📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

วินยปิฏเก

วินยสงฺคห-อฏฺกถา

คนฺถารมฺภกถา

วตฺถุตฺตยํ นมสฺสิตฺวา, สรณํ สพฺพปาณินํ;

วินเย ปาฏวตฺถาย, โยคาวจรภิกฺขุนํ.

วิปฺปกิณฺณมเนกตฺถ, ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉยํ;

สมาหริตฺวา เอกตฺถ, ทสฺสยิสฺสมนากุลํ.

ตตฺรายํ มาติกา –

‘‘ทิวาเสยฺยา ปริกฺขาโร, เภสชฺชกรณมฺปิ จ;

ปริตฺตํ ปฏิสนฺถาโร, วิฺตฺติ กุลสงฺคโห.

‘‘มจฺฉมํสํ อนามาสํ, อธิฏฺานวิกปฺปนํ;

จีวเรนวินาวาโส, ภณฺฑสฺส ปฏิสามนํ.

‘‘กยวิกฺกยสมาปตฺติ, รูปิยาทิปฏิคฺคโห;

ทานวิสฺสาสคฺคาเหหิ, ลาภสฺส ปริณามนํ.

‘‘ปถวี ภูตคาโม จ, ทุวิธํ สหเสยฺยกํ;

วิหาเร สงฺฆิเก เสยฺยํ, สนฺถริตฺวาน ปกฺกโม.

‘‘กาลิกานิปิ จตฺตาริ, กปฺปิยา จตุภูมิโย;

ขาทนียาทิปฏิคฺคาโห, ปฏิกฺเขปปวารณา.

‘‘ปพฺพชฺชา นิสฺสโย สีมา, อุโปสถปวารณํ;

วสฺสูปนายิกา วตฺตํ, จตุปจฺจยภาชนํ.

‘‘กถินํ ครุภณฺฑานิ, โจทนาทิวินิจฺฉโย;

ครุกาปตฺติวุฏฺานํ, กมฺมากมฺมํ ปกิณฺณก’’นฺติ.

๑. ทิวาเสยฺยวินิจฺฉยกถา

. ตตฺถ ทิวาเสยฺยาติ ทิวานิปชฺชนํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทิวา ปฏิสลฺลียนฺเตน ทฺวารํ สํวริตฺวา ปฏิสลฺลียิตุ’’นฺติ (ปารา. ๗๗) วจนโต ทิวา นิปชฺชนฺเตน ทฺวารํ สํวริตฺวา นิปชฺชิตพฺพํ. เอตฺถ จ กิฺจาปิ ปาฬิยํ ‘‘อยํ นาม อาปตฺตี’’ติ น วุตฺตา, วิวริตฺวา นิปนฺนโทเสน ปน อุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมึ ทฺวารํ สํวริตฺวา นิปชฺชิตุํ อนุฺาตตฺตา อสํวริตฺวา นิปชฺชนฺตสฺส อฏฺกถายํ ทุกฺกฏํ (ปารา. อฏฺ. ๑.๗๗) วุตฺตํ. ภควโต หิ อธิปฺปายํ ตฺวา อุปาลิตฺเถราทีหิ อฏฺกถา ปิตา. ‘‘อตฺถาปตฺติ ทิวา อาปชฺชติ, โน รตฺติ’’นฺติ (ปริ. ๓๒๓) อิมินาปิ เจตํ สิทฺธํ.

. กีทิสํ ปน ทฺวารํ สํวริตพฺพํ, กีทิสํ น สํวริตพฺพํ? รุกฺขปทรเวฬุปทรกิลฺชปณฺณาทีนํ เยน เกนจิ กวาฏํ กตฺวา เหฏฺา อุทุกฺขเล อุปริ อุตฺตรปาสเก จ ปเวเสตฺวา กตํ ปริวตฺตกทฺวารเมว สํวริตพฺพํ. อฺํ โครูปานํ วเชสุ วิย รุกฺขสูจิกณฺฏกทฺวารํ, คามถกนกํ จกฺกลกยุตฺตทฺวารํ, ผลเกสุ วา กิฏิกาสุ วา ทฺเว ตีณิ จกฺกลกานิ โยเชตฺวา กตํ สํสรณกิฏิกทฺวารํ, อาปเณสุ วิย กตํ อุคฺฆาฏนกิฏิกทฺวารํ, ทฺวีสุ ตีสุ าเนสุ เวฬุสลากา โคปฺเผตฺวา ปณฺณกุฏีสุ กตํ สลากหตฺถกทฺวารํ, ทุสฺสสาณิทฺวารนฺติ เอวรูปํ ทฺวารํ น สํวริตพฺพํ. ปตฺตหตฺถสฺส กวาฏปฺปณามเน ปน เอกํ ทุสฺสสาณิทฺวารเมว อนาปตฺติกรํ, อวเสสานิ ปณาเมนฺตสฺส อาปตฺติ. ทิวา ปฏิสลฺลียนฺตสฺส ปน ปริวตฺตกทฺวารเมว อาปตฺติกรํ, เสสานิ สํวริตฺวา วา อสํวริตฺวา วา นิปชฺชนฺตสฺส อาปตฺติ นตฺถิ, สํวริตฺวา ปน นิปชฺชิตพฺพํ, เอตํ วตฺตํ.

. ปริวตฺตกทฺวารํ กิตฺตเกน สํวุตํ โหติ? สูจิฆฏิกาสุ ทินฺนาสุ สํวุตเมว โหติ. อปิจ โข สูจิมตฺเตปิ ทินฺเน วฏฺฏติ, ฆฏิกามตฺเตปิ ทินฺเน วฏฺฏติ, ทฺวารพาหํ ผุสิตฺวา ปิตมตฺเตปิ วฏฺฏติ, อีสกํ อผุสิเตปิ วฏฺฏติ, สพฺพนฺติเมน วิธินา ยาวตา สีสํ นปฺปวิสติ, ตาวตา อผุสิเตปิ วฏฺฏติ. สเจ พหูนํ วฬฺชนฏฺานํ โหติ, ภิกฺขุํ วา สามเณรํ วา ‘‘ทฺวารํ, อาวุโส, ชคฺคาหี’’ติ วตฺวาปิ นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. อถ ภิกฺขู จีวรกมฺมํ วา อฺํ วา กิฺจิ กโรนฺตา นิสินฺนา โหนฺติ, ‘‘เอเต ทฺวารํ ชคฺคิสฺสนฺตี’’ติ อาโภคํ กตฺวาปิ นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. กุรุนฺทฏฺกถายํ ปน ‘‘อุปาสกมฺปิ อาปุจฺฉิตฺวา วา ‘เอส ชคฺคิสฺสตี’ติ อาโภคํ กตฺวา วา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ, เกวลํ ภิกฺขุนึ วา มาตุคามํ วา อาปุจฺฉิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ. เอวํ สพฺพตฺถปิ โย โย เถรวาโท วา อฏฺกถาวาโท วา ปจฺฉา วุจฺจติ, โส โสว ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ.

. อถ ทฺวารสฺส อุทุกฺขลํ วา อุตฺตรปาสโก วา ภินฺโน โหติ อฏฺปิโต วา, สํวริตุํ น สกฺโกติ, นวกมฺมตฺถํ วา ปน อิฏฺกปุฺโช วา มตฺติกาทีนํ วา ราสิ อนฺโตทฺวาเร กโต โหติ, อฏฺฏํ วา พนฺธนฺติ, ยถา สํวริตุํ น สกฺโกติ. เอวรูเป อนฺตราเย สติ อสํวริตฺวาปิ นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. ยทิ ปน กวาฏํ นตฺถิ, ลทฺธกปฺปเมว. อุปริ สยนฺเตน นิสฺเสณึ อาโรเปตฺวา นิปชฺชิตพฺพํ. สเจ นิสฺเสณิมตฺถเก ถกนกํ โหติ, ถเกตฺวาปิ นิปชฺชิตพฺพํ. คพฺเภ นิปชฺชนฺเตน คพฺภทฺวารํ วา ปมุขทฺวารํ วา ยํ กิฺจิ สํวริตฺวา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ เอกกุฏฺฏเก เคเห ทฺวีสุ ปสฺเสสุ ทฺวารานิ กตฺวา วฬฺชนฺติ, ทฺเวปิ ทฺวารานิ ชคฺคิตพฺพานิ, ติภูมเกปิ ปาสาเท ทฺวารํ ชคฺคิตพฺพเมว. สเจ ภิกฺขาจารา ปฏิกฺกมฺม โลหปาสาทสทิสํ ปาสาทํ พหู ภิกฺขู ทิวาวิหารตฺถํ ปวิสนฺติ, สงฺฆตฺเถเรน ทฺวารปาลสฺส ‘‘ทฺวารํ ชคฺคาหี’’ติ วตฺวา วา ‘‘ทฺวารชคฺคนํ นาม เอตสฺส ภาโร’’ติ อาโภคํ กตฺวา วา ปวิสิตฺวา นิปชฺชิตพฺพํ. ยาว สงฺฆนวเกน เอวเมว กาตพฺพํ. ปุเร ปวิสนฺตานํ ‘‘ทฺวารชคฺคนํ นาม ปจฺฉิมานํ ภาโร’’ติ เอวํ อาโภคํ กาตุมฺปิ วฏฺฏติ. อนาปุจฺฉา วา อาโภคํ อกตฺวา วา อนฺโตคพฺเภ วา อสํวุตทฺวาเร พหิ วา นิปชฺชนฺตานํ อาปตฺติ. คพฺเภ วา พหิ วา นิปชฺชนกาเลปิ ‘‘ทฺวารชคฺคนํ นาม มหาทฺวาเร ทฺวารปาลสฺส ภาโร’’ติ อาโภคํ กตฺวา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติเยว. เอวํ โลหปาสาทาทีสุ อากาสตเล นิปชฺชนฺเตนปิ ทฺวารํ สํวริตพฺพเมว.

อยฺเหตฺถ สงฺเขโป – อิทํ ทิวาปฏิสลฺลียนํ เยน เกนจิ ปริกฺขิตฺเต สทฺวารพนฺเธ าเน กถิตํ, ตสฺมา อพฺโภกาเส วา รุกฺขมูเล วา มณฺฑเป วา ยตฺถ กตฺถจิ สทฺวารพนฺเธ นิปชฺชนฺเตน ทฺวารํ สํวริตฺวาว นิปชฺชิตพฺพํ. สเจ มหาปริเวณํ โหติ มหาโพธิยงฺคณโลหปาสาทงฺคณสทิสํ พหูนํ โอสรณฏฺานํ, ยตฺถ ทฺวารํ สํวุตมฺปิ สํวุตฏฺาเน น ติฏฺติ, ทฺวารํ อลภนฺตา ปาการํ อารุหิตฺวาปิ วิจรนฺติ, ตตฺถ สํวรณกิจฺจํ นตฺถิ. รตฺตึ ทฺวารํ วิวริตฺวา นิปนฺโน อรุเณ อุคฺคเต วุฏฺาติ, อนาปตฺติ. สเจ ปน ปพุชฺฌิตฺวา ปุน สุปติ, อาปตฺติ. โย ปน ‘‘อรุเณ อุคฺคเต วุฏฺหิสฺสามี’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวาว ทฺวารํ อสํวริตฺวา รตฺตึ นิปชฺชติ, ยถาปริจฺเฉทเมว วุฏฺาติ, ตสฺส อาปตฺติเยว. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘เอวํ นิปชฺชนฺโต อนาทริยทุกฺกฏาปิ น มุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ.

. โย ปน พหุเทว รตฺตึ ชคฺคิตฺวา อทฺธานํ วา คนฺตฺวา ทิวา กิลนฺตรูโป มฺเจ นิสินฺโน ปาเท ภูมิโต อโมเจตฺวาว นิทฺทาวเสน นิปชฺชติ, ตสฺส อนาปตฺติ. สเจ โอกฺกนฺตนิทฺโท อชานนฺโตปิ ปาเท มฺจกํ อาโรเปติ, อาปตฺติเยว. นิสีทิตฺวา อปสฺสาย สุปนฺตสฺส อนาปตฺติ. โยปิ จ ‘‘นิทฺทํ วิโนเทสฺสามี’’ติ จงฺกมนฺโต ปติตฺวา สหสา วุฏฺาติ, ตสฺสปิ อนาปตฺติ. โย ปน ปติตฺวา ตตฺเถว สยติ, น วุฏฺาติ, ตสฺส อาปตฺติ.

โก มุจฺจติ, โก น มุจฺจตีติ? มหาปจฺจริยํ ตาว ‘‘เอกภงฺเคน นิปนฺนโก เอว มุจฺจติ. ปาเท ปน ภูมิโต โมเจตฺวา นิปนฺโนปิ ยกฺขคหิตโกปิ วิสฺีภูโตปิ น มุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. กุรุนฺทฏฺกถายํ ปน ‘‘พนฺธิตฺวา นิปชฺชาปิโตว มุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘โย จงฺกมนฺโต มุจฺฉิตฺวา ปติโต ตตฺเถว สุปติ, ตสฺสปิ อวิสยตาย อาปตฺติ น ทิสฺสติ. อาจริยา ปน เอวํ น กถยนฺติ, ตสฺมา อาปตฺติเยวาติ มหาปทุมตฺเถเรน วุตฺตํ. ทฺเว ปน ชนา อาปตฺติโต มุจฺจนฺติเยว, โย จ ยกฺขคหิตโก, โย จ พนฺธิตฺวา นิปชฺชาปิโต’’ติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ทิวาเสยฺยวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๒. ปริกฺขารวินิจฺฉยกถา

. ปริกฺขาโรติ สมณปริกฺขาโร. ตตฺรายํ กปฺปิยากปฺปิยปริกฺขารวินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๕) – เกจิ ตาลปณฺณจฺฉตฺตํ อนฺโต วา พหิ วา ปฺจวณฺเณน สุตฺเตน สิพฺพิตฺวา วณฺณมฏฺํ กโรนฺติ, ตํ น วฏฺฏติ. เอกวณฺเณน ปน นีเลน วา ปีตเกน วา เยน เกนจิ สุตฺเตน อนฺโต วา พหิ วา สิพฺพิตุํ, ฉตฺตทณฺฑคฺคาหกํ สลากปฺชรํ วา วินนฺธิตุํ วฏฺฏติ, ตฺจ โข ถิรกรณตฺถํ วฏฺฏติ, น วณฺณมฏฺตฺถาย. ฉตฺตปณฺเณสุ มกรทนฺตกํ วา อฑฺฒจนฺทกํ วา ฉินฺทิตุํ น วฏฺฏติ. ฉตฺตทณฺเฑ เคหตฺถมฺเภสุ วิย ฆฏโก วา วาฬรูปกํ วา น วฏฺฏติ. สเจปิ สพฺพตฺถ อารคฺเคน เลขา ทินฺนา โหติ, สาปิ น วฏฺฏติ. ฆฏกํ วา วาฬรูปกํ วา ภินฺทิตฺวา ธาเรตพฺพํ, เลขาปิ ฆํสิตฺวา วา อปเนตพฺพา, สุตฺตเกน วา ทณฺโฑ เวเตพฺโพ. ทณฺฑพุนฺเท ปน อหิจฺฉตฺตกสณฺานํ วฏฺฏติ. วาตปฺปหาเรน อจลนตฺถํ ฉตฺตมณฺฑลิกํ รชฺชุเกหิ คาเหตฺวา ทณฺเฑ พนฺธนฺติ, ตสฺมึ พนฺธนฏฺาเน วลยมิว อุกฺกิริตฺวา เลขํ เปนฺติ, สา วฏฺฏติ.

. จีวรมณฺฑนตฺถาย นานาสุตฺตเกหิ สตปทิสทิสํ สิพฺพนฺตา อาคนฺตุกปฏฺฏํ เปนฺติ, อฺมฺปิ ยํ กิฺจิ สูจิกมฺมวิการํ กโรนฺติ, ปฏฺฏมุเข วา ปริยนฺเต วา เวณึ วา สงฺขลิกํ วา มุคฺครํ วา เอวมาทิ สพฺพํ น วฏฺฏติ, ปกติสูจิกมฺมเมว วฏฺฏติ. คณฺิกปฏฺฏกฺจ ปาสกปฏฺฏกฺจ อฏฺโกณมฺปิ โสฬสโกณมฺปิ กโรนฺติ, ตตฺถ อคฺฆิยคยมุคฺคราทีนิ ทสฺเสนฺติ, กกฺกฏกฺขีนิ อุกฺกิรนฺติ, สพฺพํ น วฏฺฏติ, จตุโกณเมว วฏฺฏติ, โกณสุตฺตปีฬกา จ จีวเร รตฺเต ทุวิฺเยฺยรูปา วฏฺฏนฺติ. กฺชิกปิฏฺขลิออลกาทีสุ จีวรํ ปกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ, จีวรกมฺมกาเล ปน หตฺถมลสูจิมลาทีนํ โธวนตฺถํ กิลิฏฺกาเล จ โธวนตฺถํ วฏฺฏติ, คนฺธํ วา ลาขํ วา เตลํ วา รชเน ปกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ.

รชเนสุ จ หลิทฺทึ เปตฺวา สพฺพํ มูลรชนํ วฏฺฏติ, มฺชิฏฺิฺจ ตุงฺคหารฺจ เปตฺวา สพฺพํ ขนฺธรชนํ วฏฺฏติ. ตุงฺคหาโร นาม เอโก สกณฺฏกรุกฺโข, ตสฺส หริตาลวณฺณํ ขนฺธรชนํ โหติ. โลทฺทฺจ กณฺฑุลฺจ เปตฺวา สพฺพํ ตจรชนํ วฏฺฏติ. อลฺลิปตฺตฺจ นีลิปตฺตฺจ เปตฺวา สพฺพํ ปตฺตรชนํ วฏฺฏติ. คิหิปริภุตฺตกํ ปน อลฺลิปตฺเตน เอกวารํ รชิตุํ วฏฺฏติ. กึสุกปุปฺผฺจ กุสุมฺภปุปฺผฺจ เปตฺวา สพฺพํ ปุปฺผรชนํ วฏฺฏติ. ผลรชเน ปน น กิฺจิ น วฏฺฏติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๔).

. จีวรํ รชิตฺวา สงฺเขน วา มณินา วา เยน เกนจิ น ฆฏฺเฏตพฺพํ, ภูมิยํ ชาณุกานิ นิหนฺตฺวา หตฺเถหิ คเหตฺวา โทณิยมฺปิ น ฆํสิตพฺพํ. โทณิยํ วา ผลเก วา เปตฺวา อนฺเต คาหาเปตฺวา หตฺเถน ปหริตุํ ปน วฏฺฏติ, ตมฺปิ มุฏฺินา น กาตพฺพํ. โปราณกตฺเถรา ปน โทณิยมฺปิ น เปสุํ. เอโก จีวรํ คเหตฺวา ติฏฺติ, อปโร หตฺเถ กตฺวา หตฺเถน ปหรติ. จีวรสฺส กณฺณสุตฺตกํ น วฏฺฏติ, รชิตกาเล ฉินฺทิตพฺพํ. ยํ ปน ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กณฺณสุตฺตก’’นฺติ (มหาว. ๓๔๔) เอวํ อนุฺาตํ, ตํ อนุวาเต ปาสกํ กตฺวา พนฺธิตพฺพํ รชนกาเล ลคฺคนตฺถาย. คณฺิเกปิ โสภากรณตฺถํ เลขา วา ปีฬกา วา น วฏฺฏติ, นาเสตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ.

. ปตฺเต วา ถาลเก วา อารคฺเคน เลขํ กโรนฺติ อนฺโต วา พหิ วา, น วฏฺฏติ. ปตฺตํ ภมํ อาโรเปตฺวา มชฺชิตฺวา ปจนฺติ ‘‘มณิวณฺณํ กริสฺสามา’’ติ, น วฏฺฏติ, เตลวณฺโณ ปน วฏฺฏติ. ปตฺตมณฺฑเล ภิตฺติกมฺมํ น วฏฺฏติ, มกรทนฺตกํ ปน วฏฺฏติ.

ธมกรณฉตฺตกสฺส อุปริ วา เหฏฺา วา ธมกรณกุจฺฉิยํ วา เลขา น วฏฺฏติ, ฉตฺตมุขวฏฺฏิยํ ปนสฺส เลขา วฏฺฏติ.

๑๐. กายพนฺธนสฺส โสภนตฺถํ ตหึ ตหึ ทิคุณํ สุตฺตํ โกฏฺเฏนฺติ, กกฺกฏกฺขีนิ อุฏฺาเปนฺติ, น วฏฺฏติ, อุโภสุ ปน อนฺเตสุ ทสามุขสฺส ถิรภาวาย ทิคุณํ โกฏฺเฏตุํ วฏฺฏติ. ทสามุเข ปน ฆฏกํ วา มกรมุขํ วา เทฑฺฑุภสีสํ วา ยํ กิฺจิ วิการรูปํ กาตุํ น วฏฺฏติ, ตตฺถ ตตฺถ อจฺฉีนิ ทสฺเสตฺวา มาลากมฺมาทีนิ วา กตฺวา โกฏฺฏิตกายพนฺธนมฺปิ น วฏฺฏติ, อุชุกเมว ปน มจฺฉกณฺฏกํ วา ขชฺชูริปตฺตกํ วา มฏฺกปฏฺฏิกํ วา กตฺวา โกฏฺเฏตุํ วฏฺฏติ. กายพนฺธนสฺส ทสา เอกา วฏฺฏติ, ทฺเว ตีณิ จตฺตาริปิ วฏฺฏนฺติ, ตโต ปรํ น วฏฺฏนฺติ. รชฺชุกกายพนฺธนํ เอกเมว วฏฺฏติ, ปามงฺคสณฺานํ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ, ทสา ปน ปามงฺคสณฺานาปิ วฏฺฏติ, พหุรชฺชุเก เอกโต กตฺวา เอเกน นิรนฺตรํ เวเตฺวา กตํ พหุรชฺชุกนฺติ น วตฺตพฺพํ, ตํ วฏฺฏติ.

กายพนฺธนวิเธ อฏฺมงฺคลาทิกํ ยํ กิฺจิ วิการรูปํ น วฏฺฏติ, ปริจฺเฉทเลขามตฺตํ วฏฺฏติ. วิธกสฺส อุโภสุ อนฺเตสุ ถิรกรณตฺถาย ฆฏกํ กโรนฺติ, อยมฺปิ วฏฺฏติ.

๑๑. อฺชนิยํ อิตฺถิปุริสจตุปฺปทสกุณรูปํ วา มาลากมฺมลตากมฺมมกรทนฺตกโคมุตฺตกอฑฺฒจนฺทกาทิเภทํ วา วิการรูปํ น วฏฺฏติ, ฆํสิตฺวา วา ภินฺทิตฺวา วา ยถา วา น ปฺายติ, ตถา สุตฺตเกน เวเตฺวา วฬฺเชตพฺพา. อุชุกเมว ปน จตุรํสา วา อฏฺํสา วา โสฬสํสา วา อฺชนี วฏฺฏติ. เหฏฺโตปิสฺสา ทฺเว วา ติสฺโส วา วฏฺฏเลขาโย วฏฺฏนฺติ, คีวายมฺปิสฺสา ปิธานกพนฺธนตฺถํ เอกา วฏฺฏเลขา วฏฺฏติ.

อฺชนีสลากายปิ วณฺณมฏฺกมฺมํ น วฏฺฏติ, อฺชนีถวิกายปิ ยํ กิฺจิ นานาวณฺเณน สุตฺเตน วณฺณมฏฺกมฺมํ น วฏฺฏติ. เอเสว นโย กุฺจิกโกสเกปิ. กุฺจิกาย วณฺณมฏฺกมฺมํ น วฏฺฏติ, ตถา สิปาฏิกาย. เอกวณฺณสุตฺเตน ปน เยน เกนจิ ยํ กิฺจิ สิพฺพิตุํ วฏฺฏติ.

๑๒. อารกณฺฏเกปิ วฏฺฏมณิกํ วา อฺํ วา วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏติ, คีวายํ ปน ปริจฺเฉทเลขา วฏฺฏติ. ปิปฺผลิเกปิ มณิกํ วา ปีฬกํ วา ยํ กิฺจิ อุฏฺาเปตุํ น วฏฺฏติ, ทณฺฑเก ปน ปริจฺเฉทเลขา วฏฺฏติ. นขจฺเฉทนํ วลิตกํเยว กโรนฺติ, ตสฺมา ตํ วฏฺฏติ. อุตฺตรารณิยํ วาปิ อรณิธนุเก วา อุปริเปลฺลนทณฺฑเก วา มาลากมฺมาทิ ยํ กิฺจิ วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏติ. เปลฺลนทณฺฑกสฺส ปน เวมชฺเฌ มณฺฑลํ โหติ, ตตฺถ ปริจฺเฉทเลขามตฺตํ วฏฺฏติ. สูจิสณฺฑาสํ กโรนฺติ, เยน สูจึ ฑํสาเปตฺวา ฆํสนฺติ, ตตฺถ มกรมุขาทิกํ ยํ กิฺจิ วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏติ, สูจิฑํสนตฺถํ ปน มุขมตฺตํ โหติ, ตํ วฏฺฏติ.

ทนฺตกฏฺจฺเฉทนวาสิยมฺปิ ยํ กิฺจิ วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏติ, อุชุกเมว กปฺปิยโลเหน อุโภสุ วา ปสฺเสสุ จตุรํสํ วา อฏฺํสํ วา พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. กตฺตรทณฺเฑปิ ยํ กิฺจิ วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏติ, เหฏฺา เอกา วา ทฺเว วา วฏฺฏเลขา อุปริ อหิจฺฉตฺตกมกุฬมตฺตฺจ วฏฺฏติ.

๑๓. เตลภาชเนสุ วิสาเณ วา นาฬิยํ วา อลาพุเก วา อามณฺฑสารเก วา เปตฺวา อิตฺถิรูปํ ปุริสรูปฺจ อวเสสํ สพฺพมฺปิ วณฺณมฏฺกมฺมํ วฏฺฏติ. มฺจปีเ ภิสิพิมฺโพหเน ภูมตฺถรเณ ปาทปุฺฉเน จงฺกมนภิสิยา สมฺมุฺชนิยํ กจวรฉฑฺฑนเก รชนโทณิกาย ปานียอุฬุงฺเก ปานียฆเฏ ปาทกถลิกาย ผลกปีเก วลยาธารเก ทณฺฑาธารเก ปตฺตปิธาเน ตาลวณฺเฏ พีชเนติ เอเตสุ สพฺพํ มาลากมฺมาทิ วณฺณมฏฺกมฺมํ วฏฺฏติ.

๑๔. เสนาสเน ปน ทฺวารกวาฏวาตปานกวาฏาทีสุ สพฺพรตนมยมฺปิ วณฺณมฏฺกมฺมํ วฏฺฏติ. เสนาสเน กิฺจิ ปฏิเสเธตพฺพํ นตฺถิ อฺตฺร วิรุทฺธเสนาสนา. วิรุทฺธเสนาสนํ นาม อฺเสํ สีมาย ราชวลฺลเภหิ กตเสนาสนํ วุจฺจติ. ตสฺมา เย ตาทิสํ เสนาสนํ กโรนฺติ, เต วตฺตพฺพา ‘‘มา อมฺหากํ สีมาย เสนาสนํ กโรถา’’ติ. อนาทิยิตฺวา กโรนฺติเยว, ปุนปิ วตฺตพฺพา ‘‘มา เอวํ อกตฺถ, มา อมฺหากํ อุโปสถปวารณานํ อนฺตรายมกตฺถ, มา สามคฺคึ ภินฺทิตฺถ, ตุมฺหากํ เสนาสนํ กตมฺปิ กตฏฺาเน น สฺสตี’’ติ. สเจ พลกฺกาเรน กโรนฺติเยว, ยทา เตสํ ลชฺชิปริสา อุสฺสนฺนา โหติ, สกฺกา จ โหติ ลทฺธุํ ธมฺมิโก วินิจฺฉโย, ตทา เตสํ เปเสตพฺพํ ‘‘ตุมฺหากํ อาวาสํ หรถา’’ติ. สเจ ยาวตติยํ เปสิเต หรนฺติ, สาธุ. โน เจ หรนฺติ, เปตฺวา โพธิฺจ เจติยฺจ อวเสสเสนาสนานิ ภินฺทิตพฺพานิ, โน จ โข อปริโภคํ กโรนฺเตหิ, ปฏิปาฏิยา ปน ฉทนโคปานสีอิฏฺกาทีนิ อปเนตฺวา เตสํ เปเสตพฺพํ ‘‘ตุมฺหากํ ทพฺพสมฺภาเร หรถา’’ติ. สเจ หรนฺติ, สาธุ. โน เจ หรนฺติ, อถ เตสุ ทพฺพสมฺภาเรสุ หิมวสฺสวาตาตปาทีหิ ปูติภูเตสุ วา โจเรหิ วา หเฏสุ อคฺคินา วา ทฑฺเฒสุ สีมสามิกา ภิกฺขู อนุปวชฺชา, น ลพฺภา โจเทตุํ ‘‘ตุมฺเหหิ อมฺหากํ ทพฺพสมฺภารา นาสิตา’’ติ วา ‘‘ตุมฺหากํ คีวา’’ติ วา. ยํ ปน สีมสามิเกหิ ภิกฺขูหิ กตํ, ตํ สุกตเมว โหติ. โยปิ ภิกฺขุ พหุสฺสุโต วินยฺู อฺํ ภิกฺขุํ อกปฺปิยปริกฺขารํ คเหตฺวา วิจรนฺตํ ทิสฺวา ฉินฺทาเปยฺย วา ภินฺทาเปยฺย วา, อนุปวชฺโช, โส เนว โจเทตพฺโพ น สาเรตพฺโพ, น ตํ ลพฺภา วตฺตุํ ‘‘อยํ นาม มม ปริกฺขาโร ตยา นาสิโต, ตํ เม เทหี’’ติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ปริกฺขารวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๓. เภสชฺชาทิกรณวินิจฺฉยกถา

๑๕. เภสชฺชกรณปริตฺตปฏิสนฺถาเรสุ ปน เภสชฺชกรเณ ตาว อยํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๘๕-๗) – อาคตาคตสฺส ปรชนสฺส เภสชฺชํ น กาตพฺพํ, กโรนฺโต ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. ปฺจนฺนํ ปน สหธมฺมิกานํ กาตพฺพํ ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุนิยา สิกฺขมานาย สามเณรสฺส สามเณริยาติ. สมสีลสทฺธาปฺานฺหิ เอเตสํ ตีสุ สิกฺขาสุ ยุตฺตานํ เภสชฺชํ อกาตุํ น ลพฺภติ. กโรนฺเตน จ สเจ เตสํ อตฺถิ, เตสํ สนฺตกํ คเหตฺวา โยเชตฺวา ทาตพฺพํ, สเจ นตฺถิ, อตฺตโน สนฺตกํ กาตพฺพํ. สเจ อตฺตโนปิ นตฺถิ, ภิกฺขาจารวตฺเตน วา าตกปวาริตฏฺานโต วา ปริเยสิตพฺพํ, อลภนฺเตน คิลานสฺส อตฺถาย อกตวิฺตฺติยาปิ อาหริตฺวา กาตพฺพํ.

๑๖. อปเรสมฺปิ ปฺจนฺนํ กาตุํ วฏฺฏติ มาตุ ปิตุ ตทุปฏฺากานํ อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺส ปณฺฑุปลาสสฺส จาติ. ปณฺฑุปลาโส นาม โย ปพฺพชฺชาเปกฺโข ยาว ปตฺตจีวรํ ปฏิยาทิยติ, ตาว วิหาเร วสติ. เตสุ สเจ มาตาปิตโร อิสฺสรา โหนฺติ น ปจฺจาสีสนฺติ, อกาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน รชฺเชปิ ิตา ปจฺจาสีสนฺติ, อกาตุํ น วฏฺฏติ. เภสชฺชํ ปจฺจาสีสนฺตานํ เภสชฺชํ ทาตพฺพํ, โยเชตุํ อชานนฺตานํ โยเชตฺวา ทาตพฺพํ. สพฺเพสํ อตฺถาย สหธมฺมิเกสุ วุตฺตนเยเนว ปริเยสิตพฺพํ. สเจ ปน มาตรํ วิหารํ อาเนตฺวา ชคฺคติ, สพฺพํ ปริกมฺมํ อนามสนฺเตน กาตพฺพํ, ขาทนียโภชนียํ สหตฺถา ทาตพฺพํ. ปิตา ปน ยถา สามเณโร, เอวํ สหตฺเถน นฺหาปนสมฺพาหนาทีนิ กตฺวา อุปฏฺาตพฺโพ. เย จ มาตาปิตโร อุปฏฺหนฺติ ปฏิชคฺคนฺติ, เตสมฺปิ เอวเมว กาตพฺพํ. เวยฺยาวจฺจกโร นาม โย เวตนํ คเหตฺวา อรฺเ ทารูนิ วา ฉินฺทติ, อฺํ วา กิฺจิ กมฺมํ กโรติ, ตสฺส โรเค อุปฺปนฺเน ยาว าตกา น ปสฺสนฺติ, ตาว เภสชฺชํ กาตพฺพํ. โย ปน ภิกฺขุนิสฺสิตโกว หุตฺวา สพฺพกมฺมานิ กโรติ, ตสฺส เภสชฺชํ กาตพฺพเมว. ปณฺฑุปลาเสปิ สามเณเร วิย ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

๑๗. อปเรสมฺปิ ทสนฺนํ กาตุํ วฏฺฏติ เชฏฺภาตุ กนิฏฺภาตุ เชฏฺภคินิยา กนิฏฺภคินิยา จูฬมาตุยา มหามาตุยา จูฬปิตุโน มหาปิตุโน ปิตุจฺฉาย มาตุลสฺสาติ. เตสํ ปน สพฺเพสมฺปิ กโรนฺเตน เตสํเยว สนฺตกํ เภสชฺชํ คเหตฺวา เกวลํ โยเชตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ ปน นปฺปโหนฺติ ยาจนฺติ จ ‘‘เทถ โน, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปฏิทสฺสามา’’ติ, ตาวกาลิกํ ทาตพฺพํ. สเจปิ น ยาจนฺติ, ‘‘อมฺหากํ เภสชฺชํ อตฺถิ, ตาวกาลิกํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา วา ‘‘ยทา เตสํ ภวิสฺสติ, ตทา ทสฺสนฺตี’’ติ อาโภคํ วา กตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ ปฏิเทนฺติ, คเหตพฺพํ. โน เจ เทนฺติ, น โจเทตพฺพา. เอเต ทส าตเก เปตฺวา อฺเสํ น กาตพฺพํ.

เอเตสํ ปุตฺตปรมฺปราย ปน ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา, ตาว จตฺตาโร ปจฺจเย อาหราเปนฺตสฺส อกตวิฺตฺติ วา เภสชฺชํ กโรนฺตสฺส เวชฺชกมฺมํ วา กุลทูสกาปตฺติ วา น โหติ. สเจ ภาตุ ชายา, ภคินิยา สามิโก วา คิลาโน โหติ, าตกา เจ, เตสมฺปิ วฏฺฏติ. อฺาตกา เจ, ภาตุ จ ภคินิยา จ กตฺวา ทาตพฺพํ ‘‘ตุมฺหากํ ชคฺคนฏฺาเน เทถา’’ติ. อถ วา เตสํ ปุตฺตานํ กตฺวา ทาตพฺพํ ‘‘ตุมฺหากํ มาตาปิตูนํ เทถา’’ติ. เอเตนุปาเยน สพฺพปเทสุ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

เตสํ อตฺถาย จ สามเณเรหิ อรฺโต เภสชฺชํ อาหราเปนฺเตน าติสามเณเรหิ วา อาหราเปตพฺพํ, อฺาตเกหิ อตฺตโน อตฺถาย วา อาหราเปตฺวา ทาตพฺพํ. เตหิปิ ‘‘อุปชฺฌายสฺส อาหรามา’’ติ วตฺตสีเสน อาหริตพฺพํ. อุปชฺฌายสฺส มาตาปิตโร คิลานา วิหารํ อาคจฺฉนฺติ, อุปชฺฌาโย จ ทิสาปกฺกนฺโต โหติ, สทฺธิวิหาริเกน อุปชฺฌายสฺส สนฺตกํ เภสชฺชํ ทาตพฺพํ. โน เจ อตฺถิ, อตฺตโน เภสชฺชํ อุปชฺฌายสฺส ปริจฺจชิตฺวา ทาตพฺพํ. อตฺตโนปิ อสนฺเต วุตฺตนเยเนว ปริเยสิตฺวา อุปชฺฌายสฺส สนฺตกํ กตฺวา ทาตพฺพํ. อุปชฺฌาเยนปิ สทฺธิวิหาริกสฺส มาตาปิตูสุ เอวเมว ปฏิปชฺชิตพฺพํ. เอเสว นโย อาจริยนฺเตวาสิเกสุปิ. อฺโปิ โย อาคนฺตุโก วา โจโร วา ยุทฺธปราชิโต อิสฺสโร วา าตเกหิ ปริจฺจตฺโต กปโณ วา คมิยมนุสฺโส วา คิลาโน หุตฺวา วิหารํ ปวิสติ, สพฺเพสํ อปจฺจาสีสนฺเตน เภสชฺชํ กาตพฺพํ.

๑๘. สทฺธํ กุลํ โหติ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺายกํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส มาตาปิตุฏฺานิยํ, ตตฺร เจ โกจิ คิลาโน โหติ, ตสฺสตฺถาย วิสฺสาเสน ‘‘เภสชฺชํ กตฺวา ภนฺเต เทถา’’ติ วทนฺติ, เนว ทาตพฺพํ น กาตพฺพํ. อถ ปน กปฺปิยํ ตฺวา เอวํ ปุจฺฉนฺติ ‘‘ภนฺเต, อสุกสฺส นาม โรคสฺส กึ เภสชฺชํ กโรนฺตี’’ติ, ‘‘อิทฺจิทฺจ คเหตฺวา กโรนฺตี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ มาตา คิลานา, เภสชฺชํ ตาว อาจิกฺขถา’’ติ เอวํ ปุจฺฉิเต ปน น อาจิกฺขิตพฺพํ, อฺมฺํ ปน กถา กาตพฺพา ‘‘อาวุโส, อสุกสฺส นาม ภิกฺขุโน อิมสฺมึ โรเค กึ เภสชฺชํ กรึสู’’ติ. อิทฺจิทฺจ เภสชฺชํ ภนฺเตติ. ตํ สุตฺวา อิตโร มาตุ เภสชฺชํ กโรติ, วฏฺฏติ. มหาปทุมตฺเถโร กิร วสภรฺโปิ เทวิยา โรเค อุปฺปนฺเน เอกาย อิตฺถิยา อาคนฺตฺวา ปุจฺฉิโต ‘‘น ชานามี’’ติ อวตฺวา เอวเมว ภิกฺขูหิ สทฺธึ สมุลฺลเปสิ. ตํ สุตฺวา ตสฺสา เภสชฺชมกํสุ. วูปสนฺเต จ โรเค ติจีวเรน ตีหิ จ กหาปณสเตหิ สทฺธึ เภสชฺชจงฺโกฏกํ ปูเรตฺวา อาหริตฺวา เถรสฺส ปาทมูเล เปตฺวา ‘‘ภนฺเต, ปุปฺผปูชํ กโรถา’’ติ อาหํสุ. เถโร ‘‘อาจริยภาโค นาม อย’’นฺติ กปฺปิยวเสน คาหาเปตฺวา ปุปฺผปูชมกาสิ. เอวํ ตาว เภสชฺเช ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

๑๙. ปริตฺเต ปน ‘‘คิลานสฺส ปริตฺตํ กโรถ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต น กาตพฺพํ, ‘‘ปริตฺตํ ภณถา’’ติ วุตฺเต ปน ภณิตพฺพํ. สเจปิสฺส เอวํ โหติ ‘‘มนุสฺสา นาม น ชานนฺติ, อกริยมาเน วิปฺปฏิสาริโน ภวิสฺสนฺตี’’ติ, กาตพฺพํ. ‘‘ปริตฺโตทกํ ปริตฺตสุตฺตํ กตฺวา เทถา’’ติ วุตฺเต ปน เตสํเยว อุทกํ หตฺเถน จาเลตฺวา สุตฺตํ ปริมชฺชิตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ วิหารโต อุทกํ อตฺตโน สนฺตกํ วา สุตฺตํ เทติ, ทุกฺกฏํ. มนุสฺสา อุทกฺจ สุตฺตฺจ คเหตฺวา นิสีทิตฺวา ‘‘ปริตฺตํ ภณถา’’ติ วทนฺติ, กาตพฺพํ. โน เจ ชานนฺติ, อาจิกฺขิตพฺพํ. ภิกฺขูนํ นิสินฺนานํ ปาเทสุ อุทกํ อากิริตฺวา สุตฺตฺจ เปตฺวา คจฺฉนฺติ ‘‘ปริตฺตํ กโรถ, ปริตฺตํ ภณถา’’ติ, น ปาทา อปเนตพฺพา. มนุสฺสา หิ วิปฺปฏิสาริโน โหนฺติ. อนฺโตคาเมปิ คิลานสฺส อตฺถาย วิหารํ เปเสนฺติ ‘‘ปริตฺตํ ภณนฺตู’’ติ, ภณิตพฺพํ. อนฺโตคาเม ราชเคหาทีสุ โรเค วา อุปทฺทเว วา อุปฺปนฺเน ปกฺโกสาเปตฺวา ภณาเปนฺติ, อาฏานาฏิยสุตฺตาทีนิ ภณิตพฺพานิ. ‘‘อาคนฺตฺวา คิลานสฺส สิกฺขาปทานิ เทนฺตุ, ธมฺมํ กเถนฺตุ, ราชนฺเตปุเร วา อมจฺจเคเห วา อาคนฺตฺวา สิกฺขาปทานิ เทนฺตุ, ธมฺมํ กเถนฺตู’’ติ เปสิเตปิ คนฺตฺวา สิกฺขาปทานิ ทาตพฺพานิ, ธมฺโม กเถตพฺโพ. ‘‘มตานํ ปริวารตฺถํ อาคจฺฉนฺตู’’ติ ปกฺโกสนฺติ, น คนฺตพฺพํ. ‘‘สีวถิกทสฺสเน อสุภทสฺสเน จ มรณสฺสตึ ปฏิลภิสฺสามา’’ติ กมฺมฏฺานสีเสน คนฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ปหาเรทินฺเน มเตปิ อมรณาธิปฺปายสฺส อนาปตฺติ วุตฺตา’’ติ น เอตฺตเกเนว อมนุสฺสคหิตสฺส ปหาโร ทาตพฺโพ, ตาลปณฺณํ ปน ปริตฺตสุตฺตํ วา หตฺเถ วา ปาเท วา พนฺธิตพฺพํ, รตนสุตฺตาทีนิ ปริตฺตานิ ภณิตพฺพานิ, ‘‘มา สีลวนฺตํ ภิกฺขุํ วิเหเหี’’ติ ธมฺมกถา กาตพฺพา, อาฏานาฏิยปริตฺตํ วา ภณิตพฺพํ.

อิธ ปน อาฏานาฏิยปริตฺตสฺส ปริกมฺมํ เวทิตพฺพํ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๒๘๒). ปมเมว หิ อาฏานาฏิยสุตฺตํ น ภณิตพฺพํ, เมตฺตสุตฺตํ (ขุ. ปา. ๙.๑ อาทโย; สุ. นิ. ๑๔๓ อาทโย) ธชคฺคสุตฺตํ (สํ. นิ. ๑.๒๔๙) รตนสุตฺตนฺติ (ขุ. ปา. ๖.๑ อาทโย; สุ. นิ. ๒๒๔ อาทโย) อิมานิ สตฺตาหํ ภณิตพฺพานิ. สเจ มุฺจติ, สุนฺทรํ. โน เจ มุฺจติ, อาฏานาฏิยสุตฺตํ ภณิตพฺพํ. ตํ ภณนฺเตน จ ภิกฺขุนา ปิฏฺํ วา มํสํ วา น ขาทิตพฺพํ, สุสาเน น วสิตพฺพํ. กสฺมา? อมนุสฺสา โอตารํ ลภนฺติ. ปริตฺตกรณฏฺานํ หริตูปลิตฺตํ กาเรตฺวา ตตฺถ ปริสุทฺธํ อาสนํ ปฺเปตฺวา นิสีทิตพฺพํ. ปริตฺตการโก ภิกฺขุ วิหารโต ฆรํ เนนฺเตหิ ผลกาวุเธหิ ปริวาเรตฺวา เนตพฺโพ. อพฺโภกาเส นิสีทิตฺวา น วตฺตพฺพํ, ทฺวารวาตปานานิ ปิทหิตฺวา นิสินฺเนน อาวุธหตฺเถหิ สมฺปริวาริเตน เมตฺตจิตฺตํ ปุเรจาริกํ กตฺวา วตฺตพฺพํ, ปมํ สิกฺขาปทานิ คาหาเปตฺวา สีเล ปติฏฺิตสฺส ปริตฺตํ กาตพฺพํ. เอวมฺปิ โมเจตุํ อสกฺโกนฺเตน วิหารํ เนตฺวา เจติยงฺคเณ นิปชฺชาเปตฺวา อาสนปูชํ กาเรตฺวา ทีเป ชาลาเปตฺวา เจติยงฺคณํ สมฺมชฺชิตฺวา มงฺคลกถา วตฺตพฺพา, สพฺพสนฺนิปาโต โฆเสตพฺโพ, วิหารสฺส อุปวเน เชฏฺกรุกฺโข นาม โหติ, ตตฺถ ‘‘ภิกฺขุสงฺโฆ ตุมฺหากํ อาคมนํ ปติมาเนตี’’ติ ปหิณิตพฺพํ. สพฺพสนฺนิปาตฏฺาเน อนาคนฺตุํ นาม น ลภติ, ตโต อมนุสฺสคหิตโก ‘‘ตฺวํ โกนาโมสี’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ, นาเม กถิเต นาเมเนว อาลปิตพฺโพ, ‘‘อิตฺถนฺนาม ตุยฺหํ มาลาคนฺธาทีสุ ปตฺติ, อาสนปูชายํ ปตฺติ, ปิณฺฑปาเต ปตฺติ, ภิกฺขุสงฺเฆน ตุยฺหํ ปณฺณาการตฺถาย มหามงฺคลกถา วุตฺตา, ภิกฺขุสงฺเฆ คารเวน เอตํ มุฺจาหี’’ติ โมเจตพฺโพ. สเจ น มุฺจติ, เทวตานํ อาโรเจตพฺพํ ‘‘ตุมฺเห ชานาถ, อยํ อมนุสฺโส อมฺหากํ วจนํ น กโรติ, มยํ พุทฺธอาณํ กริสฺสามา’’ติ ปริตฺตํ กาตพฺพํ. เอตํ ตาว คิหีนํ ปริกมฺมํ. สเจ ปน ภิกฺขุ อมนุสฺเสน คหิโต โหติ, อาสนานิ โธวิตฺวา สพฺพสนฺนิปาตํ โฆสาเปตฺวา คนฺธมาลาทีสุ ปตฺตึ ทตฺวา ปริตฺตํ ภณิตพฺพํ, อิทํ ภิกฺขูนํ ปริกมฺมํ. เอวํ ปริตฺเต ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

๒๐. ปฏิสนฺถาเร ปน อยํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๘๕-๗) – อนามฏฺปิณฺฑปาโต กสฺส ทาตพฺโพ, กสฺส น ทาตพฺโพ? มาตาปิตูนํ ตาว ทาตพฺโพ. สเจปิ กหาปณคฺฆนโก โหติ, สทฺธาเทยฺยวินิปาตนํ นตฺถิ. มาตาปิตุอุปฏฺากานํ เวยฺยาวจฺจกรสฺส ปณฺฑุปลาสสฺส จาติ เอเตสมฺปิ ทาตพฺโพ. ตตฺถ ปณฺฑุปลาสสฺส ถาลเก ปกฺขิปิตฺวาปิ ทาตุํ วฏฺฏติ, ตํ เปตฺวา อฺเสํ อคาริกานํ มาตาปิตูนมฺปิ น วฏฺฏติ. ปพฺพชิตปริโภโค หิ อคาริกานํ เจติยฏฺานิโย. อปิจ อนามฏฺปิณฺฑปาโถ นาเมส สมฺปตฺตสฺส ทามริกโจรสฺสปิ อิสฺสริยสฺสปิ ทาตพฺโพ. กสฺมา? เต หิ อทียมาเนปิ ‘‘น เทนฺตี’’ติ อามสิตฺวา ทียมาเนปิ ‘‘อุจฺฉิฏฺกํ เทนฺตี’’ติ กุชฺฌนฺติ, กุทฺธา ชีวิตาปิ โวโรเปนฺติ, สาสนสฺสปิ อนฺตรายํ กโรนฺติ. รชฺชํ ปตฺถยมานสฺส วิจรโต โจรนาคสฺส วตฺถุ เจตฺถ กเถตพฺพํ. เอวํ อนามฏฺปิณฺฑปาเต ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

ปฏิสนฺถาโร จ นามายํ กสฺส กาตพฺโพ, กสฺส น กาตพฺโพ? ปฏิสนฺถาโร นาม วิหารํ สมฺปตฺตสฺส ยสฺส กสฺสจิ อาคนฺตุกสฺส วา ทลิทฺทสฺส วา โจรสฺส วา อิสฺสรสฺส วา กาตพฺโพเยว. กถํ? อาคนฺตุกํ ตาว ขีณปริพฺพยํ วิหารํ สมฺปตฺตํ ทิสฺวา ‘‘ปานียํ ปิวา’’ติ ทาตพฺพํ, ปาทมกฺขนเตลํ ทาตพฺพํ, กาเล อาคตสฺส ยาคุภตฺตํ, วิกาเล อาคตสฺส สเจ ตณฺฑุลา อตฺถิ, ตณฺฑุลา ทาตพฺพา. อเวลาย สมฺปตฺโตปิ ‘‘คจฺฉาหี’’ติ น วตฺตพฺโพ, สยนฏฺานํ ทาตพฺพํ. สพฺพํ อปจฺจาสียนฺเตเนว กาตพฺพํ. ‘‘มนุสฺสา นาม จตุปจฺจยทายกา, เอวํ สงฺคเห กริยมาเน ปุนปฺปุนํ ปสีทิตฺวา อุปการํ กริสฺสนฺตี’’ติ จิตฺตํ น อุปฺปาเทตพฺพํ. โจรานํ ปน สงฺฆิกมฺปิ ทาตพฺพํ. ปฏิสนฺถารานิสํสทีปนตฺถฺจ โจรนาควตฺถุ, ภาตรา สทฺธึ ชมฺพุทีปคตสฺส มหานาครฺโ วตฺถุ, ปิตุราชสฺส รชฺเช จตุนฺนํ อมจฺจานํ วตฺถุ, อภยโจรวตฺถูติ เอวมาทีนิ พหูนิ วตฺถูนิ มหาอฏฺกถายํ วิตฺถารโต วุตฺตานิ.

ตตฺรายํ เอกวตฺถุทีปนา – สีหฬทีเป กิร อภโย นาม โจโร ปฺจสตปริวาโร เอกสฺมึ าเน ขนฺธาวารํ พนฺธิตฺวา สมนฺตา ติโยชนํ อุพฺพาเสตฺวา วสติ. อนุราธปุรวาสิโน กทมฺพนทึ น อุตฺตรนฺติ, เจติยคิริมคฺเค ชนสฺจาโร อุปจฺฉินฺโน. อเถกทิวสํ โจโร ‘‘เจติยคิรึ วิลุมฺปิสฺสามี’’ติ อคมาสิ. อารามิกา ทิสฺวา ทีฆภาณกอภยตฺเถรสฺส อาโรเจสุํ. เถโร ‘‘สปฺปิผาณิตาทีนิ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘โจรานํ เทถ’’. ‘‘ตณฺฑุลา อตฺถี’’ติ. ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต, สงฺฆสฺสตฺถาย อาหฏา ตณฺฑุลา จ ปกฺกสากฺจ โครโส จา’’ติ. ‘‘ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา โจรานํ เทถา’’ติ. อารามิกา ตถา กรึสุ. โจรา ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา ‘‘เกนายํ ปฏิสนฺถาโร กโต’’ติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘อมฺหากํ อยฺเยน อภยตฺเถเรนา’’ติ. โจรา เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อาหํสุ ‘‘มยํ ‘สงฺฆสฺส จ เจติยสฺส จ สนฺตกํ อจฺฉินฺทิตฺวา คเหสฺสามา’ติ อาคตา, ตุมฺหากํ ปน อิมินา ปฏิสนฺถาเรน มยํ ปสนฺนา, อชฺช ปฏฺาย วิหาเร ธมฺมิการกฺขา อมฺหากํ อายตฺตา โหตุ, นาครา อาคนฺตฺวา ทานํ เทนฺตุ, เจติยํ วนฺทนฺตู’’ติ. ตโต ปฏฺาย จ นาคเร ทานํ ทาตุํ อาคจฺฉนฺเต นทีตีเรเยว ปจฺจุคฺคนฺตฺวา รกฺขนฺตา วิหารํ เนนฺติ, วิหาเรปิ ทานํ เทนฺตานํ รกฺขํ กตฺวา ติฏฺนฺติ. เตปิ ภิกฺขูนํ ภุตฺตาวเสสํ โจรานํ เทนฺติ. คมนกาเลปิ เต โจรา นทีตีรํ ปาเปตฺวา นิวตฺตนฺติ.

อเถกทิวสํ ภิกฺขุสงฺเฆ ขียนกกถา อุปฺปนฺนา ‘‘เถโร อิสฺสรวตาย สงฺฆสนฺตกํ โจรานํ อทาสี’’ติ. เถโร สนฺนิปาตํ การาเปตฺวา อาห ‘‘โจรา ‘สงฺฆสฺส ปกติวฏฺฏฺจ เจติยสนฺตกฺจ อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหิสฺสามา’ติ อาคมึสุ, อถ เตสํ มยา ‘เอตํ น หริสฺสนฺตี’ติ เอตฺตโก นาม ปฏิสนฺถาโร กโต, ตํ สพฺพมฺปิ เอกโต สมฺปิณฺเฑตฺวา อคฺฆาเปถ, เตน การเณน อวิลุตฺตํ ภณฺฑํ เอกโต สมฺปิณฺเฑตฺวา อคฺฆาเปถา’’ติ. ตโต สพฺพมฺปิ เถเรน ทินฺนกํ เจติยฆเร เอกํ วรโปตฺถกจิตฺตตฺถรณํ น อคฺฆติ. ตโต อาหํสุ ‘‘เถเรน กโต ปฏิสนฺถาโร สุกโต, โจเทตุํ วา สาเรตุํ วา น ลพฺภติ, คีวา วา อวหาโร วา นตฺถี’’ติ. เอวํ มหานิสํโส ปฏิสนฺถาโรติ สลฺลกฺเขตฺวา กตฺตพฺโพ ปณฺฑิเตน ภิกฺขุนาติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

เภสชฺชาทิกรณวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๔. วิฺตฺติวินิจฺฉยกถา

๒๑. วิฺตฺตีติ ยาจนา. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒) – มูลจฺเฉชฺชาย ปุริสํ ยาจิตุํ น วฏฺฏติ, ‘‘สหายตฺถาย กมฺมกรณตฺถาย ปุริสํ เทถา’’ติ ยาจิตุํ วฏฺฏติ, ปุริเสน กตฺตพฺพํ หตฺถกมฺมสงฺขาตํ ปุริสตฺตกรํ ยาจิตุํ วฏฺฏติเยว. หตฺถกมฺมฺหิ กิฺจิ วตฺถุ น โหติ, ตสฺมา ตํ เปตฺวา มิคลุทฺทกมจฺฉพนฺธนกาทีนํ สกกมฺมํ อวเสสํ สพฺพํ กปฺปิยํ. ‘‘กึ, ภนฺเต, อาคตาตฺถ เกน กมฺเมนา’’ติ ปุจฺฉิเต วา อปุจฺฉิเต วา ยาจิตุํ วฏฺฏติ, วิฺตฺติปจฺจยา โทโส นตฺถิ. มิคลุทฺทกาทโย ปน สกกมฺมํ น ยาจิตพฺพา, ‘‘หตฺถกมฺมํ เทถา’’ติ อนิยเมตฺวาปิ น ยาจิตพฺพา. เอวํ ยาจิตา หิ เต ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ ภิกฺขู อุยฺโยเชตฺวา มิเคปิ มาเรตฺวา อาหเรยฺยุํ. นิยเมตฺวา ปน ‘‘วิหาเร กิฺจิ กตฺตพฺพํ อตฺถิ, ตตฺถ หตฺถกมฺมํ เทถา’’ติ ยาจิตพฺพา, ผาลนงฺคลาทีนิ อุปกรณานิ คเหตฺวา กสิตุํ วา วปิตุํ วา ลายิตุํ วา คจฺฉนฺตํ สกกิจฺจปสุตมฺปิ กสฺสกํ วา อฺํ วา กิฺจิ หตฺถกมฺมํ ยาจิตุํ วฏฺฏเตว. โย ปน วิฆาสาโท วา อฺโ วา โกจิ นิกฺกมฺโม นิรตฺถกกถํ กเถนฺโต นิทฺทายนฺโต วา วิหรติ, เอวรูปํ อยาจิตฺวาปิ ‘‘เอหิ เร อิทํ วา อิทํ วา กโรหี’’ติ ยทิจฺฉกํ การาเปตุํ วฏฺฏติ.

หตฺถกมฺมสฺส ปน สพฺพกปฺปิยภาวทีปนตฺถํ อิมํ นยํ กเถนฺติ. สเจ หิ ภิกฺขุ ปาสาทํ กาเรตุกาโม โหติ, ถมฺภตฺถาย ปาสาณโกฏฺฏกานํ ฆรํ คนฺตฺวา วตฺตพฺพํ ‘‘หตฺถกมฺมํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ อุปาสกา’’ติ. ‘‘กึ กาตพฺพํ, ภนฺเต’’ติ? ‘‘ปาสาณตฺถมฺภา อุทฺธริตฺวา ทาตพฺพา’’ติ. สเจ เต อุทฺธริตฺวา วา เทนฺติ, อุทฺธริตฺวา นิกฺขิตฺเต อตฺตโน ถมฺเภ วา เทนฺติ, วฏฺฏติ. อถาปิ วทนฺติ ‘‘อมฺหากํ, ภนฺเต, หตฺถกมฺมํ กาตุํ ขโณ นตฺถิ, อฺํ อุทฺธราเปถ, ตสฺส มูลํ ทสฺสามา’’ติ, อุทฺธราเปตฺวา ‘‘ปาสาณตฺถมฺเภ อุทฺธฏมนุสฺสานํ มูลํ เทถา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอเตเนว อุปาเยน ปาสาททารูนํ อตฺถาย วฑฺฒกีนํ สนฺติกํ, อิฏฺกตฺถาย อิฏฺกวฑฺฒกีนํ, ฉทนตฺถาย เคหจฺฉาทกานํ, จิตฺตกมฺมตฺถาย จิตฺตการานนฺติ เยน เยน อตฺโถ โหติ, ตสฺส ตสฺส อตฺถาย เตสํ เตสํ สิปฺปการกานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา หตฺถกมฺมํ ยาจิตุํ วฏฺฏติ, หตฺถกมฺมยาจนวเสน จ มูลจฺเฉชฺชาย วา ภตฺตเวตนานุปฺปทาเนน วา ลทฺธมฺปิ สพฺพํ คเหตุํ วฏฺฏติ. อรฺโต อาหราเปนฺเตน จ สพฺพํ อนชฺฌาวุตฺถกํ อาหราเปตพฺพํ.

๒๒. น เกวลฺจ ปาสาทํ กาเรตุกาเมน, มฺจปีปตฺตปริสฺสาวนธมกรณจีวราทีนิ การาเปตุกาเมนปิ ทารุโลหสุตฺตาทีนิ ลภิตฺวา เต เต สิปฺปการเก อุปสงฺกมิตฺวา วุตฺตนเยเนว หตฺถกมฺมํ ยาจิตพฺพํ. หตฺถกมฺมยาจนวเสน จ มูลจฺเฉชฺชาย วา ภตฺตเวตนานุปฺปทาเนน วา ลทฺธมฺปิ สพฺพํ คเหตพฺพํ. สเจ ปน กาตุํ น อิจฺฉนฺติ, ภตฺตเวตนํ ปจฺจาสีสนฺติ, อกปฺปิยกหาปณาทิ น ทาตพฺพํ, ภิกฺขาจารวตฺเตน ตณฺฑุลาทีนิ ปริเยสิตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. หตฺถกมฺมวเสน ปตฺตํ กาเรตฺวา ตเถว ปาเจตฺวา นวปกฺกสฺส ปตฺตสฺส ปุฺฉนเตลตฺถาย อนฺโตคามํ ปวิฏฺเน ‘‘ภิกฺขาย อาคโต’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ยาคุยา วา ภตฺเต วา อานีเต หตฺเถน ปตฺโต ปิธาตพฺโพ. สเจ อุปาสิกา ‘‘กึ, ภนฺเต’’ติ ปุจฺฉติ, ‘‘นวปกฺโก ปตฺโต, ปุฺฉนเตเลน อตฺโถ’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ สา ‘‘เทหิ, ภนฺเต’’ติ ปตฺตํ คเหตฺวา เตเลน ปุฺฉิตฺวา ยาคุยา วา ภตฺตสฺส วา ปูเรตฺวา เทติ, วิฺตฺติ นาม น โหติ, คเหตุํ วฏฺฏติ.

๒๓. ภิกฺขู ปเคว ปิณฺฑาย จริตฺวา อาสนสาลํ คนฺตฺวา อาสนํ อปสฺสนฺตา ติฏฺนฺติ. ตตฺร เจ อุปาสกา ภิกฺขู ิเต ทิสฺวา สยเมว อาสนานิ อาหราเปนฺติ, นิสีทิตฺวา คจฺฉนฺเตหิ อาปุจฺฉิตฺวา คนฺตพฺพํ, อนาปุจฺฉา คตานมฺปิ นฏฺํ คีวา น โหติ, อาปุจฺฉิตฺวา คมนํ ปน วตฺตํ. สเจ ภิกฺขูหิ ‘‘อาสนานิ อาหรถา’’ติ วุตฺเตหิ อาหฏานิ โหนฺติ, อาปุจฺฉิตฺวาว คนฺตพฺพํ, อนาปุจฺฉา คตานํ วตฺตเภโท จ นฏฺฺจ คีวา. อตฺถรณโกชวกาทีสุปิ เอเสว นโย.

มกฺขิกา พหุกา โหนฺติ, ‘‘มกฺขิกพีชนึ อาหรถา’’ติ วตฺตพฺพํ, ปุจิมนฺทสาขาทีนิ อาหรนฺติ, กปฺปิยํ การาเปตฺวา ปฏิคฺคเหตพฺพานิ. อาสนสาลายํ อุทกภาชนํ ริตฺตํ โหติ, ‘‘ธมกรณํ คณฺหาหี’’ติ น วตฺตพฺพํ. ธมกรณฺหิ ริตฺตภาชเน ปกฺขิปนฺโต ภินฺเทยฺย, ‘‘นทึ วา ตฬากํ วา คนฺตฺวา อุทกํ อาหรา’’ติ ปน วตฺตุํ วฏฺฏติ, ‘‘เคหโต อาหรา’’ติ เนว วตฺตุํ วฏฺฏติ, น อาหฏํ ปริภุฺชิตุํ. อาสนสาลาย วา อรฺเ วา ภตฺตกิจฺจํ กโรนฺเตหิ ตตฺถ ชาตกํ อนชฺฌาวุตฺถกํ ยํ กิฺจิ อุตฺตริภงฺคารหํ ปตฺตํ วา ผลํ วา สเจ กิฺจิ กมฺมํ กโรนฺตํ อาหราเปติ, หตฺถกมฺมวเสน อาหราเปตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, อลชฺชีหิ ปน ภิกฺขูหิ วา สามเณเรหิ วา หตฺถกมฺมํ น กาเรตพฺพํ. อยํ ตาว ปุริสตฺตกเร นโย.

๒๔. โคณํ ปน อฺาตกอปฺปวาริตฏฺานโต อาหราเปตุํ น วฏฺฏติ, อาหราเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. าตกปวาริตฏฺานโตปิ มูลจฺเฉชฺชาย ยาจิตุํ น วฏฺฏติ, ตาวกาลิกนเยน สพฺพตฺถ วฏฺฏติ. เอวํ อาหราปิตฺจ โคณํ รกฺขิตฺวา ชคฺคิตฺวา สามิกา ปฏิจฺฉาเปตพฺพา. สจสฺส ปาโท วา สิงฺคํ วา ภิชฺชติ วา นสฺสติ วา, สามิกา เจ สมฺปฏิจฺฉนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ สมฺปฏิจฺฉนฺติ, คีวา โหติ. สเจ ‘‘ตุมฺหากํเยว เทมา’’ติ วทนฺติ, น สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. ‘‘วิหารสฺส เทมา’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘อารามิกานํ อาจิกฺขถ ชคฺคนตฺถายา’’ติ วตฺตพฺพา.

๒๕. ‘‘สกฏํ เทถา’’ติปิ อฺาตกอปฺปวาริเต วตฺตุํ น วฏฺฏติ, วิฺตฺติ เอว โหติ, ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. าตกปวาริตฏฺาเน ปน วฏฺฏติ, ตาวกาลิกํ วฏฺฏติ, กมฺมํ ปน กตฺวา ปุน ทาตพฺพํ. สเจ เนมิอาทีนิ ภิชฺชนฺติ, ปากติกานิ กตฺวา ทาตพฺพํ, นฏฺเ คีวา โหติ. ‘‘ตุมฺหากเมว เทมา’’ติ วุตฺเต ทารุภณฺฑํ นาม สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. เอส นโย วาสิผรสุกุารีกุทาลนิขาทเนสุ วลฺลิอาทีสุ จ ปรปริคฺคหิเตสุ. ครุภณฺฑปฺปโหนเกสุเยว วลฺลิอาทีสุ วิฺตฺติ โหติ, น ตโต โอรํ.

๒๖. อนชฺฌาวุตฺถกํ ปน ยํ กิฺจิ อาหราเปตุํ วฏฺฏติ. รกฺขิตโคปิตฏฺาเนเยว หิ วิฺตฺติ นาม วุจฺจติ. สา ทฺวีสุ ปจฺจเยสุ สพฺเพน สพฺพํ น วฏฺฏติ. เสนาสนปจฺจเย ปน ‘‘อาหร เทหี’’ติ วิฺตฺติมตฺตเมว น วฏฺฏติ, ปริกโถภาสนิมิตฺตกมฺมานิ วฏฺฏนฺติ. ตตฺถ อุโปสถาคารํ วา โภชนสาลํ วา อฺํ วา กิฺจิ เสนาสนํ อิจฺฉโต ‘‘อิมสฺมึ วต โอกาเส เอวรูปํ เสนาสนํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วา ‘‘ยุตฺต’’นฺติ วา ‘‘อนุรูป’’นฺติ วาติอาทินา นเยน วจนํ ปริกถา นาม. อุปาสกา ตุมฺเห กุหึ วสถาติ. ปาสาเท, ภนฺเตติ. ‘‘กึ ภิกฺขูนํ ปน อุปาสกา ปาสาโท น วฏฺฏตี’’ติ เอวมาทิวจนํ โอภาโส นาม. มนุสฺเส ทิสฺวา รชฺชุํ ปสาเรติ, ขีเล อาโกฏาเปติ, ‘‘กึ อิทํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘อิธ อาวาสํ กริสฺสามา’’ติ เอวมาทิกรณํ ปน นิมิตฺตกมฺมํ นาม. คิลานปจฺจเย ปน วิฺตฺติปิ วฏฺฏติ, ปเคว ปริกถาทีนิ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

วิฺตฺติวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๕. กุลสงฺคหวินิจฺฉยกถา

๒๗. กุลสงฺคโหติ ปุปฺผผลาทีหิ กุลานํ สงฺคโห กุลสงฺคโห. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) – กุลสงฺคหตฺถาย มาลาวจฺฉาทีนิ โรเปตุํ วา โรปาเปตุํ วา สิฺจิตุํ วา สิฺจาเปตุํ วา ปุปฺผานิ โอจินิตุํ วา โอจินาเปตุํ วา คนฺถิตุํ วา คนฺถาเปตุํ วา น วฏฺฏติ. ตตฺถ อกปฺปิยโวหาโร กปฺปิยโวหาโร ปริยาโย โอภาโส นิมิตฺตกมฺมนฺติ อิมานิ ปฺจ ชานิตพฺพานิ.

๒๘. ตตฺถ อกปฺปิยโวหาโร นาม อลฺลหริตานํ โกฏฺฏนํ โกฏฺฏาปนํ, อาวาฏสฺส ขณนํ ขณาปนํ, มาลาวจฺฉสฺส โรปนํ โรปาปนํ, อาฬิยา พนฺธนํ พนฺธาปนํ, อุทกสฺส เสจนํ เสจาปนํ, มาติกาย สมฺมุขกรณํ, กปฺปิยอุทกสิฺจนํ, หตฺถปาทมุขโธวนนหาโนทกสิฺจนํ. กปฺปิยโวหาโร นาม ‘‘อิมํ รุกฺขํ ชาน, อิมํ อาวาฏํ ชาน, อิมํ มาลาวจฺฉํ ชาน, เอตฺถ อุทกํ ชานา’’ติอาทิวจนํ สุกฺขมาติกาย อุชุกรณฺจ. ปริยาโย นาม ‘‘ปณฺฑิเตน มาลาวจฺฉาทโย โรปาเปตพฺพา, นจิรสฺเสว อุปการาย สํวตฺตนฺตี’’ติอาทิวจนํ. โอภาโส นาม กุทาลขณิตฺตาทีนิ จ มาลาวจฺเฉ จ คเหตฺวา านํ. เอวํ ิตฺหิ สามเณราทโย ทิสฺวา ‘‘เถโร การาเปตุกาโม’’ติ คนฺตฺวา กโรนฺติ. นิมิตฺตกมฺมํ นาม กุทาลขณิตฺติวาสิผรสุอุทกภาชนานิ อาหริตฺวา สมีเป ปนํ.

๒๙. อิมานิ ปฺจปิ กุลสงฺคหตฺถาย โรปนโรปาปนาทีสุ น วฏฺฏนฺติ. ผลปริโภคตฺถาย กปฺปิยากปฺปิยโวหารทฺวยเมว น วฏฺฏติ, อิตรตฺตยํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘กปฺปิยโวหาโรปิ วฏฺฏติ, ยฺจ อตฺตโน ปริโภคตฺถาย วฏฺฏติ, ตํ อฺปุคฺคลสฺส วา สงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา อตฺถายปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อารามตฺถาย ปน วนตฺถาย ฉายตฺถาย จ อกปฺปิยโวหารมตฺตเมว น วฏฺฏติ, เสสํ วฏฺฏติ. น เกวลฺจ เสสํ, ยํ กิฺจิ มาติกมฺปิ อุชุํ กาตุํ กปฺปิยอุทกํ สิฺจิตุํ นหานโกฏฺกํ กตฺวา นหายิตุํ หตฺถปาทมุขโธวนอุทกานิ จ ตตฺถ ฉฑฺเฑตุมฺปิ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน กุรุนฺทิยฺจ ‘‘กปฺปิยปถวิยํ สยํ โรเปตุมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อารามาทิอตฺถาย ปน โรปิตสฺส วา โรปาปิตสฺส วา ผลํ ปริภุฺชิตุมฺปิ วฏฺฏติ.

๓๐. อยํ ปน อาทิโต ปฏฺาย วิตฺถาเรน อาปตฺติวินิจฺฉโย – กุลทูสนตฺถาย อกปฺปิยปถวิยํ มาลาวจฺฉํ โรเปนฺตสฺส ปาจิตฺติยฺเจว ทุกฺกฏฺจ, ตถา อกปฺปิยโวหาเรน โรปาเปนฺตสฺส. กปฺปิยปถวิยํ โรปเนปิ โรปาปเนปิ ทุกฺกฏเมว. อุภยตฺราปิ สกึ อาณตฺติยา พหูนมฺปิ โรปเน เอกเมว สปาจิตฺติยทุกฺกฏํ วา สุทฺธทุกฺกฏํ วา โหติ. ปริโภคตฺถาย กปฺปิยภูมิยํ วา อกปฺปิยภูมิยํ วา กปฺปิยโวหาเรน โรปาปเน อนาปตฺติ. อารามาทิอตฺถายปิ อกปฺปิยปถวิยํ โรเปนฺตสฺส วา อกปฺปิยวจเนน โรปาเปนฺตสฺส วา ปาจิตฺติยํ. อยํ ปน นโย มหาอฏฺกถายํ น สุฏฺุ วิภตฺโต, มหาปจฺจริยํ ปน วิภตฺโตติ.

สิฺจนสิฺจาปเน ปน อกปฺปิยอุทเกน สพฺพตฺถ ปาจิตฺติยํ, กุลทูสนปริโภคตฺถาย ทุกฺกฏมฺปิ. กปฺปิเยน เตสํเยว ทฺวินฺนํ อตฺถาย ทุกฺกฏํ, ปริโภคตฺถาย เจตฺถ กปฺปิยโวหาเรน สิฺจาปเน อนาปตฺติ. อาปตฺติฏฺาเน ปน ธาราวจฺเฉทวเสน ปโยคพหุลตาย จ อาปตฺติพหุลตา เวทิตพฺพา.

กุลสงฺคหตฺถาย โอจินเน ปุปฺผคณนาย ทุกฺกฏปาจิตฺติยานิ, อฺตฺถ ปาจิตฺติยาเนว. พหูนิ ปน ปุปฺผานิ เอกปโยเคน โอจินนฺโต ปโยควเสน กาเรตพฺโพ. โอจินาปเน กุลทูสนตฺถาย สกึ อาณตฺโต พหุมฺปิ โอจินาติ, เอกเมว สปาจิตฺติยทุกฺกฏํ, อฺตฺร ปาจิตฺติยเมว.

๓๑. คนฺถนคนฺถาปเนสุ ปน สพฺพาปิ ฉ ปุปฺผวิกติโย เวทิตพฺพา – คนฺถิมํ โคปฺผิมํ เวธิมํ เวิมํ ปูริมํ วายิมนฺติ. ตตฺถ คนฺถิมํ นาม สทณฺฑเกสุ วา อุปฺปลปทุมาทีสุ อฺเสุ วา ทีฆวณฺเฏสุ ปุปฺเผสุ ทฏฺพฺพํ. ทณฺฑเกน วา ทณฺฑกํ, วณฺเฏน วา วณฺฏํ คนฺเถตฺวา กตเมว หิ คนฺถิมํ. ตํ ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา กาตุมฺปิ อกปฺปิยวจเนน การาเปตุมฺปิ น วฏฺฏติ, ‘‘เอวํ ชาน, เอวํ กเต โสเภยฺย, ยถา เอตานิ ปุปฺผานิ น วิกิริยนฺติ, ตถา กโรหี’’ติอาทินา ปน กปฺปิยวจเนน การาเปตุํ วฏฺฏติ.

โคปฺผิมํ นาม สุตฺเตน วา วากาทีหิ วา วสฺสิกปุปฺผาทีนํ เอกโตวณฺฏิกอุภโตวณฺฏิกมาลาวเสน โคปฺผนํ, วากํ วา รชฺชุํ วา ทิคุณํ กตฺวา ตตฺถ อวณฺฏกานิ นีปปุปฺผาทีนิ ปเวเสตฺวา ปฏิปาฏิยา พนฺธนฺติ, เอตมฺปิ โคปฺผิมเมว. สพฺพํ ปุริมนเยเนว น วฏฺฏติ.

เวธิมํ นาม สวณฺฏกานิ วสฺสิกปุปฺผาทีนิ วณฺเฏ, อวณฺฏกานิ วกุลปุปฺผาทีนิ อตฺตโน ฉิทฺเทสุ สูจิตาลหีราทีหิ วินิวิชฺฌิตฺวา อาวุนนฺติ, เอตํ เวธิมํ นาม. ตํ ปุริมนเยเนว น วฏฺฏติ. เกจิ ปน กทลิกฺขนฺธมฺหิ กณฺฏเก วา ตาลหีราทีนิ วา ปเวเสตฺวา ตตฺถ ปุปฺผานิ วินิวิชฺฌิตฺวา เปนฺติ, เกจิ กณฺฏกสาขาสุ, เกจิ ปุปฺผฉตฺตปุปฺผกูฏาคารกรณตฺถํ ฉตฺเต จ ภิตฺติยฺจ ปเวเสตฺวา ปิตกณฺฏเกสุ, เกจิ ธมฺมาสนวิตาเน พทฺธกณฺฏเกสุ, เกจิ กณิการปุปฺผาทีนิ สลากาหิ วิชฺฌนฺติ, ฉตฺตาธิฉตฺตํ วิย กโรนฺติ, ตํ อติโอฬาริกเมว. ปุปฺผวิชฺฌนตฺถํ ปน ธมฺมาสนวิตาเน กณฺฏกมฺปิ พนฺธิตุํ กณฺฏกาทีหิ วา เอกปุปฺผมฺปิ วิชฺฌิตุํ ปุปฺเผเยว วา ปุปฺผํ ปเวเสตุํ น วฏฺฏติ. ชาลวิตานเวทิกนาคทนฺตกปุปฺผปฏิจฺฉกตาลปณฺณคุฬกาทีนํ ปน ฉิทฺเทสุ อโสกปิณฺฑิยา วา อนฺตเรสุ ปุปฺผานิ ปเวเสตุํ น โทโส. น เหตํ เวธิมํ โหติ. ธมฺมรชฺชุยมฺปิ เอเสว นโย.

เวิมํ นาม ปุปฺผทามปุปฺผหตฺถเกสุ ทฏฺพฺพํ. เกจิ หิ มตฺถกทามํ กโรนฺตา เหฏฺา ฆฏกาการํ ทสฺเสตุํ ปุปฺเผหิ เวเนฺติ, เกจิ อฏฺ อฏฺ วา ทส ทส วา อุปฺปลปุปฺผาทีนิ สุตฺเตน วา วาเกน วา ทณฺฑเกสุ พนฺธิตฺวา อุปฺปลหตฺถเก วา ปทุมหตฺถเก วา กโรนฺติ, ตํ สพฺพํ ปุริมนเยเนว น วฏฺฏติ. สามเณเรหิ อุปฺปาเฏตฺวา ถเล ปิตอุปฺปลาทีนิ กาสาเวน ภณฺฑิกมฺปิ พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ. เตสํเยว ปน วาเกน วา ทณฺฑเกน วา พนฺธิตุํ อํสภณฺฑิกํ วา กาตุํ วฏฺฏติ. อํสภณฺฑิกํ นาม ขนฺเธ ปิตกาสาวสฺส อุโภ อนฺเต อาหริตฺวา ภณฺฑิกํ กตฺวา ตสฺมึ ปสิพฺพเก วิย ปุปฺผานิ ปกฺขิปนฺติ, อยํ วุจฺจติ อํสภณฺฑิกา, เอตํ กาตุํ วฏฺฏติ. ทณฺฑเกหิ ปทุมินิปณฺณํ วิชฺฌิตฺวา อุปฺปลาทีนิ ปณฺเณน เวเตฺวา คณฺหนฺติ, ตตฺราปิ ปุปฺผานํ อุปริ ปทุมินิปณฺณเมว พนฺธิตุํ วฏฺฏติ, เหฏฺา ทณฺฑกํ ปน พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ.

ปูริมํ นาม มาลาคุเณ จ ปุปฺผปเฏ จ ทฏฺพฺพํ. โย หิ มาลาคุเณน เจติยํ วา โพธึ วา เวทิกํ วา ปริกฺขิปนฺโต ปุน อาเนตฺวา ปุริมฏฺานํ อติกฺกาเมติ, เอตฺตาวตา ปูริมํ นาม โหติ, โก ปน วาโท อเนกกฺขตฺตุํ ปริกฺขิปนฺตสฺส. นาคทนฺตกนฺตเรหิ ปเวเสตฺวา หรนฺโต โอลมฺพกํ กตฺวา ปุน นาคทนฺตกํ ปริกฺขิปติ, เอตมฺปิ ปูริมํ นาม. นาคทนฺตเก ปน ปุปฺผวลยํ ปเวเสตุํ วฏฺฏติ. มาลาคุเณหิ ปุปฺผปฏํ กโรนฺติ, ตตฺราปิ เอกเมว มาลาคุณํ หริตุํ วฏฺฏติ. ปุน ปจฺจาหรโต ปูริมเมว โหติ. ตํ สพฺพํ ปุริมนเยเนว น วฏฺฏติ. มาลาคุเณหิ ปน พหูหิปิ กตํ ปุปฺผทามํ ลภิตฺวา อาสนมตฺถกาทีสุ พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. อติทีฆํ ปน มาลาคุณํ เอกวารํ หริตฺวา ปริกฺขิปิตฺวา ปุน อิตรสฺส ภิกฺขุโน ทาตุํ วฏฺฏติ, เตนปิ ตเถว กาตุํ วฏฺฏติ.

วายิมํ นาม ปุปฺผชาลปุปฺผปฏปุปฺผรูเปสุ ทฏฺพฺพํ. เจติเย ปุปฺผชาลํ กโรนฺตสฺส เอกเมกมฺหิ ชาลฉิทฺทเก ทุกฺกฏํ. ภิตฺติฉตฺตโพธิตฺถมฺภาทีสุปิ เอเสว นโย. ปุปฺผปฏํ ปน ปเรหิ ปูริตมฺปิ วายิตุํ น ลพฺภติ. โคปฺผิมปุปฺเผเหว หตฺถิอสฺสาทิรูปกานิ กโรนฺติ, ตานิปิ วายิมฏฺาเน ติฏฺนฺติ. ปุริมนเยเนว สพฺพํ น วฏฺฏติ. อฺเหิ กตปริจฺเฉเท ปน ปุปฺผานิ เปนฺเตน หตฺถิอสฺสาทิรูปกมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน กฬมฺพเกน อฑฺฒจนฺทเกน จ สทฺธึ อฏฺ ปุปฺผวิกติโย วุตฺตา.

๓๒. ตตฺถ กฬมฺพโกติ อฑฺฒจนฺทกนฺตเร ฆฏิกทามโอลมฺพโก วุตฺโต. อฑฺฒจนฺทโกติ อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณปริกฺเขโป. ตทุภยมฺปิ ปูริเมเยว ปวิฏฺํ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ทฺเว ตโย มาลาคุเณ เอกโต กตฺวา ปุปฺผทามกรณมฺปิ วายิมํเยวา’’ติ วุตฺตํ. ตมฺปิ อิธ ปูริมฏฺาเนเยว ปวิฏฺํ. น เกวลฺจ ปุปฺผทามเมว, ปิฏฺมยทามมฺปิ เคณฺฑุกปุปฺผทามมฺปิ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ขรปตฺตทามมฺปิ สิกฺขาปทสฺส สาธารณตฺตา ภิกฺขูนมฺปิ ภิกฺขุนีนมฺปิ เนว กาตุํ, น การาเปตุํ วฏฺฏติ, ปูชานิมิตฺตํ ปน กปฺปิยวจนํ สพฺพตฺถ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ปริยายโอภาสนิมิตฺตกมฺมานิ วฏฺฏนฺติเยว.

โย หริตฺวา วา หราเปตฺวา วา ปกฺโกสิตฺวา วา ปกฺโกสาเปตฺวา วา สยํ วา อุปคตานํ ยํ กิฺจิ อตฺตโน สนฺตกํ ปุปฺผํ กุลสงฺคหตฺถาย เทติ, ตสฺส ทุกฺกฏํ, ปรสนฺตกํ เทติ, ทุกฺกฏเมว. เถยฺยจิตฺเตน เทติ, ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. เอส นโย สงฺฆิเกปิ. อยํ ปน วิเสโส – เสนาสนตฺถาย นิยมิตํ อิสฺสรวตาย ททโต ถุลฺลจฺจยนฺติ.

๓๓. ปุปฺผํ นาม กสฺส ทาตุํ วฏฺฏติ, กสฺส น วฏฺฏตีติ? มาตาปิตูนํ ตาว หริตฺวาปิ หราเปตฺวาปิ ปกฺโกสิตฺวาปิ ปกฺโกสาเปตฺวาปิ ทาตุํ วฏฺฏติ, เสสาตกานํ ปกฺโกสาเปตฺวาว. ตฺจ โข วตฺถุปูชนตฺถาย, มณฺฑนตฺถาย ปน สิวลิงฺคาทิปูชนตฺถาย วา กสฺสจิปิ ทาตุํ น วฏฺฏติ. มาตาปิตูนฺจ หราเปนฺเตน าติสามเณเรเหว หราเปตพฺพํ. อิตเร ปน ยทิ สยเมว อิจฺฉนฺติ, วฏฺฏติ. สมฺมเตน ปุปฺผภาชเกน ปุปฺผภาชนกาเล สมฺปตฺตานํ สามเณรานํ อุปฑฺฒภาคํ ทาตุํ วฏฺฏติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘สมฺปตฺตคิหีนํ อุปฑฺฒภาคํ’’, มหาปจฺจริยํ ‘‘จูฬกํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อสมฺมเตน อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ. อาจริยุปชฺฌาเยสุ สคารวา สามเณรา พหูนิ ปุปฺผานิ อาหริตฺวา ราสึ กตฺวา เปนฺติ, เถรา ปาโตว สมฺปตฺตานํ สทฺธิวิหาริกาทีนํ อุปาสกาทีนํ วา ‘‘ตฺวํ อิทํ คณฺห, ตฺวํ อิทํ คณฺหา’’ติ เทนฺติ, ปุปฺผทานํ นาม น โหติ. ‘‘เจติยํ ปูเชสฺสามา’’ติ คเหตฺวา คจฺฉนฺตาปิ ปูชํ กโรนฺตาปิ ตตฺถ ตตฺถ สมฺปตฺตานํ เจติยปูชนตฺถาย เทนฺติ, เอตมฺปิ ปุปฺผทานํ นาม น โหติ. อุปาสเก อกฺกปุปฺผาทีหิ ปูเชนฺเต ทิสฺวา ‘‘วิหาเร กณิการปุปฺผาทีนิ อตฺถิ, อุปาสกา ตานิ คเหตฺวา ปูเชถา’’ติ วตฺตุมฺปิ วฏฺฏติ. ภิกฺขู ปุปฺผปูชํ กตฺวา ทิวาตรํ คามํ ปวิฏฺเ ‘‘กึ, ภนฺเต, อติทิวา ปวิฏฺตฺถา’’ติ ปุจฺฉนฺติ, ‘‘วิหาเร ปุปฺผานิ พหูนิ, ปูชํ อกริมฺหา’’ติ วทนฺติ. มนุสฺสา ‘‘พหูนิ กิร วิหาเร ปุปฺผานี’’ติ ปุนทิวเส ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ คเหตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ปุปฺผปูชฺจ กโรนฺติ ทานฺจ เทนฺติ, วฏฺฏติ.

๓๔. มนุสฺสา ‘‘มยํ, ภนฺเต, อสุกทิวสํ นาม ปูเชสฺสามา’’ติ ปุปฺผวารํ ยาจิตฺวา อนุฺาตทิวเส อาคจฺฉนฺติ, สามเณเรหิ จ ปเคว ปุปฺผานิ โอจินิตฺวา ปิตานิ โหนฺติ, เต รุกฺเขสุ ปุปฺผานิ อปสฺสนฺตา ‘‘กุหึ, ภนฺเต, ปุปฺผานี’’ติ วทนฺติ, สามเณเรหิ โอจินิตฺวา ปิตานิ, ตุมฺเห ปน ปูเชตฺวา คจฺฉถ, สงฺโฆ อฺํ ทิวสํ ปูเชสฺสตีติ. เต ปูเชตฺวา ทานํ ทตฺวา คจฺฉนฺติ, วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน กุรุนฺทิยฺจ ‘‘เถรา สามเณเรหิ ทาเปตุํ น ลภนฺติ, สเจ สยเมว ตานิ ปุปฺผานิ เตสํ เทนฺติ, วฏฺฏติ. เถเรหิ ปน ‘สามเณเรหิ โอจินิตฺวา ปิตานี’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. สเจ ปน ปุปฺผวารํ ยาจิตฺวา อโนจิเตสุ ปุปฺเผสุ ยาคุภตฺตาทีนิ อาทาย อาคนฺตฺวา สามเณเร ‘‘โอจินิตฺวา เทถา’’ติ วทนฺติ, าภิสามเณรานํเยว โอจินิตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. อฺาตเก อุกฺขิปิตฺวา รุกฺขสาขาย เปนฺติ, น โอโรหิตฺวา ปลายิตพฺพํ, โอจินิตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน โกจิ ธมฺมกถิโก ‘‘พหูนิ อุปาสกา วิหาเร ปุปฺผานิ, ยาคุภตฺตาทีนิ อาทาย คนฺตฺวา ปุปฺผปูชํ กโรถา’’ติ วทติ, ตสฺเสว น กปฺปตีติ มหาปจฺจริยฺจ กุรุนฺทิยฺจ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘เอตํ อกปฺปิยํ น วฏฺฏตี’’ติ อวิเสเสน วุตฺตํ.

๓๕. ผลมฺปิ อตฺตโน สนฺตกํ วุตฺตนเยเนว มาตาปิตูนฺจ เสสาตีนฺจ ทาตุํ วฏฺฏติ. กุลสงฺคหตฺถาย ปน เทนฺตสฺส วุตฺตนเยเนว อตฺตโน สนฺตเก ปรสนฺตเก สงฺฆิเก เสนาสนตฺถาย นิยมิเต จ ทุกฺกฏาทีนิ เวทิตพฺพานิ. อตฺตโน สนฺตกํเยว คิลานมนุสฺสานํ วา สมฺปตฺตอิสฺสรานํ วา ขีณปริพฺพยานํ วา ทาตุํ วฏฺฏติ, ผลทานํ น โหติ. ผลภาชเกนปิ สมฺมเตน สงฺฆสฺส ผลภาชนกาเล สมฺปตฺตมนุสฺสานํ อุปฑฺฒภาคํ ทาตุํ วฏฺฏติ, อสมฺมเตน อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ. สงฺฆาราเมปิ ผลปริจฺเฉเทน วา รุกฺขปริจฺเฉเทน วา กติกา กาตพฺพา ‘‘ตโต คิลานมนุสฺสานํ วา อฺเสํ วา ผลํ ยาจนฺตานํ ยถาปริจฺเฉเทน จตฺตาริ ปฺจ ผลานิ ทาตพฺพานิ, รุกฺขา วา ทสฺเสตพฺพา ‘อิโต คเหตุํ ลพฺภตี’’’ติ. ‘‘อิธ ผลานิ สุนฺทรานิ, อิโต คณฺหถา’’ติ เอวํ ปน น วตฺตพฺพํ. อตฺตโน สนฺตกํ สิรีสจุณฺณํ วา อฺํ วา ยํ กิฺจิ กสาวํ กุลสงฺคหตฺถาย เทติ, ทุกฺกฏํ. ปรสนฺตกาทีสุปิ วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – สงฺฆสฺส รกฺขิตโคปิตาปิ รุกฺขฉลฺลิ ครุภณฺฑเมวาติ. มตฺติกทนฺตกฏฺเวฬุปณฺเณสุปิ ครุภณฺฑูปคํ ตฺวา จุณฺเณ วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

๓๖. ชงฺฆเปสนิยนฺติ คิหีนํ ทูเตยฺยํ สาสนหรณกมฺมํ วุจฺจติ, ตํ น กาตพฺพํ. คิหีนฺหิ สาสนํ คเหตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ปเท ปเท ทุกฺกฏํ. ตํ กมฺมํ นิสฺสาย ลทฺธโภชนํ ภุฺชนฺตสฺสปิ อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ทุกฺกฏํ. ปมํ สาสนํ อคฺคเหตฺวาปิ ปจฺฉา ‘‘อยํ ทานิ โส คาโม, หนฺท นํ สาสนํ อาโรเจมี’’ติ มคฺคา โอกฺกมนฺตสฺสปิ ปเท ปเท ทุกฺกฏํ. สาสนํ อาโรเจตฺวา ลทฺธโภชนํ ภุฺชโต ปุริมนเยเนว ทุกฺกฏํ. สาสนํ อคฺคเหตฺวา อาคเตน ปน ‘‘ภนฺเต, ตสฺมึ คาเม อิตฺถนฺนามสฺส กา ปวตฺตี’’ติ ปุจฺฉิยมาเนน กเถตุํ วฏฺฏติ, ปุจฺฉิตปฺเห โทโส นตฺถิ. ปฺจนฺนํ ปน สหธมฺมิกานํ มาตาปิตูนํ ปณฺฑุปลาสสฺส อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺส สาสนํ หริตุํ วฏฺฏติ, คิหีนฺจ กปฺปิยสาสนํ, ตสฺมา ‘‘มม วจเนน ภควโต ปาเท วนฺทถา’’ติ วา ‘‘เจติยํ ปฏิมํ โพธึ สงฺฆตฺเถรํ วนฺทถา’’ติ วา ‘‘เจติเย คนฺธปูชํ กโรถา’’ติ วา ‘‘ปุปฺผปูชํ กโรถา’’ติ วา ‘‘ภิกฺขู สนฺนิปาเตถ, ทานํ ทสฺสาม, ธมฺมํ เทสาปยิสฺสามา’’ติ วา อีทิเสสุ สาสเนสุ กุกฺกุจฺจํ น กาตพฺพํ. กปฺปิยสาสนานิ หิ เอตานิ, น คิหีนํ คิหิกมฺมปฏิสํยุตฺตานีติ. อิเมหิ ปน อฏฺหิ กุลทูสกกมฺเมหิ อุปฺปนฺนปจฺจยา ปฺจนฺนมฺปิ สหธมฺมิกานํ น กปฺปนฺติ. อภูตาโรจนรูปิยสํโวหาเรหิ อุปฺปนฺนปจฺจยสทิสาว โหนฺติ.

ปพฺพาชนียกมฺมกโต ปน ยสฺมึ คาเม วา นิคเม วา กุลทูสกกมฺมํ กตํ, ยสฺมิฺจ วิหาเร วสติ, เนว ตสฺมึ คาเม วา นิคเม วา จริตุํ ลภติ, น วิหาเร วสิตุํ. ปฏิปฺปสฺสทฺธกมฺเมนปิ จ เตน เยสุ กุเลสุ ปุพฺเพ กุลทูสกกมฺมํ กตํ, ตโต อุปฺปนฺนปจฺจยา น คเหตพฺพา, อาสวกฺขยปตฺเตนปิ น คเหตพฺพา, อกปฺปิยาว โหนฺติ. ‘‘กสฺมา น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิเตน ‘‘ปุพฺเพ เอวํ กตตฺตา’’ติ วุตฺเต สเจ วทนฺติ ‘‘น มยํ เตน การเณน เทม, อิทานิ สีลวนฺตตาย เทมา’’ติ, คเหตพฺพา. ปกติยา ทานฏฺาเนเยว กุลทูสกกมฺมํ กตํ โหติ, ตโต ปกติทานเมว คเหตุํ วฏฺฏติ. ยํ วฑฺเฒตฺวา เทนฺติ, ตํ น วฏฺฏติ. ยสฺมา จ ปุจฺฉิตปฺเห โทโส นตฺถิ, ตสฺมา อฺมฺปิ ภิกฺขุํ ปุพฺพณฺเห วา สายนฺเห วา อนฺตรฆรํ ปวิฏฺํ โกจิ ปุจฺเฉยฺย ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, จรถา’’ติ. เยนตฺเถน จรติ, ตํ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘ลทฺธํ น ลทฺธ’’นฺติ วุตฺเต สเจ น ลทฺธํ, ‘‘น ลทฺธ’’นฺติ วตฺวา ยํ โส เทติ, ตํ คเหตุํ วฏฺฏติ.

๓๗. ‘‘น จ, ภิกฺขเว, ปณิธาย อรฺเ วตฺถพฺพํ, โย วเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. น จ, ภิกฺขเว, ปณิธาย ปิณฺฑาย จริตพฺพํ…เป… น จ, ภิกฺขเว, ปณิธาย จงฺกมิตพฺพํ…เป… น จ, ภิกฺขเว, ปณิธาย าตพฺพํ…เป… น จ, ภิกฺขเว, ปณิธาย นิสีทิตพฺพํ…เป… น จ, ภิกฺขเว, ปณิธาย เสยฺยา กปฺเปตพฺพา, โย กปฺเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๒๓ อาทโย) วุตฺตตฺตา ‘‘เอวํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๒๓) อรฺเ วสนฺตํ มํ ชโน อรหตฺเต วา เสกฺขภูมิยํ วา สมฺภาเวสฺสติ, ตโต โลกสฺส สกฺกโต ภวิสฺสามิ ครุกโต มานิโต ปูชิโต’’ติ เอวํ ปตฺถนํ กตฺวา อรฺเ น วสิตพฺพํ. เอวํ ปณิธาย ‘‘อรฺเ วสิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺตสฺส ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ, ตถา อรฺเ กุฏิกรณจงฺกมนนิสีทนนิวาสนปารุปนาทีสุ สพฺพกิจฺเจสุ ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ, ตสฺมา เอวํ อรฺเ น วสิตพฺพํ. เอวํ วสนฺโต หิ สมฺภาวนํ ลภตุ วา มา วา, ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. โย ปน สมาทินฺนธุตงฺโค ‘‘ธุตงฺคํ รกฺขิสฺสามี’’ติ วา ‘‘คามนฺเต เม วสโต จิตฺตํ วิกฺขิปติ, อรฺํ สปฺปาย’’นฺติ จินฺเตตฺวา วา ‘‘อทฺธา อรฺเ ติณฺณํ วิเวกานํ อฺตรํ ปาปุณิสฺสามี’’ติ วา ‘‘อรฺํ ปวิสิตฺวา อรหตฺตํ อปาปุณิตฺวา น นิกฺขมิสฺสามี’’ติ วา ‘‘อรฺวาโส นาม ภควตา ปสตฺโถ, มยิ จ อรฺเ วสนฺเต พหู สพฺรหฺมจารี คามนฺตํ หิตฺวา อารฺกา ภวิสฺสนฺตี’’ติ วา เอวํ อนวชฺชวาสํ วสิตุกาโม โหติ, เตเนว วสิตพฺพํ. ปิณฺฑาย จรนฺตสฺสปิ ‘‘อภิกฺกนฺตาทีนิ สณฺเปตฺวา ปิณฺฑาย จริสฺสามี’’ติ นิวาสนปารุปนกิจฺจโต ปภุติ ยาว โภชนปริโยสานํ, ตาว ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ, สมฺภาวนํ ลภตุ วา มา วา, ทุกฺกฏเมว. ขนฺธกวตฺตเสขิยวตฺตปริปูรณตฺถํ ปน สพฺรหฺมจารีนํ ทิฏฺานุคติอาปชฺชนตฺถํ วา ปาสาทิเกหิ อภิกฺกมปฏิกฺกมาทีหิ ปิณฺฑาย ปวิสนฺโต อนุปวชฺโช วิฺูนํ. จงฺกมนาทีสุปิ เอเสว นโย.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

กุลสงฺคหวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๖. มจฺฉมํสวินิจฺฉยกถา

๓๘. มจฺฉมํเสสุ ปน มจฺฉคฺคหเณน สพฺพมฺปิ ชลชํ วุตฺตํ. ตตฺถ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิ. มํเสสุ ปน มนุสฺสหตฺถิอสฺสสุนขอหิสีหพฺยคฺฆทีปิอจฺฉตรจฺฉานํ วเสน ทส มํสานิ อกปฺปิยานิ. ตตฺถ มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจยํ, เสเสสุ ทุกฺกฏํ. อิติ อิเมสํ มนุสฺสาทีนํ ทสนฺนํ มํสมฺปิ อฏฺิปิ โลหิตมฺปิ จมฺมมฺปิ โลมมฺปิ สพฺพํ น วฏฺฏติ. วสาสุ ปน เอกา มนุสฺสวสาว น วฏฺฏติ. ขีราทีสุ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิ. อิเมสุ ปน อกปฺปิยมํเสสุ อฏฺิอาทีสุ วา ยํ กิฺจิ ตฺวา วา อตฺวา วา ขาทนฺตสฺส อาปตฺติเยว. ยทา ชานาติ, ตทา เทเสตพฺพา. ‘‘อปุจฺฉิตฺวาว ขาทิสฺสามี’’ติ คณฺหโต ปฏิคฺคหเณปิ ทุกฺกฏํ, ‘‘ปุจฺฉิตฺวา ขาทิสฺสามี’’ติ คณฺหโต อนาปตฺติ. อุทฺทิสฺสกตํ ปน ชานิตฺวา ขาทนฺตสฺเสว อาปตฺติ, ปจฺฉา ชานนฺโต อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ (มหาว. อฏฺ. ๒๘๑).

ตตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๑๐) อุทฺทิสฺสกตํ นาม ภิกฺขูนํ อตฺถาย วธิตฺวา สมฺปาทิตํ มจฺฉมํสํ. อุภยมฺปิ หิ อุทฺทิสฺสกตํ น วฏฺฏติ. ตมฺปิ อทิฏฺํ อสุตํ อปริสงฺกิตํ วฏฺฏติ. ติโกฏิปริสุทฺธฺหิ มจฺฉมํสํ ภควตา อนุฺาตํ อทิฏฺํ อสุตํ อปริสงฺกิตํ. ตตฺถ อทิฏฺํ นาม ภิกฺขูนํ อตฺถาย มิคมจฺเฉ วธิตฺวา คยฺหมานํ อทิฏฺํ. อสุตํ นาม ภิกฺขูนํ อตฺถาย มิคมจฺเฉ วธิตฺวา คหิตนฺติ อสุตํ. อปริสงฺกิตํ ปน ทิฏฺปริสงฺกิตํ สุตปริสงฺกิตํ ตทุภยวินิมุตฺตปริสงฺกิตฺจ ตฺวา ตพฺพิปกฺขโต ชานิตพฺพํ. กถํ? อิธ ภิกฺขู ปสฺสนฺติ มนุสฺเส ชาลวาคุราทิหตฺเถ คามโต วา นิกฺขมนฺเต อรฺเ วา วิจรนฺเต. ทุติยทิวเส จ เนสํ ตํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ สมจฺฉมํสํ ปิณฺฑปาตํ อภิหรนฺติ. เต เตน ทิฏฺเน ปริสงฺกนฺติ ‘‘ภิกฺขูนํ นุ โข อตฺถาย กต’’นฺติ, อิทํ ทิฏฺปริสงฺกิตํ, เอตํ คเหตุํ น วฏฺฏติ. ยํ เอวํ อปริสงฺกิตํ, ตํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เต มนุสฺสา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘นยิทํ, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตํ, อมฺเหหิ อตฺตโน อตฺถาย วา ราชยุตฺตาทีนํ วา อตฺถาย กต’’นฺติ วทนฺติ, กปฺปติ.

น เหว โข ภิกฺขู ปสฺสนฺติ, อปิจ โข สุณนฺติ ‘‘มนุสฺสา กิร ชาลวาคุราทิหตฺถา คามโต วา นิกฺขมนฺติ, อรฺเ วา วิจรนฺตี’’ติ. ทุติยทิวเส จ เตสํ ตํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ สมจฺฉมํสํ ปิณฺฑปาตํ อภิหรนฺติ. เต เตน สุเตน ปริสงฺกนฺติ ‘‘ภิกฺขูนํ นุ โข อตฺถาย กต’’นฺติ, อิทํ สุตปริสงฺกิตํ นาม, เอตํ คเหตุํ น วฏฺฏติ. ยํ เอวํ อปริสงฺกิตํ, ตํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เต มนุสฺสา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘นยิทํ, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตํ, อมฺเหหิ อตฺตโน อตฺถาย วา ราชยุตฺตาทีนํ วา อตฺถาย กต’’นฺติ วทนฺติ, กปฺปติ.

น เหว โข ปน ภิกฺขู ปสฺสนฺติ น สุณนฺติ, อปิจ โข เตสํ ตํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ ปตฺตํ คเหตฺวา สมจฺฉมํสํ ปิณฺฑปาตํ อภิสงฺขริตฺวา อภิหรนฺติ. เต ปริสงฺกนฺติ ‘‘ภิกฺขูนํ นุ โข อตฺถาย กต’’นฺติ, อิทํ ตทุภยวินิมุตฺตปริสงฺกิตํ นาม, เอตมฺปิ คเหตุํ น วฏฺฏติ. ยํ เอวํ อปริสงฺกิตํ, ตํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เต มนุสฺสา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘นยิทํ, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตํ, อมฺเหหิ อตฺตโน อตฺถาย วา ราชยุตฺตาทีนํ วา อตฺถาย กตํ, ปวตฺตมํสํ วา กปฺปิยเมว ลภิตฺวา ภิกฺขูนํ อตฺถาย สมฺปาทิต’’นฺติ วทนฺติ, กปฺปติ. มตานํ เปตกิจฺจตฺถาย มงฺคลาทีนํ วา อตฺถาย กเตปิ เอเสว นโย. ยํ ยฺหิ ภิกฺขูนํเยว อตฺถาย อกตํ, ยตฺถ จ นิพฺเพมติโก โหติ, ตํ สพฺพํ กปฺปติ.

๓๙. สเจ ปน เอกสฺมึ วิหาเร ภิกฺขูนํ อุทฺทิสฺสกตํ โหติ, เต จ อตฺตโน อตฺถาย กตภาวํ น ชานนฺติ, อฺเ ชานนฺติ. เย ชานนฺติ, เตสํ น วฏฺฏติ, อิตเรสํ ปน วฏฺฏติ. อฺเ น ชานนฺติ, เตเยว ชานนฺติ, เตสํเยว น วฏฺฏติ, อฺเสํ วฏฺฏติ. เตปิ ‘‘อมฺหากํ อตฺถาย กต’’นฺติ ชานนฺติ, อฺเปิ ‘‘เอเตสํ อตฺถาย กต’’นฺติ ชานนฺติ, สพฺเพสมฺปิ น วฏฺฏติ. สพฺเพ น ชานนฺติ, สพฺเพสมฺปิ วฏฺฏติ. ปฺจสุ หิ สหธมฺมิเกสุ ยสฺส วา ตสฺส วา อตฺถาย อุทฺทิสฺสกตํ สพฺเพสํ น กปฺปติ.

สเจ ปน โกจิ เอกํ ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส ปาณํ วธิตฺวา ตสฺส ปตฺตํ ปูเรตฺวา เทติ, โส จ อตฺตโน อตฺถาย กตภาวํ ชานํเยว คเหตฺวา อฺสฺส ภิกฺขุโน เทติ, โส ตํ ตสฺส สทฺธาย ปริภุฺชติ, กสฺส อาปตฺตีติ? ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺติ. ยฺหิ อุทฺทิสฺส กตํ, ตสฺส อภุตฺตตาย อนาปตฺติ, อิตรสฺส อชานนตาย. กปฺปิยมํสสฺส หิ ปฏิคฺคหเณ อาปตฺติ นตฺถิ, อุทฺทิสฺสกตฺจ อชานิตฺวา ภุตฺตสฺส ปจฺฉา ตฺวา อาปตฺติเทสนากิจฺจํ นาม นตฺถิ. อกปฺปิยมํสํ ปน อชานิตฺวา ภุตฺเตน ปจฺฉา ตฺวาปิ อาปตฺติ เทเสตพฺพา. อุทฺทิสฺสกตฺหิ ตฺวา ภุฺชโตว อาปตฺติ, อกปฺปิยมํสํ อชานิตฺวา ภุฺชนฺตสฺสปิ อาปตฺติเยว, ตสฺมา อาปตฺติภีรุเกน รูปํ สลฺลกฺเขนฺเตนปิ ปุจฺฉิตฺวาว มํสํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ. ปริโภคกาเล ‘‘ปุจฺฉิตฺวา ปริภุฺชิสฺสามี’’ติ วา คเหตฺวา ปุจฺฉิตฺวาว ปริภุฺชิตพฺพํ. กสฺมา? ทุวิฺเยฺยตฺตา. อจฺฉมํสมฺปิ หิ สูกรมํสสทิสํ โหติ, ทีปิมํสาทีนิ จ มิคมํสาทิสทิสานิ, ตสฺมา ปุจฺฉิตฺวา คหณเมว วตฺตนฺติ วทนฺติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

มจฺฉมํสวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๗. อนามาสวินิจฺฉยกถา

๔๐. อนามาสนฺติ น ปรามสิตพฺพํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๑) – ยสฺมา มาตา วา โหตุ ธีตา วา ภคินี วา, อิตฺถี นาม สพฺพาปิ พฺรหฺมจริยสฺส ปาริพนฺถิกาว อนามาสา จ, ตสฺมา ‘‘อยํ เม มาตา, อยํ เม ธีตา, อยํ เม ภคินี’’ติ เคหสฺสิตเปเมน อามสโตปิ ทุกฺกฏเมว วุตฺตํ. อิมํ ปน ภควโต อาณํ อนุสฺสรนฺเตน สเจปิ นทีโสเตน วุยฺหมานํ มาตรํ ปสฺสติ, เนว หตฺเถน ปรามสิตพฺพา, ปณฺฑิเตน ปน ภิกฺขุนา นาวา วา ผลกํ วา กทลิกฺขนฺโธ วา ทารุกฺขนฺโธ วา อุปสํหริตพฺโพ. ตสฺมึ อสติ กาสาวมฺปิ อุปสํหริตฺวา ปุรโต เปตพฺพํ, ‘‘เอตฺถ คณฺหาหี’’ติ ปน น วตฺตพฺพา. คหิเต ‘‘ปริกฺขารํ กฑฺฒามี’’ติ กฑฺฒนฺเตน คนฺตพฺพํ. สเจ ปน ภายติ, ปุรโต ปุรโต คนฺตฺวา ‘‘มา ภายี’’ติ สมสฺสาเสตพฺพา. สเจ ภายมานา ปุตฺตสฺส สหสา ขนฺเธ วา อภิรุหติ, หตฺเถ วา คณฺหาติ, น ‘‘อเปหิ มหลฺลิเก’’ติ นิทฺธุนิตพฺพา, ถลํ ปาเปตพฺพา. กทฺทเม ลคฺคายปิ กูเป ปติตายปิ เอเสว นโย. ตตฺราปิ หิ โยตฺตํ วา วตฺถํ วา ปกฺขิปิตฺวา หตฺเถน คหิตภาวํ ตฺวา อุทฺธริตพฺพา, น ตฺเวว อามสิตพฺพา.

น เกวลฺจ มาตุคามสฺส สรีรเมว อนามาสํ, นิวาสนปารุปนมฺปิ อาภรณภณฺฑมฺปิ อนฺตมโส ติณณฺฑุปกํ วา ตาลปณฺณมุทฺทิกํ วา อุปาทาย อนามาสเมว. ตฺจ โข นิวาสนปาวุรณํ ปิฬนฺธนตฺถาย ปิตเมว. สเจ ปน นิวาสนํ วา ปารุปนํ วา ปริวตฺเตตฺวา จีวรตฺถาย ปาทมูเล เปติ, วฏฺฏติ. อาภรณภณฺเฑสุ ปน สีสปสาธนทนฺตสูจิอาทิกปฺปิยภณฺฑํ ‘‘อิมํ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ เทม, คณฺหถา’’ติ ทียมานํ สิปาฏิกาสูจิอาทิอุปกรณตฺถาย คเหตพฺพํ. สุวณฺณรชตมุตฺตาทิมยํ ปน อนามาสเมว, ทียมานมฺปิ น คเหตพฺพํ. น เกวลฺจ เอตาสํ สรีรูปคเมว อนามาสํ, อิตฺถิสณฺาเนน กตํ กฏฺรูปมฺปิ ทนฺตรูปมฺปิ อยรูปมฺปิ โลหรูปมฺปิ ติปุรูปมฺปิ โปตฺถกรูปมฺปิ สพฺพรตนรูปมฺปิ อนฺตมโส ปิฏฺมยรูปมฺปิ อนามาสเมว. ปริโภคตฺถาย ปน ‘‘อิทํ ตุมฺหากํ โหตู’’ติ ลภิตฺวา เปตฺวา สพฺพรตนมยํ อวเสสํ ภินฺทิตฺวา อุปกรณารหํ อุปกรเณ, ปริโภคารหํ ปริโภเค อุปเนตุํ วฏฺฏติ.

๔๑. ยถา จ อิตฺถิรูปกํ, เอวํ สตฺตวิธํ ธฺมฺปิ อนามาสเมว. ตสฺมา เขตฺตมชฺเฌน คจฺฉนฺเตน ตตฺถชาตกมฺปิ ธฺผลํ น อามสนฺเตน คนฺตพฺพํ. สเจ ฆรทฺวาเร วา อนฺตรามคฺเค วา ธฺํ ปสาริตํ โหติ, ปสฺเสน จ มคฺโค อตฺถิ, น มทฺทนฺเตน คนฺตพฺพํ. คมนมคฺเค อสติ มคฺคํ อธิฏฺาย คนฺตพฺพํ. อนฺตรฆเร ธฺสฺส อุปริ อาสนํ ปฺเปตฺวา เทนฺติ, นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. เกจิ อาสนสาลาย ธฺํ อากิรนฺติ, สเจ สกฺกา โหติ หราเปตุํ, หราเปตพฺพํ. โน เจ, เอกมนฺตํ ธฺํ อมทฺทนฺเตน ปีกํ ปฺเปตฺวา นิสีทิตพฺพํ. สเจ โอกาโส น โหติ, มนุสฺสา ธฺมชฺเฌเยว ปฺเปตฺวา เทนฺติ, นิสีทิตพฺพํ. ตตฺถชาตกานิ มุคฺคมาสาทีนิ อปรณฺณานิปิ ตาลปนสาทีนิ วา ผลานิ กีฬนฺเตน น อามสิตพฺพานิ. มนุสฺเสหิ ราสิกเตสุปิ เอเสว นโย. อรฺเ ปน รุกฺขโต ปติตานิ ผลานิ ‘‘อนุปสมฺปนฺนานํ ทสฺสามี’’ติ คณฺหิตุํ วฏฺฏติ.

๔๒. มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตงฺโก มสารคลฺลนฺติ อิเมสุ ทสสุ รตเนสุ มุตฺตา อโธตา อวิทฺธา ยถาชาตาว อามสิตุํ วฏฺฏติ, เสสา อนามาสาติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘มุตฺตา โธตาปิ อโธตาปิ อนามาสา, ภณฺฑมูลตฺถาย จ สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ, กุฏฺโรคสฺส เภสชฺชตฺถาย ปน วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ. อนฺตมโส ชาติผลิกํ อุปาทาย สพฺโพปิ นีลปีตาทิวณฺณเภโท มณิ โธตวิทฺธวฏฺฏิโต อนามาโส, ยถาชาโต ปน อากรมุตฺโต ปตฺตาทิภณฺฑมูลตฺถํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ, ตมฺปิ มหาปจฺจริยํ ปฏิกฺขิตฺตํ. ปจิตฺวา กโต กาจมณิเยเวโก วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. เวฬุริเยปิ มณิสทิโสว วินิจฺฉโย.

สงฺโข ธมนสงฺโข จ โธตวิทฺโธ จ รตนมิสฺโส อนามาโส, ปานียสงฺโข โธโตปิ อโธโตปิ อามาโสว. เสสฺจ อฺชนาทิเภสชฺชตฺถายปิ ภณฺฑมูลตฺถายปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. สิลา โธตวิทฺธา รตนสํยุตฺตา มุคฺควณฺณาว อนามาสา, เสสา สตฺถกนิฆํสนาทิอตฺถาย คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ จ รตนสํยุตฺตาติ สุวณฺเณน สทฺธึ โยเชตฺวา ปจิตฺวา กตาติ วทนฺติ. ปวาฬํ โธตวิทฺธํ อนามาสํ, เสสํ อามาสฺจ ภณฺฑมูลตฺถฺจ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘โธตมฺปิ อโธตมฺปิ สพฺพํ อนามาสฺจ น จ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ.

รชตฺจ ชาตรูปฺจ กตภณฺฑมฺปิ อกตภณฺฑมฺปิ สพฺเพน สพฺพํ พีชโต ปฏฺาย อนามาสฺจ อสมฺปฏิจฺฉนียฺจ. อุตฺตรราชปุตฺโต กิร สุวณฺณเจติยํ การาเปตฺวา มหาปทุมตฺเถรสฺส เปเสสิ. เถโร ‘‘น กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปิ. เจติยฆเร สุวณฺณปทุมสุวณฺณพุพฺพุฬกาทีนิ โหนฺติ, เอตานิปิ อนามาสานิ. เจติยฆรโคปกา ปน รูปิยฉฑฺฑกฏฺาเน ิตา, ตสฺมา เตสํ เกฬาปยิตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. กุรุนฺธิยํ ปน ตมฺปิ ปฏิกฺขิตฺตํ, สุวณฺณเจติเย กจวรเมว หริตุํ วฏฺฏตีติ เอตฺตกเมว อนุฺาตํ. อารกูฏโลหมฺปิ ชาตรูปคติกเมว อนามาสนฺติ สพฺพฏฺกถาสุ วุตฺตํ. เสนาสนปริโภเค ปน สพฺโพปิ กปฺปิโย, ตสฺมา ชาตรูปรชตมยา สพฺเพปิ เสนาสนปริกฺขารา อามาสา, ภิกฺขูนํ ธมฺมวินยวณฺณนฏฺาเน รตนมณฺฑเป กโรนฺติ ผลิกตฺถมฺเภ รตนทามปฏิมณฺฑิเต, ตตฺถ สพฺพูปกรณานิ ภิกฺขูนํ ปฏิชคฺคิตุํ วฏฺฏนฺติ. โลหิตงฺกมสารคลฺลา โธตวิทฺธา อนามาสา, อิตเร อามาสา, ภณฺฑมูลตฺถาย จ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘โธตาปิ อโธตาปิ สพฺพโส อนามาสา, น จ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏนฺตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตํ.

๔๓. สพฺพํ อาวุธภณฺฑํ อนามาสํ, ภณฺฑมูลตฺถาย ทียมานมฺปิ น สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. สตฺถวณิชฺชา นาม น วฏฺฏติ. สุทฺธธนุทณฺโฑปิ ธนุชิยาปิ ปโตโทปิ โตมโรปิ องฺกุโสปิ อนฺตมโส วาสิผรสุอาทีนิปิ อาวุธสงฺเขเปน กตานิ อนามาสานิ. สเจ เกนจิ วิหาเร สตฺติ วา โตมโร วา ปิโต โหติ, วิหารํ ชคฺคนฺเตน ‘‘หรนฺตู’’ติ สามิกานํ เปเสตพฺพํ. สเจ น หรนฺติ, ตํ อจาเลนฺเตน วิหาโร ปฏิชคฺคิตพฺโพ. ยุทฺธภูมิยํ ปน ปติตํ อสึ วา สตฺตึ วา โตมรํ วา ทิสฺวา ปาสาเณน วา เกนจิ วา อสึ ภินฺทิตฺวา สตฺถกตฺถาย คเหตุํ วฏฺฏติ. อิตรานิปิ วิโยเชตฺวา กิฺจิ สตฺถกตฺถาย, กิฺจิ กตฺตรทณฺฑาทิอตฺถาย คเหตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อิทํ คณฺหถา’’ติ ทียมานํ ปน วินาเสตฺวา ‘‘กปฺปิยภณฺฑํ กริสฺสามี’’ติ สพฺพมฺปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ.

มจฺฉชาลปกฺขิชาลาทีนิปิ ผลกชาลิกาทีนิปิ สรปริตฺตาณานิปิ สพฺพานิ อนามาสานิ, ปริโภคตฺถาย ลพฺภมาเนสุ ปน ชาลํ ตาว ‘‘อาสนสฺส วา เจติยสฺส วา อุปริ พนฺธิสฺสามิ, ฉตฺตํ วา เวเสฺสามี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ. สรปริตฺตาณํ สพฺพมฺปิ ภณฺฑมูลตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. ปรูปโรธนิวารณฺหิ เอตํ, น อุปโรธกรนฺติ. ผลกํ ‘‘ทนฺตกฏฺภาชนํ กริสฺสามี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ.

จมฺมวินทฺธานิ วีณาเภริอาทีนิ อนามาสานิ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘เภริสงฺฆาโฏปิ วีณาสงฺฆาโฏปิ ตุจฺฉโปกฺขรมฺปิ มุขวฏฺฏิยํ อาโรปิตจมฺมมฺปิ วีณาทณฺฑโกปิ สพฺพํ อนามาส’’นฺติ วุตฺตํ. โอนหิตุํ วา โอนหาเปตุํ วา วาเทตุํ วา วาทาเปตุํ วา น ลพฺภติเยว. เจติยงฺคเณ ปูชํ กตฺวา มนุสฺเสหิ ฉฑฺฑิตํ ทิสฺวาปิ อจาเลตฺวาว อนฺตรนฺตเร สมฺมชฺชิตพฺพํ, กจวรฉฑฺฑนกาเล ปน กจวรนิยาเมเนว หริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ภณฺฑมูลตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุมฺปิ วฏฺฏติ, ปริโภคตฺถาย ลพฺภมาเนสุ ปน วีณาโทณิกฺจ เภริโปกฺขรฺจ ทนฺตกฏฺภาชนํ กริสฺสาม, จมฺมํ สตฺถกโกสกนฺติ เอวํ ตสฺส ตสฺส ปริกฺขารสฺส อุปกรณตฺถาย คเหตฺวา ตถา ตถา กาตุํ วฏฺฏติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

อนามาสวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๘. อธิฏฺานวิกปฺปนวินิจฺฉยกถา

๔๔. อธิฏฺานวิกปฺปเนสุ ปน – อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติจีวรํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ, วสฺสิกสาฏิกํ วสฺสานํ จาตุมาสํ อธิฏฺาตุํ ตโต ปรํ วิกปฺเปตุํ, นิสีทนํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ, ปจฺจตฺถรณํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ, กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทึ ยาว อาพาธา อธิฏฺาตุํ ตโต ปรํ วิกปฺเปตุํ, มุขปุฺฉนโจฬํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ, ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘) วจนโต ติจีวราทินิยาเมเนว อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชิตุกอาเมน ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติอาทินา นามํ วตฺวา อธิฏฺาตพฺพํ. วิกปฺเปนฺเตน ปน นามํ อคฺคเหตฺวาว ‘‘อิมํ จีวรํ ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วตฺวา วิกปฺเปตพฺพํ. ตตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) ติจีวรํ อธิฏฺหนฺเตน รชิตฺวา กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา ปมาณยุตฺตเมว อธิฏฺาตพฺพํ. อสฺส ปมาณํ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน สุคตจีวรโต อูนกํ วฏฺฏติ, ลามกปริจฺเฉเทน สงฺฆาฏิยา อุตฺตราสงฺคสฺส จ ทีฆโต มุฏฺิปฺจกํ, ติริยํ มุฏฺิตฺติกํ ปมาณํ วฏฺฏติ. อนฺตรวาสโก ทีฆโส มุฏฺิปฺจโก, ติริยํ ทฺวิหตฺโถปิ วฏฺฏติ. ปารุปเนนปิ หิ สกฺกา นาภึ ปฏิจฺฉาเทตุนฺติ. วุตฺตปฺปมาณโต ปน อติเรกฺจ อูนกฺจ ‘‘ปริกฺขารโจฬก’’นฺติ อธิฏฺาตพฺพํ.

ตตฺถ ยสฺมา ‘‘ทฺเว จีวรสฺส อธิฏฺานา กาเยน วา อธิฏฺเติ, วาจาย วา อธิฏฺเตี’’ติ (ปริ. ๓๒๒) วุตฺตํ, ตสฺมา ปุราณสงฺฆาฏึ ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ ปจฺจุทฺธริตฺวา นวํ สงฺฆาฏึ หตฺเถน คเหตฺวา ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติ จิตฺเตน อาโภคํ กตฺวา กายวิการํ กโรนฺเตน กาเยน อธิฏฺาตพฺพา. อิทํ กาเยน อธิฏฺานํ, ตํ เยน เกนจิ สรีราวยเวน อผุสนฺตสฺส น วฏฺฏติ. วาจาย อธิฏฺาเน ปน วจีเภทํ กตฺวา วาจาย อธิฏฺาตพฺพา. ตตฺร ทุวิธํ อธิฏฺานํ – สเจ หตฺถปาเส โหติ, ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา. อถ อนฺโตคพฺเภ วา อุปริปาสาเท วา สามนฺตวิหาเร วา โหติ, ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘เอตํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา. เอส นโย อุตฺตราสงฺเค อนฺตรวาสเก จ. นามมตฺตเมว หิ วิเสโส, ตสฺมา สพฺพานิ สงฺฆาฏึ อุตฺตราสงฺคํ อนฺตรวาสกนฺติ เอวํ อตฺตโน นาเมเนว อธิฏฺาตพฺพานิ. สเจ อธิฏฺหิตฺวา ปิตวตฺเถหิ สงฺฆาฏิอาทีนิ กโรติ, นิฏฺิเต รชเน จ กปฺเป จ ‘‘อิมํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปุน อธิฏฺาตพฺพานิ. อธิฏฺิเตน ปน สทฺธึ มหนฺตตรเมว ทุติยปฏฺฏํ วา ขณฺฑํ วา สิพฺพนฺเตน ปุน อธิฏฺาตพฺพํ. สเม วา ขุทฺทเก วา อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ.

ติจีวรํ ปน ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติ, น วฏฺฏตีติ? มหาปทุมตฺเถโร กิราห ‘‘ติจีวรํ ติจีวรเมว อธิฏฺาตพฺพํ, สเจ ปริกฺขารโจฬาธิฏฺานํ ลเภยฺย, อุโทสิตสิกฺขาปเท ปริหาโร นิรตฺถโก ภเวยฺยา’’ติ. เอวํ วุตฺเต กิร อวเสสา ภิกฺขู อาหํสุ ‘‘ปริกฺขารโจฬมฺปิ ภควตาว ‘อธิฏฺาตพฺพ’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา วฏฺฏตี’’ติ. มหาปจฺจริยมฺปิ วุตฺตํ ‘‘ปริกฺขารโจฬํ นาม ปาเฏกฺกํ นิธานมุขเมตํ. ติจีวรํ ‘ปริกฺขารโจฬ’นฺติ อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, อุโทสิตสิกฺขาปเท (ปารา. ๔๗๑ อาทโย) ปน ติจีวรํ อธิฏฺหิตฺวา ปริหรนฺตสฺส ปริหาโร วุตฺโต’’ติ. อุภโตวิภงฺคภาณโก ปุณฺณวาลิกวาสี มหาติสฺสตฺเถโรปิ กิราห ‘‘มยํ ปุพฺเพ มหาเถรานํ อสฺสุมฺหา ‘อรฺวาสิโน ภิกฺขู รุกฺขสุสิราทีสุ จีวรํ เปตฺวา ปธานํ ปทหนตฺถาย คจฺฉนฺติ, สามนฺตวิหาเร ธมฺมสฺสวนตฺถาย คตานฺจ เตสํ สูริเย อุฏฺิเต สามเณรา วา ทหรภิกฺขู วา ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, ตสฺมา สุขปริโภคตฺถํ ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏตี’’’ติ. มหาปจฺจริยมฺปิ วุตฺตํ ‘‘ปุพฺเพ อารฺิกา ภิกฺขู อพทฺธสีมาย ทุปฺปริหารนฺติ ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬเมว อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชึสู’’ติ.

๔๕. วสฺสิกสาฏิกา อนติริตฺตปฺปมาณา นามํ คเหตฺวา วุตฺตนเยเนว จตฺตาโร วสฺสิเก มาเส อธิฏฺาตพฺพา, ตโต ปรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพา. วณฺณเภทมตฺตรตฺตาปิ เจสา วฏฺฏติ, ทฺเว ปน น วฏฺฏนฺติ. นิสีทนํ วุตฺตนเยน อธิฏฺาตพฺพเมว, ตฺจ โข ปมาณยุตฺตํ เอกเมว, ทฺเว น วฏฺฏนฺติ. ปจฺจตฺถรณมฺปิ อธิฏฺาตพฺพเมว, ตํ ปน มหนฺตมฺปิ วฏฺฏติ, เอกมฺปิ วฏฺฏติ, พหูนิปิ วฏฺฏนฺติ, นีลมฺปิ ปีตกมฺปิ สทสมฺปิ ปุปฺผทสมฺปีติ สพฺพปฺปการํ วฏฺฏติ. กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ ยาว อาพาโธ อตฺถิ, ตาว ปมาณิกา อธิฏฺาตพฺพา. อาพาเธ วูปสนฺเต ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพา, เอกาว วฏฺฏติ. มุขปุฺฉนโจฬํ อธิฏฺาตพฺพเมว, ยาว เอกํ โธวียติ, ตาว อฺํ ปริโภคตฺถาย อิจฺฉิตพฺพนฺติ ทฺเวปิ วฏฺฏนฺติ. อปเร ปน เถรา ‘‘นิธานมุขเมตํ, พหูนิปิ วฏฺฏนฺตี’’ติ วทนฺติ. ปริกฺขารโจเฬ คณนา นตฺถิ, ยตฺตกํ อิจฺฉติ, ตตฺตกํ อธิฏฺาตพฺพเมว. ถวิกาปิ ปริสฺสาวนมฺปิ วิกปฺปนูปคปจฺฉิมจีวรปฺปมาณํ ‘‘ปริกฺขารโจฬ’’นฺติ อธิฏฺาตพฺพเมว. ตสฺส ปมาณํ ทีฆโต ทฺเว วิทตฺถิโย ติริยํ วิทตฺถิ, ตํ ปน ทีฆโต วฑฺฒกีหตฺถปฺปมาณํ, วิตฺถารโต ตโต อุปฑฺฒปฺปมาณํ โหติ. ตตฺรายํ ปาฬิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อายาเมน อฏฺงฺคุลํ สุคตงฺคุเลน จตุรงฺคุลวิตฺถตํ ปจฺฉิมํ จีวรํ วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘). พหูนิปิ เอกโต กตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ ปริกฺขารโจฬานิ อธิฏฺามี’’ติ อธิฏฺาตุมฺปิ วฏฺฏติเยว. เภสชฺชนวกมฺมมาตาปิตุอาทีนํ อตฺถาย เปนฺเตน อนธิฏฺิเตปิ นตฺถิ อาปตฺติ. มฺจภิสิ ปีภิสิ พิมฺโพหนํ ปาวาโร โกชโวติ เอเตสุ ปน เสนาสนปริกฺขารตฺถาย ทินฺนปจฺจตฺถรเณ จ อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิเยว.

สเจ ปน (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๓๖-๓๘) าตกปวาริตฏฺานโต สุตฺตํ ลภิตฺวา าตกปวาริเตเนว ตนฺตวาเยน อฺเน วา มูลํ ทตฺวา จีวรํ วายาเปติ, วายาปนปจฺจยา อนาปตฺติ. ทสาหาติกฺกมนปจฺจยา ปน อาปตฺตึ รกฺขนฺเตน วิกปฺปนุปคปฺปมาณมตฺเต วีเต ตนฺเต ิตํเยว อธิฏฺาตพฺพํ. ทสาหาติกฺกเมน นิฏฺาปิยมานฺหิ นิสฺสคฺคิยํ ภเวยฺยาติ. าตกาทีหิ ตนฺตํ อาโรปาเปตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ, ภนฺเต, อิทํ จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ นิยฺยาติเตปิ เอเสว นโย.

สเจ ตนฺตวาโย เอวํ ปโยชิโต วา สยํ ทาตุกาโม วา หุตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ จีวรํ อสุกทิวเส นาม วายิตฺวา เปสฺสามี’’ติ วทติ, ภิกฺขุ จ เตน ปริจฺฉินฺนทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกาเมติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน ตนฺตวาโย ‘‘อหํ ตุมฺหากํ จีวรํ วายิตฺวา สาสนํ เปเสสฺสามี’’ติ วตฺวา ตเถว กโรติ, เตน เปสิตภิกฺขุ ปน ตสฺส ภิกฺขุโน น อาโรเจติ, อฺโ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา ‘‘ตุมฺหากํ, ภนฺเต, จีวรํ นิฏฺิต’’นฺติ อาโรเจติ, เอตสฺส อาโรจนํ น ปมาณํ. ยทา ปน เตน เปสิโตเยว อาโรเจติ, ตสฺส วจนํ สุตทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ.

สเจ ตนฺตวาโย ‘‘อหํ ตุมฺหากํ จีวรํ วายิตฺวา กสฺสจิ หตฺเถ ปหิณิสฺสามี’’ติ วตฺวา ตเถว กโรติ, จีวรํ คเหตฺวา คตภิกฺขุ ปน อตฺตโน ปริเวเณ เปตฺวา ตสฺส น อาโรเจติ, อฺโ โกจิ ภณติ ‘‘อปิ, ภนฺเต, อธุนา อาภตํ จีวรํ สุนฺทร’’นฺติ. กุหึ, อาวุโส, จีวรนฺติ. อิตฺถนฺนามสฺส หตฺเถ เปสิตนฺติ. เอตสฺสปิ วจนํ น ปมาณํ. ยทา ปน โส ภิกฺขุ จีวรํ เทติ, ลทฺธทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน วายาปนมูลํ อทินฺนํ โหติ, ยาว กากณิกมตฺตมฺปิ อวสิฏฺํ, ตาว รกฺขติ.

๔๖. อธิฏฺิตจีวรํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) ปน ปริภุฺชโต กถํ อธิฏฺานํ วิชหตีติ? อฺสฺส ทาเนน อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณน วิสฺสาสคฺคาเหน หีนายาวตฺตเนน สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน กาลกิริยาย ลิงฺคปริวตฺตเนน ปจฺจุทฺธรเณน ฉิทฺทภาเวนาติ อิเมหิ นวหิ การเณหิ วิชหติ. ตตฺถ ปุริเมหิ อฏฺหิ สพฺพจีวรานิ อธิฏฺานํ วิชหนฺติ, ฉิทฺทภาเวน ปน ติจีวรสฺเสว สพฺพฏฺกถาสุ อธิฏฺานวิชหนํ วุตฺตํ, ตฺจ นขปิฏฺิปฺปมาเณน ฉิทฺเทน. ตตฺถ นขปิฏฺิปฺปมาณํ กนิฏฺงฺคุลินขวเสน เวทิตพฺพํ, ฉิทฺทฺจ วินิวิทฺธฉิทฺทเมว. ฉิทฺทสฺส หิ อพฺภนฺตเร เอกตนฺตุ เจปิ อจฺฉินฺโน โหติ, รกฺขติ. ตตฺถ สงฺฆาฏิยา จ อุตฺตราสงฺคสฺส จ ทีฆนฺตโต วิทตฺถิปฺปมาณสฺส, ติริยนฺตโต อฏฺงฺคุลปฺปมาณสฺส ปเทสสฺส โอรโต ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทติ, อนฺตรวาสกสฺส ปน ทีฆนฺตโต วิทตฺถิปฺปมาณสฺเสว, ติริยนฺตโต จตุรงฺคุลปฺปมาณสฺส ปเทสสฺส โอรโต ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทติ, ปรโต น ภินฺทติ, ตสฺมา ชาเต ฉิทฺเท ติจีวรํ อติเรกจีวรฏฺาเน ติฏฺติ, สูจิกมฺมํ กตฺวา ปุน อธิฏฺาตพฺพํ. โย ปน ทุพฺพลฏฺาเน ปมํ อคฺคฬํ ทตฺวา ปจฺฉา ทุพฺพลฏฺานํ ฉินฺทิตฺวา อปเนติ, อธิฏฺานํ น ภิชฺชติ. มณฺฑลปริวตฺตเนปิ เอเสว นโย. ทุปฏฺฏสฺส เอกสฺมึ ปฏเล ฉิทฺเท วา ชาเต คฬิเต วา อธิฏฺานํ น ภิชฺชติ, ขุทฺทกํ จีวรํ มหนฺตํ กโรติ, มหนฺตํ วา ขุทฺทกํ กโรติ, อธิฏฺานํ น ภิชฺชติ. อุโภ โกฏิโย มชฺเฌ กโรนฺโต สเจ ปมํ ฉินฺทิตฺวา ปจฺฉา ฆเฏติ, อธิฏฺานํ ภิชฺชติ. อถ ฆเฏตฺวา ฉินฺทติ, น ภิชฺชติ. รชเกหิ โธวาเปตฺวา เสตํ การาเปนฺตสฺสปิ อธิฏฺานํ อธิฏฺานเมวาติ. อยํ ตาว อธิฏฺาเน วินิจฺฉโย.

๔๗. วิกปฺปเน ปน ทฺเว วิกปฺปนา สมฺมุขาวิกปฺปนา ปรมฺมุขาวิกปฺปนา จ. กถํ สมฺมุขาวิกปฺปนา โหติ? จีวรานํ เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ‘‘อิมํ จีวร’’นฺติ วา ‘‘อิมานิ จีวรานี’’ติ วา ‘‘เอตํ จีวร’’นฺติ วา ‘‘เอตานิ จีวรานี’’ติ วา วตฺวา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วตฺตพฺพํ, อยเมกา สมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริภุฺชิตุํ ปน วิสฺสชฺเชตุํ วา อธิฏฺาตุํ วา น วฏฺฏติ. ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ, มยฺหํ สนฺตกานิ ปริภุฺช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ เอวํ ปน วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.

อปโร นโย – ตเถว จีวรานํ เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ตสฺเสว ภิกฺขุโน สนฺติเก ‘‘อิมํ จีวร’’นฺติ วา ‘‘อิมานิ จีวรานี’’ติ วา ‘‘เอตํ จีวร’’นฺติ วา ‘‘เอตานิ จีวรานี’’ติ วา วตฺวา ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ อฺตรสฺส อตฺตนา อภิรุจิตสฺส ยสฺส กสฺสจิ นามํ คเหตฺวา ‘‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน วิกปฺเปมี’’ติ วา ‘‘ติสฺสาย ภิกฺขุนิยา, ติสฺสาย สิกฺขมานาย, ติสฺสสฺส สามเณรสฺส, ติสฺสาย สามเณริยา วิกปฺเปมี’’ติ วา วตฺตพฺพํ, อยํ อปราปิ สมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริโภคาทีสุ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. เตน ปน ภิกฺขุนา ‘‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน สนฺตกํ…เป… ติสฺสาย สามเณริยา สนฺตกํ ปริภุฺช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.

กถํ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา โหติ? จีวรานํ ตเถว เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ‘‘อิมํ จีวร’’นฺติ วา ‘‘อิมานิ จีวรานี’’ติ วา ‘‘เอตํ จีวร’’นฺติ วา ‘‘เอตานิ จีวรานี’’ติ วา วตฺวา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺปนตฺถาย ทมฺมี’’ติ วตฺตพฺพํ. เตน วตฺตพฺโพ ‘‘โก เต มิตฺโต วา สนฺทิฏฺโ วา’’ติ. ตโต อิตเรน ปุริมนเยเนว ‘‘ติสฺโส ภิกฺขู’’ติ วา…เป… ‘‘ติสฺสา สามเณรี’’ติ วา วตฺตพฺพํ. ปุน เตน ภิกฺขุนา ‘‘อหํ ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน ทมฺมี’’ติ วา…เป… ‘‘ติสฺสาย สามเณริยา ทมฺมี’’ติ วา วตฺตพฺพํ, อยํ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริโภคาทีสุ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. เตน ปน ภิกฺขุนา ทุติยสมฺมุขาวิกปฺปนายํ วุตฺตนเยเนว ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส สนฺตกํ ปริภุฺช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.

ทฺวินฺนํ วิกปฺปนานํ กึ นานากรณํ? สมฺมุขาวิกปฺปนายํ สยํ วิกปฺเปตฺวา ปเรน ปจฺจุทฺธราเปติ, ปรมฺมุขาวิกปฺปนายํ ปเรเนว วิกปฺปาเปตฺวา ปเรเนว ปจฺจุทฺธราเปติ, อิทเมตฺถ นานากรณํ. สเจ ปน ยสฺส วิกปฺเปติ, โส ปฺตฺติโกวิโท น โหติ, น ชานาติ ปจฺจุทฺธริตุํ, ตํ จีวรํ คเหตฺวา อฺสฺส พฺยตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุน วิกปฺเปตฺวา ปเรน ปจฺจุทฺธราเปตพฺพํ. วิกปฺปิตวิกปฺปนา นาเมสา วฏฺฏติ. เอวํ ตาว จีวเร อธิฏฺานวิกปฺปนานโย เวทิตพฺโพ.

๔๘. ปตฺเต ปน อยํ นโย – ปตฺตํ อธิฏฺหนฺเตน อุกฺกฏฺมชฺฌิโมมกานํ อฺตโร ปมาณยุตฺโตว อธิฏฺาตพฺโพ. ตสฺส ปมาณํ ‘‘อฑฺฒาฬฺหโกทนํ คณฺหาตี’’ติอาทินา (ปารา. ๖๐๒) นเยน ปาฬิยํ วุตฺตํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒ อาทโย) – อนุปหตปุราณสาลิตณฺฑุลานํ สุโกฏฺฏิตปริสุทฺธานํ ทฺเว มคธนาฬิโย คเหตฺวา เตหิ ตณฺฑุเลหิ อนุตฺตณฺฑุลมกิลินฺนมปิณฺฑิตํ สุวิสทํ กุนฺทมกุฬราสิสทิสํ อวสฺสาวิโตทนํ ปจิตฺวา นิรวเสสํ ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา ตสฺส โอทนสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาโณ นาติฆโน นาติตนุโก หตฺถหาริโย สพฺพสมฺภารสงฺขโต มุคฺคสูโป ปกฺขิปิตพฺโพ, ตโต อาโลปสฺส อาโลปสฺส อนุรูปํ ยาวจริมาโลปปฺปโหนกํ มจฺฉมํสาทิพฺยฺชนํ ปกฺขิปิตพฺพํ, สปฺปิเตลตกฺกรสกฺชิกาทีนิ ปน คณนูปคานิ น โหนฺติ. ตานิ หิ โอทนคติกานิ โหนฺติ, เนว หาเปตุํ, น วฑฺเฒตุํ สกฺโกนฺติ. เอวเมตํ สพฺพมฺปิ ปกฺขิตฺตํ สเจ ปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิยา เหฏฺิมราชิสมํ ติฏฺติ, สุตฺเตน วา หีเรน วา ฉินฺทนฺตสฺส สุตฺตสฺส วา หีรสฺส วา เหฏฺิมนฺตํ ผุสติ, อยํ อุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ อติกฺกมฺม ถูปีกตํ ติฏฺติ, อยํ อุกฺกฏฺโมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ น สมฺปาปุณาติ อนฺโตคธเมว โหติ, อยํ อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต.

อุกฺกฏฺโต อุปฑฺฒปฺปมาโณ มชฺฌิโม นาม ปตฺโต. มชฺฌิมโต อุปฑฺฒปฺปมาโณ โอมโก. ตสฺมา สเจ มคธนาฬิยา นาฬิโกทนาทิสพฺพมฺปิ ปกฺขิตฺตํ วุตฺตนเยเนว เหฏฺิมราชิสมํ ติฏฺติ, อยํ มชฺฌิโม นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ อติกฺกมฺม ถูปีกตํ ติฏฺติ, อยํ มชฺฌิโมมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ น สมฺปาปุณาติ อนฺโตคธเมว โหติ, อยํ มชฺฌิมุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต. สเจ มคธนาฬิยา อุปฑฺฒนาฬิโกทนาทิสพฺพมฺปิ ปกฺขิตฺตํ เหฏฺิมราชิสมํ ติฏฺติ, อยํ โอมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ อติกฺกมฺม ถูปีกตํ ติฏฺติ, อยํ โอมโกมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ น สมฺปาปุณาติ อนฺโตคธเมว โหติ, อยํ โอมกุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต. เอวเมเต นว ปตฺตา. เตสุ ทฺเว อปตฺตา อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโ จ โอมโกมโก จาติ. ตสฺมา เอเต ภาชนปริโภเคน ปริภุฺชิตพฺพา, น อธิฏฺานูปคา น วิกปฺปนูปคา. อิตเร ปน สตฺต อธิฏฺหิตฺวา วา วิกปฺเปตฺวา วา ปริภุฺชิตพฺพา.

ปมาณยุตฺตานมฺปิ เอเตสํ อธิฏฺานวิกปฺปนูปคตฺตํ เอวํ เวทิตพฺพํ – อโยปตฺโต ปฺจหิ ปาเกหิ, มตฺติกาปตฺโต ทฺวีหิ ปาเกหิ ปกฺโก อธิฏฺานูปโค. อุโภปิ ยํ มูลํ ทาตพฺพํ, ตสฺมึ ทินฺเนเยว. สเจ เอโกปิ ปาโก อูโน โหติ, กากณิกมตฺตมฺปิ วา มูลํ อทินฺนํ, น อธิฏฺานูปโค. สเจ ปตฺตสามิโก วทติ ‘‘ยทา ตุมฺหากํ มูลํ ภวิสฺสติ, ตทา ทสฺสถ อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชถา’’ติ, เนว อธิฏฺานูปโค โหติ, ปากสฺส หิ อูนตฺตา ปตฺตสงฺขฺยํ น คจฺฉติ, มูลสฺส สกลสฺส วา เอกเทสสฺส วา อทินฺนตฺตา สกภาวํ น อุเปติ, อฺสฺเสว สนฺตโก โหติ, ตสฺมา ปาเก จ มูเล จ สุนิฏฺิเตเยว อธิฏฺานูปโค โหติ. โย อธิฏฺานูปโค, สฺเวว วิกปฺปนูปโค. โส หตฺถํ อาคโตปิ อนาคโตปิ อธิฏฺาตพฺโพ วิกปฺเปตพฺโพ วา. ยทิ หิ ปตฺตการโก มูลํ ลภิตฺวา สยํ วา ทาตุกาโม หุตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต ตุมฺหากํ ปตฺตํ กตฺวา อสุกทิวเส นาม ปจิตฺวา เปสฺสามี’’ติ วทติ, ภิกฺขุ จ เตน ปริจฺฉินฺนทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกาเมติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน ปตฺตการโก ‘‘อหํ ตุมฺหากํ ปตฺตํ กตฺวา ปจิตฺวา สาสนํ เปเสสฺสามี’’ติ วตฺวา ตเถว กโรติ, เตน เปสิตภิกฺขุ ปน ตสฺส ภิกฺขุโน น อาโรเจติ, อฺโ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา ‘‘ตุมฺหากํ, ภนฺเต, ปตฺโต นิฏฺิโต’’ติ อาโรเจติ, เอตสฺส อาโรจนํ น ปมาณํ. ยทา ปน เตน เปสิโตเยว อาโรเจติ, ตสฺส วจนํ สุตทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน ปตฺตการโก ‘‘อหํ ตุมฺหากํ ปตฺตํ กตฺวา ปจิตฺวา กสฺสจิ หตฺเถ ปหิณิสฺสามี’’ติ วตฺวา ตเถว กโรติ, ปตฺตํ คเหตฺวา อาคตภิกฺขุ ปน อตฺตโน ปริเวเณ เปตฺวา ตสฺส น อาโรเจติ, อฺโ โกจิ ภณติ ‘‘อปิ, ภนฺเต, อธุนา อาภโต ปตฺโต สุนฺทโร’’ติ. ‘‘กุหึ, อาวุโส, ปตฺโต’’ติ? ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส หตฺเถ เปสิโต’’ติ. เอตสฺสปิ วจนํ น ปมาณํ. ยทา ปน โส ภิกฺขุ ปตฺตํ เทติ, ลทฺธทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, ตสฺมา ทสาหํ อนติกฺกาเมตฺวาว อธิฏฺาตพฺโพ วิกปฺเปตพฺโพ วา.

ตตฺถ ทฺเว ปตฺตสฺส อธิฏฺานา กาเยน วา อธิฏฺาติ, วาจาย วา อธิฏฺาติ. เตสํ วเสน อธิฏฺหนฺเตน ‘‘อิมํ ปตฺตํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ วา ‘‘เอตํ ปตฺตํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ วา วตฺวา เอวํ สมฺมุเข วา ปรมฺมุเข วา ิตํ ปุราณปตฺตํ ปจฺจุทฺธริตฺวา อฺสฺส วา ทตฺวา นวํ ปตฺตํ ยตฺถ กตฺถจิ ิตํ หตฺเถน ปรามสิตฺวา ‘‘อิทํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ จิตฺเตน อาโภคํ กตฺวา กายวิการํ กโรนฺเตน กาเยน วา อธิฏฺาตพฺโพ. วจีเภทํ กตฺวา วาจาย วา อธิฏฺาภพฺโพ. ตตฺร ทุวิธํ อธิฏฺานํ – สเจ หตฺถปาเส โหติ, ‘‘อิมํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา, อถ อนฺโตคพฺเภ วา อุปริปาสาเท วา สามนฺตวิหาเร วา โหติ, ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘เอตํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา. อธิฏฺหนฺเตน ปน เอกเกน อธิฏฺาตุมฺปิ วฏฺฏติ, อฺสฺส สนฺติเก อธิฏฺาตุมฺปิ วฏฺฏติ. อฺสฺส สนฺติเก อยมานิสํโส – สจสฺส ‘‘อธิฏฺิโต นุ โข เม, โน’’ติ วิมติ อุปฺปชฺชติ, อิตโร สาเรตฺวา วิมตึ ฉินฺทิสฺสตีติ. สเจ โกจิ ทส ปตฺเต ลภิตฺวา สพฺเพ อตฺตนาว ปริภุฺชิตุกาโม โหติ, น สพฺเพ อธิฏฺาตพฺพา, เอกํ ปตฺตํ อธิฏฺาย ปุนทิวเส ตํ ปจฺจุทฺธริตฺวา อฺโ อธิฏฺาตพฺโพ. เอเตเนว อุปาเยน วสฺสสตมฺปิ ปริหริตุํ สกฺกา.

เอวํ อปฺปมตฺตสฺส สิยา อธิฏฺานวิชหนนฺติ? สิยา. สเจ หิ สยํ ปตฺตํ อฺสฺส เทติ, วิพฺภมติ วา, สิกฺขํ วา ปจฺจกฺขาติ, กาลํ วา กโรติ, ลิงฺคํ วาสฺส ปริวตฺตติ, ปจฺจุทฺธรติ วา, ปตฺเต วา ฉิทฺทํ โหติ, อธิฏฺานํ วิชหติ. วุตฺตฺเจตํ –

‘‘ทินฺนวิพฺภนฺตปจฺจกฺขา, กาลกิริยากเตน จ;

ลิงฺคปจฺจุทฺธรา เจว, ฉิทฺเทน ภวติ สตฺตม’’นฺติ. (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๘) –

โจรคหณวิสฺสาสคฺคาเหหิปิ วิชหติเยว. กิตฺตเกน ฉิทฺเทน อธิฏฺานํ ภิชฺชติ? เยน กงฺคุสิตฺถํ นิกฺขมติ เจว ปวิสติ จ. อิทฺหิ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ลามกธฺสิตฺถํ. ตสฺมึ ฉิทฺเท อยจุณฺเณน วา อาณิยา วา ปฏิปากติเก กเต ทสาหพฺภนฺตเร ปุน อธิฏฺาตพฺโพ. อยํ ตาเวตฺถ อธิฏฺาเน วินิจฺฉโย.

๔๙. วิกปฺปเน ปน ทฺเว วิกปฺปนา สมฺมุขาวิกปฺปนา เจว ปรมฺมุขาวิกปฺปนา จ. กถํ สมฺมุขาวิกปฺปนา โหติ? ปตฺตานํ เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ‘‘อิมํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘อิเม ปตฺเต’’ติ วา ‘‘เอตํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘เอเต ปตฺเต’’ติ วา วตฺวา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วตฺตพฺพํ, อยเมกา สมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริภุฺชิตุํ ปน วิสฺสชฺเชตุํ วา อธิฏฺาตุํ วา น วฏฺฏติ. ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ ปริภุฺช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ เอวํ ปน วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.

อปโร นโย – ตเถว ปตฺตานํ เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ตสฺเสว ภิกฺขุโน สนฺติเก ‘‘อิมํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘อิเม ปตฺเต’’ติ วา ‘‘เอตํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘เอเต ปตฺเต’’ติ วา วตฺวา ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ อฺตรสฺส อตฺตนา อภิรุจิตสฺส ยสฺส กสฺสจิ นามํ คเหตฺวา ‘‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน วิกปฺเปมี’’ติ วา ‘‘ติสฺสาย ภิกฺขุนิยา, สิกฺขมานาย, สามเณรสฺส, ติสฺสาย สามเณริยา วิกปฺเปมี’’ติ วา วตฺตพฺพํ, อยํ อปราปิ สมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ. ปริโภคาทีสุ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. เตน ปน ภิกฺขุนา ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน สนฺตกํ…เป… ติสฺสาย สามเณริยา สนฺตกํ ปริภุฺช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหีติ วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.

กถํ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา โหติ? ปตฺตานํ ตเถว เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ‘‘อิมํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘อิเม ปตฺเต’’ติ วา ‘‘เอตํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘เอเต ปตฺเต’’ติ วา วตฺวา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺปนตฺถาย ทมฺมี’’ติ วตฺตพฺพํ. เตน วตฺตพฺโพ ‘‘โก เต มิตฺโต วา สนฺทิฏฺโ วา’’ติ. ตโต อิตเรน ปุริมนเยน ‘‘ติสฺโส ภิกฺขู’’ติ วา…เป… ‘‘ติสฺสา สามเณรี’’ติ วา วตฺตพฺพํ. ปุน เตน ภิกฺขุนา ‘‘อหํ ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน ทมฺมี’’ติ วา…เป… ‘‘ติสฺสาย สามเณริยา ทมฺมี’’ติ วา วตฺตพฺพํ, อยํ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริโภคาทีสุ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. เตน ปน ภิกฺขุนา ทุติยสมฺมุขาวิกปฺปนายํ วุตฺตนเยเนว ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส สนฺตกํ ปริภุฺช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ. อยํ วิกปฺปเน นโย.

๕๐. เอวํ อธิฏฺหิตฺวา วิกปฺเปตฺวา จ ปริภุฺชนฺเตน ปตฺเต ภินฺเน กึ กาตพฺพนฺติ? ยสฺส ปตฺเต ราชิมุขวฏฺฏิโต เหฏฺา ทฺวงฺคุลปฺปมาณา น โหติ เตน น กิฺจิ กาตพฺพํ. ยสฺส (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๒-๓) ปน ตาทิสา เอกาปิ ราชิ โหติ, เตน ตสฺสา ราชิยา เหฏฺิมปริยนฺเต ปตฺตเวธเกน วิชฺฌิตฺวา ปจิตฺวา สุตฺตรชฺชุกมกจิรชฺชุกาทีหิ วา ติปุสุตฺตเกน วา พนฺธิตฺวา ตํ พนฺธนํ อามิสสฺส อลคฺคนตฺถํ ติปุปฏฺเฏน วา เกนจิ วา พทฺธสิเลเสน ปฏิจฺฉาเทตพฺพํ. โส จ ปตฺโต อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชิตพฺโพ. สุขุมํ วา ฉิทฺทํ กตฺวา พนฺธิตพฺโพ. สุทฺเธหิ ปน มธุกสิตฺถกลาขาสชฺชุรสาทีหิ พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ, ผาณิตํ ฌาเปตฺวา ปาสาณจุณฺเณน พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. มุขวฏฺฏิสมีเป ปน ปตฺตเวธเกน วิชฺฌิยมาโน กปาลสฺส พหลตฺตา ภิชฺชติ, ตสฺมา เหฏฺา วิชฺฌิตพฺโพ. ยสฺส ปน ทฺเว ราชิโย, เอกาเยว วา จตุรงฺคุลา, ตสฺส ทฺเว พนฺธนานิ ทาตพฺพานิ. ยสฺส ติสฺโส, เอกาเยว วา ฉฬงฺคุลา, ตสฺส ตีณิ. ยสฺส จตสฺโส, เอกาเยว วา อฏฺงฺคุลา, ตสฺส จตฺตาริ. ยสฺส ปฺจ, เอกาเยว วา ทสงฺคุลา, โส พทฺโธปิ อพทฺโธปิ อปตฺโตเยว, อฺโ วิฺาเปตพฺโพ. เอส ตาว มตฺติกาปตฺเต วินิจฺฉโย.

อโยปตฺเต ปน สเจปิ ปฺจ วา อติเรกานิ วา ฉิทฺทานิ โหนฺติ, ตานิ จ อยจุณฺเณน วา อาณิยา วา โลหมณฺฑลเกน วา พทฺธานิ มฏฺานิ โหนฺติ, สฺเวว ปตฺโต ปริภุฺชิตพฺโพ, อฺโ น วิฺาเปตพฺโพ. อถ ปน เอกมฺปิ ฉิทฺทํ มหนฺตํ โหติ, โลหมณฺฑลเกน พทฺธมฺปิ มฏฺํ น โหติ, ปตฺเต อามิสํ ลคฺคติ, อกปฺปิโย โหติ, อยํ อปตฺโต, อฺโ วิฺาเปตพฺโพ. วิฺาเปนฺเตน จ สงฺฆวเสน ปวาริตฏฺาเน ปฺจพนฺธเนเนว ปตฺเตน อฺํ ปตฺตํ วิฺาเปตุํ วฏฺฏติ, ปุคฺคลวเสน ปน ปวาริตฏฺาเน อูนปฺจพนฺธเนนาปิ วฏฺฏติ. ปตฺตํ ลภิตฺวา ปริภุฺชนฺเตน จ ยาคุรนฺธนรชนปจนาทินา อปริโภเคน น ปริภุฺชิตพฺโพ, อนฺตรามคฺเค ปน พฺยาธิมฺหิ อุปฺปนฺเน อฺสฺมึ ภาชเน อสติ มตฺติกาย ลิมฺเปตฺวา ยาคุํ วา ปจิตุํ อุทกํ วา ตาเปตุํ วฏฺฏติ. มฺจปีฉตฺตนาคทนฺตกาทิเก อเทเสปิ น นิกฺขิปิตพฺโพ. ปตฺตสฺส หิ นิกฺขิปนเทโส ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปตฺตาธารก’’นฺติอาทินา (จูฬว. ๒๕๔) นเยน ขนฺธเก วุตฺโตเยว.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

อธิฏฺานวิกปฺปนวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๙. จีวรวิปฺปวาสวินิจฺฉยกถา

๕๑. จีวเรนวินาวาโสติ ติจีวราธิฏฺาเนน อธิฏฺิตานํ ติณฺณํ จีวรานํ อฺตเรน วิปฺปวาโส. เอวํ อธิฏฺิเตสุ หิ ตีสุ จีวเรสุ เอเกนปิ วินา วสิตุํ น วฏฺฏติ, วสนฺตสฺส สห อรุณุคฺคมนา จีวรํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, ตสฺมา อรุณุคฺคมนสมเย จีวรํ อฑฺฒเตยฺยรตนปฺปมาเณ หตฺถปาเส กตฺวา วสิตพฺพํ. คามนิเวสนอุโทสิตอฑฺฑมาฬปาสาทหมฺมิยนาวาสตฺถเขตฺตธฺกรณอารามวิหารรุกฺขมูลอชฺโฌกาเสสุ ปน อยํ วิเสโส (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๗๗-๘) – สเจ เอกสฺส รฺโ คามโภชกสฺส วา สนฺตโก คาโม โหติ, เยน เกนจิ ปากาเรน วา วติยา วา ปริขาย วา ปริกฺขิตฺโต จ, เอวรูเป คาเม จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา คามพฺภนฺตเร ยตฺถ กตฺถจิ ยถารุจิตฏฺาเน อรุณํ อุฏฺาเปตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน อปริกฺขิตฺโต โหติ, เอวรูเป คาเม ยสฺมึ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตสฺมึ วตฺถพฺพํ, ตสฺส วา ฆรสฺส หตฺถปาเส สมนฺตา อฑฺฒเตยฺยรตนพฺภนฺตเร วสิตพฺพํ. ตํ ปมาณํ อติกฺกมิตฺวา สเจปิ อิทฺธิมา ภิกฺขุ อากาเส อรุณํ อุฏฺาเปติ, จีวรํ นิสฺสคฺคิยเมว โหติ.

สเจ นานาราชูนํ วา โภชกานํ วา คาโม โหติ เวสาลีกุสินาราทิสทิโส ปริกฺขิตฺโต จ, เอวรูเป คาเม ยสฺมึ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตตฺถ วา วตฺถพฺพํ, ตตฺถ สทฺทสงฺฆฏฺฏเนน วา ชนสมฺพาเธน วา วสิตุํ อสกฺโกนฺเตน สภาเย วา วตฺถพฺพํ นครทฺวารมูเล วา. ตตฺราปิ วสิตุํ อสกฺโกนฺเตน ยตฺถ กตฺถจิ ผาสุกฏฺาเน วสิตฺวา อนฺโตอรุเณ อาคมฺม เตสํเยว สภายนครทฺวารมูลานํ หตฺถปาเส วสิตพฺพํ. ฆรสฺส ปน จีวรสฺส วา หตฺถปาเส วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.

สเจ ฆเร อฏฺเปตฺวา ‘‘สภาเย เปสฺสามี’’ติ สภายํ คจฺฉนฺโต หตฺถํ ปสาเรตฺวา ‘‘หนฺทิมํ จีวรํ เปหี’’ติ เอวํ นิกฺเขปสุเข หตฺถปาสคเต กิสฺมิฺจิ อาปเณ จีวรํ นิกฺขิปติ, เตน ปุริมนเยเนว สภาเย วา วตฺถพฺพํ, ทฺวารมูเล วา เตสํ หตฺถปาเส วา วสิตพฺพํ.

สเจ นครสฺส พหูนิปิ ทฺวารานิ โหนฺติ พหูนิ จ สภายานิ, สพฺพตฺถ วสิตุํ น วฏฺฏติ. ยสฺสา ปน วีถิยา จีวรํ ปิตํ, ยํ ตสฺสา สมฺมุขฏฺาเน สภายฺจ ทฺวารฺจ, ตสฺส สภายสฺส จ ทฺวารสฺส จ หตฺถปาเส วสิตพฺพํ. เอวฺหิ สติ สกฺกา จีวรสฺส ปวตฺตึ ชานิตุํ. สภายํ ปน คจฺฉนฺเตน ยสฺส อาปณิกสฺส หตฺเถ นิกฺขิตฺตํ, สเจ โส ตํ จีวรํ อติหริตฺวา ฆเร นิกฺขิปติ, วีถิหตฺถปาโส น รกฺขติ, ฆรสฺส หตฺถปาเส วตฺถพฺพํ. สเจ มหนฺตํ ฆรํ โหติ ทฺเว วีถิโย ผริตฺวา ิตํ, ปุรโต วา ปจฺฉโต วา หตฺถปาเสเยว อรุณํ อุฏฺาเปตพฺพํ. สภาเย นิกฺขิปิตฺวา ปน สภาเย วา ตสฺส สมฺมุเข นครทฺวารมูเล วา เตสํเยว หตฺถปาเส วา อรุณํ อุฏฺาเปตพฺพํ. สเจ ปน คาโม อปริกฺขิตฺโต โหติ, ยสฺมึ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตสฺมึ ฆเร ตสฺส ฆรสฺส วา หตฺถปาเส วตฺถพฺพํ.

สเจ (ปารา. ๔๘๐) เอกกุลสฺส สนฺตกํ นิเวสนํ โหติ ปริกฺขิตฺตฺจ นานาคพฺภํ นานาโอวรกํ, อนฺโตนิเวสเน จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตนิเวสเน วตฺถพฺพํ. สเจ อปริกฺขิตฺตํ, ยสฺมึ คพฺเภ จีวรํ นิกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ คพฺเภ วตฺถพฺพํ คพฺภสฺส หตฺถปาเส วา. สเจ นานากุลสฺส นิเวสนํ โหติ ปริกฺขิตฺตฺจ นานาคพฺภํ นานาโอวรกํ, ยสฺมึ คพฺเภ จีวรํ นิกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ คพฺเภ วตฺถพฺพํ, สพฺเพสํ สาธารเณ ฆรทฺวารมูเล วา คพฺภสฺส วา ฆรทฺวารมูลสฺส วา หตฺถปาเส. สเจ อปริกฺขิตฺตํ โหติ, ยสฺมึ คพฺเภ จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตสฺมึ คพฺเภ วตฺถพฺพํ คพฺภสฺส วา หตฺถปาเส. อุโทสิตอฑฺฑมาฬปาสาทหมฺมิเยสุปิ นิเวสเน วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

สเจ เอกกุลสฺส นาวา โหติ, อนฺโตนาวายํ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตนาวายํ วตฺถพฺพํ. สเจ นานากุลสฺส นาวา โหติ นานาคพฺภา นานาโอวรกา, ยสฺมึ โอวรเก จีวรํ นิกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ โอวรเก วตฺถพฺพํ โอวรกสฺส หตฺถปาเส วา.

สเจ เอกกุลสฺส สตฺโถ โหติ, ตสฺมึ สตฺเถ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ปุรโต วา ปจฺฉโต วา สตฺตพฺภนฺตรา น วิชหิตพฺพา, ปสฺสโต อพฺภนฺตรํ น วิชหิตพฺพํ. เอกํ อพฺภนฺตรํ อฏฺวีสติหตฺถํ โหติ. สเจ นานากุลสฺส สตฺโถ โหติ, สตฺเถ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา จีวรสฺส หตฺถปาเส วสิตพฺพํ. สเจ สตฺโถ คจฺฉนฺโต คามํ วา นทึ วา ปริยาทิยิตฺวา ติฏฺติ, อนฺโตปวิฏฺเน สทฺธึ เอกาพทฺโธ หุตฺวา โอรฺจ ปารฺจ ผริตฺวา ิโต โหติ, สตฺถปริหาโร ลพฺภติ. อถ คาเม วา นทิยา วา ปริยาปนฺโน โหติ, คามปริหาโร เจว นทีปริหาโร จ ลพฺภติ. สเจ วิหารสีมํ อติกฺกมิตฺวา ติฏฺติ, อนฺโตสีมาย จ จีวรํ โหติ, วิหารํ คนฺตฺวา วสิตพฺพํ. สเจ พหิสีมาย จีวรํ โหติ, สตฺถสมีเปเยว วสิตพฺพํ. สเจ คจฺฉนฺโต สตฺโถ สกเฏ วา ภคฺเค โคเณ วา นฏฺเ อนฺตรา ฉิชฺชติ, ยสฺมึ โกฏฺาเส จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตตฺถ วสิตพฺพํ.

สเจ เอกกุลสฺส เขตฺตํ โหติ ปริกฺขิตฺตฺจ, อนฺโตเขตฺเต จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตเขตฺเต วตฺถพฺพํ. สเจ อปริกฺขิตฺตํ โหติ, จีวรสฺส หตฺถปาเส วสิตพฺพํ. สเจ นานากุลสฺส เขตฺตํ โหติ ปริกฺขิตฺตฺจ, อนฺโตเขตฺเต จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ทฺวารมูเล วตฺถพฺพํ ทฺวารมูลสฺส หตฺถปาเส วา. สเจ อปริกฺขิตฺตํ โหติ, จีวรสฺส หตฺถปาเส วสิตพฺพํ.

สเจ เอกกุลสฺส ธฺกรณํ โหติ ปริกฺขิตฺตฺจ, อนฺโตธฺกรเณ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตธฺกรเณ วตฺถพฺพํ. สเจ อปริกฺขิตฺตํ โหติ, จีวรสฺส หตฺถปาเส วสิตพฺพํ. สเจ นานากุลสฺส ธฺกรณํ โหติ ปริกฺขิตฺตฺจ, อนฺโตธฺกรเณ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ทฺวารมูเล วา วตฺถพฺพํ ทฺวารมูลสฺส วา หตฺถปาเส. สเจ อปริกฺขิตฺตํ โหติ, จีวรสฺส หตฺถปาเส วสิตพฺพํ. ปุปฺผารามผลาราเมสุปิ เขตฺเต วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

สเจ เอกกุลสฺส วิหาโร โหติ ปริกฺขิตฺโต จ, อนฺโตวิหาเร จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตวิหาเร วตฺถพฺพํ. สเจ อปริกฺขิตฺโต โหติ, ยสฺมึ วิหาเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตสฺมึ วตฺถพฺพํ ตสฺส วิหารสฺส วา หตฺถปาเส.

สเจ เอกกุลสฺส รุกฺขมูลํ โหติ, ยํ มชฺฌนฺหิเก กาเล สมนฺตา ฉายา ผรติ, อนฺโตฉายาย จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตฉายาย วตฺถพฺพํ. วิรฬสาขสฺส ปน รุกฺขสฺส อาตเปน ผุฏฺโกาเส ปิตํ นิสฺสคฺคิยเมว โหติ, ตสฺมา ตาทิสสฺส รุกฺขสฺส สาขจฺฉายาย วา ขนฺธจฺฉายาย วา เปตพฺพํ. สเจ สาขาย วา วิฏเป วา เปติ, อุปริ อฺสาขจฺฉายาย ผุฏฺโกาเสเยว เปตพฺพํ. ขุชฺชรุกฺขสฺส ฉายา ทูรํ คจฺฉติ, ฉายาย คตฏฺาเน เปตุํ วฏฺฏติเยว. สเจ นานากุลสฺส รุกฺขมูลํ โหติ, จีวรสฺส หตฺถปาเส วสิตพฺพํ.

อชฺโฌกาเส ปน อคามเก อรฺเ จีวรํ เปตฺวา ตสฺส สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตเร วสิตพฺพํ. อคามกํ นาม อรฺํ วิฺฌาฏวีอาทีสุ วา สมุทฺทมชฺเฌ วา มจฺฉพนฺธานํ อคมนปเถ ทีปเกสุ ลพฺภติ. ตาทิเส อรฺเ มชฺเฌ ิตสฺส สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรปริจฺเฉโท, วินิพฺเพเธน จุทฺทส โหนฺติ. มชฺเฌ นิสินฺโน ปุรตฺถิมาย วา ปจฺฉิมาย วา ทิสาย ปริยนฺเต ปิตจีวรํ รกฺขติ. สเจ ปน อรุณุคฺคมนสมเย เกสคฺคมตฺตมฺปิ ปุรตฺถิมํ ทิสํ คจฺฉติ, ปจฺฉิมาย ทิสาย จีวรํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ. เอส นโย อิตรสฺมึ. นิสฺสคฺคิยํ ปน จีวรํ อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภุฺชนฺโต ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ.

๕๒. สเจ ปธานิโก ภิกฺขุ สพฺพรตฺตึ ปธานมนุยุฺชิตฺวา ปจฺจูสสมเย ‘‘นหายิสฺสามี’’ติ ตีณิ จีวรานิ ตีเร เปตฺวา นทึ โอตรติ, นหายนฺตสฺเสว จสฺส อรุณํ อุฏฺหติ, กึ กาตพฺพํ? โส หิ ยทิ อุตฺตริตฺวา จีวรํ นิวาเสติ, นิสฺสคฺคิยํ จีวรํ, อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภุฺชนปจฺจยา ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. อถ นคฺโค คจฺฉติ, เอวมฺปิ ทุกฺกฏํ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ. โส หิ ยาว อฺํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา วินยกมฺมํ น กโรติ, ตาว เตสํ จีวรานํ อปริโภคารหตฺตา นฏฺจีวรฏฺาเน ิโต โหติ, นฏฺจีวรสฺส จ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา เอกํ นิวาเสตฺวา ทฺเว หตฺเถน คเหตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา วินยกมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ ทูเร วิหาโร โหติ, อนฺตรามคฺเค มนุสฺสา สฺจรนฺติ, เอกํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา เอกํ อํสกูเฏ เปตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ วิหาเร สภาคํ ภิกฺขุํ น ปสฺสติ, ภิกฺขาจารํ คตา โหนฺติ, สงฺฆาฏึ พหิคาเม เปตฺวา สนฺตรุตฺตเรน อาสนสาลํ คนฺตฺวา วินยกมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ พหิคาเม โจรภยํ โหติ, ปารุปิตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ อาสนสาลา สมฺพาธา โหติ, ชนากิณฺณา น สกฺกา เอกมนฺเต จีวรํ อปเนตฺวา วินยกมฺมํ กาตุํ, เอกํ ภิกฺขุํ อาทาย พหิคามํ คนฺตฺวา วินยกมฺมํ กตฺวา จีวรานิ ปริภุฺชิตพฺพานิ.

สเจ เถรา ภิกฺขู ทหรานํ หตฺเถ ปตฺตจีวรํ ทตฺวา มคฺคํ คจฺฉนฺตา ปจฺฉิมยาเม สยิตุกามา โหนฺติ, อตฺตโน อตฺตโน จีวรํ หตฺถปาเส กตฺวาว สยิตพฺพํ. สเจ คจฺฉนฺตานํเยว อสมฺปตฺเตสุ ทหเรสุ อรุณํ อุคฺคจฺฉติ, จีวรํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, นิสฺสโย ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. ทหรานมฺปิ ปุรโต คจฺฉนฺตานํ เถเรสุ อสมฺปตฺเตสุ เอเสว นโย. มคฺคํ วิรชฺฌิตฺวา อรฺเ อฺมฺํ อปสฺสนฺเตสุปิ เอเสว นโย. สเจ ปน ทหรา ‘‘มยํ, ภนฺเต, มุหุตฺตํ สยิตฺวา อสุกสฺมึ นาม โอกาเส ตุมฺเห สมฺปาปุณิสฺสามา’’ติ วตฺวา ยาว อรุณุคฺคมนา สยนฺติ, จีวรฺจ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, นิสฺสโย จ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. ทหเร อุยฺโยเชตฺวา เถเรสุ สยนฺเตสุปิ เอเสว นโย. ทฺเวธาปถํ ทิสฺวา เถรา ‘‘อยํ มคฺโค’’, ทหรา ‘‘อยํ มคฺโค’’ติ วตฺวา อฺมฺสฺส วจนํ อคฺคเหตฺวา คตา, สห อรุณสฺส อุคฺคมนา จีวรานิ จ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโย จ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ทหรา มคฺคโต โอกฺกมฺม ‘‘อนฺโตอรุเณเยว นิวตฺติสฺสามา’’ติ เภสชฺชตฺถาย คามํ ปวิสิตฺวา อาคจฺฉนฺติ, อสมฺปตฺตานํเยว จ เนสํ อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโย ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ปน เธนุภเยน วา สุนขภเยน วา มุหุตฺตํ ตฺวา ‘‘คมิสฺสามา’’ติ ตฺวา วา นิสีทิตฺวา วา คจฺฉนฺติ, อนฺตรา อรุเณ อุคฺคเต จีวรานิ จ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโย จ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ.

สเจ ‘‘อนฺโตอรุเณเยว อาคมิสฺสามา’’ติ อนฺโตสีมายํ คามํ ปวิฏฺานํ อนฺตรา อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, เนว จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, น นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ปน ‘‘วิภายตุ ตาวา’’ติ นิสีทนฺติ, อรุเณ อุคฺคเต น จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโย ปน ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ เยปิ ‘‘อนฺโตอรุเณเยว อาคมิสฺสามา’’ติ สามนฺตวิหารํ ธมฺมสฺสวนตฺถาย สอุสฺสาหา คจฺฉนฺติ, อนฺตรามคฺเคเยว จ เนสํ อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโย ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ธมฺมคารเวน ‘‘ยาวปริโยสานํ สุตฺวาว คมิสฺสามา’’ติ นิสีทนฺติ, สห อรุณสฺส อุคฺคมนา จีวรานิปิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโย จ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. เถเรน ทหรํ จีวรโธวนตฺถาย คามกํ เปเสนฺเตน อตฺตโน จีวรํ ปจฺจุทฺธริตฺวาว ทาตพฺพํ, ทหรสฺสปิ จีวรํ ปจฺจุทฺธราเปตฺวาว เปตพฺพํ. สเจ อสติยา คจฺฉติ, อตฺตโน จีวรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา ทหรสฺส จีวรํ วิสฺสาเสน คเหตฺวา เปตพฺพํ. สเจ เถโร น สรติ, ทหโรว สรติ, ทหเรน อตฺตโน จีวรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา เถรสฺส จีวรํ วิสฺสาเสน คเหตฺวา คนฺตฺวา วตฺตพฺพํ ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ จีวรํ อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชถา’’ติ. อตฺตโนปิ จีวรํ อธิฏฺาตพฺพํ. เอวํ เอกสฺส สติยาปิ อาปตฺติโมกฺโข โหติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

จีวรวิปฺปวาสวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๑๐. ภณฺฑปฏิสามนวินิจฺฉยกถา

๕๓. ภณฺฑสฺส ปฏิสามนนฺติ ปเรสํ ภณฺฑสฺส โคปนํ. ปเรสฺหิ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๐๖) กปฺปิยวตฺถุ วา โหตุ อกปฺปิยวตฺถุ วา, อนฺตมโส มาตุ กณฺณปิฬนฺธนํ กาลปณฺณมฺปิ คิหิสนฺตกํ ภณฺฑาคาริกสีเสน ปฏิสาเมนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน มาตาปิตูนํ สนฺตกํ อวสฺสํ ปฏิสาเมตพฺพํ กปฺปิยภณฺฑํ โหติ, อตฺตโน อตฺถาย คเหตฺวา ปฏิสาเมตพฺพํ. ‘‘อิทํ ปฏิสาเมตฺวา เทหี’’ติ ปน วุตฺเต ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ ‘‘ปฏิสาเมหี’’ติ ปาเตตฺวา คจฺฉนฺติ, ปลิโพโธ นาม โหติ, ปฏิสาเมตุํ วฏฺฏติ. วิหาเร กมฺมํ กโรนฺตา วฑฺฒกีอาทโย วา ราชวลฺลภา วา ‘‘อตฺตโน อุปกรณภณฺฑํ วา สยนภณฺฑํ วา ปฏิสาเมตฺวา เทถา’’ติ วทนฺติ, ฉนฺเทนปิ ภเยนปิ น กาตพฺพเมว, คุตฺตฏฺานํ ปน ทสฺเสตุํ วฏฺฏติ, พลกฺกาเรน ปาเตตฺวา คเตสุ จ ปฏิสาเมตุํ.

สเจ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๑) อตฺตโน หตฺเถ ปฏิสามนตฺถาย ปิตํ ภณฺฑํ สามิเกน ‘‘เทหิ เม ภณฺฑ’’นฺติ ยาจิโต อทาตุกาโม ‘‘นาหํ คณฺหามี’’ติ ภณติ, สมฺปชานมุสาวาเทปิ อทินฺนาทานสฺส ปโยคตฺตา ทุกฺกฏํ. ‘‘กึ ตุมฺเห ภณถ, เนวิทํ มยฺหํ อนุรูปํ, น ตุมฺหาก’’นฺติอาทีนิ วทนฺตสฺสปิ ทุกฺกฏเมว. ‘‘รโห มยา เอตสฺส หตฺเถ ปิตํ, น อฺโ โกจิ ชานาติ, ทสฺสติ นุ โข เม, โน’’ติ สามิโก วิมตึ อุปฺปาเทติ, ภิกฺขุสฺส ถุลฺลจฺจยํ. ตสฺส ผรุสาทิภาวํ ทิสฺวา สามิโก ‘‘น มยฺหํ ทสฺสตี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, ตตฺร สจายํ ภิกฺขุ ‘‘กิลเมตฺวา นํ ทสฺสามี’’ติ ทาเน สอุสฺสาโห, รกฺขติ ตาว. สเจปิ โส ทาเน นิรุสฺสาโห, ภณฺฑสามิโก ปน คหเณ สอุสฺสาโห, รกฺขติเยว. ยทิ ปน ตสฺมึ ทาเน นิรุสฺสาโห ภณฺฑสามิโก ‘‘น มยฺหํ ทสฺสตี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, เอวํ อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเปน ภิกฺขุโน ปาราชิกํ. ยทิปิ มุเขน ‘‘ทสฺสามี’’ติ วทติ, จิตฺเตน ปน อทาตุกาโม, เอวมฺปิ สามิกสฺส ธุรนิกฺเขเป ปาราชิกํ. ตํ ปน สงฺโคปนตฺถาย อตฺตโน หตฺเถ ปเรหิ ปิตํ ภณฺฑํ อคุตฺตเทสโต านา จาเวตฺวา คุตฺตฏฺาเน ปนตฺถาย หรโต อนาปตฺติ. เถยฺยจิตฺเตนปิ านา จาเวนฺตสฺส อวหาโร นตฺถิ. กสฺมา? อตฺตโน หตฺเถ นิกฺขิตฺตตฺตา, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหติ. เถยฺยจิตฺเตน ปริภุฺชโตปิ เอเสว นโย.

๕๔. ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ สนฺตกํ ปน ยํ กิฺจิ ปริกฺขารํ ปฏิสาเมตุํ วฏฺฏติ. สเจ อาคนฺตุโก ภิกฺขุ อาวาสิกานํ จีวรกมฺมํ กโรนฺตานํ สมีเป ปตฺตจีวรํ เปตฺวา ‘‘เอเต สงฺโคเปสฺสนฺตี’’ติ มฺมาโน นหายิตุํ วา อฺตฺร วา คจฺฉติ, สเจ ตํ อาวาสิกา สงฺโคเปนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ, นฏฺเ คีวา น โหติ. สเจปิ โส ‘‘อิทํ, ภนฺเต, เปถา’’ติ วตฺวา คจฺฉติ, อิตเร จ กิจฺจปสุตตฺตา น ชานนฺติ, เอเสว นโย. อถาปิ เต ‘‘อิทํ, ภนฺเต, เปถา’’ติ วุตฺตา ‘‘มยํ พฺยาวฏา’’ติ ปฏิกฺขิปนฺติ, อิตโร จ ‘‘อวสฺสํ เปสฺสนฺตี’’ติ อนาทิยิตฺวา คจฺฉติ, เอเสว นโย. สเจ ปน เต เตน ยาจิตา วา อยาจิตา วา ‘‘มยํ เปสฺสาม, ตฺวํ คจฺฉา’’ติ วทนฺติ, ตํ สงฺโคปิตพฺพํ. โน เจ สงฺโคเปนฺติ, นฏฺเ คีวา. กสฺมา? สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา.

โย ภิกฺขุ ภณฺฑาคาริโก หุตฺวา ปจฺจูสสมเย เอว ภิกฺขูนํ ปตฺตจีวรานิ เหฏฺาปาสาทํ โอโรเปตฺวา ทฺวารํ อปิทหิตฺวา เตสมฺปิ อนาโรเจตฺวาว ทูเร ภิกฺขาจารํ คจฺฉติ, ตานิ เจ โจรา หรนฺติ, ตสฺเสว คีวา. โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ ‘‘โอโรเปถ, ภนฺเต, ปตฺตจีวรานิ, กาโล สลากคฺคหณสฺสา’’ติ วุตฺโต ‘‘สมาคตาตฺถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม สมาคตามฺหา’’ติ วุตฺเต ปตฺตจีวรานิ นีหริตฺวา นิกฺขิปิตฺวา ภณฺฑาคารทฺวารํ พนฺธิตฺวา ‘‘ตุมฺเห ปตฺตจีวรานิ คเหตฺวา เหฏฺาปาสาททฺวารํ ปฏิชคฺคิตฺวา คจฺเฉยฺยาถา’’ติ วตฺวา คจฺฉติ. ตตฺร เจโก อลสชาติโก ภิกฺขุ ภิกฺขูสุ คเตสุ ปจฺฉา อกฺขีนิ ปุฺฉนฺโต อุฏฺหิตฺวา อุทกฏฺานํ มุขโธวนตฺถํ คจฺฉติ, ตํ ขณํ ทิสฺวา โจรา ตสฺส ปตฺตจีวรํ หรนฺติ, สุหฏํ, ภณฺฑาคาริกสฺส คีวา น โหติ.

สเจปิ โกจิ ภณฺฑาคาริกสฺส อนาโรเจตฺวาว ภณฺฑาคาเร อตฺตโน ปริกฺขารํ เปติ, ตสฺมิมฺปิ นฏฺเ ภณฺฑาคาริกสฺส คีวา น โหติ. สเจ ปน ภณฺฑาคาริโก ตํ ทิสฺวา ‘‘อฏฺาเน ปิต’’นฺติ คเหตฺวา เปติ, นฏฺเ ตสฺเสว คีวา. สเจปิ ปิตภิกฺขุนา ‘‘มยา, ภนฺเต, อีทิโส นาม ปริกฺขาโร ปิโต, อุปธาเรยฺยาถา’’ติ วุตฺโต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, ทุนฺนิกฺขิตฺตํ วา มฺมาโน อฺสฺมึ าเน เปติ, นฏฺเ ตสฺเสว คีวา. ‘‘นาหํ ชานามี’’ติ ปฏิกฺขิปนฺตสฺส ปน นตฺถิ คีวา. โยปิ ตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว เปติ, ภณฺฑาคาริกฺจ น สมฺปฏิจฺฉาเปติ, นฏฺํ สุนฏฺเมว. สเจ ปน นํ ภณฺฑาคาริโก อฺตฺร เปติ, นฏฺเ คีวา. สเจ ภณฺฑาคารํ สุคุตฺตํ, สพฺโพ สงฺฆสฺส เจติยสฺส จ ปริกฺขาโร ตตฺเถว ปียติ, ภณฺฑาคาริโก จ พาโล อพฺยตฺโต ทฺวารํ วิวริตฺวา ธมฺมกถํ วา โสตุํ อฺํ วา กิฺจิ กาตุํ กตฺถจิ คจฺฉติ, ตํ ขณํ ทิสฺวา ยตฺตกํ โจรา หรนฺติ, สพฺพํ ตสฺส คีวา. ภณฺฑาคารโต นิกฺขมิตฺวา พหิ จงฺกมนฺตสฺส วา ทฺวารํ วิวริตฺวา สรีรํ อุตุํ คาหาเปนฺตสฺส วา ตตฺเถว สมณธมฺมานุโยเคน นิสินฺนสฺส วา ตตฺเถว นิสีทิตฺวา เกนจิ กมฺเมน พฺยาวฏสฺส วา อุจฺจารปสฺสาวปีฬิตสฺสปิ สโต ตตฺเถว อุปจาเร วิชฺชมาเน พหิ คจฺฉโต วา อฺเน วา เกนจิ อากาเรน ปมตฺตสฺส สโต ทฺวารํ วิวริตฺวา วา วิวฏเมว ปวิสิตฺวา วา สนฺธึ ฉินฺทิตฺวา วา ยตฺตกํ ตสฺส ปมาทปจฺจยา โจรา หรนฺติ, สพฺพํ ตสฺเสว คีวา. ‘‘อุณฺหสมเย ปน วาตปานํ วิวริตฺวา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. อุจฺจารปีฬิตสฺส ปน ตสฺมึ อุปจาเร อสติ อฺตฺถ คจฺฉนฺตสฺส คิลานปกฺเข ิตตฺตา อวิสโย, ตสฺมา คีวา น โหติ.

๕๕. โย ปน อนฺโต อุณฺหปีฬิโต ทฺวารํ สุคุตฺตํ กตฺวา พหิ นิกฺขมติ, โจรา ตํ คเหตฺวา ‘‘ทฺวารํ วิวรา’’ติ วทนฺติ, ยาวตติยํ น วิวริตพฺพํ. ยทิ ปน เต โจรา ‘‘สเจ น วิวรสิ, ตฺจ มาเรสฺสาม, ทฺวารฺจ ภินฺทิตฺวา ปริกฺขารํ หริสฺสามา’’ติ ผรสุอาทีนิ อุกฺขิปนฺติ, ‘‘มยิ จ มเต สงฺฆสฺส จ เสนาสเน วินฏฺเ คุโณ นตฺถี’’ติ วิวริตุํ วฏฺฏติ. อิธาปิ ‘‘อวิสยตฺตา คีวา นตฺถี’’ติ วทนฺติ. สเจ โกจิ อาคนฺตุโก กุฺจิกํ วา เทติ, ทฺวารํ วา วิวรติ, ยตฺตกํ โจรา หรนฺติ, สพฺพํ ตสฺส คีวา. สงฺเฆน ภณฺฑาคารํ คุตฺตตฺถาย สูจิยนฺตกฺจ กุฺจิกมุทฺทิกา จ โยเชตฺวา ทินฺนา โหติ, ภณฺฑาคาริโก ฆฏิกมตฺตํ ทตฺวา นิปชฺชติ, โจรา วิวริตฺวา ปริกฺขารํ หรนฺติ, ตสฺเสว คีวา. สูจิยนฺตกฺจ กุฺจิกมุทฺทิกฺจ โยเชตฺวา นิปนฺนํ ปเนตํ สเจ โจรา อาคนฺตฺวา ‘‘ทฺวารํ วิวราหี’’ติ วทนฺติ, ตตฺถ ปุริมนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ. เอวํ สุคุตฺตํ กตฺวา นิปนฺเน ปน สเจ ภิตฺตึ วา ฉทนํ วา ภินฺทิตฺวา อุมงฺเคน วา ปวิสิตฺวา หรนฺติ, น ตสฺส คีวา.

สเจ ภณฺฑาคาเร อฺเปิ เถรา วสนฺติ, วิวเฏ ทฺวาเร อตฺตโน อตฺตโน ปริกฺขารํ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, ภณฺฑาคาริโก เตสุ คเตสุ ทฺวารํ น ชคฺคติ, สเจ ตตฺถ กิฺจิ อวหรียติ, ภณฺฑาคาริกสฺส อิสฺสรวตาย ภณฺฑาคาริกสฺเสว คีวา, เถเรหิ ปน สหาเยหิ ภวิตพฺพํ. อยฺหิ สามีจิ. ยทิ ภณฺฑาคาริโก ‘‘ตุมฺเห พหิ ตฺวา ตุมฺหากํ ปริกฺขารํ คณฺหถ, มา ปวิสิตฺถา’’ติ วทติ, เตสฺจ เอโก โลลมหาเถโร สามเณเรหิ เจว อุปฏฺาเกหิ จ สทฺธึ ภณฺฑาคารํ ปวิสิตฺวา นิสีทติ เจว นิปชฺชติ จ, ยตฺตกํ ภณฺฑํ นสฺสติ, สพฺพํ ตสฺส คีวา, ภณฺฑาคาริเกน ปน อวเสสเถเรหิ จ สหาเยหิ ภวิตพฺพํ. อถ ภณฺฑาคาริโกว โลลสามเณเร จ อุปฏฺาเก จ คเหตฺวา ภณฺฑาคาเร นิสีทติ เจว นิปชฺชติ จ, ยตฺตกํ นสฺสติ, สพฺพํ ตสฺเสว คีวา. ตสฺมา ภณฺฑาคาริเกเนว ตตฺถ วสิตพฺพํ, อวเสเสหิ อปฺเปว รุกฺขมูเล วสิตพฺพํ, น จ ภณฺฑาคาเรติ.

๕๖. เย ปน อตฺตโน อตฺตโน สภาคภิกฺขูนํ วสนคพฺเภสุ ปริกฺขารํ เปนฺติ, ปริกฺขาเร นฏฺเ เยหิ ปิโต, เตสํเยว คีวา, อิตเรหิ ปน สหาเยหิ ภวิตพฺพํ. ยทิ ปน สงฺโฆ ภณฺฑาคาริกสฺส วิหาเรเยว ยาคุภตฺตํ ทาเปติ, โส จ ภิกฺขาจารตฺถาย คามํ คจฺฉติ, นฏฺํ ตสฺเสว คีวา. ภิกฺขาจารํ ปวิสนฺเตหิ อติเรกจีวรํ รกฺขณตฺถาย ปิตวิหารวาริกสฺสปิ ยาคุภตฺตํ วา นิวาปํ วา ลภมานสฺเสว ภิกฺขาจารํ คจฺฉโต ยํ ตตฺถ นสฺสติ, สพฺพํ คีวา. น เกวลฺจ เอตฺตกเมว, ภณฺฑาคาริกสฺส วิย ยํ ตสฺส ปมาทปจฺจยา นสฺสติ, สพฺพํ คีวา.

สเจ วิหาโร มหา โหติ, อฺํ ปเทสํ รกฺขิตุํ คจฺฉนฺตสฺส อฺสฺมึ ปเทเส นิกฺขิตฺตํ หรนฺติ, อวิสยตฺตา คีวา น โหติ. อีทิเส ปน วิหาเร เวมชฺเฌ สพฺเพสํ โอสรณฏฺาเน ปริกฺขาเร เปตฺวา นิสีทิตพฺพํ, วิหารวาริกา วา ทฺเว ตโย เปตพฺพา. สเจ เตสมฺปิ อปฺปมตฺตานํ อิโต จิโต จ รกฺขตํเยว กิฺจิ นสฺสติ, คีวา น โหติ. วิหารวาริเก พนฺธิตฺวา หริตภณฺฑมฺปิ โจรานํ ปฏิปถํ คเตสุ อฺเน มคฺเคน หริตภณฺฑมฺปิ น เตสํ คีวา. สเจ วิหารวาริกานํ วิหาเร ทาตพฺพํ ยาคุภตฺตํ วา นิวาโป วา น โหติ, เตหิ ปตฺตพฺพลาภโต อติเรกา ทฺเว ติสฺโส ยาคุสลากา เตสํ ปโหนกภตฺตสลากา จ เปตุํ วฏฺฏติ, นิพทฺธํ กตฺวา ปน น เปตพฺพา. มนุสฺสา หิ วิปฺปฏิสาริโน โหนฺติ ‘‘วิหารวาริกาเยว อมฺหากํ ภตฺตํ ภุฺชนฺตี’’ติ, ตสฺมา ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา เปตพฺพา. สเจ เตสํ สภาคา สลากภตฺตาทีนิ อาหริตฺวา เทนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ เทนฺติ, วารํ คาหาเปตฺวา นีหราเปตพฺพานิ. สเจ วิหารวาริโก ทฺเว ติสฺโส ยาคุสลากา จ จตฺตาริ ปฺจ สลากภตฺตานิ จ ลภมาโน ภิกฺขาจารํ คจฺฉติ, ภณฺฑาคาริกสฺส วิย สพฺพํ นฏฺํ คีวา โหติ. สเจ สงฺฆสฺส วิหารปาลานํ ทาตพฺพํ ภตฺตํ วา นิวาโป วา นตฺถิ, ภิกฺขู วิหารวารํ คเหตฺวา อตฺตโน อตฺตโน นิสฺสิตเก วิหารํ ชคฺคาเปนฺติ, สมฺปตฺตวารํ อคฺคเหตุํ น ลภติ. ยถา อฺเ ภิกฺขู กโรนฺติ, ตเถว กาตพฺพํ. ภิกฺขูหิ ปน อสหายสฺส วา อทุติยสฺส วา ยสฺส สภาโค ภิกฺขุ ภตฺตํ อาเนตฺวา ทาตา นตฺถิ, เอวรูปสฺส วาโร น ปาเปตพฺโพ.

ยมฺปิ ปากวฏฺฏตฺถาย วิหาเร เปนฺติ, ตํ คเหตฺวา อุปชีวนฺเตน าตพฺพํ. โย ตํ น อุปชีวติ, โส วารํ น คาหาเปตพฺโพ. ผลาผลตฺถายปิ วิหาเร ภิกฺขุํ เปนฺติ, ชคฺคิตฺวา โคเปตฺวา ผลวาเรน ภาเชตฺวา ขาทนฺติ. โย ตานิ ขาทติ, เตน าตพฺพํ, อนุปชีวนฺโต น คาหาเปตพฺโพ. เสนาสนมฺจปีปจฺจตฺถรณรกฺขณตฺถายปิ เปนฺติ, อาวาเส วสนฺเตน าตพฺพํ, อพฺโภกาสิโก ปน รุกฺขมูลิโก วา น คาหาเปตพฺโพ. เอโก นวโก โหติ, พหุสฺสุโต ปน พหูนํ ธมฺมํ วาเจติ, ปริปุจฺฉํ เทติ, ปาฬึ วณฺเณติ, ธมฺมกถํ กเถติ, สงฺฆสฺส ภารํ นิตฺถรติ, อยํ ลาภํ ปริภุฺชนฺโตปิ อาวาเส วสนฺโตปิ วารํ น คาหาเปตพฺโพ. ‘‘ปุริสวิเสโส นาม าตพฺโพ’’ติ วทนฺติ. อุโปสถาคารปฏิมาฆรชคฺคนกสฺส ปน ทิคุณํ ยาคุภตฺตํ, เทวสิกํ ตณฺฑุลนาฬิ, สํวจฺฉเร ติจีวรํ ทสวีสคฺฆนกํ กปฺปิยภณฺฑฺจ ทาตพฺพํ. สเจ ปน ตสฺส ตํ ลภมานสฺเสว ปมาเทน ตตฺถ กิฺจิ นสฺสติ, สพฺพํ คีวา. พนฺธิตฺวา พลกฺกาเรน อจฺฉินฺนํ, น คีวา. ตตฺถ เจติยสฺส วา สงฺฆสฺส วา สนฺตเกน เจติยสฺส สนฺตกํ รกฺขาเปตุํ วฏฺฏติ, เจติยสฺส สนฺตเกน สงฺฆสฺส สนฺตกํ รกฺขาเปตุํ น วฏฺฏติ. ยํ ปน เจติยสฺส สนฺตเกน สทฺธึ สงฺฆสฺส สนฺตกํ ปิตํ โหติ, ตํ เจติยสนฺตเก รกฺขาปิเต รกฺขิตเมว โหตีติ เอวํ วฏฺฏติ. ปกฺขวาเรน อุโปสถาคาราทีนิ รกฺขโตปิ ปมาทวเสน นฏฺํ คีวาเยวาติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ภณฺฑปฏิสามนวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๑๑. กยวิกฺกยสมาปตฺติวินิจฺฉยกถา

๕๗. กยวิกฺกยสมาปตฺตีติ กยวิกฺกยสมาปชฺชนํ. ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๙๕) หิ นเยน ปรสฺส กปฺปิยภณฺฑํ คณฺหนฺโต กยํ สมาปชฺชติ, อตฺตโน กปฺปิยภณฺฑํ เทนฺโต วิกฺกยํ. อยํ ปน กยวิกฺกโย เปตฺวา ปฺจ สหธมฺมิเก อวเสเสหิ คิหิปพฺพชิเตหิ อนฺตมโส มาตาปิตูหิปิ สทฺธึ น วฏฺฏติ.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – วตฺเถน วา วตฺถํ โหตุ, ภตฺเตน วา ภตฺตํ, ยํ กิฺจิ กปฺปิยํ ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติ วทติ, ทุกฺกฏํ. เอวํ วตฺวา มาตุยาปิ อตฺตโน ภณฺฑํ เทติ, ทุกฺกฏํ, ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติ วุตฺโต วา ‘‘อิมํ เทหิ, อิมํ เต ทสฺสามี’’ติ ตํ วตฺวา วา มาตุยาปิ ภณฺฑํ อตฺตนา คณฺหาติ, ทุกฺกฏํ, อตฺตโน ภณฺเฑ ปรหตฺถํ, ปรภณฺเฑ จ อตฺตโน หตฺถํ สมฺปตฺเต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. มาตรํ วา ปน ปิตรํ วา ‘‘อิมํ เทหี’’ติ วทโต วิฺตฺติ น โหติ, ‘‘อิมํ คณฺหาหี’’ติ ททโต สทฺธาเทยฺยวินิปาตนํ น โหติ. อฺาตกํ ‘‘อิมํ เทหี’’ติ วทโต วิฺตฺติ, ‘‘อิมํ คณฺหาหี’’ติ ททโต สทฺธาเทยฺยวินิปาตนํ, ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติ กยวิกฺกยํ อาปชฺชโต นิสฺสคฺคิยํ. ตสฺมา กปฺปิยภณฺฑํ ปริวตฺตนฺเตน มาตาปิตูหิปิ สทฺธึ กยวิกฺกยํ, อฺาตเกหิ สทฺธึ ติสฺโส อาปตฺติโย โมเจนฺเตน ปริวตฺเตตพฺพํ.

ตตฺรายํ ปริวตฺตนวิธิ – ภิกฺขุสฺส ปาเถยฺยตณฺฑุลา โหนฺติ, โส อนฺตรามคฺเค ภตฺตหตฺถํ ปุริสํ ทิสฺวา ‘‘อมฺหากํ ตณฺฑุลา อตฺถิ, น จ โน อิเมหิ อตฺโถ, ภตฺเตน ปน อตฺโถ’’ติ วทติ, ปุริโส ตณฺฑุเล คเหตฺวา ภตฺตํ เทติ, วฏฺฏติ. ติสฺโสปิ อาปตฺติโย น โหนฺติ, อนฺตมโส นิมิตฺตกมฺมมตฺตมฺปิ น โหติ. กสฺมา? มูลสฺส อตฺถิตาย. โย ปน เอวํ อกตฺวา ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติ ปริวตฺเตติ, ยถาวตฺถุกเมว. วิฆาสาทํ ทิสฺวา ‘‘อิมํ โอทนํ ภุฺชิตฺวา รชนํ วา ทารูนิ วา อาหรา’’ติ วทติ, รชนฉลฺลิคณนาย ทารุคณนาย จ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ. ‘‘อิมํ โอทนํ ภุฺชิตฺวา อิมํ นาม กโรถา’’ติ ทนฺตการาทีหิ สิปฺปิเกหิ ธมฺมกรณาทีสุ ตํ ตํ ปริกฺขารํ กาเรติ, รชเกหิ วา วตฺถํ โธวาเปติ, ยถาวตฺถุกเมว. นหาปิเตน เกเส ฉินฺทาเปติ, กมฺมกาเรหิ นวกมฺมํ กาเรติ, ยถาวตฺถุกเมว. สเจ ปน ‘‘อิทํ ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา อิทํ กโรถา’’ติ น วทติ, ‘‘อิทํ ภตฺตํ ภุฺช, ภุตฺโตสิ, ภุฺชิสฺสสิ, อิทํ นาม กโรหี’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. เอตฺถ จ กิฺจาปิ วตฺถโธวเน วา เกสจฺเฉทเน วา ภูมิโสธนาทินวกมฺเม วา ปรภณฺฑํ อตฺตโน หตฺถคตํ นิสฺสชฺชิตพฺพํ นาม นตฺถิ, มหาอฏฺกถายํ ปน ทฬฺหํ กตฺวา วุตฺตตฺตา น สกฺกา เอตํ ปฏิกฺขิปิตุํ, ตสฺมา ยถา นิสฺสคฺคิยวตฺถุมฺหิ ปริภุตฺเต วา นฏฺเ วา ปาจิตฺติยํ เทเสติ, เอวมิธาปิ เทเสตพฺพํ.

ยํ กิฺจิ กปฺปิยภณฺฑํ คณฺหิตุกามตาย อคฺฆํ ปุจฺฉิตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘อยํ ตว ปตฺโต กึ อคฺฆตี’’ติ ปุจฺฉิเต ‘‘อิทํ นามา’’ติ วทติ, สเจ อตฺตโน กปฺปิยภณฺฑํ มหคฺฆํ โหติ, เอวฺจ นํ ปฏิวทติ ‘‘อุปาสก มม อิทํ วตฺถุ มหคฺฆํ, ตว ปตฺตํ อฺสฺส เทหี’’ติ. ตํ สุตฺวา อิตโร ‘‘อฺํ ถาลกมฺปิ ทสฺสามี’’ติ วทติ, คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. สเจ โส ปตฺโต มหคฺโฆ, ภิกฺขุโน วตฺถุ อปฺปคฺฆํ, ปตฺตสามิโก จสฺส อปฺปคฺฆภาวํ น ชานาติ, ปตฺโต น คเหตพฺโพ, ‘‘มม วตฺถุ อปฺปคฺฆ’’นฺติ อาจิกฺขิตพฺพํ. มหคฺฆภาวํ ตฺวา วฺเจตฺวา คณฺหนฺโตปิ หิ ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺพตํ อาปชฺชติ. สเจ ปตฺตสามิโก ‘‘โหตุ, ภนฺเต, เสสํ มม ปุฺํ ภวิสฺสตี’’ติ เทติ, วฏฺฏติ. กปฺปิยการกสฺส ปน ‘‘อิมินา อิมํ คเหตฺวา เทหี’’ติ อาจิกฺขิตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ยสฺส หตฺถโต ภณฺฑํ คณฺหาติ, ตํ เปตฺวา อฺํ อนฺตมโส ตสฺส ปุตฺตภาติกมฺปิ กปฺปิยการกํ กตฺวา ‘‘อิมินา อิมํ นาม คเหตฺวา เทหี’’ติ อาจิกฺขติ, โส เจ เฉโก โหติ, ปุนปฺปุนํ อปเนตฺวา วิวทิตฺวา คณฺหาติ, ตุณฺหีภูเตน าตพฺพํ. โน เจ เฉโก โหติ, น ชานาติ คเหตุํ, วาณิชโก จ ตํ วฺเจติ, ‘‘มา คณฺหาหี’’ติ วตฺตพฺโพ.

‘‘อิทํ ปฏิคฺคหิตํ เตลํ วา สปฺปิ วา อมฺหากํ อตฺถิ, อมฺหากฺจ อฺเน อปฺปฏิคฺคหิตเกน อตฺโถ’’ติ วุตฺเต ปน สเจ โส ตํ คเหตฺวา อฺํ เทติ, ปมํ อตฺตโน เตลํ น มินาเปตพฺพํ. กสฺมา? นาฬิยฺหิ อวสิฏฺเตลํ โหติ, ตํ ปจฺฉา มินนฺตสฺส อปฺปฏิคฺคหิตํ ทูเสยฺย. อยฺจ กยวิกฺกโย นาม กปฺปิยภณฺฑวเสน วุตฺโต. กปฺปิเยน หิ กปฺปิยํ ปริวตฺเตนฺตสฺส กยวิกฺกยสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ วุตฺตํ, อกปฺปิเยน ปน อกปฺปิยํ ปริวตฺเตนฺตสฺส, กปฺปิเยน วา อกปฺปิยํ อกปฺปิเยน วา กปฺปิยํ ปริวตฺเตนฺตสฺส รูปิยสํโวหารสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ, ตสฺมา อุโภสุ วา เอกสฺมึ วา อกปฺปิเย สติ รูปิยสํโวหาโร นาม โหติ.

๕๘. รูปิยสํโวหารสฺส จ ครุภาวทีปนตฺถํ อิทํ ปตฺตจตุกฺกํ เวทิตพฺพํ. โย หิ รูปิยํ อุคฺคณฺหิตฺวา เตน อยพีชํ สมุฏฺาเปติ, ตํ โกฏฺฏาเปตฺวา เตน โลเหน ปตฺตํ กาเรติ, อยํ ปตฺโต มหาอกปฺปิโย นาม, น สกฺกา เกนจิ อุปาเยน กปฺปิโย กาตุํ. สเจปิ ตํ วินาเสตฺวา ถาลกํ กาเรติ, ตมฺปิ อกปฺปิยํ. วาสึ กาเรติ, ตาย ฉินฺนทนฺตกฏฺมฺปิ อกปฺปิยํ. พฬิสํ กาเรติ, เตน มาริตา มจฺฉาปิ อกปฺปิยา. วาสึ ตาเปตฺวา อุทกํ วา ขีรํ วา อุณฺหาเปติ, ตมฺปิ อกปฺปิยเมว.

โย ปน รูปิยํ อุคฺคณฺหิตฺวา เตน ปตฺตํ กิณาติ, อยมฺปิ ปตฺโต อกปฺปิโย. ‘‘ปฺจนฺนมฺปิ สหธมฺมิกานํ น กปฺปตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. สกฺกา ปน กปฺปิโย กาตุํ. โส หิ มูเล มูลสามิกานํ, ปตฺเต จ ปตฺตสามิกานํ ทินฺเน กปฺปิโย โหติ, กปฺปิยภณฺฑํ ทตฺวา คเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ.

โยปิ รูปิยํ อุคฺคณฺหาเปตฺวา กปฺปิยการเกน สทฺธึ กมฺมารกุลํ คนฺตฺวา ปตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มยฺหํ รุจฺจตี’’ติ วทติ, กปฺปิยการโก จ ตํ รูปิยํ ทตฺวา กมฺมารํ สฺาเปติ, อยมฺปิ ปตฺโต กปฺปิยโวหาเรน คหิโตปิ ทุติยปตฺตสทิโสเยว, มูลสฺส สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา อกปฺปิโย. กสฺมา เสสานํ น กปฺปตีติ? มูลสฺส อนิสฺสฏฺตฺตา.

โย ปน รูปิยํ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘เถรสฺส ปตฺตํ กิณิตฺวา เทหี’’ติ ปหิตกปฺปิยการเกน สทฺธึ กมฺมารกุลํ คนฺตฺวา ปตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อิเม กหาปเณ คเหตฺวา อิมํ เทหี’’ติ กหาปเณ ทาเปตฺวา คหิโต, อยํ ปตฺโต เอตสฺเสว ภิกฺขุโน น วฏฺฏติ ทุพฺพิจาริตตฺตา, อฺเสํ ปน วฏฺฏติ มูลสฺส อสมฺปฏิจฺฉิตตฺตา. มหาสุมตฺเถรสฺส กิร อุปชฺฌาโย อนุรุทฺธตฺเถโร นาม อโหสิ. โส อตฺตโน เอวรูปํ ปตฺตํ สปฺปิสฺส ปูเรตฺวา สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชิ. ติปิฏกจูฬนาคตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกานํ เอวรูโป ปตฺโต อโหสิ. ตํ เถโรปิ สปฺปิสฺส ปูเรตฺวา สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชาเปสีติ. อิทํ อกปฺปิยปตฺตจตุกฺกํ.

สเจ ปน รูปิยํ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘เถรสฺส ปตฺตํ กิณิตฺวา เทหี’’ติ ปหิตกปฺปิยการเกน สทฺธึ กมฺมารกุลํ คนฺตฺวา ปตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มยฺหํ รุจฺจตี’’ติ วา ‘‘อิมาหํ คเหสฺสามี’’ติ วา วทติ, กปฺปิยการโก จ ตํ รูปิยํ ทตฺวา กมฺมารํ สฺาเปติ, อยํ ปตฺโต สพฺพกปฺปิโย พุทฺธานมฺปิ ปริโภคารโห. อิมํ ปน รูปิยสํโวหารํ กโรนฺเตน ‘‘อิมินา อิมํ คเหตฺวา เทหี’’ติ กปฺปิยการกมฺปิ อาจิกฺขิตุํ น วฏฺฏติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

กยวิกฺกยสมาปตฺติวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๑๒. รูปิยาทิปฏิคฺคหณวินิจฺฉยกถา

๕๙. รูปิยาทิปฏิคฺคโหติ ชาตรูปาทิปฏิคฺคณฺหนํ. ตตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๔) ชาตรูปํ รชตํ ชาตรูปมาสโก รชตมาสโกติ จตุพฺพิธํ นิสฺสคฺคิยวตฺถุ. ตมฺพโลหาทีหิ กโต โลหมาสโก. สารทารุนา วา เวฬุเปสิกาย วา อนฺตมโส ตาลปณฺเณนปิ รูปํ ฉินฺทิตฺวา กโต ทารุมาสโก. ลาขาย วา นิยฺยาเสน วา รูปํ สมุฏฺาเปตฺวา กโต ชตุมาสโก. โย โย ยตฺถ ยตฺถ ชนปเท ยทา ยทา โวหารํ คจฺฉติ, อนฺตมโส อฏฺิมโยปิ จมฺมมโยปิ รุกฺขผลพีชมโยปิ สมุฏฺาปิตรูโปปิ อสมุฏฺาปิตรูโปปีติ อยํ สพฺโพปิ รชตมาสเกเนว สงฺคหิโต. มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ โลหิตงฺโก มสารคลฺลํ สตฺต ธฺานิ ทาสิทาสเขตฺตวตฺถุปุปฺผารามผลารามาทโยติ อิทํ ทุกฺกฏวตฺถุ. ตตฺถ นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ อตฺตโน วา สงฺฆคณปุคฺคลเจติยานํ วา อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ. อตฺตโน อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ โหติ, เสสานํ อตฺถาย ทุกฺกฏํ. ทุกฺกฏวตฺถุํ สพฺเพสมฺปิ อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉโต ทุกฺกฏเมว.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๙) – สเจ โกจิ ชาตรูปรชตํ อาหริตฺวา ‘‘อิทํ สงฺฆสฺส ทมฺมิ, อารามํ วา กโรถ เจติยํ วา โภชนสาลาทีนํ วา อฺตร’’นฺติ วทติ, อิทํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน ‘‘นยิทํ ภิกฺขูนํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺเต ‘‘วฑฺฒกีนํ วา กมฺมการานํ วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, เกวลํ ตุมฺเห สุกตทุกฺกฏํ ชานาถา’’ติ วตฺวา เตสํ หตฺเถ ทตฺวา ปกฺกมติ, วฏฺฏติ. อถาปิ ‘‘มม มนุสฺสานํ หตฺเถ ภวิสฺสติ, มยฺหเมว วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, เกวลํ ตุมฺเห ยํ ยสฺส ทาตพฺพํ, ตทตฺถาย เปเสถา’’ติ วทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. สเจ ปน สํฆํ วา คณํ วา ปุคฺคลํ วา อนามสิตฺวา ‘‘อิทํ หิรฺสุวณฺณํ เจติยสฺส เทม, วิหารสฺส เทม, นวกมฺมสฺส เทมา’’ติ วทนฺติ, ปฏิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ, ‘‘อิเม อิทํ ภณนฺตี’’ติ กปฺปิยการกานํ อาจิกฺขิตพฺพํ. ‘‘เจติยาทีนํ อตฺถาย ตุมฺเห คเหตฺวา เปตฺวา’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘อมฺหากํ คเหตุํ น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ.

สเจ ปน โกจิ พหุํ หิรฺสุวณฺณํ อาเนตฺวา ‘‘อิทํ สํฆสฺส ทมฺมิ, จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภุฺชถา’’ติ วทติ, ตฺเจ สํโฆ สมฺปฏิจฺฉติ, ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ อาปตฺติ. ตตฺร เจโก ภิกฺขุ ‘‘นยิทํ กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปติ, อุปาสโก จ ‘‘ยทิน กปฺปติ, มยฺหเมว ภวิสฺสตี’’ติ ตํ อาทาย คจฺฉติ. โส ภิกฺขุ ‘‘ตยา สํฆสฺส ลาภนฺตราโย กโต’’ติ น เกนจิ กิฺจิ วตฺตพฺโพ. โย หิ ตํ โจเทติ, สฺเวว สาปตฺติโก โหติ. เตน ปเนเกน พหู อนาปตฺติกา กตา. สเจ ปน ภิกฺขูหิ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺเต ‘‘กปฺปิยการกานํ วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, มม ปุริสานํ วา มยฺหํ วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, เกวลํ ตุมฺเห ปจฺจเย ปริภุฺชถา’’ติ วทติ, วฏฺฏติ.

จตุปจฺจยตฺถาย จ ทินฺนํ เยน เยน ปจฺจเยน อตฺโถ โหติ, ตํ ตทตฺถํ อุปเนตพฺพํ. จิวรตฺถาย ทินฺนํ จีวเรเยว อุปเนตพฺพํ. สเจ จีวเรน ตาทิโส อตฺโถ นตฺถิ, ปิณฺฑปาตาทีหิ สํโฆ กิลมติ, สํฆสุฏฺุตาย อปโลเกตฺวา ตทตฺถายปิ อุปเนตพฺพํ. เอส นโย ปิณฺฑปาตคิลานปจฺจยตฺถาย ทินฺเนปิ. เสนาสนตฺถาย ทินฺนํ ปน เสนาสนสฺส ครุภณฺฑตฺตา เสนาสเนเยว อุปเนตพฺพํ. สเจ ปน ภิกฺขูสุ เสนาสนํ ฉฑฺเฑตฺวา คเตสุ เสนาสนํ วินสฺสติ, อีทิเส กาเล เสนาสนํ วิสฺสชฺเชตฺวาปิ ภิกฺขูนํ ปริโภโค อนุฺาโต, ตสฺมา เสนาสนชคฺคนตฺถํ มูลจฺเฉชฺชํ อกตฺวา ยาปนมตฺตํ ปริภุฺชิตพฺพํ.

๖๐. สเจ โกจิ ‘‘มยฺหํ ติสสฺสสมฺปาทนกํ มหาตฬากํ อตฺถิ, ตํ สํฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ, ตฺเจ สํโฆ สมฺปฏิจฺฉติ, ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ อาปตฺติเยว. โย ปน ตํ ปฏิกฺขิปติ, โส ปุริมนเยเนว น เกนจิ กิฺจิ วตฺตพฺโพ. โย หิ ตํ โจเทติ, สฺเวว สาปตฺติโก โหติ. เตน ปเนเกน พหู อนาปตฺติกา กตา. โย ปน ‘‘ตาทิสํเยว ตฬากํ ทมฺมี’’ติ วตฺวา ภิกฺขูหิ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺโต วทติ ‘‘อสุกฺจ อสุกฺจ สงฺฆสฺส ตฬากํ อตฺถิ, ตํ กถํ วฏฺฏตี’’ติ. โส วตฺตพฺโพ ‘‘กปฺปิยํ กตฺวา ทินฺนํ ภวิสฺสตี’’ติ. กถํ ทินฺนํ กปฺปิยํ โหตีติ. ‘‘จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภุฺชถา’’ติ วตฺวา ทินฺนนฺติ. โส สเจ ‘‘สาธุ, ภนฺเต จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภุฺชถา’’ติ เทติ, วฏฺฏติ. อถาปิ ‘‘ตฬากํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺโต ‘‘กปฺปิยการโก อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘นตฺถี’’ติ วุตฺเต ‘‘อิทํ อสุโก นาม วิจาเรสฺสติ, อสุกสฺส วา หตฺเถ มยฺหํ วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, สงฺโฆ กปฺปิยภณฺฑํ ปริภุฺชตู’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. สเจปิ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺโต ‘‘อุทกํ ปริภุฺชิสฺสติ, ภณฺฑกํ โธวิสฺสติ, มิคปกฺขิโน ปิวิสฺสนฺตี’’ติ วทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. อถาปิ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺโต วทติ ‘‘กปฺปิยสีเสน คณฺหถา’’ติ. ‘‘สาธุ อุปาสก, สงฺโฆ ปานียํ ปิวิสฺสติ, ภณฺฑกํ โธวิสฺสติ, มิคปกฺขิโน ปิวิสฺสนฺตี’’ติ วตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. อถาปิ ‘‘มม ตฬากํ วา โปกฺขรณึ วา สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ อุปาสก, สงฺโฆ ปานียํ ปิวิสฺสตี’’ติอาทีนิ วตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติเยว.

ยทิ ปน ภิกฺขูหิ หตฺถกมฺมํ ยาจิตฺวา สหตฺเถน จ กปฺปิยปถวึ ขณิตฺวา อุทกปริโภคตฺถาย ตฬากํ การิตํ โหติ, ตฺเจ นิสฺสาย สสฺสํ นิปฺผาเทตฺวา มนุสฺสา วิหาเร กปฺปิยภณฺฑํ เทนฺติ, วฏฺฏติ. อถ มนุสฺสา เอว สงฺฆสฺส อุปการตฺถาย สงฺฆิกภูมึ ขณิตฺวา ตํ นิสฺสาย นิปฺผนฺนสสฺสโต กปฺปิยภณฺฑํ เทนฺติ, เอตมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘อมฺหากํ เอกํ กปฺปิยการกํ เปถา’’ติ วุตฺเต จ เปตุมฺปิ ลพฺภติ. อถ เต มนุสฺสา ราชพลินา อุปทฺทุตา ปกฺกมนฺติ, อฺเ ปฏิปชฺชนฺติ, น จ ภิกฺขูนํ กิฺจิ เทนฺติ, อุทกํ วาเรตุํ ลพฺภติ, ตฺจ โข กสิกมฺมกาเลเยว, น สสฺสกาเล. สเจ เต วทนฺติ ‘‘นนุ, ภนฺเต, ปุพฺเพปิ มนุสฺสา อิมํ นิสฺสาย สสฺสํ อกํสู’’ติ, ตโต วตฺตพฺพา ‘‘เต สงฺฆสฺส อิมฺจ อิมฺจ อุปการํ อกํสุ, อิทฺจิทฺจ กปฺปิยภณฺฑกํ อทํสู’’ติ. สเจ เต วทนฺติ ‘‘มยมฺปิ ทสฺสามา’’ติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ.

สเจ ปน โกจิ อพฺยตฺโต อกปฺปิยโวหาเรน ตฬากํ ปฏิคฺคณฺหาติ วา กาเรติ วา, ตํ ภิกฺขูหิ น ปริภุฺชิตพฺพํ, ตํ นิสฺสาย ลทฺธกปฺปิยภณฺฑมฺปิ อกปฺปิยเมว. สเจ ภิกฺขูหิ ปริจฺจตฺตภาวํ ตฺวา สามิโก วา ตสฺส ปุตฺตธีตโร วา อฺโ วา โกจิ วํเส อุปฺปนฺโน ปุน กปฺปิยโวหาเรน เทติ, วฏฺฏติ. ปจฺฉินฺเน กุลวํเส โย ตสฺส ชนปทสฺส สามิโก, โส อจฺฉินฺทิตฺวา กปฺปิยโวหาเรน ปุน เทติ จิตฺตลปพฺพเต ภิกฺขุนา นีหฏอุทกวาหกํ อฬนาคราชมเหสี วิย, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. กปฺปิยโวหาเรปิ อุทกวเสน ปฏิคฺคหิตตฬาเก สุทฺธจิตฺตานํ มตฺติกุทฺธรณปาฬิพนฺธนาทีนิ จ กาตุํ วฏฺฏติ. ตํ นิสฺสาย ปน สสฺสํ กโรนฺเต ทิสฺวา กปฺปิยการกํ เปตุํ น วฏฺฏติ. ยทิ เต สยเมว กปฺปิยภณฺฑํ เทนฺติ, คเหตพฺพํ. โน เจ เทนฺติ, น โจเทตพฺพํ. ปจฺจยวเสน ปฏิคฺคหิตตฬาเก กปฺปิยการกํ เปตุํ วฏฺฏติ, มตฺติกุทฺธรณปาฬิพนฺธนาทีนิ กาเรตุํ น วฏฺฏติ. สเจ กปฺปิยการกา สยเมว กโรนฺติ, วฏฺฏติ. อพฺยตฺเตน ปน ลชฺชิภิกฺขุนา การาปิเตสุ กิฺจาปิ ปฏิคฺคหณํ กปฺปิยํ, ภิกฺขุสฺส ปน ปโยคปจฺจยา อุปฺปนฺเนน มิสฺสตฺตา วิสคตปิณฺฑปาโต วิย อกปฺปิยมํสรสมิสฺสโภชนํ วิย จ ทุพฺพินิโภคํ โหติ, สพฺเพสํ อกปฺปิยเมว.

๖๑. สเจ ปน อุทกสฺส โอกาโส อตฺถิ, ตฬากสฺส ปาฬิ ถิรา, ‘‘ยถา พหุํ อุทกํ คณฺหาติ, เอวํ กโรหิ, ตีรสมีเป อุทกํ กโรหี’’ติ เอวํ อุทกเมว วิจาเรติ, วฏฺฏติ. อุทฺธเน อคฺคึ น ปาเตนฺติ, ‘‘อุทกกมฺมํ ลพฺภตุ อุปาสกา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ, ‘‘สสฺสํ กตฺวา อาหรถา’’ติ วตฺตุํ ปน น วฏฺฏติ. สเจ ปน ตฬาเก อติพหุํ อุทกํ ทิสฺวา ปสฺสโต วา ปิฏฺิโต วา มาติกํ นีหราเปติ, วนํ ฉินฺทาเปตฺวา เกทาเร การาเปติ, โปราณเกทาเรสุ วา ปกติภาคํ อคฺคเหตฺวา อติเรกํ คณฺหาติ, นวสสฺเส วา อปริจฺฉินฺนภาเค ‘‘เอตฺตเก กหาปเณ เทถา’’ติ กหาปเณ อุฏฺาเปติ, สพฺเพสํ อกปฺปิยํ.

โย ปน ‘‘กสถ วปถา’’ติ อวตฺวา ‘‘เอตฺตกาย ภูมิยา เอตฺตโก นาม ภาโค’’ติ เอวํ ภูมึ วา ปติฏฺาเปติ, ‘‘เอตฺตเก ภูมิภาเค อมฺเหหิ สสฺสํ กตํ, เอตฺตกํ นาม ภาคํ คณฺหถา’’ติ วทนฺเตสุ กสฺสเกสุ ภูมิปฺปมาณคหณตฺถํ รชฺชุยา วา ทณฺเฑน วา มินาติ, ขเล วา ตฺวา รกฺขติ, ขลโต วา นีหราเปติ, โกฏฺาคาเร วา ปฏิสาเมติ, ตสฺเสว ตํ อกปฺปิยํ. สเจ กสฺสกา กหาปเณ อาหริตฺวา ‘‘อิเม สงฺฆสฺส อาหฏา’’ติ วทนฺติ, อฺตโร จ ภิกฺขุ ‘‘น สงฺโฆ กหาปเณ ขาทตี’’ติ สฺาย ‘‘เอตฺตเกหิ กหาปเณหิ สาฏเก อาหรถ, เอตฺตเกหิ ยาคุอาทีนิ สมฺปาเทถา’’ติ วทติ, ยํ เต อาหรนฺติ, ตํ สพฺเพสํ อกปฺปิยํ. กสฺมา? กหาปณานํ วิจาริตตฺตา. สเจ ธฺํ อาหริตฺวา ‘‘อิทํ สงฺฆสฺส อาหฏ’’นฺติ วทนฺติ, อฺตโร จ ภิกฺขุ ปุริมนเยเนว ‘‘เอตฺตเกหิ วีหีหิ อิทฺจิทฺจ อาหรถา’’ติ วทติ, ยํ เต อาหรนฺติ, ตํ ตสฺเสว อกปฺปิยํ. กสฺมา? ธฺสฺส วิจาริตตฺตา. สเจ ตณฺฑุลํ วา อปรณฺณํ วา อาหริตฺวา ‘‘อิทํ สงฺฆสฺส อาหฏ’’นฺติ วทนฺติ, อฺตโร จ ภิกฺขุ ปุริมนเยเนว ‘‘เอตฺตเกหิ ตณฺฑุเลหิ อิทฺจิทฺจ อาหรถา’’ติ วทติ, ยํ เต อาหรนฺติ, ตํ สพฺเพสํ กปฺปิยํ. กสฺมา? กปฺปิยานํ ตณฺฑุลาทีนํ วิจาริตตฺตา. กยวิกฺกเยปิ อนาปตฺติ กปฺปิยการกสฺส อาจิกฺขิตตฺตา.

๖๒. ปุพฺเพ ปน จิตฺตลปพฺพเต เอโก ภิกฺขุ จตุสาลทฺวาเร ‘‘อโห วต สฺเว สงฺฆสฺส เอตฺตกปฺปมาเณ ปูเว ปเจยฺยุ’’นฺติ อารามิกานํ สฺาชนนตฺถํ ภูมิยํ มณฺฑลํ อกาสิ. ตํ ทิสฺวา เฉโก อารามิโก ตเถว กตฺวา ทุติยทิวเส เภริยา อาโกฏิตาย สนฺนิปติเต สงฺเฆ ปูวํ คเหตฺวา สงฺฆตฺเถรํ อาห – ‘‘ภนฺเต, อมฺเหหิ อิโต ปุพฺเพ เนว ปิตูนํ, น ปิตามหานํ เอวรูปํ สุตปุพฺพํ, เอเกน อยฺเยน จตุสาลทฺวาเร ปูวตฺถาย สฺา กตา, อิโต ทานิ ปภุติ อยฺยา อตฺตโน อตฺตโน จิตฺตานุรูปํ วทนฺตุ, อมฺหากมฺปิ ผาสุวิหาโร ภวิสฺสตี’’ติ. มหาเถโร ตโตว นิวตฺติ, เอกภิกฺขุนาปิ ปูโว น คหิโต. เอวํ ปุพฺเพ ตตฺรุปฺปาทํ น ปริภุฺชึสุ. ตสฺมา –

สลฺเลขํ อจฺจชนฺเตน, อปฺปมตฺเตน ภิกฺขุนา;

กปฺปิเยปิ น กาตพฺพา, อามิสตฺถาย โลลตาติ. (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๙);

โย จายํ ตฬาเก วุตฺโต, โปกฺขรณีอุทกวาหกมาติกาทีสุปิ เอเสว นโย.

๖๓. ปุพฺพณฺณาปรณฺณอุจฺฉุผลาผลาทีนํ วิรุหนฏฺานํ ยํ กิฺจิ เขตฺตํ วา วตฺถุํ วา ‘‘ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ตฬาเก วุตฺตนเยเนว ยทา กปฺปิยโวหาเรน ‘‘จตุปจฺจยปริโภคตฺถาย ทมฺมี’’ติ วทติ, ตทา สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ, ‘‘วนํ ทมฺมิ อรฺํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปน วฏฺฏติ. สเจ มนุสฺสา ภิกฺขูหิ อนาณตฺตาเยว ตตฺถ รุกฺเข ฉินฺทิตฺวา อปรณฺณาทีนิ สมฺปาเทตฺวา ภิกฺขูนํ ภาคํ เทนฺติ, วฏฺฏติ, อเทนฺตา น โจเทตพฺพา. สเจ เกนจิเทว อนฺตราเยน เตสุ ปกฺกนฺเตสุ อฺเ กโรนฺติ, น จ ภิกฺขูนํ กิฺจิ เทนฺติ, เต วาเรตพฺพา. สเจ วทนฺติ ‘‘นนุ, ภนฺเต, ปุพฺเพ มนุสฺสา อิธ สสฺสานิ อกํสู’’ติ, ตโต วตฺตพฺพา ‘‘เต สงฺฆสฺส อิทฺจิทฺจ กปฺปิยภณฺฑํ อทํสู’’ติ. สเจ วทนฺติ ‘‘มยมฺปิ ทสฺสามา’’ติ, เอวํ วฏฺฏติ.

กิฺจิ สสฺสุฏฺานกํ ภูมิปฺปเทสํ สนฺธาย ‘‘สีมํ เทมา’’ติ วทนฺติ, วฏฺฏติ. สีมปริจฺเฉทนตฺถํ ปน ถมฺภา วา ปาสาณา วา สยํ น เปตพฺพา, ภูมิ นาม อนคฺฆา, อปฺปเกนปิ ปาราชิโก ภเวยฺย. อารามิกานํ ปน วตฺตพฺพํ ‘‘อิมินา าเนน อมฺหากํ สีมา คตา’’ติ. สเจปิ หิ เต อธิกํ คณฺหนฺติ, ปริยาเยน กถิตตฺตา อนาปตฺติ. ยทิ ปน ราชราชมหามตฺตาทโย สยเมว ถมฺเภ ปาเปตฺวา ‘‘จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภุฺชถา’’ติ เทนฺติ, วฏฺฏติเยว.

สเจ โกจิ อนฺโตสีมายํ ตฬากํ วา ขณติ, วิหารมชฺเฌน วา มาติกํ เนติ, เจติยงฺคณโพธิยงฺคณาทีนิ ทุสฺสนฺติ, วาเรตพฺโพ. สเจ สงฺโฆ กิฺจิ ลภิตฺวา อามิสครุกตาย น วาเรติ, เอโก ภิกฺขุ วาเรติ, โสว ภิกฺขุ อิสฺสโร. สเจ เอโก ภิกฺขุ น วาเรติ ‘‘เนถ ตุมฺเห’’ติ, เตสํเยว ปกฺโข โหติ. สงฺโฆ วาเรติ, สงฺโฆว อิสฺสโร. สงฺฆิเกสุ หิ กมฺเมสุ โย ธมฺมกมฺมํ กโรติ, โสว อิสฺสโร. สเจ วาริยมาโนปิ กโรติ, เหฏฺา คหิตํ ปํสุํ เหฏฺา ปกฺขิปิตฺวา, อุปริ คหิตํ ปํสุํ อุปริ ปกฺขิปิตฺวา ปูเรตพฺพา.

สเจ โกจิ ยถาชาตเมว อุจฺฉุํ วา อปรณฺณํ วา อลาพุกุมฺภณฺฑาทิกํ วา วลฺลิผลํ ทาตุกาโม ‘‘เอตํ สพฺพํ อุจฺฉุเขตฺตํ อปรณฺณวตฺถุํ วลฺลิผลาวาฏํ ทมฺมี’’ติ วทติ, สห วตฺถุนา ปรามฏฺตฺตา น วฏฺฏตีติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘อภิลาปมตฺตเมตํ, สามิกานํเยว หิ โส ภูมิภาโค, ตสฺมา วฏฺฏตี’’ติ อาห. ‘‘ทาสํ ทมฺมี’’ติ วทติ, น วฏฺฏติ. ‘‘อารามิกํ ทมฺมิ, เวยฺยาวจฺจกรํ ทมฺมิ, กปฺปิยการกํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต วฏฺฏติ. สเจ อารามิโก ปุเรภตฺตมฺปิ ปจฺฉาภตฺตมฺปิ สงฺฆสฺเสว กมฺมํ กโรติ, สามเณรสฺส วิย สพฺพํ เภสชฺชํ ปฏิชคฺคนมฺปิ ตสฺส กาตพฺพํ. สเจ ปุเรภตฺตเมว สงฺฆสฺส กมฺมํ กโรติ, ปจฺฉาภตฺตํ อตฺตโน กโรติ, สายํ นิวาโป น ทาตพฺโพ. เยปิ ปฺจทิวสวาเรน วา ปกฺขวาเรน วา สงฺฆสฺส กมฺมํ กตฺวา เสสกาเล อตฺตโน กมฺมํ กโรนฺติ, เตสมฺปิ กรณกาเลเยว ภตฺตฺจ นิวาโป จ ทาตพฺโพ. สเจ สงฺฆสฺส กมฺมํ นตฺถิ, อตฺตโนเยว กมฺมํ กตฺวา ชีวนฺติ, เต เจ หตฺถกมฺมมูลํ อาเนตฺวา เทนฺติ, คเหตพฺพํ. โน เจ เทนฺติ, น กิฺจิ วตฺตพฺพา. ยํ กิฺจิ รชกทาสมฺปิ เปสการทาสมฺปิ อารามิกนาเมน สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ.

สเจ ‘‘คาโว เทมา’’ติ วทนฺติ, ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตพฺพา. อิมา คาโว กุโตติ. ปณฺฑิเตหิ ปฺจโครสปริโภคตฺถาย ทินฺนาติ. ‘‘มยมฺปิ ปฺจโครสปริโภคตฺถาย เทมา’’ติ วุตฺเต วฏฺฏนฺติ. อชิกาทีสุปิ เอเสว นโย. ‘‘หตฺถึ เทม, อสฺสํ, มหึสํ, กุกฺกุฏํ, สูกรํ เทมา’’ติ วทนฺติ, สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ. สเจ เกจิ มนุสฺสา ‘‘อปฺโปสฺสุกฺกา, ภนฺเต, ตุมฺเห โหถ, มยํ อิเม คเหตฺวา ตุมฺหากํ กปฺปิยภณฺฑํ ทสฺสามา’’ติ คณฺหนฺติ, วฏฺฏติ. กุกฺกุฏสูกเร ‘‘สุขํ ชีวนฺตู’’ติ อรฺเ วิสฺสชฺชาเปตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อิมํ ตฬากํ, อิมํ เขตฺตํ, อิมํ วตฺถุํ วิหารสฺส เทมา’’ติ วุตฺเต ปฏิกฺขิปิตุํ น ลพฺภติ.

๖๔. สเจ โกจิ ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส ทูเตน หิรฺสุวณฺณาทิจีวรเจตาปนฺนํ ปหิเณยฺย ‘‘อิมินา จีวรเจตาปนฺเนน จีวรํ เจตาเปตฺวา อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวเรน อจฺฉาเทหี’’ติ, โส เจ ทูโต ตํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทยฺย ‘‘อิทํ โข, ภนฺเต, อายสฺมนฺตํ อุทฺทิสฺส จีวรเจตาปนฺนํ อาภตํ, ปฏิคฺคณฺหตุ อายสฺมา จีวรเจตาปนฺน’’นฺติ, เตน ภิกฺขุนา โส ทูโต เอวมสฺส วจนีโย ‘‘น โข มยํ, อาวุโส, จีวรเจตาปนฺนํ ปฏิคฺคณฺหาม, จีวรฺจ โข มยํ ปฏิคฺคณฺหาม กาเลน กปฺปิย’’นฺติ. โส เจ ทูโต ตํ ภิกฺขุํ เอวํ วเทยฺย ‘‘อตฺถิ ปนายสฺมโต โกจิ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ, จีวรตฺถิเกน ภิกฺขุนา เวยฺยาวจฺจกโร นิทฺทิสิตพฺโพ อารามิโก วา อุปาสโก วา ‘‘เอโส โข, อาวุโส, ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ. น วตฺตพฺโพ ‘‘ตสฺส เทหี’’ติ วา ‘‘โส วา นิกฺขิปิสฺสติ, โส วา ปริวตฺเตสฺสติ, โส วา เจตาเปสฺสตี’’ติ. โส เจ ทูโต ตํ เวยฺยาวจฺจกรํ สฺาเปตฺวา ตํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทยฺย ‘‘ยํ โข, ภนฺเต, อายสฺมา เวยฺยาวจฺจกรํ นิทฺทิสิ, อาณตฺโต โส มยา, อุปสงฺกมตุ อายสฺมา กาเลน, จีวเรน ตํ อจฺฉาเทสฺสตี’’ติ. จีวรตฺถิเกน ภิกฺขุนา เวยฺยาวจฺจกโร อุปสงฺกมิตฺวา ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ โจเทตพฺโพ สาเรตพฺโพ ‘‘อตฺโถ เม, อาวุโส, จีวเรนา’’ติ. น วตฺตพฺโพ ‘‘เทหิ เม จีวรํ, อาหร เม จีวรํ, ปริวตฺเตหิ เม จีวรํ, เจตาเปหิ เม จีวร’’นฺติ. สเจ ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ โจทยมาโน สารยมาโน ตํ จีวรํ อภินิปฺผาเทติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ อภินิปฺผาเทติ, ตตฺถ คนฺตฺวา จตุกฺขตฺตุํ ปฺจกฺขตฺตุํ ฉกฺขตฺตุปรมํ ตุณฺหีภูเตน อุทฺทิสฺส าตพฺพํ, น อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น อามิสํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, น ธมฺโม ภาสิตพฺโพ. ‘‘กึ การณา อาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิยมาเนน ‘‘ชานาหิ, อาวุโส’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ.

สเจ อาสเน วา นิสีทติ, อามิสํ วา ปฏิคฺคณฺหาติ, ธมฺมํ วา ภาสติ, านํ ภฺชติ. สเจ จตุกฺขตฺตุํ โจเทติ, จตุกฺขตฺตุํ าตพฺพํ. ปฺจกฺขตฺตุํ โจเทติ, ทฺวิกฺขตฺตุํ าตพฺพํ. ฉกฺขตฺตุํ โจเทติ, น าตพฺพํ. เอกาย หิ โจทนาย านทฺวยํ ภฺชติ. ยถา ฉกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา น าตพฺพํ, เอวํ ทฺวาทสกฺขตฺตุํ ตฺวา น โจเทตพฺพํ. ตสฺมา สเจ โจเทติเยว น ติฏฺติ, ฉ โจทนา ลพฺภนฺติ. สเจ ติฏฺติเยว น โจเทติ, ทฺวาทส านานิ ลพฺภนฺติ. สเจ โจเทติปิ ติฏฺติปิ, เอกาย โจทนาย ทฺเว านานิ หาเปตพฺพานิ. ตตฺถ โย เอกทิวสเมว ปุนปฺปุนํ คนฺตฺวา ฉกฺขตฺตุํ โจเทติ, สกึเยว วา คนฺตฺวา ‘‘อตฺโถ เม, อาวุโส, จีวเรนา’’ติ ฉกฺขตฺตุํ วทติ, ตตฺถ เอกทิวสเมว ปุนปฺปุนํ คนฺตฺวา ทฺวาทสกฺขตฺตุํ ติฏฺติ, สกิเมว วา คนฺตฺวา ตตฺร ตตฺร าเน ติฏฺติ, โสปิ สพฺพโจทนาโย สพฺพฏฺานานิ จ ภฺชติ, โก ปน วาโท นานาทิวเสสุ. ตโต เจ อุตฺตริ วายมมาโน ตํ จีวรํ อภินิปฺผาเทติ, ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหติ. โน เจ สกฺโกติ ตํ อภินิปฺผาเทตุํ, ยโต ราชโต ราชมหามตฺตโต วา อสฺส ภิกฺขุโน ตํ จีวรเจตาปนฺนํ อานีตํ, ตสฺส สนฺติกํ สามํ วา คนฺตพฺพํ, ทูโต วา ปาเหตพฺโพ ‘‘ยํ โข ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส จีวรเจตาปนฺนํ ปหิณิตฺถ, น ตํ ตสฺส ภิกฺขุโน กิฺจิ อตฺถํ อนุโภติ, ยุฺชนฺตายสฺมนฺโต สกํ, มา ตุมฺหากํ สนฺตกํ วินสฺสตู’’ติ. อยํ ตตฺถ สามีจิ. โย ปน เนว สามํ คจฺฉติ, น ทูตํ ปาเหติ, วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ.

๖๕. กึ ปน (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๙) สพฺพกปฺปิยการเกสุ เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ? น ปฏิปชฺชิตพฺพํ. อยฺหิ กปฺปิยการโก นาม สงฺเขปโต ทุวิโธ นิทฺทิฏฺโ อนิทฺทิฏฺโ จ. ตตฺถ นิทฺทิฏฺโ ทุวิโธ ภิกฺขุนา นิทฺทิฏฺโ ทูเตน นิทฺทิฏฺโติ. อนิทฺทิฏฺโปิ ทุวิโธ มุขเววฏิกกปฺปิยการโก ปรมฺมุขกปฺปิยการโกติ. เตสุ ภิกฺขุนา นิทฺทิฏฺโ สมฺมุขาสมฺมุขวเสน จตุพฺพิโธ โหติ, ตถา ทูเตน นิทฺทิฏฺโปิ. กถํ? อิเธกจฺโจ ภิกฺขุสฺส จีวรตฺถาย ทูเตน อกปฺปิยวตฺถุํ ปหิณติ, ทูโต ตํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อิทํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนาเมน ตุมฺหากํ จีวรตฺถาย ปหิตํ, คณฺหถ น’’นฺติ วทติ, ภิกฺขุ ‘‘นยิทํ กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปติ, ทูโต ‘‘อตฺถิ ปน เต, ภนฺเต, เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ ปุจฺฉติ, ปุฺตฺถิเกหิ จ อุปาสเกหิ ‘‘ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจํ กโรถา’’ติ อาณตฺตา วา, ภิกฺขูนํ วา สนฺทิฏฺสมฺภตฺตา เกจิ เวยฺยาวจฺจกรา โหนฺติ, เตสํ อฺตโร ตสฺมึ ขเณ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก นิสินฺโน โหติ, ภิกฺขุ ตํ นิทฺทิสติ ‘‘อยํ ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ, ทูโต ตสฺส หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ‘‘เถรสฺส จีวรํ กิณิตฺวา เทหี’’ติ คจฺฉติ, อยํ ภิกฺขุนา สมฺมุขานิทฺทิฏฺโ.

โน เจ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก นิสินฺโน โหติ, อปิจ โข ภิกฺขุ นิทฺทิสติ ‘‘อสุกสฺมึ นาม คาเม อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ, โส คนฺตฺวา ตสฺส หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ‘‘เถรสฺส จีวรํ กิณิตฺวา ทเทยฺยาสี’’ติ อาคนฺตฺวา ภิกฺขุสฺส อาโรเจตฺวา คจฺฉติ, อยเมโก ภิกฺขุนา อสมฺมุขานิทฺทิฏฺโ.

น เหว โข โส ทูโต อตฺตนา อาคนฺตฺวา อาโรเจติ, อปิจ โข อฺํ ปหิณติ ‘‘ทินฺนํ มยา, ภนฺเต, ตสฺส หตฺเถ จีวรเจตาปนฺนํ, ตุมฺเห จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ, อยํ ทุติโย ภิกฺขุนา อสมฺมุขานิทฺทิฏฺโ.

น เหว โข อฺํ ปหิณติ, อปิจ คจฺฉนฺโตว ภิกฺขุํ วทติ ‘‘อหํ ตสฺส หตฺเถ จีวรเจตาปนฺนํ ทสฺสามิ, ตุมฺเห จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ, อยํ ตติโย ภิกฺขุนา อสมฺมุขานิทฺทิฏฺโติ เอวํ เอโก สมฺมุขานิทฺทิฏฺโ ตโย อสมฺมุขานิทฺทิฏฺาติ อิเม จตฺตาโร ภิกฺขุนา นิทฺทิฏฺเวยฺยาวจฺจกรา นาม. เอเตสุ อิธ วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

อปโร ภิกฺขุ ปุริมนเยเนว ทูเตน ปุจฺฉิโต นตฺถิตาย วา อวิจาเรตุกามตาย วา ‘‘นตฺถมฺหากํ กปฺปิยการโก’’ติ วทติ, ตสฺมึ ขเณ โกจิ มนุสฺโส อาคจฺฉติ, ทูโต ตสฺส หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ‘‘อิมสฺส หตฺถโต จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ วตฺวา คจฺฉติ, อยํ ทูเตน สมฺมุขานิทฺทิฏฺโติ เอวํ เอโก สมฺมุขานิทฺทิฏฺโ.

อปโร ทูโต คามํ ปวิสิตฺวา อตฺตนา อภิรุจิตสฺส กสฺสจิ หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ปุริมนเยเนว อาคนฺตฺวา วา อาโรเจติ, อฺํ วา ปหิณติ ‘‘อหํ อสุกสฺส นาม หตฺเถ จีวรเจตาปนฺนํ ทสฺสามิ, ตุมฺเห จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ วตฺวา วา คจฺฉติ, อยํ ตติโย ทูเตน อสมฺมุขานิทฺทิฏฺโติ เอวํ เอโก สมฺมุขานิทฺทิฏฺโ ตโย อสมฺมุขานิทฺทิฏฺาติ อิเม จตฺตาโร ทูเตน นิทฺทิฏฺเวยฺยาวจฺจกรา นาม. เอเตสุ เมณฺฑกสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, มนุสฺสา สทฺธา ปสนฺนา, เต กปฺปิยการกานํ หตฺเถ หิรฺํ อุปนิกฺขิปนฺติ ‘อิมินา ยํ อยฺยสฺส กปฺปิยํ, ตํ เทถา’ติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ ตโต กปฺปิยํ, ตํ สาทิตุํ, น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, ‘เกนจิ ปริยาเยน ชาตรูปรชตํ สาทิตพฺพํ ปริเยสิตพฺพ’นฺติ วทามี’’ติ (มหาว. ๒๙๙).

เอตฺถ โจทนาย ปริมาณํ นตฺถิ, มูลํ อสาทิยนฺเตน สหสฺสกฺขตฺตุมฺปิ โจทนาย วา าเนน วา กปฺปิยภณฺฑํ สาทิตุํ วฏฺฏติ. โน เจ เทติ, อฺํ กปฺปิยการกํ เปตฺวาปิ อาหราเปตพฺพํ. สเจ อิจฺฉติ, มูลสามิกานมฺปิ กเถตพฺพํ. โน เจ อิจฺฉติ, น กเถตพฺพํ.

อปโร ภิกฺขุ ปุริมนเยเนว ทูเตน ปุจฺฉิโต ‘‘นตฺถมฺหากํ กปฺปิยการโก’’ติ วทติ, ตทฺโ สมีเป ิโต สุตฺวา ‘‘อาหร โภ, อหํ อยฺยสฺส จีวรํ เจตาเปตฺวา ทสฺสามี’’ติ วทติ. ทูโต ‘‘หนฺท โภ ทเทยฺยาสี’’ติ ตสฺส หตฺเถ ทตฺวา ภิกฺขุสฺส อนาโรเจตฺวาว คจฺฉติ, อยํ มุขเววฏิกกปฺปิยการโก. อปโร ภิกฺขุโน อุปฏฺากสฺส วา อฺสฺส วา หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ‘‘เถรสฺส จีวรํ ทเทยฺยาสี’’ติ เอตฺโตว ปกฺกมติ, อยํ ปรมฺมุขากปฺปิยการโกติ อิเม ทฺเว อนิทฺทิฏฺกปฺปิยการกา นาม. เอเตสุ อฺาตกอปฺปวาริเตสุ วิย ปฏิปชฺชิตพฺพํ. สเจ สยเมว จีวรํ อาเนตฺวา ททนฺติ, คเหตพฺพํ. โน เจ, น กิฺจิ วตฺตพฺพา. ยถา จ ทูตสฺส หตฺเถ จีวรตฺถาย อกปฺปิยวตฺถุมฺหิ เปสิเต วินิจฺฉโย วุตฺโต, เอวํ ปิณฺฑปาตาทีนมฺปิ อตฺถาย เปสิเต สยํ อาคนฺตฺวา ทียมาเน จ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

๖๖. อุปนิกฺขิตฺตสาทิยเน ปน อยํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๔) – กิฺจิ อกปฺปิยวตฺถุํ ปาทมูเล เปตฺวา ‘‘อิทํ อยฺยสฺส โหตู’’ติ วุตฺเต สเจปิ จิตฺเตน สาทิยติ, คณฺหิตุกาโม โหติ, กาเยน วา วาจาย วา ‘‘นยิทํ กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปติ, อนาปตฺติ. กายวาจาหิ วา อปฺปฏิกฺขิปิตฺวาปิ สุทฺธจิตฺโต หุตฺวา ‘‘นยิทํ อมฺหากํ กปฺปตี’’ติ น สาทิยติ, อนาปตฺติเยว. ตีสุ ทฺวาเรสุ หิ เยน เกนจิ ปฏิกฺขิตฺตํ ปฏิกฺขิตฺตเมว โหติ. สเจ ปน กายวาจาหิ อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา จิตฺเตน อธิวาเสติ, กายวาจาหิ กตฺตพฺพสฺส ปฏิกฺเขปสฺส อกรณโต อกิริยสมุฏฺานํ กายทฺวาเร จ วจีทฺวาเร จ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, มโนทฺวาเร ปน อาปตฺติ นาม นตฺถิ.

เอโก สตํ วา สหสฺสํ วา ปาทมูเล เปติ ‘‘ตุยฺหิทํ โหตู’’ติ, ภิกฺขุ ‘‘นยิทํ กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปติ, อุปาสโก ‘‘ปริจฺจตฺตํ มยา ตุมฺหาก’’นฺติ คโต, อฺโ ตตฺถ อาคนฺตฺวา ปุจฺฉติ ‘‘กึ, ภนฺเต, อิท’’นฺติ, ยํ เตน จ อตฺตนา จ วุตฺตํ, ตํ อาจิกฺขิตพฺพํ. โส เจ วทติ ‘‘โคปยิสฺสามหํ, ภนฺเต, คุตฺตฏฺานํ ทสฺเสถา’’ติ, สตฺตภูมิกมฺปิ ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ‘‘อิทํ คุตฺตฏฺาน’’นฺติ อาจิกฺขิตพฺพํ, ‘‘อิธ นิกฺขิปาหี’’ติ น วตฺตพฺพํ. เอตฺตาวตา กปฺปิยฺจ อกปฺปิยฺจ นิสฺสาย ิตํ โหติ, ทฺวารํ ปิทหิตฺวา รกฺขนฺเตน วสิตพฺพํ. สเจ กิฺจิ วิกฺกายิกภณฺฑํ ปตฺตํ วา จีวรํ วา คเหตฺวา อาคจฺฉติ, ‘‘อิทํ คเหสฺสถ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘อุปาสก, อตฺถิ อมฺหากํ อิมินา อตฺโถ, วตฺถุ จ เอวรูปํ นาม สํวิชฺชติ, กปฺปิยการโก นตฺถี’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ โส วทติ ‘‘อหํ กปฺปิยการโก ภวิสฺสามิ, ทฺวารํ วิวริตฺวา เทถา’’ติ, ทฺวารํ วิวริตฺวา ‘‘อิมสฺมึ โอกาเส ปิต’’นฺติ วตฺตพฺพํ, ‘‘อิทํ คณฺหา’’ติ น วตฺตพฺพํ. เอวมฺปิ กปฺปิยฺจ อกปฺปิยฺจ นิสฺสาย ิตเมว โหติ. โส เจ ตํ คเหตฺวา ตสฺส กปฺปิยภณฺฑํ เทติ, วฏฺฏติ. สเจ อธิกํ คณฺหาติ, ‘‘น มยํ ตว ภณฺฑํ คณฺหาม, นิกฺขมาหี’’ติ วตฺตพฺโพ.

๖๗. เยน ปน ชาตรูปาทิจตุพฺพิธํ นิสฺสคฺคิยวตฺถุ ปฏิคฺคหิตํ, เตน กึ กาตพฺพนฺติ? สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสชฺชิตพฺพํ. กถํ? เตน ภิกฺขุนา (ปารา. ๕๘๔) สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย ‘‘อหํ, ภนฺเต, รูปิยํ ปฏิคฺคเหสึ, อิทํ เม นิสฺสคฺคิยํ, อิมาหํ นิสฺสชฺชามี’’ติ นิสฺสชฺชิตฺวา อาปตฺติ เทเสตพฺพา. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน อาปตฺติ ปฏิคฺคเหตพฺพา. สเจ ตตฺถ อาคจฺฉติ อารามิโก วา อุปาสโก วา, โส วตฺตพฺโพ ‘‘อาวุโส, อิทํ ชานาหี’’ติ. สเจ โส ภณติ ‘‘อิมินา กึ อาหริสฺสามี’’ติ, น วตฺตพฺโพ ‘‘อิมํ วา อิมํ วา อาหรา’’ติ, กปฺปิยํ อาจิกฺขิตพฺพํ สปฺปึ วา เตลํ วา มธุํ วา ผาณิตํ วา. อาจิกฺขนฺเตน จ ‘‘อิมินา สปฺปึ วา เตลํ วา มธุํ วา ผาณิตํ วา อาหรา’’ติ น วตฺตพฺพํ, ‘‘อิทฺจิทฺจ สงฺฆสฺส กปฺปิย’’นฺติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ. สเจ โส เตน ปริวตฺเตตฺวา กปฺปิยํ อาหรติ, รูปิยปฏิคฺคาหกํ เปตฺวา สพฺเพเหว ภาเชตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ, รูปิยปฏิคฺคาหเกน ภาโค น คเหตพฺโพ.

อฺเสํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๔) ภิกฺขูนํ วา อารามิกานํ วา ปตฺตภาคมฺปิ ลภิตฺวา ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ, อนฺตมโส มกฺกฏาทีหิ ตโต หริตฺวา อรฺเ ปิตํ วา เตสํ หตฺถโต คฬิตํ วา ติรจฺฉานปฏิคฺคหิตมฺปิ ปํสุกูลมฺปิ น วฏฺฏติเยว. ตโต อาหเฏน ผาณิเตน เสนาสนธูปนมฺปิ น วฏฺฏติ. สปฺปินา วา เตเลน วา ปทีปํ กตฺวา ทีปาโลเก นิปชฺชิตุํ, กสิณปริกมฺมํ กาตุํ, โปตฺถกมฺปิ วาเจตุํ น วฏฺฏติ. เตลมธุผาณิเตหิ ปน สรีเร วณํ มกฺเขตุํ น วฏฺฏติเยว. เตน วตฺถุนา มฺจปีาทีนิ วา คณฺหนฺติ, อุโปสถาคารํ วา โภชนสาลํ วา กโรนฺติ, ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ. ฉายาปิ เคหปริจฺเฉเทน ิตาว น วฏฺฏติ, ปริจฺเฉทาติกฺกนฺตา อาคนฺตุกตฺตา วฏฺฏติ. ตํ วตฺถุํ วิสฺสชฺเชตฺวา กเตน มคฺเคนปิ เสตุนาปิ นาวายปิ อุฬุมฺเปนาปิ คนฺตุํ น วฏฺฏติ. เตน วตฺถุนา ขณาปิตาย โปกฺขรณิยา อุพฺภิโททกํ ปาตุํ วา ปริภุฺชิตุํ วา น วฏฺฏติ. อนฺโต อุทเก ปน อสติ อฺํ อาคนฺตุกํ อุทกํ วา วสฺโสทกํ วา ปวิฏฺํ วฏฺฏติ. กีตาย เยน สทฺธึ กีตา, ตํ อาคนฺตุกมฺปิ น วฏฺฏติ. ตํ วตฺถุํ อุปนิกฺเขปํ เปตฺวา สงฺโฆ ปจฺจเย ปริภุฺชติ, เตปิ ปจฺจยา ตสฺส น วฏฺฏนฺติ. อาราโม คหิโต โหติ, โสปิ ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ. ยทิ ภูมิปิ พีชมฺปิ อกปฺปิยํ, เนว ภูมึ, น ผลํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ภูมึเยว กิณิตฺวา อฺานิ พีชานิ โรปิตานิ, ผลํ วฏฺฏติ. อถ พีชานิ กิณิตฺวา กปฺปิยภูมิยํ โรปิตานิ, ผลํ น วฏฺฏติ, ภูมิยํ นิสีทิตุํ วา นิปชฺชิตุํ วา วฏฺฏติ.

สเจ ปน ตตฺถ อาคโต กปฺปิยการโก ตํ ปริวตฺเตตฺวา สงฺฆสฺส กปฺปิยํ สปฺปิเตลาทึ อาหริตุํ น ชานาติ, โส วตฺตพฺโพ ‘‘อาวุโส, อิมํ ฉฑฺเฑหี’’ติ. สเจ โส ฉฑฺเฑติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ฉฑฺเฑติ, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ รูปิยฉฑฺฑโก สมฺมนฺนิตพฺโพ โย น ฉนฺทาคตึ คจฺเฉยฺย, น โทสาคตึ คจฺเฉยฺย, น โมหาคตึ คจฺเฉยฺย, น ภยาคตึ คจฺเฉยฺย, ฉฑฺฑิตาฉฑฺฑิตฺจ ชาเนยฺย. เอวฺจ ปน สมฺมนฺนิตพฺโพ, ปมํ ภิกฺขุ ยาจิตพฺโพ, ยาจิตฺวา พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ รูปิยฉฑฺฑกํ สมฺมนฺเนยฺย, เอสา ตฺติ. สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ รูปิยฉฑฺฑกํ สมฺมนฺนติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน รูปิยฉฑฺฑกสฺส สมฺมุติ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย. สมฺมโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ รูปิยฉฑฺฑโก, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (ปารา. ๕๘๕).

๖๘. เตน สมฺมเตน (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๕) ภิกฺขุนา นิมิตฺตํ อกตฺวา อกฺขีนิ นิมีเลตฺวา นทิยา วา ปปาเต วา วนคหเน วา คูถํ วิย อนเปกฺเขน ปติโตกาสํ อสมนฺนารหนฺเตน ฉฑฺเฑตพฺพํ. สเจ นิมิตฺตํ กตฺวา ปาเตติ, ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. เอวํ ชิคุจฺฉิตพฺเพปิ รูปิเย ภควา ปริยาเยน ภิกฺขูนํ ปริโภคํ อาจิกฺขิ. รูปิยปฏิคฺคาหกสฺส ปน เกนจิ ปริยาเยน ตโต อุปฺปนฺนปจฺจยปริโภโค น วฏฺฏติ. ยถา จายํ เอตสฺส น วฏฺฏติ, เอวํ อสนฺตสมฺภาวนาย วา กุลทูสกกมฺเมน วา กุหนาทีหิ วา อุปฺปนฺนปจฺจยา เนว ตสฺส, น อฺสฺส วฏฺฏนฺติ, ธมฺเมน สเมน อุปฺปนฺนาปิ อปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏนฺติ. จตฺตาโร หิ ปริโภคา – เถยฺยปริโภโค อิณปริโภโค ทายชฺชปริโภโค สามิปริโภโคติ. ตตฺถ สงฺฆมชฺเฌปิ นิสีทิตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส ทุสฺสีลสฺส ปริโภโค เถยฺยปริโภโค นาม. สีลวโต อปจฺจเวกฺขิตปริโภโค อิณปริโภโค นาม. ตสฺมา จีวรํ ปริโภเค ปริโภเค ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ, ปิณฺฑปาโต อาโลเป อาโลเป, ตถา อสกฺโกนฺเตน ปุเรภตฺตปจฺฉาภตฺตปุริมยามมชฺฌิมยามปจฺฉิมยาเมสุ. สจสฺส อปจฺจเวกฺขโต อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, อิณปริโภคฏฺาเน ติฏฺติ. เสนาสนมฺปิ ปริโภเค ปริโภเค ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ. เภสชฺชสฺส ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ สติปจฺจยตา วฏฺฏติ, เอวํ สนฺเตปิ ปฏิคฺคหเณ สตึ กตฺวา ปริโภเค อกโรนฺตสฺเสว อาปตฺติ, ปฏิคฺคหเณ ปน สตึ อกตฺวา ปริโภเค กโรนฺตสฺส อนาปตฺติ. จตุพฺพิธา หิ สุทฺธิ – เทสนาสุทฺธิ สํวรสุทฺธิ ปริเยฏฺิสุทฺธิ ปจฺจเวกฺขณสุทฺธีติ.

ตตฺถ เทสนาสุทฺธิ นาม ปาติโมกฺขสํวรสีลํ. ตฺหิ เทสนาย สุชฺฌนโต ‘‘เทสนาสุทฺธี’’ติ วุจฺจติ. สํวรสุทฺธิ นาม อินฺทฺริยสํวรสีลํ. ตฺหิ ‘‘น ปุเนวํ กริสฺสามี’’ติ จิตฺตาธิฏฺานสํวเรเนว สุชฺฌนโต ‘‘สํวรสุทฺธี’’ติ วุจฺจติ. ปริเยฏฺิสุทฺธิ นาม อาชีวปาริสุทฺธิสีลํ. ตฺหิ อเนสนํ ปหาย ธมฺเมน สเมน ปจฺจเย อุปฺปาเทนฺตสฺส ปริเยสนาย สุทฺธตฺตา ‘‘ปริเยฏฺิสุทฺธี’’ติ วุจฺจติ. ปจฺจเวกฺขณสุทฺธิ นาม ปจฺจยปริโภคสนฺนิสฺสิตสีลํ. ตฺหิ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส จีวรํ ปฏิเสวามี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๓; อ. นิ. ๖.๕๘) นเยน วุตฺเตน ปจฺจเวกฺขเณน สุชฺฌนโต ‘‘ปจฺจเวกฺขณสุทฺธี’’ติ วุจฺจติ, เตน วุตฺตํ ‘‘ปฏิคฺคหเณ ปน สตึ อกตฺวา ปริโภเค กโรนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ.

สตฺตนฺนํ เสกฺขานํ ปจฺจยปริโภโค ทายชฺชปริโภโค นาม. เต หิ ภควโต ปุตฺตา, ตสฺมา ปิตุสนฺตกานํ ปจฺจยานํ ทายาทา หุตฺวา เต ปจฺจเย ปริภุฺชนฺติ. กึ ปน เต ภควโต ปจฺจเย ปริภุฺชนฺติ, คิหีนํ ปจฺจเย ปริภุฺชนฺตีติ? คิหีหิ ทินฺนาปิ ภควตา อนุฺาตตฺตา ภควโต สนฺตกา โหนฺติ, ตสฺมา ภควโต ปจฺจเย ปริภุฺชนฺตีติ เวทิตพฺพํ. ธมฺมทายาทสุตฺต (ม. นิ. ๑.๒๙ อาทโย) ฺเจตฺถ สาธกํ. ขีณาสวานํ ปริโภโค สามิปริโภโค นาม. เต หิ ตณฺหาย ทาสพฺยํ อตีตตฺตา สามิโน หุตฺวา ปริภุฺชนฺติ. อิติ อิเมสุ ปริโภเคสุ สามิปริโภโค จ ทายชฺชปริโภโค จ สพฺเพสมฺปิ วฏฺฏติ, อิณปริโภโค น วฏฺฏติ, เถยฺยปริโภเค กถาเยว นตฺถิ.

อปเรปิ จตฺตาโร ปริโภคา – ลชฺชิปริโภโค อลชฺชิปริโภโค ธมฺมิยปริโภโค อธมฺมิยปริโภโคติ. ตตฺถ อลชฺชิโน ลชฺชินา สทฺธึ ปริโภโค วฏฺฏติ, อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ. ลชฺชิโน อลชฺชินา สทฺธึ ยาว น ชานาติ, ตาว วฏฺฏติ. อาทิโต ปฏฺาย หิ อลชฺชี นาม นตฺถิ, ตสฺมา ยทาสฺส อลชฺชิภาวํ ชานาติ, ตทา วตฺตพฺโพ ‘‘ตุมฺเห กายทฺวาเร วจีทฺวาเร จ วีติกฺกมํ กโรถ, ตํ อปฺปติรูปํ, มา เอวมกตฺถา’’ติ. สเจ อนาทิยิตฺวา กโรติเยว, ยทิ เตน สทฺธึ ปริโภคํ กโรติ, โสปิ อลชฺชีเยว โหติ. โยปิ อตฺตโน ภารภูเตน อลชฺชินา สทฺธึ ปริโภคํ กโรติ, โสปิ นิวาเรตพฺโพ. สเจ น โอรมติ, อยมฺปิ อลชฺชีเยว โหติ. เอวํ เอโก อลชฺชี อลชฺชิสตมฺปิ กโรติ. อลชฺชิโน ปน อลชฺชินาว สทฺธึ ปริโภเค อาปตฺติ นาม นตฺถิ. ลชฺชิโน ลชฺชินา สทฺธึ ปริโภโค ทฺวินฺนํ ขตฺติยกุมารานํ สุวณฺณปาติยํ โภชนสทิโส. ธมฺมิยาธมฺมิยปริโภโค ปจฺจยวเสเนว เวทิตพฺโพ. ตตฺถ สเจ ปุคฺคโลปิ อลชฺชี, ปิณฺฑปาโตปิ อธมฺมิโย, อุโภ เชคุจฺฉา. ปุคฺคโล อลชฺชี, ปิณฺฑปาโต ธมฺมิโย, ปุคฺคลํ ชิคุจฺฉิตฺวา ปิณฺฑปาโต น คเหตพฺโพ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ทุสฺสีโล สงฺฆโต อุทฺเทสภตฺตาทีนิ ลภิตฺวา สงฺฆสฺเสว เทติ, เอตานิ ยถาทานเมว คหิตตฺตา วฏฺฏนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ปุคฺคโล ลชฺชี, ปิณฺฑปาโต อธมฺมิโย, ปิณฺฑปาโต เชคุจฺโฉ น คเหตพฺโพ. ปุคฺคโล ลชฺชี, ปิณฺฑปาโตปิ ธมฺมิโย, วฏฺฏติ.

อปเร ทฺเว ปคฺคหา ทฺเว จ ปริโภคา – ลชฺชิปคฺคโห อลชฺชิปคฺคโห, ธมฺมปริโภโค อามิสปริโภโคติ. ตตฺถ อลชฺชิโน ลชฺชึ ปคฺคเหตุํ วฏฺฏติ, น โส อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. สเจ ปน ลชฺชี อลชฺชึ ปคฺคณฺหาติ, อนุโมทนาย อชฺเฌสติ, ธมฺมกถาย อชฺเฌสติ, กุเลสุ อุปตฺถมฺเภติ, อิตโรปิ ‘‘อมฺหากํ อาจริโย อีทิโส จ อีทิโส จา’’ติ ตสฺส ปริสติ วณฺณํ ภาสติ, อยํ สาสนํ โอสกฺกาเปติ อนฺตรธาเปตีติ เวทิตพฺโพ. ธมฺมปริโภคอามิสปริโภเคสุ ปน ยตฺถ อามิสปริโภโค วฏฺฏติ, ธมฺมปริโภโคปิ ตตฺถ วฏฺฏติ. โย ปน โกฏิยํ ิโต, คนฺโถ ตสฺส ปุคฺคลสฺส อจฺจเยน นสฺสิสฺสติ, ตํ ธมฺมานุคฺคเหน อุคฺคณฺหิตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. ตตฺริทํ วตฺถุ – มหาภเย กิร เอกสฺเสว ภิกฺขุโน มหานิทฺเทโส ปคุโณ อโหสิ. อถ จตุนิกายิกติสฺสตฺเถรสฺส อุปชฺฌาโย มหาติปิฏกตฺเถโร นาม มหารกฺขิตตฺเถรํ อาห ‘‘อาวุโส มหารกฺขิต, เอตสฺส สนฺติเก มหานิทฺเทสํ คณฺหาหี’’ติ. ‘‘ปาโป กิรายํ, ภนฺเต, น คณฺหามี’’ติ. ‘‘คณฺหาวุโส, อหํ เต สนฺติเก นิสีทิสฺสามี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต, ตุมฺเหสุ นิสินฺเนสุ คณฺหิสฺสามี’’ติ ปฏฺเปตฺวา รตฺตินฺทิวํ นิรนฺตรํ ปริยาปุณนฺโต โอสานทิวเส เหฏฺามฺเจ อิตฺถึ ทิสฺวา ‘‘ภนฺเต, สุตํเยว เม ปุพฺเพ, สจาหํ เอวํ ชาเนยฺยํ, น อีทิสสฺส สนฺติเก ธมฺมํ ปริยาปุเณยฺย’’นฺติ อาห. ตสฺส ปน สนฺติเก พหู มหาเถรา อุคฺคณฺหิตฺวา มหานิทฺเทสํ ปติฏฺาเปสุนฺติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

รูปิยาทิปฏิคฺคหณวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๑๓. ทานลกฺขณาทิวินิจฺฉยกถา

๖๙. ทานวิสฺสาสคฺคาเหหิ ลาภสฺส ปริณามนนฺติ เอตฺถ ตาว ทานนฺติ อตฺตโน สนฺตกสฺส จีวราทิปริกฺขารสฺส สทฺธิวิหาริกาทีสุ ยสฺส กสฺสจิ ทานํ. ตตฺริทํ ทานลกฺขณํ – ‘‘อิทํ ตุยฺหํ เทมิ ททามิ ทชฺชามิ โอโณเชมิ ปริจฺจชามิ วิสฺสชฺชามี’’ติ วา ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส เทมิ…เป… วิสฺสชฺชามี’’ติ วา วทติ, สมฺมุขาปิ ปรมฺมุขาปิ ทินฺนํเยว โหติ. ‘‘ตุยฺหํ คณฺหาหี’’ติ วุตฺเต ‘‘มยฺหํ คณฺหามี’’ติ วทติ, สุทินฺนํ สุคฺคหิตฺจ. ‘‘ตว สนฺตกํ กโรหิ, ตว สนฺตกํ โหตุ, ตว สนฺตกํ โหตี’’ติ วุตฺเต ‘‘มม สนฺตกํ กโรมิ, มม สนฺตกํ โหตุ, มม สนฺตกํ กริสฺสามี’’ติ วทติ, ทุทินฺนํ ทุคฺคหิตฺจ. เนว ทาตา ทาตุํ ชานาติ, น อิตโร คเหตุํ, สเจ ปน ‘‘ตว สนฺตกํ กโรหี’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ, ภนฺเต, มยฺหํ คณฺหามี’’ติ คณฺหาติ, สุคฺคหิตํ. สเจ ปน เอโก ‘‘อิทํ จีวรํ คณฺหาหี’’ติ วทติ, อิตโร ‘‘น คณฺหามี’’ติ วทติ, ปุน โส ‘‘ทินฺนํ มยา ตุยฺหํ, คณฺหาหี’’ติ วทติ, อิตโรปิ ‘‘น มยฺหํ อิมินา อตฺโถ’’ติ วทติ, ตโต ปุริโมปิ ‘‘มยา ทินฺน’’นฺติ ทสาหํ อติกฺกาเมติ, ปจฺฉิโมปิ ‘‘มยา ปฏิกฺขิตฺต’’นฺติ, กสฺส อาปตฺตีติ? น กสฺสจิ. ยสฺส ปน รุจฺจติ, เตน อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส เทหี’’ติ ทินฺนํ ยาว ปรสฺส หตฺถํ น ปาปุณาติ, ตาว โย ปหิณติ, ตสฺเสว สนฺตกํ, ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ ปน ยสฺส ปหียติ, ตสฺส สนฺตกํ. ตสฺมา ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ ‘‘อิทํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส เทหี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค โย ปหิณติ, ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ, สุคฺคหิตํ. ยสฺส ปหียติ, ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ, ทุคฺคหิตํ.

ภิกฺขุ (มหาว. ๓๗๘-๓๗๙) ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส เทหี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค สุณาติ ‘‘โย ปหิณติ, โส กาลกโต’’ติ, ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ, สฺวาธิฏฺิตํ. ยสฺส ปหียติ, ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ, ทุคฺคหิตํ. ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส เทหี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค สุณาติ ‘‘ยสฺส ปหียติ, โส กาลกโต’’ติ, ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ, ทฺวาธิฏฺิตํ. โย ปหิณติ, ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ, สุคฺคหิตํ. ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส เทหี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค สุณาติ ‘‘อุโภ กาลกตา’’ติ, โย ปหิณติ, ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ, สฺวาธิฏฺิตํ. ยสฺส ปหียติ, ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ, ทฺวาธิฏฺิตํ. ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค โย ปหิณติ, ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ, ทุคฺคหิตํ. ยสฺส ปหียติ, ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ, สุคฺคหิตํ. ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค สุณาติ ‘‘โย ปหิณติ, โส กาลกโต’’ติ, ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ, ทฺวาธิฏฺิตํ. ยสฺส ปหียติ, ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ, สุคฺคหิตํ. ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค สุณาติ ‘‘ยสฺส ปหียติ, โส กาลกโต’’ติ, ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ, สฺวาธิฏฺิตํ. โย ปหิณติ, ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ, ทุคฺคหิตํ. ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค สุณาติ ‘‘อุโภ กาลกตา’’ติ. โย ปหิณติ, ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ, ทฺวาธิฏฺิตํ. ยสฺส ปหียติ, ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ, สฺวาธิฏฺิตํ.

ปริจฺจชิตฺวา ทินฺนํ ปุน เกนจิ การเณน กุปิโต อาหราเปตุํ น ลภติ. อตฺตนา ทินฺนมฺปิ หิ จีวรํ สกสฺาย อจฺฉินฺทโต นิสฺสคฺคิยํ, อฺํ ปริกฺขารํ อนฺตมโส สูจิมฺปิ อจฺฉินฺทโต ทุกฺกฏํ. สเจ ปน ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ อิทํ สารุปฺป’’นฺติ สยเมว เทติ, คเหตุํ วฏฺฏติ. อถ ปน ‘‘อาวุโส, มยํ ตุยฺหํ ‘วตฺตปฏิวตฺตํ กริสฺสติ, อมฺหากํ สนฺติเก อุปชฺฌํ คณฺหิสฺสติ, ธมฺมํ ปริยาปุณิสฺสตี’ติ จีวรํ อทมฺหา, โส ทานิ ตฺวํ น วตฺตํ กโรสิ, น อุปชฺฌํ คณฺหาสิ, น ธมฺมํ ปริยาปุณาสี’’ติ เอวมาทีนิ วุตฺโต ‘‘ภนฺเต, จีวรตฺถาย มฺเ ภณถ, อิทํ โว จีวร’’นฺติ เทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. ทิสาปกฺกมนฺตํ วา ปน ทหรํ ‘‘นิวตฺเตถ น’’นฺติ ภณติ, โส น นิวตฺตติ, จีวเร คเหตฺวา นิรุนฺธถาติ, เอวฺเจ นิวตฺตติ, สาธุ. สเจ ‘‘ปตฺตจีวรตฺถาย มฺเ ตุมฺเห ภณถ, คณฺหถ น’’นฺติ เทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. วิพฺภมนฺตํ วา ทิสฺวา ‘‘มยํ ตุยฺหํ ‘วตฺตํ กริสฺสตี’ติ ปตฺตจีวรํ อทมฺหา, โส ทานิ ตฺวํ วิพฺภมิตฺวา จรสี’’ติ วทติ, อิตโร ‘‘คณฺหถ ตุมฺหากํ ปตฺตจีวร’’นฺติ เทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘มม สนฺติเก อุปชฺฌํ คณฺหนฺตสฺเสว เทมิ, อฺตฺถ คณฺหนฺตสฺส น เทมิ, วตฺตํ กโรนฺตสฺเสว เทมิ, อกโรนฺตสฺส น เทมิ, ธมฺมํ ปริยาปุณนฺตสฺเสว เทมิ, อปริยาปุณนฺตสฺส น เทมิ, อวิพฺภมนฺตสฺเสว เทมิ, วิพฺภมนฺตสฺส น เทมี’’ติ เอวํ ปน ทาตุํ น วฏฺฏติ, ททโต ทุกฺกฏํ, อาหราเปตุํ ปน วฏฺฏติ, วิสฺสชฺเชตฺวา ทินฺนํ อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. อยํ ตาว ทาเน วินิจฺฉโย.

๗๐. วิสฺสาสคฺคาหลกฺขณํ ปน อิมินา สุตฺเตน ชานิตพฺพํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส วิสฺสาสํ คเหตุํ สนฺทิฏฺโ จ โหติ, สมฺภตฺโต จ, อาลปิโต จ, ชีวติ จ, คหิเต จ อตฺตมโน โหตี’’ติ (มหาว. ๓๕๖).

ตตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๓๑) สนฺทิฏฺโติ ทิฏฺมตฺตกมิตฺโต. สมฺภตฺโตติ ทฬฺหมิตฺโต. อาลปิโตติ ‘‘มม สนฺตกํ ยํ อิจฺฉสิ, ตํ คณฺเหยฺยาสิ, อาปุจฺฉิตฺวา คหเณ การณํ นตฺถี’’ติ วุตฺโต. ชีวตีติ อนุฏฺานเสยฺยาย สยิโตปิ ยาวชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทํ น ปาปุณาติ. คหิเต จ อตฺตมโนติ คหิเต ตุฏฺจิตฺโต โหติ. ‘‘เอวรูปสฺส สนฺตกํ คหิเต เม อตฺตมโน ภวิสฺสตี’’ติ ชานนฺเตน คเหตุํ วฏฺฏติ. อนวเสสปริยาทานวเสน เจตานิ ปฺจงฺคานิ วุตฺตานิ, วิสฺสาสคฺคาโห ปน ตีหิ องฺเคหิ รุหติ สนฺทิฏฺโ, ชีวติ, คหิเต อตฺตมโน, สมฺภตฺโต, ชีวติ, คหิเต อตฺตมโน, อาลปิโต, ชีวติ, คหิเต อตฺตมโนติ. โย ปน น ชีวติ, น จ คหิเต อตฺตมโน โหติ, ตสฺส สนฺตกํ วิสฺสาสคฺคาเหน คหิตมฺปิ ปุน ทาตพฺพํ. ททมาเนน จ มตกธนํ ตาว เย ตสฺส ธเน อิสฺสรา คหฏฺา วา ปพฺพชิตา วา, เตสํ ทาตพฺพํ. อนตฺตมนสฺส สนฺตกํ ตสฺเสว ทาตพฺพํ, โย ปน ปมํเยว ‘‘สุฏฺุ กตํ ตยา มม สนฺตกํ คณฺหนฺเตนา’’ติ วจีเภเทน วา จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน วา อนุโมทิตฺวา ปจฺฉา เกนจิ การเณน กุปิโต, ปจฺจาหราเปตุํ น ลภติ, โยปิ อทาตุกาโม, จิตฺเตน ปน อธิวาเสติ, น กิฺจิ วทติ, โสปิ ปุน ปจฺจาหราเปตุํ น ลภติ. โย ปน ‘‘มยา ตุมฺหากํ สนฺตกํ คหิตํ วา ปริภุตฺตํ วา’’ติ วุตฺเต ‘‘คหิตํ วา โหตุ ปริภุตฺตํ วา, มยา ปน ตํ เกนจิเทว กรณีเยน ปิตํ, ตํ ปากติกํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทติ, อยํ ปจฺจาหราเปตุํ ลภติ. อยํ วิสฺสาสคฺคาเห วินิจฺฉโย.

๗๑. ลาภสฺส ปริณามนนฺติ อิทํ ปน อฺเสํ อตฺถาย ปริณตลาภสฺส อตฺตโน อฺสฺส วา ปริณามนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๙-๖๖๐) – สงฺฆสฺส ปริณตํ สหธมฺมิกานํ วา คิหีนํ วา อนฺตมโส มาตุสนฺตกมฺปิ ‘‘อิทํ มยฺหํ เทหี’’ติ สงฺฆสฺส ปริณตภาวํ ตฺวา อตฺตโน ปริณาเมตฺวา คณฺหนฺตสฺส นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, ‘‘อิมสฺส ภิกฺขุโน เทหี’’ติ เอวํ อฺสฺส ปริณาเมนฺตสฺส สุทฺธิกปาจิตฺติยํ. ตสฺมา โยปิ วสฺสิกสาฏิกสมเย มาตุฆเรปิ สงฺฆสฺส ปริณตํ วสฺสิกสาฏิกํ ตฺวา อตฺตโน ปริณาเมติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, ปรสฺส ปริณาเมติ, สุทฺธิกปาจิตฺติยํ. มนุสฺสา ‘‘สงฺฆภตฺตํ กริสฺสามา’’ติ สปฺปิเตลาทีนิ อาหรนฺติ, คิลาโน เจปิ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปริณตภาวํ ตฺวา กิฺจิ ยาจติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยเมว. สเจ ปน โส ‘‘ตุมฺหากํ สปฺปิอาทีนิ อาภตานิ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, อตฺถี’’ติ วุตฺเต ‘‘มยฺหมฺปิ เทถา’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. อถาปิ นํ กุกฺกุจฺจายนฺตํ อุปาสกา วทนฺติ ‘‘สงฺโฆปิ อมฺเหหิ ทินฺนเมว ลภติ, คณฺหถ, ภนฺเต’’ติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ.

เอกสฺมึ วิหาเร สงฺฆสฺส ปริณตํ อฺวิหารํ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘อสุกสฺมึ นาม วิหาเร สงฺฆสฺส เทถา’’ติ ปริณาเมติ, ‘‘กึ สงฺฆสฺส ทาเนน, เจติยสฺส ปูชํ กโรถา’’ติ เอวํ เจติยสฺส วา ปริณาเมติ, ทุกฺกฏํ. เจติยสฺส ปริณตํ อฺเจติยสฺส วา สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา ปริณาเมติ, ทุกฺกฏเมว. นิยเมตฺวา อฺเจติยสฺส อตฺถาย โรปิตมาลาวจฺฉโต อฺเจติยมฺหิ ปุปฺผมฺปิ อาโรเปตุํ น วฏฺฏติ, เอกสฺส เจติยสฺส ปน ฉตฺตํ วา ปฏากํ วา อาโรเปตฺวา ิตํ ทิสฺวา เสสํ อฺเจติยสฺส ทาเปตุํ วฏฺฏติ. อนฺตมโส สุนขสฺสปิ ปริณตํ ‘‘อิมสฺส สุนขสฺส มา เทหิ, เอตสฺส เทหี’’ติ เอวํ อฺปุคฺคลสฺส ปริณาเมติ, ทุกฺกฏํ. สเจ ปน ทายกา ‘‘มยํ สงฺฆภตฺตํ กาตุกามา, เจติยปูชํ กาตุกามา, เอกสฺส ภิกฺขุโน ปริกฺขารํ ทาตุกามา, ตุมฺหากํ รุจิยา ทสฺสาม, ภณถ กตฺถ เทมา’’ติ วทนฺติ, เอวํ วุตฺเต เตน ภิกฺขุนา ‘‘ยตฺถ อิจฺฉถ, ตตฺถ เทถา’’ติ วตฺตพฺพา. สเจ ปน เกวลํ ‘‘กตฺถ เทมา’’ติ ปุจฺฉนฺติ, ‘‘ยตฺถ ตุมฺหากํ เทยฺยธมฺโม ปริโภคํ วา ลเภยฺย, ปฏิสงฺขารํ วา ลเภยฺย, จิรฏฺิติโก วา อสฺส, ยตฺถ วา ปน ตุมฺหากํ จิตฺตํ ปสีทติ, ตตฺถ เทถา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ทานลกฺขณาทิวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๑๔. ปถวีขณนวินิจฺฉยกถา

๗๒. ปถวีติ ทฺเว ปถวี ชาตา จ ปถวี อชาตา จ ปถวีติ. ตตฺถ ชาตา นาม ปถวี สุทฺธปํสุกา สุทฺธมตฺติกา อปฺปปาสาณา อปฺปสกฺขรา อปฺปกลา อปฺปมรุมฺพา อปฺปวาลุกา เยภุยฺเยนปํสุกา เยภุยฺเยนมตฺติกา, อทฑฺฒาปิ วุจฺจติ ‘‘ชาตา ปถวี’’ติ. โยปิ ปํสุปุฺโช วา มตฺติกาปุฺโช วา อติเรกจาตุมาสํ โอวฏฺโ, โสปิ วุจฺจติ ‘‘ชาตา ปถวี’’ติ. อชาตา นาม ปถวี สุทฺธปาสาณา สุทฺธสกฺขรา สุทฺธกลา สุทฺธมรุมฺพา สุทฺธวาลุกา อปฺปปํสุกา อปฺปมตฺติกา เยภุยฺเยนปาสาณา เยภุยฺเยนสกฺขรา เยภุยฺเยนกลา เยภุยฺเยนมรุมฺพา เยภุยฺเยนวาลุกา, ทฑฺฒาปิ วุจฺจติ ‘‘อชาตา ปถวี’’ติ. โยปิ ปํสุปุฺโช วา มตฺติกาปุฺโช วา โอมกจาตุมาสํ โอวฏฺโ, โสปิ วุจฺจติ ‘‘อชาตา ปถวี’’ติ (ปาจิ. ๘๔-๘๖).

ตตฺถ ชาตปถวึ ขณนฺตสฺส ขณาเปนฺตสฺส วา ปาจิตฺติยํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปาจิ. อฏฺ. ๘๖) – สเจ สยํ ขณติ, ปหาเร ปหาเร ปาจิตฺติยํ. สเจ อฺํ อาณาเปติ, สกึ อาณตฺโต สเจปิ สกลทิวสํ ขณติ, อาณาปกสฺส เอกเมว ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน กุสีโต โหติ, ปุนปฺปุนํ อาณาเปตพฺโพ, ตํ อาณาเปตฺวา ขณาเปนฺตสฺส วาจาย วาจาย ปาจิตฺติยํ. สเจ ‘‘โปกฺขรณึ ขณาหี’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. ขตาเยว หิ โปกฺขรณี นาม โหติ. ตสฺมา อยํ กปฺปิยโวหาโร. เอส นโย ‘‘วาปึ ตฬากํ อาวาฏํ ขณา’’ติอาทีสุปิ. ‘‘อิมํ โอกาสํ ขณ, อิมสฺมึ โอกาเส โปกฺขรณึ ขณา’’ติ วตฺตุํ ปน น วฏฺฏติ. ‘‘กนฺทํ ขณ, มูลํ ขณา’’ติ อนิยเมตฺวา วตฺตุํ วฏฺฏติ, ‘‘อิมํ วลฺลึ ขณ, อิมสฺมึ โอกาเส กนฺทํ วา มูลํ วา ขณา’’ติ วตฺตุํ น วฏฺฏติ.

๗๓. โปกฺขรณึ โสเธนฺเตหิ โย กุเฏหิ อุสฺสิฺจิตุํ สกฺกา โหติ ตนุกกทฺทโม, ตํ อปเนตุํ วฏฺฏติ, พหโล น วฏฺฏติ. อาตเปน สุกฺขกทฺทโม ผลติ, ตตฺร โย เหฏฺา ปถวิยา อสมฺพนฺโธ, ตเมว อปเนตุํ วฏฺฏติ. อุทเกน คตฏฺาเน อุทกปปฺปฏโก นาม โหติ, วาตปหาเรน จลติ, ตํ อปเนตุํ วฏฺฏติ. โปกฺขรณีอาทีนํ ตฏํ ภิชฺชิตฺวา อุทกสามนฺตา ปตติ. สเจ โอมกจาตุมาสํ โอวฏฺํ, ฉินฺทิตุํ ภินฺทิตุํ วา วฏฺฏติ, จาตุมาสโต อุทฺธํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน อุทเกเยว ปตติ, เทเวน อติเรกจาตุมาสํ โอวฏฺเปิ อุทเกเยว อุทกสฺส ปติตตฺตา วฏฺฏติ.

ปาสาณปิฏฺิยํ โสณฺฑึ ขณนฺติ, สเจ ตตฺถ ปมเมว สุขุมรชํ ปตติ, ตํ เทเวน โอวฏฺํ โหติ, จาตุมาสจฺจเยน อกปฺปิยปถวีสงฺขฺยํ คจฺฉติ. อุทเก ปริยาทินฺเน โสณฺฑึ โสเธนฺเตหิ วิโกเปตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปมเมว อุทเกน ปูรติ, ปจฺฉา รชํ ปตติ, ตํ วิโกเปตุํ วฏฺฏติ. ตตฺถ หิ เทเว วสฺสนฺเตปิ อุทเกเยว อุทกํ ปตติ. ปิฏฺิปาสาเณ สุขุมรชํ โหติ, เทเว ผุสายนฺเต อลฺลียติ, ตมฺปิ จาตุมาสจฺจเยน วิโกเปตุํ น วฏฺฏติ. อกตปพฺภาเร วมฺมิโก อุฏฺิโต โหติ, ยถาสุขํ วิโกเปตุํ วฏฺฏติ. สเจ อพฺโภกาเส อุฏฺหติ, โอมกจาตุมาสํ โอวฏฺโเยว วฏฺฏติ. รุกฺขาทีสุ อารุฬฺหอุปจิกมตฺติกายมฺปิ เอเสว นโย. คณฺฑุปฺปาทคูถมูสิกุกฺกรโคกณฺฏกาทีสุปิ เอเสว นโย. โคกณฺฏโก นาม คาวีนํ ขุรจฺฉินฺนกทฺทโม วุจฺจติ. สเจ ปน เหฏฺิมตเลน ภูมิสมฺพนฺโธ โหติ, เอกทิวสมฺปิ น วฏฺฏติ. กสิตฏฺาเน นงฺคลจฺฉินฺนมตฺติกาปิณฺฑํ คณฺหนฺตสฺส เอเสว นโย.

ปุราณเสนาสนํ โหติ อจฺฉทนํ วา วินฏฺจฺฉทนํ วา อติเรกจาตุมาสํ โอวฏฺํ ชาตปถวีสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตโต อวเสสํ ฉทนิฏฺกํ วา โคปานสีอาทิกํ อุปกรณํ วา ‘‘อิฏฺกํ คณฺหามิ, โคปานสึ ภิตฺติปาทํ ปทรตฺถรณํ ปาสาทตฺถมฺภํ คณฺหามี’’ติ สฺาย คณฺหิตุํ วฏฺฏติ, เตน สทฺธึ มตฺติกา ปตติ, อนาปตฺติ, ภิตฺติมตฺติกํ คณฺหนฺตสฺส ปน อาปตฺติ. สเจ ยา ยา อตินฺตา, ตํ ตํ คณฺหาติ, อนาปตฺติ. อนฺโตเคเห มตฺติกาปุฺโช โหติ, ตสฺมึ เอกทิวสํ โอวฏฺเ เคหํ ฉาเทนฺติ. สเจ สพฺโพ ตินฺโต, จาตุมาสจฺจเยน ชาตปถวีเยว. อถสฺส อุปริภาโคเยว ตินฺโต, อนฺโต อตินฺโต, ยตฺตกํ ตินฺตํ, ตํ กปฺปิยการเกหิ กปฺปิยโวหาเรน อปนาเมตฺวา เสสํ ยถาสุขํ วฬฺเชตุํ วฏฺฏติ อุทเกน เตมิตตฺตา. เอกาพทฺธาเยว หิ ชาตปถวี โหติ, น อิตราติ. อพฺโภกาเส มตฺติกาปากาโร โหติ, อติเรกจาตุมาสํ โอวฏฺโ ชาตปถวีสงฺขฺยํ คจฺฉติ, ตตฺถ ลคฺคปํสุํ ปน อลฺลหตฺเถน ฉุปิตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ. สเจ อิฏฺกปากาโร โหติ, เยภุยฺเยนกลฏฺาเน ติฏฺติ, ยถาสุขํ วิโกเปตุํ วฏฺฏติ. อพฺโภกาเส ิตมณฺฑปตฺถมฺภํ อิโต จิโต จ สฺจาเลตฺวา ปถวึ วิโกเปนฺเตน คเหตุํ น วฏฺฏติ, อุชุกเมว อุทฺธริตุํ วฏฺฏติ. อฺมฺปิ สุกฺขรุกฺขํ สุกฺขขาณุกํ วา คณฺหนฺตสฺส เอเสว นโย.

๗๔. นวกมฺมตฺถํ ถมฺภํ วา ปาสาณํ วา รุกฺขํ วา ทณฺฑเกหิ อุจฺจาเลตฺวา ปวฏฺเฏนฺตา คจฺฉนฺติ, ตตฺถ ชาตปถวี ภิชฺชติ, สเจ สุทฺธจิตฺตา ปวฏฺเฏนฺติ, อนาปตฺติ. อถ ปน เตน อปเทเสน ปถวึ ภินฺทิตุกามาเยว โหนฺติ, อาปตฺติ. สาขาทีนิ กฑฺฒนฺตานมฺปิ ปถวิยํ ทารูนิ ผาเลนฺตานมฺปิ เอเสว นโย. ปถวิยํ อฏฺิสูจิกณฺฏกาทีสุปิ ยํ กิฺจิ อาโกเฏตุํ วา ปเวเสตุํ วา น วฏฺฏติ, ‘‘ปสฺสาวธาราย เวเคน ปถวึ ภินฺทิสฺสามี’’ติ เอวํ ปสฺสาวมฺปิ กาตุํ น วฏฺฏติ. กโรนฺตสฺส ภิชฺชติ, อาปตฺติ, ‘‘วิสมภูมึ สมํ กริสฺสามี’’ติ สมฺมชฺชนิยา ฆํสิตุมฺปิ น วฏฺฏติ. วตฺตสีเสเนว หิ สมฺมชฺชิตพฺพํ. เกจิ กตฺตรยฏฺิยา ภูมึ โกฏฺเฏนฺติ, ปาทงฺคุฏฺเกน วิลิขนฺติ, ‘‘จงฺกมิตฏฺานํ ทสฺเสสฺสามา’’ติ ปุนปฺปุนํ ภูมึ ภินฺทนฺตา จงฺกมนฺติ, สพฺพํ น วฏฺฏติ, วีริยสมฺปคฺคหตฺถํ ปน สมณธมฺมํ กโรนฺเตน สุทฺธจิตฺเตน จงฺกมิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘หตฺถํ โขวิสฺสามา’’ติ ปถวิยํ ฆํสนฺติ, น วฏฺฏติ, อฆํสนฺเตน ปน อลฺลหตฺถํ ปถวิยํ เปตฺวา รชํ คเหตุํ วฏฺฏติ.

เกจิ กณฺฑุกจฺฉุอาทีหิ อาพาธิกา ฉินฺนตฏาทีสุ องฺคปจฺจงฺคานิ ฆํสนฺติ, น วฏฺฏติ. ชาตปถวึ ทหติ วา ทหาเปติ วา, ปาจิตฺติยํ, อนฺตมโส ปตฺตมฺปิ ปจนฺโต ยตฺตเกสุ าเนสุ อคฺคึ เทติ วา ทาเปติ วา, ตตฺตกานิ ปาจิตฺติยานิ, ตสฺมา ปตฺตํ ปจนฺเตนปิ ปุพฺเพ ปกฺกฏฺาเนเยว ปจิตพฺโพ. อทฑฺฒาย ปถวิยา อคฺคึ เปตุํ น วฏฺฏติ, ปตฺตปจนกปาลสฺส ปน อุปริ อคฺคึ เปตุํ วฏฺฏติ. ทารูนํ อุปริ เปติ, โส อคฺคิ ตานิ ทหนฺโต คนฺตฺวา ปถวึ ทหติ, น วฏฺฏติ. อิฏฺกกปาลาทีสุปิ เอเสว นโย. ตตฺราปิ หิ อิฏฺกาทีนํเยว อุปริ เปตุํ วฏฺฏติ. กสฺมา? เตสํ อนุปาทานตฺตา. น หิ ตานิ อคฺคิสฺส อุปาทานสงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ, สุกฺขขาณุสุกฺขรุกฺขาทีสุปิ อคฺคึ ทาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน ‘‘ปถวึ อปฺปตฺตเมว นิพฺพาเปตฺวา คมิสฺสามี’’ติ เทติ, วฏฺฏติ. ปจฺฉา นิพฺพาเปตุํ น สกฺโกติ, อวิสยตฺตา อนาปตฺติ. ติณุกฺกํ คเหตฺวา คจฺฉนฺโต หตฺเถ ฑยฺหมาเน ภูมิยํ ปาเตติ, อนาปตฺติ. ปติตฏฺาเนเยว อุปาทานํ ทตฺวา อคฺคึ กาตุํ วฏฺฏติ. ทฑฺฒปถวิยา จ ยตฺตกํ านํ อุสุมาย อนุคตํ, สพฺพํ วิโกเปตุํ วฏฺฏติ.

โย ปน อชานนโก ภิกฺขุ อรณิสหิเตน อคฺคึ นิพฺพตฺเตตฺวา หตฺเถน อุกฺขิปิตฺวา ‘‘กึ กโรมี’’ติ วทติ, ‘‘ชาเลหี’’ติ วตฺตพฺโพ. ‘‘หตฺโถ ฑยฺหตี’’ติ วทติ, ‘‘ยถา น ฑยฺหติ, ตถา กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. ‘‘ภูมิยํ ปาเตหี’’ติ ปน น วตฺตพฺโพ. สเจ หตฺเถ ฑยฺหมาเน ปาเตติ, ‘‘ปถวึ ทหิสฺสามี’’ติ อปาติตตฺตา อนาปตฺติ, ปติตฏฺาเน ปน อคฺคึ กาตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อิมสฺส ถมฺภสฺส อาวาฏํ ชาน, มหามตฺติกํ ชาน, ถุสมตฺติกํ ชาน, มหามตฺติกํ เทหิ, ถุสมตฺติกํ เทหิ, มตฺติกํ อาหร, ปํสุํ อาหร, มตฺติกาย อตฺโถ, ปํสุนา อตฺโถ, อิมสฺส ถมฺภสฺส อาวาฏํ กปฺปิยํ กโรหิ, อิมํ มตฺติกํ กปฺปิยํ กโรหิ, อิมํ ปํสุํ กปฺปิยํ กโรหี’’ติ เอวํ กปฺปิยโวหาเรน ยํ กิฺจิ การาเปตุํ วฏฺฏติ. อฺวิหิโต เกนจิ สทฺธึ กิฺจิ กเถนฺโต ปาทงฺคุฏฺเกน กตฺตรยฏฺิยา วา ปถวึ วิลิขนฺโต ติฏฺติ, เอวํ อสติยา วิลิขนฺตสฺส ภินฺทนฺตสฺส วา อนาปตฺติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ปถวีขณนวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๑๕. ภูตคามวินิจฺฉยกถา

๗๕. ภูตคาโมติ ปฺจหิ พีเชหิ ชาตานํ รุกฺขลตาทีนเมตํ อธิวจนํ. ตตฺริมานิ ปฺจ พีชานิ – มูลพีชํ ขนฺธพีชํ ผฬุพีชํ อคฺคพีชํ พีชพีชนฺติ. ตตฺถ มูลพีชํ นาม หลิทฺทิ สิงฺคิเวรํ วจา วจตฺตํ อติวิสํ กฏุกโรหิณี อุสีรํ ภทฺทมุตฺตกํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ มูเล ชายนฺติ มูเล สฺชายนฺติ, เอตํ มูลพีชํ นาม. ขนฺธพีชํ นาม อสฺสตฺโถ นิคฺโรโธ ปิลกฺโข อุทุมฺพโร กจฺฉโก กปิตฺถโน, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ ขนฺเธ ชายนฺติ ขนฺเธ สฺชายนฺติ, เอตํ ขนฺธพีชํ นาม. ผฬุพีชํ นาม อุจฺฉุ เวฬุ นโฬ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ ปพฺเพ ชายนฺติ ปพฺเพ สฺชายนฺติ, เอตํ ผฬุพีชํ นาม. อคฺคพีชํ นาม อชฺชุกํ ผณิชฺชกํ หิริเวรํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ อคฺเค ชายนฺติ อคฺเค สฺชายนฺติ, เอตํ อคฺคพีชํ นาม. พีชพีชํ นาม ปุพฺพณฺณํ อปรณฺณํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ พีเช ชายนฺติ พีเช สฺชายนฺติ, เอตํ พีชพีชํ นาม (ปาจิ. ๙๑). ตตฺถ ภูตคาเม ภูตคามสฺี ฉินฺทติ วา ฉินฺทาเปติ วา ภินฺทติ วา ภินฺทาเปติ วา ปจติ วา ปจาเปติ วา, ปาจิตฺติยํ. ภูตคามฺหิ วิโกเปนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, ภูตคามปริโมจิตํ ปฺจวิธมฺปิ พีชคามํ วิโกเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.

๗๖. พีชคามภูตคาโม (ปาจิ. อฏฺ. ๙๒๒) นาเมส อตฺถิ อุทกฏฺโ, อตฺถิ ถลฏฺโ. ตตฺถ อุทกฏฺโ สาสปมตฺติกติลพีชกาทิเภทา สปณฺณิกา จ อปณฺณิกา จ สพฺพา เสวาลชาติ, อนฺตมโส อุทกปปฺปฏกํ อุปาทาย ‘‘ภูตคาโม’’ติ เวทิตพฺโพ. อุทกปปฺปฏโก นาม อุปริ ถทฺโธ ผรุสวณฺโณ เหฏฺา มุทุ นีลวณฺโณ โหติ. ตตฺถ ยสฺส เสวาลสฺส มูลํ โอรุหิตฺวา ปถวิยํ ปติฏฺิตํ, ตสฺส ปถวี านํ. โย อุทเก สฺจรติ, ตสฺส อุทกํ. ปถวิยํ ปติฏฺิตํ ยตฺถ กตฺถจิ วิโกเปนฺตสฺส, อุทฺธริตฺวา วา านนฺตรํ สงฺกาเมนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, อุทเก สฺจรนฺตํ วิโกเปนฺตสฺเสว ปาจิตฺติยํ. หตฺเถหิ ปน อิโต จิโต จ วิยูหิตฺวา นหายิตุํ วฏฺฏติ. สกลฺหิ อุทกํ ตสฺส านํ, ตสฺมา น โส เอตฺตาวตา านนฺตรํ สงฺกามิโต โหติ. อุทกโต ปน อุทเกน วินา สฺจิจฺจ อุกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ, อุทเกน สทฺธึ อุกฺขิปิตฺวา ปุน อุทเก ปกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ. อุปฺปลินิปทุมินิอาทีนิ ชลชวลฺลิติณานิ อุทกโต อุทฺธรนฺตสฺส วา ตตฺเถว วิโกเปนฺตสฺส วา ปาจิตฺติยํ, ปเรหิ อุปฺปาฏิตานิ วิโกเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ตานิ หิ พีชคาเม สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, ติลพีชกสาสปมตฺติกเสวาโลปิ อุทกโต อุทฺธโฏ อมิลาโต อคฺคพีชสงฺคหํ คจฺฉติ. มหาปจฺจริยาทีสุ ‘‘อนนฺตกติลพีชกอุทกปปฺปฏกาทีนิ ทุกฺกฏวตฺถูนี’’ติ วุตฺตํ, ตตฺถ การณํ น ทิสฺสติ. อนฺธกฏฺกถายํ ‘‘สมฺปุณฺณภูตคามํ น โหติ, ตสฺมา ทุกฺกฏ’’นฺติ วุตฺตํ, ตมฺปิ น สเมติ. ภูตคาเม หิ ปาจิตฺติยํ พีชคาเม ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. อสมฺปุณฺณภูตคาโม นาม ตติโย โกฏฺาโส เนว ปาฬิยํ, อฏฺกถาสุ อาคโต, อเถตํ พีชคามสงฺคหํ คมิสฺสตีติ, ตมฺปิ น ยุตฺตํ อภูตคามมูลตฺตา ตาทิสสฺส พีชคามสฺสาติ. อปิจ ‘‘ครุกลหุเกสุ ครุเก าตพฺพ’’นฺติ เอตํ วินยลกฺขณํ.

ถลฏฺเ ฉินฺนรุกฺขานํ อวสิฏฺโ หริตขาณุ นาม โหติ, ตตฺถ กกุธกรฺชปิยงฺคุปนสาทีนํ ขาณุ อุทฺธํ วฑฺฒติ, โส ภูตคาเมน สงฺคหิโต. ตาลนาฬิเกราทีนํ ขาณุ อุทฺธํ น วฑฺฒติ, โส พีชคาเมน สงฺคหิโต. กทลิยา ปน อผลิตาย ขาณุ ภูตคาเมน สงฺคหิโต, ผลิตาย พีชคาเมน. กทลี ปน ผลิตา ยาว นีลปณฺณา, ตาว ภูตคาเมเนว สงฺคหิตา, ตถา ผลิโต เวฬุ. ยทา ปน อคฺคโต ปฏฺาย สุสฺสติ, ตทา พีชคาเมน สงฺคหํ คจฺฉติ. กตรพีชคาเมน? ผฬุพีชคาเมน. กึ ตโต นิพฺพตฺตติ? น กิฺจิ. ยทิ หิ นิพฺพตฺเตยฺย, ภูตคาเมน สงฺคหํ คจฺเฉยฺย. อินฺทสาลาทิรุกฺเข ฉินฺทิตฺวา ราสึ กโรนฺติ, กิฺจาปิ ราสิกตทณฺฑเกหิ รตนปฺปมาณาปิ สาขา นิกฺขมนฺติ, พีชคาเมเนว ปน สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. มณฺฑปตฺถาย วา วติอตฺถาย วา วลฺลิอาโรปนตฺถาย วา ภูมิยํ นิขณนฺติ, มูเลสุ เจว ปณฺเณสุ จ นิคฺคเตสุ ปุน ภูตคามสงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ, มูลมตฺเตสุ ปน ปณฺณมตฺเตสุ วา นิคฺคเตสุปิ พีชคาเมน สงฺคหิตา เอว.

ยานิ กานิจิ พีชานิ ปถวิยํ วา อุทเกน สิฺจิตฺวา ปิตานิ, กปาลาทีสุ วา อลฺลปํสุํ ปกฺขิปิตฺวา นิกฺขิตฺตานิ โหนฺติ, สพฺพานิ มูลมตฺเต วา ปณฺณมตฺเต วา นิคฺคเตปิ พีชานิเยว. สเจปิ มูลานิ จ อุปริ องฺกุโร จ นิคฺคจฺฉติ, ยาว องฺกุโร หริโต น โหติ, ตาว พีชานิเยว. มุคฺคาทีนํ ปน ปณฺเณสุ อุฏฺิเตสุ, วีหิอาทีนํ วา องฺกุเร หริเต นีลวณฺเณ ชาเต ภูตคามสงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ตาลฏฺีนํ ปมํ สูกรทาา วิย มูลํ นิคฺคจฺฉติ, นิคฺคเตปิ ยาว อุปริ ปตฺตวฏฺฏิ น นิคฺคจฺฉติ, ตาว พีชคาโม นามเยว. นาฬิเกรสฺส ตจํ ภินฺทิตฺวา ทนฺตสูจิ วิย องฺกุโร นิคฺคจฺฉติ, ยาว มิคสิงฺคสทิสา นีลปตฺตวฏฺฏิ น โหติ, ตาว พีชคาโมเยว. มูเล อนิคฺคเตปิ ตาทิสาย ปตฺตวฏฺฏิยา ชาตาย อมูลกภูตคาเม สงฺคหํ คจฺฉติ.

อมฺพฏฺิอาทีนิ วีหิอาทีหิ วินิจฺฉินิตพฺพานิ. วนฺทากา วา อฺา วา ยา กาจิ รุกฺเข ชายิตฺวา รุกฺขํ โอตฺถรติ, รุกฺโขว ตสฺสา านํ, ตํ วิโกเปนฺตสฺส วา ตโต อุทฺธรนฺตสฺส วา ปาจิตฺติยํ. เอกา อมูลิกา ลตา โหติ, องฺคุลิเวโก วิย วนปฺปคุมฺพทณฺฑเก เวเติ, ตสฺสาปิ อยเมว วินิจฺฉโย. เคหปมุขปาการเวทิกา เจติยาทีสุ นีลวณฺโณ เสวาโล โหติ, ยาว ทฺเว ตีณิ ปตฺตานิ น สฺชายนฺติ, ตาว อคฺคพีชสงฺคหํ คจฺฉติ. ปตฺเตสุ ชาเตสุ ปาจิตฺติยวตฺถุ, ตสฺมา ตาทิเสสุ าเนสุ สุธาเลปมฺปิ ทาตุํ น วฏฺฏติ, อนุปสมฺปนฺเนน ลิตฺตสฺส อุปริ สิเนหเลโป ทาตุํ วฏฺฏติ. สเจ นิทาฆสมเย สุกฺขเสวาโล ติฏฺติ, ตํ สมฺมุฺชนีอาทีหิ ฆํสิตฺวา อปเนตุํ วฏฺฏติ. ปานียฆฏาทีนํ พหิ เสวาโล ทุกฺกฏวตฺถุ, อนฺโต อพฺโพหาริโก, ทนฺตกฏฺปูวาทีสุ กณฺณกมฺปิ อพฺโพหาริกเมว. วุตฺตฺเหตํ ‘‘สเจ เครุกปริกมฺมกตา ภิตฺติ กณฺณกิตา โหติ, โจฬกํ เตเมตฺวา ปีเฬตฺวา ปมชฺชิตพฺพา’’ติ (มหาว. ๖๖).

๗๗. ปาสาณชาติ ปาสาณททฺทุเสวาลเสเลยฺยกาทีนิ อหริตวณฺณานิ อปตฺตกานิ จ ทุกฺกฏวตฺถุกานิ. อหิจฺฉตฺตกํ ยาว มกุฏํ โหติ, ตาว ทุกฺกฏวตฺถุ, ปุปฺผิตกาลโต ปฏฺาย อพฺโพหาริกํ, อลฺลรุกฺขโต ปน อหิจฺฉตฺตกํ คณฺหนฺโต รุกฺขตจํ วิโกเปติ, ตสฺมา ตตฺถ ปาจิตฺติยํ. รุกฺขปปฏิกายปิ เอเสว นโย. ยา ปน อินฺทสาลกกุธาทีนํ ปปฏิกา รุกฺขโต มุจฺจิตฺวา ติฏฺติ, ตํ คณฺหนฺตสฺส อนาปตฺติ. นิยฺยาสมฺปิ รุกฺขโต มุจฺจิตฺวา ิตํ สุกฺขรุกฺเข วา ลคฺคํ คณฺหิตุํ วฏฺฏติ, อลฺลรุกฺขโต น วฏฺฏติ. ลาขายปิ เอเสว นโย. รุกฺขํ จาเลตฺวา ปณฺฑุปลาสํ วา ปริณตกณิการาทิปุปฺผํ วา ปาเตนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว. หตฺถกุกฺกุจฺเจน มุทุเกสุ อินฺทสาลนุหีขนฺธาทีสุ วา ตตฺถชาตกตาลปณฺณาทีสุ วา อกฺขรํ ฉินฺทนฺตสฺสปิ เอเสว นโย. สามเณรานํ ปุปฺผํ โอจินนฺตานํ สาขํ โอนาเมตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. เตหิ ปน ปุปฺเผหิ ปานียํ น วาเสตพฺพํ, ปานียวาสตฺถิเกน สามเณรํ อุกฺขิปิตฺวา โอจินาเปตพฺพานิ. ผลสาขาปิ อตฺตนา ขาทิตุกาเมน น โอนาเมตพฺพา, สามเณรํ อุกฺขิปิตฺวา ผลํ คาหาเปตพฺพํ. กิฺจิ คจฺฉํ วาลตํ วา อุปฺปาเฏนฺเตหิ สามเณเรหิ สทฺธึ คเหตฺวา อากฑฺฒิตุํ น วฏฺฏติ, เตสํ ปน อุสฺสาหชนนตฺถํ อนากฑฺฒนฺเตน กฑฺฒนาการํ ทสฺเสนฺเตน วิย อคฺเค คเหตุํ วฏฺฏติ. เยสํ รุกฺขานํ สาขา รุหติ, เตสํ สาขํ มกฺขิกพีชนาทีนํ อตฺถาย กปฺปิยํ อการาเปตฺวา คหิตํ, ตเจ วา ปตฺเต วา อนฺตมโส นเขนปิ วิเลขนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. อลฺลสิงฺคิเวราทีสุปิ เอเสว นโย. สเจ ปน กปฺปิยํ การาเปตฺวา สีตเล ปเทเส ปิตสฺส มูลํ สฺชายติ, อุปริภาเค ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติ. สเจ องฺกุโร ชายติ, เหฏฺาภาเค ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติ, มูเล จ องฺกุเร จ ชาเต น วฏฺฏติ.

‘‘สมฺมุฺชนีสลากายปิ ติณานิ ฉินฺทิสฺสามี’’ติ ภูมิยํ สมฺมชฺชนฺโต สยํ วา ฉินฺทติ, อฺเน วา เฉทาเปติ, น วฏฺฏติ. จงฺกมนฺโตปิ ‘‘ฉิชฺชนกํ ฉิชฺชตุ, ภิชฺชนกํ ภิชฺชตุ, จงฺกมิตฏฺานํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ สฺจิจฺจ ปาเทหิ อกฺกมนฺโต ติณวลฺลิอาทีนิ สยํ วา ฉินฺทติ, อฺเน วา เฉทาเปติ, น วฏฺฏติ. สเจปิ หิ ติณํ วา ลตํ วา คนฺถึ กโรนฺตสฺส ภิชฺชติ, คนฺถิมฺปิ กาตุํ น วฏฺฏติ. ตาลรุกฺขาทีสุ ปน โจรานํ อนารุหณตฺถาย ทารุมกฺกฏกํ อาโกเฏนฺติ, กณฺฏเก พนฺธนฺติ, ภิกฺขุสฺส เอวํ กาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ทารุมกฺกฏโก รุกฺเข อลฺลีนมตฺโตว โหติ, รุกฺขํ น ปีเฬติ, วฏฺฏติ. ‘‘รุกฺขํ ฉินฺท, ลตํ ฉินฺท, กนฺทํ วา มูลํ วา อุปฺปาเฏหี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ อนิยมิตตฺตา. นิยเมตฺวา ปน ‘‘อิมํ รุกฺขํ ฉินฺทา’’ติอาทิ วตฺตุํ น วฏฺฏติ. นามํ คเหตฺวาปิ ‘‘อมฺพรุกฺขํ จตุรํสวลฺลึ อาลุวกนฺทํ มุฺชติณํ อสุกรุกฺขจฺฉลฺลึ ฉินฺท ภินฺท อุปฺปาเฏหี’’ติอาทิวจนมฺปิ อนิยมิตเมว โหติ. ‘‘อิมํ อมฺพรุกฺข’’นฺติอาทิวจนเมว หิ นิยมิตํ นาม, ตํ น วฏฺฏติ. ปตฺตมฺปิ ปจิตุกาโม ติณาทีนํ อุปริ สฺจิจฺจ อคฺคึ กโรนฺโต สยํ วา ปจติ, อฺเน วา ปจาเปติ, น วฏฺฏติ. อนิยเมตฺวา ปน ‘‘มุคฺเค ปจ, มาเส ปจา’’ติอาทิ วตฺตุํ วฏฺฏติ, ‘‘อิเม มุคฺเค ปจา’’ติ เอวํ วตฺตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘อิมํ มูลเภสชฺชํ ชาน, อิมํ มูลํ วา ปณฺณํ วา เทหิ, อิมํ รุกฺขํ วา ลตํ วา อาหร, อิมินา ปุปฺเผน ผเลน วา อตฺโถ, อิมํ รุกฺขํ วา ลตํ วา ผลํ วา กปฺปิยํ กโรหี’’ติ เอวํ ปน วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอตฺตาวตา ภูตคามปริโมจิตํ กตํ โหติ.

๗๘. ปริภุฺชนฺเตน ปน พีชคามปริโมจนตฺถํ ปุน กปฺปิยํ การาเปตพฺพํ. กปฺปิยกรณฺเจตฺถ อิมินา สุตฺตานุสาเรน เวทิตพฺพํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ ผลํ ปริภุฺชิตุํ อคฺคิปริชิตํ สตฺถปริชิตํ นขปริชิตํ อพีชํ นิพฺพฏฺฏพีชฺเว ปฺจม’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๐).

ตตฺถ อคฺคิปริชิตนฺติ อคฺคินา ปริชิตํ อธิภูตํ ทฑฺฒํ ผุฏฺนฺติ อตฺโถ. สตฺถปริชิตนฺติ สตฺเถน ปริชิตํ อธิภูตํ ฉินฺนํ วิทฺธํ วาติ อตฺโถ. เอส นโย นขปริชิเต. อพีชนิพฺพฏฺฏพีชานิ สยเมว กปฺปิยานิ. อคฺคินา กปฺปิยํ กโรนฺเตน กฏฺคฺคิโคมยคฺคิอาทีสุ เยน เกนจิ อนฺตมโส โลหขณฺเฑนปิ อาทิตฺเตน กปฺปิยํ กาตพฺพํ, ตฺจ โข เอกเทเส ผุสนฺเตน ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวาว กาตพฺพํ. สตฺเถน กโรนฺเตน ยสฺส กสฺสจิ โลหมยสตฺถสฺส อนฺตมโส สูจินขจฺเฉทนานมฺปิ ตุณฺเฑน วา ธาราย วา เฉทํ วา เวธํ วา ทสฺเสนฺเตน ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวาว กาตพฺพํ. นเขน กปฺปิยํ กโรนฺเตน ปูตินเขน น กาตพฺพํ, มนุสฺสานํ ปน สีหพฺยคฺฆทีปิมกฺกฏานํ สกุนฺตานฺจ นขา ติขิณา โหนฺติ, เตหิ กาตพฺพํ. อสฺสมหึสสูกรมิคโครูปาทีนํ ขุรา อติขิณา, เตหิ น กาตพฺพํ, กตมฺปิ อกตํ โหติ. หตฺถินขา ปน ขุรา น โหนฺติ, เตหิ จ วฏฺฏติ. เยหิ ปน กาตุํ วฏฺฏติ, เตหิ ตตฺถชาตเกหิปิ อุทฺธริตฺวา คหิตเกปิ เฉทํ วา เวธํ วา ทสฺเสนฺเตน ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวาว กาตพฺพํ.

ตตฺถ สเจปิ พีชานํ ปพฺพตมตฺโต ราสิ, รุกฺขสหสฺสํ วา ฉินฺทิตฺวา เอกาพทฺธํ กตฺวา อุจฺฉูนํ วา มหาภาโร พนฺธิตฺวา ปิโต โหติ, เอกสฺมึ พีเช วา รุกฺขสาขาย วา อุจฺฉุมฺหิ วา กปฺปิเย กเต สพฺพํ กตํ โหติ. อุจฺฉู จ ทารูนิ จ เอกโต พทฺธานิ โหนฺติ, ‘‘อุจฺฉุํ กปฺปิยํ กริสฺสามี’’ติ ทารุํ วิชฺฌติ, วฏฺฏติเยว. สเจ ปน ยาย รชฺชุยา วา วลฺลิยา วา พทฺธานิ, ตํ วิชฺฌติ, น วฏฺฏติ. อุจฺฉุขณฺฑานํ ปจฺฉึ ปูเรตฺวา อาหรนฺติ, เอกสฺมึ ขณฺเฑ กปฺปิเย กเต สพฺพํ กตเมว. มรีจปกฺกาทีหิ จ มิสฺเสตฺวา ภตฺตํ อาหรนฺติ, ‘‘กปฺปิยํ กโรหี’’ติ วุตฺเต สเจปิ ภตฺตสิตฺเถ วิชฺฌติ, วฏฺฏติเยว. ติลตณฺฑุลาทีสุปิ เอเสว นโย. ยาคุยา ปกฺขิตฺตานิ ปน เอกาพทฺธานิ หุตฺวา น สนฺติฏฺนฺติ, ตตฺถ เอกเมกํ วิชฺฌิตฺวา กปฺปิยํ กาตพฺพเมว. กปิตฺถผลาทีนํ อนฺโต มิฺชํ กฏาหํ มุฺจิตฺวา สฺจรติ, ภินฺทาเปตฺวา กปฺปิยํ การาเปตพฺพํ, เอกาพทฺธํ โหติ, กฏาเหปิ กาตุํ วฏฺฏติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ภูตคามวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๑๖. สหเสยฺยวินิจฺฉยกถา

๗๙. ทุวิธํ สหเสยฺยกนฺติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อนุปสมฺปนฺเนน อุตฺตริทิรตฺตติรตฺตํ สหเสยฺยํ กปฺเปยฺย, ปาจิตฺติยํ (ปาจิ. ๔๙). โย ปน ภิกฺขุ มาตุคาเมน สหเสยฺยํ กปฺเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๕๖) เอวํ วุตฺตํ สหเสยฺยสิกฺขาปททฺวยํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปาจิ. อฏฺ. ๕๐-๕๑) – อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ ติณฺณํ รตฺตีนํ อุปริ จตุตฺถทิวเส อตฺถงฺคเต สูริเย สพฺพจฺฉนฺนสพฺพปริจฺฉนฺเน เยภุยฺยจฺฉนฺนเยภุยฺยปริจฺฉนฺเน วา เสนาสเน ปุพฺพาปริเยน วา เอกกฺขเณ วา นิปชฺชนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. ตตฺถ ฉทนํ อนาหจฺจ ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพเธน ปาการาทินา เยน เกนจิ ปริจฺฉนฺนมฺปิ สพฺพปริจฺฉนฺนมิจฺเจว เวทิตพฺพํ. ยํ เสนาสนํ อุปริ ปฺจหิ ฉทเนหิ อฺเน วา เกนจิ สพฺพเมว ปริจฺฉนฺนํ, อิทํ สพฺพจฺฉนฺนํ นาม เสนาสนํ. อฏฺกถาสุ ปน ปากฏโวหารํ คเหตฺวา วาจุคฺคตวเสน ‘‘สพฺพจฺฉนฺนํ นาม ปฺจหิ ฉทเนหิ ฉนฺน’’นฺติ วุตฺตํ. กิฺจาปิ วุตฺตํ, อถ โข ทุสฺสกุฏิยํ สยนฺตสฺสปิ น สกฺกา อนาปตฺติ กาตุํ, ตสฺมา ยํ กิฺจิ ปฏิจฺฉาทนสมตฺถํ อิธ ฉทนฺจ ปริจฺฉนฺนฺจ เวทิตพฺพํ. ปฺจวิธจฺฉทเนเยว หิ คยฺหมาเน ปทรจฺฉนฺเนปิ สหเสยฺยา น ภเวยฺย, ตสฺมา ยํ เสนาสนํ ภูมิโต ปฏฺาย ยาวฉทนํ อาหจฺจ ปากาเรน วา อฺเน วา เกนจิ อนฺตมโส วตฺเถนปิ ปริกฺขิตฺตํ, อิทํ สพฺพปริจฺฉนฺนํ นาม เสนาสนํ. ฉทนํ อนาหจฺจ สพฺพนฺติเมน ปริยาเยน ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพเธน ปาการาทินา ปริกฺขิตฺตมฺปิ สพฺพปริจฺฉนฺนเมว. ยสฺส ปน อุปริ พหุตรํ านํ ฉนฺนํ, อปฺปํ อจฺฉนฺนํ, สมนฺตโต วา พหุตรํ ปริกฺขิตฺตํ, อปฺปํ อปริกฺขิตฺตํ, อิทํ เยภุยฺเยนฉนฺนํ เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺนํ นาม.

อิมินา ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจปิ สตฺตภูมิโก ปาสาโท เอกูปจาโร โหติ, สตคพฺภํ วา จตุสาลํ, เอกํ เสนาสนมิจฺเจว สงฺขํ คจฺฉติ. เอวรูเป เสนาสเน อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ จตุตฺถทิวเส อตฺถงฺคเต สูริเย นิปชฺชนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. สเจ ปน สมฺพหุลา สามเณรา, เอโก ภิกฺขุ, สามเณรคณนาย ปาจิตฺติยา. เต เจ อุฏฺายุฏฺาย นิปชฺชนฺติ, เตสํ ปโยเค ปโยเค ภิกฺขุสฺส อาปตฺติ, ภิกฺขุสฺส อุฏฺายุฏฺาย นิปชฺชเน ปน ภิกฺขุสฺเสว ปโยเคน ภิกฺขุสฺส อาปตฺติ. สเจ สมฺพหุลา ภิกฺขู, เอโก สามเณโร, เอโกปิ สพฺเพสํ อาปตฺตึ กโรติ. ตสฺส อุฏฺายุฏฺาย นิปชฺชเนนปิ ภิกฺขูนํ อาปตฺติเยว. อุภเยสํ สมฺพหุลภาเวปิ เอเสว นโย.

๘๐. อปิเจตฺถ เอกาวาสาทิกมฺปิ จตุกฺกํ เวทิตพฺพํ. โย หิ เอกสฺมึ อาวาเส เอเกเนว อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ ติรตฺตํ สหเสยฺยํ กปฺเปติ, ตสฺส จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย เทวสิกา อาปตฺติ. โยปิ เอกสฺมึเยว อาวาเส นานาอนุปสมฺปนฺเนหิ สทฺธึ ติรตฺตํ สหเสยฺยํ กปฺเปติ, ตสฺสปิ. โยปิ นานาอาวาเสสุ เอเกเนว อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ ติรตฺตํ สหเสยฺยํ กปฺเปติ, ตสฺสปิ. โยปิ นานาอาวาเสสุ นานาอนุปสมฺปนฺเนหิ สทฺธึ โยชนสตมฺปิ คนฺตฺวา สหเสยฺยํ กปฺเปติ, ตสฺสปิ จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย เทวสิกา อาปตฺติ.

อยฺจ สหเสยฺยาปตฺติ นาม ‘‘ภิกฺขุํ เปตฺวา อวเสโส อนุปสมฺปนฺโน นามา’’ติ วจนโต อนฺตมโส ปาราชิกวตฺถุภูเตน ติรจฺฉานคเตนปิ สทฺธึ โหติ, ตสฺมา สเจปิ โคธาพิฬาลมงฺคุสาทีสุ โกจิ ปวิสิตฺวา ภิกฺขุโน วสนเสนาสเน เอกูปจารฏฺาเน สยติ, สหเสยฺยาว โหติ. ยทิ ปน ถมฺภานํ อุปริ กตปาสาทสฺส อุปริมตเลน สทฺธึ อสมฺพทฺธภิตฺติกสฺส ภิตฺติยา อุปริิตสุสิรตุลาสีสสฺส สุสิเรน ปวิสิตฺวา ตุลาย อพฺภนฺตเร สยิตฺวา เตเนว สุสิเรน นิกฺขมิตฺวา คจฺฉติ, เหฏฺาปาสาเท สยิตภิกฺขุสฺส อนาปตฺติ. สเจ ฉทเน ฉิทฺทํ โหติ, เตน ปวิสิตฺวา อนฺโตฉทเน วสิตฺวา เตเนว ปกฺกมติ, นานูปจาเร อุปริมตเล ฉทนพฺภนฺตเร สยิตสฺส อาปตฺติ, เหฏฺิมตเล สยิตสฺส อนาปตฺติ. สเจ อนฺโตปาสาเทเนว อาโรหิตฺวา สพฺพตลานิ ปริภุฺชนฺติ, เอกูปจารานิ โหนฺติ, เตสุ ยตฺถ กตฺถจิ สยิตสฺส อาปตฺติ, สภาสงฺเขเปน กเต อฑฺฒกุฏฺฏเก เสนาสเน สยิตสฺส ตุลาวาฬสฆาฏาทีสุ กโปตาทโย สยนฺติ, อาปตฺติเยว. ปริกฺเขปสฺส พหิคเต นิพฺพโกสพฺภนฺตเร สยนฺติ, อนาปตฺติ. ปริมณฺฑลํ วา จตุรสฺสํ วา เอกจฺฉทนาย คพฺภมาลาย สตคพฺภํ เจปิ เสนาสนํ โหติ, ตตฺร เจ เอเกน สาธารณทฺวาเรน ปวิสิตฺวา วิสุํ ปากาเรน อปริจฺฉินฺนคพฺภูปจาเร สพฺพคพฺเภปิ ปวิสนฺติ, เอกคพฺเภปิ อนุปสมฺปนฺเน นิปนฺเน สพฺพคพฺเภสุ นิปนฺนานํ อาปตฺติ. สเจ สปมุขา คพฺภา โหนฺติ, ปมุขฺจ อุปริ อจฺฉนฺนํ, ปมุเข สยิโต คพฺเภ สยิตานํ อาปตฺตึ น กโรติ. สเจ ปน คพฺภจฺฉทเนเนว สทฺธึ สมฺพนฺธฉทนํ, ตตฺร สยิโต สพฺเพสํ อาปตฺตึ กโรติ. กสฺมา? สพฺพจฺฉนฺนตฺตา จ สพฺพปริจฺฉนฺนตฺตา จ. คพฺภปริกฺเขโปเยว หิสฺส ปริกฺเขโป.

๘๑. เยปิ เอกสาลทฺวิสาลติสาลจตุสาลสนฺนิเวสา มหาปาสาทา เอกสฺมึ โอกาเส ปาเท โธวิตฺวา ปวิฏฺเน สกฺกา โหนฺติ สพฺพตฺถ อนุปริคนฺตุํ, เตสุปิ สหเสยฺยาปตฺติยา น มุจฺจติ. สเจ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน อุปจารํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา กตา โหนฺติ, เอกูปจารฏฺาเนเยว อาปตฺติ. ทฺวีหิ ทฺวาเรหิ ยุตฺตสฺส สุธาฉทนมณฺฑปสฺส มชฺเฌ ปาการํ กโรนฺติ, เอเกน ทฺวาเรน ปวิสิตฺวา เอกสฺมึ ปริจฺเฉเท อนุปสมฺปนฺโน สยติ, เอกสฺมึ ภิกฺขุ, อนาปตฺติ. ปากาเร โคธาทีนํ ปวิสนมตฺตํ ฉิทฺทํ โหติ, เอกสฺมิฺจ ปริจฺเฉเท โคธา สยนฺติ, อนาปตฺติเยว. น หิ ฉิทฺเทน เคหํ เอกูปจารํ นาม โหติ. สเจ ปาการมชฺเฌ ฉินฺทิตฺวา ทฺวารํ โยเชนฺติ, เอกูปจารตาย อาปตฺติ. ตํ ทฺวารํ กวาเฏน ปิทหิตฺวา สยนฺติ, อาปตฺติเยว. น หิ ทฺวารปิทหเนน เคหํ นานูปจารํ นาม โหติ, ทฺวารํ วา อทฺวารํ. กวาฏฺหิ สํวรณวิวรเณหิ ยถาสุขํ วฬฺชนตฺถาย กตํ, น วฬฺชุปจฺเฉทนตฺถาย. สเจ ตํ ทฺวารํ ปุน อิฏฺกาหิ ปิทหนฺติ, อทฺวารํ โหติ, ปุริเม นานูปจารภาเวเยว ติฏฺติ. ทีฆปมุขํ เจติยฆรํ โหติ, เอกํ กวาฏํ อนฺโต, เอกํ พหิ, ทฺวินฺนํ กวาฏานํ อนฺตเร อนุปสมฺปนฺโน อนฺโตเจติยฆเร สยนฺตสฺส อาปตฺตึ กโรติ เอกูปจารตฺตา.

อยฺเหตฺถ สงฺเขโป – เสนาสนํ ขุทฺทกํ วา โหตุ มหนฺตํ วา, อฺเน สทฺธึ สมฺพนฺธํ วา อสมฺพนฺธํ วา, ทีฆํ วา วฏฺฏํ วา จตุรสฺสํ วา, เอกภูมิกํ วา อเนกภูมิกํ วา, ยํ ยํ เอกูปจารํ, สพฺพตฺถ สหเสยฺยาปตฺติ โหตีติ. เอตฺถ จ เยน เกนจิ ปฏิจฺฉทเนน สพฺพจฺฉนฺเน สพฺพปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, เยภุยฺเยนฉนฺเน เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, สพฺพจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, สพฺพจฺฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, เยภุยฺเยนฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, สพฺพปริจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, สพฺพปริจฺฉนฺเน อุปฑฺฒจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน อุปฑฺฒจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยนฺติ อฏฺ ปาจิตฺติยานิ. อุปฑฺฒจฺฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, สพฺพจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, เยภุยฺเยนฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, สพฺพปริจฺฉนฺเน จูฬกจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน จูฬกจฺฉนฺเน ทุกฺกฏนฺติ ปฺจ ทุกฺกฏานิ เวทิตพฺพานิ. สพฺพจฺฉนฺเน สพฺพอปริจฺฉนฺเน, สพฺพปริจฺฉนฺเน สพฺพอจฺฉนฺเน, เยภุยฺเยนอจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนอปริจฺฉนฺเน, อุปฑฺฒจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน, อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน จูฬกจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน จ อนาปตฺติ. มาตุคาเมน สห นิปชฺชนฺตสฺสปิ อยเมว วินิจฺฉโย. อยฺเหตฺถ วิเสโส – อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ นิปชฺชนฺตสฺส จตุตฺถทิวเส อาปตฺติ, มาตุคาเมน สทฺธึ ปมทิวเสติ. ยกฺขิเปตีหิ ปน ทิสฺสมานกรูปาหิ ติรจฺฉานคติตฺถิยา จ เมถุนธมฺมวตฺถุภูตาย เอว ทุกฺกฏํ, เสสาหิ อนาปตฺติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

สหเสยฺยวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๑๗. มฺจปีาทิสงฺฆิกเสนาสเนสุ ปฏิปชฺชิตพฺพวินิจฺฉยกถา

๘๒. วิหาเร สงฺฆิเก เสยฺยํ, สนฺถริตฺวาน ปกฺกโมติ สงฺฆิเก วิหาเร เสยฺยํ สนฺถริตฺวาน อฺตฺถ วสิตุกามตาย วิหารโต ปกฺกมนํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย –

‘‘โย ปน ภิกฺขุ สงฺฆิเก วิหาเร เสยฺยํ สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ตํ ปกฺกมนฺโต เนว อุทฺธเรยฺย น อุทฺธราเปยฺย อนาปุจฺฉํ วา คจฺเฉยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๕) –

วจนโต สงฺฆิเก วิหาเร เสยฺยํ สยํ สนฺถริตฺวา อฺเน วา สนฺถราเปตฺวา อุทฺธรณาทีนิ อกตฺวา ปริกฺขิตฺตสฺส อารามสฺส ปริกฺเขปํ, อปริกฺขิตฺตสฺส อุปจารํ อติกฺกมนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ.

ตตฺถ เสยฺยา นาม ภิสิ จิมิลิกา อุตฺตรตฺถรณํ ภูมตฺถรณํ ตฏฺฏิกา จมฺมขณฺโฑ นิสีทนํ ปจฺจตฺถรณํ ติณสนฺถาโร ปณฺณสนฺถาโรติ ทสวิธา. ตตฺถ ภิสีติ มฺจกภิสิ วา ปีกภิสิ วา. จิมิลิกา นาม สุธาทิปริกมฺมกตาย ภูมิยา วณฺณานุรกฺขณตฺถํ กตา, ตํ เหฏฺา ปตฺถริตฺวา อุปริ กฏสารกํ ปตฺถรนฺติ. อุตฺตรตฺถรณํ นาม มฺจปีานํ อุปริ อตฺถริตพฺพกปจฺจตฺถรณํ. ภูมตฺถรณํ นาม ภูมิยํ อตฺถริตพฺพา กฏสารกาทิวิกติ. ตฏฺฏิกา นาม ตาลปณฺเณหิ วา วาเกหิ วา กตตฏฺฏิกา. จมฺมขณฺโฑ นาม สีหพฺยคฺฆทีปิตรจฺฉจมฺมาทีสุปิ ยํ กิฺจิ จมฺมํ. อฏฺกถาสุ หิ เสนาสนปริโภเค ปฏิกฺขิตฺตจมฺมํ น ทิสฺสติ, ตสฺมา สีหพฺยคฺฆจมฺมาทีนํ ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ. นิสีทนนฺติ สทสํ เวทิตพฺพํ. ปจฺจตฺถรณนฺติ ปาวาโร โกชโวติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. ติณสนฺถาโรติ เยสํ เกสฺจิ ติณานํ สนฺถาโร. เอส นโย ปณฺณสนฺถาเรปิ. เอวํ ปน อิมํ ทสวิธํ เสยฺยํ สงฺฆิเก วิหาเร สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ปกฺกมนฺเตน อาปุจฺฉิตฺวา ปกฺกมิตพฺพํ, อาปุจฺฉนฺเตน จ ภิกฺขุมฺหิ สติ ภิกฺขุ อาปุจฺฉิตพฺโพ, ตสฺมึ อสติ สามเณโร, ตสฺมึ อสติ อารามิโก, ตสฺมึ อสติ เยน วิหาโร การิโต, โส วิหารสามิโก, ตสฺส วา กุเล โย โกจิ อาปุจฺฉิตพฺโพ, ตสฺมิมฺปิ อสติ จตูสุ ปาสาเณสุ มฺจํ เปตฺวา มฺเจ อวเสสมฺจปีานิ อาโรเปตฺวา อุปริ ภิสิอาทิกํ ทสวิธมฺปิ เสยฺยํ ราสึ กตฺวา ทารุภณฺฑํ มตฺติกาภณฺฑํ ปฏิสาเมตฺวา ทฺวารวาตปานานิ ปิทหิตฺวา คมิยวตฺตํ ปูเรตฺวา คนฺตพฺพํ.

สเจ ปน เสนาสนํ โอวสฺสติ, ฉทนตฺถฺจ ติณํ วา อิฏฺกา วา อานีตา โหนฺติ, สเจ อุสฺสหติ, ฉาเทตพฺพํ. โน เจ สกฺโกติ, โย โอกาโส อโนวสฺสโก, ตตฺถ มฺจปีาทีนิ นิกฺขิปิตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ สพฺพมฺปิ โอวสฺสติ, อุสฺสหนฺเตน อนฺโตคาเม อุปาสกานํ ฆเร เปตพฺพํ. สเจ เตปิ ‘‘สงฺฆิกํ นาม, ภนฺเต, ภาริยํ, อคฺคิทาหาทีนํ ภายามา’’ติ น สมฺปฏิจฺฉนฺติ, อพฺโภกาเสปิ ปาสาณานํ อุปริ มฺจํ เปตฺวา เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว นิกฺขิปิตฺวา ติเณหิ จ ปณฺเณหิ จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ. ยฺหิ ตตฺถ องฺคมตฺตมฺปิ อวสิสฺสติ, ตํ อฺเสํ ตตฺถ อาคตภิกฺขูนํ อุปการํ ภวิสฺสตีติ. อุทฺธริตฺวา คจฺฉนฺเตน ปน มฺจปีกวาฏํ สพฺพํ อปเนตฺวา สํหริตฺวา จีวรวํเส ลคฺเคตฺวาว คนฺตพฺพํ. ปจฺฉา อาคนฺตฺวา วสนกภิกฺขุนาปิ ปุน มฺจปีํ ปยิตฺวา คจฺฉนฺเตน ตเถว กาตพฺพํ. อนฺโตกุฏฺฏโต เสยฺยํ พหิกุฏฺเฏ ปฺเปตฺวา วสนฺเตน คมนกาเล ปุน คหิตฏฺาเนเยว ปฏิสาเมตพฺพํ. อุปริปาสาทโต โอโรเปตฺวา เหฏฺาปาสาเท วสนฺตสฺสปิ เอเสว นโย. รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเนสุ มฺจปีํ ปฺเปตฺวา พหิคมนกาเล ปุน คหิตฏฺาเนเยว เปตพฺพํ.

๘๓. เสนาสเนสุ ปน อยํ อาปุจฺฉิตพฺพานาปุจฺฉิตพฺพวินิจฺฉโย – ยา ตาว ภูมิยํ ทีฆสาลา วา ปณฺณสาลา วา โหติ, ยํ วา รุกฺขตฺถมฺเภสุ กตเคหํ อุปจิกานํ อุฏฺานฏฺานํ โหติ, ตโต ปกฺกมนฺเตน ตาว อาปุจฺฉิตฺวาว ปกฺกมิตพฺพํ. ตสฺมิฺหิ กติปยานิ ทิวสานิ อชคฺคิยมาเน วมฺมิกาว สนฺติฏฺนฺติ. ยํ ปน ปาสาณปิฏฺิยํ วา ปาสาณตฺถมฺเภสุ วา กตเสนาสนํ สิลุจฺจยเลณํ วา สุธาลิตฺตเสนาสนํ วา, ยตฺถ ยตฺถ อุปจิกาสงฺกา นตฺถิ, ตโต ปกฺกมนฺตสฺส อาปุจฺฉิตฺวาปิ อนาปุจฺฉิตฺวาปิ คนฺตุํ วฏฺฏติ, อาปุจฺฉนํ ปน วตฺตํ. สเจ ตาทิเสปิ เสนาสเน เอเกน ปสฺเสน อุปจิกา อาโรหนฺติ, อาปุจฺฉิตฺวาว คนฺตพฺพํ. โย ปน อาคนฺตุโก ภิกฺขุ สงฺฆิกเสนาสนํ คเหตฺวาว สนฺตํ ภิกฺขุํ อนุวตฺตนฺโต อตฺตโน เสนาสนํ อคฺคเหตฺวา วสติ, ยาว โส น คณฺหาติ, ตาว ตํ เสนาสนํ ปุริมภิกฺขุสฺเสว ปลิโพโธ. ยทา ปน โส เสนาสนํ คเหตฺวา อตฺตโน อิสฺสริเยน วสติ, ตโต ปฏฺาย อาคนฺตุกสฺเสว ปลิโพโธ. สเจ อุโภปิ วิภชิตฺวา คณฺหนฺติ, อุภินฺนมฺปิ ปลิโพโธ.

มหาปจฺจริยํ ปน วุตฺตํ – สเจ ทฺเว ตโย เอกโต หุตฺวา ปฺเปนฺติ, คมนกาเล สพฺเพหิ อาปุจฺฉิตพฺพํ. เตสุ เจ ปมํ คจฺฉนฺโต ‘‘ปจฺฉิโม ชคฺคิสฺสตี’’ติ อาโภคํ กตฺวา คจฺฉติ, วฏฺฏติ, ปจฺฉิมสฺส อาโภเคน มุตฺติ นตฺถิ. พหู เอกํ เปเสตฺวา สนฺถราเปนฺติ, คมนกาเล สพฺเพหิ วา อาปุจฺฉิตพฺพํ, เอกํ วา เปเสตฺวา อาปุจฺฉิตพฺพํ. อฺโต มฺจปีาทีนิ อาเนตฺวา อฺตฺร วสิตฺวา คมนกาเล ตตฺเถว เนตพฺพานิ. สเจ อฺโต อาเนตฺวา วสมานสฺส อฺโ วุฑฺฒตโร อาคจฺฉติ, น ปฏิพาหิตพฺโพ, ‘‘มยา, ภนฺเต, อฺาวาสโต อานีตํ, ปากติกํ กเรยฺยาถา’’ติ วตฺตพฺพํ. เตน ‘‘เอวํ กริสฺสามี’’ติ สมฺปฏิจฺฉิเต อิตรสฺส คนฺตุํ วฏฺฏติ. เอวํ อฺตฺถ หริตฺวาปิ สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชนฺตสฺส หิ นฏฺํ วา ชิณฺณํ วา โจเรหิ วา หฏํ คีวา เนว โหติ, ปุคฺคลิกปริโภเคน ปริภุฺชนฺตสฺส ปน คีวา โหติ. อฺสฺส มฺจปีํ ปน สงฺฆิกปริโภเคน วา ปุคฺคลิกปริโภเคน วา ปริภุฺชนฺตสฺส นฏฺํ คีวาเยว. อนฺโตวิหาเร เสยฺยํ สนฺถริตฺวา ‘‘อชฺเชว อาคนฺตฺวา ปฏิชคฺคิสฺสามี’’ติ เอวํ สาเปกฺโข นทีปารํ คามนฺตรํ วา คนฺตฺวา ยตฺถสฺส คมนจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ตตฺเถว ิโต กฺจิ เปเสตฺวา อาปุจฺฉติ, นทีปูรราชโจราทีสุ วา เกนจิ ปลิโพโธ โหติ อุปทฺทุโต, น สกฺโกติ ปจฺจาคนฺตุํ, เอวํภูตสฺส อนาปตฺติ.

วิหารสฺส อุปจาเร ปน อุปฏฺานสาลาย วา มณฺฑเป วา รุกฺขมูเล วา เสยฺยํ สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ตํ ปกฺกมนฺโต เนว อุทฺธรติ น อุทฺธราเปติ อนาปุจฺฉํ วา คจฺฉติ, ทุกฺกฏํ. วุตฺตปฺปการฺหิ ทสวิธํ เสยฺยํ อนฺโตคพฺภาทิมฺหิ คุตฺตฏฺาเน ปฺเปตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ยสฺมา เสยฺยาปิ เสนาสนมฺปิ อุปจิกาหิ ปลุชฺชติ, วมฺมิกราสิเยว โหติ, ตสฺมา ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. พหิ ปน อุปฏฺานสาลาทีสุ ปฺเปตฺวา คจฺฉนฺตสฺส เสยฺยามตฺตเมว นสฺเสยฺย านสฺส อคุตฺตตาย, น เสนาสนํ, ตสฺมา เอตฺถ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. มฺจปีํ ปน ยสฺมา น สกฺกา สหสา อุปจิกาหิ ขายิตุํ, ตสฺมา ตํ วิหาเรปิ สนฺถริตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. วิหารสฺสูปจาเร อุปฏฺานสาลายํ มณฺฑเป รุกฺขมูเลปิ สนฺถริตฺวา ปกฺกมนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว.

๘๔. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ สงฺฆิกํ มฺจํ วา ปีํ วา ภิสึ วา โกจฺฉํ วา อชฺโฌกาเส สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ตํ ปกฺกมนฺโต เนว อุทฺธเรยฺย น อุทฺธราเปยฺย อนาปุจฺฉํ วา คจฺเฉยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๙) วจนโต สงฺฆิกานิ ปน มฺจปีาทีนิ จตฺตาริ อชฺโฌกาเส สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา อุทฺธรณาทีนิ อกตฺวา ‘‘อชฺเชว อาคมิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺตสฺสปิ ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม ปาจิตฺติยํ. เอตฺถ โกจฺฉํ นาม วากมยํ วา อุสีรมยํ วา มุฺชมยํ วา ปพฺพชมยํ วา เหฏฺา จ อุปริ จ วิตฺถตํ มชฺเฌ สํขิตฺตํ ปณวสณฺานํ กตฺวา พทฺธํ. ตํ กิร มชฺเฌ สีหพฺยคฺฆจมฺมปริกฺขิตฺตมฺปิ กโรนฺติ, อกปฺปิยจมฺมํ นาเมตฺถ นตฺถิ. เสนาสนฺหิ โสวณฺณมยมฺปิ วฏฺฏติ, ตสฺมา ตํ มหคฺฆํ โหติ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฏฺ มาเส อวสฺสิกสงฺเกเต มณฺฑเป วา รุกฺขมูเล วา ยตฺถ กากา วา กุลลา วา น อูหทนฺติ, ตตฺถ เสนาสนํ นิกฺขิปิตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๐) วจนโต ปน วสฺสิกวสฺสานมาสาติ เอวํ อปฺาเต จตฺตาโร เหมนฺติเก, จตฺตาโร คิมฺหิเกติ อฏฺ มาเส สาขามณฺฑเป วา ปทรมณฺฑเป วา รุกฺขมูเล วา นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ. ยสฺมึ ปน กากา วา กุลลา วา อฺเ วา สกุนฺตา ธุวนิวาเสน กุลาวเก กตฺวา วสนฺติ, ตสฺส รุกฺขสฺส มูเล น นิกฺขิปิตพฺพํ. ‘‘อฏฺ มาเส’’ติ วจนโต เยสุ ชนปเทสุ วสฺสกาเล น วสฺสติ, เตสุ จตฺตาโร มาเส นิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติเยว. ‘‘อวสฺสิกสงฺเกเต’’ติ วจนโต ยตฺถ เหมนฺเต เทโว วสฺสติ, ตตฺถ เหมนฺเตปิ อชฺโฌกาเส นิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ. คิมฺเห ปน สพฺพตฺถ วิคตวลาหกํ วิสุทฺธํ นตํ โหติ, เอวรูเป กาเล เกนจิเทว กรณีเยน อชฺโฌกาเส มฺจปีํ นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ.

๘๕. อพฺโภกาสิเกนปิ วตฺตํ ชานิตพฺพํ. ตสฺส หิ สเจ ปุคฺคลิกมฺจโก อตฺถิ, ตตฺเถว สยิตพฺพํ. สงฺฆิกํ คณฺหนฺเตน เวตฺเตน วา วาเกน วา วีตมฺจโก คเหตพฺโพ, ตสฺมึ อสติ ปุราณมฺจโก คเหตพฺโพ, ตสฺมึ อสติ นววายิโม วา โอนทฺธโก วา คเหตพฺโพ. คเหตฺวา ปน ‘‘อหํ อุกฺกฏฺรุกฺขมูลิโก อุกฺกฏฺอพฺโภกาสิโก’’ติ จีวรกุฏิมฺปิ อกตฺวา อสมเย อชฺโฌกาเส วา รุกฺขมูเล วา ปฺเปตฺวา นิปชฺชิตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน จตุคฺคุเณนปิ จีวเรน กตา กุฏิ อเตเมนฺตํ รกฺขิตุํ น สกฺโกติ, สตฺตาหวทฺทลิกาทีนิ ภวนฺติ, ภิกฺขุโน กายานุคติกตฺตา วฏฺฏติ. อรฺเ ปณฺณกุฏีสุ วสนฺตานํ สีลสมฺปทาย ปสนฺนจิตฺตา มนุสฺสา นวํ มฺจปีํ เทนฺติ ‘‘สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชถา’’ติ, วสิตฺวา คจฺฉนฺเตหิ สามนฺตวิหาเร สภาคภิกฺขูนํ เปเสตฺวา คนฺตพฺพํ, สภาคานํ อภาเวน อโนวสฺสเก นิกฺขิปิตฺวา คนฺตพฺพํ, อโนวสฺสเก อสติ รุกฺเข ลคฺเคตฺวา คนฺตพฺพํ. เจติยงฺคเณ สมฺมชฺชนึ คเหตฺวา โภชนสาลงฺคณํ วา อุโปสถาคารงฺคณํ วา ปริเวณทิวาฏฺานอคฺคิสาลาทีสุ วา อฺตรํ สมฺมชฺชิตฺวา โธวิตฺวา ปุน สมฺมชฺชนิมาฬเกเยว เปตพฺพา. อุโปสถาคาราทีสุ อฺตรสฺมึ คเหตฺวา อวเสสานิ สมฺมชฺชนฺตสฺสปิ เอเสว นโย.

โย ปน ภิกฺขาจารมคฺคํ สมฺมชฺชนฺโต คนฺตุกาโม โหติ, เตน สมฺมชฺชิตฺวา สเจ อนฺตรามคฺเค สาลา อตฺถิ, ตตฺถ เปตพฺพา. สเจ นตฺถิ, วลาหกานํ อนุฏฺิตภาวํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘ยาวาหํ คามโต นิกฺขมามิ, ตาว น วสฺสิสฺสตี’’ติ ชานนฺเตน ยตฺถ กตฺถจิ นิกฺขิปิตฺวา ปุน ปจฺจาคจฺฉนฺเตน ปากติกฏฺาเน เปตพฺพา. ‘‘สเจ วสฺสิสฺสตีติ ชานนฺโต อชฺโฌกาเส เปติ, ทุกฺกฏ’’นฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. สเจ ปน ตตฺร ตตฺเรว สมฺมชฺชนตฺถาย สมฺมชฺชนี นิกฺขิตฺตา โหติ, ตํ ตํ านํ สมฺมชฺชิตฺวา ตตฺร ตตฺเรว นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ, อาสนสาลํ สมฺมชฺชนฺเตน วตฺตํ ชานิตพฺพํ. ตตฺริทํ วตฺตํ – มชฺฌโต ปฏฺาย ปาทฏฺานาภิมุขา วาลิกา หริตพฺพา, กจวรํ หตฺเถหิ คเหตฺวา พหิ ฉฑฺเฑตพฺพํ.

๘๖. สเจ วุตฺตปฺปการํ จตุพฺพิธมฺปิ สงฺฆิกํ เสนาสนํ อชฺโฌกาเส วา รุกฺขมูเล วา มณฺฑเป วา อนุปสมฺปนฺเนน สนฺถราเปติ, เยน สนฺถราปิตํ, ตสฺส ปลิโพโธ. สเจ ปน อุปสมฺปนฺเนน สนฺถราเปติ, เยน สนฺถตํ, ตสฺส ปลิโพโธ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๑) – เถโร โภชนสาลายํ ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา ทหรํ อาณาเปติ ‘‘คจฺฉ ทิวาฏฺาเน มฺจปีํ ปฺเปหี’’ติ. โส ตถา กตฺวา นิสินฺโน, เถโร ยถารุจิ วิจริตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา ถวิกํ วา อุตฺตราสงฺคํ วา เปติ, ตโต ปฏฺาย เถรสฺส ปลิโพโธ. นิสีทิตฺวา สยํ คจฺฉนฺโต เนว อุทฺธรติ น อุทฺธราเปติ, เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน เถโร ตตฺถ ถวิกํ วา อุตฺตราสงฺคํ วา อฏฺเปตฺวา จงฺกมนฺโตว ทหรํ ‘‘คจฺฉ ตฺว’’นฺติ ภณติ, เตน ‘‘อิทํ, ภนฺเต, มฺจปี’’นฺติ อาจิกฺขิตพฺพํ. สเจ เถโร วตฺตํ ชานาติ, ‘‘ตฺวํ คจฺฉ, อหํ ปากติกํ กริสฺสามี’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ พาโล โหติ อนุคฺคหิตวตฺโต, ‘‘คจฺฉ, มา อิธ ติฏฺ, เนว นิสีทิตุํ น นิปชฺชิตุํ เทมี’’ติ ทหรํ ตชฺเชติเยว. ทหเรน ‘‘ภนฺเต, สุขํ สยถา’’ติ กปฺปํ ลภิตฺวา วนฺทิตฺวา คนฺตพฺพํ. ตสฺมึ คเต เถรสฺเสว ปลิโพโธ, ปุริมนเยเนว จสฺส อาปตฺติ เวทิตพฺพา.

อถ ปน อาณตฺติกฺขเณเยว ทหโร ‘‘มยฺหํ ภณฺเฑ ภณฺฑโธวนาทิ กิฺจิ กรณียํ อตฺถี’’ติ วทติ, เถโร ปน ตํ ‘‘ปฺเปตฺวา คจฺฉาหี’’ติ วตฺวา โภชนสาลโต นิกฺขมิตฺวา อฺตฺถ คจฺฉติ, ปาทุทฺธาเรน กาเรตพฺโพ. สเจ ตตฺเถว คนฺตฺวา นิสีทติ, ปุริมนเยเนว จสฺส เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม อาปตฺติ. สเจ ปน เถโร สามเณรํ อาณาเปติ, สามเณเร ตตฺถ มฺจปีํ ปฺเปตฺวา นิสินฺเนปิ โภชนสาลโต อฺตฺถ คจฺฉนฺโต ปาทุทฺธาเรน กาเรตพฺโพ. คนฺตฺวา นิสินฺโน ปุน คมนกาเล เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. สเจ ปน อาณาเปนฺโต ‘‘มฺจปีํ ปฺเปตฺวา ตตฺเถว นิสีทา’’ติ อาณาเปติ, ยตฺริจฺฉติ, ตตฺร คนฺตฺวา อาคนฺตุํ ลภติ. สยํ ปน ปากติกํ อกตฺวา คจฺฉนฺตสฺส เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม ปาจิตฺติยํ. อนฺตรสนฺนิปาเต มฺจปีาทีนิ ปฺเปตฺวา นิสินฺเนหิ คมนกาเล อารามิกานํ ‘‘อิทํ ปฏิสาเมถา’’ติ วตฺตพฺพํ, อวตฺวา คจฺฉนฺตานํ เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม อาปตฺติ.

๘๗. มหาธมฺมสฺสวนํ นาม โหติ, ตตฺถ อุโปสถาคารโตปิ โภชนสาลโตปิ อาหริตฺวา มฺจปีานิ ปฺเปนฺติ, อาวาสิกานํเยว ปลิโพโธ. สเจ อาคนฺตุกา ‘‘อิทํ อมฺหากํ อุปชฺฌายสฺส, อิทํ อาจริยสฺสา’’ติ คณฺหนฺติ, ตโต ปฏฺาย เตสํ ปลิโพโธ. คมนกาเล ปากติกํ อกตฺวา เลฑฺฑุปาตํ อติกฺกมนฺตานํ อาปตฺติ. มหาปจฺจริยํ ปน วุตฺตํ ‘‘ยาว อฺเ น นิสีทนฺติ, ตาว เยหิ ปฺตฺตํ, เตสํ ภาโร, อฺเสุ อาคนฺตฺวา นิสินฺเนสุ นิสินฺนกานํ ภาโร. สเจ เต อนุทฺธริตฺวา วา อนุทฺธราเปตฺวา วา คจฺฉนฺติ, ทุกฺกฏํ. กสฺมา? อนาณตฺติยา ปฺปิตตฺตา’’ติ. ธมฺมาสเน ปฺตฺเต ยาว อุสฺสารโก วา ธมฺมกถิโก วา นาคจฺฉติ, ตาว ปฺาปกานํ ปลิโพโธ. ตสฺมึ อาคนฺตฺวา นิสินฺเน ตสฺส ปลิโพโธ. สกลํ อโหรตฺตํ ธมฺมสฺสวนํ โหติ, อฺโ อุสฺสารโก วา ธมฺมกถิโก วา อุฏฺาติ, อฺโ นิสีทติ, โย โย อาคนฺตฺวา นิสีทติ, ตสฺส ตสฺเสว ภาโร. อุฏฺหนฺเตน ปน ‘‘อิทมาสนํ ตุมฺหากํ ภาโร’’ติ วตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจปิ อิตรสฺมึ อนาคเต ปมํ นิสินฺโน อุฏฺาย คจฺฉติ, ตสฺมิฺจ อนฺโตอุปจารฏฺเเยว อิตโร อาคนฺตฺวา นิสีทติ, อุฏฺาย คโต อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ. สเจ ปน อิตรสฺมึ อนาคเตเยว ปมํ นิสินฺโน อุฏฺายาสนา เลฑฺฑุปาตํ อติกฺกมติ, อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. ‘‘สพฺพตฺถ เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม ปมปาเท ทุกฺกฏํ, ทุติยปาเท ปาจิตฺติย’’นฺติ อยํ นโย มหาปจฺจริยํ วุตฺโตติ.

๘๘. สเจ ปน วุตฺตปฺปการเสนาสนโต อฺํ สงฺฆิกํ จิมิลิกํ วา อุตฺตรตฺถรณํ วา ภูมตฺถรณํ วา ตฏฺฏิกํ วา จมฺมขณฺฑํ วา ปาทปุฺฉนึ วา ผลกปีํ วา อชฺโฌกาเส สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ตํ ปกฺกมนฺโต เนว อุทฺธรติ น อุทฺธราเปติ อนาปุจฺฉํ วา คจฺฉติ, ทุกฺกฏํ. อาธารกํ ปตฺตปิธานกํ ปาทกลิกํ ตาลวณฺฏํ พีชนิปตฺตกํ ยํ กิฺจิ ทารุภณฺฑํ อนฺตมโส ปานียอุฬุงฺกํ ปานียสงฺขํ อชฺโฌกาเส นิกฺขิปิตฺวา คจฺฉนฺตสฺสปิ ทุกฺกฏํ. อชฺโฌกาเส รชนํ ปจิตฺวา รชนภาชนํ รชนอุฬุงฺโก รชนโทณิกาติ สพฺพํ อคฺคิสาลาย ปฏิสาเมตพฺพํ. สเจ อคฺคิสาลา นตฺถิ, อโนวสฺสเก ปพฺภาเร นิกฺขิปิตพฺพํ. ตสฺมิมฺปิ อสติ ยตฺถ โอโลเกนฺตา ภิกฺขู ปสฺสนฺติ, ตาทิเส าเน เปตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ. อฺปุคฺคลิเก ปน มฺจปีาทิเสนาสเนปิ ทุกฺกฏเมว. เอตฺถ ปน ‘‘ยสฺมึ วิสฺสาสคฺคาโห น รุหติ, ตสฺส สนฺตเก ทุกฺกฏํ. ยสฺมึ ปน วิสฺสาสคฺคาโห รุหติ, ตสฺส สนฺตกํ อตฺตโน ปุคฺคลิกเมว โหตี’’ติ มหาปจฺจริยาทีสุ วุตฺตํ. อตฺตโน ปุคฺคลิเก ปน อนาปตฺติเยว. โย ภิกฺขุ วา สามเณโร วา อารามิโก วา ลชฺชี โหติ, อตฺตโน ปลิโพธํ วิย มฺติ, ตถารูปํ อนาปุจฺฉิตฺวา คจฺฉนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ. โย ปน อาตเป โอตาเปนฺโต ‘‘อาคนฺตฺวา อุทฺธริสฺสามี’’ติ คจฺฉติ, ตสฺสปิ อนาปตฺติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

มฺจปีาทิสงฺฆิกเสนาสเนสุ

ปฏิปชฺชิตพฺพวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๑๘. กาลิกวินิจฺฉยกถา

๘๙. กาลิกานิปิ จตฺตารีติ เอตฺถ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๕-๒๕๖) ยาวกาลิกํ ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกนฺติ อิมานิ จตฺตาริ กาลิกานิ เวทิตพฺพานิ. ตตฺถ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ ยํ กิฺจิ ขาทนียโภชนียํ ยาว มชฺฌนฺหิกสงฺขโต กาโล, ตาว ปริภุฺชิตพฺพโต ยาวกาลิกํ. สทฺธึ อนุโลมปาเนหิ อฏฺวิธํ ปานํ ยาว รตฺติยา ปจฺฉิมยามสงฺขาโต ยาโม, ตาว ปริภุฺชิตพฺพโต ยาโม กาโล อสฺสาติ ยามกาลิกํ. สปฺปิอาทิ ปฺจวิธํ เภสชฺชํ ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ นิเธตพฺพโต สตฺตาโห กาโล อสฺสาติ สตฺตาหกาลิกํ. เปตฺวา อุทกํ อวเสสํ สพฺพมฺปิ ปฏิคฺคหิตํ ยาวชีวํ ปริหริตฺวา สติ ปจฺจเย ปริภุฺชิตพฺพโต ยาวชีวิกนฺติ วุจฺจติ.

๙๐. ตตฺถ ยาวกาลิเกสุ โภชนียํ นาม โอทโน กุมฺมาโส สตฺตุ มจฺโฉ มํสนฺติ. ปฺจ โภชนานิ ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกฺจ เปตฺวา อวเสสํ ขาทนียํ นาม. เอตฺถ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๔๘-๙) ปน ยํ ตาว สกฺขลิโมทกาทิ ปุพฺพณฺณาปรณฺณมยํ ขาทนียํ, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ยมฺปิ วนมูลาทิปฺปเภทํ อามิสคติกํ โหติ. เสยฺยถิทํ – มูลขาทนียํ กนฺทขาทนียํ มุฬาลขาทนียํ มตฺถกขาทนียํ ขนฺธขาทนียํ ตจขาทนียํ ปตฺตขาทนียํ ปุปฺผขาทนียํ ผลขาทนียํ อฏฺิขาทนียํ ปิฏฺขาทนียํ นิยฺยาสขาทนียนฺติ, อิทมฺปิ ขาทนียสงฺขฺยเมว คจฺฉติ.

ตตฺถ ปน อามิสคติกสลฺลกฺขณตฺถํ อิทํ มุขมตฺตนิทสฺสนํ – มูลขาทนีเย ตาว มูลกมูลํ ขารกมูลํ จจฺจุมูลํ ตมฺพกมูลํ ตณฺฑุเลยฺยกมูลํ วตฺถุเลยฺยกมูลํ วชกลิมูลํ ชชฺฌริมูลนฺติ เอวมาทีนิ สูเปยฺยปณฺณมูลานิ อามิสคติกานิ. เอตฺถ จ วชกลิมูเล ชรฏฺํ ฉินฺทิตฺวา ฉฑฺเฑนฺติ, ตํ ยาวชีวิกํ โหติ. อฺมฺปิ เอวรูปํ เอเตเนว นเยน เวทิตพฺพํ. มูลกขารกชชฺฌริมูลานํ ปน ชรฏฺานิปิ อามิสคติกาเนวาติ วุตฺตํ. ยานิ ปน ปาฬิยํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มูลานิ เภสชฺชานิ หลิทฺทึ สิงฺคิเวรํ วจํ วจตฺตํ อติวิสํ กฏุกโรหิณึ อุสีรํ ภทฺทมุตฺตกํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ มูลานิ เภสชฺชานิ เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๖๓) –

วุตฺตานิ, ตานิ ยาวชีวิกานิ. เตสํ จูฬปฺจมูลํ มหาปฺจมูลนฺติอาทินา นเยน คณิยมานานํ คณนาย อนฺโต นตฺถิ, ขาทนียตฺถฺจ โภชนียตฺถฺจ อผรณภาโวเยว ปเนเตสํ ลกฺขณํ. ตสฺมา ยํ กิฺจิ มูลํ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรติ, ตํ ยาวกาลิกํ, อิตรํ ยาวชีวิกนฺติ เวทิตพฺพํ. สุพหุํ วตฺวาปิ หิ อิมสฺมึเยว ลกฺขเณ าตพฺพํ. นามสฺาสุ ปน วุจฺจมานาสุ ตํ ตํ นามํ อชานนฺตานํ สมฺโมโหเยว โหติ, ตสฺมา นามสฺาย อาทรํ อกตฺวา ลกฺขณเมว ทสฺสิตํ. ยถา จ มูเล, เอวํ กนฺทาทีสุปิ ลกฺขณํ ทสฺสยิสฺสาม, ตสฺเสว วเสน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ยฺจ ตํ ปาฬิยํ หลิทฺทาทิ อฏฺวิธํ วุตฺตํ, ตสฺส ขนฺธตจปุปฺผผลาทิ สพฺพํ ยาวชีวิกนฺติ วุตฺตํ.

กนฺทขาทนีเย ทุวิโธ กนฺโท ทีโฆ จ ภิสกึสุกกนฺทาทิ, วฏฺโฏ จ อุปฺปลกเสรุกกนฺทาทิ, ยํ คณฺีติปิ วทนฺติ. ตตฺถ สพฺเพสํ กนฺทานํ ชิณฺณชรฏฺฏฺานฺจ ฉลฺลิ จ สุขุมมูลานิ จ ยาวชีวิกานิ, ตรุโณ ปน สุขขาทนีโย สาลกลฺยาณิโปตกกนฺโท กึสุกโปตกกนฺโท อมฺพาฏกกนฺโท เกตกกนฺโท มาลุวกนฺโท ภิสสงฺขาโต ปทุมปุณฺฑรีกกนฺโท ปิณฺฑาลุมสาลุอาทโย จ ขีรวลฺลิกนฺโท อาลุวกนฺโท สิคฺคุกนฺโท ตาลกนฺโท นีลุปฺปลรตฺตุปฺปลกุมุทโสคนฺธิกานํ กนฺทา กทลิกนฺโท เวฬุกนฺโท กเสรุกกนฺโทติ เอวมาทโย เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถฺจ โภชนียตฺถฺจ ผรณกกนฺทา ยาวกาลิกา. ขีรวลฺลิกนฺโท อโธโต ยาวชีวิโก, โธโต ยาวกาลิโก. ขีรกาโกลิชีวิกอุสภกลสุณาทิกนฺทา ปน ยาวชีวิกา. เต ปาฬิยํ ‘‘ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ มูลานิ เภสชฺชานี’’ติ เอวํ (มหาว. ๒๖๓) มูลเภสชฺชสงฺคเหเนว สงฺคหิตา.

มุฬาลขาทนีเย ปทุมมุฬาลํ ปุณฺฑรีกมุฬาลํ มูลสทิสํเยว. เอรกมุฬาลํ กนฺทุลมุฬาลนฺติ เอวมาทิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณกมุฬาลํ ยาวกาลิกํ, หลิทฺทิสิงฺคิเวรมกจิจตุรสฺสวลฺลิเกตกตาลหินฺตาลกุนฺตาลนาฬิเกรปูครุกฺขาทิมุฬาลํ ปน ยาวชีวิกํ. ตํ สพฺพมฺปิ ปาฬิยํ ‘‘ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ มูลานิ เภสชฺชานี’’ติ เอวํ มูลเภสชฺชสงฺคเหเนว สงฺคหิตํ.

มตฺถกขาทนีเย ตาลหินฺตาลกุนฺตาลเกตกนาฬิเกรปูครุกฺขขชฺชูริเวตฺตเอรกกทลีนํ กฬีรสงฺขาตา มตฺถกา, เวณุกฬีโร นฬกฬีโร อุจฺฉุกฬีโร มูลกกฬีโร สาสปกฬีโร สตาวริกฬีโร สตฺตนฺนํ ธฺานํ กฬีราติ เอวมาทิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณโก รุกฺขวลฺลิอาทีนํ มตฺถโก ยาวกาลิโก, หลิทฺทิสิงฺคิเวรวจมกจิลสุณานํ กฬีรา, ตาลหินฺตาลกุนฺตาลนาฬิเกรกฬีรานฺจ ฉินฺทิตฺวา ปาติโต ชรฏฺพุนฺโท ยาวชีวิโก.

ขนฺธขาทนีเย อนฺโตปถวีคโต สาลกลฺยาณีขนฺโธ อุจฺฉุขนฺโธ นีลุปฺปลรตฺตุปฺปลกุมุทโสคนฺธิกานํ ทณฺฑกขนฺธาติ เอวมาทิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณโก ขนฺโธ ยาวกาลิโก, อุปฺปลชาตีนํ ปณฺณทณฺฑโก ปทุมชาตีนํ สพฺโพปิ ทณฺฑโก กรวินฺททณฺฑาทโย จ อวเสสสพฺพขนฺธา ยาวชีวิกา.

ตจขาทนีเย อุจฺฉุตโจว เอโก ยาวกาลิโก, โสปิ สรโส, เสโส สพฺโพ ยาวชีวิโก. เตสํ ปน มตฺถกขนฺธตจานํ ติณฺณมฺปิ ปาฬิยํ กสาวเภสชฺเชน สงฺคโห เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กสาวานิ เภสชฺชานิ นิมฺพกสาวํ กุฏชกสาวํ ปโฏลกสาวํ ผคฺควกสาวํ นตฺตมาลกสาวํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ กสาวานิ เภสชฺชานิ เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๖๓).

เอตฺถ หิ เอเตสมฺปิ สงฺคโห สิชฺฌติ. วุตฺตกสาวานิ จ สพฺพกปฺปิยานีติ เวทิตพฺพานิ.

ปตฺตขาทนีเย มูลกํ ขารโก จจฺจุ ตมฺพโก ตณฺฑุเลยฺยโก ปปุนฺนาโค วตฺถุเลยฺยโก วชกลิ ชชฺฌริ เสลฺลุ สิคฺคุ กาสมทฺทโก อุมฺมาจีนมุคฺโค มาโส ราชมาโส เปตฺวา มหานิปฺผาวํ อวเสสนิปฺผาโว อคฺคิมนฺโถ สุนิสนฺนโก เสตวรโณ นาฬิกา ภูมิยํ ชาตโลณีติ เอเตสํ ปตฺตานิ, อฺานิ จ เอวรูปานิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถฺจ โภชนียตฺถฺจ ผรณกานิ ปตฺตานิ เอกํเสน ยาวกาลิกานิ, ยา ปนฺา มหานขปิฏฺิมตฺตปณฺณา โลณิรุกฺเข จ คจฺเฉ จ อาโรหติ, ตสฺสา ปตฺตํ ยาวชีวิกํ. พฺรหฺมิปตฺตฺจ ยาวกาลิกนฺติ ทีปวาสิโน วทนฺติ. อมฺพปลฺลวํ ยาวกาลิกํ, อโสกปลฺลวํ ปน ยาวชีวิกํ. ยานิ จฺานิ ปาฬิยํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปณฺณานิ เภสชฺชานิ นิมฺพปณฺณํ กุฏชปณฺณํ ปโฏลปณฺณํ สุลสิปณฺณํ กปฺปาสปณฺณํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ ปณฺณานิ เภสชฺชานิ เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๖๓) –

วุตฺตานิ, ตานิ ยาวชีวิกานิ. น เกวลฺจ ปณฺณานิ, เตสํ ปุปฺผผลานิปิ. ยาวชีวิกปณฺณานํ ปน ผคฺควปณฺณํ อชฺชุกปณฺณํ ผณิชฺชกปณฺณํ ตมฺพูลปณฺณํ ปทุมินิปณฺณนฺติ เอวํ คณนวเสน อนฺโต นตฺถิ.

ปุปฺผขาทนีเย มูลกปุปฺผํ ขารกปุปฺผํ จจฺจุปุปฺผํ ตมฺพกปุปฺผํ วชกลิปุปฺผํ ชชฺฌริปุปฺผํ จูฬนิปฺผาวปุปฺผํ มหานิปฺผาวปุปฺผํ กเสรุกปุปฺผํ นาฬิเกรตาลเกตกานํ ตรุณปุปฺผานิ เสตวรณปุปฺผํ สิคฺคุปุปฺผํ อุปฺปลปทุมชาติกานํ ปุปฺผานํ กณฺณิกามตฺตํ อคนฺธิปุปฺผํ กรีรปุปฺผํ ชีวนฺตี ปุปฺผนฺติ เอวมาทิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณปุปฺผํ ยาวกาลิกํ, อโสกพกุลกุยฺยกปุนฺนาคจมฺปกชาติกรวีรกณิการกุนฺทนวมาลิกมลฺลิกาทีนํ ปน ปุปฺผํ ยาวชีวิกํ, ตสฺส คณนาย อนฺโต นตฺถิ. ปาฬิยํ ปนสฺส กสาวเภสชฺเชน สงฺคโห เวทิตพฺโพ.

ผลขาทนีเย ปนสลพุชตาลนาฬิเกรอมฺพชมฺพุอมฺพาฏกตินฺติณิกมาตุลุงฺคกปิตฺถลาพุกุมฺภณฺฑปุสฺสผลติมฺพรูสกติปุสวาติงฺคณโจจโมจมธุกาทีนํ ผลานิ, ยานิ โลเก เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรนฺติ, สพฺพานิ ตานิ ยาวกาลิกานิ, นามคณนวเสน เตสํ น สกฺกา ปริยนฺตํ ทสฺเสตุํ. ยานิ ปน ปาฬิยํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ผลานิ เภสชฺชานิ พิลงฺคํ ปิปฺปลึ มรีจํ หรีตกํ วิภีตกํ อามลกํ โคฏฺผลํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ ผลานิ เภสชฺชานิ เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๖๓) –

วุตฺตานิ, ตานิ ยาวชีวิกานิ. เตสมฺปิ อปริปกฺกานิ อจฺฉิวพิมฺพวรณเกตกกาสฺมรีอาทีนํ ผลานิ ชาติผลํ กฏุกผลํ เอฬา ตกฺโกลนฺติ เอวํ นามวเสน น สกฺกา ปริยนฺตํ ทสฺเสตุํ.

อฏฺิขาทนีเย ลพุชฏฺิ ปนสฏฺิ อมฺพาฏกฏฺิ สาลฏฺิ ขชฺชูรีเกตกติมฺพรูสกานํ ตรุณผลฏฺิ ตินฺติณิกฏฺิ พิมฺพผลฏฺิ อุปฺปลปทุมชาตีนํ โปกฺขรฏฺีติ เอวมาทีนิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ มนุสฺสานํ ปกติอาหารวเสน ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณกานิ อฏฺีนิ ยาวกาลิกานิ, มธุกฏฺิ ปุนฺนาคฏฺิ หรีตกาทีนํ อฏฺีนิ สิทฺธตฺถกฏฺิ ราชิกฏฺีติ เอวมาทีนิ อฏฺีนิ ยาวชีวิกานิ. เตสํ ปาฬิยํ ผลเภสชฺเชเนว สงฺคโห เวทิตพฺโพ.

ปิฏฺขาทนีเย สตฺตนฺนํ ตาว ธฺานํ ธฺานุโลมานํ อปรณฺณานฺจ ปิฏฺํ ปนสปิฏฺํ ลพุชปิฏฺํ อมฺพาฏกปิฏฺํ สาลปิฏฺํ โธตกตาลปิฏฺํ ขีรวลฺลิปิฏฺฺจาติ เอวมาทีนิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณกานิ ปิฏฺานิ ยาวกาลิกานิ, อโธตกํ ตาลปิฏฺํ ขีรวลฺลิปิฏฺํ อสฺสคนฺธาทิปิฏฺานิ จ ยาวชีวิกานิ. เตสํ ปาฬิยํ กสาเวหิ มูลผเลหิ จ สงฺคโห เวทิตพฺโพ.

นิยฺยาสขาทนีเย – เอโก อุจฺฉุนิยฺยาโสว สตฺตาหกาลิโก, เสสา –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ชตูนิ เภสชฺชานิ หิงฺคุํ หิงฺคุชตุํ หิงฺคุสิปาฏิกํ ตกํ ตกปตฺตึ ตกปณฺณึ สชฺชุลสํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ ชตูนิ เภสชฺชานี’’ติ (มหาว. ๒๖๓) –

เอวํ ปาฬิยํ วุตฺตา นิยฺยาสา ยาวชีวิกา. ตตฺถ เยวาปนกวเสน สงฺคหิตานํ อมฺพนิยฺยาโส กณิการนิยฺยาโสติ เอวํ นามวเสน น สกฺกา ปริยนฺตํ ทสฺเสตุํ. เอวํ อิเมสุ มูลขาทนียาทีสุ ยํ กิฺจิ ยาวกาลิกํ, สพฺพมฺปิ อิมสฺมึ อตฺเถ อวเสสํ ขาทนียํ นามาติ สงฺคหิตํ.

๙๑. ยามกาลิเกสุ ปน อฏฺ ปานานิ นาม อมฺพปานํ ชมฺพุปานํ โจจปานํ โมจปานํ มธุกปานํ มุทฺทิกปานํ สาลูกปานํ ผารุสกปานนฺติ อิมานิ อฏฺ ปานานิ. ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๐) อมฺพปานนฺติ อาเมหิ วา ปกฺเกหิ วา อมฺเพหิ กตปานํ. ตตฺถ อาเมหิ กโรนฺเตน อมฺพตรุณานิ ภินฺทิตฺวา อุทเก ปกฺขิปิตฺวา อาตเป อาทิจฺจปาเกน ปจิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา ตทหุปฏิคฺคหิตเกหิ มธุสกฺการกปฺปูราทีหิ โยเชตฺวา กาตพฺพํ, เอวํ กตํ ปุเรภตฺตเมว กปฺปติ. อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ ลภิตฺวา ปน ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสปริโภเคนปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตํ นิรามิสปริโภเคน ยาว อรุณุคฺคมนา วฏฺฏติ. เอส นโย สพฺพปาเนสุ. ชมฺพุปานนฺติ ชมฺพุผเลหิ กตปานํ. โจจปานนฺติ อฏฺิกกทลิผเลหิ กตปานํ. โมจปานนฺติ อนฏฺิเกหิ กทลิผเลหิ กตปานํ. มธุกปานนฺติ มธุกานํ ชาติรเสน กตปานํ. ตํ ปน อุทกสมฺภินฺนํ วฏฺฏติ, สุทฺธํ น วฏฺฏติ. มุทฺทิกปานนฺติ มุทฺทิกา อุทเก มทฺทิตฺวา อมฺพปานํ วิย กตปานํ. สาลูกปานนฺติ รตฺตุปฺปลนีลุปฺปลาทีนํ สาลูเก มทฺทิตฺวา กตปานํ. ผารุสกปานนฺติ ผารุสกผเลหิ อมฺพปานํ วิย กตปานํ. อิมานิ อฏฺ ปานานิ สีตานิปิ อาทิจฺจปากานิปิ วฏฺฏนฺติ, อคฺคิปากานิ น วฏฺฏนฺติ.

อวเสสานิ เวตฺตตินฺติณิกมาตุลุงฺคกปิตฺถโกสมฺพกรมนฺทาทิขุทฺทกผลปานานิ อฏฺปานคอกาเนว. ตานิ กิฺจาปิ ปาฬิยํ น วุตฺตานิ, อถ โข กปฺปิยํ อนุโลเมนฺติ, ตสฺมา กปฺปนฺติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ผลรสํ เปตฺวา ธฺผลรส’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๐) วุตฺตตฺตา เปตฺวา สานุโลมธฺผลรสํ อฺํ ผลปานํ นาม อกปฺปิยํ นตฺถิ, สพฺพํ ยามกาลิกเมว. ตตฺถ สานุโลมธฺผลรโส นาม สตฺตนฺนฺเจว ธฺานํ ตาลนาฬิเกรปนสลพุชอลาพุกุมฺภณฺฑปุสฺสผลติปุสเอฬาลุกาติ นวนฺนฺจ มหาผลานํ สพฺเพสฺจ ปุพฺพณฺณาปรณฺณานํ อนุโลมธฺานํ รโส ยาวกาลิโก, ตสฺมา ปจฺฉาภตฺตํ น วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ปตฺตรสํ เปตฺวา ฑากรส’’นฺติ (มหาว. ๓๐๐) วุตฺตตฺตา ปกฺกฑากรสํ เปตฺวา ยาวกาลิกปตฺตานมฺปิ สีโตทเกน มทฺทิตฺวา กตรโส วา อาทิจฺจปาโก วา วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ปุปฺผรสํ เปตฺวา มธุกปุปฺผรส’’นฺติ วุตฺตตฺตา มธุกปุปฺผรสํ เปตฺวา สพฺโพปิ ปุปฺผรโส วฏฺฏติ.

๙๒. สตฺตาหกาลิกํ นาม สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตนฺติ อิมานิ ปฺจ เภสชฺชานิ. ตตฺถ สปฺปิ นาม โคสปฺปิ วา อชิกาสปฺปิ วา มหึสสปฺปิ วา เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ สปฺปิ. นวนีตํ นาม เตสํเยว นวนีตํ. เตลํ นาม ติลเตลํ สาสปเตลํ มธุกเตลํ เอรณฺฑเตลํ วสาเตลํ. มธุ นาม มกฺขิกามธุ. ผาณิตํ นาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺตํ (ปจิ. ๒๖๐). ยาวชีวิกํ ปน เหฏฺา ยาวกาลิเก มูลขาทนียาทีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๙๓. ตตฺถ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๖) อรุโณทเย ปฏิคฺคหิตํ ยาวกาลิกํ สตกฺขตฺตุมฺปิ นิทหิตฺวา ยาว กาโล นาติกฺกมติ, ตาว ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, ยามกาลิกํ เอกํ อโหรตฺตํ, สตฺตาหกาลิกํ สตฺตรตฺตํ, อิตรํ สติ ปจฺจเย ยาวชีวมฺปิ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ปฏิคฺคเหตฺวา เอกรตฺตํ วีตินามิตํ ปน ยํ กิฺจิ ยาวกาลิกํ วา ยามกาลิกํ วา อชฺโฌหริตุกามตาย คณฺหนฺตสฺส ปฏิคฺคหเณ ตาว ทุกฺกฏํ, อชฺโฌหรโต ปน เอกเมกสฺมึ อชฺโฌหาเร สนฺนิธิปจฺจยา ปาจิตฺติยํ. สเจปิ ปตฺโต ทุทฺโธโต โหติ, ยํ องฺคุลิยา ฆํสนฺตสฺส เลขา ปฺายติ, คณฺิกปตฺตสฺส วา คณฺิกนฺตเร สฺเนโห ปวิฏฺโ โหติ, โส อุณฺเห โอตาเปนฺตสฺส ปคฺฆรติ, อุณฺหยาคุยา วา คหิตาย สนฺทิสฺสติ, ตาทิเส ปตฺเตปิ ปุนทิวเส ภุฺชนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, ตสฺมา ปตฺตํ โธวิตฺวา ปุน ตตฺถ อจฺโฉทกํ วา อาสิฺจิตฺวา องฺคุลิยา วา ฆํสิตฺวา นิสฺเนหภาโว ชานิตพฺโพ. สเจ หิ อุทเก วา สฺเนหภาโว, ปตฺเต วา องฺคุลิเลขา ปฺายติ, ทุทฺโธโต โหติ, เตลวณฺณปตฺเต ปน องฺคุลิเลขา ปฺายติ, สา อพฺโพหาริกา. ยมฺปิ ภิกฺขู นิรเปกฺขา สามเณรานํ ปริจฺจชนฺติ, ตฺเจ สามเณรา นิทหิตฺวา เทนฺติ, สพฺพํ วฏฺฏติ. สยํ ปฏิคฺคเหตฺวา อปริจฺจตฺตเมว หิ ทุติยทิวเส น วฏฺฏติ. ตโต หิ เอกสิตฺถมฺปิ อชฺโฌหรโต ปาจิตฺติยเมว. อกปฺปิยมํเสสุ มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจเยน สทฺธึ ปาจิตฺติยํ, อวเสเสสุ ทุกฺกเฏน สทฺธึ.

ยามกาลิกํ สติ ปจฺจเย อชฺโฌหรโต ปาจิตฺติยํ, อาหารตฺถาย อชฺโฌหรโต ทุกฺกเฏน สทฺธึ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปวาริโต หุตฺวา อนติริตฺตกตํ อชฺโฌหรติ, ปกติอามิเส ทฺเว ปาจิตฺติยานิ, มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจเยน สทฺธึ ทฺเว, เสสอกปฺปิยมํเส ทุกฺกเฏน สทฺธึ. ยามกาลิกํ สติ ปจฺจเย สามิเสน มุเขน อชฺโฌหรโต ทฺเว, นิรามิเสน เอกเมว. อาหารตฺถาย อชฺโฌหรโต วิกปฺปทฺวเยปิ ทุกฺกฏํ วฑฺฒติ. สเจ วิกาเล อชฺโฌหรติ, ปกติโภชเน สนฺนิธิปจฺจยา จ วิกาลโภชนปจฺจยา จ ทฺเว ปาจิตฺติยานิ, อกปฺปิยมํเส ถุลฺลจฺจยํ ทุกฺกฏฺจ วฑฺฒติ. ยามกาลิเก วิกาลปจฺจยา อนาปตฺติ. อนติริตฺตปจฺจยา ปน วิกาเล สพฺพวิกปฺเปสุ อนาปตฺติ.

สตฺตาหกาลิกํ ปน ยาวชีวิกฺจ อาหารตฺถาย ปฏิคฺคณฺหโต ปฏิคฺคณฺหนปจฺจยา ตาว ทุกฺกฏํ, อชฺโฌหรโต ปน สเจ นิรามิสํ โหติ, อชฺโฌหาเร ทุกฺกฏํ. อถ อามิสสํสฏฺํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตํ โหติ, ยถาวตฺถุกํ ปาจิตฺติยเมว.

๙๔. สตฺตาหกาลิเกสุ ปน สปฺปิอาทีสุ อยํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๒) – สปฺปิ ตาว ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ตทหุปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ นิรามิสมฺปิ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสํ ปริภุฺชิตพฺพํ. สตฺตาหาติกฺกเม สเจ เอกภาชเน ปิตํ, เอกํ นิสฺสคฺคิยํ. สเจ พหูสุ, วตฺถุคณนาย นิสฺสคฺคิยานิ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ, ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา อุคฺคหิตกํ กตฺวา นิกฺขิตฺตํ อชฺโฌหริตุํ น วฏฺฏติ, อพฺภฺชนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ อนชฺโฌหรณียตํ อาปนฺนตฺตา. สเจ อนุปสมฺปนฺโน ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตนวนีเตน สปฺปึ กตฺวา เทติ, ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, สเจ สยํ กโรติ, สตฺตาหมฺปิ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตนวนีเตน เยน เกนจิ กตสปฺปิ สตฺตาหมฺปิ นิรามิสเมว วฏฺฏติ, อุคฺคหิตเกน กเต ปุพฺเพ วุตฺตสุทฺธสปฺปินเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตขีเรน วา ทธินา วา กตสปฺปิ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ สามิสมฺปิ ตทหุปุเรภตฺตํ วฏฺฏติ, สยํกตํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ.

๙๕. นวนีตํ ตาเปนฺตสฺส หิ สามํปาโก น โหติ, สามํปกฺเกน ปน เตน สทฺธึ อามิสํ น วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย จ น วฏฺฏติเยว. สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ สวตฺถุกสฺส ปฏิคฺคหิตตฺตา. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตเกหิ กตํ ปน อพฺภฺชนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. ปุเรภตฺตมฺปิ จ อุคฺคหิตเกหิ กตํ, อุภเยสมฺปิ สตฺตาหาติกฺกเม อนาปตฺติ. เอส นโย อกปฺปิยมํสสปฺปิมฺหิ. อยํ ปน วิเสโส – ยตฺถ ปาฬิยํ อาคตสปฺปินา นิสฺสคฺคิยํ, ตตฺถ อิมินา ทุกฺกฏํ. อนฺธกฏฺกถายํ การณปติรูปกํ วตฺวา มนุสฺสสปฺปิ จ นวนีตฺจ ปฏิกฺขิตฺตํ, ตํ ทุปฺปฏิกฺขิตฺตํ สพฺพอฏฺกถาสุ อนุฺาตตฺตา. ปรโต จสฺส วินิจฺฉโยปิ อาคจฺฉิสฺสติ. ปาฬิยํ อาคตนวนีตมฺปิ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ตทหุปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย นิรามิสเมว. สตฺตาหาติกฺกเม นานาภาชเนสุ ปิเต ภาชนคณนาย, เอกภาชเนปิ อมิสฺเสตฺวา ปิณฺฑปิณฺฑวเสน ปิเต ปิณฺฑคณนาย นิสฺสคฺคิยานิ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ สปฺปินเยน เวทิตพฺพํ. เอตฺถ ปน ทธิคุฬิกาโยปิ ตกฺกพินฺทูนิปิ โหนฺติ, ตสฺมา โธตํ วฏฺฏตีติ อุปฑฺฒตฺเถรา อาหํสุ. มหาสิวตฺเถโร ปน ‘‘ภควตา อนุฺาตกาลโต ปฏฺาย ตกฺกโต อุทฺธฏมตฺตเมว ขาทึสู’’ติ อาห. ตสฺมา นวนีตํ ปริภุฺชนฺเตน โธวิตฺวา ทธิตกฺกมกฺขิกากิปิลฺลิกาทีนิ อปเนตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. ปจิตฺวา สปฺปึ กตฺวา ปริภุฺชิตุกาเมน อโธตมฺปิ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ยํ ตตฺถ ทธิคตํ วา ตกฺกคตํ วา, ตํ ขยํ คมิสฺสติ. เอตฺตาวตา หิ สวตฺถุกปฏิคฺคหิตํ นาม น โหตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. อามิเสน สทฺธึ ปกฺกตฺตา ปน ตสฺมิมฺปิ กุกฺกุจฺจายนฺติ กุกฺกุจฺจกา. อิทานิ อุคฺคเหตฺวา ปิตนวนีเต จ ปุเรภตฺตํ ขีรทธีนิ ปฏิคฺคเหตฺวา กตนวนีเต จ ปจฺฉาภตฺตํ ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา กตนวนีเต จ อุคฺคหิตเกหิ กตนวนีเต จ อกปฺปิยมํสนวนีเต จ สพฺโพ อาปตฺตานาปตฺติปริโภคาปริโภคนโย สปฺปิมฺหิ วุตฺตกฺกเมเนว คเหตพฺโพ. เตลภิกฺขาย ปวิฏฺานํ ปน ภิกฺขูนํ ตตฺเถว สปฺปิมฺปิ นวนีตมฺปิ ปกฺกเตลมฺปิ อปกฺกเตลมฺปิ อากิรนฺติ. ตตฺถ ตกฺกทธิพินฺทูนิปิ ภตฺตสิตฺถานิปิ ตณฺฑุลกณาปิ มกฺขิกาทโยปิ โหนฺติ, อาทิจฺจปากํ กตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา คหิตํ สตฺตาหกาลิกํ โหติ. ปฏิคฺคเหตฺวา จ ปิตเภสชฺเชหิ สทฺธึ ปจิตฺวา นตฺถุปานมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ วทฺทลิสมเย ลชฺชี สามเณโร ยถา ตตฺถ ปติตตณฺฑุลกณาทโย น ปจฺจนฺติ, เอวํ อคฺคิมฺหิ วิลียาเปตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา ปุน ปจิตฺวา เทติ, ปุริมนเยเนว สตฺตาหํ วฏฺฏติ.

๙๖. เตเลสุ ติลเตลํ ตาว ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย นิรามิสเมว วฏฺฏติ. สตฺตาหาติกฺกเม ตสฺส ภาชนคณนาย นิสฺสคฺคิยภาโว เวทิตพฺโพ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ, อุคฺคหิตกํ กตฺวา นิกฺขิตฺตํ อชฺโฌหริตุํ น วฏฺฏติ, สีสมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. ปุเรภตฺตํ ติเล ปฏิคฺคเหตฺวา กตเตลํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย อนชฺโฌหรณียํ โหติ, สีสมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. ปจฺฉาภตฺตํ ติเล ปฏิคฺคเหตฺวา กตเตลํ อนชฺโฌหรณียเมว สวตฺถุกปฏิคฺคหิตตฺตา. สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ, สีสมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา อุคฺคหิตกติเลหิ กตเตเลปิ เอเสว นโย. ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตติเล ภชฺชิตฺวา วา ติลปิฏฺํ วา เสเทตฺวา อุณฺโหทเกน วา เตเมตฺวา กตเตลํ สเจ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ, ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, อตฺตนา กตํ นิพฺพฏฺฏิตตฺตา ปุเรภตฺตํ นิรามิสํ วฏฺฏติ, สามํปกฺกตฺตา สามิสํ น วฏฺฏติ. สวตฺถุกปฏิคฺคหิตตฺตา ปน ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย อุภยมฺปิ อนชฺโฌหรณียํ, สีสมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. ยทิ ปน อปฺปํ อุณฺโหทกํ โหติ อพฺภุกฺกิรณมตฺตํ, อพฺโพหาริกํ โหติ สามํปากคณนํ น คจฺฉติ. สาสปเตลาทีสุปิ อวตฺถุกปฏิคฺคหิเตสุ อวตฺถุกติลเตเล วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโย.

สเจ ปน ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตานํ สาสปาทีนํ จุณฺเณหิ อาทิจฺจปาเกน สกฺกา เตลํ กาตุํ, ตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย นิรามิสเมว วฏฺฏติ, สตฺตาหาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํ. ยสฺมา ปน สาสปมธุกจุณฺณานิ เสเทตฺวา เอรณฺฑกฏฺีนิ จ ภชฺชิตฺวา เอว เตลํ กโรนฺติ, ตสฺมา เอเตสํ เตลํ อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, วตฺถูนํ ยาวชีวิกตฺตา ปน สวตฺถุกปฏิคฺคหเณ โทโส นตฺถิ. อตฺตนา กตํ สตฺตาหํ นิรามิสปริโภเคเนว ปริภุฺชิตพฺพํ. อุคฺคหิตเกหิ กตํ อนชฺโฌหรณียํ, พาหิรปริโภเค วฏฺฏติ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. เตลกรณตฺถาย สาสปมธุกเอรณฺฑกฏฺีนิ ปฏิคฺคเหตฺวา กตเตลํ สตฺตาหกาลิกํ, ทุติยทิวเส กตํ ฉาหํ วฏฺฏติ, ตติยทิวเส กตํ ปฺจาหํ วฏฺฏติ, จตุตฺถ, ปฺจม, ฉฏฺ, สตฺตมทิวเส กตํ ตทเหว วฏฺฏติ. สเจ ยาว อรุณสฺส อุคฺคมนา ติฏฺติ, นิสฺสคฺคิยํ, อฏฺมทิวเส กตํ อนชฺโฌหรณียํ, อนิสฺสคฺคิยตฺตา ปน พาหิรปริโภเค วฏฺฏติ. สเจปิ น กโรติ, เตลตฺถาย คหิตสาสปาทีนํ สตฺตาหาติกฺกเม ทุกฺกฏเมว. ปาฬิยํ ปน อนาคตานิ อฺานิปิ นาฬิเกรนิมฺพโกสมฺพกรมนฺทาทีนํ เตลานิ อตฺถิ, ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ อติกฺกามยโต ทุกฺกฏํ โหติ. อยเมเตสุ วิเสโส – เสสํ ยาวกาลิกวตฺถุํ ยาวชีวิกวตฺถุฺจ สลฺลกฺเขตฺวา สามํปากสวตฺถุกปุเรภตฺตปจฺฉาภตฺตปฏิคฺคหิตอุคฺคหิตวตฺถุวิธานํ สพฺพํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

วสาเตลํ นาม ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจ วสานิ อจฺฉวสํ มจฺฉวสํ สุสุกาวสํ สูกรวสํ คทฺรภวส’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒) เอวํ อนุฺาตวสานํ เตลํ. เอตฺถ จ ‘‘อจฺฉวส’’นฺติ วจเนน เปตฺวา มนุสฺสวสํ สพฺเพสํ อกปฺปิยมํสานํ วสา อนุฺาตา. มจฺฉคฺคหเณน จ สุสุกาปิ คหิตา โหนฺติ, วาฬมจฺฉตฺตา ปน วิสุํ วุตฺตํ. มจฺฉาทิคฺคหเณน เจตฺถ สพฺเพสมฺปิ กปฺปิยมํสานํ วสา อนุฺาตา. มํเสสุ หิ ทส มนุสฺสหตฺถิอสฺสสุนขอหิสีหพฺยคฺฆทีปิอจฺฉตรจฺฉานํ มํสานิ อกปฺปิยานิ, วสาสุ เอกา มนุสฺสวสา. ขีราทีสุ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิ. อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ นิพฺพฏฺฏิตํ วสาเตลํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. ยํ ปน ตตฺถ สุขุมรชสทิสํ มํสํ วา นฺหารุ วา อฏฺิ วา โลหิตํ วา โหติ, ตํ อพฺโพหาริกํ. สเจ ปน วสํ ปฏิคฺคเหตฺวา สยํ กโรติ, ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปจิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา สตฺตาหํ นิรามิสปริโภเคน ปริภุฺชิตพฺพํ. นิรามิสปริโภคฺหิ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ ‘‘กาเล ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ กาเล สํสฏฺํ เตลปริโภเคน ปริภุฺชิตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒). ตตฺราปิ อพฺโพหาริกํ อพฺโพหาริกเมว, ปจฺฉาภตฺตํ ปน ปฏิคฺคเหตุํ วา กาตุํ วา น วฏฺฏติเยว. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘วิกาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ วิกาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภุฺเชยฺย, อาปตฺติ ติณฺณํ ทุกฺกฏานํ. กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ วิกาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภุฺเชยฺย, อาปตฺติ ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏานํ. กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภุฺเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ กาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภุฺเชยฺย, อนาปตฺตี’’ติ (มหาว. ๒๖๒).

อุปติสฺสตฺเถรํ ปน อนฺเตวาสิกา ปุจฺฉึสุ ‘‘ภนฺเต, สปฺปินวนีตวสานิ เอกโต ปจิตฺวา นิพฺพฏฺฏิตานิ วฏฺฏนฺติ, น วฏฺฏนฺตี’’ติ? ‘‘น วฏฺฏนฺติ, อาวุโส’’ติ. เถโร กิเรตฺถ ปกฺกเตลกสเฏ วิย กุกฺกุจฺจายติ. ตโต นํ อุตฺตริ ปุจฺฉึสุ ‘‘ภนฺเต, นวนีเต ทธิคุฬิกา วา ตกฺกพินฺทุ วา โหติ, เอตํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘เอตมฺปิ, อาวุโส, น วฏฺฏตี’’ติ. ตโต นํ อาหํสุ ‘‘ภนฺเต, เอกโต ปจิตฺวา เอกโต สํสฏฺานิ เตชวนฺตานิ โหนฺติ, โรคํ นิคฺคณฺหนฺตี’’ติ. ‘‘สาธาวุโส’’ติ เถโร สมฺปฏิจฺฉิ. มหาสุมตฺเถโร ปนาห ‘‘กปฺปิยมํสวสาว สามิสปริโภเค วฏฺฏติ, อิตรา นิรามิสปริโภเค วฏฺฏตี’’ติ. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘อิทํ กิ’’นฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘นนุ วาตาพาธิกา ภิกฺขู ปฺจมูลกสาวยาคุยํ อจฺฉสูกรเตลาทีนิ ปกฺขิปิตฺวา ยาคุํ ปิวนฺติ, สา เตชุสฺสทตฺตา โรคํ นิคฺคณฺหาตี’’ติ วตฺวา ‘‘วฏฺฏตี’’ติ อาห.

๙๗. มธุ นาม มธุกรีหิ มธุมกฺขิกาหิ ขุทฺทกมกฺขิกาหิ ภมรมกฺขิกาหิ จ กตํ มธุ. ตํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสปริโภคมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสปริโภคเมว วฏฺฏติ, สตฺตาหาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํ. สเจ สิเลสสทิสํ มหามธุํ ขณฺฑํ กตฺวา ปิตํ, อิตรํ วา นานาภาชเนสุ, วตฺถุคณนาย นิสฺสคฺคิยานิ. สเจ เอกเมว ขณฺฑํ, เอกภาชเน วา อิตรํ, เอกเมว นิสฺสคฺคิยํ. อุคฺคหิตกํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ, อรุมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. มธุปฏลํ วา มธุสิตฺถกํ วา สเจ มธุนา อมกฺขิตํ ปริสุทฺธํ, ยาวชีวิกํ, มธุมกฺขิตํ ปน มธุคติกเมว. จีริกา นาม สปกฺขา ทีฆมกฺขิกา ตุมฺพฬนามิกา จ อฏฺิปกฺขิกา กาฬมหาภมรา โหนฺติ, เตสํ อาสเยสุ นิยฺยาสสทิสํ มธุ โหติ, ตํ ยาวชีวิกํ.

๙๘. ผาณิตํ นาม อุจฺฉุรสํ อุปาทาย อปกฺกา วา อวตฺถุกปกฺกา วา สพฺพาปิ อวตฺถุกา อุจฺฉุวิกติ. ตํ ผาณิตํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ, สตฺตาหาติกฺกเม วตฺถุคณนาย นิสฺสคฺคิยํ. พหู ปิณฺฑา จุณฺเณ กตฺวา เอกภาชเน ปกฺขิตฺตา โหนฺติ ฆนสนฺนิเวสา, เอกเมว นิสฺสคฺคิยํ. อุคฺคหิตกํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ, ฆรธูปนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิเตน อปริสฺสาวิตอุจฺฉุรเสน กตผาณิตํ สเจ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ, สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, สยํกตํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย ปน สวตฺถุกปฏิคฺคหิตตฺตา อนชฺโฌหรณียํ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. ปจฺฉาภตฺตํ อปริสฺสาวิตปฏิคฺคหิเตน กตมฺปิ อนชฺโฌหรณียเมว, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. เอส นโย อุจฺฉุํ ปฏิคฺคเหตฺวา กตผาณิเตปิ. ปุเรภตฺตํ ปน ปริสฺสาวิตปฏิคฺคหิเตน กตํ สเจ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ, ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว. สยํกตํ ปุเรภตฺตมฺปิ นิรามิสเมว, ปจฺฉาภตฺตํ ปริสฺสาวิตปฏิคฺคหิเตน กตํ ปน นิรามิสเมว สตฺตาหํ วฏฺฏติ. อุคฺคหิตกตํ วุตฺตนยเมว. ‘‘ฌามอุจฺฉุผาณิตํ วา โกฏฺฏิตอุจฺฉุผาณิตํ วา ปุเรภตฺตเมว วฏฺฏตี’’ติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘เอตํ สวตฺถุกปกฺกํ วฏฺฏติ, โน วฏฺฏตี’’ติ ปุจฺฉํ กตฺวา ‘‘อุจฺฉุผาณิตํ ปจฺฉาภตฺตํ โน วฏฺฏนกํ นาม นตฺถี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ. สีโตทเกน กตํ มธุกปุปฺผผาณิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ, สตฺตาหาติกฺกเม วตฺถุคณนาย ทุกฺกฏํ, ขีรํ ปกฺขิปิตฺวา กตํ มธุกผาณิตํ ยาวกาลิกํ. ขณฺฑสกฺขรํ ปน ขีรชลฺลิกํ อปเนตฺวา โสเธนฺติ, ตสฺมา วฏฺฏติ.

๙๙. มธุกปุปฺผํ ปน ปุเรภตฺตมฺปิ อลฺลํ วฏฺฏติ. ภชฺชิตมฺปิ วฏฺฏติ, ภชฺชิตฺวา ติลาทีหิ มิสฺสํ วา อมิสฺสํ วา กตฺวา โกฏฺฏิตํ วฏฺฏติ. ยทิ ปน ตํ คเหตฺวา เมรยตฺถาย โยเชนฺติ, โยชิตํ พีชโต ปฏฺาย น วฏฺฏติ. กทลีขชฺชูรีอมฺพลพุชปนสจิฺจาทีนํ สพฺเพสํ ยาวกาลิกผลานํ ผาณิตํ ยาวกาลิกเมว. มริจปกฺเกหิ ผาณิตํ กโรนฺติ, ตํ ยาวชีวิกํ. เอวํ ยถาวุตฺตานิ สตฺตาหกาลิกานิ สปฺปิอาทีนิ ปฺจ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจ เภสชฺชานี’’ติ (มหาว. ๒๖๐) เภสชฺชนาเมน อนุฺาตตฺตา เภสชฺชกิจฺจํ กโรนฺตุ วา มา วา, อาหารตฺถํ ผริตุํ สมตฺถานิปิ ปฏิคฺคเหตฺวา ตทหุปุเรภตฺตํ ยถาสุขํ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สติ ปจฺจเย วุตฺตนเยน สตฺตาหํ ปริภุฺชิตพฺพานิ, สตฺตาหาติกฺกเม ปน เภสชฺชสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. สเจปิ สาสปมตฺตํ โหติ, สกึ วา องฺคุลิยา คเหตฺวา ชิวฺหาย สายนมตฺตํ, นิสฺสชฺชิตพฺพเมว ปาจิตฺติยฺจ เทเสตพฺพํ. นิสฺสฏฺํ ปฏิลภิตฺวา น อชฺโฌหริตพฺพํ, น กายิเกน ปริโภเคน ปริภุฺชิตพฺพํ, กาโย วา กาเย อรุ วา น มกฺเขตพฺพํ. เตหิ มกฺขิตานิ กาสาวกตฺตรยฏฺิอุปาหนปาทกลิกมฺจปีาทีนิปิ อปริโภคานิ. ‘‘ทฺวารวาตปานกวาเฏสุปิ หตฺเถน คหณฏฺานํ น มกฺเขตพฺพ’’นฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ‘‘กสาเว ปน ปกฺขิปิตฺวา ทฺวารวาตปานกวาฏานิ มกฺเขตพฺพานี’’ติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. ปทีเป วา กาฬวณฺเณ วา อุปเนตุํ วฏฺฏติ. อฺเน ปน ภิกฺขุนา กายิเกน ปริโภเคน ปริภุฺชิตพฺพํ, น อชฺโฌหริตพฺพํ. ‘‘อนาปตฺติ อนฺโตสตฺตาหํ อธิฏฺเตี’’ติ (ปารา. ๖๒๕) วจนโต ปน สตฺตาหพฺภนฺตเร สปฺปิฺจ เตลฺจ วสฺจ มุทฺธนิ เตลํ วา อพฺภฺชนํ วา มธุํ อรุมกฺขนํ ผาณิตํ ฆรธูปนํ อธิฏฺเติ อนาปตฺติ, เนว นิสฺสคฺคิยํ โหติ. สเจ อธิฏฺิตเตลํ อนธิฏฺิตเตลภาชเน อากิริตุกาโม โหติ, ภาชเน เจ สุขุมํ ฉิทฺทํ, ปวิฏฺํ ปวิฏฺํ เตลํ ปุราณเตเลน อชฺโฌตฺถรียติ, ปุน อธิฏฺาตพฺพํ. อถ มหามุขํ โหติ, สหสาว พหุ เตลํ ปวิสิตฺวา ปุราณเตลํ อชฺโฌตฺถรติ, ปุน อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ. อธิฏฺิตคติกเมว หิ ตํ โหติ. เอเตน นเยน อธิฏฺิตเตลภาชเน อนธิฏฺิตเตลอากิรณมฺปิ เวทิตพฺพํ.

สเจ ปน สตฺตาหาติกฺกนฺตํ อนุปสมฺปนฺนสฺส ปริจฺจชิตฺวา เทติ, ปุน เตน อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา ทินฺนํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ หิ โส อภิสงฺขริตฺวา วา อนภิสงฺขริตฺวา วา ตสฺส ภิกฺขุโน นตฺถุกมฺมตฺถํ ทเทยฺย, คเหตฺวา นตฺถุกมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ พาโล โหติ, ทาตุํ น ชานาติ, อฺเน ภิกฺขุนา วตฺตพฺโพ ‘‘อตฺถิ เต สามเณร เตล’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อตฺถี’’ติ. อาหร เถรสฺส เภสชฺชํ กริสฺสามาติ. เอวมฺปิ วฏฺฏติ. สเจ ทฺวินฺนํ สนฺตกํ เอเกน ปฏิคฺคหิตํ อวิภตฺตํ โหติ, สตฺตาหาติกฺกเม ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺติ, ปริภุฺชิตุํ ปน น วฏฺฏติ. สเจ เยน ปฏิคฺคหิตํ, โส อิตรํ ภณติ ‘‘อาวุโส, อิมํ เตลํ สตฺตาหมตฺตํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ, โส จ ปริโภคํ น กโรติ, กสฺส อาปตฺติ? น กสฺสจิ. กสฺมา? เยน ปฏิคฺคหิตํ, เตน วิสฺสชฺชิตตฺตา, อิตรสฺส อปฺปฏิคฺคหิตตฺตา.

๑๐๐. อิเมสุ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๕) ปน จตูสุ กาลิเกสุ ยาวกาลิกํ ยามกาลิกนฺติ อิทเมว ทฺวยํ อนฺโตวุตฺถกฺเจว สนฺนิธิการกฺจ โหติ, สตฺตาหกาลิกฺจ ยาวชีวิกฺจ อกปฺปิยกุฏิยํ นิกฺขิปิตุมฺปิ วฏฺฏติ, สนฺนิธิมฺปิ น ชเนติ. ยาวกาลิกํ ปน อตฺตนา สทฺธึ สมฺภินฺนรสานิ ตีณิปิ ยามกาลิกาทีนิ อตฺตโน สภาวํ อุปเนติ. ยามกาลิกํ ทฺเวปิ สตฺตาหกาลิกาทีนิ อตฺตโน สภาวํ อุปเนติ, สตฺตาหกาลิกมฺปิ อตฺตนา สทฺธึ สํสฏฺํ ยาวชีวิกํ อตฺตโน สภาวฺเว อุปเนติ, ตสฺมา ยาวกาลิเกน ตทหุปฏิคฺคหิเตน สทฺธึ สํสฏฺํ สมฺภินฺนรสํ เสสกาลิกตฺตยํ ตทหุปุเรภตฺตเมว วฏฺฏติ. ยามกาลิเกน สํสฏฺํ ปน อิตรทฺวยํ ตทหุปฏิคฺคหิตํ ยาว อรุณุคฺคมนา วฏฺฏติ. สตฺตาหกาลิเกน ปน ตทหุปฏิคฺคหิเตน สทฺธึ สํสฏฺํ ตทหุปฏิคฺคหิตํ วา ปุเรปฏิคฺคหิตํ วา ยาวชีวิกํ สตฺตาหํ กปฺปติ. ทฺวีหปฏิคฺคหิเตน ฉาหํ. ตีหปฏิคฺคหิเตน ปฺจาหํ…เป… สตฺตาหปฏิคฺคหิเตน ตทเหว กปฺปตีติ เวทิตพฺพํ. กาลยามสตฺตาหาติกฺกเมสุ เจตฺถ วิกาลโภชนสนฺนิธิเภสชฺชสิกฺขาปทานํ วเสน อาปตฺติโย เวทิตพฺพา.

สเจ ปน เอกโต ปฏิคฺคหิตานิปิ จตฺตาริ กาลิกานิ สมฺภินฺนรสานิ น โหนฺติ, ตสฺส ตสฺเสว กาลสฺส วเสน ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏนฺติ. สเจ หิ ฉลฺลิมฺปิ อนปเนตฺวา สกเลเนว นาฬิเกรผเลน สทฺธึ อมฺพปานาทิปานกํ ปฏิคฺคหิตํ โหติ, นาฬิเกรํ อปเนตฺวา ตํ วิกาเลปิ กปฺปติ. อุปริ สปฺปิปิณฺฑํ เปตฺวา สีตลปายาสํ เทนฺติ, ยํ ปายาเสน อสํสฏฺํ สปฺปิ, ตํ อปเนตฺวา สตฺตาหํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ถทฺธมธุผาณิตาทีสุปิ เอเสว นโย. ตกฺโกลชาติผลาทีหิ อลงฺกริตฺวา ปิณฺฑปาตํ เทนฺติ, ตานิ อุทฺธริตฺวา โธวิตฺวา ยาวชีวํ ปริภุฺชิตพฺพานิ. ยาคุยํ ปกฺขิปิตฺวา ทินฺนสิงฺคิเวราทีสุปิ เตลาทีสุ ปกฺขิปิตฺวา ทินฺนลฏฺิมธุกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวํ ยํ ยํ อสมฺภินฺนรสํ โหติ, ตํ ตํ เอกโต ปฏิคฺคหิตมฺปิ ยถา สุทฺธํ โหติ, ตถา โธวิตฺวา ตจฺเฉตฺวา วา ตสฺส ตสฺส กาลสฺส วเสน ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ สมฺภินฺนรสํ โหติ สํสฏฺํ, น วฏฺฏติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

กาลิกวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๑๙. กปฺปิยภูมิวินิจฺฉยกถา

๑๐๑. กปฺปิยาจตุภูมิโยติ เอตฺถ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตสฺโส กปฺปิยภูมิโย อุสฺสาวนนฺติกํ โคนิสาทิกํ คหปตึ สมฺมุติ’’นฺติ (มหาว. ๒๙๕) วจนโต อุสฺสาวนนฺติกา โคนิสาทิกา คหปติ สมฺมุตีติ อิมา จตสฺโส กปฺปิยภูมิโย เวทิตพฺพา. ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๒๙๕) อุสฺสาวนนฺติกา ตาว เอวํ กาตพฺพา – โย ถมฺภานํ วา อุปริ ภิตฺติปาเท วา นิขนิตฺวา วิหาโร กรียติ, ตสฺส เหฏฺา ถมฺภปฏิจฺฉกา ปาสาณา ภูมิคติกา เอว. ปมตฺถมฺภํ ปน ปมภิตฺติปาทํ วา ปติฏฺาเปนฺเตหิ พหูหิ สมฺปริวาเรตฺวา ‘‘กปฺปิยกุฏึ กโรม, กปฺปิยกุฏึ กโรมา’’ติ วาจํ นิจฺฉาเรนฺเตหิ มนุสฺเสสุ อุกฺขิปิตฺวา ปติฏฺาเปนฺเตสุ อามสิตฺวา วา สยํ อุกฺขิปิตฺวา วา ถมฺโภ วา ภิตฺติปาโท วา ปติฏฺาเปตพฺโพ. กุรุนฺทิมหาปจฺจรีสุ ปน ‘‘กปฺปิยกุฏิ กปฺปิยกุฏีติ วตฺวา ปติฏฺาเปตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. อนฺธกฏฺกถายํ ‘‘สงฺฆสฺส กปฺปิยกุฏึ อธิฏฺามี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ปน อวตฺวาปิ อฏฺกถาสุ วุตฺตนเยน วุตฺเต โทโส นตฺถิ. อิทํ ปเนตฺถ สาธารณลกฺขณํ ‘‘ถมฺภปติฏฺาปนฺจ วจนปริโยสานฺจ สมกาลํ วฏฺฏตี’’ติ. สเจ หิ อนิฏฺิเต วจเน ถมฺโภ ปติฏฺาติ, อปฺปติฏฺิเต วา ตสฺมึ วจนํ นิฏฺาติ, อกตา โหติ กปฺปิยกุฏิ. เตเนว มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ ‘‘พหูหิ สมฺปริวาเรตฺวา วตฺตพฺพํ, อวสฺสฺหิ เอตฺถ เอกสฺสปิ วจนนิฏฺานฺจ ถมฺภปติฏฺานฺจ เอกโต ภวิสฺสตี’’ติ. อิฏฺกาสิลามตฺติกากุฏฺฏกาสุ ปน กุฏีสุ เหฏฺา จยํ พนฺธิตฺวา วา อพนฺธิตฺวา วา กโรนฺตุ, ยโต ปฏฺาย ภิตฺตึ อุฏฺาเปตุกามา โหนฺติ, ตํ สพฺพปมํ อิฏฺกํ วา สิลํ วา มตฺติกาปิณฺฑํ วา คเหตฺวา วุตฺตนเยเนว กปฺปิยกุฏิ กาตพฺพา, อิฏฺกาทโย ภิตฺติยํ ปมิฏฺกาทีนํ เหฏฺา น วฏฺฏนฺติ, ถมฺภา ปน อุปริ อุคฺคจฺฉนฺติ, ตสฺมา วฏฺฏนฺติ. อนฺธกฏฺกถายํ ‘‘ถมฺเภหิ กริยมาเน จตูสุ โกเณสุ จตฺตาโร ถมฺภา, อิฏฺกาทิกุฏฺเฏ จตูสุ โกเณสุ ทฺเว ติสฺโส อิฏฺกา อธิฏฺาตพฺพา’’ติ วุตฺตํ. ตถา ปน อกตายปิ โทโส นตฺถิ, อฏฺกถาสุ หิ วุตฺตเมว ปมาณํ.

โคนิสาทิกา ทุวิธา อารามโคนิสาทิกา วิหารโคนิสาทิกาติ. ตาสุ ยตฺถ เนว อาราโม, น เสนาสนานิ ปริกฺขิตฺตานิ โหนฺติ, อยํ อารามโคนิสาทิกา นาม. ยตฺถ เสนาสนานิ สพฺพานิ วา เอกจฺจานิ วา ปริกฺขิตฺตานิ, อาราโม อปริกฺขิตฺโต, อยํ วิหารโคนิสาทิกา นาม. อิติ อุภยตฺราปิ อารามสฺส อปริกฺขิตฺตภาโวเยว ปมาณํ. ‘‘อาราโม ปน อุปฑฺฒปริกฺขิตฺโตปิ พหุตรํ ปริกฺขิตฺโตปิ ปริกฺขิตฺโตเยว นามา’’ติ กุรุนฺทิมหาปจฺจรีสุ วุตฺตํ, เอตฺถ กปฺปิยกุฏึ ลทฺธุํ วฏฺฏติ.

คหปตีติ มนุสฺสา อาวาสํ กตฺวา ‘‘กปฺปิยกุฏึ เทม, ปริภุฺชถา’’ติ วทนฺติ, เอสา คหปติ นาม, ‘‘กปฺปิยกุฏึ กาตุํ เทมา’’ติ วุตฺเตปิ วฏฺฏติเยว. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘ยสฺมา ภิกฺขุํ เปตฺวา เสสสหธมฺมิกานํ สพฺเพสฺจ เทวมนุสฺสานํ หตฺถโต ปฏิคฺคโห จ สนฺนิธิ จ อนฺโตวุตฺถฺจ เตสํ สนฺตกํ ภิกฺขุสฺส วฏฺฏติ, ตสฺมา เตสํ เคหานิ วา เตหิ ทินฺนกปฺปิยกุฏิ วา คหปตีติ วุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ, ปุนปิ วุตฺตํ ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส วิหารํ เปตฺวา ภิกฺขุนุปสฺสโย วา อารามิกานํ วา ติตฺถิยานํ วา เทวตานํ วา นาคานํ วา อปิ พฺรหฺมานํ วิมานํ กปฺปิยกุฏิ โหตี’’ติ, ตํ สุวุตฺตํ. สงฺฆสนฺตกเมว หิ ภิกฺขุสนฺตกํ วา เคหํ คหปติกุฏิกา น โหติ.

สมฺมุติ นาม ตฺติทุติยกมฺมวาจาย สาเวตฺวา สมฺมตา. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนิตพฺพา, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ วิหารํ กปฺปิยภูมึ สมฺมนฺเนยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ วิหารํ กปฺปิยภูมึ สมฺมนฺนติ. ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส วิหารสฺส กปฺปิยภูมิยา สมฺมุติ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘สมฺมโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม วิหาโร กปฺปิยภูมิ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๒๙๕).

กมฺมวาจํ อวตฺวา อปโลกนกมฺมวเสน สาเวตฺวา กตาปิ สมฺมตา เอว.

๑๐๒. ยํ (มหาว. อฏฺ. ๒๙๕) อิมาสุ จตูสุ กปฺปิยภูมีสุ วุตฺตํ อามิสํ, ตํ สพฺพํ อนฺโตวุตฺถสงฺขฺยํ น คจฺฉติ. ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ อนฺโตวุตฺถอนฺโตปกฺกโมจนตฺถฺหิ กปฺปิยกุฏิโย อนุฺาตา. ยํ ปน อกปฺปิยภูมิยํ สหเสยฺยปฺปโหนเก เคเห วุตฺตํ สงฺฆิกํ วา ปุคฺคลิกํ วา ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุนิยา วา สนฺตกํ เอกรตฺตมฺปิ ปิตํ, ตํ อนฺโตวุตฺถํ, ตตฺถ ปกฺกฺจ อนฺโตปกฺกํ นาม โหติ, เอตํ น กปฺปติ. สตฺตาหกาลิกํ ปน ยาวชีวิกฺจ วฏฺฏติ.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – สามเณโร ภิกฺขุสฺส ตณฺฑุลาทิกํ อามิสํ อาหริตฺวา กปฺปิยกุฏิยํ นิกฺขิปิตฺวา ปุนทิวเส ปจิตฺวา เทติ, อนฺโตวุตฺถํ น โหติ. ตตฺถ อกปฺปิยกุฏิยํ นิกฺขิตฺตสปฺปิอาทีสุ กิฺจิ ปกฺขิปิตฺวา เทติ. มุขสนฺนิธิ นาม โหติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘อนฺโตวุตฺถํ โหตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ นามมตฺตเมว นานากรณํ, ภิกฺขุ อกปฺปิยกุฏิยํ ปิตสปฺปิฺจ ยาวชีวิกปณฺณฺจ เอกโต ปจิตฺวา ปริภุฺชติ, สตฺตาหํ นิรามิสํ วฏฺฏติ. สเจ อามิสสํสฏฺํ กตฺวา ปริภุฺชติ, อนฺโตวุตฺถฺเจว สามํปกฺกฺจ โหติ. เอเตนุปาเยน สพฺพสํสคฺคา เวทิตพฺพา. ยํ กิฺจิ อามิสํ ภิกฺขุโน ปจิตุํ น วฏฺฏติ. สเจปิสฺส อุณฺหยาคุยา สุลสิปณฺณานิ วา สิงฺคิเวรํ วา โลณํ วา ปกฺขิปนฺติ, ตมฺปิ จาเลตุํ น วฏฺฏติ, ‘‘ยาคุํ นิพฺพาเปมี’’ติ ปน จาเลตุํ วฏฺฏติ. อุตฺตณฺฑุลภตฺตํ ลภิตฺวา ปิทหิตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน มนุสฺสา ปิทหิตฺวา เทนฺติ, วฏฺฏติ. ‘‘ภตฺตํ มา นิพฺพายตู’’ติ ปิทหิตุํ วฏฺฏติ, ขีรตกฺกาทีสุ ปน สกึ กุถิเตสุ อคฺคึ กาตุํ วฏฺฏติ ปุนปากสฺส อนุฺาตตฺตา.

อิมา ปน กปฺปิยกุฏิโย กทา ชหิตวตฺถุกา โหนฺติ? อุสฺสาวนนฺติกา ตาว ยา ถมฺภานํ อุปริ ภิตฺติปาเท วา นิขนิตฺวา กตา, สา สพฺเพสุ ถมฺเภสุ จ ภิตฺติปาเทสุ จ อปนีเตสุ ชหิตวตฺถุกา โหติ. สเจ ปน ถมฺเภ วา ภิตฺติปาเท วา ปริวตฺเตนฺติ, โย โย ิโต, ตตฺถ ตตฺถ ปติฏฺาติ, สพฺเพสุปิ ปริวตฺติเตสุ อชหิตวตฺถุกาว โหติ. อิฏฺกาทีหิ กตา จยสฺส อุปริ ภิตฺติอตฺถาย ปิตํ อิฏฺกํ วา สิลํ วา มตฺติกาปิณฺฑํ วา อาทึ กตฺวา วินาสิตกาเล ชหิตวตฺถุกาว โหติ. เยหิ ปน อิฏฺกาทีหิ อธิฏฺิตา, เตสุ อปนีเตสุปิ ตทฺเสุ ปติฏฺาตีติ อชหิตวตฺถุกาว โหติ. โคนิสาทิกา ปาการาทีหิ ปริกฺเขเป กเต ชหิตวตฺถุกาว โหติ. ปุน ตสฺมึ อาราเม กปฺปิยกุฏึ ลทฺธุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน ปุนปิ ปาการาทโย ตตฺถ ตตฺถ ขณฺฑา โหนฺติ, ตโต ตโต คาโว ปวิสนฺติ, ปุน กปฺปิยกุฏิ โหติ. อิตรา ปน ทฺเว โคปานสีมตฺตํ เปตฺวา สพฺพสฺมึ ฉทเน วินฏฺเ ชหิตวตฺถุกาว โหนฺติ. สเจ โคปานสีนํ อุปริ เอกมฺปิ ปกฺขปาสกมณฺฑลํ อตฺถิ, รกฺขติ.

๑๐๓. ยตฺร ปนิมา จตสฺโสปิ กปฺปิยภูมิโย นตฺถิ, ตตฺถ กึ กาตพฺพนฺติ? อนุปสมฺปนฺนสฺส ทตฺวา ตสฺส สนฺตกํ กตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. ตตฺริทํ วตฺถุ – กรวิกติสฺสตฺเถโร กิร วินยธรปาโมกฺโข มหาสีวตฺเถรสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. โส ทีปาโลเกน สปฺปิกุมฺภํ ปสฺสิตฺวา ‘‘ภนฺเต, กิเมต’’นฺติ ปุจฺฉิ. เถโร ‘‘อาวุโส, คามโต สปฺปิกุมฺโภ อาภโต ลูขทิวเส สปฺปินา ภุฺชนตฺถายา’’ติ อาห. ตโต นํ ติสฺสตฺเถโร ‘‘น วฏฺฏติ, ภนฺเต’’ติ อาห. เถโร ปุนทิวเส ปมุเข นิกฺขิปาเปสิ. ติสฺสตฺเถโร ปุน เอกทิวสํ อาคโต ตํ ทิสฺวา ตเถว ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ภนฺเต, สหเสยฺยปฺปโหนกฏฺาเน เปตุํ น วฏฺฏตี’’ติ อาห. เถโร ปุนทิวเส พหิ นีหราเปตฺวา นิกฺขิปาเปสิ, ตํ โจรา หรึสุ. โส ปุน เอกทิวสํ อาคตํ ติสฺสตฺเถรมาห ‘‘อาวุโส, ตยา ‘น วฏฺฏตี’ติ วุตฺเต โส กุมฺโภ พหิ นิกฺขิตฺโต โจเรหิ หโฏ’’ติ. ตโต นํ ติสฺสตฺเถโร อาห ‘‘นนุ, ภนฺเต, อนุปสมฺปนฺนสฺส ทาตพฺโพ อสฺส, อนุปสมฺปนฺนสฺส หิ ทตฺวา ตสฺส สนฺตกํ กตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

กปฺปิยภูมิวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๒๐. ปฏิคฺคหณวินิจฺฉยกถา

๑๐๔. ขาทนียาทิปฏิคฺคาโหติ อชฺโฌหริตพฺพสฺส ยสฺส กสฺสจิ ขาทนียสฺส วา โภชนียสฺส วา ปฏิคฺคหณํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ปฺจหิ องฺเคหิ ปฏิคฺคหณํ รุหติ, ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส อุจฺจารณมตฺตํ โหติ, หตฺถปาโส ปฺายติ, อภิหาโร ปฺายติ, เทโว วา มนุสฺโส วา ติรจฺฉานคโต วา กาเยน กายปฏิพทฺเธน นิสฺสคฺคิเยน วา เทติ, ตฺเจ ภิกฺขุ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา ปฏิคฺคณฺหาติ. เอวํ ปฺจหงฺเคหิ ปฏิคฺคหณํ รุหติ.

ตตฺถ ิตนิสินฺนนิปนฺนานํ วเสน เอวํ หตฺถปาโส เวทิตพฺโพ – สเจ ภิกฺขุ นิสินฺโน โหติ, อาสนสฺส ปจฺฉิมนฺตโต ปฏฺาย, สเจ ิโต, ปณฺหิอนฺตโต ปฏฺาย, สเจ นิปนฺโน, เยน ปสฺเสน นิปนฺโน, ตสฺส ปาริมนฺตโต ปฏฺาย, ทายกสฺส นิสินฺนสฺส วา ิตสฺส วา นิปนฺนสฺส วา เปตฺวา ปสาริตหตฺถํ ยํ อาสนฺนตรํ องฺคํ, ตสฺส โอริมนฺเตน ปริจฺฉินฺทิตฺวา อฑฺฒเตยฺยหตฺโถ หตฺถปาโส นาม.

สเจ ปน ทายกปฏิคฺคาหเกสุ เอโก อากาเส โหติ, เอโก ภูมิยํ, ภูมฏฺสฺส จ สีเสน, อากาสฏฺสฺส จ เปตฺวา ทาตุํ วา คเหตุํ วา ปสาริตหตฺถํ ยํ อาสนฺนตรํ องฺคํ, ตสฺส โอริมนฺเตน หตฺถปาสปมาณํ ปริจฺฉินฺทิตพฺพํ. สเจปิ เอโก กูเป โหติ, เอโก กูปตเฏ, เอโก วา ปน รุกฺเข, เอโก ปถวิยํ, วุตฺตนเยเนว หตฺถปาสปมาณํ ปริจฺฉินฺทิตพฺพํ. เอวรูเป หตฺถปาเส ตฺวา สเจปิ ปกฺขี มุขตุณฺฑเกน วา หตฺถี วา โสณฺฑาย คเหตฺวา ปุปฺผํ วา ผลํ วา เทติ, ปฏิคฺคหณํ รุหติ. สเจ ปน อฑฺฒฏฺมรตนสฺสปิ หตฺถิโน ขนฺเธ นิสินฺโน เตน โสณฺฑาย ทียมานํ คณฺหาติ, วฏฺฏติเยว. หตฺถาทีสุ เยน เกนจิ สรีราวยเวน อนฺตมโส ปาทงฺคุลิยาปิ ทียมานํ กาเยน ทินฺนํ นาม โหติ. ปฏิคฺคหเณปิ เอเสว นโย. เยน เกนจิ หิ สรีราวยเวน คหิตํ กาเยน คหิตเมว โหติ. สเจปิ นตฺถุกรณิยํ ทียมานํ นาสาปุเฏน อกลฺลโก วา มุเขน ปฏิคฺคณฺหาติ, อาโภคเมว เหตฺถ ปมาณํ.

๑๐๕. กฏจฺฉุอาทีสุ ปน เยน เกนจิ อุปกรเณน ทินฺนํ กายปฏิพทฺเธน ทินฺนํ นาม โหติ. ปฏิคฺคหเณปิ เอเสว นโย. เยน เกนจิ หิ สรีรสมฺพทฺเธน ปตฺตถาลกาทินา คหิตํ กายปฏิพทฺเธน คหิตเมว โหติ. กายโต ปน กายปฏิพทฺธโต จ โมเจตฺวา หตฺถปาเส ิตสฺส กาเย วา กายปฏิพทฺเธ วา ปาติยมานมฺปิ นิสฺสคฺคิเยน ปโยเคน ทินฺนํ นาม โหติ. เอโก พหูนิ ภตฺตพฺยฺชนภาชนานิ สีเส กตฺวา ภิกฺขุสฺส สนฺติกํ อาคนฺตฺวา ิตโกว ‘‘คณฺหถา’’ติ วทติ, น ตาว อภิหาโร ปฺายติ, ตสฺมา น คเหตพฺพํ. สเจ ปน อีสกมฺปิ โอนมติ, ภิกฺขุนา หตฺถํ ปสาเรตฺวา เหฏฺิมภาชนํ เอกเทเสนปิ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. เอตฺตาวตา สพฺพภาชนานิ ปฏิคฺคหิตานิ โหนฺติ. ตโต ปฏฺาย โอโรเปตฺวา อุคฺฆาเฏตฺวา วา ยํ อิจฺฉติ, ตํ คเหตุํ วฏฺฏติ. ภตฺตปจฺฉิอาทิมฺหิ ปน เอกภาชเน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.

กาเชน ภตฺตํ หรนฺโตปิ สเจ กาชํ โอนเมตฺวา เทติ, วฏฺฏติ. ตึสหตฺโถ เวณุ โหติ, เอกสฺมึ อนฺเต คุฬกุมฺโภ พทฺโธ, เอกสฺมึ สปฺปิกุมฺโภ, ตฺเจ ปฏิคฺคณฺหาติ, สพฺพํ ปฏิคฺคหิตเมว. อุจฺฉุยนฺตโทณิโต ปคฺฆรนฺตเมว ‘‘รสํ คณฺหถา’’ติ วทติ, อภิหาโร น ปฺายตีติ น คเหตพฺโพ. สเจ ปน กสฏํ ฉฑฺเฑตฺวา หตฺเถน อุสฺสิฺจิตฺวา เทติ, วฏฺฏติ. พหู ปตฺตา มฺเจ วา ปีเ วา กฏสาเร วา โทณิยํ วา ผลเก วา ปิตา โหนฺติ, ยตฺถ ิตสฺส ทายโก หตฺถปาเส โหติ, ตตฺถ ตฺวา ปฏิคฺคหณสฺาย มฺจาทีนิ องฺคุลิยาปิ ผุสิตฺวา ิเตน วา นิสินฺเนน วา นิปนฺเนน วา ยํ เตสุ ปตฺเตสุ ทียติ, ตํ สพฺพํ ปฏิคฺคหิตํ โหติ. สเจปิ ‘‘ปฏิคฺคเหสฺสามี’’ติ มฺจาทีนิ อภิรุหิตฺวา นิสีทติ, วฏฺฏติเยว.

ปถวิยํ ปน สเจปิ กุจฺฉิยา กุจฺฉึ อาหจฺจ ิตา โหนฺติ, ยํ ยํ องฺคุลิยา วา สูจิยา วา ผุสิตฺวา นิสินฺโน โหติ, ตตฺถ ตตฺถ ทียมานเมว ปฏิคฺคหิตํ โหติ. ยตฺถ กตฺถจิ มหากฏสารหตฺถตฺถรณาทีสุ ปิตปตฺเต ปฏิคฺคหณํ น รุหตีติ วุตฺตํ, ตํ หตฺถปาสาติกฺกมํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ, หตฺถปาเส ปน สติ ยตฺถ กตฺถจิ วฏฺฏติ อฺตฺร ตตฺถชาตกา. ตตฺถชาตเก ปน ปทุมินิปณฺเณ วา กึสุกปณฺณาทิมฺหิ วา น วฏฺฏติ. น หิ ตํ กายปฏิพทฺธสงฺขฺยํ คจฺฉติ. ยถา จ ตตฺถชาตเก, เอวํ ขาณุเก พนฺธิตฺวา ปิตมฺจาทิมฺหิ อสํหาริเม ผลเก วา ปาสาเณ วา น รุหติเยว. เตปิ หิ ตตฺถชาตกสงฺขฺยุปคา โหนฺติ. ภูมิยํ อตฺถเตสุ สุขุเมสุ ตินฺติณิกาทิปณฺเณสุ ปฏิคฺคหณํ น รุหติ. น หิ ตานิ สนฺธาเรตุํ สมตฺถานีติ. มหนฺเตสุ ปน ปทุมินิปณฺณาทีสุ รุหติ. สเจ หตฺถปาสํ อติกฺกมฺมิโต ทีฆทณฺฑเกน อุฬุงฺเกน เทติ, ‘‘อาคนฺตฺวา เทหี’’ติ วตฺตพฺโพ. วจนํ อสุตฺวา วา อนาทิยิตฺวา วา ปตฺเต อากิรติเยว, ปุน ปฏิคฺคเหตพฺพํ. ทูเร ตฺวา ภตฺตปิณฺฑํ ขิปนฺเตปิ เอเสว นโย.

๑๐๖. สเจ ปตฺตถวิกโต นีหริยมาเน ปตฺเต รชนจุณฺณานิ โหนฺติ, สติ อุทเก โธวิตพฺโพ, อสติ รชนจุณฺณํ ปุฺฉิตฺวา ปฏิคฺคเหตฺวา วา ปิณฺฑาย จริตพฺพํ. สเจ ปิณฺฑาย จรนฺตสฺส ปตฺเต รชํ ปตติ, ปฏิคฺคเหตฺวา ภิกฺขา คณฺหิตพฺพา, อปฺปฏิคฺคเหตฺวา คณฺหโต วินยทุกฺกฏํ, ตํ ปน ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ภุฺชโต อนาปตฺติ. สเจ ปน ‘‘ปฏิคฺคเหตฺวา เทถา’’ติ วุตฺเต วจนํ อสุตฺวา วา อนาทิยิตฺวา วา ภิกฺขํ เทนฺติเยว, วินยทุกฺกฏํ นตฺถิ, ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา อฺา ภิกฺขา คเหตพฺพา. สเจ มหาวาโต ตโต ตโต รชํ ปาเตติ, น สกฺกา โหติ ภิกฺขํ คเหตุํ, ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส ทสฺสามี’’ติ สุทฺธจิตฺเตน อาโภคํ กตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ ปิณฺฑาย จริตฺวา วิหารํ วา อาสนสาลํ วา คนฺตฺวา ตํ อนุปสมฺปนฺนสฺส ทตฺวา ปุน เตน ทินฺนํ วา ตสฺส วิสฺสาเสน วา ปฏิคฺคเหตฺวา ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ภิกฺขาจาเร สรชํ ปตฺตํ ภิกฺขุสฺส เทติ, โส วตฺตพฺโพ ‘‘อิมํ ปฏิคฺคเหตฺวา ภิกฺขํ วา คณฺเหยฺยาสิ ปริภุฺเชยฺยาสิ วา’’ติ, เตน ตถา กาตพฺพํ. สเจ รชํ อุปริ อุปฺปิลวติ, กฺชิกํ ปวาเหตฺวา เสสํ ภุฺชิตพฺพํ. สเจ อนฺโตปวิฏฺํ โหติ, ปฏิคฺคเหตพฺพํ. อนุปสมฺปนฺเน อสติ หตฺถโต อโมเจนฺเตเนว ยตฺถ อนุปสมฺปนฺโน อตฺถิ, ตตฺถ เนตฺวา ปฏิคฺคเหตพฺพํ. สุกฺขภตฺเต ปติตรชํ อปเนตฺวา ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ อติสุขุมํ โหติ, อุปริ ภตฺเตน สทฺธึ อปเนตพฺพํ, ปฏิคฺคเหตฺวา วา ภุฺชิตพฺพํ. ยาคุํ วา สูปํ วา ปุรโต เปตฺวา อาลุเฬนฺตานํ ภาชนโต ผุสิตานิ อุคฺคนฺตฺวา ปตฺเต ปตนฺติ, ปตฺโต ปฏิคฺคเหตพฺโพ.

๑๐๗. อุฬุงฺเกน อาหริตฺวา เทนฺตานํ ปมตรํ อุฬุงฺกโต เถวา ปตฺเต ปตนฺติ, สุปติตา, อภิหฏตฺตา โทโส นตฺถิ. สเจปิ จรุเกน ภตฺเต อากิริยมาเน จรุกโต มสิ วา ฉาริกา วา ปตติ, อภิหฏตฺตา เนวตฺถิ โทโส. อนนฺตรสฺส ภิกฺขุโน ทียมานํ ปตฺตโต อุปฺปติตฺวา อิตรสฺส ปตฺเต ปตติ, สุปติตํ. ปฏิคฺคหิตเมว หิ ตํ โหติ. สเจ ชชฺฌริสาขาทึ ผาเลตฺวา เอกสฺส ภิกฺขุโน เทนฺตานํ สาขโต ผุสิตานิ อฺสฺส ปตฺเต ปตนฺติ, ปตฺโต ปฏิคฺคเหตพฺโพ, ยสฺส ปตฺตสฺส อุปริ ผาเลนฺติ, ตสฺส ปตฺเต ปติเตสุ ทาตุกามตาย อภิหฏตฺตา โทโส นตฺถิ. ปายาสสฺส ปูเรตฺวา ปตฺตํ เทนฺติ, อุณฺหตฺตา เหฏฺา คเหตุํ น สกฺโกติ, มุขวฏฺฏิยาปิ คเหตุํ วฏฺฏติ. สเจ ตถาปิ น สกฺโกติ, อาธารเกน คเหตพฺโพ. อาสนสาลาย ปตฺตํ คเหตฺวา นิสินฺโน ภิกฺขุ นิทฺทํ โอกฺกนฺโต โหติ, เนว อาหริยมานํ, น ทียมานํ ชานาติ, อปฺปฏิคฺคหิตํ โหติ. สเจ ปน อาโภคํ กตฺวา นิสินฺโน โหติ, วฏฺฏติ. สเจปิ โส หตฺเถน อาธารกํ มุฺจิตฺวา ปาเทน เปลฺเลตฺวา นิทฺทายติ, วฏฺฏติเยว. ปาเทน อาธารกํ อกฺกมิตฺวา ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส ปน ชาครนฺตสฺสปิ อนาทรปฏิคฺคหณํ โหติ, ตสฺมา น กตฺตพฺพํ. เกจิ ‘‘เอวํ อาธารเกน ปฏิคฺคหณํ กายปฏิพทฺธปฏิพทฺเธน ปฏิคฺคหณํ นาม โหติ, ตสฺมา น วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ วจนมตฺตเมว, อตฺถโต ปน สพฺพมฺเปตํ กายปฏิพทฺธเมว โหติ. กายสํสคฺเคปิ เจส นโย ทสฺสิโต. ยมฺปิ ภิกฺขุสฺส ทียมานํ ปตติ, ตมฺปิ สามํ คเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ.

ตตฺริทํ สุตฺตํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ ทียมานํ ปตติ, ตํ สามํ คเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ, ปริจฺจตฺตํ ตํ, ภิกฺขเว, ทายเกหี’’ติ (จูฬว. ๒๗๓).

อิทฺจ ปน สุตฺตํ เนยฺยตฺถํ, ตสฺมา เอวเมตฺถ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ – ยํ ทียมานํ ทายกสฺส หตฺถโต ปริคฬิตฺวา สุทฺธาย วา ภูมิยา ปทุมินิปณฺเณ วา วตฺถกฏสารกาทีสุ วา ปตติ, ตํ สามํ คเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ยํ ปน สรชาย ภูมิยํ ปตติ, ตํ รชํ ปุฺฉิตฺวา วา โธวิตฺวา วา ปฏิคฺคเหตฺวา วา ปริภุฺชิตพฺพํ. สเจ ปวฏฺฏนฺตํ อฺสฺส ภิกฺขุโน สนฺติกํ คจฺฉติ, เตน อาหราเปตุมฺปิ วฏฺฏติ. สเจ ตํ ภิกฺขุํ วทติ ‘‘ตฺวํเยว ขาทา’’ติ, ตสฺสปิ ขาทิตุํ วฏฺฏติ, อนาณตฺเตน ปน เตน น คเหตพฺพํ. ‘‘อนาณตฺเตนปิ อิตรสฺส ทสฺสามีติ คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. กสฺมา ปเนตํ อิตรสฺส ภิกฺขุโน คเหตุํ น วฏฺฏตีติ? ภควตา อนนุฺาตตฺตา. ภควตา หิ ‘‘สามํ คเหตฺวา ปริภุฺชิตุ’’นฺติ วทนฺเตน ยสฺเสว ตํ ทียมานํ ปตติ, ตสฺส อปฺปฏิคฺคหิตกมฺปิ ตํ คเหตฺวา ปริโภโค อนุฺาโต. ‘‘ปริจฺจตฺตํ ตํ, ภิกฺขเว, ทายเกหี’’ติ วจเนน ปเนตฺถ ปรสนฺตกภาโว ทีปิโต, ตสฺมา อฺสฺส สามํ คเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ, ตสฺส ปน อาณตฺติยา วฏฺฏตีติ อยํ กิเรตฺถ อธิปฺปาโย. ยสฺมา จ เอตํ อปฺปฏิคฺคหิตกตฺตา อนุฺาตํ, ตสฺมา ยถาิตํเยว อนามสิตฺวา เกนจิ ปิทหิตฺวา ปิตํ ทุติยทิวเสปิ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, สนฺนิธิปจฺจยา อนาปตฺติ, ปฏิคฺคเหตฺวา ปน ปริภุฺชิตพฺพํ. ตํ ทิวสํเยว หิ ตสฺส สามํ คเหตฺวา ปริโภโค อนุฺาโต, น ตโต ปรนฺติ อยมฺปิ กิเรตฺถ อธิปฺปาโย.

๑๐๘. อิทานิ อพฺโพหาริกนโย วุจฺจติ. ภุฺชนฺตานฺหิ ทนฺตา ขียนฺติ, นขา ขียนฺติ, ปตฺตสฺส วณฺโณ ขียติ, สพฺพํ อพฺโพหาริกํ. สตฺถเกน อุจฺฉุอาทีสุ ผาลิเตสุ มลํ ปฺายติ, เอตํ นวสมุฏฺิตํ นาม, ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. สตฺถกํ โธวิตฺวา ผาลิเตสุ มลํ น ปฺายติ, โลหคนฺธมตฺตํ โหติ, ตํ อพฺโพหาริกํ. ยมฺปิ สตฺถกํ คเหตฺวา ปริหรนฺติ, เตน ผาลิเตปิ เอเสว นโย. น หิ ตํ ปริโภคตฺถาย ปริหรนฺตีติ. มูลเภสชฺชาทีนิ ปิสนฺตานํ วา โกฏฺเฏนฺตานํ วา นิสทนิสทโปตกอุทุกฺขลมุสลาทีนิ ขียนฺติ, ปริหรณกวาสึ ตาเปตฺวา เภสชฺชตฺถาย ตกฺเก วา ขีเร วา ปกฺขิปนฺติ, ตตฺถ นีลิกา ปฺายติ, สตฺถเก วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโย. อามกตกฺกาทีสุ ปน สยํ น ปกฺขิปิตพฺพา, ปกฺขิปติ เจ, สามํปากโต น มุจฺจติ. เทเว วสฺสนฺเต ปิณฺฑาย จรนฺตสฺส สรีรโต วา จีวรโต วา กิลิฏฺอุทกํ ปตฺเต ปตติ, ปฏิคฺคเหตพฺพํ. รุกฺขมูลาทีสุ ภุฺชนฺตสฺส ปติเตปิ เอเสว นโย. สเจ ปน สตฺตาหํ วสฺสนฺเต เทเว สุทฺธํ อุทกํ โหติ, อพฺโภกาสโต วา ปตติ, วฏฺฏติ.

๑๐๙. สามเณรสฺส โอทนํ เทนฺเตน ตสฺส ปตฺตคตํ อจฺฉุปนฺเตเนว ทาตพฺโพ, ปตฺโต วาสฺส ปฏิคฺคเหตพฺโพ. อปฺปฏิคฺคหิเต โอทนํ ฉุปิตฺวา ปุน อตฺตโน ปตฺเต โอทนํ คณฺหนฺตสฺส อุคฺคหิตโก โหติ. สเจ ปน ทาตุกาโม หุตฺวา ‘‘อาหร, สามเณร, ปตฺตํ, โอทนํ คณฺหาหี’’ติ วทติ, อิตโร ‘‘อลํ มยฺห’’นฺติ ปฏิกฺขิปติ, ปุน ‘‘ตเวตํ มยา ปริจฺจตฺต’’นฺติ จ วุตฺเต ‘‘น มยฺหํ เอเตนตฺโถ’’ติ วทติ, สตกฺขตฺตุมฺปิ ปริจฺจชตุ, ยาว อตฺตโน หตฺถคตํ, ตาว ปฏิคฺคหิตเมว โหติ. สเจ ปน อาธารเก ิตํ นิรเปกฺโข ‘‘คณฺหาหี’’ติ วทติ, ปุน ปฏิคฺคเหตพฺพํ. สาเปกฺโข อาธารเก ปตฺตํ เปตฺวา ‘‘เอตฺโต ปูวํ วา ภตฺตํ วา คณฺหาหี’’ติ สามเณรํ วทติ, สามเณโร หตฺถํ โธวิตฺวา สเจปิ สตกฺขตฺตุํ คเหตฺวา อตฺตโน ปตฺตคตํ อผุสนฺโตว อตฺตโน ปตฺเต ปกฺขิปติ, ปุน ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. ยทิ ปน อตฺตโน ปตฺตคตํ ผุสิตฺวา ตโต คณฺหาติ, สามเณรสนฺตเกน สํสฏฺํ โหติ, ปุน ปฏิคฺคเหตพฺพํ. เกจิ ปน ‘‘สเจปิ คยฺหมานํ ฉิชฺชิตฺวา ตตฺถ ปตติ, ปุน ปฏิคฺคเหตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ. ตํ ‘‘เอกํ ภตฺตปิณฺฑํ คณฺห, เอกํ ปูวํ คณฺห, อิมสฺส คุฬปิณฺฑสฺส เอตฺตกํ ปเทสํ คณฺหา’’ติ เอวํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วุตฺเต เวทิตพฺพํ, อิธ ปน ปริจฺเฉโท นตฺถิ, ตสฺมา ยํ สามเณรสฺส ปตฺเต ปตติ, ตเทว ปฏิคฺคหณํ วิชหติ, หตฺถคตํ ปน ยาว สามเณโร วา ‘‘อล’’นฺติ น โอรมติ, ภิกฺขุ วา น วาเรติ, ตาว ภิกฺขุสฺเสว สนฺตกํ, ตสฺมา ปฏิคฺคหณํ น วิชหติ. สเจ อตฺตโน วา ภิกฺขูนํ วา ยาคุปจนกภาชเน เกสฺจิ อตฺถาย ภตฺตํ ปกฺขิปติ, ‘‘สามเณร, ภาชนสฺส อุปริ หตฺถํ กโรหี’’ติ วตฺวา ตสฺส หตฺเถ ปกฺขิปิตพฺพํ. ตสฺส หตฺถโต ภาชเน ปติตฺหิ ทุติยทิวเส ภาชนสฺส อกปฺปิยภาวํ น กโรติ ปริจฺจตฺตตฺตา. สเจ เอวํ อกตฺวา ปกฺขิปติ, ปตฺตมิว ภาชนํ นิรามิสํ กตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ.

๑๑๐. ทายกา ยาคุกุฏํ เปตฺวา คตา, ตํ ทหรสามเณโร ปฏิคฺคณฺหาเปตุํ น สกฺโกติ, ภิกฺขุ ปตฺตํ อุปนาเมติ, สามเณโร กุฏสฺส คีวํ ปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิยํ เปตฺวา อาวชฺเชติ, ปตฺตคตา ยาคุ ปฏิคฺคหิตาว โหติ. อถ วา ภิกฺขุ ภูมิยํ หตฺถํ เปติ, สามเณโร ปวฏฺเฏตฺวา หตฺถํ อาโรเปติ, วฏฺฏติ. ปูวปจฺฉิภตฺตปจฺฉิอุจฺฉุภาราทีสุปิ เอเสว นโย. สเจ ปฏิคฺคหณูปคํ ภารํ ทฺเว ตโย สามเณรา เทนฺติ, เอเกน วา พลวตา อุกฺขิตฺตํ ทฺเว ตโย ภิกฺขู คณฺหนฺติ, วฏฺฏติ. มฺจสฺส วา ปีสฺส วา ปาเท เตลฆฏํ วา ผาณิตฆฏํ วา ลคฺเคนฺติ, ภิกฺขุสฺส มฺเจปิ ปีเปิ นิสีทิตุํ วฏฺฏติ, อุคฺคหิตกํ นาม น โหติ.

นาคทนฺตเก วา องฺกุสเก วา ทฺเว เตลฆฏา ลคฺคิตา โหนฺติ อุปริ ปฏิคฺคหิตโก, เหฏฺา อปฺปฏิคฺคหิตโก. อุปริมํ คเหตุํ วฏฺฏติ, เหฏฺา ปฏิคฺคหิตโก, อุปริ อปฺปฏิคฺคหิตโก, อุปริมํ คเหตฺวา อิตรํ คณฺหโต อุปริโม อุคฺคหิตโก โหติ. เหฏฺามฺเจ อปฺปฏิคฺคหิตกํ เตลถาลกํ โหติ, ตฺเจ สมฺมชฺชนฺโต สมฺมุฺชนิยา ฆฏฺเฏติ, อุคฺคหิตกํ น โหติ, ‘‘ปฏิคฺคหิตกํ คณฺหิสฺสามี’’ติ อปฺปฏิคฺคหิตกํ คเหตฺวา ตฺวา ปุน เปติ, อุคฺคหิตกํ น โหติ, พหิ นีหริตฺวา สฺชานาติ, พหิ อฏฺเปตฺวา หริตฺวา ตตฺเถว เปตพฺพํ, นตฺถิ โทโส. สเจ ปน ปุพฺเพ วิวริตฺวา ปิตํ, น ปิทหิตพฺพํ. ยถา ปุพฺเพ ิตํ, ตเถว เปตพฺพํ. สเจ พหิ เปติ, ปุน น ฉุปิตพฺพํ.

๑๑๑. ปฏิคฺคหิตเก เตลาทิมฺหิ กณฺณิกา อุฏฺเติ, สิงฺคิเวราทิมฺหิ ฆนจุณฺณํ, ตํสมุฏฺานเมว นาม ตํ, ปุน ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. ตาลํ วา นาฬิเกรํ วา อารุฬฺโห โยตฺเตน ผลปิณฺฑึ โอตาเรตฺวา อุปริ ิโตว ‘‘คณฺหถา’’ติ วทติ, น คเหตพฺพํ. สเจ อฺโ ภูมิยํ ิโต โยตฺตปาสเก คเหตฺวา อุกฺขิปิตฺวา เทติ, วฏฺฏติ. สผลํ มหาสาขํ กปฺปิยํ กาเรตฺวา ปฏิคฺคณฺหาติ, ผลานิ ปฏิคฺคหิตาเนว โหนฺติ, ยถาสุขํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. อนฺโตวติยํ ตฺวา วตึ ฉินฺทิตฺวา อุจฺฉุํ วา ติมฺพรูสกํ วา เทนฺติ, หตฺถปาเส สติ วฏฺฏติ. ทณฺฑเกสุ อปหริตฺวา นิคฺคตํ คณฺหนฺตสฺส วฏฺฏติ, ปหริตฺวา นิคฺคเต อฏฺกถาสุ โทโส น ทสฺสิโต. มยํ ปน ‘‘ยํ านํ ปหฏํ, ตโต สยํปติตมิว โหตี’’ติ ตกฺกยาม, ตมฺปิ ตฺวา คจฺฉนฺเต ยุชฺชติ สุงฺกฆาตโต ปวฏฺเฏตฺวา พหิปติตภณฺฑํ วิย. วตึ วา ปาการํ วา ลงฺฆาเปตฺวา เทนฺติ, สเจ ปน อปุถุโล ปากาโร, อนฺโตปากาเร พหิปากาเร จ ิตสฺส หตฺถปาโส ปโหติ, หตฺถสตมฺปิ อุทฺธํ คนฺตฺวา สมฺปตฺตํ คเหตุํ วฏฺฏติ.

ภิกฺขุ คิลานํ สามเณรํ ขนฺเธน วหติ, โส ผลาผลํ ทิสฺวา คเหตฺวา ขนฺเธ นิสินฺโนว เทติ, วฏฺฏติ. อปโร ภิกฺขุํ วหนฺโต ขนฺเธ นิสินฺนสฺส ภิกฺขุโน เทติ, วฏฺฏติเยว. ภิกฺขุ ผลินึ สาขํ ฉายตฺถาย คเหตฺวา คจฺฉติ, ผลานิ ขาทิตุํ จิตฺเต อุปฺปนฺเน ปฏิคฺคหาเปตฺวา ขาทิตุํ วฏฺฏติ. มจฺฉิกวารณตฺถํ กปฺปิยํ กาเรตฺวา ปฏิคฺคณฺหาติ, ขาทิตุกาโม เจ โหติ, มูลปฏิคฺคหณเมว วฏฺฏติ, ขาทนฺตสฺส นตฺถิ โทโส. ภิกฺขุ ปฏิคฺคหณารหํ ภณฺฑํ มนุสฺสานํ ยาเน เปตฺวา มคฺคํ คจฺฉติ, ยานํ กทฺทเม ลคฺคติ, ทหโร จกฺกํ คเหตฺวา อุกฺขิปติ, วฏฺฏติ, อุคฺคหิตกํ นาม น โหติ. นาวาย เปตฺวา นาวํ อริตฺเตน วา ปาเชติ, หตฺเถน วา กฑฺฒติ, วฏฺฏติ. อุฬุมฺเปปิ เอเสว นโย. จาฏิยํ วา กุณฺฑเก วา เปตฺวาปิ ตํ อนุปสมฺปนฺเนน คาหาเปตฺวา อนุปสมฺปนฺนํ พาหายํ คเหตฺวา ตริตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมิมฺปิ อสติ อนุปสมฺปนฺนํ คาหาเปตฺวา ตํ พาหายํ คเหตฺวา ตริตุํ วฏฺฏติ.

อุปาสกา คมิกภิกฺขูนํ ปาเถยฺยตณฺฑุเล เทนฺติ, สามเณรา ภิกฺขูนํ ตณฺฑุเล คเหตฺวา อตฺตโน ตณฺฑุเล คเหตุํ น สกฺโกนฺติ, ภิกฺขู เตสํ ตณฺฑุเล คณฺหนฺติ, สามเณรา อตฺตนา คหิตตณฺฑุเลสุ ขีเณสุ อิตเรหิ ตณฺฑุเลหิ ยาคุํ ปจิตฺวา สพฺเพสํ ปตฺตานิ ปฏิปาฏิยา เปตฺวา ยาคุํ อากิรนฺติ, ปณฺฑิโต สามเณโร อตฺตโน ปตฺตํ คเหตฺวา เถรสฺส เทติ, เถรสฺส ปตฺตํ ทุติยตฺเถรสฺสาติ เอวํ สพฺพานิปิ ปริวตฺเตติ, สพฺเพหิ สามเณรสฺส สนฺตกํ ภุตฺตํ โหติ, วฏฺฏติ. สเจปิ สามเณโร อปณฺฑิโต โหติ, อตฺตโน ปตฺเต ยาคุํ สยเมว ปาตุํ อารภติ, ‘‘อาวุโส, ตุยฺหํ ยาคุํ มยฺหํ เทหี’’ติ เถเรหิ ปฏิปาฏิยา ยาจิตฺวาปิ ปิวิตุํ วฏฺฏติ, สพฺเพหิ สามเณรสฺส สนฺตกเมว ภุตฺตํ โหติ, เนว อุคฺคหิตปจฺจยา, น สนฺนิธิปจฺจยา วชฺชํ ผุสนฺติ. เอตฺถ ปน มาตาปิตูนํ เตลาทีนิ, ฉายาทีนํ อตฺถาย สาขาทีนิ จ หรนฺตานํ อิเมสฺจ วิเสโส น ทิสฺสติ, ตสฺมา การณํ อุปปริกฺขิตพฺพํ.

๑๑๒. สามเณโร ภตฺตํ ปจิตุกาโม ตณฺฑุเล โธวิตฺวา นิจฺจาเลตุํ น สกฺโกติ, ภิกฺขุนา ตณฺฑุเล จ ภาชนฺจ ปฏิคฺคเหตฺวา ตณฺฑุเล โธวิตฺวา นิจฺจาเลตฺวา ภาชนํ อุทฺธนํ อาโรเปตพฺพํ, อคฺคิ น กาตพฺโพ, ปกฺกกาเล วิวริตฺวา ปกฺกภาโว ชานิตพฺโพ. สเจ ทุปฺปกฺกํ โหติ, ปากตฺถาย ปิทหิตุํ น วฏฺฏติ, รชสฺส วา ฉาริกาย วา อปตนตฺถาย วฏฺฏติ, ปกฺกกาเล โอโรปิตุํ ภุฺชิตุมฺปิ วฏฺฏติ, ปุน ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. สามเณโร ปฏิพโล ปจิตุํ, ขโณ ปนสฺส นตฺถิ กตฺถจิ คนฺตุกาโม, ภิกฺขุนา สตณฺฑุโลทกํ ภาชนํ ปฏิคฺคเหตฺวา อุทฺธนํ อาโรเปตฺวา ‘‘อคฺคึ ชาเลตฺวา คจฺฉา’’ติ วตฺตพฺโพ. ตโต ปรํ ปุริมนเยเนว สพฺพํ กาตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุ ยาคุอตฺถาย สุทฺธภาชนํ อาโรเปตฺวา อุทกํ ตาเปติ, วฏฺฏติ. ตตฺเต อุทเก สามเณโร ตณฺฑุเล ปกฺขิปติ, ตโต ปฏฺาย ภิกฺขุนา อคฺคิ น กาตพฺโพ, ปกฺกยาคุํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปาตุํ วฏฺฏติ. สามเณโร ยาคุํ ปจติ, หตฺถกุกฺกุจฺจโก ภิกฺขุ กีฬนฺโต ภาชนํ อามสติ, ปิธานํ อามสติ, อุคฺคตํ เผณํ ฉินฺทิตฺวา ปหรติ, ตสฺเสว ปาตุํ น วฏฺฏติ, ทุรุปจิณฺณํ นาม โหติ. สเจ ปน ทพฺพึ วา อุฬุงฺกํ วา คเหตฺวา อนุกฺขิปนฺโต อาโลเฬติ, สพฺเพสํ น วฏฺฏติ, สามํปากฺเจว โหติ ทุรุปจิณฺณฺจ. สเจ อุกฺขิปติ, อุคฺคหิตกมฺปิ โหติ.

๑๑๓. ภิกฺขุนา ปิณฺฑาย จริตฺวา อาธารเก ปตฺโต ปิโต โหติ. ตตฺร เจ อฺโ โลลภิกฺขุ กีฬนฺโต ปตฺตํ อามสติ, ปตฺตปิธานํ อามสติ, ตสฺเสว ตโต ลทฺธภตฺตํ น วฏฺฏติ. สเจ น ปตฺตํ อุกฺขิปิตฺวา เปติ, สพฺเพสํ น วฏฺฏติ. ตตฺถชาตกผลินิสาขาย วา วลฺลิยา วา คเหตฺวา จาเลติ, ตสฺเสว ตโต ลทฺธผลํ น วฏฺฏติ, ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏฺจ อาปชฺชติ. ‘‘ผลรุกฺขํ ปน อปสฺสยิตุํ วา ตตฺถ กณฺฏกํ วา พนฺธิตุํ วฏฺฏติ, ทุรุปจิณฺณํ น โหตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. อรฺเ ปติตํ ปน อมฺพผลาทึ ทิสฺวา ‘‘สามเณรสฺส ทสฺสามี’’ติ อาหริตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. สีหวิฆาสาทึ ทิสฺวาปิ ‘‘สามเณรสฺส ทสฺสามี’’ติ ปฏิคฺคเหตฺวา วา อปฺปฏิคฺคเหตฺวา วา อาหริตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน สกฺโกติ วิตกฺกํ โสเธตุํ, ตโต ลทฺธํ ขาทิตุมฺปิ วฏฺฏติ, เนว อามกมํสปฏิคฺคหณปจฺจยา, น อุคฺคหิตกปจฺจยา วชฺชํ ผุสติ. มาตาปิตูนํ อตฺถาย เตลาทีนิ คเหตฺวา คจฺฉโต อนฺตรามคฺเค พฺยาธิ อุปฺปชฺชติ, ตโต ยํ อิจฺฉติ, ตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน มูเลปิ ปฏิคฺคหิตํ โหติ, ปุน ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. มาตาปิตูนํ ตณฺฑุเล อาหริตฺวา เทติ, เต ตโตเยว ยาคุอาทีนิ สมฺปาเทตฺวา ตสฺส เทนฺติ, วฏฺฏติ, สนฺนิธิปจฺจยา อุคฺคหิตปจฺจยา วา โทโส นตฺถิ.

๑๑๔. ภิกฺขุ ปิทหิตฺวา อุทกํ ตาเปติ, ยาว ปริกฺขยา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปเนตฺถ ฉาริกา ปตติ, ปฏิคฺคเหตพฺพํ. ทีฆสณฺฑาเสน ถาลกํ คเหตฺวา เตลํ ปจนฺตสฺส ฉาริกา ปตติ, หตฺเถน อมุฺจนฺเตเนว ปจิตฺวา โอตาเรตฺวา ปฏิคฺคเหตพฺพํ. สเจ องฺคาราปิ ทารูนิปิ ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตานิ, มูลปฏิคฺคหณเมว วฏฺฏติ. ภิกฺขุ อุจฺฉุํ ขาทติ, สามเณโร ‘‘มยฺหมฺปิ เทถา’’ติ วทติ, ‘‘อิโต ฉินฺทิตฺวา คณฺหา’’ติ วุตฺโต คณฺหาติ, อวเสเส ปุน ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. คุฬปิณฺฑํ ขาทนฺตสฺสปิ เอเสว นโย. วุตฺโตกาสโต ฉินฺทิตฺวา คหิตาวเสสฺหิ อชหิตปฏิคฺคหณเมว โหติ. ภิกฺขุ คุฬํ ภาเชนฺโต ปฏิคฺคเหตฺวา โกฏฺาเส กโรติ, ภิกฺขูปิ สามเณราปิ อาคนฺตฺวา เอกคฺคหเณเนว เอกเมกํ โกฏฺาสํ คณฺหนฺติ, คหิตาวเสสํ ปฏิคฺคหิตเมว โหติ. สเจ โลลสามเณโร คณฺหิตฺวา คณฺหิตฺวา ปุน เปติ, ตสฺส คหิตาวเสสํ อปฺปฏิคฺคหิตกเมว โหติ.

ภิกฺขุ ธูมวฏฺฏึ ปฏิคฺคเหตฺวา ธูมํ ปิวติ, มุขฺจ กณฺโ จ มโนสิลาย ลิตฺโต วิย โหติ, ยาวกาลิกํ ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, ยาวกาลิเกน ยาวชีวิกสํสคฺเค โทโส นตฺถิ. ปตฺตํ วา รชนํ วา ปจนฺตสฺส กณฺณนาสจฺฉิทฺเทหิ ธูโม ปวิสติ, พฺยาธิปจฺจยา ปุปฺผํ วา ผลํ วา อุปสิงฺฆติ, อพฺโพหาริกตฺตา วฏฺฏติ. ภตฺตุคฺคาโร ตาลุํ อาหจฺจ อนฺโตเยว ปวิสติ, อวิสยตฺตา วฏฺฏติ, มุขํ ปวิฏฺํ ปน อชฺโฌหรโต วิกาเล อาปตฺติ. ทนฺตนฺตเร ลคฺคสฺส อามิสสฺส รโส ปวิสติ, อาปตฺติเยว. สเจ สุขุมํ อามิสํ โหติ, รโส น ปฺายติ, อพฺโพหาริกปกฺขํ ภชติ. อุปกฏฺเ กาเล นิรุทกฏฺาเน ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา กกฺขาเรตฺวา ทฺเว ตโย เขฬปิณฺเฑ ปาเตตฺวา อุทกฏฺานํ คนฺตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตพฺพํ. ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตสิงฺคิเวราทีนํ องฺกุรา นิกฺขมนฺติ, ปุน ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. โลเณ อสติ สมุทฺโททเกน โลณกิจฺจํ กาตุํ วฏฺฏติ, ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตโลโณทกํ โลณํ โหติ, โลณํ วา อุทกํ โหติ, รโส วา ผาณิตํ โหติ, ผาณิตํ วา รโส โหติ, มูลปฏิคฺคหณเมว วฏฺฏติ.

หิมกรกา อุทกคติกา เอว. ปาริหาริเกน กตกฏฺินา อุทกํ ปสาเทนฺติ, ตํ อพฺโพหาริกํ, อามิเสน สทฺธึ วฏฺฏติ. อามิสคติเกหิ กปิตฺถผลาทีหิ ปสาทิตํ ปุเรภตฺตเมว วฏฺฏติ. โปกฺขรณีอาทีสุ อุทกํ พหลํ โหติ, วฏฺฏติ. สเจ ปน มุเข หตฺเถ จ ลคฺคติ, น วฏฺฏติ, ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. เขตฺเตสุ กสิตฏฺาเน พหลํ อุทกํ โหติ, ปฏิคฺคเหตพฺพํ. สเจ สนฺทิตฺวา กนฺทราทีนิ ปวิสิตฺวา นทึ ปูเรติ, วฏฺฏติ. กกุธโสพฺภาทโย โหนฺติ รุกฺขโต ปติเตหิ ปุปฺเผหิ สฺฉนฺโนทกา. สเจ ปุปฺผรโส น ปฺายติ, ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. ปริตฺตํ อุทกํ โหติ, รโส ปฺายติ, ปฏิคฺคเหตพฺพํ. ปพฺพตกนฺทราทีสุ กาฬวณฺณปณฺณจฺฉนฺนอุทเกปิ เอเสว นโย.

ปานียฆเฏ สเรณุกานิ วา สวณฺฏขีรานิ วา ปุปฺผานิ ปกฺขิตฺตานิ โหนฺติ, ปฏิคฺคเหตพฺพํ, ปุปฺผานิ วา ปฏิคฺคเหตฺวา ปกฺขิปิตพฺพานิ. ปาฏลิมลฺลิกา ปกฺขิตฺตา โหนฺติ, วาสมตฺตํ ติฏฺติ, ตํ อพฺโพหาริกํ. ทุภิยทิวเสปิ อามิเสน สทฺธึ วฏฺฏติ. ภิกฺขุนา ปิตปุปฺผวาสิตกปานียโต สามเณโร ปานียํ คเหตฺวา ปีตาวเสสกํ ตตฺเถว อากิรติ, ปฏิคฺคเหตพฺพํ. ปทุมสราทีสุ อุทกํ สนฺถริตฺวา ิตํ ปุปฺผเรณุํ ฆเฏน วิกฺขมฺเภตฺวา อุทกํ คเหตุํ วฏฺฏติ. กปฺปิยํ การาเปตฺวา ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตํ ทนฺตกฏฺํ โหติ, สเจ ตสฺส รสํ ปิวิตุกาโม, มูลปฏิคฺคหณเมว วฏฺฏติ, อปฺปฏิคฺคเหตฺวา ปิตํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ. อชานนฺตสฺส รเส ปวิฏฺเปิ อาปตฺติเยว. อจิตฺตกฺหิ อิทํ สิกฺขาปทํ.

๑๑๕. มหาภูเตสุ กึ วฏฺฏติ, กึ น วฏฺฏตีติ? ขีรํ ตาว วฏฺฏติ, กปฺปิยมํสขีรํ วา โหตุ อกปฺปิยมํสขีรํ วา, ปิวนฺตสฺส อนาปตฺติ. อสฺสุ เขโฬ สิงฺฆาณิกา มุตฺตํ กรีสํ เสมฺหํ ทนฺตมลํ อกฺขิคูถโก กณฺณคูถโก สรีเร อุฏฺิตโลณนฺติ อิทํ สพฺพํ วฏฺฏติ. ยํ ปเนตฺถ านโต จวิตฺวา ปตฺเต วา หตฺเถ วา ปตติ, ตํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, องฺคลคฺคํ ปฏิคฺคหิตกเมว. อุณฺหปายาสํ ภุฺชนฺตสฺส เสโท องฺคุลิอนุสาเรน เอกาพทฺโธว หุตฺวา ปายาเส สนฺติฏฺติ, ปิณฺฑาย วา จรนฺตสฺส หตฺถโต ปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิโต วา ปตฺตตลํ โอโรหติ, เอตฺถ ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ, ฌามมหาภูเต อิทํ นาม น วฏฺฏตีติ นตฺถิ, ทุชฺฌาปิตํ ปน น วฏฺฏติ. สุชฺฌาปิตํ ปน มนุสฺสฏฺิมฺปิ จุณฺณํ กตฺวา เลเห อุปเนตุํ วฏฺฏติ. จตฺตาริ มหาวิกฏานิ อสติ กปฺปิยการเก สามํ คเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏนฺติ. เอตฺถ จ ทุพฺพโจปิ อสมตฺโถปิ กปฺปิยการโก อสนฺตปกฺเขเยว ติฏฺติ. ฉาริกาย อสติ สุกฺขทารุํ ฌาเปตฺวา ฉาริกา คเหตพฺพา. สุกฺขทารุมฺหิ อสติ อลฺลทารุํ รุกฺขโต ฉินฺทิตฺวาปิ กาตุํ วฏฺฏติ. อิทํ ปน จตุพฺพิธมฺปิ มหาวิกฏํ กาโลทิสฺสํ นาม, สปฺปทฏฺกฺขเณเยว วฏฺฏติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ปฏิคฺคหณวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๒๑. ปวารณาวินิจฺฉยกถา

๑๑๖. ปฏิกฺเขปปวารณาติ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ ภุฺชมาเนน ยสฺส กสฺสจิ อภิหฏโภชนสฺส ปฏิกฺเขปสงฺขาตา ปวารณา. สา จ น เกวลํ ปฏิกฺเขปมตฺเตน โหติ, อถ โข ปฺจงฺควเสน. ตตฺริมานิ ปฺจงฺคานิ – อสนํ, โภชนํ, ทายกสฺส หตฺถปาเส านํ, อภิหาโร, อภิหฏสฺส ปฏิกฺเขโปติ. ตตฺถ อสนนฺติ วิปฺปกตโภชนํ, ภุฺชมาโน เจส ปุคฺคโล โหตีติ อตฺโถ. โภชนนฺติ ปวารณปฺปโหนกํ โภชนํ, โอทนาทีนฺจ อฺตรํ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ โภชนํ โหตีติ อตฺโถ. ทายกสฺส หตฺถปาเส านนฺติ ปวารณปฺปโหนกํ โภชนํ คณฺหิตฺวา ทายกสฺส อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาเณ โอกาเส อวฏฺานํ. อภิหาโรติ หตฺถปาเส ิตสฺส ทายกสฺส กาเยน อภิหาโร. อภิหฏสฺส ปฏิกฺเขโปติ เอวํ อภิหฏสฺส กาเยน วา วาจาย วา ปฏิกฺเขโป. อิติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ องฺคานํ วเสน ปวารณา โหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ปฺจหิ, อุปาลิ, อากาเรหิ ปวารณา ปฺายติ, อสนํ ปฺายติ, โภชนํ ปฺายติ, หตฺถปาเส ิโต, อภิหรติ, ปฏิกฺเขโป ปฺายตี’’ติ (ปริ. ๔๒๘).

๑๑๗. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๙) – ‘‘อสน’’นฺติอาทีสุ ตาว ยํ อสฺนาติ, ยฺจ โภชนํ หตฺถปาเส ิเตน อภิหฏํ ปฏิกฺขิปติ, ตํ โอทโน กุมฺมาโส สตฺตุ มจฺโฉ มํสนฺติ อิเมสํ อฺตรเมว เวทิตพฺพํ. ตตฺถ โอทโน นาม สาลิ วีหิ ยโว โคธุโม กงฺคุ วรโก กุทฺรูสโกติ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ตณฺฑุเลหิ นิพฺพตฺโต. ตตฺร สาลีติ อนฺตมโส นีวารํ อุปาทาย สพฺพาปิ สาลิชาติ. วีหีติ สพฺพาปิ วีหิชาติ. ยวโคธุเมสุ เภโท นตฺถิ. กงฺคูติ เสตรตฺตกาฬเภทา สพฺพาปิ กงฺคุชาติ. วรโกติ อนฺตมโส วรกโจรกํ อุปาทาย สพฺพาปิ เสตวณฺณา วรกชาติ. กุทฺรูสโกติ กาฬกุทฺรูสโก เจว สามากาทิเภทา จ สพฺพาปิ ติณธฺชาติ. นีวารวรกโจรกา เจตฺถ ธฺานุโลมาติ วทนฺติ, ธฺานิ โหนฺตุ ธฺานุโลมานิ วา, เอเตสํ วุตฺตปฺปเภทานํ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ตณฺฑุเล คเหตฺวา ‘‘ภตฺตํ ปจิสฺสามา’’ติ วา ‘‘ยาคุํ ปจิสฺสามา’’ติ วา ‘‘อมฺพิลปายาสาทีสุ อฺตรํ ปจิสฺสามา’’ติ วา ยํ กิฺจิ สนฺธาย ปจนฺตุ, สเจ อุณฺหํ สีตลํ วา ภุฺชนฺตานํ โภชนกาเล คหิตคหิตฏฺาเน โอธิ ปฺายติ, โอทนสงฺคหเมว คจฺฉติ, ปวารณํ ชเนติ. สเจ โอธิ น ปฺายติ, ยาคุสงฺคหํ คจฺฉติ, ปวารณํ น ชเนติ.

โยปิ ปายาโส วา ปณฺณผลกฬีรมิสฺสกา อมฺพิลยาคุ วา อุทฺธนโต โอตาริตมตฺตา อพฺภุณฺหา โหติ อาวชฺชิตฺวา ปิวิตุํ สกฺกา, หตฺเถน คหิโตกาเสปิ โอธึ น ทสฺเสติ, ปวารณํ น ชเนติ. สเจ ปน อุสุมาย วิคตาย สีตลภูตา ฆนภาวํ คจฺฉติ, โอธึ ทสฺเสติ, ปุน ปวารณํ ชเนติ, ปุพฺเพ ตนุภาโว น รกฺขติ. สเจปิ ทธิตกฺกาทีนิ อาโรเปตฺวา พหู ปณฺณผลกฬีเร ปกฺขิปิตฺวา มุฏฺิมตฺตาปิ ตณฺฑุลา ปกฺขิตฺตา โหนฺติ, โภชนกาเล เจ โอธิ ปฺายติ, ปวารณํ ชเนติ. อยาคุเก นิมนฺตเน ‘‘ยาคุํ ทสฺสามา’’ติ ภตฺเต อุทกกฺชิกขีราทีนิ อากิริตฺวา ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ เทนฺติ. กิฺจาปิ ตนุโก โหติ, ปวารณํ ชเนติเยว. สเจ ปน ปกฺกุถิเตสุ อุทกาทีสุ ปกฺขิปิตฺวา ปจิตฺวา เทนฺติ, ยาคุสงฺคหเมว คจฺฉติ. ยาคุสงฺคหํ คเตปิ ตสฺมึ วา อฺสฺมึ วา ยตฺถ มจฺฉมํสํ ปกฺขิปนฺติ, สเจ สาสปมตฺตมฺปิ มจฺฉมํสขณฺฑํ วา นฺหารุ วา ปฺายติ, ปวารณํ ชเนติ, สุทฺธรสโก ปน รสกยาคุ วา น ชเนติ. เปตฺวา วุตฺตธฺตณฺฑุเล อฺเหิ เวณุตณฺฑุลาทีหิ วา กณฺฑมูลผเลหิ วา เยหิ เกหิจิ กตํ ภตฺตมฺปิ ปวารณํ น ชเนติ, ปเคว ฆนยาคุ. สเจ ปเนตฺถ มจฺฉมํสํ ปกฺขิปนฺติ, ชเนติ. มหาปจฺจริยํ ‘‘ปุปฺผิอตฺถาย ภตฺตมฺปิ ปวารณํ ชเนตี’’ติ วุตฺตํ. ปุปฺผิอตฺถาย ภตฺตํ นาม ปุปฺผิขชฺชกตฺถาย กุถิตุทเก ปกฺขิปิตฺวา เสทิตตณฺฑุลา วุจฺจนฺติ. สเจ ปน เต ตณฺฑุเล สุกฺขาเปตฺวา ขาทนฺติ, วฏฺฏติ, เนว สตฺตุสงฺขฺยํ, น ภตฺตสงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ. ปุน เตหิ กตภตฺตํ ปวาเรติเยว. เต ตณฺฑุเล สปฺปิเตลาทีสุ วา ปจนฺติ, ปูวํ วา กโรนฺติ, น ปวาเรนฺติ. ปุถุกา วา ตาหิ กตสตฺตุภตฺตาทีนิ วา น ปวาเรนฺติ.

กุมฺมาโส นาม ยเวหิ กตกุมฺมาโส. อฺเหิ ปน มุคฺคาทีหิ กตกุมฺมาโส ปวารณํ น ชเนติ.

สตฺตุ นาม สาลิวีหิยเวหิ กตสตฺตุ. กงฺคุวรกกุทฺรูสกสีสานิปิ ภชฺชิตฺวา อีสกํ โกฏฺเฏตฺวา ถุเส ปลาเปตฺวา ปุน ทฬฺหํ โกฏฺเฏตฺวา จุณฺณํ กโรนฺติ. สเจปิ ตํ อลฺลตฺตา เอกพทฺธํ โหติ, สตฺตุสงฺคหเมว คจฺฉติ. ขรปากภชฺชิตานํ วีหีนํ ตณฺฑุเล โกฏฺเฏตฺวา เทนฺติ, ตมฺปิ จุณฺณํ สตฺตุสงฺคหเมว คจฺฉติ. สมปากภชฺชิตานํ ปน วีหีนํ วา วีหิปลาสานํ วา ตณฺฑุลา ภชฺชิตตณฺฑุลา เอว วา น ปวาเรนฺติ. เตสํ ปน ตณฺฑุลานํ จุณฺณํ ปวาเรติ, ขรปากภชฺชิตานํ วีหีนํ กุณฺฑกมฺปิ ปวาเรติ. สมปากภชฺชิตานํ ปน อาตปสุกฺขานํ วา กุณฺฑกํ น ปวาเรติ. ลาชา วา เตหิ กตภตฺตสตฺตุอาทีนิ วา น ปวาเรนฺติ, ภชฺชิตปิฏฺํ วา ยํ กิฺจิ สุทฺธขชฺชกํ วา น ปวาเรติ. มจฺฉมํสปูริตขชฺชกํ ปน สตฺตุโมทโก วา ปวาเรติ. มจฺโฉ มํสฺจ ปากฏเมว.

อยํ ปน วิเสโส – สเจ ยาคุํ ปิวนฺตสฺส ยาคุสิตฺถมตฺตาเนว ทฺเว มจฺฉขณฺฑานิ วา มํสขณฺฑานิ วา เอกภาชเน วา นานาภาชเน วา เทนฺติ, ตานิ เจ อขาทนฺโต อฺํ ยํ กิฺจิ ปวารณปฺปโหนกํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. ตโต เอกํ ขาทิตํ, เอกํ หตฺเถ วา ปตฺเต วา โหติ, โส เจ อฺํ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. ทฺเวปิ ขาทิตานิ โหนฺติ, มุเข สาสปมตฺตมฺปิ อวสิฏฺํ นตฺถิ, สเจปิ อฺํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กปฺปิยมํสํ ขาทนฺโต กปฺปิยมํสํ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. กปฺปิยมํสํ ขาทนฺโต อกปฺปิยมํสํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กสฺมา? อวตฺถุตาย. ยฺหิ ภิกฺขุโน ขาทิตุํ วฏฺฏติ, ตํเยว ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ. อิทํ ปน ชานนฺโต อกปฺปิยตฺตา ปฏิกฺขิปติ, อชานนฺโตปิ ปฏิกฺขิปิตพฺพฏฺาเน ิตเมว ปฏิกฺขิปติ นาม, ตสฺมา น ปวาเรติ. สเจ ปน อกปฺปิยมํสํ ขาทนฺโต กปฺปิยมํสํ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. กสฺมา? วตฺถุตาย. ยฺหิ เตน ปฏิกฺขิตฺตํ, ตํ ปวารณาย วตฺถุ, ยํ ปน ขาทติ, ตํ กิฺจาปิ ปฏิกฺขิปิตพฺพฏฺาเน ิตํ, ขาทิยมานํ ปน มํสภาวํ น ชหติ, ตสฺมา ปวาเรติ. อกปฺปิยมํสํ วา ขาทนฺโต อกปฺปิยมํสํ ปฏิกฺขิปติ, ปุริมนเยเนว น ปวาเรติ. กปฺปิยมํสํ วา อกปฺปิยมํสํ วา ขาทนฺโต ปฺจนฺนํ โภชนานํ ยํ กิฺจิ กปฺปิยโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. กุลทูสกเวชฺชกมฺมอุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนสาทิตรูปิยาทีหิ นิพฺพตฺตํ พุทฺธปฏิกุฏฺํ อเนสนาย อุปฺปนฺนํ อกปฺปิยโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กปฺปิยโภชนํ วา อกปฺปิยโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กปฺปิยโภชนํ วา อกปฺปิยโภชนํ วา ภุฺชนฺโตปิ กปฺปิยโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. อกปฺปิยโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรตีติ สพฺพตฺถ วุตฺตนเยเนว การณํ เวทิตพฺพํ.

๑๑๘. เอวํ ‘‘อสน’’นฺติอาทีสุ ยฺจ อสฺนาติ, ยฺจ โภชนํ หตฺถปาเส ิเตน อภิหฏํ ปฏิกฺขิปนฺโต ปวารณํ อาปชฺชติ, ตํ อุตฺวา อิทานิ ยถา อาปชฺชติ, ตสฺส ชานนตฺถํ อยํ วินิจฺฉโย – อสนํ โภชนนฺติ เอตฺถ ตาว เยน เอกสิตฺถมฺปิ อชฺโฌหฏํ โหติ โส สเจ ปตฺตมุขหตฺถานํ ยตฺถ กตฺถจิ ปฺจสุ โภชเนสุ เอกสฺมิมฺปิ สติ อฺํ ปฺจสุ โภชเนสุ เอกมฺปิ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. กตฺถจิ โภชนํ นตฺถิ, อามิสคนฺธมตฺตํ ปฺายติ, น ปวาเรติ. มุเข จ หตฺเถ จ โภชนํ นตฺถิ, ปตฺเต อตฺถิ, ตสฺมึ ปน อาสเน อภุฺชิตุกาโม, วิหารํ วา ปวิสิตฺวา ภุฺชิตุกาโม, อฺสฺส วา ทาตุกาโม ตสฺมึ เจ อนฺตเร โภชนํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กสฺมา? วิปฺปกตโภชนภาวสฺส อุปจฺฉินฺนตฺตา. ‘‘โยปิ อฺตฺร คนฺตฺวา ภุฺชิตุกาโม มุเข ภตฺตํ คิลิตฺวา เสสํ อาทาย คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค อฺํ โภชนํ ปฏิกฺขิปติ, ตสฺสปิ ปวารณา น โหตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ยถา จ ปตฺเต, เอวํ หตฺเถปิ. มุเขปิ วา วิชฺชมานํ โภชนํ สเจ อนชฺโฌหริตุกาโม โหติ, ตสฺมิฺจ ขเณ อฺํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. เอกสฺมิฺหิ ปเท วุตฺตํ ลกฺขณํ สพฺพตฺถ เวทิตพฺพํ โหติ. อปิจ กุรุนฺทิยํ เอส นโย ทสฺสิโตเยว. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘มุเข ภตฺตํ คิลิตํ, หตฺเถ ภตฺตํ วิฆาสาทสฺส ทาตุกาโม, ปตฺเต ภตฺตํ ภิกฺขุสฺส ทาตุกาโม, สเจ ตสฺมึ ขเณ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรตี’’ติ.

หตฺถปาเส ิโตติ เอตฺถ ปน สเจ ภิกฺขุ นิสินฺโน โหติ, อาสนสฺส ปจฺฉิมนฺตโต ปฏฺาย, สเจ ิโต, ปณฺหิอนฺตโต ปฏฺาย, สเจ นิปนฺโน, เยน ปสฺเสน นิปนฺโน, ตสฺส ปาริมนฺตโต ปฏฺาย, ทายกสฺส นิสินฺนสฺส วา ิตสฺส วา นิปนฺนสฺส วา เปตฺวา ปสาริตหตฺถํ ยํ อาสนฺนตรํ องฺคํ, ตสฺส โอริมนฺเตน ปริจฺฉินฺทิตฺวา อฑฺฒเตยฺยหตฺโถ ‘‘หตฺถปาโส’’ติ เวทิตพฺโพ. ตสฺมึ ตฺวา อภิหฏํ ปฏิกฺขิปนฺตสฺเสว ปวารณา โหติ, น ตโต ปรํ.

อภิหรตีติ หตฺถปาสพฺภนฺตเร ิโต คหณตฺถํ อุปนาเมติ. สเจ ปน อนนฺตรนิสินฺโนปิ ภิกฺขุ หตฺเถ วา อูรูสุ วา อาธารเก วา ิตํ ปตฺตํ อนภิหริตฺวา ‘‘ภตฺตํ คณฺหาหี’’ติ วทติ, ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถิ. ภตฺตปจฺฉึ อาเนตฺวา ปุรโต ภูมิยํ เปตฺวา ‘‘คณฺหาหี’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. อีสกํ ปน อุทฺธริตฺวา วา อปนาเมตฺวา วา ‘‘คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ. เถราสเน นิสินฺโน เถโร ทูเร นิสินฺนสฺส ทหรภิกฺขุสฺส ปตฺตํ เปเสตฺวา ‘‘อิโต โอทนํ คณฺหาหี’’ติ วทติ, คณฺหิตฺวา ปน คโต ตุณฺหี ติฏฺติ, ทหโร ‘‘อลํ มยฺห’’นฺติ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กสฺมา? เถรสฺส ทูรภาวโต ทูตสฺส จ อนภิหรณโต. สเจ ปน คเหตฺวา อาคโต ภิกฺขุ ‘‘อิทํ ภตฺตํ คณฺหา’’ติ วทติ, ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ. ปริเวสนายเอโก เอเกน หตฺเถน โอทนปจฺฉึ, เอเกน กฏจฺฉุํ คเหตฺวา ภิกฺขุํ ปริวิสติ, ตตฺร เจ อฺโ อาคนฺตฺวา ‘‘อหํ ปจฺฉึ ธาเรสฺสามิ, ตฺวํ โอทนํ เทหี’’ติ วตฺวา คหิตมตฺตเมว กโรติ, ปริเวสโก เอว ปน ตํ ธาเรติ, ตสฺมา สา อภิหฏาว โหติ, ตโต ทาตุกามตาย คณฺหนฺตํ ปฏิกฺขิปนฺตสฺส ปวารณา โหติ. สเจ ปน ปริเวสเกน ผุฏฺมตฺตาว โหติ, อิตโรว นํ ธาเรติ, ตโต ทาตุกามตาย คณฺหนฺตํ ปฏิกฺขิปนฺตสฺส ปวารณา น โหติ, กฏจฺฉุนา อุทฺธฏภตฺเต ปน โหติ. กฏจฺฉุนา อภิหาโรเยว หิ ตสฺส อภิหาโร. ‘‘ทฺวินฺนํ สมภาเรปิ ปฏิกฺขิปนฺโต ปวาเรติเยวา’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. อนนฺตรสฺส ภิกฺขุโน ภตฺเต ทียมาเน อิตโร ปตฺตํ หตฺเถน ปิทหติ, ปวารณา นตฺถิ. กสฺมา? อฺสฺส อภิหเฏ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา.

ปฏิกฺเขโป ปฺายตีติ เอตฺถ วาจาย อภิหฏํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถิ, กาเยน อภิหฏํ ปน เยน เกนจิ อากาเรน กาเยน วา วาจาย วา ปฏิกฺขิปนฺตสฺส ปวารณา โหตีติ เวทิตพฺโพ. ตตฺร กาเยน ปฏิกฺเขโป นาม องฺคุลึ วา หตฺถํ วา มกฺขิกาพีชนึ วา จีวรกณฺณํ วา จาเลติ, ภมุกาย วา อาการํ กโรติ, กุทฺโธ วา โอโลเกติ. วาจาย ปฏิกฺเขโป นาม ‘‘อล’’นฺติ วา ‘‘น คณฺหามี’’ติ วา ‘‘มา อากิรา’’ติ วา ‘‘อปคจฺฉา’’ติ วา วทติ. เอวํ เยน เกนจิ อากาเรน กาเยน วา วาจาย วา ปฏิกฺขิตฺเต ปวารณา โหติ.

๑๑๙. เอโก อภิหเฏ ภตฺเต ปวารณาย ภีโต หตฺเถ อปเนตฺวา ปุนปฺปุนํ ปตฺเต โอทนํ อากิรนฺตํ ‘‘อากิร อากิร, โกฏฺเฏตฺวา โกฏฺเฏตฺวา ปูเรหี’’ติ วทติ, เอตฺถ กถนฺติ? มหาสุมตฺเถโร ตาว ‘‘อนากิรณตฺถาย วุตฺตตฺตา ปวารณา โหตี’’ติ อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘อากิร ปูเรหีติ วทนฺตสฺส นาม กสฺสจิ ปวารณา อตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘น ปวาเรตี’’ติ อาห.

อปโร ภตฺตํ อภิหรนฺตํ ภิกฺขุํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘กึ, อาวุโส, อิโตปิ กิฺจิ คณฺหิสฺสสิ, ทมฺมิ เต กิฺจี’’ติ อาห, ตตฺราปิ ‘‘เอวํ นาคมิสฺสตีติ วุตฺตตฺตา ปวารณา โหตี’’ติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘คณฺหิสฺสสีติ วทนฺตสฺส นาม กสฺสจิ ปวารณา อตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘น ปวาเรตี’’ติ อาห.

เอโก สมํสกํ รสํ อภิหริตฺวา ‘‘รสํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ตํ สุตฺวา ปฏิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถิ. ‘‘มจฺฉมํสรส’’นฺติ วุตฺเต ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ, ‘‘อิทํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเตปิ โหติเยว. มํสํ วิสุํ กตฺวา ‘‘มํสรสํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ‘‘ตตฺถ เจ สาสปมตฺตมฺปิ มํสขณฺฑํ อตฺถิ, ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ. สเจ ปน ปริสฺสาวิโต โหติ, วฏฺฏตี’’ติ อภยตฺเถโร อาห.

มํสรเสน อาปุจฺฉนฺตํ มหาเถโร ‘‘มุหุตฺตํ อาคเมหี’’ติ วตฺวา ‘‘ถาลกํ, อาวุโส, อาหรา’’ติ อาห, เอตฺถ กถนฺติ? มหาสุมตฺเถโร ตาว ‘‘อภิหารกสฺส คมนํ อุปจฺฉินฺนํ, ตสฺมา ปวาเรตี’’ติ อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘อยํ กุหึ คจฺฉติ, กีทิสํ เอตสฺส คมนํ, คณฺหนฺตสฺสปิ นาม กสฺสจิ ปวารณา อตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘น ปวาเรตี’’ติ อาห.

กฬีรปนสาทีหิ มิสฺเสตฺวา มํสํ ปจนฺติ, ตํ คเหตฺวา ‘‘กฬีรสูปํ คณฺหถ, ปนสพฺยฺชนํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, เอวมฺปิ น ปวาเรติ. กสฺมา? อปวารณารหสฺส นาเมน วุตฺตตฺตา. สเจ ปน ‘‘มจฺฉสูปํ มํสสูป’’นฺติ วา ‘‘อิทํ คณฺหถา’’ติ วา วทนฺติ, ปวาเรติ, มํสกรมฺพโก นาม โหติ. ตํ ทาตุกาโมปิ ‘‘กรมฺพกํ คณฺหถา’’ติ วทติ, วฏฺฏติ, น ปวาเรติ, ‘‘มํสกรมฺพก’’นฺติ วา ‘‘อิท’’นฺติ วา วุตฺเต ปน ปวาเรติ. เอส นโย สพฺเพสุ มจฺฉมํสมิสฺสเกสุ.

๑๒๐. ‘‘โย ปน นิมนฺตเน ภุฺชมาโน มํสํ อภิหฏํ ‘อุทฺทิสฺสกต’นฺติ มฺมาโน ปฏิกฺขิปติ, ปวาริโตว โหตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. มิสฺสกกถา ปน กุรุนฺทิยํ สุฏฺุ วุตฺตา. เอวฺหิ ตตฺถ วุตฺตํ – ปิณฺฑจาริโก ภิกฺขุ ภตฺตมิสฺสกํ ยาคุํ อาหริตฺวา ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ วทติ, น ปวาเรติ, ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ปวาเรติ. กสฺมา? เยนาปุจฺฉิโต, ตสฺส อตฺถิตาย. อยเมตฺถ อธิปฺปาโย – ‘‘ยาคุมิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ตตฺร เจ ยาคุ พหุตรา วา โหติ สมสมา วา, น ปวาเรติ. ยาคุ มนฺทา, ภตฺตํ พหุตรํ, ปวาเรติ. อิทฺจ สพฺพอฏฺกถาสุ วุตฺตตฺตา น สกฺกา ปฏิกฺขิปิตุํ, การณํ ปเนตฺถ ทุทฺทสํ. ‘‘ภตฺตมิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ภตฺตํ พหุตรํ วา สมํ วา อปฺปตรํ วา โหติ, ปวาเรติเยว. ภตฺตํ วา ยาคุํ วา อนามสิตฺวา ‘‘มิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ตตฺร เจ ภตฺตํ พหุตรํ วา สมกํ วา โหติ, ปวาเรติ, อปฺปตรํ น ปวาเรติ, อิทฺจ กรมฺพเกน น สมาเนตพฺพํ. กรมฺพโก หิ มํสมิสฺสโกปิ โหติ อมํสมิสฺสโกปิ, ตสฺมา กรมฺพกนฺติ วุตฺเต ปวารณา นตฺถิ, อิทํ ปน ภตฺตมิสฺสกเมว. เอตฺถ วุตฺตนเยเนว ปวารณา โหติ. พหุรเส ภตฺเต รสํ, พหุขีเร ขีรํ, พหุสปฺปิมฺหิ จ ปายาเส สปฺปึ คณฺหถาติ วิสุํ กตฺวา เทติ, ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถิ.

โย ปน คจฺฉนฺโต ปวาเรติ, โส คจฺฉนฺโตว ภุฺชิตุํ ลภติ. กทฺทมํ วา อุทกํ วา ปตฺวา ิเตน อติริตฺตํ กาเรตพฺพํ. สเจ อนฺตรา นที ปูรา โหติ, นทีตีเร คุมฺพํ อนุปริยายนฺเตน ภุฺชิตพฺพํ. อถ นาวา วา เสตุ วา อตฺถิ, ตํ อภิรุหิตฺวาปิ จงฺกมนฺเตเนว ภุฺชิตพฺพํ, คมนํ น อุปจฺฉินฺทิตพฺพํ. ยาเน วา หตฺถิอสฺสปิฏฺเ วา จนฺทมณฺฑเล วา สูริยมณฺฑเล วา นิสีทิตฺวา ปวาริเตน ยาว มชฺฌนฺหิกํ, ตาว เตสุ คจฺฉนฺเตสุปิ นิสินฺเนเนว ภุฺชิตพฺพํ. โย ิโต ปวาเรติ, ิเตเนว, โย นิสินฺโน ปวาเรติ, นิสินฺเนเนว ปริภุฺชิตพฺพํ, ตํ ตํ อิริยาปถํ วิโกเปนฺเตน อติริตฺตํ กาเรตพฺพํ. โย อุกฺกุฏิโก นิสีทิตฺวา ปวาเรติ, เตน อุกฺกุฏิเกเนว ภุฺชิตพฺพํ. ตสฺส ปน เหฏฺา ปลาลปีํ วา กิฺจิ วา นิสีทนกํ ทาตพฺพํ. ปีเก นิสีทิตฺวา ปวาริเตน อาสนํ อจาเลตฺวาว จตสฺโส ทิสา ปริวตฺตนฺเตน ภุฺชิตุํ ลพฺภติ. มฺเจ นิสีทิตฺวา ปวาริเตน อิโต วา เอตฺโต วา สฺจริตุํ น ลพฺภติ. สเจ ปน นํ สห มฺเจน อุกฺขิปิตฺวา อฺตฺร เนนฺติ, วฏฺฏติ. นิปชฺชิตฺวา ปวาริเตน นิปนฺเนเนว ปริภุฺชิตพฺพํ. ปริวตฺตนฺเตน เยน ปสฺเสน นิปนฺโน, ตสฺส านํ นาติกฺกเมตพฺพํ.

๑๒๑. ปวาริเตน ปน กึกาตพฺพนฺติ? เยน อิริยาปเถน ปวาริโต โหติ, ตํ วิโกเปตฺวา อฺเน อิริยาปเถน เจ ภุฺชติ, อติริตฺตํ การาเปตฺวา ภุฺชิตพฺพํ. อนติริตฺตํ ปน ยํ กิฺจิ ยาวกาลิกสงฺคหิตํ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาทติ วา ภุฺชติ วา, อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ปาจิตฺติยํ.

ตตฺถ อนติริตฺตํ นาม นาติริตฺตํ, น อธิกนฺติ อตฺโถ. ตํ ปน ยสฺมา กปฺปิยกตาทีหิ สตฺตหิ วินยกมฺมากาเรหิ อกตํ วา คิลานสฺส อนธิกํ วา โหติ, ตสฺมา ปทภาชเน วุตฺตํ –

‘‘อนติริตฺตํ นาม อกปฺปิยกตํ โหติ, อปฺปฏิคฺคหิตกตํ โหติ, อนุจฺจาริตกตํ โหติ, อหตฺถปาเส กตํ โหติ, อภุตฺตาวินา กตํ โหติ, ภุตฺตาวินา จ ปวาริเตน อาสนา วุฏฺิเตน กตํ โหติ, ‘อลเมตํ สพฺพ’นฺติ อวุตฺตํ โหติ, น คิลานาติริตฺตํ โหติ, เอตํ อนติริตฺตํ นามา’’ติ (ปาจิ. ๒๓๙).

ตตฺถ อกปฺปิยกตนฺติ ยํ ตตฺถ ผลํ วา กนฺทมูลาทึ วา ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ กปฺปิยํ อกตํ, ยฺจ อกปฺปิยมํสํ วา อกปฺปิยโภชนํ วา, เอตํ อกปฺปิยํ นาม. ตํ อกปฺปิยํ ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ เอวํ อติริตฺตํ กตมฺปิ ‘‘อกปฺปิยกต’’นฺติ เวทิตพฺพํ. อปฺปฏิคฺคหิตกตนฺติ ภิกฺขุนา อปฺปฏิคฺคหิตํเยว ปุริมนเยน อติริตฺตํ กตํ. อนุจฺจาริตกตนฺติ กปฺปิยํ กาเรตุํ อาคเตน ภิกฺขุนา อีสกมฺปิ อนุกฺขิตฺตํ วา อนปนามิตํ วา กตํ. อหตฺถปาเส กตนฺติ กปฺปิยํ กาเรตุํ อาคตสฺส หตฺถปาสโต พหิ ิเตน กตํ. อภุตฺตาวินา กตนฺติ โย ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ อติริตฺตํ กโรติ, เตน ปวารณปฺปโหนกโภชนํ อภุตฺเตน กตํ. ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อาสนา วุฏฺิเตน กตนฺติ อิทํ อุตฺตานเมว. ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ อวุตฺตนฺติ วจีเภทํ กตฺวา เอวํ อวุตฺตํ โหติ. อิติ อิเมหิ สตฺตหิ วินยกมฺมากาเรหิ ยํ อติริตฺตํ กปฺปิยํ อกตํ, ยฺจ น คิลานาติริตฺตํ, ตทุภยมฺปิ ‘‘อนติริตฺต’’นฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๒๒. อติริตฺตํ ปน ตสฺเสว ปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺพํ. เตเนว วุตฺตํ ปทภาชเน –

‘‘อติริตฺตํ นาม กปฺปิยกตํ โหติ, ปฏิคฺคหิตกตํ โหติ, อุจฺจาริตกตํ โหติ, หตฺถปาเส กตํ โหติ, ภุตฺตาวินา กตํ โหติ, ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อาสนา อวุฏฺิเตน กตํ โหติ, ‘อลเมตํ สพฺพ’นฺติ วุตฺตํ โหติ, คิลานาติริตฺตํ โหติ, เอตํ อติริตฺตํ นามา’’ติ (ปาจิ. ๒๓๙).

อปิเจตฺถ ภุตฺตาวินา กตํ โหตีติ อนนฺตรนิสินฺนสฺส สภาคสฺส ภิกฺขุโน ปตฺตโต เอกมฺปิ สิตฺถํ วา มํสหีรํ วา ขาทิตฺวา กตมฺปิ ‘‘ภุตฺตาวินาว กตํ โหตี’’ติ เวทิตพฺพํ. อาสนา อวุฏฺิเตนาติ เอตฺถ ปน อสมฺโมหตฺถํ อยํ วินิจฺฉโย – ทฺเว ภิกฺขู ปาโตเยว ภุฺชมานา ปวาริตา โหนฺติ, เอเกน ตตฺเถว นิสีทิตพฺพํ, อิตเรน นิจฺจภตฺตํ วา สลากภตฺตํ วา อาเนตฺวา อุปฑฺฒํ ตสฺส ภิกฺขุโน ปตฺเต อากิริตฺวา หตฺถํ โธวิตฺวา เสสํ เตน ภิกฺขุนา กปฺปิยํ การาเปตฺวา ภุฺชิตพฺพํ. กสฺมา? ยฺหิ ตสฺส หตฺเถ ลคฺคํ, ตํ อกปฺปิยํ โหติ. สเจ ปน ปมํ นิสินฺโน ภิกฺขุ สยเมว ตสฺส ปตฺตโต หตฺเถน คณฺหาติ, หตฺถโธวนกิจฺจํ นตฺถิ. สเจ ปน เอวํ ‘กปฺปิยํ กาเรตฺวา ภุฺชนฺตสฺส ปุน กิฺจิ พฺยฺชนํ วา ขาทนียํ วา ปตฺเต อากิร’นฺติ เยน ปมํ กปฺปิยํ กตํ โหติ, โส ปุน กาตุํ น ลภติ. เยน อกตํ, เตน กาตพฺพํ, ยฺจ อกตํ, ตํ กาตพฺพํ. เยน อกตนฺติ อฺเน ภิกฺขุนา เยน ปมํ น กตํ, เตน กาตพฺพํ. ยฺจ อกตนฺติ เยน ปมํ กปฺปิยํ กตํ, เตนปิ ยํ อกตํ, ตํ กาตพฺพํ. ปมภาชเน ปน กาตุํ น ลพฺภติ. ตตฺถ หิ กริยมาเน ปมํ กเตน สทฺธึ กตํ โหติ, ตสฺมา อฺสฺมึ ภาชเน กาตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. เอวํ กตํ ปน เตน ภิกฺขุนา ปมํ กเตน สทฺธึ ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ.

กปฺปิยํ กโรนฺเตน จ น เกวลํ ปตฺเตเยว, กุณฺเฑปิ ปจฺฉิยมฺปิ ยตฺถ กตฺถจิ ปุรโต เปตฺวา โอนามิตภาชเน กาตพฺพํ. ตํ สเจ ภิกฺขุสตํ ปวาริตํ โหติ, สพฺเพสํ ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, อปฺปวาริตานมฺปิ วฏฺฏติ. เยน ปน กปฺปิยํ กตํ, ตสฺส น วฏฺฏติ. สเจปิ ปวาเรตฺวา ปิณฺฑาย ปวิฏฺํ ภิกฺขุํ ปตฺตํ คเหตฺวา อวสฺสํ ภุฺชนเก มงฺคลนิมนฺตเน นิสีทาเปนฺติ, อติริตฺตํ การาเปตฺวาว ภุฺชิตพฺพํ. สเจ ตตฺถ อฺโ ภิกฺขุ นตฺถิ, อาสนสาลํ วา วิหารํ วา ปตฺตํ เปเสตฺวา กาเรตพฺพํ, กปฺปิยํ กโรนฺเตน ปน อนุปสมฺปนฺนสฺส หตฺเถ ิตํ น กาตพฺพํ. สเจ อาสนสาลายํ อพฺยตฺโต ภิกฺขุ โหติ, สยํ คนฺตฺวา กปฺปิยํ การาเปตฺวา อาเนตฺวา ภุฺชิตพฺพํ.

คิลานาติริตฺตนฺติ เอตฺถ น เกวลํ ยํ คิลานสฺส ภุตฺตาวเสสํ โหติ, ตํ คิลานาติริตฺตํ, อถ โข ยํ กิฺจิ คิลานํ อุทฺทิสฺส ‘‘อชฺช วา ยทา วา อิจฺฉติ, ตทา ขาทิสฺสตี’’ติ อาหฏํ, ตํ สพฺพํ คิลานาติริตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยามกาลิกํ ปน สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ วา ยํ กิฺจิ อนติริตฺตํ อาหารตฺถาย ปริภุฺชนฺตสฺส อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ทุกฺกฏํ. สเจ ปน ยามกาลิกาทีนิ อามิสสํสฏฺานิ โหนฺติ, อาหารตฺถายปิ อนาหารตฺถายปิ ปฏิคฺคเหตฺวา อชฺโฌหรนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว, อสํสฏฺานิ ปน สติ ปจฺจเย ภุฺชนฺตสฺส อนาปตฺติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ปวารณาวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๒๒. ปพฺพชฺชาวินิจฺฉยกถา

๑๒๓. ปพฺพชฺชาติ เอตฺถ ปน ปพฺพชฺชาเปกฺขํ กุลปุตฺตํ ปพฺพาเชนฺเตน เย ปาฬิยํ ‘‘น ภิกฺขเว ปฺจหิ อาพาเธหิ ผุฏฺโ ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติอาทินา (มหาว. ๘๙) ปฏิกฺขิตฺตา ปุคฺคลา, เต วชฺเชตฺวา ปพฺพชฺชาโทสวิรหิโต ปุคฺคโล ปพฺพาเชตพฺโพ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (มหาว. อฏฺ. ๘๘) – กุฏฺํ คณฺโฑ กิลาโส โสโส อปมาโรติ อิเมหิ ปฺจหิ อาพาเธหิ ผุฏฺโ น ปพฺพาเชตพฺโพ, ปพฺพาเชนฺโต ปน ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ ‘‘โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา. ตตฺถ กุฏฺนฺติ รตฺตกุฏฺํ วา โหตุ กาฬกุฏฺํ วา, ยํ กิฺจิ กิฏิภททฺทอุกจฺฉุอาทิปฺปเภทมฺปิ สพฺพํ กุฏฺเมวาติ วุตฺตํ. ตฺเจ นขปิฏฺิปฺปมาณมฺปิ วฑฺฒนกปกฺเข ิตํ โหติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน นิวาสนปาวุรเณหิ ปกติปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน นขปิฏฺิปฺปมาณํ อวฑฺฒนกปกฺเข ิตํ โหติ, วฏฺฏติ. ‘‘มุเข ปน หตฺถปาทปิฏฺีสุ วา สเจปิ อวฑฺฒนกปกฺเข ิตํ, นขปิฏฺิโต จ ขุทฺทกตรมฺปิ น วฏฺฏติเยวา’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ติกิจฺฉาเปตฺวา ปพฺพาเชนฺเตนปิ ปกติวณฺเณ ชาเตเยว ปพฺพาเชตพฺโพ, โคธาปิฏฺิสทิสจุณฺณโอกิรณสรีรมฺปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ.

คณฺโฑติ เมทคณฺโฑ วา โหตุ อฺโ วา, โย โกจิ โกลฏฺิมตฺตโกปิ เจ วฑฺฒนกปกฺเข ิโต คณฺโฑ โหติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน ปน โกลฏฺิมตฺเต อวฑฺฒนกปกฺเข ิเต วฏฺฏติ, มุขาทิเก อปฺปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน อวฑฺฒนกปกฺเข ิเตปิ น วฏฺฏติ. ติกิจฺฉาเปตฺวา ปพฺพาเชนฺเตนปิ สรีรํ สจฺฉวึ การาเปตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. อุณฺณิคณฺฑา นาม โหนฺติ โคถนกา วิย องฺคุลิกา วิย จ ตตฺถ ตตฺถ ลมฺพนฺติ, เอเตปิ คณฺฑาเยว, เตสุ สติ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. ทหรกาเล ขีรปีฬกา โยพฺพนฺนกาเล จ มุเข ขรปีฬกา นาม โหนฺติ, มหลฺลกกาเล นสฺสนฺติ, น ตา คณฺฑสงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ, ตาสุ สติ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อฺา ปน สรีเร ขรปีฬกา นาม, อปรา ปทุมกณฺณิกา นาม โหนฺติ, อฺา สาสปพีชกา นาม สาสปมตฺตาเยว สกลสรีรํ ผรนฺติ, สพฺพา กุฏฺชาติกาว, ตาสุ สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

กิลาโสติ น ภิชฺชนกํ น ปคฺฆรณกํ ปทุมปุณฺฑรีกปตฺตวณฺณํ กุฏฺํ. เยน คุนฺนํ วิย สพลํ สรีรํ โหติ, ตสฺมึ กุฏฺเ วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. โสโสติ โสสพฺยาธิ. ตสฺมึ สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ. อปมาโรติ ปิตฺตุมฺมาโท วา ยกฺขุมฺมาโท วา. ตตฺถ ปุพฺพเวริเกน อมนุสฺเสน คหิโต ทุตฺติกิจฺโฉ โหติ, อปฺปมตฺตเกปิ ปน อปมาเร สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

๑๒๔. ‘‘น, ภิกฺขเว, ราชภโฏ ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๐) วจนโต ราชภโฏปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ. เอตฺถ จ อมจฺโจ วา โหตุ มหามตฺโต วา เสวโก วา กิฺจิ านนฺตรํ ปตฺโต วา อปฺปตฺโต วา, โย โกจิ รฺโ ภตฺตเวตนภโฏ, สพฺโพ ราชภโฏติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. ตสฺส ปน ปุตฺตนตฺตภาตุกา เย ราชโต ภตฺตเวตนํ น คณฺหนฺติ, เต ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. โย ปน ราชโต ลทฺธํ นิพทฺธโภคํ วา มาสสํวจฺฉรปริพฺพยํ วา รฺโเยว นิยฺยาเทติ, ปุตฺตภาตุเก วา ตํ านํ สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา ราชานํ ‘‘น ทานาหํ เทวสฺส ภโฏ’’ติ อาปุจฺฉติ, เยน วา ยํการณา เวตนํ คหิตํ, ตํ กมฺมํ กตํ โหติ, โย วา ‘‘ปพฺพชสฺสู’’ติ รฺา อนุฺาโต โหติ, ตมฺปิ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

๑๒๕. โจโรปิ ธชพนฺโธ น ปพฺพาเชตพฺโพ ‘‘น, ภิกฺขเว, ธชพนฺโธ โจโร ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๑) วุตฺตตฺตา. ตตฺถ ธชํ พนฺธิตฺวา วิย วิจรตีติ ธชพนฺโธ, มูลเทวาทโย วิย โลเก ปากโฏติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมา โย คามฆาตํ วา ปนฺถทุหนํ วา นคเร สนฺธิจฺเฉทาทิกมฺมํ วา กโรนฺโต วิจรติ, ปฺายติ จ ‘‘อสุโก นาม อิทํ อิทํ กโรตี’’ติ, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปน ราชปุตฺโต รชฺชํ ปตฺเถนฺโต คามฆาตาทีนิ กโรติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพ. ราชาโน หิ ตสฺมึ ปพฺพชิเต ตุสฺสนฺติ, สเจ ปน น ตุสฺสนฺติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. ปุพฺเพ มหาชเน ปากโฏ โจโร ปจฺฉา โจรกมฺมํ ปหาย ปฺจ สีลานิ สมาทิยติ, ตฺเจ มนุสฺสา เอวํ ชานนฺติ, ปพฺพาเชตพฺโพ. เย ปน อมฺพลพุชาทิโจรกา สนฺธิจฺเฉทาทิโจรา เอว วา อทิสฺสมานา เถยฺยํ กโรนฺติ, ปจฺฉาปิ ‘‘อิมินา นาม อิทํ กต’’นฺติ น ปฺายนฺติ, เตปิ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

๑๒๖. การเภทโก ปน โจโร น ปพฺพาเชตพฺโพ ‘‘น, ภิกฺขเว, การเภทโก โจโร ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๒) วุตฺตตฺตา. ตตฺถ กาโร วุจฺจติ พนฺธนาคารํ. อิธ ปน อนฺทุพนฺธนํ วา โหตุ สงฺขลิกพนฺธนํ วา รชฺชุพนฺธนํ วา คามพนฺธนํ วา นิคมพนฺธนํ วา นครพนฺธนํ วา ปุริสคุตฺติ วา ชนปทพนฺธนํ วา ทีปพนฺธนํ วา, โย เอเตสุ ยํ กิฺจิ พนฺธนํ ภินฺทิตฺวา วา ฉินฺทิตฺวา วา มุฺจิตฺวา วา วิวริตฺวา วา อปสฺสมานานํ วา ปลายติ, โส การเภทโกติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ตสฺมา อีทิโส การเภทโก โจโร ทีปพนฺธนํ ภินฺทิตฺวา ทีปนฺตรํ คโตปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปน น โจโร, เกวลํ หตฺถกมฺมํ อกโรนฺโต ‘‘เอวํ โน อปลายนฺโต กริสฺสตี’’ติ ราชยุตฺตาทีหิ พทฺโธ, โส การํ ภินฺทิตฺวา ปลาโตปิ ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปน คามนิคมปฏฺฏนาทีนิ เกณิยา คเหตฺวา ตํ อสมฺปาเทนฺโต พนฺธนาคารํ ปเวสิโต โหติ, โสปิ ปลายิตฺวา อาคโต น ปพฺพาเชตพฺโพ. โยปิ กสิกมฺมาทีหิ ธนํ สมฺปาเทตฺวา ชีวนฺโต ‘‘นิธานํ อิมินา ลทฺธ’’นฺติ เปสุฺํ อุปสํหริตฺวา เกนจิ พนฺธาปิโต โหติ, ตํ ตตฺเถว ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ, ปลายิตฺวา คตํ ปน คตฏฺาเน ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

๑๒๗. ‘‘น, ภิกฺขเว, ลิขิตโก โจโร ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๓) วจนโต ปน ลิขิตโก โจโร น ปพฺพาเชตพฺโพ. ตตฺถ ลิขิตโก นาม โย โกจิ โจริกํ วา อฺํ วา ครุํ ราชาปราธํ กตฺวา ปลาโต, ราชา จ นํ ปณฺเณ วา โปตฺถเก วา ‘‘อิตฺถนฺนาโม ยตฺถ ทิสฺสติ, ตตฺถ คเหตฺวา มาเรตพฺโพ’’ติ วา ‘‘หตฺถปาทาทีนิ อสฺส ฉินฺทิตพฺพานี’’ติ วา ‘‘เอตฺตกํ นาม ทณฺฑํ อาหราเปตพฺโพ’’ติ วา ลิขาเปติ, อยํ ลิขิตโก นาม, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ.

๑๒๘. กสาหโต กตทณฺฑกมฺโมปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ ‘‘น, ภิกฺขเว, กสาหโต กตทณฺฑกมฺโม ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๔) วจนโต. เอตฺถ ปน โย วจนเปสนาทีนิ อกโรนฺโต หฺติ, น โส กตทณฺฑกมฺโม. โย ปน เกณิยา วา อฺถา วา กิฺจิ คเหตฺวา ขาทิตฺวา ปุน ทาตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘อยเมว เต ทณฺโฑ โหตู’’ติ กสาหิ หฺติ, อยเมว กสาหโต กตทณฺฑกมฺโม. โส จ กสาหิ วา หโต โหตุ อฑฺฒทณฺฑกาทีนํ วา อฺตเรน, ยาว อลฺลวโณ โหติ, น ตาว ปพฺพาเชตพฺโพ, วเณ ปน ปากติเก กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน ชาณูหิ วา กปฺปเรหิ วา นาฬิเกรปาสาณาทีหิ วา ฆาเตตฺวา มุตฺโต โหติ, สรีเร จสฺส คณฺิโย ปฺายนฺติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ, ผาสุกํ กตฺวา เอว คณฺีสุ สนฺนิสินฺนาสุ ปพฺพาเชตพฺโพ.

๑๒๙. ลกฺขณาหโต ปน กตทณฺฑกมฺโม น ปพฺพาเชตพฺโพ ‘‘น, ภิกฺขเว, ลกฺขณหโต กตทณฺฑกมฺโม ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๕) วจนโต. เอตฺถปิ กตทณฺฑกมฺมภาโว ปุริมนเยเนว เวทิตพฺโพ. ยสฺส ปน นลาเฏ วา อูรุอาทีสุ วา ตตฺเตน โลเหน ลกฺขณํ อาหตํ โหติ, โส สเจ ภุชิสฺโส, ยาว อลฺลวโณ โหติ, ตาว น ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจปิสฺส วณา รุฬฺหา โหนฺติ ฉวิยา สมปริจฺเฉทา, ลกฺขณํ น ปฺายติ, ติมณฺฑลํ นิวตฺถสฺส อุตฺตราสงฺเค กเต ปฏิจฺฉนฺโนกาเส เจ โหติ, ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ, อปฺปฏิจฺฉนฺโนกาเส เจ, น วฏฺฏติ.

๑๓๐. ‘‘น, ภิกฺขเว, อิณายิโก ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๖) วจนโต อิณายิโกปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ. ตตฺถ อิณายิโก นาม ยสฺส ปิติปิตามเหหิ วา อิณํ คหิตํ โหติ, สยํ วา อิณํ คหิตํ โหติ, ยํ วา อาเปตฺวา มาตาปิตูหิ กิฺจิ คหิตํ โหติ, โส ตํ อิณํ ปเรสํ ธาเรตีติ อิณายิโก. ยํ ปน อฺเ าตกา อาเปตฺวา กิฺจิ คณฺหนฺติ, โส น อิณายิโก. น หิ เต ตํ อาเปตุํ อิสฺสรา, ตสฺมา ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ, อิตรํ น วฏฺฏติ. สเจ ปนสฺส าติสาโลหิตา ‘‘มยํ ทสฺสาม, ปพฺพาเชถ น’’นฺติ อิณํ อตฺตโน ภารํ กโรนฺติ, อฺโ วา โกจิ ตสฺส อาจารสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘ปพฺพาเชถ นํ, อหํ อิณํ ทสฺสามี’’ติ วทติ, ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. เตสุ อสติ ภิกฺขุนา ตถารูปสฺส อุปฏฺากสฺสปิ อาโรเจตพฺพํ ‘‘สเหตุโก สตฺโต อิณปลิโพเธน น ปพฺพชตี’’ติ. สเจ โส ปฏิปชฺชติ, ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจปิ อตฺตโน กปฺปิยภณฺฑํ อตฺถิ, ‘‘เอตํ ทสฺสามี’’ติ ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน เนว าตกาทโย ปฏิปชฺชนฺติ, น อตฺตโน ธนํ อตฺถิ, ‘‘ปพฺพาเชตฺวา ภิกฺขาย จริตฺวา โมเจสฺสามี’’ติ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปพฺพาเชติ, ทุกฺกฏํ. ปลาโตปิ อาเนตฺวา ทาตพฺโพ. โน เจ เทติ, สพฺพํ อิณํ คีวา โหติ. อชานิตฺวา ปพฺพาชยโต อนาปตฺติ, ปสฺสนฺเตน ปน อาเนตฺวา อิณสามิกานํ ทสฺเสตพฺโพ, อปสฺสนฺตสฺส คีวา น โหติ.

สเจ อิณายิโก อฺํ เทสํ คนฺตฺวา ปุจฺฉิยมาโนปิ ‘‘นาหํ กสฺสจิ กิฺจิ ธาเรมี’’ติ วตฺวา ปพฺพชติ, อิณสามิโก จ ตํ ปริเยสนฺโต ตตฺถ คจฺฉติ, ทหโร ตํ ทิสฺวา ปลายติ, โส เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อยํ, ภนฺเต, เกน ปพฺพาชิโต, มม เอตฺตกํ นาม ธนํ คเหตฺวา ปลาโต’’ติ วทติ, เถเรน วตฺตพฺพํ ‘‘มยา, อุปาสก, ‘อณโณ อห’นฺติ วทนฺโต ปพฺพาชิโต, กึ ทานิ กโรมิ, ปสฺส เม ปตฺตจีวร’’นฺติ. อยํ ตตฺถ สามีจิ. ปลาเต ปน คีวา น โหติ. สเจ ปน นํ เถรสฺส สมฺมุขาว ทิสฺวา ‘‘อยํ มม อิณายิโก’’ติ วทติ, ‘‘ตว อิณายิกํ ตฺวเมว ชานาหี’’ติ วตฺตพฺโพ, เอวมฺปิ คีวา น โหติ. สเจปิ โส ‘‘ปพฺพชิโต อยํ ทานิ กุหึ คมิสฺสตี’’ติ วทติ, เถเรน ‘‘ตฺวํเยว ชานาหี’’ติ วตฺตพฺโพ. เอวมฺปิสฺส ปลาเต คีวา น โหติ. สเจ ปน เถโร ‘‘กุหึ ทานิ อยํ คมิสฺสติ, อิเธว อจฺฉตู’’ติ วทติ, โส เจ ปลายติ, คีวา โหติ. สเจ โส สเหตุโก สตฺโต โหติ วตฺตสมฺปนฺโน, เถเรน ‘‘อีทิโส อย’’นฺติ วตฺตพฺพํ. อิณสามิโก เจ ‘‘สาธู’’ติ วิสฺสชฺเชติ, อิจฺเจตํ กุสลํ, ‘‘อุปฑฺฒุปฑฺฒํ เทถา’’ติ วทติ, ทาตพฺพํ. อปเรน สมเยน อติอาราธโก โหติ, ‘‘สพฺพํ เทถา’’ติ วุตฺเตปิ ทาตพฺพเมว. สเจ ปน อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีสุ กุสโล โหติ พหูปกาโร ภิกฺขูนํ, ภิกฺขาจารวตฺเตน ปริเยสิตฺวาปิ อิณํ ทาตพฺพเมว.

๑๓๑. ทาโสปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ ‘‘น, ภิกฺขเว, ทาโส ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๗) วจนโต. ตตฺถ จตฺตาโร ทาสา อนฺโตชาโต ธนกฺกีโต กรมรานีโต สามํ ทาสพฺยํ อุปคโตติ. ตตฺถ อนฺโตชาโต นาม ชาติยา ทาโส ฆรทาสิยา ปุตฺโต. ธนกฺกีโต นาม มาตาปิตูนํ สนฺติกา ปุตฺโต วา สามิกานํ สนฺติกา ทาโส วา ธนํ ทตฺวา ทาสจาริตฺตํ อาโรเปตฺวา กีโต. เอเต ทฺเวปิ น ปพฺพาเชตพฺพา. ปพฺพาเชนฺเตน ตตฺถ ตตฺถ จาริตฺตวเสน อทาเส กตฺวา ปพฺพาเชตพฺพา. กรมรานีโต นาม ติโรรฏฺํ วิโลปํ วา กตฺวา อุปลาเปตฺวา วา ติโรรฏฺโต ภุชิสฺสมานุสกานิ อาหรนฺติ, อนฺโตรฏฺเเยว วา กตาปราธํ กิฺจิ คามํ ราชา ‘‘วิลุมฺปถา’’ติ จ อาณาเปติ, ตโต มานุสกานิปิ อาหรนฺติ, ตตฺถ สพฺเพ ปุริสา ทาสา, อิตฺถิโย ทาสิโย. เอวรูโป กรมรานีโต ทาโส เยหิ อานีโต, เตสํ สนฺติเก วสนฺโต วา พนฺธนาคาเร พทฺโธ วา ปุริเสหิ รกฺขิยมาโน วา น ปพฺพาเชตพฺโพ, ปลายิตฺวา ปน คโต คตฏฺาเน ปพฺพาเชตพฺโพ. รฺา ตุฏฺเน ‘‘กรมรานีตเก มุฺจถา’’ติ วตฺวา วา สพฺพสาธารเณน วา นเยน พนฺธนโมกฺเข กเต ปพฺพาเชตพฺโพว.

สามํ ทาสพฺยํ อุปคโต นาม ชีวิตเหตุ วา อารกฺขเหตุ วา ‘‘อหํ เต ทาโส’’ติ สยเมว ทาสภาวํ อุปคโต ราชูนํ หตฺถิอสฺสโคมหึสโคปกาทโย วิย. ตาทิโส ทาโส น ปพฺพาเชตพฺโพ. รฺโ วณฺณทาสีนํ ปุตฺตา โหนฺติ อมจฺจปุตฺตสทิสา, เตปิ น ปพฺพาเชตพฺพา. ภุชิสฺสิตฺถิโย อสฺตา วณฺณทาสีหิ สทฺธึ วิจรนฺติ, ตาสํ ปุตฺเต ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. สเจ สยเมว ปณฺณํ อาโรเปนฺติ, น วฏฺฏติ. ภฏิปุตฺตคณาทีนํ ทาสาปิ เตหิ อทินฺนา น ปพฺพาเชตพฺพา. วิหาเรสุ ราชูหิ อารามิกทาสา นาม ทินฺนา โหนฺติ, เตปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ, ภุชิสฺเส กตฺวา ปน ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ‘‘อนฺโตชาตธนกฺกีตเก อาเนตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส ‘อารามิเก เทมา’ติ เทนฺติ, ตกฺกํ สีเส อาสิตฺตกสทิสาว โหนฺติ, เต ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘อารามิกํ เทมาติ กปฺปิยโวหาเรน เทนฺติ, เยน เกนจิ โวหาเรน ทินฺโน โหตุ, เนว ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ทุคฺคตมนุสฺสา ‘‘สงฺฆํ นิสฺสาย ชีวิสฺสามา’’ติ วิหาเร กปฺปิยการกา โหนฺติ, เอเต ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. ยสฺส มาตาปิตโร ทาสา, มาตา เอว วา ทาสี, ปิตา อทาโส, ตํ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. ยสฺส ปน มาตา อทาสี, ปิตา ทาโส, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุสฺส าตกา วา อุปฏฺากา วา ทาสํ เทนฺติ ‘‘อิมํ ปพฺพาเชถ, ตุมฺหากํ เวยฺยาวจฺจํ กริสฺสตี’’ติ, อตฺตโน วาสฺส ทาโส อตฺถิ, ภุชิสฺโส กโตว ปพฺพาเชตพฺโพ. สามิกา ทาสํ เทนฺติ ‘‘อิมํ ปพฺพาเชถ, สเจ อภิรมิสฺสติ, อทาโส. วิพฺภมิสฺสติ เจ, อมฺหากํ ทาโสว ภวิสฺสตี’’ติ, อยํ ตาวกาลิโก นาม, ตํ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. นิสฺสามิกทาโส โหติ, โสปิ ภุชิสฺโส กโตว ปพฺพาเชตพฺโพ. อชานนฺโต ปพฺพาเชตฺวา อุปสมฺปาเทตฺวา วา ปจฺฉา ชานนฺติ, ภุชิสฺสํ กาตุเมว วฏฺฏติ.

อิมสฺส จ อตฺถสฺส ปกาสนตฺถํ อิทํ วตฺถุํ วทนฺติ – เอกา กิร กุลทาสี เอเกน สทฺธึ อนุราธปุรา ปลายิตฺวา โรหเณ วสมานา ปุตฺตํ ปฏิลภิ, โส ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปนฺนกาเล ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก อโหสิ. อเถกทิวสํ มาตรํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ อุปาสิเก ตุมฺหากํ ภาตา วา ภคินี วา นตฺถิ, น กิฺจิ าตกํ ปสฺสามี’’ติ. ตาต, อหํ อนุราธปุเร กุลทาสี, ตว ปิตรา สทฺธึ ปลายิตฺวา อิธ วสามีติ. สีลวา ภิกฺขุ ‘‘อสุทฺธา กิร เม ปพฺพชฺชา’’ติ สํเวคํ ลภิตฺวา มาตรํ ตสฺส กุลสฺส นามโคตฺตํ ปุจฺฉิตฺวา อนุราธปุรํ อาคมฺม ตสฺส กุลสฺส ฆรทฺวาเร อฏฺาสิ, ‘‘อติจฺฉถ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเตปิ นาติกฺกมิ. เต อาคนฺตฺวา ‘‘กึ, ภนฺเต’’ติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘ตุมฺหากํ อิตฺถนฺนามา ทาสี ปลาตา อตฺถี’’ติ? ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต’’. อหํ ตสฺสา ปุตฺโต, สเจ มํ ตุมฺเห อนุชานาถ, ปพฺพชฺชํ ลภามิ, ตุมฺเห มยฺหํ สามิกาติ. เต หฏฺตุฏฺา หุตฺวา ‘‘สุทฺธา, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชา’’ติ ตํ ภุชิสฺสํ กตฺวา มหาวิหาเร วสาเปสุํ จตูหิ ปจฺจเยหิ ปฏิชคฺคนฺตา. เถโร ตํ กุลํ นิสฺสาย วสมาโนเยว อรหตฺตํ ปาปุณีติ.

๑๓๒. ‘‘น, ภิกฺขเว, หตฺถจฺฉินฺโน ปพฺพาเชตพฺโพ. น ปาทจฺฉินฺโน, น หตฺถปาทจฺฉินฺโน, น กณฺณจฺฉินฺโน, น กณฺณนาสจฺฉินฺโน, น องฺคุลิจฺฉินฺโน, น อฬจฺฉินฺโน, น กณฺฑรจฺฉินฺโน, น ผณหตฺถโก, น ขุชฺโช, น วามโน น คลคณฺฑี, น ลกฺขณาหโต, น กสาหโต, น ลิขิตโก, น สีปที, น ปาปโรคี, น ปริสทูสโก, น กาโณ, น กุณี, น ขฺโช, น ปกฺขหโต, น ฉินฺนิริยาปโถ, น ชราทุพฺพโล, น อนฺโธ, น มูโค, น พธิโร, น อนฺธมูโค, น อนฺธพธิโร, น มูคพธิโร, น อนฺธมูคพธิโร ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๑๙) วจนโต ปน หตฺถจฺฉินฺนาทโยปิ น ปพฺพาเชตพฺพา.

ตตฺถ หตฺถจฺฉินฺโนติ ยสฺส หตฺถตเล วา มณิพนฺเธ วา กปฺปเร วา ยตฺถ กตฺถจิ เอโก วา ทฺเว วา หตฺถา ฉินฺนา โหนฺติ. ปาทจฺฉินฺโนติ ยสฺส อคฺคปาเท วา โคปฺผเกสุ วา ชงฺฆาย วา ยตฺถ กตฺถจิ เอโก วา ทฺเว วา ปาทา ฉินฺนา โหนฺติ. หตฺถปาทจฺฉินฺโนติ ยสฺส วุตฺตปฺปกาเรเนว จตูสุ หตฺถปาเทสุ ทฺเว วา ตโย วา สพฺเพ วา หตฺถปาทา ฉินฺนา โหนฺติ. กณฺณจฺฉินฺโนติ ยสฺส กณฺณมูเล วา กณฺณสกฺขลิกาย วา เอโก วา ทฺเว วา กณฺณา ฉินฺนา โหนฺติ. ยสฺส ปน กณฺณาวฏฺเฏ ฉิชฺชนฺติ, สกฺกา จ โหติ สงฺฆาเฏตุํ, โส กณฺณํ สงฺฆาเฏตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. นาสจฺฉินฺโนติ ยสฺส อชปทเก วา อคฺเค วา เอกปุเฏ วา ยตฺถ กตฺถจิ นาสา ฉินฺนา โหติ. ยสฺส ปน นาสิกา สกฺกา โหติ สนฺเธตุํ, โส ตํ ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. กณฺณนาสจฺฉินฺโน อุภยวเสน เวทิตพฺโพ. องฺคุลิจฺฉินฺโนติ ยสฺส นขเสสํ อทสฺเสตฺวา เอกา วา พหู วา องฺคุลิโย ฉินฺนา โหนฺติ. ยสฺส ปน สุตฺตตนฺตุมตฺตมฺปิ นขเสสํ ปฺายติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อฬจฺฉินฺโนติ ยสฺส จตูสุ องฺคุฏฺเกสุ องฺคุลิยํ วุตฺตนเยเนว เอโก วา พหู วา องฺคุฏฺกา ฉินฺนา โหนฺติ. กณฺฑรจฺฉินฺโนติ ยสฺส กณฺฑรนามกา มหานฺหารู ปุรโต วา ปจฺฉโต วา ฉินฺนา โหนฺติ, เยสุ เอกสฺสปิ ฉินฺนตฺตา อคฺคปาเทน วา จงฺกมติ, มูเลน วา จงฺกมติ, น ปาทํ ปติฏฺาเปตุํ สกฺโกติ.

ผณหตฺถโกติ ยสฺส วคฺคุลิปกฺขกา วิย องฺคุลิโย สมฺพทฺธา โหนฺติ, เอตํ ปพฺพาเชตุกาเมน องฺคุลนฺตริกาโย ผาเลตฺวา สพฺพํ อนฺตรจมฺมํ อปเนตฺวา ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. ยสฺสปิ ฉ องฺคุลิโย โหนฺติ, ตํ ปพฺพาเชตุกาเมน อธิกํ องฺคุลึ ฉินฺทิตฺวา ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. ขุชฺโชติ โย อุรสฺส วา ปิฏฺิยา วา ปสฺสสฺส วา นิกฺขนฺตตฺตา ขุชฺชสรีโร. ยสฺส ปน กิฺจิ กิฺจิ องฺคปจฺจงฺคํ อีสกํ วงฺกํ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. มหาปุริโส เอว หิ พฺรหฺมุชุคตฺโต, อวเสโส สตฺโต อขุชฺโช นาม นตฺถิ. วามโนติ ชงฺฆวามโน วา กฏิวามโน วา อุภยวามโน วา. ชงฺฆวามนสฺส กฏิโต ปฏฺาย เหฏฺิมกาโย รสฺโส โหติ, อุปริมกาโย ปริปุณฺโณ. กฏิวามนสฺส กฏิโต ปฏฺาย อุปริมกาโย รสฺโส โหติ, เหฏฺิมกาโย ปริปุณฺโณ. อุภยวามนสฺส อุโภปิ กายา รสฺสา โหนฺติ, เยสํ รสฺสตฺตา ภูตานํ วิย ปริวฏุโม มหากุจฺฉิฆฏสทิโส อตฺตภาโว โหติ, ตํ ติวิธมฺปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ.

คลคณฺฑีติ ยสฺส กุมฺภณฺฑํ วิย คเล คณฺโฑ โหติ. เทสนามตฺตเมว เจตํ, ยสฺมึ กิสฺมิฺจิ ปน ปเทเส คณฺเฑ สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ. ตตฺถ วินิจฺฉโย ‘‘น, ภิกฺขเว, ปฺจหิ อาพาเธหิ ผุฏฺโ ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๘๙) เอตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ลกฺขณาหตกสาหตลิขิตเกสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. สีปทีติ ภารปาโท วุจฺจติ. ยสฺส ปาโท ถูโล โหติ สฺชาตปีฬโก ขโร, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. ยสฺส ปน น ตาว ขรภาวํ คณฺหาติ, สกฺกา โหติ อุปนาหํ พนฺธิตฺวา อุทกอาวาเฏ ปเวเสตฺวา อุทกวาลิกาย ปูเรตฺวา ยถา สิรา ปฺายนฺติ, ชงฺฆา จ เตลนาฬิกา วิย โหติ, เอวํ มิลาเปตุํ, ตสฺส ปาทํ อีทิสํ กตฺวา ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปุน วฑฺฒติ, อุปสมฺปาเทนฺเตนปิ ตถา กตฺวาว อุปสมฺปาเทตพฺโพ. ปาปโรคีติ อริสภคนฺทรปิตฺตเสมฺหกาสโสสาทีสุ เยน เกนจิ โรเคน นิจฺจาตุโร อเตกิจฺฉโรโค เชคุจฺโฉ อมนาโป, อยํ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

๑๓๓. ปริสทูสโกติ โย อตฺตโน วิรูปตาย ปริสํ ทูเสติ, อติทีโฆ วา โหติ อฺเสํ สีสปฺปมาณนาภิปฺปเทโส, อติรสฺโส วา อุภยวามนภูตรูปํ วิย, อติกาโฬ วา ฌาปิตกฺเขตฺเต ขาณุโก วิย, อจฺโจทาโต วา ทธิตกฺกาทีหิ ปมชฺชิตตมฺพโลหวณฺโณ, อติกิโส วา มนฺทมํสโลหิโต อฏฺิสิราจมฺมสรีโร วิย, อติถูโล วา ภาริยมํโส มโหทโร มหาภูตสทิโส, อภิมหนฺตสีโส วา ปจฺฉึ สีเส กตฺวา ิโต วิย, อติขุทฺทกสีโส วา สรีรสฺส อนนุรูเปน อติขุทฺทเกน สีเสน สมนฺนาคโต, กูฏกูฏสีโส วา ตาลผลปิณฺฑิสทิเสน สีเสน สมนฺนาคโต, สิขรสีโส วา อุทฺธํ อนุปุพฺพตนุเกน สีเสน สมนฺนาคโต, นาฬิสีโส วา มหาเวณุปพฺพสทิเสน สีเสน สมนฺนาคโต, กปฺปสีโส วา ปพฺภารสีโส วา จตูสุ ปสฺเสสุ เยน เกนจิ ปสฺเสน โอนเตน สีเสน สมนฺนาคโต, วณสีโส วา ปูติสีโส วา กณฺณิกเกโส วา ปาณเกหิ ขายิตเกทาเร สสฺสสทิเสหิ ตหึ ตหึ อุฏฺิเตหิ เกเสหิ สมนฺนาคโต, นิลฺโลมสีโส วา ถูลถทฺธเกโส วา ตาลหีรสทิเสหิ เกเสหิ สมนฺนาคโต, ชาติปลิเตหิ ปณฺฑรเกโส วา ปกติตมฺพเกโส วา อาทิตฺเตหิ วิย เกเสหิ สมนฺนาคโต, อาวฏฺฏสีโส วา คุนฺนํ สรีเร อาวฏฺฏสทิเสหิ อุทฺธคฺเคหิ เกสาวฏฺเฏหิ สมนฺนาคโต, สีสโลเมหิ สทฺธึ เอกาพทฺธภมุกโลโม วา ชาลพทฺเธน วิย นลาเฏน สมนฺนาคโต.

สมฺพทฺธภมุโก วา นิลฺโลมภมุโก วา มกฺกฏภมุโก วา อติมหนฺตกฺขิ วา อติขุทฺทกกฺขิ วา มหึสจมฺเม วาสิโกเณน ปหริตฺวา กตฉิทฺทสทิเสหิ อกฺขีหิ สมนฺนาคโต, วิสมกฺขิ วา เอเกน มหนฺเตน, เอเกน ขุทฺทเกน อกฺขินา สมนฺนาคโต, วิสมจกฺกโล วา เอเกน อุทฺธํ, เอเกน อโธติ เอวํ วิสมชาเตหิ อกฺขิจกฺเกหิ สมนฺนาคโต, เกกโร วา คมฺภีรกฺขิ วา ยสฺส คมฺภีเร อุทปาเน อุทกตารกา วิย อกฺขิตารกา ปฺายนฺติ, นิกฺขนฺตกฺขิ วา ยสฺส กกฺกฏสฺเสว อกฺขิตารกา นิกฺขนฺตา โหนฺติ, หตฺถิกณฺโณ วา มหนฺตาหิ กณฺณสกฺขลีหิ สมนฺนาคโต, มูสิกกณฺโณ วา ชตุกกณฺโณ วา ขุทฺทกาหิ กณฺณสกฺขลีหิ สมนฺนาคโต, ฉิทฺทมตฺตกณฺโณ วา ยสฺส วินา กณฺณสกฺขลีหิ กณฺณจฺฉิทฺทมตฺตเมว โหติ, อวิทฺธกณฺโณ วา, โยนกชาติโก ปน ปริสทูสโก น โหติ, สภาโวเยว หิ โส ตสฺส. กณฺณภคนฺทริโก วา นิจฺจปูตินา กณฺเณน สมนฺนาคโต, คณฺฑกณฺโณ วา สทา ปคฺฆริตปุพฺเพน กณฺเณน สมนฺนาคโต, ฏงฺกิตกณฺโณ วา โคภตฺตนาฬิกาย อคฺคสทิเสหิ กณฺเณหิ สมนฺนาคโต, อติปิงฺคลกฺขิ วา, มธุปิงฺคลํ ปน ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. นิปฺปขุมกฺขิ วา อสฺสุปคฺฆรณกฺขิ วา ปุปฺผิตกฺขิ วา อกฺขิปาเกน สมนฺนาคตกฺขิ วา.

อติมหนฺตนาสิโก วา อติขุทฺทกนาสิโก วา จิปิฏนาสิโก วา มชฺเฌ อปฺปติฏฺหิตฺวา เอกปสฺเส ิตวงฺกนาสิโก วา ทีฆนาสิโก วา สุกตุณฺฑสทิสาย ชิวฺหาย เลหิตุํ สกฺกุเณยฺยาย นาสิกาย สมนฺนาคโต, นิจฺจํ ปคฺฆริตสิงฺฆาณิกนาโส วา, มหามุโข วา ยสฺส ปฏงฺคมณฺฑูกสฺเสว มุขนิมิตฺตํเยว มหนฺตํ โหติ, มุขํ ปน ลาพุสทิสํ อติขุทฺทกํ, ภินฺนมุโข วา วงฺกมุโข วา มหาโอฏฺโ วา อุกฺขลิมุขวฏฺฏิสทิเสหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต, ตนุกโอฏฺโ วา เภริจมฺมสทิเสหิ ทนฺเต ปิทหิตุํ อสมตฺเถหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต, มหาธโรฏฺโ วา ตนุกอุตฺตโรฏฺโ วา ตนุกอธโรฏฺโ วา มหาอุตฺตโรฏฺโ วา โอฏฺฉินฺนโก วา เอฬมุโข วา อุปฺปกฺกมุโข วา สงฺขตุณฺฑโก วา พหิ เสเตหิ อนฺโต อติรตฺเตหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต, ทุคฺคนฺธกุณปมุโข วา, มหาทนฺโต วา อฏฺกทนฺตสทิเสหิ ทนฺเตหิ สมนฺนาคโต, อสุรทนฺโต วา เหฏฺา วา อุปริ วา พหิ นิกฺขนฺตทนฺโต, ยสฺส ปน สกฺกา โหติ โอฏฺเหิ ปิทหิตุํ, กเถนฺตสฺเสว ปฺายติ, โน อกเถนฺตสฺส, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. ปูติทนฺโต วา นิทฺทนฺโต วา อติขุทฺทกทนฺโต วา ยสฺส ปน ทนฺตนฺตเร กลนฺทกทนฺโต วิย สุขุมทนฺโต โหติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

มหาหนุโก วา โคหนุสทิเสน หนุนา สมนฺนาคโต, ทีฆหนุโก วา จิปิฏหนุโก วา อนฺโตปวิฏฺเน วิย อติรสฺเสน หนุเกน สมนฺนาคโต, ภินฺนหนุโก วา วงฺกหนุโก วา นิมฺมสฺสุทาิโก วา ภิกฺขุนีสทิสมุโข, ทีฆคโล วา พกคลสทิเสน คเลน สมนฺนาคโต, รสฺสคโล วา อนฺโตปวิฏฺเน วิย คเลน สมนฺนาคโต, ภินฺนคโล วา ภฏฺอํสกูโฏ วา อหตฺโถ วา เอกหตฺโถ วา อติรสฺสหตฺโถ วา อติทีฆหตฺโถ วา ภินฺนอุโร วา ภินฺนปิฏฺิ วา กจฺฉุคตฺโต วา กณฺฑุคตฺโต วา ททฺทุคตฺโต วา โคธาคตฺโต วา ยสฺส โคธาย วิย คตฺตโต จุณฺณานิ ปตนฺติ. สพฺพฺเจตํ วิรูปกรณํ สนฺธาย วิตฺถาริตวเสน วุตฺตํ, วินิจฺฉโย ปเนตฺถ ปฺจาพาเธสุ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.

ภฏฺกฏิโก วา มหาอานิสโท วา อุทฺธนกูฏสทิเสหิ อานิสทมํเสหิ อจฺจุคฺคเตหิ สมนฺนาคโต, มหาอูรุโก วา วาตณฺฑิโก วา มหาชาณุโก วา สงฺฆฏฺฏนชาณุโก วา ทีฆชงฺโฆ วา ยฏฺิสทิสชงฺโฆ, วิกโฏ วา สงฺฆฏฺโฏ วา อุพฺพทฺธปิณฺฑิโก วา, โส ทุวิโธ เหฏฺา โอรุฬฺหาหิ วา อุปริ อารุฬฺหาหิ วา มหตีหิ ชงฺฆปิณฺฑิกาหิ สมนฺนาคโต, มหาชงฺโฆ วา ถูลชงฺฆปิณฺฑิโก วา มหาปาโท วา มหาปณฺหิ วา ปิฏฺิกปาโท วา ปาทเวมชฺฌโต อุฏฺิตชงฺโฆ, วงฺกปาโท วา, โส ทุวิโธ อนฺโต วา พหิ วา ปริวตฺตปาโท, คณฺิกงฺคุลิ วา สิงฺคิเวรผณสทิสาหิ องฺคุลีหิ สมนฺนาคโต, อนฺธนโข วา กาฬวณฺเณหิ ปูตินเขหิ สมนฺนาคโต, สพฺโพปิ เอส ปริสทูสโก. เอวรูโป ปริสทูสโก น ปพฺพาเชตพฺโพ.

๑๓๔. กาโณติ ปสนฺนนฺโธ วา โหตุ ปุปฺผาทีหิ วา อุปหตปสาโท, ทฺวีหิ วา เอเกน วา อกฺขินา น ปสฺสติ, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. มหาปจฺจริยํ ปน เอกกฺขิกาโณ ‘‘กาโณ’’ติ วุตฺโต, ทฺวิอกฺขิกาโณ อนฺเธน สงฺคหิโต. มหาอฏฺกถายํ ชจฺจนฺโธ ‘‘อนฺโธ’’ติ วุตฺโต. ตสฺมา อุภยมฺปิ ปริยาเยน ยุชฺชติ. กุณีติ หตฺถกุณี วา ปาทกุณี วา องฺคุลิกุณี วา, ยสฺส เอเตสุ หตฺถาทีสุ ยํ กิฺจิ วงฺกํ ปฺายติ. ขฺโชติ นตชาณุโก วา ภินฺนชงฺโฆ วา มชฺเฌ สํกุฏิตปาทตฺตา กุณฺปาทโก วา ปิฏฺิปาทมชฺเฌน จงฺกมนฺโต, อคฺเค สํกุฏิตปาทตฺตา กุณฺปาทโก วา ปิฏฺิปาทคฺเคน จงฺกมนฺโต, อคฺคปาเทเนว จงฺกมนขฺโช วา ปณฺหิกาย จงฺกมนขฺโช วา ปาทสฺส พาหิรนฺเตน จงฺกมนขฺโช วา ปาทสฺส อพฺภนฺตเรน จงฺกมนขฺโช วา โคปฺผกานํ อุปริ ภคฺคตฺตา สกเลน ปิฏฺิปาเทน จงฺกมนขฺโช วา. สพฺโพเปส ขฺโชเยว, น ปพฺพาเชตพฺโพ.

ปกฺขหโตติ ยสฺส เอโก หตฺโถ วา ปาโท วา อทฺธสรีรํ วา สุขํ น วหติ. ฉินฺนิริยาปโถติ ปีสปฺปี วุจฺจติ. ชราทุพฺพโลติ ชิณฺณภาเวน ทุพฺพโล อตฺตโน จีวรรชนาทิกมฺมมฺปิ กาตุํ อสมตฺโถ. โย ปน มหลฺลโกปิ พลวา โหติ, อตฺตานํ ปฏิชคฺคิตุํ สกฺโกติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพ. อนฺโธติ ชจฺจนฺโธ วุจฺจติ. มูโคติ ยสฺส วจีเภโท น ปวตฺตติ, ยสฺสปิ ปวตฺตติ, สรณคมนํ ปน ปริปุณฺณํ ภาสิตุํ น สกฺโกติ, ตาทิสํ มมฺมนมฺปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. โย ปน สรณคมนมตฺตํ ปริปุณฺณํ ภาสิตุํ สกฺโกติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. พธิโรติ โย สพฺเพน สพฺพํ น สุณาติ. โย ปน มหาสทฺทํ สุณาติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อนฺธมูคาทโย อุภยโทสวเสน วุตฺตา. เยสฺจ ปพฺพชฺชา ปฏิกฺขิตฺตา, อุปสมฺปทาปิ เตสํ ปฏิกฺขิตฺตาว. สเจ ปน เน สงฺโฆ อุปสมฺปาเทติ, สพฺเพปิ สูปสมฺปนฺนา, การกสงฺโฆ ปน อาจริยุปชฺฌายา จ อาปตฺติโต น มุจฺจนฺติ.

๑๓๕. ปณฺฑโก อุภโตพฺยฺชนโก เถยฺยสํวาสโก ติตฺถิยปกฺกนฺตโก ติรจฺฉานคโต มาตุฆาตโก ปิตุฆาตโก อรหนฺตฆาตโก โลหิตุปฺปาทโก สงฺฆเภทโก ภิกฺขุนีทูสโกติ อิเม ปน เอกาทส ปุคฺคลา ‘‘ปณฺฑโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๑๐๙) อาทิวจนโต อภพฺพา, เนว เนสํ ปพฺพชฺชา, น อุปสมฺปทา จ รุหติ, ตสฺมา น ปพฺพาเชตพฺพา น อุปสมฺปาเทตพฺพา, ชานิตฺวา ปพฺพาเชนฺโต อุปสมฺปาเทนฺโต จ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. อชานิตฺวาปิ ปพฺพาชิตา อุปสมฺปาทิตา จ ชานิตฺวา ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺพา.

ตตฺถ ปณฺฑโกติ อาสิตฺตปณฺฑโก อุสูยปณฺฑโก โอปกฺกมิกปณฺฑโก ปกฺขปณฺฑโก นปุํสกปณฺฑโกติ ปฺจ ปณฺฑกา. เตสุ ยสฺส ปเรสํ องฺคชาตํ มุเขน คเหตฺวา อสุจินา อาสิตฺตสฺส ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ อาสิตฺตปณฺฑโก. ยสฺส ปเรสํ อชฺฌาจารํ ปสฺสโต อุสูยาย อุปฺปนฺนาย ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ อุสูยปณฺฑโก. ยสฺส อุปกฺกเมน พีชานิ อปนีตานิ, อยํ โอปกฺกมิกปณฺฑโก. เอกจฺโจ ปน อกุสลวิปากานุภาเวน กาฬปกฺเข ปณฺฑโก โหติ, ชุณฺหปกฺเข ปนสฺส ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ ปกฺขปณฺฑโก. โย ปน ปฏิสนฺธิยํเยว อภาวโก อุปฺปนฺโน, อยํ น ปุํสกปณฺฑโก. เตสุ อาสิตฺตปณฺฑกสฺส จ อุสูยปณฺฑกสฺส จ ปพฺพชฺชา น วาริตา, อิตเรสํ ติณฺณํ วาริตา. ‘‘เตสุปิ ปกฺขปณฺฑกสฺส ยสฺมึ ปกฺเข ปณฺฑโก โหติ, ตสฺมึเยวสฺส ปกฺเข ปพฺพชฺชา วาริตา’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ.

๑๓๖. อุภโตพฺยฺชนโกติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๖) อิตฺถินิมิตฺตุปฺปาทนกมฺมโต จ ปุริสนิมิตฺตุปฺปาทนกมฺมโต จ อุภโตพฺยฺชนมสฺส อตฺถีติ อุภโตพฺยฺชนโก. โส ทุวิโธ โหติ อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนโก ปุริสอุภโตพฺยฺชนโกติ. ตตฺถ อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนกสฺส อิตฺถินิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ, ปุริสนิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนกสฺส ปุริสนิมิตฺตํ ปากฏํ, อิตฺถินิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ. อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนกสฺส อิตฺถีสุ ปุริสตฺตํ กโรนฺตสฺส อิตฺถินิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, ปุริสนิมิตฺตํ ปากฏํ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนกสฺส ปุริสานํ อิตฺถิภาวํ อุปคจฺฉนฺตสฺส ปุริสนิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, อิตฺถินิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ. อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนโก สยฺจ คพฺภํ คณฺหาติ, ปรฺจ คณฺหาเปติ, ปุริสอุภโตพฺยฺชนโก ปน สยํ น คณฺหาติ, ปรํ ปน คณฺหาเปตีติ อิทเมเตสํ นานากรณํ. อิมสฺส ปน ทุวิธสฺสปิ อุภโตพฺยฺชนกสฺส เนว ปพฺพชฺชา อตฺถิ, น อุปสมฺปทา.

๑๓๗. เถยฺยสํวาสโกติ ตโย เถยฺยสํวาสกา ลิงฺคตฺเถนโก สํวาสตฺเถนโก อุภยตฺเถนโกติ. ตตฺถ โย สยํ ปพฺพชิตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา น ภิกฺขุวสฺสานิ คเณติ, น ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนํ สาทิยติ, น อาสเนน ปฏิพาหติ, น อุโปสถปวารณาทีสุ สนฺทิสฺสติ, อยํ ลิงฺคมตฺตสฺเสว เถนิตตฺตา ลิงฺคตฺเถนโก นาม. โย ปน ภิกฺขูหิ ปพฺพาชิโต สามเณโร สมาโน วิเทสํ คนฺตฺวา ‘‘อหํ ทสวสฺโส วา วีสติวสฺโส วา’’ติ มุสา วตฺวา ภิกฺขุวสฺสานิ คเณติ, ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนํ สาทิยติ, อาสเนน ปฏิพาหติ, อุโปสถปวอารณาทีสุ สนฺทิสฺสติ, อยํ สํวาสมตฺตสฺเสว เถนิตตฺตา สํวาสตฺเถนโก นาม. ภิกฺขุวสฺสคณนาทิโก หิ สพฺโพปิ กิริยเภโท อิมสฺมึ อตฺเถ ‘‘สํวาโส’’ติ เวทิตพฺโพ. สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย ‘‘น มํ โกจิ ชานาตี’’ติ ปุน เอวํ ปฏิปชฺชนฺเตปิ เอเสว นโย. โย ปน สยํ ปพฺพชิตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ภิกฺขุวสฺสานิ คเณติ, ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนํ สาทิยติ, อาสเนน ปฏิพาหติ, อุโปสถปวารณาทีสุ สนฺทิสฺสติ, อยํ ลิงฺคสฺส เจว สํวาสสฺส จ เถนิตตฺตา อุภยตฺเถนโก นาม. อยํ ติวิโธปิ เถยฺยสํวาสโก อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ, ปุน ปพฺพชฺชํ ยาจนฺโตปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

๑๓๘. เอตฺถ จ อสมฺโมหตฺถํ อิทํ ปกิณฺณกํ เวทิตพฺพํ –

‘‘ราชทุพฺภิกฺขกนฺตาร, โรคเวริภเยน วา;

จีวราหรณตฺถํ วา, ลิงฺคํ อาทิยตีธ โย.

‘‘สํวาสํ นาธิวาเสติ, ยาว โส สุทฺธมานโส;

เถยฺยสํวาสโก นาม, ตาว เอส น วุจฺจตี’’ติ. (มหาว. อฏฺ. ๑๑๐);

ตตฺรายํ วิตฺถารนโย – อิเธกจฺจสฺส ราชา กุทฺโธ โหติ, โส ‘‘เอวํ เม โสตฺถิ ภวิสฺสตี’’ติ สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา ปลายติ. ตํ ทิสฺวา รฺโ อาโรเจนฺติ, ราชา ‘‘สเจ ปพฺพชิโต, น ตํ ลพฺภา กิฺจิ กาตุ’’นฺติ ตสฺมึ โกธํ ปฏิวิเนติ. โส ‘‘วูปสนฺตํ เม ราชภย’’นฺติ สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโต ปพฺพาเชตพฺโพ. อถาปิ ‘‘สาสนํ นิสฺสาย มยา ชีวิตํ ลทฺธํ, หนฺท ทานิ อหํ ปพฺพชามี’’ติ อุปฺปนฺนสํเวโค เตเนว ลิงฺเคน อาคนฺตฺวา อาคนฺตุกวตฺตํ น สาทิยติ, ภิกฺขูหิ ปุฏฺโ วา อปุฏฺโ วา ยถาภูตมตฺตานํ อาวิกตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจติ, ลิงฺคํ อปเนตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน โส วตฺตํ สาทิยติ, ปพฺพชิตาลยํ ทสฺเสติ, สพฺพํ ปุพฺเพ วุตฺตํ วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ ปฏิปชฺชติ, อยํ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

อิธ ปเนกจฺโจ ทุพฺภิกฺเข ชีวิตุํ อสกฺโกนฺโต สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา สพฺพปาสณฺฑิยภตฺตานิ ภุฺชนฺโต ทุพฺภิกฺเข วีติวตฺเต สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโตติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว.

อปโร มหากนฺตารํ นิตฺถริตุกาโม โหติ, สตฺถวาโห จ ปพฺพชิเต คเหตฺวา คจฺฉติ. โส ‘‘เอวํ มํ สตฺถวาโห คเหตฺวา คมิสฺสตี’’ติ สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา สตฺถวาเหน สทฺธึ กนฺตารํ นิตฺถริตฺวา เขมนฺตํ ปตฺวา สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโตติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว.

อปโร โรคภเย อุปฺปนฺเน ชีวิตุํ อสกฺโกนฺโต สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา สพฺพปาสณฺฑิยภตฺตานิ ภุฺชนฺโต โรคภเย วูปสนฺเต สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโตติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว.

อปรสฺส เอโก เวริโก กุทฺโธ โหติ, ฆาเตตุกาโม นํ วิจรติ. โส ‘‘เอวํ เม โสตฺถิ ภวิสฺสตี’’ติ สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา ปลายติ. เวริโก ‘‘กุหึ โส’’ติ ปริเยสนฺโต ‘‘ปพฺพชิตฺวา ปลาโต’’ติ สุตฺวา ‘‘สเจ ปพฺพชิโต, น ตํ ลพฺภา กิฺจิ กาตุ’’นฺติ ตสฺมึ โกธํ ปฏิวิเนติ. โส ‘‘วูปสนฺตํ เม เวริภย’’นฺติ สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโตติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว.

อปโร าติกุลํ คนฺตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย คิหี หุตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ อิธ นสฺสิสฺสนฺติ, สเจปิ อิมานิ คเหตฺวา วิหารํ คมิสฺสามิ, อนฺตรามคฺเค มํ ‘โจโร’ติ คเหสฺสนฺติ, ยํนูนาหํ กายปริหาริยานิ กตฺวา คจฺเฉยฺย’’นฺติ จีวราหรณตฺถํ นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ วิหารํ คจฺฉติ. ตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา สามเณรา จ ทหรา จ อพฺภุคฺคจฺฉนฺติ, วตฺตํ ทสฺเสนฺติ. โส น สาทิยติ, ยถาภูตมตฺตานํ อาวิกโรติ. สเจ ภิกฺขู ‘‘น ทานิ มยํ ตํ มุฺจิสฺสามา’’ติ พลกฺกาเรน ปพฺพาเชตุกามา โหนฺติ, กาสายานิ อปเนตฺวา ปุน ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน ‘‘นยิเม มํ หีนายาวตฺตภาวํ ชานนฺตี’’ติ ตํเยว ภิกฺขุภาวํ ปฏิชานิตฺวา สพฺพํ ปุพฺเพ วุตฺตํ วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ ปฏิปชฺชติ, อยํ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

อปโร มหาสามเณโร าติกุลํ คนฺตฺวา อุปฺปพฺพชิตฺวา กมฺมนฺตานุฏฺาเนน อุพฺพาฬฺโห ปุน ‘‘ทานิ อหํ สามเณโร ภวิสฺสามิ, เถโรปิ เม อุปฺปพฺพชิตภาวํ น ชานาตี’’ติ ตเทว ปตฺตจีวรํ อาทาย วิหารํ คจฺฉติ, ตมตฺถํ ภิกฺขูนํ น อาโรเจติ, สามเณรภาวํ ปฏิชานาติ, อยํ เถยฺยสํวาสโกเยว, ปพฺพชฺชํ น ลภติ. สเจปิสฺส ลิงฺคคฺคหณกาเล เอวํ โหติ ‘‘นาหํ กสฺสจิ อาโรเจสฺสามี’’ติ, วิหารฺจ คโต อาโรเจติ, คหเณเนว เถยฺยสํวาสโก. อถาปิสฺส คหณกาเล ‘‘อาจิกฺขิสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, วิหารฺจ คนฺตฺวา ‘‘กุหึ ตฺวํ, อาวุโส, คโต’’ติ วุตฺโต ‘‘น ทานิ มํ อิเม ชานนฺตี’’ติ วฺเจตฺวา นาจิกฺขติ, ‘‘นาจิกฺขิสฺสามี’’ติ สห ธุรนิกฺเขเปน อยมฺปิ เถยฺยสํวาสโกว. สเจ ปนสฺส คหณกาเลปิ ‘‘อาจิกฺขิสฺสามี’’ติ โหติ, วิหารํ คนฺตฺวาปิ อาจิกฺขติ, อยํ ปุน ปพฺพชฺชํ ลภติ.

อปโร ทหรสามเณโร มหนฺโต วา ปน อพฺยตฺโต. โส ปุริมนเยเนว อุปฺปพฺพชิตฺวา ฆเร วจฺฉกโครกฺขณาทีนิ กมฺมานิ กาตุํ น อิจฺฉติ. ตเมนํ าตกา ตานิเยว กาสายานิ อจฺฉาเทตฺวา ถาลกํ วา ปตฺตํ วา หตฺเถ ทตฺวา ‘‘คจฺฉ, สมโณว โหหี’’ติ ฆรา นีหรนฺติ. โส วิหารํ คจฺฉติ, เนว นํ ภิกฺขู ชานนฺติ ‘‘อยํ อุปฺปพฺพชิตฺวา ปุน สยเมว ปพฺพชิโต’’ติ, นาปิ สยํ ชานาติ ‘‘โย เอวํ ปพฺพชติ, โส เถยฺยสํวาสโก นาม โหตี’’ติ. สเจ ปน ตํ ปริปุณฺณวสฺสํ อุปสมฺปาเทนฺติ, สูปสมฺปนฺโน. สเจ ปน อนุปสมฺปนฺนกาเลเยว วินยวินิจฺฉเย วตฺตมาเน สุณาติ ‘‘โย เอวํ ปพฺพชติ, โส เถยฺยสํวาสโก นาม โหตี’’ติ, เตน ‘‘มยา เอวํ กต’’นฺติ ภิกฺขูนํ อาจิกฺขิตพฺพํ. เอวํ ปุน ปพฺพชฺชํ ลภติ. สเจ ปน ‘‘ทานิ น มํ โกจิ ชานาตี’’ติ นาโรเจติ, ธุรํ นิกฺขิตฺตมตฺเตเยว เถยฺยสํวาสโก.

ภิกฺขุ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย ลิงฺคํ อนปเนตฺวา ทุสฺสีลกมฺมํ กตฺวา วา อกตฺวา วา ปุน สพฺพํ ปุพฺเพ วุตฺตํ วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ ปฏิปชฺชติ, เถยฺยสํวาสโก โหติ. สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย สลิงฺเค ิโต เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ อาปชฺชนฺโต เถยฺยสํวาสโก น โหติ, ปพฺพชฺชามตฺตํ ลภติ. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘เอโส เถยฺยสํวาสโก’’ติ วุตฺตํ, ตํ น คเหตพฺพํ.

เอโก ภิกฺขุ กาสาเย สอุสฺสาโหว โอทาตํ นิวาเสตฺวา เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา ปุน กาสายานิ นิวาเสตฺวา วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ อาปชฺชติ, อยมฺปิ เถยฺยสํวาสโก น โหติ, ปพฺพชฺชามตฺตํ ลภติ. สเจ ปน กาสาเย ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา โอทาตํ นิวาเสตฺวา เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา ปุน กาสายานิ นิวาเสตฺวา วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ อาปชฺชติ, เถยฺยสํวาสโก โหติ. สามเณโร สลิงฺเค ิโต เมถุนาทิอสฺสมณกรณธมฺมํ อาปชฺชิตฺวาปิเถยฺยสํวาสโก น โหติ. สเจปิ กาสาเย สอุสฺสาโหว กาสายานิ อปเนตฺวา เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา ปุน กาสายานิ นิวาเสติ, เนว เถยฺยสํวาสโก โหติ. สเจ ปน กาสาเย ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา นคฺโค วา โอทาตวตฺโถ วา เมถุนเสวนาทีหิ อสฺสมโณ หุตฺวา กาสายํ นิวาเสติ, เถยฺยสํวาสโก โหติ.

สเจ คิหิภาวํ ปตฺถยมาโน กาสายํ โอวฏฺฏิกํ กตฺวา อฺเน วา อากาเรน คิหินิวาสเนน นิวาเสติ ‘‘โสภติ นุ โข เม คิหิลิงฺคํ, น โสภตี’’ติ วีมํสนตฺถํ, รกฺขติ ตาว. ‘‘โสภตี’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปน ปุน ลิงฺคํ สาทิยนฺโต เถยฺยสํวาสโก โหติ. โอทาตํ นิวาเสตฺวา วีมํสนสมฺปฏิจฺฉเนสุปิ เอเสว นโย. สเจ ปน นิวตฺถกาสาวสฺส อุปริ โอทาตํ นิวาเสตฺวา วีมํสติ วา สมฺปฏิจฺฉติ วา, รกฺขติเยว. ภิกฺขุนิยาปิ เอเสว นโย. สาปิ คิหิภาวํ ปตฺถยมานา สเจ กาสายํ คิหินิวาสนํ นิวาเสติ ‘‘โสภติ นุ โข เม คิหิลิงฺคํ, น โสภตี’’ติ วีมํสนตฺถํ, รกฺขติเยว. สเจ ‘‘โสภตี’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, น รกฺขติ. โอทาตํ นิวาเสตฺวา วีมํสนสมฺปฏิจฺฉเนสุปิ เอเสว นโย. นิวตฺถกาสายสฺส ปน อุปริ โอทาตํ นิวาเสตฺวา วีมํสตุ วา สมฺปฏิจฺฉตุ วา, รกฺขติเยว.

สเจ โกจิ วุฑฺฒปพฺพชิโต วสฺสานิ อคเณตฺวา ปาฬิยมฺปิ อฏฺตฺวา เอกปสฺเสน คนฺตฺวา มหาเปฬาทีสุ กฏจฺฉุนา อุกฺขิตฺเต ภตฺตปิณฺเฑ ปตฺตํ อุปนาเมตฺวา เสโน วิย มํสเปสึ คเหตฺวา คจฺฉติ, เถยฺยสํวาสโก น โหติ, ภิกฺขุวสฺสานิ ปน คเณตฺวา คณฺหนฺโต เถยฺยสํวาสโก โหติ. สยํ สามเณโรว สามเณรปฏิปาฏิยา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา คณฺหนฺโต เถยฺยสํวาสโก น โหติ. ภิกฺขุ ภิกฺขุปฏิปาฏิยา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ.

๑๓๙. ติตฺถิยปกฺกนฺตโกติ ติตฺถิเยสุ ปกฺกนฺโต ปวิฏฺโติ ติตฺถิยปกฺกนฺตโก, โสปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – อุปสมฺปนฺโน ภิกฺขุ ‘‘ติตฺถิโย ภวิสฺสามี’’ติ สลิงฺเคเนว เตสํ อุปสฺสยํ คจฺฉติ, ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ, เตสํ ลิงฺเค อาทินฺนมตฺเต ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ. โยปิ สยเมว ‘‘ติตฺถิโย ภวิสฺส’’นฺติ กุสจีราทีนิ นิวาเสติ, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติเยว. โย ปน นคฺโค นหายนฺโต อตฺตานํ โอโลเกตฺวา ‘‘โสภติ เม อาชีวกภาโว, อาชีวโก ภวิสฺส’’นฺติ กาสายานิ อนาทาย นคฺโค อาชีวกานํ อุปสฺสยํ คจฺฉติ, ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ. สเจ ปนสฺส อนฺตรามคฺเค หิโรตฺตปฺปํ อุปฺปชฺชติ, ทุกฺกฏานิ เทเสตฺวา มุจฺจติ. เตสํ อุปสฺสยํ คนฺตฺวาปิ เตหิ วา โอวทิโต อตฺตนา วา ‘‘อิเมสํ ปพฺพชฺชา อติทุกฺขา’’ติ ทิสฺวา นิวตฺตนฺโตปิ มุจฺจติเยว. สเจ ปน ‘‘กึ ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชาย อุกฺกฏฺ’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เกสมสฺสุลุฺจนาทีนี’’ติ วุตฺโต เอกเกสมฺปิ ลุฺจาเปติ, อุกฺกุฏิกปฺปธานาทีนิ วา วตฺตานิ อาทิยติ, โมรปิฺฉาทีนิ วา นิวาเสติ, เตสํ ลิงฺคํ คณฺหาติ, ‘‘อยํ ปพฺพชฺชา เสฏฺา’’ติ เสฏฺภาวํ วา อุปคจฺฉติ, น มุจฺจติ, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ. สเจ ปน ‘‘โสภติ นุ โข เม ติตฺถิยปพฺพชฺชา, นนุ โข โสภตี’’ติ วีมํสนตฺถํ กุสจีราทีนิ วา นิวาเสติ, ชฏํ วา พนฺธติ, ขาริกาชํ วา อาทิยติ, ยาว น สมฺปฏิจฺฉติ ลทฺธึ, ตาว รกฺขติ, สมฺปฏิจฺฉิตมตฺเต ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ. อจฺฉินฺนจีวโร ปน กุสจีราทีนิ นิวาเสนฺโต ราชภยาทีหิ วา ติตฺถิยลิงฺคํ คณฺหนฺโต ลทฺธิยา อภาเวน เนว ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ. ‘‘อยฺจ ติตฺถิยปกฺกนฺตโก นาม อุปสมฺปนฺนภิกฺขุนา กถิโต, ตสฺมา สามเณโร สลิงฺเคน ติตฺถิยายตนํ คโตปิ ปุน ปพฺพชฺชฺจ อุปสมฺปทฺจ ลภตี’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ปุริโม ปน เถยฺยสํวาสโก อนุปสมฺปนฺเนน กถิโต, ตสฺมา อุปสมฺปนฺโน กูฏวสฺสํ คเณนฺโตปิ อสฺสมโณ น โหติ. ลิงฺเค สอุสฺสาโห ปาราชิกํ อาปชฺชิตฺวา ภิกฺขุวสฺสาทีนิ คณฺหนฺโตปิ เถยฺยสํวาสโก น โหติ.

๑๔๐. ติรจฺฉานคโตติ นาโค วา โหตุ สุปณฺณมาณวกาทีนํ วา อฺตโร อนฺตมโส สกฺกํ เทวราชานํ อุปาทาย โย โกจิ อมนุสฺสชาติโย, สพฺโพว อิมสฺมึ อตฺเถ ‘‘ติรจฺฉานคโต’’ติ เวทิตพฺโพ. โส จ เนว อุปสมฺปาเทตพฺโพ น ปพฺพาเชตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโนปิ นาเสตพฺโพ.

๑๔๑. มาตุฆาตกาทีสุ ปน เยน มนุสฺสิตฺถิภูตา ชนิกา มาตา สยมฺปิ มนุสฺสชาติเกเนว สภา สฺจิจฺจ ชีวิตา โวโรปิตา, อยํ อานนฺตริเยน มาตุฆาตกกมฺเมน มาตุฆาตโก. เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ ปฏิกฺขิตฺตา. เยน ปน มนุสฺสิตฺถิภูตาปิ อชนิกา โปสาวนิกา มาตา วา จูฬมาตา วา ชนิกาปิ วา น มนุสฺสิตฺถิภูตา มาตา ฆาติตา, ตสฺส ปพฺพชฺชา น วาริตา, น จ อานนฺตริโก โหติ. เยน สยํ ติรจฺฉานภูเตน มนุสฺสิตฺถิภูตา มาตา ฆาติตา, โสปิ อานนฺตริโก น โหติ, ติรจฺฉานคตตฺตา ปนสฺส ปพฺพชฺชา ปฏิกฺขิตฺตา. ปิตุฆาตเกปิ เอเสว นโย. สเจปิ หิ เวสิยา ปุตฺโต โหติ, ‘‘อยํ เม ปิตา’’ติ น ชานาติ, ยสฺส สมฺภเวน นิพฺพตฺโต, โส เจ อเนน ฆาติโต, ปิตุฆาตโกตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ, อานนฺตริยฺจ ผุสติ.

อรหนฺตฆาตโกปิ มนุสฺสอรหนฺตวเสเนว เวทิตพฺโพ. มนุสฺสชาติยฺหิ อนฺตมโส อปพฺพชิตมฺปิ ขีณาสวํ ทารกํ วา ทาริกํ วา สฺจิจฺจ ชีวิตา โวโรเปนฺโต อรหนฺตฆาตโกว โหติ, อานนฺตริยฺจ ผุสติ, ปพฺพชฺชา จสฺส วาริตา. อมนุสฺสชาติกํ ปน อรหนฺตํ มนุสฺสชาติกํ วา อวเสสํ อริยปุคฺคลํ ฆาเตตฺวา อานนฺตริโก น โหติ, ปพฺพชฺชาปิสฺส น วาริตา, กมฺมํ ปน พลวํ โหติ. ติรจฺฉาโน มนุสฺสอรหนฺตมฺปิ ฆาเตตฺวา อานนฺตริโก น โหติ, กมฺมํ ปน ภาริยนฺติ อยเมตฺถ วินิจฺฉโย.

โย ปน เทวทตฺโต วิย ทุฏฺจิตฺเตน วธกจิตฺเตน ตถาคตสฺส ชีวมานกสรีเร ขุทฺทกมกฺขิกาย ปิวนมตฺตมฺปิ โลหิตํ อุปฺปาเทติ, อยํ โลหิตุปฺปาทโก นาม. เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา. โย ปน โรควูปสมตฺถํ ชีวโก วิย สตฺเถน ผาเลตฺวา ปูติมํสโลหิตํ หริตฺวา ผาสุกํ กโรติ, พหุํ โส ปุฺํ ปสวตีติ.

โย เทวทตฺโต วิย สาสนํ อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ กตฺวา จตุนฺนํ กมฺมานํ อฺตรวเสน สงฺฆํ ภินฺทติ, อยํ สงฺฆเภทโก นาม. เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา.

โย ปน ปกตตฺตํ ภิกฺขุนึ ติณฺณํ มคฺคานํ อฺตรสฺมึ ทูเสติ, อยํ ภิกฺขุนีทูสโก นาม. เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา. โย ปน กายสํสคฺเคน สีลวินาสํ ปาเปติ, ตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ น วาริตา. พลกฺกาเรน โอทาตวตฺถวสนํ กตฺวา อนิจฺฉมานํเยว ทูเสนฺโตปิ ภิกฺขุนีทูสโกเยว, พลกฺกาเรน ปน โอทาตวตฺถวสนํ กตฺวา อิจฺฉมานํ ทูเสนฺโต ภิกฺขุนีทูสโก น โหติ. กสฺมา? ยสฺมา คิหิภาเว สมฺปฏิจฺฉิ ตมตฺเตเยว สา อภิกฺขุนี โหติ. สกึสีลวิปนฺนํ ปจฺฉา ทูเสนฺโต สิกฺขมานสามเณรีสุ จ วิปฺปฏิปชฺชนฺโต เนว ภิกฺขุนีทูสโก โหติ, ปพฺพชฺชมฺปิ อุปสมฺปทมฺปิ ลภติ. อิติ อิเม เอกาทส อภพฺพปุคฺคลา เวทิตพฺพา.

๑๔๒. อูนวีสติวสฺสสฺส ปน อุปสมฺปทาเยว ปฏิกฺขิตฺตา, น ปพฺพชฺชา, ตสฺมา ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปฏฺาย ปริปุณฺณวีสติวสฺโส อุปสมฺปาเทตพฺโพ. คพฺภวีโสปิ หิ ปริปุณฺณวีสติวสฺโสตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ยถาห ภควา –

‘‘ยํ, ภิกฺขเว, มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปมํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ปมํ วิฺาณํ ปาตุภูตํ, ตทุปาทาย สาวสฺส ชาติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คพฺภวีสํ อุปสมฺปาเทตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๒๔).

ตตฺถ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๐๔) โย ทฺวาทส มาเส มาตุกุจฺฉิสฺมึ วสิตฺวา มหาปวารณาย ชาโต, โส ตโต ปฏฺาย ยาว เอกูนวีสติเม วสฺเส มหาปวารณา, ตํ อติกฺกมิตฺวา ปาฏิปเท อุปสมฺปาเทตพฺโพ. เอเตนุปาเยน หายนวฑฺฒนํ เวทิตพฺพํ. โปราณกตฺเถรา ปน เอกูนวีสติวสฺสํ สามเณรํ นิกฺขมนียปุณฺณมาสึ อติกฺกมฺม ปาฏิปททิวเส อุปสมฺปาเทนฺติ. กสฺมา? เอกสฺมึ วสฺเส ฉ จาตุทฺทสิกอุโปสถา โหนฺติ, อิติ วีสติยา วสฺเสสุ จตฺตาโร มาสา ปริหายนฺติ, ราชาโน ตติเย ตติเย คสฺเส วสฺสํ อุกฺกฑฺฒนฺติ, อิติ อฏฺารสวสฺเสสุ ฉ มาสา วฑฺฒนฺติ, ตโต อุโปสถวเสน ปริหีเน จตฺตาโร มาเส อปเนตฺวา ทฺเว มาสา อวเสสา โหนฺติ, เต ทฺเว มาเส คเหตฺวา วีสติ วสฺสานิ ปริปุณฺณานิ โหนฺตีติ นิกฺกงฺขา หุตฺวา นิกฺขมนียปุณฺณมาสึ อติกฺกมฺม ปาฏิปเท อุปสมฺปาเทนฺติ.

เอตฺถ ปน โย ปวาเรตฺวา วีสติวสฺโส ภวิสฺสติ, ตํ สนฺธาย ‘‘เอกูนวีสติวสฺส’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺมา โย มาตุกุจฺฉิสฺมึ ทฺวาทส มาเส วสิ, โส เอกวีสติวสฺโส โหติ. โย สตฺต มาเส วสิ, โส สตฺตมาสาธิกวีสติวสฺโส. ฉมาสชาโต ปน น ชีวติ, อูนวีสติวสฺสํ ปน ‘‘ปริปุณฺณวีสติวสฺโส’’ติ สฺาย อุปสมฺปาเทนฺตสฺส อนาปตฺติ, ปุคฺคโล ปน อนุปสมฺปนฺโนว โหติ. สเจ ปน โส ทสวสฺสจฺจเยน อฺํ อุปสมฺปาเทติ, ตฺเจ มุฺจิตฺวา คโณ ปูรติ, สูปสมฺปนฺโน. โสปิ จ ยาว น ชานาติ, ตาวสฺส เนว สคฺคนฺตราโย น โมกฺขนฺตราโย, ตฺวา ปน ปุน อุปสมฺปชฺชิตพฺพํ.

๑๔๓. อิติ อิเมหิ ปพฺพชฺชาโทเสหิ วิรหิโตปิ ‘‘น, ภิกฺขเว, อนนุฺาโต มาตาปิตูหิ ปุตฺโต ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๑๐๕) วจนโต มาตาปิตูหิ อนนุฺาโต น ปพฺพาเชตพฺโพ. ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๐๕) มาตาปิตูหีติ ชนเก สนฺธาย วุตฺตํ. สเจ ทฺเวปิ อตฺถิ, ทฺเวปิ อาปุจฺฉิตพฺพา. สเจ ปิตา มโต โหติ มาตา วา, โย ชีวติ, โส อาปุจฺฉิ ตพฺโพ, ปพฺพชิตาปิ อาปุจฺฉิตพฺพาว. อาปุจฺฉนฺเตน สยํ วา คนฺตฺวา อาปุจฺฉิตพฺพํ, อฺโ วา เปเสตพฺโพ. โส เอว วา เปเสตพฺโพ ‘‘คจฺฉ มาตาปิตโร อาปุจฺฉิตฺวา เอหี’’ติ. สเจ ‘‘อนุฺาโตมฺหี’’ติ วทติ, สทฺทหนฺเตน ปพฺพาเชตพฺโพ. ปิตา สยํ ปพฺพชิโต ปุตฺตมฺปิ ปพฺพาเชตุกาโม โหติ, มาตรํ อาปุจฺฉิตฺวา ปพฺพาเชตุ. มาตา วา ธีตรํ ปพฺพาเชตุกามา ปิตรํ อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตุ. ปิตา ปุตฺตทาเรน อนตฺถิโก ปลายิ, มาตา ‘‘อิมํ ปพฺพเชถา’’ติ ปุตฺตํ ภิกฺขูนํ เทติ, ‘‘ปิตาสฺส กุหิ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘จิตฺตเกฬึ กีฬิตุํ ปลาโต’’ติ วทติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. มาตา เกนจิ ปุริเสน สทฺธึ ปลาตา โหติ, ปิตา ปน ‘‘ปพฺพาเชถา’’ติ วทติ, เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปิตา วิปฺปวุตฺโถ โหติ, มาตา ปุตฺตํ ‘‘ปพฺพาเชถา’’ติ อนุชานาติ, ‘‘ปิตาสฺส กุหิ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘กึ ตุมฺหากํ ปิตรา, อหํ ชานิสฺสามี’’ติ วทติ, ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ.

มาตาปิตโร มตา, ทารโก จูฬมาตาทีนํ สนฺติเก สํวทฺโธ, ตสฺมึ ปพฺพาชิยมาเน าตกา กลหํ วา กโรนฺติ ขิยฺยนฺติ วา, ตสฺมา วิวาทุปจฺเฉทนตฺถํ อาปุจฺฉิตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ, อนาปุจฺฉิตฺวา ปพฺพาเชนฺตสฺส ปน อาปตฺติ นตฺถิ. ทหรกาเล คเหตฺวา โปสกา มาตาปิตโร นาม โหนฺติ, เตสุปิ เอเสว นโย. ปุตฺโต อตฺตานํ นิสฺสาย ชีวติ, น มาตาปิตโร. สเจปิ ราชา โหติ, อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตพฺโพ. มาตาปิตูหิ อนุฺาโต ปพฺพชิตฺวา ปุน วิพฺภมติ, สเจปิ สตกฺขตฺตุํ ปพฺพชิตฺวา วิพฺภมติ, อาคตาคตกาเล ปุนปฺปุนํ อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจปิ เอวํ วทนฺติ ‘‘อยํ วิพฺภมิตฺวา เคหํ อาคโต, อมฺหากํ กมฺมํ น กโรติ, ปพฺพชิตฺวา ตุมฺหากํ วตฺตํ น ปูเรติ, นตฺถิ อิมสฺส อาปุจฺฉนกิจฺจํ, อาคตาคตํ นํ ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ, เอวํ นิสฺสฏฺํ ปุน อนาปุจฺฉาปิ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

โยปิ ทหรกาเลเยว ‘‘อยํ ตุมฺหากํ ทินฺโน, ยทา อิจฺฉถ, ตทา ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ เอวํ ทินฺโน โหติ, โสปิ อาคตาคโต ปุน อนาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตพฺโพ. ยํ ปน ทหรกาเลเยว ‘‘อิมํ, ภนฺเต, ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ อนุชานิตฺวา ปจฺฉา วุฑฺฒิปฺปตฺตกาเล นานุชานนฺติ, อยํ น อนาปุจฺฉา ปพฺพาเชตพฺโพ. เอโก มาตาปิตูหิ สทฺธึ ภณฺฑิตฺวา ‘‘ปพฺพาเชถ ม’’นฺติ อาคจฺฉติ, ‘‘อาปุจฺฉิตฺวา เอหี’’ติ จ วุตฺโต ‘‘นาหํ คจฺฉามิ, สเจ มํ น ปพฺพาเชถ, วิหารํ วา ฌาเปมิ, สตฺเถน วา ตุมฺเห ปหรามิ, ตุมฺหากํ าตกานํ วา อุปฏฺากานํ วา อารามจฺเฉทนาทีหิ อนตฺถํ อุปฺปาเทมิ, รุกฺขา วา ปติตฺวา มรามิ, โจรมชฺฌํ วา ปวิสามิ, เทสนฺตรํ วา คจฺฉามี’’ติ วทติ, ตํ ตสฺเสว รกฺขณตฺถาย ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปนสฺส มาตาปิตโร อาคนฺตฺวา ‘‘กสฺมา อมฺหากํ ปุตฺตํ ปพฺพาชยิตฺถา’’ติ วทนฺติ, เตสํ ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘รกฺขณตฺถาย นํ ปพฺพาชยิมฺห, ปฺายถ ตุมฺเห ปุตฺเตนา’’ติ วตฺตพฺพา. ‘‘รุกฺขา ปติสฺสามี’’ติ อภิรุหิตฺวา ปน หตฺถปาเท มุฺจนฺตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติเยว.

เอโก วิเทสํ คนฺตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจติ, อาปุจฺฉิตฺวา เจ คโต, ปพฺพาเชตพฺโพ. โน เจ, ทหรภิกฺขุํ เปเสตฺวา อาปุจฺฉาเปตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. อติทูรฺเจ โหติ, ปพฺพาเชตฺวาปิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ เปเสตฺวา ทสฺเสตุํ วฏฺฏติ. กุรุนฺทิยํ ปน วุตฺตํ ‘‘สเจ ทูรํ โหติ, มคฺโค จ มหากนฺตาโร, ‘คนฺตฺวา อาปุจฺฉิสฺสามี’ติ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ. สเจ ปน มาตาปิตูนํ พหู ปุตฺตา โหนฺติ, เอวฺจ วทนฺติ ‘‘ภนฺเต, เอเตสํ ทารกานํ ยํ อิจฺฉถ, ตํ ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ, ทารเก วีมํสิตฺวา ยํ อิจฺฉติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจปิ สกเลน กุเลน วา คาเมน วา อนุฺาโต โหติ ‘‘ภนฺเต, อิมสฺมึ กุเล วา คาเม วา ยํ อิจฺฉถ, ตํ ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ, ยํ อิจฺฉติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพติ.

๑๔๔. เอวํ (มหาว. อฏฺ. ๓๔) ปพฺพชฺชาโทสวิรหิตํ มาตาปิตูหิ อนุฺาตํ ปพฺพาเชนฺเตนปิ จ สเจ อจฺฉินฺนเกโส โหติ, เอกสีมายฺจ อฺเปิ ภิกฺขู อตฺถิ, เกสจฺเฉทนตฺถาย ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉิตพฺพํ. ตตฺรายํ อาปุจฺฉนวิธิ (มหาว. อฏฺ. ๙๘) – สีมาปริยาปนฺเน ภิกฺขู สนฺนิปาเตตฺวา ปพฺพชฺชาเปกฺขํ ตตฺถ เนตฺวา ‘‘สงฺฆํ, ภนฺเต, อิมสฺส ทารกสฺส ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา สกึ วา วตฺตพฺพํ. เอตฺถ จ ‘‘อิมสฺส ทารกสฺส ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉามี’’ติปิ ‘‘อิมสฺส สมณกรณํ อาปุจฺฉามี’’ติปิ ‘‘อยํ สมโณ โหตุกาโม’’ติปิ ‘‘อยํ ปพฺพชิตุกาโม’’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติเยว. สเจ สภาคฏฺานํ โหติ, ทส วา วีสติ วา ตึสํ วา ภิกฺขู วสนฺตีติ ปริจฺเฉโท ปฺายติ, เตสํ ิโตกาสํ วา นิสินฺโนกาสํ วา คนฺตฺวาปิ ปุริมนเยเนว อาปุจฺฉิตพฺพํ. ปพฺพชฺชาเปกฺขํ วินาว ทหรภิกฺขู วา สามเณเร วา เปเสตฺวาปิ ‘‘เอโก, ภนฺเต, ปพฺพชฺชาเปกฺโข อตฺถิ, ตสฺส ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉามา’’ติอาทินา นเยน อาปุจฺฉาเปตุํ วฏฺฏติ. สเจ เกจิ ภิกฺขู เสนาสนํ วา คุมฺพาทีนิ วา ปวิสิตฺวา นิทฺทายนฺติ วา สมณธมฺมํ วา กโรนฺติ, อาปุจฺฉกา จ ปริเยสนฺตาปิ อทิสฺวา ‘‘สพฺเพ อาปุจฺฉิตา อมฺเหหี’’ติ สฺิโน โหนฺติ, ปพฺพชฺชา นาม ลหุกกมฺมํ, ตสฺมา ปพฺพชิโต สุปพฺพชิโต, ปพฺพาเชนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ.

สเจ ปน วิหาโร มหา โหติ อเนกภิกฺขุสหสฺสาวาโส, สพฺเพ ภิกฺขู สนฺนิปาตาเปตุมฺปิ ทุกฺกรํ, ปเคว ปฏิปาฏิยา อาปุจฺฉิตุํ, ขณฺฑสีมาย วา ตฺวา นทีสมุทฺทาทีนิ วา คนฺตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปน นวมุณฺโฑ วา โหติ วิพฺภนฺตโก วา นิคณฺาทีสุ อฺตโร วา ทฺวงฺคุลเกโส วา อูนทฺวงฺคุลเกโส วา, ตสฺส เกสจฺเฉทนกิจฺจํ นตฺถิ, ตสฺมา ภณฺฑุกมฺมํ อนาปุจฺฉิตฺวาปิ ตาทิสํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. ทฺวงฺคุลาติริตฺตเกโส ปน โย โหติ อนฺตมโส เอกสิขามตฺตธโรปิ, โส ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตพฺโพ.

๑๔๕. เอวํ อาปุจฺฉิตฺวา ปพฺพาเชนฺเตน จ ปริปุณฺณปตฺตจีวโรว ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ตสฺส นตฺถิ, ยาจิตเกนปิ ปตฺตจีวเรน ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ, สภาคฏฺาเน วิสฺสาเสน คเหตฺวาปิ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. สเจ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๘) ปน อปกฺกํ ปตฺตํ จีวรูปคานิ จ วตฺถานิ คเหตฺวา อาคโต โหติ, ยาว ปตฺโต ปจฺจติ, จีวรานิ จ กรียนฺติ, ตาว วิหาเร วสนฺตสฺส อนามฏฺปิณฺฑปาตํ ทาตุํ วฏฺฏติ, ถาลเกสุ ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ปุเรภตฺตํ สามเณรภาคสมโก อามิสภาโค ทาตุํ วฏฺฏติ, เสนาสนคฺคาโห ปน สลากภตฺตอุทฺเทสภตฺตนิมนฺตนาทีนิ จ น วฏฺฏนฺติ. ปจฺฉาภตฺตมฺปิ สามเณรภาคสโม เตลตณฺฑุลมธุผาณิตาทิเภสชฺชภาโค วฏฺฏติ. สเจ คิลาโน โหติ, เภสชฺชมสฺส กาตุํ วฏฺฏติ, สามเณรสฺส วิย สพฺพํ ปฏิชคฺคนกมฺมํ. อุปสมฺปทาเปกฺขํ ปน ยาจิตเกน ปตฺตจีวเรน อุปสมฺปาเทตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘น, ภิกฺขเว, ยาจิตเกน ปตฺตจีวเรน อุปสมฺปาเทตพฺโพ, โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๑๘) วุตฺตํ. ตสฺมา โส ปริปุณฺณปตฺตจีวโรเยว อุปสมฺปาเทตพฺโพ. สเจ ตสฺส นตฺถิ, อาจริยุปชฺฌายา จสฺส ทาตุกามา โหนฺติ, อฺเ วา ภิกฺขู นิรเปกฺเขหิ นิสฺสชฺชิตฺวา อธิฏฺานุปคํ ปตฺตจีวรํ ทาตพฺพํ. ยาจิตเกน ปน ปตฺเตน วา จีวเรน วา อุปสมฺปาเทนฺตสฺเสว อาปตฺติ โหติ, กมฺมํ ปน น กุปฺปติ.

๑๔๖. ปริปุณฺณปตฺตจีวรํ (มหาว. อฏฺ. ๓๔) ปพฺพาเชนฺเตนปิ สเจ โอกาโส โหติ, สยํ ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีหิ พฺยาวโฏ โหติ, โอกาสํ น ลภติ, เอโก ทหรภิกฺขุ วตฺตพฺโพ ‘‘เอตํ ปพฺพาเชหี’’ติ. อวุตฺโตปิ เจ ทหรภิกฺขุ อุปชฺฌายํ อุทฺทิสฺส ปพฺพาเชติ, วฏฺฏติ. สเจ ทหรภิกฺขุ นตฺถิ, สามเณโรปิ วตฺตพฺโพ ‘‘เอตํ ขณฺฑสีมํ เนตฺวา ปพฺพาเชตฺวา กาสายานิ อจฺฉาเทตฺวา เอหี’’ติ. สรณานิ ปน สยํ ทาตพฺพานิ. เอวํ ภิกฺขุนาว ปพฺพาชิโต โหติ. ปุริสฺหิ ภิกฺขุโต อฺโ ปพฺพาเชตุํ น ลภติ, มาตุคามํ ภิกฺขุนีโต อฺโ, สามเณโร ปน สามเณรี วา อาณตฺติยา กาสายานิ ทาตุํ ลภนฺติ, เกโสโรปนํ เยน เกนจิ กตํ สุกตํ.

สเจ ปน ภพฺพรูโป โหติ สเหตุโก าโต ยสสฺสี กุลปุตฺโต, โอกาสํ กตฺวาปิ สยเมว ปพฺพาเชตพฺโพ, ‘‘มตฺติกามุฏฺึ คเหตฺวา นหายิตฺวา อาคจฺฉาหี’’ติ จ น ปน วิสฺสชฺเชตพฺโพ. ปพฺพชิตุกามานฺหิ ปมํ พลวอุสฺสาโห โหติ, ปจฺฉา ปน กาสายานิ จ เกสหรณสตฺถกฺจ ทิสฺวา อุตฺรสนฺติ, เอตฺโตเยว ปลายนฺติ, ตสฺมา สยเมว นหานติตฺถํ เนตฺวา สเจ นาติทหโร, ‘‘นหาหี’’ติ วตฺตพฺโพ, เกสา ปนสฺส สยเมว มตฺติกํ คเหตฺวา โธวิตพฺพา. ทหรกุมารโก ปน สยํ อุทกํ โอตริตฺวา โคมยมตฺติกาหิ ฆํสิตฺวา นหาเปตพฺโพ. สเจปิสฺส กจฺฉุ วา ปิฬกา วา โหนฺติ, ยถา มาตา ปุตฺตํ น ชิคุจฺฉติ, เอวเมวํ อชิคุจฺฉนฺเตน สาธุกํ หตฺถปาทโต จ สีสโต จ ปฏฺาย ฆํสิตฺวา ฆํสิตฺวา นหาเปตพฺโพ. กสฺมา? เอตฺตเกน หิ อุปกาเรน กุลปุตฺตา อาจริยุปชฺฌาเยสุ จ สาสเน จ พลวสิเนหา ติพฺพคารวา อนิวตฺติธมฺมา โหนฺติ, อุปฺปนฺนํ อนภิรตึ วิโนเทตฺวา เถรภาวํ ปาปุณนฺติ, กตฺุกตเวทิโน โหนฺติ.

เอวํ นหาปนกาเล ปน เกสมสฺสุํ โอโรปนกาเล วา ‘‘ตฺวํ าโต ยสสฺสี, อิทานิ มยํ ตํ นิสฺสาย ปจฺจเยหิ น กิลมิสฺสามา’’ติ น วตฺตพฺโพ, อฺาปิ อนิยฺยานิกกถา น วตฺตพฺพา, อถ ขฺวสฺส ‘‘อาวุโส, สุฏฺุ อุปธาเรหิ, สตึ อุปฏฺาเปหี’’ติ วตฺวา ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ อาจิกฺขิตพฺพํ. อาจิกฺขนฺเตน จ วณฺณสณฺานคนฺธาสโยกาสวเสน อสุจิเชคุจฺฉปฏิกฺกูลภาวํ นิชฺชีวนิสฺสตฺตภาวํ วา ปากฏํ กโรนฺเตน อาจิกฺขิตพฺพํ. สเจ หิ โส ปุพฺเพ มทฺทิตสงฺขาโร โหติ ภาวิตภาวโน กณฺฏกเวธาเปกฺโข วิย ปริปกฺกคณฺโฑ สูริยุคฺคมนาเปกฺขํ วิย จ ปริณตปทุมํ, อถสฺส อารทฺธมตฺเต กมฺมฏฺานํ มนสิกาเร อินฺทาสนิ วิย ปพฺพเต กิเลสปพฺพเต จุณฺณยมานํเยว าณํ ปวตฺตติ, ขุรคฺเคเยว อรหตฺตํ ปาปุณาติ. เย หิ เกจิ ขุรคฺเค อรหตฺตํ ปตฺตา, สพฺเพ เต เอวรูปํ สวนํ ลภิตฺวา กลฺยาณมิตฺเตน อาจริเยน ทินฺนนยํ นิสฺสาย, โน อนิสฺสาย. ตสฺมาสฺส อาทิโตว เอวรูปี กถา กเถตพฺพาติ.

เกเสสุ ปน โอโรปิเตสุ หลิทฺทิจุณฺเณน วา คนฺธจุณฺเณน วา สีสฺจ สรีรฺจ อุพฺพฏฺเฏตฺวา คิหิคนฺธํ อปเนตฺวา กาสายานิ ติกฺขตฺตุํ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา สกึ วา ปฏิคฺคาหาเปตพฺโพ. อถาปิสฺส หตฺเถ อทตฺวา อาจริโย วา อุปชฺฌาโย วา สยเมว อจฺฉาเทติ, วฏฺฏติ. สเจ อฺํ ทหรํ วา สามเณรํ วา อุปาสกํ วา อาณาเปติ ‘‘อาวุโส, เอตานิ กาสายานิ คเหตฺวา เอตํ อจฺฉาเทหี’’ติ, ตฺเว วา อาณาเปติ ‘‘เอตานิ คเหตฺวา อจฺฉาเทหี’’ติ, สพฺพํ ตํ วฏฺฏติ, สพฺพํ เตน ภิกฺขุนาว ทินฺนํ โหติ. ยํ ปน นิวาสนํ วา ปารุปนํ วา อนาณตฺติยา นิวาเสติ วา ปารุปติ วา, ตํ อปเนตฺวา ปุน ทาตพฺพํ. ภิกฺขุนา หิ สหตฺเถน วา อาณตฺติยา วา ทินฺนเมว กาสายํ วฏฺฏติ, อทินฺนํ น วฏฺฏติ. สเจปิ ตสฺเสว สนฺตกํ โหติ, โก ปน วาโท อุปชฺฌายมูลเก.

๑๔๗. เอวํ ปน ทินฺนานิ กาสายานิ อจฺฉาทาเปตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ การาเปตฺวา เย ตตฺถ สนฺนิปติตา ภิกฺขู, เตสํ ปาเท วนฺทาเปตฺวา อถ สรณคหณตฺถํ อุกฺกุฏิกํ นิสีทาเปตฺวา อฺชลึ ปคฺคณฺหาเปตฺวา ‘‘เอวํ วเทหี’’ติ วตฺตพฺโพ, ‘‘ยมหํ วทามิ, ตํ วเทหี’’ติ วตฺตพฺโพ. อถสฺส อุปชฺฌาเยน วา อาจริเยน วา ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติอาทินา นเยน สรณานิ ทาตพฺพานิ ยถาวุตฺตปฏิปาฏิยาว, น อุปฺปฏิปาฏิยา. สเจ หิ เอกปทมฺปิ เอกกฺขรมฺปิ อุปฺปฏิปาฏิยา เทติ, พุทฺธํ สรณํเยว วา ติกฺขตฺตุํ ทตฺวา ปุน อิตเรสุ เอเกกํ ติกฺขตฺตุํ เทติ, อทินฺนานิ โหนฺติ สรณานิ.

อิมฺจ ปน สรณคมนุปสมฺปทํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อนุฺาตอุปสมฺปทา เอกโตสุทฺธิยา วฏฺฏติ, สามเณรปพฺพชฺชา ปน อุภโตสุทฺธิยาว วฏฺฏติ, โน เอกโตสุทฺธิยา. ตสฺมา อุปสมฺปทาย สเจ อาจริโย ตฺติโทสฺเจว กมฺมวาจาโทสฺจ วชฺเชตฺวา กมฺมํ กโรติ, สุกตํ โหติ. ปพฺพชฺชาย ปน อิมานิ ตีณิ สรณานิ พุ-การ ธ-การาทีนํ พฺยฺชนานํ านกรณสมฺปทํ อหาเปนฺเตน อาจริเยนปิ อนฺเตวาสิเกนปิ วตฺตพฺพานิ. สเจ อาจริโย วตฺตุํ สกฺโกติ, อนฺเตวาสิโก น สกฺโกติ, อนฺเตวาสิโก วา สกฺโกติ, อาจริโย น สกฺโกติ, อุโภปิ วา น สกฺโกนฺติ, น วฏฺฏติ. สเจ ปน อุโภปิ สกฺโกนฺติ, วฏฺฏติ. อิมานิ จ ปน ททมาเนน ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ เอวํ เอกสมฺพนฺธานิ อนุนาสิกนฺตานิ วา กตฺวา ทาตพฺพานิ, ‘‘พุทฺธม สรณม คจฺฉามี’’ติ เอวํ วิจฺฉินฺทิตฺวา มการนฺตานิ วา กตฺวา ทาตพฺพานิ. อนฺธกฏฺกถายํ ‘‘นามํ สาเวตฺวา ‘อหํ, ภนฺเต, พุทฺธรกฺขิโต ยาวชีวํ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ วุตฺตํ, ตํ เอกฏฺกถายมฺปิ นตฺถิ, ปาฬิยมฺปิ น วุตฺตํ, เตสํ รุจิมตฺตเมว, ตสฺมา น คเหตพฺพํ. น หิ ตถา อวทนฺตสฺส สรณํ กุปฺปติ. เอตฺตาวตา จ สามเณรภูมิยํ ปติฏฺิโต โหติ.

๑๔๘. สเจ ปเนส คติมา โหติ ปณฺฑิตชาติโก, อถสฺส ตสฺมึเยว าเน สิกฺขาปทานิ อุทฺทิสิตพฺพานิ. กถํ? ยถา ภควตา อุทฺทิฏฺานิ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สามเณรานํ ทส สิกฺขาปทานิ, เตสุ จ สามเณเรหิ สิกฺขิตุํ. ปาณาติปาตา เวรมณิ, อทินฺนาทานา เวรมณิ, อพฺรหฺมจริยา เวรมณิ, มุสาวาทา เวรมณิ, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา เวรมณิ, วิกาลโภชนา เวรมณิ, นจฺจคีตวาทิต วิสูกทสฺสนา เวรมณิ, มาลาคนฺธ วิเลปน ธารณ มณฺฑน วิภูสนฏฺานา เวรมณิ, อุจฺจาสยนมหาสยนา เวรมณิ, ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณา เวรมณี’’ติ (มหาว. ๑๐๖).

อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘อหํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนาโม ยาวชีวํ ปาณาติปาตา เวรมณิสิกฺขาปทํ สมาทิยามี’’ติ เอวํ สรณทานํ วิย สิกฺขาปททานมฺปิ วุตฺตํ, ตํ เนว ปาฬิยํ, น อฏฺกถาสุ อตฺถิ, ตสฺมา ยถาปาฬิยาว อุทฺทิสิตพฺพานิ. ปพฺพชฺชา หิ สรณคมเนเหว สิทฺธา, สิกฺขาปทานิ ปน เกวลํ สิกฺขาปทปูรณตฺถํ ชานิตพฺพานิ, ตสฺมา ปาฬิยา อาคตนเยเนว อุคฺคเหตุํ อสกฺโกนฺตสฺส ยาย กายจิ ภาสาย อตฺถวเสนปิ อาจิกฺขิตุํ วฏฺฏติ. ยาว ปน อตฺตนา สิกฺขิตพฺพสิกฺขาปทานิ น ชานาติ, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณฏฺานนิสชฺชาทีสุ ปานโภชนาทิวิธิมฺหิ จ น กุสโล โหติ, ตาว โภชนสาลํ วา สลากภาชนฏฺานํ วา อฺํ วา ตถารูปฏฺานํ น เปเสตพฺโพ, สนฺติกาวจโรเยว กาตพฺโพ, พาลทารโก วิย ปฏิปชฺชิตพฺโพ, สพฺพมสฺส กปฺปิยากปฺปิยํ อาจิกฺขิตพฺพํ, นิวาสนปารุปนาทีสุ อภิสมาจาริเกสุ วิเนตพฺโพ. เตนปิ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทสหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ สามเณรํ นาเสตุํ. ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, อพฺรหฺมจารี โหติ, มุสาวาที โหติ, มชฺชปายี โหติ, พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส อวณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส อวณฺณํ ภาสติ, มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ, ภิกฺขุนีทูสโก โหตี’’ติ (มหาว. ๑๐๘) –

เอวํ วุตฺตานิ ทส นาสนงฺคานิ อารกา ปริวชฺเชตฺวา อาภิสมาจาริกํ ปริปูเรนฺเตน ทสวิเธ สีเล สาธุกํ สิกฺขิตพฺพํ.

๑๔๙. โย ปน (มหาว. อฏฺ. ๑๐๘) ปาณาติปาตาทีสุ ทสสุ นาสนงฺเคสุ เอกมฺปิ กมฺมํ กโรติ, โส ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺโพ. ตีสุ หิ นาสนาสุ ลิงฺคนาสนาเยว อิธาธิปฺเปตา. ยถา จ ภิกฺขูนํ ปาณาติปาตาทีสุ ตา ตา อาปตฺติโย โหนฺติ, น ตถา สามเณรานํ. สามเณโร หิ กุนฺถ กิปิลฺลิกมฺปิ มาเรตฺวา มงฺคุลณฺฑกมฺปิ ภินฺทิตฺวา นาเสตพฺพตํเยว ปาปุณาติ, ตาวเทวสฺส สรณคมนานิ จ อุปชฺฌายคฺคหณฺจ เสนาสนคฺคาโห จ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, สงฺฆลาภํ น ลภติ, ลิงฺคมตฺตเมว เอกํ อวสิฏฺํ โหติ. โส สเจ อากิณฺณโทโสว โหติ, อายตึ สํวเร น ติฏฺติ, นิกฺกฑฺฒิตพฺโพ. อถ สหสา วิรชฺฌิตฺวา ‘‘ทุฏฺุ มยา กต’’นฺติ ปุน สํวเร าตุกาโม โหติ, ลิงฺคนาสนกิจฺจํ นตฺถิ, ยถานิวตฺถปารุตสฺเสว สรณานิ ทาตพฺพานิ, อุปชฺฌาโย ทาตพฺโพ. สิกฺขาปทานิ ปน สรณคมเนเนว อิชฺฌนฺติ. สามเณรานฺหิ สรณคมนํ ภิกฺขูนํ อุปสมฺปทกมฺมวาจาสทิสํ, ตสฺมา ภิกฺขูนํ วิย จตุปาริสุทฺธิสีลํ อิมินาปิ ทส สีลานิ สมาทินฺนาเนว โหนฺติ, เอวํ สนฺเตปิ ทฬฺหีกรณตฺถํ อายตึ สํวเร ปติฏฺาปนตฺถํ ปุน ทาตพฺพานิ. สเจ ปุริมิกาย ปุน สรณานิ คหิตานิ, ปจฺฉิมิกาย วสฺสาวาสิกํ ลจฺฉติ. สเจ ปจฺฉิมิกาย คหิตานิ, สงฺเฆน อปโลเกตฺวา ลาโภ ทาตพฺโพ. อทินฺนาทาเน ติณสลากมตฺเตนปิ วตฺถุนา, อพฺรหฺมจริเย ตีสุ มคฺเคสุ ยตฺถ กตฺถจิ วิปฺปฏิปตฺติยา, มุสาวาเท หสาธิปฺปายตายปิ มุสา ภณิเต อสฺสมโณ โหติ, นาเสตพฺพตํ อาปชฺชติ, มชฺชปาเน ปน ภิกฺขุโน อชานิตฺวาปิ พีชโต ปฏฺาย มชฺชํ ปิวนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. สามเณโร ชานิตฺวา ปิวนฺโตว สีลเภทํ อาปชฺชติ, น อชานิตฺวา. ยานิ ปนสฺส อิตรานิ ปฺจ สิกฺขาปทานิ, เอเตสุ ภินฺเนสุ น นาเสตพฺโพ, ทณฺฑกมฺมํ กาตพฺพํ. สิกฺขาปเท ปน ปุน ทินฺเนปิ อทินฺเนปิ วฏฺฏติ, ทณฺฑกมฺเมน ปน ปีเฬตฺวา อายตึ สํวเร ปนตฺถาย ทาตพฺพเมว.

อวณฺณภาสเน ปน ‘‘อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติอาทีนํ ปฏิปกฺขวเสน พุทฺธสฺส วา ‘‘สฺวากฺขาโต’’ติอาทีนํ ปฏิปกฺขวเสน ธมฺมสฺส วา ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน’’ติอาทีนํ ปฏิปกฺขวเสน สงฺฆสฺส วา อวณฺณํ ภาสนฺโต รตนตฺตยํ นินฺทนฺโต ครหนฺโต อาจริยุปชฺฌายาทีหิ ‘‘มา เอวํ อวจา’’ติ อวณฺณภาสเน อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา นิวาเรตพฺโพ. ‘‘สเจ ยาวตติยํ วุจฺจมาโน น โอรมติ, กณฺฏกนาสนาย นาเสตพฺโพ’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘สเจ เอวํ วุจฺจมาโน ตํ ลทฺธึ นิสฺสชฺชติ, ทณฺฑกมฺมํ กาเรตฺวา อจฺจยํ เทสาเปตพฺโพ. สเจ น นิสฺสชฺชติ, ตเถว อาทาย ปคฺคยฺห ติฏฺติ, ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ. อยเมว หิ นาสนา อิธาธิปฺเปตาติ. มิจฺฉาทิฏฺิเกปิ เอเสว นโย. สสฺสตุจฺเฉทานฺหิ อฺตรทิฏฺิโก สเจ อาจริยาทีหิ โอวทิยมาโน นิสฺสชฺชติ, ทณฺฑกมฺมํ กาเรตฺวา อจฺจยํ เทสาเปตพฺโพ, อปฏินิสฺสชฺชนฺโตว นาเสตพฺโพ. ภิกฺขุนีทูสโก เจตฺถ กามํ อพฺรหฺมจาริคฺคหเณน คหิโตว, อพฺรหฺมจารึ ปน อายตึ สํวเร าตุกามํ สรณานิ ทตฺวา อุปสมฺปาเทตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุนีทูสโก อายตึ สํวเร าตุกาโมปิ ปพฺพชฺชมฺปิ น ลภติ, ปเคว อุปสมฺปทนฺติ เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภิกฺขุนีทูสโก’’ติ อิทํ วิสุํ ทสมํ องฺคํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๕๐. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส สามเณรสฺส ทณฺฑกมฺมํ กาตุํ. ภิกฺขูนํ อลาภาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขูนํ อนตฺถาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขูนํ อวาสาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขู อกฺโกสติ, ปริภาสติ, ภิกฺขู ภิกฺขูหิ เภเทตี’’ติ (มหาว. ๑๐๗) ‘‘วจนโต ปน อิมานิ ปฺจ องฺคานิ, สิกฺขาปเทสุ จ ปจฺฉิมานิ วิกาลโภชนาทีนิ ปฺจาติ ทส ทณฺฑกมฺมวตฺถูนิ. กึปเนตฺถ ทณฺฑกมฺมํ กตฺตพฺพ’’นฺติ? ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยตฺถ วา วสติ, ยตฺถ วา ปฏิกฺกมติ, ตตฺถ อาวรณํ กาตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๐๗) วจนโต ยตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๐๗) วสติ วา ปวิสติ วา, ตตฺถ อาวรณํ กาตพฺพํ ‘‘มา อิธ ปวิสา’’ติ. อุภเยนปิ อตฺตโน ปริเวณฺจ วสฺสคฺเคน ปตฺตเสนาสนฺจ วุตฺตํ. ตสฺมา น สพฺโพ สงฺฆาราโม อาวรณํ กาตพฺโพ, กโรนฺโต จ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ ‘‘น, ภิกฺขเว, สพฺโพ สงฺฆาราโม อาวรณํ กาตพฺโพ, โย กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา. น จ มุขทฺวาริโก อาหาโร อาวรณํ กาตพฺโพ, กโรนฺโต จ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ ‘‘น, ภิกฺขเว, มุขทฺวาริโก อาหาโร อาวรณํ กาตพฺโพ, โย กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา. ตสฺมา ‘‘อชฺช มา ขาท มา ภุฺชา’’ติ วทโตปิ ‘‘อาหารมฺปิ นิวาเรสฺสามี’’ติ ปตฺตจีวรํ อนฺโต นิกฺขิปโตปิ สพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏํ. อนาจารสฺส ปน ทุพฺพจสามเณรสฺส ทณฺฑกมฺมํ กตฺวา ยาคุํ วา ภตฺตํ วา ปตฺตจีวรํ วา ทสฺเสตฺวา ‘‘เอตฺตเก นาม ทณฺฑกมฺเม อาหเฏ อิทํ ลจฺฉสี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ภควตา หิ อาวรณเมว ทณฺฑกมฺมํ วุตฺตํ. ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปน ‘‘อปราธานุรูปํ อุทกทารุวาลิกาทีนํ อาหราปนมฺปิ กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา ตมฺปิ กาตพฺพํ, ตฺจ โข ‘‘โอรมิสฺสติ วิรมิสฺสตี’’ติ อนุกมฺปาย, น ‘‘นสฺสิสฺสติ วิพฺภมิสฺสตี’’ติอาทินยปฺปวตฺเตน ปาปชฺฌาสเยน. ‘‘ทณฺฑกมฺมํ กโรมี’’ติ จ อุณฺหปาสาเณ วา นิปชฺชาเปตุํ ปาสาณิฏฺกาทีนิ วา สีเส นิกฺขิปาเปตุํ อุทกํ วา ปเวเสตุํ น วฏฺฏติ.

อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉาปิ ทณฺฑกมฺมํ น กาเรตพฺพํ ‘‘น, ภิกฺขเว, อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉา อาวรณํ กาตพฺพํ, โย กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๐๘) วจนโต. เอตฺถ ปน ‘‘ตุมฺหากํ สามเณรสฺส อยํ นาม อปราโธ, ทณฺฑกมฺมมสฺส กโรถา’’ติ ติกฺขตฺตุํ วุตฺเต สเจ โส อุปชฺฌาโย ทณฺฑกมฺมํ น กโรติ, สยํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจปิ อาทิโต อุปชฺฌาโย วทติ ‘‘มยฺหํ สามเณรานํ โทเส สติ ตุมฺเห ทณฺฑกมฺมํ กโรถา’’ติ, กาตุํ วฏฺฏติเยว. ยถา จ สามเณรานํ, เอวํ สทฺธิวิหาริกนฺเตวาสิกานมฺปิ ทณฺฑกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ, อฺเสํ ปน ปริสา น อปลาเฬตพฺพา, อปลาเฬนฺโต ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ ‘‘น, ภิกฺขเว, อฺสฺส ปริสา อปลาเฬตพฺพา, โย อปลาเฬยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๐๘) วจนโต. ตสฺมา ‘‘ตุมฺหากํ ปตฺตํ เทม, จีวรํ เทมา’’ติ อตฺตโน อุปฏฺานกรณตฺถํ สงฺคณฺหิตฺวา สามเณรา วา โหนฺตุ อุปสมฺปนฺนา วา, อนฺตมโส ทุสฺสีลภิกฺขุสฺสปิ ปรสฺส ปริสภูเต ภินฺทิตฺวา คณฺหิตุํ น วฏฺฏติ, อาทีนวํ ปน วตฺตุํ วฏฺฏติ ‘‘ตยา นหายิตุํ อาคเตน คูถมกฺขนํ วิย กตํ ทุสฺสีลํ นิสฺสาย วิหรนฺเตนา’’ติ. สเจ โส สยเมว ชานิตฺวา อุปชฺฌํ วา นิสฺสยํ วา ยาจติ, ทาตุํ วฏฺฏติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ปพฺพชฺชาวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๒๓. นิสฺสยวินิจฺฉยกถา

๑๕๑. นิสฺสโยติ เอตฺถ ปน อยํ นิสฺสโย นาม เกน ทาตพฺโพ, เกน น ทาตพฺโพ, กสฺส ทาตพฺโพ, กสฺส น ทาตพฺโพ, กถํ คหิโต โหติ, กถํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, นิสฺสาย เกน วสิตพฺพํ, เกน จ น วสิตพฺพนฺติ? ตตฺถ เกน ทาตพฺโพ, เกน น ทาตพฺโพติ เอตฺถ ตาว ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน ทสวสฺเสน วา อติเรกทสวสฺเสน วา อุปสมฺปาเทตุํ, นิสฺสยํ ทาตุ’’นฺติ (มหาว. ๗๖, ๘๒) จ วจนโต โย พฺยตฺโต โหติ ปฏิพโล อุปสมฺปทาย ทสวสฺโส วา อติเรกทสวสฺโส วา, เตน ทาตพฺโพ, อิตเรน น ทาตพฺโพ. สเจ เทติ, ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ.

เอตฺถ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๔๕-๑๔๗) จ ‘‘พฺยตฺโต’’ติ อิมินา ปริสุปฏฺาปกพหุสฺสุโต เวทิตพฺโพ. ปริสุปฏฺาปเกน หิ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน ปริสํ อภิวินเย วิเนตุํ ทฺเว วิภงฺคา ปคุณา วาจุคฺคตา กาตพฺพา, อสกฺโกนฺเตน ตีหิ ชเนหิ สทฺธึ ปริวตฺตนกฺขมา กาตพฺพา, กมฺมากมฺมฺจ ขนฺธกวตฺตฺจ อุคฺคเหตพฺพํ, ปริสาย ปน อภิธมฺเม วินยนตฺถํ สเจ มชฺฌิมภาณโก โหติ, มูลปณฺณาสโก อุคฺคเหตพฺโพ, ทีฆภาณเกน มหาวคฺโค, สํยุตฺตภาณเกน เหฏฺิมา วา ตโย วคฺคา มหาวคฺโค วา, องฺคุตฺตรภาณเกน เหฏฺา วา อุปริ วา อุปฑฺฒนิกาโย อุคฺคเหตพฺโพ, อสกฺโกนฺเตน ติกนิปาตโต ปฏฺาย อุคฺคเหตุมฺปิ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘เอกํ คณฺหนฺเตน จตุกฺกนิปาตํ วา ปฺจกนิปาตํ วา อุคฺคเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ชาตกภาณเกน สาฏฺกถํ ชาตกํ อุคฺคเหตพฺพํ, ตโต โอรํ น วฏฺฏติ. ‘‘ธมฺมปทมฺปิ สห วตฺถุนา อุคฺคเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ตโต ตโต สมุจฺจยํ กตฺวา มูลปณฺณาสกมตฺตํ วฏฺฏติ, ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ กุรุนฺทฏฺกถายํ ปฏิกฺขิตฺตํ, อิตราสุ วิจารณาเยว นตฺถิ. อภิธมฺเม กิฺจิ คเหตพฺพนฺติ น วุตฺตํ. ยสฺส ปน สาฏฺกถมฺปิ วินยปิฏกํ อภิธมฺมปิฏกฺจ ปคุณํ, สุตฺตนฺเต จ วุตฺตปฺปกาโร คนฺโถ นตฺถิ, ปริสํ อุปฏฺาเปตุํ น ลภติ. เยน ปน สุตฺตนฺตโต จ วินยโต จ วุตฺตปฺปมาโณ คนฺโถ อุคฺคหิโต, อยํ ปริสุปฏฺาโก พหุสฺสุโตว โหติ, ทิสาปาโมกฺโข เยนกามํคโม ปริสํ อุปฏฺาเปตุํ ลภติ, อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ ‘‘พฺยตฺโต’’ติ อธิปฺเปโต.

โย ปน อนฺเตวาสิโน วา สทฺธิวิหาริกสฺส วา คิลานสฺส สกฺโกติ อุปฏฺานาทีนิ กาตุํ, อยํ อิธ ‘‘ปฏิพโล’’ติ อธิปฺเปโต. ยํ ปน วุตฺตํ –

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. น อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน สมาธิกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน ปฺากฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อตฺตนา น อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น ปรํ อเสกฺเข สีลกฺขนฺเธ สมาทเปตา. อตฺตนา น อเสกฺเขน สมาธิกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น ปรํ อเสกฺเข สมาธิกฺขนฺเธ สมาทเปตา. อตฺตนา น อเสกฺเขน ปฺากฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น ปรํ อเสกฺเข ปฺากฺขนฺเธ สมาทเปตา. อตฺตนา น อเสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น ปรํ อเสกฺเข วิมุตฺติกฺขนฺเธ สมาทเปตา. อตฺตนา น อเสกฺเขน วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น ปรํ อเสกฺเข วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธ สมาทเปตา. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อสฺสทฺโธ โหติ, อหิริโก โหติ, อโนตฺตปฺปี โหติ, กุสีโต โหติ, มุฏฺสฺสติ โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อธิสีเล สีลวิปนฺโน โหติ, อชฺฌาจาเร อาจารวิปนฺโน โหติ, อติทิฏฺิยา ทิฏฺิวิปนฺโน โหติ, อปฺปสฺสุโต โหติ, ทุปฺปฺโ โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. น ปฏิพโล โหติ อนฺเตวาสึ วา สทฺธิวิหารึ วา คิลานํ อุปฏฺาตุํ วา อุปฏฺาเปตุํ วา, อนภิรตํ วูปกาเสตุํ วา วูปกาสาเปตุํ วา, อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ ธมฺมโต วิโนเทตุํ, อาปตฺตึ น ชานาติ, อาปตฺติยา วุฏฺานํ น ชานาติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. น ปฏิพโล โหติ อนฺเตวาสึ วา สทฺธิวิหารึ วา อาภิสมาจาริกาย สิกฺขาย สิกฺขาเปตุํ, อาทิพฺรหฺมจริยกาย สิกฺขาย วิเนตุํ, อภิธมฺเม วิเนตุํ, อภิวินเย วิเนตุํ, อุปฺปนฺนํ ทิฏฺิคตํ ธมฺมโต วิเวเจตุํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อาปตฺตึ น ชานาติ, อนาปตฺตึ น ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน น สฺวาคตานิ โหนฺติ น สุวิภตฺตานิ น สุปฺปวตฺตีนิ น สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อาปตฺตึ น ชานาติ, อนาปตฺตึ น ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, อูนทสวสฺโส โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ’’ติอาทิ (มหาว. ๘๔). ตมฺปิ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน ทสวสฺเสน วา อติเรกทสวสฺเสน วา อุปสมฺปาเทตุํ, นิสฺสยํ ทาตุ’’นฺติ (มหาว. ๗๖, ๘๒) จ เอวํ สงฺเขปโต วุตฺตสฺเสว อุปชฺฌายาจริยลกฺขณสฺส วิตฺถารทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.

ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๘๔) กิฺจิ อยุตฺตวเสน ปฏิกฺขิตฺตํ, กิฺจิ อาปตฺติองฺควเสน. ตถา หิ ‘‘น อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธนา’’ติ จ ‘‘อตฺตนา น อเสกฺเขนา’’ติ จ ‘‘อสฺสทฺโธ’’ติ จ อาทีสุ ตีสุ ปฺจเกสุ อยุตฺตวเสน ปฏิกฺเขโป กโต, น อาปตฺติองฺควเสน. โย หิ อเสกฺเขหิ สีลกฺขนฺธาทีหิ อสมนฺนาคโต ปเร จ ตตฺถ สมาทเปตุํ อสกฺโกนฺโต อสฺสทฺธิยาทิโทสยุตฺโตว หุตฺวา ปริสํ ปริหรติ, ตสฺส ปริสา สีลาทีหิ ปริยายติเยว น วฑฺฒติ, ตสฺมา ‘‘เตน น อุปสมฺปาเทตพฺพ’’นฺติอาทิ อยุตฺตวเสน วุตฺตํ, น อาปตฺติองฺควเสน. น หิ ขีณาสวสฺเสว อุปชฺฌาจริยภาโว ภควตา อนุฺาโต, ยทิ ตสฺเสว อนุฺาโต อภวิสฺส, ‘‘สเจ อุปชฺฌายสฺส อนภิรติ อุปฺปนฺนา โหตี’’ติอาทึ น วเทยฺย, ยสฺมา ปน ขีณาสวสฺส ปริสา สีลาทีหิ น ปริหายติ, ตสฺมา ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

อธิสีเล สีลวิปนฺโนติอาทีสุ ปาราชิกฺจ สงฺฆาทิเสสฺจ อาปนฺโน อธิสีเล สีลวิปนฺโน นาม. อิตเร ปฺจาปตฺติกฺขนฺเธ อาปนฺโน อชฺฌาจาเร อาจารวิปนฺโน นาม. สมฺมาทิฏฺึ ปหาย อนฺตคฺคาหิกาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคโต อติทิฏฺิยา ทิฏฺิวิปนฺโน นาม. ยตฺตกํ สุตํ ปริสํ ปริหรนฺตสฺส อิจฺฉิตพฺพํ, เตน วิรหิตตฺตา อปฺปสฺสุโต. ยํ เตน ชานิตพฺพํ อาปตฺตาทิ, ตสฺส อชานนโต ทุปฺปฺโ. อิมสฺมึ ปฺจเก ปุริมานิ ตีณิ ปทานิ อยุตฺตวเสน วุตฺตานิ, ปจฺฉิมานิ ทฺเว อาปตฺติองฺควเสน.

อาปตฺตึ น ชานาตีติ ‘‘อิทํ นาม มยา กต’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อิมํ นาม อาปตฺตึ อยํ อาปนฺโน’’ติ น ชานาติ. วุฏฺานํ น ชานาตีติ ‘‘วุฏฺานคามินิโต วา เทสนาคามินิโต วา อาปตฺติโต เอวํ นาม วุฏฺานํ โหตี’’ติ น ชานาติ. อิมสฺมิฺหิ ปฺจเก ปุริมานิ ทฺเว ปทานิ อยุตฺตวเสน วุตฺตานิ, ปจฺฉิมานิ ตีณิ อาปตฺติองฺควเสน.

อาภิสมาจาริกาย สิกฺขายาติ ขนฺธกวตฺเต วิเนตุํ น ปฏิพโล โหตีติ อตฺโถ. อาทิพฺรหฺมจริยกายาติ เสกฺขปณฺณตฺติยํ วิเนตุํ น ปฏิพโลติ อตฺโถ. อภิธมฺเมติ นามรูปปริจฺเฉเท วิเนตุํ น ปฏิพโลติ อตฺโถ. อภิวินเยติ สกเล วินยปิฏเก วิเนตุํ น ปฏิพโลติ อตฺโถ. วิเนตุํ น ปฏิพโลติ จ สพฺพตฺถ สิกฺขาเปตุํ น สกฺโกตีติ อตฺโถ. ธมฺมโต วิเวเจตุนฺติ ธมฺเมน การเณน วิสฺสชฺชาเปตุํ. อิมสฺมึ ปฺจเก สพฺพปเทสุ อาปตฺติ.

‘‘อาปตฺตึ น ชานาตี’’ติอาทิปฺจกสฺมึ วิตฺถาเรนาติ อุภโตวิภงฺเคน สทฺธึ. น สฺวาคตานีติ น สุฏฺุ อาคตานิ. สุวิภตฺตานีติ สุฏฺุ วิภตฺตานิ ปทปจฺจาภฏฺสงฺกรโทสรอตานิ. สุปฺปวตฺตีนีติ ปคุณานิ วาจุคฺคตานิ สุวินิจฺฉิตานิ. สุตฺตโสติ ขนฺธกปริวารโต อาหริตพฺพสุตฺตวเสน สุฏฺุ วินิจฺฉิตานิ. อนุพฺยฺชนโสติ อกฺขรปทปาริปูริยา จ สุวินิจฺฉิตานิ อขณฺฑานิ อวิปรีตกฺขรานิ. เอเตน อฏฺกถา ทีปิตา. อฏฺกถาโต หิ เอส วินิจฺฉโย โหตีติ. อิมสฺมึ ปฺจเกปิ สพฺพปเทสุ อาปตฺติ. อูนทสวสฺสปริโยสานปฺจเกปิ เอเสว นโย. อิติ อาทิโต ตโย ปฺจกา, จตุตฺเถ ตีณิ ปทานิ, ปฺจเม ทฺเว ปทานีติ สพฺเพปิ จตฺตาโร ปฺจกา อยุตฺตวเสน วุตฺตา, จตุตฺเถ ปฺจเก ทฺเว ปทานิ, ปฺจเม ตีณิ, ฉฏฺสตฺตมฏฺมา ตโย ปฺจกาติ สพฺเพปิ จตฺตาโร ปฺจกา อาปตฺติองฺควเสน วุตฺตา.

สุกฺกปกฺเข ปน วุตฺตวิปริยาเยน ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหตี’’ติอาทินา (มหาว. ๘๔) อฏฺ ปฺจกา อาคตาเยว. ตตฺถ สพฺพตฺเถว อนาปตฺติ.

๑๕๒. กสฺส ทาตพฺโพ, กสฺส น ทาตพฺโพติ เอตฺถ ปน โย ลชฺชี โหติ, ตสฺส ทาตพฺโพ. อิตรสฺส น ทาตพฺโพ ‘‘น, ภิกฺขเว, อลชฺชีนํ นิสฺสโย ทาตพฺโพ, โย ทเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๒๐) วจนโต. นิสฺสาย วสนฺเตนปิ อลชฺชี นิสฺสาย น วสิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘น, ภิกฺขเว, อลชฺชีนํ นิสฺสาย วตฺถพฺพํ, โย วเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๒๐). เอตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๒๐) จ อลชฺชีนนฺติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ, อลชฺชิปุคฺคเล นิสฺสาย น วสิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมา นวํ านํ คเตน ‘‘เอหิ, ภิกฺขุ, นิสฺสยํ คณฺหาหี’’ติ วุจฺจมาเนนปิ จตูหปฺจาหํ นิสฺสยทายกสฺส ลชฺชิภาวํ อุปปริกฺขิตฺวา นิสฺสโย คเหตพฺโพ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตูหปฺจาหํ อาคเมตุํ ยาว ภิกฺขุสภาคตํ ชานามี’’ติ (มหาว. ๑๒๐) หิ วุตฺตํ. สเจ ‘‘เถโร ลชฺชี’’ติ ภิกฺขูนํ สนฺติเก สุตฺวา อาคตทิวเสเยว คเหตุกาโม โหติ, เถโร ปน ‘‘อาคเมหิ ตาว, วสนฺโต ชานิสฺสสี’’ติ กติปาหํ อาจารํ อุปปริกฺขิตฺวา นิสฺสยํ เทติ, วฏฺฏติ, ปกติยา นิสฺสยคหณฏฺานํ คเตน ปน ตทเหว คเหตพฺโพ, เอกทิวสมฺปิ ปริหาโร นตฺถิ. สเจ ปมยาเม อาจริยสฺส โอกาโส นตฺถิ, โอกาสํ อลภนฺโต ‘‘ปจฺจูสสมเย คเหสฺสามี’’ติ สยติ, อรุณํ อุคฺคตมฺปิ น ชานาติ, อนาปตฺติ. สเจ ปน ‘‘คณฺหิสฺสามี’’ติ อาโภคํ อกตฺวา สยติ, อรุณุคฺคมเน ทุกฺกฏํ. อคตปุพฺพํ านํ คเตน ทฺเว ตีณิ ทิวสานิ วสิตฺวา คนฺตุกาเมน อนิสฺสิเตน วสิตพฺพํ. ‘‘สตฺตาหํ วสิสฺสามี’’ติ อาลยํ กโรนฺเตน ปน นิสฺสโย คเหตพฺโพ. สเจ เถโร ‘‘กึ สตฺตาหํ วสนฺตสฺส นิสฺสเยนา’’ติ วทติ, ปฏิกฺขิตฺตกาลโต ปฏฺาย ลทฺธปริหาโร โหติ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺเนน ภิกฺขุนา นิสฺสยํ อลภมาเนน อนิสฺสิเตน วตฺถุ’’นฺติ วจนโต ปน อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน สเจ อตฺตนา สทฺธึ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนํ นิสฺสยทายกํ น ลภติ, เอวํ นิสฺสยํ อลภมาเนน อนิสฺสิเตน พหูนิปิ ทิวสานิ คนฺตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปุพฺเพ นิสฺสยํ คเหตฺวา วุตฺถปุพฺพํ กิฺจิ อาวาสํ ปวิสติ, เอกรตฺตํ วสนฺเตนปิ นิสฺสโย คเหตพฺโพ. อนฺตรามคฺเค วิสฺสมนฺโต วา สตฺถํ วา ปริเยสนฺโต กติปาหํ วสติ, อนาปตฺติ. อนฺโตวสฺเส ปน นิพทฺธวาสํ วสิตพฺพํ, นิสฺสโย จ คเหตพฺโพ. นาวาย คจฺฉนฺตสฺส ปน วสฺสาเน อาคเตปิ นิสฺสยํ อลภนฺตสฺส อนาปตฺติ. สเจ อนฺตรามคฺเค คิลาโน โหติ, นิสฺสยํ อลภมาเนน อนิสฺสิเตน วสิตุํ วฏฺฏติ.

คิลานุปฏฺาโกปิ คิลาเนน ยาจิยมาโน อนิสฺสิโต เอว วสิตุํ ลภติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลาเนน ภิกฺขุนา นิสฺสยํ อลภมาเนน อนิสฺสิเตน วตฺถุํ, อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานุปฏฺาเกน ภิกฺขุนา นิสฺสยํ อลภมาเนน ยาจิยมาเนน อนิสฺสิเตน วตฺถุ’’นฺติ (มหาว. ๑๒๑). สเจ ปน ‘‘ยาจาหิ ม’’นฺติ วุจฺจมาโนปิ คิลาโน มาเนน น ยาจติ, คนฺตพฺพํ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อารฺิเกน ภิกฺขุนา ผาสุวิหารํ สลฺลกฺเขนฺเตน นิสฺสยํ อลภมาเนน อนิสฺสิเตน วตฺถุํ ‘ยทา ปติรูโป นิสฺสยทายโก อาคจฺฉิสฺสติ, ตทา ตสฺส นิสฺสาย วสิสฺสามี’’’ติ วจนโต ปน ยตฺถ วสนฺตสฺส สมถวิปสฺสนานํ ปฏิลาภวเสน ผาสุ โหติ, ตาทิสํ ผาสุวิหารํ สลฺลกฺเขนฺเตน นิสฺสยํ อลภมาเนน อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. อิมฺจ ปน ปริหารํ เนว โสตาปนฺโน, น สกทาคามิอนาคามิอรหนฺโต ลภนฺติ, น ถามคตสฺส สมาธิโน วา วิปสฺสนาย วา ลาภี, วิสฺสฏฺกมฺมฏฺาเน ปน พาลปุถุชฺชเน กถาว นตฺถิ. ยสฺส โข ปน สมโถ วา วิปสฺสนา วา ตรุณา โหติ, อยํ อิมํ ปริหารํ ลภติ, ปวารณาสงฺคโหปิ เอตสฺเสว อนุฺาโต. ตสฺมา อิมินา ปุคฺคเลน อาจริเย ปวาเรตฺวา คเตปิ ‘‘ยทา ปติรูโปนิสฺสยทายโก อาคจฺฉิสฺสติ, ตํ นิสฺสาย วสิสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา ปุน ยาว อาสาฬฺหีปุณฺณมา, ตาว อนิสฺสิเตน วตฺถุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน อาสาฬฺหีมาเส อาจริโย นาคจฺฉติ, ยตฺถ นิสฺสโย ลพฺภติ, ตตฺถ คนฺตพฺพํ.

๑๕๓. กถํ คหิโต โหตีติ เอตฺถ อุปชฺฌายสฺส สนฺติเก ตาว อุปชฺฌํ คณฺหนฺเตน เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อุปชฺฌาโย เม, ภนฺเต, โหหี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ. เอวํ สทฺธิวิหาริเกน วุตฺเต สเจ อุปชฺฌาโย ‘‘สาหู’’ติ วา ‘‘ลหู’’ติ วา ‘‘โอปายิก’’นฺติ วา ‘‘ปติรูป’’นฺติ วา ‘‘ปาสาทิเกน สมฺปาเทหี’’ติ วา กาเยน วิฺาเปติ, วาจาย วิฺาเปติ, กาเยน วาจาย วิฺาเปติ, คหิโต โหติ อุปชฺฌาโย. อิทเมว เหตฺถ อุปชฺฌายคฺคหณํ, ยทิทํ อุปชฺฌายสฺส อิเมสุ ปฺจสุ ปเทสุ ยสฺส กสฺสจิ ปทสฺส วาจาย สาวนํ กาเยน วา อตฺถวิฺาปนนฺติ. เกจิ ปน ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉนํ สนฺธาย วทนฺติ, น ตํ ปมาณํ. อายาจนทานมตฺเตน หิ คหิโต โหติ อุปชฺฌาโย, น เอตฺถ สมฺปฏิจฺฉนํ องฺคํ. สทฺธิวิหาริเกนปิ น เกวลํ ‘‘อิมินา เม ปเทน อุปชฺฌาโย คหิโต’’ติ าตุํ วฏฺฏติ, ‘‘อชฺชตคฺเค ทานิ เถโร มยฺหํ ภาโร, อหมฺปิ เถรสฺส ภาโร’’ติ อิทมฺปิ าตุํ วฏฺฏติ (มหาว. อฏฺ. ๖๔). วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อุปชฺฌาโย, ภิกฺขเว, สทฺธิวิหาริกมฺหิ ปุตฺตจิตฺตํ อุปฏฺเปสฺสติ, สทฺธิวิหาริโก อุปชฺฌายมฺหิ ปิตุจิตฺตํ อุปฏฺเปสฺสติ, เอวํ เต อฺมฺํ สคารวา สปฺปติสฺสา สภาควุตฺติโน วิหรนฺตา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสนฺตี’’ติ (มหาว. ๖๕).

อาจริยสฺส สนฺติเก นิสฺสยคฺคหเณปิ อยเมว วินิจฺฉโย. อยํ ปเนตฺถ วิเสโส – อาจริยสฺส สนฺติเก นิสฺสยํ คณฺหนฺเตน อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา ‘‘อาจริโย เม, ภนฺเต, โหหิ, อายสฺมโต นิสฺสาย วจฺฉามี’’ติ (มหาว. ๗๗) ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ, เสสํ วุตฺตนยเมว.

๑๕๔. กถํ ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ เอตฺถ ตาว อุปชฺฌายมฺหา ปฺจหากาเรหิ นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิ เวทิตพฺพา, อาจริยมฺหา ฉหิ อากาเรหิ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ปฺจิมา, ภิกฺขเว, นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิโย อุปชฺฌายมฺหา. อุปชฺฌาโย ปกฺกนฺโต วา โหติ, วิพฺภนฺโต วา, กาลกโต วา, ปกฺขสงฺกนฺโต วา, อาณตฺติเยว ปฺจมี. อิมา โข, ภิกฺขเว, ปฺจ นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิโย อุปชฺฌายมฺหา.

ฉยิมา, ภิกฺขเว, นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิโย อาจริยมฺหา. อาจริโย ปกฺกนฺโต วา โหติ, วิพฺภนฺโต วา, กาลกโต วา, ปกฺขสงฺกนฺโต วา, อาณตฺติเยว ปฺจมี, อุปชฺฌาเยน วา สโมธานคโต โหติ. อิมา โข, ภิกฺขเว, ฉ นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิโย อาจริยมฺหา’’ติ (มหาว. ๘๓).

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (มหาว. อฏฺ. ๘๓) – ปกฺกนฺโตติ ทิสํ คโต. เอวํ คเต จ ปน ตสฺมึ สเจ วิหาเร นิสฺสยทายโก อตฺถิ, ยสฺส สนฺติเก อฺทาปิ นิสฺสโย วา คหิตปุพฺโพ โหติ, โย วา เอกสมฺโภคปริโภโค, ตสฺส สนฺติเก นิสฺสโย คเหตพฺโพ, เอกทิวสมฺปิ ปริหาโร นตฺถิ. สเจ ตาทิโส นตฺถิ, อฺโ ลชฺชี เปสโล อตฺถิ, ตสฺส เปสลภาวํ ชานนฺเตน ตทเหว นิสฺสโย ยาจิตพฺโพ. สเจ เทติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. อถ ปน ‘‘ตุมฺหากํ อุปชฺฌาโย ลหุํ อาคมิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉติ, อุปชฺฌาเยน เจ ตถา วุตฺตํ, ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ วทติ ‘‘เตน หิ อุปชฺฌายสฺส อาคมนํ อาคเมถา’’ติ, วฏฺฏติ. อถ ปนสฺส ปกติยา เปสลภาวํ น ชานาติ, จตฺตาริ ปฺจ ทิวสานิ ตสฺส ภิกฺขุสฺส สภาคตํ โอโลเกตฺวา โอกาสํ กาเรตฺวา นิสฺสโย คเหตพฺโพ. สเจ ปน วิหาเร นิสฺสยทายโก นตฺถิ, อุปชฺฌาโย จ ‘‘อหํ กติปาเหน อาคมิสฺสามิ, มา อุกฺกณฺิตฺถา’’ติ วตฺวา คโต, ยาว อาคมนา ปริหาโร ลพฺภติ, อถาปิ นํ ตตฺถ มนุสฺสา ปริจฺฉินฺนกาลโต อุตฺตริปิ ปฺจ วา ทส วา ทิวสานิ วาเสนฺติเยว, เตน วิหารํ ปวตฺติ เปเสตพฺพา ‘‘ทหรา มา อุกฺกณฺนฺตุ, อหํ อสุกทิวสํ นาม อาคมิสฺสามี’’ติ, เอวมฺปิ ปริหาโร ลพฺภติ. อถ อาคจฺฉโต อนฺตรามคฺเค นทีปูเรน วา โจราทีหิ วา อุปทฺทโว โหติ, เถโร อุทโกสกฺกนํ วา อาคเมติ, สหาเย วา ปริเยสติ, ตํ เจ ปวตฺตึ ทหรา สุณนฺติ, ยาว อาคมนา ปริหาโร ลพฺภติ. สเจ ปน โส ‘‘อิเธวาหํ วสิสฺสามี’’ติ ปหิณติ, ปริหาโร นตฺถิ. ยตฺถ นิสฺสโย ลพฺภติ, ตตฺถ คนฺตพฺพํ. วิพฺภนฺเต ปน กาลกเต ปกฺขสงฺกนฺเต วา เอกทิวสมฺปิ ปริหาโร นตฺถิ, ยตฺถ นิสฺสโย ลพฺภติ, ตตฺถ คนฺตพฺพํ.

อาณตฺตีติ ปน นิสฺสยปณามนา วุจฺจติ, ตสฺมา ‘‘ปณาเมมิ ต’’นฺติ วา ‘‘มา อิธ ปฏิกฺกมี’’ติ วา ‘‘นีหร เต ปตฺตจีวร’’นฺติ วา ‘‘นาหํ ตยา อุปฏฺาเปตพฺโพ’’ติ วาติ อิมินา ปาฬินเยน ‘‘มา มํ คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉี’’ติอาทินา ปาฬิมุตฺตกนเยน วา โย นิสฺสยปณามนาย ปณามิโต โหติ, เตน อุปชฺฌาโย ขมาเปตพฺโพ. สเจ อาทิโตว น ขมติ, ทณฺฑกมฺมํ อาหริตฺวา ติกฺขตฺตุํ ตาว สยเมว ขมาเปตพฺโพ. โน เจ ขมติ, ตสฺมึ วิหาเร มหาเถเร คเหตฺวา ขมาเปตพฺโพ. โน เจ ขมติ, สามนฺตวิหาเร ภิกฺขู คเหตฺวา ขมาเปตพฺโพ. สเจ เอวมฺปิ น ขมติ, อฺตฺถ คนฺตฺวา อุปชฺฌายสฺส สภาคานํ สนฺติเก วสิตพฺพํ ‘‘อปฺเปว นาม ‘สภาคานํ เม สนฺติเก วสตี’ติ ตฺวาปิ ขเมยฺยา’’ติ. สเจ เอวมฺปิ น ขมติ, ตตฺเรว วสิตพฺพํ. ตตฺร เจ ทุพฺภิกฺขาทิโทเสน น สกฺกา โหติ วสิตุํ, ตํเยว วิหารํ อาคนฺตฺวา อฺสฺส สนฺติเก นิสฺสยํ คเหตฺวา วสิตุํ วฏฺฏติ. อยมาณตฺติยํ วินิจฺฉโย.

อาจริยมฺหา นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธีสุ อาจริโย ปกฺกนฺโต วา โหตีติ เอตฺถ โกจิ อาจริโย อาปุจฺฉิตฺวา ปกฺกมติ, โกจิ อนาปุจฺฉิตฺวา, อนฺเตวาสิโกปิ เอวเมว. ตตฺร สเจ อนฺเตวาสิโก อาจริยํ อาปุจฺฉติ ‘‘อสุกํ นาม, ภนฺเต, านํ คนฺตุํ อิจฺฉามิ เกนจิเทว กรณีเยนา’’ติ, อาจริเยน จ ‘‘กทา คมิสฺสสี’’ติ วุตฺโต ‘‘สายนฺเห วา รตฺตึ วา อุฏฺหิตฺวา คมิสฺสามี’’ติ วทติ, อาจริโยปิ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, ตํ ขณํเยว นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ปน ‘‘ภนฺเต, อสุกํ นาม านํ คนฺตุกาโมมฺหี’’ติ วุตฺเต อาจริโย ‘‘อสุกสฺมึ นาม คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉา ชานิสฺสสี’’ติ วทติ, โส จ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, ตโต เจ คโต สุคโต. สเจ ปน น คจฺฉติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อถาปิ ‘‘คจฺฉามี’’ติ วุตฺเต อาจริเยน ‘‘มา ตาว คจฺฉ, รตฺตึ มนฺเตตฺวา ชานิสฺสามา’’ติ วุตฺโต มนฺเตตฺวา คจฺฉติ, สุคโต. โน เจ คจฺฉติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อาจริยํ อนาปุจฺฉา ปกฺกมนฺตสฺส ปน อุปจารสีมาติกฺกเม นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, อนฺโตอุปจารสีมโต ปฏินิวตฺตนฺตสฺส น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ปน อาจริโย อนฺเตวาสิกํ อาปุจฺฉติ ‘‘อาวุโส, อสุกํ นาม านํ คมิสฺสามี’’ติ, อนฺเตวาสิเกน จ ‘‘กทา’’ติ วุตฺเต ‘‘สายนฺเห วา รตฺติภาเค วา’’ติ วทติ, อนฺเตวาสิโกปิ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, ตํ ขณํเยว นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, สเจ ปน อาจริโย ‘‘สฺเว ปิณฺฑาย จริตฺวา คมิสฺสามี’’ติ วทติ, อิตโร จ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, เอกทิวสํ ตาว นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ปุนทิวเส ปฏิปฺปสฺสทฺโธ โหติ. ‘‘อสุกสฺมึ นาม คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา ชานิสฺสามิ มม คมนํ วา อคมนํ วา’’ติ วตฺวา ปน สเจ น คจฺฉติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อถาปิ ‘‘คจฺฉามี’’ติ วุตฺเต อนฺเตวาสิเกน ‘‘มา ตาว คจฺฉถ, รตฺตึ มนฺเตตฺวา ชานิสฺสถา’’ติ วุตฺโต มนฺเตตฺวาปิ น คจฺฉติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ อุโภปิ อาจริยนฺเตวาสิกา เกนจิเทว กรณีเยน พหิสีมํ คจฺฉนฺติ, ตโต เจ อาจริโย คมิยจิตฺเต อุปฺปนฺเน อนาปุจฺฉาว คนฺตฺวา ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺโตเยว นิวตฺตติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมิตฺวา นิวตฺตติ, ปฏิปฺปสฺสทฺโธ โหติ. อาจริยุปชฺฌายา ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมฺม อฺสฺมึ วิหาเร วสนฺติ, นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อาจริเย วิพฺภนฺเต กาลกเต ปกฺขสงฺกนฺเต จ ตํ ขณํเยว ปฏิปฺปสฺสมฺภติ.

อาณตฺติยํ ปน อาจริโย มุฺจิตุกาโมว หุตฺวา นิสฺสยปณามนาย ปณาเมติ, อนฺเตวาสิโก จ ‘‘กิฺจาปิ มํ อาจริโย ปณาเมติ, อถ โข หทเยน มุทุโก’’ติ สาลโย โหติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจปิ อาริโย สาลโย, อนฺเตวาสิโก นิราลโย ‘‘น ทานิ อิมํ นิสฺสาย วสิสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, เอวมฺปิ น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อุภินฺนํ สาลยภาเว ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภติเยว, อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเปน ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ปณามิเตน ทณฺฑกมฺมํ อาหริตฺวา ติกฺขตฺตุํ ขมาเปตพฺโพ. โน เจ ขมติ, อุปชฺฌาเย วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชิตพฺพํ. ยถาปฺตฺตํ ปน อาจริยุปชฺฌายวตฺตํ ปริปูเรนฺตํ อธิมตฺตเปมาทิปฺจงฺคสมนฺนาคตํ อนฺเตวาสิกํ สทฺธิวิหาริกํ วา ปณาเมนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, อิตรํ อปณาเมนฺตสฺสปิ ทุกฺกฏเมว. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘น, ภิกฺขเว, สมฺมาวตฺตนฺโต ปณาเมตพฺโพ, โย ปณาเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. น จ, ภิกฺขเว, อสมฺมาวตฺตนฺโต น ปณาเมตพฺโพ, โย น ปณาเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส (มหาว. ๘๐).

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ อนฺเตวาสิกํ อปณาเมนฺโต อาจริโย สาติสาโร โหติ, ปณาเมนฺโต อนติสาโร โหติ. อาจริยมฺหิ นาธิมตฺตํ เปมํ โหติ, นาธิมตฺโต ปสาโท โหติ, นาธิมตฺตา หิรี โหติ, นาธิมตฺโต คารโว โหติ, นาธิมตฺตา ภาวนา โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ อนฺเตวาสิกํ อปณาเมนฺโต อาจริโย สาติสาโร โหติ, ปณาเมนฺโต อนติสาโร โหติ (มหาว. ๘๑).

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ สทฺธิวิหาริกํ อปณาเมนฺโต อุปชฺฌาโย สาติสาโร โหติ, ปณาเมนฺโต อนติสาโร โหติ. อุปชฺฌายมฺหิ นาธิมตฺตํ เปมํ โหติ, นาธิมตฺโต ปสาโท โหติ, นาธิมตฺตา หิรี โหติ, นาธิมตฺโต คารโว โหติ, นาธิมตฺตา ภาวนา โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ สทฺธิวิหาริกํ อปณาเมนฺโต อุปชฺฌาโย สาติสาโร โหติ, ปณาเมนฺโต อนติสาโร โหตี’’ติอาทิ (มหาว. ๖๘).

ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๖๘) นาธิมตฺตํ เปมํ โหตีติ อุปชฺฌายมฺหิ อธิมตฺตํ เคหสฺสิตเปมํ น โหติ. นาธิมตฺตา ภาวนา โหตีติ อธิมตฺตา เมตฺตาภาวนา น โหตีติ อตฺโถ.

อุปชฺฌาเยน วา สโมธานคโตติ เอตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๘๓) ทสฺสนสวนวเสน สโมธานํ เวทิตพฺพํ. สเจ หิ อาจริยํ นิสฺสาย วสนฺโต สทฺธิวิหาริโก เอกวิหาเร เจติยํ วา วนฺทนฺตํ, เอกคาเม วา ปิณฺฑาย จรนฺตํ อุปชฺฌายํ ปสฺสติ, นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อุปชฺฌาโย ปสฺสติ, สทฺธิวิหาริโก น ปสฺสติ, น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. มคฺคปฺปฏิปนฺนํ วา อากาเสน วา คจฺฉนฺตํ อุปชฺฌายํ ทิสฺวา ทูรตฺตา ‘‘ภิกฺขู’’ติ ชานาติ, ‘‘อุปชฺฌาโย’’ติ น ชานาติ, น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ชานาติ, ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อุปริปาสาเท อุปชฺฌาโย วสติ, เหฏฺา สทฺธิวิหาริโก, ตํ อทิสฺวาว ยาคุํ ปิวิตฺวา ปฏิกฺกมติ, อาสนสาลาย วา นิสินฺนํ อทิสฺวาว เอกมนฺเต ภุฺชิตฺวา ปกฺกมติ, ธมฺมสฺสวนมณฺฑเป วา นิสินฺนมฺปิ ตํ อทิสฺวาว ธมฺมํ สุตฺวา ปกฺกมติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. เอวํ ตาว ทสฺสนวเสน สโมธานํ เวทิตพฺพํ. สวนวเสน ปน สเจ อุปชฺฌายสฺส วิหาเร วา อนฺตรฆเร วา ธมฺมํ วา กเถนฺตสฺส อนุโมทนํ วา กโรนฺตสฺส สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อุปชฺฌายสฺส เม สทฺโท’’ติ สฺชานาติ, นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, อสฺชานนฺตสฺส น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อยํ สโมธาเน วินิจฺฉโย.

๑๕๕. นิสฺสาย เกน วสิตพฺพํ, เกน น วสิตพฺพนฺติ เอตฺถ ปน ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน ปฺจ วสฺสานิ นิสฺสาย วตฺถุํ, อพฺยตฺเตน ยาวชีว’’นฺติ (มหาว. ๑๐๓) วจนโต โย อพฺยตฺโต โหติ, เตน ยาวชีวํ นิสฺสาเยว วสิตพฺพํ. สจายํ (มหาว. อฏฺ. ๑๐๓) วุฑฺฒตรํ อาจริยํ น ลภติ, อุปสมฺปทาย สฏฺิวสฺโส วา สตฺตติวสฺโส วา โหติ, นวกตรสฺสปิ พฺยตฺตสฺส สนฺติเก อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อาจริโย เม, อาวุโส, โหติ, อายสฺมโต นิสฺสาย วจฺฉามี’’ติ เอวํ ติกฺขตฺตุํ วตฺวา นิสฺสโย คเหตพฺโพว. คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉนฺเตนปิ อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉามิ อาจริยา’’ติ วตฺตพฺพํ. เอส นโย สพฺพอาปุจฺฉเนสุ.

โย ปน พฺยตฺโต โหติ อุปสมฺปทาย ปฺจวสฺโส, เตน อนิสฺสิเตน วตฺถุํ วฏฺฏติ. ตสฺมา นิสฺสยมุจฺจนเกน (ปาจิ. อฏฺ. ๑๔๕-๑๔๗) อุปสมฺปทาย ปฺจวสฺเสน สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน ทฺเว มาติกา ปคุณา วาจุคฺคตา กตฺตพฺพา, ปกฺขทิวเสสุ ธมฺมสฺสวนตฺถาย สุตฺตนฺตโต จตฺตาโร ภาณวารา, สมฺปตฺตานํ ปริสานํ ปริกถนตฺถาย อนฺธกวินฺท(อ. นิ. ๕.๑๑๔) มหาราหุโลวาท(ม. นิ. ๒.๑๑๓ อาทโย) อมฺพฏฺ(ทอี. นิ. ๑.๒๕๔ อาทโย) สทิโส เอโก กถามคฺโค, สงฺฆภตฺตมงฺคลามงฺคเลสุ อนุโมทนตฺถาย ติสฺโส อนุโมทนา, อุโปสถปวารณาทิชานนตฺถํ กมฺมากมฺมวินิจฺฉโย, สมณธมฺมกรณตฺถํ สมาธิวเสน วา วิปสฺสนาวเสน วา อรหตฺตปริโยสานเมกํ กมฺมฏฺานํ, เอตฺตกํ อุคฺคเหตพฺพํ. เอตฺตาวตา หิ อยํ พหุสฺสุโต โหติ จาตุทฺทิโส, ยตฺถ กตฺถจิ อตฺตโน อิสฺสริเยน วสิตุํ ลภติ. ยํ ปน วุตฺตํ –

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. น อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน สมาธิกฺขนฺเธน… น อเสกฺเขน ปฺากฺขนฺเธน… น อเสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน… น อเสกฺเขน วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. อสฺสทฺโธ โหติ, อหิริโก โหติ, อโนตฺตปฺปี โหติ, กุสีโต โหติ, มุฏฺสฺสติ โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. อธิสีเล สีลวิปนฺโน โหติ, อชฺฌาจาเร อาจารวิปนฺโน โหติ, อติทิฏฺิยา ทิฏฺิวิปนฺโน โหติ, อปฺปสฺสุโต โหติ, ทุปฺปฺโ โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. อาปตฺตึ น ชานาติ, อนาปตฺตึ น ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน น สฺวาคตานิ โหนฺติ น สุวิภตฺตานิ น สุปฺปวตฺตีนิ น สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. อาปตฺตึ น ชานาติ, อนาปตฺตึ น ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, อูนปฺจวสฺโส โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๑๐๓). เอตฺถาปิ ปุริมนเยเนว อยุตฺตวเสน อาปตฺติองฺควเสน จ ปฏิกฺเขโป กโตติ ทฏฺพฺพํ.

พาลานํ ปน อพฺยตฺตานํ ทิสํคมิกานํ อนฺเตวาสิกสทฺธิวิหาริกานํ อนุฺา น ทาตพฺพา. สเจ เทนฺติ, อาจริยุปชฺฌายานํ ทุกฺกฏํ. เต เจ อนนุฺาตา คจฺฉนฺติ, เตสมฺปิ ทุกฺกฏํ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, สมฺพหุลา ภิกฺขู พาลา อพฺยตฺตา ทิสํคมิกา อาจริยุปชฺฌาเย อาปุจฺฉนฺติ. เต, ภิกฺขเว, อาจริยุปชฺฌาเยหิ ปุจฺฉิตพฺพา ‘‘กหํ คมิสฺสถ, เกน สทฺธึ คมิสฺสถา’’ติ. เต เจ, ภิกฺขเว, พาลา อพฺยตฺตา อฺเ พาเล อพฺยตฺเต อปทิเสยฺยุํ. น, ภิกฺขเว, อาจริยุปชฺฌาเยหิ อนุชานิตพฺพา, อนุชาเนยฺยุํ เจ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. เต เจ, ภิกฺขเว, พาลา อพฺยตฺตา อนนุฺาตา อาจริยุปชฺฌาเยหิ คจฺเฉยฺยุํ เจ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๖๓).

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

นิสฺสยวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๒๔. สีมาวินิจฺฉยกถา

๑๕๖. สีมาติ เอตฺถ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา) สีมา นาเมสา พทฺธสีมา อพทฺธสีมาติ ทุวิธา โหติ. ตตฺถ เอกาทส วิปตฺติสีมาโย อติกฺกมิตฺวา ติวิธสมฺปตฺติยุตฺตา นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ พนฺธิตฺวา สมฺมตา สีมา พทฺธสีมา นาม. อติขุทฺทกา, อติมหตี, ขณฺฑนิมิตฺตา, ฉายานิมิตฺตา, อนิมิตฺตา, พหิสีเม ิตสมฺมตา, นทิยา สมฺมตา, สมุทฺเท สมฺมตา, ชาตสฺสเร สมฺมตา, สีมาย สีมํ สมฺภินฺทนฺเตน สมฺมตา, สีมาย สีมํ อชฺโฌตฺถรนฺเตน สมฺมตาติ อิเมหิ เอกาทสหิ อากาเรหิ สีมโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺตีติ วจนโต เอตา วิปตฺติสีมาโย นาม.

ตตฺถ อติขุทฺทกา นาม ยตฺถ เอกวีสติ ภิกฺขู นิสีทิตุํ น สกฺโกนฺติ. อติมหตี นาม ยา เกสคฺคมตฺเตนปิ ติโยชนํ อติกฺกมิตฺวา สมฺมตา. ขณฺฑนิมิตฺตา นาม อฆฏิตนิมิตฺตา วุจฺจติ. ปุรตฺถิมาย ทิสาย นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา อนุกฺกเมน ทกฺขิณาย ทิสาย ปจฺฉิมาย อุตฺตราย ทิสาย กิตฺเตตฺวา ปุน ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปุพฺพกิตฺติตํ ปฏิกิตฺเตตฺวา เปตุํ วฏฺฏติ, เอวํ อขณฺฑนิมิตฺตา โหติ. สเจ ปน อนุกฺกเมน อาหริตฺวา อุตฺตราย ทิสาย นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตตฺเถว เปติ, ขณฺฑนิมิตฺตา โหติ. อปราปิ ขณฺฑนิมิตฺตา นาม ยา อนิมิตฺตุปคํ ตจสารรุกฺขํ วา ขาณุกํ วา ปํสุปุฺชํ วา วาลุกปุฺชํ วา อฺตรํ อนฺตรา เอกนิมิตฺตํ กตฺวา สมฺมตา. ฉายานิมิตฺตา นาม ปพฺพตฉายาทีนํ ยํ กิฺจิ ฉายํ นิมิตฺตํ กตฺวา สมฺมตา. อนิมิตฺตา นาม สพฺเพน สพฺพํ นิมิตฺตานิ อกิตฺเตตฺวา สมฺมตา. พหิสีเม ิตสมฺมตา นาม นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา นิมิตฺตานํ พหิ ิเตน สมฺมตา. นทิยา, สมุทฺเท, ชาตสฺสเร สมฺมตา นาม เอเตสุ นทิอาทีสุ สมฺมตา. สา หิ เอวํ สมฺมตาปิ ‘‘สพฺพา, ภิกฺขเว, นที อสีมา, สพฺโพ สมุทฺโท อสีโม, สพฺโพ ชาตสฺสโร อสีโม’’ติ (มหาว. ๑๔๗) วจนโต อสมฺมตาว โหติ. สีมาย สีมํ สมฺภินฺทนฺเตน สมฺมตา (มหาว. อฏฺ. ๑๔๘) นาม อตฺตโน สีมาย ปเรสํ สีมํ สมฺภินฺทนฺเตน สมฺมตา. สเจ หิ โปราณกสฺส วิหารสฺส ปุรตฺถิมาย ทิสาย อมฺโพ เจว ชมฺพุ จาติ ทฺเว รุกฺขา อฺมฺํ สํสฏฺวิฏปา โหนฺติ, เตสุ อมฺพสฺส ปจฺฉิมทิสาภาเค ชมฺพุ, วิหารสีมา จ ชมฺพุํ อนฺโตกตฺวา อมฺพํ กิตฺเตตฺวา พทฺธา โหติ. อถ ปจฺฉา ตสฺส วิหารสฺส ปุรตฺถิมาย ทิสาย วิหาเร กเต สีมํ พนฺธนฺตา ภิกฺขู ตํ อมฺพํ อนฺโตกตฺวา ชมฺพุํ กิตฺเตตฺวา พนฺธนฺติ, สีมาย สีมํ สมฺภินฺนา โหติ. ตสฺมา สเจ ปมตรํ กตสฺส วิหารสฺส สีมา อสมฺมตา โหติ, สีมาย อุปจาโร เปตพฺโพ. สเจ สมฺมตา โหติ, ปจฺฉิมโกฏิยา หตฺถมตฺตา สีมนฺตริกา เปตพฺพา. กุรุนฺทิยํ ‘‘วิทตฺถิมตฺตมฺปิ’’, มหาปจฺจริยํ ‘‘จตุรงฺคุลมตฺตมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. เอกรุกฺโขปิ จ ทฺวินฺนํ สีมานํ นิมิตฺตํ โหติ. โส ปน วฑฺฒนฺโต สีมสงฺกรํ กโรติ, ตสฺมา น กาตพฺโพ. สีมาย สีมํ อชฺโฌตฺถรนฺเตน สมฺมตา นาม อตฺตโน สีมาย ปเรสํ สีมํ อชฺโฌตฺถรนฺเตน สมฺมตา. สเจ หิ ปเรสํ พทฺธสีมํ สกลํ วา ตสฺสา ปเทสํ วา อนฺโตกตฺวา อตฺตโน สีมํ สมฺมนฺนนฺติ, สีมาย สีมํ อชฺโฌตฺถริตา นาม โหติ. ภิกฺขุนีนํ ปน สีมํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อนฺโตปิ ภิกฺขูนํ สีมํ สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุนีนมฺปิ ภิกฺขูนํ สีมาย เอเสว นโย. น หิ เต อฺมฺสฺส กมฺเม คณปูรกา โหนฺติ, น กมฺมวาจํ วคฺคํ กโรนฺติ. อิติ อิมา เอกาทส วิปตฺติสีมาโย อติกฺกมิตฺวา สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา.

๑๕๗. ติวิธสมฺปตฺติยุตฺตา นาม นิมิตฺตสมฺปตฺติยา ปริสสมฺปตฺติยา กมฺมวาจาสมฺปตฺติยา จ ยุตฺตา. ตตฺถ นิมิตฺตสมฺปตฺติยา ยุตฺตา นาม ปพฺพตนิมิตฺตํ ปาสาณนิมิตฺตํ วนนิมิตฺตํ รุกฺขนิมิตฺตํ มคฺคนิมิตฺตํ วมฺมิกนิมิตฺตํ นทีนิมิตฺตํ อุทกนิมิตฺตนฺติ เอวํ วุตฺเตสุ อฏฺสุ นิมิตฺเตสุ ตสฺมึ ตสฺมึ ทิสาภาเค ยถาลทฺธานิ นิมิตฺตุปคานิ นิมิตฺตานิ ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺตํ. ปพฺพโต, ภนฺเต. เอโส ปพฺพโต นิมิตฺต’’นฺติอาทินา นเยน สมฺมา กิตฺเตตฺวา สมฺมตา.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (มหาว. อฏฺ. ๑๓๘) – วินยธเรน ปุจฺฉิตพฺพํ ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺต’’นฺติ? ‘‘ปพฺพโต, ภนฺเต’’ติ. อิทํ ปน อุปสมฺปนฺโน วา อาจิกฺขตุ อนุปสมฺปนฺโน วา, วฏฺฏติเยว. ปุน วินยธเรน ‘‘เอโส ปพฺพโต นิมิตฺต’’นฺติ เอวํ นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ, ‘‘เอตํ ปพฺพตํ นิมิตฺตํ กโรม, กริสฺสาม, นิมิตฺตํ กโต, นิมิตฺตํ โหตุ, โหติ, ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ ปน กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ. ปาสาณาทีสุปิ เอเสว นโย. ปุรตฺถิมาย ทิสาย, ปุรตฺถิมาย อนุทิสาย, ทกฺขิณาย ทิสาย, ทกฺขิณาย อนุทิสาย, ปจฺฉิมาย ทิสาย, ปจฺฉิมาย อนุทิสาย, อุตฺตราย ทิสาย, อุตฺตราย อนุทิสาย กึ นิมิตฺตํ? อุทกํ, ภนฺเต. เอตํ อุทกํ นิมิตฺตนฺติ กิตฺเตตพฺพํ. เอตฺถ ปน อฏฺเปตฺวา ปุน ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺตํ? ปพฺพโต, ภนฺเต. เอโส ปพฺพโต นิมิตฺต’’นฺติ เอวํ ปมํ กิตฺติตนิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวาว เปตพฺพํ. เอวฺหิ นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฆฏิตํ โหติ, นิมิตฺตานิ สกึ กิตฺติตานิปิ กิตฺติตาเนว โหนฺติ. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘ติกฺขตฺตุํ สีมมณฺฑลํ พนฺธนฺเตน นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ.

๑๕๘. อิทานิ นิมิตฺตุปคานิ ปพฺพตาทีนิ เวทิตพฺพานิ – ติวิโธ ปพฺพโต สุทฺธปํสุปพฺพโต สุทฺธปาสาณปพฺพโต อุภยมิสฺสโกติ. โส ติวิโธปิ วฏฺฏติ, วาลิกราสิ ปน น วฏฺฏติ. อิตโรปิ หตฺถิปฺปมาณโต โอมกตโร น วฏฺฏติ, หตฺถิปฺปมาณโต ปฏฺาย สิเนรุปฺปมาโณปิ วฏฺฏติ. สเจ จตูสุ ทิสาสุ จตฺตาโร ตีสุ วา ตโย ปพฺพตา โหนฺติ, จตูหิ วา ตีหิ วา ปพฺพตนิมิตฺเตหิ สมฺมนฺนิตุมฺปิ วฏฺฏติ, ทฺวีหิ ปน นิมิตฺเตหิ เอเกน วา สมฺมนฺนิตุํ น วฏฺฏติ. อิโต ปเรสุ ปาสาณนิมิตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย. ตสฺมา ปพฺพตนิมิตฺตํ กโรนฺเตน ปุจฺฉิตพฺพํ ‘‘เอกาพทฺโธ, น เอกาพทฺโธ’’ติ. สเจ เอกาพทฺโธ โหติ, น กาตพฺโพ. ตฺหิ จตูสุ วา อฏฺสุ วา ทิสาสุ กิตฺเตนฺเตนปิ เอกเมว นิมิตฺตํ กิตฺติตํ โหติ, ตสฺมา โย เอวํ จกฺกสณฺาเนน วิหารมฺปิ ปริกฺขิปิตฺวา ิโต ปพฺพโต, ตํ เอกทิสาย กิตฺเตตฺวา อฺาสุ ทิสาสุ ตํ พหิทฺธา กตฺวา อนฺโต อฺานิ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตพฺพานิ. สเจ ปพฺพตสฺส ตติยภาคํ วา อุปฑฺฒํ วา อนฺโตสีมาย กตฺตุกามา โหนฺติ, ปพฺพตํ อกิตฺเตตฺวา ยตฺตกํ ปเทสํ อนฺโต กตฺตุกามา, ตสฺส ปรโต ตสฺมึเยว ปพฺพเต ชาตรุกฺขวมฺมิกาทีสุ อฺตรํ นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ. สเจ เอกโยชนทฺวิโยชนปฺปมาณํ สพฺพํ ปพฺพตํ อนฺโต กตฺตุกามา โหนฺติ, ปพฺพตสฺส ปรโต ภูมิยํ ชาตรุกฺขวมฺมิกาทีนิ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตพฺพานิ.

ปาสาณนิมิตฺเต อยคุโฬปิ ปาสาณสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตสฺมา โย โกจิ ปาสาโณ วฏฺฏติ. ปมาณโต ปน หตฺถิปฺปมาโณ ปพฺพตสงฺขฺยํ คโต, ตสฺมา โส น วฏฺฏติ, มหาโคณมหามหึสปฺปมาโณ ปน วฏฺฏติ. เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ทฺวตฺตึสปลคุฬปิณฺฑปฺปมาโณ วฏฺฏติ, ตโต ขุทฺทกตโร อิฏฺกา วา มหนฺตีปิ น วฏฺฏติ, อนิมิตฺตุปคปาสาณานํ ราสิปิ น วฏฺฏติ, ปเคว ปํสุวาลุกราสิ. ภูมิสโม ขลมณฺฑลสทิโส ปิฏฺิปาสาโณ วา ภูมิโต ขาณุโก วิย อุฏฺิตปาสาโณ วา โหติ, โสปิ ปมาณุปโค เจ, วฏฺฏติ. ปิฏฺิปาสาโณ อติมหนฺโตปิ ปาสาณสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตสฺมา สเจ มหโต ปิฏฺิปาสาณสฺส เอกปฺปเทสํ อนฺโตสีมาย กตฺตุกามา โหนฺติ, ตํ อกิตฺเตตฺวา ตสฺสุปริ อฺโ ปาสาโณ กิตฺเตตพฺโพ. สเจ ปิฏฺิปาสาณุปริ วิหารํ กโรนฺติ, วิหารมชฺเฌน วา ปิฏฺิปาสาโณ วินิวิชฺฌิตฺวา คจฺฉติ, เอวรูโป ปิฏฺิปาสาโณ น วฏฺฏติ. สเจ หิ ตํ กิตฺเตนฺติ, นิมิตฺตสฺส อุปริ วิหาโร โหติ, นิมิตฺตฺจ นาม พหิสีมาย โหติ, วิหาโรปิ พหิสีมายํ อาปชฺชติ. วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตปิฏฺิปาสาโณ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ น กิตฺเตตพฺโพ.

วนนิมิตฺเต ติณวนํ วา ตจสารตาลนาฬิเกราทิรุกฺขวนํ วา น วฏฺฏติ, อนฺโตสารานํ ปน สากสาลาทีนํ อนฺโตสารมิสฺสกานํ วา รุกฺขานํ วนํ วฏฺฏติ, ตฺจ โข เหฏฺิมปริจฺเฉเทน จตุปฺจรุกฺขมตฺตมฺปิ, ตโต โอรํ น วฏฺฏติ, ปรํ โยชนสติกมฺปิ วฏฺฏติ. สเจ ปน วนมชฺเฌ วิหารํ กโรนฺติ, วนํ น กิตฺเตตพฺพํ. เอกเทสํ อนฺโตสีมาย กาตุกาเมหิปิ วนํ อกิตฺเตตฺวา ตตฺถ รุกฺขปาสาณาทโย กิตฺเตตพฺพา. วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตวนํ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ น กิตฺเตตพฺพํ.

รุกฺขนิมิตฺเต ตจสาโร ตาลนาฬิเกราทิรุกฺโข น วฏฺฏติ, อนฺโตสาโร ชีวมานโก อนฺตมโส อุพฺเพธโต อฏฺงฺคุโล ปริณาหโต สูจิทณฺฑกปฺปมาโณปิ วฏฺฏติ. ตโต โอรํ น วฏฺฏติ, ปรํ ทฺวาทสโยชโน สุปฺปติฏฺิตนิคฺโรโธปิ วฏฺฏติ. วํสนฬกสราวาทีสุ พีชํ โรเปตฺวา วฑฺฒาปิโต ปมาณุปโคปิ น วฏฺฏติ, ตโต อปเนตฺวา ปน ตํ ขณมฺปิ ภูมิยํ โรเปตฺวา โกฏฺกํ กตฺวา อุทกํ อาสิฺจิตฺวา กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. นวมูลสาขานิคฺคมนํ อการณํ, ขนฺธํ ฉินฺทิตฺวา โรปิเต ปน เอตํ ยุชฺชติ. กิตฺเตนฺเตน จ ‘‘รุกฺโข’’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ ‘‘สากรุกฺโข’’ติปิ ‘‘สาลรุกฺโข’’ติปิ. เอกาพทฺธํ ปน สุปฺปติฏฺิตนิคฺโรธสทิสํ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ.

มคฺคนิมิตฺเต อรฺเขตฺตนทีตฬากมคฺคาทโย น วฏฺฏนฺติ, ชงฺฆมคฺโค วา สกฏมคฺโค วา วฏฺฏติ. โย นิพฺพิชฺฌิตฺวา ทฺเว ตีณิ คามนฺตรานิ คจฺฉติ, โย ปน ชงฺฆมคฺคสกฏมคฺคโต โอกฺกมิตฺวา ปุน สกฏมคฺคเมว โอตรติ, เย วา ชงฺฆมคฺคสกฏมคฺคา อวฬฺชา, เต น วฏฺฏนฺติ, ชงฺฆสตฺถสกฏสตฺเถหิ วฬฺชิยมานาเยว วฏฺฏนฺติ. สเจ ทฺเว มคฺคา นิกฺขมิตฺวา ปจฺฉา สกฏธุรมิว เอกีภวนฺติ, ทฺเวธา ภินฺนฏฺาเน วา สมฺพนฺธฏฺาเน วา สกึ กิตฺเตตฺวา ปุน น กิตฺเตตพฺพา. เอกาพทฺธนิมิตฺตฺเหตํ โหติ. สเจ วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา จตฺตาโร มคฺคา จตูสุ ทิสาสุ คจฺฉนฺติ, มชฺเฌ เอกํ กิตฺเตตฺวา อปรํ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ. เอกาพทฺธนิมิตฺตฺเหตํ. โกณํ นิพฺพิชฺฌิตฺวา คตํ ปน ปรภาเค กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. วิหารมชฺเฌน นิพฺพิชฺฌิตฺวา คตมคฺโค ปน น กิตฺเตตพฺโพ, กิตฺติเต นิมิตฺตสฺส อุปริ วิหาโร โหติ. สเจ สกฏมคฺคสฺส อนฺติมจกฺกมคฺคํ นิมิตฺตํ กโรนฺติ, มคฺโค พหิสีมาย โหติ, สเจ พาหิรจกฺกมคฺคํ นิมิตฺตํ กโรนฺติ, พาหิรจกฺกมคฺโค พหิสีมาย โหติ, เสสํ อนฺโตสีมํ ภชติ. มคฺคํ กิตฺเตนฺเตน ‘‘มคฺโค ปนฺโถ ปโถ ปชฺโช’’ติอาทีสุ ทสสุ เยน เกนจิ นาเมน จ กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ, ปริขาสณฺาเนน วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา คตมคฺโค เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ.

วมฺมิกนิมิตฺเต เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ตํ ทิวสํ ชาโต อฏฺงฺคุลุพฺเพโธ โควิสาณปฺปมาโณปิ วมฺมิโก วฏฺฏติ, ตโต โอรํ น วฏฺฏติ. ปรํ หิมวนฺตปพฺพตสทิโสปิ วฏฺฏติ, วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตํ ปน เอกาพทฺธํ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ.

นทีนิมิตฺเต ยสฺสา ธมฺมิกานํ ราชูนํ กาเล อนฺวฑฺฒมาสํ อนุทสาหํ อนุปฺจาหนฺติ เอวํ เทเว วสฺสนฺเต วลาหเกสุ วิคตมตฺเตสุ โสตํ ปจฺฉิชฺชติ, อยํ นทีสงฺขฺยํ น คจฺฉติ. ยสฺสา ปน อีทิเส สุวุฏฺิกาเล วสฺสานสฺส จาตุมาเส โสตํ น ปจฺฉิชฺชติ, ยตฺถ ติตฺเถน วา อติตฺเถน วา สิกฺขากรณีเย อาคตลกฺขเณน ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา อนฺตรวาสกํ อนุกฺขิปิตฺวา อุตฺตรนฺติยา ภิกฺขุนิยา เอกงฺคุลทฺวงฺคุลมตฺตมฺปิ อนฺตรวาสโก เตมิยติ, อยํ นที สีมํ พนฺธนฺตานํ นิมิตฺตํ โหติ. ภิกฺขุนิยา นทีปารคมเนปิ อุโปสถาทิสงฺฆกมฺมกรเณปิ นทีปารสีมาสมฺมนฺนเนปิ อยเมว นที. ยา ปน มคฺโค วิย สกฏธุรสณฺาเนน วา ปริขาสณฺาเนน วา วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา คตา, ตํ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ. วิหารสฺส จตูสุ ทิสาสุ อฺมฺํ วินิพฺพิชฺฌิตฺวา คเต นทีจตุกฺเกปิ เอเสว นโย. อสมฺมิสฺสา นทิโย ปน จตสฺโสปิ กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. สเจ วตึ กโรนฺโต วิย รุกฺขปาเท นิขณิตฺวา วลฺลิปลาลาทีหิ นทีโสตํ รุนฺธนฺติ, อุทกํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อาวรณํ ปวตฺตติเยว, นิมิตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติ. ยถา ปน อุทกํ น ปวตฺตติ, เอวํ เสตุมฺหิ กเต อปวตฺตมานา นทีนิมิตฺตํ กาตุํ น วฏฺฏติ, ปวตฺตนฏฺาเน นทีนิมิตฺตํ, อปฺปวตฺตนฏฺาเน อุทกนิมิตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติ. ยา ปน ทุพฺพุฏฺิกาเล วา คิมฺเห วา นิรุทกภาเวน น ปวตฺตติ, สา วฏฺฏติ. มหานทิโต อุทกมาติกํ นีหรนฺติ, สา กุนฺนทีสทิสา หุตฺวา ตีณิ สสฺสานิ สมฺปาเทนฺตี นิจฺจํ ปวตฺตติ, กิฺจาปิ ปวตฺตติ, นิมิตฺตํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ยา ปน มูเล มหานทิโต นีหตาปิ กาลนฺตเรน เตเนว นีหตมคฺเคน นทึ ภินฺทิตฺวา สยํ คจฺฉติ, คจฺฉนฺตี ปรโต สุสุมาราทิสมากิณฺณา นาวาทีหิ สฺจริตพฺพา นที โหติ, ตํ นิมิตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติ.

อุทกนิมิตฺเต นิรุทกฏฺาเน นาวาย วา จาฏิอาทีสุ วา อุทกํ ปูเรตฺวา อุทกนิมิตฺตํ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ, ภูมิคตเมว วฏฺฏติ. ตฺจ โข อปฺปวตฺตนอุทกํ อาวาฏโปกฺขรณีตฬอากชาตสฺสรโลณิสมุทฺทาทีสุ ิตํ, อฏฺิตํ ปน โอฆนทีอุทกวาหกมาติกาทีสุ อุทกํ น วฏฺฏติ. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘คมฺภีเรสุ อาวาฏาทีสุ อุกฺเขปิมํ อุทกํ นิมิตฺตํ น กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ ทุวุตฺตํ, อตฺตโนมติมตฺตเมว. ิตํ ปน อนฺตมโส สูกรขตายปิ คามทารกานํ กีฬนวาปิยมฺปิ ตํ ขณฺเว ปถวิยํ อาวาฏํ กตฺวา กุเฏหิ อาหริตฺวา ปูริตอุทกมฺปิ สเจ ยาว กมฺมวาจาปริโยสานา ติฏฺติ, อปฺปํ วา โหตุ พหุํ วา, วฏฺฏติ. ตสฺมึ ปน าเน นิมิตฺตสฺากรณตฺถํ ปาสาณวาลิกาปํสุอาทิราสิ วา ปาสาณตฺถมฺโภ วา ทารุตฺถมฺโภ วา กาตพฺโพ. ตํ กาตุํ กาเรตุฺจ ภิกฺขุสฺส วฏฺฏติ, ลาภสีมายํ ปน น วฏฺฏติ. สมานสํวาสกสีมา กสฺสจิ ปีฬนํ น กโรติ, เกวลํ ภิกฺขูนํ วินยกมฺมเมว สาเธติ, ตสฺมา เอตฺถ วฏฺฏติ.

อิเมหิ จ อฏฺหิ นิมิตฺเตหิ อสมฺมิสฺเสหิปิ อฺมฺํ สมฺมิสฺเสหิปิ สีมา สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏติเยว. สา เอวํ สมฺมนฺนิตฺวา พชฺฌมานา เอเกน ทฺวีหิ วา นิมิตฺเตหิ อพทฺธา โหติ, ตีณิ ปน อาทึ กตฺวา วุตฺตปฺปการานํ นิมิตฺตานํ สเตนปิ พทฺธา โหติ. สา ตีหิ สิงฺฆาฏกสณฺานา โหติ, จตูหิ จตุรสฺสา วา สิงฺฆาฏกอฑฺฒจนฺทมุทิงฺคาทิสณฺานา วา, ตโต อธิเกหิ นานาสณฺานา. เอวํ วุตฺตนเยน นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา สมฺมตา ‘‘นิมิตฺตสมฺปตฺติยุตฺตา’’ติ เวทิตพฺพา.

๑๕๙. ปริสสมฺปตฺติยุตฺตา นาม สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน จตูหิ ภิกฺขูหิ สนฺนิปติตฺวา ยาวติกา ตสฺมึ คามเขตฺเต พทฺธสีมํ วา นทีสมุทฺทชาตสฺสเร วา อโนกฺกมิตฺวา ิตา ภิกฺขู, เต สพฺเพ หตฺถปาเส วา กตฺวา ฉนฺทํ วา อาหริตฺวา สมฺมตา.

๑๖๐. กมฺมวาจาสมฺปตฺติยุตฺตา นาม –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยาวตา สมนฺตา นิมิตฺตา กิตฺติตา, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ เอเตหิ นิมิตฺเตหิ สีมํ สมฺมนฺเนยฺย สมานสํวาสํ เอกูโปสถํ, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยาวตา สมนฺตา นิมิตฺตา กิตฺติตา, สงฺโฆ เอเตหิ นิมิตฺเตหิ สีมํ สมฺมนฺนติ สมานสํวาสํ เอกูโปสถํ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ เอเตหิ นิมิตฺเตหิ สีมาย สมฺมุติ สมานสํวาสาย เอกูโปสถาย, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘สมฺมตา สีมา สงฺเฆน เอเตหิ นิมิตฺเตหิ สมานสํวาสา เอกูโปสถา, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๑๓๙) –

เอวํ วุตฺตาย ปริสุทฺธาย ตฺติทุติยกมฺมวาจาย สมฺมตา. กมฺมวาจาปริโยสาเน นิมิตฺตานํ อนฺโต สีมา โหติ, นิมิตฺตานิ สีมโต พหิ โหนฺติ.

๑๖๑. เอวํ พทฺธาย จ สีมาย ติจีวเรน วิปฺปวาสสุขตฺถํ ทฬฺหีกมฺมตฺถฺจ อวิปฺปวาสสมฺมุติ กาตพฺพา. สา ปน เอวํ กตฺตพฺพา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยา สา สงฺเฆน สีมา สมฺมตา สมานสํวาสา เอกูโปสถา, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ตํ สีมํ ติจีวเรน อวิปฺปวาสํ สมฺมนฺเนยฺย เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยา สา สงฺเฆน สีมา สมฺมตา สมานสํวาสา เอกูโปสถา, สงฺโฆ ตํ สีมํ ติจีวเรน อวิปฺปวาสํ สมฺมนฺนติ เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ เอติสฺสา สีมาย ติจีวเรน อวิปฺปวาสาย สมฺมุติ เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘สมฺมตา สา สีมา สงฺเฆน ติจีวเรน อวิปฺปวาสา เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๑๔๓).

เอตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๔) จ นิคมนครานมฺปิ คาเมเนว สงฺคโห เวทิตพฺโพ. คามูปจาโรติ ปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขโป, อปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขโปกาโส. อิเมสุ ปน คามคามูปจาเรสุ อธิฏฺิตเตจีวริโก ภิกฺขุ ปริหารํ น ลภติ. อยฺหิ อวิปฺปวาสสีมา ‘‘เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจา’’ติ วุตฺตตฺตา คามฺจ คามูปจารฺจ น โอตฺถรติ, สมานสํวาสกสีมาว โอตฺถรติ. สมานสํวาสกสีมา เจตฺถ อตฺตโน ธมฺมตาย คจฺฉติ, อวิปฺปวาสสีมา ปน ยตฺถ สมานสํวาสกสีมา, ตตฺเถว คจฺฉติ. น หิ ตสฺสา วิสุํ นิมิตฺตกิตฺตนํ อตฺถิ, ตตฺถ สเจ อวิปฺปวาสาย สมฺมุติกาเล คาโม อตฺถิ, ตํ สา น โอตฺถรติ. สเจ ปน สมฺมตาย สีมาย ปจฺฉา คาโม นิวิสติ, โสปิ สีมสงฺขฺยํเยว คจฺฉติ. ยถา จ ปจฺฉา นิวิฏฺโ, เอวํ ปมํ นิวิฏฺสฺส ปจฺฉา วฑฺฒิตปฺปเทโสปิ สีมสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. สเจ สีมาสมฺมุติกาเล เคหานิ กตานิ, ‘‘ปวิสิสฺสามา’’ติ อาลโยปิ อตฺถิ, มนุสฺสา ปน อปฺปวิฏฺา, โปราณกคามํ วา สเจ เคหเมว ฉฑฺเฑตฺวา อฺตฺถ คตา, อคาโมเยว เอส, สีมา โอตฺถรติ. สเจ ปน เอกมฺปิ กุลํ ปวิฏฺํ วา อคตํ วา อตฺถิ, คาโมเยว, สีมา น โอตฺถรติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป.

๑๖๒. อยํ ปน วิตฺถาโร (มหาว. อฏฺ. ๑๓๘) สีมํ พนฺธิตุกาเมน หิ สามนฺตวิหาเรสุ ภิกฺขู ตสฺส ตสฺส วิหารสฺส สีมาปริจฺเฉทํ ปุจฺฉิตฺวา พทฺธสีมวิหารานํ สีมาย สีมนฺตริกํ, อพทฺธสีมวิหารานํ สีมาย อุปจารํ เปตฺวา ทิสาจาริกภิกฺขูนํ นิสฺสฺจารสมเย สเจ เอกสฺมึ คามเขตฺเต สีมํ พนฺธิตุกามา, เย ตตฺถ พทฺธสีมวิหารา, เตสุ ภิกฺขูนํ ‘‘มยํ อชฺช สีมํ พนฺธิสฺสาม, ตุมฺเห สกสีมาย ปริจฺเฉทโต มา นิกฺขมิตฺถา’’ติ เปเสตพฺพํ. เย อพทฺธสีมวิหารา, เตสุ ภิกฺขู เอกชฺฌํ สนฺนิปาเตตพฺพา, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อาหราเปตพฺโพ. ‘‘สเจ อฺานิปิ คามเขตฺตานิ อนฺโตกาตุกามา, เตสุ คาเมสุ เย ภิกฺขู วสนฺติ, เตหิปิ อาคนฺตพฺพํ, อนาคจฺฉนฺตานํ ฉนฺโท อาหริตพฺโพ’’ติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘นานาคามเขตฺตานิ นาม ปาฏิเยกฺกํ พทฺธสีมสทิสานิ, น ตโต ฉนฺทปาริสุทฺธิ อาคจฺฉติ, อนฺโตนิมิตฺตคเตหิ ปน ภิกฺขูหิ อาคนฺตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ปุน อาห ‘‘สมานสํวาสกสีมาสมฺมนฺนนกาเล อาคมนมฺปิ อนาคมนมฺปิ วฏฺฏติ, อวิปฺปวาสสีมาสมฺมนฺนนกาเล ปน อนฺโตนิมิตฺตคเตหิ อาคนฺตพฺพํ, อนาคจฺฉนฺตานํ ฉนฺโท อาหริตพฺโพ’’ติ.

เอวํ สนฺนิปติเตสุ ภิกฺขูสุ ฉนฺทารหานํ ฉนฺเท อาหเฏ เตสุ เตสุ มคฺเคสุ นทีติตฺถคามทฺวาราทีสุ จ อาคนฺตุกภิกฺขูนํ สีฆํ สีฆํ หตฺถปาสนยนตฺถฺเจว พหิสีมกรณตฺถฺจ อารามิเก เจว สมณุทฺเทเส จ เปตฺวา เภริสฺํ วา สงฺขสฺํ วา กตฺวา นิมิตฺตกิตฺตนานนฺตรํ วุตฺตาย ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ’’ติอาทิกาย กมฺมวาจาย สีมา พนฺธิตพฺพา. กมฺมวาจาปริโยสาเนเยว นิมิตฺตานิ พหิกตฺวา เหฏฺา ปถวีสนฺธารกํ อุทกปริยนฺตํ กตฺวา สีมา คตา โหติ.

๑๖๓. อิมํ ปน สมานสํวาสกสีมํ สมฺมนฺนนฺเตหิ ปพฺพชฺชูปสมฺปทาทีนํ สงฺฆกมฺมานํ สุขกรณตฺถํ ปมํ ขณฺฑสีมา พนฺธิตพฺพา. ตํ ปน พนฺธนฺเตหิ วตฺตํ ชานิตพฺพํ. สเจ หิ โพธิเจติยภตฺตสาลาทีนิ สพฺพวตฺถูนิ ปติฏฺาเปตฺวา กตวิหาเร พนฺธนฺติ, วิหารมชฺเฌ พหูนํ สโมสรณฏฺาเน อพนฺธิตฺวา วิหารปจฺจนฺเต วิวิตฺโตกาเส พนฺธิตพฺพา. อกตวิหาเร พนฺธนฺเตหิ โพธิเจติยาทีนํ สพฺพวตฺถูนํ านํ สลฺลกฺเขตฺวา ยถา ปติฏฺิเตสุ วตฺถูสุ วิหารปจฺจนฺเต วิวิตฺโตกาเส โหติ, เอวํ พนฺธิตพฺพา. สา เหฏฺิมปริจฺเฉเทน สเจ เอกวีสติ ภิกฺขู คณฺหาติ, วฏฺฏติ, ตโต โอรํ น วฏฺฏติ, ปรํ ภิกฺขุสหสฺสํ คณฺหนฺตีปิ วฏฺฏติ. ตํ พนฺธนฺเตหิ สีมมาฬกสฺส สมนฺตา นิมิตฺตุปคา ปาสาณา เปตพฺพา, น ขณฺฑสีมาย ิเตหิ มหาสีมา พนฺธิตพฺพา, น มหาสีมาย ิเตหิ ขณฺฑสีมา, ขณฺฑสีมายเมว ปน ตฺวา ขณฺฑสีมา พนฺธิตพฺพา.

ตตฺรายํ พนฺธนวิธิ – สมนฺตา ‘‘เอโส ปาสาโณ นิมิตฺต’’นฺติ เอวํ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา กมฺมวาจาย สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. อถ ตสฺสา เอว ทฬฺหีกมฺมตฺถํ อวิปฺปวาสกมฺมวาจา กาตพฺพา. เอวฺหิ ‘‘สีมํ สมูหนิสฺสามา’’ติ อาคตา สมูหนิตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. สีมํ สมฺมนฺนิตฺวา พหิ สีมนฺตริกปาสาณา เปตพฺพา. สีมนฺตริกา ปจฺฉิมโกฏิยา เอกรตนปฺปมาณา วฏฺฏติ. ‘‘วิทตฺถิปฺปมาณาปิ วฏฺฏตี’’ติ กุรุนฺทิยํ, ‘‘จตุรงฺคุลปฺปมาณาปิ วฏฺฏตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. สเจ ปน วิหาโร มหา โหติ, ทฺเวปิ ติสฺโสปิ ตตุตฺตริมฺปิ ขณฺฑสีมาโย พนฺธิตพฺพา.

เอวํ ขณฺฑสีมํ สมฺมนฺนิตฺวา มหาสีมสมฺมุติกาเล ขณฺฑสีมโต นิกฺขมิตฺวา มหาสีมายํ ตฺวา สมนฺตา อนุปริยายนฺเตหิ สีมนฺตริกปาสาณา กิตฺเตตพฺพา, ตโต อวเสสนิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา หตฺถปาสํ อวิชหนฺเตหิ กมฺมวาจาย สมานสํวาสกสีมํ สมฺมนฺนิตฺวา ตสฺสา ทฬฺหีกมฺมตฺถํ อวิปฺปวาสกมฺมวาจาปิ กาตพฺพา. เอวฺหิ ‘‘สีมํ สมูหนิสฺสามา’’ติ อาคตา สมูหนิตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. สเจ ปน ขณฺฑสีมาย นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา ตโต สีมนฺตริกาย นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา มหาสีมาย นิมิตฺตานิ กิตฺเตนฺติ, เอวํ ตีสุ าเนสุ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา ยํ สีมํ อิจฺฉนฺติ, ตํ ปมํ พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ สนฺเตปิ ยถาวุตฺตนเยน ขณฺฑสีมโตว ปฏฺาย พนฺธิตพฺพา. เอวํ พทฺธาสุ ปน สีมาสุ ขณฺฑสีมาย ิตา ภิกฺขู มหาสีมาย กมฺมํ กโรนฺตานํ น โกเปนฺติ, มหาสีมาย วา ิตา ขณฺฑสีมาย กโรนฺตานํ, สีมนฺตริกาย ปน ิตา อุภินฺนมฺปิ น โกเปนฺติ. คามเขตฺเต ตฺวา กมฺมํ กโรนฺตานํ ปน สีมนฺตริกาย ิตา โกเปนฺติ. สีมนฺตริกา หิ คามเขตฺตํ ภชติ.

สีมา จ นาเมสา น เกวลา ปถวีตเลเยว พทฺธา พทฺธา นาม โหติ, อถ โข ปิฏฺิปาสาเณปิ กุฏิเคเหปิ เลเณปิ ปาสาเทปิ ปพฺพตมตฺถเกปิ พทฺธา พทฺธาเยว โหติ. ตตฺถ ปิฏฺิปาสาเณ พนฺธนฺเตหิ ปาสาณปิฏฺิยํ ราชึ วา โกฏฺเฏตฺวา อุทุกฺขลํ วา ขณิตฺวา นิมิตฺตํ น กาตพฺพํ, นิมิตฺตุปคปาสาเณ เปตฺวา นิมิตฺตานิ กิตฺเตตพฺพานิ. กมฺมวาจาปริโยสาเน สีมา ปถวีสนฺธารกํ อุทกปริยนฺตํ กตฺวา โอตรติ. นิมิตฺตปาสาณา ยถาาเน น ติฏฺนฺติ, ตสฺมา สมนฺตโต ราชิ วา อุปฏฺาเปตพฺพา, จตูสุ วา โกเณสุ ปาสาณา วิชฺฌิตพฺพา, ‘‘อยํ สีมาปริจฺเฉโท’’ติ วตฺวา อกฺขรานิ วา ฉินฺทิตพฺพานิ. เกจิ อุสูยกา ‘‘สีมํ ฌาเปสฺสามา’’ติ อคฺคึ เทนฺติ, ปาสาณาว ฌายนฺติ, น สีมา.

กุฏิเคเหปิ ภิตฺตึ อกิตฺเตตฺวา เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาสฏฺานํ อนฺโตกริตฺวา ปาสาณนิมิตฺตานิ เปตฺวา สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา, อนฺโตกุฏฺฏเมว สีมา โหติ. สเจ อนฺโตกุฏฺเฏ เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาโส นตฺถิ, ปมุเข นิมิตฺตปาสาเณ เปตฺวา สมฺมนฺนิตพฺพา. สเจ เอวมฺปิ นปฺปโหติ, พหิ นิพฺโพทกปตนฏฺาเนปิ นิมิตฺตานิ เปตฺวา สมฺมนฺนิตพฺพา. เอวํ สมฺมตาย ปน สพฺพํ กุฏิเคหํ สีมฏฺเมว โหติ.

จตุภิตฺติยเลเณปิ พนฺธนฺเตหิ กุฏฺฏํ อกิตฺเตตฺวา ปาสาณาว กิตฺเตตพฺพา, อนฺโต โอกาเส อสติ ปมุเขปิ นิมิตฺตานิ เปตพฺพานิ, เอวํ เลณสฺส อนฺโต จ พหิ จ สีมา โหติ.

อุปริปาสาเทปิ ภิตฺตึ อกิตฺเตตฺวา อนฺโตปาสาเณ เปตฺวา สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. สเจ นปฺปโหติ, ปมุเขปิ ปาสาเณ เปตฺวา สมฺมนฺนิตพฺพา. เอวํ สมฺมตา อุปริปาสาเทเยว โหติ, เหฏฺา น โอตรติ. สเจ ปน พหูสุ ถมฺเภสุ ตุลานํ อุปริ กตปาสาทสฺส เหฏฺิมตเล กุฏฺโฏ ยถา นิมิตฺตานํ อนฺโต โหติ, เอวํ อุฏฺหิตฺวา ตุลารุกฺเขหิ เอกสมฺพนฺโธ ิโต, เหฏฺาปิ โอตรติ, เอกถมฺภปาสาทสฺส ปน อุปริตเล พทฺธา สีมา. สเจ ถมฺภมตฺถเก เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาโส โหติ, เหฏฺา โอตรติ. สเจ ปาสาทภิตฺติโต นิคฺคเตสุ นิยฺยูหกาทีสุ ปาสาเณ เปตฺวา สีมํ พนฺธนฺติ, ปาสาทภิตฺติ อนฺโตสีมาย โหติ. เหฏฺา ปนสฺสา โอตรณาโนตรณํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

เหฏฺาปาสาเท กิตฺเตนฺเตหิปิ ภิตฺติ จ รุกฺขตฺถมฺภา จ น กิตฺเตตพฺพา, ภิตฺติลคฺเค ปน ปาสาณตฺถมฺเภ กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. เอวํ กิตฺติตา สีมา เหฏฺาปาสาทสฺส ปริยนฺตถมฺภานํ อนฺโตเยว โหติ. สเจ ปน เหฏฺาปาสาทสฺส กุฏฺโฏ อุปริมตเลน สมฺพทฺโธ โหติ, อุปริปาสาทมฺปิ อภิรุหติ. สเจ ปาสาทสฺส พหิ นิพฺโพทกปตนฏฺาเน นิมิตฺตานิ กโรนฺติ, สพฺโพ ปาสาโท สีมฏฺโ โหติ.

ปพฺพตมตฺถเก ตลํ โหติ เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาสารหํ, ตตฺถ ปิฏฺิปาสาเณ วิย สีมํ พนฺธนฺติ, เหฏฺาปพฺพเตปิ เตเนว ปริจฺเฉเทน สีมา โอตรติ. ตาลมูลกปพฺพเตปิ อุปริ สีมา พทฺธา เหฏฺา โอตรเตว. โย ปน วิตานสณฺาโน โหติ, อุปริ เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาโส อตฺถิ, เหฏฺา นตฺถิ, ตสฺสุปริ พทฺธา สีมา เหฏฺา น โอตรติ. เอวํ มุทิงฺคสณฺาโน วา โหตุ ปณวสณฺาโน วา, ยสฺส เหฏฺา วา มชฺเฌ วา สีมปฺปมาณํ นตฺถิ, ตสฺส อุปริ พทฺธา สีมา เหฏฺา น โอตรติ. ยสฺส ปน ทฺเว กูฏานิ อาสนฺเน ิตานิ, เอกสฺสปิ อุปริ สีมปฺปมาณํ นปฺปโหติ, ตสฺส กูฏนฺตรํ จินิตฺวา วา ปูเรตฺวา วา เอกาพทฺธํ กตฺวา อุปริ สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. เอโก สปฺปผณสทิโส ปพฺพโต, ตสฺส อุปริ สีมปฺปมาณสฺส อตฺถิตาย สีมํ พนฺธนฺติ, ตสฺส เจ เหฏฺา อากาสปพฺภารํ โหติ, สีมา น โอตรติ. สเจ ปนสฺส เวมชฺเฌ สีมปฺปมาโณ สุสิรปาสาโณ โหติ, โอตรติ, โส จ ปาสาโณ สีมฏฺโเยว โหติ. อถาปิสฺส เหฏฺาเลณสฺส กุฏฺโฏ อคฺคโกฏึ อาหจฺจ ติฏฺติ, โอตรติ, เหฏฺา จ อุปริ จ สีมาเยว โหติ. สเจ ปน เหฏฺา อุปริมสฺส สีมาปริจฺเฉทสฺส ปารโต อนฺโตเลณํ โหติ, พหิ สีมา น โอตรติ. อถาปิ อุปริมสฺส สีมาปริจฺเฉทสฺส โอรโต พหิ เลณํ โหติ, อนฺโต สีมา น โอตรติ. อถาปิ อุปริ สีมาปริจฺเฉโท ขุทฺทโก, เหฏฺา เลณํ มหนฺตํ สีมาปริจฺเฉทมติกฺกมิตฺวา ิตํ, สีมา อุปริเยว โหติ, เหฏฺา น โอตรติ. ยทิ ปน เลณํ ขุทฺทกํ สพฺพปจฺฉิมสีมาปริมาณํ, อุปริ สีมา มหตี นํ อชฺโฌตฺถริตฺวา ิตา, สีมา โอตรติ. อถ เลณํ อติขุทฺทกํ สีมปฺปมาณํ น โหติ, สีมา อุปริเยว โหติ, เหฏฺา น โอตรติ. สเจ ตโต อุปฑฺฒํ ภิชฺชิตฺวา ปตติ, สีมปฺปมาณํ เจปิ โหติ, พหิ ปติตํ อสีมา. อปติตํ ปน ยทิ สีมปฺปมาณํ, สีมา โหติเยว.

ขณฺฑสีมา จ นีจวตฺถุกา โหติ, ตํ ปูเรตฺวา อุจฺจวตฺถุกํ กโรนฺติ, สีมาเยว. สีมาย เคหํ กโรนฺติ, สีมฏฺกเมว โหติ. สีมาย โปกฺขรณึ ขณนฺติ, สีมาเยว. โอโฆ สีมามณฺฑลํ โอตฺถริตฺวา คจฺฉติ, สีมามาฬเก อฏฺฏํ พนฺธิตฺวา กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สีมาย เหฏฺา อุมงฺคนที โหติ, อิทฺธิมา ภิกฺขุ ตตฺถ นิสีทติ. สเจ สา นที ปมํ คตา, สีมา ปจฺฉา พทฺธา, กมฺมํ น โกเปติ. อถ ปมํ สีมา พทฺธา, ปจฺฉา นที คตา, กมฺมํ โกเปติ, เหฏฺาปถวีตเล ิโต ปน โกเปติเยว.

สีมามาฬเก วฏรุกฺโข โหติ, ตสฺส สาขา วา ตโต นิคฺคตปาโรโห วา มหาสีมาย ปถวีตลํ วา ตตฺถชาตรุกฺขาทีนิ วา อาหจฺจ ติฏฺติ, มหาสีมํ วา โสเธตฺวา กมฺมํ กาตพฺพํ, เต วา สาขาปาโรหา ฉินฺทิตฺวา พหิฏฺกา กาตพฺพา. อนาหจฺจ ิตสาขาทีสุ อารุฬฺหภิกฺขู หตฺถปาสํ อาเนตพฺพา. เอวํ มหาสีมาย ชาตรุกฺขสฺส สาขา วา ปาโรโห วา วุตฺตนเยเนว สีมามาฬเก ปติฏฺาติ, วุตฺตนเยเนว สีมํ โสเธตฺวา วา กมฺมํ กาตพฺพํ, เต วา สาขาปาโรหา ฉินฺทิตฺวา พหิฏฺกา กาตพฺพา. สเจ มาฬเก กมฺเม กริยมาเน โกจิ ภิกฺขุ มาฬกสฺส อนฺโต ปวิสิตฺวา เวหาสํ ิตสาขาย นิสีทติ, ปาทา วาสฺส ภูมิคตา โหนฺติ, นิวาสนปารุปนํ วา ภูมึ ผุสติ, กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ปาเท ปน นิวาสนปารุปนฺจ อุกฺขิปาเปตฺวา กาตุํ กมฺมํ วฏฺฏติ, อิทฺจ ลกฺขณํ ปุริมนเยปิ เวทิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – ตตฺร อุกฺขิปาเปตฺวา กาตุํ น วฏฺฏติ, หตฺถปาสเมว อาเนตพฺโพ. สเจ อนฺโตสีมโต ปพฺพโต อพฺภุคฺคจฺฉติ, ตตฺรฏฺโ ภิกฺขุ หตฺถปาสํ อาเนตพฺโพ. อิทฺธิยา อนฺโตปพฺพตํ ปวิฏฺเปิ เอเสว นโย. พชฺฌมานา เอว หิ สีมา ปมาณรหิตํ ปเทสํ น โอตรติ, พทฺธาย สีมาย ชาตํ ยํ กิฺจิ ยตฺถ กตฺถจิ เอกสมฺพนฺเธน คตํ สีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉตีติ.

ติโยชนปรมํ ปน สีมํ สมฺมนฺนนฺเตน มชฺเฌ ตฺวา ยถา จตูสุปิ ทิสาสุ ทิยฑฺฒทิยฑฺฒโยชนํ โหติ, เอวํ สมฺมนฺนิตพฺพา. สเจ ปน มชฺเฌ ตฺวา เอเกกทิสโต ติโยชนํ กโรนฺติ, ฉโยชนํ โหตีติ น วฏฺฏติ. จตุรสฺสํ วา ติโกณํ วา สมฺมนฺนนฺเตน ยถา โกณโต โกณํ ติโยชนํ โหติ, เอวํ สมฺมนฺนิตพฺพา. สเจ หิ เยน เกนจิ ปริยนฺเตน เกสคฺคมตฺตมฺปิ ติโยชนํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติฺจ อาปชฺชติ, สีมา จ อสีมา โหติ.

๑๖๔. ‘‘น, ภิกฺขเว, นทีปารสีมา สมฺมนฺนิตพฺพา, โย สมฺมนฺเนยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๔๐) วจนโต นทีปารสีมา น สมฺมนฺนิตพฺพา. ยตฺร ปน ธุวนาวา วา ธุวเสตุ วา อภิมุขติตฺเถเยว อตฺถิ, เอวรูปํ นทีปารสีมํ สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยตฺถสฺส ธุวนาวา วา ธุวเสตุ วา, เอวรูปํ นทีปารสีมํ สมฺมนฺนิตุ’’นฺติ หิ วุตฺตํ. สเจ ธุวนาวา วา ธุวเสตุ วา อภิมุขติตฺเถ นตฺถิ, อีสกํ อุทฺธํ อภิรุหิตฺวา อโธ วา โอโรหิตฺวา อตฺถิ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. กรวิกติสฺสตฺเถโร ปน ‘‘คาวุตมตฺตพฺภนฺตเรปิ วฏฺฏตี’’ติ อาห.

อิมฺจ ปน นทีปารสีมํ สมฺมนฺนนฺเตน เอกสฺมิฺจ ตีเร ตฺวา อุปริโสเต นทีตีเร นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย อตฺตานํ ปริกฺขิปนฺเตน ยตฺตกํ ปริจฺเฉทํ อิจฺฉติ, ตสฺส ปริโยสาเน อโธโสเตปิ นทีตีเร นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ปรตีเร สมฺมุขฏฺาเน นทีตีเร นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ. ตโต ปฏฺาย ยตฺตกํ ปริจฺเฉทํ อิจฺฉติ, ตสฺส วเสน ยาว อุปริโสเต ปมํ กิตฺติตนิมิตฺตสฺส สมฺมุขา นทีตีเร นิมิตฺตํ, ตาว กิตฺเตตฺวา ปจฺจาหริตฺวา ปมกิตฺติตนิมิตฺเตน สทฺธึ ฆเฏตพฺพํ. อถ สพฺพนิมิตฺตานํ อนฺโต ิเต ภิกฺขู หตฺถปาสคเต กตฺวา กมฺมวาจาย สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. นทิยา ิตา อนาคตาปิ กมฺมํ น โกเปนฺติ, สมฺมุติปริโยสาเน เปตฺวา นทึ นิมิตฺตานํ อนฺโต ปรตีเร จ โอริมตีเร จ เอกสีมา โหติ, นที ปน พทฺธสีมาสงฺขฺยํ น คจฺฉติ. วิสุํ นทีสีมา เอว หิ สา.

สเจ อนฺโตนทิยํ ทีปโก โหติ, ตํ อนฺโตสีมาย กาตุกาเมน ปุริมนเยเนว อตฺตนา ิตตีเร นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา ทีปกสฺส โอริมนฺเต จ ปาริมนฺเต จ นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ. อถ ปรตีเร นทิยา โอริมตีเร นิมิตฺตสฺส สมฺมุขฏฺาเน นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย ปุริมนเยเนว ยาว อุปริโสเต ปมํ กิตฺติตนิมิตฺตสฺส สมฺมุขา นิมิตฺตํ, ตาว กิตฺเตตพฺพํ. อถ ทีปกสฺส ปาริมนฺเต จ โอริมนฺเต จ นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ปจฺจาหริตฺวา ปมํ กิตฺติตนิมิตฺเตน สทฺธึ ฆเฏตพฺพํ. อถ ทฺวีสุ ตีเรสุ ทีปเกสุ จ ภิกฺขู สพฺเพ หตฺถปาสคเต กตฺวา กมฺมวาจาย สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา, นทิยํ ิตา อนาคจฺฉนฺตาปิ กมฺมํ น โกเปนฺติ, สมฺมุติปริโยสาเน เปตฺวา นทึ นิมิตฺตานํ อนฺโต ตีรทฺวยฺจ ทีปโก จ เอกสีมา โหติ, นที ปน นทีสีมาเยว.

สเจ ปน ทีปโก วิหารสีมาปริจฺเฉทโต อุทฺธํ วา อโธ วา อธิกตโร โหติ, อถ วิหารสีมาปริจฺเฉทนิมิตฺตสฺส อุชุกเมว สมฺมุขีภูเต ทีปกสฺส โอริมนฺเต นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย ทีปกสิขรํ ปริกฺขิปนฺเตน ปุน ทีปกสฺส โอริมนฺเต นิมิตฺตสมฺมุเข ปาริมนฺเต นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ. ตโต ปรํ ปุริมนเยเนว ปรตีเร สมฺมุขนิมิตฺตมาทึ กตฺวา ปรตีเร นิมิตฺตานิ จ ทีปกสฺส ปาริมนฺตโอริมนฺเต นิมิตฺตานิ จ กิตฺเตตฺวา ปมกิตฺติตนิมิตฺเตน สทฺธึ ฆฏนา กาตพฺพา. เอวํ กิตฺเตตฺวา สมฺมตา สีมา ปพฺพตสณฺานา โหติ. สเจ ปน ทีปโก วิหารสีมาปริจฺเฉทโต อุทฺธมฺปิ อโธปิ อธิกตโร โหติ, ปุริมนเยเนว ทีปกสฺส อุโภปิ สิขรานิ ปริกฺขิปิตฺวา นิมิตฺตานิ กิตฺเตนฺเตน นิมิตฺตฆฏนา กาตพฺพา. เอวํ กิตฺเตตฺวา สมฺมตา สีมา มุทิงฺคสณฺานา โหติ. สเจ ทีปโก วิหารสีมาปริจฺเฉทสฺส อนฺโต ขุทฺทโก โหติ, สพฺพปเมน นเยน ทีปเก นิมิตฺตานิ กิตฺเตตพฺพานิ. เอวํ กิตฺเตตฺวา สมฺมตา สีมา ปณวสณฺานา โหติ. เอวํ ตาว สีมาพนฺธนํ เวทิตพฺพํ.

๑๖๕. เอวํ พทฺธา ปน สีมา กทา อสีมา โหตีติ? ยทา สงฺโฆ สีมํ สมูหนติ, ตทา อสีมา โหติ. กถํ ปเนสา สมูหนิตพฺพาติ? ‘‘สีมํ, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนนฺเตน ปมํ สมานสํวาสสีมา สมฺมนฺนิตพฺพา, ปจฺฉา ติจีวเรน อวิปฺปวาโส สมฺมนฺนิตพฺโพ. สีมํ, ภิกฺขเว, สมูหนนฺเตน ปมํ ติจีวเรน อวิปฺปวาโส สมูหนฺตพฺโพ, ปจฺฉา สมานสํวาสสีมา สมูหนฺตพฺพา’’ติ วจนโต ปมํ อวิปฺปวาโส สมูหนิตพฺโพ, ปจฺฉา สีมา สมูหนิตพฺพาติ. กถํ? พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, โย โส สงฺเฆน ติจีวเรน อวิปฺปวาโส สมฺมโต, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ตํ ติจีวเรน อวิปฺปวาสํ สมูหเนยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, โย โส สงฺเฆน ติจีวเรน อวิปฺปวาโส สมฺมโต, สงฺโฆ ตํ ติจีเรน อวิปฺปวาสํ สมูหนติ. ยสฺสายสฺมโต ขมติ เอตสฺส ติจีวเรน อวิปฺปวาสสฺส สมุคฺฆาโต, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘สมูหโต โส สงฺเฆน ติจีวเรน อวิปฺปวาโส, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๑๔๕) –

เอวํ ตาว อวิปฺปวาโส สมูหนิตพฺโพ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยา สา สงฺเฆน สีมา สมฺมตา สมานสํวาสา เอกูโปสถา, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ตํ สีมํ สมูหเนยฺย สมานสํวาสํ เอกูโปสถํ, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยา สา สงฺเฆน สีมา สมฺมตา สมานสํวาสา เอกูโปสถา, สงฺโฆ ตํ สีมํ สมูหนติ สมานสํวาสํ เอกูโปสถํ. ยสฺสายสฺมโต ขมติ เอติสฺสา สีมาย สมานสํวาสาย เอกูโปสถาย สมุคฺฆาโต, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘สมูหตา สา สีมา สงฺเฆน สมานสํวาสา เอกูโปสถา, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๑๔๖) –

เอวํ สีมา สมูหนิตพฺพา.

สมูหนนฺเตน ปน ภิกฺขุนา วตฺตํ ชานิตพฺพํ. ตตฺริทํ วตฺตํ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๔) – ขณฺฑสีมาย ตฺวา อวิปฺปวาสสีมา น สมูหนฺตพฺพา, ตถา อวิปฺปวาสสีมาย ตฺวา ขณฺฑสีมาปิ. ขณฺฑสีมาย ปน ิเตน ขณฺฑสีมาว สมูหนิตพฺพา, ตถา อิตราย ิเตน อิตรา. สีมํ นาม ทฺวีหิ การเณหิ สมูหนนฺติ ปกติยา ขุทฺทกํ ปุน อาวาสวฑฺฒนตฺถาย มหตึ วา กาตุํ, ปกติยา มหตึ ปุน อฺเสํ วิหาโรกาสทานตฺถาย ขุทฺทกํ วา กาตุํ. ตตฺถ สเจ ขณฺฑสีมฺจ อวิปฺปวาสสีมฺจ ชานนฺติ, สมูหนิตุฺเจว พนฺธิตุฺจ สกฺขิสฺสนฺติ. ขณฺฑสีมํ ปน ชานนฺตา อวิปฺปวาสํ อชานนฺตาปิ สมูหนิตุฺเจว พนฺธิตุฺจ สกฺขิสฺสนฺติ. ขณฺฑสีมํ อชานนฺตา อวิปฺปวาสํเยว ชานนฺตา เจติยงฺคณโพธิยงฺคณอุปโอสถาคาราทีสุ นิราสงฺกฏฺาเนสุ ตฺวา อปฺเปว นาม สมูหนิตุํ สกฺขิสฺสนฺติ, ปฏิพนฺธิตุํ ปน น สกฺขิสฺสนฺเตว. สเจ พนฺเธยฺยุํ, สีมาสมฺเภทํ กตฺวา วิหารํ อวิหารํ กเรยฺยุํ, ตสฺมา น สมูหนิตพฺพา. เย ปน อุโภปิ น ชานนฺติ, เต เนว สมูหนิตุํ, น พนฺธิตุํ สกฺขิสฺสนฺติ. อยฺหิ สีมา นาม กมฺมวาจาย วา อสีมา โหติ สาสนนฺตรธาเนน วา, น จ สกฺกา สีมํ อชานนฺเตหิ กมฺมวาจา กาตุํ, ตสฺมา น สมูหนิตพฺพา, สาธุกํ ปน ตฺวาเยว สมูหนิตพฺพา เจว พนฺธิตพฺพา จาติ. อยํ ตาว พทฺธสีมาย วินิจฺฉโย.

๑๖๖. อพทฺธสีมา ปน คามสีมา สตฺตพฺภนฺตรสีมา อุทกุกฺเขปสีมาติ ติวิธา. ตตฺถ ยาวตา เอกํ คามเขตฺตํ, อยํ คามสีมา นาม, คามคฺคหเณน เจตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๗) นครมฺปิ นิคมมฺปิ คหิตเมว โหติ. ตตฺถ ยตฺตเก ปเทเส ตสฺส ตสฺส คามสฺส คามโภชกา พลึ ลภนฺติ, โส ปเทโส อปฺโป วา โหตุ มหนฺโต วา, คามสีมาตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. นครนิคมสีมาสุปิ เอเสว นโย. ยมฺปิ เอกสฺมึเยว คามเขตฺเต เอกํ ปเทสํ ‘‘อยํ วิสุํคาโม โหตู’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ราชา กสฺสจิ เทติ, โสปิ วิสุํคามสีมา โหติเยว, ตสฺมา สา จ อิตรา จ ปกติคามนครนิคมสีมา พทฺธสีมาสทิสาเยว โหนฺติ, เกวลํ ปน ติจีวรวิปฺปวาสปริหารํ น ลภนฺติ.

อคามเก ปน อรฺเ สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรา สตฺตพฺภนฺตรสีมา นาม. ตตฺถ อคามกํ นาม อรฺํ วิฺฌาฏวีอาทีสุ วา สมุทฺทมชฺเฌ วา มจฺฉพนฺธานํ อคมนปเถ ทีปเกสุ ลพฺภติ. สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตราติ มชฺเฌ ิตานํ สพฺพทิสาสุ สตฺตพฺภนฺตรา วินิพฺเพเธน จุทฺทส โหนฺติ. ตตฺถ เอกํ อพฺภนฺตรํ อฏฺวีสติหตฺถปฺปมาณํ โหติ. อยฺจ สีมา ปริสวเสน วฑฺฒติ, ตสฺมา สมนฺตา ปริสปริยนฺตโต ปฏฺาย อพฺภนฺตรปริจฺเฉโท กาตพฺโพ. สเจ ปน ทฺเว สงฺฆา วิสุํ อุโปสถํ กโรนฺติ, ทฺวินฺนํ สตฺตพฺภนฺตรานํ อนฺตเร อฺเมกํ อพฺภนฺตรํ อุปจารตฺถาย เปตพฺพํ.

๑๖๗. ยา ปเนสา ‘‘สพฺพา, ภิกฺขเว, นที อสีมา, สพฺโพ สมุทฺโท อสีโม, สพฺโพ ชาตสฺสโร อสีโม’’ติ (มหาว. ๑๔๗) เอวํ นทีอาทีนํ พทฺธสีมภาวํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ‘‘นทิยา วา, ภิกฺขเว, สมุทฺเท วา ชาตสฺสเร วา ยํ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สมนฺตา อุทกุกฺเขปา, อยํ ตตฺถ สมานสํวาสา เอกูโปสถา’’ติ (มหาว. ๑๔๗) วุตฺตา, อยํ อุทกุกฺเขปสีมา นาม. ตตฺถ นที นทีนิมิตฺเต วุตฺตลกฺขณาว, สมุทฺโทปิ ปากโฏเยว. โย ปน เยน เกนจิ ขณิตฺวา อกโต สยํชาโต โสพฺโภ สมนฺตโต อาคเตน อุทเกน ปูริโต ติฏฺติ, ยตฺถ นทิยํ วุตฺตปฺปกาเร วสฺสกาเล อุทกํ สนฺติฏฺติ, อยํ ชาตสฺสโร นาม. โยปิ นทึ วา สมุทฺทํ วา ภินฺทิตฺวา นิกฺขนฺตอุทเกน ขโต โสพฺโภ เอตํ ลกฺขณํ ปาปุณาติ, อยมฺปิ ชาตสฺสโรเยว. เอเตสุ นทีอาทีสุ ยํ านํ ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สมนฺตโต อุทกุกฺเขเปน ปริจฺฉินฺนํ, อยํ อุทกุกฺเขปสีมา นาม.

กถํ ปน อุทกุกฺเขโป กาตพฺโพติ? ยถา อกฺขธุตฺตา ทารุคุฬํ ขิปนฺติ, เอวํ อุทกํ วา วาลุกํ วา หตฺเถน คเหตฺวา ถามมชฺฌิเมน ปุริเสน สพฺพถาเมน ขิปิตพฺพํ. ยตฺถ เอวํ ขิตฺตํ อุทกํ วา วาลุกา วา ปตติ, อยเมโก อุทกุกฺเขโป, ตสฺส อนฺโตหตฺถปาสํ วิชหิตฺวา ิโต กมฺมํ โกเปติ. ยาว ปริสา วฑฺฒติ, ตาว สีมาปิ วฑฺฒติ, ปริสปริยนฺตโต อุทกุกฺเขโปเยว ปมาณํ, อยํ ปน เอเตสํ นทีอาทีนํ อนฺโตเยว ลพฺภติ, น พหิ. ตสฺมา นทิยา วา ชาตสฺสเร วา ยตฺตกํ ปเทสํ ปกติวสฺสกาเล จตูสุ มาเสสุ อุทกํ โอตฺถรติ, สมุทฺเท ยสฺมึ ปเทเส ปกติวีจิโย โอสริตฺวา สณฺหนฺติ, ตโต ปฏฺาย กปฺปิยภูมิ, ตตฺถ ตฺวา อุโปสถาทิกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ, ทุพฺพุฏฺิกาเล วา คิมฺเห วา นทีชาตสฺสเรสุ สุกฺเขสุปิ สา เอว กปฺปิยภูมิ. สเจ ปน สุกฺเข ชาตสฺสเร วาปึ วา ขณนฺติ, วปฺปํ วา กโรนฺติ, ตํ านํ คามเขตฺตํ โหติ. ยา ปเนสา ‘‘กปฺปิยภูมี’’ติ วุตฺตา, ตโต พหิ อุทกุกฺเขปสีมา น คจฺฉติ, อนฺโต คจฺฉติ, ตสฺมา เตสํ อนฺโต ปริสปริยนฺตโต ปฏฺาย สมนฺตา อุทกุกฺเขปปริจฺเฉโท กาตพฺโพ, อยเมตฺถ สงฺเขโป.

อยํ ปน วิตฺถาโร – สเจ นที นาติทีฆา โหติ, ปภวโต ปฏฺาย ยาว มุขทฺวารา สพฺพตฺถ สงฺโฆ นิสีทติ, อุทกุกฺเขปสีมาย กมฺมํ นตฺถิ, สกลาปิ นที เอเตสํเยว ภิกฺขูนํ ปโหติ. ยํ ปน มหาสุมตฺเถเรน วุตฺตํ ‘‘โยชนํ ปวตฺตมานาเยว นที, ตตฺราปิ อุปริ อฑฺฒโยชนํ ปหาย เหฏฺา อฑฺฒโยชเน กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ, ตํ มหาปทุมตฺเถเรเนว ปฏิกฺขิตฺตํ. ภควตา หิ ‘‘ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ อุตฺตรนฺติยา ภิกฺขุนิยา อนฺตรวาสโก เตมิยตี’’ติ (ปาจิ. ๖๙๒) อิทํ นทิยา ปมาณํ วุตฺตํ, น โยชนํ วา อฑฺฒโยชนํ วา, ตสฺมา ยา อิมสฺส สุตฺตสฺส วเสน ปุพฺเพ วุตฺตลกฺขณา นที, ตสฺสา ปภวโต ปฏฺาย สงฺฆกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปเนตฺถ พหู ภิกฺขู วิสุํ วิสุํ กมฺมํ กโรนฺติ, สพฺเพหิ อตฺตโน จ อฺเสฺจ อุทกุกฺเขปปริจฺเฉทสฺส อนฺตรา อฺโ อุทกุกฺเขโป สีมนฺตริกตฺถาย เปตพฺโพ, ตโต อธิกํ วฏฺฏติเยว, อูนํ ปน น วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. ชาตสฺสรสมุทฺเทปิ เอเสว นโย.

นทิยา ปน ‘‘กมฺมํ กริสฺสามา’’ติ คเตหิ สเจ นที ปริปุณฺณา โหติ สมติตฺติกา, อุทกสาฏิกํ นิวาเสตฺวา อนฺโตนทิยํเยว กมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ น สกฺโกนฺติ, นาวายปิ ตฺวา กาตพฺพํ. คจฺฉนฺติยา ปน นาวาย กาตุํ น วฏฺฏติ. กสฺมา? อุทกุกฺเขปมตฺตเมว หิ สีมา. ตํ นาวา สีฆเมว อติกฺกมติ, เอวํ สติ อฺิสฺสา สีมาย ตฺติ, อฺิสฺสา อนุสาวนา โหติ, ตสฺมา นาวํ อริตฺเตน วา เปตฺวา ปาสาเณ วา ลมฺเพตฺวา อนฺโตนทิยํ ชาตรุกฺเข วา พนฺธิตฺวา กมฺมํ กาตพฺพํ. อนฺโตนทิยํ พทฺธอฏฺฏเกปิ อนฺโตนทิยํ ชาตรุกฺเขปิ ิเตหิ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน รุกฺขสฺส สาขา วา ตโต นิกฺขนฺตปาโรโห วา พหินทีตีเร วิหารสีมาย วา คามสีมาย วา ปติฏฺิโต, สีมํ วา โสเธตฺวา สาขํ วา ฉินฺทิตฺวา กมฺมํ กาตพฺพํ. พหินทีตีเร ชาตรุกฺขสฺส อนฺโตนทิยํ ปวิฏฺสาขาย วา ปาโรเห วา นาวํ พนฺธิตฺวา กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ, กโรนฺเตหิ สีมา วา โสเธตพฺพา, ฉินฺทิตฺวา วาสฺส พหิปติฏฺิตภาโว นาเสตพฺโพ. นทีตีเร ปน ขาณุกํ โกฏฺเฏตฺวา ตตฺถ พทฺธนาวาย น วฏฺฏติเยว. นทิยํ เสตุํ กโรนฺติ, สเจ อนฺโตนทิยํเยว เสตุ จ เสตุปาทา จ โหนฺติ, เสตุมฺหิ ิเตหิ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เสตุ วา เสตุปาทา วา พหิตีเร ปติฏฺิตา, กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ, สีมํ โสเธตฺวา กาตพฺพํ. อถ เสตุปาทา อนฺโต, เสตุ ปน อุภินฺนมฺปิ ตีรานํ อุปริอากาเส ิโต, วฏฺฏติ.

อนฺโตนทิยํ ปาสาโณ วา ทีปโก วา โหติ, ตตฺถ ยตฺตกํ ปเทสํ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปกาเร ปกติวสฺสกาเล วสฺสานสฺส จตูสุ มาเสสุ อุทกํ โอตฺถรติ, โส นทีสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. อติวุฏฺิกาเล โอเฆน โอตฺถโตกาโส น คเหตพฺโพ. โส หิ คามสีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. นทิโต มาติกํ นีหรนฺตา นทิยํ อาวรณํ กโรนฺติ, ตํ เจ โอตฺถริตฺวา วา วินิพฺพิชฺฌิตฺวา วา อุทกํ คจฺฉติ, สพฺพตฺถ ปวตฺตนฏฺาเน กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน อาวรเณน วา โกฏฺฏกพนฺธเนน วา โสตํ ปจฺฉินฺทติ, อุทกํ นปฺปวตฺตติ, อปฺปวตฺตนฏฺาเน กาตุํ น วฏฺฏติ, อาวรณมตฺตเกปิ กาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ โกจิ อาวรณปฺปเทโส ปุพฺเพ วุตฺตปาสาณทีปกปฺปเทโส วิย อุทเกน อชฺโฌตฺถรียติ, ตตฺถ วฏฺฏติ. โส หิ นทีสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. นทึ วินาเสตฺวา ตฬากํ กโรนฺติ, เหฏฺา ปาฬิพทฺธา อุทกํ อาคนฺตฺวา ตฬากํ ปูเรตฺวา ติฏฺติ, เอตฺถ กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ, อุปริ ปวตฺตนฏฺาเน เหฏฺา จ ฉฑฺฑิโตทกํ นทึ โอตริตฺวา สนฺทนฏฺานโต ปฏฺาย วฏฺฏติ. เทเว อวสฺสนฺเต เหมนฺตคิมฺเหสุ วา สุกฺขนทิยาปิ วฏฺฏติ, นทิโต นีหฏมาติกาย น วฏฺฏติ. สเจ สา กาลนฺตเรน ภิชฺชิตฺวา นที โหติ, วฏฺฏติ. กาจิ นที อุปฺปติตฺวา คามนิคมสีมํ โอตฺถริตฺวา ปวตฺตติ, นทีเยว โหติ, กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน วิหารสีมํ โอตฺถรติ, วิหารสีมาตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ.

สมุทฺเทปิ กมฺมํ กโรนฺเตหิ ยํ ปเทสํ อุทฺธํ วฑฺฒนอุทกํ วา ปกติวีจิ วา เวเคน อาคนฺตฺวา โอตฺถรติ, ตตฺถ กาตุํ น วฏฺฏติ. ยสฺมึ ปน ปเทเส ปกติวีจิโย โอสริตฺวา สณฺหนฺติ, โส อุทกนฺตโต ปฏฺาย อนฺโต สมุทฺโท นาม, ตตฺถ ิเตหิ กมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ อูมิเวโค พาธติ, นาวาย วา อฏฺฏเก วา ตฺวา กาตพฺพํ. เตสุ วินิจฺฉโย นทิยํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. สมุทฺเท ปิฏฺิปาสาโณ โหติ, ตํ กทาจิ อูมิโย อาคนฺตฺวา โอตฺถรนฺติ, กทาจิ น โอตฺถรนฺติ, ตตฺถ กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. โส หิ คามสีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. สเจ ปน วีจีสุ อาคตาสุปิ อนาคตาสุปิ ปกติอุทเกเนว โอตฺถรียติ, วฏฺฏติ. ทีปโก วา ปพฺพโต วา โหติ, โส เจ ทูเร โหติ มจฺฉพนฺธานํ อคมนปเถ, อรฺสีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. เตสํ คมนปริยนฺตสฺส โอรโต ปน คามสีมาสงฺขฺยํ คจฺฉติ, ตตฺถ คามสีมํ อโสเธตฺวา กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. สมุทฺโท คามสีมํ วา นิคมสีมํ วา โอตฺถริตฺวา ติฏฺติ, สมุทฺโทว โหติ, ตตฺถ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน วิหารสีมํ โอตฺถรติ, วิหารสีมาตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ.

ชาตสฺสเร กมฺมํ กโรนฺเตหิ ยตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปกาเร วสฺสกาเล วสฺเส ปจฺฉินฺนมตฺเต ปิวิตุํ วา หตฺถปาเท วา โธวิตุํ อุทกํ น โหติ, สุกฺขติ, อยํ น ชาตสฺสโร, คามเขตฺตสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตตฺถ กมฺมํ น กาตพฺพํ. ยตฺถ ปน วุตฺตปฺปกาเร วสฺสกาเล อุทกํ สนฺติฏฺติ, อยเมว ชาตสฺสโร. ตสฺส ยตฺตเก ปเทเส วสฺสานํ จาตุมาเส อุทกํ ติฏฺติ, ตตฺถ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ คมฺภีรํ อุทกํ, อฏฺฏกํ พนฺธิตฺวา ตตฺถ ิเตหิปิ ชาตสฺสรสฺส อนฺโตชาตรุกฺขมฺหิ พทฺธอฏฺฏเกปิ กาตุํ วฏฺฏติ. ปิฏฺิปาสาณทีปเกสุ ปเนตฺถ นทิยํ วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโย. สมวสฺสเทวกาเล ปโหนกชาตสฺสโร ปน เจปิ ทุพฺพุฏฺิกกาเล วา คิมฺหเหมนฺเตสุ วา สุกฺขติ, นิรุทโก โหติ, ตตฺถ สงฺฆกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. ยํ อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘สพฺโพ ชาตสฺสโร สุกฺโข อโนทโก คามเขตฺตํเยว ภชตี’’ติ, ตํ น คเหตพฺพํ. สเจ ปเนตฺถ อุทกตฺถาย อาวาฏํ วา โปกฺขรณีอาทีนิ วา ขณนฺติ, ตํ านํ อชาตสฺสโร โหติ, คามสีมาสงฺขฺยํ คจฺฉติ. ลาพุติปุสกาทิวปฺเป กเตปิ เอเสว นโย. สเจ ปน นํ ปูเรตฺวา ถลํ วา กโรนฺติ, เอกสฺมึ ทิสาภาเค ปาฬึ พนฺธิตฺวา สพฺพเมว นํ มหาตฬากํ วา กโรนฺติ, สพฺโพปิ อชาตสฺสโร โหติ, คามสีมาสงฺขฺยํ คจฺฉติ. โลณีปิ ชาตสฺสรสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส อุทกฏฺาโนกาเส กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตีติ. อยํ อพทฺธสีมาย วินิจฺฉโย.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

สีมาวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๒๕. อุโปสถปวารณาวินิจฺฉยกถา

๑๖๘. อุโปสถปวารณาติ เอตฺถ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา) ทิวสวเสน ตโย อุโปสถา จาตุทฺทสิโก ปนฺนรสิโก สามคฺคีอุโปสโถติ. ตตฺถ เหมนฺตคิมฺหวสฺสานานํ ติณฺณํ อุตูนํ ตติยสตฺตมปกฺเขสุ ทฺเว ทฺเว กตฺวา ฉ จาตุทฺทสิกา, เสสา ปนฺนรสิกาติ เอวํ เอกสํวจฺฉเร จตุวีสติ อุโปสถา. อิทํ ตาว ปกติจาริตฺตํ. ตถารูปปจฺจเย สติ อฺสฺมิมฺปิ จาตุทฺทเส อุโปสถํ กาตุํ วฏฺฏติ. ปุริมวสฺสํวุฏฺานํ ปน ปุพฺพกตฺติกปุณฺณมา, เตสํเยว สเจ ภณฺฑนการเกหิ อุปทฺทุตา ปวารณํ ปจฺจุกฺกฑฺฒนฺติ, อถ กตฺติกมาสสฺส กาฬปกฺขจาตุทฺทโส วา ปจฺฉิมกตฺติกปุณฺณมา วา ปจฺฉิมวสฺสํวุฏฺานฺจ ปจฺฉิมกตฺติกปุณฺณมา เอว วาติ อิเม ตโย ปวารณาทิวสาปิ โหนฺติ. อิทมฺปิ ปกติจาริตฺตเมว. ตถารูปปจฺจเย สติ ทฺวินฺนํ กตฺติกปุณฺณมานํ ปุริเมสุ จาตุทฺทเสสุปิ ปวารณํ กาตุํ วฏฺฏติ. ยทา ปน โกสมฺพกกฺขนฺธเก (มหาว. ๔๕๑ อาทโย) อาคตนเยน ภินฺเน ภิกฺขุสงฺเฆ โอสาริเต ตสฺมึ ภิกฺขุสฺมึ สงฺโฆ ตสฺส วตฺถุสฺส วูปสมาย สงฺฆสามคฺคึ กโรติ, ตทา ตาวเทว อุโปสโถ กาตพฺโพ. ‘‘ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วจนโต เปตฺวา จาตุทฺทสปนฺนรเส อฺโปิ โย โกจิ ทิวโส อุโปสถทิวโส นาม โหติ, วสฺสํวุฏฺานํ ปน กตฺติกมาสพฺภนฺตเร อยเมว สามคฺคีปวารณาทิวโส นาม โหติ. อิติ อิเมสุ ตีสุ ทิวเสสุ อุโปสโถ กาตพฺโพ. กโรนฺเตน ปน สเจ จาตุทฺทสิโก โหติ, ‘‘อชฺชุโปสโถ จาตุทฺทโส’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ สามคฺคีอุโปสโถ โหติ, ‘‘อชฺชุโปสโถ สามคฺคี’’ติ วตฺตพฺพํ. ปนฺนรสิยํ ปน ปาฬิยํ อาคตนเยเนว ‘‘อชฺชุโปสโถ ปนฺนรโส’’ติ วตฺตพฺพํ.

๑๖๙. สงฺเฆ อุโปสโถ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา), คเณ อุโปสโถ, ปุคฺคเล อุโปสโถติ เอวํ การกวเสน อปเรปิ ตโย อุโปสถา วุตฺตา, กตฺตพฺพาการวเสน ปน สุตฺตุทฺเทโส ปาริสุทฺธิอุโปสโถ อธิฏฺานุโปสโถติ อปเรปิ ตโย อุโปสถา. ตตฺถ สุตฺตุทฺเทโส นาม ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ’’ติอาทินา นเยน วุตฺโต ปาติโมกฺขุทฺเทโส. เย ปนิตเร ทฺเว อุโปสถา, เตสุ ปาริสุทฺธิอุโปสโถ ตาว อฺเสฺจ สนฺติเก อฺมฺฺจ อาโรจนวเสน ทุวิโธ. ตตฺถ ยฺวายํ อฺเสํ สนฺติเก กรียติ, โสปิ ปวาริตานฺจ อปฺปวาริตานฺจ สนฺติเก กรณวเสน ทุวิโธ. ตตฺถ มหาปวารณาย ปวาริตานํ สนฺติเก ปจฺฉิมิกาย อุปคเตน วา อนุปคเตน วา ฉินฺนวสฺเสน วา จาตุมาสินิยํ ปน ปวาริตานํ สนฺติเก อนุปคเตน วา ฉินฺนวสฺเสน วา กายสามคฺคึ ทตฺวา ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ ภนฺเต, ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถา’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺวา กาตพฺโพ. เปตฺวา ปน ปวารณาทิวสํ อฺสฺมึ กาเล อาวาสิเกหิ อุทฺทิฏฺมตฺเต ปาติโมกฺเข อวุฏฺิตาย วา เอกจฺจาย วุฏฺิตาย วา สพฺพาย วา วุฏฺิตาย ปริสาย เย อฺเ สมสมา วา โถกตรา วา อาคจฺฉนฺติ, เตหิ เตสํ สนฺติเก วุตฺตนเยเนว ปาริสุทฺธิ อาโรเจตพฺพา.

โย ปนายํ อฺมฺํ อาโรจนวเสน กรียติ, โส ตฺตึ เปตฺวา กรณวเสน จ อฏฺเปตฺวา กรณวเสน จ ทุวิโธ. ตตฺถ ยสฺมึ อาวาเส ตโย ภิกฺขู วิหรนฺติ, เตสุ อุโปสถทิวเส สนฺนิปติเตสุ เอเกน ภิกฺขุนา ‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา, อชฺชุโปสโถ จาตุทฺทโส’’ติ วา ‘‘ปนฺนรโส’’ติ วา วตฺวา ‘‘ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, มยํ อฺมฺํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กเรยฺยามา’’ติ ตฺติยา ปิตาย เถเรน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ, อาวุโส, ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถา’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ. อิตเรหิ ‘‘ภนฺเต’’ติ วตฺวา เอวเมว วตฺตพฺพํ. เอวํ ตฺตึ เปตฺวา กาตพฺโพ. ยตฺร ปน ทฺเว ภิกฺขู วิหรนฺติ, ตตฺร ตฺตึ อฏฺเปตฺวา วุตฺตนเยเนว ปาริสุทฺธิ อาโรเจตพฺพาติ อยํ ปาริสุทฺธิอุโปสโถ.

สเจ ปน เอโกว ภิกฺขุ โหติ, สพฺพํ ปุพฺพกรณียํ กตฺวา อฺเสํ อนาคมนํ ตฺวา ‘‘อชฺช เม อุโปสโถ จาตุทฺทโส’’ติ วา ‘‘ปนฺนรโส’’ติ วา วตฺวา ‘‘อธิฏฺามี’’ติ วตฺตพฺพํ. อยํ อธิฏฺานุโปสโถติ เอวํ กตฺตพฺพาการวเสน ตโย อุโปสถา เวทิตพฺพา. เอตฺตาวตา นว อุโปสถา ทีปิตา โหนฺติ. เตสุ ทิวสวเสน ปนฺนรสิโก, การกวเสน สงฺฆุโปสโถ, กตฺตพฺพาการวเสน สุตฺตุทฺเทโสติ เอวํ ติลกฺขณสมฺปนฺเน อุโปสเถ ปวตฺตมาเน อุโปสถํ อกตฺวา ตทหุโปสเถ อฺํ อภิกฺขุกํ นานาสํวาสเกหิ วา สภิกฺขุกํ อาวาสํ วา อนาวาสํ วา วาสตฺถาย อฺตฺร สงฺเฆน อฺตฺร อนฺตรายา คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏํ โหติ.

๑๗๐. อุโปสถกรณตฺถํ สนฺนิปติเต สงฺเฆ พหิ อุโปสถํ กตฺวา อาคเตน สนฺนิปาตฏฺานํ คนฺตฺวา กายสามคฺคึ อเทนฺเตน ฉนฺโท ทาตพฺโพ. โยปิ คิลาโน วา โหติ กิจฺจปสุโต วา, เตนปิ ปาริสุทฺธึ เทนฺเตน ฉนฺโทปิ ทาตพฺโพ. กถํ? เอกสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก ‘‘ฉนฺทํ ทมฺมิ, ฉนฺทํ เม หร, ฉนฺทํ เม อาโรเจหี’’ติ อยมตฺโถ กาเยน วา วาจาย วา อุภเยน วา วิฺาเปตพฺโพ, เอวํ ทินฺโน โหติ ฉนฺโท. อกตุโปสเถน คิลาเนน วา กิจฺจปสุเตน วา ปาริสุทฺธิ ทาตพฺพา. กถํ? เอกสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก ‘‘ปาริสุทฺธึ ทมฺมิ, ปาริสุทฺธึ เม หร, ปาริสุทฺธึ เม อาโรเจหี’’ติ อยมตฺโถ กาเยน วา วาจาย วา อุภเยน วา วิฺาเปตพฺโพ, เอวํ ทินฺนา โหติ ปาริสุทฺธิ. ตํ ปน เทนฺเตน ฉนฺโทปิ ทาตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตทหุโปสเถ ปาริสุทฺธึ เทนฺเตน ฉนฺทมฺปิ ทาตุํ, สนฺติ สงฺฆสฺส กรณีย’’นฺติ (มหาว. ๑๖๕). ตตฺถ ปาริสุทฺธิทานํ สงฺฆสฺสปิ อตฺตโนปิ อุโปสถกรณํ สมฺปาเทติ, น อวเสสํ สงฺฆกิจฺจํ, ฉนฺททานํ สงฺฆสฺเสว อุโปสถกรณฺจ เสสกิจฺจฺจ สมฺปาเทติ, อตฺตโน ปนสฺส อุโปสโถ อกโตเยว โหติ, ตสฺมา ปาริสุทฺธึ เทนฺเตน ฉนฺโทปิ ทาตพฺโพ. ปุพฺเพ วุตฺตํ ปน สุทฺธิกจฺฉนฺทํ วา ปาริสุทฺธึ วา อิมํ วา ฉนฺทปาริสุทฺธึ เอเกน พหูนมฺปิ อาหริตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน โส อนฺตรามคฺเค อฺํ ภิกฺขุํ ปสฺสิตฺวา เยสํ เตน ฉนฺโท วา ปาริสุทฺธิ วา คหิตา, เตสฺจ อตฺตโน จ ฉนฺทปาริสุทฺธึ เทติ, ตสฺเสว อาคจฺฉติ. อิตรา ปน พิฬาลสงฺขลิกา ฉนฺทปาริสุทฺธิ นาม โหติ, สา น อาคจฺฉติ, ตสฺมา สยเมว สนฺนิปาตฏฺานํ คนฺตฺวา อาโรเจตพฺพํ. สเจ ปน สฺจิจฺจ นาโรเจติ, ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ, ฉนฺทปาริสุทฺธิ ปน ตสฺมึ หตฺถปาสํ อุปคตมตฺเตเยว อาคตา โหติ.

๑๗๑. ปาริวาสิเยน ปน ฉนฺททาเนน ยํ กิฺจิ สงฺฆกมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ตตฺถ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๖๗) จตุพฺพิธํ ปาริวาสิยํ ปริสปาริวาสิยํ รตฺติปาริวาสิยํ ฉนฺทปาริวาสิยํ อชฺฌาสยปาริวาสิยนฺติ. เตสุ ปริสปาริวาสิยํ นาม ภิกฺขู เกนจิเทว กรณีเยน สนฺนิปติตา โหนฺติ, อถ เมโฆ วา อุฏฺเติ, อุสฺสารณา วา กรียติ, มนุสฺสา วา อชฺโฌตฺถรนฺตา อาคจฺฉนฺติ, ภิกฺขู ‘‘อโนกาสา มยํ, อฺตฺถ คจฺฉามา’’ติ ฉนฺทํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว อุฏฺหนฺติ. อิทํ ปริสปาริวาสิยํ. กิฺจาปิ ปริสปาริวาสิยํ, ฉนฺทสฺส ปน อวิสฺสฏฺตฺตา กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ.

ปุน ภิกฺขู ‘‘อุโปสถาทีนิ กริสฺสามา’’ติ รตฺตึ สนฺนิปติตฺวา ‘‘ยาว สพฺเพ สนฺนิปตนฺติ, ตาว ธมฺมํ สุณิสฺสามา’’ติ เอกํ อชฺเฌสนฺติ, ตสฺมึ ธมฺมกถํ กเถนฺเตเยว อรุโณ อุคฺคจฺฉติ. สเจ ‘‘จาตุทฺทสิกํ อุโปสถํ กริสฺสามา’’ติ นิสินฺนา, ปนฺนรโสติ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปนฺนรสิกํ กาตุํ นิสินฺนา, ปาฏิปเท อนุโปสเถ อุโปสถํ กาตุํ น วฏฺฏติ, อฺํ ปน สงฺฆกิจฺจํ กาตุํ วฏฺฏติ. อิทํ รตฺติปาริวาสิยํ นาม.

ปุน ภิกฺขู ‘‘กิฺจิเทว อพฺภานาทิสงฺฆกมฺมํ กริสฺสามา’’ติ นิสินฺนา โหนฺติ, ตตฺเรโก นกฺขตฺตปาโก ภิกฺขุ เอวํ วทติ ‘‘อชฺช นกฺขตฺตํ ทารุณํ, มา อิมํ กโรถา’’ติ. เต ตสฺส วจเนน ฉนฺทํ วิสฺสชฺเชตฺวา ตตฺเถว นิสินฺนา โหนฺติ. อถฺโ อาคนฺตฺวา ‘‘นกฺขตฺตํ ปติมาเนนฺตํ, อตฺโถ พาลํ อุปจฺจคา’’ติ (ชา. ๑.๑.๔๙) วตฺวา ‘‘กึ นกฺขตฺเตน, กโรถา’’ติ วทติ. อิทํ ฉนฺทปาริวาสิยฺเจว อชฺฌาสยปาริวาสิยฺจ. เอตสฺมึ ปาริวาสิเย ปุน ฉนฺทปาริสุทฺธึ อนาเนตฺวา กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ.

๑๗๒. สเจ โกจิ ภิกฺขุ คิลาโน น สกฺโกติ ฉนฺทปาริสุทฺธึ ทาตุํ, โส มฺเจน วา ปีเน วา สงฺฆมชฺฌํ อาเนตพฺโพ. สเจ คิลานุปฏฺากานํ ภิกฺขูนํ เอวํ โหติ ‘‘สเจ โข มยํ คิลานํ านา จาเวสฺสาม, อาพาโธ วา อภิวฑฺฒิสฺสติ, กาลกิริยา วา ภวิสฺสตี’’ติ, น โส ภิกฺขุ านา จาเวตพฺโพ, สงฺเฆน ตตฺถ คนฺตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพ. สเจ พหู ตาทิสา คิลานา โหนฺติ, สงฺเฆน ปฏิปาฏิยา ตฺวา สพฺเพ หตฺถปาเส กาตพฺพา. สเจ ทูเร โหนฺติ, สงฺโฆ นปฺปโหติ, ตํ ทิวสํ อุโปสโถ น กาตพฺโพ. น ตฺเวว วคฺเคน สงฺเฆน อุโปสโถ กาตพฺโพ, กเรยฺย เจ, ทุกฺกฏํ.

สเจ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๙) เอกสฺมึ วิหาเร จตูสุ ภิกฺขูสุ วสนฺเตสุ เอกสฺส ฉนฺทปาริสุทฺธึ อาหริตฺวา ตโย ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ตีสุ วา วสนฺเตสุ เอกสฺส ฉนฺทปาริสุทฺธึ อาหริตฺวา ทฺเว ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ, อธมฺเมน วคฺคํ อุโปสถกมฺมํ โหติ. สเจ ปน จตฺตาโรปิ สนฺนิปติตฺวา ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ตโย วา ทฺเว วา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ, อธมฺเมน สมคฺคํ นาม โหติ. สเจ จตูสุ ชเนสุ เอกสฺส ปาริสุทฺธึ อาหริตฺวา ตโย ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ, ตีสุ วา ชเนสุ เอกสฺส ปาริสุทฺธึ อาหริตฺวา ทฺเว ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ธมฺเมน วคฺคํ นาม โหติ. สเจ ปน จตฺตาโร เอกตฺถ วสนฺตา สพฺเพ สนฺนิปติตฺวา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ, ตโย ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ทฺเว อฺมฺํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ธมฺเมน สมคฺคํ นาม โหติ.

๑๗๓. ปวารณากมฺเมสุ (มหาว. อฏฺ. ๒๑๒) ปน สเจ เอกสฺมึ วิหาเร ปฺจสุ ภิกฺขูสุ วสนฺเตสุ เอกสฺส ปวารณํ อาหริตฺวา จตฺตาโร คณตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, จตูสุ วา ตีสุ วา วสนฺเตสุ เอกสฺส ปวารณํ อาหริตฺวา ตโย วา ทฺเว วา สงฺฆตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, สพฺพเมตํ อธมฺเมน วคฺคํ ปวารณากมฺมํ. สเจ ปน สพฺเพปิ ปฺจ ชนา เอกโต สนฺนิปติตฺวา คณตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, จตฺตาโร วา ตโย วา ทฺเว วา วสนฺตา เอกโต สนฺนิปติตฺวา สงฺฆตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, สพฺพเมตํ อธมฺเมน สมคฺคํ ปวารณากมฺมํ. สเจ ปฺจสุ ชเนสุ เอกสฺส ปวารณํ อาหริตฺวา จตฺตาโร สงฺฆตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, จตูสุ วา ตีสุ วา เอกสฺส ปวารณํ อาหริตฺวา ตโย วา ทฺเว วา คณตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, สพฺพเมตํ ธมฺเมน วคฺคํ ปวารณากมฺมํ. สเจ ปน สพฺเพปิ ปฺจ ชนา เอกโต สนฺนิปติตฺวา สงฺฆตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, จตฺตาโร วา ตโย วา เอกโต สนฺนิปติตฺวา คณตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, ทฺเว อฺมฺํ ปวาเรนฺติ, เอกโก วสนฺโต อธิฏฺานปวารณํ กโรติ, สพฺพเมตํ ธมฺเมน สมคฺคํ นาม ปวารณากมฺมนฺติ.

เอตฺถ สเจ จาตุทฺทสิกา โหติ, ‘‘อชฺช เม ปวารณา จาตุทฺทสี’’ติ, สเจ ปนฺนรสิกา, ‘‘อชฺช เม ปวารณา ปนฺนรสี’’ติ เอวํ อธิฏฺาตพฺพํ. ปวารณํ เทนฺเตน ปน ‘‘ปวารณํ ทมฺมิ, ปวารณํ เม หร, มมตฺถาย ปวาเรหี’’ติ กาเยน วา วาจาย วา กายวาจาหิ วา อยมตฺโถ วิฺาเปตพฺโพ. เอวํ ทินฺนาย (มหาว. อฏฺ. ๒๑๓) ปวารณาย ปวารณาหารเกน สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ ปวาเรตพฺพํ ‘‘ติสฺโส, ภนฺเต, ภิกฺขุ สงฺฆํ ปวาเรติ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทตุ ตํ, ภนฺเต, สงฺโฆ อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสติ. ทุติยมฺปิ, ภนฺเต…เป… ตติยมฺปิ, ภนฺเต, ติสฺโส ภิกฺขุ สงฺฆํ ปวาเรติ…เป… ปฏิกริสฺสตี’’ติ. สเจ ปน วุฑฺฒตโร โหติ, ‘‘อายสฺมา, ภนฺเต, ติสฺโส’’ติ วตฺตพฺพํ. เอวฺหิ เตน ตสฺสตฺถาย ปวาริตํ โหติ. ปวารณํ เทนฺเตน ปน ฉนฺโทปิ ทาตพฺโพ, ฉนฺททานํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิธาปิ ฉนฺททานํ อวเสสกมฺมตฺถาย. ตสฺมา สเจ ปวารณํ เทนฺโต ฉนฺทํ เทติ, วุตฺตนเยน อาหฏาย ปวารณาย เตน จ ภิกฺขุนา สงฺเฆน จ ปวาริตเมว โหติ. อถ ปวารณเมว เทติ, น ฉนฺทํ, ตสฺส จ ปวารณาย อาโรจิตาย สงฺเฆน จ ปวาริเต สพฺเพสํ สุปฺปวาริตํ โหติ, อฺํ ปน กมฺมํ กุปฺปติ. สเจ ฉนฺทเมว เทติ, น ปวารณํ, สงฺฆสฺส ปวารณา จ เสสกมฺมานิ จ น กุปฺปนฺติ, เตน ปน ภิกฺขุนา อปฺปวาริตํ โหติ, ปวารณาทิวเส ปน พหิสีมาย ปวารณํ อธิฏฺหิตฺวา อาคเตนปิ ฉนฺโท ทาตพฺโพ เตน สงฺฆสฺส ปวารณากมฺมํ น กุปฺปติ.

สเจ ปุริมิกาย ปฺจ ภิกฺขู วสฺสํ อุปคตา, ปจฺฉิมิกายปิ ปฺจ, ปุริเมหิ ตฺตึ เปตฺวา ปวาริเต ปจฺฉิเมหิ เตสํ สนฺติเก ปาริสุทฺธิอุโปสโถ กาตพฺโพ, น เอกสฺมึ อุโปสถคฺเค ทฺเว ตฺติโย เปตพฺพา. สเจปิ ปจฺฉิมิกาย อุปคตา จตฺตาโร ตโย ทฺเว เอโก วา โหติ, เอเสว นโย. อถ ปุริมิกาย จตฺตาโร, ปจฺฉิมิกายปิ จตฺตาโร ตโย ทฺเว เอโก วา, เอเสว นโย. อถาปิ ปุริมิกาย ตโย, ปจฺฉิมิกายปิ ตโย ทฺเว เอโก วา, เอเสว นโย. อิทฺเหตฺถ ลกฺขณํ.

สเจ ปุริมิกาย อุปคเตหิ ปจฺฉิมิกาย อุปคตา โถกตรา เจว โหนฺติ สมสมา จ, สงฺฆปวารณาย จ คณํ ปูเรนฺติ, สงฺฆปวารณาวเสน ตฺติ เปตพฺพา. สเจ ปน ปจฺฉิมิกาย เอโก โหติ, เตน สทฺธึ เต จตฺตาโร โหนฺติ, จตุนฺนํ สงฺฆตฺตึ เปตฺวา ปวาเรตุํ น วฏฺฏติ. คณตฺติยา ปน โส คณปูรโก โหติ, ตสฺมา คณวเสน ตฺตึ เปตฺวา ปุริเมหิ ปวาเรตพฺพํ, อิตเรน เตสํ สนฺติเก ปาริสุทฺธิอุโปสโถ กาตพฺโพติ. ปุริมิกาย ทฺเว, ปจฺฉิมิกาย ทฺเว วา เอโก วา เอเสว นโย. ปุริมิกาย เอโก ปจฺฉิมิกาย เอโกติ เอเกน เอกสฺส สนฺติเก ปวาเรตพฺพํ, เอเกน ปาริสุทฺธิอุโปสโถ กาตพฺโพ. สเจ ปุริเมหิ วสฺสูปคเตหิ ปจฺฉา วสฺสูปคตา เอเกนปิ อธิกตรา โหนฺติ, ปมํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตฺวา ปจฺฉา โถกตเรหิ เตสํ สนฺติเก ปวาเรตพฺพํ.

กตฺติกาย จาตุมาสินิปวารณาย ปน สเจ ปมวสฺสูปคเตหิ มหาปวารณาย ปวาริเตหิ ปจฺฉา อุปคตา อธิกตรา วา สมสมา วา โหนฺติ, ปวารณาตฺตึ เปตฺวา ปวาเรตพฺพํ. เตหิ ปวาริเต ปจฺฉา อิตเรหิ ปาริสุทฺธิอุโปสโถ กาตพฺโพ. อถ มหาปวารณายํ ปวาริตา พหู โหนฺติ, ปจฺฉา วสฺสูปคตา โถกา วา เอโก วา, ปาติโมกฺเข อุทฺทิฏฺเ ปจฺฉา เตสํ สนฺติเก เตน ปวาเรตพฺพํ. กึ ปเนตํ ปาติโมกฺขํ สกลเมว อุทฺทิสิตพฺพํ, อุทาหุ เอกเทสมฺปีติ? เอกเทสมฺปิ อุทฺทิสิตุํ วฏฺฏติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, ปาติโมกฺขุทฺเทสา, นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ, อยํ ปโม ปาติโมกฺขุทฺเทโส. นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา จตฺตาริ ปาราชิกานิ อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ, อยํ ทุติโย ปาติโมกฺขุทฺเทโส. นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา จตฺตาริ ปาราชิกานิ อุทฺทิสิตฺวา เตรส สงฺฆาทิเสเส อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ, อยํ ตติโย ปาติโมกฺขุทฺเทโส. นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา จตฺตาริ ปาราชิกานิ อุทฺทิสิตฺวา เตรส สงฺฆาทิเสเส อุทฺทิสิตฺวา ทฺเว อนิยเต อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ ภุเตน สาเวตพฺพํ, อยํ จตุตฺโถ ปาติโมกฺขุทฺเทโส. วิตฺถาเรเนว ปฺจโม’’ติ (มาหาว. ๑๕๐).

ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๕๐) นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพนฺติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ…เป… อาวิกตา หิสฺส ผาสุ โหตี’’ติ อิมํ นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘อุทฺทิฏฺํ โข อายสฺมนฺโต นิทานํ, ตตฺถายสฺมนฺเต ปุจฺฉามิ กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธา. ทุติยมฺปิ ปุจฺฉามิ…เป… เอวเมตํ ธารยามิ. สุตา โข ปนายสฺมนฺเตหิ จตฺตาโร ปาราชิกา ธมฺมา …เป… อวิวทมาเนหิ สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ เอวํ อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ. เอเตน นเยน เสสาปิ จตฺตาโร ปาติโมกฺขุทฺเทสา เวทิตพฺพา.

๑๗๔. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สติ อนฺตราเย สํขิตฺเตน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุํ. น, ภิกฺขเว, อสติ อนฺตราเย สํขิตฺเตน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพํ, โย อุทฺทิเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๕๐) วจนโต ปน วินา อนฺตรายา สํขิตฺเตน ปาติโมกฺขํ น อุทฺทิสิตพฺพํ. ตตฺริเม อนฺตรายา – ราชนฺตราโย โจรนฺตราโย อคฺยนฺตราโย อุทกนฺตราโย มนุสฺสนฺตราโย อมนุสฺสนฺตราโย วาฬนฺตราโย สรีสปนฺตราโย ชีวิตนฺตราโย พฺรหฺมจริยนฺตราโยติ.

ตตฺถ สเจ ภิกฺขูสุ อุโปสถํ กริสฺสามาติ นิสินฺเนสุ ราชา อาคจฺฉติ, อยํ ราชนฺตราโย. โจรา อาคจฺฉนฺติ, อยํ โจรนฺตราโย. ทวฑาโห อาคจฺฉติ, อาวาเส วา อคฺคิ อุฏฺาติ, อยํ อคฺยนฺตราโย. เมโฆ วา อุฏฺเติ, โอโฆ วา อาคจฺฉติ, อยํ อุทกนฺตราโย. พหู มนุสฺสา อาคจฺฉนฺติ, อยํ มนุสฺสนฺตราโย. ภิกฺขุํ ยกฺโข คณฺหาติ, อยํ อมนุสฺสนฺตราโย. พฺยคฺฆาทโย จณฺฑมิคา อาคจฺฉนฺติ, อยํ วาฬนฺตราโย. ภิกฺขุํ สปฺปาทโย ฑํสนฺติ, อยํ สรีสปนฺตราโย. ภิกฺขุ คิลาโน วา โหติ, กาลํ วา กโรติ, เวริโน วา ตํ มาเรตุกามา คณฺหนฺติ, อยํ ชีวิตนฺตราโย. มนุสฺสา เอกํ วา พหู วา ภิกฺขู พฺรหฺมจริยา จาเวตุกามา คณฺหนฺติ, อยํ พฺรหฺมจริยนฺตราโย. เอวรูเปสุ อนฺตราเยสุ สํขิตฺเตน ปาติโมกฺโข อุทฺทิสิตพฺโพ, ปโม วา อุทฺเทโส อุทฺทิสิตพฺโพ. อาทิมฺหิ ทฺเว ตโย จตฺตาโร วา. เอตฺถ ทุติยาทีสุ อุทฺเทเสสุ ยสฺมึ อปริโยสิเต อนฺตราโย โหติ, โสปิ สุเตเนว สาเวตพฺโพ. นิทานุทฺเทเส ปน อนิฏฺิเต สุเตน สาเวตพฺพํ นาม นตฺถิ.

ปวารณากมฺเมปิ สติ อนฺตราเย ทฺเววาจิกํ เอกวาจิกํ สมานวสฺสิกํ วา ปวาเรตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๒๓๔) ตฺตึ เปนฺเตนปิ ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ทฺเววาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ วตฺตพฺพํ. เอกวาจิเก ‘‘เอกวาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ, สมานวสฺสิเกปิ ‘‘สมานวสฺสิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ วตฺตพฺพํ. เอตฺถ จ พหูปิ สมานวสฺสา เอกโต ปวาเรตุํ ลภนฺติ. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อชฺช ปวารณา ปนฺนรสี, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ปวาเรยฺยา’’ติ อิมาย ปน สพฺพสงฺคาหิกาย ตฺติยา ปิตาย เตวาจิกํ ทฺเววาจิกํ เอกวาจิกฺจ ปวาเรตุํ วฏฺฏติ, สมานวสฺสิกํ น วฏฺฏติ. ‘‘เตวาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ วุตฺเต ปน เตวาจิกเมว วฏฺฏติ, อฺํ น วฏฺฏติ. ‘‘ทฺเววาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ วุตฺเต ทฺเววาจิกํ เตวาจิกฺจ วฏฺฏติ, เอกวาจิกฺจ สมานวสฺสิกฺจ น วฏฺฏติ. ‘‘เอกวาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ วุตฺเต ปน เอกวาจิกทฺเววาจิกเตวาจิกานิ วฏฺฏนฺติ, สมานวสฺสิกเมว น วฏฺฏติ. ‘‘สมานวสฺสิก’’นฺติ วุตฺเต สพฺพํ วฏฺฏติ.

๑๗๕. เกน ปน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพนฺติ? ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เถราธิกํ ปาติโมกฺข’’นฺติ (มหาว. ๑๕๔) วจนโต เถเรน วา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพํ, ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โย ตตฺถ ภิกฺขุ พฺยตฺโต ปฏิพโล, ตสฺสาเธยฺยํ ปาติโมกฺข’’นฺติ (มหาว. ๑๕๕) วจนโต นวกตเรน วา. เอตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๕๕) จ กิฺจาปิ นวกตรสฺสปิ พฺยตฺตสฺส ปาติโมกฺขํ อนุฺาตํ, อถ โข เอตฺถ อยํ อธิปฺปาโย – สเจ เถรสฺส ปฺจ วา จตฺตาโร วา ตโย วา ปาติโมกฺขุทฺเทสา นาคจฺฉนฺติ, ทฺเว ปน อขณฺฑา สุวิสทา วาจุคฺคตา โหนฺติ, เถรายตฺตํว ปาติโมกฺขํ. สเจ ปน เอตฺตกมฺปิ วิสทํ กาตุํ น สกฺโกติ, พฺยตฺตสฺส ภิกฺขุโน อายตฺถํ โหติ, ตสฺมา สยํ วา อุทฺทิสิตพฺพํ, อฺโ วา อชฺเฌสิตพฺโพ. ‘‘น, ภิกฺขเว, สงฺฆมชฺเฌ อนชฺฌิฏฺเน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพํ, โย อุทฺทิเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๕๔) วจนโต อนชฺฌิฏฺเน ปาติโมกฺขํ น อุทฺทิสิตพฺพํ. น เกวลํ ปาติโมกฺขํเยว, ธมฺโมปิ น ภาสิตพฺโพ ‘‘น, ภิกฺขเว, สงฺฆมชฺเฌ อนชฺฌิฏฺเน ธมฺโม ภาสิตพฺโพ, โย ภาเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๕๐) วจนโต.

อชฺเฌสนา เจตฺถ สงฺเฆน สมฺมตธมฺมชฺเฌสกายตฺตา วา สงฺฆตฺเถ รายตฺตา วา, ตสฺมา ธมฺมชฺเฌสเก อสติ สงฺฆตฺเถรํ อาปุจฺฉิตฺวา วา เตน ยาจิโต วา ภาสิตุํ ลภติ. สงฺฆตฺเถเรนปิ สเจ วิหาเร พหู ธมฺมกถิกา โหนฺติ, วารปฏิปาฏิยา วตฺตพฺโพ. ‘‘ตฺวํ ธมฺมํ ภณ, ธมฺมทานํ เทหี’’ติ วา วุตฺเตน ตีหิปิ วิธีหิ ธมฺโม ภาสิตพฺโพ, ‘‘โอสาเรหี’’ติ วุตฺโต ปน โอสาเรตุเมว ลภติ, ‘‘กเถหี’’ติ วุตฺโต กเถตุเมว, ‘‘สรภฺํ ภณาหี’’ติ วุตฺโต สรภฺเมว. สงฺฆตฺเถโรปิ จ อุจฺจตเร อาสเน นิสินฺโน ยาจิตุํ น ลภติ. สเจ อุปชฺฌาโย เจว สทฺธิวิหาริโก จ โหติ, อุปชฺฌาโย จ นํ อุจฺจาสเน นิสินฺโน ‘‘ภณา’’ติ วทติ, สชฺฌายํ อธิฏฺหิตฺวา ภณิตพฺพํ. สเจ ปเนตฺถ ทหรภิกฺขู โหนฺติ, ‘‘เตสํ ภณามี’’ติ ภณิตพฺพํ. สเจ วิหาเร สงฺฆตฺเถโร อตฺตโนเยว นิสฺสิตเก ภณาเปติ, อฺเ มธุรภาณเกปิ นาชฺเฌสติ, โส อฺเหิ วตฺตพฺโพ – ‘‘ภนฺเต, อสุกํ นาม ภณาเปมา’’ติ. สเจ ‘‘ภณาเปถา’’ติ วทติ, ตุณฺหี วา โหติ, ภณาเปตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน ปฏิพาหติ, น ภณาเปตพฺพํ. ยทิ ปน อนาคเตเยว สงฺฆตฺเถเร ธมฺมสฺสวนํ อารทฺธํ, ปุน อาคเต เปตฺวา อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ. โอสาเรตฺวา ปน กเถนฺเตน อาปุจฺฉิตฺวา อฏฺเปตฺวาเยว วา กเถตพฺพํ. กเถนฺตสฺส ปุน อาคเตปิ เอเสว นโย.

อุปนิสินฺนกถายมฺปิ สงฺฆตฺเถโรว สามี, ตสฺมา เตน สยํ วา กเถตพฺพํ, อฺโ วา ภิกฺขุ ‘‘กเถหี’’ติ วตฺตพฺโพ, โน จ โข อุจฺจตเร อาสนฺเน นิสินฺเนน, มนุสฺสานํ ปน ‘‘ภณาหี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. มนุสฺสา อตฺตโน ชานนกํ ภิกฺขุํ ปุจฺฉนฺติ, เตน เถรํ อาปุจฺฉิตฺวาปิ กเถตพฺพํ. สเจ สงฺฆตฺเถโร ‘‘ภนฺเต, อิเม ปฺหํ ปุจฺฉนฺตี’’ติ ปุฏฺโ ‘‘กเถหี’’ติ วา ภณติ, ตุณฺหี วา โหติ, กเถตุํ วฏฺฏติ. อนฺตรฆเร อนุโมทนาทีสุปิ เอเสว นโย. สเจ สงฺฆตฺเถโร ‘‘วิหาเร วา อนฺตรฆเร วา มํ อนาปุจฺฉิตฺวาปิ กเถยฺยาสี’’ติ อนุชานาติ, ลทฺธกปฺปิยํ โหติ, สพฺพตฺถ วตฺตุํ วฏฺฏติ. สชฺฌายํ กโรนฺเตนาปิ เถโร อาปุจฺฉิตพฺโพเยว. เอกํ อาปุจฺฉิตฺวา สชฺฌายนฺตสฺส อปโร อาคจฺฉติ, ปุน อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ. สเจปิ ‘‘วิสฺสมิสฺสามี’’ติ ปิตสฺส อาคจฺฉติ, ปุน อารภนฺเตน อาปุจฺฉิตพฺพํ. สงฺฆตฺเถเร อนาคเตเยว อารทฺธํ สชฺฌายนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. เอเกน สงฺฆตฺเถเรน ‘‘มํ อนาปุจฺฉาปิ ยถาสุขํ สชฺฌายาหี’’ติ อนุฺาเต ยถาสุขํ สชฺฌายิตุํ วฏฺฏติ, อฺสฺมึ ปน อาคเต ตํ อาปุจฺฉิตฺวาว สชฺฌายิตพฺพํ.

ยสฺมึ ปน วิหาเร สพฺเพว ภิกฺขู พาลา โหนฺติ อพฺยตฺตา น ชานนฺติ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุํ, ตตฺถ กึ กาตพฺพนฺติ? เตหิ ภิกฺขูหิ เอโก ภิกฺขุ สามนฺตา อาวาสา สชฺชุกํ ปาเหตพฺโพ ‘‘คจฺฉาวุโส, สํขิตฺเตน วา วิตฺถาเรน วา ปาติโมกฺขํ ปริยาปุณิตฺวา อาคจฺฉาหี’’ติ. เอวฺเจตํ ลเภถ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ลเภถ, เตหิ ภิกฺขูหิ สพฺเพเหว ยตฺถ ตาทิสา ภิกฺขู โหนฺติ, โส อาวาโส อุโปสถกรณตฺถาย อนฺวฑฺฒมาสํ คนฺตพฺโพ, อคจฺฉนฺตานํ ทุกฺกฏํ. อิทฺจ อุตุวสฺเสเยว, วสฺสาเน ปน ปุริมิกาย ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน วินา น วสฺสํ อุปคจฺฉิตพฺพํ. สเจ โส วสฺสูปคตานํ ปกฺกมติ วา วิพฺภมติ วา กาลํ วา กโรติ, อฺสฺมึ สติเยว ปจฺฉิมิกาย วสิตุํ วฏฺฏติ, อสติ อฺตฺถ คนฺตพฺพํ, อคจฺฉนฺตานํ ทุกฺกฏํ. สเจ ปน ปจฺฉิมิกาย ปกฺกมติ วา วิพฺภมติ วา กาลํ วา กโรติ, มาสทฺวยํ วสิตพฺพํ.

ยตฺถ ปน เต พาลา ภิกฺขู วิหรนฺติ อพฺยตฺตา, สเจ ตตฺถ โกจิ ภิกฺขุ อาคจฺฉติ พหุสฺสุโต อาคตาคโม ธมฺมธโร วินยธโร มาติกาธโร ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม, เตหิ ภิกฺขูหิ โส ภิกฺขุ สงฺคเหตพฺโพ อนุคฺคเหตพฺโพ อุปลาเปตพฺโพ, อุปฏฺาเปตพฺโพ จุณฺเณน มตฺติกาย ทนฺตกฏฺเน มุโขทเกน. โน เจ สงฺคเหยฺยุํ อนุคฺคเหยฺยุํ อุปลาเปยฺยุํ, อุปฏฺาเปยฺยุํ จุณฺเณน มตฺติกาย ทนฺตกฏฺเน มุโขทเกน, สพฺเพสํ ทุกฺกฏํ. อิธ เนว เถรา, น ทหรา มุจฺจนฺติ, สพฺเพหิ วาเรน อุปฏฺาเปตพฺโพ. อตฺตโน วาเร อนุปฏฺหนฺตสฺส อาปตฺติ. เตน ปน มหาเถรานํ ปริเวณสมฺมชฺชนทนฺตกฏฺทานาทีนิ น สาทิตพฺพานิ, เอวมฺปิ สติ มหาเถเรหิ สายํปาตํ อุปฏฺานํ อาคนฺตพฺพํ, เตน ปน เตสํ อาคมนํ ตฺวา ปมตรํ มหาเถรานํ อุปฏฺานํ คนฺตพฺพํ. สจสฺส สทฺธิฺจรา ภิกฺขู อุปฏฺากา อตฺถิ, ‘‘มยฺหํ อุปฏฺากา อตฺถิ, ตุมฺเห อปฺโปสฺสุกฺกา วิหรถา’’ติ วตฺตพฺพํ. อถาปิสฺส สทฺธิฺจรา นตฺถิ, ตสฺมึเยว วิหาเร เอโก วา ทฺเว วา วตฺตสมฺปนฺนา วทนฺติ ‘‘มยํ เถรสฺส กตฺตพฺพํ กริสฺสาม, อวเสสา ผาสุ วิหรนฺตู’’ติ, สพฺเพสํ อนาปตฺติ.

๑๗๖. ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺติ, โส อาวิกเรยฺยา’’ติ(มหาว. ๑๓๔) อาทิวจนโต น สาปตฺติเกน อุโปสโถ กาตพฺโพ, ตสฺมา ตทหุโปสเถ อาปตฺตึ สรนฺเตน เทเสตพฺพา. เทเสนฺเตน จ เอกํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวํ วตฺตพฺโพ ‘‘อหํ, อาวุโส, อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ตํ ปฏิเทเสมี’’ติ. สเจ นวกตโร โหติ, ‘‘อหํ, ภนฺเต’’ติ วตฺตพฺพํ. ‘‘ตํ ปฏิเทเสมี’’ติ อิทํ ปน อตฺตโน อตฺตโน อนุรูปวเสน ‘‘ตํ ตุยฺหมูเล, ตํ ตุมฺหมูเล ปฏิเทเสมี’’ติ วุตฺเตปิ สุวุตฺตเมว โหติ. ปฏิคฺคาหเกนปิ อตฺตโน อตฺตโน อนุรูปวเสน ‘‘ปสฺสถ, ภนฺเต, ตํ อาปตฺตึ, ปสฺสสิ, อาวุโส, ตํ อาปตฺติ’’นฺติ วา วตฺตพฺพํ, ปุน เทสเกน ‘‘อาม, อาวุโส, ปสฺสามิ, อาม, ภนฺเต, ปสฺสามี’’ติ วา วตฺตพฺพํ. ปุน ปฏิคฺคาหเกน ‘‘อายตึ, ภนฺเต, สํวเรยฺยาถ, อายตึ, อาวุโส, สํวเรยฺยาสี’’ติ วา วตฺตพฺพํ. เอวํ วุตฺเต เทสเกน ‘‘สาธุ สุฏฺุ อาวุโส สํวริสฺสามิ, สาธุ สุฏฺุ, ภนฺเต, สํวริสฺสามี’’ติ วา วตฺตพฺพํ. สเจ อาปตฺติยา เวมติโก โหติ, เอกํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวํ วตฺตพฺโพ ‘‘อหํ, อาวุโส, อิตฺถนฺนามาย อาปตฺติยา เวมติโก, ยทา นิพฺเพมติโก ภวิสฺสามิ, ตทา ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสามี’’ติ วตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพ, ปาติโมกฺขํ โสตพฺพํ, น ตฺเวว ตปฺปจฺจยา อุโปสถสฺส อนฺตราโย กาตพฺโพ. ‘‘น, ภิกฺขเว, สภาคา อาปตฺติ เทเสตพฺพา, โย เทเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. น, ภิกฺขเว, สภาคา อาปตฺติ ปฏิคฺคเหตพฺพา, โย ปฏิคฺคณฺเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๖๙) วจนโต ยํ ทฺเวปิ ชนา วิกาลโภชนาทินา สภาควตฺถุนา อาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ, เอวรูปา วตฺถุสภาคา อาปตฺติ เนว เทเสตพฺพา, น จ ปฏิคฺคเหตพฺพา. วิกาลโภชนปจฺจยา อาปนฺนํ ปน อาปตฺติสภาคํ อนติริตฺตโภชนปจฺจยา อาปนฺนสฺส สนฺติเก เทเสตุํ วฏฺฏติ.

สเจ ปน สพฺโพ สงฺโฆ วิกาลโภชนาทินา สภาควตฺถุนา ลหุกาปตฺตึ อาปชฺชติ, ตตฺถ กึ กาตพฺพนฺติ? เตหิ ภิกฺขูหิ เอโก ภิกฺขุ สามนฺตา อาวาสา สชฺชุกํ ปาเหตพฺโพ ‘‘คจฺฉาวุโส, ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริตฺวา อาคจฺฉ, มยํ เต สนฺติเก อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสามา’’ติ. เอวฺเจตํ ลเภถ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ลเภถ, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ – ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ สพฺโพ สงฺโฆ สภาคํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ยทา อฺํ ภิกฺขุํ สุทฺธํ อนาปตฺติกํ ปสฺสิสฺสติ, ตทา ตสฺส สนฺติเก ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสตี’’ติ (มหาว. ๑๗๑) วตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพ. สเจ ปน เวมติโก โหติ, ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ สพฺโพ สงฺโฆ สภาคาย อาปตฺติยา เวมติโก, ยทา นิพฺเพมติโก ภวิสฺสติ, ตทา ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสตี’’ติ (มหาว. ๑๗๑) วตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพ. สเจ ปเนตฺถ โกจิ ‘‘ตํ สภาคํ อาปตฺตึ เทเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ มฺมาโน เอกสฺส สนฺติเก เทเสติ, เทสิตา สุเทสิตาว. อฺํ ปน เทสนาปจฺจยา เทสโก ปฏิคฺคหณปจฺจยา ปฏิคฺคาหโก จาติ อุโภปิ ทุกฺกฏํ อาปชฺชนฺติ, ตํ นานาวตฺถุกํ โหติ, ตสฺมา อฺมฺํ เทเสตพฺพํ. เอตฺตาวตา เต นิราปตฺติกา โหนฺติ, เตสํ สนฺติเก เสเสหิ สภาคาปตฺติโย เทเสตพฺพา วา อาโรเจตพฺพา วา. สเจ เต เอวํ อกตฺวา อุโปสถํ กโรนฺติ, ‘‘ปาริสุทฺธึ อายสฺมนฺโต อาโรเจถา’’ติอาทินา นเยน สาปตฺติกสฺส อุโปสถกรเณ ปฺตฺตํ ทุกฺกฏํ อาปชฺชนฺติ.

สเจ โกจิ ภิกฺขุ ปาติโมกฺเข อุทฺทิสฺสมาเน อาปตฺตึ สรติ, เตน ภิกฺขุนา สามนฺโต ภิกฺขุ เอวํ วตฺตพฺโพ ‘‘อหํ, อาวุโส, อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, อิโต วุฏฺหิตฺวา ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสามี’’ติ. สามนฺโต จ ภิกฺขุ สภาโคเยว วตฺตพฺโพ. วิสภาคสฺส หิ วุจฺจมาเน ภณฺฑนกลหสงฺฆเภทาทีนิปิ โหนฺติ, ตสฺมา ตสฺส อวตฺวา ‘‘อิโต วุฏฺหิตฺวา ปฏิกริสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพ. สเจ ปน โกจิ ปาติโมกฺเข อุทฺทิสฺสมาเน อาปตฺติยา เวมติโก โหติ, เตนปิ สภาโคเยว สามนฺโต ภิกฺขุ เอวํ วตฺตพฺโพ ‘‘อหํ, อาวุโส, อิตฺถนฺนามาย อาปตฺติยา เวมติโก, ยทา นิพฺเพมติโก ภวิสฺสามิ, ตทา ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสามี’’ติ. เอวฺจ วตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพ, ปาติโมกฺขํ โสตพฺพํ, น ตฺเวว ตปฺปจฺจยา อุโปสถสฺส อนฺตราโย กาตพฺโพ.