกฺขนฺเธหิ โจเทติ, ทิฏฺิวิปตฺติยา โจเทนฺโต ¶ มิจฺฉาทิฏฺิยา เจว อนฺตคฺคาหิกทิฏฺิยา จ โจเทติ. อาชีเวนปิ โจเทตีติ อาชีวเหตุปฺตฺเตหิ ฉหิ สิกฺขาปเทหิ โจเทติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ทุติยคาถาสงฺคณิกวณฺณนา นิฏฺิตา.
โจทนากณฺฑํ
อนุวิชฺชกกิจฺจวณฺณนา
๓๖๐-๓๖๑. อิทานิ ¶ ¶ เอวํ อุปฺปนฺนาย โจทนาย วินยธเรน กตฺตพฺพกิจฺจํ ทสฺเสตุํ อนุวิชฺชเกนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ทิฏฺํ ทิฏฺเนาติ คาถาย อยมตฺโถ – เอเกเนโก มาตุคาเมน สทฺธึ เอกฏฺานโต นิกฺขมนฺโต วา ปวิสนฺโต วา ทิฏฺโ, โส ตํ ปาราชิเกน โจเทติ, อิตโร ตสฺส ทสฺสนํ อนุชานาติ. ตํ ปน ทสฺสนํ ปฏิจฺจ ปาราชิกํ น อุเปติ, น ปฏิชานาติ. เอวเมตฺถ ยํ เตน ทิฏฺํ, ตํ ตสฺส ‘‘ทิฏฺโ มยา’’ติ อิมินา ทิฏฺวจเนน สเมติ. ยสฺมา ปน อิตโร ตํ ทสฺสนํ ปฏิจฺจ โทสํ น ปฏิชานาติ, ตสฺมา อสุทฺธปริสงฺกิโต โหติ; อมูลกปริสงฺกิโตติ อตฺโถ. ตสฺส ปุคฺคลสฺส ‘‘สุทฺโธ อห’’นฺติ ปฏิฺาย เตน สทฺธึ อุโปสโถ กาตพฺโพ. เสสคาถาทฺวเยปิ เอเสว นโย. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
อนุวิชฺชกกิจฺจวณฺณนา นิฏฺิตา.
โจทกปุจฺฉาวิสฺสชฺชนาวณฺณนา
๓๖๒-๓๖๓. โจทนาย ¶ โก อาทีติอาทิปุจฺฉานํ วิสฺสชฺชเน สจฺเจ จ อกุปฺเป จาติ สจฺเจ ปติฏฺาตพฺพํ อกุปฺเป จ. ยํ กตํ วา น กตํ วา, ตเทว วตฺตพฺพํ, น จ โจทเก วา อนุวิชฺชเก วา สงฺเฆ วา โกโป อุปฺปาเทตพฺโพ. โอติณฺณาโนติณฺณํ ชานิตพฺพนฺติ โอติณฺณฺจ อโนติณฺณฺจ วจนํ ชานิตพฺพํ. ตตฺรายํ ชานนวิธิ – เอตฺตกา โจทกสฺส ปุพฺพกถา, เอตฺตกา ปจฺฉิมกถา, เอตฺตกา จุทิตกสฺส ปุพฺพกถา, เอตฺตกา ปจฺฉิมกถาติ ชานิตพฺพา ¶ . โจทกสฺส ปมาณํ คณฺหิตพฺพํ, จุทิตกสฺส ปมาณํ คณฺหิตพฺพํ, อนุวิชฺชกสฺส ปมาณํ คณฺหิตพฺพํ, อนุวิชฺชโก อปฺปมตฺตกมฺปิ อหาเปนฺโต ‘‘อาวุโส สมนฺนาหริตฺวา อุชุํ กตฺวา อาหรา’’ติ วตฺตพฺโพ, สงฺเฆน เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพํ. เยน ธมฺเมน เยน วินเยน เยน สตฺถุสาสเนน ตํ อธิกรณํ วูปสมฺมตีติ เอตฺถ ธมฺโมติ ภูตํ วตฺถุ. วินโยติ โจทนา เจว สารณา จ. สตฺถุสาสนนฺติ ตฺติสมฺปทา เจว อนุสฺสาวนสมฺปทา ¶ จ. เอเตน หิ ธมฺเมน จ วินเยน จ สตฺถุสาสเนน จ อธิกรณํ วูปสมติ, ตสฺมา อนุวิชฺชเกน ภูเตน วตฺถุนา โจเทตฺวา อาปตฺตึ สาเรตฺวา ตฺติสมฺปทาย เจว อนุสฺสาวนสมฺปทาย จ ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพํ, อนุวิชฺชเกน เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
๓๖๔. อุโปสโถ กิมตฺถายาติอาทิปุจฺฉาวิสฺสชฺชนมฺปิ อุตฺตานเมว. อวสานคาถาสุ เถเร จ ปริภาสตีติ อวมฺํ กโรนฺโต ‘‘กึ อิเม ชานนฺตี’’ติ ปริภาสติ. ขโต อุปหตินฺทฺริโยติ ตาย ฉนฺทาทิคามิตาย เตน จ ปริภาสเนน อตฺตนา อตฺตโน ขตตฺตา ขโต. สทฺธาทีนฺจ อินฺทฺริยานํ อุปหตตฺตา อุปหตินฺทฺริโย. นิรยํ คจฺฉติ ทุมฺเมโธ, น จ สิกฺขาย คารโวติ โส ขโต อุปหตินฺทฺริโย ปฺาย อภาวโต ทุมฺเมโธ ตีสุ สิกฺขาสุ อสิกฺขนโต น จ สิกฺขาย คารโว กายสฺส เภทา นิรยเมว อุปคจฺฉติ, ตสฺมา น จ อามิสํ นิสฺสาย…เป… ยถา ธมฺโม ตถา กเรติ. ตสฺสตฺโถ น จ อามิสํ นิสฺสาย กเร, จุทิตกโจทเกสุ หิ อฺตเรน ทินฺนํ จีวราทิอามิสํ คณฺหนฺโต อามิสํ นิสฺสาย กโรติ, เอวํ น กเรยฺย. น จ นิสฺสาย ปุคฺคลนฺติ ‘‘อยํ เม อุปชฺฌาโย วา อาจริโย วา’’ติอาทินา นเยน ฉนฺทาทีหิ คจฺฉนฺโต ปุคฺคลํ นิสฺสาย กโรติ, เอวํ น กเรยฺย. อถ โข อุโภเปเต วิวชฺเชตฺวา ยถา ธมฺโม ิโต, ตเถว กเรยฺยาติ.
อุปกณฺณกํ ชปฺปตีติ ¶ ‘‘เอวํ กเถหิ, มา เอวํ กถยิตฺถา’’ติ กณฺณมูเล มนฺเตติ. ชิมฺหํ เปกฺขตีติ โทสเมว คเวสติ. วีติหรตีติ วินิจฺฉยํ หาเปติ. กุมฺมคฺคํ ปฏิเสวตีติ อาปตฺตึ ทีเปติ.
อกาเลน จ โจเทตีติ อโนกาเส อนชฺฌิฏฺโว โจเทติ. ปุพฺพาปรํ น ชานาตีติ ปุริมกถฺจ ปจฺฉิมกถฺจ น ชานาติ.
อนุสนฺธิวจนปถํ ¶ น ชานาตีติ กถานุสนฺธิวินิจฺฉยานุสนฺธิวเสน วจนํ น ชานาติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
โจทนากณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.
จูฬสงฺคาโม
อนุวิชฺชกสฺส ปฏิปตฺติวณฺณนา
๓๖๕. จูฬสงฺคาเม ¶ ¶ สงฺคามาวจเรน ภิกฺขุนาติ สงฺคาโม วุจฺจติ อธิกรณวินิจฺฉยตฺถาย สงฺฆสนฺนิปาโต. ตตฺร หิ อตฺตปจฺจตฺถิกา เจว สาสนปจฺจตฺถิกา จ อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุ สาสนํ ทีเปนฺตา สโมสรนฺติ เวสาลิกา วชฺชิปุตฺตกา วิย. โย ภิกฺขุ เตสํ ปจฺจตฺถิกานํ ลทฺธึ มทฺทิตฺวา สกวาททีปนตฺถาย ตตฺถ อวจรติ, อชฺโฌคาเหตฺวา วินิจฺฉยํ ปวตฺเตติ, โส สงฺคามาวจโร นาม ยสตฺเถโร วิย. เตน สงฺคามาวจเรน ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมนฺเตน นีจจิตฺเตน สงฺโฆ อุปสงฺกมิตพฺโพ. นีจจิตฺเตนาติ มานทฺธชํ นิปาเตตฺวา นิหตมานจิตฺเตน. รโชหรณสเมนาติ ปาทปฺุฉนสเมน; ยถา รโชหรณสฺส สํกิลิฏฺเ วา อสํกิลิฏฺเ วา ปาเท ปฺุฉิยมาเน เนว ราโค น โทโส; เอวํ อิฏฺานิฏฺเสุ อรชฺชนฺเตน อทุสฺสนฺเตนาติ อตฺโถ. ยถาปติรูเป อาสเนติ ยถาปติรูปํ อาสนํ ตฺวา อตฺตโน ปาปุณนฏฺาเน เถรานํ ภิกฺขูนํ ปิฏฺึ อทสฺเสตฺวา นิสีทิตพฺพํ. อนานากถิเกนาติ นานาวิธํ ตํ ตํ อนตฺถกถํ อกเถนฺเตน. อติรจฺฉานกถิเกนาติ ทิฏฺสุตมุตมฺปิ ราชกถาทิกํ ติรจฺฉานกถํ อกเถนฺเตน. สามํ วา ธมฺโม ภาสิตพฺโพติ สงฺฆสนฺนิปาตฏฺาเน กปฺปิยากปฺปิยนิสฺสิตา วา รูปารูปปริจฺเฉทสมถาจารวิปสฺสนาจารฏฺานนิสชฺชวตฺตาทินิสฺสิตา วา กถา ธมฺโม นาม. เอวรูโป ธมฺโม สยํ วา ภาสิตพฺโพ, ปโร วา อชฺเฌสิตพฺโพ. โย ภิกฺขุ ตถารูปึ กถํ กเถตุํ ปโหติ, โส วตฺตพฺโพ – ‘‘อาวุโส สงฺฆมชฺฌมฺหิ ¶ ปฺเห อุปฺปนฺเน ตฺวํ กเถยฺยาสี’’ติ. อริโย วา ตุณฺหีภาโว นาติมฺิตพฺโพติ อริยา ตุณฺหี นิสีทนฺตา น พาลปุถุชฺชนา วิย นิสีทนฺติ. อฺตรํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวาว นิสีทนฺติ. อิติ กมฺมฏฺานมนสิการวเสน ตุณฺหีภาโว ¶ อริโย ตุณฺหีภาโว นาม, โส นาติมฺิตพฺโพ, กึ กมฺมฏฺานานุโยเคนาติ นาวชานิตพฺโพ; อตฺตโน ปติรูปํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวาว นิสีทิตพฺพนฺติ อตฺโถ.
น อุปชฺฌาโย ปุจฺฉิตพฺโพติ ‘‘โก นาโม ตุยฺหํ อุปชฺฌาโย’’ติ น ปุจฺฉิตพฺโพ. เอส นโย สพฺพตฺถ. น ชาตีติ ‘‘ขตฺติยชาติโย ตฺวํ พฺราหฺมณชาติโย’’ติ ¶ เอวํ ชาติ น ปุจฺฉิตพฺพา. น อาคโมติ ‘‘ทีฆภาณโกสิ ตฺวํ มชฺฌิมภาณโก’’ติ เอวํ อาคโม น ปุจฺฉิตพฺโพ. กุลปเทโสติ ขตฺติยกุลาทิวเสเนว เวทิตพฺโพ. อตฺรสฺส เปมํ วา โทโส วาติ อตฺร ปุคฺคเล เอเตสํ การณานํ อฺตรวเสน เปมํ วา ภเวยฺย โทโส วา.
โน ปริสกปฺปิเกนาติ ปริสกปฺปเกน ปริสานุวิธายเกน น ภวิตพฺพํ; ยํ ปริสาย รุจฺจติ, ตเทว เจเตตฺวา กปฺเปตฺวา น กเถตพฺพนฺติ อตฺโถ. น หตฺถมุทฺทา ทสฺเสตพฺพาติ กเถตพฺเพ จ อกเถตพฺเพ จ สฺาชนนตฺถํ หตฺถวิกาโร น กาตพฺโพ.
อตฺถํ อนุวิธิยนฺเตนาติ วินิจฺฉยปฏิเวธเมว สลฺลกฺเขนฺเตน ‘‘อิทํ สุตฺตํ อุปลพฺภติ, อิมสฺมึ วินิจฺฉเย อิทํ วกฺขามี’’ติ เอวํ ปริตุลยนฺเตน นิสีทิตพฺพนฺติ อตฺโถ. น จ อาสนา วุฏฺาตพฺพนฺติ น อาสนา วุฏฺาย สนฺนิปาตมณฺฑเล วิจริตพฺพํ, วินยธเร อุฏฺิเต สพฺพา ปริสา อุฏฺหติ. น วีติหาตพฺพนฺติ น วินิจฺฉโย หาเปตพฺโพ. น กุมฺมคฺโค เสวิตพฺโพติ น อาปตฺติ ทีเปตพฺพา. อสาหสิเกน ภวิตพฺพนฺติ น สหสาการินา ภวิตพฺพํ; สหสา ทุรุตฺตวจนํ น กเถตพฺพนฺติ อตฺโถ. วจนกฺขเมนาติ ทุรุตฺตวาจํ ขมนสีเลน. หิตปริสกฺกินาติ หิเตสินา หิตคเวสินา กรุณา จ กรุณาปุพฺพภาโค จ อุปฏฺาเปตพฺโพติ อยํ ปททฺวเยปิ อธิปฺปาโย. อนสุรุตฺเตนาติ น อสุรุตฺเตน. อสุรุตฺตํ วุจฺจติ วิคฺคาหิกกถาสงฺขาตํ อสุนฺทรวจนํ; ตํ น กเถตพฺพนฺติ อตฺโถ. อตฺตา ปริคฺคเหตพฺโพติ ‘‘วินิจฺฉินิตุํ วูปสเมตุํ สกฺขิสฺสามิ นุ โข โน’’ติ เอวํ อตฺตา ปริคฺคเหตพฺโพ; อตฺตโน ปมาณํ ชานิตพฺพนฺติ อตฺโถ. ปโร ปริคฺคเหตพฺโพติ ‘‘ลชฺชิยา นุ โข อยํ ปริสา, สกฺกา สฺาเปตุํ ¶ อุทาหุ โน’’ติ เอวํ ปโร ปริคฺคเหตพฺโพ.
โจทโก ปริคฺคเหตพฺโพติ ‘‘ธมฺมโจทโก นุ โข โน’’ติ เอวํ ปริคฺคเหตพฺโพ. จุทิตโก ปริคฺคเหตพฺโพติ ‘‘ธมฺมจุทิตโก นุ โข โน’’ติ เอวํ ปริคฺคเหตพฺโพ. อธมฺมโจทโก ปริคฺคเหตพฺโพติ ¶ ตสฺส ปมาณํ ชานิตพฺพํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. วุตฺตํ ¶ อหาเปนฺเตนาติ โจทกจุทิตเกหิ วุตฺตวจนํ อหาเปนฺเตน. อวุตฺตํ อปกาเสนฺเตนาติ อโนสฏํ วตฺถุํ อปฺปกาเสนฺเตน. มนฺโท หาเสตพฺโพติ มนฺโท โมมูโห ปคฺคณฺหิตพฺโพ, ‘‘นนุ ตฺวํ กุลปุตฺโต’’ติ อุตฺเตเชตฺวา อนุโยควตฺตํ กถาเปตฺวา ตสฺส อนุโยโค คณฺหิตพฺโพ. ภีรู อสฺสาเสตพฺโพติ ยสฺส สงฺฆมชฺฌํ วา คณมชฺฌํ วา อโนสฏปุพฺพตฺตา สารชฺชํ อุปฺปชฺชติ, ตาทิโส ‘‘มา ภายิ, วิสฺสฏฺโ กเถหิ, มยํ เต อุปตฺถมฺภา ภวิสฺสามา’’ติ วตฺวาปิ อนุโยควตฺตํ กถาเปตพฺโพ. จณฺโฑ นิเสเธตพฺโพติ อปสาเทตพฺโพ ตชฺเชตพฺโพ. อสุจิ วิภาเวตพฺโพติ อลชฺชึ ปกาเสตฺวา อาปตฺตึ เทสาเปตพฺโพ. อุชุมทฺทเวนาติ โย ภิกฺขุ อุชุ สีลวา กายวงฺกาทิรหิโต, โส มทฺทเวเนว อุปจริตพฺโพ. ธมฺเมสุ จ ปุคฺคเลสุ จาติ เอตฺถ โย ธมฺมครุโก โหติ น ปุคฺคลครุโก, อยเมว ธมฺเมสุ จ ปุคฺคเลสุ จ มชฺฌตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
๓๖๖. สุตฺตํ สํสนฺทนตฺถายาติอาทีสุ เตน จ ปน เอวํ สพฺรหฺมจารีนํ ปิยมนาปครุภาวนีเยน อนุวิชฺชเกน สมุทาหเฏสุ สุตฺตาทีสุ สุตฺตํ สํสนฺทนตฺถาย; อาปตฺตานาปตฺตีนํ สํสนฺทนตฺถนฺติ เวทิตพฺพํ. โอปมฺมํ นิทสฺสนตฺถายาติ โอปมฺมํ อตฺถทสฺสนตฺถาย. อตฺโถ วิฺาปนตฺถายาติ อตฺโถ ชานาปนตฺถาย. ปฏิปุจฺฉา ปนตฺถายาติ ปุจฺฉา ปุคฺคลสฺส ปนตฺถาย. โอกาสกมฺมํ โจทนตฺถายาติ วตฺถุนา วา อาปตฺติยา วา โจทนตฺถาย. โจทนา สารณตฺถายาติ โทสาโทสํ สราปนตฺถาย. สารณา สวจนียตฺถายาติ โทสาโทสสารณา สวจนียกรณตฺถาย. สวจนียํ ปลิโพธตฺถายาติ สวจนียํ ‘‘อิมมฺหา อาวาสา ปรํ มา ปกฺกมี’’ติ เอวํ ปลิโพธตฺถาย. ปลิโพโธ วินิจฺฉยตฺถายาติ วินิจฺฉยํ ปาปนตฺถาย. วินิจฺฉโย สนฺตีรณตฺถายาติ โทสาโทสํ สนฺตีรณตฺถาย ตุลนตฺถาย. สนฺตีรณํ านาฏฺานคมนตฺถายาติ อาปตฺติอนาปตฺติครุกลหุกาปตฺติชานนตฺถาย ¶ . สงฺโฆ สมฺปริคฺคหสมฺปฏิจฺฉนตฺถายาติ วินิจฺฉยสมฺปฏิคฺคหณตฺถาย จ; สุวินิจฺฉิตทุพฺพินิจฺฉิตภาวชานนตฺถาย จาติ อตฺโถ. ปจฺเจกฏฺายิโน อวิสํวาทกฏฺายิโนติ อิสฺสริยาธิปจฺจเชฏฺกฏฺาเน ¶ จ อวิสํวาทกฏฺาเน จ ิตา; น เต อปสาเทตพฺพาติ อตฺโถ.
อิทานิ เย มนฺทา มนฺทพุทฺธิโน เอวํ วเทยฺยุํ ‘‘วินโย นาม กิมตฺถายา’’ติ เตสํ วจโนกาสปิทหนตฺถมตฺตํ ทสฺเสตุํ วินโย สํวรตฺถายาติอาทิมาห. ตตฺถ วินโย สํวรตฺถายาติ สกลาปิ วินยปฺตฺติ กายวจีทฺวารสํวรตฺถาย. อาชีววิสุทฺธิปริโยสานสฺส สีลสฺส อุปนิสฺสโย ¶ โหติ; ปจฺจโย โหตีติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อปิเจตฺถ อวิปฺปฏิสาโรติ ปาปปฺุานํ กตากตวเสน จิตฺตวิปฺปฏิสาราภาโว. ปามุชฺชนฺติ ทุพฺพลา ตรุณปีติ. ปีตีติ พลวา พหลปีติ. ปสฺสทฺธีติ กายจิตฺตทรถปฏิปฺปสฺสทฺธิ. สุขนฺติ กายิกเจตสิกสุขํ. ตฺหิ ทุวิธมฺปิ สมาธิสฺส อุปนิสฺสยปจฺจโย โหติ. สมาธีติ จิตฺเตกคฺคตา. ยถาภูตาณทสฺสนนฺติ ตรุณวิปสฺสนา; อุทยพฺพยาณสฺเสตํ อธิวจนํ. จิตฺเตกคฺคตา หิ ตรุณวิปสฺสนาย อุปนิสฺสยปจฺจโย โหติ. นิพฺพิทาติ สิขาปตฺตา วุฏฺานคามินิพลววิปสฺสนา. วิราโคติ อริยมคฺโค. วิมุตฺตีติ อรหตฺตผลํ. จตุพฺพิโธปิ หิ อริยมคฺโค อรหตฺตผลสฺส อุปนิสฺสยปจฺจโย โหติ. วิมุตฺติาณทสฺสนนฺติ ปจฺจเวกฺขณาาณํ. วิมุตฺติาณทสฺสนํ อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถายาติ อปจฺจยปรินิพฺพานตฺถาย. อปจฺจยปรินิพฺพานสฺส หิ ตํ ปจฺจโย โหติ, ตสฺมึ อนุปฺปตฺเต อวสฺสํ ปรินิพฺพายิตพฺพโตติ. เอตทตฺถา กถาติ อยํ วินยกถา นาม เอตทตฺถา. มนฺตนาติ วินยมนฺตนา เอว. อุปนิสาติ อยํ ‘‘วินโย สํวรตฺถายา’’ติอาทิกา ปรมฺปรปจฺจยตาปิ เอตทตฺถาย. โสตาวธานนฺติ อิมิสฺสา ปรมฺปรปจฺจยกถาย โสตาวธานํ. อิมํ กถํ สุตฺวา ยํ อุปฺปชฺชติ าณํ, ตมฺปิ เอตทตฺถาย. ยทิทํ อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโขติ โย อยํ จตูหิ อุปาทาเนหิ อนุปาทิยิตฺวา จิตฺตสฺส อรหตฺตผลสงฺขาโต วิโมกฺโข, โสปิ เอตทตฺถาย; อปจฺจยปรินิพฺพานตฺถาย เอวาติ อตฺโถ.
๓๖๗. อนุโยควตฺตคาถาสุ ¶ ปมคาถา วุตฺตตฺถา เอว.
วตฺถุํ วิปตฺตึ อาปตฺตึ, นิทานํ อาการอโกวิโท ปุพฺพาปรํ น ชานาตีติ ‘‘วตฺถุ’’นฺติอาทีนิ ‘‘น ชานาตี’’ติ ปเทน สมฺพนฺโธ. ‘‘อโกวิโท’’ติ ¶ ปทสฺส ‘‘ส เว ตาทิสโก’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ตสฺมา อยเมตฺถ โยชนา – โย ภิกฺขุ ปาราชิกาทีนํ วตฺถุํ น ชานาติ, จตุพฺพิธํ วิปตฺตึ น ชานาติ, สตฺตวิธํ อาปตฺตึ น ชานาติ, ‘‘อิทํ สิกฺขาปทํ อสุกสฺมึ นาม นคเร ปฺตฺต’’นฺติ เอวํ นิทานํ น ชานาติ, ‘‘อิทํ ปุริมวจนํ อิทํ ปจฺฉิมวจน’’นฺติ ปุพฺพาปรํ น ชานาติ, ‘‘อิทํ กตํ อิทํ อกต’’นฺติ กตากตํ น ชานาติ. สเมน จาติ เตเนว ปุพฺพาปรํ อชานนสฺส สเมน อฺาเณน, ‘‘กตากตํ น ชานาตี’’ติ วุตฺตํ โหติ; เอวํ ตาว นชานาติ-ปเทน สทฺธึ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ยํ ปเนตํ ‘‘อาการอโกวิโท’’ติ วุตฺตํ, ตตฺถ อาการอโกวิโทติ การณาการเณ อโกวิโท. อิติ ยฺวายํ ¶ วตฺถุอาทีนิปิ น ชานาติ, อาการสฺส จ อโกวิโท, ส เว ตาทิสโก ภิกฺขุ อปฏิกฺโขติ วุจฺจติ.
กมฺมฺจ อธิกรณฺจาติ อิเมสมฺปิ ปทานํ ‘‘น ชานาตี’’ติ ปเทเนว สมฺพนฺโธ. อยํ ปเนตฺถ โยชนา – ตเถว อิติ ยฺวายํ กมฺมฺจ น ชานาติ, อธิกรณฺจ น ชานาติ, สตฺตปฺปกาเร สมเถ จาปิ อโกวิโท, ราคาทีหิ ปน รตฺโต ทุฏฺโ จ มูฬฺโห จ, ภเยน ภยา คจฺฉติ, สมฺโมเหน โมหา คจฺฉติ, รตฺตตฺตา ปน ทุฏฺตฺตา จ ฉนฺทา โทสา จ คจฺฉติ, ปรํ สฺาเปตุํ อสมตฺถตาย น จ สฺตฺติกุสโล, การณาการณทสฺสเน อสมตฺถตาย นิชฺฌตฺติยา จ อโกวิโท อตฺตโน สทิสาย ปริสาย ลทฺธตฺตา ลทฺธปกฺโข, หิริยา ปริพาหิรตฺตา อหิริโก, กาฬเกหิ กมฺเมหิ สมนฺนาคตตฺตา กณฺหกมฺโม, ธมฺมาทริยปุคฺคลาทริยานํ อภาวโต อนาทโร, ส เว ตาทิสโก ภิกฺขุ อปฏิกฺโขติ วุจฺจติ, น ปฏิกฺขิตพฺโพ น โอโลเกตพฺโพ, น สมฺมนฺนิตฺวา อิสฺสริยาธิปจฺจเชฏฺกฏฺาเน เปตพฺโพติ อตฺโถ. สุกฺกปกฺขคาถานมฺปิ โยชนานโย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ.
จูฬสงฺคามวณฺณนา นิฏฺิตา.
มหาสงฺคาโม
โวหรนฺเตน ชานิตพฺพาทิวณฺณนา
๓๖๘-๓๗๔. มหาสงฺคาเม ¶ ¶ ¶ – วตฺถุโต วา วตฺถุํ สงฺกมตีติ ‘‘ปมปาราชิกวตฺถุ มยา ทิฏฺํ วา สุตํ วา’’ติ วตฺวา ปุน ปุจฺฉิยมาโน นิฆํสิยมาโน ‘‘น มยา ปมปาราชิกสฺส วตฺถุ ทิฏฺํ, น สุตํ; ทุติยปาราชิกสฺส วตฺถุ ทิฏฺํ วา สุตํ วา’’ติ วทติ. เอเตเนว นเยน เสสวตฺถุสงฺกมนํ, วิปตฺติโต วิปตฺติสงฺกมนํ อาปตฺติโต อาปตฺติสงฺกมนฺจ เวทิตพฺพํ. โย ปน ‘‘เนว มยา ทิฏฺํ, น สุต’’นฺติ วตฺวา ปจฺฉา ‘‘มยาเปตํ ทิฏฺํ วา สุตํ วา’’ติ วทติ, ‘‘ทิฏฺํ วา สุตํ วา’’ติ วตฺวา ปจฺฉา ‘‘น ทิฏฺํ วา น สุตํ วา’’ติ วทติ, อยํ อวชานิตฺวา ปฏิชานาติ, ปฏิชานิตฺวา อวชานาตีติ เวทิตพฺโพ. เอเสว อฺเนฺํ ปฏิจรติ นาม.
๓๗๕. วณฺณาวณฺโณติ นีลาทิวณฺณาวณฺณวเสน สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทํ วุตฺตํ. วจนมนุปฺปทานนฺติ สฺจริตฺตํ วุตฺตํ. กายสํสคฺคาทิตฺตยํ สรูเปเนว วุตฺตํ. อิติ อิมานิ ปฺจ เมถุนธมฺมสฺส ปุพฺพภาโค ปุพฺพปโยโคติ เวทิตพฺพานิ.
๓๗๖. จตฺตาริ อปโลกนกมฺมานีติ อธมฺเมนวคฺคาทีนิ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อิติ จตฺตาริ จตุกฺกานิ โสฬส โหนฺติ.
อคติอคนฺตพฺพวณฺณนา
๓๗๙. พหุชนอหิตาย ¶ ปฏิปนฺโน โหตีติ วินยธเรน หิ เอวํ ฉนฺทาทิคติยา อธิกรเณ วินิจฺฉิเต ตสฺมึ วิหาเร สงฺโฆ ทฺวิธา ภิชฺชติ. โอวาทูปชีวินิโย ภิกฺขุนิโยปิ ทฺเว ภาคา โหนฺติ. อุปาสกาปิ อุปาสิกาโยปิ ทารกาปิ ทาริกาโยปิ เตสํ อารกฺขเทวตาปิ ตเถว ทฺวิธา ภิชฺชนฺติ. ตโต ภุมฺมเทวตา อาทึ กตฺวา ยาว อกนิฏฺพฺรหฺมาโน ทฺวิธาว โหนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘พหุชนอหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ…เป… ทุกฺขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ.
๓๘๒. วิสมนิสฺสิโตติ ¶ วิสมานิ กายกมฺมาทีนิ นิสฺสิโต. คหนนิสฺสิโตติ มิจฺฉาทิฏฺิอนฺตคฺคาหิกทิฏฺิสงฺขาตํ คหนํ นิสฺสิโต. พลวนิสฺสิโตติ พลวนฺเต อภิฺาเต ภิกฺขู นิสฺสิโต.
๓๙๓. ตสฺส อวชานนฺโตติ ตสฺส วจนํ อวชานนฺโต. อุปโยคตฺเถ วา สามิวจนํ, ตํ อวชานนฺโตติ อตฺโถ.
๓๙๔. ยํ อตฺถายาติ ยทตฺถาย. ตํ อตฺถนฺติ โส อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
มหาสงฺคามวณฺณนา นิฏฺิตา.
กถินเภทํ
กถินอตฺถตาทิวณฺณนา
๔๐๓. กถิเน ¶ ¶ ¶ – อฏฺ มาติกาติ ขนฺธเก วุตฺตา ปกฺกมนนฺติกาทิกา อฏฺ. ปลิโพธานิสํสาปิ ปุพฺเพ วุตฺตา เอว.
๔๐๔. ปโยคสฺสาติ จีวรโธวนาทิโน สตฺตวิธสฺส ปุพฺพกรณสฺสตฺถาย โย อุทกาหรณาทิโก ปโยโค กยิรติ, ตสฺส ปโยคสฺส. กตเม ธมฺมา อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโยติ อนาคตวเสน อนนฺตรา หุตฺวา กตเม ธมฺมา ปจฺจยา โหนฺตีติ อตฺโถ. สมนนฺตรปจฺจเยนาติ สุฏฺุ อนนฺตรปจฺจเยน, อนนฺตรปจฺจยเมว อาสนฺนตรํ กตฺวา ปุจฺฉติ. นิสฺสยปจฺจเยนาติ อุปฺปชฺชมานสฺส ปโยคสฺส นิสฺสยํ อาธารภาวํ อุปคตา วิย หุตฺวา กตเม ธมฺมา ปจฺจยา โหนฺตีติ อตฺโถ. อุปนิสฺสยปจฺจเยนาติ อุเปเตน นิสฺสยปจฺจเยน; นิสฺสยปจฺจยเมว อุปคตตรํ กตฺวา ปุจฺฉติ. ปุเรชาตปจฺจเยนาติ อิมินา ปมํ อุปฺปนฺนสฺส ปจฺจยภาวํ ปุจฺฉติ. ปจฺฉาชาตปจฺจเยนาติ อิมินา ปจฺฉา อุปฺปชฺชนกสฺส ปจฺจยภาวํ ปุจฺฉติ. สหชาตปจฺจเยนาติ อิมินา อปุพฺพํ อจริมํ อุปฺปชฺชมานานํ ปจฺจยภาวํ ปุจฺฉติ. ปุพฺพกรณสฺสาติ โธวนาทิโน ปุพฺพกรณสฺส. ปจฺจุทฺธารสฺสาติ ปุราณสงฺฆาฏิอาทีนํ ปจฺจุทฺธรณสฺส. อธิฏฺานสฺสาติ กถินจีวราธิฏฺานสฺส. อตฺถารสฺสาติ กถินตฺถารสฺส. มาติกานฺจ ปลิโพธานฺจาติ อฏฺนฺนํ มาติกานํ ทฺวินฺนฺจ ปลิโพธานํ. วตฺถุสฺสาติ สงฺฆาฏิอาทิโน กถินวตฺถุสฺส; เสสํ วุตฺตนยเมว.
เอวํ ยฺจ ลพฺภติ ยฺจ น ลพฺภติ, สพฺพํ ปุจฺฉิตฺวา อิทานิ ยํ ยสฺส ลพฺภติ, ตเทว ทสฺเสนฺโต ปุพฺพกรณํ ปโยคสฺสาติอาทินา นเยน วิสฺสชฺชนมาห. ตสฺสตฺโถ – ยํ วุตฺตํ ‘‘ปโยคสฺส ¶ กตเม ธมฺมา’’ติอาทิ, ตตฺถ วุจฺจเต, ปุพฺพกรณํ ปโยคสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย, สมนนฺตรนิสฺสยอุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย. ปโยคสฺส หิ สตฺตวิธมฺปิ ปุพฺพกรณํ ยสฺมา เตน ปโยเคน นิปฺผาเทตพฺพสฺส ปุพฺพกรณสฺสตฺถาย โส ปโยโค กยิรติ, ตสฺมา อิเมหิ จตูหิ ปจฺจเยหิ ปจฺจโย โหติ. ปุเรชาตปจฺจเย ปเนส อุทฺทิฏฺธมฺเมสุ เอกธมฺมมฺปิ น ¶ ลภติ, อฺทตฺถุ ปุพฺพกรณสฺส สยํ ปุเรชาตปจฺจโย โหติ, ปโยเค สติ ปุพฺพกรณสฺส นิปฺผชฺชนโต ¶ . เตน วุตฺตํ – ‘‘ปโยโค ปุพฺพกรณสฺส ปุเรชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ. ปจฺฉาชาตปจฺจยํ ปน ลภติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘ปุพฺพกรณํ ปโยคสฺส ปจฺฉาชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ. ปจฺฉา อุปฺปชฺชนกสฺส หิ ปุพฺพกรณสฺส อตฺถาย โส ปโยโค กยิรติ. สหชาตปจฺจยํ ปน มาติกาปลิโพธานิสํสสงฺขาเต ปนฺนรส ธมฺเม เปตฺวา อฺโ ปโยคาทีสุ เอโกปิ ธมฺโม น ลภติ, เต เอว หิ ปนฺนรส ธมฺมา สห กถินตฺถาเรน เอกโต นิปฺผชฺชนฺตีติ อฺมฺํ สหชาตปจฺจยา โหนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปนฺนรส ธมฺมา สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ. เอเตนุปาเยน สพฺพปทวิสฺสชฺชนานิ เวทิตพฺพานิ.
ปุพฺพกรณนิทานาทิวิภาควณฺณนา
๔๐๕. ปุพฺพกรณํ กึนิทานนฺติอาทิปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ อุตฺตานเมว.
๔๐๖-๗. ‘‘ปโยโค กึนิทาโน’’ติอาทีสุ ปุจฺฉาทฺวยวิสฺสชฺชเนสุ เหตุนิทาโน ปจฺจยนิทาโนติ เอตฺถ ฉ จีวรานิ เหตุ เจว ปจฺจโย จาติ เวทิตพฺพานิ. ปุพฺพปโยคาทีนฺหิ สพฺเพสํ ตานิเยว เหตุ, ตานิ ปจฺจโย. น หิ ฉพฺพิเธ จีวเร อสติ ปโยโค อตฺถิ, น ปุพฺพกรณาทีนิ, ตสฺมา ‘‘ปโยโค เหตุนิทาโน’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๔๐๘. สงฺคหวาเร – วจีเภเทนาติ ‘‘อิมาย สงฺฆาฏิยา, อิมินา อุตฺตราสงฺเคน, อิมินา อนฺตรวาสเกน กถินํ อตฺถรามี’’ติ เอเตน วจีเภเทน. กติมูลาทิปุจฺฉาวิสฺสชฺชเน – กิริยา มชฺเฌติ ปจฺจุทฺธาโร เจว อธิฏฺานฺจ.
๔๑๑. วตฺถุวิปนฺนํ โหตีติ อกปฺปิยทุสฺสํ โหติ. กาลวิปนฺนํ นาม อชฺช ทายเกหิ ทินฺนํ สฺเว สงฺโฆ กถินตฺถารกสฺส เทติ. กรณวิปนฺนํ นาม ตทเหว ฉินฺทิตฺวา อกตํ.
กถินาทิชานิตพฺพวิภาควณฺณนา
๔๑๒. กถินํ ¶ ¶ ชานิตพฺพนฺติอาทิปุจฺฉาย วิสฺสชฺชเน – เตสฺเว ธมฺมานนฺติ เยสุ รูปาทิธมฺเมสุ สติ กถินํ นาม โหติ, เตสํ สโมธานํ มิสฺสีภาโว. นามํ นามกมฺมนฺติอาทินา ปน ‘‘กถิน’’นฺติ อิทํ พหูสุ ธมฺเมสุ นามมตฺตํ, น ปรมตฺถโต เอโก ธมฺโม อตฺถีติ ทสฺเสติ.
จตุวีสติยา อากาเรหีติ ‘‘น อุลฺลิขิตมตฺเตนา’’ติอาทีหิ ปุพฺเพ วุตฺตการเณหิ. สตฺตรสหิ อากาเรหีติ ‘‘อหเตน อตฺถตํ โหติ กถิน’’นฺติอาทีหิ ปุพฺเพ วุตฺตการเณหิ. นิมิตฺตกมฺมาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ สพฺพํ กถินกฺขนฺธกวณฺณนายํ วุตฺตํ.
๔๑๖. เอกุปฺปาทา เอกนิโรธาติ อุปฺปชฺชมานาปิ เอกโต อุปฺปชฺชนฺติ, นิรุชฺฌมานาปิ เอกโต นิรุชฺฌนฺติ. เอกุปฺปาทา นานานิโรธาติ อุปฺปชฺชมานา เอกโต อุปฺปชฺชนฺติ, นิรุชฺฌมานา นานา นิรุชฺฌนฺติ. กึ วุตฺตํ โหติ ¶ ? สพฺเพปิ อตฺถาเรน สทฺธึ เอกโต อุปฺปชฺชนฺติ, อตฺถาเร หิ สติ อุทฺธาโร นาม. นิรุชฺฌมานา ปเนตฺถ ปุริมา ทฺเว อตฺถาเรน สทฺธึ เอกโต นิรุชฺฌนฺติ, อุทฺธารภาวํ ปาปุณนฺติ. อตฺถารสฺส หิ นิโรโธ เอเตสฺจ อุทฺธารภาโว เอกกฺขเณ โหติ, อิตเร นานา นิรุชฺฌนฺติ. เตสุ อุทฺธารภาวํ ปตฺเตสุปิ อตฺถาโร ติฏฺติเยว. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย
กถินเภทวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺตฺติวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
อุปาลิปฺจกํ
อนิสฺสิตวคฺควณฺณนา
๔๑๗. อุปาลิปฺเหสุ ¶ ¶ กติหิ นุ โข ภนฺเตติ ปุจฺฉาย อยํ สมฺพนฺโธ. เถโร กิร รโหคโต สพฺพานิ อิมานิ ปฺจกานิ อาวชฺเชตฺวา ‘‘ภควนฺตํ ทานิ ปุจฺฉิตฺวา อิเมสํ นิสฺสาย วสนกาทีนํ อตฺถาย ตนฺตึ เปสฺสามี’’ติ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘กติหิ นุ โข ภนฺเต’’ติอาทินา นเยน ปฺเห ปุจฺฉิ. เตสํ วิสฺสชฺชเน อุโปสถํ น ชานาตีติ นววิธํ อุโปสถํ น ชานาติ. อุโปสถกมฺมํ น ชานาตีติ อธมฺเมนวคฺคาทิเภทํ จตุพฺพิธํ อุโปสถกมฺมํ น ชานาติ. ปาติโมกฺขํ น ชานาตีติ ทฺเว มาติกา น ชานาติ. ปาติโมกฺขุทฺเทสํ น ชานาตีติ ภิกฺขูนํ ปฺจวิธํ ภิกฺขุนีนํ จตุพฺพิธนฺติ นววิธํ ปาติโมกฺขุทฺเทสํ น ชานาติ.
ปวารณํ น ชานาตีติ นววิธํ ปวารณํ น ชานาติ. ปวารณากมฺมํ น ชานาตีติ อธมฺเมนวคฺคาทิเภทํ จตุพฺพิธํ ปวารณากมฺมํ น ชานาติ.
อาปตฺตานาปตฺตึ น ชานาตีติ ตสฺมึ ตสฺมึ สิกฺขาปเท นิทฺทิฏฺํ อาปตฺติฺจ อนาปตฺติฺจ น ชานาติ.
อาปนฺโน กมฺมกโตติ อาปตฺตึ อาปนฺโน ตปฺปจฺจยาว สงฺเฆน กมฺมํ กตํ โหติ.
นปฺปฏิปฺปสฺสมฺภนวคฺควณฺณนา
๔๒๐. กมฺมํ ¶ นปฺปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพนฺติ อยํ ยสฺมา อนุโลมวตฺเต น วตฺตติ, ตสฺมา นาสฺส กมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพํ; สรชฺชุโกว วิสฺสชฺเชตพฺโพติ อตฺโถ.
๔๒๑. สเจ อุปาลิ สงฺโฆ สมคฺคกรณียานิ กมฺมานิ กโรตีติ สเจ สมคฺเคหิ กรณียานิ อุโปสถาทีนิ กมฺมานิ กโรติ, อุโปสถปวารณาทีสุ หิ ิตาสุ อุปตฺถมฺโภ น ทาตพฺโพ. สเจ หิ สงฺโฆ อจฺจยํ เทสาเปตฺวา สงฺฆสามคฺคึ กโรติ, ติณวตฺถารกสมถํ วา กตฺวา อุโปสถปวารณํ กโรติ ¶ , เอวรูปํ สมคฺคกรณียํ นาม กมฺมํ โหติ. ตตฺร เจติ สเจ ตาทิเส กมฺเม ภิกฺขุโน นกฺขมติ, ทิฏฺาวิกมฺมมฺปิ ¶ กตฺวา ตถารูปา สามคฺคี อุเปตพฺพา, เอวํ วิโลมคฺคาโห น คณฺหิตพฺโพ. ยตฺร ปน อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุ สาสนํ ทีเปนฺติ, ตตฺถ ทิฏฺาวิกมฺมํ น วฏฺฏติ, ปฏิพาหิตฺวา ปกฺกมิตพฺพํ.
อุสฺสิตมนฺตี จาติ โลภโทสโมหมานุสฺสนฺนํ วาจํ ภาสิตา กณฺหวาโจ อนตฺถกทีปโน. นิสฺสิตชปฺปีติ อตฺตโน ธมฺมตาย อุสฺสทยุตฺตํ ภาสิตุํ น สกฺโกติ; อถ โข ‘‘มยา สทฺธึ ราชา เอวํ กเถสิ, อสุกมหามตฺโต เอวํ กเถสิ, อสุโก นาม มยฺหํ อาจริโย วา อุปชฺฌาโย วา เตปิฏโก มยา สทฺธึ เอวํ กเถสี’’ติ เอวํ อฺํ นิสฺสาย ชปฺปติ. น จ ภาสานุสนฺธิกุสโลติ กถานุสนฺธิวจเน จ วินิจฺฉยานุสนฺธิวจเน จ อกุสโล โหติ. น ยถาธมฺเม ยถาวินเยติ น ภูเตน วตฺถุนา อาปตฺตึ สาเรตฺวา โจเทตา โหติ.
อุสฺสาเทตา โหตีติ ‘‘อมฺหากํ อาจริโย มหาเตปิฏโก ปรมธมฺมกถิโก’’ติอาทินา นเยน เอกจฺจํ อุสฺสาเทติ. ทุติยปเท ‘‘อาปตฺตึ กึ โส น ชานาตี’’ติอาทินา เอกจฺจํ อปสาเทติ. อธมฺมํ คณฺหาตีติ อนิยฺยานิกปกฺขํ คณฺหาติ. ธมฺมํ ปฏิพาหตีติ นิยฺยานิกปกฺขํ ปฏิพาหติ. สมฺผฺจ พหุํ ภาสตีติ พหุํ นิรตฺถกกถํ กเถติ.
ปสยฺห ปวตฺตา โหตีติ อนชฺฌิฏฺโ ภาเร อนาโรปิเต เกวลํ มานํ นิสฺสาย อชฺโฌตฺถริตฺวา อนธิกาเร กเถตา โหติ. อโนกาสกมฺมํ กาเรตฺวาติ โอกาสกมฺมํ อกาเรตฺวา ปวตฺตา โหติ. น ยถาทิฏฺิยา พฺยากตา โหตีติ ยสฺส อตฺตโน ทิฏฺิ ตํ ปุรกฺขตฺวา น พฺยากตา ¶ ; ลทฺธึ นิกฺขิปิตฺวา อยถาภุจฺจํ อธมฺมาทีสุ ธมฺมาทิลทฺธิโก หุตฺวา กเถตา โหตีติ อตฺโถ.
โวหารวคฺควณฺณนา
๔๒๔. อาปตฺติยา ปโยคํ น ชานาตีติ ‘‘อยํ อาปตฺติ กายปฺปโยคา, อยํ วจีปโยคา’’ติ น ชานาติ. อาปตฺติยา วูปสมํ น ชานาตีติ ‘‘อยํ อาปตฺติ เทสนาย วูปสมติ, อยํ วุฏฺาเนน, อยํ เนว เทสนาย น วุฏฺาเนนา’’ติ น ชานาติ. อาปตฺติยา น วินิจฺฉยกุสโล ¶ โหตีติ ‘‘อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ อยํ อาปตฺตี’’ติ น ชานาติ, โทสานุรูปํ อาปตฺตึ อุทฺธริตฺวา ปติฏฺาเปตุํ ¶ น สกฺโกติ.
อธิกรณสมุฏฺานํ น ชานาตีติ ‘‘อิทํ อธิกรณํ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ นิสฺสาย สมุฏฺาติ, อิทํ จตสฺโส วิปตฺติโย, อิทํ ปฺจ วา สตฺต วา อาปตฺติกฺขนฺเธ, อิทํ จตฺตาริ สงฺฆกิจฺจานิ นิสฺสาย สมุฏฺาตี’’ติ น ชานาติ. ปโยคํ น ชานาตีติ ‘‘อิทํ อธิกรณํ ทฺวาทสมูลปฺปโยคํ, อิทํ จุทฺทสมูลปฺปโยคํ, อิทํ ฉมูลปโยคํ, อิทํ เอกมูลปโยค’’นฺติ น ชานาติ. อธิกรณานฺหิ ยถาสกํมูลเมว ปโยคา นาม โหนฺติ, ตํ สพฺพมฺปิ น ชานาตีติ อตฺโถ. วูปสมํ น ชานาตีติ ‘‘อิทํ อธิกรณํ ทฺวีหิ สมเถหิ วูปสมติ, อิทํ ตีหิ, อิทํ จตูหิ, อิทํ เอเกน สมเถน วูปสมตี’’ติ น ชานาติ. น วินิจฺฉยกุสโล โหตีติ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตฺวา สมถํ ปาเปตุํ น ชานาติ.
กมฺมํ น ชานาตีติ ตชฺชนียาทิ สตฺตวิธํ กมฺมํ น ชานาติ. กมฺมสฺส กรณํ น ชานาตีติ ‘‘อิทํ กมฺมํ อิมินา นีหาเรน กาตพฺพ’’นฺติ น ชานาติ. กมฺมสฺส วตฺถุํ น ชานาตีติ ‘‘อิทํ ตชฺชนียสฺส วตฺถุ, อิทํ นิยสฺสาทีน’’นฺติ น ชานาติ. วตฺตนฺติ สตฺตสุ กมฺเมสุ เหฏฺา จตุนฺนํ กมฺมานํ อฏฺารสวิธํ ติวิธสฺส จ อุกฺเขปนียกมฺมสฺส เตจตฺตาลีสวิธํ วตฺตํ น ชานาติ. กมฺมสฺส วูปสมํ น ชานาตีติ ‘‘โย ภิกฺขุ วตฺเต วตฺติตฺวา ยาจติ, ตสฺส กมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพํ, อจฺจโย เทสาเปตพฺโพ’’ติ น ชานาติ.
วตฺถุํ น ชานาตีติ สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ วตฺถุํ น ชานาติ. นิทานํ น ชานาตีติ ‘‘อิทํ ¶ สิกฺขาปทํ อิมสฺมึ นคเร ปฺตฺตํ, อิทํ อิมสฺมิ’’นฺติ น ชานาติ. ปฺตฺตึ น ชานาตีติ ปฺตฺติอนุปฺตฺติอนุปฺปนฺนปฺตฺติวเสน ติวิธํ ปฺตฺตึ น ชานาติ. ปทปจฺจาภฏฺํ น ชานาตีติ สมฺมุขา กาตพฺพํ ปทํ น ชานาติ. ‘‘พุทฺโธ ภควา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ภควา พุทฺโธ’’ติ เหฏฺุปริยํ กตฺวา ปทํ โยเชติ.
อกุสโล จ โหติ วินเยติ วินยปาฬิยฺจ อฏฺกถายฺจ อกุสโล โหติ.
ตฺตึ น ชานาตีติ สงฺเขปโต หิ ทุวิธา ตฺติ – ‘‘เอสา ตฺตี’’ติ เอวํ นิทฺทิฏฺา จ อนิทฺทิฏฺา จ. ตตฺถ ยา เอวํ อนิทฺทิฏฺา, สา ‘‘กมฺมตฺติ’’ นาม โหติ. ยา นิทฺทิฏฺา, สา ‘‘กมฺมปาทตฺติ’’ นาม, ตํ สพฺเพน สพฺพํ ตฺตึ น ชานาติ. ตฺติยา ¶ กรณํ น ชานาตีติ นวสุ าเนสุ กมฺมตฺติยา กรณํ น ชานาติ, ทฺวีสุ าเนสุ ¶ กมฺมปาทตฺติยา. ตฺติยา อนุสฺสาวนนฺติ ‘‘อิมิสฺสา ตฺติยา เอกา อนุสฺสาวนา, อิมิสฺสา ติสฺโส’’ติ น ชานาติ. ตฺติยา สมถํ น ชานาตีติ ยฺวายํ สติวินโย, อมูฬฺหวินโย, ตสฺสปาปิยสิกา, ติณวตฺถารโกติ จตุพฺพิโธ สมโถ ตฺติยา วินา น โหติ, ตํ ตฺติยา สมโถติ น ชานาติ. ตฺติยา วูปสมํ น ชานาตีติ ยํ อธิกรณํ อิมินา จตุพฺพิเธน ตฺติสมเถน วูปสมติ, ตสฺส ตํ วูปสมํ ‘‘อยํ ตฺติยา วูปสโม กโต’’ติ น ชานาติ.
สุตฺตํ น ชานาตีติ อุภโตวิภงฺคํ น ชานาติ. สุตฺตานุโลมํ น ชานาตีติ จตฺตาโร มหาปเทเส น ชานาติ. วินยํ น ชานาตีติ ขนฺธกปริวารํ น ชานาติ. วินยานุโลมํ น ชานาตีติ จตฺตาโร มหาปเทเสเยว น ชานาติ. น จ านาานกุสโลติ การณาการณกุสโล น โหติ.
ธมฺมํ น ชานาตีติ เปตฺวา วินยปิฏกํ อวเสสํ ปิฏกทฺวยํ น ชานาติ. ธมฺมานุโลมํ น ชานาตีติ สุตฺตนฺติเก จตฺตาโร มหาปเทเส น ชานาติ. วินยํ น ชานาตีติ ขนฺธกปริวารเมว น ชานาติ. วินยานุโลมํ น ชานาตีติ จตฺตาโร มหาปเทเส น ชานาติ. อุภโตวิภงฺคา ปเนตฺถ อสงฺคหิตา โหนฺติ, ตสฺมายํ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ – ‘‘วินยนฺติ สกลํ วินยปิฏกํ น ชานาตี’’ติ ตํ น คเหตพฺพํ. น จ ปุพฺพาปรกุสโล โหตีติ ปุเรกถาย จ ปจฺฉากถาย ¶ จ อกุสโล โหติ. เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตปฏิปกฺขวเสน เยฺยตฺตา ปุพฺเพ ปกาสิตตฺตา จ อุตฺตานเมวาติ.
อนิสฺสิตวคฺคนปฺปฏิปฺปสฺสมฺภนวคฺคโวหารวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
ทิฏฺาวิกมฺมวคฺควณฺณนา
๔๒๕. ทิฏฺาวิกมฺมวคฺเค – ทิฏฺาวิกมฺมาติ ทิฏฺีนํ อาวิกมฺมานิ; ลทฺธิปฺปกาสนานิ อาปตฺติเทสนาสงฺขาตานํ วินยกมฺมานเมตํ อธิวจนํ. อนาปตฺติยา ทิฏฺึ อาวิ กโรตีติ อนาปตฺติเมว อาปตฺตีติ เทเสตีติ อตฺโถ ¶ . อเทสนาคามินิยาติ ครุกาปตฺติยา ทิฏฺึ อาวิกโรติ; สงฺฆาทิเสสฺจ ปาราชิกฺจ เทเสตีติ อตฺโถ. เทสิตายาติ ลหุกาปตฺติยาปิ เทสิตาย ทิฏฺึ อาวิกโรติ; เทสิตํ ปุน เทเสตีติ ¶ อตฺโถ.
จตูหิ ปฺจหิ ทิฏฺินฺติ ยถา จตูหิ ปฺจหิ ทิฏฺิ อาวิกตา โหติ, เอวํ อาวิกโรติ; จตฺตาโร ปฺจ ชนา เอกโต อาปตฺตึ เทเสนฺตีติ อตฺโถ. มโนมานเสนาติ มนสงฺขาเตน มานเสน ทิฏฺึ อาวิกโรติ; วจีเภทํ อกตฺวา จิตฺเตเนว อาปตฺตึ เทเสตีติ อตฺโถ.
นานาสํวาสกสฺสาติ ลทฺธินานาสํวาสกสฺส วา กมฺมนานาสํวาสกสฺส วา สนฺติเก ทิฏฺึ อาวิกโรติ; อาปตฺตึ เทเสตีติ อตฺโถ. นานาสีมายาติ สมานสํวาสกสฺสาปิ นานาสีมาย ิตสฺส สนฺติเก อาวิกโรติ. มาฬกสีมาย หิ ิเตน สีมนฺตริกาย ิตสฺส สีมนฺตริกาย วา ิเตน อวิปฺปวาสสีมาย ิตสฺสาปิ อาปตฺตึ เทเสตุํ น วฏฺฏติ. อปกตตฺตสฺสาติ อุกฺขิตฺตกสฺส วา, ยสฺส วา อุโปสถปวารณา ปิตา โหนฺติ, ตสฺส สนฺติเก เทเสตีติ อตฺโถ.
๔๓๐. นาลํ โอกาสกมฺมํ กาตุนฺติ น ปริยตฺตํ กาตุํ; น กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. อิธาปิ อปกตตฺโต อุกฺขิตฺตโก จ ปิตอุโปสถปวารโณ จ. จาวนาธิปฺปาโยติ สาสนโต จาเวตุกาโม.
๔๓๒. มนฺทตฺตา ¶ โมมูหตฺตาติ มนฺทภาเวน โมมูหภาเวน วิสฺสชฺชิตมฺปิ ชานิตุํ อสมตฺโถ, เกวลํ อตฺตโน โมมูหภาวํ ปกาเสนฺโตเยว ปุจฺฉติ อุมฺมตฺตโก วิย. ปาปิจฺโฉติ ‘‘เอวํ มํ ชโน สมฺภาเวสฺสตี’’ติ ปาปิกาย อิจฺฉาย ปุจฺฉติ. ปริภวาติ ปริภวํ อาโรเปตุกาโม หุตฺวา ปุจฺฉติ. อฺพฺยากรเณสุปิ เอเสว นโย. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ. อตฺตาทานวคฺเค จ ธุตงฺควคฺเค จ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตเมว.
ทิฏฺาวิกมฺมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
มุสาวาทวคฺควณฺณนา
๔๔๔. มุสาวาทวคฺเค ¶ – ปาราชิกํ คจฺฉตีติ ปาราชิกคามี; ปาราชิกาปตฺติภาวํ ปาปุณาตีติ อตฺโถ. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ อสนฺตอุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนมุสาวาโท ปาราชิกคามี, อมูลเกน ปาราชิเกน อนุทฺธํสนมุสาวาโท สงฺฆาทิเสสคามี, ‘‘โย เต วิหาเร วสตี’’ติอาทินา ปริยาเยน ชานนฺตสฺส วุตฺตมุสาวาโท ถุลฺลจฺจยคามี, อชานนฺตสฺส ทุกฺกฏคามี, ‘‘สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติย’’นฺติ อาคโต ปาจิตฺติยคามีติ เวทิตพฺโพ.
อทสฺสเนนาติ วินยธรสฺส อทสฺสเนน. กปฺปิยากปฺปิเยสุ หิ กุกฺกุจฺเจ อุปฺปนฺเน ¶ วินยธรํ ทิสฺวา กปฺปิยากปฺปิยภาวํ ปฏิปุจฺฉิตฺวา อกปฺปิยํ ปหาย กปฺปิยํ กเรยฺย, ตํ อปสฺสนฺโต ปน อกปฺปิยมฺปิ กปฺปิยนฺติ กโรนฺโต อาปชฺชติ. เอวํ อาปชฺชิตพฺพํ อาปตฺตึ วินยธรสฺส ทสฺสเนน นาปชฺชติ, อทสฺสเนเนว อาปชฺชติ, เตน วุตฺตํ ‘‘อทสฺสเนนา’’ติ. อสฺสวเนนาติ เอกวิหาเรปิ วสนฺโต ปน วินยธรสฺส อุปฏฺานํ คนฺตฺวา กปฺปิยากปฺปิยํ อปุจฺฉิตฺวา วา อฺเสฺจ วุจฺจมานํ อสุณนฺโต อาปชฺชติเยว, เตน วุตฺตํ ‘‘อสฺสวเนนา’’ติ. ปสุตฺตกตาติ ปสุตฺตกตาย. สหคารเสยฺยฺหิ ปสุตฺตกภาเวนปิ อาปชฺชติ. อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตาย อาปชฺชนฺโต ปน ตถาสฺี อาปชฺชติ. สติสมฺโมสา เอกรตฺตาติกฺกมาทิวเสน อาปชฺชิตพฺพํ อาปชฺชติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
มุสาวาทวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
ภิกฺขุโนวาทวคฺควณฺณนา
๔๕๐. ภิกฺขุนิวคฺเค ¶ – อลาภายาติ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ อลาภตฺถาย; ยถา ปจฺจเย น ลภนฺติ, ตถา ปริสกฺกติ วายมตีติ อตฺโถ. อนตฺถายาติ อนตฺถํ กลิสาสนํ อาโรเปนฺโต ปริสกฺกติ. อวาสายาติ อวาสตฺถาย; ยสฺมึ คามเขตฺเต วสนฺติ, ตโต นีหรณตฺถาย. สมฺปโยเชตีติ อสทฺธมฺมปฏิเสวนตฺถาย สมฺปโยเชติ.
๔๕๑. ‘‘กติหิ ¶ นุ โข ภนฺเต องฺเคหิ สมนฺนาคตาย ภิกฺขุนิยา กมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติ สตฺตนฺนํ กมฺมานํ อฺตรํ สนฺธาย ปุจฺฉติ.
๔๕๔. น สากจฺฉาตพฺโพติ กปฺปิยากปฺปิยนามรูปปริจฺเฉทสมถวิปสฺสนาทิเภโท กถามคฺโค น กเถตพฺโพ. ยสฺมา ปน ขีณาสโว ภิกฺขุ น วิสํวาเทติ, ตถารูปสฺส กถามคฺคสฺส สามี หุตฺวา กเถติ, น อิตโร; ตสฺมา ปมปฺจเก ‘‘น อเสกฺเขนา’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ทุติยปฺจเก ‘‘อเสกฺเขนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
น อตฺถปฏิสมฺภิทาปตฺโตติ อฏฺกถาย ปฏิสมฺภิทาปตฺโต ปเภทคตาณปฺปตฺโต น โหติ. น ธมฺมปฏิสมฺภิทาปตฺโตติ ปาฬิธมฺเม ปฏิสมฺภิทาปตฺโต น โหติ. น นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาปตฺโตติ โวหารนิรุตฺติยํ ปฏิสมฺภิทาปตฺโต น โหติ. น ปฏิภานปฏิสมฺภิทาปตฺโตติ ยานิ ตานิ ปฏิภานสงฺขาตานิ อตฺถปฏิสมฺภิทาทีนิ าณานิ, เตสุ ปฏิสมฺภิทาปตฺโต น โหติ. ยถาวิมุตฺตํ ¶ จิตฺตํ น ปจฺจเวกฺขิตาติ จตุนฺนํ ผลวิมุตฺตีนํ วเสน ยถาวิมุตฺตํ จิตฺตํ เอกูนวีสติเภทาย ปจฺจเวกฺขณาย น ปจฺจเวกฺขิตา โหติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ภิกฺขุโนวาทวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
อุพฺพาหิกวคฺควณฺณนา
๔๕๕. อุพฺพาหิกวคฺเค – น อตฺถกุสโลติ น อฏฺกถากุสโล; อตฺถุทฺธาเร เฉโก น โหติ. น ธมฺมกุสโลติ อาจริยมุขโต อนุคฺคหิตตฺตา ปาฬิยํ น กุสโล, น ปาฬิสูโร. น ¶ นิรุตฺติกุสโลติ ภาสนฺตรโวหาเร น กุสโล. น พฺยฺชนกุสโลติ สิถิลธนิตาทิวเสน ปริมณฺฑลพฺยฺชนาโรปเน กุสโล น โหติ; น อกฺขรปริจฺเฉเท นิปุโณติ อตฺโถ. น ปุพฺพาปรกุสโลติ อตฺถปุพฺพาปเร ธมฺมปุพฺพาปเร นิรุตฺติปุพฺพาปเร พฺยฺชนปุพฺพาปเร ปุเรกถาปจฺฉากถาสุ จ น กุสโล โหติ.
โกธโนติอาทีนิ ยสฺมา โกธาทีหิ อภิภูโต การณาการณํ น ชานาติ, วินิจฺฉิตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมา วุตฺตานิ. ปสาเรตา โหติ ¶ โน สาเรตาติ โมเหตา โหติ, น สติอุปฺปาเทตา; โจทกจุทิตกานํ กถํ โมเหติ ปิทหติ น สาเรตีติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ อุพฺพาหิกวคฺเค อุตฺตานเมวาติ.
อุพฺพาหิกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
อธิกรณวูปสมวคฺควณฺณนา
๔๕๗. อธิกรณวูปสมวคฺเค – ปุคฺคลครุ โหตีติ ‘‘อยํ เม อุปชฺฌาโย, อยํ เม อาจริโย’’ติอาทีนิ จินฺเตตฺวา ตสฺส ชยํ อากงฺขมาโน ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติ ทีเปติ. สงฺฆครุ โหตีติ ธมฺมฺจ วินยฺจ อมฺุจิตฺวา วินิจฺฉินนฺโต สงฺฆครุโก นาม โหติ. จีวราทีนิ คเหตฺวา วินิจฺฉินนฺโต อามิสครุโก นาม โหติ, ตานิ อคฺคเหตฺวา ยถาธมฺมํ วินิจฺฉินนฺโต สทฺธมฺมครุโก นาม โหติ.
๔๕๘. ปฺจหุปาลิ อากาเรหีติ ปฺจหิ การเณหิ สงฺโฆ ภิชฺชติ – กมฺเมน, อุทฺเทเสน, โวหรนฺโต, อนุสฺสาวเนน, สลากคฺคาเหนาติ. เอตฺถ กมฺเมนาติ อปโลกนาทีสุ จตูสุ กมฺเมสุ อฺตเรน กมฺเมน. อุทฺเทเสนาติ ปฺจสุ ปาติโมกฺขุทฺเทเสสุ อฺตเรน อุทฺเทเสน. โวหรนฺโตติ กถยนฺโต; ตาหิ ตาหิ อุปปตฺตีหิ ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติอาทีนิ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ ทีเปนฺโต ¶ . อนุสฺสาวเนนาติ ‘‘นนุ ตุมฺเห ชานาถ มยฺหํ อุจฺจากุลา ปพฺพชิตภาวํ พหุสฺสุตภาวฺจ, มาทิโส นาม อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุ สาสนํ คาเหยฺยาติ จิตฺตมฺปิ อุปฺปาเทตุํ ตุมฺหากํ ยุตฺตํ, กึ มยฺหํ อวีจิ นีลุปฺปลวนมิว สีตโล, กิมหํ อปายโต น ภายามี’’ติอาทินา นเยน กณฺณมูเล วจีเภทํ กตฺวา อนุสฺสาวเนน. สลากคฺคาเหนาติ เอวํ อนุสฺสาเวตฺวา ¶ เตสํ จิตฺตํ อุปตฺถมฺเภตฺวา อนิวตฺติธมฺเม กตฺวา ‘‘คณฺหถ อิมํ สลาก’’นฺติ สลากคฺคาเหน.
เอตฺถ จ กมฺมเมว อุทฺเทโส วา ปมาณํ, โวหารานุสฺสาวนสลากคฺคาหา ปน ปุพฺพภาคา. อฏฺารสวตฺถุทีปนวเสน หิ โวหรนฺเต ตตฺถ รุจิชนนตฺถํ ¶ อนุสฺสาเวตฺวา สลากาย คาหิตายปิ อภินฺโนว โหติ สงฺโฆ. ยทา ปน เอวํ จตฺตาโร วา อติเรเก วา สลากํ คาเหตฺวา อาเวณิกํ กมฺมํ วา อุทฺเทสํ วา กโรติ, ตทา สงฺโฆ ภินฺโน นาม โหติ. อิติ ยํ สงฺฆเภทกกฺขนฺธกวณฺณนายํ อโวจุมฺหา ‘‘เอวํ อฏฺารสสุ วตฺถูสุ ยํกิฺจิ เอกมฺปิ วตฺถุํ ทีเปตฺวา เตน เตน การเณน ‘อิมํ คณฺหถ, อิมํ โรเจถา’ติ สฺาเปตฺวา สลากํ คาเหตฺวา วิสุํ สงฺฆกมฺเม กเต สงฺโฆ ภินฺโน โหติ. ปริวาเร ปน ‘ปฺจหิ, อุปาลิ, อากาเรหิ สงฺโฆ ภิชฺชตี’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺส อิมินา อิธ วุตฺเตน สงฺฆเภทลกฺขเณน อตฺถโต นานากรณํ นตฺถิ. ตํ ปนสฺส นานากรณาภาวํ ตตฺเถว ปกาสยิสฺสามา’’ติ, สฺวายํ ปกาสิโต โหติ.
ปฺตฺเตตนฺติ ปฺตฺตํ เอตํ. กฺว ปฺตฺตํ? วตฺตกฺขนฺธเก. ตตฺร หิ จุทฺทส ขนฺธกวตฺตานิ ปฺตฺตานิ. เตนาห – ‘‘ปฺตฺเตตํ, อุปาลิ, มยา อาคนฺตุกานํ ภิกฺขูนํ อาคนฺตุกวตฺต’’นฺติอาทิ. เอวมฺปิ โข อุปาลิ สงฺฆราชิ โหติ, โน จ สงฺฆเภโทติ เอตฺตาวตา หิ สงฺฆราชิมตฺตเมว โหติ, น ตาว สงฺฆเภโท; อนุปุพฺเพน ปน อยํ สงฺฆราชิ วฑฺฒมานา สงฺฆเภทาย สํวตฺตตีติ อตฺโถ. ยถารตฺตนฺติ รตฺติปริมาณานุรูปํ; ยถาเถรนฺติ อตฺโถ. อาเวนิภาวํ กริตฺวาติ วิสุํ ววตฺถานํ กริตฺวา. กมฺมากมฺมานิ กโรนฺตีติ อปราปรํ สงฺฆกมฺมํ อุปาทาย ขุทฺทกานิ เจว มหนฺตานิ จ กมฺมานิ กโรนฺติ. เสสเมตฺถาปิ อธิกรณวูปสมวคฺเค อุตฺตานเมว.
สงฺฆเภทกวคฺคทฺวยวณฺณนา
๔๕๙. สงฺฆเภทวคฺคทฺวเย ¶ – วินิธาย ทิฏฺึ กมฺเมนาติ เตสุ อธมฺมาทีสุ อธมฺมาทโย เอเตติ เอวํทิฏฺิโกว หุตฺวา ตํ ทิฏฺึ วินิธาย เต ธมฺมาทิวเสน ทีเปตฺวา วิสุํ กมฺมํ กโรติ. อิติ ยํ วินิธาย ทิฏฺึ กมฺมํ กโรติ, เตน เอวํ กเตน วินิธาย ทิฏฺึ กมฺเมน สทฺธึ ปฺจงฺคานิ โหนฺติ, ‘‘อิเมหิ โข อุปาลิ ปฺจหงฺเคหี’’ติ อยเมกสฺมึ ปฺจเก อตฺถโยชนา ¶ . เอเตน นเยน สพฺพปฺจกานิ เวทิตพฺพานิ. เอตฺถาปิ จ โวหาราทิ องฺคตฺตยํ ปุพฺพภาควเสเนว วุตฺตํ. กมฺมุทฺเทสวเสน ปน อเตกิจฺฉตา เวทิตพฺพา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. น เหตฺถ กิฺจิ อตฺถิ ยํ ปุพฺเพ อวุตฺตนยํ.
อาวาสิกวคฺควณฺณนา
๔๖๑. อาวาสิกวคฺเค ¶ – ยถาภตํ นิกฺขิตฺโตติ ยถา อาหริตฺวา ปิโต.
๔๖๒. วินยพฺยากรณาติ วินยปฺเห วิสฺสชฺชนา. ปริณาเมตีติ นิยาเมติ ทีเปติ กเถติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
กถินตฺถารวคฺควณฺณนา
๔๖๗. กถินตฺถารวคฺเค – โอตมสิโกติ อนฺธการคโต; ตฺหิ วนฺทนฺตสฺส มฺจปาทาทีสุปิ นลาฏํ ปฏิหฺเยฺย. อสมนฺนาหรนฺโตติ กิจฺจยปสุตตฺตา วนฺทนํ อสมนฺนาหรนฺโต. สุตฺโตติ นิทฺทํ โอกฺกนฺโต. เอกาวตฺโตติ เอกโต อาวตฺโต สปตฺตปกฺเข ิโต เวรี วิสภาคปุคฺคโล วุจฺจติ; อยํ อวนฺทิโย. อยฺหิ วนฺทิยมาโน ปาเทนปิ ปหเรยฺย. อฺวิหิโตติ อฺํ จินฺตยมาโน.
ขาทนฺโตติ ปิฏฺขชฺชกาทีนิ ขาทนฺโต. อุจฺจารฺจ ปสฺสาวฺจ กโรนฺโต อโนกาสคตตฺตา อวนฺทิโย. อุกฺขิตฺตโกติ ติวิเธนปิ อุกฺเขปนียกมฺเมน อุกฺขิตฺตโก อวนฺทิโย. ตชฺชนียาทิกมฺมกตา ปน จตฺตาโร วนฺทิตพฺพา. อุโปสถปวารณาปิ เตหิ สทฺธึ ลพฺภนฺติ. อาทิโต ปฏฺาย จ วุตฺเตสุ อวนฺทิเยสุ นคฺคฺจ อุกฺขิตฺตกฺจ วนฺทนฺตสฺเสว อาปตฺติ. อิตเรสํ ปน อสารุปฺปฏฺเน จ อนฺตรา วุตฺตการเณน จ วนฺทนา ปฏิกฺขิตฺตา. อิโต ปรํ ปจฺฉาอุปสมฺปนฺนาทโย ทสปิ อาปตฺติวตฺถุภาเวเนว อวนฺทิยา. เต วนฺทนฺตสฺส หิ นิยเมเนว อาปตฺติ. อิติ อิเมสุ ปฺจสุ ปฺจเกสุ เตรส ชเน วนฺทนฺตสฺส อนาปตฺติ, ทฺวาทสนฺนํ วนฺทนาย อาปตฺติ.
๔๖๘. อาจริโย ¶ วนฺทิโยติ ปพฺพชฺชาจริโย อุปสมฺปทาจริโย นิสฺสยาจริโย อุทฺเทสาจริโย โอวาทาจริโยติ อยํ ปฺจวิโธปิ อาจริโย วนฺทิโย. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
กถินตฺถารวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิตา จ อุปาลิปฺจกวณฺณนา.
อาปตฺติสมุฏฺานวณฺณนา
๔๗๐. อจิตฺตโก ¶ ¶ อาปชฺชตีติอาทีสุ สหเสยฺยาทิปณฺณตฺติวชฺชํ อสฺจิจฺจ อาปชฺชนฺโต อจิตฺตโก อาปชฺชติ, เทเสนฺโต สจิตฺตโก วุฏฺาติ. ยํกิฺจิ สฺจิจฺจ อาปชฺชนฺโต สจิตฺตโก อาปชฺชติ, ติณวตฺถารเกน วุฏฺหนฺโต อจิตฺตโก วุฏฺาติ. ปุพฺเพ วุตฺตเมว ติณวตฺถารเกน วุฏฺหนฺโต อจิตฺตโก อาปชฺชติ, อจิตฺตโก วุฏฺาติ. อิตรํ เทเสนฺโต สจิตฺตโก อาปชฺชติ, สจิตฺตโก วุฏฺาติ. ‘‘ธมฺมทานํ กโรมี’’ติ ปทโสธมฺมาทีนิ กโรนฺโต กุสลจิตฺโต อาปชฺชติ, ‘‘พุทฺธานํ อนุสาสนึ กโรมี’’ติ อุทคฺคจิตฺโต เทเสนฺโต กุสลจิตฺโต วุฏฺาติ. โทมนสฺสิโก หุตฺวา เทเสนฺโต อกุสลจิตฺโต วุฏฺาติ, ติณวตฺถารเกน นิทฺทาคโตว วุฏฺหนฺโต อพฺยากตจิตฺโต วุฏฺาติ. ภึสาปนาทีนิ กตฺวา ‘‘พุทฺธานํ สาสนํ กโรมี’’ติ โสมนสฺสิโก เทเสนฺโต อกุสลจิตฺโต อาปชฺชติ, กุสลจิตฺโต วุฏฺาติ. โทมนสฺสิโกว เทเสนฺโต อกุสลจิตฺโต วุฏฺาติ, วุตฺตนเยเนว ติณวตฺถารเกน วุฏฺหนฺโต อพฺยากตจิตฺโต วุฏฺาติ. นิทฺโทกฺกนฺตสมเย สหคารเสยฺยํ อาปชฺชนฺโต อพฺยากตจิตฺโต อาปชฺชติ, วุตฺตนเยเนว ปเนตฺถ ‘‘กุสลจิตฺโต วุฏฺาตี’’ติอาทิ เวทิตพฺพํ.
ปมํ ปาราชิกํ กติหิ สมุฏฺาเนหีติอาทิ ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมว.
๔๗๓. จตฺตาโร ปาราชิกา กติหิ สมุฏฺาเนหีติอาทีสุ อุกฺกฏฺปริจฺเฉทโต ยํ ยํ สมุฏฺานํ ยสฺส ยสฺส ลพฺภติ, ตํ สพฺพํ วุตฺตเมว โหติ.
อาปตฺติสมุฏฺานวณฺณนา นิฏฺิตา.
อปรทุติยคาถาสงฺคณิกํ
(๑) กายิกาทิอาปตฺติวณฺณนา
๔๗๔. ‘‘กติ ¶ ¶ อาปตฺติโย กายิกา’’ติอาทิคาถานํ วิสฺสชฺชเน ฉ อาปตฺติโย กายิกาติ อนฺตรเปยฺยาเล จตุตฺเถน อาปตฺติสมุฏฺาเนน ฉ อาปตฺติโย อาปชฺชติ, ‘‘ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติอาทินา นเยน วุตฺตาปตฺติโย. กายทฺวาเร สมุฏฺิตตฺตา หิ เอตา กายิกาติ วุจฺจนฺติ. ฉ วาจสิกาติ ตสฺมึเยว อนฺตรเปยฺยาเล ปฺจเมน อาปตฺติสมุฏฺาเนน ฉ อาปตฺติโย อาปชฺชติ, ‘‘ภิกฺขุ ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต’’ติอาทินา นเยน วุตฺตาปตฺติโย. ฉาเทนฺตสฺส ติสฺโสติ วชฺชปฏิจฺฉาทิกาย ภิกฺขุนิยา ปาราชิกํ, ภิกฺขุสฺส สงฺฆาทิเสสปฏิจฺฉาทเน ปาจิตฺติยํ, อตฺตโน ทุฏฺุลฺลาปตฺติปฏิจฺฉาทเน ทุกฺกฏํ. ปฺจ สํสคฺคปจฺจยาติ ¶ ภิกฺขุนิยา กายสํสคฺเค ปาราชิกํ, ภิกฺขุโน สงฺฆาทิเสโส, กาเยน กายปฏิพทฺเธ ถุลฺลจฺจยํ, นิสฺสคฺคิเยน กายปฏิพทฺเธ ทุกฺกฏํ, องฺคุลิปโตทเก ปาจิตฺติยนฺติ อิมา กายสํสคฺคปจฺจยา ปฺจาปตฺติโย.
อรุณุคฺเค ติสฺโสติ เอกรตฺตฉารตฺตสตฺตาหทสาหมาสาติกฺกมวเสน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, ภิกฺขุนิยา รตฺติวิปฺปวาเส สงฺฆาทิเสโส, ‘‘ปมมฺปิ ยามํ ฉาเทติ, ทุติยมฺปิ ตติยมฺปิ ยามํ ฉาเทติ, อุทฺธสฺเต อรุเณ ฉนฺนา โหติ อาปตฺติ, โย ฉาเทติ โส ทุกฺกฏํ เทสาเปตพฺโพ’’ติ อิมา อรุณุคฺเค ติสฺโส อาปตฺติโย อาปชฺชติ. ทฺเว ยาวตติยกาติ เอกาทส ยาวตติยกา นาม, ปฺตฺติวเสน ปน ทฺเว โหนฺติ ภิกฺขูนํ ยาวตติยกา ภิกฺขุนีนํ ยาวตติยกาติ. เอเกตฺถ อฏฺวตฺถุกาติ ภิกฺขุนีนํเยว เอกา เอตฺถ อิมสฺมึ สาสเน อฏฺวตฺถุกา นาม. เอเกน สพฺพสงฺคโหติ ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺติ, โส อาวิกเรยฺยา’’ติ อิมินา เอเกน นิทานุทฺเทเสน สพฺพสิกฺขาปทานฺจ สพฺพปาติโมกฺขุทฺเทสานฺจ สงฺคโห โหติ.
วินยสฺส ทฺเว มูลานีติ กาโย เจว วาจา จ. ครุกา ทฺเว วุตฺตาติ ปาราชิกสงฺฆาทิเสสา ¶ . ทฺเว ทุฏฺุลฺลจฺฉาทนาติ วชฺชปฏิจฺฉาทิกาย ปาราชิกํ ¶ สงฺฆาทิเสสํ ปฏิจฺฉาทกสฺส ปาจิตฺติยนฺติ อิมา ทฺเว ทุฏฺุลฺลจฺฉาทนาปตฺติโย นาม.
คามนฺตเร จตสฺโสติ ‘‘ภิกฺขุ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิทหติ, ทุกฺกฏํ; อฺสฺส คามสฺส อุปจารํ โอกฺกมติ, ปาจิตฺติยํ; ภิกฺขุนิยา คามนฺตรํ คจฺฉนฺติยา ปริกฺขิตฺเต คาเม ปมปาเท ถุลฺลจฺจยํ, ทุติยปาเท สงฺฆาทิเสโส; อปริกฺขิตฺตสฺส ปมปาเท อุปจาโรกฺกมเน ถุลฺลจฺจยํ, ทุติยปาเท สงฺฆาทิเสโส’’ติ อิมา คามนฺตเร ทุกฺกฏปาจิตฺติยถุลฺลจฺจยสงฺฆอาทิเสสวเสน จตสฺโส อาปตฺติโย. จตสฺโส นทิปารปจฺจยาติ ‘‘ภิกฺขุ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิทหติ, ทุกฺกฏํ; นาวํ อภิรุหติ, ปาจิตฺติยํ; ภิกฺขุนิยา นทิปารํ คจฺฉนฺติยา อุตฺตรณกาเล ปมปาเท ถุลฺลจฺจยํ, ทุติยปาเท สงฺฆาทิเสโส’’ติ อิมา จตสฺโส. เอกมํเส ถุลฺลจฺจยนฺติ มนุสฺสมํเส. นวมํเสสุ ทุกฺกฏนฺติ เสสอกปฺปิยมํเสสุ.
ทฺเว วาจสิกา รตฺตินฺติ ภิกฺขุนี รตฺตนฺธกาเร อปฺปทีเป ปุริเสน สทฺธึ หตฺถปาเส ิตา สลฺลปติ ¶ , ปาจิตฺติยํ; หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา ิตา สลฺลปติ, ทุกฺกฏํ. ทฺเว วาจสิกา ทิวาติ ภิกฺขุนี ทิวา ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเส ปุริเสน สทฺธึ หตฺถปาเส ิตา สลฺลปติ, ปาจิตฺติยํ; หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา สลฺลปติ, ทุกฺกฏํ. ททมานสฺส ติสฺโสติ มรณาธิปฺปาโย มนุสฺสสฺส วิสํ เทติ, โส เจ เตน มรติ, ปาราชิกํ; ยกฺขเปตานํ เทติ, เต เจ มรนฺติ, ถุลฺลจฺจยํ; ติรจฺฉานคตสฺส เทติ, โส เจ มรติ, ปาจิตฺติยํ; อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรทาเน ปาจิตฺติยนฺติ เอวํ ททมานสฺส ติสฺโส อาปตฺติโย. จตฺตาโร จ ปฏิคฺคเหติ หตฺถคฺคาห-เวณิคฺคาเหสุ สงฺฆาทิเสโส, มุเขน องฺคชาตคฺคหเณ ปาราชิกํ, อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรปฏิคฺคหเณ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, อวสฺสุตาย อวสฺสุตสฺส หตฺถโต ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิคฺคณฺหนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ; เอวํ ปฏิคฺคเห จตฺตาโร อาปตฺติกฺขนฺธา โหนฺติ.
(๒) เทสนาคามินิยาทิวณฺณนา
๔๗๕. ปฺจ เทสนาคามินิโยติ ลหุกา ปฺจ. ฉ สปฺปฏิกมฺมาติ ปาราชิกํ เปตฺวา อวเสสา. เอเกตฺถ อปฺปฏิกมฺมาติ เอกา ปาราชิกาปตฺติ.
วินยครุกา ¶ ทฺเว วุตฺตาติ ปาราชิกฺเจว สงฺฆาทิเสสฺจ. กายวาจสิกานิ จาติ สพฺพาเนว สิกฺขาปทานิ กายวาจสิกานิ, มโนทฺวาเร ปฺตฺตํ ¶ เอกสิกฺขาปทมฺปิ นตฺถิ. เอโก วิกาเล ธฺรโสติ โลณโสวีรกํ. อยเมว หิ เอโก ธฺรโส วิกาเล วฏฺฏติ. เอกา ตฺติจตุตฺเถน สมฺมุตีติ ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติ. อยเมว หิ เอกา ตฺติจตุตฺถกมฺเมน สมฺมุติ อนฺุาตา.
ปาราชิกา กายิกา ทฺเวติ ภิกฺขูนํ เมถุนปาราชิกํ ภิกฺขุนีนฺจ กายสํสคฺคปาราชิกํ. ทฺเว สํวาสภูมิโยติ อตฺตนา วา อตฺตานํ สมานสํวาสกํ กโรติ, สมคฺโค วา สงฺโฆ อุกฺขิตฺตํ โอสาเรติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘สมานสํวาสกภูมิ จ นานาสํวาสกภูมิ จา’’ติ เอวํ ทฺเว สํวาสภูมิโย วุตฺตา. ทฺวินฺนํ รตฺติจฺเฉโทติ ปาริวาสิกสฺส จ มานตฺตจาริกสฺส จ ปฺตฺตา. ทฺวงฺคุลา ทุเวติ ทฺเว ทฺวงฺคุลปฺตฺติโย, ‘‘ทฺวงฺคุลปพฺพปรมํ อาทาตพฺพ’’นฺติ อยเมกา, ‘‘ทฺวงฺคุลํ วา ทฺเวมาสํ วา’’ติ อยเมกา.
ทฺเว อตฺตานํ วธิตฺวานาติ ภิกฺขุนี อตฺตานํ วธิตฺวา ทฺเว อาปตฺติโย อาปชฺชติ; วธติ โรทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส; วธติ น โรทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ทฺวีหิ สงฺโฆ ภิชฺชตีติ กมฺเมน จ สลากคฺคาเหน จ. ทฺเวตฺถ ¶ ปมาปตฺติกาติ เอตฺถ สกเลปิ วินเย ทฺเว ปมาปตฺติกา อุภินฺนํ ปฺตฺติวเสน. อิตรถา ปน นว ภิกฺขูนํ นว ภิกฺขุนีนนฺติ อฏฺารส โหนฺติ. ตฺติยา กรณา ทุเวติ ทฺเว ตฺติกิจฺจานิ – กมฺมฺจ กมฺมปาทกา จ. นวสุ าเนสุ กมฺมํ โหติ, ทฺวีสุ กมฺมปาทภาเวน ติฏฺติ.
ปาณาติปาเต ติสฺโสติ ‘‘อโนทิสฺส โอปาตํ ขณติ, สเจ มนุสฺโส มรติ, ปาราชิกํ; ยกฺขเปตานํ มรเณ ถุลฺลจฺจยํ; ติรจฺฉานคตสฺส มรเณ ปาจิตฺติย’’นฺติ อิมา ติสฺโส โหนฺติ. วาจา ปาราชิกา ตโยติ วชฺชปฏิจฺฉาทิกาย อุกฺขิตฺตานุวตฺติกาย อฏฺวตฺถุกายาติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘อาณตฺติยา อทินฺนาทาเน, มนุสฺสมรเณ, อุตฺตริมนุสฺสธมฺมอุลฺลปเน จา’’ติ เอวํ ตโย วุตฺตา. โอภาสนา ตโยติ วจฺจมคฺคํ ปสฺสาวมคฺคํ อาทิสฺส วณฺณาวณฺณภาสเน สงฺฆาทิเสโส, วจฺจมคฺคํ ปสฺสาวมคฺคํ เปตฺวา อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑลํ อาทิสฺส วณฺณาวณฺณภณเน ถุลฺลจฺจยํ, อุพฺภกฺขกํ อโธชาณุมณฺฑลํ อาทิสฺส วณฺณาวณฺณภณเน ทุกฺกฏํ. สฺจริตฺเตน วา ตโยติ ปฏิคฺคณฺหาติ วีมํสติ ปจฺจาหรติ ¶ , อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส; ¶ ปฏิคฺคณฺหาติ วีมํสติ น ปจฺจาหรติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส; ปฏิคฺคณฺหาติ น วีมํสติ น ปจฺจาหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ อิเม สฺจริตฺเตน การณภูเตน ตโย อาปตฺติกฺขนฺธา โหนฺติ.
ตโย ปุคฺคลา น อุปสมฺปาเทตพฺพาติ อทฺธานหีโน องฺคหีโน วตฺถุวิปนฺโน จ เตสํ นานากรณํ วุตฺตเมว. อปิเจตฺถ โย ปตฺตจีวเรน อปริปูโร, ปริปูโร จ น ยาจติ, อิเมปิ องฺคหีเนเนว สงฺคหิตา. มาตุฆาตกาทโย จ กรณทุกฺกฏกา ปณฺฑกอุภโตพฺยฺชนกติรจฺฉานคตสงฺขาเตน วตฺถุวิปนฺเนเนว สงฺคหิตาติ เวทิตพฺพา. เอส นโย กุรุนฺทิยํ วุตฺโต. ตโย กมฺมานํ สงฺคหาติ ตฺติกปฺปนา, วิปฺปกตปจฺจตฺตํ, อตีตกรณนฺติ. ตตฺถ ‘‘ทเทยฺย กเรยฺยา’’ติอาทิเภทา ตฺติกปฺปนา; ‘‘เทติ กโรตี’’ติอาทิเภทํ วิปฺปกตปจฺจตฺตํ; ‘‘ทินฺนํ กต’’นฺติอาทิเภทํ อตีตกรณํ นามาติ อิเมหิ ตีหิ กมฺมานิ สงฺคยฺหนฺติ. อปเรหิปิ ตีหิ กมฺมานิ สงฺคยฺหนฺติ – วตฺถุนา, ตฺติยา, อนุสฺสาวนายาติ. วตฺถุสมฺปนฺนฺหิ ตฺติสมฺปนฺนํ อนุสฺสาวนสมฺปนฺนฺจ กมฺมํ นาม โหติ, เตน วุตฺตํ ‘‘ตโย กมฺมานํ สงฺคหา’’ติ. นาสิตกา ตโย นาม เมตฺติยํ ¶ ภิกฺขุนึ นาเสถ, ทูสโก นาเสตพฺโพ, ทสหงฺเคหิ สมนฺนาคโต สามเณโร นาเสตพฺโพ, กณฺฏกํ สมณุทฺเทสํ นาเสถาติ เอวํ ลิงฺคสํวาสทณฺฑกมฺมนาสนาวเสน ตโย นาสิตกา เวทิตพฺพา. ติณฺณนฺนํ เอกวาจิกาติ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ทฺเว ตโย เอกานุสฺสาวเน กาตุ’’นฺติ วจนโต ติณฺณํ ชนานํ เอกุปชฺฌาเยน นานาจริเยน เอกานุสฺสาวนา วฏฺฏติ.
อทินฺนาทาเน ติสฺโสติ ปาเท วา อติเรกปาเท วา ปาราชิกํ, อติเรกมาสเก ถุลฺลจฺจยํ, มาสเก วา อูนมาสเก วา ทุกฺกฏํ. จตสฺโส เมถุนปจฺจยาติ อกฺขยิเต ปาราชิกํ, เยภุยฺเยน ขยิเต ถุลฺลจฺจยํ, วิวฏกเต มุเข ทุกฺกฏํ, ชตุมฏฺเก ปาจิตฺติยํ. ฉินฺทนฺตสฺส ติสฺโสติ วนปฺปตึ ฉินฺทนฺตสฺส ปาราชิกํ, ภูตคาเม ปาจิตฺติยํ, องฺคชาเต ถุลฺลจฺจยํ. ปฺจ ฉฑฺฑิตปจฺจยาติ อโนทิสฺส วิสํ ฉฑฺเฑติ, สเจ เตน มนุสฺโส มรติ, ปาราชิกํ; ยกฺขเปเตสุ ถุลฺลจฺจยํ; ติรจฺฉานคเต ปาจิตฺติยํ; วิสฺสฏฺิฉฑฺฑเน สงฺฆาทิเสโส; เสขิเยสุ หริเต อุจฺจารปสฺสาวฉฑฺฑเน ทุกฺกฏํ – อิมา ฉฑฺฑิตปจฺจยา ปฺจาปตฺติโย โหนฺติ.
ปาจิตฺติเยน ¶ ทุกฺกฏา กตาติ ภิกฺขุโนวาทกวคฺคสฺมึ ทสสุ สิกฺขาปเทสุ ปาจิตฺติเยน สทฺธึ ¶ ทุกฺกฏา กตา เอวาติ อตฺโถ. จตุเรตฺถ นวกา วุตฺตาติ ปมสิกฺขาปทมฺหิเยว อธมฺมกมฺเม ทฺเว, ธมฺมกมฺเม ทฺเวติ เอวํ จตฺตาโร นวกา วุตฺตาติ อตฺโถ. ทฺวินฺนํ จีวเรน จาติ ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย จีวรํ เทนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย เทนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ เอวํ ทฺวินฺนํ ภิกฺขุนีนํ จีวรํ เทนฺตสฺส จีวเรน การณภูเตน อาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ.
อฏฺ ปาฏิเทสนียาติ ปาฬิยํ อาคตา เอว. ภฺุชนฺตามกธฺเน ปาจิตฺติเยน ทุกฺกฏา กตาติ อามกธฺํ วิฺาเปตฺวา ภฺุชนฺติยา ปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏา กตาเยว.
คจฺฉนฺตสฺส จตสฺโสติ ภิกฺขุนิยา วา มาตุคาเมน วา สทฺธึ สํวิธาย คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, คามูปจาโรกฺกมเน ปาจิตฺติยํ, ยา ภิกฺขุนี เอกา คามนฺตรํ คจฺฉติ, ตสฺสา คามูปจารํ โอกฺกมนฺติยา ปมปาเท ถุลฺลจฺจยํ, ทุติยปาเท สงฺฆาทิเสโสติ คจฺฉนฺตสฺส อิมา จตสฺโส อาปตฺติโย โหนฺติ. ิตสฺส จาปิ ตตฺตกาติ ¶ ิตสฺสปิ จตสฺโส เอวาติ อตฺโถ. กถํ? ภิกฺขุนี อนฺธกาเร วา ปฏิจฺฉนฺเน วา โอกาเส มิตฺตสนฺถววเสน ปุริสสฺส หตฺถปาเส ติฏฺติ, ปาจิตฺติยํ; หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา ติฏฺติ, ทุกฺกฏํ; อรุณุคฺคมนกาเล ทุติยิกาย หตฺถปาสํ วิชหนฺตี ติฏฺติ, ถุลฺลจฺจยํ; วิชหิตฺวา ติฏฺติ, สงฺฆาทิเสโสติ นิสินฺนสฺส จตสฺโส อาปตฺติโย. นิปนฺนสฺสาปิ ตตฺตกาติ สเจปิ หิ สา นิสีทติ วา นิปชฺชติ วา, เอตาเยว จตสฺโส อาปตฺติโย อาปชฺชติ.
(๓) ปาจิตฺติยวณฺณนา
๔๗๖. ปฺจ ปาจิตฺติยานีติ ปฺจ เภสชฺชานิ ปฏิคฺคเหตฺวา นานาภาชเนสุ วา เอกภาชเน วา อมิสฺเสตฺวา ปิตานิ โหนฺติ, สตฺตาหาติกฺกเม โส ภิกฺขุ ปฺจ ปาจิตฺติยานิ สพฺพานิ นานาวตฺถุกานิ เอกกฺขเณ อาปชฺชติ, ‘‘อิมํ ปมํ อาปนฺโน, อิมํ ปจฺฉา’’ติ น วตฺตพฺโพ.
นว ปาจิตฺติยานีติ โย ภิกฺขุ นว ปณีตโภชนานิ วิฺาเปตฺวา เตหิ สทฺธึ เอกโต เอกํ กพฬํ โอมทฺทิตฺวา มุเข ปกฺขิปิตฺวา ปรคฬํ อติกฺกาเมติ, อยํ นว ปาจิตฺติยานิ สพฺพานิ ¶ นานาวตฺถุกานิ เอกกฺขเณ อาปชฺชติ ¶ ‘‘อิมํ ปมํ อาปนฺโน, อิมํ ปจฺฉา’’ติ น วตฺตพฺโพ. เอกวาจาย เทเสยฺยาติ ‘‘อหํ, ภนฺเต, ปฺจ เภสชฺชานิ ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ อติกฺกาเมตฺวา ปฺจ อาปตฺติโย อาปนฺโน, ตา ตุมฺหมูเล ปฏิเทเสมี’’ติ เอวํ เอกวาจาย เทเสยฺย, เทสิตาว โหนฺติ, ทฺวีหิ ตีหิ วาจาหิ กิจฺจํ นาม นตฺถิ. ทุติยวิสฺสชฺชเนปิ ‘‘อหํ, ภนฺเต, นว ปณีตโภชนานิ วิฺาเปตฺวา ภฺุชิตฺวา นว อาปตฺติโย อาปนฺโน, ตา ตุมฺหมูเล ปฏิเทเสมี’’ติ วตฺตพฺพํ.
วตฺถุํ กิตฺเตตฺวา เทเสยฺยาติ ‘‘อหํ, ภนฺเต, ปฺจ เภสชฺชานิ ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ อติกฺกาเมสึ, ยถาวตฺถุกํ ตํ ตุมฺหมูเล ปฏิเทเสมี’’ติ เอวํ วตฺถุํ กิตฺเตตฺวา เทเสยฺย, เทสิตาว โหนฺติ อาปตฺติโย, อาปตฺติยา นามคฺคหเณน กิจฺจํ นตฺถิ. ทุติยวิสฺสชฺชเนปิ ‘‘อหํ, ภนฺเต, นว ปณีตโภชนานิ วิฺาเปตฺวา ภุตฺโต, ยถาวตฺถุกํ ตํ ตุมฺหมูเล ปฏิเทเสมี’’ติ วตฺตพฺพํ.
ยาวตติยเก ติสฺโสติ อุกฺขิตฺตานุวตฺติกาย ปาราชิกํ เภทกานุวตฺตกานํ โกกาลิกาทีนํ สงฺฆาทิเสสํ, ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค จณฺฑกาฬิกาย จ ภิกฺขุนิยา ปาจิตฺติยนฺติ อิมา ยาวตติยกา ติสฺโส อาปตฺติโย. ฉ โวหารปจฺจยาติ ปยุตฺตวาจาปจฺจยา ฉ ¶ อาปตฺติโย อาปชฺชตีติ อตฺโถ. กถํ? อาชีวเหตุ อาชีวการณา ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต อสนฺตํ อภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส. อาชีวเหตุ อาชีวการณา สฺจริตฺตํ สมาปชฺชติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส. อาชีวเหตุ อาชีวการณา โย เต วิหาเร วสติ โส อรหาติ วทติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. อาชีวเหตุ อาชีวการณา ภิกฺขุ ปณีตโภชนานิ อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภฺุชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อาชีวเหตุ อาชีวการณา ภิกฺขุนี ปณีตโภชนานิ อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภฺุชติ, อาปตฺติ ปาฏิเทสนียสฺส. อาชีวเหตุ อาชีวการณา สูปํ วา โอทนํ วา อคิลาโน อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภฺุชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.
ขาทนฺตสฺส ติสฺโสติ มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจยํ, อวเสเสสุ อกปฺปิยมํเสสุ ทุกฺกฏํ, ภิกฺขุนิยา ลสุเณ ปาจิตฺติยํ. ปฺจ โภชนปจฺจยาติ อวสฺสุตา อวสฺสุตสฺส ปุริสสฺส หตฺถโต โภชนํ คเหตฺวา ตตฺเถว ¶ มนุสฺสมํสํ ลสุณํ อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา คหิตปณีตโภชนานิ อวเสสฺจ อกปฺปิยมํสํ ปกฺขิปิตฺวา โวมิสฺสกํ โอมทฺทิตฺวา อชฺโฌหรมานา ¶ สงฺฆาทิเสสํ, ถุลฺลจฺจยํ, ปาจิตฺติยํ, ปาฏิเทสนียํ, ทุกฺกฏนฺติ อิมา ปฺจ อาปตฺติโย โภชนปจฺจยา อาปชฺชติ.
ปฺจ านานีติ ‘‘อุกฺขิตฺตานุวตฺติกาย ภิกฺขุนิยา ยาวตติยํ สมนุภาสนาย อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺติยา ตฺติยา ทุกฺกฏํ, ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจยํ, กมฺมวาจาปริโยสาเน อาปตฺติ ปาราชิกสฺส, สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนาทีสุ สงฺฆาทิเสโส, ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค ปาจิตฺติย’’นฺติ เอวํ สพฺพา ยาวตติยกา ปฺจ านานิ คจฺฉนฺติ. ปฺจนฺนฺเจว อาปตฺตีติ อาปตฺติ นาม ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ โหติ, ตตฺถ ทฺวินฺนํ นิปฺปริยาเยน อาปตฺติเยว, สิกฺขามานสามเณริสามเณรานํ ปน อกปฺปิยตฺตา น วฏฺฏติ. อิมินา ปริยาเยน เตสํ อาปตฺติ น เทสาเปตพฺพา, ทณฺฑกมฺมํ ปน เตสํ กาตพฺพํ. ปฺจนฺนํ อธิกรเณน จาติ อธิกรณฺจ ปฺจนฺนเมวาติ อตฺโถ. เอเตสํเยว หิ ปฺจนฺนํ ปตฺตจีวราทีนํ อตฺถาย วินิจฺฉยโวหาโร อธิกรณนฺติ วุจฺจติ, คิหีนํ ปน อฑฺฑกมฺมํ นาม โหติ.
ปฺจนฺนํ วินิจฺฉโย โหตีติ ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํเยว วินิจฺฉโย นาม ¶ โหติ. ปฺจนฺนํ วูปสเมน จาติ เอเตสํเยว ปฺจนฺนํ อธิกรณํ วินิจฺฉิตํ วูปสนฺตํ นาม โหตีติ อตฺโถ. ปฺจนฺนฺเจว อนาปตฺตีติ เอเตสํเยว ปฺจนฺนํ อนาปตฺติ นาม โหตีติ อตฺโถ. ตีหิ าเนหิ โสภตีติ สงฺฆาทีหิ ตีหิ การเณหิ โสภติ. กตวีติกฺกโม หิ ปุคฺคโล สปฺปฏิกมฺมํ อาปตฺตึ สงฺฆมชฺเฌ คณมชฺเฌ ปุคฺคลสนฺติเก วา ปฏิกริตฺวา อพฺภุณฺหสีโล ปากติโก โหติ, ตสฺมา ตีหิ าเนหิ โสภตีติ วุจฺจติ.
ทฺเว กายิกา รตฺตินฺติ ภิกฺขุนี รตฺตนฺธกาเร ปุริสสฺส หตฺถปาเส านนิสชฺชสยนานิ กปฺปยมานา ปาจิตฺติยํ, หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา านาทีนิ กปฺปยมานา ทุกฺกฏนฺติ ทฺเว กายทฺวารสมฺภวา อาปตฺติโย รตฺตึ อาปชฺชติ. ทฺเว กายิกา ทิวาติ เอเตเนว อุปาเยน ทิวา ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเส ทฺเว อาปตฺติโย อาปชฺชติ. นิชฺฌายนฺตสฺส เอกา อาปตฺตีติ ‘‘น จ, ภิกฺขเว, สารตฺเตน มาตุคามสฺส องฺคชาตํ อุปนิชฺฌายิตพฺพํ ¶ . โย อุปนิชฺฌาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๖๖) นิชฺฌายนฺตสฺส อยเมกา อาปตฺติ. เอกา ปิณฺฑปาตปจฺจยาติ ‘‘น จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขาทายิกาย มุขํ โอโลเกตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๓๖๖) เอตฺถ ทุกฺกฏาปตฺติ, อนฺตมโส ยาคุํ วา พฺยฺชนํ วา เทนฺตสฺส สามเณรสฺสาปิ หิ มุขํ อุลฺโลกยโต ¶ ทุกฺกฏเมว. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘เอกา ปิณฺฑปาตปจฺจยาติ ภิกฺขุนิปริปาจิตํ ปิณฺฑปาตํ ภฺุชนฺตสฺส ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตํ.
อฏฺานิสํเส สมฺปสฺสนฺติ โกสมฺพกกฺขนฺธเก วุตฺตานิสํเส. อุกฺขิตฺตกา ตโย วุตฺตาติ อาปตฺติยา อทสฺสเน อปฺปฏิกมฺเม ปาปิกาย จ ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเคติ. เตจตฺตาลีส สมฺมาวตฺตนาติ เตสํเยว อุกฺขิตฺตกานํ เอตฺตเกสุ วตฺเตสุ วตฺตนา.
ปฺจาเน มุสาวาโทติ ปาราชิกสงฺฆาทิเสสถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยทุกฺกฏสงฺขาเต ปฺจฏฺาเน มุสาวาโท คจฺฉติ. จุทฺทส ปรมนฺติ วุจฺจตีติ ทสาหปรมาทินเยน เหฏฺา วุตฺตํ. ทฺวาทส ปาฏิเทสนียาติ ภิกฺขูนํ จตฺตาริ ภิกฺขุนีนํ อฏฺ. จตุนฺนํ เทสนาย จาติ จตุนฺนํ อจฺจยเทสนายาติ อตฺโถ. กตมา ปน สาติ? เทวทตฺเตน ปโยชิตานํ อภิมารานํ อจฺจยเทสนา, อนุรุทฺธตฺเถรสฺส อุปฏฺายิกาย อจฺจยเทสนา, วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิโน อจฺจยเทสนา, วาสภคามิยตฺเถรสฺส อุกฺเขปนียกมฺมํ กตฺวา อาคตานํ ภิกฺขูนํ อจฺจยเทสนาติ อยํ จตุนฺนํ อจฺจยเทสนา ¶ นาม.
อฏฺงฺคิโก มุสาวาโทติ ‘‘ปุพฺเพวสฺส โหติ มุสา ภณิสฺส’’นฺติ อาทึ กตฺวา ‘‘วินิธาย สฺ’’นฺติ ปริโยสาเนหิ (ปาจิ. ๔-๕; ปริ. ๔๕๙) อฏฺหิ องฺเคหิ อฏฺงฺคิโก. อุโปสถงฺคานิปิ ปาณํ น หเนติอาทินา นเยน วุตฺตาเนว. อฏฺ ทูเตยฺยงฺคานีติ ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โสตา จ โหติ สาเวตา จา’’ติอาทินา (จูฬว. ๓๔๗) นเยน สงฺฆเภทเก วุตฺตานิ. อฏฺ ติตฺถิยวตฺตานิ มหาขนฺธเก วุตฺตานิ.
อฏฺวาจิกา อุปสมฺปทาติ ภิกฺขุนีนํ อุปสมฺปทํ สนฺธาย วุตฺตํ. อฏฺนฺนํ ปจฺจุฏฺาตพฺพนฺติ ภตฺตคฺเค อฏฺนฺนํ ภิกฺขุนีนํ อิตราหิ ปจฺจุฏฺาย อาสนํ ทาตพฺพํ ¶ . ภิกฺขุโนวาทโก อฏฺหีติ อฏฺหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภิกฺขุโนวาทโก สมฺมนฺนิตพฺโพ.
เอกสฺส เฉชฺชนฺติ คาถาย นวสุ ชเนสุ โย สลากํ คาเหตฺวา สงฺฆํ ภินฺทติ, ตสฺเสว เฉชฺชํ โหติ, เทวทตฺโต วิย ปาราชิกํ อาปชฺชติ. เภทกานุวตฺตกานํ จตุนฺนํ ถุลฺลจฺจยํ โกกาลิกาทีนํ ¶ วิย, ธมฺมวาทีนํ จตุนฺนํ อนาปตฺติ. อิมา ปน อาปตฺติโย จ อนาปตฺติโย จ สพฺเพสํ เอกวตฺถุกา สงฺฆเภทวตฺถุกา เอว.
นว อาฆาตวตฺถูนีติ คาถาย นวหีติ นวหิ ภิกฺขูหิ สงฺโฆ ภิชฺชติ. ตฺติยา กรณา นวาติ ตฺติยา กาตพฺพานิ กมฺมานิ นวาติ อตฺโถ. เสสํ อุตฺตานเมว.
(๔) อวนฺทนียปุคฺคลาทิวณฺณนา
๔๗๗. ทส ปุคฺคลา นาภิวาเทตพฺพาติ เสนาสนกฺขนฺธเก วุตฺตา ทส ชนา. อฺชลิ สามีเจน จาติ สามีจิกมฺเมน สทฺธึ อฺชลิ จ เตสํ น กาตพฺโพ, เนว ปานียาปุจฺฉนตาลวณฺฏคฺคหณาทิ ขนฺธกวตฺตํ เตสํ ทสฺเสตพฺพํ, น อฺชลิ ปคฺคณฺหิตพฺโพติ อตฺโถ. ทสนฺนํ ทุกฺกฏนฺติ เตสํเยว ทสนฺนํ เอวํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ โหติ. ทส จีวรธารณาติ ทส ทิวสานิ อติเรกจีวรสฺส ธารณา อนฺุาตาติ อตฺโถ.
ปฺจนฺนํ วสฺสํวุฏฺานํ, ทาตพฺพํ อิธ จีวรนฺติ ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ สมฺมุขาว ทาตพฺพํ. สตฺตนฺนํ สนฺเตติ ทิสาปกฺกนฺตอุมฺมตฺตกขิตฺตจิตฺตเวทนาฏฺฏานํ ติณฺณฺจ อุกฺขิตฺตกานนฺติ อิเมสํ สตฺตนฺนํ สนฺเต ปติรูเป คาหเก ปรมฺมุขาปิ ทาตพฺพํ. โสฬสนฺนํ น ทาตพฺพนฺติ เสสานํ จีวรกฺขนฺธเก วุตฺตานํ ปณฺฑกาทีนํ โสฬสนฺนํ น ทาตพฺพํ.
กติสตํ รตฺติสตํ, อาปตฺติโย ฉาทยิตฺวานาติ ¶ กติสตํ อาปตฺติโย รตฺติสตํ ฉาทยิตฺวาน. ทสสตํ รตฺติสตํ, อาปตฺติโย ฉาทยิตฺวานาติ ทสสตํ อาปตฺติโย รตฺติสตํ ฉาทยิตฺวาน. อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – โย ทิวเส สตํ สตํ สงฺฆาทิเสสาปตฺติโย อาปชฺชิตฺวา ทส ทส ทิวเส ปฏิจฺฉาเทติ, เตน รตฺติสตํ อาปตฺติสหสฺสํ ปฏิจฺฉาทิตํ โหติ, โส สพฺพาว ตา อาปตฺติโย ทสาหปฏิจฺฉนฺนาติ ¶ ปริวาสํ ยาจิตฺวา ทส รตฺติโย วสิตฺวาน มุจฺเจยฺย ปาริวาสิโกติ.
ทฺวาทส กมฺมโทสา วุตฺตาติ อปโลกนกมฺมํ อธมฺเมนวคฺคํ, อธมฺเมนสมคฺคํ, ธมฺเมนวคฺคํ, ตถา ¶ ตฺติกมฺมตฺติทุติยกมฺมตฺติจตุตฺถกมฺมานิปีติ เอวํ เอเกกสฺมึ กมฺเม ตโย ตโย กตฺวา ทฺวาทส กมฺมโทสา วุตฺตา.
จตสฺโส กมฺมสมฺปตฺติโยติ อปโลกนกมฺมํ ธมฺเมนสมคฺคํ, ตถา เสสานิปีติ เอวํ จตสฺโส กมฺมสมฺปตฺติโย วุตฺตา.
ฉ กมฺมานีติ อธมฺเมนวคฺคกมฺมํ, อธมฺเมนสมคฺคกมฺมํ, ธมฺมปติรูปเกนวคฺคกมฺมํ, ธมฺมปติรูปเกนสมคฺคกมฺมํ, ธมฺเมนวคฺคกมฺมํ, ธมฺเมนสมคฺคกมฺมนฺติ เอวํ ฉ กมฺมานิ วุตฺตานิ. เอเกตฺถ ธมฺมิกา กตาติ เอกํ ธมฺเมน สมคฺคกมฺมเมเวตฺถ ธมฺมิกํ กตนฺติ อตฺโถ. ทุติยคาถาวิสฺสชฺชเนปิ เอตเทว ธมฺมิกํ.
ยํ เทสิตาติ ยานิ เทสิตานิ วุตฺตานิ ปกาสิตานิ. อนนฺตชิเนนาติอาทีสุ ปริยนฺตปริจฺเฉทภาวรหิตตฺตา อนนฺตํ วุจฺจติ นิพฺพานํ, ตํ ภควตา รฺา สปตฺตคณํ อภิมทฺทิตฺวา รชฺชํ วิย กิเลสคณํ อภิมทฺทิตฺวา ชิตํ วิชิตํ อธิคตํ สมฺปตฺตํ, ตสฺมา ภควา ‘‘อนนฺตชิโน’’ติ วุจฺจติ. สฺเวว อิฏฺานิฏฺเสุ นิพฺพิการตาย ตาทิ, วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุจฺเฉทปฏิปสฺสทฺธินิสฺสรณวิเวกสงฺขาตํ วิเวกปฺจกํ อทฺทสาติ วิเวกทสฺสี; เตน อนนฺตชิเนน ตาทินา วิเวกทสฺสินา ยานิ อาปตฺติกฺขนฺธานิ เทสิตานิ วุตฺตานิ. เอเกตฺถ สมฺมติ วินา สมเถหีติ อยเมตฺถ ปทสมฺพนฺโธ, ยานิ สตฺถารา สตฺต อาปตฺติกฺขนฺธานิ เทสิตานิ, ตตฺถ เอกาปิ อาปตฺติ วินา สมเถหิ น สมฺมติ, อถ โข ฉ สมถา จตฺตาริ อธิกรณานีติ สพฺเพปิเม ธมฺมา สมฺมุขาวินเยน สมฺมนฺติ, สมาโยคํ คจฺฉนฺติ. เอตฺถ ปน เอโก สมฺมุขาวินโยว วินา สมเถหิ สมฺมติ, สมถภาวํ ¶ คจฺฉติ. น หิ ตสฺส อฺเน สมเถน วินา อนิปฺผตฺติ นาม อตฺถิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เอเกตฺถ สมฺมติ วินา สมเถหี’’ติ. อิมินา ตาว อธิปฺปาเยน อฏฺกถาสุ อตฺโถ วุตฺโต. มยํ ปน ‘‘วินา’’ติ นิปาตสฺส ปฏิเสธนมตฺตมตฺถํ คเหตฺวา ‘‘เอเกตฺถ สมฺมติ วินา สมเถหี’’ติ ¶ เอเตสุ สตฺตสุ อาปตฺติกฺขนฺเธสุ เอโก ปาราชิกาปตฺติกฺขนฺโธ วินา สมเถหิ สมฺมตีติ เอตมตฺถํ โรเจยฺยาม. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ยา สา อาปตฺติ อนวเสสา, สา อาปตฺติ น กตเมน อธิกรเณน กตมมฺหิ าเน น กตเมน สมเถน สมฺมตี’’ติ.
ฉอูนทิยฑฺฒสตาติ ¶ ‘‘อิธ, อุปาลิ, ภิกฺขุ อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปติ, ตสฺมึ อธมฺมทิฏฺิ เภเท อธมฺมทิฏฺิ, ตสฺมึ อธมฺมทิฏฺิ เภเท ธมฺมทิฏฺิ, ตสฺมึ อธมฺมทิฏฺิ เภเท เวมติโก, ตสฺมึ ธมฺมทิฏฺิ เภเท อธมฺมทิฏฺิ, ตสฺมึ ธมฺมทิฏฺิ เภเท เวมติโก, ตสฺมึ เวมติโก เภเท อธมฺมทิฏฺิ, ตสฺมึ เวมติโก เภเท ธมฺมทิฏฺิ, ตสฺมึ เวมติโก เภเท เวมติโก’’ติ เอวํ ยานิ อฏฺารสนฺนํ เภทกรวตฺถูนํ วเสน อฏฺารส อฏฺกานิ สงฺฆเภทกกฺขนฺธเก วุตฺตานิ, เตสํ วเสน ฉอูนทิยฑฺฒสตํ อาปายิกา เวทิตพฺพา.
อฏฺารส อนาปายิกาติ ‘‘อิธ, อุปาลิ, ภิกฺขุ อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปติ, ตสฺมึ ธมฺมทิฏฺิ เภเท ธมฺมทิฏฺิ อวินิธาย ทิฏฺึ อวินิธาย ขนฺตึ อวินิธาย รุจึ อวินิธาย ภาวํ อนุสฺสาเวติ, สลากํ คาเหติ ‘อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสนํ, อิมํ คณฺหถ, อิมํ โรเจถา’ติ, อยมฺปิ โข, อุปาลิ, สงฺฆเภทโก น อาปายิโก น เนรยิโก น กปฺปฏฺโ น อเตกิจฺโฉ’’ติ เอวํ เอเกกสฺมึ วตฺถุสฺมึ เอเกกํ กตฺวา สงฺฆเภทกกฺขนฺธกาวสาเน วุตฺตา อฏฺารส ชนา. อฏฺารส อฏฺกา ฉอูนทิยฑฺฒสตวิสฺสชฺชเน วุตฺตาเยว.
(๕) โสฬสกมฺมาทิวณฺณนา
๔๗๘. กติ กมฺมานีติอาทีนํ สพฺพคาถานํ วิสฺสชฺชนํ อุตฺตานเมวาติ.
อปรทุติยคาถาสงฺคณิกวณฺณนา นิฏฺิตา.
เสทโมจนคาถา
(๑) อวิปฺปวาสปฺหาวณฺณนา
๔๗๙. เสทโมจนคาถาสุ ¶ ¶ ¶ อสํวาโสติ อุโปสถปวารณาทินา สํวาเสน อสํวาโส. สมฺโภโค เอกจฺโจ ตหึ น ลพฺภตีติ อกปฺปิยสมฺโภโค น ลพฺภติ, นหาปนโภชนาทิปฏิชคฺคนํ ปน มาตราเยว กาตุํ ลพฺภติ. อวิปฺปวาเสน อนาปตฺตีติ สหคารเสยฺยาย อนาปตฺติ. ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตาติ เอสา ปฺหา กุสเลหิ ปณฺฑิเตหิ จินฺติตา. อสฺสา วิสฺสชฺชนํ ทารกมาตุยา ภิกฺขุนิยา เวทิตพฺพํ, ตสฺสา หิ ปุตฺตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตนฺติ.
อวิสฺสชฺชิตคาถา ครุภณฺฑํ สนฺธาย วุตฺตา, อตฺโถ ปนสฺสา ครุภณฺฑวินิจฺฉเย วุตฺโตเยว.
ทส ปุคฺคเล น วทามีติ เสนาสนกฺขนฺธเก วุตฺเต ทส ปุคฺคเล น วทามิ. เอกาทส วิวชฺชิยาติ เย มหาขนฺธเก เอกาทส วิวชฺชนียปุคฺคลา วุตฺตา, เตปิ น วทามิ. อยํ ปฺหา นคฺคํ ภิกฺขุํ สนฺธาย วุตฺตา.
กถํ นุ สิกฺขาย อสาธารโณติ ปฺหา นหาปิตปุพฺพกํ ภิกฺขุํ สนฺธาย วุตฺตา. อยฺหิ ขุรภณฺฑํ ปริหริตุํ น ลภติ, อฺเ ลภนฺติ; ตสฺมา สิกฺขาย อสาธารโณ.
ตํ ปุคฺคลํ กตมํ วทนฺติ พุทฺธาติ อยํ ปฺหา นิมฺมิตพุทฺธํ สนฺธาย วุตฺตา.
อโธนาภึ ¶ วิวชฺชิยาติ อโธนาภึ วิวชฺเชตฺวา. อยํ ปฺหา ยํ ตํ อสีสกํ กพนฺธํ, ยสฺส อุเร อกฺขีนิ เจว มุขฺจ โหติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตา.
ภิกฺขุ สฺาจิกาย กุฏินฺติ อยํ ปฺหา ติณจฺฉาทนํ กุฏึ สนฺธาย วุตฺตา. ทุติยปฺหา สพฺพมตฺติกามยํ กุฏึ สนฺธาย วุตฺตา.
อาปชฺเชยฺย ครุกํ เฉชฺชวตฺถุนฺติ อยํ ปฺหา วชฺชปฏิจฺฉาทิกํ ภิกฺขุนึ สนฺธาย วุตฺตา. ทุติยปฺหา ปณฺฑกาทโย อภพฺพปุคฺคเล สนฺธาย วุตฺตา. เอกาทสปิ หิ เต คิหิภาเวเยว ปาราชิกํ ปตฺตา.
วาจาติ ¶ วาจาย อนาลปนฺโต. คิรํ โน จ ปเร ภเณยฺยาติ ‘‘อิติ อิเม โสสฺสนฺตี’’ติ ปรปุคฺคเล สนฺธาย สทฺทมฺปิ น นิจฺฉาเรยฺย. อยํ ปฺหา ‘‘สนฺตึ อาปตฺตึ นาวิกเรยฺย, สมฺปชานมุสาวาทสฺส โหตี’’ติ อิมํ มุสาวาทํ สนฺธาย วุตฺตา. ตสฺส หิ ภิกฺขุโน อธมฺมิกาย ปฏิฺาย ตุณฺหีภูตสฺส นิสินฺนสฺส มโนทฺวาเร อาปตฺติ นาม นตฺถิ. ยสฺมา ปน อาวิกาตพฺพํ น อาวิกโรติ, เตนสฺส ¶ วจีทฺวาเร อกิริยโต อยํ อาปตฺติ สมุฏฺาตีติ เวทิตพฺพา.
สงฺฆาทิเสสา จตุโรติ อยํ ปฺหา อรุณุคฺเค คามนฺตรปริยาปนฺนํ นทิปารํ โอกฺกนฺตภิกฺขุนึ สนฺธาย วุตฺตา, สา หิ สกคามโต ปจฺจูสสมเย นิกฺขมิตฺวา อรุณุคฺคมนกาเล วุตฺตปฺปการํ นทิปารํ โอกฺกนฺตมตฺตาว รตฺติวิปฺปวาสคามนฺตรนทิปารคณมฺหาโอหียนลกฺขเณน เอกปฺปหาเรเนว จตุโร สงฺฆาทิเสเส อาปชฺชติ.
สิยา อาปตฺติโย นานาติ อยํ ปฺหา เอกโตอุปสมฺปนฺนา ทฺเว ภิกฺขุนิโย สนฺธาย วุตฺตา. ตาสุ หิ ภิกฺขูนํ สนฺติเก เอกโตอุปสมฺปนฺนาย หตฺถโต คณฺหนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก เอกโตอุปสมฺปนฺนาย หตฺถโต คณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.
จตุโร ชนา สํวิธายาติ อาจริโย จ ตโย จ อนฺเตวาสิกา ฉมาสกํ ภณฺฑํ อวหรึสุ, อาจริยสฺส สาหตฺถิกา ตโย มาสกา, อาณตฺติยาปิ ตโยว ตสฺมา ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชติ ¶ , อิตเรสํ สาหตฺถิโก เอเกโก, อาณตฺติกา ปฺจาติ ตสฺมา ปาราชิกํ อาปชฺชึสุ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน อทินฺนาทานปาราชิเก สํวิทาวหารวณฺณนายํ วุตฺโต.
(๒) ปาราชิกาทิปฺหาวณฺณนา
๔๘๐. ฉิทฺทํ ตสฺมึ ฆเร นตฺถีติ อยํ ปฺหา ทุสฺสกุฏิอาทีนิ สนฺถตเปยฺยาลฺจ สนฺธาย วุตฺตา.
เตลํ มธุํ ผาณิตนฺติ คาถา ลิงฺคปริวตฺตํ สนฺธาย วุตฺตา.
นิสฺสคฺคิเยนาติ คาถา ปริณามนํ สนฺธาย วุตฺตา. โย หิ สงฺฆสฺส ปริณตลาภโต เอกํ จีวรํ อตฺตโน, เอกํ อฺสฺสาติ ทฺเว จีวรานิ ‘‘เอกํ ¶ มยฺหํ, เอกํ ตสฺส เทหี’’ติ เอกปยโอเคน ปริณาเมติ, โส นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยฺเจว สุทฺธิกปาจิตฺติยฺจ เอกโต อาปชฺชติ.
กมฺมฺจ ตํ กุปฺเปยฺย วคฺคปจฺจยาติ อยํ ปฺหา ทฺวาทสโยชนปมาเณสุ พาราณสิอาทีสุ นคเรสุ คามสีมํ สนฺธาย วุตฺตา.
ปทวีติหารมตฺเตนาติ คาถา สฺจริตฺตํ สนฺธาย วุตฺตา, อตฺโถปิ จสฺสา สฺจริตฺตวณฺณนายเมว วุตฺโต.
สพฺพานิ ตานิ นิสฺสคฺคิยานีติ อยํ ปฺหา อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา โธวาปนํ สนฺธาย วุตฺตา. สเจ หิ ติณฺณมฺปิ จีวรานํ กากอูหทนํ วา กทฺทมมกฺขิตํ วา กณฺณํ คเหตฺวา ภิกฺขุนี อุทเกน โธวติ, ภิกฺขุสฺส กายคตาเนว นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ.
สรณคมนมฺปิ น ตสฺส อตฺถีติ สรณคมนอุปสมฺปทาปิ นตฺถิ. อยํ ปน ¶ ปฺหา มหาปชาปติยา อุปสมฺปทํ สนฺธาย วุตฺตา.
หเนยฺย ¶ อนริยํ มนฺโทติ ตฺหิ อิตฺถึ วา ปุริสํ วา อนริยํ หเนยฺย. อยํ ปฺหา ลิงฺคปริวตฺเตน อิตฺถิภูตํ ปิตรํ ปุริสภูตฺจ มาตรํ สนฺธาย วุตฺตา.
น เตนานนฺตรํ ผุเสติ อยํ ปฺหา มิคสิงฺคตาปสสีหกุมาราทีนํ วิย ติรจฺฉานมาตาปิตโร สนฺธาย วุตฺตา.
อโจทยิตฺวาติ คาถา ทูเตนุปสมฺปทํ สนฺธาย วุตฺตา. โจทยิตฺวาติ คาถา ปณฺฑกาทีนํ อุปสมฺปทํ สนฺธาย วุตฺตา. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ปมคาถา อฏฺ อสมฺมุขากมฺมานิ, ทุติยา อนาปตฺติกสฺส กมฺมํ สนฺธาย วุตฺตา’’ติ อาคตํ.
ฉินฺทนฺตสฺส อาปตฺตีติ วนปฺปตึ ฉินฺทนฺตสฺส ปาราชิกํ, ติณลตาทึ ฉินฺทนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, องฺคชาตํ ฉินฺทนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ. ฉินฺทนฺตสฺส อนาปตฺตีติ เกเส จ นเข จ ฉินฺทนฺตสฺส อนาปตฺติ. ฉาเทนฺตสฺส อาปตฺตีติ อตฺตโน อาปตฺตึ ฉาเทนฺตสฺส อฺเสํ วา อาปตฺตึ. ฉาเทนฺตสฺส อนาปตฺตีติ เคหาทีนิ ฉาเทนฺตสฺส อนาปตฺติ.
สจฺจํ ¶ ภณนฺโตติ คาถาย ‘‘สิขรณีสิ อุภโตพฺยฺชนาสี’’ติ สจฺจํ ภณนฺโต ครุกํ อาปชฺชติ, สมฺปชานมุสาวาเท ปน มุสา ภาสโต ลหุกาปตฺติ โหติ, อภูตาโรจเน มุสา ภณนฺโต ครุกํ อาปชฺชติ, ภูตาโรจเน สจฺจํ ภาสโต ลหุกาปตฺติ โหตีติ.
(๓) ปาจิตฺติยาทิปฺหาวณฺณนา
๔๘๑. อธิฏฺิตนฺติ คาถา นิสฺสคฺคิยจีวรํ อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภฺุชนฺตํ สนฺธาย วุตฺตา.
อตฺถงฺคเต สูริเยติ คาถา โรมนฺถกํ สนฺธาย วุตฺตา.
น รตฺตจิตฺโตติ คาถาย อยมตฺโถ – รตฺตจิตฺโต เมถุนธมฺมปาราชิกํ อาปชฺชติ. เถยฺยจิตฺโต อทินฺนาทานปาราชิกํ, ปรํ มรณาย เจเตนฺโต มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกํ, สงฺฆเภทโก ปน ¶ น รตฺตจิตฺโต น จ ปน เถยฺยจิตฺโต น จาปิ โส ปรํ มรณาย เจตยิ, สลากํ ปนสฺส เทนฺตสฺส โหติ เฉชฺชํ, ปาราชิกํ โหติ, สลากํ ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส เภทกานุวตฺตกสฺส ถุลฺลจฺจยํ.
คจฺเฉยฺย อฑฺฒโยชนนฺติ อยํ ปฺหา สุปฺปติฏฺิตนิคฺโรธสทิสํ เอกกุลสฺส รุกฺขมูลํ สนฺธาย วุตฺตา.
กายิกานีติ อยํ คาถา สมฺพหุลานํ อิตฺถีนํ เกเส วา องฺคุลิโย วา เอกโต คณฺหนฺตํ สนฺธาย วุตฺตา.
วาจสิกานีติ อยํ คาถา ‘‘สพฺพา ตุมฺเห สิขรณิโย’’ติอาทินา นเยน ทุฏฺุลฺลภาณึ สนฺธาย วุตฺตา.
ติสฺสิตฺถิโย เมถุนํ ตํ น เสเวติ ติสฺโส อิตฺถิโย วุตฺตา, ตาสุปิ ยํ ตํ เมถุนํ นาม, ตํ น ¶ เสวติ. ตโย ปุริเสติ ตโย ปุริเสปิ อุปคนฺตฺวา เมถุนํ น เสวติ. ตโย อนริยปณฺฑเกติ อุภโตพฺยฺชนสงฺขาเต ตโย อนริเย ตโย จ ปณฺฑเกติ อิเมปิ ฉ ชเน อุปคนฺตฺวา เมถุนํ น เสวติ. น จาจเร เมถุนํ พฺยฺชนสฺมินฺติ อนุโลมปาราชิกวเสนปิ เมถุนํ นาจรติ. เฉชฺชํ สิยา เมถุนธมฺมปจฺจยาติ สิยา เมถุนธมฺมปจฺจยา ปาราชิกนฺติ. อยํ ปฺหา อฏฺวตฺถุกํ สนฺธาย ¶ วุตฺตา, ตสฺสา หิ เมถุนธมฺมสฺส ปุพฺพภาคํ กายสํสคฺคํ อาปชฺชิตุํ วายมนฺติยา เมถุนธมฺมปจฺจยา เฉชฺชํ โหติ.
มาตรํ จีวรนฺติ อยํ คาถา ปิฏฺิสมเย วสฺสิกสาฏิกตฺถํ สตุปฺปาทกรณํ สนฺธาย วุตฺตา. วินิจฺฉโย ปนสฺสา วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนายเมว วุตฺโต.
กุทฺโธ อาราธโก โหตีติ คาถา ติตฺถิยวตฺตํ สนฺธาย วุตฺตา. ติตฺถิโย หิ วตฺตํ ปูรยมาโน ติตฺถิยานํ วณฺเณ ภฺมาเน กุทฺโธ อาราธโก โหติ, วตฺถุตฺตยสฺส วณฺเณ ภฺมาเน กุทฺโธ คารยฺโห โหตีติ ตตฺเถวสฺสา วิตฺถาโร วุตฺโต. ทุติยคาถาปิ ตเมว สนฺธาย วุตฺตา.
สงฺฆาทิเสสนฺติอาทิ ¶ คาถา ยา ภิกฺขุนี อวสฺสุตาว อวสฺสุตสฺส ปุริสสฺส หตฺถโต ปิณฺฑปาตํ คเหตฺวา มนุสฺสมํสลสุณปณีตโภชนเสสอกปฺปิยมํเสหิ สทฺธึ โอมทฺทิตฺวา อชฺโฌหรติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตา.
เอโก อุปสมฺปนฺโน เอโก อนุปสมฺปนฺโนติ คาถา อากาสคตํ สนฺธาย วุตฺตา. สเจ หิ ทฺวีสุ สามเณเรสุ เอโก อิทฺธิยา เกสคฺคมตฺตมฺปิ ปถวึ มฺุจิตฺวา นิสินฺโน โหติ, โส อนุปสมฺปนฺโน นาม โหติ. สงฺเฆนาปิ อากาเส นิสีทิตฺวา ภูมิคตสฺส กมฺมํ น กาตพฺพํ. สเจ กโรติ, กุปฺปติ.
อกปฺปกตนฺติ คาถา อจฺฉินฺนจีวรกํ ภิกฺขุํ สนฺธาย วุตฺตา. ตสฺมึเยว จสฺสา สิกฺขาปเท วิตฺถาเรน วินิจฺฉโยปิ วุตฺโต.
น เทติ น ปฏิคฺคณฺหาตีติ นาปิ อุยฺโยชิกา เทติ, น อุยฺโยชิตา ตสฺสา หตฺถโต คณฺหาติ. ปฏิคฺคโห เตน น วิชฺชตีติ เตเนว การเณน อุยฺโยชิกาย หตฺถโต อุยฺโยชิตาย ปฏิคฺคโห น วิชฺชติ. อาปชฺชติ ครุกนฺติ เอวํ สนฺเตปิ อวสฺสุตสฺส หตฺถโต ปิณฺฑปาตคฺคหเณ อุยฺโยเชนฺตี สงฺฆาทิเสสาปตฺตึ อาปชฺชติ. ตฺจ ปริโภคปจฺจยาติ ตฺจ ปน อาปตฺตึ อาปชฺชมานา ตสฺสา อุยฺโยชิตาย ปริโภคปจฺจยา อาปชฺชติ ¶ ¶ . ตสฺสา หิ โภชนปริโยสาเน อุยฺโยชิกาย สงฺฆาทิเสโส โหตีติ. ทุติยคาถา ตสฺสาเยว อุทกทนฺตโปนคฺคหเณ อุยฺโยชนํ สนฺธาย วุตฺตา.
น ภิกฺขุนี โน จ ผุเสยฺย วชฺชนฺติ สตฺตรสเกสุ หิ อฺตรํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา อนาทริเยน ฉาทยมานาปิ ภิกฺขุนี ฉาทนปจฺจยา วชฺชํ น ผุสติ, อฺํ นวํ อาปตฺตึ นาปชฺชติ, ปฏิจฺฉนฺนาย วา อปฺปฏิจฺฉนฺนาย วา อาปตฺติยา ปกฺขมานตฺตเมว ลภติ. อยํ ปน ภิกฺขุนีปิ น โหติ, สาวเสสฺจ ครุกํ อาปชฺชิตฺวา ฉาเทตฺวา วชฺชํ น ผุสติ. ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตาติ อยํ กิร ปฺหา อุกฺขิตฺตกภิกฺขุํ สนฺธาย วุตฺตา. เตน หิ สทฺธึ วินยกมฺมํ นตฺถิ, ตสฺมา โส สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชิตฺวา ฉาเทนฺโต วชฺชํ น ผุสตีติ.
เสทโมจนคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจวคฺโค
กมฺมวคฺควณฺณนา
๔๘๒. กมฺมวคฺเค ¶ ¶ จตุนฺนํ กมฺมานํ นานากรณํ สมถกฺขนฺธเก วุตฺตเมว. กิฺจาปิ วุตฺตํ, อถ โข อยํ กมฺมวินิจฺฉโย นาม อาทิโต ปฏฺาย วุจฺจมาโน ปากโฏ โหติ, ตสฺมา อาทิโต ปฏฺาเยเวตฺถ วตฺตพฺพํ วทิสฺสาม. จตฺตารีติ กมฺมานํ คณนปริจฺเฉทวจนเมตํ. กมฺมานีติ ปริจฺฉินฺนกมฺมนิทสฺสนํ. อปโลกนกมฺมํ นาม สีมฏฺกสงฺฆํ โสเธตฺวา ฉนฺทารหานํ ฉนฺทํ อาหริตฺวา สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา ติกฺขตฺตุํ สาเวตฺวา กตฺตพฺพํ กมฺมํ. ตฺติกมฺมํ นาม วุตฺตนเยเนว สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา เอกาย ตฺติยา กตฺตพฺพํ กมฺมํ. ตฺติทุติยกมฺมํ นาม วุตฺตนเยเนว สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา เอกาย ตฺติยา เอกาย จ อนุสฺสาวนายาติ เอวํ ตฺติทุติยาย อนุสฺสาวนาย กตฺตพฺพํ กมฺมํ. ตฺติจตุตฺถกมฺมํ นาม วุตฺตนเยเนว สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา เอกาย ตฺติยา ตีหิ จ อนุสฺสาวนาหีติ เอวํ ตฺติจตุตฺถาหิ ตีหิ อนุสฺสาวนาหิ กตฺตพฺพํ กมฺมํ.
ตตฺถ อปโลกนกมฺมํ อปโลเกตฺวาว กาตพฺพํ, ตฺติกมฺมาทิวเสน น กาตพฺพํ. ตฺติกมฺมมฺปิ เอกํ ตฺตึ เปตฺวาว กาตพฺพํ, อปโลกนกมฺมาทิวเสน ¶ น กาตพฺพํ. ตฺติทุติยกมฺมํ ปน อปโลเกตฺวา กาตพฺพมฺปิ อตฺถิ, อกาตพฺพมฺปิ อตฺถิ.
ตตฺถ สีมาสมฺมุติ, สีมาสมูหนนํ, กถินทานํ, กถินุทฺธาโร, กุฏิวตฺถุเทสนา, วิหารวตฺถุเทสนาติ อิมานิ ฉ กมฺมานิ ครุกานิ อปโลเกตฺวา กาตุํ น วฏฺฏนฺติ, ตฺติทุติยกมฺมวาจํ สาเวตฺวาว กาตพฺพานิ. อวเสสา เตรส สมฺมุติโย เสนาสนคฺคาหกมตกจีวรทานาทิสมฺมุติโย ¶ จาติ เอตานิ ลหุกกมฺมานิ อปโลเกตฺวาปิ กาตุํ วฏฺฏนฺติ, ตฺติกมฺม-ตฺติจตุตฺถกมฺมวเสน ปน น กาตพฺพเมว. ตฺติจตุตฺถกมฺมวเสน กยิรมานํ ทฬฺหตรํ โหติ, ตสฺมา กาตพฺพนฺติ เอกจฺเจ วทนฺติ. เอวํ ปน สติ กมฺมสงฺกโร โหติ, ตสฺมา น กาตพฺพนฺติ ปฏิกฺขิตฺตเมว. สเจ ปน อกฺขรปริหีนํ วา ปทปริหีนํ วา ทุรุตฺตปทํ วา โหติ ¶ , ตสฺส โสธนตฺถํ ปุนปฺปุนํ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อิทํ อกุปฺปกมฺมสฺส ทฬฺหีกมฺมํ โหติ, กุปฺปกมฺเม กมฺมํ หุตฺวา ติฏฺติ.
ตฺติจตุตฺถกมฺมํ ตฺติฺจ ติสฺโส จ กมฺมวาจาโย สาเวตฺวาว กาตพฺพํ, อปโลกนกมฺมาทิวเสน น กาตพฺพํ. ปฺจหากาเรหิ วิปชฺชนฺตีติ ปฺจหิ การเณหิ วิปชฺชนฺติ.
๔๘๓. สมฺมุขากรณียํ กมฺมํ อสมฺมุขา กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมนฺติ เอตฺถ อตฺถิ กมฺมํ สมฺมุขากรณียํ; อตฺถิ อสมฺมุขากรณียํ; ตตฺถ อสมฺมุขากรณียํ นาม ทูเตนุปสมฺปทา, ปตฺตนิกฺกุชฺชนํ, ปตฺตุกฺกุชฺชนํ, อุมฺมตฺตกสฺส ภิกฺขุโน อุมฺมตฺตกสมฺมุติ, เสกฺขานํ กุลานํ เสกฺขสมฺมุติ, ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺโฑ, เทวทตฺตสฺส ปกาสนียกมฺมํ, อปฺปสาทนียํ ทสฺเสนฺตสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขุนิสงฺเฆน กาตพฺพํ อวนฺทนียกมฺมนฺติ อฏฺวิธํ โหติ, ตํ สพฺพํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิทํ อฏฺวิธมฺปิ กมฺมํ อสมฺมุขา กตํ สุกตํ โหติ อกุปฺปํ.
เสสานิ สพฺพกมฺมานิ สมฺมุขา เอว กาตพฺพานิ – สงฺฆสมฺมุขตา, ธมฺมสมฺมุขตา, วินยสมฺมุขตา, ปุคฺคลสมฺมุขตาติ อิมํ จตุพฺพิธํ สมฺมุขาวินยํ อุปเนตฺวาว กาตพฺพานิ. เอวํ กตานิ หิ สุกตานิ โหนฺติ. เอวํ อกตานิ ปเนตานิ อิมํ สมฺมุขาวินยสงฺขาตํ วตฺถุํ วินา กตตฺตา วตฺถุวิปนฺนานิ นาม โหนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สมฺมุขากรณียํ ¶ กมฺมํ อสมฺมุขา กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺม’’นฺติ.
ปฏิปุจฺฉากรณียาทีสุปิ ปฏิปุจฺฉาทิกรณเมว วตฺถุ, ตํ วตฺถุํ วินา กตตฺตา เตสมฺปิ วตฺถุวิปนฺนตา เวทิตพฺพา. อิทํ ปเนตฺถ วจนตฺถมตฺตํ. ปฏิปุจฺฉา กรณียํ อปฺปฏิปุจฺฉา กโรตีติ ปุจฺฉิตฺวา โจเทตฺวา สาเรตฺวา กาตพฺพํ อปุจฺฉิตฺวา อโจเทตฺวา อสาเรตฺวา กโรติ. ปฏิฺาย กรณียํ ¶ อปฺปฏิฺาย กโรตีติ ปฏิฺํ อาโรเปตฺวา ยถาทินฺนาย ปฏิฺาย กาตพฺพํ อปฺปฏิฺาย กโรนฺตสฺส วิปฺปลปนฺตสฺส พลกฺกาเรน กโรติ. สติวินยารหสฺสาติ ทพฺพมลฺลปุตฺตตฺเถรสทิสสฺส ขีณาสวสฺส. อมูฬฺหวินยารหสฺสาติ คคฺคภิกฺขุสทิสสฺส อุมฺมตฺตกสฺส. ตสฺสปาปิยสิกกมฺมารหสฺสาติ อุปวาฬภิกฺขุสทิสสฺส อุสฺสนฺนปาปสฺส. เอส นโย สพฺพตฺถ.
อนุโปสเถ ¶ อุโปสถํ กโรตีติ อนุโปสถทิวเส อุโปสถํ กโรติ. อุโปสถทิวโส นาม เปตฺวา กตฺติกมาสํ อวเสเสสุ เอกาทสสุ มาเสสุ ภินฺนสฺส สงฺฆสฺส สามคฺคิทิวโส จ ยถาวุตฺตจาตุทฺทสปนฺนรสา จ. เอตํ ติปฺปการมฺปิ อุโปสถทิวสํ เปตฺวา อฺสฺมึ ทิวเส อุโปสถํ กโรนฺโต อนุโปสเถ อุโปสถํ กโรติ นาม. ยตฺร หิ ปตฺตจีวราทีนํ อตฺถาย อปฺปมตฺตเกน การเณน วิวทนฺตา อุโปสถํ วา ปวารณํ วา เปนฺติ, ตตฺถ ตสฺมึ อธิกรเณ วินิจฺฉิเต ‘‘สมคฺคา ชาตามฺหา’’ติ อนฺตรา สามคฺคิอุโปสถํ กาตุํ น ลภนฺติ, กโรนฺเตหิ อนุโปสเถ อุโปสโถ กโต นาม โหติ.
อปวารณาย ปวาเรตีติ อปวารณาทิวเส ปวาเรติ; ปวารณาทิวโส นาม เอกสฺมึ กตฺติกมาเส ภินฺนสฺส สงฺฆสฺส สามคฺคิทิวโส จ ปจฺจุกฺกฑฺฒิตฺวา ปิตทิวโส จ ทฺเว จ ปุณฺณมาสิโย. เอวํ จตุพฺพิธมฺปิ ปวารณาทิวสํ เปตฺวา อฺสฺมึ ทิวเส ปวาเรนฺโต อปวารณาย ปวาเรติ นาม. อิธาปิ อปฺปมตฺตกสฺส วิวาทสฺส วูปสเม สามคฺคิปวารณํ กาตุํ น ลภนฺติ, กโรนฺเตหิ อปวารณาย ปวารณา กตา โหติ. อปิจ อูนวีสติวสฺสํ วา อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺนปุพฺพํ วา เอกาทสสุ วา อภพฺพปุคฺคเลสุ อฺตรํ อุปสมฺปาเทนฺตสฺสปิ วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ โหติ. เอวํ วตฺถุโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ.
๔๘๔. ตฺติโต วิปตฺติยํ ปน วตฺถุํ น ปรามสตีติ ยสฺส อุปสมฺปทาทิกมฺมํ ¶ กโรติ, ตํ น ปรามสติ, ตสฺส นามํ น คณฺหาติ. ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วทติ; เอวํ วตฺถุํ น ปรามสติ.
สงฺฆํ น ปรามสตีติ สงฺฆสฺส นามํ น คณฺหาติ. ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ ¶ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วทติ; เอวํ สงฺฆํ น ปรามสติ.
ปุคฺคลํ น ปรามสตีติ โย อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส อุปชฺฌาโย, ตํ น ปรามสติ, ตสฺส นามํ น คณฺหาติ. ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตพฺเพ ¶ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วทติ; เอวํ ปุคฺคลํ น ปรามสติ.
ตฺตึ น ปรามสตีติ สพฺเพน สพฺพํ ตฺตึ น ปรามสติ. ตฺติทุติยกมฺเม ตฺตึ อฏฺเปตฺวา ทฺวิกฺขตฺตุํ กมฺมวาจาย เอว อนุสฺสาวนกมฺมํ กโรติ. ตฺติจตุตฺถกมฺเมปิ ตฺตึ อฏฺเปตฺวา จตุกฺขตฺตุํ กมฺมวาจาย เอว อนุสฺสาวนกมฺมํ กโรติ; เอวํ ตฺตึ น ปรามสติ.
ปจฺฉา วา ตฺตึ เปตีติ ปมํ กมฺมวาจาย อนุสฺสาวนกมฺมํ กตฺวา ‘‘เอสา ตฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘ขมติ สงฺฆสฺส ตสฺมา ตุณฺหี เอวเมตํ ธารยามี’’ติ วทติ; เอวํ ปจฺฉา ตฺตึ เปติ. อิติ อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ ตฺติโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ.
๔๘๕. อนุสฺสาวนโต วิปตฺติยํ ปน วตฺถุอาทีนิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. เอวํ ปน เนสํ อปรามสนํ โหติ – ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ’’ติ ปมานุสฺสาวเน ‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ, ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ, สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ’’ติ ทุติยตติยานุสฺสาวนาสุ วา ‘‘อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺสา’’ติ วทนฺโต วตฺถุํ น ปรามสติ นาม. ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วทนฺโต สงฺฆํ น ปรามสติ นาม. ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต ¶ อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วทนฺโต ปุคฺคลํ น ปรามสติ นาม.
สาวนํ หาเปตีติ สพฺเพน สพฺพํ กมฺมวาจาย อนุสฺสาวนํ น กโรติ, ตฺติทุติยกมฺเม ทฺวิกฺขตฺตุํ ตฺติเมว เปติ, ตฺติจตุตฺถกมฺเม จตุกฺขตฺตุํ ตฺติเมว เปติ; เอวํ อนุสฺสาวนํ หาเปติ ¶ . โยปิ ตฺติทุติยกมฺเม เอกํ ตฺตึ เปตฺวา เอกํ กมฺมวาจํ อนุสฺสาเวนฺโต อกฺขรํ วา ฉฑฺเฑติ, ปทํ วา ทุรุตฺตํ กโรติ, อยมฺปิ อนุสฺสาวนํ หาเปติเยว. ตฺติจตุตฺถกมฺเม ปน เอกํ ตฺตึ เปตฺวา สกิเมว วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา กมฺมวาจาย อนุสฺสาวนํ กโรนฺโตปิ อกฺขรํ วา ปทํ วา ¶ ฉฑฺเฑนฺโตปิ ทุรุตฺตํ กโรนฺโตปิ อนุสฺสาวนํ หาเปติเยวาติ เวทิตพฺโพ.
ทุรุตฺตํ กโรตีติ เอตฺถ ปน อยํ วินิจฺฉโย – โย หิ อฺสฺมึ อกฺขเร วตฺตพฺเพ อฺํ วทติ, อยํ ทุรุตฺตํ กโรติ นาม. ตสฺมา กมฺมวาจํ กโรนฺเตน ภิกฺขุนา ยฺวายํ –
‘‘สิถิลํ ธนิตฺจ ทีฆรสฺสํ, ครุกํ ลหุกฺจ นิคฺคหิตํ;
สมฺพนฺธํ ววตฺถิตํ วิมุตฺตํ, ทสธา พฺยฺชนพุทฺธิยา ปเภโท’’ติ.
วุตฺโต, อยํ สุฏฺุ อุปลกฺเขตพฺโพ. เอตฺถ หิ ‘‘สิถิลํ’’ นาม ปฺจสุ วคฺเคสุ ปมตติยํ. ‘‘ธนิตํ’’ นาม เตสฺเวว ทุติยจตุตฺถํ. ‘‘ทีฆ’’นฺติ ทีเฆน กาเลน วตฺตพฺพํ อาการาทิ. ‘‘รสฺส’’นฺติ ตโต อุปฑฺฒกาเลน วตฺตพฺพํ อการาทิ. ‘‘ครุก’’นฺติ ทีฆเมว. ยํ วา อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตตฺเถรสฺส ยสฺส นกฺขมตีติ เอวํ สํโยคปรํ กตฺวา วุจฺจติ. ‘‘ลหุก’’นฺติ รสฺสเมว. ยํ วา อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตเถรสฺส ยสฺส น ขมตีติ เอวํ อสํโยคปรํ กตฺวา วุจฺจติ. ‘‘นิคฺคหิต’’นฺติ ยํ กรณานิ นิคฺคเหตฺวา อวิสฺสชฺเชตฺวา อวิวเฏน มุเขน สานุนาสิกํ กตฺวา วตฺตพฺพํ. ‘‘สมฺพนฺธ’’นฺติ ยํ ปรปเทน สมฺพนฺธิตฺวา ‘‘ตุณฺหิสฺสา’’ติ วา ‘‘ตุณฺหสฺสา’’ติ วา วุจฺจติ. ‘‘ววตฺถิต’’นฺติ ยํ ปรปเทน อสมฺพนฺธํ กตฺวา วิจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘ตุณฺหี อสฺสา’’ติ วา ‘‘ตุณฺห อสฺสา’’ติ วา วุจฺจติ. ‘‘วิมุตฺต’’นฺติ ยํ กรณานิ อนิคฺคเหตฺวา วิสฺสชฺเชตฺวา วิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ อกตฺวา ¶ วุจฺจติ.
ตตฺถ ‘‘สุณาตุ เม’’ติ วตฺตพฺเพ ต-การสฺส ถ-การํ กตฺวา ‘‘สุณาถุ เม’’ติ วจนํ สิถิลสฺส ธนิตกรณํ นาม. ตถา ‘‘ปตฺตกลฺลํ, เอสา ตฺตี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ปตฺถกลฺลํ, เอสา ตฺถี’’ติอาทิวจนฺจ. ‘‘ภนฺเต สงฺโฆ’’ติ วตฺตพฺเพ ภ-การ ฆ-การานํ พ-การ ค-กาเร กตฺวา ‘‘พนฺเต สงฺโค’’ติ วจนํ ธนิตสฺส สิถิลกรณํ นาม. ‘‘สุณาตุ เม’’ติ วิวเฏน มุเขน วตฺตพฺเพ ปน ‘‘สุณํตุ เม’’ติ วา ‘‘เอสา ตฺตี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘เอสํ ตฺตี’’ติ วา อวิวเฏน ¶ มุเขน อนุนาสิกํ กตฺวา วจนํ วิมุตฺตสฺส นิคฺคหิตวจนํ นาม. ‘‘ปตฺตกลฺล’’นฺติ อวิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ กตฺวา วตฺตพฺเพ ‘‘ปตฺตกลฺลา’’ติ วิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ อกตฺวา วจนํ นิคฺคหิตสฺส วิมุตฺตวจนํ นาม.
อิติ ¶ สิถิเล กตฺตพฺเพ ธนิตํ, ธนิเต กตฺตพฺเพ สิถิลํ, วิมุตฺเต กตฺตพฺเพ นิคฺคหิตํ, นิคฺคหิเต กตฺตพฺเพ วิมุตฺตนฺติ อิมานิ จตฺตาริ พฺยฺชนานิ อนฺโตกมฺมวาจาย กมฺมํ ทูเสนฺติ. เอวํ วทนฺโต หิ อฺสฺมึ อกฺขเร วตฺตพฺเพ อฺํ วทติ, ทุรุตฺตํ กโรตีติ วุจฺจติ. อิตเรสุ ปน ทีฆรสฺสาทีสุ ฉสุ พฺยฺชเนสุ ทีฆฏฺาเน ทีฆเมว, รสฺสฏฺาเน จ รสฺสเมวาติ เอวํ ยถาาเน ตํ ตเทว อกฺขรํ ภาสนฺเตน อนุกฺกมาคตํ ปเวณึ อวินาเสนฺเตน กมฺมวาจา กาตพฺพา. สเจ ปน เอวํ อกตฺวา ทีเฆ วตฺตพฺเพ รสฺสํ, รสฺเส วา วตฺตพฺเพ ทีฆํ วทติ; ตถา ครุเก วตฺตพฺเพ ลหุกํ, ลหุเก วา วตฺตพฺเพ ครุกํ วทติ; สมฺพนฺเธ วา ปน วตฺตพฺเพ ววตฺถิตํ, ววตฺถิเต วา วตฺตพฺเพ สมฺพนฺธํ วทติ; เอวํ วุตฺเตปิ กมฺมวาจา น กุปฺปติ. อิมานิ หิ ฉ พฺยฺชนานิ กมฺมํ น โกเปนฺติ.
ยํ ปน สุตฺตนฺติกตฺเถรา ‘‘ท-กาโร ต-การมาปชฺชติ, ต-กาโร ท-การมาปชฺชติ, จ-กาโร ช-การมาปชฺชติ, ช-กาโร จ-การมาปชฺชติ, ย-กาโร ก-การมาปชฺชติ, ก-กาโร ย-การมาปชฺชติ; ตสฺมา ท-การาทีสุ วตฺตพฺเพสุ ต-การาทิวจนํ น วิรุชฺฌตี’’ติ วทนฺติ, ตํ กมฺมวาจํ ปตฺวา น วฏฺฏติ. ตสฺมา วินยธเรน เนว ท-กาโร ต-กาโร กาตพฺโพ…เป… น ก-กาโร ย-กาโร. ยถาปาฬิยา นิรุตฺตึ โสเธตฺวา ทสวิธาย พฺยฺชนนิรุตฺติยา วุตฺตโทเส ปริหรนฺเตน กมฺมวาจา กาตพฺพา. อิตรถา หิ สาวนํ หาเปติ นาม.
อกาเล วา สาเวตีติ สาวนาย อกาเล อโนกาเส ตฺตึ อฏฺเปตฺวา ¶ ปมํเยว อนุสฺสาวนกมฺมํ กตฺวา ปจฺฉา ตฺตึ เปติ. อิติ อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ อนุสฺสาวนโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ.
๔๘๖. สีมโต วิปตฺติยํ ปน อติขุทฺทกสีมา นาม ยา เอกวีสติ ภิกฺขู น คณฺหาติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ยตฺถ เอกวีสติ ภิกฺขู นิสีทิตุํ น สกฺโกนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา ยา เอวรูปา สีมา, อยํ สมฺมตาปิ อสมฺมตา, คามเขตฺตสทิสาว โหติ, ตตฺถ กตํ กมฺมํ ¶ กุปฺปติ. เอส นโย เสสสีมาสุปิ. เอตฺถ ปน อติมหตี นาม ยา เกสคฺคมตฺเตนาปิ ติโยชนํ อติกฺกาเมตฺวา สมฺมตา โหติ. ขณฺฑนิมิตฺตา นาม อฆฏิตนิมิตฺตา วุจฺจติ. ปุรตฺถิมาย ทิสาย นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา อนุกฺกเมเนว ทกฺขิณาย ปจฺฉิมาย อุตฺตราย ทิสาย กิตฺเตตฺวา ปุน ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปุพฺพกิตฺติตํ นิมิตฺตํ ปฏิกิตฺเตตฺวาว เปตุํ วฏฺฏติ; เอวํ อขณฺฑนิมิตฺตา โหติ. สเจ ¶ ปน อนุกฺกเมน อาหริตฺวา อุตฺตราย ทิสาย นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตตฺเถว เปติ, ขณฺฑนิมิตฺตา โหติ. อปราปิ ขณฺฑนิมิตฺตา นาม ยา อนิมิตฺตุปคํ ตจสารรุกฺขํ วา ขาณุกํ วา ปํสุปฺุชวาลิกาปฺุชานํ วา อฺตรํ อนฺตรา เอกํ นิมิตฺตํ กตฺวา สมฺมตา โหติ. ฉายานิมิตฺตา นาม ยา ปพฺพตจฺฉายาทีนํ ยํกิฺจิ ฉายํ นิมิตฺตํ กตฺวา สมฺมตา โหติ. อนิมิตฺตา นาม ยา สพฺเพน สพฺพํ นิมิตฺตานิ อกิตฺเตตฺวา สมฺมตา โหติ.
พหิสีเม ิโต สีมํ สมฺมนฺนติ นาม นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา นิมิตฺตานํ พหิ ิโต สมฺมนฺนติ. นทิยา สมุทฺเท ชาตสฺสเร สีมํ สมฺมนฺนตีติ เอเตสุ นทิอาทีสุ ยํ สมฺมนฺนติ, สา เอวํ สมฺมตาปิ ‘‘สพฺพา, ภิกฺขเว, นที อสีมา, สพฺโพ สมุทฺโท อสีโม, สพฺโพ ชาตสฺสโร อสีโม’’ติ (มหาว. ๑๔๗) วจนโต อสมฺมตาว โหติ. สีมาย สีมํ สมฺภินฺทตีติ อตฺตโน สีมาย ปเรสํ สีมํ สมฺภินฺทติ. อชฺโฌตฺถรตีติ อตฺตโน สีมาย ปเรสํ สีมํ อชฺโฌตฺถรติ. ตตฺถ ยถา สมฺเภโท จ อชฺโฌตฺถรณฺจ โหติ, ตํ สพฺพํ อุโปสถกฺขนฺธเก วุตฺตเมว. อิติ อิมา เอกาทสปิ สีมา อสีมา คามเขตฺตสทิสา เอว, ตาสุ นิสีทิตฺวา กตํ กมฺมํ กุปฺปติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อิเมหิ เอกาทสหิ อากาเรหิ สีมโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺตี’’ติ.
๔๘๗-๔๘๘. ปริสโต กมฺมวิปตฺติยํ ปน กิฺจิ อนุตฺตานํ นาม นตฺถิ. ยมฺปิ ตตฺถ กมฺมปฺปตฺตฉนฺทารหลกฺขณํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตมฺปิ ปรโต ‘‘จตฺตาโร ภิกฺขู ¶ ปกตตฺตา กมฺมปฺปตฺตา’’ติอาทินา นเยน วุตฺตเมว. ตตฺถ ปกตตฺตา กมฺมปฺปตฺตาติ จตุวคฺคกรเณ กมฺเม จตฺตาโร ปกตตฺตา อนุกฺขิตฺตา อนิสฺสาริตา ปริสุทฺธสีลา จตฺตาโร ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา กมฺมสฺส อรหา อนุจฺฉวิกา สามิโน. น เตหิ วินา ตํ กมฺมํ กยิรติ, น เตสํ ฉนฺโท วา ปาริสุทฺธิ วา เอติ. อวเสสา ปน สเจปิ สหสฺสมตฺตา โหนฺติ, สเจ สมานสํวาสกา, สพฺเพ ฉนฺทารหาว โหนฺติ. ฉนฺทปาริสุทฺธึ ทตฺวา อาคจฺฉนฺตุ วา มา วา, กมฺมํ ปน ติฏฺติ. ยสฺส ¶ ปน สงฺโฆ ปริวาสาทิกมฺมํ กโรติ, โส เนว กมฺมปฺปตฺโต, นาปิ ฉนฺทารโห. อปิจ ยสฺมา ตํ ปุคฺคลํ วตฺถุํ กตฺวา สงฺโฆ กมฺมํ กโรติ, ตสฺมา ‘‘กมฺมารโห’’ติ วุจฺจติ. เสสกมฺเมสุปิ เอเสว นโย.
๔๘๙. ปุน ¶ จตฺตาริ กมฺมานีติอาทิโก นโย ปณฺฑกาทีนํ อวตฺถุภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺโต. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
อปโลกนกมฺมกถา
๔๙๕-๔๙๖. อิทานิ เตสํ กมฺมานํ ปเภททสฺสนตฺถํ ‘‘อปโลกนกมฺมํ กติ านานิ คจฺฉตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘อปโลกนกมฺมํ ปฺจ านานิ คจฺฉติ – โอสารณํ, นิสฺสารณํ, ภณฺฑุกมฺมํ, พฺรหฺมทณฺฑํ, กมฺมลกฺขณฺเว ปฺจม’’นฺติ เอตฺถ ‘‘โอสารณํ นิสฺสารณ’’นฺติ ปทสิลิฏฺตาเยตํ วุตฺตํ. ปมํ ปน นิสฺสารณา โหติ, ปจฺฉา โอสารณา. ตตฺถ ยา กณฺฏกสามเณรสฺส ทณฺฑกมฺมนาสนา, สา ‘‘นิสฺสารณา’’ติ เวทิตพฺพา. ตสฺมา เอตรหิ สเจปิ สามเณโร พุทฺธสฺส วา ธมฺมสฺส วา สงฺฆสฺส วา อวณฺณํ ภณติ, ‘‘อกปฺปิยํ กปฺปิย’’นฺติ ทีเปติ, มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ อนฺตคฺคาหิกาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคโต, โส ยาวตติยํ นิวาเรตฺวา ตํ ลทฺธึ นิสฺสชฺชาเปตพฺโพ. โน เจ วิสฺสชฺเชติ, สงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘วิสฺสชฺเชหี’’ติ วตฺตพฺโพ. โน เจ วิสฺสชฺเชติ, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา อปโลกนกมฺมํ กตฺวา นิสฺสาเรตพฺโพ. เอวฺจ ปน กมฺมํ กาตพฺพํ –
‘‘สงฺฆํ, ภนฺเต, ปุจฺฉามิ – ‘อยํ อิตฺถนฺนาโม สามเณโร พุทฺธสฺส ธมฺมสฺส สงฺฆสฺส อวณฺณวาที มิจฺฉาทิฏฺิโก, ยํ อฺเ สามเณรา ลภนฺติ, ทิรตฺตติรตฺตํ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สหเสยฺยํ, ตสฺส อลาภาย นิสฺสารณา รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’ติ. ทุติยมฺปิ… ตติยมฺปิ, ภนฺเต, สงฺฆํ ปุจฺฉามิ – ‘อยํ อิตฺถนฺนาโม สามเณโร พุทฺธสฺส…เป… รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’ติ จร ปิเร วินสฺสา’’ติ.
โส อปเรน สมเยน ‘‘อหํ, ภนฺเต, พาลตาย อฺาณตาย อลกฺขิกตาย ¶ เอวํ อกาสึ, สฺวาหํ สงฺฆํ ขมาเปมี’’ติ ขมาเปนฺโต ยาวตติยํ ยาจาเปตฺวา อปโลกนกมฺเมเนว โอสาเรตพฺโพ ¶ . เอวํ ปน โอสาเรตพฺโพ, สงฺฆมชฺเฌ พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา สงฺฆสฺส อนุมติยา สาเวตพฺพํ –
‘‘สงฺฆํ, ภนฺเต, ปุจฺฉามิ – อยํ อิตฺถนฺนาโม สามเณโร พุทฺธสฺส ธมฺมสฺส สงฺฆสฺส อวณฺณวาที มิจฺฉาทิฏฺิโก, ยํ อฺเ สามเณรา ลภนฺติ, ภิกฺขูหิ สทฺธึ ทิรตฺตติรตฺตํ สหเสยฺยํ, ตสฺส ¶ อลาภาย นิสฺสาริโต, สฺวายํ อิทานิ โสรโต นิวาตวุตฺติ ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกนฺโต หิโรตฺตปฺเป ปติฏฺิโต กตทณฺฑกมฺโม อจฺจยํ เทเสติ, อิมสฺส สามเณรสฺส ยถา ปุเร กายสมฺโภคสามคฺคิทานํ รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’ติ.
เอวํ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ. เอวํ อปโลกนกมฺมํ โอสารณฺจ นิสฺสารณฺจ คจฺฉติ. ภณฺฑุกมฺมํ มหาขนฺธกวณฺณนายํ วุตฺตเมว. พฺรหฺมทณฺโฑ ปฺจสติกกฺขนฺธเก วุตฺโตเยว. น เกวลํ ปเนส ฉนฺนสฺเสว ปฺตฺโต, โย อฺโปิ ภิกฺขุ มุขโร โหติ, ภิกฺขู ทุรุตฺตวจเนหิ ฆฏฺเฏนฺโต ขุํเสนฺโต วมฺเภนฺโต วิหรติ, ตสฺสปิ ทาตพฺโพ. เอวฺจ ปน ทาตพฺโพ, สงฺฆมชฺเฌ พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา สงฺฆสฺส อนุมติยา สาเวตพฺพํ –
‘‘ภนฺเต, อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ มุขโร, ภิกฺขู ทุรุตฺตวจเนหิ ฆฏฺเฏนฺโต วิหรติ. โส ภิกฺขุ ยํ อิจฺเฉยฺย, ตํ วเทยฺย. ภิกฺขูหิ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ เนว วตฺตพฺโพ, น โอวทิตพฺโพ, น อนุสาสิตพฺโพ. สงฺฆํ, ภนฺเต, ปุจฺฉามิ – ‘อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑสฺส ทานํ, รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’ติ. ทุติยมฺปิ ปุจฺฉามิ, ตติยมฺปิ ปุจฺฉามิ – ‘อิตฺถนฺนามสฺส, ภนฺเต, ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑสฺส ทานํ, รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’’ติ.
ตสฺส อปเรน สมเยน สมฺมา วตฺติตฺวา ขมาเปนฺตสฺส พฺรหฺมทณฺโฑ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺโพ. เอวฺจ ปน ปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺโพ, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา สงฺฆมชฺเฌ สาเวตพฺพํ –
‘‘ภนฺเต, ภิกฺขุสงฺโฆ อสุกสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑํ อทาสิ, โส ภิกฺขุ โสรโต นิวาตวุตฺติ ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกนฺโต หิโรตฺตปฺเป ปติฏฺิโต, ปฏิสงฺขา อายตึ สํวเร ติฏฺติ, สงฺฆํ, ภนฺเต, ปุจฺฉามิ, ตสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิ, รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’ติ.
เอวํ ¶ ยาวตติยํ วตฺวา อปโลกนกมฺเมเนว ¶ พฺรหฺมทณฺโฑ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺโพติ.
กมฺมลกฺขณฺเว ปฺจมนฺติ ยํ ตํ ภควตา ภิกฺขุนิกฺขนฺธเก ‘‘เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย กทฺทโมทเกน โอสิฺจนฺติ, ‘อปฺเปว นาม อมฺเหสุ สารชฺเชยฺยุ’นฺติ, กายํ วิวริตฺวา ภิกฺขุนีนํ ทสฺเสนฺติ ¶ , อูรุํ วิวริตฺวา ภิกฺขุนีนํ ทสฺเสนฺติ, องฺคชาตํ วิวริตฺวา ภิกฺขุนีนํ ทสฺเสนฺติ, ภิกฺขุนิโย โอภาเสนฺติ, ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ สมฺปโยเชนฺติ, ‘อปฺเปว นาม อมฺเหสุ สารชฺเชยฺยุ’นฺติ. อิเมสุ วตฺถูสุ เตสํ ภิกฺขูนํ ทุกฺกฏํ ปฺเปตฺวา ‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ตสฺส ภิกฺขุโน ทณฺฑกมฺมํ กาตุ’นฺติ. อถ โข ภิกฺขุนีนํ เอตทโหสิ – ‘กึ นุ โข ทณฺฑกมฺมํ กาตพฺพ’นฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ – ‘อวนฺทิโย โส ภิกฺขเว ภิกฺขุ ภิกฺขุนิสงฺเฆน กาตพฺโพ’’’ติ เอวํ อวนฺทิยกมฺมํ อนฺุาตํ, ตํ กมฺมลกฺขณฺเว ปฺจมํ อิมสฺส อปโลกนกมฺมสฺส านํ โหติ. ตสฺส หิ กมฺมฺเว ลกฺขณํ, น โอสารณาทีนิ; ตสฺมา ‘‘กมฺมลกฺขณ’’นฺติ วุจฺจติ. ตสฺส กรณํ ตตฺเถว วุตฺตํ. อปิจ นํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา สทฺธึ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ อิธาปิ วทาม, ภิกฺขุนุปสฺสเย สนฺนิปติตสฺส ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อนุมติยา พฺยตฺตาย ภิกฺขุนิยา สาเวตพฺพํ –
‘‘อยฺเย อสุโก นาม อยฺโย ภิกฺขุนีนํ อปาสาทิกํ ทสฺเสติ, เอตสฺส อยฺยสฺส อวนฺทิยกรณํ รุจฺจตีติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ ปุจฺฉามิ, ทุติยมฺปิ… ตติยมฺปิ ภิกฺขุนิสงฺฆํ ปุจฺฉามี’’ติ.
เอวํ ติกฺขตฺตุํ สาเวตฺวา อปโลกนกมฺเมน อวนฺทิยกมฺมํ กาตพฺพํ.
ตโต ปฏฺาย โส ภิกฺขุ ภิกฺขุนีหิ น วนฺทิตพฺโพ. สเจ อวนฺทิยมาโน หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา สมฺมา วตฺตติ, เตน ภิกฺขุนิโย ขมาเปตพฺพา. ขมาเปนฺเตน ภิกฺขุนุปสฺสยํ อคนฺตฺวา วิหาเรเยว สงฺฆํ วา คณํ วา เอกํ ภิกฺขุํ วา อุปสงฺกมิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต ปฏิสงฺขา อายตึ สํวเร ติฏฺามิ, น ปุน อปาสาทิกํ ทสฺเสสฺสามิ, ภิกฺขุนิสงฺโฆ มยฺหํ ขมตู’’ติ ขมาเปตพฺพํ. เตน สงฺเฆน ¶ วา คเณน วา เอกํ ภิกฺขุํ เปเสตฺวา เอกภิกฺขุนา วา สยเมว คนฺตฺวา ภิกฺขุนิโย วตฺตพฺพา – ‘‘อยํ ภิกฺขุ ปฏิสงฺขา ¶ อายตึ สํวเร ิโต, อิมินา อจฺจยํ เทเสตฺวา ภิกฺขุนิสงฺโฆ ขมาปิโต, ภิกฺขุนิสงฺโฆ อิมํ วนฺทิยํ กโรตู’’ติ. โส วนฺทิโย กาตพฺโพ. เอวฺจ ปน กาตพฺโพ, ภิกฺขุนุปสฺสเย สนฺนิปติตสฺส ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อนุมติยา พฺยตฺตาย ภิกฺขุนิยา สาเวตพฺพํ –
‘‘อยํ อยฺเย อสุโก นาม อยฺโย ภิกฺขุนีนํ อปาสาทิกํ ทสฺเสตีติ ภิกฺขุนิสงฺเฆน อวนฺทิโย กโต, โส ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกมิตฺวา ปฏิสงฺขา อายตึ สํวเร ิโต อจฺจยํ เทเสตฺวา ภิกฺขุนิสงฺฆํ ¶ ขมาเปสิ, ตสฺส อยฺยสฺส วนฺทิยกรณํ รุจฺจตีติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ ปุจฺฉามี’’ติ –
ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ เอวํ อปโลกนกมฺเมเนว วนฺทิโย กาตพฺโพ.
อยํ ปเนตฺถ ปาฬิมุตฺตโกปิ กมฺมลกฺขณวินิจฺฉโย. อิทฺหิ กมฺมลกฺขณํ นาม ภิกฺขุนิสงฺฆมูลกํ ปฺตฺตํ, ภิกฺขุสงฺฆสฺสาปิ ปเนตํ ลพฺภติเยว. ยฺหิ ภิกฺขุสงฺโฆ สลากคฺคยาคคฺคภตฺตคฺคอุโปสถคฺเคสุ อปโลกนกมฺมํ กโรติ, เอตมฺปิ กมฺมลกฺขณเมว. อจฺฉินฺนจีวรชิณฺณจีวรนฏฺจีวรานฺหิ สงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ยาวตติยํ สาเวตฺวา อปโลกนกมฺมํ กตฺวา จีวรํ ทาตุํ วฏฺฏติ. อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชเกน ปน จีวรํ กโรนฺตสฺส เสนาสนกฺขนฺธกวณฺณนายํ วุตฺตปฺปเภทานิ สูจิอาทีนิ อนปโลเกตฺวาปิ ทาตพฺพานิ. เตสํ ทาเน โสเยว อิสฺสโร, ตโต อติเรกํ เทนฺเตน อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ. ตโต หิ อติเรกทาเน สงฺโฆ สามี. คิลานเภสชฺชมฺปิ ตตฺถ วุตฺตปฺปการํ สยเมว ทาตพฺพํ. อติเรกํ อิจฺฉนฺตสฺส อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ. โยปิ จ ทุพฺพโล วา ฉินฺนิริยาปโถ วา ปจฺฉินฺนภิกฺขาจารปโถ วา มหาคิลาโน, ตสฺส มหาวาเสสุ ตตฺรุปฺปาทโต เทวสิกํ นาฬิ วา อุปฑฺฒนาฬิ วา เอกทิวสํเยว วา ปฺจ วา ทส วา ตณฺฑุลนาฬิโย เทนฺเตน อปโลกนกมฺมํ กตฺวาว ทาตพฺพา. เปสลสฺส ภิกฺขุโน ตตฺรุปฺปาทโต อิณปลิโพธมฺปิ พหุสฺสุตสฺส สงฺฆภารนิตฺถารกสฺส ภิกฺขุโน อนุฏฺาปนียเสนาสนมฺปิ สงฺฆกิจฺจํ กโรนฺตานํ กปฺปิยการกาทีนํ ภตฺตเวตนมฺปิ อปโลกนกมฺเมน ¶ ทาตุํ วฏฺฏติ.
จตุปจฺจยวเสน ทินฺนตตฺรุปฺปาทโต สงฺฆิกํ อาวาสํ ชคฺคาเปตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อยํ ภิกฺขุ อิสฺสรวตาย วิจาเรตี’’ติ กถาปจฺฉินฺทนตฺถํ ปน สลากคฺคาทีสุ วา อนฺตรสนฺนิปาเต วา สงฺฆํ ปุจฺฉิตฺวาว ¶ ชคฺคาเปตพฺโพ. จีวรปิณฺฑปาตตฺถาย โอทิสฺสทินฺนตตฺรุปฺปาทโตปิ อปโลเกตฺวา อาวาโส ชคฺคาเปตพฺโพ. อนปโลเกตฺวาปิ วฏฺฏติ. ‘‘สูโร วตายํ ภิกฺขุ จีวรปิณฺฑปาตตฺถาย ทินฺนโต อาวาสํ ชคฺคาเปตี’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนกถาปจฺเฉทนตฺถํ ปน อปโลกนกมฺมเมว กตฺวา ชคฺคาเปตพฺโพ.
เจติเย ¶ ฉตฺตํ วา เวทิกํ วา โพธิฆรํ วา อาสนฆรํ วา อกตํ วา กโรนฺเตน ชิณฺณํ วา ปฏิสงฺขโรนฺเตน สุธากมฺมํ วา กโรนฺเตน มนุสฺเส สมาทเปตฺวา กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ การโก นตฺถิ, เจติยสฺส อุปนิกฺเขปโต กาเรตพฺพํ. อุปนิกฺเขเปปิ อสติ อปโลกนกมฺมํ กตฺวา ตตฺรุปฺปาทโต กาเรตพฺพํ, สงฺฆิเกนปิ. สงฺฆิเกน หิ อปโลเกตฺวา เจติยกิจฺจํ กาตุํ วฏฺฏติ. เจติยสฺส สนฺตเกน อปโลเกตฺวาปิ สงฺฆิกกิจฺจํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ตาวกาลิกํ ปน คเหตฺวา ปากติกํ กาตุํ วฏฺฏติ.
เจติเย สุธากมฺมาทีนิ กโรนฺเตหิ ปน ภิกฺขาจารโต วา สงฺฆโต วา ยาปนมตฺตํ อลภนฺเตหิ เจติยสนฺตกโต ยาปนมตฺตํ คเหตฺวา ปริภฺุชนฺเตหิ วตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติ, ‘‘วตฺตํ กโรมา’’ติ มจฺฉมํสาทีหิ สงฺฆภตฺตํ กาตุํ น วฏฺฏติ. เย วิหาเร โรปิตา ผลรุกฺขา สงฺเฆน ปริคฺคหิตา โหนฺติ, ชคฺคนกมฺมํ ลภนฺติ, เยสํ ผลานิ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภาเชตฺวา ปริภฺุชนฺติ, เตสุ อปโลกนกมฺมํ น กาตพฺพํ. เย ปน อปริคฺคหิตา, เตสุ อปโลกนกมฺมํ กาตพฺพํ. ตํ ปน สลากคฺคยาคคฺคภตฺตคฺคอนฺตรสนฺนิปาเตสุปิ กาตุํ วฏฺฏติ, อุโปสถคฺเค ปน วฏฺฏติเยว. ตตฺถ หิ อนาคตานมฺปิ ฉนฺทปาริสุทฺธิ อาหริยติ, ตสฺมา ตํ สุวิโสธิตํ โหติ.
เอวฺจ ปน กาตพฺพํ, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ภิกฺขุสงฺฆสฺส อนุมติยา สาเวตพฺพํ –
‘‘ภนฺเต, ยํ อิมสฺมึ วิหาเร อนฺโตสีมาย สงฺฆสนฺตกํ มูลตจปตฺตองฺกุรปุปฺผผลขาทนียาทิ อตฺถิ, ตํ สพฺพํ อาคตาคตานํ ภิกฺขูนํ ยถาสุขํ ปริภฺุชิตุํ รุจฺจตีติ ¶ สงฺฆํ ปุจฺฉามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ ปุจฺฉิตพฺพํ.
จตูหิ ปฺจหิ ภิกฺขูหิ กตํ สุกตเมว. ยสฺมึ วิหาเร ทฺเว ตโย ชนา วสนฺติ, เตหิ ¶ นิสีทิตฺวา กตมฺปิ สงฺเฆน กตสทิสเมว. ยสฺมึ ปน วิหาเร เอโก ภิกฺขุ โหติ, เตน ภิกฺขุนา อุโปสถทิวเส ปุพฺพกรณปุพฺพกิจฺจํ กตฺวา นิสินฺเนน กตมฺปิ กติกวตฺตํ สงฺเฆน กตสทิสเมว โหติ.
กโรนฺเตน ¶ ปน ผลวาเรน กาตุมฺปิ จตฺตาโร มาเส ฉ มาเส เอกสํวจฺฉรนฺติ เอวํ ปริจฺฉินฺทิตฺวาปิ อปริจฺฉินฺทิตฺวาปิ กาตุํ วฏฺฏติ. ปริจฺฉินฺเน ยถาปริจฺเฉทํ ปริภฺุชิตฺวา ปุน กาตพฺพํ. อปริจฺฉินฺเน ยาว รุกฺขา ธรนฺติ ตาว วฏฺฏติเยว. เยปิ เตสํ รุกฺขานํ พีเชหิ อฺเ รุกฺขา โรปิตา โหนฺติ, เตสมฺปิ สา เอว กติกา.
สเจ ปน อฺสฺมึ วิหาเร โรปิตา โหนฺติ, เตสํ ยตฺถ โรปิตา, ตสฺมึเยว วิหาเร สงฺโฆ สามี. เยปิ อฺโต พีชานิ อาหริตฺวา ปุริมวิหาเร ปจฺฉา โรปิตา, เตสุ อฺา กติกา กาตพฺพา. กติกาย กตาย ปุคฺคลิกฏฺาเน ติฏฺนฺติ, ยถาสุขํ ผลาทีนิ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปเนตฺถ ตํ ตํ โอกาสํ ปริกฺขิปิตฺวา ปริเวณานิ กตฺวา ชคฺคนฺติ, เตสํ ภิกฺขูนํ ปุคฺคลิกฏฺาเน ติฏฺนฺติ. อฺเ ปริภฺุชิตุํ น ลภนฺติ, เตหิ ปน สงฺฆสฺส ทสภาคํ ทตฺวา ปริภฺุชิตพฺพานิ. โยปิ มชฺเฌวิหาเร รุกฺขํ สาขาหิ ปริวาเรตฺวา รกฺขติ, ตสฺสาปิ เอเสว นโย.
โปราณวิหารํ คตสฺส สมฺภาวนียภิกฺขุโน ‘‘เถโร อาคโต’’ติ ผลาผลํ อาหรนฺติ, สเจ ตตฺถ มูเล สพฺพปริยตฺติธโร พหุสฺสุตภิกฺขุ วิหาสิ, ‘‘อทฺธา เอตฺถ ทีฆา กติกา กตา ภวิสฺสตี’’ติ นิกฺกุกฺกุจฺเจน ปริภฺุชิตพฺพํ. วิหาเร ผลาผลํ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ, ธุตงฺคํ น โกเปติ. สามเณรา อตฺตโน อาจริยุปชฺฌายานํ พหูนิ ผลานิ เทนฺติ, อฺเ ภิกฺขู อลภนฺตา ขิยฺยนฺติ, ขิยฺยนมตฺตเมว เจตํ โหติ.
สเจ ปน ทุพฺภิกฺขํ โหติ, เอกํ ปนสรุกฺขํ นิสฺสาย สฏฺิปิ ชนา ชีวนฺติ, ตาทิเส กาเล สพฺเพสํ สงฺคหกรณตฺถาย ภาเชตฺวา ขาทิตพฺพํ, อยํ สามีจิ. ยาว ปน กติกวตฺตํ น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ตาว เตหิ ขายิตํ สุขายิตเมว. กทา ปน กติกวตฺตํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ? ยทา สมคฺโค สงฺโฆ สนฺนิปติตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย ภาเชตฺวา ขาทนฺตู’’ติ สาเวติ. เอกภิกฺขุเก ปน ¶ วิหาเร เอเกน สาวิเตปิ ปุริมกติกา ปฏิปฺปสฺสมฺภติเยว. สเจ ¶ ปฏิปฺปสฺสทฺธาย กติกาย สามเณรา เนว รุกฺขโต ปาเตนฺติ, น ภูมิโต คเหตฺวา ภิกฺขูนํ เทนฺติ, ปติตผลานิ ปาเทหิ ปหรนฺตา วิจรนฺติ, เตสํ ทสภาคโต ปฏฺาย ยาว อุปฑฺฒผลภาเคน ผาติกมฺมํ กาตพฺพํ. อทฺธา ผาติกมฺมโลเภน อาหริตฺวา ¶ ทสฺสนฺติ. ปุน สุภิกฺเข ชาเต กปฺปิยการเกสุ อาคนฺตฺวา สาขาปริวาราทีนิ กตฺวา รุกฺเข รกฺขนฺเตสุ สามเณรานํ ผาติกมฺมํ น ทาตพฺพํ, ภาเชตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ.
‘‘วิหาเร ผลาผลํ อตฺถี’’ติ สามนฺตคาเมหิ มนุสฺสา คิลานานํ วา คพฺภินีนํ วา อตฺถาย อาคนฺตฺวา ‘‘เอกํ นาฬิเกรํ เทถ, อมฺพํ เทถ, ลพุชํ เทถา’’ติ ยาจนฺติ, ทาตพฺพํ น ทาตพฺพนฺติ? ทาตพฺพํ. อทียมาเน หิ เต โทมนสฺสิกา โหนฺติ, เทนฺเตน ปน สงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา ยาวตติยํ สาเวตฺวา อปโลกนกมฺมํ กตฺวาว ทาตพฺพํ, กติกวตฺตํ วา กตฺวา เปตพฺพํ, เอวฺจ ปน กาตพฺพํ, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา สงฺฆสฺส อนุมติยา สาเวตพฺพํ –
‘‘สามนฺตคาเมหิ มนุสฺสา อาคนฺตฺวา คิลานาทีนํ อตฺถาย ผลาผลํ ยาจนฺติ, ทฺเว นาฬิเกรานิ, ทฺเว ตาลผลานิ, ทฺเว ปนสานิ, ปฺจ อมฺพานิ, ปฺจ กทลิผลานิ คณฺหนฺตานํ อนิวารณํ, อสุกรุกฺขโต จ อสุกรุกฺขโต จ ผลํ คณฺหนฺตานํ อนิวารณํ รุจฺจติ ภิกฺขุสงฺฆสฺสา’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ.
ตโต ปฏฺาย คิลานาทีนํ นามํ คเหตฺวา ยาจนฺตา ‘‘คณฺหถา’’ติ น วตฺตพฺพา, วตฺตํ ปน อาจิกฺขิตพฺพํ – ‘‘นาฬิเกราทีนิ อิมินา นาม ปริจฺเฉเทน คณฺหนฺตานํ อสุกรุกฺขโต จ อสุกรุกฺขโต จ ผลํ คณฺหนฺตานํ อนิวารณํ กต’’นฺติ. อนุวิจริตฺวา ปน ‘‘อยํ มธุรผโล อมฺโพ, อิโต คณฺหถา’’ติปิ น วตฺตพฺพา. ผลภาชนกาเล ปน อาคตานํ สมฺมเตน อุปฑฺฒภาโค ทาตพฺโพ, อสมฺมเตน อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ.
ขีณปริพฺพโย วา มคฺคคมิยสตฺถวาโห วา อฺโ วา อิสฺสโร อาคนฺตฺวา ยาจติ, อปโลเกตฺวาว ทาตพฺพํ. พลกฺกาเรน คเหตฺวา ขาทนฺโต น วาเรตพฺโพ. กุทฺโธ หิ โส รุกฺเขปิ ฉินฺเทยฺย, อฺมฺปิ อนตฺถํ กเรยฺย. ปุคฺคลิกปริเวณํ อาคนฺตฺวา คิลานสฺส คาเมน ยาจนฺโต ‘‘อมฺเหหิ ฉายาทีนํ อตฺถาย โรปิตํ, สเจ อตฺถิ, ตุมฺเห ชานาถา’’ติ วตฺตพฺโพ. ยทิ ¶ ปน ผลภริตาว ¶ รุกฺขา โหนฺติ, กณฺฏเก พนฺธิตฺวา ผลวาเรน ขาทนฺติ, อปจฺจาสีสนฺเตน หุตฺวา ทาตพฺพํ. พลกฺกาเรน คณฺหนฺโต น วาเรตพฺโพ, ปุพฺเพ วุตฺตเมเวตฺถ การณํ.
สงฺฆสฺส ¶ ผลาราโม โหติ, ปฏิชคฺคนํ น ลภติ, สเจ ตํ โกจิ วตฺตสีเสน ชคฺคติ, สงฺฆสฺเสว โหติ. อถาปิ กสฺสจิ ปฏิพลสฺส ภิกฺขุโน ‘‘อิมํ สปฺปุริส ชคฺคิตฺวา เทหี’’ติ สงฺโฆ ภารํ กโรติ, โส เจ วตฺตสีเสน ชคฺคติ, เอวมฺปิ สงฺฆสฺเสว โหติ. ผาติกมฺมํ ปจฺจาสีสนฺตสฺส ปน ตติยภาเคน วา อุปฑฺฒภาเคน วา ผาติกมฺมํ กาตพฺพํ. ‘‘ภาริยํ กมฺม’’นฺติ วตฺวา เอตฺตเกน อนิจฺฉนฺโต ปน สพฺพํ ตเวว สนฺตกํ กตฺวา ‘‘มูลภาคํ ทสภาคมตฺตํ ทตฺวา ชคฺคาหี’’ติปิ วตฺตพฺโพ. ครุภณฺฑตฺตา ปน มูลจฺเฉชฺชวเสน น ทาตพฺพํ. โส มูลภาคํ ทตฺวา ขาทนฺโต อกตาวาสํ วา กตฺวา กตาวาสํ วา ชคฺคิตฺวา นิสฺสิตกานํ อารามํ นิยฺยาเทติ, เตหิปิ มูลภาโค ทาตพฺโพว. ยทา ปน ภิกฺขู สยํ ชคฺคิตุํ ปโหนฺติ, อถ เตสํ ชคฺคิตฺุจ น ทาตพฺพํ, ชคฺคิตกาเล จ น วาเรตพฺพา, ชคฺคนกาเลเยว วาเรตพฺพา. ‘‘พหุํ ตุมฺเหหิ ขายิตํ, อิทานิ มา ชคฺคิตฺถ, ภิกฺขุสงฺโฆเยว ชคฺคิสฺสตี’’ติ วตฺตพฺพํ.
สเจ ปน เนว วตฺตสีเสน ชคฺคนฺโต อตฺถิ, น ผาติกมฺเมน, น สงฺโฆ ชคฺคิตุํ ปโหติ, เอโก อนาปุจฺฉิตฺวาว ชคฺคิตฺวา ผาติกมฺมํ วฑฺเฒตฺวา ปจฺจาสีสติ, อปโลกนกมฺเมน ผาติกมฺมํ วฑฺเฒตฺวา ทาตพฺพํ. อิติ อิมํ สพฺพมฺปิ กมฺมลกฺขณเมว โหติ. อปโลกนกมฺมํ อิมานิ ปฺจ านานิ คจฺฉติ.
ตฺติกมฺมฏฺานเภเท ปน ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข, อนุสิฏฺโ โส มยา. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อาคจฺเฉยฺยาติ, อาคจฺฉาหีติ วตฺตพฺโพ’’ติ เอวํ อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส โอสารณา โอสารณา นาม.
‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ ธมฺมกถิโก อิมสฺส เนว สุตฺตํ อาคจฺฉติ, โน สุตฺตวิภงฺโค, โส อตฺถํ อสลฺลกฺเขตฺวา พฺยฺชนจฺฉายาย อตฺถํ ปฏิพาหติ. ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ วุฏฺาเปตฺวา อวเสสา อิมํ อธิกรณํ วูปสเมยฺยามา’’ติ เอวํ อุพฺพาหิกาวินิจฺฉเย ธมฺมกถิกสฺส ภิกฺขุโน นิสฺสารณา นิสฺสารณา นาม.
‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต ¶ สงฺโฆ, อชฺชุโปสโถ ปนฺนรโส. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อุโปสถํ กเรยฺยา’’ติ เอวํ อุโปสถกมฺมวเสน ปิตา ตฺติ อุโปสโถ นาม.
‘‘สุณาตุ ¶ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อชฺช ปวารณา ปนฺนรสี. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ปวาเรยฺยา’’ติ เอวํ ปวารณากมฺมวเสน ปิตา ตฺติ ปวารณา นาม.
‘‘สุณาตุ ¶ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ อนุสาเสยฺย’’นฺติ. ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ อนุสาเสยฺยา’’ติ. ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ อนฺตรายิเก ธมฺเม ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ. ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ อนฺตรายิเก ธมฺเม ปุจฺเฉยฺยา’’ติ. ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ วินยํ ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ. ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ วินยํ ปุจฺเฉยฺยา’’ติ. ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนาเมน วินยํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชยฺย’’นฺติ. ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนาเมน วินยํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชยฺยา’’ติ เอวํ อตฺตานํ วา ปรํ วา สมฺมนฺนิตุํ ปิตา ตฺติ สมฺมุติ นาม.
‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อิทํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน นิสฺสคฺคิยํ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺยา’’ติ. ‘‘ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อายสฺมนฺตา อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺยุ’’นฺติ เอวํ นิสฺสฏฺจีวรปตฺตาทีนํ ทานํ ทานํ นาม.
‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ อาปตฺตึ สรติ, วิวรติ, อุตฺตานึ กโรติ, เทเสติ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺเหยฺยนฺติ. ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺเหยฺย’’นฺติ. เตน วตฺตพฺโพ ‘‘ปสฺสสี’’ติ. ‘‘อาม ปสฺสามี’’ติ. อายตึ สํวเรยฺยาสีติ เอวํ อาปตฺติปฏิคฺคโห ปฏิคฺคโห นาม.
‘‘สุณนฺตุ เม, อายสฺมนฺตา อาวาสิกา. ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อิทานิ อุโปสถํ กเรยฺยาม, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยาม, อาคเม กาเฬ ปวาเรยฺยามา’’ติ. เต เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ¶ ภณฺฑนการกา ¶ กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สงฺเฆ อธิกรณการกา ตํ กาฬํ อนุวเสยฺยุํ, อาวาสิเกน ภิกฺขุนา พฺยตฺเตน ปฏิพเลน อาวาสิกา ภิกฺขู าเปตพฺพา – ‘‘สุณนฺตุ เม, อายสฺมนฺตา อาวาสิกา. ยทายสฺมนฺตานํ ¶ ปตฺตกลฺลํ, อิทานิ อุโปสถํ กเรยฺยาม, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยาม, อาคเม ชุณฺเห ปวาเรยฺยามา’’ติ เอวํ กตา ปวารณาปจฺจุกฺกฑฺฒนา ปจฺจุกฺกฑฺฒนา นาม.
สพฺเพเหว เอกชฺฌํ สนฺนิปติตพฺพํ, สนฺนิปติตฺวา พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ – ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ อมฺหากํ ภณฺฑนชาตานํ กลหชาตานํ วิวาทาปนฺนานํ วิหรตํ พหุํ อสฺสามณกํ อชฺฌาจิณฺณํ ภาสิตปริกฺกนฺตํ. สเจ มยํ อิมาหิ อาปตฺตีหิ อฺมฺํ กาเรสฺสาม, สิยาปิ ตํ อธิกรณํ กกฺขฬตฺตาย วาฬตฺตาย เภทาย สํวตฺเตยฺย. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ อธิกรณํ ติณวตฺถารเกน วูปสเมยฺย เปตฺวา ถุลฺลวชฺชํ, เปตฺวา คิหิปฏิสยุตฺต’’นฺติ เอวํ ติณวตฺถารกสมเถน กตฺวา สพฺพปมา สพฺพสงฺคาหิกตฺติ กมฺมลกฺขณํ นาม.
ตถา ตโต ปรา เอเกกสฺมึ ปกฺเข เอเกกํ กตฺวา ทฺเว ตฺติโย อิติ ยถาวุตฺตปฺปเภทํ โอสารณํ นิสฺสารณํ…เป… กมฺมลกฺขณฺเว นวมนฺติ ตฺติกมฺมํ อิมานิ นว านานิ คจฺฉติ.
ตฺติทุติยกมฺมฏฺานเภเท ปน วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิโน ปตฺตนิกฺกุชฺชนวเสน ขนฺธเก วุตฺตา นิสฺสารณา. ตสฺเสว ปตฺตุกฺกุชฺชนวเสน วุตฺตา โอสารณา จ เวทิตพฺพา.
สีมาสมฺมุติ ติจีวเรน อวิปฺปวาสสมฺมุติ, สนฺถตสมฺมุติ, ภตฺตุทฺเทสก-เสนาสนคฺคาหาปก-ภณฺฑาคาริก-จีวรปฏิคฺคาหก-จีวรภาชก-ยาคุภาชกผลภาชก-ขชฺชภาชก-อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชก-สาฏิยคฺคาหาปก-ปตฺตคฺคาหาปก-อารามิกเปสกสามเณรเปสกสมฺมุตีติ เอตาสํ สมฺมุตีนํ วเสน สมฺมุติ เวทิตพฺพา. กถินจีวรทานมตกจีวรทานวเสน ทานํ เวทิตพฺพํ.
กถินุทฺธารวเสน อุทฺธาโร เวทิตพฺโพ. กุฏิวตฺถุวิหารวตฺถุเทสนาวเสน เทสนา เวทิตพฺพา. ยา ¶ ปน ติณวตฺถารกสมเถ สพฺพสงฺคาหิกตฺติฺจ เอเกกสฺมึ ปกฺเข เอเกกํ ตฺติฺจาติ ติสฺโส ตฺติโย เปตฺวา ปุน เอกสฺมึ ปกฺเข เอกา, เอกสฺมึ ปกฺเข เอกาติ ทฺเว ตฺติทุติยกมฺมวาจา วุตฺตา, ตาสํ วเสน กมฺมลกฺขณํ เวทิตพฺพํ ¶ . อิติ ตฺติทุติยกมฺมํ อิมานิ สตฺต านานิ คจฺฉติ.
ตฺติจตุตฺถกมฺมฏฺานเภเท ¶ ปน ตชฺชนียกมฺมาทีนํ สตฺตนฺนํ กมฺมานํ วเสน นิสฺสารณา, เตสํเยว จ กมฺมานํ ปฏิปฺปสฺสมฺภนวเสน โอสารณา เวทิตพฺพา. ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติวเสน สมฺมุติ เวทิตพฺพา. ปริวาสทานมานตฺตทานวเสน ทานํ เวทิตพฺพํ. มูลายปฏิกสฺสนกมฺมวเสน นิคฺคโห เวทิตพฺโพ. ‘‘อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา อฏฺ, ยาวตติยกา อริฏฺโ จณฺฑกาฬี จ อิเม เต ยาวตติยกา’’ติ อิมาสํ เอกาทสนฺนํ สมนุภาสนานํ วเสน สมนุภาสนา เวทิตพฺพา. อุปสมฺปทากมฺมอพฺภานกมฺมวเสน ปน กมฺมลกฺขณํ เวทิตพฺพํ. อิติ ตฺติจตุตฺถกมฺมํ อิมานิ สตฺต านานิ คจฺฉติ.
๔๙๗. อิติ กมฺมานิ จ กมฺมวิปตฺติฺจ วิปตฺติวิรหิตานํ กมฺมานํ านปเภทคมนฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตสํ กมฺมานํ การกสฺส สงฺฆสฺส ปริจฺเฉทํ ทสฺเสนฺโต ปุน ‘‘จตุวคฺคกรเณ กมฺเม’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ ปริสโต กมฺมวิปตฺติวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ.
กมฺมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
อตฺถวสวคฺคาทิวณฺณนา
๔๙๘. อิทานิ ยานิ ตานิ เตสํ กมฺมานํ วตฺถุภูตานิ สิกฺขาปทานิ, เตสํ ปฺตฺติยํ อานิสํสํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทฺเว อตฺถวเส ปฏิจฺจา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ทิฏฺธมฺมิกานํ เวรานํ สํวรายาติ ปาณาติปาตาทีนํ ปฺจนฺนํ ทิฏฺธมฺมิกเวรานํ สํวรตฺถาย ปิทหนตฺถาย. สมฺปรายิกานํ เวรานํ ปฏิฆาตายาติ วิปากทุกฺขสงฺขาตานํ สมฺปรายิกเวรานํ ปฏิฆาตตฺถาย, สมุจฺเฉทนตฺถาย อนุปฺปชฺชนตฺถาย. ทิฏฺธมฺมิกานํ วชฺชานํ สํวรายาติ เตสํเยว ปฺจนฺนํ เวรานํ สํวรตฺถาย. สมฺปรายิกานํ วชฺชานนฺติ เตสํเยว วิปากทุกฺขานํ. วิปากทุกฺขาเนว หิ อิธ วชฺชนียภาวโต ¶ วชฺชานีติ วุตฺตานิ. ทิฏฺธมฺมิกานํ ภยานนฺติ ครหา อุปวาโท ตชฺชนียาทีนิ กมฺมานิ อุโปสถปวารณานํ ปนํ อกิตฺติปกาสนียกมฺมนฺติ เอตานิ ทิฏฺธมฺมิกภยานิ นาม, เอเตสํ สํวรตฺถาย. สมฺปรายิกภยานิ ปน วิปากทุกฺขานิเยว ¶ , เตสํ ปฏิฆาตตฺถาย. ทิฏฺธมฺมิกานํ อกุสลานนฺติ ปฺจเวรทสอกุสลกมฺมปถปฺปเภทานํ ¶ อกุสลานํ สํวรตฺถาย. วิปากทุกฺขาเนว ปน อกฺขมฏฺเน สมฺปรายิกอกุสลานีติ วุจฺจนฺติ, เตสํ ปฏิฆาตตฺถาย. คิหีนํ อนุกมฺปายาติ อคาริกานํ สทฺธารกฺขณวเสน อนุกมฺปนตฺถาย. ปาปิจฺฉานํ ปกฺขุปจฺเฉทายาติ ปาปิจฺฉปุคฺคลานํ คณพนฺธเภทนตฺถาย คณโภชนสิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. ยฺเหตฺถ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ ปมปาราชิกวณฺณนายเมว วุตฺตนฺติ.
สิกฺขาปเทสุ อตฺถวเสน วณฺณนา นิฏฺิตา.
๔๙๙. ปาติโมกฺขาทีสุ ปาติโมกฺขุทฺเทโสติ ภิกฺขูนํ ปฺจวิโธ ภิกฺขุนีนํ จตุพฺพิโธ. ปริวาสทานาทีสุ โอสารณียํ ปฺตฺตนฺติ อฏฺารสสุ วา เตจตฺตาลีสาย วา วตฺเตสุ วตฺตมานสฺส โอสารณียํ ปฺตฺตํ. เยน กมฺเมน โอสารียติ, ตํ กมฺมํ ปฺตฺตนฺติ อตฺโถ. นิสฺสารณียํ ปฺตฺตนฺติ ภณฺฑนการกาทโย เยน กมฺเมน นิสฺสารียนฺติ, ตํ กมฺมํ ปฺตฺตนฺติ อตฺโถ.
๕๐๐. อปฺตฺเตติอาทีสุ อปฺตฺเต ปฺตฺตนฺติ สตฺตาปตฺติกฺขนฺธา กกุสนฺธฺจ สมฺมาสมฺพุทฺธํ โกณาคมนฺจ กสฺสปฺจ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เปตฺวา อนฺตรา เกนจิ อปฺตฺเต สิกฺขาปเท ปฺตฺตํ นาม. มกฺกฏิวตฺถุอาทิวินีตกถา สิกฺขาปเท ปฺตฺเต อนุปฺตฺตํ นาม. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
อานิสํสวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๕๐๑. อิทานิ สพฺพสิกฺขาปทานํ เอเกเกน อากาเรน นวธา สงฺคหํ ทสฺเสตุํ ‘‘นว สงฺคหา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วตฺถุสงฺคโหติ วตฺถุนา สงฺคโห. เอวํ เสเสสุปิ ปทตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยํ ปเนตฺถ อตฺถโยชนา – ยสฺมา หิ เอกสิกฺขาปทมฺปิ อวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ นตฺถิ, ตสฺมา สพฺพานิ วตฺถุนา สงฺคหิตานีติ เอวํ ตาว วตฺถุสงฺคโห เวทิตพฺโพ.
ยสฺมา ¶ ¶ ปน ทฺเว อาปตฺติกฺขนฺธา สีลวิปตฺติยา สงฺคหิตา, ปฺจาปตฺติกฺขนฺธา อาจารวิปตฺติยา, ฉ สิกฺขาปทานิ ¶ อาชีววิปตฺติยา สงฺคหิตานิ, ตสฺมา สพฺพานิปิ วิปตฺติยา สงฺคหิตานีติ เอวํ วิปตฺติสงฺคโห เวทิตพฺโพ.
ยสฺมา ปน สตฺตหาปตฺตีหิ มุตฺตํ เอกสิกฺขาปทมฺปิ นตฺถิ, ตสฺมา สพฺพานิ อาปตฺติยา สงฺคหิตานีติ เอวํ อาปตฺติสงฺคโห เวทิตพฺโพ.
สพฺพานิ จ สตฺตสุ นคเรสุ ปฺตฺตานีติ นิทาเนน สงฺคหิตานีติ เอวํ นิทานสงฺคโห เวทิตพฺโพ.
ยสฺมา ปน เอกสิกฺขาปทมฺปิ อชฺฌาจาริกปุคฺคเล อสติ ปฺตฺตํ นตฺถิ, ตสฺมา สพฺพานิ ปุคฺคเลน สงฺคหิตานีติ เอวํ ปุคฺคลสงฺคโห เวทิตพฺโพ.
สพฺพานิ ปน ปฺจหิ เจว สตฺตหิ จ อาปตฺติกฺขนฺเธหิ สงฺคหิตานิ, สพฺพานิ น วินา ฉหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺนฺตีติ สมุฏฺาเนน สงฺคหิตานิ. สพฺพานิ จ จตูสุ อธิกรเณสุ อาปตฺตาธิกรเณน สงฺคหิตานิ. สพฺพานิ สตฺตหิ สมเถหิ สมถํ คจฺฉนฺตีติ สมเถหิ สงฺคหิตานิ. เอวเมตฺถ ขนฺธสมุฏฺานอธิกรณสมถสงฺคหาปิ เวทิตพฺพา. เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนยเมวาติ.
สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย
นวสงฺคหิตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิตา จ ปริวารสฺส อนุตฺตานตฺถปทวณฺณนาติ.
นิคมนกถา
เอตฺตาวตา ¶ จ –
อุภโต วิภงฺคขนฺธก-ปริวารวิภตฺติเทสนํ นาโถ;
วินยปิฏกํ วิเนนฺโต, เวเนยฺยํ ยํ ชิโน อาห.
สมธิกสตฺตวีสติ-สหสฺสมตฺเตน ¶ ตสฺส คนฺเถน;
สํวณฺณนา สมตฺตา, สมนฺตปาสาทิกา นาม.
ตตฺริทํ สมนฺตปาสาทิกาย สมนฺตปาสาทิกตฺตสฺมึ –
อาจริยปรมฺปรโต, นิทานวตฺถุปฺปเภททีปนโต;
ปรสมยวิวชฺชนโต, สกสมยวิสุทฺธิโต เจว.
พฺยฺชนปริโสธนโต, ปทตฺถโต ปาฬิโยชนกฺกมโต;
สิกฺขาปทนิจฺฉยโต, วิภงฺคนยเภททสฺสนโต.
สมฺปสฺสตํ น ทิสฺสติ, กิฺจิ อปาสาทิกํ ยโต เอตฺถ;
วิฺูนมยํ ตสฺมา, สมนฺตปาสาทิกาตฺเวว.
สํวณฺณนา ปวตฺตา, วินยสฺส วิเนยฺยทมนกุสเลน;
วุตฺตสฺส โลกนาเถน, โลกมนุกมฺปมาเนนาติ.
มหาอฏฺกถฺเจว ¶ , มหาปจฺจริเมวจ;
กุรุนฺทิฺจาติ ติสฺโสปิ, สีหฬฏฺกถา อิมา.
พุทฺธมิตฺโตติ นาเมน, วิสฺสุตสฺส ยสสฺสิโน;
วินยฺุสฺส ธีรสฺส, สุตฺวา เถรสฺส สนฺติเก.
มหาเมฆวนุยฺยาเน, ภูมิภาเค ปติฏฺิโต;
มหาวิหาโร โย สตฺถุ, มหาโพธิวิภูสิโต.
ยํ ตสฺส ทกฺขิเณ ภาเค, ปธานฆรมุตฺตมํ;
สุจิจาริตฺตสีเลน, ภิกฺขุสงฺเฆน เสวิตํ.
อุฬารกุลสมฺภูโต ¶ , สงฺฆุปฏฺายโก สทา;
อนากุลาย สทฺธาย, ปสนฺโน รตนตฺตเย.
มหานิคมสามีติ ¶ , วิสฺสุโต ตตฺถ การยิ;
จารุปาการสฺจิตํ, ยํ ปาสาทํ มโนรมํ.
สีตจฺฉายตรูเปตํ, สมฺปนฺนสลิลาสยํ;
วสตา ตตฺร ปาสาเท, มหานิคมสามิโน.
สุจิสีลสมาจารํ, เถรํ พุทฺธสิริวฺหยํ;
ยา อุทฺทิสิตฺวา อารทฺธา, อิทฺธา วินยวณฺณนา.
ปาลยนฺตสฺส สกลํ, ลงฺกาทีปํ นิรพฺพุทํ;
รฺโ สิรินิวาสสฺส, สิริปาลยสสฺสิโน.
สมวีสติเม เขเม, ชยสํวจฺฉเร อยํ;
อารทฺธา เอกวีสมฺหิ, สมฺปตฺเต ปรินิฏฺิตา.
อุปทฺทวา กุเล โลเก, นิรุปทฺทวโต อยํ;
เอกสํวจฺฉเรเนว, ยถา นิฏฺํ อุปาคตา.
เอวํ สพฺพสฺส โลกสฺส, นิฏฺํ ธมฺมูปสํหิตา;
สีฆํ คจฺฉนฺตุ อารมฺภา, สพฺเพปิ นิรุปทฺทวา.
จิรฏฺิตตฺถํ ธมฺมสฺส, กโรนฺเตน มยา อิมํ;
สทฺธมฺมพหุมาเนน, ยฺจ ปฺุํ สมาจิตํ.
สพฺพสฺส ¶ อานุภาเวน, ตสฺส สพฺเพปิ ปาณิโน;
ภวนฺตุ ธมฺมราชสฺส, สทฺธมฺมรสเสวิโน.
จิรํ ติฏฺตุ สทฺธมฺโม, กาเล วสฺสํ จิรํ ปชํ;
ตปฺเปตุ เทโว ธมฺเมน, ราชา รกฺขตุ เมทินินฺติ.
ปรมวิสุทฺธสทฺธาพุทฺธิวีริยปฏิมณฺฑิเตน ¶ สีลาจารชฺชวมทฺทวาทิคุณสมุทยสมุทิเตน สกสมยสมยนฺตรคหนชฺโฌคาหณสมตฺเถน ปฺาเวยฺยตฺติยสมนฺนาคเตน ติปิฏกปริยตฺติปฺปเภเท สาฏฺกเถ สตฺถุสาสเน อปฺปฏิหตฺาณปฺปภาเวน มหาเวยฺยากรเณน กรณสมฺปตฺติชนิตสุขวินิคฺคตมธุโรทารวจนลาวณฺณยุตฺเตน ยุตฺตมุตฺตวาทินา วาทิวเรน มหากวินา ปภินฺนปอสมฺภิทาปริวาเร ฉฬภิฺาทิปเภทคุณปฏิมณฺฑิเต อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม ¶ สุปฺปติฏฺิตพุทฺธีนํ เถรวํสปฺปทีปานํ เถรานํ มหาวิหารวาสีนํ วํสาลงฺการภูเตน วิปุลวิสุทฺธพุทฺธินา พุทฺธโฆโสติ ครูหิ คหิตนามเธยฺเยน เถเรน กตา อยํ สมนฺตปาสาทิกา นาม วินยสํวณฺณนา –
ตาว ติฏฺตุ โลกสฺมึ, โลกนิตฺถรเณสินํ;
ทสฺเสนฺตี กุลปุตฺตานํ, นยํ สีลวิสุทฺธิยา.
ยาว พุทฺโธติ นามมฺปิ, สุทฺธจิตฺตสฺส ตาทิโน;
โลกมฺหิ โลกเชฏฺสฺส, ปวตฺตติ มเหสิโนติ.
สมนฺตปาสาทิกา นาม
วินย-อฏฺกถา นิฏฺิตา.