📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

วินยปิฏเก

วินยสงฺคห-อฏฺกถา

คนฺถารมฺภกถา

วตฺถุตฺตยํ นมสฺสิตฺวา, สรณํ สพฺพปาณินํ;

วินเย ปาฏวตฺถาย, โยคาวจรภิกฺขุนํ.

วิปฺปกิณฺณมเนกตฺถ, ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉยํ;

สมาหริตฺวา เอกตฺถ, ทสฺสยิสฺสมนากุลํ.

ตตฺรายํ มาติกา –

‘‘ทิวาเสยฺยา ปริกฺขาโร, เภสชฺชกรณมฺปิ จ;

ปริตฺตํ ปฏิสนฺถาโร, วิฺตฺติ กุลสงฺคโห.

‘‘มจฺฉมํสํ อนามาสํ, อธิฏฺานวิกปฺปนํ;

จีวเรนวินาวาโส, ภณฺฑสฺส ปฏิสามนํ.

‘‘กยวิกฺกยสมาปตฺติ, รูปิยาทิปฏิคฺคโห;

ทานวิสฺสาสคฺคาเหหิ, ลาภสฺส ปริณามนํ.

‘‘ปถวี ภูตคาโม จ, ทุวิธํ สหเสยฺยกํ;

วิหาเร สงฺฆิเก เสยฺยํ, สนฺถริตฺวาน ปกฺกโม.

‘‘กาลิกานิปิ จตฺตาริ, กปฺปิยา จตุภูมิโย;

ขาทนียาทิปฏิคฺคาโห, ปฏิกฺเขปปวารณา.

‘‘ปพฺพชฺชา นิสฺสโย สีมา, อุโปสถปวารณํ;

วสฺสูปนายิกา วตฺตํ, จตุปจฺจยภาชนํ.

‘‘กถินํ ครุภณฺฑานิ, โจทนาทิวินิจฺฉโย;

ครุกาปตฺติวุฏฺานํ, กมฺมากมฺมํ ปกิณฺณก’’นฺติ.

๑. ทิวาเสยฺยวินิจฺฉยกถา

. ตตฺถ ทิวาเสยฺยาติ ทิวานิปชฺชนํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทิวา ปฏิสลฺลียนฺเตน ทฺวารํ สํวริตฺวา ปฏิสลฺลียิตุ’’นฺติ (ปารา. ๗๗) วจนโต ทิวา นิปชฺชนฺเตน ทฺวารํ สํวริตฺวา นิปชฺชิตพฺพํ. เอตฺถ จ กิฺจาปิ ปาฬิยํ ‘‘อยํ นาม อาปตฺตี’’ติ น วุตฺตา, วิวริตฺวา นิปนฺนโทเสน ปน อุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมึ ทฺวารํ สํวริตฺวา นิปชฺชิตุํ อนุฺาตตฺตา อสํวริตฺวา นิปชฺชนฺตสฺส อฏฺกถายํ ทุกฺกฏํ (ปารา. อฏฺ. ๑.๗๗) วุตฺตํ. ภควโต หิ อธิปฺปายํ ตฺวา อุปาลิตฺเถราทีหิ อฏฺกถา ปิตา. ‘‘อตฺถาปตฺติ ทิวา อาปชฺชติ, โน รตฺติ’’นฺติ (ปริ. ๓๒๓) อิมินาปิ เจตํ สิทฺธํ.

. กีทิสํ ปน ทฺวารํ สํวริตพฺพํ, กีทิสํ น สํวริตพฺพํ? รุกฺขปทรเวฬุปทรกิลฺชปณฺณาทีนํ เยน เกนจิ กวาฏํ กตฺวา เหฏฺา อุทุกฺขเล อุปริ อุตฺตรปาสเก จ ปเวเสตฺวา กตํ ปริวตฺตกทฺวารเมว สํวริตพฺพํ. อฺํ โครูปานํ วเชสุ วิย รุกฺขสูจิกณฺฏกทฺวารํ, คามถกนกํ จกฺกลกยุตฺตทฺวารํ, ผลเกสุ วา กิฏิกาสุ วา ทฺเว ตีณิ จกฺกลกานิ โยเชตฺวา กตํ สํสรณกิฏิกทฺวารํ, อาปเณสุ วิย กตํ อุคฺฆาฏนกิฏิกทฺวารํ, ทฺวีสุ ตีสุ าเนสุ เวฬุสลากา โคปฺเผตฺวา ปณฺณกุฏีสุ กตํ สลากหตฺถกทฺวารํ, ทุสฺสสาณิทฺวารนฺติ เอวรูปํ ทฺวารํ น สํวริตพฺพํ. ปตฺตหตฺถสฺส กวาฏปฺปณามเน ปน เอกํ ทุสฺสสาณิทฺวารเมว อนาปตฺติกรํ, อวเสสานิ ปณาเมนฺตสฺส อาปตฺติ. ทิวา ปฏิสลฺลียนฺตสฺส ปน ปริวตฺตกทฺวารเมว อาปตฺติกรํ, เสสานิ สํวริตฺวา วา อสํวริตฺวา วา นิปชฺชนฺตสฺส อาปตฺติ นตฺถิ, สํวริตฺวา ปน นิปชฺชิตพฺพํ, เอตํ วตฺตํ.

. ปริวตฺตกทฺวารํ กิตฺตเกน สํวุตํ โหติ? สูจิฆฏิกาสุ ทินฺนาสุ สํวุตเมว โหติ. อปิจ โข สูจิมตฺเตปิ ทินฺเน วฏฺฏติ, ฆฏิกามตฺเตปิ ทินฺเน วฏฺฏติ, ทฺวารพาหํ ผุสิตฺวา ปิตมตฺเตปิ วฏฺฏติ, อีสกํ อผุสิเตปิ วฏฺฏติ, สพฺพนฺติเมน วิธินา ยาวตา สีสํ นปฺปวิสติ, ตาวตา อผุสิเตปิ วฏฺฏติ. สเจ พหูนํ วฬฺชนฏฺานํ โหติ, ภิกฺขุํ วา สามเณรํ วา ‘‘ทฺวารํ, อาวุโส, ชคฺคาหี’’ติ วตฺวาปิ นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. อถ ภิกฺขู จีวรกมฺมํ วา อฺํ วา กิฺจิ กโรนฺตา นิสินฺนา โหนฺติ, ‘‘เอเต ทฺวารํ ชคฺคิสฺสนฺตี’’ติ อาโภคํ กตฺวาปิ นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. กุรุนฺทฏฺกถายํ ปน ‘‘อุปาสกมฺปิ อาปุจฺฉิตฺวา วา ‘เอส ชคฺคิสฺสตี’ติ อาโภคํ กตฺวา วา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ, เกวลํ ภิกฺขุนึ วา มาตุคามํ วา อาปุจฺฉิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ. เอวํ สพฺพตฺถปิ โย โย เถรวาโท วา อฏฺกถาวาโท วา ปจฺฉา วุจฺจติ, โส โสว ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ.

. อถ ทฺวารสฺส อุทุกฺขลํ วา อุตฺตรปาสโก วา ภินฺโน โหติ อฏฺปิโต วา, สํวริตุํ น สกฺโกติ, นวกมฺมตฺถํ วา ปน อิฏฺกปุฺโช วา มตฺติกาทีนํ วา ราสิ อนฺโตทฺวาเร กโต โหติ, อฏฺฏํ วา พนฺธนฺติ, ยถา สํวริตุํ น สกฺโกติ. เอวรูเป อนฺตราเย สติ อสํวริตฺวาปิ นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. ยทิ ปน กวาฏํ นตฺถิ, ลทฺธกปฺปเมว. อุปริ สยนฺเตน นิสฺเสณึ อาโรเปตฺวา นิปชฺชิตพฺพํ. สเจ นิสฺเสณิมตฺถเก ถกนกํ โหติ, ถเกตฺวาปิ นิปชฺชิตพฺพํ. คพฺเภ นิปชฺชนฺเตน คพฺภทฺวารํ วา ปมุขทฺวารํ วา ยํ กิฺจิ สํวริตฺวา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ เอกกุฏฺฏเก เคเห ทฺวีสุ ปสฺเสสุ ทฺวารานิ กตฺวา วฬฺชนฺติ, ทฺเวปิ ทฺวารานิ ชคฺคิตพฺพานิ, ติภูมเกปิ ปาสาเท ทฺวารํ ชคฺคิตพฺพเมว. สเจ ภิกฺขาจารา ปฏิกฺกมฺม โลหปาสาทสทิสํ ปาสาทํ พหู ภิกฺขู ทิวาวิหารตฺถํ ปวิสนฺติ, สงฺฆตฺเถเรน ทฺวารปาลสฺส ‘‘ทฺวารํ ชคฺคาหี’’ติ วตฺวา วา ‘‘ทฺวารชคฺคนํ นาม เอตสฺส ภาโร’’ติ อาโภคํ กตฺวา วา ปวิสิตฺวา นิปชฺชิตพฺพํ. ยาว สงฺฆนวเกน เอวเมว กาตพฺพํ. ปุเร ปวิสนฺตานํ ‘‘ทฺวารชคฺคนํ นาม ปจฺฉิมานํ ภาโร’’ติ เอวํ อาโภคํ กาตุมฺปิ วฏฺฏติ. อนาปุจฺฉา วา อาโภคํ อกตฺวา วา อนฺโตคพฺเภ วา อสํวุตทฺวาเร พหิ วา นิปชฺชนฺตานํ อาปตฺติ. คพฺเภ วา พหิ วา นิปชฺชนกาเลปิ ‘‘ทฺวารชคฺคนํ นาม มหาทฺวาเร ทฺวารปาลสฺส ภาโร’’ติ อาโภคํ กตฺวา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติเยว. เอวํ โลหปาสาทาทีสุ อากาสตเล นิปชฺชนฺเตนปิ ทฺวารํ สํวริตพฺพเมว.

อยฺเหตฺถ สงฺเขโป – อิทํ ทิวาปฏิสลฺลียนํ เยน เกนจิ ปริกฺขิตฺเต สทฺวารพนฺเธ าเน กถิตํ, ตสฺมา อพฺโภกาเส วา รุกฺขมูเล วา มณฺฑเป วา ยตฺถ กตฺถจิ สทฺวารพนฺเธ นิปชฺชนฺเตน ทฺวารํ สํวริตฺวาว นิปชฺชิตพฺพํ. สเจ มหาปริเวณํ โหติ มหาโพธิยงฺคณโลหปาสาทงฺคณสทิสํ พหูนํ โอสรณฏฺานํ, ยตฺถ ทฺวารํ สํวุตมฺปิ สํวุตฏฺาเน น ติฏฺติ, ทฺวารํ อลภนฺตา ปาการํ อารุหิตฺวาปิ วิจรนฺติ, ตตฺถ สํวรณกิจฺจํ นตฺถิ. รตฺตึ ทฺวารํ วิวริตฺวา นิปนฺโน อรุเณ อุคฺคเต วุฏฺาติ, อนาปตฺติ. สเจ ปน ปพุชฺฌิตฺวา ปุน สุปติ, อาปตฺติ. โย ปน ‘‘อรุเณ อุคฺคเต วุฏฺหิสฺสามี’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวาว ทฺวารํ อสํวริตฺวา รตฺตึ นิปชฺชติ, ยถาปริจฺเฉทเมว วุฏฺาติ, ตสฺส อาปตฺติเยว. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘เอวํ นิปชฺชนฺโต อนาทริยทุกฺกฏาปิ น มุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ.

. โย ปน พหุเทว รตฺตึ ชคฺคิตฺวา อทฺธานํ วา คนฺตฺวา ทิวา กิลนฺตรูโป มฺเจ นิสินฺโน ปาเท ภูมิโต อโมเจตฺวาว นิทฺทาวเสน นิปชฺชติ, ตสฺส อนาปตฺติ. สเจ โอกฺกนฺตนิทฺโท อชานนฺโตปิ ปาเท มฺจกํ อาโรเปติ, อาปตฺติเยว. นิสีทิตฺวา อปสฺสาย สุปนฺตสฺส อนาปตฺติ. โยปิ จ ‘‘นิทฺทํ วิโนเทสฺสามี’’ติ จงฺกมนฺโต ปติตฺวา สหสา วุฏฺาติ, ตสฺสปิ อนาปตฺติ. โย ปน ปติตฺวา ตตฺเถว สยติ, น วุฏฺาติ, ตสฺส อาปตฺติ.

โก มุจฺจติ, โก น มุจฺจตีติ? มหาปจฺจริยํ ตาว ‘‘เอกภงฺเคน นิปนฺนโก เอว มุจฺจติ. ปาเท ปน ภูมิโต โมเจตฺวา นิปนฺโนปิ ยกฺขคหิตโกปิ วิสฺีภูโตปิ น มุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. กุรุนฺทฏฺกถายํ ปน ‘‘พนฺธิตฺวา นิปชฺชาปิโตว มุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘โย จงฺกมนฺโต มุจฺฉิตฺวา ปติโต ตตฺเถว สุปติ, ตสฺสปิ อวิสยตาย อาปตฺติ น ทิสฺสติ. อาจริยา ปน เอวํ น กถยนฺติ, ตสฺมา อาปตฺติเยวาติ มหาปทุมตฺเถเรน วุตฺตํ. ทฺเว ปน ชนา อาปตฺติโต มุจฺจนฺติเยว, โย จ ยกฺขคหิตโก, โย จ พนฺธิตฺวา นิปชฺชาปิโต’’ติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ทิวาเสยฺยวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๒. ปริกฺขารวินิจฺฉยกถา

. ปริกฺขาโรติ สมณปริกฺขาโร. ตตฺรายํ กปฺปิยากปฺปิยปริกฺขารวินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๕) – เกจิ ตาลปณฺณจฺฉตฺตํ อนฺโต วา พหิ วา ปฺจวณฺเณน สุตฺเตน สิพฺพิตฺวา วณฺณมฏฺํ กโรนฺติ, ตํ น วฏฺฏติ. เอกวณฺเณน ปน นีเลน วา ปีตเกน วา เยน เกนจิ สุตฺเตน อนฺโต วา พหิ วา สิพฺพิตุํ, ฉตฺตทณฺฑคฺคาหกํ สลากปฺชรํ วา วินนฺธิตุํ วฏฺฏติ, ตฺจ โข ถิรกรณตฺถํ วฏฺฏติ, น วณฺณมฏฺตฺถาย. ฉตฺตปณฺเณสุ มกรทนฺตกํ วา อฑฺฒจนฺทกํ วา ฉินฺทิตุํ น วฏฺฏติ. ฉตฺตทณฺเฑ เคหตฺถมฺเภสุ วิย ฆฏโก วา วาฬรูปกํ วา น วฏฺฏติ. สเจปิ สพฺพตฺถ อารคฺเคน เลขา ทินฺนา โหติ, สาปิ น วฏฺฏติ. ฆฏกํ วา วาฬรูปกํ วา ภินฺทิตฺวา ธาเรตพฺพํ, เลขาปิ ฆํสิตฺวา วา อปเนตพฺพา, สุตฺตเกน วา ทณฺโฑ เวเตพฺโพ. ทณฺฑพุนฺเท ปน อหิจฺฉตฺตกสณฺานํ วฏฺฏติ. วาตปฺปหาเรน อจลนตฺถํ ฉตฺตมณฺฑลิกํ รชฺชุเกหิ คาเหตฺวา ทณฺเฑ พนฺธนฺติ, ตสฺมึ พนฺธนฏฺาเน วลยมิว อุกฺกิริตฺวา เลขํ เปนฺติ, สา วฏฺฏติ.

. จีวรมณฺฑนตฺถาย นานาสุตฺตเกหิ สตปทิสทิสํ สิพฺพนฺตา อาคนฺตุกปฏฺฏํ เปนฺติ, อฺมฺปิ ยํ กิฺจิ สูจิกมฺมวิการํ กโรนฺติ, ปฏฺฏมุเข วา ปริยนฺเต วา เวณึ วา สงฺขลิกํ วา มุคฺครํ วา เอวมาทิ สพฺพํ น วฏฺฏติ, ปกติสูจิกมฺมเมว วฏฺฏติ. คณฺิกปฏฺฏกฺจ ปาสกปฏฺฏกฺจ อฏฺโกณมฺปิ โสฬสโกณมฺปิ กโรนฺติ, ตตฺถ อคฺฆิยคยมุคฺคราทีนิ ทสฺเสนฺติ, กกฺกฏกฺขีนิ อุกฺกิรนฺติ, สพฺพํ น วฏฺฏติ, จตุโกณเมว วฏฺฏติ, โกณสุตฺตปีฬกา จ จีวเร รตฺเต ทุวิฺเยฺยรูปา วฏฺฏนฺติ. กฺชิกปิฏฺขลิออลกาทีสุ จีวรํ ปกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ, จีวรกมฺมกาเล ปน หตฺถมลสูจิมลาทีนํ โธวนตฺถํ กิลิฏฺกาเล จ โธวนตฺถํ วฏฺฏติ, คนฺธํ วา ลาขํ วา เตลํ วา รชเน ปกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ.

รชเนสุ จ หลิทฺทึ เปตฺวา สพฺพํ มูลรชนํ วฏฺฏติ, มฺชิฏฺิฺจ ตุงฺคหารฺจ เปตฺวา สพฺพํ ขนฺธรชนํ วฏฺฏติ. ตุงฺคหาโร นาม เอโก สกณฺฏกรุกฺโข, ตสฺส หริตาลวณฺณํ ขนฺธรชนํ โหติ. โลทฺทฺจ กณฺฑุลฺจ เปตฺวา สพฺพํ ตจรชนํ วฏฺฏติ. อลฺลิปตฺตฺจ นีลิปตฺตฺจ เปตฺวา สพฺพํ ปตฺตรชนํ วฏฺฏติ. คิหิปริภุตฺตกํ ปน อลฺลิปตฺเตน เอกวารํ รชิตุํ วฏฺฏติ. กึสุกปุปฺผฺจ กุสุมฺภปุปฺผฺจ เปตฺวา สพฺพํ ปุปฺผรชนํ วฏฺฏติ. ผลรชเน ปน น กิฺจิ น วฏฺฏติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๔).

. จีวรํ รชิตฺวา สงฺเขน วา มณินา วา เยน เกนจิ น ฆฏฺเฏตพฺพํ, ภูมิยํ ชาณุกานิ นิหนฺตฺวา หตฺเถหิ คเหตฺวา โทณิยมฺปิ น ฆํสิตพฺพํ. โทณิยํ วา ผลเก วา เปตฺวา อนฺเต คาหาเปตฺวา หตฺเถน ปหริตุํ ปน วฏฺฏติ, ตมฺปิ มุฏฺินา น กาตพฺพํ. โปราณกตฺเถรา ปน โทณิยมฺปิ น เปสุํ. เอโก จีวรํ คเหตฺวา ติฏฺติ, อปโร หตฺเถ กตฺวา หตฺเถน ปหรติ. จีวรสฺส กณฺณสุตฺตกํ น วฏฺฏติ, รชิตกาเล ฉินฺทิตพฺพํ. ยํ ปน ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กณฺณสุตฺตก’’นฺติ (มหาว. ๓๔๔) เอวํ อนุฺาตํ, ตํ อนุวาเต ปาสกํ กตฺวา พนฺธิตพฺพํ รชนกาเล ลคฺคนตฺถาย. คณฺิเกปิ โสภากรณตฺถํ เลขา วา ปีฬกา วา น วฏฺฏติ, นาเสตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ.

. ปตฺเต วา ถาลเก วา อารคฺเคน เลขํ กโรนฺติ อนฺโต วา พหิ วา, น วฏฺฏติ. ปตฺตํ ภมํ อาโรเปตฺวา มชฺชิตฺวา ปจนฺติ ‘‘มณิวณฺณํ กริสฺสามา’’ติ, น วฏฺฏติ, เตลวณฺโณ ปน วฏฺฏติ. ปตฺตมณฺฑเล ภิตฺติกมฺมํ น วฏฺฏติ, มกรทนฺตกํ ปน วฏฺฏติ.

ธมกรณฉตฺตกสฺส อุปริ วา เหฏฺา วา ธมกรณกุจฺฉิยํ วา เลขา น วฏฺฏติ, ฉตฺตมุขวฏฺฏิยํ ปนสฺส เลขา วฏฺฏติ.

๑๐. กายพนฺธนสฺส โสภนตฺถํ ตหึ ตหึ ทิคุณํ สุตฺตํ โกฏฺเฏนฺติ, กกฺกฏกฺขีนิ อุฏฺาเปนฺติ, น วฏฺฏติ, อุโภสุ ปน อนฺเตสุ ทสามุขสฺส ถิรภาวาย ทิคุณํ โกฏฺเฏตุํ วฏฺฏติ. ทสามุเข ปน ฆฏกํ วา มกรมุขํ วา เทฑฺฑุภสีสํ วา ยํ กิฺจิ วิการรูปํ กาตุํ น วฏฺฏติ, ตตฺถ ตตฺถ อจฺฉีนิ ทสฺเสตฺวา มาลากมฺมาทีนิ วา กตฺวา โกฏฺฏิตกายพนฺธนมฺปิ น วฏฺฏติ, อุชุกเมว ปน มจฺฉกณฺฏกํ วา ขชฺชูริปตฺตกํ วา มฏฺกปฏฺฏิกํ วา กตฺวา โกฏฺเฏตุํ วฏฺฏติ. กายพนฺธนสฺส ทสา เอกา วฏฺฏติ, ทฺเว ตีณิ จตฺตาริปิ วฏฺฏนฺติ, ตโต ปรํ น วฏฺฏนฺติ. รชฺชุกกายพนฺธนํ เอกเมว วฏฺฏติ, ปามงฺคสณฺานํ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ, ทสา ปน ปามงฺคสณฺานาปิ วฏฺฏติ, พหุรชฺชุเก เอกโต กตฺวา เอเกน นิรนฺตรํ เวเตฺวา กตํ พหุรชฺชุกนฺติ น วตฺตพฺพํ, ตํ วฏฺฏติ.

กายพนฺธนวิเธ อฏฺมงฺคลาทิกํ ยํ กิฺจิ วิการรูปํ น วฏฺฏติ, ปริจฺเฉทเลขามตฺตํ วฏฺฏติ. วิธกสฺส อุโภสุ อนฺเตสุ ถิรกรณตฺถาย ฆฏกํ กโรนฺติ, อยมฺปิ วฏฺฏติ.

๑๑. อฺชนิยํ อิตฺถิปุริสจตุปฺปทสกุณรูปํ วา มาลากมฺมลตากมฺมมกรทนฺตกโคมุตฺตกอฑฺฒจนฺทกาทิเภทํ วา วิการรูปํ น วฏฺฏติ, ฆํสิตฺวา วา ภินฺทิตฺวา วา ยถา วา น ปฺายติ, ตถา สุตฺตเกน เวเตฺวา วฬฺเชตพฺพา. อุชุกเมว ปน จตุรํสา วา อฏฺํสา วา โสฬสํสา วา อฺชนี วฏฺฏติ. เหฏฺโตปิสฺสา ทฺเว วา ติสฺโส วา วฏฺฏเลขาโย วฏฺฏนฺติ, คีวายมฺปิสฺสา ปิธานกพนฺธนตฺถํ เอกา วฏฺฏเลขา วฏฺฏติ.

อฺชนีสลากายปิ วณฺณมฏฺกมฺมํ น วฏฺฏติ, อฺชนีถวิกายปิ ยํ กิฺจิ นานาวณฺเณน สุตฺเตน วณฺณมฏฺกมฺมํ น วฏฺฏติ. เอเสว นโย กุฺจิกโกสเกปิ. กุฺจิกาย วณฺณมฏฺกมฺมํ น วฏฺฏติ, ตถา สิปาฏิกาย. เอกวณฺณสุตฺเตน ปน เยน เกนจิ ยํ กิฺจิ สิพฺพิตุํ วฏฺฏติ.

๑๒. อารกณฺฏเกปิ วฏฺฏมณิกํ วา อฺํ วา วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏติ, คีวายํ ปน ปริจฺเฉทเลขา วฏฺฏติ. ปิปฺผลิเกปิ มณิกํ วา ปีฬกํ วา ยํ กิฺจิ อุฏฺาเปตุํ น วฏฺฏติ, ทณฺฑเก ปน ปริจฺเฉทเลขา วฏฺฏติ. นขจฺเฉทนํ วลิตกํเยว กโรนฺติ, ตสฺมา ตํ วฏฺฏติ. อุตฺตรารณิยํ วาปิ อรณิธนุเก วา อุปริเปลฺลนทณฺฑเก วา มาลากมฺมาทิ ยํ กิฺจิ วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏติ. เปลฺลนทณฺฑกสฺส ปน เวมชฺเฌ มณฺฑลํ โหติ, ตตฺถ ปริจฺเฉทเลขามตฺตํ วฏฺฏติ. สูจิสณฺฑาสํ กโรนฺติ, เยน สูจึ ฑํสาเปตฺวา ฆํสนฺติ, ตตฺถ มกรมุขาทิกํ ยํ กิฺจิ วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏติ, สูจิฑํสนตฺถํ ปน มุขมตฺตํ โหติ, ตํ วฏฺฏติ.

ทนฺตกฏฺจฺเฉทนวาสิยมฺปิ ยํ กิฺจิ วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏติ, อุชุกเมว กปฺปิยโลเหน อุโภสุ วา ปสฺเสสุ จตุรํสํ วา อฏฺํสํ วา พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. กตฺตรทณฺเฑปิ ยํ กิฺจิ วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏติ, เหฏฺา เอกา วา ทฺเว วา วฏฺฏเลขา อุปริ อหิจฺฉตฺตกมกุฬมตฺตฺจ วฏฺฏติ.

๑๓. เตลภาชเนสุ วิสาเณ วา นาฬิยํ วา อลาพุเก วา อามณฺฑสารเก วา เปตฺวา อิตฺถิรูปํ ปุริสรูปฺจ อวเสสํ สพฺพมฺปิ วณฺณมฏฺกมฺมํ วฏฺฏติ. มฺจปีเ ภิสิพิมฺโพหเน ภูมตฺถรเณ ปาทปุฺฉเน จงฺกมนภิสิยา สมฺมุฺชนิยํ กจวรฉฑฺฑนเก รชนโทณิกาย ปานียอุฬุงฺเก ปานียฆเฏ ปาทกถลิกาย ผลกปีเก วลยาธารเก ทณฺฑาธารเก ปตฺตปิธาเน ตาลวณฺเฏ พีชเนติ เอเตสุ สพฺพํ มาลากมฺมาทิ วณฺณมฏฺกมฺมํ วฏฺฏติ.

๑๔. เสนาสเน ปน ทฺวารกวาฏวาตปานกวาฏาทีสุ สพฺพรตนมยมฺปิ วณฺณมฏฺกมฺมํ วฏฺฏติ. เสนาสเน กิฺจิ ปฏิเสเธตพฺพํ นตฺถิ อฺตฺร วิรุทฺธเสนาสนา. วิรุทฺธเสนาสนํ นาม อฺเสํ สีมาย ราชวลฺลเภหิ กตเสนาสนํ วุจฺจติ. ตสฺมา เย ตาทิสํ เสนาสนํ กโรนฺติ, เต วตฺตพฺพา ‘‘มา อมฺหากํ สีมาย เสนาสนํ กโรถา’’ติ. อนาทิยิตฺวา กโรนฺติเยว, ปุนปิ วตฺตพฺพา ‘‘มา เอวํ อกตฺถ, มา อมฺหากํ อุโปสถปวารณานํ อนฺตรายมกตฺถ, มา สามคฺคึ ภินฺทิตฺถ, ตุมฺหากํ เสนาสนํ กตมฺปิ กตฏฺาเน น สฺสตี’’ติ. สเจ พลกฺกาเรน กโรนฺติเยว, ยทา เตสํ ลชฺชิปริสา อุสฺสนฺนา โหติ, สกฺกา จ โหติ ลทฺธุํ ธมฺมิโก วินิจฺฉโย, ตทา เตสํ เปเสตพฺพํ ‘‘ตุมฺหากํ อาวาสํ หรถา’’ติ. สเจ ยาวตติยํ เปสิเต หรนฺติ, สาธุ. โน เจ หรนฺติ, เปตฺวา โพธิฺจ เจติยฺจ อวเสสเสนาสนานิ ภินฺทิตพฺพานิ, โน จ โข อปริโภคํ กโรนฺเตหิ, ปฏิปาฏิยา ปน ฉทนโคปานสีอิฏฺกาทีนิ อปเนตฺวา เตสํ เปเสตพฺพํ ‘‘ตุมฺหากํ ทพฺพสมฺภาเร หรถา’’ติ. สเจ หรนฺติ, สาธุ. โน เจ หรนฺติ, อถ เตสุ ทพฺพสมฺภาเรสุ หิมวสฺสวาตาตปาทีหิ ปูติภูเตสุ วา โจเรหิ วา หเฏสุ อคฺคินา วา ทฑฺเฒสุ สีมสามิกา ภิกฺขู อนุปวชฺชา, น ลพฺภา โจเทตุํ ‘‘ตุมฺเหหิ อมฺหากํ ทพฺพสมฺภารา นาสิตา’’ติ วา ‘‘ตุมฺหากํ คีวา’’ติ วา. ยํ ปน สีมสามิเกหิ ภิกฺขูหิ กตํ, ตํ สุกตเมว โหติ. โยปิ ภิกฺขุ พหุสฺสุโต วินยฺู อฺํ ภิกฺขุํ อกปฺปิยปริกฺขารํ คเหตฺวา วิจรนฺตํ ทิสฺวา ฉินฺทาเปยฺย วา ภินฺทาเปยฺย วา, อนุปวชฺโช, โส เนว โจเทตพฺโพ น สาเรตพฺโพ, น ตํ ลพฺภา วตฺตุํ ‘‘อยํ นาม มม ปริกฺขาโร ตยา นาสิโต, ตํ เม เทหี’’ติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ปริกฺขารวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๓. เภสชฺชาทิกรณวินิจฺฉยกถา

๑๕. เภสชฺชกรณปริตฺตปฏิสนฺถาเรสุ ปน เภสชฺชกรเณ ตาว อยํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๘๕-๗) – อาคตาคตสฺส ปรชนสฺส เภสชฺชํ น กาตพฺพํ, กโรนฺโต ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. ปฺจนฺนํ ปน สหธมฺมิกานํ กาตพฺพํ ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุนิยา สิกฺขมานาย สามเณรสฺส สามเณริยาติ. สมสีลสทฺธาปฺานฺหิ เอเตสํ ตีสุ สิกฺขาสุ ยุตฺตานํ เภสชฺชํ อกาตุํ น ลพฺภติ. กโรนฺเตน จ สเจ เตสํ อตฺถิ, เตสํ สนฺตกํ คเหตฺวา โยเชตฺวา ทาตพฺพํ, สเจ นตฺถิ, อตฺตโน สนฺตกํ กาตพฺพํ. สเจ อตฺตโนปิ นตฺถิ, ภิกฺขาจารวตฺเตน วา าตกปวาริตฏฺานโต วา ปริเยสิตพฺพํ, อลภนฺเตน คิลานสฺส อตฺถาย อกตวิฺตฺติยาปิ อาหริตฺวา กาตพฺพํ.

๑๖. อปเรสมฺปิ ปฺจนฺนํ กาตุํ วฏฺฏติ มาตุ ปิตุ ตทุปฏฺากานํ อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺส ปณฺฑุปลาสสฺส จาติ. ปณฺฑุปลาโส นาม โย ปพฺพชฺชาเปกฺโข ยาว ปตฺตจีวรํ ปฏิยาทิยติ, ตาว วิหาเร วสติ. เตสุ สเจ มาตาปิตโร อิสฺสรา โหนฺติ น ปจฺจาสีสนฺติ, อกาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน รชฺเชปิ ิตา ปจฺจาสีสนฺติ, อกาตุํ น วฏฺฏติ. เภสชฺชํ ปจฺจาสีสนฺตานํ เภสชฺชํ ทาตพฺพํ, โยเชตุํ อชานนฺตานํ โยเชตฺวา ทาตพฺพํ. สพฺเพสํ อตฺถาย สหธมฺมิเกสุ วุตฺตนเยเนว ปริเยสิตพฺพํ. สเจ ปน มาตรํ วิหารํ อาเนตฺวา ชคฺคติ, สพฺพํ ปริกมฺมํ อนามสนฺเตน กาตพฺพํ, ขาทนียโภชนียํ สหตฺถา ทาตพฺพํ. ปิตา ปน ยถา สามเณโร, เอวํ สหตฺเถน นฺหาปนสมฺพาหนาทีนิ กตฺวา อุปฏฺาตพฺโพ. เย จ มาตาปิตโร อุปฏฺหนฺติ ปฏิชคฺคนฺติ, เตสมฺปิ เอวเมว กาตพฺพํ. เวยฺยาวจฺจกโร นาม โย เวตนํ คเหตฺวา อรฺเ ทารูนิ วา ฉินฺทติ, อฺํ วา กิฺจิ กมฺมํ กโรติ, ตสฺส โรเค อุปฺปนฺเน ยาว าตกา น ปสฺสนฺติ, ตาว เภสชฺชํ กาตพฺพํ. โย ปน ภิกฺขุนิสฺสิตโกว หุตฺวา สพฺพกมฺมานิ กโรติ, ตสฺส เภสชฺชํ กาตพฺพเมว. ปณฺฑุปลาเสปิ สามเณเร วิย ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

๑๗. อปเรสมฺปิ ทสนฺนํ กาตุํ วฏฺฏติ เชฏฺภาตุ กนิฏฺภาตุ เชฏฺภคินิยา กนิฏฺภคินิยา จูฬมาตุยา มหามาตุยา จูฬปิตุโน มหาปิตุโน ปิตุจฺฉาย มาตุลสฺสาติ. เตสํ ปน สพฺเพสมฺปิ กโรนฺเตน เตสํเยว สนฺตกํ เภสชฺชํ คเหตฺวา เกวลํ โยเชตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ ปน นปฺปโหนฺติ ยาจนฺติ จ ‘‘เทถ โน, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปฏิทสฺสามา’’ติ, ตาวกาลิกํ ทาตพฺพํ. สเจปิ น ยาจนฺติ, ‘‘อมฺหากํ เภสชฺชํ อตฺถิ, ตาวกาลิกํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา วา ‘‘ยทา เตสํ ภวิสฺสติ, ตทา ทสฺสนฺตี’’ติ อาโภคํ วา กตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ ปฏิเทนฺติ, คเหตพฺพํ. โน เจ เทนฺติ, น โจเทตพฺพา. เอเต ทส าตเก เปตฺวา อฺเสํ น กาตพฺพํ.

เอเตสํ ปุตฺตปรมฺปราย ปน ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา, ตาว จตฺตาโร ปจฺจเย อาหราเปนฺตสฺส อกตวิฺตฺติ วา เภสชฺชํ กโรนฺตสฺส เวชฺชกมฺมํ วา กุลทูสกาปตฺติ วา น โหติ. สเจ ภาตุ ชายา, ภคินิยา สามิโก วา คิลาโน โหติ, าตกา เจ, เตสมฺปิ วฏฺฏติ. อฺาตกา เจ, ภาตุ จ ภคินิยา จ กตฺวา ทาตพฺพํ ‘‘ตุมฺหากํ ชคฺคนฏฺาเน เทถา’’ติ. อถ วา เตสํ ปุตฺตานํ กตฺวา ทาตพฺพํ ‘‘ตุมฺหากํ มาตาปิตูนํ เทถา’’ติ. เอเตนุปาเยน สพฺพปเทสุ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

เตสํ อตฺถาย จ สามเณเรหิ อรฺโต เภสชฺชํ อาหราเปนฺเตน าติสามเณเรหิ วา อาหราเปตพฺพํ, อฺาตเกหิ อตฺตโน อตฺถาย วา อาหราเปตฺวา ทาตพฺพํ. เตหิปิ ‘‘อุปชฺฌายสฺส อาหรามา’’ติ วตฺตสีเสน อาหริตพฺพํ. อุปชฺฌายสฺส มาตาปิตโร คิลานา วิหารํ อาคจฺฉนฺติ, อุปชฺฌาโย จ ทิสาปกฺกนฺโต โหติ, สทฺธิวิหาริเกน อุปชฺฌายสฺส สนฺตกํ เภสชฺชํ ทาตพฺพํ. โน เจ อตฺถิ, อตฺตโน เภสชฺชํ อุปชฺฌายสฺส ปริจฺจชิตฺวา ทาตพฺพํ. อตฺตโนปิ อสนฺเต วุตฺตนเยเนว ปริเยสิตฺวา อุปชฺฌายสฺส สนฺตกํ กตฺวา ทาตพฺพํ. อุปชฺฌาเยนปิ สทฺธิวิหาริกสฺส มาตาปิตูสุ เอวเมว ปฏิปชฺชิตพฺพํ. เอเสว นโย อาจริยนฺเตวาสิเกสุปิ. อฺโปิ โย อาคนฺตุโก วา โจโร วา ยุทฺธปราชิโต อิสฺสโร วา าตเกหิ ปริจฺจตฺโต กปโณ วา คมิยมนุสฺโส วา คิลาโน หุตฺวา วิหารํ ปวิสติ, สพฺเพสํ อปจฺจาสีสนฺเตน เภสชฺชํ กาตพฺพํ.

๑๘. สทฺธํ กุลํ โหติ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺายกํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส มาตาปิตุฏฺานิยํ, ตตฺร เจ โกจิ คิลาโน โหติ, ตสฺสตฺถาย วิสฺสาเสน ‘‘เภสชฺชํ กตฺวา ภนฺเต เทถา’’ติ วทนฺติ, เนว ทาตพฺพํ น กาตพฺพํ. อถ ปน กปฺปิยํ ตฺวา เอวํ ปุจฺฉนฺติ ‘‘ภนฺเต, อสุกสฺส นาม โรคสฺส กึ เภสชฺชํ กโรนฺตี’’ติ, ‘‘อิทฺจิทฺจ คเหตฺวา กโรนฺตี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ มาตา คิลานา, เภสชฺชํ ตาว อาจิกฺขถา’’ติ เอวํ ปุจฺฉิเต ปน น อาจิกฺขิตพฺพํ, อฺมฺํ ปน กถา กาตพฺพา ‘‘อาวุโส, อสุกสฺส นาม ภิกฺขุโน อิมสฺมึ โรเค กึ เภสชฺชํ กรึสู’’ติ. อิทฺจิทฺจ เภสชฺชํ ภนฺเตติ. ตํ สุตฺวา อิตโร มาตุ เภสชฺชํ กโรติ, วฏฺฏติ. มหาปทุมตฺเถโร กิร วสภรฺโปิ เทวิยา โรเค อุปฺปนฺเน เอกาย อิตฺถิยา อาคนฺตฺวา ปุจฺฉิโต ‘‘น ชานามี’’ติ อวตฺวา เอวเมว ภิกฺขูหิ สทฺธึ สมุลฺลเปสิ. ตํ สุตฺวา ตสฺสา เภสชฺชมกํสุ. วูปสนฺเต จ โรเค ติจีวเรน ตีหิ จ กหาปณสเตหิ สทฺธึ เภสชฺชจงฺโกฏกํ ปูเรตฺวา อาหริตฺวา เถรสฺส ปาทมูเล เปตฺวา ‘‘ภนฺเต, ปุปฺผปูชํ กโรถา’’ติ อาหํสุ. เถโร ‘‘อาจริยภาโค นาม อย’’นฺติ กปฺปิยวเสน คาหาเปตฺวา ปุปฺผปูชมกาสิ. เอวํ ตาว เภสชฺเช ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

๑๙. ปริตฺเต ปน ‘‘คิลานสฺส ปริตฺตํ กโรถ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต น กาตพฺพํ, ‘‘ปริตฺตํ ภณถา’’ติ วุตฺเต ปน ภณิตพฺพํ. สเจปิสฺส เอวํ โหติ ‘‘มนุสฺสา นาม น ชานนฺติ, อกริยมาเน วิปฺปฏิสาริโน ภวิสฺสนฺตี’’ติ, กาตพฺพํ. ‘‘ปริตฺโตทกํ ปริตฺตสุตฺตํ กตฺวา เทถา’’ติ วุตฺเต ปน เตสํเยว อุทกํ หตฺเถน จาเลตฺวา สุตฺตํ ปริมชฺชิตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ วิหารโต อุทกํ อตฺตโน สนฺตกํ วา สุตฺตํ เทติ, ทุกฺกฏํ. มนุสฺสา อุทกฺจ สุตฺตฺจ คเหตฺวา นิสีทิตฺวา ‘‘ปริตฺตํ ภณถา’’ติ วทนฺติ, กาตพฺพํ. โน เจ ชานนฺติ, อาจิกฺขิตพฺพํ. ภิกฺขูนํ นิสินฺนานํ ปาเทสุ อุทกํ อากิริตฺวา สุตฺตฺจ เปตฺวา คจฺฉนฺติ ‘‘ปริตฺตํ กโรถ, ปริตฺตํ ภณถา’’ติ, น ปาทา อปเนตพฺพา. มนุสฺสา หิ วิปฺปฏิสาริโน โหนฺติ. อนฺโตคาเมปิ คิลานสฺส อตฺถาย วิหารํ เปเสนฺติ ‘‘ปริตฺตํ ภณนฺตู’’ติ, ภณิตพฺพํ. อนฺโตคาเม ราชเคหาทีสุ โรเค วา อุปทฺทเว วา อุปฺปนฺเน ปกฺโกสาเปตฺวา ภณาเปนฺติ, อาฏานาฏิยสุตฺตาทีนิ ภณิตพฺพานิ. ‘‘อาคนฺตฺวา คิลานสฺส สิกฺขาปทานิ เทนฺตุ, ธมฺมํ กเถนฺตุ, ราชนฺเตปุเร วา อมจฺจเคเห วา อาคนฺตฺวา สิกฺขาปทานิ เทนฺตุ, ธมฺมํ กเถนฺตู’’ติ เปสิเตปิ คนฺตฺวา สิกฺขาปทานิ ทาตพฺพานิ, ธมฺโม กเถตพฺโพ. ‘‘มตานํ ปริวารตฺถํ อาคจฺฉนฺตู’’ติ ปกฺโกสนฺติ, น คนฺตพฺพํ. ‘‘สีวถิกทสฺสเน อสุภทสฺสเน จ มรณสฺสตึ ปฏิลภิสฺสามา’’ติ กมฺมฏฺานสีเสน คนฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ปหาเรทินฺเน มเตปิ อมรณาธิปฺปายสฺส อนาปตฺติ วุตฺตา’’ติ น เอตฺตเกเนว อมนุสฺสคหิตสฺส ปหาโร ทาตพฺโพ, ตาลปณฺณํ ปน ปริตฺตสุตฺตํ วา หตฺเถ วา ปาเท วา พนฺธิตพฺพํ, รตนสุตฺตาทีนิ ปริตฺตานิ ภณิตพฺพานิ, ‘‘มา สีลวนฺตํ ภิกฺขุํ วิเหเหี’’ติ ธมฺมกถา กาตพฺพา, อาฏานาฏิยปริตฺตํ วา ภณิตพฺพํ.

อิธ ปน อาฏานาฏิยปริตฺตสฺส ปริกมฺมํ เวทิตพฺพํ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๒๘๒). ปมเมว หิ อาฏานาฏิยสุตฺตํ น ภณิตพฺพํ, เมตฺตสุตฺตํ (ขุ. ปา. ๙.๑ อาทโย; สุ. นิ. ๑๔๓ อาทโย) ธชคฺคสุตฺตํ (สํ. นิ. ๑.๒๔๙) รตนสุตฺตนฺติ (ขุ. ปา. ๖.๑ อาทโย; สุ. นิ. ๒๒๔ อาทโย) อิมานิ สตฺตาหํ ภณิตพฺพานิ. สเจ มุฺจติ, สุนฺทรํ. โน เจ มุฺจติ, อาฏานาฏิยสุตฺตํ ภณิตพฺพํ. ตํ ภณนฺเตน จ ภิกฺขุนา ปิฏฺํ วา มํสํ วา น ขาทิตพฺพํ, สุสาเน น วสิตพฺพํ. กสฺมา? อมนุสฺสา โอตารํ ลภนฺติ. ปริตฺตกรณฏฺานํ หริตูปลิตฺตํ กาเรตฺวา ตตฺถ ปริสุทฺธํ อาสนํ ปฺเปตฺวา นิสีทิตพฺพํ. ปริตฺตการโก ภิกฺขุ วิหารโต ฆรํ เนนฺเตหิ ผลกาวุเธหิ ปริวาเรตฺวา เนตพฺโพ. อพฺโภกาเส นิสีทิตฺวา น วตฺตพฺพํ, ทฺวารวาตปานานิ ปิทหิตฺวา นิสินฺเนน อาวุธหตฺเถหิ สมฺปริวาริเตน เมตฺตจิตฺตํ ปุเรจาริกํ กตฺวา วตฺตพฺพํ, ปมํ สิกฺขาปทานิ คาหาเปตฺวา สีเล ปติฏฺิตสฺส ปริตฺตํ กาตพฺพํ. เอวมฺปิ โมเจตุํ อสกฺโกนฺเตน วิหารํ เนตฺวา เจติยงฺคเณ นิปชฺชาเปตฺวา อาสนปูชํ กาเรตฺวา ทีเป ชาลาเปตฺวา เจติยงฺคณํ สมฺมชฺชิตฺวา มงฺคลกถา วตฺตพฺพา, สพฺพสนฺนิปาโต โฆเสตพฺโพ, วิหารสฺส อุปวเน เชฏฺกรุกฺโข นาม โหติ, ตตฺถ ‘‘ภิกฺขุสงฺโฆ ตุมฺหากํ อาคมนํ ปติมาเนตี’’ติ ปหิณิตพฺพํ. สพฺพสนฺนิปาตฏฺาเน อนาคนฺตุํ นาม น ลภติ, ตโต อมนุสฺสคหิตโก ‘‘ตฺวํ โกนาโมสี’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ, นาเม กถิเต นาเมเนว อาลปิตพฺโพ, ‘‘อิตฺถนฺนาม ตุยฺหํ มาลาคนฺธาทีสุ ปตฺติ, อาสนปูชายํ ปตฺติ, ปิณฺฑปาเต ปตฺติ, ภิกฺขุสงฺเฆน ตุยฺหํ ปณฺณาการตฺถาย มหามงฺคลกถา วุตฺตา, ภิกฺขุสงฺเฆ คารเวน เอตํ มุฺจาหี’’ติ โมเจตพฺโพ. สเจ น มุฺจติ, เทวตานํ อาโรเจตพฺพํ ‘‘ตุมฺเห ชานาถ, อยํ อมนุสฺโส อมฺหากํ วจนํ น กโรติ, มยํ พุทฺธอาณํ กริสฺสามา’’ติ ปริตฺตํ กาตพฺพํ. เอตํ ตาว คิหีนํ ปริกมฺมํ. สเจ ปน ภิกฺขุ อมนุสฺเสน คหิโต โหติ, อาสนานิ โธวิตฺวา สพฺพสนฺนิปาตํ โฆสาเปตฺวา คนฺธมาลาทีสุ ปตฺตึ ทตฺวา ปริตฺตํ ภณิตพฺพํ, อิทํ ภิกฺขูนํ ปริกมฺมํ. เอวํ ปริตฺเต ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

๒๐. ปฏิสนฺถาเร ปน อยํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๘๕-๗) – อนามฏฺปิณฺฑปาโต กสฺส ทาตพฺโพ, กสฺส น ทาตพฺโพ? มาตาปิตูนํ ตาว ทาตพฺโพ. สเจปิ กหาปณคฺฆนโก โหติ, สทฺธาเทยฺยวินิปาตนํ นตฺถิ. มาตาปิตุอุปฏฺากานํ เวยฺยาวจฺจกรสฺส ปณฺฑุปลาสสฺส จาติ เอเตสมฺปิ ทาตพฺโพ. ตตฺถ ปณฺฑุปลาสสฺส ถาลเก ปกฺขิปิตฺวาปิ ทาตุํ วฏฺฏติ, ตํ เปตฺวา อฺเสํ อคาริกานํ มาตาปิตูนมฺปิ น วฏฺฏติ. ปพฺพชิตปริโภโค หิ อคาริกานํ เจติยฏฺานิโย. อปิจ อนามฏฺปิณฺฑปาโถ นาเมส สมฺปตฺตสฺส ทามริกโจรสฺสปิ อิสฺสริยสฺสปิ ทาตพฺโพ. กสฺมา? เต หิ อทียมาเนปิ ‘‘น เทนฺตี’’ติ อามสิตฺวา ทียมาเนปิ ‘‘อุจฺฉิฏฺกํ เทนฺตี’’ติ กุชฺฌนฺติ, กุทฺธา ชีวิตาปิ โวโรเปนฺติ, สาสนสฺสปิ อนฺตรายํ กโรนฺติ. รชฺชํ ปตฺถยมานสฺส วิจรโต โจรนาคสฺส วตฺถุ เจตฺถ กเถตพฺพํ. เอวํ อนามฏฺปิณฺฑปาเต ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

ปฏิสนฺถาโร จ นามายํ กสฺส กาตพฺโพ, กสฺส น กาตพฺโพ? ปฏิสนฺถาโร นาม วิหารํ สมฺปตฺตสฺส ยสฺส กสฺสจิ อาคนฺตุกสฺส วา ทลิทฺทสฺส วา โจรสฺส วา อิสฺสรสฺส วา กาตพฺโพเยว. กถํ? อาคนฺตุกํ ตาว ขีณปริพฺพยํ วิหารํ สมฺปตฺตํ ทิสฺวา ‘‘ปานียํ ปิวา’’ติ ทาตพฺพํ, ปาทมกฺขนเตลํ ทาตพฺพํ, กาเล อาคตสฺส ยาคุภตฺตํ, วิกาเล อาคตสฺส สเจ ตณฺฑุลา อตฺถิ, ตณฺฑุลา ทาตพฺพา. อเวลาย สมฺปตฺโตปิ ‘‘คจฺฉาหี’’ติ น วตฺตพฺโพ, สยนฏฺานํ ทาตพฺพํ. สพฺพํ อปจฺจาสียนฺเตเนว กาตพฺพํ. ‘‘มนุสฺสา นาม จตุปจฺจยทายกา, เอวํ สงฺคเห กริยมาเน ปุนปฺปุนํ ปสีทิตฺวา อุปการํ กริสฺสนฺตี’’ติ จิตฺตํ น อุปฺปาเทตพฺพํ. โจรานํ ปน สงฺฆิกมฺปิ ทาตพฺพํ. ปฏิสนฺถารานิสํสทีปนตฺถฺจ โจรนาควตฺถุ, ภาตรา สทฺธึ ชมฺพุทีปคตสฺส มหานาครฺโ วตฺถุ, ปิตุราชสฺส รชฺเช จตุนฺนํ อมจฺจานํ วตฺถุ, อภยโจรวตฺถูติ เอวมาทีนิ พหูนิ วตฺถูนิ มหาอฏฺกถายํ วิตฺถารโต วุตฺตานิ.

ตตฺรายํ เอกวตฺถุทีปนา – สีหฬทีเป กิร อภโย นาม โจโร ปฺจสตปริวาโร เอกสฺมึ าเน ขนฺธาวารํ พนฺธิตฺวา สมนฺตา ติโยชนํ อุพฺพาเสตฺวา วสติ. อนุราธปุรวาสิโน กทมฺพนทึ น อุตฺตรนฺติ, เจติยคิริมคฺเค ชนสฺจาโร อุปจฺฉินฺโน. อเถกทิวสํ โจโร ‘‘เจติยคิรึ วิลุมฺปิสฺสามี’’ติ อคมาสิ. อารามิกา ทิสฺวา ทีฆภาณกอภยตฺเถรสฺส อาโรเจสุํ. เถโร ‘‘สปฺปิผาณิตาทีนิ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘โจรานํ เทถ’’. ‘‘ตณฺฑุลา อตฺถี’’ติ. ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต, สงฺฆสฺสตฺถาย อาหฏา ตณฺฑุลา จ ปกฺกสากฺจ โครโส จา’’ติ. ‘‘ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา โจรานํ เทถา’’ติ. อารามิกา ตถา กรึสุ. โจรา ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา ‘‘เกนายํ ปฏิสนฺถาโร กโต’’ติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘อมฺหากํ อยฺเยน อภยตฺเถเรนา’’ติ. โจรา เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อาหํสุ ‘‘มยํ ‘สงฺฆสฺส จ เจติยสฺส จ สนฺตกํ อจฺฉินฺทิตฺวา คเหสฺสามา’ติ อาคตา, ตุมฺหากํ ปน อิมินา ปฏิสนฺถาเรน มยํ ปสนฺนา, อชฺช ปฏฺาย วิหาเร ธมฺมิการกฺขา อมฺหากํ อายตฺตา โหตุ, นาครา อาคนฺตฺวา ทานํ เทนฺตุ, เจติยํ วนฺทนฺตู’’ติ. ตโต ปฏฺาย จ นาคเร ทานํ ทาตุํ อาคจฺฉนฺเต นทีตีเรเยว ปจฺจุคฺคนฺตฺวา รกฺขนฺตา วิหารํ เนนฺติ, วิหาเรปิ ทานํ เทนฺตานํ รกฺขํ กตฺวา ติฏฺนฺติ. เตปิ ภิกฺขูนํ ภุตฺตาวเสสํ โจรานํ เทนฺติ. คมนกาเลปิ เต โจรา นทีตีรํ ปาเปตฺวา นิวตฺตนฺติ.

อเถกทิวสํ ภิกฺขุสงฺเฆ ขียนกกถา อุปฺปนฺนา ‘‘เถโร อิสฺสรวตาย สงฺฆสนฺตกํ โจรานํ อทาสี’’ติ. เถโร สนฺนิปาตํ การาเปตฺวา อาห ‘‘โจรา ‘สงฺฆสฺส ปกติวฏฺฏฺจ เจติยสนฺตกฺจ อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหิสฺสามา’ติ อาคมึสุ, อถ เตสํ มยา ‘เอตํ น หริสฺสนฺตี’ติ เอตฺตโก นาม ปฏิสนฺถาโร กโต, ตํ สพฺพมฺปิ เอกโต สมฺปิณฺเฑตฺวา อคฺฆาเปถ, เตน การเณน อวิลุตฺตํ ภณฺฑํ เอกโต สมฺปิณฺเฑตฺวา อคฺฆาเปถา’’ติ. ตโต สพฺพมฺปิ เถเรน ทินฺนกํ เจติยฆเร เอกํ วรโปตฺถกจิตฺตตฺถรณํ น อคฺฆติ. ตโต อาหํสุ ‘‘เถเรน กโต ปฏิสนฺถาโร สุกโต, โจเทตุํ วา สาเรตุํ วา น ลพฺภติ, คีวา วา อวหาโร วา นตฺถี’’ติ. เอวํ มหานิสํโส ปฏิสนฺถาโรติ สลฺลกฺเขตฺวา กตฺตพฺโพ ปณฺฑิเตน ภิกฺขุนาติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

เภสชฺชาทิกรณวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๔. วิฺตฺติวินิจฺฉยกถา

๒๑. วิฺตฺตีติ ยาจนา. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒) – มูลจฺเฉชฺชาย ปุริสํ ยาจิตุํ น วฏฺฏติ, ‘‘สหายตฺถาย กมฺมกรณตฺถาย ปุริสํ เทถา’’ติ ยาจิตุํ วฏฺฏติ, ปุริเสน กตฺตพฺพํ หตฺถกมฺมสงฺขาตํ ปุริสตฺตกรํ ยาจิตุํ วฏฺฏติเยว. หตฺถกมฺมฺหิ กิฺจิ วตฺถุ น โหติ, ตสฺมา ตํ เปตฺวา มิคลุทฺทกมจฺฉพนฺธนกาทีนํ สกกมฺมํ อวเสสํ สพฺพํ กปฺปิยํ. ‘‘กึ, ภนฺเต, อาคตาตฺถ เกน กมฺเมนา’’ติ ปุจฺฉิเต วา อปุจฺฉิเต วา ยาจิตุํ วฏฺฏติ, วิฺตฺติปจฺจยา โทโส นตฺถิ. มิคลุทฺทกาทโย ปน สกกมฺมํ น ยาจิตพฺพา, ‘‘หตฺถกมฺมํ เทถา’’ติ อนิยเมตฺวาปิ น ยาจิตพฺพา. เอวํ ยาจิตา หิ เต ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ ภิกฺขู อุยฺโยเชตฺวา มิเคปิ มาเรตฺวา อาหเรยฺยุํ. นิยเมตฺวา ปน ‘‘วิหาเร กิฺจิ กตฺตพฺพํ อตฺถิ, ตตฺถ หตฺถกมฺมํ เทถา’’ติ ยาจิตพฺพา, ผาลนงฺคลาทีนิ อุปกรณานิ คเหตฺวา กสิตุํ วา วปิตุํ วา ลายิตุํ วา คจฺฉนฺตํ สกกิจฺจปสุตมฺปิ กสฺสกํ วา อฺํ วา กิฺจิ หตฺถกมฺมํ ยาจิตุํ วฏฺฏเตว. โย ปน วิฆาสาโท วา อฺโ วา โกจิ นิกฺกมฺโม นิรตฺถกกถํ กเถนฺโต นิทฺทายนฺโต วา วิหรติ, เอวรูปํ อยาจิตฺวาปิ ‘‘เอหิ เร อิทํ วา อิทํ วา กโรหี’’ติ ยทิจฺฉกํ การาเปตุํ วฏฺฏติ.

หตฺถกมฺมสฺส ปน สพฺพกปฺปิยภาวทีปนตฺถํ อิมํ นยํ กเถนฺติ. สเจ หิ ภิกฺขุ ปาสาทํ กาเรตุกาโม โหติ, ถมฺภตฺถาย ปาสาณโกฏฺฏกานํ ฆรํ คนฺตฺวา วตฺตพฺพํ ‘‘หตฺถกมฺมํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ อุปาสกา’’ติ. ‘‘กึ กาตพฺพํ, ภนฺเต’’ติ? ‘‘ปาสาณตฺถมฺภา อุทฺธริตฺวา ทาตพฺพา’’ติ. สเจ เต อุทฺธริตฺวา วา เทนฺติ, อุทฺธริตฺวา นิกฺขิตฺเต อตฺตโน ถมฺเภ วา เทนฺติ, วฏฺฏติ. อถาปิ วทนฺติ ‘‘อมฺหากํ, ภนฺเต, หตฺถกมฺมํ กาตุํ ขโณ นตฺถิ, อฺํ อุทฺธราเปถ, ตสฺส มูลํ ทสฺสามา’’ติ, อุทฺธราเปตฺวา ‘‘ปาสาณตฺถมฺเภ อุทฺธฏมนุสฺสานํ มูลํ เทถา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอเตเนว อุปาเยน ปาสาททารูนํ อตฺถาย วฑฺฒกีนํ สนฺติกํ, อิฏฺกตฺถาย อิฏฺกวฑฺฒกีนํ, ฉทนตฺถาย เคหจฺฉาทกานํ, จิตฺตกมฺมตฺถาย จิตฺตการานนฺติ เยน เยน อตฺโถ โหติ, ตสฺส ตสฺส อตฺถาย เตสํ เตสํ สิปฺปการกานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา หตฺถกมฺมํ ยาจิตุํ วฏฺฏติ, หตฺถกมฺมยาจนวเสน จ มูลจฺเฉชฺชาย วา ภตฺตเวตนานุปฺปทาเนน วา ลทฺธมฺปิ สพฺพํ คเหตุํ วฏฺฏติ. อรฺโต อาหราเปนฺเตน จ สพฺพํ อนชฺฌาวุตฺถกํ อาหราเปตพฺพํ.

๒๒. น เกวลฺจ ปาสาทํ กาเรตุกาเมน, มฺจปีปตฺตปริสฺสาวนธมกรณจีวราทีนิ การาเปตุกาเมนปิ ทารุโลหสุตฺตาทีนิ ลภิตฺวา เต เต สิปฺปการเก อุปสงฺกมิตฺวา วุตฺตนเยเนว หตฺถกมฺมํ ยาจิตพฺพํ. หตฺถกมฺมยาจนวเสน จ มูลจฺเฉชฺชาย วา ภตฺตเวตนานุปฺปทาเนน วา ลทฺธมฺปิ สพฺพํ คเหตพฺพํ. สเจ ปน กาตุํ น อิจฺฉนฺติ, ภตฺตเวตนํ ปจฺจาสีสนฺติ, อกปฺปิยกหาปณาทิ น ทาตพฺพํ, ภิกฺขาจารวตฺเตน ตณฺฑุลาทีนิ ปริเยสิตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. หตฺถกมฺมวเสน ปตฺตํ กาเรตฺวา ตเถว ปาเจตฺวา นวปกฺกสฺส ปตฺตสฺส ปุฺฉนเตลตฺถาย อนฺโตคามํ ปวิฏฺเน ‘‘ภิกฺขาย อาคโต’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ยาคุยา วา ภตฺเต วา อานีเต หตฺเถน ปตฺโต ปิธาตพฺโพ. สเจ อุปาสิกา ‘‘กึ, ภนฺเต’’ติ ปุจฺฉติ, ‘‘นวปกฺโก ปตฺโต, ปุฺฉนเตเลน อตฺโถ’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ สา ‘‘เทหิ, ภนฺเต’’ติ ปตฺตํ คเหตฺวา เตเลน ปุฺฉิตฺวา ยาคุยา วา ภตฺตสฺส วา ปูเรตฺวา เทติ, วิฺตฺติ นาม น โหติ, คเหตุํ วฏฺฏติ.

๒๓. ภิกฺขู ปเคว ปิณฺฑาย จริตฺวา อาสนสาลํ คนฺตฺวา อาสนํ อปสฺสนฺตา ติฏฺนฺติ. ตตฺร เจ อุปาสกา ภิกฺขู ิเต ทิสฺวา สยเมว อาสนานิ อาหราเปนฺติ, นิสีทิตฺวา คจฺฉนฺเตหิ อาปุจฺฉิตฺวา คนฺตพฺพํ, อนาปุจฺฉา คตานมฺปิ นฏฺํ คีวา น โหติ, อาปุจฺฉิตฺวา คมนํ ปน วตฺตํ. สเจ ภิกฺขูหิ ‘‘อาสนานิ อาหรถา’’ติ วุตฺเตหิ อาหฏานิ โหนฺติ, อาปุจฺฉิตฺวาว คนฺตพฺพํ, อนาปุจฺฉา คตานํ วตฺตเภโท จ นฏฺฺจ คีวา. อตฺถรณโกชวกาทีสุปิ เอเสว นโย.

มกฺขิกา พหุกา โหนฺติ, ‘‘มกฺขิกพีชนึ อาหรถา’’ติ วตฺตพฺพํ, ปุจิมนฺทสาขาทีนิ อาหรนฺติ, กปฺปิยํ การาเปตฺวา ปฏิคฺคเหตพฺพานิ. อาสนสาลายํ อุทกภาชนํ ริตฺตํ โหติ, ‘‘ธมกรณํ คณฺหาหี’’ติ น วตฺตพฺพํ. ธมกรณฺหิ ริตฺตภาชเน ปกฺขิปนฺโต ภินฺเทยฺย, ‘‘นทึ วา ตฬากํ วา คนฺตฺวา อุทกํ อาหรา’’ติ ปน วตฺตุํ วฏฺฏติ, ‘‘เคหโต อาหรา’’ติ เนว วตฺตุํ วฏฺฏติ, น อาหฏํ ปริภุฺชิตุํ. อาสนสาลาย วา อรฺเ วา ภตฺตกิจฺจํ กโรนฺเตหิ ตตฺถ ชาตกํ อนชฺฌาวุตฺถกํ ยํ กิฺจิ อุตฺตริภงฺคารหํ ปตฺตํ วา ผลํ วา สเจ กิฺจิ กมฺมํ กโรนฺตํ อาหราเปติ, หตฺถกมฺมวเสน อาหราเปตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, อลชฺชีหิ ปน ภิกฺขูหิ วา สามเณเรหิ วา หตฺถกมฺมํ น กาเรตพฺพํ. อยํ ตาว ปุริสตฺตกเร นโย.

๒๔. โคณํ ปน อฺาตกอปฺปวาริตฏฺานโต อาหราเปตุํ น วฏฺฏติ, อาหราเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. าตกปวาริตฏฺานโตปิ มูลจฺเฉชฺชาย ยาจิตุํ น วฏฺฏติ, ตาวกาลิกนเยน สพฺพตฺถ วฏฺฏติ. เอวํ อาหราปิตฺจ โคณํ รกฺขิตฺวา ชคฺคิตฺวา สามิกา ปฏิจฺฉาเปตพฺพา. สจสฺส ปาโท วา สิงฺคํ วา ภิชฺชติ วา นสฺสติ วา, สามิกา เจ สมฺปฏิจฺฉนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ สมฺปฏิจฺฉนฺติ, คีวา โหติ. สเจ ‘‘ตุมฺหากํเยว เทมา’’ติ วทนฺติ, น สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. ‘‘วิหารสฺส เทมา’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘อารามิกานํ อาจิกฺขถ ชคฺคนตฺถายา’’ติ วตฺตพฺพา.

๒๕. ‘‘สกฏํ เทถา’’ติปิ อฺาตกอปฺปวาริเต วตฺตุํ น วฏฺฏติ, วิฺตฺติ เอว โหติ, ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. าตกปวาริตฏฺาเน ปน วฏฺฏติ, ตาวกาลิกํ วฏฺฏติ, กมฺมํ ปน กตฺวา ปุน ทาตพฺพํ. สเจ เนมิอาทีนิ ภิชฺชนฺติ, ปากติกานิ กตฺวา ทาตพฺพํ, นฏฺเ คีวา โหติ. ‘‘ตุมฺหากเมว เทมา’’ติ วุตฺเต ทารุภณฺฑํ นาม สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. เอส นโย วาสิผรสุกุารีกุทาลนิขาทเนสุ วลฺลิอาทีสุ จ ปรปริคฺคหิเตสุ. ครุภณฺฑปฺปโหนเกสุเยว วลฺลิอาทีสุ วิฺตฺติ โหติ, น ตโต โอรํ.

๒๖. อนชฺฌาวุตฺถกํ ปน ยํ กิฺจิ อาหราเปตุํ วฏฺฏติ. รกฺขิตโคปิตฏฺาเนเยว หิ วิฺตฺติ นาม วุจฺจติ. สา ทฺวีสุ ปจฺจเยสุ สพฺเพน สพฺพํ น วฏฺฏติ. เสนาสนปจฺจเย ปน ‘‘อาหร เทหี’’ติ วิฺตฺติมตฺตเมว น วฏฺฏติ, ปริกโถภาสนิมิตฺตกมฺมานิ วฏฺฏนฺติ. ตตฺถ อุโปสถาคารํ วา โภชนสาลํ วา อฺํ วา กิฺจิ เสนาสนํ อิจฺฉโต ‘‘อิมสฺมึ วต โอกาเส เอวรูปํ เสนาสนํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วา ‘‘ยุตฺต’’นฺติ วา ‘‘อนุรูป’’นฺติ วาติอาทินา นเยน วจนํ ปริกถา นาม. อุปาสกา ตุมฺเห กุหึ วสถาติ. ปาสาเท, ภนฺเตติ. ‘‘กึ ภิกฺขูนํ ปน อุปาสกา ปาสาโท น วฏฺฏตี’’ติ เอวมาทิวจนํ โอภาโส นาม. มนุสฺเส ทิสฺวา รชฺชุํ ปสาเรติ, ขีเล อาโกฏาเปติ, ‘‘กึ อิทํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘อิธ อาวาสํ กริสฺสามา’’ติ เอวมาทิกรณํ ปน นิมิตฺตกมฺมํ นาม. คิลานปจฺจเย ปน วิฺตฺติปิ วฏฺฏติ, ปเคว ปริกถาทีนิ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

วิฺตฺติวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๕. กุลสงฺคหวินิจฺฉยกถา

๒๗. กุลสงฺคโหติ ปุปฺผผลาทีหิ กุลานํ สงฺคโห กุลสงฺคโห. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) – กุลสงฺคหตฺถาย มาลาวจฺฉาทีนิ โรเปตุํ วา โรปาเปตุํ วา สิฺจิตุํ วา สิฺจาเปตุํ วา ปุปฺผานิ โอจินิตุํ วา โอจินาเปตุํ วา คนฺถิตุํ วา คนฺถาเปตุํ วา น วฏฺฏติ. ตตฺถ อกปฺปิยโวหาโร กปฺปิยโวหาโร ปริยาโย โอภาโส นิมิตฺตกมฺมนฺติ อิมานิ ปฺจ ชานิตพฺพานิ.

๒๘. ตตฺถ อกปฺปิยโวหาโร นาม อลฺลหริตานํ โกฏฺฏนํ โกฏฺฏาปนํ, อาวาฏสฺส ขณนํ ขณาปนํ, มาลาวจฺฉสฺส โรปนํ โรปาปนํ, อาฬิยา พนฺธนํ พนฺธาปนํ, อุทกสฺส เสจนํ เสจาปนํ, มาติกาย สมฺมุขกรณํ, กปฺปิยอุทกสิฺจนํ, หตฺถปาทมุขโธวนนหาโนทกสิฺจนํ. กปฺปิยโวหาโร นาม ‘‘อิมํ รุกฺขํ ชาน, อิมํ อาวาฏํ ชาน, อิมํ มาลาวจฺฉํ ชาน, เอตฺถ อุทกํ ชานา’’ติอาทิวจนํ สุกฺขมาติกาย อุชุกรณฺจ. ปริยาโย นาม ‘‘ปณฺฑิเตน มาลาวจฺฉาทโย โรปาเปตพฺพา, นจิรสฺเสว อุปการาย สํวตฺตนฺตี’’ติอาทิวจนํ. โอภาโส นาม กุทาลขณิตฺตาทีนิ จ มาลาวจฺเฉ จ คเหตฺวา านํ. เอวํ ิตฺหิ สามเณราทโย ทิสฺวา ‘‘เถโร การาเปตุกาโม’’ติ คนฺตฺวา กโรนฺติ. นิมิตฺตกมฺมํ นาม กุทาลขณิตฺติวาสิผรสุอุทกภาชนานิ อาหริตฺวา สมีเป ปนํ.

๒๙. อิมานิ ปฺจปิ กุลสงฺคหตฺถาย โรปนโรปาปนาทีสุ น วฏฺฏนฺติ. ผลปริโภคตฺถาย กปฺปิยากปฺปิยโวหารทฺวยเมว น วฏฺฏติ, อิตรตฺตยํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘กปฺปิยโวหาโรปิ วฏฺฏติ, ยฺจ อตฺตโน ปริโภคตฺถาย วฏฺฏติ, ตํ อฺปุคฺคลสฺส วา สงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา อตฺถายปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อารามตฺถาย ปน วนตฺถาย ฉายตฺถาย จ อกปฺปิยโวหารมตฺตเมว น วฏฺฏติ, เสสํ วฏฺฏติ. น เกวลฺจ เสสํ, ยํ กิฺจิ มาติกมฺปิ อุชุํ กาตุํ กปฺปิยอุทกํ สิฺจิตุํ นหานโกฏฺกํ กตฺวา นหายิตุํ หตฺถปาทมุขโธวนอุทกานิ จ ตตฺถ ฉฑฺเฑตุมฺปิ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน กุรุนฺทิยฺจ ‘‘กปฺปิยปถวิยํ สยํ โรเปตุมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อารามาทิอตฺถาย ปน โรปิตสฺส วา โรปาปิตสฺส วา ผลํ ปริภุฺชิตุมฺปิ วฏฺฏติ.

๓๐. อยํ ปน อาทิโต ปฏฺาย วิตฺถาเรน อาปตฺติวินิจฺฉโย – กุลทูสนตฺถาย อกปฺปิยปถวิยํ มาลาวจฺฉํ โรเปนฺตสฺส ปาจิตฺติยฺเจว ทุกฺกฏฺจ, ตถา อกปฺปิยโวหาเรน โรปาเปนฺตสฺส. กปฺปิยปถวิยํ โรปเนปิ โรปาปเนปิ ทุกฺกฏเมว. อุภยตฺราปิ สกึ อาณตฺติยา พหูนมฺปิ โรปเน เอกเมว สปาจิตฺติยทุกฺกฏํ วา สุทฺธทุกฺกฏํ วา โหติ. ปริโภคตฺถาย กปฺปิยภูมิยํ วา อกปฺปิยภูมิยํ วา กปฺปิยโวหาเรน โรปาปเน อนาปตฺติ. อารามาทิอตฺถายปิ อกปฺปิยปถวิยํ โรเปนฺตสฺส วา อกปฺปิยวจเนน โรปาเปนฺตสฺส วา ปาจิตฺติยํ. อยํ ปน นโย มหาอฏฺกถายํ น สุฏฺุ วิภตฺโต, มหาปจฺจริยํ ปน วิภตฺโตติ.

สิฺจนสิฺจาปเน ปน อกปฺปิยอุทเกน สพฺพตฺถ ปาจิตฺติยํ, กุลทูสนปริโภคตฺถาย ทุกฺกฏมฺปิ. กปฺปิเยน เตสํเยว ทฺวินฺนํ อตฺถาย ทุกฺกฏํ, ปริโภคตฺถาย เจตฺถ กปฺปิยโวหาเรน สิฺจาปเน อนาปตฺติ. อาปตฺติฏฺาเน ปน ธาราวจฺเฉทวเสน ปโยคพหุลตาย จ อาปตฺติพหุลตา เวทิตพฺพา.

กุลสงฺคหตฺถาย โอจินเน ปุปฺผคณนาย ทุกฺกฏปาจิตฺติยานิ, อฺตฺถ ปาจิตฺติยาเนว. พหูนิ ปน ปุปฺผานิ เอกปโยเคน โอจินนฺโต ปโยควเสน กาเรตพฺโพ. โอจินาปเน กุลทูสนตฺถาย สกึ อาณตฺโต พหุมฺปิ โอจินาติ, เอกเมว สปาจิตฺติยทุกฺกฏํ, อฺตฺร ปาจิตฺติยเมว.

๓๑. คนฺถนคนฺถาปเนสุ ปน สพฺพาปิ ฉ ปุปฺผวิกติโย เวทิตพฺพา – คนฺถิมํ โคปฺผิมํ เวธิมํ เวิมํ ปูริมํ วายิมนฺติ. ตตฺถ คนฺถิมํ นาม สทณฺฑเกสุ วา อุปฺปลปทุมาทีสุ อฺเสุ วา ทีฆวณฺเฏสุ ปุปฺเผสุ ทฏฺพฺพํ. ทณฺฑเกน วา ทณฺฑกํ, วณฺเฏน วา วณฺฏํ คนฺเถตฺวา กตเมว หิ คนฺถิมํ. ตํ ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา กาตุมฺปิ อกปฺปิยวจเนน การาเปตุมฺปิ น วฏฺฏติ, ‘‘เอวํ ชาน, เอวํ กเต โสเภยฺย, ยถา เอตานิ ปุปฺผานิ น วิกิริยนฺติ, ตถา กโรหี’’ติอาทินา ปน กปฺปิยวจเนน การาเปตุํ วฏฺฏติ.

โคปฺผิมํ นาม สุตฺเตน วา วากาทีหิ วา วสฺสิกปุปฺผาทีนํ เอกโตวณฺฏิกอุภโตวณฺฏิกมาลาวเสน โคปฺผนํ, วากํ วา รชฺชุํ วา ทิคุณํ กตฺวา ตตฺถ อวณฺฏกานิ นีปปุปฺผาทีนิ ปเวเสตฺวา ปฏิปาฏิยา พนฺธนฺติ, เอตมฺปิ โคปฺผิมเมว. สพฺพํ ปุริมนเยเนว น วฏฺฏติ.

เวธิมํ นาม สวณฺฏกานิ วสฺสิกปุปฺผาทีนิ วณฺเฏ, อวณฺฏกานิ วกุลปุปฺผาทีนิ อตฺตโน ฉิทฺเทสุ สูจิตาลหีราทีหิ วินิวิชฺฌิตฺวา อาวุนนฺติ, เอตํ เวธิมํ นาม. ตํ ปุริมนเยเนว น วฏฺฏติ. เกจิ ปน กทลิกฺขนฺธมฺหิ กณฺฏเก วา ตาลหีราทีนิ วา ปเวเสตฺวา ตตฺถ ปุปฺผานิ วินิวิชฺฌิตฺวา เปนฺติ, เกจิ กณฺฏกสาขาสุ, เกจิ ปุปฺผฉตฺตปุปฺผกูฏาคารกรณตฺถํ ฉตฺเต จ ภิตฺติยฺจ ปเวเสตฺวา ปิตกณฺฏเกสุ, เกจิ ธมฺมาสนวิตาเน พทฺธกณฺฏเกสุ, เกจิ กณิการปุปฺผาทีนิ สลากาหิ วิชฺฌนฺติ, ฉตฺตาธิฉตฺตํ วิย กโรนฺติ, ตํ อติโอฬาริกเมว. ปุปฺผวิชฺฌนตฺถํ ปน ธมฺมาสนวิตาเน กณฺฏกมฺปิ พนฺธิตุํ กณฺฏกาทีหิ วา เอกปุปฺผมฺปิ วิชฺฌิตุํ ปุปฺเผเยว วา ปุปฺผํ ปเวเสตุํ น วฏฺฏติ. ชาลวิตานเวทิกนาคทนฺตกปุปฺผปฏิจฺฉกตาลปณฺณคุฬกาทีนํ ปน ฉิทฺเทสุ อโสกปิณฺฑิยา วา อนฺตเรสุ ปุปฺผานิ ปเวเสตุํ น โทโส. น เหตํ เวธิมํ โหติ. ธมฺมรชฺชุยมฺปิ เอเสว นโย.

เวิมํ นาม ปุปฺผทามปุปฺผหตฺถเกสุ ทฏฺพฺพํ. เกจิ หิ มตฺถกทามํ กโรนฺตา เหฏฺา ฆฏกาการํ ทสฺเสตุํ ปุปฺเผหิ เวเนฺติ, เกจิ อฏฺ อฏฺ วา ทส ทส วา อุปฺปลปุปฺผาทีนิ สุตฺเตน วา วาเกน วา ทณฺฑเกสุ พนฺธิตฺวา อุปฺปลหตฺถเก วา ปทุมหตฺถเก วา กโรนฺติ, ตํ สพฺพํ ปุริมนเยเนว น วฏฺฏติ. สามเณเรหิ อุปฺปาเฏตฺวา ถเล ปิตอุปฺปลาทีนิ กาสาเวน ภณฺฑิกมฺปิ พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ. เตสํเยว ปน วาเกน วา ทณฺฑเกน วา พนฺธิตุํ อํสภณฺฑิกํ วา กาตุํ วฏฺฏติ. อํสภณฺฑิกํ นาม ขนฺเธ ปิตกาสาวสฺส อุโภ อนฺเต อาหริตฺวา ภณฺฑิกํ กตฺวา ตสฺมึ ปสิพฺพเก วิย ปุปฺผานิ ปกฺขิปนฺติ, อยํ วุจฺจติ อํสภณฺฑิกา, เอตํ กาตุํ วฏฺฏติ. ทณฺฑเกหิ ปทุมินิปณฺณํ วิชฺฌิตฺวา อุปฺปลาทีนิ ปณฺเณน เวเตฺวา คณฺหนฺติ, ตตฺราปิ ปุปฺผานํ อุปริ ปทุมินิปณฺณเมว พนฺธิตุํ วฏฺฏติ, เหฏฺา ทณฺฑกํ ปน พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ.

ปูริมํ นาม มาลาคุเณ จ ปุปฺผปเฏ จ ทฏฺพฺพํ. โย หิ มาลาคุเณน เจติยํ วา โพธึ วา เวทิกํ วา ปริกฺขิปนฺโต ปุน อาเนตฺวา ปุริมฏฺานํ อติกฺกาเมติ, เอตฺตาวตา ปูริมํ นาม โหติ, โก ปน วาโท อเนกกฺขตฺตุํ ปริกฺขิปนฺตสฺส. นาคทนฺตกนฺตเรหิ ปเวเสตฺวา หรนฺโต โอลมฺพกํ กตฺวา ปุน นาคทนฺตกํ ปริกฺขิปติ, เอตมฺปิ ปูริมํ นาม. นาคทนฺตเก ปน ปุปฺผวลยํ ปเวเสตุํ วฏฺฏติ. มาลาคุเณหิ ปุปฺผปฏํ กโรนฺติ, ตตฺราปิ เอกเมว มาลาคุณํ หริตุํ วฏฺฏติ. ปุน ปจฺจาหรโต ปูริมเมว โหติ. ตํ สพฺพํ ปุริมนเยเนว น วฏฺฏติ. มาลาคุเณหิ ปน พหูหิปิ กตํ ปุปฺผทามํ ลภิตฺวา อาสนมตฺถกาทีสุ พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. อติทีฆํ ปน มาลาคุณํ เอกวารํ หริตฺวา ปริกฺขิปิตฺวา ปุน อิตรสฺส ภิกฺขุโน ทาตุํ วฏฺฏติ, เตนปิ ตเถว กาตุํ วฏฺฏติ.

วายิมํ นาม ปุปฺผชาลปุปฺผปฏปุปฺผรูเปสุ ทฏฺพฺพํ. เจติเย ปุปฺผชาลํ กโรนฺตสฺส เอกเมกมฺหิ ชาลฉิทฺทเก ทุกฺกฏํ. ภิตฺติฉตฺตโพธิตฺถมฺภาทีสุปิ เอเสว นโย. ปุปฺผปฏํ ปน ปเรหิ ปูริตมฺปิ วายิตุํ น ลพฺภติ. โคปฺผิมปุปฺเผเหว หตฺถิอสฺสาทิรูปกานิ กโรนฺติ, ตานิปิ วายิมฏฺาเน ติฏฺนฺติ. ปุริมนเยเนว สพฺพํ น วฏฺฏติ. อฺเหิ กตปริจฺเฉเท ปน ปุปฺผานิ เปนฺเตน หตฺถิอสฺสาทิรูปกมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน กฬมฺพเกน อฑฺฒจนฺทเกน จ สทฺธึ อฏฺ ปุปฺผวิกติโย วุตฺตา.

๓๒. ตตฺถ กฬมฺพโกติ อฑฺฒจนฺทกนฺตเร ฆฏิกทามโอลมฺพโก วุตฺโต. อฑฺฒจนฺทโกติ อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณปริกฺเขโป. ตทุภยมฺปิ ปูริเมเยว ปวิฏฺํ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ทฺเว ตโย มาลาคุเณ เอกโต กตฺวา ปุปฺผทามกรณมฺปิ วายิมํเยวา’’ติ วุตฺตํ. ตมฺปิ อิธ ปูริมฏฺาเนเยว ปวิฏฺํ. น เกวลฺจ ปุปฺผทามเมว, ปิฏฺมยทามมฺปิ เคณฺฑุกปุปฺผทามมฺปิ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ขรปตฺตทามมฺปิ สิกฺขาปทสฺส สาธารณตฺตา ภิกฺขูนมฺปิ ภิกฺขุนีนมฺปิ เนว กาตุํ, น การาเปตุํ วฏฺฏติ, ปูชานิมิตฺตํ ปน กปฺปิยวจนํ สพฺพตฺถ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ปริยายโอภาสนิมิตฺตกมฺมานิ วฏฺฏนฺติเยว.

โย หริตฺวา วา หราเปตฺวา วา ปกฺโกสิตฺวา วา ปกฺโกสาเปตฺวา วา สยํ วา อุปคตานํ ยํ กิฺจิ อตฺตโน สนฺตกํ ปุปฺผํ กุลสงฺคหตฺถาย เทติ, ตสฺส ทุกฺกฏํ, ปรสนฺตกํ เทติ, ทุกฺกฏเมว. เถยฺยจิตฺเตน เทติ, ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. เอส นโย สงฺฆิเกปิ. อยํ ปน วิเสโส – เสนาสนตฺถาย นิยมิตํ อิสฺสรวตาย ททโต ถุลฺลจฺจยนฺติ.

๓๓. ปุปฺผํ นาม กสฺส ทาตุํ วฏฺฏติ, กสฺส น วฏฺฏตีติ? มาตาปิตูนํ ตาว หริตฺวาปิ หราเปตฺวาปิ ปกฺโกสิตฺวาปิ ปกฺโกสาเปตฺวาปิ ทาตุํ วฏฺฏติ, เสสาตกานํ ปกฺโกสาเปตฺวาว. ตฺจ โข วตฺถุปูชนตฺถาย, มณฺฑนตฺถาย ปน สิวลิงฺคาทิปูชนตฺถาย วา กสฺสจิปิ ทาตุํ น วฏฺฏติ. มาตาปิตูนฺจ หราเปนฺเตน าติสามเณเรเหว หราเปตพฺพํ. อิตเร ปน ยทิ สยเมว อิจฺฉนฺติ, วฏฺฏติ. สมฺมเตน ปุปฺผภาชเกน ปุปฺผภาชนกาเล สมฺปตฺตานํ สามเณรานํ อุปฑฺฒภาคํ ทาตุํ วฏฺฏติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘สมฺปตฺตคิหีนํ อุปฑฺฒภาคํ’’, มหาปจฺจริยํ ‘‘จูฬกํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อสมฺมเตน อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ. อาจริยุปชฺฌาเยสุ สคารวา สามเณรา พหูนิ ปุปฺผานิ อาหริตฺวา ราสึ กตฺวา เปนฺติ, เถรา ปาโตว สมฺปตฺตานํ สทฺธิวิหาริกาทีนํ อุปาสกาทีนํ วา ‘‘ตฺวํ อิทํ คณฺห, ตฺวํ อิทํ คณฺหา’’ติ เทนฺติ, ปุปฺผทานํ นาม น โหติ. ‘‘เจติยํ ปูเชสฺสามา’’ติ คเหตฺวา คจฺฉนฺตาปิ ปูชํ กโรนฺตาปิ ตตฺถ ตตฺถ สมฺปตฺตานํ เจติยปูชนตฺถาย เทนฺติ, เอตมฺปิ ปุปฺผทานํ นาม น โหติ. อุปาสเก อกฺกปุปฺผาทีหิ ปูเชนฺเต ทิสฺวา ‘‘วิหาเร กณิการปุปฺผาทีนิ อตฺถิ, อุปาสกา ตานิ คเหตฺวา ปูเชถา’’ติ วตฺตุมฺปิ วฏฺฏติ. ภิกฺขู ปุปฺผปูชํ กตฺวา ทิวาตรํ คามํ ปวิฏฺเ ‘‘กึ, ภนฺเต, อติทิวา ปวิฏฺตฺถา’’ติ ปุจฺฉนฺติ, ‘‘วิหาเร ปุปฺผานิ พหูนิ, ปูชํ อกริมฺหา’’ติ วทนฺติ. มนุสฺสา ‘‘พหูนิ กิร วิหาเร ปุปฺผานี’’ติ ปุนทิวเส ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ คเหตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ปุปฺผปูชฺจ กโรนฺติ ทานฺจ เทนฺติ, วฏฺฏติ.

๓๔. มนุสฺสา ‘‘มยํ, ภนฺเต, อสุกทิวสํ นาม ปูเชสฺสามา’’ติ ปุปฺผวารํ ยาจิตฺวา อนุฺาตทิวเส อาคจฺฉนฺติ, สามเณเรหิ จ ปเคว ปุปฺผานิ โอจินิตฺวา ปิตานิ โหนฺติ, เต รุกฺเขสุ ปุปฺผานิ อปสฺสนฺตา ‘‘กุหึ, ภนฺเต, ปุปฺผานี’’ติ วทนฺติ, สามเณเรหิ โอจินิตฺวา ปิตานิ, ตุมฺเห ปน ปูเชตฺวา คจฺฉถ, สงฺโฆ อฺํ ทิวสํ ปูเชสฺสตีติ. เต ปูเชตฺวา ทานํ ทตฺวา คจฺฉนฺติ, วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน กุรุนฺทิยฺจ ‘‘เถรา สามเณเรหิ ทาเปตุํ น ลภนฺติ, สเจ สยเมว ตานิ ปุปฺผานิ เตสํ เทนฺติ, วฏฺฏติ. เถเรหิ ปน ‘สามเณเรหิ โอจินิตฺวา ปิตานี’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. สเจ ปน ปุปฺผวารํ ยาจิตฺวา อโนจิเตสุ ปุปฺเผสุ ยาคุภตฺตาทีนิ อาทาย อาคนฺตฺวา สามเณเร ‘‘โอจินิตฺวา เทถา’’ติ วทนฺติ, าภิสามเณรานํเยว โอจินิตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. อฺาตเก อุกฺขิปิตฺวา รุกฺขสาขาย เปนฺติ, น โอโรหิตฺวา ปลายิตพฺพํ, โอจินิตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน โกจิ ธมฺมกถิโก ‘‘พหูนิ อุปาสกา วิหาเร ปุปฺผานิ, ยาคุภตฺตาทีนิ อาทาย คนฺตฺวา ปุปฺผปูชํ กโรถา’’ติ วทติ, ตสฺเสว น กปฺปตีติ มหาปจฺจริยฺจ กุรุนฺทิยฺจ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘เอตํ อกปฺปิยํ น วฏฺฏตี’’ติ อวิเสเสน วุตฺตํ.

๓๕. ผลมฺปิ อตฺตโน สนฺตกํ วุตฺตนเยเนว มาตาปิตูนฺจ เสสาตีนฺจ ทาตุํ วฏฺฏติ. กุลสงฺคหตฺถาย ปน เทนฺตสฺส วุตฺตนเยเนว อตฺตโน สนฺตเก ปรสนฺตเก สงฺฆิเก เสนาสนตฺถาย นิยมิเต จ ทุกฺกฏาทีนิ เวทิตพฺพานิ. อตฺตโน สนฺตกํเยว คิลานมนุสฺสานํ วา สมฺปตฺตอิสฺสรานํ วา ขีณปริพฺพยานํ วา ทาตุํ วฏฺฏติ, ผลทานํ น โหติ. ผลภาชเกนปิ สมฺมเตน สงฺฆสฺส ผลภาชนกาเล สมฺปตฺตมนุสฺสานํ อุปฑฺฒภาคํ ทาตุํ วฏฺฏติ, อสมฺมเตน อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ. สงฺฆาราเมปิ ผลปริจฺเฉเทน วา รุกฺขปริจฺเฉเทน วา กติกา กาตพฺพา ‘‘ตโต คิลานมนุสฺสานํ วา อฺเสํ วา ผลํ ยาจนฺตานํ ยถาปริจฺเฉเทน จตฺตาริ ปฺจ ผลานิ ทาตพฺพานิ, รุกฺขา วา ทสฺเสตพฺพา ‘อิโต คเหตุํ ลพฺภตี’’’ติ. ‘‘อิธ ผลานิ สุนฺทรานิ, อิโต คณฺหถา’’ติ เอวํ ปน น วตฺตพฺพํ. อตฺตโน สนฺตกํ สิรีสจุณฺณํ วา อฺํ วา ยํ กิฺจิ กสาวํ กุลสงฺคหตฺถาย เทติ, ทุกฺกฏํ. ปรสนฺตกาทีสุปิ วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – สงฺฆสฺส รกฺขิตโคปิตาปิ รุกฺขฉลฺลิ ครุภณฺฑเมวาติ. มตฺติกทนฺตกฏฺเวฬุปณฺเณสุปิ ครุภณฺฑูปคํ ตฺวา จุณฺเณ วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

๓๖. ชงฺฆเปสนิยนฺติ คิหีนํ ทูเตยฺยํ สาสนหรณกมฺมํ วุจฺจติ, ตํ น กาตพฺพํ. คิหีนฺหิ สาสนํ คเหตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ปเท ปเท ทุกฺกฏํ. ตํ กมฺมํ นิสฺสาย ลทฺธโภชนํ ภุฺชนฺตสฺสปิ อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ทุกฺกฏํ. ปมํ สาสนํ อคฺคเหตฺวาปิ ปจฺฉา ‘‘อยํ ทานิ โส คาโม, หนฺท นํ สาสนํ อาโรเจมี’’ติ มคฺคา โอกฺกมนฺตสฺสปิ ปเท ปเท ทุกฺกฏํ. สาสนํ อาโรเจตฺวา ลทฺธโภชนํ ภุฺชโต ปุริมนเยเนว ทุกฺกฏํ. สาสนํ อคฺคเหตฺวา อาคเตน ปน ‘‘ภนฺเต, ตสฺมึ คาเม อิตฺถนฺนามสฺส กา ปวตฺตี’’ติ ปุจฺฉิยมาเนน กเถตุํ วฏฺฏติ, ปุจฺฉิตปฺเห โทโส นตฺถิ. ปฺจนฺนํ ปน สหธมฺมิกานํ มาตาปิตูนํ ปณฺฑุปลาสสฺส อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺส สาสนํ หริตุํ วฏฺฏติ, คิหีนฺจ กปฺปิยสาสนํ, ตสฺมา ‘‘มม วจเนน ภควโต ปาเท วนฺทถา’’ติ วา ‘‘เจติยํ ปฏิมํ โพธึ สงฺฆตฺเถรํ วนฺทถา’’ติ วา ‘‘เจติเย คนฺธปูชํ กโรถา’’ติ วา ‘‘ปุปฺผปูชํ กโรถา’’ติ วา ‘‘ภิกฺขู สนฺนิปาเตถ, ทานํ ทสฺสาม, ธมฺมํ เทสาปยิสฺสามา’’ติ วา อีทิเสสุ สาสเนสุ กุกฺกุจฺจํ น กาตพฺพํ. กปฺปิยสาสนานิ หิ เอตานิ, น คิหีนํ คิหิกมฺมปฏิสํยุตฺตานีติ. อิเมหิ ปน อฏฺหิ กุลทูสกกมฺเมหิ อุปฺปนฺนปจฺจยา ปฺจนฺนมฺปิ สหธมฺมิกานํ น กปฺปนฺติ. อภูตาโรจนรูปิยสํโวหาเรหิ อุปฺปนฺนปจฺจยสทิสาว โหนฺติ.

ปพฺพาชนียกมฺมกโต ปน ยสฺมึ คาเม วา นิคเม วา กุลทูสกกมฺมํ กตํ, ยสฺมิฺจ วิหาเร วสติ, เนว ตสฺมึ คาเม วา นิคเม วา จริตุํ ลภติ, น วิหาเร วสิตุํ. ปฏิปฺปสฺสทฺธกมฺเมนปิ จ เตน เยสุ กุเลสุ ปุพฺเพ กุลทูสกกมฺมํ กตํ, ตโต อุปฺปนฺนปจฺจยา น คเหตพฺพา, อาสวกฺขยปตฺเตนปิ น คเหตพฺพา, อกปฺปิยาว โหนฺติ. ‘‘กสฺมา น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิเตน ‘‘ปุพฺเพ เอวํ กตตฺตา’’ติ วุตฺเต สเจ วทนฺติ ‘‘น มยํ เตน การเณน เทม, อิทานิ สีลวนฺตตาย เทมา’’ติ, คเหตพฺพา. ปกติยา ทานฏฺาเนเยว กุลทูสกกมฺมํ กตํ โหติ, ตโต ปกติทานเมว คเหตุํ วฏฺฏติ. ยํ วฑฺเฒตฺวา เทนฺติ, ตํ น วฏฺฏติ. ยสฺมา จ ปุจฺฉิตปฺเห โทโส นตฺถิ, ตสฺมา อฺมฺปิ ภิกฺขุํ ปุพฺพณฺเห วา สายนฺเห วา อนฺตรฆรํ ปวิฏฺํ โกจิ ปุจฺเฉยฺย ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, จรถา’’ติ. เยนตฺเถน จรติ, ตํ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘ลทฺธํ น ลทฺธ’’นฺติ วุตฺเต สเจ น ลทฺธํ, ‘‘น ลทฺธ’’นฺติ วตฺวา ยํ โส เทติ, ตํ คเหตุํ วฏฺฏติ.

๓๗. ‘‘น จ, ภิกฺขเว, ปณิธาย อรฺเ วตฺถพฺพํ, โย วเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. น จ, ภิกฺขเว, ปณิธาย ปิณฺฑาย จริตพฺพํ…เป… น จ, ภิกฺขเว, ปณิธาย จงฺกมิตพฺพํ…เป… น จ, ภิกฺขเว, ปณิธาย าตพฺพํ…เป… น จ, ภิกฺขเว, ปณิธาย นิสีทิตพฺพํ…เป… น จ, ภิกฺขเว, ปณิธาย เสยฺยา กปฺเปตพฺพา, โย กปฺเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๒๓ อาทโย) วุตฺตตฺตา ‘‘เอวํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๒๓) อรฺเ วสนฺตํ มํ ชโน อรหตฺเต วา เสกฺขภูมิยํ วา สมฺภาเวสฺสติ, ตโต โลกสฺส สกฺกโต ภวิสฺสามิ ครุกโต มานิโต ปูชิโต’’ติ เอวํ ปตฺถนํ กตฺวา อรฺเ น วสิตพฺพํ. เอวํ ปณิธาย ‘‘อรฺเ วสิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺตสฺส ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ, ตถา อรฺเ กุฏิกรณจงฺกมนนิสีทนนิวาสนปารุปนาทีสุ สพฺพกิจฺเจสุ ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ, ตสฺมา เอวํ อรฺเ น วสิตพฺพํ. เอวํ วสนฺโต หิ สมฺภาวนํ ลภตุ วา มา วา, ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. โย ปน สมาทินฺนธุตงฺโค ‘‘ธุตงฺคํ รกฺขิสฺสามี’’ติ วา ‘‘คามนฺเต เม วสโต จิตฺตํ วิกฺขิปติ, อรฺํ สปฺปาย’’นฺติ จินฺเตตฺวา วา ‘‘อทฺธา อรฺเ ติณฺณํ วิเวกานํ อฺตรํ ปาปุณิสฺสามี’’ติ วา ‘‘อรฺํ ปวิสิตฺวา อรหตฺตํ อปาปุณิตฺวา น นิกฺขมิสฺสามี’’ติ วา ‘‘อรฺวาโส นาม ภควตา ปสตฺโถ, มยิ จ อรฺเ วสนฺเต พหู สพฺรหฺมจารี คามนฺตํ หิตฺวา อารฺกา ภวิสฺสนฺตี’’ติ วา เอวํ อนวชฺชวาสํ วสิตุกาโม โหติ, เตเนว วสิตพฺพํ. ปิณฺฑาย จรนฺตสฺสปิ ‘‘อภิกฺกนฺตาทีนิ สณฺเปตฺวา ปิณฺฑาย จริสฺสามี’’ติ นิวาสนปารุปนกิจฺจโต ปภุติ ยาว โภชนปริโยสานํ, ตาว ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ, สมฺภาวนํ ลภตุ วา มา วา, ทุกฺกฏเมว. ขนฺธกวตฺตเสขิยวตฺตปริปูรณตฺถํ ปน สพฺรหฺมจารีนํ ทิฏฺานุคติอาปชฺชนตฺถํ วา ปาสาทิเกหิ อภิกฺกมปฏิกฺกมาทีหิ ปิณฺฑาย ปวิสนฺโต อนุปวชฺโช วิฺูนํ. จงฺกมนาทีสุปิ เอเสว นโย.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

กุลสงฺคหวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๖. มจฺฉมํสวินิจฺฉยกถา

๓๘. มจฺฉมํเสสุ ปน มจฺฉคฺคหเณน สพฺพมฺปิ ชลชํ วุตฺตํ. ตตฺถ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิ. มํเสสุ ปน มนุสฺสหตฺถิอสฺสสุนขอหิสีหพฺยคฺฆทีปิอจฺฉตรจฺฉานํ วเสน ทส มํสานิ อกปฺปิยานิ. ตตฺถ มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจยํ, เสเสสุ ทุกฺกฏํ. อิติ อิเมสํ มนุสฺสาทีนํ ทสนฺนํ มํสมฺปิ อฏฺิปิ โลหิตมฺปิ จมฺมมฺปิ โลมมฺปิ สพฺพํ น วฏฺฏติ. วสาสุ ปน เอกา มนุสฺสวสาว น วฏฺฏติ. ขีราทีสุ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิ. อิเมสุ ปน อกปฺปิยมํเสสุ อฏฺิอาทีสุ วา ยํ กิฺจิ ตฺวา วา อตฺวา วา ขาทนฺตสฺส อาปตฺติเยว. ยทา ชานาติ, ตทา เทเสตพฺพา. ‘‘อปุจฺฉิตฺวาว ขาทิสฺสามี’’ติ คณฺหโต ปฏิคฺคหเณปิ ทุกฺกฏํ, ‘‘ปุจฺฉิตฺวา ขาทิสฺสามี’’ติ คณฺหโต อนาปตฺติ. อุทฺทิสฺสกตํ ปน ชานิตฺวา ขาทนฺตสฺเสว อาปตฺติ, ปจฺฉา ชานนฺโต อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ (มหาว. อฏฺ. ๒๘๑).

ตตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๑๐) อุทฺทิสฺสกตํ นาม ภิกฺขูนํ อตฺถาย วธิตฺวา สมฺปาทิตํ มจฺฉมํสํ. อุภยมฺปิ หิ อุทฺทิสฺสกตํ น วฏฺฏติ. ตมฺปิ อทิฏฺํ อสุตํ อปริสงฺกิตํ วฏฺฏติ. ติโกฏิปริสุทฺธฺหิ มจฺฉมํสํ ภควตา อนุฺาตํ อทิฏฺํ อสุตํ อปริสงฺกิตํ. ตตฺถ อทิฏฺํ นาม ภิกฺขูนํ อตฺถาย มิคมจฺเฉ วธิตฺวา คยฺหมานํ อทิฏฺํ. อสุตํ นาม ภิกฺขูนํ อตฺถาย มิคมจฺเฉ วธิตฺวา คหิตนฺติ อสุตํ. อปริสงฺกิตํ ปน ทิฏฺปริสงฺกิตํ สุตปริสงฺกิตํ ตทุภยวินิมุตฺตปริสงฺกิตฺจ ตฺวา ตพฺพิปกฺขโต ชานิตพฺพํ. กถํ? อิธ ภิกฺขู ปสฺสนฺติ มนุสฺเส ชาลวาคุราทิหตฺเถ คามโต วา นิกฺขมนฺเต อรฺเ วา วิจรนฺเต. ทุติยทิวเส จ เนสํ ตํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ สมจฺฉมํสํ ปิณฺฑปาตํ อภิหรนฺติ. เต เตน ทิฏฺเน ปริสงฺกนฺติ ‘‘ภิกฺขูนํ นุ โข อตฺถาย กต’’นฺติ, อิทํ ทิฏฺปริสงฺกิตํ, เอตํ คเหตุํ น วฏฺฏติ. ยํ เอวํ อปริสงฺกิตํ, ตํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เต มนุสฺสา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘นยิทํ, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตํ, อมฺเหหิ อตฺตโน อตฺถาย วา ราชยุตฺตาทีนํ วา อตฺถาย กต’’นฺติ วทนฺติ, กปฺปติ.

น เหว โข ภิกฺขู ปสฺสนฺติ, อปิจ โข สุณนฺติ ‘‘มนุสฺสา กิร ชาลวาคุราทิหตฺถา คามโต วา นิกฺขมนฺติ, อรฺเ วา วิจรนฺตี’’ติ. ทุติยทิวเส จ เตสํ ตํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ สมจฺฉมํสํ ปิณฺฑปาตํ อภิหรนฺติ. เต เตน สุเตน ปริสงฺกนฺติ ‘‘ภิกฺขูนํ นุ โข อตฺถาย กต’’นฺติ, อิทํ สุตปริสงฺกิตํ นาม, เอตํ คเหตุํ น วฏฺฏติ. ยํ เอวํ อปริสงฺกิตํ, ตํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เต มนุสฺสา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘นยิทํ, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตํ, อมฺเหหิ อตฺตโน อตฺถาย วา ราชยุตฺตาทีนํ วา อตฺถาย กต’’นฺติ วทนฺติ, กปฺปติ.

น เหว โข ปน ภิกฺขู ปสฺสนฺติ น สุณนฺติ, อปิจ โข เตสํ ตํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ ปตฺตํ คเหตฺวา สมจฺฉมํสํ ปิณฺฑปาตํ อภิสงฺขริตฺวา อภิหรนฺติ. เต ปริสงฺกนฺติ ‘‘ภิกฺขูนํ นุ โข อตฺถาย กต’’นฺติ, อิทํ ตทุภยวินิมุตฺตปริสงฺกิตํ นาม, เอตมฺปิ คเหตุํ น วฏฺฏติ. ยํ เอวํ อปริสงฺกิตํ, ตํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เต มนุสฺสา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘นยิทํ, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตํ, อมฺเหหิ อตฺตโน อตฺถาย วา ราชยุตฺตาทีนํ วา อตฺถาย กตํ, ปวตฺตมํสํ วา กปฺปิยเมว ลภิตฺวา ภิกฺขูนํ อตฺถาย สมฺปาทิต’’นฺติ วทนฺติ, กปฺปติ. มตานํ เปตกิจฺจตฺถาย มงฺคลาทีนํ วา อตฺถาย กเตปิ เอเสว นโย. ยํ ยฺหิ ภิกฺขูนํเยว อตฺถาย อกตํ, ยตฺถ จ นิพฺเพมติโก โหติ, ตํ สพฺพํ กปฺปติ.

๓๙. สเจ ปน เอกสฺมึ วิหาเร ภิกฺขูนํ อุทฺทิสฺสกตํ โหติ, เต จ อตฺตโน อตฺถาย กตภาวํ น ชานนฺติ, อฺเ ชานนฺติ. เย ชานนฺติ, เตสํ น วฏฺฏติ, อิตเรสํ ปน วฏฺฏติ. อฺเ น ชานนฺติ, เตเยว ชานนฺติ, เตสํเยว น วฏฺฏติ, อฺเสํ วฏฺฏติ. เตปิ ‘‘อมฺหากํ อตฺถาย กต’’นฺติ ชานนฺติ, อฺเปิ ‘‘เอเตสํ อตฺถาย กต’’นฺติ ชานนฺติ, สพฺเพสมฺปิ น วฏฺฏติ. สพฺเพ น ชานนฺติ, สพฺเพสมฺปิ วฏฺฏติ. ปฺจสุ หิ สหธมฺมิเกสุ ยสฺส วา ตสฺส วา อตฺถาย อุทฺทิสฺสกตํ สพฺเพสํ น กปฺปติ.

สเจ ปน โกจิ เอกํ ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส ปาณํ วธิตฺวา ตสฺส ปตฺตํ ปูเรตฺวา เทติ, โส จ อตฺตโน อตฺถาย กตภาวํ ชานํเยว คเหตฺวา อฺสฺส ภิกฺขุโน เทติ, โส ตํ ตสฺส สทฺธาย ปริภุฺชติ, กสฺส อาปตฺตีติ? ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺติ. ยฺหิ อุทฺทิสฺส กตํ, ตสฺส อภุตฺตตาย อนาปตฺติ, อิตรสฺส อชานนตาย. กปฺปิยมํสสฺส หิ ปฏิคฺคหเณ อาปตฺติ นตฺถิ, อุทฺทิสฺสกตฺจ อชานิตฺวา ภุตฺตสฺส ปจฺฉา ตฺวา อาปตฺติเทสนากิจฺจํ นาม นตฺถิ. อกปฺปิยมํสํ ปน อชานิตฺวา ภุตฺเตน ปจฺฉา ตฺวาปิ อาปตฺติ เทเสตพฺพา. อุทฺทิสฺสกตฺหิ ตฺวา ภุฺชโตว อาปตฺติ, อกปฺปิยมํสํ อชานิตฺวา ภุฺชนฺตสฺสปิ อาปตฺติเยว, ตสฺมา อาปตฺติภีรุเกน รูปํ สลฺลกฺเขนฺเตนปิ ปุจฺฉิตฺวาว มํสํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ. ปริโภคกาเล ‘‘ปุจฺฉิตฺวา ปริภุฺชิสฺสามี’’ติ วา คเหตฺวา ปุจฺฉิตฺวาว ปริภุฺชิตพฺพํ. กสฺมา? ทุวิฺเยฺยตฺตา. อจฺฉมํสมฺปิ หิ สูกรมํสสทิสํ โหติ, ทีปิมํสาทีนิ จ มิคมํสาทิสทิสานิ, ตสฺมา ปุจฺฉิตฺวา คหณเมว วตฺตนฺติ วทนฺติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

มจฺฉมํสวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๗. อนามาสวินิจฺฉยกถา

๔๐. อนามาสนฺติ น ปรามสิตพฺพํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๑) – ยสฺมา มาตา วา โหตุ ธีตา วา ภคินี วา, อิตฺถี นาม สพฺพาปิ พฺรหฺมจริยสฺส ปาริพนฺถิกาว อนามาสา จ, ตสฺมา ‘‘อยํ เม มาตา, อยํ เม ธีตา, อยํ เม ภคินี’’ติ เคหสฺสิตเปเมน อามสโตปิ ทุกฺกฏเมว วุตฺตํ. อิมํ ปน ภควโต อาณํ อนุสฺสรนฺเตน สเจปิ นทีโสเตน วุยฺหมานํ มาตรํ ปสฺสติ, เนว หตฺเถน ปรามสิตพฺพา, ปณฺฑิเตน ปน ภิกฺขุนา นาวา วา ผลกํ วา กทลิกฺขนฺโธ วา ทารุกฺขนฺโธ วา อุปสํหริตพฺโพ. ตสฺมึ อสติ กาสาวมฺปิ อุปสํหริตฺวา ปุรโต เปตพฺพํ, ‘‘เอตฺถ คณฺหาหี’’ติ ปน น วตฺตพฺพา. คหิเต ‘‘ปริกฺขารํ กฑฺฒามี’’ติ กฑฺฒนฺเตน คนฺตพฺพํ. สเจ ปน ภายติ, ปุรโต ปุรโต คนฺตฺวา ‘‘มา ภายี’’ติ สมสฺสาเสตพฺพา. สเจ ภายมานา ปุตฺตสฺส สหสา ขนฺเธ วา อภิรุหติ, หตฺเถ วา คณฺหาติ, น ‘‘อเปหิ มหลฺลิเก’’ติ นิทฺธุนิตพฺพา, ถลํ ปาเปตพฺพา. กทฺทเม ลคฺคายปิ กูเป ปติตายปิ เอเสว นโย. ตตฺราปิ หิ โยตฺตํ วา วตฺถํ วา ปกฺขิปิตฺวา หตฺเถน คหิตภาวํ ตฺวา อุทฺธริตพฺพา, น ตฺเวว อามสิตพฺพา.

น เกวลฺจ มาตุคามสฺส สรีรเมว อนามาสํ, นิวาสนปารุปนมฺปิ อาภรณภณฺฑมฺปิ อนฺตมโส ติณณฺฑุปกํ วา ตาลปณฺณมุทฺทิกํ วา อุปาทาย อนามาสเมว. ตฺจ โข นิวาสนปาวุรณํ ปิฬนฺธนตฺถาย ปิตเมว. สเจ ปน นิวาสนํ วา ปารุปนํ วา ปริวตฺเตตฺวา จีวรตฺถาย ปาทมูเล เปติ, วฏฺฏติ. อาภรณภณฺเฑสุ ปน สีสปสาธนทนฺตสูจิอาทิกปฺปิยภณฺฑํ ‘‘อิมํ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ เทม, คณฺหถา’’ติ ทียมานํ สิปาฏิกาสูจิอาทิอุปกรณตฺถาย คเหตพฺพํ. สุวณฺณรชตมุตฺตาทิมยํ ปน อนามาสเมว, ทียมานมฺปิ น คเหตพฺพํ. น เกวลฺจ เอตาสํ สรีรูปคเมว อนามาสํ, อิตฺถิสณฺาเนน กตํ กฏฺรูปมฺปิ ทนฺตรูปมฺปิ อยรูปมฺปิ โลหรูปมฺปิ ติปุรูปมฺปิ โปตฺถกรูปมฺปิ สพฺพรตนรูปมฺปิ อนฺตมโส ปิฏฺมยรูปมฺปิ อนามาสเมว. ปริโภคตฺถาย ปน ‘‘อิทํ ตุมฺหากํ โหตู’’ติ ลภิตฺวา เปตฺวา สพฺพรตนมยํ อวเสสํ ภินฺทิตฺวา อุปกรณารหํ อุปกรเณ, ปริโภคารหํ ปริโภเค อุปเนตุํ วฏฺฏติ.

๔๑. ยถา จ อิตฺถิรูปกํ, เอวํ สตฺตวิธํ ธฺมฺปิ อนามาสเมว. ตสฺมา เขตฺตมชฺเฌน คจฺฉนฺเตน ตตฺถชาตกมฺปิ ธฺผลํ น อามสนฺเตน คนฺตพฺพํ. สเจ ฆรทฺวาเร วา อนฺตรามคฺเค วา ธฺํ ปสาริตํ โหติ, ปสฺเสน จ มคฺโค อตฺถิ, น มทฺทนฺเตน คนฺตพฺพํ. คมนมคฺเค อสติ มคฺคํ อธิฏฺาย คนฺตพฺพํ. อนฺตรฆเร ธฺสฺส อุปริ อาสนํ ปฺเปตฺวา เทนฺติ, นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. เกจิ อาสนสาลาย ธฺํ อากิรนฺติ, สเจ สกฺกา โหติ หราเปตุํ, หราเปตพฺพํ. โน เจ, เอกมนฺตํ ธฺํ อมทฺทนฺเตน ปีกํ ปฺเปตฺวา นิสีทิตพฺพํ. สเจ โอกาโส น โหติ, มนุสฺสา ธฺมชฺเฌเยว ปฺเปตฺวา เทนฺติ, นิสีทิตพฺพํ. ตตฺถชาตกานิ มุคฺคมาสาทีนิ อปรณฺณานิปิ ตาลปนสาทีนิ วา ผลานิ กีฬนฺเตน น อามสิตพฺพานิ. มนุสฺเสหิ ราสิกเตสุปิ เอเสว นโย. อรฺเ ปน รุกฺขโต ปติตานิ ผลานิ ‘‘อนุปสมฺปนฺนานํ ทสฺสามี’’ติ คณฺหิตุํ วฏฺฏติ.

๔๒. มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตงฺโก มสารคลฺลนฺติ อิเมสุ ทสสุ รตเนสุ มุตฺตา อโธตา อวิทฺธา ยถาชาตาว อามสิตุํ วฏฺฏติ, เสสา อนามาสาติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘มุตฺตา โธตาปิ อโธตาปิ อนามาสา, ภณฺฑมูลตฺถาย จ สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ, กุฏฺโรคสฺส เภสชฺชตฺถาย ปน วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ. อนฺตมโส ชาติผลิกํ อุปาทาย สพฺโพปิ นีลปีตาทิวณฺณเภโท มณิ โธตวิทฺธวฏฺฏิโต อนามาโส, ยถาชาโต ปน อากรมุตฺโต ปตฺตาทิภณฺฑมูลตฺถํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ, ตมฺปิ มหาปจฺจริยํ ปฏิกฺขิตฺตํ. ปจิตฺวา กโต กาจมณิเยเวโก วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. เวฬุริเยปิ มณิสทิโสว วินิจฺฉโย.

สงฺโข ธมนสงฺโข จ โธตวิทฺโธ จ รตนมิสฺโส อนามาโส, ปานียสงฺโข โธโตปิ อโธโตปิ อามาโสว. เสสฺจ อฺชนาทิเภสชฺชตฺถายปิ ภณฺฑมูลตฺถายปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. สิลา โธตวิทฺธา รตนสํยุตฺตา มุคฺควณฺณาว อนามาสา, เสสา สตฺถกนิฆํสนาทิอตฺถาย คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ จ รตนสํยุตฺตาติ สุวณฺเณน สทฺธึ โยเชตฺวา ปจิตฺวา กตาติ วทนฺติ. ปวาฬํ โธตวิทฺธํ อนามาสํ, เสสํ อามาสฺจ ภณฺฑมูลตฺถฺจ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘โธตมฺปิ อโธตมฺปิ สพฺพํ อนามาสฺจ น จ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ.

รชตฺจ ชาตรูปฺจ กตภณฺฑมฺปิ อกตภณฺฑมฺปิ สพฺเพน สพฺพํ พีชโต ปฏฺาย อนามาสฺจ อสมฺปฏิจฺฉนียฺจ. อุตฺตรราชปุตฺโต กิร สุวณฺณเจติยํ การาเปตฺวา มหาปทุมตฺเถรสฺส เปเสสิ. เถโร ‘‘น กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปิ. เจติยฆเร สุวณฺณปทุมสุวณฺณพุพฺพุฬกาทีนิ โหนฺติ, เอตานิปิ อนามาสานิ. เจติยฆรโคปกา ปน รูปิยฉฑฺฑกฏฺาเน ิตา, ตสฺมา เตสํ เกฬาปยิตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. กุรุนฺธิยํ ปน ตมฺปิ ปฏิกฺขิตฺตํ, สุวณฺณเจติเย กจวรเมว หริตุํ วฏฺฏตีติ เอตฺตกเมว อนุฺาตํ. อารกูฏโลหมฺปิ ชาตรูปคติกเมว อนามาสนฺติ สพฺพฏฺกถาสุ วุตฺตํ. เสนาสนปริโภเค ปน สพฺโพปิ กปฺปิโย, ตสฺมา ชาตรูปรชตมยา สพฺเพปิ เสนาสนปริกฺขารา อามาสา, ภิกฺขูนํ ธมฺมวินยวณฺณนฏฺาเน รตนมณฺฑเป กโรนฺติ ผลิกตฺถมฺเภ รตนทามปฏิมณฺฑิเต, ตตฺถ สพฺพูปกรณานิ ภิกฺขูนํ ปฏิชคฺคิตุํ วฏฺฏนฺติ. โลหิตงฺกมสารคลฺลา โธตวิทฺธา อนามาสา, อิตเร อามาสา, ภณฺฑมูลตฺถาย จ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘โธตาปิ อโธตาปิ สพฺพโส อนามาสา, น จ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏนฺตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตํ.

๔๓. สพฺพํ อาวุธภณฺฑํ อนามาสํ, ภณฺฑมูลตฺถาย ทียมานมฺปิ น สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. สตฺถวณิชฺชา นาม น วฏฺฏติ. สุทฺธธนุทณฺโฑปิ ธนุชิยาปิ ปโตโทปิ โตมโรปิ องฺกุโสปิ อนฺตมโส วาสิผรสุอาทีนิปิ อาวุธสงฺเขเปน กตานิ อนามาสานิ. สเจ เกนจิ วิหาเร สตฺติ วา โตมโร วา ปิโต โหติ, วิหารํ ชคฺคนฺเตน ‘‘หรนฺตู’’ติ สามิกานํ เปเสตพฺพํ. สเจ น หรนฺติ, ตํ อจาเลนฺเตน วิหาโร ปฏิชคฺคิตพฺโพ. ยุทฺธภูมิยํ ปน ปติตํ อสึ วา สตฺตึ วา โตมรํ วา ทิสฺวา ปาสาเณน วา เกนจิ วา อสึ ภินฺทิตฺวา สตฺถกตฺถาย คเหตุํ วฏฺฏติ. อิตรานิปิ วิโยเชตฺวา กิฺจิ สตฺถกตฺถาย, กิฺจิ กตฺตรทณฺฑาทิอตฺถาย คเหตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อิทํ คณฺหถา’’ติ ทียมานํ ปน วินาเสตฺวา ‘‘กปฺปิยภณฺฑํ กริสฺสามี’’ติ สพฺพมฺปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ.

มจฺฉชาลปกฺขิชาลาทีนิปิ ผลกชาลิกาทีนิปิ สรปริตฺตาณานิปิ สพฺพานิ อนามาสานิ, ปริโภคตฺถาย ลพฺภมาเนสุ ปน ชาลํ ตาว ‘‘อาสนสฺส วา เจติยสฺส วา อุปริ พนฺธิสฺสามิ, ฉตฺตํ วา เวเสฺสามี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ. สรปริตฺตาณํ สพฺพมฺปิ ภณฺฑมูลตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. ปรูปโรธนิวารณฺหิ เอตํ, น อุปโรธกรนฺติ. ผลกํ ‘‘ทนฺตกฏฺภาชนํ กริสฺสามี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ.

จมฺมวินทฺธานิ วีณาเภริอาทีนิ อนามาสานิ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘เภริสงฺฆาโฏปิ วีณาสงฺฆาโฏปิ ตุจฺฉโปกฺขรมฺปิ มุขวฏฺฏิยํ อาโรปิตจมฺมมฺปิ วีณาทณฺฑโกปิ สพฺพํ อนามาส’’นฺติ วุตฺตํ. โอนหิตุํ วา โอนหาเปตุํ วา วาเทตุํ วา วาทาเปตุํ วา น ลพฺภติเยว. เจติยงฺคเณ ปูชํ กตฺวา มนุสฺเสหิ ฉฑฺฑิตํ ทิสฺวาปิ อจาเลตฺวาว อนฺตรนฺตเร สมฺมชฺชิตพฺพํ, กจวรฉฑฺฑนกาเล ปน กจวรนิยาเมเนว หริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ภณฺฑมูลตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุมฺปิ วฏฺฏติ, ปริโภคตฺถาย ลพฺภมาเนสุ ปน วีณาโทณิกฺจ เภริโปกฺขรฺจ ทนฺตกฏฺภาชนํ กริสฺสาม, จมฺมํ สตฺถกโกสกนฺติ เอวํ ตสฺส ตสฺส ปริกฺขารสฺส อุปกรณตฺถาย คเหตฺวา ตถา ตถา กาตุํ วฏฺฏติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

อนามาสวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๘. อธิฏฺานวิกปฺปนวินิจฺฉยกถา

๔๔. อธิฏฺานวิกปฺปเนสุ ปน – อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติจีวรํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ, วสฺสิกสาฏิกํ วสฺสานํ จาตุมาสํ อธิฏฺาตุํ ตโต ปรํ วิกปฺเปตุํ, นิสีทนํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ, ปจฺจตฺถรณํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ, กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทึ ยาว อาพาธา อธิฏฺาตุํ ตโต ปรํ วิกปฺเปตุํ, มุขปุฺฉนโจฬํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ, ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘) วจนโต ติจีวราทินิยาเมเนว อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชิตุกอาเมน ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติอาทินา นามํ วตฺวา อธิฏฺาตพฺพํ. วิกปฺเปนฺเตน ปน นามํ อคฺคเหตฺวาว ‘‘อิมํ จีวรํ ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วตฺวา วิกปฺเปตพฺพํ. ตตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) ติจีวรํ อธิฏฺหนฺเตน รชิตฺวา กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา ปมาณยุตฺตเมว อธิฏฺาตพฺพํ. อสฺส ปมาณํ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน สุคตจีวรโต อูนกํ วฏฺฏติ, ลามกปริจฺเฉเทน สงฺฆาฏิยา อุตฺตราสงฺคสฺส จ ทีฆโต มุฏฺิปฺจกํ, ติริยํ มุฏฺิตฺติกํ ปมาณํ วฏฺฏติ. อนฺตรวาสโก ทีฆโส มุฏฺิปฺจโก, ติริยํ ทฺวิหตฺโถปิ วฏฺฏติ. ปารุปเนนปิ หิ สกฺกา นาภึ ปฏิจฺฉาเทตุนฺติ. วุตฺตปฺปมาณโต ปน อติเรกฺจ อูนกฺจ ‘‘ปริกฺขารโจฬก’’นฺติ อธิฏฺาตพฺพํ.

ตตฺถ ยสฺมา ‘‘ทฺเว จีวรสฺส อธิฏฺานา กาเยน วา อธิฏฺเติ, วาจาย วา อธิฏฺเตี’’ติ (ปริ. ๓๒๒) วุตฺตํ, ตสฺมา ปุราณสงฺฆาฏึ ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ ปจฺจุทฺธริตฺวา นวํ สงฺฆาฏึ หตฺเถน คเหตฺวา ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติ จิตฺเตน อาโภคํ กตฺวา กายวิการํ กโรนฺเตน กาเยน อธิฏฺาตพฺพา. อิทํ กาเยน อธิฏฺานํ, ตํ เยน เกนจิ สรีราวยเวน อผุสนฺตสฺส น วฏฺฏติ. วาจาย อธิฏฺาเน ปน วจีเภทํ กตฺวา วาจาย อธิฏฺาตพฺพา. ตตฺร ทุวิธํ อธิฏฺานํ – สเจ หตฺถปาเส โหติ, ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา. อถ อนฺโตคพฺเภ วา อุปริปาสาเท วา สามนฺตวิหาเร วา โหติ, ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘เอตํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา. เอส นโย อุตฺตราสงฺเค อนฺตรวาสเก จ. นามมตฺตเมว หิ วิเสโส, ตสฺมา สพฺพานิ สงฺฆาฏึ อุตฺตราสงฺคํ อนฺตรวาสกนฺติ เอวํ อตฺตโน นาเมเนว อธิฏฺาตพฺพานิ. สเจ อธิฏฺหิตฺวา ปิตวตฺเถหิ สงฺฆาฏิอาทีนิ กโรติ, นิฏฺิเต รชเน จ กปฺเป จ ‘‘อิมํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปุน อธิฏฺาตพฺพานิ. อธิฏฺิเตน ปน สทฺธึ มหนฺตตรเมว ทุติยปฏฺฏํ วา ขณฺฑํ วา สิพฺพนฺเตน ปุน อธิฏฺาตพฺพํ. สเม วา ขุทฺทเก วา อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ.

ติจีวรํ ปน ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติ, น วฏฺฏตีติ? มหาปทุมตฺเถโร กิราห ‘‘ติจีวรํ ติจีวรเมว อธิฏฺาตพฺพํ, สเจ ปริกฺขารโจฬาธิฏฺานํ ลเภยฺย, อุโทสิตสิกฺขาปเท ปริหาโร นิรตฺถโก ภเวยฺยา’’ติ. เอวํ วุตฺเต กิร อวเสสา ภิกฺขู อาหํสุ ‘‘ปริกฺขารโจฬมฺปิ ภควตาว ‘อธิฏฺาตพฺพ’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา วฏฺฏตี’’ติ. มหาปจฺจริยมฺปิ วุตฺตํ ‘‘ปริกฺขารโจฬํ นาม ปาเฏกฺกํ นิธานมุขเมตํ. ติจีวรํ ‘ปริกฺขารโจฬ’นฺติ อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, อุโทสิตสิกฺขาปเท (ปารา. ๔๗๑ อาทโย) ปน ติจีวรํ อธิฏฺหิตฺวา ปริหรนฺตสฺส ปริหาโร วุตฺโต’’ติ. อุภโตวิภงฺคภาณโก ปุณฺณวาลิกวาสี มหาติสฺสตฺเถโรปิ กิราห ‘‘มยํ ปุพฺเพ มหาเถรานํ อสฺสุมฺหา ‘อรฺวาสิโน ภิกฺขู รุกฺขสุสิราทีสุ จีวรํ เปตฺวา ปธานํ ปทหนตฺถาย คจฺฉนฺติ, สามนฺตวิหาเร ธมฺมสฺสวนตฺถาย คตานฺจ เตสํ สูริเย อุฏฺิเต สามเณรา วา ทหรภิกฺขู วา ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, ตสฺมา สุขปริโภคตฺถํ ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏตี’’’ติ. มหาปจฺจริยมฺปิ วุตฺตํ ‘‘ปุพฺเพ อารฺิกา ภิกฺขู อพทฺธสีมาย ทุปฺปริหารนฺติ ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬเมว อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชึสู’’ติ.

๔๕. วสฺสิกสาฏิกา อนติริตฺตปฺปมาณา นามํ คเหตฺวา วุตฺตนเยเนว จตฺตาโร วสฺสิเก มาเส อธิฏฺาตพฺพา, ตโต ปรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพา. วณฺณเภทมตฺตรตฺตาปิ เจสา วฏฺฏติ, ทฺเว ปน น วฏฺฏนฺติ. นิสีทนํ วุตฺตนเยน อธิฏฺาตพฺพเมว, ตฺจ โข ปมาณยุตฺตํ เอกเมว, ทฺเว น วฏฺฏนฺติ. ปจฺจตฺถรณมฺปิ อธิฏฺาตพฺพเมว, ตํ ปน มหนฺตมฺปิ วฏฺฏติ, เอกมฺปิ วฏฺฏติ, พหูนิปิ วฏฺฏนฺติ, นีลมฺปิ ปีตกมฺปิ สทสมฺปิ ปุปฺผทสมฺปีติ สพฺพปฺปการํ วฏฺฏติ. กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ ยาว อาพาโธ อตฺถิ, ตาว ปมาณิกา อธิฏฺาตพฺพา. อาพาเธ วูปสนฺเต ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพา, เอกาว วฏฺฏติ. มุขปุฺฉนโจฬํ อธิฏฺาตพฺพเมว, ยาว เอกํ โธวียติ, ตาว อฺํ ปริโภคตฺถาย อิจฺฉิตพฺพนฺติ ทฺเวปิ วฏฺฏนฺติ. อปเร ปน เถรา ‘‘นิธานมุขเมตํ, พหูนิปิ วฏฺฏนฺตี’’ติ วทนฺติ. ปริกฺขารโจเฬ คณนา นตฺถิ, ยตฺตกํ อิจฺฉติ, ตตฺตกํ อธิฏฺาตพฺพเมว. ถวิกาปิ ปริสฺสาวนมฺปิ วิกปฺปนูปคปจฺฉิมจีวรปฺปมาณํ ‘‘ปริกฺขารโจฬ’’นฺติ อธิฏฺาตพฺพเมว. ตสฺส ปมาณํ ทีฆโต ทฺเว วิทตฺถิโย ติริยํ วิทตฺถิ, ตํ ปน ทีฆโต วฑฺฒกีหตฺถปฺปมาณํ, วิตฺถารโต ตโต อุปฑฺฒปฺปมาณํ โหติ. ตตฺรายํ ปาฬิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อายาเมน อฏฺงฺคุลํ สุคตงฺคุเลน จตุรงฺคุลวิตฺถตํ ปจฺฉิมํ จีวรํ วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘). พหูนิปิ เอกโต กตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ ปริกฺขารโจฬานิ อธิฏฺามี’’ติ อธิฏฺาตุมฺปิ วฏฺฏติเยว. เภสชฺชนวกมฺมมาตาปิตุอาทีนํ อตฺถาย เปนฺเตน อนธิฏฺิเตปิ นตฺถิ อาปตฺติ. มฺจภิสิ ปีภิสิ พิมฺโพหนํ ปาวาโร โกชโวติ เอเตสุ ปน เสนาสนปริกฺขารตฺถาย ทินฺนปจฺจตฺถรเณ จ อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิเยว.

สเจ ปน (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๓๖-๓๘) าตกปวาริตฏฺานโต สุตฺตํ ลภิตฺวา าตกปวาริเตเนว ตนฺตวาเยน อฺเน วา มูลํ ทตฺวา จีวรํ วายาเปติ, วายาปนปจฺจยา อนาปตฺติ. ทสาหาติกฺกมนปจฺจยา ปน อาปตฺตึ รกฺขนฺเตน วิกปฺปนุปคปฺปมาณมตฺเต วีเต ตนฺเต ิตํเยว อธิฏฺาตพฺพํ. ทสาหาติกฺกเมน นิฏฺาปิยมานฺหิ นิสฺสคฺคิยํ ภเวยฺยาติ. าตกาทีหิ ตนฺตํ อาโรปาเปตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ, ภนฺเต, อิทํ จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ นิยฺยาติเตปิ เอเสว นโย.

สเจ ตนฺตวาโย เอวํ ปโยชิโต วา สยํ ทาตุกาโม วา หุตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ จีวรํ อสุกทิวเส นาม วายิตฺวา เปสฺสามี’’ติ วทติ, ภิกฺขุ จ เตน ปริจฺฉินฺนทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกาเมติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน ตนฺตวาโย ‘‘อหํ ตุมฺหากํ จีวรํ วายิตฺวา สาสนํ เปเสสฺสามี’’ติ วตฺวา ตเถว กโรติ, เตน เปสิตภิกฺขุ ปน ตสฺส ภิกฺขุโน น อาโรเจติ, อฺโ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา ‘‘ตุมฺหากํ, ภนฺเต, จีวรํ นิฏฺิต’’นฺติ อาโรเจติ, เอตสฺส อาโรจนํ น ปมาณํ. ยทา ปน เตน เปสิโตเยว อาโรเจติ, ตสฺส วจนํ สุตทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ.

สเจ ตนฺตวาโย ‘‘อหํ ตุมฺหากํ จีวรํ วายิตฺวา กสฺสจิ หตฺเถ ปหิณิสฺสามี’’ติ วตฺวา ตเถว กโรติ, จีวรํ คเหตฺวา คตภิกฺขุ ปน อตฺตโน ปริเวเณ เปตฺวา ตสฺส น อาโรเจติ, อฺโ โกจิ ภณติ ‘‘อปิ, ภนฺเต, อธุนา อาภตํ จีวรํ สุนฺทร’’นฺติ. กุหึ, อาวุโส, จีวรนฺติ. อิตฺถนฺนามสฺส หตฺเถ เปสิตนฺติ. เอตสฺสปิ วจนํ น ปมาณํ. ยทา ปน โส ภิกฺขุ จีวรํ เทติ, ลทฺธทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน วายาปนมูลํ อทินฺนํ โหติ, ยาว กากณิกมตฺตมฺปิ อวสิฏฺํ, ตาว รกฺขติ.

๔๖. อธิฏฺิตจีวรํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) ปน ปริภุฺชโต กถํ อธิฏฺานํ วิชหตีติ? อฺสฺส ทาเนน อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณน วิสฺสาสคฺคาเหน หีนายาวตฺตเนน สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน กาลกิริยาย ลิงฺคปริวตฺตเนน ปจฺจุทฺธรเณน ฉิทฺทภาเวนาติ อิเมหิ นวหิ การเณหิ วิชหติ. ตตฺถ ปุริเมหิ อฏฺหิ สพฺพจีวรานิ อธิฏฺานํ วิชหนฺติ, ฉิทฺทภาเวน ปน ติจีวรสฺเสว สพฺพฏฺกถาสุ อธิฏฺานวิชหนํ วุตฺตํ, ตฺจ นขปิฏฺิปฺปมาเณน ฉิทฺเทน. ตตฺถ นขปิฏฺิปฺปมาณํ กนิฏฺงฺคุลินขวเสน เวทิตพฺพํ, ฉิทฺทฺจ วินิวิทฺธฉิทฺทเมว. ฉิทฺทสฺส หิ อพฺภนฺตเร เอกตนฺตุ เจปิ อจฺฉินฺโน โหติ, รกฺขติ. ตตฺถ สงฺฆาฏิยา จ อุตฺตราสงฺคสฺส จ ทีฆนฺตโต วิทตฺถิปฺปมาณสฺส, ติริยนฺตโต อฏฺงฺคุลปฺปมาณสฺส ปเทสสฺส โอรโต ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทติ, อนฺตรวาสกสฺส ปน ทีฆนฺตโต วิทตฺถิปฺปมาณสฺเสว, ติริยนฺตโต จตุรงฺคุลปฺปมาณสฺส ปเทสสฺส โอรโต ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทติ, ปรโต น ภินฺทติ, ตสฺมา ชาเต ฉิทฺเท ติจีวรํ อติเรกจีวรฏฺาเน ติฏฺติ, สูจิกมฺมํ กตฺวา ปุน อธิฏฺาตพฺพํ. โย ปน ทุพฺพลฏฺาเน ปมํ อคฺคฬํ ทตฺวา ปจฺฉา ทุพฺพลฏฺานํ ฉินฺทิตฺวา อปเนติ, อธิฏฺานํ น ภิชฺชติ. มณฺฑลปริวตฺตเนปิ เอเสว นโย. ทุปฏฺฏสฺส เอกสฺมึ ปฏเล ฉิทฺเท วา ชาเต คฬิเต วา อธิฏฺานํ น ภิชฺชติ, ขุทฺทกํ จีวรํ มหนฺตํ กโรติ, มหนฺตํ วา ขุทฺทกํ กโรติ, อธิฏฺานํ น ภิชฺชติ. อุโภ โกฏิโย มชฺเฌ กโรนฺโต สเจ ปมํ ฉินฺทิตฺวา ปจฺฉา ฆเฏติ, อธิฏฺานํ ภิชฺชติ. อถ ฆเฏตฺวา ฉินฺทติ, น ภิชฺชติ. รชเกหิ โธวาเปตฺวา เสตํ การาเปนฺตสฺสปิ อธิฏฺานํ อธิฏฺานเมวาติ. อยํ ตาว อธิฏฺาเน วินิจฺฉโย.

๔๗. วิกปฺปเน ปน ทฺเว วิกปฺปนา สมฺมุขาวิกปฺปนา ปรมฺมุขาวิกปฺปนา จ. กถํ สมฺมุขาวิกปฺปนา โหติ? จีวรานํ เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ‘‘อิมํ จีวร’’นฺติ วา ‘‘อิมานิ จีวรานี’’ติ วา ‘‘เอตํ จีวร’’นฺติ วา ‘‘เอตานิ จีวรานี’’ติ วา วตฺวา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วตฺตพฺพํ, อยเมกา สมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริภุฺชิตุํ ปน วิสฺสชฺเชตุํ วา อธิฏฺาตุํ วา น วฏฺฏติ. ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ, มยฺหํ สนฺตกานิ ปริภุฺช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ เอวํ ปน วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.

อปโร นโย – ตเถว จีวรานํ เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ตสฺเสว ภิกฺขุโน สนฺติเก ‘‘อิมํ จีวร’’นฺติ วา ‘‘อิมานิ จีวรานี’’ติ วา ‘‘เอตํ จีวร’’นฺติ วา ‘‘เอตานิ จีวรานี’’ติ วา วตฺวา ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ อฺตรสฺส อตฺตนา อภิรุจิตสฺส ยสฺส กสฺสจิ นามํ คเหตฺวา ‘‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน วิกปฺเปมี’’ติ วา ‘‘ติสฺสาย ภิกฺขุนิยา, ติสฺสาย สิกฺขมานาย, ติสฺสสฺส สามเณรสฺส, ติสฺสาย สามเณริยา วิกปฺเปมี’’ติ วา วตฺตพฺพํ, อยํ อปราปิ สมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริโภคาทีสุ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. เตน ปน ภิกฺขุนา ‘‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน สนฺตกํ…เป… ติสฺสาย สามเณริยา สนฺตกํ ปริภุฺช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.

กถํ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา โหติ? จีวรานํ ตเถว เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ‘‘อิมํ จีวร’’นฺติ วา ‘‘อิมานิ จีวรานี’’ติ วา ‘‘เอตํ จีวร’’นฺติ วา ‘‘เอตานิ จีวรานี’’ติ วา วตฺวา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺปนตฺถาย ทมฺมี’’ติ วตฺตพฺพํ. เตน วตฺตพฺโพ ‘‘โก เต มิตฺโต วา สนฺทิฏฺโ วา’’ติ. ตโต อิตเรน ปุริมนเยเนว ‘‘ติสฺโส ภิกฺขู’’ติ วา…เป… ‘‘ติสฺสา สามเณรี’’ติ วา วตฺตพฺพํ. ปุน เตน ภิกฺขุนา ‘‘อหํ ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน ทมฺมี’’ติ วา…เป… ‘‘ติสฺสาย สามเณริยา ทมฺมี’’ติ วา วตฺตพฺพํ, อยํ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริโภคาทีสุ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. เตน ปน ภิกฺขุนา ทุติยสมฺมุขาวิกปฺปนายํ วุตฺตนเยเนว ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส สนฺตกํ ปริภุฺช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.

ทฺวินฺนํ วิกปฺปนานํ กึ นานากรณํ? สมฺมุขาวิกปฺปนายํ สยํ วิกปฺเปตฺวา ปเรน ปจฺจุทฺธราเปติ, ปรมฺมุขาวิกปฺปนายํ ปเรเนว วิกปฺปาเปตฺวา ปเรเนว ปจฺจุทฺธราเปติ, อิทเมตฺถ นานากรณํ. สเจ ปน ยสฺส วิกปฺเปติ, โส ปฺตฺติโกวิโท น โหติ, น ชานาติ ปจฺจุทฺธริตุํ, ตํ จีวรํ คเหตฺวา อฺสฺส พฺยตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุน วิกปฺเปตฺวา ปเรน ปจฺจุทฺธราเปตพฺพํ. วิกปฺปิตวิกปฺปนา นาเมสา วฏฺฏติ. เอวํ ตาว จีวเร อธิฏฺานวิกปฺปนานโย เวทิตพฺโพ.

๔๘. ปตฺเต ปน อยํ นโย – ปตฺตํ อธิฏฺหนฺเตน อุกฺกฏฺมชฺฌิโมมกานํ อฺตโร ปมาณยุตฺโตว อธิฏฺาตพฺโพ. ตสฺส ปมาณํ ‘‘อฑฺฒาฬฺหโกทนํ คณฺหาตี’’ติอาทินา (ปารา. ๖๐๒) นเยน ปาฬิยํ วุตฺตํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒ อาทโย) – อนุปหตปุราณสาลิตณฺฑุลานํ สุโกฏฺฏิตปริสุทฺธานํ ทฺเว มคธนาฬิโย คเหตฺวา เตหิ ตณฺฑุเลหิ อนุตฺตณฺฑุลมกิลินฺนมปิณฺฑิตํ สุวิสทํ กุนฺทมกุฬราสิสทิสํ อวสฺสาวิโตทนํ ปจิตฺวา นิรวเสสํ ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา ตสฺส โอทนสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาโณ นาติฆโน นาติตนุโก หตฺถหาริโย สพฺพสมฺภารสงฺขโต มุคฺคสูโป ปกฺขิปิตพฺโพ, ตโต อาโลปสฺส อาโลปสฺส อนุรูปํ ยาวจริมาโลปปฺปโหนกํ มจฺฉมํสาทิพฺยฺชนํ ปกฺขิปิตพฺพํ, สปฺปิเตลตกฺกรสกฺชิกาทีนิ ปน คณนูปคานิ น โหนฺติ. ตานิ หิ โอทนคติกานิ โหนฺติ, เนว หาเปตุํ, น วฑฺเฒตุํ สกฺโกนฺติ. เอวเมตํ สพฺพมฺปิ ปกฺขิตฺตํ สเจ ปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิยา เหฏฺิมราชิสมํ ติฏฺติ, สุตฺเตน วา หีเรน วา ฉินฺทนฺตสฺส สุตฺตสฺส วา หีรสฺส วา เหฏฺิมนฺตํ ผุสติ, อยํ อุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ อติกฺกมฺม ถูปีกตํ ติฏฺติ, อยํ อุกฺกฏฺโมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ น สมฺปาปุณาติ อนฺโตคธเมว โหติ, อยํ อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต.

อุกฺกฏฺโต อุปฑฺฒปฺปมาโณ มชฺฌิโม นาม ปตฺโต. มชฺฌิมโต อุปฑฺฒปฺปมาโณ โอมโก. ตสฺมา สเจ มคธนาฬิยา นาฬิโกทนาทิสพฺพมฺปิ ปกฺขิตฺตํ วุตฺตนเยเนว เหฏฺิมราชิสมํ ติฏฺติ, อยํ มชฺฌิโม นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ อติกฺกมฺม ถูปีกตํ ติฏฺติ, อยํ มชฺฌิโมมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ น สมฺปาปุณาติ อนฺโตคธเมว โหติ, อยํ มชฺฌิมุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต. สเจ มคธนาฬิยา อุปฑฺฒนาฬิโกทนาทิสพฺพมฺปิ ปกฺขิตฺตํ เหฏฺิมราชิสมํ ติฏฺติ, อยํ โอมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ อติกฺกมฺม ถูปีกตํ ติฏฺติ, อยํ โอมโกมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ น สมฺปาปุณาติ อนฺโตคธเมว โหติ, อยํ โอมกุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต. เอวเมเต นว ปตฺตา. เตสุ ทฺเว อปตฺตา อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโ จ โอมโกมโก จาติ. ตสฺมา เอเต ภาชนปริโภเคน ปริภุฺชิตพฺพา, น อธิฏฺานูปคา น วิกปฺปนูปคา. อิตเร ปน สตฺต อธิฏฺหิตฺวา วา วิกปฺเปตฺวา วา ปริภุฺชิตพฺพา.

ปมาณยุตฺตานมฺปิ เอเตสํ อธิฏฺานวิกปฺปนูปคตฺตํ เอวํ เวทิตพฺพํ – อโยปตฺโต ปฺจหิ ปาเกหิ, มตฺติกาปตฺโต ทฺวีหิ ปาเกหิ ปกฺโก อธิฏฺานูปโค. อุโภปิ ยํ มูลํ ทาตพฺพํ, ตสฺมึ ทินฺเนเยว. สเจ เอโกปิ ปาโก อูโน โหติ, กากณิกมตฺตมฺปิ วา มูลํ อทินฺนํ, น อธิฏฺานูปโค. สเจ ปตฺตสามิโก วทติ ‘‘ยทา ตุมฺหากํ มูลํ ภวิสฺสติ, ตทา ทสฺสถ อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชถา’’ติ, เนว อธิฏฺานูปโค โหติ, ปากสฺส หิ อูนตฺตา ปตฺตสงฺขฺยํ น คจฺฉติ, มูลสฺส สกลสฺส วา เอกเทสสฺส วา อทินฺนตฺตา สกภาวํ น อุเปติ, อฺสฺเสว สนฺตโก โหติ, ตสฺมา ปาเก จ มูเล จ สุนิฏฺิเตเยว อธิฏฺานูปโค โหติ. โย อธิฏฺานูปโค, สฺเวว วิกปฺปนูปโค. โส หตฺถํ อาคโตปิ อนาคโตปิ อธิฏฺาตพฺโพ วิกปฺเปตพฺโพ วา. ยทิ หิ ปตฺตการโก มูลํ ลภิตฺวา สยํ วา ทาตุกาโม หุตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต ตุมฺหากํ ปตฺตํ กตฺวา อสุกทิวเส นาม ปจิตฺวา เปสฺสามี’’ติ วทติ, ภิกฺขุ จ เตน ปริจฺฉินฺนทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกาเมติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน ปตฺตการโก ‘‘อหํ ตุมฺหากํ ปตฺตํ กตฺวา ปจิตฺวา สาสนํ เปเสสฺสามี’’ติ วตฺวา ตเถว กโรติ, เตน เปสิตภิกฺขุ ปน ตสฺส ภิกฺขุโน น อาโรเจติ, อฺโ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา ‘‘ตุมฺหากํ, ภนฺเต, ปตฺโต นิฏฺิโต’’ติ อาโรเจติ, เอตสฺส อาโรจนํ น ปมาณํ. ยทา ปน เตน เปสิโตเยว อาโรเจติ, ตสฺส วจนํ สุตทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน ปตฺตการโก ‘‘อหํ ตุมฺหากํ ปตฺตํ กตฺวา ปจิตฺวา กสฺสจิ หตฺเถ ปหิณิสฺสามี’’ติ วตฺวา ตเถว กโรติ, ปตฺตํ คเหตฺวา อาคตภิกฺขุ ปน อตฺตโน ปริเวเณ เปตฺวา ตสฺส น อาโรเจติ, อฺโ โกจิ ภณติ ‘‘อปิ, ภนฺเต, อธุนา อาภโต ปตฺโต สุนฺทโร’’ติ. ‘‘กุหึ, อาวุโส, ปตฺโต’’ติ? ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส หตฺเถ เปสิโต’’ติ. เอตสฺสปิ วจนํ น ปมาณํ. ยทา ปน โส ภิกฺขุ ปตฺตํ เทติ, ลทฺธทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, ตสฺมา ทสาหํ อนติกฺกาเมตฺวาว อธิฏฺาตพฺโพ วิกปฺเปตพฺโพ วา.

ตตฺถ ทฺเว ปตฺตสฺส อธิฏฺานา กาเยน วา อธิฏฺาติ, วาจาย วา อธิฏฺาติ. เตสํ วเสน อธิฏฺหนฺเตน ‘‘อิมํ ปตฺตํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ วา ‘‘เอตํ ปตฺตํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ วา วตฺวา เอวํ สมฺมุเข วา ปรมฺมุเข วา ิตํ ปุราณปตฺตํ ปจฺจุทฺธริตฺวา อฺสฺส วา ทตฺวา นวํ ปตฺตํ ยตฺถ กตฺถจิ ิตํ หตฺเถน ปรามสิตฺวา ‘‘อิทํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ จิตฺเตน อาโภคํ กตฺวา กายวิการํ กโรนฺเตน กาเยน วา อธิฏฺาตพฺโพ. วจีเภทํ กตฺวา วาจาย วา อธิฏฺาภพฺโพ. ตตฺร ทุวิธํ อธิฏฺานํ – สเจ หตฺถปาเส โหติ, ‘‘อิมํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา, อถ อนฺโตคพฺเภ วา อุปริปาสาเท วา สามนฺตวิหาเร วา โหติ, ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘เอตํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา. อธิฏฺหนฺเตน ปน เอกเกน อธิฏฺาตุมฺปิ วฏฺฏติ, อฺสฺส สนฺติเก อธิฏฺาตุมฺปิ วฏฺฏติ. อฺสฺส สนฺติเก อยมานิสํโส – สจสฺส ‘‘อธิฏฺิโต นุ โข เม, โน’’ติ วิมติ อุปฺปชฺชติ, อิตโร สาเรตฺวา วิมตึ ฉินฺทิสฺสตีติ. สเจ โกจิ ทส ปตฺเต ลภิตฺวา สพฺเพ อตฺตนาว ปริภุฺชิตุกาโม โหติ, น สพฺเพ อธิฏฺาตพฺพา, เอกํ ปตฺตํ อธิฏฺาย ปุนทิวเส ตํ ปจฺจุทฺธริตฺวา อฺโ อธิฏฺาตพฺโพ. เอเตเนว อุปาเยน วสฺสสตมฺปิ ปริหริตุํ สกฺกา.

เอวํ อปฺปมตฺตสฺส สิยา อธิฏฺานวิชหนนฺติ? สิยา. สเจ หิ สยํ ปตฺตํ อฺสฺส เทติ, วิพฺภมติ วา, สิกฺขํ วา ปจฺจกฺขาติ, กาลํ วา กโรติ, ลิงฺคํ วาสฺส ปริวตฺตติ, ปจฺจุทฺธรติ วา, ปตฺเต วา ฉิทฺทํ โหติ, อธิฏฺานํ วิชหติ. วุตฺตฺเจตํ –

‘‘ทินฺนวิพฺภนฺตปจฺจกฺขา, กาลกิริยากเตน จ;

ลิงฺคปจฺจุทฺธรา เจว, ฉิทฺเทน ภวติ สตฺตม’’นฺติ. (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๘) –

โจรคหณวิสฺสาสคฺคาเหหิปิ วิชหติเยว. กิตฺตเกน ฉิทฺเทน อธิฏฺานํ ภิชฺชติ? เยน กงฺคุสิตฺถํ นิกฺขมติ เจว ปวิสติ จ. อิทฺหิ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ลามกธฺสิตฺถํ. ตสฺมึ ฉิทฺเท อยจุณฺเณน วา อาณิยา วา ปฏิปากติเก กเต ทสาหพฺภนฺตเร ปุน อธิฏฺาตพฺโพ. อยํ ตาเวตฺถ อธิฏฺาเน วินิจฺฉโย.

๔๙. วิกปฺปเน ปน ทฺเว วิกปฺปนา สมฺมุขาวิกปฺปนา เจว ปรมฺมุขาวิกปฺปนา จ. กถํ สมฺมุขาวิกปฺปนา โหติ? ปตฺตานํ เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ‘‘อิมํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘อิเม ปตฺเต’’ติ วา ‘‘เอตํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘เอเต ปตฺเต’’ติ วา วตฺวา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วตฺตพฺพํ, อยเมกา สมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริภุฺชิตุํ ปน วิสฺสชฺเชตุํ วา อธิฏฺาตุํ วา น วฏฺฏติ. ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ ปริภุฺช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ เอวํ ปน วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.

อปโร นโย – ตเถว ปตฺตานํ เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ตสฺเสว ภิกฺขุโน สนฺติเก ‘‘อิมํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘อิเม ปตฺเต’’ติ วา ‘‘เอตํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘เอเต ปตฺเต’’ติ วา วตฺวา ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ อฺตรสฺส อตฺตนา อภิรุจิตสฺส ยสฺส กสฺสจิ นามํ คเหตฺวา ‘‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน วิกปฺเปมี’’ติ วา ‘‘ติสฺสาย ภิกฺขุนิยา, สิกฺขมานาย, สามเณรสฺส, ติสฺสาย สามเณริยา วิกปฺเปมี’’ติ วา วตฺตพฺพํ, อยํ อปราปิ สมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ. ปริโภคาทีสุ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. เตน ปน ภิกฺขุนา ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน สนฺตกํ…เป… ติสฺสาย สามเณริยา สนฺตกํ ปริภุฺช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหีติ วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.

กถํ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา โหติ? ปตฺตานํ ตเถว เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ‘‘อิมํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘อิเม ปตฺเต’’ติ วา ‘‘เอตํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘เอเต ปตฺเต’’ติ วา วตฺวา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺปนตฺถาย ทมฺมี’’ติ วตฺตพฺพํ. เตน วตฺตพฺโพ ‘‘โก เต มิตฺโต วา สนฺทิฏฺโ วา’’ติ. ตโต อิตเรน ปุริมนเยน ‘‘ติสฺโส ภิกฺขู’’ติ วา…เป… ‘‘ติสฺสา สามเณรี’’ติ วา วตฺตพฺพํ. ปุน เตน ภิกฺขุนา ‘‘อหํ ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน ทมฺมี’’ติ วา…เป… ‘‘ติสฺสาย สามเณริยา ทมฺมี’’ติ วา วตฺตพฺพํ, อยํ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริโภคาทีสุ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. เตน ปน ภิกฺขุนา ทุติยสมฺมุขาวิกปฺปนายํ วุตฺตนเยเนว ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส สนฺตกํ ปริภุฺช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ. อยํ วิกปฺปเน นโย.

๕๐. เอวํ อธิฏฺหิตฺวา วิกปฺเปตฺวา จ ปริภุฺชนฺเตน ปตฺเต ภินฺเน กึ กาตพฺพนฺติ? ยสฺส ปตฺเต ราชิมุขวฏฺฏิโต เหฏฺา ทฺวงฺคุลปฺปมาณา น โหติ เตน น กิฺจิ กาตพฺพํ. ยสฺส (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๒-๓) ปน ตาทิสา เอกาปิ ราชิ โหติ, เตน ตสฺสา ราชิยา เหฏฺิมปริยนฺเต ปตฺตเวธเกน วิชฺฌิตฺวา ปจิตฺวา สุตฺตรชฺชุกมกจิรชฺชุกาทีหิ วา ติปุสุตฺตเกน วา พนฺธิตฺวา ตํ พนฺธนํ อามิสสฺส อลคฺคนตฺถํ ติปุปฏฺเฏน วา เกนจิ วา พทฺธสิเลเสน ปฏิจฺฉาเทตพฺพํ. โส จ ปตฺโต อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชิตพฺโพ. สุขุมํ วา ฉิทฺทํ กตฺวา พนฺธิตพฺโพ. สุทฺเธหิ ปน มธุกสิตฺถกลาขาสชฺชุรสาทีหิ พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ, ผาณิตํ ฌาเปตฺวา ปาสาณจุณฺเณน พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. มุขวฏฺฏิสมีเป ปน ปตฺตเวธเกน วิชฺฌิยมาโน กปาลสฺส พหลตฺตา ภิชฺชติ, ตสฺมา เหฏฺา วิชฺฌิตพฺโพ. ยสฺส ปน ทฺเว ราชิโย, เอกาเยว วา จตุรงฺคุลา, ตสฺส ทฺเว พนฺธนานิ ทาตพฺพานิ. ยสฺส ติสฺโส, เอกาเยว วา ฉฬงฺคุลา, ตสฺส ตีณิ. ยสฺส จตสฺโส, เอกาเยว วา อฏฺงฺคุลา, ตสฺส จตฺตาริ. ยสฺส ปฺจ, เอกาเยว วา ทสงฺคุลา, โส พทฺโธปิ อพทฺโธปิ อปตฺโตเยว, อฺโ วิฺาเปตพฺโพ. เอส ตาว มตฺติกาปตฺเต วินิจฺฉโย.

อโยปตฺเต ปน สเจปิ ปฺจ วา อติเรกานิ วา ฉิทฺทานิ โหนฺติ, ตานิ จ อยจุณฺเณน วา อาณิยา วา โลหมณฺฑลเกน วา พทฺธานิ มฏฺานิ โหนฺติ, สฺเวว ปตฺโต ปริภุฺชิตพฺโพ, อฺโ น วิฺาเปตพฺโพ. อถ ปน เอกมฺปิ ฉิทฺทํ มหนฺตํ โหติ, โลหมณฺฑลเกน พทฺธมฺปิ มฏฺํ น โหติ, ปตฺเต อามิสํ ลคฺคติ, อกปฺปิโย โหติ, อยํ อปตฺโต, อฺโ วิฺาเปตพฺโพ. วิฺาเปนฺเตน จ สงฺฆวเสน ปวาริตฏฺาเน ปฺจพนฺธเนเนว ปตฺเตน อฺํ ปตฺตํ วิฺาเปตุํ วฏฺฏติ, ปุคฺคลวเสน ปน ปวาริตฏฺาเน อูนปฺจพนฺธเนนาปิ วฏฺฏติ. ปตฺตํ ลภิตฺวา ปริภุฺชนฺเตน จ ยาคุรนฺธนรชนปจนาทินา อปริโภเคน น ปริภุฺชิตพฺโพ, อนฺตรามคฺเค ปน พฺยาธิมฺหิ อุปฺปนฺเน อฺสฺมึ ภาชเน อสติ มตฺติกาย ลิมฺเปตฺวา ยาคุํ วา ปจิตุํ อุทกํ วา ตาเปตุํ วฏฺฏติ. มฺจปีฉตฺตนาคทนฺตกาทิเก อเทเสปิ น นิกฺขิปิตพฺโพ. ปตฺตสฺส หิ นิกฺขิปนเทโส ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปตฺตาธารก’’นฺติอาทินา (จูฬว. ๒๕๔) นเยน ขนฺธเก วุตฺโตเยว.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

อธิฏฺานวิกปฺปนวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๙. จีวรวิปฺปวาสวินิจฺฉยกถา

๕๑. จีวเรนวินาวาโสติ ติจีวราธิฏฺาเนน อธิฏฺิตานํ ติณฺณํ จีวรานํ อฺตเรน วิปฺปวาโส. เอวํ อธิฏฺิเตสุ หิ ตีสุ จีวเรสุ เอเกนปิ วินา วสิตุํ น วฏฺฏติ, วสนฺตสฺส สห อรุณุคฺคมนา จีวรํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, ตสฺมา อรุณุคฺคมนสมเย จีวรํ อฑฺฒเตยฺยรตนปฺปมาเณ หตฺถปาเส กตฺวา วสิตพฺพํ. คามนิเวสนอุโทสิตอฑฺฑมาฬปาสาทหมฺมิยนาวาสตฺถเขตฺตธฺกรณอารามวิหารรุกฺขมูลอชฺโฌกาเสสุ ปน อยํ วิเสโส (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๗๗-๘) – สเจ เอกสฺส รฺโ คามโภชกสฺส วา สนฺตโก คาโม โหติ, เยน เกนจิ ปากาเรน วา วติยา วา ปริขาย วา ปริกฺขิตฺโต จ, เอวรูเป คาเม จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา คามพฺภนฺตเร ยตฺถ กตฺถจิ ยถารุจิตฏฺาเน อรุณํ อุฏฺาเปตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน อปริกฺขิตฺโต โหติ, เอวรูเป คาเม ยสฺมึ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตสฺมึ วตฺถพฺพํ, ตสฺส วา ฆรสฺส หตฺถปาเส สมนฺตา อฑฺฒเตยฺยรตนพฺภนฺตเร วสิตพฺพํ. ตํ ปมาณํ อติกฺกมิตฺวา สเจปิ อิทฺธิมา ภิกฺขุ อากาเส อรุณํ อุฏฺาเปติ, จีวรํ นิสฺสคฺคิยเมว โหติ.

สเจ นานาราชูนํ วา โภชกานํ วา คาโม โหติ เวสาลีกุสินาราทิสทิโส ปริกฺขิตฺโต จ, เอวรูเป คาเม ยสฺมึ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตตฺถ วา วตฺถพฺพํ, ตตฺถ สทฺทสงฺฆฏฺฏเนน วา ชนสมฺพาเธน วา วสิตุํ อสกฺโกนฺเตน สภาเย วา วตฺถพฺพํ นครทฺวารมูเล วา. ตตฺราปิ วสิตุํ อสกฺโกนฺเตน ยตฺถ กตฺถจิ ผาสุกฏฺาเน วสิตฺวา อนฺโตอรุเณ อาคมฺม เตสํเยว สภายนครทฺวารมูลานํ หตฺถปาเส วสิตพฺพํ. ฆรสฺส ปน จีวรสฺส วา หตฺถปาเส วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.

สเจ ฆเร อฏฺเปตฺวา ‘‘สภาเย เปสฺสามี’’ติ สภายํ คจฺฉนฺโต หตฺถํ ปสาเรตฺวา ‘‘หนฺทิมํ จีวรํ เปหี’’ติ เอวํ นิกฺเขปสุเข หตฺถปาสคเต กิสฺมิฺจิ อาปเณ จีวรํ นิกฺขิปติ, เตน ปุริมนเยเนว สภาเย วา วตฺถพฺพํ, ทฺวารมูเล วา เตสํ หตฺถปาเส วา วสิตพฺพํ.

สเจ นครสฺส พหูนิปิ ทฺวารานิ โหนฺติ พหูนิ จ สภายานิ, สพฺพตฺถ วสิตุํ น วฏฺฏติ. ยสฺสา ปน วีถิยา จีวรํ ปิตํ, ยํ ตสฺสา สมฺมุขฏฺาเน สภายฺจ ทฺวารฺจ, ตสฺส สภายสฺส จ ทฺวารสฺส จ หตฺถปาเส วสิตพฺพํ. เอวฺหิ สติ สกฺกา จีวรสฺส ปวตฺตึ ชานิตุํ. สภายํ ปน คจฺฉนฺเตน ยสฺส อาปณิกสฺส หตฺเถ นิกฺขิตฺตํ, สเจ โส ตํ จีวรํ อติหริตฺวา ฆเร นิกฺขิปติ, วีถิหตฺถปาโส น รกฺขติ, ฆรสฺส หตฺถปาเส วตฺถพฺพํ. สเจ มหนฺตํ ฆรํ โหติ ทฺเว วีถิโย ผริตฺวา ิตํ, ปุรโต วา ปจฺฉโต วา หตฺถปาเสเยว อรุณํ อุฏฺาเปตพฺพํ. สภาเย นิกฺขิปิตฺวา ปน สภาเย วา ตสฺส สมฺมุเข นครทฺวารมูเล วา เตสํเยว หตฺถปาเส วา อรุณํ อุฏฺาเปตพฺพํ. สเจ ปน คาโม อปริกฺขิตฺโต โหติ, ยสฺมึ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตสฺมึ ฆเร ตสฺส ฆรสฺส วา หตฺถปาเส วตฺถพฺพํ.

สเจ (ปารา. ๔๘๐) เอกกุลสฺส สนฺตกํ นิเวสนํ โหติ ปริกฺขิตฺตฺจ นานาคพฺภํ นานาโอวรกํ, อนฺโตนิเวสเน จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตนิเวสเน วตฺถพฺพํ. สเจ อปริกฺขิตฺตํ, ยสฺมึ คพฺเภ จีวรํ นิกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ คพฺเภ วตฺถพฺพํ คพฺภสฺส หตฺถปาเส วา. สเจ นานากุลสฺส นิเวสนํ โหติ ปริกฺขิตฺตฺจ นานาคพฺภํ นานาโอวรกํ, ยสฺมึ คพฺเภ จีวรํ นิกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ คพฺเภ วตฺถพฺพํ, สพฺเพสํ สาธารเณ ฆรทฺวารมูเล วา คพฺภสฺส วา ฆรทฺวารมูลสฺส วา หตฺถปาเส. สเจ อปริกฺขิตฺตํ โหติ, ยสฺมึ คพฺเภ จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตสฺมึ คพฺเภ วตฺถพฺพํ คพฺภสฺส วา หตฺถปาเส. อุโทสิตอฑฺฑมาฬปาสาทหมฺมิเยสุปิ นิเวสเน วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

สเจ เอกกุลสฺส นาวา โหติ, อนฺโตนาวายํ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตนาวายํ วตฺถพฺพํ. สเจ นานากุลสฺส นาวา โหติ นานาคพฺภา นานาโอวรกา, ยสฺมึ โอวรเก จีวรํ นิกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ โอวรเก วตฺถพฺพํ โอวรกสฺส หตฺถปาเส วา.

สเจ เอกกุลสฺส สตฺโถ โหติ, ตสฺมึ สตฺเถ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ปุรโต วา ปจฺฉโต วา สตฺตพฺภนฺตรา น วิชหิตพฺพา, ปสฺสโต อพฺภนฺตรํ น วิชหิตพฺพํ. เอกํ อพฺภนฺตรํ อฏฺวีสติหตฺถํ โหติ. สเจ นานากุลสฺส สตฺโถ โหติ, สตฺเถ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา จีวรสฺส หตฺถปาเส วสิตพฺพํ. สเจ สตฺโถ คจฺฉนฺโต คามํ วา นทึ วา ปริยาทิยิตฺวา ติฏฺติ, อนฺโตปวิฏฺเน สทฺธึ เอกาพทฺโธ หุตฺวา โอรฺจ ปารฺจ ผริตฺวา ิโต โหติ, สตฺถปริหาโร ลพฺภติ. อถ คาเม วา นทิยา วา ปริยาปนฺโน โหติ, คามปริหาโร เจว นทีปริหาโร จ ลพฺภติ. สเจ วิหารสีมํ อติกฺกมิตฺวา ติฏฺติ, อนฺโตสีมาย จ จีวรํ โหติ, วิหารํ คนฺตฺวา วสิตพฺพํ. สเจ พหิสีมาย จีวรํ โหติ, สตฺถสมีเปเยว วสิตพฺพํ. สเจ คจฺฉนฺโต สตฺโถ สกเฏ วา ภคฺเค โคเณ วา นฏฺเ อนฺตรา ฉิชฺชติ, ยสฺมึ โกฏฺาเส จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตตฺถ วสิตพฺพํ.

สเจ เอกกุลสฺส เขตฺตํ โหติ ปริกฺขิตฺตฺจ, อนฺโตเขตฺเต จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตเขตฺเต วตฺถพฺพํ. สเจ อปริกฺขิตฺตํ โหติ, จีวรสฺส หตฺถปาเส วสิตพฺพํ. สเจ นานากุลสฺส เขตฺตํ โหติ ปริกฺขิตฺตฺจ, อนฺโตเขตฺเต จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ทฺวารมูเล วตฺถพฺพํ ทฺวารมูลสฺส หตฺถปาเส วา. สเจ อปริกฺขิตฺตํ โหติ, จีวรสฺส หตฺถปาเส วสิตพฺพํ.

สเจ เอกกุลสฺส ธฺกรณํ โหติ ปริกฺขิตฺตฺจ, อนฺโตธฺกรเณ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตธฺกรเณ วตฺถพฺพํ. สเจ อปริกฺขิตฺตํ โหติ, จีวรสฺส หตฺถปาเส วสิตพฺพํ. สเจ นานากุลสฺส ธฺกรณํ โหติ ปริกฺขิตฺตฺจ, อนฺโตธฺกรเณ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ทฺวารมูเล วา วตฺถพฺพํ ทฺวารมูลสฺส วา หตฺถปาเส. สเจ อปริกฺขิตฺตํ โหติ, จีวรสฺส หตฺถปาเส วสิตพฺพํ. ปุปฺผารามผลาราเมสุปิ เขตฺเต วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

สเจ เอกกุลสฺส วิหาโร โหติ ปริกฺขิตฺโต จ, อนฺโตวิหาเร จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตวิหาเร วตฺถพฺพํ. สเจ อปริกฺขิตฺโต โหติ, ยสฺมึ วิหาเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตสฺมึ วตฺถพฺพํ ตสฺส วิหารสฺส วา หตฺถปาเส.

สเจ เอกกุลสฺส รุกฺขมูลํ โหติ, ยํ มชฺฌนฺหิเก กาเล สมนฺตา ฉายา ผรติ, อนฺโตฉายาย จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตฉายาย วตฺถพฺพํ. วิรฬสาขสฺส ปน รุกฺขสฺส อาตเปน ผุฏฺโกาเส ปิตํ นิสฺสคฺคิยเมว โหติ, ตสฺมา ตาทิสสฺส รุกฺขสฺส สาขจฺฉายาย วา ขนฺธจฺฉายาย วา เปตพฺพํ. สเจ สาขาย วา วิฏเป วา เปติ, อุปริ อฺสาขจฺฉายาย ผุฏฺโกาเสเยว เปตพฺพํ. ขุชฺชรุกฺขสฺส ฉายา ทูรํ คจฺฉติ, ฉายาย คตฏฺาเน เปตุํ วฏฺฏติเยว. สเจ นานากุลสฺส รุกฺขมูลํ โหติ, จีวรสฺส หตฺถปาเส วสิตพฺพํ.

อชฺโฌกาเส ปน อคามเก อรฺเ จีวรํ เปตฺวา ตสฺส สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตเร วสิตพฺพํ. อคามกํ นาม อรฺํ วิฺฌาฏวีอาทีสุ วา สมุทฺทมชฺเฌ วา มจฺฉพนฺธานํ อคมนปเถ ทีปเกสุ ลพฺภติ. ตาทิเส อรฺเ มชฺเฌ ิตสฺส สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรปริจฺเฉโท, วินิพฺเพเธน จุทฺทส โหนฺติ. มชฺเฌ นิสินฺโน ปุรตฺถิมาย วา ปจฺฉิมาย วา ทิสาย ปริยนฺเต ปิตจีวรํ รกฺขติ. สเจ ปน อรุณุคฺคมนสมเย เกสคฺคมตฺตมฺปิ ปุรตฺถิมํ ทิสํ คจฺฉติ, ปจฺฉิมาย ทิสาย จีวรํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ. เอส นโย อิตรสฺมึ. นิสฺสคฺคิยํ ปน จีวรํ อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภุฺชนฺโต ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ.

๕๒. สเจ ปธานิโก ภิกฺขุ สพฺพรตฺตึ ปธานมนุยุฺชิตฺวา ปจฺจูสสมเย ‘‘นหายิสฺสามี’’ติ ตีณิ จีวรานิ ตีเร เปตฺวา นทึ โอตรติ, นหายนฺตสฺเสว จสฺส อรุณํ อุฏฺหติ, กึ กาตพฺพํ? โส หิ ยทิ อุตฺตริตฺวา จีวรํ นิวาเสติ, นิสฺสคฺคิยํ จีวรํ, อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภุฺชนปจฺจยา ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. อถ นคฺโค คจฺฉติ, เอวมฺปิ ทุกฺกฏํ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ. โส หิ ยาว อฺํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา วินยกมฺมํ น กโรติ, ตาว เตสํ จีวรานํ อปริโภคารหตฺตา นฏฺจีวรฏฺาเน ิโต โหติ, นฏฺจีวรสฺส จ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา เอกํ นิวาเสตฺวา ทฺเว หตฺเถน คเหตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา วินยกมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ ทูเร วิหาโร โหติ, อนฺตรามคฺเค มนุสฺสา สฺจรนฺติ, เอกํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา เอกํ อํสกูเฏ เปตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ วิหาเร สภาคํ ภิกฺขุํ น ปสฺสติ, ภิกฺขาจารํ คตา โหนฺติ, สงฺฆาฏึ พหิคาเม เปตฺวา สนฺตรุตฺตเรน อาสนสาลํ คนฺตฺวา วินยกมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ พหิคาเม โจรภยํ โหติ, ปารุปิตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ อาสนสาลา สมฺพาธา โหติ, ชนากิณฺณา น สกฺกา เอกมนฺเต จีวรํ อปเนตฺวา วินยกมฺมํ กาตุํ, เอกํ ภิกฺขุํ อาทาย พหิคามํ คนฺตฺวา วินยกมฺมํ กตฺวา จีวรานิ ปริภุฺชิตพฺพานิ.

สเจ เถรา ภิกฺขู ทหรานํ หตฺเถ ปตฺตจีวรํ ทตฺวา มคฺคํ คจฺฉนฺตา ปจฺฉิมยาเม สยิตุกามา โหนฺติ, อตฺตโน อตฺตโน จีวรํ หตฺถปาเส กตฺวาว สยิตพฺพํ. สเจ คจฺฉนฺตานํเยว อสมฺปตฺเตสุ ทหเรสุ อรุณํ อุคฺคจฺฉติ, จีวรํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, นิสฺสโย ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. ทหรานมฺปิ ปุรโต คจฺฉนฺตานํ เถเรสุ อสมฺปตฺเตสุ เอเสว นโย. มคฺคํ วิรชฺฌิตฺวา อรฺเ อฺมฺํ อปสฺสนฺเตสุปิ เอเสว นโย. สเจ ปน ทหรา ‘‘มยํ, ภนฺเต, มุหุตฺตํ สยิตฺวา อสุกสฺมึ นาม โอกาเส ตุมฺเห สมฺปาปุณิสฺสามา’’ติ วตฺวา ยาว อรุณุคฺคมนา สยนฺติ, จีวรฺจ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, นิสฺสโย จ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. ทหเร อุยฺโยเชตฺวา เถเรสุ สยนฺเตสุปิ เอเสว นโย. ทฺเวธาปถํ ทิสฺวา เถรา ‘‘อยํ มคฺโค’’, ทหรา ‘‘อยํ มคฺโค’’ติ วตฺวา อฺมฺสฺส วจนํ อคฺคเหตฺวา คตา, สห อรุณสฺส อุคฺคมนา จีวรานิ จ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโย จ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ทหรา มคฺคโต โอกฺกมฺม ‘‘อนฺโตอรุเณเยว นิวตฺติสฺสามา’’ติ เภสชฺชตฺถาย คามํ ปวิสิตฺวา อาคจฺฉนฺติ, อสมฺปตฺตานํเยว จ เนสํ อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโย ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ปน เธนุภเยน วา สุนขภเยน วา มุหุตฺตํ ตฺวา ‘‘คมิสฺสามา’’ติ ตฺวา วา นิสีทิตฺวา วา คจฺฉนฺติ, อนฺตรา อรุเณ อุคฺคเต จีวรานิ จ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโย จ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ.

สเจ ‘‘อนฺโตอรุเณเยว อาคมิสฺสามา’’ติ อนฺโตสีมายํ คามํ ปวิฏฺานํ อนฺตรา อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, เนว จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, น นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ปน ‘‘วิภายตุ ตาวา’’ติ นิสีทนฺติ, อรุเณ อุคฺคเต น จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโย ปน ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ เยปิ ‘‘อนฺโตอรุเณเยว อาคมิสฺสามา’’ติ สามนฺตวิหารํ ธมฺมสฺสวนตฺถาย สอุสฺสาหา คจฺฉนฺติ, อนฺตรามคฺเคเยว จ เนสํ อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโย ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ธมฺมคารเวน ‘‘ยาวปริโยสานํ สุตฺวาว คมิสฺสามา’’ติ นิสีทนฺติ, สห อรุณสฺส อุคฺคมนา จีวรานิปิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโย จ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. เถเรน ทหรํ จีวรโธวนตฺถาย คามกํ เปเสนฺเตน อตฺตโน จีวรํ ปจฺจุทฺธริตฺวาว ทาตพฺพํ, ทหรสฺสปิ จีวรํ ปจฺจุทฺธราเปตฺวาว เปตพฺพํ. สเจ อสติยา คจฺฉติ, อตฺตโน จีวรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา ทหรสฺส จีวรํ วิสฺสาเสน คเหตฺวา เปตพฺพํ. สเจ เถโร น สรติ, ทหโรว สรติ, ทหเรน อตฺตโน จีวรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา เถรสฺส จีวรํ วิสฺสาเสน คเหตฺวา คนฺตฺวา วตฺตพฺพํ ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ จีวรํ อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชถา’’ติ. อตฺตโนปิ จีวรํ อธิฏฺาตพฺพํ. เอวํ เอกสฺส สติยาปิ อาปตฺติโมกฺโข โหติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

จีวรวิปฺปวาสวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๑๐. ภณฺฑปฏิสามนวินิจฺฉยกถา

๕๓. ภณฺฑสฺส ปฏิสามนนฺติ ปเรสํ ภณฺฑสฺส โคปนํ. ปเรสฺหิ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๐๖) กปฺปิยวตฺถุ วา โหตุ อกปฺปิยวตฺถุ วา, อนฺตมโส มาตุ กณฺณปิฬนฺธนํ กาลปณฺณมฺปิ คิหิสนฺตกํ ภณฺฑาคาริกสีเสน ปฏิสาเมนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน มาตาปิตูนํ สนฺตกํ อวสฺสํ ปฏิสาเมตพฺพํ กปฺปิยภณฺฑํ โหติ, อตฺตโน อตฺถาย คเหตฺวา ปฏิสาเมตพฺพํ. ‘‘อิทํ ปฏิสาเมตฺวา เทหี’’ติ ปน วุตฺเต ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ ‘‘ปฏิสาเมหี’’ติ ปาเตตฺวา คจฺฉนฺติ, ปลิโพโธ นาม โหติ, ปฏิสาเมตุํ วฏฺฏติ. วิหาเร กมฺมํ กโรนฺตา วฑฺฒกีอาทโย วา ราชวลฺลภา วา ‘‘อตฺตโน อุปกรณภณฺฑํ วา สยนภณฺฑํ วา ปฏิสาเมตฺวา เทถา’’ติ วทนฺติ, ฉนฺเทนปิ ภเยนปิ น กาตพฺพเมว, คุตฺตฏฺานํ ปน ทสฺเสตุํ วฏฺฏติ, พลกฺกาเรน ปาเตตฺวา คเตสุ จ ปฏิสาเมตุํ.

สเจ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๑) อตฺตโน หตฺเถ ปฏิสามนตฺถาย ปิตํ ภณฺฑํ สามิเกน ‘‘เทหิ เม ภณฺฑ’’นฺติ ยาจิโต อทาตุกาโม ‘‘นาหํ คณฺหามี’’ติ ภณติ, สมฺปชานมุสาวาเทปิ อทินฺนาทานสฺส ปโยคตฺตา ทุกฺกฏํ. ‘‘กึ ตุมฺเห ภณถ, เนวิทํ มยฺหํ อนุรูปํ, น ตุมฺหาก’’นฺติอาทีนิ วทนฺตสฺสปิ ทุกฺกฏเมว. ‘‘รโห มยา เอตสฺส หตฺเถ ปิตํ, น อฺโ โกจิ ชานาติ, ทสฺสติ นุ โข เม, โน’’ติ สามิโก วิมตึ อุปฺปาเทติ, ภิกฺขุสฺส ถุลฺลจฺจยํ. ตสฺส ผรุสาทิภาวํ ทิสฺวา สามิโก ‘‘น มยฺหํ ทสฺสตี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, ตตฺร สจายํ ภิกฺขุ ‘‘กิลเมตฺวา นํ ทสฺสามี’’ติ ทาเน สอุสฺสาโห, รกฺขติ ตาว. สเจปิ โส ทาเน นิรุสฺสาโห, ภณฺฑสามิโก ปน คหเณ สอุสฺสาโห, รกฺขติเยว. ยทิ ปน ตสฺมึ ทาเน นิรุสฺสาโห ภณฺฑสามิโก ‘‘น มยฺหํ ทสฺสตี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, เอวํ อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเปน ภิกฺขุโน ปาราชิกํ. ยทิปิ มุเขน ‘‘ทสฺสามี’’ติ วทติ, จิตฺเตน ปน อทาตุกาโม, เอวมฺปิ สามิกสฺส ธุรนิกฺเขเป ปาราชิกํ. ตํ ปน สงฺโคปนตฺถาย อตฺตโน หตฺเถ ปเรหิ ปิตํ ภณฺฑํ อคุตฺตเทสโต านา จาเวตฺวา คุตฺตฏฺาเน ปนตฺถาย หรโต อนาปตฺติ. เถยฺยจิตฺเตนปิ านา จาเวนฺตสฺส อวหาโร นตฺถิ. กสฺมา? อตฺตโน หตฺเถ นิกฺขิตฺตตฺตา, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหติ. เถยฺยจิตฺเตน ปริภุฺชโตปิ เอเสว นโย.

๕๔. ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ สนฺตกํ ปน ยํ กิฺจิ ปริกฺขารํ ปฏิสาเมตุํ วฏฺฏติ. สเจ อาคนฺตุโก ภิกฺขุ อาวาสิกานํ จีวรกมฺมํ กโรนฺตานํ สมีเป ปตฺตจีวรํ เปตฺวา ‘‘เอเต สงฺโคเปสฺสนฺตี’’ติ มฺมาโน นหายิตุํ วา อฺตฺร วา คจฺฉติ, สเจ ตํ อาวาสิกา สงฺโคเปนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ, นฏฺเ คีวา น โหติ. สเจปิ โส ‘‘อิทํ, ภนฺเต, เปถา’’ติ วตฺวา คจฺฉติ, อิตเร จ กิจฺจปสุตตฺตา น ชานนฺติ, เอเสว นโย. อถาปิ เต ‘‘อิทํ, ภนฺเต, เปถา’’ติ วุตฺตา ‘‘มยํ พฺยาวฏา’’ติ ปฏิกฺขิปนฺติ, อิตโร จ ‘‘อวสฺสํ เปสฺสนฺตี’’ติ อนาทิยิตฺวา คจฺฉติ, เอเสว นโย. สเจ ปน เต เตน ยาจิตา วา อยาจิตา วา ‘‘มยํ เปสฺสาม, ตฺวํ คจฺฉา’’ติ วทนฺติ, ตํ สงฺโคปิตพฺพํ. โน เจ สงฺโคเปนฺติ, นฏฺเ คีวา. กสฺมา? สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา.

โย ภิกฺขุ ภณฺฑาคาริโก หุตฺวา ปจฺจูสสมเย เอว ภิกฺขูนํ ปตฺตจีวรานิ เหฏฺาปาสาทํ โอโรเปตฺวา ทฺวารํ อปิทหิตฺวา เตสมฺปิ อนาโรเจตฺวาว ทูเร ภิกฺขาจารํ คจฺฉติ, ตานิ เจ โจรา หรนฺติ, ตสฺเสว คีวา. โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ ‘‘โอโรเปถ, ภนฺเต, ปตฺตจีวรานิ, กาโล สลากคฺคหณสฺสา’’ติ วุตฺโต ‘‘สมาคตาตฺถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม สมาคตามฺหา’’ติ วุตฺเต ปตฺตจีวรานิ นีหริตฺวา นิกฺขิปิตฺวา ภณฺฑาคารทฺวารํ พนฺธิตฺวา ‘‘ตุมฺเห ปตฺตจีวรานิ คเหตฺวา เหฏฺาปาสาททฺวารํ ปฏิชคฺคิตฺวา คจฺเฉยฺยาถา’’ติ วตฺวา คจฺฉติ. ตตฺร เจโก อลสชาติโก ภิกฺขุ ภิกฺขูสุ คเตสุ ปจฺฉา อกฺขีนิ ปุฺฉนฺโต อุฏฺหิตฺวา อุทกฏฺานํ มุขโธวนตฺถํ คจฺฉติ, ตํ ขณํ ทิสฺวา โจรา ตสฺส ปตฺตจีวรํ หรนฺติ, สุหฏํ, ภณฺฑาคาริกสฺส คีวา น โหติ.

สเจปิ โกจิ ภณฺฑาคาริกสฺส อนาโรเจตฺวาว ภณฺฑาคาเร อตฺตโน ปริกฺขารํ เปติ, ตสฺมิมฺปิ นฏฺเ ภณฺฑาคาริกสฺส คีวา น โหติ. สเจ ปน ภณฺฑาคาริโก ตํ ทิสฺวา ‘‘อฏฺาเน ปิต’’นฺติ คเหตฺวา เปติ, นฏฺเ ตสฺเสว คีวา. สเจปิ ปิตภิกฺขุนา ‘‘มยา, ภนฺเต, อีทิโส นาม ปริกฺขาโร ปิโต, อุปธาเรยฺยาถา’’ติ วุตฺโต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, ทุนฺนิกฺขิตฺตํ วา มฺมาโน อฺสฺมึ าเน เปติ, นฏฺเ ตสฺเสว คีวา. ‘‘นาหํ ชานามี’’ติ ปฏิกฺขิปนฺตสฺส ปน นตฺถิ คีวา. โยปิ ตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว เปติ, ภณฺฑาคาริกฺจ น สมฺปฏิจฺฉาเปติ, นฏฺํ สุนฏฺเมว. สเจ ปน นํ ภณฺฑาคาริโก อฺตฺร เปติ, นฏฺเ คีวา. สเจ ภณฺฑาคารํ สุคุตฺตํ, สพฺโพ สงฺฆสฺส เจติยสฺส จ ปริกฺขาโร ตตฺเถว ปียติ, ภณฺฑาคาริโก จ พาโล อพฺยตฺโต ทฺวารํ วิวริตฺวา ธมฺมกถํ วา โสตุํ อฺํ วา กิฺจิ กาตุํ กตฺถจิ คจฺฉติ, ตํ ขณํ ทิสฺวา ยตฺตกํ โจรา หรนฺติ, สพฺพํ ตสฺส คีวา. ภณฺฑาคารโต นิกฺขมิตฺวา พหิ จงฺกมนฺตสฺส วา ทฺวารํ วิวริตฺวา สรีรํ อุตุํ คาหาเปนฺตสฺส วา ตตฺเถว สมณธมฺมานุโยเคน นิสินฺนสฺส วา ตตฺเถว นิสีทิตฺวา เกนจิ กมฺเมน พฺยาวฏสฺส วา อุจฺจารปสฺสาวปีฬิตสฺสปิ สโต ตตฺเถว อุปจาเร วิชฺชมาเน พหิ คจฺฉโต วา อฺเน วา เกนจิ อากาเรน ปมตฺตสฺส สโต ทฺวารํ วิวริตฺวา วา วิวฏเมว ปวิสิตฺวา วา สนฺธึ ฉินฺทิตฺวา วา ยตฺตกํ ตสฺส ปมาทปจฺจยา โจรา หรนฺติ, สพฺพํ ตสฺเสว คีวา. ‘‘อุณฺหสมเย ปน วาตปานํ วิวริตฺวา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. อุจฺจารปีฬิตสฺส ปน ตสฺมึ อุปจาเร อสติ อฺตฺถ คจฺฉนฺตสฺส คิลานปกฺเข ิตตฺตา อวิสโย, ตสฺมา คีวา น โหติ.

๕๕. โย ปน อนฺโต อุณฺหปีฬิโต ทฺวารํ สุคุตฺตํ กตฺวา พหิ นิกฺขมติ, โจรา ตํ คเหตฺวา ‘‘ทฺวารํ วิวรา’’ติ วทนฺติ, ยาวตติยํ น วิวริตพฺพํ. ยทิ ปน เต โจรา ‘‘สเจ น วิวรสิ, ตฺจ มาเรสฺสาม, ทฺวารฺจ ภินฺทิตฺวา ปริกฺขารํ หริสฺสามา’’ติ ผรสุอาทีนิ อุกฺขิปนฺติ, ‘‘มยิ จ มเต สงฺฆสฺส จ เสนาสเน วินฏฺเ คุโณ นตฺถี’’ติ วิวริตุํ วฏฺฏติ. อิธาปิ ‘‘อวิสยตฺตา คีวา นตฺถี’’ติ วทนฺติ. สเจ โกจิ อาคนฺตุโก กุฺจิกํ วา เทติ, ทฺวารํ วา วิวรติ, ยตฺตกํ โจรา หรนฺติ, สพฺพํ ตสฺส คีวา. สงฺเฆน ภณฺฑาคารํ คุตฺตตฺถาย สูจิยนฺตกฺจ กุฺจิกมุทฺทิกา จ โยเชตฺวา ทินฺนา โหติ, ภณฺฑาคาริโก ฆฏิกมตฺตํ ทตฺวา นิปชฺชติ, โจรา วิวริตฺวา ปริกฺขารํ หรนฺติ, ตสฺเสว คีวา. สูจิยนฺตกฺจ กุฺจิกมุทฺทิกฺจ โยเชตฺวา นิปนฺนํ ปเนตํ สเจ โจรา อาคนฺตฺวา ‘‘ทฺวารํ วิวราหี’’ติ วทนฺติ, ตตฺถ ปุริมนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ. เอวํ สุคุตฺตํ กตฺวา นิปนฺเน ปน สเจ ภิตฺตึ วา ฉทนํ วา ภินฺทิตฺวา อุมงฺเคน วา ปวิสิตฺวา หรนฺติ, น ตสฺส คีวา.

สเจ ภณฺฑาคาเร อฺเปิ เถรา วสนฺติ, วิวเฏ ทฺวาเร อตฺตโน อตฺตโน ปริกฺขารํ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, ภณฺฑาคาริโก เตสุ คเตสุ ทฺวารํ น ชคฺคติ, สเจ ตตฺถ กิฺจิ อวหรียติ, ภณฺฑาคาริกสฺส อิสฺสรวตาย ภณฺฑาคาริกสฺเสว คีวา, เถเรหิ ปน สหาเยหิ ภวิตพฺพํ. อยฺหิ สามีจิ. ยทิ ภณฺฑาคาริโก ‘‘ตุมฺเห พหิ ตฺวา ตุมฺหากํ ปริกฺขารํ คณฺหถ, มา ปวิสิตฺถา’’ติ วทติ, เตสฺจ เอโก โลลมหาเถโร สามเณเรหิ เจว อุปฏฺาเกหิ จ สทฺธึ ภณฺฑาคารํ ปวิสิตฺวา นิสีทติ เจว นิปชฺชติ จ, ยตฺตกํ ภณฺฑํ นสฺสติ, สพฺพํ ตสฺส คีวา, ภณฺฑาคาริเกน ปน อวเสสเถเรหิ จ สหาเยหิ ภวิตพฺพํ. อถ ภณฺฑาคาริโกว โลลสามเณเร จ อุปฏฺาเก จ คเหตฺวา ภณฺฑาคาเร นิสีทติ เจว นิปชฺชติ จ, ยตฺตกํ นสฺสติ, สพฺพํ ตสฺเสว คีวา. ตสฺมา ภณฺฑาคาริเกเนว ตตฺถ วสิตพฺพํ, อวเสเสหิ อปฺเปว รุกฺขมูเล วสิตพฺพํ, น จ ภณฺฑาคาเรติ.

๕๖. เย ปน อตฺตโน อตฺตโน สภาคภิกฺขูนํ วสนคพฺเภสุ ปริกฺขารํ เปนฺติ, ปริกฺขาเร นฏฺเ เยหิ ปิโต, เตสํเยว คีวา, อิตเรหิ ปน สหาเยหิ ภวิตพฺพํ. ยทิ ปน สงฺโฆ ภณฺฑาคาริกสฺส วิหาเรเยว ยาคุภตฺตํ ทาเปติ, โส จ ภิกฺขาจารตฺถาย คามํ คจฺฉติ, นฏฺํ ตสฺเสว คีวา. ภิกฺขาจารํ ปวิสนฺเตหิ อติเรกจีวรํ รกฺขณตฺถาย ปิตวิหารวาริกสฺสปิ ยาคุภตฺตํ วา นิวาปํ วา ลภมานสฺเสว ภิกฺขาจารํ คจฺฉโต ยํ ตตฺถ นสฺสติ, สพฺพํ คีวา. น เกวลฺจ เอตฺตกเมว, ภณฺฑาคาริกสฺส วิย ยํ ตสฺส ปมาทปจฺจยา นสฺสติ, สพฺพํ คีวา.

สเจ วิหาโร มหา โหติ, อฺํ ปเทสํ รกฺขิตุํ คจฺฉนฺตสฺส อฺสฺมึ ปเทเส นิกฺขิตฺตํ หรนฺติ, อวิสยตฺตา คีวา น โหติ. อีทิเส ปน วิหาเร เวมชฺเฌ สพฺเพสํ โอสรณฏฺาเน ปริกฺขาเร เปตฺวา นิสีทิตพฺพํ, วิหารวาริกา วา ทฺเว ตโย เปตพฺพา. สเจ เตสมฺปิ อปฺปมตฺตานํ อิโต จิโต จ รกฺขตํเยว กิฺจิ นสฺสติ, คีวา น โหติ. วิหารวาริเก พนฺธิตฺวา หริตภณฺฑมฺปิ โจรานํ ปฏิปถํ คเตสุ อฺเน มคฺเคน หริตภณฺฑมฺปิ น เตสํ คีวา. สเจ วิหารวาริกานํ วิหาเร ทาตพฺพํ ยาคุภตฺตํ วา นิวาโป วา น โหติ, เตหิ ปตฺตพฺพลาภโต อติเรกา ทฺเว ติสฺโส ยาคุสลากา เตสํ ปโหนกภตฺตสลากา จ เปตุํ วฏฺฏติ, นิพทฺธํ กตฺวา ปน น เปตพฺพา. มนุสฺสา หิ วิปฺปฏิสาริโน โหนฺติ ‘‘วิหารวาริกาเยว อมฺหากํ ภตฺตํ ภุฺชนฺตี’’ติ, ตสฺมา ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา เปตพฺพา. สเจ เตสํ สภาคา สลากภตฺตาทีนิ อาหริตฺวา เทนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ เทนฺติ, วารํ คาหาเปตฺวา นีหราเปตพฺพานิ. สเจ วิหารวาริโก ทฺเว ติสฺโส ยาคุสลากา จ จตฺตาริ ปฺจ สลากภตฺตานิ จ ลภมาโน ภิกฺขาจารํ คจฺฉติ, ภณฺฑาคาริกสฺส วิย สพฺพํ นฏฺํ คีวา โหติ. สเจ สงฺฆสฺส วิหารปาลานํ ทาตพฺพํ ภตฺตํ วา นิวาโป วา นตฺถิ, ภิกฺขู วิหารวารํ คเหตฺวา อตฺตโน อตฺตโน นิสฺสิตเก วิหารํ ชคฺคาเปนฺติ, สมฺปตฺตวารํ อคฺคเหตุํ น ลภติ. ยถา อฺเ ภิกฺขู กโรนฺติ, ตเถว กาตพฺพํ. ภิกฺขูหิ ปน อสหายสฺส วา อทุติยสฺส วา ยสฺส สภาโค ภิกฺขุ ภตฺตํ อาเนตฺวา ทาตา นตฺถิ, เอวรูปสฺส วาโร น ปาเปตพฺโพ.

ยมฺปิ ปากวฏฺฏตฺถาย วิหาเร เปนฺติ, ตํ คเหตฺวา อุปชีวนฺเตน าตพฺพํ. โย ตํ น อุปชีวติ, โส วารํ น คาหาเปตพฺโพ. ผลาผลตฺถายปิ วิหาเร ภิกฺขุํ เปนฺติ, ชคฺคิตฺวา โคเปตฺวา ผลวาเรน ภาเชตฺวา ขาทนฺติ. โย ตานิ ขาทติ, เตน าตพฺพํ, อนุปชีวนฺโต น คาหาเปตพฺโพ. เสนาสนมฺจปีปจฺจตฺถรณรกฺขณตฺถายปิ เปนฺติ, อาวาเส วสนฺเตน าตพฺพํ, อพฺโภกาสิโก ปน รุกฺขมูลิโก วา น คาหาเปตพฺโพ. เอโก นวโก โหติ, พหุสฺสุโต ปน พหูนํ ธมฺมํ วาเจติ, ปริปุจฺฉํ เทติ, ปาฬึ วณฺเณติ, ธมฺมกถํ กเถติ, สงฺฆสฺส ภารํ นิตฺถรติ, อยํ ลาภํ ปริภุฺชนฺโตปิ อาวาเส วสนฺโตปิ วารํ น คาหาเปตพฺโพ. ‘‘ปุริสวิเสโส นาม าตพฺโพ’’ติ วทนฺติ. อุโปสถาคารปฏิมาฆรชคฺคนกสฺส ปน ทิคุณํ ยาคุภตฺตํ, เทวสิกํ ตณฺฑุลนาฬิ, สํวจฺฉเร ติจีวรํ ทสวีสคฺฆนกํ กปฺปิยภณฺฑฺจ ทาตพฺพํ. สเจ ปน ตสฺส ตํ ลภมานสฺเสว ปมาเทน ตตฺถ กิฺจิ นสฺสติ, สพฺพํ คีวา. พนฺธิตฺวา พลกฺกาเรน อจฺฉินฺนํ, น คีวา. ตตฺถ เจติยสฺส วา สงฺฆสฺส วา สนฺตเกน เจติยสฺส สนฺตกํ รกฺขาเปตุํ วฏฺฏติ, เจติยสฺส สนฺตเกน สงฺฆสฺส สนฺตกํ รกฺขาเปตุํ น วฏฺฏติ. ยํ ปน เจติยสฺส สนฺตเกน สทฺธึ สงฺฆสฺส สนฺตกํ ปิตํ โหติ, ตํ เจติยสนฺตเก รกฺขาปิเต รกฺขิตเมว โหตีติ เอวํ วฏฺฏติ. ปกฺขวาเรน อุโปสถาคาราทีนิ รกฺขโตปิ ปมาทวเสน นฏฺํ คีวาเยวาติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ภณฺฑปฏิสามนวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๑๑. กยวิกฺกยสมาปตฺติวินิจฺฉยกถา

๕๗. กยวิกฺกยสมาปตฺตีติ กยวิกฺกยสมาปชฺชนํ. ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๙๕) หิ นเยน ปรสฺส กปฺปิยภณฺฑํ คณฺหนฺโต กยํ สมาปชฺชติ, อตฺตโน กปฺปิยภณฺฑํ เทนฺโต วิกฺกยํ. อยํ ปน กยวิกฺกโย เปตฺวา ปฺจ สหธมฺมิเก อวเสเสหิ คิหิปพฺพชิเตหิ อนฺตมโส มาตาปิตูหิปิ สทฺธึ น วฏฺฏติ.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – วตฺเถน วา วตฺถํ โหตุ, ภตฺเตน วา ภตฺตํ, ยํ กิฺจิ กปฺปิยํ ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติ วทติ, ทุกฺกฏํ. เอวํ วตฺวา มาตุยาปิ อตฺตโน ภณฺฑํ เทติ, ทุกฺกฏํ, ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติ วุตฺโต วา ‘‘อิมํ เทหิ, อิมํ เต ทสฺสามี’’ติ ตํ วตฺวา วา มาตุยาปิ ภณฺฑํ อตฺตนา คณฺหาติ, ทุกฺกฏํ, อตฺตโน ภณฺเฑ ปรหตฺถํ, ปรภณฺเฑ จ อตฺตโน หตฺถํ สมฺปตฺเต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. มาตรํ วา ปน ปิตรํ วา ‘‘อิมํ เทหี’’ติ วทโต วิฺตฺติ น โหติ, ‘‘อิมํ คณฺหาหี’’ติ ททโต สทฺธาเทยฺยวินิปาตนํ น โหติ. อฺาตกํ ‘‘อิมํ เทหี’’ติ วทโต วิฺตฺติ, ‘‘อิมํ คณฺหาหี’’ติ ททโต สทฺธาเทยฺยวินิปาตนํ, ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติ กยวิกฺกยํ อาปชฺชโต นิสฺสคฺคิยํ. ตสฺมา กปฺปิยภณฺฑํ ปริวตฺตนฺเตน มาตาปิตูหิปิ สทฺธึ กยวิกฺกยํ, อฺาตเกหิ สทฺธึ ติสฺโส อาปตฺติโย โมเจนฺเตน ปริวตฺเตตพฺพํ.

ตตฺรายํ ปริวตฺตนวิธิ – ภิกฺขุสฺส ปาเถยฺยตณฺฑุลา โหนฺติ, โส อนฺตรามคฺเค ภตฺตหตฺถํ ปุริสํ ทิสฺวา ‘‘อมฺหากํ ตณฺฑุลา อตฺถิ, น จ โน อิเมหิ อตฺโถ, ภตฺเตน ปน อตฺโถ’’ติ วทติ, ปุริโส ตณฺฑุเล คเหตฺวา ภตฺตํ เทติ, วฏฺฏติ. ติสฺโสปิ อาปตฺติโย น โหนฺติ, อนฺตมโส นิมิตฺตกมฺมมตฺตมฺปิ น โหติ. กสฺมา? มูลสฺส อตฺถิตาย. โย ปน เอวํ อกตฺวา ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติ ปริวตฺเตติ, ยถาวตฺถุกเมว. วิฆาสาทํ ทิสฺวา ‘‘อิมํ โอทนํ ภุฺชิตฺวา รชนํ วา ทารูนิ วา อาหรา’’ติ วทติ, รชนฉลฺลิคณนาย ทารุคณนาย จ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ. ‘‘อิมํ โอทนํ ภุฺชิตฺวา อิมํ นาม กโรถา’’ติ ทนฺตการาทีหิ สิปฺปิเกหิ ธมฺมกรณาทีสุ ตํ ตํ ปริกฺขารํ กาเรติ, รชเกหิ วา วตฺถํ โธวาเปติ, ยถาวตฺถุกเมว. นหาปิเตน เกเส ฉินฺทาเปติ, กมฺมกาเรหิ นวกมฺมํ กาเรติ, ยถาวตฺถุกเมว. สเจ ปน ‘‘อิทํ ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา อิทํ กโรถา’’ติ น วทติ, ‘‘อิทํ ภตฺตํ ภุฺช, ภุตฺโตสิ, ภุฺชิสฺสสิ, อิทํ นาม กโรหี’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. เอตฺถ จ กิฺจาปิ วตฺถโธวเน วา เกสจฺเฉทเน วา ภูมิโสธนาทินวกมฺเม วา ปรภณฺฑํ อตฺตโน หตฺถคตํ นิสฺสชฺชิตพฺพํ นาม นตฺถิ, มหาอฏฺกถายํ ปน ทฬฺหํ กตฺวา วุตฺตตฺตา น สกฺกา เอตํ ปฏิกฺขิปิตุํ, ตสฺมา ยถา นิสฺสคฺคิยวตฺถุมฺหิ ปริภุตฺเต วา นฏฺเ วา ปาจิตฺติยํ เทเสติ, เอวมิธาปิ เทเสตพฺพํ.

ยํ กิฺจิ กปฺปิยภณฺฑํ คณฺหิตุกามตาย อคฺฆํ ปุจฺฉิตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘อยํ ตว ปตฺโต กึ อคฺฆตี’’ติ ปุจฺฉิเต ‘‘อิทํ นามา’’ติ วทติ, สเจ อตฺตโน กปฺปิยภณฺฑํ มหคฺฆํ โหติ, เอวฺจ นํ ปฏิวทติ ‘‘อุปาสก มม อิทํ วตฺถุ มหคฺฆํ, ตว ปตฺตํ อฺสฺส เทหี’’ติ. ตํ สุตฺวา อิตโร ‘‘อฺํ ถาลกมฺปิ ทสฺสามี’’ติ วทติ, คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. สเจ โส ปตฺโต มหคฺโฆ, ภิกฺขุโน วตฺถุ อปฺปคฺฆํ, ปตฺตสามิโก จสฺส อปฺปคฺฆภาวํ น ชานาติ, ปตฺโต น คเหตพฺโพ, ‘‘มม วตฺถุ อปฺปคฺฆ’’นฺติ อาจิกฺขิตพฺพํ. มหคฺฆภาวํ ตฺวา วฺเจตฺวา คณฺหนฺโตปิ หิ ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺพตํ อาปชฺชติ. สเจ ปตฺตสามิโก ‘‘โหตุ, ภนฺเต, เสสํ มม ปุฺํ ภวิสฺสตี’’ติ เทติ, วฏฺฏติ. กปฺปิยการกสฺส ปน ‘‘อิมินา อิมํ คเหตฺวา เทหี’’ติ อาจิกฺขิตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ยสฺส หตฺถโต ภณฺฑํ คณฺหาติ, ตํ เปตฺวา อฺํ อนฺตมโส ตสฺส ปุตฺตภาติกมฺปิ กปฺปิยการกํ กตฺวา ‘‘อิมินา อิมํ นาม คเหตฺวา เทหี’’ติ อาจิกฺขติ, โส เจ เฉโก โหติ, ปุนปฺปุนํ อปเนตฺวา วิวทิตฺวา คณฺหาติ, ตุณฺหีภูเตน าตพฺพํ. โน เจ เฉโก โหติ, น ชานาติ คเหตุํ, วาณิชโก จ ตํ วฺเจติ, ‘‘มา คณฺหาหี’’ติ วตฺตพฺโพ.

‘‘อิทํ ปฏิคฺคหิตํ เตลํ วา สปฺปิ วา อมฺหากํ อตฺถิ, อมฺหากฺจ อฺเน อปฺปฏิคฺคหิตเกน อตฺโถ’’ติ วุตฺเต ปน สเจ โส ตํ คเหตฺวา อฺํ เทติ, ปมํ อตฺตโน เตลํ น มินาเปตพฺพํ. กสฺมา? นาฬิยฺหิ อวสิฏฺเตลํ โหติ, ตํ ปจฺฉา มินนฺตสฺส อปฺปฏิคฺคหิตํ ทูเสยฺย. อยฺจ กยวิกฺกโย นาม กปฺปิยภณฺฑวเสน วุตฺโต. กปฺปิเยน หิ กปฺปิยํ ปริวตฺเตนฺตสฺส กยวิกฺกยสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ วุตฺตํ, อกปฺปิเยน ปน อกปฺปิยํ ปริวตฺเตนฺตสฺส, กปฺปิเยน วา อกปฺปิยํ อกปฺปิเยน วา กปฺปิยํ ปริวตฺเตนฺตสฺส รูปิยสํโวหารสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ, ตสฺมา อุโภสุ วา เอกสฺมึ วา อกปฺปิเย สติ รูปิยสํโวหาโร นาม โหติ.

๕๘. รูปิยสํโวหารสฺส จ ครุภาวทีปนตฺถํ อิทํ ปตฺตจตุกฺกํ เวทิตพฺพํ. โย หิ รูปิยํ อุคฺคณฺหิตฺวา เตน อยพีชํ สมุฏฺาเปติ, ตํ โกฏฺฏาเปตฺวา เตน โลเหน ปตฺตํ กาเรติ, อยํ ปตฺโต มหาอกปฺปิโย นาม, น สกฺกา เกนจิ อุปาเยน กปฺปิโย กาตุํ. สเจปิ ตํ วินาเสตฺวา ถาลกํ กาเรติ, ตมฺปิ อกปฺปิยํ. วาสึ กาเรติ, ตาย ฉินฺนทนฺตกฏฺมฺปิ อกปฺปิยํ. พฬิสํ กาเรติ, เตน มาริตา มจฺฉาปิ อกปฺปิยา. วาสึ ตาเปตฺวา อุทกํ วา ขีรํ วา อุณฺหาเปติ, ตมฺปิ อกปฺปิยเมว.

โย ปน รูปิยํ อุคฺคณฺหิตฺวา เตน ปตฺตํ กิณาติ, อยมฺปิ ปตฺโต อกปฺปิโย. ‘‘ปฺจนฺนมฺปิ สหธมฺมิกานํ น กปฺปตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. สกฺกา ปน กปฺปิโย กาตุํ. โส หิ มูเล มูลสามิกานํ, ปตฺเต จ ปตฺตสามิกานํ ทินฺเน กปฺปิโย โหติ, กปฺปิยภณฺฑํ ทตฺวา คเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ.

โยปิ รูปิยํ อุคฺคณฺหาเปตฺวา กปฺปิยการเกน สทฺธึ กมฺมารกุลํ คนฺตฺวา ปตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มยฺหํ รุจฺจตี’’ติ วทติ, กปฺปิยการโก จ ตํ รูปิยํ ทตฺวา กมฺมารํ สฺาเปติ, อยมฺปิ ปตฺโต กปฺปิยโวหาเรน คหิโตปิ ทุติยปตฺตสทิโสเยว, มูลสฺส สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา อกปฺปิโย. กสฺมา เสสานํ น กปฺปตีติ? มูลสฺส อนิสฺสฏฺตฺตา.

โย ปน รูปิยํ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘เถรสฺส ปตฺตํ กิณิตฺวา เทหี’’ติ ปหิตกปฺปิยการเกน สทฺธึ กมฺมารกุลํ คนฺตฺวา ปตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อิเม กหาปเณ คเหตฺวา อิมํ เทหี’’ติ กหาปเณ ทาเปตฺวา คหิโต, อยํ ปตฺโต เอตสฺเสว ภิกฺขุโน น วฏฺฏติ ทุพฺพิจาริตตฺตา, อฺเสํ ปน วฏฺฏติ มูลสฺส อสมฺปฏิจฺฉิตตฺตา. มหาสุมตฺเถรสฺส กิร อุปชฺฌาโย อนุรุทฺธตฺเถโร นาม อโหสิ. โส อตฺตโน เอวรูปํ ปตฺตํ สปฺปิสฺส ปูเรตฺวา สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชิ. ติปิฏกจูฬนาคตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกานํ เอวรูโป ปตฺโต อโหสิ. ตํ เถโรปิ สปฺปิสฺส ปูเรตฺวา สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชาเปสีติ. อิทํ อกปฺปิยปตฺตจตุกฺกํ.

สเจ ปน รูปิยํ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘เถรสฺส ปตฺตํ กิณิตฺวา เทหี’’ติ ปหิตกปฺปิยการเกน สทฺธึ กมฺมารกุลํ คนฺตฺวา ปตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มยฺหํ รุจฺจตี’’ติ วา ‘‘อิมาหํ คเหสฺสามี’’ติ วา วทติ, กปฺปิยการโก จ ตํ รูปิยํ ทตฺวา กมฺมารํ สฺาเปติ, อยํ ปตฺโต สพฺพกปฺปิโย พุทฺธานมฺปิ ปริโภคารโห. อิมํ ปน รูปิยสํโวหารํ กโรนฺเตน ‘‘อิมินา อิมํ คเหตฺวา เทหี’’ติ กปฺปิยการกมฺปิ อาจิกฺขิตุํ น วฏฺฏติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

กยวิกฺกยสมาปตฺติวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๑๒. รูปิยาทิปฏิคฺคหณวินิจฺฉยกถา

๕๙. รูปิยาทิปฏิคฺคโหติ ชาตรูปาทิปฏิคฺคณฺหนํ. ตตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๔) ชาตรูปํ รชตํ ชาตรูปมาสโก รชตมาสโกติ จตุพฺพิธํ นิสฺสคฺคิยวตฺถุ. ตมฺพโลหาทีหิ กโต โลหมาสโก. สารทารุนา วา เวฬุเปสิกาย วา อนฺตมโส ตาลปณฺเณนปิ รูปํ ฉินฺทิตฺวา กโต ทารุมาสโก. ลาขาย วา นิยฺยาเสน วา รูปํ สมุฏฺาเปตฺวา กโต ชตุมาสโก. โย โย ยตฺถ ยตฺถ ชนปเท ยทา ยทา โวหารํ คจฺฉติ, อนฺตมโส อฏฺิมโยปิ จมฺมมโยปิ รุกฺขผลพีชมโยปิ สมุฏฺาปิตรูโปปิ อสมุฏฺาปิตรูโปปีติ อยํ สพฺโพปิ รชตมาสเกเนว สงฺคหิโต. มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ โลหิตงฺโก มสารคลฺลํ สตฺต ธฺานิ ทาสิทาสเขตฺตวตฺถุปุปฺผารามผลารามาทโยติ อิทํ ทุกฺกฏวตฺถุ. ตตฺถ นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ อตฺตโน วา สงฺฆคณปุคฺคลเจติยานํ วา อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ. อตฺตโน อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ โหติ, เสสานํ อตฺถาย ทุกฺกฏํ. ทุกฺกฏวตฺถุํ สพฺเพสมฺปิ อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉโต ทุกฺกฏเมว.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๙) – สเจ โกจิ ชาตรูปรชตํ อาหริตฺวา ‘‘อิทํ สงฺฆสฺส ทมฺมิ, อารามํ วา กโรถ เจติยํ วา โภชนสาลาทีนํ วา อฺตร’’นฺติ วทติ, อิทํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน ‘‘นยิทํ ภิกฺขูนํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺเต ‘‘วฑฺฒกีนํ วา กมฺมการานํ วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, เกวลํ ตุมฺเห สุกตทุกฺกฏํ ชานาถา’’ติ วตฺวา เตสํ หตฺเถ ทตฺวา ปกฺกมติ, วฏฺฏติ. อถาปิ ‘‘มม มนุสฺสานํ หตฺเถ ภวิสฺสติ, มยฺหเมว วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, เกวลํ ตุมฺเห ยํ ยสฺส ทาตพฺพํ, ตทตฺถาย เปเสถา’’ติ วทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. สเจ ปน สํฆํ วา คณํ วา ปุคฺคลํ วา อนามสิตฺวา ‘‘อิทํ หิรฺสุวณฺณํ เจติยสฺส เทม, วิหารสฺส เทม, นวกมฺมสฺส เทมา’’ติ วทนฺติ, ปฏิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ, ‘‘อิเม อิทํ ภณนฺตี’’ติ กปฺปิยการกานํ อาจิกฺขิตพฺพํ. ‘‘เจติยาทีนํ อตฺถาย ตุมฺเห คเหตฺวา เปตฺวา’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘อมฺหากํ คเหตุํ น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ.

สเจ ปน โกจิ พหุํ หิรฺสุวณฺณํ อาเนตฺวา ‘‘อิทํ สํฆสฺส ทมฺมิ, จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภุฺชถา’’ติ วทติ, ตฺเจ สํโฆ สมฺปฏิจฺฉติ, ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ อาปตฺติ. ตตฺร เจโก ภิกฺขุ ‘‘นยิทํ กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปติ, อุปาสโก จ ‘‘ยทิน กปฺปติ, มยฺหเมว ภวิสฺสตี’’ติ ตํ อาทาย คจฺฉติ. โส ภิกฺขุ ‘‘ตยา สํฆสฺส ลาภนฺตราโย กโต’’ติ น เกนจิ กิฺจิ วตฺตพฺโพ. โย หิ ตํ โจเทติ, สฺเวว สาปตฺติโก โหติ. เตน ปเนเกน พหู อนาปตฺติกา กตา. สเจ ปน ภิกฺขูหิ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺเต ‘‘กปฺปิยการกานํ วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, มม ปุริสานํ วา มยฺหํ วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, เกวลํ ตุมฺเห ปจฺจเย ปริภุฺชถา’’ติ วทติ, วฏฺฏติ.

จตุปจฺจยตฺถาย จ ทินฺนํ เยน เยน ปจฺจเยน อตฺโถ โหติ, ตํ ตทตฺถํ อุปเนตพฺพํ. จิวรตฺถาย ทินฺนํ จีวเรเยว อุปเนตพฺพํ. สเจ จีวเรน ตาทิโส อตฺโถ นตฺถิ, ปิณฺฑปาตาทีหิ สํโฆ กิลมติ, สํฆสุฏฺุตาย อปโลเกตฺวา ตทตฺถายปิ อุปเนตพฺพํ. เอส นโย ปิณฺฑปาตคิลานปจฺจยตฺถาย ทินฺเนปิ. เสนาสนตฺถาย ทินฺนํ ปน เสนาสนสฺส ครุภณฺฑตฺตา เสนาสเนเยว อุปเนตพฺพํ. สเจ ปน ภิกฺขูสุ เสนาสนํ ฉฑฺเฑตฺวา คเตสุ เสนาสนํ วินสฺสติ, อีทิเส กาเล เสนาสนํ วิสฺสชฺเชตฺวาปิ ภิกฺขูนํ ปริโภโค อนุฺาโต, ตสฺมา เสนาสนชคฺคนตฺถํ มูลจฺเฉชฺชํ อกตฺวา ยาปนมตฺตํ ปริภุฺชิตพฺพํ.

๖๐. สเจ โกจิ ‘‘มยฺหํ ติสสฺสสมฺปาทนกํ มหาตฬากํ อตฺถิ, ตํ สํฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ, ตฺเจ สํโฆ สมฺปฏิจฺฉติ, ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ อาปตฺติเยว. โย ปน ตํ ปฏิกฺขิปติ, โส ปุริมนเยเนว น เกนจิ กิฺจิ วตฺตพฺโพ. โย หิ ตํ โจเทติ, สฺเวว สาปตฺติโก โหติ. เตน ปเนเกน พหู อนาปตฺติกา กตา. โย ปน ‘‘ตาทิสํเยว ตฬากํ ทมฺมี’’ติ วตฺวา ภิกฺขูหิ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺโต วทติ ‘‘อสุกฺจ อสุกฺจ สงฺฆสฺส ตฬากํ อตฺถิ, ตํ กถํ วฏฺฏตี’’ติ. โส วตฺตพฺโพ ‘‘กปฺปิยํ กตฺวา ทินฺนํ ภวิสฺสตี’’ติ. กถํ ทินฺนํ กปฺปิยํ โหตีติ. ‘‘จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภุฺชถา’’ติ วตฺวา ทินฺนนฺติ. โส สเจ ‘‘สาธุ, ภนฺเต จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภุฺชถา’’ติ เทติ, วฏฺฏติ. อถาปิ ‘‘ตฬากํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺโต ‘‘กปฺปิยการโก อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘นตฺถี’’ติ วุตฺเต ‘‘อิทํ อสุโก นาม วิจาเรสฺสติ, อสุกสฺส วา หตฺเถ มยฺหํ วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, สงฺโฆ กปฺปิยภณฺฑํ ปริภุฺชตู’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. สเจปิ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺโต ‘‘อุทกํ ปริภุฺชิสฺสติ, ภณฺฑกํ โธวิสฺสติ, มิคปกฺขิโน ปิวิสฺสนฺตี’’ติ วทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. อถาปิ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺโต วทติ ‘‘กปฺปิยสีเสน คณฺหถา’’ติ. ‘‘สาธุ อุปาสก, สงฺโฆ ปานียํ ปิวิสฺสติ, ภณฺฑกํ โธวิสฺสติ, มิคปกฺขิโน ปิวิสฺสนฺตี’’ติ วตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. อถาปิ ‘‘มม ตฬากํ วา โปกฺขรณึ วา สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ อุปาสก, สงฺโฆ ปานียํ ปิวิสฺสตี’’ติอาทีนิ วตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติเยว.

ยทิ ปน ภิกฺขูหิ หตฺถกมฺมํ ยาจิตฺวา สหตฺเถน จ กปฺปิยปถวึ ขณิตฺวา อุทกปริโภคตฺถาย ตฬากํ การิตํ โหติ, ตฺเจ นิสฺสาย สสฺสํ นิปฺผาเทตฺวา มนุสฺสา วิหาเร กปฺปิยภณฺฑํ เทนฺติ, วฏฺฏติ. อถ มนุสฺสา เอว สงฺฆสฺส อุปการตฺถาย สงฺฆิกภูมึ ขณิตฺวา ตํ นิสฺสาย นิปฺผนฺนสสฺสโต กปฺปิยภณฺฑํ เทนฺติ, เอตมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘อมฺหากํ เอกํ กปฺปิยการกํ เปถา’’ติ วุตฺเต จ เปตุมฺปิ ลพฺภติ. อถ เต มนุสฺสา ราชพลินา อุปทฺทุตา ปกฺกมนฺติ, อฺเ ปฏิปชฺชนฺติ, น จ ภิกฺขูนํ กิฺจิ เทนฺติ, อุทกํ วาเรตุํ ลพฺภติ, ตฺจ โข กสิกมฺมกาเลเยว, น สสฺสกาเล. สเจ เต วทนฺติ ‘‘นนุ, ภนฺเต, ปุพฺเพปิ มนุสฺสา อิมํ นิสฺสาย สสฺสํ อกํสู’’ติ, ตโต วตฺตพฺพา ‘‘เต สงฺฆสฺส อิมฺจ อิมฺจ อุปการํ อกํสุ, อิทฺจิทฺจ กปฺปิยภณฺฑกํ อทํสู’’ติ. สเจ เต วทนฺติ ‘‘มยมฺปิ ทสฺสามา’’ติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ.

สเจ ปน โกจิ อพฺยตฺโต อกปฺปิยโวหาเรน ตฬากํ ปฏิคฺคณฺหาติ วา กาเรติ วา, ตํ ภิกฺขูหิ น ปริภุฺชิตพฺพํ, ตํ นิสฺสาย ลทฺธกปฺปิยภณฺฑมฺปิ อกปฺปิยเมว. สเจ ภิกฺขูหิ ปริจฺจตฺตภาวํ ตฺวา สามิโก วา ตสฺส ปุตฺตธีตโร วา อฺโ วา โกจิ วํเส อุปฺปนฺโน ปุน กปฺปิยโวหาเรน เทติ, วฏฺฏติ. ปจฺฉินฺเน กุลวํเส โย ตสฺส ชนปทสฺส สามิโก, โส อจฺฉินฺทิตฺวา กปฺปิยโวหาเรน ปุน เทติ จิตฺตลปพฺพเต ภิกฺขุนา นีหฏอุทกวาหกํ อฬนาคราชมเหสี วิย, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. กปฺปิยโวหาเรปิ อุทกวเสน ปฏิคฺคหิตตฬาเก สุทฺธจิตฺตานํ มตฺติกุทฺธรณปาฬิพนฺธนาทีนิ จ กาตุํ วฏฺฏติ. ตํ นิสฺสาย ปน สสฺสํ กโรนฺเต ทิสฺวา กปฺปิยการกํ เปตุํ น วฏฺฏติ. ยทิ เต สยเมว กปฺปิยภณฺฑํ เทนฺติ, คเหตพฺพํ. โน เจ เทนฺติ, น โจเทตพฺพํ. ปจฺจยวเสน ปฏิคฺคหิตตฬาเก กปฺปิยการกํ เปตุํ วฏฺฏติ, มตฺติกุทฺธรณปาฬิพนฺธนาทีนิ กาเรตุํ น วฏฺฏติ. สเจ กปฺปิยการกา สยเมว กโรนฺติ, วฏฺฏติ. อพฺยตฺเตน ปน ลชฺชิภิกฺขุนา การาปิเตสุ กิฺจาปิ ปฏิคฺคหณํ กปฺปิยํ, ภิกฺขุสฺส ปน ปโยคปจฺจยา อุปฺปนฺเนน มิสฺสตฺตา วิสคตปิณฺฑปาโต วิย อกปฺปิยมํสรสมิสฺสโภชนํ วิย จ ทุพฺพินิโภคํ โหติ, สพฺเพสํ อกปฺปิยเมว.

๖๑. สเจ ปน อุทกสฺส โอกาโส อตฺถิ, ตฬากสฺส ปาฬิ ถิรา, ‘‘ยถา พหุํ อุทกํ คณฺหาติ, เอวํ กโรหิ, ตีรสมีเป อุทกํ กโรหี’’ติ เอวํ อุทกเมว วิจาเรติ, วฏฺฏติ. อุทฺธเน อคฺคึ น ปาเตนฺติ, ‘‘อุทกกมฺมํ ลพฺภตุ อุปาสกา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ, ‘‘สสฺสํ กตฺวา อาหรถา’’ติ วตฺตุํ ปน น วฏฺฏติ. สเจ ปน ตฬาเก อติพหุํ อุทกํ ทิสฺวา ปสฺสโต วา ปิฏฺิโต วา มาติกํ นีหราเปติ, วนํ ฉินฺทาเปตฺวา เกทาเร การาเปติ, โปราณเกทาเรสุ วา ปกติภาคํ อคฺคเหตฺวา อติเรกํ คณฺหาติ, นวสสฺเส วา อปริจฺฉินฺนภาเค ‘‘เอตฺตเก กหาปเณ เทถา’’ติ กหาปเณ อุฏฺาเปติ, สพฺเพสํ อกปฺปิยํ.

โย ปน ‘‘กสถ วปถา’’ติ อวตฺวา ‘‘เอตฺตกาย ภูมิยา เอตฺตโก นาม ภาโค’’ติ เอวํ ภูมึ วา ปติฏฺาเปติ, ‘‘เอตฺตเก ภูมิภาเค อมฺเหหิ สสฺสํ กตํ, เอตฺตกํ นาม ภาคํ คณฺหถา’’ติ วทนฺเตสุ กสฺสเกสุ ภูมิปฺปมาณคหณตฺถํ รชฺชุยา วา ทณฺเฑน วา มินาติ, ขเล วา ตฺวา รกฺขติ, ขลโต วา นีหราเปติ, โกฏฺาคาเร วา ปฏิสาเมติ, ตสฺเสว ตํ อกปฺปิยํ. สเจ กสฺสกา กหาปเณ อาหริตฺวา ‘‘อิเม สงฺฆสฺส อาหฏา’’ติ วทนฺติ, อฺตโร จ ภิกฺขุ ‘‘น สงฺโฆ กหาปเณ ขาทตี’’ติ สฺาย ‘‘เอตฺตเกหิ กหาปเณหิ สาฏเก อาหรถ, เอตฺตเกหิ ยาคุอาทีนิ สมฺปาเทถา’’ติ วทติ, ยํ เต อาหรนฺติ, ตํ สพฺเพสํ อกปฺปิยํ. กสฺมา? กหาปณานํ วิจาริตตฺตา. สเจ ธฺํ อาหริตฺวา ‘‘อิทํ สงฺฆสฺส อาหฏ’’นฺติ วทนฺติ, อฺตโร จ ภิกฺขุ ปุริมนเยเนว ‘‘เอตฺตเกหิ วีหีหิ อิทฺจิทฺจ อาหรถา’’ติ วทติ, ยํ เต อาหรนฺติ, ตํ ตสฺเสว อกปฺปิยํ. กสฺมา? ธฺสฺส วิจาริตตฺตา. สเจ ตณฺฑุลํ วา อปรณฺณํ วา อาหริตฺวา ‘‘อิทํ สงฺฆสฺส อาหฏ’’นฺติ วทนฺติ, อฺตโร จ ภิกฺขุ ปุริมนเยเนว ‘‘เอตฺตเกหิ ตณฺฑุเลหิ อิทฺจิทฺจ อาหรถา’’ติ วทติ, ยํ เต อาหรนฺติ, ตํ สพฺเพสํ กปฺปิยํ. กสฺมา? กปฺปิยานํ ตณฺฑุลาทีนํ วิจาริตตฺตา. กยวิกฺกเยปิ อนาปตฺติ กปฺปิยการกสฺส อาจิกฺขิตตฺตา.

๖๒. ปุพฺเพ ปน จิตฺตลปพฺพเต เอโก ภิกฺขุ จตุสาลทฺวาเร ‘‘อโห วต สฺเว สงฺฆสฺส เอตฺตกปฺปมาเณ ปูเว ปเจยฺยุ’’นฺติ อารามิกานํ สฺาชนนตฺถํ ภูมิยํ มณฺฑลํ อกาสิ. ตํ ทิสฺวา เฉโก อารามิโก ตเถว กตฺวา ทุติยทิวเส เภริยา อาโกฏิตาย สนฺนิปติเต สงฺเฆ ปูวํ คเหตฺวา สงฺฆตฺเถรํ อาห – ‘‘ภนฺเต, อมฺเหหิ อิโต ปุพฺเพ เนว ปิตูนํ, น ปิตามหานํ เอวรูปํ สุตปุพฺพํ, เอเกน อยฺเยน จตุสาลทฺวาเร ปูวตฺถาย สฺา กตา, อิโต ทานิ ปภุติ อยฺยา อตฺตโน อตฺตโน จิตฺตานุรูปํ วทนฺตุ, อมฺหากมฺปิ ผาสุวิหาโร ภวิสฺสตี’’ติ. มหาเถโร ตโตว นิวตฺติ, เอกภิกฺขุนาปิ ปูโว น คหิโต. เอวํ ปุพฺเพ ตตฺรุปฺปาทํ น ปริภุฺชึสุ. ตสฺมา –

สลฺเลขํ อจฺจชนฺเตน, อปฺปมตฺเตน ภิกฺขุนา;

กปฺปิเยปิ น กาตพฺพา, อามิสตฺถาย โลลตาติ. (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๙);

โย จายํ ตฬาเก วุตฺโต, โปกฺขรณีอุทกวาหกมาติกาทีสุปิ เอเสว นโย.

๖๓. ปุพฺพณฺณาปรณฺณอุจฺฉุผลาผลาทีนํ วิรุหนฏฺานํ ยํ กิฺจิ เขตฺตํ วา วตฺถุํ วา ‘‘ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ตฬาเก วุตฺตนเยเนว ยทา กปฺปิยโวหาเรน ‘‘จตุปจฺจยปริโภคตฺถาย ทมฺมี’’ติ วทติ, ตทา สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ, ‘‘วนํ ทมฺมิ อรฺํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปน วฏฺฏติ. สเจ มนุสฺสา ภิกฺขูหิ อนาณตฺตาเยว ตตฺถ รุกฺเข ฉินฺทิตฺวา อปรณฺณาทีนิ สมฺปาเทตฺวา ภิกฺขูนํ ภาคํ เทนฺติ, วฏฺฏติ, อเทนฺตา น โจเทตพฺพา. สเจ เกนจิเทว อนฺตราเยน เตสุ ปกฺกนฺเตสุ อฺเ กโรนฺติ, น จ ภิกฺขูนํ กิฺจิ เทนฺติ, เต วาเรตพฺพา. สเจ วทนฺติ ‘‘นนุ, ภนฺเต, ปุพฺเพ มนุสฺสา อิธ สสฺสานิ อกํสู’’ติ, ตโต วตฺตพฺพา ‘‘เต สงฺฆสฺส อิทฺจิทฺจ กปฺปิยภณฺฑํ อทํสู’’ติ. สเจ วทนฺติ ‘‘มยมฺปิ ทสฺสามา’’ติ, เอวํ วฏฺฏติ.

กิฺจิ สสฺสุฏฺานกํ ภูมิปฺปเทสํ สนฺธาย ‘‘สีมํ เทมา’’ติ วทนฺติ, วฏฺฏติ. สีมปริจฺเฉทนตฺถํ ปน ถมฺภา วา ปาสาณา วา สยํ น เปตพฺพา, ภูมิ นาม อนคฺฆา, อปฺปเกนปิ ปาราชิโก ภเวยฺย. อารามิกานํ ปน วตฺตพฺพํ ‘‘อิมินา าเนน อมฺหากํ สีมา คตา’’ติ. สเจปิ หิ เต อธิกํ คณฺหนฺติ, ปริยาเยน กถิตตฺตา อนาปตฺติ. ยทิ ปน ราชราชมหามตฺตาทโย สยเมว ถมฺเภ ปาเปตฺวา ‘‘จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภุฺชถา’’ติ เทนฺติ, วฏฺฏติเยว.

สเจ โกจิ อนฺโตสีมายํ ตฬากํ วา ขณติ, วิหารมชฺเฌน วา มาติกํ เนติ, เจติยงฺคณโพธิยงฺคณาทีนิ ทุสฺสนฺติ, วาเรตพฺโพ. สเจ สงฺโฆ กิฺจิ ลภิตฺวา อามิสครุกตาย น วาเรติ, เอโก ภิกฺขุ วาเรติ, โสว ภิกฺขุ อิสฺสโร. สเจ เอโก ภิกฺขุ น วาเรติ ‘‘เนถ ตุมฺเห’’ติ, เตสํเยว ปกฺโข โหติ. สงฺโฆ วาเรติ, สงฺโฆว อิสฺสโร. สงฺฆิเกสุ หิ กมฺเมสุ โย ธมฺมกมฺมํ กโรติ, โสว อิสฺสโร. สเจ วาริยมาโนปิ กโรติ, เหฏฺา คหิตํ ปํสุํ เหฏฺา ปกฺขิปิตฺวา, อุปริ คหิตํ ปํสุํ อุปริ ปกฺขิปิตฺวา ปูเรตพฺพา.

สเจ โกจิ ยถาชาตเมว อุจฺฉุํ วา อปรณฺณํ วา อลาพุกุมฺภณฺฑาทิกํ วา วลฺลิผลํ ทาตุกาโม ‘‘เอตํ สพฺพํ อุจฺฉุเขตฺตํ อปรณฺณวตฺถุํ วลฺลิผลาวาฏํ ทมฺมี’’ติ วทติ, สห วตฺถุนา ปรามฏฺตฺตา น วฏฺฏตีติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘อภิลาปมตฺตเมตํ, สามิกานํเยว หิ โส ภูมิภาโค, ตสฺมา วฏฺฏตี’’ติ อาห. ‘‘ทาสํ ทมฺมี’’ติ วทติ, น วฏฺฏติ. ‘‘อารามิกํ ทมฺมิ, เวยฺยาวจฺจกรํ ทมฺมิ, กปฺปิยการกํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต วฏฺฏติ. สเจ อารามิโก ปุเรภตฺตมฺปิ ปจฺฉาภตฺตมฺปิ สงฺฆสฺเสว กมฺมํ กโรติ, สามเณรสฺส วิย สพฺพํ เภสชฺชํ ปฏิชคฺคนมฺปิ ตสฺส กาตพฺพํ. สเจ ปุเรภตฺตเมว สงฺฆสฺส กมฺมํ กโรติ, ปจฺฉาภตฺตํ อตฺตโน กโรติ, สายํ นิวาโป น ทาตพฺโพ. เยปิ ปฺจทิวสวาเรน วา ปกฺขวาเรน วา สงฺฆสฺส กมฺมํ กตฺวา เสสกาเล อตฺตโน กมฺมํ กโรนฺติ, เตสมฺปิ กรณกาเลเยว ภตฺตฺจ นิวาโป จ ทาตพฺโพ. สเจ สงฺฆสฺส กมฺมํ นตฺถิ, อตฺตโนเยว กมฺมํ กตฺวา ชีวนฺติ, เต เจ หตฺถกมฺมมูลํ อาเนตฺวา เทนฺติ, คเหตพฺพํ. โน เจ เทนฺติ, น กิฺจิ วตฺตพฺพา. ยํ กิฺจิ รชกทาสมฺปิ เปสการทาสมฺปิ อารามิกนาเมน สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ.

สเจ ‘‘คาโว เทมา’’ติ วทนฺติ, ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตพฺพา. อิมา คาโว กุโตติ. ปณฺฑิเตหิ ปฺจโครสปริโภคตฺถาย ทินฺนาติ. ‘‘มยมฺปิ ปฺจโครสปริโภคตฺถาย เทมา’’ติ วุตฺเต วฏฺฏนฺติ. อชิกาทีสุปิ เอเสว นโย. ‘‘หตฺถึ เทม, อสฺสํ, มหึสํ, กุกฺกุฏํ, สูกรํ เทมา’’ติ วทนฺติ, สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ. สเจ เกจิ มนุสฺสา ‘‘อปฺโปสฺสุกฺกา, ภนฺเต, ตุมฺเห โหถ, มยํ อิเม คเหตฺวา ตุมฺหากํ กปฺปิยภณฺฑํ ทสฺสามา’’ติ คณฺหนฺติ, วฏฺฏติ. กุกฺกุฏสูกเร ‘‘สุขํ ชีวนฺตู’’ติ อรฺเ วิสฺสชฺชาเปตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อิมํ ตฬากํ, อิมํ เขตฺตํ, อิมํ วตฺถุํ วิหารสฺส เทมา’’ติ วุตฺเต ปฏิกฺขิปิตุํ น ลพฺภติ.

๖๔. สเจ โกจิ ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส ทูเตน หิรฺสุวณฺณาทิจีวรเจตาปนฺนํ ปหิเณยฺย ‘‘อิมินา จีวรเจตาปนฺเนน จีวรํ เจตาเปตฺวา อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวเรน อจฺฉาเทหี’’ติ, โส เจ ทูโต ตํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทยฺย ‘‘อิทํ โข, ภนฺเต, อายสฺมนฺตํ อุทฺทิสฺส จีวรเจตาปนฺนํ อาภตํ, ปฏิคฺคณฺหตุ อายสฺมา จีวรเจตาปนฺน’’นฺติ, เตน ภิกฺขุนา โส ทูโต เอวมสฺส วจนีโย ‘‘น โข มยํ, อาวุโส, จีวรเจตาปนฺนํ ปฏิคฺคณฺหาม, จีวรฺจ โข มยํ ปฏิคฺคณฺหาม กาเลน กปฺปิย’’นฺติ. โส เจ ทูโต ตํ ภิกฺขุํ เอวํ วเทยฺย ‘‘อตฺถิ ปนายสฺมโต โกจิ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ, จีวรตฺถิเกน ภิกฺขุนา เวยฺยาวจฺจกโร นิทฺทิสิตพฺโพ อารามิโก วา อุปาสโก วา ‘‘เอโส โข, อาวุโส, ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ. น วตฺตพฺโพ ‘‘ตสฺส เทหี’’ติ วา ‘‘โส วา นิกฺขิปิสฺสติ, โส วา ปริวตฺเตสฺสติ, โส วา เจตาเปสฺสตี’’ติ. โส เจ ทูโต ตํ เวยฺยาวจฺจกรํ สฺาเปตฺวา ตํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทยฺย ‘‘ยํ โข, ภนฺเต, อายสฺมา เวยฺยาวจฺจกรํ นิทฺทิสิ, อาณตฺโต โส มยา, อุปสงฺกมตุ อายสฺมา กาเลน, จีวเรน ตํ อจฺฉาเทสฺสตี’’ติ. จีวรตฺถิเกน ภิกฺขุนา เวยฺยาวจฺจกโร อุปสงฺกมิตฺวา ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ โจเทตพฺโพ สาเรตพฺโพ ‘‘อตฺโถ เม, อาวุโส, จีวเรนา’’ติ. น วตฺตพฺโพ ‘‘เทหิ เม จีวรํ, อาหร เม จีวรํ, ปริวตฺเตหิ เม จีวรํ, เจตาเปหิ เม จีวร’’นฺติ. สเจ ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ โจทยมาโน สารยมาโน ตํ จีวรํ อภินิปฺผาเทติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ อภินิปฺผาเทติ, ตตฺถ คนฺตฺวา จตุกฺขตฺตุํ ปฺจกฺขตฺตุํ ฉกฺขตฺตุปรมํ ตุณฺหีภูเตน อุทฺทิสฺส าตพฺพํ, น อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น อามิสํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, น ธมฺโม ภาสิตพฺโพ. ‘‘กึ การณา อาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิยมาเนน ‘‘ชานาหิ, อาวุโส’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ.

สเจ อาสเน วา นิสีทติ, อามิสํ วา ปฏิคฺคณฺหาติ, ธมฺมํ วา ภาสติ, านํ ภฺชติ. สเจ จตุกฺขตฺตุํ โจเทติ, จตุกฺขตฺตุํ าตพฺพํ. ปฺจกฺขตฺตุํ โจเทติ, ทฺวิกฺขตฺตุํ าตพฺพํ. ฉกฺขตฺตุํ โจเทติ, น าตพฺพํ. เอกาย หิ โจทนาย านทฺวยํ ภฺชติ. ยถา ฉกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา น าตพฺพํ, เอวํ ทฺวาทสกฺขตฺตุํ ตฺวา น โจเทตพฺพํ. ตสฺมา สเจ โจเทติเยว น ติฏฺติ, ฉ โจทนา ลพฺภนฺติ. สเจ ติฏฺติเยว น โจเทติ, ทฺวาทส านานิ ลพฺภนฺติ. สเจ โจเทติปิ ติฏฺติปิ, เอกาย โจทนาย ทฺเว านานิ หาเปตพฺพานิ. ตตฺถ โย เอกทิวสเมว ปุนปฺปุนํ คนฺตฺวา ฉกฺขตฺตุํ โจเทติ, สกึเยว วา คนฺตฺวา ‘‘อตฺโถ เม, อาวุโส, จีวเรนา’’ติ ฉกฺขตฺตุํ วทติ, ตตฺถ เอกทิวสเมว ปุนปฺปุนํ คนฺตฺวา ทฺวาทสกฺขตฺตุํ ติฏฺติ, สกิเมว วา คนฺตฺวา ตตฺร ตตฺร าเน ติฏฺติ, โสปิ สพฺพโจทนาโย สพฺพฏฺานานิ จ ภฺชติ, โก ปน วาโท นานาทิวเสสุ. ตโต เจ อุตฺตริ วายมมาโน ตํ จีวรํ อภินิปฺผาเทติ, ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหติ. โน เจ สกฺโกติ ตํ อภินิปฺผาเทตุํ, ยโต ราชโต ราชมหามตฺตโต วา อสฺส ภิกฺขุโน ตํ จีวรเจตาปนฺนํ อานีตํ, ตสฺส สนฺติกํ สามํ วา คนฺตพฺพํ, ทูโต วา ปาเหตพฺโพ ‘‘ยํ โข ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส จีวรเจตาปนฺนํ ปหิณิตฺถ, น ตํ ตสฺส ภิกฺขุโน กิฺจิ อตฺถํ อนุโภติ, ยุฺชนฺตายสฺมนฺโต สกํ, มา ตุมฺหากํ สนฺตกํ วินสฺสตู’’ติ. อยํ ตตฺถ สามีจิ. โย ปน เนว สามํ คจฺฉติ, น ทูตํ ปาเหติ, วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ.

๖๕. กึ ปน (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๙) สพฺพกปฺปิยการเกสุ เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ? น ปฏิปชฺชิตพฺพํ. อยฺหิ กปฺปิยการโก นาม สงฺเขปโต ทุวิโธ นิทฺทิฏฺโ อนิทฺทิฏฺโ จ. ตตฺถ นิทฺทิฏฺโ ทุวิโธ ภิกฺขุนา นิทฺทิฏฺโ ทูเตน นิทฺทิฏฺโติ. อนิทฺทิฏฺโปิ ทุวิโธ มุขเววฏิกกปฺปิยการโก ปรมฺมุขกปฺปิยการโกติ. เตสุ ภิกฺขุนา นิทฺทิฏฺโ สมฺมุขาสมฺมุขวเสน จตุพฺพิโธ โหติ, ตถา ทูเตน นิทฺทิฏฺโปิ. กถํ? อิเธกจฺโจ ภิกฺขุสฺส จีวรตฺถาย ทูเตน อกปฺปิยวตฺถุํ ปหิณติ, ทูโต ตํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อิทํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนาเมน ตุมฺหากํ จีวรตฺถาย ปหิตํ, คณฺหถ น’’นฺติ วทติ, ภิกฺขุ ‘‘นยิทํ กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปติ, ทูโต ‘‘อตฺถิ ปน เต, ภนฺเต, เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ ปุจฺฉติ, ปุฺตฺถิเกหิ จ อุปาสเกหิ ‘‘ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจํ กโรถา’’ติ อาณตฺตา วา, ภิกฺขูนํ วา สนฺทิฏฺสมฺภตฺตา เกจิ เวยฺยาวจฺจกรา โหนฺติ, เตสํ อฺตโร ตสฺมึ ขเณ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก นิสินฺโน โหติ, ภิกฺขุ ตํ นิทฺทิสติ ‘‘อยํ ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ, ทูโต ตสฺส หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ‘‘เถรสฺส จีวรํ กิณิตฺวา เทหี’’ติ คจฺฉติ, อยํ ภิกฺขุนา สมฺมุขานิทฺทิฏฺโ.

โน เจ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก นิสินฺโน โหติ, อปิจ โข ภิกฺขุ นิทฺทิสติ ‘‘อสุกสฺมึ นาม คาเม อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ, โส คนฺตฺวา ตสฺส หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ‘‘เถรสฺส จีวรํ กิณิตฺวา ทเทยฺยาสี’’ติ อาคนฺตฺวา ภิกฺขุสฺส อาโรเจตฺวา คจฺฉติ, อยเมโก ภิกฺขุนา อสมฺมุขานิทฺทิฏฺโ.

น เหว โข โส ทูโต อตฺตนา อาคนฺตฺวา อาโรเจติ, อปิจ โข อฺํ ปหิณติ ‘‘ทินฺนํ มยา, ภนฺเต, ตสฺส หตฺเถ จีวรเจตาปนฺนํ, ตุมฺเห จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ, อยํ ทุติโย ภิกฺขุนา อสมฺมุขานิทฺทิฏฺโ.

น เหว โข อฺํ ปหิณติ, อปิจ คจฺฉนฺโตว ภิกฺขุํ วทติ ‘‘อหํ ตสฺส หตฺเถ จีวรเจตาปนฺนํ ทสฺสามิ, ตุมฺเห จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ, อยํ ตติโย ภิกฺขุนา อสมฺมุขานิทฺทิฏฺโติ เอวํ เอโก สมฺมุขานิทฺทิฏฺโ ตโย อสมฺมุขานิทฺทิฏฺาติ อิเม จตฺตาโร ภิกฺขุนา นิทฺทิฏฺเวยฺยาวจฺจกรา นาม. เอเตสุ อิธ วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

อปโร ภิกฺขุ ปุริมนเยเนว ทูเตน ปุจฺฉิโต นตฺถิตาย วา อวิจาเรตุกามตาย วา ‘‘นตฺถมฺหากํ กปฺปิยการโก’’ติ วทติ, ตสฺมึ ขเณ โกจิ มนุสฺโส อาคจฺฉติ, ทูโต ตสฺส หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ‘‘อิมสฺส หตฺถโต จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ วตฺวา คจฺฉติ, อยํ ทูเตน สมฺมุขานิทฺทิฏฺโติ เอวํ เอโก สมฺมุขานิทฺทิฏฺโ.

อปโร ทูโต คามํ ปวิสิตฺวา อตฺตนา อภิรุจิตสฺส กสฺสจิ หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ปุริมนเยเนว อาคนฺตฺวา วา อาโรเจติ, อฺํ วา ปหิณติ ‘‘อหํ อสุกสฺส นาม หตฺเถ จีวรเจตาปนฺนํ ทสฺสามิ, ตุมฺเห จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ วตฺวา วา คจฺฉติ, อยํ ตติโย ทูเตน อสมฺมุขานิทฺทิฏฺโติ เอวํ เอโก สมฺมุขานิทฺทิฏฺโ ตโย อสมฺมุขานิทฺทิฏฺาติ อิเม จตฺตาโร ทูเตน นิทฺทิฏฺเวยฺยาวจฺจกรา นาม. เอเตสุ เมณฺฑกสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, มนุสฺสา สทฺธา ปสนฺนา, เต กปฺปิยการกานํ หตฺเถ หิรฺํ อุปนิกฺขิปนฺติ ‘อิมินา ยํ อยฺยสฺส กปฺปิยํ, ตํ เทถา’ติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ ตโต กปฺปิยํ, ตํ สาทิตุํ, น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, ‘เกนจิ ปริยาเยน ชาตรูปรชตํ สาทิตพฺพํ ปริเยสิตพฺพ’นฺติ วทามี’’ติ (มหาว. ๒๙๙).

เอตฺถ โจทนาย ปริมาณํ นตฺถิ, มูลํ อสาทิยนฺเตน สหสฺสกฺขตฺตุมฺปิ โจทนาย วา าเนน วา กปฺปิยภณฺฑํ สาทิตุํ วฏฺฏติ. โน เจ เทติ, อฺํ กปฺปิยการกํ เปตฺวาปิ อาหราเปตพฺพํ. สเจ อิจฺฉติ, มูลสามิกานมฺปิ กเถตพฺพํ. โน เจ อิจฺฉติ, น กเถตพฺพํ.

อปโร ภิกฺขุ ปุริมนเยเนว ทูเตน ปุจฺฉิโต ‘‘นตฺถมฺหากํ กปฺปิยการโก’’ติ วทติ, ตทฺโ สมีเป ิโต สุตฺวา ‘‘อาหร โภ, อหํ อยฺยสฺส จีวรํ เจตาเปตฺวา ทสฺสามี’’ติ วทติ. ทูโต ‘‘หนฺท โภ ทเทยฺยาสี’’ติ ตสฺส หตฺเถ ทตฺวา ภิกฺขุสฺส อนาโรเจตฺวาว คจฺฉติ, อยํ มุขเววฏิกกปฺปิยการโก. อปโร ภิกฺขุโน อุปฏฺากสฺส วา อฺสฺส วา หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ‘‘เถรสฺส จีวรํ ทเทยฺยาสี’’ติ เอตฺโตว ปกฺกมติ, อยํ ปรมฺมุขากปฺปิยการโกติ อิเม ทฺเว อนิทฺทิฏฺกปฺปิยการกา นาม. เอเตสุ อฺาตกอปฺปวาริเตสุ วิย ปฏิปชฺชิตพฺพํ. สเจ สยเมว จีวรํ อาเนตฺวา ททนฺติ, คเหตพฺพํ. โน เจ, น กิฺจิ วตฺตพฺพา. ยถา จ ทูตสฺส หตฺเถ จีวรตฺถาย อกปฺปิยวตฺถุมฺหิ เปสิเต วินิจฺฉโย วุตฺโต, เอวํ ปิณฺฑปาตาทีนมฺปิ อตฺถาย เปสิเต สยํ อาคนฺตฺวา ทียมาเน จ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

๖๖. อุปนิกฺขิตฺตสาทิยเน ปน อยํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๔) – กิฺจิ อกปฺปิยวตฺถุํ ปาทมูเล เปตฺวา ‘‘อิทํ อยฺยสฺส โหตู’’ติ วุตฺเต สเจปิ จิตฺเตน สาทิยติ, คณฺหิตุกาโม โหติ, กาเยน วา วาจาย วา ‘‘นยิทํ กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปติ, อนาปตฺติ. กายวาจาหิ วา อปฺปฏิกฺขิปิตฺวาปิ สุทฺธจิตฺโต หุตฺวา ‘‘นยิทํ อมฺหากํ กปฺปตี’’ติ น สาทิยติ, อนาปตฺติเยว. ตีสุ ทฺวาเรสุ หิ เยน เกนจิ ปฏิกฺขิตฺตํ ปฏิกฺขิตฺตเมว โหติ. สเจ ปน กายวาจาหิ อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา จิตฺเตน อธิวาเสติ, กายวาจาหิ กตฺตพฺพสฺส ปฏิกฺเขปสฺส อกรณโต อกิริยสมุฏฺานํ กายทฺวาเร จ วจีทฺวาเร จ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, มโนทฺวาเร ปน อาปตฺติ นาม นตฺถิ.

เอโก สตํ วา สหสฺสํ วา ปาทมูเล เปติ ‘‘ตุยฺหิทํ โหตู’’ติ, ภิกฺขุ ‘‘นยิทํ กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปติ, อุปาสโก ‘‘ปริจฺจตฺตํ มยา ตุมฺหาก’’นฺติ คโต, อฺโ ตตฺถ อาคนฺตฺวา ปุจฺฉติ ‘‘กึ, ภนฺเต, อิท’’นฺติ, ยํ เตน จ อตฺตนา จ วุตฺตํ, ตํ อาจิกฺขิตพฺพํ. โส เจ วทติ ‘‘โคปยิสฺสามหํ, ภนฺเต, คุตฺตฏฺานํ ทสฺเสถา’’ติ, สตฺตภูมิกมฺปิ ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ‘‘อิทํ คุตฺตฏฺาน’’นฺติ อาจิกฺขิตพฺพํ, ‘‘อิธ นิกฺขิปาหี’’ติ น วตฺตพฺพํ. เอตฺตาวตา กปฺปิยฺจ อกปฺปิยฺจ นิสฺสาย ิตํ โหติ, ทฺวารํ ปิทหิตฺวา รกฺขนฺเตน วสิตพฺพํ. สเจ กิฺจิ วิกฺกายิกภณฺฑํ ปตฺตํ วา จีวรํ วา คเหตฺวา อาคจฺฉติ, ‘‘อิทํ คเหสฺสถ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘อุปาสก, อตฺถิ อมฺหากํ อิมินา อตฺโถ, วตฺถุ จ เอวรูปํ นาม สํวิชฺชติ, กปฺปิยการโก นตฺถี’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ โส วทติ ‘‘อหํ กปฺปิยการโก ภวิสฺสามิ, ทฺวารํ วิวริตฺวา เทถา’’ติ, ทฺวารํ วิวริตฺวา ‘‘อิมสฺมึ โอกาเส ปิต’’นฺติ วตฺตพฺพํ, ‘‘อิทํ คณฺหา’’ติ น วตฺตพฺพํ. เอวมฺปิ กปฺปิยฺจ อกปฺปิยฺจ นิสฺสาย ิตเมว โหติ. โส เจ ตํ คเหตฺวา ตสฺส กปฺปิยภณฺฑํ เทติ, วฏฺฏติ. สเจ อธิกํ คณฺหาติ, ‘‘น มยํ ตว ภณฺฑํ คณฺหาม, นิกฺขมาหี’’ติ วตฺตพฺโพ.

๖๗. เยน ปน ชาตรูปาทิจตุพฺพิธํ นิสฺสคฺคิยวตฺถุ ปฏิคฺคหิตํ, เตน กึ กาตพฺพนฺติ? สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสชฺชิตพฺพํ. กถํ? เตน ภิกฺขุนา (ปารา. ๕๘๔) สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย ‘‘อหํ, ภนฺเต, รูปิยํ ปฏิคฺคเหสึ, อิทํ เม นิสฺสคฺคิยํ, อิมาหํ นิสฺสชฺชามี’’ติ นิสฺสชฺชิตฺวา อาปตฺติ เทเสตพฺพา. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน อาปตฺติ ปฏิคฺคเหตพฺพา. สเจ ตตฺถ อาคจฺฉติ อารามิโก วา อุปาสโก วา, โส วตฺตพฺโพ ‘‘อาวุโส, อิทํ ชานาหี’’ติ. สเจ โส ภณติ ‘‘อิมินา กึ อาหริสฺสามี’’ติ, น วตฺตพฺโพ ‘‘อิมํ วา อิมํ วา อาหรา’’ติ, กปฺปิยํ อาจิกฺขิตพฺพํ สปฺปึ วา เตลํ วา มธุํ วา ผาณิตํ วา. อาจิกฺขนฺเตน จ ‘‘อิมินา สปฺปึ วา เตลํ วา มธุํ วา ผาณิตํ วา อาหรา’’ติ น วตฺตพฺพํ, ‘‘อิทฺจิทฺจ สงฺฆสฺส กปฺปิย’’นฺติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ. สเจ โส เตน ปริวตฺเตตฺวา กปฺปิยํ อาหรติ, รูปิยปฏิคฺคาหกํ เปตฺวา สพฺเพเหว ภาเชตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ, รูปิยปฏิคฺคาหเกน ภาโค น คเหตพฺโพ.

อฺเสํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๔) ภิกฺขูนํ วา อารามิกานํ วา ปตฺตภาคมฺปิ ลภิตฺวา ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ, อนฺตมโส มกฺกฏาทีหิ ตโต หริตฺวา อรฺเ ปิตํ วา เตสํ หตฺถโต คฬิตํ วา ติรจฺฉานปฏิคฺคหิตมฺปิ ปํสุกูลมฺปิ น วฏฺฏติเยว. ตโต อาหเฏน ผาณิเตน เสนาสนธูปนมฺปิ น วฏฺฏติ. สปฺปินา วา เตเลน วา ปทีปํ กตฺวา ทีปาโลเก นิปชฺชิตุํ, กสิณปริกมฺมํ กาตุํ, โปตฺถกมฺปิ วาเจตุํ น วฏฺฏติ. เตลมธุผาณิเตหิ ปน สรีเร วณํ มกฺเขตุํ น วฏฺฏติเยว. เตน วตฺถุนา มฺจปีาทีนิ วา คณฺหนฺติ, อุโปสถาคารํ วา โภชนสาลํ วา กโรนฺติ, ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ. ฉายาปิ เคหปริจฺเฉเทน ิตาว น วฏฺฏติ, ปริจฺเฉทาติกฺกนฺตา อาคนฺตุกตฺตา วฏฺฏติ. ตํ วตฺถุํ วิสฺสชฺเชตฺวา กเตน มคฺเคนปิ เสตุนาปิ นาวายปิ อุฬุมฺเปนาปิ คนฺตุํ น วฏฺฏติ. เตน วตฺถุนา ขณาปิตาย โปกฺขรณิยา อุพฺภิโททกํ ปาตุํ วา ปริภุฺชิตุํ วา น วฏฺฏติ. อนฺโต อุทเก ปน อสติ อฺํ อาคนฺตุกํ อุทกํ วา วสฺโสทกํ วา ปวิฏฺํ วฏฺฏติ. กีตาย เยน สทฺธึ กีตา, ตํ อาคนฺตุกมฺปิ น วฏฺฏติ. ตํ วตฺถุํ อุปนิกฺเขปํ เปตฺวา สงฺโฆ ปจฺจเย ปริภุฺชติ, เตปิ ปจฺจยา ตสฺส น วฏฺฏนฺติ. อาราโม คหิโต โหติ, โสปิ ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ. ยทิ ภูมิปิ พีชมฺปิ อกปฺปิยํ, เนว ภูมึ, น ผลํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ภูมึเยว กิณิตฺวา อฺานิ พีชานิ โรปิตานิ, ผลํ วฏฺฏติ. อถ พีชานิ กิณิตฺวา กปฺปิยภูมิยํ โรปิตานิ, ผลํ น วฏฺฏติ, ภูมิยํ นิสีทิตุํ วา นิปชฺชิตุํ วา วฏฺฏติ.

สเจ ปน ตตฺถ อาคโต กปฺปิยการโก ตํ ปริวตฺเตตฺวา สงฺฆสฺส กปฺปิยํ สปฺปิเตลาทึ อาหริตุํ น ชานาติ, โส วตฺตพฺโพ ‘‘อาวุโส, อิมํ ฉฑฺเฑหี’’ติ. สเจ โส ฉฑฺเฑติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ฉฑฺเฑติ, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ รูปิยฉฑฺฑโก สมฺมนฺนิตพฺโพ โย น ฉนฺทาคตึ คจฺเฉยฺย, น โทสาคตึ คจฺเฉยฺย, น โมหาคตึ คจฺเฉยฺย, น ภยาคตึ คจฺเฉยฺย, ฉฑฺฑิตาฉฑฺฑิตฺจ ชาเนยฺย. เอวฺจ ปน สมฺมนฺนิตพฺโพ, ปมํ ภิกฺขุ ยาจิตพฺโพ, ยาจิตฺวา พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ รูปิยฉฑฺฑกํ สมฺมนฺเนยฺย, เอสา ตฺติ. สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ รูปิยฉฑฺฑกํ สมฺมนฺนติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน รูปิยฉฑฺฑกสฺส สมฺมุติ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย. สมฺมโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ รูปิยฉฑฺฑโก, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (ปารา. ๕๘๕).

๖๘. เตน สมฺมเตน (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๕) ภิกฺขุนา นิมิตฺตํ อกตฺวา อกฺขีนิ นิมีเลตฺวา นทิยา วา ปปาเต วา วนคหเน วา คูถํ วิย อนเปกฺเขน ปติโตกาสํ อสมนฺนารหนฺเตน ฉฑฺเฑตพฺพํ. สเจ นิมิตฺตํ กตฺวา ปาเตติ, ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. เอวํ ชิคุจฺฉิตพฺเพปิ รูปิเย ภควา ปริยาเยน ภิกฺขูนํ ปริโภคํ อาจิกฺขิ. รูปิยปฏิคฺคาหกสฺส ปน เกนจิ ปริยาเยน ตโต อุปฺปนฺนปจฺจยปริโภโค น วฏฺฏติ. ยถา จายํ เอตสฺส น วฏฺฏติ, เอวํ อสนฺตสมฺภาวนาย วา กุลทูสกกมฺเมน วา กุหนาทีหิ วา อุปฺปนฺนปจฺจยา เนว ตสฺส, น อฺสฺส วฏฺฏนฺติ, ธมฺเมน สเมน อุปฺปนฺนาปิ อปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏนฺติ. จตฺตาโร หิ ปริโภคา – เถยฺยปริโภโค อิณปริโภโค ทายชฺชปริโภโค สามิปริโภโคติ. ตตฺถ สงฺฆมชฺเฌปิ นิสีทิตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส ทุสฺสีลสฺส ปริโภโค เถยฺยปริโภโค นาม. สีลวโต อปจฺจเวกฺขิตปริโภโค อิณปริโภโค นาม. ตสฺมา จีวรํ ปริโภเค ปริโภเค ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ, ปิณฺฑปาโต อาโลเป อาโลเป, ตถา อสกฺโกนฺเตน ปุเรภตฺตปจฺฉาภตฺตปุริมยามมชฺฌิมยามปจฺฉิมยาเมสุ. สจสฺส อปจฺจเวกฺขโต อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, อิณปริโภคฏฺาเน ติฏฺติ. เสนาสนมฺปิ ปริโภเค ปริโภเค ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ. เภสชฺชสฺส ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ สติปจฺจยตา วฏฺฏติ, เอวํ สนฺเตปิ ปฏิคฺคหเณ สตึ กตฺวา ปริโภเค อกโรนฺตสฺเสว อาปตฺติ, ปฏิคฺคหเณ ปน สตึ อกตฺวา ปริโภเค กโรนฺตสฺส อนาปตฺติ. จตุพฺพิธา หิ สุทฺธิ – เทสนาสุทฺธิ สํวรสุทฺธิ ปริเยฏฺิสุทฺธิ ปจฺจเวกฺขณสุทฺธีติ.

ตตฺถ เทสนาสุทฺธิ นาม ปาติโมกฺขสํวรสีลํ. ตฺหิ เทสนาย สุชฺฌนโต ‘‘เทสนาสุทฺธี’’ติ วุจฺจติ. สํวรสุทฺธิ นาม อินฺทฺริยสํวรสีลํ. ตฺหิ ‘‘น ปุเนวํ กริสฺสามี’’ติ จิตฺตาธิฏฺานสํวเรเนว สุชฺฌนโต ‘‘สํวรสุทฺธี’’ติ วุจฺจติ. ปริเยฏฺิสุทฺธิ นาม อาชีวปาริสุทฺธิสีลํ. ตฺหิ อเนสนํ ปหาย ธมฺเมน สเมน ปจฺจเย อุปฺปาเทนฺตสฺส ปริเยสนาย สุทฺธตฺตา ‘‘ปริเยฏฺิสุทฺธี’’ติ วุจฺจติ. ปจฺจเวกฺขณสุทฺธิ นาม ปจฺจยปริโภคสนฺนิสฺสิตสีลํ. ตฺหิ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส จีวรํ ปฏิเสวามี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๓; อ. นิ. ๖.๕๘) นเยน วุตฺเตน ปจฺจเวกฺขเณน สุชฺฌนโต ‘‘ปจฺจเวกฺขณสุทฺธี’’ติ วุจฺจติ, เตน วุตฺตํ ‘‘ปฏิคฺคหเณ ปน สตึ อกตฺวา ปริโภเค กโรนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ.

สตฺตนฺนํ เสกฺขานํ ปจฺจยปริโภโค ทายชฺชปริโภโค นาม. เต หิ ภควโต ปุตฺตา, ตสฺมา ปิตุสนฺตกานํ ปจฺจยานํ ทายาทา หุตฺวา เต ปจฺจเย ปริภุฺชนฺติ. กึ ปน เต ภควโต ปจฺจเย ปริภุฺชนฺติ, คิหีนํ ปจฺจเย ปริภุฺชนฺตีติ? คิหีหิ ทินฺนาปิ ภควตา อนุฺาตตฺตา ภควโต สนฺตกา โหนฺติ, ตสฺมา ภควโต ปจฺจเย ปริภุฺชนฺตีติ เวทิตพฺพํ. ธมฺมทายาทสุตฺต (ม. นิ. ๑.๒๙ อาทโย) ฺเจตฺถ สาธกํ. ขีณาสวานํ ปริโภโค สามิปริโภโค นาม. เต หิ ตณฺหาย ทาสพฺยํ อตีตตฺตา สามิโน หุตฺวา ปริภุฺชนฺติ. อิติ อิเมสุ ปริโภเคสุ สามิปริโภโค จ ทายชฺชปริโภโค จ สพฺเพสมฺปิ วฏฺฏติ, อิณปริโภโค น วฏฺฏติ, เถยฺยปริโภเค กถาเยว นตฺถิ.

อปเรปิ จตฺตาโร ปริโภคา – ลชฺชิปริโภโค อลชฺชิปริโภโค ธมฺมิยปริโภโค อธมฺมิยปริโภโคติ. ตตฺถ อลชฺชิโน ลชฺชินา สทฺธึ ปริโภโค วฏฺฏติ, อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ. ลชฺชิโน อลชฺชินา สทฺธึ ยาว น ชานาติ, ตาว วฏฺฏติ. อาทิโต ปฏฺาย หิ อลชฺชี นาม นตฺถิ, ตสฺมา ยทาสฺส อลชฺชิภาวํ ชานาติ, ตทา วตฺตพฺโพ ‘‘ตุมฺเห กายทฺวาเร วจีทฺวาเร จ วีติกฺกมํ กโรถ, ตํ อปฺปติรูปํ, มา เอวมกตฺถา’’ติ. สเจ อนาทิยิตฺวา กโรติเยว, ยทิ เตน สทฺธึ ปริโภคํ กโรติ, โสปิ อลชฺชีเยว โหติ. โยปิ อตฺตโน ภารภูเตน อลชฺชินา สทฺธึ ปริโภคํ กโรติ, โสปิ นิวาเรตพฺโพ. สเจ น โอรมติ, อยมฺปิ อลชฺชีเยว โหติ. เอวํ เอโก อลชฺชี อลชฺชิสตมฺปิ กโรติ. อลชฺชิโน ปน อลชฺชินาว สทฺธึ ปริโภเค อาปตฺติ นาม นตฺถิ. ลชฺชิโน ลชฺชินา สทฺธึ ปริโภโค ทฺวินฺนํ ขตฺติยกุมารานํ สุวณฺณปาติยํ โภชนสทิโส. ธมฺมิยาธมฺมิยปริโภโค ปจฺจยวเสเนว เวทิตพฺโพ. ตตฺถ สเจ ปุคฺคโลปิ อลชฺชี, ปิณฺฑปาโตปิ อธมฺมิโย, อุโภ เชคุจฺฉา. ปุคฺคโล อลชฺชี, ปิณฺฑปาโต ธมฺมิโย, ปุคฺคลํ ชิคุจฺฉิตฺวา ปิณฺฑปาโต น คเหตพฺโพ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ทุสฺสีโล สงฺฆโต อุทฺเทสภตฺตาทีนิ ลภิตฺวา สงฺฆสฺเสว เทติ, เอตานิ ยถาทานเมว คหิตตฺตา วฏฺฏนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ปุคฺคโล ลชฺชี, ปิณฺฑปาโต อธมฺมิโย, ปิณฺฑปาโต เชคุจฺโฉ น คเหตพฺโพ. ปุคฺคโล ลชฺชี, ปิณฺฑปาโตปิ ธมฺมิโย, วฏฺฏติ.

อปเร ทฺเว ปคฺคหา ทฺเว จ ปริโภคา – ลชฺชิปคฺคโห อลชฺชิปคฺคโห, ธมฺมปริโภโค อามิสปริโภโคติ. ตตฺถ อลชฺชิโน ลชฺชึ ปคฺคเหตุํ วฏฺฏติ, น โส อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. สเจ ปน ลชฺชี อลชฺชึ ปคฺคณฺหาติ, อนุโมทนาย อชฺเฌสติ, ธมฺมกถาย อชฺเฌสติ, กุเลสุ อุปตฺถมฺเภติ, อิตโรปิ ‘‘อมฺหากํ อาจริโย อีทิโส จ อีทิโส จา’’ติ ตสฺส ปริสติ วณฺณํ ภาสติ, อยํ สาสนํ โอสกฺกาเปติ อนฺตรธาเปตีติ เวทิตพฺโพ. ธมฺมปริโภคอามิสปริโภเคสุ ปน ยตฺถ อามิสปริโภโค วฏฺฏติ, ธมฺมปริโภโคปิ ตตฺถ วฏฺฏติ. โย ปน โกฏิยํ ิโต, คนฺโถ ตสฺส ปุคฺคลสฺส อจฺจเยน นสฺสิสฺสติ, ตํ ธมฺมานุคฺคเหน อุคฺคณฺหิตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. ตตฺริทํ วตฺถุ – มหาภเย กิร เอกสฺเสว ภิกฺขุโน มหานิทฺเทโส ปคุโณ อโหสิ. อถ จตุนิกายิกติสฺสตฺเถรสฺส อุปชฺฌาโย มหาติปิฏกตฺเถโร นาม มหารกฺขิตตฺเถรํ อาห ‘‘อาวุโส มหารกฺขิต, เอตสฺส สนฺติเก มหานิทฺเทสํ คณฺหาหี’’ติ. ‘‘ปาโป กิรายํ, ภนฺเต, น คณฺหามี’’ติ. ‘‘คณฺหาวุโส, อหํ เต สนฺติเก นิสีทิสฺสามี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต, ตุมฺเหสุ นิสินฺเนสุ คณฺหิสฺสามี’’ติ ปฏฺเปตฺวา รตฺตินฺทิวํ นิรนฺตรํ ปริยาปุณนฺโต โอสานทิวเส เหฏฺามฺเจ อิตฺถึ ทิสฺวา ‘‘ภนฺเต, สุตํเยว เม ปุพฺเพ, สจาหํ เอวํ ชาเนยฺยํ, น อีทิสสฺส สนฺติเก ธมฺมํ ปริยาปุเณยฺย’’นฺติ อาห. ตสฺส ปน สนฺติเก พหู มหาเถรา อุคฺคณฺหิตฺวา มหานิทฺเทสํ ปติฏฺาเปสุนฺติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

รูปิยาทิปฏิคฺคหณวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๑๓. ทานลกฺขณาทิวินิจฺฉยกถา

๖๙. ทานวิสฺสาสคฺคาเหหิ ลาภสฺส ปริณามนนฺติ เอตฺถ ตาว ทานนฺติ อตฺตโน สนฺตกสฺส จีวราทิปริกฺขารสฺส สทฺธิวิหาริกาทีสุ ยสฺส กสฺสจิ ทานํ. ตตฺริทํ ทานลกฺขณํ – ‘‘อิทํ ตุยฺหํ เทมิ ททามิ ทชฺชามิ โอโณเชมิ ปริจฺจชามิ วิสฺสชฺชามี’’ติ วา ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส เทมิ…เป… วิสฺสชฺชามี’’ติ วา วทติ, สมฺมุขาปิ ปรมฺมุขาปิ ทินฺนํเยว โหติ. ‘‘ตุยฺหํ คณฺหาหี’’ติ วุตฺเต ‘‘มยฺหํ คณฺหามี’’ติ วทติ, สุทินฺนํ สุคฺคหิตฺจ. ‘‘ตว สนฺตกํ กโรหิ, ตว สนฺตกํ โหตุ, ตว สนฺตกํ โหตี’’ติ วุตฺเต ‘‘มม สนฺตกํ กโรมิ, มม สนฺตกํ โหตุ, มม สนฺตกํ กริสฺสามี’’ติ วทติ, ทุทินฺนํ ทุคฺคหิตฺจ. เนว ทาตา ทาตุํ ชานาติ, น อิตโร คเหตุํ, สเจ ปน ‘‘ตว สนฺตกํ กโรหี’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ, ภนฺเต, มยฺหํ คณฺหามี’’ติ คณฺหาติ, สุคฺคหิตํ. สเจ ปน เอโก ‘‘อิทํ จีวรํ คณฺหาหี’’ติ วทติ, อิตโร ‘‘น คณฺหามี’’ติ วทติ, ปุน โส ‘‘ทินฺนํ มยา ตุยฺหํ, คณฺหาหี’’ติ วทติ, อิตโรปิ ‘‘น มยฺหํ อิมินา อตฺโถ’’ติ วทติ, ตโต ปุริโมปิ ‘‘มยา ทินฺน’’นฺติ ทสาหํ อติกฺกาเมติ, ปจฺฉิโมปิ ‘‘มยา ปฏิกฺขิตฺต’’นฺติ, กสฺส อาปตฺตีติ? น กสฺสจิ. ยสฺส ปน รุจฺจติ, เตน อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส เทหี’’ติ ทินฺนํ ยาว ปรสฺส หตฺถํ น ปาปุณาติ, ตาว โย ปหิณติ, ตสฺเสว สนฺตกํ, ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ ปน ยสฺส ปหียติ, ตสฺส สนฺตกํ. ตสฺมา ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ ‘‘อิทํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส เทหี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค โย ปหิณติ, ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ, สุคฺคหิตํ. ยสฺส ปหียติ, ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ, ทุคฺคหิตํ.

ภิกฺขุ (มหาว. ๓๗๘-๓๗๙) ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส เทหี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค สุณาติ ‘‘โย ปหิณติ, โส กาลกโต’’ติ, ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ, สฺวาธิฏฺิตํ. ยสฺส ปหียติ, ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ, ทุคฺคหิตํ. ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส เทหี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค สุณาติ ‘‘ยสฺส ปหียติ, โส กาลกโต’’ติ, ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ, ทฺวาธิฏฺิตํ. โย ปหิณติ, ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ, สุคฺคหิตํ. ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส เทหี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค สุณาติ ‘‘อุโภ กาลกตา’’ติ, โย ปหิณติ, ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ, สฺวาธิฏฺิตํ. ยสฺส ปหียติ, ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ, ทฺวาธิฏฺิตํ. ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค โย ปหิณติ, ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ, ทุคฺคหิตํ. ยสฺส ปหียติ, ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ, สุคฺคหิตํ. ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค สุณาติ ‘‘โย ปหิณติ, โส กาลกโต’’ติ, ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ, ทฺวาธิฏฺิตํ. ยสฺส ปหียติ, ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ, สุคฺคหิตํ. ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค สุณาติ ‘‘ยสฺส ปหียติ, โส กาลกโต’’ติ, ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ, สฺวาธิฏฺิตํ. โย ปหิณติ, ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ, ทุคฺคหิตํ. ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค สุณาติ ‘‘อุโภ กาลกตา’’ติ. โย ปหิณติ, ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ, ทฺวาธิฏฺิตํ. ยสฺส ปหียติ, ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ, สฺวาธิฏฺิตํ.

ปริจฺจชิตฺวา ทินฺนํ ปุน เกนจิ การเณน กุปิโต อาหราเปตุํ น ลภติ. อตฺตนา ทินฺนมฺปิ หิ จีวรํ สกสฺาย อจฺฉินฺทโต นิสฺสคฺคิยํ, อฺํ ปริกฺขารํ อนฺตมโส สูจิมฺปิ อจฺฉินฺทโต ทุกฺกฏํ. สเจ ปน ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ อิทํ สารุปฺป’’นฺติ สยเมว เทติ, คเหตุํ วฏฺฏติ. อถ ปน ‘‘อาวุโส, มยํ ตุยฺหํ ‘วตฺตปฏิวตฺตํ กริสฺสติ, อมฺหากํ สนฺติเก อุปชฺฌํ คณฺหิสฺสติ, ธมฺมํ ปริยาปุณิสฺสตี’ติ จีวรํ อทมฺหา, โส ทานิ ตฺวํ น วตฺตํ กโรสิ, น อุปชฺฌํ คณฺหาสิ, น ธมฺมํ ปริยาปุณาสี’’ติ เอวมาทีนิ วุตฺโต ‘‘ภนฺเต, จีวรตฺถาย มฺเ ภณถ, อิทํ โว จีวร’’นฺติ เทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. ทิสาปกฺกมนฺตํ วา ปน ทหรํ ‘‘นิวตฺเตถ น’’นฺติ ภณติ, โส น นิวตฺตติ, จีวเร คเหตฺวา นิรุนฺธถาติ, เอวฺเจ นิวตฺตติ, สาธุ. สเจ ‘‘ปตฺตจีวรตฺถาย มฺเ ตุมฺเห ภณถ, คณฺหถ น’’นฺติ เทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. วิพฺภมนฺตํ วา ทิสฺวา ‘‘มยํ ตุยฺหํ ‘วตฺตํ กริสฺสตี’ติ ปตฺตจีวรํ อทมฺหา, โส ทานิ ตฺวํ วิพฺภมิตฺวา จรสี’’ติ วทติ, อิตโร ‘‘คณฺหถ ตุมฺหากํ ปตฺตจีวร’’นฺติ เทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘มม สนฺติเก อุปชฺฌํ คณฺหนฺตสฺเสว เทมิ, อฺตฺถ คณฺหนฺตสฺส น เทมิ, วตฺตํ กโรนฺตสฺเสว เทมิ, อกโรนฺตสฺส น เทมิ, ธมฺมํ ปริยาปุณนฺตสฺเสว เทมิ, อปริยาปุณนฺตสฺส น เทมิ, อวิพฺภมนฺตสฺเสว เทมิ, วิพฺภมนฺตสฺส น เทมี’’ติ เอวํ ปน ทาตุํ น วฏฺฏติ, ททโต ทุกฺกฏํ, อาหราเปตุํ ปน วฏฺฏติ, วิสฺสชฺเชตฺวา ทินฺนํ อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. อยํ ตาว ทาเน วินิจฺฉโย.

๗๐. วิสฺสาสคฺคาหลกฺขณํ ปน อิมินา สุตฺเตน ชานิตพฺพํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส วิสฺสาสํ คเหตุํ สนฺทิฏฺโ จ โหติ, สมฺภตฺโต จ, อาลปิโต จ, ชีวติ จ, คหิเต จ อตฺตมโน โหตี’’ติ (มหาว. ๓๕๖).

ตตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๓๑) สนฺทิฏฺโติ ทิฏฺมตฺตกมิตฺโต. สมฺภตฺโตติ ทฬฺหมิตฺโต. อาลปิโตติ ‘‘มม สนฺตกํ ยํ อิจฺฉสิ, ตํ คณฺเหยฺยาสิ, อาปุจฺฉิตฺวา คหเณ การณํ นตฺถี’’ติ วุตฺโต. ชีวตีติ อนุฏฺานเสยฺยาย สยิโตปิ ยาวชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทํ น ปาปุณาติ. คหิเต จ อตฺตมโนติ คหิเต ตุฏฺจิตฺโต โหติ. ‘‘เอวรูปสฺส สนฺตกํ คหิเต เม อตฺตมโน ภวิสฺสตี’’ติ ชานนฺเตน คเหตุํ วฏฺฏติ. อนวเสสปริยาทานวเสน เจตานิ ปฺจงฺคานิ วุตฺตานิ, วิสฺสาสคฺคาโห ปน ตีหิ องฺเคหิ รุหติ สนฺทิฏฺโ, ชีวติ, คหิเต อตฺตมโน, สมฺภตฺโต, ชีวติ, คหิเต อตฺตมโน, อาลปิโต, ชีวติ, คหิเต อตฺตมโนติ. โย ปน น ชีวติ, น จ คหิเต อตฺตมโน โหติ, ตสฺส สนฺตกํ วิสฺสาสคฺคาเหน คหิตมฺปิ ปุน ทาตพฺพํ. ททมาเนน จ มตกธนํ ตาว เย ตสฺส ธเน อิสฺสรา คหฏฺา วา ปพฺพชิตา วา, เตสํ ทาตพฺพํ. อนตฺตมนสฺส สนฺตกํ ตสฺเสว ทาตพฺพํ, โย ปน ปมํเยว ‘‘สุฏฺุ กตํ ตยา มม สนฺตกํ คณฺหนฺเตนา’’ติ วจีเภเทน วา จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน วา อนุโมทิตฺวา ปจฺฉา เกนจิ การเณน กุปิโต, ปจฺจาหราเปตุํ น ลภติ, โยปิ อทาตุกาโม, จิตฺเตน ปน อธิวาเสติ, น กิฺจิ วทติ, โสปิ ปุน ปจฺจาหราเปตุํ น ลภติ. โย ปน ‘‘มยา ตุมฺหากํ สนฺตกํ คหิตํ วา ปริภุตฺตํ วา’’ติ วุตฺเต ‘‘คหิตํ วา โหตุ ปริภุตฺตํ วา, มยา ปน ตํ เกนจิเทว กรณีเยน ปิตํ, ตํ ปากติกํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทติ, อยํ ปจฺจาหราเปตุํ ลภติ. อยํ วิสฺสาสคฺคาเห วินิจฺฉโย.

๗๑. ลาภสฺส ปริณามนนฺติ อิทํ ปน อฺเสํ อตฺถาย ปริณตลาภสฺส อตฺตโน อฺสฺส วา ปริณามนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๙-๖๖๐) – สงฺฆสฺส ปริณตํ สหธมฺมิกานํ วา คิหีนํ วา อนฺตมโส มาตุสนฺตกมฺปิ ‘‘อิทํ มยฺหํ เทหี’’ติ สงฺฆสฺส ปริณตภาวํ ตฺวา อตฺตโน ปริณาเมตฺวา คณฺหนฺตสฺส นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, ‘‘อิมสฺส ภิกฺขุโน เทหี’’ติ เอวํ อฺสฺส ปริณาเมนฺตสฺส สุทฺธิกปาจิตฺติยํ. ตสฺมา โยปิ วสฺสิกสาฏิกสมเย มาตุฆเรปิ สงฺฆสฺส ปริณตํ วสฺสิกสาฏิกํ ตฺวา อตฺตโน ปริณาเมติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, ปรสฺส ปริณาเมติ, สุทฺธิกปาจิตฺติยํ. มนุสฺสา ‘‘สงฺฆภตฺตํ กริสฺสามา’’ติ สปฺปิเตลาทีนิ อาหรนฺติ, คิลาโน เจปิ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปริณตภาวํ ตฺวา กิฺจิ ยาจติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยเมว. สเจ ปน โส ‘‘ตุมฺหากํ สปฺปิอาทีนิ อาภตานิ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, อตฺถี’’ติ วุตฺเต ‘‘มยฺหมฺปิ เทถา’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. อถาปิ นํ กุกฺกุจฺจายนฺตํ อุปาสกา วทนฺติ ‘‘สงฺโฆปิ อมฺเหหิ ทินฺนเมว ลภติ, คณฺหถ, ภนฺเต’’ติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ.

เอกสฺมึ วิหาเร สงฺฆสฺส ปริณตํ อฺวิหารํ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘อสุกสฺมึ นาม วิหาเร สงฺฆสฺส เทถา’’ติ ปริณาเมติ, ‘‘กึ สงฺฆสฺส ทาเนน, เจติยสฺส ปูชํ กโรถา’’ติ เอวํ เจติยสฺส วา ปริณาเมติ, ทุกฺกฏํ. เจติยสฺส ปริณตํ อฺเจติยสฺส วา สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา ปริณาเมติ, ทุกฺกฏเมว. นิยเมตฺวา อฺเจติยสฺส อตฺถาย โรปิตมาลาวจฺฉโต อฺเจติยมฺหิ ปุปฺผมฺปิ อาโรเปตุํ น วฏฺฏติ, เอกสฺส เจติยสฺส ปน ฉตฺตํ วา ปฏากํ วา อาโรเปตฺวา ิตํ ทิสฺวา เสสํ อฺเจติยสฺส ทาเปตุํ วฏฺฏติ. อนฺตมโส สุนขสฺสปิ ปริณตํ ‘‘อิมสฺส สุนขสฺส มา เทหิ, เอตสฺส เทหี’’ติ เอวํ อฺปุคฺคลสฺส ปริณาเมติ, ทุกฺกฏํ. สเจ ปน ทายกา ‘‘มยํ สงฺฆภตฺตํ กาตุกามา, เจติยปูชํ กาตุกามา, เอกสฺส ภิกฺขุโน ปริกฺขารํ ทาตุกามา, ตุมฺหากํ รุจิยา ทสฺสาม, ภณถ กตฺถ เทมา’’ติ วทนฺติ, เอวํ วุตฺเต เตน ภิกฺขุนา ‘‘ยตฺถ อิจฺฉถ, ตตฺถ เทถา’’ติ วตฺตพฺพา. สเจ ปน เกวลํ ‘‘กตฺถ เทมา’’ติ ปุจฺฉนฺติ, ‘‘ยตฺถ ตุมฺหากํ เทยฺยธมฺโม ปริโภคํ วา ลเภยฺย, ปฏิสงฺขารํ วา ลเภยฺย, จิรฏฺิติโก วา อสฺส, ยตฺถ วา ปน ตุมฺหากํ จิตฺตํ ปสีทติ, ตตฺถ เทถา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ทานลกฺขณาทิวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๑๔. ปถวีขณนวินิจฺฉยกถา

๗๒. ปถวีติ ทฺเว ปถวี ชาตา จ ปถวี อชาตา จ ปถวีติ. ตตฺถ ชาตา นาม ปถวี สุทฺธปํสุกา สุทฺธมตฺติกา อปฺปปาสาณา อปฺปสกฺขรา อปฺปกลา อปฺปมรุมฺพา อปฺปวาลุกา เยภุยฺเยนปํสุกา เยภุยฺเยนมตฺติกา, อทฑฺฒาปิ วุจฺจติ ‘‘ชาตา ปถวี’’ติ. โยปิ ปํสุปุฺโช วา มตฺติกาปุฺโช วา อติเรกจาตุมาสํ โอวฏฺโ, โสปิ วุจฺจติ ‘‘ชาตา ปถวี’’ติ. อชาตา นาม ปถวี สุทฺธปาสาณา สุทฺธสกฺขรา สุทฺธกลา สุทฺธมรุมฺพา สุทฺธวาลุกา อปฺปปํสุกา อปฺปมตฺติกา เยภุยฺเยนปาสาณา เยภุยฺเยนสกฺขรา เยภุยฺเยนกลา เยภุยฺเยนมรุมฺพา เยภุยฺเยนวาลุกา, ทฑฺฒาปิ วุจฺจติ ‘‘อชาตา ปถวี’’ติ. โยปิ ปํสุปุฺโช วา มตฺติกาปุฺโช วา โอมกจาตุมาสํ โอวฏฺโ, โสปิ วุจฺจติ ‘‘อชาตา ปถวี’’ติ (ปาจิ. ๘๔-๘๖).

ตตฺถ ชาตปถวึ ขณนฺตสฺส ขณาเปนฺตสฺส วา ปาจิตฺติยํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปาจิ. อฏฺ. ๘๖) – สเจ สยํ ขณติ, ปหาเร ปหาเร ปาจิตฺติยํ. สเจ อฺํ อาณาเปติ, สกึ อาณตฺโต สเจปิ สกลทิวสํ ขณติ, อาณาปกสฺส เอกเมว ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน กุสีโต โหติ, ปุนปฺปุนํ อาณาเปตพฺโพ, ตํ อาณาเปตฺวา ขณาเปนฺตสฺส วาจาย วาจาย ปาจิตฺติยํ. สเจ ‘‘โปกฺขรณึ ขณาหี’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. ขตาเยว หิ โปกฺขรณี นาม โหติ. ตสฺมา อยํ กปฺปิยโวหาโร. เอส นโย ‘‘วาปึ ตฬากํ อาวาฏํ ขณา’’ติอาทีสุปิ. ‘‘อิมํ โอกาสํ ขณ, อิมสฺมึ โอกาเส โปกฺขรณึ ขณา’’ติ วตฺตุํ ปน น วฏฺฏติ. ‘‘กนฺทํ ขณ, มูลํ ขณา’’ติ อนิยเมตฺวา วตฺตุํ วฏฺฏติ, ‘‘อิมํ วลฺลึ ขณ, อิมสฺมึ โอกาเส กนฺทํ วา มูลํ วา ขณา’’ติ วตฺตุํ น วฏฺฏติ.

๗๓. โปกฺขรณึ โสเธนฺเตหิ โย กุเฏหิ อุสฺสิฺจิตุํ สกฺกา โหติ ตนุกกทฺทโม, ตํ อปเนตุํ วฏฺฏติ, พหโล น วฏฺฏติ. อาตเปน สุกฺขกทฺทโม ผลติ, ตตฺร โย เหฏฺา ปถวิยา อสมฺพนฺโธ, ตเมว อปเนตุํ วฏฺฏติ. อุทเกน คตฏฺาเน อุทกปปฺปฏโก นาม โหติ, วาตปหาเรน จลติ, ตํ อปเนตุํ วฏฺฏติ. โปกฺขรณีอาทีนํ ตฏํ ภิชฺชิตฺวา อุทกสามนฺตา ปตติ. สเจ โอมกจาตุมาสํ โอวฏฺํ, ฉินฺทิตุํ ภินฺทิตุํ วา วฏฺฏติ, จาตุมาสโต อุทฺธํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน อุทเกเยว ปตติ, เทเวน อติเรกจาตุมาสํ โอวฏฺเปิ อุทเกเยว อุทกสฺส ปติตตฺตา วฏฺฏติ.

ปาสาณปิฏฺิยํ โสณฺฑึ ขณนฺติ, สเจ ตตฺถ ปมเมว สุขุมรชํ ปตติ, ตํ เทเวน โอวฏฺํ โหติ, จาตุมาสจฺจเยน อกปฺปิยปถวีสงฺขฺยํ คจฺฉติ. อุทเก ปริยาทินฺเน โสณฺฑึ โสเธนฺเตหิ วิโกเปตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปมเมว อุทเกน ปูรติ, ปจฺฉา รชํ ปตติ, ตํ วิโกเปตุํ วฏฺฏติ. ตตฺถ หิ เทเว วสฺสนฺเตปิ อุทเกเยว อุทกํ ปตติ. ปิฏฺิปาสาเณ สุขุมรชํ โหติ, เทเว ผุสายนฺเต อลฺลียติ, ตมฺปิ จาตุมาสจฺจเยน วิโกเปตุํ น วฏฺฏติ. อกตปพฺภาเร วมฺมิโก อุฏฺิโต โหติ, ยถาสุขํ วิโกเปตุํ วฏฺฏติ. สเจ อพฺโภกาเส อุฏฺหติ, โอมกจาตุมาสํ โอวฏฺโเยว วฏฺฏติ. รุกฺขาทีสุ อารุฬฺหอุปจิกมตฺติกายมฺปิ เอเสว นโย. คณฺฑุปฺปาทคูถมูสิกุกฺกรโคกณฺฏกาทีสุปิ เอเสว นโย. โคกณฺฏโก นาม คาวีนํ ขุรจฺฉินฺนกทฺทโม วุจฺจติ. สเจ ปน เหฏฺิมตเลน ภูมิสมฺพนฺโธ โหติ, เอกทิวสมฺปิ น วฏฺฏติ. กสิตฏฺาเน นงฺคลจฺฉินฺนมตฺติกาปิณฺฑํ คณฺหนฺตสฺส เอเสว นโย.

ปุราณเสนาสนํ โหติ อจฺฉทนํ วา วินฏฺจฺฉทนํ วา อติเรกจาตุมาสํ โอวฏฺํ ชาตปถวีสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตโต อวเสสํ ฉทนิฏฺกํ วา โคปานสีอาทิกํ อุปกรณํ วา ‘‘อิฏฺกํ คณฺหามิ, โคปานสึ ภิตฺติปาทํ ปทรตฺถรณํ ปาสาทตฺถมฺภํ คณฺหามี’’ติ สฺาย คณฺหิตุํ วฏฺฏติ, เตน สทฺธึ มตฺติกา ปตติ, อนาปตฺติ, ภิตฺติมตฺติกํ คณฺหนฺตสฺส ปน อาปตฺติ. สเจ ยา ยา อตินฺตา, ตํ ตํ คณฺหาติ, อนาปตฺติ. อนฺโตเคเห มตฺติกาปุฺโช โหติ, ตสฺมึ เอกทิวสํ โอวฏฺเ เคหํ ฉาเทนฺติ. สเจ สพฺโพ ตินฺโต, จาตุมาสจฺจเยน ชาตปถวีเยว. อถสฺส อุปริภาโคเยว ตินฺโต, อนฺโต อตินฺโต, ยตฺตกํ ตินฺตํ, ตํ กปฺปิยการเกหิ กปฺปิยโวหาเรน อปนาเมตฺวา เสสํ ยถาสุขํ วฬฺเชตุํ วฏฺฏติ อุทเกน เตมิตตฺตา. เอกาพทฺธาเยว หิ ชาตปถวี โหติ, น อิตราติ. อพฺโภกาเส มตฺติกาปากาโร โหติ, อติเรกจาตุมาสํ โอวฏฺโ ชาตปถวีสงฺขฺยํ คจฺฉติ, ตตฺถ ลคฺคปํสุํ ปน อลฺลหตฺเถน ฉุปิตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ. สเจ อิฏฺกปากาโร โหติ, เยภุยฺเยนกลฏฺาเน ติฏฺติ, ยถาสุขํ วิโกเปตุํ วฏฺฏติ. อพฺโภกาเส ิตมณฺฑปตฺถมฺภํ อิโต จิโต จ สฺจาเลตฺวา ปถวึ วิโกเปนฺเตน คเหตุํ น วฏฺฏติ, อุชุกเมว อุทฺธริตุํ วฏฺฏติ. อฺมฺปิ สุกฺขรุกฺขํ สุกฺขขาณุกํ วา คณฺหนฺตสฺส เอเสว นโย.

๗๔. นวกมฺมตฺถํ ถมฺภํ วา ปาสาณํ วา รุกฺขํ วา ทณฺฑเกหิ อุจฺจาเลตฺวา ปวฏฺเฏนฺตา คจฺฉนฺติ, ตตฺถ ชาตปถวี ภิชฺชติ, สเจ สุทฺธจิตฺตา ปวฏฺเฏนฺติ, อนาปตฺติ. อถ ปน เตน อปเทเสน ปถวึ ภินฺทิตุกามาเยว โหนฺติ, อาปตฺติ. สาขาทีนิ กฑฺฒนฺตานมฺปิ ปถวิยํ ทารูนิ ผาเลนฺตานมฺปิ เอเสว นโย. ปถวิยํ อฏฺิสูจิกณฺฏกาทีสุปิ ยํ กิฺจิ อาโกเฏตุํ วา ปเวเสตุํ วา น วฏฺฏติ, ‘‘ปสฺสาวธาราย เวเคน ปถวึ ภินฺทิสฺสามี’’ติ เอวํ ปสฺสาวมฺปิ กาตุํ น วฏฺฏติ. กโรนฺตสฺส ภิชฺชติ, อาปตฺติ, ‘‘วิสมภูมึ สมํ กริสฺสามี’’ติ สมฺมชฺชนิยา ฆํสิตุมฺปิ น วฏฺฏติ. วตฺตสีเสเนว หิ สมฺมชฺชิตพฺพํ. เกจิ กตฺตรยฏฺิยา ภูมึ โกฏฺเฏนฺติ, ปาทงฺคุฏฺเกน วิลิขนฺติ, ‘‘จงฺกมิตฏฺานํ ทสฺเสสฺสามา’’ติ ปุนปฺปุนํ ภูมึ ภินฺทนฺตา จงฺกมนฺติ, สพฺพํ น วฏฺฏติ, วีริยสมฺปคฺคหตฺถํ ปน สมณธมฺมํ กโรนฺเตน สุทฺธจิตฺเตน จงฺกมิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘หตฺถํ โขวิสฺสามา’’ติ ปถวิยํ ฆํสนฺติ, น วฏฺฏติ, อฆํสนฺเตน ปน อลฺลหตฺถํ ปถวิยํ เปตฺวา รชํ คเหตุํ วฏฺฏติ.

เกจิ กณฺฑุกจฺฉุอาทีหิ อาพาธิกา ฉินฺนตฏาทีสุ องฺคปจฺจงฺคานิ ฆํสนฺติ, น วฏฺฏติ. ชาตปถวึ ทหติ วา ทหาเปติ วา, ปาจิตฺติยํ, อนฺตมโส ปตฺตมฺปิ ปจนฺโต ยตฺตเกสุ าเนสุ อคฺคึ เทติ วา ทาเปติ วา, ตตฺตกานิ ปาจิตฺติยานิ, ตสฺมา ปตฺตํ ปจนฺเตนปิ ปุพฺเพ ปกฺกฏฺาเนเยว ปจิตพฺโพ. อทฑฺฒาย ปถวิยา อคฺคึ เปตุํ น วฏฺฏติ, ปตฺตปจนกปาลสฺส ปน อุปริ อคฺคึ เปตุํ วฏฺฏติ. ทารูนํ อุปริ เปติ, โส อคฺคิ ตานิ ทหนฺโต คนฺตฺวา ปถวึ ทหติ, น วฏฺฏติ. อิฏฺกกปาลาทีสุปิ เอเสว นโย. ตตฺราปิ หิ อิฏฺกาทีนํเยว อุปริ เปตุํ วฏฺฏติ. กสฺมา? เตสํ อนุปาทานตฺตา. น หิ ตานิ อคฺคิสฺส อุปาทานสงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ, สุกฺขขาณุสุกฺขรุกฺขาทีสุปิ อคฺคึ ทาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน ‘‘ปถวึ อปฺปตฺตเมว นิพฺพาเปตฺวา คมิสฺสามี’’ติ เทติ, วฏฺฏติ. ปจฺฉา นิพฺพาเปตุํ น สกฺโกติ, อวิสยตฺตา อนาปตฺติ. ติณุกฺกํ คเหตฺวา คจฺฉนฺโต หตฺเถ ฑยฺหมาเน ภูมิยํ ปาเตติ, อนาปตฺติ. ปติตฏฺาเนเยว อุปาทานํ ทตฺวา อคฺคึ กาตุํ วฏฺฏติ. ทฑฺฒปถวิยา จ ยตฺตกํ านํ อุสุมาย อนุคตํ, สพฺพํ วิโกเปตุํ วฏฺฏติ.

โย ปน อชานนโก ภิกฺขุ อรณิสหิเตน อคฺคึ นิพฺพตฺเตตฺวา หตฺเถน อุกฺขิปิตฺวา ‘‘กึ กโรมี’’ติ วทติ, ‘‘ชาเลหี’’ติ วตฺตพฺโพ. ‘‘หตฺโถ ฑยฺหตี’’ติ วทติ, ‘‘ยถา น ฑยฺหติ, ตถา กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. ‘‘ภูมิยํ ปาเตหี’’ติ ปน น วตฺตพฺโพ. สเจ หตฺเถ ฑยฺหมาเน ปาเตติ, ‘‘ปถวึ ทหิสฺสามี’’ติ อปาติตตฺตา อนาปตฺติ, ปติตฏฺาเน ปน อคฺคึ กาตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อิมสฺส ถมฺภสฺส อาวาฏํ ชาน, มหามตฺติกํ ชาน, ถุสมตฺติกํ ชาน, มหามตฺติกํ เทหิ, ถุสมตฺติกํ เทหิ, มตฺติกํ อาหร, ปํสุํ อาหร, มตฺติกาย อตฺโถ, ปํสุนา อตฺโถ, อิมสฺส ถมฺภสฺส อาวาฏํ กปฺปิยํ กโรหิ, อิมํ มตฺติกํ กปฺปิยํ กโรหิ, อิมํ ปํสุํ กปฺปิยํ กโรหี’’ติ เอวํ กปฺปิยโวหาเรน ยํ กิฺจิ การาเปตุํ วฏฺฏติ. อฺวิหิโต เกนจิ สทฺธึ กิฺจิ กเถนฺโต ปาทงฺคุฏฺเกน กตฺตรยฏฺิยา วา ปถวึ วิลิขนฺโต ติฏฺติ, เอวํ อสติยา วิลิขนฺตสฺส ภินฺทนฺตสฺส วา อนาปตฺติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ปถวีขณนวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๑๕. ภูตคามวินิจฺฉยกถา

๗๕. ภูตคาโมติ ปฺจหิ พีเชหิ ชาตานํ รุกฺขลตาทีนเมตํ อธิวจนํ. ตตฺริมานิ ปฺจ พีชานิ – มูลพีชํ ขนฺธพีชํ ผฬุพีชํ อคฺคพีชํ พีชพีชนฺติ. ตตฺถ มูลพีชํ นาม หลิทฺทิ สิงฺคิเวรํ วจา วจตฺตํ อติวิสํ กฏุกโรหิณี อุสีรํ ภทฺทมุตฺตกํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ มูเล ชายนฺติ มูเล สฺชายนฺติ, เอตํ มูลพีชํ นาม. ขนฺธพีชํ นาม อสฺสตฺโถ นิคฺโรโธ ปิลกฺโข อุทุมฺพโร กจฺฉโก กปิตฺถโน, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ ขนฺเธ ชายนฺติ ขนฺเธ สฺชายนฺติ, เอตํ ขนฺธพีชํ นาม. ผฬุพีชํ นาม อุจฺฉุ เวฬุ นโฬ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ ปพฺเพ ชายนฺติ ปพฺเพ สฺชายนฺติ, เอตํ ผฬุพีชํ นาม. อคฺคพีชํ นาม อชฺชุกํ ผณิชฺชกํ หิริเวรํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ อคฺเค ชายนฺติ อคฺเค สฺชายนฺติ, เอตํ อคฺคพีชํ นาม. พีชพีชํ นาม ปุพฺพณฺณํ อปรณฺณํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ พีเช ชายนฺติ พีเช สฺชายนฺติ, เอตํ พีชพีชํ นาม (ปาจิ. ๙๑). ตตฺถ ภูตคาเม ภูตคามสฺี ฉินฺทติ วา ฉินฺทาเปติ วา ภินฺทติ วา ภินฺทาเปติ วา ปจติ วา ปจาเปติ วา, ปาจิตฺติยํ. ภูตคามฺหิ วิโกเปนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, ภูตคามปริโมจิตํ ปฺจวิธมฺปิ พีชคามํ วิโกเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.

๗๖. พีชคามภูตคาโม (ปาจิ. อฏฺ. ๙๒๒) นาเมส อตฺถิ อุทกฏฺโ, อตฺถิ ถลฏฺโ. ตตฺถ อุทกฏฺโ สาสปมตฺติกติลพีชกาทิเภทา สปณฺณิกา จ อปณฺณิกา จ สพฺพา เสวาลชาติ, อนฺตมโส อุทกปปฺปฏกํ อุปาทาย ‘‘ภูตคาโม’’ติ เวทิตพฺโพ. อุทกปปฺปฏโก นาม อุปริ ถทฺโธ ผรุสวณฺโณ เหฏฺา มุทุ นีลวณฺโณ โหติ. ตตฺถ ยสฺส เสวาลสฺส มูลํ โอรุหิตฺวา ปถวิยํ ปติฏฺิตํ, ตสฺส ปถวี านํ. โย อุทเก สฺจรติ, ตสฺส อุทกํ. ปถวิยํ ปติฏฺิตํ ยตฺถ กตฺถจิ วิโกเปนฺตสฺส, อุทฺธริตฺวา วา านนฺตรํ สงฺกาเมนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, อุทเก สฺจรนฺตํ วิโกเปนฺตสฺเสว ปาจิตฺติยํ. หตฺเถหิ ปน อิโต จิโต จ วิยูหิตฺวา นหายิตุํ วฏฺฏติ. สกลฺหิ อุทกํ ตสฺส านํ, ตสฺมา น โส เอตฺตาวตา านนฺตรํ สงฺกามิโต โหติ. อุทกโต ปน อุทเกน วินา สฺจิจฺจ อุกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ, อุทเกน สทฺธึ อุกฺขิปิตฺวา ปุน อุทเก ปกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ. อุปฺปลินิปทุมินิอาทีนิ ชลชวลฺลิติณานิ อุทกโต อุทฺธรนฺตสฺส วา ตตฺเถว วิโกเปนฺตสฺส วา ปาจิตฺติยํ, ปเรหิ อุปฺปาฏิตานิ วิโกเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ตานิ หิ พีชคาเม สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, ติลพีชกสาสปมตฺติกเสวาโลปิ อุทกโต อุทฺธโฏ อมิลาโต อคฺคพีชสงฺคหํ คจฺฉติ. มหาปจฺจริยาทีสุ ‘‘อนนฺตกติลพีชกอุทกปปฺปฏกาทีนิ ทุกฺกฏวตฺถูนี’’ติ วุตฺตํ, ตตฺถ การณํ น ทิสฺสติ. อนฺธกฏฺกถายํ ‘‘สมฺปุณฺณภูตคามํ น โหติ, ตสฺมา ทุกฺกฏ’’นฺติ วุตฺตํ, ตมฺปิ น สเมติ. ภูตคาเม หิ ปาจิตฺติยํ พีชคาเม ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. อสมฺปุณฺณภูตคาโม นาม ตติโย โกฏฺาโส เนว ปาฬิยํ, อฏฺกถาสุ อาคโต, อเถตํ พีชคามสงฺคหํ คมิสฺสตีติ, ตมฺปิ น ยุตฺตํ อภูตคามมูลตฺตา ตาทิสสฺส พีชคามสฺสาติ. อปิจ ‘‘ครุกลหุเกสุ ครุเก าตพฺพ’’นฺติ เอตํ วินยลกฺขณํ.

ถลฏฺเ ฉินฺนรุกฺขานํ อวสิฏฺโ หริตขาณุ นาม โหติ, ตตฺถ กกุธกรฺชปิยงฺคุปนสาทีนํ ขาณุ อุทฺธํ วฑฺฒติ, โส ภูตคาเมน สงฺคหิโต. ตาลนาฬิเกราทีนํ ขาณุ อุทฺธํ น วฑฺฒติ, โส พีชคาเมน สงฺคหิโต. กทลิยา ปน อผลิตาย ขาณุ ภูตคาเมน สงฺคหิโต, ผลิตาย พีชคาเมน. กทลี ปน ผลิตา ยาว นีลปณฺณา, ตาว ภูตคาเมเนว สงฺคหิตา, ตถา ผลิโต เวฬุ. ยทา ปน อคฺคโต ปฏฺาย สุสฺสติ, ตทา พีชคาเมน สงฺคหํ คจฺฉติ. กตรพีชคาเมน? ผฬุพีชคาเมน. กึ ตโต นิพฺพตฺตติ? น กิฺจิ. ยทิ หิ นิพฺพตฺเตยฺย, ภูตคาเมน สงฺคหํ คจฺเฉยฺย. อินฺทสาลาทิรุกฺเข ฉินฺทิตฺวา ราสึ กโรนฺติ, กิฺจาปิ ราสิกตทณฺฑเกหิ รตนปฺปมาณาปิ สาขา นิกฺขมนฺติ, พีชคาเมเนว ปน สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. มณฺฑปตฺถาย วา วติอตฺถาย วา วลฺลิอาโรปนตฺถาย วา ภูมิยํ นิขณนฺติ, มูเลสุ เจว ปณฺเณสุ จ นิคฺคเตสุ ปุน ภูตคามสงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ, มูลมตฺเตสุ ปน ปณฺณมตฺเตสุ วา นิคฺคเตสุปิ พีชคาเมน สงฺคหิตา เอว.

ยานิ กานิจิ พีชานิ ปถวิยํ วา อุทเกน สิฺจิตฺวา ปิตานิ, กปาลาทีสุ วา อลฺลปํสุํ ปกฺขิปิตฺวา นิกฺขิตฺตานิ โหนฺติ, สพฺพานิ มูลมตฺเต วา ปณฺณมตฺเต วา นิคฺคเตปิ พีชานิเยว. สเจปิ มูลานิ จ อุปริ องฺกุโร จ นิคฺคจฺฉติ, ยาว องฺกุโร หริโต น โหติ, ตาว พีชานิเยว. มุคฺคาทีนํ ปน ปณฺเณสุ อุฏฺิเตสุ, วีหิอาทีนํ วา องฺกุเร หริเต นีลวณฺเณ ชาเต ภูตคามสงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ตาลฏฺีนํ ปมํ สูกรทาา วิย มูลํ นิคฺคจฺฉติ, นิคฺคเตปิ ยาว อุปริ ปตฺตวฏฺฏิ น นิคฺคจฺฉติ, ตาว พีชคาโม นามเยว. นาฬิเกรสฺส ตจํ ภินฺทิตฺวา ทนฺตสูจิ วิย องฺกุโร นิคฺคจฺฉติ, ยาว มิคสิงฺคสทิสา นีลปตฺตวฏฺฏิ น โหติ, ตาว พีชคาโมเยว. มูเล อนิคฺคเตปิ ตาทิสาย ปตฺตวฏฺฏิยา ชาตาย อมูลกภูตคาเม สงฺคหํ คจฺฉติ.

อมฺพฏฺิอาทีนิ วีหิอาทีหิ วินิจฺฉินิตพฺพานิ. วนฺทากา วา อฺา วา ยา กาจิ รุกฺเข ชายิตฺวา รุกฺขํ โอตฺถรติ, รุกฺโขว ตสฺสา านํ, ตํ วิโกเปนฺตสฺส วา ตโต อุทฺธรนฺตสฺส วา ปาจิตฺติยํ. เอกา อมูลิกา ลตา โหติ, องฺคุลิเวโก วิย วนปฺปคุมฺพทณฺฑเก เวเติ, ตสฺสาปิ อยเมว วินิจฺฉโย. เคหปมุขปาการเวทิกา เจติยาทีสุ นีลวณฺโณ เสวาโล โหติ, ยาว ทฺเว ตีณิ ปตฺตานิ น สฺชายนฺติ, ตาว อคฺคพีชสงฺคหํ คจฺฉติ. ปตฺเตสุ ชาเตสุ ปาจิตฺติยวตฺถุ, ตสฺมา ตาทิเสสุ าเนสุ สุธาเลปมฺปิ ทาตุํ น วฏฺฏติ, อนุปสมฺปนฺเนน ลิตฺตสฺส อุปริ สิเนหเลโป ทาตุํ วฏฺฏติ. สเจ นิทาฆสมเย สุกฺขเสวาโล ติฏฺติ, ตํ สมฺมุฺชนีอาทีหิ ฆํสิตฺวา อปเนตุํ วฏฺฏติ. ปานียฆฏาทีนํ พหิ เสวาโล ทุกฺกฏวตฺถุ, อนฺโต อพฺโพหาริโก, ทนฺตกฏฺปูวาทีสุ กณฺณกมฺปิ อพฺโพหาริกเมว. วุตฺตฺเหตํ ‘‘สเจ เครุกปริกมฺมกตา ภิตฺติ กณฺณกิตา โหติ, โจฬกํ เตเมตฺวา ปีเฬตฺวา ปมชฺชิตพฺพา’’ติ (มหาว. ๖๖).

๗๗. ปาสาณชาติ ปาสาณททฺทุเสวาลเสเลยฺยกาทีนิ อหริตวณฺณานิ อปตฺตกานิ จ ทุกฺกฏวตฺถุกานิ. อหิจฺฉตฺตกํ ยาว มกุฏํ โหติ, ตาว ทุกฺกฏวตฺถุ, ปุปฺผิตกาลโต ปฏฺาย อพฺโพหาริกํ, อลฺลรุกฺขโต ปน อหิจฺฉตฺตกํ คณฺหนฺโต รุกฺขตจํ วิโกเปติ, ตสฺมา ตตฺถ ปาจิตฺติยํ. รุกฺขปปฏิกายปิ เอเสว นโย. ยา ปน อินฺทสาลกกุธาทีนํ ปปฏิกา รุกฺขโต มุจฺจิตฺวา ติฏฺติ, ตํ คณฺหนฺตสฺส อนาปตฺติ. นิยฺยาสมฺปิ รุกฺขโต มุจฺจิตฺวา ิตํ สุกฺขรุกฺเข วา ลคฺคํ คณฺหิตุํ วฏฺฏติ, อลฺลรุกฺขโต น วฏฺฏติ. ลาขายปิ เอเสว นโย. รุกฺขํ จาเลตฺวา ปณฺฑุปลาสํ วา ปริณตกณิการาทิปุปฺผํ วา ปาเตนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว. หตฺถกุกฺกุจฺเจน มุทุเกสุ อินฺทสาลนุหีขนฺธาทีสุ วา ตตฺถชาตกตาลปณฺณาทีสุ วา อกฺขรํ ฉินฺทนฺตสฺสปิ เอเสว นโย. สามเณรานํ ปุปฺผํ โอจินนฺตานํ สาขํ โอนาเมตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. เตหิ ปน ปุปฺเผหิ ปานียํ น วาเสตพฺพํ, ปานียวาสตฺถิเกน สามเณรํ อุกฺขิปิตฺวา โอจินาเปตพฺพานิ. ผลสาขาปิ อตฺตนา ขาทิตุกาเมน น โอนาเมตพฺพา, สามเณรํ อุกฺขิปิตฺวา ผลํ คาหาเปตพฺพํ. กิฺจิ คจฺฉํ วาลตํ วา อุปฺปาเฏนฺเตหิ สามเณเรหิ สทฺธึ คเหตฺวา อากฑฺฒิตุํ น วฏฺฏติ, เตสํ ปน อุสฺสาหชนนตฺถํ อนากฑฺฒนฺเตน กฑฺฒนาการํ ทสฺเสนฺเตน วิย อคฺเค คเหตุํ วฏฺฏติ. เยสํ รุกฺขานํ สาขา รุหติ, เตสํ สาขํ มกฺขิกพีชนาทีนํ อตฺถาย กปฺปิยํ อการาเปตฺวา คหิตํ, ตเจ วา ปตฺเต วา อนฺตมโส นเขนปิ วิเลขนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. อลฺลสิงฺคิเวราทีสุปิ เอเสว นโย. สเจ ปน กปฺปิยํ การาเปตฺวา สีตเล ปเทเส ปิตสฺส มูลํ สฺชายติ, อุปริภาเค ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติ. สเจ องฺกุโร ชายติ, เหฏฺาภาเค ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติ, มูเล จ องฺกุเร จ ชาเต น วฏฺฏติ.

‘‘สมฺมุฺชนีสลากายปิ ติณานิ ฉินฺทิสฺสามี’’ติ ภูมิยํ สมฺมชฺชนฺโต สยํ วา ฉินฺทติ, อฺเน วา เฉทาเปติ, น วฏฺฏติ. จงฺกมนฺโตปิ ‘‘ฉิชฺชนกํ ฉิชฺชตุ, ภิชฺชนกํ ภิชฺชตุ, จงฺกมิตฏฺานํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ สฺจิจฺจ ปาเทหิ อกฺกมนฺโต ติณวลฺลิอาทีนิ สยํ วา ฉินฺทติ, อฺเน วา เฉทาเปติ, น วฏฺฏติ. สเจปิ หิ ติณํ วา ลตํ วา คนฺถึ กโรนฺตสฺส ภิชฺชติ, คนฺถิมฺปิ กาตุํ น วฏฺฏติ. ตาลรุกฺขาทีสุ ปน โจรานํ อนารุหณตฺถาย ทารุมกฺกฏกํ อาโกเฏนฺติ, กณฺฏเก พนฺธนฺติ, ภิกฺขุสฺส เอวํ กาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ทารุมกฺกฏโก รุกฺเข อลฺลีนมตฺโตว โหติ, รุกฺขํ น ปีเฬติ, วฏฺฏติ. ‘‘รุกฺขํ ฉินฺท, ลตํ ฉินฺท, กนฺทํ วา มูลํ วา อุปฺปาเฏหี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ อนิยมิตตฺตา. นิยเมตฺวา ปน ‘‘อิมํ รุกฺขํ ฉินฺทา’’ติอาทิ วตฺตุํ น วฏฺฏติ. นามํ คเหตฺวาปิ ‘‘อมฺพรุกฺขํ จตุรํสวลฺลึ อาลุวกนฺทํ มุฺชติณํ อสุกรุกฺขจฺฉลฺลึ ฉินฺท ภินฺท อุปฺปาเฏหี’’ติอาทิวจนมฺปิ อนิยมิตเมว โหติ. ‘‘อิมํ อมฺพรุกฺข’’นฺติอาทิวจนเมว หิ นิยมิตํ นาม, ตํ น วฏฺฏติ. ปตฺตมฺปิ ปจิตุกาโม ติณาทีนํ อุปริ สฺจิจฺจ อคฺคึ กโรนฺโต สยํ วา ปจติ, อฺเน วา ปจาเปติ, น วฏฺฏติ. อนิยเมตฺวา ปน ‘‘มุคฺเค ปจ, มาเส ปจา’’ติอาทิ วตฺตุํ วฏฺฏติ, ‘‘อิเม มุคฺเค ปจา’’ติ เอวํ วตฺตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘อิมํ มูลเภสชฺชํ ชาน, อิมํ มูลํ วา ปณฺณํ วา เทหิ, อิมํ รุกฺขํ วา ลตํ วา อาหร, อิมินา ปุปฺเผน ผเลน วา อตฺโถ, อิมํ รุกฺขํ วา ลตํ วา ผลํ วา กปฺปิยํ กโรหี’’ติ เอวํ ปน วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอตฺตาวตา ภูตคามปริโมจิตํ กตํ โหติ.

๗๘. ปริภุฺชนฺเตน ปน พีชคามปริโมจนตฺถํ ปุน กปฺปิยํ การาเปตพฺพํ. กปฺปิยกรณฺเจตฺถ อิมินา สุตฺตานุสาเรน เวทิตพฺพํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ ผลํ ปริภุฺชิตุํ อคฺคิปริชิตํ สตฺถปริชิตํ นขปริชิตํ อพีชํ นิพฺพฏฺฏพีชฺเว ปฺจม’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๐).

ตตฺถ อคฺคิปริชิตนฺติ อคฺคินา ปริชิตํ อธิภูตํ ทฑฺฒํ ผุฏฺนฺติ อตฺโถ. สตฺถปริชิตนฺติ สตฺเถน ปริชิตํ อธิภูตํ ฉินฺนํ วิทฺธํ วาติ อตฺโถ. เอส นโย นขปริชิเต. อพีชนิพฺพฏฺฏพีชานิ สยเมว กปฺปิยานิ. อคฺคินา กปฺปิยํ กโรนฺเตน กฏฺคฺคิโคมยคฺคิอาทีสุ เยน เกนจิ อนฺตมโส โลหขณฺเฑนปิ อาทิตฺเตน กปฺปิยํ กาตพฺพํ, ตฺจ โข เอกเทเส ผุสนฺเตน ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวาว กาตพฺพํ. สตฺเถน กโรนฺเตน ยสฺส กสฺสจิ โลหมยสตฺถสฺส อนฺตมโส สูจินขจฺเฉทนานมฺปิ ตุณฺเฑน วา ธาราย วา เฉทํ วา เวธํ วา ทสฺเสนฺเตน ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวาว กาตพฺพํ. นเขน กปฺปิยํ กโรนฺเตน ปูตินเขน น กาตพฺพํ, มนุสฺสานํ ปน สีหพฺยคฺฆทีปิมกฺกฏานํ สกุนฺตานฺจ นขา ติขิณา โหนฺติ, เตหิ กาตพฺพํ. อสฺสมหึสสูกรมิคโครูปาทีนํ ขุรา อติขิณา, เตหิ น กาตพฺพํ, กตมฺปิ อกตํ โหติ. หตฺถินขา ปน ขุรา น โหนฺติ, เตหิ จ วฏฺฏติ. เยหิ ปน กาตุํ วฏฺฏติ, เตหิ ตตฺถชาตเกหิปิ อุทฺธริตฺวา คหิตเกปิ เฉทํ วา เวธํ วา ทสฺเสนฺเตน ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวาว กาตพฺพํ.

ตตฺถ สเจปิ พีชานํ ปพฺพตมตฺโต ราสิ, รุกฺขสหสฺสํ วา ฉินฺทิตฺวา เอกาพทฺธํ กตฺวา อุจฺฉูนํ วา มหาภาโร พนฺธิตฺวา ปิโต โหติ, เอกสฺมึ พีเช วา รุกฺขสาขาย วา อุจฺฉุมฺหิ วา กปฺปิเย กเต สพฺพํ กตํ โหติ. อุจฺฉู จ ทารูนิ จ เอกโต พทฺธานิ โหนฺติ, ‘‘อุจฺฉุํ กปฺปิยํ กริสฺสามี’’ติ ทารุํ วิชฺฌติ, วฏฺฏติเยว. สเจ ปน ยาย รชฺชุยา วา วลฺลิยา วา พทฺธานิ, ตํ วิชฺฌติ, น วฏฺฏติ. อุจฺฉุขณฺฑานํ ปจฺฉึ ปูเรตฺวา อาหรนฺติ, เอกสฺมึ ขณฺเฑ กปฺปิเย กเต สพฺพํ กตเมว. มรีจปกฺกาทีหิ จ มิสฺเสตฺวา ภตฺตํ อาหรนฺติ, ‘‘กปฺปิยํ กโรหี’’ติ วุตฺเต สเจปิ ภตฺตสิตฺเถ วิชฺฌติ, วฏฺฏติเยว. ติลตณฺฑุลาทีสุปิ เอเสว นโย. ยาคุยา ปกฺขิตฺตานิ ปน เอกาพทฺธานิ หุตฺวา น สนฺติฏฺนฺติ, ตตฺถ เอกเมกํ วิชฺฌิตฺวา กปฺปิยํ กาตพฺพเมว. กปิตฺถผลาทีนํ อนฺโต มิฺชํ กฏาหํ มุฺจิตฺวา สฺจรติ, ภินฺทาเปตฺวา กปฺปิยํ การาเปตพฺพํ, เอกาพทฺธํ โหติ, กฏาเหปิ กาตุํ วฏฺฏติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ภูตคามวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๑๖. สหเสยฺยวินิจฺฉยกถา

๗๙. ทุวิธํ สหเสยฺยกนฺติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อนุปสมฺปนฺเนน อุตฺตริทิรตฺตติรตฺตํ สหเสยฺยํ กปฺเปยฺย, ปาจิตฺติยํ (ปาจิ. ๔๙). โย ปน ภิกฺขุ มาตุคาเมน สหเสยฺยํ กปฺเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๕๖) เอวํ วุตฺตํ สหเสยฺยสิกฺขาปททฺวยํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปาจิ. อฏฺ. ๕๐-๕๑) – อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ ติณฺณํ รตฺตีนํ อุปริ จตุตฺถทิวเส อตฺถงฺคเต สูริเย สพฺพจฺฉนฺนสพฺพปริจฺฉนฺเน เยภุยฺยจฺฉนฺนเยภุยฺยปริจฺฉนฺเน วา เสนาสเน ปุพฺพาปริเยน วา เอกกฺขเณ วา นิปชฺชนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. ตตฺถ ฉทนํ อนาหจฺจ ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพเธน ปาการาทินา เยน เกนจิ ปริจฺฉนฺนมฺปิ สพฺพปริจฺฉนฺนมิจฺเจว เวทิตพฺพํ. ยํ เสนาสนํ อุปริ ปฺจหิ ฉทเนหิ อฺเน วา เกนจิ สพฺพเมว ปริจฺฉนฺนํ, อิทํ สพฺพจฺฉนฺนํ นาม เสนาสนํ. อฏฺกถาสุ ปน ปากฏโวหารํ คเหตฺวา วาจุคฺคตวเสน ‘‘สพฺพจฺฉนฺนํ นาม ปฺจหิ ฉทเนหิ ฉนฺน’’นฺติ วุตฺตํ. กิฺจาปิ วุตฺตํ, อถ โข ทุสฺสกุฏิยํ สยนฺตสฺสปิ น สกฺกา อนาปตฺติ กาตุํ, ตสฺมา ยํ กิฺจิ ปฏิจฺฉาทนสมตฺถํ อิธ ฉทนฺจ ปริจฺฉนฺนฺจ เวทิตพฺพํ. ปฺจวิธจฺฉทเนเยว หิ คยฺหมาเน ปทรจฺฉนฺเนปิ สหเสยฺยา น ภเวยฺย, ตสฺมา ยํ เสนาสนํ ภูมิโต ปฏฺาย ยาวฉทนํ อาหจฺจ ปากาเรน วา อฺเน วา เกนจิ อนฺตมโส วตฺเถนปิ ปริกฺขิตฺตํ, อิทํ สพฺพปริจฺฉนฺนํ นาม เสนาสนํ. ฉทนํ อนาหจฺจ สพฺพนฺติเมน ปริยาเยน ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพเธน ปาการาทินา ปริกฺขิตฺตมฺปิ สพฺพปริจฺฉนฺนเมว. ยสฺส ปน อุปริ พหุตรํ านํ ฉนฺนํ, อปฺปํ อจฺฉนฺนํ, สมนฺตโต วา พหุตรํ ปริกฺขิตฺตํ, อปฺปํ อปริกฺขิตฺตํ, อิทํ เยภุยฺเยนฉนฺนํ เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺนํ นาม.

อิมินา ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจปิ สตฺตภูมิโก ปาสาโท เอกูปจาโร โหติ, สตคพฺภํ วา จตุสาลํ, เอกํ เสนาสนมิจฺเจว สงฺขํ คจฺฉติ. เอวรูเป เสนาสเน อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ จตุตฺถทิวเส อตฺถงฺคเต สูริเย นิปชฺชนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. สเจ ปน สมฺพหุลา สามเณรา, เอโก ภิกฺขุ, สามเณรคณนาย ปาจิตฺติยา. เต เจ อุฏฺายุฏฺาย นิปชฺชนฺติ, เตสํ ปโยเค ปโยเค ภิกฺขุสฺส อาปตฺติ, ภิกฺขุสฺส อุฏฺายุฏฺาย นิปชฺชเน ปน ภิกฺขุสฺเสว ปโยเคน ภิกฺขุสฺส อาปตฺติ. สเจ สมฺพหุลา ภิกฺขู, เอโก สามเณโร, เอโกปิ สพฺเพสํ อาปตฺตึ กโรติ. ตสฺส อุฏฺายุฏฺาย นิปชฺชเนนปิ ภิกฺขูนํ อาปตฺติเยว. อุภเยสํ สมฺพหุลภาเวปิ เอเสว นโย.

๘๐. อปิเจตฺถ เอกาวาสาทิกมฺปิ จตุกฺกํ เวทิตพฺพํ. โย หิ เอกสฺมึ อาวาเส เอเกเนว อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ ติรตฺตํ สหเสยฺยํ กปฺเปติ, ตสฺส จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย เทวสิกา อาปตฺติ. โยปิ เอกสฺมึเยว อาวาเส นานาอนุปสมฺปนฺเนหิ สทฺธึ ติรตฺตํ สหเสยฺยํ กปฺเปติ, ตสฺสปิ. โยปิ นานาอาวาเสสุ เอเกเนว อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ ติรตฺตํ สหเสยฺยํ กปฺเปติ, ตสฺสปิ. โยปิ นานาอาวาเสสุ นานาอนุปสมฺปนฺเนหิ สทฺธึ โยชนสตมฺปิ คนฺตฺวา สหเสยฺยํ กปฺเปติ, ตสฺสปิ จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย เทวสิกา อาปตฺติ.

อยฺจ สหเสยฺยาปตฺติ นาม ‘‘ภิกฺขุํ เปตฺวา อวเสโส อนุปสมฺปนฺโน นามา’’ติ วจนโต อนฺตมโส ปาราชิกวตฺถุภูเตน ติรจฺฉานคเตนปิ สทฺธึ โหติ, ตสฺมา สเจปิ โคธาพิฬาลมงฺคุสาทีสุ โกจิ ปวิสิตฺวา ภิกฺขุโน วสนเสนาสเน เอกูปจารฏฺาเน สยติ, สหเสยฺยาว โหติ. ยทิ ปน ถมฺภานํ อุปริ กตปาสาทสฺส อุปริมตเลน สทฺธึ อสมฺพทฺธภิตฺติกสฺส ภิตฺติยา อุปริิตสุสิรตุลาสีสสฺส สุสิเรน ปวิสิตฺวา ตุลาย อพฺภนฺตเร สยิตฺวา เตเนว สุสิเรน นิกฺขมิตฺวา คจฺฉติ, เหฏฺาปาสาเท สยิตภิกฺขุสฺส อนาปตฺติ. สเจ ฉทเน ฉิทฺทํ โหติ, เตน ปวิสิตฺวา อนฺโตฉทเน วสิตฺวา เตเนว ปกฺกมติ, นานูปจาเร อุปริมตเล ฉทนพฺภนฺตเร สยิตสฺส อาปตฺติ, เหฏฺิมตเล สยิตสฺส อนาปตฺติ. สเจ อนฺโตปาสาเทเนว อาโรหิตฺวา สพฺพตลานิ ปริภุฺชนฺติ, เอกูปจารานิ โหนฺติ, เตสุ ยตฺถ กตฺถจิ สยิตสฺส อาปตฺติ, สภาสงฺเขเปน กเต อฑฺฒกุฏฺฏเก เสนาสเน สยิตสฺส ตุลาวาฬสฆาฏาทีสุ กโปตาทโย สยนฺติ, อาปตฺติเยว. ปริกฺเขปสฺส พหิคเต นิพฺพโกสพฺภนฺตเร สยนฺติ, อนาปตฺติ. ปริมณฺฑลํ วา จตุรสฺสํ วา เอกจฺฉทนาย คพฺภมาลาย สตคพฺภํ เจปิ เสนาสนํ โหติ, ตตฺร เจ เอเกน สาธารณทฺวาเรน ปวิสิตฺวา วิสุํ ปากาเรน อปริจฺฉินฺนคพฺภูปจาเร สพฺพคพฺเภปิ ปวิสนฺติ, เอกคพฺเภปิ อนุปสมฺปนฺเน นิปนฺเน สพฺพคพฺเภสุ นิปนฺนานํ อาปตฺติ. สเจ สปมุขา คพฺภา โหนฺติ, ปมุขฺจ อุปริ อจฺฉนฺนํ, ปมุเข สยิโต คพฺเภ สยิตานํ อาปตฺตึ น กโรติ. สเจ ปน คพฺภจฺฉทเนเนว สทฺธึ สมฺพนฺธฉทนํ, ตตฺร สยิโต สพฺเพสํ อาปตฺตึ กโรติ. กสฺมา? สพฺพจฺฉนฺนตฺตา จ สพฺพปริจฺฉนฺนตฺตา จ. คพฺภปริกฺเขโปเยว หิสฺส ปริกฺเขโป.

๘๑. เยปิ เอกสาลทฺวิสาลติสาลจตุสาลสนฺนิเวสา มหาปาสาทา เอกสฺมึ โอกาเส ปาเท โธวิตฺวา ปวิฏฺเน สกฺกา โหนฺติ สพฺพตฺถ อนุปริคนฺตุํ, เตสุปิ สหเสยฺยาปตฺติยา น มุจฺจติ. สเจ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน อุปจารํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา กตา โหนฺติ, เอกูปจารฏฺาเนเยว อาปตฺติ. ทฺวีหิ ทฺวาเรหิ ยุตฺตสฺส สุธาฉทนมณฺฑปสฺส มชฺเฌ ปาการํ กโรนฺติ, เอเกน ทฺวาเรน ปวิสิตฺวา เอกสฺมึ ปริจฺเฉเท อนุปสมฺปนฺโน สยติ, เอกสฺมึ ภิกฺขุ, อนาปตฺติ. ปากาเร โคธาทีนํ ปวิสนมตฺตํ ฉิทฺทํ โหติ, เอกสฺมิฺจ ปริจฺเฉเท โคธา สยนฺติ, อนาปตฺติเยว. น หิ ฉิทฺเทน เคหํ เอกูปจารํ นาม โหติ. สเจ ปาการมชฺเฌ ฉินฺทิตฺวา ทฺวารํ โยเชนฺติ, เอกูปจารตาย อาปตฺติ. ตํ ทฺวารํ กวาเฏน ปิทหิตฺวา สยนฺติ, อาปตฺติเยว. น หิ ทฺวารปิทหเนน เคหํ นานูปจารํ นาม โหติ, ทฺวารํ วา อทฺวารํ. กวาฏฺหิ สํวรณวิวรเณหิ ยถาสุขํ วฬฺชนตฺถาย กตํ, น วฬฺชุปจฺเฉทนตฺถาย. สเจ ตํ ทฺวารํ ปุน อิฏฺกาหิ ปิทหนฺติ, อทฺวารํ โหติ, ปุริเม นานูปจารภาเวเยว ติฏฺติ. ทีฆปมุขํ เจติยฆรํ โหติ, เอกํ กวาฏํ อนฺโต, เอกํ พหิ, ทฺวินฺนํ กวาฏานํ อนฺตเร อนุปสมฺปนฺโน อนฺโตเจติยฆเร สยนฺตสฺส อาปตฺตึ กโรติ เอกูปจารตฺตา.

อยฺเหตฺถ สงฺเขโป – เสนาสนํ ขุทฺทกํ วา โหตุ มหนฺตํ วา, อฺเน สทฺธึ สมฺพนฺธํ วา อสมฺพนฺธํ วา, ทีฆํ วา วฏฺฏํ วา จตุรสฺสํ วา, เอกภูมิกํ วา อเนกภูมิกํ วา, ยํ ยํ เอกูปจารํ, สพฺพตฺถ สหเสยฺยาปตฺติ โหตีติ. เอตฺถ จ เยน เกนจิ ปฏิจฺฉทเนน สพฺพจฺฉนฺเน สพฺพปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, เยภุยฺเยนฉนฺเน เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, สพฺพจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, สพฺพจฺฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, เยภุยฺเยนฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, สพฺพปริจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, สพฺพปริจฺฉนฺเน อุปฑฺฒจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน อุปฑฺฒจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยนฺติ อฏฺ ปาจิตฺติยานิ. อุปฑฺฒจฺฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, สพฺพจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, เยภุยฺเยนฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, สพฺพปริจฺฉนฺเน จูฬกจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน จูฬกจฺฉนฺเน ทุกฺกฏนฺติ ปฺจ ทุกฺกฏานิ เวทิตพฺพานิ. สพฺพจฺฉนฺเน สพฺพอปริจฺฉนฺเน, สพฺพปริจฺฉนฺเน สพฺพอจฺฉนฺเน, เยภุยฺเยนอจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนอปริจฺฉนฺเน, อุปฑฺฒจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน, อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน จูฬกจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน จ อนาปตฺติ. มาตุคาเมน สห นิปชฺชนฺตสฺสปิ อยเมว วินิจฺฉโย. อยฺเหตฺถ วิเสโส – อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ นิปชฺชนฺตสฺส จตุตฺถทิวเส อาปตฺติ, มาตุคาเมน สทฺธึ ปมทิวเสติ. ยกฺขิเปตีหิ ปน ทิสฺสมานกรูปาหิ ติรจฺฉานคติตฺถิยา จ เมถุนธมฺมวตฺถุภูตาย เอว ทุกฺกฏํ, เสสาหิ อนาปตฺติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

สหเสยฺยวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๑๗. มฺจปีาทิสงฺฆิกเสนาสเนสุ ปฏิปชฺชิตพฺพวินิจฺฉยกถา

๘๒. วิหาเร สงฺฆิเก เสยฺยํ, สนฺถริตฺวาน ปกฺกโมติ สงฺฆิเก วิหาเร เสยฺยํ สนฺถริตฺวาน อฺตฺถ วสิตุกามตาย วิหารโต ปกฺกมนํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย –

‘‘โย ปน ภิกฺขุ สงฺฆิเก วิหาเร เสยฺยํ สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ตํ ปกฺกมนฺโต เนว อุทฺธเรยฺย น อุทฺธราเปยฺย อนาปุจฺฉํ วา คจฺเฉยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๕) –

วจนโต สงฺฆิเก วิหาเร เสยฺยํ สยํ สนฺถริตฺวา อฺเน วา สนฺถราเปตฺวา อุทฺธรณาทีนิ อกตฺวา ปริกฺขิตฺตสฺส อารามสฺส ปริกฺเขปํ, อปริกฺขิตฺตสฺส อุปจารํ อติกฺกมนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ.

ตตฺถ เสยฺยา นาม ภิสิ จิมิลิกา อุตฺตรตฺถรณํ ภูมตฺถรณํ ตฏฺฏิกา จมฺมขณฺโฑ นิสีทนํ ปจฺจตฺถรณํ ติณสนฺถาโร ปณฺณสนฺถาโรติ ทสวิธา. ตตฺถ ภิสีติ มฺจกภิสิ วา ปีกภิสิ วา. จิมิลิกา นาม สุธาทิปริกมฺมกตาย ภูมิยา วณฺณานุรกฺขณตฺถํ กตา, ตํ เหฏฺา ปตฺถริตฺวา อุปริ กฏสารกํ ปตฺถรนฺติ. อุตฺตรตฺถรณํ นาม มฺจปีานํ อุปริ อตฺถริตพฺพกปจฺจตฺถรณํ. ภูมตฺถรณํ นาม ภูมิยํ อตฺถริตพฺพา กฏสารกาทิวิกติ. ตฏฺฏิกา นาม ตาลปณฺเณหิ วา วาเกหิ วา กตตฏฺฏิกา. จมฺมขณฺโฑ นาม สีหพฺยคฺฆทีปิตรจฺฉจมฺมาทีสุปิ ยํ กิฺจิ จมฺมํ. อฏฺกถาสุ หิ เสนาสนปริโภเค ปฏิกฺขิตฺตจมฺมํ น ทิสฺสติ, ตสฺมา สีหพฺยคฺฆจมฺมาทีนํ ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ. นิสีทนนฺติ สทสํ เวทิตพฺพํ. ปจฺจตฺถรณนฺติ ปาวาโร โกชโวติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. ติณสนฺถาโรติ เยสํ เกสฺจิ ติณานํ สนฺถาโร. เอส นโย ปณฺณสนฺถาเรปิ. เอวํ ปน อิมํ ทสวิธํ เสยฺยํ สงฺฆิเก วิหาเร สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ปกฺกมนฺเตน อาปุจฺฉิตฺวา ปกฺกมิตพฺพํ, อาปุจฺฉนฺเตน จ ภิกฺขุมฺหิ สติ ภิกฺขุ อาปุจฺฉิตพฺโพ, ตสฺมึ อสติ สามเณโร, ตสฺมึ อสติ อารามิโก, ตสฺมึ อสติ เยน วิหาโร การิโต, โส วิหารสามิโก, ตสฺส วา กุเล โย โกจิ อาปุจฺฉิตพฺโพ, ตสฺมิมฺปิ อสติ จตูสุ ปาสาเณสุ มฺจํ เปตฺวา มฺเจ อวเสสมฺจปีานิ อาโรเปตฺวา อุปริ ภิสิอาทิกํ ทสวิธมฺปิ เสยฺยํ ราสึ กตฺวา ทารุภณฺฑํ มตฺติกาภณฺฑํ ปฏิสาเมตฺวา ทฺวารวาตปานานิ ปิทหิตฺวา คมิยวตฺตํ ปูเรตฺวา คนฺตพฺพํ.

สเจ ปน เสนาสนํ โอวสฺสติ, ฉทนตฺถฺจ ติณํ วา อิฏฺกา วา อานีตา โหนฺติ, สเจ อุสฺสหติ, ฉาเทตพฺพํ. โน เจ สกฺโกติ, โย โอกาโส อโนวสฺสโก, ตตฺถ มฺจปีาทีนิ นิกฺขิปิตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ สพฺพมฺปิ โอวสฺสติ, อุสฺสหนฺเตน อนฺโตคาเม อุปาสกานํ ฆเร เปตพฺพํ. สเจ เตปิ ‘‘สงฺฆิกํ นาม, ภนฺเต, ภาริยํ, อคฺคิทาหาทีนํ ภายามา’’ติ น สมฺปฏิจฺฉนฺติ, อพฺโภกาเสปิ ปาสาณานํ อุปริ มฺจํ เปตฺวา เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว นิกฺขิปิตฺวา ติเณหิ จ ปณฺเณหิ จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ. ยฺหิ ตตฺถ องฺคมตฺตมฺปิ อวสิสฺสติ, ตํ อฺเสํ ตตฺถ อาคตภิกฺขูนํ อุปการํ ภวิสฺสตีติ. อุทฺธริตฺวา คจฺฉนฺเตน ปน มฺจปีกวาฏํ สพฺพํ อปเนตฺวา สํหริตฺวา จีวรวํเส ลคฺเคตฺวาว คนฺตพฺพํ. ปจฺฉา อาคนฺตฺวา วสนกภิกฺขุนาปิ ปุน มฺจปีํ ปยิตฺวา คจฺฉนฺเตน ตเถว กาตพฺพํ. อนฺโตกุฏฺฏโต เสยฺยํ พหิกุฏฺเฏ ปฺเปตฺวา วสนฺเตน คมนกาเล ปุน คหิตฏฺาเนเยว ปฏิสาเมตพฺพํ. อุปริปาสาทโต โอโรเปตฺวา เหฏฺาปาสาเท วสนฺตสฺสปิ เอเสว นโย. รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเนสุ มฺจปีํ ปฺเปตฺวา พหิคมนกาเล ปุน คหิตฏฺาเนเยว เปตพฺพํ.

๘๓. เสนาสเนสุ ปน อยํ อาปุจฺฉิตพฺพานาปุจฺฉิตพฺพวินิจฺฉโย – ยา ตาว ภูมิยํ ทีฆสาลา วา ปณฺณสาลา วา โหติ, ยํ วา รุกฺขตฺถมฺเภสุ กตเคหํ อุปจิกานํ อุฏฺานฏฺานํ โหติ, ตโต ปกฺกมนฺเตน ตาว อาปุจฺฉิตฺวาว ปกฺกมิตพฺพํ. ตสฺมิฺหิ กติปยานิ ทิวสานิ อชคฺคิยมาเน วมฺมิกาว สนฺติฏฺนฺติ. ยํ ปน ปาสาณปิฏฺิยํ วา ปาสาณตฺถมฺเภสุ วา กตเสนาสนํ สิลุจฺจยเลณํ วา สุธาลิตฺตเสนาสนํ วา, ยตฺถ ยตฺถ อุปจิกาสงฺกา นตฺถิ, ตโต ปกฺกมนฺตสฺส อาปุจฺฉิตฺวาปิ อนาปุจฺฉิตฺวาปิ คนฺตุํ วฏฺฏติ, อาปุจฺฉนํ ปน วตฺตํ. สเจ ตาทิเสปิ เสนาสเน เอเกน ปสฺเสน อุปจิกา อาโรหนฺติ, อาปุจฺฉิตฺวาว คนฺตพฺพํ. โย ปน อาคนฺตุโก ภิกฺขุ สงฺฆิกเสนาสนํ คเหตฺวาว สนฺตํ ภิกฺขุํ อนุวตฺตนฺโต อตฺตโน เสนาสนํ อคฺคเหตฺวา วสติ, ยาว โส น คณฺหาติ, ตาว ตํ เสนาสนํ ปุริมภิกฺขุสฺเสว ปลิโพโธ. ยทา ปน โส เสนาสนํ คเหตฺวา อตฺตโน อิสฺสริเยน วสติ, ตโต ปฏฺาย อาคนฺตุกสฺเสว ปลิโพโธ. สเจ อุโภปิ วิภชิตฺวา คณฺหนฺติ, อุภินฺนมฺปิ ปลิโพโธ.

มหาปจฺจริยํ ปน วุตฺตํ – สเจ ทฺเว ตโย เอกโต หุตฺวา ปฺเปนฺติ, คมนกาเล สพฺเพหิ อาปุจฺฉิตพฺพํ. เตสุ เจ ปมํ คจฺฉนฺโต ‘‘ปจฺฉิโม ชคฺคิสฺสตี’’ติ อาโภคํ กตฺวา คจฺฉติ, วฏฺฏติ, ปจฺฉิมสฺส อาโภเคน มุตฺติ นตฺถิ. พหู เอกํ เปเสตฺวา สนฺถราเปนฺติ, คมนกาเล สพฺเพหิ วา อาปุจฺฉิตพฺพํ, เอกํ วา เปเสตฺวา อาปุจฺฉิตพฺพํ. อฺโต มฺจปีาทีนิ อาเนตฺวา อฺตฺร วสิตฺวา คมนกาเล ตตฺเถว เนตพฺพานิ. สเจ อฺโต อาเนตฺวา วสมานสฺส อฺโ วุฑฺฒตโร อาคจฺฉติ, น ปฏิพาหิตพฺโพ, ‘‘มยา, ภนฺเต, อฺาวาสโต อานีตํ, ปากติกํ กเรยฺยาถา’’ติ วตฺตพฺพํ. เตน ‘‘เอวํ กริสฺสามี’’ติ สมฺปฏิจฺฉิเต อิตรสฺส คนฺตุํ วฏฺฏติ. เอวํ อฺตฺถ หริตฺวาปิ สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชนฺตสฺส หิ นฏฺํ วา ชิณฺณํ วา โจเรหิ วา หฏํ คีวา เนว โหติ, ปุคฺคลิกปริโภเคน ปริภุฺชนฺตสฺส ปน คีวา โหติ. อฺสฺส มฺจปีํ ปน สงฺฆิกปริโภเคน วา ปุคฺคลิกปริโภเคน วา ปริภุฺชนฺตสฺส นฏฺํ คีวาเยว. อนฺโตวิหาเร เสยฺยํ สนฺถริตฺวา ‘‘อชฺเชว อาคนฺตฺวา ปฏิชคฺคิสฺสามี’’ติ เอวํ สาเปกฺโข นทีปารํ คามนฺตรํ วา คนฺตฺวา ยตฺถสฺส คมนจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ตตฺเถว ิโต กฺจิ เปเสตฺวา อาปุจฺฉติ, นทีปูรราชโจราทีสุ วา เกนจิ ปลิโพโธ โหติ อุปทฺทุโต, น สกฺโกติ ปจฺจาคนฺตุํ, เอวํภูตสฺส อนาปตฺติ.

วิหารสฺส อุปจาเร ปน อุปฏฺานสาลาย วา มณฺฑเป วา รุกฺขมูเล วา เสยฺยํ สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ตํ ปกฺกมนฺโต เนว อุทฺธรติ น อุทฺธราเปติ อนาปุจฺฉํ วา คจฺฉติ, ทุกฺกฏํ. วุตฺตปฺปการฺหิ ทสวิธํ เสยฺยํ อนฺโตคพฺภาทิมฺหิ คุตฺตฏฺาเน ปฺเปตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ยสฺมา เสยฺยาปิ เสนาสนมฺปิ อุปจิกาหิ ปลุชฺชติ, วมฺมิกราสิเยว โหติ, ตสฺมา ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. พหิ ปน อุปฏฺานสาลาทีสุ ปฺเปตฺวา คจฺฉนฺตสฺส เสยฺยามตฺตเมว นสฺเสยฺย านสฺส อคุตฺตตาย, น เสนาสนํ, ตสฺมา เอตฺถ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. มฺจปีํ ปน ยสฺมา น สกฺกา สหสา อุปจิกาหิ ขายิตุํ, ตสฺมา ตํ วิหาเรปิ สนฺถริตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. วิหารสฺสูปจาเร อุปฏฺานสาลายํ มณฺฑเป รุกฺขมูเลปิ สนฺถริตฺวา ปกฺกมนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว.

๘๔. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ สงฺฆิกํ มฺจํ วา ปีํ วา ภิสึ วา โกจฺฉํ วา อชฺโฌกาเส สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ตํ ปกฺกมนฺโต เนว อุทฺธเรยฺย น อุทฺธราเปยฺย อนาปุจฺฉํ วา คจฺเฉยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๙) วจนโต สงฺฆิกานิ ปน มฺจปีาทีนิ จตฺตาริ อชฺโฌกาเส สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา อุทฺธรณาทีนิ อกตฺวา ‘‘อชฺเชว อาคมิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺตสฺสปิ ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม ปาจิตฺติยํ. เอตฺถ โกจฺฉํ นาม วากมยํ วา อุสีรมยํ วา มุฺชมยํ วา ปพฺพชมยํ วา เหฏฺา จ อุปริ จ วิตฺถตํ มชฺเฌ สํขิตฺตํ ปณวสณฺานํ กตฺวา พทฺธํ. ตํ กิร มชฺเฌ สีหพฺยคฺฆจมฺมปริกฺขิตฺตมฺปิ กโรนฺติ, อกปฺปิยจมฺมํ นาเมตฺถ นตฺถิ. เสนาสนฺหิ โสวณฺณมยมฺปิ วฏฺฏติ, ตสฺมา ตํ มหคฺฆํ โหติ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฏฺ มาเส อวสฺสิกสงฺเกเต มณฺฑเป วา รุกฺขมูเล วา ยตฺถ กากา วา กุลลา วา น อูหทนฺติ, ตตฺถ เสนาสนํ นิกฺขิปิตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๐) วจนโต ปน วสฺสิกวสฺสานมาสาติ เอวํ อปฺาเต จตฺตาโร เหมนฺติเก, จตฺตาโร คิมฺหิเกติ อฏฺ มาเส สาขามณฺฑเป วา ปทรมณฺฑเป วา รุกฺขมูเล วา นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ. ยสฺมึ ปน กากา วา กุลลา วา อฺเ วา สกุนฺตา ธุวนิวาเสน กุลาวเก กตฺวา วสนฺติ, ตสฺส รุกฺขสฺส มูเล น นิกฺขิปิตพฺพํ. ‘‘อฏฺ มาเส’’ติ วจนโต เยสุ ชนปเทสุ วสฺสกาเล น วสฺสติ, เตสุ จตฺตาโร มาเส นิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติเยว. ‘‘อวสฺสิกสงฺเกเต’’ติ วจนโต ยตฺถ เหมนฺเต เทโว วสฺสติ, ตตฺถ เหมนฺเตปิ อชฺโฌกาเส นิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ. คิมฺเห ปน สพฺพตฺถ วิคตวลาหกํ วิสุทฺธํ นตํ โหติ, เอวรูเป กาเล เกนจิเทว กรณีเยน อชฺโฌกาเส มฺจปีํ นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ.

๘๕. อพฺโภกาสิเกนปิ วตฺตํ ชานิตพฺพํ. ตสฺส หิ สเจ ปุคฺคลิกมฺจโก อตฺถิ, ตตฺเถว สยิตพฺพํ. สงฺฆิกํ คณฺหนฺเตน เวตฺเตน วา วาเกน วา วีตมฺจโก คเหตพฺโพ, ตสฺมึ อสติ ปุราณมฺจโก คเหตพฺโพ, ตสฺมึ อสติ นววายิโม วา โอนทฺธโก วา คเหตพฺโพ. คเหตฺวา ปน ‘‘อหํ อุกฺกฏฺรุกฺขมูลิโก อุกฺกฏฺอพฺโภกาสิโก’’ติ จีวรกุฏิมฺปิ อกตฺวา อสมเย อชฺโฌกาเส วา รุกฺขมูเล วา ปฺเปตฺวา นิปชฺชิตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน จตุคฺคุเณนปิ จีวเรน กตา กุฏิ อเตเมนฺตํ รกฺขิตุํ น สกฺโกติ, สตฺตาหวทฺทลิกาทีนิ ภวนฺติ, ภิกฺขุโน กายานุคติกตฺตา วฏฺฏติ. อรฺเ ปณฺณกุฏีสุ วสนฺตานํ สีลสมฺปทาย ปสนฺนจิตฺตา มนุสฺสา นวํ มฺจปีํ เทนฺติ ‘‘สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชถา’’ติ, วสิตฺวา คจฺฉนฺเตหิ สามนฺตวิหาเร สภาคภิกฺขูนํ เปเสตฺวา คนฺตพฺพํ, สภาคานํ อภาเวน อโนวสฺสเก นิกฺขิปิตฺวา คนฺตพฺพํ, อโนวสฺสเก อสติ รุกฺเข ลคฺเคตฺวา คนฺตพฺพํ. เจติยงฺคเณ สมฺมชฺชนึ คเหตฺวา โภชนสาลงฺคณํ วา อุโปสถาคารงฺคณํ วา ปริเวณทิวาฏฺานอคฺคิสาลาทีสุ วา อฺตรํ สมฺมชฺชิตฺวา โธวิตฺวา ปุน สมฺมชฺชนิมาฬเกเยว เปตพฺพา. อุโปสถาคาราทีสุ อฺตรสฺมึ คเหตฺวา อวเสสานิ สมฺมชฺชนฺตสฺสปิ เอเสว นโย.

โย ปน ภิกฺขาจารมคฺคํ สมฺมชฺชนฺโต คนฺตุกาโม โหติ, เตน สมฺมชฺชิตฺวา สเจ อนฺตรามคฺเค สาลา อตฺถิ, ตตฺถ เปตพฺพา. สเจ นตฺถิ, วลาหกานํ อนุฏฺิตภาวํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘ยาวาหํ คามโต นิกฺขมามิ, ตาว น วสฺสิสฺสตี’’ติ ชานนฺเตน ยตฺถ กตฺถจิ นิกฺขิปิตฺวา ปุน ปจฺจาคจฺฉนฺเตน ปากติกฏฺาเน เปตพฺพา. ‘‘สเจ วสฺสิสฺสตีติ ชานนฺโต อชฺโฌกาเส เปติ, ทุกฺกฏ’’นฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. สเจ ปน ตตฺร ตตฺเรว สมฺมชฺชนตฺถาย สมฺมชฺชนี นิกฺขิตฺตา โหติ, ตํ ตํ านํ สมฺมชฺชิตฺวา ตตฺร ตตฺเรว นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ, อาสนสาลํ สมฺมชฺชนฺเตน วตฺตํ ชานิตพฺพํ. ตตฺริทํ วตฺตํ – มชฺฌโต ปฏฺาย ปาทฏฺานาภิมุขา วาลิกา หริตพฺพา, กจวรํ หตฺเถหิ คเหตฺวา พหิ ฉฑฺเฑตพฺพํ.

๘๖. สเจ วุตฺตปฺปการํ จตุพฺพิธมฺปิ สงฺฆิกํ เสนาสนํ อชฺโฌกาเส วา รุกฺขมูเล วา มณฺฑเป วา อนุปสมฺปนฺเนน สนฺถราเปติ, เยน สนฺถราปิตํ, ตสฺส ปลิโพโธ. สเจ ปน อุปสมฺปนฺเนน สนฺถราเปติ, เยน สนฺถตํ, ตสฺส ปลิโพโธ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๑) – เถโร โภชนสาลายํ ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา ทหรํ อาณาเปติ ‘‘คจฺฉ ทิวาฏฺาเน มฺจปีํ ปฺเปหี’’ติ. โส ตถา กตฺวา นิสินฺโน, เถโร ยถารุจิ วิจริตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา ถวิกํ วา อุตฺตราสงฺคํ วา เปติ, ตโต ปฏฺาย เถรสฺส ปลิโพโธ. นิสีทิตฺวา สยํ คจฺฉนฺโต เนว อุทฺธรติ น อุทฺธราเปติ, เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน เถโร ตตฺถ ถวิกํ วา อุตฺตราสงฺคํ วา อฏฺเปตฺวา จงฺกมนฺโตว ทหรํ ‘‘คจฺฉ ตฺว’’นฺติ ภณติ, เตน ‘‘อิทํ, ภนฺเต, มฺจปี’’นฺติ อาจิกฺขิตพฺพํ. สเจ เถโร วตฺตํ ชานาติ, ‘‘ตฺวํ คจฺฉ, อหํ ปากติกํ กริสฺสามี’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ พาโล โหติ อนุคฺคหิตวตฺโต, ‘‘คจฺฉ, มา อิธ ติฏฺ, เนว นิสีทิตุํ น นิปชฺชิตุํ เทมี’’ติ ทหรํ ตชฺเชติเยว. ทหเรน ‘‘ภนฺเต, สุขํ สยถา’’ติ กปฺปํ ลภิตฺวา วนฺทิตฺวา คนฺตพฺพํ. ตสฺมึ คเต เถรสฺเสว ปลิโพโธ, ปุริมนเยเนว จสฺส อาปตฺติ เวทิตพฺพา.

อถ ปน อาณตฺติกฺขเณเยว ทหโร ‘‘มยฺหํ ภณฺเฑ ภณฺฑโธวนาทิ กิฺจิ กรณียํ อตฺถี’’ติ วทติ, เถโร ปน ตํ ‘‘ปฺเปตฺวา คจฺฉาหี’’ติ วตฺวา โภชนสาลโต นิกฺขมิตฺวา อฺตฺถ คจฺฉติ, ปาทุทฺธาเรน กาเรตพฺโพ. สเจ ตตฺเถว คนฺตฺวา นิสีทติ, ปุริมนเยเนว จสฺส เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม อาปตฺติ. สเจ ปน เถโร สามเณรํ อาณาเปติ, สามเณเร ตตฺถ มฺจปีํ ปฺเปตฺวา นิสินฺเนปิ โภชนสาลโต อฺตฺถ คจฺฉนฺโต ปาทุทฺธาเรน กาเรตพฺโพ. คนฺตฺวา นิสินฺโน ปุน คมนกาเล เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. สเจ ปน อาณาเปนฺโต ‘‘มฺจปีํ ปฺเปตฺวา ตตฺเถว นิสีทา’’ติ อาณาเปติ, ยตฺริจฺฉติ, ตตฺร คนฺตฺวา อาคนฺตุํ ลภติ. สยํ ปน ปากติกํ อกตฺวา คจฺฉนฺตสฺส เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม ปาจิตฺติยํ. อนฺตรสนฺนิปาเต มฺจปีาทีนิ ปฺเปตฺวา นิสินฺเนหิ คมนกาเล อารามิกานํ ‘‘อิทํ ปฏิสาเมถา’’ติ วตฺตพฺพํ, อวตฺวา คจฺฉนฺตานํ เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม อาปตฺติ.

๘๗. มหาธมฺมสฺสวนํ นาม โหติ, ตตฺถ อุโปสถาคารโตปิ โภชนสาลโตปิ อาหริตฺวา มฺจปีานิ ปฺเปนฺติ, อาวาสิกานํเยว ปลิโพโธ. สเจ อาคนฺตุกา ‘‘อิทํ อมฺหากํ อุปชฺฌายสฺส, อิทํ อาจริยสฺสา’’ติ คณฺหนฺติ, ตโต ปฏฺาย เตสํ ปลิโพโธ. คมนกาเล ปากติกํ อกตฺวา เลฑฺฑุปาตํ อติกฺกมนฺตานํ อาปตฺติ. มหาปจฺจริยํ ปน วุตฺตํ ‘‘ยาว อฺเ น นิสีทนฺติ, ตาว เยหิ ปฺตฺตํ, เตสํ ภาโร, อฺเสุ อาคนฺตฺวา นิสินฺเนสุ นิสินฺนกานํ ภาโร. สเจ เต อนุทฺธริตฺวา วา อนุทฺธราเปตฺวา วา คจฺฉนฺติ, ทุกฺกฏํ. กสฺมา? อนาณตฺติยา ปฺปิตตฺตา’’ติ. ธมฺมาสเน ปฺตฺเต ยาว อุสฺสารโก วา ธมฺมกถิโก วา นาคจฺฉติ, ตาว ปฺาปกานํ ปลิโพโธ. ตสฺมึ อาคนฺตฺวา นิสินฺเน ตสฺส ปลิโพโธ. สกลํ อโหรตฺตํ ธมฺมสฺสวนํ โหติ, อฺโ อุสฺสารโก วา ธมฺมกถิโก วา อุฏฺาติ, อฺโ นิสีทติ, โย โย อาคนฺตฺวา นิสีทติ, ตสฺส ตสฺเสว ภาโร. อุฏฺหนฺเตน ปน ‘‘อิทมาสนํ ตุมฺหากํ ภาโร’’ติ วตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจปิ อิตรสฺมึ อนาคเต ปมํ นิสินฺโน อุฏฺาย คจฺฉติ, ตสฺมิฺจ อนฺโตอุปจารฏฺเเยว อิตโร อาคนฺตฺวา นิสีทติ, อุฏฺาย คโต อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ. สเจ ปน อิตรสฺมึ อนาคเตเยว ปมํ นิสินฺโน อุฏฺายาสนา เลฑฺฑุปาตํ อติกฺกมติ, อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. ‘‘สพฺพตฺถ เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม ปมปาเท ทุกฺกฏํ, ทุติยปาเท ปาจิตฺติย’’นฺติ อยํ นโย มหาปจฺจริยํ วุตฺโตติ.

๘๘. สเจ ปน วุตฺตปฺปการเสนาสนโต อฺํ สงฺฆิกํ จิมิลิกํ วา อุตฺตรตฺถรณํ วา ภูมตฺถรณํ วา ตฏฺฏิกํ วา จมฺมขณฺฑํ วา ปาทปุฺฉนึ วา ผลกปีํ วา อชฺโฌกาเส สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ตํ ปกฺกมนฺโต เนว อุทฺธรติ น อุทฺธราเปติ อนาปุจฺฉํ วา คจฺฉติ, ทุกฺกฏํ. อาธารกํ ปตฺตปิธานกํ ปาทกลิกํ ตาลวณฺฏํ พีชนิปตฺตกํ ยํ กิฺจิ ทารุภณฺฑํ อนฺตมโส ปานียอุฬุงฺกํ ปานียสงฺขํ อชฺโฌกาเส นิกฺขิปิตฺวา คจฺฉนฺตสฺสปิ ทุกฺกฏํ. อชฺโฌกาเส รชนํ ปจิตฺวา รชนภาชนํ รชนอุฬุงฺโก รชนโทณิกาติ สพฺพํ อคฺคิสาลาย ปฏิสาเมตพฺพํ. สเจ อคฺคิสาลา นตฺถิ, อโนวสฺสเก ปพฺภาเร นิกฺขิปิตพฺพํ. ตสฺมิมฺปิ อสติ ยตฺถ โอโลเกนฺตา ภิกฺขู ปสฺสนฺติ, ตาทิเส าเน เปตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ. อฺปุคฺคลิเก ปน มฺจปีาทิเสนาสเนปิ ทุกฺกฏเมว. เอตฺถ ปน ‘‘ยสฺมึ วิสฺสาสคฺคาโห น รุหติ, ตสฺส สนฺตเก ทุกฺกฏํ. ยสฺมึ ปน วิสฺสาสคฺคาโห รุหติ, ตสฺส สนฺตกํ อตฺตโน ปุคฺคลิกเมว โหตี’’ติ มหาปจฺจริยาทีสุ วุตฺตํ. อตฺตโน ปุคฺคลิเก ปน อนาปตฺติเยว. โย ภิกฺขุ วา สามเณโร วา อารามิโก วา ลชฺชี โหติ, อตฺตโน ปลิโพธํ วิย มฺติ, ตถารูปํ อนาปุจฺฉิตฺวา คจฺฉนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ. โย ปน อาตเป โอตาเปนฺโต ‘‘อาคนฺตฺวา อุทฺธริสฺสามี’’ติ คจฺฉติ, ตสฺสปิ อนาปตฺติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

มฺจปีาทิสงฺฆิกเสนาสเนสุ

ปฏิปชฺชิตพฺพวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๑๘. กาลิกวินิจฺฉยกถา

๘๙. กาลิกานิปิ จตฺตารีติ เอตฺถ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๕-๒๕๖) ยาวกาลิกํ ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกนฺติ อิมานิ จตฺตาริ กาลิกานิ เวทิตพฺพานิ. ตตฺถ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ ยํ กิฺจิ ขาทนียโภชนียํ ยาว มชฺฌนฺหิกสงฺขโต กาโล, ตาว ปริภุฺชิตพฺพโต ยาวกาลิกํ. สทฺธึ อนุโลมปาเนหิ อฏฺวิธํ ปานํ ยาว รตฺติยา ปจฺฉิมยามสงฺขาโต ยาโม, ตาว ปริภุฺชิตพฺพโต ยาโม กาโล อสฺสาติ ยามกาลิกํ. สปฺปิอาทิ ปฺจวิธํ เภสชฺชํ ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ นิเธตพฺพโต สตฺตาโห กาโล อสฺสาติ สตฺตาหกาลิกํ. เปตฺวา อุทกํ อวเสสํ สพฺพมฺปิ ปฏิคฺคหิตํ ยาวชีวํ ปริหริตฺวา สติ ปจฺจเย ปริภุฺชิตพฺพโต ยาวชีวิกนฺติ วุจฺจติ.

๙๐. ตตฺถ ยาวกาลิเกสุ โภชนียํ นาม โอทโน กุมฺมาโส สตฺตุ มจฺโฉ มํสนฺติ. ปฺจ โภชนานิ ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกฺจ เปตฺวา อวเสสํ ขาทนียํ นาม. เอตฺถ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๔๘-๙) ปน ยํ ตาว สกฺขลิโมทกาทิ ปุพฺพณฺณาปรณฺณมยํ ขาทนียํ, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ยมฺปิ วนมูลาทิปฺปเภทํ อามิสคติกํ โหติ. เสยฺยถิทํ – มูลขาทนียํ กนฺทขาทนียํ มุฬาลขาทนียํ มตฺถกขาทนียํ ขนฺธขาทนียํ ตจขาทนียํ ปตฺตขาทนียํ ปุปฺผขาทนียํ ผลขาทนียํ อฏฺิขาทนียํ ปิฏฺขาทนียํ นิยฺยาสขาทนียนฺติ, อิทมฺปิ ขาทนียสงฺขฺยเมว คจฺฉติ.

ตตฺถ ปน อามิสคติกสลฺลกฺขณตฺถํ อิทํ มุขมตฺตนิทสฺสนํ – มูลขาทนีเย ตาว มูลกมูลํ ขารกมูลํ จจฺจุมูลํ ตมฺพกมูลํ ตณฺฑุเลยฺยกมูลํ วตฺถุเลยฺยกมูลํ วชกลิมูลํ ชชฺฌริมูลนฺติ เอวมาทีนิ สูเปยฺยปณฺณมูลานิ อามิสคติกานิ. เอตฺถ จ วชกลิมูเล ชรฏฺํ ฉินฺทิตฺวา ฉฑฺเฑนฺติ, ตํ ยาวชีวิกํ โหติ. อฺมฺปิ เอวรูปํ เอเตเนว นเยน เวทิตพฺพํ. มูลกขารกชชฺฌริมูลานํ ปน ชรฏฺานิปิ อามิสคติกาเนวาติ วุตฺตํ. ยานิ ปน ปาฬิยํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มูลานิ เภสชฺชานิ หลิทฺทึ สิงฺคิเวรํ วจํ วจตฺตํ อติวิสํ กฏุกโรหิณึ อุสีรํ ภทฺทมุตฺตกํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ มูลานิ เภสชฺชานิ เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๖๓) –

วุตฺตานิ, ตานิ ยาวชีวิกานิ. เตสํ จูฬปฺจมูลํ มหาปฺจมูลนฺติอาทินา นเยน คณิยมานานํ คณนาย อนฺโต นตฺถิ, ขาทนียตฺถฺจ โภชนียตฺถฺจ อผรณภาโวเยว ปเนเตสํ ลกฺขณํ. ตสฺมา ยํ กิฺจิ มูลํ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรติ, ตํ ยาวกาลิกํ, อิตรํ ยาวชีวิกนฺติ เวทิตพฺพํ. สุพหุํ วตฺวาปิ หิ อิมสฺมึเยว ลกฺขเณ าตพฺพํ. นามสฺาสุ ปน วุจฺจมานาสุ ตํ ตํ นามํ อชานนฺตานํ สมฺโมโหเยว โหติ, ตสฺมา นามสฺาย อาทรํ อกตฺวา ลกฺขณเมว ทสฺสิตํ. ยถา จ มูเล, เอวํ กนฺทาทีสุปิ ลกฺขณํ ทสฺสยิสฺสาม, ตสฺเสว วเสน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ยฺจ ตํ ปาฬิยํ หลิทฺทาทิ อฏฺวิธํ วุตฺตํ, ตสฺส ขนฺธตจปุปฺผผลาทิ สพฺพํ ยาวชีวิกนฺติ วุตฺตํ.

กนฺทขาทนีเย ทุวิโธ กนฺโท ทีโฆ จ ภิสกึสุกกนฺทาทิ, วฏฺโฏ จ อุปฺปลกเสรุกกนฺทาทิ, ยํ คณฺีติปิ วทนฺติ. ตตฺถ สพฺเพสํ กนฺทานํ ชิณฺณชรฏฺฏฺานฺจ ฉลฺลิ จ สุขุมมูลานิ จ ยาวชีวิกานิ, ตรุโณ ปน สุขขาทนีโย สาลกลฺยาณิโปตกกนฺโท กึสุกโปตกกนฺโท อมฺพาฏกกนฺโท เกตกกนฺโท มาลุวกนฺโท ภิสสงฺขาโต ปทุมปุณฺฑรีกกนฺโท ปิณฺฑาลุมสาลุอาทโย จ ขีรวลฺลิกนฺโท อาลุวกนฺโท สิคฺคุกนฺโท ตาลกนฺโท นีลุปฺปลรตฺตุปฺปลกุมุทโสคนฺธิกานํ กนฺทา กทลิกนฺโท เวฬุกนฺโท กเสรุกกนฺโทติ เอวมาทโย เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถฺจ โภชนียตฺถฺจ ผรณกกนฺทา ยาวกาลิกา. ขีรวลฺลิกนฺโท อโธโต ยาวชีวิโก, โธโต ยาวกาลิโก. ขีรกาโกลิชีวิกอุสภกลสุณาทิกนฺทา ปน ยาวชีวิกา. เต ปาฬิยํ ‘‘ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ มูลานิ เภสชฺชานี’’ติ เอวํ (มหาว. ๒๖๓) มูลเภสชฺชสงฺคเหเนว สงฺคหิตา.

มุฬาลขาทนีเย ปทุมมุฬาลํ ปุณฺฑรีกมุฬาลํ มูลสทิสํเยว. เอรกมุฬาลํ กนฺทุลมุฬาลนฺติ เอวมาทิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณกมุฬาลํ ยาวกาลิกํ, หลิทฺทิสิงฺคิเวรมกจิจตุรสฺสวลฺลิเกตกตาลหินฺตาลกุนฺตาลนาฬิเกรปูครุกฺขาทิมุฬาลํ ปน ยาวชีวิกํ. ตํ สพฺพมฺปิ ปาฬิยํ ‘‘ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ มูลานิ เภสชฺชานี’’ติ เอวํ มูลเภสชฺชสงฺคเหเนว สงฺคหิตํ.

มตฺถกขาทนีเย ตาลหินฺตาลกุนฺตาลเกตกนาฬิเกรปูครุกฺขขชฺชูริเวตฺตเอรกกทลีนํ กฬีรสงฺขาตา มตฺถกา, เวณุกฬีโร นฬกฬีโร อุจฺฉุกฬีโร มูลกกฬีโร สาสปกฬีโร สตาวริกฬีโร สตฺตนฺนํ ธฺานํ กฬีราติ เอวมาทิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณโก รุกฺขวลฺลิอาทีนํ มตฺถโก ยาวกาลิโก, หลิทฺทิสิงฺคิเวรวจมกจิลสุณานํ กฬีรา, ตาลหินฺตาลกุนฺตาลนาฬิเกรกฬีรานฺจ ฉินฺทิตฺวา ปาติโต ชรฏฺพุนฺโท ยาวชีวิโก.

ขนฺธขาทนีเย อนฺโตปถวีคโต สาลกลฺยาณีขนฺโธ อุจฺฉุขนฺโธ นีลุปฺปลรตฺตุปฺปลกุมุทโสคนฺธิกานํ ทณฺฑกขนฺธาติ เอวมาทิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณโก ขนฺโธ ยาวกาลิโก, อุปฺปลชาตีนํ ปณฺณทณฺฑโก ปทุมชาตีนํ สพฺโพปิ ทณฺฑโก กรวินฺททณฺฑาทโย จ อวเสสสพฺพขนฺธา ยาวชีวิกา.

ตจขาทนีเย อุจฺฉุตโจว เอโก ยาวกาลิโก, โสปิ สรโส, เสโส สพฺโพ ยาวชีวิโก. เตสํ ปน มตฺถกขนฺธตจานํ ติณฺณมฺปิ ปาฬิยํ กสาวเภสชฺเชน สงฺคโห เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กสาวานิ เภสชฺชานิ นิมฺพกสาวํ กุฏชกสาวํ ปโฏลกสาวํ ผคฺควกสาวํ นตฺตมาลกสาวํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ กสาวานิ เภสชฺชานิ เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๖๓).

เอตฺถ หิ เอเตสมฺปิ สงฺคโห สิชฺฌติ. วุตฺตกสาวานิ จ สพฺพกปฺปิยานีติ เวทิตพฺพานิ.

ปตฺตขาทนีเย มูลกํ ขารโก จจฺจุ ตมฺพโก ตณฺฑุเลยฺยโก ปปุนฺนาโค วตฺถุเลยฺยโก วชกลิ ชชฺฌริ เสลฺลุ สิคฺคุ กาสมทฺทโก อุมฺมาจีนมุคฺโค มาโส ราชมาโส เปตฺวา มหานิปฺผาวํ อวเสสนิปฺผาโว อคฺคิมนฺโถ สุนิสนฺนโก เสตวรโณ นาฬิกา ภูมิยํ ชาตโลณีติ เอเตสํ ปตฺตานิ, อฺานิ จ เอวรูปานิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถฺจ โภชนียตฺถฺจ ผรณกานิ ปตฺตานิ เอกํเสน ยาวกาลิกานิ, ยา ปนฺา มหานขปิฏฺิมตฺตปณฺณา โลณิรุกฺเข จ คจฺเฉ จ อาโรหติ, ตสฺสา ปตฺตํ ยาวชีวิกํ. พฺรหฺมิปตฺตฺจ ยาวกาลิกนฺติ ทีปวาสิโน วทนฺติ. อมฺพปลฺลวํ ยาวกาลิกํ, อโสกปลฺลวํ ปน ยาวชีวิกํ. ยานิ จฺานิ ปาฬิยํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปณฺณานิ เภสชฺชานิ นิมฺพปณฺณํ กุฏชปณฺณํ ปโฏลปณฺณํ สุลสิปณฺณํ กปฺปาสปณฺณํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ ปณฺณานิ เภสชฺชานิ เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๖๓) –

วุตฺตานิ, ตานิ ยาวชีวิกานิ. น เกวลฺจ ปณฺณานิ, เตสํ ปุปฺผผลานิปิ. ยาวชีวิกปณฺณานํ ปน ผคฺควปณฺณํ อชฺชุกปณฺณํ ผณิชฺชกปณฺณํ ตมฺพูลปณฺณํ ปทุมินิปณฺณนฺติ เอวํ คณนวเสน อนฺโต นตฺถิ.

ปุปฺผขาทนีเย มูลกปุปฺผํ ขารกปุปฺผํ จจฺจุปุปฺผํ ตมฺพกปุปฺผํ วชกลิปุปฺผํ ชชฺฌริปุปฺผํ จูฬนิปฺผาวปุปฺผํ มหานิปฺผาวปุปฺผํ กเสรุกปุปฺผํ นาฬิเกรตาลเกตกานํ ตรุณปุปฺผานิ เสตวรณปุปฺผํ สิคฺคุปุปฺผํ อุปฺปลปทุมชาติกานํ ปุปฺผานํ กณฺณิกามตฺตํ อคนฺธิปุปฺผํ กรีรปุปฺผํ ชีวนฺตี ปุปฺผนฺติ เอวมาทิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณปุปฺผํ ยาวกาลิกํ, อโสกพกุลกุยฺยกปุนฺนาคจมฺปกชาติกรวีรกณิการกุนฺทนวมาลิกมลฺลิกาทีนํ ปน ปุปฺผํ ยาวชีวิกํ, ตสฺส คณนาย อนฺโต นตฺถิ. ปาฬิยํ ปนสฺส กสาวเภสชฺเชน สงฺคโห เวทิตพฺโพ.

ผลขาทนีเย ปนสลพุชตาลนาฬิเกรอมฺพชมฺพุอมฺพาฏกตินฺติณิกมาตุลุงฺคกปิตฺถลาพุกุมฺภณฺฑปุสฺสผลติมฺพรูสกติปุสวาติงฺคณโจจโมจมธุกาทีนํ ผลานิ, ยานิ โลเก เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรนฺติ, สพฺพานิ ตานิ ยาวกาลิกานิ, นามคณนวเสน เตสํ น สกฺกา ปริยนฺตํ ทสฺเสตุํ. ยานิ ปน ปาฬิยํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ผลานิ เภสชฺชานิ พิลงฺคํ ปิปฺปลึ มรีจํ หรีตกํ วิภีตกํ อามลกํ โคฏฺผลํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ ผลานิ เภสชฺชานิ เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๖๓) –

วุตฺตานิ, ตานิ ยาวชีวิกานิ. เตสมฺปิ อปริปกฺกานิ อจฺฉิวพิมฺพวรณเกตกกาสฺมรีอาทีนํ ผลานิ ชาติผลํ กฏุกผลํ เอฬา ตกฺโกลนฺติ เอวํ นามวเสน น สกฺกา ปริยนฺตํ ทสฺเสตุํ.

อฏฺิขาทนีเย ลพุชฏฺิ ปนสฏฺิ อมฺพาฏกฏฺิ สาลฏฺิ ขชฺชูรีเกตกติมฺพรูสกานํ ตรุณผลฏฺิ ตินฺติณิกฏฺิ พิมฺพผลฏฺิ อุปฺปลปทุมชาตีนํ โปกฺขรฏฺีติ เอวมาทีนิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ มนุสฺสานํ ปกติอาหารวเสน ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณกานิ อฏฺีนิ ยาวกาลิกานิ, มธุกฏฺิ ปุนฺนาคฏฺิ หรีตกาทีนํ อฏฺีนิ สิทฺธตฺถกฏฺิ ราชิกฏฺีติ เอวมาทีนิ อฏฺีนิ ยาวชีวิกานิ. เตสํ ปาฬิยํ ผลเภสชฺเชเนว สงฺคโห เวทิตพฺโพ.

ปิฏฺขาทนีเย สตฺตนฺนํ ตาว ธฺานํ ธฺานุโลมานํ อปรณฺณานฺจ ปิฏฺํ ปนสปิฏฺํ ลพุชปิฏฺํ อมฺพาฏกปิฏฺํ สาลปิฏฺํ โธตกตาลปิฏฺํ ขีรวลฺลิปิฏฺฺจาติ เอวมาทีนิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณกานิ ปิฏฺานิ ยาวกาลิกานิ, อโธตกํ ตาลปิฏฺํ ขีรวลฺลิปิฏฺํ อสฺสคนฺธาทิปิฏฺานิ จ ยาวชีวิกานิ. เตสํ ปาฬิยํ กสาเวหิ มูลผเลหิ จ สงฺคโห เวทิตพฺโพ.

นิยฺยาสขาทนีเย – เอโก อุจฺฉุนิยฺยาโสว สตฺตาหกาลิโก, เสสา –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ชตูนิ เภสชฺชานิ หิงฺคุํ หิงฺคุชตุํ หิงฺคุสิปาฏิกํ ตกํ ตกปตฺตึ ตกปณฺณึ สชฺชุลสํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ ชตูนิ เภสชฺชานี’’ติ (มหาว. ๒๖๓) –

เอวํ ปาฬิยํ วุตฺตา นิยฺยาสา ยาวชีวิกา. ตตฺถ เยวาปนกวเสน สงฺคหิตานํ อมฺพนิยฺยาโส กณิการนิยฺยาโสติ เอวํ นามวเสน น สกฺกา ปริยนฺตํ ทสฺเสตุํ. เอวํ อิเมสุ มูลขาทนียาทีสุ ยํ กิฺจิ ยาวกาลิกํ, สพฺพมฺปิ อิมสฺมึ อตฺเถ อวเสสํ ขาทนียํ นามาติ สงฺคหิตํ.

๙๑. ยามกาลิเกสุ ปน อฏฺ ปานานิ นาม อมฺพปานํ ชมฺพุปานํ โจจปานํ โมจปานํ มธุกปานํ มุทฺทิกปานํ สาลูกปานํ ผารุสกปานนฺติ อิมานิ อฏฺ ปานานิ. ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๐) อมฺพปานนฺติ อาเมหิ วา ปกฺเกหิ วา อมฺเพหิ กตปานํ. ตตฺถ อาเมหิ กโรนฺเตน อมฺพตรุณานิ ภินฺทิตฺวา อุทเก ปกฺขิปิตฺวา อาตเป อาทิจฺจปาเกน ปจิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา ตทหุปฏิคฺคหิตเกหิ มธุสกฺการกปฺปูราทีหิ โยเชตฺวา กาตพฺพํ, เอวํ กตํ ปุเรภตฺตเมว กปฺปติ. อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ ลภิตฺวา ปน ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสปริโภเคนปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตํ นิรามิสปริโภเคน ยาว อรุณุคฺคมนา วฏฺฏติ. เอส นโย สพฺพปาเนสุ. ชมฺพุปานนฺติ ชมฺพุผเลหิ กตปานํ. โจจปานนฺติ อฏฺิกกทลิผเลหิ กตปานํ. โมจปานนฺติ อนฏฺิเกหิ กทลิผเลหิ กตปานํ. มธุกปานนฺติ มธุกานํ ชาติรเสน กตปานํ. ตํ ปน อุทกสมฺภินฺนํ วฏฺฏติ, สุทฺธํ น วฏฺฏติ. มุทฺทิกปานนฺติ มุทฺทิกา อุทเก มทฺทิตฺวา อมฺพปานํ วิย กตปานํ. สาลูกปานนฺติ รตฺตุปฺปลนีลุปฺปลาทีนํ สาลูเก มทฺทิตฺวา กตปานํ. ผารุสกปานนฺติ ผารุสกผเลหิ อมฺพปานํ วิย กตปานํ. อิมานิ อฏฺ ปานานิ สีตานิปิ อาทิจฺจปากานิปิ วฏฺฏนฺติ, อคฺคิปากานิ น วฏฺฏนฺติ.

อวเสสานิ เวตฺตตินฺติณิกมาตุลุงฺคกปิตฺถโกสมฺพกรมนฺทาทิขุทฺทกผลปานานิ อฏฺปานคอกาเนว. ตานิ กิฺจาปิ ปาฬิยํ น วุตฺตานิ, อถ โข กปฺปิยํ อนุโลเมนฺติ, ตสฺมา กปฺปนฺติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ผลรสํ เปตฺวา ธฺผลรส’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๐) วุตฺตตฺตา เปตฺวา สานุโลมธฺผลรสํ อฺํ ผลปานํ นาม อกปฺปิยํ นตฺถิ, สพฺพํ ยามกาลิกเมว. ตตฺถ สานุโลมธฺผลรโส นาม สตฺตนฺนฺเจว ธฺานํ ตาลนาฬิเกรปนสลพุชอลาพุกุมฺภณฺฑปุสฺสผลติปุสเอฬาลุกาติ นวนฺนฺจ มหาผลานํ สพฺเพสฺจ ปุพฺพณฺณาปรณฺณานํ อนุโลมธฺานํ รโส ยาวกาลิโก, ตสฺมา ปจฺฉาภตฺตํ น วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ปตฺตรสํ เปตฺวา ฑากรส’’นฺติ (มหาว. ๓๐๐) วุตฺตตฺตา ปกฺกฑากรสํ เปตฺวา ยาวกาลิกปตฺตานมฺปิ สีโตทเกน มทฺทิตฺวา กตรโส วา อาทิจฺจปาโก วา วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ปุปฺผรสํ เปตฺวา มธุกปุปฺผรส’’นฺติ วุตฺตตฺตา มธุกปุปฺผรสํ เปตฺวา สพฺโพปิ ปุปฺผรโส วฏฺฏติ.

๙๒. สตฺตาหกาลิกํ นาม สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตนฺติ อิมานิ ปฺจ เภสชฺชานิ. ตตฺถ สปฺปิ นาม โคสปฺปิ วา อชิกาสปฺปิ วา มหึสสปฺปิ วา เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ สปฺปิ. นวนีตํ นาม เตสํเยว นวนีตํ. เตลํ นาม ติลเตลํ สาสปเตลํ มธุกเตลํ เอรณฺฑเตลํ วสาเตลํ. มธุ นาม มกฺขิกามธุ. ผาณิตํ นาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺตํ (ปจิ. ๒๖๐). ยาวชีวิกํ ปน เหฏฺา ยาวกาลิเก มูลขาทนียาทีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๙๓. ตตฺถ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๖) อรุโณทเย ปฏิคฺคหิตํ ยาวกาลิกํ สตกฺขตฺตุมฺปิ นิทหิตฺวา ยาว กาโล นาติกฺกมติ, ตาว ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, ยามกาลิกํ เอกํ อโหรตฺตํ, สตฺตาหกาลิกํ สตฺตรตฺตํ, อิตรํ สติ ปจฺจเย ยาวชีวมฺปิ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ปฏิคฺคเหตฺวา เอกรตฺตํ วีตินามิตํ ปน ยํ กิฺจิ ยาวกาลิกํ วา ยามกาลิกํ วา อชฺโฌหริตุกามตาย คณฺหนฺตสฺส ปฏิคฺคหเณ ตาว ทุกฺกฏํ, อชฺโฌหรโต ปน เอกเมกสฺมึ อชฺโฌหาเร สนฺนิธิปจฺจยา ปาจิตฺติยํ. สเจปิ ปตฺโต ทุทฺโธโต โหติ, ยํ องฺคุลิยา ฆํสนฺตสฺส เลขา ปฺายติ, คณฺิกปตฺตสฺส วา คณฺิกนฺตเร สฺเนโห ปวิฏฺโ โหติ, โส อุณฺเห โอตาเปนฺตสฺส ปคฺฆรติ, อุณฺหยาคุยา วา คหิตาย สนฺทิสฺสติ, ตาทิเส ปตฺเตปิ ปุนทิวเส ภุฺชนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, ตสฺมา ปตฺตํ โธวิตฺวา ปุน ตตฺถ อจฺโฉทกํ วา อาสิฺจิตฺวา องฺคุลิยา วา ฆํสิตฺวา นิสฺเนหภาโว ชานิตพฺโพ. สเจ หิ อุทเก วา สฺเนหภาโว, ปตฺเต วา องฺคุลิเลขา ปฺายติ, ทุทฺโธโต โหติ, เตลวณฺณปตฺเต ปน องฺคุลิเลขา ปฺายติ, สา อพฺโพหาริกา. ยมฺปิ ภิกฺขู นิรเปกฺขา สามเณรานํ ปริจฺจชนฺติ, ตฺเจ สามเณรา นิทหิตฺวา เทนฺติ, สพฺพํ วฏฺฏติ. สยํ ปฏิคฺคเหตฺวา อปริจฺจตฺตเมว หิ ทุติยทิวเส น วฏฺฏติ. ตโต หิ เอกสิตฺถมฺปิ อชฺโฌหรโต ปาจิตฺติยเมว. อกปฺปิยมํเสสุ มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจเยน สทฺธึ ปาจิตฺติยํ, อวเสเสสุ ทุกฺกเฏน สทฺธึ.

ยามกาลิกํ สติ ปจฺจเย อชฺโฌหรโต ปาจิตฺติยํ, อาหารตฺถาย อชฺโฌหรโต ทุกฺกเฏน สทฺธึ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปวาริโต หุตฺวา อนติริตฺตกตํ อชฺโฌหรติ, ปกติอามิเส ทฺเว ปาจิตฺติยานิ, มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจเยน สทฺธึ ทฺเว, เสสอกปฺปิยมํเส ทุกฺกเฏน สทฺธึ. ยามกาลิกํ สติ ปจฺจเย สามิเสน มุเขน อชฺโฌหรโต ทฺเว, นิรามิเสน เอกเมว. อาหารตฺถาย อชฺโฌหรโต วิกปฺปทฺวเยปิ ทุกฺกฏํ วฑฺฒติ. สเจ วิกาเล อชฺโฌหรติ, ปกติโภชเน สนฺนิธิปจฺจยา จ วิกาลโภชนปจฺจยา จ ทฺเว ปาจิตฺติยานิ, อกปฺปิยมํเส ถุลฺลจฺจยํ ทุกฺกฏฺจ วฑฺฒติ. ยามกาลิเก วิกาลปจฺจยา อนาปตฺติ. อนติริตฺตปจฺจยา ปน วิกาเล สพฺพวิกปฺเปสุ อนาปตฺติ.

สตฺตาหกาลิกํ ปน ยาวชีวิกฺจ อาหารตฺถาย ปฏิคฺคณฺหโต ปฏิคฺคณฺหนปจฺจยา ตาว ทุกฺกฏํ, อชฺโฌหรโต ปน สเจ นิรามิสํ โหติ, อชฺโฌหาเร ทุกฺกฏํ. อถ อามิสสํสฏฺํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตํ โหติ, ยถาวตฺถุกํ ปาจิตฺติยเมว.

๙๔. สตฺตาหกาลิเกสุ ปน สปฺปิอาทีสุ อยํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๒) – สปฺปิ ตาว ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ตทหุปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ นิรามิสมฺปิ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสํ ปริภุฺชิตพฺพํ. สตฺตาหาติกฺกเม สเจ เอกภาชเน ปิตํ, เอกํ นิสฺสคฺคิยํ. สเจ พหูสุ, วตฺถุคณนาย นิสฺสคฺคิยานิ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ, ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา อุคฺคหิตกํ กตฺวา นิกฺขิตฺตํ อชฺโฌหริตุํ น วฏฺฏติ, อพฺภฺชนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ อนชฺโฌหรณียตํ อาปนฺนตฺตา. สเจ อนุปสมฺปนฺโน ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตนวนีเตน สปฺปึ กตฺวา เทติ, ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, สเจ สยํ กโรติ, สตฺตาหมฺปิ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตนวนีเตน เยน เกนจิ กตสปฺปิ สตฺตาหมฺปิ นิรามิสเมว วฏฺฏติ, อุคฺคหิตเกน กเต ปุพฺเพ วุตฺตสุทฺธสปฺปินเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตขีเรน วา ทธินา วา กตสปฺปิ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ สามิสมฺปิ ตทหุปุเรภตฺตํ วฏฺฏติ, สยํกตํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ.

๙๕. นวนีตํ ตาเปนฺตสฺส หิ สามํปาโก น โหติ, สามํปกฺเกน ปน เตน สทฺธึ อามิสํ น วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย จ น วฏฺฏติเยว. สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ สวตฺถุกสฺส ปฏิคฺคหิตตฺตา. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตเกหิ กตํ ปน อพฺภฺชนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. ปุเรภตฺตมฺปิ จ อุคฺคหิตเกหิ กตํ, อุภเยสมฺปิ สตฺตาหาติกฺกเม อนาปตฺติ. เอส นโย อกปฺปิยมํสสปฺปิมฺหิ. อยํ ปน วิเสโส – ยตฺถ ปาฬิยํ อาคตสปฺปินา นิสฺสคฺคิยํ, ตตฺถ อิมินา ทุกฺกฏํ. อนฺธกฏฺกถายํ การณปติรูปกํ วตฺวา มนุสฺสสปฺปิ จ นวนีตฺจ ปฏิกฺขิตฺตํ, ตํ ทุปฺปฏิกฺขิตฺตํ สพฺพอฏฺกถาสุ อนุฺาตตฺตา. ปรโต จสฺส วินิจฺฉโยปิ อาคจฺฉิสฺสติ. ปาฬิยํ อาคตนวนีตมฺปิ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ตทหุปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย นิรามิสเมว. สตฺตาหาติกฺกเม นานาภาชเนสุ ปิเต ภาชนคณนาย, เอกภาชเนปิ อมิสฺเสตฺวา ปิณฺฑปิณฺฑวเสน ปิเต ปิณฺฑคณนาย นิสฺสคฺคิยานิ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ สปฺปินเยน เวทิตพฺพํ. เอตฺถ ปน ทธิคุฬิกาโยปิ ตกฺกพินฺทูนิปิ โหนฺติ, ตสฺมา โธตํ วฏฺฏตีติ อุปฑฺฒตฺเถรา อาหํสุ. มหาสิวตฺเถโร ปน ‘‘ภควตา อนุฺาตกาลโต ปฏฺาย ตกฺกโต อุทฺธฏมตฺตเมว ขาทึสู’’ติ อาห. ตสฺมา นวนีตํ ปริภุฺชนฺเตน โธวิตฺวา ทธิตกฺกมกฺขิกากิปิลฺลิกาทีนิ อปเนตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. ปจิตฺวา สปฺปึ กตฺวา ปริภุฺชิตุกาเมน อโธตมฺปิ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ยํ ตตฺถ ทธิคตํ วา ตกฺกคตํ วา, ตํ ขยํ คมิสฺสติ. เอตฺตาวตา หิ สวตฺถุกปฏิคฺคหิตํ นาม น โหตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. อามิเสน สทฺธึ ปกฺกตฺตา ปน ตสฺมิมฺปิ กุกฺกุจฺจายนฺติ กุกฺกุจฺจกา. อิทานิ อุคฺคเหตฺวา ปิตนวนีเต จ ปุเรภตฺตํ ขีรทธีนิ ปฏิคฺคเหตฺวา กตนวนีเต จ ปจฺฉาภตฺตํ ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา กตนวนีเต จ อุคฺคหิตเกหิ กตนวนีเต จ อกปฺปิยมํสนวนีเต จ สพฺโพ อาปตฺตานาปตฺติปริโภคาปริโภคนโย สปฺปิมฺหิ วุตฺตกฺกเมเนว คเหตพฺโพ. เตลภิกฺขาย ปวิฏฺานํ ปน ภิกฺขูนํ ตตฺเถว สปฺปิมฺปิ นวนีตมฺปิ ปกฺกเตลมฺปิ อปกฺกเตลมฺปิ อากิรนฺติ. ตตฺถ ตกฺกทธิพินฺทูนิปิ ภตฺตสิตฺถานิปิ ตณฺฑุลกณาปิ มกฺขิกาทโยปิ โหนฺติ, อาทิจฺจปากํ กตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา คหิตํ สตฺตาหกาลิกํ โหติ. ปฏิคฺคเหตฺวา จ ปิตเภสชฺเชหิ สทฺธึ ปจิตฺวา นตฺถุปานมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ วทฺทลิสมเย ลชฺชี สามเณโร ยถา ตตฺถ ปติตตณฺฑุลกณาทโย น ปจฺจนฺติ, เอวํ อคฺคิมฺหิ วิลียาเปตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา ปุน ปจิตฺวา เทติ, ปุริมนเยเนว สตฺตาหํ วฏฺฏติ.

๙๖. เตเลสุ ติลเตลํ ตาว ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย นิรามิสเมว วฏฺฏติ. สตฺตาหาติกฺกเม ตสฺส ภาชนคณนาย นิสฺสคฺคิยภาโว เวทิตพฺโพ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ, อุคฺคหิตกํ กตฺวา นิกฺขิตฺตํ อชฺโฌหริตุํ น วฏฺฏติ, สีสมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. ปุเรภตฺตํ ติเล ปฏิคฺคเหตฺวา กตเตลํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย อนชฺโฌหรณียํ โหติ, สีสมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. ปจฺฉาภตฺตํ ติเล ปฏิคฺคเหตฺวา กตเตลํ อนชฺโฌหรณียเมว สวตฺถุกปฏิคฺคหิตตฺตา. สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ, สีสมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา อุคฺคหิตกติเลหิ กตเตเลปิ เอเสว นโย. ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตติเล ภชฺชิตฺวา วา ติลปิฏฺํ วา เสเทตฺวา อุณฺโหทเกน วา เตเมตฺวา กตเตลํ สเจ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ, ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, อตฺตนา กตํ นิพฺพฏฺฏิตตฺตา ปุเรภตฺตํ นิรามิสํ วฏฺฏติ, สามํปกฺกตฺตา สามิสํ น วฏฺฏติ. สวตฺถุกปฏิคฺคหิตตฺตา ปน ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย อุภยมฺปิ อนชฺโฌหรณียํ, สีสมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. ยทิ ปน อปฺปํ อุณฺโหทกํ โหติ อพฺภุกฺกิรณมตฺตํ, อพฺโพหาริกํ โหติ สามํปากคณนํ น คจฺฉติ. สาสปเตลาทีสุปิ อวตฺถุกปฏิคฺคหิเตสุ อวตฺถุกติลเตเล วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโย.

สเจ ปน ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตานํ สาสปาทีนํ จุณฺเณหิ อาทิจฺจปาเกน สกฺกา เตลํ กาตุํ, ตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย นิรามิสเมว วฏฺฏติ, สตฺตาหาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํ. ยสฺมา ปน สาสปมธุกจุณฺณานิ เสเทตฺวา เอรณฺฑกฏฺีนิ จ ภชฺชิตฺวา เอว เตลํ กโรนฺติ, ตสฺมา เอเตสํ เตลํ อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, วตฺถูนํ ยาวชีวิกตฺตา ปน สวตฺถุกปฏิคฺคหเณ โทโส นตฺถิ. อตฺตนา กตํ สตฺตาหํ นิรามิสปริโภเคเนว ปริภุฺชิตพฺพํ. อุคฺคหิตเกหิ กตํ อนชฺโฌหรณียํ, พาหิรปริโภเค วฏฺฏติ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. เตลกรณตฺถาย สาสปมธุกเอรณฺฑกฏฺีนิ ปฏิคฺคเหตฺวา กตเตลํ สตฺตาหกาลิกํ, ทุติยทิวเส กตํ ฉาหํ วฏฺฏติ, ตติยทิวเส กตํ ปฺจาหํ วฏฺฏติ, จตุตฺถ, ปฺจม, ฉฏฺ, สตฺตมทิวเส กตํ ตทเหว วฏฺฏติ. สเจ ยาว อรุณสฺส อุคฺคมนา ติฏฺติ, นิสฺสคฺคิยํ, อฏฺมทิวเส กตํ อนชฺโฌหรณียํ, อนิสฺสคฺคิยตฺตา ปน พาหิรปริโภเค วฏฺฏติ. สเจปิ น กโรติ, เตลตฺถาย คหิตสาสปาทีนํ สตฺตาหาติกฺกเม ทุกฺกฏเมว. ปาฬิยํ ปน อนาคตานิ อฺานิปิ นาฬิเกรนิมฺพโกสมฺพกรมนฺทาทีนํ เตลานิ อตฺถิ, ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ อติกฺกามยโต ทุกฺกฏํ โหติ. อยเมเตสุ วิเสโส – เสสํ ยาวกาลิกวตฺถุํ ยาวชีวิกวตฺถุฺจ สลฺลกฺเขตฺวา สามํปากสวตฺถุกปุเรภตฺตปจฺฉาภตฺตปฏิคฺคหิตอุคฺคหิตวตฺถุวิธานํ สพฺพํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

วสาเตลํ นาม ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจ วสานิ อจฺฉวสํ มจฺฉวสํ สุสุกาวสํ สูกรวสํ คทฺรภวส’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒) เอวํ อนุฺาตวสานํ เตลํ. เอตฺถ จ ‘‘อจฺฉวส’’นฺติ วจเนน เปตฺวา มนุสฺสวสํ สพฺเพสํ อกปฺปิยมํสานํ วสา อนุฺาตา. มจฺฉคฺคหเณน จ สุสุกาปิ คหิตา โหนฺติ, วาฬมจฺฉตฺตา ปน วิสุํ วุตฺตํ. มจฺฉาทิคฺคหเณน เจตฺถ สพฺเพสมฺปิ กปฺปิยมํสานํ วสา อนุฺาตา. มํเสสุ หิ ทส มนุสฺสหตฺถิอสฺสสุนขอหิสีหพฺยคฺฆทีปิอจฺฉตรจฺฉานํ มํสานิ อกปฺปิยานิ, วสาสุ เอกา มนุสฺสวสา. ขีราทีสุ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิ. อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ นิพฺพฏฺฏิตํ วสาเตลํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. ยํ ปน ตตฺถ สุขุมรชสทิสํ มํสํ วา นฺหารุ วา อฏฺิ วา โลหิตํ วา โหติ, ตํ อพฺโพหาริกํ. สเจ ปน วสํ ปฏิคฺคเหตฺวา สยํ กโรติ, ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปจิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา สตฺตาหํ นิรามิสปริโภเคน ปริภุฺชิตพฺพํ. นิรามิสปริโภคฺหิ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ ‘‘กาเล ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ กาเล สํสฏฺํ เตลปริโภเคน ปริภุฺชิตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒). ตตฺราปิ อพฺโพหาริกํ อพฺโพหาริกเมว, ปจฺฉาภตฺตํ ปน ปฏิคฺคเหตุํ วา กาตุํ วา น วฏฺฏติเยว. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘วิกาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ วิกาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภุฺเชยฺย, อาปตฺติ ติณฺณํ ทุกฺกฏานํ. กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ วิกาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภุฺเชยฺย, อาปตฺติ ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏานํ. กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภุฺเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ กาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภุฺเชยฺย, อนาปตฺตี’’ติ (มหาว. ๒๖๒).

อุปติสฺสตฺเถรํ ปน อนฺเตวาสิกา ปุจฺฉึสุ ‘‘ภนฺเต, สปฺปินวนีตวสานิ เอกโต ปจิตฺวา นิพฺพฏฺฏิตานิ วฏฺฏนฺติ, น วฏฺฏนฺตี’’ติ? ‘‘น วฏฺฏนฺติ, อาวุโส’’ติ. เถโร กิเรตฺถ ปกฺกเตลกสเฏ วิย กุกฺกุจฺจายติ. ตโต นํ อุตฺตริ ปุจฺฉึสุ ‘‘ภนฺเต, นวนีเต ทธิคุฬิกา วา ตกฺกพินฺทุ วา โหติ, เอตํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘เอตมฺปิ, อาวุโส, น วฏฺฏตี’’ติ. ตโต นํ อาหํสุ ‘‘ภนฺเต, เอกโต ปจิตฺวา เอกโต สํสฏฺานิ เตชวนฺตานิ โหนฺติ, โรคํ นิคฺคณฺหนฺตี’’ติ. ‘‘สาธาวุโส’’ติ เถโร สมฺปฏิจฺฉิ. มหาสุมตฺเถโร ปนาห ‘‘กปฺปิยมํสวสาว สามิสปริโภเค วฏฺฏติ, อิตรา นิรามิสปริโภเค วฏฺฏตี’’ติ. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘อิทํ กิ’’นฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘นนุ วาตาพาธิกา ภิกฺขู ปฺจมูลกสาวยาคุยํ อจฺฉสูกรเตลาทีนิ ปกฺขิปิตฺวา ยาคุํ ปิวนฺติ, สา เตชุสฺสทตฺตา โรคํ นิคฺคณฺหาตี’’ติ วตฺวา ‘‘วฏฺฏตี’’ติ อาห.

๙๗. มธุ นาม มธุกรีหิ มธุมกฺขิกาหิ ขุทฺทกมกฺขิกาหิ ภมรมกฺขิกาหิ จ กตํ มธุ. ตํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสปริโภคมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสปริโภคเมว วฏฺฏติ, สตฺตาหาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํ. สเจ สิเลสสทิสํ มหามธุํ ขณฺฑํ กตฺวา ปิตํ, อิตรํ วา นานาภาชเนสุ, วตฺถุคณนาย นิสฺสคฺคิยานิ. สเจ เอกเมว ขณฺฑํ, เอกภาชเน วา อิตรํ, เอกเมว นิสฺสคฺคิยํ. อุคฺคหิตกํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ, อรุมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. มธุปฏลํ วา มธุสิตฺถกํ วา สเจ มธุนา อมกฺขิตํ ปริสุทฺธํ, ยาวชีวิกํ, มธุมกฺขิตํ ปน มธุคติกเมว. จีริกา นาม สปกฺขา ทีฆมกฺขิกา ตุมฺพฬนามิกา จ อฏฺิปกฺขิกา กาฬมหาภมรา โหนฺติ, เตสํ อาสเยสุ นิยฺยาสสทิสํ มธุ โหติ, ตํ ยาวชีวิกํ.

๙๘. ผาณิตํ นาม อุจฺฉุรสํ อุปาทาย อปกฺกา วา อวตฺถุกปกฺกา วา สพฺพาปิ อวตฺถุกา อุจฺฉุวิกติ. ตํ ผาณิตํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ, สตฺตาหาติกฺกเม วตฺถุคณนาย นิสฺสคฺคิยํ. พหู ปิณฺฑา จุณฺเณ กตฺวา เอกภาชเน ปกฺขิตฺตา โหนฺติ ฆนสนฺนิเวสา, เอกเมว นิสฺสคฺคิยํ. อุคฺคหิตกํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ, ฆรธูปนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิเตน อปริสฺสาวิตอุจฺฉุรเสน กตผาณิตํ สเจ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ, สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, สยํกตํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย ปน สวตฺถุกปฏิคฺคหิตตฺตา อนชฺโฌหรณียํ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. ปจฺฉาภตฺตํ อปริสฺสาวิตปฏิคฺคหิเตน กตมฺปิ อนชฺโฌหรณียเมว, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. เอส นโย อุจฺฉุํ ปฏิคฺคเหตฺวา กตผาณิเตปิ. ปุเรภตฺตํ ปน ปริสฺสาวิตปฏิคฺคหิเตน กตํ สเจ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ, ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว. สยํกตํ ปุเรภตฺตมฺปิ นิรามิสเมว, ปจฺฉาภตฺตํ ปริสฺสาวิตปฏิคฺคหิเตน กตํ ปน นิรามิสเมว สตฺตาหํ วฏฺฏติ. อุคฺคหิตกตํ วุตฺตนยเมว. ‘‘ฌามอุจฺฉุผาณิตํ วา โกฏฺฏิตอุจฺฉุผาณิตํ วา ปุเรภตฺตเมว วฏฺฏตี’’ติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘เอตํ สวตฺถุกปกฺกํ วฏฺฏติ, โน วฏฺฏตี’’ติ ปุจฺฉํ กตฺวา ‘‘อุจฺฉุผาณิตํ ปจฺฉาภตฺตํ โน วฏฺฏนกํ นาม นตฺถี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ. สีโตทเกน กตํ มธุกปุปฺผผาณิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ, สตฺตาหาติกฺกเม วตฺถุคณนาย ทุกฺกฏํ, ขีรํ ปกฺขิปิตฺวา กตํ มธุกผาณิตํ ยาวกาลิกํ. ขณฺฑสกฺขรํ ปน ขีรชลฺลิกํ อปเนตฺวา โสเธนฺติ, ตสฺมา วฏฺฏติ.

๙๙. มธุกปุปฺผํ ปน ปุเรภตฺตมฺปิ อลฺลํ วฏฺฏติ. ภชฺชิตมฺปิ วฏฺฏติ, ภชฺชิตฺวา ติลาทีหิ มิสฺสํ วา อมิสฺสํ วา กตฺวา โกฏฺฏิตํ วฏฺฏติ. ยทิ ปน ตํ คเหตฺวา เมรยตฺถาย โยเชนฺติ, โยชิตํ พีชโต ปฏฺาย น วฏฺฏติ. กทลีขชฺชูรีอมฺพลพุชปนสจิฺจาทีนํ สพฺเพสํ ยาวกาลิกผลานํ ผาณิตํ ยาวกาลิกเมว. มริจปกฺเกหิ ผาณิตํ กโรนฺติ, ตํ ยาวชีวิกํ. เอวํ ยถาวุตฺตานิ สตฺตาหกาลิกานิ สปฺปิอาทีนิ ปฺจ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจ เภสชฺชานี’’ติ (มหาว. ๒๖๐) เภสชฺชนาเมน อนุฺาตตฺตา เภสชฺชกิจฺจํ กโรนฺตุ วา มา วา, อาหารตฺถํ ผริตุํ สมตฺถานิปิ ปฏิคฺคเหตฺวา ตทหุปุเรภตฺตํ ยถาสุขํ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สติ ปจฺจเย วุตฺตนเยน สตฺตาหํ ปริภุฺชิตพฺพานิ, สตฺตาหาติกฺกเม ปน เภสชฺชสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. สเจปิ สาสปมตฺตํ โหติ, สกึ วา องฺคุลิยา คเหตฺวา ชิวฺหาย สายนมตฺตํ, นิสฺสชฺชิตพฺพเมว ปาจิตฺติยฺจ เทเสตพฺพํ. นิสฺสฏฺํ ปฏิลภิตฺวา น อชฺโฌหริตพฺพํ, น กายิเกน ปริโภเคน ปริภุฺชิตพฺพํ, กาโย วา กาเย อรุ วา น มกฺเขตพฺพํ. เตหิ มกฺขิตานิ กาสาวกตฺตรยฏฺิอุปาหนปาทกลิกมฺจปีาทีนิปิ อปริโภคานิ. ‘‘ทฺวารวาตปานกวาเฏสุปิ หตฺเถน คหณฏฺานํ น มกฺเขตพฺพ’’นฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ‘‘กสาเว ปน ปกฺขิปิตฺวา ทฺวารวาตปานกวาฏานิ มกฺเขตพฺพานี’’ติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. ปทีเป วา กาฬวณฺเณ วา อุปเนตุํ วฏฺฏติ. อฺเน ปน ภิกฺขุนา กายิเกน ปริโภเคน ปริภุฺชิตพฺพํ, น อชฺโฌหริตพฺพํ. ‘‘อนาปตฺติ อนฺโตสตฺตาหํ อธิฏฺเตี’’ติ (ปารา. ๖๒๕) วจนโต ปน สตฺตาหพฺภนฺตเร สปฺปิฺจ เตลฺจ วสฺจ มุทฺธนิ เตลํ วา อพฺภฺชนํ วา มธุํ อรุมกฺขนํ ผาณิตํ ฆรธูปนํ อธิฏฺเติ อนาปตฺติ, เนว นิสฺสคฺคิยํ โหติ. สเจ อธิฏฺิตเตลํ อนธิฏฺิตเตลภาชเน อากิริตุกาโม โหติ, ภาชเน เจ สุขุมํ ฉิทฺทํ, ปวิฏฺํ ปวิฏฺํ เตลํ ปุราณเตเลน อชฺโฌตฺถรียติ, ปุน อธิฏฺาตพฺพํ. อถ มหามุขํ โหติ, สหสาว พหุ เตลํ ปวิสิตฺวา ปุราณเตลํ อชฺโฌตฺถรติ, ปุน อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ. อธิฏฺิตคติกเมว หิ ตํ โหติ. เอเตน นเยน อธิฏฺิตเตลภาชเน อนธิฏฺิตเตลอากิรณมฺปิ เวทิตพฺพํ.

สเจ ปน สตฺตาหาติกฺกนฺตํ อนุปสมฺปนฺนสฺส ปริจฺจชิตฺวา เทติ, ปุน เตน อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา ทินฺนํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ หิ โส อภิสงฺขริตฺวา วา อนภิสงฺขริตฺวา วา ตสฺส ภิกฺขุโน นตฺถุกมฺมตฺถํ ทเทยฺย, คเหตฺวา นตฺถุกมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ พาโล โหติ, ทาตุํ น ชานาติ, อฺเน ภิกฺขุนา วตฺตพฺโพ ‘‘อตฺถิ เต สามเณร เตล’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อตฺถี’’ติ. อาหร เถรสฺส เภสชฺชํ กริสฺสามาติ. เอวมฺปิ วฏฺฏติ. สเจ ทฺวินฺนํ สนฺตกํ เอเกน ปฏิคฺคหิตํ อวิภตฺตํ โหติ, สตฺตาหาติกฺกเม ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺติ, ปริภุฺชิตุํ ปน น วฏฺฏติ. สเจ เยน ปฏิคฺคหิตํ, โส อิตรํ ภณติ ‘‘อาวุโส, อิมํ เตลํ สตฺตาหมตฺตํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ, โส จ ปริโภคํ น กโรติ, กสฺส อาปตฺติ? น กสฺสจิ. กสฺมา? เยน ปฏิคฺคหิตํ, เตน วิสฺสชฺชิตตฺตา, อิตรสฺส อปฺปฏิคฺคหิตตฺตา.

๑๐๐. อิเมสุ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๕) ปน จตูสุ กาลิเกสุ ยาวกาลิกํ ยามกาลิกนฺติ อิทเมว ทฺวยํ อนฺโตวุตฺถกฺเจว สนฺนิธิการกฺจ โหติ, สตฺตาหกาลิกฺจ ยาวชีวิกฺจ อกปฺปิยกุฏิยํ นิกฺขิปิตุมฺปิ วฏฺฏติ, สนฺนิธิมฺปิ น ชเนติ. ยาวกาลิกํ ปน อตฺตนา สทฺธึ สมฺภินฺนรสานิ ตีณิปิ ยามกาลิกาทีนิ อตฺตโน สภาวํ อุปเนติ. ยามกาลิกํ ทฺเวปิ สตฺตาหกาลิกาทีนิ อตฺตโน สภาวํ อุปเนติ, สตฺตาหกาลิกมฺปิ อตฺตนา สทฺธึ สํสฏฺํ ยาวชีวิกํ อตฺตโน สภาวฺเว อุปเนติ, ตสฺมา ยาวกาลิเกน ตทหุปฏิคฺคหิเตน สทฺธึ สํสฏฺํ สมฺภินฺนรสํ เสสกาลิกตฺตยํ ตทหุปุเรภตฺตเมว วฏฺฏติ. ยามกาลิเกน สํสฏฺํ ปน อิตรทฺวยํ ตทหุปฏิคฺคหิตํ ยาว อรุณุคฺคมนา วฏฺฏติ. สตฺตาหกาลิเกน ปน ตทหุปฏิคฺคหิเตน สทฺธึ สํสฏฺํ ตทหุปฏิคฺคหิตํ วา ปุเรปฏิคฺคหิตํ วา ยาวชีวิกํ สตฺตาหํ กปฺปติ. ทฺวีหปฏิคฺคหิเตน ฉาหํ. ตีหปฏิคฺคหิเตน ปฺจาหํ…เป… สตฺตาหปฏิคฺคหิเตน ตทเหว กปฺปตีติ เวทิตพฺพํ. กาลยามสตฺตาหาติกฺกเมสุ เจตฺถ วิกาลโภชนสนฺนิธิเภสชฺชสิกฺขาปทานํ วเสน อาปตฺติโย เวทิตพฺพา.

สเจ ปน เอกโต ปฏิคฺคหิตานิปิ จตฺตาริ กาลิกานิ สมฺภินฺนรสานิ น โหนฺติ, ตสฺส ตสฺเสว กาลสฺส วเสน ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏนฺติ. สเจ หิ ฉลฺลิมฺปิ อนปเนตฺวา สกเลเนว นาฬิเกรผเลน สทฺธึ อมฺพปานาทิปานกํ ปฏิคฺคหิตํ โหติ, นาฬิเกรํ อปเนตฺวา ตํ วิกาเลปิ กปฺปติ. อุปริ สปฺปิปิณฺฑํ เปตฺวา สีตลปายาสํ เทนฺติ, ยํ ปายาเสน อสํสฏฺํ สปฺปิ, ตํ อปเนตฺวา สตฺตาหํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ถทฺธมธุผาณิตาทีสุปิ เอเสว นโย. ตกฺโกลชาติผลาทีหิ อลงฺกริตฺวา ปิณฺฑปาตํ เทนฺติ, ตานิ อุทฺธริตฺวา โธวิตฺวา ยาวชีวํ ปริภุฺชิตพฺพานิ. ยาคุยํ ปกฺขิปิตฺวา ทินฺนสิงฺคิเวราทีสุปิ เตลาทีสุ ปกฺขิปิตฺวา ทินฺนลฏฺิมธุกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวํ ยํ ยํ อสมฺภินฺนรสํ โหติ, ตํ ตํ เอกโต ปฏิคฺคหิตมฺปิ ยถา สุทฺธํ โหติ, ตถา โธวิตฺวา ตจฺเฉตฺวา วา ตสฺส ตสฺส กาลสฺส วเสน ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ สมฺภินฺนรสํ โหติ สํสฏฺํ, น วฏฺฏติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

กาลิกวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๑๙. กปฺปิยภูมิวินิจฺฉยกถา

๑๐๑. กปฺปิยาจตุภูมิโยติ เอตฺถ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตสฺโส กปฺปิยภูมิโย อุสฺสาวนนฺติกํ โคนิสาทิกํ คหปตึ สมฺมุติ’’นฺติ (มหาว. ๒๙๕) วจนโต อุสฺสาวนนฺติกา โคนิสาทิกา คหปติ สมฺมุตีติ อิมา จตสฺโส กปฺปิยภูมิโย เวทิตพฺพา. ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๒๙๕) อุสฺสาวนนฺติกา ตาว เอวํ กาตพฺพา – โย ถมฺภานํ วา อุปริ ภิตฺติปาเท วา นิขนิตฺวา วิหาโร กรียติ, ตสฺส เหฏฺา ถมฺภปฏิจฺฉกา ปาสาณา ภูมิคติกา เอว. ปมตฺถมฺภํ ปน ปมภิตฺติปาทํ วา ปติฏฺาเปนฺเตหิ พหูหิ สมฺปริวาเรตฺวา ‘‘กปฺปิยกุฏึ กโรม, กปฺปิยกุฏึ กโรมา’’ติ วาจํ นิจฺฉาเรนฺเตหิ มนุสฺเสสุ อุกฺขิปิตฺวา ปติฏฺาเปนฺเตสุ อามสิตฺวา วา สยํ อุกฺขิปิตฺวา วา ถมฺโภ วา ภิตฺติปาโท วา ปติฏฺาเปตพฺโพ. กุรุนฺทิมหาปจฺจรีสุ ปน ‘‘กปฺปิยกุฏิ กปฺปิยกุฏีติ วตฺวา ปติฏฺาเปตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. อนฺธกฏฺกถายํ ‘‘สงฺฆสฺส กปฺปิยกุฏึ อธิฏฺามี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ปน อวตฺวาปิ อฏฺกถาสุ วุตฺตนเยน วุตฺเต โทโส นตฺถิ. อิทํ ปเนตฺถ สาธารณลกฺขณํ ‘‘ถมฺภปติฏฺาปนฺจ วจนปริโยสานฺจ สมกาลํ วฏฺฏตี’’ติ. สเจ หิ อนิฏฺิเต วจเน ถมฺโภ ปติฏฺาติ, อปฺปติฏฺิเต วา ตสฺมึ วจนํ นิฏฺาติ, อกตา โหติ กปฺปิยกุฏิ. เตเนว มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ ‘‘พหูหิ สมฺปริวาเรตฺวา วตฺตพฺพํ, อวสฺสฺหิ เอตฺถ เอกสฺสปิ วจนนิฏฺานฺจ ถมฺภปติฏฺานฺจ เอกโต ภวิสฺสตี’’ติ. อิฏฺกาสิลามตฺติกากุฏฺฏกาสุ ปน กุฏีสุ เหฏฺา จยํ พนฺธิตฺวา วา อพนฺธิตฺวา วา กโรนฺตุ, ยโต ปฏฺาย ภิตฺตึ อุฏฺาเปตุกามา โหนฺติ, ตํ สพฺพปมํ อิฏฺกํ วา สิลํ วา มตฺติกาปิณฺฑํ วา คเหตฺวา วุตฺตนเยเนว กปฺปิยกุฏิ กาตพฺพา, อิฏฺกาทโย ภิตฺติยํ ปมิฏฺกาทีนํ เหฏฺา น วฏฺฏนฺติ, ถมฺภา ปน อุปริ อุคฺคจฺฉนฺติ, ตสฺมา วฏฺฏนฺติ. อนฺธกฏฺกถายํ ‘‘ถมฺเภหิ กริยมาเน จตูสุ โกเณสุ จตฺตาโร ถมฺภา, อิฏฺกาทิกุฏฺเฏ จตูสุ โกเณสุ ทฺเว ติสฺโส อิฏฺกา อธิฏฺาตพฺพา’’ติ วุตฺตํ. ตถา ปน อกตายปิ โทโส นตฺถิ, อฏฺกถาสุ หิ วุตฺตเมว ปมาณํ.

โคนิสาทิกา ทุวิธา อารามโคนิสาทิกา วิหารโคนิสาทิกาติ. ตาสุ ยตฺถ เนว อาราโม, น เสนาสนานิ ปริกฺขิตฺตานิ โหนฺติ, อยํ อารามโคนิสาทิกา นาม. ยตฺถ เสนาสนานิ สพฺพานิ วา เอกจฺจานิ วา ปริกฺขิตฺตานิ, อาราโม อปริกฺขิตฺโต, อยํ วิหารโคนิสาทิกา นาม. อิติ อุภยตฺราปิ อารามสฺส อปริกฺขิตฺตภาโวเยว ปมาณํ. ‘‘อาราโม ปน อุปฑฺฒปริกฺขิตฺโตปิ พหุตรํ ปริกฺขิตฺโตปิ ปริกฺขิตฺโตเยว นามา’’ติ กุรุนฺทิมหาปจฺจรีสุ วุตฺตํ, เอตฺถ กปฺปิยกุฏึ ลทฺธุํ วฏฺฏติ.

คหปตีติ มนุสฺสา อาวาสํ กตฺวา ‘‘กปฺปิยกุฏึ เทม, ปริภุฺชถา’’ติ วทนฺติ, เอสา คหปติ นาม, ‘‘กปฺปิยกุฏึ กาตุํ เทมา’’ติ วุตฺเตปิ วฏฺฏติเยว. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘ยสฺมา ภิกฺขุํ เปตฺวา เสสสหธมฺมิกานํ สพฺเพสฺจ เทวมนุสฺสานํ หตฺถโต ปฏิคฺคโห จ สนฺนิธิ จ อนฺโตวุตฺถฺจ เตสํ สนฺตกํ ภิกฺขุสฺส วฏฺฏติ, ตสฺมา เตสํ เคหานิ วา เตหิ ทินฺนกปฺปิยกุฏิ วา คหปตีติ วุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ, ปุนปิ วุตฺตํ ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส วิหารํ เปตฺวา ภิกฺขุนุปสฺสโย วา อารามิกานํ วา ติตฺถิยานํ วา เทวตานํ วา นาคานํ วา อปิ พฺรหฺมานํ วิมานํ กปฺปิยกุฏิ โหตี’’ติ, ตํ สุวุตฺตํ. สงฺฆสนฺตกเมว หิ ภิกฺขุสนฺตกํ วา เคหํ คหปติกุฏิกา น โหติ.

สมฺมุติ นาม ตฺติทุติยกมฺมวาจาย สาเวตฺวา สมฺมตา. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนิตพฺพา, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ วิหารํ กปฺปิยภูมึ สมฺมนฺเนยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ วิหารํ กปฺปิยภูมึ สมฺมนฺนติ. ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส วิหารสฺส กปฺปิยภูมิยา สมฺมุติ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘สมฺมโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม วิหาโร กปฺปิยภูมิ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๒๙๕).

กมฺมวาจํ อวตฺวา อปโลกนกมฺมวเสน สาเวตฺวา กตาปิ สมฺมตา เอว.

๑๐๒. ยํ (มหาว. อฏฺ. ๒๙๕) อิมาสุ จตูสุ กปฺปิยภูมีสุ วุตฺตํ อามิสํ, ตํ สพฺพํ อนฺโตวุตฺถสงฺขฺยํ น คจฺฉติ. ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ อนฺโตวุตฺถอนฺโตปกฺกโมจนตฺถฺหิ กปฺปิยกุฏิโย อนุฺาตา. ยํ ปน อกปฺปิยภูมิยํ สหเสยฺยปฺปโหนเก เคเห วุตฺตํ สงฺฆิกํ วา ปุคฺคลิกํ วา ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุนิยา วา สนฺตกํ เอกรตฺตมฺปิ ปิตํ, ตํ อนฺโตวุตฺถํ, ตตฺถ ปกฺกฺจ อนฺโตปกฺกํ นาม โหติ, เอตํ น กปฺปติ. สตฺตาหกาลิกํ ปน ยาวชีวิกฺจ วฏฺฏติ.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – สามเณโร ภิกฺขุสฺส ตณฺฑุลาทิกํ อามิสํ อาหริตฺวา กปฺปิยกุฏิยํ นิกฺขิปิตฺวา ปุนทิวเส ปจิตฺวา เทติ, อนฺโตวุตฺถํ น โหติ. ตตฺถ อกปฺปิยกุฏิยํ นิกฺขิตฺตสปฺปิอาทีสุ กิฺจิ ปกฺขิปิตฺวา เทติ. มุขสนฺนิธิ นาม โหติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘อนฺโตวุตฺถํ โหตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ นามมตฺตเมว นานากรณํ, ภิกฺขุ อกปฺปิยกุฏิยํ ปิตสปฺปิฺจ ยาวชีวิกปณฺณฺจ เอกโต ปจิตฺวา ปริภุฺชติ, สตฺตาหํ นิรามิสํ วฏฺฏติ. สเจ อามิสสํสฏฺํ กตฺวา ปริภุฺชติ, อนฺโตวุตฺถฺเจว สามํปกฺกฺจ โหติ. เอเตนุปาเยน สพฺพสํสคฺคา เวทิตพฺพา. ยํ กิฺจิ อามิสํ ภิกฺขุโน ปจิตุํ น วฏฺฏติ. สเจปิสฺส อุณฺหยาคุยา สุลสิปณฺณานิ วา สิงฺคิเวรํ วา โลณํ วา ปกฺขิปนฺติ, ตมฺปิ จาเลตุํ น วฏฺฏติ, ‘‘ยาคุํ นิพฺพาเปมี’’ติ ปน จาเลตุํ วฏฺฏติ. อุตฺตณฺฑุลภตฺตํ ลภิตฺวา ปิทหิตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน มนุสฺสา ปิทหิตฺวา เทนฺติ, วฏฺฏติ. ‘‘ภตฺตํ มา นิพฺพายตู’’ติ ปิทหิตุํ วฏฺฏติ, ขีรตกฺกาทีสุ ปน สกึ กุถิเตสุ อคฺคึ กาตุํ วฏฺฏติ ปุนปากสฺส อนุฺาตตฺตา.

อิมา ปน กปฺปิยกุฏิโย กทา ชหิตวตฺถุกา โหนฺติ? อุสฺสาวนนฺติกา ตาว ยา ถมฺภานํ อุปริ ภิตฺติปาเท วา นิขนิตฺวา กตา, สา สพฺเพสุ ถมฺเภสุ จ ภิตฺติปาเทสุ จ อปนีเตสุ ชหิตวตฺถุกา โหติ. สเจ ปน ถมฺเภ วา ภิตฺติปาเท วา ปริวตฺเตนฺติ, โย โย ิโต, ตตฺถ ตตฺถ ปติฏฺาติ, สพฺเพสุปิ ปริวตฺติเตสุ อชหิตวตฺถุกาว โหติ. อิฏฺกาทีหิ กตา จยสฺส อุปริ ภิตฺติอตฺถาย ปิตํ อิฏฺกํ วา สิลํ วา มตฺติกาปิณฺฑํ วา อาทึ กตฺวา วินาสิตกาเล ชหิตวตฺถุกาว โหติ. เยหิ ปน อิฏฺกาทีหิ อธิฏฺิตา, เตสุ อปนีเตสุปิ ตทฺเสุ ปติฏฺาตีติ อชหิตวตฺถุกาว โหติ. โคนิสาทิกา ปาการาทีหิ ปริกฺเขเป กเต ชหิตวตฺถุกาว โหติ. ปุน ตสฺมึ อาราเม กปฺปิยกุฏึ ลทฺธุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน ปุนปิ ปาการาทโย ตตฺถ ตตฺถ ขณฺฑา โหนฺติ, ตโต ตโต คาโว ปวิสนฺติ, ปุน กปฺปิยกุฏิ โหติ. อิตรา ปน ทฺเว โคปานสีมตฺตํ เปตฺวา สพฺพสฺมึ ฉทเน วินฏฺเ ชหิตวตฺถุกาว โหนฺติ. สเจ โคปานสีนํ อุปริ เอกมฺปิ ปกฺขปาสกมณฺฑลํ อตฺถิ, รกฺขติ.

๑๐๓. ยตฺร ปนิมา จตสฺโสปิ กปฺปิยภูมิโย นตฺถิ, ตตฺถ กึ กาตพฺพนฺติ? อนุปสมฺปนฺนสฺส ทตฺวา ตสฺส สนฺตกํ กตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. ตตฺริทํ วตฺถุ – กรวิกติสฺสตฺเถโร กิร วินยธรปาโมกฺโข มหาสีวตฺเถรสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. โส ทีปาโลเกน สปฺปิกุมฺภํ ปสฺสิตฺวา ‘‘ภนฺเต, กิเมต’’นฺติ ปุจฺฉิ. เถโร ‘‘อาวุโส, คามโต สปฺปิกุมฺโภ อาภโต ลูขทิวเส สปฺปินา ภุฺชนตฺถายา’’ติ อาห. ตโต นํ ติสฺสตฺเถโร ‘‘น วฏฺฏติ, ภนฺเต’’ติ อาห. เถโร ปุนทิวเส ปมุเข นิกฺขิปาเปสิ. ติสฺสตฺเถโร ปุน เอกทิวสํ อาคโต ตํ ทิสฺวา ตเถว ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ภนฺเต, สหเสยฺยปฺปโหนกฏฺาเน เปตุํ น วฏฺฏตี’’ติ อาห. เถโร ปุนทิวเส พหิ นีหราเปตฺวา นิกฺขิปาเปสิ, ตํ โจรา หรึสุ. โส ปุน เอกทิวสํ อาคตํ ติสฺสตฺเถรมาห ‘‘อาวุโส, ตยา ‘น วฏฺฏตี’ติ วุตฺเต โส กุมฺโภ พหิ นิกฺขิตฺโต โจเรหิ หโฏ’’ติ. ตโต นํ ติสฺสตฺเถโร อาห ‘‘นนุ, ภนฺเต, อนุปสมฺปนฺนสฺส ทาตพฺโพ อสฺส, อนุปสมฺปนฺนสฺส หิ ทตฺวา ตสฺส สนฺตกํ กตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

กปฺปิยภูมิวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๒๐. ปฏิคฺคหณวินิจฺฉยกถา

๑๐๔. ขาทนียาทิปฏิคฺคาโหติ อชฺโฌหริตพฺพสฺส ยสฺส กสฺสจิ ขาทนียสฺส วา โภชนียสฺส วา ปฏิคฺคหณํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ปฺจหิ องฺเคหิ ปฏิคฺคหณํ รุหติ, ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส อุจฺจารณมตฺตํ โหติ, หตฺถปาโส ปฺายติ, อภิหาโร ปฺายติ, เทโว วา มนุสฺโส วา ติรจฺฉานคโต วา กาเยน กายปฏิพทฺเธน นิสฺสคฺคิเยน วา เทติ, ตฺเจ ภิกฺขุ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา ปฏิคฺคณฺหาติ. เอวํ ปฺจหงฺเคหิ ปฏิคฺคหณํ รุหติ.

ตตฺถ ิตนิสินฺนนิปนฺนานํ วเสน เอวํ หตฺถปาโส เวทิตพฺโพ – สเจ ภิกฺขุ นิสินฺโน โหติ, อาสนสฺส ปจฺฉิมนฺตโต ปฏฺาย, สเจ ิโต, ปณฺหิอนฺตโต ปฏฺาย, สเจ นิปนฺโน, เยน ปสฺเสน นิปนฺโน, ตสฺส ปาริมนฺตโต ปฏฺาย, ทายกสฺส นิสินฺนสฺส วา ิตสฺส วา นิปนฺนสฺส วา เปตฺวา ปสาริตหตฺถํ ยํ อาสนฺนตรํ องฺคํ, ตสฺส โอริมนฺเตน ปริจฺฉินฺทิตฺวา อฑฺฒเตยฺยหตฺโถ หตฺถปาโส นาม.

สเจ ปน ทายกปฏิคฺคาหเกสุ เอโก อากาเส โหติ, เอโก ภูมิยํ, ภูมฏฺสฺส จ สีเสน, อากาสฏฺสฺส จ เปตฺวา ทาตุํ วา คเหตุํ วา ปสาริตหตฺถํ ยํ อาสนฺนตรํ องฺคํ, ตสฺส โอริมนฺเตน หตฺถปาสปมาณํ ปริจฺฉินฺทิตพฺพํ. สเจปิ เอโก กูเป โหติ, เอโก กูปตเฏ, เอโก วา ปน รุกฺเข, เอโก ปถวิยํ, วุตฺตนเยเนว หตฺถปาสปมาณํ ปริจฺฉินฺทิตพฺพํ. เอวรูเป หตฺถปาเส ตฺวา สเจปิ ปกฺขี มุขตุณฺฑเกน วา หตฺถี วา โสณฺฑาย คเหตฺวา ปุปฺผํ วา ผลํ วา เทติ, ปฏิคฺคหณํ รุหติ. สเจ ปน อฑฺฒฏฺมรตนสฺสปิ หตฺถิโน ขนฺเธ นิสินฺโน เตน โสณฺฑาย ทียมานํ คณฺหาติ, วฏฺฏติเยว. หตฺถาทีสุ เยน เกนจิ สรีราวยเวน อนฺตมโส ปาทงฺคุลิยาปิ ทียมานํ กาเยน ทินฺนํ นาม โหติ. ปฏิคฺคหเณปิ เอเสว นโย. เยน เกนจิ หิ สรีราวยเวน คหิตํ กาเยน คหิตเมว โหติ. สเจปิ นตฺถุกรณิยํ ทียมานํ นาสาปุเฏน อกลฺลโก วา มุเขน ปฏิคฺคณฺหาติ, อาโภคเมว เหตฺถ ปมาณํ.

๑๐๕. กฏจฺฉุอาทีสุ ปน เยน เกนจิ อุปกรเณน ทินฺนํ กายปฏิพทฺเธน ทินฺนํ นาม โหติ. ปฏิคฺคหเณปิ เอเสว นโย. เยน เกนจิ หิ สรีรสมฺพทฺเธน ปตฺตถาลกาทินา คหิตํ กายปฏิพทฺเธน คหิตเมว โหติ. กายโต ปน กายปฏิพทฺธโต จ โมเจตฺวา หตฺถปาเส ิตสฺส กาเย วา กายปฏิพทฺเธ วา ปาติยมานมฺปิ นิสฺสคฺคิเยน ปโยเคน ทินฺนํ นาม โหติ. เอโก พหูนิ ภตฺตพฺยฺชนภาชนานิ สีเส กตฺวา ภิกฺขุสฺส สนฺติกํ อาคนฺตฺวา ิตโกว ‘‘คณฺหถา’’ติ วทติ, น ตาว อภิหาโร ปฺายติ, ตสฺมา น คเหตพฺพํ. สเจ ปน อีสกมฺปิ โอนมติ, ภิกฺขุนา หตฺถํ ปสาเรตฺวา เหฏฺิมภาชนํ เอกเทเสนปิ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. เอตฺตาวตา สพฺพภาชนานิ ปฏิคฺคหิตานิ โหนฺติ. ตโต ปฏฺาย โอโรเปตฺวา อุคฺฆาเฏตฺวา วา ยํ อิจฺฉติ, ตํ คเหตุํ วฏฺฏติ. ภตฺตปจฺฉิอาทิมฺหิ ปน เอกภาชเน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.

กาเชน ภตฺตํ หรนฺโตปิ สเจ กาชํ โอนเมตฺวา เทติ, วฏฺฏติ. ตึสหตฺโถ เวณุ โหติ, เอกสฺมึ อนฺเต คุฬกุมฺโภ พทฺโธ, เอกสฺมึ สปฺปิกุมฺโภ, ตฺเจ ปฏิคฺคณฺหาติ, สพฺพํ ปฏิคฺคหิตเมว. อุจฺฉุยนฺตโทณิโต ปคฺฆรนฺตเมว ‘‘รสํ คณฺหถา’’ติ วทติ, อภิหาโร น ปฺายตีติ น คเหตพฺโพ. สเจ ปน กสฏํ ฉฑฺเฑตฺวา หตฺเถน อุสฺสิฺจิตฺวา เทติ, วฏฺฏติ. พหู ปตฺตา มฺเจ วา ปีเ วา กฏสาเร วา โทณิยํ วา ผลเก วา ปิตา โหนฺติ, ยตฺถ ิตสฺส ทายโก หตฺถปาเส โหติ, ตตฺถ ตฺวา ปฏิคฺคหณสฺาย มฺจาทีนิ องฺคุลิยาปิ ผุสิตฺวา ิเตน วา นิสินฺเนน วา นิปนฺเนน วา ยํ เตสุ ปตฺเตสุ ทียติ, ตํ สพฺพํ ปฏิคฺคหิตํ โหติ. สเจปิ ‘‘ปฏิคฺคเหสฺสามี’’ติ มฺจาทีนิ อภิรุหิตฺวา นิสีทติ, วฏฺฏติเยว.

ปถวิยํ ปน สเจปิ กุจฺฉิยา กุจฺฉึ อาหจฺจ ิตา โหนฺติ, ยํ ยํ องฺคุลิยา วา สูจิยา วา ผุสิตฺวา นิสินฺโน โหติ, ตตฺถ ตตฺถ ทียมานเมว ปฏิคฺคหิตํ โหติ. ยตฺถ กตฺถจิ มหากฏสารหตฺถตฺถรณาทีสุ ปิตปตฺเต ปฏิคฺคหณํ น รุหตีติ วุตฺตํ, ตํ หตฺถปาสาติกฺกมํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ, หตฺถปาเส ปน สติ ยตฺถ กตฺถจิ วฏฺฏติ อฺตฺร ตตฺถชาตกา. ตตฺถชาตเก ปน ปทุมินิปณฺเณ วา กึสุกปณฺณาทิมฺหิ วา น วฏฺฏติ. น หิ ตํ กายปฏิพทฺธสงฺขฺยํ คจฺฉติ. ยถา จ ตตฺถชาตเก, เอวํ ขาณุเก พนฺธิตฺวา ปิตมฺจาทิมฺหิ อสํหาริเม ผลเก วา ปาสาเณ วา น รุหติเยว. เตปิ หิ ตตฺถชาตกสงฺขฺยุปคา โหนฺติ. ภูมิยํ อตฺถเตสุ สุขุเมสุ ตินฺติณิกาทิปณฺเณสุ ปฏิคฺคหณํ น รุหติ. น หิ ตานิ สนฺธาเรตุํ สมตฺถานีติ. มหนฺเตสุ ปน ปทุมินิปณฺณาทีสุ รุหติ. สเจ หตฺถปาสํ อติกฺกมฺมิโต ทีฆทณฺฑเกน อุฬุงฺเกน เทติ, ‘‘อาคนฺตฺวา เทหี’’ติ วตฺตพฺโพ. วจนํ อสุตฺวา วา อนาทิยิตฺวา วา ปตฺเต อากิรติเยว, ปุน ปฏิคฺคเหตพฺพํ. ทูเร ตฺวา ภตฺตปิณฺฑํ ขิปนฺเตปิ เอเสว นโย.

๑๐๖. สเจ ปตฺตถวิกโต นีหริยมาเน ปตฺเต รชนจุณฺณานิ โหนฺติ, สติ อุทเก โธวิตพฺโพ, อสติ รชนจุณฺณํ ปุฺฉิตฺวา ปฏิคฺคเหตฺวา วา ปิณฺฑาย จริตพฺพํ. สเจ ปิณฺฑาย จรนฺตสฺส ปตฺเต รชํ ปตติ, ปฏิคฺคเหตฺวา ภิกฺขา คณฺหิตพฺพา, อปฺปฏิคฺคเหตฺวา คณฺหโต วินยทุกฺกฏํ, ตํ ปน ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ภุฺชโต อนาปตฺติ. สเจ ปน ‘‘ปฏิคฺคเหตฺวา เทถา’’ติ วุตฺเต วจนํ อสุตฺวา วา อนาทิยิตฺวา วา ภิกฺขํ เทนฺติเยว, วินยทุกฺกฏํ นตฺถิ, ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา อฺา ภิกฺขา คเหตพฺพา. สเจ มหาวาโต ตโต ตโต รชํ ปาเตติ, น สกฺกา โหติ ภิกฺขํ คเหตุํ, ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส ทสฺสามี’’ติ สุทฺธจิตฺเตน อาโภคํ กตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ ปิณฺฑาย จริตฺวา วิหารํ วา อาสนสาลํ วา คนฺตฺวา ตํ อนุปสมฺปนฺนสฺส ทตฺวา ปุน เตน ทินฺนํ วา ตสฺส วิสฺสาเสน วา ปฏิคฺคเหตฺวา ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ภิกฺขาจาเร สรชํ ปตฺตํ ภิกฺขุสฺส เทติ, โส วตฺตพฺโพ ‘‘อิมํ ปฏิคฺคเหตฺวา ภิกฺขํ วา คณฺเหยฺยาสิ ปริภุฺเชยฺยาสิ วา’’ติ, เตน ตถา กาตพฺพํ. สเจ รชํ อุปริ อุปฺปิลวติ, กฺชิกํ ปวาเหตฺวา เสสํ ภุฺชิตพฺพํ. สเจ อนฺโตปวิฏฺํ โหติ, ปฏิคฺคเหตพฺพํ. อนุปสมฺปนฺเน อสติ หตฺถโต อโมเจนฺเตเนว ยตฺถ อนุปสมฺปนฺโน อตฺถิ, ตตฺถ เนตฺวา ปฏิคฺคเหตพฺพํ. สุกฺขภตฺเต ปติตรชํ อปเนตฺวา ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ อติสุขุมํ โหติ, อุปริ ภตฺเตน สทฺธึ อปเนตพฺพํ, ปฏิคฺคเหตฺวา วา ภุฺชิตพฺพํ. ยาคุํ วา สูปํ วา ปุรโต เปตฺวา อาลุเฬนฺตานํ ภาชนโต ผุสิตานิ อุคฺคนฺตฺวา ปตฺเต ปตนฺติ, ปตฺโต ปฏิคฺคเหตพฺโพ.

๑๐๗. อุฬุงฺเกน อาหริตฺวา เทนฺตานํ ปมตรํ อุฬุงฺกโต เถวา ปตฺเต ปตนฺติ, สุปติตา, อภิหฏตฺตา โทโส นตฺถิ. สเจปิ จรุเกน ภตฺเต อากิริยมาเน จรุกโต มสิ วา ฉาริกา วา ปตติ, อภิหฏตฺตา เนวตฺถิ โทโส. อนนฺตรสฺส ภิกฺขุโน ทียมานํ ปตฺตโต อุปฺปติตฺวา อิตรสฺส ปตฺเต ปตติ, สุปติตํ. ปฏิคฺคหิตเมว หิ ตํ โหติ. สเจ ชชฺฌริสาขาทึ ผาเลตฺวา เอกสฺส ภิกฺขุโน เทนฺตานํ สาขโต ผุสิตานิ อฺสฺส ปตฺเต ปตนฺติ, ปตฺโต ปฏิคฺคเหตพฺโพ, ยสฺส ปตฺตสฺส อุปริ ผาเลนฺติ, ตสฺส ปตฺเต ปติเตสุ ทาตุกามตาย อภิหฏตฺตา โทโส นตฺถิ. ปายาสสฺส ปูเรตฺวา ปตฺตํ เทนฺติ, อุณฺหตฺตา เหฏฺา คเหตุํ น สกฺโกติ, มุขวฏฺฏิยาปิ คเหตุํ วฏฺฏติ. สเจ ตถาปิ น สกฺโกติ, อาธารเกน คเหตพฺโพ. อาสนสาลาย ปตฺตํ คเหตฺวา นิสินฺโน ภิกฺขุ นิทฺทํ โอกฺกนฺโต โหติ, เนว อาหริยมานํ, น ทียมานํ ชานาติ, อปฺปฏิคฺคหิตํ โหติ. สเจ ปน อาโภคํ กตฺวา นิสินฺโน โหติ, วฏฺฏติ. สเจปิ โส หตฺเถน อาธารกํ มุฺจิตฺวา ปาเทน เปลฺเลตฺวา นิทฺทายติ, วฏฺฏติเยว. ปาเทน อาธารกํ อกฺกมิตฺวา ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส ปน ชาครนฺตสฺสปิ อนาทรปฏิคฺคหณํ โหติ, ตสฺมา น กตฺตพฺพํ. เกจิ ‘‘เอวํ อาธารเกน ปฏิคฺคหณํ กายปฏิพทฺธปฏิพทฺเธน ปฏิคฺคหณํ นาม โหติ, ตสฺมา น วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ วจนมตฺตเมว, อตฺถโต ปน สพฺพมฺเปตํ กายปฏิพทฺธเมว โหติ. กายสํสคฺเคปิ เจส นโย ทสฺสิโต. ยมฺปิ ภิกฺขุสฺส ทียมานํ ปตติ, ตมฺปิ สามํ คเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ.

ตตฺริทํ สุตฺตํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ ทียมานํ ปตติ, ตํ สามํ คเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ, ปริจฺจตฺตํ ตํ, ภิกฺขเว, ทายเกหี’’ติ (จูฬว. ๒๗๓).

อิทฺจ ปน สุตฺตํ เนยฺยตฺถํ, ตสฺมา เอวเมตฺถ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ – ยํ ทียมานํ ทายกสฺส หตฺถโต ปริคฬิตฺวา สุทฺธาย วา ภูมิยา ปทุมินิปณฺเณ วา วตฺถกฏสารกาทีสุ วา ปตติ, ตํ สามํ คเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ยํ ปน สรชาย ภูมิยํ ปตติ, ตํ รชํ ปุฺฉิตฺวา วา โธวิตฺวา วา ปฏิคฺคเหตฺวา วา ปริภุฺชิตพฺพํ. สเจ ปวฏฺฏนฺตํ อฺสฺส ภิกฺขุโน สนฺติกํ คจฺฉติ, เตน อาหราเปตุมฺปิ วฏฺฏติ. สเจ ตํ ภิกฺขุํ วทติ ‘‘ตฺวํเยว ขาทา’’ติ, ตสฺสปิ ขาทิตุํ วฏฺฏติ, อนาณตฺเตน ปน เตน น คเหตพฺพํ. ‘‘อนาณตฺเตนปิ อิตรสฺส ทสฺสามีติ คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. กสฺมา ปเนตํ อิตรสฺส ภิกฺขุโน คเหตุํ น วฏฺฏตีติ? ภควตา อนนุฺาตตฺตา. ภควตา หิ ‘‘สามํ คเหตฺวา ปริภุฺชิตุ’’นฺติ วทนฺเตน ยสฺเสว ตํ ทียมานํ ปตติ, ตสฺส อปฺปฏิคฺคหิตกมฺปิ ตํ คเหตฺวา ปริโภโค อนุฺาโต. ‘‘ปริจฺจตฺตํ ตํ, ภิกฺขเว, ทายเกหี’’ติ วจเนน ปเนตฺถ ปรสนฺตกภาโว ทีปิโต, ตสฺมา อฺสฺส สามํ คเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ, ตสฺส ปน อาณตฺติยา วฏฺฏตีติ อยํ กิเรตฺถ อธิปฺปาโย. ยสฺมา จ เอตํ อปฺปฏิคฺคหิตกตฺตา อนุฺาตํ, ตสฺมา ยถาิตํเยว อนามสิตฺวา เกนจิ ปิทหิตฺวา ปิตํ ทุติยทิวเสปิ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, สนฺนิธิปจฺจยา อนาปตฺติ, ปฏิคฺคเหตฺวา ปน ปริภุฺชิตพฺพํ. ตํ ทิวสํเยว หิ ตสฺส สามํ คเหตฺวา ปริโภโค อนุฺาโต, น ตโต ปรนฺติ อยมฺปิ กิเรตฺถ อธิปฺปาโย.

๑๐๘. อิทานิ อพฺโพหาริกนโย วุจฺจติ. ภุฺชนฺตานฺหิ ทนฺตา ขียนฺติ, นขา ขียนฺติ, ปตฺตสฺส วณฺโณ ขียติ, สพฺพํ อพฺโพหาริกํ. สตฺถเกน อุจฺฉุอาทีสุ ผาลิเตสุ มลํ ปฺายติ, เอตํ นวสมุฏฺิตํ นาม, ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. สตฺถกํ โธวิตฺวา ผาลิเตสุ มลํ น ปฺายติ, โลหคนฺธมตฺตํ โหติ, ตํ อพฺโพหาริกํ. ยมฺปิ สตฺถกํ คเหตฺวา ปริหรนฺติ, เตน ผาลิเตปิ เอเสว นโย. น หิ ตํ ปริโภคตฺถาย ปริหรนฺตีติ. มูลเภสชฺชาทีนิ ปิสนฺตานํ วา โกฏฺเฏนฺตานํ วา นิสทนิสทโปตกอุทุกฺขลมุสลาทีนิ ขียนฺติ, ปริหรณกวาสึ ตาเปตฺวา เภสชฺชตฺถาย ตกฺเก วา ขีเร วา ปกฺขิปนฺติ, ตตฺถ นีลิกา ปฺายติ, สตฺถเก วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโย. อามกตกฺกาทีสุ ปน สยํ น ปกฺขิปิตพฺพา, ปกฺขิปติ เจ, สามํปากโต น มุจฺจติ. เทเว วสฺสนฺเต ปิณฺฑาย จรนฺตสฺส สรีรโต วา จีวรโต วา กิลิฏฺอุทกํ ปตฺเต ปตติ, ปฏิคฺคเหตพฺพํ. รุกฺขมูลาทีสุ ภุฺชนฺตสฺส ปติเตปิ เอเสว นโย. สเจ ปน สตฺตาหํ วสฺสนฺเต เทเว สุทฺธํ อุทกํ โหติ, อพฺโภกาสโต วา ปตติ, วฏฺฏติ.

๑๐๙. สามเณรสฺส โอทนํ เทนฺเตน ตสฺส ปตฺตคตํ อจฺฉุปนฺเตเนว ทาตพฺโพ, ปตฺโต วาสฺส ปฏิคฺคเหตพฺโพ. อปฺปฏิคฺคหิเต โอทนํ ฉุปิตฺวา ปุน อตฺตโน ปตฺเต โอทนํ คณฺหนฺตสฺส อุคฺคหิตโก โหติ. สเจ ปน ทาตุกาโม หุตฺวา ‘‘อาหร, สามเณร, ปตฺตํ, โอทนํ คณฺหาหี’’ติ วทติ, อิตโร ‘‘อลํ มยฺห’’นฺติ ปฏิกฺขิปติ, ปุน ‘‘ตเวตํ มยา ปริจฺจตฺต’’นฺติ จ วุตฺเต ‘‘น มยฺหํ เอเตนตฺโถ’’ติ วทติ, สตกฺขตฺตุมฺปิ ปริจฺจชตุ, ยาว อตฺตโน หตฺถคตํ, ตาว ปฏิคฺคหิตเมว โหติ. สเจ ปน อาธารเก ิตํ นิรเปกฺโข ‘‘คณฺหาหี’’ติ วทติ, ปุน ปฏิคฺคเหตพฺพํ. สาเปกฺโข อาธารเก ปตฺตํ เปตฺวา ‘‘เอตฺโต ปูวํ วา ภตฺตํ วา คณฺหาหี’’ติ สามเณรํ วทติ, สามเณโร หตฺถํ โธวิตฺวา สเจปิ สตกฺขตฺตุํ คเหตฺวา อตฺตโน ปตฺตคตํ อผุสนฺโตว อตฺตโน ปตฺเต ปกฺขิปติ, ปุน ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. ยทิ ปน อตฺตโน ปตฺตคตํ ผุสิตฺวา ตโต คณฺหาติ, สามเณรสนฺตเกน สํสฏฺํ โหติ, ปุน ปฏิคฺคเหตพฺพํ. เกจิ ปน ‘‘สเจปิ คยฺหมานํ ฉิชฺชิตฺวา ตตฺถ ปตติ, ปุน ปฏิคฺคเหตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ. ตํ ‘‘เอกํ ภตฺตปิณฺฑํ คณฺห, เอกํ ปูวํ คณฺห, อิมสฺส คุฬปิณฺฑสฺส เอตฺตกํ ปเทสํ คณฺหา’’ติ เอวํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วุตฺเต เวทิตพฺพํ, อิธ ปน ปริจฺเฉโท นตฺถิ, ตสฺมา ยํ สามเณรสฺส ปตฺเต ปตติ, ตเทว ปฏิคฺคหณํ วิชหติ, หตฺถคตํ ปน ยาว สามเณโร วา ‘‘อล’’นฺติ น โอรมติ, ภิกฺขุ วา น วาเรติ, ตาว ภิกฺขุสฺเสว สนฺตกํ, ตสฺมา ปฏิคฺคหณํ น วิชหติ. สเจ อตฺตโน วา ภิกฺขูนํ วา ยาคุปจนกภาชเน เกสฺจิ อตฺถาย ภตฺตํ ปกฺขิปติ, ‘‘สามเณร, ภาชนสฺส อุปริ หตฺถํ กโรหี’’ติ วตฺวา ตสฺส หตฺเถ ปกฺขิปิตพฺพํ. ตสฺส หตฺถโต ภาชเน ปติตฺหิ ทุติยทิวเส ภาชนสฺส อกปฺปิยภาวํ น กโรติ ปริจฺจตฺตตฺตา. สเจ เอวํ อกตฺวา ปกฺขิปติ, ปตฺตมิว ภาชนํ นิรามิสํ กตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ.

๑๑๐. ทายกา ยาคุกุฏํ เปตฺวา คตา, ตํ ทหรสามเณโร ปฏิคฺคณฺหาเปตุํ น สกฺโกติ, ภิกฺขุ ปตฺตํ อุปนาเมติ, สามเณโร กุฏสฺส คีวํ ปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิยํ เปตฺวา อาวชฺเชติ, ปตฺตคตา ยาคุ ปฏิคฺคหิตาว โหติ. อถ วา ภิกฺขุ ภูมิยํ หตฺถํ เปติ, สามเณโร ปวฏฺเฏตฺวา หตฺถํ อาโรเปติ, วฏฺฏติ. ปูวปจฺฉิภตฺตปจฺฉิอุจฺฉุภาราทีสุปิ เอเสว นโย. สเจ ปฏิคฺคหณูปคํ ภารํ ทฺเว ตโย สามเณรา เทนฺติ, เอเกน วา พลวตา อุกฺขิตฺตํ ทฺเว ตโย ภิกฺขู คณฺหนฺติ, วฏฺฏติ. มฺจสฺส วา ปีสฺส วา ปาเท เตลฆฏํ วา ผาณิตฆฏํ วา ลคฺเคนฺติ, ภิกฺขุสฺส มฺเจปิ ปีเปิ นิสีทิตุํ วฏฺฏติ, อุคฺคหิตกํ นาม น โหติ.

นาคทนฺตเก วา องฺกุสเก วา ทฺเว เตลฆฏา ลคฺคิตา โหนฺติ อุปริ ปฏิคฺคหิตโก, เหฏฺา อปฺปฏิคฺคหิตโก. อุปริมํ คเหตุํ วฏฺฏติ, เหฏฺา ปฏิคฺคหิตโก, อุปริ อปฺปฏิคฺคหิตโก, อุปริมํ คเหตฺวา อิตรํ คณฺหโต อุปริโม อุคฺคหิตโก โหติ. เหฏฺามฺเจ อปฺปฏิคฺคหิตกํ เตลถาลกํ โหติ, ตฺเจ สมฺมชฺชนฺโต สมฺมุฺชนิยา ฆฏฺเฏติ, อุคฺคหิตกํ น โหติ, ‘‘ปฏิคฺคหิตกํ คณฺหิสฺสามี’’ติ อปฺปฏิคฺคหิตกํ คเหตฺวา ตฺวา ปุน เปติ, อุคฺคหิตกํ น โหติ, พหิ นีหริตฺวา สฺชานาติ, พหิ อฏฺเปตฺวา หริตฺวา ตตฺเถว เปตพฺพํ, นตฺถิ โทโส. สเจ ปน ปุพฺเพ วิวริตฺวา ปิตํ, น ปิทหิตพฺพํ. ยถา ปุพฺเพ ิตํ, ตเถว เปตพฺพํ. สเจ พหิ เปติ, ปุน น ฉุปิตพฺพํ.

๑๑๑. ปฏิคฺคหิตเก เตลาทิมฺหิ กณฺณิกา อุฏฺเติ, สิงฺคิเวราทิมฺหิ ฆนจุณฺณํ, ตํสมุฏฺานเมว นาม ตํ, ปุน ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. ตาลํ วา นาฬิเกรํ วา อารุฬฺโห โยตฺเตน ผลปิณฺฑึ โอตาเรตฺวา อุปริ ิโตว ‘‘คณฺหถา’’ติ วทติ, น คเหตพฺพํ. สเจ อฺโ ภูมิยํ ิโต โยตฺตปาสเก คเหตฺวา อุกฺขิปิตฺวา เทติ, วฏฺฏติ. สผลํ มหาสาขํ กปฺปิยํ กาเรตฺวา ปฏิคฺคณฺหาติ, ผลานิ ปฏิคฺคหิตาเนว โหนฺติ, ยถาสุขํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. อนฺโตวติยํ ตฺวา วตึ ฉินฺทิตฺวา อุจฺฉุํ วา ติมฺพรูสกํ วา เทนฺติ, หตฺถปาเส สติ วฏฺฏติ. ทณฺฑเกสุ อปหริตฺวา นิคฺคตํ คณฺหนฺตสฺส วฏฺฏติ, ปหริตฺวา นิคฺคเต อฏฺกถาสุ โทโส น ทสฺสิโต. มยํ ปน ‘‘ยํ านํ ปหฏํ, ตโต สยํปติตมิว โหตี’’ติ ตกฺกยาม, ตมฺปิ ตฺวา คจฺฉนฺเต ยุชฺชติ สุงฺกฆาตโต ปวฏฺเฏตฺวา พหิปติตภณฺฑํ วิย. วตึ วา ปาการํ วา ลงฺฆาเปตฺวา เทนฺติ, สเจ ปน อปุถุโล ปากาโร, อนฺโตปากาเร พหิปากาเร จ ิตสฺส หตฺถปาโส ปโหติ, หตฺถสตมฺปิ อุทฺธํ คนฺตฺวา สมฺปตฺตํ คเหตุํ วฏฺฏติ.

ภิกฺขุ คิลานํ สามเณรํ ขนฺเธน วหติ, โส ผลาผลํ ทิสฺวา คเหตฺวา ขนฺเธ นิสินฺโนว เทติ, วฏฺฏติ. อปโร ภิกฺขุํ วหนฺโต ขนฺเธ นิสินฺนสฺส ภิกฺขุโน เทติ, วฏฺฏติเยว. ภิกฺขุ ผลินึ สาขํ ฉายตฺถาย คเหตฺวา คจฺฉติ, ผลานิ ขาทิตุํ จิตฺเต อุปฺปนฺเน ปฏิคฺคหาเปตฺวา ขาทิตุํ วฏฺฏติ. มจฺฉิกวารณตฺถํ กปฺปิยํ กาเรตฺวา ปฏิคฺคณฺหาติ, ขาทิตุกาโม เจ โหติ, มูลปฏิคฺคหณเมว วฏฺฏติ, ขาทนฺตสฺส นตฺถิ โทโส. ภิกฺขุ ปฏิคฺคหณารหํ ภณฺฑํ มนุสฺสานํ ยาเน เปตฺวา มคฺคํ คจฺฉติ, ยานํ กทฺทเม ลคฺคติ, ทหโร จกฺกํ คเหตฺวา อุกฺขิปติ, วฏฺฏติ, อุคฺคหิตกํ นาม น โหติ. นาวาย เปตฺวา นาวํ อริตฺเตน วา ปาเชติ, หตฺเถน วา กฑฺฒติ, วฏฺฏติ. อุฬุมฺเปปิ เอเสว นโย. จาฏิยํ วา กุณฺฑเก วา เปตฺวาปิ ตํ อนุปสมฺปนฺเนน คาหาเปตฺวา อนุปสมฺปนฺนํ พาหายํ คเหตฺวา ตริตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมิมฺปิ อสติ อนุปสมฺปนฺนํ คาหาเปตฺวา ตํ พาหายํ คเหตฺวา ตริตุํ วฏฺฏติ.

อุปาสกา คมิกภิกฺขูนํ ปาเถยฺยตณฺฑุเล เทนฺติ, สามเณรา ภิกฺขูนํ ตณฺฑุเล คเหตฺวา อตฺตโน ตณฺฑุเล คเหตุํ น สกฺโกนฺติ, ภิกฺขู เตสํ ตณฺฑุเล คณฺหนฺติ, สามเณรา อตฺตนา คหิตตณฺฑุเลสุ ขีเณสุ อิตเรหิ ตณฺฑุเลหิ ยาคุํ ปจิตฺวา สพฺเพสํ ปตฺตานิ ปฏิปาฏิยา เปตฺวา ยาคุํ อากิรนฺติ, ปณฺฑิโต สามเณโร อตฺตโน ปตฺตํ คเหตฺวา เถรสฺส เทติ, เถรสฺส ปตฺตํ ทุติยตฺเถรสฺสาติ เอวํ สพฺพานิปิ ปริวตฺเตติ, สพฺเพหิ สามเณรสฺส สนฺตกํ ภุตฺตํ โหติ, วฏฺฏติ. สเจปิ สามเณโร อปณฺฑิโต โหติ, อตฺตโน ปตฺเต ยาคุํ สยเมว ปาตุํ อารภติ, ‘‘อาวุโส, ตุยฺหํ ยาคุํ มยฺหํ เทหี’’ติ เถเรหิ ปฏิปาฏิยา ยาจิตฺวาปิ ปิวิตุํ วฏฺฏติ, สพฺเพหิ สามเณรสฺส สนฺตกเมว ภุตฺตํ โหติ, เนว อุคฺคหิตปจฺจยา, น สนฺนิธิปจฺจยา วชฺชํ ผุสนฺติ. เอตฺถ ปน มาตาปิตูนํ เตลาทีนิ, ฉายาทีนํ อตฺถาย สาขาทีนิ จ หรนฺตานํ อิเมสฺจ วิเสโส น ทิสฺสติ, ตสฺมา การณํ อุปปริกฺขิตพฺพํ.

๑๑๒. สามเณโร ภตฺตํ ปจิตุกาโม ตณฺฑุเล โธวิตฺวา นิจฺจาเลตุํ น สกฺโกติ, ภิกฺขุนา ตณฺฑุเล จ ภาชนฺจ ปฏิคฺคเหตฺวา ตณฺฑุเล โธวิตฺวา นิจฺจาเลตฺวา ภาชนํ อุทฺธนํ อาโรเปตพฺพํ, อคฺคิ น กาตพฺโพ, ปกฺกกาเล วิวริตฺวา ปกฺกภาโว ชานิตพฺโพ. สเจ ทุปฺปกฺกํ โหติ, ปากตฺถาย ปิทหิตุํ น วฏฺฏติ, รชสฺส วา ฉาริกาย วา อปตนตฺถาย วฏฺฏติ, ปกฺกกาเล โอโรปิตุํ ภุฺชิตุมฺปิ วฏฺฏติ, ปุน ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. สามเณโร ปฏิพโล ปจิตุํ, ขโณ ปนสฺส นตฺถิ กตฺถจิ คนฺตุกาโม, ภิกฺขุนา สตณฺฑุโลทกํ ภาชนํ ปฏิคฺคเหตฺวา อุทฺธนํ อาโรเปตฺวา ‘‘อคฺคึ ชาเลตฺวา คจฺฉา’’ติ วตฺตพฺโพ. ตโต ปรํ ปุริมนเยเนว สพฺพํ กาตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุ ยาคุอตฺถาย สุทฺธภาชนํ อาโรเปตฺวา อุทกํ ตาเปติ, วฏฺฏติ. ตตฺเต อุทเก สามเณโร ตณฺฑุเล ปกฺขิปติ, ตโต ปฏฺาย ภิกฺขุนา อคฺคิ น กาตพฺโพ, ปกฺกยาคุํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปาตุํ วฏฺฏติ. สามเณโร ยาคุํ ปจติ, หตฺถกุกฺกุจฺจโก ภิกฺขุ กีฬนฺโต ภาชนํ อามสติ, ปิธานํ อามสติ, อุคฺคตํ เผณํ ฉินฺทิตฺวา ปหรติ, ตสฺเสว ปาตุํ น วฏฺฏติ, ทุรุปจิณฺณํ นาม โหติ. สเจ ปน ทพฺพึ วา อุฬุงฺกํ วา คเหตฺวา อนุกฺขิปนฺโต อาโลเฬติ, สพฺเพสํ น วฏฺฏติ, สามํปากฺเจว โหติ ทุรุปจิณฺณฺจ. สเจ อุกฺขิปติ, อุคฺคหิตกมฺปิ โหติ.

๑๑๓. ภิกฺขุนา ปิณฺฑาย จริตฺวา อาธารเก ปตฺโต ปิโต โหติ. ตตฺร เจ อฺโ โลลภิกฺขุ กีฬนฺโต ปตฺตํ อามสติ, ปตฺตปิธานํ อามสติ, ตสฺเสว ตโต ลทฺธภตฺตํ น วฏฺฏติ. สเจ น ปตฺตํ อุกฺขิปิตฺวา เปติ, สพฺเพสํ น วฏฺฏติ. ตตฺถชาตกผลินิสาขาย วา วลฺลิยา วา คเหตฺวา จาเลติ, ตสฺเสว ตโต ลทฺธผลํ น วฏฺฏติ, ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏฺจ อาปชฺชติ. ‘‘ผลรุกฺขํ ปน อปสฺสยิตุํ วา ตตฺถ กณฺฏกํ วา พนฺธิตุํ วฏฺฏติ, ทุรุปจิณฺณํ น โหตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. อรฺเ ปติตํ ปน อมฺพผลาทึ ทิสฺวา ‘‘สามเณรสฺส ทสฺสามี’’ติ อาหริตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. สีหวิฆาสาทึ ทิสฺวาปิ ‘‘สามเณรสฺส ทสฺสามี’’ติ ปฏิคฺคเหตฺวา วา อปฺปฏิคฺคเหตฺวา วา อาหริตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน สกฺโกติ วิตกฺกํ โสเธตุํ, ตโต ลทฺธํ ขาทิตุมฺปิ วฏฺฏติ, เนว อามกมํสปฏิคฺคหณปจฺจยา, น อุคฺคหิตกปจฺจยา วชฺชํ ผุสติ. มาตาปิตูนํ อตฺถาย เตลาทีนิ คเหตฺวา คจฺฉโต อนฺตรามคฺเค พฺยาธิ อุปฺปชฺชติ, ตโต ยํ อิจฺฉติ, ตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน มูเลปิ ปฏิคฺคหิตํ โหติ, ปุน ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. มาตาปิตูนํ ตณฺฑุเล อาหริตฺวา เทติ, เต ตโตเยว ยาคุอาทีนิ สมฺปาเทตฺวา ตสฺส เทนฺติ, วฏฺฏติ, สนฺนิธิปจฺจยา อุคฺคหิตปจฺจยา วา โทโส นตฺถิ.

๑๑๔. ภิกฺขุ ปิทหิตฺวา อุทกํ ตาเปติ, ยาว ปริกฺขยา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปเนตฺถ ฉาริกา ปตติ, ปฏิคฺคเหตพฺพํ. ทีฆสณฺฑาเสน ถาลกํ คเหตฺวา เตลํ ปจนฺตสฺส ฉาริกา ปตติ, หตฺเถน อมุฺจนฺเตเนว ปจิตฺวา โอตาเรตฺวา ปฏิคฺคเหตพฺพํ. สเจ องฺคาราปิ ทารูนิปิ ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตานิ, มูลปฏิคฺคหณเมว วฏฺฏติ. ภิกฺขุ อุจฺฉุํ ขาทติ, สามเณโร ‘‘มยฺหมฺปิ เทถา’’ติ วทติ, ‘‘อิโต ฉินฺทิตฺวา คณฺหา’’ติ วุตฺโต คณฺหาติ, อวเสเส ปุน ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. คุฬปิณฺฑํ ขาทนฺตสฺสปิ เอเสว นโย. วุตฺโตกาสโต ฉินฺทิตฺวา คหิตาวเสสฺหิ อชหิตปฏิคฺคหณเมว โหติ. ภิกฺขุ คุฬํ ภาเชนฺโต ปฏิคฺคเหตฺวา โกฏฺาเส กโรติ, ภิกฺขูปิ สามเณราปิ อาคนฺตฺวา เอกคฺคหเณเนว เอกเมกํ โกฏฺาสํ คณฺหนฺติ, คหิตาวเสสํ ปฏิคฺคหิตเมว โหติ. สเจ โลลสามเณโร คณฺหิตฺวา คณฺหิตฺวา ปุน เปติ, ตสฺส คหิตาวเสสํ อปฺปฏิคฺคหิตกเมว โหติ.

ภิกฺขุ ธูมวฏฺฏึ ปฏิคฺคเหตฺวา ธูมํ ปิวติ, มุขฺจ กณฺโ จ มโนสิลาย ลิตฺโต วิย โหติ, ยาวกาลิกํ ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, ยาวกาลิเกน ยาวชีวิกสํสคฺเค โทโส นตฺถิ. ปตฺตํ วา รชนํ วา ปจนฺตสฺส กณฺณนาสจฺฉิทฺเทหิ ธูโม ปวิสติ, พฺยาธิปจฺจยา ปุปฺผํ วา ผลํ วา อุปสิงฺฆติ, อพฺโพหาริกตฺตา วฏฺฏติ. ภตฺตุคฺคาโร ตาลุํ อาหจฺจ อนฺโตเยว ปวิสติ, อวิสยตฺตา วฏฺฏติ, มุขํ ปวิฏฺํ ปน อชฺโฌหรโต วิกาเล อาปตฺติ. ทนฺตนฺตเร ลคฺคสฺส อามิสสฺส รโส ปวิสติ, อาปตฺติเยว. สเจ สุขุมํ อามิสํ โหติ, รโส น ปฺายติ, อพฺโพหาริกปกฺขํ ภชติ. อุปกฏฺเ กาเล นิรุทกฏฺาเน ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา กกฺขาเรตฺวา ทฺเว ตโย เขฬปิณฺเฑ ปาเตตฺวา อุทกฏฺานํ คนฺตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตพฺพํ. ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตสิงฺคิเวราทีนํ องฺกุรา นิกฺขมนฺติ, ปุน ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. โลเณ อสติ สมุทฺโททเกน โลณกิจฺจํ กาตุํ วฏฺฏติ, ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตโลโณทกํ โลณํ โหติ, โลณํ วา อุทกํ โหติ, รโส วา ผาณิตํ โหติ, ผาณิตํ วา รโส โหติ, มูลปฏิคฺคหณเมว วฏฺฏติ.

หิมกรกา อุทกคติกา เอว. ปาริหาริเกน กตกฏฺินา อุทกํ ปสาเทนฺติ, ตํ อพฺโพหาริกํ, อามิเสน สทฺธึ วฏฺฏติ. อามิสคติเกหิ กปิตฺถผลาทีหิ ปสาทิตํ ปุเรภตฺตเมว วฏฺฏติ. โปกฺขรณีอาทีสุ อุทกํ พหลํ โหติ, วฏฺฏติ. สเจ ปน มุเข หตฺเถ จ ลคฺคติ, น วฏฺฏติ, ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. เขตฺเตสุ กสิตฏฺาเน พหลํ อุทกํ โหติ, ปฏิคฺคเหตพฺพํ. สเจ สนฺทิตฺวา กนฺทราทีนิ ปวิสิตฺวา นทึ ปูเรติ, วฏฺฏติ. กกุธโสพฺภาทโย โหนฺติ รุกฺขโต ปติเตหิ ปุปฺเผหิ สฺฉนฺโนทกา. สเจ ปุปฺผรโส น ปฺายติ, ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. ปริตฺตํ อุทกํ โหติ, รโส ปฺายติ, ปฏิคฺคเหตพฺพํ. ปพฺพตกนฺทราทีสุ กาฬวณฺณปณฺณจฺฉนฺนอุทเกปิ เอเสว นโย.

ปานียฆเฏ สเรณุกานิ วา สวณฺฏขีรานิ วา ปุปฺผานิ ปกฺขิตฺตานิ โหนฺติ, ปฏิคฺคเหตพฺพํ, ปุปฺผานิ วา ปฏิคฺคเหตฺวา ปกฺขิปิตพฺพานิ. ปาฏลิมลฺลิกา ปกฺขิตฺตา โหนฺติ, วาสมตฺตํ ติฏฺติ, ตํ อพฺโพหาริกํ. ทุภิยทิวเสปิ อามิเสน สทฺธึ วฏฺฏติ. ภิกฺขุนา ปิตปุปฺผวาสิตกปานียโต สามเณโร ปานียํ คเหตฺวา ปีตาวเสสกํ ตตฺเถว อากิรติ, ปฏิคฺคเหตพฺพํ. ปทุมสราทีสุ อุทกํ สนฺถริตฺวา ิตํ ปุปฺผเรณุํ ฆเฏน วิกฺขมฺเภตฺวา อุทกํ คเหตุํ วฏฺฏติ. กปฺปิยํ การาเปตฺวา ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตํ ทนฺตกฏฺํ โหติ, สเจ ตสฺส รสํ ปิวิตุกาโม, มูลปฏิคฺคหณเมว วฏฺฏติ, อปฺปฏิคฺคเหตฺวา ปิตํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ. อชานนฺตสฺส รเส ปวิฏฺเปิ อาปตฺติเยว. อจิตฺตกฺหิ อิทํ สิกฺขาปทํ.

๑๑๕. มหาภูเตสุ กึ วฏฺฏติ, กึ น วฏฺฏตีติ? ขีรํ ตาว วฏฺฏติ, กปฺปิยมํสขีรํ วา โหตุ อกปฺปิยมํสขีรํ วา, ปิวนฺตสฺส อนาปตฺติ. อสฺสุ เขโฬ สิงฺฆาณิกา มุตฺตํ กรีสํ เสมฺหํ ทนฺตมลํ อกฺขิคูถโก กณฺณคูถโก สรีเร อุฏฺิตโลณนฺติ อิทํ สพฺพํ วฏฺฏติ. ยํ ปเนตฺถ านโต จวิตฺวา ปตฺเต วา หตฺเถ วา ปตติ, ตํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, องฺคลคฺคํ ปฏิคฺคหิตกเมว. อุณฺหปายาสํ ภุฺชนฺตสฺส เสโท องฺคุลิอนุสาเรน เอกาพทฺโธว หุตฺวา ปายาเส สนฺติฏฺติ, ปิณฺฑาย วา จรนฺตสฺส หตฺถโต ปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิโต วา ปตฺตตลํ โอโรหติ, เอตฺถ ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ, ฌามมหาภูเต อิทํ นาม น วฏฺฏตีติ นตฺถิ, ทุชฺฌาปิตํ ปน น วฏฺฏติ. สุชฺฌาปิตํ ปน มนุสฺสฏฺิมฺปิ จุณฺณํ กตฺวา เลเห อุปเนตุํ วฏฺฏติ. จตฺตาริ มหาวิกฏานิ อสติ กปฺปิยการเก สามํ คเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏนฺติ. เอตฺถ จ ทุพฺพโจปิ อสมตฺโถปิ กปฺปิยการโก อสนฺตปกฺเขเยว ติฏฺติ. ฉาริกาย อสติ สุกฺขทารุํ ฌาเปตฺวา ฉาริกา คเหตพฺพา. สุกฺขทารุมฺหิ อสติ อลฺลทารุํ รุกฺขโต ฉินฺทิตฺวาปิ กาตุํ วฏฺฏติ. อิทํ ปน จตุพฺพิธมฺปิ มหาวิกฏํ กาโลทิสฺสํ นาม, สปฺปทฏฺกฺขเณเยว วฏฺฏติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ปฏิคฺคหณวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๒๑. ปวารณาวินิจฺฉยกถา

๑๑๖. ปฏิกฺเขปปวารณาติ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ ภุฺชมาเนน ยสฺส กสฺสจิ อภิหฏโภชนสฺส ปฏิกฺเขปสงฺขาตา ปวารณา. สา จ น เกวลํ ปฏิกฺเขปมตฺเตน โหติ, อถ โข ปฺจงฺควเสน. ตตฺริมานิ ปฺจงฺคานิ – อสนํ, โภชนํ, ทายกสฺส หตฺถปาเส านํ, อภิหาโร, อภิหฏสฺส ปฏิกฺเขโปติ. ตตฺถ อสนนฺติ วิปฺปกตโภชนํ, ภุฺชมาโน เจส ปุคฺคโล โหตีติ อตฺโถ. โภชนนฺติ ปวารณปฺปโหนกํ โภชนํ, โอทนาทีนฺจ อฺตรํ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ โภชนํ โหตีติ อตฺโถ. ทายกสฺส หตฺถปาเส านนฺติ ปวารณปฺปโหนกํ โภชนํ คณฺหิตฺวา ทายกสฺส อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาเณ โอกาเส อวฏฺานํ. อภิหาโรติ หตฺถปาเส ิตสฺส ทายกสฺส กาเยน อภิหาโร. อภิหฏสฺส ปฏิกฺเขโปติ เอวํ อภิหฏสฺส กาเยน วา วาจาย วา ปฏิกฺเขโป. อิติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ องฺคานํ วเสน ปวารณา โหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ปฺจหิ, อุปาลิ, อากาเรหิ ปวารณา ปฺายติ, อสนํ ปฺายติ, โภชนํ ปฺายติ, หตฺถปาเส ิโต, อภิหรติ, ปฏิกฺเขโป ปฺายตี’’ติ (ปริ. ๔๒๘).

๑๑๗. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๙) – ‘‘อสน’’นฺติอาทีสุ ตาว ยํ อสฺนาติ, ยฺจ โภชนํ หตฺถปาเส ิเตน อภิหฏํ ปฏิกฺขิปติ, ตํ โอทโน กุมฺมาโส สตฺตุ มจฺโฉ มํสนฺติ อิเมสํ อฺตรเมว เวทิตพฺพํ. ตตฺถ โอทโน นาม สาลิ วีหิ ยโว โคธุโม กงฺคุ วรโก กุทฺรูสโกติ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ตณฺฑุเลหิ นิพฺพตฺโต. ตตฺร สาลีติ อนฺตมโส นีวารํ อุปาทาย สพฺพาปิ สาลิชาติ. วีหีติ สพฺพาปิ วีหิชาติ. ยวโคธุเมสุ เภโท นตฺถิ. กงฺคูติ เสตรตฺตกาฬเภทา สพฺพาปิ กงฺคุชาติ. วรโกติ อนฺตมโส วรกโจรกํ อุปาทาย สพฺพาปิ เสตวณฺณา วรกชาติ. กุทฺรูสโกติ กาฬกุทฺรูสโก เจว สามากาทิเภทา จ สพฺพาปิ ติณธฺชาติ. นีวารวรกโจรกา เจตฺถ ธฺานุโลมาติ วทนฺติ, ธฺานิ โหนฺตุ ธฺานุโลมานิ วา, เอเตสํ วุตฺตปฺปเภทานํ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ตณฺฑุเล คเหตฺวา ‘‘ภตฺตํ ปจิสฺสามา’’ติ วา ‘‘ยาคุํ ปจิสฺสามา’’ติ วา ‘‘อมฺพิลปายาสาทีสุ อฺตรํ ปจิสฺสามา’’ติ วา ยํ กิฺจิ สนฺธาย ปจนฺตุ, สเจ อุณฺหํ สีตลํ วา ภุฺชนฺตานํ โภชนกาเล คหิตคหิตฏฺาเน โอธิ ปฺายติ, โอทนสงฺคหเมว คจฺฉติ, ปวารณํ ชเนติ. สเจ โอธิ น ปฺายติ, ยาคุสงฺคหํ คจฺฉติ, ปวารณํ น ชเนติ.

โยปิ ปายาโส วา ปณฺณผลกฬีรมิสฺสกา อมฺพิลยาคุ วา อุทฺธนโต โอตาริตมตฺตา อพฺภุณฺหา โหติ อาวชฺชิตฺวา ปิวิตุํ สกฺกา, หตฺเถน คหิโตกาเสปิ โอธึ น ทสฺเสติ, ปวารณํ น ชเนติ. สเจ ปน อุสุมาย วิคตาย สีตลภูตา ฆนภาวํ คจฺฉติ, โอธึ ทสฺเสติ, ปุน ปวารณํ ชเนติ, ปุพฺเพ ตนุภาโว น รกฺขติ. สเจปิ ทธิตกฺกาทีนิ อาโรเปตฺวา พหู ปณฺณผลกฬีเร ปกฺขิปิตฺวา มุฏฺิมตฺตาปิ ตณฺฑุลา ปกฺขิตฺตา โหนฺติ, โภชนกาเล เจ โอธิ ปฺายติ, ปวารณํ ชเนติ. อยาคุเก นิมนฺตเน ‘‘ยาคุํ ทสฺสามา’’ติ ภตฺเต อุทกกฺชิกขีราทีนิ อากิริตฺวา ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ เทนฺติ. กิฺจาปิ ตนุโก โหติ, ปวารณํ ชเนติเยว. สเจ ปน ปกฺกุถิเตสุ อุทกาทีสุ ปกฺขิปิตฺวา ปจิตฺวา เทนฺติ, ยาคุสงฺคหเมว คจฺฉติ. ยาคุสงฺคหํ คเตปิ ตสฺมึ วา อฺสฺมึ วา ยตฺถ มจฺฉมํสํ ปกฺขิปนฺติ, สเจ สาสปมตฺตมฺปิ มจฺฉมํสขณฺฑํ วา นฺหารุ วา ปฺายติ, ปวารณํ ชเนติ, สุทฺธรสโก ปน รสกยาคุ วา น ชเนติ. เปตฺวา วุตฺตธฺตณฺฑุเล อฺเหิ เวณุตณฺฑุลาทีหิ วา กณฺฑมูลผเลหิ วา เยหิ เกหิจิ กตํ ภตฺตมฺปิ ปวารณํ น ชเนติ, ปเคว ฆนยาคุ. สเจ ปเนตฺถ มจฺฉมํสํ ปกฺขิปนฺติ, ชเนติ. มหาปจฺจริยํ ‘‘ปุปฺผิอตฺถาย ภตฺตมฺปิ ปวารณํ ชเนตี’’ติ วุตฺตํ. ปุปฺผิอตฺถาย ภตฺตํ นาม ปุปฺผิขชฺชกตฺถาย กุถิตุทเก ปกฺขิปิตฺวา เสทิตตณฺฑุลา วุจฺจนฺติ. สเจ ปน เต ตณฺฑุเล สุกฺขาเปตฺวา ขาทนฺติ, วฏฺฏติ, เนว สตฺตุสงฺขฺยํ, น ภตฺตสงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ. ปุน เตหิ กตภตฺตํ ปวาเรติเยว. เต ตณฺฑุเล สปฺปิเตลาทีสุ วา ปจนฺติ, ปูวํ วา กโรนฺติ, น ปวาเรนฺติ. ปุถุกา วา ตาหิ กตสตฺตุภตฺตาทีนิ วา น ปวาเรนฺติ.

กุมฺมาโส นาม ยเวหิ กตกุมฺมาโส. อฺเหิ ปน มุคฺคาทีหิ กตกุมฺมาโส ปวารณํ น ชเนติ.

สตฺตุ นาม สาลิวีหิยเวหิ กตสตฺตุ. กงฺคุวรกกุทฺรูสกสีสานิปิ ภชฺชิตฺวา อีสกํ โกฏฺเฏตฺวา ถุเส ปลาเปตฺวา ปุน ทฬฺหํ โกฏฺเฏตฺวา จุณฺณํ กโรนฺติ. สเจปิ ตํ อลฺลตฺตา เอกพทฺธํ โหติ, สตฺตุสงฺคหเมว คจฺฉติ. ขรปากภชฺชิตานํ วีหีนํ ตณฺฑุเล โกฏฺเฏตฺวา เทนฺติ, ตมฺปิ จุณฺณํ สตฺตุสงฺคหเมว คจฺฉติ. สมปากภชฺชิตานํ ปน วีหีนํ วา วีหิปลาสานํ วา ตณฺฑุลา ภชฺชิตตณฺฑุลา เอว วา น ปวาเรนฺติ. เตสํ ปน ตณฺฑุลานํ จุณฺณํ ปวาเรติ, ขรปากภชฺชิตานํ วีหีนํ กุณฺฑกมฺปิ ปวาเรติ. สมปากภชฺชิตานํ ปน อาตปสุกฺขานํ วา กุณฺฑกํ น ปวาเรติ. ลาชา วา เตหิ กตภตฺตสตฺตุอาทีนิ วา น ปวาเรนฺติ, ภชฺชิตปิฏฺํ วา ยํ กิฺจิ สุทฺธขชฺชกํ วา น ปวาเรติ. มจฺฉมํสปูริตขชฺชกํ ปน สตฺตุโมทโก วา ปวาเรติ. มจฺโฉ มํสฺจ ปากฏเมว.

อยํ ปน วิเสโส – สเจ ยาคุํ ปิวนฺตสฺส ยาคุสิตฺถมตฺตาเนว ทฺเว มจฺฉขณฺฑานิ วา มํสขณฺฑานิ วา เอกภาชเน วา นานาภาชเน วา เทนฺติ, ตานิ เจ อขาทนฺโต อฺํ ยํ กิฺจิ ปวารณปฺปโหนกํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. ตโต เอกํ ขาทิตํ, เอกํ หตฺเถ วา ปตฺเต วา โหติ, โส เจ อฺํ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. ทฺเวปิ ขาทิตานิ โหนฺติ, มุเข สาสปมตฺตมฺปิ อวสิฏฺํ นตฺถิ, สเจปิ อฺํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กปฺปิยมํสํ ขาทนฺโต กปฺปิยมํสํ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. กปฺปิยมํสํ ขาทนฺโต อกปฺปิยมํสํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กสฺมา? อวตฺถุตาย. ยฺหิ ภิกฺขุโน ขาทิตุํ วฏฺฏติ, ตํเยว ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ. อิทํ ปน ชานนฺโต อกปฺปิยตฺตา ปฏิกฺขิปติ, อชานนฺโตปิ ปฏิกฺขิปิตพฺพฏฺาเน ิตเมว ปฏิกฺขิปติ นาม, ตสฺมา น ปวาเรติ. สเจ ปน อกปฺปิยมํสํ ขาทนฺโต กปฺปิยมํสํ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. กสฺมา? วตฺถุตาย. ยฺหิ เตน ปฏิกฺขิตฺตํ, ตํ ปวารณาย วตฺถุ, ยํ ปน ขาทติ, ตํ กิฺจาปิ ปฏิกฺขิปิตพฺพฏฺาเน ิตํ, ขาทิยมานํ ปน มํสภาวํ น ชหติ, ตสฺมา ปวาเรติ. อกปฺปิยมํสํ วา ขาทนฺโต อกปฺปิยมํสํ ปฏิกฺขิปติ, ปุริมนเยเนว น ปวาเรติ. กปฺปิยมํสํ วา อกปฺปิยมํสํ วา ขาทนฺโต ปฺจนฺนํ โภชนานํ ยํ กิฺจิ กปฺปิยโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. กุลทูสกเวชฺชกมฺมอุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนสาทิตรูปิยาทีหิ นิพฺพตฺตํ พุทฺธปฏิกุฏฺํ อเนสนาย อุปฺปนฺนํ อกปฺปิยโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กปฺปิยโภชนํ วา อกปฺปิยโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กปฺปิยโภชนํ วา อกปฺปิยโภชนํ วา ภุฺชนฺโตปิ กปฺปิยโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. อกปฺปิยโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรตีติ สพฺพตฺถ วุตฺตนเยเนว การณํ เวทิตพฺพํ.

๑๑๘. เอวํ ‘‘อสน’’นฺติอาทีสุ ยฺจ อสฺนาติ, ยฺจ โภชนํ หตฺถปาเส ิเตน อภิหฏํ ปฏิกฺขิปนฺโต ปวารณํ อาปชฺชติ, ตํ อุตฺวา อิทานิ ยถา อาปชฺชติ, ตสฺส ชานนตฺถํ อยํ วินิจฺฉโย – อสนํ โภชนนฺติ เอตฺถ ตาว เยน เอกสิตฺถมฺปิ อชฺโฌหฏํ โหติ โส สเจ ปตฺตมุขหตฺถานํ ยตฺถ กตฺถจิ ปฺจสุ โภชเนสุ เอกสฺมิมฺปิ สติ อฺํ ปฺจสุ โภชเนสุ เอกมฺปิ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. กตฺถจิ โภชนํ นตฺถิ, อามิสคนฺธมตฺตํ ปฺายติ, น ปวาเรติ. มุเข จ หตฺเถ จ โภชนํ นตฺถิ, ปตฺเต อตฺถิ, ตสฺมึ ปน อาสเน อภุฺชิตุกาโม, วิหารํ วา ปวิสิตฺวา ภุฺชิตุกาโม, อฺสฺส วา ทาตุกาโม ตสฺมึ เจ อนฺตเร โภชนํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กสฺมา? วิปฺปกตโภชนภาวสฺส อุปจฺฉินฺนตฺตา. ‘‘โยปิ อฺตฺร คนฺตฺวา ภุฺชิตุกาโม มุเข ภตฺตํ คิลิตฺวา เสสํ อาทาย คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค อฺํ โภชนํ ปฏิกฺขิปติ, ตสฺสปิ ปวารณา น โหตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ยถา จ ปตฺเต, เอวํ หตฺเถปิ. มุเขปิ วา วิชฺชมานํ โภชนํ สเจ อนชฺโฌหริตุกาโม โหติ, ตสฺมิฺจ ขเณ อฺํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. เอกสฺมิฺหิ ปเท วุตฺตํ ลกฺขณํ สพฺพตฺถ เวทิตพฺพํ โหติ. อปิจ กุรุนฺทิยํ เอส นโย ทสฺสิโตเยว. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘มุเข ภตฺตํ คิลิตํ, หตฺเถ ภตฺตํ วิฆาสาทสฺส ทาตุกาโม, ปตฺเต ภตฺตํ ภิกฺขุสฺส ทาตุกาโม, สเจ ตสฺมึ ขเณ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรตี’’ติ.

หตฺถปาเส ิโตติ เอตฺถ ปน สเจ ภิกฺขุ นิสินฺโน โหติ, อาสนสฺส ปจฺฉิมนฺตโต ปฏฺาย, สเจ ิโต, ปณฺหิอนฺตโต ปฏฺาย, สเจ นิปนฺโน, เยน ปสฺเสน นิปนฺโน, ตสฺส ปาริมนฺตโต ปฏฺาย, ทายกสฺส นิสินฺนสฺส วา ิตสฺส วา นิปนฺนสฺส วา เปตฺวา ปสาริตหตฺถํ ยํ อาสนฺนตรํ องฺคํ, ตสฺส โอริมนฺเตน ปริจฺฉินฺทิตฺวา อฑฺฒเตยฺยหตฺโถ ‘‘หตฺถปาโส’’ติ เวทิตพฺโพ. ตสฺมึ ตฺวา อภิหฏํ ปฏิกฺขิปนฺตสฺเสว ปวารณา โหติ, น ตโต ปรํ.

อภิหรตีติ หตฺถปาสพฺภนฺตเร ิโต คหณตฺถํ อุปนาเมติ. สเจ ปน อนนฺตรนิสินฺโนปิ ภิกฺขุ หตฺเถ วา อูรูสุ วา อาธารเก วา ิตํ ปตฺตํ อนภิหริตฺวา ‘‘ภตฺตํ คณฺหาหี’’ติ วทติ, ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถิ. ภตฺตปจฺฉึ อาเนตฺวา ปุรโต ภูมิยํ เปตฺวา ‘‘คณฺหาหี’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. อีสกํ ปน อุทฺธริตฺวา วา อปนาเมตฺวา วา ‘‘คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ. เถราสเน นิสินฺโน เถโร ทูเร นิสินฺนสฺส ทหรภิกฺขุสฺส ปตฺตํ เปเสตฺวา ‘‘อิโต โอทนํ คณฺหาหี’’ติ วทติ, คณฺหิตฺวา ปน คโต ตุณฺหี ติฏฺติ, ทหโร ‘‘อลํ มยฺห’’นฺติ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กสฺมา? เถรสฺส ทูรภาวโต ทูตสฺส จ อนภิหรณโต. สเจ ปน คเหตฺวา อาคโต ภิกฺขุ ‘‘อิทํ ภตฺตํ คณฺหา’’ติ วทติ, ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ. ปริเวสนายเอโก เอเกน หตฺเถน โอทนปจฺฉึ, เอเกน กฏจฺฉุํ คเหตฺวา ภิกฺขุํ ปริวิสติ, ตตฺร เจ อฺโ อาคนฺตฺวา ‘‘อหํ ปจฺฉึ ธาเรสฺสามิ, ตฺวํ โอทนํ เทหี’’ติ วตฺวา คหิตมตฺตเมว กโรติ, ปริเวสโก เอว ปน ตํ ธาเรติ, ตสฺมา สา อภิหฏาว โหติ, ตโต ทาตุกามตาย คณฺหนฺตํ ปฏิกฺขิปนฺตสฺส ปวารณา โหติ. สเจ ปน ปริเวสเกน ผุฏฺมตฺตาว โหติ, อิตโรว นํ ธาเรติ, ตโต ทาตุกามตาย คณฺหนฺตํ ปฏิกฺขิปนฺตสฺส ปวารณา น โหติ, กฏจฺฉุนา อุทฺธฏภตฺเต ปน โหติ. กฏจฺฉุนา อภิหาโรเยว หิ ตสฺส อภิหาโร. ‘‘ทฺวินฺนํ สมภาเรปิ ปฏิกฺขิปนฺโต ปวาเรติเยวา’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. อนนฺตรสฺส ภิกฺขุโน ภตฺเต ทียมาเน อิตโร ปตฺตํ หตฺเถน ปิทหติ, ปวารณา นตฺถิ. กสฺมา? อฺสฺส อภิหเฏ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา.

ปฏิกฺเขโป ปฺายตีติ เอตฺถ วาจาย อภิหฏํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถิ, กาเยน อภิหฏํ ปน เยน เกนจิ อากาเรน กาเยน วา วาจาย วา ปฏิกฺขิปนฺตสฺส ปวารณา โหตีติ เวทิตพฺโพ. ตตฺร กาเยน ปฏิกฺเขโป นาม องฺคุลึ วา หตฺถํ วา มกฺขิกาพีชนึ วา จีวรกณฺณํ วา จาเลติ, ภมุกาย วา อาการํ กโรติ, กุทฺโธ วา โอโลเกติ. วาจาย ปฏิกฺเขโป นาม ‘‘อล’’นฺติ วา ‘‘น คณฺหามี’’ติ วา ‘‘มา อากิรา’’ติ วา ‘‘อปคจฺฉา’’ติ วา วทติ. เอวํ เยน เกนจิ อากาเรน กาเยน วา วาจาย วา ปฏิกฺขิตฺเต ปวารณา โหติ.

๑๑๙. เอโก อภิหเฏ ภตฺเต ปวารณาย ภีโต หตฺเถ อปเนตฺวา ปุนปฺปุนํ ปตฺเต โอทนํ อากิรนฺตํ ‘‘อากิร อากิร, โกฏฺเฏตฺวา โกฏฺเฏตฺวา ปูเรหี’’ติ วทติ, เอตฺถ กถนฺติ? มหาสุมตฺเถโร ตาว ‘‘อนากิรณตฺถาย วุตฺตตฺตา ปวารณา โหตี’’ติ อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘อากิร ปูเรหีติ วทนฺตสฺส นาม กสฺสจิ ปวารณา อตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘น ปวาเรตี’’ติ อาห.

อปโร ภตฺตํ อภิหรนฺตํ ภิกฺขุํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘กึ, อาวุโส, อิโตปิ กิฺจิ คณฺหิสฺสสิ, ทมฺมิ เต กิฺจี’’ติ อาห, ตตฺราปิ ‘‘เอวํ นาคมิสฺสตีติ วุตฺตตฺตา ปวารณา โหตี’’ติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘คณฺหิสฺสสีติ วทนฺตสฺส นาม กสฺสจิ ปวารณา อตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘น ปวาเรตี’’ติ อาห.

เอโก สมํสกํ รสํ อภิหริตฺวา ‘‘รสํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ตํ สุตฺวา ปฏิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถิ. ‘‘มจฺฉมํสรส’’นฺติ วุตฺเต ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ, ‘‘อิทํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเตปิ โหติเยว. มํสํ วิสุํ กตฺวา ‘‘มํสรสํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ‘‘ตตฺถ เจ สาสปมตฺตมฺปิ มํสขณฺฑํ อตฺถิ, ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ. สเจ ปน ปริสฺสาวิโต โหติ, วฏฺฏตี’’ติ อภยตฺเถโร อาห.

มํสรเสน อาปุจฺฉนฺตํ มหาเถโร ‘‘มุหุตฺตํ อาคเมหี’’ติ วตฺวา ‘‘ถาลกํ, อาวุโส, อาหรา’’ติ อาห, เอตฺถ กถนฺติ? มหาสุมตฺเถโร ตาว ‘‘อภิหารกสฺส คมนํ อุปจฺฉินฺนํ, ตสฺมา ปวาเรตี’’ติ อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘อยํ กุหึ คจฺฉติ, กีทิสํ เอตสฺส คมนํ, คณฺหนฺตสฺสปิ นาม กสฺสจิ ปวารณา อตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘น ปวาเรตี’’ติ อาห.

กฬีรปนสาทีหิ มิสฺเสตฺวา มํสํ ปจนฺติ, ตํ คเหตฺวา ‘‘กฬีรสูปํ คณฺหถ, ปนสพฺยฺชนํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, เอวมฺปิ น ปวาเรติ. กสฺมา? อปวารณารหสฺส นาเมน วุตฺตตฺตา. สเจ ปน ‘‘มจฺฉสูปํ มํสสูป’’นฺติ วา ‘‘อิทํ คณฺหถา’’ติ วา วทนฺติ, ปวาเรติ, มํสกรมฺพโก นาม โหติ. ตํ ทาตุกาโมปิ ‘‘กรมฺพกํ คณฺหถา’’ติ วทติ, วฏฺฏติ, น ปวาเรติ, ‘‘มํสกรมฺพก’’นฺติ วา ‘‘อิท’’นฺติ วา วุตฺเต ปน ปวาเรติ. เอส นโย สพฺเพสุ มจฺฉมํสมิสฺสเกสุ.

๑๒๐. ‘‘โย ปน นิมนฺตเน ภุฺชมาโน มํสํ อภิหฏํ ‘อุทฺทิสฺสกต’นฺติ มฺมาโน ปฏิกฺขิปติ, ปวาริโตว โหตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. มิสฺสกกถา ปน กุรุนฺทิยํ สุฏฺุ วุตฺตา. เอวฺหิ ตตฺถ วุตฺตํ – ปิณฺฑจาริโก ภิกฺขุ ภตฺตมิสฺสกํ ยาคุํ อาหริตฺวา ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ วทติ, น ปวาเรติ, ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ปวาเรติ. กสฺมา? เยนาปุจฺฉิโต, ตสฺส อตฺถิตาย. อยเมตฺถ อธิปฺปาโย – ‘‘ยาคุมิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ตตฺร เจ ยาคุ พหุตรา วา โหติ สมสมา วา, น ปวาเรติ. ยาคุ มนฺทา, ภตฺตํ พหุตรํ, ปวาเรติ. อิทฺจ สพฺพอฏฺกถาสุ วุตฺตตฺตา น สกฺกา ปฏิกฺขิปิตุํ, การณํ ปเนตฺถ ทุทฺทสํ. ‘‘ภตฺตมิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ภตฺตํ พหุตรํ วา สมํ วา อปฺปตรํ วา โหติ, ปวาเรติเยว. ภตฺตํ วา ยาคุํ วา อนามสิตฺวา ‘‘มิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ตตฺร เจ ภตฺตํ พหุตรํ วา สมกํ วา โหติ, ปวาเรติ, อปฺปตรํ น ปวาเรติ, อิทฺจ กรมฺพเกน น สมาเนตพฺพํ. กรมฺพโก หิ มํสมิสฺสโกปิ โหติ อมํสมิสฺสโกปิ, ตสฺมา กรมฺพกนฺติ วุตฺเต ปวารณา นตฺถิ, อิทํ ปน ภตฺตมิสฺสกเมว. เอตฺถ วุตฺตนเยเนว ปวารณา โหติ. พหุรเส ภตฺเต รสํ, พหุขีเร ขีรํ, พหุสปฺปิมฺหิ จ ปายาเส สปฺปึ คณฺหถาติ วิสุํ กตฺวา เทติ, ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถิ.

โย ปน คจฺฉนฺโต ปวาเรติ, โส คจฺฉนฺโตว ภุฺชิตุํ ลภติ. กทฺทมํ วา อุทกํ วา ปตฺวา ิเตน อติริตฺตํ กาเรตพฺพํ. สเจ อนฺตรา นที ปูรา โหติ, นทีตีเร คุมฺพํ อนุปริยายนฺเตน ภุฺชิตพฺพํ. อถ นาวา วา เสตุ วา อตฺถิ, ตํ อภิรุหิตฺวาปิ จงฺกมนฺเตเนว ภุฺชิตพฺพํ, คมนํ น อุปจฺฉินฺทิตพฺพํ. ยาเน วา หตฺถิอสฺสปิฏฺเ วา จนฺทมณฺฑเล วา สูริยมณฺฑเล วา นิสีทิตฺวา ปวาริเตน ยาว มชฺฌนฺหิกํ, ตาว เตสุ คจฺฉนฺเตสุปิ นิสินฺเนเนว ภุฺชิตพฺพํ. โย ิโต ปวาเรติ, ิเตเนว, โย นิสินฺโน ปวาเรติ, นิสินฺเนเนว ปริภุฺชิตพฺพํ, ตํ ตํ อิริยาปถํ วิโกเปนฺเตน อติริตฺตํ กาเรตพฺพํ. โย อุกฺกุฏิโก นิสีทิตฺวา ปวาเรติ, เตน อุกฺกุฏิเกเนว ภุฺชิตพฺพํ. ตสฺส ปน เหฏฺา ปลาลปีํ วา กิฺจิ วา นิสีทนกํ ทาตพฺพํ. ปีเก นิสีทิตฺวา ปวาริเตน อาสนํ อจาเลตฺวาว จตสฺโส ทิสา ปริวตฺตนฺเตน ภุฺชิตุํ ลพฺภติ. มฺเจ นิสีทิตฺวา ปวาริเตน อิโต วา เอตฺโต วา สฺจริตุํ น ลพฺภติ. สเจ ปน นํ สห มฺเจน อุกฺขิปิตฺวา อฺตฺร เนนฺติ, วฏฺฏติ. นิปชฺชิตฺวา ปวาริเตน นิปนฺเนเนว ปริภุฺชิตพฺพํ. ปริวตฺตนฺเตน เยน ปสฺเสน นิปนฺโน, ตสฺส านํ นาติกฺกเมตพฺพํ.

๑๒๑. ปวาริเตน ปน กึกาตพฺพนฺติ? เยน อิริยาปเถน ปวาริโต โหติ, ตํ วิโกเปตฺวา อฺเน อิริยาปเถน เจ ภุฺชติ, อติริตฺตํ การาเปตฺวา ภุฺชิตพฺพํ. อนติริตฺตํ ปน ยํ กิฺจิ ยาวกาลิกสงฺคหิตํ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาทติ วา ภุฺชติ วา, อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ปาจิตฺติยํ.

ตตฺถ อนติริตฺตํ นาม นาติริตฺตํ, น อธิกนฺติ อตฺโถ. ตํ ปน ยสฺมา กปฺปิยกตาทีหิ สตฺตหิ วินยกมฺมากาเรหิ อกตํ วา คิลานสฺส อนธิกํ วา โหติ, ตสฺมา ปทภาชเน วุตฺตํ –

‘‘อนติริตฺตํ นาม อกปฺปิยกตํ โหติ, อปฺปฏิคฺคหิตกตํ โหติ, อนุจฺจาริตกตํ โหติ, อหตฺถปาเส กตํ โหติ, อภุตฺตาวินา กตํ โหติ, ภุตฺตาวินา จ ปวาริเตน อาสนา วุฏฺิเตน กตํ โหติ, ‘อลเมตํ สพฺพ’นฺติ อวุตฺตํ โหติ, น คิลานาติริตฺตํ โหติ, เอตํ อนติริตฺตํ นามา’’ติ (ปาจิ. ๒๓๙).

ตตฺถ อกปฺปิยกตนฺติ ยํ ตตฺถ ผลํ วา กนฺทมูลาทึ วา ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ กปฺปิยํ อกตํ, ยฺจ อกปฺปิยมํสํ วา อกปฺปิยโภชนํ วา, เอตํ อกปฺปิยํ นาม. ตํ อกปฺปิยํ ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ เอวํ อติริตฺตํ กตมฺปิ ‘‘อกปฺปิยกต’’นฺติ เวทิตพฺพํ. อปฺปฏิคฺคหิตกตนฺติ ภิกฺขุนา อปฺปฏิคฺคหิตํเยว ปุริมนเยน อติริตฺตํ กตํ. อนุจฺจาริตกตนฺติ กปฺปิยํ กาเรตุํ อาคเตน ภิกฺขุนา อีสกมฺปิ อนุกฺขิตฺตํ วา อนปนามิตํ วา กตํ. อหตฺถปาเส กตนฺติ กปฺปิยํ กาเรตุํ อาคตสฺส หตฺถปาสโต พหิ ิเตน กตํ. อภุตฺตาวินา กตนฺติ โย ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ อติริตฺตํ กโรติ, เตน ปวารณปฺปโหนกโภชนํ อภุตฺเตน กตํ. ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อาสนา วุฏฺิเตน กตนฺติ อิทํ อุตฺตานเมว. ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ อวุตฺตนฺติ วจีเภทํ กตฺวา เอวํ อวุตฺตํ โหติ. อิติ อิเมหิ สตฺตหิ วินยกมฺมากาเรหิ ยํ อติริตฺตํ กปฺปิยํ อกตํ, ยฺจ น คิลานาติริตฺตํ, ตทุภยมฺปิ ‘‘อนติริตฺต’’นฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๒๒. อติริตฺตํ ปน ตสฺเสว ปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺพํ. เตเนว วุตฺตํ ปทภาชเน –

‘‘อติริตฺตํ นาม กปฺปิยกตํ โหติ, ปฏิคฺคหิตกตํ โหติ, อุจฺจาริตกตํ โหติ, หตฺถปาเส กตํ โหติ, ภุตฺตาวินา กตํ โหติ, ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อาสนา อวุฏฺิเตน กตํ โหติ, ‘อลเมตํ สพฺพ’นฺติ วุตฺตํ โหติ, คิลานาติริตฺตํ โหติ, เอตํ อติริตฺตํ นามา’’ติ (ปาจิ. ๒๓๙).

อปิเจตฺถ ภุตฺตาวินา กตํ โหตีติ อนนฺตรนิสินฺนสฺส สภาคสฺส ภิกฺขุโน ปตฺตโต เอกมฺปิ สิตฺถํ วา มํสหีรํ วา ขาทิตฺวา กตมฺปิ ‘‘ภุตฺตาวินาว กตํ โหตี’’ติ เวทิตพฺพํ. อาสนา อวุฏฺิเตนาติ เอตฺถ ปน อสมฺโมหตฺถํ อยํ วินิจฺฉโย – ทฺเว ภิกฺขู ปาโตเยว ภุฺชมานา ปวาริตา โหนฺติ, เอเกน ตตฺเถว นิสีทิตพฺพํ, อิตเรน นิจฺจภตฺตํ วา สลากภตฺตํ วา อาเนตฺวา อุปฑฺฒํ ตสฺส ภิกฺขุโน ปตฺเต อากิริตฺวา หตฺถํ โธวิตฺวา เสสํ เตน ภิกฺขุนา กปฺปิยํ การาเปตฺวา ภุฺชิตพฺพํ. กสฺมา? ยฺหิ ตสฺส หตฺเถ ลคฺคํ, ตํ อกปฺปิยํ โหติ. สเจ ปน ปมํ นิสินฺโน ภิกฺขุ สยเมว ตสฺส ปตฺตโต หตฺเถน คณฺหาติ, หตฺถโธวนกิจฺจํ นตฺถิ. สเจ ปน เอวํ ‘กปฺปิยํ กาเรตฺวา ภุฺชนฺตสฺส ปุน กิฺจิ พฺยฺชนํ วา ขาทนียํ วา ปตฺเต อากิร’นฺติ เยน ปมํ กปฺปิยํ กตํ โหติ, โส ปุน กาตุํ น ลภติ. เยน อกตํ, เตน กาตพฺพํ, ยฺจ อกตํ, ตํ กาตพฺพํ. เยน อกตนฺติ อฺเน ภิกฺขุนา เยน ปมํ น กตํ, เตน กาตพฺพํ. ยฺจ อกตนฺติ เยน ปมํ กปฺปิยํ กตํ, เตนปิ ยํ อกตํ, ตํ กาตพฺพํ. ปมภาชเน ปน กาตุํ น ลพฺภติ. ตตฺถ หิ กริยมาเน ปมํ กเตน สทฺธึ กตํ โหติ, ตสฺมา อฺสฺมึ ภาชเน กาตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. เอวํ กตํ ปน เตน ภิกฺขุนา ปมํ กเตน สทฺธึ ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ.

กปฺปิยํ กโรนฺเตน จ น เกวลํ ปตฺเตเยว, กุณฺเฑปิ ปจฺฉิยมฺปิ ยตฺถ กตฺถจิ ปุรโต เปตฺวา โอนามิตภาชเน กาตพฺพํ. ตํ สเจ ภิกฺขุสตํ ปวาริตํ โหติ, สพฺเพสํ ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, อปฺปวาริตานมฺปิ วฏฺฏติ. เยน ปน กปฺปิยํ กตํ, ตสฺส น วฏฺฏติ. สเจปิ ปวาเรตฺวา ปิณฺฑาย ปวิฏฺํ ภิกฺขุํ ปตฺตํ คเหตฺวา อวสฺสํ ภุฺชนเก มงฺคลนิมนฺตเน นิสีทาเปนฺติ, อติริตฺตํ การาเปตฺวาว ภุฺชิตพฺพํ. สเจ ตตฺถ อฺโ ภิกฺขุ นตฺถิ, อาสนสาลํ วา วิหารํ วา ปตฺตํ เปเสตฺวา กาเรตพฺพํ, กปฺปิยํ กโรนฺเตน ปน อนุปสมฺปนฺนสฺส หตฺเถ ิตํ น กาตพฺพํ. สเจ อาสนสาลายํ อพฺยตฺโต ภิกฺขุ โหติ, สยํ คนฺตฺวา กปฺปิยํ การาเปตฺวา อาเนตฺวา ภุฺชิตพฺพํ.

คิลานาติริตฺตนฺติ เอตฺถ น เกวลํ ยํ คิลานสฺส ภุตฺตาวเสสํ โหติ, ตํ คิลานาติริตฺตํ, อถ โข ยํ กิฺจิ คิลานํ อุทฺทิสฺส ‘‘อชฺช วา ยทา วา อิจฺฉติ, ตทา ขาทิสฺสตี’’ติ อาหฏํ, ตํ สพฺพํ คิลานาติริตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยามกาลิกํ ปน สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ วา ยํ กิฺจิ อนติริตฺตํ อาหารตฺถาย ปริภุฺชนฺตสฺส อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ทุกฺกฏํ. สเจ ปน ยามกาลิกาทีนิ อามิสสํสฏฺานิ โหนฺติ, อาหารตฺถายปิ อนาหารตฺถายปิ ปฏิคฺคเหตฺวา อชฺโฌหรนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว, อสํสฏฺานิ ปน สติ ปจฺจเย ภุฺชนฺตสฺส อนาปตฺติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ปวารณาวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๒๒. ปพฺพชฺชาวินิจฺฉยกถา

๑๒๓. ปพฺพชฺชาติ เอตฺถ ปน ปพฺพชฺชาเปกฺขํ กุลปุตฺตํ ปพฺพาเชนฺเตน เย ปาฬิยํ ‘‘น ภิกฺขเว ปฺจหิ อาพาเธหิ ผุฏฺโ ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติอาทินา (มหาว. ๘๙) ปฏิกฺขิตฺตา ปุคฺคลา, เต วชฺเชตฺวา ปพฺพชฺชาโทสวิรหิโต ปุคฺคโล ปพฺพาเชตพฺโพ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (มหาว. อฏฺ. ๘๘) – กุฏฺํ คณฺโฑ กิลาโส โสโส อปมาโรติ อิเมหิ ปฺจหิ อาพาเธหิ ผุฏฺโ น ปพฺพาเชตพฺโพ, ปพฺพาเชนฺโต ปน ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ ‘‘โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา. ตตฺถ กุฏฺนฺติ รตฺตกุฏฺํ วา โหตุ กาฬกุฏฺํ วา, ยํ กิฺจิ กิฏิภททฺทอุกจฺฉุอาทิปฺปเภทมฺปิ สพฺพํ กุฏฺเมวาติ วุตฺตํ. ตฺเจ นขปิฏฺิปฺปมาณมฺปิ วฑฺฒนกปกฺเข ิตํ โหติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน นิวาสนปาวุรเณหิ ปกติปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน นขปิฏฺิปฺปมาณํ อวฑฺฒนกปกฺเข ิตํ โหติ, วฏฺฏติ. ‘‘มุเข ปน หตฺถปาทปิฏฺีสุ วา สเจปิ อวฑฺฒนกปกฺเข ิตํ, นขปิฏฺิโต จ ขุทฺทกตรมฺปิ น วฏฺฏติเยวา’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ติกิจฺฉาเปตฺวา ปพฺพาเชนฺเตนปิ ปกติวณฺเณ ชาเตเยว ปพฺพาเชตพฺโพ, โคธาปิฏฺิสทิสจุณฺณโอกิรณสรีรมฺปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ.

คณฺโฑติ เมทคณฺโฑ วา โหตุ อฺโ วา, โย โกจิ โกลฏฺิมตฺตโกปิ เจ วฑฺฒนกปกฺเข ิโต คณฺโฑ โหติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน ปน โกลฏฺิมตฺเต อวฑฺฒนกปกฺเข ิเต วฏฺฏติ, มุขาทิเก อปฺปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน อวฑฺฒนกปกฺเข ิเตปิ น วฏฺฏติ. ติกิจฺฉาเปตฺวา ปพฺพาเชนฺเตนปิ สรีรํ สจฺฉวึ การาเปตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. อุณฺณิคณฺฑา นาม โหนฺติ โคถนกา วิย องฺคุลิกา วิย จ ตตฺถ ตตฺถ ลมฺพนฺติ, เอเตปิ คณฺฑาเยว, เตสุ สติ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. ทหรกาเล ขีรปีฬกา โยพฺพนฺนกาเล จ มุเข ขรปีฬกา นาม โหนฺติ, มหลฺลกกาเล นสฺสนฺติ, น ตา คณฺฑสงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ, ตาสุ สติ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อฺา ปน สรีเร ขรปีฬกา นาม, อปรา ปทุมกณฺณิกา นาม โหนฺติ, อฺา สาสปพีชกา นาม สาสปมตฺตาเยว สกลสรีรํ ผรนฺติ, สพฺพา กุฏฺชาติกาว, ตาสุ สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

กิลาโสติ น ภิชฺชนกํ น ปคฺฆรณกํ ปทุมปุณฺฑรีกปตฺตวณฺณํ กุฏฺํ. เยน คุนฺนํ วิย สพลํ สรีรํ โหติ, ตสฺมึ กุฏฺเ วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. โสโสติ โสสพฺยาธิ. ตสฺมึ สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ. อปมาโรติ ปิตฺตุมฺมาโท วา ยกฺขุมฺมาโท วา. ตตฺถ ปุพฺพเวริเกน อมนุสฺเสน คหิโต ทุตฺติกิจฺโฉ โหติ, อปฺปมตฺตเกปิ ปน อปมาเร สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

๑๒๔. ‘‘น, ภิกฺขเว, ราชภโฏ ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๐) วจนโต ราชภโฏปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ. เอตฺถ จ อมจฺโจ วา โหตุ มหามตฺโต วา เสวโก วา กิฺจิ านนฺตรํ ปตฺโต วา อปฺปตฺโต วา, โย โกจิ รฺโ ภตฺตเวตนภโฏ, สพฺโพ ราชภโฏติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. ตสฺส ปน ปุตฺตนตฺตภาตุกา เย ราชโต ภตฺตเวตนํ น คณฺหนฺติ, เต ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. โย ปน ราชโต ลทฺธํ นิพทฺธโภคํ วา มาสสํวจฺฉรปริพฺพยํ วา รฺโเยว นิยฺยาเทติ, ปุตฺตภาตุเก วา ตํ านํ สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา ราชานํ ‘‘น ทานาหํ เทวสฺส ภโฏ’’ติ อาปุจฺฉติ, เยน วา ยํการณา เวตนํ คหิตํ, ตํ กมฺมํ กตํ โหติ, โย วา ‘‘ปพฺพชสฺสู’’ติ รฺา อนุฺาโต โหติ, ตมฺปิ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

๑๒๕. โจโรปิ ธชพนฺโธ น ปพฺพาเชตพฺโพ ‘‘น, ภิกฺขเว, ธชพนฺโธ โจโร ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๑) วุตฺตตฺตา. ตตฺถ ธชํ พนฺธิตฺวา วิย วิจรตีติ ธชพนฺโธ, มูลเทวาทโย วิย โลเก ปากโฏติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมา โย คามฆาตํ วา ปนฺถทุหนํ วา นคเร สนฺธิจฺเฉทาทิกมฺมํ วา กโรนฺโต วิจรติ, ปฺายติ จ ‘‘อสุโก นาม อิทํ อิทํ กโรตี’’ติ, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปน ราชปุตฺโต รชฺชํ ปตฺเถนฺโต คามฆาตาทีนิ กโรติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพ. ราชาโน หิ ตสฺมึ ปพฺพชิเต ตุสฺสนฺติ, สเจ ปน น ตุสฺสนฺติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. ปุพฺเพ มหาชเน ปากโฏ โจโร ปจฺฉา โจรกมฺมํ ปหาย ปฺจ สีลานิ สมาทิยติ, ตฺเจ มนุสฺสา เอวํ ชานนฺติ, ปพฺพาเชตพฺโพ. เย ปน อมฺพลพุชาทิโจรกา สนฺธิจฺเฉทาทิโจรา เอว วา อทิสฺสมานา เถยฺยํ กโรนฺติ, ปจฺฉาปิ ‘‘อิมินา นาม อิทํ กต’’นฺติ น ปฺายนฺติ, เตปิ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

๑๒๖. การเภทโก ปน โจโร น ปพฺพาเชตพฺโพ ‘‘น, ภิกฺขเว, การเภทโก โจโร ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๒) วุตฺตตฺตา. ตตฺถ กาโร วุจฺจติ พนฺธนาคารํ. อิธ ปน อนฺทุพนฺธนํ วา โหตุ สงฺขลิกพนฺธนํ วา รชฺชุพนฺธนํ วา คามพนฺธนํ วา นิคมพนฺธนํ วา นครพนฺธนํ วา ปุริสคุตฺติ วา ชนปทพนฺธนํ วา ทีปพนฺธนํ วา, โย เอเตสุ ยํ กิฺจิ พนฺธนํ ภินฺทิตฺวา วา ฉินฺทิตฺวา วา มุฺจิตฺวา วา วิวริตฺวา วา อปสฺสมานานํ วา ปลายติ, โส การเภทโกติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ตสฺมา อีทิโส การเภทโก โจโร ทีปพนฺธนํ ภินฺทิตฺวา ทีปนฺตรํ คโตปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปน น โจโร, เกวลํ หตฺถกมฺมํ อกโรนฺโต ‘‘เอวํ โน อปลายนฺโต กริสฺสตี’’ติ ราชยุตฺตาทีหิ พทฺโธ, โส การํ ภินฺทิตฺวา ปลาโตปิ ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปน คามนิคมปฏฺฏนาทีนิ เกณิยา คเหตฺวา ตํ อสมฺปาเทนฺโต พนฺธนาคารํ ปเวสิโต โหติ, โสปิ ปลายิตฺวา อาคโต น ปพฺพาเชตพฺโพ. โยปิ กสิกมฺมาทีหิ ธนํ สมฺปาเทตฺวา ชีวนฺโต ‘‘นิธานํ อิมินา ลทฺธ’’นฺติ เปสุฺํ อุปสํหริตฺวา เกนจิ พนฺธาปิโต โหติ, ตํ ตตฺเถว ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ, ปลายิตฺวา คตํ ปน คตฏฺาเน ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

๑๒๗. ‘‘น, ภิกฺขเว, ลิขิตโก โจโร ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๓) วจนโต ปน ลิขิตโก โจโร น ปพฺพาเชตพฺโพ. ตตฺถ ลิขิตโก นาม โย โกจิ โจริกํ วา อฺํ วา ครุํ ราชาปราธํ กตฺวา ปลาโต, ราชา จ นํ ปณฺเณ วา โปตฺถเก วา ‘‘อิตฺถนฺนาโม ยตฺถ ทิสฺสติ, ตตฺถ คเหตฺวา มาเรตพฺโพ’’ติ วา ‘‘หตฺถปาทาทีนิ อสฺส ฉินฺทิตพฺพานี’’ติ วา ‘‘เอตฺตกํ นาม ทณฺฑํ อาหราเปตพฺโพ’’ติ วา ลิขาเปติ, อยํ ลิขิตโก นาม, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ.

๑๒๘. กสาหโต กตทณฺฑกมฺโมปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ ‘‘น, ภิกฺขเว, กสาหโต กตทณฺฑกมฺโม ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๔) วจนโต. เอตฺถ ปน โย วจนเปสนาทีนิ อกโรนฺโต หฺติ, น โส กตทณฺฑกมฺโม. โย ปน เกณิยา วา อฺถา วา กิฺจิ คเหตฺวา ขาทิตฺวา ปุน ทาตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘อยเมว เต ทณฺโฑ โหตู’’ติ กสาหิ หฺติ, อยเมว กสาหโต กตทณฺฑกมฺโม. โส จ กสาหิ วา หโต โหตุ อฑฺฒทณฺฑกาทีนํ วา อฺตเรน, ยาว อลฺลวโณ โหติ, น ตาว ปพฺพาเชตพฺโพ, วเณ ปน ปากติเก กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน ชาณูหิ วา กปฺปเรหิ วา นาฬิเกรปาสาณาทีหิ วา ฆาเตตฺวา มุตฺโต โหติ, สรีเร จสฺส คณฺิโย ปฺายนฺติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ, ผาสุกํ กตฺวา เอว คณฺีสุ สนฺนิสินฺนาสุ ปพฺพาเชตพฺโพ.

๑๒๙. ลกฺขณาหโต ปน กตทณฺฑกมฺโม น ปพฺพาเชตพฺโพ ‘‘น, ภิกฺขเว, ลกฺขณหโต กตทณฺฑกมฺโม ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๕) วจนโต. เอตฺถปิ กตทณฺฑกมฺมภาโว ปุริมนเยเนว เวทิตพฺโพ. ยสฺส ปน นลาเฏ วา อูรุอาทีสุ วา ตตฺเตน โลเหน ลกฺขณํ อาหตํ โหติ, โส สเจ ภุชิสฺโส, ยาว อลฺลวโณ โหติ, ตาว น ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจปิสฺส วณา รุฬฺหา โหนฺติ ฉวิยา สมปริจฺเฉทา, ลกฺขณํ น ปฺายติ, ติมณฺฑลํ นิวตฺถสฺส อุตฺตราสงฺเค กเต ปฏิจฺฉนฺโนกาเส เจ โหติ, ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ, อปฺปฏิจฺฉนฺโนกาเส เจ, น วฏฺฏติ.

๑๓๐. ‘‘น, ภิกฺขเว, อิณายิโก ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๖) วจนโต อิณายิโกปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ. ตตฺถ อิณายิโก นาม ยสฺส ปิติปิตามเหหิ วา อิณํ คหิตํ โหติ, สยํ วา อิณํ คหิตํ โหติ, ยํ วา อาเปตฺวา มาตาปิตูหิ กิฺจิ คหิตํ โหติ, โส ตํ อิณํ ปเรสํ ธาเรตีติ อิณายิโก. ยํ ปน อฺเ าตกา อาเปตฺวา กิฺจิ คณฺหนฺติ, โส น อิณายิโก. น หิ เต ตํ อาเปตุํ อิสฺสรา, ตสฺมา ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ, อิตรํ น วฏฺฏติ. สเจ ปนสฺส าติสาโลหิตา ‘‘มยํ ทสฺสาม, ปพฺพาเชถ น’’นฺติ อิณํ อตฺตโน ภารํ กโรนฺติ, อฺโ วา โกจิ ตสฺส อาจารสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘ปพฺพาเชถ นํ, อหํ อิณํ ทสฺสามี’’ติ วทติ, ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. เตสุ อสติ ภิกฺขุนา ตถารูปสฺส อุปฏฺากสฺสปิ อาโรเจตพฺพํ ‘‘สเหตุโก สตฺโต อิณปลิโพเธน น ปพฺพชตี’’ติ. สเจ โส ปฏิปชฺชติ, ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจปิ อตฺตโน กปฺปิยภณฺฑํ อตฺถิ, ‘‘เอตํ ทสฺสามี’’ติ ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน เนว าตกาทโย ปฏิปชฺชนฺติ, น อตฺตโน ธนํ อตฺถิ, ‘‘ปพฺพาเชตฺวา ภิกฺขาย จริตฺวา โมเจสฺสามี’’ติ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปพฺพาเชติ, ทุกฺกฏํ. ปลาโตปิ อาเนตฺวา ทาตพฺโพ. โน เจ เทติ, สพฺพํ อิณํ คีวา โหติ. อชานิตฺวา ปพฺพาชยโต อนาปตฺติ, ปสฺสนฺเตน ปน อาเนตฺวา อิณสามิกานํ ทสฺเสตพฺโพ, อปสฺสนฺตสฺส คีวา น โหติ.

สเจ อิณายิโก อฺํ เทสํ คนฺตฺวา ปุจฺฉิยมาโนปิ ‘‘นาหํ กสฺสจิ กิฺจิ ธาเรมี’’ติ วตฺวา ปพฺพชติ, อิณสามิโก จ ตํ ปริเยสนฺโต ตตฺถ คจฺฉติ, ทหโร ตํ ทิสฺวา ปลายติ, โส เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อยํ, ภนฺเต, เกน ปพฺพาชิโต, มม เอตฺตกํ นาม ธนํ คเหตฺวา ปลาโต’’ติ วทติ, เถเรน วตฺตพฺพํ ‘‘มยา, อุปาสก, ‘อณโณ อห’นฺติ วทนฺโต ปพฺพาชิโต, กึ ทานิ กโรมิ, ปสฺส เม ปตฺตจีวร’’นฺติ. อยํ ตตฺถ สามีจิ. ปลาเต ปน คีวา น โหติ. สเจ ปน นํ เถรสฺส สมฺมุขาว ทิสฺวา ‘‘อยํ มม อิณายิโก’’ติ วทติ, ‘‘ตว อิณายิกํ ตฺวเมว ชานาหี’’ติ วตฺตพฺโพ, เอวมฺปิ คีวา น โหติ. สเจปิ โส ‘‘ปพฺพชิโต อยํ ทานิ กุหึ คมิสฺสตี’’ติ วทติ, เถเรน ‘‘ตฺวํเยว ชานาหี’’ติ วตฺตพฺโพ. เอวมฺปิสฺส ปลาเต คีวา น โหติ. สเจ ปน เถโร ‘‘กุหึ ทานิ อยํ คมิสฺสติ, อิเธว อจฺฉตู’’ติ วทติ, โส เจ ปลายติ, คีวา โหติ. สเจ โส สเหตุโก สตฺโต โหติ วตฺตสมฺปนฺโน, เถเรน ‘‘อีทิโส อย’’นฺติ วตฺตพฺพํ. อิณสามิโก เจ ‘‘สาธู’’ติ วิสฺสชฺเชติ, อิจฺเจตํ กุสลํ, ‘‘อุปฑฺฒุปฑฺฒํ เทถา’’ติ วทติ, ทาตพฺพํ. อปเรน สมเยน อติอาราธโก โหติ, ‘‘สพฺพํ เทถา’’ติ วุตฺเตปิ ทาตพฺพเมว. สเจ ปน อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีสุ กุสโล โหติ พหูปกาโร ภิกฺขูนํ, ภิกฺขาจารวตฺเตน ปริเยสิตฺวาปิ อิณํ ทาตพฺพเมว.

๑๓๑. ทาโสปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ ‘‘น, ภิกฺขเว, ทาโส ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๗) วจนโต. ตตฺถ จตฺตาโร ทาสา อนฺโตชาโต ธนกฺกีโต กรมรานีโต สามํ ทาสพฺยํ อุปคโตติ. ตตฺถ อนฺโตชาโต นาม ชาติยา ทาโส ฆรทาสิยา ปุตฺโต. ธนกฺกีโต นาม มาตาปิตูนํ สนฺติกา ปุตฺโต วา สามิกานํ สนฺติกา ทาโส วา ธนํ ทตฺวา ทาสจาริตฺตํ อาโรเปตฺวา กีโต. เอเต ทฺเวปิ น ปพฺพาเชตพฺพา. ปพฺพาเชนฺเตน ตตฺถ ตตฺถ จาริตฺตวเสน อทาเส กตฺวา ปพฺพาเชตพฺพา. กรมรานีโต นาม ติโรรฏฺํ วิโลปํ วา กตฺวา อุปลาเปตฺวา วา ติโรรฏฺโต ภุชิสฺสมานุสกานิ อาหรนฺติ, อนฺโตรฏฺเเยว วา กตาปราธํ กิฺจิ คามํ ราชา ‘‘วิลุมฺปถา’’ติ จ อาณาเปติ, ตโต มานุสกานิปิ อาหรนฺติ, ตตฺถ สพฺเพ ปุริสา ทาสา, อิตฺถิโย ทาสิโย. เอวรูโป กรมรานีโต ทาโส เยหิ อานีโต, เตสํ สนฺติเก วสนฺโต วา พนฺธนาคาเร พทฺโธ วา ปุริเสหิ รกฺขิยมาโน วา น ปพฺพาเชตพฺโพ, ปลายิตฺวา ปน คโต คตฏฺาเน ปพฺพาเชตพฺโพ. รฺา ตุฏฺเน ‘‘กรมรานีตเก มุฺจถา’’ติ วตฺวา วา สพฺพสาธารเณน วา นเยน พนฺธนโมกฺเข กเต ปพฺพาเชตพฺโพว.

สามํ ทาสพฺยํ อุปคโต นาม ชีวิตเหตุ วา อารกฺขเหตุ วา ‘‘อหํ เต ทาโส’’ติ สยเมว ทาสภาวํ อุปคโต ราชูนํ หตฺถิอสฺสโคมหึสโคปกาทโย วิย. ตาทิโส ทาโส น ปพฺพาเชตพฺโพ. รฺโ วณฺณทาสีนํ ปุตฺตา โหนฺติ อมจฺจปุตฺตสทิสา, เตปิ น ปพฺพาเชตพฺพา. ภุชิสฺสิตฺถิโย อสฺตา วณฺณทาสีหิ สทฺธึ วิจรนฺติ, ตาสํ ปุตฺเต ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. สเจ สยเมว ปณฺณํ อาโรเปนฺติ, น วฏฺฏติ. ภฏิปุตฺตคณาทีนํ ทาสาปิ เตหิ อทินฺนา น ปพฺพาเชตพฺพา. วิหาเรสุ ราชูหิ อารามิกทาสา นาม ทินฺนา โหนฺติ, เตปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ, ภุชิสฺเส กตฺวา ปน ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ‘‘อนฺโตชาตธนกฺกีตเก อาเนตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส ‘อารามิเก เทมา’ติ เทนฺติ, ตกฺกํ สีเส อาสิตฺตกสทิสาว โหนฺติ, เต ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘อารามิกํ เทมาติ กปฺปิยโวหาเรน เทนฺติ, เยน เกนจิ โวหาเรน ทินฺโน โหตุ, เนว ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ทุคฺคตมนุสฺสา ‘‘สงฺฆํ นิสฺสาย ชีวิสฺสามา’’ติ วิหาเร กปฺปิยการกา โหนฺติ, เอเต ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. ยสฺส มาตาปิตโร ทาสา, มาตา เอว วา ทาสี, ปิตา อทาโส, ตํ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. ยสฺส ปน มาตา อทาสี, ปิตา ทาโส, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุสฺส าตกา วา อุปฏฺากา วา ทาสํ เทนฺติ ‘‘อิมํ ปพฺพาเชถ, ตุมฺหากํ เวยฺยาวจฺจํ กริสฺสตี’’ติ, อตฺตโน วาสฺส ทาโส อตฺถิ, ภุชิสฺโส กโตว ปพฺพาเชตพฺโพ. สามิกา ทาสํ เทนฺติ ‘‘อิมํ ปพฺพาเชถ, สเจ อภิรมิสฺสติ, อทาโส. วิพฺภมิสฺสติ เจ, อมฺหากํ ทาโสว ภวิสฺสตี’’ติ, อยํ ตาวกาลิโก นาม, ตํ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. นิสฺสามิกทาโส โหติ, โสปิ ภุชิสฺโส กโตว ปพฺพาเชตพฺโพ. อชานนฺโต ปพฺพาเชตฺวา อุปสมฺปาเทตฺวา วา ปจฺฉา ชานนฺติ, ภุชิสฺสํ กาตุเมว วฏฺฏติ.

อิมสฺส จ อตฺถสฺส ปกาสนตฺถํ อิทํ วตฺถุํ วทนฺติ – เอกา กิร กุลทาสี เอเกน สทฺธึ อนุราธปุรา ปลายิตฺวา โรหเณ วสมานา ปุตฺตํ ปฏิลภิ, โส ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปนฺนกาเล ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก อโหสิ. อเถกทิวสํ มาตรํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ อุปาสิเก ตุมฺหากํ ภาตา วา ภคินี วา นตฺถิ, น กิฺจิ าตกํ ปสฺสามี’’ติ. ตาต, อหํ อนุราธปุเร กุลทาสี, ตว ปิตรา สทฺธึ ปลายิตฺวา อิธ วสามีติ. สีลวา ภิกฺขุ ‘‘อสุทฺธา กิร เม ปพฺพชฺชา’’ติ สํเวคํ ลภิตฺวา มาตรํ ตสฺส กุลสฺส นามโคตฺตํ ปุจฺฉิตฺวา อนุราธปุรํ อาคมฺม ตสฺส กุลสฺส ฆรทฺวาเร อฏฺาสิ, ‘‘อติจฺฉถ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเตปิ นาติกฺกมิ. เต อาคนฺตฺวา ‘‘กึ, ภนฺเต’’ติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘ตุมฺหากํ อิตฺถนฺนามา ทาสี ปลาตา อตฺถี’’ติ? ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต’’. อหํ ตสฺสา ปุตฺโต, สเจ มํ ตุมฺเห อนุชานาถ, ปพฺพชฺชํ ลภามิ, ตุมฺเห มยฺหํ สามิกาติ. เต หฏฺตุฏฺา หุตฺวา ‘‘สุทฺธา, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชา’’ติ ตํ ภุชิสฺสํ กตฺวา มหาวิหาเร วสาเปสุํ จตูหิ ปจฺจเยหิ ปฏิชคฺคนฺตา. เถโร ตํ กุลํ นิสฺสาย วสมาโนเยว อรหตฺตํ ปาปุณีติ.

๑๓๒. ‘‘น, ภิกฺขเว, หตฺถจฺฉินฺโน ปพฺพาเชตพฺโพ. น ปาทจฺฉินฺโน, น หตฺถปาทจฺฉินฺโน, น กณฺณจฺฉินฺโน, น กณฺณนาสจฺฉินฺโน, น องฺคุลิจฺฉินฺโน, น อฬจฺฉินฺโน, น กณฺฑรจฺฉินฺโน, น ผณหตฺถโก, น ขุชฺโช, น วามโน น คลคณฺฑี, น ลกฺขณาหโต, น กสาหโต, น ลิขิตโก, น สีปที, น ปาปโรคี, น ปริสทูสโก, น กาโณ, น กุณี, น ขฺโช, น ปกฺขหโต, น ฉินฺนิริยาปโถ, น ชราทุพฺพโล, น อนฺโธ, น มูโค, น พธิโร, น อนฺธมูโค, น อนฺธพธิโร, น มูคพธิโร, น อนฺธมูคพธิโร ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๑๙) วจนโต ปน หตฺถจฺฉินฺนาทโยปิ น ปพฺพาเชตพฺพา.

ตตฺถ หตฺถจฺฉินฺโนติ ยสฺส หตฺถตเล วา มณิพนฺเธ วา กปฺปเร วา ยตฺถ กตฺถจิ เอโก วา ทฺเว วา หตฺถา ฉินฺนา โหนฺติ. ปาทจฺฉินฺโนติ ยสฺส อคฺคปาเท วา โคปฺผเกสุ วา ชงฺฆาย วา ยตฺถ กตฺถจิ เอโก วา ทฺเว วา ปาทา ฉินฺนา โหนฺติ. หตฺถปาทจฺฉินฺโนติ ยสฺส วุตฺตปฺปกาเรเนว จตูสุ หตฺถปาเทสุ ทฺเว วา ตโย วา สพฺเพ วา หตฺถปาทา ฉินฺนา โหนฺติ. กณฺณจฺฉินฺโนติ ยสฺส กณฺณมูเล วา กณฺณสกฺขลิกาย วา เอโก วา ทฺเว วา กณฺณา ฉินฺนา โหนฺติ. ยสฺส ปน กณฺณาวฏฺเฏ ฉิชฺชนฺติ, สกฺกา จ โหติ สงฺฆาเฏตุํ, โส กณฺณํ สงฺฆาเฏตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. นาสจฺฉินฺโนติ ยสฺส อชปทเก วา อคฺเค วา เอกปุเฏ วา ยตฺถ กตฺถจิ นาสา ฉินฺนา โหติ. ยสฺส ปน นาสิกา สกฺกา โหติ สนฺเธตุํ, โส ตํ ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. กณฺณนาสจฺฉินฺโน อุภยวเสน เวทิตพฺโพ. องฺคุลิจฺฉินฺโนติ ยสฺส นขเสสํ อทสฺเสตฺวา เอกา วา พหู วา องฺคุลิโย ฉินฺนา โหนฺติ. ยสฺส ปน สุตฺตตนฺตุมตฺตมฺปิ นขเสสํ ปฺายติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อฬจฺฉินฺโนติ ยสฺส จตูสุ องฺคุฏฺเกสุ องฺคุลิยํ วุตฺตนเยเนว เอโก วา พหู วา องฺคุฏฺกา ฉินฺนา โหนฺติ. กณฺฑรจฺฉินฺโนติ ยสฺส กณฺฑรนามกา มหานฺหารู ปุรโต วา ปจฺฉโต วา ฉินฺนา โหนฺติ, เยสุ เอกสฺสปิ ฉินฺนตฺตา อคฺคปาเทน วา จงฺกมติ, มูเลน วา จงฺกมติ, น ปาทํ ปติฏฺาเปตุํ สกฺโกติ.

ผณหตฺถโกติ ยสฺส วคฺคุลิปกฺขกา วิย องฺคุลิโย สมฺพทฺธา โหนฺติ, เอตํ ปพฺพาเชตุกาเมน องฺคุลนฺตริกาโย ผาเลตฺวา สพฺพํ อนฺตรจมฺมํ อปเนตฺวา ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. ยสฺสปิ ฉ องฺคุลิโย โหนฺติ, ตํ ปพฺพาเชตุกาเมน อธิกํ องฺคุลึ ฉินฺทิตฺวา ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. ขุชฺโชติ โย อุรสฺส วา ปิฏฺิยา วา ปสฺสสฺส วา นิกฺขนฺตตฺตา ขุชฺชสรีโร. ยสฺส ปน กิฺจิ กิฺจิ องฺคปจฺจงฺคํ อีสกํ วงฺกํ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. มหาปุริโส เอว หิ พฺรหฺมุชุคตฺโต, อวเสโส สตฺโต อขุชฺโช นาม นตฺถิ. วามโนติ ชงฺฆวามโน วา กฏิวามโน วา อุภยวามโน วา. ชงฺฆวามนสฺส กฏิโต ปฏฺาย เหฏฺิมกาโย รสฺโส โหติ, อุปริมกาโย ปริปุณฺโณ. กฏิวามนสฺส กฏิโต ปฏฺาย อุปริมกาโย รสฺโส โหติ, เหฏฺิมกาโย ปริปุณฺโณ. อุภยวามนสฺส อุโภปิ กายา รสฺสา โหนฺติ, เยสํ รสฺสตฺตา ภูตานํ วิย ปริวฏุโม มหากุจฺฉิฆฏสทิโส อตฺตภาโว โหติ, ตํ ติวิธมฺปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ.

คลคณฺฑีติ ยสฺส กุมฺภณฺฑํ วิย คเล คณฺโฑ โหติ. เทสนามตฺตเมว เจตํ, ยสฺมึ กิสฺมิฺจิ ปน ปเทเส คณฺเฑ สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ. ตตฺถ วินิจฺฉโย ‘‘น, ภิกฺขเว, ปฺจหิ อาพาเธหิ ผุฏฺโ ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๘๙) เอตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ลกฺขณาหตกสาหตลิขิตเกสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. สีปทีติ ภารปาโท วุจฺจติ. ยสฺส ปาโท ถูโล โหติ สฺชาตปีฬโก ขโร, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. ยสฺส ปน น ตาว ขรภาวํ คณฺหาติ, สกฺกา โหติ อุปนาหํ พนฺธิตฺวา อุทกอาวาเฏ ปเวเสตฺวา อุทกวาลิกาย ปูเรตฺวา ยถา สิรา ปฺายนฺติ, ชงฺฆา จ เตลนาฬิกา วิย โหติ, เอวํ มิลาเปตุํ, ตสฺส ปาทํ อีทิสํ กตฺวา ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปุน วฑฺฒติ, อุปสมฺปาเทนฺเตนปิ ตถา กตฺวาว อุปสมฺปาเทตพฺโพ. ปาปโรคีติ อริสภคนฺทรปิตฺตเสมฺหกาสโสสาทีสุ เยน เกนจิ โรเคน นิจฺจาตุโร อเตกิจฺฉโรโค เชคุจฺโฉ อมนาโป, อยํ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

๑๓๓. ปริสทูสโกติ โย อตฺตโน วิรูปตาย ปริสํ ทูเสติ, อติทีโฆ วา โหติ อฺเสํ สีสปฺปมาณนาภิปฺปเทโส, อติรสฺโส วา อุภยวามนภูตรูปํ วิย, อติกาโฬ วา ฌาปิตกฺเขตฺเต ขาณุโก วิย, อจฺโจทาโต วา ทธิตกฺกาทีหิ ปมชฺชิตตมฺพโลหวณฺโณ, อติกิโส วา มนฺทมํสโลหิโต อฏฺิสิราจมฺมสรีโร วิย, อติถูโล วา ภาริยมํโส มโหทโร มหาภูตสทิโส, อภิมหนฺตสีโส วา ปจฺฉึ สีเส กตฺวา ิโต วิย, อติขุทฺทกสีโส วา สรีรสฺส อนนุรูเปน อติขุทฺทเกน สีเสน สมนฺนาคโต, กูฏกูฏสีโส วา ตาลผลปิณฺฑิสทิเสน สีเสน สมนฺนาคโต, สิขรสีโส วา อุทฺธํ อนุปุพฺพตนุเกน สีเสน สมนฺนาคโต, นาฬิสีโส วา มหาเวณุปพฺพสทิเสน สีเสน สมนฺนาคโต, กปฺปสีโส วา ปพฺภารสีโส วา จตูสุ ปสฺเสสุ เยน เกนจิ ปสฺเสน โอนเตน สีเสน สมนฺนาคโต, วณสีโส วา ปูติสีโส วา กณฺณิกเกโส วา ปาณเกหิ ขายิตเกทาเร สสฺสสทิเสหิ ตหึ ตหึ อุฏฺิเตหิ เกเสหิ สมนฺนาคโต, นิลฺโลมสีโส วา ถูลถทฺธเกโส วา ตาลหีรสทิเสหิ เกเสหิ สมนฺนาคโต, ชาติปลิเตหิ ปณฺฑรเกโส วา ปกติตมฺพเกโส วา อาทิตฺเตหิ วิย เกเสหิ สมนฺนาคโต, อาวฏฺฏสีโส วา คุนฺนํ สรีเร อาวฏฺฏสทิเสหิ อุทฺธคฺเคหิ เกสาวฏฺเฏหิ สมนฺนาคโต, สีสโลเมหิ สทฺธึ เอกาพทฺธภมุกโลโม วา ชาลพทฺเธน วิย นลาเฏน สมนฺนาคโต.

สมฺพทฺธภมุโก วา นิลฺโลมภมุโก วา มกฺกฏภมุโก วา อติมหนฺตกฺขิ วา อติขุทฺทกกฺขิ วา มหึสจมฺเม วาสิโกเณน ปหริตฺวา กตฉิทฺทสทิเสหิ อกฺขีหิ สมนฺนาคโต, วิสมกฺขิ วา เอเกน มหนฺเตน, เอเกน ขุทฺทเกน อกฺขินา สมนฺนาคโต, วิสมจกฺกโล วา เอเกน อุทฺธํ, เอเกน อโธติ เอวํ วิสมชาเตหิ อกฺขิจกฺเกหิ สมนฺนาคโต, เกกโร วา คมฺภีรกฺขิ วา ยสฺส คมฺภีเร อุทปาเน อุทกตารกา วิย อกฺขิตารกา ปฺายนฺติ, นิกฺขนฺตกฺขิ วา ยสฺส กกฺกฏสฺเสว อกฺขิตารกา นิกฺขนฺตา โหนฺติ, หตฺถิกณฺโณ วา มหนฺตาหิ กณฺณสกฺขลีหิ สมนฺนาคโต, มูสิกกณฺโณ วา ชตุกกณฺโณ วา ขุทฺทกาหิ กณฺณสกฺขลีหิ สมนฺนาคโต, ฉิทฺทมตฺตกณฺโณ วา ยสฺส วินา กณฺณสกฺขลีหิ กณฺณจฺฉิทฺทมตฺตเมว โหติ, อวิทฺธกณฺโณ วา, โยนกชาติโก ปน ปริสทูสโก น โหติ, สภาโวเยว หิ โส ตสฺส. กณฺณภคนฺทริโก วา นิจฺจปูตินา กณฺเณน สมนฺนาคโต, คณฺฑกณฺโณ วา สทา ปคฺฆริตปุพฺเพน กณฺเณน สมนฺนาคโต, ฏงฺกิตกณฺโณ วา โคภตฺตนาฬิกาย อคฺคสทิเสหิ กณฺเณหิ สมนฺนาคโต, อติปิงฺคลกฺขิ วา, มธุปิงฺคลํ ปน ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. นิปฺปขุมกฺขิ วา อสฺสุปคฺฆรณกฺขิ วา ปุปฺผิตกฺขิ วา อกฺขิปาเกน สมนฺนาคตกฺขิ วา.

อติมหนฺตนาสิโก วา อติขุทฺทกนาสิโก วา จิปิฏนาสิโก วา มชฺเฌ อปฺปติฏฺหิตฺวา เอกปสฺเส ิตวงฺกนาสิโก วา ทีฆนาสิโก วา สุกตุณฺฑสทิสาย ชิวฺหาย เลหิตุํ สกฺกุเณยฺยาย นาสิกาย สมนฺนาคโต, นิจฺจํ ปคฺฆริตสิงฺฆาณิกนาโส วา, มหามุโข วา ยสฺส ปฏงฺคมณฺฑูกสฺเสว มุขนิมิตฺตํเยว มหนฺตํ โหติ, มุขํ ปน ลาพุสทิสํ อติขุทฺทกํ, ภินฺนมุโข วา วงฺกมุโข วา มหาโอฏฺโ วา อุกฺขลิมุขวฏฺฏิสทิเสหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต, ตนุกโอฏฺโ วา เภริจมฺมสทิเสหิ ทนฺเต ปิทหิตุํ อสมตฺเถหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต, มหาธโรฏฺโ วา ตนุกอุตฺตโรฏฺโ วา ตนุกอธโรฏฺโ วา มหาอุตฺตโรฏฺโ วา โอฏฺฉินฺนโก วา เอฬมุโข วา อุปฺปกฺกมุโข วา สงฺขตุณฺฑโก วา พหิ เสเตหิ อนฺโต อติรตฺเตหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต, ทุคฺคนฺธกุณปมุโข วา, มหาทนฺโต วา อฏฺกทนฺตสทิเสหิ ทนฺเตหิ สมนฺนาคโต, อสุรทนฺโต วา เหฏฺา วา อุปริ วา พหิ นิกฺขนฺตทนฺโต, ยสฺส ปน สกฺกา โหติ โอฏฺเหิ ปิทหิตุํ, กเถนฺตสฺเสว ปฺายติ, โน อกเถนฺตสฺส, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. ปูติทนฺโต วา นิทฺทนฺโต วา อติขุทฺทกทนฺโต วา ยสฺส ปน ทนฺตนฺตเร กลนฺทกทนฺโต วิย สุขุมทนฺโต โหติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

มหาหนุโก วา โคหนุสทิเสน หนุนา สมนฺนาคโต, ทีฆหนุโก วา จิปิฏหนุโก วา อนฺโตปวิฏฺเน วิย อติรสฺเสน หนุเกน สมนฺนาคโต, ภินฺนหนุโก วา วงฺกหนุโก วา นิมฺมสฺสุทาิโก วา ภิกฺขุนีสทิสมุโข, ทีฆคโล วา พกคลสทิเสน คเลน สมนฺนาคโต, รสฺสคโล วา อนฺโตปวิฏฺเน วิย คเลน สมนฺนาคโต, ภินฺนคโล วา ภฏฺอํสกูโฏ วา อหตฺโถ วา เอกหตฺโถ วา อติรสฺสหตฺโถ วา อติทีฆหตฺโถ วา ภินฺนอุโร วา ภินฺนปิฏฺิ วา กจฺฉุคตฺโต วา กณฺฑุคตฺโต วา ททฺทุคตฺโต วา โคธาคตฺโต วา ยสฺส โคธาย วิย คตฺตโต จุณฺณานิ ปตนฺติ. สพฺพฺเจตํ วิรูปกรณํ สนฺธาย วิตฺถาริตวเสน วุตฺตํ, วินิจฺฉโย ปเนตฺถ ปฺจาพาเธสุ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.

ภฏฺกฏิโก วา มหาอานิสโท วา อุทฺธนกูฏสทิเสหิ อานิสทมํเสหิ อจฺจุคฺคเตหิ สมนฺนาคโต, มหาอูรุโก วา วาตณฺฑิโก วา มหาชาณุโก วา สงฺฆฏฺฏนชาณุโก วา ทีฆชงฺโฆ วา ยฏฺิสทิสชงฺโฆ, วิกโฏ วา สงฺฆฏฺโฏ วา อุพฺพทฺธปิณฺฑิโก วา, โส ทุวิโธ เหฏฺา โอรุฬฺหาหิ วา อุปริ อารุฬฺหาหิ วา มหตีหิ ชงฺฆปิณฺฑิกาหิ สมนฺนาคโต, มหาชงฺโฆ วา ถูลชงฺฆปิณฺฑิโก วา มหาปาโท วา มหาปณฺหิ วา ปิฏฺิกปาโท วา ปาทเวมชฺฌโต อุฏฺิตชงฺโฆ, วงฺกปาโท วา, โส ทุวิโธ อนฺโต วา พหิ วา ปริวตฺตปาโท, คณฺิกงฺคุลิ วา สิงฺคิเวรผณสทิสาหิ องฺคุลีหิ สมนฺนาคโต, อนฺธนโข วา กาฬวณฺเณหิ ปูตินเขหิ สมนฺนาคโต, สพฺโพปิ เอส ปริสทูสโก. เอวรูโป ปริสทูสโก น ปพฺพาเชตพฺโพ.

๑๓๔. กาโณติ ปสนฺนนฺโธ วา โหตุ ปุปฺผาทีหิ วา อุปหตปสาโท, ทฺวีหิ วา เอเกน วา อกฺขินา น ปสฺสติ, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. มหาปจฺจริยํ ปน เอกกฺขิกาโณ ‘‘กาโณ’’ติ วุตฺโต, ทฺวิอกฺขิกาโณ อนฺเธน สงฺคหิโต. มหาอฏฺกถายํ ชจฺจนฺโธ ‘‘อนฺโธ’’ติ วุตฺโต. ตสฺมา อุภยมฺปิ ปริยาเยน ยุชฺชติ. กุณีติ หตฺถกุณี วา ปาทกุณี วา องฺคุลิกุณี วา, ยสฺส เอเตสุ หตฺถาทีสุ ยํ กิฺจิ วงฺกํ ปฺายติ. ขฺโชติ นตชาณุโก วา ภินฺนชงฺโฆ วา มชฺเฌ สํกุฏิตปาทตฺตา กุณฺปาทโก วา ปิฏฺิปาทมชฺเฌน จงฺกมนฺโต, อคฺเค สํกุฏิตปาทตฺตา กุณฺปาทโก วา ปิฏฺิปาทคฺเคน จงฺกมนฺโต, อคฺคปาเทเนว จงฺกมนขฺโช วา ปณฺหิกาย จงฺกมนขฺโช วา ปาทสฺส พาหิรนฺเตน จงฺกมนขฺโช วา ปาทสฺส อพฺภนฺตเรน จงฺกมนขฺโช วา โคปฺผกานํ อุปริ ภคฺคตฺตา สกเลน ปิฏฺิปาเทน จงฺกมนขฺโช วา. สพฺโพเปส ขฺโชเยว, น ปพฺพาเชตพฺโพ.

ปกฺขหโตติ ยสฺส เอโก หตฺโถ วา ปาโท วา อทฺธสรีรํ วา สุขํ น วหติ. ฉินฺนิริยาปโถติ ปีสปฺปี วุจฺจติ. ชราทุพฺพโลติ ชิณฺณภาเวน ทุพฺพโล อตฺตโน จีวรรชนาทิกมฺมมฺปิ กาตุํ อสมตฺโถ. โย ปน มหลฺลโกปิ พลวา โหติ, อตฺตานํ ปฏิชคฺคิตุํ สกฺโกติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพ. อนฺโธติ ชจฺจนฺโธ วุจฺจติ. มูโคติ ยสฺส วจีเภโท น ปวตฺตติ, ยสฺสปิ ปวตฺตติ, สรณคมนํ ปน ปริปุณฺณํ ภาสิตุํ น สกฺโกติ, ตาทิสํ มมฺมนมฺปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. โย ปน สรณคมนมตฺตํ ปริปุณฺณํ ภาสิตุํ สกฺโกติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. พธิโรติ โย สพฺเพน สพฺพํ น สุณาติ. โย ปน มหาสทฺทํ สุณาติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อนฺธมูคาทโย อุภยโทสวเสน วุตฺตา. เยสฺจ ปพฺพชฺชา ปฏิกฺขิตฺตา, อุปสมฺปทาปิ เตสํ ปฏิกฺขิตฺตาว. สเจ ปน เน สงฺโฆ อุปสมฺปาเทติ, สพฺเพปิ สูปสมฺปนฺนา, การกสงฺโฆ ปน อาจริยุปชฺฌายา จ อาปตฺติโต น มุจฺจนฺติ.

๑๓๕. ปณฺฑโก อุภโตพฺยฺชนโก เถยฺยสํวาสโก ติตฺถิยปกฺกนฺตโก ติรจฺฉานคโต มาตุฆาตโก ปิตุฆาตโก อรหนฺตฆาตโก โลหิตุปฺปาทโก สงฺฆเภทโก ภิกฺขุนีทูสโกติ อิเม ปน เอกาทส ปุคฺคลา ‘‘ปณฺฑโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๑๐๙) อาทิวจนโต อภพฺพา, เนว เนสํ ปพฺพชฺชา, น อุปสมฺปทา จ รุหติ, ตสฺมา น ปพฺพาเชตพฺพา น อุปสมฺปาเทตพฺพา, ชานิตฺวา ปพฺพาเชนฺโต อุปสมฺปาเทนฺโต จ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. อชานิตฺวาปิ ปพฺพาชิตา อุปสมฺปาทิตา จ ชานิตฺวา ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺพา.

ตตฺถ ปณฺฑโกติ อาสิตฺตปณฺฑโก อุสูยปณฺฑโก โอปกฺกมิกปณฺฑโก ปกฺขปณฺฑโก นปุํสกปณฺฑโกติ ปฺจ ปณฺฑกา. เตสุ ยสฺส ปเรสํ องฺคชาตํ มุเขน คเหตฺวา อสุจินา อาสิตฺตสฺส ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ อาสิตฺตปณฺฑโก. ยสฺส ปเรสํ อชฺฌาจารํ ปสฺสโต อุสูยาย อุปฺปนฺนาย ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ อุสูยปณฺฑโก. ยสฺส อุปกฺกเมน พีชานิ อปนีตานิ, อยํ โอปกฺกมิกปณฺฑโก. เอกจฺโจ ปน อกุสลวิปากานุภาเวน กาฬปกฺเข ปณฺฑโก โหติ, ชุณฺหปกฺเข ปนสฺส ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ ปกฺขปณฺฑโก. โย ปน ปฏิสนฺธิยํเยว อภาวโก อุปฺปนฺโน, อยํ น ปุํสกปณฺฑโก. เตสุ อาสิตฺตปณฺฑกสฺส จ อุสูยปณฺฑกสฺส จ ปพฺพชฺชา น วาริตา, อิตเรสํ ติณฺณํ วาริตา. ‘‘เตสุปิ ปกฺขปณฺฑกสฺส ยสฺมึ ปกฺเข ปณฺฑโก โหติ, ตสฺมึเยวสฺส ปกฺเข ปพฺพชฺชา วาริตา’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ.

๑๓๖. อุภโตพฺยฺชนโกติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๖) อิตฺถินิมิตฺตุปฺปาทนกมฺมโต จ ปุริสนิมิตฺตุปฺปาทนกมฺมโต จ อุภโตพฺยฺชนมสฺส อตฺถีติ อุภโตพฺยฺชนโก. โส ทุวิโธ โหติ อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนโก ปุริสอุภโตพฺยฺชนโกติ. ตตฺถ อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนกสฺส อิตฺถินิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ, ปุริสนิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนกสฺส ปุริสนิมิตฺตํ ปากฏํ, อิตฺถินิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ. อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนกสฺส อิตฺถีสุ ปุริสตฺตํ กโรนฺตสฺส อิตฺถินิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, ปุริสนิมิตฺตํ ปากฏํ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนกสฺส ปุริสานํ อิตฺถิภาวํ อุปคจฺฉนฺตสฺส ปุริสนิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, อิตฺถินิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ. อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนโก สยฺจ คพฺภํ คณฺหาติ, ปรฺจ คณฺหาเปติ, ปุริสอุภโตพฺยฺชนโก ปน สยํ น คณฺหาติ, ปรํ ปน คณฺหาเปตีติ อิทเมเตสํ นานากรณํ. อิมสฺส ปน ทุวิธสฺสปิ อุภโตพฺยฺชนกสฺส เนว ปพฺพชฺชา อตฺถิ, น อุปสมฺปทา.

๑๓๗. เถยฺยสํวาสโกติ ตโย เถยฺยสํวาสกา ลิงฺคตฺเถนโก สํวาสตฺเถนโก อุภยตฺเถนโกติ. ตตฺถ โย สยํ ปพฺพชิตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา น ภิกฺขุวสฺสานิ คเณติ, น ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนํ สาทิยติ, น อาสเนน ปฏิพาหติ, น อุโปสถปวารณาทีสุ สนฺทิสฺสติ, อยํ ลิงฺคมตฺตสฺเสว เถนิตตฺตา ลิงฺคตฺเถนโก นาม. โย ปน ภิกฺขูหิ ปพฺพาชิโต สามเณโร สมาโน วิเทสํ คนฺตฺวา ‘‘อหํ ทสวสฺโส วา วีสติวสฺโส วา’’ติ มุสา วตฺวา ภิกฺขุวสฺสานิ คเณติ, ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนํ สาทิยติ, อาสเนน ปฏิพาหติ, อุโปสถปวอารณาทีสุ สนฺทิสฺสติ, อยํ สํวาสมตฺตสฺเสว เถนิตตฺตา สํวาสตฺเถนโก นาม. ภิกฺขุวสฺสคณนาทิโก หิ สพฺโพปิ กิริยเภโท อิมสฺมึ อตฺเถ ‘‘สํวาโส’’ติ เวทิตพฺโพ. สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย ‘‘น มํ โกจิ ชานาตี’’ติ ปุน เอวํ ปฏิปชฺชนฺเตปิ เอเสว นโย. โย ปน สยํ ปพฺพชิตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ภิกฺขุวสฺสานิ คเณติ, ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนํ สาทิยติ, อาสเนน ปฏิพาหติ, อุโปสถปวารณาทีสุ สนฺทิสฺสติ, อยํ ลิงฺคสฺส เจว สํวาสสฺส จ เถนิตตฺตา อุภยตฺเถนโก นาม. อยํ ติวิโธปิ เถยฺยสํวาสโก อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ, ปุน ปพฺพชฺชํ ยาจนฺโตปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

๑๓๘. เอตฺถ จ อสมฺโมหตฺถํ อิทํ ปกิณฺณกํ เวทิตพฺพํ –

‘‘ราชทุพฺภิกฺขกนฺตาร, โรคเวริภเยน วา;

จีวราหรณตฺถํ วา, ลิงฺคํ อาทิยตีธ โย.

‘‘สํวาสํ นาธิวาเสติ, ยาว โส สุทฺธมานโส;

เถยฺยสํวาสโก นาม, ตาว เอส น วุจฺจตี’’ติ. (มหาว. อฏฺ. ๑๑๐);

ตตฺรายํ วิตฺถารนโย – อิเธกจฺจสฺส ราชา กุทฺโธ โหติ, โส ‘‘เอวํ เม โสตฺถิ ภวิสฺสตี’’ติ สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา ปลายติ. ตํ ทิสฺวา รฺโ อาโรเจนฺติ, ราชา ‘‘สเจ ปพฺพชิโต, น ตํ ลพฺภา กิฺจิ กาตุ’’นฺติ ตสฺมึ โกธํ ปฏิวิเนติ. โส ‘‘วูปสนฺตํ เม ราชภย’’นฺติ สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโต ปพฺพาเชตพฺโพ. อถาปิ ‘‘สาสนํ นิสฺสาย มยา ชีวิตํ ลทฺธํ, หนฺท ทานิ อหํ ปพฺพชามี’’ติ อุปฺปนฺนสํเวโค เตเนว ลิงฺเคน อาคนฺตฺวา อาคนฺตุกวตฺตํ น สาทิยติ, ภิกฺขูหิ ปุฏฺโ วา อปุฏฺโ วา ยถาภูตมตฺตานํ อาวิกตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจติ, ลิงฺคํ อปเนตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน โส วตฺตํ สาทิยติ, ปพฺพชิตาลยํ ทสฺเสติ, สพฺพํ ปุพฺเพ วุตฺตํ วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ ปฏิปชฺชติ, อยํ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

อิธ ปเนกจฺโจ ทุพฺภิกฺเข ชีวิตุํ อสกฺโกนฺโต สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา สพฺพปาสณฺฑิยภตฺตานิ ภุฺชนฺโต ทุพฺภิกฺเข วีติวตฺเต สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโตติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว.

อปโร มหากนฺตารํ นิตฺถริตุกาโม โหติ, สตฺถวาโห จ ปพฺพชิเต คเหตฺวา คจฺฉติ. โส ‘‘เอวํ มํ สตฺถวาโห คเหตฺวา คมิสฺสตี’’ติ สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา สตฺถวาเหน สทฺธึ กนฺตารํ นิตฺถริตฺวา เขมนฺตํ ปตฺวา สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโตติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว.

อปโร โรคภเย อุปฺปนฺเน ชีวิตุํ อสกฺโกนฺโต สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา สพฺพปาสณฺฑิยภตฺตานิ ภุฺชนฺโต โรคภเย วูปสนฺเต สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโตติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว.

อปรสฺส เอโก เวริโก กุทฺโธ โหติ, ฆาเตตุกาโม นํ วิจรติ. โส ‘‘เอวํ เม โสตฺถิ ภวิสฺสตี’’ติ สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา ปลายติ. เวริโก ‘‘กุหึ โส’’ติ ปริเยสนฺโต ‘‘ปพฺพชิตฺวา ปลาโต’’ติ สุตฺวา ‘‘สเจ ปพฺพชิโต, น ตํ ลพฺภา กิฺจิ กาตุ’’นฺติ ตสฺมึ โกธํ ปฏิวิเนติ. โส ‘‘วูปสนฺตํ เม เวริภย’’นฺติ สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโตติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว.

อปโร าติกุลํ คนฺตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย คิหี หุตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ อิธ นสฺสิสฺสนฺติ, สเจปิ อิมานิ คเหตฺวา วิหารํ คมิสฺสามิ, อนฺตรามคฺเค มํ ‘โจโร’ติ คเหสฺสนฺติ, ยํนูนาหํ กายปริหาริยานิ กตฺวา คจฺเฉยฺย’’นฺติ จีวราหรณตฺถํ นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ วิหารํ คจฺฉติ. ตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา สามเณรา จ ทหรา จ อพฺภุคฺคจฺฉนฺติ, วตฺตํ ทสฺเสนฺติ. โส น สาทิยติ, ยถาภูตมตฺตานํ อาวิกโรติ. สเจ ภิกฺขู ‘‘น ทานิ มยํ ตํ มุฺจิสฺสามา’’ติ พลกฺกาเรน ปพฺพาเชตุกามา โหนฺติ, กาสายานิ อปเนตฺวา ปุน ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน ‘‘นยิเม มํ หีนายาวตฺตภาวํ ชานนฺตี’’ติ ตํเยว ภิกฺขุภาวํ ปฏิชานิตฺวา สพฺพํ ปุพฺเพ วุตฺตํ วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ ปฏิปชฺชติ, อยํ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

อปโร มหาสามเณโร าติกุลํ คนฺตฺวา อุปฺปพฺพชิตฺวา กมฺมนฺตานุฏฺาเนน อุพฺพาฬฺโห ปุน ‘‘ทานิ อหํ สามเณโร ภวิสฺสามิ, เถโรปิ เม อุปฺปพฺพชิตภาวํ น ชานาตี’’ติ ตเทว ปตฺตจีวรํ อาทาย วิหารํ คจฺฉติ, ตมตฺถํ ภิกฺขูนํ น อาโรเจติ, สามเณรภาวํ ปฏิชานาติ, อยํ เถยฺยสํวาสโกเยว, ปพฺพชฺชํ น ลภติ. สเจปิสฺส ลิงฺคคฺคหณกาเล เอวํ โหติ ‘‘นาหํ กสฺสจิ อาโรเจสฺสามี’’ติ, วิหารฺจ คโต อาโรเจติ, คหเณเนว เถยฺยสํวาสโก. อถาปิสฺส คหณกาเล ‘‘อาจิกฺขิสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, วิหารฺจ คนฺตฺวา ‘‘กุหึ ตฺวํ, อาวุโส, คโต’’ติ วุตฺโต ‘‘น ทานิ มํ อิเม ชานนฺตี’’ติ วฺเจตฺวา นาจิกฺขติ, ‘‘นาจิกฺขิสฺสามี’’ติ สห ธุรนิกฺเขเปน อยมฺปิ เถยฺยสํวาสโกว. สเจ ปนสฺส คหณกาเลปิ ‘‘อาจิกฺขิสฺสามี’’ติ โหติ, วิหารํ คนฺตฺวาปิ อาจิกฺขติ, อยํ ปุน ปพฺพชฺชํ ลภติ.

อปโร ทหรสามเณโร มหนฺโต วา ปน อพฺยตฺโต. โส ปุริมนเยเนว อุปฺปพฺพชิตฺวา ฆเร วจฺฉกโครกฺขณาทีนิ กมฺมานิ กาตุํ น อิจฺฉติ. ตเมนํ าตกา ตานิเยว กาสายานิ อจฺฉาเทตฺวา ถาลกํ วา ปตฺตํ วา หตฺเถ ทตฺวา ‘‘คจฺฉ, สมโณว โหหี’’ติ ฆรา นีหรนฺติ. โส วิหารํ คจฺฉติ, เนว นํ ภิกฺขู ชานนฺติ ‘‘อยํ อุปฺปพฺพชิตฺวา ปุน สยเมว ปพฺพชิโต’’ติ, นาปิ สยํ ชานาติ ‘‘โย เอวํ ปพฺพชติ, โส เถยฺยสํวาสโก นาม โหตี’’ติ. สเจ ปน ตํ ปริปุณฺณวสฺสํ อุปสมฺปาเทนฺติ, สูปสมฺปนฺโน. สเจ ปน อนุปสมฺปนฺนกาเลเยว วินยวินิจฺฉเย วตฺตมาเน สุณาติ ‘‘โย เอวํ ปพฺพชติ, โส เถยฺยสํวาสโก นาม โหตี’’ติ, เตน ‘‘มยา เอวํ กต’’นฺติ ภิกฺขูนํ อาจิกฺขิตพฺพํ. เอวํ ปุน ปพฺพชฺชํ ลภติ. สเจ ปน ‘‘ทานิ น มํ โกจิ ชานาตี’’ติ นาโรเจติ, ธุรํ นิกฺขิตฺตมตฺเตเยว เถยฺยสํวาสโก.

ภิกฺขุ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย ลิงฺคํ อนปเนตฺวา ทุสฺสีลกมฺมํ กตฺวา วา อกตฺวา วา ปุน สพฺพํ ปุพฺเพ วุตฺตํ วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ ปฏิปชฺชติ, เถยฺยสํวาสโก โหติ. สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย สลิงฺเค ิโต เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ อาปชฺชนฺโต เถยฺยสํวาสโก น โหติ, ปพฺพชฺชามตฺตํ ลภติ. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘เอโส เถยฺยสํวาสโก’’ติ วุตฺตํ, ตํ น คเหตพฺพํ.

เอโก ภิกฺขุ กาสาเย สอุสฺสาโหว โอทาตํ นิวาเสตฺวา เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา ปุน กาสายานิ นิวาเสตฺวา วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ อาปชฺชติ, อยมฺปิ เถยฺยสํวาสโก น โหติ, ปพฺพชฺชามตฺตํ ลภติ. สเจ ปน กาสาเย ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา โอทาตํ นิวาเสตฺวา เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา ปุน กาสายานิ นิวาเสตฺวา วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ อาปชฺชติ, เถยฺยสํวาสโก โหติ. สามเณโร สลิงฺเค ิโต เมถุนาทิอสฺสมณกรณธมฺมํ อาปชฺชิตฺวาปิเถยฺยสํวาสโก น โหติ. สเจปิ กาสาเย สอุสฺสาโหว กาสายานิ อปเนตฺวา เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา ปุน กาสายานิ นิวาเสติ, เนว เถยฺยสํวาสโก โหติ. สเจ ปน กาสาเย ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา นคฺโค วา โอทาตวตฺโถ วา เมถุนเสวนาทีหิ อสฺสมโณ หุตฺวา กาสายํ นิวาเสติ, เถยฺยสํวาสโก โหติ.

สเจ คิหิภาวํ ปตฺถยมาโน กาสายํ โอวฏฺฏิกํ กตฺวา อฺเน วา อากาเรน คิหินิวาสเนน นิวาเสติ ‘‘โสภติ นุ โข เม คิหิลิงฺคํ, น โสภตี’’ติ วีมํสนตฺถํ, รกฺขติ ตาว. ‘‘โสภตี’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปน ปุน ลิงฺคํ สาทิยนฺโต เถยฺยสํวาสโก โหติ. โอทาตํ นิวาเสตฺวา วีมํสนสมฺปฏิจฺฉเนสุปิ เอเสว นโย. สเจ ปน นิวตฺถกาสาวสฺส อุปริ โอทาตํ นิวาเสตฺวา วีมํสติ วา สมฺปฏิจฺฉติ วา, รกฺขติเยว. ภิกฺขุนิยาปิ เอเสว นโย. สาปิ คิหิภาวํ ปตฺถยมานา สเจ กาสายํ คิหินิวาสนํ นิวาเสติ ‘‘โสภติ นุ โข เม คิหิลิงฺคํ, น โสภตี’’ติ วีมํสนตฺถํ, รกฺขติเยว. สเจ ‘‘โสภตี’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, น รกฺขติ. โอทาตํ นิวาเสตฺวา วีมํสนสมฺปฏิจฺฉเนสุปิ เอเสว นโย. นิวตฺถกาสายสฺส ปน อุปริ โอทาตํ นิวาเสตฺวา วีมํสตุ วา สมฺปฏิจฺฉตุ วา, รกฺขติเยว.

สเจ โกจิ วุฑฺฒปพฺพชิโต วสฺสานิ อคเณตฺวา ปาฬิยมฺปิ อฏฺตฺวา เอกปสฺเสน คนฺตฺวา มหาเปฬาทีสุ กฏจฺฉุนา อุกฺขิตฺเต ภตฺตปิณฺเฑ ปตฺตํ อุปนาเมตฺวา เสโน วิย มํสเปสึ คเหตฺวา คจฺฉติ, เถยฺยสํวาสโก น โหติ, ภิกฺขุวสฺสานิ ปน คเณตฺวา คณฺหนฺโต เถยฺยสํวาสโก โหติ. สยํ สามเณโรว สามเณรปฏิปาฏิยา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา คณฺหนฺโต เถยฺยสํวาสโก น โหติ. ภิกฺขุ ภิกฺขุปฏิปาฏิยา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ.

๑๓๙. ติตฺถิยปกฺกนฺตโกติ ติตฺถิเยสุ ปกฺกนฺโต ปวิฏฺโติ ติตฺถิยปกฺกนฺตโก, โสปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – อุปสมฺปนฺโน ภิกฺขุ ‘‘ติตฺถิโย ภวิสฺสามี’’ติ สลิงฺเคเนว เตสํ อุปสฺสยํ คจฺฉติ, ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ, เตสํ ลิงฺเค อาทินฺนมตฺเต ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ. โยปิ สยเมว ‘‘ติตฺถิโย ภวิสฺส’’นฺติ กุสจีราทีนิ นิวาเสติ, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติเยว. โย ปน นคฺโค นหายนฺโต อตฺตานํ โอโลเกตฺวา ‘‘โสภติ เม อาชีวกภาโว, อาชีวโก ภวิสฺส’’นฺติ กาสายานิ อนาทาย นคฺโค อาชีวกานํ อุปสฺสยํ คจฺฉติ, ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ. สเจ ปนสฺส อนฺตรามคฺเค หิโรตฺตปฺปํ อุปฺปชฺชติ, ทุกฺกฏานิ เทเสตฺวา มุจฺจติ. เตสํ อุปสฺสยํ คนฺตฺวาปิ เตหิ วา โอวทิโต อตฺตนา วา ‘‘อิเมสํ ปพฺพชฺชา อติทุกฺขา’’ติ ทิสฺวา นิวตฺตนฺโตปิ มุจฺจติเยว. สเจ ปน ‘‘กึ ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชาย อุกฺกฏฺ’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เกสมสฺสุลุฺจนาทีนี’’ติ วุตฺโต เอกเกสมฺปิ ลุฺจาเปติ, อุกฺกุฏิกปฺปธานาทีนิ วา วตฺตานิ อาทิยติ, โมรปิฺฉาทีนิ วา นิวาเสติ, เตสํ ลิงฺคํ คณฺหาติ, ‘‘อยํ ปพฺพชฺชา เสฏฺา’’ติ เสฏฺภาวํ วา อุปคจฺฉติ, น มุจฺจติ, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ. สเจ ปน ‘‘โสภติ นุ โข เม ติตฺถิยปพฺพชฺชา, นนุ โข โสภตี’’ติ วีมํสนตฺถํ กุสจีราทีนิ วา นิวาเสติ, ชฏํ วา พนฺธติ, ขาริกาชํ วา อาทิยติ, ยาว น สมฺปฏิจฺฉติ ลทฺธึ, ตาว รกฺขติ, สมฺปฏิจฺฉิตมตฺเต ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ. อจฺฉินฺนจีวโร ปน กุสจีราทีนิ นิวาเสนฺโต ราชภยาทีหิ วา ติตฺถิยลิงฺคํ คณฺหนฺโต ลทฺธิยา อภาเวน เนว ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ. ‘‘อยฺจ ติตฺถิยปกฺกนฺตโก นาม อุปสมฺปนฺนภิกฺขุนา กถิโต, ตสฺมา สามเณโร สลิงฺเคน ติตฺถิยายตนํ คโตปิ ปุน ปพฺพชฺชฺจ อุปสมฺปทฺจ ลภตี’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ปุริโม ปน เถยฺยสํวาสโก อนุปสมฺปนฺเนน กถิโต, ตสฺมา อุปสมฺปนฺโน กูฏวสฺสํ คเณนฺโตปิ อสฺสมโณ น โหติ. ลิงฺเค สอุสฺสาโห ปาราชิกํ อาปชฺชิตฺวา ภิกฺขุวสฺสาทีนิ คณฺหนฺโตปิ เถยฺยสํวาสโก น โหติ.

๑๔๐. ติรจฺฉานคโตติ นาโค วา โหตุ สุปณฺณมาณวกาทีนํ วา อฺตโร อนฺตมโส สกฺกํ เทวราชานํ อุปาทาย โย โกจิ อมนุสฺสชาติโย, สพฺโพว อิมสฺมึ อตฺเถ ‘‘ติรจฺฉานคโต’’ติ เวทิตพฺโพ. โส จ เนว อุปสมฺปาเทตพฺโพ น ปพฺพาเชตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโนปิ นาเสตพฺโพ.

๑๔๑. มาตุฆาตกาทีสุ ปน เยน มนุสฺสิตฺถิภูตา ชนิกา มาตา สยมฺปิ มนุสฺสชาติเกเนว สภา สฺจิจฺจ ชีวิตา โวโรปิตา, อยํ อานนฺตริเยน มาตุฆาตกกมฺเมน มาตุฆาตโก. เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ ปฏิกฺขิตฺตา. เยน ปน มนุสฺสิตฺถิภูตาปิ อชนิกา โปสาวนิกา มาตา วา จูฬมาตา วา ชนิกาปิ วา น มนุสฺสิตฺถิภูตา มาตา ฆาติตา, ตสฺส ปพฺพชฺชา น วาริตา, น จ อานนฺตริโก โหติ. เยน สยํ ติรจฺฉานภูเตน มนุสฺสิตฺถิภูตา มาตา ฆาติตา, โสปิ อานนฺตริโก น โหติ, ติรจฺฉานคตตฺตา ปนสฺส ปพฺพชฺชา ปฏิกฺขิตฺตา. ปิตุฆาตเกปิ เอเสว นโย. สเจปิ หิ เวสิยา ปุตฺโต โหติ, ‘‘อยํ เม ปิตา’’ติ น ชานาติ, ยสฺส สมฺภเวน นิพฺพตฺโต, โส เจ อเนน ฆาติโต, ปิตุฆาตโกตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ, อานนฺตริยฺจ ผุสติ.

อรหนฺตฆาตโกปิ มนุสฺสอรหนฺตวเสเนว เวทิตพฺโพ. มนุสฺสชาติยฺหิ อนฺตมโส อปพฺพชิตมฺปิ ขีณาสวํ ทารกํ วา ทาริกํ วา สฺจิจฺจ ชีวิตา โวโรเปนฺโต อรหนฺตฆาตโกว โหติ, อานนฺตริยฺจ ผุสติ, ปพฺพชฺชา จสฺส วาริตา. อมนุสฺสชาติกํ ปน อรหนฺตํ มนุสฺสชาติกํ วา อวเสสํ อริยปุคฺคลํ ฆาเตตฺวา อานนฺตริโก น โหติ, ปพฺพชฺชาปิสฺส น วาริตา, กมฺมํ ปน พลวํ โหติ. ติรจฺฉาโน มนุสฺสอรหนฺตมฺปิ ฆาเตตฺวา อานนฺตริโก น โหติ, กมฺมํ ปน ภาริยนฺติ อยเมตฺถ วินิจฺฉโย.

โย ปน เทวทตฺโต วิย ทุฏฺจิตฺเตน วธกจิตฺเตน ตถาคตสฺส ชีวมานกสรีเร ขุทฺทกมกฺขิกาย ปิวนมตฺตมฺปิ โลหิตํ อุปฺปาเทติ, อยํ โลหิตุปฺปาทโก นาม. เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา. โย ปน โรควูปสมตฺถํ ชีวโก วิย สตฺเถน ผาเลตฺวา ปูติมํสโลหิตํ หริตฺวา ผาสุกํ กโรติ, พหุํ โส ปุฺํ ปสวตีติ.

โย เทวทตฺโต วิย สาสนํ อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ กตฺวา จตุนฺนํ กมฺมานํ อฺตรวเสน สงฺฆํ ภินฺทติ, อยํ สงฺฆเภทโก นาม. เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา.

โย ปน ปกตตฺตํ ภิกฺขุนึ ติณฺณํ มคฺคานํ อฺตรสฺมึ ทูเสติ, อยํ ภิกฺขุนีทูสโก นาม. เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา. โย ปน กายสํสคฺเคน สีลวินาสํ ปาเปติ, ตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ น วาริตา. พลกฺกาเรน โอทาตวตฺถวสนํ กตฺวา อนิจฺฉมานํเยว ทูเสนฺโตปิ ภิกฺขุนีทูสโกเยว, พลกฺกาเรน ปน โอทาตวตฺถวสนํ กตฺวา อิจฺฉมานํ ทูเสนฺโต ภิกฺขุนีทูสโก น โหติ. กสฺมา? ยสฺมา คิหิภาเว สมฺปฏิจฺฉิ ตมตฺเตเยว สา อภิกฺขุนี โหติ. สกึสีลวิปนฺนํ ปจฺฉา ทูเสนฺโต สิกฺขมานสามเณรีสุ จ วิปฺปฏิปชฺชนฺโต เนว ภิกฺขุนีทูสโก โหติ, ปพฺพชฺชมฺปิ อุปสมฺปทมฺปิ ลภติ. อิติ อิเม เอกาทส อภพฺพปุคฺคลา เวทิตพฺพา.

๑๔๒. อูนวีสติวสฺสสฺส ปน อุปสมฺปทาเยว ปฏิกฺขิตฺตา, น ปพฺพชฺชา, ตสฺมา ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปฏฺาย ปริปุณฺณวีสติวสฺโส อุปสมฺปาเทตพฺโพ. คพฺภวีโสปิ หิ ปริปุณฺณวีสติวสฺโสตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ยถาห ภควา –

‘‘ยํ, ภิกฺขเว, มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปมํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ปมํ วิฺาณํ ปาตุภูตํ, ตทุปาทาย สาวสฺส ชาติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คพฺภวีสํ อุปสมฺปาเทตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๒๔).

ตตฺถ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๐๔) โย ทฺวาทส มาเส มาตุกุจฺฉิสฺมึ วสิตฺวา มหาปวารณาย ชาโต, โส ตโต ปฏฺาย ยาว เอกูนวีสติเม วสฺเส มหาปวารณา, ตํ อติกฺกมิตฺวา ปาฏิปเท อุปสมฺปาเทตพฺโพ. เอเตนุปาเยน หายนวฑฺฒนํ เวทิตพฺพํ. โปราณกตฺเถรา ปน เอกูนวีสติวสฺสํ สามเณรํ นิกฺขมนียปุณฺณมาสึ อติกฺกมฺม ปาฏิปททิวเส อุปสมฺปาเทนฺติ. กสฺมา? เอกสฺมึ วสฺเส ฉ จาตุทฺทสิกอุโปสถา โหนฺติ, อิติ วีสติยา วสฺเสสุ จตฺตาโร มาสา ปริหายนฺติ, ราชาโน ตติเย ตติเย คสฺเส วสฺสํ อุกฺกฑฺฒนฺติ, อิติ อฏฺารสวสฺเสสุ ฉ มาสา วฑฺฒนฺติ, ตโต อุโปสถวเสน ปริหีเน จตฺตาโร มาเส อปเนตฺวา ทฺเว มาสา อวเสสา โหนฺติ, เต ทฺเว มาเส คเหตฺวา วีสติ วสฺสานิ ปริปุณฺณานิ โหนฺตีติ นิกฺกงฺขา หุตฺวา นิกฺขมนียปุณฺณมาสึ อติกฺกมฺม ปาฏิปเท อุปสมฺปาเทนฺติ.

เอตฺถ ปน โย ปวาเรตฺวา วีสติวสฺโส ภวิสฺสติ, ตํ สนฺธาย ‘‘เอกูนวีสติวสฺส’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺมา โย มาตุกุจฺฉิสฺมึ ทฺวาทส มาเส วสิ, โส เอกวีสติวสฺโส โหติ. โย สตฺต มาเส วสิ, โส สตฺตมาสาธิกวีสติวสฺโส. ฉมาสชาโต ปน น ชีวติ, อูนวีสติวสฺสํ ปน ‘‘ปริปุณฺณวีสติวสฺโส’’ติ สฺาย อุปสมฺปาเทนฺตสฺส อนาปตฺติ, ปุคฺคโล ปน อนุปสมฺปนฺโนว โหติ. สเจ ปน โส ทสวสฺสจฺจเยน อฺํ อุปสมฺปาเทติ, ตฺเจ มุฺจิตฺวา คโณ ปูรติ, สูปสมฺปนฺโน. โสปิ จ ยาว น ชานาติ, ตาวสฺส เนว สคฺคนฺตราโย น โมกฺขนฺตราโย, ตฺวา ปน ปุน อุปสมฺปชฺชิตพฺพํ.

๑๔๓. อิติ อิเมหิ ปพฺพชฺชาโทเสหิ วิรหิโตปิ ‘‘น, ภิกฺขเว, อนนุฺาโต มาตาปิตูหิ ปุตฺโต ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๑๐๕) วจนโต มาตาปิตูหิ อนนุฺาโต น ปพฺพาเชตพฺโพ. ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๐๕) มาตาปิตูหีติ ชนเก สนฺธาย วุตฺตํ. สเจ ทฺเวปิ อตฺถิ, ทฺเวปิ อาปุจฺฉิตพฺพา. สเจ ปิตา มโต โหติ มาตา วา, โย ชีวติ, โส อาปุจฺฉิ ตพฺโพ, ปพฺพชิตาปิ อาปุจฺฉิตพฺพาว. อาปุจฺฉนฺเตน สยํ วา คนฺตฺวา อาปุจฺฉิตพฺพํ, อฺโ วา เปเสตพฺโพ. โส เอว วา เปเสตพฺโพ ‘‘คจฺฉ มาตาปิตโร อาปุจฺฉิตฺวา เอหี’’ติ. สเจ ‘‘อนุฺาโตมฺหี’’ติ วทติ, สทฺทหนฺเตน ปพฺพาเชตพฺโพ. ปิตา สยํ ปพฺพชิโต ปุตฺตมฺปิ ปพฺพาเชตุกาโม โหติ, มาตรํ อาปุจฺฉิตฺวา ปพฺพาเชตุ. มาตา วา ธีตรํ ปพฺพาเชตุกามา ปิตรํ อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตุ. ปิตา ปุตฺตทาเรน อนตฺถิโก ปลายิ, มาตา ‘‘อิมํ ปพฺพเชถา’’ติ ปุตฺตํ ภิกฺขูนํ เทติ, ‘‘ปิตาสฺส กุหิ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘จิตฺตเกฬึ กีฬิตุํ ปลาโต’’ติ วทติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. มาตา เกนจิ ปุริเสน สทฺธึ ปลาตา โหติ, ปิตา ปน ‘‘ปพฺพาเชถา’’ติ วทติ, เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปิตา วิปฺปวุตฺโถ โหติ, มาตา ปุตฺตํ ‘‘ปพฺพาเชถา’’ติ อนุชานาติ, ‘‘ปิตาสฺส กุหิ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘กึ ตุมฺหากํ ปิตรา, อหํ ชานิสฺสามี’’ติ วทติ, ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ.

มาตาปิตโร มตา, ทารโก จูฬมาตาทีนํ สนฺติเก สํวทฺโธ, ตสฺมึ ปพฺพาชิยมาเน าตกา กลหํ วา กโรนฺติ ขิยฺยนฺติ วา, ตสฺมา วิวาทุปจฺเฉทนตฺถํ อาปุจฺฉิตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ, อนาปุจฺฉิตฺวา ปพฺพาเชนฺตสฺส ปน อาปตฺติ นตฺถิ. ทหรกาเล คเหตฺวา โปสกา มาตาปิตโร นาม โหนฺติ, เตสุปิ เอเสว นโย. ปุตฺโต อตฺตานํ นิสฺสาย ชีวติ, น มาตาปิตโร. สเจปิ ราชา โหติ, อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตพฺโพ. มาตาปิตูหิ อนุฺาโต ปพฺพชิตฺวา ปุน วิพฺภมติ, สเจปิ สตกฺขตฺตุํ ปพฺพชิตฺวา วิพฺภมติ, อาคตาคตกาเล ปุนปฺปุนํ อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจปิ เอวํ วทนฺติ ‘‘อยํ วิพฺภมิตฺวา เคหํ อาคโต, อมฺหากํ กมฺมํ น กโรติ, ปพฺพชิตฺวา ตุมฺหากํ วตฺตํ น ปูเรติ, นตฺถิ อิมสฺส อาปุจฺฉนกิจฺจํ, อาคตาคตํ นํ ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ, เอวํ นิสฺสฏฺํ ปุน อนาปุจฺฉาปิ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

โยปิ ทหรกาเลเยว ‘‘อยํ ตุมฺหากํ ทินฺโน, ยทา อิจฺฉถ, ตทา ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ เอวํ ทินฺโน โหติ, โสปิ อาคตาคโต ปุน อนาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตพฺโพ. ยํ ปน ทหรกาเลเยว ‘‘อิมํ, ภนฺเต, ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ อนุชานิตฺวา ปจฺฉา วุฑฺฒิปฺปตฺตกาเล นานุชานนฺติ, อยํ น อนาปุจฺฉา ปพฺพาเชตพฺโพ. เอโก มาตาปิตูหิ สทฺธึ ภณฺฑิตฺวา ‘‘ปพฺพาเชถ ม’’นฺติ อาคจฺฉติ, ‘‘อาปุจฺฉิตฺวา เอหี’’ติ จ วุตฺโต ‘‘นาหํ คจฺฉามิ, สเจ มํ น ปพฺพาเชถ, วิหารํ วา ฌาเปมิ, สตฺเถน วา ตุมฺเห ปหรามิ, ตุมฺหากํ าตกานํ วา อุปฏฺากานํ วา อารามจฺเฉทนาทีหิ อนตฺถํ อุปฺปาเทมิ, รุกฺขา วา ปติตฺวา มรามิ, โจรมชฺฌํ วา ปวิสามิ, เทสนฺตรํ วา คจฺฉามี’’ติ วทติ, ตํ ตสฺเสว รกฺขณตฺถาย ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปนสฺส มาตาปิตโร อาคนฺตฺวา ‘‘กสฺมา อมฺหากํ ปุตฺตํ ปพฺพาชยิตฺถา’’ติ วทนฺติ, เตสํ ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘รกฺขณตฺถาย นํ ปพฺพาชยิมฺห, ปฺายถ ตุมฺเห ปุตฺเตนา’’ติ วตฺตพฺพา. ‘‘รุกฺขา ปติสฺสามี’’ติ อภิรุหิตฺวา ปน หตฺถปาเท มุฺจนฺตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติเยว.

เอโก วิเทสํ คนฺตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจติ, อาปุจฺฉิตฺวา เจ คโต, ปพฺพาเชตพฺโพ. โน เจ, ทหรภิกฺขุํ เปเสตฺวา อาปุจฺฉาเปตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. อติทูรฺเจ โหติ, ปพฺพาเชตฺวาปิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ เปเสตฺวา ทสฺเสตุํ วฏฺฏติ. กุรุนฺทิยํ ปน วุตฺตํ ‘‘สเจ ทูรํ โหติ, มคฺโค จ มหากนฺตาโร, ‘คนฺตฺวา อาปุจฺฉิสฺสามี’ติ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ. สเจ ปน มาตาปิตูนํ พหู ปุตฺตา โหนฺติ, เอวฺจ วทนฺติ ‘‘ภนฺเต, เอเตสํ ทารกานํ ยํ อิจฺฉถ, ตํ ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ, ทารเก วีมํสิตฺวา ยํ อิจฺฉติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจปิ สกเลน กุเลน วา คาเมน วา อนุฺาโต โหติ ‘‘ภนฺเต, อิมสฺมึ กุเล วา คาเม วา ยํ อิจฺฉถ, ตํ ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ, ยํ อิจฺฉติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพติ.

๑๔๔. เอวํ (มหาว. อฏฺ. ๓๔) ปพฺพชฺชาโทสวิรหิตํ มาตาปิตูหิ อนุฺาตํ ปพฺพาเชนฺเตนปิ จ สเจ อจฺฉินฺนเกโส โหติ, เอกสีมายฺจ อฺเปิ ภิกฺขู อตฺถิ, เกสจฺเฉทนตฺถาย ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉิตพฺพํ. ตตฺรายํ อาปุจฺฉนวิธิ (มหาว. อฏฺ. ๙๘) – สีมาปริยาปนฺเน ภิกฺขู สนฺนิปาเตตฺวา ปพฺพชฺชาเปกฺขํ ตตฺถ เนตฺวา ‘‘สงฺฆํ, ภนฺเต, อิมสฺส ทารกสฺส ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา สกึ วา วตฺตพฺพํ. เอตฺถ จ ‘‘อิมสฺส ทารกสฺส ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉามี’’ติปิ ‘‘อิมสฺส สมณกรณํ อาปุจฺฉามี’’ติปิ ‘‘อยํ สมโณ โหตุกาโม’’ติปิ ‘‘อยํ ปพฺพชิตุกาโม’’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติเยว. สเจ สภาคฏฺานํ โหติ, ทส วา วีสติ วา ตึสํ วา ภิกฺขู วสนฺตีติ ปริจฺเฉโท ปฺายติ, เตสํ ิโตกาสํ วา นิสินฺโนกาสํ วา คนฺตฺวาปิ ปุริมนเยเนว อาปุจฺฉิตพฺพํ. ปพฺพชฺชาเปกฺขํ วินาว ทหรภิกฺขู วา สามเณเร วา เปเสตฺวาปิ ‘‘เอโก, ภนฺเต, ปพฺพชฺชาเปกฺโข อตฺถิ, ตสฺส ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉามา’’ติอาทินา นเยน อาปุจฺฉาเปตุํ วฏฺฏติ. สเจ เกจิ ภิกฺขู เสนาสนํ วา คุมฺพาทีนิ วา ปวิสิตฺวา นิทฺทายนฺติ วา สมณธมฺมํ วา กโรนฺติ, อาปุจฺฉกา จ ปริเยสนฺตาปิ อทิสฺวา ‘‘สพฺเพ อาปุจฺฉิตา อมฺเหหี’’ติ สฺิโน โหนฺติ, ปพฺพชฺชา นาม ลหุกกมฺมํ, ตสฺมา ปพฺพชิโต สุปพฺพชิโต, ปพฺพาเชนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ.

สเจ ปน วิหาโร มหา โหติ อเนกภิกฺขุสหสฺสาวาโส, สพฺเพ ภิกฺขู สนฺนิปาตาเปตุมฺปิ ทุกฺกรํ, ปเคว ปฏิปาฏิยา อาปุจฺฉิตุํ, ขณฺฑสีมาย วา ตฺวา นทีสมุทฺทาทีนิ วา คนฺตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปน นวมุณฺโฑ วา โหติ วิพฺภนฺตโก วา นิคณฺาทีสุ อฺตโร วา ทฺวงฺคุลเกโส วา อูนทฺวงฺคุลเกโส วา, ตสฺส เกสจฺเฉทนกิจฺจํ นตฺถิ, ตสฺมา ภณฺฑุกมฺมํ อนาปุจฺฉิตฺวาปิ ตาทิสํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. ทฺวงฺคุลาติริตฺตเกโส ปน โย โหติ อนฺตมโส เอกสิขามตฺตธโรปิ, โส ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตพฺโพ.

๑๔๕. เอวํ อาปุจฺฉิตฺวา ปพฺพาเชนฺเตน จ ปริปุณฺณปตฺตจีวโรว ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ตสฺส นตฺถิ, ยาจิตเกนปิ ปตฺตจีวเรน ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ, สภาคฏฺาเน วิสฺสาเสน คเหตฺวาปิ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. สเจ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๘) ปน อปกฺกํ ปตฺตํ จีวรูปคานิ จ วตฺถานิ คเหตฺวา อาคโต โหติ, ยาว ปตฺโต ปจฺจติ, จีวรานิ จ กรียนฺติ, ตาว วิหาเร วสนฺตสฺส อนามฏฺปิณฺฑปาตํ ทาตุํ วฏฺฏติ, ถาลเกสุ ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ปุเรภตฺตํ สามเณรภาคสมโก อามิสภาโค ทาตุํ วฏฺฏติ, เสนาสนคฺคาโห ปน สลากภตฺตอุทฺเทสภตฺตนิมนฺตนาทีนิ จ น วฏฺฏนฺติ. ปจฺฉาภตฺตมฺปิ สามเณรภาคสโม เตลตณฺฑุลมธุผาณิตาทิเภสชฺชภาโค วฏฺฏติ. สเจ คิลาโน โหติ, เภสชฺชมสฺส กาตุํ วฏฺฏติ, สามเณรสฺส วิย สพฺพํ ปฏิชคฺคนกมฺมํ. อุปสมฺปทาเปกฺขํ ปน ยาจิตเกน ปตฺตจีวเรน อุปสมฺปาเทตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘น, ภิกฺขเว, ยาจิตเกน ปตฺตจีวเรน อุปสมฺปาเทตพฺโพ, โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๑๘) วุตฺตํ. ตสฺมา โส ปริปุณฺณปตฺตจีวโรเยว อุปสมฺปาเทตพฺโพ. สเจ ตสฺส นตฺถิ, อาจริยุปชฺฌายา จสฺส ทาตุกามา โหนฺติ, อฺเ วา ภิกฺขู นิรเปกฺเขหิ นิสฺสชฺชิตฺวา อธิฏฺานุปคํ ปตฺตจีวรํ ทาตพฺพํ. ยาจิตเกน ปน ปตฺเตน วา จีวเรน วา อุปสมฺปาเทนฺตสฺเสว อาปตฺติ โหติ, กมฺมํ ปน น กุปฺปติ.

๑๔๖. ปริปุณฺณปตฺตจีวรํ (มหาว. อฏฺ. ๓๔) ปพฺพาเชนฺเตนปิ สเจ โอกาโส โหติ, สยํ ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีหิ พฺยาวโฏ โหติ, โอกาสํ น ลภติ, เอโก ทหรภิกฺขุ วตฺตพฺโพ ‘‘เอตํ ปพฺพาเชหี’’ติ. อวุตฺโตปิ เจ ทหรภิกฺขุ อุปชฺฌายํ อุทฺทิสฺส ปพฺพาเชติ, วฏฺฏติ. สเจ ทหรภิกฺขุ นตฺถิ, สามเณโรปิ วตฺตพฺโพ ‘‘เอตํ ขณฺฑสีมํ เนตฺวา ปพฺพาเชตฺวา กาสายานิ อจฺฉาเทตฺวา เอหี’’ติ. สรณานิ ปน สยํ ทาตพฺพานิ. เอวํ ภิกฺขุนาว ปพฺพาชิโต โหติ. ปุริสฺหิ ภิกฺขุโต อฺโ ปพฺพาเชตุํ น ลภติ, มาตุคามํ ภิกฺขุนีโต อฺโ, สามเณโร ปน สามเณรี วา อาณตฺติยา กาสายานิ ทาตุํ ลภนฺติ, เกโสโรปนํ เยน เกนจิ กตํ สุกตํ.

สเจ ปน ภพฺพรูโป โหติ สเหตุโก าโต ยสสฺสี กุลปุตฺโต, โอกาสํ กตฺวาปิ สยเมว ปพฺพาเชตพฺโพ, ‘‘มตฺติกามุฏฺึ คเหตฺวา นหายิตฺวา อาคจฺฉาหี’’ติ จ น ปน วิสฺสชฺเชตพฺโพ. ปพฺพชิตุกามานฺหิ ปมํ พลวอุสฺสาโห โหติ, ปจฺฉา ปน กาสายานิ จ เกสหรณสตฺถกฺจ ทิสฺวา อุตฺรสนฺติ, เอตฺโตเยว ปลายนฺติ, ตสฺมา สยเมว นหานติตฺถํ เนตฺวา สเจ นาติทหโร, ‘‘นหาหี’’ติ วตฺตพฺโพ, เกสา ปนสฺส สยเมว มตฺติกํ คเหตฺวา โธวิตพฺพา. ทหรกุมารโก ปน สยํ อุทกํ โอตริตฺวา โคมยมตฺติกาหิ ฆํสิตฺวา นหาเปตพฺโพ. สเจปิสฺส กจฺฉุ วา ปิฬกา วา โหนฺติ, ยถา มาตา ปุตฺตํ น ชิคุจฺฉติ, เอวเมวํ อชิคุจฺฉนฺเตน สาธุกํ หตฺถปาทโต จ สีสโต จ ปฏฺาย ฆํสิตฺวา ฆํสิตฺวา นหาเปตพฺโพ. กสฺมา? เอตฺตเกน หิ อุปกาเรน กุลปุตฺตา อาจริยุปชฺฌาเยสุ จ สาสเน จ พลวสิเนหา ติพฺพคารวา อนิวตฺติธมฺมา โหนฺติ, อุปฺปนฺนํ อนภิรตึ วิโนเทตฺวา เถรภาวํ ปาปุณนฺติ, กตฺุกตเวทิโน โหนฺติ.

เอวํ นหาปนกาเล ปน เกสมสฺสุํ โอโรปนกาเล วา ‘‘ตฺวํ าโต ยสสฺสี, อิทานิ มยํ ตํ นิสฺสาย ปจฺจเยหิ น กิลมิสฺสามา’’ติ น วตฺตพฺโพ, อฺาปิ อนิยฺยานิกกถา น วตฺตพฺพา, อถ ขฺวสฺส ‘‘อาวุโส, สุฏฺุ อุปธาเรหิ, สตึ อุปฏฺาเปหี’’ติ วตฺวา ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ อาจิกฺขิตพฺพํ. อาจิกฺขนฺเตน จ วณฺณสณฺานคนฺธาสโยกาสวเสน อสุจิเชคุจฺฉปฏิกฺกูลภาวํ นิชฺชีวนิสฺสตฺตภาวํ วา ปากฏํ กโรนฺเตน อาจิกฺขิตพฺพํ. สเจ หิ โส ปุพฺเพ มทฺทิตสงฺขาโร โหติ ภาวิตภาวโน กณฺฏกเวธาเปกฺโข วิย ปริปกฺกคณฺโฑ สูริยุคฺคมนาเปกฺขํ วิย จ ปริณตปทุมํ, อถสฺส อารทฺธมตฺเต กมฺมฏฺานํ มนสิกาเร อินฺทาสนิ วิย ปพฺพเต กิเลสปพฺพเต จุณฺณยมานํเยว าณํ ปวตฺตติ, ขุรคฺเคเยว อรหตฺตํ ปาปุณาติ. เย หิ เกจิ ขุรคฺเค อรหตฺตํ ปตฺตา, สพฺเพ เต เอวรูปํ สวนํ ลภิตฺวา กลฺยาณมิตฺเตน อาจริเยน ทินฺนนยํ นิสฺสาย, โน อนิสฺสาย. ตสฺมาสฺส อาทิโตว เอวรูปี กถา กเถตพฺพาติ.

เกเสสุ ปน โอโรปิเตสุ หลิทฺทิจุณฺเณน วา คนฺธจุณฺเณน วา สีสฺจ สรีรฺจ อุพฺพฏฺเฏตฺวา คิหิคนฺธํ อปเนตฺวา กาสายานิ ติกฺขตฺตุํ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา สกึ วา ปฏิคฺคาหาเปตพฺโพ. อถาปิสฺส หตฺเถ อทตฺวา อาจริโย วา อุปชฺฌาโย วา สยเมว อจฺฉาเทติ, วฏฺฏติ. สเจ อฺํ ทหรํ วา สามเณรํ วา อุปาสกํ วา อาณาเปติ ‘‘อาวุโส, เอตานิ กาสายานิ คเหตฺวา เอตํ อจฺฉาเทหี’’ติ, ตฺเว วา อาณาเปติ ‘‘เอตานิ คเหตฺวา อจฺฉาเทหี’’ติ, สพฺพํ ตํ วฏฺฏติ, สพฺพํ เตน ภิกฺขุนาว ทินฺนํ โหติ. ยํ ปน นิวาสนํ วา ปารุปนํ วา อนาณตฺติยา นิวาเสติ วา ปารุปติ วา, ตํ อปเนตฺวา ปุน ทาตพฺพํ. ภิกฺขุนา หิ สหตฺเถน วา อาณตฺติยา วา ทินฺนเมว กาสายํ วฏฺฏติ, อทินฺนํ น วฏฺฏติ. สเจปิ ตสฺเสว สนฺตกํ โหติ, โก ปน วาโท อุปชฺฌายมูลเก.

๑๔๗. เอวํ ปน ทินฺนานิ กาสายานิ อจฺฉาทาเปตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ การาเปตฺวา เย ตตฺถ สนฺนิปติตา ภิกฺขู, เตสํ ปาเท วนฺทาเปตฺวา อถ สรณคหณตฺถํ อุกฺกุฏิกํ นิสีทาเปตฺวา อฺชลึ ปคฺคณฺหาเปตฺวา ‘‘เอวํ วเทหี’’ติ วตฺตพฺโพ, ‘‘ยมหํ วทามิ, ตํ วเทหี’’ติ วตฺตพฺโพ. อถสฺส อุปชฺฌาเยน วา อาจริเยน วา ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติอาทินา นเยน สรณานิ ทาตพฺพานิ ยถาวุตฺตปฏิปาฏิยาว, น อุปฺปฏิปาฏิยา. สเจ หิ เอกปทมฺปิ เอกกฺขรมฺปิ อุปฺปฏิปาฏิยา เทติ, พุทฺธํ สรณํเยว วา ติกฺขตฺตุํ ทตฺวา ปุน อิตเรสุ เอเกกํ ติกฺขตฺตุํ เทติ, อทินฺนานิ โหนฺติ สรณานิ.

อิมฺจ ปน สรณคมนุปสมฺปทํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อนุฺาตอุปสมฺปทา เอกโตสุทฺธิยา วฏฺฏติ, สามเณรปพฺพชฺชา ปน อุภโตสุทฺธิยาว วฏฺฏติ, โน เอกโตสุทฺธิยา. ตสฺมา อุปสมฺปทาย สเจ อาจริโย ตฺติโทสฺเจว กมฺมวาจาโทสฺจ วชฺเชตฺวา กมฺมํ กโรติ, สุกตํ โหติ. ปพฺพชฺชาย ปน อิมานิ ตีณิ สรณานิ พุ-การ ธ-การาทีนํ พฺยฺชนานํ านกรณสมฺปทํ อหาเปนฺเตน อาจริเยนปิ อนฺเตวาสิเกนปิ วตฺตพฺพานิ. สเจ อาจริโย วตฺตุํ สกฺโกติ, อนฺเตวาสิโก น สกฺโกติ, อนฺเตวาสิโก วา สกฺโกติ, อาจริโย น สกฺโกติ, อุโภปิ วา น สกฺโกนฺติ, น วฏฺฏติ. สเจ ปน อุโภปิ สกฺโกนฺติ, วฏฺฏติ. อิมานิ จ ปน ททมาเนน ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ เอวํ เอกสมฺพนฺธานิ อนุนาสิกนฺตานิ วา กตฺวา ทาตพฺพานิ, ‘‘พุทฺธม สรณม คจฺฉามี’’ติ เอวํ วิจฺฉินฺทิตฺวา มการนฺตานิ วา กตฺวา ทาตพฺพานิ. อนฺธกฏฺกถายํ ‘‘นามํ สาเวตฺวา ‘อหํ, ภนฺเต, พุทฺธรกฺขิโต ยาวชีวํ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ วุตฺตํ, ตํ เอกฏฺกถายมฺปิ นตฺถิ, ปาฬิยมฺปิ น วุตฺตํ, เตสํ รุจิมตฺตเมว, ตสฺมา น คเหตพฺพํ. น หิ ตถา อวทนฺตสฺส สรณํ กุปฺปติ. เอตฺตาวตา จ สามเณรภูมิยํ ปติฏฺิโต โหติ.

๑๔๘. สเจ ปเนส คติมา โหติ ปณฺฑิตชาติโก, อถสฺส ตสฺมึเยว าเน สิกฺขาปทานิ อุทฺทิสิตพฺพานิ. กถํ? ยถา ภควตา อุทฺทิฏฺานิ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สามเณรานํ ทส สิกฺขาปทานิ, เตสุ จ สามเณเรหิ สิกฺขิตุํ. ปาณาติปาตา เวรมณิ, อทินฺนาทานา เวรมณิ, อพฺรหฺมจริยา เวรมณิ, มุสาวาทา เวรมณิ, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา เวรมณิ, วิกาลโภชนา เวรมณิ, นจฺจคีตวาทิต วิสูกทสฺสนา เวรมณิ, มาลาคนฺธ วิเลปน ธารณ มณฺฑน วิภูสนฏฺานา เวรมณิ, อุจฺจาสยนมหาสยนา เวรมณิ, ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณา เวรมณี’’ติ (มหาว. ๑๐๖).

อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘อหํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนาโม ยาวชีวํ ปาณาติปาตา เวรมณิสิกฺขาปทํ สมาทิยามี’’ติ เอวํ สรณทานํ วิย สิกฺขาปททานมฺปิ วุตฺตํ, ตํ เนว ปาฬิยํ, น อฏฺกถาสุ อตฺถิ, ตสฺมา ยถาปาฬิยาว อุทฺทิสิตพฺพานิ. ปพฺพชฺชา หิ สรณคมเนเหว สิทฺธา, สิกฺขาปทานิ ปน เกวลํ สิกฺขาปทปูรณตฺถํ ชานิตพฺพานิ, ตสฺมา ปาฬิยา อาคตนเยเนว อุคฺคเหตุํ อสกฺโกนฺตสฺส ยาย กายจิ ภาสาย อตฺถวเสนปิ อาจิกฺขิตุํ วฏฺฏติ. ยาว ปน อตฺตนา สิกฺขิตพฺพสิกฺขาปทานิ น ชานาติ, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณฏฺานนิสชฺชาทีสุ ปานโภชนาทิวิธิมฺหิ จ น กุสโล โหติ, ตาว โภชนสาลํ วา สลากภาชนฏฺานํ วา อฺํ วา ตถารูปฏฺานํ น เปเสตพฺโพ, สนฺติกาวจโรเยว กาตพฺโพ, พาลทารโก วิย ปฏิปชฺชิตพฺโพ, สพฺพมสฺส กปฺปิยากปฺปิยํ อาจิกฺขิตพฺพํ, นิวาสนปารุปนาทีสุ อภิสมาจาริเกสุ วิเนตพฺโพ. เตนปิ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทสหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ สามเณรํ นาเสตุํ. ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, อพฺรหฺมจารี โหติ, มุสาวาที โหติ, มชฺชปายี โหติ, พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส อวณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส อวณฺณํ ภาสติ, มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ, ภิกฺขุนีทูสโก โหตี’’ติ (มหาว. ๑๐๘) –

เอวํ วุตฺตานิ ทส นาสนงฺคานิ อารกา ปริวชฺเชตฺวา อาภิสมาจาริกํ ปริปูเรนฺเตน ทสวิเธ สีเล สาธุกํ สิกฺขิตพฺพํ.

๑๔๙. โย ปน (มหาว. อฏฺ. ๑๐๘) ปาณาติปาตาทีสุ ทสสุ นาสนงฺเคสุ เอกมฺปิ กมฺมํ กโรติ, โส ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺโพ. ตีสุ หิ นาสนาสุ ลิงฺคนาสนาเยว อิธาธิปฺเปตา. ยถา จ ภิกฺขูนํ ปาณาติปาตาทีสุ ตา ตา อาปตฺติโย โหนฺติ, น ตถา สามเณรานํ. สามเณโร หิ กุนฺถ กิปิลฺลิกมฺปิ มาเรตฺวา มงฺคุลณฺฑกมฺปิ ภินฺทิตฺวา นาเสตพฺพตํเยว ปาปุณาติ, ตาวเทวสฺส สรณคมนานิ จ อุปชฺฌายคฺคหณฺจ เสนาสนคฺคาโห จ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, สงฺฆลาภํ น ลภติ, ลิงฺคมตฺตเมว เอกํ อวสิฏฺํ โหติ. โส สเจ อากิณฺณโทโสว โหติ, อายตึ สํวเร น ติฏฺติ, นิกฺกฑฺฒิตพฺโพ. อถ สหสา วิรชฺฌิตฺวา ‘‘ทุฏฺุ มยา กต’’นฺติ ปุน สํวเร าตุกาโม โหติ, ลิงฺคนาสนกิจฺจํ นตฺถิ, ยถานิวตฺถปารุตสฺเสว สรณานิ ทาตพฺพานิ, อุปชฺฌาโย ทาตพฺโพ. สิกฺขาปทานิ ปน สรณคมเนเนว อิชฺฌนฺติ. สามเณรานฺหิ สรณคมนํ ภิกฺขูนํ อุปสมฺปทกมฺมวาจาสทิสํ, ตสฺมา ภิกฺขูนํ วิย จตุปาริสุทฺธิสีลํ อิมินาปิ ทส สีลานิ สมาทินฺนาเนว โหนฺติ, เอวํ สนฺเตปิ ทฬฺหีกรณตฺถํ อายตึ สํวเร ปติฏฺาปนตฺถํ ปุน ทาตพฺพานิ. สเจ ปุริมิกาย ปุน สรณานิ คหิตานิ, ปจฺฉิมิกาย วสฺสาวาสิกํ ลจฺฉติ. สเจ ปจฺฉิมิกาย คหิตานิ, สงฺเฆน อปโลเกตฺวา ลาโภ ทาตพฺโพ. อทินฺนาทาเน ติณสลากมตฺเตนปิ วตฺถุนา, อพฺรหฺมจริเย ตีสุ มคฺเคสุ ยตฺถ กตฺถจิ วิปฺปฏิปตฺติยา, มุสาวาเท หสาธิปฺปายตายปิ มุสา ภณิเต อสฺสมโณ โหติ, นาเสตพฺพตํ อาปชฺชติ, มชฺชปาเน ปน ภิกฺขุโน อชานิตฺวาปิ พีชโต ปฏฺาย มชฺชํ ปิวนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. สามเณโร ชานิตฺวา ปิวนฺโตว สีลเภทํ อาปชฺชติ, น อชานิตฺวา. ยานิ ปนสฺส อิตรานิ ปฺจ สิกฺขาปทานิ, เอเตสุ ภินฺเนสุ น นาเสตพฺโพ, ทณฺฑกมฺมํ กาตพฺพํ. สิกฺขาปเท ปน ปุน ทินฺเนปิ อทินฺเนปิ วฏฺฏติ, ทณฺฑกมฺเมน ปน ปีเฬตฺวา อายตึ สํวเร ปนตฺถาย ทาตพฺพเมว.

อวณฺณภาสเน ปน ‘‘อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติอาทีนํ ปฏิปกฺขวเสน พุทฺธสฺส วา ‘‘สฺวากฺขาโต’’ติอาทีนํ ปฏิปกฺขวเสน ธมฺมสฺส วา ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน’’ติอาทีนํ ปฏิปกฺขวเสน สงฺฆสฺส วา อวณฺณํ ภาสนฺโต รตนตฺตยํ นินฺทนฺโต ครหนฺโต อาจริยุปชฺฌายาทีหิ ‘‘มา เอวํ อวจา’’ติ อวณฺณภาสเน อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา นิวาเรตพฺโพ. ‘‘สเจ ยาวตติยํ วุจฺจมาโน น โอรมติ, กณฺฏกนาสนาย นาเสตพฺโพ’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘สเจ เอวํ วุจฺจมาโน ตํ ลทฺธึ นิสฺสชฺชติ, ทณฺฑกมฺมํ กาเรตฺวา อจฺจยํ เทสาเปตพฺโพ. สเจ น นิสฺสชฺชติ, ตเถว อาทาย ปคฺคยฺห ติฏฺติ, ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ. อยเมว หิ นาสนา อิธาธิปฺเปตาติ. มิจฺฉาทิฏฺิเกปิ เอเสว นโย. สสฺสตุจฺเฉทานฺหิ อฺตรทิฏฺิโก สเจ อาจริยาทีหิ โอวทิยมาโน นิสฺสชฺชติ, ทณฺฑกมฺมํ กาเรตฺวา อจฺจยํ เทสาเปตพฺโพ, อปฏินิสฺสชฺชนฺโตว นาเสตพฺโพ. ภิกฺขุนีทูสโก เจตฺถ กามํ อพฺรหฺมจาริคฺคหเณน คหิโตว, อพฺรหฺมจารึ ปน อายตึ สํวเร าตุกามํ สรณานิ ทตฺวา อุปสมฺปาเทตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุนีทูสโก อายตึ สํวเร าตุกาโมปิ ปพฺพชฺชมฺปิ น ลภติ, ปเคว อุปสมฺปทนฺติ เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภิกฺขุนีทูสโก’’ติ อิทํ วิสุํ ทสมํ องฺคํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๕๐. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส สามเณรสฺส ทณฺฑกมฺมํ กาตุํ. ภิกฺขูนํ อลาภาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขูนํ อนตฺถาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขูนํ อวาสาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขู อกฺโกสติ, ปริภาสติ, ภิกฺขู ภิกฺขูหิ เภเทตี’’ติ (มหาว. ๑๐๗) ‘‘วจนโต ปน อิมานิ ปฺจ องฺคานิ, สิกฺขาปเทสุ จ ปจฺฉิมานิ วิกาลโภชนาทีนิ ปฺจาติ ทส ทณฺฑกมฺมวตฺถูนิ. กึปเนตฺถ ทณฺฑกมฺมํ กตฺตพฺพ’’นฺติ? ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยตฺถ วา วสติ, ยตฺถ วา ปฏิกฺกมติ, ตตฺถ อาวรณํ กาตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๐๗) วจนโต ยตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๐๗) วสติ วา ปวิสติ วา, ตตฺถ อาวรณํ กาตพฺพํ ‘‘มา อิธ ปวิสา’’ติ. อุภเยนปิ อตฺตโน ปริเวณฺจ วสฺสคฺเคน ปตฺตเสนาสนฺจ วุตฺตํ. ตสฺมา น สพฺโพ สงฺฆาราโม อาวรณํ กาตพฺโพ, กโรนฺโต จ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ ‘‘น, ภิกฺขเว, สพฺโพ สงฺฆาราโม อาวรณํ กาตพฺโพ, โย กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา. น จ มุขทฺวาริโก อาหาโร อาวรณํ กาตพฺโพ, กโรนฺโต จ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ ‘‘น, ภิกฺขเว, มุขทฺวาริโก อาหาโร อาวรณํ กาตพฺโพ, โย กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา. ตสฺมา ‘‘อชฺช มา ขาท มา ภุฺชา’’ติ วทโตปิ ‘‘อาหารมฺปิ นิวาเรสฺสามี’’ติ ปตฺตจีวรํ อนฺโต นิกฺขิปโตปิ สพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏํ. อนาจารสฺส ปน ทุพฺพจสามเณรสฺส ทณฺฑกมฺมํ กตฺวา ยาคุํ วา ภตฺตํ วา ปตฺตจีวรํ วา ทสฺเสตฺวา ‘‘เอตฺตเก นาม ทณฺฑกมฺเม อาหเฏ อิทํ ลจฺฉสี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ภควตา หิ อาวรณเมว ทณฺฑกมฺมํ วุตฺตํ. ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปน ‘‘อปราธานุรูปํ อุทกทารุวาลิกาทีนํ อาหราปนมฺปิ กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา ตมฺปิ กาตพฺพํ, ตฺจ โข ‘‘โอรมิสฺสติ วิรมิสฺสตี’’ติ อนุกมฺปาย, น ‘‘นสฺสิสฺสติ วิพฺภมิสฺสตี’’ติอาทินยปฺปวตฺเตน ปาปชฺฌาสเยน. ‘‘ทณฺฑกมฺมํ กโรมี’’ติ จ อุณฺหปาสาเณ วา นิปชฺชาเปตุํ ปาสาณิฏฺกาทีนิ วา สีเส นิกฺขิปาเปตุํ อุทกํ วา ปเวเสตุํ น วฏฺฏติ.

อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉาปิ ทณฺฑกมฺมํ น กาเรตพฺพํ ‘‘น, ภิกฺขเว, อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉา อาวรณํ กาตพฺพํ, โย กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๐๘) วจนโต. เอตฺถ ปน ‘‘ตุมฺหากํ สามเณรสฺส อยํ นาม อปราโธ, ทณฺฑกมฺมมสฺส กโรถา’’ติ ติกฺขตฺตุํ วุตฺเต สเจ โส อุปชฺฌาโย ทณฺฑกมฺมํ น กโรติ, สยํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจปิ อาทิโต อุปชฺฌาโย วทติ ‘‘มยฺหํ สามเณรานํ โทเส สติ ตุมฺเห ทณฺฑกมฺมํ กโรถา’’ติ, กาตุํ วฏฺฏติเยว. ยถา จ สามเณรานํ, เอวํ สทฺธิวิหาริกนฺเตวาสิกานมฺปิ ทณฺฑกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ, อฺเสํ ปน ปริสา น อปลาเฬตพฺพา, อปลาเฬนฺโต ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ ‘‘น, ภิกฺขเว, อฺสฺส ปริสา อปลาเฬตพฺพา, โย อปลาเฬยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๐๘) วจนโต. ตสฺมา ‘‘ตุมฺหากํ ปตฺตํ เทม, จีวรํ เทมา’’ติ อตฺตโน อุปฏฺานกรณตฺถํ สงฺคณฺหิตฺวา สามเณรา วา โหนฺตุ อุปสมฺปนฺนา วา, อนฺตมโส ทุสฺสีลภิกฺขุสฺสปิ ปรสฺส ปริสภูเต ภินฺทิตฺวา คณฺหิตุํ น วฏฺฏติ, อาทีนวํ ปน วตฺตุํ วฏฺฏติ ‘‘ตยา นหายิตุํ อาคเตน คูถมกฺขนํ วิย กตํ ทุสฺสีลํ นิสฺสาย วิหรนฺเตนา’’ติ. สเจ โส สยเมว ชานิตฺวา อุปชฺฌํ วา นิสฺสยํ วา ยาจติ, ทาตุํ วฏฺฏติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ปพฺพชฺชาวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๒๓. นิสฺสยวินิจฺฉยกถา

๑๕๑. นิสฺสโยติ เอตฺถ ปน อยํ นิสฺสโย นาม เกน ทาตพฺโพ, เกน น ทาตพฺโพ, กสฺส ทาตพฺโพ, กสฺส น ทาตพฺโพ, กถํ คหิโต โหติ, กถํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, นิสฺสาย เกน วสิตพฺพํ, เกน จ น วสิตพฺพนฺติ? ตตฺถ เกน ทาตพฺโพ, เกน น ทาตพฺโพติ เอตฺถ ตาว ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน ทสวสฺเสน วา อติเรกทสวสฺเสน วา อุปสมฺปาเทตุํ, นิสฺสยํ ทาตุ’’นฺติ (มหาว. ๗๖, ๘๒) จ วจนโต โย พฺยตฺโต โหติ ปฏิพโล อุปสมฺปทาย ทสวสฺโส วา อติเรกทสวสฺโส วา, เตน ทาตพฺโพ, อิตเรน น ทาตพฺโพ. สเจ เทติ, ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ.

เอตฺถ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๔๕-๑๔๗) จ ‘‘พฺยตฺโต’’ติ อิมินา ปริสุปฏฺาปกพหุสฺสุโต เวทิตพฺโพ. ปริสุปฏฺาปเกน หิ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน ปริสํ อภิวินเย วิเนตุํ ทฺเว วิภงฺคา ปคุณา วาจุคฺคตา กาตพฺพา, อสกฺโกนฺเตน ตีหิ ชเนหิ สทฺธึ ปริวตฺตนกฺขมา กาตพฺพา, กมฺมากมฺมฺจ ขนฺธกวตฺตฺจ อุคฺคเหตพฺพํ, ปริสาย ปน อภิธมฺเม วินยนตฺถํ สเจ มชฺฌิมภาณโก โหติ, มูลปณฺณาสโก อุคฺคเหตพฺโพ, ทีฆภาณเกน มหาวคฺโค, สํยุตฺตภาณเกน เหฏฺิมา วา ตโย วคฺคา มหาวคฺโค วา, องฺคุตฺตรภาณเกน เหฏฺา วา อุปริ วา อุปฑฺฒนิกาโย อุคฺคเหตพฺโพ, อสกฺโกนฺเตน ติกนิปาตโต ปฏฺาย อุคฺคเหตุมฺปิ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘เอกํ คณฺหนฺเตน จตุกฺกนิปาตํ วา ปฺจกนิปาตํ วา อุคฺคเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ชาตกภาณเกน สาฏฺกถํ ชาตกํ อุคฺคเหตพฺพํ, ตโต โอรํ น วฏฺฏติ. ‘‘ธมฺมปทมฺปิ สห วตฺถุนา อุคฺคเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ตโต ตโต สมุจฺจยํ กตฺวา มูลปณฺณาสกมตฺตํ วฏฺฏติ, ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ กุรุนฺทฏฺกถายํ ปฏิกฺขิตฺตํ, อิตราสุ วิจารณาเยว นตฺถิ. อภิธมฺเม กิฺจิ คเหตพฺพนฺติ น วุตฺตํ. ยสฺส ปน สาฏฺกถมฺปิ วินยปิฏกํ อภิธมฺมปิฏกฺจ ปคุณํ, สุตฺตนฺเต จ วุตฺตปฺปกาโร คนฺโถ นตฺถิ, ปริสํ อุปฏฺาเปตุํ น ลภติ. เยน ปน สุตฺตนฺตโต จ วินยโต จ วุตฺตปฺปมาโณ คนฺโถ อุคฺคหิโต, อยํ ปริสุปฏฺาโก พหุสฺสุโตว โหติ, ทิสาปาโมกฺโข เยนกามํคโม ปริสํ อุปฏฺาเปตุํ ลภติ, อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ ‘‘พฺยตฺโต’’ติ อธิปฺเปโต.

โย ปน อนฺเตวาสิโน วา สทฺธิวิหาริกสฺส วา คิลานสฺส สกฺโกติ อุปฏฺานาทีนิ กาตุํ, อยํ อิธ ‘‘ปฏิพโล’’ติ อธิปฺเปโต. ยํ ปน วุตฺตํ –

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. น อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน สมาธิกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน ปฺากฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อตฺตนา น อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น ปรํ อเสกฺเข สีลกฺขนฺเธ สมาทเปตา. อตฺตนา น อเสกฺเขน สมาธิกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น ปรํ อเสกฺเข สมาธิกฺขนฺเธ สมาทเปตา. อตฺตนา น อเสกฺเขน ปฺากฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น ปรํ อเสกฺเข ปฺากฺขนฺเธ สมาทเปตา. อตฺตนา น อเสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น ปรํ อเสกฺเข วิมุตฺติกฺขนฺเธ สมาทเปตา. อตฺตนา น อเสกฺเขน วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น ปรํ อเสกฺเข วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธ สมาทเปตา. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อสฺสทฺโธ โหติ, อหิริโก โหติ, อโนตฺตปฺปี โหติ, กุสีโต โหติ, มุฏฺสฺสติ โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อธิสีเล สีลวิปนฺโน โหติ, อชฺฌาจาเร อาจารวิปนฺโน โหติ, อติทิฏฺิยา ทิฏฺิวิปนฺโน โหติ, อปฺปสฺสุโต โหติ, ทุปฺปฺโ โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. น ปฏิพโล โหติ อนฺเตวาสึ วา สทฺธิวิหารึ วา คิลานํ อุปฏฺาตุํ วา อุปฏฺาเปตุํ วา, อนภิรตํ วูปกาเสตุํ วา วูปกาสาเปตุํ วา, อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ ธมฺมโต วิโนเทตุํ, อาปตฺตึ น ชานาติ, อาปตฺติยา วุฏฺานํ น ชานาติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. น ปฏิพโล โหติ อนฺเตวาสึ วา สทฺธิวิหารึ วา อาภิสมาจาริกาย สิกฺขาย สิกฺขาเปตุํ, อาทิพฺรหฺมจริยกาย สิกฺขาย วิเนตุํ, อภิธมฺเม วิเนตุํ, อภิวินเย วิเนตุํ, อุปฺปนฺนํ ทิฏฺิคตํ ธมฺมโต วิเวเจตุํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อาปตฺตึ น ชานาติ, อนาปตฺตึ น ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน น สฺวาคตานิ โหนฺติ น สุวิภตฺตานิ น สุปฺปวตฺตีนิ น สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อาปตฺตึ น ชานาติ, อนาปตฺตึ น ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, อูนทสวสฺโส โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ’’ติอาทิ (มหาว. ๘๔). ตมฺปิ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน ทสวสฺเสน วา อติเรกทสวสฺเสน วา อุปสมฺปาเทตุํ, นิสฺสยํ ทาตุ’’นฺติ (มหาว. ๗๖, ๘๒) จ เอวํ สงฺเขปโต วุตฺตสฺเสว อุปชฺฌายาจริยลกฺขณสฺส วิตฺถารทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.

ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๘๔) กิฺจิ อยุตฺตวเสน ปฏิกฺขิตฺตํ, กิฺจิ อาปตฺติองฺควเสน. ตถา หิ ‘‘น อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธนา’’ติ จ ‘‘อตฺตนา น อเสกฺเขนา’’ติ จ ‘‘อสฺสทฺโธ’’ติ จ อาทีสุ ตีสุ ปฺจเกสุ อยุตฺตวเสน ปฏิกฺเขโป กโต, น อาปตฺติองฺควเสน. โย หิ อเสกฺเขหิ สีลกฺขนฺธาทีหิ อสมนฺนาคโต ปเร จ ตตฺถ สมาทเปตุํ อสกฺโกนฺโต อสฺสทฺธิยาทิโทสยุตฺโตว หุตฺวา ปริสํ ปริหรติ, ตสฺส ปริสา สีลาทีหิ ปริยายติเยว น วฑฺฒติ, ตสฺมา ‘‘เตน น อุปสมฺปาเทตพฺพ’’นฺติอาทิ อยุตฺตวเสน วุตฺตํ, น อาปตฺติองฺควเสน. น หิ ขีณาสวสฺเสว อุปชฺฌาจริยภาโว ภควตา อนุฺาโต, ยทิ ตสฺเสว อนุฺาโต อภวิสฺส, ‘‘สเจ อุปชฺฌายสฺส อนภิรติ อุปฺปนฺนา โหตี’’ติอาทึ น วเทยฺย, ยสฺมา ปน ขีณาสวสฺส ปริสา สีลาทีหิ น ปริหายติ, ตสฺมา ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

อธิสีเล สีลวิปนฺโนติอาทีสุ ปาราชิกฺจ สงฺฆาทิเสสฺจ อาปนฺโน อธิสีเล สีลวิปนฺโน นาม. อิตเร ปฺจาปตฺติกฺขนฺเธ อาปนฺโน อชฺฌาจาเร อาจารวิปนฺโน นาม. สมฺมาทิฏฺึ ปหาย อนฺตคฺคาหิกาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคโต อติทิฏฺิยา ทิฏฺิวิปนฺโน นาม. ยตฺตกํ สุตํ ปริสํ ปริหรนฺตสฺส อิจฺฉิตพฺพํ, เตน วิรหิตตฺตา อปฺปสฺสุโต. ยํ เตน ชานิตพฺพํ อาปตฺตาทิ, ตสฺส อชานนโต ทุปฺปฺโ. อิมสฺมึ ปฺจเก ปุริมานิ ตีณิ ปทานิ อยุตฺตวเสน วุตฺตานิ, ปจฺฉิมานิ ทฺเว อาปตฺติองฺควเสน.

อาปตฺตึ น ชานาตีติ ‘‘อิทํ นาม มยา กต’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อิมํ นาม อาปตฺตึ อยํ อาปนฺโน’’ติ น ชานาติ. วุฏฺานํ น ชานาตีติ ‘‘วุฏฺานคามินิโต วา เทสนาคามินิโต วา อาปตฺติโต เอวํ นาม วุฏฺานํ โหตี’’ติ น ชานาติ. อิมสฺมิฺหิ ปฺจเก ปุริมานิ ทฺเว ปทานิ อยุตฺตวเสน วุตฺตานิ, ปจฺฉิมานิ ตีณิ อาปตฺติองฺควเสน.

อาภิสมาจาริกาย สิกฺขายาติ ขนฺธกวตฺเต วิเนตุํ น ปฏิพโล โหตีติ อตฺโถ. อาทิพฺรหฺมจริยกายาติ เสกฺขปณฺณตฺติยํ วิเนตุํ น ปฏิพโลติ อตฺโถ. อภิธมฺเมติ นามรูปปริจฺเฉเท วิเนตุํ น ปฏิพโลติ อตฺโถ. อภิวินเยติ สกเล วินยปิฏเก วิเนตุํ น ปฏิพโลติ อตฺโถ. วิเนตุํ น ปฏิพโลติ จ สพฺพตฺถ สิกฺขาเปตุํ น สกฺโกตีติ อตฺโถ. ธมฺมโต วิเวเจตุนฺติ ธมฺเมน การเณน วิสฺสชฺชาเปตุํ. อิมสฺมึ ปฺจเก สพฺพปเทสุ อาปตฺติ.

‘‘อาปตฺตึ น ชานาตี’’ติอาทิปฺจกสฺมึ วิตฺถาเรนาติ อุภโตวิภงฺเคน สทฺธึ. น สฺวาคตานีติ น สุฏฺุ อาคตานิ. สุวิภตฺตานีติ สุฏฺุ วิภตฺตานิ ปทปจฺจาภฏฺสงฺกรโทสรอตานิ. สุปฺปวตฺตีนีติ ปคุณานิ วาจุคฺคตานิ สุวินิจฺฉิตานิ. สุตฺตโสติ ขนฺธกปริวารโต อาหริตพฺพสุตฺตวเสน สุฏฺุ วินิจฺฉิตานิ. อนุพฺยฺชนโสติ อกฺขรปทปาริปูริยา จ สุวินิจฺฉิตานิ อขณฺฑานิ อวิปรีตกฺขรานิ. เอเตน อฏฺกถา ทีปิตา. อฏฺกถาโต หิ เอส วินิจฺฉโย โหตีติ. อิมสฺมึ ปฺจเกปิ สพฺพปเทสุ อาปตฺติ. อูนทสวสฺสปริโยสานปฺจเกปิ เอเสว นโย. อิติ อาทิโต ตโย ปฺจกา, จตุตฺเถ ตีณิ ปทานิ, ปฺจเม ทฺเว ปทานีติ สพฺเพปิ จตฺตาโร ปฺจกา อยุตฺตวเสน วุตฺตา, จตุตฺเถ ปฺจเก ทฺเว ปทานิ, ปฺจเม ตีณิ, ฉฏฺสตฺตมฏฺมา ตโย ปฺจกาติ สพฺเพปิ จตฺตาโร ปฺจกา อาปตฺติองฺควเสน วุตฺตา.

สุกฺกปกฺเข ปน วุตฺตวิปริยาเยน ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหตี’’ติอาทินา (มหาว. ๘๔) อฏฺ ปฺจกา อาคตาเยว. ตตฺถ สพฺพตฺเถว อนาปตฺติ.

๑๕๒. กสฺส ทาตพฺโพ, กสฺส น ทาตพฺโพติ เอตฺถ ปน โย ลชฺชี โหติ, ตสฺส ทาตพฺโพ. อิตรสฺส น ทาตพฺโพ ‘‘น, ภิกฺขเว, อลชฺชีนํ นิสฺสโย ทาตพฺโพ, โย ทเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๒๐) วจนโต. นิสฺสาย วสนฺเตนปิ อลชฺชี นิสฺสาย น วสิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘น, ภิกฺขเว, อลชฺชีนํ นิสฺสาย วตฺถพฺพํ, โย วเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๒๐). เอตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๒๐) จ อลชฺชีนนฺติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ, อลชฺชิปุคฺคเล นิสฺสาย น วสิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมา นวํ านํ คเตน ‘‘เอหิ, ภิกฺขุ, นิสฺสยํ คณฺหาหี’’ติ วุจฺจมาเนนปิ จตูหปฺจาหํ นิสฺสยทายกสฺส ลชฺชิภาวํ อุปปริกฺขิตฺวา นิสฺสโย คเหตพฺโพ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตูหปฺจาหํ อาคเมตุํ ยาว ภิกฺขุสภาคตํ ชานามี’’ติ (มหาว. ๑๒๐) หิ วุตฺตํ. สเจ ‘‘เถโร ลชฺชี’’ติ ภิกฺขูนํ สนฺติเก สุตฺวา อาคตทิวเสเยว คเหตุกาโม โหติ, เถโร ปน ‘‘อาคเมหิ ตาว, วสนฺโต ชานิสฺสสี’’ติ กติปาหํ อาจารํ อุปปริกฺขิตฺวา นิสฺสยํ เทติ, วฏฺฏติ, ปกติยา นิสฺสยคหณฏฺานํ คเตน ปน ตทเหว คเหตพฺโพ, เอกทิวสมฺปิ ปริหาโร นตฺถิ. สเจ ปมยาเม อาจริยสฺส โอกาโส นตฺถิ, โอกาสํ อลภนฺโต ‘‘ปจฺจูสสมเย คเหสฺสามี’’ติ สยติ, อรุณํ อุคฺคตมฺปิ น ชานาติ, อนาปตฺติ. สเจ ปน ‘‘คณฺหิสฺสามี’’ติ อาโภคํ อกตฺวา สยติ, อรุณุคฺคมเน ทุกฺกฏํ. อคตปุพฺพํ านํ คเตน ทฺเว ตีณิ ทิวสานิ วสิตฺวา คนฺตุกาเมน อนิสฺสิเตน วสิตพฺพํ. ‘‘สตฺตาหํ วสิสฺสามี’’ติ อาลยํ กโรนฺเตน ปน นิสฺสโย คเหตพฺโพ. สเจ เถโร ‘‘กึ สตฺตาหํ วสนฺตสฺส นิสฺสเยนา’’ติ วทติ, ปฏิกฺขิตฺตกาลโต ปฏฺาย ลทฺธปริหาโร โหติ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺเนน ภิกฺขุนา นิสฺสยํ อลภมาเนน อนิสฺสิเตน วตฺถุ’’นฺติ วจนโต ปน อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน สเจ อตฺตนา สทฺธึ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนํ นิสฺสยทายกํ น ลภติ, เอวํ นิสฺสยํ อลภมาเนน อนิสฺสิเตน พหูนิปิ ทิวสานิ คนฺตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปุพฺเพ นิสฺสยํ คเหตฺวา วุตฺถปุพฺพํ กิฺจิ อาวาสํ ปวิสติ, เอกรตฺตํ วสนฺเตนปิ นิสฺสโย คเหตพฺโพ. อนฺตรามคฺเค วิสฺสมนฺโต วา สตฺถํ วา ปริเยสนฺโต กติปาหํ วสติ, อนาปตฺติ. อนฺโตวสฺเส ปน นิพทฺธวาสํ วสิตพฺพํ, นิสฺสโย จ คเหตพฺโพ. นาวาย คจฺฉนฺตสฺส ปน วสฺสาเน อาคเตปิ นิสฺสยํ อลภนฺตสฺส อนาปตฺติ. สเจ อนฺตรามคฺเค คิลาโน โหติ, นิสฺสยํ อลภมาเนน อนิสฺสิเตน วสิตุํ วฏฺฏติ.

คิลานุปฏฺาโกปิ คิลาเนน ยาจิยมาโน อนิสฺสิโต เอว วสิตุํ ลภติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลาเนน ภิกฺขุนา นิสฺสยํ อลภมาเนน อนิสฺสิเตน วตฺถุํ, อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานุปฏฺาเกน ภิกฺขุนา นิสฺสยํ อลภมาเนน ยาจิยมาเนน อนิสฺสิเตน วตฺถุ’’นฺติ (มหาว. ๑๒๑). สเจ ปน ‘‘ยาจาหิ ม’’นฺติ วุจฺจมาโนปิ คิลาโน มาเนน น ยาจติ, คนฺตพฺพํ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อารฺิเกน ภิกฺขุนา ผาสุวิหารํ สลฺลกฺเขนฺเตน นิสฺสยํ อลภมาเนน อนิสฺสิเตน วตฺถุํ ‘ยทา ปติรูโป นิสฺสยทายโก อาคจฺฉิสฺสติ, ตทา ตสฺส นิสฺสาย วสิสฺสามี’’’ติ วจนโต ปน ยตฺถ วสนฺตสฺส สมถวิปสฺสนานํ ปฏิลาภวเสน ผาสุ โหติ, ตาทิสํ ผาสุวิหารํ สลฺลกฺเขนฺเตน นิสฺสยํ อลภมาเนน อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. อิมฺจ ปน ปริหารํ เนว โสตาปนฺโน, น สกทาคามิอนาคามิอรหนฺโต ลภนฺติ, น ถามคตสฺส สมาธิโน วา วิปสฺสนาย วา ลาภี, วิสฺสฏฺกมฺมฏฺาเน ปน พาลปุถุชฺชเน กถาว นตฺถิ. ยสฺส โข ปน สมโถ วา วิปสฺสนา วา ตรุณา โหติ, อยํ อิมํ ปริหารํ ลภติ, ปวารณาสงฺคโหปิ เอตสฺเสว อนุฺาโต. ตสฺมา อิมินา ปุคฺคเลน อาจริเย ปวาเรตฺวา คเตปิ ‘‘ยทา ปติรูโปนิสฺสยทายโก อาคจฺฉิสฺสติ, ตํ นิสฺสาย วสิสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา ปุน ยาว อาสาฬฺหีปุณฺณมา, ตาว อนิสฺสิเตน วตฺถุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน อาสาฬฺหีมาเส อาจริโย นาคจฺฉติ, ยตฺถ นิสฺสโย ลพฺภติ, ตตฺถ คนฺตพฺพํ.

๑๕๓. กถํ คหิโต โหตีติ เอตฺถ อุปชฺฌายสฺส สนฺติเก ตาว อุปชฺฌํ คณฺหนฺเตน เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อุปชฺฌาโย เม, ภนฺเต, โหหี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ. เอวํ สทฺธิวิหาริเกน วุตฺเต สเจ อุปชฺฌาโย ‘‘สาหู’’ติ วา ‘‘ลหู’’ติ วา ‘‘โอปายิก’’นฺติ วา ‘‘ปติรูป’’นฺติ วา ‘‘ปาสาทิเกน สมฺปาเทหี’’ติ วา กาเยน วิฺาเปติ, วาจาย วิฺาเปติ, กาเยน วาจาย วิฺาเปติ, คหิโต โหติ อุปชฺฌาโย. อิทเมว เหตฺถ อุปชฺฌายคฺคหณํ, ยทิทํ อุปชฺฌายสฺส อิเมสุ ปฺจสุ ปเทสุ ยสฺส กสฺสจิ ปทสฺส วาจาย สาวนํ กาเยน วา อตฺถวิฺาปนนฺติ. เกจิ ปน ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉนํ สนฺธาย วทนฺติ, น ตํ ปมาณํ. อายาจนทานมตฺเตน หิ คหิโต โหติ อุปชฺฌาโย, น เอตฺถ สมฺปฏิจฺฉนํ องฺคํ. สทฺธิวิหาริเกนปิ น เกวลํ ‘‘อิมินา เม ปเทน อุปชฺฌาโย คหิโต’’ติ าตุํ วฏฺฏติ, ‘‘อชฺชตคฺเค ทานิ เถโร มยฺหํ ภาโร, อหมฺปิ เถรสฺส ภาโร’’ติ อิทมฺปิ าตุํ วฏฺฏติ (มหาว. อฏฺ. ๖๔). วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อุปชฺฌาโย, ภิกฺขเว, สทฺธิวิหาริกมฺหิ ปุตฺตจิตฺตํ อุปฏฺเปสฺสติ, สทฺธิวิหาริโก อุปชฺฌายมฺหิ ปิตุจิตฺตํ อุปฏฺเปสฺสติ, เอวํ เต อฺมฺํ สคารวา สปฺปติสฺสา สภาควุตฺติโน วิหรนฺตา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสนฺตี’’ติ (มหาว. ๖๕).

อาจริยสฺส สนฺติเก นิสฺสยคฺคหเณปิ อยเมว วินิจฺฉโย. อยํ ปเนตฺถ วิเสโส – อาจริยสฺส สนฺติเก นิสฺสยํ คณฺหนฺเตน อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา ‘‘อาจริโย เม, ภนฺเต, โหหิ, อายสฺมโต นิสฺสาย วจฺฉามี’’ติ (มหาว. ๗๗) ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ, เสสํ วุตฺตนยเมว.

๑๕๔. กถํ ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ เอตฺถ ตาว อุปชฺฌายมฺหา ปฺจหากาเรหิ นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิ เวทิตพฺพา, อาจริยมฺหา ฉหิ อากาเรหิ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ปฺจิมา, ภิกฺขเว, นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิโย อุปชฺฌายมฺหา. อุปชฺฌาโย ปกฺกนฺโต วา โหติ, วิพฺภนฺโต วา, กาลกโต วา, ปกฺขสงฺกนฺโต วา, อาณตฺติเยว ปฺจมี. อิมา โข, ภิกฺขเว, ปฺจ นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิโย อุปชฺฌายมฺหา.

ฉยิมา, ภิกฺขเว, นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิโย อาจริยมฺหา. อาจริโย ปกฺกนฺโต วา โหติ, วิพฺภนฺโต วา, กาลกโต วา, ปกฺขสงฺกนฺโต วา, อาณตฺติเยว ปฺจมี, อุปชฺฌาเยน วา สโมธานคโต โหติ. อิมา โข, ภิกฺขเว, ฉ นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิโย อาจริยมฺหา’’ติ (มหาว. ๘๓).

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (มหาว. อฏฺ. ๘๓) – ปกฺกนฺโตติ ทิสํ คโต. เอวํ คเต จ ปน ตสฺมึ สเจ วิหาเร นิสฺสยทายโก อตฺถิ, ยสฺส สนฺติเก อฺทาปิ นิสฺสโย วา คหิตปุพฺโพ โหติ, โย วา เอกสมฺโภคปริโภโค, ตสฺส สนฺติเก นิสฺสโย คเหตพฺโพ, เอกทิวสมฺปิ ปริหาโร นตฺถิ. สเจ ตาทิโส นตฺถิ, อฺโ ลชฺชี เปสโล อตฺถิ, ตสฺส เปสลภาวํ ชานนฺเตน ตทเหว นิสฺสโย ยาจิตพฺโพ. สเจ เทติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. อถ ปน ‘‘ตุมฺหากํ อุปชฺฌาโย ลหุํ อาคมิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉติ, อุปชฺฌาเยน เจ ตถา วุตฺตํ, ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ วทติ ‘‘เตน หิ อุปชฺฌายสฺส อาคมนํ อาคเมถา’’ติ, วฏฺฏติ. อถ ปนสฺส ปกติยา เปสลภาวํ น ชานาติ, จตฺตาริ ปฺจ ทิวสานิ ตสฺส ภิกฺขุสฺส สภาคตํ โอโลเกตฺวา โอกาสํ กาเรตฺวา นิสฺสโย คเหตพฺโพ. สเจ ปน วิหาเร นิสฺสยทายโก นตฺถิ, อุปชฺฌาโย จ ‘‘อหํ กติปาเหน อาคมิสฺสามิ, มา อุกฺกณฺิตฺถา’’ติ วตฺวา คโต, ยาว อาคมนา ปริหาโร ลพฺภติ, อถาปิ นํ ตตฺถ มนุสฺสา ปริจฺฉินฺนกาลโต อุตฺตริปิ ปฺจ วา ทส วา ทิวสานิ วาเสนฺติเยว, เตน วิหารํ ปวตฺติ เปเสตพฺพา ‘‘ทหรา มา อุกฺกณฺนฺตุ, อหํ อสุกทิวสํ นาม อาคมิสฺสามี’’ติ, เอวมฺปิ ปริหาโร ลพฺภติ. อถ อาคจฺฉโต อนฺตรามคฺเค นทีปูเรน วา โจราทีหิ วา อุปทฺทโว โหติ, เถโร อุทโกสกฺกนํ วา อาคเมติ, สหาเย วา ปริเยสติ, ตํ เจ ปวตฺตึ ทหรา สุณนฺติ, ยาว อาคมนา ปริหาโร ลพฺภติ. สเจ ปน โส ‘‘อิเธวาหํ วสิสฺสามี’’ติ ปหิณติ, ปริหาโร นตฺถิ. ยตฺถ นิสฺสโย ลพฺภติ, ตตฺถ คนฺตพฺพํ. วิพฺภนฺเต ปน กาลกเต ปกฺขสงฺกนฺเต วา เอกทิวสมฺปิ ปริหาโร นตฺถิ, ยตฺถ นิสฺสโย ลพฺภติ, ตตฺถ คนฺตพฺพํ.

อาณตฺตีติ ปน นิสฺสยปณามนา วุจฺจติ, ตสฺมา ‘‘ปณาเมมิ ต’’นฺติ วา ‘‘มา อิธ ปฏิกฺกมี’’ติ วา ‘‘นีหร เต ปตฺตจีวร’’นฺติ วา ‘‘นาหํ ตยา อุปฏฺาเปตพฺโพ’’ติ วาติ อิมินา ปาฬินเยน ‘‘มา มํ คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉี’’ติอาทินา ปาฬิมุตฺตกนเยน วา โย นิสฺสยปณามนาย ปณามิโต โหติ, เตน อุปชฺฌาโย ขมาเปตพฺโพ. สเจ อาทิโตว น ขมติ, ทณฺฑกมฺมํ อาหริตฺวา ติกฺขตฺตุํ ตาว สยเมว ขมาเปตพฺโพ. โน เจ ขมติ, ตสฺมึ วิหาเร มหาเถเร คเหตฺวา ขมาเปตพฺโพ. โน เจ ขมติ, สามนฺตวิหาเร ภิกฺขู คเหตฺวา ขมาเปตพฺโพ. สเจ เอวมฺปิ น ขมติ, อฺตฺถ คนฺตฺวา อุปชฺฌายสฺส สภาคานํ สนฺติเก วสิตพฺพํ ‘‘อปฺเปว นาม ‘สภาคานํ เม สนฺติเก วสตี’ติ ตฺวาปิ ขเมยฺยา’’ติ. สเจ เอวมฺปิ น ขมติ, ตตฺเรว วสิตพฺพํ. ตตฺร เจ ทุพฺภิกฺขาทิโทเสน น สกฺกา โหติ วสิตุํ, ตํเยว วิหารํ อาคนฺตฺวา อฺสฺส สนฺติเก นิสฺสยํ คเหตฺวา วสิตุํ วฏฺฏติ. อยมาณตฺติยํ วินิจฺฉโย.

อาจริยมฺหา นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธีสุ อาจริโย ปกฺกนฺโต วา โหตีติ เอตฺถ โกจิ อาจริโย อาปุจฺฉิตฺวา ปกฺกมติ, โกจิ อนาปุจฺฉิตฺวา, อนฺเตวาสิโกปิ เอวเมว. ตตฺร สเจ อนฺเตวาสิโก อาจริยํ อาปุจฺฉติ ‘‘อสุกํ นาม, ภนฺเต, านํ คนฺตุํ อิจฺฉามิ เกนจิเทว กรณีเยนา’’ติ, อาจริเยน จ ‘‘กทา คมิสฺสสี’’ติ วุตฺโต ‘‘สายนฺเห วา รตฺตึ วา อุฏฺหิตฺวา คมิสฺสามี’’ติ วทติ, อาจริโยปิ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, ตํ ขณํเยว นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ปน ‘‘ภนฺเต, อสุกํ นาม านํ คนฺตุกาโมมฺหี’’ติ วุตฺเต อาจริโย ‘‘อสุกสฺมึ นาม คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉา ชานิสฺสสี’’ติ วทติ, โส จ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, ตโต เจ คโต สุคโต. สเจ ปน น คจฺฉติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อถาปิ ‘‘คจฺฉามี’’ติ วุตฺเต อาจริเยน ‘‘มา ตาว คจฺฉ, รตฺตึ มนฺเตตฺวา ชานิสฺสามา’’ติ วุตฺโต มนฺเตตฺวา คจฺฉติ, สุคโต. โน เจ คจฺฉติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อาจริยํ อนาปุจฺฉา ปกฺกมนฺตสฺส ปน อุปจารสีมาติกฺกเม นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, อนฺโตอุปจารสีมโต ปฏินิวตฺตนฺตสฺส น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ปน อาจริโย อนฺเตวาสิกํ อาปุจฺฉติ ‘‘อาวุโส, อสุกํ นาม านํ คมิสฺสามี’’ติ, อนฺเตวาสิเกน จ ‘‘กทา’’ติ วุตฺเต ‘‘สายนฺเห วา รตฺติภาเค วา’’ติ วทติ, อนฺเตวาสิโกปิ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, ตํ ขณํเยว นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, สเจ ปน อาจริโย ‘‘สฺเว ปิณฺฑาย จริตฺวา คมิสฺสามี’’ติ วทติ, อิตโร จ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, เอกทิวสํ ตาว นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ปุนทิวเส ปฏิปฺปสฺสทฺโธ โหติ. ‘‘อสุกสฺมึ นาม คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา ชานิสฺสามิ มม คมนํ วา อคมนํ วา’’ติ วตฺวา ปน สเจ น คจฺฉติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อถาปิ ‘‘คจฺฉามี’’ติ วุตฺเต อนฺเตวาสิเกน ‘‘มา ตาว คจฺฉถ, รตฺตึ มนฺเตตฺวา ชานิสฺสถา’’ติ วุตฺโต มนฺเตตฺวาปิ น คจฺฉติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ อุโภปิ อาจริยนฺเตวาสิกา เกนจิเทว กรณีเยน พหิสีมํ คจฺฉนฺติ, ตโต เจ อาจริโย คมิยจิตฺเต อุปฺปนฺเน อนาปุจฺฉาว คนฺตฺวา ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺโตเยว นิวตฺตติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมิตฺวา นิวตฺตติ, ปฏิปฺปสฺสทฺโธ โหติ. อาจริยุปชฺฌายา ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมฺม อฺสฺมึ วิหาเร วสนฺติ, นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อาจริเย วิพฺภนฺเต กาลกเต ปกฺขสงฺกนฺเต จ ตํ ขณํเยว ปฏิปฺปสฺสมฺภติ.

อาณตฺติยํ ปน อาจริโย มุฺจิตุกาโมว หุตฺวา นิสฺสยปณามนาย ปณาเมติ, อนฺเตวาสิโก จ ‘‘กิฺจาปิ มํ อาจริโย ปณาเมติ, อถ โข หทเยน มุทุโก’’ติ สาลโย โหติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจปิ อาริโย สาลโย, อนฺเตวาสิโก นิราลโย ‘‘น ทานิ อิมํ นิสฺสาย วสิสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, เอวมฺปิ น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อุภินฺนํ สาลยภาเว ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภติเยว, อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเปน ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ปณามิเตน ทณฺฑกมฺมํ อาหริตฺวา ติกฺขตฺตุํ ขมาเปตพฺโพ. โน เจ ขมติ, อุปชฺฌาเย วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชิตพฺพํ. ยถาปฺตฺตํ ปน อาจริยุปชฺฌายวตฺตํ ปริปูเรนฺตํ อธิมตฺตเปมาทิปฺจงฺคสมนฺนาคตํ อนฺเตวาสิกํ สทฺธิวิหาริกํ วา ปณาเมนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, อิตรํ อปณาเมนฺตสฺสปิ ทุกฺกฏเมว. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘น, ภิกฺขเว, สมฺมาวตฺตนฺโต ปณาเมตพฺโพ, โย ปณาเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. น จ, ภิกฺขเว, อสมฺมาวตฺตนฺโต น ปณาเมตพฺโพ, โย น ปณาเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส (มหาว. ๘๐).

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ อนฺเตวาสิกํ อปณาเมนฺโต อาจริโย สาติสาโร โหติ, ปณาเมนฺโต อนติสาโร โหติ. อาจริยมฺหิ นาธิมตฺตํ เปมํ โหติ, นาธิมตฺโต ปสาโท โหติ, นาธิมตฺตา หิรี โหติ, นาธิมตฺโต คารโว โหติ, นาธิมตฺตา ภาวนา โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ อนฺเตวาสิกํ อปณาเมนฺโต อาจริโย สาติสาโร โหติ, ปณาเมนฺโต อนติสาโร โหติ (มหาว. ๘๑).

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ สทฺธิวิหาริกํ อปณาเมนฺโต อุปชฺฌาโย สาติสาโร โหติ, ปณาเมนฺโต อนติสาโร โหติ. อุปชฺฌายมฺหิ นาธิมตฺตํ เปมํ โหติ, นาธิมตฺโต ปสาโท โหติ, นาธิมตฺตา หิรี โหติ, นาธิมตฺโต คารโว โหติ, นาธิมตฺตา ภาวนา โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ สทฺธิวิหาริกํ อปณาเมนฺโต อุปชฺฌาโย สาติสาโร โหติ, ปณาเมนฺโต อนติสาโร โหตี’’ติอาทิ (มหาว. ๖๘).

ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๖๘) นาธิมตฺตํ เปมํ โหตีติ อุปชฺฌายมฺหิ อธิมตฺตํ เคหสฺสิตเปมํ น โหติ. นาธิมตฺตา ภาวนา โหตีติ อธิมตฺตา เมตฺตาภาวนา น โหตีติ อตฺโถ.

อุปชฺฌาเยน วา สโมธานคโตติ เอตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๘๓) ทสฺสนสวนวเสน สโมธานํ เวทิตพฺพํ. สเจ หิ อาจริยํ นิสฺสาย วสนฺโต สทฺธิวิหาริโก เอกวิหาเร เจติยํ วา วนฺทนฺตํ, เอกคาเม วา ปิณฺฑาย จรนฺตํ อุปชฺฌายํ ปสฺสติ, นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อุปชฺฌาโย ปสฺสติ, สทฺธิวิหาริโก น ปสฺสติ, น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. มคฺคปฺปฏิปนฺนํ วา อากาเสน วา คจฺฉนฺตํ อุปชฺฌายํ ทิสฺวา ทูรตฺตา ‘‘ภิกฺขู’’ติ ชานาติ, ‘‘อุปชฺฌาโย’’ติ น ชานาติ, น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ชานาติ, ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อุปริปาสาเท อุปชฺฌาโย วสติ, เหฏฺา สทฺธิวิหาริโก, ตํ อทิสฺวาว ยาคุํ ปิวิตฺวา ปฏิกฺกมติ, อาสนสาลาย วา นิสินฺนํ อทิสฺวาว เอกมนฺเต ภุฺชิตฺวา ปกฺกมติ, ธมฺมสฺสวนมณฺฑเป วา นิสินฺนมฺปิ ตํ อทิสฺวาว ธมฺมํ สุตฺวา ปกฺกมติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. เอวํ ตาว ทสฺสนวเสน สโมธานํ เวทิตพฺพํ. สวนวเสน ปน สเจ อุปชฺฌายสฺส วิหาเร วา อนฺตรฆเร วา ธมฺมํ วา กเถนฺตสฺส อนุโมทนํ วา กโรนฺตสฺส สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อุปชฺฌายสฺส เม สทฺโท’’ติ สฺชานาติ, นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, อสฺชานนฺตสฺส น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อยํ สโมธาเน วินิจฺฉโย.

๑๕๕. นิสฺสาย เกน วสิตพฺพํ, เกน น วสิตพฺพนฺติ เอตฺถ ปน ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน ปฺจ วสฺสานิ นิสฺสาย วตฺถุํ, อพฺยตฺเตน ยาวชีว’’นฺติ (มหาว. ๑๐๓) วจนโต โย อพฺยตฺโต โหติ, เตน ยาวชีวํ นิสฺสาเยว วสิตพฺพํ. สจายํ (มหาว. อฏฺ. ๑๐๓) วุฑฺฒตรํ อาจริยํ น ลภติ, อุปสมฺปทาย สฏฺิวสฺโส วา สตฺตติวสฺโส วา โหติ, นวกตรสฺสปิ พฺยตฺตสฺส สนฺติเก อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อาจริโย เม, อาวุโส, โหติ, อายสฺมโต นิสฺสาย วจฺฉามี’’ติ เอวํ ติกฺขตฺตุํ วตฺวา นิสฺสโย คเหตพฺโพว. คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉนฺเตนปิ อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉามิ อาจริยา’’ติ วตฺตพฺพํ. เอส นโย สพฺพอาปุจฺฉเนสุ.

โย ปน พฺยตฺโต โหติ อุปสมฺปทาย ปฺจวสฺโส, เตน อนิสฺสิเตน วตฺถุํ วฏฺฏติ. ตสฺมา นิสฺสยมุจฺจนเกน (ปาจิ. อฏฺ. ๑๔๕-๑๔๗) อุปสมฺปทาย ปฺจวสฺเสน สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน ทฺเว มาติกา ปคุณา วาจุคฺคตา กตฺตพฺพา, ปกฺขทิวเสสุ ธมฺมสฺสวนตฺถาย สุตฺตนฺตโต จตฺตาโร ภาณวารา, สมฺปตฺตานํ ปริสานํ ปริกถนตฺถาย อนฺธกวินฺท(อ. นิ. ๕.๑๑๔) มหาราหุโลวาท(ม. นิ. ๒.๑๑๓ อาทโย) อมฺพฏฺ(ทอี. นิ. ๑.๒๕๔ อาทโย) สทิโส เอโก กถามคฺโค, สงฺฆภตฺตมงฺคลามงฺคเลสุ อนุโมทนตฺถาย ติสฺโส อนุโมทนา, อุโปสถปวารณาทิชานนตฺถํ กมฺมากมฺมวินิจฺฉโย, สมณธมฺมกรณตฺถํ สมาธิวเสน วา วิปสฺสนาวเสน วา อรหตฺตปริโยสานเมกํ กมฺมฏฺานํ, เอตฺตกํ อุคฺคเหตพฺพํ. เอตฺตาวตา หิ อยํ พหุสฺสุโต โหติ จาตุทฺทิโส, ยตฺถ กตฺถจิ อตฺตโน อิสฺสริเยน วสิตุํ ลภติ. ยํ ปน วุตฺตํ –

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. น อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน สมาธิกฺขนฺเธน… น อเสกฺเขน ปฺากฺขนฺเธน… น อเสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน… น อเสกฺเขน วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. อสฺสทฺโธ โหติ, อหิริโก โหติ, อโนตฺตปฺปี โหติ, กุสีโต โหติ, มุฏฺสฺสติ โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. อธิสีเล สีลวิปนฺโน โหติ, อชฺฌาจาเร อาจารวิปนฺโน โหติ, อติทิฏฺิยา ทิฏฺิวิปนฺโน โหติ, อปฺปสฺสุโต โหติ, ทุปฺปฺโ โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. อาปตฺตึ น ชานาติ, อนาปตฺตึ น ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน น สฺวาคตานิ โหนฺติ น สุวิภตฺตานิ น สุปฺปวตฺตีนิ น สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. อาปตฺตึ น ชานาติ, อนาปตฺตึ น ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, อูนปฺจวสฺโส โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๑๐๓). เอตฺถาปิ ปุริมนเยเนว อยุตฺตวเสน อาปตฺติองฺควเสน จ ปฏิกฺเขโป กโตติ ทฏฺพฺพํ.

พาลานํ ปน อพฺยตฺตานํ ทิสํคมิกานํ อนฺเตวาสิกสทฺธิวิหาริกานํ อนุฺา น ทาตพฺพา. สเจ เทนฺติ, อาจริยุปชฺฌายานํ ทุกฺกฏํ. เต เจ อนนุฺาตา คจฺฉนฺติ, เตสมฺปิ ทุกฺกฏํ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, สมฺพหุลา ภิกฺขู พาลา อพฺยตฺตา ทิสํคมิกา อาจริยุปชฺฌาเย อาปุจฺฉนฺติ. เต, ภิกฺขเว, อาจริยุปชฺฌาเยหิ ปุจฺฉิตพฺพา ‘‘กหํ คมิสฺสถ, เกน สทฺธึ คมิสฺสถา’’ติ. เต เจ, ภิกฺขเว, พาลา อพฺยตฺตา อฺเ พาเล อพฺยตฺเต อปทิเสยฺยุํ. น, ภิกฺขเว, อาจริยุปชฺฌาเยหิ อนุชานิตพฺพา, อนุชาเนยฺยุํ เจ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. เต เจ, ภิกฺขเว, พาลา อพฺยตฺตา อนนุฺาตา อาจริยุปชฺฌาเยหิ คจฺเฉยฺยุํ เจ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๖๓).

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

นิสฺสยวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๒๔. สีมาวินิจฺฉยกถา

๑๕๖. สีมาติ เอตฺถ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา) สีมา นาเมสา พทฺธสีมา อพทฺธสีมาติ ทุวิธา โหติ. ตตฺถ เอกาทส วิปตฺติสีมาโย อติกฺกมิตฺวา ติวิธสมฺปตฺติยุตฺตา นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ พนฺธิตฺวา สมฺมตา สีมา พทฺธสีมา นาม. อติขุทฺทกา, อติมหตี, ขณฺฑนิมิตฺตา, ฉายานิมิตฺตา, อนิมิตฺตา, พหิสีเม ิตสมฺมตา, นทิยา สมฺมตา, สมุทฺเท สมฺมตา, ชาตสฺสเร สมฺมตา, สีมาย สีมํ สมฺภินฺทนฺเตน สมฺมตา, สีมาย สีมํ อชฺโฌตฺถรนฺเตน สมฺมตาติ อิเมหิ เอกาทสหิ อากาเรหิ สีมโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺตีติ วจนโต เอตา วิปตฺติสีมาโย นาม.

ตตฺถ อติขุทฺทกา นาม ยตฺถ เอกวีสติ ภิกฺขู นิสีทิตุํ น สกฺโกนฺติ. อติมหตี นาม ยา เกสคฺคมตฺเตนปิ ติโยชนํ อติกฺกมิตฺวา สมฺมตา. ขณฺฑนิมิตฺตา นาม อฆฏิตนิมิตฺตา วุจฺจติ. ปุรตฺถิมาย ทิสาย นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา อนุกฺกเมน ทกฺขิณาย ทิสาย ปจฺฉิมาย อุตฺตราย ทิสาย กิตฺเตตฺวา ปุน ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปุพฺพกิตฺติตํ ปฏิกิตฺเตตฺวา เปตุํ วฏฺฏติ, เอวํ อขณฺฑนิมิตฺตา โหติ. สเจ ปน อนุกฺกเมน อาหริตฺวา อุตฺตราย ทิสาย นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตตฺเถว เปติ, ขณฺฑนิมิตฺตา โหติ. อปราปิ ขณฺฑนิมิตฺตา นาม ยา อนิมิตฺตุปคํ ตจสารรุกฺขํ วา ขาณุกํ วา ปํสุปุฺชํ วา วาลุกปุฺชํ วา อฺตรํ อนฺตรา เอกนิมิตฺตํ กตฺวา สมฺมตา. ฉายานิมิตฺตา นาม ปพฺพตฉายาทีนํ ยํ กิฺจิ ฉายํ นิมิตฺตํ กตฺวา สมฺมตา. อนิมิตฺตา นาม สพฺเพน สพฺพํ นิมิตฺตานิ อกิตฺเตตฺวา สมฺมตา. พหิสีเม ิตสมฺมตา นาม นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา นิมิตฺตานํ พหิ ิเตน สมฺมตา. นทิยา, สมุทฺเท, ชาตสฺสเร สมฺมตา นาม เอเตสุ นทิอาทีสุ สมฺมตา. สา หิ เอวํ สมฺมตาปิ ‘‘สพฺพา, ภิกฺขเว, นที อสีมา, สพฺโพ สมุทฺโท อสีโม, สพฺโพ ชาตสฺสโร อสีโม’’ติ (มหาว. ๑๔๗) วจนโต อสมฺมตาว โหติ. สีมาย สีมํ สมฺภินฺทนฺเตน สมฺมตา (มหาว. อฏฺ. ๑๔๘) นาม อตฺตโน สีมาย ปเรสํ สีมํ สมฺภินฺทนฺเตน สมฺมตา. สเจ หิ โปราณกสฺส วิหารสฺส ปุรตฺถิมาย ทิสาย อมฺโพ เจว ชมฺพุ จาติ ทฺเว รุกฺขา อฺมฺํ สํสฏฺวิฏปา โหนฺติ, เตสุ อมฺพสฺส ปจฺฉิมทิสาภาเค ชมฺพุ, วิหารสีมา จ ชมฺพุํ อนฺโตกตฺวา อมฺพํ กิตฺเตตฺวา พทฺธา โหติ. อถ ปจฺฉา ตสฺส วิหารสฺส ปุรตฺถิมาย ทิสาย วิหาเร กเต สีมํ พนฺธนฺตา ภิกฺขู ตํ อมฺพํ อนฺโตกตฺวา ชมฺพุํ กิตฺเตตฺวา พนฺธนฺติ, สีมาย สีมํ สมฺภินฺนา โหติ. ตสฺมา สเจ ปมตรํ กตสฺส วิหารสฺส สีมา อสมฺมตา โหติ, สีมาย อุปจาโร เปตพฺโพ. สเจ สมฺมตา โหติ, ปจฺฉิมโกฏิยา หตฺถมตฺตา สีมนฺตริกา เปตพฺพา. กุรุนฺทิยํ ‘‘วิทตฺถิมตฺตมฺปิ’’, มหาปจฺจริยํ ‘‘จตุรงฺคุลมตฺตมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. เอกรุกฺโขปิ จ ทฺวินฺนํ สีมานํ นิมิตฺตํ โหติ. โส ปน วฑฺฒนฺโต สีมสงฺกรํ กโรติ, ตสฺมา น กาตพฺโพ. สีมาย สีมํ อชฺโฌตฺถรนฺเตน สมฺมตา นาม อตฺตโน สีมาย ปเรสํ สีมํ อชฺโฌตฺถรนฺเตน สมฺมตา. สเจ หิ ปเรสํ พทฺธสีมํ สกลํ วา ตสฺสา ปเทสํ วา อนฺโตกตฺวา อตฺตโน สีมํ สมฺมนฺนนฺติ, สีมาย สีมํ อชฺโฌตฺถริตา นาม โหติ. ภิกฺขุนีนํ ปน สีมํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อนฺโตปิ ภิกฺขูนํ สีมํ สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุนีนมฺปิ ภิกฺขูนํ สีมาย เอเสว นโย. น หิ เต อฺมฺสฺส กมฺเม คณปูรกา โหนฺติ, น กมฺมวาจํ วคฺคํ กโรนฺติ. อิติ อิมา เอกาทส วิปตฺติสีมาโย อติกฺกมิตฺวา สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา.

๑๕๗. ติวิธสมฺปตฺติยุตฺตา นาม นิมิตฺตสมฺปตฺติยา ปริสสมฺปตฺติยา กมฺมวาจาสมฺปตฺติยา จ ยุตฺตา. ตตฺถ นิมิตฺตสมฺปตฺติยา ยุตฺตา นาม ปพฺพตนิมิตฺตํ ปาสาณนิมิตฺตํ วนนิมิตฺตํ รุกฺขนิมิตฺตํ มคฺคนิมิตฺตํ วมฺมิกนิมิตฺตํ นทีนิมิตฺตํ อุทกนิมิตฺตนฺติ เอวํ วุตฺเตสุ อฏฺสุ นิมิตฺเตสุ ตสฺมึ ตสฺมึ ทิสาภาเค ยถาลทฺธานิ นิมิตฺตุปคานิ นิมิตฺตานิ ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺตํ. ปพฺพโต, ภนฺเต. เอโส ปพฺพโต นิมิตฺต’’นฺติอาทินา นเยน สมฺมา กิตฺเตตฺวา สมฺมตา.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (มหาว. อฏฺ. ๑๓๘) – วินยธเรน ปุจฺฉิตพฺพํ ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺต’’นฺติ? ‘‘ปพฺพโต, ภนฺเต’’ติ. อิทํ ปน อุปสมฺปนฺโน วา อาจิกฺขตุ อนุปสมฺปนฺโน วา, วฏฺฏติเยว. ปุน วินยธเรน ‘‘เอโส ปพฺพโต นิมิตฺต’’นฺติ เอวํ นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ, ‘‘เอตํ ปพฺพตํ นิมิตฺตํ กโรม, กริสฺสาม, นิมิตฺตํ กโต, นิมิตฺตํ โหตุ, โหติ, ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ ปน กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ. ปาสาณาทีสุปิ เอเสว นโย. ปุรตฺถิมาย ทิสาย, ปุรตฺถิมาย อนุทิสาย, ทกฺขิณาย ทิสาย, ทกฺขิณาย อนุทิสาย, ปจฺฉิมาย ทิสาย, ปจฺฉิมาย อนุทิสาย, อุตฺตราย ทิสาย, อุตฺตราย อนุทิสาย กึ นิมิตฺตํ? อุทกํ, ภนฺเต. เอตํ อุทกํ นิมิตฺตนฺติ กิตฺเตตพฺพํ. เอตฺถ ปน อฏฺเปตฺวา ปุน ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺตํ? ปพฺพโต, ภนฺเต. เอโส ปพฺพโต นิมิตฺต’’นฺติ เอวํ ปมํ กิตฺติตนิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวาว เปตพฺพํ. เอวฺหิ นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฆฏิตํ โหติ, นิมิตฺตานิ สกึ กิตฺติตานิปิ กิตฺติตาเนว โหนฺติ. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘ติกฺขตฺตุํ สีมมณฺฑลํ พนฺธนฺเตน นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ.

๑๕๘. อิทานิ นิมิตฺตุปคานิ ปพฺพตาทีนิ เวทิตพฺพานิ – ติวิโธ ปพฺพโต สุทฺธปํสุปพฺพโต สุทฺธปาสาณปพฺพโต อุภยมิสฺสโกติ. โส ติวิโธปิ วฏฺฏติ, วาลิกราสิ ปน น วฏฺฏติ. อิตโรปิ หตฺถิปฺปมาณโต โอมกตโร น วฏฺฏติ, หตฺถิปฺปมาณโต ปฏฺาย สิเนรุปฺปมาโณปิ วฏฺฏติ. สเจ จตูสุ ทิสาสุ จตฺตาโร ตีสุ วา ตโย ปพฺพตา โหนฺติ, จตูหิ วา ตีหิ วา ปพฺพตนิมิตฺเตหิ สมฺมนฺนิตุมฺปิ วฏฺฏติ, ทฺวีหิ ปน นิมิตฺเตหิ เอเกน วา สมฺมนฺนิตุํ น วฏฺฏติ. อิโต ปเรสุ ปาสาณนิมิตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย. ตสฺมา ปพฺพตนิมิตฺตํ กโรนฺเตน ปุจฺฉิตพฺพํ ‘‘เอกาพทฺโธ, น เอกาพทฺโธ’’ติ. สเจ เอกาพทฺโธ โหติ, น กาตพฺโพ. ตฺหิ จตูสุ วา อฏฺสุ วา ทิสาสุ กิตฺเตนฺเตนปิ เอกเมว นิมิตฺตํ กิตฺติตํ โหติ, ตสฺมา โย เอวํ จกฺกสณฺาเนน วิหารมฺปิ ปริกฺขิปิตฺวา ิโต ปพฺพโต, ตํ เอกทิสาย กิตฺเตตฺวา อฺาสุ ทิสาสุ ตํ พหิทฺธา กตฺวา อนฺโต อฺานิ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตพฺพานิ. สเจ ปพฺพตสฺส ตติยภาคํ วา อุปฑฺฒํ วา อนฺโตสีมาย กตฺตุกามา โหนฺติ, ปพฺพตํ อกิตฺเตตฺวา ยตฺตกํ ปเทสํ อนฺโต กตฺตุกามา, ตสฺส ปรโต ตสฺมึเยว ปพฺพเต ชาตรุกฺขวมฺมิกาทีสุ อฺตรํ นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ. สเจ เอกโยชนทฺวิโยชนปฺปมาณํ สพฺพํ ปพฺพตํ อนฺโต กตฺตุกามา โหนฺติ, ปพฺพตสฺส ปรโต ภูมิยํ ชาตรุกฺขวมฺมิกาทีนิ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตพฺพานิ.

ปาสาณนิมิตฺเต อยคุโฬปิ ปาสาณสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตสฺมา โย โกจิ ปาสาโณ วฏฺฏติ. ปมาณโต ปน หตฺถิปฺปมาโณ ปพฺพตสงฺขฺยํ คโต, ตสฺมา โส น วฏฺฏติ, มหาโคณมหามหึสปฺปมาโณ ปน วฏฺฏติ. เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ทฺวตฺตึสปลคุฬปิณฺฑปฺปมาโณ วฏฺฏติ, ตโต ขุทฺทกตโร อิฏฺกา วา มหนฺตีปิ น วฏฺฏติ, อนิมิตฺตุปคปาสาณานํ ราสิปิ น วฏฺฏติ, ปเคว ปํสุวาลุกราสิ. ภูมิสโม ขลมณฺฑลสทิโส ปิฏฺิปาสาโณ วา ภูมิโต ขาณุโก วิย อุฏฺิตปาสาโณ วา โหติ, โสปิ ปมาณุปโค เจ, วฏฺฏติ. ปิฏฺิปาสาโณ อติมหนฺโตปิ ปาสาณสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตสฺมา สเจ มหโต ปิฏฺิปาสาณสฺส เอกปฺปเทสํ อนฺโตสีมาย กตฺตุกามา โหนฺติ, ตํ อกิตฺเตตฺวา ตสฺสุปริ อฺโ ปาสาโณ กิตฺเตตพฺโพ. สเจ ปิฏฺิปาสาณุปริ วิหารํ กโรนฺติ, วิหารมชฺเฌน วา ปิฏฺิปาสาโณ วินิวิชฺฌิตฺวา คจฺฉติ, เอวรูโป ปิฏฺิปาสาโณ น วฏฺฏติ. สเจ หิ ตํ กิตฺเตนฺติ, นิมิตฺตสฺส อุปริ วิหาโร โหติ, นิมิตฺตฺจ นาม พหิสีมาย โหติ, วิหาโรปิ พหิสีมายํ อาปชฺชติ. วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตปิฏฺิปาสาโณ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ น กิตฺเตตพฺโพ.

วนนิมิตฺเต ติณวนํ วา ตจสารตาลนาฬิเกราทิรุกฺขวนํ วา น วฏฺฏติ, อนฺโตสารานํ ปน สากสาลาทีนํ อนฺโตสารมิสฺสกานํ วา รุกฺขานํ วนํ วฏฺฏติ, ตฺจ โข เหฏฺิมปริจฺเฉเทน จตุปฺจรุกฺขมตฺตมฺปิ, ตโต โอรํ น วฏฺฏติ, ปรํ โยชนสติกมฺปิ วฏฺฏติ. สเจ ปน วนมชฺเฌ วิหารํ กโรนฺติ, วนํ น กิตฺเตตพฺพํ. เอกเทสํ อนฺโตสีมาย กาตุกาเมหิปิ วนํ อกิตฺเตตฺวา ตตฺถ รุกฺขปาสาณาทโย กิตฺเตตพฺพา. วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตวนํ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ น กิตฺเตตพฺพํ.

รุกฺขนิมิตฺเต ตจสาโร ตาลนาฬิเกราทิรุกฺโข น วฏฺฏติ, อนฺโตสาโร ชีวมานโก อนฺตมโส อุพฺเพธโต อฏฺงฺคุโล ปริณาหโต สูจิทณฺฑกปฺปมาโณปิ วฏฺฏติ. ตโต โอรํ น วฏฺฏติ, ปรํ ทฺวาทสโยชโน สุปฺปติฏฺิตนิคฺโรโธปิ วฏฺฏติ. วํสนฬกสราวาทีสุ พีชํ โรเปตฺวา วฑฺฒาปิโต ปมาณุปโคปิ น วฏฺฏติ, ตโต อปเนตฺวา ปน ตํ ขณมฺปิ ภูมิยํ โรเปตฺวา โกฏฺกํ กตฺวา อุทกํ อาสิฺจิตฺวา กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. นวมูลสาขานิคฺคมนํ อการณํ, ขนฺธํ ฉินฺทิตฺวา โรปิเต ปน เอตํ ยุชฺชติ. กิตฺเตนฺเตน จ ‘‘รุกฺโข’’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ ‘‘สากรุกฺโข’’ติปิ ‘‘สาลรุกฺโข’’ติปิ. เอกาพทฺธํ ปน สุปฺปติฏฺิตนิคฺโรธสทิสํ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ.

มคฺคนิมิตฺเต อรฺเขตฺตนทีตฬากมคฺคาทโย น วฏฺฏนฺติ, ชงฺฆมคฺโค วา สกฏมคฺโค วา วฏฺฏติ. โย นิพฺพิชฺฌิตฺวา ทฺเว ตีณิ คามนฺตรานิ คจฺฉติ, โย ปน ชงฺฆมคฺคสกฏมคฺคโต โอกฺกมิตฺวา ปุน สกฏมคฺคเมว โอตรติ, เย วา ชงฺฆมคฺคสกฏมคฺคา อวฬฺชา, เต น วฏฺฏนฺติ, ชงฺฆสตฺถสกฏสตฺเถหิ วฬฺชิยมานาเยว วฏฺฏนฺติ. สเจ ทฺเว มคฺคา นิกฺขมิตฺวา ปจฺฉา สกฏธุรมิว เอกีภวนฺติ, ทฺเวธา ภินฺนฏฺาเน วา สมฺพนฺธฏฺาเน วา สกึ กิตฺเตตฺวา ปุน น กิตฺเตตพฺพา. เอกาพทฺธนิมิตฺตฺเหตํ โหติ. สเจ วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา จตฺตาโร มคฺคา จตูสุ ทิสาสุ คจฺฉนฺติ, มชฺเฌ เอกํ กิตฺเตตฺวา อปรํ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ. เอกาพทฺธนิมิตฺตฺเหตํ. โกณํ นิพฺพิชฺฌิตฺวา คตํ ปน ปรภาเค กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. วิหารมชฺเฌน นิพฺพิชฺฌิตฺวา คตมคฺโค ปน น กิตฺเตตพฺโพ, กิตฺติเต นิมิตฺตสฺส อุปริ วิหาโร โหติ. สเจ สกฏมคฺคสฺส อนฺติมจกฺกมคฺคํ นิมิตฺตํ กโรนฺติ, มคฺโค พหิสีมาย โหติ, สเจ พาหิรจกฺกมคฺคํ นิมิตฺตํ กโรนฺติ, พาหิรจกฺกมคฺโค พหิสีมาย โหติ, เสสํ อนฺโตสีมํ ภชติ. มคฺคํ กิตฺเตนฺเตน ‘‘มคฺโค ปนฺโถ ปโถ ปชฺโช’’ติอาทีสุ ทสสุ เยน เกนจิ นาเมน จ กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ, ปริขาสณฺาเนน วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา คตมคฺโค เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ.

วมฺมิกนิมิตฺเต เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ตํ ทิวสํ ชาโต อฏฺงฺคุลุพฺเพโธ โควิสาณปฺปมาโณปิ วมฺมิโก วฏฺฏติ, ตโต โอรํ น วฏฺฏติ. ปรํ หิมวนฺตปพฺพตสทิโสปิ วฏฺฏติ, วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตํ ปน เอกาพทฺธํ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ.

นทีนิมิตฺเต ยสฺสา ธมฺมิกานํ ราชูนํ กาเล อนฺวฑฺฒมาสํ อนุทสาหํ อนุปฺจาหนฺติ เอวํ เทเว วสฺสนฺเต วลาหเกสุ วิคตมตฺเตสุ โสตํ ปจฺฉิชฺชติ, อยํ นทีสงฺขฺยํ น คจฺฉติ. ยสฺสา ปน อีทิเส สุวุฏฺิกาเล วสฺสานสฺส จาตุมาเส โสตํ น ปจฺฉิชฺชติ, ยตฺถ ติตฺเถน วา อติตฺเถน วา สิกฺขากรณีเย อาคตลกฺขเณน ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา อนฺตรวาสกํ อนุกฺขิปิตฺวา อุตฺตรนฺติยา ภิกฺขุนิยา เอกงฺคุลทฺวงฺคุลมตฺตมฺปิ อนฺตรวาสโก เตมิยติ, อยํ นที สีมํ พนฺธนฺตานํ นิมิตฺตํ โหติ. ภิกฺขุนิยา นทีปารคมเนปิ อุโปสถาทิสงฺฆกมฺมกรเณปิ นทีปารสีมาสมฺมนฺนเนปิ อยเมว นที. ยา ปน มคฺโค วิย สกฏธุรสณฺาเนน วา ปริขาสณฺาเนน วา วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา คตา, ตํ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ. วิหารสฺส จตูสุ ทิสาสุ อฺมฺํ วินิพฺพิชฺฌิตฺวา คเต นทีจตุกฺเกปิ เอเสว นโย. อสมฺมิสฺสา นทิโย ปน จตสฺโสปิ กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. สเจ วตึ กโรนฺโต วิย รุกฺขปาเท นิขณิตฺวา วลฺลิปลาลาทีหิ นทีโสตํ รุนฺธนฺติ, อุทกํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อาวรณํ ปวตฺตติเยว, นิมิตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติ. ยถา ปน อุทกํ น ปวตฺตติ, เอวํ เสตุมฺหิ กเต อปวตฺตมานา นทีนิมิตฺตํ กาตุํ น วฏฺฏติ, ปวตฺตนฏฺาเน นทีนิมิตฺตํ, อปฺปวตฺตนฏฺาเน อุทกนิมิตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติ. ยา ปน ทุพฺพุฏฺิกาเล วา คิมฺเห วา นิรุทกภาเวน น ปวตฺตติ, สา วฏฺฏติ. มหานทิโต อุทกมาติกํ นีหรนฺติ, สา กุนฺนทีสทิสา หุตฺวา ตีณิ สสฺสานิ สมฺปาเทนฺตี นิจฺจํ ปวตฺตติ, กิฺจาปิ ปวตฺตติ, นิมิตฺตํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ยา ปน มูเล มหานทิโต นีหตาปิ กาลนฺตเรน เตเนว นีหตมคฺเคน นทึ ภินฺทิตฺวา สยํ คจฺฉติ, คจฺฉนฺตี ปรโต สุสุมาราทิสมากิณฺณา นาวาทีหิ สฺจริตพฺพา นที โหติ, ตํ นิมิตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติ.

อุทกนิมิตฺเต นิรุทกฏฺาเน นาวาย วา จาฏิอาทีสุ วา อุทกํ ปูเรตฺวา อุทกนิมิตฺตํ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ, ภูมิคตเมว วฏฺฏติ. ตฺจ โข อปฺปวตฺตนอุทกํ อาวาฏโปกฺขรณีตฬอากชาตสฺสรโลณิสมุทฺทาทีสุ ิตํ, อฏฺิตํ ปน โอฆนทีอุทกวาหกมาติกาทีสุ อุทกํ น วฏฺฏติ. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘คมฺภีเรสุ อาวาฏาทีสุ อุกฺเขปิมํ อุทกํ นิมิตฺตํ น กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ ทุวุตฺตํ, อตฺตโนมติมตฺตเมว. ิตํ ปน อนฺตมโส สูกรขตายปิ คามทารกานํ กีฬนวาปิยมฺปิ ตํ ขณฺเว ปถวิยํ อาวาฏํ กตฺวา กุเฏหิ อาหริตฺวา ปูริตอุทกมฺปิ สเจ ยาว กมฺมวาจาปริโยสานา ติฏฺติ, อปฺปํ วา โหตุ พหุํ วา, วฏฺฏติ. ตสฺมึ ปน าเน นิมิตฺตสฺากรณตฺถํ ปาสาณวาลิกาปํสุอาทิราสิ วา ปาสาณตฺถมฺโภ วา ทารุตฺถมฺโภ วา กาตพฺโพ. ตํ กาตุํ กาเรตุฺจ ภิกฺขุสฺส วฏฺฏติ, ลาภสีมายํ ปน น วฏฺฏติ. สมานสํวาสกสีมา กสฺสจิ ปีฬนํ น กโรติ, เกวลํ ภิกฺขูนํ วินยกมฺมเมว สาเธติ, ตสฺมา เอตฺถ วฏฺฏติ.

อิเมหิ จ อฏฺหิ นิมิตฺเตหิ อสมฺมิสฺเสหิปิ อฺมฺํ สมฺมิสฺเสหิปิ สีมา สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏติเยว. สา เอวํ สมฺมนฺนิตฺวา พชฺฌมานา เอเกน ทฺวีหิ วา นิมิตฺเตหิ อพทฺธา โหติ, ตีณิ ปน อาทึ กตฺวา วุตฺตปฺปการานํ นิมิตฺตานํ สเตนปิ พทฺธา โหติ. สา ตีหิ สิงฺฆาฏกสณฺานา โหติ, จตูหิ จตุรสฺสา วา สิงฺฆาฏกอฑฺฒจนฺทมุทิงฺคาทิสณฺานา วา, ตโต อธิเกหิ นานาสณฺานา. เอวํ วุตฺตนเยน นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา สมฺมตา ‘‘นิมิตฺตสมฺปตฺติยุตฺตา’’ติ เวทิตพฺพา.

๑๕๙. ปริสสมฺปตฺติยุตฺตา นาม สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน จตูหิ ภิกฺขูหิ สนฺนิปติตฺวา ยาวติกา ตสฺมึ คามเขตฺเต พทฺธสีมํ วา นทีสมุทฺทชาตสฺสเร วา อโนกฺกมิตฺวา ิตา ภิกฺขู, เต สพฺเพ หตฺถปาเส วา กตฺวา ฉนฺทํ วา อาหริตฺวา สมฺมตา.

๑๖๐. กมฺมวาจาสมฺปตฺติยุตฺตา นาม –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยาวตา สมนฺตา นิมิตฺตา กิตฺติตา, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ เอเตหิ นิมิตฺเตหิ สีมํ สมฺมนฺเนยฺย สมานสํวาสํ เอกูโปสถํ, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยาวตา สมนฺตา นิมิตฺตา กิตฺติตา, สงฺโฆ เอเตหิ นิมิตฺเตหิ สีมํ สมฺมนฺนติ สมานสํวาสํ เอกูโปสถํ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ เอเตหิ นิมิตฺเตหิ สีมาย สมฺมุติ สมานสํวาสาย เอกูโปสถาย, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘สมฺมตา สีมา สงฺเฆน เอเตหิ นิมิตฺเตหิ สมานสํวาสา เอกูโปสถา, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๑๓๙) –

เอวํ วุตฺตาย ปริสุทฺธาย ตฺติทุติยกมฺมวาจาย สมฺมตา. กมฺมวาจาปริโยสาเน นิมิตฺตานํ อนฺโต สีมา โหติ, นิมิตฺตานิ สีมโต พหิ โหนฺติ.

๑๖๑. เอวํ พทฺธาย จ สีมาย ติจีวเรน วิปฺปวาสสุขตฺถํ ทฬฺหีกมฺมตฺถฺจ อวิปฺปวาสสมฺมุติ กาตพฺพา. สา ปน เอวํ กตฺตพฺพา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยา สา สงฺเฆน สีมา สมฺมตา สมานสํวาสา เอกูโปสถา, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ตํ สีมํ ติจีวเรน อวิปฺปวาสํ สมฺมนฺเนยฺย เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยา สา สงฺเฆน สีมา สมฺมตา สมานสํวาสา เอกูโปสถา, สงฺโฆ ตํ สีมํ ติจีวเรน อวิปฺปวาสํ สมฺมนฺนติ เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ เอติสฺสา สีมาย ติจีวเรน อวิปฺปวาสาย สมฺมุติ เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘สมฺมตา สา สีมา สงฺเฆน ติจีวเรน อวิปฺปวาสา เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๑๔๓).

เอตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๔) จ นิคมนครานมฺปิ คาเมเนว สงฺคโห เวทิตพฺโพ. คามูปจาโรติ ปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขโป, อปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขโปกาโส. อิเมสุ ปน คามคามูปจาเรสุ อธิฏฺิตเตจีวริโก ภิกฺขุ ปริหารํ น ลภติ. อยฺหิ อวิปฺปวาสสีมา ‘‘เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจา’’ติ วุตฺตตฺตา คามฺจ คามูปจารฺจ น โอตฺถรติ, สมานสํวาสกสีมาว โอตฺถรติ. สมานสํวาสกสีมา เจตฺถ อตฺตโน ธมฺมตาย คจฺฉติ, อวิปฺปวาสสีมา ปน ยตฺถ สมานสํวาสกสีมา, ตตฺเถว คจฺฉติ. น หิ ตสฺสา วิสุํ นิมิตฺตกิตฺตนํ อตฺถิ, ตตฺถ สเจ อวิปฺปวาสาย สมฺมุติกาเล คาโม อตฺถิ, ตํ สา น โอตฺถรติ. สเจ ปน สมฺมตาย สีมาย ปจฺฉา คาโม นิวิสติ, โสปิ สีมสงฺขฺยํเยว คจฺฉติ. ยถา จ ปจฺฉา นิวิฏฺโ, เอวํ ปมํ นิวิฏฺสฺส ปจฺฉา วฑฺฒิตปฺปเทโสปิ สีมสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. สเจ สีมาสมฺมุติกาเล เคหานิ กตานิ, ‘‘ปวิสิสฺสามา’’ติ อาลโยปิ อตฺถิ, มนุสฺสา ปน อปฺปวิฏฺา, โปราณกคามํ วา สเจ เคหเมว ฉฑฺเฑตฺวา อฺตฺถ คตา, อคาโมเยว เอส, สีมา โอตฺถรติ. สเจ ปน เอกมฺปิ กุลํ ปวิฏฺํ วา อคตํ วา อตฺถิ, คาโมเยว, สีมา น โอตฺถรติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป.

๑๖๒. อยํ ปน วิตฺถาโร (มหาว. อฏฺ. ๑๓๘) สีมํ พนฺธิตุกาเมน หิ สามนฺตวิหาเรสุ ภิกฺขู ตสฺส ตสฺส วิหารสฺส สีมาปริจฺเฉทํ ปุจฺฉิตฺวา พทฺธสีมวิหารานํ สีมาย สีมนฺตริกํ, อพทฺธสีมวิหารานํ สีมาย อุปจารํ เปตฺวา ทิสาจาริกภิกฺขูนํ นิสฺสฺจารสมเย สเจ เอกสฺมึ คามเขตฺเต สีมํ พนฺธิตุกามา, เย ตตฺถ พทฺธสีมวิหารา, เตสุ ภิกฺขูนํ ‘‘มยํ อชฺช สีมํ พนฺธิสฺสาม, ตุมฺเห สกสีมาย ปริจฺเฉทโต มา นิกฺขมิตฺถา’’ติ เปเสตพฺพํ. เย อพทฺธสีมวิหารา, เตสุ ภิกฺขู เอกชฺฌํ สนฺนิปาเตตพฺพา, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อาหราเปตพฺโพ. ‘‘สเจ อฺานิปิ คามเขตฺตานิ อนฺโตกาตุกามา, เตสุ คาเมสุ เย ภิกฺขู วสนฺติ, เตหิปิ อาคนฺตพฺพํ, อนาคจฺฉนฺตานํ ฉนฺโท อาหริตพฺโพ’’ติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘นานาคามเขตฺตานิ นาม ปาฏิเยกฺกํ พทฺธสีมสทิสานิ, น ตโต ฉนฺทปาริสุทฺธิ อาคจฺฉติ, อนฺโตนิมิตฺตคเตหิ ปน ภิกฺขูหิ อาคนฺตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ปุน อาห ‘‘สมานสํวาสกสีมาสมฺมนฺนนกาเล อาคมนมฺปิ อนาคมนมฺปิ วฏฺฏติ, อวิปฺปวาสสีมาสมฺมนฺนนกาเล ปน อนฺโตนิมิตฺตคเตหิ อาคนฺตพฺพํ, อนาคจฺฉนฺตานํ ฉนฺโท อาหริตพฺโพ’’ติ.

เอวํ สนฺนิปติเตสุ ภิกฺขูสุ ฉนฺทารหานํ ฉนฺเท อาหเฏ เตสุ เตสุ มคฺเคสุ นทีติตฺถคามทฺวาราทีสุ จ อาคนฺตุกภิกฺขูนํ สีฆํ สีฆํ หตฺถปาสนยนตฺถฺเจว พหิสีมกรณตฺถฺจ อารามิเก เจว สมณุทฺเทเส จ เปตฺวา เภริสฺํ วา สงฺขสฺํ วา กตฺวา นิมิตฺตกิตฺตนานนฺตรํ วุตฺตาย ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ’’ติอาทิกาย กมฺมวาจาย สีมา พนฺธิตพฺพา. กมฺมวาจาปริโยสาเนเยว นิมิตฺตานิ พหิกตฺวา เหฏฺา ปถวีสนฺธารกํ อุทกปริยนฺตํ กตฺวา สีมา คตา โหติ.

๑๖๓. อิมํ ปน สมานสํวาสกสีมํ สมฺมนฺนนฺเตหิ ปพฺพชฺชูปสมฺปทาทีนํ สงฺฆกมฺมานํ สุขกรณตฺถํ ปมํ ขณฺฑสีมา พนฺธิตพฺพา. ตํ ปน พนฺธนฺเตหิ วตฺตํ ชานิตพฺพํ. สเจ หิ โพธิเจติยภตฺตสาลาทีนิ สพฺพวตฺถูนิ ปติฏฺาเปตฺวา กตวิหาเร พนฺธนฺติ, วิหารมชฺเฌ พหูนํ สโมสรณฏฺาเน อพนฺธิตฺวา วิหารปจฺจนฺเต วิวิตฺโตกาเส พนฺธิตพฺพา. อกตวิหาเร พนฺธนฺเตหิ โพธิเจติยาทีนํ สพฺพวตฺถูนํ านํ สลฺลกฺเขตฺวา ยถา ปติฏฺิเตสุ วตฺถูสุ วิหารปจฺจนฺเต วิวิตฺโตกาเส โหติ, เอวํ พนฺธิตพฺพา. สา เหฏฺิมปริจฺเฉเทน สเจ เอกวีสติ ภิกฺขู คณฺหาติ, วฏฺฏติ, ตโต โอรํ น วฏฺฏติ, ปรํ ภิกฺขุสหสฺสํ คณฺหนฺตีปิ วฏฺฏติ. ตํ พนฺธนฺเตหิ สีมมาฬกสฺส สมนฺตา นิมิตฺตุปคา ปาสาณา เปตพฺพา, น ขณฺฑสีมาย ิเตหิ มหาสีมา พนฺธิตพฺพา, น มหาสีมาย ิเตหิ ขณฺฑสีมา, ขณฺฑสีมายเมว ปน ตฺวา ขณฺฑสีมา พนฺธิตพฺพา.

ตตฺรายํ พนฺธนวิธิ – สมนฺตา ‘‘เอโส ปาสาโณ นิมิตฺต’’นฺติ เอวํ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา กมฺมวาจาย สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. อถ ตสฺสา เอว ทฬฺหีกมฺมตฺถํ อวิปฺปวาสกมฺมวาจา กาตพฺพา. เอวฺหิ ‘‘สีมํ สมูหนิสฺสามา’’ติ อาคตา สมูหนิตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. สีมํ สมฺมนฺนิตฺวา พหิ สีมนฺตริกปาสาณา เปตพฺพา. สีมนฺตริกา ปจฺฉิมโกฏิยา เอกรตนปฺปมาณา วฏฺฏติ. ‘‘วิทตฺถิปฺปมาณาปิ วฏฺฏตี’’ติ กุรุนฺทิยํ, ‘‘จตุรงฺคุลปฺปมาณาปิ วฏฺฏตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. สเจ ปน วิหาโร มหา โหติ, ทฺเวปิ ติสฺโสปิ ตตุตฺตริมฺปิ ขณฺฑสีมาโย พนฺธิตพฺพา.

เอวํ ขณฺฑสีมํ สมฺมนฺนิตฺวา มหาสีมสมฺมุติกาเล ขณฺฑสีมโต นิกฺขมิตฺวา มหาสีมายํ ตฺวา สมนฺตา อนุปริยายนฺเตหิ สีมนฺตริกปาสาณา กิตฺเตตพฺพา, ตโต อวเสสนิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา หตฺถปาสํ อวิชหนฺเตหิ กมฺมวาจาย สมานสํวาสกสีมํ สมฺมนฺนิตฺวา ตสฺสา ทฬฺหีกมฺมตฺถํ อวิปฺปวาสกมฺมวาจาปิ กาตพฺพา. เอวฺหิ ‘‘สีมํ สมูหนิสฺสามา’’ติ อาคตา สมูหนิตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. สเจ ปน ขณฺฑสีมาย นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา ตโต สีมนฺตริกาย นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา มหาสีมาย นิมิตฺตานิ กิตฺเตนฺติ, เอวํ ตีสุ าเนสุ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา ยํ สีมํ อิจฺฉนฺติ, ตํ ปมํ พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ สนฺเตปิ ยถาวุตฺตนเยน ขณฺฑสีมโตว ปฏฺาย พนฺธิตพฺพา. เอวํ พทฺธาสุ ปน สีมาสุ ขณฺฑสีมาย ิตา ภิกฺขู มหาสีมาย กมฺมํ กโรนฺตานํ น โกเปนฺติ, มหาสีมาย วา ิตา ขณฺฑสีมาย กโรนฺตานํ, สีมนฺตริกาย ปน ิตา อุภินฺนมฺปิ น โกเปนฺติ. คามเขตฺเต ตฺวา กมฺมํ กโรนฺตานํ ปน สีมนฺตริกาย ิตา โกเปนฺติ. สีมนฺตริกา หิ คามเขตฺตํ ภชติ.

สีมา จ นาเมสา น เกวลา ปถวีตเลเยว พทฺธา พทฺธา นาม โหติ, อถ โข ปิฏฺิปาสาเณปิ กุฏิเคเหปิ เลเณปิ ปาสาเทปิ ปพฺพตมตฺถเกปิ พทฺธา พทฺธาเยว โหติ. ตตฺถ ปิฏฺิปาสาเณ พนฺธนฺเตหิ ปาสาณปิฏฺิยํ ราชึ วา โกฏฺเฏตฺวา อุทุกฺขลํ วา ขณิตฺวา นิมิตฺตํ น กาตพฺพํ, นิมิตฺตุปคปาสาเณ เปตฺวา นิมิตฺตานิ กิตฺเตตพฺพานิ. กมฺมวาจาปริโยสาเน สีมา ปถวีสนฺธารกํ อุทกปริยนฺตํ กตฺวา โอตรติ. นิมิตฺตปาสาณา ยถาาเน น ติฏฺนฺติ, ตสฺมา สมนฺตโต ราชิ วา อุปฏฺาเปตพฺพา, จตูสุ วา โกเณสุ ปาสาณา วิชฺฌิตพฺพา, ‘‘อยํ สีมาปริจฺเฉโท’’ติ วตฺวา อกฺขรานิ วา ฉินฺทิตพฺพานิ. เกจิ อุสูยกา ‘‘สีมํ ฌาเปสฺสามา’’ติ อคฺคึ เทนฺติ, ปาสาณาว ฌายนฺติ, น สีมา.

กุฏิเคเหปิ ภิตฺตึ อกิตฺเตตฺวา เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาสฏฺานํ อนฺโตกริตฺวา ปาสาณนิมิตฺตานิ เปตฺวา สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา, อนฺโตกุฏฺฏเมว สีมา โหติ. สเจ อนฺโตกุฏฺเฏ เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาโส นตฺถิ, ปมุเข นิมิตฺตปาสาเณ เปตฺวา สมฺมนฺนิตพฺพา. สเจ เอวมฺปิ นปฺปโหติ, พหิ นิพฺโพทกปตนฏฺาเนปิ นิมิตฺตานิ เปตฺวา สมฺมนฺนิตพฺพา. เอวํ สมฺมตาย ปน สพฺพํ กุฏิเคหํ สีมฏฺเมว โหติ.

จตุภิตฺติยเลเณปิ พนฺธนฺเตหิ กุฏฺฏํ อกิตฺเตตฺวา ปาสาณาว กิตฺเตตพฺพา, อนฺโต โอกาเส อสติ ปมุเขปิ นิมิตฺตานิ เปตพฺพานิ, เอวํ เลณสฺส อนฺโต จ พหิ จ สีมา โหติ.

อุปริปาสาเทปิ ภิตฺตึ อกิตฺเตตฺวา อนฺโตปาสาเณ เปตฺวา สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. สเจ นปฺปโหติ, ปมุเขปิ ปาสาเณ เปตฺวา สมฺมนฺนิตพฺพา. เอวํ สมฺมตา อุปริปาสาเทเยว โหติ, เหฏฺา น โอตรติ. สเจ ปน พหูสุ ถมฺเภสุ ตุลานํ อุปริ กตปาสาทสฺส เหฏฺิมตเล กุฏฺโฏ ยถา นิมิตฺตานํ อนฺโต โหติ, เอวํ อุฏฺหิตฺวา ตุลารุกฺเขหิ เอกสมฺพนฺโธ ิโต, เหฏฺาปิ โอตรติ, เอกถมฺภปาสาทสฺส ปน อุปริตเล พทฺธา สีมา. สเจ ถมฺภมตฺถเก เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาโส โหติ, เหฏฺา โอตรติ. สเจ ปาสาทภิตฺติโต นิคฺคเตสุ นิยฺยูหกาทีสุ ปาสาเณ เปตฺวา สีมํ พนฺธนฺติ, ปาสาทภิตฺติ อนฺโตสีมาย โหติ. เหฏฺา ปนสฺสา โอตรณาโนตรณํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

เหฏฺาปาสาเท กิตฺเตนฺเตหิปิ ภิตฺติ จ รุกฺขตฺถมฺภา จ น กิตฺเตตพฺพา, ภิตฺติลคฺเค ปน ปาสาณตฺถมฺเภ กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. เอวํ กิตฺติตา สีมา เหฏฺาปาสาทสฺส ปริยนฺตถมฺภานํ อนฺโตเยว โหติ. สเจ ปน เหฏฺาปาสาทสฺส กุฏฺโฏ อุปริมตเลน สมฺพทฺโธ โหติ, อุปริปาสาทมฺปิ อภิรุหติ. สเจ ปาสาทสฺส พหิ นิพฺโพทกปตนฏฺาเน นิมิตฺตานิ กโรนฺติ, สพฺโพ ปาสาโท สีมฏฺโ โหติ.

ปพฺพตมตฺถเก ตลํ โหติ เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาสารหํ, ตตฺถ ปิฏฺิปาสาเณ วิย สีมํ พนฺธนฺติ, เหฏฺาปพฺพเตปิ เตเนว ปริจฺเฉเทน สีมา โอตรติ. ตาลมูลกปพฺพเตปิ อุปริ สีมา พทฺธา เหฏฺา โอตรเตว. โย ปน วิตานสณฺาโน โหติ, อุปริ เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาโส อตฺถิ, เหฏฺา นตฺถิ, ตสฺสุปริ พทฺธา สีมา เหฏฺา น โอตรติ. เอวํ มุทิงฺคสณฺาโน วา โหตุ ปณวสณฺาโน วา, ยสฺส เหฏฺา วา มชฺเฌ วา สีมปฺปมาณํ นตฺถิ, ตสฺส อุปริ พทฺธา สีมา เหฏฺา น โอตรติ. ยสฺส ปน ทฺเว กูฏานิ อาสนฺเน ิตานิ, เอกสฺสปิ อุปริ สีมปฺปมาณํ นปฺปโหติ, ตสฺส กูฏนฺตรํ จินิตฺวา วา ปูเรตฺวา วา เอกาพทฺธํ กตฺวา อุปริ สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. เอโก สปฺปผณสทิโส ปพฺพโต, ตสฺส อุปริ สีมปฺปมาณสฺส อตฺถิตาย สีมํ พนฺธนฺติ, ตสฺส เจ เหฏฺา อากาสปพฺภารํ โหติ, สีมา น โอตรติ. สเจ ปนสฺส เวมชฺเฌ สีมปฺปมาโณ สุสิรปาสาโณ โหติ, โอตรติ, โส จ ปาสาโณ สีมฏฺโเยว โหติ. อถาปิสฺส เหฏฺาเลณสฺส กุฏฺโฏ อคฺคโกฏึ อาหจฺจ ติฏฺติ, โอตรติ, เหฏฺา จ อุปริ จ สีมาเยว โหติ. สเจ ปน เหฏฺา อุปริมสฺส สีมาปริจฺเฉทสฺส ปารโต อนฺโตเลณํ โหติ, พหิ สีมา น โอตรติ. อถาปิ อุปริมสฺส สีมาปริจฺเฉทสฺส โอรโต พหิ เลณํ โหติ, อนฺโต สีมา น โอตรติ. อถาปิ อุปริ สีมาปริจฺเฉโท ขุทฺทโก, เหฏฺา เลณํ มหนฺตํ สีมาปริจฺเฉทมติกฺกมิตฺวา ิตํ, สีมา อุปริเยว โหติ, เหฏฺา น โอตรติ. ยทิ ปน เลณํ ขุทฺทกํ สพฺพปจฺฉิมสีมาปริมาณํ, อุปริ สีมา มหตี นํ อชฺโฌตฺถริตฺวา ิตา, สีมา โอตรติ. อถ เลณํ อติขุทฺทกํ สีมปฺปมาณํ น โหติ, สีมา อุปริเยว โหติ, เหฏฺา น โอตรติ. สเจ ตโต อุปฑฺฒํ ภิชฺชิตฺวา ปตติ, สีมปฺปมาณํ เจปิ โหติ, พหิ ปติตํ อสีมา. อปติตํ ปน ยทิ สีมปฺปมาณํ, สีมา โหติเยว.

ขณฺฑสีมา จ นีจวตฺถุกา โหติ, ตํ ปูเรตฺวา อุจฺจวตฺถุกํ กโรนฺติ, สีมาเยว. สีมาย เคหํ กโรนฺติ, สีมฏฺกเมว โหติ. สีมาย โปกฺขรณึ ขณนฺติ, สีมาเยว. โอโฆ สีมามณฺฑลํ โอตฺถริตฺวา คจฺฉติ, สีมามาฬเก อฏฺฏํ พนฺธิตฺวา กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สีมาย เหฏฺา อุมงฺคนที โหติ, อิทฺธิมา ภิกฺขุ ตตฺถ นิสีทติ. สเจ สา นที ปมํ คตา, สีมา ปจฺฉา พทฺธา, กมฺมํ น โกเปติ. อถ ปมํ สีมา พทฺธา, ปจฺฉา นที คตา, กมฺมํ โกเปติ, เหฏฺาปถวีตเล ิโต ปน โกเปติเยว.

สีมามาฬเก วฏรุกฺโข โหติ, ตสฺส สาขา วา ตโต นิคฺคตปาโรโห วา มหาสีมาย ปถวีตลํ วา ตตฺถชาตรุกฺขาทีนิ วา อาหจฺจ ติฏฺติ, มหาสีมํ วา โสเธตฺวา กมฺมํ กาตพฺพํ, เต วา สาขาปาโรหา ฉินฺทิตฺวา พหิฏฺกา กาตพฺพา. อนาหจฺจ ิตสาขาทีสุ อารุฬฺหภิกฺขู หตฺถปาสํ อาเนตพฺพา. เอวํ มหาสีมาย ชาตรุกฺขสฺส สาขา วา ปาโรโห วา วุตฺตนเยเนว สีมามาฬเก ปติฏฺาติ, วุตฺตนเยเนว สีมํ โสเธตฺวา วา กมฺมํ กาตพฺพํ, เต วา สาขาปาโรหา ฉินฺทิตฺวา พหิฏฺกา กาตพฺพา. สเจ มาฬเก กมฺเม กริยมาเน โกจิ ภิกฺขุ มาฬกสฺส อนฺโต ปวิสิตฺวา เวหาสํ ิตสาขาย นิสีทติ, ปาทา วาสฺส ภูมิคตา โหนฺติ, นิวาสนปารุปนํ วา ภูมึ ผุสติ, กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ปาเท ปน นิวาสนปารุปนฺจ อุกฺขิปาเปตฺวา กาตุํ กมฺมํ วฏฺฏติ, อิทฺจ ลกฺขณํ ปุริมนเยปิ เวทิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – ตตฺร อุกฺขิปาเปตฺวา กาตุํ น วฏฺฏติ, หตฺถปาสเมว อาเนตพฺโพ. สเจ อนฺโตสีมโต ปพฺพโต อพฺภุคฺคจฺฉติ, ตตฺรฏฺโ ภิกฺขุ หตฺถปาสํ อาเนตพฺโพ. อิทฺธิยา อนฺโตปพฺพตํ ปวิฏฺเปิ เอเสว นโย. พชฺฌมานา เอว หิ สีมา ปมาณรหิตํ ปเทสํ น โอตรติ, พทฺธาย สีมาย ชาตํ ยํ กิฺจิ ยตฺถ กตฺถจิ เอกสมฺพนฺเธน คตํ สีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉตีติ.

ติโยชนปรมํ ปน สีมํ สมฺมนฺนนฺเตน มชฺเฌ ตฺวา ยถา จตูสุปิ ทิสาสุ ทิยฑฺฒทิยฑฺฒโยชนํ โหติ, เอวํ สมฺมนฺนิตพฺพา. สเจ ปน มชฺเฌ ตฺวา เอเกกทิสโต ติโยชนํ กโรนฺติ, ฉโยชนํ โหตีติ น วฏฺฏติ. จตุรสฺสํ วา ติโกณํ วา สมฺมนฺนนฺเตน ยถา โกณโต โกณํ ติโยชนํ โหติ, เอวํ สมฺมนฺนิตพฺพา. สเจ หิ เยน เกนจิ ปริยนฺเตน เกสคฺคมตฺตมฺปิ ติโยชนํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติฺจ อาปชฺชติ, สีมา จ อสีมา โหติ.

๑๖๔. ‘‘น, ภิกฺขเว, นทีปารสีมา สมฺมนฺนิตพฺพา, โย สมฺมนฺเนยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๔๐) วจนโต นทีปารสีมา น สมฺมนฺนิตพฺพา. ยตฺร ปน ธุวนาวา วา ธุวเสตุ วา อภิมุขติตฺเถเยว อตฺถิ, เอวรูปํ นทีปารสีมํ สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยตฺถสฺส ธุวนาวา วา ธุวเสตุ วา, เอวรูปํ นทีปารสีมํ สมฺมนฺนิตุ’’นฺติ หิ วุตฺตํ. สเจ ธุวนาวา วา ธุวเสตุ วา อภิมุขติตฺเถ นตฺถิ, อีสกํ อุทฺธํ อภิรุหิตฺวา อโธ วา โอโรหิตฺวา อตฺถิ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. กรวิกติสฺสตฺเถโร ปน ‘‘คาวุตมตฺตพฺภนฺตเรปิ วฏฺฏตี’’ติ อาห.

อิมฺจ ปน นทีปารสีมํ สมฺมนฺนนฺเตน เอกสฺมิฺจ ตีเร ตฺวา อุปริโสเต นทีตีเร นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย อตฺตานํ ปริกฺขิปนฺเตน ยตฺตกํ ปริจฺเฉทํ อิจฺฉติ, ตสฺส ปริโยสาเน อโธโสเตปิ นทีตีเร นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ปรตีเร สมฺมุขฏฺาเน นทีตีเร นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ. ตโต ปฏฺาย ยตฺตกํ ปริจฺเฉทํ อิจฺฉติ, ตสฺส วเสน ยาว อุปริโสเต ปมํ กิตฺติตนิมิตฺตสฺส สมฺมุขา นทีตีเร นิมิตฺตํ, ตาว กิตฺเตตฺวา ปจฺจาหริตฺวา ปมกิตฺติตนิมิตฺเตน สทฺธึ ฆเฏตพฺพํ. อถ สพฺพนิมิตฺตานํ อนฺโต ิเต ภิกฺขู หตฺถปาสคเต กตฺวา กมฺมวาจาย สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. นทิยา ิตา อนาคตาปิ กมฺมํ น โกเปนฺติ, สมฺมุติปริโยสาเน เปตฺวา นทึ นิมิตฺตานํ อนฺโต ปรตีเร จ โอริมตีเร จ เอกสีมา โหติ, นที ปน พทฺธสีมาสงฺขฺยํ น คจฺฉติ. วิสุํ นทีสีมา เอว หิ สา.

สเจ อนฺโตนทิยํ ทีปโก โหติ, ตํ อนฺโตสีมาย กาตุกาเมน ปุริมนเยเนว อตฺตนา ิตตีเร นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา ทีปกสฺส โอริมนฺเต จ ปาริมนฺเต จ นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ. อถ ปรตีเร นทิยา โอริมตีเร นิมิตฺตสฺส สมฺมุขฏฺาเน นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย ปุริมนเยเนว ยาว อุปริโสเต ปมํ กิตฺติตนิมิตฺตสฺส สมฺมุขา นิมิตฺตํ, ตาว กิตฺเตตพฺพํ. อถ ทีปกสฺส ปาริมนฺเต จ โอริมนฺเต จ นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ปจฺจาหริตฺวา ปมํ กิตฺติตนิมิตฺเตน สทฺธึ ฆเฏตพฺพํ. อถ ทฺวีสุ ตีเรสุ ทีปเกสุ จ ภิกฺขู สพฺเพ หตฺถปาสคเต กตฺวา กมฺมวาจาย สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา, นทิยํ ิตา อนาคจฺฉนฺตาปิ กมฺมํ น โกเปนฺติ, สมฺมุติปริโยสาเน เปตฺวา นทึ นิมิตฺตานํ อนฺโต ตีรทฺวยฺจ ทีปโก จ เอกสีมา โหติ, นที ปน นทีสีมาเยว.

สเจ ปน ทีปโก วิหารสีมาปริจฺเฉทโต อุทฺธํ วา อโธ วา อธิกตโร โหติ, อถ วิหารสีมาปริจฺเฉทนิมิตฺตสฺส อุชุกเมว สมฺมุขีภูเต ทีปกสฺส โอริมนฺเต นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย ทีปกสิขรํ ปริกฺขิปนฺเตน ปุน ทีปกสฺส โอริมนฺเต นิมิตฺตสมฺมุเข ปาริมนฺเต นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ. ตโต ปรํ ปุริมนเยเนว ปรตีเร สมฺมุขนิมิตฺตมาทึ กตฺวา ปรตีเร นิมิตฺตานิ จ ทีปกสฺส ปาริมนฺตโอริมนฺเต นิมิตฺตานิ จ กิตฺเตตฺวา ปมกิตฺติตนิมิตฺเตน สทฺธึ ฆฏนา กาตพฺพา. เอวํ กิตฺเตตฺวา สมฺมตา สีมา ปพฺพตสณฺานา โหติ. สเจ ปน ทีปโก วิหารสีมาปริจฺเฉทโต อุทฺธมฺปิ อโธปิ อธิกตโร โหติ, ปุริมนเยเนว ทีปกสฺส อุโภปิ สิขรานิ ปริกฺขิปิตฺวา นิมิตฺตานิ กิตฺเตนฺเตน นิมิตฺตฆฏนา กาตพฺพา. เอวํ กิตฺเตตฺวา สมฺมตา สีมา มุทิงฺคสณฺานา โหติ. สเจ ทีปโก วิหารสีมาปริจฺเฉทสฺส อนฺโต ขุทฺทโก โหติ, สพฺพปเมน นเยน ทีปเก นิมิตฺตานิ กิตฺเตตพฺพานิ. เอวํ กิตฺเตตฺวา สมฺมตา สีมา ปณวสณฺานา โหติ. เอวํ ตาว สีมาพนฺธนํ เวทิตพฺพํ.

๑๖๕. เอวํ พทฺธา ปน สีมา กทา อสีมา โหตีติ? ยทา สงฺโฆ สีมํ สมูหนติ, ตทา อสีมา โหติ. กถํ ปเนสา สมูหนิตพฺพาติ? ‘‘สีมํ, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนนฺเตน ปมํ สมานสํวาสสีมา สมฺมนฺนิตพฺพา, ปจฺฉา ติจีวเรน อวิปฺปวาโส สมฺมนฺนิตพฺโพ. สีมํ, ภิกฺขเว, สมูหนนฺเตน ปมํ ติจีวเรน อวิปฺปวาโส สมูหนฺตพฺโพ, ปจฺฉา สมานสํวาสสีมา สมูหนฺตพฺพา’’ติ วจนโต ปมํ อวิปฺปวาโส สมูหนิตพฺโพ, ปจฺฉา สีมา สมูหนิตพฺพาติ. กถํ? พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, โย โส สงฺเฆน ติจีวเรน อวิปฺปวาโส สมฺมโต, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ตํ ติจีวเรน อวิปฺปวาสํ สมูหเนยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, โย โส สงฺเฆน ติจีวเรน อวิปฺปวาโส สมฺมโต, สงฺโฆ ตํ ติจีเรน อวิปฺปวาสํ สมูหนติ. ยสฺสายสฺมโต ขมติ เอตสฺส ติจีวเรน อวิปฺปวาสสฺส สมุคฺฆาโต, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘สมูหโต โส สงฺเฆน ติจีวเรน อวิปฺปวาโส, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๑๔๕) –

เอวํ ตาว อวิปฺปวาโส สมูหนิตพฺโพ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยา สา สงฺเฆน สีมา สมฺมตา สมานสํวาสา เอกูโปสถา, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ตํ สีมํ สมูหเนยฺย สมานสํวาสํ เอกูโปสถํ, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยา สา สงฺเฆน สีมา สมฺมตา สมานสํวาสา เอกูโปสถา, สงฺโฆ ตํ สีมํ สมูหนติ สมานสํวาสํ เอกูโปสถํ. ยสฺสายสฺมโต ขมติ เอติสฺสา สีมาย สมานสํวาสาย เอกูโปสถาย สมุคฺฆาโต, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘สมูหตา สา สีมา สงฺเฆน สมานสํวาสา เอกูโปสถา, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๑๔๖) –

เอวํ สีมา สมูหนิตพฺพา.

สมูหนนฺเตน ปน ภิกฺขุนา วตฺตํ ชานิตพฺพํ. ตตฺริทํ วตฺตํ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๔) – ขณฺฑสีมาย ตฺวา อวิปฺปวาสสีมา น สมูหนฺตพฺพา, ตถา อวิปฺปวาสสีมาย ตฺวา ขณฺฑสีมาปิ. ขณฺฑสีมาย ปน ิเตน ขณฺฑสีมาว สมูหนิตพฺพา, ตถา อิตราย ิเตน อิตรา. สีมํ นาม ทฺวีหิ การเณหิ สมูหนนฺติ ปกติยา ขุทฺทกํ ปุน อาวาสวฑฺฒนตฺถาย มหตึ วา กาตุํ, ปกติยา มหตึ ปุน อฺเสํ วิหาโรกาสทานตฺถาย ขุทฺทกํ วา กาตุํ. ตตฺถ สเจ ขณฺฑสีมฺจ อวิปฺปวาสสีมฺจ ชานนฺติ, สมูหนิตุฺเจว พนฺธิตุฺจ สกฺขิสฺสนฺติ. ขณฺฑสีมํ ปน ชานนฺตา อวิปฺปวาสํ อชานนฺตาปิ สมูหนิตุฺเจว พนฺธิตุฺจ สกฺขิสฺสนฺติ. ขณฺฑสีมํ อชานนฺตา อวิปฺปวาสํเยว ชานนฺตา เจติยงฺคณโพธิยงฺคณอุปโอสถาคาราทีสุ นิราสงฺกฏฺาเนสุ ตฺวา อปฺเปว นาม สมูหนิตุํ สกฺขิสฺสนฺติ, ปฏิพนฺธิตุํ ปน น สกฺขิสฺสนฺเตว. สเจ พนฺเธยฺยุํ, สีมาสมฺเภทํ กตฺวา วิหารํ อวิหารํ กเรยฺยุํ, ตสฺมา น สมูหนิตพฺพา. เย ปน อุโภปิ น ชานนฺติ, เต เนว สมูหนิตุํ, น พนฺธิตุํ สกฺขิสฺสนฺติ. อยฺหิ สีมา นาม กมฺมวาจาย วา อสีมา โหติ สาสนนฺตรธาเนน วา, น จ สกฺกา สีมํ อชานนฺเตหิ กมฺมวาจา กาตุํ, ตสฺมา น สมูหนิตพฺพา, สาธุกํ ปน ตฺวาเยว สมูหนิตพฺพา เจว พนฺธิตพฺพา จาติ. อยํ ตาว พทฺธสีมาย วินิจฺฉโย.

๑๖๖. อพทฺธสีมา ปน คามสีมา สตฺตพฺภนฺตรสีมา อุทกุกฺเขปสีมาติ ติวิธา. ตตฺถ ยาวตา เอกํ คามเขตฺตํ, อยํ คามสีมา นาม, คามคฺคหเณน เจตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๗) นครมฺปิ นิคมมฺปิ คหิตเมว โหติ. ตตฺถ ยตฺตเก ปเทเส ตสฺส ตสฺส คามสฺส คามโภชกา พลึ ลภนฺติ, โส ปเทโส อปฺโป วา โหตุ มหนฺโต วา, คามสีมาตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. นครนิคมสีมาสุปิ เอเสว นโย. ยมฺปิ เอกสฺมึเยว คามเขตฺเต เอกํ ปเทสํ ‘‘อยํ วิสุํคาโม โหตู’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ราชา กสฺสจิ เทติ, โสปิ วิสุํคามสีมา โหติเยว, ตสฺมา สา จ อิตรา จ ปกติคามนครนิคมสีมา พทฺธสีมาสทิสาเยว โหนฺติ, เกวลํ ปน ติจีวรวิปฺปวาสปริหารํ น ลภนฺติ.

อคามเก ปน อรฺเ สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรา สตฺตพฺภนฺตรสีมา นาม. ตตฺถ อคามกํ นาม อรฺํ วิฺฌาฏวีอาทีสุ วา สมุทฺทมชฺเฌ วา มจฺฉพนฺธานํ อคมนปเถ ทีปเกสุ ลพฺภติ. สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตราติ มชฺเฌ ิตานํ สพฺพทิสาสุ สตฺตพฺภนฺตรา วินิพฺเพเธน จุทฺทส โหนฺติ. ตตฺถ เอกํ อพฺภนฺตรํ อฏฺวีสติหตฺถปฺปมาณํ โหติ. อยฺจ สีมา ปริสวเสน วฑฺฒติ, ตสฺมา สมนฺตา ปริสปริยนฺตโต ปฏฺาย อพฺภนฺตรปริจฺเฉโท กาตพฺโพ. สเจ ปน ทฺเว สงฺฆา วิสุํ อุโปสถํ กโรนฺติ, ทฺวินฺนํ สตฺตพฺภนฺตรานํ อนฺตเร อฺเมกํ อพฺภนฺตรํ อุปจารตฺถาย เปตพฺพํ.

๑๖๗. ยา ปเนสา ‘‘สพฺพา, ภิกฺขเว, นที อสีมา, สพฺโพ สมุทฺโท อสีโม, สพฺโพ ชาตสฺสโร อสีโม’’ติ (มหาว. ๑๔๗) เอวํ นทีอาทีนํ พทฺธสีมภาวํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ‘‘นทิยา วา, ภิกฺขเว, สมุทฺเท วา ชาตสฺสเร วา ยํ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สมนฺตา อุทกุกฺเขปา, อยํ ตตฺถ สมานสํวาสา เอกูโปสถา’’ติ (มหาว. ๑๔๗) วุตฺตา, อยํ อุทกุกฺเขปสีมา นาม. ตตฺถ นที นทีนิมิตฺเต วุตฺตลกฺขณาว, สมุทฺโทปิ ปากโฏเยว. โย ปน เยน เกนจิ ขณิตฺวา อกโต สยํชาโต โสพฺโภ สมนฺตโต อาคเตน อุทเกน ปูริโต ติฏฺติ, ยตฺถ นทิยํ วุตฺตปฺปกาเร วสฺสกาเล อุทกํ สนฺติฏฺติ, อยํ ชาตสฺสโร นาม. โยปิ นทึ วา สมุทฺทํ วา ภินฺทิตฺวา นิกฺขนฺตอุทเกน ขโต โสพฺโภ เอตํ ลกฺขณํ ปาปุณาติ, อยมฺปิ ชาตสฺสโรเยว. เอเตสุ นทีอาทีสุ ยํ านํ ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สมนฺตโต อุทกุกฺเขเปน ปริจฺฉินฺนํ, อยํ อุทกุกฺเขปสีมา นาม.

กถํ ปน อุทกุกฺเขโป กาตพฺโพติ? ยถา อกฺขธุตฺตา ทารุคุฬํ ขิปนฺติ, เอวํ อุทกํ วา วาลุกํ วา หตฺเถน คเหตฺวา ถามมชฺฌิเมน ปุริเสน สพฺพถาเมน ขิปิตพฺพํ. ยตฺถ เอวํ ขิตฺตํ อุทกํ วา วาลุกา วา ปตติ, อยเมโก อุทกุกฺเขโป, ตสฺส อนฺโตหตฺถปาสํ วิชหิตฺวา ิโต กมฺมํ โกเปติ. ยาว ปริสา วฑฺฒติ, ตาว สีมาปิ วฑฺฒติ, ปริสปริยนฺตโต อุทกุกฺเขโปเยว ปมาณํ, อยํ ปน เอเตสํ นทีอาทีนํ อนฺโตเยว ลพฺภติ, น พหิ. ตสฺมา นทิยา วา ชาตสฺสเร วา ยตฺตกํ ปเทสํ ปกติวสฺสกาเล จตูสุ มาเสสุ อุทกํ โอตฺถรติ, สมุทฺเท ยสฺมึ ปเทเส ปกติวีจิโย โอสริตฺวา สณฺหนฺติ, ตโต ปฏฺาย กปฺปิยภูมิ, ตตฺถ ตฺวา อุโปสถาทิกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ, ทุพฺพุฏฺิกาเล วา คิมฺเห วา นทีชาตสฺสเรสุ สุกฺเขสุปิ สา เอว กปฺปิยภูมิ. สเจ ปน สุกฺเข ชาตสฺสเร วาปึ วา ขณนฺติ, วปฺปํ วา กโรนฺติ, ตํ านํ คามเขตฺตํ โหติ. ยา ปเนสา ‘‘กปฺปิยภูมี’’ติ วุตฺตา, ตโต พหิ อุทกุกฺเขปสีมา น คจฺฉติ, อนฺโต คจฺฉติ, ตสฺมา เตสํ อนฺโต ปริสปริยนฺตโต ปฏฺาย สมนฺตา อุทกุกฺเขปปริจฺเฉโท กาตพฺโพ, อยเมตฺถ สงฺเขโป.

อยํ ปน วิตฺถาโร – สเจ นที นาติทีฆา โหติ, ปภวโต ปฏฺาย ยาว มุขทฺวารา สพฺพตฺถ สงฺโฆ นิสีทติ, อุทกุกฺเขปสีมาย กมฺมํ นตฺถิ, สกลาปิ นที เอเตสํเยว ภิกฺขูนํ ปโหติ. ยํ ปน มหาสุมตฺเถเรน วุตฺตํ ‘‘โยชนํ ปวตฺตมานาเยว นที, ตตฺราปิ อุปริ อฑฺฒโยชนํ ปหาย เหฏฺา อฑฺฒโยชเน กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ, ตํ มหาปทุมตฺเถเรเนว ปฏิกฺขิตฺตํ. ภควตา หิ ‘‘ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ อุตฺตรนฺติยา ภิกฺขุนิยา อนฺตรวาสโก เตมิยตี’’ติ (ปาจิ. ๖๙๒) อิทํ นทิยา ปมาณํ วุตฺตํ, น โยชนํ วา อฑฺฒโยชนํ วา, ตสฺมา ยา อิมสฺส สุตฺตสฺส วเสน ปุพฺเพ วุตฺตลกฺขณา นที, ตสฺสา ปภวโต ปฏฺาย สงฺฆกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปเนตฺถ พหู ภิกฺขู วิสุํ วิสุํ กมฺมํ กโรนฺติ, สพฺเพหิ อตฺตโน จ อฺเสฺจ อุทกุกฺเขปปริจฺเฉทสฺส อนฺตรา อฺโ อุทกุกฺเขโป สีมนฺตริกตฺถาย เปตพฺโพ, ตโต อธิกํ วฏฺฏติเยว, อูนํ ปน น วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. ชาตสฺสรสมุทฺเทปิ เอเสว นโย.

นทิยา ปน ‘‘กมฺมํ กริสฺสามา’’ติ คเตหิ สเจ นที ปริปุณฺณา โหติ สมติตฺติกา, อุทกสาฏิกํ นิวาเสตฺวา อนฺโตนทิยํเยว กมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ น สกฺโกนฺติ, นาวายปิ ตฺวา กาตพฺพํ. คจฺฉนฺติยา ปน นาวาย กาตุํ น วฏฺฏติ. กสฺมา? อุทกุกฺเขปมตฺตเมว หิ สีมา. ตํ นาวา สีฆเมว อติกฺกมติ, เอวํ สติ อฺิสฺสา สีมาย ตฺติ, อฺิสฺสา อนุสาวนา โหติ, ตสฺมา นาวํ อริตฺเตน วา เปตฺวา ปาสาเณ วา ลมฺเพตฺวา อนฺโตนทิยํ ชาตรุกฺเข วา พนฺธิตฺวา กมฺมํ กาตพฺพํ. อนฺโตนทิยํ พทฺธอฏฺฏเกปิ อนฺโตนทิยํ ชาตรุกฺเขปิ ิเตหิ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน รุกฺขสฺส สาขา วา ตโต นิกฺขนฺตปาโรโห วา พหินทีตีเร วิหารสีมาย วา คามสีมาย วา ปติฏฺิโต, สีมํ วา โสเธตฺวา สาขํ วา ฉินฺทิตฺวา กมฺมํ กาตพฺพํ. พหินทีตีเร ชาตรุกฺขสฺส อนฺโตนทิยํ ปวิฏฺสาขาย วา ปาโรเห วา นาวํ พนฺธิตฺวา กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ, กโรนฺเตหิ สีมา วา โสเธตพฺพา, ฉินฺทิตฺวา วาสฺส พหิปติฏฺิตภาโว นาเสตพฺโพ. นทีตีเร ปน ขาณุกํ โกฏฺเฏตฺวา ตตฺถ พทฺธนาวาย น วฏฺฏติเยว. นทิยํ เสตุํ กโรนฺติ, สเจ อนฺโตนทิยํเยว เสตุ จ เสตุปาทา จ โหนฺติ, เสตุมฺหิ ิเตหิ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เสตุ วา เสตุปาทา วา พหิตีเร ปติฏฺิตา, กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ, สีมํ โสเธตฺวา กาตพฺพํ. อถ เสตุปาทา อนฺโต, เสตุ ปน อุภินฺนมฺปิ ตีรานํ อุปริอากาเส ิโต, วฏฺฏติ.

อนฺโตนทิยํ ปาสาโณ วา ทีปโก วา โหติ, ตตฺถ ยตฺตกํ ปเทสํ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปกาเร ปกติวสฺสกาเล วสฺสานสฺส จตูสุ มาเสสุ อุทกํ โอตฺถรติ, โส นทีสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. อติวุฏฺิกาเล โอเฆน โอตฺถโตกาโส น คเหตพฺโพ. โส หิ คามสีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. นทิโต มาติกํ นีหรนฺตา นทิยํ อาวรณํ กโรนฺติ, ตํ เจ โอตฺถริตฺวา วา วินิพฺพิชฺฌิตฺวา วา อุทกํ คจฺฉติ, สพฺพตฺถ ปวตฺตนฏฺาเน กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน อาวรเณน วา โกฏฺฏกพนฺธเนน วา โสตํ ปจฺฉินฺทติ, อุทกํ นปฺปวตฺตติ, อปฺปวตฺตนฏฺาเน กาตุํ น วฏฺฏติ, อาวรณมตฺตเกปิ กาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ โกจิ อาวรณปฺปเทโส ปุพฺเพ วุตฺตปาสาณทีปกปฺปเทโส วิย อุทเกน อชฺโฌตฺถรียติ, ตตฺถ วฏฺฏติ. โส หิ นทีสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. นทึ วินาเสตฺวา ตฬากํ กโรนฺติ, เหฏฺา ปาฬิพทฺธา อุทกํ อาคนฺตฺวา ตฬากํ ปูเรตฺวา ติฏฺติ, เอตฺถ กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ, อุปริ ปวตฺตนฏฺาเน เหฏฺา จ ฉฑฺฑิโตทกํ นทึ โอตริตฺวา สนฺทนฏฺานโต ปฏฺาย วฏฺฏติ. เทเว อวสฺสนฺเต เหมนฺตคิมฺเหสุ วา สุกฺขนทิยาปิ วฏฺฏติ, นทิโต นีหฏมาติกาย น วฏฺฏติ. สเจ สา กาลนฺตเรน ภิชฺชิตฺวา นที โหติ, วฏฺฏติ. กาจิ นที อุปฺปติตฺวา คามนิคมสีมํ โอตฺถริตฺวา ปวตฺตติ, นทีเยว โหติ, กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน วิหารสีมํ โอตฺถรติ, วิหารสีมาตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ.

สมุทฺเทปิ กมฺมํ กโรนฺเตหิ ยํ ปเทสํ อุทฺธํ วฑฺฒนอุทกํ วา ปกติวีจิ วา เวเคน อาคนฺตฺวา โอตฺถรติ, ตตฺถ กาตุํ น วฏฺฏติ. ยสฺมึ ปน ปเทเส ปกติวีจิโย โอสริตฺวา สณฺหนฺติ, โส อุทกนฺตโต ปฏฺาย อนฺโต สมุทฺโท นาม, ตตฺถ ิเตหิ กมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ อูมิเวโค พาธติ, นาวาย วา อฏฺฏเก วา ตฺวา กาตพฺพํ. เตสุ วินิจฺฉโย นทิยํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. สมุทฺเท ปิฏฺิปาสาโณ โหติ, ตํ กทาจิ อูมิโย อาคนฺตฺวา โอตฺถรนฺติ, กทาจิ น โอตฺถรนฺติ, ตตฺถ กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. โส หิ คามสีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. สเจ ปน วีจีสุ อาคตาสุปิ อนาคตาสุปิ ปกติอุทเกเนว โอตฺถรียติ, วฏฺฏติ. ทีปโก วา ปพฺพโต วา โหติ, โส เจ ทูเร โหติ มจฺฉพนฺธานํ อคมนปเถ, อรฺสีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. เตสํ คมนปริยนฺตสฺส โอรโต ปน คามสีมาสงฺขฺยํ คจฺฉติ, ตตฺถ คามสีมํ อโสเธตฺวา กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. สมุทฺโท คามสีมํ วา นิคมสีมํ วา โอตฺถริตฺวา ติฏฺติ, สมุทฺโทว โหติ, ตตฺถ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน วิหารสีมํ โอตฺถรติ, วิหารสีมาตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ.

ชาตสฺสเร กมฺมํ กโรนฺเตหิ ยตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปกาเร วสฺสกาเล วสฺเส ปจฺฉินฺนมตฺเต ปิวิตุํ วา หตฺถปาเท วา โธวิตุํ อุทกํ น โหติ, สุกฺขติ, อยํ น ชาตสฺสโร, คามเขตฺตสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตตฺถ กมฺมํ น กาตพฺพํ. ยตฺถ ปน วุตฺตปฺปกาเร วสฺสกาเล อุทกํ สนฺติฏฺติ, อยเมว ชาตสฺสโร. ตสฺส ยตฺตเก ปเทเส วสฺสานํ จาตุมาเส อุทกํ ติฏฺติ, ตตฺถ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ คมฺภีรํ อุทกํ, อฏฺฏกํ พนฺธิตฺวา ตตฺถ ิเตหิปิ ชาตสฺสรสฺส อนฺโตชาตรุกฺขมฺหิ พทฺธอฏฺฏเกปิ กาตุํ วฏฺฏติ. ปิฏฺิปาสาณทีปเกสุ ปเนตฺถ นทิยํ วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโย. สมวสฺสเทวกาเล ปโหนกชาตสฺสโร ปน เจปิ ทุพฺพุฏฺิกกาเล วา คิมฺหเหมนฺเตสุ วา สุกฺขติ, นิรุทโก โหติ, ตตฺถ สงฺฆกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. ยํ อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘สพฺโพ ชาตสฺสโร สุกฺโข อโนทโก คามเขตฺตํเยว ภชตี’’ติ, ตํ น คเหตพฺพํ. สเจ ปเนตฺถ อุทกตฺถาย อาวาฏํ วา โปกฺขรณีอาทีนิ วา ขณนฺติ, ตํ านํ อชาตสฺสโร โหติ, คามสีมาสงฺขฺยํ คจฺฉติ. ลาพุติปุสกาทิวปฺเป กเตปิ เอเสว นโย. สเจ ปน นํ ปูเรตฺวา ถลํ วา กโรนฺติ, เอกสฺมึ ทิสาภาเค ปาฬึ พนฺธิตฺวา สพฺพเมว นํ มหาตฬากํ วา กโรนฺติ, สพฺโพปิ อชาตสฺสโร โหติ, คามสีมาสงฺขฺยํ คจฺฉติ. โลณีปิ ชาตสฺสรสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส อุทกฏฺาโนกาเส กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตีติ. อยํ อพทฺธสีมาย วินิจฺฉโย.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

สีมาวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๒๕. อุโปสถปวารณาวินิจฺฉยกถา

๑๖๘. อุโปสถปวารณาติ เอตฺถ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา) ทิวสวเสน ตโย อุโปสถา จาตุทฺทสิโก ปนฺนรสิโก สามคฺคีอุโปสโถติ. ตตฺถ เหมนฺตคิมฺหวสฺสานานํ ติณฺณํ อุตูนํ ตติยสตฺตมปกฺเขสุ ทฺเว ทฺเว กตฺวา ฉ จาตุทฺทสิกา, เสสา ปนฺนรสิกาติ เอวํ เอกสํวจฺฉเร จตุวีสติ อุโปสถา. อิทํ ตาว ปกติจาริตฺตํ. ตถารูปปจฺจเย สติ อฺสฺมิมฺปิ จาตุทฺทเส อุโปสถํ กาตุํ วฏฺฏติ. ปุริมวสฺสํวุฏฺานํ ปน ปุพฺพกตฺติกปุณฺณมา, เตสํเยว สเจ ภณฺฑนการเกหิ อุปทฺทุตา ปวารณํ ปจฺจุกฺกฑฺฒนฺติ, อถ กตฺติกมาสสฺส กาฬปกฺขจาตุทฺทโส วา ปจฺฉิมกตฺติกปุณฺณมา วา ปจฺฉิมวสฺสํวุฏฺานฺจ ปจฺฉิมกตฺติกปุณฺณมา เอว วาติ อิเม ตโย ปวารณาทิวสาปิ โหนฺติ. อิทมฺปิ ปกติจาริตฺตเมว. ตถารูปปจฺจเย สติ ทฺวินฺนํ กตฺติกปุณฺณมานํ ปุริเมสุ จาตุทฺทเสสุปิ ปวารณํ กาตุํ วฏฺฏติ. ยทา ปน โกสมฺพกกฺขนฺธเก (มหาว. ๔๕๑ อาทโย) อาคตนเยน ภินฺเน ภิกฺขุสงฺเฆ โอสาริเต ตสฺมึ ภิกฺขุสฺมึ สงฺโฆ ตสฺส วตฺถุสฺส วูปสมาย สงฺฆสามคฺคึ กโรติ, ตทา ตาวเทว อุโปสโถ กาตพฺโพ. ‘‘ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วจนโต เปตฺวา จาตุทฺทสปนฺนรเส อฺโปิ โย โกจิ ทิวโส อุโปสถทิวโส นาม โหติ, วสฺสํวุฏฺานํ ปน กตฺติกมาสพฺภนฺตเร อยเมว สามคฺคีปวารณาทิวโส นาม โหติ. อิติ อิเมสุ ตีสุ ทิวเสสุ อุโปสโถ กาตพฺโพ. กโรนฺเตน ปน สเจ จาตุทฺทสิโก โหติ, ‘‘อชฺชุโปสโถ จาตุทฺทโส’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ สามคฺคีอุโปสโถ โหติ, ‘‘อชฺชุโปสโถ สามคฺคี’’ติ วตฺตพฺพํ. ปนฺนรสิยํ ปน ปาฬิยํ อาคตนเยเนว ‘‘อชฺชุโปสโถ ปนฺนรโส’’ติ วตฺตพฺพํ.

๑๖๙. สงฺเฆ อุโปสโถ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา), คเณ อุโปสโถ, ปุคฺคเล อุโปสโถติ เอวํ การกวเสน อปเรปิ ตโย อุโปสถา วุตฺตา, กตฺตพฺพาการวเสน ปน สุตฺตุทฺเทโส ปาริสุทฺธิอุโปสโถ อธิฏฺานุโปสโถติ อปเรปิ ตโย อุโปสถา. ตตฺถ สุตฺตุทฺเทโส นาม ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ’’ติอาทินา นเยน วุตฺโต ปาติโมกฺขุทฺเทโส. เย ปนิตเร ทฺเว อุโปสถา, เตสุ ปาริสุทฺธิอุโปสโถ ตาว อฺเสฺจ สนฺติเก อฺมฺฺจ อาโรจนวเสน ทุวิโธ. ตตฺถ ยฺวายํ อฺเสํ สนฺติเก กรียติ, โสปิ ปวาริตานฺจ อปฺปวาริตานฺจ สนฺติเก กรณวเสน ทุวิโธ. ตตฺถ มหาปวารณาย ปวาริตานํ สนฺติเก ปจฺฉิมิกาย อุปคเตน วา อนุปคเตน วา ฉินฺนวสฺเสน วา จาตุมาสินิยํ ปน ปวาริตานํ สนฺติเก อนุปคเตน วา ฉินฺนวสฺเสน วา กายสามคฺคึ ทตฺวา ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ ภนฺเต, ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถา’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺวา กาตพฺโพ. เปตฺวา ปน ปวารณาทิวสํ อฺสฺมึ กาเล อาวาสิเกหิ อุทฺทิฏฺมตฺเต ปาติโมกฺเข อวุฏฺิตาย วา เอกจฺจาย วุฏฺิตาย วา สพฺพาย วา วุฏฺิตาย ปริสาย เย อฺเ สมสมา วา โถกตรา วา อาคจฺฉนฺติ, เตหิ เตสํ สนฺติเก วุตฺตนเยเนว ปาริสุทฺธิ อาโรเจตพฺพา.

โย ปนายํ อฺมฺํ อาโรจนวเสน กรียติ, โส ตฺตึ เปตฺวา กรณวเสน จ อฏฺเปตฺวา กรณวเสน จ ทุวิโธ. ตตฺถ ยสฺมึ อาวาเส ตโย ภิกฺขู วิหรนฺติ, เตสุ อุโปสถทิวเส สนฺนิปติเตสุ เอเกน ภิกฺขุนา ‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา, อชฺชุโปสโถ จาตุทฺทโส’’ติ วา ‘‘ปนฺนรโส’’ติ วา วตฺวา ‘‘ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, มยํ อฺมฺํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กเรยฺยามา’’ติ ตฺติยา ปิตาย เถเรน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ, อาวุโส, ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถา’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ. อิตเรหิ ‘‘ภนฺเต’’ติ วตฺวา เอวเมว วตฺตพฺพํ. เอวํ ตฺตึ เปตฺวา กาตพฺโพ. ยตฺร ปน ทฺเว ภิกฺขู วิหรนฺติ, ตตฺร ตฺตึ อฏฺเปตฺวา วุตฺตนเยเนว ปาริสุทฺธิ อาโรเจตพฺพาติ อยํ ปาริสุทฺธิอุโปสโถ.

สเจ ปน เอโกว ภิกฺขุ โหติ, สพฺพํ ปุพฺพกรณียํ กตฺวา อฺเสํ อนาคมนํ ตฺวา ‘‘อชฺช เม อุโปสโถ จาตุทฺทโส’’ติ วา ‘‘ปนฺนรโส’’ติ วา วตฺวา ‘‘อธิฏฺามี’’ติ วตฺตพฺพํ. อยํ อธิฏฺานุโปสโถติ เอวํ กตฺตพฺพาการวเสน ตโย อุโปสถา เวทิตพฺพา. เอตฺตาวตา นว อุโปสถา ทีปิตา โหนฺติ. เตสุ ทิวสวเสน ปนฺนรสิโก, การกวเสน สงฺฆุโปสโถ, กตฺตพฺพาการวเสน สุตฺตุทฺเทโสติ เอวํ ติลกฺขณสมฺปนฺเน อุโปสเถ ปวตฺตมาเน อุโปสถํ อกตฺวา ตทหุโปสเถ อฺํ อภิกฺขุกํ นานาสํวาสเกหิ วา สภิกฺขุกํ อาวาสํ วา อนาวาสํ วา วาสตฺถาย อฺตฺร สงฺเฆน อฺตฺร อนฺตรายา คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏํ โหติ.

๑๗๐. อุโปสถกรณตฺถํ สนฺนิปติเต สงฺเฆ พหิ อุโปสถํ กตฺวา อาคเตน สนฺนิปาตฏฺานํ คนฺตฺวา กายสามคฺคึ อเทนฺเตน ฉนฺโท ทาตพฺโพ. โยปิ คิลาโน วา โหติ กิจฺจปสุโต วา, เตนปิ ปาริสุทฺธึ เทนฺเตน ฉนฺโทปิ ทาตพฺโพ. กถํ? เอกสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก ‘‘ฉนฺทํ ทมฺมิ, ฉนฺทํ เม หร, ฉนฺทํ เม อาโรเจหี’’ติ อยมตฺโถ กาเยน วา วาจาย วา อุภเยน วา วิฺาเปตพฺโพ, เอวํ ทินฺโน โหติ ฉนฺโท. อกตุโปสเถน คิลาเนน วา กิจฺจปสุเตน วา ปาริสุทฺธิ ทาตพฺพา. กถํ? เอกสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก ‘‘ปาริสุทฺธึ ทมฺมิ, ปาริสุทฺธึ เม หร, ปาริสุทฺธึ เม อาโรเจหี’’ติ อยมตฺโถ กาเยน วา วาจาย วา อุภเยน วา วิฺาเปตพฺโพ, เอวํ ทินฺนา โหติ ปาริสุทฺธิ. ตํ ปน เทนฺเตน ฉนฺโทปิ ทาตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตทหุโปสเถ ปาริสุทฺธึ เทนฺเตน ฉนฺทมฺปิ ทาตุํ, สนฺติ สงฺฆสฺส กรณีย’’นฺติ (มหาว. ๑๖๕). ตตฺถ ปาริสุทฺธิทานํ สงฺฆสฺสปิ อตฺตโนปิ อุโปสถกรณํ สมฺปาเทติ, น อวเสสํ สงฺฆกิจฺจํ, ฉนฺททานํ สงฺฆสฺเสว อุโปสถกรณฺจ เสสกิจฺจฺจ สมฺปาเทติ, อตฺตโน ปนสฺส อุโปสโถ อกโตเยว โหติ, ตสฺมา ปาริสุทฺธึ เทนฺเตน ฉนฺโทปิ ทาตพฺโพ. ปุพฺเพ วุตฺตํ ปน สุทฺธิกจฺฉนฺทํ วา ปาริสุทฺธึ วา อิมํ วา ฉนฺทปาริสุทฺธึ เอเกน พหูนมฺปิ อาหริตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน โส อนฺตรามคฺเค อฺํ ภิกฺขุํ ปสฺสิตฺวา เยสํ เตน ฉนฺโท วา ปาริสุทฺธิ วา คหิตา, เตสฺจ อตฺตโน จ ฉนฺทปาริสุทฺธึ เทติ, ตสฺเสว อาคจฺฉติ. อิตรา ปน พิฬาลสงฺขลิกา ฉนฺทปาริสุทฺธิ นาม โหติ, สา น อาคจฺฉติ, ตสฺมา สยเมว สนฺนิปาตฏฺานํ คนฺตฺวา อาโรเจตพฺพํ. สเจ ปน สฺจิจฺจ นาโรเจติ, ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ, ฉนฺทปาริสุทฺธิ ปน ตสฺมึ หตฺถปาสํ อุปคตมตฺเตเยว อาคตา โหติ.

๑๗๑. ปาริวาสิเยน ปน ฉนฺททาเนน ยํ กิฺจิ สงฺฆกมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ตตฺถ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๖๗) จตุพฺพิธํ ปาริวาสิยํ ปริสปาริวาสิยํ รตฺติปาริวาสิยํ ฉนฺทปาริวาสิยํ อชฺฌาสยปาริวาสิยนฺติ. เตสุ ปริสปาริวาสิยํ นาม ภิกฺขู เกนจิเทว กรณีเยน สนฺนิปติตา โหนฺติ, อถ เมโฆ วา อุฏฺเติ, อุสฺสารณา วา กรียติ, มนุสฺสา วา อชฺโฌตฺถรนฺตา อาคจฺฉนฺติ, ภิกฺขู ‘‘อโนกาสา มยํ, อฺตฺถ คจฺฉามา’’ติ ฉนฺทํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว อุฏฺหนฺติ. อิทํ ปริสปาริวาสิยํ. กิฺจาปิ ปริสปาริวาสิยํ, ฉนฺทสฺส ปน อวิสฺสฏฺตฺตา กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ.

ปุน ภิกฺขู ‘‘อุโปสถาทีนิ กริสฺสามา’’ติ รตฺตึ สนฺนิปติตฺวา ‘‘ยาว สพฺเพ สนฺนิปตนฺติ, ตาว ธมฺมํ สุณิสฺสามา’’ติ เอกํ อชฺเฌสนฺติ, ตสฺมึ ธมฺมกถํ กเถนฺเตเยว อรุโณ อุคฺคจฺฉติ. สเจ ‘‘จาตุทฺทสิกํ อุโปสถํ กริสฺสามา’’ติ นิสินฺนา, ปนฺนรโสติ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปนฺนรสิกํ กาตุํ นิสินฺนา, ปาฏิปเท อนุโปสเถ อุโปสถํ กาตุํ น วฏฺฏติ, อฺํ ปน สงฺฆกิจฺจํ กาตุํ วฏฺฏติ. อิทํ รตฺติปาริวาสิยํ นาม.

ปุน ภิกฺขู ‘‘กิฺจิเทว อพฺภานาทิสงฺฆกมฺมํ กริสฺสามา’’ติ นิสินฺนา โหนฺติ, ตตฺเรโก นกฺขตฺตปาโก ภิกฺขุ เอวํ วทติ ‘‘อชฺช นกฺขตฺตํ ทารุณํ, มา อิมํ กโรถา’’ติ. เต ตสฺส วจเนน ฉนฺทํ วิสฺสชฺเชตฺวา ตตฺเถว นิสินฺนา โหนฺติ. อถฺโ อาคนฺตฺวา ‘‘นกฺขตฺตํ ปติมาเนนฺตํ, อตฺโถ พาลํ อุปจฺจคา’’ติ (ชา. ๑.๑.๔๙) วตฺวา ‘‘กึ นกฺขตฺเตน, กโรถา’’ติ วทติ. อิทํ ฉนฺทปาริวาสิยฺเจว อชฺฌาสยปาริวาสิยฺจ. เอตสฺมึ ปาริวาสิเย ปุน ฉนฺทปาริสุทฺธึ อนาเนตฺวา กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ.

๑๗๒. สเจ โกจิ ภิกฺขุ คิลาโน น สกฺโกติ ฉนฺทปาริสุทฺธึ ทาตุํ, โส มฺเจน วา ปีเน วา สงฺฆมชฺฌํ อาเนตพฺโพ. สเจ คิลานุปฏฺากานํ ภิกฺขูนํ เอวํ โหติ ‘‘สเจ โข มยํ คิลานํ านา จาเวสฺสาม, อาพาโธ วา อภิวฑฺฒิสฺสติ, กาลกิริยา วา ภวิสฺสตี’’ติ, น โส ภิกฺขุ านา จาเวตพฺโพ, สงฺเฆน ตตฺถ คนฺตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพ. สเจ พหู ตาทิสา คิลานา โหนฺติ, สงฺเฆน ปฏิปาฏิยา ตฺวา สพฺเพ หตฺถปาเส กาตพฺพา. สเจ ทูเร โหนฺติ, สงฺโฆ นปฺปโหติ, ตํ ทิวสํ อุโปสโถ น กาตพฺโพ. น ตฺเวว วคฺเคน สงฺเฆน อุโปสโถ กาตพฺโพ, กเรยฺย เจ, ทุกฺกฏํ.

สเจ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๙) เอกสฺมึ วิหาเร จตูสุ ภิกฺขูสุ วสนฺเตสุ เอกสฺส ฉนฺทปาริสุทฺธึ อาหริตฺวา ตโย ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ตีสุ วา วสนฺเตสุ เอกสฺส ฉนฺทปาริสุทฺธึ อาหริตฺวา ทฺเว ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ, อธมฺเมน วคฺคํ อุโปสถกมฺมํ โหติ. สเจ ปน จตฺตาโรปิ สนฺนิปติตฺวา ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ตโย วา ทฺเว วา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ, อธมฺเมน สมคฺคํ นาม โหติ. สเจ จตูสุ ชเนสุ เอกสฺส ปาริสุทฺธึ อาหริตฺวา ตโย ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ, ตีสุ วา ชเนสุ เอกสฺส ปาริสุทฺธึ อาหริตฺวา ทฺเว ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ธมฺเมน วคฺคํ นาม โหติ. สเจ ปน จตฺตาโร เอกตฺถ วสนฺตา สพฺเพ สนฺนิปติตฺวา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ, ตโย ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ทฺเว อฺมฺํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ธมฺเมน สมคฺคํ นาม โหติ.

๑๗๓. ปวารณากมฺเมสุ (มหาว. อฏฺ. ๒๑๒) ปน สเจ เอกสฺมึ วิหาเร ปฺจสุ ภิกฺขูสุ วสนฺเตสุ เอกสฺส ปวารณํ อาหริตฺวา จตฺตาโร คณตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, จตูสุ วา ตีสุ วา วสนฺเตสุ เอกสฺส ปวารณํ อาหริตฺวา ตโย วา ทฺเว วา สงฺฆตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, สพฺพเมตํ อธมฺเมน วคฺคํ ปวารณากมฺมํ. สเจ ปน สพฺเพปิ ปฺจ ชนา เอกโต สนฺนิปติตฺวา คณตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, จตฺตาโร วา ตโย วา ทฺเว วา วสนฺตา เอกโต สนฺนิปติตฺวา สงฺฆตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, สพฺพเมตํ อธมฺเมน สมคฺคํ ปวารณากมฺมํ. สเจ ปฺจสุ ชเนสุ เอกสฺส ปวารณํ อาหริตฺวา จตฺตาโร สงฺฆตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, จตูสุ วา ตีสุ วา เอกสฺส ปวารณํ อาหริตฺวา ตโย วา ทฺเว วา คณตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, สพฺพเมตํ ธมฺเมน วคฺคํ ปวารณากมฺมํ. สเจ ปน สพฺเพปิ ปฺจ ชนา เอกโต สนฺนิปติตฺวา สงฺฆตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, จตฺตาโร วา ตโย วา เอกโต สนฺนิปติตฺวา คณตฺตึ เปตฺวา ปวาเรนฺติ, ทฺเว อฺมฺํ ปวาเรนฺติ, เอกโก วสนฺโต อธิฏฺานปวารณํ กโรติ, สพฺพเมตํ ธมฺเมน สมคฺคํ นาม ปวารณากมฺมนฺติ.

เอตฺถ สเจ จาตุทฺทสิกา โหติ, ‘‘อชฺช เม ปวารณา จาตุทฺทสี’’ติ, สเจ ปนฺนรสิกา, ‘‘อชฺช เม ปวารณา ปนฺนรสี’’ติ เอวํ อธิฏฺาตพฺพํ. ปวารณํ เทนฺเตน ปน ‘‘ปวารณํ ทมฺมิ, ปวารณํ เม หร, มมตฺถาย ปวาเรหี’’ติ กาเยน วา วาจาย วา กายวาจาหิ วา อยมตฺโถ วิฺาเปตพฺโพ. เอวํ ทินฺนาย (มหาว. อฏฺ. ๒๑๓) ปวารณาย ปวารณาหารเกน สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ ปวาเรตพฺพํ ‘‘ติสฺโส, ภนฺเต, ภิกฺขุ สงฺฆํ ปวาเรติ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทตุ ตํ, ภนฺเต, สงฺโฆ อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสติ. ทุติยมฺปิ, ภนฺเต…เป… ตติยมฺปิ, ภนฺเต, ติสฺโส ภิกฺขุ สงฺฆํ ปวาเรติ…เป… ปฏิกริสฺสตี’’ติ. สเจ ปน วุฑฺฒตโร โหติ, ‘‘อายสฺมา, ภนฺเต, ติสฺโส’’ติ วตฺตพฺพํ. เอวฺหิ เตน ตสฺสตฺถาย ปวาริตํ โหติ. ปวารณํ เทนฺเตน ปน ฉนฺโทปิ ทาตพฺโพ, ฉนฺททานํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิธาปิ ฉนฺททานํ อวเสสกมฺมตฺถาย. ตสฺมา สเจ ปวารณํ เทนฺโต ฉนฺทํ เทติ, วุตฺตนเยน อาหฏาย ปวารณาย เตน จ ภิกฺขุนา สงฺเฆน จ ปวาริตเมว โหติ. อถ ปวารณเมว เทติ, น ฉนฺทํ, ตสฺส จ ปวารณาย อาโรจิตาย สงฺเฆน จ ปวาริเต สพฺเพสํ สุปฺปวาริตํ โหติ, อฺํ ปน กมฺมํ กุปฺปติ. สเจ ฉนฺทเมว เทติ, น ปวารณํ, สงฺฆสฺส ปวารณา จ เสสกมฺมานิ จ น กุปฺปนฺติ, เตน ปน ภิกฺขุนา อปฺปวาริตํ โหติ, ปวารณาทิวเส ปน พหิสีมาย ปวารณํ อธิฏฺหิตฺวา อาคเตนปิ ฉนฺโท ทาตพฺโพ เตน สงฺฆสฺส ปวารณากมฺมํ น กุปฺปติ.

สเจ ปุริมิกาย ปฺจ ภิกฺขู วสฺสํ อุปคตา, ปจฺฉิมิกายปิ ปฺจ, ปุริเมหิ ตฺตึ เปตฺวา ปวาริเต ปจฺฉิเมหิ เตสํ สนฺติเก ปาริสุทฺธิอุโปสโถ กาตพฺโพ, น เอกสฺมึ อุโปสถคฺเค ทฺเว ตฺติโย เปตพฺพา. สเจปิ ปจฺฉิมิกาย อุปคตา จตฺตาโร ตโย ทฺเว เอโก วา โหติ, เอเสว นโย. อถ ปุริมิกาย จตฺตาโร, ปจฺฉิมิกายปิ จตฺตาโร ตโย ทฺเว เอโก วา, เอเสว นโย. อถาปิ ปุริมิกาย ตโย, ปจฺฉิมิกายปิ ตโย ทฺเว เอโก วา, เอเสว นโย. อิทฺเหตฺถ ลกฺขณํ.

สเจ ปุริมิกาย อุปคเตหิ ปจฺฉิมิกาย อุปคตา โถกตรา เจว โหนฺติ สมสมา จ, สงฺฆปวารณาย จ คณํ ปูเรนฺติ, สงฺฆปวารณาวเสน ตฺติ เปตพฺพา. สเจ ปน ปจฺฉิมิกาย เอโก โหติ, เตน สทฺธึ เต จตฺตาโร โหนฺติ, จตุนฺนํ สงฺฆตฺตึ เปตฺวา ปวาเรตุํ น วฏฺฏติ. คณตฺติยา ปน โส คณปูรโก โหติ, ตสฺมา คณวเสน ตฺตึ เปตฺวา ปุริเมหิ ปวาเรตพฺพํ, อิตเรน เตสํ สนฺติเก ปาริสุทฺธิอุโปสโถ กาตพฺโพติ. ปุริมิกาย ทฺเว, ปจฺฉิมิกาย ทฺเว วา เอโก วา เอเสว นโย. ปุริมิกาย เอโก ปจฺฉิมิกาย เอโกติ เอเกน เอกสฺส สนฺติเก ปวาเรตพฺพํ, เอเกน ปาริสุทฺธิอุโปสโถ กาตพฺโพ. สเจ ปุริเมหิ วสฺสูปคเตหิ ปจฺฉา วสฺสูปคตา เอเกนปิ อธิกตรา โหนฺติ, ปมํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตฺวา ปจฺฉา โถกตเรหิ เตสํ สนฺติเก ปวาเรตพฺพํ.

กตฺติกาย จาตุมาสินิปวารณาย ปน สเจ ปมวสฺสูปคเตหิ มหาปวารณาย ปวาริเตหิ ปจฺฉา อุปคตา อธิกตรา วา สมสมา วา โหนฺติ, ปวารณาตฺตึ เปตฺวา ปวาเรตพฺพํ. เตหิ ปวาริเต ปจฺฉา อิตเรหิ ปาริสุทฺธิอุโปสโถ กาตพฺโพ. อถ มหาปวารณายํ ปวาริตา พหู โหนฺติ, ปจฺฉา วสฺสูปคตา โถกา วา เอโก วา, ปาติโมกฺเข อุทฺทิฏฺเ ปจฺฉา เตสํ สนฺติเก เตน ปวาเรตพฺพํ. กึ ปเนตํ ปาติโมกฺขํ สกลเมว อุทฺทิสิตพฺพํ, อุทาหุ เอกเทสมฺปีติ? เอกเทสมฺปิ อุทฺทิสิตุํ วฏฺฏติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, ปาติโมกฺขุทฺเทสา, นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ, อยํ ปโม ปาติโมกฺขุทฺเทโส. นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา จตฺตาริ ปาราชิกานิ อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ, อยํ ทุติโย ปาติโมกฺขุทฺเทโส. นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา จตฺตาริ ปาราชิกานิ อุทฺทิสิตฺวา เตรส สงฺฆาทิเสเส อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ, อยํ ตติโย ปาติโมกฺขุทฺเทโส. นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา จตฺตาริ ปาราชิกานิ อุทฺทิสิตฺวา เตรส สงฺฆาทิเสเส อุทฺทิสิตฺวา ทฺเว อนิยเต อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ ภุเตน สาเวตพฺพํ, อยํ จตุตฺโถ ปาติโมกฺขุทฺเทโส. วิตฺถาเรเนว ปฺจโม’’ติ (มาหาว. ๑๕๐).

ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๕๐) นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพนฺติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ…เป… อาวิกตา หิสฺส ผาสุ โหตี’’ติ อิมํ นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘อุทฺทิฏฺํ โข อายสฺมนฺโต นิทานํ, ตตฺถายสฺมนฺเต ปุจฺฉามิ กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธา. ทุติยมฺปิ ปุจฺฉามิ…เป… เอวเมตํ ธารยามิ. สุตา โข ปนายสฺมนฺเตหิ จตฺตาโร ปาราชิกา ธมฺมา …เป… อวิวทมาเนหิ สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ เอวํ อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ. เอเตน นเยน เสสาปิ จตฺตาโร ปาติโมกฺขุทฺเทสา เวทิตพฺพา.

๑๗๔. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สติ อนฺตราเย สํขิตฺเตน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุํ. น, ภิกฺขเว, อสติ อนฺตราเย สํขิตฺเตน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพํ, โย อุทฺทิเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๕๐) วจนโต ปน วินา อนฺตรายา สํขิตฺเตน ปาติโมกฺขํ น อุทฺทิสิตพฺพํ. ตตฺริเม อนฺตรายา – ราชนฺตราโย โจรนฺตราโย อคฺยนฺตราโย อุทกนฺตราโย มนุสฺสนฺตราโย อมนุสฺสนฺตราโย วาฬนฺตราโย สรีสปนฺตราโย ชีวิตนฺตราโย พฺรหฺมจริยนฺตราโยติ.

ตตฺถ สเจ ภิกฺขูสุ อุโปสถํ กริสฺสามาติ นิสินฺเนสุ ราชา อาคจฺฉติ, อยํ ราชนฺตราโย. โจรา อาคจฺฉนฺติ, อยํ โจรนฺตราโย. ทวฑาโห อาคจฺฉติ, อาวาเส วา อคฺคิ อุฏฺาติ, อยํ อคฺยนฺตราโย. เมโฆ วา อุฏฺเติ, โอโฆ วา อาคจฺฉติ, อยํ อุทกนฺตราโย. พหู มนุสฺสา อาคจฺฉนฺติ, อยํ มนุสฺสนฺตราโย. ภิกฺขุํ ยกฺโข คณฺหาติ, อยํ อมนุสฺสนฺตราโย. พฺยคฺฆาทโย จณฺฑมิคา อาคจฺฉนฺติ, อยํ วาฬนฺตราโย. ภิกฺขุํ สปฺปาทโย ฑํสนฺติ, อยํ สรีสปนฺตราโย. ภิกฺขุ คิลาโน วา โหติ, กาลํ วา กโรติ, เวริโน วา ตํ มาเรตุกามา คณฺหนฺติ, อยํ ชีวิตนฺตราโย. มนุสฺสา เอกํ วา พหู วา ภิกฺขู พฺรหฺมจริยา จาเวตุกามา คณฺหนฺติ, อยํ พฺรหฺมจริยนฺตราโย. เอวรูเปสุ อนฺตราเยสุ สํขิตฺเตน ปาติโมกฺโข อุทฺทิสิตพฺโพ, ปโม วา อุทฺเทโส อุทฺทิสิตพฺโพ. อาทิมฺหิ ทฺเว ตโย จตฺตาโร วา. เอตฺถ ทุติยาทีสุ อุทฺเทเสสุ ยสฺมึ อปริโยสิเต อนฺตราโย โหติ, โสปิ สุเตเนว สาเวตพฺโพ. นิทานุทฺเทเส ปน อนิฏฺิเต สุเตน สาเวตพฺพํ นาม นตฺถิ.

ปวารณากมฺเมปิ สติ อนฺตราเย ทฺเววาจิกํ เอกวาจิกํ สมานวสฺสิกํ วา ปวาเรตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๒๓๔) ตฺตึ เปนฺเตนปิ ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ทฺเววาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ วตฺตพฺพํ. เอกวาจิเก ‘‘เอกวาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ, สมานวสฺสิเกปิ ‘‘สมานวสฺสิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ วตฺตพฺพํ. เอตฺถ จ พหูปิ สมานวสฺสา เอกโต ปวาเรตุํ ลภนฺติ. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อชฺช ปวารณา ปนฺนรสี, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ปวาเรยฺยา’’ติ อิมาย ปน สพฺพสงฺคาหิกาย ตฺติยา ปิตาย เตวาจิกํ ทฺเววาจิกํ เอกวาจิกฺจ ปวาเรตุํ วฏฺฏติ, สมานวสฺสิกํ น วฏฺฏติ. ‘‘เตวาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ วุตฺเต ปน เตวาจิกเมว วฏฺฏติ, อฺํ น วฏฺฏติ. ‘‘ทฺเววาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ วุตฺเต ทฺเววาจิกํ เตวาจิกฺจ วฏฺฏติ, เอกวาจิกฺจ สมานวสฺสิกฺจ น วฏฺฏติ. ‘‘เอกวาจิกํ ปวาเรยฺยา’’ติ วุตฺเต ปน เอกวาจิกทฺเววาจิกเตวาจิกานิ วฏฺฏนฺติ, สมานวสฺสิกเมว น วฏฺฏติ. ‘‘สมานวสฺสิก’’นฺติ วุตฺเต สพฺพํ วฏฺฏติ.

๑๗๕. เกน ปน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพนฺติ? ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เถราธิกํ ปาติโมกฺข’’นฺติ (มหาว. ๑๕๔) วจนโต เถเรน วา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพํ, ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โย ตตฺถ ภิกฺขุ พฺยตฺโต ปฏิพโล, ตสฺสาเธยฺยํ ปาติโมกฺข’’นฺติ (มหาว. ๑๕๕) วจนโต นวกตเรน วา. เอตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๕๕) จ กิฺจาปิ นวกตรสฺสปิ พฺยตฺตสฺส ปาติโมกฺขํ อนุฺาตํ, อถ โข เอตฺถ อยํ อธิปฺปาโย – สเจ เถรสฺส ปฺจ วา จตฺตาโร วา ตโย วา ปาติโมกฺขุทฺเทสา นาคจฺฉนฺติ, ทฺเว ปน อขณฺฑา สุวิสทา วาจุคฺคตา โหนฺติ, เถรายตฺตํว ปาติโมกฺขํ. สเจ ปน เอตฺตกมฺปิ วิสทํ กาตุํ น สกฺโกติ, พฺยตฺตสฺส ภิกฺขุโน อายตฺถํ โหติ, ตสฺมา สยํ วา อุทฺทิสิตพฺพํ, อฺโ วา อชฺเฌสิตพฺโพ. ‘‘น, ภิกฺขเว, สงฺฆมชฺเฌ อนชฺฌิฏฺเน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพํ, โย อุทฺทิเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๕๔) วจนโต อนชฺฌิฏฺเน ปาติโมกฺขํ น อุทฺทิสิตพฺพํ. น เกวลํ ปาติโมกฺขํเยว, ธมฺโมปิ น ภาสิตพฺโพ ‘‘น, ภิกฺขเว, สงฺฆมชฺเฌ อนชฺฌิฏฺเน ธมฺโม ภาสิตพฺโพ, โย ภาเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๕๐) วจนโต.

อชฺเฌสนา เจตฺถ สงฺเฆน สมฺมตธมฺมชฺเฌสกายตฺตา วา สงฺฆตฺเถ รายตฺตา วา, ตสฺมา ธมฺมชฺเฌสเก อสติ สงฺฆตฺเถรํ อาปุจฺฉิตฺวา วา เตน ยาจิโต วา ภาสิตุํ ลภติ. สงฺฆตฺเถเรนปิ สเจ วิหาเร พหู ธมฺมกถิกา โหนฺติ, วารปฏิปาฏิยา วตฺตพฺโพ. ‘‘ตฺวํ ธมฺมํ ภณ, ธมฺมทานํ เทหี’’ติ วา วุตฺเตน ตีหิปิ วิธีหิ ธมฺโม ภาสิตพฺโพ, ‘‘โอสาเรหี’’ติ วุตฺโต ปน โอสาเรตุเมว ลภติ, ‘‘กเถหี’’ติ วุตฺโต กเถตุเมว, ‘‘สรภฺํ ภณาหี’’ติ วุตฺโต สรภฺเมว. สงฺฆตฺเถโรปิ จ อุจฺจตเร อาสเน นิสินฺโน ยาจิตุํ น ลภติ. สเจ อุปชฺฌาโย เจว สทฺธิวิหาริโก จ โหติ, อุปชฺฌาโย จ นํ อุจฺจาสเน นิสินฺโน ‘‘ภณา’’ติ วทติ, สชฺฌายํ อธิฏฺหิตฺวา ภณิตพฺพํ. สเจ ปเนตฺถ ทหรภิกฺขู โหนฺติ, ‘‘เตสํ ภณามี’’ติ ภณิตพฺพํ. สเจ วิหาเร สงฺฆตฺเถโร อตฺตโนเยว นิสฺสิตเก ภณาเปติ, อฺเ มธุรภาณเกปิ นาชฺเฌสติ, โส อฺเหิ วตฺตพฺโพ – ‘‘ภนฺเต, อสุกํ นาม ภณาเปมา’’ติ. สเจ ‘‘ภณาเปถา’’ติ วทติ, ตุณฺหี วา โหติ, ภณาเปตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน ปฏิพาหติ, น ภณาเปตพฺพํ. ยทิ ปน อนาคเตเยว สงฺฆตฺเถเร ธมฺมสฺสวนํ อารทฺธํ, ปุน อาคเต เปตฺวา อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ. โอสาเรตฺวา ปน กเถนฺเตน อาปุจฺฉิตฺวา อฏฺเปตฺวาเยว วา กเถตพฺพํ. กเถนฺตสฺส ปุน อาคเตปิ เอเสว นโย.

อุปนิสินฺนกถายมฺปิ สงฺฆตฺเถโรว สามี, ตสฺมา เตน สยํ วา กเถตพฺพํ, อฺโ วา ภิกฺขุ ‘‘กเถหี’’ติ วตฺตพฺโพ, โน จ โข อุจฺจตเร อาสนฺเน นิสินฺเนน, มนุสฺสานํ ปน ‘‘ภณาหี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. มนุสฺสา อตฺตโน ชานนกํ ภิกฺขุํ ปุจฺฉนฺติ, เตน เถรํ อาปุจฺฉิตฺวาปิ กเถตพฺพํ. สเจ สงฺฆตฺเถโร ‘‘ภนฺเต, อิเม ปฺหํ ปุจฺฉนฺตี’’ติ ปุฏฺโ ‘‘กเถหี’’ติ วา ภณติ, ตุณฺหี วา โหติ, กเถตุํ วฏฺฏติ. อนฺตรฆเร อนุโมทนาทีสุปิ เอเสว นโย. สเจ สงฺฆตฺเถโร ‘‘วิหาเร วา อนฺตรฆเร วา มํ อนาปุจฺฉิตฺวาปิ กเถยฺยาสี’’ติ อนุชานาติ, ลทฺธกปฺปิยํ โหติ, สพฺพตฺถ วตฺตุํ วฏฺฏติ. สชฺฌายํ กโรนฺเตนาปิ เถโร อาปุจฺฉิตพฺโพเยว. เอกํ อาปุจฺฉิตฺวา สชฺฌายนฺตสฺส อปโร อาคจฺฉติ, ปุน อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ. สเจปิ ‘‘วิสฺสมิสฺสามี’’ติ ปิตสฺส อาคจฺฉติ, ปุน อารภนฺเตน อาปุจฺฉิตพฺพํ. สงฺฆตฺเถเร อนาคเตเยว อารทฺธํ สชฺฌายนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. เอเกน สงฺฆตฺเถเรน ‘‘มํ อนาปุจฺฉาปิ ยถาสุขํ สชฺฌายาหี’’ติ อนุฺาเต ยถาสุขํ สชฺฌายิตุํ วฏฺฏติ, อฺสฺมึ ปน อาคเต ตํ อาปุจฺฉิตฺวาว สชฺฌายิตพฺพํ.

ยสฺมึ ปน วิหาเร สพฺเพว ภิกฺขู พาลา โหนฺติ อพฺยตฺตา น ชานนฺติ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุํ, ตตฺถ กึ กาตพฺพนฺติ? เตหิ ภิกฺขูหิ เอโก ภิกฺขุ สามนฺตา อาวาสา สชฺชุกํ ปาเหตพฺโพ ‘‘คจฺฉาวุโส, สํขิตฺเตน วา วิตฺถาเรน วา ปาติโมกฺขํ ปริยาปุณิตฺวา อาคจฺฉาหี’’ติ. เอวฺเจตํ ลเภถ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ลเภถ, เตหิ ภิกฺขูหิ สพฺเพเหว ยตฺถ ตาทิสา ภิกฺขู โหนฺติ, โส อาวาโส อุโปสถกรณตฺถาย อนฺวฑฺฒมาสํ คนฺตพฺโพ, อคจฺฉนฺตานํ ทุกฺกฏํ. อิทฺจ อุตุวสฺเสเยว, วสฺสาเน ปน ปุริมิกาย ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน วินา น วสฺสํ อุปคจฺฉิตพฺพํ. สเจ โส วสฺสูปคตานํ ปกฺกมติ วา วิพฺภมติ วา กาลํ วา กโรติ, อฺสฺมึ สติเยว ปจฺฉิมิกาย วสิตุํ วฏฺฏติ, อสติ อฺตฺถ คนฺตพฺพํ, อคจฺฉนฺตานํ ทุกฺกฏํ. สเจ ปน ปจฺฉิมิกาย ปกฺกมติ วา วิพฺภมติ วา กาลํ วา กโรติ, มาสทฺวยํ วสิตพฺพํ.

ยตฺถ ปน เต พาลา ภิกฺขู วิหรนฺติ อพฺยตฺตา, สเจ ตตฺถ โกจิ ภิกฺขุ อาคจฺฉติ พหุสฺสุโต อาคตาคโม ธมฺมธโร วินยธโร มาติกาธโร ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม, เตหิ ภิกฺขูหิ โส ภิกฺขุ สงฺคเหตพฺโพ อนุคฺคเหตพฺโพ อุปลาเปตพฺโพ, อุปฏฺาเปตพฺโพ จุณฺเณน มตฺติกาย ทนฺตกฏฺเน มุโขทเกน. โน เจ สงฺคเหยฺยุํ อนุคฺคเหยฺยุํ อุปลาเปยฺยุํ, อุปฏฺาเปยฺยุํ จุณฺเณน มตฺติกาย ทนฺตกฏฺเน มุโขทเกน, สพฺเพสํ ทุกฺกฏํ. อิธ เนว เถรา, น ทหรา มุจฺจนฺติ, สพฺเพหิ วาเรน อุปฏฺาเปตพฺโพ. อตฺตโน วาเร อนุปฏฺหนฺตสฺส อาปตฺติ. เตน ปน มหาเถรานํ ปริเวณสมฺมชฺชนทนฺตกฏฺทานาทีนิ น สาทิตพฺพานิ, เอวมฺปิ สติ มหาเถเรหิ สายํปาตํ อุปฏฺานํ อาคนฺตพฺพํ, เตน ปน เตสํ อาคมนํ ตฺวา ปมตรํ มหาเถรานํ อุปฏฺานํ คนฺตพฺพํ. สจสฺส สทฺธิฺจรา ภิกฺขู อุปฏฺากา อตฺถิ, ‘‘มยฺหํ อุปฏฺากา อตฺถิ, ตุมฺเห อปฺโปสฺสุกฺกา วิหรถา’’ติ วตฺตพฺพํ. อถาปิสฺส สทฺธิฺจรา นตฺถิ, ตสฺมึเยว วิหาเร เอโก วา ทฺเว วา วตฺตสมฺปนฺนา วทนฺติ ‘‘มยํ เถรสฺส กตฺตพฺพํ กริสฺสาม, อวเสสา ผาสุ วิหรนฺตู’’ติ, สพฺเพสํ อนาปตฺติ.

๑๗๖. ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺติ, โส อาวิกเรยฺยา’’ติ(มหาว. ๑๓๔) อาทิวจนโต น สาปตฺติเกน อุโปสโถ กาตพฺโพ, ตสฺมา ตทหุโปสเถ อาปตฺตึ สรนฺเตน เทเสตพฺพา. เทเสนฺเตน จ เอกํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวํ วตฺตพฺโพ ‘‘อหํ, อาวุโส, อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ตํ ปฏิเทเสมี’’ติ. สเจ นวกตโร โหติ, ‘‘อหํ, ภนฺเต’’ติ วตฺตพฺพํ. ‘‘ตํ ปฏิเทเสมี’’ติ อิทํ ปน อตฺตโน อตฺตโน อนุรูปวเสน ‘‘ตํ ตุยฺหมูเล, ตํ ตุมฺหมูเล ปฏิเทเสมี’’ติ วุตฺเตปิ สุวุตฺตเมว โหติ. ปฏิคฺคาหเกนปิ อตฺตโน อตฺตโน อนุรูปวเสน ‘‘ปสฺสถ, ภนฺเต, ตํ อาปตฺตึ, ปสฺสสิ, อาวุโส, ตํ อาปตฺติ’’นฺติ วา วตฺตพฺพํ, ปุน เทสเกน ‘‘อาม, อาวุโส, ปสฺสามิ, อาม, ภนฺเต, ปสฺสามี’’ติ วา วตฺตพฺพํ. ปุน ปฏิคฺคาหเกน ‘‘อายตึ, ภนฺเต, สํวเรยฺยาถ, อายตึ, อาวุโส, สํวเรยฺยาสี’’ติ วา วตฺตพฺพํ. เอวํ วุตฺเต เทสเกน ‘‘สาธุ สุฏฺุ อาวุโส สํวริสฺสามิ, สาธุ สุฏฺุ, ภนฺเต, สํวริสฺสามี’’ติ วา วตฺตพฺพํ. สเจ อาปตฺติยา เวมติโก โหติ, เอกํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวํ วตฺตพฺโพ ‘‘อหํ, อาวุโส, อิตฺถนฺนามาย อาปตฺติยา เวมติโก, ยทา นิพฺเพมติโก ภวิสฺสามิ, ตทา ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสามี’’ติ วตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพ, ปาติโมกฺขํ โสตพฺพํ, น ตฺเวว ตปฺปจฺจยา อุโปสถสฺส อนฺตราโย กาตพฺโพ. ‘‘น, ภิกฺขเว, สภาคา อาปตฺติ เทเสตพฺพา, โย เทเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. น, ภิกฺขเว, สภาคา อาปตฺติ ปฏิคฺคเหตพฺพา, โย ปฏิคฺคณฺเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๖๙) วจนโต ยํ ทฺเวปิ ชนา วิกาลโภชนาทินา สภาควตฺถุนา อาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ, เอวรูปา วตฺถุสภาคา อาปตฺติ เนว เทเสตพฺพา, น จ ปฏิคฺคเหตพฺพา. วิกาลโภชนปจฺจยา อาปนฺนํ ปน อาปตฺติสภาคํ อนติริตฺตโภชนปจฺจยา อาปนฺนสฺส สนฺติเก เทเสตุํ วฏฺฏติ.

สเจ ปน สพฺโพ สงฺโฆ วิกาลโภชนาทินา สภาควตฺถุนา ลหุกาปตฺตึ อาปชฺชติ, ตตฺถ กึ กาตพฺพนฺติ? เตหิ ภิกฺขูหิ เอโก ภิกฺขุ สามนฺตา อาวาสา สชฺชุกํ ปาเหตพฺโพ ‘‘คจฺฉาวุโส, ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริตฺวา อาคจฺฉ, มยํ เต สนฺติเก อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสามา’’ติ. เอวฺเจตํ ลเภถ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ลเภถ, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ – ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ สพฺโพ สงฺโฆ สภาคํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ยทา อฺํ ภิกฺขุํ สุทฺธํ อนาปตฺติกํ ปสฺสิสฺสติ, ตทา ตสฺส สนฺติเก ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสตี’’ติ (มหาว. ๑๗๑) วตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพ. สเจ ปน เวมติโก โหติ, ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ สพฺโพ สงฺโฆ สภาคาย อาปตฺติยา เวมติโก, ยทา นิพฺเพมติโก ภวิสฺสติ, ตทา ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสตี’’ติ (มหาว. ๑๗๑) วตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพ. สเจ ปเนตฺถ โกจิ ‘‘ตํ สภาคํ อาปตฺตึ เทเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ มฺมาโน เอกสฺส สนฺติเก เทเสติ, เทสิตา สุเทสิตาว. อฺํ ปน เทสนาปจฺจยา เทสโก ปฏิคฺคหณปจฺจยา ปฏิคฺคาหโก จาติ อุโภปิ ทุกฺกฏํ อาปชฺชนฺติ, ตํ นานาวตฺถุกํ โหติ, ตสฺมา อฺมฺํ เทเสตพฺพํ. เอตฺตาวตา เต นิราปตฺติกา โหนฺติ, เตสํ สนฺติเก เสเสหิ สภาคาปตฺติโย เทเสตพฺพา วา อาโรเจตพฺพา วา. สเจ เต เอวํ อกตฺวา อุโปสถํ กโรนฺติ, ‘‘ปาริสุทฺธึ อายสฺมนฺโต อาโรเจถา’’ติอาทินา นเยน สาปตฺติกสฺส อุโปสถกรเณ ปฺตฺตํ ทุกฺกฏํ อาปชฺชนฺติ.

สเจ โกจิ ภิกฺขุ ปาติโมกฺเข อุทฺทิสฺสมาเน อาปตฺตึ สรติ, เตน ภิกฺขุนา สามนฺโต ภิกฺขุ เอวํ วตฺตพฺโพ ‘‘อหํ, อาวุโส, อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, อิโต วุฏฺหิตฺวา ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสามี’’ติ. สามนฺโต จ ภิกฺขุ สภาโคเยว วตฺตพฺโพ. วิสภาคสฺส หิ วุจฺจมาเน ภณฺฑนกลหสงฺฆเภทาทีนิปิ โหนฺติ, ตสฺมา ตสฺส อวตฺวา ‘‘อิโต วุฏฺหิตฺวา ปฏิกริสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพ. สเจ ปน โกจิ ปาติโมกฺเข อุทฺทิสฺสมาเน อาปตฺติยา เวมติโก โหติ, เตนปิ สภาโคเยว สามนฺโต ภิกฺขุ เอวํ วตฺตพฺโพ ‘‘อหํ, อาวุโส, อิตฺถนฺนามาย อาปตฺติยา เวมติโก, ยทา นิพฺเพมติโก ภวิสฺสามิ, ตทา ตํ อาปตฺตึ ปฏิกริสฺสามี’’ติ. เอวฺจ วตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพ, ปาติโมกฺขํ โสตพฺพํ, น ตฺเวว ตปฺปจฺจยา อุโปสถสฺส อนฺตราโย กาตพฺโพ.

๑๗๗. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุโปสถาคารํ สมฺมชฺชิตุ’’นฺติ(มหาว. ๑๕๙) อาทิวจนโต –

‘‘สมฺมชฺชนี ปทีโป จ, อุทกํ อาสเนน จ;

อุโปสถสฺส เอตานิ, ปุพฺพกรณนฺติ วุจฺจตี’’ติ. (มหาว. อฏฺ. ๑๖๘) –

เอวํ วุตฺตํ จตุพฺพิธํ ปุพฺพกรณํ กตฺวาว อุโปสโถ กาตพฺโพ. เกน ปน ตํ กาตพฺพนฺติ? ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เถเรน ภิกฺขุนา นวํ ภิกฺขุํ อาณาเปตุํ, น, ภิกฺขเว, เถเรน อาณตฺเตน อคิลาเนน น สมฺมชฺชิตพฺพํ, โย น สมฺมชฺเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิวจนโต โย เถเรน อาณตฺโต, เตน กาตพฺพํ. อาณาเปนฺเตน จ กิฺจิ กมฺมํ กโรนฺโต วา สทากาลเมว เอโก วา ภารนิตฺถรณโก วา สรภาณกธมฺมกถิกาทีสุ อฺตโร วา น อุโปสถาคารสมฺมชฺชนตฺถํ อาณาเปตพฺโพ, อวเสสา ปน วาเรน อาณาเปตพฺพา. สเจ อาณตฺโต สมฺมุฺชนึ ตาวกาลิกมฺปิ น ลภติ, สาขาภงฺคํ กปฺปิยํ กาเรตฺวา สมฺมชฺชิตพฺพํ, ตมฺปิ อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติ.

อาสนปฺาปนตฺถํ อาณตฺเตน จ สเจ อุโปสถาคาเร อาสนานิ นตฺถิ, สงฺฆิกาวาสโต อาหริตฺวา ปฺเปตฺวา ปุน อาหริตพฺพานิ, อาสเนสุ อสติ กฏสารเกปิ ตฏฺฏิกาโยปิ ปฺาเปตุํ วฏฺฏติ, ตฏฺฏิกาสุปิ อสติ สาขาภงฺคานิ กปฺปิยํ กาเรตฺวา ปฺเปตพฺพานิ, กปฺปิยการกํ อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติ.

ปทีปกรณตฺถํ อาณาเปนฺเตน ปน ‘‘อสุกสฺมึ นาม โอกาเส เตลํ วา วฏฺฏิ วา กปลฺลิกา วา อตฺถิ, ตํ คเหตฺวา กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ เตลาทีนิ นตฺถิ, ปริเยสิตพฺพานิ, ปริเยสิตฺวา อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติ. อปิจ กปาเล อคฺคิปิ ชาเลตพฺโพ.

‘‘ฉนฺทปาริสุทฺธิอุตุกฺขานํ, ภิกฺขุคณนาจ โอวาโท;

อุโปสถสฺส เอตานิ, ปุพฺพกิจฺจนฺติ วุจฺจตี’’ติ. (มหาว. ๑๖๘) –

เอวํ วุตฺตํ ปน จตุพฺพิธมฺปิ ปุพฺพกิจฺจํ ปุพฺพกรณโต ปจฺฉา กาตพฺพํ. ตมฺปิ หิ อกตฺวา อุโปสโถ น กาตพฺโพ.

๑๗๘. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อุโปสถํ กเรยฺยา’’ติ (มหาว. ๑๔๓) วจนโต ยทา สงฺฆสฺส อุโปสถกมฺมํ ปตฺตกลฺลํ โหติ, ตทา ตํ กาตพฺพํ, ปตฺตกลฺลฺจ นาเมตํ จตูหิ องฺเคหิ สงฺคหิตํ. เตนาหุ อฏฺกถาจริยา –

‘‘อุโปสโถ ยาวติกา จ ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา,

สภาคาปตฺติโย จ น วิชฺชนฺติ;

วชฺชนียา จ ปุคฺคลา ตสฺมึ น โหนฺติ,

ปตฺตกลฺลนฺติ วุจฺจตี’’ติ. (มหาว. อฏฺ. ๑๖๘);

ตตฺถ อุโปสโถติ ตีสุ อุโปสถทิวเสสุ อฺตรทิวโส. ตสฺมิฺหิ สติ อิทํ สงฺฆสฺส อุโปสถกมฺมํ ปตฺตกลฺลํ นาม โหติ, นาสติ. ยถาห ‘‘น จ, ภิกฺขเว, อนุโปสเถ อุโปสโถ กาตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๑๘๓).

ยาวติกา จ ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตาติ ยตฺตกา ภิกฺขู ตสฺส อุโปสถกมฺมสฺส ปตฺตา ยุตฺตา อนุรูปา สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน จตฺตาโร ปกตตฺตา, เต จ โข หตฺถปาสํ อวิชหิตฺวา เอกสีมายํ ิตา. เตสุ หิ จตูสุ ภิกฺขูสุ เอกสีมายํ หตฺถปาสํ อวิชหิตฺวา ิเตสฺเวว ตํ สงฺฆสฺส อุโปสถกมฺมํ ปตฺตกลฺลํ นาม โหติ, น อิตรถา. ยถาห ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตุนฺนํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๖๘).

สภาคาปตฺติโย จ น วิชฺชนฺตีติ เอตฺถ ยํ สพฺโพ สงฺโฆ วิกาลโภชนาทินา สภาควตฺถุนา ลหุกาปตฺตึ อาปชฺชติ, เอวรูปา วตฺถุสภาคา สภาคาติ วุจฺจติ. เอตาสุ อวิชฺชมานาสุปิ สภาคาสุ วิชฺชมานาสุปิ ปตฺตกลฺลํ โหติเยว.

วชฺชนียา จ ปุคฺคลา ตสฺมึ น โหนฺตีติ ‘‘น, ภิกฺขเว, สคหฏฺาย ปริสาย ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๑๕๔) วจนโต คหฏฺโ จ, ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา นิสินฺนปริสาย ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพ’’นฺติอาทินา (มหาว. ๑๘๓) นเยน วุตฺตา ภิกฺขุนี, สิกฺขมานา, สามเณโร, สามเณรี, สิกฺขาปจฺจกฺขาตโก, อนฺติมวตฺถุอชฺฌาปนฺนโก, อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺขิตฺตโก, อาปตฺติยา อปฺปฏิกมฺเม อุกฺขิตฺตโก, ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค อุกฺขิตฺตโก, ปณฺฑโก, เถยฺยสํวาสโก, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก, ติรจฺฉานคโต, มาตุฆาตโก, ปิตุฆาตโก, อรหนฺตฆาตโก, ภิกฺขุนีทูสโก, สงฺฆเภทโก, โลหิตุปฺปาทโก, อุภโตพฺยฺชนโกติ อิเม วีสติ จาติ เอกวีสติ ปุคฺคลา วชฺชนียา นาม. เต หตฺถปาสโต พหิกรณวเสน วชฺเชตพฺพา. เอเตสุ หิ ติวิเธ อุกฺขิตฺตเก สติ อุโปสถํ กโรนฺโต สงฺโฆ ปาจิตฺติยํ อาปชฺชติ, เสเสสุ ทุกฺกฏํ, เอตฺถ จ ติรจฺฉานคโตติ ยสฺส อุปสมฺปทา ปฏิกฺขิตฺตา. ติตฺถิยา คหฏฺเเนว สงฺคหิตา. เอเตปิ หิ วชฺชนียา. เอวํ ปตฺตกลฺลํ อิเมหิ จตูหิ องฺเคหิ สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิทฺจ สพฺพํ ปวารณากมฺเมปิ โยเชตฺวา ทสฺเสตพฺพํ. ‘‘น, ภิกฺขเว, ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน สฺจิจฺจ น สาเวตพฺพํ, โย น สาเวยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน วายมิตุํ ‘กถํ สาเวยฺย’นฺติ, วายมนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ (มหาว. ๑๕๔) วจนโต ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน ปริสํ สาเวตุํ วายมิตพฺพนฺติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

อุโปสถปวารณาวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๒๖. วสฺสูปนายิกวินิจฺฉยกถา

๑๗๙. วสฺสูปนายิกาติ เอตฺถ ปุริมิกา ปจฺฉิมิกาติ ทุเว วสฺสูปนายิกา. ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๘๔ อาทโย) อาสาฬฺหีปุณฺณมาย อนนฺตเร ปาฏิปททิวเส ปุริมิกา อุปคนฺตพฺพา, ปจฺฉิมิกา ปน อาสาฬฺหีปุณฺณมโต อปราย ปุณฺณมาย อนนฺตเร ปาฏิปททิวเส. อุปคจฺฉนฺเตน จ วิหารํ ปฏิชคฺคิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺาเปตฺวา สพฺพํ เจติยวนฺทนาทิสามีจิกมฺมํ นิฏฺาเปตฺวา ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมี’’ติ สกึ วา ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ วา วาจํ นิจฺฉาเรตฺวา วสฺสํ อุปคนฺตพฺพํ. สเจปิ ‘‘อิธ วสิสฺสามี’’ติ อาลโย อตฺถิ, อสติยา ปน วสฺสํ น อุเปติ, คหิตเสนาสนํ สุคฺคหิตํ, ฉินฺนวสฺโส น โหติ, ปวาเรตุํ ลภติเยว. วินาปิ หิ วจีเภทํ อาลยกรณมตฺเตนปิ วสฺสํ อุปคตเมว โหติ. ‘‘อิธ วสฺสํ วสิสฺสามี’’ติ จิตฺตุปฺปาโทเยเวตฺถ อาลโย นาม.

‘‘น, ภิกฺขเว, ตทหุวสฺสูปนายิกาย วสฺสํ อนุปคนฺตุกาเมน สฺจิจฺจ อาวาโส อติกฺกมิตพฺโพ, โย อติกฺกเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๘๖) วจนโต วสฺสูปนายิกทิวเส วสฺสํ อนุปคนฺตุกาโม วิหารสีมํ อติกฺกมติ, วิหารคณนาย ทุกฺกฏํ. สเจ หิ ตํ ทิวสํ วิหารสตสฺส อุปจารํ โอกฺกมิตฺวา อติกฺกมติ, สตํ อาปตฺติโย. สเจ ปน วิหารํ อติกฺกมิตฺวา อฺสฺส วิหารสฺส อุปจารํ อโนกฺกมิตฺวาว นิวตฺตติ, เอกาว อาปตฺติ. เกนจิ อนฺตราเยน ปุริมิกํ อนุปคเตน ปจฺฉิมิกา อุปคนฺตพฺพา.

‘‘น, ภิกฺขเว, อเสนาสนิเกน วสฺสํ อุปคนฺตพฺพํ, โย อุปคจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๐๔) วจนโต ยสฺส ปฺจนฺนํ ฉทนานํ อฺตเรน ฉนฺนํ โยชิตทฺวารพนฺธนํ เสนาสนํ นตฺถิ, เตน น อุปคนฺตพฺพํ. ‘‘น, ภิกฺขเว, ฉวกุฏิกาย วสฺสํ อุปคนฺตพฺพํ, โย อุปคจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ(มหาว. ๒๐๔) อาทิวจนโต ฉวกุฏิกายํ ฉตฺเต จาฏิยฺจ อุปคนฺตุํ น วฏฺฏติ. ตตฺถ ฉวกุฏิกา นาม ฏงฺกิตมฺจาทิเภทา กุฏิ. ตตฺเถว อุปคนฺตุํ น วฏฺฏติ, สุสาเน ปน อฺํ กุฏิกํ กตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ, ฉตฺเตปิ จตูสุ ถมฺเภสุ ฉตฺตํ เปตฺวา อาวรณํ กตฺวา ทฺวารํ โยเชตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ, ฉตฺตกุฏิ นาเมสา โหติ. จาฏิยาปิ มหนฺเตน กปลฺเลน ฉตฺเต วุตฺตนเยน กุฏิกํ กตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, รุกฺขสุสิเร วสฺสํ อุปคนฺตพฺพํ, โย อุปคจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๐๔) วจนโต สุทฺเธ รุกฺขสุสิเร อุปคนฺตุํ น วฏฺฏติ, มหนฺตสฺส ปน รุกฺขสุสิรสฺส อนฺโต ปทรจฺฉทนํ กุฏิกํ กตฺวา ปวิสนทฺวารํ โยเชตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ, รุกฺขํ ฉินฺทิตฺวา ขาณุกมตฺถเก ปทรจฺฉทนํ กุฏิกํ กตฺวาปิ วฏฺฏติเยว. ‘‘น, ภิกฺขเว, รุกฺขวิฏภิยา’’ติ(มหาว. ๒๐๔) อาทิวจนโต สุทฺเธ วิฏภิมตฺเต อุปคนฺตุํ น วฏฺฏติ, มหาวิฏเป ปน อฏฺฏกํ พนฺธิตฺวา ตตฺถ ปทรจฺฉทนํ กุฏิกํ กตฺวา ทฺวารํ โยเชตฺวา อุปคนฺตพฺพํ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วเช วสฺสํ อุปคนฺตุ’’นฺติอาทิวจนโต วเช สตฺเถ นาวายฺจ อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ. ตตฺถ วโชติ โคปาลกานํ นิวาสฏฺานํ. วเช วุฏฺิเต วเชน สทฺธึ คตสฺส วสฺสจฺเฉเท อนาปตฺติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เยน วโช, เตน คนฺตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๐๓) วุตฺตตฺตา. สตฺเถ วสฺสํ อุปคจฺฉนฺเตน ปน วสฺสูปนายิกทิวเส อุปาสกา วตฺตพฺพา ‘‘กุฏิกา ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ. สเจ กริตฺวา เทนฺติ, ตตฺถ ปวิสิตฺวา ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ. โน เจ เทนฺติ, สาลาสงฺเขเปน ิตสกฏสฺส เหฏฺา อุปคนฺตพฺพํ. ตมฺปิ อลภนฺเตน อาลโย กาตพฺโพ, สตฺเถ ปน วสฺสํ อุปคนฺตุํ น วฏฺฏติ. อาลโย นาม ‘‘อิธ วสฺสํ วสิสฺสามี’’ติ จิตฺตุปฺปาทมตฺตํ. สเจ มคฺคปฺปฏิปนฺเนเยว สตฺเถ ปวารณาทิวโส โหติ, ตตฺเถว ปวาเรตพฺพํ. อถ สตฺโถ อนฺโตวสฺเสเยว ภิกฺขุนา ปตฺถิตฏฺานํ ปตฺวา อติกฺกมติ, ปตฺถิตฏฺาเน วสิตฺวา ตตฺถ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปวาเรตพฺพํ. อถาปิ สตฺโถ อนฺโตวสฺเสเยว อนฺตรา เอกสฺมึ คาเม ติฏฺติ วา วิปฺปกิรติ วา, ตสฺมึเยว คาเม ภิกฺขูหิ สทฺธึ วสิตฺวา ปวาเรตพฺพํ, อปฺปวาเรตฺวา ตโต ปรํ คนฺตุํ น วฏฺฏติ. นาวาย วสฺสํ อุปคจฺฉนฺเตนปิ กุฏิยํเยว อุปคนฺตพฺพํ, ปริเยสิตฺวา อลภนฺเตน อาลโย กาตพฺโพ. สเจ อนฺโตเตมาสํ นาวา สมุทฺเทเยว โหติ, ตตฺเถว ปวาเรตพฺพํ. อถ นาวา กูลํ ลภติ, อยฺจ ปรโต คนฺตุกาโม โหติ, คนฺตุํ น วฏฺฏติ, นาวาย ลทฺธคาเมเยว วสิตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปวาเรตพฺพํ. สเจปิ นาวา อนุตีรเมว อฺตฺถ คจฺฉติ, ภิกฺขุ จ ปมํ ลทฺธคาเมเยว วสิตุกาโม, นาวา คจฺฉตุ, ภิกฺขุนา ตตฺเถว วสิตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปวาเรตพฺพํ. อิติ วเช สตฺเถ นาวายนฺติ ตีสุ าเนสุ นตฺถิ วสฺสจฺเฉเท อาปตฺติ, ปวาเรตุฺจ ลภติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปุริมํ วา เตมาสํ ปจฺฉิมํ วา เตมาสํ อวสิตฺวา จาริกา ปกฺกมิตพฺพา, โย ปกฺกเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๘๖) วจนโต ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคเตน ปุริมํ เตมาสํ, ปจฺฉิมิกาย อุปคเตน ปจฺฉิมํ เตมาสํ อวสิตฺวา จาริกา น ปกฺกมิตพฺพา, วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปน อรุณํ อนุฏฺาเปตฺวาปิ ตทเหว สตฺตาหกรณีเยน ปกฺกมนฺตสฺสปิ อนฺโตสตฺตาเห นิวตฺตนฺตสฺส อนาปตฺติ, โก ปน วาโท ทฺวีหตีหํ วสิตฺวา สตฺตาหกรณีเยน ปกฺกมนฺตสฺส อนฺโตสตฺตาเห นิวตฺตนฺตสฺส.

๑๘๐. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สตฺตนฺนํ สตฺตาหกรณีเยน ปหิเต คนฺตุํ, น ตฺเวว อปฺปหิเต. ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุนิยา สิกฺขมานาย สามเณรสฺส สามเณริยา อุปาสกสฺส อุปาสิกายา’’ติ (มหาว. ๑๘๗) วจนโต ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ อฺตเรน สงฺฆคณปุคฺคเล อุทฺทิสฺส อตฺตโน วา อตฺถาย วิหารํ อฑฺฒโยคํ ปาสาทํ หมฺมิยํ คุหํ ปริเวณํ โกฏฺกํ อุปฏฺานสาลํ อคฺคิสาลํ กปฺปิยกุฏึ วจฺจกุฏึ จงฺกมํ จงฺกมนสาลํ อุทปานํ อุทปานสาลํ ชนฺตาฆรํ ชนฺตาฆรสาลํ โปกฺขรณึ มณฺฑปํ อารามํ อารามวตฺถุํ วา กาเรตฺวา ‘‘อาคจฺฉนฺตุ ภิกฺขู, อิจฺฉามิ ทานฺจ ทาตุํ ธมฺมฺจ โสตุํ ภิกฺขู จ ปสฺสิตุ’’นฺติ เอวํ นิทฺทิสิตฺวา เปสิเต คนฺตพฺพํ สตฺตาหกรณีเยน, น ตฺเวว อปฺปหิเต. อุปาสโก วา อุปาสิกา วา ตเถว สงฺฆคณปุคฺคเล อุทฺทิสฺส วิหาราทีสุ อฺตรํ กาเรตฺวา อตฺตโน วา อตฺถาย นิเวสนสยนิฆราทีสุ อฺตรํ การาเปตฺวา อฺํ วา กิจฺจกรณียํ นิทฺทิสิตฺวา คิลาโน วา หุตฺวา ภิกฺขูนํ สนฺติเก ทูตํ ปหิเณยฺย ‘‘อาคจฺฉนฺตุ ภทนฺตา, อิจฺฉามิ ทานฺจ ทาตุํ ธมฺมฺจ โสตุํ ภิกฺขู จ ปสฺสิตุ’’นฺติ, คนฺตพฺพํ สตฺตาหกรณีเยน, น ตฺเวว อปฺปหิเต.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สตฺตนฺนํ สตฺตาหกรณีเยน อปฺปหิเตปิ คนฺตุํ, ปเคว ปหิเต. ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุนิยา สิกฺขมานาย สามเณรสฺส สามเณริยา มาตุยา จ ปิตุสฺส จา’’ติ (มหาว. ๑๙๘) วจนโต ‘‘คิลานานํ เอเตสํ ภิกฺขุอาทีนํ สหธมฺมิกานํ มาตาปิตูนฺจ คิลานานํเยว คิลานภตฺตํ วา คิลานุปฏฺากภตฺตํ วา เภสชฺชํ วา ปริเยสิสฺสามิ, ปุจฺฉิสฺสามิ วา อุปฏฺหิสฺสามิ วา’’ติ อิมินา การเณน อปฺปหิเตปิ คนฺตพฺพํ, ปเคว ปหิเต. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘เย มาตาปิตูนํ อุปฏฺากา าตกา วา อฺาตกา วา, เตสมฺปิ อปฺปหิเต คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ เนว อฏฺกถายํ, น ปาฬิยํ วุตฺตํ, ตสฺมา น คเหตพฺพํ.

สเจ ปน ภิกฺขุโน ภาตา วา อฺโ วา าตโก คิลาโน โหติ, โส เจ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก ทูตํ ปหิเณยฺย ‘‘อหํ คิลาโน, อาคจฺฉตุ ภทนฺโต, อิจฺฉามิ ภทนฺตสฺส อาคต’’นฺติ, คนฺตพฺพํ สตฺตาหกรณีเยน, น ตฺเวว อปฺปหิเต. สเจ เอกสฺมึ วิหาเร ภิกฺขูหิ สทฺธึ วสนฺโต ภิกฺขุภตฺติโก คิลาโน โหติ, โส เจ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ทูตํ ปหิเณยฺย ‘‘อหํ คิลาโน, อาคจฺฉนฺตุ ภิกฺขู, อิจฺฉามิ ภิกฺขูนํ อาคต’’นฺติ, คนฺตพฺพํ สตฺตาหกรณีเยน, น ตฺเวว อปฺปหิเต.

สเจ ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุนิยา สิกฺขมานาย สามเณรสฺส สามเณริยา อนภิรติ วา กุกฺกุจฺจํ วา ทิฏฺิคตํ วา อุปฺปนฺนํ โหติ, คนฺตพฺพํ สตฺตาหกรณีเยน อปฺปหิเตปิ ‘‘อนภิรตึ วูปกาเสสฺสามิ วา วูปกาสาเปสฺสามิ วา กุมฺกุจฺจํ วิโนเทสฺสามิ วา วิโนทาเปสฺสามิ วา ทิฏฺิคตํ วิเวเจสฺสามิ วา วิเวจาเปสฺสามิ วา ธมฺมกถํ วา กริสฺสามี’’ติ, ปเคว ปหิเต. สเจ โกจิ ภิกฺขุ ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน โหติ ปริวาสารโห มูลายปฏิกสฺสนารโห มานตฺตารโห อพฺภานารโห วา, อปฺปหิเตปิ คนฺตพฺพํ ‘‘ปริวาสทานาทีสุ อุสฺสุกฺกํ อาปชฺชิสฺสามิ, อนุสฺสาเวสฺสามิ, คณปูรโก วา ภวิสฺสามี’’ติ, ปเคว ปหิเต. ภิกฺขุนิยาปิ มานตฺตารหาย มูลายปฏิกสฺสนารหาย อพฺภานารหาย วา เอเสว นโย. สเจ สามเณโร อุปสมฺปชฺชิตุกาโม โหติ, วสฺสํ วา ปุจฺฉิตุกาโม, สิกฺขมานา วา อุปสมฺปชฺชิตุกามา โหติ, สิกฺขา วาสฺสา กุปิตา, สามเณรี วา สิกฺขา สมาทิยิตุกามา โหติ, วสฺสํ วา ปุจฺฉิตุกามา, อปฺปหิเตปิ คนฺตพฺพํ, ปเคว ปหิเต.

สเจ ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุนิยา วา สงฺโฆ กมฺมํ กาตุกาโม โหติ, ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา ปพฺพาชนียํ วา ปฏิสารณียํ วา อุกฺเขปนียํ วา, อปฺปหิเตปิ คนฺตพฺพํ, ปเคว ปหิเต ‘‘กึ นุ โข สงฺโฆ กมฺมํ น กเรยฺย, ลหุกาย วา ปริณาเมยฺยา’’ติ. สเจปิ กตํเยว โหติ กมฺมํ, อปฺปหิเตปิ คนฺตพฺพํ ‘‘กึ นุ โข สมฺมา วตฺเตยฺย, โลมํ ปาเตยฺย, เนตฺถารํ วตฺเตยฺย, สงฺโฆ ตํ กมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภยฺยา’’ติ.

๑๘๑. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สงฺฆกรณีเยน คนฺตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๙๙) วจนโต เสนาสนปฏิพทฺธสงฺฆกรณีเยนปิ คนฺตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๙๙) หิ ยํ กิฺจิ อุโปสถาคาราทีสุ เสนาสเนสุ เจติยฉตฺตเวทิกาทีสุ วา กตฺตพฺพํ, อนฺตมโส ภิกฺขุโน ปุคฺคลิกเสนาสนมฺปิ สพฺพํ สงฺฆกรณียเมวาติ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา ตสฺส นิปฺผาทนตฺถํ ทพฺพสมฺภาราทีนิ วา อาหริตุํ วฑฺฒกีปภุตีนํ ภตฺตเวตนาทีนิ วา ทาตุํ คนฺตพฺพํ. อปิเจตฺถ อยมฺปิ ปาฬิมุตฺตกนโย เวทิตพฺโพ – ธมฺมสฺสวนตฺถาย อนิมนฺติเตน คนฺตุํ น วฏฺฏติ, สเจ เอกสฺมึ มหาวาเส ปมํเยว กติกา กตา โหติ ‘‘อสุกทิวสํ นาม สนฺนิปติตพฺพ’’นฺติ, นิมนฺติโตเยว นาม โหติ, คนฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ภณฺฑกํ โธวิสฺสามี’’ติ คนฺตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน อาจริยุปชฺฌายา ปหิณนฺติ, วฏฺฏติ. นาติทูเร วิหาโร โหติ, ‘‘ตตฺถ คนฺตฺวา อชฺเชว อาคมิสฺสามี’’ติ สมฺปาปุณิตุํ น สกฺโกติ, วฏฺฏติ. อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนํ อตฺถายปิ คนฺตุํ น ลภติ, ‘‘อาจริยํ ปน ปสฺสิสฺสามี’’ติ คนฺตุํ ลภติ. สเจ นํ อาจริโย ‘‘อชฺช มา คจฺฉา’’ติ วทติ, วฏฺฏติ, อุปฏฺากกุลํ วา าติกุลํ วา ทสฺสนาย คนฺตุํ น ลภติ.

สเจ ภิกฺขูสุ วสฺสูปคเตสุ คาโม โจเรหิ วุฏฺาติ, ตตฺถ กึ กาตพฺพนฺติ? เยน คาโม, เตน คนฺตพฺพํ. สเจ คาโม ทฺวิธา ภิชฺชติ, ยตฺถ พหุตรา มนุสฺสา, ตตฺถ คนฺตพฺพํ. สเจ พหุตรา อสฺสทฺธา โหนฺติ อปฺปสนฺนา, ยตฺถ สทฺธา ปสนฺนา, ตตฺถ คนฺตพฺพํ. เอตฺถ จ สเจ คาโม อวิทูรคโต โหติ, ตตฺถ ปิณฺฑาย จริตฺวา วิหารเมว อาคนฺตฺวา วสิตพฺพํ. สเจ ทูรํ คโต, สตฺตาหวาเรน อรุโณ อุฏฺาเปตพฺโพ, น สกฺกา เจ โหติ, ตตฺเถว สภาคฏฺาเน วสิตพฺพํ. สเจ มนุสฺสา ยถาปวตฺตานิ สลากภตฺตาทีนิ เทนฺติ, ‘‘น มยํ ตสฺมึ วิหาเร วสิมฺหา’’ติ วตฺตพฺพา. ‘‘มยํ วิหารสฺส วา ปาสาทสฺส วา น เทม, ตุมฺหากํ เทม, ยตฺถ กตฺถจิ วสิตฺวา ภุฺชถา’’ติ วุตฺเต ปน ยถาสุขํ ภุฺชิตพฺพํ, เตสํเยว ตํ ปาปุณาติ. ‘‘ตุมฺหากํ วสนฏฺาเน ปาปุณาเปตฺวา ภุฺชถา’’ติ วุตฺเต ปน ยตฺถ วสนฺติ, ตตฺถ เนตฺวา วสฺสคฺเคน ปาปุณาเปตฺวา ภุฺชิตพฺพํ. สเจ ปวาริตกาเล วสฺสาวาสิกํ เทนฺติ, ยทิ สตฺตาหวาเรน อรุณํ อุฏฺาปยึสุ, คเหตพฺพํ. ฉินฺนวสฺเสหิ ปน ‘‘น มยํ ตตฺถ วสิมฺห, ฉินฺนวสฺสา มย’’นฺติ วตฺตพฺพํ. ยทิ ‘‘เยสํ อมฺหากํ เสนาสนํ ปาปิตํ, เต คณฺหนฺตู’’ติ วทนฺติ, คเหตพฺพํ. ยํ ปน ‘‘วิหาเร อุปนิกฺขิตฺตกํ มา วินสฺสี’’ติ อิธ อาหฏํ จีวราทิเวภงฺคิยภณฺฑํ, ตํ ตตฺเถว คนฺตฺวา อปโลเกตฺวา ภาเชตพฺพํ. ‘‘อิโต อยฺยานํ จตฺตาโร ปจฺจเย เทถา’’ติ กปฺปิยการกานํ ทินฺเน เขตฺตวตฺถุอาทิเก ตตฺรุปฺปาเทปิ เอเสว นโย. สงฺฆิกฺหิ เวภงฺคิยภณฺฑํ อนฺโตวิหาเร วา พหิสีมาย วา โหตุ, พหิสีมาย ิตานํ อปโลเกตฺวา ภาเชตุํ น วฏฺฏติ. อุภยตฺถ ิตมฺปิ ปน อนฺโตสีมาย ิตานํ อปโลเกตฺวา ภาเชตุํ วฏฺฏติเยว.

สเจ ปน วสฺสูปคตา ภิกฺขู วาเฬหิ อุพฺพาฬฺหา โหนฺติ, คณฺหนฺติปิ ปริปาเตนฺติปิ, สรีสเปหิ วา อุพฺพาฬฺหา โหนฺติ, ฑํสนฺติปิ ปริปาเตนฺติปิ, โจเรหิ วา อุพฺพาฬฺหา โหนฺติ, วิลุมฺปนฺติปิ อาโกเฏนฺติปิ, ปิสาเจหิ วา อุพฺพาฬฺหา โหนฺติ, อาวิสนฺติปิ หนนฺติปิ, ‘‘เอเสว อนฺตราโย’’ติ ปกฺกมิตพฺพํ, นตฺถิ วสฺสจฺเฉเท อาปตฺติ. สเจ คาโม อคฺคินา วา ทฑฺโฒ โหติ, อุทเกน วา วุฬฺโห. ภิกฺขู ปิณฺฑเกน กิลมนฺติ, ‘‘เอเสว อนฺตราโย’’ติ ปกฺกมิตพฺพํ, วสฺสจฺเฉเท อนาปตฺติ. เสนาสนํ อคฺคินา วา ทฑฺฒํ โหติ, อุทเกน วา วุฬฺหํ, ภิกฺขู เสนาสเนน กิลมนฺติ, ‘‘เอเสว อนฺตราโย’’ติ ปกฺกมิตพฺพํ, วสฺสจฺเฉเท อนาปตฺติ. สเจ วสฺสูปคตา ภิกฺขู น ลภนฺติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ, ‘‘เอเสว อนฺตราโย’’ติ ปกฺกมิตพฺพํ. สเจ ลภนฺติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ, น ลภนฺติ สปฺปายานิ โภชนานิ, ‘‘เอเสว อนฺตราโย’’ติ ปกฺกมิตพฺพํ. สเจปิ ลภนฺติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ, ลภนฺติ สปฺปายานิ โภชนานิ, น ลภนฺติ สปฺปายานิ เภสชฺชานิ, ‘‘เอเสว อนฺตราโย’’ติ ปกฺกมิตพฺพํ. สเจ ลภนฺติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ, ลภนฺติ สปฺปายานิ โภชนานิ, ลภนฺติ สปฺปายานิ เภสชฺชานิ, น ลภนฺติ ปติรูปํ อุปฏฺากํ, ‘‘เอเสว อนฺตราโย’’ติ ปกฺกมิตพฺพํ, สพฺพตฺถ วสฺสจฺเฉเท อนาปตฺติ.

สเจ ปน วสฺสูปคตํ ภิกฺขุํ อิตฺถี นิมนฺเตติ ‘‘เอหิ, ภนฺเต, หิรฺํ วา เต เทมิ, สุวณฺณํ วา เขตฺตํ วา วตฺถุํ วา คาวุํ วา คาวึ วา ทาสํ วา ทาสึ วา เต เทมิ, ธีตรํ วา เต เทมิ ภริยตฺถาย, อหํ วา เต ภริยา โหมิ, อฺํ วา เต ภริยํ อาเนมี’’ติ, ตตฺร เจ ภิกฺขุโน เอวํ โหติ ‘‘ลหุปริวตฺตํ โข จิตฺตํ วุตฺตํ ภควตา, สิยาปิเม พฺรหฺมจริยสฺส อนฺตราโย’’ติ, ปกฺกมิตพฺพํ, นตฺถิ วสฺสจฺเฉเท อาปตฺติ. วุตฺตนเยเนว เวสี วา นิมนฺเตติ, ถุลฺลกุมารี วา นิมนฺเตติ, ปณฺฑโก วา นิมนฺเตติ, าตกา วา นิมนฺเตนฺติ, ราชาโน วา นิมนฺเตนฺติ, โจรา วา นิมนฺเตนฺติ, ธุตฺตา วา นิมนฺเตนฺติ, เอเสว นโย. สเจ วสฺสูปคโต ภิกฺขุ ปสฺสติ อสามิกํ นิธึ, ตตฺร เจ ภิกฺขุโน เอวํ โหติ ‘‘ลหุปริวตฺตํ โข จิตฺตํ วุตฺตํ ภควตา, สิยาปิ เม พฺรหฺมจริยสฺส อนฺตราโย’’ติ, ปกฺกมิตพฺพํ, อนาปตฺติ วสฺสจฺเฉเท.

สเจ วสฺสูปคโต ภิกฺขุ ปสฺสติ สมฺพหุเล ภิกฺขู สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนฺเต, สุณาติ วา ‘‘สมฺพหุลา ภิกฺขู สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนฺตี’’ติ, ตตฺร เจ ภิกฺขุโน เอวํ โหติ ‘‘ครุโก โข สงฺฆเภโท วุตฺโต ภควตา, มา มยิ สมฺมุขีภูเต สงฺโฆ ภิชฺชี’’ติ, ปกฺกมิตพฺพํ, อนาปตฺติ วสฺสจฺเฉเท. สเจ วสฺสูปคโต ภิกฺขุ สุณาติ ‘‘อสุกสฺมึ กิร อาวาเส สมฺพหุลา ภิกฺขู สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนฺตี’’ติ, ตตฺร เจ ภิกฺขุโน เอวํ โหติ ‘‘เต จ โข เม ภิกฺขู มิตฺตา, ตฺยาหํ วกฺขามิ ‘ครุโก โข, อาวุโส, สงฺฆเภโท วุตฺโต ภควตา, มา อายสฺมนฺตานํ สงฺฆเภโท รุจฺจิตฺถา’ติ, กริสฺสนฺติ เม วจนํ สุสฺสูสิสฺสนฺติ, โสตํ โอทหิสฺสนฺตี’’ติ, ปกฺกมิตพฺพํ, อนาปตฺติ วสฺสจฺเฉเท, ภินฺเน ปน สงฺเฆ คนฺตฺวา กรณียํ นตฺถิ.

สเจ ปน โกจิ ภิกฺขุ ‘‘อิมํ เตมาสํ อิธ วสฺสํ วสถา’’ติ วุตฺเต ปฏิสฺสุณิตฺวา วิสํวาเทติ, ทุกฺกฏํ. น เกวลํ ตสฺเสว ปฏิสฺสวสฺส วิสํวาเท ทุกฺกฏํ, ‘‘อิมํ เตมาสํ ภิกฺขํ คณฺหถ, อุโภปิ มยํ อิธ วสฺสํ วสิสฺสาม, เอกโต อุทฺทิสาเปสฺสามา’’ติ เอวมาทินาปิ ตสฺส ตสฺส ปฏิสฺสวสฺส วิสํวาเท ทุกฺกฏํ. ตฺจ โข ปมํ สุทฺธจิตฺตสฺส ปจฺฉา วิสํวาทนปจฺจยา, ปมมฺปิ อสุทฺธจิตฺตสฺส ปน ปฏิสฺสเว ปาจิตฺติยํ. วิสํวาเท ทุกฺกฏนฺติ ปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏํ ยุชฺชติ.

๑๘๒. วสฺสูปคเตหิ (จูฬว. อฏฺ. ๓๑๘) อนฺโตวสฺเส นิพทฺธวตฺตํ เปตฺวา วสฺสูปคตา ภิกฺขู ‘‘สมฺมุฺชนิโย พนฺธถา’’ติ วตฺตพฺพา. สุลภา เจ ทณฺฑกา เจว สลากาโย จ โหนฺติ, เอกเกน ฉ ปฺจ มุฏฺิสมฺมุฺชนิโย ทฺเว ติสฺโส ยฏฺิสมฺมุฺชนิโย วา พนฺธิตพฺพา. ทุลฺลภา โหนฺติ, ทฺเว ติสฺโส มุฏฺิสมฺมุฺชนิโย เอกา ยฏฺิสมฺมุฺชนี พนฺธิตพฺพา. สามเณเรหิ ปฺจ ปฺจ อุกฺกา วา โกฏฺเฏตพฺพา, วสนฏฺาเนสุ กสาวปริภณฺฑํ กาตพฺพํ. วตฺตํ กโรนฺเตหิ จ น อุทฺทิสิตพฺพํ น อุทฺทิสาเปตพฺพํ, น สชฺฌาโย กาตพฺโพ, น ปพฺพาเชตพฺพํ น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น ธมฺมสฺสวนํ กาตพฺพํ. สพฺเพว หิ เอเต ปปฺจา, นิปฺปปฺจา หุตฺวา สมณธมฺมเมว กริสฺสามาติ วา สพฺเพ เตรส ธุตงฺคานิ สมาทิยนฺตุ, เสยฺยํ อกปฺเปตฺวา านจงฺกเมหิ วีตินาเมนฺตุ, มูคพฺพตํ คณฺหนฺตุ, สตฺตาหกรณีเยน คตาปิ ภาชนียภณฺฑํ ลภนฺตูติ วา เอวรูปํ อธมฺมิกวตฺตํ น กาตพฺพํ. เอวํ ปน กาตพฺพํ – ปริยตฺติธมฺโม นาม ติวิธมฺปิ สทฺธมฺมํ ปติฏฺาเปติ, ตสฺมา สกฺกจฺจํ อุทฺทิสถ อุทฺทิสาเปถ, สชฺฌายํ กโรถ, ปธานฆเร วสนฺตานํ สงฺฆฏฺฏนํ อกตฺวา อนฺโตวิหาเร นิสีทิตฺวา อุทฺทิสถ อุทฺทิสาเปถ, สชฺฌายํ กโรถ, ธมฺมสฺสวนํ สมิทฺธํ กโรถ, ปพฺพาเชนฺตา โสเธตฺวา ปพฺพาเชถ, โสเธตฺวา อุปสมฺปาเทถ, โสเธตฺวา นิสฺสยํ เทถ. เอโกปิ หิ กุลปุตฺโต ปพฺพชฺชฺจ อุปสมฺปทฺจ ลภิตฺวา สกลํ สาสนํ ปติฏฺาเปติ, อตฺตโน ถาเมน ยตฺตกานิ สกฺโกถ, ตตฺตกานิ ธุตงฺคานิ สมาทิยถ, อนฺโตวสฺสํ นาเมตํ สกลทิวสํ รตฺติยา จ ปมยามปจฺฉิมยาเมสุ อปฺปมตฺเตหิ ภวิตพฺพํ, วีริยํ อารภิตพฺพํ. โปราณกมหาเถราปิ สพฺพปลิโพเธ ฉินฺทิตฺวา อนฺโตวสฺเส เอกจาริยวตฺตํ ปูรยึสุ, ภสฺเส มตฺตํ ชานิตฺวา ทสวตฺถุกถํ ทสอสุภทสานุสฺสติอฏฺตึสารมฺมณกถํ กาตุํ วฏฺฏติ, อาคนฺตุกานํ วตฺตํ กาตุํ, สตฺตาหกรณีเยน คตานํ อปโลเกตฺวา ทาตุํ วฏฺฏตีติ เอวรูปํ วตฺตํ กาตพฺพํ.

อปิจ ภิกฺขู โอวทิตพฺพา ‘‘วิคฺคาหิกปิสุณผรุสวจนานิ มา วทถ, ทิวเส ทิวเส สีลานิ อาวชฺเชนฺตา จตุรารกฺขํ อหาเปนฺตา มนสิการพหุลา วิหรถา’’ติ. ทนฺตกฏฺขาทนวตฺตํ อาจิกฺขิตพฺพํ, เจติยํ วา โพธึ วา วนฺทนฺเตน คนฺธมาลํ วา ปูเชนฺเตน ปตฺตํ วา ถวิกาย ปกฺขิปนฺเตน น กเถตพฺพํ, ภิกฺขาจารวตฺตํ อาจิกฺขิตพฺพํ, อนฺโตคาเม มนุสฺเสหิ สทฺธึ ปจฺจยสฺุตฺตกถา วา วิสภาคกถา วา น กเถตพฺพา, รกฺขิตินฺทฺริเยหิ ภวิตพฺพํ, ขนฺธกวตฺตฺจ เสขิยวตฺตฺจ ปูเรตพฺพนฺติ เอวรูปา พหุกาปิ นิยฺยานิกกถา อาจิกฺขิตพฺพาติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

วสฺสูปนายิกวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๒๗. อุปชฺฌายาทิวตฺตวินิจฺฉยกถา

๑๘๓. วตฺตนฺติ เอตฺถ ปน วตฺตํ นาเมตํ อุปชฺฌายวตฺตํ อาจริยวตฺตํ อาคนฺตุกวตฺตํ อาวาสิกวตฺตํ คมิกวตฺตํ ภตฺตคฺควตฺตํ ปิณฺฑจาริกวตฺตํ อารฺิกวตฺตํ เสนาสนวตฺตํ ชนฺตาฆรวตฺตํ วจฺจกุฏิวตฺตนฺติ พหุวิธํ. ตตฺถ อุปชฺฌายวตฺตํ ตาว เอวํ เวทิตพฺพํ – สทฺธิวิหาริเกน กาลสฺเสว อุฏฺาย อุปาหนา โอมุฺจิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุปชฺฌายสฺส ทนฺตกฏฺํ ทาตพฺพํ, มุโขทกํ ทาตพฺพํ. ตตฺถ ทนฺตกฏฺํ เทนฺเตน มหนฺตํ มชฺฌิมํ ขุทฺทกนฺติ ตีณิ ทนฺตกฏฺานิ อุปเนตฺวา อิโต ยํ ตีณิ ทิวสานิ คณฺหาติ, จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย ตาทิสเมว ทาตพฺพํ. สเจ อนิยมํ กตฺวา ยํ วา ตํ วา คณฺหาติ, อถ ยาทิสํ ลภติ, ตาทิสํ ทาตพฺพํ. มุโขทกํ เทนฺเตนปิ สีตฺจ อุณฺหฺจ อุทกํ อุปเนตฺวา ตโต ยํ ตีณิ ทิวสานิ วฬฺเชติ. จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย ตาทิสเมว มุขโธวโนทกํ ทาตพฺพํ. สเจ ทุวิธมฺปิ วฬฺเชติ, ทุวิธมฺปิ อุปเนตพฺพํ. อุทกํ มุขโธวนฏฺาเน เปตฺวา วจฺจกุฏิโต ปฏฺาย สมฺมชฺชิตพฺพํ. เถเร วจฺจกุฏิคเต ปริเวณํ สมฺมชฺชิตพฺพํ, เอวํ ปริเวณํ อสุฺํ โหติ. เถเร วจฺจกุฏิโต อนิกฺขนฺเตเยว อาสนํ ปฺเปตพฺพํ. สรีรกิจฺจํ กตฺวา อาคนฺตฺวา ตสฺมึ นิสินฺนสฺส สเจ ยาคุ โหติ, ภาชนํ โธวิตฺวา ยาคุ อุปนาเมตพฺพา, ยาคุํ ปิวิตสฺส อุทกํ ทตฺวา ภาชนํ ปฏิคฺคเหตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน โธวิตฺวา ปฏิสาเมตพฺพํ. อุปชฺฌายมฺหิ วุฏฺิเต อาสนํ อุทฺธริตพฺพํ. สเจ โส เทโส อุกฺลาโป โหติ เกนจิ กจวเรน สํกิณฺโณ, โส เทโส สมฺมชฺชิตพฺโพ. สเจ ปน อฺโ กจวโร นตฺถิ, อุทกผุสิตาเนว โหนฺติ, หตฺเถน ปมชฺชิตพฺโพ.

สเจ อุปชฺฌาโย คามํ ปวิสิตุกาโม โหติ, นิวาสนํ ทาตพฺพํ, ปฏินิวาสนํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, กายพนฺธนํ ทาตพฺพํ, สคุณํ กตฺวา สงฺฆาฏิโย ทาตพฺพา, โธวิตฺวา ปตฺโต สอุทโก ทาตพฺโพ. สเจ อุปชฺฌาโย ปจฺฉาสมณํ อากงฺขติ, ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺเตน ปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา สคุณํ กตฺวา สงฺฆาฏิโย ปารุปิตฺวา คณฺิกํ ปฏิมุฺจิตฺวา โธวิตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา อุปชฺฌายสฺส ปจฺฉาสมเณน โหตพฺพํ, นาติทูเร คนฺตพฺพํ, นาจฺจาสนฺเน คนฺตพฺพํ. เอตฺถ ปน สเจ อุปชฺฌายํ นิวตฺติตฺวา โอโลเกนฺตํ เอเกน วา ทฺวีหิ วา ปทวีติหาเรหิ สมฺปาปุณาติ, เอตฺตาวตา นาติทูเร นาจฺจาสนฺเน คโต โหตีติ เวทิตพฺพํ. สเจ อุปชฺฌาเยน ภิกฺขาจาเร ยาคุยา วา ภตฺเต วา ลทฺเธ ปตฺโต อุณฺโห วา ภาริโก วา โหติ, อตฺตโน ปตฺตํ ตสฺส ทตฺวา โส ปตฺโต คเหตพฺโพ, น อุปชฺฌายสฺส ภณมานสฺส อนฺตรนฺตรา กถา โอปาเตตพฺพา. อิโต ปฏฺาย ปน ยตฺถ ยตฺถ น-กาเรน ปฏิเสโธ กรียติ, สพฺพตฺถ ทุกฺกฏาปตฺติ เวทิตพฺพา. อุปชฺฌาโย อาปตฺติสามนฺตา ภณมาโน นิวาเรตพฺโพ. นิวาเรนฺเตน จ ‘‘ภนฺเต, อีทิสํ นาม วตฺตุํ วฏฺฏติ, อาปตฺติ น โหตี’’ติ เอวํ ปุจฺฉนฺเตน วิย วาเรตพฺโพ, ‘‘วาเรสฺสามี’’ติ ปน กตฺวา ‘‘มหลฺลก, มา เอวํ ภณา’’ติ น วตฺตพฺโพ.

สเจ อาสนฺเน คาโม โหติ, วิหาเร วา คิลาโน ภิกฺขุ โหติ, คามโต ปมตรํ อาคนฺตพฺพํ. สเจ ทูเร คาโม โหติ, อุปชฺฌาเยน สทฺธึ อาคจฺฉนฺโตปิ นตฺถิ, เตเนว สทฺธึ คามโต นิกฺขมิตฺวา จีวเรน ปตฺตํ เวเตฺวา อนฺตรามคฺคโต ปมตรํ อาคนฺตพฺพํ. เอวํ ปมตรํ อาคเตน อาสนํ ปฺเปตพฺพํ, ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ อุปนิกฺขิปิตพฺพํ, ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตจีวรํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, ปฏินิวาสนํ ทาตพฺพํ, นิวาสนํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ. สเจ จีวรํ เสทคฺคหิตํ โหติ, มุหุตฺตํ อุณฺเห โอตาเปตพฺพํ, น จ อุณฺเห จีวรํ นิทหิตพฺพํ, จีวรํ สงฺฆริตพฺพํ. จีวรํ สงฺฆรนฺเตน จ จตุรงฺคุลํ กณฺณํ อุสฺสาเรตฺวา จีวรํ สงฺฆริตพฺพํ. กึการณา? มา มชฺเฌ ภงฺโค อโหสีติ. สมํ กตฺวา สงฺฆริตสฺส หิ มชฺเฌ ภงฺโค โหติ, ตโต นิจฺจํ ภิชฺชมานํ ทุพฺพลํ โหติ, ตํ นิวารณตฺถเมตํ วุตฺตํ. ตสฺมา ยถา อชฺช ภงฺคฏฺาเนเยว สฺเว น ภิชฺชิสฺสติ, ตถา ทิวเส ทิวเส จตุรงฺคุลํ อุสฺสาเรตฺวา สงฺฆริตพฺพํ, โอโภเค กายพนฺธนํ กาตพฺพํ.

สเจ ปิณฺฑปาโต โหติ, อุปชฺฌาโย จ ภุฺชิตุกาโม โหติ, อุทกํ ทตฺวา ปิณฺฑปาโต อุปนาเมตพฺโพ, อุปชฺฌาโย ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพ. ปุจฺฉนฺเตน จ ติกฺขตฺตุํ ‘‘ปานียํ, ภนฺเต, อาหรียตู’’ติ ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพ. สเจ กาโล อตฺถิ, อุปชฺฌาเย ภุตฺเต สยํ ภุฺชิตพฺพํ. สเจ อุปกฏฺโ กาโล, ปานียํ อุปชฺฌายสฺส สนฺติเก เปตฺวา สยมฺปิ ภุฺชิตพฺพํ. ภุตฺตาวิสฺส อุทกํ ทตฺวา ปตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน โธวิตฺวา โวทกํ กตฺวา มุหุตฺตํ อุณฺเห โอตาเปตพฺโพ, น จ อุณฺเห ปตฺโต นิทหิตพฺโพ, ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ. ปตฺตํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน ปตฺตํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน เหฏฺามฺจํ วา เหฏฺาปีํ วา ปรามสิตฺวา ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ, น จ ตฏฺฏิกจมฺมขณฺฑาทีหิ อนนฺตรหิตาย ภูมิยา ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ. สเจ ปน กาฬวณฺณกตา วา สุธาพทฺธา วา ภูมิ โหติ นิรชมตฺติกา, ตถารูปาย ภูมิยา เปตุํ วฏฺฏติ, โธตวาลิกายปิ เปตุํ วฏฺฏติ, ปํสุรชสกฺขราทีสุ น วฏฺฏติ. ตตฺร ปน ปณฺณํ วา อาธารกํ วา เปตฺวา ตตฺร นิกฺขิปิตพฺโพ. จีวรํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน จีวรํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน จีวรวํสํ วา จีวรรชฺชุํ วา ปมชฺชิตฺวา ปารโต อนฺตํ โอรโต โภคํ กตฺวา จีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ. อิทฺจ จีวรวํสาทีนํ เหฏฺา หตฺถํ ปเวเสตฺวา อภิมุเขน หตฺเถน สณิกํ นิกฺขิปนตฺถํ วุตฺตํ. อนฺเต ปน คเหตฺวา โภเคน จีวรวํสาทีนํ อุปริ ขิปนฺตสฺส ภิตฺติยํ โภโค ปฏิหฺติ, ตสฺมา ตถา น กาตพฺพํ. อุปชฺฌายมฺหิ วุฏฺิเต อาสนํ อุทฺธริตพฺพํ, ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ ปฏิสาเมตพฺพํ. สเจ โส เทโส อุกฺลาโป โหติ, โส เทโส สมฺมชฺชิตพฺโพ.

สเจ อุปชฺฌาโย นหายิตุกาโม โหติ, นหานํ ปฏิยาเทตพฺพํ. สเจ สีเตน อตฺโถ โหติ, สีตํ ปฏิยาเทตพฺพํ. สเจ อุณฺเหน อตฺโถ โหติ, อุณฺหํ ปฏิยาเทตพฺพํ.

สเจ อุปชฺฌาโย ชนฺตาฆรํ ปวิสิตุกาโม โหติ, จุณฺณํ สนฺเนตพฺพํ, มตฺติกา เตเมตพฺพา. ชนฺตาฆรปีํ อาทาย อุปชฺฌายสฺส ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต คนฺตฺวา ชนฺตาฆรปีํ ทตฺวา จีวรํ ปฏิคฺคเหตฺวา เอกมนฺเต นิทฺธูมฏฺาเน เปตพฺพํ, จุณฺณํ ทาตพฺพํ, มตฺติกา ทาตพฺพา. สเจ อุสฺสหติ, ชนฺตาฆรํ ปวิสิตพฺพํ, ปวิสนฺเตน มตฺติกาย มุขํ มกฺเขตฺวา ปุรโต จ ปจฺฉโต จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ชนฺตาฆรํ ปวิสิตพฺพํ. น เถเร ภิกฺขู อนุปขชฺช นิสีทิตพฺพํ, น นวา ภิกฺขู อาสเนน ปฏิพาหิตพฺพา, ชนฺตาฆเร อุปชฺฌายสฺส ปริกมฺมํ กาตพฺพํ. ชนฺตาฆเร ปริกมฺมํ นาม องฺคารมตฺติกาอุณฺโหทกทานาทิกํ สพฺพกิจฺจํ. ชนฺตาฆรา นิกฺขมนฺเตน ชนฺตาฆรปีํ อาทาย ปุรโต จ ปจฺฉโต จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ชนฺตาฆรา นิกฺขมิตพฺพํ.

อุทเกปิ อุปชฺฌายสฺส องฺคปจฺจงฺคฆํสนาทิกํ ปริกมฺมํ กาตพฺพํ, นหาเตน ปมตรํ อุตฺตริตฺวา อตฺตโน คตฺตํ โวทกํ กตฺวา นิวาเสตฺวา อุปชฺฌายสฺส คตฺตโต อุทกํ ปมชฺชิตพฺพํ, นิวาสนํ ทาตพฺพํ, สงฺฆาฏิ ทาตพฺพา, ชนฺตาฆรปีํ อาทาย ปมตรํ อาคนฺตฺวา อาสนํ ปฺเปตพฺพํ, ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ อุปนิกฺขิปิตพฺพํ, อุปชฺฌาโย ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพ. ชนฺตาฆเร หิ อุณฺหสนฺตาเปน ปิปาสา โหติ. สเจ อุทฺทิสาเปตุกาโม โหติ, อุทฺทิสิตพฺโพ. สเจ ปริปุจฺฉิตุกาโม โหติ, ปริปุจฺฉิตพฺโพ.

ยสฺมึ วิหาเร อุปชฺฌาโย วิหรติ, สเจ โส วิหาโร อุกฺลาโป โหติ, สเจ อุสฺสหติ, เกนจิ เคลฺเน อนภิภูโต โหติ, โสเธตพฺโพ. อคิลาเนน หิ สทฺธิวิหาริเกน สฏฺิวสฺเสนปิ สพฺพํ อุปชฺฌายวตฺตํ กาตพฺพํ, อนาทเรน อกโรนฺตสฺส วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ, น-การปฏิสํยุตฺเตสุ ปน ปเทสุ คิลานสฺสปิ ปฏิกฺขิตฺตกิริยํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. วิหารํ โสเธนฺเตน ปมํ ปตฺตจีวรํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ, นิสีทนปจฺจตฺถรณํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ, ภิสิพิมฺโพหนํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ, มฺโจ นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฏิฆํสนฺเตน อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปีํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺโพ, ปีํ นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฏิฆํสนฺเตน อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปีํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ, มฺจปฏิปาทกา นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพา, เขฬมลฺลโก นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺโพ, อปสฺเสนผลกํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. ภูมตฺถรณํ ยถาปฺตฺตํ สลฺลกฺเขตฺวา นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ วิหาเร สนฺตานกํ โหติ, อุลฺโลกา ปมํ โอหาเรตพฺพํ, อาโลกสนฺธิกณฺณภาคา ปมชฺชิตพฺพา. สเจ เครุกปริกมฺมกตา ภิตฺติ กณฺณกิตา โหติ, โจฬกํ เตเมตฺวา ปีเฬตฺวา ปมชฺชิตพฺพา. สเจ กาฬวณฺณกตา ภูมิ กณฺณกิตา โหติ, โจฬกํ เตเมตฺวา ปีเฬตฺวา ปมชฺชิตพฺพา. สเจ อกตา โหติ ภูมิ, อุทเกน ปริปฺโผสิตฺวา ปริปฺโผสิตฺวา สมฺมชฺชิตพฺพา ‘‘มา วิหาโร รเชน อุหฺี’’ติ, สงฺการํ วิจินิตฺวา เอกมนฺตํ ฉฑฺเฑตพฺพํ.

ภูมตฺถรณํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อภิหริตฺวา ยถา ปมํ ปฺตฺตํ อโหสิ, ตเถว ปฺเปตพฺพํ. เอตทตฺถเมว หิ ‘‘ยถาปฺตฺตํ สลฺลกฺเขตฺวา นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. สเจ ปน ปมํ อชานนฺเตน เกนจิ ปฺตฺตํ อโหสิ, สมนฺตโต ภิตฺตึ ทฺวงฺคุลมตฺเตน วา ติวงฺคุลมตฺเตน วา โมเจตฺวา ปฺเปตพฺพํ. อิทฺเหตฺถ ปฺาปนวตฺตํ – สเจ กฏสารโก โหติ อติมหนฺโต จ, ฉินฺทิตฺวา โกฏึ นิวตฺเตตฺวา พนฺธิตฺวา ปฺเปตพฺโพ. สเจ โกฏึ นิวตฺเตตฺวา พนฺธิตุํ น ชานาติ, น ฉินฺทิตพฺโพ. มฺจปฏิปาทกา โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา ยถาาเน เปตพฺพา, มฺโจ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฏิฆํสนฺเตน อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปีํ อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺโพ, ปีํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฏิฆํสนฺเตน อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปีํ อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ, ภิสิพิมฺโพหนํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ, นิสีทนปจฺจตฺถรณํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ, เขฬมลฺลโก โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาาเน เปตพฺโพ, อปสฺเสนผลกํ โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาาเน เปตพฺพํ. ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ, ปตฺตํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน ปตฺตํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน เหฏฺามฺจํ วา เหฏฺาปีํ วา ปรามสิตฺวา ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ, น จ อนนฺตรหิตาย ภูมิยา ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ. จีวรํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน จีวรํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน จีวรวํสํ วา จีวรรชฺชุํ วา ปมชฺชิตฺวา ปารโต อนฺตํ, โอรโต โภคํ กตฺวา จีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ.

สเจ ปุรตฺถิมา สรชา วาตา วายนฺติ, ปุรตฺถิมา วาตปานา ถเกตพฺพา. สเจ ปจฺฉิมา, อุตฺตรา, ทกฺขิณา สรชา วาตา วายนฺติ, ทกฺขิณา วาตปานา ถเกตพฺพา. สเจ สีตกาโล โหติ, ทิวา วาตปานา วิวริตพฺพา, รตฺตึ ถเกตพฺพา. สเจ อุณฺหกาโล โหติ, ทิวา ถเกตพฺพา, รตฺตึ วิวริตพฺพา.

สเจ อุกฺลาปํ โหติ, ปริเวณํ สมฺมชฺชิตพฺพํ, โกฏฺโก สมฺมชฺชิตพฺโพ, อุปฏฺานสาลา สมฺมชฺชิตพฺพา, อคฺคิสาลา สมฺมชฺชิตพฺพา, วจฺจกุฏิ สมฺมชฺชิตพฺพา, ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺเปตพฺพํ, อาจมนกุมฺภิยา อุทกํ อาสิฺจิตพฺพํ.

สเจ อุปชฺฌายสฺส อนภิรติ อุปฺปนฺนา โหติ, สทฺธิวิหาริเกน อฺตฺถ เนตพฺโพ, อฺโ วา ภิกฺขุ วตฺตพฺโพ ‘‘เถรํ คเหตฺวา อฺตฺถ คจฺฉา’’ติ, ธมฺมกถา วาสฺส กาตพฺพา. สเจ อุปชฺฌายสฺส กุกฺกุจฺจํ อุปฺปนฺนํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน วิโนเทตพฺพํ, อฺเน วา วิโนทาเปตพฺพํ ธมฺมกถา วาสฺส กาตพฺพา. สเจ อุปชฺฌายสฺส ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน วิสฺสชฺเชตพฺพํ, อฺโ วา วตฺตพฺโพ ‘‘เถรํ ทิฏฺิคตํ วิสฺสชฺชาเปหี’’ติ, ธมฺมกถา วาสฺส กาตพฺพา. สเจ อุปชฺฌาโย ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน โหติ ปริวาสารโห, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ, ปริวาสทานตฺถํ โส โส ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา ยาจิตพฺโพ. สเจ อตฺตนา ปฏิพโล โหติ, อตฺตนาว ทาตพฺโพ. โน เจ ปฏิพโล โหติ, อฺเน ทาเปตพฺโพ. สเจ อุปชฺฌาโย มูลายปฏิกสฺสนารโห โหติ มานตฺตารโห อพฺภานารโห วา, วุตฺตนเยเนว อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ. สเจ สงฺโฆ อุปชฺฌายสฺส กมฺมํ กตฺตุกาโม โหติ ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา ปพฺพาชนียํ วา ปฏิสารณียํ วา อุกฺเขปนียํ วา, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ ‘‘เกน นุ โข อุปาเยน สงฺโฆ อุปชฺฌายสฺส กมฺมํ น กเรยฺย, ลหุกาย วา ปริณาเมยฺยา’’ติ. สทฺธิวิหาริเกน หิ ‘‘อุปชฺฌายสฺส อุกฺเขปนียกมฺมํ กตฺตุกาโม สงฺโฆ’’ติ ตฺวา เอกเมกํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘มา, ภนฺเต, อมฺหากํ อุปชฺฌายสฺส กมฺมํ กริตฺถา’’ติ ยาจิตพฺพา. สเจ กโรนฺติเยว, ‘‘ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา ลหุกกมฺมํ กโรถา’’ติ ยาจิตพฺพา. สเจ กโรนฺติเยว, อถ อุปชฺฌาโย ‘‘สมฺมา วตฺตถ, ภนฺเต’’ติ ยาจิตพฺโพ. อิติ ตํ สมฺมา วตฺตาเปตฺวา ‘‘ปฏิปฺปสฺสมฺเภถ, ภนฺเต, กมฺม’’นฺติ ภิกฺขู ยาจิตพฺพา.

สเจ อุปชฺฌายสฺส จีวรํ โธวิตพฺพํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน โธวิตพฺพํ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ ‘‘กินฺติ นุ โข อุปชฺฌายสฺส จีวรํ โธวิเยถา’’ติ. สเจ อุปชฺฌายสฺส จีวรํ กาตพฺพํ โหติ, รชนํ วา ปจิตพฺพํ, จีวรํ วา รเชตพฺพํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน สพฺพํ กาตพฺพํ, อุสฺสกฺกํ วา กาตพฺพํ ‘‘กินฺติ นุ โข อุปชฺฌายสฺส จีวรํ รชิเยถา’’ติ. จีวรํ รชนฺเตน สาธุกํ สํปริวตฺเตตฺวา รเชตพฺพํ, น จ อจฺฉินฺเน เถเว ปกฺกมิตพฺพํ.

น อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉา เอกจฺจสฺส ปตฺโต ทาตพฺโพ, น เอกจฺจสฺส ปตฺโต ปฏิคฺคเหตพฺโพ, น เอกจฺจสฺส จีวรํ ทาตพฺพํ, น เอกจฺจสฺส จีวรํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, น เอกจฺจสฺส ปริกฺขาโร ทาตพฺโพ, น เอกจฺจสฺส ปริกฺขาโร ปฏิคฺคเหตพฺโพ, น เอกจฺจสฺส เกสา เฉเทตพฺพา, น เอกจฺเจน เกสา เฉทาเปตพฺพา, น เอกจฺจสฺส ปริกมฺมํ กาตพฺพํ, น เอกจฺเจน ปริกมฺมํ การาเปตพฺพํ, น เอกจฺจสฺส เวยฺยาวจฺโจ กาตพฺโพ, น เอกจฺเจน เวยฺยาวจฺโจ การาเปตพฺโพ, น เอกจฺจสฺส ปจฺฉาสมเณน โหตพฺพํ, น เอกจฺโจ ปจฺฉาสมโณ อาทาตพฺโพ, น เอกจฺจสฺส ปิณฺฑปาโต นีหริตพฺโพ, น เอกจฺเจน ปิณฺฑปาโต นีหราเปตพฺโพ, น อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉา คาโม ปวิสิตพฺโพ, ปิณฺฑาย วา อฺเน วา กรณีเยน ปวิสิตุกาเมน อาปุจฺฉิตฺวาว ปวิสิตพฺโพ. สเจ อุปชฺฌาโย กาลสฺเสว วุฏฺาย ทูรํ ภิกฺขาจารํ คนฺตุกาโม โหติ, ‘‘ทหรา ปิณฺฑาย ปวิสนฺตู’’ติ วตฺวา คนฺตพฺพํ. อวตฺวา คเต ปริเวณํ คนฺตฺวา อุปชฺฌายํ อปสฺสนฺเตน คามํ ปวิสิตุํ วฏฺฏติ. สเจ คามํ ปวิสนฺโตปิ ปสฺสติ, ทิฏฺฏฺานโต ปฏฺาย อาปุจฺฉิตุํเยว วฏฺฏติ. น อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉา วาสตฺถาย วา อสุภทสฺสนตฺถาย วา สุสานํ คนฺตพฺพํ, น ทิสา ปกฺกมิตพฺพา, ปกฺกมิตุกาเมน ปน กมฺมํ อาจิกฺขิตฺวา ยาวตติยํ ยาจิตพฺโพ. สเจ อนุชานาติ, สาธุ, โน เจ อนุชานาติ, ตํ นิสฺสาย วสโต จสฺส อุทฺเทโส วา ปริปุจฺฉา วา กมฺมฏฺานํ วา น สมฺปชฺชติ, อุปชฺฌาโย พาโล โหติ อพฺยตฺโต, เกวลํ อตฺตโน สนฺติเก วสาเปตุกามตาย เอว คนฺตุํ น เทติ, เอวรูเป นิวาเรนฺเตปิ คนฺตุํ วฏฺฏติ. สเจ อุปชฺฌาโย คิลาโน โหติ, ยาวชีวํ อุปฏฺาเปตพฺโพ, วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพํ, น กตฺถจิ คนฺตพฺพํ. สเจ อฺโ ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อตฺถิ, เภสชฺชํ ปริเยสิตฺวา ตสฺส หตฺเถ ทตฺวา ‘‘ภนฺเต, อยํ อุปฏฺหิสฺสตี’’ติ วตฺวา คนฺตพฺพํ. อิทํ ตาว อุปชฺฌายวตฺตํ.

๑๘๔. อิทเมว จ อนฺเตวาสิเกน อาจริยสฺส กตฺตพฺพตฺตา อาจริยวตฺตนฺติ วุจฺจติ. นามมตฺตเมว เหตฺถ นานํ. ตตฺถ ยาว จีวรรชนํ, ตาว วตฺเต อกริยมาเน อุปชฺฌายสฺส อาจริยสฺส จ ปริหานิ โหติ, ตสฺมา ตํ อกโรนฺตสฺส นิสฺสยมุตฺตกสฺสปิ อมุตฺตกสฺสปิ อาปตฺติเยว, เอกจฺจสฺส ปตฺตทานโต ปฏฺาย อมุตฺตนิสฺสยสฺเสว อาปตฺติ. อุปชฺฌาเย อาจริเย วา วตฺตํ สาทิยนฺเต สทฺธิวิหาริกา อนฺเตวาสิกา จ พหุกาปิ โหนฺตุ, สพฺเพสํ อาปตฺติ. สเจ อุปชฺฌาโย อาจริโย วา ‘‘มยฺหํ อุปฏฺาโก อตฺถิ, ตุมฺเห อตฺตโน สชฺฌายมนสิการาทีสุ โยคํ กโรถา’’ติ วทติ, สทฺธิวิหาริกาทีนํ อนาปตฺติ. อุปชฺฌาโย วา อาจริโย วา สเจ สาทิยนํ วา อสาทิยนํ วา น ชานาติ, พาโล โหติ, สทฺธิวิหาริกาทโย พหู, เตสุ เอโก วตฺตสมฺปนฺโน ภิกฺขุ ‘‘อุปชฺฌายสฺส วา อาจริยสฺส วา กิจฺจํ อหํ กริสฺสามิ, ตุมฺเห อปฺโปสฺสุกฺกา วิหรถา’’ติ เอวฺเจ อตฺตโน ภารํ กตฺวา อิตเร วิสฺสชฺเชติ, ตสฺส ภารกรณโต ปฏฺาย เตสํ อนาปตฺติ. เอตฺถ อนฺเตวาสิเกสุ ปน นิสฺสยนฺเตวาสิเกน ยาว อาจริยํ นิสฺสาย วสติ, ตาว สพฺพํ อาจริยวตฺตํ กาตพฺพํ. ปพฺพชฺชอุปสมฺปทธมฺมนฺเตวาสิเกหิ ปน นิสฺสยมุตฺตเกหิปิ อาทิโต ปฏฺาย ยาว จีวรรชนํ, ตาว วตฺตํ กาตพฺพํ. อนาปุจฺฉิตฺวา ปตฺตทานาทิมฺหิ ปน เอเตสํ อนาปตฺติ.

เอเตสุ ปพฺพชฺชนฺเตวาสิโก จ อุปสมฺปทนฺเตวาสิโก จ อาจริยสฺส ยาวชีวํ ภารา. นิสฺสยนฺเตวาสิโก จ ธมฺมนฺเตวาสิโก จ ยาว สมีเป วสนฺติ, ตาว อาจริยุปชฺฌาเยหิปิ อนฺเตวาสิกสทฺธิวิหาริกา สงฺคเหตพฺพา อนุคฺคเหตพฺพา อุทฺเทเสน ปริปุจฺฉาย โอวาเทน อนุสาสนิยา. สเจ อนฺเตวาสิกสทฺธิวิหาริกานํ ปตฺโต วา จีวรํ วา อฺโ วา โกจิ ปริกฺขาโร นตฺถิ, อตฺตโน อติเรกปตฺตจีวรํ อติเรกปริกฺขาโร วา อตฺถิ, ทาตพฺพํ. โน เจ, ธมฺมิเยน นเยน ปริเยสนตฺถาย อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ. สเจ อนฺเตวาสิกสทฺธิวิหาริกา คิลานา โหนฺติ, อุปชฺฌายวตฺเต วุตฺตนเยน ทนฺตกฏฺทานํ อาทึ กตฺวา อาจมนกุมฺภิยา อุทกสิฺจนปริโยสานํ สพฺพํ วตฺตํ กาตพฺพเมว, อกโรนฺตานํ อาปตฺติ. ตสฺมา อาจริยุปชฺฌาเยหิปิ อนฺเตวาสิกสทฺธิวิหาริเกสุ สมฺมา วตฺติตพฺพํ. อาจริยุปชฺฌายาทีสุ หิ โย โย น สมฺมา วตฺตติ, ตสฺส ตสฺส อาปตฺติ. อุปชฺฌายาทิวตฺตกถา.

๑๘๕. อิทานิ อาคนฺตุกวตฺตาทีนิ เวทิตพฺพานิ. อาคนฺตุเกน ภิกฺขุนา อุปจารสีมาสมีปํ คนฺตฺวา อุปาหนา โอมุฺจิตฺวา นีจํ กตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อุปาหนทณฺฑเกน คเหตฺวา ฉตฺตํ อุปนาเมตฺวา สีสํ วิวริตฺวา สีเส จีวรํ ขนฺเธ กริตฺวา สาธุกํ อตรมาเนน อาราโม ปวิสิตพฺโพ, อารามํ ปวิสนฺเตน สลฺลกฺเขตพฺพํ ‘‘กตฺถ อาวาสิกา ภิกฺขู สนฺนิปตนฺตี’’ติ. ยตฺถ อาวาสิกา ภิกฺขู สนฺนิปตนฺติ อุปฏฺานสาลาย วา มณฺฑเป วา รุกฺขมูเล วา, ตตฺถ คนฺตฺวา เอกมนฺตํ ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ, เอกมนฺตํ จีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ, ปติรูปํ อาสนํ คเหตฺวา นิสีทิตพฺพํ, ปานียํ ปุจฺฉิตพฺพํ, ปริโภชนียํ ปุจฺฉิตพฺพํ ‘‘กตมํ ปานียํ, กตมํ ปริโภชนีย’’นฺติ. สเจ ปานีเยน อตฺโถ โหติ, ปานียํ คเหตฺวา ปาตพฺพํ. สเจ ปริโภชนีเยน อตฺโถ โหติ, ปริโภชนียํ คเหตฺวา ปาทา โธวิตพฺพา. ปาเท โธวนฺเตน เอเกน หตฺเถน อุทกํ อาสิฺจิตพฺพํ, เอเกน หตฺเถน ปาทา โธวิตพฺพา, น เตเนว หตฺเถน อุทกํ อาสิฺจิตพฺพํ, น เตเนว หตฺเถน ปาทา โธวิตพฺพา, อุปาหนปุฺฉนโจฬกํ ปุฺฉิตฺวา อุปาหนา ปุฺฉิตพฺพา, อุปาหนา ปุฺฉนฺเตน ปมํ สุกฺเขน โจฬเกน ปุฺฉิตพฺพา, ปจฺฉา อลฺเลน, อุปาหนปุฺฉนโจฬกํ โธวิตฺวา เอกมนฺตํ ปตฺถริตพฺพํ.

สเจ อาวาสิโก ภิกฺขุ วุฑฺโฒ โหติ, อภิวาเทตพฺโพ. สเจ นวโก โหติ, อภิวาทาเปตพฺโพ. เสนาสนํ ปุจฺฉิตพฺพํ ‘‘กตมํ เม เสนาสนํ ปาปุณาตี’’ติ, อชฺฌาวุฏฺํ วา อนชฺฌาวุฏฺํ วา ปุจฺฉิตพฺพํ, ‘‘โคจรคาโม อาสนฺเน, อุทาหุ ทูเร, กาลสฺเสว ปิณฺฑาย จริตพฺพํ, อุทาหุ ทิวา’’ติ เอวํ ภิกฺขาจาโร ปุจฺฉิตพฺโพ, อโคจโร ปุจฺฉิตพฺโพ, โคจโร ปุจฺฉิตพฺโพ. อโคจโร นาม มิจฺฉาทิฏฺิกานํ คาโม ปริจฺฉินฺนภิกฺโข วา คาโม, ยตฺถ เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา ภิกฺขา ทียติ, เสกฺขสมฺมหานิ กุลานิ ปุจฺฉิตพฺพานิ, วจฺจฏฺานํ ปุจฺฉิตพฺพํ, ปสฺสาวฏฺานํ ปุจฺฉิตพฺพํ, ‘‘กึ อิมิสฺสา โปกฺขรณิยา ปานียํเยว ปิวนฺติ, นหานาทิปริโภคมฺปิ กโรนฺตี’’ติ เอวํ ปานียฺเจว ปริโภชนียฺจ ปุจฺฉิตพฺพํ, กตฺตรทณฺโฑ ปุจฺฉิตพฺโพ, สงฺฆสฺส กติกสณฺานํ ปุจฺฉิตพฺพํ, เกสุจิ าเนสุ วาฬมิคา วา อมนุสฺสา วา โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘กํ กาลํ ปวิสิตพฺพํ, กํ กาลํ นิกฺขมิตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพํ. สเจ วิหาโร อนชฺฌาวุฏฺโ โหติ, กวาฏํ อาโกเฏตฺวา มุหุตฺตํ อาคเมตฺวา ฆฏิกํ อุคฺฆาเฏตฺวา กวาฏํ ปณาเมตฺวา พหิ ิเตน นิลฺโลเกตพฺโพ.

สเจ โส วิหาโร อุกฺลาโป โหติ, มฺเจ วา มฺโจ อาโรปิโต โหติ, ปีเ วา ปีํ อาโรปิตํ โหติ, เสนาสนํ อุปริ ปุฺชีกตํ โหติ, สเจ สกฺโกติ, สพฺโพ วิหาโร โสเธตพฺโพ, อสกฺโกนฺเตน อตฺตโน วสโนกาโส ชคฺคิตพฺโพ. สพฺพํ โสเธตุํ สกฺโกนฺเตน ปน อุปชฺฌายวตฺเต วุตฺตนเยน ภูมตฺถรณมฺจปีาทีนิ พหิ นีหริตฺวา วิหารํ โสเธตฺวา ปุน อติหริตฺวา ยถาาเน ปฺเปตพฺพานิ.

สเจ ปุรตฺถิมา สรชา วาตา วายนฺติ, ปุรตฺถิมา วาตปานา ถเกตพฺพา. สเจ ปจฺฉิมา, อุตฺตรา, ทกฺขิณา สรชา วาตา วายนฺติ, ทกฺขิณา วาตปานา ถเกตพฺพา. สเจ สีตกาโล โหติ, ทิวา วาตปานา วิวริตพฺพา, รตฺตึ ถเกตพฺพา. สเจ อุณฺหกาโล โหติ, ทิวา ถเกตพฺพา, รตฺตึ วิวริตพฺพา.

สเจ อุกฺลาปํ โหติ, ปริเวณํ สมฺมชฺชิตพฺพํ, โกฏฺโก สมฺมชฺชิตพฺโพ, อุปฏฺานสาลา สมฺมชฺชิตพฺพา, อคฺคิสาลา สมฺมชฺชิตพฺพา, วจฺจกุฏิ สมฺมชฺชิตพฺพา, ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺาเปตพฺพํ, อาจมนกุมฺภิยา อุทกํ อาสิฺจิตพฺพํ. อิทํ อาคนฺตุกวตฺตํ.

๑๘๖. อาวาสิกวตฺเต อาวาสิเกน ภิกฺขุนา อาคนฺตุกํ ภิกฺขุํ วุฑฺฒตรํ ทิสฺวา อาสนํ ปฺเปตพฺพํ, ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ อุปนิกฺขิปิตพฺพํ, ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตจีวรํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพ, ปุจฺฉนฺเตน ปน สกึ อานีตํ ปานียํ สพฺพํ ปิวติ, ‘‘ปุน อาเนมี’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพเยว. พีชเนนปิ พีชิตพฺโพ, พีชนฺเตน สกึ ปาทปิฏฺิยํ พีชิตฺวา สกึ มชฺเฌ, สกึ สีเส พีชิตพฺโพ, ‘‘อลํ โหตู’’ติ วุตฺเตน มนฺทตรํ พีชิตพฺพํ, ปุน ‘‘อล’’นฺติ วุตฺเตน ตโต มนฺทตรํ พีชิตพฺพํ, ตติยวารํ วุตฺเตน พีชนี เปตพฺพา, ปาทาปิสฺส โธวิตพฺพา. สเจ อตฺตโน เตลํ อตฺถิ, เตเลน มกฺเขตพฺพา. โน เจ อตฺถิ, ตสฺส สนฺตเกน มกฺเขตพฺพา. สเจ อุสฺสหติ, อุปาหนา ปุฺฉิตพฺพา. อุปาหนา ปุฺฉนฺเตน ปมํ สุกฺเขน โจเฬน ปุฺฉิตพฺพา, ปจฺฉา อลฺเลน, อุปาหนปุฺฉนโจฬกํ โธวิตฺวา เอกมนฺตํ วิสฺสชฺเชตพฺพํ.

อาคนฺตุโก ภิกฺขุ อภิวาเทตพฺโพ, เสนาสนํ ปฺเปตพฺพํ ‘‘เอตํ เสนาสนํ ปาปุณาตี’’ติ. อชฺฌาวุฏฺํ วา อนชฺฌาวุฏฺํ วา อาจิกฺขิตพฺพํ, โคจโร อาจิกฺขิตพฺโพ, อโคจโร อาจิกฺขิตพฺโพ, เสกฺขสมฺมตานิ กุลานิ อาจิกฺขิตพฺพานิ, วจฺจฏฺานํ อาจิกฺขิตพฺพํ, ปสฺสาวฏฺานํ อาจิกฺขิตพฺพํ, ปานียํ อาจิกฺขิตพฺพํ, ปริโภชนียํ อาจิกฺขิตพฺพํ, กตฺตรทณฺโฑ อาจิกฺขิตพฺโพ, สงฺฆสฺส กติกสณฺานํ อาจิกฺขิตพฺพํ ‘‘อิมํ กาลํ ปวิสิตพฺพํ, อิมํ กาลํ นิกฺขมิตพฺพ’’นฺติ.

สเจ อาคนฺตุโก นวโก โหติ, นิสินฺนเกเนว อาจิกฺขิตพฺพํ ‘‘อตฺร ปตฺตํ นิกฺขิปาหิ, อตฺร จีวรํ นิกฺขิปาหิ, อิทํ อาสนํ, นิสีทาหี’’ติ. ปานียํ อาจิกฺขิตพฺพํ, ปริโภชนียํ อาจิกฺขิตพฺพํ, อุปาหนปุฺฉนโจฬกํ อาจิกฺขิตพฺพํ, อาคนฺตุโก ภิกฺขุ อภิวาทาเปตพฺโพ, เสนาสนาทีนิปิ นิสินฺเนเนว อาจิกฺขิตพฺพานิ. วุฑฺฒตเร ปน อาคเต อาสนํ ปฺเปตพฺพนฺติ เอวมาทิ สพฺพํ จีวรกมฺมํ วา นวกมฺมํ วา เปตฺวาปิ กาตพฺพํ. เจติยงฺคณํ สมฺมชฺชนฺเตน สมฺมุฺชนึ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺส วตฺตํ กาตุํ อารภิตพฺพํ. ปณฺฑิโต หิ อาคนฺตุโก ‘‘สมฺมชฺชาหิ ตาว เจติยงฺคณ’’นฺติ วกฺขติ. คิลานสฺส เภสชฺชํ กโรนฺเตน ปน สเจ นาติอาตุโร คิลาโน โหติ, เภสชฺชํ อกตฺวา วตฺตเมว กาตพฺพํ, มหาคิลานสฺส ปน เภสชฺชเมว กาตพฺพํ. ปณฺฑิโต หิ อาคนฺตุโก ‘‘กโรหิ ตาว เภสชฺช’’นฺติ วกฺขติ. อิทํ อาวาสิกวตฺตํ.

๑๘๗. คมิกวตฺเต คมิเกน ภิกฺขุนา มฺจปีาทิทารุภณฺฑํ มตฺติกาภณฺฑมฺปิ รชนภาชนาทิ สพฺพํ อคฺคิสาลายํ วา อฺสฺมึ วา คุตฺตฏฺาเน ปฏิสาเมตฺวา ทฺวารวาตปานํ ถเกตฺวา เสนาสนํ อาปุจฺฉิตฺวา ปกฺกมิตพฺพํ. สเจ ภิกฺขุ น โหติ, สามเณโร อาปุจฺฉิตพฺโพ. สเจ สามเณโร น โหติ, อารามิโก อาปุจฺฉิตพฺโพ. สเจ น โหติ ภิกฺขุ วา สามเณโร วา อารามิโก วา, จตูสุ ปาสาเณสุ มฺจํ ปฺเปตฺวา มฺเจ มฺจํ อาโรเปตฺวา ปีเ ปีํ อาโรเปตฺวา เสนาสนํ อุปริ ปุฺชํ กริตฺวา ทารุภณฺฑํ มตฺติกาภณฺฑํ ปฏิสาเมตฺวา ทฺวารวาตปานํ ถเกตฺวา ปกฺกมิตพฺพํ. สเจ วิหาโร โอวสฺสติ, สเจ อุสฺสหติ, สพฺโพ ฉาเทตพฺโพ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ ‘‘กินฺติ นุ โข วิหาโร ฉาทิเยถา’’ติ, เอวฺเจตํ ลเภถ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ลเภถ, โย เทโส อโนวสฺสโก โหติ, ตตฺถ จตูสุ ปาสาเณสุ มฺจํ ปฺเปตฺวา มฺเจ มฺจํ อาโรเปตฺวา ปีเ ปีํ อาโรเปตฺวา เสนาสนํ อุปริ ปุฺชํ กริตฺวา ทารุภณฺฑํ มตฺติกาภณฺฑํ ปฏิสาเมตฺวา ทฺวารวาตปานํ ถเกตฺวา ปกฺกมิตพฺพํ. สเจ วิหาโร โอวสฺสติ, สเจ อุสฺสหติ, เสนาสนํ คามํ อติหริตพฺพํ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ ‘‘กินฺติ นุ โข เสนาสนํ คามํ อติหริเยถา’’ติ, เอวฺเจตํ ลเภถ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ลเภถ, อชฺโฌกาเส จตูสุ ปาสาเณสุ มฺจํ ปฺเปตฺวา มฺเจ มฺจํ อาโรเปตฺวา ปีเ ปีํ อาโรเปตฺวา เสนาสนํ อุปริ ปุฺชํ กริตฺวา ทารุภณฺฑํ มตฺติกาภณฺฑํ ปฏิสาเมตฺวา ติเณน วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปกฺกมิตพฺพํ ‘‘อปฺเปว นาม องฺคานิปิ เสเสยฺยุ’’นฺติ. อิทํ คมิกวตฺตํ.

๑๘๘. ภตฺตคฺควตฺเต สเจ อาราเม กาโล อาโรจิโต โหติ, ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺเตน ปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา สคุณํ กตฺวา สงฺฆาฏิโย ปารุปิตฺวา คณฺิกํ ปฏิมุฺจิตฺวา โธวิตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา สาธุกํ อตรมาเนน คาโม ปวิสิตพฺโพ.

น โอกฺกมฺม เถรานํ ภิกฺขูนํ ปุรโต คนฺตพฺพํ. สุปฺปฏิจฺฉนฺเนน, สุสํวุเตน, โอกฺขิตฺตจกฺขุนา, อปฺปสทฺเทน อนฺตรฆเร คนฺตพฺพํ, น อุกฺขิตฺตกาย, น อุชฺชคฺฆิกาย อนฺตรฆเร คนฺตพฺพํ, น กายปฺปจาลกํ, น พาหุปฺปจาลกํ, น สีสปฺปจาลกํ อนฺตรฆเร คนฺตพฺพํ, น ขมฺภกเตน, น โอคุณฺิเตน, น อุกฺกุฏิกาย อนฺตรฆเร คนฺตพฺพํ.

สุปฺปฏิจฺฉนฺเนน, สุสํวุเตน, โอกฺขิตฺตจกฺขุนา, อปฺปสทฺเทน อนฺตรฆเร นิสีทิตพฺพํ, น อุกฺขิตฺตกาย, น อุชฺชคฺฆิกาย อนฺตรฆเร นิสีทิตพฺพํ, น กายปฺปจาลกํ, น พาหุปฺปจาลกํ, น สีสปฺปจาลกํ อนฺตรฆเร นิสีทิตพฺพํ, น ขมฺภกเตน, น โอคุณฺิเตน, น ปลฺลตฺถิกาย อนฺตรฆเร นิสีทิตพฺพํ, น เถเร ภิกฺขู อนุปขชฺช นิสีทิตพฺพํ. สเจ มหาเถรสฺส นิสินฺนาสเนน สมกํ อาสนํ โหติ, พหูสุ อาสเนสุ สติ เอกํ ทฺเว อาสนานิ เปตฺวา นิสีทิตพฺพํ. ภิกฺขู คเณตฺวา ปฺตฺตาสเนสุ อนิสีทิตฺวา มหาเถเรน ‘‘นิสีทา’’ติ วุตฺเตน นิสีทิตพฺพํ. โน เจ มหาเถโร วทติ, ‘‘อิทํ, ภนฺเต, อาสนํ อุจฺจ’’นฺติ วตฺตพฺพํ. ‘‘นิสีทา’’ติ วุตฺเตน นิสีทิตพฺพํ. สเจ ปน เอวํ อาปุจฺฉิเตปิ น วทติ, นิสีทนฺตสฺส อนาปตฺติ, มหาเถรสฺเสว อาปตฺติ. นวโก หิ เอวรูเป อาสเน อนาปุจฺฉา นิสีทนฺโต อาปชฺชติ, เถโร อาปุจฺฉิเต อนนุชานนฺโต. น นวา ภิกฺขู อาสเนน ปฏิพาหิตพฺพา, น สงฺฆาฏิกํ โอตฺถริตฺวา อนฺตรฆเร นิสีทิตพฺพํ.

ปตฺตโธวโนทเก ทียมาเน อุโภหิ หตฺเถหิ ปตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา อุทกํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, ทกฺขิโณทกํ ปน ปุรโต อาธารเก ปตฺตํ เปตฺวา คเหตพฺพํ, นีจํ กตฺวา อุทกสทฺทํ อกโรนฺเตน อปฏิฆํสนฺเตน ปตฺโต โธวิตพฺโพ. สเจ อุทกปฏิคฺคาหโก โหติ, นีจํ กตฺวา อุทกปฏิคฺคาหเก อุทกํ อาสิฺจิตพฺพํ ‘‘มา อุทกปฏิคฺคาหโก อุทเกน โอสิฺจิ, มา สามนฺตา ภิกฺขู อุทเกน โอสิฺจึสุ, มา สงฺฆาฏิ อุทเกน โอสิฺจี’’ติ. สเจ อุทกปฏิคฺคาหโก น โหติ, นีจํ กตฺวา ฉมาย อุทกํ อาสิฺจิตพฺพํ ‘‘มา สามนฺตา ภิกฺขู อุทเกน โอสิฺจึสุ, มา สงฺฆาฏิ อุทเกน โอสิฺจี’’ติ.

โอทเน ทียมาเน อุโภหิ หตฺเถหิ ปตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา โอทโน ปฏิคฺคเหตพฺโพ. ยถา สูปสฺส โอกาโส โหติ, เอวํ มตฺตาย โอทโน คณฺหิตพฺโพ. สเจ โหติ สปฺปิ วา เตลํ วา อุตฺตริภงฺคํ วา, เถเรน วตฺตพฺโพ ‘‘สพฺเพสํ สมกํ สมฺปาเทหี’’ติ. อิทฺจ น เกวลํ สปฺปิอาทีสุ, โอทเนปิ วตฺตพฺพํ. สปฺปิอาทีสุ ปน ยํ อปฺปํ โหติ เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา อนุรูปํ, ตํ สพฺเพสํ สมกํ สมฺปาเทหีติ วุตฺเต มนุสฺสานํ วิเหสา โหติ, ตสฺมา ตาทิสํ สกึ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา คเหตฺวา เสสํ น คเหตพฺพํ. สกฺกจฺจํ ปิณฺฑปาโต ปฏิคฺคเหตพฺโพ, ปตฺตสฺินา ปิณฺฑปาโต ปฏิคฺคเหตพฺโพ, สมสูปโก สมติตฺถิโก ปิณฺฑปาโต ปฏิคฺคเหตพฺโพ, น ตาว เถเรน ภุฺชิตพฺพํ, ยาว น สพฺเพสํ โอทโน สมฺปตฺโต โหติ. อิทฺจ ยํ ปริจฺฉินฺนภิกฺขุกํ ภตฺตคฺคํ, ยตฺถ มนุสฺสา สพฺเพสํ ปาเปตฺวา วนฺทิตุกามา โหนฺติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ ปน มหาภตฺตคฺคํ โหติ, ยตฺถ เอกสฺมึ ปเทเส ภุฺชนฺติ, เอกสฺมึ ปเทเส อุทกํ ทียติ, ตตฺถ ยถาสุขํ ภุฺชิตพฺพํ.

สกฺกจฺจํ ปิณฺฑปาโต ภุฺชิตพฺโพ, ปตฺตสฺินา ปิณฺฑปาโต ภุฺชิตพฺโพ, สปทาโน ปิณฺฑปาโต ภุฺชิตพฺโพ, สมสูปโก ปิณฺฑปาโต ภุฺชิตพฺโพ, น ถูปกโต โอมทฺทิตฺวา ปิณฺฑปาโต ภุฺชิตพฺโพ, น สูปํ วา พฺยฺชนํ วา โอทเนน ปฏิจฺฉาเทตพฺพํ ภิยฺโยกมฺยตํ อุปาทาย, น สูปํ วา โอทนํ วา อคิลาเนน อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภุฺชิตพฺพํ, น อุชฺฌานสฺินา ปเรสํ ปตฺโต โอโลเกตพฺโพ, นาติมหนฺโต กพโฬ กาตพฺโพ, ปริมณฺฑลํ อาโลโป กาตพฺโพ, น อนาหเฏ กพเฬ มุขทฺวารํ วิวริตพฺพํ, น ภุฺชมาเนน สพฺโพ หตฺโถ มุเข ปกฺขิปิตพฺโพ, น สกพเฬน มุเขน พฺยาหริตพฺพํ, น ปิณฺฑุกฺเขปกํ ภุฺชิตพฺพํ, น กพฬาวจฺเฉกํ, น อวคณฺฑการกํ, น หตฺถนิทฺธุนกํ, น สิตฺถาวการกํ, น ชิวฺหานิจฺฉารกํ, น จปุจปุการกํ, น สุรุสุรุการกํ, น หตฺถนิลฺเลหกํ, น ปตฺตนิลฺเลหกํ, น โอฏฺนิลฺเลหกํ ภุฺชิตพฺพํ.

สามิเสน หตฺเถน ปานียถาลโก ปฏิคฺคเหตพฺโพ, น ตาว เถเรน หตฺถโธวนอุทกํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, ยาว น สพฺเพ ภุตฺตาวิโน โหนฺติ. สเจ มนุสฺสา ‘‘โธวถ, ภนฺเต, ปตฺตฺจ หตฺเถ จา’’ติ วทนฺติ, ภิกฺขู วา ‘‘ตุมฺเห อุทกํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, วฏฺฏติ. อุทเก ทียมาเน อุโภหิ หตฺเถหิ ปตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา อุทกํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, นีจํ กตฺวา อุทกสทฺทํ อกโรนฺเตน อปฏิฆํสนฺเตน ปตฺโต โธวิตพฺโพ. สเจ อุทกปฏิคฺคาหโก โหติ, นีจํ กตฺวา อุทกปฏิคฺคาหเก อุทกํ อาสิฺจิตพฺพํ ‘‘มา อุทกปฏิคฺคาหโก อุทเกน โอสิฺจิ, มา สามนฺตา ภิกฺขู อุทเกน โอสิฺจึสุ, มา สงฺฆาฏิ อุทเกน โอสิฺจี’’ติ. สเจ อุทกปฏิคฺคาหโก น โหติ, นีจํ กตฺวา ฉมาย อุทกํ อาสิฺจิตพฺพํ ‘‘มา สามนฺตา ภิกฺขู อุทเกน โอสิฺจึสุ, มา สงฺฆาฏิ อุทเกน โอสิฺจี’’ติ, น สสิตฺถกํ ปตฺตโธวนํ อนฺตรฆเร ฉฑฺเฑตพฺพํ.

ภตฺตคฺคโต อุฏฺาย นิวตฺตนฺเตสุ นวเกหิ ภิกฺขูหิ ปมตรํ นิวตฺติตพฺพํ, ปจฺฉา เถเรหิ. สมฺพาเธสุ หิ ฆเรสุ มหาเถรานํ นิกฺขมโนกาโส น โหติ, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ. เอวํ นิวตฺตนฺเตหิ ปน นวเกหิ เคหทฺวาเร ตฺวา เถเรสุ นิกฺขมนฺเตสุ ปฏิปาฏิยา คนฺตพฺพํ. สเจ ปน มหาเถรา ธุเร นิสินฺนา โหนฺติ, นวกา อนฺโตเคเห, เถราสนโต ปฏฺาย ปฏิปาฏิยา เอว นิกฺขมิตพฺพํ, กาเยน กายํ อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน ยถา อนฺตเรน มนุสฺสา คนฺตุํ สกฺโกนฺติ, เอวํ วิรฬาย ปาฬิยา คนฺตพฺพํ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เถเรน ภิกฺขุนา ภตฺตคฺเค อนุโมทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๖๒) วจนโต สงฺฆตฺเถเรน ภตฺตคฺเค อนุโมทิตพฺพํ. ตํ เอกเมว โอหาย เสเสหิ น คนฺตพฺพํ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภตฺตคฺเค จตูหิ ปฺจหิ เถรานุเถเรหิ ภิกฺขูหิ อาคเมตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๖๒) วจนโต สงฺฆตฺเถเรน อนุโมทนตฺถาย นิสินฺเน เหฏฺา ปฏิปาฏิยา จตูหิ นิสีทิตพฺพํ, อนุเถเร นิสินฺเน มหาเถเรน จ เหฏฺา จ ตีหิ นิสีทิตพฺพํ, ปฺจเม นิสินฺเน อุปริ จตูหิ นิสีทิตพฺพํ, สงฺฆตฺเถเรน เหฏฺา ทหรภิกฺขุสฺมึ อชฺฌิฏฺเปิ สงฺฆตฺเถรโต ปฏฺาย จตูหิ นิสีทิตพฺพเมว. สเจ ปน อนุโมทโก ภิกฺขุ ‘‘คจฺฉถ, ภนฺเต, อาคเมตพฺพกิจฺจํ นตฺถี’’ติ วทติ, คนฺตุํ วฏฺฏติ. มหาเถเรน ‘‘คจฺฉาม, อาวุโส’’ติ วุตฺเต ‘‘คจฺฉถา’’ติ วทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ, ‘‘พหิคาเม อาคมิสฺสามา’’ติ อาโภคํ กตฺวาปิ พหิคามํ คนฺตฺวา อตฺตโน นิสฺสิตเก ‘‘ตุมฺเห ตสฺส อาคมนํ อาคเมถา’’ติ วตฺวาปิ คนฺตุํ วฏฺฏติเยว. สเจ ปน มนุสฺสา อตฺตโน รุจิเตน เอเกน อนุโมทนํ กาเรนฺติ, เนว ตสฺส อนุโมทโต อาปตฺติ, น มหาเถรสฺส ภาโร โหติ. อุปนิสินฺนกถายเมว หิ มนุสฺเสสุ กถาเปนฺเตสุ เถโร อาปุจฺฉิตพฺโพ. มหาเถเรน จ อนุโมทนาย อชฺฌิฏฺโว อาคเมตพฺโพติ อิทเมตฺถ ลกฺขณํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สติ กรณีเย อานนฺตริกํ ภิกฺขุํ อาปุจฺฉิตฺวา คนฺตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๖๒) วจนโต ปน วจฺจาทิปีฬิเตน อนนฺตรํ ภิกฺขุํ อาปุจฺฉิตฺวา คนฺตพฺพนฺติ. อิทํ ภตฺตคฺควตฺตํ.

๑๘๙. ปิณฺฑจาริกวตฺเต ปน ปิณฺฑจาริเกน ภิกฺขุนา ‘‘อิทานิ คามํ ปวิสิสฺสามี’’ติ ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺเตน ปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา สคุณํ กตฺวา สงฺฆาฏิโย ปารุปิตฺวา คณฺิกํ ปฏิมุฺจิตฺวา โธวิตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา สาธุกํ อตรมาเนน คาโม ปวิสิตพฺโพ. สุปฺปฏิจฺฉนฺเนน อนฺตรฆเร คนฺตพฺพนฺติอาทิ สพฺพํ ภตฺตคฺควตฺเต วุตฺตนเยเนว อิธาปิ เวทิตพฺพํ.

นิเวสนํ ปวิสนฺเตน สลฺลกฺเขตพฺพํ ‘‘อิมินา ปวิสิสฺสามิ, อิมินา นิกฺขมิสฺสามี’’ติ, นาติสหสา ปวิสิตพฺพํ, นาติทูเร นาจฺจาสนฺเน าตพฺพํ, นาติจิรํ าตพฺพํ, นาติลหุกํ นิวตฺติตพฺพํ, ิเตน สลฺลกฺเขตพฺพํ ‘‘ภิกฺขํ ทาตุกามา วา อทาตุกามา วา’’ติ. สเจ กมฺมํ วา นิกฺขิปติ, อาสนา วา วุฏฺาติ, กฏจฺฉุํ วา ปรามสติ, ภาชนํ วา ปรามสติ, เปติ วา, ‘‘ทาตุกามสฺสา’’ติ าตพฺพํ. ภิกฺขาย ทียมานาย วาเมน หตฺเถน สงฺฆาฏึ อุจฺจาเรตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน ปตฺตํ ปณาเมตฺวา อุโภหิ หตฺเถหิ ปตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ภิกฺขา ปฏิคฺคเหตพฺพา, อิตฺถี วา โหตุ ปุริโส วา, ภิกฺขาทานสมเย มุขํ น โอโลเกตพฺพํ, สลฺลกฺเขตพฺพํ ‘‘สูปํ ทาตุกามา วา อทาตุกามา วา’’ติ. สเจ กฏจฺฉุํ วา ปรามสติ, ภาชนํ วา ปรามสติ, เปติ วา, ‘‘ทาตุกามสฺสา’’ติ าตพฺพํ. ภิกฺขาย ทินฺนาย สงฺฆาฏิยา ปตฺตํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา สาธุกํ อตรมาเนน นิวตฺติตพฺพํ.

โย ปมํ คามโต ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมติ, เตน อาสนํ ปฺเปตพฺพํ, ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ อุปนิกฺขิปิตพฺพํ, อวกฺการปาติ โธวิตฺวา อุปฏฺาเปตพฺพา, ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺาเปตพฺพํ. โย ปจฺฉา คามโต ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมติ, สเจ โหติ ภุตฺตาวเสโส, สเจ อากงฺขติ, ภุฺชิตพฺพํ. โน เจ อากงฺขติ, อปฺปหริเต วา ฉฑฺเฑตพฺพํ, อปฺปาณเก วา อุทเก โอปิลาเปตพฺพํ, เตน อาสนํ อุทฺธริตพฺพํ, ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ ปฏิสาเมตพฺพํ, อวกฺการปาติ โธวิตฺวา ปฏิสาเมตพฺพา, ปานียํ ปริโภชนียํ ปฏิสาเมตพฺพํ, ภตฺตคฺคํ สมฺมชฺชิตพฺพํ. โย ปสฺสติ ปานียฆฏํ วา ปริโภชนียฆฏํ วา วจฺจฆฏํ วา ริตฺตํ ตุจฺฉํ, เตน อุปฏฺาเปตพฺพํ. สจสฺส โหติ อวิสยฺหํ, หตฺถวิกาเรน ทุติยํ อามนฺเตตฺวา หตฺถวิลงฺฆเกน อุปฏฺาเปตพฺพํ, น จ ตปฺปจฺจยา วาจา ภินฺทิตพฺพาติ. อิทํ ปิณฺฑจาริกวตฺตํ.

๑๙๐. อารฺิกวตฺเต อารฺิเกน ภิกฺขุนา กาลสฺเสว อุฏฺาย ปตฺตํ ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา อํเส ลคฺเคตฺวา จีวรํ ขนฺเธ กริตฺวา อุปาหนา อาโรหิตฺวา ทารุภณฺฑํ มตฺติกาภณฺฑํ ปฏิสาเมตฺวา ทฺวารวาตปานํ ถเกตฺวา วสนฏฺานโต นิกฺขมิตพฺพํ. ‘‘อิทานิ คามํ ปวิสิสฺสามา’’ติ อุปาหนา โอมุฺจิตฺวา นีจํ กตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา อํเส ลคฺเคตฺวา ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺเตน ปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา สคุณํ กตฺวา สงฺฆาฏิโย ปารุปิตฺวา คณฺิกํ ปฏิมุฺจิตฺวา โธวิตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา สาธุกํ อตรมาเนน คาโม ปวิสิตพฺโพ. สุปฺปฏิจฺฉนฺเนน อนฺตรฆเร คนฺตพฺพนฺติอาทิ สพฺพํ คมนวิธานํ อิธาปิ ภตฺตคฺควตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

นิเวสนํ ปวิสนฺเตน สลฺลกฺเขตพฺพํ ‘‘อิมินา ปวิสิสฺสามิ, อิมินา นิกฺขมิสฺสามี’’ติอาทิ สพฺพํ ภิกฺขาจารวิธานํ ปิณฺฑจาริกวตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อารฺิเกน ภิกฺขุนา ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺาเปตพฺพํ. สเจ ภาชนานิ นปฺปโหนฺติ, ปานียเมว ปริโภชนียมฺปิ กตฺวา อุปฏฺาเปตพฺพํ. ภาชนํ อลภนฺเตน เวฬุนาฬิกายปิ อุปฏฺาเปตพฺพํ. ตมฺปิ อลภนฺตสฺส ยถา สมีเป อุทกอาวาโฏ โหติ, เอวํ กาตพฺพํ. อคฺคิ อุปฏฺาเปตพฺโพ, อรณิสหิตํ อุปฏฺาเปตพฺพํ, อรณิสหิเต สติ อคฺคึ อกาตุมฺปิ วฏฺฏติ. ยถา จ อารฺิกสฺส, เอวํ กนฺตารปฺปฏิปนฺนสฺสปิ อรณิสหิตํ อิจฺฉิตพฺพํ. คณวาสิโน ปน เตน วินาปิ วฏฺฏติ. กตฺตรทณฺโฑ อุปฏฺาเปตพฺโพ, นกฺขตฺตปทานิ อุคฺคเหตพฺพานิ สกลานิ วา เอกเทสานิ วา, ทิสากุสเลน ภวิตพฺพํ. อิทํ อารฺิกวตฺตํ.

๑๙๑. เสนาสนวตฺเต ยสฺมึ วิหาเร วิหรติ, สเจ โส วิหาโร อุกฺลาโป โหติ, สเจ อุสฺสหติ, โสเธตพฺโพ. วิหารํ โสเธนฺเตน ปมํ ปตฺตจีวรํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ, นิสีทนปจฺจตฺถรณํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ, ภิสิพิมฺโพหนํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ, มฺโจ นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฏิฆํสนฺเตน อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปีํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺโพ, ปีํ นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฏิฆํสนฺเตน อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปีํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ, มฺจปฏิปาทกา นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพา, เขฬมลฺลโก นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺโพ, อปสฺเสนผลกํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ, ภูมตฺถรณํ ยถาปฺตฺตํ สลฺลกฺเขตฺวา นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ วิหาเร สนฺตานกํ โหติ, อุลฺโลกา ปมํ โอหาเรตพฺพํ, อาโลกสนฺธิกณฺณภาคา ปมชฺชิตพฺพา. สเจ เครุกปริกมฺมกตา ภิตฺติ กณฺณกิตา โหติ, โจฬกํ เตเมตฺวา ปีเฬตฺวา ปมชฺชิตพฺพา. สเจ กาฬวณฺณกตา ภูมิ กณฺณกิตา โหติ, โจฬกํ เตเมตฺวา ปีเฬตฺวา ปมชฺชิตพฺพา. สเจ อกตา โหติ ภูมิ, อุทเกน ปริปฺโผสิตฺวา ปริปฺโผสิตฺวา สมฺมชฺชิตพฺพา ‘‘มา วิหาโร รเชน อุหฺี’’ติ, สงฺการํ วิจินิตฺวา เอกมนฺตํ ฉฑฺเฑตพฺพํ.

น ภิกฺขุสามนฺตา เสนาสนํ ปปฺโผเฏตพฺพํ, น วิหารสามนฺตา เสนาสนํ ปปฺโผเฏตพฺพํ, น ปานียสามนฺตา เสนาสนํ ปปฺโผเฏตพฺพํ, น ปริโภชนียสามนฺตา เสนาสนํ ปปฺโผเฏตพฺพํ, น ปฏิวาเต องฺคเณ เสนาสนํ ปปฺโผเฏตพฺพํ, อโธวาเต เสนาสนํ ปปฺโผเฏตพฺพํ.

ภูมตฺถรณํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ, มฺจปฏิปาทกา เอกมนฺตํ โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อภิหริตฺวา ยถาาเน เปตพฺพา, มฺโจ เอกมนฺตํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฏิฆํสนฺเตน อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปีํ อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺโพ, ปีํ เอกมนฺตํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฏิฆํสนฺเตน อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปีํ อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ, ภิสิพิมฺโพหนํ เอกมนฺตํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ, นิสีทนปจฺจตฺถรณํ โอตาเปตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ, เขฬมลฺลโก เอกมนฺตํ โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาาเน เปตพฺโพ, อปสฺเสนผลกํ เอกมนฺตํ โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา ยถาาเน เปตพฺพํ. ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ, ปตฺตํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน ปตฺตํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน เหฏฺามฺจํ วา เหฏฺาปีํ วา ปรามสิตฺวา ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ, น จ อนนฺตรหิตาย ภูมิยา ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ. จีวรํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน จีวรํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน จีวรวํสํ วา จีวรรชฺชุํ วา ปมชฺชิตฺวา ปารโต อนฺตํ, โอรโต โภคํ กตฺวา จีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ.

สเจ ปุรตฺถิมา สรชา วาตา วายนฺติ, ปุรตฺถิมา วาตปานา ถเกตพฺพา. สเจ ปจฺฉิมา, อุตฺตรา, ทกฺขิณา สรชา วาตา วายนฺติ, ทกฺขิณา วาตปานา ถเกตพฺพา. สเจ สีตกาโล โหติ, ทิวา วาตปานา วิวริตพฺพา, รตฺตึ ถเกตพฺพา. สเจ อุณฺหกาโล โหติ, ทิวา วาตปานา ถเกตพฺพา, รตฺตึ วิวริตพฺพา.

สเจ อุกฺลาปํ โหติ, ปริเวณํ สมฺมชฺชิตพฺพํ, โกฏฺโก สมฺมชฺชิตพฺโพ, อุปฏฺานสาลา สมฺมชฺชิตพฺพา, อคฺคิสาลา สมฺมชฺชิตพฺพา, วจฺจกุฏิ สมฺมชฺชิตพฺพา. สเจ ปานียํ น โหติ, ปานียํ อุปฏฺาเปตพฺพํ. สเจ ปริโภชนียํ น โหติ, ปริโภชนียํ อุปฏฺาเปตพฺพํ. สเจ อาจมนกุมฺภิยา อุทกํ น โหติ, อาจมนกุมฺภิยา อุทกํ อาสิฺจิตพฺพํ.

สเจ วุฑฺเฒน สทฺธึ เอกวิหาเร วิหรติ, น วุฑฺฒํ อนาปุจฺฉา อุทฺเทโส ทาตพฺโพ, น ปริปุจฺฉา ทาตพฺพา, น สชฺฌาโย กาตพฺโพ, น ธมฺโม ภาสิตพฺโพ, น ปทีโป กาตพฺโพ, น ปทีโป วิชฺฌาเปตพฺโพ, น วาตปานา วิวริตพฺพา, น วาตปานา ถเกตพฺพา. ทฺวารํ นาม ยสฺมา มหาวฬฺชํ, ตสฺมา ตตฺถ อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ, เสสานิ ปน อุทฺเทสทานาทีนิ อาปุจฺฉิตฺวาว กาตพฺพานิ, เทวสิกมฺปิ อาปุจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. อถาปิ ‘‘ภนฺเต, อาปุจฺฉิตเมว โหตู’’ติ วุตฺเต วุฑฺฒตโร ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, สยเมว วา ‘‘ตฺวํ ยถาสุขํ วิหราหี’’ติ วทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. สภาคสฺส วิสฺสาเสนปิ วฏฺฏติเยว. สเจ วุฑฺเฒน สทฺธึ เอกจงฺกเม จงฺกมติ, เยน วุฑฺโฒ, เตน ปริวตฺเตตพฺพํ, น จ วุฑฺโฒ สงฺฆาฏิกณฺเณน ฆฏฺเฏตพฺโพ. อิทํ เสนาสนวตฺตํ.

๑๙๒. ชนฺตาฆรวตฺเต โย ปมํ ชนฺตาฆรํ คจฺฉติ, สเจ ฉาริกา อุสฺสนฺนา โหติ, ฉาริกา ฉฑฺเฑตพฺพา. สเจ อุกฺลาปํ โหติ, ชนฺตาฆรํ สมฺมชฺชิตพฺพํ, ปริภณฺฑํ สมฺมชฺชิตพฺพํ, ปริเวณํ สมฺมชฺชิตพฺพํ, โกฏฺโก สมฺมชฺชิตพฺโพ, ชนฺตาฆรสาลา สมฺมชฺชิตพฺพา, จุณฺณํ สนฺเนตพฺพํ, มตฺติกา เตเมตพฺพา, อุทกโทณิยา อุทกํ อาสิฺจิตพฺพํ. ชนฺตาฆรํ ปวิสนฺเตน มตฺติกาย มุขํ มกฺเขตฺวา ปุรโต จ ปจฺฉโต จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ชนฺตาฆรํ ปวิสิตพฺพํ, น เถเร ภิกฺขู อนุปขชฺช นิสีทิตพฺพํ, น นวา ภิกฺขู อาสเนน ปฏิพาหิตพฺพา. สเจ อุสฺสหติ, ชนฺตาฆเร เถรานํ ภิกฺขูนํ ปริกมฺมํ กาตพฺพํ. ชนฺตาฆรา นิกฺขมนฺเตน ชนฺตาฆรปีํ อาทาย ปุรโต จ ปจฺฉโต จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ชนฺตาฆรา นิกฺขมิตพฺพํ. สเจ อุสฺสหติ, อุทเกปิ เถรานํ ภิกฺขูนํ ปริกมฺมํ กาตพฺพํ, น เถรานํ ภิกฺขูนํ ปุรโต นหายิตพฺพํ, น อุปริโต นหายิตพฺพํ, นหาเตน อุตฺตรนฺเตน โอตรนฺตานํ มคฺโค ทาตพฺโพ. โย ปจฺฉา ชนฺตาฆรา นิกฺขมติ, สเจ ชนฺตาฆรํ จิกฺขลฺลํ โหติ, โธวิตพฺพํ, มตฺติกาโทณึ โธวิตฺวา ชนฺตาฆรปีํ ปฏิสาเมตฺวา อคฺคึ วิชฺฌาเปตฺวา ทฺวารํ ถเกตฺวา ปกฺกมิตพฺพํ. อิทํ ชนฺตาฆรวตฺตํ.

๑๙๓. วจฺจกุฏิวตฺเต โย วจฺจกุฏึ คจฺฉติ, พหิ ิเตน อุกฺกาสิตพฺพํ, อนฺโต นิสินฺเนนปิ อุกฺกาสิตพฺพํ, จีวรวํเส วา จีวรรชฺชุยา วา จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา สาธุกํ อตรมาเนน วจฺจกุฏิ ปวิสิตพฺพา, นาติสหสา ปวิสิตพฺพา, น อุพฺภชิตฺวา ปวิสิตพฺพา, วจฺจปาทุกาย ิเตน อุพฺภชิตพฺพํ, น นิตฺถุนนฺเตน วจฺโจ กาตพฺโพ, น ทนฺตกฏฺํ ขาทนฺเตน วจฺโจ กาตพฺโพ, น พหิทฺธา วจฺจโทณิกาย วจฺโจ กาตพฺโพ, น พหิทฺธา ปสฺสาวโทณิกาย ปสฺสาโว กาตพฺโพ, น ปสฺสาวโทณิกาย เขโฬ กาตพฺโพ, ผาลิเตน วา ขเรน วา คณฺิเกน วา กณฺฏเกน วา สุสิเรน วา ปูตินา วา กฏฺเน น อวเลขิตพฺพํ, อวเลขนกฏฺํ ปน อคฺคเหตฺวา ปวิฏฺสฺส อาปตฺติ นตฺถิ, น อวเลขนกฏฺํ วจฺจกูปมฺหิ ปาเตตพฺพํ, วจฺจปาทุกาย ิเตน ปฏิจฺฉาเทตพฺพํ, นาติสหสา นิกฺขมิตพฺพํ, น อุพฺภชิตฺวา นิกฺขมิตพฺพํ, อาจมนปาทุกาย ิเตน อุพฺภชิตพฺพํ, น จปุจปุการกํ อาจเมตพฺพํ, น อาจมนสราวเก อุทกํ เสเสตพฺพํ. อิทฺจ สพฺพสาธารณฏฺานํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺร หิ อฺเ อฺเ อาคจฺฉนฺติ, ตสฺมา อุทกํ น เสเสตพฺพํ. ยํ ปน สงฺฆิเกปิ วิหาเร เอกเทเส นิพทฺธคมนตฺถาย กตํ านํ โหติ ปุคฺคลิกฏฺานํ วา, ตสฺมึ วฏฺฏติ. วิเรจนํ ปิวิตฺวา ปุนปฺปุนํ ปวิสนฺตสฺสปิ วฏฺฏติเยว. อาจมนปาทุกาย ิเตน ปฏิจฺฉาเทตพฺพํ.

สเจ วจฺจกุฏิ อุหตา โหติ พหิ วจฺจมกฺขิตา, อุทกํ อาหริตฺวา โธวิตพฺพา. อุทกํ อตฺถิ, ภาชนํ นตฺถิ, อสนฺตํ นาม โหติ. ภาชนํ อตฺถิ, อุทกํ นตฺถิ, เอตมฺปิ อสนฺตํ. อุภยสฺมึ อสติ อสนฺตเมว, กฏฺเน วา เกนจิ วา ปุฺฉิตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ อวเลขนปิฏโก ปูริโต โหติ, อวเลขนกฏฺํ ฉฑฺเฑตพฺพํ. สเจ กจวรํ อตฺถิ, วจฺจกุฏิ สมฺมชฺชิตพฺพา, ปริภณฺฑํ สมฺมชฺชิตพฺพํ, ปริเวณํ สมฺมชฺชิตพฺพํ, โกฏฺโก สมฺมชฺชิตพฺโพ. สเจ อาจมนกุมฺภิยา อุทกํ น โหติ, อาจมนกุมฺภิยา อุทกํ อาสิฺจิตพฺพํ.

‘‘น, ภิกฺขเว, วจฺจํ กตฺวา สติ อุทเก นาจเมตพฺพํ, โย นาจเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๗๓) วจนโต อุทเก สติ อุทกกิจฺจํ อกโรนฺตสฺส อาปตฺติ. สเจ อุทกํ อตฺถิ, ปฏิจฺฉนฺนฏฺานํ ปน นตฺถิ, ภาชเนน นีหริตฺวา อาจมิตพฺพํ. ภาชเน อสติ ปตฺเตน นีหริตพฺพํ, ปตฺเตปิ อสติ อสนฺตํ นาม โหติ. ‘‘อิทํ อติวิวฏํ, ปุรโต อฺํ อุทกํ ภวิสฺสตี’’ติ คตสฺส อุทกํ อลภนฺตสฺเสว ภิกฺขาจารเวลา โหติ, กฏฺเน วา เกนจิ วา ปุฺฉิตฺวา คนฺตพฺพํ, ภุฺชิตุมฺปิ อนุโมทิตุมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘น, ภิกฺขเว, วจฺจกุฏิยา ยถาวุฑฺฒํ วจฺโจ กาตพฺโพ, โย กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาคตปฏิปาฏิยา วจฺจํ กาตุ’’นฺติ (จุฬว. ๓๗๓) วจนโต วจฺจกุฏึ ปวิสนฺเตน อาคตปฏิปาฏิยา ปวิสิตพฺพํ. วจฺจกุฏิยํ ปสฺสาวฏฺาเน นหานติตฺเถติ ตีสุปิ อาคตปฏิปาฏิเยว ปมาณํ. อิทํ วจฺจกุฏิวตฺตํ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

อุปชฺฌายาทิวตฺตวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๒๘. จตุปจฺจยภาชนียวินิจฺฉยกถา

๑๙๔. จตุปจฺจยภาชนนฺติ จีวราทีนํ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ ภาชนํ. ตตฺถ จีวรภาชเน ตาว จีวรปฏิคฺคาหโก เวทิตพฺโพ, จีวรนิทหโก เวทิตพฺโพ, ภณฺฑาคาริโก เวทิตพฺโพ, ภณฺฑาคารํ เวทิตพฺพํ, จีวรภาชโก เวทิตพฺโพ, จีวรภาชนํ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๐-๓๔๒) ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ จีวรปฏิคฺคาหกํ สมฺมนฺนิตุํ, โย น ฉนฺทาคตึ คจฺเฉยฺย, น โทสาคตึ คจฺเฉยฺย, น โมหาคตึ คจฺเฉยฺย, น ภยาคตึ คจฺเฉยฺย, คหิตาคหิตฺจ ชาเนยฺยา’’ติ (มหาว. ๓๔๒) วจนโต อิเมหิ ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต จีวรปฏิคฺคาหโก สมฺมนฺนิตพฺโพ. ตตฺถ ปจฺฉา อาคตานมฺปิ อตฺตโน าตกาทีนํ ปมตรํ ปฏิคฺคณฺหนฺโต วา เอกจฺจสฺมึ เปมํ ทสฺเสตฺวา คณฺหนฺโต วา โลภปกติตาย อตฺตโน ปริณาเมนฺโต วา ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ นาม. ปมตรํ อาคตสฺสปิ โกธวเสน ปจฺฉา คณฺหนฺโต วา ทุคฺคตมนุสฺเสสุ อวมฺํ กตฺวา คณฺหนฺโต วา ‘‘กึ โว ฆเร ปโนกาโส นตฺถิ, ตุมฺหากํ สนฺตกํ คเหตฺวา คจฺฉถา’’ติ เอวํ สงฺฆสฺส ลาภนฺตรายํ กโรนฺโต วา โทสาคตึ คจฺฉติ นาม. โย ปน มุฏฺสฺสติ อสมฺปชาโน, อยํ โมหาคตึ คจฺฉติ นาม. ปจฺฉา อาคตานมฺปิ อิสฺสรานํ ภเยน ปมตรํ ปฏิคฺคณฺหนฺโต วา ‘‘จีวรปฏิคฺคาหกฏฺานํ นาเมตํ ภาริย’’นฺติ สนฺตสนฺโต วา ภยาคตึ คจฺฉติ นาม. ‘‘มยา อิทฺจิทฺจ คหิตํ, อิทฺจิทฺจ น คหิต’’นฺติ เอวํ ชานนฺโต คหิตาคหิตํ ชานาติ นาม. ตสฺมา โย ฉนฺทาคติอาทิวเสน น คจฺฉติ, าตกอฺาตกอฑฺฒทุคฺคเตสุ วิเสสํ อกตฺวา อาคตปฏิปาฏิยา คณฺหาติ, สีลาจารปฏิปตฺติยุตฺโต โหติ สติมา เมธาวี พหุสฺสุโต, สกฺโกติ ทายกานํ วิสฺสฏฺาย วาจาย ปริมณฺฑเลหิ ปทพฺยฺชเนหิ อนุโมทนํ กโรนฺโต ปสาทํ ชเนตุํ, เอวรูโป สมฺมนฺนิตพฺโพ.

เอวฺจ ปน สมฺมนฺนิตพฺโพ. ปมํ ภิกฺขุ ยาจิตพฺโพ, ยาจิตฺวา พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวรปฏิคฺคาหกํ สมฺมนฺเนยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวรปฏิคฺคาหกํ สมฺมนฺนติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน จีวรปฏิคฺคาหกสฺส สมฺมุติ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘สมฺมโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ จีวรปฏิคฺคาหโก, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๓๔๒) –

อิติ อิมาย กมฺมวาจาย วา อปโลกเนน วา อนฺโตวิหาเร สพฺพสงฺฆมชฺเฌปิ ขณฺฑสีมายมฺปิ สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏติเยว. เอวํ สมฺมเตน จ วิหารปจฺจนฺเต วา ปธานฆเร วา น อจฺฉิตพฺพํ. ยตฺถ ปน อาคตาคตา มนุสฺสา สุขํ ปสฺสนฺติ, ตาทิเส ธุรวิหารฏฺาเน พีชนึ ปสฺเส เปตฺวา สุนิวตฺเถน สุปารุเตน นิสีทิตพฺพํ.

๑๙๕. จีวรนิทหโกปิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ จีวรนิทหกํ สมฺมนฺนิตุํ, โย น ฉนฺทาคตึ คจฺเฉยฺย, น โทสาคตึ คจฺเฉยฺย, น โมหาคตึ คจฺเฉยฺย, น ภยาคตึ คจฺเฉยฺย, นิหิตานิหิตฺจ ชาเนยฺยา’’ติ วจนโต ปฺจงฺคสมนฺนาคโต ภิกฺขุ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวรนิทหกํ สมฺมนฺเนยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวรนิทหกํ สมฺมนฺนติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน จีวรนิทหกสฺส สมฺมุติ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘สมฺมโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ จีวรนิทหโก, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๓๔๒) –

อิติ อิมาย กมฺมวาจาย วา อปโลกเนน วา วุตฺตนเยเนว สมฺมนฺนิตพฺโพ.

๑๙๖. ภณฺฑาคาริโกปิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ ภณฺฑาคาริกํ สมฺมนฺนิตุํ, โย น ฉนฺทาคตึ คจฺเฉยฺย, น โทสาคตึ คจฺเฉยฺย, น โมหาคตึ คจฺเฉยฺย, น ภยาคตึ คจฺเฉยฺย, คุตฺตาคุตฺตฺจ ชาเนยฺยา’’ติ (มหาว. ๓๔๓) วจนโต ปฺจงฺคสมนฺนาคโต ภิกฺขุ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ ภณฺฑาคาริกํ สมฺมนฺเนยฺยา’’ติอาทินา (มหาว. ๓๔๓) นเยน กมฺมวาจาย วา อปโลกเนน วา สมฺมนฺนิตพฺโพ.

เอตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๓) จ ยตฺถ ฉทนาทีสุ โกจิ โทโส นตฺถิ, ตํ คุตฺตํ. ยตฺถ ปน ฉทนติณํ วา ฉทนิฏฺกา วา ยตฺถ กตฺถจิ ปติตา, เยน โอวสฺสติ วา, มูสิกาทีนํ วา ปเวโส โหติ, ภิตฺติอาทีสุ วา กตฺถจิ ฉิทฺทํ โหติ, อุปจิกา วา อุฏฺหนฺติ, ตํ สพฺพํ อคุตฺตํ นาม. ตํ สลฺลกฺเขตฺวา ภณฺฑาคาริเกน ปฏิสงฺขริตพฺพํ. สีตสมเย ทฺวารฺจ วาตปานฺจ สุปิหิตํ กาตพฺพํ. สีเตน หิ จีวรานิ กณฺณกิตานิ โหนฺติ. อุณฺหสมเย อนฺตรนฺตรา วาตปฺปเวสนตฺถํ วิวริตพฺพํ. เอวํ กโรนฺโต หิ คุตฺตาคุตฺตํ ชานาติ นาม.

๑๙๗. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภณฺฑาคารํ สมฺมนฺนิตุํ, ยํ สงฺโฆ อากงฺขติ วิหารํ วา อฑฺฒโยคํ วา ปาสาทํ วา หมฺมิยํ วา คุหํ วา’’ติ (มหาว. ๓๔๓) วจนโต ภณฺฑาคารํ สมฺมนฺนิตฺวา เปตพฺพํ. เอตฺถ จ โย อารามมชฺเฌ อารามิกสามเณราทีหิ อวิวิตฺโต สพฺเพสํ สโมสรณฏฺาเน วิหาโร วา อฑฺฒโยโค วา โหติ, โส สมฺมนฺนิตพฺโพ. ปจฺจนฺตเสนาสนํ ปน น สมฺมนฺนิตพฺพํ. อิมํ ปน ภณฺฑาคารํ ขณฺฑสีมํ คนฺตฺวา ขณฺฑสีมาย นิสินฺเนหิ สมฺมนฺนิตุํ น วฏฺฏติ. วิหารมชฺเฌเยว ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ วิหารํ ภณฺฑาคารํ สมฺมนฺเนยฺยา’’ติอาทินา (มหาว. ๓๔๓) นเยน กมฺมวาจาย วา อปโลกเนน วา สมฺมนฺนิตพฺพํ.

จีวรปฏิคฺคาหกาทีหิ ปน ตีหิปิ อตฺตโน วตฺตํ ชานิตพฺพํ. ตตฺถ จีวรปฏิคฺคาหเกน ตาว ยํ ยํ มนุสฺสา ‘‘กาลจีวร’’นฺติ วา ‘‘อกาลจีวร’’นฺติ วา ‘‘อจฺเจกจีวร’’นฺติ วา ‘‘วสฺสิกสาฏิก’’นฺติ วา ‘‘นิสีทน’’นฺติ วา ‘‘ปจฺจตฺถรณ’’นฺติ วา ‘‘มุขปุฺฉนโจฬ’’นฺติ วา เทนฺติ, ตํ สพฺพํ เอกราสึ กตฺวา มิสฺเสตฺวา น คณฺหิตพฺพํ, วิสุํ วิสุํ กตฺวาว คณฺหิตฺวา จีวรนิทหกสฺส ตเถว อาจิกฺขิตฺวา ทาตพฺพํ. จีวรนิทหเกนปิ ภณฺฑาคาริกสฺส ททมาเนน ‘‘อิทํ กาลจีวรํ…เป… อิทํ มุขปุฺฉนโจฬ’’นฺติ อาจิกฺขิตฺวาว ทาตพฺพํ. ภณฺฑาคาริเกนปิ ตเถว วิสุํ วิสุํ สฺาณํ กตฺวา เปตพฺพํ. ตโต สงฺเฆน ‘‘กาลจีวรํ อาหรา’’ติ วุตฺเต กาลจีวรเมว ทาตพฺพํ…เป… ‘‘มุขปุฺฉนโจฬํ อาหรา’’ติ วุตฺเต ตเทว ทาตพฺพํ. อิติ ภควตา จีวรปฏิคฺคาหโก อนุฺาโต, จีวรนิทหโก อนุฺาโต, ภณฺฑาคาริโก อนุฺาโต, ภณฺฑาคารํ อนุฺาตํ, น พาหุลิกตาย, น อสนฺตุฏฺิตาย, อปิจ โข สงฺฆานุคฺคหาย. สเจ หิ อาหฏาหฏํ คเหตฺวา ภิกฺขู ภาเชยฺยุํ, เนว อาหฏํ, น อนาหฏํ, น ทินฺนํ, น อทินฺนํ, น ลทฺธํ, น อลทฺธํ ชาเนยฺยุํ, อาหฏาหฏํ เถราสเน วา ทเทยฺยุํ, ขณฺฑาขณฺฑํ วา ฉินฺทิตฺวา คณฺเหยฺยุํ, เอวํ สติ อยุตฺตปริโภโค จ โหติ, น จ สพฺเพสํ สงฺคโห กโต โหติ. ภณฺฑาคาเร ปน จีวรํ เปตฺวา อุสฺสนฺนกาเล เอเกกสฺส ภิกฺขุโน ติจีวรํ วา ทฺเว ทฺเว วา เอเกกํ วา จีวรํ ทสฺสนฺติ, ลทฺธาลทฺธํ ชานิสฺสนฺติ, อลทฺธภาวํ ตฺวา สงฺคหํ กาตุํ มฺิสฺสนฺตีติ.

๑๙๘. จีวรภาชโกวิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ จีวรภาชกํ สมฺมนฺนิตุํ, โย น ฉนฺทาคตึ คจฺเฉยฺย, น โทสาคตึ คจฺเฉยฺย, น โมหาคตึ คจฺเฉยฺย, น ภยาคตึ คจฺเฉยฺย, ภาชิตาภาชิตฺจ ชาเนยฺยา’’ติ (มหาว. ๓๔๓) วจนโต ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโตเยว ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวรภาชกํ สมฺมนฺเนยฺยา’’ติ(มหาว. ๓๔๓) อาทินา นเยน กมฺมวาจาย วา อปโลกเนน วา สมฺมนฺนิตฺวา เปตพฺโพ.

เอตฺถ สภาคานํ ภิกฺขูนํ อปาปุณนฺตมฺปิ มหคฺฆจีวรํ เทนฺโต ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ นาม. อฺเสํ วุฑฺฒตรานํ ปาปุณนฺตมฺปิ มหคฺฆจีวรํ อทตฺวา อปฺปคฺฆํ เทนฺโต โทสาคตึ คจฺฉติ นาม. โมหมูฬฺโห จีวรทานวตฺตํ อชานนฺโต โมหาคตึ คจฺฉติ นาม. มุขรานํ นวกานมฺปิ ภเยน อปาปุณนฺตํ เอว มหคฺฆํ จีวรํ เทนฺโต ภยาคตึ คจฺฉติ นาม. โย เอวํ น คจฺฉติ, สพฺเพสํ ตุลาภูโต ปมาณภูโต มชฺฌตฺโต, โส สมฺมนฺนิตพฺโพ. เตนปิ จีวรํ ภาเชนฺเตน ปมํ ‘‘อิทํ ถูลํ, อิทํ สณฺหํ, อิทํ ฆนํ, อิทํ ตนุกํ, อิทํ ปริภุตฺตํ, อิทํ อปริภุตฺตํ, อิทํ ทีฆโต เอตฺตกํ, ปุถุลโต เอตฺตก’’นฺติ เอวํ วตฺถานิ วิจินิตฺวา ‘‘อิทํ เอตฺตกํ อคฺฆติ, อิทํ เอตฺตก’’นฺติ เอวํ อคฺฆปริจฺเฉทํ กตฺวา สเจ สพฺเพสํ เอเกกเมว ทสทสอคฺฆนกํ ปาปุณาติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ปาปุณาติ, ยํ นว วา อฏฺ วา อคฺฆติ, ตํ อฺเน เอกอคฺฆนเกน จ ทฺวิอคฺฆนเกน จ สทฺธึ พนฺธิตฺวา เอเตน อุปาเยน สเม ปฏิวีเส เปตฺวา กุโส ปาเตตพฺโพ. สเจ เอเกกสฺส ทียมาเน จีวเร ทิวโส นปฺปโหติ, ทส ทส ภิกฺขู คเณตฺวา ทส ทส จีวรปฏิวีเส เอกโต พนฺธิตฺวา ภณฺฑิกํ กตฺวา เอโก จีวรปฏิวีโส เปตพฺโพ. เอวํ ปิเตสุ จีวรปฏิวีเสสุ กุโส ปาเตตพฺโพ. เตหิปิ ภิกฺขูหิ ปุน กุสปาตํ กตฺวา ภาเชตพฺพํ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สามเณรานํ อุปฑฺฒปฏิวีสํ ทาตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๔๓) วจนโต เย สามเณรา อตฺติสฺสรา ภิกฺขุสงฺฆสฺส กตฺตพฺพกมฺมํ น กโรนฺติ, อุทฺเทสปริปุจฺฉาสุ ยุตฺตา อาจริยุปชฺฌายานํเยว วตฺตปฏิวตฺตํ กโรนฺติ, อฺเสํ น กโรนฺติ, เอเตสํเยว อุปฑฺฒภาโค ทาตพฺโพ. เย ปน ปุเรภตฺตฺจ ปจฺฉาภตฺตฺจ ภิกฺขุสงฺฆสฺเสว กตฺตพฺพกิจฺจํ กโรนฺติ, เตสํ สมโก ทาตพฺโพ. อิทฺจ ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺเนน ภณฺฑาคาเร ปิเตน อกาลจีวเรเนว กถิตํ, กาลจีวรํ ปน สมกํเยว ทาตพฺพํ. ตตฺรุปฺปาทวสฺสาวาสิกํ สมฺมุฺชนีพนฺธนาทิ สงฺฆสฺส ผาติกมฺมํ กตฺวา คเหตพฺพํ. เอตฺเหตฺถ สพฺเพสํ วตฺตํ. ภณฺฑาคารจีวเรปิ สเจ สามเณรา อาคนฺตฺวา ‘‘ภนฺเต, มยํ ยาคุํ ปจาม, ภตฺตํ ปจาม, ขชฺชกํ ปจาม, อปฺปหริตํ กโรม, ทนฺตกฏฺํ อาหราม, รงฺคฉลฺลึ กปฺปิยํ กตฺวา เทม, กึ อมฺเหหิ น กตํ นามา’’ติ อุกฺกุฏฺึ กโรนฺติ, สมภาโคว ทาตพฺโพ. เอตํเยว วิรชฺฌิตฺวา กโรนฺติ, เยสฺจ กรณภาโว น ปฺายติ, เต สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สามเณรานํ อุปฑฺฒปฏิวีสํ ทาตุ’’นฺติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘สเจ สามเณรา ‘กสฺมา มยํ, ภนฺเต, สงฺฆกมฺมํ น กโรม, กริสฺสามา’ติ ยาจนฺติ, สมปฏิวีโส ทาตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ.

สเจ โกจิ ภิกฺขุ สกํ ภาคํ คเหตฺวา สตฺถํ ลภิตฺวา นทึ วา กนฺตารํ วา อุตฺตริตฺวา ทิสาปกฺกมิตุกาโม โหติ, ตสฺส ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุตฺตรนฺตสฺส สกํ ภาคํ ทาตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๔๓) วจนโต จีวเรสุ ภณฺฑาคารโต พหิ นีหเฏสุ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภิกฺขุสงฺเฆ สนฺนิปติเต จีวรภาชเกน ‘‘อิมสฺส ภิกฺขุโน โกฏฺาเสน เอตฺตเกน ภวิตพฺพ’’นฺติ ตกฺเกตฺวา นยคฺคาเหน สมภาเคน จีวรํ ทาตพฺพํ. ตุลาย ตุลิตมิว หิ สมสมํ ทาตุํ น สกฺกา, ตสฺมา อูนํ วา โหตุ อธิกํ วา, เอวํ ตกฺเกน นเยน ทินฺนํ สุทินฺนํ. เนว อูนกํ ปุน ทาตพฺพํ, นาติริตฺตํ ปฏิคฺคณฺหิตพฺพํ. สเจ ทส ภิกฺขู โหนฺติ, สาฏกาปิ ทเสว, เตสุ เอโก ทฺวาทส อคฺฆติ, เสสา ทสคฺฆนกา. สพฺเพสุ ทสคฺฆนกวเสน กุเส ปาติเต ยสฺส ภิกฺขุโน ทฺวาทสคฺฆนโก กุโส ปาติโต, เตน ยตฺตกํ ตสฺมึ ปฏิวีเส อธิกํ, ตตฺตกํ อคฺฆนกํ ยํ กิฺจิ อตฺตโน สนฺตกํ กปฺปิยภณฺฑํ ทตฺวา โส อติเรกภาโค คเหตพฺโพ. สเจ สพฺเพสํ ปฺจ ปฺจ วตฺถานิ ปตฺตานิ, เสสานิปิ อตฺถิ, เอเกกํ ปน น ปาปุณาติ, ฉินฺทิตฺวา ทาตพฺพานิ.

ฉินฺทนฺเตน จ อฑฺฒมณฺฑลาทีนํ วา อุปาหนตฺถวิกาทีนํ วา ปโหนกานิ ขณฺฑานิ กตฺวา ทาตพฺพานิ. เหฏฺิมปริจฺเฉเทน จตุรงฺคุลวิตฺถารมฺปิ อนุวาตปฺปโหนกายามํ ขณฺฑํ กตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ, อปริโภคํ ปน น กาตพฺพํ. สเจปิ เอกสฺส ภิกฺขุโน โกฏฺาเส เอกํ วา ทฺเว วา วตฺถานิ นปฺปโหนฺติ, ตตฺถ อฺํ สามณกํ ปริกฺขารํ เปตฺวา โย เตน ตุสฺสติ, ตสฺส ตํ ภาคํ กตฺวา ปจฺฉา กุสปาโต กาตพฺโพ. สเจ ทส ทส ภิกฺขู คเณตฺวา วคฺคํ กโรนฺตานํ เอโก วคฺโค น ปูรติ, อฏฺ วา นว วา โหนฺติ, เตสํ อฏฺ วา นว วา โกฏฺาสา ‘‘ตุมฺเห อิเม คเหตฺวา วิสุํ ภาเชถา’’ติ ทาตพฺพา. เอวํ ทตฺวา ปจฺฉา กุสปาโต กาตพฺโพ.

๑๙๙. อิทานิ ‘‘อฏฺิมา, ภิกฺขเว, มาติกา จีวรสฺส อุปฺปาทาย, สีมาย เทติ, กติกาย เทติ, ภิกฺขาปฺตฺติยา เทติ, สงฺฆสฺส เทติ, อุภโตสงฺฆสฺส เทติ, วสฺสํวุฏฺสงฺฆสฺส เทติ, อาทิสฺส เทติ, ปุคฺคลสฺส เทตี’’ติ (มหาว. ๓๗๙) จีวรานํ ปฏิลาภเขตฺตทสฺสนตฺถํ ยา ตา อฏฺ มาติกา วุตฺตา, ตาสํ วเสน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

ตตฺถ ‘‘สีมาย ทมฺมี’’ติ เอวํ สีมํ ปรามสิตฺวา เทนฺโต สีมาย เทติ นาม. เอวํ สีมาย ทินฺนํ ยาวติกา ภิกฺขู อนฺโตสีมาคตา, เตหิ ภาเชตพฺพํ. สีมา จ นาเมสา ขณฺฑสีมา อุปจารสีมา สมานสํวาสสีมา อวิปฺปวาสสีมา ลาภสีมา คามสีมา นิคมสีมา นครสีมา อพฺภนฺตรสีมา อุทกุกฺเขปสีมา ชนปทสีมา รฏฺสีมา รชฺชสีมา ทีปสีมา จกฺกวาฬสีมาติ ปนฺนรสวิธา โหติ. ตตฺถ ขณฺฑสีมา สีมากถายํ วุตฺตาว. อุปจารสีมา นาม ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขเปน, อปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขปารหฏฺาเนน ปริจฺฉินฺนา โหติ. อปิจ ภิกฺขูนํ ธุวสนฺนิปาตฏฺานโต ปริยนฺเต ิตโภชนสาลโต วา นิพทฺธวสนอาวาสโต วา ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺโต อุปจารสีมาติ เวทิตพฺพา. สา ปน อาวาเสสุ วฑฺฒนฺเตสุ วฑฺฒติ, ปริหายนฺเตสุ ปริหายติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ภิกฺขูสุปิ วฑฺฒนฺเตสุ วฑฺฒตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา สเจ วิหาเร สนฺนิปติตภิกฺขูหิ สทฺธึ เอกาพทฺธา หุตฺวา โยชนสตมฺปิ ปูเรตฺวา นิสีทนฺติ, โยชนสตมฺปิ อุปจารสีมาว โหติ, สพฺเพสํ ลาโภ ปาปุณาติ. สมานสํวาสอวิปฺปวาสสีมาทฺวยมฺปิ วุตฺตเมว. ลาภสีมา นาม เนว สมฺมาสมฺพุทฺเธน อนุฺาตา, น ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปิตา, อปิจ โข ราชราชมหามตฺตา วิหารํ กาเรตฺวา คาวุตํ วา อฑฺฒโยชนํ วา โยชนํ วา สมนฺตโต ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘อยํ อมฺหากํ วิหารสฺส ลาภสีมา’’ติ นามลิขิตเก ถมฺเภ นิขณิตฺวา ‘‘ยํ เอตฺถนฺตเร อุปฺปชฺชติ, สพฺพํ อมฺหากํ วิหารสฺส เทมา’’ติ สีมา เปนฺติ, อยํ ลาภสีมา นาม. คามนิคมนครอพฺภนฺตรอุทกุกฺเขปสีมาปิ วุตฺตา เอว.

ชนปทสีมา นาม กาสิโกสลรฏฺาทีนํ อนฺโต พหู ชนปทา โหนฺติ, ตตฺถ เอเกโก ชนปทปริจฺเฉโท ชนปทสีมา. รฏฺสีมา นาม กาสิโกสลาทิรฏฺปริจฺเฉโท. รชฺชสีมา นาม ‘‘โจฬโภโค เกรฬโภโค’’ติ เอวํ เอเกกสฺส รฺโ อาณาปวตฺติฏฺานํ. ทีปสีมา นาม สมุทฺทนฺเตน ปริจฺฉินฺนมหาทีปา จ อนฺตรทีปา จ. จกฺกวาฬสีมา จกฺกวาฬปพฺพเตเนว ปริจฺฉินฺนา. เอวเมตาสุ สีมาสุ ขณฺฑสีมาย เกนจิ กมฺเมน สนฺนิปติตํ สงฺฆํ ทิสฺวา ‘‘เอตฺเถว สีมาย สงฺฆสฺส เทมี’’ติ วุตฺเต ยาวติกา ภิกฺขู อนฺโตขณฺฑสีมาคตา, เตหิ ภาเชตพฺพํ. เตสํเยว หิ ตํ ปาปุณาติ, อฺเสํ สีมนฺตริกาย วา อุปจารสีมาย วา ิตานมฺปิ น ปาปุณาติ. ขณฺฑสีมาย ิเต ปน รุกฺเข วา ปพฺพเต วา ิตสฺส เหฏฺา วา ปถวีเวมชฺฌคตสฺส ปาปุณาติเยว. ‘‘อิมิสฺสา อุปจารสีมาย สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ ปน ขณฺฑสีมาสีมนฺตริกาสุ ิตานมฺปิ ปาปุณาติ. ‘‘สมานสํวาสสีมาย ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ ปน ขณฺฑสีมาสีมนฺตริกาสุ ิตานํ น ปาปุณาติ. อวิปฺปวาสสีมาลาภสีมาสุ ทินฺนํ ตาสุ สีมาสุ อนฺโตคตานํ ปาปุณาติ. คามสีมาทีสุ ทินฺนํ ตาสํ สีมานํ อพฺภนฺตเร พทฺธสีมาย ิตานมฺปิ ปาปุณาติ. อพฺภนฺตรสีมาอุทกุกฺเขปสีมาสุ ทินฺนํ ตตฺถ อนฺโตคตานํเยว ปาปุณาติ. ชนปทรฏฺรชฺชทีปจกฺกวาฬสีมาสุปิ คามสีมาทีสุ วุตฺตสทิโสเยว วินิจฺฉโย.

สเจ ปน ชมฺพุทีเป ิโต ‘‘ตมฺพวณฺณิทีเป สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ, ตมฺพปณฺณิทีปโต เอโกปิ อาคนฺตฺวา สพฺเพสํ คณฺหิตุํ ลภติ. สเจปิ ตตฺเรว เอโก สภาคภิกฺขุ สภาคานํ ภาคํ คณฺหาติ, น วาเรตพฺโพ. เอวํ ตาว โย สีมํ ปรามสิตฺวา เทติ, ตสฺส ทาเน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. โย ปน ‘‘อสุกสีมาย’’นฺติ วตฺตุํ น ชานาติ, เกวลํ ‘‘สีมา’’ติ วจนมตฺตเมว ชานนฺโต วิหารํ อาคนฺตฺวา ‘‘สีมาย ทมฺมี’’ติ วา ‘‘สีมฏฺกสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วา ภณติ, โส ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘สีมา นาม พหุวิธา, กตรสีมํ สนฺธาย ภณสี’’ติ. สเจ วทติ ‘‘อหํ ‘อสุกสีมา’ติ น ชานามิ, สีมฏฺกสงฺโฆ ภาเชตฺวา คณฺหตู’’ติ, กตรสีมาย ภาเชตพฺพํ? มหาสีวตฺเถโร กิราห ‘‘อวิปฺปวาสสีมายา’’ติ. ตโต นํ อาหํสุ ‘‘อวิปฺปวาสสีมา นาม ติโยชนาปิ โหติ, เอวํ สนฺเต ติโยชเน ิตา ลาภํ คณฺหิสฺสนฺติ, ติโยชเน ตฺวา อาคนฺตุกวตฺตํ ปูเรตฺวา อารามํ ปวิสิตพฺพํ ภวิสฺสติ, คมิโก ติโยชนํ คนฺตฺวา เสนาสนํ อาปุจฺฉิสฺสติ, นิสฺสยปฺปฏิปนฺนสฺส ติโยชนาติกฺกเม นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภิสฺสติ, ปาริวาสิเกน ติโยชนํ อติกฺกมิตฺวา อรุณํ อุฏฺเปตพฺพํ ภวิสฺสติ, ภิกฺขุนิยา ติโยชเน ตฺวา อารามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉิตพฺพํ ภวิสฺสติ, สพฺพมฺเปตํ อุปจารสีมาปริจฺเฉทวเสเนว กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา อุปจารสีมาย ภาเชตพฺพ’’นฺติ.

๒๐๐. กติกาย เทตีติ เอตฺถ ปน กติกา นาม สมานลาภกติกา. ตตฺเรวํ กติกา กาตพฺพา, เอกสฺมึ วิหาเร สนฺนิปติเตหิ ภิกฺขูหิ ยํ วิหารํ สงฺคณฺหิตุกามา สมานลาภํ กาตุํ อิจฺฉนฺติ, ตสฺส นามํ คเหตฺวา ‘‘อสุโก นาม วิหาโร โปราณโก’’ติ วา ‘‘พุทฺธาธิวุตฺโถ’’ติ วา ‘‘อปฺปลาโภ’’ติ วา ย กิฺจิ การณํ วตฺวา ‘‘ตํ วิหารํ อิมินา วิหาเรน สทฺธึ เอกลาภํ กาตุํ สงฺฆสฺส รุจฺจตี’’ติ ติกฺขตฺตุํ สาเวตพฺพํ. เอตฺตาวตา ตสฺมึ วิหาเร นิสินฺโนปิ อิธ นิสินฺโนว โหติ. ตสฺมึ วิหาเรปิ สงฺเฆน เอวเมว กาตพฺพํ. เอตฺตาวตา อิธ นิสินฺโนปิ ตสฺมึ นิสินฺโนว โหติ. เอกสฺมึ วิหาเร ลาเภ ภาชิยมาเน อิตรสฺมึ ิตสฺส ภาคํ คเหตุํ วฏฺฏติ. เอวํ เอเกน วิหาเรน สทฺธึ พหูปิ อาวาสา เอกลาภา กาตพฺพา. เอวฺจ กเต เอกสฺมึ อาวาเส ทินฺเน สพฺพตฺถ ทินฺนํ โหติ.

๒๐๑. ภิกฺขาปฺตฺติ นาม อตฺตโน ปริจฺจาคปฺาปนฏฺานํ, ยตฺถ สงฺฆสฺส ธุวการา กรียนฺติ. เอตฺถ จ ยสฺมึ วิหาเร อิมสฺส จีวรทายกสฺส สนฺตกํ สงฺฆสฺส ปากวฏฺฏํ วา วตฺตติ, ยสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู อตฺตโน ภารํ กตฺวา สทา เคเห โภเชติ, ยตฺถ วา เตน อาวาโส การิโต, สลากภตฺตาทีนิ วา นิพทฺธานิ, อิเม ธุวการา นาม. เยน ปน สกโลปิ วิหาโร ปติฏฺาปิโต, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, ตสฺมา สเจ โส ‘‘ยตฺถ มยฺหํ ธุวการา กรียนฺติ, ตตฺถ ทมฺมี’’ติ วา ‘‘ตตฺถ เทถา’’ติ วา ภณติ, พหูสุ เจปิ าเนสุ ธุวการา โหนฺติ, สพฺพตฺถ ทินฺนเมว โหติ. สเจ ปน เอกสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู พหุตรา โหนฺติ, เตหิ วตฺตพฺพํ ‘‘ตุมฺหากํ ธุวกาเร เอกตฺถ ภิกฺขู พหู, เอกตฺถ อปฺปกา’’ติ. สเจ ‘‘ภิกฺขุคณนาย คณฺหถา’’ติ ภณติ, ตถา ภาเชตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ จ วตฺถเภสชฺชาทิ อปฺปกมฺปิ สุเขน ภาชียติ. ยทิ ปน มฺโจ วา ปีํ วา เอกเมว โหติ, ตํ ปุจฺฉิตฺวา ยสฺส วิหารสฺส, เอกวิหาเรปิ วา ยสฺส เสนาสนสฺส โส วิจาเรติ, ตตฺถ ทาตพฺพํ. สเจปิ ‘‘อสุกภิกฺขุ คณฺหตู’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. อถ ‘‘มยฺหํ ธุวกาเร เทถา’’ติ วตฺวา อวิจาเรตฺวา คจฺฉติ, สงฺฆสฺสปิ วิจาเรตุํ วฏฺฏติ. เอวํ ปน วิจาเรตพฺพํ, ‘‘สงฺฆตฺเถรสฺส วสนฏฺาเน เทถา’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ตตฺถ เสนาสนํ ปริปุณฺณํ โหติ, ยตฺถ นปฺปโหติ, ตตฺถ ทาตพฺพํ. สเจ เอโก ภิกฺขุ ‘‘มยฺหํ วสนฏฺาเน เสนาสนปริโภคภณฺฑํ นตฺถี’’ติ วทติ, ตตฺถ ทาตพฺพํ.

๒๐๒. สงฺฆสฺส เทตีติ เอตฺถ ปน สเจ วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ เทติ, อุปจารสีมาย ิเตน สงฺเฆน ฆณฺฏึ ปหริตฺวา กาลํ โฆเสตฺวา ภาเชตพฺพานิ, สีมฏฺกสฺส อสมฺปตฺตสฺสปิ ภาคํ คณฺหนฺโต น วาเรตพฺโพ. วิหาโร มหา โหติ, เถราสนโต ปฏฺาย วตฺเถสุ ทียมาเนสุ อลสชาติกา มหาเถรา ปจฺฉา อาคจฺฉนฺติ, ‘‘ภนฺเต, วีสติวสฺสานํ ทียติ, ตุมฺหากํ ิติกา อติกฺกนฺตา’’ติ น วตฺตพฺพา, ิติกํ เปตฺวา เตสํ ทตฺวา ปจฺฉา ิติภาย ทาตพฺพํ. ‘‘อสุกวิหาเร กิร พหุ จีวรํ อุปฺปนฺน’’นฺติ สุตฺวา โยชนนฺตริกวิหารโตปิ ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, สมฺปตฺตสมฺปตฺตานํ ิตฏฺานโต ปฏฺาย ทาตพฺพํ, อสมฺปตฺตานมฺปิ อุปจารสีมํ ปวิฏฺานํ อนฺเตวาสิกาทีสุ คณฺหนฺเตสุ ทาตพฺพเมว. ‘‘พหิอุปจารสีมาย ิตานํ เทถา’’ติ วทนฺติ, น ทาตพฺพํ. สเจ ปน อุปจารสีมํ โอกฺกนฺเตหิ เอกาพทฺธา หุตฺวา อตฺตโน วิหารทฺวาเร วา อนฺโตวิหาเรเยว วา โหนฺติ, ปริสวเสน วฑฺฒิตา นาม สีมา โหติ, ตสฺมา ทาตพฺพํ. สงฺฆนวกสฺส ทินฺเนปิ ปจฺฉา อาคตานํ ทาตพฺพเมว. ทุติยภาเค ปน เถราสนํ อารุฬฺเห อาคตานํ ปมภาโค น ปาปุณาติ, ทุติยภาคโต วสฺสคฺเคน ทาตพฺพํ.

เอกสฺมึ วิหาเร ทส ภิกฺขู โหนฺติ, ทส วตฺถานิ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ เทนฺติ, ปาเฏกฺกํ ภาเชตพฺพานิ. สเจ ‘‘สพฺพาเนว อมฺหากํ ปาปุณนฺตี’’ติ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, ทุปฺปาปิตานิ เจว ทุคฺคหิตานิ จ, คตคตฏฺาเน สงฺฆิกาเนว โหนฺติ. เอกํ ปน อุทฺธริตฺวา ‘‘อิทํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส ปาเปตฺวา ‘‘เสสานิ อมฺหากํ ปาปุณนฺตี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ. เอกเมว วตฺถํ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ อาหรนฺติ, อภาเชตฺวาว ‘‘อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คณฺหนฺติ, ทุปฺปาปิตฺเจว ทุคฺคหิตฺจ. สตฺถเกน วา หลิทฺทิอาทินา วา เลขํ กตฺวา เอกโกฏฺาสํ ‘‘อิทํ านํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส ปาเปตฺวา ‘‘เสสํ อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ. ยํ ปน วตฺถสฺเสว ปุปฺผํ วา วลิ วา, เตน ปริจฺเฉทํ กาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ เอกํ ตนฺตํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อิทํ านํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ เถรสฺส ทตฺวา ‘‘เสสํ อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คณฺหนฺติ, วฏฺฏติ. ขณฺฑํ ขณฺฑํ ฉินฺทิตฺวา ภาชิยมานํ วฏฺฏติเยว.

เอกภิกฺขุเก วิหาเร สงฺฆสฺส จีวเรสุ อุปฺปนฺเนสุ สเจ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว โส ภิกฺขุ ‘‘สพฺพานิ มยฺหํ ปาปุณนฺตี’’ติ คณฺหาติ, สุคฺคหิตานิ, ิติกา ปน น ติฏฺติ. สเจ เอเกกํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อิทํ มยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ คณฺหาติ, ิติกา ติฏฺติ. ตตฺถ อฏฺิตาย ิติกาย ปุน อฺสฺมึ จีวเร อุปฺปนฺเน สเจ เอโก ภิกฺขุ อาคจฺฉติ, มชฺเฌ ฉินฺทิตฺวา ทฺวีหิปิ คเหตพฺพํ. ิตาย ิติกาย ปุน อฺสฺมึ จีวเร อุปฺปนฺเน สเจ นวกตโร อาคจฺฉติ, ิติกา เหฏฺา โอโรหติ. สเจ วุฑฺฒตโร อาคจฺฉติ, ิติกา อุทฺธํ อาโรหติ. อถ อฺโ นตฺถิ, ปุน อตฺตโน ปาเปตฺวา คเหตพฺพํ. ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ วา ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส เทมา’’ติ วา เยน เกนจิ อากาเรน สงฺฆํ อามสิตฺวา ทินฺนํ ปน ปํสุกูลิกานํ น วฏฺฏติ ‘‘คหปติจีวรํ ปฏิกฺขิปามิ, ปํสุกูลิกงฺคํ สมาทิยามี’’ติ วุตฺตตฺตา, น ปน อกปฺปิยตฺตา. ภิกฺขุสงฺเฆน อปโลเกตฺวา ทินฺนมฺปิ น คเหตพฺพํ. ยํ ปน ภิกฺขุ อตฺตโน สนฺตกํ เทติ, ตํ ภิกฺขุทตฺติยํ นาม วฏฺฏติ, ปํสุกูลํ ปน น โหติ. เอวํ สนฺเตปิ ธุตงฺคํ น ภิชฺชติ. ‘‘ภิกฺขูนํ เทม, เถรานํ เทมา’’ติ วุตฺเต ปน ปํสุกูลิกานมฺปิ วฏฺฏติ, ‘‘อิทํ วตฺถํ สงฺฆสฺส เทม, อิมินา อุปาหนตฺถวิกปตฺตตฺถวิกอาโยคอํสพทฺธกาทีนิ กโรนฺตู’’ติ ทินฺนมฺปิ วฏฺฏติ. ปตฺตตฺถวิกาทีนํ อตฺถาย ทินฺนานิ พหูนิปิ โหนฺติ, จีวรตฺถายปิ ปโหนฺติ, ตโต จีวรํ กตฺวา ปารุปิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน สงฺโฆ ภาชิตาติริตฺตานิ วตฺถานิ ฉินฺทิตฺวา อุปาหนตฺถวิกาทีนํ อตฺถาย ภาเชติ, ตโต คเหตุํ น วฏฺฏติ. สามิเกหิ วิจาริตเมว หิ วฏฺฏติ, น อิตรํ. ปํสุกูลิกํ ‘‘สงฺฆสฺส ธมฺมกรณปฏาทีนํ อตฺถาย เทมา’’ติ วุตฺเตปิ คเหตุํ วฏฺฏติ, ปริกฺขาโร นาม ปํสุกูลิกานมฺปิ อิจฺฉิตพฺโพ. ยํ ตตฺถ อติเรกํ โหติ, ตํ จีวเรปิ อุปเนตุํ วฏฺฏติ. สุตฺตํ สงฺฆสฺส เทนฺติ, ปํสุกูลิเกหิปิ คเหตพฺพํ. อยํ ตาว วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺเนสุ วินิจฺฉโย. สเจ ปน พหิอุปจารสีมาย อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺเน ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส วา สงฺฆนวกสฺส วา อาโรเจติ, สเจปิ โยชนํ ผริตฺวา ปริสา ิตา โหติ, เอกาพทฺธา เจ, สพฺเพสํ ปาปุณาติ. เย ปน ทฺวาทสหิ หตฺเถหิ ปริสํ อสมฺปตฺตา, เตสํ น ปาปุณาติ.

๒๐๓. อุภโตสงฺฆสฺส เทตีติ เอตฺถ ‘‘อุภโตสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ ‘‘ทฺวิธา สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ, ‘‘ทฺวินฺนํ สงฺฆานํ ทมฺมี’’ติ, ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีสงฺฆสฺส จ ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ อุภโตสงฺฆสฺส ทินฺนเมว โหติ. ตตฺถ สเจ พหุกาปิ ภิกฺขู โหนฺติ, เอกา ภิกฺขุนี โหติ, อุปฑฺฒํ ทาตพฺพํ, ทฺเว ภาเค สเม กตฺวา เอโก ภาโค ทาตพฺโพติ อตฺโถ. สเจ พหุกาปิ ภิกฺขุนิโย โหนฺติ, เอโก ภิกฺขุ โหติ, อุปฑฺฒํ ทาตพฺพํ. ‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต สเจ ทส ทส ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ โหนฺติ, เอกวีสติ ปฏิวีเส กตฺวา เอโก ปุคฺคลสฺส ทาตพฺโพ, ทส ภิกฺขุสงฺฆสฺส, ทส ภิกฺขุนีสงฺฆสฺส. เยน ปุคฺคลิโก ลทฺโธ, โส สงฺฆโตปิ อตฺตโน วสฺสคฺเคน คเหตุํ ลภติ. กสฺมา? อุภโตสงฺฆคฺคหเณน คหิตตฺตา. ‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ เจติยสฺส จ ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. อิธ ปน เจติยสฺส สงฺฆโต ปาปุณนโกฏฺาโส นาม นตฺถิ, เอกปุคฺคลสฺส ปตฺตโกฏฺาสสโมว โกฏฺาโส โหติ. ‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน ทฺวาวีสติ โกฏฺาเส กตฺวา ทส ภิกฺขูนํ, ทส ภิกฺขุนีนํ, เอโก ปุคฺคลสฺส, เอโก เจติยสฺส ทาตพฺโพ. ตตฺถ ปุคฺคโล สงฺฆโตปิ อตฺตโน วสฺสคฺเคน คเหตุํ ลภติ, เจติยสฺส เอโกเยว.

‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนฺจ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปน น มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา ทาตพฺพํ, ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา ทาตพฺพํ. ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺเต ปน ปุคฺคโล วิสุํ น ลภติ, ปาปุณนฏฺานโต เอกเมว ลภติ. กสฺมา? ภิกฺขุสงฺฆคฺคหเณน คหิตตฺตา. ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เจติยสฺส เอกปุคฺคลปฏิวีโส ลพฺภติ, ปุคฺคลสฺส วิสุํ น ลพฺภติ, ตสฺมา เอกํ เจติยสฺส ทตฺวา อวเสสํ ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา ภาเชตพฺพํ.

‘‘ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา น ทาตพฺพํ, ปุคฺคลคณนาย เอว วิภชิตพฺพํ. ‘‘ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจ, ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ เจติยสฺส จ, ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ เอวํ วุตฺเตปิ เจติยสฺส เอกปฏิวีโส ลพฺภติ, ปุคฺคลสฺส วิสุํ นตฺถิ, ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา เอว ภาเชตพฺพํ. ยถา จ ภิกฺขุสงฺฆํ อาทึ กตฺวา นโย นีโต, เอวํ ภิกฺขุนีสงฺฆํ อาทึ กตฺวาปิ เนตพฺโพ.

‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺเต ปุคฺคลสฺส วิสุํ น ลพฺภติ, วสฺสคฺเคเนว คเหตพฺพํ. ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน เจติยสฺส วิสุํ ปฏิวีโส ลพฺภติ. ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เจติยสฺเสว วิสุํ ลพฺภติ, น ปุคฺคลสฺส. ‘‘ภิกฺขูนฺจ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺเตปิ วิสุํ น ลพฺภติ, ‘‘ภิกฺขูนฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน เจติยสฺส ลพฺภติ. ‘‘ภิกฺขูนฺจ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เจติยสฺเสว วิสุํ ลพฺภติ, น ปุคฺคลสฺส. ภิกฺขุนีสงฺฆํ อาทึ กตฺวาปิ เอวเมว โยเชตพฺพํ.

ปุพฺเพ พุทฺธปฺปมุขสฺส อุภโตสงฺฆสฺส ทานํ เทนฺติ, ภควา มชฺเฌ นิสีทติ, ทกฺขิณโต ภิกฺขู, วามโต ภิกฺขุนิโย นิสีทนฺติ, ภควา อุภินฺนํ สงฺฆตฺเถโร, ตทา ภควา อตฺตนา ลทฺธปจฺจเย อตฺตนาปิ ปริภุฺชติ, ภิกฺขูนมฺปิ ทาเปติ. เอตรหิ ปน ปณฺฑิตมนุสฺสา สธาตุกํ ปฏิมํ วา เจติยํ วา เปตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส อุภโตสงฺฆสฺส ทานํ เทนฺติ, ปฏิมาย วา เจติยสฺส วา ปุรโต อาธารเก ปตฺตํ เปตฺวา ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา ‘‘พุทฺธานํ เทมา’’ติ, ตตฺถ ปมํ ขาทนียโภชนียํ เทนฺติ, วิหารํ วา อาหริตฺวา ‘‘อิทํ เจติยสฺส เทมา’’ติ ปิณฺฑปาตฺจ มาลาคนฺธาทีนิ จ เทนฺติ, ตตฺถ กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ? มาลาคนฺธาทีนิ ตาว เจติเย อาโรเปตพฺพานิ, วตฺเถหิ ปฏากา, เตเลน ปทีปา กาตพฺพา. ปิณฺฑปาตมธุผาณิตาทีนิ ปน โย นิพทฺธเจติยชคฺคโก โหติ ปพฺพชิโต วา คหฏฺโ วา, ตสฺส ทาตพฺพานิ. นิพทฺธชคฺคเก อสติ อาหฏภตฺตํ เปตฺวา วตฺตํ กตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, อุปกฏฺเ กาเล ภุฺชิตฺวา ปจฺฉาปิ วตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติเยว. มาลาคนฺธาทีสุ จ ยํ กิฺจิ ‘‘อิทํ หริตฺวา เจติเย ปูชํ กโรถา’’ติ วุตฺเต ทูรมฺปิ หริตฺวา ปูเชตพฺพํ, ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส หรา’’ติ วุตฺเตปิ หริตพฺพํ. สเจ ปน ‘‘อหํ ปิณฺฑาย จรามิ, อาสนสาลาย ภิกฺขู อตฺถิ, เต หริสฺสนฺตี’’ติ วุตฺเต ‘‘ภนฺเต, ตุยฺหเมว ทมฺมี’’ติ วทติ, ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. อถ ปน ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทสฺสามี’’ติ หรนฺตสฺส คจฺฉโต อนฺตราว กาโล อุปกฏฺโ โหติ, อตฺตโน ปาเปตฺวา ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ.

๒๐๔. วสฺสํวุฏฺสงฺฆสฺส เทตีติ เอตฺถ ปน สเจ วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ วสฺสํวุฏฺสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ เทติ, ยตฺตกา ภิกฺขู ตสฺมึ อาวาเส วสฺสจฺเฉทํ อกตฺวา ปุริมวสฺสํวุฏฺา, เตหิ ภาเชตพฺพํ, อฺเสํ น ปาปุณาติ. ทิสาปกฺกนฺตสฺสปิ สติ คาหเก ยาว กถินสฺสุพฺภารา ทาตพฺพํ. ‘‘อนตฺถเต ปน กถิเน อนฺโตเหมนฺเต เอวฺจ วตฺวา ทินฺนํ ปจฺฉิมวสฺสํวุฏฺานมฺปิ ปาปุณาตี’’ติ ลกฺขณฺู วทนฺติ. อฏฺกถาสุ ปเนตํ น วิจาริตํ. สเจ ปน พหิอุปจารสีมายํ ิโต ‘‘วสฺสํวุฏฺสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ, สมฺปตฺตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ. อถ ‘‘อสุกวิหาเร วสฺสํวุฏฺสงฺฆสฺสา’’ติ วทติ, ตตฺร วสฺสํวุฏฺานเมว ยาว กถินสฺสุพฺภารา ปาปุณาติ. สเจ ปน คิมฺหานํ ปมทิวสโต ปฏฺาย เอวํ วทติ, ตตฺร สมฺมุขีภูตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ. กสฺมา? ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนตฺตา. อนฺโตวสฺเสเยว ‘‘วสฺสํ วสนฺตานํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ฉินฺนวสฺสา น ลภนฺติ, วสฺสํ วสนฺตาว ลภนฺติ. จีวรมาเส ปน ‘‘วสฺสํ วสนฺตานํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปจฺฉิมิกาย วสฺสูปคตานํเยว ปาปุณาติ, ปุริมิกาย วสฺสูปคตานฺจ ฉินฺนวสฺสานฺจ น ปาปุณาติ.

จีวรมาสโต ปฏฺาย ยาว เหมนฺตสฺส ปจฺฉิโม ทิวโส, ตาว ‘‘วสฺสาวาสิกํ เทมา’’ติ วุตฺเต กถินํ อตฺถตํ วา โหตุ อนตฺถตํ วา, อตีตวสฺสํวุฏฺานเมว ปาปุณาติ. คิมฺหานํ ปมทิวสโต ปฏฺาย วุตฺเต ปน มาติกา อาโรเปตพฺพา ‘‘อตีตปสฺสาวาสสฺส ปฺจ มาสา อติกฺกนฺตา, อนาคโต จาตุมาสจฺจเยน ภวิสฺสติ, กตรวสฺสาวาสสฺส เทสี’’ติ. สเจ ‘‘อตีตวสฺสํวุฏฺานํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ตํ อนฺโตวสฺสํวุฏฺานเมว ปาปุณาติ, ทิสาปกฺกนฺตานมฺปิ สภาคา คณฺหิตุํ ลภนฺติ. สเจ ‘‘อนาคเต วสฺสาวาสิกํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ตํ เปตฺวา วสฺสูปนายิกทิวเส คเหตพฺพํ. อถ ‘‘อคุตฺโต วิหาโร, โจรภยํ อตฺถิ, น สกฺกา เปตุํ คณฺหิตฺวา วา อาหิณฺฑิตุ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘สมฺปตฺตานํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ภาเชตฺวา คเหตพฺพํ. สเจ วทติ ‘‘อิโต เม, ภนฺเต, ตติเย วสฺเส วสฺสาวาสิกํ น ทินฺนํ, ตํ ทมฺมี’’ติ, ตสฺมึ อนฺโตวสฺเส วุฏฺภิกฺขูนํ ปาปุณาติ. สเจ เต ทิสา ปกฺกนฺตา, อฺโ วิสฺสาสิโก คณฺหาติ, ทาตพฺพํ. อเถโกเยว อวสิฏฺโ, เสสา กาลกตา, สพฺพํ เอกสฺเสว ปาปุณาติ. สเจ เอโกปิ นตฺถิ, สงฺฆิกํ โหติ, สมฺมุขีภูเตหิ ภาเชตพฺพํ.

๒๐๕. อาทิสฺส เทตีติ เอตฺถ ปน ยาคุยา วา ภตฺเต วา ขาทนีเย วา จีวเร วา เสนาสเน วา เภสชฺเช วา อาทิสิตฺวา ปริจฺฉินฺทิตฺวา เทนฺโต อาทิสฺส เทติ นาม. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ภิกฺขู อชฺชตนาย วา สฺวาตนาย วา ยาคุยา นิมนฺเตตฺวา เตสํ ฆรํ ปวิฏฺานํ ยาคุํ เทติ, ยาคุํ ทตฺวา ปีตาย ยาคุยา ‘‘อิมานิ จีวรานิ เยหิ มยฺหํ ยาคุ ปีตา, เตสํ ทมฺมี’’ติ เทติ, เยหิ นิมนฺติเตหิ ยาคุ ปีตา, เตสํเยว ปาปุณาติ. เยหิ ปน ภิกฺขาจารวตฺเตน ฆรทฺวาเรน คจฺฉนฺเตหิ วา ฆรํ ปวิฏฺเหิ วา ยาคุ ลทฺธา, เยสํ วา อาสนสาลโต ปตฺตํ อาหริตฺวา มนุสฺเสหิ นีตา, เยสํ วา เถเรหิ เปสิตา, เตสํ น ปาปุณาติ. สเจ ปน นิมนฺติหภิกฺขูหิ สทฺธึ อฺเปิ พหู อาคนฺตฺวา อนฺโตเคหฺจ พหิเคหฺจ ปูเรตฺวา นิสินฺนา, ทายโก จ เอวํ วทติ ‘‘นิมนฺติตา วา โหนฺตุ อนิมนฺติตา วา, เยสํ มยา ยาคุ ทินฺนา, สพฺเพสํ อิมานิ วตฺถานิ โหนฺตู’’ติ, สพฺเพสํ ปาปุณาติ. เยหิ ปน เถรานํ หตฺถโต ยาคุ ลทฺธา, เตสํ น ปาปุณาติ. อถ โส ‘‘เยหิ มยฺหํ ยาคุ ปีตา, สพฺเพสํ โหตู’’ติ วทติ, สพฺเพสํ ปาปุณาติ. ภตฺตขาทนีเยสุปิ เอเสว นโย. จีวเร ปน ปุพฺเพปิ เตน วสฺสํ วาเสตฺวา ภิกฺขูนํ จีวรํ ทินฺนปุพฺพํ โหติ, โส เจ ภิกฺขู โภเชตฺวา วทติ ‘‘เยสํ มยา ปุพฺเพ จีวรํ ทินฺนํ, เตสํเยว อิมํ จีวรํ วา สุตฺตํ วา สปฺปิมธุผาณิตาทีนิ วา โหนฺตู’’ติ, สพฺพํ เตสํเยว ปาปุณาติ. เสนาสเนปิ ‘‘โย มยา การิเต วิหาเร วา ปริเวเณ วา วสติ, ตสฺสิทํ โหตู’’ติ วุตฺเต ตสฺเสว โหติ. เภสชฺเชปิ ‘‘มยํ กาเลน กาลํ เถรานํ สปฺปิอาทีนิ เภสชฺชานิ เทม, เยหิ ตานิ ลทฺธานิ, เตสํเยวิทํ โหตู’’ติ วุตฺเต เตสํเยว โหติ.

๒๐๖. ปุคฺคลสฺส เทตีติ เอตฺถ ปน ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ เอวํ ปรมฺมุขา วา, ปาทมูเล เปตฺวา ‘‘อิทํ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ทมฺมี’’ติ เอวํ สมฺมุขา วา เทติ, ตํ ตสฺเสว โหติ. สเจ ปน ‘‘อิทํ ตุมฺหากฺจ ตุมฺหากํ อนฺเตวาสิกานฺจ ทมฺมี’’ติ เอวํ วทติ, เถรสฺส จ อนฺเตวาสิกานฺจ ปาปุณาติ. อุทฺเทสํ คเหตุํ อาคโต คเหตฺวา คจฺฉนฺโต จ อตฺถิ, ตสฺสปิ ปาปุณาติ. ‘‘ตุมฺเหหิ สทฺธึ นิพทฺธจาริกภิกฺขูนํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต อุทฺเทสนฺเตวาสิกานํ วตฺตํ กตฺวา อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนิ คเหตฺวา วิจรนฺตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ. อยํ ‘‘ปุคฺคลสฺส เทตี’’ติ อิมสฺมึ ปเท วินิจฺฉโย.

สเจ โกจิ ภิกฺขุ เอโกว วสฺสํ วสติ, ตตฺถ มนุสฺสา ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ จีวรานิ เทนฺติ, ตตฺถ กึ กาตพฺพนฺติ? ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตสฺเสว ตานิ จีวรานิ ยาว กถินสฺส อุพฺภารา’’ติ (มหาว. ๓๖๓) วจนโต สเจ (มหาว. อฏฺ. ๓๖๓) คณปูรเก ภิกฺขู ลภิตฺวา กถินํ อตฺถตํ โหติ, ปฺจ มาเส, โน เจ อตฺถตํ โหติ, เอกํ จีวรมาสํ อฺตฺถ คเหตฺวา นีตานิปิ ตสฺเสว ตานิ จีวรานิ, น เตสํ อฺโ โกจิ อิสฺสโร. ยํ ยฺหิ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ วา ‘‘สงฺฆํ อุทฺทิสฺส เทมา’’ติ วา ‘‘วสฺสํวุฏฺสงฺฆสฺส เทมา’’ติ วา ‘‘วสฺสาวาสิกํ เทมา’’ติ วา เทนฺติ, สเจปิ มตกจีวรํ อวิภชิตฺวา ตํ วิหารํ ปวิสติ, ตํ สพฺพํ ตสฺเสว ภิกฺขุโน โหติ. ยมฺปิ โส วสฺสาวาสตฺถาย วฑฺฒึ ปโยเชตฺวา ปิตอุปนิกฺเขปโต วา ตตฺรุปฺปาทโต วา วสฺสาวาสิกํ คณฺหาติ, สพฺพํ สุคฺคหิตเมว โหติ. อิทฺเหตฺถ ลกฺขณํ – เยน เตนากาเรน สงฺฆสฺส อุปฺปนฺนวตฺถํ อตฺถตกถินสฺส ปฺจ มาเส, อนตฺถตกถินสฺส เอกํ จีวรมาสํ ปาปุณาติ. สเจ ปน โกจิ ภิกฺขุ วสฺสานโต อฺสฺมึ อุตุกาเล เอกโก วสติ, ตตฺถ มนุสฺสา ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ จีวรานิ เทนฺติ, เตน ภิกฺขุนา อธิฏฺาตพฺพํ ‘‘มยฺหิมานิ จีวรานี’’ติ. อธิฏฺหนฺเตน ปน วตฺตํ ชานิตพฺพํ. เตน หิ ภิกฺขุนา ฆณฺฏึ วา ปหริตฺวา กาลํ วา โฆเสตฺวา โถกํ อาคเมตฺวา สเจ ฆณฺฏิสฺาย วา กาลสฺาย วา ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, เตหิ สทฺธึ ภาเชตพฺพานิ. เตหิ เจ ภิกฺขูหิ ตสฺมึ จีวเร ภาชิยมาเน อปาติเต กุเส อฺโ ภิกฺขุ อาคจฺฉติ, สมโก ทาตพฺโพ ภาโค, ปาติเต กุเส อฺโ ภิกฺขุ อาคจฺฉติ, น อกามา ทาตพฺโพ ภาโค. เอกโกฏฺาเสปิ หิ กุสทณฺฑเก ปาติตมตฺเต สเจปิ ภิกฺขุสหสฺสํ โหติ, คหิตเมว นาม จีวรํ, ตสฺมา น อกามา ภาโค ทาตพฺโพ. สเจ ปน อตฺตโน รุจิยา ทาตุกามา โหนฺติ, เทนฺตุ. อนุภาเคปิ เอเสว นโย.

อถ ฆณฺฏิสฺาย วา กาลสฺาย วา อฺเ ภิกฺขู น อาคจฺฉนฺติ, ‘‘มยฺหิมานิ จีวรานิ ปาปุณนฺตี’’ติ อธิฏฺาตพฺพานิ. เอวํ อธิฏฺิเต สพฺพานิ ตสฺเสว โหนฺติ, ิติกา ปน น ติฏฺติ. สเจ เอเกกํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อยํ ปมภาโค มยฺหํ ปาปุณาติ, อยํ ทุติยภาโค’’ติ เอวํ คณฺหาติ, คหิตานิ จ สุคฺคหิตานิ โหนฺติ, ิติกา จ ติฏฺติ, เอวํ ปาเปตฺวา คณฺหนฺเตนปิ อธิฏฺิตเมว โหติ. สเจ ปน ฆณฺฏึ ปหริตฺวา วา อปฺปหริตฺวา วา กาลมฺปิ โฆเสตฺวา วา อโฆเสตฺวา วา ‘‘อหเมเวตฺถ, มยฺหเมว อิมานิ จีวรานี’’ติ คณฺหาติ, ทุคฺคหิตานิ โหนฺติ. อถ ‘‘อฺโ โกจิ อิธ นตฺถิ, มยฺหํ เอตานิ ปาปุณนฺตี’’ติ คณฺหาติ, สุคฺคหิตานิ. อถ อนธิฏฺหิตฺวาว ตานิ จีวรานิ คเหตฺวา อฺํ วิหารํ อุทฺทิสฺส คจฺฉติ ‘‘ตตฺถ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ภาเชสฺสามี’’ติ, ตานิ จีวรานิ คตคตฏฺาเน สงฺฆิกาเนว โหนฺติ. ภิกฺขูหิ ทิฏฺมตฺตเมเวตฺถ ปมาณํ. ตสฺมา สเจ เกจิ ปฏิปถํ อาคจฺฉนฺตา ‘‘กุหึ, อาวุโส, คจฺฉสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘กึ, อาวุโส, มยํ สงฺโฆ น โหมา’’ติ ตตฺเถว ภาเชตฺวา คณฺหนฺติ, สุคฺคหิตานิ. สเจปิ เอส มคฺคา โอกฺกมิตฺวา กฺจิ วิหารํ วา อาสนสาลํ วา ปิณฺฑาย จรนฺโต เอกเคหเมว วา ปวิสติ, ตตฺร จ นํ ภิกฺขู ทิสฺวา ตมตฺถํ ปุจฺฉิตฺวา ภาเชตฺวา คณฺหนฺติ, สุคฺคหิตาเนว.

‘‘น, ภิกฺขเว, อฺตฺร วสฺสํวุฏฺเน อฺตฺร จีวรภาโค สาทิตพฺโพ, โย สาทิเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๓๖๔) วจนโต อฺตฺร วสฺสํวุฏฺโ อฺตฺร ภาคํ คณฺหาติ, ทุกฺกฏํ. เอตฺถ ปน กิฺจาปิ ลหุกา อาปตฺติ, อถ โข คหิตานิ จีวรานิ คหิตฏฺาเน ทาตพฺพานิ. สเจปิ นฏฺานิ วา ชิณฺณานิ วา โหนฺติ, ตสฺเสว คีวา. ‘‘เทหี’’ติ วุตฺเต อเทนฺโต ธุรนิกฺเขเป ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ.

เอโก ภิกฺขุ ทฺวีสุ อาวาเสสุ วสฺสํ วสติ ‘‘เอวํ เม พหุ จีวรํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ, เอกํ ปุคฺคลปฏิวีสํเยว ลภติ. ตสฺมา สเจ เอเกกสฺมึ วิหาเร เอกาหเมกาหํ วา สตฺตาหํ วา วสติ, เอเกกสฺมึ วิหาเร ยํ เอโก ปุคฺคโล ลภติ, ตโต ตโต อุปฑฺฒํ อุปฑฺฒํ ทาตพฺพํ. เอวฺหิ เอกปุคฺคลปฏิวีโส ทินฺโน โหติ. สเจ ปน เอกสฺมึ วิหาเร วสนฺโต อิตรสฺมึ สตฺตาหวาเรน อรุณเมว อุฏฺาเปติ, พหุตรํ วสิตวิหารโต ตสฺส ปฏิวีโส ทาตพฺโพ. เอวมฺปิ เอกปุคฺคลปฏิวีโสเยว ทินฺโน โหติ. อิทฺจ นานาลาเภหิ นานูปจาเรหิ เอกสีมาวิหาเรหิ กถิตํ, นานาสีมาวิหาเร ปน เสนาสนคฺคาโห ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. ตสฺมา ตตฺถ จีวรปฏิวีโส น ปาปุณาติ, เสสํ ปน อามิสเภสชฺชาทิ สพฺพํ สพฺพตฺถ อนฺโตสีมาคตสฺส ปาปุณาติ.

๒๐๗. ‘‘ภิกฺขุสฺส, ภิกฺขเว, กาลกเต สงฺโฆ สามี ปตฺตจีวเร, อปิจ คิลานุปฏฺากา พหูปการา, อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สงฺเฆน ติจีวรฺจ ปตฺตฺจ คิลานุปฏฺากานํ ทาตุํ, ยํ ตตฺถ ลหุภณฺฑํ ลหุปริกฺขารํ, ตํ สมฺมุขีภูเตน สงฺเฆน ภาเชตุํ, ยํ ตตฺถ ครุภณฺฑํ ครุปริกฺขารํ, ตํ อาคตานาคตจาตุทฺทิสสฺส สงฺฆสฺส อวิสฺสชฺชิกํ อเวภงฺคิก’’นฺติ (มหาว. ๓๖๙) วจนโต ภิกฺขุสฺมึ กาลกเต อปโลเกตฺวา วา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ กาลกโต, อิทํ ตสฺส ติจีวรฺจ ปตฺโต จ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ ติจีวรฺจ ปตฺตฺจ คิลานุปฏฺากานํ ทเทยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ กาลกโต, อิทํ ตสฺส ติจีวรฺจ ปตฺโต จ, สงฺโฆ อิมํ ติจีวรฺจ ปตฺตฺจ คิลานุปฏฺากานํ เทติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิมสฺส ติจีวรสฺส จ ปตฺตสฺส จ คิลานุปฏฺากานํ ทานํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทินฺนํ อิทํ สงฺเฆน ติจีวรฺจ ปตฺโต จ คิลานุปฏฺากานํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๓๖๗) –

เอวํ กมฺมวาจํ วา สาเวตฺวา คิลานุปฏฺากานํ ปตฺตจีวรํ ทตฺวา เสสํ ลหุปริกฺขารํ สมฺมุขีภูเตน สงฺเฆน ภาเชตฺวา คเหตพฺพํ.

๒๐๘. คิลานุปฏฺากานํ ลาเภ ปน อยํ วินิจฺฉโย – สเจ สกเล ภิกฺขุสงฺเฆ อุปฏฺหนฺเต กาลํ กโรติ, สพฺเพปิ สามิกา. อถ เอกจฺเจหิ วาเร กเต เอกจฺเจหิ อกเตเยว กาลํ กโรติ, ตตฺร เอกจฺเจ อาจริยา วทนฺติ ‘‘สพฺเพปิ อตฺตโน วาเร สมฺปตฺเต กเรยฺยุํ, ตสฺมา สพฺเพปิ สามิโน’’ติ. เอกจฺเจ วทนฺติ ‘‘เยหิ ชคฺคิโต, เต เอว ลภนฺติ, อิตเร น ลภนฺตี’’ติ. สามเณเรปิ กาลกเต สเจ จีวรํ อตฺถิ, คิลานุปฏฺากานํ ทาตพฺพํ. โน เจ อตฺถิ, ยํ อตฺถิ, ตํ ทาตพฺพํ. อฺสฺมึ ปริกฺขาเร สติ จีวรภาคํ กตฺวา ทาตพฺพํ. ภิกฺขุ จ สามเณโร จ สเจ สมํ อุปฏฺหึสุ, สมโก ภาโค ทาตพฺโพ. อถ สามเณโรว อุปฏฺหติ, ภิกฺขุสฺส สํวิทหนมตฺตเมว โหติ, สามเณรสฺส เชฏฺโกฏฺาโส ทาตพฺโพ. สเจ สามเณโร ภิกฺขุนา อานีตอุทเกน ยาคุํ ปจิตฺวา ปฏิคฺคหาปนมตฺตเมว กโรติ, ภิกฺขุ อุปฏฺหติ, ภิกฺขุสฺส เชฏฺภาโค ทาตพฺโพ. พหู ภิกฺขู สพฺเพ สมคฺคา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ, สพฺเพสํ สมโก ภาโค ทาตพฺโพ. โย ปเนตฺถ วิเสเสน อุปฏฺหติ, ตสฺส วิเสโส กาตพฺโพ.

เยน ปน เอกทิวสมฺปิ คิลานุปฏฺากวเสน ยาคุภตฺตํ วา ปจิตฺวา ทินฺนํ, นฺหานํ วา ปฏิสาทิตํ, โสปิ คิลานุปฏฺาโกว. โย ปน สมีปํ อนาคนฺตฺวา เภสชฺชตณฺฑุลาทีนิ เปเสติ, อยํ คิลานุปฏฺาโก น โหติ. โย ปริเยสิตฺวา คาเหตฺวา อาคจฺฉติ, อยํ คิลานุปฏฺาโกว. เอโก วตฺตสีเสน ชคฺคติ, เอโก ปจฺจาสาย, มตกาเล อุโภปิ ปจฺจาสีสนฺติ, อุภินฺนมฺปิ ทาตพฺพํ. เอโก อุปฏฺหิตฺวา คิลานสฺส วา กมฺเมน อตฺตโน วา กมฺเมน กตฺถจิ คโต ‘‘ปุน อาคนฺตฺวา ชคฺคิสฺสามี’’ติ, เอตสฺสปิ ทาตพฺพํ. เอโก จิรํ อุปฏฺหิตฺวา ‘‘อิทานิ น สกฺโกมี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา คจฺฉติ, สเจปิ ตํ ทิวสเมว คิลาโน กาลํ กโรติ, อุปฏฺากภาโค น ทาตพฺโพ. คิลานุปฏฺาโก นาม คิหี วา โหตุ ปพฺพชิโต วา อนฺตมโส มาตุคาโมปิ, สพฺเพ ภาคํ ลภนฺติ. สเจ ตสฺส ภิกฺขุโน ปตฺตจีวรมตฺตเมว โหติ, อฺํ นตฺถิ, สพฺพํ คิลานุปฏฺากานํเยว ทาตพฺพํ. สเจปิ สหสฺสํ อคฺฆติ, อฺํ ปน พหุมฺปิ ปริกฺขารํ เต น ลภนฺติ, สงฺฆสฺเสว โหติ. อวเสสํ ภณฺฑํ พหุ เจว มหคฺฆฺจ, ติจีวรํ อปฺปคฺฆํ, ตโต คเหตฺวา ติจีวรปริกฺขาโร ทาตพฺโพ, สพฺพฺเจตํ สงฺฆิกโตว ลพฺภติ. สเจ ปน โส ชีวมาโนเยว สพฺพํ อตฺตโน ปริกฺขารํ นิสฺสชฺชิตฺวา กสฺสจิ อทาสิ, โกจิ วา วิสฺสาสํ อคฺคเหสิ, ยสฺส ทินฺนํ, เยน จ คหิตํ, ตสฺเสว โหติ, ตสฺส รุจิยา เอว คิลานุปฏฺากา ลภนฺติ. อฺเสํ อทตฺวา ทูเร ปิตปริกฺขาราปิ ตตฺถ ตตฺถ สงฺฆสฺเสว โหนฺติ. ทฺวินฺนํ สนฺตกํ โหติ อวิภตฺตํ, เอกสฺมึ กาลกเต อิตโร สามี. พหูนมฺปิ สนฺตเก เอเสว นโย. สพฺเพสุ มเตสุ สงฺฆิกํ โหติ. สเจปิ อวิภชิตฺวา สทฺธิวิหาริกาทีนํ เทนฺติ, อทินฺนเมว โหติ, วิภชิตฺวา ทินฺนํ ปน สุทินฺนํ. ตํ เตสุ มเตสุปิ สทฺธิวิหาริกาทีนํเยว โหติ, น สงฺฆสฺส.

สเจ วสฺสํวุฏฺโ ภิกฺขุ อนุปฺปนฺเน วา อุปฺปนฺเน วา จีวเร อภาชิเต วา ปกฺกมติ, อุมฺมตฺตโก ขิตฺตจิตฺโต เวทนาฏฺโฏ อุกฺขิตฺตโก วา โหติ, สนฺเต ปติรูเป คาหเก ภาโค ทาตพฺโพ. สเจ ปน วิพฺภมติ วา กาลํ วา กโรติ สามเณโร วา ปฏิชานาติ, สิกฺขํ ปจฺจกฺขาตโก, อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺนโก, ปณฺฑโก, เถยฺยสํวาสโก, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก, ติรจฺฉานคโต, มาตุฆาตโก, ปิตุฆาตโก, อรหนฺตฆาตโก, ภิกฺขุนีทูสโก, สงฺฆเภทโก, โลหิตุปฺปาทโก, อุภโตพฺยฺชนโก วา ปฏิชานาติ, สงฺโฆ สามี, ภาโค น ทาตพฺโพ.

สเจ วสฺสํวุฏฺานํ ภิกฺขูนํ อนุปฺปนฺเน จีวเร สงฺโฆ ภิชฺชติ, โกสมฺพกภิกฺขู วิย ทฺเว โกฏฺาสา โหนฺติ, ตตฺถ มนุสฺสา เอกสฺมึ ปกฺเข ทกฺขิโณทกฺจ คนฺธาทีนิ จ เทนฺติ, เอกสฺมึ จีวรานิ เทนฺติ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ, ยตฺถ วา อุทกํ ทินฺนํ, ยสฺมึเยว ปกฺเข จีวรานิ เทนฺติ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ, สงฺฆสฺเสว ตานิ จีวรานิ, ทฺวินฺนมฺปิ โกฏฺาสานํ ปาปุณนฺติ, ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ทฺวีหิปิ ปกฺเขหิ เอกโต ภาเชตพฺพานิ. สเจ ปน มนุสฺสา เอกสฺมึ ปกฺเข ทกฺขิโณทกํ คนฺธาทีนิ จ เทนฺติ, เอกสฺมึ ปกฺเข จีวรานิ เทนฺติ ‘‘ปกฺขสฺส เทมา’’ติ, ปกฺขสฺเสว ตานิ จีวรานิ. เอวฺหิ ทินฺเน ยสฺส โกฏฺาสสฺส อุทกํ ทินฺนํ, ตสฺส อุทกเมว โหติ. ยสฺส จีวรํ ทินฺนํ, ตสฺเสว จีวรํ. ยสฺมึ ปเทเส ทกฺขิโณทกํ ปมาณํ โหติ, ตตฺถ เอโก ปกฺโข ทกฺขิโณทกสฺส ลทฺธตฺตา จีวรานิ ลภติ, เอโก จีวรานเมว ลทฺธตฺตาติ อุโภหิ เอกโต หุตฺวา ยถาวุฑฺฒํ ภาเชตพฺพํ. ‘‘อิทํ กิร ปรสมุทฺเท ลกฺขณ’’นฺติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. สเจ ยสฺมึ ปกฺเข อุทกํ ทินฺนํ, ตสฺมึเยว ปกฺเข จีวรานิ เทนฺติ ‘‘ปกฺขสฺส เทมา’’ติ, ปกฺขสฺเสว ตานิ จีวรานิ, อิตโร ปกฺโข อนิสฺสโรเยว. สเจ ปน วสฺสํวุฏฺานํ ภิกฺขูนํ อุปฺปนฺเน จีวเร อภาชิเต สงฺโฆ ภิชฺชติ, สพฺเพสํ สมกํ ภาเชตพฺพํ.

สเจ สมฺพหุเลสุ ภิกฺขูสุ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺเนสุ เกจิ ภิกฺขู ปํสุกูลตฺถาย สุสานํ โอกฺกมนฺติ, เกจิ อนาคเมนฺตา ปกฺกมนฺติ, อนาคเมนฺตานํ น อกามา ภาโค ทาตพฺโพ, อาคเมนฺตานํ ปน อกามาปิ ทาตพฺโพ ภาโค. ยทิ ปน มนุสฺสา ‘‘อิธาคตา เอว คณฺหนฺตู’’ติ เทนฺติ, สฺาณํ วา กตฺวา คจฺฉนฺติ ‘‘สมฺปตฺตา คณฺหนฺตู’’ติ, สมฺปตฺตานํ สพฺเพสมฺปิ ปาปุณาติ. สเจ ฉฑฺเฑตฺวา คตา, เยน คหิตํ, โส เอว สามี. สเจ เกจิ ภิกฺขู ปมํ สุสานํ โอกฺกมนฺติ, เกจิ ปจฺฉา, ตตฺถ ปมํ โอกฺกนฺตา ปํสุกูลํ ลภนฺติ, ปจฺฉา โอกฺกนฺตา น ลภนฺติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปจฺฉา โอกฺกนฺตานํ น อกามา ภาคํ ทาตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๔๑) วจนโต ปจฺฉา โอกฺกนฺตานํ อกามา ภาโค น ทาตพฺโพ. สเจ ปน สพฺเพปิ สมํ โอกฺกนฺตา, เกจิ ลภนฺติ, เกจิ น ลภนฺติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สทิสานํ โอกฺกนฺตานํ อกามาปิ ภาคํ ทาตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๔๑) วจนโต สมํ โอกฺกนฺตานํ อกามาปิ ภาโค ทาตพฺโพ. สเจ ปน ‘‘ลทฺธํ ปํสุกูลํ สพฺเพ ภาเชตฺวา คณฺหิสฺสามา’’ติ พหิเมว กติกํ กตฺวา สุสานํ โอกฺกนฺตา เกจิ ลภนฺติ, เกจิ น ลภนฺติ, ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กติกํ กตฺวา โอกฺกนฺตานํ อกามา ภาคํ ทาตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๔๑) วจนโต กติกํ กตฺวา โอกฺกนฺตานมฺปิ อกามา ภาโค ทาตพฺโพ. อยํ ตาว จีวรภาชนียกถา.

๒๐๙. ปิณฺฑปาตภาชเน ปน ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สงฺฆภตฺตํ อุทฺเทสภตฺตํ นิมนฺตนํ สลากภตฺตํ ปกฺขิกํ อุโปสถิกํ ปาฏิปทิก’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๕) เอวํ อนุฺาเตสุ สงฺฆภตฺตาทีสุ อยํ วินิจฺฉโย (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๕) –

สงฺฆภตฺตํ นาม สกลสฺส สงฺฆสฺส ทาตพฺพํ ภตฺตํ. ตสฺมา สงฺฆภตฺเต ิติกา นาม นตฺถิ, ตโตเยว จ ‘‘อมฺหากํ อชฺช ทส ทฺวาทส ทิวสา ภุฺชนฺตานํ, อิทานิ อฺโต ภิกฺขู อาเนถา’’ติ น เอวํ ตตฺถ วตฺตพฺพํ, ‘‘ปุริมทิวเสสุ อมฺเหหิ น ลทฺธํ, อิทานิ ตํ อมฺหากํ คาเหถา’’ติ เอวมฺปิ วตฺตุํ น ลภติ. ตฺหิ อาคตาคตานํ ปาปุณาติเยว.

อุทฺเทสภตฺตาทีสุ ปน อยํ นโย – รฺา วา ราชมหามตฺเตน วา ‘‘สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา เอตฺตเก ภิกฺขู อาเนถา’’ติ ปหิเต กาลํ โฆเสตฺวา ิติกา ปุจฺฉิตพฺพา. สเจ อตฺถิ, ตโต ปฏฺาย คาเหตพฺพํ. โน เจ, เถราสนโต ปฏฺาย คาเหตพฺพํ. อุทฺเทสเกน ปิณฺฑปาติกานมฺปิ น อติกฺกาเมตพฺพํ. เต ปน ธุตงฺคํ รกฺขนฺตา สยเมว อติกฺกมิสฺสนฺติ. เอวํ คาหิยมาเน อลสชาติกา มหาเถรา ปจฺฉา อาคจฺฉนฺติ, ‘‘ภนฺเต, วีสติวสฺสานํ คาหียติ, ตุมฺหากํ ิติกา อติกฺกนฺตา’’ติ น วตฺตพฺพา, ิติกํ เปตฺวา เตสํ คาเหตฺวา ปจฺฉา ิติกาย คาเหตพฺพํ. ‘‘อสุกวิหาเร พหุ อุทฺเทสภตฺตํ อุปฺปนฺน’’นฺติ สุตฺวา โยชนนฺตริกวิหารโตปิ ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, สมฺปตฺตสมฺปตฺตานํ ิตฏฺานโต ปฏฺาย คาเหตพฺพํ, อสมฺปตฺตานมฺปิ อุปจารสีมํ ปวิฏฺานํ อนฺเตวาสิกาทีสุ คณฺหนฺเตสุ คาเหตพฺพเมว. ‘‘พหิอุปจารสีมายํ ิตานํ คาเหถา’’ติ วทนฺติ, น คาเหตพฺพํ. สเจ อุปจารสีมํ โอกฺกนฺเตหิ เอกาพทฺธา หุตฺวา อตฺตโน วิหารทฺวาเร วา อนฺโตวิหาเรเยว วา โหนฺติ, ปริสวเสน วฑฺฒิตา นาม สีมา โหติ, ตสฺมา คาเหตพฺพํ. สงฺฆนวกสฺส ทินฺเนปิ ปจฺฉา อาคตานํ คาเหตพฺพเมว. ทุติยภาเค ปน เถราสนํ อารุฬฺเห ปุน อาคตานํ ปมภาโค น ปาปุณาติ, ทุติยภาคโต วสฺสคฺเคน คาเหตพฺพํ.

เอกสฺมึ วิหาเร เอกํ ภตฺตุทฺเทสฏฺานํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา คาวุตปฺปมาณายปิ อุปจารสีมาย ยตฺถ กตฺถจิ อาโรจิตํ อุทฺเทสภตฺตํ ตสฺมึเยว ภตฺตุทฺเทสฏฺาเน คาเหตพฺพํ. เอโก เอกสฺส ภิกฺขุโน ปหิณติ ‘‘สฺเว สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา ทส ภิกฺขู ปหิณถา’’ติ, เตน โส อตฺโถ ภตฺตุทฺเทสกสฺส อาโรเจตพฺโพ. สเจ ตํ ทิวสํ ปมุสฺสติ, ทุติยทิวเส ปาโตว อาโรเจตพฺโพ, อถ ปมุสฺสิตฺวาว ปิณฺฑาย ปวิสนฺโต สรติ, ยาว อุปจารสีมํ นาติกฺกมติ, ตาว ยา โภชนสาลาย ปกติิติกา, ตสฺสาเยว วเสน คาเหตพฺพํ. สเจปิ อุปจารสีมํ อติกฺกนฺโต, ภิกฺขู จ อุปจารสีมฏฺเกหิ เอกาพทฺธา โหนฺติ, อฺมฺํ ทฺวาทสหตฺถนฺตรํ อวิชหิตฺวา คจฺฉนฺติ, ปกติิติกาย วเสน คาเหตพฺพํ. ภิกฺขูนํ ปน ตาทิเส เอกาพทฺเธ อสติ พหิอุปจารสีมาย ยสฺมึ าเน สรติ, ตตฺถ นวํ ิติกํ กตฺวา คาเหตพฺพํ. อนฺโตคาเม อาสนสาลาย สรนฺเตน อาสนสาลาย ิติกาย คาเหตพฺพํ. ยตฺถ กตฺถจิ สริตฺวา คาเหตพฺพเมว, อคาเหตุํ น วฏฺฏติ. น หิ เอตํ ทุติยทิวเส ลพฺภตีติ.

สเจ สกวิหารโต อฺํ วิหารํ คจฺฉนฺเต ภิกฺขู ทิสฺวา โกจิ อุทฺเทสภตฺตํ อุทฺทิสาเปติ, ยาว อนฺโตอุปจาเร วา อุปจารสีมฏฺเกหิ สทฺธึ วุตฺตนเยน เอกาพทฺธา วา โหนฺติ, ตาว สกวิหาเร ิติกาวเสน คาเหตพฺพํ. พหิอุปจาเร ิตานํ ทินฺนํ ปน ‘‘สงฺฆโต, ภนฺเต, เอตฺตเก นาม ภิกฺขู อุทฺทิสถา’’ติ วุตฺเต สมฺปตฺตสมฺปตฺตานํ คาเหตพฺพํ. ตตฺถ ทฺวาทสหตฺถนฺตรํ อวิชหิตฺวา เอกาพทฺธนเยน ทูเร ิตาปิ สมฺปตฺตาเยวาติ เวทิตพฺพา. สเจ ยํ วิหารํ คจฺฉนฺติ, ตตฺถ ปวิฏฺานํ อาโรเจนฺติ, ตสฺส วิหารสฺส ิติกาวเสน คาเหตพฺพํ. สเจปิ คามทฺวาเร วา วีถิยํ วา จตุกฺเก วา อนฺตรฆเร วา ภิกฺขู ทิสฺวา โกจิ สงฺฆุทฺเทสํ อาโรเจติ, ตสฺมึ ตสฺมึ าเน อนฺโตอุปจารคตานํ คาเหตพฺพํ.

ฆรูปจาโร เจตฺถ เอกฆรํ เอกูปจารํ, เอกฆรํ นานูปจารํ, นานาฆรํ เอกูปจารํ, นานาฆรํ นานูปจารนฺติ อิเมสํ วเสน เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ยํ เอกกุลสฺส ฆรํ เอกวฬฺชํ โหติ, ตํ สุปฺปปาตปริจฺเฉทสฺส อนฺโต เอกูปจารํ นาม, ตตฺถุปฺปนฺโน อุทฺเทสลาโภ เอกสฺมึ อุปจาเร ภิกฺขาจารวตฺเตนปิ ิตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ. เอตํ เอกฆรํ เอกูปจารํ นาม. ยํ ปน เอกฆรํ ทฺวินฺนํ ภริยานํ สุขวิหารตฺถาย มชฺเฌ ภิตฺตึ อุฏฺเปตฺวา นานาทฺวารวฬฺชํ กตํ, ตตฺถุปฺปนฺโน อุทฺเทสลาโภ ภิตฺติอนฺตริกสฺส น ปาปุณาติ, ตสฺมึ ตสฺมึ าเน นิสินฺนสฺเสว ปาปุณาติ. เอตํ เอกฆรํ นานูปจารํ นาม. ยสฺมึ ปน ฆเร พหู ภิกฺขู นิมนฺเตตฺวา อนฺโตเคหโต ปฏฺาย เอกาพทฺเธ กตฺวา ปฏิวิสฺสกฆรานิปิ ปูเรตฺวา นิสีทาเปนฺติ, ตตฺถ อุปฺปนฺโน อุทฺเทสลาโภ สพฺเพสํ ปาปุณาติ. ยมฺปิ นานากุลสฺส นิเวสนํ มชฺเฌ ภิตฺตึ อกตฺวา เอกทฺวาเรเนว วฬฺชนฺติ, ตตฺราปิ เอเสว นโย. เอตํ นานาฆรํ เอกูปจารํ นาม. โย ปน นานานิเวสเนสุ นิสินฺนานํ ภิกฺขูนํ อุทฺเทสลาโภ อุปฺปชฺชติ, กิฺจาปิ ภิตฺติจฺฉิทฺเทน ภิกฺขู ทิสฺสนฺติ, ตสฺมึ ตสฺมึ นิเวสเน นิสินฺนานํเยว ปาปุณาติ. เอตํ นานาฆรํ นานูปจารํ นาม.

โย ปน คามทฺวารวีถิจตุกฺเกสุ อฺตรสฺมึ าเน อุทฺเทสภตฺตํ ลภิตฺวา อฺสฺมึ ภิกฺขุสฺมึ อสติ อตฺตโนว ปาปุณาเปตฺวา ทุติยทิวเสปิ ตสฺมึเยว าเน อฺํ ลภติ, เตน ยํ อฺํ นวกํ วา วุฑฺฒํ วา ภิกฺขุํ ปสฺสติ, ตสฺส คาเหตพฺพํ. สเจ โกจิ นตฺถิ, อตฺตโนว ปาเปตฺวา ภุฺชิตพฺพํ. สเจ อาสนสาลาย นิสีทิตฺวา กาลํ ปฏิมาเนนฺเตสุ ภิกฺขูสุ โกจิ อาคนฺตฺวา ‘‘สงฺฆุทฺเทสปตฺตํ เทถ, อุทฺเทสปตฺตํ เทถ, สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา ปตฺตํ เทถ, สงฺฆิกํ ปตฺตํ เทถา’’ติ วา วทติ, อุทฺเทสปตฺตํ ิติกาย คาเหตฺวา ทาตพฺพํ. ‘‘สงฺฆุทฺเทสภิกฺขุํ เทถ, สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา ภิกฺขุํ เทถ, สงฺฆิกํ ภิกฺขุํ เทถา’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย.

อุทฺเทสโก ปเนตฺถ เปสโล ลชฺชี เมธาวี อิจฺฉิตพฺโพ, เตน ติกฺขตฺตุํ ิติกํ ปุจฺฉิตฺวา สเจ โกจิ ิติกํ ชานนฺโต นตฺถิ, เถราสนโต คาเหตพฺพํ. สเจ ปน ‘‘อหํ ชานามิ, ทสวสฺเสน ลทฺธ’’นฺติ โกจิ ภณติ, ‘‘อตฺถาวุโส, ทสวสฺสา ภิกฺขู’’ติ ปุจฺฉิตพฺพํ. สเจ ตสฺส สุตฺวาว ‘‘ทสวสฺสมฺห ทสวสฺสมฺหา’’ติ พหู อาคจฺฉนฺติ, ‘‘ตุยฺหํ ปาปุณาติ, ตุยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ อคตฺวา ‘‘สพฺเพ อปฺปสทฺทา โหถา’’ติ วตฺวา ปฏิปาฏิยา เปตพฺพา, เปตฺวา ‘‘กติ ภิกฺขู อิจฺฉถา’’ติ อุปาสโก ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘เอตฺตเก นาม, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ตุยฺหํ ปาปุณาติ, ตุยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ อวตฺวา สพฺพนวกสฺส วสฺสคฺคฺจ อุตุ จ ทิวสภาโค จ ฉายา จ ปุจฺฉิตพฺพา. สเจ ฉายายปิ ปุจฺฉิยมานาย อฺโ วุฑฺฒตโร อาคจฺฉติ, ตสฺส ทาตพฺพํ. อถ ฉายํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ตุยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ วุตฺเต วุฑฺฒตโร อาคจฺฉติ, น ลภติ. กถาปปฺเจน หิ นิสินฺนสฺสปิ นิทฺทายนฺตสฺสปิ คาหิตํ สุคฺคาหิตํ, อติกฺกนฺตํ สุอติกฺกนฺตํ. ภาชนียภณฺฑฺหิ นาเมตํ สมฺปตฺตสฺเสว ปาปุณาติ, ตตฺถ สมฺปตฺตภาโว อุปจาเรน ปริจฺฉินฺทิตพฺโพ. อาสนสาลาย จ อนฺโตปริกฺเขโป อุปจาโร, ตสฺมึ ิตสฺส ลาโภ ปาปุณาติ.

โกจิ อาสนสาลโต อฏฺ อุทฺเทสปตฺเต อาหราเปตฺวา สตฺต ปตฺเต ปณีตโภชนานํ, เอกํ อุทกสฺส ปูเรตฺวา อาสนสาลํ ปหิณติ, คเหตฺวา อาคตา กิฺจิ อวตฺวา ภิกฺขูนํ หตฺเถสุ ปติฏฺเปตฺวา ปกฺกมนฺติ, เยน ยํ ลทฺธํ, ตสฺเสว ตํ โหติ. เยน ปน อุทกํ ลทฺธํ, ตสฺส อติกฺกนฺตมฺปิ ิติกํ เปตฺวา อฺํ อุทฺเทสภตฺตํ คาเหตพฺพํ, ตฺจ ลูขํ วา ลภตุ ปณีตํ วา ติจีวรปริวารํ วา, ตสฺเสว ตํ โหติ. อีทิโส หิสฺส ปุฺวิเสโส, อุทกํ ปน ยสฺมา อามิสํ น โหติ, ตสฺมา อฺํ อุทฺเทสภตฺตํ ลภติ. สเจ ปน เต คเหตฺวา อาคตา ‘‘อิทํ กิร, ภนฺเต, สพฺพํ ภาเชตฺวา ภุฺชถา’’ติ วตฺวา คจฺฉนฺติ, สพฺเพหิ ภาเชตฺวา ภุฺชิตฺวา อุทกํ ปาตพฺพํ. ‘‘สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา อฏฺ มหาเถเร เทถ, มชฺฌิเม เทถ, นวเก เทถ, ปริปุณฺณวสฺเส สามเณเร เทถ, มชฺฌิมภาณกาทโย เทถ, มยฺหํ าติภิกฺขู เทถา’’ติ วทนฺตสฺส ปน ‘‘อุปาสก, ตฺวํ เอวํ วทสิ, ิติกาย ปน เตสํ น ปาปุณาตี’’ติ วตฺวา ิติกาวเสเนว ทาตพฺพา. ทหรสามเณเรหิ ปน อุทฺเทสภตฺเตสุ ลทฺเธสุ สเจ ทายกานํ ฆเร มงฺคลํ โหติ, ‘‘ตุมฺหากํ อาจริยุปชฺฌาเย เปเสถา’’ติ วตฺตพฺพํ. ยสฺมึ ปน อุทฺเทสภตฺเต ปมภาโค สามเณรานํ ปาปุณาติ, อนุภาโค มหาเถรานํ, น ตตฺถ สามเณรา ‘‘มยํ ปมภาคํ ลภิมฺหา’’ติ ปุรโต คนฺตุํ ลภนฺติ, ยถาปฏิปาฏิยา เอว คนฺตพฺพํ. ‘‘สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา ตุมฺเห เอถา’’ติ วุตฺเต ‘‘มยฺหํ อฺทาปิ ชานิสฺสสิ, ิติกา ปน เอวํ คจฺฉตี’’ติ ิติกาวเสเนว คาเหตพฺพํ. อถ ‘‘สงฺฆุทฺเทสปตฺตํ เทถา’’ติ วตฺวา อคฺคาหิเตเยว ปตฺเต ยสฺส กสฺสจิ ปตฺตํ คเหตฺวา ปูเรตฺวา อาหรติ, อาหฏมฺปิ ิติกาย เอว คาเหตพฺพํ.

เอโก ‘‘สงฺฆุทฺเทสปตฺตํ อาหรา’’ติ เปสิโต ‘‘ภนฺเต, เอกํ ปตฺตํ เทถ, นิมนฺตนภตฺตํ อาหริสฺสามี’’ติ วทติ, โส เจ ‘‘อุทฺเทสภตฺตฆรโต อยํ อาคโต’’ติ ตฺวา ภิกฺขูหิ ‘‘นนุ ตฺวํ อสุกฆรโต อาคโต’’ติ วุตฺโต ‘‘อาม, ภนฺเต, น นิมนฺตนภตฺตํ, อุทฺเทสภตฺต’’นฺติ ภณติ, ิติกาย คาเหตพฺพํ. โย ปน ‘‘เอกํ ปตฺตํ อาหรา’’ติ วุตฺเต ‘‘กินฺติ วตฺวา อาหรามี’’ติ วตฺวา ‘‘ยถา เต รุจฺจตี’’ติ วุตฺโต อาคจฺฉติ, อยํ วิสฺสฏฺทูโต นาม. อุทฺเทสปตฺตํ วา ปฏิปาฏิปตฺตํ วา ปุคฺคลิกปตฺตํ วา ยํ อิจฺฉติ, ตํ เอตสฺส ทาตพฺพํ. เอโก พาโล อพฺยตฺโต ‘‘อุทฺเทสปตฺตํ อาหรา’’ติ เปสิโต วตฺตุํ น ชานาติ, ตุณฺหีภูโต ติฏฺติ, โส ‘‘กสฺส สนฺติกํ อาคโตสี’’ติ วา ‘‘กสฺส ปตฺตํ หริสฺสสี’’ติ วา น วตฺตพฺโพ. เอวฺหิ วุตฺโต ปุจฺฉาสภาเคน ‘‘ตุมฺหากํ สนฺติกํ อาคโตมฺหี’’ติ วา ‘‘ตุมฺหากํ ปตฺตํ หริสฺสามี’’ติ วา วเทยฺย. ตโต ตํ ภิกฺขุํ อฺเ ภิกฺขู ชิคุจฺฉนฺตา น โอโลเกยฺยุํ, ‘‘กุหึ คจฺฉสิ, กึ กโรนฺโต อาหิณฺฑสี’’ติ ปน วตฺตพฺโพ. ตสฺส ‘‘อุทฺเทสปตฺตตฺถาย อาคโตมฺหี’’ติ วทนฺตสฺส คาเหตฺวา ปตฺโต ทาตพฺโพ.

เอกา กูฏฏฺิติกา นาม โหติ. รฺโ วา ราชมหามตฺตสฺส วา เคเห อติปณีตานิ อฏฺ อุทฺเทสภตฺตานิ นิจฺจํ ทียนฺติ, ตานิ เอกจาริกภตฺตานิ กตฺวา ภิกฺขู วิสุํ ิติกาย ปริภุฺชนฺติ. เอกจฺเจ ภิกฺขู ‘‘สฺเว ทานิ อมฺหากํ ปาปุณิสฺสนฺตี’’ติ อตฺตโน ิติกํ สลฺลกฺเขตฺวา คตา. เตสุ อนาคเตสุเยว อฺเ อาคนฺตุกา ภิกฺขู อาคนฺตฺวา อาสนสาลาย นิสีทนฺติ. ตงฺขณฺเว ราชปุริสา อาคนฺตฺวา ‘‘ปณีตภตฺตปตฺเต เทถา’’ติ วทนฺติ, อาคนฺตุกา ิติกํ อชานนฺตา คาเหนฺติ, ตงฺขณฺเว จ ิติกํ ชานนกภิกฺขู อาคนฺตฺวา ‘‘กึ คาเหถา’’ติ วทนฺติ. ราชเคเห ปณีตภตฺตนฺติ. กติวสฺสโต ปฏฺายาติ. เอตฺตกวสฺสโต นามาติ. ‘‘มา คาเหถา’’ติ นิวาเรตฺวา ิติกาย คาเหตพฺพํ. คาหิเต อาคเตหิปิ, ปตฺตทานกาเล อาคเตหิปิ, ทินฺนกาเล อาคเตหิปิ, ราชเคหโต ปตฺเต ปูเรตฺวา อาหฏกาเล อาคเตหิปิ, ราชา ‘‘อชฺช ภิกฺขูเยว อาคจฺฉนฺตู’’ติ เปเสตฺวา ภิกฺขูนํเยว หตฺเถ ปิณฺฑปาตํ เทติ, เอวํ ทินฺนํ ปิณฺฑปาตํ คเหตฺวา อาคตกาเล อาคเตหิปิ ิติกํ ชานนกภิกฺขูหิ ‘‘มา ภุฺชิตฺถา’’ติ วาเรตฺวา ิติกายเมว คาเหตพฺพํ.

อถ เน ราชา โภเชตฺวา ปตฺเตปิ เนสํ ปูเรตฺวา เทติ, ยํ อาหฏํ, ตํ ิติกาย คาเหตพฺพํ. สเจ ปน ‘‘มา ตุจฺฉหตฺถา คจฺฉนฺตู’’ติ โถกเมว ปตฺเตสุ ปกฺขิตฺตํ โหติ, ตํ น คาเหตพฺพํ. ‘‘อถ ภุฺชิตฺวา ตุจฺฉปตฺตาว อาคจฺฉนฺติ, ยํ เตหิ ภุตฺตํ, ตํ เนสํ คีวา โหตี’’ติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห ‘‘คีวากิจฺจํ เอตฺถ นตฺถิ, ิติกํ ปน อชานนฺเตหิ ยาว ชานนกา อาคจฺฉนฺติ, ตาว นิสีทิตพฺพํ สิยา, เอวํ สนฺเตปิ ภิกฺขูหิ ภุตฺตํ สุภุตฺตํ, อิทานิ ปตฺตฏฺาเนน คาเหตพฺพ’’นฺติ.

เอโก ติจีวรปริวาโร สตคฺฆนโก ปิณฺฑปาโต อวสฺสิกสฺส ภิกฺขุโน ปตฺโต, วิหาเร จ ‘‘เอวรูโป ปิณฺฑปาโต อวสฺสิกสฺส ปตฺโต’’ติ ลิขิตฺวา เปสุํ. อถ สฏฺิวสฺสจฺจเยน อฺโ ตถารูโป ปิณฺฑปาโต อุปฺปนฺโน, อยํ กึ อวสฺสิกิติกาย คาเหตพฺโพ, อุทาหุ สฏฺิวสฺสิติกายาติ? สฏฺิวสฺสิติกายาติ วุตฺตํ. อยฺหิ ภิกฺขุิติกํ คเหตฺวาเยว วฑฺฒิโตติ. เอโก อุทฺเทสภตฺตํ ภุฺชิตฺวา สามเณโร ชาโต, ปุน ตํ ภตฺตํ สามเณริติกาย ปตฺตํ คณฺหิตุํ ลภติ. อยํ กิร อนฺตราภฏฺโก นาม. โย ปน ปริปุณฺณวสฺโส สามเณโร ‘‘สฺเว อุทฺเทสภตฺตํ ลภิสฺสตี’’ติ อชฺเชว อุปสมฺปชฺชติ, อติกฺกนฺตา ตสฺส ิติกา. เอกสฺส ภิกฺขุโน อุทฺเทสภตฺตํ ปตฺตํ, ปตฺโต จสฺส น ตุจฺโฉ โหติ, โส อฺสฺส สมีเป นิสินฺนสฺส ปตฺตํ ทาเปติ, ตํ เจ เถยฺยาย หรนฺติ, คีวา โหติ. สเจ ปน โส ภิกฺขุ ‘‘มยฺหํ ปตฺตํ ทมฺมี’’ติ สยเมว เทติ, อสฺส คีวา น โหติ. อถาปิ เตน ภตฺเตน อนตฺถิโก หุตฺวา ‘‘อลํ มยฺหํ, ตเวตํ ภตฺตํ ทมฺมิ, ปตฺตํ เปเสตฺวา อาหราเปหี’’ติ อฺํ วทติ, ยํ ตโต อาหรียติ, สพฺพํ ปตฺตสามิกสฺส โหติ. ปตฺตํ เจ เถยฺยาย หรนฺติ, สุหโฏ, ภตฺตสฺส ทินฺนตฺตา คีวา น โหติ.

วิหาเร ทส ภิกฺขู โหนฺติ, เตสุ นว ปิณฺฑปาติกา, เอโก สาทิยนโก, ‘‘ทส อุทฺเทสปตฺเต เทถา’’ติ วุตฺเต ปิณฺฑปาติกา คเหตุํ น อิจฺฉนฺติ. อิตโร ภิกฺขุ ‘‘สพฺพานิ มยฺหํ ปาปุณนฺตี’’ติ คณฺหาติ, ิติกา น โหติ. เอเกกํ เจ ปาเปตฺวา คณฺหาติ, ิติกา ติฏฺติ. เอวํ คาเหตฺวา ทสหิปิ ปตฺเตหิ อาหราเปตฺวา ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ สงฺคหํ กโรถา’’ติ นว ปตฺเต ปิณฺฑปาติกานํ เทติ, ภิกฺขุทตฺติยํ นาเมตํ, คเหตุํ วฏฺฏติ. สเจ โส อุปาสโก ‘‘ภนฺเต, ฆรํ อาคนฺตพฺพ’’นฺติ วทติ, โส จ ภิกฺขุ เต ภิกฺขู ‘‘เอถ, ภนฺเต, มยฺหํ สหายา โหถา’’ติ ตสฺส ฆรํ คจฺฉติ, ยํ ตตฺถ ลภติ, สพฺพํ ตสฺเสว โหติ, อิตเร เตน ทินฺนํ ลภนฺติ. อถ เนสํ ฆเรเยว นิสีทาเปตฺวา ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา ยาคุขชฺชกาทีนิ เทนฺติ ‘‘ภนฺเต, ยํ มนุสฺสา เทนฺติ, ตํ คณฺหถา’’ติ, ตสฺส ภิกฺขุโน วจเนเนว อิตเรสํ วฏฺฏติ. ภุตฺตาวีนํ ปตฺเต ปูเรตฺวา คณฺหิตฺวา คมนตฺถาย เทนฺติ, สพฺพํ ตสฺเสว ภิกฺขุโน โหติ, เตน ทินฺนํ อิตเรสํ วฏฺฏติ. ยทิ ปน เต วิหาเรเยว เตน ภิกฺขุนา ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ ภิกฺขํ คณฺหถ, มนุสฺสานํ วจนํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตา คจฺฉนฺติ, ตตฺถ ยํ ภุฺชนฺติ เจว นีหรนฺติ จ, สพฺพํ ตํ เตสํเยว สนฺตกํ. อถาปิ ‘‘มยฺหํ ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ อวุตฺตา ‘‘มนุสฺสานํ วจนํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ คจฺฉนฺติ, ตตฺร เจ เอกสฺส มธุเรน สเรน อนุโมทนํ กโรนฺตสฺส สุตฺวา เถรานฺจ อุปสเม ปสีทิตฺวา พหุํ สมณปริกฺขารํ เทนฺติ, อยํ เถเรสุ ปสาเทน อุปฺปนฺโน อกตภาโค นาม, ตสฺมา สพฺเพสํ ปาปุณาติ.

เอโก สงฺฆโต อุทฺทิสาเปตฺวา ิติกาย คาหิตปตฺตํ หริตฺวา ปณีตสฺส ขาทนียโภชนียสฺส ปูเรตฺวา อาหริตฺวา ‘‘อิมํ, ภนฺเต, สพฺโพ สงฺโฆ ปริภุฺชตู’’ติ เทติ, สพฺเพหิ ภาเชตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. ปตฺตสามิกสฺส ปน อติกฺกนฺตมฺปิ ิติกํ เปตฺวา อฺํ อุทฺเทสภตฺตํ ทาตพฺพํ. อถ ปมํเยว ‘‘สพฺพํ สงฺฆิกปตฺตํ เทถา’’ติ วทติ, เอกสฺส ลชฺชิภิกฺขุโน สนฺตโก ปตฺโต ทาตพฺโพ. อาหริตฺวา จ ‘‘สพฺโพ สงฺโฆ ปริภุฺชตู’’ติ วุตฺเต ภาเชตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. เอโก ปาติยา ภตฺตํ อาหริตฺวา ‘‘สงฺฆุทฺเทสํ ทมฺมี’’ติ วทติ, เอเกกํ อาโลปํ อทตฺวา ิติกาย เอกสฺส ยาปนมตฺตํ กตฺวา ทาตพฺพํ. อถ โส ภตฺตํ อาหริตฺวา กิฺจิ วตฺตุํ อชานนฺโต ตุณฺหีภูโต อจฺฉติ, ‘‘กสฺส เต อานีตํ, กสฺส ทาตุกาโมสี’’ติ น วตฺตพฺพํ. ปุจฺฉาสภาเคน หิ ‘‘ตุมฺหากํ อานีตํ, ตุมฺหากํ ทาตุกาโมมฺหี’’ติ วเทยฺย, ตโต ตํ ภิกฺขุํ อฺเ ภิกฺขู ชิคุจฺฉนฺตา คีวํ ปริวตฺเตตฺวา โอโลเกตพฺพมฺปิ น มฺเยฺยุํ. สเจ ปน ‘‘กุหึ ยาสิ, กึ กโรนฺโต อาหิณฺฑสี’’ติ วุตฺเต ‘‘อุทฺเทสภตฺตํ คเหตฺวา อาคโตมฺหี’’ติ วทติ, เอเกน ลชฺชิภิกฺขุนา ิติกาย คาเหตพฺพํ. สเจ อาภตํ พหุ โหติ, สพฺเพสํ ปโหติ, ิติกากิจฺจํ นตฺถิ. เถราสนโต ปฏฺาย ปตฺตํ ปูเรตฺวา ทาตพฺพํ.

‘‘สงฺฆุทฺเทสปตฺตํ เทถา’’ติ วุตฺเต ‘‘กึ อาหริสฺสสี’’ติ อวตฺวา ปกติิติกาย เอว คาเหตพฺพํ. โย ปน ปายาโส วา รสปิณฺฑปาโต วา นิจฺจํ ลพฺภติ, เอวรูปานํ ปณีตโภชนานํ อาเวณิกา ิติกา กาตพฺพา, ตถา สปริวาราย ยาคุยา มหคฺฆานํ ผลานํ ปณีตานฺจ ขชฺชกานํ. ปกติภตฺตยาคุผลขชฺชกานํ เอกาว ิติกา กาตพฺพา. ‘‘สปฺปึ อาหริสฺสามี’’ติ วุตฺเต สพฺพสปฺปีนํ เอกาว ิติกา วฏฺฏติ, ตถา สพฺพเตลานํ. ‘‘มธุํ อาหริสฺสามี’’ติ วุตฺเต ปน มธุโน เอกาว ิติกา วฏฺฏติ, ตถา ผาณิตสฺส ลฏฺิมธุกาทีนฺจ เภสชฺชานํ. สเจ ปน คนฺธมาลํ สงฺฆุทฺเทสํ เทนฺติ, ปิณฺฑปาติกสฺส วฏฺฏติ, น วฏฺฏตีติ? อามิสสฺเสว ปฏิกฺขิตฺตตฺตา วฏฺฏติ. ‘‘สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ทินฺนตฺตา ปน น คเหตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ.

อุทฺเทสภตฺตกถา นิฏฺิตา.

๒๑๐. นิมนฺตนํ ปุคฺคลิกํ เจ, สยเมว อิสฺสโร. สงฺฆิกํ ปน อุทฺเทสภตฺเต วุตฺตนเยเนว คาเหตพฺพํ. สเจ ปเนตฺถ ทูโต พฺยตฺโต โหติ, ‘‘ภนฺเต, ราชเคเห ภิกฺขุสงฺฆสฺส ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ อวตฺวา ‘‘ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ. อถ ทูโต อพฺยตฺโต ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ภตฺตุทฺเทสโก พฺยตฺโต ‘‘ภตฺต’’นฺติ อวตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห ยาถ, ตุมฺเห ยาถา’’ติ วทติ, เอวมฺปิ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ, ‘‘ตุมฺหากํ, ภนฺเต, ปฏิปาฏิยา ภตฺตํ ปาปุณาตี’’ติ วุตฺเต ปน น วฏฺฏติ. สเจ นิมนฺติตุํ อาคตมนุสฺโส อาสนสาลํ ปวิสิตฺวา ‘‘อฏฺ ภิกฺขู เทถา’’ติ วา ‘‘อฏฺ ปตฺเต เทถา’’ติ วา วทติ, เอวมฺปิ ปิณฺฑปาติกานํ วฏฺฏติ, ‘‘ตุมฺเห จ ตุมฺเห จ คจฺฉถา’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ‘‘อฏฺ ภิกฺขู เทถ, ภตฺตํ คณฺหถ, อฏฺ ปตฺเต เทถ, ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วา วทติ, ปฏิปาฏิยา คาเหตพฺพํ. คาเหนฺเตน ปน วิจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘ภตฺต’’นฺติ อวทนฺเตน ‘‘ตุมฺเห จ ตุมฺเห จ คจฺฉถา’’ติ วุตฺเต ปิณฺฑปาติกานํ วฏฺฏติ. ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปตฺตํ เทถ, ตุมฺเห เอถา’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘สาธุ อุปาสกา’’ติ คนฺตพฺพํ. ‘‘สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา ตุมฺเห เอถา’’ติ วุตฺเตปิ ิติกาย คาเหตพฺพํ.

นิมนฺตนภตฺตฆรโต ปน ปตฺตตฺถาย อาคตสฺส อุทฺเทสภตฺเต วุตฺตนเยเนว ิติกาย ปตฺโต ทาตพฺโพ. เอโก ‘‘สงฺฆโต ปฏิปาฏิยา ปตฺต’’นฺติ อวตฺวา เกวลํ ‘‘เอกํ ปตฺตํ เทถา’’ติ วตฺวา อคฺคาหิเตเยว ปตฺเต ยสฺส กสฺสจิ ปตฺตํ คเหตฺวา ปูเรตฺวา อาหรติ, ตํ ปตฺตสามิกสฺเสว โหติ. อุทฺเทสภตฺเต วิย ิติกาย น คาเหตพฺพํ. อิธาปิ โย อาคนฺตฺวา ตุณฺหีภูโต ติฏฺติ, โส ‘‘กสฺส สนฺติกํ อาคโตสี’’ติ วา ‘‘กสฺส ปตฺตํ หริสฺสสี’’ติ วา น วตฺตพฺโพ. ปุจฺฉาสภาเคน หิ ‘‘ตุมฺหากํ สนฺติกํ อาคโต, ตุมฺหากํ ปตฺตํ หริสฺสามี’’ติ วเทยฺย, ตโต โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ ชิคุจฺฉนีโย อสฺส. ‘‘กุหึ คจฺฉสิ, กึ กโรนฺโต อาหิณฺฑสี’’ติ ปน วุตฺเต ‘‘ตสฺส ปตฺตตฺถาย อาคโตมฺหี’’ติ วทนฺตสฺส ปฏิปาฏิภตฺตฏฺิติกาย คเหตฺวา ปตฺโต ทาตพฺโพ. ‘‘ภตฺตหรณปตฺตํ เทถา’’ติ วุตฺเตปิ ปฏิปาฏิภตฺตฏฺิติกาย เอว ทาตพฺโพ. สเจ อาหริตฺวา ‘‘สพฺโพ สงฺโฆ ภุฺชตู’’ติ วทติ, ภาเชตฺวา ภุฺชิตพฺพํ. ปตฺตสามิกสฺส อติกฺกนฺตมฺปิ ิติกํ เปตฺวา อฺํ ปฏิปาฏิภตฺตํ คาเหตพฺพํ.

เอโก ปาติยา ภตฺตํ อาหริตฺวา ‘‘สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ, อาโลปภตฺตฏฺิติกโต ปฏฺาย อาโลปสงฺเขเปน ภาเชตพฺพํ. สเจ ปน ตุณฺหีภูโต อจฺฉติ, ‘‘กสฺส เต อาภตํ, กสฺส ทาตุกาโมสี’’ติ น วตฺตพฺโพ. สเจ ปน ‘‘กุหึ คจฺฉสิ, กึ กโรนฺโต อาหิณฺฑสี’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘สงฺฆสฺส เม ภตฺตํ อาภตํ, เถรานํ เม ภตฺตํ อาภต’’นฺติ วทติ, คเหตฺวา อาโลปภตฺตฏฺิติกาย ภาเชตพฺพํ. สเจ ปน เอวํ อาภตํ ภตฺตํ พหุ โหติ, สกลสงฺฆสฺส ปโหติ, อภิหฏภิกฺขา นาม, ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ, ิติกาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ, เถราสนโต ปฏฺาย ปตฺตํ ปูเรตฺวา ทาตพฺพํ.

อุปาสโก สงฺฆตฺเถรสฺส วา คนฺถธุตงฺควเสน อภิฺาตสฺส วา ภตฺตุทฺเทสกสฺส วา ปหิณติ ‘‘อมฺหากํ ภตฺตคหณตฺถาย อฏฺ ภิกฺขู คเหตฺวา อาคจฺฉถา’’ติ, สเจปิ าติอุปฏฺาเกหิ เปสิตํ โหติ, อิเม ตโย ชนา ปุจฺฉิตุํ น ลภนฺติ, อารุฬฺหาเยว มาติกํ. สงฺฆโต อฏฺ ภิกฺขู อุทฺทิสาเปตฺวา อตฺตนวเมหิ คนฺตพฺพํ. กสฺมา? ภิกฺขุสงฺฆสฺส หิ เอเต ภิกฺขู นิสฺสาย ลาโภ อุปฺปชฺชตีติ. คนฺถธุตงฺคาทีหิ ปน อนภิฺาโต อาวาสิกภิกฺขุ อาปุจฺฉิตุํ ลภติ, ตสฺมา เตน ‘‘กึ สงฺฆโต คณฺหามิ, อุทาหุ เย ชานามิ, เตหิ สทฺธึ อาคจฺฉามี’’ติ มาติกํ อาโรเปตฺวา ยถา ทายกา วทนฺติ, ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพํ. ‘‘ตุมฺหากํ นิสฺสิตเก วา เย วา ชานาถ, เต คเหตฺวา เอถา’’ติ วุตฺเต ปน เย อิจฺฉนฺติ, เตหิ สทฺธึ คนฺตุํ ลภติ. สเจ ‘‘อฏฺ ภิกฺขู ปหิณถา’’ติ เปเสนฺติ, สงฺฆโตว เปเสตพฺพา. อตฺตนา สเจ อฺสฺมึ คาเม สกฺกา โหติ ภิกฺขา ลภิตุํ, อฺโ คาโม คนฺตพฺโพ. น สกฺกา เจ โหติ ลภิตุํ, โสเยว คาโม ปิณฺฑาย ปวิสิตพฺโพ.

นิมนฺติตภิกฺขู อาสนสาลาย นิสินฺนา โหนฺติ, ตตฺร เจ มนุสฺสา ‘‘ปตฺเต เทถา’’ติ อาคจฺฉนฺติ, อนิมนฺติเตหิ น ทาตพฺพา, ‘‘เอเต นิมนฺติตา ภิกฺขู’’ติ วตฺตพฺพํ, ‘‘ตุมฺเหปิ เทถา’’ติ วุตฺเต ปน ทาตุํ วฏฺฏติ. อุสฺสวาทีสุ มนุสฺสา สยเมว ปริเวณานิ จ ปธานฆรานิ จ คนฺตฺวา ติปิฏเก จ ธมฺมกถิเก จ ภิกฺขุสเตนปิ สทฺธึ นิมนฺเตนฺติ, ตทา เตหิ เย ชานนฺติ, เต คเหตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ. กสฺมา? น หิ มหาภิกฺขุสงฺเฆน อตฺถิกา มนุสฺสา ปริเวณปธานฆรานิ คจฺฉนฺติ, สนฺนิปาตฏฺานโตว ยถาสตฺติ ยถาพลํ ภิกฺขู คณฺหิตฺวา คจฺฉนฺตีติ.

สเจ ปน สงฺฆตฺเถโร วา คนฺถธุตงฺควเสน อภิฺาโต วา ภตฺตุทฺเทสโก วา อฺตฺร วา วสฺสํ วสิตฺวา กตฺถจิ วา คนฺตฺวา ปุน สกฏฺานํ อาคจฺฉติ, มนุสฺสา จ อาคนฺตุกสฺส สกฺการํ กโรนฺติ, เอกวารํ เย ชานนฺติ, เต คเหตฺวา คนฺตพฺพํ. ปฏิพทฺธกาลโต ปฏฺาย ทุติยวาเร อารทฺเธ สงฺฆโตเยว คเหตฺวา คนฺตพฺพํ. อภินวอาคนฺตุกาว หุตฺวา ‘‘าตี วา อุปฏฺาเก วา ปสฺสิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺติ, ตตฺร เจ เตสํ าตี จ อุปฏฺากา จ สกฺการํ กโรนฺติ, เอตฺถ ปน เย ชานนฺติ, เต คเหตฺวา คนฺตุมฺปิ วฏฺฏติ. โย ปน อติลาภี โหติ, สกฏฺานฺจ อาคนฺตุกฏฺานฺจ เอกสทิสํ, สพฺพตฺถ มนุสฺสา สงฺฆภตฺตํ สชฺเชตฺวาว นิสีทนฺติ, เตน สงฺฆโตว คเหตฺวา คนฺตพฺพนฺติ อยํ นิมนฺตเน วิเสโส. อวเสโส สพฺพปฺโห อุทฺเทสภตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘อฏฺ มหาเถเร เทถาติ วุตฺเต อฏฺ มหาเถราว ทาตพฺพา’’ติ วุตฺตํ. เอส นโย มชฺฌิมาทีสุ. สเจ ปน อวิเสเสตฺวา ‘‘อฏฺ ภิกฺขู เทถา’’ติ วทติ, สงฺฆโต ทาตพฺพาติ.

นิมนฺตนภตฺตกถา นิฏฺิตา.

๒๑๑. สลากภตฺตํ ปน ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สลากาย วา ปฏฺฏิกาย วา อุปนิพนฺธิตฺวา โอปุฺชิตฺวา ภตฺตํ อุทฺทิสิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๖) วจนโต รุกฺขสารมยาย สลากาย วา เวฬุวิลีวตาลปณฺณาทิมยาย ปฏฺฏิกาย วา ‘‘อสุกสฺส นาม สลากภตฺต’’นฺติ เอวํ อกฺขรานิ อุปนิพนฺธิตฺวา ปจฺฉิยํ วา จีวรโภเค วา กตฺวา สพฺพสลากาโย โอปุฺชิตฺวา ปุนปฺปุนํ เหฏฺุปริยวเสน อาโลเฬตฺวา ปฺจงฺคสมนฺนาคเตน ภตฺตุทฺเทสเกน สเจ ิติกา อตฺถิ, ิติกโต ปฏฺาย, โน เจ อตฺถิ, เถราสนโต ปฏฺาย สลากา ทาตพฺพา. ปจฺฉา อาคตานมฺปิ เอกาพทฺธวเสน ทูเร ิตานมฺปิ อุทฺเทสภตฺเต วุตฺตนเยเนว ทาตพฺพา.

สเจ วิหารสฺส สมนฺตโต พหู โคจรคามา, ภิกฺขู ปน น พหู, คามวเสนปิ สลากา ปาปุณนฺติ. ‘‘ตุมฺหากํ อสุกคาเม สลากภตฺตํ ปาปุณาตี’’ติ คามวเสเนว คาเหตพฺพํ. เอวํ คาเหนฺเตน สเจปิ เอกเมกสฺมึ คาเม นานปฺปการานิ สฏฺิ สลากภตฺตานิ, สพฺพานิ คหิตาเนว โหนฺติ. ตสฺส ปตฺตคามสมีเป อฺานิปิ ทฺเว ตีณิ สลากภตฺตานิ โหนฺติ, ตานิ ตสฺเสว ทาตพฺพานิ. น หิ สกฺกา เตสํ การณา อฺํ ภิกฺขุํ ปหิณิตุนฺติ.

สเจ เอกจฺเจสุ คาเมสุ พหูนิ สลากภตฺตานิ สลฺลกฺเขตฺวา สตฺตนฺนมฺปิ อฏฺนฺนมฺปิ ภิกฺขูนํ ทาตพฺพานิ. เทนฺเตน ปน จตุนฺนํ ปฺจนฺนํ ภตฺตานํ สลากาโย เอกโต พนฺธิตฺวา ทาตพฺพา. สเจ ตํ คามํ อติกฺกมิตฺวา อฺโ คาโม โหติ, ตสฺมิฺจ เอกเมว สลากภตฺตํ, ตํ ปน ปาโตว เทนฺติ, ตมฺปิ เอเตสุ ภิกฺขูสุ เอกสฺส นิคฺคเหน ทตฺวา ‘‘ปาโตว ตํ คเหตฺวา ปจฺฉา โอริมคาเม อิตรานิ ภตฺตานิ คณฺหาหี’’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ โอริมคาเม สลากภตฺเตสุ อคฺคหิเตสฺเวว คหิตสฺาย คจฺฉติ, ปรภาคคาเม สลากภตฺตํ คเหตฺวา ปุน วิหารํ อาคนฺตฺวา อิตรานิ คเหตฺวา โอริมคาโม คนฺตพฺโพ. น หิ พหิสีมาย สงฺฆลาโภ คาเหตุํ ลพฺภตีติ อยํ นโย กุรุนฺทิยํ วุตฺโต. สเจ ปน ภิกฺขู พหู โหนฺติ, คามวเสน สลากา น ปาปุณนฺติ, วีถิวเสน วา วีถิยํ เอกเคหวเสน วา เอกกุลวเสน วา คาเหตพฺพํ. วีถิอาทีสุ จ ยตฺถ พหูนิ ภตฺตานิ, ตตฺถ คาเม วุตฺตนเยเนว พหูนํ ภิกฺขูนํ คาเหตพฺพานิ, สลากาสุ อสติ อุทฺทิสิตฺวาปิ คาเหตพฺพานิ.

๒๑๒. สลากทายเกน ปน วตฺตํ ชานิตพฺพํ. เตน หิ กาลสฺเสว วุฏฺาย ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา โภชนสาลํ คนฺตฺวา อสมฺมฏฺฏฺานํ สมฺมชฺชิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺาเปตฺวา ‘‘อิทานิ ภิกฺขูหิ วตฺตํ กตํ ภวิสฺสตี’’ติ กาลํ สลฺลกฺเขตฺวา ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภิกฺขูสุ สนฺนิปติเตสุ ปมเมว วารคาเม สลากภตฺตํ คาเหตพฺพํ, ‘‘ตุยฺหํ อสุกสฺมึ นาม วารคาเม สลากา ปาปุณาติ, ตตฺร คจฺฉา’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ อภิเรกคาวุเต คาโม โหติ, ตํ ทิวสํ คจฺฉนฺตา กิลมนฺติ, ‘‘สฺเว ตุยฺหํ วารคาเม ปาปุณาตี’’ติ อชฺเชว คาเหตพฺพํ. โย วารคามํ เปสิยมาโน น คจฺฉติ, อฺํ สลากํ มคฺคติ, น ทาตพฺพา. สทฺธานฺหิ มนุสฺสานํ ปุฺหานิ จ สงฺฆสฺส จ ลาภจฺเฉโท โหติ, ตสฺมา ตสฺส ทุติเยปิ ตติเยปิ ทิวเส อฺา สลากา น ทาตพฺพา, ‘‘อตฺตโน ปตฺตฏฺานํ คนฺตฺวา ภุฺชาหี’’ติ วตฺตพฺโพ, ตีณิ ปน ทิวสานิ อคจฺฉนฺตสฺส วารคามโต โอริมวารคาเม สลากา คาเหตพฺพา. ตฺเจ น คณฺหาติ, ตโต ปฏฺาย ตสฺส อฺํ สลากํ ทาตุํ น วฏฺฏติ, ทณฺฑกมฺมํ ทฬฺหํ กาตพฺพํ. สฏฺิโต วา ปณฺณาสโต วา น ปริหาเปตพฺพํ. วารคาเม คาเหตฺวา วิหารวาโร คาเหตพฺโพ, ‘‘ตุยฺหํ วิหารวาโร ปาปุณาตี’’ติ วตฺตพฺพํ. วิหารวาริกสฺส ทฺเว ติสฺโส ยาคุสลากาโย ติสฺโส จตสฺโส ภตฺตสลากาโย จ ทาตพฺพา, นิพทฺธํ กตฺวา ปน น ทาตพฺพา. ยาคุภตฺตทายกา หิ ‘‘อมฺหากํ ยาคุภตฺตํ วิหารโคปกาวภุฺชนฺตี’’ติ อฺถตฺตํ อาปชฺเชยฺยุํ, ตสฺมา อฺเสุ กุเลสุ ทาตพฺพา.

สเจ วิหารวาริกานํ สภาคา อาหริตฺวา เทนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ, วารํ คเหตฺวา เตสํ ยาคุภตฺตํ อาหราเปตพฺพํ, ตาว เนสํ สลากา ผาติกมฺมเมว ภวนฺติ. วสฺสคฺเคน ปตฺตฏฺาเน ปน อฺมฺปิ ปณีตภตฺตสลากํ คณฺหิตุํ ลภนฺติเยว. อติเรกอุตฺตริภงฺคสฺส เอกจาริกภตฺตสฺส วิสุํ ิติกํ กตฺวา สลากา ทาตพฺพา. สเจ เยน สลากา ลทฺธา, โส ตํ ทิวสํ ตํ ภตฺตํ น ลภติ, ปุน ทิวเส คาเหตพฺพํ. ภตฺตฺเว ลภติ, น อุตฺตริภงฺคํ, เอวมฺปิ ปุน คาเหตพฺพํ. ขีรภตฺตสลากายปิ เอเสว นโย. สเจ ปน ขีรเมว ลภติ, น ภตฺตํ, ขีรลาภโต ปฏฺาย ปุน น คาเหตพฺพํ. ทฺเว ตีณิ เอกจาริกภตฺตานิ เอกสฺเสว ปาปุณนฺติ, ทุพฺภิกฺขสมเย สงฺฆนวเกน ลทฺธกาเล วิชเฏตฺวา วิสุํ คาเหตพฺพานิ. ปากติกสลากภตฺตํ อลทฺธสฺสปิ ปุนทิวเส คาเหตพฺพํ.

สเจ ขุทฺทโก วิหาโร โหติ, สพฺเพ ภิกฺขู เอกสมฺโภคา, อุจฺฉุสลากํ คาเหนฺเตน ยสฺส กสฺสจิ สมฺมุขีภูตสฺส ปาเปตฺวา มหาเถราทีนํ ทิวา ตจฺเฉตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. รสสลากํ ปาเปตฺวา ปจฺฉาภตฺตมฺปิ ปริสฺสาเวตฺวา ผาณิตํ วา กาเรตฺวา ปิณฺฑปาติกาทีนมฺปิ ทาตพฺพํ, อาคนฺตุกานํ อาคตานาคตภาวํ ตฺวา คาเหตพฺพา. มหาอาวาเส ิติกํ กตฺวา คาเหตพฺพา. ตกฺกสลากมฺปิ สภาคฏฺาเน ปาเปตฺวา วา ธูมาเปตฺวา ปจาเปตฺวา วา เถรานํ ทาตุํ วฏฺฏติ. มหาอาวาเส วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ. ผลสลากปูวสลากเภสชฺชคนฺธมาลาสลากาโยปิ วิสุํ ิติกาย คาเหตพฺพา. เภสชฺชาทิสลากาโย เจตฺถ กิฺจาปิ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏนฺติ, สลากวเสน ปน คาหิตตฺตา น สาทิตพฺพา. อคฺคภิกฺขามตฺตํ สลากภตฺตํ เทนฺติ, ิติกํ ปุจฺฉิตฺวา คาเหตพฺพํ. อสติยา ิติกาย เถราสนโต ปฏฺาย คาเหตพฺพํ. สเจ ตาทิสานิ ภตฺตานิ พหูนิ โหนฺติ, เอเกกสฺส ภิกฺขุโน ทฺเว ตีณิ ทาตพฺพานิ. โน เจ, เอเกกเมว ทตฺวา ปฏิปาฏิยา คตาย ปุน เถราสนโต ปฏฺาย ทาตพฺพํ. อถ อนฺตราว อุปจฺฉิชฺชติ, ิติกา สลฺลกฺเขตพฺพา. ยทิ ปน ตาทิสํ ภตฺตํ นิพทฺธเมว โหติ, ยสฺส ปาปุณาติ, โส วตฺตพฺโพ ‘‘ลทฺธา วา อลทฺธา วา สฺเวปิ คณฺเหยฺยาสี’’ติ. เอกํ อนิพทฺธํ โหติ, ลภนทิวเส ปน ยาวทตฺถํ ลภติ. อลภนทิวสา พหุตรา โหนฺติ, ตํ ยสฺส ปาปุณาติ, โส อลภิตฺวา ‘‘สฺเว คณฺเหยฺยาสี’’ติ วตฺตพฺโพ.

โย สลากาสุ คหิตาสุ ปจฺฉา อาคจฺฉติ, ตสฺส อติกฺกนฺตาว สลากา น อุปฏฺาเปตฺวา ทาตพฺพา. สลากํ นาม ฆณฺฏึ ปหรณโต ปฏฺาย อาคนฺตฺวา หตฺถํ ปสาเรนฺโตว ลภติ, อฺสฺส อาคนฺตฺวา สมีเป ิตสฺสปิ อติกฺกนฺตา อติกฺกนฺตาว โหติ. สเจ ปนสฺส อฺโ คณฺหนฺโต อตฺถิ, สยํ อนาคโตปิ ลภติ, สภาคฏฺาเน ‘‘อสุโก อนาคโต’’ติ ตฺวา ‘‘อยํ ตสฺส สลากา’’ติ เปตุํ วฏฺฏติ. สเจ ‘‘อนาคตสฺส น ทาตพฺพา’’ติ กติกํ กโรนฺติ, อธมฺมิกา โหติ. อนฺโตอุปจาเร ิตสฺส หิ ภาชนียภณฺฑํ ปาปุณาติ. สเจ ปน ‘‘อนาคตสฺส เทถา’’ติ มหาสทฺทํ กโรนฺติ, ทณฺฑกมฺมํ เปตพฺพํ, ‘‘อาคนฺตฺวา คณฺหนฺตู’’ติ วตฺตพฺพํ. ฉ ปฺจสลากา นฏฺา โหนฺติ, ภตฺตุทฺเทสโก ทายกานํ นามํ น สรติ, โส เจ นฏฺสลากา มหาเถรสฺส วา อตฺตโน วา ปาเปตฺวา ภิกฺขู วเทยฺย ‘‘มยา อสุกคาเม สลากภตฺตํ มยฺหํ ปาปิตํ, ตุมฺเห ตตฺถ ลทฺธสลากภตฺตํ ภุฺเชยฺยาถา’’ติ, วฏฺฏติ, วิหาเร อปาปิตํ ปน อาสนสาลาย ตํ ภตฺตํ ลภิตฺวา ตตฺเถว ปาเปตฺวา ภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘อชฺช ปฏฺาย มยฺหํ สลากภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ตตฺร อาสนสาลาย คาเหตุํ น วฏฺฏติ, วิหารํ อาเนตฺวา คาเหตพฺพํ. ‘‘สฺเว ปฏฺายา’’ติ วุตฺเต ปน ภตฺตุทฺเทสกสฺส อาจิกฺขิตพฺพํ ‘‘สฺเว ปฏฺาย อสุกกุลํ นาม สลากภตฺตํ เทติ, สลากคฺคาหณกาเล สเรยฺยาสี’’ติ. ทุพฺภิกฺเข สลากภตฺตํ ปจฺฉินฺทิตฺวา สุภิกฺเข ชาเต กฺจิ ภิกฺขุํ ทิสฺวา ‘‘อชฺช ปฏฺาย อมฺหากํ สลากภตฺตํ คณฺหถา’’ติ ปุน ปฏฺเปนฺติ, อนฺโตคาเม อคาเหตฺวา วิหารํ อาเนตฺวา คาเหตพฺพํ. อิทฺหิ สลากภตฺตํ นาม อุทฺเทสภตฺตสทิสํ น โหติ, วิหารเมว สนฺธาย ทียติ, ตสฺมา พหิอุปจาเร คาเหตุํ น วฏฺฏติ, ‘‘สฺเว ปฏฺายา’’ติ วุตฺเต ปน วิหาเร คาเหตพฺพเมว.

คมิโก ภิกฺขุ ยํ ทิสาภาคํ คนฺตุกาโม, ตตฺถ อฺเน วารคามสลากา ลทฺธา โหติ, ตํ คเหตฺวา อิตรํ ภิกฺขุํ ‘‘มยฺหํ ปตฺตสลากํ ตฺวํ คณฺหาหี’’ติ วตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ. เตน ปน อุปจารสีมํ อนติกฺกนฺเตเยว ตสฺมึ ตสฺส สลากา คาเหตพฺพา. ฉฑฺฑิตวิหาเร วสิตฺวา มนุสฺสา ‘‘โพธิเจติยาทีนิ ชคฺคิตฺวา ภุฺชนฺตู’’ติ สลากภตฺตํ ปฏฺเปนฺติ, ภิกฺขู สภาคฏฺาเนสุ วสิตฺวา กาลสฺเสว คนฺตฺวา ตตฺถ วตฺตํ กริตฺวา ตํ ภตฺตํ ภุฺชนฺติ, วฏฺฏติ. สเจ เตสุ สฺวาตนาย อตฺตโน ปาเปตฺวา คเตสุ อาคนฺตุโก ภิกฺขุ ฉฑฺฑิตวิหาเร วสิตฺวา กาลสฺเสว วตฺตํ กตฺวา ฆณฺฏึ ปหริตฺวา สลากภตฺตํ อตฺตโน ปาเปตฺวา อาสนสาลํ คจฺฉติ, โสว ตสฺส ภตฺตสฺส อิสฺสโร. โย ปน ภิกฺขูสุ วตฺตํ กโรนฺเตสุเยว ภูมิยํ ทฺเว ตโย สมฺมุฺชนีปหาเร ทตฺวา ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ‘‘ธุรคาเม สลากภตฺตํ มยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ คจฺฉติ, ตสฺส ตํ โจริกาย คหิตตฺตา น ปาปุณาติ, วตฺตํ กตฺวา ปาเปตฺวา ปจฺฉาคตภิกฺขูนํเยว โหติ.

เอโก คาโม อติทูเร โหติ, ภิกฺขู นิจฺจํ คนฺตุํ น อิจฺฉนฺติ, มนุสฺสา ‘‘มยํ ปุฺเน ปริพาหิรา โหมา’’ติ วทนฺติ, เย ตสฺส คามสฺส อาสนฺนวิหาเร สภาคภิกฺขู, เต วตฺตพฺพา ‘‘อิเมสํ ภิกฺขูนํ อนาคตทิวเส ตุมฺเห ภุฺชถา’’ติ, สลากา ปน เทวสิกํ ปาเปตพฺพา. ตา จ โข ปน ฆณฺฏิปหรณมตฺเตน วา ปจฺฉิจาลนมตฺเตน วา ปาปิตา น โหนฺติ, ปจฺฉึ ปน คเหตฺวา สลากา ปีเก อากิริตพฺพา, ปจฺฉิ ปน มุขวฏฺฏิยํ น คเหตพฺพา. สเจ หิ ตตฺถ อหิ วา วิจฺฉิโก วา ภเวยฺย, ทุกฺขํ อุปฺปาเทยฺย, ตสฺมา เหฏฺา คเหตฺวา ปจฺฉึ ปรมฺมุขํ กตฺวา สลากา อากิริตพฺพา ‘‘สเจปิ สปฺโป ภวิสฺสติ, เอตฺโตว ปลายิสฺสตี’’ติ. เอวํ สลากา อากิริตฺวา คามาทิวเสน ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว คาเหตพฺพา.

อปิจ เอกํ มหาเถรสฺส ปาเปตฺวา ‘‘อวเสสา มยฺหํ ปาปุณนฺตี’’ติ อตฺตโน ปาเปตฺวา วตฺตํ กตฺวา เจติยํ วนฺทิตฺวา วิตกฺกมาฬเก ิเตหิ ภิกฺขูหิ ‘‘ปาปิตา, อาวุโส, สลากา’’ติ วุตฺเต ‘‘อาม, ภนฺเต, ตุมฺเห คตคตคาเม สลากภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วตฺตพฺพํ. เอวฺหิ ปาปิตาปิ สุปาปิตาว โหนฺติ. ภิกฺขู สพฺพรตฺตึ ธมฺมสฺสวนตฺถํ อฺํ วิหารํ คจฺฉนฺตา ‘‘มยํ ตตฺถ ทานํ อคฺคเหตฺวาว อมฺหากํ โคจรคาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา อาคมิสฺสามา’’ติ สลากา อคฺคเหตฺวาว คตา วิหาเร เถรสฺส ปตฺตํ สลากภตฺตํ ภุฺชิตุํ อาคจฺฉนฺติ, วฏฺฏติ. อถ มหาเถโรปิ ‘‘อหํ อิธ กึ กโรมี’’ติ เตหิเยว สทฺธึ คจฺฉติ, เตหิ คตวิหาเร อภุฺชิตฺวาว โคจรคามํ อนุปฺปตฺเตหิ ‘‘เทถ, ภนฺเต, ปตฺเต, สลากยาคุอาทีนิ อาหริสฺสามา’’ติ วุตฺเต ปตฺตา น ทาตพฺพา. กสฺมา, ภนฺเต, น เทถาติ. วิหารฏฺกํ ภตฺตํ วิหาเร วุตฺถานํ ปาปุณาติ, มยํ อฺวิหาเร วุตฺถาติ. ‘‘เทถ, ภนฺเต, น มยํ วิหาเร ปาลิกาย เทม, ตุมฺหากํ เทม, คณฺหถ อมฺหากํ ภิกฺข’’นฺติ วุตฺเต ปน วฏฺฏติ.

สลากภตฺตกถา นิฏฺิตา.

๒๑๓. ปกฺขิกาทีสุ ปน ยํ อภิลกฺขิเตสุ จาตุทฺทสี ปฺจทสี ปฺจมี อฏฺมีติ อิเมสุ ปกฺเขสุ กมฺมปฺปสุเตหิ อุโปสถํ กาตุํ สติกรณตฺถาย ทียติ, ตํ ปกฺขิกํ นาม. ตํ สลากภตฺตคติกเมว โหติ, คาเหตฺวา ภุฺชิตพฺพํ. สเจ สลากภตฺตมฺปิ ปกฺขิกภตฺตมฺปิ พหุํ สพฺเพสํ วินิวิชฺฌิตฺวา คจฺฉติ, ทฺเวปิ ภตฺตานิ วิสุํ วิสุํ คาเหตพฺพานิ. สเจ ภิกฺขุสงฺโฆ มหา, ปกฺขิกํ คาเหตฺวา ตสฺส ิติกาย สลากภตฺตํ คาเหตพฺพํ, สลากภตฺตํ วา คาหาเปตฺวา ตสฺส ิติกาย ปกฺขิกํ คาเหตพฺพํ. เยสํ น ปาปุณาติ, เต ปิณฺฑาย จริสฺสนฺติ. สเจ ทฺเวปิ ภตฺตานิ พหูนิ, ภิกฺขู มนฺทา, สลากภตฺตํ นาม เทวสิกํ ลพฺภติ, ตสฺมา ตํ เปตฺวา ‘‘ปกฺขิกํ, อาวุโส, ภุฺชถา’’ติ ปกฺขิกเมว ทาตพฺพํ. ปกฺขิกํ ปณีตํ เทนฺติ, วิสุํ ิติกา กาตพฺพา, ‘‘สฺเว ปกฺโข’’ติ อชฺช ปกฺขิกํ น คาเหตพฺพํ. สเจ ปน ทายกา วทนฺติ ‘‘สฺเวปิ อมฺหากํ ฆเร ลูขภตฺตํ ภวิสฺสติ, อชฺเชว ปกฺขิกภตฺตํ อุทฺทิสถา’’ติ, เอวํ วฏฺฏติ.

อุโปสถิกํ นาม อนฺวฑฺฒมาเส อุโปสถทิวเส อุโปสถงฺคานิ สมาทิยิตฺวา ยํ อตฺตนา ภุฺชติ, ตเทว ทียติ. ปาฏิปทิกํ นาม ‘‘อุโปสเถ พหู สทฺธา ปสนฺนา ภิกฺขูนํ สกฺการํ กโรนฺติ, ปาฏิปเท ปน ภิกฺขู กิลมนฺติ, ปาฏิปเท ทินฺนํ ทุพฺภิกฺขทานสทิสํ มหปฺผลํ โหติ, อุโปสถกมฺเมน วา ปริสุทฺธสีลานํ ทุติยทิวเส ทินฺนํ มหปฺผลํ โหตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ปาฏิปเท ทียมานกทานํ. ตมฺปิ อุภยํ สลากภตฺตคติกเมว. อิติ อิมานิ สตฺตปิ ภตฺตานิ ปิณฺฑปาติกานํ น วฏฺฏนฺติ, ธุตงฺคเภทํ กโรนฺติเยว.

๒๑๔. อปรานิปิ จีวรกฺขนฺธเก (มหาว. ๓๕๐) วิสาขาย วรํ ยาจิตฺวา ทินฺนานิ อาคนฺตุกภตฺตํ คมิกภตฺตํ คิลานภตฺตํ คิลานุปฏฺากภตฺตนฺติ จตฺตาริ ภตฺตานิ ปาฬิยํ อาคตาเนว. ตตฺถ อาคนฺตุกานํ ทินฺนํ ภตฺตํ อาคนฺตุกภตฺตํ. เอส นโย เสเสสุ. สเจ ปเนตฺถ อาคนฺตุกภตฺตานิปิ อาคนฺตุกาปิ พหู โหนฺติ, สพฺเพสํ เอเกกํ คาเหตพฺพํ. ภตฺเตสุ อปฺปโหนฺเตสุ ิติกาย คาเหตพฺพํ. เอโก อาคนฺตุโก ปมเมว อาคนฺตฺวา สพฺพํ อาคนฺตุกภตฺตํ อตฺตโน คาเหตฺวา นิสีทติ, สพฺพํ ตสฺเสว โหติ. ปจฺฉา อาคเตหิ อาคนฺตุเกหิ เตน ทินฺนานิ ปริภุฺชิตพฺพานิ. เตนปิ เอกํ อตฺตโน คเหตฺวา เสสานิ ทาตพฺพานิ. อยํ อุฬารตา. สเจ ปน ปมํ อาคนฺตฺวาปิ อตฺตโน อคฺคเหตฺวา ตุณฺหีภูโต นิสีทติ, ปจฺฉา อาคเตหิ สทฺธึ ปฏิปาฏิยา คณฺหิตพฺพํ. สเจ นิจฺจํ อาคนฺตุกา อาคจฺฉนฺติ, อาคตทิวเสเยว ภุฺชิตพฺพํ. อนฺตรนฺตรา เจ อาคจฺฉนฺติ, ทฺเว ตีณิ ทิวสานิ ภุฺชิตพฺพํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘สตฺต ทิวสานิ ภุฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อาวาสิโก กตฺถจิ คนฺตฺวา อาคโต, เตนปิ อาคนฺตุกภตฺตํ ภุฺชิตพฺพํ. สเจ ปน ตํ วิหาเร นิพนฺธาปิตํ โหติ, วิหาเร คาเหตพฺพํ. อถ วิหาโร ทูเร โหติ, อาสนสาลาย นิพนฺธาปิตํ, อาสนสาลาย คาเหตพฺพํ. สเจ ปน ทายกา ‘‘อาคนฺตุเกสุ อสติ อาวาสิกาปิ ภุฺชนฺตู’’ติ วทนฺติ, วฏฺฏติ, อวุตฺเต ปน น วฏฺฏติ.

คมิกภตฺเตปิ อยเมว กถามคฺโค. อยํ ปน วิเสโส – อาคนฺตุโก อาคนฺตุกภตฺตเมว ลภติ, คมิโก อาคนฺตุกภตฺตมฺปิ คมิกภตฺตมฺปิ. อาวาสิโกปิ ปกฺกมิตุกาโม คมิโก โหติ, คมิกภตฺตํ ลภติ. ยถา ปน อาคนฺตุกภตฺตํ, เอวมิทํ ทฺเว ตีณิ วา สตฺต วา ทิวสานิ น ลภติ. ‘‘คมิสฺสามี’’ติ ภุตฺโตปิ ตํ ทิวสํ เกนจิ การเณน น คโต, ปุนทิวเสปิ ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ สอุสฺสาหตฺตา. ‘‘คมิสฺสามี’’ติ ภุตฺตสฺส โจรา วา ปนฺถํ รุนฺธนฺติ, อุทกํ วา เทโว วา วสฺสติ, สตฺโถ วา น คจฺฉติ, สอุสฺสาเหน ภุฺชิตพฺพํ. ‘‘เอเต อุปทฺทเว โอโลเกนฺเตน ทฺเว ตโย ทิวเส ภุฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ‘‘คมิสฺสามิ คมิสฺสามี’’ติ ปน เลสํ โอฑฺเฑตฺวา ภุฺชิตุํ น ลภติ.

คิลานภตฺตมฺปิ สเจ สพฺเพสํ คิลานานํ ปโหติ, ตํ สพฺเพสํ ทาตพฺพํ. โน เจ, ิติกํ กตฺวา คาเหตพฺพํ. เอโก คิลาโน อโรครูโป สกฺโกติ อนฺโตคามํ คนฺตุํ, เอโก น สกฺโกติ, อยํ มหาคิลาโน นาม, เอตสฺส คิลานภตฺตํ ทาตพฺพํ. ทฺเว มหาคิลานา, เอโก ลาภี อภิฺาโต พหุํ ขาทนียโภชนียํ ลภติ, เอโก อนาโถ อปฺปลาภตาย อนฺโตคามํ ปวิสติ, เอตสฺส คิลานภตฺตํ ทาตพฺพํ. คิลานภตฺเต ทิวสปริจฺเฉโท นตฺถิ, ยาว โรโค น วูปสมฺมติ, สปฺปายโภชนํ อภุฺชนฺโต น ยาเปติ, ตาว ภุฺชิตพฺพํ. ยทา ปน มิสฺสกยาคุํ วา มิสฺสกภตฺตํ วา ภุตฺตสฺสปิ โรโค น กุปฺปติ, ตโต ปฏฺาย น ภุฺชิตพฺพํ.

คิลานุปฏฺากภตฺตมฺปิ ยํ สพฺเพสํ ปโหติ, ตํ สพฺเพสํ ทาตพฺพํ. โน เจ ปโหติ, ิติกํ กตฺวา คาเหตพฺพํ. อิทมฺปิ ทฺวีสุ คิลาเนสุ มหาคิลานุปฏฺากสฺส คาเหตพฺพํ, ทฺวีสุ มหาคิลาเนสุ อนาถคิลานุปฏฺากสฺส. ยํ กุลํ คิลานภตฺตมฺปิ เทติ คิลานุปฏฺากภตฺตมฺปิ, ตตฺถ ยสฺส คิลานสฺส คิลานภตฺตํ ปาปุณาติ, ตทุปฏฺากสฺสปิ ตตฺเถว คาเหตพฺพํ. คิลานุปฏฺากภตฺเตปิ ทิวสปริจฺเฉโท นตฺถิ, ยาว คิลาโน ลภติ, ตาวสฺส อุปฏฺาโกปิ ลภตีติ. อิมานิ จตฺตาริ ภตฺตานิ สเจ เอวํ ทินฺนานิ โหนฺติ ‘‘อาคนฺตุกคมิกคิลานคิลานุปฏฺากา มม ภิกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ, ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ. สเจ ปน ‘‘อาคนฺตุกาทีนํ จตุนฺนํ ภตฺตํ นิพนฺธาเปมิ, มม ภตฺตํ คณฺหนฺตู’’ติ เอวํ ทินฺนานิ โหนฺติ, ปิณฺฑปาติกานํ น วฏฺฏติ.

๒๑๕. อปรานิปิ ธุรภตฺตํ กุฏิภตฺตํ วารกภตฺตนฺติ ตีณิ ภตฺตานิ. ตตฺถ ธุรภตฺตนฺติ นิจฺจภตฺตํ วุจฺจติ, ตํ ทุวิธํ สงฺฆิกฺจ ปุคฺคลิกฺจ. ตตฺถ ยํ ‘‘สงฺฆสฺส ธุรภตฺตํ เทมา’’ติ นิพนฺธาปิตํ, ตํ สลากภตฺตคติกํ. ‘‘มม นิพทฺธภิกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ วตฺวา ทินฺนํ ปน ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ. ปุคฺคลิเกปิ ‘‘ตุมฺหากํ ธุรภตฺตํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปิณฺฑปาติโก เจ, น วฏฺฏติ, ‘‘มม นิพทฺธภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ปน วฏฺฏติ, สาทิตพฺพํ. สเจ ปจฺฉา กติปาเห วีติวตฺเต ‘‘ธุรภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทติ, มูเล สุฏฺุ สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา วฏฺฏติ.

กุฏิภตฺตํ นาม ยํ สงฺฆสฺส อาวาสํ กาเรตฺวา ‘‘อมฺหากํ เสนาสนวาสิโน อมฺหากํเยว ภตฺตํ คณฺหนฺตู’’ติ เอวํ นิพนฺธาปิตํ, ตํ สลากภตฺตคติกเมว โหติ, คาเหตฺวา ภุฺชิตพฺพํ. ‘‘อมฺหากํ เสนาสนวาสิโน อมฺหากํเยว ภิกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ วุตฺเต ปน ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ. ยํ ปน ปุคฺคเล ปสีทิตฺวา ตสฺส อาวาสํ กตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ เทมา’’ติ ทินฺนํ, ตํ ตสฺเสว โหติ, ตสฺมึ กตฺถจิ คเต นิสฺสิตเกหิ ภุฺชิตพฺพํ.

วารกภตฺตํ นาม ทุพฺภิกฺขสมเย ‘‘วาเรน ภิกฺขู ชคฺคิสฺสามา’’ติ ธุรเคหโต ปฏฺาย ทินฺนํ, ตมฺปิ ภิกฺขาวจเนน ทินฺนํ ปิณฺฑปาติกานํ วฏฺฏติ, ‘‘วารกภตฺต’’นฺติ วุตฺเต ปน สลากภตฺตคติกํ โหติ. สเจ ตณฺฑุลาทีนิ เปเสนฺติ ‘‘สามเณรา ปจิตฺวา เทนฺตู’’ติ, ปิณฺฑปาติกานํ วฏฺฏติ. อิติ อิมานิ จ ตีณิ, อาคนฺตุกภตฺตาทีนิ จ จตฺตารีติ สตฺต, ตานิ สงฺฆภตฺตาทีหิ สห จุทฺทส ภตฺตานิ โหนฺติ.

๒๑๖. อฏฺกถายํ ปน วิหารภตฺตํ อฏฺกภตฺตํ จตุกฺกภตฺตํ คุฬฺหกภตฺตนฺติ อฺานิปิ จตฺตาริ ภตฺตานิ วุตฺตานิ. ตตฺถ วิหารภตฺตํ นาม วิหาเร ตตฺรุปฺปาทภตฺตํ, ตํ สงฺฆภตฺเตน สงฺคหิตํ. ตํ ปน ติสฺสมหาวิหารจิตฺตลปพฺพตาทีสุ ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺเตหิ ขีณาสเวหิ ยถา ปิณฺฑปาติกานมฺปิ สกฺกา โหนฺติ ปริภุฺชิตุํ, ตถา ปฏิคฺคหิตตฺตา ตาทิเสสุ าเนสุ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘อฏฺนฺนํ ภิกฺขูนํ เทม, จตุนฺนํ เทมา’’ติ เอวํ ทินฺนํ ปน อฏฺกภตฺตฺเจว จตุกฺกภตฺตฺจ, ตมฺปิ ภิกฺขาวจเนน ทินฺนํ ปิณฺฑปาติกานํ วฏฺฏติ. มหาภิสงฺขาเรน อติรสกปูเวน ปตฺตํ ถเกตฺวา ทินฺนํ คุฬฺหกภตฺตํ นาม. อิมานิ ตีณิ สลากภตฺตคติกาเนว. อปรมฺปิ คุฬฺหกภตฺตํ นาม อตฺถิ, อิเธกจฺเจ มนุสฺสา มหาธมฺมสฺสวนฺจ วิหารปูชฺจ กาเรตฺวา ‘‘สกลสงฺฆสฺส ทาตุํ น สกฺโกม, ทฺเว ตีณิ ภิกฺขุสตานิ อมฺหากํ ภิกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ ภิกฺขุปริจฺเฉทชานนตฺถํ คุฬฺหเก เทนฺติ, อิทํ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ.

ปิณฺฑปาตภาชนียํ นิฏฺิตํ.

๒๑๗. คิลานปจฺจยภาชนียํ ปน เอวํ เวทิตพฺพํ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๕ ปกฺขิกภตฺตาทิกถา) – สปฺปิอาทีสุ เภสชฺเชสุ ราชราชมหามตฺตา สปฺปิสฺส ตาว กุมฺภสตมฺปิ กุมฺภสหสฺสมฺปิ วิหารํ เปเสนฺติ, ฆณฺฏึ ปหริตฺวา เถราสนโต ปฏฺาย คหิตภาชนํ ปูเรตฺวา ทาตพฺพํ, ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ. สเจ อลสชาติกา มหาเถรา ปจฺฉา อาคจฺฉนฺติ, ‘‘ภนฺเต, วีสติวสฺสานํ ทียติ, ตุมฺหากํ ิติกา อติกฺกนฺตา’’ติ น วตฺตพฺพา, ิติกํ เปตฺวา เตสํ ทตฺวา ปจฺฉา ิติกาย ทาตพฺพํ. ‘‘อสุกวิหาเร พหุ สปฺปิ อุปฺปนฺน’’นฺติ สุตฺวา โยชนนฺตรวิหารโตปิ ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, สมฺปตฺตสมฺปตฺตานมฺปิ ิตฏฺานโต ปฏฺาย ทาตพฺพํ. อสมฺปตฺตานมฺปิ อุปจารสีมํ ปวิฏฺานํ อนฺเตวาสิกาทีสุ คณฺหนฺเตสุ ทาตพฺพเมว. ‘‘พหิอุปจารสีมาย ิตานํ เทถา’’ติ วทนฺติ, น ทาตพฺพํ. สเจ ปน อุปจารสีมํ โอกฺกนฺเตหิ เอกาพทฺธา หุตฺวา อตฺตโน วิหารทฺวาเร อนฺโตวิหาเรเยว วา โหนฺติ, ปริสวเสน วฑฺฒิตา นาม สีมา โหติ, ตสฺมา ทาตพฺพา. สงฺฆนวกสฺส ทินฺเนปิ ปจฺฉา อาคตานํ ทาตพฺพเมว. ทุติยภาเค ปน เถราสนํ อารุฬฺเห อาคตานํ ปมภาโค น ปาปุณาติ, ทุติยภาคโต วสฺสคฺเคน ทาตพฺพํ. อนฺโตอุปจารสีมํ ปวิสิตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ ทินฺนํ โหติ, สพฺพํ สนฺนิปาตฏฺาเนเยว ภาเชตพฺพํ.

ยสฺมึ วิหาเร ทส ภิกฺขู, ทเสว จ สปฺปิกุมฺภา ทียนฺติ, เอเกกกุมฺภวเสน ภาเชตพฺพํ. เอโก สปฺปิกุมฺโภ โหติ, ทสภิกฺขูหิ ภาเชตฺวา คเหตพฺพํ. สเจ ‘‘ยถาิตํเยว อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คณฺหนฺติ, ทุคฺคหิตํ, ตํ คตคตฏฺาเน สงฺฆิกเมว โหติ. กุมฺภํ ปน อาวชฺเชตฺวา ถาลเก โถกํ สปฺปึ กตฺวา ‘‘อิทํ มหาเถรสฺส ปาปุณาติ, อวเสสํ อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ วตฺวา ตมฺปิ กุมฺเภเยว อากิริตฺวา ยถิจฺฉิตํ คเหตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ ถินํ สปฺปิ โหติ, เลขํ กตฺวา ‘‘เลขโต ปรภาโค มหาเถรสฺส ปาปุณาติ, อวเสสํ อมฺหาก’’นฺติ คหิตมฺปิ สุคฺคหิตํ. วุตฺตปริจฺเฉทโต อูนาธิเกสุ ภิกฺขูสุ สปฺปิกุมฺเภสุ จ เอเตเนว อุปาเยน ภาเชตพฺพํ. สเจ ปเนโก ภิกฺขุ, เอโก กุมฺโภ โหติ, ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ‘‘อยํ มยฺหํ ปาปุณาตี’’ติปิ คเหตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อยํ ปมภาโค มยฺหํ ปาปุณาติ, อยํ ทุติยภาโค’’ติ เอวํ โถกํ โถกมฺปิ ปาเปตุํ วฏฺฏติ. เอส นโย นวนีตาทีสุปิ. ยสฺมึ ปน วิปฺปสนฺนติลเตลาทิมฺหิ เลขา น สนฺติฏฺติ, ตํ อุทฺธริตฺวา ภาเชตพฺพํ. สิงฺคิเวรมริจาทิเภสชฺชมฺปิ อวเสสปตฺตถาลกาทิสมณปริกฺขาโรปิ สพฺโพ วุตฺตานุรูเปเนว นเยน สุฏฺุ สลฺลกฺเขตฺวา ภาเชตพฺโพติ. อยํ คิลานปจฺจยภาชนียกถา.

๒๑๘. อิทานิ เสนาสนคฺคาเห วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ (จูฬว. อฏฺ. ๓๑๘) – อยํ เสนาสนคฺคาโห นาม ทุวิโธ โหติ อุตุกาเล จ วสฺสาวาเส จ. ตตฺถ อุตุกาเล ตาว เกจิ อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปุเรภตฺตํ อาคจฺฉนฺติ, เกจิ ปจฺฉาภตฺตํ ปมยามํ มชฺฌิมยามํ ปจฺฉิมยามํ วา. เย ยทา อาคจฺฉนฺติ, เตสํ ตทาว ภิกฺขู อุฏฺาเปตฺวา เสนาสนํ ทาตพฺพํ, อกาโล นาม นตฺถิ. เสนาสนปฺาปเกน ปน ปณฺฑิเตน ภวิตพฺพํ, เอกํ วา ทฺเว วา มฺจฏฺานานิ เปตพฺพานิ. สเจ วิกาเล เอโก วา ทฺเว วา เถรา อาคจฺฉนฺติ, เต วตฺตพฺพา ‘‘ภนฺเต, อาทิโต ปฏฺาย วุฏฺาปิยมาเน สพฺเพปิ ภิกฺขู อุพฺภณฺฑิกา ภวิสฺสนฺติ, ตุมฺเห อมฺหากํ วสนฏฺาเน วสถา’’ติ.

พหูสุ ปน อาคเตสุ วุฏฺาเปตฺวา ปฏิปาฏิยา ทาตพฺพํ. สเจ เอเกกํ ปริเวณํ ปโหติ, เอเกกํ ปริเวณํ ทาตพฺพํ. ตตฺถ อคฺคิสาลาทีฆสาลามณฺฑลมาฬาทโย สพฺเพปิ ตสฺเสว ปาปุณนฺติ. เอวํ อปฺปโหนฺเต ปาสาทคฺเคน ทาตพฺพํ, ปาสาเทสุ อปฺปโหนฺเตสุ โอวรกคฺเคน ทาตพฺพํ, โอวรเกสุ อปฺปโหนฺเตสุ เสยฺยคฺเคน ทาตพฺพํ, เสยฺยคฺเคสุ อปฺปโหนฺเตสุ มฺจฏฺาเนน ทาตพฺพํ, มฺจฏฺาเน อปฺปโหนฺเต เอกปีกฏฺานวเสน ทาตพฺพํ, ภิกฺขุโน ปน ิโตกาสมตฺตํ น คาเหตพฺพํ. เอตฺหิ เสนาสนํ นาม น โหติ. ปีกฏฺาเน ปน อปฺปโหนฺเต เอกํ มฺจฏฺานํ วา เอกํ ปีฏฺานํ วา ‘‘วาเรน วาเรน, ภนฺเต, วิสฺสมถา’’ติ ติณฺณํ ชนานํ ทาตพฺพํ. น หิ สกฺกา สีตสมเย สพฺพรตฺตึ อชฺโฌกาเสว วสิตุํ. มหาเถเรน ปมยามํ วิสฺสมิตฺวา นิกฺขมิตฺวา ทุติยตฺเถรสฺส วตฺตพฺพํ ‘‘อาวุโส อิธ ปวิสาหี’’ติ. สเจ มหาเถโร นิทฺทาครุโก โหติ, กาลํ น ชานาติ, อุกฺกาสิตฺวา ทฺวารํ อาโกเฏตฺวา ‘‘ภนฺเต กาโล ชาโต, สีตํ อนุทหตี’’ติ วตฺตพฺพํ. เตน นิกฺขมิตฺวา โอกาโส ทาตพฺโพ, อทาตุํ น ลภติ. ทุติยตฺเถเรนปิ มชฺฌิมยามํ วิสฺสมิตฺวา ปุริมนเยเนว อิตรสฺส ทาตพฺพํ. นิทฺทาครุโก วุตฺตนเยเนว วุฏฺาเปตพฺโพ. เอวํ เอกรตฺตึ เอกมฺจฏฺานํ ติณฺณํ ทาตพฺพํ. ชมฺพุทีเป ปน เอกจฺเจ ภิกฺขู ‘‘เสนาสนํ นาม มฺจฏฺานํ วา ปีฏฺานํ วา กิฺจิเทว กสฺสจิ สปฺปายํ โหติ, กสฺสจิ อสปฺปาย’’นฺติ อาคนฺตุกา โหนฺตุ วา มา วา, เทวสิกํ เสนาสนํ คาเหนฺติ. อยํ อุตุกาเล เสนาสนคฺคาโห นาม.

๒๑๙. วสฺสาวาเส ปน อตฺถิ อาคนฺตุกวตฺตํ, อตฺถิ อาวาสิกวตฺตํ. อาคนฺตุเกน ตาว สกฏฺานํ มุฺจิตฺวา อฺตฺถ คนฺตฺวา วสิตุกาเมน วสฺสูปนายิกทิวสเมว ตตฺถ น คนฺตพฺพํ. วสนฏฺานํ วา หิ ตตฺร สมฺพาธํ ภเวยฺย, ภิกฺขาจาโร วา น สมฺปชฺเชยฺย, เตน น ผาสุกํ วิหเรยฺย, ตสฺมา ‘‘อิทานิ มาสมตฺเตน วสฺสูปนายิกา ภวิสฺสตี’’ติ ตํ วิหารํ ปวิสิตพฺพํ. ตตฺถ มาสมตฺตํ วสนฺโต สเจ อุทฺเทสตฺถิโก, อุทฺเทสสมฺปตฺตึ สลฺลกฺเขตฺวา, สเจ กมฺมฏฺานิโก, กมฺมฏฺานสปฺปายตํ สลฺลกฺเขตฺวา, สเจ ปจฺจยตฺถิโก, ปจฺจยลาภํ สลฺลกฺเขตฺวา อนฺโตวสฺเส สุขํ วสิสฺสติ. สกฏฺานโต จ ตตฺถ คจฺฉนฺเตน น โคจรคาโม ฆฏฺเฏตพฺโพ. น ตตฺถ มนุสฺสา วตฺตพฺพา ‘‘ตุมฺเห นิสฺสาย สลากภตฺตาทีนิ วา ยาคุขชฺชกาทีนิ วา วสฺสาวาสิกํ วา นตฺถิ, อยํ เจติยสฺส ปริกฺขาโร, อยํ อุโปสถาคารสฺส, อิทํ ตาฬฺเจว สูจิ จ, สมฺปฏิจฺฉถ ตุมฺหากํ วิหาร’’นฺติ. เสนาสนํ ปน ชคฺคิตฺวา ทารุภณฺฑมตฺติกาภณฺฑานิ ปฏิสาเมตฺวา คมิกวตฺตํ ปูเรตฺวา คนฺตพฺพํ.

เอวํ คจฺฉนฺเตนปิ ทหเรหิ ปตฺตจีวรภณฺฑิกาโย อุกฺขิปาเปตฺวา เตลนาฬิกตฺตรทณฺฑาทีนิ คาเหตฺวา ฉตฺตํ ปคฺคยฺห อตฺตานํ ทสฺเสนฺเตน คามทฺวาเรเนว น คนฺตพฺพํ, ปฏิจฺฉนฺเนน อฏวิมคฺเคน คนฺตพฺพํ. อฏวิมคฺเค อสติ คุมฺพาทีนิ มทฺทนฺเตน น คนฺตพฺพํ, คมิกวตฺตํ ปน ปูเรตฺวา วิตกฺกํ ฉินฺทิตฺวา สุทฺธจิตฺเตน คมนวตฺเตเนว คนฺตพฺพํ. สเจ ปน คามทฺวาเรน มคฺโค โหติ, คจฺฉนฺตฺจ นํ สปริวารํ ทิสฺวา มนุสฺสา ‘‘อมฺหากํ เถโร วิยา’’ติ อุปธาวิตฺวา ‘‘กุหึ, ภนฺเต, สพฺพปริกฺขาเร คเหตฺวา คจฺฉถา’’ติ วทนฺติ, เตสุ เจ เอโก เอวํ วทติ ‘‘วสฺสูปนายิกกาโล นามายํ, ยตฺถ อนฺโตวสฺเสนิพทฺธภิกฺขาจาโร ภณฺฑปฏิจฺฉาทนฺจ ลพฺภติ, ตตฺถ ภิกฺขู คจฺฉนฺตี’’ติ, ตสฺส เจ สุตฺวา เต มนุสฺสา ‘‘ภนฺเต, อิมสฺมิมฺปิ คาเม ชโน ภุฺชติ เจว นิวาเสติ จ, มา อฺตฺถ คจฺฉถา’’ติ วตฺวา มิตฺตามจฺเจ ปกฺโกสิตฺวา สพฺเพ สมฺมนฺตยิตฺวา วิหาเร นิพทฺธวตฺตฺจ สลากภตฺตาทีนิ จ วสฺสาวาสิกฺจ เปตฺวา ‘‘อิเธว, ภนฺเต, วสถา’’ติ ยาจนฺติ, สพฺเพสํ สาทิตุํ วฏฺฏติ. สพฺพฺเจตํ กปฺปิยฺเจว อนวชฺชฺจ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘กุหึ คจฺฉถาติ วุตฺเต ‘อสุกฏฺาน’นฺติ วตฺวา ‘กสฺมา ตตฺถ คจฺฉถา’ติ วุตฺเต ‘การณํ อาจิกฺขิตพฺพ’’’นฺติ วุตฺตํ. อุภยมฺปิ ปเนตํ สุทฺธจิตฺตตฺตาว อนวชฺชํ. อิทํ อาคนฺตุกวตฺตํ นาม.

อิทํ ปน อาวาสิกวตฺตํ. ปฏิกจฺเจว หิ อาวาสิเกหิ วิหาโร ชคฺคิตพฺโพ, ขณฺฑผุลฺลปฏิสงฺขรณปริภณฺฑานิ กาตพฺพานิ, รตฺติฏฺานทิวาฏฺานวจฺจกุฏิปสฺสาวฏฺานานิ ปธานฆรวิหารมคฺโคติ อิมานิ สพฺพานิ ปฏิชคฺคิตพฺพานิ. เจติเย สุธากมฺมํ มุณฺฑเวทิกาย เตลมกฺขนํ มฺจปีชคฺคนนฺติ อิทมฺปิ สพฺพํ กาตพฺพํ ‘‘วสฺสํ วสิตุกามา อาคนฺตฺวา อุทฺเทสปริปุจฺฉากมฺมฏฺานานุโยคาทีนิ กโรนฺตา สุขํ วสิสฺสนฺตี’’ติ. กตปริกมฺเมหิ อาสาฬฺหีชุณฺหปฺจมิโต ปฏฺาย วสฺสาวาสิกํ ปุจฺฉิตพฺพํ. กตฺถ ปุจฺฉิตพฺพํ? ยโต ปกติยา ลพฺภติ. เยหิ ปน น ทินฺนปุพฺพํ, เต ปุจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ. กสฺมา ปุจฺฉิตพฺพํ? กทาจิ หิ มนุสฺสา เทนฺติ, กทาจิ ทุพฺภิกฺขาทีหิ อุปทฺทุตา น เทนฺติ, ตตฺถ เย น ทสฺสนฺติ, เต อปุจฺฉิตฺวา วสฺสาวาสิเก คาหิเต คาหิตภิกฺขูนํ ลาภนฺตราโย โหติ, ตสฺมา ปุจฺฉิตฺวาว คาเหตพฺพํ.

ปุจฺฉนฺเตน ‘‘ตุมฺหากํ วสฺสาวาสิกํ คาหณกาโล อุปกฏฺโ’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ วทนฺติ ‘‘ภนฺเต, อิมํ สํวจฺฉรํ ฉาตกาทีหิ อุปทฺทุตมฺห, น สกฺโกม ทาตุ’’นฺติ วา ‘‘ยํ ปุพฺเพ เทม, ตโต อูนตรํ ทสฺสามา’’ติ วา ‘‘อิทานิ กปฺปาโส สุลโภ, ยํ ปุพฺเพ เทม, ตโต พหุตรํ ทสฺสามา’’ติ วา, ตํ สลฺลกฺเขตฺวา ตทนุรูเปน นเยน เตสํ เสนาสเน ภิกฺขูนํ วสฺสาวาสิกํ คาเหตพฺพํ. สเจ มนุสฺสา วทนฺติ ‘‘ยสฺส อมฺหากํ วสฺสาวาสิกํ ปาปุณาติ, โส เตมาสํ ปานียํ อุปฏฺาเปตุ, วิหารมคฺคํ ชคฺคตุ, เจติยงฺคณโพธิยงฺคณานิ ชคฺคตุ, โพธิรุกฺเข อุทกํ อาสิฺจตู’’ติ, ยสฺส ตํ ปาปุณาติ, ตสฺส อาจิกฺขิตพฺพํ. โย ปน คาโม ปฏิกฺกมฺม โยชนทฺวิโยชนนฺตเร โหติ, ตตฺร เจ กุลานิ อุปนิกฺเขปํ เปตฺวา ปหาเร วสฺสาวาสิกํ เทนฺติเยว, ตานิ กุลานิ อาปุจฺฉิตฺวาปิ เตสํ เสนาสเน วตฺตํ กตฺวา วสนฺตสฺส วสฺสาวาสิตํ คาเหตพฺพํ. สเจ ปน เตสํ เสนาสเน ปํสุกูลิโก วสติ, อาคตฺจ ตํ ทิสฺวา ‘‘ตุมฺหากํ วสฺสาวาสิกํ เทมา’’ติ วทนฺติ, เตน สงฺฆสฺส อาจิกฺขิตพฺพํ. สเจ ตานิ กุลานิ สงฺฆสฺส ทาตุํ น อิจฺฉนฺติ, ‘‘ตุมฺหากํเยว เทมา’’ติ วทนฺติ, สภาโค ภิกฺขุ ‘‘วตฺตํ กตฺวา คณฺหาหี’’ติ วตฺตพฺโพ. ปํสุกูลิกสฺส ปเนตํ น วฏฺฏติ. อิติ สทฺธาเทยฺยทายกมนุสฺสา ปุจฺฉิตพฺพา.

ตตฺรุปฺปาเท ปน กปฺปิยการกา ปุจฺฉิตพฺพา. กถํ ปุจฺฉิตพฺพา? กึ, อาวุโส, สงฺฆสฺส ภณฺฑปฏิจฺฉาทนํ ภวิสฺสตีติ? สเจ วทนฺติ ‘‘ภวิสฺสติ, ภนฺเต, เอเกกสฺส นวหตฺถสาฏกํ ทสฺสาม, วสฺสาวาสิกํ คาเหถา’’ติ, คาเหตพฺพํ. สเจปิ วทนฺติ ‘‘สาฏกา นตฺถิ, วตฺถุ ปน อตฺถิ, คาเหถ, ภนฺเต’’ติ, วตฺถุมฺหิ สนฺเตปิ คาเหตุํ วฏฺฏติเยว. กปฺปิยการกานฺหิ หตฺเถ ‘‘กปฺปิยภณฺฑํ ปริภุฺชถา’’ติ ทินฺนวตฺถุโต ยํ ยํ กปฺปิยํ, สพฺพํ ปริภุฺชิตุํ อนุฺาตํ. ยํ ปเนตฺถ ปิณฺฑปาตตฺถาย คิลานปจฺจยตฺถาย จ อุทฺทิสฺส ทินฺนํ, ตํ จีวเร อุปนาเมนฺเตหิ สงฺฆสุฏฺุตาย อปโลเกตฺวา อุปนาเมตพฺพํ, เสนาสนตฺถาย ปน อุทฺทิสฺส ทินฺนํ ครุภณฺฑํ โหติ. จีวรวเสเนว ปน จตุปจฺจยวเสน วา ทินฺนํ จีวเร อุปนาเมนฺตานํ อปโลกนกมฺมกิจฺจํ นตฺถิ. อปโลกนกมฺมํ กโรนฺเตหิ จ ปุคฺคลวเสเนว กาตพฺพํ, สงฺฆวเสน น กาตพฺพํ. ชาตรูปรชตวเสนปิ อามกธฺวเสน วา อปโลกนกมฺมํ น วฏฺฏติ, กปฺปิยภณฺฑวเสน จีวรตณฺฑุลาทิวเสเนว จ วฏฺฏติ. ตํ ปน เอวํ กตฺตพฺพํ ‘‘อิทานิ สุภิกฺขํ สุลภปิณฺฑํ, ภิกฺขู จีวเรน กิลมนฺติ, เอตฺตกํ นาม ตณฺฑุลภาคํ ภิกฺขูนํ จีวรํ กาตุํ รุจฺจตี’’ติ, ‘‘คิลานปจฺจโย สุลโภ, คิลาโน วา นตฺถิ, เอตฺตกํ นาม ตณฺฑุลภาคํ ภิกฺขูนํ จีวรํ กาตุํ รุจฺจตี’’ติ.

เอวํ จีวรปจฺจยํ สลฺลกฺเขตฺวา เสนาสนสฺส กาเล โฆสิเต สนฺนิปติเต สงฺเฆ เสนาสนคฺคาหโก สมฺมนฺนิตพฺโพ. สมฺมนฺนนฺเตน จ ทฺเว สมฺมนฺนิตพฺพาติ วุตฺตํ. เอวฺหิ นวโก วุฑฺฒสฺส, วุฑฺโฒ จ นวกสฺส คาเหสฺสตีติ. มหนฺเต ปน มหาวิหารสทิเส วิหาเร ตโย จตฺตาโร ชนา สมฺมนฺนิตพฺพา. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘อฏฺปิ โสฬสปิ ชเน สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. เตสํ สมฺมุติ กมฺมวาจายปิ อปโลกเนนปิ วฏฺฏติเยว. เตหิ สมฺมเตหิ ภิกฺขูหิ เสนาสนํ สลฺลกฺเขตพฺพํ. เจติยฆรํ โพธิฆรํ อาสนฆรํ สมฺมุฺชนิอฏฺโฏ ทารุอฏฺโฏ วจฺจกุฏิ อิฏฺกสาลา วฑฺฒกิสาลา ทฺวารโกฏฺโก ปานียมาโฬ มคฺโค โปกฺขรณีติ เอตานิ หิ อเสนาสนานิ, วิหาโร อฑฺฒโยโค ปาสาโท หมฺมิยํ คุหา มณฺฑโป รุกฺขมูลํ เวฬุคุมฺโพติ อิมานิ เสนาสนานิ, ตานิ คาเหตพฺพานิ.

๒๒๐. คาเหนฺเตน จ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปมํ ภิกฺขู คเณตุํ, ภิกฺขู คเณตฺวา เสยฺยา คเณตุํ, เสยฺยา คเณตฺวา เสยฺยคฺเคน คาเหตุ’’นฺติ(จูฬว. ๓๑๘) อาทิวจนโต ปมํ วิหาเร ภิกฺขู คเณตฺวา มฺจฏฺานานิ คเณตพฺพานิ, ตโต เอเกกํ มฺจฏฺานํ เอเกกสฺส ภิกฺขุโน คาเหตพฺพํ. สเจ มฺจฏฺานานิ อติเรกานิ โหนฺติ, วิหารคฺเคน คาเหตพฺพํ. สเจ วิหาราปิ อติเรกา โหนฺติ, ปริเวณคฺเคน คาเหตพฺพํ. ปริเวเณสุปิ อติเรเกสุ ปุน อปโรปิ ภาโค ทาตพฺโพ. อติมนฺเทสุ หิ ภิกฺขูสุ เอเกกสฺส ภิกฺขุโน ทฺเว ตีณิ ปริเวณานิ ทาตพฺพานิ. คหิเต ปน ทุติยภาเค อฺโ ภิกฺขุ อาคจฺฉติ, น อตฺตโน อรุจิยา โส ภาโค ตสฺส ทาตพฺโพ. สเจ ปน เยน คหิโต, โส อตฺตโน รุจิยา ตํ ทุติยภาคํ วา ปมภาคํ วา เทติ, วฏฺฏติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, นิสฺสีเม ิตสฺส เสนาสนํ คาเหตพฺพํ, โย คาเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๑๘) วจนโต อุปจารสีธโต พหิ ิตสฺส น คาเหตพฺพํ, อนฺโตอุปจารสีมาย ปน ทูเร ิตสฺสปิ ลพฺภติเยว.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานสฺส ปติรูปํ เสยฺยํ ทาตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๑๖) วจนโต โย (จูฬว. อฏฺ. ๓๑๖) กาสสาสภคนฺทราติสาราทีหิ คิลาโน โหติ, เขฬมลฺลกวจฺจกปาลาทีนิ เปตพฺพานิ โหนฺติ, กุฏฺี วา โหติ, เสนาสนํ ทูเสติ, เอวรูปสฺส เหฏฺาปาสาทปณฺณสาลาทีสุ อฺตรํ เอกมนฺตํ เสนาสนํ ทาตพฺพํ. ยสฺมึ วสนฺเต เสนาสนํ น ทุสฺสติ, ตสฺส วรเสยฺยาปิ ทาตพฺพาว. โยปิ สิเนหปานวิเรจนนตฺถุกมฺมาทีสุ ยํ กิฺจิ เภสชฺชํ กโรติ, สพฺโพ โส คิลาโนเยว. ตสฺสปิ สลฺลกฺเขตฺวา ปติรูปํ เสนาสนํ ทาตพฺพํ.

‘‘น, ภิกฺขเว, เอเกน ทฺเว ปฏิพาเหตพฺพา, โย ปฏิพาเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๑๙) วจนโต เอเกน ทฺเว เสนาสนานิ น คเหตพฺพานิ. สเจปิ คณฺเหยฺย, ปจฺฉิเมน คหเณน ปุริมคฺคหณํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. คหเณน หิ คหณํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, คหเณน อาลโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, อาลเยน คหณํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, อาลเยน อาลโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. กถํ? อิเธกจฺโจ (จูฬว. อฏฺ. ๓๑๙) วสฺสูปนายิกทิวเส เอกสฺมึ วิหาเร เสนาสนํ คเหตฺวา สามนฺตวิหารํ คนฺตฺวา ตตฺราปิ คณฺหาติ, ตสฺส อิมินา คหเณน ปุริมคฺคหณํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อปโร ‘‘อิธ วสิสฺสามี’’ติ อาลยมตฺตํ กตฺวา สามนฺตวิหารํ คนฺตฺวา ตตฺถ เสนาสนํ คณฺหาติ, ตสฺส อิมินา คหเณเนว ปุริโม อาลโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. เอโก ‘‘อิธ วสิสฺสามี’’ติ เสนาสนํ วา คเหตฺวา อาลยํ วา กตฺวา สามนฺตวิหารํ คนฺตฺวา ‘‘อิเธว ทานิ วสิสฺสามี’’ติ อาลยํ กโรติ, อิจฺจสฺส อาลเยน วา คหณํ, อาลเยน วา อาลโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, สพฺพตฺถ ปจฺฉิเม คหเณ วา อาลเย วา ติฏฺติ. โย ปน เอกสฺมึ วิหาเร เสนาสนํ คเหตฺวา ‘‘อฺสฺมึ วิหาเร วสิสฺสามี’’ติ คจฺฉติ, ตสฺส อุปจารสีมาติกฺกเม เสนาสนคฺคาโห ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. ยทิ ปน ‘‘ตตฺถ ผาสุ ภวิสฺสติ, วสิสฺสามิ, โน เจ, อาคมิสฺสามี’’ติ คนฺตฺวา อผาสุกภาวํ ตฺวา ปจฺฉา วา คจฺฉติ, วฏฺฏติ.

เสนาสนคฺคาหเกน จ เสนาสนํ คาเหตฺวา วสฺสาวาสิกํ คาเหตพฺพํ. คาเหนฺเตน สเจ สงฺฆิโก จ สทฺธาเทยฺโย จาติ ทฺเว จีวรปจฺจยา โหนฺติ, เตสุ ยํ ภิกฺขู ปมํ คหิตุํ อิจฺฉนฺติ, ตํ คเหตฺวา ตสฺส ิติกโต ปฏฺาย อิตโร คาเหตพฺโพ. ‘‘สเจ ภิกฺขูนํ อปฺปตาย ปริเวณคฺเคน เสนาสเน คาหิยมาเน เอกํ ปริเวณํ มหาลาภํ โหติ, ทส วา ทฺวาทส วา จีวรานิ ลภนฺติ, ตํ วิชเฏตฺวา อฺเสุ อลาภเกสุ อาวาเสสุ ปกฺขิปิตฺวา อฺเสมฺปิ ภิกฺขูนํ คาเหตพฺพ’’นฺติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห ‘‘น เอวํ กาตพฺพํ. มนุสฺสา หิ อตฺตโน อาวาสปฏิชคฺคนตฺถาย ปจฺจยํ เทนฺติ, ตสฺมา อฺเหิ ภิกฺขูหิ ตตฺถ ปวิสิตพฺพ’’นฺติ.

๒๒๑. สเจ ปเนตฺถ มหาเถโร ปฏิกฺโกสติ ‘‘มา, อาวุโส, เอวํ คาเหถ, ภควโต อนุสิฏฺึ กโรถ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปริเวณคฺเคน คาเหตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๑๘). ตสฺส ปฏิกฺโกสนาย อฏฺตฺวา ‘‘ภนฺเต, ภิกฺขู พหู, ปจฺจโย มนฺโท, สงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ สฺาเปตฺวา คาเหตพฺพเมว. คาเหนฺเตน จ สมฺมเตน ภิกฺขุนา มหาเถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา เอวํ วตฺตพฺพํ ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ เสนาสนํ ปาปุณาติ, ปจฺจยํ ธาเรถา’’ติ. อสุกกุลสฺส ปจฺจโย อสุกเสนาสนฺจ มยฺหํ ปาปุณาติ, อาวุโสติ. ปาปุณาติ ภนฺเต, คณฺหถ นนฺติ. คณฺหามิ, อาวุโสติ. คหิตํ โหติ. ‘‘สเจ ปน ‘คหิตํ โว, ภนฺเต’ติ วุตฺเต ‘คหิตํ เม’ติ วา, ‘คณฺหิสฺสถ, ภนฺเต’ติ วุตฺเต ‘คณฺหิสฺสามี’ติ วา วทติ, อคฺคหิตํ โหตี’’ติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห ‘‘อตีตานาคตวจนํ วา โหตุ วตฺตมานวจนํ วา, สตุปฺปาทมตฺตํ อาลยกรณมตฺตเมว เจตฺถ ปมาณํ, ตสฺมา คหิตเมว โหตี’’ติ.

โยปิ ปํสุกูลิโก ภิกฺขุ เสนาสนํ คเหตฺวา ปจฺจยํ วิสฺสชฺเชติ, อยมฺปิ น อฺสฺมึ อาวาเส ปกฺขิปิตพฺโพ, ตสฺมึเยว ปริเวเณ อคฺคิสาลาย วา ทีฆสาลาย วา รุกฺขมูเล วา อฺสฺส คาเหตุํ วฏฺฏติ. ปํสุกูลิโก ‘‘วสามี’’ติ เสนาสนํ ชคฺคิสฺสติ, อิตโร ‘‘ปจฺจยํ คณฺหามี’’ติ เอวํ ทฺวีหิ การเณหิ เสนาสนํ สุชคฺคิตตรํ ภวิสฺสติ. มหาปจฺจริยํ ปน วุตฺตํ ‘‘ปํสุกูลิเก วาสตฺถาย เสนาสนํ คณฺหนฺเต เสนาสนคฺคาหเกน วตฺตพฺพํ, ‘ภนฺเต อิธ ปจฺจโย อตฺถิ, โส กึ กาตพฺโพ’ติ. เตน ‘เหฏฺา อฺํ คาหาเปหี’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ ปน กิฺจิ อวตฺวาว วสติ, วุฏฺวสฺสสฺส จ ปาทมูเล เปตฺวา สาฏกํ เทนฺติ, วฏฺฏติ. อถ ‘วสฺสาวาสิกํ เทมา’ติ วทนฺติ, ตสฺมึ เสนาสเน วสฺสํวุฏฺภิกฺขูนํ ปาปุณาตี’’ติ. เยสํ ปน เสนาสนํ นตฺถิ, เกวลํ ปจฺจยเมว เทนฺติ, เตสํ ปจฺจยํ อวสฺสาวาสิกเสนาสเน คาเหตุํ วฏฺฏติ. มนุสฺสา ถูปํ กตฺวา วสฺสาวาสิกํ คาหาเปนฺติ. ถูโป นาม อเสนาสนํ, ตสฺส สมีเป รุกฺเข วา มณฺฑเป วา อุปนิพนฺธิตฺวา คาเหตพฺพํ. เตน ภิกฺขุนา เจติยํ ชคฺคิตพฺพํ. โพธิรุกฺขโพธิฆรอาสนฆรสมฺมุฺชนิอฏฺฏทารุอฏฺฏวจฺจกุฏิทฺวารโกฏฺกปานียกุฏิปานียมาฬกทนฺตกฏฺมาฬเกสุปิ เอเสว นโย. โภชนสาลา ปน เสนาสนเมว, ตสฺมา ตํ เอกสฺส วา พหูนํ วา ปริจฺฉินฺทิตฺวา คาเหตุํ วฏฺฏตีติ สพฺพมิทํ วิตฺถาเรน มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.

เสนาสนคฺคาหเกน ปน ปาฏิปทอรุณโต ปฏฺาย ยาว ปุน อรุณํ น ภิชฺชติ, ตาว คาเหตพฺพํ. อิทฺหิ เสนาสนคฺคาหสฺส เขตฺตํ. สเจ ปาโตว คาภิเต เสนาสเน อฺโ วิตกฺกจาริโก ภิกฺขุ อาคนฺตฺวา เสนาสนํ ยาจติ, ‘‘คหิตํ, ภนฺเต, เสนาสนํ, วสฺสูปคโต สงฺโฆ, รมณีโย วิหาโร, รุกฺขมูลาทีสุ ยตฺถ อิจฺฉถ, ตตฺถ วสถา’’ติ วตฺตพฺโพ. ปจฺฉิมวสฺสูปนายิกทิวเส ปน สเจ กาลํ โฆเสตฺวา สนฺนิปติเต สงฺเฆ โกจิ ทสหตฺถํ วตฺถํ อาหริตฺวา วสฺสาวาสิกํ เทติ, อาคนฺตุโก เจ ภิกฺขุ สงฺฆตฺเถโร โหติ, ตสฺส ทาตพฺพํ. นวโก เจ โหติ, สมฺมเตน ภิกฺขุนา สงฺฆตฺเถโร วตฺตพฺโพ ‘‘สเจ, ภนฺเต, อิจฺฉถ, ปมภาคํ มุฺจิตฺวา อิทํ วตฺถํ คณฺหถา’’ติ, อมุฺจนฺตสฺส น ทาตพฺพํ. สเจ ปน ปุพฺเพ คาหิตํ มุฺจิตฺวา คณฺหาติ, ทาตพฺพํ. เอเตเนว อุปาเยน ทุติยตฺเถรโต ปฏฺาย ปริวตฺเตตฺวา ปตฺตฏฺาเนว อาคนฺตุกสฺส ทาตพฺพํ. สเจ ปน ปมวสฺสูปคตา ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ วา วตฺถานิ อลตฺถุํ, ลทฺธํ ลทฺธํ เอเตเนว อุปาเยน วิสฺสชฺชาเปตฺวา ยาว อาคนฺตุกสฺส สมกํ โหติ, ตาว ทาตพฺพํ. เตน สมเก ลทฺเธ อวสิฏฺโ อนุภาโค เถราสเน ทาตพฺโพ. ปจฺจุปฺปนฺเน ลาเภ สติ ิติกาย คาเหตุํ กติกํ กาตุํ วฏฺฏติ.

สเจ ทุพฺภิกฺขํ โหติ, ทฺวีสุปิ วสฺสูปนายิกาสุ วสฺสูปคตา ภิกฺขู ภิกฺขาย กิลมนฺตา ‘‘อาวุโส, อิธ วสนฺตา สพฺเพว กิลมาม, สาธุ วต ทฺเว ภาคา โหม, เยสํ าติปวาริตฏฺานานิ อตฺถิ, เต ตตฺถ วสิตฺวา ปวารณาย อาคนฺตฺวา อตฺตโน ปตฺตํ วสฺสาวาสิกํ คณฺหนฺตู’’ติ วทนฺติ, เตสุ เย ตตฺถ วสิตฺวา ปวารณาย อาคจฺฉนฺติ, เตสํ อปโลเกตฺวา วสฺสาวาสิกํ ทาตพฺพํ. สาทิยนฺตาปิ หิ เตเนว วสฺสาวาสิกสฺส สามิโน, ขียนฺตาปิ จ อาวาสิกา เนว อทาตุํ ลภนฺติ. กุรุนฺทิยํ ปน วุตฺตํ ‘‘กติกวตฺตํ กาตพฺพํ ‘สพฺเพสํ โน อิธ ยาคุภตฺตํ นปฺปโหติ, สภาคฏฺาเน วสิตฺวา อาคจฺฉถ, ตุมฺหากํ ปตฺตํ วสฺสาวาสิกํ ลภิสฺสถา’ติ. ตฺเจ เอโก ปฏิพาหติ, สุปฏิพาหิตํ. โน เจ ปฏิพาหติ, กติกา สุกตา. ปจฺฉา เตสํ ตตฺถ วสิตฺวา อาคตานํ อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ, อปโลกนกาเล ปฏิพาหิตุํ น ลพฺภตี’’ติ. ปุนปิ วุตฺตํ ‘‘สเจ วสฺสูปคเตสุ เอกจฺจานํ วสฺสาวาสิเก อปาปุณนฺเต ภิกฺขู กติกํ กโรนฺติ ‘ฉินฺนวสฺสานํ วสฺสาวาสิกฺจ อิทานิ อุปฺปชฺชนกวสฺสาวาสิกฺจ อิเมสํ ทาตุํ รุจฺจตี’ติ, เอวํ กติกาย กตาย คาหิตสทิสเมว โหติ, อุปฺปนฺนุปฺปนฺนํ เตสเมว ทาตพฺพ’’นฺติ. เตมาสํ ปานียํ อุปฏฺาเปตฺวา วิหารมคฺคเจติยงฺคณโพธิยงฺคณานิ ชคฺคิตฺวา โพธิรุกฺเข อุทกํ สิฺจิตฺวา ปกฺกนฺโตปิ วิพฺภนฺโตปิ วสฺสาวาสิกํ ลภติเยว. ภตินิวิฏฺฺหิ เตน กตํ, สงฺฆิกํ ปน อปโลกนกมฺมํ กตฺวา คาหิตํ อนฺโตวสฺเส วิพฺภนฺโตปิ ลภเตว, ปจฺจยวเสน คาหิตํ ปน น ลภตีติ วทนฺติ.

สเจ วุฏฺวสฺโส ทิสํคมิโก ภิกฺขุ อาวาสิกสฺส หตฺถโต กิฺจิเทว กปฺปิยภณฺฑํ คเหตฺวา ‘‘อสุกกุเล มยฺหํ วสฺสาวาสิกํ ปตฺตํ, ตํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา คตฏฺาเน วิพฺภมติ, วสฺสาวาสิกํ สงฺฆิกํ โหติ. สเจ ปน มนุสฺเส สมฺมุขา สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา คจฺฉติ, ลภติ. ‘‘อิทํ วสฺสาวาสิกํ อมฺหากํ เสนาสเน วุตฺถภิกฺขุโน เทมา’’ติ วุตฺเต ยสฺส คาหิตํ, ตสฺเสว โหติ. สเจ ปน เสนาสนสามิกสฺส ปิยกมฺยตาย ปุตฺตธีตาทโย พหูนิ วตฺถานิ อาหริตฺวา ‘‘อมฺหากํ เสนาสเน เทมา’’ติ เทนฺติ, ตตฺถ วสฺสูปคตสฺส เอกเมว วตฺถํ ทาตพฺพํ, เสสานิ สงฺฆิกานิ โหนฺติ. วสฺสาวาสิกิติกาย คาเหตพฺพานิ, ิติกาย อสติ เถราสนโต ปฏฺาย คาเหตพฺพานิ. เสนาสเน วสฺสูปคตํ ภิกฺขุํ นิสฺสาย อุปฺปนฺเนน จิตฺตปฺปสาเทน พหูนิ วตฺถานิ อาหริตฺวา ‘‘เสนาสนสฺส เทมา’’ติ ทินฺเนสุปิ เอเสว นโย. สเจ ปน ปาทมูเล เปตฺวา ‘‘เอตสฺส ภิกฺขุโน เทมา’’ติ วทนฺติ, ตสฺเสว โหนฺติ.

เอกสฺส เคเห ทฺเว วสฺสาวาสิกานิ, ปมภาโค สามเณรสฺส คาหิโต โหติ, ทุติโย เถราสเน. โส เอกํ ทสหตฺถํ, เอกํ อฏฺหตฺถํ สาฏกํ เปเสติ ‘‘วสฺสาวาสิกํ ปตฺตภิกฺขูนํ เทถา’’ติ, วิจินิตฺวา วรภาคํ สามเณรสฺส ทตฺวา อนุภาโค เถราสเน ทาตพฺโพ. สเจ ปน อุโภปิ ฆรํ เนตฺวา โภเชตฺวา สยเมว ปาทมูเล เปติ, ยํ ยสฺส ทินฺนํ, ตเทว ตสฺส โหติ. อิโต ปรํ มหาปจฺจริยํ อาคตนโย โหติ – เอกสฺส ฆเร ทหรสามเณรสฺส วสฺสาวาสิกํ ปาปุณาติ, โส เจ ปุจฺฉติ ‘‘อมฺหากํ วสฺสาวาสิกํ กสฺส ปตฺต’’นฺติ, ‘‘สามเณรสฺสา’’ติ อวตฺวา ‘‘ทานกาเล ชานิสฺสสี’’ติ วตฺวา ทานทิวเส เอกํ มหาเถรํ เปเสตฺวา นีหราเปตพฺพํ. สเจ ยสฺส วสฺสาวาสิกํ ปตฺตํ, โส วิพฺภมติ วา กาลํ วา กโรติ, มนุสฺสา เจ ปุจฺฉนฺติ ‘‘กสฺส อมฺหากํ วสฺสาวาสิกํ ปตฺต’’นฺติ, เตสํ ยถาภูตํ อาจิกฺขิตพฺพํ. สเจ เต วทนฺติ ‘‘ตุมฺหากํ เทมา’’ติ, ตสฺส ภิกฺขุโน ปาปุณาติ. อถ สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา เทนฺติ, สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา ปาปุณาติ. สเจ วสฺสูปคตา สุทฺธปํสุกูลิกาเยว โหนฺติ, อาเนตฺวา ทินฺนํ วสฺสาวาสิกํ เสนาสนปริกฺขารํ วา กตฺวา เปตพฺพํ, พิมฺโพหนาทีนิ วา กาตพฺพานีติ.

อยํ ตาว อนฺโตวสฺเส วสฺสูปนายิกทิวสวเสน

เสนาสนคฺคาหกถา.

๒๒๒. อยมปโรปิ อุตุกาเล อนฺตรามุตฺตโก นาม เสนาสนคฺคาโห เวทิตพฺโพ. ทิวสวเสน หิ ติวิโธ เสนาสนคฺคาโห ปุริมโก ปจฺฉิมโก อนฺตรามุตฺตโกติ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, เสนาสนคฺคาหา, ปุริมโก ปจฺฉิมโก อนฺตรามุตฺตโก. อปรชฺชุคตาย อาสาฬฺหิยา ปุริมโก คาเหตพฺโพ, มาสคตาย อาสาฬฺหิยา ปจฺฉิมโก คาเหตพฺโพ, อปรชฺชุคตาย ปวารณาย อายตึ วสฺสาวาสตฺถาย อนฺตรามุตฺตโก คาเหตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๓๑๘).

เอเตสุ (จูฬว. อฏฺ. ๓๑๘) ตีสุ เสนาสนคฺคาเหสุ ปุริมโก ปจฺฉิมโก จาติ อิเม ทฺเว คาหา ถาวรา, อนฺตรามุตฺตโก ปน เสนาสนปฏิชคฺคนตฺถํ ภควตา อนุฺาโต. ตถา หิ เอกสฺมึ วิหาเร มหาลาภํ เสนาสนํ โหติ, เสนาสนสามิกา วสฺสูปคตํ ภิกฺขุํ สพฺพปจฺจเยหิ สกฺกจฺจํ อุปฏฺหิตฺวา ปวาเรตฺวา คมนกาเล พหุํ สมณปริกฺขารํ เทนฺติ, มหาเถรา ทูรโตว อาคนฺตฺวา วสฺสูปนายิกทิวเส ตํ คเหตฺวา ผาสุํ วสิตฺวา วุฏฺวสฺสา ลาภํ คณฺหิตฺวา ปกฺกมนฺติ. อาวาสิกา ‘‘มยํ เอตฺถุปฺปนฺนํ ลาภํ น ลภาม, นิจฺจํ อาคนฺตุกมหาเถราว ลภนฺติ, เตเยว นํ อาคนฺตฺวา ปฏิชคฺคิสฺสนฺตี’’ติ ปลุชฺชนฺตมฺปิ น โอโลเกนฺติ. ภควา ตสฺส ปฏิชคฺคนตฺถํ ‘‘อปรชฺชุคตาย ปวารณาย อายตึ วสฺสาวาสตฺถาย อนฺตรามุตฺตโก คาเหตพฺโพ’’ติ อาห.

ตํ คาเหนฺเตน สงฺฆตฺเถโร วตฺตพฺโพ ‘‘ภนฺเต, อนฺตรามุตฺตกเสนาสนํ คณฺหถา’’ติ. สเจ คณฺหาติ, ทาตพฺพํ. โน เจ, เอเตเนว อุปาเยน อนุเถรํ อาทึ กตฺวา โย คณฺหาติ, ตสฺส อนฺตมโส สามเณรสฺสปิ ทาตพฺพํ. เตน ตํ เสนาสนํ อฏฺ มาเส ปฏิชคฺคิตพฺพํ, ฉทนภิตฺติภูมีสุ ยํ กิฺจิ ขณฺฑํ วา ผุลฺลํ วา โหติ, ตํ สพฺพํ ปฏิสงฺขริตพฺพํ. อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีหิ ทิวสํ เขเปตฺวา รตฺตึ ตตฺถ วสิตุํ วฏฺฏติ, รตฺตึ ปริเวเณ วสิตฺวา ตตฺถ ทิวสํ เขเปตุมฺปิ วฏฺฏติ, รตฺตินฺทิวํ ตตฺเถว วสิตุมฺปิ วฏฺฏติ, อุตุกาเล อาคตานํ วุฑฺฒานํ น ปฏิพาหิตพฺพํ. วสฺสูปนายิกทิวเส ปน สมฺปตฺเต สเจ สงฺฆตฺเถโร ‘‘มยฺหํ อิทํ ปน เสนาสนํ เทถา’’ติ วทติ, น ลภติ. ‘‘ภนฺเต, อิทํ อนฺตรามุตฺตกํ คเหตฺวา เอเกน ภิกฺขุนา ปฏิชคฺคิต’’นฺติ วตฺวา น ทาตพฺพํ, อฏฺ มาเส ปฏิชคฺคิตภิกฺขุสฺเสว คาหิตํ โหติ. ยสฺมึ ปน เสนาสเน เอกสํวจฺฉเร ทฺวิกฺขตฺตุํ ปจฺจเย เทนฺติ ฉมาสจฺจเยน ฉมาสจฺจเยน, ตํ อนฺตรามุตฺตกํ น คาเหตพฺพํ. ยสฺมึ วา ติกฺขตฺตุํ เทนฺติ จตุมาสจฺจเยน จตุมาสจฺจเยน, ยสฺมึ วา จตุกฺขตฺตุํ เทนฺติ เตมาสจฺจเยน เตมาสจฺจเยน, ตํ อนฺตรามุตฺตกํ น คาเหตพฺพํ. ปจฺจเยเนว หิ ตํ ปฏิชคฺคนํ ลภิสฺสติ. ยสฺมึ ปน เอกสํวจฺฉเร สกิเทว พหู ปจฺจเย เทนฺติ, เอตํ อนฺตรามุตฺตกํ คาเหตพฺพนฺติ.

๒๒๓. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อกตํ วา วิหารํ วิปฺปกตํ วา นวกมฺมํ ทาตุํ, ขุทฺทเก วิหาเร กมฺมํ โอโลเกตฺวา ฉปฺปฺจวสฺสิกํ นวกมฺมํ ทาตุํ, อฑฺฒโยเค กมฺมํ โอโลเกตฺวา สตฺตฏฺวสฺสิกํ นวกมฺมํ ทาตุํ, มหลฺลเก วิหาเร ปาสาเท วา กมฺมํ โอโลเกตฺวา ทสทฺวาทสวสฺสิกํ นวกมฺมํ ทาตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๓) วจนโต อกตํ วิปฺปกตํ วา เสนาสนํ เอกสฺส ภิกฺขุโน อปโลกเนน วา กมฺมวาจาย วา สาเวตฺวา นวกมฺมํ กตฺวา วสิตุํ ยถาวุตฺตกาลปริจฺเฉทวเสน ทาตพฺพํ. นวกมฺมิโก ภิกฺขุ อนฺโตวสฺเส ตํ อาวาสํ ลภติ, อุตุกาเล ปฏิพาหิตุํ น ลภติ. ลทฺธนวกมฺเมน ปน ภิกฺขุนา วาสิผรสุนิขาทนาทีนิ คเหตฺวา สยํ น กาตพฺพํ, กตากตํ ชานิตพฺพํ. สเจ โส อาวาโส ชีรติ, อาวาสสามิกสฺส วา ตสฺส วํเส อุปฺปนฺนสฺส วา กสฺสจิ กเถตพฺพํ ‘‘อาวาโส เต นสฺสติ, ชคฺคถ เอตํ อาวาส’’นฺติ. สเจ โส น สกฺโกติ, ภิกฺขูหิ าตีหิ วา อุปฏฺาเกหิ วา สมาทาเปตฺวา ชคฺคิตพฺโพ. สเจ เตปิ น สกฺโกนฺติ, สงฺฆิเกน ปจฺจเยน ชคฺคิตพฺโพ, ตสฺมิมฺปิ อสติ เอกํ อาวาสํ วิสฺสชฺเชตฺวา อวเสสา ชคฺคิตพฺพา, พหู วิสฺสชฺเชตฺวา เอกํ สณฺเปตุมฺปิ วฏฺฏติเยว.

ทุพฺภิกฺเข ภิกฺขูสุ ปกฺกนฺเตสุ สพฺเพ อาวาสา นสฺสนฺติ, ตสฺมา เอกํ วา ทฺเว วา ตโย วา อาวาเส วิสฺสชฺเชตฺวา ตโต ยาคุภตฺตจีวราทีนิ ปริภุฺชนฺเตหิ เสสาวาสา ชคฺคิตพฺพาเยว.

กุรุนฺทิยํ ปน วุตฺตํ ‘‘สงฺฆิเก ปจฺจเย อสติ เอโก ภิกฺขุ ‘ตุยฺหํ เอกมฺจฏฺานํ คเหตฺวา ชคฺคาหี’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ พหุตรํ อิจฺฉติ, ติภาคํ วา อุปฑฺฒภาคํ วา ทตฺวาปิ ชคฺคาเปตพฺพํ. อถ ถมฺภมตฺตเมเวตฺถ อวสิฏฺํ, พหุกมฺมํ กาตพฺพนฺติ น อิจฺฉติ, ‘ตุยฺหํ ปุคฺคลิกเมว กตฺวา ชคฺคาหี’ติ ทาตพฺพํ. เอวมฺปิ หิ ‘สงฺฆสฺส ภณฺฑกปนฏฺานฺจ นวกานฺจ วสนฏฺานํ ลภิสฺสตี’ติ ชคฺคาเปตพฺโพ. เอวํ ชคฺคิโต ปน ตสฺมึ ชีวนฺเต ปุคฺคลิโก โหติ, มเต สงฺฆิโกว. สเจ สทฺธิวิหาริกานํ ทาตุกาโม โหติ, กมฺมํ โอโลเกตฺวา ติภาคํ วา อุปฑฺฒํ วา ปุคฺคลิกํ กตฺวา ชคฺคาเปตพฺโพ. เอวฺหิ สทฺธิวิหาริกานํ ทาตุํ ลภติ. เอวํ ชคฺคนเก ปน อสติ เอกํ อาวาสํ วิสฺสชฺเชตฺวาติอาทินา นเยน ชคฺคาเปตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. อิทมฺปิ จ อฺํ ตตฺเถว วุตฺตํ.

ทฺเว ภิกฺขู สงฺฆิกภูมึ คเหตฺวา โสเธตฺวา สงฺฆิกเสนาสนํ กโรนฺติ, เยน สา ภูมิ ปมํ คหิตา, โส สามี. อุโภปิ ปุคฺคลิกํ กโรนฺติ, โสเยว สามี. โส สงฺฆิกํ กโรติ, อิตโร ปุคฺคลิกํ กโรติ, อฺํ เจ พหุ เสนาสนฏฺานํ อตฺถิ, ปุคฺคลิกํ กโรนฺโตปิ น วาเรตพฺโพ. อฺสฺมึ ปน ตาทิเส ปติรูเป าเน อสติ ตํ ปฏิพาหิตฺวา สงฺฆิกํ กโรนฺเตเนว กาตพฺพํ. ยํ ปน ตสฺส ตตฺถ วยกมฺมํ กตํ, ตํ ทาตพฺพํ. สเจ ปน กตาวาเส วา อาวาสกรณฏฺาเน วา ฉายูปคผลูปคา รุกฺขา โหนฺติ, อปโลเกตฺวา หาเรตพฺพา. ปุคฺคลิกา เจ โหนฺติ, สามิกา อาปุจฺฉิตพฺพา. โน เจ เทนฺติ, ยาวตติยกํ อาปุจฺฉิตฺวา ‘‘รุกฺขอคฺฆนกมูลํ ทสฺสามา’’ติ หาเรตพฺพา.

๒๒๔. โย ปน สงฺฆิกํ วลฺลิมตฺตมฺปิ อคฺคเหตฺวา อาหริเมน อุปกรเณน สงฺฆิกาย ภูมิยา ปุคฺคลิกวิหารํ กาเรติ, อุปฑฺฒํ สงฺฆิกํ โหติ, อุปฑฺฒํ ปุคฺคลิกํ. ปาสาโท เจ โหติ, เหฏฺาปาสาโท สงฺฆิโก, อุปริ ปุคฺคลิโก. สเจ โย เหฏฺาปาสาทํ อิจฺฉติ, เหฏฺาปาสาทํ ตสฺส โหติ. อถ เหฏฺา จ อุปริ จ อิจฺฉติ, อุภยตฺถ อุปฑฺฒํ ลภติ. ทฺเว เสนาสนานิ กาเรติ, เอกํ สงฺฆิกํ, เอกํ ปุคฺคลิกํ. สเจ วิหาเร อุฏฺิเตน ทพฺพสมฺภาเรน กาเรติ, ติภาคํ ลภติ. สเจ อกตฏฺาเน จยํ วา ปมุขํ วา กโรติ พหิกุฏฺเฏ, อุปฑฺฒํ สงฺฆสฺส, อุปฑฺฒํ ตสฺส. อถ มหนฺตํ วิสมํ ปูเรตฺวา อปเท ปทํ ทสฺเสตฺวา กตํ โหติ, อนิสฺสโร ตตฺถ สงฺโฆ.

สเจ ภิกฺขุ สงฺฆิกวิหารโต โคปานสิอาทีนิ คเหตฺวา อฺสฺมึ สงฺฆิกาวาเส โยเชติ, สุโยชิตานิ. ปุคฺคลิกาวาเส โยเชนฺเตหิ ปน มูลํ วา ทาตพฺพํ, ปฏิปากติกํ วา กาตพฺพํ. ฉฑฺฑิตวิหารโต มฺจปีาทีนิ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺโต อุทฺธาเรเยว ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. ‘‘ปุน อาวาสิกกาเล ทสฺสามี’’ติ คเหตฺวา สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชนฺตสฺส นฏฺํ สุนฏฺํ, ชิณฺณํ สุชิณฺณํ. อโรคํ เจ, ปากติกํ กาตพฺพํ, ปุคฺคลิกปริโภเคน ปริภุฺชนฺตสฺส นฏฺํ วา ชิณฺณํ วา คีวา โหติ. ตโต ทฺวารวาตปานาทีนิ สงฺฆิกาวาเส วา ปุคฺคลิกาวาเส วา โยชิตานิ, ปฏิทาตพฺพานิเยว. สเจ โกจิ สงฺฆิโก วิหาโร อุนฺทฺริยติ, ยํ ตตฺถ มฺจปีาทิกํ, ตํ คุตฺตตฺถาย อฺตฺร หริตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมา อฺตฺร หริตฺวา สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชนฺตสฺส นฏฺํ สุนฏฺํ, ชิณฺณํ สุชิณฺณํ. สเจ อโรคํ, ตสฺมึ วิหาเร ปฏิสงฺขเต ปุน ปากติกํ กาตพฺพํ. ปุคฺคลิกปริโภเคน ปริภุฺชโต นฏฺํ วา ชิณฺณํ วา คีวา โหติ, ตสฺมึ ปฏิสงฺขเต ทาตพฺพเมว. อยํ เสนาสนคฺคาหกถา.

๒๒๕. อยํ ปเนตฺถ จตุปจฺจยสาธารณกถา (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๕ ปกฺขิกภตฺตาทิกถา) – สมฺมเตน อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชเกน ภิกฺขุนา จีวรกมฺมํ กโรนฺตสฺส ‘‘สูจึ เทหี’’ติ วทโต เอกา ทีฆา, เอกา รสฺสาติ ทฺเว สูจิโย ทาตพฺพา. ‘‘อวิภตฺตํ สงฺฆิกภณฺฑ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพกิจฺจํ นตฺถิ. ปิปฺผลตฺถิกสฺส เอโก ปิปฺผลโก, กนฺตารํ ปฏิปชฺชิตุกามสฺส อุปาหนยุคฬํ, กายพนฺธนตฺถิกสฺส กายพนฺธนํ, ‘‘อํสพทฺธโก เม ชิณฺโณ’’ติ อาคตสฺส อํสพทฺธโก, ปริสฺสาวนตฺถิกสฺส ปริสฺสาวนํ ทาตพฺพํ, ธมฺมกรณตฺถิกสฺส ธมฺมกรโณ. สเจ ปฏฺฏโก น โหติ, ธมฺมกรโณ ปฏฺฏเกน สทฺธึ ทาตพฺโพ. ‘‘อาคนฺตุกปตฺตํ อาโรเปสฺสามี’’ติ ยาจนฺตสฺส กุสิยา จ อฑฺฒกุสิยา จ ปโหนกํ ทาตพฺพํ. ‘‘มณฺฑลํ นปฺปโหตี’’ติ อาคตสฺส มณฺฑลํ เอกํ ทาตพฺพํ, อฑฺฒมณฺฑลานิ ทฺเว ทาตพฺพานิ, ทฺเว มณฺฑลานิ ยาจนฺตสฺส น ทาตพฺพานิ. อนุวาตปริภณฺฑตฺถิกสฺส เอกสฺส จีวรสฺส ปโหนกํ ทาตพฺพํ, สปฺปินวนีตาทิอตฺถิกสฺส คิลานสฺส เอกํ เภสชฺชํ นาฬิมตฺตํ กตฺวา ตโต ตติยโกฏฺาโส ทาตพฺโพ. เอวํ ตีณิ ทิวสานิ ทตฺวา นาฬิยา ปริปุณฺณาย จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย สงฺฆํ อาปุจฺฉิตฺวา ทาตพฺพํ, คุฬปิณฺเฑปิ เอกทิวสํ ตติยภาโค ทาตพฺโพ. เอวํ ตีหิ ทิวเสหิ นิฏฺิเต ปิณฺเฑ ตโต ปรํ สงฺฆํ อาปุจฺฉิตฺวา ทาตพฺพํ. สมฺมนฺนิตฺวา ปิตยาคุภาชกาทีหิ จ ภาชนียฏฺานํ อาคตมนุสฺสานํ อนาปุจฺฉิตฺวาว อุปฑฺฒภาโค ทาตพฺโพ. อสมฺมเตหิ ปน อปโลเกตฺวา ทาตพฺโพติ.

สงฺฆสฺส สนฺตกํ สมฺมเตน วา อาณตฺเตหิ วา อารามิกาทีหิ ทียมานํ, คิหีนฺจ สนฺตกํ สามิเกน วา อาณตฺเตน วา ทียมานํ ‘‘อปรสฺส ภาคํ เทหี’’ติ อสนฺตํ ปุคฺคลํ วตฺวา คณฺหโต ภณฺฑาเทยฺยํ. อฺเน ทียมานํ คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. อสมฺมเตน วา อนาณตฺเตน วา ทียมาเน ‘‘อปรมฺปิ ภาคํ เทหี’’ติ วตฺวา วา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา วา คณฺหนฺโต อุทฺธาเรเยว ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. อิตเรหิ ทียมานํ เอวํ คณฺหโต ภณฺฑาเทยฺยํ สามิเกน ปน ‘‘อิมสฺส เทหี’’ติ ทาปิตํ วา สยํ ทินฺนํ วา สุทินฺนนฺติ อยํ สพฺพฏฺกถาวินิจฺฉยโต สาโร.

ปิณฺฑาย ปวิฏฺสฺสปิ โอทนปฏิวีโส อนฺโตอุปจารสีมายํ ิตสฺเสว คเหตุํ วฏฺฏติ. ยทิ ปน ทายกา ‘‘พหิอุปจารสีมฏฺานมฺปิ, ภนฺเต, คณฺหถ, อาคนฺตฺวา ปริภุฺชิสฺสนฺตี’’ติ วทนฺติ, เอวํ อนฺโตคามฏฺานมฺปิ คเหตุํ วฏฺฏติ.

ปาฬึ อฏฺกถฺเจว, โอโลเกตฺวา วิจกฺขโณ;

สงฺฆิเก ปจฺจเย เอวํ, อปฺปมตฺโตว ภาชเยติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห สพฺพาการโต

จตุปจฺจยภาชนียวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๒๙. กถินตฺถารวินิจฺฉยกถา

๒๒๖. กถินนฺติ เอตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๖) ปน กถินํ อตฺถริตุํ เก ลภนฺติ, เก น ลภนฺติ? คณนวเสน ตาว ปจฺฉิมโกฏิยา ปฺจ ชนา ลภนฺติ, อุทฺธํ สตสหสฺสมฺปิ, ปฺจนฺนํ เหฏฺา น ลภนฺติ. วุฏฺวสฺสวเสน ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปมปวารณาย ปวาริตา ลภนฺติ. ฉินฺนวสฺสา วา ปจฺฉิมิกาย อุปคตา วา น ลภนฺติ. ‘‘อฺสฺมึ วิหาเร วุฏฺวสฺสาปิ น ลภนฺตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ปุริมิกาย อุปคตานํ ปน สพฺเพ คณปูรกา โหนฺติ, อานิสํสํ น ลภนฺติ, อานิสํโส อิตเรสํเยว โหติ. สเจ ปุริมิกาย อุปคตา จตฺตาโร วา โหนฺติ ตโย วา ทฺเว วา เอโก วา, อิตเร คณปูรเก กตฺวา กถินํ อตฺถริตพฺพํ. อถ จตฺตาโร ภิกฺขู อุปคตา, เอโก ปริปุณฺณวสฺโส สามเณโร, โส เจ ปจฺฉิมิกาย อุปสมฺปชฺชติ, คณปูรโก เจว โหติ อานิสํสฺจ ลภติ. ตโย ภิกฺขู ทฺเว สามเณรา, ทฺเว ภิกฺขู ตโย สามเณรา, เอโก ภิกฺขุ จตฺตาโร สามเณราติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สเจ ปุริมิกาย อุปคตา กถินตฺถารกุสลา น โหนฺติ, อตฺถารกุสลา ขนฺธกภาณกตฺเถรา ปริเยสิตฺวา อาเนตพฺพา. กมฺมวาจํ สาเวตฺวา กถินํ อตฺถราเปตฺวา ทานฺจ ภุฺชิตฺวา คมิสฺสนฺติ, อานิสํโส ปน อิตเรสํเยว โหติ.

กถินํ เกน ทินฺนํ วฏฺฏติ? เยน เกนจิ เทเวน วา มนุสฺเสน วา ปฺจนฺนํ วา สหธมฺมิกานํ อฺตเรน ทินฺนํ วฏฺฏติ. กถินทายกสฺส วตฺตํ อตฺถิ, สเจ โส ตํ อชานนฺโต ปุจฺฉติ – ‘‘ภนฺเต, กถํ กถินํ ทาตพฺพ’’นฺติ, ตสฺส เอวํ อาจิกฺขิตพฺพํ ‘‘ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรปฺปโหนกํ สูริยุคฺคมนสมเย วตฺถํ ‘กถินจีวรํ เทมา’ติ ทาตุํ วฏฺฏติ. ตสฺส ปริกมฺมตฺถํ เอตฺตกา นาม สูจิโย, เอตฺตกํ สุตฺตํ, เอตฺตกํ รชนํ, ปริกมฺมํ กโรนฺตานํ เอตฺตกานํ ภิกฺขูนํ ยาคุภตฺตฺจ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ.

กถินตฺถารเกนปิ ธมฺเมน สเมน อุปฺปนฺนํ กถินํ อตฺถรนฺเตน วตฺตํ ชานิตพฺพํ. ตนฺตวายเคหโต หิ อาภตสนฺตาเนเนว ขลิมกฺขิตสาฏโก น วฏฺฏติ, มลีนสาฏโกปิ น วฏฺฏติ, ตสฺมา กถินตฺถารสาฏกํ ลภิตฺวา สุฏฺุ โธวิตฺวา สูจิอาทีนิ จีวรกมฺมูปกรณานิ สชฺเชตฺวา พหูหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ตทเหว สิพฺพิตฺวา นิฏฺิตสูจิกมฺมํ รชิตฺวา กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา กถินํ อตฺถริตพฺพํ. สเจ ตสฺมึ อนตฺถเตเยว อฺํ กถินสาฏกํ อาหรติ, อฺานิ จ พหูนิ กถินานิสํสวตฺถานิ เทติ, โย อานิสํสํ พหุํ เทติ, ตสฺส สนฺตเกน อตฺถริตพฺพํ. อิตโร ตถา ตถา โอวทิตฺวา สฺาเปตพฺโพ.

กถินํ ปน เกน อตฺถริตพฺพํ? ยสฺส สงฺโฆ กถินจีวรํ เทติ. สงฺเฆน ปน กสฺส ทาตพฺพํ? โย ชิณฺณจีวโร โหติ. สเจ พหู ชิณฺณจีวรา, วุฑฺฒสฺส ทาตพฺพํ. วุฑฺเฒสุปิ โย มหาปริโส ตทเหว จีวรํ กตฺวา อตฺถริตุํ สกฺโกติ, ตสฺส ทาตพฺพํ. สเจ วุฑฺโฒ น สกฺโกติ, นวกตโร สกฺโกติ, ตสฺส ทาตพฺพํ. อปิจ สงฺเฆน มหาเถรสฺส สงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, คณฺหถ, มยํ กตฺวา ทสฺสามา’’ติ วตฺตพฺพํ. ตีสุ จีวเรสุ ยํ ชิณฺณํ โหติ, ตทตฺถาย ทาตพฺพํ. ปกติยา ทุปฏฺฏจีวรสฺส ทุปฏฺฏตฺถาเยว ทาตพฺพํ. สเจปิสฺส เอกปฏฺฏจีวรํ ฆนํ โหติ, กถินสาฏกา จ เปลวา, สารุปฺปตฺถาย ทุปฏฺฏปฺปโหนกเมว ทาตพฺพํ, ‘‘อหํ อลภนฺโต เอกปฏฺฏํ ปารุปามี’’ติ วทนฺตสฺสปิ ทุปฏฺฏํ ทาตุํ วฏฺฏติ. โย ปน โลภปกติโก โหติ, ตสฺส น ทาตพฺพํ. เตนปิ ‘‘กถินํ อตฺถริตฺวา ปจฺฉา วิสิพฺพิตฺวา ทฺเว จีวรานิ กริสฺสามี’’ติ น คเหตพฺพํ. ยสฺส ปน ทียติ, ตสฺส –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิทํ สงฺฆสฺส กถินทุสฺสํ อุปฺปนฺนํ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ กถินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺย กถินํ อตฺถริตุํ, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิทํ สงฺฆสฺส กถินทุสฺสํ อุปฺปนฺนํ, สงฺโฆ อิมํ กถินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน เทติ กถินํ อตฺถริตุํ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิมสฺส กถินทุสฺสสฺส อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทานํ กถินํ อตฺถริตุํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทินฺนํ อิทํ สงฺเฆน กถินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน กถินํ อตฺถริตุํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๓๐๗) –

เอวํ ทุติยกมฺมวาจาย ทาตพฺพํ.

เอวํ ทินฺเน ปน กถิเน สเจ ตํ กถินทุสฺสํ นิฏฺิตปริกมฺมเมว โหติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ นิฏฺิตปริกมฺมํ โหติ, ‘‘อหํ เถโร’’ติ วา ‘‘พหุสฺสุโต’’ติ วา เอเกนปิ อกาตุํ น ลพฺภติ, สพฺเพเหว สนฺนิปติตฺวา โธวนสิพฺพนรชนานิ นิฏฺาเปตพฺพานิ. อิทฺหิ กถินวตฺตํ นาม พุทฺธปฺปสตฺถํ. อตีเต ปทุมุตฺตโรปิ ภควา กถินวตฺตํ อกาสิ. ตสฺส กิร อคฺคสาวโก สุชาตตฺเถโร นาม กถินํ คณฺหิ. ตํ สตฺถา อฏฺสฏฺิยา ภิกฺขุสตสหสฺเสหิ สทฺธึ นิสีทิตฺวา อกาสิ.

กตปริโยสิตํ ปน กถินํ คเหตฺวา อตฺถารเกน ภิกฺขุนา สเจ สงฺฆาฏิยา กถินํ อตฺถริตุกาโม โหติ, โปราณิกา สงฺฆาฏิ ปจฺจุทฺธริตพฺพา, นวา สงฺฆาฏิ อธิฏฺาตพฺพา, ‘‘อิมาย สงฺฆาฏิยา กถินํ อตฺถรามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา. สเจ อุตฺตราสงฺเคน กถินํ อตฺถริตุกาโม โหติ, โปราณโก อุตฺตราสงฺโค ปจฺจุทฺธริตพฺโพ, นโว อุตฺตราสงฺโค อธิฏฺาตพฺโพ, ‘‘อิมินา อุตฺตราสงฺเคน กถินํ อตฺถรามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา. สเจ อนฺตรวาสเกน กถินํ อตฺถริตุกาโม โหติ, โปราณโก อนฺตรวาสโก ปจฺจุทฺธริตพฺโพ, นโว อนฺตรวาสโก อธิฏฺาตพฺโพ, ‘‘อิมินา อนฺตรวาสเกน กถินํ อตฺถรามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา.

เตน (ปริ. ๔๑๓) กถินตฺถารเกน ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย ‘‘อตฺถตํ, ภนฺเต, สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทถา’’ติ. เตหิ อนุโมทเกหิ ภิกฺขูหิ เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย ‘‘อตฺถตํ, อาวุโส, สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทามา’’ติ. เตน กถินตฺถารเกน ภิกฺขุนา สมฺพหุเล ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย ‘‘อตฺถตํ, ภนฺเต, สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทถา’’ติ. เตหิ อนุโมทเกหิ ภิกฺขูหิ เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย ‘‘อตฺถตํ, อาวุโส, สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทามา’’ติ. เตน กถินตฺถารเกน ภิกฺขุนา เอกํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย ‘‘อตฺถตํ, อาวุโส, สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทาหี’’ติ. เตน อนุโมทเกน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย ‘‘อตฺถตํ, อาวุโส, สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทามี’’ติ. เอวํ สพฺเพสํ อตฺถตํ โหติ กถินํ. วุตฺตฺเหตํ ปริวาเร ‘‘ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ อตฺถตํ โหติ กถินํ อตฺถารกสฺส จ อนุโมทกสฺส จา’’ติ (ปริ. ๔๐๓). ปุนปิ วุตฺตํ ‘‘น สงฺโฆ กถินํ อตฺถรติ, น คโณ กถินํ อตฺถรติ, ปุคฺคโล กถินํ อตฺถรติ, สงฺฆสฺส อนุโมทนาย คณสฺส อนุโมทนาย ปุคฺคลสฺส อตฺถราย สงฺฆสฺส อตฺถตํ โหติ กถินํ, คณสฺส อตฺถตํ โหติ กถินํ, ปุคฺคลสฺส อตฺถตํ โหติ กถิน’’นฺติ (ปริ. ๔๑๔).

เอวํ อตฺถเต ปน กถิเน สเจ กถินจีวเรน สทฺธึ อาภตํ อานิสํสํ ทายกา ‘‘เยน อมฺหากํ กถินํ คหิตํ, ตสฺเสว เทมา’’ติ เทนฺติ, ภิกฺขุสงฺโฆ อนิสฺสโร. อถ อวิจาเรตฺวาว ทตฺวา คจฺฉนฺติ, ภิกฺขุสงฺโฆ อิสฺสโร. ตสฺมา สเจ กถินตฺถารกสฺส เสสจีวรานิปิ ทุพฺพลานิ โหนฺติ, สงฺเฆน อปโลเกตฺวา เตสมฺปิ อตฺถาย วตฺถานิ ทาตพฺพานิ, กมฺมวาจา ปน เอกาเยว วฏฺฏติ. อวเสสกถินานิสํเส พลววตฺถานิ วสฺสาวาสิกิติกาย ทาตพฺพานิ, ิติกาย อภาเว เถราสนโต ปฏฺาย ทาตพฺพานิ, ครุภณฺฑํ น ภาเชตพฺพํ. สเจ ปน เอกสีมาย พหู วิหารา โหนฺติ, สพฺเพหิ ภิกฺขูหิ สนฺนิปาตาเปตฺวา เอกตฺถ กถินํ อตฺถริตพฺพํ, วิสุํ วิสุํ อตฺถริตุํ น วฏฺฏติ.

‘‘อตฺถตกถินานํ โว, ภิกฺขเว, ปฺจ กปฺปิสฺสนฺติ, อนามนฺตจาโร อสมาทานจาโร คณโภชนํ ยาวทตฺถจีวรํ โย จ ตตฺถ จีวรุปฺปาโท. โส เนสํ ภวิสฺสตี’’ติ (มหาว. ๓๐๖) วจนโต อตฺถตกถินานํ ภิกฺขูนํ อนามนฺตจาราทโย ปน ปฺจานิสํสา ลพฺภนฺติ. ตตฺถ อนามนฺตจาโรติ อนามนฺเตตฺวา จรณํ, ยาว กถินํ น อุทฺธรียติ, ตาว จาริตฺตสิกฺขาปเทน อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อสมาทานจาโรติ จีวรํ อสมาทาย จรณํ, จีวรวิปฺปวาโสติ อตฺโถ. คณโภชนนฺติ คณโภชนสิกฺขาปเทน อนาปตฺติ วุตฺตา. ยาวทตฺถจีวรนฺติ ยาวตา จีวเรน อตฺโถ, ตาวตกํ อนธิฏฺิตํ อวิกปฺปิตํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. โย จ ตตฺถ จีวรุปฺปาโทติ ตตฺถ กถินตฺถตสีมาย มตกจีวรํ วา โหตุ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ทินฺนํ วา สงฺฆิเกน ตตฺรุปฺปาเทน อาภตํ วา, เยน เกนจิ อากาเรน ยํ สงฺฆิกํ จีวรํ อุปฺปชฺชติ, ตํ เตสํ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

กถินตฺถารวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๓๐. ครุภณฺฑวินิจฺฉยกถา

๒๒๗. ครุภณฺฑานีติ เอตฺถ ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, อวิสฺสชฺชิยานิ น วิสฺสชฺเชตพฺพานิ สงฺเฆน วา คเณน วา ปุคฺคเลน วา, วิสฺสชฺชิตานิปิ อวิสฺสชฺชิตานิ โหนฺติ, โย วิสฺสชฺเชยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติอาทินา (จูฬว. ๓๒๑) นเยน ทสฺสิตานิ อาราโม อารามวตฺถุ, วิหาโร วิหารวตฺถุ, มฺโจ ปีํ ภิสิ พิมฺโพหนํ, โลหกุมฺภี โลหภาณกํ โลหวารโก โลหกฏาหํ วาสิ ผรสุ กุารี กุทาโล นิขาทนํ, วลฺลิ เวฬุ มุฺชํ ปพฺพชํ ติณํ มตฺติกา ทารุภณฺฑํ มตฺติกาภณฺฑนฺติ อิมานิ ปฺจ ครุภณฺฑานิ นาม.

ตตฺถ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อาราโม นาม ปุปฺผาราโม วา ผลาราโม วา. อารามวตฺถุ นาม เตสํเยว อารามานํ อตฺถาย ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปิโตกาโส, เตสุ วา อาราเมสุ วินฏฺเสุ เตสํ โปราณกภูมิภาโค. วิหาโร นาม ยํ กิฺจิ ปาสาทาทิ เสนาสนํ. วิหารวตฺถุ นาม ตสฺส ปติฏฺาโนกาโส. มฺโจ นาม มสารโก พุนฺทิกาพทฺโธ กุฬีรปาทโก อาหจฺจปาทโกติ อิเมสํ จตุนฺนํ มฺจานํ อฺตโร. ปีํ นาม มสารกาทีนํเยว จตุนฺนํ ปีานํ อฺตรํ. ภิสิ นาม อุณฺณภิสิอาทีนํ ปฺจนฺนํ อฺตรา. พิมฺโพหนํ นาม รุกฺขตูลลตาตูลโปฏกีตูลานํ อฺตรํ. โลหกุมฺภี นาม กาฬโลเหน วา ตมฺพโลเหน วา เยน เกนจิ โลเหน กตกุมฺภี. โลหภาณกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน ภาณกนฺติ อรฺชโร วุจฺจติ. วารโกติ ฆโฏ. กฏาหํ กฏาหเมว. วาสิอาทีสุ วลฺลิอาทีสุ จ ทุวิฺเยฺยํ นาม นตฺถิ. ปฺจาติ จ ราสิวเสน วุตฺตํ, สรูปวเสน ปเนตานิ ปฺจวีสติวิธานิ โหนฺติ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ทฺวิสงฺคหานิ ทฺเว โหนฺติ, ตติยํ จตุสงฺคหํ;

จตุตฺถํ นวโกฏฺาสํ, ปฺจมํ อฏฺเภทนํ.

‘‘อิติ ปฺจหิ ราสีหิ, ปฺจนิมฺมลโลจโน;

ปฺจวีสวิธํ นาโถ, ครุภณฺฑํ ปกาสยี’’ติ.

ตตฺรายํ วินิจฺฉยกถา – อิทฺหิ สพฺพมฺปิ ครุภณฺฑํ เสนาสนกฺขนฺธเก ‘‘อวิสฺสชฺชิย’’นฺติ วุตฺตํ, กีฏาคิริวตฺถุสฺมึ ‘‘อเวภงฺคิย’’นฺติ ทสฺสิตํ, ปริวาเร ปน –

‘‘อวิสฺสชฺชิยํ อเวภงฺคิยํ,

ปฺจ วุตฺตา มเหสินา;

วิสฺสชฺเชนฺตสฺส ปริภุฺชนฺตสฺส อนาปตฺติ,

ปฺหาเมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๗๙) –

อาคตํ. ตสฺมา มูลจฺเฉชฺชวเสน อวิสฺสชฺชิยฺจ อเวภงฺคิยฺจ, ปริวตฺตนวเสน ปน วิสฺสชฺเชนฺตสฺส ปริภุฺชนฺตสฺส จ อนาปตฺตีติ เอวเมตฺถ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ.

๒๒๘. ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – อิทํ ตาว ปฺจวิธมฺปิ จีวรปิณฺฑปาตเภสชฺชตฺถาย อุปเนตุํ น วฏฺฏติ, ถาวเรน จ ถาวรํ, ครุภณฺเฑน จ ครุภณฺฑํ ปริวตฺเตตุํ วฏฺฏติ. ถาวเร ปน เขตฺตํ วตฺถุ ตฬากํ มาติกาติ เอวรูปํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส วิจาเรตุํ วา สมฺปฏิจฺฉิตุํ วา อธิวาเสตุํ วา น วฏฺฏติ, กปฺปิยการเกเหว วิจาริตโต กปฺปิยภณฺฑํ วฏฺฏติ. อาราเมน ปน อารามํ อารามวตฺถุํ วิหารํ วิหารวตฺถุนฺติ อิมานิ จตฺตาริปิ ปริวตฺเตตุํ วฏฺฏติ.

ตตฺรายํ ปริวตฺตนนโย – สงฺฆสฺส นาฬิเกราราโม ทูเร โหติ, กปฺปิยการกา พหุตรํ ขาทนฺติ, ยมฺปิ น ขาทนฺติ, ตโต สกฏเวตนํ ทตฺวา อปฺปเมว อาหรนฺติ, อฺเสํ ปน ตสฺส อารามสฺส อวิทูเร คามวาสีนํ มนุสฺสานํ วิหารสฺส สมีเป อาราโม โหติ, เต สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา สเกน อาราเมน ตํ อารามํ ยาจนฺติ, สงฺเฆน ‘‘รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’ติ อปโลเกตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตพฺโพ. สเจปิ ภิกฺขูนํ รุกฺขสหสฺสํ โหติ, มนุสฺสานํ ปฺจ สตานิ, ‘‘ตุมฺหากํ อาราโม ขุทฺทโก’’ติ น วตฺตพฺพํ. กิฺจาปิ หิ อยํ ขุทฺทโก, อถ โข อิตรโต พหุตรํ อายํ เทติ. สเจปิ สมกเมว เทติ, เอวมฺปิ อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ปริภุฺชิตุํ สกฺกาติ คเหตพฺพเมว. สเจ ปน มนุสฺสานํ พหุตรา รุกฺขา โหนฺติ, ‘‘นนุ ตุมฺหากํ พหุตรา รุกฺขา’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ‘‘อติเรกํ อมฺหากํ ปุฺํ โหตุ, สงฺฆสฺส เทมา’’ติ วทนฺติ, ชานาเปตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขูนํ รุกฺขา ผลธาริโน, มนุสฺสานํ รุกฺขา น ตาว ผลํ คณฺหนฺติ, กิฺจาปิ น คณฺหนฺติ, ‘‘น จิเรน คณฺหิสฺสนฺตี’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพเมว. มนุสฺสานํ รุกฺขา ผลธาริโน, ภิกฺขูนํ รุกฺขา น ตาว ผลํ คณฺหนฺติ, ‘‘นนุ ตุมฺหากํ รุกฺขา ผลธาริโน’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ‘‘คณฺหถ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปุฺํ ภวิสฺสตี’’ติ เทนฺติ, ชานาเปตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ อาราเมน อาราโม ปริวตฺเตตพฺโพ. เอเตเนว นเยน อารามวตฺถุปิ วิหาโรปิ วิหารวตฺถุปิ อาราเมน ปริวตฺเตตพฺพํ, อารามวตฺถุนา จ มหนฺเตน วา ขุทฺทเกน วา อารามอารามวตฺถุวิหารวิหารวตฺถูนิ.

กถํ วิหาเรน วิหาโร ปริวตฺเตตพฺโพ? สงฺฆสฺส อนฺโตคาเม เคหํ โหติ, มนุสฺสานํ วิหารมชฺเฌ ปาสาโท โหติ, อุโภปิ อคฺเฆน สมกา, สเจ มนุสฺสา เตน ปาสาเทน ตํ เคหํ ยาจนฺติ, สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขูนํ เจ มหคฺฆตรํ เคหํ โหติ, ‘‘มหคฺฆตรํ อมฺหากํ เคห’’นฺติ วุตฺเต จ ‘‘กิฺจาปิ มหคฺฆตรํ ปพฺพชิตานํ อสารุปฺปํ, น สกฺกา ตตฺถ ปพฺพชิเตหิ วสิตุํ, อิทํ ปน สารุปฺปํ, คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, เอวมฺปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน มนุสฺสานํ มหคฺฆํ โหติ, ‘‘นนุ ตุมฺหากํ เคหํ มหคฺฆ’’นฺติ วตฺตพฺพํ. ‘‘โหตุ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปุฺํ ภวิสฺสติ, คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ปน สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. เอวมฺปิ วิหาเรน วิหาโร ปริวตฺเตตพฺโพ. เอเตเนว นเยน วิหารวตฺถุปิ อาราโมปิ อารามวตฺถุปิ วิหาเรน ปริวตฺเตตพฺพํ, วิหารวตฺถุนา จ มหคฺเฆน วา อปฺปคฺเฆน วา วิหารวิหารวตฺถุอารามอารามวตฺถูนิ. เอวํ ถาวเรน ถาวรปริวตฺตนํ เวทิตพฺพํ.

ครุภณฺเฑน ครุภณฺฑปริวตฺตเน ปน มฺจปีํ มหนฺตํ วา โหตุ ขุทฺทกํ วา, อนฺตมโส จตุรงฺคุลปาทกํ คามทารเกหิ ปํสฺวาคารเกสุ กีฬนฺเตหิ กตมฺปิ สงฺฆสฺส ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑํ โหติ. สเจปิ ราชราชมหามตฺตาทโย เอกปฺปหาเรเนว มฺจสตํ วา มฺจสหสฺสํ วา เทนฺติ, สพฺเพ กปฺปิยมฺจา สมฺปฏิจฺฉิตพฺพา, สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘วุฑฺฒปฏิปาฏิยา สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชถา’’ติ ทาตพฺพา, ปุคฺคลิกวเสน น ทาตพฺพา. อติเรกมฺเจ ภณฺฑาคาราทีสุ ปฺเปตฺวา ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตุมฺปิ วฏฺฏติ. พหิสีมาย ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ ทินฺนมฺโจ สงฺฆตฺเถรสฺส วสนฏฺาเน ทาตพฺโพ. ตตฺถ เจ พหู มฺจา โหนฺติ, มฺเจน กมฺมํ นตฺถิ. ยสฺส วสนฏฺาเน กมฺมํ อตฺถิ, ตตฺถ ‘‘สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชถา’’ติ ทาตพฺโพ. มหคฺเฆน สตคฺฆนเกน วา สหสฺสคฺฆนเกน วา มฺเจน อฺํ มฺจสตํ ลภติ, ปริวตฺเตตฺวา คเหตพฺพํ. น เกวลํ มฺเจน มฺโจเยว, อารามอารามวตฺถุวิหารวิหารวตฺถุปีภิสิพิมฺโพหนานิปิ ปริวตฺเตตุํ วฏฺฏนฺติ. เอส นโย ปีภิสิพิมฺโพหเนสุปิ. เอเตสุ ปน อกปฺปิยํ น ปริภุฺชิตพฺพํ, กปฺปิยํ สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชิตพฺพํ. อกปฺปิยํ วา มหคฺฆํ กปฺปิยํ วา ปริวตฺเตตฺวา วุตฺตวตฺถูนิ คเหตพฺพานิ. อครุภณฺฑุปคํ ปน ภิสิพิมฺโพหนํ นาม นตฺถิ.

๒๒๙. โลหกุมฺภี โลหภาณกํ โลหกฏาหนฺติ อิมานิ ตีณิ มหนฺตานิ วา โหนฺตุ ขุทฺทกานิ วา, อนฺตมโส ปสตมตฺตอุทกคณฺหนกานิปิ ครุภณฺฑานิเยว. โลหวารโก ปน กาฬโลหตมฺพโลหวฏฺฏโลหกํสโลหานํ เยน เกนจิ กโต สีหฬทีเป ปาทคณฺหนโก ภาเชตพฺโพ. ปาโท จ นาม มคธนาฬิยา ปฺจนาฬิมตฺตํ คณฺหาติ, ตโต อติเรกคณฺหนโก ครุภณฺฑํ. อิมานิ ตาว ปาฬิยํ อาคตานิ โลหภาชนานิ. ปาฬิยํ ปน อนาคตานิ ภิงฺคารปฏิคฺคหอุฬอุงฺกทพฺพิกฏจฺฉุปาติตฏฺฏกสรกสมุคฺคองฺคารกปลฺลธูมกฏจฺฉุอาทีนิ ขุทฺทกานิ วา มหนฺตานิ วา สพฺพานิ ครุภณฺฑานิ. ปตฺโต อยถาลกํ ตมฺพโลหถาลกนฺติ อิมานิ ปน ภาชนียานิ. กํสโลหวฏฺฏโลหภาชนวิกติ สงฺฆิกปริโภเคน วา คิหิวิกฏา วา วฏฺฏติ, ปุคฺคลิกปริโภเคน น วฏฺฏติ. กํสโลหาทิภาชนํ สงฺฆสฺส ทินฺนมฺปิ หิ ปาริหาริยํ น วฏฺฏติ, คิหิวิกฏนีหาเรเนว ปริภุฺชิตพฺพนฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.

เปตฺวา ปน ภาชนวิกตึ อฺสฺมิมฺปิ กปฺปิยโลหภณฺเฑ อฺชนี อฺชนิสลากา กณฺณมลหรณี สูจิ ปณฺณสูจิ ขุทฺทโก ปิปฺผลโก ขุทฺทกํ อารกณฺฏกํ กุฺจิกา ตาฬํ กตฺตรยฏฺิ เวธโก นตฺถุทานํ ภิณฺฑิวาโล โลหกูโฏ โลหกุตฺติ โลหคุโฬ โลหปิณฺฑิ โลหจกฺกลิกํ อฺมฺปิ วิปฺปกตโลหภณฺฑํ ภาชนียํ. ธูมเนตฺตผาลทีปรุกฺขทีปกปลฺลกโอลมฺพกทีปอิตฺถิปุริสติรจฺฉานคตรูปกานิ ปน อฺานิ วา ภิตฺติจฺฉทนกวาฏาทีสุ อุปเนตพฺพานิ อนฺตมโส โลหขิลกํ อุปาทาย สพฺพานิ โลหภณฺฑานิ ครุภณฺฑานิเยว โหนฺติ, อตฺตนา ลทฺธานิปิ ปริหริตฺวา ปุคฺคลิกปริโภเคน น ปริภุฺชิตพฺพานิ, สงฺฆิกปริโภเคน วา คิหิวิกฏานิ วา วฏฺฏนฺติ. ติปุภณฺเฑปิ เอเสว นโย. ขีรปาสาณมยานิ ตฏฺฏกสรกาทีนิ ครุภณฺฑานิเยว.

ฆฏโก ปน เตลภาชนํ วา ปาทคณฺหนกโต อติเรกเมว ครุภณฺฑํ. สุวณฺณรชตหารกูฏชาติผลิกภาชนานิ คิหิวิกฏานิปิ น วฏฺฏนฺติ, ปเคว สงฺฆิกปริโภเคน วา ปุคฺคลิกปริโภเคน วา. เสนาสนปริโภเค ปน อามาสมฺปิ อนามาสมฺปิ สพฺพํ วฏฺฏติ.

วาสิอาทีสุ ยาย วาสิยา เปตฺวา ทนฺตกฏฺจฺเฉทนํ วา อุจฺฉุตจฺฉนํ วา อฺํ มหากมฺมํ กาตุํ น สกฺกา, อยํ ภาชนียา. ตโต มหนฺตตรา เยน เกนจิ อากาเรน กตา วาสิ ครุภณฺฑเมว. ผรสุ ปน อนฺตมโส เวชฺชานํ สิราเวธนผรสุปิ ครุภณฺฑเมว. กุาริยํ ผรสุสทิโสเยว วินิจฺฉโย. ยา ปน อาวุธสงฺเขเปน กตา, อยํ อนามาสา. กุทาโล อนฺตมโส จตุรงฺคุลมตฺโตปิ ครุภณฺฑเมว. นิขาทนํ จตุรสฺสมุขํ วา โหตุ โทณิมุขํ วา วงฺกํ วา อุชุกํ วา, อนฺตมโส สมฺมุฺชนีทณฺฑกเวธนมฺปิ ทณฺฑพทฺธํ เจ, ครุภณฺฑเมว. สมฺมุฺชนีทณฺฑขณนกํ ปน อทณฺฑกํ ผลมตฺตเมว. ยํ สกฺกา สิปาฏิกาย ปกฺขิปิตฺวา ปริหริตุํ, ตํ ภาชนียํ. สิขรมฺปิ นิขาทเนเนว สงฺคหิตํ. เยหิ มนุสฺเสหิ วิหาเร วาสิอาทีนิ ทินฺนานิ โหนฺติ, เต เจ ฆเร ทฑฺเฒ วา โจเรหิ วา วิลุตฺเต ‘‘เทถ โน, ภนฺเต, อุปกรเณ, ปุน ปากติเก กริสฺสามา’’ติ วทนฺติ, ทาตพฺพา. สเจ อาหรนฺติ, น วาเรตพฺพา, อนาหรนฺตาปิ น โจเทตพฺพา.

กมฺมารตจฺฉการจุนฺทการนฬการมณิการปตฺตพนฺธกานํ อธิกรณิมุฏฺิกสณฺฑาสตุลาทีนิ สพฺพานิ โลหมยอุปกรณานิ สงฺเฆ ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑานิ. ติปุโกฏฺฏกสุวณฺณการจมฺมการอุปกรเณสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – ติปุโกฏฺฏกอุปกรเณสุปิ ติปุจฺเฉทนกสตฺถกํ, สุวณฺณการอุปกรเณสุ สุวณฺณจฺเฉทนกสตฺถกํ, จมฺมการอุปกรเณสุ กตปริกมฺมจมฺมจฺเฉทนกขุทฺทกสตฺถกนฺติ อิมานิ ภาชนียภณฺฑานิ. นหาปิตตุนฺนการอุปกรเณสุปิ เปตฺวา มหากตฺตรึ มหาสณฺฑาสํ มหาปิปฺผลิกฺจ สพฺพํ ภาชนียํ, มหากตฺตริอาทีนิ ครุภณฺฑานิ.

วลฺลิอาทีสุ เวตฺตวลฺลิอาทิกา ยา กาจิ อฑฺฒพาหุปฺปมาณา วลฺลิ สงฺฆสฺส ทินฺนา วา ตตฺถชาตกา วา รกฺขิตโคปิตา ครุภณฺฑํ โหติ, สา สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเต สเจ อติเรกา โหติ, ปุคฺคลิกกมฺเมปิ อุปเนตุํ วฏฺฏติ. อรกฺขิตา ปน ครุภณฺฑเมว น โหติ. สุตฺตมกจิวากนาฬิเกรหีรจมฺมมยา รชฺชุกา วา โยตฺตานิ วา วาเก จ นาฬิเกรหีเร จ วฏฺเฏตฺวา กตา เอกวฏฺฏา วา ทฺวิวฏฺฏา วา สงฺฆสฺส ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑํ. สุตฺตํ ปน อวฏฺเฏตฺวา ทินฺนํ มกจิวากนาฬิเกรหีรา จ ภาชนียา. เยหิ ปเนตานิ รชฺชุกโยตฺตาทีนิ ทินฺนานิ โหนฺติ, เต อตฺตโน กรณีเยน หรนฺตา น วาเรตพฺพา.

โย โกจิ อนฺตมโส อฏฺงฺคุลสูจิทณฺฑกมตฺโตปิ เวฬุ สงฺฆสฺส ทินฺโน วา ตตฺถชาตโก วา รกฺขิตโคปิโต ครุภณฺฑํ, โสปิ สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเต อติเรโก ปุคฺคลิกกมฺเม จ ทาตุํ วฏฺฏติ. ปาทคณฺหนกเตลนาฬิ ปน กตฺตรยฏฺิ อุปาหนทณฺฑโก ฉตฺตทณฺฑโก ฉตฺตสลากาติ อิทเมตฺถ ภาชนียภณฺฑํ. ทฑฺฒเคหมนุสฺสา คณฺหิตฺวา คจฺฉนฺตา น วาเรตพฺพา. รกฺขิตโคปิตํ เวฬุํ คณฺหนฺเตน สมกํ วา อติเรกํ วา ถาวรํ อนฺตมโส ตํอคฺฆนกวลฺลิกายปิ ผาติกมฺมํ กตฺวา คเหตพฺโพ, ผาติกมฺมํ อกตฺวา คณฺหนฺเตน ตตฺเถว วฬฺเชตพฺโพ. คมนกาเล สงฺฆิเก อาวาเส เปตฺวา คนฺตพฺพํ, อสติยา คเหตฺวา คเตน ปหิณิตฺวา ทาตพฺโพ. เทสนฺตรคเตน สมฺปตฺตวิหาโร สงฺฆิกาวาเส เปตพฺโพ.

ติณนฺติ มุฺชฺจ ปพฺพชฺจ เปตฺวา อวเสสํ ยํ กิฺจิ ติณํ. ยตฺถ ปน ติณํ นตฺถิ, ตตฺถ ปณฺเณหิ ฉาเทนฺติ, ตสฺมา ปณฺณมฺปิ ติเณเนว สงฺคหิตํ. อิติ มุฺชาทีสุ ยํ กิฺจิ มุฏฺิปฺปมาณํ ติณํ ตาลปณฺณาทีสุ จ เอกปณฺณมฺปิ สงฺฆสฺส ทินฺนํ วา ตตฺถชาตกํ วา พหาราเม สงฺฆสฺส ติณวตฺถุโต ชาตติณํ วา รกฺขิตโคปิตํ ครุภณฺฑํ โหติ, ตมฺปิ สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเต อติเรกํ ปุคฺคลิกกมฺเม ทาตุํ วฏฺฏติ, ทฑฺฒเคหมนุสฺสา คเหตฺวา คจฺฉนฺตา น วาเรตพฺพา. อฏฺงฺคุลปฺปมาโณปิ ริตฺตโปตฺถโก ครุภณฺฑเมว.

มตฺติกา ปกติมตฺติกา วา โหตุ ปฺจวณฺณา วา สุธา วา สชฺชุรสกงฺคุฏฺสิเลสาทีสุ วา ยํ กิฺจิ ทุลฺลภฏฺาเน อาเนตฺวา ทินฺนํ ตตฺถชาตกํ วา, รกฺขิตโคปิตํ ตาลผลปกฺกมตฺตํ ครุภณฺฑํ โหติ, ตมฺปิ สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ นิฏฺิเต อติเรกํ ปุคฺคลิกกมฺเม จ ทาตุํ วฏฺฏติ, หิงฺคุหิงฺคุลกหริตาลมโนสิลฺชนานิ ปน ภาชนียภณฺฑานิ.

ทารุภณฺเฑ ‘‘โย โกจิ อฏฺงฺคุลสูจิทณฺฑมตฺโตปิ ทารุภณฺฑโก ทารุทุลฺลภฏฺาเน สงฺฆสฺส ทินฺโน วา ตตฺถชาตโก วา รกฺขิตโคปิโต, อยํ ครุภณฺฑํ โหตี’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน สพฺพมฺปิ ทารุเวฬุจมฺมปาสาณาทิวิกตึ ทารุภณฺเฑน สงฺคณฺหิตฺวา อาสนฺทิกโต ปฏฺาย ทารุภณฺเฑ วินิจฺฉโย วุตฺโต. ตตฺรายํ นโย – อาสนฺทิโก สตฺตงฺโค ภทฺทปีํ ปีิกา เอกปาทกปีํ อามณฺฑกวณฺฏกปีํ ผลกํ โกจฺฉํ ปลาลปีนฺติ อิเมสุ ตาว ยํ กิฺจิ ขุทฺทกํ วา โหตุ มหนฺตํ วา, สงฺฆสฺส ทินฺนํ ครุภณฺฑํ โหติ. ปลาลปีเน เจตฺถ กทลิปตฺตาทิปีานิปิ สงฺคหิตานิ. พฺยคฺฆจมฺมโอนทฺธมฺปิ วาฬรูปปริกฺขิตฺตํ รตนปริสิพฺพิตํ โกจฺฉํ ครุภณฺฑเมว, วงฺกผลกํ ทีฆผลกํ จีวรโธวนผลกํ ฆฏฺฏนผลกํ ฆฏฺฏนมุคฺคโร ทนฺตกฏฺจฺเฉทนคณฺิกา ทณฺฑมุคฺคโร อมฺพณํ รชนโทณิ อุทกปฏิจฺฉโก ทารุมโย วา ทนฺตมโย วา เวฬุมโย วา สปาทโกปิ อปาทโกปิ สมุคฺโค มฺชูสา ปาทคณฺหนกโต อติเรกปฺปมาโณ กรณฺโฑ อุทกโทณิ อุทกกฏาหํ อุฬุงฺโก กฏจฺฉุ ปานียสราวํ ปานียสงฺโขติ เอเตสุปิ ยํ กิฺจิ สงฺเฆ ทินฺนํ ครุภณฺฑํ. สงฺขถาลกํ ปน ภาชนียํ, ตถา ทารุมโย อุทกตุมฺโพ.

ปาทกถลิกมณฺฑลํ ทารุมยํ วา โหตุ โจฬปณฺณาทิมยํ วา, สพฺพํ ครุภณฺฑํ. อาธารโก ปตฺตปิธานํ ตาลวณฺฏํ พีชนี จงฺโกฏกํ ปจฺฉิ ยฏฺิสมฺมุฺชนี มุฏฺิสมฺมุฺชนีติ เอเตสุปิ ยํ กิฺจิ ขุทฺทกํ วา โหตุ มหนฺตํ วา, ทารุเวฬุปณฺณจมฺมาทีสุ เยน เกนจิ กตํ ครุภณฺฑเมว. ถมฺภตุลาโสปานผลกาทีสุ ทารุมยํ วา ปาสาณมยํ วา ยํ กิฺจิ เคหสมฺภารรูปํ โย โกจิ กฏสารโก ยํ กิฺจิ ภูมตฺถรณํ ยํ กิฺจิ อกปฺปิยจมฺมํ, สพฺพํ สงฺเฆ ทินฺนํ ครุภณฺฑํ, ภูมตฺถรณํ กาตุํ วฏฺฏติ. เอฬกจมฺมํ ปน ปจฺจตฺถรณคติกํ โหติ, ตมฺปิ ครุภณฺฑเมว. กปฺปิยจมฺมานิ ภาชนียานิ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘สพฺพํ มฺจปฺปมาณํ จมฺมํ ครุภณฺฑ’’นฺติ วุตฺตํ.

อุทุกฺขลํ มุสลํ สุปฺปํ นิสทํ นิสทโปโต ปาสาณโทณิ ปาสาณกฏาหํ ตุริเวมภสฺตาทิ สพฺพํ เปสการาทิภณฺฑํ สพฺพํ กสิภณฺฑํ สพฺพํ จกฺกยุตฺตกํ ยานํ ครุภณฺฑเมว. มฺจปาโท มฺจอฏนี ปีปาโท ปีอฏนี วาสิผรสุอาทีนํ ทณฺฑาติ เอเตสุ ยํ กิฺจิ วิปฺปกตตจฺฉนกมฺมํ อนิฏฺิตเมว ภาชนียํ, ตจฺฉิตมฏฺํ ปน ครุภณฺฑํ โหติ. อนุฺาตวาสิยา ปน ทณฺโฑ ฉตฺตมุฏฺิปณฺณํ กตฺตรยฏฺิ อุปาหนา อรณิสหิตํ ธมฺมกรโณ ปาทคณฺหนกโต อนติริตฺตํ อามลกตุมฺพํ อามลกฆโฏ ลาพุกตุมฺพํ ลาพุฆโฏ วิสาณกตุมฺพนฺติ สพฺพเมเวตํ ภาชนียํ, ตโต มหนฺตตรํ ครุภณฺฑํ. หตฺถิทนฺโต วา ยํ กิฺจิ วิสาณํ วา อตจฺฉิตํ ยถาคตเมว ภาชนียํ. เตหิ กตมฺจปาทาทีสุ ปุริมสทิโสเยว วินิจฺฉโย. ตจฺฉิตนิฏฺิโตปิ หิงฺคุกรณฺฑโก คณฺิกา วิโธ อฺชนี อฺชนีสลากา อุทกปุฺฉนีติ อิทํ สพฺพํ ภาชนียเมว.

มตฺติกาภณฺเฑ สพฺพํ มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภคํ ฆฏปีราทิกุลาลภาชนํ ปตฺตกฏาหํ องฺคารกฏาหํ ธูมทานํ ทีปรุกฺขโก ทีปกปลฺลิกา จยนิฏฺกา ฉทนิฏฺกา ถูปิกาติ สงฺฆสฺส ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑํ, ปาทคณฺหนกโต อนติริตฺตปฺปมาโณ ปน ฆฏโก ปตฺตํ ถาลกํ กฺจนโก กุณฺฑิกาติ อิทเมตฺถ ภาชนียภณฺฑํ. ยถา จ มตฺติกาภณฺเฑ, เอวํ โลหภณฺเฑปิ กุณฺฑิกา ภาชนียโกฏฺาสเมว ภชตีติ อยเมตฺถ อนุปุพฺพิกถา.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ครุภณฺฑวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๓๑. โจทนาทิวินิจฺฉยกถา

๒๓๐. โจทนาทิวินิจฺฉโยติ เอตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๘๕-๖) ปน โจเทตุํ โก ลภติ, โก น ลภติ? ทุพฺพลโจทกวจนํ ตาว คเหตฺวา โกจิ น ลภติ. ทุพฺพลโจทโก นาม สมฺพหุเลสุ กถาสลฺลาเปน นิสินฺเนสุ เอโก เอกํ อารพฺภ อโนทิสฺสกํ กตฺวา ปาราชิกวตฺถุํ กเถติ, อฺโ ตํ สุตฺวา อิตรสฺส คนฺตฺวา อาโรเจติ, โส ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตฺวํ กิร มํ อิทฺจิทฺจ วทสี’’ติ ภณติ, โส ‘‘นาหํ เอวรูปํ ชานามิ, กถาปวตฺติยํ ปน มยา อโนทิสฺสกํ กตฺวา วุตฺตมตฺถิ. สเจ อหํ ตว อิมํ ทุกฺขุปฺปตฺตึ ชาเนยฺยํ, เอตฺตกมฺปิ น กเถยฺย’’นฺติ. อยํ ทุพฺพลโจทโก. ตสฺเสตํ กถาสลฺลาปํ คเหตฺวา ตํ ภิกฺขุํ โกจิ โจเทตุํ น ลภติ, เอตํ ปน อคฺคเหตฺวา สีลสมฺปนฺโน ภิกฺขุ ภิกฺขุํ วา ภิกฺขุนึ วา, สีลสมฺปนฺนา จ ภิกฺขุนี ภิกฺขุนีเมว โจเทตุํ ลภตีติ มหาปทุมตฺเถโร อาห. มหาสุมตฺเถโร ปน ‘‘ปฺจปิ สหธมฺมิกา ลภนฺตี’’ติ อาห. โคทตฺตตฺเถโร ‘‘น โกจิ น ลภตี’’ติ วตฺวา ‘‘ภิกฺขุสฺส สุตฺวา โจเทติ, ภิกฺขุนิยา สุตฺวา…เป… ติตฺถิยสาวกานํ สุตฺวา โจเทตี’’ติ อิทํ สุตฺตํ อาหริ. ติณฺณมฺปิ เถรานํ วาเท จุทิตกสฺเสว ปฏิฺาย กาเรตพฺโพ.

อยํ ปน โจทนา นาม ทิฏฺโจทนา สุตโจทนา ปริสงฺกิตโจทนาติ ติวิธา โหติ. อปราปิ จตุพฺพิธา โหติ สีลวิปตฺติโจทนา อาจารวิปตฺติโจทนา ทิฏฺิวิปตฺติโจทนา อาชีววิปตฺติโจทนาติ. ตตฺถ ครุกานํ ทฺวินฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ วเสน สีลวิปตฺติโจทนา เวทิตพฺพา, อวเสสานํ วเสน อาจารวิปตฺติโจทนา, มิจฺฉาทิฏฺิอนฺตคฺคาหิกทิฏฺิวเสน ทิฏฺิวิปตฺติโจทนา, อาชีวเหตุ ปฺตฺตานํ ฉนฺนํ สิกฺขาปทานํ วเสน อาชีววิปตฺติโจทนา เวทิตพฺพา.

อปราปิ จตุพฺพิธา โหติ วตฺถุสนฺทสฺสนา อาปตฺติสนฺทสฺสนา สํวาสปฏิกฺเขโป สามีจิปฏิกฺเขโปติ. ตตฺถ วตฺถุสนฺทสฺสนา นาม ‘‘ตฺวํ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิ, อทินฺนํ อาทิยิ, มนุสฺสํ ฆาตยิตฺถ, อภูตํ อาโรจยิตฺถา’’ติ เอวํ ปวตฺตา. อาปตฺติสนฺทสฺสนา นาม ‘‘ตฺวํ เมถุนธมฺมปาราชิกาปตฺตึ อาปนฺโน’’ติเอวมาทินยปฺปวตฺตา. สํวาสปฏิกฺเขโป นาม ‘‘นตฺถิ ตยา สทฺธึ อุโปสโถ วา ปวารณา วา สงฺฆกมฺมํ วา’’ติ เอวํ ปวตฺโต. สามีจิปฏิกฺเขโป นาม อภิวาทนปจฺจุฏฺานอฺชลีกมฺมพีชนาทิกมฺมานํ อกรณํ. ตํ ปฏิปาฏิยา วนฺทนาทีนิ กโรนฺโต เอกสฺส อกตฺวา เสสานํ กรณกาเล เวทิตพฺพํ. เอตฺตาวตาปิ โจทนา นาม โหติ. ยาคุภตฺตาทินา ปน ยํ อิจฺฉติ, ตํ อาปุจฺฉติ, น ตาวตา โจทนา โหติ.

อปรา ปาติโมกฺขฏฺปนกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๘๗) ‘‘เอกํ, ภิกฺขเว, อธมฺมิกํ ปาติโมกฺขฏฺปนํ, เอกํ ธมฺมิก’’นฺติอาทึ กตฺวา ยาว ทส อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ, ทส ธมฺมิกานีติ เอวํ อธมฺมิกา ปฺจปฺาส, ธมฺมิกา ปฺจปฺาสาติ ทสุตฺตรสตํ โจทนา วุตฺตา. ตา ทิฏฺเน โจเทนฺตสฺส ทสุตฺตรสตํ, สุเตน โจเทนฺตสฺส ทสุตฺตรสตํ, ปริสงฺกาย โจเทนฺตสฺส ทสุตฺตรสตนฺติ ตึสาธิกานิ ตีณิ สตานิ โหนฺติ. ตานิ กาเยน โจเทนฺตสฺส, วาจาย โจเทนฺตสฺส, กายวาจาย โจเทนฺตสฺสาติ ติคุณานิ กตานิ นวุตาธิกานิ นว สตานิ โหนฺติ. ตานิ อตฺตนา โจเทนฺตสฺสปิ ปเรน โจทาเปนฺตสฺสปิ ตตฺตกาเนวาติ วีสติอูนานิ ทฺเว สหสฺสานิ โหนฺติ. ปุน ทิฏฺาทิเภเท สมูลิกามูลิกวเสน อเนกสหสฺสา โจทนา โหนฺตีติ เวทิตพฺพา.

๒๓๑. วุตฺตปฺปเภทาสุ ปน อิมาสุ โจทนาสุ ยาย กายจิ โจทนาย วเสน สงฺฆมชฺเฌ โอสเฏ วตฺถุสฺมึ จุทิตกโจทกา วตฺตพฺพา ‘‘ตุมฺเห อมฺหากํ วินิจฺฉเยน ตุฏฺา ภวิสฺสถา’’ติ. สเจ ‘‘ภวิสฺสามา’’ติ วทนฺติ, สงฺเฆน ตํ อธิกรณํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. อถ ปน ‘‘วินิจฺฉินถ ตาว, ภนฺเต, สเจ อมฺหากํ ขมิสฺสติ, คณฺหิสฺสามา’’ติ วทนฺติ, ‘‘เจติยํ ตาว วนฺทถา’’ติอาทีนิ วตฺวา ทีฆสุตฺตํ กตฺวา วิสฺสชฺชิตพฺพํ. เต เจ จิรรตฺตํ กิลนฺตา ปกฺกนฺตปริสา อุปจฺฉินฺนปกฺขา หุตฺวา ปุน ยาจนฺติ, ยาวตติยํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ยทา นิมฺมทา โหนฺติ, ตทา เนสํ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตพฺพํ. วินิจฺฉินนฺเตหิ จ สเจ อลชฺชุสฺสนฺนา โหติ ปริสา, อุพฺพาหิกาย ตํ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตพฺพํ. สเจ พาลุสฺสนฺนา โหติ ปริสา, ‘‘ตุมฺหากํ สภาเค วินยธเร ปริเยสถา’’ติ วินยธเร ปริเยสาเปตฺวา เยน ธมฺเมน เยน วินเยน เยน สตฺถุสาสเนน ตํ อธิกรณํ วูปสมฺมติ, ตถา ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพํ.

ตตฺถ จ ธมฺโมติ ภูตํ วตฺถุ. วินโยติ โจทนา เจว สารณา จ. สตฺถุสาสนนฺติ ตฺติสมฺปทา จ อนุสฺสาวนสมฺปทา จ. ตสฺมา โจทเกน วตฺถุสฺมึ อาโรจิเต จุทิตโก ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘สนฺตเมตํ, โน’’ติ. เอวํ วตฺถุํ อุปปริกฺขิตฺวา ภูเตน วตฺถุนา โจเทตฺวา สาเรตฺวา ตฺติสมฺปทาย จ อนุสฺสาวนสมฺปทาย จ ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพํ. ตตฺร เจ อลชฺชี ลชฺชึ โจเทติ, โส จ อลชฺชี พาโล โหติ อพฺยตฺโต, นาสฺส นโย ทาตพฺโพ, เอวํ ปน วตฺตพฺโพ ‘‘กิมฺหิ นํ โจเทสี’’ติ. อทฺธา โส วกฺขติ ‘‘กิมิทํ, ภนฺเต, กิมฺหิ นํ นามา’’ติ. ‘‘ตฺวํ กิมฺหิ นมฺปิ น ชานาสิ, น ยุตฺตํ ตยา เอวรูเปน พาเลน ปรํ โจเทตุ’’นฺติ อุยฺโยเชตพฺโพ, นาสฺส อนุโยโค ทาตพฺโพ. สเจ ปน โส อลชฺชี ปณฺฑิโต โหติ พฺยตฺโต, ทิฏฺเน วา สุเตน วา อชฺโฌตฺถริตฺวา สมฺปาเทตุํ สกฺโกติ, เอตสฺส อนุโยคํ ทตฺวา ลชฺชิสฺเสว ปฏิฺาย กมฺมํ กาตพฺพํ.

สเจ ลชฺชี อลชฺชึ โจเทติ, โส จ ลชฺชี พาโล โหติ อพฺยตฺโต, น สกฺโกติ อนุโยคํ ทาตุํ, ตสฺส นโย ทาตพฺโพ ‘‘กิมฺหิ นํ โจเทสิ สีลวิปตฺติยา วา อาจารวิปตฺติอาทีสุ วา เอกิสฺสา’’ติ. กสฺมา ปน อิมสฺเสว เอวํ นโย ทาตพฺโพ, น อิตรสฺสาติ, นนุ น ยุตฺตํ วินยธรานํ อคติคมนนฺติ? น ยุตฺตเมว. อิทํ ปน อคติคมนํ น โหติ, ธมฺมานุคฺคโห นาม เอโส. อลชฺชินิคฺคหตฺถาย หิ ลชฺชิปคฺคหตฺถาย จ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ. ตตฺร อลชฺชี นยํ ลภิตฺวา อชฺโฌตฺถรนฺโต เอหิติ, ลชฺชี ปน นยํ ลภิตฺวา ทิฏฺเ ทิฏฺสนฺตาเนน สุเต สุตสนฺตาเนน ปติฏฺาย กเถสฺสติ, ตสฺมา ตสฺส ธมฺมานุคฺคโห วฏฺฏติ. สเจ ปน โส ลชฺชี ปณฺฑิโต โหติ พฺยตฺโต, ปติฏฺาย กเถติ, อลชฺชี จ ‘‘เอตมฺปิ นตฺถิ, เอตมฺปิ นตฺถี’’ติ ปฏิฺํ น เทติ, อลชฺชิสฺส ปฏิฺาย เอว กาตพฺพํ.

ตทตฺถทีปนตฺถฺจ อิทํ วตฺถุ เวทิตพฺพํ – ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร กิร โลหปาสาทสฺส เหฏฺา ภิกฺขูนํ วินยํ กเถตฺวา สายนฺหสมเย วุฏฺาติ, ตสฺส วุฏฺานสมเย ทฺเว อตฺตปจฺจตฺถิกา กถํ ปวตฺเตสุํ. เอโก ‘‘เอตมฺปิ นตฺถิ, เอตมฺปิ นตฺถี’’ติ ปฏิฺํ น เทติ, อถ อปฺปาวเสเส ปมยาเม เถรสฺส ตสฺมึ ปุคฺคเล ‘‘อยํ ปติฏฺาย กเถติ, อยํ ปน ปฏิฺํ น เทติ, พหูนิ จ วตฺถูนิ โอสฏานิ, อทฺธา เอตํ กตํ ภวิสฺสตี’’ติ อสุทฺธลทฺธิ อุปฺปนฺนา. ตโต พีชนีทณฺฑเกน ปาทกถลิกาย สฺํ ทตฺวา ‘‘อหํ, อาวุโส, วินิจฺฉินิตุํ อนนุจฺฉวิโก, อฺเน วินิจฺฉินาเปหี’’ติ อาห. ‘‘กสฺมา, ภนฺเต’’ติ? เถโร ตมตฺถํ อาโรเจสิ. จุทิตกปุคฺคลสฺส กาเย ฑาโห อุฏฺิโต, ตโต โส เถรํ วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, วินิจฺฉินิตุํ อนุรูเปน วินยธเรน นาม ตุมฺหาทิเสเนว ภวิตุํ วฏฺฏติ, โจทเกน จ อีทิเสเนว ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา เสตกานิ นิวาเสตฺวา ‘‘จิรํ กิลมิตาตฺถ มยา’’ติ ขมาเปตฺวา ปกฺกามิ.

เอวํ ลชฺชินา โจทิยมาโน อลชฺชี พหูสุปิ วตฺถูสุ อุปฺปนฺเนสุ ปฏิฺํ น เทติ, โส เนว ‘‘สุทฺโธ’’ติ วตฺตพฺโพ, น ‘‘อสุทฺโธ’’ติ, ชีวมตโก นาม อามกปูติโก นาม เจส. สเจ ปนสฺส อฺมฺปิ ตาทิสํ วตฺถุ อุปฺปชฺชติ, น วินิจฺฉินิตพฺพํ, ตถา นาสิตโก ภวิสฺสติ. สเจ ปน อลชฺชีเยว อลชฺชึ โจเทติ, โส วตฺตพฺโพ ‘‘อาวุโส, ตว วจเนนายํ กึ สกฺกา วตฺตุ’’นฺติ. อิตรมฺปิ ตเถว วตฺวา ‘‘อุโภปิ เอกสมฺโภคปริโภคา หุตฺวา ชีวถา’’ติ อุยฺโยเชตพฺพา. สีลตฺถาย เนสํ วินิจฺฉโย น กาตพฺโพ, ปตฺตจีวรปริเวณาทิอตฺถาย ปน ปติรูปํ สกฺขึ ลภิตฺวา กาตพฺโพติ.

อถ ลชฺชี ลชฺชึ โจเทติ, วิวาโท จ เนสํ กิสฺมิฺจิเทว อปฺปมตฺตโก โหติ, สฺาเปตฺวา ‘‘มา เอวํ กโรถา’’ติ อจฺจยํ เทสาเปตฺวา อุยฺโยเชตพฺพา. อถ ปเนตฺถ จุทิตเกน สหสา วิรทฺธํ โหติ, อาทิโต ปฏฺาย อลชฺชี นาม นตฺถิ. โส จ ปกฺขานุรกฺขณตฺถาย ปฏิฺํ น เทติ, ‘‘มยํ สทฺทหาม, มยํ สทฺทหามา’’ติ พหู อุฏฺหนฺติ, โส เตสํ ปฏิฺาย เอกวารํ ทฺเววารํ สุทฺโธ โหตุ, อถ ปน วิรทฺธกาลโต ปฏฺาย าเน น ติฏฺติ, วินิจฺฉโย น ทาตพฺโพ.

๒๓๒. อทินฺนาทานวตฺถุํ วินิจฺฉินนฺเตน (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๒) ปน ปฺจวีสติ อวหารา สาธุกํ สลฺลกฺเขตพฺพา. เตสุ จ กุสเลน วินยธเรน โอติณฺณํ วตฺถุํ สหสา อวินิจฺฉินิตฺวาว ปฺจ านานิ โอโลเกตพฺพานิ, ยานิ สนฺธาย โปราณา อาหุ –

‘‘วตฺถุํ กาลฺจ เทสฺจ, อคฺฆํ ปริโภคปฺจมํ;

ตุลยิตฺวา ปฺจ านานิ, ธาเรยฺยตฺถํ วิจกฺขโณ’’ติ. (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๒);

ตตฺถ วตฺถุนฺติ ภณฺฑํ. อวหารเกน หิ ‘‘มยา อิทํ นาม อวหฏ’’นฺติ วุตฺเตปิ อาปตฺตึ อนาโรเปตฺวาว ตํ ภณฺฑํ ‘‘สสามิกํ วา อสามิกํ วา’’ติ อุปปริกฺขิตพฺพํ. สสามิเกปิ สามิกานํ สาลยภาโว วา นิราลยภาโว วา อุปปริกฺขิตพฺโพ. สเจ เตสํ สาลยกาเล อวหฏํ, ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา อาปตฺติ กาตพฺพา. สเจ นิราลยกาเล, ปาราชิเกน น กาตพฺพา. ภณฺฑสามิเกสุ ปน ภณฺฑํ อาหราเปนฺเตสุ ภณฺฑํ ทาตพฺพํ. อยเมตฺถ สามีจิ.

อิมสฺส ปนตฺถสฺส ทีปนตฺถมิทํ วตฺถุ – ภาติยราชกาเล กิร มหาเจติยปูชาย ทกฺขิณทิสโต เอโก ภิกฺขุ สตฺตหตฺถํ ปณฺฑุกาสาวํ อํเส กริตฺวา เจติยงฺคณํ ปาวิสิ. ตงฺขณเมว จ ราชาปิ เจติยวนฺทนตฺถํ อาคโต. ตโต อุสฺสารณาย วตฺตมานาย มหาชนสมฺมทฺโท อโหสิ. อถ โส ภิกฺขุ ชนสมฺมทฺทปีฬิโต อํสโต ปตนฺตํ กาสาวํ อทิสฺวาว นิกฺขนฺโต, นิกฺขมิตฺวา กาสาวํ อปสฺสนฺโต ‘‘โก อีทิเส ชนสมฺมทฺเท กาสาวํ ลจฺฉติ, น ทานิ ตํ มยฺห’’นฺติ ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา คโต. อถฺโ ภิกฺขุ ปจฺฉา อาคจฺฉนฺโต ตํ กาสาวํ ทิสฺวา เถยฺยจิตฺเตน คเหตฺวา ปุน วิปฺปฏิสารี หุตฺวา ‘‘อสฺสมโณ ทานิมฺหิ, วิพฺภมิสฺสามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺเน ‘‘วินยธเร ปุจฺฉิตฺวา สฺสามี’’ติ จินฺเตสิ.

เตน สมเยน จูฬสุมนตฺเถโร นาม สพฺพปริยตฺติธโร วินยาจริยปาโมกฺโข มหาวิหาเร ปฏิวสติ. โส ภิกฺขุ เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา โอกาสํ กาเรตฺวา อตฺตโน กุกฺกุจฺจํ ปุจฺฉิ. เถโร เตน ภฏฺเ ชนกาเย ปจฺฉา อาคนฺตฺวา คหิตภาวํ ตฺวา ‘‘อตฺถิ ทานิ เอตฺถ โอกาโส’’ติ จินฺเตตฺวา อาห ‘‘สเจ กาสาวสามิกํ ภิกฺขุํ อาเนยฺยาสิ, สกฺกา ภเวยฺย ตว ปติฏฺา กาตุ’’นฺติ. กถาหํ, ภนฺเต, ตํ ทกฺขิสฺสามีติ. ตหึ ตหึ คนฺตฺวา โอโลเกหีติ. โส ปฺจปิ มหาวิหาเร โอโลเกตฺวา เนว อทฺทกฺขิ. ตโต นํ เถโร ปุจฺฉิ ‘‘กตราย ทิสาย พหู ภิกฺขู อาคจฺฉนฺตี’’ติ? ‘‘ทกฺขิณทิสาย, ภนฺเต’’ติ. เตน หิ กาสาวํ ทีฆโต จ ติริยฺจ มินิตฺวา เปหิ, เปตฺวา ทกฺขิณทิสาย วิหารปฏิปาฏิยา วิจินิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ อาเนหีติ. โส ตถา กตฺวา ตํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา เถรสฺส สนฺติกํ อาเนสิ. เถโร ปุจฺฉิ ‘‘ตเวทํ กาสาว’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. กุหึ เต ปาติตนฺติ? โส สพฺพํ อาจิกฺขิ. เถโร เตน กตํ ธุรนิกฺเขปํ สุตฺวา อิตรํ ปุจฺฉิ ‘‘ตยา อิทํ กุหึ ทิสฺวา คหิต’’นฺติ? โสปิ สพฺพํ อาโรเจสิ. ตโต ตํ เถโร อาห ‘‘สเจ เต สุทฺธจิตฺเตน คหิตํ อภวิสฺส, อนาปตฺติเยว เต อสฺส, เถยฺยจิตฺเตน ปน คหิตตฺตา ทุกฺกฏํ อาปนฺโนสิ, ตํ เทเสตฺวา อนาปตฺติโก โหติ, อิทฺจ กาสาวํ อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา เอตสฺเสว ภิกฺขุโน เทหี’’ติ. โส ภิกฺขุ อมเตเนว อภิสิตฺโต วรมสฺสาสปฺปตฺโต อโหสิ. เอวํ วตฺถุ โอโลเกตพฺพํ.

กาโลติ อวหารกาโล. ตเทว หิ ภณฺฑํ กทาจิ อปฺปคฺฆํ โหติ, กทาจิ มหคฺฆํ. ตสฺมา ตํ ภณฺฑํ ยสฺมึ กาเล อวหฏํ, ตสฺมึเยว กาเล โย ตสฺส อคฺโฆ โหติ, เตน อคฺเฆน อาปตฺติ กาเรตพฺพา. เอวํ กาโล โอโลเกตพฺโพ.

เทโสติ อวหารเทโส. ตฺหิ ภณฺฑํ ยสฺมึ เทเส อวหฏํ, ตสฺมึเยว เทเส โย ตสฺส อคฺโฆ โหติ, เตน อคฺเฆน อาปตฺติ กาเรตพฺพา. ภณฺฑุฏฺานเทเส หิ ภณฺฑํ อปฺปคฺฆํ โหติ, อฺตฺถ มหคฺฆํ.

อิมสฺสปิ จ อตฺถสฺส ทีปนตฺถมิทํ วตฺถุ – อนฺตรสมุทฺเท กิร เอโก ภิกฺขุ สุสณฺานํ นาฬิเกรํ ลภิตฺวา ภมํ อาโรเปตฺวา สงฺขถาลกสทิสํ มโนรมํ ปานียถาลกํ กตฺวา ตตฺเถว เปตฺวา เจติยคิรึ อคมาสิ. อฺโ ภิกฺขุ อนฺตรสมุทฺทํ คนฺตฺวา ตสฺมึ วิหาเร ปฏิวสนฺโต ตํ ถาลกํ ทิสฺวา เถยฺยจิตฺเตน คเหตฺวา เจติยคิริเมว อาคโต. ตสฺส ตตฺถ ยาคุํ ปิวนฺตสฺส ตํ ถาลกํ ทิสฺวา ถาลกสามิโก ภิกฺขุ อาห ‘‘กุโต เต อิทํ ลทฺธ’’นฺติ. อนฺตรสมุทฺทโต เม อานีตนฺติ. โส ตํ ‘‘เนตํ ตว สนฺตกํ, เถยฺยาย เต คหิต’’นฺติ สงฺฆมชฺฌํ อากฑฺฒิ. ตตฺถ จ วินิจฺฉยํ อลภิตฺวา มหาวิหารํ อคมึสุ, ตตฺถ จ เภรึ ปหราเปตฺวา มหาเจติยสมีเป สนฺนิปาตํ กตฺวา วินิจฺฉยํ อารภึสุ. วินยธรตฺเถรา อวหารํ สฺาเปสุํ.

ตสฺมิฺจ สนฺนิปาเต อาภิธมฺมิกโคทตฺตตฺเถโร นาม วินยกุสโล โหติ, โส เอวมาห ‘‘อิมินา อิทํ ถาลกํ กุหึ อวหฏ’’นฺติ? ‘‘อนฺตรสมุทฺเท อวหฏ’’นฺติ. ตตฺถ ตํ กึ อคฺฆตีติ. น กิฺจิ อคฺฆติ. ตตฺร หิ นาฬิเกรํ ภินฺทิตฺวา มิฺชํ ขาทิตฺวา กปาลํ ฉฑฺเฑติ, ทารุอตฺถํ ปน ผรตีติ. อิมสฺส ภิกฺขุโน เอตฺถ หตฺถกมฺมํ กึ อคฺฆตีติ? มาสกํ วา อูนมาสกํ วาติ. อตฺถิ ปน กตฺถจิ สมฺมาสมฺพุทฺเธน มาสเก วา อูนมาสเก วา ปาราชิกํ ปฺตฺตนฺติ. เอวํ วุตฺเต ‘‘สาธุ สาธุ, สุกถิตํ สุวินิจฺฉิต’’นฺติ เอกสาธุกาโร อโหสิ. เตน จ สมเยน ภาติยราชาปิ เจติยวนฺทนตฺถํ นครโต นิกฺขนฺโต ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘กึ อิท’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา สพฺพํ ปฏิปาฏิยา สุตฺวา นคเร เภรึ จราเปสิ ‘‘มยิ สนฺเต ภิกฺขูนมฺปิ ภิกฺขุนีนมฺปิ คิหีนมฺปิ อธิกรณํ อาภิธมฺมิกโคทตฺตตฺเถเรน วินิจฺฉิตํ สุวินิจฺฉิตํ, ตสฺส วินิจฺฉเย อติฏฺมานํ ราชาณาย เปมี’’ติ. เอวํ เทโส โอโลเกตพฺโพ.

อคฺโฆติ ภณฺฑคฺโฆ. นวภณฺฑสฺส หิ โย อคฺโฆ โหติ, โส ปจฺฉา ปริหายติ. ยถา นวโธโต ปตฺโต อฏฺ วา ทส วา อคฺฆติ, โส ปจฺฉา ภินฺโน วา ฉิทฺโท วา อาณิคณฺิกาหโต วา อปฺปคฺโฆ โหติ, ตสฺมา น สพฺพทา ภณฺฑํ ปกติอคฺเฆเนว กาตพฺพนฺติ. เอวํ อคฺโฆ โอโลเกตพฺโพ.

ปริโภโคติ ภณฺฑปริโภโค. ปริโภเคนปิ หิ วาสิอาทิภณฺฑสฺส อคฺโฆ ปริหายติ. ตสฺมา เอวํ อุปปริกฺขิตพฺพํ – สเจ โกจิ กสฺสจิ ปาทคฺฆนกํ วาสึ หรติ, ตตฺร วาสิสามิโก ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘ตยา อยํ วาสิ กิตฺตเกน กีตา’’ติ? ‘‘ปาเทน, ภนฺเต’’ติ. กึ ปน เต กิณิตฺวาว ปิตา, อุทาหุ นํ วฬฺเชสีติ? สเจ วทติ ‘‘เอกทิวสํ เม ทนฺตกฏฺํ วา รชนฉลฺลิ วา ปตฺตปจนกทารุ วา ฉินฺนํ, ฆํสิตฺวา วา นิสิตา’’ติ, อถสฺส โปราณโก อคฺโฆ ภฏฺโติ เวทิตพฺโพ. ยถา จ วาสิยา, เอวํ อฺชนิยา วา อฺชนิสลากาย วา กุฺจิกาย วา ปลาเลน วา ถุเสหิ วา อิฏฺกจุณฺเณน วา เอกวารํ ฆํสิตฺวา โธวิตมตฺเตนปิ อคฺโฆ ภสฺสติ. ติปุมณฺฑลสฺส มกรทนฺตจฺเฉทเนนปิ ปริมชฺชนมตฺเตนปิ, อุทกสาฏกสฺส สกึ นิวาสนปารุปเนนปิ ปริโภคสีเสน อํเส วา สีเส วา ปนมตฺเตนปิ, ตณฺฑุลาทีนํ ปปฺโผฏเนนปิ ตโต เอกํ วา ทฺเว วา อปนยเนนปิ อนฺตมโส เอกํ ปาสาณสกฺขรํ อุทฺธริตฺวา ฉฑฺฑิตมตฺเตนปิ, สปฺปิเตลาทีนํ ภาชนนฺตรปอวตฺตเนนปิ อนฺตมโส ตโต มกฺขิกํ วา กิปิลฺลิกํ วา อุทฺธริตฺวา ฉฑฺฑิตมตฺเตนปิ, คุฬปิณฺฑกสฺส มธุรภาวชานนตฺถํ นเขน วิชฺฌิตฺวา อณุมตฺตํ คหิตมตฺเตนปิ อคฺโฆ ภสฺสติ. ตสฺมา ยํ กิฺจิ ปาทคฺฆนกํ วุตฺตนเยเนว สามิเกหิ ปริโภเคน อูนํ กตํ โหติ, น ตํ อวหโฏ ภิกฺขุ ปาราชิเกน กาตพฺโพติ. เอวํ อคฺโฆ โอโลเกตพฺโพ.

เอวํ อิมานิ ตุลยิตฺวา ปฺจ านานิ ธาเรยฺย อตฺถํ วิจกฺขโณ, อาปตฺตึ วา อนาปตฺตึ วา ครุกํ วา ลหุกํ วา อาปตฺตึ ยถาาเน เปยฺยาติ. เตนาหุ อฏฺกถาจริยา –

‘‘สิกฺขาปทํ สมํ เตน, อฺํ กิฺจิ น วิชฺชติ;

อเนกนยโวกิณฺณํ, คมฺภีรตฺถวินิจฺฉยํ.

‘‘ตสฺมา วตฺถุมฺหิ โอติณฺเณ, ภิกฺขุนา วินยฺุนา;

วินยานุคฺคเหเนตฺถ, กโรนฺเตน วินิจฺฉยํ.

‘‘ปาฬึ อฏฺกถฺเจว, สาธิปฺปายมเสสโต;

โอคยฺห อปฺปมตฺเตน, กรณีโย วินิจฺฉโย.

‘‘อาปตฺติทสฺสนุสฺสาโห, น กตฺตพฺโพ กุทาจนํ;

ปสฺสิสฺสามิ อนาปตฺติ-มิติ กยิราถ มานสํ.

‘‘ปสฺสิตฺวาปิ จ อาปตฺตึ, อวตฺวาว ปุนปฺปุนํ;

วีมํสิตฺวาถ วิฺูหิ, สํสนฺทิตฺวา จ ตํ วเท.

‘‘กปฺปิเยปิ จ วตฺถุสฺมึ, จิตฺตสฺส ลหุวตฺติโน;

วเสน สามฺคุณา, จวนฺตีธ ปุถุชฺชนา.

‘‘ตสฺมา ปรปริกฺขารํ, อาสีวิสมิโวรคํ;

อคฺคึ วิย จ สมฺปสฺสํ, นามเสยฺย วิจกฺขโณ’’ติ. (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๖๐-๑ ตตฺรายํ อนุสาสนี);

๒๓๓. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนํ วินิจฺฉินนฺเตน (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๙๗) ปน ‘‘กึ เต อธิคตํ. กินฺติ เต อธิคตํ, กทา เต อธิคตํ, กตฺถ เต อธิคตํ, กตเม เต กิเลสา ปหีนา, กตเมสํ ตฺวํ ธมฺมานํ ลาภี’’ติ อิมานิ ฉ านานิ วิโสเธตพฺพานิ. สเจ หิ โกจิ ภิกฺขุ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาธิคมํ พฺยากเรยฺย, น โส เอตฺตาวตา สกฺกาโร กาตพฺโพ, อิเมสํ ปน ฉนฺนํ านานํ โสธนตฺถํ เอวํ วตฺตพฺโพ ‘‘กึ เต อธิคตํ, กึ ฌานํ อุทาหุ วิโมกฺขาทีสุ อฺตร’’นฺติ. โย หิ เยน อธิคโต ธมฺโม, โส ตสฺส ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อิทํ นาม เม อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กินฺติ เต อธิคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘อนิจฺจลกฺขณาทีสุ กึ ธุรํ กตฺวา อฏฺตึสาย วา อารมฺมเณสุ รูปารูปอชฺฌตฺตพหิทฺธาทิเภเทสุ วา ธมฺเมสุ เกน มุเขน อภินิวิสิตฺวา’’ติ. โย หิ ยสฺสาภินิเวโส, โส ตสฺส ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อยํ นาม เม อภินิเวโส, เอวํ มยา อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กทา เต อธิคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ ปุพฺพณฺเห, อุทาหุ มชฺฌนฺหิกาทีสุ อฺตรสฺมึ กาเล’’ติ. สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคตกาโล ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อมุกสฺมึ นาม กาเล อธิคก’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กตฺถ เต อธิคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ ทิวาฏฺาเน, อุทาหุ รตฺติฏฺานาทีสุ อฺตรสฺมึ โอกาเส’’ติ. สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคโตกาโส ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อมุกสฺมึ นาม เม โอกาเส อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กตเม เต กิเลสา ปหีนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ ปมมคฺควชฺฌา, อุทาหุ ทุติยาทิมคฺควชฺฌา’’ติ. สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคตมคฺเคน ปหีนา กิเลสา ปากฏา โหนฺติ.

สเจ ‘‘อิเม นาม เม กิเลสา ปหีนา’’ติ วทติ, ตโต ‘‘กตเมสํ ตฺวํ ธมฺมานํ ลาภี’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ โสตาปตฺติมคฺคสฺส, อุทาหุ สกทาคามิมคฺคาทีสุ อฺตรสฺสา’’ติ. สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคตธมฺโม ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อิเมสํ นามาหํ ธมฺมานํ ลาภี’’ติ วทติ, เอตฺตาวตาปิสฺส วจนํ น สทฺธาตพฺพํ. พหุสฺสุตา หิ อุคฺคหปริปุจฺฉากุสลา ภิกฺขู อิมานิ ฉ านานิ โสเธตุํ สกฺโกนฺติ, อิมสฺส ปน ภิกฺขุโน อาคมนปฏิปทา โสเธตพฺพา. ยทิ อาคมนปฏิปทา น สุชฺฌติ, ‘‘อิมาย ปฏิปทาย โลกุตฺตรธมฺโม นาม น ลพฺภตี’’ติ อปเนตพฺโพ. ยทิ ปนสฺส อาคมนปฏิปทา สุชฺฌติ, ทีฆรตฺตํ ตีสุ สิกฺขาสุ อปฺปมตฺโต ชาคริยมนุยุตฺโต จตูสุ ปจฺจเยสุ อลคฺโค อากาเส ปาณิสเมน เจตสา วิหรตีติ ปฺายติ, ตสฺส ภิกฺขุโน พฺยากรณํ ปฏิปทาย สทฺธึ สํสนฺทติ. ‘‘เสยฺยถาปิ นาม คงฺโคทกํ ยมุโนทเกน สํสนฺทติ สเมติ, เอวเมว สุปฺตฺตา เตน ภควตา สาวกานํ นิพฺพานคามินี ปฏิปทา, สํสนฺทติ นิพฺพานฺจ ปฏิปทา จา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๙๖) วุตฺตสทิสํ โหติ. อปิจ โข น เอตฺตเกนปิ สกฺกาโร กาตพฺโพ. กสฺมา? เอกจฺจสฺส หิ ปุถุชฺชนสฺสปิ สโต ขีณาสวสฺส ปฏิปตฺติสทิสา ปฏิปตฺติ โหติ, ตสฺมา โส ภิกฺขุ เตหิ เตหิ อุปาเยหิ อุตฺตาเสตพฺโพ. ขีณาสวสฺส นาม อสนิยาปิ มตฺถเก ปตมานาย ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา น โหติ, ปุถุชฺชนสฺส อปฺปมตฺตเกนปิ โหติ.

ตตฺริมานิ วตฺถูนิ (ม. นิ. อฏฺ. ๓.๑๐๒) – ทีฆภาณกอภยตฺเถโร กิร เอกํ ปิณฺฑปาติกํ ปริคฺคเหตุํ อสกฺโกนฺโต ทหรสฺส สฺํ อทาสิ. โส ตํ นหายมานํ กลฺยาณีนทีมุขทฺวาเร นิมุชฺชิตฺวา ปาเท อคฺคเหสิ. ปิณฺฑปาติโก ‘‘กุมฺภีโล’’ติ สฺาย มหาสทฺทมกาสิ, ตทา นํ ‘‘ปุถุชฺชโน’’ติ ชานึสุ.

จนฺทมุขติสฺสราชกาเล ปน มหาวิหาเร สงฺฆตฺเถโร ขีณาสโว ทุพฺพลจกฺขุโก วิหาเรเยว อจฺฉติ. ราชา ‘‘เถรํ ปริคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ ภิกฺขูสุ ภิกฺขาจารํ คเตสุ อปฺปสทฺโท อุปสงฺกมิตฺวา สปฺโป วิย ปาเท อคฺคเหสิ. เถโร สิลาถมฺโภ วิย นิจฺจโล หุตฺวา ‘‘โก เอตฺถา’’ติ อาห. ‘‘อหํ, ภนฺเต, ติสฺโส’’ติ? ‘‘สุคนฺธํ วายสิ โน ติสฺสา’’ติ. เอวํ ขีณาสวสฺส ภยํ นาม นตฺถิ.

เอกจฺโจ ปน ปุถุชฺชโนปิ อติสูโร โหติ นิพฺภโย. โส รชนีเยน อารมฺมเณน ปริคฺคณฺหิตพฺโพ. วสภราชาปิ เอกํ เถรํ ปริคฺคณฺหมาโน ฆเร นิสีทาเปตฺวา ตสฺส สนฺติเก พทรสาฬวํ มทฺทมาโน นิสีทิ. มหาเถรสฺส เขโฬ จลิโต, เถรสฺส ปุถุชฺชนภาโว อาวิภูโต. ขีณาสวสฺส หิ รสตณฺหา นาม สุปฺปหีนา, ทิพฺเพสุปิ รเสสุ นิกนฺติ นาม น โหติ, ตสฺมา อิเมหิ อุปาเยหิ ปริคฺคเหตฺวา สจสฺส ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา รสตณฺหา วา อุปฺปชฺชติ, ‘‘น จ ตฺวํ อรหา’’ติ อปเนตพฺโพ. สเจ ปน อภีรุ อจฺฉมฺภี อนุตฺราสี หุตฺวา สีโห วิย นิสีทติ, ทิพฺพารมฺมเณปิ นิกนฺตึ น ชเนติ, อยํ ภิกฺขุ สมฺปนฺนเวยฺยากรโณ สมนฺตา ราชราชมหามตฺตาทีหิ เปสิตํ สกฺการํ อรหตีติ เวทิตพฺโพ. เอวํ ตาว อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนํ วินิจฺฉินิตพฺพํ.

๒๓๔. สกเล ปน วินยวินิจฺฉเย (ปารา. อฏฺ. ๑.๔๕) โกสลฺลํ ปตฺถยนฺเตน จตุพฺพิโธ วินโย ชานิตพฺโพ.

จตุพฺพิธฺหิ วินยํ, มหาเถรา มหิทฺธิกา;

นีหริตฺวา ปกาเสสุํ, ธมฺมสงฺคาหกา ปุรา.

กตมํ จตุพฺพิธํ? สุตฺตํ สุตฺตานุโลมํ อาจริยวาทํ อตฺตโนมตินฺติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อาหจฺจปเทน โข, มหาราช, รเสน อาจริยวํเสน อธิปฺปายา’’ติ (มิ. ป. ๔.๒.๓). เอตฺถ หิ อาหจฺจปทนฺติ สุตฺตํ อธิปฺเปตํ. รโสติ สุตฺตานุโลมํ. อาจริยวํโสติ อาจริยวาโท. อธิปฺปาโยติ อตฺตโนมติ.

ตตฺถ สุตฺตํ นาม สกลวินยปิฏเก ปาฬิ.

สุตฺตานุโลมํ นาม จตฺตาโร มหาปเทสา. เย ภควตา เอวํ วุตฺตา –

‘‘ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ น กปฺปตี’ติ อปฺปฏิกฺขิตฺตํ, ตฺเจ อกปฺปิยํ อนุโลเมติ, กปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว น กปฺปติ. ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ น กปฺปตี’ติ อปฺปฏิกฺขิตฺตํ, ตฺเจ กปฺปิยํ อนุโลเมติ, อกปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว กปฺปติ. ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ กปฺปตี’ติ อนนุฺาตํ, ตํ เจ อกปฺปิยํ อนุโลเมติ, กปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว น กปฺปติ. ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ กปฺปตี’ติ อนนุฺาตํ, ตฺเจ กปฺปิยํ อนุโลเมติ, อกปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว กปฺปตี’’ติ (มหาว. ๓๐๕).

อาจริยวาโท นาม ธมฺมสงฺคาหเกหิ ปฺจหิ อรหนฺตสเตหิ ปิตา ปาฬิวินิมุตฺตา โอกฺกนฺตวินิจฺฉยปฺปวตฺตา อฏฺกถาตนฺติ.

อตฺตโนมติ นาม สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาเท มุฺจิตฺวา อนุมาเนน อตฺตโน อนุพุทฺธิยา นยคฺคาเหน อุปฏฺิตาการกถนํ.

อปิจ สุตฺตนฺตาภิธมฺมวินยฏฺกถาสุ อาคโต สพฺโพปิ เถรวาโท อตฺตโนมติ นาม. ตํ ปน อตฺตโนมตึ คเหตฺวา กเถนฺเตน น ทฬฺหคฺคาหํ คเหตฺวา โวหริตพฺพํ, การณํ สลฺลกฺเขตฺวา อตฺเถน ปาฬึ, ปาฬิยา จ อตฺถํ สํสนฺทิตฺวา กเถตพฺพํ, อตฺตโนมติ อาจริยวาเท โอตาเรตพฺพา. สเจ ตตฺถ โอตรติ เจว สเมติ จ, คเหตพฺพา. สเจ เนว โอตรติ น สเมติ, น คเหตพฺพา. อยฺหิ อตฺตโนมติ นาม สพฺพทุพฺพลา, อตฺตโนมติโต อาจริยวาโท พลวตโร.

อาจริยวาโทปิ สุตฺตานุโลเม โอตาเรตพฺโพ. ตตฺถ โอตรนฺโต สเมนฺโต เอว คเหตพฺโพ, อิตโร น คเหตพฺโพ. อาจริยวาทโต หิ สุตฺตานุโลมํ พลวตรํ.

สุตฺตานุโลมมฺปิ สุตฺเต โอตาเรตพฺพํ. ตตฺถ โอตรนฺตํ สเมนฺตเมว คเหตพฺพํ, อิตรํ น คเหตพฺพํ. สุตฺตานุโลมโต หิ สุตฺตเมว พลวตรํ. สุตฺตฺหิ อปฺปฏิวตฺติยํ การกสงฺฆสทิสํ พุทฺธานํ ิตกาลสทิสํ. ตสฺมา ยทา ทฺเว ภิกฺขู สากจฺฉนฺติ, สกวาที สุตฺตํ คเหตฺวา กเถติ, ปรวาที สุตฺตานุโลมํ. เตหิ อฺมฺํ เขปํ วา ครหํ วา อกตฺวา สุตฺตานุโลมํ สุตฺเต โอตาเรตพฺพํ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพํ, โน เจ, น คเหตพฺพํ, สุตฺตสฺมึเยว าตพฺพํ. อถายํ สุตฺตํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อาจริยวาทํ. เตหิปิ อฺมฺํ เขปํ วา ครหํ วา อกตฺวา อาจริยวาโท สุตฺเต โอตาเรตพฺโพ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺโพ. อโนตรนฺโต อสเมนฺโต จ คารยฺหาจริยวาโท น คเหตพฺโพ, สุตฺตสฺมึเยว าตพฺพํ. อถายํ สุตฺตํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อตฺตโนมตึ. เตหิปิ อฺมฺํ เขปํ วา ครหํ วา อกตฺวา อตฺตโนมติ สุตฺเต โอตาเรตพฺพา. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพา, โน เจ, น คเหตพฺพา, สุตฺตสฺมึเยว าตพฺพํ.

อถายํ สุตฺตานุโลมํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตํ, สุตฺตานุโลเม โอตาเรตพฺพํ. สเจ โอตรติ สเมติ, ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺหํ ปาฬิอาคตํ ปฺายติ, คเหตพฺพํ, โน เจ ตถา ปฺายติ, น โอตรติ น สเมติ, พาหิรกสุตฺตํ วา โหติ สิโลโก วา อฺํ วา คารยฺหสุตฺตํ คุฬฺหเวสฺสนฺตรคุฬฺหวินยเวทลฺลาทีนํ อฺตรโต อาภตํ, น คเหตพฺพํ, สุตฺตานุโลมสฺมึเยว าตพฺพํ. อถายํ สุตฺตานุโลมํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อาจริยวาทํ. อาจริยวาโท สุตฺตานุโลเม โอตาเรตพฺโพ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺโพ. โน เจ, น คเหตพฺโพ, สุตฺตานุโลเมเยว าตพฺพํ. อถายํ สุตฺตานุโลมํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อตฺตโนมตึ. อตฺตโนมติ สุตฺตานุโลเม โอตาเรตพฺพา. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพา. โน เจ, น คเหตพฺพา, สุตฺตานุโลเมเยว าตพฺพํ.

อถายํ อาจริยวาทํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตํ. สุตฺตํ อาจริยวาเท โอตาเรตพฺพํ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพํ. อิตรํ คารยฺหสุตฺตํ น คเหตพฺพํ, อาจริยวาเทเยว าตพฺพํ. อถายํ อาจริยวาทํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตานุโลมํ. สุตฺตานุโลมํ อาจริยวาเท โอตาเรตพฺพํ. โอตรนฺตํ สเมนฺตเมว คเหตพฺพํ, อิตรํ น คเหตพฺพํ, อาจริยวาเทเยว าตพฺพํ. อถายํ อาจริยวาทํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อตฺตโนมตึ. อตฺตโนมติ อาจริยวาเท โอตาเรตพฺพา. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพา. โน เจ, น คเหตพฺพา, อาจริยวาเทเยว าตพฺพํ.

อถ ปนายํ อตฺตโนมตึ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตํ. สุตฺตํ อตฺตโนมติยํ โอตาเรตพฺพํ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพํ. อิตรํ คารยฺหสุตฺตํ น คเหตพฺพํ, อตฺตโนมติยเมว าตพฺพํ. อถายํ อตฺตโนมตึ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตานุโลมํ. สุตฺตานุโลมํ อตฺตโนมติยํ โอตาเรตพฺพํ. โอตรนฺตํ สเมนฺตเมว คเหตพฺพํ, อิตรํ น คเหตพฺพํ, อตฺตโนมติยเมว าตพฺพํ. อถายํ อตฺตโนมตึ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อาจริยวาทํ. อาจริยวาโท อตฺตโนมติยํ โอตาเรตพฺโพ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺโพ. อิตโร คารยฺหาจริยวาโท น คเหตพฺโพ, อตฺตโนมติยเมว าตพฺพํ, อตฺตโน คหณเมว พลิยํ กาตพฺพํ. สพฺพฏฺาเนสุ จ เขโป วา ครหา วา น กาตพฺพาติ.

อถ ปนายํ กปฺปิยนฺติ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อกปฺปิยนฺติ, สุตฺเต จ สุตฺตานุโลเม จ โอตาเรตพฺพํ. สเจ กปฺปิยํ โหติ, กปฺปิเย าตพฺพํ. สเจ อกปฺปิยํ, อกปฺปิเย าตพฺพํ. อถายํ ตสฺส กปฺปิยภาวสาธกํ สุตฺตโต พหุํ การณฺจ วินิจฺฉยฺจ ทสฺเสติ, ปโร การณํ น วินฺทติ, กปฺปิเยว าตพฺพํ. อถ ปโร ตสฺส อกปฺปิยภาวสาธกํ สุตฺตโต พหุํ การณฺจ วินิจฺฉยฺจ ทสฺเสติ, อเนน อตฺตโน คหณนฺติ กตฺวา ทฬฺหํ อาทาย น าตพฺพํ, ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อกปฺปิเย เอว าตพฺพํ. อถ ทฺวินฺนมฺปิ การณจฺฉายา ทิสฺสติ, ปฏิกฺขิตฺตภาโวเยว สาธุ, อกปฺปิเย าตพฺพํ. วินยฺหิ ปตฺวา กปฺปิยากปฺปิยวิจารณํ อาคมฺม รุนฺธิตพฺพํ, คาฬฺหํ กตฺตพฺพํ, โสตํ ปจฺฉินฺทิตพฺพํ, ครุกภาเวเยว าตพฺพํ.

อถ ปนายํ อกปฺปิยนฺติ คเหตฺวา กเถติ, ปโร กปฺปิยนฺติ, สุตฺเต จ สุตฺตานุโลเม จ โอตาเรตพฺพํ. สเจ กปฺปิยํ โหติ, กปฺปิเย าตพฺพํ. สเจ อกปฺปิยํ, อกปฺปิเย าตพฺพํ. อถายํ พหูหิ สุตฺตวินิจฺฉยการเณหิ อกปฺปิยภาวํ ทสฺเสติ, ปโร การณํ น วินฺทติ, อกปฺปิเย าตพฺพํ. อถ ปโร พหูหิ สุตฺตวินิจฺฉยการเณหิ กปฺปิยภาวํ ทสฺเสติ, อยํ การณํ น วินฺทติ, กปฺปิเย าตพฺพํ. อถ ทฺวินฺนมฺปิ การณจฺฉายา ทิสฺสติ, อตฺตโน คหณํ น วิสฺสชฺเชตพฺพํ. ยถา จายํ กปฺปิยากปฺปิเย อกปฺปิยกปฺปิเย จ วินิจฺฉโย วุตฺโต, เอวํ อนาปตฺติอาปตฺติวาเท อาปตฺตานาปตฺติวาเท จ, ลหุกครุกาปตฺติวาเท ครุกลหุกาปตฺติวาเท จาปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. นามมตฺเตเยว หิ เอตฺถ นานํ, โยชนานเย นานํ นตฺถิ, ตสฺมา น วิตฺถาริตํ.

เอวํ กปฺปิยากปฺปิยาทิวินิจฺฉเย อุปฺปนฺเน โย สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาทอตฺตโนมตีสุ อติเรกการณํ ลภติ, ตสฺส วาเท าตพฺพํ, สพฺพโส ปน การณวินิจฺฉยํ อลภนฺเตน สุตฺตํ น ชหิตพฺพํ, สุตฺตสฺมึเยว าตพฺพนฺติ. เอวํ สกลวินยวินิจฺฉเย โกสลฺลํ ปตฺถยนฺเตน อยํ จตุพฺพิโธ วินโย ชานิตพฺโพ.

อิมฺจ ปน จตุพฺพิธํ วินยํ ตฺวาปิ วินยธเรน ปุคฺคเลน ติลกฺขณสมนฺนาคเตน ภวิตพฺพํ. ตีณิ หิ วินยธรสฺส ลกฺขณานิ อิจฺฉิตพฺพานิ. กตมานิ ตีณิ? สุตฺตฺจสฺส สฺวาคตํ โหติ สุปฺปวตฺติ สุวินิจฺฉิตํ สุตฺตโต อนุพฺยฺชนโสติ อิทเมกํ ลกฺขณํ. วินเย โข ปน ิโต โหติ อสํหีโรติ อิทํ ทุติยํ. อาจริยปรมฺปรา โข ปนสฺส สุคฺคหิตา โหติ สุมนสิกตา สูปธาริตาติ อิทํ ตติยํ.

ตตฺถ สุตฺตํ นาม สกลํ วินยปิฏกํ. ตทสฺส สฺวาคตํ โหตีติ สุฏฺุ อาคตํ. สุปฺปวตฺตีติ สุฏฺุ ปวตฺตํ ปคุณํ วาจุคฺคตํ. สุวินิจฺฉิตํ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโสติ ปาฬิโต จ ปริปุจฺฉโต จ อฏฺกถาโต จ สุวินิจฺฉิตํ โหติ กงฺขาเฉทนํ กตฺวา อุคฺคหิตํ. วินเย โข ปน ิโต โหตีติ วินเย ลชฺชิภาเวน ปติฏฺิโต โหติ. อลชฺชี หิ พหุสฺสุโตปิ สมาโน ลาภครุกตาย ตนฺตึ วิสํวาเทตฺวา อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุสาสนํ ทีเปตฺวา สาสเน มหนฺตํ อุปทฺทวํ กโรติ, สงฺฆเภทมฺปิ สงฺฆราชิมฺปิ อุปฺปาเทติ. ลชฺชี ปน กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม ชีวิตเหตุปิ ตนฺตึ อวิสํวาเทตฺวา ธมฺมเมว วินยเมว ทีเปติ, สตฺถุสาสนํ ครุกํ กตฺวา เปติ. ตถา หิ ปุพฺเพ มหาเถรา ติกฺขตฺตุํ วาจํ นิจฺฉาเรสุํ ‘‘อนาคเต ลชฺชี รกฺขิสฺสติ, ลชฺชี รกฺขิสฺสติ, ลชฺชี รกฺขิสฺสตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๔๕). เอวํ โย ลชฺชี, โส วินยํ อวิชหนฺโต อโวกฺกมนฺโต ลชฺชิภาเวเนว วินเย ิโต โหติ สุปฺปติฏฺิโตติ.

อสํหีโรติ สํหีโร นาม โย ปาฬิยํ วา อฏฺกถายํ วา เหฏฺโต วา อุปริโต วา ปทปฏิปาฏิยา วา ปุจฺฉิยมาโน วิตฺถุนติ วิปฺผนฺทติ สนฺติฏฺิตุํ น สกฺโกติ, ยํ ยํ ปเรน วุจฺจติ, ตํ ตํ อนุชานาติ, สกวาทํ ฉฑฺเฑตฺวา ปรวาทํ คณฺหาติ. โย ปน ปาฬิยํ วา อฏฺกถายํ วา เหฏฺุปริเยน วา ปทปฏิปาฏิยา วา ปุจฺฉิยมาโน น วิตฺถุนติ น วิปฺผนฺทติ, เอเกกโลมํ สณฺฑาเสน คณฺหนฺโต วิย ‘‘เอวํ มยํ วทาม, เอวํ โน อาจริยา วทนฺตี’’ติ วิสฺสชฺเชติ, ยมฺหิ ปาฬิ จ ปาฬิวินิจฺฉโย จ สุวณฺณภาชเน ปกฺขิตฺตสีหวสา วิย ปริกฺขยํ ปริยาทานํ อคจฺฉนฺโต ติฏฺติ, อยํ วุจฺจติ ‘‘อสํหีโร’’ติ.

อาจริยปรมฺปรา โข ปนสฺส สุคฺคหิตา โหตีติ เถรปรมฺปรา วํสปรมฺปรา อสฺส สุฏฺุ คหิตา โหติ. สุมนสิกตาติ สุฏฺุ มนสิกตา, อาวชฺชิตมตฺเต อุชฺชลิตปทีโป วิย โหติ. สูปธาริตาติ สุฏฺุ อุปธาริตา ปุพฺพาปรานุสนฺธิโต อตฺถโต การณโต จ อุปธาริตา. อตฺตโนมตึ ปหาย อาจริยสุทฺธิยา วตฺตา โหติ, ‘‘มยฺหํ อาจริโย อสุกาจริยสฺส สนฺติเก อุคฺคณฺหิ, โส อสุกสฺสา’’ติ เอวํ สพฺพํ อาจริยปรมฺปรํ เถรวาทงฺคํ หริตฺวา ยาว อุปาลิตฺเถโร สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก อุคฺคณฺหีติ ปาเปตฺวา เปติ, ตโตปิ อาหริตฺวา อุปาลิตฺเถโร สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก อุคฺคณฺหิ, ทาสกตฺเถโร อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส อุปาลิตฺเถรสฺส, โสณตฺเถโร อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส ทาสกตฺเถรสฺส, สิคฺควตฺเถโร อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส โสณตฺเถรสฺส, โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโร อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส สิคฺควตฺเถรสฺส จณฺฑวชฺชิตฺเถรสฺส จาติ เอวํ สพฺพํ อาจริยปรมฺปรํ เถรวาทงฺคํ อาหริตฺวา อตฺตโน อาจริยํ ปาเปตฺวา เปติ. เอวํ อุคฺคหิตา หิ อาจริยปรมฺปรา สุคฺคหิตา โหติ. เอวํ อสกฺโกนฺเตน ปน อวสฺสํ ทฺเว ตโย ปริวฏฺฏา อุคฺคเหตพฺพา. สพฺพปจฺฉิเมน หิ นเยน ยถา อาจริโย อาจริยาจริโย จ ปาฬิฺจ ปริปุจฺฉฺจ วทนฺติ, ตถา าตุํ วฏฺฏติ.

อิเมหิ จ ปน ตีหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคเตน วินยธเรน วตฺถุวินิจฺฉยตฺถํ สนฺนิปติเต สงฺเฆ โอติณฺเณ วตฺถุสฺมึ โจทเกน จ จุทิตเกน จ วุตฺเต วตฺตพฺเพ สหสา อวินิจฺฉินิตฺวาว ฉ านานิ โอโลเกตพฺพานิ. กตมานิ ฉ? วตฺถุ โอโลเกตพฺพํ, มาติกา โอโลเกตพฺพา, ปทภาชนียํ โอโลเกตพฺพํ, ติกปริจฺเฉโท โอโลเกตพฺโพ, อนฺตราปตฺติ โอโลเกตพฺพา, อนาปตฺติ โอโลเกตพฺพาติ.

วตฺถุํ โอโลเกนฺโตปิ หิ ‘‘ติเณน วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาคนฺตพฺพํ, น ตฺเวว นคฺเคน อาคนฺตพฺพํ, โย อาคจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๑๗) เอวํ เอกจฺจํ อาปตฺตึ ปสฺสติ, โส ตํ สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.

มาติกํ โอโลเกนฺโตปิ ‘‘สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติย’’นฺติอาทินา (ปาจิ. ๓) นเยน ปฺจนฺนํ อาปตฺตีนํ อฺตรํ อาปตฺตึ ปสฺสติ, โส ตํ สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.

ปทภาชนียํ โอโลเกนฺโตปิ ‘‘อกฺขยิเต สรีเร เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส. เยภุยฺเยน ขยิเต สรีเร เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติอาทินา (ปารา. ๕๙ อตฺถโต สมานํ) นเยน สตฺตนฺนํ อาปตฺตีนํ อฺตรํ อาปตฺตึ ปสฺสติ, โส ปทภาชนียโต สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.

ติกปริจฺเฉทํ โอโลเกนฺโตปิ ติกสงฺฆาทิเสสํ วา ติกปาจิตฺติยํ วา ติกทุกฺกฏํ วา อฺตรํ วา อาปตฺตึ ติกปริจฺเฉเท ปสฺสติ, โส ตโต สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.

อนฺตราปตฺตึ โอโลเกนฺโตปิ ‘‘ปฏิลาตํ อุกฺขิปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๕๕) เอวํ ยา สิกฺขาปทนฺตเรสุ อนฺตราปตฺติ โหติ, ตํ ปสฺสติ, โส ตํ สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.

อนาปตฺตึ โอโลเกนฺโตปิ ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ อสาทิยนฺตสฺส, อเถยฺยจิตฺตสฺส, น มรณาธิปฺปายสฺส, อนุลฺลปนาธิปฺปายสฺส, น โมจนาธิปฺปายสฺส อสฺจิจฺจ อสติยา อชานนฺตสฺสา’’ติ (ปารา. ๗๒, ๑๓๖, ๑๘๐, ๒๒๕, ๒๖๓ โถกํ โถกํ วิสทิสํ) เอวํ ตสฺมึ ตสฺมึ สิกฺขาปเท นิทฺทิฏฺํ อนาปตฺตึ ปสฺสติ, โส ตํ สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.

โย หิ ภิกฺขุ จตุพฺพิธวินยโกวิโท ติลกฺขณสมฺปนฺโน อิมานิ ฉ านานิ โอโลเกตฺวา อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ, ตสฺส วินิจฺฉโย อปฺปฏิวตฺติโย พุทฺเธน สยํ นิสีทิตฺวา วินิจฺฉิตสทิโส โหติ. ตํ เจ เอวํ วินิจฺฉยกุสลํ ภิกฺขุํ โกจิ กตสิกฺขาปทวีติกฺกโม ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา อตฺตโน กุกฺกุจฺจํ ปุจฺเฉยฺย, เตน สาธุกํ สลฺลกฺเขตฺวา สเจ อนาปตฺติ โหติ, ‘‘อนาปตฺตี’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ปน อาปตฺติ โหติ, สา เทสนาคามินี เจ, ‘‘เทสนาคามินี’’ติ วตฺตพฺพํ. วุฏฺานคามินี เจ, ‘‘วุฏฺานคามินี’’ติ วตฺตพฺพํ. อถสฺส ปาราชิกจฺฉายา ทิสฺสติ, ‘‘ปาราชิกาปตฺตี’’ติ น วตฺตพฺพํ. กสฺมา? เมถุนธมฺมวีติกฺกโม หิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมวีติกฺกโม จ โอฬาริโก, อทินฺนาทานมนอุสฺสวิคฺคหวีติกฺกมา ปน สุขุมา จิตฺตลหุกา. เต สุขุเมเนว อาปชฺชติ, สุขุเมน รกฺขติ, ตสฺมา วิเสเสน ตํวตฺถุกํ กุกฺกุจฺจํ ปุจฺฉิยมาโน ‘‘อาปตฺตี’’ติ อวตฺวา สจสฺส อาจริโย ธรติ, ตโต เตน โส ภิกฺขุ ‘‘อมฺหากํ อาจริยํ ปุจฺฉา’’ติ เปเสตพฺโพ. สเจ โส ปุน อาคนฺตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ อาจริโย สุตฺตโต นยโต โอโลเกตฺวา ‘สเตกิจฺโฉ’ติ มํ อาหา’’ติ วทติ, ตโต เตน โส ‘‘สาธุ สุฏฺุ ยํ อาจริโย ภณติ, ตํ กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. อถ ปนสฺส อาจริโย นตฺถิ, สทฺธึ อุคฺคหิตตฺเถโร ปน อตฺถิ, ตสฺส สนฺติกํ เปเสตพฺโพ ‘‘อมฺเหหิ สห อุคฺคหิตตฺเถโร คณปาโมกฺโข, ตํ คนฺตฺวา ปุจฺฉา’’ติ. เตนปิ ‘‘สเตกิจฺโฉ’’ติ วินิจฺฉิเต ‘‘สาธุ สุฏฺุ ตสฺส วจนํ กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. อถ ตสฺส สทฺธึ อุคฺคหิตตฺเถโรปิ นตฺถิ, อนฺเตวาสิโก ปณฺฑิโต อตฺถิ, ตสฺส สนฺติกํ เปเสตพฺโพ ‘‘อสุกทหรํ คนฺตฺวา ปุจฺฉา’’ติ. เตนปิ ‘‘สเตกิจฺโฉ’’ติ วินิจฺฉิเต ‘‘สาธุ สุฏฺุ ตสฺส วจนํ กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. อถ ทหรสฺสปิ ปาราชิกจฺฉายาว อุปฏฺาติ, เตนปิ ‘‘ปาราชิโกสี’’ติ น วตฺตพฺโพ. ทุลฺลโภ หิ พุทฺธุปฺปาโท, ตโต ทุลฺลภตรา ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ. เอวํ ปน วตฺตพฺโพ ‘‘วิวิตฺตํ โอกาสํ สมฺมชฺชิตฺวา ทิวาวิหารํ นิสีทิตฺวา สีลานิ วิโสเธตฺวา ทฺวตฺตึสาการํ ตาว มนสิกโรหี’’ติ. สเจ ตสฺส อโรคํ สีลํ, กมฺมฏฺานํ ฆฏยติ, สงฺขารา ปากฏา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ, อุปจารปฺปนาปฺปตฺตํ วิย จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, ทิวสํ อติกฺกนฺตมฺปิ น ชานาติ, โส ทิวสาติกฺกเม อุปฏฺานํ อาคโต เอวํ วตฺตพฺโพ ‘‘กีทิสา เต จิตฺตปฺปวตฺตี’’ติ. อาโรจิตาย จ จิตฺตปวตฺติยา วตฺตพฺโพ ‘‘ปพฺพชฺชา นาม จิตฺตวิสุทฺธตฺถาย, อปฺปมตฺโต สมณธมฺมํ กโรหี’’ติ.

ยสฺส ปน สีลํ ภินฺนํ โหติ, ตสฺส กมฺมฏฺานํ น ฆฏยติ, ปโตทาภิตุนฺนํ วิย จิตฺตํ วิกมฺปติ, วิปฺปฏิสารคฺคินา ฑยฺหติ, ตตฺตปาสาเณ นิสินฺโน วิย ตงฺขเณเยว วุฏฺาติ. โส อาคโต ‘‘กา เต จิตฺตปวตฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ. อาโรจิตาย จิตฺตปวตฺติยา ‘‘นตฺถิ โลเก รโห นาม ปาปกมฺมํ ปกุพฺพโต. สพฺพปมฺหิ ปาปํ กโรนฺโต อตฺตนา ชานาติ. อถสฺส อารกฺขเทวตา ปรจิตฺตวิทู สมณพฺราหฺมณา อฺา จ เทวตา ชานนฺติ, ตฺวํเยว ทานิ ตว โสตฺถึ ปริเยสาหี’’ติ วตฺตพฺโพ. เอวํ กตวีติกฺกเมเนว ภิกฺขุนา สยเมว อาคนฺตฺวา อาโรจิเต ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

๒๓๕. อิทานิ ยา สา ปุพฺเพ วุตฺตปฺปเภทา โจทนา, ตสฺสาเยว สมฺปตฺติวิปตฺติชานนตฺถํ อาทิมชฺฌปริโยสานาทีนํ วเสน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. เสยฺยถิทํ, โจทนาย โก อาทิ, กึ มชฺเฌ, กึ ปริโยสานํ? โจทนาย ‘‘อหํ ตํ วตฺตุกาโม, กโรตุ เม อายสฺมา โอกาส’’นฺติ เอวํ โอกาสกมฺมํ อาทิ. โอติณฺเณน วตฺถุนา โจเทตฺวา สาเรตฺวา วินิจฺฉโย มชฺเฌ. อาปตฺติยํ วา อนาปตฺติยํ วา ปติฏฺาปเนน สมโถ ปริโยสานํ.

โจทนาย กติ มูลานิ, กติ วตฺถูนิ, กติ ภูมิโย? โจทนาย ทฺเว มูลานิ สมูลิกา วา อมูลิกา วา. ตีณิ วตฺถูนิ ทิฏฺํ สุตํ ปริสงฺกิตํ. ปฺจ ภูมิโย กาเลน วกฺขามิ, โน อกาเลน, ภูเตน วกฺขามิ, โน อภูเตน, สณฺเหน วกฺขามิ, โน ผรุเสน, อตฺถสํหิเตน วกฺขามิ, โน อนตฺถสํหิเตน, เมตฺตจิตฺโต วกฺขามิ, โน โทสนฺตโรติ. อิมาย จ ปน โจทนาย โจทเกน ปุคฺคเลน ‘‘ปริสุทฺธกายสมาจาโร นุ โขมฺหี’’ติอาทินา (ปริ. ๔๓๖) นเยน อุปาลิปฺจเกสุ วุตฺเตสุ ปนฺนรสสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาตพฺพํ. จุทิตเกน ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาตพฺพํ สจฺเจ จ อกุปฺเป จาติ.

อนุวิชฺชเกน (ปริ. ๓๖๐) จ โจทโก ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘ยํ โข ตฺวํ, อาวุโส, อิมํ ภิกฺขุํ โจเทสิ, กิมฺหิ นํ โจเทสิ, สีลวิปตฺติยา โจเทสิ, อาจารวิปตฺติยา โจเทสิ, ทิฏฺิวิปตฺติยา โจเทสี’’ติ. โส เจ เอวํ วเทยฺย ‘‘สีลวิปตฺติยา วา โจเทมิ, อาจารวิปตฺติยา วา โจเทมิ, ทิฏฺิวิปตฺติยา วา โจเทมี’’ติ. โส เอวมสฺส วจนีโย ‘‘ชานาสิ ปนายสฺมา สีลวิปตฺตึ, ชานาสิ อาจารวิปตฺตึ, ชานาสิ ทิฏฺิวิปตฺติ’’นฺติ. โส เจ เอวํ วเทยฺย ‘‘ชานามิ โข อหํ, อาวุโส, สีลวิปตฺตึ, ชานามิ อาจารวิปตฺตึ, ชานามิ ทิฏฺิวิปตฺติ’’นฺติ. โส เอวมสฺส วจนีโย ‘‘กตมา ปนาวุโส, สีลวิปตฺติ, กตมา อาจารวิปตฺติ, กตมา ทิฏฺิวิปตฺตี’’ติ? โส เจ เอวํ วเทยฺย ‘‘จตฺตาริ ปาราชิกานิ เตรส สงฺฆาทิเสสา, อยํ สีลวิปตฺติ. ถุลฺลจฺจยํ ปาจิตฺติยํ ปาฏิเทสนียํ ทุกฺกฏํ ทุพฺภาสิตํ, อยํ อาจารวิปตฺติ. มิจฺฉาทิฏฺิ อนฺตคฺคาหิกา ทิฏฺิ, อยํ ทิฏฺิวิปตฺตี’’ติ.

โส เอวมสฺส วจนีโย ‘‘ยํ โข ตฺวํ, อาวุโส, อิมํ ภิกฺขุํ โจเทสิ, ทิฏฺเน วา โจเทสิ, สุเตน วา โจเทสิ, ปริสงฺกาย วา โจเทสี’’ติ. โส เจ เอวํ วเทยฺย ‘‘ทิฏฺเน วา โจเทมิ, สุเตน วา โจเทมิ, ปริสงฺกาย วา โจเทมี’’ติ. โส เอวมสฺส วจนีโย ‘‘ยํ โข ตฺวํ, อาวุโส, อิมํ ภิกฺขุํ ทิฏฺเน โจเทสิ, กึ เต ทิฏฺํ, กินฺติ เต ทิฏฺํ, กทา เต ทิฏฺํ, กตฺถ เต ทิฏฺํ, ปาราชิกํ อชฺฌาปชฺชนฺโต ทิฏฺโ, สงฺฆาทิเสสํ อชฺฌาปชฺชนฺโต ทิฏฺโ, ถุลฺลจฺจยํ ปาจิตฺติยํ ปาฏิเทสนียํ ทุกฺกฏํ ทุพฺภาสิตํ อชฺฌาปชฺชนฺโต ทิฏฺโ, กตฺถ จายํ ภิกฺขุ อโหสิ, กตฺถ จ ตฺวํ กโรสิ, กิฺจ ตฺวํ กโรสิ, กึ อยํ ภิกฺขุ กโรตี’’ติ?

โส เจ เอวํ วเทยฺย ‘‘น โข อหํ, อาวุโส, อิมํ ภิกฺขุํ ทิฏฺเน โจเทมิ, อปิจ สุเตน โจเทมี’’ติ. โส เอวมสฺส วจนีโย ‘‘ยํ โข ตฺวํ, อาวุโส, อิมํ ภิกฺขุํ สุเตน โจเทสิ, กึ เต สุตํ, กินฺติ เต สุตํ, กทา เต สุตํ, กตฺถ เต สุตํ, ปาราชิกํ อชฺฌาปนฺโนติ สุตํ, สงฺฆาทิเสสํ อชฺฌาปนฺโนติ สุตํ, ถุลฺลจฺจยํ ปาจิตฺติยํ ปาฏิเทสนียํ ทุกฺกฏํ ทุพฺภาสิตํ อชฺฌาปนฺโนติ สุตํ, ภิกฺขุสฺส สุตํ, ภิกฺขุนิยา สุตํ, สิกฺขมานาย สุตํ, สามเณรสฺส สุตํ, สามเณริยา สุตํ, อุปาสกสฺส สุตํ, อุปาสิกาย สุตํ, ราชูนํ สุตํ, ราชมหามตฺตานํ สุตํ, ติตฺถิยานํ สุตํ, ติตฺถิยสาวกานํ สุต’’นฺติ.

โส เจ เอวํ วเทยฺย ‘‘น โข อหํ, อาวุโส, อิมํ ภิกฺขุํ สุเตน โจเทมิ, อปิจ ปริสงฺกาย โจเทมี’’ติ. โส เอวมสฺส วจนีโย ‘‘ยํ โข ตฺวํ, อาวุโส, อิมํ ภิกฺขุํ ปริสงฺกาย โจเทสิ, กึ ปริสงฺกสิ, กินฺติ ปริสงฺกสิ, กทา ปริสงฺกสิ, กตฺถ ปริสงฺกสิ? ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนติ ปริสงฺกสิ, สงฺฆาทิเสสํ ถุลฺลจฺจยํ ปาจิตฺติยํ ปาฏิเทสนียํ ทุกฺกฏํ ทุพฺภาสิตํ อชฺฌาปนฺโนติ ปริสงฺกสิ, ภิกฺขุสฺส สุตฺวา ปริสงฺกสิ, ภิกฺขุนิยา สุตฺวา…เป… ติตฺถิยสาวกานํ สุตฺวา ปริสงฺกสี’’ติ.

ทิฏฺํ ทิฏฺเน สเมติ, ทิฏฺเน สํสนฺทเต ทิฏฺํ;

ทิฏฺํ ปฏิจฺจ น อุเปติ, อสุทฺธปริสงฺกิโต;

โส ปุคฺคโล ปฏิฺาย, กาตพฺโพ เตนุโปสโถ.

สุตํ สุเตน สเมติ, สุเตน สํสนฺทเต สุตํ;

สุตํ ปฏิจฺจ น อุเปติ, อสุทฺธปริสงฺกิโต;

โส ปุคฺคโล ปฏิฺาย, กาตพฺโพ เตนุโปสโถ.

มุตํ มุเตน สเมติ, มุเตน สํสนฺทเต มุตํ;

มุตํ ปฏิจฺจ น อุเปติ, อสุทฺธปริสงฺกิโต;

โส ปุคฺคโล ปฏิฺาย, กาตพฺโพ เตนุโปสโถ.

ปฏิฺา ลชฺชีสุ กตา, อลชฺชีสุ เอวํ น วิชฺชติ;

พหุมฺปิ อลชฺชี ภาเสยฺย, วตฺตานุสนฺธิเตน การเยติ. (ปริ. ๓๕๙);

อปิเจตฺถ สงฺคามาวจเรน ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมนฺเตน นีจจิตฺเตน สงฺโฆ อุปสงฺกมิตพฺโพ รโชหรณสเมน จิตฺเตน, อาสนกุสเลน ภวิตพฺพํ นิสชฺชกุสเลน, เถเร ภิกฺขู อนุปขชฺชนฺเตน นเว ภิกฺขู อาสเนน อปฺปฏิพาหนฺเตน ยถาปติรูเป อาสเน นิสีทิตพฺพํ, อนานากถิเกน ภวิตพฺพํ อติรจฺฉานกถิเกน, สามํ วา ธมฺโม ภาสิตพฺโพ, ปโร วา อชฺเฌสิตพฺโพ, อริโย วา ตุณฺหีภาโว นาติมฺิตพฺโพ.

สงฺเฆน อนุมเตน ปุคฺคเลน อนุวิชฺชเกน อนุวิชฺชิตุกาเมน น อุปชฺฌาโย ปุจฺฉิตพฺโพ, น อาจริโย ปุจฺฉิตพฺโพ, น สทฺธิวิหาริโก ปุจฺฉิตพฺโพ, น อนฺเตวาสิโก ปุจฺฉิตพฺโพ, น สมานุปชฺฌายโก ปุจฺฉิตพฺโพ, น สมานาจริยโก ปุจฺฉิตพฺโพ, น ชาติ ปุจฺฉิตพฺพา, น นามํ ปุจฺฉิตพฺพํ, น โคตฺตํ ปุจฺฉิตพฺพํ, น อาคโม ปุจฺฉิตพฺโพ, น กุลปเทโส ปุจฺฉิตพฺโพ, น ชาติภูมิ ปุจฺฉิตพฺพา. ตํ กึการณา? อตฺรสฺส เปมํ วา โทโส วา, เปเม วา สติ โทเส วา ฉนฺทาปิ คจฺเฉยฺย โทสาปิ คจฺเฉยฺย โมหาปิ คจฺเฉยฺย ภยาปิ คจฺเฉยฺยาติ.

สงฺเฆน อนุมเตน ปุคฺคเลน อนุวิชฺชเกน อนุวิชฺชิตุกาเมน สงฺฆครุเกน ภวิตพฺพํ, โน ปุคฺคลครุเกน, สทฺธมฺมครุเกน ภวิตพฺพํ, โน อามิสครุเกน, อตฺถวสิเกน ภวิตพฺพํ, โน ปริสกปฺปิเกน, กาเลน อนุวิชฺชิตพฺพํ, โน อกาเลน, ภูเตน อนุวิชฺชิตพฺพํ, โน อภูเตน, สณฺเหน อนุวิชฺชิตพฺพํ, โน ผรุเสน, อตฺถสํหิเตน อนุวิชฺชิตพฺพํ, โน อนตฺถสํหิเตน, เมตฺตจิตฺเตน อนุวิชฺชิตพฺพํ, โน โทสนฺตเรน, น อุปกณฺณกชปฺปินา ภวิตพฺพํ, น ชิมฺหํ เปกฺขิตพฺพํ, น อกฺขิ นิขณิตพฺพํ, น ภมุกํ อุกฺขิปิตพฺพํ, น สีสํ อุกฺขิปิตพฺพํ, น หตฺถวิกาโร กาตพฺโพ, น หตฺถมุทฺทา ทสฺเสตพฺพา.

อาสนกุสเลน ภวิตพฺพํ นิสชฺชกุสเลน, ยุคมตฺตํ เปกฺขนฺเตน อตฺถํ อนุวิธิยนฺเตน สเก อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น จ อาสนา วุฏฺาตพฺพํ, น วีติหาตพฺพํ, น กุมฺมคฺโค เสวิตพฺโพ, น พาหาวิกฺเขปกํ ภณิตพฺพํ, อตุริเตน ภวิตพฺพํ อสาหสิเกน, อจณฺฑิกเตน ภวิตพฺพํ วจนกฺขเมน, เมตฺตจิตฺเตน ภวิตพฺพํ หิตานุกมฺปินา, การุณิเกน ภวิตพฺพํ หิตปริสกฺกินา, อสมฺผปฺปลาปินา ภวิตพฺพํ ปริยนฺตภาณินา, อเวรวสิเกน ภวิตพฺพํ อนสุรุตฺเตน, อตฺตา ปริคฺคเหตพฺโพ, ปโร ปริคฺคเหตพฺโพ, โจทโก ปริคฺคเหตพฺโพ, จุทิตโก ปริคฺคเหตพฺโพ, อธมฺมโจทโก ปริคฺคเหตพฺโพ, อธมฺมจุทิตโก ปริคฺคเหตพฺโพ, ธมฺมโจทโก ปริคฺคเหตพฺโพ, ธมฺมจุทิตโก ปริคฺคเหตพฺโพ, วุตฺตํ อหาเปนฺเตน อวุตฺตํ อปฺปกาเสนฺเตน โอติณฺณานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา ปโร ปริปุจฺฉิตฺวา ยถาปฏิฺาย กาเรตพฺโพ, มนฺโท หาเสตพฺโพ, ภีรุ อสฺสาเสตพฺโพ, จณฺโฑ นิเสเธตพฺโพ, อสุจิ วิภาเวตพฺโพ, อุชุมทฺทเวน น ฉนฺทาคติ คนฺตพฺพา, น โทสาคติ คนฺตพฺพา, น โมหาคติ คนฺตพฺพา, น ภยาคติ คนฺตพฺพา, มชฺฌตฺเตน ภวิตพฺพํ ธมฺเมสุ จ ปุคฺคเลสุ จ, เอวฺจ ปน อนุวิชฺชโก อนุวิชฺชมาโน สตฺถุ เจว สาสนกโร โหติ, วิฺูนฺจ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จาติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

โจทนาทิวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๓๒. ครุกาปตฺติวุฏฺานวินิจฺฉยกถา

๒๓๖. ครุกาปตฺติวุฏฺานนฺติ ปริวาสมานตฺตาทีหิ วินยกมฺเมหิ ครุกาปตฺติโต วุฏฺานํ. ตตฺถ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) ติวิโธ ปริวาโส ปฏิจฺฉนฺนปริวาโส สุทฺธนฺตปริวาโส สโมธานปริวาโสติ. เตสุ ปฏิจฺฉนฺนปริวาโส ตาว ยถาปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ทาตพฺโพ. กสฺสจิ หิ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนา อาปตฺติ โหติ, กสฺสจิ ทฺวีหปฺปฏิจฺฉนฺนา, กสฺสจิ เอกาปตฺติ โหติ, กสฺสจิ ทฺเว ติสฺโส ตตุตฺตริ วา. ตสฺมา ปฏิจฺฉนฺนปริวาสํ เทนฺเตน ปมํ ตาว ปฏิจฺฉนฺนภาโว ชานิตพฺโพ. อยฺหิ อาปตฺติ นาม ทสหากาเรหิ ปฏิจฺฉนฺนา โหติ.

ตตฺรายํ มาติกา – อาปตฺติ จ โหติ อาปตฺติสฺี จ, ปกตตฺโต จ โหติ ปกตตฺตสฺี จ, อนนฺตรายิโก จ โหติ อนนฺตรายิกสฺี จ, ปหุ จ โหติ ปหุสฺี จ, ฉาเทตุกาโม จ โหติ ฉาเทติ จาติ. ตตฺถ อาปตฺติ จ โหติ อาปตฺติสฺี จาติ ยํ อาปนฺโน, สา อาปตฺติเยว โหติ, โสปิ จ ตตฺถ อาปตฺติสฺีเยว. อิติ ชานนฺโต ฉาเทติ, ฉนฺนา โหติ, อถ ปนายํ ตตฺถ อนาปตฺติสฺี, อจฺฉนฺนา โหติ. อนาปตฺติ ปน อาปตฺติสฺายปิ อนาปตฺติสฺายปิ ฉาเทนฺเตน อจฺฉาทิตาว โหติ, ลหุกํ วา ครุกาติ ครุกํ วา ลหุกาติ ฉาเทติ, อลชฺชิปกฺเข ติฏฺติ, อาปตฺติ ปน อจฺฉนฺนา โหติ, ครุกํ ลหุกาติ มฺมาโน เทเสติ, เนว เทสิตา โหติ, น ฉนฺนา, ครุกํ วา ครุกาติ ตฺวา ฉาเทติ, ฉนฺนา โหติ, ครุกลหุกภาวํ น ชานาติ, อาปตฺตึ ฉาเทมีติ ฉาเทติ, ฉนฺนาว โหติ.

ปกตตฺโตติ ติวิธํ อุกฺเขปนียกมฺมํ อกโต. โส เจ ปกตตฺตสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, ฉนฺนา โหติ. อถ ‘‘มยฺหํ สงฺเฆน กมฺมํ กต’’นฺติ อปกตตฺตสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, อจฺฉนฺนา โหติ. อปกตตฺเตน ปน ปกตตฺตสฺินา วา อปกตตฺตสฺินา วา ฉาทิตาปิ อจฺฉนฺนาว โหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘อาปชฺชติ ครุกํ สาวเสสํ,

ฉาเทติ อนาทริยํ ปฏิจฺจ;

ภิกฺขุนี โน จ ผุเสยฺย วชฺชํ,

ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๘๑) –

อยฺหิ ปฺโห อุกฺขิตฺตเกน กถิโต.

อนนฺตรายิโกติ ยสฺส ทสสุ อนฺตราเยสุ เอโกปิ นตฺถิ, โส เจ อนนฺตรายิกสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, ฉนฺนา โหติ. สเจปิ โส ภีรุชาติกตาย อนฺธกาเร อมนุสฺสจณฺฑมิคภเยน อนฺตรายิกสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, อจฺฉนฺนาว โหติ. ยสฺสปิ ปพฺพตวิหาเร วสนฺตสฺส กนฺทรํ วา นทึ วา อติกฺกมิตฺวา อาโรเจตพฺพํ โหติ, อนฺตรามคฺเค จ จณฺฑวาฬอมนุสฺสาทิภยํ อตฺถิ, มคฺเค อชครา นิปชฺชนฺติ, นที ปูรา โหติ, เอตสฺมึ ปน สติเยว อนฺตราเย อนฺตรายิกสฺี ฉาเทติ, อจฺฉนฺนา โหติ. อนฺตรายิกสฺส ปน อนฺตรายิกสฺาย ฉาทยโต อจฺฉนฺนาว.

ปหูติ โส สกฺโกติ ภิกฺขุโน สนฺติกํ คนฺตุฺเจว อาโรเจตุฺจ, โส เจ ปหุสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, ฉนฺนา โหติ. สจสฺส มุเข อปฺปมตฺตโก คณฺโฑ วา โหติ, หนุกวาโต วา วิชฺฌติ, ทนฺโต วา รุชฺชติ, ภิกฺขา วา มนฺทา ลทฺธา โหติ, ตาวตเกน ปน เนว วตฺตุํ น สกฺโกติ, น คนฺตุํ, อปิจ โข ‘‘น สกฺโกมี’’ติ สฺี โหติ, อยํ ปหุ หุตฺวา อปฺปหุสฺี นาม. อิมินา ฉาทิตาปิ อจฺฉาทิตา. อปฺปหุนา ปน วตฺตุํ วา คนฺตุํ วา อสมตฺเถน ปหุสฺินา วา อปฺปหุสฺินา วา ฉาทิตา โหติ, อจฺฉาทิตาว.

ฉาเทตุกาโม จ โหติ ฉาเทติ จาติ อิทํ อุตฺตานตฺถเมว. สเจ ปน ‘‘ฉาเทสฺสามี’’ติ ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา ปุเรภตฺเต วา ปจฺฉาภตฺเต วา ปมยามาทีสุ วา ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกมิตฺวา อนฺโตอรุเณเยว อาโรเจติ, อยํ ฉาเทตุกาโม น ฉาเทติ นาม. ยสฺส ปน อภิกฺขุเก าเน วสนฺตสฺส อาปชฺชิตฺวา สภาคสฺส ภิกฺขุโน อาคมนํ อาคเมนฺตสฺส, สภาคสฺส สนฺติกํ วา คจฺฉนฺตสฺส อฑฺฒมาโสปิ มาโสปิ อติกฺกมติ, อยํ น ฉาเทตุกาโม ฉาเทติ นาม, อยมฺปิ อจฺฉนฺนาว โหติ. โย ปน อาปนฺนมตฺโตว อคฺคึ อกฺกนฺตปุริโส วิย สหสา ปกฺกมิตฺวา สภาคฏฺานํ คนฺตฺวา อาวิกโรติ, อยํ น ฉาเทตุกาโมว น ฉาเทติ นาม. สเจ ปน สภาคํ ทิสฺวาปิ ‘‘อยํ เม อุปชฺฌาโย วา อาจริโย วา’’ติ ลชฺชาย นาโรเจติ, ฉนฺนาว โหติ อาปตฺติ. อุปชฺฌายาทิภาโว หิ อิธ อปฺปมาณํ, อเวริสภาคมตฺตเมว ปมาณํ. ตสฺมา อเวริสภาคสฺส สนฺติเก อาโรเจตพฺพา. โย ปน วิสภาโค โหติ สุตฺวา ปกาเสตุกาโม, เอวรูปสฺส อุปชฺฌายสฺสปิ สนฺติเก น อาโรเจตพฺพา.

ตตฺถ ปุเรภตฺตํ วา อาปตฺตึ อาปนฺโน โหตุ ปจฺฉาภตฺตํ วา ทิวา วา รตฺตึ วา, ยาว อรุณํ น อุคฺคจฺฉติ, ตาว อาโรเจตพฺพํ. อุทฺธสฺเต อรุเณ ปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ปฏิจฺฉาทนปจฺจยา จ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ, สภาคสงฺฆาทิเสสํ อาปนฺนสฺส ปน สนฺติเก อาวิกาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ อาวิกโรติ, อาปตฺติ อาวิกตา โหติ, ทุกฺกฏา ปน น มุจฺจติ. ตสฺมา สุทฺธสฺส สนฺติเก อาวิกาตพฺพา. อาวิกโรนฺโต จ ‘‘ตุยฺหํ สนฺติเก เอกํ อาปตฺตึ อาวิกโรมี’’ติ วา ‘‘อาจิกฺขามี’’ติ วา อาโรเจมี’’ติ วา ‘‘มม เอกํ อาปตฺตึ อาปนฺนภาวํ ชานาหี’’ติ วา วทตุ, ‘‘เอกํ ครุกาปตฺตึ อาวิกโรมี’’ติอาทินา วา นเยน วทตุ, สพฺเพหิปิ อากาเรหิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาว โหตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. สเจ ปน ‘‘ลหุกาปตฺตึ อาวิกโรมี’’ติอาทินา นเยน วทติ, ปฏิจฺฉนฺนาว โหติ. วตฺถุํ อาโรเจติ, อาปตฺตึ อาโรเจติ, อุภยํ อาโรเจติ, ติวิเธนปิ อาโรจิตาว โหติ.

๒๓๗. อิติ อิมานิ ทส การณานิ อุปปริกฺขิตฺวา ปฏิจฺฉนฺนปริวาสํ เทนฺเตน ปมเมว ปฏิจฺฉนฺนภาโว ชานิตพฺโพ, ตโต ปฏิจฺฉนฺนทิวเส จ อาปตฺติโย จ สลฺลกฺเขตฺวา สเจ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ‘‘อหํ, ภนฺเต, เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ สฺเจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺน’’นฺติ เอวํ ยาจาเปตฺวา ขนฺธเก (จูฬว. ๙๘) อาคตนเยเนว กมฺมวาจํ วตฺวา ปริวาโส ทาตพฺโพ. อถ ทฺวีหตีหาทิปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ‘‘ทฺวีหปฺปฏิจฺฉนฺนํ, ตีหปฺปฏิจฺฉนฺนํ, จตูหปฺปฏิจฺฉนฺนํ, ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนํ…เป… จุทฺทสาหปฺปฏิจฺฉนฺน’’นฺติ เอวํ ยาว จุทฺทสทิวสานิ ทิวสวเสน โยชนา กาตพฺพา, ปฺจทสทิวสปฏิจฺฉนฺนาย ‘‘ปกฺขปฏิจฺฉนฺน’’นฺติ โยชนา กาตพฺพา. ตโต ยาว เอกูนตึสติโม ทิวโส, ตาว ‘‘อติเรกปกฺขปฏิจฺฉนฺน’’นฺติ, ตโต ‘‘มาสปฏิจฺฉนฺนํ, อติเรกมาสปฏิจฺฉนฺนํ, ทฺเวมาสปฏิจฺฉนฺนํ, อติเรกทฺเวมาสปฏิจฺฉนฺนํ, เตมาส…เป… อติเรกเอกาทสมาสปฏิจฺฉนฺน’’นฺติ เอวํ โยชนา กาตพฺพา. สํวจฺฉเร ปุณฺเณ ‘‘เอกสํวจฺฉรปฏิจฺฉนฺน’’นฺติ, ตโต ปรํ ‘‘อติเรกสํวจฺฉรํ, ทฺเวสํวจฺฉร’’นฺติ เอวํ ยาว ‘‘สฏฺิสํวจฺฉรํ, อติเรกสฏฺิสํวจฺฉรปฏิจฺฉนฺน’’นฺติ วา ตโต วา ภิยฺโยปิ วตฺวา โยชนา กาตพฺพา.

สเจ ปน ทฺเว ติสฺโส ตตุตฺตริ วา อาปตฺติโย โหนฺติ, ยถา ‘‘เอกํ อาปตฺติ’’นฺติ วุตฺตํ, เอวํ ‘‘ทฺเว อาปตฺติโย, ติสฺโส อาปตฺติโย’’ติ วตฺตพฺพํ. ตโต ปรํ ปน สตํ วา โหตุ สหสฺสํ วา, ‘‘สมฺพหุลา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. นานาวตฺถุกาสุปิ ‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ, เอกํ กายสํสคฺคํ, เอกํ ทุฏฺุลฺลวาจํ, เอกํ อตฺตกามํ, เอกํ สฺจริตฺตํ, เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย’’ติ เอวํ คณนวเสน วา ‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ นานาวตฺถุกา เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย’’ติ เอวํ วตฺถุกิตฺตนวเสน วา ‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย’’ติ เอวํ นามมตฺตวเสน วา โยชนา กาตพฺพา. ตตฺถ นามํ ทุวิธํ สชาติสาธารณํ สพฺพสาธารณฺจ. ตตฺถ สงฺฆาทิเสโสติ สชาติสาธารณํ. อาปตฺตีติ สพฺพสาธารณํ. ตสฺมา ‘‘สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย’’ติ เอวํ สพฺพสาธารณนามวเสนปิ วฏฺฏติ. อิทฺหิ ปริวาสาทิวินยกมฺมํ วตฺถุวเสน โคตฺตวเสน นามวเสน อาปตฺติวเสน จ กาตุํ วฏฺฏติเยว.

ตตฺถ สุกฺกวิสฺสฏฺีติ วตฺถุ เจว โคตฺตฺจ. สงฺฆาทิเสโสติ นามฺเจว อาปตฺติ จ. ตตฺถ ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺึ กายสํสคฺค’’นฺติอาทินา วจเนนปิ ‘‘นานาวตฺถุกาโย’’ติ วจเนนปิ วตฺถุ เจว โคตฺตฺจ คหิตํ โหติ. ‘‘สงฺฆาทิเสโส’’ติ วจเนนปิ ‘‘อาปตฺติโย’’ติ วจเนนปิ นามฺเจว อาปตฺติ จ คหิตา โหติ. ตสฺมา เอเตสุ ยสฺส กสฺสจิ วเสน กมฺมวาจา กาตพฺพา. อิธ ปน สพฺพาปตฺตีนํ สาธารณวเสน สมฺพหุลนเยเนว จ สพฺพตฺถ กมฺมวาจํ โยเชตฺวา ทสฺสยิสฺสาม. เอกฺหิ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ‘‘สมฺพหุลา’’ติ วินยกมฺมํ กโรนฺตสฺสปิ วุฏฺาติ เอกํ วินา สมฺพหุลานํ อภาวโต. สมฺพหุลา ปน อาปชฺชิตฺวา ‘‘เอกํ อาปชฺชิ’’นฺติ กโรนฺตสฺส น วุฏฺาติ, ตสฺมา สมฺพหุลนเยเนว โยชยิสฺสาม. เสยฺยถิทํ – ปฏิจฺฉนฺนปริวาสํ เทนฺเตน สเจ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนา อาปตฺติ โหติ.

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ ยาจามิ. อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ทุติยมฺปิ, ภนฺเต, สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ ยาจามิ. อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตติยมฺปิ, ภนฺเต, สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ ยาจามีติ –

เอวํ ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ ทเทยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ เทติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสสฺส ทานํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘ทินฺโน สงฺเฆน อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาโส, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ โย โย อาปนฺโน โหติ, ตสฺส ตสฺส นามํ คเหตฺวา กมฺมวาจา กาตพฺพา.

กมฺมวาจาปริโยสาเน จ เตน ภิกฺขุนา มาฬกสีมายเมว ‘‘ปริวาสํ สมาทิยามิ, วตฺตํ สมาทิยามี’’ติ วตฺตํ สมาทาตพฺพํ, สมาทิยิตฺวา ตตฺเถว สงฺฆสฺส อาโรเจตพฺพํ. อาโรเจนฺเตน จ –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวสามิ, เวทิยามหํ, ภนฺเต, เวทิยตีติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ –

เอวํ อาโรเจตพฺพํ. อิมฺจ อตฺถํ คเหตฺวา ยาย กายจิ วาจาย อาโรเจตุํ วฏฺฏติเยว.

อาโรเจตฺวา (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) สเจ นิกฺขิปิตุกาโม โหติ, ‘‘ปริวาสํ นิกฺขิปามิ, วตฺตํ นิกฺขิปามี’’ติ นิกฺขิปิตพฺพํ. เอกปเทนปิ เจตฺถ นิกฺขิตฺโต โหติ ปริวาโส, ทฺวีหิ ปน สุนิกฺขิตฺโตเยว. สมาทาเนปิ เอเสว นโย. นิกฺขิตฺตกาลโต ปฏฺาย ปกตตฺตฏฺาเน ติฏฺติ. มาฬกโต ภิกฺขูสุ นิกฺขนฺเตสุ เอกสฺสปิ สนฺติเก นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ, มาฬกโต นิกฺขมิตฺวา สตึ ปฏิลภนฺเตน สหคจฺฉนฺตสฺส สนฺติเก นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ โสปิ ปกฺกนฺโต, อฺสฺส ยสฺส มาฬเก นาโรจิตํ, ตสฺส อาโรเจตฺวา นิกฺขิปิตพฺพํ. อาโรเจนฺเตน จ อวสาเน ‘‘เวทิยตีติ มํ อายสฺมา ธาเรตู’’ติ วตฺตพฺพํ. ทฺวินฺนํ อาโรเจนฺเตน ‘‘อายสฺมนฺตา ธาเรนฺตู’’ติ, ติณฺณํ อาโรเจนฺเตน ‘‘อายสฺมนฺโต ธาเรนฺตู’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ อปฺปภิกฺขุโก วิหาโร โหติ, สภาคา ภิกฺขู วสนฺติ, วตฺตํ อนิกฺขิปิตฺวา วิหาเรเยว รตฺติปริคฺคโห กาตพฺโพ. อถ น สกฺกา โสเธตุํ, วุตฺตนเยเนว วตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺจูสสมเย เอเกน ภิกฺขุนา สทฺธึ ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขปโต, อปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขปารหฏฺานโต ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมิตฺวา มหามคฺคโต โอกฺกมฺม คุมฺเพน วา วติยา วา ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน นิสีทิตพฺพํ, อนฺโตอรุเณเยว วุตฺตนเยน วตฺตํ สมาทิยิตฺวา อาโรเจตพฺพํ. อาโรเจนฺเตน สเจ นวกตโร โหติ, ‘‘อาวุโส’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ วุฑฺฒตโร, ‘‘ภนฺเต’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ อฺโ โกจิ ภิกฺขุ เกนจิเทว กรณีเยน ตํ านํ อาคจฺฉติ, สเจ เอส ตํ ปสฺสติ, สทฺทํ วาสฺส สุณาติ, อาโรเจตพฺพํ, อนาโรเจนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโท เจว วตฺตเภโท จ. อถ ทฺวาทสหตฺถํ อุปจารํ โอกฺกมิตฺวา อชานนฺตสฺเสว คจฺฉติ, รตฺติจฺเฉโท โหติเยว, วตฺตเภโท ปน นตฺถิ, อุคฺคเต อรุเณ วตฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ โส ภิกฺขุ เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกนฺโต โหติ, ยํ อฺํ สพฺพปมํ ปสฺสติ, ตสฺส อาโรเจตฺวา นิกฺขิปิตพฺพํ. วิหารํ คนฺตฺวาปิ ยํ ปมํ ปสฺสติ, ตสฺส อาโรเจตฺวา นิกฺขิปิตพฺพํ. อยํ นิกฺขิตฺตวตฺตสฺส ปริหาโร.

๒๓๘. เอวํ ยตฺตกานิ ทิวสานิ อาปตฺติ ปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ตตฺตกานิ ตโต อธิกตรานิ วา กุกฺกุจฺจวิโนทนตฺถาย ปริวสิตฺวา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา วตฺตํ สมาทิยิตฺวา มานตฺตํ ยาจิตพฺพํ. อยฺหิ วตฺเต สมาทินฺเน เอว มานตฺตารโห โหติ นิกฺขิตฺตวตฺเตน ปริวุตฺถตฺตา. อนิกฺขิตฺตวตฺตสฺส ปน ปุน สมาทานกิจฺจํ นตฺถิ. โส หิ ปฏิจฺฉนฺนทิวสาติกฺกเมเนว มานตฺตารโห โหติ, ตสฺมา ตสฺส มานตฺตํ ทาตพฺพเมว. ตํ เทนฺเตน –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ อทาสิ, โสหํ, ภนฺเต, ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจามิ. อหํ, ภนฺเต…เป… โสหํ ปริวุตฺถปริวาโส, ทุติยมฺปิ, ภนฺเต, สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจามิ. อหํ, ภนฺเต…เป… โสหํ ปริวุตฺถปริวาโส, ตติยมฺปิ, ภนฺเต, สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจามี’’ติ –

เอวํ ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ทเทยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ เทติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตสฺส ทานํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘ทินฺนํ สงฺเฆน อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ กมฺมวาจา กาตพฺพา.

กมฺมวาจาปริโยสาเน จ เตน ภิกฺขุนา มาฬกสีมายเมว ‘‘มานตฺตํ สมาทิยามิ, วตฺตํ สมาทิยามี’’ติ วตฺตํ สมาทาตพฺพํ, สมาทิยิตฺวา ตตฺเถว สงฺฆสฺส อาโรเจตพฺพํ. อาโรเจนฺเตน จ –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โสหํ มานตฺตํ จรามิ, เวทิยามหํ ภนฺเต, เวทิยตีติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ –

เอวํ อาโรเจตพฺพํ. อิมฺจ ปน อตฺถํ คเหตฺวา ยาย กายจิ วาจาย อาโรเจตุํ วฏฺฏติเยว.

อาโรเจตฺวา สเจ นิกฺขิปิตุกาโม โหติ, ‘‘มานตฺตํ นิกฺขิปามิ, วตฺตํ นิกฺขิปามี’’ติ สงฺฆมชฺเฌ นิกฺขิปิตพฺพํ. มาฬกโต ภิกฺขูสุ นิกฺขนฺเตสุ เอกสฺสปิ สนฺติเก นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ. มาฬกโต นิกฺขมิตฺวา สตึ ปฏิลภนฺเตน สหคจฺฉนฺตสฺส สนฺติเก นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ โสปิ ปกฺกนฺโต, อฺสฺส ยสฺส มาฬเก นาโรจิตํ, ตสฺส อาโรเจตฺวา นิกฺขิปิตพฺพํ. อาโรเจนฺเตน ปน อวสาเน ‘‘เวทิยตีติ มํ อายสฺมา ธาเรตู’’ติ วตฺตพฺพํ. ทฺวินฺนํ อาโรเจนฺเตน ‘‘อายสฺมนฺตา ธาเรนฺตู’’ติ, ติณฺณํ อาโรเจนฺเตน ‘‘อายสฺมนฺโต ธาเรนฺตู’’ติ วตฺตพฺพํ. นิกฺขิตฺตกาลโต ปฏฺาย ปกตตฺตฏฺาเน ติฏฺติ. สเจ อปฺปภิกฺขุโก วิหาโร โหติ, สภาคา ภิกฺขู วสนฺติ, วตฺตํ อนิกฺขิปิตฺวา อนฺโตวิหาเรเยว รตฺติโย คเณตพฺพา. อถ น สกฺกา โสเธตุํ, วุตฺตนเยเนว วตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺจูสสมเย จตูหิ ปฺจหิ วา ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขปโต, อปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขปารหฏฺานโต ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมิตฺวา มหามคฺคโต โอกฺกมฺม คุมฺเพน วา วติยา วา ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน นิสีทิตพฺพํ, อนฺโตอรุเณเยว วุตฺตนเยน วตฺตํ สมาทิยิตฺวา อาโรเจตพฺพํ. สเจ อฺโ โกจิ ภิกฺขุ เกนจิเทว กรณีเยน ตํ านํ อาคจฺฉติ, สเจ เอส ตํ ปสฺสติ, สทฺทํ วาสฺส สุณาติ, อาโรเจตพฺพํ. อนาโรเจนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโท เจว วตฺตเภโท จ, อถ ทฺวาทสหตฺถํ อุปจารํ โอกฺกมิตฺวา อชานนฺตสฺเสว คจฺฉติ, รตฺติจฺเฉโท โหติ เอว, วตฺตเภโท ปน นตฺถิ. อาโรจิตกาลโต ปฏฺาย เอกํ ภิกฺขุํ เปตฺวา เสเสหิ สติ กรณีเย คนฺตุมฺปิ วฏฺฏติ, อรุเณ อุฏฺิเต ตสฺส ภิกฺขุสฺส สนฺติเก วตฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ โสปิ เกนจิ กมฺเมน ปุเร อรุเณเยว คจฺฉติ, อฺํ วิหารโต นิกฺขนฺตํ วา อาคนฺตุกํ วา ยํ ปมํ ปสฺสติ, ตสฺส สนฺติเก อาโรเจตฺวา วตฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. อยฺจ ยสฺมา คณสฺส อาโรเจตฺวา ภิกฺขูนฺจ อตฺถิภาวํ สลฺลกฺเขตฺวาว วสิ, เตนสฺส อูเน คเณ จรณโทโส วา วิปฺปวาโส วา น โหติ. สเจ น กฺจิ ปสฺสติ, วิหารํ คนฺตฺวาปิ ยํ ปมํ ปสฺสติ, ตสฺส อาโรเจตฺวา นิกฺขิปิตพฺพํ. อยํ นิกฺขิตฺตวตฺตสฺส ปริหาโร.

๒๓๙. เอวํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อขณฺฑํ จริตฺวา ยตฺถ สิยา วีสติคโณ ภิกฺขุสงฺโฆ, ตตฺถ โส ภิกฺขุ อพฺเภตพฺโพ. อพฺเภนฺเตหิ จ ปมํ อพฺภานารโห กาตพฺโพ. อยฺหิ นิกฺขิตฺตวตฺตตฺตา ปกตตฺตฏฺาเน ิโต, ปกตตฺตสฺส จ อพฺภานํ กาตุํ น วฏฺฏติ, ตสฺมา วตฺตํ สมาทาเปตพฺโพ, วตฺเต สมาทินฺเน อพฺภานารโห โหติ. เตนปิ วตฺตํ สมาทิยิตฺวา อาโรเจตฺวา อพฺภานํ ยาจิตพฺพํ. อนิกฺขิตฺตวตฺตสฺส ปุน วตฺตสมาทานกิจฺจํ นตฺถิ. โส หิ ฉารตฺตาติกฺกเมเนว อพฺภานารโห โหติ, ตสฺมา โส อพฺเภตพฺโพ. อพฺเภนฺเตน จ –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โสหํ, ภนฺเต, จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจามิ. อหํ, ภนฺเต…เป… โสหํ จิณฺณมานตฺโต ทุติยมฺปิ, ภนฺเต, สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจามิ. อหํ, ภนฺเต…เป… โสหํ จิณฺณมานตฺโต ตติยมฺปิ, ภนฺเต, สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจามี’’ติ –

เอวํ ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โส จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อพฺเภยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โส จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อพฺเภติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อพฺภานํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘อพฺภิโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ กมฺมวาจา กาตพฺพา.

เอวํ ตาว เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปฏิจฺฉนฺนปริวาโส มานตฺตทานํ อพฺภานฺจ เวทิตพฺพํ. อิมินาว นเยน ทฺวีหาทิปฏิจฺฉนฺนาสุปิ ตทนุรูปา กมฺมวาจา กาตพฺพา.

๒๔๐. สเจ ปน อปฺปฏิจฺฉนฺนา อาปตฺติ โหติ, ปริวาสํ อทตฺวา มานตฺตเมว ทตฺวา จิณฺณมานตฺโต อพฺเภตพฺโพ. กถํ? มานตฺตํ เทนฺเตน ตาว –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจามิ. อหํ, ภนฺเต…เป… ทุติยมฺปิ, ภนฺเต, สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจามิ. อหํ, ภนฺเต…เป… ตติยมฺปิ, ภนฺเต, สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจามี’’ติ –

ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ทเทยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ เทติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตสฺส ทานํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘ทินฺนํ สงฺเฆน อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ กมฺมวาจา กาตพฺพา.

กมฺมวาจาปริโยสาเน จ วตฺตสมาทานํ วตฺตนิกฺเขโป มานตฺตจรณฺจ สพฺพํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อาโรเจนฺเตน ปน –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โสหํ มานตฺตํ จรามิ, เวทิยามหํ, ภนฺเต, เวทิยตีติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ –

เอวํ อาโรเจตพฺพํ.

เอกสฺส ทฺวินฺนํ ติณฺณํ วา อาโรเจนฺเตน ปฏิจฺฉนฺนมานตฺเต วุตฺตนเยเนว อาโรเจตพฺพํ. จิณฺณมานตฺโต จ ยตฺถ สิยา วีสติคโณ ภิกฺขุสงฺโฆ, ตตฺถ โส อพฺเภตพฺโพ. อพฺเภนฺเตน จ –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โสหํ จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจามิ. อหํ, ภนฺเต…เป… โสหํ จิณฺณมานตฺโต ทุติยมฺปิ, ภนฺเต, สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจามิ. อหํ, ภนฺเต…เป… โสหํ จิณฺณมานตฺโต ตติยมฺปิ, ภนฺเต, สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจามี’’ติ –

เอวํ ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โส จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อพฺเภยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โส จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อพฺเภติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อพฺภานํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

อพฺภิโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ กมฺมวาจํ วตฺวา อพฺเภตพฺโพ. เอวํ อปฺปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา วุฏฺานํ เวทิตพฺพํ.

๒๔๑. สเจ กสฺสจิ เอกาปตฺติ ปฏิจฺฉนฺนา โหติ, เอกา อปฺปฏิจฺฉนฺนา, ตสฺส ปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวาสํ ทตฺวา ปริวุตฺถปริวาสสฺส มานตฺตํ เทนฺเตน อปฺปฏิจฺฉนฺนาปตฺตึ ปฏิจฺฉนฺนาปตฺติยา สโมธาเนตฺวาปิ ทาตุํ วฏฺฏติ. กถํ? สเจ ปฏิจฺฉนฺนาปตฺติ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนา โหติ –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวุตฺถปริวาโส, อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจามี’’ติ –

ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ทเทยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ เทติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตสฺส ทานํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘ทินฺนํ สงฺเฆน อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ กมฺมวาจา กาตพฺพา.

กมฺมวาจาปริโยสาเน จ วตฺตสมาทานาทิ สพฺพํ วุตฺตนยเมว. อาโรเจนฺเตน ปน –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวุตฺถปริวาโส, อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โสหํ มานตฺตํ จรามิ, เวทิยามหํ, ภนฺเต, เวทิยตีติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ –

เอวํ อาโรเจตพฺพํ.

สมาทินฺนมานตฺเตน จ อนูนํ กตฺวา วุตฺตนเยน ฉารตฺตํ มานตฺตํ จริตพฺพํ. จิณฺณมานตฺโต จ ยตฺถ สิยา วีสติคโณ ภิกฺขุสงฺโฆ, ตตฺถ โส อพฺเภตพฺโพ. อพฺเภนฺเตน จ –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวุตฺถปริวาโส, อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โสหํ, ภนฺเต, จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจามี’’ติ –

เอวํ ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนาฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โส จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อพฺเภยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ เอกาหปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โส จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อพฺเภติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อพฺภานํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘อพฺภิโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ กมฺมวาจํ กตฺวา อพฺเภตพฺโพ.

ปฏิจฺฉนฺนปริวาสกถา นิฏฺิตา.

๒๔๒. สุทฺธนฺตปริวาโส สโมธานปริวาโสติ ทฺเว อวเสสา. ตตฺถ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) สุทฺธนฺตปริวาโส ทุวิโธ จูฬสุทฺธนฺโต มหาสุทฺธนฺโตติ. ทุวิโธปิ เจส รตฺติปริจฺเฉทํ สกลํ วา เอกจฺจํ วา อชานนฺตสฺส จ อสฺสรนฺตสฺส จ ตตฺถ เวมติกสฺส จ ทาตพฺโพ. อาปตฺติปริยนฺตํ ปน ‘‘เอตฺตกา อหํ อาปตฺติโย อาปนฺโน’’ติ ชานาตุ วา มา วา, อการณเมตํ, ตตฺถ โย อุปสมฺปทโต ปฏฺาย อนุโลมกฺกเมน วา อาโรจิตทิวสโต ปฏฺาย ปฏิโลมกฺกเมน วา ‘‘อสุกฺจ อสุกฺจ ทิวสํ วา ปกฺขํ วา มาสํ วา สํวจฺฉรํ วา ตว สุทฺธภาวํ ชานาสี’’ติ ปุจฺฉิยมาโน ‘‘อาม, ภนฺเต, ชานามิ, เอตฺตกํ นาม กาลํ อหํ สุทฺโธ’’ติ วทติ, ตสฺส ทินฺโน สุทฺธนฺตปริวาโส จูฬสุทฺธนฺโตติ วุจฺจติ.

ตํ คเหตฺวา ปริวสนฺเตน ยตฺตกํ กาลํ อตฺตโน สุทฺธึ ชานาติ, ตตฺตกํ อปเนตฺวา อวเสสํ มาสํ วา ทฺเวมาสํ วา ปริวสิตพฺพํ. สเจ ‘‘มาสมตฺตํ อสุทฺโธมฺหี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา อคฺคเหสิ, ปริวสนฺโต จ ปุน อฺํ มาสํ สรติ, ตมฺปิ มาสํ ปริวสิตพฺพเมว, ปุน ปริวาสทานกิจฺจํ นตฺถิ. อถ ‘‘ทฺเวมาสํ อสุทฺโธมฺหี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา อคฺคเหสิ, ปริวสนฺโต จ ‘‘มาสมตฺตเมวาหํ อสุทฺโธมฺหี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กโรติ, มาสเมว ปริวสิตพฺพํ, ปุน ปริวาสทานกิจฺจํ นตฺถิ. อยฺหิ สุทฺธนฺตปริวาโส นาม อุทฺธมฺปิ อาโรหติ, เหฏฺาปิ โอโรหติ. อิทมสฺส ลกฺขณํ. อฺสฺมึ ปน อาปตฺติวุฏฺาเน อิทํ ลกฺขณํ – โย อปฺปฏิจฺฉนฺนํ อาปตฺตึ ‘‘ปฏิจฺฉนฺนา’’ติ วินยกมฺมํ กโรติ, ตสฺสาปตฺติ วุฏฺาติ. โย ปฏิจฺฉนฺนํ ‘‘อปฺปฏิจฺฉนฺนา’’ติ วินยกมฺมํ กโรติ, ตสฺส น วุฏฺาติ. อจิรปฏิจฺฉนฺนํ ‘‘จิรปฏิจฺฉนฺนา’’ติ กโรนฺตสฺสปิ วุฏฺาติ, จิรปฏิจฺฉนฺนํ ‘‘อจิรปฏิจฺฉนฺนา’’ติ กโรนฺตสฺส น วุฏฺาติ. เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ‘‘สมฺพหุลา’’ติ กโรนฺตสฺส วุฏฺาติ เอกํ วินา สมฺพหุลานํ อภาวโต. สมฺพหุลา ปน อาปชฺชิตฺวา ‘‘เอกํ อาปชฺชิ’’นฺติ กโรนฺตสฺส น วุฏฺาติ.

โย ปน ยถาวุตฺเตน อนุโลมปฏิโลมนเยน ปุจฺฉิยมาโนปิ รตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ นสฺสรติ, เวมติโก วา โหติ, ตสฺส ทินฺโน สุทฺธนฺตปริวาโส มหาสุทฺธนฺโตติ วุจฺจติ. ตํ คเหตฺวา คหิตทิวสโต ปฏฺาย ยาว อุปสมฺปททิวโส, ตาว รตฺติโย คเณตฺวา ปริวสิตพฺพํ, อยํ อุทฺธํ นาโรหติ, เหฏฺา ปน โอโรหติ. ตสฺมา สเจ ปริวสนฺโต รตฺติปริจฺเฉเท สนฺนิฏฺานํ กโรติ ‘‘มาโส วา สํวจฺฉโร วา มยฺหํ อาปนฺนสฺสา’’ติ, มาสํ วา สํวจฺฉรํ วา ปริวสิตพฺพํ.

ปริวาสยาจนทานลกฺขณํ ปเนตฺถ เอวํ เวทิตพฺพํ – เตน ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ, อาปตฺติปริยนฺตํ น ชานามิ, รตฺติปริยนฺตํ น ชานามิ, อาปตฺติปริยนฺตํ นสฺสรามิ, รตฺติปริยนฺตํ นสฺสรามิ, อาปตฺติปริยนฺเต เวมติโก, รตฺติปริยนฺเต เวมติโก, โสหํ สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สุทฺธนฺตปริวาสํ ยาจามี’’ติ.

ทุติยมฺปิ ยาจิตพฺโพ. ตติยมฺปิ ยาจิตพฺโพ.

พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิ, อาปตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, รตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, อาปตฺติปริยนฺตํ นสฺสรติ, รตฺติปริยนฺตํ นสฺสรติ, อาปตฺติปริยนฺเต เวมติโก, รตฺติปริยนฺเต เวมติโก, โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สุทฺธนฺตปริวาสํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ สุทฺธนฺตปริวาสํ ทเทยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิ, อาปตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, รตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, อาปตฺติปริยนฺตํ นสฺสรติ, รตฺติปริยนฺตํ นสฺสรติ, อาปตฺติปริยนฺเต เวมติโก, รตฺติปริยนฺเต เวมติโก, โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สุทฺธนฺตปริวาสํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ สุทฺธนฺตปริวาสํ เทติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ สุทฺธนฺตปริวาสสฺส ทานํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘ทินฺโน สงฺเฆน อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ. สุทฺธนฺตปริวาโส, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ สุทฺธนฺตปริวาโส ทาตพฺโพ.

กมฺมวาจาปริโยสาเน วตฺตสมาทานาทิ สพฺพํ วุตฺตนยเมว. อาโรเจนฺเตน ปน –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ, อาปตฺติปริยนฺตํ น ชานามิ, รตฺติปริยนฺตํ น ชานามิ, อาปตฺติปริยนฺตํ นสฺสรามิ, รตฺติปริยนฺตํ นสฺสรามิ, อาปตฺติปริยนฺเต เวมติโก, รตฺติปริยนฺเต เวมติโก, โสหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สุทฺธนฺตปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สุทฺธนฺตปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวสามิ, เวทิยามหํ, ภนฺเต, เวทิยตีติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ อาโรเจตพฺพํ.

เอกสฺส ทฺวินฺนํ วา ติณฺณํ วา อาโรจนํ วุตฺตนยเมว. ปริวุตฺถปริวาสสฺส มานตฺตํ เทนฺเตน –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ, อาปตฺติปริยนฺตํ น ชานามิ, รตฺติปริยนฺตํ น ชานามิ, อาปตฺติปริยนฺตํ นสฺสรามิ, รตฺติปริยนฺตํ นสฺสรามิ, อาปตฺติปริยนฺเต เวมติโก, รตฺติปริยนฺเต เวมติโก, โสหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สุทฺธนฺตปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สุทฺธนฺตปริวาสํ อทาสิ, โสหํ, ภนฺเต, ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มารตฺตํ ยาจามี’’ติ –

เอวํ ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิ, อาปตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, รตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, อาปตฺติปริยนฺตํ นสฺสรติ, รตฺติปริยนฺตํ นสฺสรติ, อาปตฺติปริยนฺเต เวมติโก, รตฺติปริยนฺเต เวมติโก, โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สุทฺธนฺตปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ สุทฺธนฺตปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ทเทยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิ, อาปตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, รตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, อาปตฺติปริยนฺตํ นสฺสรติ, รตฺติปริยนฺตํ นสฺสรติ, อาปตฺติปริยนฺเต เวมติโก, รตฺติปริยนฺเต เวมติโก, โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สุทฺธนฺตปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ สุทฺธนฺตปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ เทติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตสฺส ทานํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘ทินฺนํ สงฺเฆน อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ กมฺมวาจา กาตพฺพา.

กมฺมวาจาปริโยสาเน มานตฺตสมาทานาทิ สพฺพํ วุตฺตนยเมว. อาโรเจนฺเตน ปน –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ, อาปตฺติปริยนฺตํ น ชานามิ, รตฺติปริยนฺตํ น ชานามิ, อาปตฺติปริยนฺตํ นสฺสรามิ, รตฺติปริยนฺตํ นสฺสรามิ, อาปตฺติปริยนฺเต เวมติโก, รตฺติปริยนฺเต เวมติโก, โสหํ สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สุทฺธนฺตปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สุทฺธนฺตปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โสหํ มานตฺตํ จรามิ, เวทิยามหํ, ภนฺเต, เวทิยตีติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ –

เอวํ อาโรเจตพฺพํ.

จิณฺณมานตฺโต จ ยตฺถ สิยา วีสติคโณ ภิกฺขุสงฺโฆ, ตตฺถ โส ภิกฺขุ อพฺเภตพฺโพ. อพฺเภนฺเตน จ –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ, อาปตฺติปริยนฺตํ น ชานามิ, รตฺติปริยนฺตํ น ชานามิ, อาปตฺติปริยนฺตํ นสฺสรามิ, รตฺติปริยนฺตํ นสฺสรามิ, อาปตฺติปริยนฺเต เวมติโก, รตฺติปริยนฺเต เวมติโก, โสหํ สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สุทฺธนฺตปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สุทฺธนฺตปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โสหํ ภนฺเต จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจามี’’ติ –

เอวํ ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิ, อาปตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, รตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, อาปตฺติปริยนฺตํ นสฺสรติ, รตฺติปริยนฺตํ นสฺสรติ, อาปตฺติปริยนฺเต เวมติโก, รตฺติปริยนฺเต เวมติโก, โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สุทฺธนฺตปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ สุทฺธนฺตปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โส จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อพฺเภยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิ, อาปตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, รตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, อาปตฺติปริยนฺตํ นสฺสรติ, รตฺติปริยนฺตํ นสฺสรติ, อาปตฺติปริยนฺเต เวมติโก, รตฺติปริยนฺเต เวมติโก, โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สุทฺธนฺตปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ สุทฺธนฺตปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โส จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อพฺเภติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อพฺภานํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘อพฺภิโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ กมฺมวาจํ กตฺวา อพฺเภตพฺโพ.

สุทฺธนฺตปริวาสกถา นิฏฺิตา.

๒๔๓. สโมธานปริวาโส ปน ติวิโธ โหติ – โอธานสโมธาโน อคฺฆสโมธาโน มิสฺสกสโมธาโนติ. ตตฺถ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) โอธานสโมธาโน นาม อนฺตราปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ปฏิจฺฉาเทนฺตสฺส ปริวุตฺถทิวเส โอธุนิตฺวา มกฺเขตฺวา ปุริมาย อาปตฺติยา มูลทิวสปริจฺเฉเท ปจฺฉา อาปนฺนํ อาปตฺตึ สโมทหิตฺวา ทาตพฺพปริวาโส วุจฺจติ.

อยํ ปเนตฺถ วินิจฺฉโย – โย ปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวาสํ คเหตฺวา ปริวสนฺโต วา มานตฺตารโห วา มานตฺตํ จรนฺโต วา อพฺภานารโห วา อนิกฺขิตฺตวตฺโต อฺํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ปุริมาย อาปตฺติยา สมา วา อูนตรา วา รตฺติโย ปฏิจฺฉาเทติ, ตสฺส มูลายปฏิกสฺสเนน เต ปริวุตฺถทิวเส จ มานตฺตจิณฺณทิวเส จ สพฺเพ โอธุนิตฺวา อทิวเส กตฺวา ปจฺฉา อาปนฺนาปตฺตึ มูลอาปตฺติยํ สโมธาย ปริวาโส ทาตพฺโพ. เตน สเจ มูลาปตฺติ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนา, อนฺตราปตฺติ อูนกปกฺขปฏิจฺฉนฺนา, ปุน ปกฺขเมว ปริวาโส ปริวสิตพฺโพ. อถาปิ อนฺตราปตฺติ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาว, ปกฺขเมว ปริวสิตพฺพํ. เอเตนุปาเยน ยาว สฏฺิวสฺสปฏิจฺฉนฺนา มูลาปตฺติ, ตาว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. สฏฺิวสฺสานิปิ ปริวสิตฺวา มานตฺตารโห หุตฺวาปิ หิ เอกทิวสํ อนฺตราปตฺตึ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปุน สฏฺิวสฺสานิ ปริวาสารโห โหติ. เอวํ มานตฺตจาริกมานตฺตารหกาเลปิ อาปนฺนาย อาปตฺติยา มูลายปฏิกสฺสเน กเต มานตฺตจิณฺณทิวสาปิ ปริวาสวุตฺถทิวสาปิ สพฺเพ มกฺขิตาว โหนฺติ. สเจ ปน นิกฺขิตฺตวตฺโต อาปชฺชติ, มูลายปฏิกสฺสนารโห นาม น โหติ. กสฺมา? ยสฺมา น โส ปริวสนฺโต อาปนฺโน, ปกตตฺตฏฺาเน ิโต อาปนฺโน, ตสฺมา ตสฺสา อาปตฺติยา วิสุํ มานตฺตํ จริตพฺพํ. สเจ ปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ปริวาโสปิ วสิตพฺโพ.

‘‘สเจ ปน อนฺตราปตฺติ มูลาปตฺติโต อติเรกปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ตตฺถ กึ กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺเต มหาสุมตฺเถโร อาห ‘‘อเตกิจฺโฉ อยํ ปุคฺคโล, อเตกิจฺโฉ นาม อาวิการาเปตฺวา วิสฺสชฺเชตพฺโพ’’ติ. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห ‘‘กสฺมา อเตกิจฺโฉ นาม, นนุ อยํ สมุจฺจยกฺขนฺธโก นาม พุทฺธานํ ิตกาลสทิโส, อาปตฺติ นาม ปฏิจฺฉนฺนา วา โหตุ อปฺปฏิจฺฉนฺนา วา สมกอูนตรอติเรกปฏิจฺฉนฺนา วา, วินยธรสฺส กมฺมวาจํ โยเชตุํ สมตฺถภาโวเยเวตฺถ ปมาณํ, ตสฺมา ยา อติเรกปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ตํ มูลาปตฺตึ กตฺวา ตตฺถ อิตรํ สโมธาย ปริวาโส ทาตพฺโพ’’ติ. อยํ โอธานสโมธาโน นาม.

ตํ เทนฺเตน ปมํ มูลาย ปฏิกสฺสิตฺวา ปจฺฉา ปริวาโส ทาตพฺโพ. สเจ โกจิ ภิกฺขุ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวสนฺโต อนฺตรา อนิกฺขิตฺตวตฺโตว ปุน ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, เตน ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจามี’’ติ.

ทุติยมฺปิ ยาจิตพฺโพ. ตติยมฺปิ ยาจิตพฺโพ.

พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺเสยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนา, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘ปฏิกสฺสิโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนา, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ มูลายปฏิกสฺสนา กาตพฺพา.

เอวฺจ สโมธานปริวาโส ทาตพฺโพ. เตน ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา…เป… เอวมสฺส วจนีโย –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจึ, ตํ มํ สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โสหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาสํ ยาจามี’’ติ.

ทุติยมฺปิ ยาจิตพฺโพ. ตติยมฺปิ ยาจิตพฺโพ.

พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาสํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาสํ ทเทยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาสํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาสํ เทติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาสสฺส ทานํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘ทินฺโน สงฺเฆน อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาโส, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ สโมธานปริวาโส ทาตพฺโพ.

กมฺมวาจาปริโยสาเน จ วตฺตสมาทานาทิ สพฺพํ ปุพฺเพ วุตฺตนยเมว. อาโรเจนฺเตน ปน –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจึ, ตํ มํ สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โสหํ สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวสามิ, เวทิยามหํ, ภนฺเต, เวทิยตีติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ –

เอวํ อาโรเจตพฺพํ.

ปริวุตฺถปริวาสสฺส มานตฺตํ เทนฺเตน –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจึ, ตํ มํ สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โสหํ สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาสํ อทาสิ, โสหํ, ภนฺเต, ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจามี’’ติ –

เอวํ ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ทเทยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ เทติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตสฺส ทานํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘ทินฺนํ สงฺเฆน อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ กมฺมวาจา กาตพฺพา.

กมฺมวาจาปริโยสาเน จ มานตฺตสมาทานาทิ สพฺพํ วุตฺตนยเมว. อาโรเจนฺเตน ปน –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจึ, ตํ มํ สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โสหํ สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โสหํ มานตฺตํ จรามิ, เวทิยามหํ ภนฺเต, เวทิยตีติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ –

เอวํ อาโรเจตพฺพํ.

จิณฺณมานตฺตํ อพฺเภนฺเตน จ –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจึ, ตํ มํ สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โสหํ สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โสหํ, ภนฺเต, จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจามี’’ติ –

เอวํ ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โส จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อพฺเภยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ปุริมาสุ อาปตฺตีสุ สโมธานปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โส จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อพฺเภติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อพฺภานํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘อพฺภิโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ กมฺมวาจา กาตพฺพา.

สเจ มานตฺตารโห วา มานตฺตํ จรนฺโต วา อพฺภานารโห วา อนิกฺขิตฺตวตฺโต อนฺตราปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ปฏิจฺฉาเทติ, วุตฺตนเยเนว ปุริมาปตฺติยา อนฺตราปตฺติยา จ ทิวสปริจฺเฉทํ สลฺลกฺเขตฺวา ตทนุรูปาย กมฺมวาจาย มูลาย ปฏิกสฺสิตฺวา ปริวาสํ ทตฺวา ปริวุตฺถปริวาสสฺส มานตฺตํ ทตฺวา จิณฺณมานตฺโต อพฺเภตพฺโพ. สเจ ปน ปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวสนฺโต อนฺตราปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา น ปฏิจฺฉาเทติ, ตสฺส มูลายปฏิกสฺสนาเยว กาตพฺพา, ปุน ปริวาสทานกิจฺจํ นตฺถิ. มูลายปฏิกสฺสเนน ปน ปริวุตฺถทิวสานํ มกฺขิตตฺตา ปุน อาทิโต ปฏฺาย ปริวสิตพฺพํ. ปริวุตฺถปริวาสสฺส จ มูลาปตฺติยา อนฺตราปตฺตึ สโมธาเนตฺวา มานตฺตํ ทาตพฺพํ, จิณฺณมานตฺโต จ อพฺเภตพฺโพ. กถํ? มูลายปฏิกสฺสนํ กโรนฺเตน ตาว สเจ มูลาปตฺติ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนา โหติ,

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ อนฺตราสมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจามี’’ติ –

ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺเสยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนา, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘ปฏิกสฺสิโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ, อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสนา ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ กมฺมวาจา กาตพฺพา.

เอวํ มูลาย ปฏิกสฺสิเตน ปุน อาทิโต ปฏฺาย ปริวสิตพฺพํ. ปริวสนฺเตน จ –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ ปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจึ, ตํ มํ สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โสหํ ปริวสามิ, เวทิยามหํ, ภนฺเต, เวทิยตีติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ –

อาโรเจตพฺพํ.

ปริวุตฺถปริวาสสฺส มานตฺตํ เทนฺเตน –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจึ, ตํ มํ สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โสหํ, ภนฺเต, ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจามี’’ติ –

ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจิ, ตํ สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ทเทยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจิ, ตํ สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ เทติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตสฺส ทานํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘ทินฺนํ สงฺเฆน อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ กมฺมวาจา กาตพฺพา.

กมฺมวาจาปริโยสาเน มานตฺตสมาทานาทิ สพฺพํ วุตฺตนยเมว. อาโรเจนฺเตน ปน –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจึ, ตํ มํ สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โสหํ ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โสหํ มานตฺตํ จรามิ, เวทิยามหํ ภนฺเต, เวทิยตีติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ –

เอวํ อาโรเจตพฺพํ.

จิณฺณมานตฺตํ อพฺเภนฺเตน จ –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจึ, ตํ มํ สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โสหํ ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โสหํ ภนฺเต จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจามี’’ติ –

ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจิ, ตํ สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โส จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อพฺเภยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนานํ ปกฺขปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวสนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจิ, ตํ สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โส จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อพฺเภติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อพฺภานํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘อพฺภิโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ กมฺมวาจา กาตพฺพา.

อิมินาว นเยน มานตฺตารหมานตฺตจาริกอพฺภานารหกาเลสุปิ อนฺตราปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา อปฺปฏิจฺฉาเทนฺตสฺส มูลายปฏิกสฺสนเมว กตฺวา มูลาปตฺติยา อนฺตราปตฺตึ สโมธาเนตฺวา มานตฺตํ ทตฺวา จิณฺณมานตฺตสฺส อพฺภานํ กาตพฺพํ. เอตฺถ ปน ‘‘โสหํ ปริวสนฺโต’’ติ อาคตฏฺาเน ‘‘โสหํ ปริวุตฺถปริวาโส มานตฺตารโห’’ติ วา ‘‘โสหํ มานตฺตํ จรนฺโต’’ติ วา ‘‘โสหํ จิณฺณมานตฺโต อพฺภานารโห’’ติ วา วตฺตพฺพํ.

สเจ ปน อปฺปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา มานตฺตํ จรนฺโต อนฺตราปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา น ปฏิจฺฉาเทติ, โส มูลาย ปฏิกสฺสิตฺวา อนฺตราปตฺติยา ปุน มานตฺตํ ทตฺวา จิณฺณมานตฺโต อพฺเภตพฺโพ. กถํ? มูลายปฏิกสฺสนํ กโรนฺเตน ตาว –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โสหํ มานตฺตํ จรนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจามี’’ติ –

ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โส มานตฺตํ จรนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺเสยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โส มานตฺตํ จรนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนา, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘ปฏิกสฺสิโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ, อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนา ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ กมฺมวาจา กาตพฺพา.

เอวํ มูลาย ปฏิกสฺสิตฺวา มานตฺตํ เทนฺเตน –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โสหํ มานตฺตํ จรนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจึ, ตํ มํ สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โสหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจามี’’ติ –

ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โส มานตฺตํ จรนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจิ, ตํ สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ทเทยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โส มานตฺตํ จรนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจิ, ตํ สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ เทติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตสฺส ทานํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘ทินฺนํ สงฺเฆน อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ กมฺมวาจา กาตพฺพา.

กมฺมวาจาปริโยสาเน มานตฺตสมาทานาทิ สพฺพํ วุตฺตนยเมว. อาโรเจนฺเตน ปน –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โสหํ มานตฺตํ จรนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตํ มํ สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โสหํ สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โสหํ มานตฺตํ จรามิ, เวทิยามหํ, ภนฺเต, เวทิยตีติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ –

เอวํ อาโรเจตพฺพํ.

จิณฺณมานตฺตํ อพฺเภนฺเตน จ –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โสหํ มานตฺตํ จรนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจึ, ตํ มํ สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โสหํ สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โสหํ, ภนฺเต, จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจามี’’ติ –

ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โส มานตฺตํ จรนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจิ, ตํ สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โส จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อพฺเภยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โส มานตฺตํ จรนฺโต อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลายปฏิกสฺสนํ ยาจิ, ตํ สงฺโฆ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ มูลาย ปฏิกสฺสิ, โส สงฺฆํ อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อนฺตรา สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โส จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อพฺเภติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อพฺภานํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘อพฺภิโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ กมฺมวาจํ กตฺวา อพฺเภตพฺโพ.

อพฺภานารหกาเลปิ อนฺตราปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา อปฺปฏิจฺฉาเทนฺตสฺส อิมินาว นเยน มูลายปฏิกสฺสนา มานตฺตทานํ อพฺภานฺจ เวทิตพฺพํ. เกวลํ ปเนตฺถ ‘‘มานตฺตํ จรนฺโต’’ติ อวตฺวา ‘‘จิณฺณมานตฺโต อพฺภานารโห’’ติ วตฺตพฺพํ.

โอธานสโมธานปริวาสกถา นิฏฺิตา.

๒๔๔. อคฺฆสโมธาโน (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) นาม สมฺพหุลาสุ อาปตฺตีสุ ยา เอกา วา ทฺเว วา ติสฺโส วา สมฺพหุลา วา อาปตฺติโย สพฺพจิรปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธาย ตาสํ รตฺติปริจฺเฉทวเสน อวเสสานํ อูนตรปฏิจฺฉนฺนานํ อาปตฺตีนํ ปริวาโส ทียติ, อยํ วุจฺจติ อคฺฆสโมธาโน. ยสฺส ปน สตํ อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนา, อปรมฺปิ สตํ อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาติ เอวํ ทสกฺขตฺตุํ กตฺวา อาปตฺติสหสฺสํ ทิวสสตํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, เตน กึ กาตพฺพนฺติ? สพฺพา สโมทหิตฺวา ทส ทิวเส ปริวสิตพฺพํ. เอวํ เอเกเนว ทสาเหน ทิวสสตมฺปิ ปริวสิตพฺพเมว โหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ทสสตํ รตฺติสตํ, อาปตฺติโย ฉาทยิตฺวาน;

ทส รตฺติโย วสิตฺวาน, มุจฺเจยฺย ปาริวาสิโก’’ติ. (ปริ. ๔๗๗);

อยํ อคฺฆสโมธาโน นาม.

ตสฺส อาโรจนทานลกฺขณํ เอวํ เวทิตพฺพํ – สเจ กสฺสจิ ภิกฺขุโน เอกา อาปตฺติ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนา โหติ, เอกา อาปตฺติ ทฺวีหปฺปฏิจฺฉนฺนา, เอกา ตีหปฏิจฺฉนฺนา, เอกา จตูหปฺปฏิจฺฉนฺนา, เอกา ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนา, เอกา ฉาหปฺปฏิจฺฉนฺนา, เอกา สตฺตาหปฺปฏิจฺฉนฺนา, เอกา อฏฺาหปฺปฏิจฺฉนฺนา, เอกา นวาหปฺปฏิจฺฉนฺนา, เอกา ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนา โหติ, เตน ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา…เป… เอวมสฺส วจนีโย –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ สมฺพหุลา อาปตฺติโย เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย สมฺพหุลา อาปตฺติโย ทฺวีหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย…เป… สมฺพหุลา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาสํ ยาจามี’’ติ.

ทุติยมฺปิ ยาจิตพฺโพ. ตติยมฺปิ ยาจิตพฺโพ.

พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิ สมฺพหุลา อาปตฺติโย เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย…เป… สมฺพหุลา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาสํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาสํ ทเทยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิ สมฺพหุลา อาปตฺติโย เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย…เป… สมฺพหุลา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาสํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาสํ เทติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาสสฺส ทานํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘ทินฺโน สงฺเฆน อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาโส, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ กมฺมวาจา กาตพฺพา.

กมฺมวาจาปริโยสาเน วตฺตสมาทานาทิ สพฺพํ วุตฺตนยเมว. อาโรเจนฺเตน ปน –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ สมฺพหุลา อาปตฺติโย เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย…เป… สมฺพหุลา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวสามิ, เวทิยามหํ, ภนฺเต, เวทิยตีติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ –

เอวํ อาโรเจตพฺพํ.

ปริวุตฺถปริวาสสฺส มานตฺตํ เทนฺเตน –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ สมฺพหุลา อาปตฺติโย เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย…เป… สมฺพหุลา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาสํ อทาสิ, โสหํ, ภนฺเต, ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจามี’’ติ –

ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิ สมฺพหุลา อาปตฺติโย เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย…เป… สมฺพหุลา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ทเทยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิ สมฺพหุลา อาปตฺติโย เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย…เป… สมฺพหุลา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ เทติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตสฺส ทานํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘ทินฺนํ สงฺเฆน อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ กมฺมวาจา กาตพฺพา.

กมฺมวาจาปริโยสาเน จ มานตฺตสมาทานาทิ สพฺพํ วุตฺตนยเมว. อาโรเจนฺเตน ปน –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ สมฺพหุลา อาปตฺติโย เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย…เป… สมฺพหุลา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โสหํ มานตฺตํ จรามิ, เวทิยามหํ, ภนฺเต, เวทิยตีติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ อาโรเจตพฺพํ.

จิณฺณมานตฺโต อพฺเภตพฺโพ. อพฺเภนฺเตน จ –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ สมฺพหุลา อาปตฺติโย เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย…เป… สมฺพหุลา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โสหํ สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โสหํ, ภนฺเต, จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจามี’’ติ –

ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิ สมฺพหุลา อาปตฺติโย เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย…เป… สมฺพหุลา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โส จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อพฺเภยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิ สมฺพหุลา อาปตฺติโย เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย…เป… สมฺพหุลา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาสํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ ยา อาปตฺติโย ทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธานปริวาสํ อทาสิ, โส ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ตาสํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ, โส จิณฺณมานตฺโต สงฺฆํ อพฺภานํ ยาจติ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ อพฺเภติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อพฺภานํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘อพฺภิโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ –

เอวํ กมฺมวาจํ กตฺวา อพฺเภตพฺโพ.

อคฺฆสโมธานปริวาสกถา นิฏฺิตา.

๒๔๕. มิสฺสกสโมธาโน (จุฬว. อฏฺ. ๑๐๒) นาม – โย นานาวตฺถุกา อาปตฺติโย เอกโต กตฺวา ทียติ. ตตฺรายํ นโย –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ, เอกํ กายสํสคฺคํ, เอกํ ทุฏฺุลฺลวาจํ, เอกํ อตฺตกามํ, เอกํ สฺจริตฺตํ, เอกํ กุฏิการํ, เอกํ วิหารการํ, เอกํ ทุฏฺโทสํ, เอกํ อฺภาคิยํ, เอกํ สงฺฆเภทกํ, เอกํ สงฺฆเภทานุวตฺตกํ, เอกํ ทุพฺพจํ, เอกํ กุลทูสกํ, โสหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจามี’’ติ –

ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา ตทนุรูปาย กมฺมวาจาย ปริวาโส ทาตพฺโพ.

เอตฺถ จ ‘‘สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิ นานาวตฺถุกาโย’’ติปิ ‘‘สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิ’’อิติปิ เอวํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน วตฺถุวเสนปิ โคตฺตวเสนปิ นามวเสนปิ อาปตฺติวเสนปิ โยเชตฺวา กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติเยว, ตสฺมา น อิธ วิสุํ กมฺมวาจํ โยเชตฺวา ทสฺสยิสฺสาม ปุพฺเพ สพฺพาปตฺติสาธารณํ กตฺวา โยเชตฺวา ทสฺสิตาย เอว กมฺมวาจาย นานาวตฺถุกาหิปิ อาปตฺตีหิ วุฏฺานสมฺภวโต สาเยเวตฺถ กมฺมวาจา อลนฺติ.

มิสฺสกสโมธานปริวาสกถา นิฏฺิตา.

๒๔๖. สเจ โกจิ ภิกฺขุ ปริวสนฺโต วิพฺภมติ, สามเณโร วา โหติ, วิพฺภมนฺตสฺส สามเณรสฺส จ ปริวาโส น รุหติ. โส เจ ปุน อุปสมฺปชฺชติ, ตสฺส ตเทว ปุริมํ ปริวาสทานํ, โย ปริวาโส ทินฺโน, สุทินฺโน, โย ปริวุตฺโถ, สุปริวุตฺโถ, อวเสโส ปริวสิตพฺโพ. สเจปิ มานตฺตารโห มานตฺตํ จรนฺโต อพฺภานารโห วา วิพฺภมติ, สามเณโร วา โหติ, โส เจ ปุน อุปสมฺปชฺชติ, ตสฺส ตเทว ปุริมํ ปริวาสทานํ, โย ปริวาโส ทินฺโน, สุทินฺโน, โย ปริวุตฺโถ, สุปริวุตฺโถ, ยํ มานตฺตํ ทินฺนํ, สุทินฺนํ, ยํ มานตฺตํ จิณฺณํ, ตํ สุจิณฺณํ, โส ภิกฺขุ อพฺเภตพฺโพ.

สเจ โกจิ ภิกฺขุ ปริวสนฺโต อุมฺมตฺตโก โหติ ขิตฺตจิตฺโต เวทนาฏฺโฏ, อุมฺมตฺตกสฺส ขิตฺตจิตฺตสฺส เวทนาฏฺฏสฺส จ ปริวาโส น รุหติ. โส เจ ปุน อนุมฺมตฺตโก โหติ อขิตฺตจิตฺโต อเวทนาฏฺโฏ, ตเทว ปุริมํ ปริวาสทานํ, โย ปริวาโส ทินฺโน, สุทินฺโน, โย ปริวุตฺโถ, สุปริวุตฺโถ, อวเสโส ปริวสิตพฺโพ. มานตฺตารหาทีสุปิ เอเสว นโย.

สเจ โกจิ ปริวสนฺโต อุกฺขิตฺตโก โหติ, อุกฺขิตฺตกสฺส ปริวาโส น รุหติ. สเจ ปุน โอสารียติ, ตสฺส ตเทว ปุริมํ ปริวาสทานํ, โย ปริวาโส ทินฺโน, สุทินฺโน, โย ปริวุตฺโถ, สุปริวุตฺโถ, อวเสโส ปริวสิตพฺโพ. มานตฺตารหาทีสุปิ เอเสว นโย.

สเจ กสฺสจิ ภิกฺขุโน อิตฺถิลิงฺคํ ปาตุภวติ, ตสฺส สาเยว อุปชฺฌา, สาเยว อุปสมฺปทา, ปุน อุปชฺฌา น คเหตพฺพา, อุปสมฺปทา จ น กาตพฺพา, ภิกฺขุอุปสมฺปทโต ปภุติ ยาว วสฺสคณนา, สาเยว วสฺสคณนา, น อิโต ปฏฺาย วสฺสคณนา กาตพฺพา. อปฺปติรูปํ ทานิสฺสา ภิกฺขูนํ มชฺเฌ วสิตุํ, ตสฺมา ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ วสิตพฺพํ. ยา เทสนาคามินิโย วา วุฏฺานคามินิโย วา อาปตฺติโย ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีหิ สาธารณา, ตาสํ ภิกฺขุนีหิ กาตพฺพํ, วินยกมฺมเมว ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก กาตพฺพํ. ยา ปน ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีหิ อสาธารณา สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทิกา อาปตฺติโย, ตาหิ อาปตฺตีหิ อนาปตฺติ, ลิงฺเค ปริวตฺเต ตา อาปตฺติโย วุฏฺิตาว โหนฺติ, ปุน ปกติลิงฺเค อุปฺปนฺเนปิ ตาหิ อาปตฺตีหิ ตสฺส อนาปตฺติเยว. ภิกฺขุนิยา ปุริสลิงฺเค ปาตุภูเตปิ เอเสว นโย. วุตฺตฺเจตํ –

‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส ภิกฺขุโน อิตฺถิลิงฺคํ ปาตุภูตํ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ ภิกฺขเว ตํเยว อุปชฺฌํ, ตํเยว อุปสมฺปทํ, ตานิเยว วสฺสานิ ภิกฺขุนีหิ สงฺคมิตุํ, ยา อาปตฺติโย ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีหิ สาธารณา, ตา อาปตฺติโย ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก วุฏฺาตุํ. ยา อาปตฺติโย ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีหิ อสาธารณา, ตาหิ อาปตฺตีหิ อนาปตฺติ.

‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตริสฺสา ภิกฺขุนิยา ปุริสลิงฺคํ ปาตุภูตํ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ ภิกฺขเว ตํเยว อุปชฺฌํ, ตํเยว อุปสมฺปทํ, ตานิเยว วสฺสานิ ภิกฺขูหิ สงฺคมิตุํ, ยา อาปตฺติโย ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูหิ สาธารณา, ตา อาปตฺติโย ภิกฺขูนํ สนฺติเก วุฏฺาตุํ. ยา อาปตฺติโย ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูหิ อสาธารณา, ตาหิ อาปตฺตีหิ อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. ๖๙).

๒๔๗. อยํ ปเนตฺถ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๑.๖๙) – อิเมสุ ทฺวีสุ ลิงฺเคสุ ปุริสลิงฺคํ อุตฺตมํ, อิตฺถิลิงฺคํ หีนํ, ตสฺมา ปุริสลิงฺคํ พลวอกุสเลน อนฺตรธายติ, อิตฺถิลิงฺคํ ทุพฺพลกุสเลน ปติฏฺาติ. อิตฺถิลิงฺคํ ปน อนฺตรธายนฺตํ ทุพฺพลอกุสเลน อนฺตรธายติ, ปุริสลิงฺคํ พลวกุสเลน ปติฏฺาติ. เอวํ อุภยมฺปิ อกุสเลน อนฺตรธายติ, กุสเลน ปฏิลพฺภติ.

ตตฺถ สเจ ทฺวินฺนํ ภิกฺขูนํ เอกโต สชฺฌายํ วา ธมฺมสากจฺฉํ วา กตฺวา เอกาคาเร นิปชฺชิตฺวา นิทฺทํ โอกฺกนฺตานํ เอกสฺส อิตฺถิลิงฺคํ ปาตุภวติ, อุภินฺนมฺปิ สหเสยฺยาปตฺติ โหติ. โส เจ ปฏิพุชฺฌิตฺวา อตฺตโน วิปฺปการํ ทิสฺวา ทุกฺขี ทุมฺมโน รตฺติภาเคเยว อิตรสฺส อาโรเจยฺย, เตน สมสฺสาเสตพฺโพ ‘‘โหตุ มา จินฺตยิตฺถ, วฏฺฏสฺเสเวโส โทโส, สมฺมาสมฺพุทฺเธน ทฺวารํ ทินฺนํ, ภิกฺขุ วา โหตุ ภิกฺขุนี วา, อนาวโฏ ธมฺโม, อวาริโต สคฺคมคฺโค’’ติ. สมสฺสาเสตฺวา เอวํ วตฺตพฺพํ ‘‘ตุมฺเหหิ ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตุํ วฏฺฏติ, อตฺถิ ปน เต กาจิ สนฺทิฏฺา ภิกฺขุนิโย’’ติ. สจสฺสา โหนฺติ ตาทิสา ภิกฺขุนิโย, ‘‘อตฺถี’’ติ, โน เจ โหนฺติ, ‘‘นตฺถี’’ติ วตฺวา โส ภิกฺขุ วตฺตพฺโพ ‘‘มม สงฺคหํ กโรถ, อิทานิ มํ ปมํ ภิกฺขุนุปสฺสยํ เนถา’’ติ. เตน ภิกฺขุนา ตํ คเหตฺวา ตสฺสา วา สนฺทิฏฺานํ อตฺตโน วา สนฺทิฏฺานํ ภิกฺขุนีนํ สนฺติกํ คนฺตพฺพํ. คจฺฉนฺเตน จ น เอกเกน คนฺตพฺพํ, จตูหิ ปฺจหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ โชติกฺจ กตฺตรทณฺฑกฺจ คเหตฺวา สํวิทหนํ ปริโมเจตฺวา ‘‘มยํ อสุกํ นาม านํ คจฺฉามา’’ติ คนฺตพฺพํ. สเจ พหิคาเม ทูเร วิหาโร โหติ, อนฺตรามคฺเค คามนฺตรนทีปารรตฺติวิปฺปวาสคณโอหียนาปตฺตีหิ อนาปตฺติ. ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ตา ภิกฺขุนิโย วตฺตพฺพา ‘‘อสุกํ นาม ภิกฺขุํ ชานาถา’’ติ? ‘‘อาม, อยฺยา’’ติ. ตสฺส อิตฺถิลิงฺคํ ปาตุภูตํ, สงฺคหํ ทานิสฺสา กโรถาติ. ตา เจ ‘‘สาธุ อยฺยา, อิทานิ มยมฺปิ สชฺฌายิสฺสาม, ธมฺมํ โสสฺสาม, คจฺฉถ ตุมฺเห’’ติ วตฺวา สงฺคหํ กโรนฺติ, อาราธิกา จ โหนฺติ สงฺคาหิกา ลชฺชินิโย, ตา โกเปตฺวา อฺตฺถ น คนฺตพฺพํ. คจฺฉติ เจ, คามนฺตรนทีปารรตฺติวิปฺปวาสคณโอหียนาปตฺตีหิ น มุจฺจติ.

สเจ ปน ลชฺชินิโย โหนฺติ, น สงฺคาหิกาโย, อฺตฺถ คนฺตุํ ลพฺภติ. สเจปิ อลชฺชินิโย โหนฺติ, สงฺคหํ ปน กโรนฺติ, ตาปิ ปริจฺจชิตฺวา อฺตฺถ คนฺตุํ ลพฺภติ. สเจ ลชฺชินิโย จ สงฺคาหิกา จ, าติกา น โหนฺติ, อาสนฺนคาเม ปน อฺา าติกา โหนฺติ ปฏิชคฺคนิกา, ตาสมฺปิ สนฺติกํ คนฺตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. คนฺตฺวา สเจ ภิกฺขุภาเวปิ นิสฺสยปฏิปนฺโน, ปติรูปาย ภิกฺขุนิยา สนฺติเก นิสฺสโย คเหตพฺโพ, มาติกา วา วินโย วา อุคฺคหิโต สุคฺคหิโต, ปุน อุคฺคณฺหนการณํ นตฺถิ. สเจ ภิกฺขุภาเวปิ ปริสาวจโร, ตสฺส สนฺติเกเยว อุปสมฺปนฺนา สูปสมฺปนฺนา, อฺสฺส สนฺติเก นิสฺสโย คเหตพฺโพ. ปุพฺเพ ตํ นิสฺสาย วสนฺเตหิปิ อฺสฺส สนฺติเก นิสฺสโย คเหตพฺโพ. ปริปุณฺณวสฺสสามเณเรนปิ อฺสฺส สนฺติเก อุปชฺฌา คเหตพฺพา.

ยํ ปนสฺส ภิกฺขุภาเว อธิฏฺิตํ ติจีวรฺจ ปตฺโต จ, ตํ อธิฏฺานํ วิชหติ, ปุน อธิฏฺาตพฺพํ. สงฺกจฺจิกา จ อุทกสาฏิกา จ คเหตพฺพา. ยํ อติเรกจีวรํ วา อติเรกปตฺโต วา วินยกมฺมํ กตฺวา ปิโต โหติ, ตมฺปิ สพฺพํ วินยกมฺมํ วิชหติ, ปุน กาตพฺพํ. ปฏิคฺคหิตเตลมธุผาณิตาทีนิปิ ปฏิคฺคหณํ วิชหนฺติ. สเจ ปฏิคฺคหณโต สตฺตเม ทิวเส ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ วฏฺฏติ. ยํ ปน ภิกฺขุกาเล อฺสฺส ภิกฺขุโน สนฺตกํ ปฏิคฺคหิตํ, ตํ ปฏิคฺคหณํ น วิชหติ. ยมฺปิ อุภินฺนํ สาธารณํ อวิภชิตฺวา ปิตํ, ตํ ปกตตฺโต รกฺขติ. ยํ ปน วิภตฺตํ เอตสฺเสว สนฺตกํ, ตํ ปฏิคฺคหณํ วิชหติ. วุตฺตฺเจตํ ปริวาเร –

‘‘เตลํ มธุ ผาณิตฺจาปิ สปฺปึ, สามํ คเหตฺวา นิกฺขิเปยฺย;

อวีติวตฺเต สตฺตาเห, สติ ปจฺจเย ปริภุฺชนฺตสฺส อาปตฺติ;

ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๘๐);

อิทฺหิ ลิงฺคปริวตฺตนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปฏิคฺคหณํ นาม ลิงฺคปริวตฺตเนน, กาลกิริยาย, สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน, หีนายาวตฺตเนน, อนุปสมฺปนฺนสฺส ทาเนน, อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนน, อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณน จ วิชหติ. ตสฺมา สเจปิ หรีตกขณฺฑมฺปิ ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตมตฺถิ, สพฺพมสฺส ปฏิคฺคหณํ วิชหติ. ภิกฺขุวิหาเร ปน ยํ กิฺจิสฺสา สนฺตกํ ปฏิคฺคเหตฺวา วา อปฺปฏิคฺคเหตฺวา วา ปิตํ, สพฺพสฺส สาว อิสฺสรา, อาหราเปตฺวา คเหตพฺพํ. ยํ ปเนตฺถ ถาวรํ ตสฺสา สนฺตกํ เสนาสนํ วา อุปโรปกา วา, เต ยสฺสิจฺฉติ, ตสฺส ทาตพฺพา. เตรสสุ สมฺมุตีสุ ยา ภิกฺขุกาเล ลทฺธา สมฺมุติ, สพฺพา ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ปุริมิกาย เสนาสนคฺคาโห ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ปจฺฉิมิกาย เสนาสเน คหิเต ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, ภิกฺขุสงฺโฆ จสฺสา อุปฺปนฺนลาภํ ทาตุกาโม โหติ, อปโลเกตฺวา ทาตพฺโพ.

สเจ ภิกฺขุนีหิ สาธารณาย ปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวสนฺตสฺส ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, ปุน ปกฺขมานตฺตเมว ทาตพฺพํ. สเจ มานตฺตํ จรนฺตสฺส ปริวตฺตติ, ปุน ปกฺขมานตฺตเมว ทาตพฺพํ. สเจ จิณฺณมานตฺตสฺส ปริวตฺตติ, ภิกฺขุนีหิ อพฺภานกมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ อกุสลวิปาเก ปริกฺขีเณ ปกฺขมานตฺตกาเล ปุนเทว ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, ฉารตฺตํ มานตฺตเมว ทาตพฺพํ. สเจ จิณฺเณ ปกฺขมานตฺเต ปริวตฺตติ, ภิกฺขูหิ อพฺภานกมฺมํ กาตพฺพนฺติ.

ภิกฺขุนิยา ลิงฺคปริวตฺตเนปิ วุตฺตนเยเนว สพฺโพ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – สเจ ภิกฺขุนิกาเล อาปนฺนา สฺจริตฺตาปตฺติ ปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ปริวาสทานํ นตฺถิ, ฉารตฺตํ มานตฺตเมว ทาตพฺพํ. สเจ ปกฺขมานตฺตํ จรนฺติยา ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, น เตนตฺโถ, ฉารตฺตํ มานตฺตเมว ทาตพฺพํ. สเจ จิณฺณมานตฺตาย ปริวตฺตติ, ปุน มานตฺตํ อทตฺวา ภิกฺขูหิ อพฺเภตพฺโพ. อถ ภิกฺขูหิ มานตฺเต อทินฺเน ปุน ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, ภิกฺขุนีหิ ปกฺขมานตฺตเมว ทาตพฺพํ. อถ ฉารตฺตํ มานตฺตํ จรนฺตสฺส ปุน ปริวตฺตติ, ปกฺขมานตฺตเมว ทาตพฺพํ. จิณฺณมานตฺตสฺส ปน ลิงฺคปริวตฺเต ชาเต ภิกฺขุนีหิ อพฺภานกมฺมํ กาตพฺพํ. ปุน ปริวตฺเต จ ลิงฺเค ภิกฺขุนิภาเว ิตายปิ ยา อาปตฺติโย ปุพฺเพ ปฏิปฺปสฺสทฺธา, ตา สุปฺปฏิปฺปสฺสทฺธา เอวาติ.

๒๔๘. อิโต ปรํ ปาริวาสิกาทีนํ วตฺตํ ทสฺสยิสฺสาม – ปาริวาสิเกน (จูฬว. อฏฺ. ๗๖) ภิกฺขุนา อุปชฺฌาเยน หุตฺวา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, วตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา ปน อุปสมฺปาเทตุํ วฏฺฏติ. อาจริเยน หุตฺวาปิ กมฺมวาจา น สาเวตพฺพา, อฺสฺมึ อสติ วตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา สาเวตุํ วฏฺฏติ. อาคนฺตุกานํ นิสฺสโย น ทาตพฺโพ. เยหิปิ ปกติยาว นิสฺสโย คหิโต, เต วตฺตพฺพา ‘‘อหํ วินยกมฺมํ กโรมิ, อสุกตฺเถรสฺส นาม สนฺติเก นิสฺสยํ คณฺหถ, มยฺหํ วตฺตํ มา กโรถ, มา มํ คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉถา’’ติ. สเจ เอวํ วุตฺเตปิ กโรนฺติเยว, วาริตกาลโต ปฏฺาย กโรนฺเตสุปิ อนาปตฺติ. อฺโ สามเณโรปิ น คเหตพฺโพ, อุปชฺฌํ ทตฺวา คหิตสามเณโรปิ วตฺตพฺโพ ‘‘อหํ วินยกมฺมํ กโรมิ, มยฺหํ วตฺตํ มา กโรถ, มา มํ คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉถา’’ติ. สเจ เอวํ วุตฺเตปิ กโรนฺติเยว, วาริตกาลโต ปฏฺาย กโรนฺเตสุปิ อนาปตฺติ. น ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติ สาทิตพฺพา, สมฺมเตนปิ ภิกฺขุนิโย น โอวทิตพฺพา, ตสฺมา ภิกฺขุสงฺฆสฺส วตฺตพฺพํ ‘‘ภนฺเต, อหํ วินยกมฺมํ กโรมิ, ภิกฺขุโนวาทกํ ชานาถา’’ติ. ปฏิพลสฺส วา ภิกฺขุสฺส ภาโร กาตพฺโพ. อาคตา ภิกฺขุนิโย ‘‘สงฺฆสฺส สนฺติกํ คจฺฉถ, สงฺโฆ โว โอวาททายกํ ชานิสฺสตี’’ติ วา ‘‘อหํ วินยกมฺมํ กโรมิ, อสุกภิกฺขุสฺส นาม สนฺติกํ คจฺฉถ, โส โว โอวาทํ ทสฺสตี’’ติ วา วตฺตพฺพา.

ยาย อาปตฺติยา สงฺเฆน ปริวาโส ทินฺโน โหติ, สา อาปตฺติ น อาปชฺชิตพฺพา, อฺา วา ตาทิสิกา ตโต วา ปาปิฏฺตรา, กมฺมํ น ครหิตพฺพํ, กมฺมิกา น ครหิตพฺพา, น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อุโปสโถ เปตพฺโพ, น ปวารณา เปตพฺพา, ปลิโพธตฺถาย วา ปกฺโกสนตฺถาย วา สวจนียํ น กาตพฺพํ. ปลิโพธตฺถาย หิ กโรนฺโต ‘‘อหํ อายสฺมนฺตํ อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ สวจนียํ กโรมิ, อิมมฺหา อาวาสา ปรมฺปิ มา ปกฺกม, ยาว น ตํ อธิกรณํ วูปสนฺตํ โหตี’’ติ เอวํ กโรติ, ปกฺโกสนตฺถาย กโรนฺโต ‘‘อหํ ตํ สวจนียํ กโรมิ, เอหิ มยา สทฺธึ วินยธรานํ สมฺมุขีภาวํ คจฺฉาหี’’ติ เอวํ กโรติ, ตทุภยมฺปิ น กาตพฺพํ. วิหาเร เชฏฺกฏฺานํ น กาตพฺพํ, ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน วา ธมฺมชฺเฌสเกน วา น ภวิตพฺพํ, นปิ เตรสสุ สมฺมุตีสุ เอกสมฺมุติวเสนปิ อิสฺสริยกมฺมํ กาตพฺพํ, ‘‘กโรตุ เม อายสฺมา โอกาสํ, อหํ ตํ วตฺตุกาโม’’ติ เอวํ ปกตตฺตสฺส โอกาโส น กาเรตพฺโพ, วตฺถุนา วา อาปตฺติยา วา น โจเทตพฺโพ, ‘‘อยํ เต โทโส’’ติ น สาเรตพฺโพ, ภิกฺขูหิ อฺมฺํ โยเชตฺวา กลโห น กาเรตพฺโพ, สงฺฆตฺเถเรน หุตฺวา ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน ปุรโต น คนฺตพฺพํ น นิสีทิตพฺพํ, ทฺวาทสหตฺถํ อุปจารํ มุฺจิตฺวา เอกเกเนว คนฺตพฺพฺเจว นิสีทิตพฺพฺจ, โย โหติ สงฺฆสฺส อาสนปริยนฺโต เสยฺยาปริยนฺโต วิหารปริยนฺโต, โส ตสฺส ทาตพฺโพ.

ตตฺถ อาสนปริยนฺโต นาม ภตฺตคฺคาทีสุ สงฺฆนวกาสนํ, สฺวสฺส ทาตพฺโพ, ตตฺถ นิสีทิตพฺพํ. เสยฺยาปริยนฺโต นาม เสยฺยานํ ปริยนฺโต สพฺพลามกํ มฺจปีํ. อยฺหิ วสฺสคฺเคน อตฺตโน ปตฺตฏฺาเน เสยฺยํ คเหตุํ น ลภติ, สพฺพภิกฺขูหิ วิจินิตฺวา คหิตาวเสสา มงฺคุลคูถภริตา เวตฺตลตาทิวินทฺธา ลามกเสยฺยาวสฺส ทาตพฺพา. ยถา จ เสยฺยา, เอวํ วสนอาวาโสปิ วสฺสคฺเคน อตฺตโน ปตฺตฏฺาเน ตสฺส น วฏฺฏติ, สพฺพภิกฺขูหิ วิจินิตฺวา คหิตาวเสสา ปน รโชหตภูมิ ชตุกมูสิกภริตา ปณฺณสาลา อสฺส ทาตพฺพา. สเจ ปกตตฺตา สพฺเพ รุกฺขมูลิกา อพฺโภกาสิกา จ โหนฺติ, ฉนฺนํ น อุเปนฺติ, สพฺเพปิ เอเตหิ วิสฺสฏฺาวาสา นาม โหนฺติ, เตสุ ยํ อิจฺฉติ, ตํ ลภติ.

วสฺสูปนายิกทิวเส ปจฺจยํ เอกปสฺเส ตฺวา วสฺสคฺเคน คณฺหิตุํ ลภติ, เสนาสนํ น ลภติ, นิพทฺธวสฺสาวาสิกํ เสนาสนํ คณฺหิตุ กาเมน วตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา คเหตพฺพํ. าติปวาริตฏฺาเน ‘‘เอตฺตเก ภิกฺขู คเหตฺวา อาคจฺฉถา’’ติ นิมนฺติเตน ‘‘ภนฺเต, อสุกํ นาม กุลํ ภิกฺขู นิมนฺเตสิ, เอถ, ตตฺถ คจฺฉามา’’ติ เอวํ สํวิธาย ภิกฺขูนํ ปุเรสมเณน วา ปจฺฉาสมเณน วา หุตฺวา กุลานิ น อุปสงฺกมิตพฺพานิ, ‘‘ภนฺเต, อสุกสฺมึ นาม คาเม มนุสฺสา ภิกฺขูนํ อาคมนํ อิจฺฉนฺติ, สาธุ วตสฺส, สเจ เตสํ สงฺคหํ กเรยฺยาถา’’ติ เอวํ ปนสฺส วินยปริยาเยน กเถตุํ วฏฺฏติ. อาคตาคตานํ อาโรเจตุํ หรายมาเนน อารฺิกธุตงฺคํ น สมาทาตพฺพํ. เยนปิ ปกติยา สมาทินฺนํ, เตน ทุติยํ ภิกฺขุํ คเหตฺวา อรฺเ อรุณํ อุฏฺาเปตพฺพํ, น เอกเกน วตฺถพฺพํ. ตถา ภตฺตคฺคาทีสุ อาสนปริยนฺเต นิสชฺชาย หรายมาเนน ปิณฺฑปาติกธุตงฺคมฺปิ น สมาทาตพฺพํ. โย ปน ปกติยาว ปิณฺฑปาติโก, ตสฺส ปฏิเสโธ นตฺถิ, น จ ตปฺปจฺจยา ปิณฺฑปาโต นีหราเปตพฺโพ ‘‘มา มํ ชานึสู’’ติ. นีหฏภตฺโต หุตฺวา วิหาเรเยว นิสีทิตฺวา ภุฺชนฺโต ‘‘รตฺติโย คณยิสฺสามิ, คจฺฉโต เม ภิกฺขุํ ทิสฺวา อนาโรเจนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโท สิยา’’ติ อิมินา การเณน ปิณฺฑปาโต น นีหราเปตพฺโพ, ‘‘มา มํ เอกภิกฺขุปิ ชานาตู’’ติ จ อิมินา อชฺฌาสเยน วิหาเร สามเณเรหิ ปจาเปตฺวา ภุฺชิตุมฺปิ น ลภติ, คามํ ปิณฺฑาย ปวิสิตพฺพเมว. คิลานสฺส ปน นวกมฺมอาจริยุปชฺฌายกิจฺจาทิปสุตสฺส วา วิหาเรเยว อจฺฉิตุํ วฏฺฏติ.

สเจปิ คาเม อเนกสตา ภิกฺขู วิจรนฺติ, น สกฺกา โหติ อาโรเจตุํ, คามกาวาสํ คนฺตฺวา สภาคฏฺาเน วสิตุํ วฏฺฏติ. ยสฺมา ‘‘ปาริวาสิเกน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา อาคนฺตุเกน อาโรเจตพฺพํ, อาคนฺตุกสฺส อาโรเจตพฺพํ, อุโปสเถ อาโรเจตพฺพํ, ปวารณาย อาโรเจตพฺพํ, สเจ คิลาโน โหติ, ทูเตนปิ อาโรเจตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๗๖) วุตฺตํ, ตสฺมา กฺจิ วิหารํ คเตน อาคนฺตุเกน ตตฺถ ภิกฺขูนํ อาโรเจตพฺพํ. สเจ สพฺเพ เอกฏฺาเน ิเต ปสฺสติ, เอกฏฺาเน ิเตเนว อาโรเจตพฺพํ. อถ รุกฺขมูลาทีสุ วิสุํ ิตา โหนฺติ, ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา อาโรเจตพฺพํ, สฺจิจฺจ อนาโรเจนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโท จ โหติ, วตฺตเภเท จ ทุกฺกฏํ. อถ วิจินนฺโต เอกจฺเจ น ปสฺสติ, รตฺติจฺเฉโทว โหติ, น วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ.

อาคนฺตุกสฺสปิ อตฺตโน วสนวิหารํ อาคตสฺส เอกสฺส วา พหูนํ วา วุตฺตนเยเนว อาโรเจตพฺพํ, รตฺติจฺเฉทวตฺตเภทาปิ เจตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. สเจ อาคนฺตุกา มุหุตฺตํ วิสฺสมิตฺวา วา อวิสฺสมิตฺวา เอว วา วิหารมชฺเฌน คจฺฉนฺติ, เตสมฺปิ อาโรเจตพฺพํ. สเจ ตสฺส อชานนฺตสฺเสว คจฺฉนฺติ, อยฺจ คตกาเล ชานาติ, คนฺตฺวา อาโรเจตพฺพํ, สมฺปาปุณิตุํ วา สาเวตุํ วา อสกฺโกนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโทว โหติ, น วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ. เยปิ อนฺโตวิหารํ อปฺปวิสิตฺวา อุปจารสีมํ โอกฺกมิตฺวา คจฺฉนฺติ, อยฺจ เนสํ ฉตฺตสทฺทํ วา อุกฺกาสิตสทฺทํ วา ขิปิตสทฺทํ วา สุตฺวา อาคนฺตุกภาวํ ชานาติ, คนฺตฺวา อาโรเจตพฺพํ, คตกาเล ชานนฺเตนปิ อนุพนฺธิตฺวา อาโรเจตพฺพเมว, สมฺปาปุณิตุํ อสกฺโกนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโทว โหติ, น วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ. โยปิ รตฺตึ อาคนฺตฺวา รตฺตึเยว คจฺฉติ, โสปิสฺส รตฺติจฺเฉทํ กโรติ, อฺาตตฺตา ปน วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ นตฺถิ. สเจ อชานิตฺวาว อพฺภานํ กโรติ, อกตเมว โหตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ, ตสฺมา อธิกา รตฺติโย คเหตฺวา กาตพฺพํ. อยํ อปณฺณกปฏิปทา.

นทีอาทีสุ นาวาย คจฺฉนฺตมฺปิ ปรตีเร ิตมฺปิ อากาเส คจฺฉนฺตมฺปิ ปพฺพตตลอรฺาทีสุ ทูเร ิตมฺปิ ภิกฺขุํ ทิสฺวา สเจ ‘‘ภิกฺขู’’ติ ววตฺถานํ อตฺถิ, นาวาทีหิ คนฺตฺวา วา มหาสทฺทํ กตฺวา วา เวเคน อนุพนฺธิตฺวา วา อาโรเจตพฺพํ, อนาโรเจนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโท เจว วตฺตเภเท ทุกฺกฏฺจ. สเจ วายมนฺโตปิ สมฺปาปุณิตุํ วา สาเวตุํ วา น สกฺโกติ, รตฺติจฺเฉโทว โหติ, น วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ. สงฺฆเสนาภยตฺเถโร ปน วิสยาวิสเยน กเถติ ‘‘วิสเย กิร อนาโรเจนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโท เจว วตฺตเภเท ทุกฺกฏฺจ โหติ, อวิสเย ปน อุภยมฺปิ นตฺถี’’ติ. กรวีกติสฺสตฺเถโร ‘‘สมโณ อยนฺติ ววตฺถานเมว ปมาณํ. สเจปิ อวิสโย โหติ, วตฺตเภเท ทุกฺกฏเมว นตฺถิ, รตฺติจฺเฉโท ปน โหติเยวา’’ติ อาห.

อุโปสถทิวเส ‘‘อุโปสถํ สมฺปาปุณิสฺสามา’’ติ อาคนฺตุกา ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, อิทฺธิยา คจฺฉนฺตาปิ อุโปสถภาวํ ตฺวา โอตริตฺวา อุโปสถํ กโรนฺติ, ตสฺมา อาคนฺตุกโสธนตฺถํ อุโปสถทิวเสปิ อาโรเจตพฺพํ. ปวารณายปิ เอเสว นโย. คนฺตุํ อสมตฺเถน คิลาเนน ภิกฺขุํ เปเสตฺวา อาโรจาเปตพฺพํ, อนุปสมฺปนฺนํ เปเสตุํ น วฏฺฏติ.

น ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สภิกฺขุกา อาวาสา วา อนาวาสา วา อภิกฺขุโก นานาสํวาสเกหิ วา สภิกฺขุโก อาวาโส วา อนาวาโส วา คนฺตพฺโพ อฺตฺร ปกตตฺเตน อฺตฺร อนฺตรายา. ยตฺถ หิ เอโกปิ ภิกฺขุ นตฺถิ, ตตฺถ น วสิตพฺพํ. น หิ ตตฺถ วุตฺถรตฺติโย คณนูปิกา โหนฺติ. ทสวิเธ อนฺตราเย ปน สเจปิ รตฺติโย คณนูปิกา น โหนฺติ, อนฺตรายโต ปริมุจฺจนตฺถาย คนฺตพฺพเมว. เตน วุตฺตํ ‘‘อฺตฺร อนฺตรายา’’ติ. นานาสํวาสเกหิ สทฺธึ วินยกมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ, เตสํ อนาโรจเนปิ รตฺติจฺเฉโท นตฺถิ, อภิกฺขุกาวาสสทิสเมว โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘นานาสํวาสเกหิ วา สภิกฺขุโก’’ติ.

น ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วา อนาวาเส วา วตฺถพฺพํ. ตตฺถ อาวาโส นาม วสนตฺถาย กตเสนาสนํ. อนาวาโส นาม เจติยฆรํ โพธิฆรํ สมฺมุฺชนีอฏฺฏโก ทารุอฏฺฏโก ปานียมาโฬ วจฺจกุฏิ ทฺวารโกฏฺโกติ เอวมาทิ. ‘‘เอเตสุ ยตฺถ กตฺถจิ เอกจฺฉนฺเน ฉทนโต อุทกปตนฏฺานปริจฺฉินฺเน โอกาเส อุกฺขิตฺตโกว วสิตุํ น ลภติ, ปาริวาสิโก ปน อนฺโตอาวาเสเยว น ลภตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ อวิเสเสน ‘‘อุทกปาเตน วาริต’’นฺติ วุตฺตํ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘เอเตสุ เอตฺตเกสุ ปฺจวณฺณจฺฉทนพทฺธฏฺาเนสุ ปาริวาสิกสฺส จ อุกฺขิตฺตกสฺส จ ปกตตฺเตน สทฺธึ อุทกปาเตน วาริต’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺมา นานูปจาเรปิ เอกจฺฉนฺเน น วฏฺฏติ. สเจ ปเนตฺถ ตทหุปสมฺปนฺเนปิ ปกตตฺเต ปมํ ปวิสิตฺวา นิปนฺเนปิ สฏฺิวสฺสิโกปิ ปาริวาสิโก ปจฺฉา ปวิสิตฺวา ชานนฺโต นิปชฺชติ, รตฺติจฺเฉโท เจว วตฺตเภเท ทุกฺกฏฺจ, อชานนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโทว, น วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ. สเจ ปน ตสฺมึ นิสินฺเน ปจฺฉา ปกตตฺโต ปวิสิตฺวา นิปชฺชติ, ปาริวาสิโก จ ชานาติ, รตฺติจฺเฉโท เจว วตฺตเภเท ทุกฺกฏฺจ. โน เจ ชานาติ, รตฺติจฺเฉโทว, น วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ.

ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปกตตฺตํ ภิกฺขุํ ตทหุปสมฺปนฺนมฺปิ ทิสฺวา อาสนา วุฏฺาตพฺพํ, วุฏฺาย จ ‘‘อหํ อิมินา สุขนิสินฺโน วุฏฺาปิโต’’ติ ปรมฺมุเขนปิ น คนฺตพฺพํ, ‘‘อิทํ อาจริย อาสนํ, เอตฺถ นิสีทถา’’ติ เอวํ ปกตตฺโต ภิกฺขุ อาสเนน นิมนฺเตตพฺโพเยว. นวเกน ปน ‘‘มหาเถรํ โอพทฺธํ กโรมี’’ติ ปาริวาสิกตฺเถรสฺส สนฺติกํ น คนฺตพฺพํ. ปาริวาสิเกน ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สทฺธึ น เอกาสเน นิสีทิตพฺพํ, น นีเจ อาสเน นิสินฺเน อุจฺเจ อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น ฉมายํ นิสินฺเน อาสเน นิสีทิตพฺพํ, ทฺวาทสหตฺถํ ปน อุปจารํ มุฺจิตฺวา นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปกตตฺเตน สทฺธึ น เอกจงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ, น นีเจ จงฺกเม จงฺกมนฺเต อุจฺเจ จงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ, น ฉมายํ จงฺกมนฺเต จงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ. เอตฺถ ปน อกตปริจฺเฉทาย ภูมิยา จงฺกมนฺเต ปริจฺเฉทํ กตฺวา วาลุกํ อากิริตฺวา อาลมฺพนํ โยเชตฺวา กตจงฺกเม นีเจปิ น จงฺกมิตพฺพํ, โก ปน วาโท อิฏฺกจเยน สมฺปนฺเน เวทิกาปริกฺขิตฺเต. สเจ ปน ปาการปริกฺขิตฺโต โหติ, ทฺวารโกฏฺกยุตฺโต ปพฺพตนฺตรวนนฺตรคุมฺพนฺตเรสุ วา สุปฺปฏิจฺฉนฺโน, ตาทิเส จงฺกเม จงฺกมิตุํ วฏฺฏติ, อปฺปฏิจฺฉนฺเนปิ อุปจารํ มุฺจิตฺวา วฏฺฏติ.

ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปาริวาสิกวุฑฺฒตเรน ภิกฺขุนา สทฺธึ มูลายปฏิกสฺสนารเหน มานตฺตารเหน มานตฺตจาริเกน อพฺภานารเหน ภิกฺขุนา สทฺธึ น เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วา อนาวาเส วา วตฺถพฺพํ. เอตฺถ ปน สเจ วุฑฺฒตเร ปาริวาสิเก ปมํ นิปนฺเน อิตโร ชานนฺโต ปจฺฉา นิปชฺชติ, รตฺติจฺเฉโท จสฺส โหติ, วตฺตเภเท จ ทุกฺกฏํ. วุฑฺฒตรสฺส ปน รตฺติจฺเฉโทว, น วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ. อชานิตฺวา นิปชฺชติ, ทฺวินฺนมฺปิ วตฺตเภโท นตฺถิ, รตฺติจฺเฉโท ปน โหติ. อถ นวกปาริวาสิเก ปมํ นิปนฺเน วุฑฺฒตโร ปจฺฉา นิปชฺชติ, นวโก จ ชานาติ, รตฺติ จสฺส ฉิชฺชติ, วตฺตเภเท จ ทุกฺกฏํ โหติ. วุฑฺฒตรสฺส รตฺติจฺเฉโทว, น วตฺตเภโท. โน เจ ชานาติ, ทฺวินฺนมฺปิ วตฺตเภโท นตฺถิ, รตฺติจฺเฉโท ปน โหติ. สเจ อปจฺฉาปุริมํ นิปชฺชนฺติ, วุฑฺฒตรสฺส รตฺติจฺเฉโทว, อิตรสฺส วตฺตเภโทปีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ.

ทฺเว ปาริวาสิกา สมวสฺสา, เอโก ปมํ นิปนฺโน, เอโก ชานนฺโตว ปจฺฉา นิปชฺชติ, รตฺติ จสฺส ฉิชฺชติ, วตฺตเภเท จ ทุกฺกฏํ. ปมํ นิปนฺนสฺส รตฺติจฺเฉโทว, น วตฺตเภโท. สเจ ปจฺฉา นิปชฺชนฺโตปิ น ชานาติ, ทฺวินฺนมฺปิ วตฺตเภโท นตฺถิ, รตฺติจฺเฉโท ปน โหติ. สเจ ทฺเวปิ อปจฺฉาปุริมํ นิปชฺชนฺติ, ทฺวินฺนมฺปิ รตฺติจฺเฉโทเยว, น วตฺตเภโท. สเจ หิ ทฺเว ปาริวาสิกา เอกโต วเสยฺยุํ, เต อฺมฺสฺส อชฺฌาจารํ ตฺวา อคารวา วา วิปฺปฏิสาริโน วา หุตฺวา ตํ วา อาปตฺตึ อาปชฺเชยฺยุํ ตโต ปาปิฏฺตรํ วา, วิพฺภเมยฺยุํ วา, ตสฺมา เนสํ สหเสยฺยา สพฺพปกาเรน ปฏิกฺขิตฺตา. มูลายปฏิกสฺสนารหาทโย เจตฺถ ปาริวาสิกานํ ปกตตฺตฏฺาเน ิตาติ เวทิตพฺพา. ตสฺมา ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา มูลายปฏิกสฺสนารเหน มานตฺตารเหน มานตฺตจาริเกน อพฺภานารเหน ภิกฺขุนา สทฺธึ น เอกาสเน นิสีทิตพฺพํ, น นีเจ อาสเน นิสินฺเน อุจฺเจ อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น ฉมาย นิสินฺเน อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น เอกจงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ, น นีเจ จงฺกเม จงฺกมนฺเต อุจฺเจ จงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ, น ฉมาย จงฺกมนฺเต จงฺกเม จงฺกมิตพฺพํ.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา สาทิตพฺพํ ปกตตฺตานํ ภิกฺขูนํ อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ อฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ อาสนาภิหาโร เสยฺยาภิหาโร ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ ปตฺตจีวรปฏิคฺคหณํ นหาเน ปิฏฺิปริกมฺมํ, โย สาทิเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๗๕) วจนโต ปกตตฺตานํ ภิกฺขูนํ เปตฺวา นวกตรํ ปาริวาสิกํ อวเสสานํ อนฺตมโส มูลายปฏิกสฺสนารหาทีนมฺปิ อภิวาทนาทึ สาทิยนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, สทฺธิวิหาริกานมฺปิ สาทิยนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. ตสฺมา เต วตฺตพฺพา ‘‘อหํ วินยกมฺมํ กโรมิ, มยฺหํ วตฺตํ มา กโรถ, มา มํ คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉถา’’ติ. สเจ สทฺธาปพฺพชิตา กุลปุตฺตา ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, ตุมฺหากํ วินยกมฺมํ กโรถา’’ติ วตฺวา วตฺตํ กโรนฺติ, คามปฺปเวสนมฺปิ อาปุจฺฉนฺติเยว, วาริตกาลโต ปฏฺาย อนาปตฺติ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิกานํ ภิกฺขูนํ มิถู ยถาวุฑฺฒํ อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ อฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ อาสนาภิหารํ เสยฺยาภิหารํ ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ ปตฺตจีวรปฏิคฺคหณํ นหาเน ปิฏฺิปริกมฺม’’นฺติ (จูฬว. ๗๕) วจนโต ปน ปาริวาสิกานํ ภิกฺขูนํ อฺมฺํ โย โย วุฑฺโฒ, เตน เตน นวกตรสฺส อภิวาทนาทึ สาทิตุํ วฏฺฏติ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปาริวาสิกานํ ภิกฺขูนํ ปฺจ ยถาวุฑฺฒํ อุโปสถํ ปวารณํ วสฺสิกสาฏิกํ โอโณชนํ ภตฺต’’นฺติ (จูฬว. ๗๕) วจนโต อิมานิ อุโปสถาทีนิ ปฺจ ปกตตฺเตหิปิ สทฺธึ วุฑฺฒปฏิปาฏิยา กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา (จูฬว. อฏฺ. ๗๕) ปาติโมกฺเข อุทฺทิสฺสมาเน หตฺถปาเส นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ปาฬิยา อนิสีทิตฺวา ปาฬึ วิหาย หตฺถปาสํ อมุฺจนฺเตน นิสีทิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ปาริสุทฺธิอุโปสเถ กริยมาเน สงฺฆนวกฏฺาเน นิสีทิตฺวา ตตฺเถว นิสินฺเนน อตฺตโน ปาฬิยา ปาริสุทฺธิอุโปสโถ กาตพฺโพ. ปวารณายปิ สงฺฆนวกฏฺาเน นิสีทิตฺวา ตตฺเถว นิสินฺเนน อตฺตโน ปาฬิยา ปวาเรตพฺพํ. สงฺเฆน ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภาชิยมานํ วสฺสิกสาฏิกมฺปิ อตฺตโน ปตฺตฏฺาเน คเหตุํ วฏฺฏติ.

โอโณชนนฺติ วิสฺสชฺชนํ วุจฺจติ. สเจ หิ ปาริวาสิกสฺส ทฺเว ตีณิ อุทฺเทสภตฺตาทีนิ ปาปุณนฺติ, อฺา จสฺส ปุคฺคลิกภตฺตปจฺจาสา โหติ, ตานิ ปฏิปาฏิยา คเหตฺวา ‘‘ภนฺเต, เหฏฺา คาเหถ, อชฺช มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสา อตฺถิ, สฺเวว คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺวา วิสฺสชฺเชตพฺพานิ. เอวํ ตานิ ปุนทิวเสสุ คณฺหิตุํ ลภติ. ‘‘ปุนทิวเส สพฺพปมํ ตสฺส ทาตพฺพ’’นฺติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ยทิ ปน น คณฺหาติ น วิสฺสชฺเชติ, ปุนทิวเส น ลภติ. อิทํ โอโณชนํ นาม ปาริวาสิกสฺเสว โอทิสฺส อนุฺาตํ. กสฺมา? ตสฺส หิ สงฺฆนวกฏฺาเน นิสินฺนสฺส ภตฺตคฺเค ยาคุขชฺชกาทีนิ ปาปุณนฺติ วา น วา, ตสฺมา ‘‘โส ภิกฺขาหาเรน มา กิลมิตฺถา’’ติ อิทมสฺส สงฺคหกรณตฺถาย โอทิสฺส อนุฺาตํ.

ภตฺตนฺติ อาคตาคเตหิ วุฑฺฒปฏิปาฏิยา คเหตฺวา คนฺตพฺพํ วิหาเร สงฺฆสฺส จตุสฺสาลภตฺตํ. เอตํ ยถาวุฑฺฒํ ลภติ, ปาฬิยา ปน คนฺตุํ วา าตุํ วา น ลภติ, ตสฺมา ปาฬิโต โอสกฺกิตฺวา หตฺถปาเส ิเตน หตฺถํ ปสาเรตฺวา ยถา เสโน นิปติตฺวา คณฺหาติ, เอวํ คณฺหิตพฺพํ. อารามิกสมณุทฺเทเสหิ อาหราเปตุํ น ลภติ. สเจ สยเมว อาหรนฺติ, วฏฺฏติ. รฺโ มหาเปฬภตฺเตปิ เอเสว นโย. จตุสฺสาลภตฺเต ปน สเจ โอโณชนํ กตฺตุกาโม โหติ, อตฺตโน อตฺถาย อุกฺขิตฺเต ปิณฺเฑ ‘‘อชฺช เม ภตฺตํ อตฺถิ, สฺเวว คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺตพฺพํ. ‘‘ปุนทิวเส ทฺเว ปิณฺเฑ ลภตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. อุทฺเทสภตฺตาทีนิปิ ปาฬิโต โอสกฺกิตฺวาว คเหตพฺพานิ, ยตฺถ ปน นิสีทาเปตฺวา ปริวิสนฺติ, ตตฺถ สามเณรานํ เชฏฺเกน, ภิกฺขูนํ สงฺฆนวเกน หุตฺวา นิสีทิตพฺพํ. อิทํ ปาริวาสิกวตฺตํ.

มูลายปฏิกสฺสนารหานํ มานตฺตารหานํ มานตฺตจาริกานํ อพฺภานารหานฺจ อิทเมว วตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. มานตฺตจาริกสฺส วตฺเต ปน ‘‘เทวสิกํ อาโรเจตพฺพ’’นฺติ วิเสโส. รตฺติจฺเฉเทสุ จ ‘‘ตโย โข, อุปาลิ, ปาริวาสิกสฺส ภิกฺขุโน รตฺติจฺเฉทา, สหวาโส วิปฺปวาโส อนาโรจนา’’ติ (จูฬว. ๘๓) วจนโต ยฺวายํ ‘‘ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน’’ติอาทินา นเยน วุตฺโต สหวาโส, โย จ เอกสฺเสว วาโส, ยา จายํ อาคนฺตุกาทีนํ อนาโรจนา, เอเตสุ ตีสุ เอเกนปิ การเณน ปาริวาสิกสฺส ภิกฺขุโน รตฺติจฺเฉโท โหติ.

มานตฺตจาริกสฺส ปน ‘‘จตฺตาโร โข, อุปาลิ, มานตฺตจาริกสฺส ภิกฺขุโน รตฺติจฺเฉทา, สหวาโส, วิปฺปวาโส, อนาโรจนา, อูเน คเณ จรณ’’นฺติ วจนโต อิเมสุ จตูสุ การเณสุ เอเกนปิ รตฺติจฺเฉโท โหติ. คโณติ เจตฺถ จตฺตาโร วา อติเรกา วา. ตสฺมา สเจปิ ตีหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ วสติ, รตฺติจฺเฉโท โหติเยว.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ครุกาปตฺติวุฏฺานวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

๓๓. กมฺมากมฺมวินิจฺฉยกถา

๒๔๙. กมฺมากมฺมนฺติ เอตฺถ (ปริ. ๔๘๒-๔๘๔) ปน กมฺมานิ จตฺตาริ – อปโลกนกมฺมํ ตฺติกมฺมํ ตฺติทุติยกมฺมํ ตฺติจตุตฺถกมฺมนฺติ. อิมานิ จตฺตาริ กมฺมานิ กติหากาเรหิ วิปชฺชนฺติ? ปฺจหากาเรหิ วิปชฺชนฺติ – วตฺถุโต วา ตฺติโต วา อนุสฺสาวนโต วา สีมโต วา ปริสโต วา.

กถํ วตฺถุโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ? สมฺมุขากรณียํ กมฺมํ อสมฺมุขา กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. ปฏิปุจฺฉากรณียํ กมฺมํ อปฏิปุจฺฉา กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. ปฏิฺาย กรณียํ กมฺมํ อปฏิฺาย กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. สติวินยารหสฺส อมูฬฺหวินยํ เทติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. อมูฬฺหวินยารหสฺส ตสฺส ปาปิยสิกกมฺมํ กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. ตสฺส ปาปิยสิกกมฺมารหสฺส ตชฺชนียกมฺมํ กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. ตชฺชนียกมฺมารหสฺส นิยสฺสกมฺมํ กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. นิยสฺสกมฺมารหสฺส ปพฺพาชนียกมฺมํ กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. ปพฺพาชนียกมฺมารหสฺส ปฏิสารณียกมฺมํ กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. ปฏิสารณียกมฺมารหสฺส อุกฺเขปนียกมฺมํ กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. อุกฺเขปนียกมฺมารหสฺส ปริวาสํ เทติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. ปริวาสารหสฺส มูลาย ปฏิกสฺสติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. มูลายปฏิกสฺสนารหสฺส มานตฺตํ เทติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. มานตฺตารหํ อพฺเภติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. อพฺภานารหํ อุปสมฺปาเทติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. อนุโปสเถ อุโปสถํ กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. อปวารณาย ปวาเรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. ปณฺฑกํ อุปสมฺปาเทติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. เถยฺยสํวาสกํ, ติตฺถิยปกฺกนฺตกํ, ติรจฺฉานคตํ, มาตุฆาตกํ, ปิตุฆาตกํ, อรหนฺตฆาตกํ, ภิกฺขุนิทูสกํ, สงฺฆเภทกํ, โลหิตุปฺปาทกํ, อุภโตพฺยฺชนกํ, อูนวีสติวสฺสํ ปุคฺคลํ อุปสมฺปาเทติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. เอวํ วตฺถุโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ.

กถํ ตฺติโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ? ปฺจหากาเรหิ ตฺติโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ – วตฺถุํ น ปรามสติ, สงฺฆํ น ปรามสติ, ปุคฺคลํ น ปรามสติ, ตฺตึ น ปรามสติ, ปจฺฉา วา ตฺตึ เปติ. อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ ตฺติโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ.

กถํ อนุสฺสาวนโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ? ปฺจหากาเรหิ อนุสฺสาวนโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ – วตฺถุํ น ปรามสติ, สงฺฆํ น ปรามสติ, ปุคฺคลํ น ปรามสติ, สาวนํ หาเปติ, อกาเล วา สาเวติ. อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ อนุสฺสาวนโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ.

กถํ สีมโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ? เอกาทสหิ อากาเรหิ สีมโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ – อติขุทฺทกํ สีมํ สมฺมนฺนติ, อติมหตึ สีมํ สมฺมนฺนติ, ขณฺฑนิมิตฺตํ สีมํ สมฺมนฺนติ, ฉายานิมิตฺตํ สีมํ สมฺมนฺนติ, อนิมิตฺตํ สีมํ สมฺมนฺนติ, พหิสีเม ิโต สีมํ สมฺมนฺนติ, นทิยา สีมํ สมฺมนฺนติ, สมุทฺเท สีมํ สมฺมนฺนติ, ชาตสฺสเร สีมํ สมฺมนฺนติ, สีมาย สีมํ สมฺภินฺทติ, สีมาย สีมํ อชฺโฌตฺถรติ. อิเมหิ เอกาทสหิ อากาเรหิ สีมโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ.

กถํ ปริสโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ? ทฺวาทสหิ อากาเรหิ ปริสโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ – จตุวคฺคกรณีเย กมฺเม ยาวติกา ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา เต อนาคตา โหนฺติ, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อนาหโฏ โหติ, สมฺมุขีภูตา ปฏิกฺโกสนฺติ, จตุวคฺคกรเณ กมฺเม ยาวติกา ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา, เต อาคตา โหนฺติ, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อนาหโฏ โหติ, สมฺมุขีภูตา ปฏิกฺโกสนฺติ, จตุวคฺคกรเณ กมฺเม ยาวติกา ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา, เต อาคตา โหนฺติ, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อาหโฏ โหติ, สมฺมุขีภูตา ปฏิกฺโกสนฺติ.

ปฺจวคฺคกรเณ กมฺเม…เป… ทสวคฺคกรเณ กมฺเม…เป… วีสติวคฺคกรเณ กมฺเม ยาวติกา ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา, เต อนาคตา โหนฺติ, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อนาหโฏ โหติ, สมฺมุขีภูตา ปฏิกฺโกสนฺติ, วีสติวคฺคกรเณ กมฺเม ยาวติกา ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา, เต อาคตา โหนฺติ, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อนาหโฏ โหติ, สมฺมุขีภูตา ปฏิกฺโกสนฺติ, วีสติวคฺคกรเณ กมฺเม ยาวติกา ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา, เต อาคตา โหนฺติ, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อาหโฏ โหติ, สมฺมุขีภูตา ปฏิกฺโกสนฺติ. อิเมหิ ทฺวาทสหิ อากาเรหิ ปริสโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ.

จตุวคฺคกรเณ กมฺเม จตฺตาโร ภิกฺขู ปกตตฺตา กมฺมปฺปตฺตา, อวเสสา ปกตตฺตา ฉนฺทารหา. ยสฺส สงฺโฆ กมฺมํ กโรติ, โส เนว กมฺมปฺปตฺโต นาปิ ฉนฺทารโห, อปิจ กมฺมารโห. ปฺจวคฺคกรเณ กมฺเม ปฺจ ภิกฺขู ปกตตฺตา กมฺมปฺปตฺตา, อวเสสา ปกตตฺตา ฉนฺทารหา. ยสฺส สงฺโฆ กมฺมํ กโรติ, โส เนว กมฺมปฺปตฺโต นาปิ ฉนฺทารโห, อปิจ กมฺมารโห. ทสวคฺคกรเณ กมฺเม ทส ภิกฺขู ปกตตฺตา กมฺมปฺปตฺตา, อวเสสา ปกตตฺตา ฉนฺทารหา. ยสฺส สงฺโฆ กมฺมํ กโรติ, โส เนว กมฺมปฺปตฺโต นาปิ ฉนฺทารโห, อปิจ กมฺมารโห. วีสติวคฺคกรเณ กมฺเม วีสติ ภิกฺขู ปกตตฺตา กมฺมปฺปตฺตา, อวเสสา ปกตตฺตา ฉนฺทารหา. ยสฺส สงฺโฆ กมฺมํ กโรติ, โส เนว กมฺมปฺปตฺโต นาปิ ฉนฺทารโห, อปิจ กมฺมารโห.

๒๕๐. อปโลกนกมฺมํ กติ านานิ คจฺฉติ? ตฺติกมฺมํ, ตฺติทุติยกมฺมํ, ตฺติจตุตฺถกมฺมํ กติ านานิ คจฺฉติ? อปโลกนกมฺมํ ปฺจ านานิ คจฺฉติ. ตฺติกมฺมํ นว านานิ คจฺฉติ. ตฺติทุติยกมฺมํ สตฺต านานิ คจฺฉติ. ตฺติจตุตฺถกมฺมํ สตฺต านานิ คจฺฉติ.

อปโลกนกมฺมํ กตมานิ ปฺจ านานิ คจฺฉติ? โอสารณํ นิสฺสารณํ ภณฺฑุกมฺมํ พฺรหฺมทณฺฑํ กมฺมลกฺขณฺเว ปฺจมํ. อปโลกนกมฺมํ อิมานิ ปฺจ านานิ คจฺฉติ.

ตฺติกมฺมํ กตมานิ นว านานิ คจฺฉติ? โอสารณํ นิสฺสารณํ อุโปสถํ ปวารณํ สมฺมุตึ ทานํ ปฏิคฺคหณํ ปจฺจุกฺกฑฺฒนํ กมฺมลกฺขณฺเว นวมํ. ตฺติกมฺมํ อิมานิ นว านานิ คจฺฉติ.

ตฺติทุติยกมฺมํ กตมานิ สตฺต านานิ คจฺฉติ? โอสารณํ นิสฺสารณํ สมฺมุตึ ทานํ อุทฺธรณํ เทสนํ กมฺมลกฺขณฺเว สตฺตมํ. ตฺติทุติยกมฺมํ อิมานิ สตฺต านานิ คจฺฉติ.

ตฺติจตุตฺถกมฺมํ กตมานิ สตฺต านานิ คจฺฉติ? โอสารณํ นิสฺสารณํ สมฺมุตึ ทานํ นิคฺคหํ สมนุภาสนํ กมฺมลกฺขณฺเว สตฺตมํ. ตฺติจตุตฺถกมฺมํ อิมานิ สตฺต านานิ คจฺฉติ. อยํ ตาว ปาฬินโย.

๒๕๑. อยํ ปเนตฺถ อาทิโต ปฏฺาย วินิจฺฉยกถา (ปริ. อฏฺ. ๔๘๒) – อปโลกนกมฺมํ นาม สีมฏฺกสงฺฆํ โสเธตฺวา ฉนฺทารหานํ ฉนฺทํ อาหริตฺวา สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา ติกฺขตฺตุํ สาเวตฺวา กตฺตพฺพกมฺมํ. ตฺติกมฺมํ นาม วุตฺตนเยเนว สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา เอกาย ตฺติยา กตฺตพฺพกมฺมํ. ตฺติทุติยกมฺมํ นาม วุตฺตนเยเนว สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา เอกาย ตฺติยา เอกาย จ อนุสฺสาวนายาติ เอวํ ตฺติทุติยาย อนุสฺสาวนาย กตฺตพฺพกมฺมํ. ตฺติจตุตฺถกมฺมํ นาม วุตฺตนเยเนว สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา เอกาย ตฺติยา ตีหิ จ อนุสฺสาวนาหีติ เอวํ ตฺติจตุตฺถาหิ ตีหิ อนุสฺสาวนาหิ กตฺตพฺพกมฺมํ.

ตตฺร อปโลกนกมฺมํ อปโลเกตฺวาว กาตพฺพํ, ตฺติกมฺมาทิวเสน น กาตพฺพํ. ตฺติกมฺมมฺปิ เอกํ ตฺตึ เปตฺวาว กาตพฺพํ, อปโลกนกมฺมาทิวเสน น กาตพฺพํ. ตฺติทุติยกมฺมํ ปน อปโลเกตฺวา กาตพฺพมฺปิ อกาตพฺพมฺปิ อตฺถิ. ตตฺถ สีมาสมฺมุติ สีมาสมูหนํ กถินทานํ กถินุทฺธาโร กุฏิวตฺถุเทสนา วิหารวตฺถุเทสนาติ อิมานิ ฉกมฺมานิ ครุกานิ อปโลเกตฺวา กาตุํ น วฏฺฏติ, ตฺติทุติยกมฺมวาจํ สาเวตฺวาว กาตพฺพานิ. อวเสสา เตรส สมฺมุติโย เสนาสนคฺคาหกมตกจีวรทานาทิสมฺมุติโย จาติ เอตานิ ลหุกกมฺมานิ, อปโลเกตฺวาปิ กาตุํ วฏฺฏนฺติ, ตฺติกมฺมตฺติจตุตฺถกมฺมวเสน ปน น กาตพฺพเมว. ‘‘ตฺติจตุตฺถกมฺมวเสน กยิรมานํ ทฬฺหตรํ โหติ, ตสฺมา กาตพฺพ’’นฺติ เอกจฺเจ วทนฺติ. เอวํ ปน สติ กมฺมสงฺกโร โหติ, ตสฺมา น กาตพฺพนฺติ ปฏิกฺขิตฺตเมว. สเจ ปน อกฺขรปริหีนํ วา ปทปริหีนํ วา ทุรุตฺตปทํ วา โหติ, ตสฺส โสธนตฺถํ ปุนปฺปุนํ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อิทํ อกุปฺปกมฺมสฺส ทฬฺหีกมฺมํ โหติ, กุปฺปกมฺเม กมฺมํ หุตฺวา ติฏฺติ. ตฺติจตุตฺถกมฺมํ ตฺติฺจ ติสฺโส จ กมฺมวาจาโย สาเวตฺวาว กาตพฺพํ, อปโลกนกมฺมาทิวเสน น กาตพฺพํ.

สมฺมุขากรณียํ กมฺมํ อสมฺมุขา กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมนฺติ เอตฺถ ปน อตฺถิ กมฺมํ สมฺมุขากรณียํ, อตฺถิ กมฺมํ อสมฺมุขากรณียํ. ตตฺถ อสมฺมุขากรณียํ นาม ทูเตนูปสมฺปทา, ปตฺตนิกฺกุชฺชนํ, ปตฺตุกฺกุชฺชนํ, อุมฺมตฺตกสฺส ภิกฺขุโน อุมฺมตฺตกสมฺมุติ, เสกฺขานํ กุลานํ เสกฺขสมฺมุติ, ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺโฑ, เทวทตฺตสฺส ปกาสนียกมฺมํ, อปสาทนียํ ทสฺเสนฺตสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขุนิสงฺเฆน กาตพฺพํ อวนฺทิยกมฺมนฺติ อฏฺวิธํ โหติ. อิทํ อฏฺวิธมฺปิ กมฺมํ อสมฺมุขา กตํ สุกตํ โหติ อกุปฺปํ, เสสานิ สพฺพกมฺมานิ สมฺมุขา เอว กาตพฺพานิ. สงฺฆสมฺมุขตา ธมฺมสมฺมุขตา วินยสมฺมุขตา ปุคฺคลสมฺมุขตาติ อิมํ จตุพฺพิธํ สมฺมุขาวินยํ อุปเนตฺวาว กาตพฺพานิ. เอวํ กตานิ หิ สุกตานิ โหนฺติ, เอวํ อกตานิ ปเนตานิ อิมํ สมฺมุขาวินยสงฺขาตํ วตฺถุํ วินา กตตฺตา วตฺถุวิปนฺนานิ นาม โหนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สมฺมุขากรณียํ กมฺมํ อสมฺมุขา กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺม’’นฺติ. ปฏิปุจฺฉากรณียาทีสุปิ ปฏิปุจฺฉาทิกรณเมว วตฺถุ, ตํ วตฺถุํ วินา กตตฺตา เตสมฺปิ วตฺถุวิปนฺนตา เวทิตพฺพา. อปิจ อูนวีสติวสฺสํ วา อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺนปุพฺพํ วา เอกาทสสุ วา อภพฺพปุคฺคเลสุ อฺตรํ อุปสมฺปาเทนฺตสฺสปิ วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ โหติ. อยํ วตฺถุโต กมฺมวิปตฺติยํ วินิจฺฉโย.

ตฺติโต วิปตฺติยํ ปน วตฺถุํ น ปรามสตีติ ยสฺส อุปสมฺปทาทิกมฺมํ กโรติ, ตํ น ปรามสติ, ตสฺส นามํ น คณฺหาติ. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วทติ. เอวํ วตฺถุํ น ปรามสติ.

สงฺฆํ น ปรามสตีติ สงฺฆสฺส นามํ น คณฺหาติ. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วทติ. เอวํ สงฺฆํ น ปรามสติ.

ปุคฺคลํ น ปรามสตีติ โย อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส อุปชฺฌาโย, ตํ น ปรามสติ, ตสฺส นามํ น คณฺหาติ. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วทติ. เอวํ ปุคฺคลํ น ปรามสติ.

ตฺตึ น ปรามสตีติ สพฺเพน สพฺพํ ตฺตึ น ปรามสติ, ตฺติทุติยกมฺเม ตฺตึ อฏฺเปตฺวา ทฺวิกฺขตฺตุํ กมฺมวาจาย เอว อนุสฺสาวนกมฺมํ กโรติ, ตฺติจตุตฺถกมฺเมปิ ตฺตึ อฏฺเปตฺวา จตุกฺขตฺตุํ กมฺมวาจาย เอว อนุสฺสาวนกมฺมํ กโรติ. เอวํ ตฺตึ น ปรามสติ.

ปจฺฉา วา ตฺตึ เปตีติ ปมํ กมฺมวาจาย อนุสฺสาวนกมฺมํ กตฺวา ‘‘เอสา ตฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ วทติ. เอวํ ปจฺฉา ตฺตึ เปติ. อิติ อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ ตฺติโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ.

อนุสฺสาวนโต วิปตฺติยํ ปน วตฺถุอาทีนิ ตาว วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. เอวํ ปน เนสํ อปรามสนํ โหติ – ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ’’ติ ปมานุสฺสาวนาย วา ‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ. สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ’’ติ ทุติยตติยานุสฺสาวนาสุ วา ‘‘อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺสา’’ติ วทนฺโต วตฺถุํ น ปรามสติ นาม. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วทนฺโต สงฺฆํ น ปรามสติ นาม. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วทนฺโต ปุคฺคลํ น ปรามสติ นาม.

สาวนํ หาเปตีติ สพฺเพน สพฺพํ กมฺมวาจาย อนุสฺสาวนํ น กโรติ, ตฺติทุติยกมฺเม ทฺวิกฺขตฺตุํ ตฺติเมว เปติ, ตฺติจตุตฺถกมฺเม จตุกฺขตฺตุํ ตฺติเมว เปติ. เอวํ สาวนํ หาเปติ. โยปิ ตฺติทุติยกมฺเม เอกํ ตฺตึ เปตฺวา เอกํ กมฺมวาจํ อนุสฺสาเวนฺโต อกฺขรํ วา ฉฑฺเฑติ, ปทํ วา ทุรุตฺตํ กโรติ, อยมฺปิ สาวนํ หาเปติเยว. ตฺติจตุตฺถกมฺเม ปน เอกํ ตฺตึ เปตฺวา สกิเมว วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา กมฺมวาจาย อนุสฺสาวนํ กโรนฺโตปิ อกฺขรํ วา ปทํ วา ฉฑฺเฑนฺโตปิ ทุรุตฺตํ กโรนฺโตปิ อนุสฺสาวนํ หาเปติเยวาติ เวทิตพฺโพ.

๒๕๒. ‘‘ทุรุตฺตํ กโรตี’’ติ เอตฺถ ปน อยํ วินิจฺฉโย. โย หิ อฺสฺมึ อกฺขเร วตฺตพฺเพ อฺํ วทติ, อยํ ทุรุตฺตํ กโรติ นาม. ตสฺมา กมฺมวาจํ กโรนฺเตน ภิกฺขุนา ยฺวายํ –

‘‘สิถิลํ ธนิตฺจ ทีฆรสฺสํ, ครุกํ ลหุกฺจ นิคฺคหิตํ;

สมฺพนฺธํ ววตฺถิตํ วิมุตฺตํ, ทสธา พฺยฺชนพุทฺธิยา ปเภโท’’ติ. –

วุตฺโต, อยํ สุฏฺุ อุปลกฺเขตพฺโพ. เอตฺถ หิ สิถิลํ นาม ปฺจสุ วคฺเคสุ ปมตติยํ. ธนิตํ นาม เตสฺเวว ทุติยจตุตฺถํ. ทีฆนฺติ ทีเฆน กาเลน วตฺตพฺพอาการาทิ. รสฺสนฺติ ตโต อุปฑฺฒกาเลน วตฺตพฺพอการาทิ. ครุกนฺติ ทีฆเมว, ยํ วา ‘‘อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตตฺเถรสฺส ยสฺส นกฺขมตี’’ติ เอวํ สํโยคปรํ กตฺวา วุจฺจติ. ลหุกนฺติ รสฺสเมว, ยํ วา ‘‘อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตตฺเถรสฺส ยสฺส น ขมตี’’ติ เอวํ อสํโยคปรํ กตฺวา วุจฺจติ. นิคฺคหิตนฺติ ยํ กรณานิ นิคฺคเหตฺวา อวิสฺสชฺเชตฺวา อวิวเฏน มุเขน สานุนาสิกํ กตฺวา วตฺตพฺพํ. สมฺพนฺธนฺติ ยํ ปรปเทน สมฺพนฺธิตฺวา ‘‘ตุณฺหิสฺสา’’ติ วา ‘‘ตุณฺหสฺสา’’ติ วา วุจฺจติ. ววตฺถิตนฺติ ยํ ปรปเทน อสมฺพนฺธํ กตฺวา วิจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘ตุณฺหี อสฺสา’’ติ วา ‘‘ตุณฺห อสฺสา’’ติ วา วุจฺจติ. วิมุตฺตนฺติ ยํ กรณานิ อนิคฺคเหตฺวา วิสฺสชฺเชตฺวา วิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ อกตฺวา วุจฺจติ.

ตตฺถ ‘‘สุณาตุ เม’’ติ วตฺตพฺเพ ต-การสฺส ถ-การํ กตฺวา ‘‘สุณาถุ เม’’ติ วจนํ สิถิลสฺส ธนิตกรณํ นาม, ตถา ‘‘ปตฺตกลฺลํ เอสา ตฺตี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ปตฺถกลฺลํ เอสา ตฺถี’’ติอาทิวจนํ. ‘‘ภนฺเต สงฺโฆ’’ติ วตฺตพฺเพ ภ-การฆ-การานํ พ-การค-กาเร กตฺวา ‘‘พนฺเต สํโค’’ติ วจนํ ธนิตสฺส สิถิลกรณํ นาม. ‘‘สุณาตุ เม’’ติ วิวเฏน มุเขน วตฺตพฺเพ ปน ‘‘สุณํตุ เม’’ติ วา ‘‘เอสา ตฺตี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘เอสํ ตฺตี’’ติ วา อวิวเฏน มุเขน อนนุนาสิกํ กตฺวา วจนํ วิมุตฺตสฺส นิคฺคหิตวจนํ นาม. ‘‘ปตฺตกลฺล’’นฺติ อวิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ กตฺวา วตฺตพฺเพ ‘‘ปตฺตกลฺลา’’ติ วิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ อกตฺวา วจนํ นิคฺคหิตสฺส วิมุตฺตวจนํ นาม. อิติ สิถิเล กตฺตพฺเพ ธนิตํ, ธนิเต กตฺตพฺเพ สิถิลํ, วิมุตฺเต กตฺตพฺเพ นิคฺคหิตํ, นิคฺคหิเต กตฺตพฺเพ วิมุตฺตนฺติ อิมานิ จตฺตาริ พฺยฺชนานิ อนฺโตกมฺมวาจาย กมฺมํ ทูเสนฺติ. เอวํ วทนฺโต หิ อฺสฺมึ อกฺขเร วตฺตพฺเพ อฺํ วทติ, ทุรุตฺตํ กโรตีติ วุจฺจติ.

อิตเรสุ ปน ทีฆรสฺสาทีสุ ฉสุ พฺยฺชเนสุ ทีฆฏฺาเน ทีฆเมว, รสฺสฏฺาเน รสฺสเมวาติ เอวํ ยถาาเน ตํ ตเทว อกฺขรํ ภาสนฺเตน อนุกฺกมาคตํ ปเวณึ อวินาเสนฺเตน กมฺมวาจา กาตพฺพา. สเจ ปน เอวํ อกตฺวา ทีเฆ วตฺตพฺเพ รสฺสํ, รสฺเส วา วตฺตพฺเพ ทีฆํ วทติ, ตถา ครุเก วตฺตพฺเพ ลหุกํ, ลหุเก วา วตฺตพฺเพ ครุกํ วทติ, สมฺพนฺเธ วา ปน วตฺตพฺเพ ววตฺถิตํ, ววตฺถิเต วา วตฺตพฺเพ สมฺพนฺธํ วทติ, เอวํ วุตฺเตปิ กมฺมวาจา น กุปฺปติ. อิมานิ หิ ฉ พฺยฺชนานิ กมฺมํ น โกเปนฺติ. ยํ ปน สุตฺตนฺติกตฺเถรา ‘‘ท-กาโร ต-การมาปชฺชติ, ต-กาโร ท-การมาปชฺชติ, จ-กาโร ช-การมาปชฺชติ, ช-กาโร จ-การมาปชฺชติ, ย-กาโร ก-การมาปชฺชติ, ก-กาโร ย-การมาปชฺชติ, ตสฺมา ท-การาทีสุ วตฺตพฺเพสุ ต-การาทิวจนํ น วิรุชฺฌตี’’ติ วทนฺติ, ตํ กมฺมวาจํ ปตฺวา น วฏฺฏติ. ตสฺมา วินยธเรน เนว ท-กาโร ต-กาโร กาตพฺโพ…เป… น ก-กาโร ย-กาโร. ยถาปาฬิยา นิรุตฺตึ โสเธตฺวา ทสวิธาย พฺยฺชนนิรุตฺติยา วุตฺตโทเส ปริหรนฺเตน กมฺมวาจา กาตพฺพา. อิตรถา หิ สาวนํ หาเปติ นาม.

อกาเล วา สาเวตีติ สาวนาย อกาเล อโนกาเส ตฺตึ อฏฺเปตฺวา ปมํเยว อนุสฺสาวนกมฺมํ กตฺวา ปจฺฉา ตฺตึ เปติ. อิติ อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ อนุสฺสาวนโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ.

๒๕๓. สีมโต วิปตฺติยํ ปน อติขุทฺทกสีมา นาม ยา เอกวีสติ ภิกฺขู น คณฺหาติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ยตฺถ เอกวีสติ ภิกฺขู นิสีทิตุํ น สกฺโกนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา ยา เอวรูปา สีมา, อยํ สมฺมตาปิ อสมฺมตา คามเขตฺตสทิสาว โหติ, ตตฺถ กตํ กมฺมํ กุปฺปติ. เอส นโย เสสสีมาสุปิ. เอตฺถ ปน อติมหตี นาม ยา เกสคฺคมตฺเตนปิ ติโยชนํ อติกฺกมิตฺวา สมฺมตา โหติ. ขณฺฑนิมิตฺตา นาม อฆฏิตนิมิตฺตา วุจฺจติ. ปุรตฺถิมาย ทิสาย นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา อนุกฺกเมเนว ทกฺขิณาย ปจฺฉิมาย อุตฺตราย ทิสาย กิตฺเตตฺวา ปุน ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปุพฺพกิตฺติตํ นิมิตฺตํ ปฏิกิตฺเตตฺวา เปตุํ วฏฺฏติ, เอวํ อขณฺฑนิมิตฺตา โหติ. สเจ ปน อนุกฺกเมน อาหริตฺวา อุตฺตราย ทิสาย นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตตฺเถว เปติ, ขณฺฑนิมิตฺตา โหติ. อปราปิ ขณฺฑนิมิตฺตา นาม ยา อนิมิตฺตุปคํ ตจสารรุกฺขํ วา ขาณุกํ วา ปํสุปุฺชํ วา วาลุกปุฺชํ วา อฺตรํ อนฺตรา เอกํ นิมิตฺตํ กตฺวา สมฺมตา โหติ. ฉายานิมิตฺตา นาม ยา ปพฺพตจฺฉายาทีนํ ยํ กิฺจิ ฉายํ นิมิตฺตํ กตฺวา สมฺมตา โหติ. อนิมิตฺตา นาม ยา สพฺเพน สพฺพํ นิมิตฺตานิ อกิตฺเตตฺวา สมฺมตา โหติ. พหิสีเม ิโต สีมํ สมฺมนฺนติ นาม นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา นิมิตฺตานํ พหิ ิโต สมฺมนฺนติ. นทิยา สมุทฺเท ชาตสฺสเร สีมํ สมฺมนฺนตีติ เอเตสุ นทีอาทีสุ ยํ สมฺมนฺนติ, สา เอวํ สมฺมตาปิ ‘‘สพฺพา, ภิกฺขเว, นที อสีมา, สพฺโพ สมุทฺโท อสีโม, สพฺโพ ชาตสฺสโร อสีโม’’ติ (มหาว. ๑๔๗) วจนโต อสมฺมตาว โหติ. สีมาย สีมํ สมฺภินฺทตีติ อตฺตโน สีมาย ปเรสํ สีมํ สมฺภินฺทติ. สีมาย สีมํ อชฺโฌตฺถรตีติ อตฺตโน สีมาย ปเรสํ สีมํ อชฺโฌตฺถรติ. ตตฺถ ยถา สมฺเภโท จ อชฺโฌตฺถรณฺจ โหติ, ตํ สพฺพํ สีมากถายํ วุตฺตเมว. อิติ อิมา เอกาทสปิ สีมา อสีมา คามเขตฺตสทิสา เอว, ตาสุ นิสีทิตฺวา กตํ กมฺมํ กุปฺปติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อิเมหิ เอกาทสหิ อากาเรหิ สีมโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺตี’’ติ.

ปริสโต กมฺมวิปตฺติยํ ปน กิฺจิ อนุตฺตานํ นาม นตฺถิ. ยมฺปิ ตตฺถ กมฺมปฺปตฺตฉนฺทารหลกฺขณํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตมฺปิ ปรโต ‘‘จตฺตาโร ภิกฺขู ปกตตฺตา กมฺมปฺปตฺตา’’ติอาทินา นเยน วุตฺตเมว. ตตฺถ ปกตตฺตา กมฺมปฺปตฺตาติ จตุวคฺคกรเณ กมฺเม จตฺตาโร ปกตตฺตา อนุกฺขิตฺตา อนิสฺสาริตา ปริสุทฺธสีลา จตฺตาโร ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา กมฺมสฺส อรหา อนุจฺฉวิกา สามิโน. น เตหิ วินา ตํ กมฺมํ กรียติ, น เตสํ ฉนฺโท วา ปาริสุทฺธิ วา เอติ, อวเสสา ปน สเจปิ สหสฺสมตฺตา โหนฺติ, สเจ สมานสํวาสกา สพฺเพ ฉนฺทารหาว โหนฺติ, ฉนฺทปาริสุทฺธึ ทตฺวา อาคจฺฉนฺตุ วา มา วา, กมฺมํ ปน ติฏฺติ. ยสฺส ปน สงฺโฆ ปริวาสาทิกมฺมํ กโรติ, โส เนว กมฺมปฺปตฺโต นาปิ ฉนฺทารโห, อปิจ ยสฺมา ตํ ปุคฺคลํ วตฺถุํ กตฺวา สงฺโฆ กมฺมํ กโรติ, ตสฺมา กมฺมารโหติ วุจฺจติ. เสสกมฺเมสุปิ เอเสว นโย.

๒๕๔. อปโลกนกมฺมํ กตมานิ ปฺจ านานิ คจฺฉติ, โอสารณํ นิสฺสารณํ ภณฺฑุกมฺมํ พฺรหฺมทณฺฑํ กมฺมลกฺขณฺเว ปฺจมนฺติ เอตฺถ ‘‘โอสารณํ นิสฺสารณ’’นฺติ ปทสิลิฏฺตาเยตํ วุตฺตํ, ปมํ ปน นิสฺสารณา โหติ, ปจฺฉา โอสารณา. ตตฺถ ยา สา กณฺฏกสฺส สามเณรสฺส ทณฺฑกมฺมนาสนา, สา นิสฺสารณาติ เวทิตพฺพา. ตสฺมา เอตรหิ สเจปิ สามเณโร พุทฺธสฺส วา ธมฺมสฺส วา สงฺฆสฺส วา อวณฺณํ ภณติ, อกปฺปิยํ ‘‘กปฺปิย’’นฺติ ทีเปติ, มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ, อนฺตคฺคาหิกาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคโต, โส ยาวตติยํ นิวาเรตฺวา ตํ ลทฺธึ วิสฺสชฺชาเปตพฺโพ. โน เจ วิสฺสชฺเชติ, สงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘วิสฺสชฺเชหี’’ติ วตฺตพฺโพ. โน เจ วิสฺสชฺเชติ, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา อปโลกนกมฺมํ กตฺวา นิสฺสาเรตพฺโพ. เอวฺจ ปน กมฺมํ กาตพฺพํ –

‘‘สงฺฆํ, ภนฺเต, ปุจฺฉามิ ‘อยํ อิตฺถนฺนาโม สามเณโร พุทฺธสฺส ธมฺมสฺส สงฺฆสฺส อวณฺณวาที มิจฺฉาทิฏฺิโก, ยํ อฺเ สามเณรา ลภนฺติ ทิรตฺตติรตฺตํ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สหเสยฺยํ, ตสฺสา อลาภาย นิสฺสารณา รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’ติ. ทุติยมฺปิ. ตติยมฺปิ ภนฺเต สงฺฆํ ปุจฺฉามิ ‘อยํ อิตฺถนฺนาโม สามเณโร…เป… รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’ติ, จร ปิเร วินสฺสา’’ติ.

โส อปเรน สมเยน ‘‘อหํ, ภนฺเต, พาลตาย อาณตาย อลกฺขิกตาย เอวํ อกาสึ, สฺวาหํ สงฺฆํ ขมาเปมี’’ติ ขมาเปนฺโต ยาวตติยํ ยาจาเปตฺวา อปโลกนกมฺเมเนว โอสาเรตพฺโพ, เอวฺจ ปน โอสาเรตพฺโพ. สงฺฆมชฺเฌ พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา สงฺฆสฺส อนุมติยา สาเวตพฺพํ –

‘‘สงฺฆํ, ภนฺเต, ปุจฺฉามิ ‘อยํ อิตฺถนฺนาโม สามเณโร พุทฺธสฺส ธมฺมสฺส สงฺฆสฺส อวณฺณวาที มิจฺฉาทิฏฺิโก, ยํ อฺเ สามเณรา ลภนฺติ ทิรตฺตติรตฺตํ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สหเสยฺยํ, ตสฺสา อลาภาย นิสฺสาริโต, สฺวายํ อิทานิ โสรโต นิวาตวุตฺติ ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกนฺโต หิโรตฺตปฺเป ปติฏฺิโต กตทณฺฑกมฺโม อจฺจยํ เทเสติ, อิมสฺส สามเณรสฺส ยถา ปุเร กายสมฺโภคสามคฺคิทานํ รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’’ติ.

เอวํ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ. เอวํ อปโลกนกมฺมํ โอสารณฺจ นิสฺสารณฺจ คจฺฉติ. ภณฺฑุกมฺมํ ปพฺพชฺชาวินิจฺฉยกถาย วุตฺตเมว.

พฺรหฺมทณฺโฑ ปน น เกวลํ ฉนฺนสฺเสว ปฺตฺโต, โย อฺโปิ ภิกฺขุ มุขโร โหติ, ภิกฺขู ทุรุตฺตวจเนหิ ฆฏฺเฏนฺโต ขุํเสนฺโต วมฺเภนฺโต วิหรติ, ตสฺสปิ ทาตพฺโพ, เอวฺจ ปน ทาตพฺโพ. สงฺฆมชฺเฌ พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา สงฺฆสฺส อนุมติยา สาเวตพฺพํ –

‘‘ภนฺเต, อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ มุขโร, ภิกฺขู ทุรุตฺตวจเนหิ ฆฏฺเฏนฺโต ขุํเสนฺโต วมฺเภนฺโต วิหรติ, โส ภิกฺขุ ยํ อิจฺเฉยฺย, ตํ วเทยฺย, ภิกฺขูหิ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ เนว วตฺตพฺโพ, น โอวทิตพฺโพ น อนุสาสิตพฺโพ, สงฺฆํ, ภนฺเต, ปุจฺฉามิ ‘อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑสฺส ทานํ รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’ติ. ทุติยมฺปิ ปุจฺฉามิ…เป… ตติยมฺปิ ปุจฺฉามิ ‘อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑสฺส ทานํ รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’’ติ.

ตสฺส อปเรน สมเยน สมฺมา วตฺติตฺวา ขมาเปนฺตสฺส พฺรหฺมทณฺโฑ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺโพ, เอวฺจ ปน ปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺโพ. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา สงฺฆมชฺเฌ สาเวตพฺพํ –

‘‘ภนฺเต, ภิกฺขุสงฺโฆ อสุกสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑํ อทาสิ, โส ภิกฺขุ โสรโต นิวาตวุตฺติ ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกนฺโต หิโรตฺตปฺเป ปติฏฺิโต ปฏิสงฺขา อายตึ สํวเร ติฏฺติ, สงฺฆํ, ภนฺเต, ปุจฺฉามิ ‘ตสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิ รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’’ติ.

เอวํ ยาวตติยํ วตฺวา อปโลกนกมฺเมเนว พฺรหฺมทณฺโฑ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺโพติ.

กมฺมลกฺขณฺเว ปฺจมนฺติ ยํ ตํ ภควตา ภิกฺขุนิกฺขนฺธเก –

‘‘เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย กทฺทโมทเกน โอสิฺจนฺติ ‘อปฺเปว นาม อมฺเหสุ สารชฺเชยฺยุ’นฺติ, กายํ วิวริตฺวา ภิกฺขุนีนํ ทสฺเสนฺติ, อูรุํ วิวริตฺวา ภิกฺขุนีนํ ทสฺเสนฺติ, องฺคชาตํ วิวริตฺวา ภิกฺขุนีนํ ทสฺเสนฺติ. ภิกฺขุนิโย โอภาเสนฺติ, ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ สมฺปโยเชนฺติ ‘อปฺเปว นาม อมฺเหสุ สารชฺเชยฺยุ’’’นฺติ (จูฬว. ๔๑๑) –

อิเมสุ วตฺถูสุ เยสํ ภิกฺขูนํ ทุกฺกฏํ ปฺเปตฺวา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตสฺส ภิกฺขุโน ทณฺฑกมฺมํ กาตุ’’นฺติ วตฺวา ‘‘กึ นุ โข ทณฺฑกมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติ สํสเย อุปฺปนฺเน ‘‘อวนฺทิโย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภิกฺขุนิสงฺเฆน กาตพฺโพ’’ติ เอวํ อวนฺทิยกมฺมํ อนุฺาตํ, ตํ กมฺมลกฺขณฺเว ปฺจมํ, อิมสฺส อปโลกนกมฺมสฺส านํ โหติ. ตสฺส หิ กมฺมฺเว ลกฺขณํ, น โอสารณาทีนิ, ตสฺมา กมฺมลกฺขณนฺติ วุจฺจติ. ตสฺส กรณํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา สทฺธึ วิตฺถารโต ทสฺสยิสฺสาม. ภิกฺขุนุปสฺสเย สนฺนิปติตสฺส ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อนุมติยา พฺยตฺตาย ภิกฺขุนิยา สาเวตพฺพํ –

‘‘อยฺเย, อสุโก นาม อยฺโย ภิกฺขุนีนํ อปาสาทิกํ ทสฺเสติ, เอตสฺส อยฺยสฺส อวนฺทิยกรณํ รุจฺจตี’’ติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ ปุจฺฉามิ. ‘อยฺเย, อสุโก นาม อยฺโย ภิกฺขุนีนํ อปาสาทิกํ ทสฺเสติ, เอตสฺส อยฺยสฺส อวนฺทิยกรณํ รุจฺจตี’ติ ทุติยมฺปิ. ตติยมฺปิ ภิกฺขุนิสงฺฆํ ปุจฺฉามี’’ติ.

เอวํ ติกฺขตฺตุํ สาเวตฺวา อปโลกนกมฺเมน อวนฺทิยกมฺมํ กาตพฺพํ.

ตโต ปฏฺาย โส ภิกฺขุ ภิกฺขุนีหิ น วนฺทิตพฺโพ. สเจ อวนฺทิยมาโน หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา สมฺมา วตฺตติ, เตน ภิกฺขุนิโย ขมาเปตพฺพา. ขมาเปนฺตน ภิกฺขุนุปสฺสยํ อคนฺตฺวา วิหาเรเยว สงฺฆํ วา คณํ วา เอกํ ภิกฺขุํ วา อุปสงฺกมิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, ปฏิสงฺขา อายตึ สํวเร ติฏฺามิ, น ปุน อปาสาทิกํ ทสฺเสสฺสามิ, ภิกฺขุนิสงฺโฆ มยฺหํ ขมตู’’ติ ขมาเปตพฺพํ. เตน สงฺเฆน วา คเณน วา เอกํ ภิกฺขุํ เปเสตฺวา เอกภิกฺขุนา วา สยเมว คนฺตฺวา ภิกฺขุนิโย วตฺตพฺพา ‘‘อยํ ภิกฺขุ ปฏิสงฺขา อายตึ สํวเร ิโต, อิมินา อจฺจยํ เทเสตฺวา ภิกฺขุนิสงฺโฆ ขมาปิโต, ภิกฺขุนิสงฺโฆ อิมํ ภิกฺขุํ วนฺทิยํ กโรตู’’ติ. โส วนฺทิโย กาตพฺโพ, เอวฺจ ปน กาตพฺโพ. ภิกฺขุนุปสฺสเย สนฺนิปติตสฺส ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อนุมติยา พฺยตฺตาย ภิกฺขุนิยา สาเวตพฺพํ –

‘‘อยฺเย, อสุโก นาม อยฺโย ภิกฺขุนีนํ อปาสาทิกํ ทสฺเสตีติ ภิกฺขุนิสงฺเฆน อวนฺทิโย กโต, โส ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกมิตฺวา ปฏิสงฺขา อายตึ สํวเร ิโต, อจฺจยํ เทเสตฺวา ภิกฺขุนิสงฺฆํ ขมาเปสิ, ตสฺส อยฺยสฺส วนฺทิยกรณํ รุจฺจตีติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ ปุจฺฉามี’’ติ –

ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ. เอวํ อปโลกนกมฺเมเนว วนฺทิโย กาตพฺโพ.

๒๕๕. อยํ ปเนตฺถ ปาฬิมุตฺตโกปิ กมฺมลกฺขณวินิจฺฉโย (ปริ. อฏฺ. ๔๙๕-๔๙๖). อิทฺหิ กมฺมลกฺขณํ นาม ภิกฺขุนิสงฺฆมูลกํ ปฺตฺตํ, ภิกฺขุสงฺฆสฺสปิ ปเนตํ ลพฺภติเยว. ยฺหิ ภิกฺขุสงฺโฆ สลากภตฺตอุโปสถคฺเคสุ จ อปโลกนกมฺมํ กโรติ, เอตมฺปิ กมฺมลกฺขณเมว. อจฺฉินฺนจีวรชิณฺณจีวรนฏฺจีวรานฺหิ สงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ยาวตติยํ สาเวตฺวา อปโลกนกมฺมํ กตฺวา จีวรํ ทาตุํ วฏฺฏติ. อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชเกน ปน จีวรํ กโรนฺตสฺส ปจฺจยภาชนียกถายํ วุตฺตปฺปเภทานิ สูจิอาทีนิ อนปโลเกตฺวาปิ ทาตพฺพานิ. เตสํ ทาเน โสเยว อิสฺสโร, ตโต อติเรกํ เทนฺเตน อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ. ตโต หิ อติเรกทาเน สงฺโฆ สามี. คิลานเภสชฺชมฺปิ ตตฺถ วุตฺตปฺปการํ สยเมว ทาตพฺพํ, อติเรกํ อิจฺฉนฺตสฺส อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ. โยปิ จ ทุพฺพโล วา ฉินฺนิริยาปโถ วา ปจฺฉินฺนภิกฺขาจารปโถ วา มหาคิลาโน, ตสฺส มหาวาเสสุ ตตฺรุปฺปาทโต เทวสิกํ นาฬิ วา อุปฑฺฒนาฬิ วา, เอกทิวสํเยว วา ปฺจ วา ทส วา ตณฺฑุลนาฬิโย เทนฺเตน อปโลกนกมฺมํ กตฺวาว ทาตพฺพา. เปสลสฺส ภิกฺขุโน ตตฺรุปฺปาทโต อิณปลิโพธมฺปิ พหุสฺสุตสฺส สงฺฆภารนิตฺถรกสฺส ภิกฺขุโน อนุฏฺาปนียเสนาสนมฺปิ สงฺฆกิจฺจํ กโรนฺตานํ กปฺปิยการกาทีนํ ภตฺตเวตนมฺปิ อปโลกนกมฺเมน ทาตุํ วฏฺฏติ.

จตุปจฺจยวเสน ทินฺนตตฺรุปฺปาทโต สงฺฆิกํ อาวาสํ ชคฺคาเปตุํ วฏฺฏติ, ‘‘อยํ ภิกฺขุ อิสฺสรวตาย วิจาเรตี’’ติ กถาปจฺฉินฺทนตฺถํ ปน สลากคฺคาทีสุ วา อนฺตรสนฺนิปาเต วา สงฺฆํ อาปุจฺฉิตฺวาว ชคฺคาเปตพฺโพ. จีวรปิณฺฑปาตตฺถาย โอทิสฺส ทินฺนตตฺรุปฺปาทโตปิ อปโลเกตฺวา อาวาโส ชคฺคาเปตพฺโพ, อนปโลเกตฺวาปิ วฏฺฏติ, ‘‘สูโร วตายํ ภิกฺขุ จีวรปิณฺฑปาตตฺถาย โอทิสฺส ทินฺนโต อาวาสํ ชคฺคาเปตี’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนกถาปจฺเฉทนตฺถํ ปน อปโลกนกมฺมเมว กตฺวา ชคฺคาเปตพฺโพ.

เจติเย ฉตฺตํ วา เวทิกํ วา โพธิฆรํ วา อาสนฆรํ วา อกตํ วา กโรนฺเตน ชิณฺณํ วา ปฏิสงฺขโรนฺเตน สุธากมฺมํ วา กโรนฺเตน มนุสฺเส สมาทเปตฺวา กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ การโก นตฺถิ, เจติยสฺส อุปนิกฺเขปโต กาเรตพฺพํ. อุปนิกฺเขเปปิ อสติ อปโลกนกมฺมํ กตฺวา ตตฺรุปฺปาทโต กาเรตพฺพํ, สงฺฆิเกนปิ อปโลเกตฺวา เจติยกิจฺจํ กาตุํ วฏฺฏติ. เจติยสฺส สนฺตเกน อปโลเกตฺวาปิ สงฺฆิกกิจฺจํ น วฏฺฏติ, ตาวกาลิกํ ปน คเหตฺวา ปฏิปากติกํ กาตุํ วฏฺฏติ. เจติเย สุธากมฺมาทีนิ กโรนฺเตหิ ปน ภิกฺขาจารโต วา สงฺฆโต วา ยาปนมตฺตํ อลภนฺเตหิ เจติยสนฺตกโต ยาปนมตฺตํ คเหตฺวา ปริภุฺชนฺเตหิ วตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติ, ‘‘วตฺตํ กโรมา’’ติ มจฺฉมํสาทีหิ สงฺฆภตฺตํ กาตุํ น วฏฺฏติ.

เย วิหาเร โรปิตา ผลรุกฺขา สงฺเฆน ปริคฺคหิตา โหนฺติ, ชคฺคนกมฺมํ ลภนฺติ. เยสํ ผลานิ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภาเชตฺวา ปริภุฺชนฺติ, เตสุ อปโลกนกมฺมํ น กาตพฺพํ. เย ปน อปริคฺคหิตา, เตสุ อปโลกนกมฺมํ กาตพฺพํ, ตํ ปน สลากคฺคยาคคฺคภตฺตคฺคอนฺตรสออาปาเตสุปิ กาตุํ วฏฺฏติ, อุโปสถคฺเค ปน วฏฺฏติเยว. ตตฺถ หิ อนาคตานมฺปิ ฉนฺทปาริสุทฺธิ อาหรียติ, ตสฺมา ตํ สุวิโสธิตํ โหติ. เอวฺจ ปน กาตพฺพํ, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ภิกฺขุสงฺฆสฺส อนุมติยา สาเวตพฺพํ –

‘‘ภนฺเต, ยํ อิมสฺมึ วิหาเร อนฺโตสีมาย สงฺฆสนฺตกํ มูลตจปตฺตองฺกุรปุปฺผผลขาทนียาทิ อตฺถิ, ตํ สพฺพํ อาคตาคตานํ ภิกฺขูนํ ยถาสุขํ ปริภุฺชิตุํ รุจฺจตีติ สงฺฆํ ปุจฺฉามี’’ติ –

ติกฺขตฺตุํ ปุจฺฉิตพฺพํ.

จตูหิ ปฺจหิ ภิกฺขูหิ กตํ สุกตเมว. ยสฺมิมฺปิ วิหาเร ทฺเว ตโย ชนา วสนฺติ, เตหิ นิสีทิตฺวา กตมฺปิ สงฺเฆน กตสทิสเมว. ยสฺมึ ปน เอโก ภิกฺขุ โหติ, เตน ภิกฺขุนา อุโปสถทิวเส ปุพฺพกรณปุพฺพกิจฺจํ กตฺวา นิสินฺเนน กตมฺปิ กติกวตฺตํ สงฺเฆน กตสทิสเมว โหติ. กโรนฺเตน ปน ผลวาเรน กาตุมฺปิ จตฺตาโร มาเส ฉ มาเส เอกสํวจฺฉรนฺติ เอวํ ปริจฺฉินฺทิตฺวาปิ อปริจฺฉินฺทิตฺวาปิ กาตุํ วฏฺฏติ. ปริจฺฉินฺเน ยถาปริจฺเฉทํ ปริภุฺชิตฺวา ปุน กาตพฺพํ. อปริจฺฉินฺเน ยาว รุกฺขา ธรนฺติ, ตาว วฏฺฏติ. เยปิ เตสํ รุกฺขานํ พีเชหิ อฺเ รุกฺขา โรปิตา โหนฺติ, เตสมฺปิ สา เอว กติกา.

สเจ ปน อฺสฺมึ วิหาเร โรปิตา โหนฺติ, เตสํ ยตฺถ โรปิตา, ตสฺมึเยว วิหาเร สงฺโฆ สามี. เยปิ อฺโต พีชานิ อาหริตฺวา ปุริมวิหาเร ปจฺฉา โรปิตา, เตสุ อฺา กติกา กาตพฺพา, กติกาย กตาย ปุคฺคลิกฏฺาเน ติฏฺนฺติ, ยถาสุขํ ผลาทีนิ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏนฺติ. สเจ ปเนตฺถ ตํ ตํ โอกาสํ ปริกฺขิปิตฺวา ปริเวณานิ กตฺวา ชคฺคนฺติ, เตสํ ภิกฺขูนํ ปุคฺคลิกฏฺาเน ติฏฺนฺติ, อฺเ ปริภุฺชิตุํ น ลภนฺติ. เตหิ ปน สงฺฆสฺส ทสมภาคํ ทตฺวา ปริภุฺชิตพฺพานิ. โยปิ มชฺเฌวิหาเร รุกฺขํ สาขาหิ ปริวาเรตฺวา รกฺขติ, ตสฺสปิ เอเสว นโย.

โปราณกวิหารํ คตสฺส สมฺภาวนียภิกฺขุโน ‘‘เถโร อาคโต’’ติ ผลาผลํ อาหรนฺติ, สเจ ตตฺถ มูเล สพฺพปริยตฺติธโร พหุสฺสุตภิกฺขุ วิหาสิ, ‘‘อทฺธา เอตฺถ ทีฆา กติกา กตา ภวิสฺสตี’’ติ นิกฺกุกฺกุจฺเจน ปริภุฺชิตพฺพํ. วิหาเร ผลาผลํ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ, ธุตงฺคํ น โกเปติ. สามเณรา อตฺตโน อาจริยุปชฺฌายานํ พหูนิ ผลานิ เทนฺติ, อฺเ ภิกฺขู อลภนฺตา ขิยฺยนฺติ, ขิยฺยนมตฺตเมว ตํ โหติ. สเจ ทุพฺภิกฺขํ โหติ, เอกํ ปนสรุกฺขํ นิสฺสาย สฏฺิปิ ชนา ชีวนฺติ, ตาทิเส กาเล สพฺเพสํ สงฺคหกรณตฺถาย ภาเชตฺวา ขาทิตพฺพํ. อยํ สามีจิ. ยาว ปน กติกวตฺตํ น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ตาว เตหิ ขายิตํ สุขายิตเมว. กทา ปน กติกวตฺตํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ? ยทา สมคฺโค สงฺโฆ สนฺนิปติตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย ภาเชตฺวา ขาทนฺตู’’ติ สาเวภิ, เอกภิกฺขุเก ปน วิหาเร เอเตน สาวิเตปิ ปุริมกติกา ปฏิปฺปสฺสมฺภติเยว. สเจ ปฏิปฺปสฺสทฺธาย กติกาย สามเณรา เนว รุกฺขโต ปาเตนฺติ, น ภูมิโต คเหตฺวา ภิกฺขูนํ เทนฺติ, ปติตผลานิ ปาเทหิ ปหรนฺตา วิจรนฺติ, เตสํ ทสมภาคโต ปฏฺาย ยาว อุปฑฺฒผลภาเคน ผาติกมฺมํ กาตพฺพํ. อทฺธา ผาติกมฺมโลเภน อาหริตฺวา ทสฺเสนฺติ, ปุน สุภิกฺเข ชาเต กปฺปิยการเกสุ อาคนฺตฺวา สาขาปริวาราทีนิ กตฺวา รุกฺเข รกฺขนฺเตสุ สามเณรานํ ผาติกมฺมํ น กาตพฺพํ, ภาเชตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ.

‘‘วิหาเร ผลาผลํ อตฺถี’’ติ สามนฺตคาเมหิ มนุสฺสา คิลานานํ วา คพฺภินีนํ วา อตฺถาย อาคนฺตฺวา ‘‘เอกํ นาฬิเกรํ เทถ, อมฺพํ เทถ, ลพุชํ เทถา’’ติ ยาจนฺติ, ทาตพฺพํ, น ทาตพฺพนฺติ? ทาตพฺพํ. อทียมาเน หิ เต โทมนสฺสิกา โหนฺติ. เทนฺเตน ปน สงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา ยาวตติยํ สาเวตฺวา อปโลกนกมฺมํ กตฺวาว ทาตพฺพํ, กติกวตฺตํ วา กตฺวา เปตพฺพํ, เอวฺจ ปน กาตพฺพํ. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา สงฺฆสฺส อนุมติยา สาเวตพฺพํ –

‘‘สามนฺตคาเมหิ มนุสฺสา อาคนฺตฺวา คิลานาทีนํ อตฺถาย ผลาผลํ ยาจนฺติ, ทฺเว นาฬิเกรานิ ทฺเว ตาลผลานิ ทฺเว ปนสานิ ปฺจ อมฺพานิ ปฺจ กทลิผลานิ คณฺหนฺตานํ อนิวารณํ, อสุกรุกฺขโต จ อสุกรุกฺขโต จ ผลํ คณฺหนฺตานํ อนิวารณํ รุจฺจติ ภิกฺขุสงฺฆสฺสา’’ติ –

ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ. ตโต ปฏฺาย คิลานาทีนํ นามํ คเหตฺวา ยาจนฺตา ‘‘คณฺหถา’’ติ น วตฺตพฺพา, วตฺตํ ปน อาจิกฺขิตพฺพํ ‘‘นาฬิเกราทีนิ อิมินา นาม ปริจฺเฉเทน คณฺหนฺตานํ อสุกรุกฺขโต จ อสุกรุกฺขโต จ ผลํ คณฺหนฺตานํ อนิวารณํ กต’’นฺติ. อนุวิจริตฺวา ปน ‘‘อยํ มธุรผโล อมฺโพ, อิโต คณฺหถา’’ติปิ น วตฺตพฺพา.

ผลภาชนกาเล ปน อาคตานํ สมฺมเตน อุปฑฺฒภาโค ทาตพฺโพ, อสมฺมเตน อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ. ขีณปริพฺพโย วา มคฺคคมิยสตฺถวาโห วา อฺโ วา อิสฺสโร อาคนฺตฺวา ยาจติ, อปโลเกตฺวาว ทาตพฺพํ, พลกฺกาเรน คเหตฺวา ขาทนฺโต น วาเรตพฺโพ. กุทฺโธ หิ โส รุกฺเขปิ ฉินฺเทยฺย, อฺมฺปิ อนตฺถํ กเรยฺย. ปุคฺคลิกปริเวณํ อาคนฺตฺวา คิลานสฺส นาเมน ยาจนฺโต ‘‘อมฺเหหิ ฉายาทีนํ อตฺถาย โรปิตํ, สเจ อตฺถิ, ตุมฺเห ชานาถา’’ติ วตฺตพฺโพ. ยทิ ปน ผลภริตาว รุกฺขา โหนฺติ, กณฺฏเก พนฺธิตฺวา ผลวาเรน คณฺหนฺติ, อปจฺจาสีสนฺเตน หุตฺวา ทาตพฺพํ, พลกฺกาเรน คณฺหนฺโต น วาเรตพฺโพ. ปุพฺเพ วุตฺตเมเวตฺถ การณํ.

สงฺฆสฺส ผลาราโม โหติ, ปฏิชคฺคนํ น ลภติ. สเจ ตํ โกจิ วตฺตสีเสน ชคฺคติ, สงฺฆสฺเสว โหติ. อถาปิ กสฺสจิ ปฏิพลสฺส ภิกฺขุโน ‘‘อิมํ สปฺปุริส ชคฺคิตฺวา เทหี’’ติ สงฺโฆ ภารํ กโรติ, โส เจ วตฺตสีเสน ชคฺคติ, เอวมฺปิ สงฺฆสฺเสว โหติ. ผาติกมฺมํ ปจฺจาสีสนฺตสฺส ปน ตติยภาเคน วา อุปฑฺฒภาเคน วา ผาติกมฺมํ กาตพฺพํ. ‘‘ภาริยํ กมฺม’’นฺติ วตฺวา เอตฺตเกน อนิจฺฉนฺโต ปน ‘‘สพฺพํ ตเวว สนฺตกํ กตฺวา มูลภาคํ ทสมภาคมตฺตํ ทตฺวา ชคฺคาหี’’ติปิ วตฺตพฺโพ, ครุภณฺฑตฺตา ปน น มูลจฺเฉชฺชวเสน ทาตพฺพํ. โส มูลภาคํ ทตฺวา ขาทนฺโต อกตาวาสํ วา กตฺวา กตาวาสํ วา ชคฺคิตฺวา นิสฺสิตกานํ อารามํ นิยฺยาเตติ, เตหิปิ มูลภาโค ทาตพฺโพว.

ยทา ปน ภิกฺขู สยํ ชคฺคิตุํ ปโหนฺติ, อถ เตสํ ชคฺคิตุํ น ทาตพฺพํ, ชคฺคิตกาเล ปน น วาเรตพฺพา, ชคฺคนกาเลเยว วาเรตพฺพา. ‘‘พหุ ตุมฺเหหิ ขายิตํ, อิทานิ มา ชคฺคิตฺถ, ภิกฺขุสงฺโฆเยว ชคฺคิสฺสตี’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ปน เนว วตฺตสีเสน ชคฺคนฺโต อตฺถิ, น ผาติกมฺเมน, น สงฺโฆ ชคฺคิตุํ ปโหติ, เอโก อนาปุจฺฉิตฺวาว ชคฺคิตฺวา ผาติกมฺมํ วฑฺเฒตฺวา ปจฺจาสีสติ, อปโลกนกมฺเมน ผาติกมฺมํ วฑฺเฒตฺวาว ทาตพฺพํ. อิติ อิมํ สพฺพมฺปิ กมฺมลกฺขณเมว โหติ. อปโลกนกมฺมํ อิมานิ ปฺจ านานิ คจฺฉติ.

๒๕๖. ตฺติกมฺมฏฺานเภเท ปน (ปริ. อฏฺ. ๔๙๕-๔๙๖) –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข, อนุสิฏฺโ โส มยา, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อาคจฺเฉยฺย, ‘อาคจฺฉาหี’ติ วตฺตพฺโพ’’ติ –

เอวํ อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส โอสารณา โอสารณา นาม.

‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ ธมฺมกถิโก, อิมสฺส เนว สุตฺตํ อาคจฺฉติ, โน สุตฺตวิภงฺโค, โส อตฺถํ อสลฺลกฺเขตฺวา พฺยฺชนจฺฉายาย อตฺถํ ปฏิพาหติ, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ วุฏฺาเปตฺวา อวเสสา อิมํ อธิกรณํ วูปสเมยฺยามา’’ติ –

เอวํ อุพฺพาหิกวินิจฺฉเย ธมฺมกถิกสฺส ภิกฺขุโน นิสฺสารณา นิสฺสารณา นาม.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อชฺชุโปสโถ ปนฺนรโส, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อุโปสถํ กเรยฺยา’’ติ –

เอวํ อุโปสถกมฺมวเสน ปิตา ตฺติ อุโปสโถ นาม.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อชฺช ปวารณา ปนฺนรสี, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ปวาเรยฺยา’’ติ –

เอวํ ปวารณกมฺมวเสน ปิตา ตฺติ ปวารณา นาม.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ อนุสาเสยฺย’’นฺติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ อนุสาเสยฺยา’’ติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ อนฺตรายิเก ธมฺเม ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ อนฺตรายิเก ธมฺเม ปุจฺเฉยฺยา’’ติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ วินยํ ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ วินยํ ปุจฺเฉยฺยา’’ติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนาเมน วินยํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชยฺย’’นฺติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนาเมน วินยํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชยฺยา’’ติ –

เอวํ อตฺตานํ วา ปรํ วา สมฺมนฺนิตุํ ปิตา ตฺติ สมฺมุติ นาม.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิทํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน นิสฺสคฺคิยํ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺยา’’ติ, ‘‘ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อายสฺมนฺตา อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺยุ’’นฺติ –

เอวํ นิสฺสฏฺจีวรปตฺตาทีนํ ทานํ ทานํ นาม.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ อาปตฺตึ สรติ วิวรติ อุตฺตานึ กโรติ เทเสติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺเหยฺย’’นฺติ, ‘‘ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺเหยฺย’’นฺติ, เตน วตฺตพฺโพ ‘‘ปสฺสสี’’ติ. อาม, ปสฺสามีติ. ‘‘อายตึ สํวเรยฺยาสี’’ติ –

เอวํ อาปตฺติปฏิคฺคโห ปฏิคฺคโห นาม.

‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา อาวาสิกา, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อิทานิ อุโปสถํ กเรยฺยาม, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยาม, อาคเม กาเฬ ปวาเรยฺยามา’’ติ.

เต เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สงฺเฆ อธิกรณการกา ตํ กาฬํ อนุวเสยฺยุํ, อาวาสิเกน ภิกฺขุนา พฺยตฺเตน ปฏิพเลน อาวาสิกา ภิกฺขู าเปตพฺพา –

‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา อาวาสิกา, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อิทานิ อุโปสถํ กเรยฺยาม, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยาม, อาคเม ชุณฺเห ปวาเรยฺยามา’’ติ –

เอวํ กตา ปวารณาปจฺจุกฺกฑฺฒนา ปจฺจุกฺกฑฺฒนา นาม.

สพฺเพเหว เอกชฺฌํ สนฺนิปติตพฺพํ, สนฺนิปติตฺวา พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อมฺหากํ ภณฺฑนชาตานํ กลหชาตานํ วิวาทาปนฺนานํ วิหรตํ พหุํ อสฺสามณกํ อชฺฌาจิณฺณํ ภาสิตปริกฺกนฺตํ, สเจ มยํ อิมาหิ อาปตฺตีหิ อฺมฺํ กาเรสฺสาม, สิยาปิ ตํ อธิกรณํ กกฺขฬตฺตาย วาฬตฺตาย เภทาย สํวตฺเตยฺย, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ อธิกรณํ ติณวตฺถารเกน วูปสเมยฺย เปตฺวา ถุลฺลวชฺชํ เปตฺวา คิหิปฺปฏิสํยุตฺต’’นฺติ –

เอวํ ติณวตฺถารกสมเถน กตฺวา สพฺพปมา สพฺพสงฺคาหิกตฺติ กมฺมลกฺขณํ นาม.

ตถา ตโต ปรา เอเกกสฺมึ ปกฺเข เอเกกํ กตฺวา ทฺเว ตฺติโย. อิติ ยถาวุตฺตปฺปเภทํ โอสารณํ นิสฺสารณํ…เป… กมฺมลกฺขณฺเว นวมนฺติ ตฺติกมฺมํ อิมานิ นว านานิ คจฺฉติ.

๒๕๗. ตฺติทุติยกมฺมฏฺานเภเท (ปริ. อฏฺ. ๔๙๕-๔๙๖) ปน วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิโน ปตฺตนิกฺกุชฺชนวเสน ขนฺธเก วุตฺตา นิสฺสารณา, ตสฺเสว ปตฺตุกฺกุชฺชนวเสน ขนฺธเก วุตฺตา โอสารณา จ เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ (จูฬว. ๒๖๕-๒๖๖) –

‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส อุปาสกสฺส ปตฺโต นิกฺกุชฺชิตพฺโพ. ภิกฺขูนํ อลาภาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขูนํ อนตฺถาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขูนํ อวาสาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขู อกฺโกสติ ปริภาสติ, ภิกฺขู ภิกฺขูหิ เภเทติ, พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส อวณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส อวณฺณํ ภาสติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส อุปาสกสฺส ปตฺตํ นิกฺกุชฺชิตุํ.

เอวฺจ ปน ภิกฺขเว นิกฺกุชฺชิตพฺโพ. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, วฑฺโฒ ลิจฺฉวี อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺตํ นิกฺกุชฺเชยฺย, อสมฺโภคํ สงฺเฆน กเรยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, วฑฺโฒ ลิจฺฉวี อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสติ, สงฺโฆ วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺตํ นิกฺกุชฺชติ, อสมฺโภคํ สงฺเฆน กโรติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺตสฺส นิกฺกุชฺชนา อสมฺโภคํ สงฺเฆน กรณํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘นิกฺกุชฺชิโต สงฺเฆน วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺโต อสมฺโภโค สงฺเฆน, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ.

อฏฺหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส อุปาสกสฺส ปตฺโต อุกฺกุชฺชิตพฺโพ. น ภิกฺขูนํ อลาภาย ปริสกฺกติ, น ภิกฺขูนํ อนตฺถาย ปริสกฺกติ…เป… น สงฺฆสฺส อวณฺณํ ภาสติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส อุปาสกสฺส ปตฺตํ อุกฺกุชฺชิตุํ.

เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, อุกฺกุชฺชิตพฺโพ. เตน, ภิกฺขเว, วฑฺเฒน ลิจฺฉวินา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย –

‘‘สงฺเฆน เม, ภนฺเต, ปตฺโต นิกฺกุชฺชิโต, อสมฺโภโคมฺหิ สงฺเฆน, โสหํ, ภนฺเต, สมฺมา วตฺตามิ, โลมํ ปาเตมิ, เนตฺถารํ วตฺตามิ, สงฺฆํ ปตฺตุกฺกุชฺชนํ ยาจามี’’ติ.

ทุติยมฺปิ ยาจิตพฺโพ. ตติยมฺปิ ยาจิตพฺโพ.

พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, สงฺเฆน วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺโต นิกฺกุชฺชิโต, อสมฺโภโค สงฺเฆน, โส สมฺมา วตฺตติ, โลมํ ปาเตติ, เนตฺถารํ วตฺตติ, สงฺฆํ ปตฺตุกฺกุชฺชนํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺตํ อุกฺกุชฺเชยฺย, สมฺโภคํ สงฺเฆน กเรยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, สงฺเฆน วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺโต นิกฺกุชฺชิโต, อสมฺโภโค สงฺเฆน, โส สมฺมา วตฺตติ, โลมํ ปาเตติ, เนตฺถารํ วตฺตติ, สงฺฆํ ปตฺตุกฺกุชฺชนํ ยาจติ, สงฺโฆ วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺตํ อุกฺกุชฺชติ, สมฺโภคํ สงฺเฆน กโรติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺตสฺส อุกฺกุชฺชนา สมฺโภคํ สงฺเฆน กรณํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘อุกฺกุชฺชิโต สงฺเฆน วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺโต สมฺโภโค สงฺเฆน, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ.

เอตฺถ (จูฬว. อฏฺ. ๒๖๕) จ อฏฺสุ องฺเคสุ เอกเกนปิ องฺเคน สมนฺนาคตสฺส ปตฺตนิกฺกุชฺชนกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ, อนฺโตสีมาย วา นิสฺสีมํ คนฺตฺวา นทีอาทีสุ วา นิกฺกุชฺชิตุํ วฏฺฏติเยว. เอวํ นิกฺกุชฺชิเต ปน ปตฺเต ตสฺส เคเห โกจิ เทยฺยธมฺโม น คเหตพฺโพ, ‘‘อสุกสฺส เคเห ภิกฺขํ มา คณฺหิตฺถา’’ติ อฺวิหาเรสุปิ เปเสตพฺพํ. อุกฺกุชฺชนกาเล ปน ยาวตติยํ ยาจาเปตฺวา หตฺถปาสํ วิชหาเปตฺวา ตฺติทุติยกมฺเมน อุกฺกุชฺชิตพฺโพ.

สีมาสมฺมุติ, ติจีวเรน อวิปฺปวาสสมฺมุติ, สนฺถตสมฺมุติ, ภตฺตุทฺเทสกเสนาสนคฺคาหาปกภณฺฑาคาริยจีวรปฏิคฺคาหกจีวรภาชกยาคุภาชกขชฺชภาชกผลภาชกอปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชกสาฏิยคฺคาหาปกปตฺตคฺคาหาปกอารามิกเปสกสามเณรเปสกสมฺมุตีติ เอตาสํ สมฺมุตีนํ วเสน สมฺมุติ เวทิตพฺพา. กถินจีวรทานมตกจีวรทานวเสน ทานํ เวทิตพฺพํ. กถินุทฺธารวเสน อุทฺธาโร เวทิตพฺโพ. กุฏิวตฺถุวิหารวตฺถุเทสนาวเสน เทสนา เวทิตพฺพา. ยา ปน ติณวตฺถารกสมเถ สพฺพสงฺคาหิกตฺติฺจ เอเกกสฺมึ ปกฺเข เอเกกตฺติฺจาติ ติสฺโส ตฺติโย เปตฺวา ปุน เอเกกสฺมึ ปกฺเข เอเกกาติ ทฺเว ตฺติทุติยกมฺมวาจา วุตฺตา, ตาสํ วเสน กมฺมลกฺขณํ เวทิตพฺพํ. อิติ ตฺติทุติยกมฺมํ อิมานิ สตฺต านานิ คจฺฉติ.

๒๕๘. ตฺติจตุตฺถกมฺมฏฺานเภเท ปน ตชฺชนียกมฺมาทีนํ สตฺตนฺนํ กมฺมานํ วเสน นิสฺสารณา, เตสํเยว จ กมฺมานํ ปฏิปฺปสฺสมฺภนวเสน โอสารณา เวทิตพฺพา. ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติวเสน สมฺมุติ เวทิตพฺพา. ปริวาสทานมานตฺตทานวเสน ทานํ เวทิตพฺพํ. มูลายปฏิกสฺสนกมฺมวเสน นิคฺคโห เวทิตพฺโพ. อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา, อฏฺ ยาวตติยกา, อริฏฺโ, จณฺฑกาฬี จ อิเมเต ยาวตติยกาติ อิมาสํ เอกาทสนฺนํ สมนุภาสนานํ วเสน สมนุภาสนา เวทิตพฺพา. อุปสมฺปทกมฺมอพฺภานกมฺมวเสน กมฺมลกฺขณํ เวทิตพฺพํ. อิติ ตฺติจตุตฺถกมฺมํ อิมานิ สตฺต านานิ คจฺฉติ. เอวํ กมฺมานิ จ กมฺมวิปตฺติ จ เตสํ กมฺมานํ การกสงฺฆปริจฺเฉโท จ วิปตฺติวิรหิตานํ กมฺมานํ านเภทคมนฺจ เวทิตพฺพํ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

กมฺมากมฺมวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

ปกิณฺณกกณฺฑมาติกา

คณโภชํ ปรมฺปรํ, นาปุจฺฉา ปํสุกูลกํ;

อจฺฉินฺนํ ปฏิภานฺจ, วิปฺปกตอุทฺทิสนํ.

ติวสฺสนฺตํ ทีฆาสนํ, คิลานุปฏฺวณฺณนํ;

อตฺตปาตมนเวกฺขํ, สิลาปวิชฺฌลิมฺปนํ.

มิจฺฉาทิฏฺิโคปทานํ, ธมฺมิการกฺขุจฺจาราทิ;

นฺหานฆํสํ ปณฺฑกาทิ, ทีฆเกสาทฺยาทาสาทิ.

นจฺจาทงฺคเฉทนิทฺธิ, ปตฺโต สพฺพปํสุกูลํ;

ปริสฺสาวนํ นคฺโค จ, ปุปฺผคนฺธอาสิตฺตกํ.

มโฬริเกกภาชนํ, เจลปฏิ ปาทฆํสี;

พีชนี ฉตฺตนขาทิ, กายพนฺธนิวาสนํ.

กาชหรํ ทนฺตกฏฺํ, รุกฺขาโรโห ฉนฺทาโรโป;

โลกายตํ ขิปิตโก, ลสุณํ นกฺกมิตพฺพํ.

อวนฺทิโย ตูลภิสิ, พิมฺโพหนอาสนฺทาทิ;

อุจฺจาสนมหาสนํ, จีวรอธมฺโมกาโส.

สทฺธาเทยฺยํ สนฺตุตฺตรํ, นิกฺเขโป สตฺถกมฺมาทิ;

นหาปิโต ทสภาโค, ปาเถยฺยํ มหาปเทโส;

อานิสํโสติ มาติกา.

๓๔. ปกิณฺณกวินิจฺฉยกถา

. อิทานิ ปกิณฺณกกถา จ เวทิตพฺพา. ‘‘คณโภชเน อฺตฺร สมยา ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๒๑๗) วุตฺตํ คณโภชนํ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๑๗-๒๑๘) ทฺวีหิ อากาเรหิ ปสวติ วิฺตฺติโต วา นิมนฺตนโต วา. กถํ วิฺตฺติโต ปสวติ? จตฺตาโร ภิกฺขู เอกโต ิตา วา นิสินฺนา วา อุปาสกํ ทิสฺวา ‘‘อมฺหากํ จตุนฺนมฺปิ ภตฺตํ เทหี’’ติ วา วิฺาเปยฺยุํ, ปาเฏกฺกํ วา ปสฺสิตฺวา ‘‘มยฺหํ เทหิ, มยฺหํ เทหี’’ติ เอวํ เอกโต วา นานาโต วา วิฺาเปตฺวา เอกโต วา คจฺฉนฺตุ นานาโต วา, ภตฺตํ คเหตฺวาปิ เอกโต วา ภุฺชนฺตุ นานาโต วา. สเจ เอกโต คณฺหนฺติ, คณโภชนํ โหติ, สพฺเพสํ อาปตฺติ. ปฏิคฺคหณเมว เหตฺถ ปมาณํ. เอวํ วิฺตฺติโต ปสวติ.

กถํ นิมนฺตนโต ปสวติ? จตฺตาโร ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, โอทเนน นิมนฺเตมิ, โอทนํ เม คณฺหถ อากงฺขถ โอโลเกถ อธิวาเสถ ปฏิมาเนถา’’ติ เอวํ เยน เกนจิ เววจเนน วา ภาสนฺตเรน วา ปฺจนฺนํ โภชนานํ นามํ คเหตฺวา นิมนฺเตติ. เอวํ เอกโต นิมนฺติตา ปริจฺฉินฺนกาลวเสน อชฺชตนาย วา สฺวาตนาย วา เอกโต คจฺฉนฺติ, เอกโต คณฺหนฺติ, เอกโต ภุฺชนฺติ, คณโภชนํ โหติ, สพฺเพสํ อาปตฺติ. เอกโต นิมนฺติตา เอกโต วา นานาโต วา คจฺฉนฺติ, เอกโต คณฺหนฺติ, เอกโต วา นานาโต วา ภุฺชนฺติ, อาปตฺติเยว. เอกโต นิมนฺติตา เอกโต วา นานาโต วา คจฺฉนฺติ, นานาโต คณฺหนฺติ, เอกโต วา นานาโต วา ภุฺชนฺติ, อนาปตฺติ. จตฺตาริ ปริเวณานิ วา วิหาเร วา คนฺตฺวา นานาโต นิมนฺติตา, เอกฏฺาเน ิเตสุเยว วา เอโก ปุตฺเตน เอโก ปิตราติ เอวมฺปิ นานาโต นิมนฺติตา เอกโต วา นานาโต วา คจฺฉนฺตุ, เอกโต วา นานาโต วา ภุฺชนฺตุ, สเจ เอกโต คณฺหนฺติ, คณโภชนํ โหติ, สพฺเพสํ อาปตฺติ. เอวํ ตาว นิมนฺตนโต ปสวติ.

ตสฺมา สเจ โกจิ สงฺฆภตฺตํ กตฺตุกาเมน นิมนฺตนตฺถาย เปสิโต วิหารํ อาคมฺม ‘‘ภนฺเต, สฺเว อมฺหากํ ฆเร ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ อวตฺวา ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วา ‘‘สงฺฆภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วา ‘‘สงฺโฆ ภตฺตํ คณฺหตู’’ติ วา วทติ, ภตฺตุทฺเทสเกน ปณฺฑิเตน ภวิตพฺพํ. นิมนฺตนิกา คณโภชนโต, ปิณฺฑปาติกา จ ธุตงฺคเภทโต โมเจตพฺพา. กถํ? เอวํ ตาว วตฺตพฺพํ ‘‘สฺเว น สกฺกา อุปาสกา’’ติ. ปุนทิวเส, ภนฺเตติ. ปุนทิวเสปิ น สกฺกาติ. เอวํ ยาว อฑฺฒมาสมฺปิ หริตฺวา ปุน วตฺตพฺโพ ‘‘กึ ตฺวํ อวจา’’ติ. สเจ ปุนปิ ‘‘สงฺฆภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ตโต ‘‘อิมํ ตาว อุปาสก ปุปฺผํ กปฺปิยํ กโรหิ, อิมํ ติณ’’นฺติ เอวํ วิกฺเขปํ กตฺวา ปุน ‘‘ตฺวํ กึ กถยิตฺถา’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ. สเจ ปุนปิ ตเถว วทติ, ‘‘อาวุโส, ตฺวํ ปิณฺฑปาติเก วา มหลฺลกตฺเถเร วา น ลจฺฉสิ, สามเณเร ลจฺฉสี’’ติ วตฺตพฺโพ. ‘‘นนุ, ภนฺเต, อสุกสฺมึ อสุกสฺมิฺจ คาเม ภทนฺเต โภเชสุํ, อหํ กสฺมา น ลภามี’’ติ จ วุตฺเต เต นิมนฺติตุํ ชานนฺติ, ตฺวํ น ชานาสีติ. เต กถํ นิมนฺเตสุํ, ภนฺเตติ? เต เอวมาหํสุ ‘‘อมฺหากํ, ภนฺเต, ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ. สเจ โสปิ ตเถว วทติ, วฏฺฏติ.

อถ ปุนปิ ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ‘‘น ทานิ ตฺวํ, อาวุโส, พหู ภิกฺขู ลจฺฉสิ, ตโย เอว, อาวุโส, ลจฺฉสี’’ติ วตฺตพฺโพ. ‘‘นนุ, ภนฺเต, อมุกสฺมิฺจ อมุกสฺมิฺจ คาเม สกลํ ภิกฺขุสงฺฆํ โภเชสุํ, อหํ กสฺมา น ลภามี’’ติ. ‘‘ตฺวํ นิมนฺติตุํ น ชานาสี’’ติ. เต กถํ นิมนฺเตสุํ, ภนฺเตติ? เต เอวมาหํสุ ‘‘อมฺหากํ, ภนฺเต, ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ. สเจ โสปิ ตเถว ‘‘ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. อถ ปุนปิ ‘‘ภตฺตเมวา’’ติ วทติ, ตโต วตฺตพฺโพ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, นตฺถมฺหากํ ตว ภตฺเตนตฺโถ, นิพทฺธโคจโร เอส อมฺหากํ, มยเมตฺถ ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติ. ตํ ‘‘จรถ, ภนฺเต’’ติ วตฺวา อาคตํ ปุจฺฉนฺติ ‘‘กึ โภ ลทฺธา ภิกฺขู’’ติ? กึ เอเตน, พหุ เอตฺถ วตฺตพฺพํ, เถรา ‘‘สฺเว ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติ อาหํสุ, มา ทานิ ตุมฺเห ปมชฺชิตฺถาติ. ทุติยทิวเส เจติยวตฺตํ กตฺวา ิตภิกฺขู สงฺฆตฺเถเรน วตฺตพฺพา ‘‘อาวุโส, ธุรคาเม สงฺฆภตฺตํ, อปณฺฑิตมนุสฺโส ปน อคมาสิ, คจฺฉาม, ธุรคาเม ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติ. ภิกฺขูหิ เถรสฺส วจนํ กาตพฺพํ, น ทุพฺพเจหิ ภวิตพฺพํ, คามทฺวาเร อฏฺตฺวาว ปิณฺฑาย จริตพฺพํ, เตสุ ปตฺตานิ คเหตฺวา นิสีทาเปตฺวา โภเชนฺเตสุ ภุฺชิตพฺพํ.

สเจ อาสนสาลาย ภตฺตํ เปตฺวา รถิกาสุ อาหิณฺฑนฺตา อาโรเจนฺติ ‘‘อาสนสาลายํ, ภนฺเต, ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ, น วฏฺฏติ. อถ ปน ‘‘ภตฺตํ อาทาย ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, ปฏิกจฺเจว วา วิหารํ อติหริตฺวา ปติรูเป าเน เปตฺวา อาคตาคตานํ เทนฺติ, อยํ อภิหฏภิกฺขา นาม วฏฺฏติ. สเจ ปน ภตฺตสาลาย ทานํ สชฺเชตฺวา ตํ ตํ ปริเวณํ ปหิณนฺติ ‘‘ภตฺตสาลาย ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ, วฏฺฏติ. เย ปน มนุสฺสา ปิณฺฑจาริเก ภิกฺขู ทิสฺวา อาสนสาลํ สมฺมชฺชิตฺวา ตตฺถ นิสีทาเปตฺวา โภเชนฺติ, น เต ปฏิกฺขิปิตพฺพา. เย ปน คาเม ภิกฺขํ อลภิตฺวา คามโต นิกฺขมนฺเต ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘ภนฺเต, ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, เต ปฏิกฺขิปิตพฺพา, น นิวตฺติตพฺพํ. สเจ ‘‘นิวตฺตถ, ภนฺเต, ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, ‘‘นิวตฺตถา’’ติ วุตฺตปเท นิวตฺติตุํ วฏฺฏติ. ‘‘นิวตฺตถ, ภนฺเต, ฆเร ภตฺตํ กตํ, คาเม ภตฺตํ กต’’นฺติ วทนฺติ, เคเห จ คาเม จ ภตฺตํ นาม ยสฺส กสฺสจิ โหติ, นิวตฺติตุํ วฏฺฏติ. ‘‘นิวตฺตถ ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ สมฺพนฺธํ กตฺวา วทนฺติ, นิวตฺติตุํ น วฏฺฏติ. อาสนสาลาโต ปิณฺฑาย จริตุํ นิกฺขมนฺเต ทิสฺวา ‘‘นิสีทถ, ภนฺเต, ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย.

‘‘อฺตฺร สมยา’’ติ วจนโต คิลานสมโย จีวรทานสมโย จีวรการสมโย อทฺธานคมนสมโย นาวาภิรุหนสมโย มหาสมโย สมณภตฺตสมโยติ เอเตสุ สตฺตสุ สมเยสุ อฺตรสฺมึ อนาปตฺติ. ตสฺมา ยถา มหาจมฺมสฺส ปรโต มํสํ ทิสฺสติ, เอวํ อนฺตมโส ปาทาปิ ผาลิตา โหนฺติ, วาลิกาย วา สกฺขราย วา ปหฏมตฺเต ทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺติ, น สกฺกา จ โหติ อนฺโตคาเม ปิณฺฑาย จริตุํ, อีทิเส เคลฺเ คิลานสมโยติ ภุฺชิตพฺพํ, น เลสกปฺปิยํ กาตพฺพํ.

จีวรทานสมโย นาม อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส, อตฺถเต กถิเน ปฺจมาสา. เอตฺถนฺตเร ‘‘จีวรทานสมโย’’ติ ภุฺชิตพฺพํ. จีวเร กริยมาเน จีวรการสมโยติ ภุฺชิตพฺพํ. ยทา หิ สาฏกฺจ สุตฺตฺจ ลภิตฺวา จีวรํ กโรนฺติ, อยํ จีวรการสมโย นาม, วิสุํ จีวรการสมโย นาม นตฺถิ, ตสฺมา โย ตตฺถ จีวเร กตฺตพฺพํ ยํ กิฺจิ กมฺมํ กโรติ, มหาปจฺจริยฺหิ ‘‘อนฺตมโส สูจิเวธโก’’ติปิ วุตฺตํ. เตน ‘‘จีวรการสมโย’’ติ ภุฺชิตพฺพํ. กุรุนฺทิยํ ปน วิตฺถาเรเนว วุตฺตํ ‘‘โย จีวรํ วิจาเรติ ฉินฺทติ, โมฆสุตฺตกํ เปติ, อาคนฺตุกปตฺตํ เปติ, ปจฺจาคตํ สิพฺเพติ, อาคนฺตุกปตฺตํ พนฺธติ, อนุวาตํ ฉินฺทติ ฆเฏติ อาโรเปติ, ตตฺถ ปจฺจาคตํ สิพฺเพติ, สุตฺตํ กโรติ วเลติ, ปิปฺผลิกํ นิเสติ, ปริวตฺตนํ กโรติ, สพฺโพปิ จีวรํ กโรติเยวาติ วุจฺจติ. โย ปน สมีเป นิสินฺโน ชาตกํ วา ธมฺมปทํ วา กเถติ, อยํ น จีวรการโก, เอตํ เปตฺวา เสสานํ คณโภชเน อนาปตฺตี’’ติ.

อทฺธานคมนสมเย อนฺตมโส อฑฺฒโยชนํ คนฺตุกาเมนปิ ‘‘อฑฺฒโยชนํ คจฺฉิสฺสามี’’ติ ภุฺชิตพฺพํ, คจฺฉนฺเตน ภุฺชิตพฺพํ, คเตน เอกทิวสํ ภุฺชิตพฺพํ.

นาวาภิรุหนสมเย ‘‘นาวํ อภิรุหิสฺสามี’’ติ ภุฺชิตพฺพํ, อารุฬฺเหน อิจฺฉิตฏฺานํ คนฺตฺวาปิ ยาว น โอโรหติ, ตาว ภุฺชิตพฺพํ, โอรุฬฺเหน เอกทิวสํ ภุฺชิตพฺพํ.

มหาสมโย นาม ยตฺถ ทฺเว ตโย ภิกฺขู ปิณฺฑาย จริตฺวา ยาเปนฺติ, อนฺตมโส จตุตฺเถปิ อาคเต น ยาเปนฺติ, อยํ มหาสมโย. ยตฺถ ปน สตํ วา สหสฺสํ วา สนฺนิปตนฺติ, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, ตสฺมา ตาทิเส กาเล ‘‘มหาสมโย’’ติ อธิฏฺหิตฺวา ภุฺชิตพฺพํ.

สมณภตฺตสมโย นาม โย โกจิ ปริพฺพาชกสมาปนฺโน ภตฺตํ กโรติ, อยํ สมณภตฺตสมโยว. ตสฺมา สหธมฺมิเกสุ วา ติตฺถิเยสุ วา อฺตเรน เยน เกนจิ กเต ภตฺเต ‘‘สมณภตฺตสมโย’’ติ ภุฺชิตพฺพํ. ‘‘อนาปตฺติ สมเย, ทฺเว ตโย เอกโต ภุฺชนฺติ, ปิณฺฑาย จริตฺวา เอกโต สนฺนิปติตฺวา ภุฺชนฺติ, นิจฺจภตฺตํ, สลากภตฺตํ, ปกฺขิกํ, อุโปสถิกํ, ปาฏิปทิกํ, ปฺจ โภชนานิ เปตฺวา สพฺพตฺถ อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. ๒๒๐) วจนโต เยปิ อกปฺปิยนิมนฺตนํ สาทิยิตฺวา ทฺเว วา ตโย วา เอกโต คเหตฺวา ภุฺชนฺติ, เตสมฺปิ อนาปตฺติ.

ตตฺถ อนิมนฺติตจตุตฺถํ ปิณฺฑปาติกจตุตฺถํ อนุปสมฺปนฺนจตุตฺถํ ปตฺตจตุตฺถํ คิลานจตุตฺถนฺติ ปฺจนฺนํ จตุตฺถานํ วเสน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. กถํ? อิเธกจฺโจ จตฺตาโร ภิกฺขู ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ นิมนฺเตติ. เตสุ ตโย คตา, เอโก น คโต. อุปาสโก ‘‘เอโก, ภนฺเต, เถโร กุหิ’’นฺติ ปุจฺฉติ. นาคโต อุปาสกาติ. โส อฺํ ตํขณปฺปตฺตํ กฺจิ ‘‘เอหิ, ภนฺเต’’ติ ฆรํ ปเวเสตฺวา จตุนฺนมฺปิ ภตฺตํ เทติ, สพฺเพสํ อนาปตฺติ. กสฺมา? คณปูรกสฺส อนิมนฺติตตฺตา. ตโย เอว หิ ตตฺถ นิมนฺติตา คณฺหึสุ, เตหิ คโณ น ปูรติ, คณปูรโก จ อนิมนฺติโต, เตน คโณ ภิชฺชตีติ. เอตํ อนิมนฺติตจตุตฺถํ.

ปิณฺฑปาติกจตุตฺเถ นิมนฺตนกาเล เอโก ปิณฺฑปาติโก โหติ, โส นาธิวาเสติ, คมนเวลายํ ปน ‘‘เอหิ ภนฺเต’’ติ วุตฺเต อนธิวาสิตตฺตา อนาคจฺฉนฺตมฺปิ ‘‘เอถ ภิกฺขํ ลจฺฉถา’’ติ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, โส ตํ คณํ ภินฺทติ, ตสฺมา สพฺเพสํ อนาปตฺติ.

อนุปสมฺปนฺนจตุตฺเถ สามเณเรน สทฺธึ นิมนฺติตา โหนฺติ, โสปิ คณํ ภินฺทติ.

ปตฺตจตุตฺเถ เอโก สยํ อาคนฺตฺวา ปตฺตํ เปเสติ, เอวมฺปิ คโณ ภิชฺชติ, ตสฺมา สพฺเพสํ อนาปตฺติ.

คิลานจตุตฺเถ คิลาเนน สทฺธึ นิมนฺติตา โหนฺติ, ตตฺถ คิลานสฺเสว อนาปตฺติ, อิตเรสํ ปน คณปูรโก โหติ. น หิ คิลาเนน คโณ ภิชฺชติ, ตสฺมา เตสํ อาปตฺติ. มหาปจฺจริยํ ปน อวิเสเสน วุตฺตํ ‘‘สมยลทฺธโก สยเมว มุจฺจติ, เสสานํ คณปูรกตฺตา อาปตฺติกโร โหตี’’ติ. ตสฺมา จีวรทานสมยลทฺธกาทีนมฺปิ วเสน จตุกฺกานิ เวทิตพฺพานิ.

สเจ ปน อธิวาเสตฺวา คเตสุปิ จตูสุ ชเนสุ เอโก ปณฺฑิโต ภิกฺขุ ‘‘อหํ ตุมฺหากํ คณํ ภินฺทิสฺสามิ, นิมนฺตนํ สาทิยถา’’ติ วตฺวา ยาคุขชฺชกาวสาเน ภตฺตตฺถาย ปตฺตํ คณฺหนฺตานํ อทตฺวา ‘‘อิเม ตาว ภิกฺขู โภเชตฺวา วิสฺสชฺเชถ, อหํ ปจฺฉา อนุโมทนํ กตฺวา คมิสฺสามี’’ติ นิสินฺโน, เตสุ ภุตฺวา คเตสุ ‘‘เทถ, ภนฺเต, ปตฺต’’นฺติ อุปาสเกน ปตฺตํ คเหตฺวา ภตฺเต ทินฺเน ภุฺชิตฺวา อนุโมทนํ กตฺวา คจฺฉติ, สพฺเพสํ อนาปตฺติ. ปฺจนฺนฺหิ โภชนานํเยว วเสน คณโภชเน วิสงฺเกตํ นตฺถิ, โอทเนน นิมนฺเตตฺวา กุมฺมาสํ คณฺหนฺตาปิ อาปชฺชนฺติ, ตานิ จ เตหิ เอกโต น คหิตานิ, ยาคุอาทีหิ ปน วิสงฺเกตํ โหติ, ตานิ เตหิ เอกโต คหิตานีติ เอวํ เอโก ปณฺฑิโต อฺเสมฺปิ อนาปตฺตึ กโรติ. นิจฺจภตฺตนฺติ ธุวภตฺตํ วุจฺจติ, ‘‘นิจฺจภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, พหูนํ เอกโต คเหตุํ วฏฺฏติ. สลากภตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย.

. ‘‘ปรมฺปรโภชเน อฺตฺร สมยา ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๒๒๒-๒๒๓, ๒๒๕) วุตฺตํ ปรมฺปรโภชนํ ปน นิมนฺตนโตเยว ปสวติ. โย หิ ‘‘ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรน โภชเนน ภตฺตํ คณฺหถา’’ติอาทินา นิมนฺติโต ตํ เปตฺวา อฺํ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรโภชนํ ภุฺชติ, ตสฺเสตํ โภชนํ ‘‘ปรมฺปรโภชน’’นฺติ วุจฺจติ. เอวํ ภุฺชนฺตสฺส เปตฺวา คิลานสมยํ จีวรทานสมยํ จีวรการสมยฺจ อฺสฺมึ สมเย ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ, ตสฺมา นิมนฺตนปฏิปาฏิยาว ภุฺชิตพฺพํ, น อุปฺปฏิปาฏิยา.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วิกปฺเปตฺวา ปรมฺปรโภชนํ ภุฺชิตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๒๒๖) วจนโต ปมนิมนฺตนํ อฺสฺส วิกปฺเปตฺวาปิ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. อยํ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๒๖ อาทโย) วิกปฺปนา นาม สมฺมุขาปิ ปรมฺมุขาปิ วฏฺฏติ. สมฺมุขา ทิสฺวา ‘‘มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสํ ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วา ‘‘ทมฺมี’’ติ วา วตฺวา ภุฺชิตพฺพํ, อทิสฺวา ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ ยสฺส กสฺสจิ นามํ คเหตฺวา ‘‘มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสํ อิตฺถนฺนามสฺส วิกปฺเปมี’’ติ วา ‘‘ทมฺมี’’ติ วา วตฺวา ภุฺชิตพฺพํ. ทฺเว ตีณิ นิมนฺตนานิ ปน เอกสฺมึ ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา มิสฺเสตฺวา เอกํ กตฺวา ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อนาปตฺติ ทฺเว ตโย นิมนฺตเน เอกโต ภุฺชตี’’ติ (ปาจิ. ๒๒๙) หิ วุตฺตํ. สเจ ทฺเว ตีณิ กุลานิ นิมนฺเตตฺวา เอกสฺมึ าเน นิสีทาเปตฺวา อิโต จิโต จ อาหริตฺวา ภตฺตํ อากิรนฺติ, สูปพฺยฺชนํ อากิรนฺติ, เอกมิสฺสกํ โหติ, เอตฺถาปิ อนาปตฺติ.

สเจ ปน มูลนิมนฺตนํ เหฏฺา โหติ, ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ อุปริ, ตํ อุปริโต ปฏฺาย ภุฺชนฺตสฺส อาปตฺติ, หตฺถํ ปน อนฺโต ปเวเสตฺวา ปมนิมนฺตนโต เอกมฺปิ กพฬํ อุทฺธริตฺวา ภุตฺตกาลโต ปฏฺาย ยถา ตถา วา ภุฺชนฺตสฺส อนาปตฺติ. ‘‘สเจปิ ตตฺถ ขีรํ วา รสํ วา อากิรนฺติ, เยน อชฺโฌตฺถตํ ภตฺตํ เอกรสํ โหติ, โกฏิโต ปฏฺาย ภุฺชนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ ‘‘ขีรภตฺตํ วา รสภตฺตํ วา ลภิตฺวา นิสินฺนสฺส ตตฺเถว อฺเปิ ขีรภตฺตํ วา รสภตฺตํ วา อากิรนฺติ, ขีรํ วา รสํ วา ปิวโต อนาปตฺติ, ภุฺชนฺเตน ปมํ ลทฺธมํสขณฺฑํ วา ภตฺตปิณฺฑํ วา มุเข ปกฺขิปิตฺวา โกฏิโต ปฏฺาย ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. สปฺปิปายาเสปิ เอเสว นโย’’ติ.

มหาอุปาสโก ภิกฺขุํ นิมนฺเตติ, ตสฺส กุลํ อุปคตสฺส อุปาสโกปิ ตสฺส ปุตฺตทารภาตุภคินิอาทโยปิ อตฺตโน อตฺตโน โกฏฺาสํ อาหริตฺวา ปตฺเต ปกฺขิปนฺติ, ‘‘อุปาสเกน ปมํ ทินฺนํ อภุฺชิตฺวา ปจฺฉา ลทฺธํ ภุฺชนฺตสฺส อาปตฺตี’’ติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. กุรุนฺทฏฺกถายํ ‘‘วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ‘‘สเจ ปาเฏกฺกํ ปจนฺติ, อตฺตโน อตฺตโน ปกฺกภตฺตโต อาหริตฺวา เทนฺติ, ตตฺถ ปจฺฉา อาหฏํ ปมํ ภุฺชนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. ยทิ ปน สพฺเพสํ เอโกว ปาโก โหติ, ปรมฺปรโภชนํ น โหตี’’ติ วุตฺตํ. มหาอุปาสโก นิมนฺเตตฺวา นิสีทาเปติ, อฺโ มนุสฺโส ปตฺตํ คณฺหาติ, น ทาตพฺพํ. กึ, ภนฺเต, น เทถาติ. นนุ อุปาสก ตยา นิมนฺติตมฺหาติ. ‘‘โหตุ, ภนฺเต, ลทฺธํ ลทฺธํ ภุฺชถา’’ติ วทติ, ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อฺเน อาหริตฺวา ภตฺเต ทินฺเน อาปุจฺฉิตฺวาปิ ภุฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ.

อนุโมทนํ กตฺวา คจฺฉนฺตํ ธมฺมํ โสตุกามา ‘‘สฺเวปิ, ภนฺเต, อาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ สพฺเพ นิมนฺเตนฺติ, ปุนทิวเส อาคนฺตฺวา ลทฺธํ ลทฺธํ ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. กสฺมา? สพฺเพหิ นิมนฺติตตฺตา. เอโกปิ ภิกฺขุ ปิณฺฑาย จรนฺโต ภตฺตํ ลภติ, ตมฺโ อุปาสโก นิมนฺเตตฺวา ฆเร นิสีทาเปติ, น จ ตาว ภตฺตํ สมฺปชฺชติ, สเจ โส ภิกฺขุ ปิณฺฑาย จริตฺวา ลทฺธภตฺตํ ภุฺชติ, อาปตฺติ. อภุฺชิตฺวา นิสินฺเน ‘‘กึ, ภนฺเต, น ภุฺชสี’’ติ วุตฺเต ‘‘ตยา นิมนฺติตตฺตา’’ติ วตฺวา ‘‘ลทฺธํ ลทฺธํ ภุฺชถ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. สกเลน คาเมน เอกโต หุตฺวา นิมนฺติตสฺส ยตฺถ กตฺถจิ ภุฺชโต อนาปตฺติ. ปูเคปิ เอเสว นโย. ‘‘อนาปตฺติ สกเลน คาเมน นิมนฺติโต ตสฺมึ คาเม ยตฺถ กตฺถจิ ภุฺชติ, สกเลน ปูเคน นิมนฺติโต ตสฺมึ ปูเค ยตฺถ กตฺถจิ ภุฺชติ, นิมนฺติยมาโน ‘ภิกฺขํ คเหสฺสามี’ติ ภณติ, นิจฺจภตฺเต สลากภตฺเต ปกฺขิเก อุโปสถิเก ปาฏิปทิเก ปฺจ โภชนานิ เปตฺวา สพฺพตฺถ อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. ๒๒๙) วุตฺตํ.

ตตฺถ นิมนฺติยมาโน ภิกฺขํ คเหสฺสามีติ ภณตีติ เอตฺถ ‘‘ภตฺตํ คณฺหา’’ติ นิมนฺติยมาโน ‘‘น มยฺหํ ตว ภตฺเตนตฺโถ, ภิกฺขํ คณฺหิสฺสามี’’ติ วทติ, อนาปตฺตีติ อตฺโถ. เอตฺถ ปน มหาปทุมตฺเถโร อาห ‘‘เอวํ วทนฺโต อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อนิมนฺตนํ กาตุํ สกฺโกติ, ภุฺชนตฺถาย ปน โอกาโส กโต โหตีติ เนว คณโภชนโต, น จาริตฺตโต มุจฺจตี’’ติ. มหาสุมตฺเถโร อาห ‘‘ยทคฺเคน อนิมนฺตนํ กาตุํ สกฺโกติ, ตทคฺเคน เนว คณโภชนํ, น จาริตฺตํ โหตี’’ติ.

ตตฺถ จาริตฺตนฺติ –

‘‘โย ปน ภิกฺขุ นิมนฺติโต สภตฺโต สมาโน สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺเชยฺย อฺตฺร สมยา ปาจิตฺติยํ. ตตฺถายํ สมโย จีวรทานสมโย จีวรการสมโย. อยํ ตตฺถ สมโย’’ติ (ปาจิ. ๒๙๙) –

เอวมาคตํ จาริตฺตสิกฺขาปทํ วุตฺตํ. อิมินา หิ สิกฺขาปเทน โย ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรน ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติอาทินา อกปฺปิยนิมนฺตเนน นิมนฺติโต, เตเนว นิมนฺตนภตฺเตน สภตฺโต สมาโน สนฺตํ ภิกฺขุํ ‘‘อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ฆรํ คจฺฉามี’’ติ วา ‘‘จาริตฺตํ อาปชฺชามี’’ติ วา อีทิเสน วจเนน อนาปุจฺฉิตฺวา เยน ภตฺเตน นิมนฺติโต, ตํ ภุตฺวา วา อภุตฺวา วา อวีติวตฺเตเยว มชฺฌนฺหิเก ยสฺมึ กุเล นิมนฺติโต, ตโต อฺานิ กุลานิ ปวิเสยฺย, ตสฺส วุตฺตลกฺขณํ ทุวิธมฺปิ สมยํ เปตฺวา อฺตฺถ ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ตสฺมา อกปฺปิยนิมนฺตเนน นิมนฺติยมาโน สเจ ‘‘ภิกฺขํ คณฺหิสฺสามี’’ติ วทติ, อิมินาปิ สิกฺขาปเทน อนาปตฺติ.

. สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉาติ เอตฺถ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๙๘) ปน กิตฺตาวตา สนฺโต โหติ, กิตฺตาวตา อสนฺโต? อนฺโตวิหาเร ยตฺถ ิตสฺส กุลานิ ปยิรุปาสนจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ตโต ปฏฺาย ยํ ปสฺเส วา อภิมุเข วา ปสฺสติ, ยสฺส สกฺกา โหติ ปกติวจเนน อาโรเจตุํ, อยํ สนฺโต นาม, อิโต จิโต จ ปริเยสิตฺวา อาโรจนกิจฺจํ ปน นตฺถิ. โย หิ เอวํ ปริเยสิตพฺโพ, โส อสนฺโตเยว. อปิจ อนฺโตอุปจารสีมาย ภิกฺขุํ ทิสฺวา ‘‘อาปุจฺฉิสฺสามี’’ติ คจฺฉติ. ตตฺถ ยํ ปสฺสติ, โส อาปุจฺฉิตพฺโพ. โน เจ ปสฺสติ, อสนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา ปวิฏฺโ นาม โหติ. วิกาลคามปฺปเวสเนปิ อยเมว นโย.

สเจ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑๒) ปน สมฺพหุลา เกนจิ กมฺเมน คามํ ปวิสนฺติ, ‘‘วิกาเล คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉามี’’ติ สพฺเพหิ อฺมฺํ อาปุจฺฉิตพฺพํ. ตสฺมึ คาเม ตํ กมฺมํ น สมฺปชฺชตีติ อฺํ คามํ คจฺฉนฺติ, คามสตมฺปิ โหตุ, ปุน อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ. สเจ ปน อุสฺสาหํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตฺวา วิหารํ คจฺฉนฺตา อนฺตรา อฺํ คามํ ปวิสิตุกามา โหนฺติ, ปุน อาปุจฺฉิตพฺพเมว. กุลฆเร วา อาสนสาลาย วา ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา เตลภิกฺขาย วา สปฺปิภิกฺขาย วา จริตุกาโม โหติ, สเจ ปสฺเส ภิกฺขุ อตฺถิ, อาปุจฺฉิตฺวา คนฺตพฺพํ. อสนฺเต ภิกฺขุมฺหิ ‘‘นตฺถี’’ติ คนฺตพฺพํ, วีถึ โอตริตฺวา ภิกฺขุํ ปสฺสติ, อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ, อนาปุจฺฉิตฺวาปิ จริตพฺพเมว. คามมชฺเฌน มคฺโค โหติ, เตน คจฺฉนฺตสฺส ‘‘เตลาทิภิกฺขาย จริสฺสามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺเน สเจ ปสฺเส ภิกฺขุ อตฺถิ, อาปุจฺฉิตฺวา จริตพฺพํ. มคฺคา อโนกฺกมฺม ภิกฺขาย จรนฺตสฺส ปน อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ. สเจ สีโห วา พฺยคฺโฆ วา อาคจฺฉติ, เมโฆ วา อุฏฺเติ, อฺโ วา โกจิ อุปทฺทโว อุปฺปชฺชติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ อนาปุจฺฉาปิ พหิคามโต อนฺโตคามํ ปวิสิตุํ วฏฺฏติ.

. ‘‘น จ, ภิกฺขเว, อภินฺเน สรีเร ปํสุกูลํ คเหตพฺพํ, โย คณฺเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๓๗) วจนโต อพฺภุณฺเห อลฺลสรีเร ปํสุกูลํ น คเหตพฺพํ, คณฺหนฺโต ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. อุปทฺทวา จ ตสฺส โหนฺติ, ภินฺเน ปน คเหตุํ วฏฺฏติ.

กิตฺตาวตา ปน ภินฺนํ โหติ? กากกุลลโสณสิงฺคาลาทีหิ มุขตุณฺฑเกน วา ทาาย วา อีสกํ ผาลิตมตฺเตนปิ. ยสฺส ปน ปตโต ฆํสเนน ฉวิมตฺตํ ฉินฺนํ โหติ, จมฺมํ อจฺฉินฺนํ, เอตํ อภินฺนเมว, จมฺเม ปน ฉินฺเน ภินฺนํ. ยสฺสปิ สชีวกาเลเยว ปภินฺนา คณฺฑกุฏฺปีฬกา วา วโณ วา โหติ, อิทมฺปิ ภินฺนํ, ตติยทิวสโต ปภุติ อุทฺธุมาตกาทิภาเวน กุณปภาวํ อุปคตมฺปิ ภินฺนเมว. สพฺเพน สพฺพํ ปน อภินฺเนปิ สุสานโคปเกหิ วา อฺเหิ วา มนุสฺเสหิ คาหาเปตุํ วฏฺฏติ. โน เจ อฺํ ลภติ, สตฺถเกน วา เกนจิ วา วณํ กตฺวา คเหตพฺพํ. วิสภาคสรีเร ปน สตึ อุปฏฺเปตฺวา สมณสฺํ อุปฺปาเทตฺวา สีเส วา หตฺถปาทปิฏฺิยํ วา วณํ กตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ.

. อจฺฉินฺนจีวรเกน ภิกฺขุนา กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ? ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อจฺฉินฺนจีวรสฺส วา นฏฺจีวรสฺส วา อฺาตกํ คหปตึ วา คหปตานึ วา จีวรํ วิฺาเปตุํ. ยํ อาวาสํ ปมํ อุปคจฺฉติ, สเจ ตตฺถ โหติ สงฺฆสฺส วิหารจีวรํ วา อุตฺตรตฺถรณํ วา ภูมตฺถรณํ วา ภิสิจฺฉวิ วา, ตํ คเหตฺวา ปารุปิตุํ ‘ลภิตฺวา โอทหิสฺสามี’ติ. โน เจ โหติ สงฺฆสฺส วิหารจีวรํ วา อุตฺตรตฺถรณํ วา ภูมตฺถรณํ วา ภิสิจฺฉวิ วา, ติเณน วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาคนฺตพฺพํ, น ตฺเวว นคฺเคน อาคนฺตพฺพํ, โย อาคจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๑๗) วจนโต อิธ วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

อยํ ปเนตฺถ อนุปุพฺพกถา (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๑๗). สเจ หิ โจเร ปสฺสิตฺวา ทหรา ปตฺตจีวรานิ คเหตฺวา ปลาตา, โจรา เถรานํ นิวาสนปารุปนมตฺตํเยว หริตฺวา คจฺฉนฺติ, เถเรหิ เนว ตาว จีวรํ วิฺาเปตพฺพํ, น สาขาปลาสํ ภฺชิตพฺพํ. อถ ทหรา สพฺพํ ภณฺฑกํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลาตา, โจรา เถรานฺจ นิวาสนปารุปนํ ตฺจ ภณฺฑกํ หริตฺวา คจฺฉนฺติ, ทหเรหิ อาคนฺตฺวา อตฺตโน นิวาสนปารุปนานิ น ตาว เถรานํ ทาตพฺพานิ. น หิ เต อนจฺฉินฺนจีวรา อตฺตโน อตฺถาย สาขาปลาสํ ภฺชิตุํ ลภนฺติ, อจฺฉินฺนจีวรานํ ปน อตฺถาย ลภนฺติ. อจฺฉินฺนจีวราว อตฺตโนปิ ปเรสมฺปิ อตฺถาย ลภนฺติ, ตสฺมา เถเรหิ วา สาขาปลาสํ ภฺชิตฺวา วากาทีหิ คนฺเถตฺวา ทหรานํ ทาตพฺพํ, ทหเรหิ วา เถรานํ อตฺถาย ภฺชิตฺวา คนฺเถตฺวา เตสํ หตฺเถ ทตฺวา วา อทตฺวา วา อตฺตนา นิวาเสตฺวา อตฺตโน นิวาสนปารุปนานิ เถรานํ ทาตพฺพานิ, เนว ภูตคามปาตพฺยตาย ปาจิตฺติยํ โหติ, น เตสํ ธารเณ ทุกฺกฏํ.

สเจ อนฺตรามคฺเค รชกตฺถรณํ วา โหติ, อฺเ วา ตาทิเส มนุสฺเส ปสฺสนฺติ, จีวรํ วิฺาเปตพฺพํ. ยานิ จ เนสํ เต วา วิฺตฺตมนุสฺสา อฺเ วา สาขาปลาสนิวาสเน ภิกฺขู ทิสฺวา อุสฺสาหชาตา วตฺถานิ เทนฺติ, ตานิ สทสานิ วา โหนฺตุ อทสานิ วา นีลาทินานาวณฺณานิ วา, กปฺปิยานิปิ อกปฺปิยานิปิ สพฺพานิปิ อจฺฉินฺนจีวรฏฺาเน ิตตฺตา เตสํ นิวาเสตุฺจ ปารุปิตุฺจ วฏฺฏนฺติ.

วุตฺตมฺปิเหตํ ปริวาเร –

‘‘อกปฺปกตํ นาปิ รชนาย รตฺตํ,

เตน นิวตฺโถ เยนกามํ วเชยฺย;

น จสฺส โหติ อาปตฺติ,

โส จ ธมฺโม สุคเตน เทสิโต;

ปฺหาเมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๘๑);

อยฺหิ ปฺโห อจฺฉินฺนจีวรกภิกฺขุํ สนฺธาย วุตฺโต. อถ ปน ติตฺถิเยหิ สมาคจฺฉนฺติ, เต จ เนสํ กุสจีรวากจีรผลกจีรานิ เทนฺติ, ตานิปิ ลทฺธึ อคฺคเหตฺวา นิวาเสตุํ วฏฺฏนฺติ, นิวาเสตฺวาปิ ลทฺธิ น คเหตพฺพา.

ยํ อาวาสํ ปมํ อุปคจฺฉนฺติ, ตตฺถ วิหารจีวราทีสุ ยํ อตฺถิ, ตํ อนาปุจฺฉาปิ คเหตฺวา นิวาเสตุํ วา ปารุปิตุํ วา ลภติ. ตฺจ โข ‘‘ลภิตฺวา โอทหิสฺสามิ, ปุน เปสฺสามี’’ติ อธิปฺปาเยน, น มูลจฺเฉชฺชาย. ลภิตฺวา จ ปน าติโต วา อุปฏฺากโต วา อฺโต วา กุโตจิ ปากติกเมว กาตพฺพํ. วิเทสคเตน ปน เอกสฺมึ สงฺฆิเก อาวาเส สงฺฆิกปริโภเคน ภุฺชนตฺถาย เปตพฺพํ. สจสฺส ปริโภเคเนว ตํ ชีรติ วา นสฺสติ วา, คีวา น โหติ. สเจ ปน เอเตสํ วุตฺตปฺปการานํ คิหิวตฺถาทีนํ ภิสิจฺฉวิปริยนฺตานํ กิฺจิ น ลภติ, เตน ติเณน วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาคนฺตพฺพนฺติ.

. ‘‘น, ภิกฺขเว, ปฏิภานจิตฺตํ การาเปตพฺพํ อิตฺถิรูปกํ ปุริสรูปกํ, โย การาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๙๙) วจนโต อิตฺถิปุริสรูปํ กาตุํ วา การาเปตุํ วา ภิกฺขุโน น วฏฺฏติ. น เกวลํ (จูฬว. อฏฺ. ๒๙๙) อิตฺถิปุริสรูปเมว, ติรจฺฉานรูปมฺปิ อนฺตมโส คณฺฑุปฺปาทรูปํ ภิกฺขุโน สยํ กาตุํ วา ‘‘กโรหี’’ติ วตฺตุํ วา น วฏฺฏติ, ‘‘อุปาสก ทฺวารปาลํ กโรหี’’ติ วตฺตุมฺปิ น ลภติ. ชาตกปกรณอสทิสทานาทีนิ ปน ปสาทนียานิ นิพฺพิทาปฏิสํยุตฺตานิ วา วตฺถูนิ ปเรหิ การาเปตุํ ลภติ, มาลากมฺมาทีนิ สยมฺปิ กาตุํ ลภติ.

. ‘‘น, ภิกฺขเว, วิปฺปกตโภชโน ภิกฺขุ วุฏฺาเปตพฺโพ, โย วุฏฺาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๑๖) วจนโต อนฺตรฆเร (จูฬว. อฏฺ. ๓๑๖) วา วิหาเร วา อรฺเ วา ยตฺถ กตฺถจิ ภุฺชมาโน ภิกฺขุ อนิฏฺิเต โภชเน น วุฏฺาเปตพฺโพ, อนฺตรฆเร ปจฺฉา อาคเตน ภิกฺขํ คเหตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ มนุสฺสา วา ภิกฺขู วา ‘‘ปวิสถา’’ติ วทนฺติ, ‘‘มยิ ปวิสนฺเต ภิกฺขู อุฏฺหิสฺสนฺตี’’ติ วตฺตพฺพํ. ‘‘เอถ, ภนฺเต, อาสนํ อตฺถี’’ติ วุตฺเต ปน ปวิสิตพฺพํ. สเจ โกจิ กิฺจิ น วทติ, อาสนสาลํ คนฺตฺวา อติสมีปํ อคนฺตฺวา สภาคฏฺาเน าตพฺพํ. โอกาเส กเต ‘‘ปวิสถา’’ติ วุตฺเตน ปวิสิตพฺพํ. สเจ ปน ยํ อาสนํ ตสฺส ปาปุณาติ, ตตฺถ อภุฺชนฺโต ภิกฺขุ นิสินฺโน โหติ, ตํ อุฏฺาเปตุํ วฏฺฏติ. ยาคุขชฺชกาทีสุ ปน ยํ กิฺจิ ปิวิตฺวา ขาทิตฺวา วา ยาว อฺโ อาคจฺฉติ, ตาว นิสินฺนํ ริตฺตหตฺถมฺปิ อุฏฺาเปตุํ น วฏฺฏติ. วิปฺปกตโภชโนเยว หิ โส โหติ.

สเจ ปน อาปตฺตึ อติกฺกมิตฺวาปิ วุฏฺาเปติเยว, ยํ โส วุฏฺาเปติ, อยฺจ ภิกฺขุ ปวาริโต โหติ, เตน วตฺตพฺโพ ‘‘คจฺฉ อุทกํ อาหราหี’’ติ. วุฑฺฒตรํ ภิกฺขุํ อาณาเปตุํ อิทเมว เอกฏฺานํ. สเจ โส อุทกมฺปิ น อาหรติ, สาธุกํ สิตฺถานิ คิลิตฺวา วุฑฺฒสฺส อาสนํ ทาตพฺพํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘สเจ วุฏฺาเปติ, ปวาริโต จ โหติ, ‘คจฺฉ อุทกํ อาหรา’ติ วตฺตพฺโพ. เอวฺเจตํ ลเภถ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ลเภถ, สาธุกํ สิตฺถานิ คิลิตฺวา วุฑฺฒสฺส อาสนํ ทาตพฺพํ. นตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, ‘เกนจิ ปริยาเยน วุฑฺฒตรสฺส ภิกฺขุโน อาสนํ ปฏิพาหิตพฺพ’นฺติ วทามิ, โย ปฏิพาเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๑๖).

. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นวเกน ภิกฺขุนา อุทฺทิสนฺเตน สมเก วา อาสเน นิสีทิตุํ อุจฺจตเร วา ธมฺมคารเวน, เถเรน ภิกฺขุนา อุทฺทิสาเปนฺเตน สมเก วา อาสเน นิสีทิตุํ นีจตเร วา ธมฺมคารเวนา’’ติ (จูฬว. ๓๒๐) วจนโต นวกตเรน ภิกฺขุนา อุทฺทิสนฺเตน อุจฺจตเรปิ อาสเน นิสีทิตุํ, วุฑฺฒตเรน ภิกฺขุนา อุทฺทิสาเปนฺเตน นีจตเรปิ อาสเน นิสีทิตุํ วฏฺฏติ.

. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติวสฺสนฺตเรน สห นิสีทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๐) วจนโต ติวสฺสนฺตเรน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกาสเน นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. ติวสฺสนฺตโร (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๐) นาม โย ทฺวีหิ วสฺเสหิ มหนฺตตโร วา ทหรตโร วา โหติ, โย ปน เอเกน วสฺเสน มหนฺตตโร วา ทหรตโร วา, โย วา สมานวสฺโส, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, อิเม สพฺเพ เอกสฺมึ มฺเจ วา ปีเ วา ทฺเว ทฺเว หุตฺวา นิสีทิตุํ ลภนฺติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทุวคฺคสฺส มฺจํ ทุวคฺคสฺส ปี’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๐) หิ วุตฺตํ.

๑๐. ยํ ปน ติณฺณํ ปโหติ, ตํ สํหาริมํ วา โหตุ อสํหาริมํ วา, ตถารูเป อปิ ผลกขณฺเฑ อนุปสมฺปนฺเนนปิ สทฺธึ นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ ติณฺณํ ปโหติ, เอตฺตกํ ปจฺฉิมํ ทีฆาสน’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๐) หิ วุตฺตํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เปตฺวา ปณฺฑกํ มาตุคามํ อุภโตพฺยฺชนกํ อสมานาสนิเกหิ สห ทีฆาสเน นิสีทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๐) วจนโต ปน ทีฆาสเนปิ ปณฺฑกาทีหิ สห นิสีทิตุํ น วฏฺฏติ.

๑๑. คิลานํ อุปฏฺหนฺเตน ‘‘นตฺถิ โว, ภิกฺขเว, มาตา, นตฺถิ ปิตา, เย โว อุปฏฺเหยฺยุํ, ตุมฺเห เจ, ภิกฺขเว, อฺมฺํ น อุปฏฺหิสฺสถ, อถ โก จรหิ อุปฏฺหิสฺสติ. โย, ภิกฺขเว, มํ อุปฏฺเหยฺย, โส คิลานํ อุปฏฺเหยฺยา’’ติ (มหาว. ๓๖๕) อิมํ ภควโต อนุสาสนึ อนุสฺสรนฺเตน สกฺกจฺจํ อุปฏฺาตพฺโพ.

สเจ อุปชฺฌาโย โหติ, อุปชฺฌาเยน ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ, วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพํ. สเจ อาจริโย โหติ, อาจริเยน ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ, วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพํ. สเจ สทฺธิวิหาริโก โหติ, สทฺธิวิหาริเกน ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ, วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพํ. สเจ อนฺเตวาสิโก โหติ, อนฺเตวาสิเกน ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ, วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพํ. สเจ สมานุปชฺฌายโก โหติ, สมานุปชฺฌายเกน ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ, วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพํ. สเจ สมานาจริยโก โหติ, สมานาจริยเกน ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ, วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพํ. สเจ น โหติ อุปชฺฌาโย วา อาจริโย วา สทฺธิวิหาริโก วา อนฺเตวาสิโก วา สมานุปชฺฌายโก วา สมานาจริยโก วา, สงฺเฆน อุปฏฺาตพฺโพ. โน เจ อุปฏฺเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๓๖๕) –

วจนโต ยสฺส (มหาว. อฏฺ. ๓๖๕) เต อุปชฺฌายาทโย ตสฺมึ วิหาเร นตฺถิ, อาคนฺตุโก โหติ เอกจาริกภิกฺขุ, สงฺฆสฺส ภาโร, ตสฺมา สงฺเฆน อุปฏฺาตพฺโพ. โน เจ อุปฏฺเหยฺย, สกลสฺส สงฺฆสฺส อาปตฺติ. วารํ เปตฺวา ชคฺคนฺเตสุ ปน โย อตฺตโน วาเร น ชคฺคติ, ตสฺเสว อาปตฺติ, สงฺฆตฺเถโรปิ วารโต น มุจฺจติ. สเจ สกโล สงฺโฆ เอกสฺส ภารํ กโรติ, เอโก วา วตฺตสมฺปนฺโน ภิกฺขุ ‘‘อหเมว ชคฺคิสฺสามี’’ติ ชคฺคติ, สงฺโฆ อาปตฺติโต มุจฺจติ.

คิลาเนน ปน –

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต คิลาโน ทูปฏฺโ โหติ. อสปฺปายการี โหติ, สปฺปาเย มตฺตํ น ชานาติ, เภสชฺชํ น ปฏิเสวิตา โหติ, อตฺถกามสฺส คิลานุปฏฺากสฺส ยถาภูตํ อาพาธํ นาวิกตฺตา โหติ ‘อภิกฺกมนฺตํ วา อภิกฺกมตีติ, ปฏิกฺกมนฺตํ วา ปฏิกฺกมตีติ, ิตํ วา ิโต’ติ, อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ ขรานํ กฏุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อนธิวาสกชาติโก โหตี’’ติ (มหาว. ๓๖๖) –

เอวํ วุตฺตานิ ปฺจ อยุตฺตงฺคานิ อารกา ปริวชฺเชตฺวา –

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต คิลาโน สูปฏฺโ โหติ. สปฺปายการี โหติ, สปฺปาเย มตฺตํ ชานาติ, เภสชฺชํ ปฏิเสวิตา โหติ, อตฺถกามสฺส คิลานุปฏฺากสฺส ยถาภูตํ อาพาธํ อาวิกตฺตา โหติ ‘อภิกฺกมนฺตํ วา อภิกฺกมตีติ, ปฏิกฺกมนฺตํ วา ปฏิกฺกมตีติ, ิตํ วา ิโต’ติ, อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ ขรานํ กฏุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อธิวาสกชาติโก โหตี’’ติ (มหาว. ๓๖๖) –

เอวํ วุตฺตปฺจงฺคสมนฺนาคเตน ภวิตพฺพํ.

คิลานุปฏฺาเกน จ –

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต คิลานุปฏฺาโก นาลํ คิลานํ อุปฏฺาตุํ. น ปฏิพโล โหติ เภสชฺชํ สํวิธาตุํ, สปฺปายาสปฺปายํ น ชานาติ, อสปฺปายํ อุปนาเมติ, สปฺปายํ อปนาเมติ, อามิสนฺตโร คิลานํ อุปฏฺาติ, โน เมตฺตจิตฺโต, เชคุจฺฉี โหติ อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา เขฬํ วา วนฺตํ วา นีหาตุํ, น ปฏิพโล โหติ คิลานํ กาเลน กาลํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตุํ สมาทเปตุํ สมุตฺเตเชตุํ สมฺปหํเสตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๖๖) –

เอวํ วุตฺตานิ ปฺจ อยุตฺตงฺคานิ อารกา ปริวชฺเชตฺวา –

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต คิลานุปฏฺาโก อลํ คิลานํ อุปฏฺาตุํ. ปฏิพโล โหติ เภสชฺชํ สํวิธาตุํ, สปฺปายาสปฺปายํ ชานาติ, อสปฺปายํ อปนาเมติ, สปฺปายํ อุปนาเมติ, เมตฺตจิตฺโต คิลานํ อุปฏฺาติ, โน อามิสนฺตโร, อเชคุจฺฉี โหติ อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา เขฬํ วา วนฺตํ วา นีหาตุํ, ปฏิพโล โหติ คิลานํ กาเลน กาลํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตุํ สมาทเปตุํ สมุตฺเตเชตุํ สมฺปหํเสตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๖๖) –

เอวํ วุตฺตปฺจงฺคสมนฺนาคเตน ภวิตพฺพํ.

๑๒. ธมฺมึ กถํ กโรนฺเตน (มหาว. อฏฺ. ๒.๑๘๐) จ ‘‘สีลวา หิ ตฺวํ กตกุสโล, กสฺมา มียมาโน ภายสิ, นนุ สีลวโต สคฺโค นาม มรณมตฺตปฏิพทฺโธเยวา’’ติ เอวํ คิลานสฺส ภิกฺขุโน มรณวณฺโณ น สํวณฺเณตพฺโพ. สเจ หิ ตสฺส สํวณฺณนํ สุตฺวา อาหารุปจฺเฉทาทินา อุปกฺกเมน เอกชวนวาราวเสเสปิ อายุสฺมึ อนฺตรา กาลํ กโรติ, อิมินาว มาริโต โหติ. ปณฺฑิเตน ปน ภิกฺขุนา อิมินา นเยน อนุสิฏฺิ ทาตพฺพา ‘‘สีลวโต นาม อนจฺฉริยา มคฺคผลุปฺปตฺติ, ตสฺมา วิหาราทีสุ อาสตฺตึ อกตฺวา พุทฺธคตํ ธมฺมคตํ สงฺฆคตํ กายคตฺจ สตึ อุปฏฺเปตฺวา มนสิกาเร อปฺปมาโท กาตพฺโพ’’ติ. มรณวณฺเณปิ สํวณฺณิเต โส ตาย สํวณฺณนาย กฺจิ อุปกฺกมํ อกตฺวา อตฺตโน ธมฺมตาย ยถายุนา ยถานุสนฺธินาว มรติ, ตปฺปจฺจยา สํวณฺณโก อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ.

๑๓. ‘‘น จ, ภิกฺขเว, อตฺตานํ ปาเตตพฺพํ, โย ปาเตยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๘๓) วจนโต คิลาเนน (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๘๒-๑๘๓) ภิกฺขุนาปิ เยน เกนจิ อุปกฺกเมน อนฺตมโส อาหารุปจฺเฉทเนนปิ อตฺตา น มาเรตพฺโพ. โยปิ คิลาโน วิชฺชมาเน เภสชฺเช จ อุปฏฺาเกสุ จ มริตุกาโม อาหารํ อุปจฺฉินฺทติ, ทุกฺกฏเมว. ยสฺส ปน มหาอาพาโธ จิรานุพนฺโธ, ภิกฺขู อุปฏฺหนฺตา กิลมนฺติ ชิคุจฺฉนฺติ, ‘‘กทา นุ โข คิลานโต มุจฺจิสฺสามา’’ติ อฏฺฏียนฺติ. สเจ โส ‘‘อยํ อตฺตภาโว ปฏิชคฺคิยมาโนปิ น ติฏฺติ, ภิกฺขู จ กิลมนฺตี’’ติ อาหารํ อุปจฺฉินฺทติ, เภสชฺชํ น เสวติ, วฏฺฏติ. โย ปน ‘‘อยํ โรโค ขโร, อายุสงฺขารา น ติฏฺนฺติ, อยฺจ เม วิเสสาธิคโม หตฺถปฺปตฺโต วิย ทิสฺสตี’’ติ อุปจฺฉินฺทติ, วฏฺฏติเยว. อคิลานสฺสปิ อุปฺปนฺนสํเวคสฺส ‘‘อาหารปริเยสนํ นาม ปปฺโจ, กมฺมฏฺานเมว อนุยุฺชิสฺสามี’’ติ กมฺมฏฺานสีเสน อุปจฺฉินฺทนฺตสฺส วฏฺฏติ. วิเสสาธิคมํ พฺยากริตฺวา อาหารํ อุปจฺฉินฺทติ, น วฏฺฏติ. สภาคานฺหิ ลชฺชีภิกฺขูนํ กเถตุํ วฏฺฏติ.

๑๔. ‘‘น จ, ภิกฺขเว, อปฺปฏิเวกฺขิตฺวา อาสเน นิสีทิตพฺพํ, โย นิสีเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๘๐) วจนโต อาสนํ อนุปปริกฺขิตฺวา น นิสีทิตพฺพํ. กีทิสํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๘๐) ปน อาสนํ อุปปริกฺขิตพฺพํ, กีทิสํ น อุปปริกฺขิตพฺพํ? ยํ สุทฺธํ อาสนเมว โหติ อปจฺจตฺถรณกํ, ยฺจ อาคนฺตฺวา ิตานํ ปสฺสตํเยว อตฺถรียติ, ตํ น ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ, นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. ยมฺปิ มนุสฺสา สยํ หตฺเถน อกฺกมิตฺวา ‘‘อิธ ภนฺเต นิสีทถา’’ติ เทนฺติ, ตสฺมิมฺปิ วฏฺฏติ. สเจปิ ปมเมว อาคนฺตฺวาปิ นิสินฺนา ปจฺฉา อุทฺธํ วา อโธ วา สงฺกมนฺติ, ปฏิเวกฺขณกิจฺจํ นตฺถิ. ยมฺปิ ตนุเกน วตฺเถน ยถา ตลํ ทิสฺสติ, เอวํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, ตสฺมิมฺปิ ปฏิเวกฺขณกิจฺจํ นตฺถิ. ยํ ปน ปฏิกจฺเจว ปาวารโกชวาทีหิ อตฺถตํ โหติ, ตํ หตฺเถน ปรามสิตฺวา สลฺลกฺเขตฺวา นิสีทิตพฺพํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ฆนสาฏเกนปิ อตฺถเต ยสฺมึ วลิ น ปฺายติ, ตํ น ปฏิเวกฺขิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ.

๑๕. ‘‘น, ภิกฺขเว, ทวาย สิลา ปฏิวิชฺฌิตพฺพา, โย ปฏิวิชฺเฌยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๘๓) วจนโต หสาธิปฺปาเยน ปาสาโณ น ปวฏฺเฏตพฺโพ. น เกวลฺจ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๘๒-๑๘๓) ปาสาโณ, อฺมฺปิ ยํ กิฺจิ ทารุขณฺฑํ วา อิฏฺกขณฺฑํ วา หตฺเถน วา ยนฺเตน วา ปฏิวิชฺฌิตุํ น วฏฺฏติ. เจติยาทีนํ อตฺถาย ปาสาณาทโย หสนฺตา หสนฺตา ปวฏฺเฏนฺติปิ ขิปนฺติปิ อุกฺขิปนฺติปิ, ‘‘กมฺมสมโย’’ติ วฏฺฏติ, อฺมฺปิ อีทิสํ นวกมฺมํ วา กโรนฺตา ภณฺฑกํ วา โธวนฺตา รุกฺขํ วา โธวนทณฺฑกํ วา อุกฺขิปิตฺวา ปฏิวิชฺฌนฺติ, วฏฺฏติ, ภตฺตวิสฺสคฺคกาลาทีสุ กาเก วา โสเณ วา กฏฺํ วา กถลํ วา ขิปิตฺวา ปลาเปนฺติ, วฏฺฏติ.

๑๖. ‘‘น, ภิกฺขเว, ทาโย อาลิมฺปิตพฺโพ, โย อาลิมฺเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๘๓) วจนโต วเน อคฺคิ น ทาตพฺโพ. สเจ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๙๐) ปน ‘‘เอตฺถนฺตเร โย โกจิ สตฺโต มรตู’’ติ อคฺคึ เทติ, ปาราชิกานนฺตริยถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยวตฺถูนํ อนุรูปโต ปาราชิกาทีนิ อกุสลราสิ จ โหติ. ‘‘อลฺลติณวนปฺปตโย ฑยฺหนฺตู’’ติ อคฺคึ เทนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, ‘‘ทพฺพูปกรณานิ วินสฺสนฺตู’’ติ อคฺคึ เทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ‘‘ขิฑฺฑาธิปฺปาเยนปิ ทุกฺกฏ’’นฺติ สงฺเขปฏฺกถายํ วุตฺตํ. ‘‘ยํ กิฺจิ อลฺลสุกฺขํ สอินฺทฺริยานินฺทฺริยํ ฑยฺหตู’’ติ อคฺคึ เทนฺตสฺส วตฺถุวเสน ปาราชิกถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยทุกฺกฏานิ เวทิตพฺพานิ.

ปฏคฺคิทานํ ปน ปริตฺตกรณฺจ ภควตา อนุฺาตํ, ตสฺมา อรฺเ วนกมฺมิเกหิ วา ทินฺนํ สยํ วา อุฏฺิตํ อคฺคึ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘ติณกุฏิโย มา วินสฺสนฺตู’’ติ ตสฺส อคฺคิโน ปฏิอคฺคึ ทาตุํ วฏฺฏติ, เยน สทฺธึ อาคจฺฉนฺโต อคฺคิ เอกโต หุตฺวา นิรุปาทาโน นิพฺพาติ. ‘‘ปริตฺตมฺปิ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ ติณกุฏิกานํ สมนฺตา ภูมิตจฺฉนํ ปริขาขณนํ วา, ยถา อาคโต อคฺคิ อุปาทานํ อลภิตฺวา นิพฺพาติ, เอตฺจ สพฺพํ อุฏฺิเตเยว อคฺคิสฺมึ อสติ อนุปสมฺปนฺเน สยมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ. อนุฏฺิเต ปน อนุปสมฺปนฺเนหิ กปฺปิยโวหาเรน กาเรตพฺพํ, อุทเกน ปน นิพฺพาเปนฺเตหิ อปฺปาณกเมว อุทกํ อาสิฺจิตพฺพํ.

๑๗. อสฺสทฺเธสุ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๘๑) มิจฺฉาทิฏฺิกุเลสุ สกฺกจฺจํ ปณีตโภชนํ ลภิตฺวา อนุปปริกฺขิตฺวา เนว อตฺตนา ปริภุฺชิตพฺพํ, น ปเรสํ ทาตพฺพํ. วิสมิสฺสมฺปิ หิ ตานิ กุลานิ ปิณฺฑปาตํ เทนฺติ. ยมฺปิ อาภิโทสิกํ ภตฺตํ วา ขชฺชกํ วา ตโต ลภติ, ตมฺปิ น ปริภุฺชิตพฺพํ. อปิหิตวตฺถุมฺปิ หิ สปฺปวิจฺฉิกาทีหิ อธิสยิตํ ฉฑฺฑนียธมฺมํ ตานิ กุลานิ เทนฺติ. คนฺธหลิทฺทาทิมกฺขิโตปิ ตโต ปิณฺฑปาโต น คเหตพฺโพ. สรีเร โรคฏฺานานิ ปุฺฉิตฺวา ปิตภตฺตมฺปิ หิ ตานิ ทาตพฺพํ มฺนฺตีติ.

๑๘. ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, โคปกสฺส ทาเน’’ติ (ปารา. ๑๕๖) วุตฺตํ. ตตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๕๖) กตรํ โคปกทานํ วฏฺฏติ, กตรํ น วฏฺฏติ? มหาสุมตฺเถโร ตาว อาห ‘‘ยํ โคปกสฺส ปริจฺฉินฺทิตฺวา ทินฺนํ โหติ ‘เอตฺตกํ ทิวเส ทิวเส คณฺหา’ติ, ตเทว วฏฺฏติ, ตโต อุตฺตริ น วฏฺฏตี’’ติ. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห ‘‘กึ โคปกานํ ปณฺณํ อาโรเปตฺวา นิมิตฺตสฺํ วา กตฺวา ทินฺนํ อตฺถิ, เอเตสํ หตฺเถ วิสฺสฏฺกสฺส เอเต อิสฺสรา, ตสฺมา ยํ เทนฺติ, ตํ พหุกมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ. กุรุนฺทฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ ‘‘มนุสฺสานํ อารามํ วา อฺํ วา ผลาผลํ ทารกา รกฺขนฺติ, เตหิ ทินฺนํ วฏฺฏติ, อาหราเปตฺวา ปน น คเหตพฺพํ. สงฺฆิเก ปน เจติยสฺส สนฺตเก จ เกณิยา คเหตฺวา รกฺขนฺตสฺเสว ทานํ วฏฺฏติ, เวตเนน รกฺขนฺตสฺส อตฺตโน ภาคมตฺตํ วฏฺฏตี’’ติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ยํ คิหีนํ อารามรกฺขกา ภิกฺขูนํ เทนฺติ, เอตมฺปิ วฏฺฏติ. ภิกฺขุสงฺฆสฺส อารามโคปกา ยํ อตฺตโน ภติยา ขณฺฑิตฺวา เทนฺติ, เอตํ วฏฺฏติ. โยปิ อุปฑฺฒารามํ วา เกจิเทว รุกฺเข วา ภตึ ลภิตฺวา รกฺขติ, ตสฺสปิ อตฺตโน สมฺปตฺตรุกฺขโตเยว ทาตุํ วฏฺฏติ, เกณิยา คเหตฺวา รกฺขนฺตสฺส ปน สพฺพมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. เอตํ ปน สพฺพํ พฺยฺชนโต นานํ, อตฺถโต เอกเมว, ตสฺมา อธิปฺปายํ ตฺวา คเหตพฺพํ.

อปิเจตฺถ อยมฺปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๕๖) – ยตฺถ อาวาสิกา อาคนฺตุกานํ น เทนฺติ, ผลวาเร จ สมฺปตฺเต อฺเสํ อภาวํ ทิสฺวา โจริกาย อตฺตนาว ขาทนฺติ, ตตฺถ อาคนฺตุเกหิ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภาเชตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ยตฺถ ปน อาวาสิกา รุกฺเข รกฺขิตฺวา ผลวาเร สมฺปตฺเต ภาเชตฺวา ขาทนฺติ, จตูสุ ปจฺจเยสุ สมฺมา อุปเนนฺติ, อนิสฺสรา ตตฺถ อาคนฺตุกา. เยปิ รุกฺขา จีวรตฺถาย นิยเมตฺวา ทินฺนา, เตสุปิ อาคนฺตุกา อนิสฺสรา. เอส นโย เสสปจฺจยตฺถาย นิยเมตฺวา ทินฺเนปิ. เย ปน ตถา อนิยเมตฺวา อาวาสิกา จ เต รกฺขิตฺวา โคเปตฺวา โจริกาย ปริภุฺชนฺติ, น เตสุ อาวาสิกานํ กติกาย าตพฺพํ. เย ผลปริโภคตฺถาย ทินฺนา, อาวาสิกา จ เน รกฺขิตฺวา โคเปตฺวา สมฺมา อุปเนนฺติ, เตสุเยว เตสํ กติกาย าตพฺพํ. มหาปจฺจริยํ ปน วุตฺตํ ‘‘จตุนฺนํ ปจฺจยานํ นิยเมตฺวา ทินฺนํ เถยฺยจิตฺเตน ปริภุฺชนฺโต ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพ, ปริโภควเสน ภาเชตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส ภณฺฑเทยฺยํ. ยํ ปเนตฺถ เสนาสนตฺถาย นิยมิตํ, ตํ ปริโภควเสเนว ภาเชตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยฺจ ภณฺฑเทยฺยฺจา’’ติ.

โอทิสฺส จีวรตฺถาย ทินฺนํ จีวเรเยว อุปเนตพฺพํ. สเจ ทุพฺภิกฺขํ โหติ, ภิกฺขู ปิณฺฑปาเตน กิลมนฺติ, จีวรํ ปน สุลภํ, สงฺฆสุฏฺุตาย อปโลกนกมฺมํ กตฺวา ปิณฺฑปาเตปิ อุปเนตุํ วฏฺฏติ. เสนาสเนน คิลานปจฺจเยน วา กิลมนฺเตสุ สงฺฆสุฏฺุตาย อปโลกนกมฺมํ กตฺวา ตทตฺถายปิ อุปเนตุํ วฏฺฏติ. โอทิสฺส ปิณฺฑปาตตฺถาย จ คิลานปจฺจยตฺถาย จ ทินฺเนปิ เอเสว นโย. โอทิสฺส เสนาสนตฺถาย ทินฺนํ ปน ครุภณฺฑํ โหติ, ตํ รกฺขิตฺวา โคเปตฺวา ตทตฺถเมว อุปเนตพฺพํ. สเจ ปน ทุพฺภิกฺขํ โหติ, ภิกฺขู ปิณฺฑปาเตน น ยาเปนฺติ, เอตฺถ ราชโรคโจรภยาทีหิ อฺตฺถ คจฺฉนฺตานํ วิหารา ปลุชฺชนฺติ, ตาลนาฬิเกราทิเก วินาเสนฺติ, เสนาสนปจฺจยํ ปน นิสฺสาย ยาเปตุํ สกฺกา โหติ, เอวรูเป กาเล เสนาสนํ วิสฺสชฺเชตฺวาปิ เสนาสนชคฺคนตฺถาย ปริโภโค ภควตา อนุฺาโต. ตสฺมา เอกํ วา ทฺเว วา วรเสนาสนานิ เปตฺวา อิตรานิ ลามกโกฏิยา ปิณฺฑปาตตฺถาย วิสฺสชฺเชตุํ วฏฺฏนฺติ, มูลวตฺถุจฺเฉทํ ปน กตฺวา น อุปเนตพฺพํ.

โย ปน อาราโม จตุปจฺจยตฺถาย นิยเมตฺวา ทินฺโน, ตตฺถ อปโลกนกมฺมํ น กาตพฺพํ. เยน ปจฺจเยน ปน อูนํ, ตทตฺถํ อุปเนตุํ วฏฺฏติ, อาราโม ปฏิชคฺคิตพฺโพ, เวตนํ ทตฺวาปิ ชคฺคาเปตุํ วฏฺฏติ. เย ปน เวตนํ ลภิตฺวา อาราเมเยว เคหํ กตฺวา วสนฺตา รกฺขนฺติ, เต เจ อาคตานํ ภิกฺขูนํ นาฬิเกรํ วา ตาลปกฺกํ วา เทนฺติ, ยํ เตสํ สงฺเฆน อนุฺาตํ โหติ ‘‘ทิวเส ทิวเส เอตฺตกํ นาม ขาทถา’’ติ, ตเทว เต ทาตุํ ลภนฺติ, ตโต อุตฺตริ เตสํ เทนฺตานมฺปิ คเหตุํ น วฏฺฏนฺติ. โย ปน อารามํ เกณิยา คเหตฺวา สงฺฆสฺส จตุปจฺจยตฺถาย กปฺปิยภณฺฑเมว เทติ, อยํ พหุกมฺปิ ทาตุํ ลภติ. เจติยสฺส ปทีปตฺถาย วา ขณฺฑผุลฺลปฏิสงฺขรณตฺถาย วา ทินฺนอาราโมปิ ชคฺคิตพฺโพ, เวตนํ ทตฺวาปิ ชคฺคาเปตพฺโพ. เวตนฺจ ปเนตฺถ เจติยสนฺตกมฺปิ สงฺฆสนฺตกมฺปิ ทาตุํ วฏฺฏติ. เอตมฺปิ อารามํ เวตเนน ตตฺเถว วสิตฺวา รกฺขนฺตานฺจ เกณิยา คเหตฺวา กปฺปิยภณฺฑทายกานฺจ ตตฺถชาตกผลทานํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๑๙. ธมฺมิกรกฺขํ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๗๙) ยาจนฺเตน อตีตํ อนาคตํ วา อารพฺภ โอทิสฺส อาจิกฺขิตุํ น วฏฺฏติ. อตีตฺหิ อารพฺภ อตฺถิ โอทิสฺส อาจิกฺขนา, อตฺถิ อโนทิสฺส อาจิกฺขนา, อนาคตํ อารพฺภปิ อตฺถิ โอทิสฺส อาจิกฺขนา, อตฺถิ อโนทิสฺส อาจิกฺขนา. กถํ อตีตํ อารพฺภ โอทิสฺส อาจิกฺขนา โหติ? ภิกฺขูนํ วิหาเร คามทารกา วา ธุตฺตาทโย วา เย เกจิ อนาจารํ อาจรนฺติ, รุกฺขํ วา ฉินฺทนฺติ, ผลาผลํ วา หรนฺติ, ปริกฺขาเร วา อจฺฉินฺทนฺติ, ภิกฺขุ โวหาริเก อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อมฺหากํ วิหาเร อิทํ นาม กต’’นฺติ วทติ. ‘‘เกนา’’ติ วุตฺเต ‘‘อสุเกน จ อสุเกน จา’’ติ อาจิกฺขติ. เอวํ อตีตํ อารพฺภ โอทิสฺส อาจิกฺขนา โหติ, สา น วฏฺฏติ. ตฺเจ สุตฺวา เต โวหาริกา เตสํ ทณฺฑํ กโรนฺติ, สพฺพํ ภิกฺขุสฺส คีวา โหติ, ‘‘ทณฺฑํ คณฺหิสฺสนฺตี’’ติ อธิปฺปาเยปิ สติ คีวาเยว โหติ. สเจ ปน ‘‘ตสฺส ทณฺฑํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ปฺจมาสกมตฺเต คหิเต ปาราชิกํ โหติ. ‘‘เกนา’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘อสุเกนาติ วตฺตุํ อมฺหากํ น วฏฺฏติ, ตุมฺเหเยว ชานิสฺสถ. เกวลฺหิ มยํ รกฺขํ ยาจาม, ตํ โน เทถ, อวหฏภณฺฑฺจ อาหราเปถา’’ติ วตฺตพฺพํ. เอวํ อโนทิสฺส อาจิกฺขนา โหติ, สา วฏฺฏติ. เอวํ วุตฺเต สเจปิ เต โวหาริกา การเก คเวสิตฺวา เตสํ ทณฺฑํ กโรนฺติ, สพฺพสาปเตยฺเยปิ คหิเต ภิกฺขุโน เนว คีวา, น อาปตฺติ. ปริกฺขารํ หรนฺเต ทิสฺวา เตสํ อนตฺถกามตาย ‘‘โจโร โจโร’’ติ วตฺตุมฺปิ น วฏฺฏติ. เอวํ วุตฺเตปิ หิ ยํ เตสํ ทณฺฑํ กโรนฺติ, สพฺพํ ภิกฺขุโน คีวา โหติ. อตฺตโน วจนกรํ ปน ‘‘อิมินา เม ปริกฺขาโร คหิโต, ตํ อาหราเปหิ, มา จสฺส ทณฺฑํ กโรหี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ทาสทาสีวาปิอาทีนมฺปิ อตฺถาย อฑฺฑํ กโรนฺติ อยํ อกปฺปิยอฑฺโฑ นาม, น วฏฺฏติ.

กถํ อนาคตํ อารพฺภ โอทิสฺส อาจิกฺขนา โหติ? วุตฺตนเยเนว ปเรหิ อนาจาราทีสุ กเตสุ ภิกฺขุ โวหาริเก เอวํ วทติ ‘‘อมฺหากํ วิหาเร อิทฺจิทฺจ กโรนฺติ, รกฺขํ โน เทถ อายตึ อกรณตฺถายา’’ติ. ‘‘เกน เอวํ กต’’นฺติ วุตฺเต จ ‘‘อสุเกน จ อสุเกน จา’’ติ อาจิกฺขติ. เอวํ อนาคตํ อารพฺภ โอทิสฺส อาจิกฺขนา โหติ, สาปิ น วฏฺฏติ. เตสฺหิ ทณฺเฑ กเต ปุริมนเยเนว สพฺพํ ภิกฺขุสฺส คีวา, เสสํ ปุริมสทิสเมว. สเจ โวหาริกา ‘‘ภิกฺขูนํ วิหาเร เอวรูปํ อนาจารํ กโรนฺตานํ อิมํ นาม ทณฺฑํ กโรมา’’ติ เภรึ จราเปตฺวา อาณาย อติฏฺมาเน ปริเยสิตฺวา ทณฺฑํ กโรนฺติ, ภิกฺขุโน เนว คีวา, น อาปตฺติ. วิหารสีมาย รุกฺขาทีนิ ฉินฺทนฺตานํ วาสิผรสุอาทีนิ คเหตฺวา ปาสาเณหิ โกฏฺเฏนฺติ, น วฏฺฏติ. สเจ ธารา ภิชฺชติ, การาเปตฺวา ทาตพฺพา. อุปธาวิตฺวา เตสํ ปริกฺขาเร คณฺหนฺติ, ตมฺปิ น กาตพฺพํ. ลหุปริวตฺตฺหิ จิตฺตํ, เถยฺยเจตนาย อุปฺปนฺนาย มูลจฺเฉชฺชมฺปิ คจฺเฉยฺย.

๒๐. อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา สงฺการํ วา วิฆาสํ วา ติโรกุฏฺเฏ วา ติโรปากาเร วา ฉฑฺเฑตุํ วา ฉฑฺฑาเปตุํ วา น วฏฺฏติ. จตฺตาริปิ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒๖) วตฺถูนิ เอกปโยเคน ฉฑฺเฑนฺตสฺส เอกเมว ทุกฺกฏํ, ปาเฏกฺกํ ฉฑฺเฑนฺตสฺส วตฺถุคณนาย ทุกฺกฏานิ. อาณตฺติยมฺปิ เอเสว นโย. ทนฺตกฏฺฉฑฺฑเนปิ ทุกฺกฏเมว. โอโลเกตฺวา วา อวลฺเช วา อุจฺจาราทีนิ ฉฑฺเฑนฺตสฺส อนาปตฺติ. ยมฺปิ มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภคํ โรปิมํ เขตฺตํ โหตุ นาฬิเกราทิอาราโม วา, ตตฺถาปิ ยตฺถ กตฺถจิ โรปิมหริตฏฺาเน เอตานิ วตฺถูนิ ฉฑฺเฑตุํ น วฏฺฏติ. ฉฑฺเฑนฺตสฺส ปุริมนเยเนว อาปตฺติเภโท เวทิตพฺโพ. เขตฺเต วา อาราเม วา นิสีทิตฺวา ภุฺชมาโน อุจฺฉุอาทีนิ วา ขาทมาโน คจฺฉนฺโต อุจฺฉิฏฺโทกจลกาทีนิ หริตฏฺาเน ฉฑฺเฑติ, อนฺตมโส อุทกํ ปิวิตฺวา มตฺถกจฺฉินฺนนาฬิเกรมฺปิ ฉฑฺเฑติ, ทุกฺกฏํ. กสิตฏฺาเน นิกฺขิตฺตพีเช องฺกุเร อุฏฺิเตปิ อวุฏฺิเตปิ ทุกฺกฏเมว. อนิกฺขิตฺตพีเชสุ ปน เขตฺตโกณาทีสุ วา อสฺชาตโรปิเมสุ เขตฺตมริยาทาทีสุ วา ฉฑฺเฑตุํ วฏฺฏติ, มนุสฺสานํ กจวรฉฑฺฑนฏฺาเนปิ วฏฺฏติ. มนุสฺเสสุ สสฺสํ อุทฺธริตฺวา คเตสุ ฉฑฺฑิตเขตฺตํ นาม โหติ, ตตฺถ วฏฺฏติ. ยตฺถ ปน ‘‘ลายิตมฺปิ ปุพฺพณฺณาทิ ปุน อุฏฺหิสฺสตี’’ติ รกฺขนฺติ, ตตฺถ น วฏฺฏติ.

๒๑. ‘‘น, ภิกฺขเว, นหายมาเนน ภิกฺขุนา รุกฺเข กาโย อุคฺฆํเสตพฺโพ, โย อุคฺฆํเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๔๓) วจนโต นหายนฺเตน (จูฬว. อฏฺ. ๒๔๓ อาทโย) รุกฺเข วา นหานติตฺเถ นิขนิตฺวา ปิตตฺถมฺเภ วา อิฏฺกสิลาทารุกุฏฺฏานํ อฺตรสฺมึ กุฏฺเฏ วา กาโย น ฆํเสตพฺโพ.

‘‘น, ภิกฺขเว, อฏฺฏาเน นหายิตพฺพํ, โย นหาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๔๓) วจนโต อฏฺฏาเนปิ นหายิตุํ น วฏฺฏติ. อฏฺฏานํ นาม รุกฺขํ ผลกํ วิย ตจฺเฉตฺวา อฏฺปทากาเรน ราชิโย ฉินฺทิตฺวา นหานติตฺเถ นิขนนฺติ, ตตฺถ จุณฺณานิ อากิริตฺวา มนุสฺสา กายํ ฆํสนฺติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, คนฺธพฺพหตฺถเกน นหายิตพฺพํ, โย นหาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬฺว. ๒๔๓) วจนโต นหานติตฺเถ ปิเตน ทารุมยหตฺเถน จุณฺณานิ คเหตฺวา มนุสฺสา สรีรํ ฆํสนฺติ, เตน นหายิตุํ น วฏฺฏติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, กุรุวินฺทกสุตฺติยา นหายิตพฺพํ, โย นหาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๔๓) วจนโต กุรุวินฺทกสุตฺติยาปิ นหายิตุํ น วฏฺฏติ. กุรุวินฺทกสุตฺติ นาม กุรุวินฺทกปาสาณจุณฺณานิ ลาขาย พนฺธิตฺวา กตคุฬิกกลาปโก วุจฺจติ, ยํ อุโภสุ อนฺเตสุ คเหตฺวา สรีรํ ฆํสนฺติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, วิคฺคยฺห ปริกมฺมํ การาเปตพฺพํ, โย การาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๔๓) วจนโต อฺมฺํ สรีเรน ฆํสิตุํ น วฏฺฏติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, มลฺลเกน นหายิตพฺพํ, โย นหาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานสฺส อกตมลฺลก’’นฺติ (จูฬว. ๒๔๓-๒๔๔) วจนโต มกรทณฺฑเก ฉินฺทิตฺวา มลฺลกมูลสณฺาเนน กตํ ‘‘มลฺลก’’นฺติ วุจฺจติ, อิทํ คิลานสฺสปิ น วฏฺฏติ. อกตมลฺลกํ นาม ทนฺเต อจฺฉินฺทิตฺวา กตํ, อิทํ อคิลานสฺส น วฏฺฏติ, อิฏฺกขณฺฑํ ปน กปาลขณฺฑํ วา วฏฺฏติ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุกฺกาสิกํ ปุถุปาณิก’’นฺติ (จูฬว. ๒๔๔) วจนโต อุกฺกาสิกํ ปุถุปาณิกฺจ วฏฺฏติ. อุกฺกาสิกํ นาม วตฺถวฏฺฏิ, ตสฺมา นหายนฺตสฺส ยสฺส กสฺสจิ นหานสาฏกวฏฺฏิยา ปิฏฺึ ฆํสิตุํ วฏฺฏติ. ปุถุปาณิกนฺติ หตฺถปริกมฺมํ วุจฺจติ, ตสฺมา สพฺเพสํ หตฺเถน ปิฏฺิปริกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ.

อิทํ ปเนตฺถ นหานวตฺตํ – อุทกติตฺถํ คนฺตฺวา ยตฺถ วา ตตฺถ วา จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา เวเคน ิตเกเนว น โอตริตพฺพํ, สพฺพทิสา ปน โอโลเกตฺวา วิวิตฺตภาวํ ตฺวา ขาณุคุมฺพลตาทีนิ ววตฺถเปตฺวา ติกฺขตฺตุํ อุกฺกาสิตฺวา อวกุชฺช ิเตน อุตฺตราสงฺคจีวรํ อปเนตฺวา ปสาเรตพฺพํ, กายพนฺธนํ โมเจตฺวา จีวรปิฏฺเเยว เปตพฺพํ. สเจ อุทกสาฏิกา นตฺถิ, อุทกนฺเต อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา นิวาสนํ โมเจตฺวา สเจ นินฺนฏฺานํ อตฺถิ, อาตเป ปสาเรตพฺพํ. โน เจ อตฺถิ, สํหริตฺวา เปตพฺพํ. โอตรนฺเตน สณิกํ นาภิปฺปมาณมตฺตํ โอตริตฺวา วีจึ อนุฏฺเปนฺเตน สทฺทํ อกโรนฺเตน นิวตฺติตฺวา อาคตทิสาภิมุเขน นิมุชฺชิตพฺพํ, เอวํ จีวรํ รกฺขิตํ โหติ. อุมฺมุชฺชนฺเตนปิ สทฺทํ อกโรนฺเตน สณิกํ อุมฺมุชฺชิตฺวา นหานปริโยสาเน อุทกนฺเต อุกฺกุฏิเกน นิสีทิตฺวา นิวาสนํ ปริกฺขิปิตฺวา อุฏฺาย สุปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา จีวรํ ปารุปิตฺวาว าตพฺพํ.

๒๒. ‘‘น, ภิกฺขเว, วลฺลิกา ธาเรตพฺพา… น ปามงฺโค ธาเรตพฺโพ… น กณฺสุตฺตกํ ธาเรตพฺพํ… น กฏิสุตฺตกํ ธาเรตพฺพํ… น โอวฏฺฏิกํ ธาเรตพฺพํ… น กายูรํ ธาเรตพฺพํ… น หตฺถาภรณํ ธาเรตพฺพํ… น องฺคุลิมุทฺทิกา ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๔๕) วจนโต กณฺณปิฬนฺธนาทิ ยํ กิฺจิ อาภรณํ น วฏฺฏติ. ตตฺถ (จูฬว. อฏฺ. ๒๔๕) วลฺลิกาติ กณฺณโต นิกฺขนฺตมุตฺโตลมฺพกาทีนํ เอตํ อธิวจนํ. น เกวลฺจ วลฺลิกา เอว, ยํ กิฺจิ กณฺณปิฬนฺธนํ อนฺตมโส ตาลปณฺณมฺปิ น วฏฺฏติ. ปามงฺคนฺติ ยํ กิฺจิ ปลมฺพกสุตฺตํ. กณฺสุตฺตกนฺติ ยํ กิฺจิ คีวูปคํ อาภรณํ. กฏิสุตฺตกนฺติ ยํ กิฺจิ กฏิปิฬนฺธนํ, อนฺตมโส สุตฺตตนฺตุมตฺตมฺปิ. โอวฏฺฏิกนฺติ วลยํ. กายูราทีนิ ปากฏาเนว.

๒๓. ‘‘น, ภิกฺขเว, ทีฆา เกสา ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺเวมาสิกํ วา ทุวงฺคุลํ วา’’ติ (จูฬว. ๒๔๖) วจนโต สเจ เกสา อนฺโตทฺเวมาเส ทฺวงฺคุลํ ปาปุณนฺติ, อนฺโตทฺเวมาเสเยว ฉินฺทิตพฺพา, ทฺวงฺคุเลหิ อติกฺกาเมตุํ น วฏฺฏติ. สเจปิ น ทีฆา, ทฺเวมาสโต เอกทิวสมฺปิ อติกฺกาเมตุํ น ลภติเยว. อุภยถาปิ อุกฺกฏฺปริจฺเฉโทว วุตฺโต, ตโต โอรํ ปน น วฏฺฏนภาโว นาม นตฺถิ.

‘‘น, ภิกฺขเว, กตฺตริกาย เกสา เฉทาเปตพฺพา, โย เฉทาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปจฺจยา กตฺตริกาย เกเส เฉทาเปตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๕) วจนโต อาพาธํ วินา กตฺตริกาย เกเส เฉทาเปตุํ น วฏฺฏติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, โกจฺเฉน เกสา โอสณฺเตพฺพา… น ผณเกน เกสา โอสณฺเตพฺพา… น หตฺถผณเกน เกสา โอสณฺเตพฺพา… น สิตฺถเตลเกน เกสา โอสณฺเตพฺพา… น อุทกเตลเกน เกสา โอสณฺเตพฺพา, โย โอสณฺเยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๔๖) วจนโต มณฺฑนตฺถาย โกจฺฉาทีหิ เกสา น โอสณฺเตพฺพา, อุทฺธโลเมน ปน อนุโลมนิปาตนตฺถํ หตฺถํ เตเมตฺวา สีสํ ปุฺฉิตพฺพํ, อุณฺหาภิตตฺตรชสิรานมฺปิ อลฺลหตฺเถน ปุฺฉิตุํ วฏฺฏติ.

๒๔. ‘‘น, ภิกฺขเว, อาทาเส วา อุทกปตฺเต วา มุขนิมิตฺตํ โอโลเกตพฺพํ, โย โอโลเกยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปจฺจยา อาทาเส วา อุทกปตฺเต วา มุขนิมิตฺตํ โอโลเกตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๔๗) วจนโต อาพาธํ วินา อาทาเส วา อุทกปตฺเต วา มุขํ น โอโลเกตพฺพํ. เอตฺถ จ กํสปตฺตาทีนิปิ เยสุ มุขนิมิตฺตํ ปฺายติ, สพฺพานิ อาทาสสงฺขเมว คจฺฉนฺติ, กฺชิยาทีนิปิ จ อุทกปตฺตสงฺขเมว. ตสฺมา ยตฺถ กตฺถจิ โอโลเกนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. อาพาธปจฺจยา ปน ‘‘สฺฉวิ นุ โข เม วโณ, อุทาหุ น ตาวา’’ติ ชานนตฺถํ วฏฺฏติ, ‘‘ชิณฺโณ นุ โขมฺหิ, โน’’ติ เอวํ อายุสงฺขารํ โอโลกนตฺถมฺปิ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ.

‘‘น, ภิกฺขเว, มุขํ อาลิมฺปิตพฺพํ… น มุขํ อุมฺมทฺทิตพฺพํ… น มุขํ จุณฺเณตพฺพํ… น มโนสิลิกาย มุขํ ลฺเฉตพฺพํ… น องฺคราโค กาตพฺโพ… น มุขราโค กาตพฺโพ… น องฺคราคมุขราโค กาตพฺโพ, โย กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปจฺจยา มุขํ อาลิมฺปิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๔๗) วจนโต อาพาธํ วินา มุขวิลิมฺปนาทิ น กาตพฺพํ.

๒๕. ‘‘น, ภิกฺขเว, นจฺจํ วา คีตํ วา วาทิตํ วา ทสฺสนาย คนฺตพฺพํ, โย คจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๔๘) วจนโต นจฺจาทึ ทสฺสนาย น คนฺตพฺพํ. เอตฺถ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๓๕) จ นจฺจนฺติ นฏาทโย วา นจฺจนฺตุ โสณฺฑา วา อนฺตมโส โมรสูวมกฺกฏาทโยปิ, สพฺพเมตํ นจฺจเมว, ตสฺมา อนฺตมโส โมรนจฺจมฺปิ ทสฺสนาย คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. สยมฺปิ นจฺจนฺตสฺส วา นจฺจาเปนฺตสฺส วา ทุกฺกฏเมว. คีตนฺติ นฏาทีนํ วา คีตํ โหตุ อริยานํ ปรินิพฺพานกาเล รตนตฺตยคุณูปสฺหิตํ สาธุกีฬิตคีตํ วา อสฺตภิกฺขูนํ ธมฺมภาณกคีตํ วา อนฺตมโส ทนฺตคีตมฺปิ, ‘‘ยํ คายิสฺสามา’’ติ ปุพฺพภาเค โอกูชนฺตา กโรนฺติ, สพฺพเมตํ คีตเมว, สยํ คายนฺตสฺสปิ คายาเปนฺตสฺสปิ ทุกฺกฏเมว.

‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อาทีนวา อายตเกน คีตสฺสเรน ธมฺมํ คายนฺตสฺส. อตฺตนาปิ ตสฺมึ สเร สารชฺชติ, ปเรปิ ตสฺมึ สเร สารชฺชนฺติ, คหปติกาปิ อุชฺฌายนฺติ, สรกุตฺติมฺปิ นิกามยมานสฺส สมาธิสฺส ภงฺโค โหติ, ปจฺฉิมา ชนตา ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อาทีนวา อายตเกน คีตสฺสเรน ธมฺมํ คายนฺตสฺส. น, ภิกฺขเว, อายตเกน คีตสฺสเรน ธมฺโม คายิตพฺโพ, โย คาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๔๙) –

วจนโต อายตเกน คีตสฺสเรน ธมฺโมปิ น คายิตพฺโพ.

อายตโก (จูฬว. อฏฺ. ๒๔๙) นาม คีตสฺสโร ตํ ตํ วตฺตํ ภินฺทิตฺวา อกฺขรานิ วินาเสตฺวา ปวตฺโต. ธมฺเม ปน สุตฺตนฺตวตฺตํ นาม อตฺถิ, ชาตกวตฺตํ นาม อตฺถิ, คาถาวตฺตํ นาม อตฺถิ, ตํ วินาเสตฺวา อติทีฆํ กาตุํ น วฏฺฏติ, จตุรสฺเสน วตฺเตน ปริมณฺฑลานิ ปทพฺยฺชนานิ ทสฺเสตพฺพานิ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สรภฺ’’นฺติ (จูฬว. ๒๔๙) วจนโต ปน สเรน ธมฺมํ ภณิตุํ วฏฺฏติ. สรภฺเ กิร ตรงฺควตฺตโธตกวตฺตคลิตวตฺตาทีนิ ทฺวตฺตึส วตฺตานิ อตฺถิ, เตสุ ยํ อิจฺฉติ, ตํ กาตุํ ลภติ. สพฺเพสํ ปทพฺยฺชนํ อวินาเสตฺวา วิการํ อกตฺวา สมณสารุปฺเปน จตุรสฺเสน นเยน ปวตฺตนํเยว ลกฺขณํ.

วาทิตํ นาม ตนฺติพทฺธาทิวาทนียภณฺฑํ วาทิตํ วา โหตุ กุฏเภริวาทิตํ วา อนฺตมโส อุทกเภริวาทิตมฺปิ, สพฺพเมตํ น วฏฺฏติ. ยํ ปน นิฏฺุภนฺโต วา สาสงฺเก วา ิโต อจฺฉริกํ วา โผเฏติ, ปาณึ วา ปหรติ, ตตฺถ อนาปตฺติ, สพฺพํ อนฺตราราเม ิตสฺส ปสฺสโต อนาปตฺติ, ปสฺสิสฺสามีติ วิหารโต วิหารํ คจฺฉนฺตสฺส อาปตฺติเยว. อาสนสาลายํ นิสินฺโน ปสฺสติ, อนาปตฺติ. ปสฺสิสฺสามีติ อุฏฺหิตฺวา คจฺฉโต อาปตฺติ, วีถิยํ ตฺวา คีวํ ปริวตฺเตตฺวา ปสฺสโตปิ อาปตฺติเยว. สลากภตฺตาทีนํ วา อตฺถาย อฺเน วา เกนจิ กรณีเยน คนฺตฺวา คตฏฺาเน ปสฺสติ วา สุณาติ วา, อนาปตฺติ. อาปทาสุ ตาทิเสน อุปทฺทเวน อุปทฺทุโต สมชฺชฏฺานํ ปวิสติ, เอวํ ปวิสิตฺวา ปสฺสนฺตสฺส สุณนฺตสฺส วา อนาปตฺติ. ‘‘เจติยสฺส อุปหารํ เทถ อุปาสกา’’ติ วตฺตุมฺปิ, ‘‘ตุมฺหากํ เจติยสฺส อุปหารํ กโรมา’’ติ วุตฺเต สมฺปฏิจฺฉิตุมฺปิ น ลภติ. ‘‘ตุมฺหากํ เจติยสฺส อุปฏฺานํ กโรมา’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘อุปฏฺานกรณํ นาม สุนฺทร’’นฺติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

๒๖. ‘‘น, ภิกฺขเว, อตฺตโน องฺคชาตํ เฉตพฺพํ, โย ฉินฺเทยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๑) วจนโต องฺคชาตํ (จูฬว. ๒๕๑) ฉินฺทนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ, อฺํ ปน กณฺณนาสาองฺคุลิอาทึ ยํ กิฺจิ ฉินฺทนฺตสฺส ตาทิสํ วา ทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. อหิกีฏทฏฺาทีสุ ปน อฺาพาธปจฺจยา วา โลหิตํ วา โมเจนฺตสฺส ฉินฺทนฺตสฺส วา อนาปตฺติ.

๒๗. ‘‘น, ภิกฺขเว, คิหีนํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทสฺเสตพฺพํ, โย ทสฺเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๒) วจนโต คิหีนํ วิกุพฺพนิทฺธึ ทสฺเสตุํ น วฏฺฏติ, อธิฏฺานิทฺธิ ปน อปฺปฏิกฺขิตฺตา.

๒๘. ‘‘น, ภิกฺขเว, โสวณฺณมโย ปตฺโต ธาเรตพฺโพ…เป… น รูปิยมโย…เป… น มณิมโย…เป… น เวฬุริยมโย…เป… น ผลิกมโย…เป… น กํสมโย…เป… น กาจมโย…เป… น ติปุมโย …เป… น สีสมโย…เป… น ตมฺพโลหมโย ปตฺโต ธาเรตพฺโพ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๒) วจนโต สุวณฺณมยาทิปตฺโต น วฏฺฏติ. สเจปิ คิหี ภตฺตคฺเค สุวณฺณตฏฺฏิกาทีสุ พฺยฺชนํ กตฺวา อุปนาเมนฺติ, อามสิตุมฺปิ น วฏฺฏติ. ผลิกมยกาจมยกํสมยานิ ปน ตฏฺฏิกาทีนิ ภาชนานิ ปุคฺคลิกปริโภเคเนว น วฏฺฏนฺติ, สงฺฆิกปริโภเคน วา คิหิวิกฏานิ วา วฏฺฏนฺติ. ตมฺพโลหมโยปิ ปตฺโตเยว น วฏฺฏติ, ถาลกํ ปน วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺเว ปตฺเต อโยปตฺตํ มตฺติกาปตฺต’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๒) ทฺเวเยว จ ปตฺตา อนุฺาตา.

‘‘น, ภิกฺขเว, ตุมฺพกฏาเห ปิณฺฑาย จริตพฺพํ, โย จเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๕) วจนโต ลาพุกฏาหํ ปริหริตุํ น วฏฺฏติ, ตํ ลภิตฺวา ปน ตาวกาลิกํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ฆฏิกฏาเหปิ เอเสว นโย.

‘‘น, ภิกฺขเว, ฉวสีสปตฺโต ธาเรตพฺโพ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๕) วจนโต ฉวสีสมโยปิ ปตฺโต น วฏฺฏติ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปตฺตาธารก’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๔) วจนโต ภูมิทารุทณฺฑวอลเวตฺตาทีหิ กเต ภูมิอาธารเก ทารุทณฺฑอาธารเก จ ปตฺตํ เปตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ จ ‘‘ภูมิอาธารเก ตโย ทณฺฑาธารเก ทฺเว ปตฺเต อุปรูปริ เปตุํ วฏฺฏตี’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ ‘‘ภูมิอาธารเก ติณฺณํ ปตฺตานํ อโนกาโส, ทฺเว เปตุํ วฏฺฏติ. ทารุอาธารกทณฺฑาธารเกสุปิ สุสชฺชิเตสุ เอเสว นโย. ภมโกฏิสทิโส ปน ทารุอาธารโก ตีหิ ทณฺฑเกหิ พทฺโธ, ทณฺฑาธารโก จ เอกสฺสปิ ปตฺตสฺส อโนกาโส, ตตฺถ เปตฺวาปิ หตฺเถน คเหตฺวาว นิสีทิตพฺพํ, ภูมิยํ ปน นิกฺกุชฺชิตฺวา เอกเมว เปตพฺพ’’นฺติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, มิฑฺฒนฺเต ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ, โย นิกฺขิเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๔) วจนโต อาลินฺทกมิฑฺฒิกาทีนํ อนฺเต เปตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน ปริวตฺเตตฺวา ตตฺเถว ปติฏฺาติ, เอวรูปาย วิตฺถิณฺณาย มิฑฺฒิกาย เปตุํ วฏฺฏติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปริภณฺฑนฺเต ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ, โย นิกฺขิเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๔) วจนโต พาหิรปสฺเส กตาย ตนุกมิฑฺฒิกาย อนฺเตปิ เอเสว นโย. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โจฬก’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๔) วจนโต โจฬกํ ปตฺถริตฺวา ตตฺถ เปตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมึ ปน อสติ กฏสารเก วา ตฏฺฏิกาย วา มตฺติกาย วา ปริภณฺฑกตาย ภูมิยา ยตฺถ น ทุสฺสติ, ตถารูปาย วาลิกาย วา เปตุํ วฏฺฏติ. ปํสุรชาทีสุ ปน ขรภูมิยํ วา เปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปตฺโต ลคฺเคตพฺโพ, โย ลคฺเคยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๔) วจนโต นาคทนฺตาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ลคฺเคตุํ น วฏฺฏติ, จีวรวํเสปิ พนฺธิตฺวา เปตุํ น วฏฺฏติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, มฺเจ ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ, โย นิกฺขิเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๔) วจนโต ภณฺฑกฏฺปนตฺถเมว วา กตํ โหตุ นิสีทนสยนตฺถํ วา, ยตฺถ กตฺถจิ มฺเจ วา ปีเ วา เปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, อฺเน ปน ภณฺฑเกน สทฺธึ พนฺธิตฺวา เปตุํ, อฏนิยํ พนฺธิตฺวา โอลมฺพิตุํ วา วฏฺฏติ, พนฺธิตฺวาปิ อุปริ เปตุํ น วฏฺฏติเยว. สเจ ปน มฺโจ วา ปีํ วา อุกฺขิปิตฺวา จีวรวํสาทีสุ อฏฺฏกจฺฉนฺเนน ปิตํ โหติ, ตตฺถ เปตุํ วฏฺฏติ. อํสวฏฺฏนเกน อํสกูเฏ ลคฺเคตฺวา องฺเก เปตุํ วฏฺฏติ, ฉตฺเต ภตฺตปูโรปิ อํสกูเฏ ลคฺคิตปตฺโตปิ เปตุํ น วฏฺฏติ. ภณฺฑเกน ปน สทฺธึ พนฺธิตฺวา อฏฺฏกํ กตฺวา วา ปิเต โย โกจิ เปตุํ วฏฺฏติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปตฺตหตฺเถน กวาฏํ ปณาเมตพฺพํ, โย ปณาเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๕) วจนโต ปตฺตหตฺเถน กวาฏํ น ปณาเมตพฺพํ. เอตฺถ จ น เกวลํ ยสฺส ปตฺโต หตฺเถ, โส เอว ปตฺตหตฺโถ. น เกวลฺจ กวาฏเมว ปณาเมตุํ น ลภติ, อปิจ โข ปน หตฺเถ วา ปิฏฺิปาเท วา ยตฺถ ยตฺถจิ สรีราวยเว ปตฺตสฺมึ สติ หตฺเถน วา ปาเทน วา สีเสน วา เยน เกนจิ สรีราวยเวน กวาฏํ วา ปณาเมตุํ ฆฏิกํ วา อุกฺขิปิตุํ สูจึ วา กุฺจิกาย อวาปุริตุํ น ลภติ, อํสกูเฏ ปน ปตฺตํ ลคฺเคตฺวา ยถาสุขํ อวาปุริตุํ ลภติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, จลกานิ วา อฏฺิกานิ วา อุจฺฉิฏฺโทกํ วา ปตฺเตน นีหริตพฺพํ, โย นีหเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๕) วจนโต จลกาทีนิ ปตฺเตน นีหริตุํ น วฏฺฏติ. เอตฺถ จ จลกานีติ จพฺเพตฺวา อปวิทฺธามิสานิ. อฏฺิกานีติ มจฺฉมํสออกานิ. อุจฺฉิฏฺโทกนฺติ มุขวิกฺขาลิโตทกํ. เอเตสุ ยํ กิฺจิ ปตฺเตน นีหรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ปตฺตํ ปฏิคฺคหํ กตฺวา หตฺถํ โธวิตุมฺปิ น ลภติ. หตฺถโธตปาทโธตอุทกมฺปิ ปตฺเต อากิริตฺวา นีหริตุํ น วฏฺฏติ, อนุจฺฉิฏฺํ สุทฺธปตฺตํ อุจฺฉิฏฺหตฺเถน คณฺหิตุํ น วฏฺฏติ, วามหตฺเถน ปเนตฺถ อุทกํ อาสิฺจิตฺวา เอกํ อุทกคณฺฑุสํ คเหตฺวา อุจฺฉิฏฺหตฺเถน คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เอตฺตาวตาปิ หิ โส อุจฺฉิฏฺปตฺโต โหติ, หตฺถํ ปน พหิอุทเกน วิกฺขาเลตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ. มจฺฉมํสผลาผลาทีนิ จ ขาทนฺโต ยํ ตตฺถ อฏฺึ วา จลกํ วา ฉฑฺเฑตุกาโม โหติ, ตํ ปตฺเต เปตุํ น ลภติ. ยํ ปน ปฏิขาทิตุกาโม โหติ, ตํ ปตฺเต เปตุํ ลภติ. อฏฺิกกณฺฏกาทีนิ ตตฺเถว กตฺวา หตฺเถน ลุฺจิตฺวา ขาทิตุํ วฏฺฏติ. มุขโต นีหฏํ ปน ยํ กิฺจิ ปุน ขาทิตุกาโม ปตฺเต เปตุํ น ลภติ, สิงฺคิเวรนาฬิเกรขณฺฑาทีนิ ฑํสิตฺวา ปุน เปตุํ ลภติ.

๒๙. ‘‘น จ, ภิกฺขเว, สพฺพปํสุกูลิเกน ภวิตพฺพํ, โย ภเวยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๕) วจนโต สพฺพปํสุกูลิเกน น ภวิตพฺพํ. เอตฺถ ปน จีวรฺจ มฺจปีฺจ ปํสุกูลํ วฏฺฏติ, อชฺโฌหรณียํ ปน ทินฺนเมว คเหตพฺพํ.

๓๐. ‘‘น, ภิกฺขเว, อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺเนน ภิกฺขุนา ปริสฺสาวนํ ยาจิยมาเนน น ทาตพฺพํ, โย น ทเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๙) วจนโต อปริสฺสาวนกสฺส (จูฬว. อฏฺ. ๒๕๙) ยาจมานสฺส ปริสฺสาวนํ อทาตุํ น วฏฺฏติ. โย ปน อตฺตโน หตฺเถ ปริสฺสาวเน วิชฺชมาเนปิ ยาจติ, ตสฺส น อกามา ทาตพฺพํ.

‘‘น จ, ภิกฺขเว, อปริสฺสาวนเกน ภิกฺขุนา อทฺธานมคฺโค ปฏิปชฺชิตพฺโพ, โย ปฏิปชฺเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๕๙) วจนโต อปริสฺสาวนเกน มคฺโค น คนฺตพฺโพ. สเจปิ น โหติ ปริสฺสาวนํ วา ธมฺมกรณํ วา, สงฺฆาฏิกณฺโณ อธิฏฺาตพฺโพ ‘‘อิมินา ปริสฺสาเวตฺวา ปิวิสฺสามี’’ติ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทณฺฑปริสฺสาวน’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๙) วจนโต ทณฺฑปริสฺสาวนมฺปิ วฏฺฏติ. ทณฺฑปริสฺสาวนํ นาม ยตฺถ รชกานํ ขารปริสฺสาวนํ วิย จตูสุ ปาเทสุ พทฺธนิสฺเสณิกาย สาฏกํ พนฺธิตฺวา มชฺเฌ ทณฺฑเก อุทกํ อาสิฺจนฺติ, ตํ อุโภปิ โกฏฺาเส ปูเรตฺวา ปริสฺสาวติ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โอตฺถรก’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๙) วจนโต โอตฺถรกํ ปริสฺสาวนมฺปิ วฏฺฏติ. โอตฺถรกํ นาม ยํ อุทเก โอตฺถริตฺวา ฆฏเกน อุทกํ คณฺหนฺติ, ตฺหิ จตูสุ ทณฺฑเกสุ วตฺถํ พนฺธิตฺวา อุทเก จตฺตาโร ขาณุเก นิขนิตฺวา เตสุ พนฺธิตฺวา สพฺพปริยนฺเต อุทกโต โมเจตฺวา มชฺเฌ โอตฺถริตฺวา ฆเฏน อุทกํ คณฺหนฺติ.

๓๑. ‘‘น, ภิกฺขเว, นคฺเคน นคฺโค อภิวาเทตพฺโพ, โย อภิวาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิวจนโต (จูฬว. ๒๖๑) น นคฺเคน นคฺโค อภิวาเทตพฺโพ, น นคฺเคน อภิวาเทตพฺพํ, น นคฺเคน นคฺโค อภิวาทาเปตพฺโพ, น นคฺเคน อภิวาทาเปตพฺพํ, น นคฺเคน นคฺคสฺส ปริกมฺมํ กาตพฺพํ, น นคฺเคน นคฺคสฺส ทาตพฺพํ, น นคฺเคน ปฏิคฺคเหตพฺพํ, น นคฺเคน ขาทิตพฺพํ, น นคฺเคน ภุฺชิตพฺพํ, น นคฺเคน สายิตพฺพํ, น นคฺเคน ปาตพฺพํ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติสฺโส ปฏิจฺฉาทิโย ชนฺตาฆรปฏิจฺฉาทึ อุทกปฏิจฺฉาทึ วตฺถปฏิจฺฉาทิ’’นฺติ (จูฬว. ๒๖๑) วจนโต ติสฺโส ปฏิจฺฉาทิโย วฏฺฏนฺติ. เอตฺถ จ ชนฺตาฆรปฏิจฺฉาทิ อุทกปฏิจฺฉาทิ จ ปริกมฺมํ กโรนฺตสฺเสว วฏฺฏติ, เสเสสุ อภิวาทนาทีสุ น วฏฺฏติ. วตฺถปฏิจฺฉาทิ ปน สพฺพกมฺเมสุ วฏฺฏติ.

๓๒. ‘‘น, ภิกฺขเว, ปุปฺผาภิกิณฺเณสุ สยเนสุ สยิตพฺพํ, โย สเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๖๔) วจนโต ปุปฺเผหิ สนฺถเตสุ สยเนสุ น สยิตพฺพํ, คนฺธคนฺธํ ปน คเหตฺวา กวาเฏ ปฺจงฺคุลึ ทาตุํ วฏฺฏติ ปุปฺผํ คเหตฺวา วิหาเร เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตุํ.

๓๓. ‘‘น, ภิกฺขเว, อาสิตฺตกูปธาเน ภุฺชิตพฺพํ, โย ภุฺเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๖๔) วจนโต อาสิตฺตกูปธาเน เปตฺวา น ภุฺชิตพฺพํ. อาสิตฺตกูปธานนฺติ ตมฺพโลเหน วา รชเตน วา กตาย เปฬาย เอตํ อธิวจนํ, ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ปน ทารุมยาปิ น วฏฺฏติ.

๓๔. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มโฬริก’’นฺติ (จูฬว. ๒๖๔) วจนโต มโฬริกาย เปตฺวา ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. มโฬริกาติ ทณฺฑาธารโก วุจฺจติ. ยฏฺิอาธารกปณฺณาธารกปจฺฉิกปีาทีนิปิ เอตฺเถว ปวิฏฺานิ. อาธารกสงฺเขปคมนโต หิ ปฏฺาย ฉิทฺทํ วิทฺธมฺปิ อวิทฺธมฺปิ วฏฺฏติเยว.

๓๕. ‘‘น, ภิกฺขเว, เอกภาชเน ภุฺชิตพฺพํ, โย ภุฺเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ(จูฬว. ๒๖๔) อาทิวจนโต น เอกภาชเน ภุฺชิตพฺพํ, น เอกถาลเก ปาตพฺพํ. สเจ ปน เอโก ภิกฺขุ ภาชนโต ผลํ วา ปูปํ วา คเหตฺวา คจฺฉติ, ตสฺมึ อปคเต อิตรสฺส เสสกํ ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, อิตรสฺสปิ ตสฺมึ ขีเณ ปุน คเหตุํ วฏฺฏติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, เอกมฺเจ ตุวฏฺฏิตพฺพํ, โย ตุวฏฺเฏยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ(จูฬว. ๒๖๔) อาทิวจนโต น เอกมฺเจ นิปชฺชิตพฺพํ, น เอกตฺถรเณ นิปชฺชิตพฺพํ. ววตฺถานํ ปน ทสฺเสตฺวา มชฺเฌ กาสาวํ วา กตฺตรยฏฺึ วา อนฺตมโส กายพนฺธนมฺปิ เปตฺวา นิปชฺชนฺตานํ อนาปตฺติ. เอกปาวุรเณหิ เอกตฺถรณปาวุรเณหิ จ น นิปชฺชิตพฺพํ. เอกํ อตฺถรณฺเจว ปาวุรณฺจ เอเตสนฺติ เอกตฺถรณปาวุรณา. สํหาริมานํ ปาวารตฺถรณกฏสารกาทีนํ เอกํ อนฺตํ อตฺถริตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา นิปชฺชนฺตานเมตํ อธิวจนํ.

๓๖. ‘‘น, ภิกฺขเว, เจลปฺปฏิกา อกฺกมิตพฺพา, โย อกฺกเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๖๘) วจนโต น เจลสนฺถาโร อกฺกมิตพฺโพ, ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิหีนํ มงฺคลตฺถาย ยาจิยมาเนน เจลปฺปฏิกํ อกฺกมิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๖๘) วจนโต ปน กาจิ อิตฺถี (จูฬว. อฏฺ. ๒๖๘) อปคตคพฺภา วา โหติ ครุคพฺภา วา, เอวรูเปสุ าเนสุ มงฺคลตฺถาย ยาจิยมาเนน อกฺกมิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โธตปาทกํ อกฺกมิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๖๘) วจนโต ปาทโธวนฏฺาเน โธเตหิ ปาเทหิ อกฺกมนตฺถาย อตฺถตปจฺจตฺถรณํ อกฺกมิตุํ วฏฺฏติ.

๓๗. ‘‘น, ภิกฺขเว, กตกํ ปริภุฺชิตพฺพํ, โย ปริภุฺเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๖๙) วจนโต กตกํ น วฏฺฏติ. กตกํ นาม ปทุมกณฺณิกาการํ ปาทฆํสนตฺถํ กณฺฏเก อุฏฺาเปตฺวา กตํ. ตํ วฏฺฏํ วา โหตุ จตุรสฺสาทิเภทํ วา, พาหุลิกานุโยคตฺตา ปฏิกฺขิตฺตเมว, เนว ปฏิคฺคเหตุํ, น ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติสฺโส ปาทฆํสนิโย สกฺขรํ กถลํ สมุทฺทเผณก’’นฺติ (จูฬว. ๒๖๙) วจนโต สกฺขราทีหิ ปาทฆํสนํ วฏฺฏติ. สกฺขราติ ปาสาโณ วุจฺจติ, ปาสาณเผณโกปิ วฏฺฏติเยว.

๓๘. ‘‘น, ภิกฺขเว, จามริพีชนี ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๖๙) วจนโต จามริวาเลหิ กตพีชนี น วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มกสพีชนึ. อนุชานามิ ภิกฺขเว ติสฺโส พีชนิโย วากมยํ อุสีรมยํ โมรปิฺฉมยํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วิธูปนฺจ ตาลวณฺฏฺจา’’ติ (จูฬว. ๒๖๙) วจนโต มกสพีชนีอาทิ วฏฺฏติ. ตตฺถ วิธูปนนฺติ พีชนี วุจฺจติ. ตาลวณฺฏํ ปน ตาลปณฺเณหิ วา กตํ โหตุ เวฬุทนฺตวิลีเวหิ วา โมรปิฺเฉหิ วา จมฺมวิกตีหิ วา, สพฺพํ วฏฺฏติ. มกสพีชนี ทนฺตมยวิสาณมยทณฺฑกาปิ วฏฺฏติ. วากมยพีชนิยา เกตกปาโรหกุนฺตาลปณฺณาทิมยาปิ สงฺคหิตา.

๓๙. ‘‘น, ภิกฺขเว, ฉตฺตํ ธาเรตพฺพํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานสฺส ฉตฺต’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๐) วจนโต อคิลาเนน ฉตฺตํ น ธาเรตพฺพํ. ยสฺส ปน กายฑาโห วา ปิตฺตโกโป วา โหติ จกฺขุ วา ทุพฺพลํ, อฺโ วา โกจิ อาพาโธ วินา ฉตฺเตน อุปฺปชฺชติ, ตสฺส คาเม วา อรฺเ วา ฉตฺตํ วฏฺฏติ. วสฺเส ปน จีวรคุตฺตตฺถมฺปิ วาฬมิคโจรภเยสุ อตฺตคุตฺตตฺถมฺปิ วฏฺฏติ, เอกปณฺณจฺฉตฺตํ ปน สพฺพตฺเถว วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อคิลาเนนปิ อาราเม อารามูปจาเร ฉตฺตํ ธาเรตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๐) วจนโต ปน อคิลานสฺสปิ อารามอารามูปจาเรสุ ฉตฺตํ ธาเรตุํ วฏฺฏติ.

๔๐. ‘‘น, ภิกฺขเว, ทีฆา นขา ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มํสปฺปมาเณน นขํ ฉินฺทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๔) วจนโต ทีฆา นขา ฉินฺทิตพฺพา. ‘‘น, ภิกฺขเว, วีสติมฏฺํ การาเปตพฺพํ, โย การาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มลมตฺตํ อปกฑฺฒิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๔) วจนโต วีสติปิ นเข ลิขิตมฏฺเ การาเปตุํ น วฏฺฏติ, นขโต มลมตฺตํ ปน อปกฑฺฒิตุํ วฏฺฏติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, สมฺพาเธ โลมํ สํหราเปตพฺพํ, โย สํหราเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปจฺจยา สมฺพาเธ โลมํ สํหราเปตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๕) วจนโต คณฺฑวณาทิอาพาธํ วินา สมฺพาเธ โลมํ สํหราเปตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘น, ภิกฺขเว, ทีฆํ นาสิกาโลมํ ธาเรตพฺพํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๗๕) วจนโต สณฺฑาเสน นาสิกาโลมํ สํหราเปตุํ วฏฺฏติ. สกฺขราทีหิ นาสิกาโลมํ คาหาปเนปิ อาปตฺติ นตฺถิ, อนุรกฺขณตฺถํ ปน ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สณฺฑาส’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๕) สณฺฑาโส อนุฺาโต. ‘‘น, ภิกฺขเว, ปลิตํ คาหาเปตพฺพํ, โย คาหาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๗๕) วจนโต ปลิตํ คาหาเปตุํ น วฏฺฏติ. ยํ ปน ภมุกาย วา นลาเฏ วา ทาิกาย วา อุคฺคนฺตฺวา พีภจฺฉํ หุตฺวา ิตํ, ตาทิสํ โลมํ ปลิตํ วา อปลิตํ วา คาหาเปตุํ วฏฺฏติ.

๔๑. ‘‘น, ภิกฺขเว, อกายพนฺธเนน คาโม ปวิสิตพฺโพ, โย ปวิเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๗๘) วจนโต อกายพนฺธเนน คาโม น ปวิสิตพฺโพ, อพนฺธิตฺวา นิกฺขมนฺเตน ยตฺถ สรติ, ตตฺถ พนฺธิตพฺพํ. ‘‘อาสนสาลาย พนฺธิสฺสามี’’ติ คนฺตุํ วฏฺฏติ, สริตฺวา ยาว น พนฺธติ, น ตาว ปิณฺฑาย จริตพฺพํ.

๔๒. ‘‘น, ภิกฺขเว, คิหินิวตฺถํ นิวาเสตพฺพํ, โย นิวาเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ(จูฬว. ๒๘๐) อาทิวจนโต หตฺถิโสณฺฑาทิวเสน คิหินิวตฺถํ น นิวาเสตพฺพํ, เสตปฏปารุตาทิวเสน น คิหิปารุตํ ปารุปิตพฺพํ, มลฺลกมฺมกราทโย วิย กจฺฉํ พนฺธิตฺวา น นิวาเสตพฺพํ. เอวํ นิวาเสตุํ คิลานสฺสปิ มคฺคปฺปฏิปนฺนสฺสปิ น วฏฺฏติ. ยมฺปิ มคฺคํ คจฺฉนฺตา เอกํ วา ทฺเว วา โกเณ อุกฺขิปิตฺวา อนฺตรวาสกสฺส อุปริ ลคฺคนฺติ, อนฺโต วา เอกํ กาสาวํ ตถา นิวาเสตฺวา พหิ อปรํ นิวาเสนฺติ, สพฺพํ น วฏฺฏติ. คิลาโน ปน อนฺโตกาสาวสฺส โอวฏฺฏิกํ ทสฺเสตฺวา อปรํ อุปริ นิวาเสตุํ ลภติ, อคิลาเนน ทฺเว นิวาเสนฺเตน สคุณํ กตฺวา นิวาเสตพฺพานิ.

๔๓. ‘‘น, ภิกฺขเว, อุภโตกาชํ หริตพฺพํ, โย หเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๘๑) วจนโต อุภโตกาชํ หริตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เอกโตกาชํ อนฺตรากาชํ สีสภารํ ขนฺธภารํ กฏิภารํ โอลมฺพก’’นฺติ วจนโต เอกโตกาชาทึ หริตุํ วฏฺฏติ.

๔๔. ‘‘น, ภิกฺขเว, ทีฆํ ทนฺตกฏฺํ ขาทิตพฺพํ, โย ขาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๘๒) วจนโต น ทีฆํ ทนฺตกฏฺํ ขาทิตพฺพํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฏฺงฺคุลปรมํ ทนฺตกฏฺํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตุรงฺคุลปจฺฉิมํ ทนฺตกฏฺ’’นฺติ (จูฬว. ๒๘๒) วจนโต มนุสฺสานํ ปมาณงฺคุเลน อฏฺงฺคุลปรมํ จตุรงฺคุลปจฺฉิมฺจ ทนฺตกฏฺํ ขาทิตพฺพํ.

๔๕. ‘‘น, ภิกฺขเว, รุกฺโข อภิรุหิตพฺโพ, โย อภิรุเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สติ กรณีเย โปริสํ รุกฺขํ อภิรุหิตุํ อาปทาสุ ยาวทตฺถ’’นฺติ (จูฬว. ๒๘๔) วจนโต น รุกฺขํ อภิรุหิตพฺพํ, สุกฺขกฏฺคหณาทิกิจฺเจ ปน สติ ปุริสปฺปมาณํ อภิรุหิตุํ วฏฺฏติ. อาปทาสูติ วาฬมิคาทโย วา ทิสฺวา มคฺคมูฬฺโห วา ทิสา โอโลเกตุกาโม หุตฺวา ทวฑาหํ วา อุทโกฆํ วา อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อติอุจฺจมฺปิ รุกฺขํ อาโรหิตุํ วฏฺฏติ.

๔๖. ‘‘น, ภิกฺขเว, พุทฺธวจนํ ฉนฺทโส อาโรเปตพฺพํ, โย อาโรเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สกาย นิรุตฺติยา พุทฺธวจนํ ปริยาปุณิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๘๕) วจนโต เวทํ วิย พุทฺธวจนํ สกฺกฏภาสาย วาจนามคฺคํ อาโรเจตุํ น วฏฺฏติ, สกาย ปน มาคธิกาย นิรุตฺติยา ปริยาปุณิตพฺพํ.

๔๗. ‘‘น, ภิกฺขเว, โลกายตํ ปริยาปุณิตพฺพํ, โย ปริยาปุเณยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ(จอูฬว. ๒๘๖) อาทิวจนโต โลกายตสงฺขาตํ ‘‘สพฺพํ อุจฺฉิฏฺํ, สพฺพํ อนุจฺฉิฏฺํ, เสโต กาโก, กาโฬ พโก อิมินา จ อิมินา จ การเณนา’’ติ เอวมาทินิรตฺถกการณปฏิสํยุตฺตํ ติตฺถิยสตฺถํ เนว ปริยาปุณิตพฺพํ, น ปรสฺส วาเจตพฺพํ. น จ ติรจฺฉานวิชฺชา ปริยาปุณิตพฺพา, น ปรสฺส วาเจตพฺพา.

๔๘. ‘‘น, ภิกฺขเว, ขิปิเต ‘ชีวา’ติ วตฺตพฺโพ, โย วเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิหีนํ ‘ชีวถ ภนฺเต’ติ วุจฺจมาเนน ‘จิรํ ชีวา’ติ วตฺตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๘๘) วจนโต ขิปิเต ‘‘ชีวา’’ติ น วตฺตพฺพํ, คิหินา ปน ‘‘ชีวถา’’ติ วุจฺจมาเนน ‘‘จิรํ ชีวา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

๔๙. ‘‘น, ภิกฺขเว, ลสุณํ ขาทิตพฺพํ, โย ขาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปจฺจยา ลสุณํ ขาทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๘๙) วจนโต อาพาธํ วินา ลสุณํ ขาทิตุํ น วฏฺฏติ, สูปสมฺปากาทีสุ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๙๗) ปกฺขิตฺตํ ปน วฏฺฏติ. ตฺหิ ปจฺจมาเนสุ มุคฺคสูปาทีสุ วา มจฺฉมํสวิกติยา วา เตเล วา พทรสาฬวาทีสุ วา อมฺพิลสากาทีสุ วา อุตฺตริภงฺเคสุ วา ยตฺถ กตฺถจิ อนฺตมโส ยาคุภตฺเตปิ ปกฺขิตฺตํ วฏฺฏติ.

๕๐. ‘‘น, ภิกฺขเว, อโธเตหิ ปาเทหิ เสนาสนํ อกฺกมิตพฺพํ, โย อกฺกเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๒๔) วจนโต อโธเตหิ ปาเทหิ มฺจปีาทิเสนาสนํ ปริกมฺมกตา วา ภูมิ น อกฺกมิตพฺพา. ‘‘น, ภิกฺขเว, อลฺเลหิ ปาเทหิ เสนาสนํ อกฺกมิตพฺพํ, โย อกฺกเมยฺย อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๒๔) วจนโต เยหิ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๔) อกฺกนฺตฏฺาเน อุทกํ ปฺายติ, เอวรูเปหิ อลฺลปาเทหิ ปริภณฺฑกตา ภูมิ วา เสนาสนํ วา น อกฺกมิตพฺพํ. สเจ ปน อุทกสิเนหมตฺตเมว ปฺายติ, น อุทกํ, วฏฺฏติ. ปาทปุฺฉนึ ปน อลฺลปาเทหิปิ อกฺกมิตุํ วฏฺฏติเยว. ‘‘น, ภิกฺขเว, สอุปาหเนน เสนาสนํ อกฺกมิตพฺพํ, โย อกฺกเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๒๔) วจนโต โธตปาเทหิ อกฺกมิตพฺพฏฺานํ สอุปาหเนน อกฺกมิตุํ น วฏฺฏติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปริกมฺมกตาย ภูมิยา นิฏฺุภิตพฺพํ, โย นิฏฺุเภยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๒๔) วจนโต ปริกมฺมกตาย ภูมิยา น นิฏฺุภิตพฺพํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เขฬมลฺลก’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๔) เอวํ อนุฺาเต เขฬมลฺลเก นิฏฺุภิตพฺพํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โจฬเกน ปลิเวเตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๔) วจนโต สุธาภูมิยา วา ปริภณฺฑภูมิยา วา มฺจปีํ นิกฺขิปนฺเตน สเจ ตฏฺฏิกา วา กฏสารโก วา นตฺถิ, โจฬเกน มฺจปีานํ ปาทา เวเตพฺพา, ตสฺมึ อสติ ปณฺณมฺปิ อตฺถริตุํ วฏฺฏติ, กิฺจิ อนตฺถริตฺวา เปนฺตสฺส ปน ทุกฺกฏํ. ยทิ ปน ตตฺถ เนวาสิกา อนตฺถตาย ภูมิยาปิ เปนฺติ, อโธตปาเทหิปิ วฬฺเชนฺติ, ตเถว วฬฺเชตุํ วฏฺฏติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, ปริกมฺมกตา ภิตฺติ อปสฺเสตพฺพา, โย อปสฺเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๒๔) วจนโต ปริกมฺมกตา ภิตฺติ เสตภิตฺติ วา โหตุ จิตฺตกมฺมกตา วา, น อปสฺเสตพฺพา. น เกวลฺจ ภิตฺติเมว, ทฺวารมฺปิ วาตปานมฺปิ อปสฺเสนผลกมฺปิ ปาสาณตฺถมฺภมฺปิ รุกฺขตฺถมฺภมฺปิ จีวเรน วา เยน เกนจิ อปฺปฏิจฺฉาเทตฺวา อปสฺสิตุํ น ลภติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปจฺจตฺถริตฺวา นิปชฺชิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๕) วจนโต ปน โธตปาเทหิ อกฺกมิตพฺพํ, ปริภณฺฑกตํ ภูมึ วา ภูมตฺถรณํ เสนาสนํ วา สงฺฆิกมฺจปีํ วา อตฺตโน สนฺตเกน ปจฺจตฺถรเณน ปจฺจตฺถริตฺวาว นิปชฺชิตพฺพํ. สเจ นิทฺทายโตปิ ปจฺจตฺถรเณ สงฺกุฏิเต โกจิ สรีราวยโว มฺจํ วา ปีํ วา ผุสติ, อาปตฺติเยว, โลเมสุ ปน ผุสนฺเตสุ โลมคณนาย อาปตฺติโย. ปริโภคสีเสน อปสฺสยนฺตสฺสปิ เอเสว นโย. หตฺถตลปาทตเลหิ ปน ผุสิตุํ อกฺกมิตุํ วา วฏฺฏติ, มฺจํ วา ปีํ วา หรนฺตสฺส กาเย ปฏิหฺติ, อนาปตฺติ.

๕๑. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, อวนฺทิยา. ปุเรอุปสมฺปนฺเนน ปจฺฉุปสมฺปนฺโน อวนฺทิโย, อนุปสมฺปนฺโน อวนฺทิโย, นานาสํวาสโก วุฑฺฒตโร อธมฺมวาที อวนฺทิโย, มาตุคาโม อวนฺทิโย, ปณฺฑโก อวนฺทิโย, ปาริวาสิโก อวนฺทิโย, มูลายปฏิกสฺสนารโห อวนฺทิโย, มานตฺตารโห อวนฺทิโย, มานตฺตจาริโก อวนฺทิโย, อพฺภานารโห อวนฺทิโย’’ติ (จูฬว. ๓๑๒) วจนโต อิเม ทส อวนฺทิยาติ เวทิตพฺพา.

‘‘ปจฺฉุปสมฺปนฺเนน ปุเรอุปสมฺปนฺโน วนฺทิโย, นานาสํวาสโก วุฑฺฒตโร ธมฺมวาที วนฺทิโย, ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วนฺทิโย’’ติ (จูฬว. ๓๑๒) – วจนโต อิเม ตโย วนฺทิตพฺพา.

๕๒. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตีณิ ตูลานิ รุกฺขตูลํ ลตาตูลํ โปฏกีตูล’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต อิมานิ ตีณิ ตูลานิ กปฺปิยานิ. ตตฺถ (จูฬว. อฏฺ. ๒๙๗) รุกฺขตูลนฺติ สิมฺพลิรุกฺขาทีนํ เยสํ เกสฺจิ รุกฺขานํ ตูลํ. ลตาตูลนฺติ ขีรวลฺลิอาทีนํ ยาสํ กาสฺจิ วลฺลีนํ ตูลํ. โปฏกีตูลนฺติ โปฏกีติณาทีนํ เยสํ เกสฺจิ ติณชาติกานํ อนฺตมโส อุจฺฉุนฬาทีนมฺปิ ตูลํ. เอเตหิ ตีหิ สพฺพภูตคามา สงฺคหิตา โหนฺติ. รุกฺขวลฺลิติณชาติโย หิ มุฺจิตฺวา อฺโ ภูตคาโม นาม นตฺถิ, ตสฺมา ยสฺส กสฺสจิ ภูตคามสฺส ตูลํ พิมฺโพหเน วฏฺฏติ. ภิสึ ปน ปาปุณิตฺวา สพฺพเมตํ อกปฺปิยตูลนฺติ วุจฺจติ. น เกวลฺจ พิมฺโพหเน เอตํ ตูลเมว, หํสโมราทีนํ สพฺพสกุณานํ สีหาทีนํ สพฺพจตุปฺปทานฺจ โลมมฺปิ วฏฺฏติ, ปิยงฺคุปุปฺผพกุลปุปฺผาทีนํ ปน ยํ กิฺจิ ปุปฺผํ น วฏฺฏติ. ตมาลปตฺตํ สุทฺธเมว น วฏฺฏติ, มิสฺสกํ ปน วฏฺฏติ, ภิสีนํ อนุฺาตํ ปฺจวิธํ อุณฺณาทิตูลมฺปิ วฏฺฏติ.

๕๓. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจ ภิสิโย อุณฺณภิสึ โจฬภิสึ วากภิสึ ติณภิสึ ปณฺณภิสิ’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต ปฺจหิ อุณฺณาทีหิ ปูริตา ปฺจ ภิสิโย อนุฺาตา. ตูลคณนาย หิ เอตาสํ คณนา วุตฺตา. ตตฺถ อุณฺณคฺคหเณน น เกวลํ เอฬกโลมเมว คหิตํ, เปตฺวา ปน มนุสฺสโลมํ ยํ กิฺจิ กปฺปิยากปฺปิยมํสชาตีนํ ปกฺขิจตุปฺปทานํ โลมํ สพฺพํ อิธ อุณฺณคฺคหเณเนว คหิตํ. ตสฺมา ฉนฺนํ จีวรานํ ฉนฺนํ อนุโลมจีวรานฺจ อฺตเรน ภิสิจฺฉวึ กตฺวา ตํ สพฺพํ ปกฺขิปิตฺวา ภิสึ กาตุํ วฏฺฏติ. เอฬกโลมานิ ปน อปกฺขิปิตฺวา กมฺพลเมว จตุคฺคุณํ ปฺจคุณํ วา ปกฺขิปิตฺวา กตาปิ อุณฺณภิสิสงฺขฺยเมว คจฺฉติ.

โจฬภิสิอาทีสุ ยํ กิฺจิ นวโจฬํ วา ปุราณโจฬํ วา สํหริตฺวา อนฺโต ปกฺขิปิตฺวา วา กตา โจฬภิสิ. ยํ กิฺจิ วากํ ปกฺขิปิตฺวา กตา วากภิสิ. ยํ กิฺจิ ติณํ ปกฺขิปิตฺวา กตา ติณภิสิ. อฺตฺร สุทฺธตมาลปตฺตา ยํ กิฺจิ ปณฺณํ ปกฺขิปิตฺวา กตา ปณฺณภิสีติ เวทิตพฺพา. ตมาลปตฺตํ ปน อฺเน มิสฺสเมว วฏฺฏติ. สุทฺธํ น วฏฺฏติ. ยํ ปเนตํ อุณฺณาทิปฺจวิธํ ตูลํ ภิสิยํ วฏฺฏติ, ตํ มสูรเกปิ วฏฺฏตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. เอเตน มสูรกํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตีติ สิทฺธํ โหติ. ภิสิยา ปมาณนิยโม นตฺถิ, มฺจภิสิ ปีภิสิ ภูมตฺถรณภิสิ จงฺกมนภิสิ ปาทปุฺฉนภิสีติ เอตาสํ อนุรูปโต สลฺลกฺเขตฺวา อตฺตโน รุจิวเสน ปมาณํ กาตพฺพํ. พิมฺโพหนํ ปน ปมาณยุตฺตเมว วฏฺฏติ.

๕๔. ‘‘น, ภิกฺขเว, อฑฺฒกายิกานิ พิมฺโพหนานิ ธาเรตพฺพานิ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๙๗) เยสุ กฏิโต ปฏฺาย ยาว สีสํ อุปทหนฺติ, ตาทิสานิ อุปฑฺฒกายปฺปมาณานิ พิมฺโพหนานิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สีสปฺปมาณํ พิมฺโพหน’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) สีสปฺปมาณํ อนุฺาตํ. สีสปฺปมาณํ นาม ยสฺส วิตฺถารโต ตีสุ กณฺเณสุ ทฺวินฺนํ กณฺณานํ อนฺตรํ มินิยมานํ วิทตฺถิ เจว จตุรงฺคุลฺจ โหติ, มชฺฌฏฺานํ มุฏฺิรตนํ โหติ. ‘‘ทีฆโต ปน ทิยฑฺฒรตนํ วา ทฺวิรตนํ วา’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. อยํ สีสปฺปมาณสฺส อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท, อิโต อุทฺธํ น วฏฺฏติ, เหฏฺา วฏฺฏติ. อคิลานสฺส สีสูปธานฺจ ปาทูปธานฺจาติ ทฺวยเมว วฏฺฏติ, คิลานสฺส พิมฺโพหนานิ สนฺถริตฺวา อุปริ ปจฺจตฺถรณํ ทตฺวา นิปชฺชิตุมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘ยานิ ปน ภิสีนํ อนุฺาตานิ ปฺจ กปฺปิยตูลานิ, เตหิ พิมฺโพหนํ มหนฺตมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ ผุสฺสเทวตฺเถโร อาห. วินยธรอุปติสฺสตฺเถโร ปน ‘‘พิมฺโพหนํ กริสฺสามีติ กปฺปิยตูลํ วา อกปฺปิยตูลํ วา ปกฺขิปิตฺวา กโรนฺตสฺส ปมาณเมว วฏฺฏตี’’ติ อาห.

๕๕. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาสนฺทิก’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต จตุรสฺสปีสงฺขาโต อาสนฺทิโก วฏฺฏติ, โส จ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุจฺจกมฺปิ อาสนฺทิก’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต อฏฺงฺคุลโต อุจฺจปาทโกปิ วฏฺฏติ. เอกโตภาเคน ทีฆปีเมว หิ อฏฺงฺคุลโต อุจฺจปาทกํ น วฏฺฏติ, ตสฺมา จตุรสฺสปีํ ปมาณาติกฺกนฺตมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สตฺตงฺค’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต ตีสุ ทิสาสุ อปสฺสยํ กตฺวา กตมฺโจปิ วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุจฺจกมฺปิ สตฺตงฺค’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต อยมฺปิ ปมาณาติกฺกนฺโต จ วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภทฺทปี’’นฺติอาทินา (จูฬว. ๒๙๗) ปาฬิยํ อนุฺาตํ เวตฺตมยปีํ ปิโลติกาพทฺธปีํ ทารุปฏฺฏิกาย อุปริ ปาเท เปตฺวา โภชนผลกํ วิย กตํ เอฬกปาทปีํ อามลกากาเรน โยชิตํ พหุปาทกํ อามณฺฑกวฏฺฏิกปีํ ปลาลปีํ ผลกปีฺจ ปาฬิยํ อนาคตฺจ อฺมฺปิ ยํ กิฺจิ ทารุมยปีํ วฏฺฏติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, อุจฺเจ มฺเจ สยิตพฺพํ, โย สเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต ปมณาติกฺกนฺเต มฺเจ สยนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ตํ ปน กโรนฺตสฺส การาเปนฺตสฺส จ เฉทนกํ ปาจิตฺติยํ. อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภุฺชนฺเตน ฉินฺทิตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. สเจ น ฉินฺทิตุกาโม โหติ, ภูมิยํ นิขนิตฺวา ปมาณํ อุปริ ทสฺเสติ, อุตฺตานกํ วา กตฺวา ปริภุฺชติ, อุกฺขิปิตฺวา ตุลาสงฺฆาเฏ เปตฺวา อฏฺฏํ กตฺวา ปริภุฺชติ, วฏฺฏติ. ‘‘น, ภิกฺขเว, อุจฺจา มฺจปฏิปาทกา ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฏฺงฺคุลปรมํ มฺจปฏิปาทก’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต มนุสฺสานํ ปมาณงฺคุเลน อฏฺงฺคุลปรโมว มฺจปฏิปาทโก วฏฺฏติ, ตโต อุทฺธํ น วฏฺฏติ.

๕๖. ‘‘น, ภิกฺขเว, อุจฺจาสยนมหาสยนานิ ธาเรตพฺพานิ, เสยฺยถิทํ, อาสนฺทิ ปลฺลงฺโก โคนโก จิตฺตโก ปฏิกา ปฏลิกา ตูลิกา วิกติกา อุทฺทโลมิ เอกนฺตโลมิ กฏฺฏิสฺสํ โกเสยฺยํ กุตฺตกํ หตฺถตฺถรํ อสฺสตฺถรํ รถตฺถรํ อชินปเวณี กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรณํ สอุตฺตรจฺฉทํ อุภโตโลหิตกูปธานํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๔) วจนโต อุจฺจาสยนมหาสยนานิ น วฏฺฏนฺติ. ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๒๕๔) อุจฺจาสยนํ นาม ปมาณาติกฺกนฺตํ มฺจํ. มหาสยนํ นาม อกปฺปิยตฺถรณํ. อาสนฺทิอาทีสุ อาสนฺทีติ ปมาณาติกฺกนฺตาสนํ. ปลฺลงฺโกติ ปาเทสุ วาฬรูปานิ เปตฺวา กโต. โคนโกติ ทีฆโลมโก มหาโกชโว. จตุรงฺคุลาธิกานิ กิร ตสฺส โลมานิ. จิตฺตโกติ รตนจิตฺรอุณฺณามยตฺถรโก. ปฏิกาติ อุณฺณามโย เสตตฺถรโก. ปฏลิกาติ ฆนปุปฺผโก อุณฺณามยโลมตฺถรโก, โย ‘‘อามลกปโฏ’’ติปิ วุจฺจติ. ตูลิกาติ ปกติตูลิกาเยว. วิกติกาติ สีหพฺยคฺฆาทิรูปวิจิตฺโร อุณฺณามยตฺถรโก. อุทฺทโลมีติ เอกโต อุคฺคตโลมํ อุณฺณามยตฺถรณํ. เอกนฺตโลมีติ อุภโต อุคฺคตโลมํ อุณฺณามยตฺถรณํ. กฏฺฏิสฺสนฺติ รตนปริสิพฺพิตํ โกเสยฺยกฏฺฏิสฺสมยํ ปจฺจตฺถรณํ. โกเสยฺยนฺติ รตนปริสิพฺพิตํ โกสิยสุตฺตมยํ ปจฺจตฺถรณํ, สุทฺธโกเสยฺยํ ปน วฏฺฏติ.

กุตฺตกนฺติ โสฬสนฺนํ นาฏกิตฺถีนํ ตฺวา นจฺจนโยคฺคํ อุณฺณามยตฺถรณํ. หตฺถตฺถรอสฺสตฺถรา หตฺถิอสฺสปิฏฺีสุ อตฺถรณกอตฺถรณา เอว. รถตฺถเรปิ เอเสว นโย. อชินปเวณีติ อชินจมฺเมหิ มฺจปฺปมาเณน สิพฺพิตฺวา กตา ปเวณี. กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรณนฺติ กทลิมิคจมฺมํ นาม อตฺถิ, เตน กตํ ปวรปจฺจตฺถรณนฺติ อตฺโถ. ตํ กิร เสตวตฺถสฺส อุปริ กทลิมิคจมฺมํ ปตฺถริตฺวา สิพฺพิตฺวา กโรนฺติ. สอุตฺตรจฺฉทนฺติ สห อุตฺตรจฺฉเทน, อุปริพทฺเธน รตฺตวิตาเนน สทฺธินฺติ อตฺโถ. เสตวิตานมฺปิ เหฏฺา อกปฺปิยปจฺจตฺถรเณ สติ น วฏฺฏติ, อสติ ปน วฏฺฏติ. อุภโตโลหิตกูปธานนฺติ สีสูปธานฺจ ปาทูปธานฺจาติ มฺจสฺส อุภโตโลหิตกูปธานํ, เอตํ น กปฺปติ. ยํ ปน เอกเมว อุปธานํ อุโภสุ ปสฺเสสุ รตฺตํ วา โหตุ ปทุมวณฺณํ วา วิจิตฺรํ วา, สเจ ปมาณยุตฺตํ, วฏฺฏติ, มหาอุปธานํ ปน ปฏิกฺขิตฺตํ. โคนกาทีนิ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๐) สงฺฆิกวิหาเร วา ปุคฺคลิกวิหาเร วา มฺจปีเกสุ อตฺถริตฺวา ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏนฺติ, ธมฺมาสเน ปน คิหิวิกตนีหาเรน ลพฺภนฺติ, ตตฺราปิ นิปชฺชิตุํ น วฏฺฏติ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เปตฺวา ตีณิ อาสนฺทึ ปลฺลงฺกํ ตูลิกํ คิหิวิกตํ อภินิสีทิตุํ, น ตฺเวว อภินิปชฺชิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๑๔) – วจนโต อาสนฺทาทิตฺตยํ เปตฺวา อวเสเสสุ โคนกาทีสุ คิหิวิกเตสุ ธมฺมาสเน วา ภตฺตคฺเค วา อนฺตรฆเร วา นิสีทิตุํ วฏฺฏติ, นิปชฺชิตุํ น วฏฺฏติ. ตูโลนทฺธํ ปน มฺจปีํ ภตฺตคฺเค อนฺตรฆเรเยว นิสีทิตุํ วฏฺฏติ, ตตฺถาปิ นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. ตูโลนทฺธํ ปน มฺจปีํ การาเปนฺตสฺสปิ อุทฺทาลนกํ ปาจิตฺติยํ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โอนทฺธมฺจํ โอนทฺธปี’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) วจนโต ปน จมฺมาทีหิ โอนทฺธํ มฺจปีํ วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปาวารํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โกเสยฺยปาวารํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โกชวํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กมฺพล’’นฺติ (มหาว. ๓๓๗-๓๓๘) – วจนโต ปาวาราทีนิ สงฺฆิกานิ วา โหนฺตุ ปุคฺคลิกานิ วา, ยถาสุขํ วิหาเร วา อนฺตรฆเร วา ยตฺถ กตฺถจิ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏนฺติ. โกชวํ ปเนตฺถ ปกติโกชวเมว วฏฺฏติ, มหาปิฏฺิยโกชวํ น วฏฺฏติ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ปาสาทปริโภค’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๐) วจนโต สุวณฺณรชตาทิวิจิตฺรานิ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๐) กวาฏานิ มฺจปีานิ ตาลวณฺฏานิ สุวณฺณรชตโยนิ ปานียฆฏปานียสราวานิ, ยํ กิฺจิ จิตฺตกมฺมกตํ, สพฺพํ เสนาสนปริโภเค วฏฺฏติ. ‘‘ปาสาทสฺส ทาสิทาสํ เขตฺตวตฺถุํ โคมหึสํ เทมา’’ติ วทนฺติ, ปาเฏกฺกํ คหณกิจฺจํ นตฺถิ, ปาสาเท ปฏิคฺคหิเต ปฏิคฺคหิตเมว โหติ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เอกปลาสิกํ อุปาหนํ… น, ภิกฺขเว, ทิคุณา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น ติคุณา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น คุณงฺคุณูปาหนา ธาเรตพฺพา… โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๔๕) – วจนโต เอกปฏลาเยว อุปาหนา วฏฺฏติ, ทฺวิปฏลา ปน ติปฏลา น วฏฺฏติเยว. คุณงฺคุณูปาหนา (มหาว. อฏฺ. ๒๔๕) นาม จตุปฏลโต ปฏฺาย วุจฺจติ, สา ปน มชฺฌิมเทเสเยว น วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ คุณงฺคุณูปาหน’’นฺติ (มหาว. ๒๕๙) – วจนโต ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ คุณงฺคุณูปาหนา นวา วา โหตุ ปริภุตฺตา วา, วฏฺฏติ. มชฺฌิมเทเส ปน ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โอมุกฺกํ คุณงฺคุณูปาหนํ. น, ภิกฺขเว, นวา คุณงฺคุณูปาหนา ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๔๗) วจนโต ปฏิมุฺจิตฺวา อปนีตา ปริภุตฺตาเยว คุณงฺคุณูปาหนา วฏฺฏติ, อปริภุตฺตา ปฏิกฺขิตฺตาเยว. เอกปฏลา ปน ปริภุตฺตา วา โหตุ อปริภุตฺตา วา, สพฺพตฺถ วฏฺฏติ. เอตฺถ จ มนุสฺสจมฺมํ เปตฺวา เยน เกนจิ จมฺเมน กตา อุปาหนา วฏฺฏติ. อุปาหนโกสกสตฺถกโกสกกุฺจิกโกสเกสุปิ เอเสว นโย.

‘‘น, ภิกฺขเว, สพฺพนีลิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น สพฺพปีติกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น สพฺพโลหิติกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น สพฺพมฺชิฏฺิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น สพฺพกณฺหา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น สพฺพมหารงฺครตฺตา อุปาหนา ธาเรตพฺพา. น สพฺพมหานามรตฺตา อุปาหนา ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๔๖) – วจนโต สพฺพนีลิกาทิ อุปาหนา น วฏฺฏติ. เอตฺถ จ นีลิกา อุมาปุปฺผวณฺณา โหติ. ปีติกา กณิการปุปฺผวณฺณา… โลหิติกา ชยสุมนปุปฺผวณฺณา… มฺชิฏฺิกา มฺชิฏฺวณฺณา เอว… กณฺหา อทฺทาริฏฺกวณฺณา… มหารงฺครตฺตา สตปทิปิฏฺิวณฺณา… มหานามรตฺตา สมฺภินฺนวณฺณา โหติ ปณฺฑุปลาสวณฺณา. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ปทุมปุปฺผวณฺณา’’ติ วุตฺตํ. เอตาสุ ยํ กิฺจิ ลภิตฺวา รชนํ โจฬเกน ปุฺฉิตฺวา วณฺณํ ภินฺทิตฺวา ธาเรตุํ วฏฺฏติ, อปฺปมตฺตเกปิ ภินฺเน วฏฺฏติเยว.

‘‘น, ภิกฺขเว, นีลกวทฺธิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น ปีตกวทฺธิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น โลหิตกวทฺธิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น มฺชิฏฺิกวทฺธิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น กณฺหวทฺธิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น มหารงฺครตฺตวทฺธิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น มหานามรตฺตวทฺธิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๔๖) – วจนโต ยาสํ วทฺธาเยว นีลาทิวณฺณา โหนฺติ, ตาปิ น วฏฺฏนฺติ, วณฺณเภทํ ปน กตฺวา ธาเรตุํ วฏฺฏติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, ขลฺลกพทฺธา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น ปุฏพทฺธา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น ปาลิคุณฺิมา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น ตูลปุณฺณิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น ติตฺติรปตฺติกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น เมณฺฑวิสาณวทฺธิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น อชวิสาณวทฺธิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น วิจฺฉิกาฬิกา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น โมรปิฺฉปริสิพฺพิตา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น จิตฺรา อุปาหนา ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๔๖) – วจนโต ขลฺลกพทฺธาทิ อุปาหนาปิ น วฏฺฏติ. ตตฺถ ขลฺลกพทฺธาติ ปณฺหิปิธานตฺถํ ตเล ขลฺลกํ พนฺธิตฺวา กตา. ปุฏพทฺธาติ โยนกอุปาหนา วุจฺจติ, ยา ยาว ชงฺฆโต สพฺพปาทํ ปฏิจฺฉาเทติ. ปาลิคุณฺิมาติ ปลิคุณฺิตฺวา กตา, อุปริ ปาทมตฺตเมว ปฏิจฺฉาเทติ, น ชงฺฆํ. ตูลปุณฺณิกาติ ตูลปิจุนา ปูเรตฺวา กตา. ติตฺติรปตฺติกาติ ติตฺติรปตฺตสทิสา วิจิตฺรพทฺธา. เมณฺฑวิสาณวทฺธิกาติ กณฺณิกฏฺาเน เมณฺฑกสิงฺคสณฺาเน วทฺเธ โยเชตฺวา กตา. อชวิสาณวทฺธิกาทีสุปิ เอเสว นโย, วิจฺฉิกาฬิกาปิ ตตฺเถว วิจฺฉิกนงฺคุฏฺสณฺาเน วทฺเธ โยเชตฺวา กตา. โมรปิฺฉปริสิพฺพิตาติ ตเลสุ วา วทฺเธสุ วา โมรปิฺเฉหิ สุตฺตกสทิเสหิ ปริสิพฺพิตา. จิตฺราติ วิจิตฺรา. เอตาสุ ยํ กิฺจิ ลภิตฺวา สเจ ตานิ ขลฺลกาทีนิ อปเนตฺวา สกฺกา โหนฺติ วฬฺชิตุํ, วฬฺเชตพฺพา. เตสุ ปน สติ วฬฺชนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.

‘‘น, ภิกฺขเว, สีหจมฺมปริกฺขฏา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น พฺยคฺฆจมฺมปริกฺขฏา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น ทีปิจมฺมปริกฺขฏา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น อชินจมฺมปริกฺขฏา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น อุทฺทจมฺมปริกฺขฏา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น มชฺชารจมฺมปริกฺขฏา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น กาฬกจมฺมปริกฺขฏา อุปาหนา ธาเรตพฺพา… น ลุวกจมฺมปริกฺขฏา อุปาหนา ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๔๖) – วจนโต สีหจมฺมาทิปริกฺขฏาปิ อุปาหนา น วฏฺฏติ. ตตฺถ สีหจมฺมปริกฺขฏา นาม ปริยนฺเตสุ จีวเร อนุวาตํ วิย สีหจมฺมํ โยเชตฺวา กตา. เอส นโย สพฺพตฺถ. ลุวกจมฺมปริกฺขฏาติ ปกฺขิพิฬาลจมฺมปริกฺขฏา. เอตาสุปิ ยา กาจิ ตํ จมฺมํ อปเนตฺวา ธาเรตพฺพา.

‘‘น, ภิกฺขเว, กฏฺปาทุกา ธาเรตพฺพา… น ตาลปตฺตปาทุกา… น เวฬุปตฺตปาทุกา, น ติณปาทุกา… น มุฺชปาทุกา, น ปพฺพชปาทุกา… น หินฺตาลปาทุกา, น กมลปาทุกา… น กมฺพลปาทุกา… น โสวณฺณปาทุกา… น รูปิยมยา ปาทุกา… น มณิมยา… น เวฬุริยมยา… น ผลิกมยา … น กํสมยา… น กาจมยา… น ติปุมยา… น สีสมยา… น ตมฺพโลหมยา… น กาจิ สงฺกมนียา ปาทุกา ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๐-๒๕๑) – วจนโต เยน เกนจิ ติเณน วา อฺเน วา กตา ยา กาจิ สงฺกมนียา ปาทุกา น ธาเรตพฺพา. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติสฺโส ปาทุกา ธุวฏฺานิยา อสงฺกมนียาโย, วจฺจปาทุกํ ปสฺสาวปาทุกํ อาจมนปาทุก’’นฺติ (มหาว. ๒๕๑) – วจนโต ปน ภูมิยํ สุปฺปติฏฺิตา นิจฺจลา อสํหาริยา วจฺจปาทุกาที ติสฺโส ปาทุกา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏนฺติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, สอุปาหเนน คาโม ปวิสิตพฺโพ, โย ปวิเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๙) วจนโต สอุปาหเนน คาโม น ปวิสิตพฺโพ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลาเนน ภิกฺขุนา สอุปาหเนน คามํ ปวิสิตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๕๖) วจนโต ปน ยสฺส ปาทา วา ผาลิตา ปาทขีลา วา อาพาโธ ปาทา วา ทุกฺขา โหนฺติ, โย น สกฺโกติ อนุปาหโน คามํ ปวิสิตุํ, เอวรูเปน คิลาเนน สอุปาหเนน คามํ ปวิสิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อชฺฌาราเม อุปาหนํ ธาเรตุํ อุกฺกํ ปทีปํ กตฺตรทณฺฑ’’นฺติ (มหาว. ๒๔๙) วจนโต อชฺฌาราเม อคิลานสฺสปิ อุปาหนํ ธาเรตุํ วฏฺฏติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, อาจริเยสุ อาจริยมตฺเตสุ อุปชฺฌาเยสุ อุปชฺฌายมตฺเตสุ อนุปาหเนสุ จงฺกมมาเนสุ สอุปาหเนน จงฺกมิตพฺพํ, โย จงฺกเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๔๘) – วจนโต อาจริยาทีสุ อนุปาหเนสุ จงฺกมนฺเตสุ สอุปาหเนน น จงฺกมิตพฺพํ. เอตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๒๔๘) จ ปพฺพชฺชาจริโย อุปสมฺปทาจริโย นิสฺสยาจริโย อุทฺเทสาจริโยติ อิเม จตฺตาโรปิ อิธ อาจริยา เอว. อวสฺสิกสฺส ฉพฺพสฺโส อาจริยมตฺโต. โส หิ จตุวสฺสกาเล ตํ นิสฺสาย วจฺฉติ. เอวํ เอกวสฺสสฺส สตฺตวสฺโส, ทุวสฺสสฺส อฏฺวสฺโส, ติวสฺสสฺส นววสฺโส, จตุวสฺสสฺส ทสวสฺโสติ อิเมปิ อาจริยมตฺตา เอว. อุปชฺฌายสฺส สนฺทิฏฺสมฺภตฺตา ปน สหายภิกฺขู, เย วา ปน เกจิ ทสวสฺเสหิ มหนฺตตรา, เต สพฺเพปิ อุปชฺฌายมตฺตา นาม. เอตฺตเกสุ ภิกฺขูสุ อนุปาหเนสุ จงฺกมนฺเตสุ สอุปาหนสฺส จงฺกมโต อาปตฺติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, มหาจมฺมานิ ธาเรตพฺพานิ สีหจมฺมํ พฺยคฺฆจมฺมํ ทีปิจมฺมํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส’’. ‘‘น, ภิกฺขเว, โคจมฺมํ ธาเรตพฺพํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส’’. ‘‘น, ภิกฺขเว, กิฺจิ จมฺมํ ธาเรตพฺพํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๕) – วจนโต มชฺฌิมเทเส สีหจมฺมาทิ ยํ กิฺจิ จมฺมํ คเหตฺวา ปริหริตุํ น วฏฺฏติ. สีหจมฺมาทีนฺจ ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป กโต. ภูมตฺถรณวเสน ปน อฺตฺถ อนีหรนฺเตน ยํ กิฺจิ จมฺมํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ จมฺมานิ อตฺถรณานิ เอฬกจมฺมํ อชจมฺมํ มิคจมฺม’’นฺติ (มหาว. ๒๕๙) วจนโก ปน ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ ยํ กิฺจิ (มหาว. อฏฺ. ๒๕๙) เอฬกจมฺมฺจ อชจมฺมฺจ อตฺถริตฺวา นิปชฺชิตุํ วา นิสีทิตุํ วา วฏฺฏติ. มิคจมฺเม เอณิมิโค วาตมิโค ปสทมิโค กุรุงฺคมิโค มิคมาตุโก โรหิตมิโคติ เอเตสํเยว จมฺมานิ วฏฺฏนฺติ, อฺเสํ ปน –

มกฺกโฏ กาฬสีโห จ, สรโภ กทลีมิโค;

เย จ วาฬมิคา เกจิ, เตสํ จมฺมํ น วฏฺฏติ.

ตตฺถ วาฬมิคาติ สีหพฺยคฺฆอจฺฉตรจฺฉา. น เกวลฺจ เอเตเยว, เยสํ วา ปน จมฺมํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ, เต เปตฺวา อวเสสา อนฺตมโส โคมหึสสสพิฬาราทโยปิ สพฺเพ อิมสฺมึ อตฺเถ ‘‘วาฬมิคา’’ตฺเวว เวทิตพฺพา. เอเตสฺหิ สพฺเพสํ ปน จมฺมํ น วฏฺฏติ.

‘‘น, ภิกฺขเว, ยาเนน ยายิตพฺพํ, โย ยาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานสฺส ยาน’’นฺติ (มหาว. ๒๕๓) วจนโต อคิลาเนน ภิกฺขุนา ยาเนน น คนฺตพฺพํ. กตรํ ปน ยานํ กปฺปติ, กตรํ น กปฺปตีติ? ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปุริสยุตฺตํ หตฺถวฏฺฏกํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สิวิกํ ปาฏงฺกิ’’นฺติ (มหาว. ๒๕๓) วจนโต ปุริสยุตฺตํ หตฺถวฏฺฏกํ สิวิกา ปาฏงฺกี จ วฏฺฏติ. เอตฺถ จ ปุริสยุตฺตํ อิตฺถิสารถิ วา โหตุ ปุริสสารถิ วา, วฏฺฏติ, เธนุยุตฺตํ ปน น วฏฺฏติ. หตฺถวฏฺฏกํ ปน อิตฺถิโย วา วฏฺเฏนฺตุ ปุริสา วา, วฏฺฏติเยว.

๕๗. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อหตานํ ทุสฺสานํ อหตกปฺปานํ ทิคุณํ สงฺฆาฏึ เอกจฺจิยํ อุตฺตราสงฺคํ เอกจฺจิยํ อนฺตรวาสกํ, อุตุทฺธฏานํ ทุสฺสานํ จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ทิคุณํ อุตฺตราสงฺคํ ทิคุณํ อนฺตรวาสกํ, ปํสุกูเล ยาวทตฺถํ, ปาปณิเก อุสฺสาโห กรณีโย’’ติ (มหาว. ๓๔๘) วจนโต อโธตานํ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๘) เอกวารํ โธตานฺจ วตฺถานํ ทุปฏฺฏา สงฺฆาฏิ กาตพฺพา, อุตฺตราสงฺโค อนฺตรวาสโก จ เอกปฏฺโฏ กาตพฺโพ. อุตุทฺธฏานํ ปน หตวตฺถานํ ปิโลติกานํ สงฺฆาฏิ จตุคฺคุณา กาตพฺพา, อุตฺตราสงฺโค อนฺตรวาสโก จ ทุปฏฺโฏ กาตพฺโพ, ปํสุกูเล ปน ยถารุจิ กาตพฺพํ. อนฺตราปณโต ปติตปิโลติกจีวเรปิ อุสฺสาโห กรณีโย, ปริเยสนา กาตพฺพา, ปริจฺเฉโท ปน นตฺถิ, ปฏฺฏสตมฺปิ วฏฺฏติ. สพฺพมิทํ สาทิยนฺตสฺส ภิกฺขุโน วุตฺตํ. ตีสุ ปน จีวเรสุ ทฺเว วา เอกํ วา ฉินฺทิตฺวา กาตพฺพํ. สเจ นปฺปโหติ, อาคนฺตุกปตฺตํ ทาตพฺพํ. อาคนฺตุกปตฺตฺหิ อปฺปโหนเก อนุฺาตํ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺเว ฉินฺนกานิ เอกํ อจฺฉินฺนกนฺติ. ทฺเว ฉินฺนกานิ เอกํ อจฺฉินฺนกํ นปฺปโหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺเว อจฺฉินฺนกานิ เอกํ ฉินฺนกนฺติ. ทฺเว อจฺฉินฺนกานิ เอกํ ฉินฺนกํ นปฺปโหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อนฺวาธิกมฺปิ อาโรเปตุํ. น จ, ภิกฺขเว, สพฺพํ อจฺฉินฺนกํ ธาเรตพฺพํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๓๖๐).

ตสฺมา สเจ ปโหติ อาคนฺตุกปตฺตํ, น วฏฺฏติ, ฉินฺทิตพฺพเมว.

‘‘น, ภิกฺขเว, โปตฺถโก นิวาเสตพฺโพ, โย นิวาเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. น, ภิกฺขเว, สพฺพนีลกานิ จีวรานิ ธาเรตพฺพานิ… น สพฺพปีตกานิ… น สพฺพโลหิตกานิ… น สพฺพมฺชิฏฺกานิ… น สพฺพกณฺหานิ… น สพฺพมหารงฺครตฺตานิ… น สพฺพมหานามรตฺตานิ… น อจฺฉินฺนทสานิ… น ทีฆทสานิ… น ปุปฺผทสานิ… น ผลทสานิ จีวรานิ ธาเรตพฺพานิ… น กฺจุกํ… น ติรีฏกํ… น เวนํ ธาเรตพฺพํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๓๗๑-๓๗๒) – วจนโต โปตฺถกาทีนิ น ธาเรตพฺพานิ. ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๑-๓๗๒) โปตฺถโกติ มกจิมโย วุจฺจติ, อกฺกทุสฺสกทลิทุสฺสเอรกทุสฺสานิปิ โปตฺถกคติกาเนว. สพฺพนีลกาทีนิ รชนํ โธวิตฺวา ปุน รชิตฺวา ธาเรตพฺพานิ. น สกฺกา เจ โหนฺติ โธวิตุํ, ปจฺจตฺถรณานิ วา กาตพฺพานิ. ติปฏฺฏจีวรสฺส วา มชฺเฌ ทาตพฺพานิ. เตสํ วณฺณนานตฺตํ อุปาหนาสุ วุตฺตนยเมว. อจฺฉินฺนทสทีฆทสานิ ทสา ฉินฺทิตฺวา ธาเรตพฺพานิ. กฺจุกํ ลภิตฺวา ผาเลตฺวา รชิตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. เวเนปิ เอเสว นโย. ติรีฏกํ ปน รุกฺขจฺฉลฺลิมยํ, ตํ ปาทปุฺฉนึ กาตุํ วฏฺฏติ.

๕๘. ‘‘น, ภิกฺขเว, อธมฺมกมฺมํ กาตพฺพํ, โย กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อธมฺมกมฺเม กยิรมาเน ปฏิกฺโกสิตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๕๔) วจนโต อธมฺมกมฺมํ น กาตพฺพํ, กยิรมานฺจ นิวาเรตพฺพํ. นิวาเรนฺเตหิ จ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตูหิ ปฺจหิ ปฏิกฺโกสิตุํ, ทฺวีหิ ตีหิ ทิฏฺึ อาวิกาตุํ, เอเกน อธิฏฺาตุํ ‘น เมตํ ขมตี’’ติ (มหาว. ๑๕๔) วจนโต ยตฺถ นิวาเรนฺตสฺส ภิกฺขุโน อุปทฺทวํ กโรนฺติ, ตตฺถ เอกเกน น นิวาเรตพฺพํ. สเจ จตฺตาโร ปฺจ วา โหนฺติ, นิวาเรตพฺพํ. สเจ ปน ทฺเว วา ตโย วา โหนฺติ, ‘‘อธมฺมกมฺมํ อิทํ, น เมตํ ขมตี’’ติ เอวํ อฺสฺส สนฺติเก อตฺตโน ทิฏฺิ อาวิกาตพฺพา. สเจ เอโกว โหติ, ‘‘น เมตํ ขมตี’’ติ อธิฏฺาตพฺพํ. สพฺพฺเจตํ เตสํ อนุปทฺทวตฺถาย วุตฺตํ.

๕๙. ‘‘น, ภิกฺขเว, อโนกาสกโต ภิกฺขุ อาปตฺติยา โจเทตพฺโพ, โย โจเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๕๓) วจนโต โจเทนฺเตน ‘‘กโรตุ เม อายสฺมา โอกาสํ, อหํ ตํ วตฺตุกาโม’’ติ เอวํ โอกาสํ การาเปตฺวา โจเทตพฺโพ. อธิปฺปายเภโท ปเนตฺถ เวทิตพฺโพ (มหาว. อฏฺ. ๒.๓๘๙). อยฺหิ อธิปฺปาโย นาม จาวนาธิปฺปาโย อกฺโกสาธิปฺปาโย กมฺมาธิปฺปาโย วุฏฺานาธิปฺปาโย อุโปสถปวารณฏฺปนาธิปฺปาโย อนุวิชฺชนาธิปฺปาโย ธมฺมกถาธิปฺปาโยติ อเนกวิโธ. ตตฺถ ปุริเมสุ จตูสุ อธิปฺปาเยสุ โอกาสํ อการาเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, โอกาสํ การาเปตฺวาปิ สมฺมุขา อมูลเกน ปาราชิเกน โจเทนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส, อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน โจเทนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, อมูลิกาย อาจารวิปตฺติยา โจเทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, อกฺโกสาธิปฺปาเยน วทนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. อสมฺมุขา ปน สตฺตหิปิ อาปตฺติกฺขนฺเธหิ วทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, อสมฺมุขา เอว สตฺตวิธมฺปิ กมฺมํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘วุฏฺานาธิปฺปาเยน ‘ตฺวํ อิมํ นาม อาปตฺตึ อาปนฺโน, ตํ ปฏิกโรหี’ติ วทนฺตสฺส โอกาสกิจฺจํ นตฺถี’’ติ วุตฺตํ. อุโปสถปวารณํ เปนฺตสฺสปิ โอกาสกมฺมํ นตฺถิ, ปนเขตฺตํ ปน ชานิตพฺพํ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อชฺชุโปสโถ ปนฺนรโส, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อุโปสถํ กเร’’ติ.

เอตสฺมิฺหิ เร-กาเร อนติกฺกนฺเตเยว เปตุํ ลพฺภติ, ตโต ปรํ ปน ยฺย-กาเร ปตฺเต น ลพฺภติ. เอส นโย ปวารณาย.

อนุวิชฺชกสฺสปิ โอสเฏ วตฺถุสฺมึ ‘‘อตฺเถตํ ตวา’’ติ อนุวิชฺชนาธิปฺปาเยน วทนฺตสฺส โอกาสกมฺมํ นตฺถิ. ธมฺมกถิกสฺสปิ ธมฺมาสเน นิสีทิตฺวา ‘‘โย อิทฺจิทฺจ กโรติ, อยํ ภิกฺขุ อสฺสมโณ’’ติอาทินา นเยน อโนทิสฺส ธมฺมํ กเถนฺตสฺส โอกาสกมฺมํ นตฺถิ. สเจ ปน โอทิสฺส นิยเมตฺวา ‘‘อสุโก จ อสุโก จ อสฺสมโณ อนุปาสโก’’ติ กเถติ, ธมฺมาสนโต โอโรหิตฺวา อาปตฺตึ เทเสตฺวา คนฺตพฺพํ. ‘‘น, ภิกฺขเว, สุทฺธานํ ภิกฺขูนํ อนาปตฺติกานํ อวตฺถุสฺมึ อการเณ โอกาโส การาเปตพฺโพ, โย การาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๕๓) วจนโต สุทฺธานํ ภิกฺขูนํ อการเณ วตฺถุสฺมึ โอกาโส น กาเรตพฺโพ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปุคฺคลํ ตุลยิตฺวา โอกาสํ กาตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๕๓) วจนโต ‘‘ภูตเมว นุ โข อาปตฺตึ วทติ, อภูต’’นฺติ เอวํ อุปปริกฺขิตฺวา โอกาโส กาตพฺโพ.

๖๐. ‘‘น, ภิกฺขเว, สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตตพฺพํ, โย วินิปาเตยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๓๖๑) วจนโต สทฺธาเทยฺยํ น วินิปาเตตพฺพํ. เปตฺวา มาตาปิตโร (มหาว. อฏฺ. ๓๖๑) เสสาตีนํ เทนฺโตปิ วินิปาเตติเยว, มาตาปิตโร ปน รชฺเช ิตาปิ ปตฺถยนฺติ, ทาตพฺพํ.

๖๑. ‘‘น, ภิกฺขเว, สนฺตรุตฺตเรน คาโม ปวิสิตพฺโพ, โย ปวิเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๓๖๒) วจนโต สนฺตรุตฺตเรน คาโม น ปวิสิตพฺโพ.

๖๒. ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, ปจฺจยา สงฺฆาฏิยา นิกฺเขปาย. คิลาโน วา โหติ, วสฺสิกสงฺเกตํ วา โหติ, นทีปารคตํ วา โหติ, อคฺคฬคุตฺติวิหาโร วา โหติ, อตฺถตกถินํ วา โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ ปจฺจยา สงฺฆาฏิยา นิกฺเขปายา’’ติ (มหาว. ๓๖๒) – วจนโต ปน คเหตฺวา คนฺตุํ อสมตฺโถ คิลาโน วา โหติ, วสฺสิกสงฺเกตาทีสุ วา อฺตรํ การณํ, เอวรูเปสุ ปจฺจเยสุ สงฺฆาฏึ อคฺคฬคุตฺติวิหาเร เปตฺวา สนฺตรุตฺตเรน คนฺตุํ วฏฺฏติ. สพฺเพสฺเวว หิ เอเตสุ คิลานวสฺสิกสงฺเกตนทีปารคมนอตฺถตกถินภาเวสุ อคฺคฬคุตฺติเยว ปมาณํ, คุตฺเต เอว วิหาเร นิกฺขิปิตฺวา พหิ คนฺตุํ วฏฺฏติ, นาคุตฺเต. อารฺกสฺส ปน วิหาโร น สุคุตฺโต โหติ, เตน ภณฺฑุกฺขลิกาย ปกฺขิปิตฺวา ปาสาณสุสิรรุกฺขสุสิราทีสุ สุปฏิจฺฉนฺเนสุ เปตฺวา คนฺตพฺพํ. อุตฺตราสงฺคอนฺตรวาสกานํ นิกฺเขเปปิ อิเมเยว ปฺจ ปจฺจยา เวทิตพฺพา.

๖๓. ‘‘น, ภิกฺขเว, สมฺพาธสฺส สามนฺตา ทฺวงฺคุลา สตฺถกมฺมํ วา วตฺถิกมฺมํ วา การาเปตพฺพํ, โย การาเปยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๗๙) วจนโต ยถาปริจฺฉินฺเน โอกาเส (มหาว. อฏฺ. ๒๗๙) เยน เกนจิ สตฺเถน วา สูจิยา วา กณฺฏเกน วา สตฺติกาย วา ปาสาณสกฺขลิกาย วา นเขน วา ฉินฺทนํ วา ผาลนํ วา วิชฺฌนํ วา เลขนํ วา น กาตพฺพํ, สพฺพฺเหตํ สตฺถกมฺมเมว โหติ. เยน เกนจิ ปน จมฺเมน วา วตฺเถน วา วตฺถิปีฬนมฺปิ น กาตพฺพํ, สพฺพฺเหตํ วตฺถิกมฺมเมว โหติ. เอตฺถ จ ‘‘สมฺพาธสฺส สามนฺตา ทฺวงฺคุลา’’ติ อิทํ สตฺถกมฺมํเยว สนฺธาย วุตฺตํ, วตฺถิกมฺมํ ปน สมฺพาเธเยว ปฏิกฺขิตฺตํ. ตตฺถ ปน ขารํ วา ทาตุํ เยน เกนจิ รชฺชุเกน วา พนฺธิตุํ วฏฺฏติ, ยทิ เตน ฉิชฺชติ, สุจฺฉินฺนํ. อณฺฑวุฑฺฒิโรเคปิ สตฺถกมฺมํ น วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘อณฺฑํ ผาเลตฺวา พีชานิ อุทฺธริตฺวา อโรคํ กริสฺสามี’’ติ น กาตพฺพํ, อคฺคิตาปนเภสชฺชเลปเนสุ ปน ปฏิกฺเขโป นตฺถิ. วจฺจมคฺเค เภสชฺชมกฺขิตา อาทานวฏฺฏิ วา เวฬุนาฬิกา วา วฏฺฏติ, ยาย ขารกมฺมํ วา กโรนฺติ, เตลํ วา ปเวเสนฺติ.

๖๔. ‘‘น, ภิกฺขเว, นหาปิตปุพฺเพน ขุรภณฺฑํ ปริหริตพฺพํ, โย ปริหเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๓๐๓) วจนโต นหาปิตปุพฺเพน (มหาว. อฏฺ. ๓๐๓) ขุรภณฺฑํ คเหตฺวา ปริหริตุํ น วฏฺฏติ, อฺสฺส สนฺตเกน ปน เกเส เฉเทตุํ วฏฺฏติ. สเจ เวตนํ คเหตฺวา ฉินฺทติ, น วฏฺฏติ. โย อนหาปิตปุพฺโพ, ตสฺเสว ปริหริตุํ วฏฺฏติ, ตํ วา อฺํ วา คเหตฺวา เกเส เฉเทตุมฺปิ วฏฺฏติ.

๖๕. ‘‘สงฺฆิกานิ, ภิกฺขเว, พีชานิ ปุคฺคลิกาย ภูมิยา โรปิตานิ ภาคํ ทตฺวา ปริภุฺชิตพฺพานิ. ปุคฺคลิกานิ พีชานิ สงฺฆิกาย ภูมิยา โรปิตานิ ภาคํ ทตฺวา ปริภุฺชิตพฺพานี’’ติ (มหาว. ๓๐๔) – วจนโต ปุคฺคลิกาย ภูมิยา สงฺฆิเกสุ พีเชสุ โรปิเตสุ สงฺฆิกาย ภูมิยา วา ปุคฺคลิเกสุ พีเชสุ โรปิเตสุ ทสมภาคํ ทตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. อิทํ กิร ชมฺพุทีเป โปราณกจาริตฺตํ, ตสฺมา ทส โกฏฺาเส กตฺวา เอโก โกฏฺาโส ภูมิสามิกานํ ทาตพฺโพ.

๖๖. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, มคฺคา กนฺตารา อปฺโปทกา อปฺปภกฺขา, น สุกรา อปาเถยฺเยน คนฺตุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปาเถยฺยํ ปริเยสิตุํ. ตณฺฑุโล ตณฺฑุลตฺถิเกน, มุคฺโค มุคฺคตฺถิเกน, มาโส มาสตฺถิเกน, โลณํ โลณตฺถิเกน, คุโฬ คุฬตฺถิเกน, เตลํ เตลตฺถิเกน, สปฺปิ สปฺปิตฺถิเกนา’’ติ (มหาว. ๒๙๙) – วจนโต ตาทิสํ กนฺตารํ นิตฺถรนฺเตน ปาเถยฺยํ ปริเยสิตุํ วฏฺฏติ. กถํ ปน ปริเยสิตพฺพนฺติ? สเจ (มหาว. อฏฺ. ๒๙๖) เกจิสยเมว ตฺวา เทนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ เทนฺติ, าติปวาริตฏฺานโต วา ภิกฺขาจารวตฺเตน วา ปริเยสิตพฺพํ. ตถา อลภนฺเตน อฺาติกอปฺปวาริตฏฺานโต ยาจิตฺวาปิ คเหตพฺพํ. เอกทิวเสน คมนีเย มคฺเค เอกภตฺตตฺถาย ปริเยสิตพฺพํ. ทีเฆ อทฺธาเน ยตฺตเกน กนฺตารํ นิตฺถรติ, ตตฺตกํ ปริเยสิตพฺพํ.

๖๗. ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ น กปฺปตี’ติ อปฺปฏิกฺขิตฺตํ, ตฺเจ อกปฺปิยํ อนุโลเมติ, กปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว น กปฺปติ. ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ น กปฺปตี’ติ อปฺปฏิกฺขิตฺตํ, ตฺเจ กปฺปิยํ อนุโลเมติ, อกปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว กปฺปติ. ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ กปฺปตี’ติ อนนุฺาตํ, ตฺเจ อกปฺปิยํ อนุโลเมติ, กปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว น กปฺปติ. ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ กปฺปตี’ติ อนนุฺาตํ, ตฺเจ กปฺปิยํ อนุโลเมติ, อกปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว กปฺปตี’’ติ (มหาว. ๓๐๕) – อิเม จตฺตาโร มหาปเทเส ภควา ภิกฺขูนํ นยคฺคหณตฺถาย อาห. ตตฺถ ธมฺมสงฺคาหกตฺเถรา สุตฺตํ คเหตฺวา ปริมทฺทนฺตา อิทํ อทฺทสํสุ. ‘‘เปตฺวา ธฺผลรส’’นฺติ สตฺต ธฺรสานิ ‘‘ปจฺฉาภตฺตํ น กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตานิ. ตาลนาฬิเกรปนสลพุชอลาพุกุมฺภณฺฑปุสฺสผลติปุสผลเอฬาลุกานิ นว มหาผลานิ สพฺพฺจ อปรณฺณํ ธฺคติกเมว. ตํ กิฺจาปิ น ปฏิกฺขิตฺตํ, อถ โข อกปฺปิยํ อนุโลเมติ, ตสฺมา ปจฺฉาภตฺตํ น กปฺปติ. อฏฺ ปานานิ อนุฺาตานิ, อวเสสานิ เวตฺตตินฺติณิกมาตุลุงฺคกปิฏฺโกสมฺพกรมนฺทาทิขุทฺทกผลปานานิ อฏฺปานคติกาเนว. ตานิ กิฺจาปิ น อนุฺาตานิ, อถ โข กปฺปิยํ อนุโลเมนฺติ, ตสฺมา กปฺปนฺติ. เปตฺวา หิ สานุโลมํ ธฺผลรสํ อฺํ ผลปานํ นาม อกปฺปิยํ นตฺถิ, สพฺพํ ยามกาลิกํเยวาติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ.

ภควตา – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ฉ จีวรานิ โขมํ กปฺปาสิกํ โกเสยฺยํ กมฺพลํ สาณํ ภงฺค’’นฺติ (มหาว. ๓๓๙) ฉ จีวรานิ อนุฺาตานิ, ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ เตสํ อนุโลมานิ ทุกูลํ ปตฺตุณฺณํ จีนปฏฺฏํ โสมารปฏฺฏํ อิทฺธิมยํ เทวทตฺติยนฺติ อปรานิ ฉ อนุฺาตานิ. ตตฺถ ปตฺตุณฺณนฺติ ปตฺตุณฺณเทเส ปาณเกหิ สฺชาตวตฺถํ. ทฺเว ปฏานิ เทสนาเมเนว วุตฺตานิ. ตีณิ โกเสยฺยสฺส อนุโลมานิ, ทุกูลํ สาณสฺส, อิตรานิ ทฺเว กปฺปาสิกสฺส วา สพฺเพสํ วา.

ภควตา เอกาทส ปตฺเต ปฏิกฺขิปิตฺวา ทฺเว ปตฺตา อนุฺาตา โลหปตฺโต จ มตฺติกาปตฺโต จ. โลหถาลกํ มตฺติกาถาลกํ ตมฺพโลหถาลกนฺติ เตสํเยว อนุโลมานิ. ภควตา ตโย ตุมฺพา อนุฺาตา โลหตุมฺโพ กฏฺตุมฺโพ ผลตุมฺโพติ. กุณฺฑิกา กฺจนโก อุทกตุมฺโพติ เตสํเยว อนุโลมานิ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ปานียสงฺขปานียสราวกานํ เอเต อนุโลมา’’ติ วุตฺตํ. ปฏฺฏิกา สูกรนฺตนฺติ ทฺเว กายพนฺธนานิ อนุฺาตานิ. ทุสฺสปฏฺเฏน รชฺชุเกน จ กตกายพนฺธนานิ เตสํเยว อนุโลมานิ. เสตจฺฉตฺตํ กิลฺชจฺฉตฺตํ ปณฺณจฺฉตฺตนฺติ ตีณิ ฉตฺตานิ อนุฺาตานิ. เอกปณฺณจฺฉตฺตํ เตสํเยว อนุโลมนฺติ อิมินา นเยน ปาฬิฺจ อฏฺกถฺจ อนุเปกฺขิตฺวา อฺานิปิ กปฺปิยากปฺปิยานํ อนุโลมานิ วินยธเรน เวทิตพฺพานิ.

๖๘. วินยธโร (ปาจิ. อฏฺ. ๔๓๘) จ ปุคฺคโล วินยปริยตฺติมูลเก ปฺจานิสํเส ฉานิสํเส สตฺตานิสํเส อฏฺานิสํเส นวานิสํเส ทสานิสํเส เอกาทสานิสํเส ลภติ. กตเม ปฺจานิสํเส ลภติ? อตฺตโน สีลกฺขนฺธคุตฺติอาทิเก. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อานิสํสา วินยธเร ปุคฺคเล. อตฺตโน สีลกฺขนฺโธ สุคุตฺโต โหติ สุรกฺขิโต, กุกฺกุจฺจปกตานํ ปฏิสรณํ โหติ, วิสารโท สงฺฆมชฺเฌ โวหรติ, ปจฺจตฺถิเก สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคณฺหาติ, สทฺธมฺมฏฺิติยา ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ (ปริ. ๓๒๕).

กถมสฺส อตฺตโน สีลกฺขนฺโธ สุคุตฺโต โหติ สุรกฺขิโต? อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต ฉหากาเรหิ อาปชฺชติ อลชฺชิตา, อฺาณตา, กุกฺกุจฺจปกตตา, อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตา, กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตา, สติสมฺโมสา. กถํ อลชฺชิตาย อาปชฺชติ? อกปฺปิยภาวํ ชานนฺโตเยว มทฺทิตฺวา วีติกฺกมํ กโรติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘สฺจิจฺจ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, อาปตฺตึ ปริคูหติ;

อคติคมนฺจ คจฺฉติ, เอทิโส วุจฺจติ อลชฺชิปุคฺคโล’’ติ. (ปริ. ๓๕๙);

กถํ อฺาณตาย อาปชฺชติ? อฺาณปุคฺคโล หิ มนฺโท โมมูโห กตฺตพฺพากตฺตพฺพํ อชานนฺโต อกตฺตพฺพํ กโรติ, กตฺตพฺพํ วิราเธติ. เอวํ อฺาณตาย อาปชฺชติ. กถํ กุกฺกุจฺจปกตตาย อาปชฺชติ? กปฺปิยากปฺปิยํ นิสฺสาย กุกฺกุจฺเจ อุปฺปนฺเน วินยธรํ ปุจฺฉิตฺวา กปฺปิยํ เจ, กตฺตพฺพํ สิยา, อกปฺปิยํ เจ, น กตฺตพฺพํ, อยํ ปน ‘‘วฏฺฏตี’’ติ มทฺทิตฺวา วีติกฺกมติเยว. เอวํ กุกฺกุจฺจปกตตาย อาปชฺชติ.

กถํ อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตาย อาปชฺชติ? อจฺฉมํสํ ‘‘สูกรมํส’’นฺติ ขาทติ, ทีปิมํสํ ‘‘มิคมํส’’นฺติ ขาทติ, อกปฺปิยโภชนํ ‘‘กปฺปิยโภชน’’นฺติ ภุฺชติ, วิกาเล กาลสฺาย ภุฺชติ, อกปฺปิยปานกํ ‘‘กปฺปิยปานก’’นฺติ ปิวติ. เอวํ อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตาย อาปชฺชติ. กถํ กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตาย อาปชฺชติ? สูกรมํสํ ‘‘อจฺฉมํส’’นฺติ ขาทติ, มิคมํสํ ‘‘ทีปิมํส’’นฺติ ขาทติ, กปฺปิยโภชนํ ‘‘อกปฺปิยโภชน’’นฺติ ภุฺชติ, กาเล วิกาลสฺาย ภุฺชติ, กปฺปิยปานกํ ‘‘อกปฺปิยปานก’’นฺติ ปิวติ. เอวํ กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตาย อาปชฺชติ. กถํ สติสมฺโมสา อาปชฺชติ? สหเสยฺยจีวรวิปฺปวาสเภสชฺชจีวรกาลาติกฺกมนปจฺจยา อาปตฺตึ สติสมฺโมสา อาปชฺชติ. เอวมิเธกจฺโจ ภิกฺขุ อิเมหิ ฉหิ อากาเรหิ อาปตฺตึ อาปชฺชติ.

วินยธโร ปน อิเมหิ ฉหากาเรหิ อาปตฺตึ น อาปชฺชติ. กถํ ลชฺชิตาย นาปชฺชติ? โส หิ ‘‘ปสฺสถ โภ, อยํ กปฺปิยากปฺปิยํ ชานนฺโตเยว ปณฺณตฺติวีติกฺกมํ กโรตี’’ติ อิมํ ปรูปวาทํ รกฺขนฺโตปิ นาปชฺชติ. เอวํ ลชฺชิตาย นาปชฺชติ, สหสา อาปนฺนมฺปิ เทสนาคามินึ เทเสตฺวา วุฏฺานคามินิยา วุฏฺหิตฺวา สุทฺธนฺเต ปติฏฺาติ. ตโต –

‘‘สฺจิจฺจ อาปตฺตึ นาปชฺชติ, อาปตฺตึ น ปริคูหติ;

อคติคมนฺจ น คจฺฉติ, เอทิโส วุจฺจติ ลชฺชิปุคฺคโล’’ติ. (ปริ. ๓๕๙) –

อิมสฺมึ ลชฺชิภาเว ปติฏฺิโตว โหติ.

กถํ าณตาย นาปชฺชติ? โส หิ กปฺปิยากปฺปิยํ ชานาติ, ตสฺมา กปฺปิยํเยว กโรติ, อกปฺปิยํ น กโรติ. เอวํ าณตาย นาปชฺชติ. กถํ อกุกฺกุจฺจปกตตาย นาปชฺชติ? กปฺปิยากปฺปิยํ นิสฺสาย กุกฺกุจฺเจ อุปฺปนฺเน วตฺถุํ โอโลเกตฺวา มาติกํ ปทภาชนํ อนฺตราปตฺตึ อนาปตฺตึ โอโลเกตฺวา กปฺปิยํ เจ โหติ, กโรติ, อกปฺปิยํ เจ, น กโรติ. เอวํ อกุกฺกุจฺจปกตตาย นาปชฺชติ. กถํ อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตาทีหิ นาปชฺชติ? โส หิ กปฺปิยากปฺปิยํ ชานาติ, ตสฺมา อกปฺปิเย กปฺปิยสฺี น โหติ, กปฺปิเย อกปฺปิยสฺี น โหติ, สุปฺปติฏฺิตา จสฺส สติ โหติ, อธิฏฺาตพฺพํ อธิฏฺเติ, วิกปฺเปตพฺพํ วิกปฺเปติ. อิติ อิเมหิ ฉหิ อากาเรหิ อาปตฺตึ นาปชฺชติ. อนาปชฺชนฺโต อขณฺฑสีโล โหติ, ปริสุทฺธสีโล โหติ. เอวมสฺส อตฺตโน สีลกฺขนฺโธ สุคุตฺโต โหติ สุรกฺขิโต.

กถํ กุกฺกุจฺจปกตานํ ปฏิสรณํ โหติ? ติโรรฏฺเสุ ติโรชนปเทสุ จ อุปฺปนฺนกุกฺกุจฺจา ภิกฺขู ‘‘อสุกสฺมึ กิร วิหาเร วินยธโร วสตี’’ติ ทูรโตว ตสฺส สนฺติกํ อาคนฺตฺวา กุกฺกุจฺจํ ปุจฺฉนฺติ. โส เตหิ กตสฺส กมฺมสฺส วตฺถุํ โอโลเกตฺวา อาปตฺตานาปตฺติครุกลหุกาทิเภทํ สลฺลกฺเขตฺวา เทสนาคามินึ เทสาเปตฺวา, วุฏฺานคามินิยา วุฏฺาเปตฺวา สุทฺธนฺเต ปติฏฺาเปติ. เอวํ กุกฺกุจฺจปกตานํ ปฏิสรณํ โหติ.

วิสารโท สงฺฆมชฺเฌ โวหรตีติ อวินยธรสฺส หิ สงฺฆมชฺเฌ กเถนฺตสฺส ภยํ สารชฺชํ โอกฺกมติ, วินยธรสฺส ตํ น โหติ. กสฺมา? ‘‘เอวํ กเถนฺตสฺส โทโส โหติ, เอวํ น โทโส’’ติ ตฺวา กถนโต.

ปจฺจตฺถิเก สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคณฺหาตีติ เอตฺถ ทฺวิธา ปจฺจตฺถิกา นาม อตฺตปจฺจตฺถิกา จ สาสนปจฺจตฺถิกา จ. ตตฺถ เมตฺติยภูมชกา จ ภิกฺขู วฑฺโฒ จ ลิจฺฉวี อมูลเกน อนฺติมวตฺถุนา โจเทสุํ, อิเม อตฺตปจฺจตฺถิกา นาม. เย ปน อฺเปิ ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา, สพฺเพเต อตฺตปจฺจตฺถิกา. วิปรีตทสฺสนา ปน อริฏฺภิกฺขุกณฺฏกสามเณรเวสาลิกวชฺชิปุตฺตกา ปรูปหารอฺาณกงฺขาวิตรณาทิวาทา มหาสงฺฆิกาทโย จ อพุทฺธสาสนํ ‘‘พุทฺธสาสน’’นฺติ วตฺวา กตปคฺคหา สาสนปจฺจตฺถิกา นาม. เต สพฺเพปิ สหธมฺเมน สหการเณน วจเนน ยถา ตํ อสทฺธมฺมํ ปติฏฺาเปตุํ น สกฺโกนฺติ, เอวํ สุนิคฺคหิตํ กตฺวา นิคฺคณฺหาติ.

สทฺธมฺมฏฺิติยา ปฏิปนฺโน โหตีติ เอตฺถ ปน ติวิโธ สทฺธมฺโม ปริยตฺติปฏิปตฺติอธิคมวเสน. ตตฺถ เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ ปริยตฺติสทฺธมฺโม นาม. เตรส ธุตคุณา จุทฺทส ขนฺธกวตฺตานิ ทฺเวอสีติ มหาวตฺตานีติ อยํ ปฏิปตฺติสทฺธมฺโม นาม. จตฺตาโร มคฺคา จ จตฺตาริ ผลานิ จ, อยํ อธิคมสทฺธมฺโม นาม.

ตตฺถ เกจิ เถรา ‘‘โย โว, อานนฺท, มยา ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต ปฺตฺโต, โส โว มมจฺจเยน สตฺถา’’ติ อิมินา สุตฺเตน (ที. นิ. ๒.๒๑๖) ‘‘สาสนสฺส ปริยตฺติ มูล’’นฺติ วทนฺติ. เกจิ เถรา ‘‘อิเม จ สุภทฺท ภิกฺขู สมฺมา วิหเรยฺยุํ, อสุฺโ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสา’’ติ อิมินา สุตฺเตน (ที. นิ. ๒.๒๑๔) ‘‘สาสนสฺส ปฏิปตฺติ มูล’’นฺติ วตฺวา ‘‘ยาว ปฺจ ภิกฺขู สมฺมาปฏิปนฺนา สํวิชฺชนฺติ, ตาว สาสนํ ิตํ โหตี’’ติ อาหํสุ. อิตเร ปน เถรา ‘‘ปริยตฺติยา อนฺตรหิตาย สุปฺปฏิปนฺนสฺสปิ ธมฺมาภิสมโย นตฺถี’’ติ วตฺวา อาหํสุ ‘‘สเจปิ ปฺจ ภิกฺขู จตฺตาริ ปาราชิกานิ รกฺขกา โหนฺติ, เต สทฺเธ กุลปุตฺเต ปพฺพาเชตฺวา ปจฺจนฺติเม ชนปเท อุปสมฺปาเทตฺวา ทสวคฺคํ คณํ ปูเรตฺวา มชฺฌิมชนปเท อุปสมฺปทํ กริสฺสนฺติ, เอเตนุปาเยน วีสติวคฺคํ สงฺฆํ ปูเรตฺวา อตฺตโนปิ อพฺภานกมฺมํ กตฺวา สาสนํ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ คมยิสฺสนฺติ. เอวมยํ วินยธโร ติวิธสฺสปิ สทฺธมฺมสฺส จิรฏฺิติยา ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ. เอวมยํ วินยธโร อิเม ตาว ปฺจานิสํเส ปฏิลภตีติ เวทิตพฺโพ.

กตเม ฉานิสํเส ลภตีติ? ตสฺสาเธยฺโย อุโปสโถ ปวารณา สงฺฆกมฺมํ ปพฺพชฺชา อุปสมฺปทา, นิสฺสยํ เทติ, สามเณรํ อุปฏฺาเปติ. เยปิ อิเม จาตุทฺทสิโก, ปนฺนรสิโก, สามคฺคิอุโปสโถ, สงฺเฆ อุโปสโถ, คเณ อุโปสโถ, ปุคฺคเล อุโปสโถ, สุตฺตุทฺเทโส, ปาริสุทฺธิ, อธิฏฺานอุโปสโถติ นว อุโปสถา, สพฺเพ เต วินยธรายตฺตา, ยาปิ จ อิมา จาตุทฺทสิกา, ปนฺนรสิกา, สามคฺคิปวารณา, สงฺเฆ ปวารณา, คเณ ปวารณา, ปุคฺคเล ปวารณา, เตวาจิกา ปวารณา, ทฺเววาจิกา ปวารณา, สมานวสฺสิกา ปวารณาติ นว ปวารณา, ตาปิ วินยธรายตฺตา เอว, ตสฺส สนฺตกา, โส ตาสํ สามี.

ยานิปิ อิมานิ อปโลกนกมฺมํ ตฺติกมฺมํ ตฺติทุติยกมฺมํ ตฺติจตุตฺถกมฺมนฺติ จตฺตาริ สงฺฆกมฺมานิ, ยา จายํ อุปชฺฌาเยน หุตฺวา กุลปุตฺตานํ ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ กาตพฺพา, อยมฺปิ วินยธรายตฺตาว. น หิ อฺโ ทฺวิปิฏกธโรปิ เอวํ กาตุํ ลภติ, โส เอว นิสฺสยํ เทติ, สามเณรํ อุปฏฺาเปติ, อฺโ เนว นิสฺสยํ ทาตุํ ลภติ, น สามเณรํ อุปฏฺาเปตุํ. เตเนว ‘‘น, ภิกฺขเว, เอเกน ทฺเว สามเณรา อุปฏฺาเปตพฺพา, โย อุปฏฺาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๐๑) ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน อนุชานนฺเตนปิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา เอเกน ทฺเว สามเณเร อุปฏฺาเปตุํ, ยาวตเก วา ปน อุสฺสหติ โอวทิตุํ อนุสาสิตุํ, ตาวตเก อุปฏฺาเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๐๕) พฺยตฺตสฺเสว สามเณรุปฏฺาปนํ อนุฺาตํ. สามเณรุปฏฺาปนํ ปจฺจาสีสนฺโต ปน วินยธรสฺส สนฺติเก อุปชฺฌํ คาหาเปตฺวา วตฺตปฏิปตฺตึ สาทิตุํ ลภติ. เอตฺถ จ นิสฺสยทานฺเจว สามเณรุปฏฺานฺจ เอกมงฺคํ. อิติ อิเมสุ ฉสุ อานิสํเสสุ เอเกน สทฺธึ ปุริมานิ ปฺจ ฉ โหนฺติ. ทฺวีหิ สทฺธึ สตฺต, ตีหิ สทฺธึ อฏฺ, จตูหิ สทฺธึ นว, ปฺจหิ สทฺธึ ทส, สพฺเพหิเปเตหิ สทฺธึ เอกาทสาติ เอวํ วินยธโร ปุคฺคโล ปฺจ ฉ สตฺต อฏฺ นว ทส เอกาทส จ อานิสํเส ลภตีติ เวทิตพฺโพ.

มหานิสํสมิจฺเจวํ, โกสลฺลํ วินเย สทา;

ปตฺเถนฺเตเนตฺถ กาตพฺโพ, อภิโยโค ปุนปฺปุนนฺติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ปกิณฺณกวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

นิฏฺิโต จายํ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคโห.

นิคมนกถา

อชฺเฌสิโต นรินฺเทน, โสหํ ปรกฺกมพาหุนา;

สทฺธมฺมฏฺิติกาเมน, สาสนุชฺโชตการินา.

เตเนว การิเต รมฺเม, ปาสาทสตมณฺฑิเต;

นานาทุมคณากิณฺเณ, ภาวนาภิรตาลเย.

สีตลูทกสมฺปนฺเน, วสํ เชตวเน อิมํ;

วินยสงฺคหํ สารํ, อกาสิ โยคินํ หิตํ.

ยํ สิทฺธํ อิมินา ปุฺํ, ยฺจฺํ ปสุตํ มยา;

เอเตน ปุฺกมฺเมน, ทุติเย อตฺตสมฺภเว.

ตาวตึเส ปโมเทนฺโต, สีลาจารคุเณ รโต;

อลคฺโค ปฺจกาเมสุ, ปตฺวาน ปมํ ผลํ.

อนฺติเม อตฺตภาวมฺหิ, เมตฺเตยฺยํ มุนิปุงฺควํ;

โลกคฺคปุคฺคลํ นาถํ, สพฺพสตฺตหิเต รตํ.

ทิสฺวาน ตสฺส ธีรสฺส, สุตฺวา สทฺธมฺมเทสนํ;

อธิคนฺตฺวา ผลํ อคฺคํ, โสเภยฺยํ ชินสาสนนฺติ.

วินยสงฺคห-อฏฺกถา นิฏฺิตา.