📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
วินยปิฏเก
วิมติวิโนทนี-ฏีกา (ปโม ภาโค)
คนฺถารมฺภกถา
กรุณาปุณฺณหทยํ ¶ ¶ , สุคตํ หิตทายกํ;
นตฺวา ธมฺมฺจ วิมลํ, สงฺฆฺจ คุณสมฺปทํ.
วณฺณนา นิปุณาเหสุํ, วินยฏฺกถาย ยา;
ปุพฺพเกหิ กตา เนกา, นานานยสมากุลา.
ตตฺถ ¶ กาจิ สุวิตฺถิณฺณา, ทุกฺโขคาหา จ คนฺถโต;
วิรทฺธา อตฺถโต จาปิ, สทฺทโต จาปิ กตฺถจิ.
กาจิ กตฺถจิ อปุณฺณา, กาจิ สมฺโมหการินี;
ตสฺมา ตาหิ สมาทาย, สารํ สงฺเขปรูปโต.
ลีนตฺถฺจ ปกาเสนฺโต, วิรทฺธฺจ วิโสธยํ;
อุปฏฺิตนยฺจาปิ, ตตฺถ ตตฺถ ปกาสยํ.
วินเย วิมตึ เฉตุํ, ภิกฺขูนํ ลหุวุตฺตินํ;
สงฺเขเปน ลิขิสฺสามิ, ตสฺสา ลีนตฺถวณฺณนํ.
คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา
วินยสํวณฺณนารมฺเภ รตนตฺตยํ นมสฺสิตุกาโม ตสฺส วิสิฏฺคุณโยคสนฺทสฺสนตฺถํ โย กปฺปโกฏีหิปีติอาทิมาห. วิสิฏฺคุณโยเคน หิ วนฺทนารหภาโว, วนฺทนารเห จ กตา วนฺทนา ยถาธิปฺเปตมตฺถํ สาเธติ ¶ . เอตฺถ จ สํวณฺณนารมฺเภ รตนตฺตยปณามกรณปฺปโยชนํ ตตฺถ ตตฺถ พหุธา ปปฺเจนฺติ อาจริยา, มยํ ปน อิธาธิปฺเปตเมว ปโยชนํ ทสฺสยิสฺสาม. ตสฺมา สํวณฺณนารมฺเภ รตนตฺตยปณามกรณํ ยถาปฏิฺาตสํวณฺณนาย อนนฺตราเยน ปริสมาปนตฺถนฺติ เวทิตพฺพํ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ตสฺสานุภาเวน หตนฺตราโย’’ติ. รตนตฺตยปณามกรเณน หิ ราคาทิโทสวิคมโต ปฺาทิคุณปาฏวโต อายุอาทิวฑฺฒนโต ปฺุาติสยภาวาทิโต จ โหเตว ยถาปฏิฺาตสํวณฺณนาย อนนฺตราเยน ปริสมาปนํ.
ตตฺถ ปมํ ตาว ภควโต วนฺทนํ กตฺตุกาโม ‘‘โย กปฺปโกฏีหิปิ…เป… ตสฺสา’’ติ อาห. อิมิสฺสา ปน วินยเทสนาย กรุณาปฺปธานาณสมุฏฺิตตาย กรุณาปฺปธานเมว โถมนํ อารทฺธํ. เอสา หิ อาจริยสฺส ปกติ, ยทิทํ อารมฺภานุรูปโถมนา. กรุณาคฺคหเณน เจตฺถ อปริเมยฺยปฺปภาวา สพฺเพปิ พุทฺธคุณา นยโต สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา ตํมูลกตฺตา เสสพุทฺธคุณานํ. ตตฺถ โยติ อิมสฺส อนิยมวจนสฺส นาโถติ อิมินา สมฺพนฺโธ. กปฺปโกฏีหิปิ อปฺปเมยฺยํ กาลนฺติ ¶ กปฺปโกฏิคณนาวเสนปิ ‘‘เอตฺตกา กปฺปโกฏิโย’’ติ ปเมตุํ อสกฺกุเณยฺยํ กาลํ. อปิ-สทฺเทน ปเคว วสฺสคณนายาติ ทสฺเสติ. อปฺปเมยฺยํ กาลนฺติ จ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ, เตน กปฺปโกฏิคณนาวเสน ปริจฺฉินฺทิตุมสกฺกุเณยฺยมปิ, อสงฺขฺเยยฺยวเสน ปน ปริจฺฉินฺทิตพฺพโต สลกฺขํ จตุรสงฺขฺเยยฺยกปฺปกาลํ อจฺจนฺตเมว นิรนฺตรํ ปฺจมหาปอจฺจาคาทิอติทุกฺกรานิ กโรนฺโต เขทํ กายิกํ ปริสฺสมํ ปตฺโตติ ทสฺเสติ.
โลกหิตายาติ สตฺตโลกสฺส หิตาย. นาถตีติ นาโถ, เวเนยฺยานํ หิตสุขํ อาสีสตีติ อตฺโถ. อถ วา นาถติ เวเนยฺยคเต กิเลเส อุปตาเปติ, นาถติ วา ยาจติ เวเนยฺเย อตฺตโน หิตกรเณ ยาจิตฺวาปิ นิโยเชตีติ นาโถ, โลกปฏิสรโณ โลกสามี โลกนายโกติ วุตฺตํ โหติ. มหาการุณิกสฺสาติ โย กรุณาย กมฺปิตหทยตฺตา โลกหิตตฺถํ อติทุกฺกรกิริยาย อเนกปฺปการํ ตาทิสํ ทุกฺขํ อนุภวิตฺวา อาคโต, ตสฺส มหาการุณิกสฺสาติ อตฺโถ. ตตฺถ กิรตีติ กรุณา, ปรทุกฺขํ วิกฺขิปติ อปเนตีติ อตฺโถ. ทุกฺขิเตสุ วา กิริยติ ปสาริยตีติ กรุณา. อถ วา กิณาตีติ กรุณา, ปรทุกฺเข สติ การุณิกํ ¶ หึสติ วิพาเธติ, วินาเสติ วา ปรสฺส ทุกฺขนฺติ อตฺโถ. ปรทุกฺเข สติ สาธูนํ กมฺปนํ หทยเขทํ กโรตีติ วา กรุณา. อถ วา กมิติ สุขํ, ตํ รุนฺธตีติ กรุณา. เอสา หิ ปรทุกฺขาปนยนกามตาลกฺขณา อตฺตสุขนิรเปกฺขตาย การุณิกานํ สุขํ รุนฺธติ วิพาเธติ. กรุณาย นิยุตฺโต การุณิโก, มหนฺโต การุณิโก มหาการุณิโก, ตสฺส นโม อตฺถูติ ปาเสโส.
เอวํ กรุณามุเขน สงฺเขปโต สกลสพฺพฺุคุเณหิ ภควนฺตํ โถเมตฺวา อิทานิ สทฺธมฺมํ โถเมตุํ อสมฺพุธนฺติอาทิมาห. ตตฺถ พุทฺธนิเสวิตํ ยํ อสมฺพุธํ ชีวโลโก ภวา ภวํ คจฺฉติ, ตสฺส ธมฺมวรสฺส นโมติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ อสมฺพุธนฺติ อสมฺพุชฺฌนฺโต, ยถาสภาวํ อปฺปฏิวิชฺฌนโตติ วุตฺตํ โหติ. เหตุอตฺโถ เหตฺถ อนฺตปจฺจโย. ยนฺติ อนิยมโต สปริยตฺติโก นวโลกุตฺตรธมฺโม กมฺมภาเวน นิทฺทิฏฺโ. พุทฺธนิเสวิตนฺติ ตสฺเสว วิเสสนํ, สมฺมาสมฺพุทฺเธน, ปจฺเจกพุทฺธสาวกพุทฺเธหิปิ วา โคจราเสวนภาวนาเสวนาหิ ยถารหํ นิเสวิตํ, อชหิตนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ ปริยตฺติผลนิพฺพานานิ โคจราเสวนวเสเนว นิเสวิตานิ, มคฺโค ปน ภาวนาเสวนวเสนาปิ ปจฺจเวกฺขณาณาทิวเสน โคจราเสวนวเสนาปิ นิเสวิโต. ภวาภวนฺติ ภวโต ภวํ. อถ วา หีนปณีตาทิวเสน ขุทฺทกํ มหนฺตฺจ ภวนฺติ อตฺโถ. วุฑฺฒตฺโถปิ หิ อ-กาโร ทิสฺสติ อเสกฺขา ธมฺมาติอาทีสุ (ธ. ส. ติกมาติกา ๑๑) วิย. อถ วา ภโวติ วุฑฺฒิ, อภโวติ หานิ. ภโวติ วา สสฺสตทิฏฺิ, อภโวติ อุจฺเฉททิฏฺิ ¶ . วุตฺตปฺปกาโร ภโว จ อภโว จ ภวาภโว, ตํ ภวาภวํ. คจฺฉตีติ อุปคจฺฉติ. ชีวโลโกติ สตฺตโลโก. อวิชฺชาทิกิเลสชาลวิทฺธํสิโนติ ธมฺมวิเสสนํ. ตตฺถ น วิทติ ธมฺมานํ ยถาสภาวํ น วิชานาตีติ อวิชฺชา, อฺาณํ. สา อาทิ เยสํ ตณฺหาทีนํ, เตเยว กิลิสฺสนฺติ เอเตหิ สตฺตาติ กิเลสา, เตเยว จ สตฺตานํ วิพาธนฏฺเน ชาลสทิสาติ ชาลํ, ตํ วิทฺธํเสติ สพฺพโส วินาเสติ สีเลนาติ อวิชฺชาทิกิเลสชาลวิทฺธํสี, ตสฺส.
นนุ เจตฺถ สปริยตฺติโก นวโลกุตฺตรธมฺโม อธิปฺเปโต, ตตฺถ จ มคฺโคเยว กิเลเส วิทฺธํเสติ, เนตเรติ เจ? วุจฺจเต – มคฺคสฺสาปิ นิพฺพานมาคมฺม ¶ กิเลสวิทฺธํสนโต นิพฺพานมฺปิ กิเลเส วิทฺธํเสติ นาม, มคฺคสฺส กิเลสวิทฺธํสนกิจฺจํ ผเลน นิฏฺิตนฺติ ผลมฺปิ ‘‘กิเลสวิทฺธํสี’’ติ วุจฺจติ, ปริยตฺติธมฺโมปิ กิเลสวิทฺธํสนสฺส อุปนิสฺสยปจฺจยตฺตา ‘‘กิเลสวิทฺธํสี’’ติ วตฺตุํ อรหตีติ น โกจิ โทโส. ธมฺมวรสฺส ตสฺสาติ ปุพฺเพ อนิยมิตสฺส นิยามกวจนํ. ตตฺถ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน จตูสุ อปาเยสุ สํสารทุกฺเข จ อปตมาเน ธาเรตีติ ธมฺโม. วุตฺตปฺปกาโร ธมฺโม เอว อตฺตโน อุตฺตริตราภาเวน วโร ปวโร อนุตฺตโรติ ธมฺมวโร, ตสฺส ธมฺมวรสฺส นโม อตฺถูติ อตฺโถ.
เอวํ สงฺเขปนเยเนว สพฺพธมฺมคุเณหิ สทฺธมฺมํ โถเมตฺวา อิทานิ อริยสงฺฆํ โถเมตุํ คุเณหีติอาทิมาห. ตตฺถ คุเณหิ โย ยุตฺโต, ตมริยสงฺฆํ นมามีติ สมฺพนฺโธ. สีลาทโย คุณา เจตฺถ โลกิยโลกุตฺตรา อธิปฺเปตา. ‘‘วิมุตฺติวิมุตฺติาณ’’นฺติ วตฺตพฺเพ เอกเทสสรูเปกเสสนเยน ‘‘วิมุตฺติาณ’’นฺติ วุตฺตํ, อาทิสทฺทปริยาเยน ปภุติสทฺเทน วา วิมุตฺติคฺคหณํ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ วิมุตฺตีติ ผลํ. วิมุตฺติาณนฺติ ปจฺจเวกฺขณาณํ. ปภุติ-สทฺเทน ฉฬภิฺาจตุปฏิสมฺภิทาทโย คุณา สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา. กุสลตฺถิกานํ ชนานํ ปฺุาติสยวุฑฺฒิยา เขตฺตสทิสตฺตา เขตฺตนฺติ อาห ‘‘เขตฺตํ ชนานํ กุสลตฺถิกาน’’นฺติ. ขิตฺตํ พีชํ มหปฺผลภาวกรเณน ตายตีติ หิ เขตฺตํ. อริยสงฺฆนฺติ เอตฺถ อารกตฺตา กิเลเสหิ, อนเย น อิริยนโต, อเย จ อิริยนโต, สเทวเกน โลเกน ‘‘สรณ’’นฺติ อรณียโต อุปคนฺตพฺพโต, อุปคตานฺจ ตทตฺถสิทฺธิโต อริยา, อฏฺ อริยปุคฺคลา, อริยานํ สงฺโฆ สมูโหติ อริยสงฺโฆ, ตํ อริยสงฺฆํ.
อิทานิ รตนตฺตยปณามชนิตํ กุสลาภิสนฺทํ ยถาธิปฺเปเต ปโยชเน นิโยเชตฺวา อตฺตนา สํวณฺณิยมานสฺส วินยสฺส สกลสาสนมูลภาวทสฺสนมุเขน สํวณฺณนากรณสฺสาปิ สาสนมูลตํ ¶ ทสฺเสตุํ อิจฺเจวมิจฺจาทิคาถาทฺวยมาห. ปฺุาภิสนฺทนฺติ ปฺุโฆํ, ปฺุปฺปวาหํ ปฺุราสินฺติ อตฺโถ. ตสฺสานุภาเวนาติ ตสฺส ยถาวุตฺตสฺส ปฺุปฺปวาหสฺส อานุภาเวน พเลน หตนฺตราโย วินยํ วณฺณยิสฺสนฺติ สมฺพนฺโธ.
อฏฺิตสฺส สุสณฺิตสฺส ภควโต สาสนํ ยสฺมึ ิเต ปติฏฺิตํ โหตีติ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ ยสฺมินฺติ ยสฺมึ วินยปิฏเก. ิเตติ ปาฬิโต จ อตฺถโต จ อนูนํ หุตฺวา ลชฺชีปุคฺคเลสุ ปวตฺตนฏฺเน ิเต. สาสนนฺติ ¶ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ สาสนํ. อฏฺิตสฺสาติ กามสุขลฺลิกตฺตกิลมถานุโยคสงฺขาเต อนฺตทฺวเย อฏฺิตสฺส, ‘‘ปรินิพฺพุตสฺสปิ ภควโต’’ติปิ วทนฺติ. สุสณฺิตสฺสาติ อนฺตทฺวยวิรหิตาย มชฺฌิมาย ปฏิปทาย สุฏฺุ ิตสฺส. อมิสฺสนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส, นิกายนฺตรลทฺธีหิ อสมฺมิสฺสํ กตฺวา อนากุลํ กตฺวา วณฺณยิสฺสนฺติ วุตฺตํ โหติ. นิสฺสาย ปุพฺพาจริยานุภาวนฺติ ปุพฺพาจริเยหิ สํวณฺณิตํ อฏฺกถํ นิสฺสาย, น อตฺตโน พเลนาติ อธิปฺปาโย.
อถ โปราณฏฺกถาสุ วิชฺชมานาสุ ปุน วินยสํวณฺณนา กึปโยชนาติ? อาห กามฺจาติอาทิ. ตตฺถ กามนฺติ เอกนฺเตน, ยถิจฺฉกํ วา, สพฺพโสติ วุตฺตํ โหติ, ตสฺส สํวณฺณิโตยํ วินโยติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ปุพฺพาจริยาสเภหีติ มหากสฺสปตฺเถราทโย ปุพฺพาจริยา เอว อกมฺปิยฏฺเน อุตฺตมฏฺเน จ อาสภา, เตหิ ปุพฺพาจริยวเรหีติ วุตฺตํ โหติ. กีทิสา ปน เต ปุพฺพาจริยาติ? อาห าณมฺพูติอาทิ. อคฺคมคฺคาณสงฺขาเตน อมฺพุนา สลิเลน นิทฺโธตานิ นิสฺเสสโต อายตึ อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทเนน โธตานิ วิโสธิตานิ ราคาทีนิ ตีณิ มลานิ กามาสวาทโย จ จตฺตาโร อาสวา เยหิ เต าณมฺพุนิทฺโธตมลาสวา, เตหิ ขีณาสเวหีติ อตฺโถ. ขีณาสวภาเวปิ น เอเต สุกฺขวิปสฺสกาติ อาห ‘‘วิสุทฺธวิชฺชาปฏิสมฺภิเทหี’’ติ. ตตฺถ วิชฺชาติ ติสฺโส วิชฺชา, อฏฺ วิชฺชา วา. ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺเตสุปิ มหากสฺสปตฺเถราทีนํ อุจฺจินิตฺวา คหิตตาย เตสํ สทฺธมฺมสํวณฺณเน สามตฺถิยํ สาติสยนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สทฺธมฺมสํวณฺณนโกวิเทหี’’ติ.
กิเลสชาตํ, ปริกฺขารพาหุลฺลํ วา สลฺลิขติ ตนุํ กโรตีติ สลฺเลโข, อปฺปิจฺฉตาทิคุณสมูโห, อิธ ปน ขีณาสวาธิการตฺตา ปริกฺขารพาหุลฺลสฺส สลฺลิขนวเสเนว อตฺโถ คเหตพฺโพ. สลฺเลเขน นิพฺพตฺตํ สลฺเลขิยํ, ตสฺมึ สลฺเลขิเย, ธุตงฺคปริหรณาทิสลฺเลขปอปตฺติยนฺติ วุตฺตํ โหติ. โนสุลภูปเมหีติ สลฺเลขปฏิปตฺติยา ‘‘อสุกสทิสา’’ติ นตฺถิ สุลภา อุปมา เอเตสนฺติ โนสุลภูปมา, เตหิ. มหาวิหารสฺสาติ อิมินา นิกายนฺตรํ ปฏิกฺขิปติ ¶ . วิหารสีเสน เหตฺถ ตตฺถ นิวาสีนฺเจว เตหิ สมลทฺธิกานฺจ สพฺเพสํ ภิกฺขูนํ คหณํ ทฏฺพฺพํ. ตสฺมา เตสํ มหาวิหารวาสีนํ ทิฏฺิสีลวิสุทฺธิยา ปภวตฺเตน สฺาณภูตตฺตา ¶ ธมฺมสงฺคาหกา มหากสฺสปตฺเถราทโย ‘‘มหาวิหารสฺส ธชูปมา’’ติ วุตฺตา, เตหิ อยํ วินโย สํวณฺณิโต สมฺมา อนูนํ กตฺวา วณฺณิโต. กถนฺติ อาห ‘‘จิตฺเตหิ นเยหี’’ติ. วิจิตฺเตหิ นเยหิ สมฺพุทฺธวรนฺวเยหิ สพฺพฺุพุทฺธวรํ อนุคเตหิ, ภควโต อธิปฺปายานุคเตหิ นเยหีติ วุตฺตํ โหติ.
เอวํ โปราณฏฺกถาย อนูนภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺตโน สํวณฺณนาย ปโยชนวิเสสํ อชฺเฌสกฺจ ทสฺเสตุํ สํวณฺณนาติอาทิมาห. ตตฺถ สงฺขตตฺตาติ รจิตตฺตา. น กฺจิ อตฺถํ อภิสมฺภุณาตีติ น กฺจิ อตฺถํ สาเธติ.
สํวณฺณนํ ตฺจาติอาทินา อตฺตโน สํวณฺณนาย กรณปฺปการํ ทสฺเสติ. ตตฺถ ตฺจ อิทานิ วุจฺจมานํ สํวณฺณนํ สมารภนฺโต สกลายปิ มหาอฏฺกถาย อิธ คเหตพฺพโต มหาอฏฺกถํ ตสฺสา อิทานิ วุจฺจมานาย สํวณฺณนาย สรีรํ กตฺวา มหาปจฺจริยํ โย วินิจฺฉโย วุตฺโต, ตเถว กุรุนฺทีนามาทีสุ วิสฺสุตาสุ อฏฺกถาสุ โย วินิจฺฉโย วุตฺโต, ตโตปิ วินิจฺฉยโต ยุตฺตมตฺถํ อปริจฺจชนฺโต อนฺโตคธตฺเถรวาทํ กตฺวา สํวณฺณนํ สมฺมา สมารภิสฺสนฺติ ปทตฺถสมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ อตฺโถ กถียติ เอตายาติ อฏฺกถา ตฺถ-การสฺส ฏฺ-การํ กตฺวา. มหาปจฺจริยนฺติ มหาปจฺจรีนามิกํ. เอตฺถ จ ปจฺจรีติ อุฬุมฺปํ วุจฺจติ, ตสฺมึ นิสีทิตฺวา กตตฺตา ตเมว นามํ ชาตํ. ‘‘กุรุนฺทีวลฺลิวิหาโร นาม อตฺถิ, ตตฺถ กตตฺตา ‘กุรุนฺที’ติ นามํ ชาต’’นฺติ วทนฺติ. อาทิสทฺเทน อนฺธกฏฺกถํ สงฺเขปฏฺกถฺจ สงฺคณฺหาติ.
ยุตฺตมตฺถนฺติ มหาอฏฺกถานเยน, จตุพฺพิธวินยยุตฺติยา วา ยุตฺตมตฺถํ. ‘‘อฏฺกถํเยว คเหตฺวา สํวณฺณนํ กริสฺสามี’’ติ วุตฺเต อฏฺกถาสุ วุตฺตตฺเถรวาทานํ พาหิรภาโว สิยาติ เตปิ อนฺโตกตฺตุกาโม ‘‘อนฺโตคธเถรวาท’’นฺติ อาห, เถรวาเทปิ อนฺโตกตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.
ตํ เมติ คาถาย โสตูหิ ปฏิปชฺชิตพฺพวิธึ ทสฺเสติ. ตตฺถ ธมฺมปฺปทีปสฺสาติ ธมฺโม เอว โมหนฺธการวิทฺธํสนโต ปทีปสทิสตฺตา ปทีโป อสฺสาติ ธมฺมปฺปทีโป, ภควา, ตสฺส. ปติมานยนฺตาติ ปูเชนฺตา มนสา ครุํ กโรนฺตา นิสาเมนฺตุ สุณนฺตุ.
พุทฺเธนาติอาทินา ¶ อตฺตโน สํวณฺณนาย อาคมนสุทฺธิทสฺสนมุเขน ปมาณภาวํ ทสฺเสตฺวา อนุสิกฺขิตพฺพตํ ¶ ทสฺเสติ. ตตฺถ ยเถว พุทฺเธน โย ธมฺโม วินโย จ วุตฺโต, โส ตสฺส พุทฺธสฺส เยหิ ปุตฺเตหิ มหากสฺสปตฺเถราทีหิ ตเถว าโต, เตสํ พุทฺธปุตฺตานํ มติมจฺจชนฺตา สีหฬฏฺกถาจริยา ยสฺมา ปุเร อฏฺกถา อกํสูติ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ธมฺโมติ สุตฺตาภิธมฺเม สงฺคณฺหาติ. วินโยติ สกลํ วินยปิฏกํ. วุตฺโตติ ปาฬิโต จ อตฺถโต จ พุทฺเธน ภควตา วุตฺโต. น หิ ภควตา อพฺยากตํ นาม ตนฺติปทํ อตฺถิ, ตตฺถ ตตฺถ ภควตา ปวตฺติตปกิณฺณกเทสนาเยว หิ อฏฺกถา. ตเถว าโตติ ยเถว พุทฺเธน วุตฺโต, ตเถว เอกปทมฺปิ เอกกฺขรมฺปิ อวินาเสตฺวา อธิปฺปายฺจ อวิโกเปตฺวา าโต วิทิโตติ อตฺโถ. เตสํ มติมจฺจชนฺตาติ เตสํ พุทฺธปุตฺตานํ มติสงฺขาตํ เถรปรมฺปราย อุคฺคเหตฺวา อาภตํ อพฺโพจฺฉินฺนํ ปาฬิวณฺณนาวเสน เจว ปาฬิมุตฺตกวเสน จ ปวตฺตํ สพฺพํ อฏฺกถาวินิจฺฉยํ อปริจฺจชนฺตา. อฏฺกถา อกํสูติ มหาอฏฺกถามหาปจฺจริอาทิกา สีหฬฏฺกถาโย อกํสุ. ‘‘อฏฺกถามกํสู’’ติปิ ปาโ, ตตฺถาปิ โสเยวตฺโถ.
ตสฺมาติ ยสฺมา เตสํ พุทฺธปุตฺตานํ อธิปฺปายํ อวิโกเปตฺวา ปุเร อฏฺกถา อกํสุ, ตสฺมา. ยํ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ, ตํ สพฺพมฺปิ ปมาณนฺติ โยชนา. หีติ นิปาตมตฺตํ เหตุอตฺถสฺส ตสฺมาติ อิมินาเยว ปกาสิตตฺตา, อวธารณตฺโถ วา, ปมาณเมวาติ. ยทิ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ สพฺพมฺปิ ปมาณํ, เอวํ สติ ตตฺถ ปมาทเลขาปิ ปมาณํ สิยาติ อาห ‘‘วชฺชยิตฺวาน ปมาทเลข’’นฺติ, อปราปรํ ลิขนฺเตหิ ปมาเทน สตึ อปจฺจุปฏฺเปตฺวา อฺตฺถ ลิขิตพฺพํ อฺตฺถ ลิขนาทิวเสน ปวตฺติตา ปมาทเลขา นาม, สา จ สมนฺตปาสาทิกายํ ตตฺถ ตตฺถ สยเมว อาวิภวิสฺสติ. ปุน ยสฺมาติ ปทสฺส สมฺพนฺธทสฺสนวเสน อยํ อตฺถโยชนา – ยสฺมา อฏฺกถาสุ วุตฺตํ อิธ อิมสฺมึ สาสเน สิกฺขาสุ สคารวานํ ปณฺฑิตานํ ปมาณเมว, ยสฺมา จ อยํ วณฺณนาปิ ภาสนฺตรปริจฺจาคาทิมตฺตวิสิฏฺตาย อตฺถโต อภินฺนา, ตโต เอว ปมาณภูตาว เหสฺสติ, ตสฺมา อนุสิกฺขิตพฺพาติ.
ตโตติ ตาหิ อฏฺกถาหิ. ภาสนฺตรเมว หิตฺวาติ สีหฬภาสํเยว อปเนตฺวา. วิตฺถารมคฺคฺจ สมาสยิตฺวาติ โปราณฏฺกถาสุ ยถาาเน ¶ วตฺตพฺพมฺปิ ปทตฺถวินิจฺฉยาทิกํ อติวิตฺถิณฺเณน วจนกฺกเมน เจว วุตฺตเมว อตฺถนยํ อปฺปมตฺตกวิเสเสน ปุนปฺปุนํ กถเนน จ ตตฺถ ตตฺถ ปปฺจิตํ ตาทิสํ วิตฺถารมคฺคํ ปหาย สลฺลหุเกน อตฺถวิฺาปเกน ปทกฺกเมน เจว วุตฺตนยสทิสํ วตฺตพฺพํ อติทิสิตฺวา จ สงฺเขปนเยเนว วณฺณยิสฺสามาติ อธิปฺปาโย. สารตฺถทีปนิยํ ปน วินยฏีกายํ ‘‘โปราณฏฺกถาสุ อุปริ วุจฺจมานมฺปิ อาเนตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ปปฺจิตํ ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน…เป… อุปสมฺปนฺโนติ ภิกฺขูติ เอตฺถ อปโลกนาทีนํ จตุนฺนมฺปิ ¶ กมฺมานํ วิตฺถารกถา วิย ตาทิสํ วิตฺถารมคฺคํ สงฺขิปิตฺวา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ตนฺติกฺกมํ กฺจิ อโวกฺกมิตฺวาติ เอตฺเถว วตฺตุํ ยุตฺตํ. อฺตฺถ ปาฬิยา วตฺตพฺพํ อฺตฺถ กถนฺหิ ตนฺติกฺกมํ โวกฺกมิตฺวา กถนํ นาม. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ตเถว วณฺณิตุํ ยุตฺตรูปํ หุตฺวา อนุกฺกเมน อาคตํ ปาฬึ ปริจฺจชิตฺวา สํวณฺณนโต สีหฬฏฺกถาสุ อยุตฺตฏฺาเน วณฺณิตํ ยถาาเนเยว วณฺณนโต จ วุตฺตํ ‘ตนฺติกฺกมํ กฺจิ อโวกฺกมิตฺวา’’’ติ. ตสฺมา ยถาวุตฺตนเยเนว อตฺโถ คเหตพฺโพ. กถํ ปน วิตฺถารมคฺคสฺส สงฺขิปเน วินิจฺฉโย น หียตีติ? อาห ‘‘วินิจฺฉยํ สพฺพมเสสยิตฺวา’’ติ. สงฺขิปนฺโตปิ ปุนปฺปุนํ วจนาทิเมว สงฺขิปนฺโต, วินิจฺฉยํ ปน อฏฺกถาสุ สพฺพาสุปิ วุตฺตํ สพฺพมฺปิ อเสสยิตฺวา, กิฺจิมตฺตมฺปิ อปริหาเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ตนฺติกฺกมํ กฺจิ อโวกฺกมิตฺวาติ กฺจิ ปาฬิกฺกมํ อนติกฺกมิตฺวา, อนุกฺกเมเนว ปาฬึ วณฺณยิสฺสามาติ อตฺโถ.
สุตฺตนฺติกานํ วจนานมตฺถนฺติ เวรฺชกณฺฑาทีสุ อาคตานํ ฌานกถาทีนํ สุตฺตนฺตวจนานํ สีหฬฏฺกถาสุ ‘‘สุตฺตนฺติกานํ ภาโร’’ติ วตฺวา อวณฺณิตพฺพฏฺานํ อตฺถํ ตํตํสุตฺตานุรูปํ สพฺพโส ปริทีปยิสฺสามาติ อธิปฺปาโย. เหสฺสตีติ ภวิสฺสติ, กรียิสฺสตีติ วา อตฺโถ. เอตฺถ จ ปมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป ‘‘ภาสนฺตรปริจฺจาคาทิกํ จตุพฺพิธํ กิจฺจํ นิปฺผาเทตฺวา สุตฺตนฺติกานํ วจนานมตฺถํ ปริทีปยนฺตี อยํ วณฺณนา ภวิสฺสตี’’ติ วณฺณนาวเสน สมานกตฺตุกตา เวทิตพฺพา. ปจฺฉิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป ปน ‘‘เหฏฺา วุตฺตภาสนฺตรปริจฺจาคาทิกํ กตฺวา สุตฺตนฺติกานํ วจนานมตฺถํ ปริทีปยนฺตี อยํ วณฺณนา อมฺเหหิ กรียิสฺสตี’’ติ เอวํ อาจริยวเสน สมานกตฺตุกตา เวทิตพฺพา.
คนฺถารมฺภกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
พาหิรนิทานกถา
อิทานิ ¶ สํวรวินยปหานวินยาทีสุ พหูสุ วินเยสุ อตฺตนา ‘‘ตํ วณฺณยิสฺสํ วินย’’นฺติ เอวํ สํวณฺเณตพฺพภาเวน ปฏิฺาตํ วินยํ ทสฺเสนฺโต อาห ตตฺถาติอาทิ. ตตฺถ ตตฺถาติ ยถาวุตฺตาสุ คาถาสุ. ตาว-สทฺโท ปมนฺติ อิมสฺมึ อตฺเถ ทฏฺพฺโพ, เตน ปมํ วินยํ ววตฺถเปตฺวา ¶ ปจฺฉา ตสฺส วณฺณนํ กริสฺสามาติ ทีเปติ. ววตฺถเปตพฺโพติ นิยเมตพฺโพ. เตเนตํ วุจฺจตีติ ยสฺมา ววตฺถเปตพฺโพ, เตน เหตุนา เอตํ วินโย นามาติอาทิกํ นิยามกวจนํ วุจฺจตีติ อตฺโถ. อสฺสาติ วินยสฺส. มาติกาติ อุทฺเทโส. โส หิ นิทฺเทสปทานํ ชนนีาเน ิตตฺตา มาตา วิยาติ ‘‘มาติกา’’ติ วุจฺจติ.
อิทานิ สํวณฺเณตพฺพมตฺถํ มาติกํ ปฏฺเปตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห วุตฺตํ เยนาติอาทิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เอตํ เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา เวรฺชายํ วิหรตีติอาทินิทานวจนปฏิมณฺฑิตํ วินยปิฏกํ เยน ปุคฺคเลน วุตฺตํ, ยสฺมึ กาเล วุตฺตํ, ยสฺมา การณา วุตฺตํ, เยน ธาริตํ, เยน จ อาภตํ, เยสุ ปติฏฺิตํ, เอตํ ยถาวุตฺตวิธานํ วตฺวา ตโต เตน สมเยนาติอาทิปาสฺส อตฺถํ อเนกปฺปการโต ทสฺเสนฺโต วินยสฺส อตฺถวณฺณนํ กริสฺสามีติ.
เอตฺถ จ วุตฺตํ เยน ยทา ยสฺมาติ อิทํ วจนํ เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติอาทินิทานวจนมตฺตํ อเปกฺขิตฺวา วตฺตุกาโมปิ วิสุํ อวตฺวา ‘‘นิทาเนน อาทิกลฺยาณํ, อิทมโวจาติ นิคมเนน ปริโยสานกลฺยาณ’’นฺติ วจนโต นิทานนิคมนานิปิ สตฺถุเทสนาย อนุวิธานตฺตา ตทนฺโตคธาเนวาติ นิทานสฺสาปิ วินยปาฬิยํเยว อนฺโตคธตฺตา วุตฺตํ เยน ยทา ยสฺมาติ อิทมฺปิ วินยปิฏกสมฺพนฺธํเยว กตฺวา มาติกํ เปติ. มาติกาย หิ เอตนฺติ วุตฺตํ วินยปิฏกํเยว สามฺโต สพฺพตฺถ สมฺพนฺธมุปคจฺฉติ.
อิทานิ ปน ตํ วิสุํ นีหริตฺวา ทสฺเสนฺโต ตตฺถ วุตฺตํ เยนาติอาทิมาห. ตตฺถาติ เตสุ มาติกาปเทสุ. อิทนฺติ เตน สมเยนาติอาทินิทานวจนํ. หิ-สทฺโท ยสฺมาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ, ยสฺมา พุทฺธสฺส ภควโต อตฺตปจฺจกฺขวจนํ น โหติ, ตสฺมาติ วุตฺตํ โหติ. อตฺตปจฺจกฺขวจนํ น โหตีติ อตฺตนา ปจฺจกฺขํ กตฺวา วุตฺตวจนํ น โหติ. อถ ¶ วา อตฺตโน ปจฺจกฺขกาเล ธรมานกาเล วุตฺตวจนํ น โหติ. ตทุภเยนาปิ ภควโต วุตฺตวจนํ น โหตีติ อตฺโถ.
ปมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนา
ปมมหาสงฺคีติ นาม เจสาติ เอตฺถ จ-สทฺโท วตฺตพฺพสมฺปิณฺฑนตฺโถ, อุปฺาสตฺโถ วา, อุปฺาโสติ จ วากฺยารมฺโภ วุจฺจติ. เอสา หิ คนฺถการานํ ปกติ, ยทิทํ กิฺจิ วตฺวา ปุน อปรํ วตฺตุมารภนฺตานํ จ-สทฺทปฺปโยโค. ยถาปจฺจยํ ตตฺถ ตตฺถ เทสิตตฺตา วิปฺปกิณฺณานํ ธมฺมวินยานํ ¶ สภาคตฺถวเสน สงฺคเหตฺวา คายนํ กถนํ สงฺคีติ, มหาวิสยตฺตา ปูชนียตฺตา จ มหตี สงฺคีติ มหาสงฺคีติ. ทุติยาทึ อุปาทาย เจสา ‘‘ปมมหาสงฺคีตี’’ติ วุตฺตา. นิททาติ เทสนํ เทสกาลาทิวเสน อวิทิตํ วิทิตํ กตฺวา นิทสฺเสตีติ นิทานํ, ตตฺถ โกสลฺลตฺถํ.
เวเนยฺยานํ มคฺคผลุปฺปตฺติเหตุภูตาว กิริยา นิปฺปริยาเยน พุทฺธกิจฺจนฺติ อาห ‘‘ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนฺหิ อาทึ กตฺวา’’ติ. ตตฺถ สติปฏฺานาทิธมฺโม เอว ปวตฺตนฏฺเน จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกํ, จกฺกนฺติ วา อาณา, ตํ ธมฺมโต อนเปตตฺตา ธมฺมจกฺกํ, ธมฺเมน าเยน จกฺกนฺติปิ ธมฺมจกฺกํ. กตพุทฺธกิจฺเจติ นิฏฺิตพุทฺธกิจฺเจ ภควติ โลกนาเถติ สมฺพนฺโธ. กุสินารายนฺติ สมีปตฺเถ เอตํ ภุมฺมวจนํ. อุปวตฺตเน มลฺลานํ สาลวเนติ ตสฺส นครสฺส อุปวตฺตนภูตํ มลฺลราชูนํ สาลวนุยฺยานํ ทสฺเสติ. ตตฺถ นครํ ปวิสนฺตา อุยฺยานโต อุเปจฺจ วตฺตนฺติ คจฺฉนฺติ เอเตนาติ ‘‘อุปวตฺตน’’นฺติ อุยฺยานสฺส จ นครสฺส จ มชฺเฌ สาลวนํ วุจฺจติ. กุสินาราย หิ ทกฺขิณปจฺฉิมทิสาย ตํ อุยฺยานํ โหติ, ตโต อุยฺยานโต สาลวนราชิวิราชิโต มคฺโค ปาจีนาภิมุโข คนฺตฺวา นครสฺส ทกฺขิณทฺวาราภิมุโข อุตฺตเรน นิวตฺโต, เตน มคฺเคน มนุสฺสา นครํ ปวิสนฺติ, ตสฺมา ตํ ‘‘อุปวตฺตน’’นฺติ วุจฺจติ. ตตฺถ กิร อุปวตฺตเน อฺมฺสํสฏฺวิฏปานํ สมฺปนฺนฉายานํ สาลปนฺตีนมนฺตเร ภควโต ปรินิพฺพานมฺโจ ปฺตฺโต, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ยมกสาลานมนฺตเร’’ติ. อุปาทียติ กมฺมกิเลเสหีติ อุปาทิ, วิปากกฺขนฺธา กฏตฺตา จ รูปํ. ตเทว กมฺมกิเลเสหิ สมฺมา อปฺปหีนตาย เสโส, นตฺถิ เอตฺถ อุปาทิเสโสติ อนุปาทิเสสา, นิพฺพานธาตุ, ตาย. อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ ¶ จายํ กรณนิทฺเทโส. ปรินิพฺพาเนติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, ปรินิพฺพานเหตุ ตสฺมึ าเน สนฺนิปติตานนฺติ อตฺโถ. สงฺฆสฺส เถโร เชฏฺโ สงฺฆตฺเถโร. เอตฺถ จ สงฺฆสทฺทสฺส ภิกฺขุสตสหสฺสสทฺทสาเปกฺขตฺเตปิ คมกตฺตา เถรสทฺเทน สมาโส ยถา เทวทตฺตสฺส ครุกุลนฺติ. อายสฺมา มหากสฺสโป ธมฺมวินยสงฺคายนตฺถํ ภิกฺขูนํ อุสฺสาหํ ชเนสีติ สมฺพนฺโธ.
ตถา อุสฺสาหํ ชนนสฺส การณมาห สตฺตาหปรินิพฺพุเตติอาทิ. สตฺต อหานิ สมาหฏานิ สตฺตาหํ, สตฺตาหํ ปรินิพฺพุตสฺส อสฺสาติ สตฺตาหปรินิพฺพุโต, สตฺตาหปรินิพฺพุเต สุภทฺเทน วุฑฺฒปพฺพชิเตน วุตฺตวจนมนุสฺสรนฺโตติ สมฺพนฺโธ. อลํ, อาวุโสติอาทินา เตน วุตฺตวจนํ ทสฺเสติ. ตตฺถ อลนฺติ ปฏิกฺเขปวจนํ. เตน มหาสมเณนาติ นิสฺสกฺเก กรณวจนํ, ตโต มหาสมณโต สุฏฺุ มุตฺตา มยนฺติ อตฺโถ, อุปทฺทุตา จ โหม ตทาติ อธิปฺปาโย, โหมาติ วา อตีตตฺเถ วตฺตมานวจนํ, อหุมฺหาติ อตฺโถ. านํ โข ปเนตํ วิชฺชตีติ ติฏฺติ เอตฺถ ผลํ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ ¶ านํ, เหตุ. โขติ อวธารเณ, เอตํ การณํ วิชฺชเตว, โน น วิชฺชตีติ อตฺโถ. กึ ตํ การณนฺติ? อาห ยํ ปาปภิกฺขูติอาทิ. เอตฺถ ยนฺติ นิปาตมตฺตํ, การณนิทฺเทโส วา, เยน การเณน อนฺตรธาเปยฺยุํ, ตเทตํ การณํ วิชฺชตีติ อตฺโถ. อตีโต อติกฺกนฺโต สตฺถา เอตฺถ, เอตสฺสาติ วา อตีตสตฺถุกํ, ปาวจนํ. ปธานํ วจนํ ปาวจนํ, ธมฺมวินยนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปกฺขํ ลภิตฺวาติ อลชฺชีปกฺขํ ลภิตฺวา. น จิรสฺเสวาติ น จิเรเนว. ยาว จ ธมฺมวินโย ติฏฺตีติ ยตฺตกํ กาลํ ธมฺโม จ วินโย จ ลชฺชีปุคฺคเลสุ ติฏฺติ.
วุตฺตฺเหตํ ภควตาติ ปรินิพฺพานมฺเจ นิปนฺเนน ภควตา วุตฺตนฺติ อตฺโถ. เทสิโต ปฺตฺโตติ สุตฺตาภิธมฺมปิฏกสงฺคหิตสฺส ธมฺมสฺส เจว วินยปิฏกสงฺคหิตสฺส วินยสฺส จ อติสชฺชนํ ปโพธนํ เทสนา. ตสฺเสว ปการโต าปนํ อสงฺกรโต ปนํ ปฺาปนํ. โส โว มมจฺจเยน สตฺถาติ โส ธมฺมวินโย ตุมฺหากํ มมจฺจเยน สตฺถา มยิ ปรินิพฺพุเต สตฺถุกิจฺจํ สาเธสฺสติ. สาสนนฺติ ปริยตฺติปฏิปตฺติปฏิเวธวเสน ติวิธํ สาสนํ, นิปฺปริยายโต ปน สตฺตตฺตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา. อทฺธนิยนฺติ อทฺธานกฺขมํ, ตเทว จิรฏฺิติกํ อสฺส ภเวยฺยาติ สมฺพนฺโธ.
อิทานิ ¶ สมฺมาสมฺพุทฺเธน อตฺตโน กตํ อนุคฺคหวิเสสํ วิภาเวนฺโต อาห ยฺจาหํ ภควตาติอาทิ. ตตฺถ ยฺจาหนฺติ เอตสฺส อนุคฺคหิโตติ เอเตน สมฺพนฺโธ. ตตฺถ ยนฺติ ยสฺมา, เยน การเณนาติ วุตฺตํ โหติ. กิริยาปรามสนํ วา เอตํ, เตน อนุคฺคหิโตติ เอตฺถ อนุคฺคหณํ ปรามสติ. ธาเรสฺสสีติอาทิกํ ภควตา มหากสฺสปตฺเถเรน สทฺธึ จีวรปริวตฺตนํ กาตุกาเมน วุตฺตวจนํ. ธาเรสฺสสิ ปน เม ตฺวํ กสฺสปาติ ‘‘กสฺสป, ตฺวํ อิมานิ ปริโภคชิณฺณานิ ปํสุกูลานิ ปารุปิตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ วทติ, ตฺจ โข น กายพลํ สนฺธาย, ปฏิปตฺติปูรณํ ปน สนฺธาย เอวมาห. สาณานิ ปํสุกูลานีติ มตกเฬวรํ ปลิเวเตฺวา ฉฑฺฑิตานิ ตุมฺพมตฺเต กิมโย ปปฺโผเฏตฺวา คหิตานิ สาณวากมยานิ ปํสุกูลจีวรานิ. รถิกาทีนํ ยตฺถ กตฺถจิ ปํสูนํ อุปริ ิตตฺตา อพฺภุคฺคตฏฺเน เตสุ กูลมิวาติ ปํสุกูลํ. อถ วา ปํสุ วิย กุจฺฉิตภาวํ อุลติ คจฺฉตีติ ปํสุกูลนฺติ ปํสุกูลสทฺทสฺส อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. นิพฺพสนานีติ นิฏฺิตวสนกิจฺจานิ, ปริโภคชิณฺณานีติ อตฺโถ. เอกเมว ตํ จีวรํ อเนกาวยวตฺตา พหุวจนํ กตํ. สาธารณปริโภเคนาติ อตฺตนา สมานปริโภเคน, สาธารณปริโภเคน จ สมสมฏฺปเนน จ อนุคฺคหิโตติ สมฺพนฺโธ.
อิทานิ ¶ นวานุปุพฺพวิหารฉฬภิฺาปฺปเภเท อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม อตฺตนา สมสมฏฺปนตฺถาย ภควตา วุตฺตํ กสฺสปสํยุตฺเต (สํ. นิ. ๒.๑๕๒) อาคตํ ปาฬึ เปยฺยาลมุเขน อาทิคฺคหเณน จ สงฺขิปิตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห อหํ, ภิกฺขเวติอาทิ. ตตฺถ ยาวเท อากงฺขามีติ ยาวเทว อากงฺขามิ, ยตฺตกํ กาลํ อิจฺฉามีติ อตฺโถ, ‘‘ยาวเทวา’’ติปิ ปาโ. นวานุปุพฺพวิหารฉฬภิฺาปฺปเภเทติ เอตฺถ นวานุปุพฺพวิหาโร นาม อนุปฏิปาฏิยา สมาปชฺชิตพฺพภาวโต เอวํสฺิตา นิโรธสมาปตฺติยา สห อฏฺ รูปารูปสมาปตฺติโย. ฉฬภิฺา นาม อาสวกฺขยาเณน สทฺธึ ปฺจาภิฺาโย. อตฺตนา สมสมฏฺปเนนาติ ‘‘อหํ ยตฺตกํ กาลํ ยตฺตเก สมาปตฺติวิหาเร อภิฺาโย จ วฬฺเชมิ, ตถา กสฺสโปปี’’ติ เอวํ ยถาวุตฺตอุตฺตริมนุสฺสธมฺเม อตฺตนา สมสมํ กตฺวา ปเนน, อิทฺจ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสามฺเน เถรสฺส ปสํสามตฺเตน วุตฺตํ, น ¶ ภควตา สทฺธึ สพฺพถา สมตาย. ภควโต หิ คุณวิเสสํ อุปาทาย สาวกา ปจฺเจกพุทฺธา จ กลมฺปิ กลภาคมฺปิ น อุเปนฺติ, ตสฺส กิมฺํ อาณณฺยํ ภวิสฺสติ อฺตฺร ธมฺมวินยสงฺคายนาติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ ตสฺสาติ ตสฺส อนุคฺคหสฺส, ตสฺส เมติ วา อตฺโถ คเหตพฺโพ. โปตฺถเกสุ หิ เกสุจิ ‘‘ตสฺส เม’’ติ ปาโ ทิสฺสติ. อาณณฺยํ อณณภาโว. สกกวจอิสฺสริยานุปฺปทาเนนาติ เอตฺถ จีวรสฺส นิทสฺสนวเสน กวจสฺเสว คหณํ กตํ, สมาปตฺติยา นิทสฺสนวเสน อิสฺสริยํ คหิตํ.
อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ ปาฬิยา วิภาเวนฺโต อาห ยถาหาติอาทิ. ตตฺถ เอกมิทาหนฺติ เอตฺถ อิทนฺติ นิปาตมตฺตํ. เอกํ สมยนฺติ เอกสฺมึ สมเยติ อตฺโถ. ปาวายาติ ปาวานครโต. อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโนติ ทีฆมคฺคปฺปฏิปนฺโน. ทีฆปริยาโย เหตฺถ อทฺธานสทฺโท. สพฺพํ สุภทฺทกณฺฑํ วิตฺถารโต เวทิตพฺพนฺติ ปฺจสติกกฺขนฺธเก อาคตํ สุภทฺทกณฺฑํ อิธ อาเนตฺวา วิตฺถาเรตพฺพํ.
ตโต ปรนฺติ สุภทฺทกณฺฑโต ปรํ. สพฺพํ สุภทฺทกณฺฑํ วิตฺถารโต เวทิตพฺพนฺติ อิมินา ‘‘ยํ น อิจฺฉิสฺสาม, น ตํ กริสฺสามา’’ติ เอตํ ปริยนฺตํ สุภทฺทกณฺฑปาฬึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อวเสสํ อุสฺสาหชนนปฺปการปฺปวตฺตํ ปาฬิเมว ทสฺเสนฺโต หนฺท มยํ อาวุโสติอาทิมาห. ตตฺถ ปุเร อธมฺโม ทิปฺปตีติ เอตฺถ ‘‘อธมฺโม นาม ทสกุสลกมฺมปถปฏิปกฺขภูโต อธมฺโม’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนา) วุตฺตํ. ธมฺมสงฺคหณตฺถํ อุสฺสาหชนนปฺปสงฺคตฺตา ปน ธมฺมวินยานํ อสงฺคายนเหตุโทสคโณ สมฺภวติ, โส เอว เอตฺถ อธมฺโม ทิปฺปติ ตปฺปฏิปกฺโข ธมฺโม จ ปฏิพาหียตีติ วตฺตพฺพํ. อปิ จ ‘‘อธมฺมวาทิโน พลวนฺโต โหนฺติ ธมฺมวาทิโน ทุพฺพลา โหนฺตี’’ติ วุจฺจมานตฺตา เยน อธมฺเมน เต สุภทฺทวชฺชิปุตฺตกาทโย อธมฺมวาทิโน, เยน จ ธมฺเมน อิตเร ธมฺมวาทิโนว โหนฺติ. เตเยว อิธ ‘‘อธมฺโม’’ ¶ ‘‘ธมฺโม’’ติ จ วตฺตพฺพา. ตสฺมา สีลวิปตฺติอาทิเหตุโก ปาปิจฺฉตาทิโทสคโณ อธมฺโม, ตปฺปฏิปกฺโข สีลสมฺปทาทิเหตุโก อปฺปิจฺฉตาทิคุณสมูโห ธมฺโมติ จ คเหตพฺพํ. ปุเร ทิปฺปตีติ อปิ นาม ทิปฺปติ. อถ วา ยาว อธมฺโม ธมฺมํ ปฏิพาหิตุํ สมตฺโถ โหติ, ตโต ปุเรตรเมวาติ ¶ อตฺโถ. ทิปฺปตีติ ทิปฺปิสฺสติ. ปุเรสทฺทโยเคน หิ อนาคตตฺเถ อยํ วตฺตมานปฺปโยโค, ยถา ปุรา วสฺสติ เทโวติ. อวินโยติ ปหานวินยาทีนํ ปฏิปกฺขภูโต อวินโย.
เตน หีติ อุยฺโยชนตฺเถ นิปาโต. สกลนวงฺคสตฺถุสาสนปริยตฺติธเรติ สกลํ สุตฺตเคยฺยาทินวงฺคํ เอตฺถ, เอตสฺส วา อตฺถีติ สกลนวงฺคํ, สตฺถุสาสนํ. อตฺถกาเมน ปริยาปุณิตพฺพโต ทิฏฺธมฺมิกาทิปุริสตฺถปริยตฺติภาวโต จ ‘‘ปริยตฺตี’’ติ ตีณิ ปิฏกานิ วุจฺจนฺติ, ตํ สกลนวงฺคสตฺถุสาสนสงฺขาตํ ปริยตฺตึ ธาเรนฺตีติ สกลนวงฺคสตฺถุสาสนปอยตฺติธรา, ตาทิเสติ อตฺโถ. สมถภาวนาสิเนหาภาเวน สุกฺขา ลูขา อสินิทฺธา วิปสฺสนา เอเตสนฺติ สุกฺขวิปสฺสกา. ติปิฏกสพฺพปริยตฺติปฺปเภทธเรติ ติณฺณํ ปิฏกานํ สมาหาโร ติปิฏกํ, ตเทว นวงฺคาทิวเสน อเนกเภทภินฺนํ สพฺพํ ปริยตฺติปฺปเภทํ ธาเรนฺตีติ ติปิฏกสพฺพปริยตฺติปฺปเภทธรา.
กิสฺส ปนาติ กสฺมา ปน. สิกฺขตีติ เสกฺโข. ตเมวาห ‘‘สกรณีโย’’ติ. อุปริมคฺคตฺตยกิจฺจสฺส อปริโยสิตตฺตา สกิจฺโจติ อตฺโถ. อสฺสาติ อเนน. พหุการตฺตาติ พหุปการตฺตา. อสฺสาติ ภเวยฺย. อติวิย วิสฺสตฺโถติ อติวิย วิสฺสาสิโก. นนฺติ อานนฺทตฺเถรํ โอวทตีติ สมฺพนฺโธ. อานนฺทตฺเถรสฺส กทาจิ อสฺตาย นวกาย สทฺธิวิหาริกปริสาย ชนปทจาริกาจรณํ, เตสฺจ สทฺธิวิหาริกานํ เอกกฺขเณ อุปฺปพฺพชฺชนฺจ ปฏิจฺจ มหากสฺสปตฺเถโร ตํ นิคฺคณฺหนฺโต เอวมาห ‘‘น วายํ กุมารโก มตฺตมฺาสี’’ติ. เอตฺถ จ วา-สทฺโท ปทปูรโณ, อยํ กุมาโร อตฺตโน ปมาณํ น ปฏิชานาตีติ เถรํ ตชฺเชนฺโต อาห. ตตฺราติ เอวํ สติ.
กิฺจาปิ เสกฺโขติ อิทํ น เสกฺขานํ อคติคมนสพฺภาเวน วุตฺตํ, อเสกฺขานฺเว ปน อุจฺจินิตฺวา คหิตตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. ตสฺมา ‘‘กิฺจาปิ เสกฺโข, ตถาปิ เถโร อายสฺมนฺตมฺปิ อานนฺทํ อุจฺจินตู’’ติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ, น ปน กิฺจาปิ เสกฺโข, ตถาปิ อภพฺโพ อคตึ คนฺตุนฺติ โยเชตพฺพํ. อภพฺโพติอาทิ ปนสฺส สภาวกถนํ. ตตฺถ ¶ ฉนฺทาติ ฉนฺเทน สิเนเหน. อคตึ คนฺตุนฺติ อกตฺตพฺพํ กาตุํ. ปริยตฺโตติ อธีโต อุคฺคหิโต.
ราชคหํ ¶ โข มหาโคจรนฺติ เอตฺถ คาโว จรนฺติ เอตฺถาติ โคจโร, คุนฺนํ โคจรฏฺานํ. โคจโร วิยาติ โคจโร, ภิกฺขาจรณฏฺานํ. โส มหนฺโต อสฺสาติ มหาโคจรํ, ราชคหํ. อุกฺโกเฏยฺยาติ นิวาเรยฺย.
สตฺตสุ สาธุกีฬนทิวเสสูติ เอตฺถ สํเวควตฺถุํ กิตฺเตตฺวา กิตฺเตตฺวา สาธุกํ เอว ปูชาวเสน กีฬนโต สาธุกีฬนํ. อุปกฏฺาติ อาสนฺนา. วสฺสํ อุปเนติ อุปคจฺฉติ เอตฺถาติ วสฺสูปนายิกา.
ตตฺร สุทนฺติ ตสฺสํ สาวตฺถิยํ, สุทนฺติ นิปาตมตฺตํ. อุสฺสนฺนธาตุกนฺติ อุปจิตปิตฺตเสมฺหาทิธาตุกํ. สมสฺสาเสตุนฺติ สนฺตปฺเปตุํ. ทุติยทิวเสติ เชตวนวิหารํ ปวิฏฺทิวสโต ทุติยทิวเสติ วทนฺติ. วิริจฺจติ เอเตนาติ วิเรจนํ. โอสธปริภาวิตํ ขีรเมว วิเรจนนฺติ ขีรวิเรจนํ. ยํ สนฺธายาติ ยํ เภสชฺชปานํ สนฺธาย วุตฺตํ. เภสชฺชมตฺตาติ อปฺปมตฺตกํ เภสชฺชํ. อปฺปตฺโถ หิ อยํ มตฺตา-สทฺโท มตฺตา สุขปริจฺจาคาติอาทีสุ (ธ. ป. ๒๙๐) วิย.
ขณฺฑผุลฺลปฺปฏิสงฺขรณนฺติ เอตฺถ ขณฺฑนฺติ ฉินฺนํ, ผุลฺลนฺติ ภินฺนํ, เตสํ ปฏิสงฺขรณํ อภินวกรณํ.
ปริจฺเฉทวเสน เวทิยติ ทิสฺสตีติ ปริเวณํ. ตตฺถาติ เตสุ วิหาเรสุ ขณฺฑผุลฺลปฺปฏิสงฺขรณนฺติ สมฺพนฺโธ. ปมํ มาสนฺติ วสฺสานสฺส ปมํ มาสํ, อจฺจนฺตสํโยเค เจตํ อุปโยควจนํ. เสนาสนวตฺตานํ พหูนํ ปฺตฺตตฺตา, เสนาสนกฺขนฺธเก (จูฬว. ๒๙๔ อาทโย) เสนาสนปฏิพทฺธานํ พหูนํ กมฺมานํ วิหิตตฺตา ‘‘ภควตา…เป… วณฺณิต’’นฺติ วุตฺตํ.
ทุติยทิวเสติ ‘‘ขณฺฑผุลฺลปฺปฏิสงฺขรณํ กโรมา’’ติ จินฺติตทิวสโต ทุติยทิวเส. วสฺสูปนายิกทิวเสเยว เต เอวํ จินฺเตสุํ. สิริยา นิเกตนมิวาติ สิริยา นิวาสนฏฺานํ วิย. เอกสฺมึ ปานียติตฺเถ สนฺนิปตนฺตา ปกฺขิโน วิย สพฺเพสํ ชนานํ จกฺขูนิ มณฺฑเปเยว นิปตนฺตีติ วุตฺตํ ‘เอกนิปาตติตฺถมิว จ เทวมนุสฺสนยนวิหงฺคาน’’นฺติ. โลกรามเณยฺยกนฺติ โลเก รมณียภาวํ, รมณํ อรหตีติ วา โลกรามเณยฺยกํ ¶ . ทฏฺพฺพสารมณฺฑนฺติ ทฏฺพฺเพสุ สารํ ทฏฺพฺพสารํ, ตโต วิปฺปสนฺนนฺติ ทฏฺพฺพสารมณฺฑํ. อถ วา ทฏฺพฺโพ สารภูโต วิสิฏฺตโร มณฺโฑ ¶ มณฺฑนํ อลงฺกาโร เอตสฺสาติ ทฏฺพฺพสารมณฺโฑ, มณฺฑโป. มณฺฑํ สูริยรสฺมึ ปาติ นิวาเรตีติ มณฺฑโป. วิวิธานิ กุสุมทามานิ เจว มุตฺโตลมฺพกานิ จ วินิคฺคลนฺตํ วเมนฺตํ นิกฺขาเมนฺตมิว จารุ โสภนํ วิตานํ เอตฺถาติ วิวิธกุสุมทาโมลมฺพกวินิคฺคลนฺตจารุวิตาโน. นานาปุปฺผูปหารวิจิตฺตสุปรินิฏฺิตภูมิกมฺมตฺตา เอว ‘‘รตนวิจิตฺตมณิโกฏฺฏิมตลมิวา’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถ จ มณิโย โกฏฺเฏตฺวา กตตลํ มณิโกฏฺฏิมตลํ นาม, ตมิวาติ วุตฺตํ โหติ. อาสนารหนฺติ นิสีทนารหํ. ทนฺตขจิตนฺติ ทนฺเตหิ ขจิตํ.
อาวชฺเชสีติ อุปนาเมสิ. อนุปาทายาติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน กฺจิ ธมฺมํ อคฺคเหตฺวา. กถาโทโสติ กถาย อสจฺจํ นาม นตฺถิ.
ยถาวุฑฺฒนฺติ วุฑฺฒปฏิปาฏึ อนติกฺกมิตฺวา. เอเกติ มชฺฌิมภาณกานํเยว เอเก. ปุพฺเพ วุตฺตมฺปิ หิ สพฺพํ มชฺฌิมภาณกา วทนฺติเยวาติ เวทิตพฺพํ. ทีฆภาณกา ปน ‘‘ปทสาว เถโร สนฺนิปาตมาคโต’’ติ วทนฺติ. เตสุ เกจิ ‘‘อากาเสนา’’ติ, ‘‘เต สพฺเพปิ ตถา ตถา อาคตทิวสานมฺปิ อตฺถิตาย เอกเมกํ คเหตฺวา ตถา ตถา วทึสู’’ติ วทนฺติ.
กํ ธุรํ กตฺวาติ กํ เชฏฺกํ กตฺวา. พีชนึ คเหตฺวาติ เอตฺถ พีชนีคหณํ ปริสาย ธมฺมกถิกานํ หตฺถกุกฺกุจฺจวิโนทนมุขวิการปฏิจฺฉาทนตฺถํ ธมฺมตาวเสน อาจิณฺณนฺติ เวทิตพฺพํ. เตเนว หิ อจฺจนฺตสฺตปฺปตฺตา พุทฺธาปิ สาวกาปิ ธมฺมกถิกานํ ธมฺมตาทสฺสนตฺถเมว จิตฺตพีชนึ คณฺหนฺติ. ปมํ, อาวุโส อุปาลิ, ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺตนฺติ เอตฺถ กถํ สงฺคีติยา ปุพฺเพ ปมภาโว สิทฺโธติ? ปาติโมกฺขุทฺเทสานุกฺกมาทินา ปุพฺเพ ปมภาวสฺส สิทฺธตฺตา. เยภุยฺเยน หิ ตีณิ ปิฏกานิ ภควโต ธรมานกาเลเยว อิมินา อนุกฺกเมน สชฺฌายิตานิ, เตเนว กเมน ปจฺฉาปิ สงฺคีตานิ วิเสสโต วินยาภิธมฺมปิฏกานีติ ทฏฺพฺพํ. กิสฺมึ วตฺถุสฺมินฺติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ. อนฺตรา จ, ภนฺเต, ราชคหํ อนฺตรา จ นาฬนฺทนฺติ ราชคหสฺส จ นาฬนฺทาย จ อนฺตรา, วิวเร มชฺเฌติ อตฺโถ. อนฺตรา-สทฺเทน ปน ยุตฺตตฺตา ¶ อุปโยควจนํ กตํ. ราชาคารเกติ รฺโ กีฬนตฺถาย กเต อคารเก. อมฺพลฏฺิกายนฺติ รฺโ เอวํนามกํ อุยฺยานํ. เกน สทฺธินฺติ อิธ กสฺมา วุตฺตนฺติ? ยสฺมา ปเนตํ น ภควตา เอว วุตฺตํ, รฺาปิ กิฺจิ กิฺจิ วุตฺตมตฺถิ, ตสฺมา ‘‘กมารพฺภา’’ติ อวตฺวา เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เวเทหิปุตฺเตนาติ อยํ โกสลรฺโ ธีตาย ปุตฺโต, น วิเทหรฺโ ธีตาย. ยสฺมา มาตา ปนสฺส ปณฺฑิตา, ตสฺมา สา เวเทน าเณน อีหติ ฆฏติ วายมตีติ ‘‘เวเทหี’’ติ ปากฏนามา ชาตาติ เวทิตพฺพา.
เอวํ ¶ นิมิตฺตปโยชนกาลเทสเทสกการกกรณปฺปกาเรหิ ปมมหาสงฺคีตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตตฺถ ววตฺถาปิเตสุ ธมฺมวินเยสุ นานปฺปการโกสลฺลตฺถํ เอกวิธาทิเภเท ทสฺเสตุํ ตเทตํ สพฺพมฺปีติอาทิมาห. ตตฺถ อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธินฺติ เอตฺถ อนาวรณาณปทฏฺานํ มคฺคาณํ, มคฺคาณปทฏฺานฺจ อนาวรณาณํ ‘‘สมฺมาสมฺโพธี’’ติ วุจฺจติ. ปจฺจเวกฺขนฺเตน วาติ อุทานาทิวเสน ปวตฺตธมฺมํ สนฺธายาห. วิมุตฺติรสนฺติ อรหตฺตผลสฺสาทํ, วิมุตฺติสมฺปตฺติกํ วา อคฺคผลนิปฺผาทนโต, วิมุตฺติกิจฺจํ วา กิเลสานํ อจฺจนฺตวิมุตฺติสมฺปาทนโต. อวเสสํ พุทฺธวจนํ ธมฺโมติ เอตฺถ ยทิปิ ธมฺโม เอว วินโยปิ ปริยตฺติยาทิภาวโต, ตถาปิ วินยสทฺทสนฺนิธาเนน ภินฺนาธิกรณภาเวน ปยุตฺโต ธมฺม-สทฺโท วินยตนฺติวิรหิตํ ตนฺตึ ทีเปติ, ยถา ปฺุาณสมฺภาโร โคพลิพทฺทนฺติอาทิ.
อเนกชาติสํสารนฺติ อิมิสฺสา คาถาย อยํ สงฺเขปตฺโถ – อหํ อิมสฺส อตฺตภาวเคหสฺส การกํ ตณฺหาวฑฺฒกึ คเวสนฺโต เยน าเณน ตํ ทฏฺุํ สกฺกา, ตํ โพธิาณํ อนิพฺพิสํ อลภนฺโต เอว อภินีหารโต ปภุติ เอตฺตกํ กาลํ อเนกชาติสตสหสฺสสงฺขฺยํ อิมํ สํสารวฏฺฏํ สนฺธาวิสฺสํ สํสรึ, ยสฺมา ชราพฺยาธิมรณมิสฺสตาย ชาติ นาเมสา ปุนปฺปุนํ อุปคนฺตุํ ทุกฺขา, น จ สา ตสฺมึ อทิฏฺเ นิวตฺตติ, ตสฺมา ตํ คเวสนฺโต สนฺธาวิสฺสนฺติ อตฺโถ. ทิฏฺโสีติ อิทานิ มยา สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌนฺเตน ทิฏฺโ อสิ. ปุน เคหนฺติ ปุน อิมํ อตฺตภาวสงฺขาตํ มม เคหํ. น กาหสีติ น กริสฺสสิ. การณมาห สพฺพา เตติอาทิ. ตว สพฺพา อวเสสกิเลสผาสุกา มยา ภคฺคา. อิมสฺส ตยา กตสฺส อตฺตภาวเคหสฺส อวิชฺชาสงฺขาตํ กูฏํ กณฺณิกมณฺฑลํ ¶ วิสงฺขตํ วิทฺธํสิตํ. วิสงฺขารํ นิพฺพานํ อารมฺมณกรณวเสน คตํ มม จิตฺตํ. อหฺจ ตณฺหานํ ขยสงฺขาตํ อรหตฺตมคฺคผลํ อชฺฌคา ปตฺโตสฺมีติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘วิสงฺขารคตํ จิตฺตเมว ตณฺหานํ ขยํ อชฺฌคา’’ติ เอวมฺปิ อตฺถํ วทนฺติ.
เกจีติ ขนฺธกภาณกา. ปาฏิปททิวเสติ อิทํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อุปฺปนฺนาติ เอเตน สมฺพนฺธิตพฺพํ, น สพฺพฺุภาวปฺปตฺตสฺสาติ เอเตน. โสมนสฺสมยาเณนาติ โสมนสฺสสมฺปยุตฺตาเณน. อามนฺตยามีติ นิเวทยามิ, โพเธมีติ อตฺโถ. อนฺตเรติ อนฺตราเฬ, เวมชฺเฌติ อตฺโถ.
สุตฺตนฺตปิฏกนฺติ ยถา กมฺมเมว กมฺมนฺตํ, เอวํ สุตฺตเมว สุตฺตนฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อสงฺคีตนฺติ สงฺคีติกฺขนฺธก (จูฬว. ๔๓๗ อาทโย) กถาวตฺถุปฺปกรณาทิกํ. โสฬสหิ วาเรหิ ¶ อุปลกฺขิตตฺตา ‘‘โสฬส ปริวารา’’ติ วุตฺตํ. ตถา หิ ปริวารปาฬิยํ (ปริ. ๑ อาทโย) ปมํ ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺตนฺติอาทินา วุตฺตํ. ปฺตฺติวาโร กถาปตฺติวาโร วิปตฺติวาโร สงฺคหวาโร สมุฏฺานวาโร อธิกรณวาโร สมถวาโร สมุจฺจยวาโรติ อิเม อฏฺ วารา, ตทนนฺตรํ ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนปจฺจยา ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺต’’นฺติ (ปริ. ๑๘๘) เอวํ ปจฺจยมตฺตวิเสเสน ปุน วุตฺตา เตเยว อฏฺ วารา จาติ อิเมสํ โสฬสนฺนํ วารานํ วเสน ภิกฺขุวิภงฺคสฺส จ ภิกฺขุนีวิภงฺคสฺส จ ปกาสิตตฺตา โสฬสหิ วาเรหิ อุปลกฺขิโต ปริวาโร ‘‘โสฬสปริวาโร’’ติ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
ทฬฺหีกมฺมสิถิลกรณปฺปโยชนาติ อิทํ โลกวชฺชปณฺณตฺติวชฺเชสุ ยถากฺกมํ โยเชตพฺพํ. สฺมเวลํ อภิภวิตฺวา ปวตฺโต อาจาโร อชฺฌาจาโร, วีติกฺกโม. เตนาติ วิวิธนยตฺตาทิเหตุนา. เอตนฺติ วิวิธวิเสสนยตฺตาติอาทิคาถาวจนํ. เอตสฺสาติ วินยสฺส.
อิตรํ ปนาติ สุตฺตํ. อตฺตตฺถปรตฺถาทิเภเทติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกตฺเถ โลกิยโลกุตฺตราทิอตฺเถ จ สงฺคณฺหาติ. เวเนยชฺฌาสยานุโลเมน วุตฺตตฺตาติ วินยํ วิย อิสฺสรภาวโต อาณาปติฏฺาปนวเสน อเทเสตฺวา เวเนยฺยานํ อชฺฌาสยานุโลเมน จริตานุรูปํ วุตฺตตฺตา. อนุปุพฺพสิกฺขาทิวเสน อเทเสตฺวา เวเนยฺยานํ ¶ กาลนฺตเร อภินิพฺพตฺตึ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สสฺสมิว ผล’’นฺติ. อุปายสมงฺคีนํเยว นิปฺปชฺชนภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เธนุ วิย ขีร’’นฺติ อาห. น หิ เธนุํ วิสาณาทีสุ, อกาเล วา อวิชาตํ วา โทหนฺโต ขีรํ ปฏิลภติ.
ยนฺติ ยสฺมา. เอตฺถาติ อภิธมฺเม. อภิธมฺเมติ สุปินนฺเตน สุกฺกวิสฺสฏฺิยา อนาปตฺติภาเวปิ อกุสลเจตนา อุปลพฺภตีติอาทินา วินยปฺตฺติยา สงฺกรวิรหิเต ธมฺเม, ‘‘ปุพฺพาปรวิโรธาภาวโต สงฺกรวิรหิเต ธมฺเม’’ติปิ วทนฺติ. อารมฺมณาทีหีติ อารมฺมณสมฺปยุตฺตกมฺมทฺวารปฏิปทาทีหิ. ลกฺขณียตฺตาติ สฺชานิตพฺพตฺตา. ยํ ปเนตฺถ อวิสิฏฺนฺติ เอตฺถ วินยปิฏกนฺติอาทีสุ ตีสุ สทฺเทสุ ยํ อวิสิฏฺํ สมานํ, ตํ ปิฏกสทฺทนฺติ อตฺโถ. มา ปิฏกสมฺปทาเนนาติ ปาฬิสมฺปทานวเสน มา คณฺหิตฺถาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาวุตฺเตนาติ เอวํ ทุวิธตฺเถนาติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรน.
เทสนาสาสนกถาเภทนฺติ เอตฺถ เทสนาเภทํ สาสนเภทํ กถาเภทนฺติ เภทสทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. เภทนฺติ จ นานตฺตนฺติ อตฺโถ. เตสูติ ปิฏเกสุ. สิกฺขา จ ปหานานิ จ คมฺภีรภาโว ¶ จ สิกฺขาปหานคมฺภีรภาโว, ตฺจ ยถารหํ ปริทีปเยติ อตฺโถ. ปริยตฺติเภทนฺติ ปริยาปุณนเภทํ วิภาวเยติ สมฺพนฺโธ. ยหึ ยสฺมึ วินยาทิเก ยํ สมฺปตฺติฺจ วิปตฺติฺจ ยถา ปาปุณาติ, ตมฺปิ สพฺพํ วิภาวเยติ สมฺพนฺโธ. อถ วา ยํ ปริยตฺติเภทํ สมฺปตฺตึ วิปตฺติฺจ ยหึ ยถา ปาปุณาติ, ตมฺปิ สพฺพํ วิภาวเยติ โยเชตพฺพํ. ปริทีปนา วิภาวนา จาติ เหฏฺา คาถาสุ วุตฺตสฺส อนุรูปโต วุตฺตํ, อตฺถโต ปน เอกเมว.
อาณารเหนาติ อาณํ ปเณตุํ อรหตีติ อาณารโห, ภควา สมฺมาสมฺพุทฺธตฺตา. โส หิ มหาการุณิกตาย จ อวิปรีตโต เทสกภาเวน ปมาณวจนตฺตา จ อาณํ ปเณตุํ อรหติ. โวหารปรมตฺถานมฺปิ สมฺภวโต อาห ‘‘อาณาพาหุลฺลโต’’ติ. อิโต ปเรสุปิ เอเสว นโย. ปมนฺติ วินยปิฏกํ. ปจุราปราธา เสยฺยสกตฺเถราทโย. เต หิ โทสพาหุลฺลโต ‘‘ปจุราปราธา’’ติ วุตฺตา ¶ . ปจุโร พหุโก พหุโล อปราโธ โทโส วีติกฺกโม เยสนฺเต ปจุราปราธา. อเนกชฺฌาสยาติอาทีสุ อาสโยว อชฺฌาสโย, โส จ อตฺถโต ทิฏฺิ าณฺจ. จริยาติ ราคจริยาทิกา ฉ มูลจริยา. อถ วา จริยาติ จริตํ, ตํ สุจริตทุจฺจริตวเสน ทุวิธํ. อธิมุตฺติ นาม สตฺตานํ ปุพฺพปริจยวเสน อภิรุจิ, สา ทุวิธา หีนปณีตเภเทน. ยถานุโลมนฺติ อชฺฌาสยาทีนํ อนุรูปํ. ยถาธมฺมนฺติ ธมฺมสภาวานุรูปํ.
สํวราสํวโรติ เอตฺถ ขุทฺทโก มหนฺโต จ สํวโรติ อตฺโถ. วุฑฺฒิอตฺโถ เหตฺถ อ-กาโร. ทิฏฺิวินิเวนาติ ทิฏฺิยา วิโมจนํ. สุตฺตนฺตปาฬิยํ วิวิจฺเจว กาเมหีติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๒๖; สํ. นิ. ๒.๑๕๒) สมาธิเทสนาพาหุลฺลโต สุตฺตนฺตปิฏเก ‘‘อธิจิตฺตสิกฺขา’’ติ วุตฺตํ. วีติกฺกมปฺปหานํ กิเลสานนฺติ สํกิเลสธมฺมานํ, กมฺมกิเลสานํ วา โย กายวจีทฺวาเรหิ วีติกฺกโม, ตสฺส ปหานํ. อนุสยวเสน สนฺตานมนุวตฺตนฺตา กิเลสา ปริยุฏฺิตาปิ สีลเภทวเสน วีติกฺกมิตุํ น ลภนฺตีติ อาห ‘‘วีติกฺกมปฏิปกฺขตฺตา สีลสฺสา’’ติ. ปริยุฏฺานปฺปหานนฺติ โอกาสทานวเสน จิตฺเต กุสลปฺปวตฺตึ ปริยาทิยิตฺวา สมุปฺปตฺติวเสน านํ ปริยุฏฺานํ, ตสฺส ปหานํ. อนุสยปฺปหานนฺติ อริยมคฺเคน อปฺปหีนภาเวน สนฺตาเน การณลาเภ อุปฺปชฺชนารหา ถามคตา กามราคาทโย สตฺต กิเลสา สนฺตาเน อนุ อนุ สยนโต อนุสยา นาม, เตสํ ปหานํ.
ตทงฺคปฺปหานนฺติ เตน เตน ทานสีลาทิกุสลงฺเคน ตสฺส ตสฺส อกุสลงฺคสฺส ปหานํ ตทงฺคปฺปหานํ. ทุจฺจริตสํกิเลสสฺส ปหานนฺติ กายวจีทุจฺจริตเมว ยตฺถ อุปฺปชฺชติ, ตํ สนฺตานํ สมฺมา ¶ กิเลเสติ อุปตาเปตีติ สํกิเลโส, ตสฺส ตทงฺควเสน ปหานํ. สมาธิสฺส กามจฺฉนฺทปฏิปกฺขตฺตา สุตฺตนฺตปิฏเก ตณฺหาสํกิเลสสฺส ปหานํ วุตฺตํ. อตฺตาทิสฺุสภาวธมฺมปฺปกาสนโต อภิธมฺมปิฏเก ทิฏฺิสํกิเลสสฺส ปหานํ วุตฺตํ.
เอกเมกสฺมิฺเจตฺถาติ เอตฺถ เอเตสุ ตีสุ ปิฏเกสุ เอเกกสฺมึ ปิฏเกติ อตฺโถ. ธมฺโมติ ปาฬีติ เอตฺถ ธมฺมสฺส สีลาทิวิสิฏฺตฺถโยคโต, พุทฺธานํ สภาวนิรุตฺติภาวโต จ ปกฏฺานํ อุกฺกฏฺานํ วจนปฺปพนฺธานํ ¶ อาฬิ ปนฺตีติ ปาฬิ, ปริยตฺติธมฺโม. สมฺมุติปรมตฺถเภทสฺส อตฺถสฺส อนุรูปวาจกภาเวน ปรมตฺถสทฺเทสุ เอกนฺเตน ภควตา มนสา ววตฺถาปิโต นามปฺตฺติปฺปพนฺโธ ปาฬิธมฺโม นาม. เทสนาย ธมฺมสฺส จ โก วิเสโสติ เจ? ยถาวุตฺตนเยน มนสา ววตฺถาปิตธมฺมสฺส ปเรสํ โพธนภาเวน อติสชฺชนา วาจาย ปกาสนา ‘‘เทสนา’’ติ เวทิตพฺพา. เตนาห – ‘‘เทสนาติ ตสฺสา มนสา ววตฺถาปิตาย ปาฬิยา เทสนา’’ติ. ตทุภยมฺปิ ปน ปรมตฺถโต สทฺโท เอว ปรมตฺถวินิมุตฺตาย สมฺมุติยา อภาวา. อิมเมว นยํ คเหตฺวา เกจิ อาจริยา ‘‘ธมฺโม จ เทสนา จ ปรมตฺถโต สทฺโท เอวา’’ติ โวหรนฺติ, เตปิ อนุปวชฺชาเยว. ยถา ‘‘กามาวจรปฏิสนฺธิวิปากา ปริตฺตารมฺมณา’’ติ วุจฺจนฺติ, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. น หิ ‘‘กามาวจรปฏิสนฺธิวิปากา นิพฺพตฺติตปรมตฺถวิสยาเยวา’’ติ สกฺกา วตฺตุํ อิตฺถิปุริสาทิอาการปริวิตกฺกปุพฺพกานํ ราคาทิอกุสลานํ เมตฺตาทิกุสลานฺจ อารมฺมณํ คเหตฺวาปิ สมุปฺปชฺชนโต. ปรมตฺถธมฺมมูลกตฺตา ปนสฺส ปริกปฺปสฺส ปรมตฺถวิสยตา สกฺกา ปฺเปตุํ, เอวมิธาปีติ ทฏฺพฺพํ. ตีสุปิ เจเตสุ เอเต ธมฺมตฺถเทสนาปฏิเวธา คมฺภีราติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถ จ ปิฏกาวยวานํ ธมฺมาทีนํ วุจฺจมาโน คมฺภีรภาโว ตํสมุทายสฺส ปิฏกสฺสาปิ วุตฺโต เยวาติ ทฏฺพฺโพ. ทุกฺเขน โอคยฺหนฺติ, ทุกฺโข วา โอคาโห โอคาหนํ อนฺโตปวิสนเมเตสูติ ทุกฺโขคาหา. เอตฺถาติ เอเตสุ ปิฏเกสุ, นิทฺธารเณ เจตํ ภุมฺมวจนํ.
เหตุโน ผลํ เหตุผลํ. ธมฺมาภิลาโปติ อตฺถพฺยฺชนโก อวิปรีตาภิลาโป. วิสยโต อสมฺโมหโต จาติ โลกิยโลกุตฺตรานํ ยถากฺกมํ อวโพธปฺปการทสฺสนํ, เอตสฺส อวโพโธติ อิมินา สมฺพนฺโธ. โลกิโย หิ ธมฺมตฺถาทึ อาลมฺพิตฺวาว ปวตฺตนโต วิสยโต อวโพโธติ วุจฺจติ. โลกุตฺตโร ปน นิพฺพานารมฺมณตาย ตํ อนาลมฺพมาโนปิ ตพฺพิสยโมหวิทฺธํสเนน ธมฺมาทีสุ ปวตฺตนโต อสมฺโมหโต อวโพโธติ วุจฺจติ. อตฺถานุรูปํ ธมฺเมสูติ การิยานุรูปํ การเณสูติ อตฺโถ. ปฺตฺติปถานุรูปํ ปฺตฺตีสูติ ฉพฺพิธนามปฺตฺติยา ปโถ ปฺตฺติปโถ, ตสฺส อนุรูปํ ปฺตฺตีสูติ อตฺโถ.
ธมฺมชาตนฺติ ¶ ¶ การณปฺปเภโท การณเมว วา. อตฺถชาตนฺติ การิยปฺปเภโท, การิยเมว วา. ยา จายํ เทสนาติ สมฺพนฺโธ. โย เจตฺถาติ เอตาสุ ธมฺมตฺถเทสนาสุ โย ปฏิเวโธติ อตฺโถ. เอตฺถาติ เอเตสุ ตีสุ ปิฏเกสุ.
อลคทฺทูปมาติ เอตฺถ อลคทฺทสทฺเทน อลคทฺทคฺคหณํ วุจฺจติ วีณาวาทนํ วีณาติอาทีสุ วิย, คหณฺเจตฺถ ยถา ฑํสติ, ตถา ทุคฺคหณํ ทฏฺพฺพํ, อิตรคฺคหเณ วิโรธาภาวา. ตสฺมา อลคทฺทสฺส คหณํ อุปมา เอติสฺสาติ อลคทฺทูปมา. อลคทฺโทติ เจตฺถ อาสิวิโส วุจฺจติ. โส หิ อลํ ปริยตฺโต, ชีวิตหรณสมตฺโถ วา วิสสงฺขาโต คโท อสฺสาติ ‘‘อลํคโท’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘อลคทฺโท’’ติ วุจฺจติ.
วฏฺฏโต นิสฺสรณํ อตฺโถ ปโยชนํ เอติสฺสาติ นิสฺสรณตฺถา. ภณฺฑาคาริโก วิยาติ ภณฺฑาคาริโก, ธมฺมรตนานุปาลโก, ตสฺส อตฺถนิรเปกฺขสฺส ปริยตฺติ ภณฺฑาคาริกปริยตฺติ. ทุคฺคหิตานีติ ทุฏฺุ คหิตานิ. เตนาห ‘‘อุปารมฺภาทิเหตุ ปริยาปุฏา’’ติ. เอตฺถ จ อุปารมฺโภ นาม ปริยตฺตึ นิสฺสาย ปรวมฺภนํ. อาทิ-สทฺเทน อิติวาทปฺปโมกฺขลาภสกฺการาทึ สงฺคณฺหาติ. ยํ สนฺธายาติ ยํ ปริยตฺติทุคฺคหณํ สนฺธาย. วุตฺตนฺติ อลคทฺทูปมสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๒๓๘) วุตฺตํ. ตฺจสฺส อตฺถํ นานุโภนฺตีติ ตฺจ อสฺส ธมฺมสฺส สีลปริปูรณาทิสงฺขาตํ อตฺถํ เอเต ทุคฺคหิตคาหิโน นานุโภนฺติ น วินฺทนฺติ. ปฏิวิทฺธากุปฺโปติ ปฏิวิทฺธอรหตฺตผโล.
อิทานิ ตีสุ ปิฏเกสุ ยถารหํ สมฺปตฺติวิปตฺติโย นิทฺธาเรตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห วินเย ปนาติอาทิ. ตตฺถ ตาสํเยวาติ อวธารณํ ฉฬภิฺาจตุปฏิสมฺภิทานํ วินเย ปเภทวจนาภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. เวรฺชกณฺเฑ (ปารา. ๑๒) หิ ติสฺโส วิชฺชาว วิภตฺตา. ทุติเย ตาสํเยวาติ อวธารณํ จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา อเปกฺขิตฺวา กตํ ติสฺสนฺนมฺปิ วิชฺชานํ ฉสุ อภิฺาสุ อนฺโตปวิฏฺตฺตา. ตาสฺจาติ เอตฺถ จ-สทฺเทน เสสานมฺปิ ตตฺถ อตฺถิภาวํ ทีเปติ. อภิธมฺมปิฏเก หิ ติสฺโส วิชฺชา ฉ อภิฺา จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา จ วุตฺตา เอว. ปฏิสมฺภิทานํ ตตฺเถว สมฺมา วิภตฺตภาวํ ทีเปตุํ ตตฺเถวาติ อวธารณํ กตํ. อุปาทินฺนผสฺโสติ มคฺเคน มคฺคปฏิปาทนผสฺโส. เตสนฺติ เตสํ ปิฏกานํ. เอตนฺติ เอตํ พุทฺธวจนํ.
จตุตฺตึเสว ¶ สุตฺตนฺตาติ คาถาย อยมตฺถโยชนา – ยสฺส นิกายสฺส สุตฺตคณนโต จตุตฺตึเสว สุตฺตนฺตา วคฺคสงฺคหวเสน ตโย วคฺคา ยสฺส สงฺคหสฺสาติ ติวคฺโค สงฺคโห, เอส ปโม นิกาโย อิธ ทีฆนิกาโยติ. อนุโลมิโกติ อปจฺจนีโก, อตฺถานุโลมนโต อนฺวตฺถนาโมติ ¶ วุตฺตํ โหติ. เอกนิกายมฺปีติ เอกสมูหมฺปิ. เอวํ จิตฺตนฺติ เอวํ วิจิตฺตํ. ยถยิทนฺติ ยถา อิเม. โปณิกจิกฺขลฺลิกา ขตฺติยา, เตสํ นิวาโส ‘‘โปณิกนิกาโย จิกฺขลฺลิกนิกาโย’’ติ วุจฺจติ. ปฺจทสวคฺคปริคฺคโหติ ปฺจทสหิ วคฺเคหิ ปริคฺคหิโต. สุตฺตนฺตานํ สหสฺสานิ สตฺต สุตฺตสตานิ จาติ ปาเ สุตฺตนฺตานํ สตฺตสหสฺสานิ สตฺต สุตฺตสตานิ จาติ โยเชตพฺพํ. กตฺถจิ ปน ‘‘สตฺต สุตฺตสหสฺสานิ, สตฺต สุตฺตสตานิ จา’’ติ ปาโ. ปุพฺเพ นิทสฺสิตาติ สุตฺตนฺตปิฏกนิทฺเทเส นิทสฺสิตา.
เวทนฺติ าณํ. ตุฏฺินฺติ ปีตึ. ธมฺมกฺขนฺธวเสนาติ ธมฺมราสิวเสน. ทฺวาสีติสหสฺสานิ พุทฺธโต คณฺหินฺติ สมฺพนฺโธ. ทฺเว สหสฺสานิ ภิกฺขุโตติ ธมฺมเสนาปติอาทีนํ ภิกฺขูนํ สนฺติกา เตหิเยว เทสิตานิ ทฺเว สหสฺสานิ คณฺหึ. เมติ มม หทเย, อิติ อานนฺทตฺเถโร อตฺตานํ นิทฺทิสติ. เย ธมฺมา มม หทเย ปวตฺติโน, เต จตุราสีติสหสฺสานีติ โยชนา. อิทฺจ ภควโต ธรมานกาเล อุคฺคหิตธมฺมกฺขนฺธวเสน วุตฺตํ, ปรินิพฺพุเต ปน ภควติ อานนฺทตฺเถเรน เทสิตานํ สุภสุตฺต(ทอี. นิ. ๑.๔๔๔ อาทโย) โคปกโมคฺคลฺลานสุตฺตานํ (ม. นิ. ๓.๗๙ อาทโย), ตติยสงฺคีติยํ โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถเรน กถิตกถาวตฺถุปฺปกรณสฺส จ วเสน ธมฺมกฺขนฺธานํ จตุราสีติสหสฺสโตปิ อธิกตา เวทิตพฺพา.
เอกานุสนฺธิกํ สุตฺตนฺติ สติปฏฺานาทิ (ที. นิ. ๒.๓๗๒ อาทโย; ม. นิ. ๑.๑๐๕ อาทโย). อเนกานุสนฺธิกนฺติ ปรินิพฺพานสุตฺตาทิ (ที. นิ. ๒.๑๓๔ อาทโย). ตฺหิ นานาาเนสุ นานาธมฺมเทสนานํ วเสน ปวตฺตํ. ติกทุกภาชนํ ธมฺมสงฺคณิยํ นิกฺเขปกณฺฑ(ธ. ส. ๙๘๕ อาทโย) อฏฺกถากณฺฑวเสน (ธ. ส. ๑๓๘๔ อาทโย) คเหตพฺพํ. จิตฺตวารภาชนนฺติ อิทํ จิตฺตุปฺปาทกณฺฑวเสน (ธ. ส. ๑ อาทโย) วุตฺตํ. อตฺถิ วตฺถูติอาทีสุ วตฺถุ นาม สุทินฺนกณฺฑาทิ (ปารา. ๒๔ อาทโย). มาติกาติ สิกฺขาปทํ. อนฺตราปตฺตีติ สิกฺขาปทนฺตเรสุ อฺสฺมึ วตฺถุสฺมึ ปฺตฺตา อาปตฺติ. ติกจฺเฉโทติ ติกปาจิตฺติยาทิติกปริจฺเฉโท ¶ . พุทฺธวจนํ สงฺคหิตนฺติ สมฺพนฺโธ. อสฺสาติ พุทฺธวจนสฺส. สงฺคีติปริโยสาเน สาธุการํ ททมานา วิยาติ สมฺพนฺโธ. อจฺฉรํ ปหริตุํ ยุตฺตานิ อจฺฉริยานิ, ปุปฺผวสฺสเจลุกฺเขปาทีนิ. ยา ‘‘ปฺจสตา’’ติ จ ‘‘เถริกา’’ติ จ ปวุจฺจติ, อยํ ปมมหาสงฺคีติ นามาติ สมฺพนฺโธ.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
ปมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
ทุติยสงฺคีติกถาวณฺณนา
เอวํ ¶ ปมมหาสงฺคีตึ ทสฺเสตฺวา ยทตฺถํ สา อิธ ทสฺสิตา, ตํ นิคมนวเสน ทสฺเสนฺโต อิมิสฺสาติอาทิมาห. ตตฺรายํ อาจริยปรมฺปราติ ตสฺมึ ชมฺพุทีเป อยํ อาจริยานํ ปเวณี ปฏิปาฏิ. วิชิตาวิโนติ วิชิตสพฺพกิเลสปฏิปกฺขตฺตา วิชิตวนฺโต. ชมฺพุสิริวฺหเยติ ชมฺพุสทิโส สิริมนฺโต อวฺหโย นามํ ยสฺส ทีปสฺส, ตสฺมึ ชมฺพุทีเปติ วุตฺตํ โหติ. มหนฺเตน หิ ชมฺพุรุกฺเขน อภิลกฺขิตตฺตา ทีโปปิ ‘‘ชมฺพู’’ติ วุจฺจติ. อจฺฉิชฺชมานํ อวินสฺสมานํ กตฺวา. วินยวํสนฺติอาทีหิ ตีหิ วินยปาฬิเยว กถิตา ปริยายวจนตฺตา เตสํ. ปกตฺุตนฺติ เวยฺยตฺติยํ, ปฏุภาวนฺติ วุตฺตํ โหติ. ธุรคฺคาโหติ ปธานคฺคาหี, สพฺเพสํ ปาโมกฺโข หุตฺวา คณฺหีติ วุตฺตํ โหติ. ภิกฺขูนํ สมุทาโย สมูโห ภิกฺขุสมุทาโย.
ยทาติ นิพฺพายึสูติ สมฺพนฺโธ. โชตยิตฺวา จ สพฺพธีติ ตเมว สทฺธมฺมํ สพฺพตฺถ ปกาสยิตฺวา. ชุติมนฺโตติ ปฺาชุติยา ยุตฺตา, เตชวนฺโต วา, มหานุภาวาติ อตฺโถ. นิพฺพายึสูติ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา นิพฺพายึสุ. อนาลยาติ อสงฺคา.
อถาติ ปจฺฉา, ยทา ปรินิพฺพายึสุ, ตโต ปรนฺติ อตฺโถ. กปฺปติ สิงฺคีโลณกปฺโปติ เอตฺถ กปฺป-สทฺโท วิกปฺปตฺโถ, เตน สิงฺคีโลณวิกปฺโปปิ กปฺปติ. อิทมฺปิ ปกฺขนฺตรํ กปฺปตีติ อตฺโถ, เอวํ สพฺพตฺถ. ตตฺถ สิงฺเคน โลณํ ปริหริตฺวา อโลณกปิณฺฑปาเตน สทฺธึ ภฺุชิตุํ กปฺปติ ¶ , สนฺนิธึ น กโรตีติ อธิปฺปาโย. กปฺปติ ทฺวงฺคุลกปฺโปติ ทฺวงฺคุลํ อติกฺกนฺตาย ฉายาย วิกาเล โภชนํ ภฺุชิตุํ กปฺปตีติ อตฺโถ. กปฺปติ คามนฺตรกปฺโปติ ‘‘คามนฺตรํ คมิสฺสามี’’ติ ปวาริเตน อนติริตฺตโภชนํ ภฺุชิตุํ กปฺปตีติ อตฺโถ. กปฺปติ อาวาสกปฺโปติ เอกสีมาย นานาเสนาสเนสุ วิสุํ วิสุํ อุโปสถาทีนิ สงฺฆกมฺมานิ กาตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. กปฺปติ อนุมติกปฺโปติ ‘‘อนาคตานํ อาคตกาเล อนุมตึ คเหสฺสามา’’ติ เตสุ อนาคเตสุเยว วคฺเคน สงฺเฆน กมฺมํ กตฺวา ปจฺฉา อนุมตึ คเหตุํ กปฺปติ, วคฺคกมฺมํ น โหตีติ อธิปฺปาโย. กปฺปติ อาจิณฺณกปฺโปติ อาจริยุปชฺฌาเยหิ อาจิณฺโณ กปฺปตีติ อตฺโถ. โส ปน เอกจฺโจ กปฺปติ ธมฺมิโก, เอกจฺโจ น กปฺปติ อธมฺมิโกติ เวทิตพฺโพ. กปฺปติ อมถิตกปฺโปติ ยํ ขีรํ ขีรภาวํ วิชหิตํ ทธิภาวํ อสมฺปตฺตํ, ตํ ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อนติริตฺตํ ภฺุชิตุํ กปฺปตีติ อตฺโถ. กปฺปติ ชโฬคึ ปาตุนฺติ เอตฺถ ชโฬคีติ ตรุณสุรา, ยํ มชฺชสมฺภารํ เอกโต กตํ มชฺชภาวมสมฺปตฺตํ, ตํ ปาตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. ชาตรูปรชตนฺติ เอตฺถ สรสโต วิการํ อนาปชฺชิตฺวา สพฺพทา ชาตรูปเมว โหตีติ ชาตํ รูปํ ¶ เอตสฺสาติ ชาตรูปํ, สุวณฺณํ. ธวลสภาวตาย ราชตีติ รชตํ, รูปิยํ. สุสุนาคปุตฺโตติ สุสุนาคสฺส ปุตฺโต. กากณฺฑกปุตฺโตติ กากณฺฑกสฺส พฺราหฺมณสฺส ปุตฺโต. วชฺชีสูติ ชนปทนามตฺตา พหุวจนํ กตํ.
ตทหุโปสเถติ เอตฺถ ตทหูติ ตสฺมึ อหนิ. อุปวสนฺติ เอตฺถาติ อุโปสโถ, อุปวสนฺตีติ จ สีลสมาทาเนน วา อนสนาทินา วา อุเปตา หุตฺวา วสนฺตีติ อตฺโถ. กํสปาตินฺติ สุวณฺณปาตึ. มาสกรูปนฺติ มาสโก เอว. สพฺพํ ตาว วตฺตพฺพนฺติ อิมินา สตฺตสติกกฺขนฺธเก (จูฬว. ๔๔๖ อาทโย) อาคตา สพฺพาปิ ปาฬิ อิธ อาเนตฺวา วตฺตพฺพาติ ทสฺเสติ. สงฺคายิตสทิสเมว สงฺคายึสูติ สมฺพนฺโธ.
สา ปนายํ สงฺคีตีติ สมฺพนฺโธ. เตสูติ เตสุ สงฺคีติการเกสุ เถเรสุ. วิสฺสุตา เอเต สทฺธิวิหาริกา เยฺยาติ สมฺพนฺโธ. สาณสมฺภูโตติ สาณเทสวาสี สมฺภูตตฺเถโร. ทุติโย สงฺคโหติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. ปนฺนภาราติ ปติตกฺขนฺธภารา.
อพฺพุทนฺติ ¶ อุปทฺทวํ วทนฺติ. ‘‘ภควโต วจนํ เถเนตฺวา อตฺตโน วจนสฺส ทีปนโต อพฺพุทนฺติ โจรกมฺม’’นฺติ เอเก. อิทนฺติ วกฺขมานนิทสฺสนํ. สนฺทิสฺสมานา มุขา สมฺมุขา. ภาวิตมคฺคนฺติ อุปฺปาทิตชฺฌานํ. สาธุ สปฺปุริสาติ เอตฺถ สาธูติ อายาจนตฺเถ นิปาโต, ตํ ยาจามีติ อตฺโถ. หฏฺปหฏฺโติ ปุนปฺปุนํ สนฺตุฏฺโ. อุทคฺคุทคฺโคติ สรีรวิการุปฺปาทนปีติวเสน อุทคฺคุทคฺโค, ปีติมา หิ ปุคฺคโล กายจิตฺตานํ อุคฺคตตฺตา ‘‘อุทคฺคุทคฺโค’’ติ วุจฺจติ.
เตน โข ปน สมเยนาติ ยสฺมึ สมเย ทุติยํ สงฺคีตึ อกรึสุ, ตสฺมึ สมเยติ อตฺโถ. ตํ อธิกรณํ น สมฺปาปุณึสูติ ตํ วชฺชิปุตฺตเกหิ อุปฺปาทิตํ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตุํ น สมฺปาปุณึสุ นาคมึสุ. โน อหุวตฺถาติ สมฺพนฺโธ. ยาวตายุกํ ตฺวา ปรินิพฺพุตาติ สมฺพนฺโธ. กึ ปน กตฺวา เถรา ปรินิพฺพุตาติ? อาห ทุติยํ สงฺคหํ กตฺวาติอาทิ. อนิจฺจตาวสนฺติ อนิจฺจตาธีนตํ. ชมฺมินฺติ ลามกํ. ทุรภิสมฺภวํ อนภิภวนียํ อติกฺกมิตุํ อสกฺกุเณยฺยํ อนิจฺจตํ เอวํ ตฺวาติ สมฺพนฺโธ.
ทุติยสงฺคีติกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
ตติยสงฺคีติกถาวณฺณนา
สตฺต ¶ วสฺสานีติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. อติจฺฉถาติ อติกฺกมิตฺวา อิจฺฉถ, อิโต อฺตฺถ คนฺตฺวา ภิกฺขํ ปริเยสถาติ อตฺโถ. ภตฺตวิสฺสคฺคกรณตฺถายาติ ภตฺตสฺส อชฺโฌหรณกิจฺจตฺถาย, ภฺุชนตฺถายาติ อตฺโถ. ‘‘โสฬสวสฺโส’’ติ อุทฺเทโส กถนํ อสฺส อตฺถีติ โสฬสวสฺสุทฺเทสิโก, ‘‘โสฬสวสฺสิโก’’ติ อตฺโถ.
ตีสุ เวเทสูติอาทีสุ อิรุเวทยชุเวทสามเวทสงฺขาเตสุ ตีสุ เวเทสุ. ตโย เอว กิร เวทา อฏฺกาทีหิ ธมฺมิเกหิ อิสีหิ โลกสฺส สคฺคมคฺควิภาวนตฺถาย กตา. เตเนว หิ เต เตหิ วุจฺจนฺติ. อาถพฺพณเวโท ปน ปจฺฉา อธมฺมิเกหิ พฺราหฺมเณหิ ปาณวธาทิอตฺถาย กโต. ปุริเมสุ จ ตีสุ เวเทสุ เตเหว ธมฺมิกสาขาโย อปเนตฺวา ยาควธาทิทีปิกา อธมฺมิกสาขา ปกฺขิตฺตาติ เวทิตพฺพา. นิฆณฺฑูติ รุกฺขาทีนํ เววจนปฺปกาสกํ ปริยายนามานุรูปํ สตฺถํ. ตฺหิ โลเก ‘‘นิฆณฺฑู’’ติ ¶ วุจฺจติ. เกฏุภนฺติ กิฏติ คเมติ กิริยาทิวิภาคนฺติ เกฏุภํ, กิริยากปฺปวิกปฺโป กวีนํ อุปการสตฺถํ. เอตฺถ จ กิริยากปฺปวิกปฺโปติ วจีเภทาทิลกฺขณา กิริยา กปฺปียติ วิกปฺปียติ เอเตนาติ กิริยากปฺโป, โส ปน วณฺณปทพนฺธปทตฺถาทิวิภาคโต พหุวิกปฺโปติ ‘‘กิริยากปฺปวิกปฺโป’’ติ วุจฺจติ. อิทฺจ มูลกิริยากปฺปคนฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. สห นิฆณฺฑุนา เกฏุเภน จ สนิฆณฺฑุเกฏุภา, ตโย เวทา, เตสุ สนิฆณฺฑุเกฏุเภสุ. านกรณาทิวิภาคโต จ นิพฺพจนวิภาคโต จ อกฺขรา ปเภทียนฺติ เอเตนาติ อกฺขรปฺปเภโท, สิกฺขา จ นิรุตฺติ จ. สห อกฺขรปฺปเภเทนาติ สากฺขรปฺปเภทา, เตสุ สากฺขรปฺปเภเทสุ. อาถพฺพณเวทํ จตุตฺถํ กตฺวา ‘‘อิติห อาส อิติห อาสา’’ติ อีทิสวจนปฏิสํยุตฺโต โปราณกถาสงฺขาโต อิติหาโส ปฺจโม เอเตสนฺติ อิติหาสปฺจมา, ตโย เวทา, เตสุ อิติหาสปฺจเมสุ.
ยสฺส จิตฺตนฺติอาทิ ปฺหทฺวยํ ขีณาสวานํ จุติจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ ปมปฺเห อุปฺปชฺชตีติ อุปฺปาทกฺขณสมงฺคิตาย อุปฺปชฺชติ. น นิรุชฺฌตีติ นิโรธกฺขณํ อปฺปตฺตตาย น นิรุชฺฌติ. ตสฺส จิตฺตนฺติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส ตํ จิตฺตํ กึ นิรุชฺฌิสฺสติ อายติฺจ นุปฺปชฺชิสฺสตีติ ปุจฺฉา, ตสฺสา จ วิภชฺชพฺยากรณียตาย เอวเมตฺถ วิสฺสชฺชนํ เวทิตพฺพํ. อรหโต ปจฺฉิมจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ตสฺส จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, น นิรุชฺฌติ, อายติฺจ นุปฺปชฺชิสฺสติ, อวสฺสเมว นิโรธกฺขณํ ปตฺวา นิรุชฺฌิสฺสติ, ตโต อปฺปฏิสนฺธิกตฺตา อฺํ นุปฺปชฺชิสฺสติ. เปตฺวา ปน ปจฺฉิมจิตฺตสมงฺคึ ขีณาสวํ อิตเรสํ อุปฺปาทกฺขณสมงฺคิจิตฺตํ ¶ อุปฺปาทกฺขณสมงฺคิตาย อุปฺปชฺชติ ภงฺคํ อปฺปตฺตตาย น นิรุชฺฌติ, ภงฺคํ ปน ปตฺวา นิรุชฺฌิสฺสเตว, อฺํ ปน ตสฺมึ วา อฺสฺมึ วา อตฺตภาเว อุปฺปชฺชิสฺสติ เจว นิรุชฺฌิสฺสติ จาติ. ยสฺส วา ปนาติอาทิ ทุติยปฺเห ปน นิรุชฺฌิสฺสติ นุปฺปชฺชิสฺสตีติ ยสฺส จิตฺตํ อุปฺปาทกฺขณสมงฺคิตาย ภงฺคกฺขณํ ปตฺวา นิรุชฺฌิสฺสติ อปฺปฏิสนฺธิกตาย นุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺส ขีณาสวสฺส ตํ จิตฺตํ กึ อุปฺปชฺชติ น นิรุชฺฌตีติ ปุจฺฉา, ตสฺสา เอกํสพฺยากรณียตาย ‘‘อามนฺตา’’ติ วิสฺสชฺชนํ เวทิตพฺพํ. อุทฺธํ วา อโธ วา หริตุํ อสกฺโกนฺโตติ อุปริมปเท วา เหฏฺิมปทํ เหฏฺิมปเท วา อุปริมปทํ อตฺถโต สมนฺนาหริตุํ ฆเฏตุํ ปุพฺเพนาปรํ โยเชตฺวา อตฺถํ ปริจฺฉินฺทิตุํ อสกฺโกนฺโตติ อตฺโถ.
โสตาปนฺนานํ ¶ สีเลสุ ปริปูรการิตาย สมาทินฺนสีลโต นตฺถิ ปริหานีติ อาห ‘‘อภพฺโพ ทานิ สาสนโต นิวตฺติตุ’’นฺติ. วฑฺเฒตฺวาติ อุปริมคฺคตฺถาย กมฺมฏฺานํ วฑฺเฒตฺวา. ทนฺเต ปุนนฺติ วิโสเธนฺติ เอเตนาติ ทนฺตโปนํ วุจฺจติ ทนฺตกฏฺํ. อภินวานํ อาคนฺตุกานํ ลชฺชีสภาวํ ขนฺติเมตฺตาทิคุณสมงฺคิตฺจ กติปาหํ สุฏฺุ วีมํสิตฺวาว หตฺถกมฺมาทิสมฺปฏิจฺฉนํ สงฺคหกรณฺจ ยุตฺตนฺติ สามเณรสฺส เจว อฺเสฺจ ภิกฺขูนํ ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺตานํ าปนตฺถํ เถโร ตสฺส ภพฺพรูปตํ อภิฺาย ตฺวาปิ ปุน สมฺมชฺชนาทึ อกาสิ. ‘‘ตสฺส จิตฺตทมนตฺถ’’นฺติปิ วทนฺติ. พุทฺธวจนํ ปฏฺเปสีติ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหาเปตุํ อารภิ. สกลวินยาจารปฏิปตฺติ อุปสมฺปนฺนานเมว วิหิตาติ ตปฺปริยาปุณนมปิ เตสฺเว อนุรูปนฺติ อาห ‘‘เปตฺวา วินยปิฏก’’นฺติ. ตสฺส จิตฺเต ปิตมฺปิ พุทฺธวจนํ สงฺโคปนตฺถาย นิยฺยาติตภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘หตฺเถ ปติฏฺาเปตฺวา’’ติ วุตฺตํ.
เอกรชฺชาภิเสกนฺติ สกลชมฺพุทีเป เอกาธิปจฺจวเสน กริยมานํ อภิเสกํ. ราชิทฺธิโยติ ราชานุภาวานุคตปฺปภาวา. ยโตติ ยโต โสฬสฆฏโต. เทวตา เอว ทิวเส ทิวเส อาหรนฺตีติ สมฺพนฺโธ. เทวสิกนฺติ ทิวเส ทิวเส. อคทามลกนฺติ อปฺปเกเนว สรีรโสธนาทิสมตฺถํ สพฺพโทสหรํ โอสธามลกํ. ฉทฺทนฺตทหโตติ ฉทฺทนฺตทหสมีเป ิตเทววิมานโต, กปฺปรุกฺขโต วา, ตตฺถ ตาทิสา กปฺปรุกฺขวิเสสา สนฺติ, ตโต วา อาหรนฺตีติ อตฺโถ. อสุตฺตมยิกนฺติ สุตฺเตหิ อพทฺธํ ทิพฺพสุมนปุปฺเผเหว กตํ สุมนปุปฺผปฏํ. อุฏฺิตสฺส สาลิโนติ สยํชาตสาลิโน, สมุทายาเปกฺขฺเจตฺถ เอกวจนํ, สาลีนนฺติ อตฺโถ. นว วาหสหสฺสานีติ เอตฺถ จตสฺโส มุฏฺิโย เอโก กุฑุโว, จตฺตาโร กุฑุวา เอโก ปตฺโถ, จตฺตาโร ปตฺถา เอโก อาฬฺหโก, จตฺตาโร อาฬฺหกา เอกํ โทณํ, จตฺตาริ โทณานิ เอกา มานิกา ¶ , จตสฺโส มานิกา เอกา ขารี, วีสติ ขาริกา เอโก วาโห, ตเทว ‘‘เอกํ สกฏ’’นฺติ สุตฺตนิปาตฏฺกถาทีสุ (สุ. นิ. อฏฺ. ๒.โกกาลิกสุตฺตวณฺณนา) วุตฺตํ. นิตฺถุสกเณ กโรนฺตีติ ถุสกุณฺฑกรหิเต กโรนฺติ. เตน นิมฺมิตํ พุทฺธรูปํ ปสฺสนฺโตติ สมฺพนฺโธ. ปฺุปฺปภาวนิพฺพตฺตคฺคหณํ นาคราชนิมฺมิตานํ ปฺุปฺปภาวนิพฺพตฺเตหิ สทิสตาย กตํ. วิมลเกตุมาลาติ เอตฺถ เกตุมาลา นาม สีสโต นิกฺขมิตฺวา อุปริมุทฺธนิ ปฺุโช หุตฺวา ทิสฺสมานรสฺมิราสีติ วทนฺติ.
พาหิรกปาสณฺฑนฺติ ¶ พาหิรกปฺปเวทิตํ สมยวาทํ. ปริคฺคณฺหีติ วีมํสมาโน ปริคฺคเหสิ. ภทฺทปีเกสูติ เวตฺตมยปีเสุ. สาโรติ คุณสาโร. สีหปฺชเรติ มหาวาตปานสมีเป. กิเลสวิปฺผนฺทรหิตจิตฺตตาย ทนฺตํ. นิจฺจํ ปจฺจุปฏฺิตสตารกฺขตาย คุตฺตํ. ขุรคฺเคเยวาติ เกโสโรปนาวสาเน. อติวิย โสภตีติ สมฺพนฺโธ. วาณิชโก อโหสีติ มธุวาณิชโก อโหสิ.
ปุพฺเพ ว สนฺนิวาเสนาติ ปุพฺเพ วา ปุพฺพชาติยํ วา สหวาเสนาติ อตฺโถ. ปจฺจุปฺปนฺนหิเตน วาติ วตฺตมานภเว หิตจรเณน วา. เอวํ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ ตํ สิเนหสงฺขาตํ เปมํ ชายเต. กึ วิยาติ? อาห ‘‘อุปฺปลํ ว ยโถทเก’’ติ. อุปฺปลํ วาติ รสฺสกโต วา-สทฺโท อวุตฺตสมฺปิณฺฑนตฺโถ. ยถา-สทฺโท อุปมายํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา อุปฺปลฺจ เสสฺจ ปทุมาทิ อุทเก ชายมานํ ทฺเว การณานิ นิสฺสาย ชายติ อุทกฺเจว กลลฺจ, เอวํ เปมมฺปีติ (ชา. อฏฺ. ๒.๒.๑๗๔).
ธุวภตฺตานีติ นิจฺจภตฺตานิ. วชฺชาวชฺชนฺติ ขุทฺทกํ มหนฺตฺจ วชฺชํ. โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถรสฺส ภารมกาสีติ เถรสฺส มหานุภาวตํ, ตทา สาสนกิจฺจสฺส นายกภาเวน สงฺฆปริณายกตฺจ รฺโ าเปตุํ สงฺโฆ ตสฺส ภารมกาสีติ เวทิตพฺพํ, น อฺเสํ อชานนตาย. สาสนสฺส ทายาโทติ สาสนสฺส อพฺภนฺตโร าตโก โหมิ น โหมีติ อตฺโถ. เย สาสเน ปพฺพชิตุํ ปุตฺตธีตโร ปริจฺจชนฺติ, เต พุทฺธสาสเน สาโลหิตาตกา นาม โหนฺติ, สกลสาสนธารเณ สมตฺถานํ อตฺตโน โอรสปุตฺตานํ ปริจฺจตฺตตฺตา น ปจฺจยมตฺตทายกาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย เถโร ‘‘น โข, มหาราช, เอตฺตาวตา สาสนสฺส ทายาโท โหตี’’ติ อาห. กถฺจรหีติ เอตฺถ จรหีติ นิปาโต อกฺขนฺตึ ทีเปติ. ติสฺสกุมารสฺสาติ รฺโ เอกมาตุกสฺส กนิฏฺสฺส. สกฺขสีติ สกฺขิสฺสสิ. สิกฺขาย ปติฏฺาเปสุนฺติ ปาณาติปาตา เวรมณิอาทีสุ วิกาลโภชนา เวรมณิปริโยสานาสุ ฉสุ สิกฺขาสุ ปาณาติปาตา เวรมณึ ทฺเว ¶ วสฺสานิ อวีติกฺกมฺม สมาทานํ สมาทิยามีติอาทินา (ปาจิ. ๑๐๗๙) สมาทานวเสน สิกฺขาสมฺมุติทานานนฺตรํ สิกฺขาย ปติฏฺาเปสุํ. ฉ วสฺสานิ อภิเสกสฺส อสฺสาติ ฉวสฺสาภิเสโก.
สพฺพํ ¶ เถรวาทนฺติ ทฺเว สงฺคีติโย อารุฬฺหา ปาฬิ. สา หิ มหาสงฺฆิกาทิภินฺนลทฺธิกาหิ วิเวเจตุํ ‘‘เถรวาโท’’ติ วุตฺตา. อยฺหิ วิภชฺชวาโท มหากสฺสปตฺเถราทีหิ อสงฺกรโต รกฺขิโต อานีโต จาติ ‘‘เถรวาโท’’ติ วุจฺจติ, ‘‘สเถรวาท’’นฺติปิ ลิขนฺติ. ตตฺถ ‘‘อฏฺกถาสุ อาคตเถรวาทสหิตํ สาฏฺกถํ ติปิฏกสงฺคหิตํ พุทฺธวจน’’นฺติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวาติ เตโชกสิณารมฺมณํ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา.
สภายนฺติ นครมชฺเฌ วินิจฺฉยสาลายํ. ทิฏฺิคตานีติ ทิฏฺิโยว. น โข ปเนตํ สกฺกา อิเมสํ มชฺเฌ วสนฺเตน วูปสเมตุนฺติ เตสฺหิ มชฺเฌ วสนฺโต เตสุเยว อนฺโตคธตฺตา อาเทยฺยวจโน น โหติ, ตสฺมา เอวํ จินฺเตสิ. อโหคงฺคปพฺพตนฺติ เอวํนามกํ ปพฺพตํ. ‘‘อโธคงฺคาปพฺพต’’นฺติปิ ลิขนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. ปฺจาตเปน ตปฺเปนฺตีติ จตูสุ าเนสุ อคฺคึ ชาเลตฺวา มชฺเฌ ตฺวา สูริยมณฺฑลํ อุลฺโลเกนฺตา สูริยาตเปน ตปฺเปนฺติ. อาทิจฺจํ อนุปริวตฺตนฺตีติ อุทยกาลโต ปภุติ สูริยํ โอโลกยมานา ยาว อตฺถงฺคมนา สูริยาภิมุขาว ปริวตฺตนฺติ. โวภินฺทิสฺสามาติ ปคฺคณฺหึสูติ วินาเสสฺสามาติ อุสฺสาหมกํสุ.
วิสฺสฏฺโติ มรณสงฺการหิโต, นิพฺภโยติ อตฺโถ. มิควํ นิกฺขมิตฺวาติ อรฺเ วิจริตฺวา มิคมารณกีฬา มิควํ, ตํ อุทฺทิสฺส นิกฺขมิตฺวา มิควธตฺถํ นิกฺขมิตฺวาติ อตฺโถ. อหินาคาทิโต วิเสสนตฺถํ ‘‘หตฺถินาเคนา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสวาติ อนาทเร สามิวจนํ, ตสฺมึ ปสฺสนฺเตเยวาติ อตฺโถ. อากาเส อุปฺปติตฺวาติ เอตฺถ อยํ วิกุพฺพนิทฺธิ น โหตีติ คิหิสฺสาปิ อิมํ อิทฺธึ ทสฺเสสิ อธิฏฺานิทฺธิยา อปฺปฏิกฺขิตฺตตฺตา. ปกติวณฺณฺหิ วิชหิตฺวา นาควณฺณาทิทสฺสนํ วิกุพฺพนิทฺธิ. ฉณเวสนฺติ อุสฺสวเวสํ. ปธานฆรนฺติ ภาวนานุโยควเสน วีริยารมฺภสฺส อนุรูปํ วิวิตฺตเสนาสนํ. โสปีติ รฺโ ภาคิเนยฺยํ สนฺธาย วุตฺตํ.
กุสลาธิปฺปาโยติ มนาปชฺฌาสโย. ทฺเวฬฺหกชาโตติ สํสยมาปนฺโน. เอเกกํ ภิกฺขุสหสฺสปริวารนฺติ เอตฺถ ‘‘คณฺหิตฺวา อาคจฺฉถา’’ติ อาณากาเรน วุตฺเตปิ เถรา ภิกฺขู สาสนหิตตฺตา คตา. กปฺปิยสาสนฺเหตํ, น คิหีนํ คิหิกมฺมปฏิสํยุตฺตํ. เถโร นาคจฺฉีติ กิฺจาปิ ¶ ‘‘ราชา ¶ ปกฺโกสตี’’ติ วุตฺเตปิ ธมฺมกมฺมตฺถาย อาคนฺตุํ วฏฺฏติ, ทฺวิกฺขตฺตุํ ปน เปสิเตปิ ‘‘อนนุรูปา ยาจนา’’ติ นาคโต, ‘‘มหานุภาโว เถโร ยถานุสิฏฺํ ปฏิปตฺติโก ปมาณภูโต’’ติ รฺโ เจว อุภยปกฺขิกานฺจ อตฺตนิ พหุมานุปฺปาทนวเสน อุทฺธํ กตฺตพฺพกมฺมสิทฺธึ อากงฺขนฺโต อสารุปฺปวจนเลเสน นาคจฺฉิ. เอกโต สงฺฆฏิตา นาวา นาวาสงฺฆาฏํ. สาสนปจฺจตฺถิกานํ พหุภาวโต อาห ‘‘อารกฺขํ สํวิธายา’’ติ. ยนฺติ ยสฺมา. อพฺพาหึสูติ อากฑฺฒึสุ. พาหิรโตติ อุยฺยานสฺส พาหิรโต. ปสฺสนฺตานํ อติทุกฺกรภาเวน อุปฏฺานํ สนฺธาย ‘‘ปเทสปถวีกมฺปนํ ทุกฺกร’’นฺติ อาห. อธิฏฺาเน ปเนตฺถ วิสุํ ทุกฺกรตา นาม นตฺถิ.
ทีปกติตฺติโรติ สากุณิเกหิ สมชาติกานํ คหณตฺถาย โปเสตฺวา สิกฺเขตฺวา ปาสฏฺาเน ปนกติตฺติโร. น ปฏิจฺจ กมฺมํ ผุสตีติ คาถาย ยทิ ตว ปาปกิริยาย มโน นปฺปทุสฺสติ, ลุทฺเทน ตํ นิสฺสาย กตมฺปิ ปาปกมฺมํ ตํ น ผุสติ. ปาปกิริยาย หิ อปฺโปสฺสุกฺกสฺส นิราลยสฺส ภทฺรสฺส สโต ตว ตํ ปาปํ น อุปลิมฺปติ, ตว จิตฺตํ น อลฺลียตีติ อตฺโถ.
กึ วทติ สีเลนาติ กึวาที. อถ วา โก กตโม วาโท กึวาโท, โส เอตสฺส อตฺถีติ กึวาที. อตฺตานฺจ โลกฺจ สสฺสโตติ วาโท เอเตสนฺติ สสฺสตวาทิโน. สตฺเตสุ สงฺขาเรสุ วา เอกจฺจํ สสฺสตนฺติ ปวตฺโต วาโท เอกจฺจสสฺสโต, ตสฺมึ นิยุตฺตา เอกจฺจสสฺสติกา. ‘‘อนฺโต, อนนฺโต, อนฺตานนฺโต, เนวนฺโต นานนฺโต’’ติ เอวํ อนฺตานนฺตํ อารพฺภ ปวตฺตา จตฺตาโร วาทา อนฺตานนฺตา, เตสุ นิยุตฺตา อนฺตานนฺติกา. น มรติ น อุปจฺฉิชฺชตีติ อมรา, เอวนฺติปิ เม โน, ตถาติปิ เม โนติอาทินา (ที. นิ. ๑.๖๒) ปวตฺตา ทิฏฺิ เจว วาจา จ, ตสฺสา วิกฺเขโป เอเตสนฺติ อมราวิกฺเขปิกา. อถ วา อมรา นาม มจฺฉชาติ ทุคฺคหา โหติ, ตสฺสา อมราย วิย วิกฺเขโป เอเตสนฺติ อมราวิกฺเขปิกา. อธิจฺจ ยทิจฺฉกํ ยํ กิฺจิ การณํ อนเปกฺขิตฺวา สมุปฺปนฺโน อตฺตา จ โลโก จาติ วาเท นิยุตฺตา อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา. สฺี อตฺตาติ วาโท เยสนฺเต สฺีวาทา. เอวํ อสฺีวาทา เนวสฺีนาสฺีวาทาติ เอตฺถาปิ. ‘‘กายสฺส เภทา สตฺโต อุจฺฉิชฺชตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๘๕-๘๖) เอวํ ¶ อุจฺเฉทํ วทนฺตีติ อุจฺเฉทวาทา. ทิฏฺธมฺโมติ ปจฺจกฺโข ยถาสกํ อตฺตภาโว, ตสฺมึเยว ยถากามํ ปฺจกามคุณปริโภเคน นิพฺพานํ ทุกฺขูปสมํ วทนฺตีติ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา. วิภชิตฺวา วาโท เอตสฺสาติ วิภชฺชวาที, ภควา. สพฺพํ เอกรูเปน อวตฺวา ยถาธมฺมํ วิภชิตฺวา นิชฺชฏํ นิคุมฺพํ กตฺวา ยถา ทิฏฺิสนฺเทหาทโย วิคจฺฉนฺติ, สมฺมุติปรมตฺถา ¶ จ ธมฺมา อสงฺกรา ปฏิภนฺติ, เอวํ เอกนฺตวิภชนสีโลติ วุตฺตํ โหติ. ปรปฺปวาทํ มทฺทมาโนติ ตสฺมึ กาเล อุปฺปนฺนํ, อายตึ อุปฺปชฺชนกฺจ สพฺพํ ปรวาทํ กถาวตฺถุมาติกาวิวรณมุเขน นิมฺมทฺทนํ กโรนฺโตติ อตฺโถ.
ตติยสงฺคีติกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
อาจริยปรมฺปรกถาวณฺณนา
เกนาภตนฺติ อิมํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺเตน ชมฺพุทีเป ตาว ยาว ตติยสงฺคีติ, ตาว ทสฺเสตฺวา อิทานิ สีหฬทีเป อาจริยปรมฺปรํ ทสฺเสตุํ ตติยสงฺคหโต ปน อุทฺธนฺติอาทิ อารทฺธํ. อิมํ ทีปนฺติ ตมฺพปณฺณิทีปํ. ตสฺมึ ทีเป นิสีทิตฺวา อาจริเยน อฏฺกถาย กตตฺตา ‘‘อิมํ ทีป’’นฺติ วุตฺตํ. กฺจิ กาลนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ, กิสฺมิฺจิ กาเลติ อตฺโถ. โปราณาติ สีหฬทีเป สีหฬฏฺกถาการกา. ภทฺทนาโมติ ภทฺทสาลตฺเถโร. อาคุํ ปาปํ น กโรนฺตีติ นาคา. วินยปิฏกํ วาจยึสูติ สมฺพนฺโธ. ตมฺพปณฺณิยาติ ภุมฺมวจนํ. นิกาเย ปฺจาติ วินยาภิธมฺมานํ วิสุํ คหิตตฺตา ตพฺพินิมุตฺตา ปฺจ นิกายา คเหตพฺพา. ปกรเณติ อภิธมฺมปกรเณ วาเจสุนฺติ โยชนา. ตีณิ ปิฏกานิ สฺวาคตานิ อสฺสาติ ‘‘เตปิฏโก’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ติเปฏโก’’ติ ฉนฺทานุรกฺขณตฺถํ วุตฺตํ. ตารกราชาติ จนฺทิมา. ปุปฺผนาโมติ เอตฺถ มหาปทุมตฺเถโร สุมนตฺเถโร จ าตพฺโพติ ทฺวิกฺขตฺตุํ ‘‘ปุปฺผนาโม’’ติ วุตฺตํ.
วนวาสินฺติ วนวาสีรฏฺํ. กรกวสฺสนฺติ หิมปาตนกวสฺสํ, กรกธาราสทิสํ วา วสฺสํ. หราเปตฺวาติ อุทโกเฆน หราเปตฺวา. ฉินฺนภินฺนปฏธโรติ สตฺถเกน ฉินฺนํ รงฺเคน ภินฺนํ ปฏํ ธารณโก. ภณฺฑูติ มุณฺฑโก. มกฺขํ อสหมาโนติ เถรสฺส อานุภาวํ ปฏิจฺจ อตฺตโน ¶ อุปฺปนฺนํ ปเรสํ คุณมกฺขนลกฺขณํ มกฺขํ ตถา ปวตฺตํ โกธํ อสหมาโน. อสนิโย ผลนฺตีติ คชฺชนฺตา ปตนฺติ. เม มม ภยเภรวํ ชเนตุํ ปฏิพโล น อสฺส น ภเวยฺยาติ โยชนา. อฺทตฺถูติ เอกํเสน. กสฺมีรคนฺธาราติ กสฺมีรคนฺธารรฏฺวาสิโน. อิสิวาตปฏิวาตาติ ภิกฺขูนํ จีวรจลนกายจลเนหิ สฺชนิตวาเตหิ ปริโต สมนฺตโต พีชยมานา อเหสุํ. ธมฺมจกฺขุนฺติ เหฏฺามคฺคตฺตเย าณํ. อนมตคฺคิยนฺติ อนมตคฺคสํยุตฺตํ (สํ. นิ. ๒.๑๒๔ อาทโย). สมธิกานีติ สาธิกานิ. ปฺจ รฏฺานีติ ปฺจ จินรฏฺานิ. เวคสาติ เวเคน. สมนฺตโต รกฺขํ เปสีติ เตสํ อปฺปเวสนตฺถาย อธิฏฺานวเสน รกฺขํ เปสิ. อฑฺฒุฑฺฒานิ สหสฺสานีติ อฑฺเฒน จตุตฺถานิ อฑฺฒุฑฺฒานิ, อติเรกปฺจสตานิ ตีณิ สหสฺสานีติ อตฺโถ. ทิยฑฺฒสหสฺสนฺติ ¶ อฑฺเฒน ทุติยํ ทิยฑฺฒํ, อติเรกปฺจสติกํ สหสฺสนฺติ อตฺโถ. นิทฺธเมตฺวานาติ ปลาเปตฺวา.
ราชคหนครปริวตฺตเกนาติ ราชคหนครํ ปริวตฺเตตฺวา ตโต พหิ ตํ ปทกฺขิณํ กตฺวา คตมคฺเคน, คมเนน วา. อาโรเปสีติ ปฏิปาเทสิ. ปฬินาติ อากาสํ ปกฺขนฺทึสุ. นคุตฺตเมติ เจติยคิริมาห. ปุรโตติ ปาจีนทิสาภาเค. ปุรเสฏฺสฺสาติ เสฏฺสฺส อนุราธปุรสฺส. สิลกูฏมฺหีติ เอวํนามเก ปพฺพตกูเฏ. สีหกุมารสฺส ปุตฺโตติ เอตฺถ ‘‘กลิงฺคราชธีตุ กุจฺฉิสฺมึ สีหสฺส ชาโต สีหกุมาโร’’ติ วทนฺติ. เชฏฺมาสสฺส ปุณฺณมิยํ เชฏฺนกฺขตฺตํ วา มูลนกฺขตฺตํ วา โหตีติ อาห ‘‘เชฏฺมูลนกฺขตฺตํ นาม โหตี’’ติ. มิคานํ วานโต หึสนโต พาธนโต มิควํ, มิควิชฺฌนกีฬา. โรหิตมิครูปนฺติ โคกณฺณมิคเวสํ. รถยฏฺิปฺปมาณาติ รถปโตทปฺปมาณา. เอกา ลตายฏฺิ นามาติ เอกา รชตมยา กฺจนลตาย ปฏิมณฺฑิตตฺตา เอวํ ลทฺธนามา. ปุปฺผยฏฺิยํ นีลาทีนิ ปุปฺผานิ, สกุณยฏฺิยํ นานปฺปการา มิคปกฺขิโน วิจิตฺตกมฺมกตา วิย ขายนฺตีติ ทฏฺพฺพํ. ราชกกุธภณฺฑานีติ ราชารหอุตฺตมภณฺฑานิ. สงฺขนฺติ ทกฺขิณาวฏฺฏํ อภิเสกสงฺขํ. วฑฺฒมานนฺติ อลงฺการจุณฺณํ, ‘‘นหานจุณฺณ’’นฺติ เกจิ. วฏํสกนฺติ กณฺณปิฬนฺธนํ วฏํสกนฺติ วุตฺตํ โหติ. นนฺทิยาวฏฺฏนฺติ นนฺทิยาวฏฺฏปุปฺผากาเรน มงฺคลตฺถํ สุวณฺเณน กตํ. กฺนฺติ ขตฺติยกุมารึ. หตฺถปฺุฉนนฺติ ปีตวณฺณํ มหคฺฆหตฺถปฺุฉนวตฺถํ. อรุณวณฺณมตฺติกนฺติ นาคภวนสมฺภวํ. วตฺถโกฏิกนฺติ วตฺถยุคเมว. นาคมาหฏนฺติ นาเคหิ ¶ อาหฏํ. อมโตสธนฺติ เอวํนามิกา คุฬิกชาติ. อมตสทิสกิจฺจตฺตา เอวํ วุจฺจติ. ภูมตฺถรณสงฺเขเปนาติ ภูมตฺถรณากาเรน. อุปฺปาตปากาติ นิมิตฺตปากา. อลํ คจฺฉามาติ ‘‘ปุรสฺส อจฺจาสนฺนตฺตา สารุปฺปํ น โหตี’’ติ ปฏิกฺขิปนฺโต อาห. อฑฺฒนวมานํ ปาณสหสฺสานนฺติ (อ. นิ. ๖.๕๓) ปฺจสตาธิกานํ อฏฺนฺนํ ปาณสหสฺสานํ. อปฺปมาทสุตฺตนฺติ องฺคุตฺตรนิกาเย มหาอปฺปมาทสุตฺตํ, ราโชวาทสุตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ.
มหจฺจาติ มหตา. อุปสงฺกมนฺโตติ อติวิย กิลนฺตรูโป หุตฺวา อุปสงฺกมีติ อตฺโถ. ตุมฺเห ชานนตฺถนฺติ สมฺพนฺโธ. ปฺจปณฺณาสายาติ เอตฺถ ‘‘จตุปฺาสายาติ วตฺตพฺพํ. เอวฺหิ สติ อุปริ วุจฺจมานํ ทฺวาสฏฺิ อรหนฺโตติ วจนํ สเมตี’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๑.อาจริยปรมฺปรกถาวณฺณนา) วุตฺตํ. ทสภาติกสมากุลนฺติ มุฏสิวสฺส ปุตฺเตหิ เทวานํปิยติสฺสาทีหิ ทสหิ ภาติเกหิ สมากิณฺณํ. จิรทิฏฺโ สมฺมาสมฺพุทฺโธติ ธาตุโย สนฺธายาห. สพฺพตาฬาวจเรติ สพฺพานิ ตุริยภณฺฑานิ, ตํสหจริเต วา วาทเก. อุปฏฺาเปตฺวาติ อุปหารการาปนวเสน สนฺนิปาเตตฺวา. วฑฺฒมานกจฺฉายายาติ ปจฺฉาภตฺตํ. โปกฺขรวสฺสนฺติ โปกฺขรปตฺเต ¶ วิย อเตมิตุกามานํ อุปริ อเตเมตฺวา ปวตฺตนกวสฺสํ. มหาวีโรติ สตฺถุโวหาเรน ธาตุ เอว วุตฺตา. ปจฺฉิมทิสาภิมุโขว หุตฺวา อปสกฺกนฺโตติ เอตฺถ ปุรตฺถาภิมุโข ิโตว ปิฏฺิโต อปสกฺกเนน ปจฺฉิมทิสาย คจฺฉนฺโต ตาทิโสปสงฺกมนํ สนฺธาย ‘‘ปจฺฉิมทิสาภิมุโข’’ติ วุตฺโต. ‘‘มเหชวตฺถุ นาม เอวํนามกํ เทวฏฺาน’’นฺติ วทนฺติ.
ปชฺชรเกนาติ อมนุสฺสสมุฏฺาปิเตน ปชฺชรกโรเคน. เทโวติ เมโฆ. อนุปฺปเวจฺฉีติ วิมุจฺจิ. วิวาโท โหตีติ เอตฺถ กิริยากาลมเปกฺขิตฺวา วตฺตมานปฺปโยโค ทฏฺพฺโพ. เอวํ อีทิเสสุ สพฺพตฺถ. ตเทตนฺติ านํ ติฏฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ฉนฺนํ วณฺณานํ สมฺพนฺธภูตานํ รํสิโย จา’’ติ อชฺฌาหริตพฺพํ, ‘‘ฉนฺนํ วณฺณานํ อุทกธารา จา’’ติ เอวมฺเปตฺถ สมฺพนฺธํ วทนฺติ. ปรินิพฺพุเตปิ ภควติ ตสฺสานุภาเวน เอวรูปํ ปาฏิหาริยํ อโหสิ เอวาติ ทสฺเสตุํ เอวํ อจินฺติยาติอาทิคาถมาห. รกฺขํ กโรนฺโตติ อตฺตนา อุปาเยน ปลาปิตานํ ยกฺขานํ ปุน อปฺปวิสนตฺถาย ปริตฺตานํ กโรนฺโต. อาวิชฺชีติ ปริยายิ.
รฺโ ¶ ภาตาติ รฺโ กนิฏฺภาตา. อนุฬาเทวี นาม รฺโ เชฏฺภาตุ ชายา. สรสรํสิชาลวิสฺสชฺชนเกนาติ สินิทฺธตาย รสวนฺตํ โอชวนฺตํ รํสิชาลํ วิสฺสชฺเชนฺเตน. เอกทิวเสน อคมาสีติ สมฺพนฺโธ. อปฺเปสีติ เลขสาสนํ ปติฏฺาเปสิ. อุทิกฺขตีติ อเปกฺขติ ปตฺเถติ. ภาริยนฺติ ครุกํ, อนติกฺกมนียนฺติ อตฺโถ. มํ ปฏิมาเนตีติ มํ อุทิกฺขติ. กมฺมารวณฺณนฺติ รฺโ ปกติสุวณฺณการวณฺณํ. ติหตฺถวิกฺขมฺภนฺติ ติหตฺถวิตฺถารํ. สกลชมฺพุทีปรชฺเชนาติ เอตฺถ รฺโ อิทนฺติ รชฺชํ, สกลชมฺพุทีปโต อุปฺปชฺชนกอาโย เจว อาณาทโย จ, เตน ปูเชมีติ อตฺโถ, น สกลปถวีปาสาทาทิวตฺถุนา ตสฺส สตฺตาหํ เทมีติอาทินา กาลปริจฺเฉทํ กตฺวา ทาตุํ อยุตฺตตฺตา. เอวฺหิ เทนฺโต ตาวกาลิกํ เทติ นาม วตฺถุปริจฺจาคลกฺขณตฺตา ทานสฺส, ปถวาทิวตฺถุปริจฺจาเคน จ ปุน คหณสฺส อยุตฺตตฺตา. นิยมิตกาเล ปน อายาทโย ปริจฺจตฺตา เอวาติ ตโต ปรํ อปริจฺจตฺตตฺตา คเหตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมา วุตฺตนเยเนตฺถ อิโต ปรมฺปิ อายาทิทานวเสเนว รชฺชทานํ เวทิตพฺพํ. ปุปฺผุฬกา หุตฺวาติ เกตกีปาโรหงฺกุรา วิย อุทกปุปฺผุฬกาการา หุตฺวา. ควกฺขชาลสทิสนฺติ ภาวนปุํสกํ, วาตปาเนสุ ชาลากาเรน ปิตทารุปฏสทิสนฺติ อตฺโถ, ควกฺเขน จ สุตฺตาทิมยชาเลน จ สทิสนฺติ วา อตฺโถ.
เทวทุนฺทุภิโยติ เอตฺถ เทโวติ เมโฆ, ตสฺส อจฺฉสุกฺขตาย อากาสมิว ขายมานสฺส อนิมิตฺตคชฺชิตํ เทวทุนฺทุภิ นาม, ยํ ‘‘อากาสทุนฺทุภี’’ติปิ วทนฺติ. ผลึสูติ ถนึสุ. ปพฺพตานํ ¶ นจฺเจหีติ ปถวีกมฺเปน อิโต จิโต จ ภมนฺตานํ ปพฺพตานํ นจฺเจหิ. วิมฺหยชาตา ยกฺขา ‘‘หิ’’นฺติสทฺทํ นิจฺฉาเรนฺตีติ อาห ‘‘ยกฺขานํ หิงฺกาเรหี’’ติ. สกสกปฏิภาเนหีติ อตฺตโน อตฺตโน สิปฺปโกสลฺเลหิ. อภิเสกํ ทตฺวาติ อโนตตฺตทโหทเกน อภิเสกํ ทตฺวา.
เทวตากุลานีติ มหาโพธึ ปริวาเรตฺวา ิตนาคยกฺขาทิเทวตากุลานิ ทตฺวาติ สมฺพนฺโธ. โคปกราชกมฺมิโน ตถา ‘‘ตรจฺฉา’’ติ วทนฺติ. อิมินา ปริวาเรนาติ สหตฺเถ กรณวจนํ, อิมินา ปริวาเรน สหาติ อตฺโถ. ตามลิตฺตินฺติ เอวํนามกํ สมุทฺทตีเร ปฏฺฏนํ. อิทมสฺส ตติยนฺติ สุวณฺณกฏาเห ปติฏฺิตสาขาโพธิยา รชฺชสมฺปทานํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตโต ปน ปุพฺเพ เอกวารํ รชฺชสมฺปทานํ อจฺฉินฺนาย สาขาย มหาโพธิยา เอว กตํ, เตน ¶ สทฺธึ จตุกฺขตฺตุํ ราชา รชฺเชน ปูเชสิ. รชฺเชน ปูชิตทิวเสสุ กิร สกลทีปโต อุปฺปนฺนํ อายํ คเหตฺวา มหาโพธิเมว ปูเชสิ.
ปมปาฏิปททิวเสติ สุกฺกปกฺขปาฏิปททิวเส. ตฺหิ กณฺหปกฺขปาฏิปททิวสํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘ปมปาฏิปททิวส’’นฺติ วุตฺตํ, อิทฺจ ตสฺมึ ตมฺพปณฺณิทีเป โวหารํ คเหตฺวา วุตฺตํ, อิธ ปน ปุณฺณมิโต ปฏฺาย ยาว อปรา ปุณฺณมี, ตาว เอโก มาโสติ โวหาโร. ตสฺมา อิมินา โวหาเรน ‘‘ทุติยปาฏิปททิวเส’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา กณฺหปกฺขปาฏิปทสฺส อิธ ปมปาฏิปทตฺตา. คจฺฉติ วตเรติ เอตฺถ อเรติ เขเท. สมนฺตาโยชนนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ, โยชนปฺปมาเณ ปเทเส สพฺพตฺถาติ อตฺโถ. สุปณฺณรูเปนาติ มหาโพธึ พลกฺกาเรน คเหตฺวา นาคภวนํ เนตุกามานิ นาคราชกุลานิ อิทฺธิยา คหิเตน ครุฬรูเปน สนฺตาเสติ. ตํ วิภูตึ ปสฺสิตฺวาติ เทวตาทีหิ กรียมานํ ปูชามหตฺตํ, มหาโพธิยา จ อานุภาวมหตฺตํ ทิสฺวา สยมฺปิ ตถา ปูเชตุกามา เถรึ ยาจิตฺวาติ โยชนา. สมุทฺทสาลวตฺถุสฺมินฺติ ยสฺมึ ปเทเส ตฺวา ราชา สมุทฺเท อาคจฺฉนฺตํ โพธึ เถรานุภาเวน อทฺทส, ยตฺถ จ ปจฺฉา สมุทฺทสฺส ทิฏฺฏฺานนฺติ ปกาเสตุํ สมุทฺทสาลํ นาม สาลํ อกํสุ, ตสฺมึ สมุทฺทสาลาย วตฺถุภูเต ปเทเส. เถรสฺสาติ มหามหินฺทตฺเถรสฺส. ปุปฺผอคฺฆิยานีติ กูฏาคารสทิสานิ ปุปฺผเจติยานิ. อาคโต วตเรติ เอตฺถ อเรติ ปโมเท. อฏฺหิ อมจฺจกุเลหิ อฏฺหิ พฺราหฺมณกุเลหิ จาติ โสฬสหิ ชาติสมฺปนฺนกุเลหิ. รชฺชํ วิจาเรสีติ รชฺชํ วิจาเรตุํ วิสฺสชฺเชสิ. ราชวตฺถุทฺวารโกฏฺกฏฺาเนติ ราชุยฺยานสฺส ทฺวารโกฏฺกฏฺาเน. อนุปุพฺพวิปสฺสนนฺติ อุทยพฺพยาทิอนุปุพฺพวิปสฺสนํ. ‘‘สห โพธิปติฏฺาเนนา’’ติ กรณวจเนน วตฺตพฺเพ วิภตฺติปริณาเมน ‘‘สห โพธิปติฏฺานา’’ติ นิสฺสกฺกวจนํ กตํ. สติ หิ สหสทฺทปฺปโยเค กรณวจเนเนว ภวิตพฺพํ. ทสฺสึสูติ ปฺายึสุ. มหาอาสนฏฺาเนติ ปุพฺพปสฺเส มหาสิลาสเนน ปติฏฺิตฏฺาเน. ปูเชตฺวา วนฺทีติ อาคามินํ ¶ มหาเจติยํ วนฺทิ. ปุริเม ปน มหาวิหารฏฺาเน ปูชามตฺตสฺเสว กตตฺตา อนาคเต สงฺฆสฺสปิ นวกตา อวนฺทิตพฺพตา จ ปกาสิตาติ เวทิตพฺพา. อนาคเต ปน เมตฺเตยฺยาทิพุทฺธา ปจฺเจกพุทฺธา จ พุทฺธภาวกฺขณํ อุทฺทิสฺส วนฺทิตพฺพาว สภาเวน วิสิฏฺปุคฺคลตฺตาติ คเหตพฺพํ.
มหาอริฏฺโติ ¶ ปฺจปฺาสาย ภาตุเกหิ สทฺธึ เจติยคิริมฺหิ ปพฺพชิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. เมฆวณฺณาภยอมจฺจสฺส ปริเวณฏฺาเนติ เมฆวณฺณอภยสฺส รฺโ อมจฺเจน กตฺตพฺพสฺส ปริเวณสฺส วตฺถุภูเต าเน. มงฺคลนิมิตฺตภาเวน อากาเส สมุปฺปนฺโน มโนหรสทฺโท อากาสสฺส รโว วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อากาสํ มหาวิรวํ รวี’’ติ. น หิ อากาโส นาม โกจิ ธมฺโม อตฺถิ, โย สทฺทํ สมุฏฺาเปยฺย, อากาสคตอุตุวิเสสสมุฏฺิโตว โส สทฺโทติ คเหตพฺโพ. ปมกตฺติกปวารณทิวเส…เป… วินยปิฏกํ ปกาเสสีติ อิทํ วินยํ วาเจตุํ อารทฺธทิวสํ สนฺธาย วุตฺตํ. อนุสิฏฺิกรานนฺติ อนุสาสนีกรานํ. ราชิโนติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ, เทวานํปิยติสฺสราชานนฺติ อตฺโถ. อฺเปีติ มหินฺทาทีหิ อฏฺสฏฺิมหาเถเรหิ อฺเปิ, เตสํ สรูปํ ทสฺเสนฺโต อาห เตสํ เถรานนฺติอาทิ. ตตฺถ เตสํ เถรานํ อนฺเตวาสิกาติ มหินฺทตฺเถราทีนํ อฏฺสฏฺิมหาเถรานํ อริฏฺาทโย อนฺเตวาสิกา จ มหาอริฏฺตฺเถรสฺส อนฺเตวาสิกา ติสฺสทตฺตกาฬสุมนาทโย จาติ โยเชตพฺพํ. อนฺเตวาสิกานํ อนฺเตวาสิกาติ อุภยตฺถ วุตฺตอนฺเตวาสิกานํ อนฺเตวาสิกปรมฺปรา จาติ อตฺโถ. ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการาติ มหินฺโท อิฏฺฏิโย อุตฺติโยติอาทิคาถาหิ (ปารา. อฏฺ. ๑.ตติยสงฺคีติกถา) ปกาสิตา อาจริยปรมฺปรา.
น ปคฺฆรตีติ น คฬติ, น ปมุสฺสตีติ อตฺโถ. สติคติธิติมนฺเตสูติ เอตฺถ สตีติ อุคฺคหธารเณ สติ. คตีติ สทฺทตฺถวิภาคคฺคหเณ าณํ. ธิตีติ อุคฺคหปริหรณาทีสุ วีริยํ. กุกฺกุจฺจเกสูติ ‘‘กปฺปติ น กปฺปตี’’ติ วีมํสกุกฺกุจฺจการีสุ. มาตาปิตุฏฺานิโยติ วตฺวา ตเมวตฺถํ สมตฺเถตุํ อาห ตทายตฺตาหีติอาทิ. วินยปริยตฺตึ นิสฺสายาติ วินยปิฏกปริยาปุณนํ นิสฺสาย. อตฺตโน สีลกฺขนฺโธ สุคุตฺโตติ ลชฺชิโน วินยธารณสฺส อลชฺชิอฺาณตาทีหิ ฉหิ อากาเรหิ อาปตฺติยา อนาปชฺชนโต อตฺตโน สีลกฺขนฺโธ ขณฺฑาทิโทสวิรหิโต สุคุตฺโต สุรกฺขิโต โหติ. กุกฺกุจฺจปกตานนฺติ กปฺปิยากปฺปิยํ นิสฺสาย อุปฺปนฺเนน กุกฺกุจฺเจน ปกตานํ อุปทฺทุตานํ อภิภูตานํ ยถาวินยํ กุกฺกุจฺจํ วิโนเทตฺวา สุทฺธนฺเต ปติฏฺาปเนน ปฏิสรณํ โหติ. วิคโต สารโท ภยเมตสฺสาติ วิสารโท. ‘‘เอวํ กเถนฺตสฺส โทโส เอวํ น โทโส’’ติ ตฺวาว กถนโต นิพฺภโยว สงฺฆมชฺเฌ โวหรติ ¶ . ปจฺจตฺถิเกติ อตฺตปจฺจตฺถิเก เจว วชฺชิปุตฺตกาทิสาสนปจฺจตฺถิเก จ. สหธมฺเมนาติ สการเณน วจเนน สิกฺขาปทํ ทสฺเสตฺวา ยถา เต อสทฺธมฺมํ ปติฏฺาเปตุํ น สกฺโกนฺติ, เอวํ สุนิคฺคหิตํ กตฺวา นิคฺคณฺหาติ. สทฺธมฺมฏฺิติยาติ ¶ ปริยตฺติปฏิปตฺติปฏิเวธสงฺขาตสฺส ติวิธสฺสาปิ สทฺธมฺมสฺส ิติยา, ปวตฺติยาติ อตฺโถ.
วินโย สํวรตฺถายาติอาทีสุ วินยปริยาปุณนํ วินโย, วินยปฺตฺติ วา กายวจีทฺวารสํวรตฺถาย. อวิปฺปฏิสาโรติ กตากตํ นิสฺสาย วิปฺปฏิสาราภาโว สนฺตาปาภาโว. ปาโมชฺชํ ตรุณปีติ. ปีติ นาม พลวปีติ. ปสฺสทฺธีติ กายจิตฺตปสฺสทฺธิ. ยถาภูตาณทสฺสนนฺติ สปฺปจฺจยนามรูปปริคฺคโห. นิพฺพิทาติ วิปสฺสนา. วิราโคติ อริยมคฺโค. วิมุตฺตีติ อคฺคผลํ. วิมุตฺติาณทสฺสนนฺติ ปจฺจเวกฺขณาณํ. อนุปาทาติ กฺจิ ธมฺมํ อนุปาทิยิตฺวา ปริจฺจชิตฺวา. ปรินิพฺพานตฺถายาติ ปจฺจเวกฺขณาเณ อนุปฺปนฺเน อนฺตรา ปรินิพฺพานาภาเวน ตํปรินิพฺพานตฺถายาติ ปจฺจยตฺเตน วุตฺตํ อนนฺตราทิปจฺจยตฺตา. เอตทตฺถา กถาติ อยํ วินยกถา นาม เอตสฺส อนุปาทาปรินิพฺพานสฺส อตฺถายาติ อตฺโถ. มนฺตนาติ วินยมนฺตนาเยว, ภิกฺขูนํ ‘‘เอวํ กริสฺสาม, เอวํ น กริสฺสามา’’ติ วินยปฏิพทฺธมนฺตนา. อุปนิสาติ อุปนิสีทติ เอตฺถ ผลนฺติ อุปนิสา, การณํ. วินโย สํวรตฺถายาติอาทิการณปรมฺปราปิ เอตทตฺถาติ อตฺโถ. โสตาวธานนฺติ อิมิสฺสา ปรมฺปรปจฺจยกถาย อตฺตานํ สมนตฺถาย โสตาวธานํ, ตมฺปิ เอตมตฺถํ. ยทิทนฺติ นิปาโต. โย อยํ จตูหิ อุปาทาเนหิ อนุปาทิยิตฺวา จิตฺตสฺส อรหตฺตมคฺคสงฺขาโต, ตปฺผลสงฺขาโต วา วิโมกฺโข, โสปิ เอตทตฺถาย อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถาย. อถ วา โย อยํ กฺจิ ธมฺมํ อนุปาทาจิตฺตสฺส วิโมกฺโข วิมุจฺจนํ วิคโม ปรินิพฺพานํ เอตทตฺถา กถาติ เอวํ อุปสํหรณวเสน โยเชตุมฺปิ วฏฺฏติ มคฺคผลวิโมกฺขสฺส ปุพฺเพ วุตฺตตฺตา. อาโยโคติ อุคฺคหณาทิวเสน ปุนปฺปุนํ อภิโยโค.
อาจริยปรมฺปรกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
พาหิรนิทานกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
เวรฺชกณฺฑวณฺณนา
เสยฺยถิทนฺติ ¶ ¶ ตํ กตมํ, ตํ กถนฺติ วา อตฺโถ. อนิยมนิทฺเทสวจนนฺติ อตฺตโน อตฺถํ สรูเปน นิยเมตฺวา นิทฺทิสตีติ นิยมนิทฺเทโส, น นิยมนิทฺเทโส อนิยมนิทฺเทโส. โสว วุจฺจเต อเนนาติ วจนนฺติ อนิยมนิทฺเทสวจนํ. ตสฺสาติ เตนาติปทสฺส. ปริวิตกฺโกติ ‘‘กตเมสานํ โข พุทฺธานํ ภควนฺตานํ พฺรหฺมจริยํ น จิรฏฺิติกํ อโหสี’’ติอาทินา (ปารา. ๑๘) ปวตฺโต. ปุพฺเพ วา ปจฺฉา วาติ เตนาติปทโต เหฏฺา วุตฺตปาเ วา อุปริ วกฺขมานปาเ วาติ อตฺโถ. อตฺถโต สิทฺเธนาติ สามตฺถิยโต สิทฺเธน. ตตฺริทํ มุขมตฺตนิทสฺสนนฺติ ตสฺสา ยถาวุตฺตยุตฺติยา ปริทีปเน อิทํ อุปายมตฺตนิทสฺสนํ. มุขํ ทฺวารํ อุปาโยติ หิ อตฺถโต เอกํ.
สมยสทฺโท ทิสฺสตีติ สมฺพนฺโธ. อสฺสาติ สมยสทฺทสฺส สมวาโย อตฺโถติ สมฺพนฺโธ. กาลฺจ สมยฺจ อุปาทายาติ เอตฺถ กาโล นาม อุปสงฺกมนสฺส ยุตฺตกาโล, สมโย นาม สรีรพลาทิการณสมวาโย, เต อุปาทาย ปฏิจฺจาติ อตฺโถ. ขโณติ โอกาโส. พุทฺธุปฺปาทาทโย หิ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส โอกาโส. โส เอว สมโย. เตเนว ‘‘เอโกวา’’ติ วุตฺตํ. มหาสมโยติ มหาสมูโห. ปวนสฺมินฺติ วนสณฺเฑ. สมโยปิ โข เต ภทฺทาลีติ เอตฺถ สมโยติ สิกฺขาปทาวิลงฺฆนสฺส เหตุ, โก โส? อตฺตโน วิปฺปฏิปตฺติยา ภควโต ชานนํ, โส สมยสงฺขาโต เหตุ ตสฺสา อปฺปฏิวิทฺโธติ อตฺโถ. ภควาติอาทิ ตสฺส ปฏิวิชฺฌนาการทสฺสนํ. อุคฺคหมาโนติ กิฺจิ กิฺจิ อุคฺคเหตุํ สมตฺถตาย อุคฺคหมาโน, สุมนปริพฺพาชกสฺเสเวตํ นามํ. สมยํ ทิฏฺึ ปวทนฺติ เอตฺถาติ สมยปฺปวาทโก, มลฺลิกาย อาราโม. สฺเวว ตินฺทุกาจีรสงฺขาตาย ติมฺพรุรุกฺขปนฺติยา ปริกฺขิตฺตตฺตา ‘‘ตินฺทุกาจีร’’นฺติ จ, เอกาว นิวาสา สาลา เอตฺถาติ ‘‘เอกสาลโก’’ติ จ วุจฺจติ. อตฺถาภิสมยาติ ยถาวุตฺตสฺส ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกสฺส อตฺถสฺส หิตสฺส ปฏิลาภโต. มานาภิสมยาติ มานปฺปหานา. ปีฬนฏฺโติ ปีฬนํ ตํสมงฺคิโน หึสนํ, อวิปฺผาริกตากรณํ, ปีฬนเมว อตฺโถ ปีฬนฏฺโ ¶ . สนฺตาโปติ ทุกฺขทุกฺขตาทิวเสน สนฺตาปนํ. วิปริณาโมติ ชราย มรเณน จาติ ทฺวิธา ¶ วิปริณาเมตพฺพตา อภิสเมตพฺโพ ปฏิวิชฺฌิตพฺโพติ อภิสมโย, โสว อภิสมยฏฺโ, ปีฬนาทีนิ.
เอตฺถ จ อุปสคฺคานํ โชตกมตฺตตฺตา สมยสทฺทสฺส อตฺถุทฺธาเรปิ สอุปสคฺโค อภิสมยสทฺโท อุทฺธโฏ. ตตฺถ สงฺคมวเสน ปจฺจยานํ ผลุปฺปาทนํ ปฏิ อยนํ เอกโต ปวตฺติ เอตฺถาติ สมโย, สมวาโย. วิวฏฺฏูปนิสฺสยสงฺคเม สติ เอนฺติ เอตฺถ สตฺตา ปวตฺตนฺตีติ สมโย, ขโณ. สเมติ เอตฺถ สงฺขตธมฺโม, สยํ วา เอติ อาคจฺฉติ วิคจฺฉติ จาติ สมโย, กาโล. สเมนฺติ อวยวา เอตสฺมึ, สยํ วา เตสูติ สมโย, สมูโห. ปจฺจยนฺตรสงฺคเม เอติ อาคจฺฉติ เอตสฺมา ผลนฺติ สมโย, เหตุ. สฺาวเสน วิปลฺลาสโต ธมฺเมสุ เอติ อภินิวิสตีติ สมโย, ทิฏฺิ. สมีปํ อยนํ อุปคมนํ สมโย, ปฏิลาโภ. สมฺมเทว สหิตานํ วาจานํ อยนํ วิคโมติ สมโย, ปหานํ. สมฺมเทว, สหิตานํ วา สจฺจานํ อยนํ ชานนนฺติ สมโย, ปฏิเวโธ. เอวํ ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺเถ สมยสทฺทสฺส ปวตฺติ เวทิตพฺพา.
เอตฺถ จ สมยสทฺทสฺส สามฺเน อเนกตฺถตา วุตฺตา. น หิ เอกสฺมึ อตฺถวิเสเส วตฺตมาโน สทฺโท ตทฺเปิ วตฺตติ. ตสฺมา อตฺถา วิย ตํตํวาจกา สมยสทฺทาปิ ภินฺนา เอวาติ คเหตพฺพา. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺถุทฺธาเรสุ.
ตตฺถ ตถาติ เตสุ สุตฺตาภิธมฺเมสุ อุปโยคภุมฺมวจเนหิ. อิธาติ วินเย, อฺถาติ กรณวจเนน. อจฺจนฺตเมวาติ นิรนฺตรเมว. ภาโว นาม กิริยา, กิริยาย กิริยนฺตรูปลกฺขณํ ภาเวนภาวลกฺขณํ, ยถา อุทเย สติ จนฺเท ชาโต ราชปุตฺโตติ. อธิกรณฺหีติอาทิ อภิธมฺเม สมยสทฺโท กาลสมูหขณสมวายเหตุสงฺขาเตสุ ปฺจสุ อตฺเถสุ วตฺตติ, น วินเย วิย กาเล เอว, เตสุ จ กาลสมูหตฺถา ทฺเว ตตฺถ วุตฺตานํ ผสฺสาทิธมฺมานํ อธิกรณภาเวน นิทฺทิสิตุํ ยุตฺตา. ขณสมวายเหตุอตฺถา ปน ตโยปิ อตฺตโน ภาเวน ผสฺสาทีนํ ภาวสฺส อุปลกฺขณภาเวน ¶ นิทฺทิสิตุํ ยุตฺตาติ วิภาวนมุเขน ยถาวุตฺตมตฺถํ สมตฺเถตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺมิฺหิ กาเล, ธมฺมสมูเห วา สมเย อธิกรณภูเต กุสลํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺมิฺเว กาเล, ธมฺมสมูเห วา สมเย ผสฺสาทโย โหนฺตีติ เอวํ อธิกรณตฺถโยชนา, ยสฺมึ ปน ขเณ, สมวาเย เหตุมฺหิ วา สมเย สติ วิชฺชมาเน กุสลํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺมิฺเว ขณาทิมฺหิ สมเยปิ วิชฺชมาเน ผสฺสาทโย โหนฺตีติ ภาเวนภาวลกฺขณตฺถโยชนา จ เวทิตพฺพา.
โหติ ¶ เจตฺถาติ เอตฺถ ยถาวุตฺตอตฺถวิสเย สงฺคหคาถา โหติ. อฺตฺราติ สุตฺตาภิธมฺเมสุ. อภิลาปมตฺตเภโทติ เทสนาวิลาสโต สทฺทมตฺเตเนว เภโท, น อตฺถโต.
อวิเสเสนาติ สามฺเน. อิริยาปโถติอาทีสุ อิริยาย สพฺพทฺวาริกกิริยาย ปโถ ปวตฺตนฏฺานํ ตพฺพินิมุตฺตกมฺมสฺส อภาวาติ านาทโย อิริยาปโถ, โสว วิหาโร. พฺรหฺมภูตา เสฏฺภูตา ปรหิตจิตฺตาทิวสปฺปวตฺติโต เมตฺตาทโย พฺรหฺมวิหาโร นาม. ตทวเสสา ปน มหคฺคตา สพฺพนีวรณวิคมนาทิสิทฺเธน โชตนาทิอตฺเถน ทิพฺพวิหาโร นาม. พฺรหฺมวิหารภาเวน วิสุํ คหิตตฺตา เมตฺตาทโย อิธ อสงฺคหิตา. อริยานเมว วิหาโรติ ผลสมาปตฺติโย อริยวิหาโร นาม.
รุกฺขาทิมูเลเยว มูลสทฺทสฺส นิรุฬฺหภาวํ ทสฺเสตุํ อปเรน มูลสทฺเทน วิเสเสตฺวา ‘‘มูลมูเล’’ติ วุตฺตํ, ยถา ทุกฺขทุกฺขนฺติ (วิภ. อฏฺ. ๑๙๐). โลภาทีนํ โทสมูลาทิจิตฺตาสาธารณตฺตา ‘‘อสาธารณเหตุมฺหี’’ติ วุตฺตํ.
ตตฺถ สิยาติ ตตฺถ เวรฺชายนฺติอาทีสุ ปเทสุ กสฺสจิ โจทนา สิยาติ อตฺโถ. อุภยถา นิทานกิตฺตนสฺส ปน กึ ปโยชนนฺติ? อาห โคจรคามนิทสฺสนตฺถนฺติอาทิ. ตตฺถ อสฺสาติ ภควโต.
กิลโมว กิลมโถ, อตฺตโน อตฺตภาวสฺส กิลมโถ อตฺตกิลมโถ, ตสฺส อนุ อนุ โยโค ปุนปฺปุนํ ปวตฺตนํ อตฺตกิลมถานุโยโค. วตฺถุกามารมฺมเณ สุเข สมฺปโยควเสน ลีนา ยุตฺตา, กามตณฺหา ¶ , ตํสหจริเต กาเม สุเข วา อารมฺมณภูเต อลฺลีนา ปวตฺตตีติ กามสุขลฺลิกา ตณฺหา, ตสฺสา กามสุขลฺลิกาย อนุ อนุ โยโค กามสุขลฺลิกานุโยโค. โลเก สํวฑฺฒภาวนฺติ อามิโสปโภเคน สํวฑฺฒิตภาวํ. อุปฺปชฺชมาโน พหุชนหิตาทิอตฺถาเยว อุปฺปชฺชตีติ โยชนา.
ทิฏฺิสีลสามฺเน สํหตตฺตา สงฺโฆติ อิมมตฺถํ วิภาเวนฺโต อาห ทิฏฺีติอาทิ. เอตฺถ จ ‘‘ยายํ ทิฏฺิ อริยา นิยฺยานิกา นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย, ตถารูปาย ทิฏฺิยา ทิฏฺิสามฺคโต วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๒๔, ๓๕๖; ม. นิ. ๑.๔๙๒; ๓.๕๔; อ. นิ. ๖.๑๒; ปริ. ๒๗๔) เอวํ วุตฺตาย ทิฏฺิยา. ‘‘ยานิ ตานิ สีลานิ อขณฺฑานิ…เป… สมาธิสํวตฺตนิกานิ, ตถารูเปสุ สีเลสุ สีลสามฺคโต วิหรตี’’ติ ¶ (ที. นิ. ๓.๓๒๔, ๓๕๖; ม. นิ. ๑.๔๙๒; ๓.๕๔; อ. นิ. ๖.๑๒; ปริ. ๒๗๔) เอวํ วุตฺตานฺจ สีลานํ สามฺสงฺขาเตน สงฺฆาโต สงฺฆฏิโต สมณคโณ, เตนาติ อตฺโถ. ‘‘ทิฏฺิสีลสามฺสงฺฆาตสงฺฆาเตนา’’ติ วา ปาเเนตฺถ ภวิตพฺพํ, ตสฺส ทิฏฺิสีลสามฺภูเตน สํหนเนน สงฺฆาโต สมณคโณ, เตนาติ อตฺโถ. เอวฺหิ ปาเ สทฺทโต อตฺโถ ยุตฺตตโร โหติ. อสฺสาติ มหโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส.
พฺรหฺมํ อณตีติ เอตฺถ พฺรหฺม-สทฺเทน เวโท วุจฺจติ, โส มนฺตพฺรหฺมกปฺปวเสน ติวิโธ. ตตฺถ อิรุเวทาทโย ตโย เวทา มนฺตา, เต จ ปธานา, อิตเร ปน สนฺนิสฺสิตา, เตน ปธานสฺเสว คหณํ. มนฺเต สชฺฌายตีติ อิรุเวทาทิเก มนฺตสตฺเถ สชฺฌายตีติ อตฺโถ. อิรุเวทาทโย หิ คุตฺตภาสิตพฺพตาย ‘‘มนฺตา’’ติ วุจฺจนฺติ. ‘‘พาหิตปาปตฺตา พฺราหฺมโณ, สมิตปาปตฺตา สมโณ’’ติ ยถาวุตฺตมตฺถทฺวยํ อุทาหรณทฺวเยน วิภาเวตุํ วุตฺตฺเหตนฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘สมิตตฺตา หิ ปาปานํ ‘สมโณ’ติ ปวุจฺจตี’’ติ หิ อิทํ วจนํ คเหตฺวา ‘‘สมิตปาปตฺตา ‘สมโณ’ติ วุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ, พาหิตปาโปติ อิทํ ปน อฺสฺมึ คาถาพนฺเธ วุตฺตวจนํ. ยถาภุจฺจคุณาธิคตนฺติ ยถาภูตคุณาธิคตํ. สกิฺจโนติ สโทโส.
โคตฺตวเสนาติ เอตฺถ คํ ตายตีติ โคตฺตํ, โค-สทฺเทน เจตฺถ อภิธานํ พุทฺธิ จ วุจฺจติ. เกนจิ ปาริชฺุเนาติ าติปาริชฺุาทินา เกนจิ ปาริชฺุเน ¶ , ปริหานิยาติ อตฺโถ. ตโต ปรนฺติ เวรฺชายนฺติอาทิวจนํ. อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อิตฺถํ อิมํ ปการํ ภูโต อาปนฺโนติ อิตฺถมฺภูโต, ตสฺส อาขฺยานํ อิตฺถมฺภูตาขฺยานํ, โสเยวตฺโถ อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺโถ. อถ วา ‘‘อิตฺถํ เอวํปกาโร ภูโต ชาโต’’ติ เอวํ กถนตฺโถ อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺโถ, ตสฺมึ อุปโยควจนนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ อพฺภุคฺคโตติ เอตฺถ อภิ-สทฺโท อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺถโชตโก อภิภวิตฺวา อุคฺคมนปฺปการสฺส ทีปนโต, เตน โยคโต ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมนฺติ อิทํ อุปโยควจนํ สามิอตฺเถปิ สมาเน อิตฺถมฺภูตาขฺยานทีปนโต ‘‘อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ’’ติ วุตฺตํ, เตเนวาห ‘‘ตสฺส โข ปน โภโต โคตมสฺสาติ อตฺโถ’’ติ.
อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา สาธุ เทวทตฺโต มาตรมภีติ เอตฺถ อภิสทฺทโยคโต อิตฺถมฺภูตาขฺยาเน อุปโยควจนํ กตํ, เอวมิธาปิ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ อภิ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อุคฺคโตติ อภิสทฺทโยคโต อิตฺถมฺภูตาขฺยาเน อุปโยควจนนฺติ. สาธุ เทวทตฺโต มาตรมภีติ เอตฺถ หิ ‘‘เทวทตฺโต มาตรมภิ มาตริ วิสเย มาตุยา วา สาธู’’ติ เอวํ อธิกรณตฺเถ วา สามิอตฺเถ วา ภุมฺมวจนสฺส สามิวจนสฺส วา ปสงฺเค อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺถโชตเกน ¶ อภิสทฺเทน โยเค อุปโยควจนํ กตํ, ยถา เจตฺถ เทวทตฺโต มาตุวิสเย มาตุสมฺพนฺธี วา โส วุตฺตปฺปการปฺปตฺโตติ อยมตฺโถ วิฺายติ, เอวมิธาปิ โภโต โคตมสฺส สมฺพนฺธี กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต อภิภวิตฺวา อุคฺคมนปการปฺปตฺโตติ อยมตฺโถ วิฺายติ. ตตฺถ หิ เทวทตฺตคฺคหณํ วิย อิธ กิตฺติสทฺทคฺคหณํ, ตตฺถ มาตรนฺติ วจนํ วิย อิธ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมนฺติ วจนํ, ตตฺถ สาธุสทฺทคฺคหณํ วิย อิธ อุคฺคตสทฺทคฺคหณํ เวทิตพฺพํ. กิตฺติสทฺโทติ กิตฺติภูโต สทฺโท, น เกวโลติ ทสฺสนตฺถํ วิเสสิตนฺติ อาห ‘‘กิตฺติ เอวา’’ติ. ตโต กิตฺตีติ ถุติ, ตสฺสา ปกาสโก สทฺโท กิตฺติสทฺโทติ ทสฺเสตุํ ‘‘ถุติโฆโส วา’’ติ วุตฺตํ.
โส ภควาติ เอตฺถ โสติ ปสิทฺธิยํ, โย โส สมตฺตึส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพกิเลเส ภฺชิตฺวา ทสสหสฺสิโลกธาตุํ กมฺเปนฺโต อนุตฺตรํ ¶ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ, โส โลเก อติปากโฏติ ‘‘โส ภควา’’ติ วุตฺตํ. ภควาติ จ อิทํ สตฺถุ นามกิตฺตนํ, น คุณกิตฺตนํ. ปรโต ปน ภควาติ คุณกิตฺตนเมว. อิมินา จ อิมินา จาติ เอเตน อรหนฺติอาทิปทานํ ปจฺเจกํ อเนกคุณคณํ ปฏิจฺจ ปวตฺตภาวํ ทสฺเสติ.
สุวิทูรวิทูเรติ ทฺวีหิ สทฺเทหิ อติวิย ทูเรติ ทสฺเสติ, สุวิทูรตา เอว หิ วิทูรตา. สวาสนานํ กิเลสานํ วิทฺธํสิตตฺตาติ อิมินา ปจฺเจกพุทฺธาทีหิ อสาธารณํ ภควโต อรหตฺตนฺติ ทสฺเสติ เตสํ วาสนาย อปฺปหีนตฺตา, วาสนา จ นาม นิกฺกิเลสสฺสาปิ สกลเยฺยานวโพธาทิทฺวารตฺตยปฺปโยควิคุณตาเหตุภูโต กิเลสนิหิโต อากาโร จิรนิคฬิตปาทานํ นิคฬโมกฺเขปิ สงฺกุจิตตาคมนเหตุโก นิคฬนิหิโต อากาโร วิย. ยาย ปิลินฺทวจฺฉาทีนํ วสลโวหาราทิวิคุณตา โหติ, อยํ วาสนาติ คเหตพฺพา. อารกาติ เอตฺถ อาการสฺส รสฺสตฺตํ ก-การสฺส จ ห-การํ สานุสฺสรํ กตฺวา นิรุตฺตินเยน ‘‘อรห’’นฺติ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. เอวํ อุปริปิ ยถารหํ นิรุตฺตินเยน ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. ยฺเจตํ สํสารจกฺกนฺติ สมฺพนฺโธ. ปฺุาทีติ อาทิ-สทฺเทน อปฺุาภิสงฺขารอาเนฺชาภิสงฺขาเร สงฺคณฺหาติ. อาสวา เอว อวิชฺชาทีนํ การณตฺตา สมุทโยติ อาห ‘‘อาสวสมุทยมเยนา’’ติ. ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๓) หิ วุตฺตํ. วิปากกฏตฺตารูปปฺปเภโท ติภโว เอว รโถ, ตสฺมึ ติภวรเถ. สํสารจกฺกนฺติ ยถาวุตฺตกิเลสกมฺมวิปากสมุทโย.
‘‘ขนฺธานฺจ ¶ ปฏิปาฏิ, ธาตุอายตนาน จ;
อพฺโพจฺฉินฺนํ วตฺตมานา, ‘สํสาโร’ติ ปวุจฺจตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๒.๖๑๘; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๙๕ อปสาทนาวณฺณนา; สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๖๐; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๔.๑๙๙; ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา; วิภ. อฏฺ. ๒๒๖ สงฺขารปทนิทฺเทส; สุ. นิ. อฏฺ. ๒.๕๒๓; อุทา. อฏฺ. ๓๙; อิติวุ. อฏฺ. ๑๔, ๕๘; เถรคา. อฏฺ. ๑.๖๗, ๙๙; พุ. วํ. อฏฺ. ๕๘; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๑๗; จูฬนิ. อฏฺ. ๖) –
เอวํ วุตฺโต สํสาโรว จกฺกํ วิย ปริพฺภมนโต จกฺกํ, ตสฺส จกฺกสฺส สพฺเพ อรา หตาติ สมฺพนฺโธ. อเนนาติ ภควตา. โพธีติ าณํ, ตํ ¶ เอตฺถ มณฺฑํ ปสนฺนํ ชาตนฺติ โพธิมณฺโฑ. กมฺมกฺขยกรํ าณผรสุนฺติ อรหตฺตมคฺคาณํ วุตฺตํ, ตํ ฉินฺทิตพฺพํ อภิสงฺขารสงฺขาตํ กมฺมํ ปริจฺฉินฺทตีติ ทสฺเสตุํ กมฺมกฺขยกรวิเสสนวิสิฏฺํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
เอวํ กติปยงฺเคหิ สํสารจกฺกํ ตทวเสสงฺเคหิ ผลภูตนามรูปธมฺเมหิ ติภวรถฺจ ตสฺมึ รเถ โยชิตสํสารจกฺการานํ หนนปฺปการฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สพฺเพหิปิ ทฺวาทสหิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺเคหิ รถวิรหิตเมว เกวลํ สํสารจกฺกํ, ตสฺส อรฆาตนปฺปการเภทฺจ ทสฺเสตุํ อถวาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อนมตคฺคนฺติ อนุ อนุ อมตคฺคํ, สพฺพถา อนุคจฺฉนฺเตหิปิ อวิฺาตโกฏิกนฺติ อตฺโถ. อวิชฺชามูลกตฺตา ชรามรณปริโยสานตฺตาติ อิทํ สงฺขาราทีนํ ทสนฺนํ อรภาเวน เอกตฺตํ สมาโรเปตฺวาติ วุตฺตํ. น หิ เตสํ ปจฺเจกํ อวิชฺชามูลกตา ชรามรณปริโยสานตา จ อตฺถิ ตถา ปฏิจฺจสมุปฺปาทปาฬิยํ อวุตฺตตฺตา. อถ วา เตสมฺปิ ยถารหํ อตฺถโต อวิชฺชามูลกตฺตํ, อตฺตโน อตฺตโน ลกฺขณภูตขณิกชรามรณวเสน ตปฺปริโยสานตฺจ สนฺธาเยตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวฺจ เตสํ ปจฺเจกํ อรภาโว สิทฺโธ โหติ.
เอวํ สพฺพาการํ สํสารจกฺกเมว ทสฺเสตฺวา อิทานิ เยน าเณน อิมสฺส สํสารจกฺกสฺส อรานํ เฉโท ภควโต สิทฺโธ, ตสฺส ธมฺมฏฺิติาณสฺส ‘‘ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา ธมฺมฏฺิติาณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๔; ๑.๔๕) มาติกา วุตฺตตฺตา ภวจกฺกาวยเวสุ อวิชฺชาทีสุ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนตฺตา ปริคฺคหวเสน ปวตฺติอาการํ ทสฺเสตฺวา ปรโต ตสฺส อตฺถสฺส นิคมนวเสน วุตฺเตน เอวมยํ อวิชฺชาเหตูติอาทิเกน ปฏิสมฺภิทาปาฬิสหิเตน (ปฏิ. ม. ๑.๔๕) ปาเน ¶ สรูปโต ธมฺมฏฺิติาณํ, ตสฺส จ เตสุเยว อวิชฺชาทีสุ จตุสงฺเขปาทิวเสน ปวตฺติวิภาคฺจ ทสฺเสตฺวา ตโต ปรํ อิติ ภควาติอาทิปาเน ภควโต เตน ธมฺมฏฺิติาเณน ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส สพฺพาการโต ปฏิวิทฺธภาวํ ทสฺเสตฺวา ปุน อิมินา ธมฺมฏฺิติาเณนาติอาทินา ภควโต เตน าเณน สํสารจกฺการานํ วิทฺธํสิตภาวํ ทสฺเสตุํ ตตฺถ ทุกฺขาทีสุ อฺาณํ อวิชฺชาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ติณฺณํ อายตนานนฺติ จกฺขุโสตมนายตนานํ ติณฺณํ. เอส นโย ติณฺณํ ผสฺสานนฺติอาทีสุปิ. รูปตณฺหาทิวเสน ฉ ตณฺหากายา เอว เวทิตพฺพา.
สคฺคสมฺปตฺตินฺติ ¶ กามสุคตีสุ สมฺปตฺตึ. ตเถวาติ กามุปาทานปจฺจยา เอว. พฺรหฺมโลกสมฺปตฺตินฺติ รูปีพฺรหฺมโลกสมฺปตฺตึ. เตภูมกธมฺมวิสยสฺส สพฺพสฺสาปิ ราคสฺส กิเลสกามภาวโต ภวราโคปิ กามุปาทานเมวาติ อาห ‘‘กามุปาทานปจฺจยาเยว เมตฺตํ ภาเวตี’’ติ. เสสุปาทานมูลิกาสุปีติ ทิฏฺุปาทานสีลพฺพตุปาทานอตฺตวาทุปาทานมูลิกาสุปิ โยชนาสุ. ตตฺรายํ โยชนานโย – อิเธกจฺโจ ‘‘นตฺถิ ปรโลโก อุจฺฉิชฺชติ อตฺตา’’ติ (ที. นิ. ๑.๘๕-๘๖ อตฺถโต สมานํ) ทิฏฺึ คณฺหาติ, โส ทิฏฺุปาทานปจฺจยา กาเยน ทุจฺจริตํ จรตีติอาทินา, อปโร ‘‘อสุกสฺมึ ภเว อตฺตา อุจฺฉิชฺชตี’’ติ ทิฏฺึ คเหตฺวา กามรูปารูปภวูปปตฺติยา ตํ ตํ กุสลํ กโรตีติอาทินา จ ทิฏฺุปาทานมูลิกา โยชนา, อิมินาว นเยน อตฺตวาทุปาทานมูลิกา โยชนา เวทิตพฺพา. อปโร ‘‘สีเลน สุทฺธิ วเตน สุทฺธี’’ติ อสุทฺธิมคฺคํ ‘‘สุทฺธิมคฺโค’’ติ ปรามสนฺโต สีลพฺพตุปาทานปจฺจยา กาเยน ทุจฺจริตํ จรตีติอาทินา สพฺพภเวสุ สีลพฺพตุปาทานมูลิกา โยชนา เวทิตพฺพา.
อิทานิ ยสฺส สํสารจกฺการานํ ฆาตนสมตฺถสฺส ธมฺมฏฺิติาณสฺส อวิชฺชาทิปจฺจยปอคฺคหาการํ ทสฺเสตุํ กามภเว จ อวิชฺชา กามภเว สงฺขารานํ ปจฺจโย โหตีติอาทินา อวิชฺชาทีนํ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาโว ทสฺสิโต, ตเมว าณํ อวิชฺชาทีสุ ปวตฺติอากาเรน สทฺธึ ปฏิสมฺภิทามคฺคปาฬึ อาเนตฺวา นิคมนวเสน ทสฺเสนฺโต เอวมยนฺติอาทิมาห. วิสุทฺธิมคฺคฏีกายํ ปน ‘‘อิทานิ ยฺวายํ สํสารจกฺกํ ทสฺเสนฺเตน กามภเว อวิชฺชา กามภเว สงฺขารานํ ปจฺจโย โหตีติอาทินา อวิชฺชาทีนํ ปจฺจยภาโว สงฺขาราทีนํ ปจฺจยุปฺปนฺนภาโว ทสฺสิโต, ตเมว ปฏิสมฺภิทามคฺคปาฬึ อาเนตฺวา นิคมนวเสน ทสฺเสนฺโต เอวมยนฺติอาทิมาหา’’ติ วุตฺตํ. สารตฺถทีปนิยา วินยฏีกายปิ อยเมว ปาโ ลิขิโต. ตตฺถ จ กามภเว จ อวิชฺชาติอาทินา อวิชฺชาทีนํ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาโว สํสารจกฺกํ ทสฺเสนฺเตน วุตฺโต น โหติ ตสฺส จ อวิชฺชา นาภิ, มูลตฺตาติอาทินา ปุพฺเพว ทสฺสิตตฺตา อุปริ จกฺกรูปโต ¶ ปโยคตฺเตน อุปสํหาราภาวา จ. ‘‘อปิ จ ตเมว ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาวํ นิคมนวเสน ทสฺเสนฺโต’’ติ จ วุตฺตํ, น เจตฺถ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาโว นิคมนวเสน ปธานตฺเตน ทสฺสิโต, อถ โข ปจฺจยปริคฺคหวสปฺปวตฺตํ ธมฺมฏฺิติาณเมว ¶ ยถาวุตฺตปจฺจยปริคฺคหาการสฺส นิคมนวเสน ทสฺสิตํ. ตถา หิ ‘‘เอวมยํ อวิชฺชา เหตุ, สงฺขารา เหตุสมุปฺปนฺนา, อุโภเปเต ธมฺมา เหตุสมุปฺปนฺนาติ ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา ธมฺมฏฺิติาณํ. อตีตมฺปิ อทฺธานํ. อนาคตมฺปิ อทฺธานํ อวิชฺชา เหตุ…เป… ธมฺมฏฺิติาณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๖) ธมฺมฏฺิติาณเมว ปธานตฺเตน ทสฺสิตํ. ‘‘อวิชฺชา เหตุ, สงฺขารา เหตุสมุปฺปนฺนา’’ติอาทิ ปน ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา ธมฺมฏฺิติาณนฺติ (ปฏิ. ม. มาติกา ๔; ๑.๔๕) วุจฺจมานตฺตา ตสฺส ปจฺจยปริคฺคหาการปริทีปนตฺถํ วิสยตฺเตน วุตฺตํ, น ปธานตฺเตน.
อยฺเหตฺถ อตฺโถ – เอวนฺติ อนนฺตเร วุตฺตนเยน อยํ อวิชฺชา สงฺขารานํ เหตุ, สงฺขารา จ เตน เหตุนา สมุปฺปนฺนา. อุโภเปเตติ ยสฺมา อยํ อวิชฺชา ปรปริกปฺปิตปกติอิสฺสราทิ วิย อเหตุกา นิจฺจา ธุวา น โหติ, อถ โข ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๓) วจนโต สยมฺปิ สเหตุกา สงฺขตา อนิจฺจาเยว โหติ, ตสฺมา อุโภเปเต อวิชฺชาสงฺขารา เหตุสมุปฺปนฺนาเยว. อิตีติ เอวํ ยถาวุตฺตนเยน ปจฺจยปริคฺคณฺหเน ยา ปฺา, ตํ ธมฺมานํ ิติสงฺขาเต การเณ ยาถาวโต ปวตฺตตฺตา ธมฺมฏฺิติาณํ นามาติ.
เอตฺถ หิ าณสฺส วิสยวิภาวนวเสเนว อวิชฺชาทีนํ ปจฺจยาทิภาโว วุตฺโต, น ปธานตฺเตน, าณเมว ปเนตฺถ ปธานโต วุตฺตํ, ตสฺมา เอตสฺส าณสฺส ปจฺจยปริคฺคหาการทสฺสนตฺถเมว เหฏฺาปิ กามภเว จ อวิชฺชาติอาทินา อวิชฺชาทีนํ ปจฺจยาทิภาโว วุตฺโต, อิธาปิ นิคมนวเสน อุปสํหโฏ, น ภวจกฺกทสฺสนตฺถนฺติ อยเมตฺถ อตฺตโน มติ.
ตตฺถ จ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺเมสุ อทิฏฺเสุ เหตูนํ ปจฺจยภาโวปิ น สกฺกา ทฏฺุนฺติ ‘‘สงฺขารา เหตุสมุปฺปนฺนา’’ติ ปจฺจยปริคฺคหาณนิทฺเทเส (ปฏิ. ม. ๑.๔๕) ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมานมฺปิ คหณํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอเตน นเยนาติ อวิชฺชายํ วุตฺตนเยน สงฺขารา เหตุ, วิฺาณํ เหตุสมุปฺปนฺนนฺติอาทินา สพฺพานิ ชาติปริโยสานานิ ปทานิ วิตฺถาเรตพฺพานิ.
เอวํ ปฏิสมฺภิทามคฺคปาฬิยา ธมฺมฏฺิติาณสฺส อวิชฺชาทีสุ ปวตฺติอาการํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตสฺส เตสุ ปจฺจเยสุ อฺเหิปิ อากาเรหิ ปวตฺติอาการํ ¶ ทสฺเสตุํ ตตฺถาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺเคสุ. สงฺขิปฺปนฺติ เอตฺถ อวิชฺชาทโย เหตุสามฺเน ผลสามฺเน ¶ วาติ สงฺเขโป, สงฺคโห, โกฏฺาโส ราสีติ อตฺโถ. โส ปน ชาติโต ทุวิโธปิ กาลเภทวเสน จตุพฺพิโธ ชาโต. ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธาติ อนุวตฺตติ. ตณฺหุปาทานภวา คหิตา กิเลสกมฺมสามฺโต ตทวินาภาวโต จ. อวิชฺชาทิกิเลสวฏฺฏมฺปิ วิปากธมฺมธมฺมตาสริกฺขตาย อิธ กมฺมวฏฺฏเมวาติ อาห อิเม ปฺจ ธมฺมาติอาทิ. วิปากา ธมฺมาติอาทีสุ กมฺมชอรูปกฺขนฺธานเมว วิปากสทฺทวจนียตฺเตปิ นามรูปาทิปเทสุ รูปมิสฺสมฺปิ ผลปฺจกํ อรูปปฺปธานตาย จ ตพฺพหุลตาย จ ‘‘วิปากวฏฺฏ’’นฺติ วุตฺตํ. วิปากปฺปธานํ วฏฺฏํ, วิปากพหุลํ วา วฏฺฏนฺติ อตฺโถ. กมฺมชปริยาโย วา เอตฺถ วิปาก-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. ชาติชรามรณาปเทเสนาติ ปรมตฺถธมฺมวินิมุตฺตชาติชรามรณํ นาม นตฺถีติ ตทปเทเสน เตสํ กถเนน ตํมุเขนาติ อตฺโถ. อากิรียนฺติ ปกาสียนฺตีติ อาการา, อวิชฺชาทิสรูปา, ตโต ปจฺจยาการโตติ อตฺโถ. เอโก สนฺธีติ อวิจฺเฉทปฺปวตฺติเหตุภูโต เหตุผลสนฺธิ, ทุติโย ผลเหตุสนฺธิ, ตติโย เหตุผลสนฺธีติ ทฏฺพฺพํ.
เอวํ ธมฺมฏฺิติาณสฺส อวิชฺชาทีสุ อเนเกหิ ปกาเรหิ ปวตฺติอาการํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตหิ, อวุตฺเตหิ จ สพฺเพหิ อากาเรหิ ภควโต ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส ปฏิวิทฺธภาวํ, ตสฺส จ าณสฺส ธมฺมฏฺิติาณสทฺทปฺปวตฺตินิมิตฺตตํ ปฏิสมฺภิทาปาฬินเยน ทสฺเสตุํ อุปสํหารวเสน อิติ ภควาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อิตีติ วุตฺตปฺปการปรามสนํ, เตนาห จตุสงฺเขปนฺติอาทิ. สพฺพาการโตติ อิธ กามภเว จ อวิชฺชา กามภเว สงฺขารานํ ปจฺจโยติอาทินา อิธ วุตฺเตหิ จ อวุตฺเตหิ จ ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺคาทีสุ (วิภ. ๒๒๕ อาทโย) อาคเตหิ สพฺเพหิ ปกาเรหิ ปฏิวิชฺฌติ. ตนฺติ เยน าเณน ภควา เอวํ ชานาติ, ตํ าณํ. าตฏฺเนาติ ชานนฏฺเน. ปชานนฏฺเนาติ ปฏิวิชฺฌนฏฺเน.
อิทานิ ยมิทํ ธมฺมฏฺิติาณํ ปจฺจยปริคฺคหาการเภเทหิ สทฺธึ ปปฺจโต ทสฺสิตํ, ตสฺมึ อรฆาเต เอตสฺส อุปโยคิตํ ทสฺเสตุํ อิมินา ธมฺมฏฺิติาเณนาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ธมฺมฏฺิติาเณน อเร หนีติ สมฺพนฺโธ. กถนฺติ? อาห ‘‘เต ธมฺเม’’ติอาทิ. เต อวิชฺชาทิเก ธมฺเม มหาวชิราณาวุเธน ¶ เตน ธมฺมฏฺิติาเณน ยถาภูตํ ตฺวา เตน พลววิปสฺสนาวุเธน นิพฺพินฺทนฺโต อริยมคฺคาวุเธน วิรชฺชนฺโต วิมุจฺจนฺโต อเร หนีติ โยชนา. อริยมคฺคาณมฺปิ หิ กิจฺจโต สมุทยสจฺจาทิโพธโต ‘‘ธมฺมฏฺิติาณ’’นฺติ วุจฺจติ.
เอเกกํ ธมฺมกฺขนฺธํ เอเกกวิหาเรน ปูเชมีติ ธมฺมกฺขนฺธํ อารพฺภ ปวตฺตาปิ วิหารกรณปูชา ภควติ เปเมเนว ปวตฺตตฺตา สธาตุกาทิเจติยปฏิมณฺฑิตตฺตา จ ภควโตว ปูชาติ ¶ อาห ภควนฺตํ อุทฺทิสฺสาติอาทิ. กิเลสารีน โส มุนีติ เอตฺถ นิคฺคหีตโลโป, กิเลสารีนํ หตตฺตาติ อตฺโถ. ปจฺจยาทีน จารโหติ เอตฺถาปิ นิคฺคหีตโลโป ทฏฺพฺโพ.
สมฺมาสมฺพุทฺโธติ เอตฺถ สํ-สทฺโท สยนฺติ อตฺเถ ปวตฺตตีติ อาห ‘‘สาม’’นฺติ, อปรเนยฺโย หุตฺวาติ อตฺโถ. สพฺพธมฺมานนฺติ อิทํ กสฺสจิ วิสยวิเสสสฺส อคฺคหิตตฺตา สิทฺธํ. ปเทสคฺคหเณ หิ อสติ คเหตพฺพสฺส นิปฺปเทสตาว วิฺายติ, ยถา ทิกฺขิโต น ททาตีติ. เอวฺจ กตฺวา อตฺถวิเสสานเปกฺขา กตฺตริเยว พุทฺธ-สทฺทสิทฺธิ เวทิตพฺพา กมฺมวจนิจฺฉาย อภาวโต. ‘‘สมฺมา สามํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ เอตฺตกเมว หิ อิธ สทฺทโต ลพฺภติ. สพฺพธมฺมานนฺติ อิทํ ปน อตฺถโต ลพฺภมานํ คเหตฺวา วุตฺตํ, น หิ พุชฺฌนกิริยา อวิสยา ยุชฺชติ. อภิฺเยฺเยติ ลกฺขณาทิโต อนิจฺจาทิโต จ อภิวิสิฏฺเน โลกิยโลกุตฺตราเณน ชานิตพฺเพ จตุสจฺจธมฺเม. ปริฺเยฺเยติ อนิจฺจาทิวเสน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ชานิตพฺพํ ทุกฺขํ อริยสจฺจมาห. ปหาตพฺเพติ สมุทยสจฺจํ. สจฺฉิกาตพฺเพติ นิโรธสจฺจํ. พหุวจนนิทฺเทโส ปเนตฺถ โสปาทิเสสาทิกํ ปริยายสิทฺธํ เภทํ อเปกฺขิตฺวา กโต.
อภิฺเยฺยนฺติ คาถาย ปหาตพฺพภาเวตพฺพานํ สมุทยมคฺคสจฺจานํ เหตุธมฺมานํ คหเณเนว ตปฺผลานํ ทุกฺขสจฺจนิโรธสจฺจานมฺปิ สิทฺธิโต ปริฺาตพฺพฺจ ปริฺาตํ สจฺฉิกาตพฺพฺจ สจฺฉิกตนฺติ อิทมฺเปตฺถ สงฺคหิตเมวาติ ทฏฺพฺพํ, เตนาห ‘‘ตสฺมา พุทฺโธสฺมี’’ติ. ยสฺมา จตฺตาริปิ สจฺจานิ มยา พุทฺธานิ, ตสฺมา สพฺพมฺปิ เยฺยํ พุทฺโธสฺมิ, อพฺภฺาสินฺติ อตฺโถ.
วิจิตฺตวิสยปตฺถนาการปฺปวตฺติยา ตณฺหา ทุกฺขวิจิตฺตตาย ปธานการณนฺติ อาห ‘‘มูลการณภาเวนา’’ติ. อุภินฺนนฺติ จกฺขุสฺส ตํสมุทยสฺส จ. อปฺปวตฺตีติ อปฺปวตฺตินิมิตฺตํ, น อภาวมตฺตํ. ตสฺส อวตฺถุตฺตา ¶ สปฺปจฺจยตฺตาทิอเนกเภทา สพฺพสงฺคหิตา. นิโรธปฺปชานนาติ สจฺฉิกิริยาภิสมยวเสน นิโรธสฺส ปฏิวิชฺฌนา. เอเกกปทุทฺธาเรนาปีติ จกฺขุ จกฺขุสมุทโยติอาทินา เอเกกโกฏฺาสนิทฺธารเณนาปิ, น ทุกฺขสจฺจาทิสามฺโต เอวาติ อธิปฺปาโย. ตณฺหายปิ สงฺขารทุกฺขปริยาปนฺนตาย ปริฺเยฺยตฺตา ทุกฺขสจฺจภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ฉ ตณฺหากายา’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมึ ปน อตฺตภาเว สา อุปฺปชฺชติ, ตสฺส มูลการณภาเวน สมุฏฺาปิกา ปุริมภวสิทฺธา ตณฺหา สมุทยสจฺจนฺติ คเหตพฺพา. กสิณานีติ กสิณารมฺมณานิ ฌานานิ. ทฺวตฺตึสาการาติ เกสาทโย ตทารมฺมณชฺฌานานิ จ. นว ภวาติ กามภวาทโย ตโย สฺีภวาทโย ตโย เอกโวการภวาทโย ตโย จาติ นว ภวา. จตฺตาริ ฌานานีติ อารมฺมณวิเสสํ อนเปกฺขิตฺวา สามฺโต จตฺตาริ ฌานานิ วุตฺตานิ. วิปากกิริยานมฺปิ ยถารหํ ¶ สพฺพตฺถ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. เอตฺถ จ กุสลธมฺมานํ อุปนิสฺสยภูตา ตณฺหาสมุฏฺาปิกาติ เวทิตพฺพา, กิริยธมฺมานํ ปน ตสฺส อตฺตภาวสฺส การณภูตา ตณฺหา. อนุโลมโตติ เอตฺถ อวิชฺชา ทุกฺขสจฺจํ, ตํสมุฏฺาปิกา ปุริมตณฺหา อาสวา สมุทยสจฺจนฺติ โยเชตพฺพํ. สงฺขาราทีสุ ปน อวิชฺชาทโยว สมุทยสจฺจภาเวน โยเชตพฺพา. เตนาติ ตสฺมา.
วิชฺชาติ อตฺตโน วิสยํ วิทิตํ กโรตีติ วิชฺชา. สมฺปนฺนตฺตาติ สมนฺนาคตตฺตา, สมฺปุณฺณตฺตา วา. ตตฺราติ อมฺพฏฺสุตฺเต. มโนมยิทฺธิยาติ เอตฺถ ‘‘อิธ ภิกฺขุ อิมมฺหา กายา อฺํ กายํ อภินิมฺมินาตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๓๖) วุตฺตตฺตา สรีรพฺภนฺตรฌานมเนน อฺสฺส สรีรสฺส นิพฺพตฺติวเสน ปวตฺตา มโนมยิทฺธิ นาม, สา อตฺถโต ฌานสมฺปยุตฺตา ปฺาเยว. สตฺต สทฺธมฺมา นาม สทฺธา หิรี โอตฺตปฺปํ พาหุสจฺจํ วีริยํ สติ ปฺา จ. คจฺฉติ อมตํ ทิสนฺติ ทุกฺขนิตฺถรณตฺถิเกหิ ทฏฺพฺพโต อมตํ นิพฺพานเมว ทิสํ คจฺฉติ, อิมินา จ จรณานํ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตอริยมคฺคภาวโต นิพฺพานตฺถิเกหิ เอกํเสน อิจฺฉิตพฺพตํ ทสฺเสติ. อิทานิสฺสา วิชฺชาจรณสมฺปทาย สาวกาทิอสาธารณตํ ทสฺเสตุํ ตตฺถ วิชฺชาสมฺปทาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาสวกฺขยวิชฺชาวเสน สพฺพฺุตา สิชฺฌติ, จรณธมฺมภูเตสุ ฌาเนสุ ¶ อนฺโตคธาย มหากรุณาสมาปตฺติยา วเสน มหาการุณิกตา สิชฺฌตีติ อาห ‘‘วิชฺชา…เป… มหาการุณิกต’’นฺติ. ยถา ตนฺติ เอตฺถ ตนฺติ นิปาตมตฺตํ, ยถา อฺโปิ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน พุทฺโธ นิโยเชติ, ตถา อยมฺปีติ อตฺโถ. เตนาติ อนตฺถปริวชฺชนอตฺถนิโยชเนน. อตฺตนฺตปาทโยติ อาทิ-สทฺเทน ปรนฺตปอุภยนฺตปา คหิตา. อสชฺชมาโน ภเวสุ อปจฺจาคจฺฉนฺโตติ ปหีนานํ ปุนานุปฺปตฺติโต น ปุน อุปคจฺฉนฺโต.
ตตฺราติ ยุตฺตวาจาภาสเน สาเธตพฺเพ เจตํ ภุมฺมํ. อภูตนฺติ อภูตตฺถํ. อตจฺฉนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. อนตฺถสํหิตนฺติ ปิสุณาทิโทสยุตฺตํ. สมฺมาคทตฺตาติ สุนฺทรวจนตฺตา, คทนํ คโท, กถนนฺติ อตฺโถ. สุนฺทโร คโท วจนมสฺสาติ ‘‘สุคโท’’ติ วตฺตพฺเพ นิรุตฺตินเยน ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา ‘‘สุคโต’’ติ วุตฺตํ.
สภาวโตติ ทุกฺขสภาวโต. โลกนฺติ ขนฺธาทิโลกํ. ยถาวุตฺตมตฺถํ สุตฺตโต อาห ยตฺถาติอาทิ. ตตฺถ ยตฺถาติ ยสฺมึ โลกนฺตสงฺขาเต นิพฺพาเน. ตนฺติ โลกสฺสนฺตํ, โอกาสโลเก กายคมเนน าตพฺพํ ปตฺตพฺพนฺติ นาหํ วทามีติ โยชนา. อิทฺจ โรหิตเทวปุตฺเตน โลกสฺส กายคติวเสน อนฺตคมนสฺส ปุจฺฉิตตฺตา วุตฺตํ. อปฺปตฺวา โลกสฺสนฺตนฺติ ขนฺธาทิโลกํ สนฺธาย วุตฺตํ.
กินฺเต ¶ ปทสา โอกาสโลกปริพฺภมเนน, ปริมิตฏฺาเน เอว ตํ าณคมเนน คจฺฉนฺตานํ ทสฺเสมีติ ทสฺเสนฺโต อปิ จาติอาทิมาห. ตตฺถ พฺยามมตฺเต กเฬวเรติ สรีเร. เตน รูปกฺขนฺธํ ทสฺเสติ. สสฺิมฺหีติ สฺาสีเสน เวทนาทโย ตโย ขนฺเธ. สมนเกติ วิฺาณกฺขนฺธํ. โลกนฺติ ขนฺธาทิโลกํ, ทุกฺขนฺติ อตฺโถ. โลกนิโรธนฺติ นิพฺพาเนน โลกสฺส นิรุชฺฌนํ, นิพฺพานเมว วา. อเทสมฺปิ หิ นิพฺพานํ เยสํ นิโรธาย โหติ, อุปจารโต ตนฺนิสฺสิตํ วิย โหตีติ ‘‘พฺยามมตฺเต กเฬวเร โลกนิโรธมฺปิ ปฺเปมี’’ติ วุตฺตํ, จกฺขุ โลเก ปิยรูปํ, สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌตีติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๔๐๑; วิภ. ๒๐๔) วิย. กุทาจนนฺติ กทาจิปิ. อปฺปตฺวาติ อคฺคมคฺเคน อนธิคนฺตฺวา. ตสฺมาติ ยสฺมา ตํ คมเนน ปตฺตุํ น สกฺกา, ตสฺมา. หเวติ นิปาตมตฺตํ, เอกํสตฺเถ วา ¶ . โลกวิทูติ สภาวาทิโต ขนฺธาทิชานนโก. จตุสจฺจธมฺมานํ อภิสมิตตฺตา สมิตาวี, สมิตกิเลโสติ วา อตฺโถ. นาสีสติ น ปตฺเถติ อปฺปฏิสนฺธิกตฺตา.
เอวํ สงฺเขปโต โลกํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิตฺถารโต ตํ ทสฺเสตุํ อปิ จ ตโย โลกาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อินฺทฺริยพทฺธานํ ขนฺธานํ สมูหสนฺตานภูโต สตฺตโลโก. โส หิ รูปาทีสุ สตฺตวิสตฺตตาย ‘‘สตฺโต’’ติ จ, โลกิยนฺติ เอตฺถ กมฺมกิเลสา ตพฺพิปากา จาติ ‘‘โลโก’’ติ จ วุจฺจติ. อนินฺทฺริยพทฺธานํ อุตุชรูปานํ สมูหสนฺตานภูโต โอกาสโลโก. โส หิ สตฺตสงฺขารานํ อาธารโต ‘‘โอกาโส’’ติ จ, โลกิยนฺติ เอตฺถ ตสฺสาธารา จ อาเธยฺยภูตาติ ‘‘โลโก’’ติ จ ปวุจฺจติ. อินฺทฺริยานินฺทฺริยพทฺธา ปน สพฺเพว อุปาทานกฺขนฺธา ปจฺจเยหิ สงฺขตฏฺเน ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน จ ‘‘สงฺขารโลโก’’ติ จ วุจฺจติ. อาหรติ อตฺตโน ผลนฺติ อาหาโร, ปจฺจโย. เตน ติฏฺนสีลา อุปฺปชฺชิตฺวา ยาว ภงฺคา ปวตฺตนสีลาติ อาหารฏฺิติกา, สพฺเพ สงฺขตธมฺมา. สพฺเพ สตฺตาติ จ อิมินาปิ เวเนยฺยานุรูปโต ปุคฺคลาธิฏฺานตฺตา เทสนาย สงฺขาราว คหิตา.
ยาวตา จนฺทิมสูริยา ปริหรนฺตีติ ยตฺตเก าเน จนฺทิมสูริยา ปริวตฺตนฺติ ปวตฺตนฺติ. วิโรจนาติ เตสํ วิโรจนเหตุ โอภาสนเหตูติ เหตุมฺหิ นิสฺสกฺกวจนํ. ทิสา ภนฺตีติ สพฺพา ทิสา ยาวตา วิคตนฺธการา ปฺายนฺติ. อถ วา ทิสาติ อุปโยคพหุวจนํ. ตสฺมา วิโรจมานา จนฺทิมสูริยา ยตฺตกา ทิสา ภนฺติ โอภาเสนฺตีติ อตฺโถ. ตาว สหสฺสธา โลโกติ ตตฺตเกน ปมาเณน สหสฺสปฺปกาโร โอกาสโลโก, สหสฺสจกฺกวาฬานีติ อตฺโถ. เอตฺถาติ สหสฺสจกฺกวาเฬ. วโสติ อิทฺธิสงฺขาโต วโส วตฺตตีติ อตฺโถ.
ตมฺปีติ ¶ ติวิธมฺปิ โลกํ. อสฺสาติ อเนน ภควตา สงฺขารโลโกปิ สพฺพถา วิทิโตติ สมฺพนฺโธ. เอโก โลโกติ ยฺวายํ เหฏฺา วุตฺตนเยน สพฺพสงฺขตานํ ปจฺจยายตฺตวุตฺติโต เตน สามฺเน สงฺขารโลโก เอโก เอกวิโธ, เอส นโย เสเสสุปิ. สพฺพตฺถาปิ โลกิยธมฺมาว โลโกติ อธิปฺเปตา โลกุตฺตรานํ ปริฺเยฺยตฺตาภาวา. อุปาทานานํ อารมฺมณภูตา ขนฺธา อุปาทานกฺขนฺธา. สตฺต วิฺาณฏฺิติโยติ ¶ ตถา ตถา สมุปฺปนฺนา ปชาเยว วุจฺจนฺติ. นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เอกตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, เอกตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เหฏฺิมา จ ตโย อารุปฺปาติ อิมา สตฺตวิธา ปชาเยว วิฺาณํ ติฏฺติ เอตฺถาติ วิฺาณฏฺิติโย นาม. ตตฺถ นานตฺตํ กาโย เอเตสมตฺถีติ นานตฺตกายา. นานตฺตํ สฺา เอเตสนฺติ นานตฺตสฺิโน. สฺาสีเสเนตฺถ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ คหิตํ, เอส นโย เสเสสุปิ.
ตตฺถ สพฺพมนุสฺสา จ ฉ กามาวจรเทวา จ นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน นาม. เตสฺหิ อฺมฺํ วิสทิสตาย นานา กาโย, ปฏิสนฺธิสฺา จ นววิธตาย นานา. ตีสุ ปมชฺฌานภูมีสุ พฺรหฺมกายิกา เจว จตูสุ อปาเยสุ สตฺตา จ นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน นาม. เตสุ หิ พฺรหฺมปาริสชฺชาทีนํ ติณฺณมฺปิ สรีรํ อฺมฺํ วิสทิสํ, ปฏิสนฺธิสฺา ปน ปมชฺฌานวิปากวเสน เอกาว, ตถา อาปายิกานมฺปิ, เตสํ ปน สพฺเพสํ อกุสลวิปากาเหตุกาว ปฏิสนฺธิสฺา. ทุติยชฺฌานภูมิกา จ ปริตฺตาภ อปฺปมาณาภ อาภสฺสรา เอกตฺตกายา นานตฺตสฺิโน นาม. เตสฺหิ สพฺเพสํ เอกปฺปมาโณว กาโย, ปฏิสนฺธิสฺา ปน ทุติยตติยชฺฌานวิปากวเสน นานา โหติ. ตติยชฺฌานภูมิยํ ปริตฺตสุภาทโย ตโย, จตุตฺถชฺฌานภูมิยํ อสฺสตฺตวชฺชิตา เวหปฺผลา, ปฺจ จ สุทฺธาวาสาติ นวสุ ภูมีสุ สตฺตา เอกตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน นาม. อาภานานตฺเตน ปน สพฺพตฺถ กายนานตฺตํ น คยฺหติ, สณฺานนานตฺเตเนว คยฺหตีติ. อสฺสตฺตา วิฺาณาภาเวน วิฺาณฏฺิติสงฺขฺยํ น คจฺฉนฺติ. เนวสฺา นาสฺายตนํ ปน ยถา สฺาย, เอวํ วิฺาณสฺสาปิ สุขุมตฺตา เนววิฺาณํ นาวิฺาณํ, ตสฺมา ปริพฺยตฺตวิฺาณกิจฺจวนฺเตสุ วิฺาณฏฺิตีสุ น คยฺหติ. ตสฺมา เสสานิ อากาสานฺจายตนาทีนิ ตีณิเยว คหิตานิ, เตหิ สทฺธึ อิมา สตฺต วิฺาณฏฺิติโยติ เวทิตพฺพา.
อฏฺ โลกธมฺมาติ ลาโภ อลาโภ ยโส อยโส นินฺทา ปสํสา สุขํ ทุกฺขนฺติ อิเม อฏฺ โลกสฺส สภาวตฺตา โลกธมฺมา. ลาภาลาภาทิปจฺจยา อุปฺปชฺชนกา ปเนตฺถ อนุโรธวิโรธา วา ลาภาทิสทฺเทหิ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. นว สตฺตาวาสาติ เหฏฺา วุตฺตา สตฺต วิฺาณฏฺิติโย ¶ เอว ¶ อสฺสตฺตจตุตฺถารุปฺเปหิ สทฺธึ ‘‘นว สตฺตาวาสา’’ติ วุจฺจนฺติ. สตฺตา อาวสนฺติ เอตฺถาติ สตฺตาวาสา, สตฺตนิกาโย, อตฺถโต ตถา ปวตฺตา ปชา เอว อิธ สงฺขารโลกภาเวน คยฺหนฺตีติ เวทิตพฺพา. ทสายตนานีติ ธมฺมายตนมนายตนวชฺชิตานิ ทส.
เอตฺถ จ ตีสุ ภเวสุ อสฺสาททสฺสนวเสน ติสฺโส เวทนาว โลกภาเวน วุตฺตา, ตถา ปจฺจยทสฺสนวเสน จตฺตาโรว อาหารา. อตฺตคฺคาหนิมิตฺตทสฺสนวเสน ฉ อชฺฌตฺติกาเนว อายตนานิ. ถูลสฺีภวทสฺสนวเสน สตฺต วิฺาณฏฺิติโยว, อนุโรธวิโรธทสฺสนวเสน อฏฺ โลกธมฺมา วา, ถูลายตนทสฺสนวเสน ทสายตนาเนว โลกภาเวน วุตฺตานิ. เตสํ คหเณเนว ตนฺนิสฺสยตปฺปฏิพทฺธา ตทารมฺมณา สพฺเพ เตภูมกา นามรูปธมฺมา อตฺถโต คหิตา เอว โหนฺติ. เสเสหิ ปน เอกวิธาทิโกฏฺาเสหิ สรูเปเนว เต คหิตาติ เวทิตพฺพํ.
อาสยํ ชานาตีติอาทีสุ อาหจฺจ จิตฺตํ เอตฺถ เสตีติ อาสโย, อฺสฺมึ วิสเย ปวตฺติตฺวาปิ จิตฺตํ ยตฺถ สรเสน ปวิสิตฺวา ติฏฺติ, โส วฏฺฏาสโย วิวฏฺฏาสโยติ ทุวิโธ. ตตฺถ วฏฺฏาสโยปิ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิวเสน ทุวิโธ. วิวฏฺฏาสโย ปน วิปสฺสนาสงฺขาตา อนุโลมิกา ขนฺติ, มคฺคสงฺขาตํ ยถาภูตาณฺจาติ ทุวิโธ. ยถาห –
‘‘สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิ จ, ขนฺติ เจวานุโลมิกํ;
ยถาภูตฺจ ยํ าณํ, เอตํ อาสยสทฺทิต’’นฺติ. (สารตฺถ. ฏี. ๑.เวรฺชกณฺฑวณฺณนา);
เอตํ ทุวิธมฺปิ อาสยํ สตฺตานํ อปฺปวตฺติกฺขเณเยว ภควา สพฺพถา ชานาติ. อนุสยนฺติ กามราคานุสยาทิวเสน สตฺตวิธํ อนุสยํ. จริตนฺติ ‘‘สุจริตทุจฺจริต’’นฺติ นิทฺเทเส วุตฺตํ. อถ วา จริตนฺติ จริยา, เต ราคาทโย ฉ มูลจริยา, สํสคฺคสนฺนิปาตวเสน อเนกวิธา โหนฺติ. อธิมุตฺตินฺติ อชฺฌาสยธาตุํ, ตตฺถ ตตฺถ จิตฺตสฺส อภิรุจิวเสน นินฺนตา, สา ทุวิธา หีนาธิมุตฺติ ปณีตาธิมุตฺตีติ. ยาย ทุสฺสีลาทิเก หีนาธิมุตฺติเก ¶ เสวนฺติ, สา หีนาธิมุตฺติ. ยาย ปณีตาธิมุตฺติเก เสวนฺติ, สา ปณีตาธิมุตฺติ. ตํ ทุวิธมฺปิ อธิมุตฺตึ ภควา สพฺพาการโต ชานาติ. อปฺปํ ราคาทิรชํ เอเตสนฺติ อปฺปรชกฺขา, อนุสฺสทราคาทิโทสา. อุสฺสทราคาทิโทสา มหารชกฺขา. อุปนิสฺสยภูเตหิ ติกฺเขหิ สทฺธาทิอินฺทฺริเยหิ มุทุเกหิ จ สมนฺนาคตา ติกฺขินฺทฺริยา มุทินฺทฺริยา จ. เหฏฺา วุตฺเตหิ อาสยาทีหิ สุนฺทเรหิ อสุนฺทเรหิ จ สมนฺนาคตา สฺวาการา ทฺวาการา จ เวทิตพฺพา. สมฺมตฺตนิยามํ ¶ วิฺาเปตุํ สุกรา สุวิฺาปยา, วิปรีตา ทุวิฺาปยา. มคฺคผลปฏิเวธาย อุปนิสฺสยสมฺปนฺนา ภพฺพา, วิปรีตา อภพฺพา. เอวํ สตฺตสนฺตานคตธมฺมวิเสสชานเนเนว สตฺตโลโกปิ วิทิโต ธมฺมวินิมุตฺตสฺส สตฺตสฺส อภาวาติ เวทิตพฺพํ.
เอกํ จกฺกวาฬํ…เป… ปฺาสฺจ โยชนานีติ เอตฺถ โหตีติ เสโส. ปริกฺเขปโต ปมาณํ วุจฺจตีติ เสโส. จกฺกวาฬสฺส สพฺพํ ปริมณฺฑลํ ฉตฺตึส สตสหสฺสานิ…เป… สตานิ จ โหนฺตีติ โยเชตพฺพํ. ตตฺถาติ จกฺกวาเฬ, ทฺเว สตสหสฺสานิ จตฺตาริ นหุตานิ จ โยชนานิ ยานิ เอตฺตกํ เอตฺตกปฺปมาณํ พหลตฺเตน อยํ วสุนฺธรา สงฺขาตาติ โยชนา. ตตฺถ เอตฺตกนฺติ กิริยาวิเสสนํ ทฏฺพฺพํ. สนฺธารกํ ชลํ เอตฺตกํ เอตฺตกปฺปมาณํ หุตฺวา ปติฏฺิตนฺติ โยชนา. เอตฺถาติ จกฺกวาเฬ. อชฺโฌคาฬฺหุคฺคตาติ อชฺโฌคาฬฺหา จ อุคฺคตา จ. พฺรหาติ มหนฺตา. โยชนานํ สตานุจฺโจ, หิมวา ปฺจาติ โยชนานํ ปฺจสตานิ อุจฺโจ อุพฺเพโธ. ติปฺจโยชนกฺขนฺธปริกฺเขปาติ ปนฺนรสโยชนปฺปมาณกฺขนฺธปริณาหา. นควฺหยาติ รุกฺขาภิธานา ชมฺพูติ โยชนา. สมนฺตโตติ สพฺพโสภาเคน, อายามโต จ วิตฺถารโต จ สตโยชนวิตฺถาราติ อตฺโถ. ยสฺสานุภาเวนาติ ยสฺสา มหนฺตตากปฺปฏฺายิกาทิปฺปกาเรน ปภาเวน. ปริกฺขิปิตฺวา ตํ สพฺพํ, โลกธาตุมยํ ิโตติ เหฏฺา วุตฺตํ สพฺพมฺปิ ตํ ปริกฺขิปิตฺวา จกฺกวาฬสิลุจฺจโย ิโต, อยํ เอกา โลกธาตุ นามาติ อตฺโถ, ม-กาโร ปทสนฺธิวเสน วุตฺโต. อถ วา ตํ สพฺพํ โลกธาตุํ ปริกฺขิปิตฺวา อยํ จกฺกวาฬสิลุจฺจโย ิโตติ โยเชตพฺพํ.
ตตฺถาติ ¶ ตสฺสํ โลกธาตุยํ. ตาวตึสภวนนฺติ ติทสปุรํ. อสุรภวนนฺติ อสุรปุรํ. อวีจิมหานิรโย จ ตถา ทสสหสฺสโยชโน, โส ปน จตุนฺนํ โลหภิตฺตีนมนฺตรา โยชนสตายามวิตฺถาโรปิ สมนฺตา โสฬสหิ อุสฺสทนิรเยหิ สทฺธึ ทสสหสฺสโยชโน วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. ตทนนฺตเรสูติ เตสํ จกฺกวาฬานํ อนฺตเรสุ. โลกานํ จกฺกวาฬานํ อนฺตเร วิวเร ภวตฺตา โลกนฺตริกา. ติณฺณฺหิ สกฏจกฺกานํ ปตฺตานํ วา อาสนฺนฏฺปิตานํ อนฺตรสทิเส ติณฺณํ ติณฺณํ จกฺกวาฬานํ อนฺตเรสุ เอเกโก โลกนฺตริกนิรโย อฏฺโยชนสหสฺสปฺปมาโณ สีตนรโก สตฺตานํ อกุสลวิปาเกน นิพฺพตฺตติ. อนนฺตานีติ ติริยํ อฏฺสุ ทิสาสุ จกฺกวาฬานิ อากาโส วิย อนนฺตานิ. อุทฺธํ ปน อโธ จ อนฺตาเนว. อนนฺเตน พุทฺธาเณนาติ เอตฺถ อนนฺตเยฺยปฏิเวธสามตฺถิยโยคโตว าณํ ‘‘อนนฺต’’นฺติ เวทิตพฺพํ.
อตฺตโนติ นิสฺสกฺเก สามิวจนเมตํ, อตฺตโตติ อตฺโถ. คุเณหิ อตฺตโน วิสิฏฺตรสฺสาติ ¶ สมฺพนฺโธ, ตรคฺคหณฺเจตฺถ อนุตฺตโรติ ปทสฺส อตฺถนิทฺเทสวเสน กตํ, น วิสิฏฺสฺส กสฺสจิ อตฺถิตาย. สเทวเก หิ โลเก สทิสกปฺโปปิ นาม โกจิ ตถาคตสฺส นตฺถิ, กุโต สทิโส, เตนาห สีลคุเณนาปิ อสโมติอาทิ. ตตฺถ อสเมหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ สโม อสมสโม. นตฺถิ ปฏิมา เอตสฺสาติ อปฺปฏิโม. เอส นโย เสเสสุปิ. ตตฺถ อุปมามตฺตํ ปฏิมา, สทิสูปมา ปฏิภาโค. ยุคคฺคาหวเสน ิโต ปฏิโม ปุคฺคโลติ เวทิตพฺโพ. อตฺตนาติ อตฺตโต. ปุริสทมฺเมติอาทีสุ ทมิตพฺพา ทมฺมา, ‘‘ทมฺมปุริสา’’ติ วตฺตพฺเพ วิเสสนสฺส ปรนิปาตํ กตฺวา ‘‘ปุริสทมฺมา’’ติ วุตฺตํ, ปุริสคฺคหณฺเจตฺถ อุกฺกฏฺวเสน อิตฺถีนมฺปิ ทเมตพฺพโต. นิพฺพิสา กตา โทสวิสสฺส วิโนทเนน. อตฺถปทนฺติ อตฺถาภิพฺยฺชนกํ ปทํ, วากฺยนฺติ อตฺโถ. เอกปทภาเวน จ อนฺสาธารโณ สตฺถุ ปุริสทมฺมสารถิภาโว ทสฺสิโต โหติ, เตนาห ภควา หีติอาทิ. อฏฺ ทิสาติ อฏฺ สมาปตฺติโย. อสชฺชมานาติ วสีภาวปฺปตฺติยา นิสฺสงฺคจารา.
ทิฏฺธมฺโม วุจฺจติ ปจฺจกฺโข อตฺตภาโว, ตตฺถ นิยุตฺโตติ ทิฏฺธมฺมิโก, อิธโลกตฺโถ. กมฺมกิเลสวเสน สมฺปเรตพฺพโต สมาคนฺตพฺพโต สมฺปราโย ¶ , ปรโลโก, ตตฺถ นิยุตฺโตติ สมฺปรายิโก, ปรโลกตฺโถ. ปรโม อุตฺตโม อตฺโถ ปรมตฺโถ, นิพฺพานํ. สห อตฺเถน วตฺตตีติ สตฺโถ, ภณฺฑมูเลน วาณิชฺชาย เทสนฺตรํ คจฺฉนฺโต ชนสมูโห. โส อสฺส อตฺถีติ สตฺถา, สตฺถวาโหติ นิรุตฺตินเยน. โส วิย ภควาติ อาห ‘‘สตฺถา, ภควา สตฺถวาโห’’ติ. อิทานิ ตมตฺถํ นิทฺเทสปาฬินเยน ทสฺเสตุํ ยถา สตฺถวาโหติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สตฺเถติ สตฺถิเก ชเน. กํ อุทกํ ตาเรนฺติ เอตฺถาติ กนฺตาโร, นิรุทโก อรฺปฺปเทโส. โจราทีหิ อธิฏฺิตอรฺปฺปเทสาปิ ทุคฺคมนฏฺเน ตํสทิสตาย กนฺตาราตฺเวว นิรุฬฺหาติ สามฺโต ‘‘กนฺตารํ ตาเรตี’’ติ วตฺวา ตํ วิวรนฺโต โจรกนฺตารนฺติอาทิมาห.
ภควโตติ นิสฺสกฺเก สามิวจนํ, ภควนฺตโต ธมฺมสฺสวเนนาติ อตฺโถ. ยถา ‘‘อุปชฺฌายโต อชฺเฌตี’’ติ, ภควโต สนฺติเกติ วา อตฺโถ. สเร นิมิตฺตํ อคฺคเหสีติ ปุพฺพพุทฺธุปฺปาเทสุ สทฺธมฺมสฺสวนปริจเยน ‘‘ธมฺโม เอโส วุจฺจตี’’ติ สเร อาการํ คณฺหิ. ปุพฺพาภิโยควเสเนว หิ อีทิสานํ ติรจฺฉานานํ ธมฺมสฺสวนาทีสุ ปสาโท อุปฺปชฺชติ วคฺคุลิอาทีนํ วิย. อิตรถา สพฺพติรจฺฉานานมฺปิ ตถา ปสาทุปฺปตฺติปฺปสงฺคโต. ยทิ หิ อุปฺปชฺเชยฺย, ภควา อนนฺตจกฺกวาเฬสุ สพฺพสตฺตานมฺปิ เอกกฺขเณ สปฺปาฏิหาริยธมฺมํ สาเวตุํ สกฺโกตีติ สพฺพสตฺตานมฺปิ อิโต ปุพฺเพว วิมุตฺติปฺปสงฺโค สิยา. เย ปน เทวมนุสฺสนาคสุปณฺณาทโย ปกติยาว กมฺมสฺสกตฺาณาทิยุตฺตา โหนฺติ, เตเยว ปุพฺเพ อนุปนิสฺสยาปิ ¶ ภควโต สทฺธมฺมสฺสวนาทินา ปมํ วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ ปสาทํ อุปฺปาเทตุํ สกฺโกนฺติ, น อิตเรติ คเหตพฺพํ. อเร อหมฺปิ นามาติ เอตฺถ ‘‘กุโตหํ อิธ นิพฺพตฺโตติ โอโลเกตฺวา มณฺฑูกภาวโตติ ตฺวา’’ติ อิทํ เอตฺตกมฺปิ อเร อหมฺปิ นามาติ วิมฺหยวจเนเนว สิชฺฌตีติ อวุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ชลนฺติ ชลนฺโต วิชฺโชตมาโน. มณฺฑูโกหนฺติ คาถาย อุทเกติ สฺชาตฏฺานทสฺสนํ, เตน ถลมณฺฑูกตา นิวตฺตนํ กตํ โหติ. อุทเก ชาตานมฺปิ กจฺฉปาทีนํ ถลโคจรตาปิ อตฺถีติ ตํ นิวตฺตนตฺถํ ‘‘วาริโคจโร’’ติ วุตฺตํ, อุทกสฺจารีติ อตฺโถ.
วิโมกฺขนฺติกาณวเสนาติ เอตฺถ สพฺพโส กิเลเสหิ วิมุจฺจตีติ วิโมกฺโข, อคฺคมคฺโค, ตสฺส อนฺโต, อคฺคผลํ, ตตฺถ ภวํ วิโมกฺขนฺติกํ, สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ สพฺพมฺปิ พุทฺธาณํ. อิทานิ สมฺมาสมฺพุทฺธปทโต พุทฺธปทสฺส ¶ วิเสสํ ทสฺเสตุํ ยสฺมา วาติอาทิ วุตฺตํ. สมฺมาสมฺพุทฺธปเทน หิ สตฺถุ ปฏิเวธาณานุภาโว วุตฺโต, อิมินา ปน พุทฺธปเทน เทสนาาณานุภาโวปิ, เตนาห อฺเปิ สตฺเต โพเธสีติอาทิ.
คุณวิสิฏฺสตฺตุตฺตมครุคารวาธิวจนนฺติ สพฺเพหิ สีลาทิคุเณหิ วิสิฏฺสฺส ตโต เอว สพฺพสตฺเตหิ อุตฺตมสฺส ครุโน คารววเสน วุจฺจมานวจนมิทํ ภควาติ. เสฏฺนฺติ เสฏฺวาจกํ วจนํ เสฏฺคุณสหจรณโต. อถ วา วุจฺจตีติ วจนํ, อตฺโถ, โส เสฏฺโติ อตฺโถ. อุตฺตมนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ครุคารวยุตฺโตติ เอตฺถ ครุภาโว คารวํ, ครุคุณโยคโต ครุกรณํ วา คารวํ, เตน สาวกาทีนํ อสาธารณตาย ครุภูเตน มหนฺเตน คารเวน ยุตฺโตติ ครุคารวยุตฺโต. อถ วา ครุ จ สพฺพโลกสฺส สิกฺขกตฺตา เตเนว คารวยุตฺโต จาติปิ โยเชตพฺพํ.
อวตฺถาย วิทิตํ อาวตฺถิกํ. เอวํ ลิงฺคิกํ. นิมิตฺตโต อาคตํ เนมิตฺติกํ. อธิจฺจ ยํกิฺจิ นิมิตฺตํ อธิวจนวเสน อนเปกฺขิตฺวา ปวตฺตํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ, เตนาห ‘‘วจนตฺถมนเปกฺขิตฺวา’’ติ. ยทิจฺฉาย อาคตํ ยาทิจฺฉกํ. เอตฺถ จ พาหิรํ ทณฺฑาทิ ลิงฺคํ, อพฺภนฺตรํ เตวิชฺชาทิ นิมิตฺตํ. ปจุรชนวิสยํ วา ทิสฺสมานํ ลิงฺคํ, ตพฺพิปรีตํ นิมิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สจฺฉิกาปฺตฺตีติ สพฺพธมฺมานํ สจฺฉิกิริยานิมิตฺตา ปฺตฺติ. อถ วา สจฺฉิกาปฺตฺตีติ ปจฺจกฺขสิทฺธา ปฺตฺติ. ยํคุณนิมิตฺตา หิ สา, เต คุณา สตฺถุ ปจฺจกฺขภูตาติ คุณา วิย สาปิ สจฺฉิกตา เอว นาม โหติ, น ปเรสํ, โวหารมตฺเตนาติ อธิปฺปาโย. ยํคุณเนมิตฺติกนฺติ เยหิ คุเณหิ นิมิตฺตภูเตหิ เอตํ นามํ เนมิตฺติกฺจ ชาตํ. วทนฺตีติ ธมฺมเสนาปติสฺส ครุภาวโต พหุวจเนนาห, สงฺคีติกาเรหิ วา กตมนุวาทํ สนฺธาย.
อิสฺสริยาทิเภโท ¶ ภโค อสฺส อตฺถีติ ภคี. มคฺคผลาทิอริยคุณํ อรฺาทิวิเวกฏฺานฺจ ภชิ เสวิ สีเลนาติ ภชี. จีวราทิปจฺจยานํ อตฺถรสาทีนฺจ สีลาทิคุณานฺจ ภาคี, ทายาโทติ อตฺโถ. วิภชิ อุทฺเทสนิทฺเทสาทิปฺปกาเรหิ ธมฺมรตนํ ปวิภชีติ วิภตฺตวา. ราคาทิปาปธมฺมํ ภคฺคํ อกาสีติ ภควาติ วุจฺจตีติ สพฺพตฺถ สมฺพนฺโธ. ครุปิ โลเก ภควาติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘ครู’’ติ, ยสฺมา ครุ, ตสฺมาปิ ภควาติ อตฺโถ. ปารมิตาสงฺขาตํ ¶ ภคฺยมสฺส อตฺถีติ ภคฺยวา. พหูหิ าเยหีติ กายภาวนาทิเกหิ อเนเกหิ ภาวนากฺกเมหิ. สุภาวิตตฺตโนติ ปจฺจตฺเต เอตํ สามิวจนํ, เตน สุภาวิตสภาโวติ อตฺโถ. ภวานํ อนฺตํ นิพฺพานํ คโตติ ภวนฺตโค. ตตฺถ ตตฺถ ภควาติ สทฺทสิทฺธิ นิรุตฺตินเยเนว เวทิตพฺพา.
อิทานิ ภคี ภชีติ นิทฺเทสคาถาย นวหิ ปเทหิ ทสฺสิตมตฺถํ ภคฺยวาติ คาถาย ฉหิ ปเทหิ สงฺคเหตฺวา ปทสิทฺธึ อตฺถโยชนานยเภเทหิ สทฺธึ ทสฺเสตุํ อยํ ปน อปโร นโยติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ วณฺณวิปริยโยติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, เตเนว วณฺณวิกาโร วณฺณโลโป ธาตุอตฺเถน นิโยชนฺจาติ อิมํ ติวิธํ ลกฺขณํ สงฺคณฺหาติ. สทฺทนเยนาติ สทฺทลกฺขณนเยน. ปิโสทราทีนํ สทฺทานํ อากติคณภาวโต วุตฺตํ ‘‘ปิโสทราทิปกฺเขปลกฺขณํ คเหตฺวา’’ติ. ปกฺขิปนเมว ลกฺขณํ. ตปฺปริยาปนฺนตากรณฺหิ ปกฺขิปนํ. ภคฺยนฺติ กุสลํ.
โลภาทโย จตฺตาโร โทสา เอกกวเสน คหิตา. อหิริกาทโย ทุกวเสน. อกฺโกจฺฉิมนฺติอาทินา (ธ. ป. ๓-๔) ปุนปฺปุนํ กุชฺฌนวเสน จิตฺตปริโยนนฺธโน โกโธว อุปนาโห. ปเรสํ ปุพฺพการิตาลกฺขณสฺส คุณสฺส นิปฺุฉโน มกฺโข นาม. พหุสฺสุตาทีหิ สทฺธึ ยุคคฺคาโห อตฺตโน สมกรณํ ปลาโส. อตฺตโน วิชฺชมานโทสปฏิจฺฉาทนา มายา. อวิชฺชมานคุณปฺปกาสนํ สาเยฺยํ. ครูสุปิ ถทฺธตา อโนนตตา ถมฺโภ. ตทุตฺตริกรณลกฺขโณ สารมฺโภ. ชาติอาทึ นิสฺสาย อุนฺนติลกฺขโณ มาโน. อพฺภุนฺนติลกฺขโณ อติมาโน. ชาติอาทึ นิสฺสาย มชฺชนาการปฺปตฺโต มาโนว มโท นาม. โส สตฺตวีสติวิโธ. กามคุเณสุ จิตฺตสฺส โวสฺสคฺโค ปมาโท. กายทุจฺจริตาทีนิ ติวิธทุจฺจริตานิ. ตณฺหาทิฏฺิทุจฺจริตวเสน ติวิธสํกิเลสา. ราคโทสโมหาว มลานิ. เตเยว กายทุจฺจริตาทโย จ ติวิธวิสมานิ. กามพฺยาปาทวิหึสาสฺา ติวิธสฺา นาม. เตเยว วิตกฺกา. ตณฺหาทิฏฺิมานา ปปฺจา. สุภสุขนิจฺจอตฺตวิปริเยสา จตุพฺพิธวิปริเยสา. ฉนฺทาทโย อคติ. จีวราทีสุ ปจฺจเยสุ โลภา จตฺตาโร ตณฺหุปาทา. พุทฺธธมฺมสงฺฆสิกฺขาสุ กงฺขา, สพฺรหฺมจารีสุ โกโป จ ¶ ปฺจ เจโตขีลา. กาเม กาเย รูเป จ อวีตราคตา, ยาวทตฺถํ ภฺุชิตฺวา เสยฺยสุขาทิอนุโยโค, อฺตรํ ¶ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยจรณฺจ ปฺจ เจโตวินิพนฺธา. รูปาภินนฺทนาทโย ปฺจ อภินนฺทนา. โกธมกฺขอิสฺสาสาเยฺยปาปิจฺฉตาสนฺทิฏฺิปรามาสา ฉ วิวาทมูลานิ. รูปตณฺหาทโย ฉ ตณฺหากายา. มิจฺฉาทิฏฺิอาทโย อฏฺมคฺคงฺคปฏิปกฺขา มิจฺฉตฺตา. ตณฺหํ ปฏิจฺจ ปริเยสนา, ปริเยสนํ ปฏิจฺจ ลาโภ, ลาภํ ปฏิจฺจ วินิจฺฉโย, ตํ ปฏิจฺจ ฉนฺทราโค, ตํ ปฏิจฺจ อชฺโฌสานํ, ตํ ปฏิจฺจ ปริคฺคโห, ตํ ปฏิจฺจ มจฺฉริยํ, ตํ ปฏิจฺจ อารกฺขา, อารกฺขาธิกรณํ ทณฺฑาทานาทิอเนกากุสลราสีติ นว ตณฺหามูลกา ธมฺมา. ปาณาติปาตาทโย ทส อกุสลกมฺมปถา. จตฺตาโร สสฺสตวาทา ตถา เอกจฺจสสฺสตวาทา อนฺตานนฺติกา อมราวิกฺเขปิกา ทฺเว อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา โสฬส สฺีวาทา อฏฺ อสฺีวาทา อฏฺ เนวสฺีนาสฺีวาทา สตฺต อุจฺเฉทวาทา ปฺจ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทาติ เอตานิ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ. รูปตณฺหาทิฉตณฺหา เอว ปจฺเจกํ กามตณฺหาภวตณฺหาวิภวตณฺหาวเสน อฏฺารส โหนฺติ, ตา อชฺฌตฺตพหิทฺธรูปาทีสุ ปวตฺติวเสน ฉตฺตึส, ปุน กาลตฺตยวเสน อฏฺสตตณฺหาวิจริตานิ โหนฺติ. ปเภท-สทฺทํ ปจฺเจกํ สมฺพนฺธิตฺวา โลภปฺปเภโทติอาทินา โยเชตพฺพํ. สพฺพทรถปริฬาหกิเลสสตสหสฺสานีติ สพฺพานิ สตฺตานํ ทรถสงฺขาตปริฬาหกรานิ กิเลสานํ อเนกานิ สตสหสฺสานิ, อารมฺมณาทิวิภาคโต ปวตฺติอาการวิภาคโต จ เนสํ เอวํ ปเภโท เวทิตพฺโพ. ปฺจ มาเร อภฺชีติ สมฺพนฺโธ. ปริสฺสยานนฺติ อุปทฺทวานํ.
เอวํ ภคฺยวา ภคฺควาติ ทฺวินฺนํ ปทานํ อตฺถํ วิภชิตฺวา อิทานิ เตหิ ทฺวีหิ คหิตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ภคฺยวนฺตตาย จสฺสาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สตปฺุชลกฺขณธรสฺสาติ อเนกสตปฺุนิพฺพตฺตมหาปุริสลกฺขณธรสฺส ภควโต. สกจิตฺเต อิสฺสริยํ นาม ปฏิกฺกูลาทีสุ อปฺปฏิกฺกูลสฺิตาทิวสปฺปวตฺติยา เจว เจโตสมาธิวเสน จ อตฺตโน จิตฺตสฺส วสีภาวาปาทนเมว. อณิมา ลฆิมาทิกนฺติ อาทิ-สทฺเทน มหิมา ปตฺติ ปากมฺมํ อีสิตา วสิตา ยตฺถกามาวสายิตาติ อิเม ฉปิ สงฺคหิตา. ตตฺถ กายสฺส อณุภาวกรณํ อณิมา. อากาเส ปทสา ¶ คมนาทิอรหภาเวน ลหุภาโว ลฆิมา. กายสฺส มหนฺตตาปาทนํ มหิมา. อิฏฺเทสสฺส ปาปุณนํ ปตฺติ. อธิฏฺานาทิวเสน อิจฺฉิตตฺถนิปฺผาทนํ ปากมฺมํ. สยํวสิตา อิสฺสรภาโว อีสิตา. อิทฺธิวิเธ วสีภาโว วสิตา. อากาเสน วา คจฺฉโต, อฺํ วา กิฺจิ กโรโต ยตฺถ กตฺถจิ โวสานปฺปตฺติ ยตฺถกามาวสายิตา, ‘‘กุมารกรูปาทิทสฺสน’’นฺติปิ วทนฺติ. สพฺพงฺคปจฺจงฺคสิรีติ สพฺเพสํ องฺคปจฺจงฺคานํ โสภา. อตฺถีติ อนุวตฺตติ. ลหุสาธนํ ตํ ตํ กาลิกํ อิจฺฉิตํ, ครุสาธนํ จิรกาลิกํ พุทฺธตฺตาทิปตฺถิตํ ¶ . ภคา อสฺส สนฺตีติ ภควาติ อิทํ สทฺทสตฺถนเยน สิทฺธํ, เสสํ สพฺพํ นิรุตฺตินเยน สิทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ.
ปีฬนสงฺขตสนฺตาปวิปริณามฏฺเนาติอาทีสุ ปีฬนฏฺโ สงฺขตฏฺโติอาทินา อตฺถ-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ตตฺถ อตฺตโน สภาเวน ปีฬนลกฺขณํ ทุกฺขํ. ตสฺส โย ปีฬนเมว อตฺโถ ‘‘ปีฬนฏฺโ’’ติ วุจฺจติ, โส สภาโว. ยสฺมา ปน ตํสมุทเยน สงฺขตํ, ตสฺมา สงฺขตฏฺโ สมุทยทสฺสเนน อาวิภูโต. ยสฺมา จ มคฺโค กิเลสสนฺตาปหรตฺตา สุสีตโล, ตสฺมาสฺส มคฺคทสฺสเนน สนฺตาปฏฺโ อาวิภูโต ตปฺปฏิโยคตฺตา. อวิปริณามธมฺมสฺส ปน นิโรธสฺส ทสฺสเนน วิปริณามฏฺโ อาวิภูโตติ. เอกสฺเสว สภาวธมฺมสฺส สกภาวโต อิตรสจฺจตฺตยนิวตฺติโต จ ปริกปฺเปตพฺพตฺตา จตฺตาโร อตฺถา วุตฺตา. สมุทยสฺส ปน ราสิกรณโต อายูหนฏฺโ สภาโว, ตสฺเสว ทุกฺขทสฺสเนน นิทานฏฺโ อาวิภูโต. วิสํโยคภูตสฺส นิโรธสฺส ทสฺสเนน สํโยคฏฺโ. นิยฺยานภูตสฺส มคฺคสฺส ทสฺสเนน ปลิโพธฏฺโ อาวิภูโต.
นิโรธสฺส ปน นิสฺสรณฏฺโ สภาโว, ตสฺเสว สมุทยทสฺสเนน วิเวกฏฺโ อาวิภูโต. สงฺขตสฺส มคฺคสฺส ทสฺสเนน อสงฺขตฏฺโ, วิสยภูตสฺส มรณธมฺมสฺส วา ทุกฺขสฺส ทสฺสเนน อมตฏฺโ. มคฺคสฺส ปน นิยฺยานฏฺโ สภาโว, ตสฺเสว สมุทยทสฺสเนน ทุกฺขสฺเสวายํ เหตุ, นิพฺพานปฺปตฺติยา ปน อยเมว เหตูติ เหตฺวฏฺโ, อติสุขุมนิโรธทสฺสเนน อิธเมว ทสฺสนนฺติ ทสฺสนฏฺโ, อธิกปณสฺส ทุกฺขสฺส ทสฺสเนน อธิปเตยฺยฏฺโ อาวิภูโต. เอเต เอว จ ปีฬนาทโย โสฬส อาการาติ วุจฺจนฺติ.
กาเมหิ ¶ วิเวกฏฺกายตา กายวิเวโก. นีวรณาทีหิ วิวิตฺตา อฏฺ สมาปตฺติโย จิตฺตวิเวโก. อุปธียนฺติ เอตฺถ ยถาสกํ ผลานีติ อุปธโย, ปฺจกามคุณสงฺขาตกามขนฺธกิเลสอภิสงฺขารา, เตหิ จตูหิ วิวิตฺตํ นิพฺพานํ อุปธิวิเวโก นาม.
อนตฺตานุปสฺสนาย ปฏิลทฺโธ ทุกฺขานิจฺจานุปสฺสนาหิ จ ปฏิลทฺโธ อริยมคฺโค อาคมนวเสน ยถากฺกมํ สฺุตอปฺปณิหิตอนิมิตฺตวิโมกฺขสฺํ ปฏิลภติ, กิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา หิ เอส วิโมกฺโขติ.
ยถา โลเก เอเกกปทโต เอเกกมกฺขรํ คเหตฺวา ‘‘เมขลา’’ติ วุตฺตํ, เอวมิธาปีติ อตฺโถ. เมหนสฺสาติ คุยฺหปฺปเทสสฺส. ขสฺสาติ โอกาสสฺส.
สห ¶ เทเวหีติอาทีสุ สห เทเวหิ วตฺตตีติ สเทวโก โลโก. ตํ สเทวกนฺติอาทินา โยชนา เวทิตพฺพา. สเทวกวจเนนาติ สเทวก-สทฺเท วิเสสนภาเวน ิตเทววจเนน. ตสฺสาปิ สเทวกปเท อนฺโตภูตตฺตา อวยเว สมุทาโยปจารวเสน โวหาโร กโต. อิตรถา เตน เทววิสิฏฺโลกสฺเสว คหณโต ปฺจกามาวจรเทวคฺคหณํ น สิยา, เอวํ อุปริปิ. สมารกวจเนน มารสทฺเทน เตน สหจริตา สพฺเพ วสวตฺติเทวา จ คหิตาติ อาห ‘‘ฉฏฺกามาวจรเทวคฺคหณ’’นฺติ. พฺรหฺมกายิกา นาม ปมชฺฌานภูมิกา. เต อาทิ เยสํ อารุปฺปปริยนฺตานํ พฺรหฺมานํ เตสํ พฺรหฺมานํ คหณํ พฺรหฺมกายิกาทิพฺรหฺมคฺคหณํ. โลก-สทฺทสฺส โอกาสโลกาทีนมฺปิ สาธารณตฺตา สตฺตโลกาเวณิกเมว ปชาคหณํ กตนฺติ อาห ‘‘ปชาวจเนน สตฺตโลกคฺคหณ’’นฺติ. สเทวกาทิวจเนน อุปปตฺติเทวานํ, สสฺสมณวจเนน วิสุทฺธิเทวานฺจ คหิตตฺตา อาห ‘‘สเทวมนุสฺสวจเนน สมฺมุติเทวอวเสสมนุสฺสคฺคหณ’’นฺติ. ตตฺถ สมฺมุติเทวา ราชาโน, อวเสสมนุสฺสา สมฺมุติเทวสมณพฺราหฺมเณหิ อวสิฏฺา. สตฺตโลกาเวณิกสฺส ปชาสทฺทสฺส วิสุํ คหิตตฺตา สเทวกํ โลกนฺติ เอตฺถ โลกสทฺทคฺคหณํ โอกาสโลกเมว นิยเมตีติ อาห ‘‘ตีหิ ปเทหิ โอกาสโลโก’’ติ. อิทฺจ สเทวกาทิปทตฺตยวจนียสฺส ปธานตฺถสฺส วเสน วุตฺตํ. โอกาสโลกวิเสสนสฺส ปเนตฺถ เทวมาราทิสตฺตโลกสฺสาปิ คหณํ เวทิตพฺพํ ¶ สามตฺถิยโต คมฺยมานตฺตา สปุตฺโต อาคโตติอาทีสุ ปุตฺตาทีนํ วิย. อิมสฺมิฺจ นเย สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ โอกาสโลกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ สเทวมนุสฺสํ ปชฺจาติ จ-การํ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ, โอกาสสตฺตโลกานํ คหเณน เจตฺถ ตทุภยสมฺมุตินิมิตฺตภูโต สงฺขารโลโกปิ ตทวินาภาวโต คหิโต เอวาติ ทฏฺพฺโพ. อปเร ปน ‘‘สเทวกนฺติอาทีหิ ปฺจหิ ปเทหิ สตฺตโลโกว อตฺตโน อวยวภูตเทวาทิวิเสสเนหิ วิเสเสตฺวา คหิโต, ตคฺคหเณน ตทาธาโร โอกาสโลโก, ตทุภยปฺตฺติวิสโย สงฺขารโลโก จ คหิตา เอว โหนฺตี’’ติ วทนฺติ. เตสฺจ ปชนฺติ อิทํ โลกสทฺทสฺส วิเสสนํ กตฺวา สเทวกํ ปชํ โลกํ…เป… สเทวมนุสฺสํ ปชํ โลกนฺติ โยเชตพฺพํ.
อรูปาวจรโลโก คหิโต ปาริเสสาเยน อิตเรสํ ปทนฺตเรหิ คหิตตฺตา. มารคฺคหเณน ตปฺปธานา ตํสทิสา จ อุปปตฺติเทวา สงฺคยฺหนฺตีติ อาห ‘‘ฉกามาวจรเทวโลโก’’ติ. ขตฺติยปริสา พฺราหฺมณคหปติสมณจาตุมหาราชิกตาวตึสมารพฺรหฺมปริสาติ อิมาสุ อฏฺสุ ปริสาสุ จาตุมหาราชิกาทีนํ จตุนฺนํ ปริสานํ สเทวกาทิปเทหิ สงฺคหิตตฺตา อิธ สสฺสมณพฺราหฺมณินฺติ อิมินา สมณปริสา พฺราหฺมณปริสา จ, สเทวมนุสฺสนฺติ อิมินา ขตฺติยปริสา คหปติปริสา จ วุตฺตาติ อาห ‘‘จตุปริสวเสนา’’ติ. ตสฺส มนุสฺสโลโก คหิโตติ ¶ อิมินา สมฺพนฺโธ. ตตฺถ มนุสฺสโลโกติ มนุสฺสสมูโห, เตนาห ‘‘อวเสสสพฺพสตฺตโลโก วา’’ติ.
วิกปฺปนฺตรํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สมฺมุติเทเวหิ วา สห มนุสฺสโลโก’’ติ. เทวปเทน สมฺมุติเทวา, สมณพฺราหฺมณมนุสฺสปเทหิ เสสมนุสฺสา จ คหิตาติ เอวํ วิกปฺปทฺวเยปิ มนุสฺสํ ปชํ มนุสฺสึ ปชนฺติ ปชา-สทฺทํ มนุสฺส-สทฺเทน วิเสเสตฺวา ตํ ปุน สห เทเวหิ วตฺตตีติ สเทวา, ปชา. สเทวา จ สา มนุสฺสา จาติ สเทวมนุสฺสา, ตํ สเทวมนุสฺสํ ปชํ. ปุน กึ ภูตํ สสฺสมณพฺราหฺมณินฺติ เอวํ ยถา ปชาสทฺเทน มนุสฺสานฺเว คหณํ สิยา, ตถา นิพฺพจนํ กาตพฺพํ, อิตรถา มนุสฺสานฺเว คหณํ น สมฺปชฺชติ สพฺพมนุสฺสานํ วิเสสนภาเวน คหิตตฺตา อฺปทตฺถภูตสฺส กสฺสจิ มนุสฺสสฺส อภาวา. อิทานิ ปชนฺติ อิมินา ¶ อวเสสนาคาทิสตฺเตปิ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสตุกาโม อาห ‘‘อวเสสสพฺพสตฺตโลโก วา’’ติ. เอตฺถาปิ จตุปริสวเสน อวเสสสพฺพสตฺตโลโก สมฺมุติเทวมนุสฺเสหิ วา สห อวเสสสพฺพสตฺตโลโกติ โยเชตพฺพํ.
เอตฺตาวตา ภาคโส โลกํ คเหตฺวา โยชนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เอเกกปเทน อภาคโส สพฺพโลกานํ คหณปกฺเขปิ ตสฺส ตสฺส วิเสสนสฺส สปฺผลตํ ทสฺเสตุํ อปิ เจตฺถาติอาทิ วุตฺตํ. อุกฺกฏฺปริจฺเฉทโตติ อุกฺกฏฺานํ เทวคติปริยาปนฺนานํ ปริจฺฉินฺนวเสน ชานนวเสน กิตฺติสทฺโท สยํ อตฺตโน อวยวภูเตน สเทวกวจเนน ตํ สุณนฺตานํ สาเวนฺโต อพฺภุคฺคโตติ โยชนา. อนุสนฺธิกฺกโมติ อตฺถานฺเจว ปทานฺจ อนุสนฺธานกฺกโม, ชานนกฺกโมติ อตฺโถ.
อภิฺาติ ย-การโลเปน นิทฺเทโสติ อาห ‘‘อภิฺายา’’ติ. สมนฺตภทฺรกตฺตาติ สพฺพภาเคหิ สุนฺทรตฺตา. สาสนธมฺโมติ ปฏิปตฺติปฏิเวธสาสนสฺส ปกาสโก ปริยตฺติธมฺโม. พุทฺธสุโพธิตตายาติ อิทํ ติกํ ธมฺมสฺส เหตุสรูปผลวเสน วุตฺตํ, ตถา นาถปภวตฺติกมฺปิ. มชฺเฌ ติกทฺวยํ ผลวเสเนว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. กิจฺจสุทฺธิยาติ ธมฺมํ สุตฺวา ยถาสุตวเสน ปฏิปชฺชนฺตานํ สุปฺปฏิปตฺติสงฺขาตกิจฺจสุทฺธิยา.
อิทานิ อาทิกลฺยาณาทิปฺปการเมว ธมฺมํ เทเสนฺโต ภควา โสตูนํ ยํ สาสนพฺรหฺมจริยํ มคฺคพฺรหฺมจริยฺจ ปกาเสติ, ตปฺปกาสกสฺส พฺรหฺมจริยปทสฺส สาตฺถนฺติอาทีนิ ปทานิ วิเสสนภาเวน วุตฺตานิ, น ธมฺมปทสฺสาติ ทสฺสนมุเขน นานปฺปการโต อตฺถํ วิวริตุกาโม สาตฺถํ สพฺยฺชนนฺติ เอวมาทีสุ ปนาติอาทิมาห. ตตฺถ ติสฺโส สิกฺขา สกโล จ ตนฺติธมฺโม สาสนพฺรหฺมจริยํ ¶ นาม. ภควา หิ ธมฺมํ เทเสนฺโต สีลาทิเก วิย ตปฺปกาสกํ ตนฺติธมฺมมฺปิ ปกาเสติ เอว สทฺทตฺถสมุทายตฺตา ปริยตฺติธมฺมสฺส. ยถานุรูปนฺติ ยถารหํ. สิกฺขตฺตยสงฺคหิตฺหิ สาสนพฺรหฺมจริยํ มคฺคพฺรหฺมจริยฺจ อตฺถสมฺปตฺติยา สมฺปนฺนตฺถตาย, อุปรูปริ อธิคนฺตพฺพวิเสสสงฺขาตอตฺถสมฺปตฺติยา จ สห อตฺเถน ปโยชเนน วตฺตตีติ สาตฺถเมว, น ตุ สพฺยฺชนํ, ตนฺติธมฺมสงฺขาตํ สาสนพฺรหฺมจริยํ ยถาวุตฺเตน อตฺเถน สาตฺถํ สพฺยฺชนฺจ. กิราตาทิมิลกฺขวจนานมฺปิ สาตฺถสพฺยฺชนตฺเต สมาเนปิ วิสิฏฺตฺถพฺยฺชนโยคํ สนฺธาย สหตฺโถ ¶ เทวทตฺโต สวิตฺโตติอาทิ วิย ‘‘สาตฺถํ สพฺยฺชน’’นฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อตฺถสมฺปตฺติยา สาตฺถํ, พฺยฺชนสมฺปตฺติยา สพฺยฺชน’’นฺติ. ตตฺถ ยํ อตฺถํ สุตฺวา ตถา ปฏิปชฺชนฺตา สพฺพทุกฺขกฺขยํ ปาปุณนฺติ, ตสฺส ตาทิสสมฺปตฺติ อตฺถสมฺปตฺติ นาม, สมฺปนฺนตฺถตาติ อตฺโถ. พฺยฺชนสมฺปตฺติ นาม สิถิลธนิตาทิพฺยฺชนปริปุณฺณาย มาคธิกาย สภาวนิรุตฺติยา คมฺภีรมฺปิ อตฺถํ อุตฺตานํ กตฺวา ทสฺสนสมตฺถตา สมฺปนฺนพฺยฺชนตาติ อตฺโถ.
อิทานิ เนตฺติปฺปกรณนเยนาปิ (เนตฺติ ๔ ทฺวาทสปท) อตฺถํ ทสฺเสตุํ สงฺกาสนาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สงฺเขปโต กาสียติ ทีปียตีติ สงฺกาสนนฺติ กมฺมสาธนวเสน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ, เอวํ เสเสสุปิ. ปมํ กาสนํ ปกาสนํ. อุภยมฺเปตํ อุทฺเทสตฺถวจนสงฺขาตสฺส วิตฺถารวจนํ. สกึ วุตฺตสฺส ปุน วจนฺจ วิวรณวิภชนานิ. อุภยมฺเปตํ นิทฺเทสตฺถวจนํ. วิวฏสฺส วิตฺถารตราภิธานํ วิภตฺตสฺส จ ปกาเรหิ าปนํ อุตฺตานีกรณปฺตฺติโย. อุภยมฺเปตํ ปฏินิทฺเทสตฺถวจนสงฺขาตสฺส วิตฺถารวจนํ. อตฺถปทสมาโยคโตติ ยถาวุตฺตานิ เอว ฉ ปทานิ ปริยตฺติยา อตฺถวิภาคตฺตา อตฺถปทานิ, เตหิ สหิตตาย อตฺถโกฏฺาสยุตฺตตฺตาติ อตฺโถ. อปริโยสิเต ปเท อาทิมชฺฌคตวณฺโณ อกฺขรํ, เอกกฺขรํ, ปทํ วา อกฺขรํ. วิภตฺติยนฺตํ ปทํ. ปทาภิหิตํ อตฺถํ พฺยฺเชตีติ พฺยฺชนํ, วากฺยํ. กถิตสฺเสวตฺถสฺส อเนกวิเธน วิภาคกรณํ อากาโร นาม. อาการาภิหิตสฺส นิพฺพจนํ นิรุตฺติ. นิพฺพจนตฺถวิตฺถาโร นิทฺเทโส. อถ วา ‘‘อกฺขเรหิ สงฺกาเสติ, ปเทหิ ปกาเสติ, พฺยฺชเนหิ วิวรติ, อากาเรหิ วิภชติ, นิรุตฺตีหิ อุตฺตานึ กโรติ, นิทฺเทเสหิ ปฺเปตี’’ติ วจนโต สงฺกาสนปกาสนสงฺขอาตอุทฺเทสตฺถวาจกานิ วจนานิ อกฺขรปทานิ นาม. วิวรณวิภชนสงฺขาตนิทฺเทสตฺถวาจกานิ วจนานิ พฺยฺชนาการา นาม. อุตฺตานีกรณปฺตฺติสงฺขาตปฏินิทฺเทสตฺถวาจกานิ วจนานิ นิรุตฺตินิทฺเทสา นาม, เตสํ สมฺปตฺติยา สพฺยฺชนนฺติ อตฺโถ.
อตฺถคมฺภีรตาติอาทีสุ อตฺโถ นาม ตนฺติอตฺโถ, เหตุผลํ วา. ธมฺโม นาม ตนฺติ, เหตุ วา. เทสนา นาม ยถาธมฺมํ ธมฺมาภิลาโป. ปฏิเวโธ นาม ยถาวุตฺตอตฺถาทีนํ อวิปรีตาวโพโธ. เต ¶ ปเนเต อตฺถาทโย ยสฺมา สสาทีหิ วิย มหาสมุทฺโท มนฺทพุทฺธีหิ ทุกฺโขคาหา อลพฺภเนยฺยปติฏฺา จ, ตสฺมา คมฺภีรา. เตสุ ปฏิเวธสฺสาปิ อตฺถสนฺนิสฺสิตตฺตา ¶ อตฺถสภาคตฺตา จ วุตฺตํ ‘‘อตฺถคมฺภีรตาปฏิเวธคมฺภีรตาหิ สาตฺถ’’นฺติ. ธมฺมเทสนานํ อตฺถสนฺนิสฺสิตตฺเตปิ สยํ พฺยฺชนรูปตฺตา วุตฺตํ ‘‘ธมฺมคมฺภีรตาเทสนาคมฺภีรตาหิ สพฺยฺชน’’นฺติ. ยถาวุตฺตอตฺถาทีสุ ปเภทคตานิ าณานิ อตฺถปฏิสมฺภิทาทโย. ตตฺถ นิรุตฺตีติ ตนฺติปทานํ นิทฺธาเรตฺวา วจนํ, นิพฺพจนนฺติ อตฺโถ. ตีสุ ปฏิสมฺภิทาสุ าณํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทา. โลกิยา สทฺเธยฺยวจนมุเขเนว อตฺเถสุ ปสีทนฺติ, น อตฺถมุเขนาติ อาห สทฺเธยฺยโตติอาทิ. เกวลสทฺโท สกลาธิวจนนฺติ อาห ‘‘สกลปริปุณฺณภาเวนา’’ติ. พฺรหฺมจริย-สทฺโท อิธ สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สกลํ สาสนํ ทีเปตีติ อาห สิกฺขตฺตยปริคฺคหิตตฺตาติอาทิ.
ยถาวุตฺตเมวตฺถํ อปเรนาปิ ปริยาเยน ทสฺเสตุํ อปิ จาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สนิทานนฺติ เทสกาลาทิทีปเกน นิทานวจเนน สนิทานํ. สอุปฺปตฺติกนฺติ อฏฺุปฺปตฺติอาทิยุตฺติยุตฺตํ. ตตฺรายํ ปาฬิโยชนากฺกโม – ‘‘เวรฺโช พฺราหฺมโณ สมโณ ขลุ โภ…เป… วิหรตี’’ติ จ, ‘‘ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ ‘อิติปิ โส…เป… ปเวเทตี’ติ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต’’ติ จ, ‘‘โส ธมฺมํ เทเสติ…เป… ปริโยสานกลฺยาณํ, เทเสนฺโต จ สาตฺถสพฺยฺชนาทิคุณสํยุตฺตํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตี’’ติ จ, ‘‘สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ จ อสฺโสสิ, สุตฺวา จ อถ โข เวรฺโช พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ.
อฏฺกถายํ ปน กิฺจาปิ ‘‘ทสฺสนมตฺตมฺปิ สาธุ โหตีติ เอวํ อชฺฌาสยํ กตฺวา อถ โข เวรฺโช…เป… อุปสงฺกมี’’ติ เอวํ สาธุ โข ปนาติอาทิปาสฺส พฺราหฺมณสฺส ปริวิตกฺกนภาเวน วุตฺตตฺตา พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตีติ ปทานนฺตรเมว อสฺโสสีติ ปทํ สมฺพนฺธิตพฺพํ วิย ปฺายติ, ตถาปิ ‘‘สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ เอวํ ยถาวุตฺตนิทสฺสนตฺเถน อิติ-สทฺเทน ปริจฺฉินฺทิตฺวา วุตฺตตฺตา ปน อฺตฺถ อิติ-สทฺทสฺส อทสฺสนโต จ อถ โข เวรฺโชติอาทินา กตฺตพฺพนฺตรทสฺสนมุเขน ปาฬิยา ปการนฺตเร ปวตฺติโต จ ยถาวุตฺตวเสเนว ‘‘สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ วจนานนฺตรเมว อสฺโสสีติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธนํ ยุตฺตํ. อฏฺกถาจริเยน หิ พฺราหฺมณสฺส อตฺตนา สุตวเสเนว อชฺฌาสโย อุปฺปชฺชตีติ ¶ อุปสงฺกมนเหตุทสฺสนมุเขน ทสฺสนมตฺตมฺปิ สาธุ โหตีติ เอวํ อชฺฌาสยํ กตฺวาติอาทิ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
๒. สีโตทกํ ¶ วิย อุณฺโหทเกนาติ อิทํ อุกฺกเมน มุขารุฬฺหวเสน วุตฺตํ, อนุปสนฺตสภาวตาย พฺราหฺมณสฺเสว อุณฺโหทกํ วิย สีโตทเกนาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ, าณเตชยุตฺตตาย วา ภควา อุณฺโหทโกปโมติ กตฺวา ตพฺพิรหิตํ พฺราหฺมณํ สีโตทกํ วิย กตฺวา ตถา วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. เอกีภาวนฺติ สมฺโมทนกิริยาย เอกรูปตํ. ยายาติอาทีสุ ยาย กถาย สมฺโมทิ พฺราหฺมโณ, ตํ สมฺโมทนียํ กถนฺติ โยชนา. ตตฺถ ขมนียนฺติ ทุกฺขพหุลํ อิทํ สรีรํ, กจฺจิ ขมิตุํ สกฺกุเณยฺยํ. ยาปนียนฺติ จิรปฺปพนฺธสงฺขาตาย ยาปนาย ยาเปตุํ สกฺกุเณยฺยํ. โรคาภาเวน อปฺปาพาธํ. ทุกฺขชีวิตาภาเวน อปฺปาตงฺกํ. ตํตํกิจฺจกรณตฺถาย ลหุํ อกิจฺเฉน อุฏฺาตุํ โยคฺคตาย ลหุฏฺานํ. พลนฺติ สรีรสฺส สพฺพกิจฺจกฺขมํ พลํ กจฺจิ อตฺถีติ ปุจฺฉติ. ผาสุวิหาโรติ สุขวิหาโร. สรณียเมว ทีฆํ กตฺวา ‘‘สารณีย’’นฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘สริตพฺพภาวโต จ สารณีย’’นฺติ. ปริยาเยหีติ การเณหิ.
ภาโวติ กิริยา, ตสฺมึ วตฺตมาโน นปุํสก-สทฺโท ภาวนปุํสกนิทฺเทโส นาม, กิริยาวิเสสนสทฺโทติ อตฺโถ. เอกมนฺเต เอกสฺมึ อนฺเต ยุตฺตปฺปเทเสติ อตฺโถ. ขณฺฑิจฺจาทิภาวนฺติ ขณฺฑิตทนฺตปลิตเกสาทิภาวํ. ราชปริวฏฺเฏติ ราชูนํ ปริวตฺตนํ, ปฏิปาฏิโยติ อตฺโถ. ปุราตนุจฺจกุลปฺปสุตตาย ชิณฺณตา, น วยสาติ อาห ‘‘จิรกาลปฺปวตฺตกุลนฺวเย’’ติ. วิภวานํ มหนฺตตฺตํ ลาติ คณฺหาตีติ มหลฺลโกติ อาห ‘‘วิภวมหตฺตตาย สมนฺนาคเต’’ติ. วิภาวเน นาม อตฺเถติ ปกติวิภาวนสงฺขาเต อตฺเถ. น อภิวาเทติ วาติ อภิวาเทตพฺพนฺติ น สลฺลกฺเขติ, เอวํ อสลฺลกฺขณปกติโกติ วุตฺตํ โหติ. รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วาติ เอตฺถาปิ นิจฺจปกติกํ อนิจฺจปกติกํ วาติ อตฺโถ. อนิจฺจํ วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท อวธารณตฺโถ.
สมฺปติชาโตติ มุหุตฺตชาโต, ชาตสมนนฺตรเมวาติ อตฺโถ. สตฺตปทวีติหาเรน คนฺตฺวา…เป… โอโลเกสีติ เอตฺถ ทฺวารํ ปิธาย นิกฺขนฺโตติอาทีสุ วิย คมนโต ปุเร กตมฺปิ โอโลกนํ ปจฺฉา กตํ ¶ วิย วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. โอโลเกสินฺติ จ โลกวิวรณปาฏิหาริเย ชาเต มํสจกฺขุนา โวโลเกสีติ อตฺโถ. เสฏฺโติ ปสตฺถตโร. ปติมาเนสีติ ปูเชสิ. อาสภินฺติ อุตฺตมํ.
๓. ตํ วจนนฺติ นาหํ ตํ พฺราหฺมณาติอาทิวจนํ. อฺาย สณฺเหยฺยาติ อรหตฺเต ปติฏฺเหยฺย. ชาติวเสนาติ ขตฺติยาทิชาติวเสน. อุปปตฺติวเสนาติ เทเวสุ อุปปตฺติวเสน. อาวิฺฉนฺตีติ ¶ อากฑฺฒนฺติ. ยสฺส อภิวาทาทิกรณสงฺขาตสฺส สามคฺคิรสสฺส ภควติ อภาวํ มฺมาโน พฺราหฺมโณ ‘‘อรสรูโป’’ติ อาห, ตพฺพิธุรสฺส รูปตณฺหาทิกสฺเสว สามคฺคิรสสฺส อภาเวน ภควา ‘‘อรสรูโป’’ติ ทสฺเสตุํ สามคฺคิรสสทฺทสฺส รูปรสาทีสุ วตฺตนปฺปการํ ทสฺเสนฺโต อาห วตฺถารมฺมณาทีติอาทิ.
ตาลาวตฺถุกตาติ อุจฺฉินฺนมูลานํ ตาลานํ วตฺถุ วิย เนสํ รูปรสาทีนํ วตฺถุ จิตฺตสนฺตานํ กตนฺติ อิมสฺมึ อตฺเถ มชฺเฌปทโลปํ ทีฆฺจ กตฺวา นิทฺเทโสติ อาห ตาลวตฺถุ วิยาติอาทิ. ตาลวตฺถุ วิย เยสํ วตฺถุ กตํ เต ตาลาวตฺถุกตาติ วิเสสนสฺส ปรนิปาโต ทฏฺพฺโพ, กตตาลวตฺถุกาติ อตฺโถ. มตฺถกจฺฉินฺนตาโลเยว ปตฺตผลาทีนํ อการณตาย อวตฺถูติ ตาลาวตฺถุ, ตํ วิย เยสํ วตฺถุ กตํ เต รูปรสาทโย ตาลาวตฺถุกตา, อยํ อฺปทตฺถวเสน อตฺถคฺคาโห เหฏฺา วุตฺตนเยน สุคโมติ วิเสสมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘มตฺถกจฺฉินฺนตาโล วิย กตา’’ติ. เอวฺจ มตฺถกสทิเสสุ รูปรสาทีสุ ราเคสุ ฉินฺเนสุปิ ตพฺพตฺถุภูตสฺส ตาลาวตฺถุสทิสสฺส จิตฺตสนฺตานสฺส ยาว ปรินิพฺพานฏฺานํ อุปปนฺนเมว โหติ. ยถารุตโต ปน วิเสสนสมาสวเสน อตฺเถ คยฺหมาเน รูปรสาทีนํ ตาลาวตฺถุสทิสตาย านํ อาปชฺชติ. ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๑.๓) เอตํ โทสํ ปริหริตุํ รูปรสาทีนํ กุสลากุสลตฺตํ วุตฺตํ, ตํ เต ตถาคตสฺส ปหีนาติอาทิปาฬิยา, กามสุขสฺสาทสงฺขาตา รูปรสาติอาทิอฏฺกถาย จ น สเมติ, ขีณาสวานมฺปิ ยาว ปรินิพฺพานา กุสลากุสลานํ ผลุปฺปตฺติโต เตสํ มตฺถกจฺฉินฺนตาลสทิสตาปิ น ยุตฺตาติ คเหตพฺพํ. อถ วา มตฺถกจฺฉินฺนตาลสฺส ิตํ อฏฺิตฺจ อมนสิกตฺวา ปุน อนุปฺปตฺติธมฺมตาสทิสมตฺตํ อุปเมตฺวา ตาลาวตฺถุ วิย กตาติ วิเสสนสมาสวเสน ¶ อตฺถคฺคหเณปิ น โกจิ โทโส. อนุ-สทฺโท ปจฺฉาติ อตฺเถ วตฺตตีติ อาห ปจฺฉาภาโว น โหตีติอาทิ. อนุ อภาวํ คตาติ ปจฺฉา อนุปฺปตฺติธมฺมตาวเสน อภาวํ คตา. อนจฺฉริยาติ อนุ อนุ อุปรูปริ วิมฺหยกตาติ อตฺโถ. ยฺจ โข ตฺวํ วเทสีติ ยํ วนฺทนาทิสามคฺคีรสาภาวสงฺขาตํ การณํ อรสรูปตาย วเทสิ, ตํ การณํ น วิชฺชตีติ อตฺโถ.
๔. สนฺธาย ภาสิตมตฺถนฺติ ยํ อตฺถํ สนฺธาย พฺราหฺมโณ นิพฺโภโค ภวํ โคตโมติอาทิมาห, ภควา จ ยํ สนฺธาย นิพฺโภคตาทึ อตฺตนิ อนุชานาติ, ตํ สนฺธาย ภาสิตมตฺถํ.
๕. กุลสมุทาจารกมฺมนฺติ ¶ กุลาจารกมฺมํ. กายโต กายทฺวารโต ปวตฺตํ ทุจฺจริตํ กายทุจฺจริตํ. อเนกวิหิตาติ อเนกปฺปการา.
๖. ปฺจกามคุณิกราคสฺสาติ รูปาทีสุ ปฺจสุ กามโกฏฺาเสสุ อติวิย สงฺควเสน นิยุตฺตสฺส กามราคสฺส, เอเตน อนาคามีนํ วตฺถาภรณาทีสุ สงฺคนิกนฺติวเสน อุปฺปชฺชนกามราคสฺส กามราคตาภาวํ ทสฺเสติ ตสฺส รูปราคาทีสุ สงฺคหโต. อวเสสานนฺติ เอตฺถ สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉานํ ปเมน มคฺเคน, เสสานํ จตูหิปิ อุจฺเฉทํ วทติ, เตนาห ‘‘ยถานุรูป’’นฺติ.
๗. ชิคุจฺฉติ มฺเติ ชิคุจฺฉติ วิย, ‘‘ชิคุจฺฉตี’’ติ วา สลฺลกฺเขมิ. อโกสลฺลสมฺภูตฏฺเนาติ อฺาณสมฺภูตฏฺเน.
๘-๑๐. ตตฺราติ ยถาวุตฺเตสุ ทฺวีสุ อตฺถวิกปฺเปสุ. ปฏิสนฺธิปริยาโยปิ อิธ คพฺภสทฺโทติ อาห ‘‘เทวโลกปฏิสนฺธิปฏิลาภายา’’ติ. อปุนพฺภวภูตาติ ขเณ ขเณ อุปฺปชฺชมานานํ ธมฺมานํ อภินิพฺพตฺติ.
๑๑. ธมฺมธาตุนฺติ สพฺพฺุตฺาณํ. ตฺหิ ธมฺเม ยาถาวโต ธาเรติ อุปธาเรตีติ ‘‘ธมฺมธาตู’’ติ วุจฺจติ. เทสนาวิลาสปฺปตฺโตติ อภิรุจิวเสน ปริวตฺเตตฺวา เทเสตุํ สมตฺถตา เทสนาวิลาโส, ตํ ปตฺโต. กรุณาวิปฺผารนฺติ สพฺพสตฺเตสุ มหากรุณาย ผรณํ. ตาทิคุณลกฺขณเมว อุปมาย วิภาเวนฺโต อาห ‘‘ปถวีสมจิตฺตต’’นฺติ. ตโตเยว ¶ อกุชฺฌนสภาวโต อกุปฺปธมฺมตา. ชาติยา อนุคตนฺติ ชาติยา อนุพทฺธํ. ชราย อนุสฏนฺติ ชราย ปลิเวิตํ. วฏฺฏขาณุภูตนฺติ วฏฺฏโต อุทฺธริตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย วฏฺเฏ นิจฺจลภาเวน ิตํ ขาณุ วิย ภูตํ. ชาตานํ มจฺจานํ นิจฺจํ มรณโต ภยนฺติ อาห อชฺช มริตฺวาติอาทิ. อปฺปฏิสมํ ปุเรชาตภาวนฺติ อสทิสํ อริยาย ชาติยา ปมชาตภาวํ, สพฺพเชฏฺภาวนฺติ อตฺโถ.
‘‘อปี’’ติ อวตฺวา ‘‘ปี’’ติ วทนฺโต ปิ-สทฺโท วิสุํ อตฺถิ นิปาโตติ ทสฺเสติ. สมฺมา อธิสยิตานีติ ปาทาทีหิ อุปฆาตํ อกโรนฺติยา สมฺมเทว อุปริ สยิตานิ, อกมฺมกสฺสาปิ สยติธาตุโน อธิปุพฺพตาย สกมฺมกตา ทฏฺพฺพา. นขสิขาติ นขคฺคานิ. สกุณานํ ¶ ปกฺขา หตฺถปาทฏฺานิยาติ อาห ‘‘สงฺกุฏิตหตฺถปาทา’’ติ. เอตฺถาติ อาโลกฏฺาเน. นิกฺขมนฺตานนฺติ นิกฺขมนฺเตสุ, นิทฺธารเณ เหตํ สามิวจนํ. อณฺฑโกสนฺติ อณฺฑกปาลํ.
โลโกเยว โลกสนฺนิวาโส. อพุชฺฌิ เอตฺถาติ รุกฺโข โพธิ, สยํ พุชฺฌติ, พุชฺฌนฺติ วา เตนาติ มคฺโคปิ สพฺพฺุตฺาณมฺปิ โพธิ. พุชฺฌียตีติ นิพฺพานํ โพธิ. อนฺตรา จ โพธินฺติ ทุติยมุทาหรณํ วินาปิ รุกฺข-สทฺเทน โพธิ-สทฺทสฺส รุกฺขปฺปวตฺติทสฺสนตฺถํ. วรภูริเมธโสติ มหาปถวี วิย ปตฺถฏปฺโติ อตฺโถ. ติสฺโส วิชฺชาติ อรหตฺตมคฺโค อตฺตนา สห วตฺตมานํ สมฺมาทิฏฺิสงฺขาตํ อาสวกฺขยาณฺเจว อิตรา ทฺเว มหคฺคตวิชฺชา จ ตพฺพินิพนฺธกกิเลสวิทฺธํสนวเสน อุปฺปาทนโต ‘‘ติสฺโส วิชฺชา’’ติ วุจฺจติ. ฉ อภิฺาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สาวกปารมีาณนฺติ อคฺคสาวเกหิ ปฏิลภิตพฺพํ สพฺพเมว โลกิยโลกุตฺตราณํ. ปจฺเจกโพธิาณนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
โอปมฺมสมฺปฏิปาทนนฺติ โอปมฺมตฺถสฺส อุปเมยฺเยน สมํ ปฏิปาทนํ. อตฺเถนาติ อุปเมยฺยตฺเถน. ติกฺขขรวิปฺปสนฺนสูรภาโวติ อิมินา สงฺขารุเปกฺขาปตฺตตํ วิปสฺสนาย ทสฺเสติ. ปริณามกาโลติ อิมินา วุฏฺานคามินิภาวาปตฺตึ. ตทา จ สา มคฺคาณคพฺภํ ธาเรนฺตี วิย โหตีติ อาห ‘‘คพฺภคฺคหณกาโล’’ติ. อนุปุพฺพาธิคเตนาติ ปมมคฺคาทิปฏิปาฏิยา อธิคเตน. จตุรงฺคสมนฺนาคตนฺติ ‘‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ จ อฏฺิ จ อวสิสฺสตุ ¶ (ม. นิ. ๒.๑๘๔; สํ. นิ. ๒.๒๒; อ. นิ. ๒.๕; มหานิ. ๑๙๖), สรีเร อุปสุสฺสตุ มํสโลหิต’’นฺติ เอวํ วุตฺตจตุรงฺคสมนฺนาคตํ วีริยํ.
ฉนฺโท กาโมติอาทีสุ ปตฺถนากาเรน ปวตฺโต ทุพฺพโล โลโภ อิจฺฉนฏฺเน ฉนฺโท. ตโต พลวา รฺชนฏฺเน ราโค. ตโตปิ พลวตโร ฉนฺทราโค. นิมิตฺตานุพฺยฺชนสงฺกปฺปวเสน ปวตฺโต สงฺกปฺโป. ตโตปิ พลวสงฺกปฺปวเสเนว ปวตฺโต ราโค. ตโตปิ พลวตโร สงฺกปฺปราโค. สฺวายํ ปเภโท เอกสฺเสว โลภสฺส ปวตฺติอาการเภเทน อวตฺถาเภเทน จ วุตฺโต.
ปมชฺฌานกถาวณฺณนา
เสยฺยถิทนฺติ ตํ กถนฺติ อตฺโถ. เอตนฺติ ปุพฺพปเทเยว อวธารณกรณํ, เอตํ อตฺถชาตํ วา. ตนฺนิสฺสรณโตติ เตสํ กามานํ นิสฺสรณตฺตา. เอสาติ เอว-กาโร. กามธาตุ นาม กามภโว, เนกฺขมฺมนฺติ ปมชฺฌานํ. เอสาติ นิยโม. ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณวิเวกา ¶ ตทงฺควิเวกาทโย. กายจิตฺตอุปธิวิเวกา กายวิเวกาทโย, ตโย เอว อิธ ฌานกถาย, สมุจฺเฉทวิเวกาทีนํ อสมฺภวา. นิทฺเทเสติ มหานิทฺเทเส. ตตฺเถวาติ มหานิทฺเทเส เอว. วิภงฺเคติ ฌานวิภงฺเค. เอวฺหิ สตีติ อุภเยสมฺปิ กามานํ สงฺคเห สติ.
ปุริเมนาติ กายวิเวเกน. เอตฺถาติ เอตสฺมึ กายจิตฺตวิเวกทฺวเย. ทุติเยนาติ จิตฺตวิเวเกน. เอเตสนฺติ ยถาวุตฺตนเยน วตฺถุกามกิเลสกามวิเวกทฺวยสฺส วาจกภูตานํ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหีติ อิเมสํ ปทานํ, นิทฺธารเณ เจตํ สามิวจนํ. พาลภาวสฺส เหตุปริจฺจาโคติ อนุวตฺตติ. อกุสลธมฺโม หิ พาลภาวสฺส เหตุ. อาสยโปสนนฺติ อาสยสฺส วิโสธนํ วฑฺฒนฺจ. วิภงฺเค นีวรณาเนว วุตฺตานีติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ การณมาห ‘‘อุปริฌานงฺคปจฺจนีกปฏิปกฺขภาวทสฺสนโต’’ติ. ตตฺถ อุปริ สวิตกฺกนฺติอาทินา วุจฺจมานานิ ฌานงฺคานิ, เตสํ อตฺตโน ปจฺจนีกานํ ปฏิปกฺขภาวทสฺสนโตติ อตฺโถ. อุปริฌานงฺคานํ ปจฺจนีกปฏิปกฺขภาวสฺส ทสฺสนโตติปิ ปาโ. ตตฺถ ‘‘อุปริ วุจฺจมานฌานงฺคานํ อุชุวิปจฺจนีกวเสน ปฏิปกฺขภาวทสฺสนโต’’ติ ‘‘นีวรณานํ ตาเนว วิภงฺเค วุตฺตานี’’ติปิ อตฺถํ วทนฺติ ¶ . เปฏเกติ มหากจฺจายนตฺเถเรน กตํ เนตฺติปฺปกรณนยานุสาริปกรณํ, ตํ ปน ปิฏกานํ วณฺณนาภูตตฺตา ‘‘เปฏก’’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺมินฺติ อตฺโถ.
วิตกฺกนํ นาม อารมฺมณปริกปฺปนนฺติ อาห ‘‘อูหน’’นฺติ. รูปํ รูปนฺติอาทินา วิสเย อาโกเฏนฺตสฺส วิสยปฺปวตฺติอาหนนํ อุปริ อาหนนนฺติ เวทิตพฺพํ. อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อานยนํ นาม อารมฺมณาภิมุขกรณํ. อนุสฺจรณนฺติ อนุปริพฺภมนํ, ตฺจ ขณนฺตรสฺส ตถากาเรน อุปฺปาทนเมว, น หิ ปรมตฺถโต เอกสฺส สฺจรณมตฺถิ, เอวมฺตฺถาปิ อีทิเสสุ. อนุมชฺชนนฺติ ปริมชฺชนํ. ตตฺถาติ อารมฺมเณ. สหชาตานุโยชนํ สกิจฺจานุวตฺติตากรเณน. กตฺถจีติ ทุติยชฺฌานวิรหิเตสุ สวิจารจิตฺเตสุ สพฺพตฺถาติ อตฺโถ. วิจาเรน สห อุปฺปชฺชมาโนปิ วิตกฺโก อารมฺมเณ อภินิโรปนากาเรน ปวตฺตึ สนฺธาย ‘‘ปมาภินิปาโต’’ติ วุตฺโต. วิปฺผารวาติ อวูปสนฺตสภาวตาย เวควา, เตเนเวส ทุติยชฺฌาเน ปหานงฺคํ ชาตํ. ปมทุติยชฺฌาเนสูติ ปฺจกนยํ สนฺธาย วุตฺตํ. องฺควินิมุตฺตสฺส ฌานสฺส อภาวํ ทสฺเสนฺโต รุกฺโข วิยาติอาทิมาห.
วิเวก-สทฺทสฺส ภาวสาธนปกฺเข ‘‘ตสฺมา วิเวกา’’ติ วุตฺตํ, อิตรปกฺเข ‘‘ตสฺมึ วิเวเก’’ติ. ปินยตีติ ตปฺเปติ, วฑฺเฒติ วา. ผรณรสาติ ปณีตรูเปหิ กาเย พฺยาปนรสา. สาตลกฺขณนฺติ ¶ อิฏฺสภาวํ, มธุรนฺติ อตฺโถ. สมฺปยุตฺตานํ ปีฬนชฺฌุเปกฺขนํ อกตฺวา อนุ อนุ คณฺหนํ อุปการิตา วา อนุคฺคโห. วนเมว วนนฺตํ. อุทกเมว อุทกนฺตํ. ตสฺมึ ตสฺมึ สมเย ปากฏภาวโตติ อิมินา อิฏฺารมฺมณาทิปฏิลาภสมเยปิ สุขํ วิชฺชมานมฺปิ อปากฏํ, ปีติเยว ตตฺถ ปากฏา, ปฏิลทฺธรสานุภวนสมเย จ วิชฺชมานปีติโตปิ สุขเมว ปากฏตรนฺติ ทสฺเสติ. เอตฺถ จ เจตสิกสุขวเสเนว ปฏิลทฺธรสานุภวนํ เวทิตพฺพํ, น กายิกสุขวเสน ตสฺส ปีติสมฺปโยคสฺเสว อภาเวน อิธานธิปฺเปตตฺตา. อยฺจ ปีตีติอาทิ อฺปทตฺถสมอาสทสฺสนํ, อสฺสตฺถิปกฺเข ตทฺธิตปจฺจยทสฺสนํ วา. ทุติยวิกปฺเปน อฺปทตฺถสมาสวเสเนว ‘‘วิเวกชํ ปีติสุข’’นฺติ อิทํ เอกํ ปทนฺติ ทสฺเสติ, วิภตฺติยา จ อโลปํ.
คณนานุปุพฺพตาติ ¶ เทสนากฺกมํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปมํ สมาปชฺชตีติ อิทํ อาทิกมฺมิกวเสน วุตฺตํ, จิณฺณวสีนํ ปน โยคีนํ อุปฺปฏิปาฏิยาปิ ฌานํ อุปฺปชฺชเตว. ฌาเปตีติ ทหติ. อนิจฺจาทิลกฺขณวิสยาย วิปสฺสนาย อุปนิชฺฌายนํ กถํ นิพฺพานาลมฺพนสฺส มคฺคสฺส โหตีติ อาห วิปสฺสนายาติอาทิ. ตตฺถ มคฺเคน สิชฺฌตีติ นิจฺจาทิวิปลฺลาสปฺปหายเกน สห มคฺเคเนว ตํ ลกฺขณูปนิชฺฌานํ อสมฺโมหโต อตฺตโน สิชฺฌติ. อถ วา มคฺเคนาติ มคฺคกิจฺเจน, วิปลฺลาสปฺปหาเนนาติ อตฺโถ.
อฺโติ สตฺโต. อวุตฺตตฺตาติ ‘‘สจิตฺเตกคฺคต’’นฺติ ฌานปาฬิยํ (วิภ. ๕๐๘ อาทโย) อวุตฺตตฺตา. วุตฺตตฺตาติ ตสฺสา ฌานปาฬิยา วิภงฺเค วุตฺตตฺตา.
ทุติยชฺฌานกถาวณฺณนา
อชฺฌตฺตนฺติ ฌานวิเสสนตฺตา วุตฺตํ ‘‘อิธ นิยกชฺฌตฺตมธิปฺเปต’’นฺติ. ฌานฺหิ อชฺฌตฺตชฺฌตฺตํ น โหติ ฉฬินฺทฺริยานเมว ตพฺภาวโต. ขุทฺทกา อูมิโย วีจิโย. มหติโย ตรงฺคา. สนฺตา โหนฺติ สมิตาติอาทีนิ อฺมฺเววจนานิ, ฌานพเลน สมติกฺกนฺตาติ อธิปฺปาโย. อปฺปิตาติ คมิตา วินาสํ ปาปิตา. ปริยาโยติ ฌานปริกฺขาเร ฌานโวหารตฺตา อปรมตฺถโต.
ตติยชฺฌานกถาวณฺณนา
ตทธิคมายาติ ตติยมคฺคาธิคมาย. อุปปตฺติโต อิกฺขตีติ ปฺาย สหจรณปริจเยน ยถา ¶ สมวาหิภาโว โหติ, เอวํ ยุตฺติโต ปสฺสติ. วิปุลายาติ มหคฺคตภาวปฺปตฺตาย. ถามคตายาติ วิตกฺกวิจารปีติวิคเมน ถิรภาวปฺปตฺติยา, เตเนว วกฺขติ ‘‘วิตกฺกวิจารปีตีหิ อนภิภูตตฺตา’’ติอาทิ. (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑ ตติยชฺฌานกถา). อุเปกฺขาเภทํ ทสฺเสตฺวา อิธาธิปฺเปตํ อุเปกฺขํ ปกาเสตุํ อุเปกฺขา ปนาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺรมชฺฌตฺตตาว ขีณาสวานํ อิฏฺานิฏฺฉฬารมฺมณาปาเถ ปริสุทฺธปกติภาวาวิชหนากาเรน อชฺฌุเปกฺขนโต ‘‘ฉฬงฺคุเปกฺขา’’ติ จ, สตฺเตสุ มชฺฌตฺตาการปฺปวตฺตตฺตา ‘‘พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา’’ติ จ, สหชาตธมฺมานํ มชฺฌตฺตาการภูตา ‘‘โพชฺฌงฺคุเปกฺขา’’ติ จ, เกวลา ‘‘ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา’’ติ ¶ จ, ตติยชฺฌานสหคตา อคฺคสุเขปิ ตสฺมึ อปกฺขปาตภูตา ‘‘ฌานุเปกฺขา’’ติ จ, จตุตฺถชฺฌานสหคตา สพฺพปจฺจนีกปริสุทฺธิตาย ‘‘ปาริสุทฺธุเปกฺขา’’ติ จ เตน เตน อวตฺถาเภเทน ฉธา วุตฺตา.
วีริยเมว ปน อนจฺจารทฺธอนติสิถิเลสุ สหชาเตสุ สงฺขาเรสุ อุเปกฺขนากาเรน ปวตฺตํ ‘‘วีริยุเปกฺขา’’ติ วุตฺตํ. อฏฺนฺนํ รูปารูปชฺฌานานํ ปฏิลาภโต ปุพฺพภาเค เอว นีวรณวิตกฺกวิจาราทีนํ ปหานาภิมุขีภูตตฺตา เตสํ ปหาเนปิ อพฺยาปารภาวูปคมเนน มชฺฌตฺตาการปฺปวตฺตา สมาธิวเสน อุปฺปนฺนา อฏฺ ปฺา เจว อุปาทานกฺขนฺธภูเตสุ สงฺขาเรสุ อชฺฌุเปกฺขนาการปฺปวตฺตา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปนฺนา จตุนฺนํ มคฺคานํ ปุพฺพภาเค ตสฺส ตสฺส อธิคมาย จตสฺโส จตุนฺนํ ผลสมาปตฺตีนํ ปุพฺพภาเค ตสฺส ตสฺส อธิคมาย อปฺปณิหิตวิโมกฺขวเสน ปวตฺตา จตสฺโส สฺุตอนิมิตฺตวิโมกฺขวเสน ทฺเวติ ทส ปฺา จาติ อิเม อฏฺารส ปฺา สงฺขารุเปกฺขา นาม. ยถาวุตฺตวิปสฺสนาปฺาว ลกฺขณวิจินเนปิ มชฺฌตฺตภูตา วิปสฺสนุเปกฺขา นาม. อทุกฺขมสุขเวทนา เวทนุเปกฺขา นาม. อิมาสํ ปน ทสนฺนมฺปิ อุเปกฺขานํ ‘‘ตตฺถ ตตฺถ อาคตนยโต วิภาโค ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ’’ติ ทสฺเสนฺโต อาห เอวมยํ ทสวิธาปีติอาทิ. ตตฺถ ตตฺถ อาคตนยโตติ อิทมฺปิ หิ ตาสํ วิภาคทสฺสนสฺส ภูมิปุคฺคลาทิปทํ วิย วิสุํ มาติกาปทวเสน วุตฺตํ, น ปน ภูมิปุคฺคลาทิวเสน วิภาคทสฺสนสฺส อาคตฏฺานปรามสนํ อาคตฏฺานสฺส อฏฺสาลินิยาติอาทินา วุตฺตตฺตา, ตสฺมา สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๑.๑๑ ตติยชฺฌานกถา) ยํ วุตฺตํ ‘‘อิมาสํ ปน ทสนฺนมฺปิ อุเปกฺขานํ ภูมิปุคฺคลาทิวเสน วิภาโค ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต อาห เอวมยํ ทสวิธาติอาที’’ติ, ตํ อมนสิกตฺวา วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. ตตฺถ ตตฺถ อาคตนยโตติ ‘‘อิธ (ขีณาสโว) ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ, น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๓๔๘; อ. นิ. ๖.๑) ฉฬงฺคุเปกฺขา อาคตา, ‘‘อุเปกฺขาสหคเตน ¶ เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๐๘; ม. นิ. ๑.๗๗; ๒.๓๐๙; ๓.๒๓๐) เอวํ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา อาคตาติ อิมินา นเยน ¶ ทสนฺนมฺปิ อุเปกฺขานํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตปเทเสสุ อาคตนยทสฺสนโต จ อยํ ทสวิธาปิ อุเปกฺขา ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพาติ สมฺพนฺโธ.
ภูมีติอาทีสุ ปน ฉฬงฺคุเปกฺขา กามาวจรา, พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา รูปาวจราติอาทินา ภูมิโต จ, ฉฬงฺคุเปกฺขา อเสกฺขานเมว, พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา ปุถุชฺชนาทีนํ ติณฺณมฺปิ ปุคฺคลานนฺติอาทินา ปุคฺคลโต จ, ฉฬงฺคุเปกฺขา โสมนสฺสุเปกฺขาสหคตจิตฺตสมฺปยุตฺตาติอาทินา จิตฺตโต จ, ฉฬงฺคุเปกฺขา ฉฬารมฺมณาติอาทินา อารมฺมณโต จ, ‘‘เวทนุเปกฺขา เวทนากฺขนฺเธน สงฺคหิตา, อิตรา นว สงฺขารกฺขนฺเธนา’’ติ ขนฺธสงฺคหวเสน จ, ‘‘ฉฬงฺคุเปกฺขา พฺรหฺมวิหารโพชฺฌงฺคฌาน ปาริสุทฺธิตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา จ อตฺถโต เอกา. ตสฺมา เอกกฺขเณ จ ตาสุ เอกาย สติ อิตรา น อุปฺปชฺชนฺติ, ตถา สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนุเปกฺขาปิ เวทิตพฺพา. เวทนาวีริยุเปกฺขานเมกกฺขเณ สิยา อุปฺปตฺตี’’ติ เอกกฺขณวเสน จ, ‘‘ฉฬงฺคุเปกฺขา อพฺยากตา พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา กุสลาพฺยากตา, ตถา เสสา. เวทนุเปกฺขา ปน สิยา อกุสลาปี’’ติ เอวํ กุสลตฺติกวเสน จ, ‘‘สงฺเขปโต จตฺตาโร จ ธมฺมา วีริยเวทนาตตฺรมชฺฌตฺตตาาณวเสนา’’ติ เอวํ สงฺเขปวเสน จ อยํ ทสวิธาปิ อุเปกฺขา ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพาติ โยชนา.
เอตฺถ เจตา กิฺจาปิ อฏฺสาลินิยํ ภูมิปุคฺคลาทิวเสน สรูปโต อุทฺธริตฺวา น วุตฺตา, ตถาปิ ตตฺถ วุตฺตปฺปกาเรเหว ตาสํ ภูมิปุคฺคลาทิวิภาโค นยโต อุทฺธริตฺวา สกฺกา าตุนฺติ ตตฺถ สรูปโต วุตฺตฺจ อวุตฺตฺจ เอกโต สงฺคเหตฺวา ตตฺถ ตตฺถ อาคตนยโตติอาทีหิ นวหิ ปกาเรหิ อติเทโส กโต, เตเนว ‘‘ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ วุตฺตวเสนา’’ติ อวตฺวา ‘‘วุตฺตนเยเนวา’’ติ วุตฺตํ. ตถาหิ ขีณาสโว ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ อาทิมฺหิ วุตฺเต ฉฬงฺคุเปกฺขา รูปาทิอารมฺมณตาย ภูมิโต กามาวจรา จ ปุคฺคลโต อเสกฺขานเมว จ อุปฺปชฺชติ, จิตฺตโต โสมนสฺสุเปกฺขาจิตฺตสมฺปยุตฺตา, อารมฺมณโต ฉฬารมฺมณา, กุสลตฺติกโต อพฺยากตา จาติ ปณฺฑิเตหิ สกฺกา ¶ าตุํ, ตถา ฉฬงฺคุเปกฺขา จ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา จ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา จ ฌานุเปกฺขา จ ปาริสุทฺธุเปกฺขา จ อตฺถโต เอกาติอาทิมฺหิ วุตฺเต ปนสฺส สงฺขารกฺขนฺธสงฺคหิตตฺตา พฺรหฺมวิหารุเปกฺขาทีหิ สห เอกกฺขเณ อนุปฺปตฺติอาทโย จ สกฺกา าตุํ, ยถา จ ฉฬงฺคุเปกฺขา, เอวํ เสสานมฺปิ ยถารหํ อฏฺสาลินิยํ วุตฺตนยโต ภูมิอาทิวิภาคุทฺธารนโย ¶ าตพฺโพ. อนาโภครสาติ ปณีตสุเขปิ ตสฺมึ อวนติปฏิปกฺขกิจฺจาติ อตฺโถ.
ปุคฺคเลนาติ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน. กิเลเสหิ สมฺปยุตฺตานํ อารกฺขา. ตีรณํ กิจฺจสฺส ปารคมนํ. ปวิจโย วีมํสา. อิทนฺติ สติสมฺปชฺํ. ยสฺมา ตสฺส นามกาเยน สมฺปยุตฺตํ สุขนฺติ อิมสฺส ตสฺมา เอตมตฺถนฺติอาทินา สมฺพนฺโธ. ตสฺสาติ ฌานสมงฺคิโน. ตํสมุฏฺาเนนาติ ตํ ยถาวุตฺตนามกายสมฺปยุตฺตํ สุขํ สมุฏฺานํ การณํ ยสฺส รูปสฺส เตน ตํสมุฏฺาเนน รูเปน. อสฺสาติ โยคิโน. ยสฺสาติ รูปกายสฺส. ผุฏตฺตาติ อติปณีเตน รูเปน ผุฏตฺตา. เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโตติ กายิกสุขเหตุภูตรูปสมุฏฺาปกนามกายสุขํ ปฏิสํเวทิยมาโน เอว ฌานสมงฺคิตากรเณ การิโยปจารโต ‘‘สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตี’’ติ วุจฺจตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโตติ อตฺโถ. ยนฺติ เหตุอตฺเถ นิปาโตติ อาห ‘‘ยํฌานเหตู’’ติ. สุขปารมิปฺปตฺเตติ สุขสฺส อุกฺกํสปริยนฺตํ ปตฺเต. เอวเมเตสํ ปหานํ เวทิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. อถ กสฺมา ฌาเนสฺเวว นิโรโธ วุตฺโตติ สมฺพนฺโธ.
จตุตฺถชฺฌานกถาวณฺณนา
กตฺถ จุปฺปนฺนนฺติ เอตฺถ กตฺถาติ เหตุมฺหิ ภุมฺมํ, กสฺมึ เหตุมฺหิ สตีติ อตฺโถ. นานาวชฺชเนติ อปฺปนาวีถิอาวชฺชนโต นานา ภินฺนํ ปุริมวีถีสุ อาวชฺชนํ ยสฺส อุปจารสฺส, ตสฺมึ นานาวชฺชเน. วิสมนิสชฺชาย อุปฺปนฺนกิลมโถ วิสมาสนุปตาโป. อุปจาเร วาติอาทิ ปกฺขนฺตรทสฺสนํ เอกาวชฺชนูปจาเรปิ วาติ อตฺโถ. ปีติผรเณนาติ อิมินา อปฺปนาวีถิยา วิย เอกวีถิยมฺปิ กามาวจรปีติยา ผรณมตฺตสฺส อภาวํ ทสฺเสติ. โทมนสฺสินฺทฺริยสฺส อสฺส สิยา อุปฺปตฺตีติ สมฺพนฺโธ. เอตนฺติ โทมนสฺสินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชตีติ สมฺพนฺโธ. วิตกฺกวิจารปฺปจฺจเยปีติ ปิ-สทฺโท อฏฺานปฺปยุตฺโต. โส ‘‘ปหีนสฺสา’’ติ เหฏฺา วุตฺตปทานนฺตรํ โยเชตพฺโพ ¶ ‘‘ปหีนสฺสาปิ โทมนสฺสินฺทฺริยสฺสา’’ติ. วิตกฺกวิจารภาเวติ เอตฺถ ‘‘อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสินฺทฺริย’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. นิมิตฺตตฺเถ เจตํ ภุมฺมํ, วิตกฺกวิจารภาวเหตูติ อตฺโถ. วิตกฺกวิจาราติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ตสฺมาติ เอตสฺมึ อตฺเถ ทฏฺพฺโพ, เตน ยสฺมา เอตํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ วิตกฺกวิจารปจฺจเย…เป… เนว อุปฺปชฺชติ, ยตฺถ ปน อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ วิตกฺกวิจารภาเวเยว อุปฺปชฺชติ. ยสฺมา จ อปฺปหีนาเยว ทุติยชฺฌานูปจาเร วิตกฺกวิจารา, ตสฺมา ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺตีติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา.
ตตฺถาติ ¶ ทุติยชฺฌานูปจาเร. อสฺสาติ โทมนสฺสินฺทฺริยสฺส. สิยา อุปฺปตฺตีติ อิทฺจ ปจฺจยมตฺตทสฺสเนน สมฺภาวนมตฺตโต วุตฺตํ. โทมนสฺสุปฺปตฺติสมฺภาวนาปิ หิ อุปจารกฺขเณเยว กาตุํ ยุตฺตา, วิตกฺกวิจารรหิเต ปน ทุติยชฺฌานกฺขเณ ตทุปฺปตฺติสมฺภาวนาปิ น ยุตฺตา กาตุนฺติ. อิตรถา กุสลจิตฺตกฺขเณ อกุสลโทมนสฺสุปฺปตฺติยา อสมฺภวโต ‘‘ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺตี’’ติ น วตฺตพฺพํ สิยา. สมีปตฺเถ วา เอตํ ภุมฺมํ, อุปจารชฺฌานานนฺตรวีถีสูติ อตฺโถ. ทุติยชฺฌาเนติ เอตฺถาปิ อนนฺตรวีถีสุปิ น ตฺเวว อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ, เอวํ อุปริ สุขินฺทฺริเยปิ. โสมนสฺสินฺทฺริยสฺส อุปฺปตฺตีติ สมฺพนฺโธ. ปหีนาติ วุตฺตาติ อิทํ ‘‘ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา’’ติ วุตฺตตฺตา วุตฺตํ. ทุกฺขาภาเวนาติ ทุกฺขตาภาเวน. เอวํ สุขาภาเวนาติ เอตฺถาปิ. เอเตนาติ ทุกฺขสุขปฏิกฺเขปวจเนน. อิฏฺานิฏฺวิปรีตานุภวนลกฺขณาติ อติอิฏฺอติอนิฏฺานํ วิปรีตสฺส มชฺฌตฺตารมฺมณสฺส อนุภวนลกฺขณา, มชฺฌตฺตารมฺมณมฺปิ หิ อิฏฺานิฏฺเสุ เอว ปวิฏฺํ ตพฺพินิมุตฺตสฺส อภาวา.
ฌานจตุกฺกกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
ปุพฺเพนิวาสกถาวณฺณนา
๑๒. อรูปชฺฌานานมฺปิ องฺคสมตาย จตุตฺถชฺฌาเน สงฺคโหติ อาห เกสฺจิ อภิฺาปาทกานีติอาทิ, เตเนว วกฺขติ ‘‘อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา’’ติอาทิ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๒). เตสุ จ จตุตฺถชฺฌานเมว อภิฺาปาทกํ นิโรธปาทกํ ¶ โหติ, น อิตรานิ. ทูรการณตํ ปน สนฺธาย ‘‘จตฺตาริ ฌานานี’’ติ เนสมฺปิ เอกโต คหณํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. จิตฺเตกคฺคตตฺถานีติ อิทํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อาห ขีณาสวานนฺติอาทิ. สพฺพกิจฺจสาธกนฺติ ทิพฺพวิหาราทิสพฺพพุทฺธกิจฺจสาธกํ. สพฺพโลกิยโลกุตฺตรคุณทายกนฺติ อิมินา ยถาวุตฺตํ วิปสฺสนาปาทกตฺตาทิสพฺพํ สมฺปิณฺเฑติ. อิทฺหิ ฌานํ ภควโต สพฺพพุทฺธคุณทายกสฺส มคฺคาณสฺส ปทฏฺานตฺตา เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยถยิทนฺติ ยถา อิทํ. อภินีหารกฺขมนฺติ อิทฺธิวิธาทิอตฺถํ ตทภิมุขํ นีหรณโยคฺคํ.
ฌานปฺปฏิลาภปจฺจยานนฺติ ฌานปฺปฏิลาภเหตุกานํ ฌานปฺปฏิลาภํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกานํ. ปาปกานนฺติ ลามกานํ. อิจฺฉาวจรานนฺติ อิจฺฉาย วเสน โอติณฺณานํ นีวรณภาวํ ตเทกฏฺตฺจ อปฺปตฺตานํ อตฺตุกฺกํสนาทิวสปฺปวตฺตานํ อโห วต มเมว สตฺถา ปฏิปุจฺฉิตฺวา ภิกฺขูนํ เอวรูปํ ธมฺมํ เทเสยฺยาติอาทินยปฺปวตฺตานํ มานาทีนํ. โปตฺถเกสุ ปน ‘‘ฌานปฺปฏิลาภปจฺจนีกาน’’นฺติปิ ¶ ปาํ ลิขนฺติ, โส ปมาทปาโติ คเหตพฺโพ ‘‘ฌานปฺปฏิลาภปจฺจนีกานํ นีวรณานํ อภาวสฺส นีวรณทูรีภาเวน ปริสุทฺโธ’’ติ เอวํ ปุพฺเพ ปริสุทฺธปเทเยว วุตฺตตฺตา. สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๑.๑๒) ปน ‘‘อิจฺฉาวจรานนฺติ อิจฺฉาย อวจรานํ อิจฺฉาวเสน โอติณฺณานํ ปวตฺตานํ นานปฺปการานํ โกปอปฺปจฺจยานนฺติ อตฺโถติ อยมฺปิ ปาโ อยุตฺโต เอวาติ คเหตพฺพํ. ตโต เอว จ วิสุทฺธิมคฺเค อยํ ปาโ สพฺเพน สพฺพํ น ทสฺสิโต’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ จ นานปฺปการานํ โกปอปฺปจฺจยานนฺติ เอวํ นีวรณภาวปฺปตฺตโทสานํ ปรามฏฺตฺตา อยํ ปาโ ปฏิกฺขิตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
อภิชฺฌาทีนนฺติ เอตฺถ อภิชฺฌา-สทฺเทน จ อนีวรณสภาวสฺเสว โลภสฺส มานาทีนฺจ คหณํ ฌานปฺปฏิลาภปจฺจยานนฺติ อนุวตฺตมานตฺตา. อุภยมฺปีติ อนงฺคณตฺตํ วิคตูปกฺกิเลสตฺตฺจาติ เอตํ อุภยมฺปิ ยถากฺกมํ อนงฺคณสุตฺตวตฺถสุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ. เตสุ จ สุตฺเตสุ กิฺจาปิ นีวรณสภาวปฺปตฺตา ถูลโทสาปิ วุตฺตา, ตถาปิ อธิคตจตอุตฺถชฺฌานสฺส วเสน วุตฺตตฺตา อิธ สุขุมา เอว เต คหิตา. องฺคณุปกฺกิเลสสามฺเน ปเนตฺถ สุตฺตานํ อปทิสนํ. ตถา หิ ‘‘สุตฺตานุสาเรนา’’ติ วุตฺตํ, น ปน สุตฺตวเสนาติ.
ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติยํ ¶ าณํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณนฺติ นิพฺพจนํ ทสฺเสนฺโต อาห ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติมฺหีติอาทิ. อิทานิ ปุพฺเพนิวาสํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสตึ ตตฺถ าณฺจ วิภาคโต ทสฺเสตุํ ตตฺถาติอาทิ วุตฺตํ. ปุพฺพ-สทฺโท อตีตภววิสโย, นิวาส-สทฺโท จ กมฺมสาธโนติ อาห ‘‘ปุพฺเพ อตีตชาตีสุ นิวุตฺถกฺขนฺธา’’ติ. นิวุตฺถตา เจตฺถ สกสนฺตาเน ปวตฺตตา, เตนาห อนุภูตาติอาทิ. อิทานิ สปรสนฺตานสาธนวเสน นิวาส-สทฺทสฺส อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘นิวุตฺถธมฺมา วา นิวุตฺถา’’ติ วตฺวา ตํ วิวริตุํ โคจรนิวาเสนาติอาทิ วุตฺตํ. โคจรภูตาปิ หิ ธมฺมา าเณน นิวุตฺถา นาม โหนฺติ, เต ปน สปรวิฺาณโคจรตาย ทุวิธาติ ทสฺเสตุํ อตฺตโนติอาทิ วุตฺตํ. ปรวิฺาณวิฺาตาปิ วา นิวุตฺถาติ สมฺพนฺโธ. อิธาปิ ปริจฺฉินฺนาติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. อนมตคฺเคปิ หิ สํสาเร อตฺตนา อวิฺาตปุพฺพานํ สตฺตานํ ขนฺธา ปเรเหว เกหิจิ วิฺาตตฺตา ปรวิฺาณวิฺาตา นาม วุตฺตา, เตสํ อนุสฺสรณํ ปุริมโต ทุกฺกรํ เยหิ ปเรหิ วิฺาตตาย เต ปรวิฺาณวิฺาตา นาม ชาตา, เตสํ วตฺตมานสนฺตานานุสาเรน วิฺาตพฺพโต. เต จ ปรวิฺาณวิฺาตา ทุวิธา ปรินิพฺพุตา อปรินิพฺพุตาติ. เตสุ จ ปรินิพฺพุตานุสฺสรณํ ทุกฺกรํ สพฺพโส สุสมุจฺฉินฺนสนฺตานตฺตา. ตํ ปน สิขาปฺปตฺตปรวิฺาตํ ปุพฺเพนิวาสํ ทสฺเสตุํ ‘‘ฉินฺนวฏุมกานุสฺสรณาทีสู’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ฉินฺนวฏุมกา อตีเต ปรินิพฺพุตา ขีณาสวา ฉินฺนสํสารมคฺคตฺตา ¶ . อาทิ-สทฺเทน อปรินิพฺพุตานํ ปรวิฺาณวิฺาตานมฺปิ สีโหกฺกนฺติกวสเอน อนุสฺสรณํ คหิตํ. ยาย สติยา ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, สา ปุพฺเพนิวาสานุสฺสตีติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ.
วิหิต-สทฺโท วิธ-สทฺทปริยาโยติ อาห ‘‘อเนกวิธ’’นฺติ, ภวโยนิอาทิวเสน พหุวิธนฺติ อตฺโถ. วิหิตนฺติ วา ปยุตฺตํ วณฺณิตนฺติ อตฺถํ คเหตฺวา ‘‘อเนเกหิ ปกาเรหิ วิหิต’’นฺติ วตฺตพฺเพ มชฺเฌปทโลปํ กตฺวา นิทฺทิฏฺนฺติ อาห ‘‘อเนเกหิ…เป… สํวณฺณิต’’นฺติ. ปกาเรหีติ นามโคตฺตาทิปกาเรหิ. สํวณฺณิตนฺติ พุทฺธาทีหิ กถิตํ. อนุ-สทฺโท อนนฺตรตฺถทีปโกติ อาห ‘‘อภินินฺนามิตมตฺเต เอวา’’ติ, เอเตน จ ปริกมฺมสฺส อารทฺธตํ ทสฺเสติ. ปูริตปารมีนฺหีติอาทินา ปริกมฺมํ วินาปิ สิทฺธึ ทสฺเสติ.
อารทฺธปฺปการทสฺสนตฺเถติ ¶ อนุสฺสริตุํ อารทฺธานํ ปุพฺเพ นิวุตฺถกฺขนฺธานํ ทสฺสนตฺเถ. ชายตีติ ชาติ, ภโว. โส เอกกมฺมมูลโก อาทานนิกฺเขปปริจฺฉินฺโน ขนฺธปฺปพนฺโธ อิธ ‘‘ชาตี’’ติ อธิปฺเปโตติ อาห เอกมฺปีติอาทิ. กปฺโปติ อสงฺขฺเยยฺยกปฺโป, โส ปน อตฺถโต กาโล ตถาปวตฺตธมฺมมุปาทาย ปฺตฺโต, เตสํ วเสนสฺส ปริหานิ จ วฑฺฒิ จ เวทิตพฺพา. สํวฏฺโฏ สํวฏฺฏนํ วินาโส อสฺส อตฺถีติ สํวฏฺโฏ, อสงฺขฺเยยฺยกปฺโป. สํวฏฺเฏน วินาเสน สห ติฏฺติ สีเลนาติ สํวฏฺฏฏฺายี. เอวํ วิวฏฺโฏติอาทีสุปิ. ตตฺถ วิวฏฺฏนํ วิวฏฺโฏ, อุปฺปตฺติ, วฑฺฒิ วา. เตเชน วินาโส เตโชสํวฏฺโฏ. วิตฺถารโต ปนาติ ปุถุลโต ปน สํวฏฺฏสีมาเภโท นตฺถิ, เตนาห ‘‘สทาปี’’ติ. เอกนคริยา วิย อสฺส ชาตกฺขเณ วิการาปชฺชนโต ชาติกฺเขตฺตโวหาโรติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฏิสนฺธิอาทีสุ กมฺปตี’’ติ วุตฺตํ. อานุภาโว ปวตฺตตีติ ตทนฺโตคธานํ สพฺเพสํ สตฺตานํ โรคาทิอุปทฺทโว วูปสมฺมตีติ อธิปฺปาโย. ยํ ยาวตา วา ปน อากงฺเขยฺยาติ วุตฺตนฺติ ยํ วิสยกฺเขตฺตํ สนฺธาย เอกสฺมึ เอว ขเณ สพฺพตฺถ สเรน อภิวิฺาปนํ, อตฺตโน รูปกายทสฺสนฺจ ปฏิชานนฺเตน ภควตา ‘‘ยาวตา วา ปน อากงฺเขยฺยา’’ติ วุตฺตํ.
เอเตสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ปวตฺตผลโภชโนติ สยํปติตผลาหาโร, อิทฺจ ตาปสกาลํ สนฺธาย วุตฺตํ. อิธูปปตฺติยาติ อิธ จริมภเว อุปปตฺติยา. เอกโคตฺโตติ ตุสิตโคตฺเตน เอกโคตฺโต. อิตเรติ วณฺณาทโย. ติตฺถิยาติ กมฺมผลวาทิโน. อภินีหาโรติ อภินีหาโรปลกฺขิโต ปฺุาณสมฺภรณกาโล วุตฺโต. จุติปฏิสนฺธิวเสนาติ อตฺตโน ปรสฺส วา ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺตภาเว จุตึ ทิสฺวา อนฺตรา กิฺจิ อนามสิตฺวา ปฏิสนฺธิยา เอว คหณวเสน เอวํ ชานนํ อิจฺฉิตปฺปเทโสกฺกมนนฺติ อาห เตสฺหีติอาทิ. อุภยถาปีติ ขนฺธปฏิปาฏิยาปิ ¶ จุติปฏิสนฺธิวเสนปิ. สีโหกฺกนฺตวเสนปีติ สีหนิปาตวเสนปิ. กิเลสานํ อาตาปนปริตาปนฏฺเน วีริยํ อาตาโปติ อาห ‘‘วีริยาตาเปนา’’ติ.
ทิพฺพจกฺขุาณกถาวณฺณนา
๑๓. ทิวิ ¶ ภวตฺตา ทิพฺพนฺติ เทวานํ ปสาทจกฺขุ วุจฺจตีติ อาห ‘‘ทิพฺพสทิสตฺตา’’ติ. ทูเรปีติ ปิ-สทฺเทน สุขุมสฺสาปิ อารมฺมณสฺส คหณํ. วีริยารมฺภวเสน อิชฺฌนโต สพฺพาปิ ภาวนา, ปธานสงฺขารสมนฺนาคโต วา อิทฺธิปาทภาวนาวิเสสโต วีริยภาวนาติ อาห ‘‘วีริยภาวนาพลนิพฺพตฺต’’นฺติ. ทิพฺพวิหารวเสนาติ กสิณาทิชฺฌานจตอุกฺกวเสน. อิมินา ทูรการณตฺเถ อสฺส ทิพฺพภาวมาห. ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสิตตฺตาติ อิมินา อาสนฺนการณภูตปาทกชฺฌานโต นิพฺพตฺตนฺติ ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสิตตฺตาติ อิมสฺส ทิพฺพวิหารปอยาปนฺนํ อตฺตนา สมฺปยุตฺตํ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานํ นิสฺสยปจฺจยภูตํ นิสฺสาย ทิพฺพจกฺขุาณสฺส ปวตฺตตฺตาติปิ อตฺโถ. ทิวุธาตุสฺส ชุติคติโยคํ สนฺธาย อาโลกปอคฺคเหนาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาโลกปริคฺคเหนาติ กสิณาโลกปริคฺคหวเสน. ทสฺสนฏฺเนาติ รูปทสฺสนภาเวน, อิมินา ‘‘จกฺขติ รูปํ วิภาเวตี’’ติ นิพฺพจนโต จกฺขุตฺตํ ทสฺเสติ. จกฺขุกิจฺจกรเณนาติ อิทํ จกฺขุมิว จกฺขูติ อุปมาย สทิสนิมิตฺตทสฺสนํ, สมวิสมาทิทสฺสนสงฺขาตสฺส จกฺขุกิจฺจสฺส กรณโตติ อตฺโถ.
ยถาหาติ อุปกฺกิเลสสุตฺตปฺปเทสํ (ม. นิ. ๓.๒๔๒) นิทสฺเสติ. ตตฺถ วิจิกิจฺฉาติอาทีสุ ภควโต โพธิมูเล อนภิสมฺพุทฺธสฺเสว ทิพฺพจกฺขุนา นานาวิธานิ รูปานิ ปสฺสนฺตสฺส ‘‘อิทํ นุ โข กึ, อิทํ นุ โข กิ’’นฺติ วิจิกิจฺฉา อุปฺปนฺนา, ตโต ปน วิจิกิจฺฉานิวตฺตนตฺถํ ตานิ รูปานิ อมนสิกโรโต อมนสิกโรนฺตสฺส ถินมิทฺธํ อุปฺปนฺนํ, ตโต นิวตฺตนตฺถํ ปุน สพฺพรูปานิ มนสิกโรโต รกฺขสาทีสุ ฉมฺภิตตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ‘‘กิเมตฺถ ภายิตพฺพ’’นฺติ ภยวิโนทนวเสน มนสิกโรโต อตฺตโน มนสิการโกสลฺลํ ปฏิจฺจ อุปฺปิลสงฺขาตา สมาธิทูสิกา เคหสิตปีติ อุปฺปนฺนา, ตนฺนิเสธาย มนสิการวีริยํ สิถิลํ กโรนฺตสฺส กายาลสิยสงฺขาตํ ทุฏฺุลฺลํ, ตนฺนิเสธาย ปุน วีริยํ ปคฺคณฺหโต อจฺจารทฺธวีริยํ, ปุน ตนฺนิเสธาย วีริยํ สิถิลยโต อติลีนวีริยํ อุปฺปนฺนํ, ตนฺนิเสเธตฺวา ทิพฺพรูปานิ ปสฺสโต อภิชปฺปาสงฺขาตา ตณฺหา อุปฺปนฺนา, ตนฺนิเสธาย หีนาทินานารูปานิ มนสิกโรโต นานารมฺมณวิกฺเขปสงฺขาตา นานตฺตสฺา อุปฺปนฺนา. ปุน ตํ วิหาย เอกเมว มนสิกโรโต อตินิชฺฌายิตตฺตํ รูปานํ อติวิย ¶ จินฺตนํ อุปฺปนฺนํ. โอภาสนฺติ ปริกมฺมสมุฏฺิตํ โอภาสํ ¶ . น จ รูปานิ ปสฺสามีติ ‘‘ปริกมฺโมภาสมนสิการปสุตตาย ทิพฺพจกฺขุนา รูปานิ น ปสฺสามี’’ติ เอวํ อุปฺปตฺติกฺกมสหิโต อตฺโถ เวทิตพฺโพ, มนุสฺสานํ อิทนฺติ มานุสกํ มานุสกจกฺขุโคจรํ ถูลรูปํ วุจฺจติ. ตเทว มนุสฺสานํ ทสฺสนูปจารตฺตา มนุสฺสูปจาโรติ อาห ‘‘มนุสฺสูปจารํ อติกฺกมิตฺวา’’ติ. รูปทสฺสเนนาติ ทูรสุขุมาทิรูปทสฺสเนน.
ยสฺมา นิยเมน ปุเรชาตฏฺิตรูปารมฺมณํ ทิพฺพจกฺขุาณํ อาวชฺชนปริกมฺเมหิ วินา น อุปฺปชฺชติ, น จ อุปฺปชฺชมานํ ภิชฺชมานํ รูปมสฺส อารมฺมณํ โหติ ทุพฺพลตฺตา, จุติจิตฺตฺจ กมฺมชรูปสฺส ภงฺคกฺขเณ เอว อุปฺปชฺชติ, ปฏิสนฺธิจิตฺตฺจ อุปปตฺติกฺขเณ, ตสฺมา อาห จุติกฺขเณติอาทิ. รูปทสฺสนเมเวตฺถ สตฺตทสฺสนนฺติ จวมาเนติอาทินา ปุคฺคลาธิฏฺาเนน วุตฺตํ. อภิรูเป วิรูเปติปีติ อิทํ วณฺณ-สทฺทสฺส สณฺานวาจกตํ สนฺธาย วุตฺตํ มหนฺตํ หตฺถิราชวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวาติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๓๘) วิย. สุนฺทรํ คตึ คตา สุคตาติ อาห ‘‘สุคติคเต’’ติ. อิมินา ปน ปเทนาติ ยถากมฺมุปเคติ อิมินา ปเทน.
เนรยิกานํ อคฺคิชาลสตฺถนิปาตาทีหิ วิภินฺนสรีรวณฺณํ ทิสฺวา ตทนนฺตเรหิ กามาวจรชวเนเหว าตํ เตสํ ทุกฺขานุภวนมฺปิ ทสฺสนผลายตฺตตาย ‘‘ทิพฺพจกฺขุกิจฺจเมวา’’ติ วุตฺตํ. เอวํ มนสิกโรตีติ เตสํ กมฺมสฺส าตุกามตาวเสน ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ปริกมฺมวเสน กินฺนุ โขติอาทินา มนสิกโรติ. อถสฺส ตํ กมฺมํ อารมฺมณํ กตฺวา อาวชฺชนปริกมฺมาทีนํ อุปริ อุปฺปนฺเนน รูปาวจรจตุตฺถชฺฌาเนน สมฺปยุตฺตํ ยํ าณํ อุปฺปชฺชติ, อิทํ ยถากมฺมุปคาณํ นามาติ โยชนา. เทวานํ ทสฺสเนปิ เอเสว นโย. วิสุํ ปริกมฺมนฺติ ปุพฺเพนิวาสาทีนํ วิย ทิพฺพจกฺขุาณปริกมฺมํ วินา วิสุํ ปริกมฺมํ นตฺถิ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘ปาทกชฺฌานสมาปชฺชนปริกมฺเมหิ กิจฺจํ นตฺถิ, กินฺนุ โข กมฺมนฺติอาทิมนสิการานนฺตรเมว กมฺมํ. กมฺมสีเสน ตํสมฺปยุตฺเต จ ธมฺเม อารมฺมณํ กตฺวา อปฺปนาวีถิ อุปฺปชฺชติ. เอวมนาคตํสาเณปิ, เตเนว วิสุํ ปริกมฺมํ นาม นตฺถิ…เป… ทิพฺพจกฺขุนา สเหว อิชฺฌนฺตีติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. ตํ น คเหตพฺพํ วสีภูตานมฺปิ อภิฺานํ ปาทกชฺฌานาทิปริกมฺมํ วินา อนุปฺปตฺติโต. ปาทกชฺฌานาทิมตฺเตน จ วิสุํ ปริกมฺมํ นาม น โหตีติ ทิพฺพจกฺขุนาว เอตานิ าณานิ ¶ สิทฺธานีติ คเหตพฺพํ. เอวํ อนาคตํสาณสฺสาปีติ ทิพฺพจกฺขุนา ทิฏฺสฺส สตฺตสฺส อนาคเต ปวตฺตึ าตุกามตาย ปาทกชฺฌานาทีนมนนฺตรํ าณพลานุรูปํ อนาคเตสุ อเนกกปฺเปสุ อุปฺปชฺชนารเห ปุพฺเพ อตฺตภาวปริยาปนฺเน ¶ ปฺจกฺขนฺเธ ตปฺปฏิพทฺเธ ตทารมฺมเณ จ สพฺเพ โลกิยโลกุตฺตรธมฺเม สมฺมุติฺจ เอกกฺขเณ อาลมฺพิตฺวา อุปฺปชฺชนกสฺส จตุตฺถชฺฌานสมฺปยุตฺตสฺส อนาคตํสอาณสฺสาปิ วิสุํ ปริกมฺมํ นาม นตฺถีติ โยชนา.
เกจิ ปเนตฺถ ‘‘ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติยํ วิย นามโคตฺตาทิคหณมฺปิ อตฺเถว, ตฺจ น อภิฺากฺขเณ, อถ โข ตทนนฺตเรสุ กามาวจรชวนกฺขเณสุ เอว โหติ นามปริกปฺปกาเล อิตรปริกปฺปาสมฺภวา กมฺเมนุปฺปตฺติยฺจ ปริยนฺตาภาวา. สพฺพปริกมฺมนิมิตฺเตสุ ปน ธมฺเมสุ อตฺเถสุปิ เอกกฺขเณ อภิฺาย ทิฏฺเสุ ยถารุจิวเสน ปจฺฉา เอวํนาโมติอาทินา กามาวจรจิตฺเตน วิกปฺโป อุปฺปชฺชติ จกฺขุนา ทิฏฺเสุ พหูสุ รูเปสุ ถมฺภกุมฺภาทิวิกปฺโป วิย. ยฺจ กตฺถ อวิกปฺปิตํ, ตมฺปิ วิกปฺปนารหนฺติ สพฺพํ นามโคตฺตาทิโต วิกปฺปิตเมว โหติ. ยถา เจตฺถ, เอวํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติยมฺปิ ปริกปฺปารหตมฺปิ สนฺธาย ปาฬิยํ เอวํนาโมติอาทินา อปเทสสหิตเมว วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. อฺเ ปน ‘‘นามโคตฺตาทิกํ สพฺพมฺปิ เอกกฺขเณ ปฺายติ, อภิรุจิตํ ปน วจสา โวหรนฺตี’’ติ วทนฺติ, เตปิ อตฺถโต ปุริเมหิ สทิสา เอว, ปุพฺเพ ทิฏฺสฺส ปุน โวหารกาเลปิ ปริกปฺเปตพฺพโต ปริกปฺปารหธมฺมทสฺสนเมว เตหิปิ อตฺถโต อุปคตํ. เอเก ปน ‘‘โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทินฺติอาทิวจนโต กเมเนว อตีตานาคตธมฺมชานเนน นามโคตฺตาทีหิ สทฺธึ คหณํ สุกร’’นฺติ วทนฺติ, ตํ อยุตฺตเมว พุทฺธานมฺปิ สพฺพํ าตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย สพฺพฺุตาหานิปฺปสงฺคโต. ปาฬิยํ อิเม วต โภนฺโตติอาทิ ยถากมฺมุปคาณสฺส ปวตฺติอาการทสฺสนํ. กายวาจาทิ เจตฺถ กายวจีวิฺตฺติโย.
ภาริยนฺติ อานนฺตริยสทิสตฺตา วุตฺตํ. ขมาปเน หิ อสติ อานนฺตริยเมว. ตสฺสาติ ภาริยสภาวสฺส อุปวาทสฺส. มหลฺลโกติ เกวลํ วยสาว มหลฺลโก, น าเณน, ‘‘นายํ กิฺจิ โลกโวหารมตฺตมฺปิ ชานาติ, ปริสทูสโก เอว อมฺหากํ ลชฺชิตพฺพสฺส กรณโต’’ติ อธิปฺปาเยน หีเฬตฺวา วุตฺตตฺตา คุณปริธํสเนน อุปวทตีติ เวทิตพฺพํ. อาวุโสติอาทินา ¶ เถโร อุปริมคฺคุปฺปตฺติมสฺส อากงฺขนฺโต กรุณาย อตฺตานมาวิกาสิ. ปากติกํ อโหสีติ มคฺคาวรณํ นาโหสีติ อธิปฺปาโย. อตฺตนา วุฑฺฒตโรติ สยมฺปิ วุฑฺโฒ. เอตฺถาปิ ‘‘อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา’’ติ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตํ. อนาคามี อรหา จ อายตึ สํวรตฺถาย น ขเมยฺยุํ, เสสา โทเสนปีติ อาห ‘‘สเจ โส น ขมตี’’ติ.
เย จ…เป… สมาทเปนฺติ, เตปิ มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานาติ โยเชตพฺพํ. สีลสมฺปนฺโนติอาทีสุ ¶ นิปฺปริยายโต อคฺคมคฺคฏฺโ อธิปฺเปโต ตสฺเสว อฺาราธนา นิยมโต, เสสาปิ วา ปจฺฉิมภวิกา สีลาทีสุ ิตา เตสมฺปิ อฺุปฺปตฺตินิยมโต. อฺนฺติ อรหตฺตผลํ. เอวํ สมฺปทนฺติ เอวํ นิพฺพตฺติกํ. ยถา ตํ อวิรชฺฌนกนิพฺพตฺติกํ, เอวมิทมฺปิ เอตสฺส นิรเย นิพฺพตฺตนนฺติ อตฺโถ. ยํ สนฺธาย ‘‘เอวํสมฺปทมิท’’นฺติ นิทฺทิฏฺํ, ตํ ทสฺเสตุํ ตํ วาจนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตํ วาจนฺติ อริยูปวาทํ. จิตฺตนฺติ อริยูปวาทกจิตฺตํ. ทิฏฺินฺติ อริยูปวาเท โทสาภาวทสฺสนทิฏฺึ. ‘‘สพฺพเมตํ ปชหิสฺสามี’’ติ จิตฺเตน อจฺจยํ เทเสตฺวา ขมาปนวเสน อปฺปหาย อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา. ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเยติ ยถา นิรยปาเลหิ อาหริตฺวา นิรเย ปิโต, เอวํ นิรเย ปิโต เอว, อริยูปวาเทเนวสฺส อิทํ นิยเมน นิรเย นิพฺพตฺตนํ ยถา มคฺเคน ผลํ สมฺปชฺชติ, เอวํ สมฺปชฺชนกนฺติ อธิปฺปาโย.
มิจฺฉาทิฏฺิ สพฺพปาปมูลตฺตา ปรมา ปธานา เยสํ วชฺชานํ ตานิ มิจฺฉาทิฏฺิปรมานิ วชฺชานิ, สพฺพวชฺเชหิ มิจฺฉาทิฏฺิเยว ปรมํ วชฺชนฺติ อตฺโถ. อวีตราคสฺส มรณโต ปรํ นาม ภวนฺตรุปาทานเมวาติ อาห ‘‘ปรํ มรณาติ ตทนนฺตรํ อภินิพฺพตฺตกฺขนฺธคฺคหเณ’’ติ. เยน ติฏฺติ, ตสฺส อุปจฺเฉเทเนว กาโย ภิชฺชตีติ อาห ‘‘กายสฺส เภทาติ ชีวิตินฺทฺริยสฺสุปจฺเฉทา’’ติ. เอติ เอตสฺมา สุขนฺติ อโย, ปฺุํ. อายสฺสาติ อาคมนสฺส, เหตุสฺส วา. อยติ อิฏฺารมฺมณาทีหิ ปวตฺตตีติ อาโย, อสฺสาโท. อสุรสทิสนฺติ เปตาสุรสทิสํ.
อาสวกฺขยาณกถาวณฺณนา
๑๔. สรสลกฺขณปฏิเวเธนาติ ¶ สภาวสงฺขาตสฺส ลกฺขณสฺส อสมฺโมหโต ปฏิวิชฺฌเนน. นิพฺพตฺติกนฺติ นิปฺผาทนํ. ยํ านํ ปตฺวาติ ยํ นิพฺพานํ มคฺคสฺส อารมฺมณปจฺจยฏฺเน านํ การณภูตํ อาคมฺม. อปฺปวตฺตินฺติ อปฺปวตฺติเหตุํ. กิเลสวเสนาติ เยสํ อาสวานํ เขปเนน อิทํ าณํ อาสวกฺขยาณํ ชาตํ, เตสํ กิเลสานํ วเสน, เตสํ อาสวานํ วเสน สพฺพกิเลสานํ สงฺคหณโต ปริยายโต ปการนฺตรโตติ อตฺโถ. ปาฬิยํ อตีตกาลวเสน ‘‘อพฺภฺาสิ’’นฺติ วตฺวาปิ อภิสมยกาเล ตสฺส ตสฺส ชานนสฺส ปจฺจุปฺปนฺนตํ อุปาทาย ‘‘เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต’’ติ วตฺตมานกาเลน นิทฺเทโส กโต. กามาสวาทีนํ วิมุจฺจเนเนว ตทวินาภาวโต ทิฏฺาสวสฺสาปิ วิมุตฺติ เวทิตพฺพา.
‘‘ขีณา ชาตี’’ติ ชานนํ กิเลสกฺขยปจฺจเวกฺขณวเสน, วุสิตํ พฺรหฺมจริยนฺติอาทิชานนํ ¶ มคฺคผลนิพฺพานปจฺจเวกฺขณวเสน โหตีติ อาห ‘‘ขีณา ชาตีติอาทีหิ ตสฺส ภูมิ’’นฺติ. ตตฺถ ภูมินฺติ วิสยํ, ตีสุ กาเลสุปิ ชาติกฺขยํ ปติ อุชุกเมว วายามาสมฺภเวปิ ตํ ปติ วายามกรณสฺส สาตฺถกตํ, ตสฺส อนาคตกฺขนฺธานุปฺปตฺติผลตฺจ ทสฺเสตุํ ยา ปนาติอาทิ วุตฺตํ. ยา ปน มคฺคสฺส อภาวิตตฺตาติอาทินา หิ มคฺเคนาวิหตกิเลเสเหว อายตึ ขนฺธานํ ชาติ เหสฺสติ, เตสฺจ กิเลสานํ มคฺเคน วินาเส สติ ขนฺธา น ชายิสฺสนฺติ, กิเลสานฺจ เตกาลิกตาย ชาติยํ วุตฺตนเยน เกนจิ ปจฺจเยน วินาสโยเคปิ จิตฺตสนฺตาเน กิเลสวิรุทฺธอริยมคฺคกฺขณุปฺปาทนเมว ตพฺพินาโส วิรุทฺธปจฺจโยปนิปาเตน อายตึ อนุปฺปชฺชนโต พีชสนฺตาเน อคฺคิกฺขนฺโธปนิปาเตน อายตึ พีชตฺตานุปฺปตฺติ วิย, อิติ มคฺคกฺขณุปฺปตฺติสงฺขาตกิเลสาภาเวน กิเลสผลานํ ขนฺธานํ อายตึ อนุปฺปตฺติเยว ชาติกฺขโยติ อยมตฺโถ วิภาวียติ, เตนาห ‘‘มคฺคสฺส ภาวิตตฺตา อนุปฺปาทธมฺมตํ อาปชฺชเนน ขีณา’’ติ. เอตฺถ จายมตฺโถ กิเลสาภาวสงฺขาตสฺส มคฺคสฺส ภาวิตตฺตา อุปฺปาทิตตฺตา ปจฺจยาภาเวน อนุปฺปชฺชนฺตี ขนฺธานํ ชาติ เตน อายตึ อนุปฺปชฺชนสงฺขาเตน อนุปฺปาทธมฺมตํ อาปชฺชเนน โวหารโต ขีณา เม ชาตีติ. น หิ สงฺขตธมฺมานํ ปจฺจยนฺตเรน วินาโส สมฺภวติ, สมฺภเว จ ¶ ตสฺส ปจฺจยนฺตรตาทิปฺปสงฺคโต. ตพฺพิรุทฺธกฺขณุปฺปาทนเมว ตพฺพินาสุปฺปาทนํ. ตนฺติ ขีณชาตึ อพฺภฺาสินฺติ สมฺพนฺโธ. อิตฺถตฺตายาติ อิเม ปการา อิตฺถํ, ตพฺภาโว อิตฺถตฺตํ, ตทตฺถาย. ทสฺเสนฺโตติ นิคมนวเสน ทสฺเสนฺโตติ.
วิชฺชาตฺตยกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
อุปาสกตฺตปฏิเวทนากถาวณฺณนา
๑๕. อฺาณนฺติ ธิ-สทฺทโยเคน สามิอตฺเถ อุปโยควจนํ. ปาทานีติ ปาเท. ยสสาติ ปริวาเรน. โกตูหลจฺฉเรติ โกตูหเล อจฺฉเร จ. อยนฺติ อมิกฺกนฺต-สทฺโท. นยิทํ อาเมฑิตวเสน ทฺวิกฺขตฺตุํ, อถ โข อตฺถทฺวยวเสนาติ ทสฺเสนฺโต อถ วาติอาทิมาห. อวิเสเสน อตฺถสามฺเน นิปฺผนฺโน อภิกฺกนฺตนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส, เทสนาปสาทาทิวิเสสาเปกฺขายปิ ตเถว ติฏฺติ ปุพฺเพ นิปฺผนฺนตฺตาติ อาห ‘‘อภิกฺกนฺตํ…เป… ปสาโท’’ติ. อโธมุขปิตํ เกนจิ. เหฏฺามุขชาตํ สยเมว. ปริยาเยหีติ ปกาเรหิ, อรสรูปตฺตาทิปฏิปาทกการเณหิ วา.
คมุธาตุสฺส ¶ ทฺวิกมฺมกตฺตาภาวา โคตมํ สรณนฺติ อิทํ ปททฺวยมฺปิ น อุปโยควจนํ. อปิ จ โข ปุริมเมว, ปจฺฉิมํ ปน ปจฺจตฺตวจนนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘โคตมํ สรณนฺติ คจฺฉามี’’ติ วุตฺตํ. เตน จ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ ทสฺเสติ. อฆสฺสาติ อฆโต ปาปโต. ตาตาติ หิ ปทํ อเปกฺขิตฺวา นิสฺสกฺกสฺเสว ยุตฺตตฺตา. อธิคตมคฺเค สจฺฉิกตนิโรเธติ ปททฺวเยนาปิ ผลฏฺา เอว ทสฺสิตา, น มคฺคฏฺาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน จา’’ติ อาห. วิตฺถาโรติ อิมินา ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อิติวุ. ๙๐; อ. นิ. ๔.๓๔) วุตฺตปทํ สงฺคณฺหาติ. อเนชนฺติ นิตฺตณฺหํ. อปฺปฏิกูลนฺติ อวิโรธตฺถทีปนโต อวิรุทฺธสุจึ ปณีตํ วา. วาจาย ปคุณีกตฺตพฺพโต, ปกฏฺเหิ สทฺทตฺถคุเณหิ โยคโต วา ปคุณํ. สํหโตติ ฆฏิโต สเมโต ¶ . ยตฺถาติ เยสุ ปุริสยุเคสูติ สมฺพนฺโธ. อฏฺ จ ปุคฺคลธมฺมทสา เตติ เต อฏฺ ปุคฺคลา อริยธมฺมสฺส ทิฏฺตฺตา ธมฺมทสา.
สรณนฺติอาทีสุ อยํ สงฺเขปตฺโถ – ภยหึสนาทิอตฺเถน รตนตฺตยํ สรณํ นาม, ตเทว เม รตนตฺตยํ ตาณํ เลณํ ปรายณนฺติ พุทฺธสุพุทฺธตาทิคุณวเสน ตปฺปรายณตาการปฺปวตฺโต จิตฺตุปฺปาโท สรณคมนํ นาม. ยถาวุตฺเตน อิมินา จิตฺตุปฺปาเทน สมนฺนาคโต สรณํ คจฺฉติ นาม. เอตสฺส จ สรณคมนสฺส โลกิยโลกุตฺตรวเสน ทุวิโธ ปเภโท. ตตฺถ โลกุตฺตรํ สรณคมนูปกฺกิเลสสมุจฺเฉเทน มคฺคกฺขเณเยว สิชฺฌติ. โลกิยสรณคมนํ จตุธา ปวตฺตติ อหํ อตฺตานํ พุทฺธสฺส ปริจฺจชามีติอาทินา อตฺตนิยฺยาตเนน, ยถาวุตฺตตปฺปรายณตาย, สิสฺสภาวูปคมเนน, ปณิปาเตน จาติ. สพฺพตฺถาปิ เจตฺถ เสฏฺทกฺขิเณยฺยภาววเสเนว สรณคมนํ โหติ, น าติภยาจริยาทิวเสนาติ เวทิตพฺพํ. เอวํ าติอาทิวเสน ติตฺถิยํ วนฺทโต สรณํ น ภิชฺชติ, ทกฺขิเณยฺยภาเวน อฺํ วนฺทโต สรณํ ภิชฺชติ. โลกิยสฺส สรณคมนสฺส นิพฺพานปฺปตฺตินิยมํ สทิสผลํ สรณคตสฺส อนาคเต นิพฺพานปฺปตฺตินิยมโต. สพฺพโลกิยสมฺปตฺติสมธิคโม ปน อปายทุกฺขาทิสมติกฺกโม จ อานิสํสผลํ. ตีสุ วตฺถูสุ จสฺส สํสยมิจฺฉาาณาทิ สํกิเลโส. เภโทปิสฺส สาวชฺชานวชฺชวเสน ทุวิโธ. ตตฺถ ปโม มิจฺฉาทิฏฺิปุพฺพเกหิ ติตฺถิยปณิปาตาทีหิ โหติ, โส จ อนิฏฺผลตฺตา สาวชฺโช. อนวชฺโช ปน กาลกิริยาย โหติ. โลกุตฺตรสรณคมนสฺส สพฺพถา สํกิเลโส วา เภโท วา นตฺถีติ เวทิตพฺพํ.
โก อุปาสโกติอาทิ อุปาสกตฺตสรูปการณาทิปุจฺฉา. ตตฺถ โย คหฏฺโ มนุสฺโส วา อมนุสฺโส วา วุตฺตนเยน ติสรณํ คโต, อยํ อุปาสโก. โย จ สรณคมนาทิกิริยาย รตนตฺตยํ ¶ อุปาสนโต ‘‘อุปาสโก’’ติ วุจฺจติ. ปฺจ เวรมณิโย จสฺส สีลํ. ปฺจมิจฺฉาวาณิชฺชาทิปาปาชีวํ ปหาย ธมฺเมน สเมน ชีวิตกปฺปนมสฺส อาชีโว. อสฺสทฺธิยทุสฺสีลตาทโย อุปาสกตฺตสฺส วิปตฺติ, ตทภาโว สมฺปตฺตีติ เวทิตพฺพา.
วิหารคฺเคนาติ ¶ โอวรกาทิวสนฏฺานโกฏฺาเสน. อชฺชภาวนฺติ อสฺมึ อหนิ ปวตฺตํ ปสาทาทึ. กายวิฺตฺติเหตุโก สรีราวยโว กายงฺคํ. วจีวิฺตฺติเหตุกํ โอฏฺชิวฺหาทิ วาจงฺคํ. อโจเปตฺวาติ อจาเลตฺวา. เอเตน จ วจีปวตฺติยา ปุพฺพภาเค านกรณานํ จลนปจฺจโย วาโยธาตุยา วิการากาโร วิสุํ กายวิฺตฺติ น โหติ, เตน วิสุํ วิฺาเปตพฺพสฺส อธิปฺปายสฺส อภาวา วจีวิฺตฺติยเมว สงฺคยฺหติ ตทุปการตฺตา. ยถา กาเยน กายกณฺฑุยนาทีสุ สทฺทุปฺปตฺติเหตุภูโต ปถวีธาตุยา อาการวิกาโร วิสุํ อธิปฺปายสฺส อวิฺาปนโต วจีวิฺตฺติ น โหติ, เอวมยมฺปีติ ทสฺเสติ. อธิปฺปายวิฺาปนโต เหตา วิฺตฺติโย นาม ชาตา, น เกวลํ วายุปถวีนํ จลนสทฺทุปฺปตฺติปจฺจยภูตวิการาการมตฺตตาย. เอวฺจ พหิทฺธา รุกฺขาทีสุ จลนสทฺทุปฺปตฺติปจฺจยานํ ยถาวุตฺตปฺปการานํ วิการาการานํ อวิฺตฺติตา สมตฺถิตา โหตีติ เวทิตพฺพา. เกจิ วาจงฺคนฺติ ‘‘โหตุ สาธู’’ติ เอวมาทิวาจาย อวยวนฺติอาทึ วทนฺติ, ตํ อโจเปตฺวาติ อิมินา น สเมติ. ขนฺตึ จาเรตฺวาติ อนุมตึ ปวตฺเตตฺวา. ‘‘ขนฺตึ ธาเรตฺวา’’ติปิ ปาโ, พหิ อนิกฺขมนวเสน คณฺหิตฺวาติ อตฺโถ. ปฏิมุโขติ ภควติ ปฏินิวตฺตมุโข, เตนาห ‘‘อปกฺกมิตฺวา’’ติ.
๑๖. ยาจธาตุสฺส ทฺวิกมฺมกตฺตา ‘‘ภควา วสฺสาวาสํ ยาจิโต’’ติ วุตฺตํ. สุสสฺสกาเลปีติ วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏํ กาตุํ ‘‘อติสมคฺเฆปี’’ติ วุตฺตํ. อติวิย อปฺปคฺเฆปิ ยทา กิฺจิเทว ทตฺวา พหุํ ปุพฺพณฺณาปรณฺณํ คณฺหนฺติ, ตาทิเส กาเลปีติ อตฺโถ. ภิกฺขมานาติ ยาจมานา. วุตฺตสสฺสนฺติ วปิตสสฺสํ. ตตฺถาติ เวรฺชายํ, เอเตน ‘‘วุตฺตํ สลากา เอว โหติ เอตฺถาติ สลากาวุตฺตา’’ติ วิเสสนสฺส ปรนิปาเตน นิพฺพจนํ ทสฺเสติ. อถ วา ‘‘สพฺพํ สสฺสํ สลากามตฺตเมว วุตฺตํ นิพฺพตฺตํ สมฺปนฺนํ เอตฺถาติ สลากาวุตฺตา’’ติปิ นิพฺพจนํ ทฏฺพฺพํ, เตนาห ‘‘สลากา เอว สมฺปชฺชตี’’ติ. ‘‘สลากาย วุตฺตํ ชีวิกา เอติสฺสนฺติ สลากาวุตฺตา’’ติปิ นิพฺพจนํ ทสฺเสตุํ สลากาย วาติอาทิ วุตฺตํ. ธฺกรณฏฺาเนติ ธฺมินนฏฺาเน. วณฺณชฺฌกฺขนฺติ กหาปณปริกฺขกํ.
อฺุเฉน ปคฺคเหนาติ เอตฺถ ปคฺคเหนาติ ปตฺเตน, ตํ คเหตฺวาติ อตฺโถ. ปคฺคยฺหติ เอเตน ภิกฺขาติ ¶ หิ ปคฺคโห, ปตฺโต. เตนาห ปคฺคเหน ¶ โย อฺุโฉติอาทิ. อถ วา ปคฺคเหนาติ คหเณน, อฺุฉตฺถาย คเหตพฺโพ ปตฺโตติ สิชฺฌตีติ อาห ‘‘ปตฺตํ คเหตฺวา’’ติ.
คงฺคาย อุตฺตรทิสาปเทโส อุตฺตราปโถ, โส นิวาโส เอเตสํ, ตโต วา อาคตาติ อุตฺตราปถกา, เตนาห อุตฺตราปถวาสิกาติอาทิ. ‘‘อุตฺตราหกา’’ติปิ ปาโ, โส เอว อตฺโถ นิรุตฺตินเยน. มนฺทิรนฺติ อสฺสสาลํ. ‘‘มนฺทร’’นฺติปิ ลิขนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. สา จ มนฺทิรา ยสฺมา ปริมณฺฑลากาเรน พหุวิธา จ กตา, ตสฺมา ‘‘อสฺสมณฺฑลิกาโย’’ติ วุตฺตา.
คงฺคาย ทกฺขิณาย ทิสาย เทโส ทกฺขิณาปโถ, ตตฺถ ชาตา มนุสฺสา ทกฺขิณาปถมนุสฺสา. พุทฺธํ มมายนฺติ มเมวายนฺติ คณฺหนสีลา พุทฺธมามกา, เอวํ เสเสสุปิ. เอวนฺติ ปจฺฉา วุตฺตนเยน อตฺเถ คยฺหมาเน. ปฏิวีสนฺติ โกฏฺาสํ. ตทุปิยนฺติ ตทนุรูปํ ตปฺปโหนกํ. ลทฺธาติ ลภิตฺวา โน โหตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ลทฺโธ’’ติ วา ปาโ, อุปฏฺากฏฺานํ เนว ลภินฺติ อตฺโถ. าติ จ ปสตฺถตมคุณโยคโต เสฏฺโ จาติ าติเสฏฺโ. เอวรูเปสุ าเนสุ อยเมว ปติรูโปติ อามิสสฺส ทุลฺลภกาเลสุ ปริกโถภาสาทึ อกตฺวา ปรมสลฺเลขวุตฺติยา อาชีวสุทฺธิยํ ตฺวา ภควโต อธิปฺปายานุคุณํ อามิสํ วิจาเรนฺเตน นาม าติสิเนหยุตฺเตน อริยสาวเกเนว กาตุํ ยุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.
มาราวฏฺฏนายาติ มาเรน กตจิตฺตปริวฏฺฏเนน, จิตฺตสมฺโมหเนนาติ อตฺโถ. ตมฺปีติ อุตฺตรกุรุํ วา ติทสปุรํ วา อาวฏฺเฏยฺย.
‘‘ผุสฺสสฺสาหํ ปาวจเน, สาวเก ปริภาสยึ;
ยวํ ขาทถ ภฺุชถ, มา จ ภฺุชถ สาลโย’’ติ. (อป. เถร ๑.๓๙.๘๘) –
อปทาเน วุตฺตสฺส อกุสลสฺส ตทา โอกาสกตตฺตา. นิพทฺธทานสฺสาติ ‘‘ทสฺสามา’’ติ วาจาย นิยมิตทานสฺส. อปฺปิตวตฺตสฺสาติ กาเยน อติหริตฺวา ทินฺนวตฺถุโนปิ. วิสหตีติ สกฺโกติ. สงฺเขเปนาติ นีหาเรน. พฺยามปฺปภายาติ สมนฺตโต เหฏฺา จ อุปริ จ อสีติหตฺถมตฺเต าเน ฆนีภูตาย ฉพฺพณฺณาย ปภาย, ยโต ฉพฺพณฺณรํสิโย ตฬากโต มาติกาโย วิย นิกฺขมิตฺวา ทสสุ ทิสาสุ ¶ ธาวนฺติ, สา ยสฺมา พฺยามมตฺตา วิย ขายติ, ตสฺมา ‘‘พฺยามปฺปภา’’ติ วุจฺจติ. ยสฺมา อนุพฺยฺชนานิ จ ปจฺเจกํ ภควโต สรีเร ปภาสมฺปตฺติยุตฺตา ¶ อากาเส จนฺทสูริยาทโย วิย วิภาตา วิโรจนฺติ, ตสฺมา ตานิ พฺยามปฺปภาย สห เกนจิ อนภิภวนียานิ วุตฺตานิ.
อนตฺถสฺหิเตติ ฆาตาเปกฺขํ สามิอตฺเถ ภุมฺมวจนํ, เตนาห ‘‘ตาทิสสฺส วจนสฺส ฆาโต’’ติ. อตฺโถ ธมฺมเทสนาย เหตุ อุปฺปชฺชติ เอตฺถ, ธมฺมเทสนาทิโก วา อตฺโถ อุปฺปชฺชติ เอตายาติ อฏฺุปฺปตฺติ, ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุ.
เอกํ คเหตฺวาติ ธมฺมเทสนาสิกฺขาปทปฺตฺติสงฺขาเตสุ ทฺวีสุ ธมฺมเทสนาการณํ คเหตฺวา. รตฺติจฺเฉโท วาติ สตฺตาหกรณียวเสน คนฺตฺวา พหิ อรุณุฏฺาปนวเสน วุตฺโต, น วสฺสจฺเฉทวเสน ตสฺส วิสุํ วุจฺจมานตฺตา. เอเตน จ วสฺสจฺเฉทปจฺจเย สตฺตาหกรณีเยน คมนํ อนฺุาตนฺติ เวทิตพฺพํ. น กิสฺมิฺจีติ กิสฺมิฺจิ คุเณ สมฺภาวนาวเสน น มฺนฺติ. ปจฺฉา สีลํ อธิฏฺเหยฺยามาติ อาชีวเหตุ สนฺตคุณปฺปกาสเนน อาชีววิปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. อติมฺิสฺสตีติ อวมฺิสฺสติ.
๑๗. ‘‘อายสฺมาติ ปิยวจนเมต’’นฺติ อุจฺจนีจชนสามฺวเสน วตฺวา ปุน อุจฺจชนาเวณิกวเสเนว ทสฺเสนฺโต ‘‘ครุคารวสปฺปติสฺสาธิวจน’’นฺติ อาห. ตตฺถ สห ปติสฺสเยน นิสฺสเยนาติ สปฺปติสฺโส, สนิสฺสโย, ตสฺส ครุคุณยุตฺเตสุ คารววจนนฺติ อตฺโถ. อิธ ปน วจนเมว อธิวจนํ. ปปฺปฏโกชนฺติ อาทิกปฺเป อุทกูปริ ปมํ ปถวีภาเวน สฺชาตํ นวนีตปิณฺฑสทิสํ อุทเกปิ อุปฺปิลนสภาวํ อวิลียนกํ อติสินิทฺธมธุรํ อเนกโยชนสหสฺสพหลํ รสาตลสงฺขาตํ ปถโวชํ. ยํ อาทิกปฺปิเกหิ มนุสฺเสหิ รสตณฺหาย คเหตฺวา ภฺุชมานํ เตสํ กมฺมพเลน อุปริภาเค กกฺขฬภาวํ อาปชฺชิตฺวา เหฏฺา ปุริมากาเรเนว ิตํ, ยสฺส จ พเลน อยํ มหาปถวี สปพฺพตสมุทฺทกานนา เหฏฺาอุทเก อนิมุชฺชมานา อวิกิริยมานา กุลฺลุปริ วิย นิจฺจลา ติฏฺติ, ตํ ปถวีสารมณฺฑนฺติ อตฺโถ, เตนาห ปถวีมณฺโฑติอาทิ. สมฺปนฺนนฺติ มธุรรเสน อุเปตํ, เตนาห ‘‘สาทุรส’’นฺติ. อุปปนฺนผโลติ ¶ พหุผโล. ‘‘นิมฺมกฺขิก’’นฺติ วตฺวา ปุน ‘‘นิมฺมกฺขิกณฺฑ’’นฺติ มกฺขิกณฺฑานมฺปิ อภาวํ ทสฺเสติ. เย ปถวีนิสฺสิตา ปาณา, เต ตตฺถ สงฺกาเมสฺสามีติ เอตฺถ มนุสฺสามนุสฺสติรจฺฉานคติตฺถีนมฺปิ หตฺถสงฺกามเน กึ อนามาสโทโส น โหตีติ? น โหติ, กสฺมา? ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, อิทฺธิมสฺส อิทฺธิวิสเย’’ติ (ปารา. ๑๕๙) วจนโต, เตเนว ภควาปิ อนามาสโทสํ อทสฺเสตฺวา ‘‘วิปลฺลาสมฺปิ สตฺตา ปฏิลเภยฺยุ’’นฺติ อาห, ขุทฺทโก คาโม. มหนฺโต สาปโณ นิคโม. ปทวีติหาเรนาติ ปทนิกฺเขเปน.
วินยปฺตฺติยาจนกถาวณฺณนา
๑๘. วินยปฺตฺติยา ¶ มูลโต ปภุตีติ ปาราชิกาทิครุกานํ, ตทฺเสฺจ สิกฺขาปทานํ ปาติโมกฺขุทฺเทสกฺกเมน เยภุยฺเยน อปฺตฺตตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น สพฺเพน สพฺพํ อปฺตฺตตาย. เตเนว เถโร ภควนฺตํ ‘‘สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปยฺย อุทฺทิเสยฺย ปาติโมกฺข’’นฺติ ปาติโมกฺขุทฺเทเสน สห สิกฺขาปทปฺตฺตึ ยาจิ. ขนฺธเก หิ อานนฺทตฺเถราทีนํ ปพฺพชฺชโต ปุเรตรเมว ราหุลภทฺทสฺส ปพฺพชฺชาย ‘‘น, ภิกฺขเว, อนนฺุาโต มาตาปิตูหิ ปุตฺโต ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๐๕) ปฺตฺตสิกฺขาปทํ ทิสฺสติ. อิเธว อฏฺกถายมฺปิ ‘‘สามมฺปิ ปจนํ…เป… น วฏฺฏตี’’ติ จ, ‘‘รตฺติจฺเฉโท วสฺสจฺเฉโท วา น กโต’’ติ จ วุตฺตตฺตา ปุพฺเพว สามปากาทิปฏิกฺเขโป อตฺถีติ ปฺายติ. เอวํ กติปยสิกฺขาปทานํ ปฺตฺติสพฺภาเวปิ อปฺตฺตปาราชิกาทิเก สนฺธาย ‘‘น ตาว, สาริปุตฺต, สตฺถา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปตี’’ติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. ปุถุตฺตารมฺมณโต ปฏินิวตฺติตฺวา สมฺมเทว เอการมฺมเณ จิตฺเตน ลีโน ปฏิสลฺลีโน นามาติ อาห ‘‘เอกีภาวํ คตสฺสา’’ติ, จิตฺตวิเวกํ คตสฺสาติ อตฺโถ. จิรนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ.
โสฬสวิธาย ปฺายาติ มชฺฌิมนิกาเย อนุปทสุตฺตนฺตเทสนายํ ‘‘มหาปฺโ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต ปุถุปฺโ หาสปฺโ ชวนปฺโ ติกฺขปฺโ นิพฺเพธิกปฺโ’’ติ อาคตา ฉ ปฺา จ นวานุปุพฺพวิหารสมาปตฺติปฺา จ อรหตฺตมคฺคปฺา จาติ เอวํ โสฬสวิเธน อาคตาย ปฺาย. เยสํ พุทฺธานํ สาวกา สุทฺธาวาเสสุ สนฺทิสฺสนฺติ, เตเยว ¶ โลเก ปากฏาติ วิปสฺสีอาทโยว อิธ อุทฺธฏา, น อิตเร ปุพฺพพุทฺธา. เตเนว อาฏานาฏิยสุตฺเต (ที. นิ. ๓.๒๗๕ อาทโย) เทวาปิ อตฺตโน ปากฏานํ เตสฺเว คหณํ อกํสุ, นาฺเสนฺติ เวทิตพฺพํ.
๑๙. กิลาสุโนติ อปฺโปสฺสุกฺกา ปโยชนาภาเวน นิรุสฺสาหา อเหสุํ, น อาลสิเยน, เตนาห น อาลสิยกิลาสุโนติอาทิ. นิทฺโทสตายาติ กายวจีวีติกฺกมสมุฏฺาปกโทสาภาวา. ปาณํ น หเน น จาทินฺนมาทิเยติอาทินา (สุ. นิ. ๔๐๒) โอวาทสิกฺขาปทานํ วิชฺชมานตฺตา วุตฺตํ สตฺตาปตฺติกฺขนฺธวเสนาติอาทิ. ฉนฺนํ ฉนฺนํ วสฺสานํ โอสานทิวสํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘สกึ สกิ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ตทเปกฺขเมตฺถ สามิวจนํ. สกลชมฺพุทีเป สพฺโพปิ ภิกฺขุสงฺโฆ อุโปสถํ อกาสีติ สมฺพนฺโธ.
ขนฺตี ปรมนฺติอาทีสุ ติติกฺขาสงฺขาตา ขนฺติ สตฺตสงฺขาเรหิ นิพฺพตฺตานิฏฺาขมนกิเลสตปนโต ปรมํ ตโป นาม. วานสงฺขาตาย ตณฺหาย นิกฺขนฺตตฺตา นิพฺพานํ สพฺพธมฺเมหิ ปรมํ อุตฺตมนฺติ พุทฺธา วทนฺติ. ยถาวุตฺตขนฺติยา อภาเวน ปาณวธํ วา เฉทนตาฬนาทึ วา กโรนฺโต ปรูปฆาตี ปรสฺสหรณปรทาราติกฺกมนาทีหิ มุสาเปสฺุผรุสาทีหิ จ ปรํ วิเหยนฺโต จ พาหิตปาปตาย อภาเวน ปพฺพชิโต วา สมิตปาปตาย อภาเวน สมโณ วา น โหตีติ อตฺโถ. สีลสํวเรน สพฺพปาปสฺส อนุปฺปาทนํ โลกิยสมาธิวิปสฺสนาหิ กุสลสฺส อุปสมฺปาทนํ นิปฺผาทนํ สพฺเพหิ มคฺคผเลหิ อตฺตโน จิตฺตสฺส ปริโสธนํ ปภสฺสรภาวกรณํ ยํ, ตเมตํ พุทฺธานํ สาสนํ อนุสิฏฺิ. อนุปวาโทติ วาจาย กสฺสจิ อนุปวทนํ. อนุปฆาโตติ กาเยน กสฺสจิ อุปฆาตากรณํ วุตฺตาวเสเส จ ปาติโมกฺขสงฺขาเต สีเล อตฺตานํ สํวรณํ. ภตฺตสฺมึ มตฺตฺุตาสงฺขาตอาชีวปาริสุทฺธิปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสมาโยโค ตมฺมุเขน อินฺทฺริยสํวโร ปนฺตเสนาสนสงฺขาตํ อรฺวาสํ ตมฺมุเขน ปกาสิเต จตุปจฺจยสนฺโตสภาวนารามตาสงฺขาตมหาอริยวํเส ปติฏฺานฺจ อธิจิตฺตสงฺขาเต โลกิยโลกุตฺตรสมาธิมฺหิ ตทุปฺปาทนวเสน อาโยโค อนุโยโค จ ยํ, ตเมตํ พุทฺธานํ อนุสิฏฺีติ โยชนา.
‘‘ยาว ¶ สาสนปริยนฺตา’’ติ อาณาปาติโมกฺขสฺส อภาวโต วุตฺตํ. ปรินิพฺพานโต ปน อุทฺธํ โอวาทปาติโมกฺขุทฺเทโสปิ นตฺเถว, พุทฺธา เอว หิ ตํ อุทฺทิสนฺติ, น สาวกา. ปมโพธิยนฺติ โพธิโต วีสติวสฺสปริจฺฉินฺเน กาเล, อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน ปน ‘‘ปฺจจตฺตาลีสาย วสฺเสสุ อาทิโต ปนฺนรส วสฺสานิ ปมโพธี’’ติ วุตฺตํ, สิกฺขาปทปฺตฺติกอาลโต ปน ปภุติ อาณาปาติโมกฺขเมว อุทฺทิสนฺตีติ อิทํ ปาติโมกฺขุทฺเทสกฺกเมเนว ปริปุณฺณํ กตฺวา สิกฺขาปทปฺตฺติกาลํ สนฺธาย วุตฺตํ. อฏฺานํ อนวกาโสติ ยถากฺกมํ เหตุปจฺจยปฏิกฺเขปวเสน การณปฏิกฺเขโป. ยนฺติ เยน การเณน. อปริสุทฺธาย ปริสายาติ อลชฺชีปุคฺคเลหิ โวมิสฺสตาย อสุทฺธาย ปริสาย, น เกวลํ พุทฺธานฺเว อปริสุทฺธาย ปริสาย ปาติโมกฺขุทฺเทโส อยุตฺโต, อถ โข สาวกานมฺปิ. โจทนาสารณาทิวเสน ปน โสเธตฺวา สํวาสกรณํ สาวกานฺเว ภาโร, พุทฺธา ปน สิกฺขาปทานิ ปฺเปตฺวา อุโปสถาทิกรณวิธานํ สิกฺขาเปตฺวา วิสฺสชฺเชนฺติ, โจทนาสารณาทีนิ น กโรนฺติ, เตเนว ภควา อสุทฺธาย ปริสาย ปาติโมกฺขํ อนุทฺทิสิตฺวา สกลรตฺตึ ตุณฺหีภูโต นิสีทิ. ภิกฺขู จ ภควโต อธิปฺปายํ ตฺวา อสุทฺธปุคฺคลํ พหิ นีหรึสุ. ตสฺมา สาวกานมฺปิ อสุทฺธาย ปริสาย ตฺวา อุโปสถาทิสงฺฆกมฺมกรณํ พฺรหฺมจริยนฺตรายกรณํ วินา น วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ.
สมฺมุขสาวกานนฺติ ¶ พุทฺธานํ สมฺมุเข ธรมานกาเล ปพฺพชิตานํ สพฺพนฺติมานํ สาวกานํ. อุฬาราติสยโชตนตฺถํ ‘‘อุฬารุฬารโภคาทิกุลวเสน วา’’ติ ปุน อุฬารสทฺทคฺคหณํ กตํ. อาทิ-สทฺเทน อุฬารมชฺฌตฺตอนุฬาราทีนํ คหณํ เวทิตพฺพํ. เต ปจฺฉิมา สาวกา อนฺตรธาเปสุนฺติ สมฺพนฺโธ.
อปฺตฺเตปิ สิกฺขาปเท ยทิ สาวกา สมานชาติอาทิกา สิยุํ, อตฺตโน กุลานุคตคนฺถํ วิย ภควโต วจนํ น นาเสยฺยุํ. ยสฺมา ปน สิกฺขาปทฺจ น ปฺตฺตํ, อิเม จ ภิกฺขู น สมานชาติอาทิกา, ตสฺมา วินาเสสุนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ยสฺมา เอกนามา…เป… ตสฺมา อฺมฺํ วิเหเนฺตาติอาทิ วุตฺตํ. จิรฏฺิติกวาเร ปน สาวกานํ นานาชจฺจาทิภาเว สมาเนปิ สิกฺขาปทปฺตฺติยา ปริปุณฺณตาย สาสนสฺส จิรปฺปวตฺติ เวทิตพฺพา. ยทิ เอวํ กสฺมา สพฺเพปิ พุทฺธา สิกฺขาปทานิ น ปฺเปนฺตีติ? ยสฺมา ¶ จ สาสนสฺส จิรปฺปวตฺติยา น เกวลํ สิกฺขาปทปฺตฺติเยว เหตุ, อถ โข อายตึ ธมฺมวินยํ คเหตฺวา สาวเกหิ วิเนตพฺพปุคฺคลานํ สมฺภโวปิ, ตสฺมา เตสํ สมฺภเว สติ พุทฺธา สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺติ, นาสตีติ ปริปุณฺณาปฺตฺติเยว เวเนยฺยสมฺภวสฺสาปิ สูจนโต สาสนสฺส จิรปฺปวตฺติยา เหตุ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. ปาฬิยํ สหสฺสํ ภิกฺขุสงฺฆํ…เป… โอวทตีติ เอตฺถ สหสฺสสงฺขฺยาปริจฺฉินฺโน สงฺโฆ สหสฺโส สหสฺสิโลกธาตูติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๑๘) วิย. ตํ สหสฺสํ ภิกฺขุสงฺฆนฺติ โยชนา. สหสฺสสทฺทสฺส เอกวจนนฺตตาย ‘‘ภิกฺขุสหสฺสสฺสา’’ติ วตฺวา อวยวาเปกฺขาย ‘‘โอวทิยมานาน’’นฺติ พหุวจนนิทฺเทโส กโตติ ทฏฺพฺโพ.
อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสูติ เอตฺถ อาสเวหีติ กตฺตุอตฺเถ กรณวจนํ. จิตฺตานีติ ปจฺจตฺตพหุวจนํ. วิมุจฺจึสูติ กมฺมสาธนํ. ตสฺมา อาสเวหิ กตฺตุภูเตหิ อนุปาทาย อารมฺมณกรณวเสน อคฺคเหตฺวา จิตฺตานิ วิโมจิตานีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ คเหตพฺโพติ อาห เตสฺหิ จิตฺตานีติอาทิ. เยหิ อาสเวหีติ เอตฺถาปิ กตฺตุอตฺเถ เอว กรณวจนํ. วิมุจฺจึสูติ กมฺมสาธนํ. เตติ อาสวา. ตานีติ จิตฺตานิ, อุปโยคพหุวจนฺเจตํ. วิมุจฺจึสูติ กตฺตุสาธนํ, วิโมเจสุนฺติ อตฺโถ. อคฺคเหตฺวา วิมุจฺจึสูติ อารมฺมณวเสน ตานิ จิตฺตานิ อคฺคเหตฺวา อาสวา เตหิ จิตฺเตหิ มุตฺตวนฺโต อเหสุนฺติ อตฺโถ. อถ วา อาสเวหีติ นิสฺสกฺกวจนํ, วิมุจฺจึสูติ กตฺตุสาธนํ. ตสฺมา กฺจิ สงฺขตธมฺมํ ตณฺหาทิวเสน อนุปาทิยิตฺวา จิตฺตานิ วิมุตฺตวนฺตานิ อเหสุนฺติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ปุริมวจนาเปกฺขนฺติ อฺตรสฺมึ ภึสนเก วนสณฺเฑติ วุตฺตวจนสฺส อเปกฺขนํ ตสฺมึ ปุริมวจเนติ เอวํ อเปกฺขนนฺติ อตฺโถ, เตนาห ยํ วุตฺตนฺติอาทิ. ภึสนสฺส ภยสฺส กตํ กรณํ ¶ กิริยา ภึสนกตํ, ตสฺมึ ภึสนกิริยายาติ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ภึสนกิริยายา’’ติ. ภึสยตีติ ภึสโน, โสว ภึสนโก, ตสฺส ภาโว ‘‘ภึสนกตฺต’’นฺติ วตฺตพฺเพ ต-การสฺส โลปํ กตฺวา วุตฺตนฺติ ปการนฺตเรน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อถ วา’’ติอาทิ. พหุตรานํ สตฺตานํ วาติ เยภุยฺเยนาติ ปทสฺส อตฺถทสฺสนํ. เตน จ โย โกจีติ ปทสฺสาปิ โย โย ¶ ปวิสตีติ วิจฺฉาวเสน นานตฺเถน อตฺโถ คเหตพฺโพติ ทสฺเสติ, โย โย ปวิสติ, เตสุ พหุตรานนฺติ อตฺถสมฺภวโต.
นิคมนนฺติ ปกเต อตฺเถ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส อุปสํหาโร. อยฺเหตฺถ นิคมนกฺกโม – ยา หิ, สาริปุตฺต, วิปสฺสีอาทีนํ ติณฺณํ พุทฺธานํ อตฺตโน ปรินิพฺพานโต อุปริ ปริยตฺติวเสน วิเนตพฺพานํ ปุคฺคลานํ อภาเวน เตสํ อตฺถาย วิตฺถารโต สิกฺขาปทปฺตฺติยํ กิลาสุตา อปฺโปสฺสุกฺกตา, ยา จ อุปนิสฺสยสมฺปนฺนานํ เวเนยฺยานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ภึสนกวนสณฺเฑปิ คนฺตฺวา โอวทนฺตานํ เตสํ มคฺคผลุปฺปาทนตฺถาย ธมฺมเทสนาย เอว อกิลาสุตา สอุสฺสาหตา, น วิตฺถารโต ธมฺมวินยเทสนาย, อยํ โข, สาริปุตฺต, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน วิปสฺสีอาทีนํ ติณฺณํ พุทฺธานํ พฺรหฺมจริยํ น จิรฏฺิติกํ อโหสีติ. ปุริสยุควเสนาติ ปุริสานํ ยุคํ ปวตฺติกาโล, ตสฺส วเสน, ปุริสวเสนาติ อตฺโถ. สพฺพปจฺฉิมโกติ ปรินิพฺพานทิวเส ปพฺพชิโต สุภทฺทสทิโส. สตสหสฺสํ สฏฺิมตฺตานิ จ วสฺสสหสฺสานีติ อิทํ ภควโต ชาติโต ปฏฺาย วุตฺตํ, โพธิโต ปฏฺาย ปน คณิยมานํ อูนํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ทฺเวเยวาติ ธรมาเน ภควติ เอกํ, ปรินิพฺพุเต เอกนฺติ ทฺเว เอว ปุริสยุคานิ.
๒๐-๑. อสมฺภุณนฺเตนาติ อปาปุณนฺเตน. โก อนุสนฺธีติ ปุริมกถาย อิมสฺส โก สมฺพนฺโธติ อตฺโถ. ยํ วุตฺตนฺติ ยํ ยาจิตนฺติ อตฺโถ. เยสูติ วีติกฺกมธมฺเมสุ. เนสนฺติ ทิฏฺธมฺมิกาทิอาสวานํ. เตติ วีติกฺกมธมฺมา. าติเยว ปิตามหปิตุปุตฺตาทิวเสน ปริวฏฺฏนโต ปริวฏฺโฏติ าติปริวฏฺโฏ. โลกามิสภูตนฺติ โลกปริยาปนฺนํ หุตฺวา กิเลเสหิ อามสิตพฺพโต โลกามิสภูตํ. ปพฺพชฺชาสงฺเขเปเนวาติ ทสสิกฺขาปททานาทิปพฺพชฺชามุเขน. เอตนฺติ เมถุนาทีนํ อกรณํ. ถามนฺติ สิกฺขาปทปฺาปนสามตฺถิยํ. สฺฉวินฺติ สุกฺกจฺฉวึ ปกติจฺฉวึ, สุนฺทรจฺฉวึ วา. เสสนฺติ เสสปทโยชนทสฺสนํ. อิทานิ อตฺถโยชนํ ทสฺเสนฺโต อาห อยํ วา เหตฺถาติอาทิ. ตตฺถ วา-สทฺโท อวธารเณ. หิ-สทฺโท ปสิทฺธิยํ, อยเมว เหตฺถาติ อตฺโถ. อถ สตฺถาติ ปทสฺส อตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘ตทา สตฺถา’’ติ. โรเปตฺวาติ ผาลิตฏฺาเน ¶ นินฺนํ มํสํ สมํ วฑฺเฒตฺวา. สเก อาจริยเกติ อตฺตโน อาจริยภาเว, อาจริยกมฺเม วา.
วิปุลภาเวนาติ ¶ พหุภาเวน. อโยนิโส อุมฺมุชฺชมานาติ อนุปาเยน อภินิวิสมานา, วิปรีตโต ชานมานาติ อตฺโถ. รเสน รสํ สํสนฺทิตฺวาติ อนวชฺชสภาเวน สาวชฺชสภาวํ สมฺมิสฺเสตฺวา. อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยนฺติ อุคฺคตธมฺมํ อุคฺคตวินยฺจ, ยถา ธมฺโม จ วินโย จ วินสฺสิสฺสติ, เอวํ กตฺวาติ อตฺโถ. อิมสฺมึ อตฺเถติ อิมสฺมึ สงฺฆาธิกาเร. ปภสฺสโรติ ปภาสนสีโล. เอวํนาโม เอวํโคตฺโตติ โสยมายสฺมา โสตาปนฺโนตินามโคตฺเตน สมนฺนาคโต, อยํ วุจฺจติ โสตาปนฺโนติ ปกเตน สมฺพนฺโธ. อวินิปาตธมฺโมติ เอตฺถ ธมฺม-สทฺโท สภาววาจี, โส จ อตฺถโต อปาเยสุ ขิปนโก ทิฏฺิอาทิอกุสลธมฺโม เอวาติ อาห ‘‘เย ธมฺมา’’ติอาทิ. อิทานิ สภาววเสเนว อตฺถํ ทสฺเสตุํ วินิปตนํ วาติอาทิ วุตฺตํ. นิยโตติ สตฺตภวพฺภนฺตเร นิยตกฺขนฺธปรินิพฺพาโน. ตสฺส การณมาห ‘‘สมฺโพธิปรายโณ’’ติ.
๒๒. อนุธมฺมตาติ โลกุตฺตรธมฺมานุคโต สภาโว. ปวารณาสงฺคหํ ทตฺวาติ ‘‘อาคามินิยา ปุณฺณมิยา ปวาเรสฺสามา’’ติ อนุมติทานวเสน ทตฺวา, ปวารณํ อุกฺกฑฺฒิตฺวาติ อตฺโถ, เอเตน นเยน เกนจิ ปจฺจเยน ปวารณุกฺกฑฺฒนํ กาตุํ วฏฺฏตีติ ทีปิตํ โหติ. มาคสิรสฺส ปมทิวเสติ จนฺทมาสวเสน วุตฺตํ, อปรกตฺติกปุณฺณมาย อนนฺตเร ปาฏิปททิวเสติ อตฺโถ. ผุสฺสมาสสฺส ปมทิวเสติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อิทฺจ นิทสฺสนมตฺตํ เวเนยฺยานํ อปริปากํ ปฏิจฺจ ผุสฺสมาสโต ปรฺจ เอกทฺวิติจตุมาสมฺปิ ตตฺเถว วสิตฺวา เสสมาเสหิ จาริกาย ปริโยสาปนโต. ทสสหสฺสจกฺกวาเฬติ อิทํ เทวพฺรหฺมานํ วเสน วุตฺตํ. มนุสฺสา ปน อิมสฺมึเยว จกฺกวาเฬ โพธเนยฺยา โหนฺติ. อิตรจกฺกวาเฬสุ ปน มนุสฺสานํ อิมสฺมึ จกฺกวาเฬ อุปฺปตฺติยา ฉนฺทุปฺปาทนตฺถํ อนนฺตมฺปิ จกฺกวาฬํ โอโลเกตฺวา ตทนุคุณานุสาสนี ปาฏิหาริยํ กโรนฺติเยว.
อายามาติ ¶ เอตฺถ อา-สทฺโท อาคจฺฉาติ อิมินา สมานตฺโถติ อาห ‘‘อาคจฺฉ ยามา’’ติ, เอหิ คจฺฉามาติ อตฺโถ. สุวณฺณรสปิฺชราหีติ วิลีนสุวณฺณชลํ วิย ปิฺชราหิ สุวณฺณวณฺณาหีติ อตฺโถ. ปาฬิยํ นิมนฺติตมฺหาติอาทีสุ ‘‘นิมนฺติตา วสฺสํวุตฺถา อมฺหา’’ติ จ, ‘‘นิมนฺติตา วสฺสํวุตฺถา อตฺถา’’ติ จ สมฺพนฺโธ.
ยนฺติ เทยฺยธมฺมชาตํ, ยํ กิฺจีติ อตฺโถ. โน นตฺถีติ อมฺหากํ นตฺถิ, โนติ วา เอตสฺส วิวรณํ นตฺถีติ. เอตฺถาติ ฆราวาเส. ตนฺติ ตํ การณํ, กิจฺจํ วา. กุโตติ กตรเหตุโต. ยนฺติ เยน การเณน, กิจฺเจน วา. ทุติเย อตฺถวิกปฺเป เอตฺถาติ อิมสฺส วิวรณํ อิมสฺมึ เตมาสพฺภนฺตเรติ. ตนฺติ ตํ เทยฺยธมฺมํ.
ตตฺถ ¶ จาติ กุสเล. ติกฺขวิสทภาวาปาทเนน สมุตฺเตเชตฺวา. วสฺเสตฺวาติ อายตึ วาสนาภาคิยํ ธมฺมรตนวสฺสํ โอตาเรตฺวา. ยํ ทิวสนฺติ ยสฺมึ ทิวเส.
๒๓. ปตฺตุณฺณปตฺตปเฏ จาติ ปตฺตุณฺณปเฏ จีนปเฏ จ. ตุมฺพานีติ จมฺมมยเตลภาชนานิ. อนุพนฺธิตฺวาติ อนุปคมนํ กตฺวา. อภิรนฺต-สทฺโท อิธ อภิรุจิปริยาโยติ อาห ‘‘ยถาชฺฌาสย’’นฺติอาทิ. โสเรยฺยาทีนิ มหามณฺฑลจาริกาย มคฺคภูตานิ โสเรยฺยนคราทีนิ. ปยาคปติฏฺานนฺติ คงฺคาย เอกสฺส ติตฺถวิเสสสฺสาปิ, ตํสมีเป คามสฺสาปิ นามํ. สมนฺตปาสาทิกายาติ สมนฺตโต สพฺพโส ปสาทํ ชเนตีติ สมนฺตปาสาทิกา, ตสฺสา.
เย ปน ปกาเร สนฺธาย ‘‘สมนฺตโต’’ติ วุจฺจติ, เต ปกาเร วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสตุํ ตตฺริทนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘สมนฺตปาสาทิกา’’ติ ยา สํวณฺณนา วุตฺตา, ตตฺร ตสฺสํ สมนฺตปาสาทิกายํ สมนฺตปสาทิกภาเว อิทํ วกฺขมานคาถาวจนํ โหตีติ โยชนา. พาหิรนิทานอพฺภนฺตรนิทานสิกฺขาปทนิทานานํ วเสน นิทานปฺปเภททีปนํ เวทิตพฺพํ. ‘‘เถรวาทปฺปกาสนํ วตฺถุปฺปเภททีปน’’นฺติปิ วทนฺติ. ‘‘สิกฺขาปทานํ ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุปฺปเภททีปน’’นฺติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. สิกฺขาปทนิทานนฺติ ปน เวสาลีอาทิ สิกฺขาปทปฺตฺติยา ¶ การณภูตเทสวิเสโส เวทิตพฺโพ. เอตฺถาติ สมนฺตปาสาทิกาย. สมฺปสฺสตํ วิฺูนนฺติ สมฺพนฺโธ, ตสฺมา อยํ สมนฺตปาสาทิกาตฺเวว ปวตฺตาติ โยเชตพฺพา.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
เวรฺชกณฺฑวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๑. ปาราชิกกณฺโฑ
๑. ปมปาราชิกํ
สุทินฺนภาณวารวณฺณนา
๒๔. วิกฺกายิกภณฺฑสฺส ¶ ¶ วิกฺกิณนํ อิณทานฺจ ภณฺฑปฺปโยชนํ นาม. เอวํ ปโยชิตสฺส มูลสฺส สห วฑฺฒิยา คหณวายาโม อุทฺธาโร นาม. อสุกทิวเส ทินฺนนฺติอาทินา ปมุฏฺสฺส สตุปฺปาทนาทิ สารณํ นาม. จตุพฺพิธายาติ ขตฺติยพฺราหฺมณคหปติสมณานํ วเสน, ภิกฺขุอาทีนํ วา วเสน จตุพฺพิธาย. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสีติ เหตุอตฺเถ อยํ ทิสฺวาน-สทฺโท อสมานกตฺตุกตฺตา, ยถา ฆตํ ปิวิตฺวา พลํ โหตีติ, เอวมฺตฺถาปิ เอวรูเปสุ. ภพฺพกุลปุตฺโตติ อุปนิสฺสยมตฺตสภาเวน วุตฺตํ, น ปจฺฉิมภวิกตาย. เตเนวสฺส มาตาทิอกลฺยาณมิตฺตสมาโยเคน กตวีติกฺกมนํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนวิปฺปฏิสาเรน อธิคมนฺตราโย ชาโต. ปจฺฉิมภวิกานํ ปุพฺพพุทฺธุปฺปาเทสุ ลทฺธพฺยากรณานํ น สกฺกา เกนจิ อนฺตรายํ กาตุํ. เตเนว องฺคุลิมาลตฺเถราทโย อกุสลํ กตฺวาปิ อธิคมสมฺปนฺนา เอว อเหสุนฺติ. จริมกจิตฺตนฺติ จุติจิตฺตํ. สงฺขํ วิย ลิขิตํ ฆํสิตฺวา โธวิตํ สงฺขลิขิตนฺติ อาห โธตอิจฺจาทิ. อชฺฌาวสตาติ อธิ-สทฺทโยเคน อคารนฺติ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘อคารมชฺเฌ’’ติ. กสายรสรตฺตานิ กาสายานีติ อาห ‘‘กสายรสปีตตายา’’ติ. กสายโต นิพฺพตฺตตาย จ หิ รโสปิ ‘‘กสายรโส’’ติ วุจฺจติ.
๒๖. ยทา ชานาติ-สทฺโท โพธนตฺโถ น โหติ, ตทา ตสฺส ปโยเค สปฺปิโน ชานาติ มธุโน ชานาตีติอาทีสุ วิย กรณตฺเถ สามิวจนํ สทฺทสตฺถวิทู อิจฺฉนฺตีติ อาห ‘‘กิฺจิ ทุกฺเขน นานุโภสี’’ติ. เกนจิ ทุกฺเขน นานุโภสีติ อตฺโถ, กิฺจีติ เอตฺถาปิ หิ กรณตฺเถ สามิวจนสฺส โลโป กโต, เตเนว วกฺขติ ‘‘วิกปฺปทฺวเยปิ ปุริมปทสฺส อุตฺตรปเทน สมานวิภตฺติโลโป ¶ ทฏฺพฺโพ’’ติ. ยทา ปน ชานาติ-สทฺโท สรณตฺโถ โหติ, ตทา มาตุ สรตีติอาทีสุ วิย อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ ¶ สทฺทสตฺถวิทู วทนฺตีติ อาห ‘‘อถ วา กิฺจิ ทุกฺขํ นสฺสรตีติ อตฺโถ’’ติ, กสฺสจิ ทุกฺขสฺส อนนุภูตตาย นสฺสรตีติ อตฺโถ. วิกปฺปทฺวเยปีติ อนุภวนสรณตฺถวเสน วุตฺเต ทุติยตติยวิกปฺปทฺวเย. ปุริมปทสฺสาติ กิฺจีติ ปทสฺส. อุตฺตรปเทนาติ ทุกฺขสฺสาติปเทน. สมานาย สามิวจนภูตาย วิภตฺติยา ‘‘กสฺสจิ ทุกฺขสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘กิฺจิ ทุกฺขสฺสา’’ติ โลโปติ ทฏฺพฺโพ. มรเณนปิ มยํ เตติ เอตฺถ เตติ ปทสฺส สหตฺเถ กรณวเสนปิ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ตยา วิโยคํ วา ปาปุณิสฺสามาติ อตฺถนฺตรํ วุตฺตํ.
๒๘. คนฺธพฺพา นาม คายนกา. นฏา นาม รงฺคนฏา. นาฏกา ลงฺฆนกาทโย. สุขูปกรเณหิ อตฺตโน ปริจรณํ กโรนฺโต ยสฺมา ลฬนฺโต กีฬนฺโต นาม โหติ, ตสฺมา ทุติเย อตฺถวิกปฺเป ลฬาติอาทิ วุตฺตํ. ทานปฺปทานาทีนีติ เอตฺถ นิจฺจทานํ ทานํ นาม, วิเสสทานํ ปทานํ นาม, อาทิ-สทฺเทน สีลาทีนิ สงฺคณฺหาติ.
๓๐. จุทฺทส ภตฺตานีติ สงฺฆภตฺตํ อุทฺเทสภตฺตํ นิมนฺตนํ สลากํ ปกฺขิกํ อุโปสถิกํ ปาฏิปทิกํ อาคนฺตุกํ คมิกํ คิลานํ คิลานุปฏฺากํ วิหาร-ธุร-วารภตฺตนฺติ อิมานิ จุทฺทส ภตฺตานิ. เอตฺถ จ เสนาสนาทิปจฺจยตฺตยนิสฺสิเตสุ อารฺกงฺคาทิปธานงฺคานํ คหณวเสน เสสธุตงฺคานิปิ คหิตาเนว โหนฺตีติ เวทิตพฺพํ. วชฺชีนนฺติ วชฺชีราชูนํ. วชฺชีสูติ ชนปทาเปกฺขํ พหุวจนํ, วชฺชีนามเก ชนปเทติ อตฺโถ. ปฺจกามคุณาเยว อุปภฺุชิตพฺพโต ปริภฺุชิตพฺพโต จ อุปโภคปริโภคา, อิตฺถิวตฺถาทีนิ จ ตทุปกรณานีติ อาห ‘‘เยหิ เตส’’นฺติอาทิ. อุกฺกฏฺปิณฺฑปาติกตฺตาติ เสสธุตงฺคปริวาริเตน อุกฺกฏฺปิณฺฑปาติกธุตงฺเคน สมนฺนาคตตฺตา, เตนาห ‘‘สปทานจารํ จริตุกาโม’’ติ.
๓๑. โทสาติ รตฺติ. ตตฺถ อภิวุตฺถํ ปริวุสิตํ อาภิโทสิกํ, อภิโทสํ วา ปจฺจูสกาลํ คโต ปตฺโต อติกฺกนฺโต อาภิโทสิโก, เตนาห เอกรตฺตาติกฺกนฺตสฺส วาติอาทิ.
๓๒. อุทกกฺชิยนฺติ ปานียปริโภชนียอุทกฺจ ยาคุ จ. ตถาติ สมุจฺจยตฺเถ.อโนกปฺปนํ อสทฺทหนํ, อมริสนํ อสหนํ.
๓๔. ตทฺธิตโลปนฺติ ¶ ปิตามหโต อาคตํ ‘‘เปตามห’’นฺติ วตฺตพฺเพ ตทฺธิตปจฺจยนิมิตฺตสฺส ¶ เอ-การสฺส โลปํ กตฺวาติ อตฺโถ. เยสํ สนฺตกํ ธนํ คหิตํ, เต อิณายิกา. ปลิพุทฺโธติ ‘มา คจฺฉ มา ภฺุชา’ติอาทินา กตาวรโณ, ปีฬิโตติ อตฺโถ.
๓๕. อตฺตนาติ สยํ. สปติโน ธนสามิโน อิทํ สาปเตยฺยํ, ธนํ. ตเทว วิภโว.
๓๖. ภิชฺชนฺตีติ อคหิตปุพฺพา เอว ภิชฺชนฺติ. ทินฺนาปิ ปฏิสนฺธีติ ปิตรา ทินฺนํ สุกฺกํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนสฺส สตฺตสฺส ปฏิสนฺธิปิ เตน ทินฺนา นาม โหตีติ วุตฺตํ. สุกฺกเมว วา อิธ ปฏิสนฺธินิสฺสยตฺตา ‘‘ปฏิสนฺธี’’ติ วุตฺตํ, เตนาห ‘‘ขิปฺปํ ปติฏฺาตี’’ติ. น หิ ปิตุ สํโยคกฺขเณเยว สตฺตสฺส อุปฺปตฺตินิยโม อตฺถิ สุกฺกเมว ตถา ปติฏฺานนิยมโต. สุกฺเก ปน ปติฏฺิเต ยาว สตฺต ทิวสานิ, อฑฺฒมาสมตฺตํ วา, ตํ คพฺภสณฺานสฺส เขตฺตเมว โหติ มาตุ มํสสฺส โลหิตเลสสฺส สพฺพทาปิ วิชฺชมานตฺตา. ปุพฺเพปิ ปฺตฺตสิกฺขาปทานํ สพฺภาวโต อปฺตฺเต สิกฺขาปเทติ อิมสฺส ปมปาราชิกสิกฺขาปเท อฏฺปิเตติ อตฺโถ วุตฺโต. เอวรูปนฺติ เอวํ ครุกสภาวํ, ปาราชิกสงฺฆาทิเสสวตฺถุภูตนฺติ อตฺโถ, เตนาห ‘‘อวเสเส ปฺจขุทฺทกาปตฺติกฺขนฺเธ เอว ปฺเปสี’’ติ. ยํ อาทีนวนฺติ สมฺพนฺโธ. กายวิฺตฺติโจปนโตติ กายวิฺตฺติยา นิพฺพตฺตจลนโต.
เตเนวาติ อวธารเณน ยานิ คพฺภคฺคหณการณานิ นิวตฺติตานิ, ตานิปิ ทสฺเสตุํ กึ ปนาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุภเยสํ ฉนฺทราควเสน กายสํสคฺโค วุตฺโต. อิตฺถิยา เอว ฉนฺทราควเสน นาภิปรามสนํ วิสุํ วุตฺตํ. สามปณฺฑิตสฺส หิ มาตา ปุตฺตุปฺปตฺติยา สฺชาตาทรา นาภิปรามสนกาเล กามราคสมากุลจิตฺตา อโหสิ, อิตรถา ปุตฺตุปฺปตฺติยา เอว อสมฺภวโต. ‘‘สกฺโก จสฺสา กามราคสมุปฺปตฺตินิมิตฺตานิ อกาสี’’ติปิ วทนฺติ, วตฺถุวเสน วา เอตํ นาภิปรามสนํ กายสํสคฺคโต วิสุํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. มาตงฺคปณฺฑิตสฺส ทิฏฺมงฺคลิกาย นาภิปรามสเนน มณฺฑพฺยสฺส นิพฺพตฺติ อโหสิ. จณฺฑปชฺโชตมาตุ นาภิยํ วิจฺฉิกา ผริตฺวา ¶ คตา, เตน จณฺฑปชฺโชตสฺส นิพฺพตฺติ อโหสีติ อาห เอเตเนว นเยนาติอาทิ.
อยนฺติ สุทินฺนสฺส ปุราณทุติยิกา. ยํ สนฺธายาติ ยํ อชฺฌาจารํ สนฺธาย. มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺตีติ อิมินา สุกฺกสฺส สมฺภวํ ทีเปติ, มาตา จ อุตุนี โหตีติ อิมินา โสณิตสฺส. คนฺธพฺโพติ ตตฺรุปโค สตฺโต อธิปฺเปโต, คนฺตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ, ต-การสฺส เจตฺถ ธ-กาโร กโต. อถ วา คนฺธพฺพา นาม รงฺคนฏา, เต วิย ตตฺร ตตฺร ภเวสุ นานาเวสคฺคหณโต อยมฺปิ ‘‘คนฺธพฺโพ’’ติ วุตฺโต, โส มาตาปิตูนํ สนฺนิปาตกฺขณโต ปจฺฉาปิ สตฺตาหพฺภนฺตเร ¶ ตตฺร อุปปนฺโน ‘‘ปจฺจุปฏฺิโต’’ติ วุตฺโต. คพฺภสฺสาติ กลลรูปสหิตสฺส ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส. ตฺหิ อิธ ‘‘คพฺโภ’’ติ อธิปฺเปตํ สา เตน คพฺภํ คณฺหีติอาทีสุ (ปารา. ๓๖) วิย. อสฺส ตํ อชฺฌาจารนฺติ สมฺพนฺโธ. ปาฬิยํ นิรพฺพุโท วต โภ ภิกฺขุสงฺโฆ นิราทีนโวติ อิมสฺส อนนฺตรํ ตสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆติ อชฺฌาหริตฺวา สุทินฺเนน…เป… อาทีนโว อุปฺปาทิโตติ โยชนา เวทิตพฺพา. อิติหาติ นิปาตสมุทายสฺส เอวนฺติ อิทํ อตฺถภวนํ. มุหุตฺเตนาติ อิทํ ขเณนาติ ปทสฺส เววจนํ. ยาว พฺรหฺมโลกา อพฺภุคฺคโตปิ เทวานํ ตาวมหนฺโต สทฺโท เตสํ รูปํ วิย มนุสฺสานํ โคจโร น โหติ. ตสฺมา ปจฺฉา สุทินฺเนน วุตฺเต เอว ชานึสูติ ทฏฺพฺพํ.
๓๗. มคฺคพฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคปทฏฺานํ สิกฺขตฺตยเมว อุปจารโต วุตฺตํ ตสฺเสว ยาวชีวํ จริตพฺพตฺตา. อวิปฺผาริโกติ อุทฺเทสาทีสุ อพฺยาวโฏ. วหจฺฉินฺโนติ ฉินฺนปาโท, ฉินฺนขนฺโธ วา. จินฺตยีติ อิมินา ปชฺฌายีติ ปทสฺส กิริยาปทตฺตํ ทสฺเสติ. เตน ‘‘กิโส อโหสิ…เป… ปชฺฌายิ จา’’ติ จ-การํ อาเนตฺวา ปาฬิโยชนา กาตพฺพา.
๓๘. คเณ ชนสมาคเม สนฺนิปาตนํ คณสงฺคณิกา, สาว ปปฺจา, เตน คณสงฺคณิกาปปฺเจน. ยสฺสาติ เย อสฺส. กถาผาสุกาติ วิสฺสาสิกภาเวน ผาสุกกถา, สุขสมฺภาสาติ อตฺโถ. อุปาทารูปํ ภูตรูปมุเขเนว มนฺทนํ ปีนนฺจ โหตีติ อาห ปสาทอิจฺจาทิ. ทานีติ นิปาโต อิธ ปน-สทฺทตฺเถ วตฺตติ ตกฺกาลวาจิโน เอตรหิ-ปทสฺส วิสุํ วุจฺจมานตฺตาติ อาห ‘‘โส ปน ตฺว’’นฺติ. โน-สทฺโทปิ นุ-สทฺโท วิย ¶ ปุจฺฉนตฺโถติ อาห ‘‘กจฺจิ นุ ตฺว’’นฺติ. ตเมวาติ คิหิภาวปตฺถนาลกฺขณเมว. อนภิรติเมวาติ เอว-กาเรน นิวตฺติตาย ปน ตทฺาย อนภิรติยา วิชฺชมานตฺตํ ทสฺเสตุํ อธิกุสลานนฺติอาทิ วุตฺตํ, สมถวิปสฺสนา อธิกุสลา นาม. อิทํ ปนาติอาทิ อุปริ วตฺตพฺพวิเสสทสฺสนํ. ปริยายวจนมตฺตนฺติ สทฺทตฺถกถนมตฺตํ.
ตสฺมินฺติ ธมฺเม, เอวํ วิราคาย เทสิเต สตีติ อตฺโถ. นามาติ ครหายํ. โลกุตฺตรนิพฺพานนฺติ วิราคายาติอาทินา วุตฺตกิเลสกฺขยนิพฺพานโต วิเสเสติ. ชาตึ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกมาโน เอว มทชนนฏฺเน มโทติ มานมโท. ‘‘อหํ ปุริโส’’ติ ปวตฺโต มาโน ปุริสมโท. ‘‘อสทฺธมฺมเสวนาสมตฺถตํ นิสฺสาย มาโน, ราโค เอว วา ปุริสมโท’’ติ เกจิ. อาทิ-สทฺเทน พลมทาทึ สงฺคณฺหาติ. เตภูมกวฏฺฏนฺติ ตีสุ ภูมีสุ กมฺมกิเลสวิปากา ปวตฺตนฏฺเน ¶ วฏฺฏํ. วิรชฺชตีติ วิคจฺฉติ. โยนิโยติ อณฺฑชาทโย, ตา ปน ยวนฺติ ตาหิ สตฺตา อมิสฺสิตาปิ สมานชาติตาย มิสฺสิตา โหนฺตีติ ‘‘โยนิโย’’ติ วุตฺตา.
าตตีรณปหานวเสนาติ เอตฺถ ลกฺขณาทิวเสน สปฺปจฺจยนามรูปปริคฺคโห าตปริฺา นาม. กลาปสมฺมสนาทิวเสน ปวตฺตา โลกิยวิปสฺสนา ตีรณปริฺา นาม. อริยมคฺโค ปหานปริฺา นาม. อิธ ปน าตตีรณกิจฺจานมฺปิ อสมฺโมหโต มคฺคกฺขเณ สิชฺฌนโต อริยมคฺคเมว สนฺธาย ติวิธาปิ ปริฺา วุตฺตา, เตเนว ‘‘โลกุตฺตรมคฺโคว กถิโต’’ติ วุตฺตํ. กาเมสุ ปาตพฺยตานนฺติ วตฺถุกาเมสุ ปาตพฺยตาสงฺขาตานํ สุภาทิอาการานํ ตทาการคาหิกานํ ตณฺหานนฺติ อตฺโถ. วิสยมุเขน เหตฺถ วิสยิโน คหิตา. ตีสุ าเนสูติ ‘‘วิราคาย ธมฺโม เทสิโต…เป… โน สอุปาทานายา’’ติ เอวํ วุตฺเตสุ.
๓๙. กลิสาสนาโรปนตฺถายาติ โทสาโรปนตฺถาย. กลีติ โกธสฺส นามํ, ตสฺส สาสนํ กลิสาสนํ, โกธวเสน วุจฺจมานา ครหา. อชฺฌาจาโรว วีติกฺกโม. สมณกรณานํ ธมฺมานนฺติ สมณภาวกรานํ หิโรตฺตปฺปาทิธมฺมานํ. ปาฬิยํ กถํ-สทฺทโยเคน น สกฺขิสฺสสีติ อนาคตวจนํ กตํ, ‘‘นาม-สทฺทโยเคนา’’ติปิ วทนฺติ. อติวิย ทุกฺขวิปากนฺติ ¶ คหฏฺานํ นาติสาวชฺชมฺปิ กมฺมํ ปพฺพชิตานํ ภควโต อาณาวีติกฺกมโต เจว สมาทินฺนสิกฺขตฺตยวินาสนโต จ มหาสาวชฺชํ โหตีติ วุตฺตํ. อุทเก ภวํ โอทกํ, โธวนกิจฺจนฺติ อาห อุทกกิจฺจนฺติอาทิ. สมาปชฺชิสฺสสีติ อนาคตวจนํ นาม-สทฺทโยเคน กตนฺติ อาห ‘‘นาม-สทฺเทน โยเชตพฺพ’’นฺติ. ทุพฺภรตาทีนํ เหตุภูโต อสํวโร อิธ ทุพฺภรตาทิ-สทฺเทน วุตฺโต การเณ การิโยปจาเรนาติ อาห ‘‘ทุพฺภรตาทีนํ วตฺถุภูตสฺส อสํวรสฺสา’’ติ. อตฺตาติ อตฺตภาโว. ทุพฺภรตนฺติ อตฺตนา อุปฏฺาเกหิ จ ทุกฺเขน ภริตพฺพตํ. สตฺเตหิ กิเลเสหิ จ สงฺคณนํ สโมธานํ สงฺคณิกาติ อาห คณสงฺคณิกายาติอาทิ. อฏฺกุสีตวตฺถุปาริปูริยาติ เอตฺถ กมฺมํ กาตพฺพนฺติ เอกํ, ตถา อกาสินฺติ, มคฺโค คนฺตพฺโพติ อคมาสินฺติ, นาลตฺถํ โภชนสฺส ปาริปูรินฺติ, อลตฺถนฺติ, อุปฺปนฺโน เม อาพาโธติ, อจิรวุฏฺิโต เคลฺาติ เอกนฺติ อิมานิ อฏฺ กุสีตวตฺถูนิ นาม. เอตฺถ จ โกสชฺชํ กุสีต-สทฺเทน วุตฺตํ. วินาปิ หิ ภาวโชตนปจฺจยํ ภาวตฺโถ วิฺายติ ยถา ปฏสฺส สุกฺกนฺติ. สพฺพกิเลสาปจยภูตาย วิวฏฺฏายาติ ราคาทิสพฺพกิเลสานํ อปจยเหตุภูตาย นิพฺพานาย, นิพฺพานตฺถนฺติ อตฺโถ. สํวรปฺปหานปฏิสํยุตฺตนฺติ สีลสํวราทีหิ ปฺจหิ สํวเรหิ เจว ตทงฺคปฺปหานาทีหิ ปฺจหิ ปหาเนหิ จ อุเปตํ. อสุตฺตนฺต วินิพทฺธนฺติ ตีสุ ปิฏเกสุ ปาฬิสงฺขาตสุตฺตนฺตวเสน อรจิตํ, สงฺคีติกาเรหิ จ อนาโรปิตํ, เตนาห ‘‘ปาฬิวินิมุตฺต’’นฺติ. เตน จ อฏฺกถาสุ ยถานุรูปํ สงฺคหิตนฺติ ¶ ทสฺเสติ. เอวรูปา หิ ปกิณฺณกเทสนา อฏฺกถาย มูลํ. โอกฺกนฺติกธมฺมเทสนา นาม ตสฺมึ ตสฺมึ ปสงฺเค โอตาเรตฺวา โอตาเรตฺวา นานานเยหิ กถิยมานา ธมฺมเทสนา, เตนาห ภควา กิราติอาทิ. ปฏิกฺขิปนาธิปฺปายาติ ปฺตฺตมฺปิ สิกฺขาปทํ ‘‘กิเมเตนา’’ติ มทฺทนจิตฺตา.
วุตฺตตฺถวเสนาติ ปติฏฺาอธิคมุปายวเสน. สิกฺขาปทวิภงฺเค ยา ตสฺมึ สมเย กาเมสุมิจฺฉาจารา อารติ วิรตีติอาทินา (วิภ. ๗๐๖) นิทฺทิฏฺวิรติโย เจว, ยา ตสฺมึ สมเย เจตนา สฺเจตนาติอาทินา (วิภ. ๗๐๔) นิทฺทิฏฺเจตนา จ, กาเมสุมิจฺฉาจารา วิรมนฺตสฺส ผสฺโส…เป… อวิกฺเขโปติอาทินา (วิภ. ๗๐๕) นิทฺทิฏฺผสฺสาทิธมฺมา จ สิกฺขาปทนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อยฺจ อตฺโถ ¶ สิกฺขาปทวิภงฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ‘‘โย ตตฺถ นามกาโย ปทกาโยติ อิทํ มหาอฏฺกถายํ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. นามกาโยติ นามสมูโห นามปฺตฺติเยว, เสสานิปิ ตสฺเสว เววจนานิ. สิกฺขาโกฏฺาโสติ วิรติอาทโย วุตฺตา ตปฺปกาสกฺจ วจนํ.
อตฺถวเสติ หิตวิเสเส อานิสํสวิเสเส, เต จ สิกฺขาปทปฺตฺติยา เหตูติ อาห ‘‘การณวเส’’ติ. สุขวิหาราภาเว สหชีวนสฺส อภาวโต สหชีวิตาติ สุขวิหาโรว วุตฺโต. ทุสฺสีลปุคฺคลาติ นิสฺสีลา ทูสิตสีลา จ. ปาราชิกสิกฺขาปทปฺปสงฺเค หิ นิสฺสีลา อธิปฺเปตา, เสสสิกฺขาปทปสงฺเค เตหิ เตหิ วีติกฺกเมหิ ขณฺฑฉิทฺทาทิภาวปฺปตฺติยา ทูสิตสีลา อธิปฺเปตา. อุภเยนปิ อลชฺชิโนว อิธ ‘‘ทุสฺสีลา’’ติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. สพฺพสิกฺขาปทานมฺปิ ทส อตฺถวเส ปฏิจฺเจว ปฺตฺตตฺตา อุปริ ทุสฺสีลปุคฺคเล นิสฺสายาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย, เตเนว ‘‘เย มงฺกุตํ…เป… นิคฺคเหสฺสตี’’ติ สพฺพสิกฺขาปทสาธารณวเสน อตฺโถ วุตฺโต. ตตฺถ มงฺกุตนฺติ นิตฺเตชตํ อโธมุขตํ. ธมฺเมนาติอาทีสุ ธมฺโมติ ภูตํ วตฺถุ. วินโยติ โจทนา เจว สารณา จ. สตฺถุสาสนนฺติ ตฺติสมฺปทา เจว อนุสาวนสมฺปทา จ. สนฺทิฏฺมานาติ สํสยํ อาปชฺชมานา. อุพฺพาฬฺหาติ ปีฬิตา. ทุสฺสีลปุคฺคเล นิสฺสาย หิ อุโปสโถ น ติฏฺติ, ปวารณา น ติฏฺติ, สงฺฆกมฺมานิ นปฺปวตฺตนฺติ, สามคฺคี น โหตีติ อิมินา อลชฺชีหิ สทฺธึ อุโปสถาทิสกลสงฺฆกมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ ธมฺมปริโภคตฺตาติ ทสฺเสติ. อุโปสถปวารณานํ นิยตกาลิกตาย จ อวสฺสํ กตฺตพฺพตฺตา สงฺฆกมฺมโต วิสุํ คหณํ เวทิตพฺพํ. อกิตฺติ ครหา. อยโส ปริวารหานิ.
จุทฺทส ขนฺธกวตฺตานิ นาม วตฺตกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๕๖ อาทโย) วุตฺตานิ อาคนฺตุกวตฺตํ ¶ อาวาสิกคมิกอนุโมทนภตฺตคฺคปิณฺฑจาริกอารฺกเสนาสนชนฺตาฆรวจฺจกุฏิอุปชฺฌายสทฺธิวิหาริกอาจริยอนฺเตวาสิกวตฺตนฺติ อิมานิ จุทฺทส วตฺตานิ, เอตานิ จ สพฺเพสํ ภิกฺขูนํ สพฺพทา จ ยถารหํ จริตพฺพานิ. ทฺเว อสีติ มหาวตฺตานิ ปน ตชฺชนียกมฺมกตาทิกาเลเยว จริตพฺพานิ, น สพฺพทา. ตสฺมา วิสุํ คณิตานิ. ตานิ ปน ‘‘ปาริวาสิกานํ ภิกฺขูนํ วตฺตํ ปฺเปสฺสามี’’ติ (จูฬว. ๗๕) อารภิตฺวา ‘‘น อุปสมฺปาเทตพฺพํ…เป… น ฉมาย จงฺกมนฺเต ¶ จงฺกเม จงฺกมิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตาวสานานิ ฉสฏฺิ, ตโต ปรํ ‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปาริวาสิเกน วุฑฺฒตเรน ภิกฺขุนา สทฺธึ, มูลายปฏิกสฺสนารเหน, มานตฺตจาริเกน, มานตฺตารเหน, อพฺภานารเหน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วตฺถพฺพ’’นฺติอาทินา (จูฬว. ๘๒) วุตฺตวตฺตานิ ปกตตฺเตน จริตพฺเพหิ อนฺตฺตา วิสุํ อคเณตฺวา ปาริวาสิกวุฑฺฒตราทีสุ ปุคฺคลนฺตเรสุ จริตพฺพตฺตา เตสํ วเสน สมฺปิณฺเฑตฺวา เอเกกํ กตฺวา คณิตานิ ปฺจาติ เอกสตฺตติวตฺตานิ จ อุกฺเขปนียกมฺมกตวตฺเตสุ จ วุตฺตํ ‘‘น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ…เป… นหาเน ปิฏฺิปริกมฺมํ สาทิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๘๖) อิทํ อภิวาทนาทีนํ อสาทิยนํ เอกํ, ‘‘น ปกตตฺโต ภิกฺขุ สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ’’ติอาทีนิ (จูฬว. ๕๑) จ ทสาติ เอวํ ทฺวาสีติ วตฺตานิ โหนฺติ, เอเตสฺเวว ปน กานิจิ ตชฺชนียกมฺมาทิวตฺตานิ กานิจิ ปาริวาสิกาทิวตฺตานีติ อคฺคหิตคฺคหเณน ทฺวาสีติเยว. อฺตฺถ ปน อฏฺกถาปเทเส อปฺปกํ อูนมธิกํ วา คณนูปคํ น โหตีติ อสีติขนฺธกวตฺตานีติ อาคตํ. อถ วา ปุริเมหิ จุทฺทสวตฺเตหิ อสงฺคหิตานิ วินยาคตานิ สพฺพานิ วตฺตานิ ยถา ทฺวาสีติ วตฺตานิ, อสีติ วตฺตานิ เอว วา โหนฺติ, ตถา สงฺคเหตฺวา าตพฺพานิ.
สํวรวินโยติ สีลสํวโร สติสํวโร าณสํวโร ขนฺติสํวโร วีริยสํวโรติ ปฺจวิโธปิ สํวโร ยถาสกํ สํวริตพฺพานํ วิเนตพฺพานฺจ กายทุจฺจริตาทีนํ สํวรณโต สํวโร, วินยนโต วินโยติ วุจฺจติ. ปหานวินโยติ ตทงฺคปฺปหานํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ สมุจฺเฉทปฺปหานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ นิสฺสรณปฺปหานนฺติ ปฺจวิธมฺปิ ปหานํ, ยสฺมา จาคฏฺเน ปหานํ, วินยนฏฺเน วินโย, ตสฺมา ‘‘ปหานวินโย’’ติ วุจฺจติ. สมถวินโยติ สตฺต อธิกรณสมถา. ปฺตฺติวินโยติ สิกฺขาปทเมว. ตมฺปิ หิ ภควโต สิกฺขาปทปฺตฺติยาว อนุคฺคหิตํ โหติ ตพฺภาเว เอว ภาวโต. สงฺขลิกนยํ กตฺวา ทสกฺขตฺตุํ โยชนฺจ กตฺวา ยํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ ปุริมปุริมปทสฺส อนนฺตรปเทเนว โยชิตตฺตา อโยสงฺขลิกสทิสนฺติ ‘‘สงฺขลิกนย’’นฺติ วุตฺตํ. ทสสุ ปเทสุ เอกเมกํ ปทํ ตทวเสเสหิ นวนวปเทหิ โยชิตตฺตา ‘‘เอเกกปทมูลิก’’นฺติ วุตฺตํ.
อตฺถสตํ ¶ ¶ ธมฺมสตนฺติ เอตฺถ โย หิ โส ปริวาเร (ปริ. ๓๓๔) ยํ สงฺฆสุฏฺุ, ตํ สงฺฆผาสูติ อาทึกตฺวา ยํ สทฺธมฺมฏฺิติยา, ตํ วินยานุคฺคหายาติ ปริโยสานํ ขณฺฑจกฺกวเสเนว สงฺขลิกนโย วุตฺโต, ตสฺมึ เอกมูลกนเย อาคตพทฺธจกฺกนเยน ยํ วินยานุคฺคหาย, ตํ สงฺฆสุฏฺูติ อิทมฺปิ โยเชตฺวา พทฺธจกฺเก กเต ปุริมปุริมานิ ทส ธมฺมปทานิ, ปจฺฉิมปจฺฉิมานิ ทส อตฺถปทานิ จาติ วีสติ ปทานิ โหนฺติ. เอกมูลกนเย ปน เอกสฺมึ วาเร นเวว อตฺถปทานิ ลพฺภนฺติ. เอวํ ทสหิ วาเรหิ นวุติ อตฺถปทานิ นวุติ ธมฺมปทานิ จ โหนฺติ, ตานิ สงฺขลิกนเย วุตฺเตหิ ทสหิ อตฺถปเทหิ ทสหิ ธมฺมปเทหิ จ สทฺธึ โยชิตานิ ยถาวุตฺตํ อตฺถสตํ ธมฺมสตฺจ โหนฺตีติ เวทิตพฺพํ. ยํ ปเนตฺถ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๓๙) สงฺขลิกนเยปิ เอกมูลกนเยปิ ปจฺเจกํ อตฺถสตสฺส ธมฺมสตสฺส โยชนามุขํ วุตฺตํ, ตํ ตถา สิทฺเธปิ อตฺถสตํ ธมฺมสตนฺติ (ปริ. ๓๓๔) คาถาย น สเมติ ทฺเว อตฺถสตานิ ทฺเว ธมฺมสตานิ จตฺตาริ นิรุตฺติสตานิ อฏฺ าณสตานีติ วตฺตพฺพโต. ตสฺมา อิธ วุตฺตนเยเนว อตฺถสตํ ธมฺมสตนฺติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. ทฺเว จ นิรุตฺติสตานีติ อตฺถโชติกานํ นิรุตฺตีนํ วเสน นิรุตฺติสตํ, ธมฺมภูตานํ นิรุตฺตีนฺจ วเสน นิรุตฺติสตนฺติ ทฺเว นิรุตฺติสตานิ. จตฺตาริ จ าณสตานีติ อตฺถสเต าณสตํ, ธมฺมสเต าณสตํ, ทฺวีสุ นิรุตฺติสเตสุ ทฺเว าณสตานีติ จตฺตาริ าณสตานิ. อติเรกานยนตฺโถติ อวุตฺตสมุจฺจยตฺโถ.
ปมปฺตฺติกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
สุทินฺนภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
มกฺกฏีวตฺถุกถาวณฺณนา
๔๐. ปจุรตฺเถ หิ วตฺตมานวจนนฺติ เอกทา ปฏิเสวิตฺวา ปจฺฉา อโนรมิตฺวา ทิวเส ทิวเส เสวนิจฺฉาย วตฺตมานตฺตา เสวนาย อภาวกฺขเณปิ อิห มลฺลา ยุชฺฌนฺตีติอาทีสุ วิย อพฺโพจฺฉินฺนตํ พาหุลฺลวุตฺติตฺจ อุปาทาย ปฏิเสวตีติ วตฺตมานวจนํ กตนฺติ อตฺโถ. อาหิณฺฑนฺตาติ วิจรนฺตา.
๔๑. สโหฑฺฒคฺคหิโตติ ¶ สภณฺฑคฺคหิโต, อยเมว วา ปาโ. ตํ สิกฺขาปทํ ตเถว โหตีติ มนุสฺสามนุสฺสาทิปุคฺคลวิเสสํ กิฺจิ อนุปาทิยิตฺวา สามฺโต ‘‘โย ปน ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺยา’’ติ (ปารา. ๓๙) วุตฺตตฺตา มนุสฺสามนุสฺสติรจฺฉานคตานํ อิตฺถิปุริสปณฺฑกอุภโตพฺยฺชนานํ ¶ ตึสวิเธปิ มคฺเค เมถุนํ เสวนฺตสฺส ตํ สิกฺขาปทํ มูลจฺเฉชฺชกรํ โหติ เอวาติ อธิปฺปาโย. เอเตน ยํ อนุปฺตฺติมูลปฺตฺติยา เอว อธิปฺปายปฺปกาสนวเสน สุโพธตฺถาย วตฺถุวเสน ปวตฺตานํ วิเสสตฺถโชตกวเสนาติ ทสฺสิตํ โหติ. อามสนํ อามฏฺมตฺตํ. ตโต ทฬฺหตรํ ผุสนํ. ฆฏฺฏนํ ปน ตโต ทฬฺหตรํ กตฺวา สรีเรน สรีรสฺส สงฺฆฏฺฏนํ. ตํ สพฺพมฺปีติ อนุราเคน ปวตฺติตํ ทสฺสนาทิสพฺพมฺปิ.
๔๒. ปาณาติปาตาทิสจิตฺตกสิกฺขาปทานํ สุราปานาทิอจิตฺตกสิกฺขาปทานฺจ (ปาจิ. ๓๒๖ อาทโย) เอเกเนว ลกฺขณวจเนน โลกวชฺชตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺส สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว โหติ, ตํ โลกวชฺชํ นามา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ สจิตฺตกปกฺเขติ อิทํ กิฺจาปิ อจิตฺตกสิกฺขาปทํ สนฺธาเยว วตฺตุํ ยุตฺตํ ตสฺเสว สจิตฺตกปกฺขสมฺภวโต, ตถาปิ สจิตฺตกสิกฺขาปทานมฺปิ อสฺจิจฺจ จงฺกมนาทีสุ โลเก ปาณฆาตโวหารสมฺภเวน อจิตฺตกปกฺขํ ปริกปฺเปตฺวา อุภินฺนมฺปิ สจิตฺตกาจิตฺตกสิกฺขาปทานํ สาธารณวเสน ‘‘สจิตฺตกปกฺเข’’ติ วุตฺตํ. อิตรถา สจิตฺตกสิกฺขาปทานํ อิมสฺมึ วากฺเย โลกวชฺชตาลกฺขณํ น วุตฺตํ สิยา. ‘‘สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมวา’’ติ วุตฺเต ปน สจิตฺตกสิกฺขาปทานํ จิตฺตํ อกุสลเมว, อิตเรสํ สจิตฺตกปกฺเขเยว อกุสลนิยโม, น อจิตฺตกปกฺเข. ตตฺถ ปน ยถาสมฺภวํ กุสลํ วา สิยา, อกุสลํ วา, อพฺยากตํ วาติ อยมตฺโถ สามตฺถิยโต สิชฺฌตีติ เวทิตพฺพํ. สจิตฺตกปกฺเขติ วตฺถุวีติกฺกมวิชานนจิตฺเตน สจิตฺตกปกฺเขติ คเหตพฺพํ, น ปณฺณตฺติวิชานนจิตฺเตน ตถา สติ สพฺพสิกฺขาปทานมฺปิ โลกวชฺชตาปสงฺคโต. ‘‘ปฏิกฺขิตฺตมิทํ กาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ ชานนฺตสฺส หิ ปณฺณตฺติวชฺเชปิ อนาทริยวเสน ปฏิฆจิตฺตเมว อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา อิทํ วากฺยํ นิรตฺถกเมว สิยา สพฺพสิกฺขาปทานิปิ โลกวชฺชานีติ เอตฺตกมตฺตสฺเสว วตฺตพฺพตาปสงฺคโต.
เอตฺถ ¶ จ สจิตฺตกปกฺเขเยว จิตฺตํ อกุสลนฺติ นิยมสฺส อกตตฺตา สุราปานาทีสุ อจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลํ น โหเตวาติ น สกฺกา นิยเมตุํ, เกวลํ ปน สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว, น กุสลาทีติ เอวเมตฺถ นิยโม สิชฺฌติ, เอวฺจ สุราติ อชานิตฺวา ปิวนฺตานมฺปิ อกุสลจิตฺเตเนว ปานํ คนฺธวณฺณกาทิภาวํ อชานิตฺวา ลิมฺปนฺตีนํ ภิกฺขุนีนํ วินาปิ อกุสลจิตฺเตน ลิมฺปนฺจ, อุภยตฺถาปิ อาปตฺติสมฺภโว จ สมตฺถิโต โหติ. ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๔๒) ‘‘สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมวาติ วจนโต อจิตฺตกสฺส วตฺถุอชานนวเสน อจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมวาติ อยํ นิยโม นตฺถีติ วิฺายตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ น ยุตฺตํ ¶ . อจิตฺตเกสุ หิ เตรสสุ โลกวชฺเชสุ สุราปานสฺเสว อจิตฺตกปกฺเขปิ อกุสลจิตฺตนิยโม, น อิตเรสํ ทฺวาทสนฺนํ อกุสลาทิจิตฺเตนาปิ อาปชฺชิตพฺพโต. ยํ ปน เอวํ เกนจิ อนิจฺฉมานํ สทฺทโตปิ อปตียมานมิมํ นิยมํ ปราธิปฺปายํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ยทิ หิ อจิตฺตกสฺส อจิตฺตกปกฺเขปิ จิตฺตํ อกุสลเมว สิยา, สจิตฺตกปกฺเขติ อิทํ วิเสสนํ นิรตฺถกํ สิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ นิรตฺถกเมว เอวํ นิยมสฺส เกนจิ อนธิปฺเปตตฺตา. น หิ โกจิ สทฺทสตฺถวิทู นิยมํ อิจฺฉติ, เยน สจิตฺตกปกฺเขติ อิทํ วิเสสนํ นิรตฺถกํ สิยาติอาทิ วุตฺตํ ภเวยฺย, กินฺตุ สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว, อจิตฺตกปกฺเข ปน จิตฺตํ อนิยตํ อกุสลเมว วา สิยา, กุสลาทีสุ วา อฺตรนฺติ เอวเมว อิจฺฉติ. เตน สจิตฺตกปกฺเขติ วิเสสนมฺปิ สาตฺถกํ สิยา. อจิตฺตกสิกฺขาปทานํ สจิตฺตกปกฺเขสุ อกุสลนิยเมน โลกวชฺชตา จ สิชฺฌติ. เตสุ จ สุราปานสฺเสว อจิตฺตกปกฺเขปิ โลกวชฺชตา อกุสลจิตฺตตา จ, อิตเรสํ ปน สจิตฺตกปกฺเข เอวาติ วาโทปิ น วิรุชฺฌตีติ น กิฺเจตฺถ อนุปปนฺนํ นาม.
ยํ ปเนตฺถ ‘‘สุราติ อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺส…เป… วินาปิ อกุสลจิตฺเตน อาปตฺติสมฺภวโต…เป… สุราปานาทิอจิตฺตกสิกฺขาปทานํ โลกวชฺชตา น สิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยฺจ ตมตฺถํ สาเธตุํ คณฺิปเทสุ อาคตวจนํ ทสฺเสตฺวา พหุํ ปปฺจิตํ, ตํ น สารโต ปจฺเจตพฺพํ อฏฺกถาหิ วิรุทฺธตฺตา. ตถา หิ ‘‘วตฺถุอชานนตาย เจตฺถ อจิตฺตกตา เวทิตพฺพา อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย โลกวชฺชตา’’ติ วุตฺตํ. ยฺเจตสฺส ‘‘สจิตฺตกปกฺเข ¶ อกุสเลเนว ปาตพฺพโต โลกวชฺชตา’’ติ วุตฺตํ อฏฺกถาวจนํ, ตํ น สุนฺทรํ. ‘‘สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมวา’’ติ สพฺเพสํ โลกวชฺชานํ อิเธว ปาราชิกฏฺกถาย สามฺโต วตฺวา สุราปานสิกฺขาปทฏฺกถายํ ‘‘อกุสเลเนว ปาตพฺพตายา’’ติ เอวํ อจิตฺตกปกฺเขปิ อกุสลจิตฺตตาย วิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา. น หิ ‘‘สามฺโต อิธ วุตฺโตว อตฺโถ ปุน สุราปานฏฺกถายมฺปิ วุตฺโต’’ติ สกฺกา วตฺตุํ วุตฺตสฺเสว ปุน วจเน ปโยชนาภาวา, ตทฺเสุปิ อจิตฺตกโลกวชฺเชสุ วตฺตพฺพตาปสงฺคโต จ, นาปิ เอกตฺถ วุตฺโต นโย ตทฺเสุปิ เอกลกฺขณตาย วุตฺโต เอว โหตีติ ‘‘สุราปานสิกฺขาปเทเยว (ปาจิ. ๓๒๖ อาทโย) วุตฺโต’’ติ สกฺกา วตฺตุํ อจิตฺตกโลกวชฺชานํ สพฺพปเม อุยฺยุตฺตสิกฺขาปเทเยว (ปาจิ. ๓๑๑ อาทโย) วตฺตพฺพโต, สุราปานสิกฺขาปเทเยว วา วตฺวา เอเสว นโย เสเสสุ อจิตฺตกโลกวชฺเชสุปีติ อติทิสิตพฺพโต จ.
อปิจ วุตฺตเมวตฺถํ วทนฺเตน ‘‘สจิตฺตกปกฺเข อกุสเลเนว ปาตพฺพตายา’’ติ ปุพฺเพ วุตฺตกฺกเมเนว ¶ วตฺตพฺพํ สนฺเทหาทิวิคมตฺถตฺตา ปุน วจนสฺส. สิกฺขาปทวิสเย จ วิเสสิตพฺพํ วิเสเสตฺวาว วุจฺจติ, อิตรถา อาปตฺตานาปตฺตาทิเภทสฺส ทุวิฺเยฺยตฺตา. ตถา หิ ภิกฺขุนีวิภงฺคฏฺกถายํ ‘‘วินาปิ จิตฺเตน อาปชฺชิตพฺพตฺตา อจิตฺตกานิ, จิตฺเต ปน สติ อกุสเลเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตา โลกวชฺชานิ เจว อกุสลจิตฺตานิ จา’’ติ คิรคฺคสมชฺชาทีนํ สจิตฺตกปกฺเข เอว โลกวชฺชตา อกุสลจิตฺตตา จ วิเสเสตฺวา วุตฺตา, น เอวํ สุราปานสฺส. ตสฺส ปน ปกฺขทฺวยสฺสาปิ สาธารณวเสน ‘‘อกุสเลเนว ปาตพฺพตายา’’ติ วุตฺตํ, น ปน ‘‘สจิตฺตกปกฺเข’’ติ วิเสเสตฺวา. ตสฺมา อิทํ สุราปานํ สจิตฺตกาจิตฺตกปกฺขทฺวเยปิ โลกวชฺชํ อกุสลจิตฺตฺจาติ ทสฺเสตุเมว ‘‘อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย โลกวชฺชตา’’ติ วิสุํ วุตฺตนฺติ สุฏฺุ สิชฺฌติ. เอเตเนว ยํ สารตฺถทีปนิยํ ‘‘สจิตฺตกปกฺเข อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย โลกวชฺชตา’’ติ วุตฺตสฺส อิมสฺเสว อธิปฺปายสฺส ปฏิปาทกเมตนฺติ สฺาย อิมินา เอว หิ อธิปฺปาเยน อฺเสุปิ โลกวชฺเชสุ อจิตฺตกสิกฺขาปเทสุ อกุสลจิตฺตตา เอว วุตฺตา, น ปน ติจิตฺตตา. เตเนว ภิกฺขุนีวิภงฺคฏฺกถายํ ¶ วุตฺตํ ‘‘คิรคฺคสมชฺชํ จิตฺตาคารสิกฺขาปทํ สงฺฆาณิ อิตฺถาลงฺกาโร คนฺธวณฺณโก วาสิตกปิฺาโก ภิกฺขุนีอาทีหิ อุมฺมทฺทนปริมทฺทนานีติ อิมานิ ทส สิกฺขาปทานิ อจิตฺตกานิ อกุสลจิตฺตานิ, อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย วินาปิ จิตฺเตน อาปชฺชิตพฺพตฺตา อจิตฺตกานิ, จิตฺเต ปน สติ อกุสเลเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตา โลกวชฺชานิ เจว อกุสลจิตฺตานิ จา’’ติ วุตฺตํ, ตมฺปิ ปฏิสิทฺธํ โหติ ตพฺพิปรีตสฺเสว อตฺถสฺส ยถาวุตฺตนเยน สาธนโต. ตสฺมา สุราปานสฺส อจิตฺตกปกฺเขปิ จิตฺตํ อกุสลเมวาติ อิมํ วิเสสํ ทสฺเสตุเมว อิทํ วจนํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ วตฺถุอชานนตาย เจตฺถาติ เอตฺถ จ-กาโร วิเสสตฺถโชตโก อปิจาติ อิมินา สมานตฺโถ. ตสฺมา ยทิทํ อฺเสุ อจิตฺตกโลกวชฺเชสุ วินาปิ จิตฺเตน อาปชฺชิตพฺพตฺตา อจิตฺตกานิ, จิตฺเต ปน สติ อกุสเลเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตา โลกวชฺชานิ เจว อกุสลจิตฺตานิ จาติ โลกวชฺชตาย อกุสลจิตฺตตาย จ ลกฺขณํ วุจฺจติ, ตํ เอตฺถ สุราปานสิกฺขาปเท นาคจฺฉติ, อิธ ปน วิเสโส อตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. โส กตโรติ เจ? วตฺถุอชานนตาย เอว วตฺถุชานนจิตฺเตน วินาปิ อาปชฺชิตพฺพตาย เอว อจิตฺตกตา เวทิตพฺพา, นตฺเถตฺถ อจิตฺตกตาย วิเสโส. กินฺตุ วตฺถุอชานนสงฺขาตอจิตฺตกปกฺเขปิ อกุสลจิตฺเตเนว สุราเมรยสฺส อชฺโฌหริตพฺพตายาติ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส สจิตฺตกปกฺเขปิ อจิตฺตกปกฺเขปิ โลกวชฺชตา อกุสลจิตฺตตา จ เวทิตพฺพาติ อยเมตฺถ วิเสโส. อิธ หิ ‘‘จิตฺเต ปน สตี’’ติ อวิเสเสตฺวา ‘‘อกุสเลเนวา’’ติ สามฺโต วุตฺตตฺตา อุภยปกฺเขปิ โลกวชฺชตา อกุสลจิตฺตตา จ สิทฺธาติ เวทิตพฺพา. เตเนว ปรมตฺถโชติกาย (ขุ. ปา. อฏฺ. ๒.ปจฺฉิมปฺจสิกฺขาปทวณฺณนา) ขุทฺทกฏฺกถาย สิกฺขาปทวณฺณนาย ‘‘สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานํ ¶ กายโต จ กายจิตฺตโต จาติ ทฺวิสมุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. สุราติ ชานนจิตฺตาภาเวเนว เหตฺถ จิตฺตงฺควิรหิโต เกวโลปิ กาโย เอกสมุฏฺานํ วุตฺโต, ตสฺมิฺจ เอกสมุฏฺานกฺขเณปิ ยาย เจตนาย ปิวติ, สา เอกนฺตอกุสลา เอว โหติ. เตเนว ตตฺเถว อฏฺกถายํ ‘‘ปมา เจตฺถ ปฺจ เอกนฺตอกุสลจิตฺตสมุฏฺานตฺตา ปาณาติปาตาทีนํ ปกติวชฺชโต เวรมณิโย, เสสา ปณฺณตฺติวชฺชโต’’ติ เอวํ ปฺจนฺนมฺปิ สามฺโต อกุสลจิตฺตตา โลกวชฺชตาสงฺขาตา ปกติวชฺชตา จ วุตฺตา. องฺเคสุ จ ชานนงฺคํ น วุตฺตํ. ตถา หิ ‘‘สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานสฺส ¶ ปน สุราทีนํ อฺตรํ โหติ มทนียํ, ปาตุกามตาจิตฺตฺจ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ, ตชฺชฺจ วายามํ อาปชฺชติ, ปีเต จ ปวิสตีติ อิมานิ จตฺตาริ องฺคานี’’ติ วุตฺตํ, น ปน สุราติ ชานนงฺเคน สทฺธึ ปฺจาติ. ยทิ หิ สุราติ ชานนมฺปิ องฺคํ สิยา, อวสฺสเมว ตํ วตฺตพฺพํ สิยา, น จ วุตฺตํ. ยถา เจตฺถ, เอวํ อฺาสุปิ สุตฺตปิฏกาทิอฏฺกถาสุ กตฺถจิ ชานนงฺคํ น วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย โลกวชฺชตา’’ติ อิมสฺส อฏฺกถาปาสฺส อจิตฺตกปกฺเขปิ ‘‘อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย โลกวชฺชตา’’ติ เอวเมว อตฺโถติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.
อปิจ ยํ คณฺิปเทสุ ‘‘เอตํ สตฺตํ มาเรสฺสามีติ ตสฺมึเยว ปเทเส นิปนฺนํ อฺํ มาเรนฺตสฺส ปาณสามฺสฺส อตฺถิตาย ยถา ปาณาติปาโต โหติ, เอวํ เอตํ มชฺชํ ปิวิสฺสามีติ อฺํ มชฺชํ ปิวนฺตสฺส มชฺชสามฺสฺส อตฺถิตาย อกุสลเมว โหติ, ยถา ปน กฏฺสฺาย สปฺปํ ฆาเตนฺตสฺส ปาณาติปาโต น โหติ, เอวํ นาฬิเกรปานสฺาย มชฺชํ ปิวนฺตสฺส อกุสลํ น โหตี’’ติ ปาณาติปาเตน สทฺธึ สพฺพถา สมานตฺเตน อุปเมตฺวา วุตฺตํ, ตํ อติวิย อยุตฺตํ สพฺเพสํ สิกฺขาปทานํ ปาณาติปาตาทิอกุสลานฺจ อฺมฺํ สมานตาย นิยมาภาวา. ปาณาติปาโต หิ ปริยาเยนาปิ สิชฺฌติ, น ตถา อทินฺนาทานํ. ตํ ปน อาณตฺติยาปิ สิชฺฌติ, น จ เมถุนาทีสุ. ตสฺมา ปโยคงฺคาทีหิปิ ภินฺนานเมว สํสฏฺํ สพฺพถา สมีกรณํ อยุตฺตเมว. ‘‘ปาณาติปาโต วิย อทินฺนาทานเมถุนาทีนิปิ ปริยายกถาทีหิ สิชฺฌนฺตี’’ติ เกนจิ วุตฺเต ตํ กินฺติ น คยฺหติ ตถา วจนาภาวาติ เจ? อิธาปิ ‘‘ตถา ปาณาติปาตสทิสํ สุราปาน’’นฺติ วจนาภาวา อิทมฺปิ น คเหตพฺพเมว. กิฺจิ อฏฺกถาวจเนเนว สิทฺธเมวตฺถํ ปฏิพาหนฺเตน วินยฺุนา สุตฺตสุตฺตานุโลมาทีหิ ตสฺส วิโรธํ ทสฺเสตฺวา ปฏิพาเหตพฺพํ, น ปน ปโยคงฺคาทีหิ อจฺจนฺตวิภินฺเนน สิกฺขาปทนฺตเรน สห สมีกรณมตฺเตน. น หิ ‘‘สุราติ อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺสาปิ อกุสลเมวา’’ติ เอตฺถ สุตฺตาทิวิโรโธ อตฺถิ, วินยปิฏเก ตาว เอตสฺส อตฺถสฺส วิรุทฺธํ สุตฺตาทิกํ น ทิสฺสติ, นาปิ สุตฺตปิฏกาทีสุ.
ยํ ¶ ปเนตฺถ เกจิ วทนฺติ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมาติ (ธ. ป. ๑, ๒) วุตฺตตฺตา สพฺพานิ อกุสลานิ ปุพฺเพ วีติกฺกมวตฺถุํ ชานนฺตสฺเสว โหนฺตี’’ติ. ตํ เตสํ สุตฺตาธิปฺปายานภิฺาตเมว ¶ ปกาเสติ. น หิ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ อิทํ วจนํ ปุพฺเพ วีติกฺกมวตฺถุํ ชานนฺตสฺเสว อกุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺตีติ อิมมตฺถํ ทีเปติ, อถ โข กุสลากุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปาทปจฺจยฏฺเน ปุพฺพงฺคมภูตํ สหชาตจิตฺตํ นิสฺสาเยว อุปฺปชฺชนฺติ, น วินา จิตฺเตนาติ อิมมตฺถํ ทีเปติ. น เหตฺถ ‘‘สุราติ อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺส อกุสลเมวา’’ติ วุตฺเต สหชาตจิตฺตํ วินาปิ โลภาทิอกุสลเจตสิกา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺตีติ อยมตฺโถ อาปชฺชติ. เยน ตํ นิเสธาย อิทํ สุตฺตํ อาหรณียํ สิยา, อภิธมฺมวิโรโธเปตฺถ นตฺถิ ปุพฺเพ นามชาติอาทิวเสน อชานนฺตสฺเสว ปฺจวิฺาณวีถิยํ กุสลากุสลชวนุปฺปตฺติวจนโต.
อปิจ พาลปุถุชฺชนานํ ฉสุ ทฺวาเรสุ อุปฺปชฺชมานานิ ชวนานิ เยภุยฺเยน อกุสลาเนว อุปฺปชฺชนฺติ. กุสลานิ ปน เตสํ กลฺยาณมิตฺตาทิอุปนิสฺสยพเลน อปฺปกาเนว อุปฺปชฺชนฺติ, ตุณฺหีภูตานมฺปิ นิทฺทายิตฺวา สุปินํ ปสฺสนฺตานมฺปิ อุทฺธจฺจาทิอกุสลชวนสฺเสว เยภุยฺยปฺปวตฺติโต กุสลากุสลวิรหิตสฺส ชวนสฺส เตสํ อภาวา. อกุสลา หิ วิสยานุคุณํ วาสนานุคุณฺจ ยถาปจฺจยํ สมุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ กึ ปุพฺเพ ชานนาชานนนิพทฺเธน. เย ปน ชานนาทิองฺคสมฺปนฺนา ปาณาติปาตาทโย, เย จ ชานนาทึ วินาปิ สิชฺฌมานา สุราปานมิจฺฉาทิฏฺิอาทโย, เต เต ตถา ตถา ยาถาวโต ตฺวา สมฺมาสมฺพุทฺเธน นิทฺทิฏฺา, เตสฺจ ยถานิทฺทิฏฺวเสน คหเณ โก นาม อภิธมฺมวิโรโธ. เอวํ สุตฺตาทิวิโรธาภาวโต, อฏฺกถาย จ วุตฺตตฺตา ยถาวุตฺตวเสเนเวตฺถ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ยทิ เอวํ กสฺมา ‘‘สามเณโร ชานิตฺวา ปิวนฺโต สีลเภทํ อาปชฺชติ, น อชานิตฺวา’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตนฺติ? นายํ โทโส สีลเภทสฺส ภควโต อาณายตฺตตฺตา อุกฺขิตฺตานุวตฺติกาทีนํ สีลเภโท วิย. น หิ ตาสํ อกุสลุปฺปตฺติยา เอว สีลเภโท โหติ สงฺฆายตฺตสมนุภาสนานนฺตเรเยว วิหิตตฺตา. เอวมิธาปิ ชานิตฺวา ปิวเน เอว วิหิโต, น อชานิตฺวา ปิวเน. อฺโ หิ สิกฺขาปทวิสโย, อฺโ อกุสลวิสโย. เตเนว สามเณรานํ ปุริเมสุ ปฺจสุ สิกฺขาปเทสุ เอกสฺมึ ภินฺเน สพฺพานิปิ สิกฺขาปทานิ ภิชฺชนฺติ. อกุสลํ ปน ยํ ภินฺนํ, เตน เอเกเนว โหติ, นาฺเหิ. ตสฺมา สามเณรสฺส ¶ อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺส สีลเภทาภาเวปิ กมฺมปถปฺปตฺตํ อกุสลเมวาติ คเหตพฺพํ.
ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๔๒) ‘‘สามเณรสฺส สุราติ อชานิตฺวา ¶ ปิวนฺตสฺส ปาราชิกํ นตฺถิ, อกุสลํ ปน โหตี’’ติ เกหิจิ วุตฺตวจนํ ‘‘ตํ เตสํ มติมตฺต’’นฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘ภิกฺขุโน อชานิตฺวาปิ พีชโต ปฏฺาย มชฺชํ ปิวนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. สามเณโร ชานิตฺวา ปิวนฺโต สีลเภทํ อาปชฺชติ, น อชานิตฺวาติ เอตฺตกเมว หิ อฏฺกถายํ วุตฺตํ, อกุสลํ ปน โหตีติ น วุตฺต’’นฺติ ตตฺถ การณํ วุตฺตํ, ตํ อการณํ. น หิ อฏฺกถายํ สามเณรานํ ชานิตฺวา ปิวเน เอว สีลเภโท, น อชานิตฺวาติ สีลเภทกถนฏฺาเน อกุสลํ ปน โหตีติ อวจนํ อชานนปกฺเข อกุสลาภาวสฺส การณํ โหติ, ตตฺถ ปสงฺคาภาวา, วตฺตพฺพฏฺาเน เอว ‘‘อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย โลกวชฺชตา’’ติ วุตฺตตฺตา จ. น จ เต ‘‘อกุสลํ ปน โหตี’’ติ วทนฺตา อาจริยา อิมํ สามเณรานํ สีลเภทปฺปกาสกํ ขนฺธกฏฺกถาปาเมว คเหตฺวา อโวจุํ, เยน ‘‘เอตฺตกเมว อฏฺกถายํ วุตฺต’’นฺติ วตฺตพฺพํ สิยา, อถ โข สุราปานฏฺกถาคตํ สุตฺตปิฏกฏฺกถาคตฺจ อเนกวิธํ วจนํ, มหาวิหารวาสีนํ ปรมฺปโรปเทสฺจ คเหตฺวา อโวจุํ. ภินฺนลทฺธิกานํ อภยคิริกาทีนํ มตฺเหตํ, ยทิทํ ชานิตฺวา ปิวนฺตสฺเสว อกุสลนฺติ คหณํ. ตสฺมา ยํ วุตฺตํ เกหิจิ ‘‘สามเณรสฺส สุราติ อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺส ปาราชิกํ นตฺถิ, อกุสลํ ปน โหตี’’ติ, ตํ สุวุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
ยฺจ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๔๒) ‘‘อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺสาปิ โสตาปนฺนสฺส มุขํ สุรา น ปวิสติ กมฺมปถปฺปตฺตอกุสลจิตฺเตเนว ปาตพฺพโต’’ติ เกหิจิ วุตฺตวจนํ ‘‘น สุนฺทร’’นฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘โพธิสตฺเต กุจฺฉิคเต โพธิสตฺตมาตุ สีลํ วิย หิ อิทมฺปิ อริยสาวกานํ ธมฺมตาสิทฺธนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ธมฺมตาสิทฺธตฺตํเยว สมตฺเถตุํ ‘‘ภวนฺตเรปิ หิ อริยสาวโก ชีวิตเหตุปิ เนว ปาณํ หนติ, น สุรํ ปิวติ. สเจ ปิสฺส สุรฺจ ขีรฺจ มิสฺเสตฺวา มุเข ปกฺขิปนฺติ, ขีรเมว ปวิสติ, น สุรา. ยถา กึ? ยถา โกฺจสกุณานํ ขีรมิสฺสเก อุทเก ขีรเมว ปวิสติ, น อุทกํ. อิทํ โยนิสิทฺธนฺติ เจ, อิทมฺปิ ธมฺมตาสิทฺธนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติ อิทํ อฏฺกถาวจนํ ทสฺสิตํ, ตมฺปิ น ยุตฺตเมว. ยถา หิ โพธิสตฺตมาตุ สีลํ วิย อริยสาวกานํ ธมฺมตาสิทฺธนฺติ เอตฺถ ¶ โพธิสตฺตมาตุ ธมฺมตา นาม โพธิสตฺตสฺส จ อตฺตโน จ ปารมิตานุภาเวน อกุสลานุปฺปตฺตินิยโม เอว. ตถา อริยสาวกานมฺปิ ภวนฺตเร ปาณาติปาตาทีนํ ทสนฺนํ กมฺมปถานํ อฺเสฺจ อปายเหตุกานํ อกุสลานํ อจฺจนฺตปฺปหายกสฺส มคฺคสฺส อานุภาเวน ตํตํสีลวีติกฺกมเหตุกสฺส อกุสลสฺส อนุปฺปตฺตินิยโม เอว ธมฺมตา. น หิ สภาววาทีนํ ธมฺมตา วิย อเหตุกตา อิธ ธมฺมตา นาม. ยถา วา เอวํธมฺมตานเย การณสฺส ภาเว อภาเว จ การิยสฺส ภาโว อภาโว จ ธมฺมตา, น อเหตุอปฺปจฺจยาภาวาภาโว, เอวมิธาปิ ปาณาติปาตาทิกมฺมปถานํ เหตุภูตสฺส กิเลสสฺส อจฺจนฺตาภาเวน เตสํ อภาโว, ตทวเสสานํ อกุสลานํ เหตุโน ภาเวน ภาโว จ ธมฺมตา ¶ , น อเหตุกตา. ตสฺมา อปายเหตุโน ราคสฺส อภาเวเนว อริยานํ อชานิตฺวาปิ สุราย อนชฺโฌหรณนฺติ สุวุตฺตเมวิทํ เกหิจิ ‘‘อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺสาปิ โสตาปนฺนสฺส มุขํ สุรา น ปวิสติ กมฺมปถปฺปตฺตอกุสลจิตฺเตเนว ปาตพฺพโต’’ติ, ตํ เกน เหตุนา น สุนฺทรํ ชาตนฺติ น ายติ, ธมฺมตาสิทฺธนฺติ วา กถเนน กถํ ตํ ปฏิกฺขิตฺตนฺติ.
ยมฺปิ ทีฆนิกายฏฺกถายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๓๕๒) ‘‘สุรฺจ ขีรฺจ มิสฺเสตฺวา…เป… อิทํ ธมฺมตาสิทฺธ’’นฺติ วจนํ, ตมฺปิ สุราปานสฺส อจิตฺตกปกฺเขปิ อกุสลจิตฺตฺเว สาเธติ. ตถา หิ ‘‘ภวนฺตเรปิ หิ อริยสาวโก ชีวิตเหตุปิ ปาณํ น หนติ, นาทินฺนํ อาทิยติ…เป… น สุรํ ปิวตี’’ติ วุตฺเต ‘‘ปุริมานํ ตาว จตุนฺนํ กมฺมปถานํ สจิตฺตกตฺตา วิรมณํ สุกรํ, ปจฺฉิมสฺส ปน สุราปานสฺส อจิตฺตกตฺตา กถํ วิรมณํ ภเวยฺยา’’ติ โจทนาสมฺภวํ มนสิกตฺวา วตฺถุอชานนวเสน อจิตฺตกตฺเตปิ ยสฺมา กมฺมปถปฺปตฺตอกุสเลเนว สุรา อชฺโฌหริตพฺพา, ตาทิสี จ อกุสลปฺปวตฺติ อริยสาวกสฺส มคฺเคเนว หตา, ตสฺมาสฺส ปรคลํ สุราย ปวิสนํ นตฺถีติ อตฺถโต คมฺยมานตฺถํ ปริหารวจนํ วทตา ‘‘สเจ ปิสฺส สุรฺจ ขีรฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ขีรเมว ปวิสติ, น สุราติ อิทํ สุราย สพฺพถาปิ ปรคลปฺปเวสาภาวทสฺสนปรํ, น ปน สุรามิสฺสขีรสฺส สุราย วิโยชนสามตฺถิยทสฺสนปรํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – ยทิ หิ สุรามิสฺเส ขีเร กิฺจิ ปวิเสยฺย, ขีรเมว ปวิเสยฺย, น สุรา. ขีเร ปน สุราย อวิยุตฺเต น กิฺจิ ปวิสตีติ ¶ . อิทํ โยนิสิทฺธนฺติ อุทกสฺส มุเข อปฺปวิสนํ โยนิสิทฺธํ. โยนีติ เจตฺถ ชาติ อธิปฺเปตา. ตสฺมา โกฺจชาติกานํ มุขตุณฺฑสงฺขาตานํ รูปธมฺมานํ ขีรมิสฺสอุทกชฺโฌหรณเหตุตฺตาภาเวน ตํ อปฺปวิสนํ สิทฺธนฺติ อตฺโถ. อิทมฺปิ หิ ขีรมิสฺสาย สุราย ขีเร ปวิสนฺเตปิ ปรคลาปวิสนนฺติ. ธมฺมตาสิทฺธนฺติ อริยสาวกสฺส อรูปธมฺมานํ สุราปิวนเหตุภูตกิเลสสหิตตฺตาภาวสงฺขาตาย ธมฺมตาย สิทฺธํ. เอวเมตฺถ อจิตฺตกปกฺเขปิ สุราย อกุสลจิตฺเตเนว ปาตพฺพโต อริยสาวกานํ อปิวนํ สมตฺถิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อถาปิ สิยา อชานนปกฺเข อกุสลจิตฺเตน วินาว ปาตพฺพตฺเตปิ สุราย อปิวนํ อริยานํ ธมฺมตาติ ¶ สมตฺถนปรเมตนฺติ, ตํ น, อฏฺกถาวจนนฺตเรหิ วิรุชฺฌนโต. ยถา หิ วจนนฺตเรหิ น วิรุชฺฌติ, ตถาเยว อตฺโถ คเหตพฺโพ.
อปิจ ปาณาติปาตาทีนํ ปฺจนฺนํ กมฺมปถานํ ภวนฺตเรปิ อกรณํ อริยานํ ธมฺมตาสีลเมว, เตสฺจ ยทิ สจิตฺตกตํ สมานํ. สุราปานํ วิย อิตรานิปิ จตฺตาริ อชานนฺเตนาปิ อริยสาวเกน น กตฺตพฺพานิ สิยุํ, ตถา จ อชานนฺตานํ อริยานํ กุสลาพฺยากตจิตฺเตหิปิ วิรมณปรมารณปรสนฺตกคหณาทีสุ กายวจีปวตฺติ น สมฺปชฺเชยฺย, โน เจ สมฺปชฺชติ, จกฺขุปาลตฺเถรสฺส จงฺกมเนน ปาณวิโยคสฺส, อุปฺปลวณฺณตฺเถริยา พลกฺกาเรน มคฺเคนมคฺคผุสนสฺส จ ปวตฺตตฺตา. ตสฺมา สุราปานสฺส อจิตฺตกปกฺเขปิ อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย สุรา อริยานํ ปรคลํ น ปวิสตีติ วิเสเสตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
นนุ วตฺถุํ ชานนฺตสฺเสว สพฺเพ กมฺมปถา วุตฺตาติ? น, มิจฺฉาทิฏฺิยา วิปรีตคฺคหเณเนว ปวตฺตตฺตา. กถฺหิ นาม อสพฺพฺุํ สพฺพฺุโต, อนิจฺจาทึ นิจฺจาทิโต จ คหณนฺตี ทิฏฺิ วตฺถุํ วิชานาติ. ยทิ หิ ชาเนยฺย, มิจฺฉาทิฏฺิเยว น สิยา. สา จ กมฺมปเถสุ คณิตาติ กุโต ชานนฺตสฺเสว กมฺมปถปฺปวตฺตินิยโม. อถ สพฺพฺุํ สพฺพฺูติ คณฺหนฺตีปิ ‘‘อยํ สตฺโต’’ติ ตสฺส สรูปคฺคหณโต ทิฏฺิปิ วตฺถุํ วิชานาตีติ เจ? น, สุราปานสฺสปิ ‘‘อยํ น สุรา’’ติ สรูปคฺคหณสฺส สมานตฺตา. ‘‘อย’’นฺติ จ วตฺถุปรามสเนปิ ‘‘สุรา’’ติ วิเสสวิชานนาภาวา น ชานาตีติ เจ? ‘‘อย’’นฺติ ปุคฺคลตฺตํ ชานนฺตีปิ ‘‘อสพฺพฺู’’ติปิ วิเสสชานนาภาวา ทิฏฺิปิ วตฺถุํ น ชานาตีติ สมานเมว. เอวฺหิ เตสํ ¶ พุทฺธาติ อหิโตติ อหิตํ วา ปูรณกสฺสปาทึ หิโต ปฏิฆสฺส วา อนุนยสฺส วา อุปฺปาทเนปิ เอเสว นโย. วิปลฺลาสปุพฺพกฺหิ สพฺพํ อกุสลํ.
อปิจ สุราย ปียมานาย นิยเมน อกุสลุปฺปาทนํ สภาโว ปีตาย วิย. ขีราทิสฺาย ปีตสุรสฺส ปุคฺคลสฺส มาตุภคินิอาทีสุปิ ราคโทสาทิอกุสลปฺปพนฺโธ วตฺถุสภาเวเนว อุปฺปชฺชติ, เอวํ ปียมานกฺขเณปิ ติขิโณ ราโค อุปฺปชฺชเตว, เตเนว สาคตตฺเถรสฺส อชานิตฺวา ปิวนกาเล ปฺจาภิฺาทิฌานปริหานิ, ปจฺฉา จ พุทฺธาทีสุ อคารวาทิอกุสลปฺปพนฺโธ ยาว สุราวิคมา ปวตฺติตฺถ. เตเนว ภควาปิ ตสฺส อคารวาทิอกอุสลปฺปวตฺติทสฺสนมุเขน สุราโทสํ ปกาเสตฺวา สิกฺขาปทํ ปฺเปสิ. น หิ ปฺจนีวรณุปฺปตฺตึ วินา ฌานปริหานิ โหติ. ตสฺมา อชานนฺตสฺสาปิ สุรา ปียมานา ปีตา จ อตฺตโน สภาเวเนว อกุสลุปฺปาทิกาติ อยมตฺโถ สาคตตฺเถรสฺส ฌานปริหานิยา อนฺวยโตปิ, อริยานํ กิเลสาภาเวน มุเขน สุราย อปฺปเวสสงฺขาตพฺยติเรกโตปิ สิชฺฌตีติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ, เอวํ คหณเมว หิ วิภชฺชวาทีมตานุสารํ.
ยํ ปน ‘‘ชานิตฺวา ปิวนฺตสฺเสว อกุสล’’นฺติ คหณํ, ตํ ภินฺนลทฺธิกานํ อภยคิริกาทีนเมว ¶ มตํ, ตํ ปน คณฺิปทการกาทีหิ ‘‘ปรวาโท’’ติ อชานนฺเตหิ อตฺตโน มติยา สํสนฺทิตฺวา ลิขิตํ วิภชฺชวาทีมณฺฑลมฺปิ ปวิสิตฺวา ยาวชฺชตนา สาสนํ ทูเสติ, ปุราปิ กิร อิมสฺมิมฺปิ ทมิฬรฏฺเ โกจิ ภินฺนลทฺธิโก นาคเสโน นาม เถโร กุณฺฑลเกสีวตฺถุํ ปรวาทมถนนยทสฺสนตฺถํ ทมิฬกพฺพรูเปน กาเรนฺโต ‘‘อิมํ สุราปานสฺส ชานิตฺวาว ปิวเน อกุสลนยํ, อฺฺจ เทสกาลาทิเภเทน อนนฺตมฺปิ เยฺยํ สพฺพฺุตฺาณํ สลกฺขณวเสเนว าตุํ น สกฺโกติ าเณน ปริจฺฉินฺนตฺเตน เยฺยสฺส อนนฺตตฺตหานิปฺปสงฺคโต. อนิจฺจาทิสามฺลกฺขณวเสเนว ปน าตุํ สกฺโกตี’’ติ จ, ‘‘ปรมตฺถธมฺเมสุ นามรูปนฺติอาทิเภโท วิย ปุคฺคลาทิสมฺมุติปิ วิสุํ วตฺถุเภโท เอวา’’ติ จ เอวมาทิกํ พหุํ วิปรีตตฺถนยํ กพฺพาการสฺส กวิโน อุปทิสิตฺวา ตสฺมึ ปพนฺเธ การณาภาเสหิ สตึ สมฺโมเหตฺวา ปพนฺธาเปสิ, ตฺจ กพฺพํ นิสฺสาย อิมํ ภินฺนลทฺธิกมตํ อิธ วิภชฺชวาทีมเต ¶ สมฺมิสฺสํ จิรํ ปวตฺติตฺถ. ตํ ปน ปจฺฉา อาจริยพุทฺธปฺปิยมหาเถเรน พาหิรพฺภริกํ ทิฏฺิชาลํ วิฆาเฏตฺวา อิธ ปริสุทฺธํ สาสนํ ปติฏฺาเปนฺเตน โสธิตมฺปิ สารตฺถทีปนิยา (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๔๒) วินยฏีกาย สุราปานสฺส สจิตฺตกปกฺเขเยว จิตฺตํ อกุสลนฺติ สมตฺถนวจนํ นิสฺสาย เกหิจิ วิปลฺลตฺตจิตฺเตหิ ปุน อุกฺขิตฺตสิรํ ชาตํ, ตฺจ มหาเถเรหิ วินิจฺฉินิตฺวา คารยฺหวาทํ กตฺวา มทฺทิตฺวา ลทฺธิคาหเก จ ภิกฺขู วิโยเชตฺวา ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน จิเรเนว วูปสมิตํ. เตเนเวตฺถ มยํ เอวํ วิตฺถารโต อิทํ ปฏิกฺขิปิมฺห ‘‘มา อฺเปิ วิภชฺชวาทิโน อยํ ลทฺธิ ทูเสสี’’ติ. ตสฺมา อิธ วุตฺตานิ อวุตฺตานิ จ การณานิ สุฏฺุ สลฺลกฺเขตฺวา ยถา อาคมวิโรโธ น โหติ, ตถา อตฺโถ คเหตพฺโพ.
เสสนฺติ ยสฺส วตฺถุวิชานนจิตฺเตน สจิตฺตกปกฺเขปิ จิตฺตํ อกุสลเมวาติ นิยโม นตฺถิ, ตํ สพฺพนฺติ อตฺโถ. รุนฺธนฺตีติ ‘‘ติรจฺฉานคติตฺถิยา โทโส นตฺถี’’ติอาทินา อนาปตฺติยา เลสคฺคหณํ นิวาเรนฺตี. ทฺวารํ ปิทหนฺตีติ ‘‘ตฺจ โข มนุสฺสิตฺถิยา’’ติอาทินา (ปารา. ๔๑) เลสคฺคหณสฺส การณสงฺขาตํ ทฺวารํ ปิทหนฺตี. โสตํ ปจฺฉินฺทมานาติ ตทุภยเลสคฺคหณทฺวารานํ วเสน อวิจฺฉินฺนํ วีติกฺกมโสตํ ปจฺฉินฺทมานา. คาฬฺหตรํ กโรนฺตีติ ยถาวุตฺเตหิ การเณหิ ปมปฺตฺติสิทฺธํ อาปตฺติฺเว ทฬฺหํ กโรนฺตี, อนาปตฺติยา โอกาสํ อททมานาติ อตฺโถ. สา จ ยสฺมา วีติกฺกมาภาเว, อวิสยตาย อพฺโพหาริเก วีติกฺกเม จ โลกวชฺเชปิ สิถิลํ กโรนฺตี อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ตถา อุปฺปตฺตึ อุปฺปตฺติการณฺจ ทสฺเสนฺโต อาห อฺตฺร อธิมานาติอาทิ. อฺตฺร อธิมานาติ อิมิสฺสา อนุปฺตฺติยา ‘‘วีติกฺกมาภาวา’’ติ การณํ วุตฺตํ. อฺตฺร สุปินนฺตาติ อิมิสฺสา ‘‘อพฺโพหาริกตฺตา’’ติ การณํ วุตฺตํ. ตตฺถ วีติกฺกมาภาวาติ ปาปิจฺฉาย อวิชฺชมานสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส วิชฺชมานโต ¶ ปกาสนวสปฺปวตฺตวิสํวาทนาธิปฺปายสงฺขาตสฺส วีติกฺกมสฺส อภาวโต. อธิมานิกสฺส หิ อนธิคเต อธิคตสฺิตาย ยถาวุตฺตวีติกฺกโม นตฺถิ. อพฺโพหาริกตฺตาติ ‘‘อตฺเถสา, ภิกฺขเว, เจตนา, สา จ โข อพฺโพหาริกา’’ติ (ปารา. ๒๓๕) วจนโต โมจนสฺสาทเจตนาย อุปกฺกมนสฺส จ วิชฺชมานตฺเตปิ ถินมิทฺเธน อภิภูตตาย ¶ อวสตฺเตน อพฺโพหาริกตฺตา, อาปตฺติการณโวหาราภาวาติ อตฺโถ. วา-สทฺโท เจตฺถ สมุจฺจยตฺโถ ทฏฺพฺโพ, ‘‘อพฺโพหาริกตฺตา จา’’ติ วา ปาโ. วุตฺตาติ ทุวิธาปิ เจสา อนุปฺตฺติ อนาปตฺติกรา วุตฺตาติ อธิปฺปาโย.
อกเต วีติกฺกเมติ อาปทาสุปิ ภิกฺขูหิ สิกฺขาปทวีติกฺกเม อกเต, กุกฺกุจฺจา น ภฺุชึสูติอาทีสุ วิย วีติกฺกมํ อกตฺวา ภิกฺขูหิ อตฺตโน ทุกฺขุปฺปตฺติยา อาโรจิตายาติ อตฺโถ. สิถิลํ กโรนฺตีติ ปมํ สามฺโต พทฺธสิกฺขาปทํ โมเจตฺวา อตฺตโน วิสเย อนาปตฺติกรณวเสน สิถิลํ กโรนฺตี. ทฺวารํ ททมานาติ อนาปตฺติยา ทฺวารํ ททมานา. อปราปรมฺปิ อนาปตฺตึ กุรุมานาติ ทินฺเนน เตน ทฺวาเรน อุปรูปริ อนาปตฺติภาวํ ทีเปนฺตี. ปฺตฺเตปิ สิกฺขาปเท อุทายินา ‘‘มุหุตฺติกาย เวสิยา น โทโส’’ติ เลเสน วีติกฺกมิตฺวา สฺจริตฺตาปชฺชนวตฺถุสฺมึ (ปารา. ๒๙๖ อาทโย) ปฺตฺตตฺตา ‘‘กเต วีติกฺกเม’’ติ วุตฺตํ. ปฺตฺติคติกาติ อตฺถโต มูลปฺตฺติเยวาติ อธิปฺปาโย.
มกฺกฏีวตฺถุกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
สนฺถตภาณวาโร
วชฺชิปุตฺตกวตฺถุกถาวณฺณนา
๔๓-๔๔. วชฺชิปุตฺตกวตฺถุกถาย ปาฬิยํ ‘‘เวสาลิกา…เป… เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวึสู’’ติ เอตฺถ เต าติกุลํ คนฺตฺวา คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา ‘‘คิหิภูตา มย’’นฺติ สฺาย เมถุนํ ปฏิเสวึสูติ คเหตพฺพํ, เตนาห าติพฺยสเนนปิ ผุฏฺาติอาทิ. าตีนํ วินาโส ราชทณฺฑาทิการเณน โหตีติ อาห ราชทณฺฑอิจฺจาทิ. ธฺหิรฺทาสิทาสโคมหึสาทิธนานิ โภคา นาม, เตสมฺปิ ราชทณฺฑาทินาว วินาโสติ อาห ‘‘เอส นโย ทุติยปเทปี’’ติ. น สพฺพฺุพุทฺโธติอาทินา ¶ ตีสุ วตฺถูสุ อปฺปสนฺนาว สาสเน อภพฺพาติ สฺาย อตฺตโน ภพฺพตํ ปกาเสนฺตา น มยนฺติอาทิมาหํสูติ เวทิตพฺพํ. ‘‘อฏฺตึสารมฺมเณสู’’ติ ปาฬิยํ อนาคเต อาโลกากาสกสิเณ วชฺเชตฺวา วุตฺตํ, เตหิ ปน ¶ สทฺธึ จตฺตาลีส โหนฺติ. วิภตฺตา กุสลา ธมฺมาติ ‘‘อิมสฺมึ อารมฺมเณ อิทํ โหตี’’ติ วิภาคโส ทสฺสิตา สอุปจารชฺฌานา มหคฺคตกุสลา ธมฺมา. คิหิปลิโพธนฺติ สหโสกิตาทิวเสน คิหีสุ พฺยาวฏตํ. อาวาสปลิโพธนฺติ เสนาสเนสุ นวกมฺมาทิวเสน นิจฺจพฺยาวฏตํ. ทุปฺปริจฺจาคานํ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปลิโพธานํ วเสน สพฺเพปิ ปลิโพธา สงฺคหิตา เอวาติ เวทิตพฺพํ.
เยนาติ การเณน. อสํวาโสติ อิทํ ตสฺมึ อตฺตภาเว เกนจิปิ ปริยาเยน ภิกฺขุ หุตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาสํ นารหตีติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อสํวาโส’’ติ. ปฺตฺตํ สมูหเนยฺยาติ ‘‘โส อาคโต น ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ อวตฺวา ‘‘น อุปสมฺปาเทตพฺโพ’’ติ เอตฺตกสฺเสว วุตฺตตฺตา ปาราชิกสฺส สามเณรภูมิ อนฺุาตาติ วิฺายติ, เตนาห สามเณรภูมิยํ ปน ิโตติอาทิ. ‘‘โย ปน ภิกฺขู’’ติ วุตฺตตฺตา (ปารา. ๓๙) ปจฺจกฺขาตสิกฺโข ยสฺมา ภิกฺขุ น โหติ, เมถุนเสวเน จ ปาราชิกํ นาปชฺชติ, ตสฺมาสฺส ‘‘อาคโต อุปสมฺปาเทตพฺโพ’’ติ อุปสมฺปทํ อนุชานนฺโต ปาราชิกํ น สมูหนติ นาม, เตนาห ‘‘ภิกฺขุภาเว ตฺวา อวิปนฺนสีลตายา’’ติ. อุตฺตมตฺถํ อรหตฺตํ, นิพฺพานเมว วา.
จตุพฺพิธวินยาทิกถาวณฺณนา
๔๕. นีหริตฺวาติ ปาฬิโต อุทฺธริตฺวา, ตถา หิ ‘‘ปฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นานุยฺุชิตพฺพํ. กตเมหิ ปฺจหิ? สุตฺตํ น ชานาติ, สุตฺตานุโลมํ น ชานาตี’’ติอาทิปาฬิโต สุตฺตํ สุตฺตานุโลมฺจ นีหรึสุ. ‘‘อนาปตฺติ เอวํ อมฺหากํ อาจริยานํ อุคฺคโห ปริปุจฺฉาติ ภณตี’’ติ เอวมาทิโต อาจริยวาทํ. ‘‘อายสฺมา อุปาลิ เอวมาห – ‘อนาปตฺติ, อาวุโส, สุปินนฺเตนา’ติ’’ เอวมาทิโต อตฺตโน มตึ นีหรึสุ, สา จ เถรสฺส อตฺตโนมติ สุตฺเตน สงฺคหิตตฺตา สุตฺตํ ชาตํ, เอวมฺาปิ สุตฺตาทีหิ สงฺคหิตาว คเหตพฺพา, เนตราติ เวทิตพฺพํ. อถ วา นีหริตฺวาติ วิภชิตฺวา สาฏฺกถํ สกลํ วินยปิฏกํ สุตฺตาทีสุ จตูสุ ปเทเสสุ ปกฺขิปิตฺวา จตุธา วิภชิตฺวา วินยํ ปกาเสสุํ ¶ ตพฺพินิมุตฺตสฺส อภาวาติ อธิปฺปาโย. วุตฺตนฺติ นาคเสนตฺเถเรน มิลินฺทปฺเห วุตฺตํ. กณฺาทิวณฺณุปฺปตฺติฏฺานกรณาทีหิ อาหริตฺวา อตฺตโน วจีวิฺตฺติยาว ภาสิตวจนํ อาหจฺจปทํ. รโสติ สาโร ‘‘ปตฺตรโส’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๖๒๘-๖๓๐) วิย, ปฏิกฺขิตฺตอนฺุาตสุตฺตสาโรติ ¶ อตฺโถ, รโสติ วา ลกฺขณํ ปฏิวตฺถุกํ อนุทฺธริตฺวา ลกฺขณานุโลเมน วุตฺตตฺตา. ธมฺมสงฺคาหกาทิอาจริยวํเสน อาภตา อฏฺกถา อาจริยวํโสติ อาห ‘‘อาจริยวํโสติ อาจริยวาโท’’ติ.
วินยปิฏเก ปาฬีติ อิธ อธิการวเสน วุตฺตํ. เสสปิฏเกสุปิ สุตฺตาทิจตุนยา ยถานุรูปํ ลพฺภนฺเตว. มหาปเทสาติ มหาโอกาสา มหาวิสยา, เต อตฺถโต ‘‘ยํ, ภิกฺขเว’’ติอาทิปาฬิวเสน อกปฺปิยานุโลมโต กปฺปิยานุโลมโต จ ปุคฺคเลหิ นยโต ตถา ตถา คยฺหมานา อตฺถนยา เอว. เต หิ ภควตา สรูปโต อวุตฺเตสุปิ ปฏิกฺขิตฺตานุโลเมสุ, อนฺุาตานุโลเมสุ จ เสเสสุ กิจฺเจสุ นิวตฺติปวตฺติเหตุตาย มหาโคจราติ ‘‘มหาปเทสา’’ติ วุตฺตา, น ปน ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, มยา อิทํ น กปฺปตี’’ติอาทินา วุตฺตา สาธิปฺปายา ปาฬิเยว ตสฺสา สุตฺเต ปวิฏฺตฺตา. ‘‘สุตฺตานุโลมมฺปิ สุตฺเต โอตาเรตพฺพํ…เป… สุตฺตเมว พลวตร’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๔๕) หิ วุตฺตํ, น เหสา สาธิปฺปายา ปาฬิ สุตฺเต โอตาเรตพฺพา, น คเหตพฺพา วา โหติ, เยนายํ สุตฺตานุโลมํ สิยา. ตสฺมา อิมํ ปาฬิอธิปฺปายํ นิสฺสาย ปุคฺคเลหิ คหิตา ยถาวุตฺตอตฺถาว สุตฺตานุโลมํ. ตปฺปกาสกตฺตา ปน อยํ ปาฬิปิ สุตฺตานุโลมนฺติ คเหตพฺพํ, เตนาห เย ภควตา เอวํ วุตฺตาติอาทิ. ยํ ภิกฺขเวติอาทิปาฬินเยน หิ ปุคฺคเลหิ คเหตพฺพา เย อกปฺปิยานุโลมาทโย อตฺถา วุตฺตา, เต มหาปเทสาติ อตฺโถ.
ภควโต ปกิณฺณกเทสนาภูตา จ สุตฺตานุโลมภูตา จ อฏฺกถา. ยสฺมา ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปาฬิวณฺณนากฺกเมน สงฺคเหตฺวา วุตฺตา, ตสฺมา ‘‘อาจริยวาโท’’ติ วุตฺตา, เอเตน จ อฏฺกถา สุตฺตสุตฺตานุโลเมสุ อตฺถโต สงฺคยฺหตีติ เวทิตพฺพา. ยถา จ เอสา, เอวํ อตฺตโนมติปิ ปมาณภูตา. น หิ ภควโต วจนํ วจนานุโลมฺจ อนิสฺสาย อคฺคสาวกาทโยปิ อตฺตโน าณพเลน สุตฺตาภิธมฺมวินเยสุ ¶ กฺจิ สมฺมุติปรมตฺถเภทํ อตฺถํ วตฺตุํ สกฺโกนฺติ, ตสฺมา สพฺพมฺปิ วจนํ สุตฺเต สุตฺตานุโลเม จ สงฺคยฺหติ. วิสุํ ปน อฏฺกถาทีนํ สงฺคหิตตฺตา ตทวเสสํ สุตฺตสุตฺตานุโลมโต คเหตฺวา จตุธา วินโย นิทฺทิฏฺโ. สุตฺตาทโย นิสฺสาเยว ปวตฺตาปิ อตฺตโนมติ เตสุ สรูเปน อนาคตตฺตา วุตฺตํ ‘‘สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาเท มฺุจิตฺวา’’ติ, เตนาห ‘‘อนุพุทฺธิยา นยคฺคาเหนา’’ติ. ตตฺถ สุตฺตาทีนิ อนุคตาย เอว พุทฺธิยา เตหิ ลทฺธนยคฺคาเหน จาติ อตฺโถ.
เถรวาโทติ มหาสุมตฺเถราทีนํ คาโห. สุตฺตาทึ นิสฺสาเยว วิปรีตโตปิ อตฺตโนมติ อุปฺปชฺชตีติ ¶ อาห ตํ ปนาติอาทิ. อตฺเถนาติ อตฺตนา นยคฺคหิเตน อตฺเถน. ปาฬินฺติ อตฺตโน คาหสฺส นิสฺสยภูตํ สาฏฺกถํ ปาฬึ. ปาฬิยาติ ตปฺปฏิกฺเขปตฺถํ ปเรนาหฏาย สาฏฺกถาย ปาฬิยา, อตฺตนา คหิตํ อตฺถํ นิสฺสาย ปาฬิฺจ สํสนฺทิตฺวาติ อตฺโถ. อาจริยวาเทติ อตฺตนา ปเรน จ สมุทฺธฏอฏฺกถาย. โอตรติ เจว สเมติ จาติ อตฺตนา อุทฺธเฏหิ สํสนฺทนวเสน โอตรติ, ปเรน อุทฺธเฏน สเมติ. สพฺพทุพฺพลาติ อสพฺพฺุปุคฺคลสฺส โทสวาสนาย ยาถาวโต อตฺถสมฺปฏิปตฺติอภาวโต วุตฺตํ. ปมาทปาวเสน อาจริยวาทสฺส สุตฺตานุโลเมน อสํสนฺทนาปิ สิยาติ อาห ‘‘อิตโร น คเหตพฺโพ’’ติ.
สเมนฺตเมว คเหตพฺพนฺติ เย สุตฺเตน สํสนฺทนฺติ, เอวรูปาว อตฺถา มหาปเทสโต อุทฺธริตพฺพาติ ทสฺเสติ ตถา ตถา อุทฺธฏอตฺถานเมว สุตฺตานุโลมตฺตา, เตนาห ‘‘สุตฺตานุโลมโต หิ สุตฺตเมว พลวตร’’นฺติ. อปฺปฏิวตฺติยนฺติ อปฺปฏิพาหิยํ. การกสงฺฆสทิสนฺติ ปมาณตฺตา สงฺคีติการกสงฺฆสทิสํ. พุทฺธานํ ิตกาลสทิสนฺติ ธรมานกพุทฺธสทิสนฺติ อตฺโถ. สกวาที สุตฺตํ คเหตฺวา กเถตีติอาทีสุ โย ยถาภูตมตฺถํ คเหตฺวา กถนสีโล, โส สกวาที. สุตฺตนฺติ สงฺคีติตฺตยารุฬฺหํ ปาฬิวจนํ. ปรวาทีติ มหาวิหารวาสี วา โหตุ อฺนิกายวาสี วา, โย วิปรีตโต อตฺถํ คเหตฺวา กถนสีโล, โสว อิธ ‘‘ปรวาที’’ติ วุตฺโต. สุตฺตานุโลมนฺติ สงฺคีติตฺตยารุฬฺหํ วา อนารุฬฺหํ วา ยํกิฺจิ วิปลฺลาสโต วา วฺจนาย วา ‘‘สงฺคีติตฺตยาคตมิท’’นฺติ ทสฺสิยมานํ สุตฺตานุโลมํ. เกจิ ‘‘อฺนิกาเย สุตฺตานุโลม’’นฺติ ¶ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ สกวาทีปรวาทีนํ อุภินฺนมฺปิ สงฺคีติตฺตยารุฬฺหสุตฺตาทีนํ เอว คเหตพฺพโต. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺหํ ปาฬิอาคตํ ปฺายติ, คเหตพฺพ’’นฺติอาทิ. น หิ สกวาที อฺนิกายสุตฺตาทึ ปมาณโต คณฺหาติ, เยน เตสุ สุตฺตาทีสุ ทสฺสิเตสุ ตตฺถ าตพฺพํ ภเวยฺย, วกฺขติ จ ‘‘ปโร ตสฺส อกปฺปิยภาวสาธกํ สุตฺตโต พหุํ การณฺจ วินิจฺฉยฺจ ทสฺเสติ…เป… ‘สาธู’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อกปฺปิเยเยว าตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๔๕). ตสฺมา ปรวาทินาปิ สงฺคีติตฺตเย อนารุฬฺหมฺปิ อนารุฬฺหมิจฺเจว ทสฺสียติ, เกวลํ ตสฺส ตสฺส สุตฺตาทิโน สงฺคีติตฺตเย อนาคตสฺส กูฏตา, อาคตสฺส จ พฺยฺชนจฺฉายาย อฺถา อธิปฺปายโยชนา จ วิเสโส. ตตฺถ จ ยํ กูฏํ, ตํ อปนียติ. ยํ อฺถา โยชิตํ, ตสฺส วิปรีตตาสนฺทสฺสนตฺถํ ตทฺเน สุตฺตาทินา สํสนฺทนา กรียติ. โย ปน ปรวาทินา คหิโต อธิปฺปาโย สุตฺตนฺตาทินา สํสนฺทติ, โส สกวาทินาปิ อตฺตโน คาหํ วิสฺสชฺเชตฺวา คเหตพฺโพติ อุภินฺนมฺปิ สงฺคีติตฺตยาคตเมว สุตฺตาทิปมาณนฺติ เวทิตพฺพํ. เตเนว กถาวตฺถุปฺปกรเณ สกวาเท ปฺจ สุตฺตสตานิ ปรวาเท ปฺจาติ (ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา; กถา. อฏฺ. นิทานกถา) ¶ สุตฺตสหสฺสมฺปิ อธิปฺปายคฺคหณนานตฺเตน สงฺคีติตฺตยาคตเมว คหิตํ, น นิกายนฺตเร กิฺจีติ.
เขปนฺติ ‘‘กึ อิมินา’’ติ ปฏิกฺเขปํ ฉฑฺฑนํ. ครหนฺติ ‘‘กิเมส พาโล ชานาตี’’ติ นินฺทนํ. สุตฺเต โอตาเรตพฺพนฺติ ยสฺส สุตฺตสฺส อนุโลมนโต อิทํ สุตฺตานุโลมํ อกาสิ, ตสฺมึ, ตทนุรูเป วา อฺตรสฺมึ สุตฺเต อตฺตนา คหิตํ สุตฺตานุโลมํ อตฺถโต สํสนฺทนวเสน โอตาเรตพฺพํ, ‘‘อิมินา จ อิมินา จ การเณน อิมสฺมึ สุตฺเต สํสนฺทตี’’ติ สํสนฺทิตฺวา ทสฺเสตพฺพนฺติ อตฺโถ. อยนฺติ สกวาที. ปโรติ ปรวาที. อาจริยวาโท สุตฺเต โอตาเรตพฺโพติ ยสฺส สุตฺตสฺส วณฺณนาวเสน อยํ อาจริยวาโท ปวตฺโต, ตสฺมึ, ตาทิเส จ อฺตรสฺมึ สุตฺเต ปุพฺพาปรอตฺถสํสนฺทนวเสน โอตาเรตพฺพํ. คารยฺหาจริยวาโทติ ปมาทลิขิโต, ภินฺนลทฺธิเกหิ วา ปิโต, เอส นโย สพฺพตฺถ.
ยํ กิฺจิ กูฏสุตฺตํ พาหิรกสุตฺตาทิวจนํ น คเหตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ สุตฺตํ สุตฺตานุโลเม โอตาเรตพฺพนฺติอาทิ วุตฺตํ. คุฬฺหเวสฺสนฺตราทีนิ มหาสงฺฆิกาทิภินฺนลทฺธิกานํ ปกรณานิ. อาทิ-สทฺเทน คุฬฺหอุมฺมคฺคาทีนํ คหณํ ¶ . สกวาที สุตฺตํ คเหตฺวา กเถติ, ปรวาทีปิ สุตฺตนฺติอาทินา อฺเปิ วาทาลมฺพนา วุตฺตนเยน สกฺกา าตุนฺติ อิธ น วุตฺตา.
เอวํ สุตฺตสุตฺตานุโลมาทิมุเขน สามฺโต วิวาทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิเสสโต วิวาทวตฺถุํ ตพฺพินิจฺฉยมุเขน สุตฺตาทีนฺจ ทสฺเสตุํ อถ ปนายํ กปฺปิยนฺติอาทิ วุตฺตํ. สุตฺเต จ สุตฺตานุโลเม จาติ เอตฺถ จ-กาโร วิกปฺปตฺโถ, เตน อาจริยวาทาทีนมฺปิ สงฺคโห, เตนาห ‘‘การณฺจ วินิจฺฉยฺจ ทสฺเสตี’’ติ. ตตฺถ การณนฺติ สุตฺตาทินยํ นิสฺสาย อตฺตโนมติยา อุทฺธฏํ เหตุํ. วินิจฺฉยนฺติ อฏฺกถาวินิจฺฉยํ. การณจฺฉายาติ สุตฺตาทีสุ ‘‘กปฺปิย’’นฺติ คาหสฺส, ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ คาหสฺส จ นิมิตฺตภูตํ กิจฺเฉน ปฏิปาทนียํ อวิภูตการณํ การณจฺฉายา, การณปติรูปกนฺติ อตฺโถ. วินยฺหิ ปตฺวาติ อิมสฺส วิวรณํ กปฺปิยากปฺปิยวิจารณมาคมฺมาติ. รุนฺธิตพฺพนฺติ กปฺปิยสฺาย วีติกฺกมกรณํ รุนฺธิตพฺพํ, ตํนิวารณจิตฺตํ ทฬฺหตรํ กาตพฺพํ. โสตํ ปจฺฉินฺทิตพฺพนฺติ ตตฺถ วีติกฺกมปฺปวตฺติ ปจฺฉินฺทิตพฺพา. ครุกภาเวติ อกปฺปิยภาเว. สุตฺตวินิจฺฉยการเณหีติ สุตฺเตน อฏฺกถาวินิจฺฉเยน จ ลทฺธการเณหิ. เอวนฺติอาทิ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส นิคมนวจนํ. อติเรกการณนฺติ สุตฺตาทีสุ ปุริมํ ปุริมํ อติเรกการณํ นาม, พหุการณํ วา.
วาจุคฺคตนฺติ ¶ วาจาย อุคฺคตํ, ตตฺถ นิรนฺตรํ ิตนฺติ อตฺโถ. ‘‘สุตฺตํ นาม สกลํ วินยปิฏก’’นฺติ วุตฺตตฺตา ปุน สุตฺตโตติ ตทตฺถปฏิปาทกํ สุตฺตาภิธมฺมปาฬิวจนํ อธิปฺเปตํ. อนุพฺยฺชนโตติ อิมสฺส วิวรณํ ปริปุจฺฉโต จ อฏฺกถาโต จาติ. ตตฺถ ปริปุจฺฉาติ อาจริยสฺส สนฺติกา ปาฬิยา อตฺถสวนํ. อฏฺกถาติ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย. ตทุภยมฺปิ หิ ปาฬึ อนุคนฺตฺวา อตฺถสฺส พฺยฺชนโต ‘‘อนุพฺยฺชน’’นฺติ วุตฺตํ. วินเยติ วินยาจาเร, เตเนว วกฺขติ วินยํ อวิชหนฺโต อโวกฺกมนฺโตติอาทิ. ตตฺถ ปติฏฺานํ นาม สฺจิจฺจ อาปตฺติยา อนาปชฺชนาทิ โหตีติ อาห ‘‘ลชฺชีภาเวน ปติฏฺิโต’’ติ, เตน ลชฺชี โหตีติ วุตฺตํ โหติ. วินยธรสฺส ลกฺขเณ วตฺตพฺเพ กึ อิมินา ลชฺชีภาเวนาติ อาห อลชฺชี หีติอาทิ. ตตฺถ พหุสฺสุโตปีติ อิมินา ปมลกฺขณสมนฺนาคมํ ทสฺเสติ. ลาภครุตายาติอาทินา วินเย ิตตาย อภาเว ปมลกฺขณโยโค กิจฺจกโร น โหติ, อถ ¶ โข อกิจฺจกโร อนตฺถกโร เอวาติ ทสฺเสติ. สงฺฆเภทสฺส ปุพฺพภาโค กลโห สงฺฆราชิ.
วิตฺถุนตีติ วิตฺถมฺภติ, นิตฺถุนติ วา สนฺติฏฺิตุํ น สกฺโกติ, เตนาห ยํ ยนฺติอาทิ. อาจริยปรมฺปราติ อาจริยานํ วินิจฺฉยปรมฺปรา, เตเนว วกฺขติ ‘‘อตฺตโน มตึ ปหาย…เป… ยถา อาจริโย จ อาจริยาจริโย จ ปาฬิฺจ ปริปุจฺฉฺจ วทนฺติ, ตถา าตุํ วฏฺฏตี’’ติ. น หิ อาจริยานํ นามมตฺตโต ปรมฺปราชานเน ปโยชนมตฺถิ. ปุพฺพาปรานุสนฺธิโตติ ปุพฺพวจนสฺส อปรวจเนน สห อตฺถสมฺพนฺธชานนโต. อตฺถโตติ ปทตฺถปิณฺฑตฺถอธิปฺเปตตฺถาทิโต. การณโตติ ตทตฺถุปปตฺติโต. เถรวาทงฺคนฺติ เถรวาทปฏิปาฏึ, เตสํ วินิจฺฉยปฏิปาฏินฺติ อตฺโถ.
อิเมหิ จ ปน ตีหิ ลกฺขเณหีติ เอตฺถ ปเมน ลกฺขเณน วินยสฺส สุฏฺุ อุคฺคหิตภาโว วุตฺโต. ทุติเยนสฺส ลชฺชีภาเวน เจว อจลตาย จ ปติฏฺิตตา. ตติเยน ปาฬิอฏฺกถาสุ อนุรูเปน อนาคตมฺปิ ตทนุโลมโต อาจริเยหิ ทินฺนนยโต วินิจฺฉินิตุํ สมตฺถตา. โอติณฺเณ วตฺถุสฺมินฺติ โจทนาวเสน วีติกฺกมวตฺถุสฺมึ สงฺฆมชฺเฌ โอติณฺเณ. โจทเกน จุทิตเกน จ วุตฺเต วตฺตพฺเพติ เอวํ โอติณฺเณ วตฺถุํ นิสฺสาย โจทเกน ‘‘ทิฏฺํ สุต’’นฺติอาทินา จุทิตเกน ‘‘อตฺถิ นตฺถี’’ติอาทินา จ ยํ วตฺตพฺพํ, ตสฺมึ วตฺตพฺเพ วุตฺเตติ อตฺโถ. ถุลฺลจฺจยทุพฺภาสิตานํ มาติกาย อนาคตตฺตา ‘‘ปฺจนฺนํ อาปตฺตีน’’นฺติ วุตฺตํ. ติกทุกฺกฏนฺติ ‘‘อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี อุชฺฌายติ วา ขียติ วา อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๑๐๖ โถกํ วิสทิสํ) อาคตํ ติกทุกฺกฏํ. อฺตรํ วา อาปตฺตินฺติ ‘‘กาเล วิกาลสฺี อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส, กาเล เวมติโก อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิกํ (ปาจิ. ๒๕๐) ทุกทุกฺกฏํ ¶ สนฺธาย วุตฺตํ. อนฺตราปตฺตินฺติ ตสฺมึ ตสฺมึ สิกฺขาปเท อาคตวตฺถุวีติกฺกมํ วินา อฺสฺมึ วตฺถุวีติกฺกเม นิทานโต ปภุติ วินีตวตฺถุปริโยสานา อนฺตรนฺตรา วุตฺตํ อาปตฺตึ. อิธ ปน ‘‘วตฺถุํ โอโลเกตี’’ติ วิสุํ คหิตตฺตา ตทวเสสา อนฺตราปตฺตีติ คหิตา. ปฏิลาตํ อุกฺขิปตีติ อิทํ วิสิพฺพนสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๓๕๐-๓๕๑) อาคตํ. ตตฺถ ฑยฺหมานํ อลาตํ อคฺคิกปาลาทิโต พหิ ปติตํ อวิชฺฌาตเมว ปฏิอุกฺขิปติ ¶ , ปุน ยถาาเน เปตีติ อตฺโถ. วิชฺฌาตํ ปน ปกฺขิปนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว. อนาปตฺตินฺติ เอตฺถ อนฺตรนฺตรา วุตฺตา อนาปตฺติปิ อตฺถิ, ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, อิทฺธิมสฺส อิทฺธิวิสเย’’ติอาทิ (ปารา. ๑๕๙) วิย สาปิ สงฺคยฺหติ.
ปาราชิกาปตฺตีติ น ตาว วตฺตพฺพนฺติ อิทํ อาปนฺนปุคฺคเลน ลชฺชีธมฺเม ตฺวา ยถาภูตํ อาวิกรเณปิ ทุพฺพินิจฺฉยํ อทินฺนาทานาทึ สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ ปน เมถุนาทีสุ วิชานนํ, ตํ วตฺตพฺพเมว, เตนาห เมถุนธมฺมวีติกฺกโม หีติอาทิ. โย ปน อลชฺชิตาย ปฏิฺํ อทตฺวา วิกฺเขปํ กโรติ, ตสฺส อาปตฺติ น สกฺกา โอฬาริกาปิ วินิจฺฉินิตุํ, ยาว โส ยถาภูตํ นาวิ กโรติ, สงฺฆสฺส จ อาปตฺติสนฺเทโห น วิคจฺฉติ, ตาว นาสิตโกว ภวิสฺสติ. สุขุมาติ จิตฺตปริวตฺติยา สุขุมตาย สุขุมา. เตนาห ‘‘จิตฺตลหุกา’’ติ, จิตฺตํ ตสฺส ลหุกนฺติ อตฺโถ. เตติ วีติกฺกเม. ตํวตฺถุกนฺติ อทินฺนาทานาทิมูลกํ. ยํ อาจริโย ภณติ, ตํ กโรหีติอาทิ สพฺพํ ลชฺชีเปสลํ กุกฺกุจฺจกเมว สนฺธาย วุตฺตํ. โย ยาถาวโต ปกาเสตฺวา สุทฺธิเมว คเวสติ, เตนาปิ, ปาราชิโกสีติ น วตฺตพฺโพติ อนาปตฺติโกฏิยาปิ สงฺกิยมานตฺตา วุตฺตํ, เตเนว ‘‘ปาราชิกจฺฉายา’’ติ วุตฺตํ. สีลานิ โสเธตฺวาติ ยสฺมึ วีติกฺกเม ปาราชิกาสงฺกา วตฺตติ, ตตฺถ ปาราชิกาภาวปกฺขํ คเหตฺวา เทสนาวุฏฺานคามินีนํ อาปตฺตีนํ โสธนวเสน สีลานิ โสเธตฺวา. ทฺวตฺตึสาการนฺติ ปากฏภาวโต อุปลกฺขณวเสน วุตฺตํ, ยํ กิฺจิ อภิรุจิตํ มนสิกาตุํ วฏฺฏเตว. กมฺมฏฺานํ ฆฏิยตีติ วิปฺปฏิสารมูลเกน วิกฺเขเปน อนฺตรนฺตรา ขณฺฑํ อทสฺเสตฺวา ปพนฺธวเสน จิตฺเตน สงฺฆฏิยติ. สงฺขาราติ วิปสฺสนากมฺมฏฺานวเสน วุตฺตํ. สาปตฺติกสฺส หิ ปคุณมฺปิ กมฺมฏฺานํ น สุฏฺุ อุปฏฺาติ, ปเคว ปาราชิกสฺส. ตสฺส หิ วิปฺปฏิสารนินฺนตาย จิตฺตํ เอกคฺคํ น โหติ. เอกสฺส ปน วิตกฺกวิกฺเขปาทิพหุลสฺส สุทฺธสีลสฺสปิ จิตฺตํ น สมาธิยติ, ตํ อิธ ปาราชิกมูลกนฺติ น คเหตพฺพํ. กตปาปมูลเกน วิปฺปฏิสาเรเนเวตฺถ จิตฺตสฺส อสมาธิยนํ สนฺธาย ‘‘กมฺมฏฺานํ น ฆฏิยตี’’ติ วุตฺตํ, เตนาห วิปฺปฏิสารคฺคินาติอาทิ. อตฺตนาติ จิตฺเตน กรณภูเตน ปุคฺคโล กตฺตา ชานาติ, ปจฺจตฺเต วา กรณวจนํ, อตฺตา สยํ ปชานาตีติ อตฺโถ.
จตุพฺพิธวินยาทิกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
ปทภาชนียวณฺณนา
โย ¶ ¶ วิย ทิสฺสตีติ ยาทิโส, ยํ-สทฺทตฺเถ ยถา-สทฺโท วตฺตตีติ อาห ‘‘เยน วา เตน วา ยุตฺโต’’ติ. เยน เตนาติ หิ ปททฺวเยน อนิยมโต ยํ-สทฺทตฺโถว ทสฺสิโต. วาสธุรยุตฺโตติ วิปสฺสนาธุรยุตฺโต. ยา ชาติ อสฺสาติ ยํชาติ, ปุคฺคโล, โสว ยํชจฺโจ สกตฺเถ ยปจฺจยํ กตฺวา. โคตฺตวเสน เยน วา เตน วา โคตฺเตน ยถาโคตฺโต วา ตถาโคตฺโต วา โหตูติ สมฺพนฺโธ. สีเลสูติ ปกตีสุ. อถ โขติ อิทํ กินฺตูติ อิมสฺมึ อตฺเถ. กึ วุตฺตํ โหตีติ อตฺโถ. อิมสฺมึ อตฺเถติ อิมสฺมึ ปาราชิกวิสเย. เอโสติ ยถาวุตฺเตหิ ปกาเรหิ ยุตฺโต. อริยายาติ ‘‘อุทฺทิสฺส อริยา ติฏฺนฺติ, เอสา อริยานํ ยาจนา’’ติ เอวํ วุตฺตาย, น, ‘‘เทหิ เม’’ติ กปณาย. ลิงฺคสมฺปฏิจฺฉเนนาติ ‘‘ภิกฺขํ จริสฺสามี’’ติ จิตฺตาภาเวปิ ภิกฺขาหารนิสฺสิตปพฺพชฺชาลิงฺคสฺส สมฺปฏิจฺฉเนน. กาชภตฺตนฺติ กาเชหิ อานีตภตฺตํ. อธมฺมิกายาติ อธิสีลสิกฺขาทิภิกฺขุคุณาภาวโต วุตฺตํ, เตนาห ‘‘อภูตายา’’ติ. ‘‘มยํ ภิกฺขู’’ติ วทนฺตา ปฏิฺามตฺเตเนว ภิกฺขู, น อตฺถโตติ อตฺโถ. อิทฺจ ‘‘มยํ ภิกฺขู’’ติ ปฏิชานนสฺสาปิ สมฺภวโต วุตฺตํ. ‘‘มยํ ภิกฺขู’’ติ อปฺปฏิชานนฺตาปิ หิ ภิกฺขุโวหารนิมิตฺตสฺส ลิงฺคสฺส คหเณน เจว ภิกฺขูนํ ทินฺนปจฺจยภาคคฺคหณาทินา จ ภิกฺขุปฏิฺา เอว นาม โหนฺติ. ตถา หิ วุตฺตํ ปุคฺคลปฺตฺติอฏฺกถายํ –
‘‘‘อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ’ติ อฺเ พฺรหฺมจาริโน สุนิวตฺเถ สุปารุเต สุมฺภกปตฺตธเร คามนิคมชนปทราชธานีสุ ปิณฺฑาย จริตฺวา ชีวิกํ กปฺเปนฺเต ทิสฺวา สยมฺปิ ตาทิเสน อากาเรน ตถา ปฏิปชฺชนโต ‘อหํ พฺรหฺมจารี’ติ ปฏิฺํ เทนฺโต วิย โหติ. ‘อหํ ภิกฺขู’ติ วตฺวา อุโปสถคฺคาทีนิ ปวิสนฺโต ปน พฺรหฺมจาริปฏิฺโ โหติเยว, ตถา สงฺฆิกํ ลาภํ คณฺหนฺโต’’ติ (ปุ. ป. อฏฺ. ๙๑).
ตสฺมา เอวรูเปหิ ปฏิฺาย ภิกฺขูหิ โคตฺรภุปริโยสาเนหิ สทฺธึ สมฺโภคปริโภโค น วฏฺฏติ, อลชฺชีปริโภโคว โหติ. สฺจิจฺจ อาปตฺติอาปชฺชนาทิอลชฺชีลกฺขณํ ปน อุกฺกฏฺานํ ภิกฺขูนํ วเสน วุตฺตํ สามเณราทีนมฺปิ ¶ อลชฺชีโวหารทสฺสนโต. ‘‘อลชฺชีสามเณเรหิ หตฺถกมฺมมฺปิ น กาเรตพฺพ’’นฺติ หิ วุตฺตํ. ยถาวิหิตปฏิปตฺติยํ อติฏฺนฺหิ สพฺพสาธารณํ อลชฺชีลกฺขณํ. ทุสฺสีลา ลิงฺคคฺคหณโต ปฏฺาย ยถาวิหิตปฏิปตฺติยา อภาวโต เอกนฺตา ลชฺชิโนว มหาสงฺฆิกาทินิกายนฺตริกา วิย, ลิงฺคตฺเถนกาทโย วิย, จ. ยาว ๑๑ จ เตสํ ภิกฺขุปฏิฺา อนุวตฺตติ, ตาว ภิกฺขุ เอว, เตหิ จ ปริโภโค อลชฺชิปอโภโคว, เตสฺจ ภิกฺขุสงฺฆสฺาย ทินฺนํ สงฺเฆ ทินฺนํ นาม โหติ. วุตฺตฺหิ ภควตา –
‘‘ภวิสฺสนฺติ โข ปนานนฺท, อนาคตมทฺธานํ โคตฺรภุโน กาสาวกณฺา ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา, เตสุ ทุสฺสีเลสุ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ทานํ ทสฺสนฺติ, ตทาปาหํ, อานนฺท, สงฺฆคตํ ทกฺขิณํ อสงฺขฺเยยฺยํ อปฺปเมยฺยํ วทามี’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๘๐).
ภควโต สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ทินฺนตฺตา ทกฺขิณา อสงฺขฺเยยฺยา อปฺปเมยฺยา ชาตา. ทุสฺสีลานํ ทินฺนตฺตา นาติ เจ? น, เตสุ สงฺฆํ อุทฺทิสฺสาติ โคตฺรภูนํ ปฏิคฺคาหกตฺเตน ปรามฏฺตฺตา, อิตรถา ‘‘เยสุ เกสุจิ คหฏฺเสุ วา ปพฺพชิเตสุ วา สงฺฆํ อุทฺทิสฺสา’’ติ วตฺตพฺพตาปสงฺคโต, ตถา จ ‘‘ตทาปาหํ, อานนฺทา’’ติ เหฏฺิมโกฏิทสฺสนสฺส ปโยชนํ น สิยา. ตสฺมา โคตฺรภูนมฺปิ อภาเว สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ทานํ นตฺถิ, เหฏฺิมโกฏิยา เตสุปิ ทินฺนา สงฺฆคตา ทกฺขิณา อสงฺขฺเยยฺยา, น ตโต ปรํ สิชฺฌตีติ เตปิ ปฏิฺาย ภิกฺขุ เอวาติ คเหตพฺพํ.
พฺรหฺมโฆสนฺติ อุตฺตมโฆสํ, พฺรหฺมุโน โฆสสทิสํ วา โฆสํ. เอหิ ภิกฺขูติ ‘‘ภิกฺขู’’ติสมฺโพธนํ. สํสาเร ภยอิกฺขก ตสฺส ภยสฺส สพฺพโส วินาสนตฺถํ ติสรณํ, สาสนํ วา เอหิ มนสา ‘‘ตาณํ เลณ’’นฺติ ปวิส อุปคจฺฉ. อุปคนฺตฺวาปิ จร พฺรหฺมจริยนฺติ สาสนพฺรหฺมจริยํ มคฺคพฺรหฺมจริยฺจ จรสฺสุ. ภณฺฑูติ มุณฺฑิตเกโส. วาสีติ ทนฺตกฏฺาทิจฺเฉทนวาสิ. พนฺธนนฺติ กายพนฺธนํ. ยุตฺโต โยโค สมาธิปฺาวเสน โส ยุตฺตโยโค, ตสฺส อฏฺเเต ปริกฺขาราติ เสโส. สรีเร ปฏิมุกฺเกหิเยว อุปลกฺขิโตติ เสโส. ‘‘ตีณิ สตานี’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธสุขตฺถํ ‘‘ตีณิ สต’’นฺติ วุตฺตํ.
ตสฺมาติ ¶ ภควา เหฏฺา วุตฺตํ ปรามสติ. เหฏฺา หิ ‘‘อหํ โข ปน, กสฺสป, ชานฺเว วทามิ ‘ชานามี’ติ, ปสฺสฺเว วทามิ ‘ปสฺสามี’’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔) วุตฺตํ, ตํ ปรามสติ, ยสฺมา อหํ ชานํ วทามิ, ตสฺมาติ อตฺโถ. อิหาติ อิมสฺมึ สาสเน. ติพฺพนฺติ มหนฺตํ. ปจฺจุปฏฺิตํ ภวิสฺสตีติ เถราทิอุปสงฺกมนโต ปุเรตรเมว เตสุ ยํนูน เม หิโรตฺตปฺปํ อุปฏฺิตํ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. กุสลูปสํหิตนฺติ อนวชฺชธมฺมนิสฺสิตํ. อฏฺึ กตฺวาติ อตฺตานํ เตน ธมฺเมน อฏฺิกํ กตฺวา, ตํ วา ธมฺมํ ‘‘เอส เม อตฺโถ’’ติ อตฺถํ กตฺวา. โอหิตโสโตติ ธมฺเม นิหิตโสโต. เอวฺหิ เต, กสฺสป, สิกฺขิตพฺพนฺติ าณโสตฺจ ปสาทโสตฺจ โอทหิตฺวา ‘‘ธมฺมํ สกฺกจฺจเมว สุณิสฺสามี’’ติ เอวเมว ตยา สิกฺขิตพฺพํ. สาตสหคตา จ เม กายคตาสตีติ ¶ อสุเภสุ เจว อานาปาเน จ ปมชฺฌานวเสน สุขสมฺปยุตฺตกายคตาสติ. ยํ ปเนตสฺส โอวาทสฺส สกฺกจฺจปฏิคฺคหณํ, อยเมว เถรสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ อโหสิ (สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๑๕๔).
อุทฺธุมาตกปฏิภาคารมฺมณํ ฌานํ อุทฺธุมาตกสฺา. กสิณารมฺมณํ รูปาวจรชฺฌานํ รูปสฺา. อิเมติ สฺาสีเสน นิทฺทิฏฺา อิเม ทฺเว ฌานธมฺมา. โสปาโก จ ภควตา ปุฏฺโ ‘‘รูปาวจรภาเวน เอกตฺถา, พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ อาห. อารทฺธจิตฺโตติ อาราธิตจิตฺโต. ครุธมฺมปฏิคฺคหณาทิอุปสมฺปทา อุปริ สยเมว อาวิ ภวิสฺสติ.
สพฺพนฺติเมน ปริยาเยนาติ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน. ตฺติจตุตฺถา กมฺมวาจา อุปสมฺปทากมฺมสฺส การณตฺตา านํ, ตสฺส านสฺส อรหํ อนุจฺฉวิกนฺติ วตฺถุโทสาทิวินิมุตฺตกมฺมํ ‘‘านารห’’นฺติ วุตฺตํ วตฺถาทิโทสยุตฺตสฺส กมฺมสฺส สภาวโต กมฺมวาจารหตฺตาภาวา. อถ วา านนฺติ นิพฺพานปฺปตฺติเหตุโต สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สาสนํ วุจฺจติ, ตสฺส อนุจฺฉวิกํ กมฺมํ านารหํ. ยถาวิหิตลกฺขเณน หิ กมฺเมน อุปสมฺปนฺโนว สกลํ สาสนํ สมาทาย ปริปูเรตุมรหติ. ตสฺมา ปริสุทฺธกมฺมวาจาปริโยสานํ สพฺพํ สงฺฆกิจฺจํ านารหํ นาม, เตนาห ‘‘สตฺถุสาสนารเหนา’’ติ, สีลาทิสกลสาสนปริปุณฺณสฺส อนุจฺฉวิเกนาติ อตฺโถ. อยํ อิมสฺมึ อตฺเถติ ตฺติจตุตฺถกมฺเมน อุปสมฺปนฺนสฺเสว สพฺพสิกฺขาปเทสุ วุตฺตตฺตา กิฺจาปิ เอหิภิกฺขูปสมฺปทาทีหิ อุปสมฺปนฺนานํ สุทฺธสตฺตานํ ปณฺณตฺติวชฺชสิกฺขาปทวีติกฺกเมปิ อภพฺพตา วา โทสาภาโว วา ¶ สทฺทโต ปฺายติ, ตถาปิ อตฺถโต เตสมฺปิ ปณฺณตฺติวชฺเชสุ, โลกวชฺเชสุปิ วา สุราปานาทิลหุเกสุ มคฺคุปฺปตฺติโต ปุพฺเพ อสฺจิจฺจาทินา อาปตฺติอาปชฺชนํ สิชฺฌติเยว. ตถา หิ ‘‘ทฺเว ปุคฺคลา อภพฺพา อาปตฺตึ อาปชฺชิตุํ พุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ. ทฺเว ปุคฺคลา ภพฺพา อาปตฺตึ อาปชฺชิตุํ ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จา’’ติ (ปริ. ๓๒๒) วุตฺตํ. ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน อุปสมฺปนฺโนติ อิทํ ปน สพฺพสิกฺขาปทวีติกฺกมารเห สพฺพกาลิเก จ ภิกฺขู คเหตฺวา เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ. นิรุตฺติวเสนาติ นิพฺพจนวเสน. อภิลาปวเสนาติ โวหารวเสน. คุณวเสนาติ ภิกฺขุโวหารนิมิตฺตานํ คุณานํ วเสน.
สาชีวปทภาชนียวณฺณนา
วิวฏฺฏูปนิสฺสยา สีลาทโย โลกิเยหิ อภิวิสิฏฺตฺตา อธิสีลาทิโวหาเรน วุตฺตาติ ทสฺเสตุํ ¶ กตมํ ปนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ปฺจงฺคทสงฺคสีลนฺติ อพุทฺธุปฺปาทกาเล สีลํ สนฺธาย วุตฺตํ ตสฺส วิวฏฺฏูปนิสฺสยตฺตาภาวา. ยํ ปน พุทฺธุปฺปาเท รตนตฺตยคุณํ ตถโต ตฺวา สาสเน สุนิวิฏฺสทฺธาหิ อุปาสโกปาสิกาหิ เจว สามเณรสิกฺขมานาหิ จ รกฺขิยมานํ ปฺจงฺคอฏฺงฺคทสงฺคสีลํ, ตมฺปิ อธิสีลเมว มคฺคุปฺปตฺติเหตุโต. วิปสฺสนามคฺคุปฺปตฺตินิมิตฺตตาย หิ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ โลกิยานํ สีเลหิ อธิสีลํ ชาตํ อธิจิตฺตํ วิย. น หิ วิปสฺสนามคฺคนิมิตฺตตํ มฺุจิตฺวา โลกิยจิตฺตโต อธิจิตฺตสฺส อฺโ โกจิ วิเสโส อุปลพฺภติ, ตทุภยฺจ อนาทิมโต สํสารวฏฺฏสฺส อตฺตาทิสารวิรหิตตาย ติลกฺขณพฺภาหตตฺตํ, ‘‘อหํ มมา’’ติ อากาเรน ปวตฺตอวิชฺชาตณฺหาทิโทสมูลกตฺตฺจ, ตํโทสมูลวิทฺธํสนสมตฺถาย สีลจิตฺตพโลปตฺถทฺธาย วิปสฺสนาย อุกฺกํเสเนว ตสฺส สํสารวฏฺฏสฺส วิคมฺจ, ตทุปเทสกสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สพฺพฺุตาทิอปริมิตคุณคณโยเคน อวิปรีตสทฺธมฺมเทสกตฺตฺจ ยาถาวโต ตฺวา ปฏิปนฺเนน สมาทาย สิกฺขิตพฺพตาย วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ ชาตํ, น อฺเน การเณน, ตฺจ วิวฏฺฏูปนิสฺสยตฺตํ ยทิ สาสเน ปฺจสีลาทิสฺสาปิ สมานํ, กิมิทํ อธิสีลํ น สิยา. ปฺจสีลาทิมตฺเต ิตานฺหิ อนาถปิณฺฑิกาทีนํ คหฏฺานมฺปิ มคฺโค อุปฺปชฺชติ. น หิ อธิสีลาธิจิตฺตํ วินา มคฺคุปฺปตฺติ โหติ, ตฺจ กิฺจาปิ เกสฺจิ ¶ อนุปนิสฺสยตาย ตสฺมึ อตฺตภาเว มคฺคุปฺปตฺติยา เหตุ น โหติ, ตถาปิ ภวนฺตเร อวสฺสํ โหเตวาติ อธิสีลเมว กาลํ กโรนฺตานํ กลฺยาณปุถุชฺชนานํ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ วิย, เตนาห พุทฺธุปฺปาเทเยว จ ปวตฺตตีติอาทิ. วิวฏฺฏํ ปตฺเถตฺวา รกฺขิยมานมฺปิ ปฺจสีลาทิ พุทฺธุปฺปาเทเยว ปวตฺตติ. น หิ ตํ ปฺตฺตินฺติอาทิ ปน อุกฺกฏฺวเสน สพฺพํ ปาติโมกฺขํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตเทกเทสภูตมฺปิ หิ ปาณาติปาตาทินฺนาทานาทิคหฏฺสีลมฺปิ. พุทฺธาเยว วินเย ปาราชิกสุตฺตวิภงฺคาทีสุ อาคตวเสน สพฺพโส กายวจีทฺวาเรสุ มคฺคุปฺปตฺติยา วิพนฺธกอชฺฌาจารโสตํ วิจฺฉินฺทิตฺวา มคฺคุปฺปตฺติยา ปทฏฺานภาเวน ปฺเปตุํ สกฺโกนฺติ, น อฺเ. มคฺคุปฺปตฺตึ สนฺธาย หิสฺส อธิสีลตา วุตฺตา. เตนาห ‘‘ปาติโมกฺขสํวรโตปิ จ มคฺคผลสมฺปยุตฺตเมว สีลํ อธิสีล’’นฺติ. ตสฺเสว หิ อธิสีลนฺติ อพฺยวธาเนน มคฺคาธิฏฺานาติ. อิธ อนธิปฺเปตนฺติ อิมสฺมึ ปมปาราชิกวิสเย ‘‘สิกฺขา’’ติ อนธิปฺเปตํ.
โลกิยอฏฺสมาปตฺติจิตฺตานีติ สาสนสภาวํ อชานนฺเตหิ โลกิยชเนหิ สมาปชฺชิตพฺพานิ อฏฺ รูปารูปชฺฌานสมฺปยุตฺตจิตฺตานิ สนฺธาย วุตฺตํ. น หิ มหคฺคเตสุ โลกิยโลกุตฺตรเภโท อตฺถิ, เยน โลกิยวิเสสนํ โลกุตฺตรนิวตฺตนํ สิยา. ตสฺมา สาสนิเกหิ สมาปชฺชิตพฺพมหคฺคตชฺฌานนิวตฺตนเมว โลกิยวิเสสนํ กตํ. ยถา เจตฺถ, เอวํ กามาวจรานิ ปน อฏฺ กุสลจิตฺตานีติ เอตฺถาปิ โลกิยวิเสสนํ กาตพฺพเมว. อยเมว หิ อธิจิตฺตโต ¶ จิตฺตสฺส เภโท, ยํ สาสนํ อชานนฺตสฺส ปุคฺคลสฺส สมุปฺปชฺชนํ. เอวฺจ อพุทฺธุปฺปาเทปิ สาสนสภาวํ ชานนฺตานํ ปจฺเจกพุทฺธาทีนมฺปิ สีลจิตฺตานํ อธิสีลาธิจิตฺตตา สมตฺถิตา โหติ. น วินา พุทฺธุปฺปาทาติ อิทํ ปน อฺเสํ อภิสมยเหตุภาเวน ปจฺเจกพุทฺธโพธิสตฺตาทีนํ เทสนาสามตฺถิยาภาวโต วุตฺตํ. อายตึ วาสนาเหตุํ ปน สีลจิตฺตํ เตปิ เทเสนฺติเยว, ตฺจ มคฺคเหตุตาย อธิสีลาธิจิตฺตมฺปิ โหนฺตํ อปฺปกตาย วิปฺผาริกตาพาหุชฺตฺตาภาเวน อพฺโพหาริกนฺติ ‘‘พุทฺธุปฺปาเทเยวา’’ติ อวธารณํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. น หิ ตํสมาปนฺโนติอาทิอฏฺกถาวจเนหิ อิธ อธิจิตฺตนิทฺเทเส, อุปริ อธิปฺานิทฺเทเส จ มคฺคผลสมฺปยุตฺตอธิจิตฺตอธิปฺานเมว ปฏิกฺเขปโต โลกิยาธิจิตฺตาธิปฺานํ ¶ อิธ อธิปฺเปตตา, ตํ ทฺวยํ สมาปนฺนสฺสาปิ เมถุนธมฺมสมาปชฺชนสภาโว จ วิฺายติ, ปาฬิยํ ปน ‘‘ยายํ อธิสีลสิกฺขา, อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปตา สิกฺขา’’ติ วุตฺตตฺตา โลกิยาปิ อธิจิตฺตาธิปฺา อนธิปฺเปตาติ วิฺายติ. ตสฺมา ปาฬิยํ อฏฺกถายฺจ เอวมธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ – ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิสฺสามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺนมตฺเต โลกิยํ อธิจิตฺตํ อธิปฺา จ ปริหายติ, อธิสีลํ ปน จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน น ปริหายตีติ ปาฬิยํ อธิสีลสิกฺขาว วุตฺตา. อฏฺกถายํ ปน ปฏิลทฺธโลกุตฺตรมคฺคสฺส ภิกฺขุโน ‘‘เมถุนํ ปฏิเสวิสฺสามี’’ติ จิตฺตมฺปิ น อุปฺปชฺชติ สพฺพโส อกุปฺปธมฺมตฺตา, ปุถุชฺชนานํ สมาปตฺติลาภีนมฺปิ เกนจิ การเณน อุปฺปชฺชติ กุปฺปธมฺมตฺตาติ อิมํ วิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘น หิ ตํสมาปนฺโน’’ติ โลกุตฺตราว ปฏิกฺขิตฺตาติ เวทิตพฺพํ.
อตฺถิ ทินฺนนฺติ เอตฺถ ทินฺนนฺติ ทานเจตนา อธิปฺเปตา, ตสฺส ทินฺนสฺส ผลํ อตฺถีติ อตฺโถ. เอส นโย อตฺถิ ยิฏฺนฺติ เอตฺถาปิ. อาทิ-สทฺเทน หุตาทีนํ สงฺคโห. ตตฺถ ยิฏฺนฺติ มหายาโค สพฺพสาธารณํ มหาทานเมว. หุตนฺติ ปโหนกสกฺกาโร, อตฺตโน วา โหตุ, ปเรสํ วา ทส อกุสลกมฺมปถา, สพฺเพปิ วา อกุสลา ธมฺมา อนตฺถุปฺปาทนโต น สกํ กมฺมํ นาม, ตพฺพิปรีตา กุสลา ธมฺมา สกํ นาม, ตทุภยมฺปิ วา กุสลากุสลํ กมฺมสฺสโกมฺหีติอาทิวจนโต สติ สํสารปฺปวตฺติยํ อธิมุจฺจนฏฺเน สตฺตานํ สกนฺติ เอวํ กมฺมสฺสกตาย สกภาเว อตฺตโน สนฺตกตาย อุปฺปชฺชนกาณํ กมฺมสฺสกตฺาณํ, อุปลกฺขณมตฺตฺเจตํ. สาสนนิสฺสิตา ปน สพฺพาปิ วฏฺฏคามินิกุสลปฺา กมฺมสฺสกตฺาเณ ปวิฏฺา. สาสนนิสฺสิตา หิ วิวฏฺฏคามินี สพฺพาปิ ปฺา ‘‘สจฺจานุโลมิกาณ’’นฺติ วุจฺจติ. สา เอว จ อธิปฺา ตทวเสสํ สพฺพํ กมฺมสฺสกตฺาณนฺติ เวทิตพฺพํ, เตเนว ภควา ‘‘กมฺมสฺสกตฺาณํ สจฺจานุโลมิกาณํ มคฺคสมงฺคิสฺส าณํ ผลสมงฺคิสฺส าณ’’นฺติ สพฺพมฺปิ าณจตุกฺเกเยว สงฺคเหสิ. ติลกฺขณาการปริจฺเฉทกํ ปน วิปสฺสนาาณนฺติ อิทํ ปน มคฺคสฺส ¶ อาสนฺนปจฺจยตาย อุกฺกฏฺวเสน วุตฺตํ. ตทิตราสฺหิ รตนตฺตยานุสฺสรณาทิปฺานมฺปิ มคฺคเหตุตาย อธิปฺตา สมานาวาติ คเหตพฺพํ.
สาชีวปทภาชนียวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
ปจฺจกฺขานวิภงฺควณฺณนา
ทุพฺพลฺเย ¶ อาวิกเตติ ยํนูนาหํ พุทฺธํ ปจฺจกฺเขยฺยนฺติอาทินา ทุพฺพลภาเว ปกาสิเต. มุขารุฬฺหตาติ โลกชนานํ สตฺตฏฺาติอาทีสุ มุขารุฬฺหาเยนาติ อธิปฺปาโย. ทิรตฺตติรตฺตนฺติ (ปาจิ. ๕๒) เอตฺถ ยถา อนฺตรนฺตรา สหเสยฺยาวเสน ติรตฺตํ อคฺคเหตฺวา นิรนฺตรเมว ติสฺโส รตฺติโย อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ สหเสยฺยาย อรุณุฏฺาปนวเสน ติรตฺตคฺคหณตฺถํ ‘‘ทิรตฺตติรตฺต’’นฺติ อพฺยวธาเนน วุตฺตนฺติ ทิรตฺตคฺคหณสฺส ปโยชนมฺปิ สกฺกา คเหตุํ, เอวมิธาปิ ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวาติ อิมสฺสาปิ คหณสฺส ปโยชนมตฺเถวาติ ทสฺเสตุํ ยสฺมา วา สิกฺขาปจฺจกฺขานสฺสาติอาทิ วุตฺตํ.
อิทานิ ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวาติ อิมสฺส ปุริมปทสฺเสว วิวรณภาวํ วินาปิ วิสุํ อตฺถสพฺภาวํ ทสฺเสตุํ อปิจาติอาทิ วุตฺตํ. วิเสสาวิเสสนฺติ เอตฺถ เยน วากฺเยน ทุพฺพลฺยาวิกมฺมเมว โหติ, น สิกฺขาปจฺจกฺขานํ, ตตฺถ สิกฺขาปจฺจกฺขานทุพฺพลฺยาวิกมฺมานํ อฺมฺํ วิเสโส โหติ. เยน ปน วจเนน ตทุภยมฺปิ โหติ, ตตฺถ เนวตฺถิ วิเสโส อวิเสโสปิ, ตํ วิเสสาวิเสสํ. ‘‘ก กิจฺฉชีวเน’’ติ ธาตูสุ ปิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘กิจฺฉชีวิกปฺปตฺโต’’ติ. อุกฺกณฺนฺหิ อุกฺกณฺา, ตํ อิโต คโตติ อุกฺกณฺิโต, กิจฺฉชีวิกํ ปตฺโตติ อตฺโถ. อุทฺธํ คโต กณฺโ เอติสฺสาติ อุกฺกณฺา, อนภิรติยา วเช นิรุทฺธโคคโณ วิย คมนมคฺคํ คเวสนฺโต ปุคฺคโล อุกฺกณฺโ โหติ, ตํ อุกฺกณฺํ. อนภิรตึ อิโตติปิ อุกฺกณฺิโตติ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘อุทฺธํ กณฺํ กตฺวา วิหรมาโน’’ติ. สา จ อุกฺกณฺตา วิกฺเขเปเนวาติ วิกฺขิตฺโตติอาทิ วุตฺตํ.
สมณภาวโตติ อุปสมฺปทโต. ภาววิกปฺปากาเรนาติ ภิกฺขุภาวโต จวิตฺวา ยํ ยํ คิหิอาทิภาวํ ปตฺตุกาโม ‘‘อหํ อสฺส’’นฺติ อตฺตโน ภวนํ วิกปฺเปติ, เตน เตน คิหิอาทิอากาเรน, อตฺตโน ภวนสฺส วิกปฺปนากาเรนาติ อธิปฺปาโย.
๔๖. ปาฬิยํ ¶ ยทิ ปนาหนฺติ อหํ ยทิ พุทฺธํ ปจฺจกฺเขยฺยํ, สาธุ วตสฺสาติ อตฺโถ. อปาหํ, หนฺทาหนฺติ เอตฺถาปิ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ คเหตพฺโพ. ‘‘โหติ เม พุทฺธํ ปจฺจกฺเขยฺย’’นฺติ มม จิตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ วทติ.
๕๐. น ¶ รมามีติ ปพฺพชฺชาย ทุกฺขพหุลตาย สุขาภาวํ ทสฺเสติ. นาภิรมามีติ ปพฺพชฺชาย วิชฺชมาเนปิ อนวชฺชสุเข อตฺตโน อภิรติอภาวํ ทสฺเสติ.
๕๑. เตเนว วจีเภเทนาติ วจีเภทํ กตฺวาปิ อฺเน กายปฺปโยเคน วิฺาปนํ นิวตฺเตติ. อยํ สาสนํ ชหิตุกาโมติอาทินา ภาสาโกสลฺลาภาเวน สพฺพโส ปทตฺถาวโพธาภาเวปิ ‘‘อยํ อตฺตโน ปพฺพชิตภาวํ ชหิตุกาโม อิมํ วากฺยเภทํ กโรตี’’ติ เอตฺตกํ อธิปฺเปตตฺถมตฺตํ เจปิ โส ตาว ชานาติ, ปจฺจกฺขานเมว โหตีติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘เอตฺตกมตฺตมฺปิ ชานาตี’’ติ. ปทปจฺฉาภฏฺนฺติ ปทปราวตฺติ, มาคธภาสโต อวสิฏฺา สพฺพาปิ ภาสา ‘‘มิลกฺขภาสา’’ติ เวทิตพฺพา. เขตฺตเมว โอติณฺณนฺติ สิกฺขาปจฺจกฺขานสฺส รุหนฏฺานภูตํ เขตฺตเมว โอติณฺณํ.
ทูตนฺติ มุขสาสนํ. สาสนนฺติ ปณฺณสาสนํ, ภิตฺติถมฺภาทีสุ อกฺขรํ วา ฉินฺทิตฺวา ทสฺเสติ. ปจฺจกฺขาตุกามตาจิตฺเต ธรนฺเตเยว วจีเภทสมุปฺปตฺตึ สนฺธาย ‘‘จิตฺตสมฺปยุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ, จิตฺตสมุฏฺานนฺติ อตฺโถ. นิยมิตานิยมิตวเสน วิชานนเภทํ ทสฺเสตุมาห ยทิ อยเมว ชานาตูติอาทิ. อยฺจ วิภาโค วทติ วิฺาเปตีติ เอตฺถ ยสฺส วทติ, ตสฺเสว วิชานนํ อธิปฺเปตนฺติ อิมินา วุตฺตนเยน ลทฺโธติ ทฏฺพฺพํ, น เหตฺถ เอกสฺส วทติ อฺสฺส วิฺาเปตีติ อยมตฺโถ สมฺภวติ. ‘‘เตสุ เอกสฺมึ ชานนฺเตปี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ทฺเวเยว ชานนฺตุ เอโก มา ชานาตู’’ติ เอวํ ทฺวินฺนมฺปิ ชนานํ นิยเมตฺวา อาโรจิเตปิ เตสุ เอกสฺมิมฺปิ ชานนฺเต ปจฺจกฺขานํ โหติเยวาติ คเหตพฺพํ. ปริสงฺกมาโนติ ‘‘วาเรสฺสนฺตี’’ติ อาสงฺกมาโน. สมยฺูติ สาสนสงฺเกตฺู, อิธ ปน อธิปฺปายมตฺตชานเนนาปิ สมยฺู นาม โหติ, เตนาห อุกฺกณฺิโตติอาทิ. ตสฺมา พุทฺธํ ปจฺจกฺขามีติอาทิเขตฺตปทานํ สพฺพโส อตฺถํ ตฺวาปิ สเจ ‘‘ภิกฺขุภาวโต จวิตุกามตาย เอส วทตี’’ติ อธิปฺปายํ น ชานาติ, อปฺปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. อตฺถํ ปน อชานิตฺวาปิ ‘‘อุกฺกณฺิโต วทตี’’ติ ตํ ชานาติ, ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. โสตวิฺาณวีถิยา สทฺทมตฺตคฺคหณเมว, อตฺถคฺคหณํ ปน มโนวิฺาณวีถิปรมฺปรายาติ อาห ตงฺขณฺเวาติอาทิ.
๕๓. วณฺณปฏฺานนฺติ ¶ ¶ สตฺถุคุณวณฺณปฺปกาสกํ ปกรณํ. อุปาลิคาถาสูติ อุปาลิสุตฺเต อุปาลิคหปตินา ธีรสฺส วิคตโมหสฺสาติอาทินา วุตฺตคาถาสุ. ยถารุตนฺติ ปาฬิยํ วุตฺตเมวาติ อตฺโถ. อนนฺตพุทฺธีติอาทีนิ วณฺณปฏฺาเน อาคตนามานิ. ธีรนฺติอาทีนิ (ม. นิ. ๒.๗๖) ปน อุปาลิคาถาสุ. ตตฺถ โพธิ วุจฺจติ สพฺพฺุตฺาณํ, สา ชานนเหตุตฺตา ปฺาณํ เอตสฺสาติ โพธิปฺาโณ. สฺวากฺขาตํ ธมฺมนฺติอาทีสุ ธมฺม-สทฺโท สฺวากฺขาตาทิปทานํ ธมฺมเววจนภาวํ ทสฺเสตุํ วุตฺโต. ตสฺมา สฺวากฺขาตํ ปจฺจกฺขามีติอาทินา วุตฺเตเยว เววจเนน ปจฺจกฺขานํ นาม โหติ. ธมฺม-สทฺเทน สห โยเชตฺวา วุตฺเต ปน ยถารุตวเสน ปจฺจกฺขานนฺติ เวทิตพฺพํ. สุปฺปฏิปนฺนํ สงฺฆนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. กุสลํ ธมฺมนฺติอาทีนิปิ กุสลา ธมฺมา อกุสลา ธมฺมาติอาทิธมฺมเมว (ธ. ส. ติกมาติกา ๑) สนฺธาย วุตฺตนามานิ, อิตรถา อกุสลธมฺมปจฺจกฺขาเน โทสาภาวปฺปสงฺคโตติ, เตนาห จตุราสีติธมฺมกฺขนฺธสหสฺเสสูติอาทิ. ปมปาราชิกนฺติอาทินา สิกฺขาปทานํเยว คหณํ เวทิตพฺพํ, น อาปตฺตีนํ.
ยสฺส มูเลนาติ ยสฺส สนฺติเก. อาจริยเววจเนสุ โย อุปชฺฌํ อทตฺวา อาจริโยว หุตฺวา ปพฺพาเชสิ, ตํ สนฺธาย ‘‘โย มํ ปพฺพาเชสี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺส มูเลนาติ ตสฺส สนฺติเก. โอกลฺลโกติ ขุปฺปิปาสาทิทุกฺขาตุรานํ กิสลูขสรีรเวสานํ คหฏฺมนุสฺสานํ อธิวจนํ. โมฬิพทฺโธติ พทฺธเกสกลาโป คหฏฺโ. กุมารโกติ กุมาราวตฺโถ อติวิย ทหโร สามเณโร. เจลฺลโกติ ตโต กิฺจิ มหนฺโต. เจฏโกติ มชฺฌิโม. โมฬิคลฺโลติ มหาสามเณโร. สมณุทฺเทโสติ อวิเสสโต สามเณราธิวจนํ. อสุจิสงฺกสฺสรสมาจาโรติ อสุจิ หุตฺวา ‘‘มยา กตํ ปเร ชานนฺติ นุ โข, น นุ โข’’ติ อตฺตนา, ‘‘อสุเกน นุ โข อิทํ กต’’นฺติ ปเรหิ จ สงฺกาย สริตพฺเพน อนุสฺสริตพฺเพน สมาจาเรน ยุตฺโต. สฺชาตราคาทิกจวรตฺตา กสมฺพุชาโต. โกณฺโติ ทุสฺสีลาธิวจนเมตํ.
๕๔. ติเหตุกปฏิสนฺธิกาติ อติขิปฺปํ ชานนสมตฺเถ สนฺธาย วุตฺตํ, น ทุเหตุกานํ ตตฺถ อสมฺภวโต. สภาคสฺสาติ ปุริสสฺส. วิสภาคสฺสาติ มาตุคามสฺส. โปตฺถกรูปสทิสสฺสาติ มตฺติกาทีหิ กตรูปสทิสสฺส ¶ . ครุเมธสฺสาติ อารมฺมเณสุ ลหุปฺปวตฺติยา อภาวโต ทนฺธคติกตาย ครุปฺสฺส, มนฺทปฺสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.
อิทาเนตฺถ สิกฺขาปจฺจกฺขานวารสฺส ปาฬิยํ อฏฺกถายฺจ วุตฺตนยานํ สมฺปิณฺฑนตฺถวเสน เอวํ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ – ตตฺถ หิ สามฺา จวิตุกาโมติอาทีหิ ปเทหิ จิตฺตนิยมํ ทสฺเสติ. พุทฺธนฺติอาทีหิ ปเทหิ เขตฺตนิยมํ, ปจฺจกฺขามิ ธาเรตีติ เอเตน กาลนิยมํ, วทตีติ ¶ อิมินา ปโยคนิยมํ, อลํ เม พุทฺเธน, กึ นุ เม, น มมตฺโถ, สุมุตฺตาหนฺติอาทีหิ อนามฏฺกาลวเสนปิ ปจฺจกฺขานํ โหตีติ ทสฺเสติ, วิฺาเปตีติ อิมินา วิชานนนิยมํ, อุมฺมตฺตโก สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ อุมฺมตฺตกสฺส สนฺติเกติอาทีหิ ปุคฺคลนิยมํ, โส จ นปฺปฏิวิชานาตีติอาทีหิ วิชานนนิยมาภาเวน ปจฺจกฺขานาภาวํ ทสฺเสติ, ทวายาติอาทีหิ จิตฺตนิยมาภาเวน, สาเวตุกาโม น สาเวตีติ อิมินา ปโยคนิยมาภาเวน, อวิฺุสฺส สาเวติ วิฺุสฺส น สาเวตีติ เอเตหิ ยํ ปุคฺคลํ อุทฺทิสฺส สาเวติ, ตสฺเสว สวเน สีสํ เอติ, นาฺสฺสาติ. สพฺพโส วา ปน น สาเวติ อปฺปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขาติ อิทํ ปน จิตฺตาทินิยเมเนว สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น อฺถาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตสฺมา จิตฺตเขตฺตกาลปโยคปุคฺคลวิชานนวเสน สิกฺขาย ปจฺจกฺขานํ ตฺวา ตทภาเวน อปฺปจฺจกฺขานํ เวทิตพฺพํ.
กถํ? อุปสมฺปนฺนภาวโต จวิตุกามตาจิตฺเตเนว หิ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ทวา วา รวา วา ภณนฺตสฺส. เอวํ จิตฺตวเสน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน. ตถา พุทฺธํ ปจฺจกฺขามีติอาทินา วุตฺตานํ พุทฺธาทีนํ สพฺรหฺมจาริปริโยสานานํ จตุทฺทสนฺนฺเจว คิหีติ มํ ธาเรหีติอาทินา วุตฺตานํ คิหิอาทีนํ อสกฺยปุตฺติยปริโยสานานํ อฏฺนฺนฺจาติ อิเมสํ ทฺวาวีสติยา เขตฺตปทานํ ยสฺส กสฺสจิ สเววจนสฺส วเสน เตสุ ยํ กิฺจิ วตฺตุกามสฺส ยํ กิฺจิ วทโตปิ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ. เอวํ เขตฺตวเสน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน. ตตฺถ ยเทตํ ‘‘ปจฺจกฺขามีติ จ มํ ธาเรหีติ จา’’ติ วุตฺตํ วตฺตมานกาลวจนํ, ยานิ จ ‘‘อลํ เม พุทฺเธน, กึ นุ เม พุทฺเธน, น มมตฺโถ พุทฺเธน, สุมุตฺตาหํ พุทฺเธนา’’ติอาทินา นเยน อาขฺยาตวเสน กาลํ อนามสิตฺวา ปุริเมหิ จุทฺทสหิ ปเทหิ สทฺธึ โยเชตฺวา วุตฺตานิ อลํ เมติอาทีนิ จตฺตาริ ปทานิ, เตสํเยว จ สเววจนานํ วเสน ¶ ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ปน ‘‘ปจฺจกฺขาสิ’’นฺติ วา, ‘‘ปจฺจกฺขิสฺส’’นฺติ วา, ‘‘มํ ธาเรสี’’ติ วา, ‘‘มํ ธาเรสฺสสี’’ติ วา, ‘‘ยํนูน ปจฺจกฺเขยฺย’’นฺติ วาติอาทีนิ อตีตานาคตปริกปฺปวจนานิ ภณนฺตสฺส. เอวํ วตฺตมานกาลวเสน เจว อนามฏฺกาลวเสน จ ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน. ปโยโค ปน ทุวิโธ กายิโก วาจสิโก, ตตฺถ พุทฺธํ ปจฺจกฺขามีติอาทินา นเยน ยาย กายจิ ภาสาย วจีเภทํ กตฺวา วาจสิกปโยเคเนว ปจฺจกฺขานํ โหติ, น อกฺขรลิขนํ วา หตฺถมุทฺทาทิทสฺสนํ วา กายปโยคํ กโรนฺตสฺส. เอวํ วาจสิกปโยเคเนว ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.
ปุคฺคโล ¶ ปน ทุวิโธ โย จ ปจฺจกฺขาติ, ยสฺส จ ปจฺจกฺขาติ, ตตฺถ โย ปจฺจกฺขาติ, โส สเจ อุมฺมตฺตกขิตฺตจิตฺตเวทนฏฺฏานํ อฺตโร น โหติ, ยสฺส ปน ปจฺจกฺขาติ, โส สเจ มนุสฺสชาติโก โหติ, น จ อุมฺมตฺตกาทีนํ อฺตโร สมฺมุขีภูโต จ, สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ. น หิ อสมฺมุขีภูตสฺส ทูเตน วา ปณฺเณน วา อาโรจนํ รุหติ. เอวํ ยถาวุตฺตปุคฺคลวเสน ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน. วิชานนมฺปิ นิยมิตานิยมิตวเสน ทุวิธํ. ตตฺถ ยสฺส เยสํ วา นิยเมตฺวา อิมสฺส อิเมสํ วา อาโรเจมีติ วทติ, สเจ เต ยถา ปกติยา โลเก มนุสฺสา วจนํ สุตฺวา อาวชฺชนสมเย ชานนฺติ, เอวํ ตสฺส วจนานนฺตรเมว ‘‘อยํ อุกฺกณฺิโต’’ติ วา, ‘‘คิหิภาวํ ปตฺถยตี’’ติ วา เยน เกนจิ อากาเรน มนุสฺสชาติโก วจนตฺถํ ชานาติ, ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. อถ อปรภาเค ‘‘กึ อิมินา วุตฺต’’นฺติ จินฺเตตฺวา ชานนฺติ, อฺเ วา ชานนฺติ, อปฺปจฺจกฺขาตาว โหติ. อนิยเมตฺวา อาโรเจนฺตสฺส ปน สเจ วุตฺตนเยน โย โกจิ มนุสฺสชาติโก วจนตฺถํ ชานาติ, ปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา, เอวํ ชานนวเสน ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน. อิติ อิเมสํ วุตฺตปฺปการานํ จิตฺตาทีนํ วเสเนว สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น อฺถาติ ทฏฺพฺพํ.
สิกฺขาปจฺจกฺขานวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
มูลปฺตฺติวณฺณนา
๕๕. อิโต ¶ ปฏฺายาติ ทุฏฺุลฺลปทโต ปฏฺาย. เมถุนธมฺโม ยถา สรูเปเนว ทุฏฺุลฺลํ, เอวํ ทสฺสนาทิทุฏฺุลฺลธมฺมปริวารตฺตาปิ ทุฏฺุลฺลนฺติ ทสฺเสตุํ ยสฺมาติอาทิ วุตฺตํ. อวสฺสุตานนฺติ เมถุนราเคน ตินฺตานํ. ปริยุฏฺิตานนฺติ เมถุนราเคน อภิภูตจิตฺตานํ. เมถุน-สทฺทสฺส สทิสสทฺทปอยายตฺตา วุตฺตํ ‘‘สทิสาน’’นฺติ, รตฺตตาทีหิ สทิสานนฺติ อตฺโถ. อิทฺจ เยภุยฺยโต วุตฺตํ อุโภสุ อฺตรสฺส ราคาภาเวปิ อิตรสฺส เมถุนเสวนสํสิทฺธิโต. เมถุน-สทฺโท วา อุภยสทฺทปอยาโย, เมถุนํ ยุคฬํ ยมกํ อุภยนฺติ หิ อตฺถโต เอกํ, เตนาห ‘‘อุภินฺนํ รตฺตาน’’นฺติ. ‘‘ทฺวยํทฺวยสมาปตฺตี’’ติ หิ ปาฬิยมฺปิ วุตฺตํ. นิมิตฺเตนาติ ภุมฺมตฺเถ กรณวจนํ, อิตฺถินิมิตฺเต อตฺตโน นิมิตฺตํ ปเวเสตีติ อตฺโถ. นิมิตฺตํ องฺคชาตนฺติ อตฺถโต เอกํ. ติลผลนฺติ สาสปมตฺตํ ติลพีชํ อธิปฺเปตํ, น โกสสหิตํ ผลนฺติ อาห ‘‘ติลพีชมตฺตมฺปี’’ติ. อลฺโลกาเสติ สภาเวน ปิหิตสฺส นิมิตฺตสฺส ปกติวาเตน อสมฺผุฏฺเ ตินฺตปฺปเทเส. ตาทิโส ปเทโส ¶ สเจปิ เกนจิ วาตาทิวิกาเรน สุกฺขติ, ตถาปิ อนลฺโลกาโสติ อุปกฺกมโต ปาราชิกเมว.
เวมชฺฌนฺติ ยถา จตฺตาริ ปสฺสานิ อผุสนฺโต ปเวเสติ, เอวํ กตวิวรสฺส อิตฺถินิมิตฺตสฺส อพฺภนฺตรตลํ วุจฺจติ. ปุริสนิมิตฺเต ปน มชฺฌนฺติ อคฺคโกฏึ สนฺธาย วทติ. อุปรีติ มชฺฌิมปพฺเพน สมิฺชิตฺวา ปเวสิยมานสฺส องฺคชาตสฺส สมิฺชิตงฺคุลิยา มชฺฌิมปพฺพปิฏฺิสทิสอคฺคโกฏิเยว. เหฏฺา ปเวเสนฺโตติ อิตฺถินิมิตฺตสฺส เหฏฺาภาเคน ฉุปิยมานํ ปเวเสนฺโต, ยถา อิตฺถินิมิตฺตสฺส อลฺโลกาสํ เหฏฺิมตลํ ติลพีชมตฺตมฺปิ อตฺตโน นิมิตฺเตน ฉุปติ, เอวํ ปเวเสนฺโตติ อตฺโถ. ฉุปนเมว เหตฺถ ปเวสนํ, เอวํ เสเสสุปิ. มชฺเฌน ปเวเสนฺโตติ อพฺภนฺตรตเลน ฉุปิยมานํ ปเวเสนฺโต, ยถา อพฺภนฺตรตลํ ฉุปติ, เอวํ ปเวเสนฺโตติ อตฺโถ. กตฺถจิ อจฺฉุปนฺตํ ปเวเสตฺวา อากาสคตเมว นีหรนฺตสฺส นตฺถิ ปาราชิกํ, ทุกฺกฏํ ปน โหติ ฉินฺนสีสวตฺถุสฺมึ (ปารา. ๗๓) วิย. มชฺเฌเนว ฉุปนฺตํ ปเวเสนฺโตติ อคฺคโกฏิยา ฉุปนฺตํ ปเวเสนฺโต. มชฺฌิมปพฺพปิฏฺิยา สงฺโกเจตฺวาติ นิมิตฺตํ อตฺตโน มชฺฌิมปพฺพปิฏฺิยา ¶ สมิฺชิตฺวา อุปริภาเคน ฉุปนฺตํ ปเวเสนฺโตปิ. กึ วิย? สมิฺชิตงฺคุลิ วิยาติ โยชนา. อถ วา มชฺฌิมปพฺพปิฏฺิยา สมิฺชิตงฺคุลิ วิยาติ สมฺพนฺโธ, สมิฺชิตงฺคุลึ วา มชฺฌิมปพฺพปิฏฺิยา ปเวเสนฺโต วิยาติปิ โยเชตพฺพํ. อุปริภาเคนาติ สงฺโกจิตสฺส นิมิตฺตสฺส อุปริโกฏิยา.
อิทานิ ปุริสนิมิตฺตสฺส เหฏฺา วุตฺเตสุ ฉสุ ‘‘อุปรี’’ติ วุตฺตสฺส ฉฏฺสฺส านสฺส วเสน วิสุํ จตฺตาริ ปสฺสานิ คเหตฺวา ปุริสนิมิตฺเต ทสฏฺานเภทํ ทสฺเสนฺโต ตตฺถาติอาทิมาห. เหฏฺา ปน อคหิตคฺคหณวเสน ฉ านานิ วุตฺตานิ. ตุลาทณฺฑสทิสํ ปเวเสนฺตสฺสาปีติ อสมิฺชิตฺวา อุชุกํ ปเวเสนฺตสฺส. จมฺมขีลนฺติ เอฬกาทีนํ คีวาย วิย นิมิตฺเต ชาตํ จมฺมงฺกุรํ, ‘‘อุณฺณิคณฺโฑ’’ติปิ วทนฺติ. ‘‘อุปหตกายปฺปสาท’’นฺติ อวตฺวา นฏฺกายปฺปสาทนฺติ วจเนน อุปาทินฺนภาเว สติ เกนจิ ปจฺจเยน อุปหเตปิ กายปฺปสาเท อุปหตินฺทฺริยวตฺถุสฺมึ (ปารา. ๗๓) วิย ปาราชิกเมวาติ ทสฺเสติ. อิตฺถินิมิตฺตสฺส ปน นฏฺเปิ อุปาทินฺนภาเว สติ มตสรีเร วิย ปาราชิกกฺเขตฺตตา น วิชหตีติ เวทิตพฺพา. เมถุนสฺสาเทนาติ อิทํ กายสํสคฺคราเค สติ สงฺฆาทิเสโส โหตีติ วุตฺตํ. พีชานีติ อณฺฑานิ.
มุขํ อปิธายาติ ปมาเทน สมุปฺปนฺนมฺปิ หาสํ พีชนิยา ปฏิจฺฉาทนมฺปิ อกตฺวา นิสีทนํ อคารวนฺติ วุตฺตํ. อถ วา อปิธายาติ ปิทหิตฺวา, พีชนิยา มุขํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา หสมาเนน ¶ น นิสีทิตพฺพนฺติ อตฺโถ. ทนฺตวิทํสกนฺติ ทนฺเต ทสฺเสตฺวา. คพฺภิเตนาติ ‘‘อยุตฺตกถา’’ติ สงฺโกจํ อนาปชฺชนฺเตน, นิรวเสสาธิปฺปายกถเน สฺชาตุสฺสาเหนาติ อตฺโถ.
อนุปฺตฺติวณฺณนา
ปาราชิกวตฺถุภูตาติ เยสํ ตีสุ มคฺเคสุ ติลพีชมตฺตมฺปิ นิมิตฺตสฺส ปเวโสกาโส โหติ, เต อิตฺถิปุริสาทิเภทา สพฺเพ สงฺคยฺหนฺติ, น อิตเร. อิธ ปน ติรจฺฉานคตายาติ-ปาฬิปทานุรูปโต น สพฺพาติอาทินา อิตฺถิลิงฺควเสน วุตฺตํ. โคนสาติ สปฺปวิเสสา, เยสํ ปิฏฺีสุ มหนฺตมหนฺตานิ มณฺฑลานิ โหนฺติ. กจฺฉปมณฺฑูกานํ จตุปฺปทตฺเตปิ โอทกตาสามฺเน ¶ อปเทหิ สห คหณํ. มุขสณฺานนฺติ โอฏฺจมฺมสณฺานํ. วณสงฺเขปนฺติ วณสงฺคหํ. วเณ ถุลฺลจฺจยฺจ ‘‘อมคฺเคน อมคฺคํ ปเวเสติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๖๖) อิมสฺส สุตฺตสฺส วเสน เวทิตพฺพํ. มงฺคุสาติ นกุลา. เอตเมว หิ อตฺถนฺติ โย นํ อชฺฌาปชฺชติ, ตํ ปราเชตีติ อิมมตฺถํ วุตฺตานํเยว ปาราชิกาทิสทฺทานํ นิพฺพจนปฺปสงฺเค อิมิสฺสา ปริวารคาถาย ปวตฺตตฺตา. ภฏฺโติ สาสนโต ปริหีโน. นิรงฺกโตติ นิรากโต. เอตนฺติ อาปตฺติรูปํ ปาราชิกํ. ฉินฺโนติ อนฺตราขณฺฑิโต.
ปกตตฺเตหิ ภิกฺขูหีติ เอตฺถ ปกตตฺตา นาม ปาราชิกํ อนาปนฺนา อนุกฺขิตฺตา จ. เกจิ ปน ‘‘ปกตตฺเตหิ ภิกฺขูหิ เอกโต กตฺตพฺพตฺตาติ อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา ปกตตฺตภูเตหิ อลชฺชีหิปิ สทฺธึ อุโปสถาทิสงฺฆกมฺมกรเณ โทโส นตฺถี’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ, อิมินา วจเนน ตสฺส อตฺถสฺส อสิชฺฌนโต. ยทิ หิ สงฺฆกมฺมํ กรียติ, ปกตตฺเตเหว กรียติ, น อปกตตฺเตหีติ เอวํ อปกตตฺเตหิ สหสํวาสปฏิกฺเขปปรํ อิทํ วจนํ, น ปน ปกตตฺเตหิ สพฺเพหิ อลชฺชีอาทีหิ เอกโต สงฺฆกมฺมํ กตฺตพฺพเมวาติ. เอวํ สํวาสวิธานปรํ ปกตตฺเตสุปิ สภาคาปตฺตึ อาปนฺเนหิ อฺมฺฺจ อลชฺชีหิ จ สทฺธึ เอกโต กมฺมกรณสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา. วุตฺตฺหิ ‘‘สเจ สพฺโพ สงฺโฆ สภาคาปตฺติยา สติ วุตฺตวิธึ อกตฺวา อุโปสถํ กโรติ, วุตฺตนเยเนว สพฺโพ สงฺโฆ อาปตฺตึ อาปชฺชตี’’ติอาทิ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา). ‘‘ยตฺถ อามิสปริโภโค วฏฺฏติ, ธมฺมปริโภโคปิ ตตฺถ วฏฺฏตี’’ติ อลชฺชีหิ สห ปริโภโค จ อฏฺกถายํ ปฏิกฺขิตฺโต เอกโต กมฺมกรณสฺสาปิ ธมฺมปริโภคตฺตา. ตสฺมา ยถา หิ ปาฬิยํ ปาราชิกาปตฺติอาปชฺชนกปุคฺคลนิยมตฺถํ ยฺวายํ ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน…เป… อุปสมฺปนฺโน, อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปโต ภิกฺขูติ อิมสฺมึ วจเน สพฺเพปิ ตฺติจตุตฺถกมฺเมน อุปสมฺปนฺนา ปาราชิกาปชฺชนกปุคฺคลาเยวาติ นิยโม น สิชฺฌติ ¶ ปาราชิกานาปชฺชนกานมฺปิ เสกฺขาทีนํ สมฺภวา, อถ โข ตฺติจตุตฺถกมฺเมน อุปสมฺปนฺเนสุเยว ปาราชิกาปตฺติอาปชฺชนกา อลชฺชี พาลปุถุชฺชนา ลพฺภนฺติ, น ปน เอหิภิกฺขุอาทีสูติ เอวํ นิยโม สิชฺฌติ, เอวมิธาปิ ปกตตฺเตสุเยว เอกโต กมฺมกรณารหา อนาปตฺติกา ลชฺชี กุกฺกุจฺจกา สิกฺขากามา อุปลพฺภนฺติ ¶ , น อปกตตฺเตสูติ เอวเมว นิยโม สิชฺฌติ อปกตตฺตานํ คณปูรณตฺตาภาเวน อสํวาสิกตฺตนิยมโต. อลชฺชิโน ปน คณปูรกา หุตฺวา กมฺมสฺส สาธนโต อสํวาสิเกสุ น คหิตา กตฺตพฺพวิธึ อกตฺวา เตหิ สห มทฺทิตฺวา กมฺมํ กโรนฺตานํ อาปตฺติ อลชฺชิตา จ น วิคจฺฉตีติ เวทิตพฺพํ. ‘‘เอโก อลชฺชี อลชฺชีสตมฺปิ กโรตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๕) หิ วุตฺตํ, เตเนว วกฺขติ ‘‘สพฺเพปิ ลชฺชิโน เอเตสุ กมฺมาทีสุ สห วสนฺตี’’ติอาทิ. อยฺจตฺโถ อุปริ วิตฺถารโต อาวิ ภวิสฺสติ.
ตถาติ สีมาปริจฺฉินฺเนหีติอาทึ ปรามสติ. เอกโต วนฺทนภฺุชนคามปฺปเวสนวตฺตาปฏิวตฺตกรณอุคฺคหปริปุจฺฉาสชฺฌายกรณาทิสามคฺคิกิริยาวเสน ภควตา ปฺตฺตสิกฺขาปทสิกฺขนํ สมสิกฺขตา นาม, ตฺจ ลชฺชีเหว สมํ สิกฺขิตพฺพํ, น อลชฺชีหีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฺตฺตํ ปน…เป… สมสิกฺขตา นามา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อนติกฺกมนวเสน อุคฺคหปริปุจฺฉาทิวเสน จ ลชฺชีปุคฺคเลหิ สมํ เอกโต สิกฺขิตพฺพา สมสิกฺขาติ สิกฺขาปทานิ วุตฺตานิ, ตาสํ สมสิกฺขนํ ยถาวุตฺตนเยน ลชฺชีหิ สิกฺขิตพฺพภาโว สมสิกฺขตา นามาติ อธิปฺปาโย. ยถาวุตฺเตสุ เอกกมฺมาทีสุ อลชฺชีนํ ลชฺชิธมฺเม อโนกฺกนฺเต ลชฺชีหิ สห สํวาโส นตฺถิ, ตโต พหิเยว เต สนฺทิสฺสนฺตีติ อาห สพฺเพปิ ลชฺชิโนติอาทิ.
๕๖. ยํ ตํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. วตฺถุเมว น โหตีติ สุวณฺณาทีหิ กตอิตฺถิรูปานํ องฺคชาเตสุปิ นิมิตฺตโวหารทสฺสนโต ตตฺถ ปาราชิกาสงฺกานิวตฺตนตฺถํ วุตฺตํ. เตเนว วินีตวตฺถูสุ เลปจิตฺตาทิวตฺถูสุ สฺชาตกุกฺกุจฺจสฺส ปาราชิเกน อนาปตฺติ วุตฺตา.
ปมจตุกฺกวณฺณนา
๕๗. อสฺสาติ อาขฺยาตปทนฺติ ตสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โหตี’’ติ อาห, ภเวยฺยาติ อตฺโถ, โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ทุติเย อตฺถวิกปฺเป ‘‘โหตี’’ติ อิทํ วจนเสโส.
๕๘. สาทิยนฺตสฺเสวาติ ¶ เอตฺถ สาทิยนํ นาม เสเวตุกามตาจิตฺตสฺส อุปฺปาทนเมวาติ อาห ‘‘ปฏิเสวนจิตฺตสมงฺคิสฺสา’’ติ. ปฏิปกฺขนฺติ อนิฏฺํ ¶ อหิตํ. ‘‘ภิกฺขูนํ ปจฺจตฺถิกา ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา’’ติ วุตฺเต อุปริ วุจฺจมานา ราชปจฺจตฺถิกาทโยปิ อิเธว ปวิสนฺตีติ ตํ นิวตฺตนตฺถํ ภิกฺขู เอว ปจฺจตฺถิกาติ ราชปจฺจตฺถิกานุรูเปน อตฺโถ ทสฺสิโต. ตสฺมึ ขเณติ ปเวสนกฺขเณ. อคฺคโต หิ ยาว มูลา ปเวสนกิริยาย วตฺตมานกาโล ปเวสนกฺขโณ นาม. ปวิฏฺกาเลติ องฺคชาตสฺส ยตฺตกํ านํ ปเวสนารหํ, ตตฺตกํ อนวเสสโต ปวิฏฺกาเล, ปเวสนกิริยาย นิฏฺิตกฺขเณติ อตฺโถ. เอวํ ปวิฏฺสฺส อุทฺธรณารมฺภโต อนฺตรา ิตกาเล ิตํ องฺคชาตํ, ตสฺส ิติ วา ิตํ นาม, อฏฺกถายํ ปน มาตุคามสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺึ ปตฺวา สพฺพถา วายามโต โอรมิตฺวา ิตกาลํ สนฺธาย ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺิสมเย’’ติ วุตฺตํ, ตทุภยมฺปิ ิตเมวาติ คเหตพฺพํ. อุทฺธรณํ นาม ยาว อคฺคา นีหรณกิริยาย วตฺตมานกาโลติ อาห ‘‘นีหรณกาเล ปฏิเสวนจิตฺตํ อุปฏฺาเปตี’’ติ.
เอตฺถ จ ยสฺมา ปเรหิ อุปกฺกมิยมานสฺส องฺคชาตาทิกายจลนสฺส วิชฺชมานตฺตา เสวนจิตฺเต อุปฏฺิตมตฺเต ตสฺมึ ขเณ จิตฺตชรูเปน สฺชายมานํ องฺคชาตาทิจลนํ อิมินา เสวนจิตฺเตน อุปฺปาทิตเมว โหติ. อปิจ เสวนจิตฺเต อุปฺปนฺเน ปเรหิ อนุปกฺกมิยมานสฺสาปิ องฺคชาเต จลนํ โหเตว, ตฺจ เตน กตํ นาม โหติ, ตสฺมา กายจิตฺตโต สมุฏฺิตํ ปาราชิกาปตฺตึ โส อาปชฺชติเยว อุพฺภชาณุมณฺฑลิกา (ปาจิ. ๖๕๗-๖๕๘) วิย. ตตฺถาปิ หิ ‘‘อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑลํ อามสนํ วา…เป… ปฏิปีฬนํ วา สาทิเยยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๖๕๗) สาทิยนมตฺเตเยว อาปตฺติ วุตฺตา, ภิกฺขุโน กายสํสคฺเค ปน ‘‘กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยา’’ติ (ปารา. ๒๗๐) อตฺตโน อุปกฺกมสฺส อาปตฺตินิมิตฺตภาเวน วุตฺตตฺตา อิตฺถิยา ผุสิยมานสฺส กายสํสคฺคราเค จ อิตฺถิยา สฺชนิตกายจลเน จ วิชฺชมาเนปิ อตฺตโน ปโยคาภาเวน อนาปตฺติเยว วุตฺตาติ คเหตพฺพํ. เกจิ ปน ‘‘ปมสงฺฆาทิเสสวิสเยปิ ปเรหิ พลกฺกาเรน หตฺถาทีหิ อุปกฺกมิยมานสฺส โมจนสฺสาโท จ อุปฺปชฺชติ, เตน จ อสุจิมฺหิ มุตฺเต สงฺฆาทิเสโส, อมุตฺเต ถุลฺลจฺจยํ เอวา’’ติ วทนฺติ. องฺคารกาสุนฺติ องฺคารราสึ, องฺคารปุณฺณาวาฏํ วา. อิตฺถิยา อุปกฺกมิยมาเน อสาทิยนํ นาม น สพฺเพสํ วิสโยติ ¶ อาห อิมฺหีติอาทิ. เอกาทสหิ อคฺคีหีติ ราคโทสโมหชาติชรามรณโสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสสงฺขาเตหิ เอกาทสคฺคีหิ. อสฺสาติ อสาทิยนฺตสฺส. จตุกฺกํ นีหริตฺวา เปสีติ เอตฺถ เอกปุคฺคลวิสยตาย เอโกปิ อนาปตฺติวาโร ปเวสนปวิฏฺิตอุทฺธรณสงฺขอาตานํ จตุนฺนํ ปทานํ วเสน ‘‘จตุกฺก’’นฺติ วุตฺโต. ปมจตุกฺกกถาติ เอตฺถ ปน อนาปตฺติวาเรน สทฺธึ ปฺจนฺนํ วารานํ วุตฺตนเยน ‘‘ปฺจ จตุกฺกา’’ติ วตฺตพฺเพปิ เอกมคฺควิสยตาย ¶ เตสํ เอกตฺตํ อาโรเปตฺวา ปมจตุกฺกตา วุตฺตา. เตเนว วกฺขติ ติณฺณํ มคฺคานํ วเสน ตีณิ สุทฺธิกจตุกฺกานีติอาทิ.
เอกูนสตฺตติทฺวิสตจตุกฺกกถาวณฺณนา
๕๙-๖๐. มตฺตนฺติ สุราทีหิ มตฺตํ. อกฺขายิตนิมิตฺตา อิธ อุตฺตรปทโลเปน อกฺขายิตสทฺเทน วุตฺตาติ อาห ‘‘อกฺขายิตนิมิตฺต’’นฺติ. ชาครนฺตินฺติอาทิ วิเสสนรหิตตฺตา ‘‘สุทฺธิกจตุกฺกานี’’ติ วุตฺตํ. สมานาจริยกาเถราติ เอกาจริยสฺส อุทฺเทสนฺเตวาสิกา. คงฺคาย อปรภาโค อปรคงฺคํ. วตเรติ ครหตฺเถ นิปาโต. เอวํ วินยครุกานนฺติ อิมินา อุปริ อุปติสฺสตฺเถเรน วุจฺจมานวินิจฺฉยสฺส ครุกรณียตาย การณํ วุตฺตํ. สพฺพํ ปริยาทิยิตฺวาติ สพฺพํ ปาราชิกเขตฺตํ อนวเสสโต คเหตฺวา. ยทิ หิ สาวเสสํ กตฺวา ปฺเปยฺย, อลชฺชีนํ ตตฺถ เลเสน อชฺฌาจารโสโต ปวตฺตตีติ อาห ‘‘โสตํ ฉินฺทิตฺวา’’ติ. สหเสยฺยาทิปณฺณตฺติวชฺชสิกฺขาปเทสุเยว (ปาจิ. ๔๙-๕๑) สาวเสสํ กตฺวาปิ ปฺาปนํ สมฺภวติ, น โลกวชฺเชสูติ อาห อิทฺหีติอาทิ. สหเสยฺยสิกฺขาปเท หิ (ปาจิ. ๔๙ อาทโย) กิฺจาปิ เยภุยฺยจฺฉนฺเน เยภุยฺยปริจฺฉนฺเน เหฏฺิมปริจฺเฉทโต ปาจิตฺติยํ ทสฺสิตํ, อุปฑฺฒจฺฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, ตถาปิ สาวเสสตฺตา ปฺตฺติยา เยภุยฺยจฺฉนฺนอุปฑฺฒปริจฺฉนฺนาทีสุปิ อฏฺกถายํ ปาจิตฺติยเมว ทสฺสิตํ. อิธ ปน นิรวเสสตฺตา ปฺตฺติยา ภควตา ทสฺสิตํ เยภุยฺเยน อกฺขายิตนิมิตฺตโต เหฏฺา ปาราชิกกฺเขตฺตํ นตฺถิ, ถุลฺลจฺจยาทิเมว ตตฺถ ลพฺภติ.
อุปติสฺสตฺเถเรน วุตฺตสฺเสว วินิจฺฉยสฺส อฺมฺปิ อุปตฺถมฺภการณํ ทสฺเสนฺโต อปิจาติอาทิมาห. นิมิตฺเต อปฺปมตฺติกาปิ มํสราชิ สเจ อวสิฏฺา ¶ โหติ, ตํ เยภุยฺยกฺขายิตเมว โหติ, ตโต ปรํ ปน สพฺพโส ขายิเต นิมิตฺเต ทุกฺกฏเมวาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตโต ปรํ ถุลฺลจฺจยํ นตฺถี’’ติ. เกจิ ปเนตฺถ วจฺจมคฺคาทึ จตฺตาโร โกฏฺาเส กตฺวา ‘‘เตสุ ทฺเว โกฏฺาเส อติกฺกมฺม ยาว ตติยโกฏฺาสสฺส ปริโยสานา ขายิตํ เยภุยฺยกฺขายิตํ นาม, ตโต ปรํ ถุลฺลจฺจยํ นตฺถิ, ยาว จตุตฺถโกฏฺาสสฺส ปริโยสานา ขายิตํ, ตมฺปิ ทุกฺกฏวตฺถุเยวา’’ติ จ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ. มตสรีรสฺมึเยว เวทิตพฺพนฺติ มตํ เยภุยฺเยน อกฺขายิตนฺติอาทิวจนโต วุตฺตํ. ยทิปิ นิมิตฺตนฺติอาทิ ชีวมานกสรีรเมว สนฺธาย วุตฺตํ ตสฺเสว อธิกตตฺตา. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) ‘‘ชีวมานกสรีรสฺส วุตฺตปฺปกาเร มคฺเค สเจปิ ตจาทีนิ อนวเสเสตฺวา สพฺพโส ฉินฺเน’’ติอาทิ ¶ วุตฺตํ. สพฺพโส ขายิตนฺติ นิมิตฺตมํสํ สพฺพํ ฉินฺนนฺติ อตฺโถ. นิมิตฺตสณฺานนฺติ ฉินฺนมํสสฺส อนฺโต ยาว มุตฺตวตฺถิโกสา ฉิทฺทากาโร อพฺภนฺตรฉวิจมฺมมตฺโต อิตฺถินิมิตฺตากาโร, เตนาห ‘‘ปเวสนํ ชายตี’’ติ. นิมิตฺตสณฺานํ ปน อนวเสเสตฺวาติ ปเวสนารหฉิทฺทากาเรน ิตอพฺภนฺตรมํสาทึ อนวเสเสตฺวา. เอเตน ยาว ปเวโส ลพฺภติ, ตาว มคฺโคเยวาติ ทสฺเสติ. นิมิตฺตโต ปติตาย มํสเปสิยาติ อิทํ นิมิตฺตสณฺานวิรหิตํ อพฺภนฺตรมํสขณฺฑํ สนฺธาย วุตฺตํ. นิมิตฺตสณฺานํ อโกเปตฺวา สมนฺตโต ฉินฺทิตฺวา อุทฺธฏมํสเปสิยา ปน มตสรีเร เยภุยฺเยน อกฺขายิตนิมิตฺเต วิย อุปกฺกมนฺตสฺส ปาราชิกเมว.
เอวํ ชีวมานกมนุสฺสสรีเร ลพฺภมานวิเสสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ มตสรีเร ทสฺเสตุํ มตสรีเร ปนาติอาทิมาห. วตฺถิโกเสสูติ ปุริสานํ องฺคชาตโกสจมฺเมสุ. ‘‘นวทฺวาโร มหาวโณ’’ติอาทิ (มิ. ป. ๒.๖.๑) วจนโต มนุสฺสานํ อกฺขินาสาทีนิ วณสงฺเขเปน ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺตานีติ เตสุปิ ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ, เอวํ มนุสฺสานํ มตสรีเรปิ, เตนาห มเต อลฺลสรีเรติอาทิ. ตตฺถ อลฺลสรีเรติ อกุถิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปาราชิกกฺเขตฺเตติ เยภุยฺเยน อกฺขายิตมฺปิ สนฺธาย วุตฺตํ. ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเตติ อุปฑฺฒกฺขายิตาทิมฺปิ สนฺธาย วุตฺตํ. เอตฺถ จ อกฺขินาสาทิถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเตสุ เยภุยฺเยน อกฺขายิเตสุปิ ถุลฺลจฺจยํ, อุปฑฺฒกฺขายิตาทีสุ ทุกฺกฏนฺติ เวทิตพฺพํ. สพฺเพสมฺปีติ ยถาวุตฺตหตฺถิอาทีหิ อฺเสํ ติรจฺฉานานํ ¶ สงฺคณฺหนตฺถํ วุตฺตํ. ติรจฺฉานคตานํ อกฺขิกณฺณวเณสุ ทุกฺกฏํ ปน อฏฺกถาปฺปมาเณน คเหตพฺพํ, ‘‘อมคฺเคน อมคฺคํ ปเวเสติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๖๖) หิ สามฺโต วุตฺตํ, น ปน มนุสฺสานนฺติ วิเสเสตฺวา. ยทิ หิ มนุสฺสานฺเว วเณสุ ถุลฺลจฺจยํ สิยา, หตฺถิอสฺสาทีนํ นาสวตฺถิโกเสสุปิ ปฏงฺคมุขมณฺฑูกสฺส มุขสณฺาเนปิ จ วณสงฺเขปโต ถุลฺลจฺจยํ น วตฺตพฺพํ สิยา, วุตฺตฺจ. ตสฺมา อฏฺกถาจริยา เอเวตฺถ ปมาณํ. มตานํ ติรจฺฉานคตานนฺติ มตเกน สมฺพนฺโธ.
เมถุนราเคน วตฺถิโกสํ ปเวเสนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘วตฺถิโกสํ อปฺปเวเสนฺโต’’ติ. เมถุนราโค จ นาม กายสํสคฺคราคํ โมจนสฺสาทฺจ มฺุจิตฺวา วิสุํ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติยา ราโค, โส จ ปุริสาทีสุปิ อุปฺปชฺชติ, เตน จ อปาราชิกกฺเขตฺเต อิตฺถิสรีเรปิ อุปกฺกมนฺตสฺส อสุจิมฺหิ มุตฺเตปิ สงฺฆาทิเสโส น โหติ, เขตฺตานุรูปํ ถุลฺลจฺจยทุกฺกฏเมว โหตีติ เวทิตพฺพํ. อปฺปเวเสนฺโตติ อิมินา ตีสุ มคฺเคสุ ปเวสนาธิปฺปาเย อสติปิ เมถุนราเคน พหิ ฆฏฺฏนํ สมฺภวตีติ ทสฺเสติ, เตเนว ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ, อิตรถา ปเวสนาธิปฺปาเยน ¶ พหิ ฉุปนฺตสฺส เมถุนสฺส ปุพฺพปโยคตฺตา ทุกฺกฏเมว วตฺตพฺพํ สิยา. นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฉุปติ ถุลฺลจฺจยนฺติ อิทฺจ ‘‘น จ, ภิกฺขเว, รตฺตจิตฺเตน องฺคชาตํ ฉุปิตพฺพํ, โย ฉุเปยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๒) อิมสฺส จมฺมกฺขนฺธเก อาคตสฺส สุตฺตสฺส วเสน วุตฺตํ. ตตฺถ จ เกสฺจิ อฺถาปิ อตฺถวิกปฺปสฺส พีชํ ทสฺเสนฺโต มหาอฏฺกถายํ ปนาติอาทิมาห. มุเขเนว ฉุปนํ สนฺธายาติ โอฏฺชิวฺหาทิมุขาวยเวน ฉุปนํ สนฺธาย. โอฬาริกตฺตาติ อชฺฌาจารสฺส ถุลฺลตฺตา. ตํ สนฺธายภาสิตนฺติ ตํ ยถาวุตฺตสุตฺตํ. สุตฺตฺหิ อชฺฌาจารํ สนฺธาย ปฏิจฺจ วุตฺตตฺตา ‘‘สนฺธายภาสิต’’นฺติ วุจฺจติ. สุฏฺุสลฺลกฺเขตฺวาติ ปิฏฺึ อภิรุหนฺตานํ องฺคชาตมุเขเนว นิมิตฺตฉุปนสฺส สมฺภวํ เมถุนราคีนฺจ องฺคชาเตน ฉุปนสฺเสว อนุรูปตฺจ สุตฺเต จ ‘‘มุเขนา’’ติ อวุตฺตตฺจ อฺฺจ นยํ ยถาพลํ สุฏฺุ สลฺลกฺเขตฺวาติ อตฺโถ. สงฺฆาทิเสโสติ มนุสฺสิตฺถึ สนฺธาย วุตฺตํ. ปสฺสาวมคฺคนฺติ อิทํ จมฺมกฺขนฺธเก นิทานวเสน วุตฺตํ. อิตรมคฺคทฺวยํ ปน นิมิตฺตมุเขน ฉุปนฺตสฺส วณสงฺเขเปน ถุลฺลจฺจยเมว. วุตฺตนเยเนวาติ เมถุนราเคเนว. นิมิตฺตมุเขน ปน วินา เมถุนราเคน มนุสฺสิตฺถิยา วา ติรจฺฉานคติตฺถิยา วา ปสฺสาวมคฺคํ ¶ ปกติมุเขน ฉุปนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว ปกติมุเขน ปกติมุขฉุปเน วิย, อิตรถา ตตฺถาปิ ถุลฺลจฺจเยน ภวิตพฺพํ, ตฺจ น ยุตฺตํ ขนฺธกสุตฺเตปิ ตถา อวุตฺตตฺตา. กายสํสคฺคราเคน ทุกฺกฏนฺติ นิมิตฺตมุเขน วา ปกติมุขาทึ อิตรกาเยน วา กายสํสคฺคราเคน ฉุปนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว.
เอตฺถ จ กายสํสคฺคราเคน พหินิมิตฺเต อุปกฺกมโต อชานนฺตสฺเสว องฺคชาตํ ยทิ ปาราชิกกฺเขตฺตํ ฉุปติ, ตตฺถ กึ โหตีติ? เกจิ ตาว ‘‘เมถุนราคสฺส อภาวา มนุสฺสิตฺถิยา สงฺฆาทิเสโส, เสเสสุ วตฺถุวเสน ถุลฺลจฺจยทุกฺกฏานี’’ติ วทนฺติ. อฺเ ปน ‘‘ปเวสนกฺขเณ ผสฺสสฺส สาทิยนสมฺภวโต พลกฺกาเรน อุปกฺกมนกฺขเณ วิย ปาราชิกเมวา’’ติ วทนฺติ, อิทเมว ยุตฺตตรํ. มคฺคตฺตยโต หิ อฺสฺมึ ปเทเสเยว กายสํสคฺคาทิราคเภทโต อาปตฺติเภโท ลพฺภติ, น มคฺคตฺตเย. ตตฺถ ปน เยน เกนจิ อากาเรน ผสฺสสฺส สาทิยนกฺขเณ ปาราชิกเมว, เตเนว ปโรปกฺกเมน ปเวสนาทีสุ ราคเภทํ อนุทฺธริตฺวา สาทิยนมตฺเตน ปาราชิกํ วุตฺตํ.
สนฺถตจตุกฺกเภทกถาวณฺณนา
๖๑-๒. ปฏิปนฺนกสฺสาติ อารทฺธวิปสฺสกสฺส. อุปาทินฺนกนฺติ กายินฺทฺริยํ สนฺธาย วุตฺตํ. อุปาทินฺนเกน ผุสตีติ อุปาทินฺนกสรีเรน ผุสียตีติ กมฺมสาธเนน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อถ วา เอวํ ¶ กโรนฺโต ภิกฺขุ กิฺจิ อุปาทินฺนกํ อุปาทินฺนเกน น ผุสตีติ อตฺโถ. เลสํ โอฑฺเฑสฺสนฺตีติ เลสํ เปสฺสนฺติ, ปริกปฺเปสฺสนฺตีติ อตฺโถ. สนฺถตาทิเภเทหิ ภินฺทิตฺวาติ สนฺถตาทิวิเสสเนหิ วิเสเสตฺวา. สนฺถตายาติ สมุทาเย เอกเทสโวหาโร ทฑฺฒสฺส ปฏสฺส ฉิทฺทนฺติอาทีสุ วิย. ยถา หิ ปฏสฺส เอกเทโสว วตฺถโต ทฑฺโฒติ วุจฺจติ, ตํ เอกเทสโวหารํ สมุทาเย ปเฏ อุปจารโต อาโรเปตฺวา ปุน ตํ สมุทายํ ทฑฺฒปฺปเทสสงฺขาตฉิทฺทสมฺพนฺธีภาเวน ‘‘ทฑฺฒสฺส ปฏสฺส ฉิทฺท’’นฺติ โวหรนฺติ, เอวมิธาปิ อิตฺถิยา มคฺคปฺปเทสโวหารํ สมุทายภูตาย อิตฺถิยา อาโรเปตฺวา ปุน ตํ อิตฺถึ สนฺถตมคฺคสมฺพนฺธินึ กตฺวา สนฺถตาย อิตฺถิยา วจฺจมคฺเคนาติอาทิ วุตฺตํ. สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๖๑-๖๒) ปเนตฺถ ‘‘เอกเทเส สมุทายโวหาโร’’ติ วุตฺตํ, ตํ น ¶ ยุตฺตํ อวยวโวหาเรน สมุทายสฺเสว ปตียมานตฺตา. อิตรถา หิ สนฺถตาย วจฺจมคฺเคนาติ อิตฺถิลิงฺคตา มคฺคสมฺพนฺธิตา จ น สิยา, เอกเทเส สมุทาโยปจารสฺส ปน เอกเทโสว อตฺโถ สาขาย ฉิชฺชมานาย รุกฺโข ฉิชฺชตีติอาทีสุ วิย.
วตฺถาทีนิ มคฺคสฺส อนฺโต อปฺปเวเสตฺวา พหิเยว เวนํ สนฺธาย ‘‘ปลิเวเตฺวา’’ติ วุตฺตํ. สมุทาเย อวยวูปจาเรเนว ภิกฺขุปิ สนฺถโต นามาติอาทิ วุตฺตํ. ยตฺตเก ปวิฏฺเติ ติลพีชมตฺเต ปวิฏฺเ. อกฺขินาสาทีนํ สนฺถตตฺเตปิ ยถาวตฺถุกเมวาติ อาห ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเต ถุลฺลจฺจยนฺติอาทิ. ขาณุํ ฆฏฺเฏนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ อิตฺถินิมิตฺตสฺส อนฺโต ขาณุํ ปเวเสตฺวา สมตลํ, อติริตฺตํ วา ิตํ ขาณุํ สเจ ฆฏฺเฏติ, ฆฏฺเฏนฺตสฺส ทุกฺกฏํ ปเวสาภาวโต. สเจ ปน อีสกํ อนฺโต อลฺโลกาเส ปเวเสตฺวา ิตํ อนุปาทินฺนเมว ขาณุสีสํ องฺคชาเตน ฉุปติ, ปาราชิกเมว. ตสฺส ตลนฺติ เวฬุนฬาทิกสฺส อนฺโตตลํ. พหิทฺธา ขาณุเกติ อนฺโต ปเวสิตเวฬุปพฺพาทิกสฺส พหิ นิกฺขนฺตสีสํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยถา จ อิตฺถินิมิตฺเตติอาทีสุ ยถา อิตฺถิยา ปสฺสาวมคฺเค ขาณุํ กตฺวา ฆฏฺฏนาทิกํ วุตฺตํ, เอวํ สพฺพตฺถ วจฺจมคฺคาทีสุปิ ลกฺขณํ เวทิตพฺพนฺติ อตฺโถ.
ราชปจฺจตฺถิกาทิจตุกฺกเภทกถาวณฺณนา
๖๕. เกราฏิกาติ วฺจกา. ปมํ อิตฺถิธุตฺตเมว ทสฺเสตฺวา อิทานิ อิตรธุตฺเตปิ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อิตฺถิธุตฺตสุราธุตฺตาทโย วา’’ติ วุตฺตํ.
อาปตฺตานาปตฺติวารวณฺณนา
๖๖. ปฏิฺาตกรณํ ¶ นตฺถิ เสเวตุกามตา มคฺเคน มคฺคปฺปฏิปตฺตีติ ทฺวินฺนํ องฺคานํ สิทฺธตฺตา. ทูสิตสฺส ปน มคฺเคน มคฺคปฺปฏิปตฺติ เอวเมกํ องฺคํ สิทฺธํ, เสเวตุกามตาสงฺขาตํ สาทิยนํ อสิทฺธํ. ตสฺมา โส ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สาทิยิ’’นฺติ วุตฺตปฏิฺาย นาเสตพฺโพ. ตตฺเถวาติ เวสาลิยํ มหาวเน เอว. สพฺพงฺคคตนฺติ สพฺพกายคตํ. ‘‘โลหิตํ วิยา’’ติ วุตฺตตฺตา เกสาทีนํ วินิมุตฺตฏฺาเน สพฺพตฺถาติ คเหตพฺพํ. นิจฺจเมว อุมฺมตฺตโก โหตีติ ¶ ยสฺส ปิตฺตโกสโต ปิตฺตํ จลิตฺวา สพฺพทา พหิ นิกฺขนฺตํ โหติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยสฺส ปน ปิตฺตํ จลิตฺวา ปิตฺตโกเสเยว ิตํ โหติ, กทาจิ วา นิกฺขนฺตํ ปุน นิกฺขมติ, โสปิ อนฺตรนฺตรา สฺํ ปฏิลภติ เภสชฺเชน จ ปกติอาโรคฺยํ ปฏิลภตีติ เวทิตพฺพํ.
ปทภาชนียวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
ปกิณฺณกกถาวณฺณนา
ปกิณฺณกนฺติ โวมิสฺสกนยํ. สมุฏฺานนฺติ อุปฺปตฺติการณํ. กิริยาติอาทิ นิทสฺสนมตฺตํ อกิริยาทีนมฺปิ สงฺคหโต. เวทนาย สห กุสลฺจ เวทิตพฺพนฺติ โยเชตพฺพํ. สพฺพสงฺคาหกวเสนาติ สพฺเพสํ สิกฺขาปทานํ สงฺคาหกวเสน ‘‘กาโย วาจา กายวาจา กายจิตฺตํ วาจาจิตฺตํ กายวาจาจิตฺต’’นฺติ เอวํ วุตฺตานิ ฉ อาปตฺติสมุฏฺานานิ. สมุฏฺานาทโย หิ อาปตฺติยา เอว โหนฺติ, น สิกฺขาปทสฺส. ตํตํสิกฺขาปทสฺส นิยตอาปตฺติยา เอว คหณตฺถํ ปน สิกฺขาปทสีเสน สมุฏฺานาทีนํ กถนํ. เอวฺหิ อาปตฺติวิเสโส ปฺายติ อาปตฺติ-สทฺทสฺส สพฺพาปตฺติสาธารณตฺตา, อิเมสุ ปน ฉสุ สมุฏฺาเนสุ ปุริมานิ ตีณิ อจิตฺตกานิ, ปจฺฉิมานิ สจิตฺตกานิ. สมาสโต ตํ อิมํ ปกิณฺณกํ วิทิตฺวา เวทิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ฉ สมุฏฺานานิ เอตสฺสาติ ฉสมุฏฺานํ. เอวํ เสเสสุปิ.
อตฺถิ กถินสมุฏฺานนฺติอาทิ สมุฏฺานสีสวเสน ทฺวิสมุฏฺานเอกสมุฏฺานานํ ทสฺสนํ. เตรส หิ สมุฏฺานสีสานิ ปมปาราชิกสมุฏฺานํ อทินฺนาทานสมุฏฺานํ สฺจริตฺตสมุฏฺานํ สมนุภาสนสมุฏฺานํ กถินสมุฏฺานํ เอฬกโลมสมุฏฺานํ ปทโสธมฺมสมุฏฺานํ อทฺธานสมุฏฺานํ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ ธมฺมเทสนาสมุฏฺานํ ภูตาโรจนสมุฏฺานํ โจรีวุฏฺาปนสมุฏฺานํ อนนฺุาตสมอุฏฺานนฺติ. ตตฺถ อตฺถิ ฉสมุฏฺานนฺติ อิมินา สฺจริตฺตสมุฏฺานํ วุตฺตํ, ปฺจสมุฏฺานสฺส อภาวโต ¶ ‘‘อตฺถิ ปฺจสมุฏฺาน’’นฺติ อวตฺวา ‘‘อตฺถิ จตุสมุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ, อิมินา จ อทฺธานสมุฏฺานํ อนนฺุาตสมุฏฺานฺจ สงฺคหิตํ. ยฺหิ ปมตติยจตุตฺถฉฏฺเหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺาติ ¶ , อิทํ อทฺธานสมุฏฺานํ. ยํ ปน ทุติยตติยปฺจมฉฏฺเหิ สมุฏฺาติ, อิทํ อนนฺุาตสมุฏฺานํ. อตฺถิ ติสมุฏฺานนฺติ อิมินา อทินฺนาทานสมุฏฺานํ ภูตาโรจนสมุฏฺานฺจ สงฺคหิตํ. ยฺหิ สจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฏฺาติ, อิทํ อทินฺนาทานสมุฏฺานํ. ยํ ปน อจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฏฺาติ, อิทํ ภูตาโรจนสมุฏฺานํ. อตฺถิ กถินสมุฏฺานนฺติอาทินา ปน อวเสสสมอุฏฺานสีสวเสน ทฺวิสมุฏฺานํ เอกสมุฏฺานฺจ สงฺคณฺหาติ. ตตฺถ หิ ยํ ตติยฉฏฺเหิ สมุฏฺาติ, อิทํ กถินสมุฏฺานํ นาม. ยํ ปน ปมจตุตฺเถหิ สมุฏฺาติ, อิทํ เอฬกโลมสมุฏฺานํ. ยํ ฉฏฺเเนว สมุฏฺาติ, อิทํ ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ, ‘‘สมนุภาสนสมอุฏฺาน’’นฺติปิ ตสฺเสว นามํ. อิติ สรูเปน อฏฺ อาปตฺติสีสานิ ทสฺสิตานิ. อาทิสทฺเทน ปเนตฺถ อวเสสานิ ปมปาราชิกสมุฏฺานปทโสธมฺมเถยฺยสตฺถธมฺมเทสนาโจรีวุฏฺาปนสมุฏฺานานิ ปฺจปิ สมุฏฺานสีสานิ สงฺคหิตานิ. ตตฺถ ยํ กายจิตฺตโต สมุฏฺาติ, อิทํ ปมปาราชิกสมุฏฺานํ. ยํ ทุติยปฺจเมหิ สมุฏฺาติ, อิทํ ปทโสธมฺมสมุฏฺานํ. ยํ จตุตฺถฉฏฺเหิ สมุฏฺาติ, อิทํ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ. ยํ ปฺจเมเนว สมุฏฺาติ, อิทํ ธมฺมเทสนาสมอุฏฺานํ. ยํ ปฺจมฉฏฺเหิ สมุฏฺาติ, อิทํ โจรีวุฏฺาปนสมุฏฺานํ. เอตฺถ จ ปจฺฉิเมสุ ตีสุ สจิตฺตกสมุฏฺาเนสุ เอเกกสมุฏฺานวเสน เอกสมุฏฺานานิ ติวิธานิ. ทฺวิสมุฏฺานานิ ปน ปมจตุตฺเถหิ วา ทุติยปฺจเมหิ วา ตติยฉฏฺเหิ วา จตุตฺถฉฏฺเหิ วา ปฺจมฉฏฺเหิ วา สมุฏฺานวเสน ปฺจวิธานีติ เวทิตพฺพานิ.
เอวํ สมุฏฺานวเสน สพฺพสิกฺขาปทานิ เตรสธา ทสฺเสตฺวา อิทานิ กิริยาวเสน ปฺจธา ทสฺเสตุํ ตตฺราปีติอาทิ วุตฺตํ. กิฺจีติ สิกฺขาปทํ. กิริยโตติ ปถวีขณนาทิ (ปาจิ. ๘๔-๘๕) วิย กายวจีวิฺตฺติชนิตกมฺมโต. อกิริยโตติ ปมกถินาทิ (ปารา. ๔๕๙ อาทโย) วิย กตฺตพฺพสฺส อกรเณเนว. กิริยากิริยโตติ อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา หตฺถโต จีวรปฏิคฺคหณาทิ (ปารา. ๕๐๘ อาทโย) วิย. สิยา กิริยโต, สิยา อกิริยโต รูปิยปฏิคฺคหณาทิ (ปารา. ๕๘๒ อาทโย) วิย, สิยา กิริยโต, สิยา กิริยากิริยโต กุฏิการาทิ (ปารา. ๓๔๒) วิย. วีติกฺกมสฺาย อภาเวน วิโมกฺโข อสฺสาติ สฺาวิโมกฺขนฺติ มชฺเฌปทโลปีสมาโส ทฏฺพฺโพ. จิตฺตงฺคํ ลภติ สจิตฺตกสมุฏฺาเนเหว ¶ สมุฏฺหนโต. อิตรนฺติ ยสฺส จิตฺตงฺคนิยโม นตฺถิ, ตํ, อนาปตฺติมุเขน เจตํ สฺาทุกํ วุตฺตํ, อาปตฺติมุเขน สจิตฺตกทุกนฺติ เอตฺตกเมว วิเสโส, อตฺถโต สมานาว.
กายวจีทฺวาเรหิ ¶ อาปชฺชิตพฺพมฺปิ กายกมฺเม วา วจีกมฺเม วา สงฺคยฺหติ. ตตฺถ พาหุลฺลวุตฺติโต อทินฺนาทานมุสาวาทาทโย วิยาติ อตฺถิ สิกฺขาปทํ กายกมฺมนฺติอาทินา กายกมฺมํ วจีกมฺมฺจาติ ทุกเมว วุตฺตํ, วิภาคโต ปน กายวจีกมฺเมน สทฺธึ ติกเมว โหติ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘สพฺพา จ กายกมฺมวจีกมฺมตทุภยวเสน ติวิธา โหนฺตี’’ติ. ตโตเยว อิธาปิ อทินฺนาทานาทีสุ (ปารา. ๘๙) กายกมฺมวจีกมฺมนฺติ ตทุภยวเสน ทสฺสิตํ. อตฺถิ ปน สิกฺขาปทํ กุสลนฺติอาทิ อาปตฺติสมุฏฺาปกจิตฺตวเสน การิเย การโณปจาเรน วุตฺตํ, น ปน อาปตฺติยา กุสลาทิปรมตฺถธมฺมตาวเสน อาปตฺติยา สมฺมุติสภาวตฺตา. กุสลากุสลาทิปรมตฺถธมฺเม อุปาทาย หิ ภควตา อาปตฺติสมฺมุติ ปฺตฺตา. วกฺขติ หิ ‘‘ยํ กุสลจิตฺเตน อาปชฺชติ, ตํ กุสล’’นฺติอาทิ (ปารา. อฏฺ. ๑.๖๖ ปกณฺณกกถา). น หิ ภควโต อาณายตฺตา อาปตฺติ กุสลาทิปรมตฺถสภาวา โหติ อนุปสมฺปนฺนานํ อาทิกมฺมิกานฺจ อาปตฺติปฺปสงฺคโต, ตสฺสา เทสนาทีหิ วิสุทฺธิอภาวปฺปสงฺคโต จ. น หิ การณพเลน อุปฺปชฺชมานา กุสลาทิสภาวา อาปตฺติ อนุปสมฺปนฺนาทีสุ นิวตฺตติ, อุปฺปนฺนาย จ ตสฺสา เกนจิ วินาโส น สมฺภวติ. สรสวินาสโต เทสนาทินา จ อาปตฺติ วิคจฺฉตีติ วจนมตฺถิ, น ปน เตน อกุสลาทิ วิคจฺฉติ. ปิตุฆาตาทิกมฺเมน หิ ปาราชิกํ อาปนฺนสฺส ภิกฺขุโน คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา ภิกฺขุภาวปริจฺจาเคน ปาราชิกาปตฺติ วิคจฺฉติ, น ปาณาติปาตาทิอกุสลํ อานนฺตริยาทิภาวโต. ตสฺมา ทุมฺมงฺกูนํ นิคฺคหาทิทสอตฺถวเส (ปารา. ๓๙; ปริ. ๒) ปฏิจฺจ ภควตา ยถาปจฺจยํ สมุปฺปชฺชมาเน กุสลากุสลาทินามรูปธมฺเม อุปาทาย ปฺตฺตา สมฺมุติเยว อาปตฺติ, สา จ ยถาวิธิปฏิกมฺมกรเณน วิคตา นาม โหตีติ เวทิตพฺพํ, เตนาห ทฺวตฺตึเสว หิ อาปตฺติสมุฏฺาปกจิตฺตานีติอาทิ. อาปตฺติสมุฏฺาปกตฺเตเนว เหตฺถ กุสลาทีนํ อาปตฺติโต เภโท สิทฺโธ. น ¶ หิ ตํสมุฏฺิตสฺส ตโต อเภโท ยุตฺโต สมุฏฺานสมุฏฺิตเภทพฺยวหารุปจฺเฉทปฺปสงฺคโต. สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๖๖ ปกิณฺณกกถาวณฺณนา) ปน อาปตฺติยา ปรมตฺถโต กุสลตฺตเมว น สมฺภวติ ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ, สิยา อพฺยากตํ, นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ วจนโต, ‘‘อกุสลตฺตํ ปน อพฺยากตตฺตฺจ อาปตฺติยา สมฺภวตี’’ติ สฺาย กุสลจิตฺตสมุฏฺานกฺขเณปิ รูปาพฺยากตตฺตํ อาปตฺติยา สมตฺเถตุํ ยํ กุสลจิตฺเตน อาปชฺชติ, ตํ กุสลํ, อิตเรหิ อิตรนฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๖๖ ปกิณฺณกกถา) อิมํ อฏฺกถาวจนํ นิสฺสาย วุตฺตํ ‘‘ยํ กุสลจิตฺเตน อาปชฺชตีติ ยํ สิกฺขาปทสีเส คหิตํ อาปตฺตึ กุสลจิตฺตสมงฺคี อาปชฺชติ, อิมินา ปน วจเนน ตํ กุสลนฺติ อาปตฺติยา วุจฺจมาโน กุสลภาโว ปริยายโต, น ปรมตฺถโตติ ทสฺเสติ. กุสลจิตฺเตน หิ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต สวิฺตฺติกํ ¶ อวิฺตฺติกํ วา สิกฺขาปทวีติกฺกมาการปฺปวตฺตํ รูปกฺขนฺธสงฺขาตํ อพฺยากตาปตฺตึ อาปชฺชตี’’ติ. ตตฺถ ยํ กุสลจิตฺเตน อาปชฺชตีติ อิมํ วจนํ อุทฺทิสฺส ‘‘อิมินา ปน วจเนน ตํ กุสลนฺติ อาปตฺติยา วุจฺจมาโน กุสลภาโว ปริยายโต, น ปรมตฺถโตติ ทสฺเสตี’’ติ วุตฺตํ, เอวํ อิตเรหิ อิตรนฺติ วจเนน ‘‘ยํ อกุสลจิตฺเตน อาปชฺชหิ, ตํ อกุสลํ, ยํ อพฺยากตจิตฺเตน อาปชฺชติ, ตํ อพฺยากต’’นฺติ อิมสฺส อตฺถสฺส วุตฺตตฺตา อิตเรหีติ วจนํ อุทฺทิสฺส ‘‘อิมินาปิ วจเนน อิตรนฺติ อาปตฺติยา วุจฺจมาโน อกุสลภาโว อพฺยากตภาโว จ ปริยายโต ทสฺเสตี’’ติ วตฺตพฺพํ. เอวํ อวตฺวา กุสลปกฺเข เอว กถนสฺส การณํ น ปสฺสาม. ยํ ปน อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลนฺติอาทิวจนํ การณตฺเตน วุตฺตํ, ตมฺปิ อการณํ ยํ อกุสลจิตฺเตน อาปชฺชติ, ตํ อกุสลนฺติอาทินา เหฏฺา วุตฺตนเยน อกุสลาทิภาวสฺส ปริยายเทสิตตฺตา, อาปตฺติยา กุสลโวหารสฺส อยุตฺตตาย นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสลนฺติ วุตฺตตฺตา จ. อาปตฺติยา หิ กุสลจิตฺตสมุฏฺิตตฺเตปิ ภควตา ปฏิกฺขิตฺตภาเวน สาวชฺชธมฺมตฺตา การณูปจาเรนาปิ อนวชฺชกุสลโวหาโร น ยุตฺโต สาวชฺชานวชฺชานํ อฺมฺวิรุทฺธตฺตา. ยถา อากาสาทิสมฺมุติสจฺจานํ อุปฺปนฺนตาทิโวหาโร วิย ชาติชราภงฺคานํ อุปฺปนฺนตาทิโวหาโร อนวฏฺานาทิเทสโต อยุตฺโต, เอวมิธาปิ กุสลโวหาโร อยุตฺโต วิรุทฺธตฺตา. อกุสลาทิโวหาโร ปน ยุตฺโต ¶ , การณูปจาเรน ปน อกุสลาทิสภาวตา ยถาวุตฺตโทสานติวตฺตนโต. สุตฺตสฺสาปิ หิ ยถา สุตฺตสุตฺตานุโลมาทีหิ วิโรโธ น โหติ, ตเถว อตฺโถ คเหตพฺโพ.
ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘กุสลจิตฺเตน หิ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต…เป… รูปกฺขนฺธสงฺขาตํ อพฺยากตาปตฺตึ อาปชฺชตี’’ติ, ตํ อยุตฺตเมว รูปกฺขนฺธสฺส ขณิกตาย อาปตฺติยาปิ เทสนาทิปฏิกมฺมํ วินาว ปฏิปสฺสทฺธิปฺปสงฺคโต. รูปปรมฺปรา อาปตฺตีติ เจ? ตนฺน, ปฏิกมฺเมนาปิ อวิคมปฺปสงฺคโต. น หิ รูปสนฺตติเทสนาทีหิ วิคจฺฉติ สการณายตฺตตฺตา, อิติ สพฺพถา อาปตฺติยา ปรมตฺถตา อยุตฺตา, เอเตเนว ยํ วุตฺตํ ‘‘นิปชฺชิตฺวา นิโรธสมาปนฺนสฺส สหเสยฺยวเสน ตถาการปฺปวตฺตรูปธมฺมสฺเสว อาปตฺติภาวโต’’ติอาทิ, ตมฺปิ ปฏิสิทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ. อิธ ปน นิโรธสมาปนฺนานํ รูปธมฺมเมว ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนตฺตา อาปตฺติ อจิตฺตา อเวทนา, อฺตฺถ ปน สจิตฺตา สเวทนาว, สพฺพตฺถาปิ ปฺตฺติสภาวาติ เวทิตพฺพา. เตเนว ทุฏฺโทสสิกฺขาปทฏฺกถายํ อาปตฺติยา อกุสลาทิสภาวํ ปรปริกปฺปิตํ นิเสเธตุํ ‘‘อาทิกมฺมิกสฺส อนาปตฺติวจนโต…เป… ปณฺณตฺติมตฺตเมว อาปตฺตาธิกรณนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติ สยเมว วกฺขติ, ตสฺมา ‘‘ตํตํกุสลาทิธมฺมสมุปฺปตฺติยา ภควตา ปฺตฺตา อาปตฺติสมฺมุติ สมุฏฺิตา’’ติ จ, ‘‘ยาว ปฏิปฺปสฺสทฺธิการณา ติฏฺตี’’ติ จ, ‘‘ปฏิปฺปสฺสทฺธิการเณหิ ¶ วินสฺสตี’’ติ จ โวหรียติ. อาปตฺติยา จ สมฺมุติสภาวตฺเตปิ หิ สฺจิจฺจ ตํ อาปชฺชนฺตสฺส, ปฏิกิริยํ อกโรนฺตสฺส จ อนาทเร อกุสลราสิ เจว สคฺคมคฺคนฺตราโย จ โหตีติ ลชฺชิโน ยถาวิธึ นาติกฺกมนฺติ, อนติกฺกมนปฺปจฺจยา จ เตสํ อนนฺตปฺปเภทา สีลาทโย ธมฺมา ปริวฑฺฒนฺตีติ คเหตพฺพํ. ทฺวตฺตึเสวาติ นิยโม อาปตฺตินิมิตฺตานํ กายวจีวิฺตฺตีนํ เอเตเหว สมุปฺปชฺชนโต กโต, น ปน สพฺพาปตฺตีนมฺปิ เอเตเหว สมุปฺปชฺชนโต. นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺตานฺหิ ฌานนิโรธสมาปนฺนานฺจ อวิฺตฺติชนเกหิ วิปากอปฺปนาจิตฺเตหิ เจว รูปธมฺเมหิ จ สหเสยฺยาทิอาปตฺติ สมฺภวติ.
ทสาติ กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุทฺวเยน สห อฏฺ มหากิริยจิตฺตานิ. ปฺตฺตึ อชานิตฺวา อิทฺธิวิกุพฺพนาทีสุ อภิฺานํ อาปตฺติสมุฏฺาปกตฺตํ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ จ กิฺจิ สิกฺขาปทํ อกุสลจิตฺตเมว, กิฺจิ ¶ กุสลาพฺยากตวเสน ทฺวิจิตฺตํ, กิฺจิ ติจิตฺตนฺติ อยเมว เภโท ลพฺภติ, นาฺโติ เวทิตพฺพํ. กิริยาสมุฏฺานนฺติ ปรูปกฺกเมน ชายมานํ องฺคชาตาทิจลนํ สาทิยนจิตฺตสงฺขาเต เสวนจิตฺเต อุปฺปนฺเน เตน จิตฺเตน สมุปฺปาทิตเมว โหตีติ วุตฺตํ อิตรถา ‘‘สิยา กิริยสมุฏฺานํ, สิยา อกิริยสมุฏฺาน’’นฺติ วตฺตพฺพโต.
ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๖๖ ปกิณฺณกกถาวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘กิริยสมุฏฺานนฺติ อิทํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ ปรูปกฺกเม สติ สาทิยนฺตสฺส อกิริยสมุฏฺานภาวโต’’ติอาทิ, ตํ น คเหตพฺพํ ปมปาราชิกสฺส อกิริยสมุฏฺานตาย ปาฬิอฏฺกถาสุ อวุตฺตตฺตา. ‘‘มโนทฺวาเร อาปตฺติ นาม นตฺถี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา; ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๔) หิ วุตฺตํ. กถฺหิ นาม ปรูปกฺกเมน เมถุนํ สาทิยนฺโต อตฺตโน องฺคชาตาทิกายจลนํ น สาทิเยยฺย, สาทิยนจิตฺตานุคุณเมว ปน สกลสรีเร จิตฺตชรูปสมุปฺปตฺติยา วิฺตฺติปิ สุขุมา สมุปฺปนฺนา เอว โหตีติ ทฏฺพฺพํ, เตนาห กายทฺวาเรเนว สมุฏฺานโต กายกมฺมนฺติอาทิ. จิตฺตํ ปเนตฺถ องฺคมตฺตํ โหตีติ กายวิฺตฺติ เอว กายกมฺมภาเว การณํ, น จิตฺตํ. ตํ ปเนตฺถ กายสงฺขาตาย วิฺตฺติยาเยว องฺคมตฺตํ, น กายกมฺมภาวสฺส, อิตรถา เมถุนสฺส ‘‘มโนกมฺม’’นฺติ วตฺตพฺพโต, เตนาห ‘‘น ตสฺส วเสน กมฺมภาโว ลพฺภตี’’ติ. กมฺมภาโวติ กายกมฺมภาโว. สพฺพฺเจตนฺติ เอตํ สมุฏฺานาทิกํ. สิกฺขาปทสีเสนาติ ตํตํสิกฺขาปทนิยตอาปตฺติยา เอว คหณตฺถํ สิกฺขาปทมุเขน.
ปกิณฺณกกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
วินีตวตฺถุวณฺณนา
อิทํ ¶ กินฺติ กเถตุกามตาปุจฺฉา. อิมาติอาทิ วิสฺสชฺชนํ. วินีตานิ อาปตฺตึ ตฺวํ ภิกฺขุ อาปนฺโนติอาทินา (ปารา. ๖๗) ภควตา วินิจฺฉินิตานิ วตฺถูนิ วินีตวตฺถูนิ. ตํ ตํ วตฺถุํ อุทฺธริตฺวา ทานโต ทสฺสนโต อุทฺทานภูตา คาถา อุทฺทานคาถา, สงฺคหคาถา, อุทฺเทสคาถาติ วุตฺตํ โหติ. วตฺถุ คาถาติ เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขูติอาทิกา วินีตวตฺถุปาฬิเยว เตสํ เตสํ วินีตวตฺถูนํ คนฺถนโต ‘‘วตฺถุคาถา’’ติ วุตฺตา ¶ , น ฉนฺโทวิจิติลกฺขเณน. อุทฺทานคาถานํ วตฺถุ วตฺถุคาถาติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอตฺถาติ วินีตวตฺถูสุ. ทุติยาทีนนฺติ ทุติยปาราชิกาทีนํ. ยํ ปสฺสิตฺวา จิตฺตการาทโย สิปฺปิกา จิตฺตกมฺมาทีนิ สิกฺขนฺติ, ตํ ปฏิจฺฉนฺนกรูปํ, ปฏิมารูปนฺติ อตฺโถ.
๖๗. ปุริมานิ ทฺเวติ มกฺกฏีวชฺชิปุตฺตกวตฺถูนิ ทฺเว. ตานิปิ ภควตา วินีตภาเวน ปุน วินีตวตฺถูสุ ปกฺขิตฺตานิ. ตตฺถ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสีติอาทิ ปน กิฺจาปิ เตสํ ปมํ กุกฺกุจฺจํ น อุปฺปนฺนํ, ภิกฺขูหิ ปน ภควตา จ ครหิตฺวา วุตฺตวจนํ สนฺธาย ปจฺฉา อุปฺปนฺนตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุนฺติอาทิ จ ภิกฺขูหิ อานนฺทตฺเถเรน จ ปมํ ภควโต อาโรจิเต, ภควตา จ เตสํ ปาราชิกตฺเต ปกาสิเต ภีตา เต สยมฺปิ คนฺตฺวา อตฺตโน กุกฺกุจฺจํ ปจฺฉา อาโรเจนฺติ เอว. ‘‘สจฺจํ กิร ตฺว’’นฺติอาทินา ภควตา ปุฏฺา ปน ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติ ปฏิชานนวเสนาปิ อาโรเจนฺติ. ภควาปิ อาปตฺตึ ตฺวนฺติอาทินา เตสํ ปาราชิกตฺตํ วินิจฺฉิโนติ เอว. อนุปฺตฺติกถายํ ปน ตํ สพฺพํ อวตฺวา อนุปฺตฺติยา อนุคุณเมว กิฺจิมตฺตํ วุตฺตํ, อิธาปิ เตสํ วตฺถูนํ ภควตา วินีตภาวทสฺสนตฺถํ เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เกจิ อิมํ อธิปฺปายํ อมนสิกตฺวา ‘‘อฺาเนเวตานิ วตฺถูนี’’ติ วทนฺติ. กุเสติ กุสติณานิ. เกเสหีติ มนุสฺสเกเสหิ.
๖๘. วณฺณโปกฺขรตายาติ เอตฺถ โปกฺขลํ นาม สมิทฺธํ สุนฺทรฺจ, ตสฺส ภาโว ‘‘โปกฺขรตา’’ติ ร-การํ กตฺวา วุตฺโต, สมิทฺธตา สุนฺทรตาติ อตฺโถ. ปธํเสสีติ อภิภวิ. น ลิมฺปตีติ น อลฺลียติ.
๖๙. เอวรูปา ปริวตฺตลิงฺคา ภิกฺขุนิโย อตฺถโต เอกโต อุปสมฺปนฺนาปิ อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนาสุเยว สงฺคยฺหนฺติ ภิกฺขูปสมฺปทาย ภิกฺขุนีอุปสมฺปทโตปิ อุกฺกฏฺตฺตา. ปาฬิยํ ‘‘ตาหิ อาปตฺตีหิ อนาปตฺติ’’นฺติ อุปโยควจนํ กตฺวา อนุชานามีติ ปเทน สมฺพนฺธิตพฺพํ. อิตฺถิลิงฺคนฺติ ¶ ถนาทิกํ อิตฺถิสณฺานํ วุตฺตนฺติ อาห – ‘‘ปุริส…เป… อิตฺถิสณฺานํ อุปฺปนฺน’’นฺติ. ตํ นานนฺตริกโต ปน ‘‘ปุริสินฺทฺริยมฺปิ อนฺตรหิตํ, อิตฺถินฺทฺริยฺจ อุปฺปนฺน’’นฺติ วุตฺตเมว โหติ, เอวํ อุปริปิ ลิงฺคคฺคหเณเนว อิตฺถินฺทฺริยาทิคฺคหณํ เวทิตพฺพํ. ตาติ อาปตฺติโย, ตสฺส วุฏฺาตุนฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ, ตาหิ อาปตฺตีหิ วุฏฺาเปตุนฺติ ¶ อตฺโถ. กถนฺติ อาห ตา สพฺพาปิ ภิกฺขุนีหิ กาตพฺพนฺติอาทิ. เตน ปฏิจฺฉนฺนายปิ อปฺปฏิจฺฉนฺนายปิ ครุกาปตฺติยา ปกฺขมานตฺตจรณาทิกํ วิธึ ทสฺเสติ.
โอกฺกนฺติกวินิจฺฉโยติ ปสงฺคานุคุณํ โอตรณกวินิจฺฉโย. พลวอกุสเลนาติ ปรทาริกกมฺมาทินา. ทุพฺพลกุสเลนาติ ยถาวุตฺตพลวากุสโลปหตสตฺตินา ตโต เอว ทุพฺพลภูเตน กุสเลน. ทุพฺพลอกุสเลนาติ ปุริสภาวุปฺปาทกพฺรหฺมจริยาทิพลวกุสโลปหตสตฺตินา ตโต เอว ทุพฺพลภูเตน ปรทาริกาทิอกุสเลน. สุคติยํ ภาวทฺวยสฺส กุสลกมฺมชตฺตา อกุสเลเนว วินาโส กุสเลเนว อุปฺปตฺตีติ อาห อุภยมฺปีติอาทิ. ทุคฺคติยํ ปน อกุสเลเนว อุภินฺนมฺปิ อุปฺปตฺติ จ วินาโส จ, ตตฺถ ทุพฺพลพลวภาโวว วิเสโส.
‘‘เอหิ มยํ คมิสฺสามา’’ติ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิธาย เอกทฺธานคมเน ปาจิตฺติยาปตฺติปริหารตฺถํ วุตฺตํ ‘‘สํวิทหนํ ปริโมเจตฺวา’’ติ. เตน เอกคามกฺเขตฺเตปิ พหิคามโต อนฺตรฆรํ สํวิธาย คมนมฺปิ อาปตฺติกรเมวาติ ทสฺเสติ. ปริโมจนวิธึ ทสฺเสนฺโต อาห มยนฺติอาทิ. พหิคาเมติ คามนฺตเร. ทุติยิกา ภิกฺขุนี ปกฺกนฺตา วา โหตีติอาทินา (ปาจิ. ๖๙๓) วุตฺตอนาปตฺติลกฺขณํ อนุโลเมตีติ วุตฺตํ ‘‘คามนฺตร…เป… อนาปตฺตี’’ติ. โกเปตฺวาติ ปริจฺจชิตฺวา. ลชฺชินิโย…เป… ลพฺภตีติ ลิงฺคปริวตฺตนทุกฺขปีฬิตสฺส สงฺคเหปิ อสติ หีนายาวตฺตนมฺปิ ภเวยฺยาติ ‘‘อาปทาสู’’ติ วุตฺตอนาปตฺติอนุโลเมน วุตฺตํ. ตาย ทุติยิกํ คเหตฺวาว คนฺตพฺพํ. อลชฺชินิโย…เป… ลพฺภตีติ อลชฺชินีหิ สทฺธึ เอกกมฺมาทิสํวาเส อาปตฺติสมฺภวโต ตา อสนฺตปกฺขํ ภชนฺตีติ วุตฺตํ, อิมินาเปตํ เวทิตพฺพํ ‘‘อลชฺชินีหิ สทฺธึ ปริโภโค น วฏฺฏตี’’ติ. ยทิ หิ วฏฺเฏยฺย, ตโตปิ ทุติยิกํ วินา คามนฺตรคมนาทีสุ อาปตฺติ เอว สิยา สงฺคาหิกตฺตา ตาสํ สงฺคาหิกลชฺชินิคณโต วิย. าติกา น โหนฺติ…เป… วฏฺฏตีติ วทนฺตีติ อิมินา อฏฺกถาสุ อนาคตภาวํ ทีเปติ. ตตฺถาปิ วิสฺสาสิกาติกภิกฺขุนิโย วินา ภิกฺขุนิภาเว อรมนฺตสฺส มานปกติกสฺส อาปทาฏฺานสมฺภเวน ตํ วจนํ อปฺปฏิกฺขิตฺตมฺปิ ตทฺเสํ น วฏฺฏติเยวาติ คเหตพฺพํ. ภิกฺขุภาเวปีติ ภิกฺขุกาเลปิ ¶ . ตํ นิสฺสายาติ ตํ นิสฺสยาจริยํ กตฺวา. อุปชฺฌา คเหตพฺพาติ อุปสมฺปทาคหณตฺถํ อุปชฺฌา คเหตพฺพา.
วินยกมฺมนฺติ ¶ วิกปฺปนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปุน กาตพฺพนฺติ ปุน วิกปฺเปตพฺพํ. ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ วฏฺฏตีติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนีนํ สนฺนิธึ ภิกฺขูหิ, ภิกฺขูนํ สนฺนิธึ ภิกฺขุนีหิ จ ปฏิคฺคาหาเปตฺวา ปริภฺุชิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๔๒๑) วจนโต ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. สตฺตเม ทิวเสติ อิทฺจ นิสฺสคฺคิยํ อนาปชฺชิตฺวาว ปุนปิ สตฺตาหํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ปกตตฺโตติ อปริวตฺตลิงฺโค. รกฺขตีติ ตํ ปฏิคฺคหณวิชหนโต รกฺขติ, อวิภตฺตตาย ปฏิคฺคหณํ น วิชหตีติ อธิปฺปาโย.
สามํ คเหตฺวาน นิกฺขิเปยฺยาติ สหตฺเถน ปฏิคฺคเหตฺวาน นิกฺขิเปยฺย. ปริภฺุชนฺตสฺส อาปตฺตีติ ลิงฺคปริวตฺเต ชาเต ปุน อปฺปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส อาปตฺติ.
หีนายาวตฺตเนนาติ เอตฺถ เกจิ ‘‘ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย ‘คิหี ภวิสฺสามี’ติ คิหิลิงฺคคฺคหณํ หีนายาวตฺตน’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ ตตฺตเกน ภิกฺขุภาวสฺส อวิชหนโต. อฺเ ปน ‘‘ปาราชิกํ อาปนฺนสฺส ภิกฺขุปฏิฺํ ปหาย คิหิลิงฺคภาวูปคมนมฺปิ หีนายาวตฺตน’’นฺติ วทนฺติ, ตํ ยุตฺตเมว. ปาราชิกํ อาปนฺโน หิ ตํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ยาว ภิกฺขุปฏิฺโ โหติ, ตาว ภิกฺขุ เอว โหติ ภิกฺขูนเมว ปาราชิกสฺส ปฺตฺตตฺตา. ‘‘โย ปน ภิกฺขู’’ติ หิ วุตฺตํ. ตถา หิ โส สํวาสํ สาทิยนฺโตปิ เถยฺยสํวาสโก น โหติ, สหเสยฺยาทิอาปตฺติฺจ น ชเนติ, อตฺตานํ โอมสนฺตสฺส ปาจิตฺติยฺจ ชเนติ. วุตฺตฺหิ –
‘‘อสุทฺโธ โหติ ปุคฺคโล อฺตรํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน, ตฺเจ สุทฺธทิฏฺิ สมาโน โอกาสํ การาเปตฺวา อกฺโกสาธิปฺปาโย วเทติ, อาปตฺติ โอมสวาทสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๘๙).
เอเก ปน ‘‘ปาราชิกํ อาปนฺนานํ โทสํ ปฏิชานิตฺวา คิหิลิงฺคคฺคหณํ นาม สิกฺขาปจฺจกฺขาเน สโมธานํ คจฺฉติ เตนาปิ ปฏิฺาย ภิกฺขุภาวสฺส วิชหนโต. เตเนว วินยวินิจฺฉยาทีสุ หีนายาวตฺตนํ สิกฺขาปจฺจกฺขาเน สโมธาเนตฺวา ¶ วิสุํ ตํ น วุตฺตํ. ตสฺมา ภิกฺขุนีนํ วิพฺภมิตุกามตาย คิหิลิงฺคคฺคหณํ อิธ หีนายาวตฺตนํ ตาสํ สิกฺขาปจฺจกฺขานสฺส อภาวโต. ตาสํ ปฏิคฺคหณวิชหนสฺสาปิ สพฺพโส วตฺตพฺพตฺตา’’ติ วทนฺติ, ตมฺปิ อปฺปฏิพาหิยเมว. ตสฺมา ปาราชิกานํ ภิกฺขุนีนฺจ ‘‘อุปฺปพฺพชิสฺสามี’’ติ คิหิลิงฺคคฺคหณํ ¶ หีนายาวตฺตนนฺติ คเหตพฺพํ. วิพฺภโมติปิ เอตสฺเสว นามํ, เตเนว ตํ ขุทฺทสิกฺขายํ ‘‘อจฺเฉทวิสฺสชฺชนคาหวิพฺภมา’’ติ อธิฏฺานวิชหเน วิพฺภมนาเมน วุตฺตํ.
อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนนาติ อฺสฺส อทตฺวาว อนตฺถิกสฺเสว ปฏิคฺคหิตวตฺถูนํ พหิ ฉฑฺฑเนน. เกจิ ‘‘ปฏิคฺคหิตวตฺถูสุ สาเปกฺขสฺส ปุเร ปฏิคฺคหิตภาวโต ปริโมจนตฺถํ ตตฺถ ปฏิคฺคหมตฺตสฺส วิสฺสชฺชนมฺปิ อนเปกฺขวิสฺสชฺชนเมว จีวราทิอธิฏฺานปจฺจุทฺธาโร วิยา’’ติ วทนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ ตถาวจนาภาวา. ยเถว หิ จีวราทีสุ อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนน อธิฏฺานวิชหนํ วตฺวาปิ วิสุํ ปจฺจุทฺธาโร จ วุตฺโต, เอวมิธาปิ วตฺตพฺพํ, ยถา จ จีวราทีสุ กายปฏิพทฺเธสุปิ ปจฺจุทฺธาเรน อธิฏฺานํ วิคจฺฉติ, น เอวมิธ. อิธ ปน ปฏิคฺคหิตวตฺถุสฺมึ อนเปกฺขสฺสาปิ กายโต มุตฺเตเยว ตสฺมึ ปฏิคฺคหณํ วิชหติ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘สตกฺขตฺตุมฺปิ ปริจฺจชตุ, ยาว อตฺตโน หตฺถคตํ ปฏิคฺคหิตเมวา’’ติ. อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนนาติ เอตฺถ จ ‘‘อนเปกฺขายา’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ อนเปกฺขตํ มฺุจิตฺวา อิธ วิสุํ วิสฺสชฺชนสฺส อภาวา. น เหตฺถ ปจฺจุทฺธาเร วิย วิสฺสชฺชนวิธานมตฺถิ. อปิจ ปฏิคฺคหณมตฺตวิสฺสชฺชเน สติ ปุเร ปฏิคฺคหิโตปิ อาหาโร ภฺุชิตุกมฺยตาย อุปฺปนฺนาย ปฏิคฺคหณมตฺตํ วิสฺสชฺเชตฺวา ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ยถาสุขํ ภฺุชิตพฺโพ สิยาติ, ตถา จ สนฺนิธิการกสิกฺขาปเท วุตฺตา สพฺพาปิ วินิจฺฉยเภทา นิรตฺถกา เอว สิยุํ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ –
‘‘คณฺิกปตฺตสฺส วา คณฺิกนฺตเร สฺเนโห ปวิฏฺโ โหติ…เป… ตาทิเส ปตฺเตปิ ปุนทิวเส ภฺุชนฺตสฺส ปาจิตฺติย’’นฺติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๓).
ตตฺถ ปน ‘‘ปฏิคฺคหณํ อนเปกฺขจิตฺเตน วิสฺสชฺเชตฺวา ภฺุชิตพฺพ’’นฺติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ, น จ วุตฺตํ. กตฺถจิ อีทิเสสุ จ คณฺิกปตฺตาทีสุ ปฏิคฺคหเณ อเปกฺขา กสฺสจิปิ นตฺเถว ตปฺปหานาย วายามโต, ตถาปิ ตตฺถคตอามิเส ปฏิคฺคหณํ น วิคจฺฉติ. กสฺมา? ภิกฺขุสฺส ปตฺเต ปุน ภฺุชิตุกามตาเปกฺขาย ¶ วิชฺชมานตฺตา ปตฺตคติเก อาหาเรปิ ตสฺสา วตฺตนโต. น หิ ปตฺตํ อวิสฺสชฺเชตฺวา ตคฺคติกํ อาหารํ วิสฺสชฺเชตุํ สกฺกา, นาปิ อาหารํ อวิสฺสชฺเชตฺวา ตคฺคติกํ ปฏิคฺคหณํ วิสฺสชฺเชตุํ. ตสฺมา วตฺถุโน วิสฺสชฺชนเมว อนเปกฺขวิสฺสชฺชนํ, น ปฏิคฺคหณสฺสาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. เตเนว สนฺนิธิสิกฺขาปทสฺส อนาปตฺติวาเร –
‘‘อนฺโตสตฺตาหํ ¶ อธิฏฺเติ, วิสฺสชฺเชติ, นสฺสติ, วินสฺสติ, ฑยฺหติ, อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺติ, วิสฺสาสํ คณฺหนฺติ, อนุปสมฺปนฺนสฺส จตฺเตน วนฺเตน มุตฺเตน อนเปกฺโข ทตฺวา ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชตี’’ติ –
เอวํ สพฺพตฺถ วตฺถุวิสฺสชฺชนเมว วุตฺตํ. เอตฺถ จ ‘‘อนฺโตสตฺตาหํ อธิฏฺเตี’’ติ พาหิรปริโภคาย อธิฏฺานวจนโต วตฺถุํ อวิสฺสชฺเชตฺวาปิ เกวลํ อนชฺโฌหริตุกามตาย สุทฺธจิตฺเตน พาหิรปริโภคตฺถาย นิยมนมฺปิ วิสุํ เอกํ ปฏิคฺคหณวิชหนการณเมว, อิทฺจ สนฺธาย ปฏิคฺคหณมตฺตวิสฺสชฺชนํ วุตฺตํ สิยา, สุวุตฺตเมว สิยา, ตถา จ ‘‘ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิสฺสามี’’ติ ปฏิคฺคหณวิสฺสชฺชนํ น วตฺตพฺพํ สิยา พาหิรปริโภคาธิฏฺานสฺส อิธาธิปฺเปตตฺตา.
สารตฺถทีปนิยฺหิ (สารตฺถ. ที. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๖๙) ‘‘อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนนาติ เอตฺถ อฺสฺส อทตฺวาว อนตฺถิกตาย ‘นตฺถิ อิมินา กมฺมํ น ทานิ นํ ปริภฺุชิสฺสามี’ติ วตฺถูสุ วา, ‘ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ปฏิภฺุชิสฺสามี’ติ ปฏิคฺคหเณ วา อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนนา’’ติ เอวํ ปริภฺุชิตุกามสฺเสว ปฏิคฺคหณมตฺตวิสฺสชฺชนมฺปิ ปฏิคฺคหณวิชหนการณํ วุตฺตํ, ตํ น คเหตพฺพํ. ปุริมเมว ปน พาหิรปริโภคาธิฏฺานํ คเหตพฺพํ. อิทํ ปน อฏฺกถาสุ ‘‘อนเปกฺขวิสฺสชฺชนสงฺขาเต วิสฺสชฺเชตี’’ติ วุตฺตปาฬิปทตฺเถ สงฺคเหตฺวา วิสุํ น วุตฺตํ. นสฺสติ, วินสฺสติ, ฑยฺหติ, วิสฺสาสํ วา คณฺหนฺตีติ อิมานิ ปน ปทานิ อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺตีติ อิมสฺมึ ปเท สงฺคหิตานีติ เวทิตพฺพํ.
อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณนาติ อนุปสมฺปนฺนานํ พลกฺการาทินา อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณน. อุปสมฺปนฺนานฺหิ อจฺฉินฺทนวิสฺสาสคฺคาเหสุ ปฏิคฺคหณํ น วิชหติ. เอตฺถาติ ภิกฺขุวิหาเร. อุปโรปกาติ เตน โรปิตา รุกฺขคจฺฉา. เตรสสุ ¶ สมฺมุตีสูติ ภตฺตุทฺเทสกเสนาสนปฺาปกภณฺฑาคาริกจีวรปฏิคฺคาหกจีวรภาชกยาคุภาชกผลภาชกขชฺชภาชกอปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชกสาทิยคาหาปกปตฺตคาหาปกอารามิกเปสกสามเณรเปสกสมฺมุติสงฺขาตาสุ เตรสสุ สมฺมุตีสุ.
ปจฺฉิมิกาย เสนาสนคฺคาเห ปฏิปฺปสฺสทฺเธปิ อปฺปฏิปฺปสฺสทฺเธปิ กถินตฺถารสฺส, ตมฺมูลกานํ ปฺจานิสํสานฺจ อภาวสฺส สมานตฺตา ตตฺถ วิชฺชมานมฺปิ เสนาสนคฺคาหปฏิปฺปสฺสทฺธึ อทสฺเสตฺวา ตตฺถ ภิกฺขูหิ กตฺตพฺพํ สงฺคหเมว ทสฺเสตุํ สเจ ปจฺฉิมิกายาติอาทิ วุตฺตํ. สเจ อกุสลวิปาเก ¶ …เป… ฉารตฺตํ มานตฺตเมว ทาตพฺพนฺติ อิทํ ปฏิจฺฉนฺนาย สาธารณาปตฺติยา ปริวสนฺตสฺส อสมาทินฺนปริวาสสฺส วา ลิงฺเค ปริวตฺเต ปกฺขมานตฺตํ จรนฺตสฺส วเสน วุตฺตํ. สเจ ปนสฺส ปกฺขมานตฺเต อสมาทินฺเน เอว ปุน ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, ปริวาสํ ทตฺวา ปริวุตฺถปริวาสสฺเสว ฉารตฺตํ มานตฺตํ ทาตพฺพํ. ปริวาสทานํ นตฺถิ ภิกฺขุกาเล อปฺปฏิจฺฉนฺนภาวโต. สเจ ปน ภิกฺขุกาเลปิ สฺจิจฺจ นาโรเจติ, อาปตฺติ ปฏิจฺฉนฺนาว โหติ, อาปตฺติปฏิจฺฉนฺนภาวโต ปริวาโส จ ทาตพฺโพติ วทนฺติ. ปาราชิกํ อาปนฺนานํ อิตฺถิปุริสานํ ลิงฺเค ปริวตฺเตปิ ปาราชิกตฺตสฺส เอกสฺมึ อตฺตภาเว อวิชหนโต ปุน อุปสมฺปทา น ทาตพฺพาติ คเหตพฺพํ. เตเนว เตสํ สีสจฺฉินฺนปุริสาทโย นิทสฺสิตา.
๗๑. ตเถวาติ มุจฺจตุ วา มา วาติ อิมมตฺถํ อติทิสติ. อฺเสนฺติ ปุถุชฺชเน สนฺธาย วุตฺตํ. เตสฺหิ อีทิเส าเน อสาทิยนํ ทุกฺกรํ โสตาปนฺนาทิอริยานํ ตตฺถ ทุกฺกรตฺตาภาวา. น หิ อริยา ปาราชิกาทิโลกวชฺชาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ.
๗๓. สุผุสิตาติ อุปริมาย ทนฺตปนฺติยา เหฏฺิมา ทนฺตปนฺติ อาหจฺจ ิตา, อวิวฏาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อนฺโตมุเข โอกาโส นตฺถี’’ติ. อุปฺปาฏิเต ปน โอฏฺมํเส ทนฺเต สุเยว อุปกฺกมนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยนฺติ นิมิตฺเตน พหินิมิตฺเต ฉุปนตฺตา วุตฺตํ. พหินิกฺขนฺตทนฺตชิวฺหาสุปิ เอเสว นโย. นิชฺฌามตณฺหิกา นาม โลมกูเปหิ สมุฏฺิตอคฺคิชาลาหิ ทฑฺฒสรีรตาย อติวิย ตสิตรูปา. อาทิ-สทฺเทน ขุปฺปิปาสาสุรา อฏฺิจมฺมาวสิฏฺา ภยานกสรีรา เปติโย สงฺคหิตา. วิสฺํ กตฺวาติ ยถา โส กตมฺปิ ¶ อุปกฺกมํ น ชานาติ, เอวํ กตฺวา. เตน จ วิสฺี อหุตฺวา สาทิยนฺตสฺส ปาราชิกเมวาติ ทสฺเสติ. อุปหตกายปฺปสาโทติ วาตปิตฺตาทิโทเสหิ กายวิฺาณานุปฺปาทกภาเวน ทูสิตกายปฺปสาโท, น ปน วินฏฺกายปฺปสาโท. สีเส ปตฺเตติ มคฺเคน มคฺคปฺปฏิปาทเน ชาเต. อปฺปเวเสตุกามตาย เอว นิมิตฺเตน นิมิตฺตฉุปเน ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ, เสเวตุกามสฺส ปน ตตฺถาปิ ทุกฺกฏเมวาติ อาห ‘‘ทุกฺขฏเมว สามนฺต’’นฺติ.
๗๔. ชาติ-สทฺเทน สุมนปุปฺผปริยาเยน ตนฺนิสฺสโย คุมฺโพ อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘ชาติปุปฺผคุมฺพาน’’นฺติ. เตน จ ชาติยา อุปลกฺขิตํ วนํ ชาติยาวนนฺติ อลุตฺตสมาโสติ ทสฺเสติ. เอกรสนฺติ วีถิจิตฺเตหิ อสมฺมิสฺสํ.
๗๗. อุปฺปนฺเน วตฺถุมฺหีติ อิตฺถีหิ กตอชฺฌาจารวตฺถุสฺมึ. รุกฺขสูจิกณฺฏกทฺวารนฺติ รุกฺขสูจิทฺวารํ ¶ กณฺฏกทฺวารํ, เอวเมว วา ปาโ. ตตฺถ ยํ อุโภสุ ปสฺเสสุ รุกฺขถมฺเภ นิขนิตฺวา ตตฺถ มชฺเฌ วิชฺฌิตฺวา ทฺเว ติสฺโส รุกฺขสูจิโย ปเวเสตฺวา กโรนฺติ, ตํ รุกฺขสูจิทฺวารํ นาม. ปเวสนนิกฺขมนกาเล ปน อปเนตฺวา ถกนกโยคฺเคน กณฺฏกสาขาปฏเลน ยุตฺตํ ทฺวารํ กณฺฏกทฺวารํ นาม. คามทฺวารสฺส ปิธานตฺถํ ปทเรน กณฺฏกสาขาทีหิ วา กตสฺส กวาฏสฺส อุทุกฺขลปาสรหิตตาย เอเกน สํวริตุํ วิวริตฺุจ อสกฺกุเณยฺยสฺส เหฏฺา เอกํ จกฺกํ โยเชนฺติ, เยน ปริวตฺตมาเนน ตํ กวาฏํ สุขถกนํ โหติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘จกฺกลกยุตฺตทฺวาร’’นฺติ. จกฺกเมว หิ ลาตพฺพฏฺเน สํวรณวิวรณตฺถาย คเหตพฺพฏฺเน จกฺกลกํ, เตน ยุตฺตมฺปิ กวาฏํ จกฺกลกํ นาม, เตน ยุตฺตํ ทฺวารํ จกฺกลกยุตฺตทฺวารํ. มหาทฺวาเรสุ ปน ทฺเว ตีณิปิ จกฺกลกานิ โยเชนฺตีติ อาห ผลเกสูติอาทิ. กิฏิกาสูติ เวฬุเปสิกาหิ กณฺฏกสาขาทีหิ จ กตถกนเกสุ. สํสรณกิฏิกทฺวารนฺติ จกฺกลกยนฺเตน สํสรณกิฏิกายุตฺตมหาทฺวารํ. โคปฺเผตฺวาติ อาวุณิตฺวา, รชฺชูหิ คนฺเถตฺวา วา. เอกํ ทุสฺสสาณิทฺวารเมวาติ เอตฺถ กิลฺชสาณิทฺวารมฺปิ สงฺคหํ คจฺฉติ ตคฺคติกตฺตา. อถ ภิกฺขู…เป… นิสินฺนา โหนฺตีติ อิทํ ภิกฺขูนํ สนฺนิหิตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. นิปนฺเนปิ อาโภคํ กาตุํ วฏฺฏติ, นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺเต ปน อาโภคํ กาตุํ น วฏฺฏติ อสนฺตปกฺเข ิตตฺตา. รโห ¶ นิสชฺชาย วิย ทฺวารสํวรณํ นาม มาตุคามานํ ปเวสนนิวารณตฺถํ อนฺุาตนฺติ อาห ภิกฺขุนึ วาติอาทิ. นิสฺเสณึ อาโรเปตฺวาติ อิทํ เหฏฺิมตลสฺส สทฺวารพนฺธตาย วุตฺตํ. จตูสุ ทิสาสุ ปริกฺขิตฺตสฺส กุฏฺฏสฺส เอกาพทฺธตาย ‘‘เอกกุฏฺฏเก’’ติ วุตฺตํ. ปจฺฉิมานํ ภาโรติ ปาฬิยา อาคจฺฉนฺเต สนฺธาย วุตฺตํ. เยน เกนจิ ปริกฺขิตฺเตติ เอตฺถ ปริกฺเขปสฺส อุพฺเพธโต ปมาณํ สหเสยฺยปฺปโหนเก วุตฺตสทิสเมว.
มหาปริเวณนฺติ มหนฺตํ องฺคณํ, เตน จ พหุชนสฺจารํ ทสฺเสติ, เตนาห มหาโพธีติอาทิ. อรุเณ อุคฺคเต วุฏฺหติ, อนาปตฺติ อนาปตฺติเขตฺตภูตาย รตฺติยา สุทฺธจิตฺเตน นิปนฺนตฺตา. ปพุชฺฌิตฺวา ปุน สุปติ อาปตฺตีติ อรุเณ อุคฺคเต ปพุชฺฌิตฺวา อรุณุคฺคมนํ ตฺวา วา อตฺวา วา อนุฏฺหิตฺวา สยิตสนฺตาเนน สุปติ อุฏฺหิตฺวา กตฺตพฺพสฺส ทฺวารสํวรณาทิโน อกตตฺตา อกิริยสมุฏฺานา อาปตฺติ โหติ อนาปตฺติเขตฺเต กตนิปชฺชนกิริยาย อนงฺคตฺตา. อยฺหิ อาปตฺติ อีทิเส าเน อกิริยา, ทิวา อสํวริตฺวา นิปชฺชนกฺขเณ กิริยา จ อจิตฺตกา จาติ เวทิตพฺพา. ปุรารุณา ปพุชฺฌิตฺวาปิ ยาว อรุณุคฺคมนา สยนฺตสฺสาปิ ปุริมนเยน อาปตฺติเยว. อรุเณ อุคฺคเต วุฏฺหิสฺสามีติ…เป… อาปตฺติเยวาติ เอตฺถ กทา ตสฺส อาปตฺตีติ? วุจฺจเต – น ตาว รตฺติยํ ‘‘ทิวา อาปชฺชติ โน รตฺติ’’นฺติ (ปริ. ๓๒๓) วุตฺตตฺตา. ‘‘อนาทริยทุกฺกฏา น มุจฺจตี’’ติ วุตฺตทุกฺกฏํ ปน ทิวาสยนทุกฺกฏเมว น ¶ โหติ อนาทริยทุกฺกฏตฺตา. เอวํ อรุณุคฺคมเน ปน อจิตฺตกํ อกิริยสมุฏฺานํ อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ เวทิตพฺพํ. โส สเจ ทฺวารํ สํวริตฺวา ‘‘อรุเณ อุคฺคเต วุฏฺหิสฺสามี’’ติ นิปชฺชติ, ทฺวาเร จ อฺเหิ อรุณุคฺคมนกาเล วิวเฏปิ ตสฺส อนาปตฺติเยว ทฺวารปิทหนสฺส รตฺติทิวาภาเคสุ วิเสสาภาวา. อาปตฺติอาปชฺชนสฺเสว กาลวิเสโส อิจฺฉิตพฺโพ, น ตปฺปริหารสฺสาติ คเหตพฺพํ, ‘‘ทฺวารํ อสํวริตฺวา รตฺตึ นิปชฺชตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๗๗) หิ วุตฺตํ. ทิวา สํวริตฺวา นิปนฺนสฺส เกนจิ วิวเฏปิ ทฺวาเร อนาปตฺติเยว. อตฺตนาปิ อนุฏฺหิตฺวาว สติ ปจฺจเย วิวเฏปิ อนาปตฺตีติ วทนฺติ. ยถาปริจฺเฉทเมว จ น วุฏฺาตีติ อรุเณ อุคฺคเตเยว อุฏฺาติ. อาปตฺติเยวาติ มูลาปตฺตึเยว สนฺธาย วุตฺตํ, อนาทริยอาปตฺติ ปน ปุรารุณา อุฏฺิตสฺสาปิ ตสฺส โหเตว ‘‘ทุกฺกฏา ¶ น มุจฺจตี’’ติ วุตฺตตฺตา, ทุกฺกฏา น มุจฺจตีติ จ ปุรารุณา อุฏฺหิตฺวา มูลาปตฺติยา มุตฺโตปิ อนาทริยทุกฺกฏา น มุจฺจตีติ อธิปฺปาโย.
นิทฺทาวเสน นิปชฺชตีติ โวหารวเสน วุตฺตํ, ปาทานํ ปน ภูมิโต อโมจิตตฺตา อยํ นิปนฺโน นาม น โหติ, เตเนว อนาปตฺติ วุตฺตา. อปสฺสาย สุปนฺตสฺสาติ กฏิฏฺิโต อุทฺธํ ปิฏฺิกณฺฏเก อปฺปมตฺตกมฺปิ ปเทสํ ภูมึ อผุสาเปตฺวา ถมฺภาทึ อปสฺสาย สุปนฺตสฺส. กฏิฏฺึ ปน ภูมึ ผุสาเปนฺตสฺส สยนํ นาม โหติ. ปิฏฺิปสารณลกฺขณา หิ เสยฺยา. ทีฆวนฺทนาทีสุปิ ติริยํ ปิฏฺิกณฺฏกานํ ปสาริตตฺตา นิปชฺชนเมวาติ อาปตฺติ ปริหริตพฺพาว ‘‘วนฺทามีติ ปาทมูเล นิปชฺชี’’ติอาทีสุ นิปชฺชนสฺเสว วุตฺตตฺตา. ตสฺสาปิ อนาปตฺติ ปตนกฺขเณ อวิสยตฺตา, วิสเย ชาเต สหสา วุฏฺิตตฺตา จ. ยสฺส ปน วิสฺิตาย ปจฺฉาปิ อวิสโย, เอตสฺส อนาปตฺติเยว ปติตกฺขเณ วิย. ตตฺเถว สยติ น วุฏฺาตีติ อิมินา วิสเยปิ อกรณํ ทสฺเสติ, เตเนว ‘‘ตสฺส อาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ.
เอกภงฺเคนาติ อุโภ ปาเท ภูมิโต อโมเจตฺวาว เอกปสฺเสน สรีรํ ภฺชิตฺวา นิปนฺโน. มหาอฏฺกถายํ ปน มหาปทุมตฺเถเรน วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ, เตน ‘‘มหาอฏฺกถาย ลิขิตมหาปทุมตฺเถรวาโท อย’’นฺติ ทสฺเสติ. ตตฺถ สุปนฺตสฺสาปิ อวิสยตฺตมตฺถีติ มหาปทุมตฺเถเรน ‘‘อวิสยตฺตา ปน อาปตฺติ น ทิสฺสตี’’ติ วุตฺตํ. อาจริยา ปน สุปนฺตสฺส วิสฺตฺตาภาเวน วิสยตฺตา อนาปตฺตึ น กถยนฺติ. วิสฺตฺเต สติ อนาปตฺติเยว. ทฺเว ปน ชนาติอาทิปิ มหาอฏฺกถายเมว วจนํ, ตเทว ปจฺฉา วุตฺตตฺตา ปมาณํ. ยกฺขคหิตคฺคหเณเนว เจตฺถ วิสฺีภูโตปิ สงฺคหิโต. เอกภงฺเคน นิปนฺโน ปน อนิปนฺนตฺตา อาปตฺติโต มุจฺจติเยวาติ คเหตพฺพํ.
๗๘. อปเทติ ¶ อากาเส. ปทนฺติ ปทวฬฺชํ, เตนาห ‘‘อากาเส ปท’’นฺติ. เอตทคฺคนฺติ เอโส อคฺโค. ยทิทนฺติ โย อยํ. เสสํ อุตฺตานเมว.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
ปมปาราชิกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๒. ทุติยปาราชิกํ
อทุติเยนาติ ¶ ¶ อสทิเสน ชิเนน ยํ ทุติยํ ปาราชิกํ ปกาสิตํ, ตสฺส อิทานิ ยสฺมา สํวณฺณนากฺกโม ปตฺโต, ตสฺมา อสฺส ทุติยสฺส อยํ สํวณฺณนา โหตีติ โยชนา.
ธนิยวตฺถุวณฺณนา
๘๔. ราชูหิ คหิตนฺติ ราชคหนฺติ อาห ‘‘มนฺธาตู’’ติ. ราชปุโรหิเตน ปริคฺคหิตมฺปิ ราชปริคฺคหิตเมวาติ มหาโควินฺทคฺคหณํ, นครสทฺทาเปกฺขาย เจตฺถ ‘‘ราชคห’’นฺติ นปุํสกนิทฺเทโส. อฺเเปตฺถ ปกาเรติ สุสํวิหิตารกฺขตฺตา ราชูนํ คหํ เคหภูตนฺติ ราชคหนฺติอาทิเก ปกาเร. วสนฺตวนนฺติ กีฬาวนํ, วสนฺตกาเล กีฬาย เยภุยฺยตฺตา ปน วสนฺตวนนฺติ วุตฺตํ.
สทฺวารพนฺธาติ วสฺสูปคมนโยคฺคตาทสฺสนํ. นาลกปฏิปทนฺติ สุตฺตนิปาเต (สุ. นิ. ๖๘๔ อาทโย) นาลกตฺเถรสฺส เทสิตํ โมเนยฺยปฏิปทํ. ปฺจนฺนํ ฉทนานนฺติ ติณปณฺณอิฏฺกสิลาสุธาสงฺขาตานํ ปฺจนฺนํ. โน เจ ลภติ…เป… สามมฺปิ กาตพฺพนฺติ อิมินา นาวาสตฺถวเช เปตฺวา อฺตฺถ ‘‘อเสนาสนิโก อห’’นฺติ อาลยกรณมตฺเตน อุปคมนํ น วฏฺฏติ. เสนาสนํ ปริเยสิตฺวา วจีเภทํ กตฺวา วสฺสํ อุปคนฺตพฺพเมวาติ ทสฺเสติ. ‘‘น, ภิกฺขเว, อเสนาสนิเกนา’’ติอาทินา (มหาว. ๒๐๔) หิ ปาฬิยํ ‘‘นาลกปฏิปทํ ปฏิปนฺเนนาปี’’ติ อฏฺกถายฺจ อวิเสเสน ทฬฺหํ กตฺวา วุตฺตํ, นาวาสตฺถวเชสุเยว จ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นาวาย วสฺสํ อุปคนฺตุ’’นฺติอาทินา (มหาว. ๒๐๓) อสติปิ เสนาสเน อาลยกรณวเสน วสฺสูปคมนํ อนฺุาตํ, นาฺตฺถาติ คเหตพฺพํ. อยมนุธมฺมตาติ สามีจิวตฺตํ. กติกวตฺตานีติ ภสฺสารามตาทึ วิหาย สพฺพทา อปฺปมตฺเตหิ ภวิตพฺพนฺติอาทิกติกวตฺตานิ. ขนฺธกวตฺตานีติ ‘‘อาคนฺตุกาทิขนฺธกวตฺตํ ปูเรตพฺพ’’นฺติ เอวํ ขนฺธกวตฺตานิ จ อธิฏฺหิตฺวา.
วสฺสํวุตฺถาติ ปทสฺส อฏฺกถายํ ‘‘ปุริมิกาย อุปคตา มหาปวารณาย ปวาริตา ปาฏิปททิวสโต ¶ ปฏฺาย ‘วุตฺถวสฺสา’ติ วุจฺจนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา มหาปวารณาทิวเส ปวาเรตฺวา วา อปฺปวาเรตฺวา วา อฺตฺถ คจฺฉนฺเตหิ ¶ สตฺตาหกรณียนิมิตฺเต สติ เอว คนฺตพฺพํ, นาสติ, อิตรถา วสฺสจฺเฉโท ทุกฺกฏฺจ โหตีติ เวทิตพฺพํ. ‘‘อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมี’’ติ หิ ‘‘น, ภิกฺขเว, วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปุริมํ วา เตมาสํ ปจฺฉิมํ วา เตมาสํ อวสิตฺวา จาริกา ปกฺกมิตพฺพา’’ติ (มหาว. ๑๘๕) จ วุตฺตํ. อิเธว จ วสฺสํวุตฺถา เตมาสจฺจเยน…เป… ปกฺกมึสูติ วุตฺตํ. ปวารณาทิวโสปิ เตมาสปริยาปนฺโนว. เกจิ ปน ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสํวุตฺถานํ ภิกฺขูนํ ตีหิ าเนหิ ปวาเรตุนฺติ (มหาว. ๒๐๙) ปวารณากมฺมสฺส ปุพฺเพเยว วสฺสํวุตฺถานนฺติ วุตฺถวสฺสตาย วุตฺตตฺตา มหาปวารณาทิวเส สตฺตาหกรณียนิมิตฺตํ วินาปิ ยถาสุขํ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ, วุตฺถวสฺสานฺหิ ปวารณานุชานนํ อนุปคตฉินฺนวสฺสาทีนํ นิวตฺตนตฺถํ กตํ, น ปน ปวารณาทิวเส อวสิตฺวา ปกฺกมิตพฺพนฺติ ทสฺสนตฺถํ ตทตฺถสฺส อิธ ปสงฺคาภาวา, ปวารณํ กาตุํ อนุจฺฉวิกานํ ปวารณา อิธ วิธียติ, เย จ วสฺสํ อุปคนฺตฺวา วสฺสจฺเฉทฺจ อกตฺวา ยาว ปวารณาทิวสา วสึสุ, เต ตตฺตเกน ปวารณากมฺมํ ปติ ปริยายโต วุตฺถวสฺสาติ วุจฺจนฺติ, อปฺปกํ อูนมธิกํ วา คณนูปคํ น โหตีติ ายโต, น กถินกมฺมํ ปติ เตมาสสฺส อปริปุณฺณตฺตา, อิตรถา ตสฺมึ มหาปวารณาทิวเสปิ กถินตฺถารปฺปสงฺคโต. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสํวุตฺถานํ ภิกฺขูนํ กถินํ อตฺถริตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๐๖) อิทํ ปน ‘‘น, ภิกฺขเว, วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปุริมํ วา เตมาสํ ปจฺฉิมํ วา เตมาสํ อวสิตฺวา จาริกา ปกฺกมิตพฺพา’’ติอาทิ (มหาว. ๑๘๕) จ นิปฺปริยายโต มหาปวารณาย อนนฺตรปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย กถินตฺถารํ ปกฺกมนฺจ สนฺธาย วุตฺตํ, ปริวาเร จ ‘‘กถินสฺส อตฺถารมาโส ชานิตพฺโพ’’ติ (ปริ. ๔๑๒) วตฺวา ‘‘วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส ชานิตพฺโพ’’ติ (ปริ. ๔๑๒) วุตฺตํ. โย หิ กถินตฺถารสฺส กาโล, ตโต ปฏฺาเยว จาริกาปกฺกมนสฺสาปิ กาโล, น ตโต ปุเร วสฺสํวุตฺถานํเยว กถินตฺถารารหตฺตา. ยทคฺเคน หิ ปวารณาทิวเส กถินตฺถาโร น วฏฺฏติ, ตทคฺเคน ภิกฺขูปิ วุตฺถวสฺสา น โหนฺติ ปวารณาทิวสสฺส อวุตฺถตฺตา.
ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๘๔) ‘‘เอกเทเสน อวุตฺถมฺปิ ตํ ทิวสํ วุตฺถภาคาเปกฺขาย วุตฺถเมว โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ น ยุตฺตํ, ตํทิวสปริโยสาเน อรุณุคฺคมนกาเล วสนฺโตว หิ ตํ ทิวสํ วุตฺโถ นาม โหติ ¶ ปริวาสอรฺวาสาทีสุ วิย, อยฺจ วิจารณา อุปริ วสฺสูปนายิกกฺขนฺธเก อาวิ ภวิสฺสตีติ ตตฺเถว ตํ ปากฏํ กริสฺสาม.
มหาปวารณาย ¶ ปวาริตาติ ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา อจฺฉินฺนวสฺสตาทสฺสนปรํ เอตํ เกนจิ อนฺตราเยน อปฺปวาริตานมฺปิ วุตฺถวสฺสตฺตา. น โอวสฺสิยตีติ อโนวสฺสกนฺติ กมฺมสาธนํ ทฏฺพฺพํ, ยถา น เตมิยติ, ตถา กตฺวาติ อตฺโถ. อนวโยติ เอตฺถ อนุสทฺโท วิจฺฉายํ วตฺตตีติ อาห อนุ อนุ อวโยติอาทิ. อาจริยสฺส กมฺมํ อาจริยกนฺติ อาห ‘‘อาจริยกมฺเม’’ติ. กฏฺกมฺมํ ถมฺภาทิ. เตลตมฺพมตฺติกายาติ เตลมิสฺสาย ตมฺพมตฺติกาย.
๘๕. กุฏิกาย กรณภาวนฺติ กุฏิยา กตภาวํ. กึ-สทฺทปฺปโยเค อนาคตปฺปจฺจยวิธานํ สนฺธาย ตสฺส ลกฺขณนฺติอาทิ วุตฺตํ. กิฺจาปิ เถรสฺส ปาณฆาตาธิปฺปาโย นตฺถิ, อนุปปริกฺขิตฺวา กรเณน ปน พหูนํ ปาณานํ มรณตฺตา ปาเณ พฺยาพาเธนฺตสฺสาติอาทิ วุตฺตํ. ปาตพฺยภาวนฺติ วินาเสตพฺพตํ. ปาณาติปาตํ กโรนฺตานนฺติ เถเรน อกเตปิ ปาณาติปาเต ปาณกานํ มรณมตฺเตน ปจฺฉิมานํ เลเสน คหณาการํ ทสฺเสติ, เตน จ ‘‘มม ตาทิสํ อกุสลํ นตฺถี’’ติ ปจฺฉิมานํ วิปลฺลาสเลสคฺคหณนิมิตฺตกิจฺจํ น กตฺตพฺพนฺติ ทีปิตํ โหติ. ทิฏฺานุคตินฺติ ทิฏฺสฺส กมฺมสฺส อนุปคมนํ อนุกิริยํ, ทิฏฺิยา วา ลทฺธิยา อนุคมนํ คาหํ. ฆํสิตพฺเพติ มทฺทิตพฺเพ, วินาสิตพฺเพติ อตฺโถ. กตํ ลภิตฺวา ตตฺถ วสนฺตานมฺปิ ทุกฺกฏเมวาติ อิทํ ภควตา กุฏิยา เภทาปนวจเนน สิทฺธํ, สาปิ ติณทพฺพสมฺภาเรหิ ตุลาถมฺภาทีหิ อมิสฺสา สุทฺธมตฺติกามยาปิ อิฏฺกาหิ กตา วฏฺฏติ. เกจิ หิ อิฏฺกาหิเยว ถมฺเภ จินิตฺวา ตทุปริ อิฏฺกาหิเยว วิตานาทิสณฺาเนน ตุลาทิทารุสมฺภารวิรหิตํ ฉทนมฺปิ พนฺธิตฺวา อิฏฺกามยเมว อาวสถํ กโรนฺติ, ตาทิสํ วฏฺฏติ. คิฺชกาวสถสงฺเขเปน กตาติ เอตฺถ คิฺชกา วุจฺจนฺติ อิฏฺกา, ตาหิเยว กโต อาวสโถ คิฺชกาวสโถ. วยกมฺมมฺปีติ มตฺติกุทฺธารณอิฏฺกทารุจฺเฉทนาทิการกานํ ทินฺนภตฺตเวตฺตนาทิวตฺถุพฺพเยน นิปฺผนฺนกมฺมมฺปิ อตฺถิ, เอเตน กุฏิเภทกานํ คีวาทิภาวํ ปริสงฺกติ. ติตฺถิยธโชติ ติตฺถิยานเมว สฺาณภูตตฺตา วุตฺตํ. เต หิ อีทิเสสุ จาฏิอาทีสุ วสนฺติ. อฺานิปีติ ปิ-สทฺเทน อตฺตนา วุตฺตการณทฺวยมฺปิ มหาอฏฺกถายเมว วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. ยสฺมา สพฺพมตฺติกามยา ¶ กุฏิ สีตกาเล อติสีตา อุณฺหกาเล จ อุณฺหา สุกรา จ โหติ โจเรหิ ภินฺทิตุํ, ตสฺมา ตตฺถ ปิตปตฺตจีวราทิกํ สีตุณฺหโจราทีหิ วินสฺสตีติ วุตฺตํ ‘‘ปตฺตจีวรคุตฺตตฺถายา’’ติ. ฉินฺทาเปยฺย วา ภินฺทาเปยฺย วา อนุปวชฺโชติ อิทํ อยํ กุฏิ วิย สพฺพถา อนุปโยคารหํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ ปน ปฺจวณฺณสุตฺเตหิ วินทฺธฉตฺตาทิกํ, ตตฺถ อกปฺปิยภาโคว ฉินฺทิตพฺโพ, น ตทวเสโส ตสฺส กปฺปิยตฺตา, ตํ ฉินฺทนฺโต อุปวชฺโชว โหติ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ฆฏกมฺปิ วาฬรูปมฺปิ ภินฺทิตฺวา ธาเรตพฺพ’’นฺติอาทิ.
ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉยวณฺณนา
ฉตฺตทณฺฑคฺคาหกํ ¶ สลากปฺชรนฺติ เอตฺถ โย ปฺชรสลากานํ มชฺฌฏฺโ พุนฺเท ปุถุโล อหิจฺฉตฺตกสทิโส อคฺเค สฉิทฺโท ยตฺถ ทณฺฑนฺตรํ ปเวเสตฺวา ฉตฺตํ คณฺหนฺติ, โย วา สยเมว ทีฆตาย คหณทณฺโฑ โหติ, อยํ ฉตฺตทณฺโฑ นาม, ตสฺส อปริคฬนตฺถาย ฉตฺตสลากานํ มูลปฺปเทสทณฺฑสฺส สมนฺตโต ทฬฺหปฺชรํ กตฺวา สุตฺเตหิ วินนฺธนฺติ, โส ปเทโส ฉตฺตทณฺฑคาหกสลากปฺชรํ นาม, ตํ วินนฺธิตุํ วฏฺฏติ. น วณฺณมฏฺตฺถายาติ อิมินา ถิรกรณตฺถเมว เอกวณฺณสุตฺเตน วินนฺธิยมานํ ยทิ วณฺณมฏฺํ โหติ, น ตตฺถ โทโสติ ทสฺเสติ. อารคฺเคนาติ นิขาทนมุเขน. ทณฺฑพุนฺเทติ ทณฺฑมูเล โกฏิยํ. ฉตฺตมณฺฑลิกนฺติ ฉตฺตปฺชเร มณฺฑลากาเรน พทฺธทณฺฑวลยํ. อุกฺกิริตฺวาติ นินฺนํ, อุนฺนตํ วา กตฺวา.
นานาสุตฺตเกหีติ นานาวณฺเณหิ สุตฺเตหิ. อิทฺจ ตถา กโรนฺตานํ วเสน วุตฺตํ, เอกวณฺณสุตฺตเกนาปิ น วฏฺฏติเยว, ‘‘ปกติสูจิกมฺมเมว วฏฺฏตี’’ติ หิ วุตฺตํ. ปฏฺฏมุเขติ ทฺวินฺนํ ปฏฺฏานํ สงฺฆฏิตฏฺานํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ปริยนฺเตติ จีวรปริยนฺเต, อนุวาตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เวณินฺติ วรกสีสากาเรน สิพฺพนํ. สงฺขลิกนฺติ ทิคุณสงฺขลิกากาเรน สิพฺพนํ, เวณึ วา สงฺขลิกํ วา กโรนฺตีติ ปกเตน สมฺพนฺโธ. อคฺฆิยํ นาม เจติยสณฺานํ, ยํ อคฺฆิยตฺถมฺโภติ วทนฺติ. อุกฺกิรนฺตีติ อุฏฺเปนฺติ. จตุโกณเมว วฏฺฏตีติ คณฺิกปาสกปฏฺฏานิ สนฺธาย วุตฺตํ. โกณสุตฺตปิฬกาติ คณฺิกปาสกปฏฺฏานํ โกเณหิ พหิ นิคฺคตสุตฺตานํ ¶ ปิฬกากาเรน ปิตโกฏิโยติ เกจิ วทนฺติ, เต ปิฬเก ฉินฺทิตฺวา ทุวิฺเยฺยา กาตพฺพาติ เตสํ อธิปฺปาโย. เกจิ ปน ‘‘โกณสุตฺตา จ ปิฬกาติ ทฺเวเยวา’’ติ วทนฺติ, เตสํ มเตน คณฺิกปาสกปฏฺฏานํ โกณโต โกเณหิ นีหตสุตฺตา โกณสุตฺตา นาม. สมนฺตโต ปน ปริยนฺเตน กตา จตุรสฺสสุตฺตา ปิฬกา นาม. ตํ ทุวิธมฺปิ เกจิ จีวรโต วิสุํ ปฺายนตฺถาย วิการยุตฺตํ กโรนฺติ, ตํ นิเสธาย ‘‘ทุวิฺเยฺยรูปา วฏฺฏนฺตี’’ติ วุตฺตํ, น ปน สพฺพถา อจกฺขุโคจรภาเวน สิพฺพนตฺถาย ตถาสิพฺพนสฺส อสกฺกุเณยฺยตฺตา. ยถา ปกติจีวรโต วิกาโร น ปฺายติ, เอวํ สิพฺพิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. รชนกมฺมโต ปุพฺเพ ปฺายมาโนปิ วิเสโส จีวเร รตฺเต เอกวณฺณตาย น ปฺายตีติ อาห ‘‘จีวเร รตฺเต’’ติ. มณินาติ นีลมณิอาทิมฏฺปาสาเณน, อํสวทฺธกกายพนฺธนาทิกํ ปน อจีวรตฺตา สงฺขาทีหิ ฆํสิตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. กณฺณสุตฺตกนฺติ จีวรสฺส ทีฆโต ติริยฺจ สิพฺพิตานํ จตูสุ กณฺเณสุ โกเณสุ จ นิกฺขนฺตานํ สุตฺตสีสานเมตํ นามํ, ตํ ฉินฺทิตฺวาว ปารุปิตพฺพํ, เตนาห ‘‘รชิตกาเล ฉินฺทิตพฺพ’’นฺติ. ภควตา อนฺุาตํ เอกํ กณฺณสุตฺตมฺปิ อตฺถิ, ตํ ปน นาเมน ¶ สทิสมฺปิ อิโต อฺเมวาติ ทสฺเสตุํ ยํ ปนาติอาทิ วุตฺตํ. ลคฺคนตฺถายาติ จีวรรชฺชุยํ จีวรพนฺธนตฺถาย. คณฺิเกติ ทนฺตาทิมเย. ปีฬกาติ พินฺทุํ พินฺทุํ กตฺวา อุฏฺาเปตพฺพปีฬกา.
ถาลเก วาติ ตมฺพาทิมเย ปุคฺคลิเก ติวิเธปิ กปฺปิยถาลเก. น วฏฺฏตีติ มณิวณฺณกรณปฺปโยโค น วฏฺฏติ, เตลวณฺณกรณตฺถํ ปน วฏฺฏติ. ปตฺตมณฺฑเลติ ติปุสีสาทิมเย. ‘‘น, ภิกฺขเว, จิตฺตานิ ปตฺตมณฺฑลานิ ธาเรตพฺพานิ รูปกากิณฺณานิ ภิตฺติกมฺมกตานี’’ติ (จูฬว. ๒๕๓) วุตฺตตฺตา ‘‘ภิตฺติกมฺมํ น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มกรทนฺตกํ ฉินฺทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๓) วุตฺตตฺตา ‘‘มกรทนฺตกํ ปน วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ, อิทํ ปน ปาฬิยา ลทฺธมฺปิ อิธ ปาฬิยา มุตฺตตฺตา ปาฬิมุตฺตกนเย วุตฺตํ. เอวมฺมฺปิ อีทิสํ.
เลขา น วฏฺฏตีติ อารคฺเคน ทินฺนเลขาว น วฏฺฏติ, ชาติหิงฺคุลิกาทิวณฺเณหิ กตเลขา วฏฺฏติ. ฉตฺตมุขวฏฺฏิยนฺติ ธมกรณสฺส หตฺเถน คหณฉตฺตาการสฺส ¶ มุขวฏฺฏิยํ, ‘‘ปริสฺสาวนโจฬพนฺธนฏฺาเน’’ติ เกจิ.
เทฑฺฑุภสีสนฺติ อุทกสปฺปสีสํ. อจฺฉีนีติ กฺุชรจฺฉิสณฺานานิ. เอกเมว วฏฺฏตีติ เอตฺถ เอกรชฺชุกํ ทิคุณํ ติคุณํ กตฺวาปิ พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ, เอกเมว ปน สตวารมฺปิ สรีรํ ปริกฺขิปิตฺวา พนฺธิตุํ วฏฺฏติ, พหุรชฺชุเก เอกโต กตฺวา เอเกน นิรนฺตรํ เวเตฺวา กตํ ‘‘พหุรชฺชุก’’นฺติ น วตฺตพฺพํ ‘‘วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา, ตํ มุรชสงฺขํ น คจฺฉตีติ เวทิตพฺพํ. มุรชฺหิ นานาวณฺเณหิ สุตฺเตหิ มุรชวฏฺฏิสณฺานํ เวเตฺวา กตํ, อิทํ ปน มุรชํ มทฺทวีณสงฺขาตํ ปามงฺคสณฺานฺจ ทสาสุ วฏฺฏติ ‘‘กายพนฺธนสฺส ทสา ชีรนฺติ; อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มุรชํ มทฺทวีณ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๘) วุตฺตตฺตา.
วิเธติ ทสาปริโยสาเน ถิรภาวาย ทนฺตวิสาณสุตฺตาทีหิ กตฺตพฺเพ วิเธ. อฏฺ มงฺคลานิ นาม สงฺโข จกฺกํ ปุณฺณกุมฺโภ คยา สิรีวจฺโฉ องฺกุโส ธชํ โสวตฺติกนฺติ วทนฺติ. มจฺฉยุคฬฉตฺตนนฺทิยาวฏฺฏาทิวเสนปิ วทนฺติ. ปริจฺเฉทเลขามตฺตนฺติ ทนฺตาทีหิ กตวิธสฺส อุโภสุ โกฏีสุ กตปริจฺเฉทราชิมตฺตํ.
‘‘อุชุกเมวา’’ติ วุตฺตตฺตา จตุรสฺสาทิสณฺานาปิ อฺชนี วงฺกคติกา น วฏฺฏติ. สิปาฏิกายาติ ¶ วาสิอาทิภณฺฑนิกฺขิปนปสิพฺพเก. อารกณฺฏกํ นาม โปตฺถกาทิออสงฺขารณตฺถํ กตทีฆมุขสตฺถกนฺติ วทนฺติ. ‘‘ภมการานํ ทารุอาทิลิขนสตฺถก’’นฺติ เกจิ. วฏฺฏมณิกนฺติ วฏฺฏํ กตฺวา อุฏฺเปตพฺพํ ปุปฺผุฬกํ. อฺนฺติ อิมินา ปิฬกาทึ สงฺคณฺหาติ. ปิปฺผลิเกติ ยํ กิฺจิ เฉทนเก ขุทฺทกสตฺเถ. วลิตกนฺติ นขจฺเฉทนกาเล ทฬฺหคฺคหณตฺถํ วลีหิ ยุตฺตเมว กโรนฺติ. ตสฺมา ตํ วฏฺฏตีติ อิมินา ยํ อฺมฺปิ วิการํ ทฬฺหีกมฺมาทิอตฺถาย กโรนฺติ, น วณฺณมฏฺตฺถาย, ตํ วฏฺฏตีติ ทีปิตํ, เตน จ กตฺตรทณฺฑโกฏิยํ อฺมฺมฺปิ ฆฏฺฏเนน สทฺทนิจฺฉรณตฺถาย กตํ อโยวลยาทิกํ สํยุตฺตมฺปิ กปฺปิยโต อุปปนฺนํ โหติ. มณฺฑลนฺติ อุตฺตรารณิยา ปเวสนตฺถํ อาวาฏมณฺฑลํ โหติ. อุชุกเมว พนฺธิตุนฺติ สมฺพนฺโธ, อุโภสุ วา ปสฺเสสุ เอกปสฺเส วาติ วจนเสโส. วาสิทณฺฑสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ ทณฺฑโกฏีนํ อจลนตฺถํ พนฺธิตุนฺติ อตฺโถ.
อามณฺฑสารเกติ ¶ อามลกผลานิ ปิสิตฺวา เตน กกฺเกน กตเตลภาชเน. ตตฺถ กิร ปกฺขิตฺตํ เตลํ สีตลํ โหติ. ภูมตฺถรเณติ กฏสาราทิมเย ปริกมฺมกตาย ภูมิยา อตฺถริตพฺพอตฺถรเณ. ปานียฆเฏติ สพฺพํ ภาชนวิกตึ สงฺคณฺหาติ. สพฺพํ…เป… วฏฺฏตีติ ยถาวุตฺเตสุ มฺจาทีสุ อิตฺถิปุริสรูปมฺปิ วฏฺฏติ เตลภาชเนสุเยว อิตฺถิปุริสรูปานํ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา, เตลภาชเนน สห อคเณตฺวา วิสุํ มฺจาทีนํ คหิตตฺตา จาติ วทนฺติ, กิฺจาปิ วทนฺติ, เอเตสํ ปน มฺจาทีนํ หตฺเถน อามสิตพฺพภณฺฑตฺตา อิตฺถิรูปเมเวตฺถ น วฏฺฏตีติ คเหตพฺพํ. อฺเสนฺติ สีมสามิกานํ. ราชวลฺลเภหีติ ลชฺชีเปสลาทีนํ อุโปสถาทิอนฺตรายกรา อลชฺชิโน ภินฺนลทฺธิกา จ ภิกฺขู อธิปฺเปตา เตหิ สห อุโปสถาทิกรณาโยคา, เตเนว ‘‘สีมายา’’ติ วุตฺตํ. เตสํ ลชฺชีปริสาติ เตสํ สีมาสามิกานํ อนุพลํ ทาตุํ สมตฺถา ลชฺชีปริสา. ภิกฺขูหิ กตนฺติ ยํ อลชฺชีนํ เสนาสนเภทนาทิกํ ลชฺชีภิกฺขูหิ กตํ, สพฺพฺเจตํ สุกตเมว อลชฺชีนิคฺคหตฺถาย ปวตฺติตพฺพโต.
๘๘. อวชฺฌายนฺตีติ นีจโต จินฺเตนฺติ. อุชฺฌายนตฺโถติ ภิกฺขุโน เถยฺยกมฺมนินฺทนตฺโถ ‘‘กถฺหิ นาม อทินฺนํ อาทิยิสฺสตี’’ติ, น ปน ทารุ-สทฺทวิเสสนตฺโถ ตสฺส พหุวจนตฺตา. วจนเภเทติ เอกวจนพหุวจนานํ เภเท. สพฺพาวนฺตนฺติ ภิกฺขุภิกฺขุนีอาทิสพฺพาวยววนฺตํ. พิมฺพิสาโรติ ตสฺส นามนฺติ เอตฺถ พิมฺพีติ สุวณฺณํ. ตสฺมา สารสุวณฺณสทิสวณฺณตาย ‘‘พิมฺพิสาโร’’ติ วุจฺจตีติ เวทิตพฺพํ. โปราณสตฺถานุรูปํ อุปฺปาทิโต วีสติมาสปฺปมาณอุตฺตมสุวณฺณคฺฆนโก ลกฺขณสมฺปนฺโน นีลกหาปโณติ เวทิตพฺโพ. รุทฺรทาเมน นาม เกนจิ อุปฺปาทิโต รุทฺรทามโก. โส กิร นีลกหาปณสฺส ติภาคํ อคฺฆติ. ยสฺมึ ปน เทเส นีลกหาปณา ¶ น สนฺติ, ตตฺถาปิ กาฬกวิรหิตสฺส นิทฺธนฺตสุวณฺณสฺส ปฺจมาสคฺฆนเกน ภณฺเฑน ปาทปริจฺเฉโท กาตพฺโพ. เตนาติ นีลกหาปณสฺส จตุตฺถภาคภูเตน. ปาราชิกวตฺถุมฺหิ วาติอาทิ ปาราชิกานํ สพฺพพุทฺเธหิ ปฺตฺตภาเวน วุตฺตํ, สงฺฆาทิเสสาทีสุ ปน อิตราปตฺตีสุปิ ตพฺพตฺถูสุ จ นานตฺตํ นตฺเถว, เกวลํ เกจิ สพฺพากาเรน ปฺเปนฺติ, เกจิ เอกเทเสนาติ เอตฺตกเมว วิเสโส. น หิ กทาจิปิ สมฺมาสมฺพุทฺธา ยถาปราธํ อติกฺกมฺม อูนมธิกํ วา สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺติ.
ปทภาชนียวณฺณนา
๙๒. ปุนปิ ¶ ‘‘อาคนฺตุกามา’’ติ วุตฺตตฺตา จ สพฺพถา มนุสฺเสหิ อนิวุตฺถปุพฺเพ อภินวมาปิเต, ‘‘ปุน น ปวิสิสฺสามา’’ติ นิราลเยหิ ปริจฺจตฺเต จ คาเม คามโวหาราภาวา คามปฺปเวสนาปุจฺฉนาทิกิจฺจํ นตฺถีติ เวทิตพฺพํ. อรฺปริจฺเฉททสฺสนตฺถนฺติ คามคามูปจาเรสุ ทสฺสิเตสุ ตทฺํ อรฺนฺติ อรฺปริจฺเฉโท สกฺกา าตุนฺติ วุตฺตํ. มาติกายํ ปน คามคฺคหเณเนว คามูปจาโรปิ คหิโตติ ทฏฺพฺโพ. อินฺทขีเลติ อุมฺมาเร. อรฺสงฺเขปํ คจฺฉติ ตถา อภิธมฺเม วุตฺตตฺตา. อสติปิ อินฺทขีเล อินฺทขีลฏฺานิยตฺตา ‘‘เวมชฺฌเมว อินฺทขีโลติ วุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. ยตฺถ ปน ทฺวารพาหาปิ นตฺถิ, ตตฺถ ปาการเวมชฺฌเมว อินฺทขีโลติ คเหตพฺพํ. ลุิตฺวาติ ปวฏฺฏิตฺวา.
มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สุปฺปปาโต วาติอาทิ มาตุคามสฺส กากุฏฺาปนวเสน คเหตพฺพํ, น พลทสฺสนวเสน ‘‘มาตุคาโม ภาชนโธวนอุทกํ ฉฑฺเฑตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๒) อุปริ วุจฺจมานตฺตา, เตเนว ‘‘เลฑฺฑุปาโต’’ติ อวตฺวา สุปฺปปาโตติอาทิ วุตฺตํ. กุรุนฺทฏฺกถายํ มหาปจฺจริยฺจ ฆรูปจาโรว คาโมติ อธิปฺปาเยน ‘‘ฆรูปจาเร ิตสฺส เลฑฺฑุปาโต คามูปจาโร’’ติ วุตฺตํ. กตปริกฺเขโปติ อิมินา ปริกฺเขปโต พหิ อุปจาโร น คเหตพฺโพติ ทสฺเสติ. สุปฺปมุสลปาโตปิ อปริกฺขิตฺตเคหสฺเสว, โส จ ยโต ปโหติ, ตตฺเถว คเหตพฺโพ, อปฺปโหนฏฺาเน ปน วิชฺชมานฏฺานเมว คเหตพฺพํ. ยสฺส ปน ฆรสฺส สมนฺตโต ปาการาทีหิ ปริกฺเขโป กโต โหติ, ตตฺถ โสว ปริกฺเขโป ฆรูปจาโรติ คเหตพฺพํ.
ปุพฺเพ วุตฺตนเยนาติ ปริกฺขิตฺตคาเม วุตฺตนเยน. สงฺกรียตีติ มิสฺสียติ. วิกาเล คามปฺปเวสเน ‘‘ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ปริกฺเขปํ อติกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ โอกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๕๑๓) วุตฺตตฺตา ¶ คามคามูปจารานํ อสงฺกรตา อิจฺฉิตพฺพาติ อาห อสงฺกรโต จาติอาทิ. เกจิ ปเนตฺถ ปาฬิยํ ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ โอกฺกมนฺตสฺสาติ อิทํ ปริกฺเขปารหฏฺานํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ตโต ปรํ เอกเลฑฺฑุปาตปริจฺฉินฺนํ อุปจารํ ¶ . ตสฺมา ปริกฺเขปารหฏฺานสงฺขาตํ คามํ โอกฺกมนฺตสฺเสว อาปตฺติ, น อุปจาร’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ ‘‘ฆรูปจาเร ิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาตพฺภนฺตรํ คาโม นาม. ตโต อฺสฺส เลฑฺฑุปาตสฺส อพฺภนฺตรํ คามูปจาโร นามา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๒) อิเธว อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา. วิกาเล คามปฺปเวสนสิกฺขาปทฏฺกถายฺหิ อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจาโร อทินฺนาทาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑๒) อยเมว นโย อติทิสิโต. เตเนว มาติกาฏฺกถายมฺปิ ‘‘ยฺวายํ อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจาโร ทสฺสิโต, ตสฺส วเสน วิกาเล คามปฺปเวสนาทีสุ อาปตฺติ ปริจฺฉินฺทิตพฺพา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ทุติยปาราชิกวณฺณนา) วุตฺตํ, ตสฺมา ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ปริกฺเขปํ อติกฺกมนฺตสฺส, อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ฆรูปจารโต ปฏฺาย ทุติยเลฑฺฑุปาตสงฺขาตํ คามูปจารํ โอกฺกมนฺตสฺส วิกาเล คามปฺปเวสนาปตฺติ โหติ, มาติกายฺจ วิกาเล คามํ ปวิเสยฺยาติ คามคฺคหเณเนว คามูปจาโรปิ คหิโตติ เวทิตพฺพํ. วิกาเล คามปฺปเวสนาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน ฆรฆรูปจาราทีสุ ิตานํ อุปฺปนฺนลาภภาชนาทึ สงฺคณฺหาติ.
นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลาติ อินฺทขีลโต พหิ นิกฺขมิตฺวา ิตํ ยํ านํ สพฺพเมตํ อรฺนฺติ โยชนา. อาจริยธนุ นาม ปกติหตฺเถน นววิทตฺถิปมาณํ, ชิยาย ปน อาโรปิตาย สตฺตฏฺวิทตฺถิมตฺตนฺติ วทนฺติ.
กปฺปิยนฺติ อนุรูปวเสน วุตฺตํ อกปฺปิยสฺสาปิ อปฺปฏิคฺคหิตสฺส ปริโภเค ปาจิตฺติยตฺตา. ปริจฺจาคาทิมฺหิ อกเต ‘‘อิทํ มยฺหํ สนฺตก’’นฺติ วตฺถุสามินา อวิทิตมฺปิ ปริคฺคหิตเมว พาลุมฺมตฺตาทีนํ สนฺตกํ วิย, ตาทิสํ อวหรนฺโตปิ าตกาทีหิ ปจฺฉา ตฺวา วตฺถุสามินา จ อนุพนฺธิตพฺพโต ปาราชิโกว โหติ. ยสฺส วเสน ปุริโส เถโน โหติ, ตํ เถยฺยนฺติ อาห ‘‘อวหรณจิตฺตสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ. ปปฺจสงฺขาติ ตณฺหามานทิฏฺิสงฺขาตา ปปฺจโกฏฺาสา. เอโก จิตฺตโกฏฺาโสติ านาจาวนปโยคสมุฏฺาปโก เอโก จิตฺตโกฏฺาโสติ อตฺโถ.
อภิโยควเสนาติ อฏฺฏกรณวเสน. สวิฺาณเกเนวาติ อิทํ สวิฺาณกานฺเว อาเวณิกวินิจฺฉยํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปาโณ อปทนฺติอาทีสุ หิ ‘‘ปทสา เนสฺสามี’’ติ ปมํ ปาทํ ¶ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสาติอาทินา ปาฬิยํ (ปารา. ๑๑๑), ภิกฺขุ ทาสํ ทิสฺวา สุขทุกฺขํ ปุจฺฉิตฺวา ¶ วา อปุจฺฉิตฺวา วา ‘‘คจฺฉ, ปลายิตฺวา สุขํ ชีวา’’ติ วทติ, โส เจ ปลายติ, ทุติยปทวาเร ปาราชิกนฺติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๔) อฏฺกถายฺจ โย สวิฺาณกานฺเว อาเวณิโก วินิจฺฉโย วุตฺโต, โส อารามาทิอวิฺาณเกสุ น ลพฺภตีติ ตาทิสํ สนฺธาย ‘‘สวิฺาณเกเนวา’’ติ วุตฺตํ. โย ปน วินิจฺฉโย อารามาทิอวิฺาณเกสุ ลพฺภติ, โส ยสฺมา สวิฺาณเกสุ อลพฺภนโก นาม นตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘นานาภณฺฑวเสน สวิฺาณกาวิฺาณกมิสฺสเกนา’’ติ. สวิฺาณเกน จ อวิฺาณเกน จาติ อตฺโถ. ยสฺมา เจตฺถ อวิฺาณเกเนว อาทิยนาทีนิ ฉปิ ปทานิ น สกฺกา โยเชตุํ อิริยาปถวิโกปนสฺส สวิฺาณกวเสเนว โยเชตพฺพโต, ตสฺมา ‘‘อวิฺาณเกเนวา’’ติ ตติยํ ปการํ น วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
อารามนฺติ อิทํ อุปลกฺขณมตฺตํ ทาสาทิสวิฺาณกสฺสาปิ อิธ สงฺคเหตพฺพโต, นานาภณฺฑวเสน เหตฺถ โยชนา ทสฺสิยติ. ปริกปฺปิตฏฺานนฺติ ปริกปฺปิโตกาสํ. สุงฺกฆาตนฺติ เอตฺถ มคฺคํ คจฺฉนฺเตหิ สตฺถิเกหิ อตฺตนา นียมานภณฺฑโต รฺโ ทาตพฺพภาโค สุงฺโก นาม, โส เอตฺถ หฺติ อทตฺวา คจฺฉนฺเตหิ อวหรียติ, ตํ วา หนฺติ เอตฺถ ราชปุริสา อททนฺตานํ สนฺตกํ พลกฺกาเรนาติ สุงฺกฆาโต, ‘‘เอตฺถ ปวิฏฺเหิ สุงฺโก ทาตพฺโพ’’ติ รุกฺขปพฺพตาทิสฺาเณน นิยมิตปฺปเทสสฺเสตํ อธิวจนํ.
ปฺจวีสติอวหารกถาวณฺณนา
กตฺถจีติ เอกิสฺสา อฏฺกถายํ. เอกํ ปฺจกํ ทสฺสิตนฺติ ‘‘ปรปริคฺคหิตฺจ โหติ, ปรปริคฺคหิตสฺี จ, ครุโก จ โหติ ปริกฺขาโร ปฺจมาสโก วา อติเรกปฺจมาสโก วา, เถยฺยจิตฺตฺจ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ, านา จาเวตี’’ติ (ปารา. ๑๒๒) วุตฺตปฺจอวหารงฺคานิ เอกํ ปฺจกนฺติ ทสฺสิตํ. ทฺเว ปฺจกานิ ทสฺสิตานีติ ‘‘ฉหิ อากาเรหิ อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺส. น จ สกสฺี, น จ วิสฺสาสคฺคาหี, น จ ตาวกาลิกํ, ครุโก จ โหติ ปริกฺขาโร ปฺจมาสโก วา อติเรกปฺจมาสโก วา, เถยฺยจิตฺตฺจ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ, านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๒๕) เอวํ วุตฺเตสุ ฉสุ ปเทสุ เอกํ อปเนตฺวา เสสานิ ¶ ปฺจ ปทานิ เอกํ ปฺจกํ กตฺวา เหฏฺา วุตฺตปฺจกฺจ คเหตฺวา ทฺเว ปฺจกานิ ทสฺสิตานิ. เอตฺถ ปนาติ ปฺจหากาเรหีติอาทีสุ. สพฺเพหิปิ ปเทหีติ ปรปริคฺคหิตฺจ โหตีติอาทีหิ สพฺเพหิ ปฺจหิ ปเทหิ.
ปฺจนฺนํ ¶ อวหารานํ สมูโห ปฺจกํ. สโก หตฺโถ สหตฺโถ, เตน นิพฺพตฺโต, ตสฺส วา สมฺพนฺธีติ สาหตฺถิโก, อวหาโร. สาหตฺถิกาทิ ปฺจกํ สาหตฺถิกปฺจกนฺติอาทิปทวเสน นามลาโภ ทฏฺพฺโพ. เอวํ เสเสสุปิ. ตติยปฺจเมสุ ปฺจเกสูติ สาหตฺถิกปฺจกเถยฺยาวหารปฺจเกสุ. ลพฺภมานปทวเสนาติ สาหตฺถิกปฺจเก ลพฺภมานสฺส นิสฺสคฺคิยาวหารปทสฺส วเสน, เถยฺยาวหารปฺจเก ลพฺภมานสฺส ปริกปฺปาวหารปทสฺส จ วเสน โยเชตพฺพนฺติ อตฺโถ.
นิสฺสคฺคิโย นาม…เป… ปาราชิกสฺสาติ อิมินา พหิสุงฺกฆาตปาตนํ นิสฺสคฺคิยปโยโคติ ทสฺเสติ. ‘‘หตฺเถ ภารํ เถยฺยจิตฺโต ภูมิยํ นิกฺขิปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๐๑) วุตฺตตฺตา ปน สุทฺธจิตฺเตน คหิตปรภณฺฑสฺส เถยฺยจิตฺเตน คุมฺพาทิปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน ขิปนมฺปิ อิมสฺมึ นิสฺสคฺคิยปโยเค สงฺคยฺหตีติ ทฏฺพฺพํ. กิริยาสิทฺธิโต ปุเรตรเมว ปาราชิกาปตฺติสงฺขาตํ อตฺถํ สาเธตีติ อตฺถสาธโก. อถ วา อตฺตโน วตฺตมานกฺขเณ อวิชฺชมานมฺปิ กิริยาสิทฺธิสงฺขาตํ อตฺถํ อวสฺสํ อาปตฺตึ สาเธตีติปิ อตฺถสาธโก. อสุกํ นาม ภณฺฑํ ยทา สกฺโกสีติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ ปรสฺส เตลกุมฺภิยา อุปาหนาทีนํ นิกฺเขปปโยคสฺสาปิ อตฺถสาธกตฺตา. ตถา หิ วุตฺตํ มาติกาฏฺกถายํ –
‘‘อตฺถสาธโก นาม ‘อสุกสฺส ภณฺฑํ ยทา สกฺโกติ, ตทา ตํ อวหรา’ติ อฺํ อาณาเปติ. ตตฺถ สเจ ปโร อนนฺตรายิโก หุตฺวา ตํ อวหรติ, อาณาปกสฺส อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิกํ. ปรสฺส วา ปน เตลกุมฺภิยา ปาทคฺฆนกเตลํ อวสฺสํ ปิวนกานิ อุปาหนาทีนิ ปกฺขิปติ, หตฺถโต มุตฺตมตฺเตเยว ปาราชิก’’นฺติ (กงฺขา. อฏฺ. ทุติยปาราชิกวณฺณนา).
อิมสฺส ¶ อตฺถสาธกสฺส อาณตฺติยา จ โก วิเสโสติ? ตงฺขณฺเว คหเณ นิยฺุชนํ อาณตฺติกปโยโค, กาลนฺตเรน คหณตฺถํ นิโยโค อตฺถสาธโกติ อยํ เนสํ วิเสโส. เตเนวาห ‘‘อสุกํ นาม ภณฺฑํ ยทา สกฺโกสี’’ติอาทิ. ธุรนิกฺเขโป ปน อุปนิกฺขิตฺตภณฺฑวเสน เวทิตพฺโพติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ, อารามาภิยฺุชนาทีสุปิ ตาวกาลิกภณฺฑเทยฺยานํ อทาเนปิ เอเสว นโย. ภณฺฑคฺคหณปฺปโยคโต อาณตฺติยา ปุพฺพตฺตา อาห ‘‘อาณตฺติวเสน ปุพฺพปโยโค เวทิตพฺโพ’’ติ. ปโยเคน สห วตฺตมาโน อวหาโร สหปโยโคติ อาห ‘‘านาจาวนวเสนา’’ติ, อิทฺจ นิทสฺสนมตฺตํ ขีลสงฺกมนาทีสุปิ อสติ านาจาวเน สหปโยคตฺตา. วุตฺตฺหิ ¶ มาติกาฏฺกถายํ ‘‘านาจาวนวเสน ขีลาทีนิ สงฺกาเมตฺวา เขตฺตาทิคฺคหณวเสน จ สหปโยโค เวทิตพฺโพ’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ทุติยปาราชิกวณฺณนา).
ตุลยิตฺวาติ อุปปริกฺขิตฺวา. สามีจีติ วตฺตํ. สกสฺาย อเทนฺตสฺส อาปตฺติ นตฺถีติ วทนฺติ. สมฺมทฺโทติ นิวิทฺธตาสงฺโขโภ. ภฏฺเ ชนกาเยติ อปคเต ชนสมูเห. อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา เอตสฺเสว ภิกฺขุโน เทหีติ อิทํ อุภินฺนมฺปิ กุกฺกุจฺจวิโนทนตฺถํ วุตฺตํ. อวหารกสฺส หิ ‘‘มยา สหตฺเถน น ทินฺนํ, ภณฺฑเทยฺยํ เอต’’นฺติ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปชฺเชยฺย, อิตรสฺส จ ‘‘มยา ปมํ ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา ปจฺฉา อทินฺนํ คหิต’’นฺติ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปชฺเชยฺยาติ.
สมคฺฆนฺติ อปฺปคฺฆํ. ทารุอตฺถํ ผรตีติ ทารูหิ กตฺตพฺพกิจฺจํ สาเธติ. เอกทิวสํ ทนฺตกฏฺจฺเฉทนาทินา ยา อยํ อคฺฆหานิ วุตฺตา, สา สพฺพา ภณฺฑสามินา กิณิตฺวา คหิตเมว สนฺธาย วุตฺตา. สพฺพํ ปเนตํ อฏฺกถาจริยปฺปมาเณน เวทิตพฺพํ. ปาสาณฺจ สกฺขรฺจ ปาสาณสกฺขรํ.
อกฺขทสฺสาติ เอตฺถ อกฺข-สทฺเทน กิร วินิจฺฉยสาลา วุจฺจติ, ตตฺถ นิสีทิตฺวา วชฺชาวชฺชํ นิรูปยนฺตีติ ‘‘อกฺขทสฺสา’’ติ วุจฺจนฺติ ธมฺมวินิจฺฉนกา. หนนํ นาม หตฺถปาทาทีหิ โปถนฺเจว หตฺถนาสาทิจฺเฉทนฺจ โหตีติ อาห ‘‘หเนยฺยุนฺติ โปเถยฺยฺุเจว ฉินฺเทยฺยฺุจา’’ติ.
ปทภาชนียฺจ ‘‘หตฺเถน วา ปาเทน วา กสาย วา เวตฺเตน วา อฑฺฒทณฺฑเกน วา ฉชฺชาย วา หเนยฺยุ’’นฺติ (ปารา. ๙๒) วุตฺตํ. ตตฺถ อฑฺฒทณฺฑเกนาติ ทฺวิหตฺถปฺปมาเณน ¶ รสฺสมุคฺคเรน, เวฬุเปสิกาย วา. เฉชฺชาย วาติ หตฺถาทีนํ เฉทเนน. ฉินฺทนฺติ เอตาย หตฺถปาทาทีนีติ เฉชฺชา, สตฺถํ, เตน สตฺเถนาติปิ อตฺโถ. นีหเรยฺยุนฺติ รฏฺโต นีหเรยฺยุํ. ‘‘โจโรสิ…เป… เถโนสี’’ติ เอตฺถ ปริภาเสยฺยุนฺติ ปทํ อชฺฌาหริตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘โจโรสิ…เป… ปริภาเสยฺยุ’’นฺติ. ยํ ตํ ภณฺฑํ ทสฺสิตนฺติ สมฺพนฺโธ.
๙๓. ยตฺถ ยตฺถ ิตนฺติ ภูมิยาทีสุ ยตฺถ ยตฺถ ิตํ. ยถา ยถา อาทานํ คจฺฉตีติ เยน เยน อากาเรน คหณํ อุปคจฺฉติ.
ภูมฏฺกถาวณฺณนา
๙๔. วาจาย ¶ วาจายาติ เอเกกตฺถทีปิกาย วาจาย วาจาย. อุปลทฺโธติ าโต. ปาฬิยํ เสสอฏฺกถาสุ จ กุทาลํ วา ปิฏกํ วาติ อิทเมว ทฺวยํ วตฺวา วาสิผรสูนํ อวุตฺตตฺตา เตสมฺปิ สงฺเขปฏฺกถาทีสุ อาคตภาวํ ทสฺเสตุํ สงฺเขปฏฺกถายนฺติอาทิ วุตฺตํ. เถยฺยจิตฺเตน กตตฺตา ‘‘ทุกฺกเฏหิ สทฺธึ ปาจิตฺติยานี’’ติ วุตฺตํ.
อฏฺวิธํ เหตนฺติอาทีสุ เอตํ ทุกฺกฏํ นาม เถเรหิ ธมฺมสงฺคาหเกหิ อิมสฺมึ าเน สโมธาเนตฺวา อฏฺวิธนฺติ ทสฺสิตนฺติ โยชนา. สพฺเพสมฺปิ ทุกฺกฏานํ อิเมสุเยว อฏฺสุ สงฺคเหตพฺพภาวโต ปน อิตเรหิ สตฺตหิ ทุกฺกเฏหิ วินิมุตฺตํ วินยทุกฺกเฏเยว สงฺคเหตพฺพํ. ทสวิธํ รตนนฺติ ‘‘มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตโก มสารคลฺล’’นฺติ เอวมาคตํ ทสวิธํ รตนํ.
‘‘มุตฺตา มณิ เวฬุริโย จ สงฺโข,
สิลา ปวาฬํ รชตฺจ เหมํ;
โลหิตกฺจ มสารคลฺลํ,
ทเสเต ธีโร รตนานิ ชฺา’’ติ. –
หิ วุตฺตํ. สตฺตวิธํ ธฺนฺติ สาลิ วีหิ ยโว กงฺคุ กุทฺรูสํ วรโก โคธุโมติ อิมํ สตฺตวิธํ ธฺํ. อาวุธภณฺฑาทินฺติ อาทิ-สทฺเทน ตุริยภณฺฑอิตฺถิรูปาทึ สงฺคณฺหาติ. อนามสิตพฺเพ วตฺถุมฺหิ ทุกฺกฏํ อนามาสทุกฺกฏํ. ทุรูปจิณฺณทุกฺกฏนฺติ ‘‘อกตฺตพฺพ’’นฺติ วาริตสฺส กตตฺตา ทุฏฺุ ¶ อุปจิณฺณํ จริตนฺติ ทุรูปจิณฺณํ, ตสฺมึ ทุกฺกฏํ ทุรูปจิณฺณทุกฺกฏํ. วินเย ปฺตฺตํ อวเสสํ ทุกฺกฏํ วินยทุกฺกฏํ. เอกาทส สมนุภาสนา นาม ภิกฺขุปาติโมกฺเข จตฺตาโร ยาวตติยกา สงฺฆาทิเสสา อริฏฺสิกฺขาปทนฺติ ปฺจ, ภิกฺขุนีปาติโมกฺเข เอกํ ยาวตติยกปาราชิกํ จตฺตาโร สงฺฆาทิเสสา จณฺฑกาฬีสิกฺขาปทนฺติ ฉ.
สหปโยคโต ปฏฺาย เจตฺถ ปุริมปุริมา อาปตฺติโย ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ อาห อถ ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวาติอาทิ. ‘‘ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา ปุน ขณนฺตสฺส ปุริมาปตฺติโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ วทนฺติ. ‘‘เฉทนปจฺจยา ทุกฺกฏํ เทเสตฺวา มุจฺจตี’’ติ ¶ วตฺวา ปุพฺพปโยเค อาปตฺตีนํ เทเสตพฺพตาย อวุตฺตตฺตา สหปโยเค ปตฺเต ปุพฺพปโยเค อาปตฺติโย ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ เวทิตพฺพํ.
อปรทฺธํ วิรทฺธํ ขลิตนฺติ สพฺพเมตํ ยฺจ ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถ วุตฺตสฺส ทุกฺกฏสฺส ปริยายวจนํ, ยํ มนุสฺโส กเรติอาทิ ปเนตฺถ โอปมฺมนิทสฺสนํ. สํโยคภาโวติ ทฺวิตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, เตน รสฺสตฺตสฺสาปิ นิมิตฺตํ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอกสฺส มูเลติ เอกสฺส สนฺติเก. สพฺพตฺถาปิ อามสเน ทุกฺกฏํ, ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยฺจ วิสุํ วิสุํ อามสนผนฺทาปนปโยคํ กโรนฺตสฺเสว โหติ, เอกปโยเคน คณฺหนฺตสฺส ปน อุทฺธาเร ปาราชิกเมว, น ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยานีติ วทนฺติ, เอกปโยเคน คณฺหนฺตสฺสาปิ อามสนผนฺทาปนานมฺปิ ลพฺภมานตฺตา ตํ น คเหตพฺพํ. น หิ สกฺกา อนามสิตฺวา อผนฺทาเปตฺวา จ กิฺจิ คเหตุํ. ‘‘เอกเมว เทเสตฺวา มุจฺจตี’’ติ ปํสุขณนาทิสมานปโยเคปิ ปุริมา อาปตฺติ อุตฺตรมุตฺตรํ อาปตฺตึ ปตฺวา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ สฺาย กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตํ, อิตรฏฺกถาสุ ปน ขณนปโยคเภเทหิ ปโยเค ปโยเค อาปนฺนา อาปตฺติโย อุตฺตรมุตฺตรํ ปตฺวา น ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ อฺมฺํ สทิสตฺตา วิยูหนํ ปตฺวา ตา สพฺพาปิ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ วิสทิสปโยคตฺตาติ อิมินา อธิปฺปาเยน ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิธานํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิมินา หิ อวหารกสฺส อาสนฺนํ โอริมนฺตํ ปรามสติ.
ตตฺเถวาติ มุขวฏฺฏิยเมว. พุนฺเทนาติ กุมฺภิยา เหฏฺิมตเลน. เอกฏฺาเน ิตาย กุมฺภิยา านา จาวนํ ฉหิ อากาเรหิ เวทิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. เอกฏฺาเนติ จ สงฺขลิกพทฺธภาเวน เอกสฺมึ ปติฏฺิโตกาสฏฺาเนติ ¶ อตฺโถ. ขาณุกํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ านา จาเวตีติ ขาณุกํ อตฺตโน ปติฏฺิตฏฺานโต ปฺจหิ อากาเรหิ านา จาเวติ. ฉินฺนมตฺเต ปาราชิกนฺติ อวสฺสํ เจ ปตติ, ฉินฺนมตฺเต ปาราชิกํ. ปริจฺเฉโทติ ปฺจมาสกาทิครุภาวปริจฺเฉโท. อปพฺยูหนฺโตติ ิตฏฺานโต อปนยนวเสน วิยูหนฺโต ราสึ กโรนฺโต. เอวํ กตฺวาติ ภาชนมุขวฏฺฏิยา กุมฺภิคเตน ภาชนคตสฺส เอกาพทฺธภาวํ วิโยเชตฺวาติ อตฺโถ. อุปฑฺฒกุมฺภียนฺติ อุปฑฺฒปุณฺณาย กุมฺภิยา. วินยธมฺมตาติ อธิกการณาลาเภ วินยวินิจฺฉยธมฺมตาติ อธิปฺปาโย. น เกวลฺเจตฺถ ครุกตาว, สุตฺตานุคมนมฺปิ อตฺถีติ ทสฺเสนฺโต อปิจาติอาทิมาห. กณฺเน ปน ปริจฺฉินฺนกาเลติ มุขคตํ อชฺโฌหฏกาเลติ อตฺโถ. อชฺโฌหรณเมว เหตฺถ ปริจฺฉินฺทนํ, น กณฺปิทหนํ. จิกฺกนนฺติ ถทฺธํ, พหลํ ฆนนฺติ อตฺโถ.
โยปิ เถยฺยจิตฺเตน ปรสฺส กุมฺภิยา ปาทคฺฆนกํ สปฺปึ วา เตลํ วา อวสฺสํ ปิวนกํ ยํ กิฺจิ ¶ ทุกูลสาฏกํ วา จมฺมขณฺฑาทีนํ วา อฺตรํ ปกฺขิปติ, หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกนฺติ เอตฺถ อวหาโร วีมํสิตพฺโพ. ยทิ จ ทุกูลาทีสุ สปฺปิเตลานํ ปวิสนํ สนฺธาย ปาราชิกํ ภเวยฺย, ตตฺถ ปวิฏฺเตลาทิโน กุมฺภิคเตน เอกาพทฺธตาย น ตาว อวหาโร ภาชนนฺตรํ ปเวเสตฺวา คหณกาเล วิย. ตถา หิ วุตฺตํ – ‘‘ภาชนํ ปน นิมุชฺชาเปตฺวา คณฺหนฺตสฺส ยาว เอกาพทฺธํ โหติ, ตาว รกฺขตี’’ติอาทิ. อถ เตลาทิวินาเสน ปาราชิกํ ภเวยฺย, ตทาปิ ติณชฺฌาปนาทีสุ วิย อวหาโร นตฺถิ, ทุกฺกเฏน สทฺธึ ภณฺฑเทยฺยเมว โหติ, ตถา จ ปาทคฺฆนกํ เตลาทึ ปีตํ ทุกูลาทึ อุทฺธรนฺตสฺสาปิ ปาราชิกํ น สิยา ตตฺถ ปวิฏฺสฺส เตลาทิโน วินฏฺฏฺเน คหณกฺขเณ อวิชฺชมานตฺตา, วิชฺชมานตฺเตน จ อุทฺธาเรเยว ปาราชิกํ วตฺตพฺพํ, น หตฺถโต มุตฺตมตฺเตติ. สพฺพอฏฺกถาสุ จ ทุกูลาทีนํ ปกฺขิปเน หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกสฺส วุตฺตตฺตา น ตํ ปฏิกฺขิปิตุํ สกฺกา. อฏฺกถาปฺปมาเณน ปเนตํ คเหตพฺพํ, ยุตฺติ ปเนตฺถ ปณฺฑิเตหิ ปุพฺพาปรํ สํสนฺทิตฺวา อุทฺธาเรตพฺพา.
ปลิพุชฺฌิสฺสตีติ นิวาเรสฺสติ. วุตฺตนเยน ปาราชิกนฺติ หตฺถโต มุตฺตมตฺเตเยว ปาราชิกํ. เนว อวหาโร, น คีวาติ อตฺตโน ภาชนตฺตา ¶ วุตฺตํ, อนาปตฺติมตฺตเมว วุตฺตํ, น ปน เอวํ วิจาริตนฺติ อธิปฺปาโย. พหิคตํ นาม โหตีติ ตโต ปฏฺาย เตลสฺส อฏฺานโต อโธมุขภาวโต จ พหิคตํ นาม โหติ. อนฺโต ปฏฺาย ฉิทฺเท กริยมาเน เตลสฺส นิกฺขมิตฺวา คตคตฏฺานํ ภาชนสงฺขฺยเมว คจฺฉตีติ อาห ‘‘พาหิรนฺตโต ปาทคฺฆนเก คฬิเต ปาราชิก’’นฺติ. ยถา ตถา วา กตสฺสาติ พาหิรนฺตโต วา อพฺภนฺตรนฺตโต วา ปฏฺาย กตสฺส. มชฺเฌ เปตฺวา กตฉิทฺเทติ มชฺเฌ โถกํ กปาลํ เปตฺวา ปจฺฉา ตํ ฉินฺทนฺเตน กตฉิทฺเท.
ปตฺถีนสฺส ขาทนํ อิตรสฺส ปานฺจ สปฺปิอาทีนํ ปริโภโคติ อาห ‘‘อขาทิตพฺพํ วา อปาตพฺพํ วา กโรตี’’ติ. กสฺมา ปเนตฺถ ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘านาจาวนสฺส นตฺถิตาย ทุกฺกฏ’’นฺติ. ปุริมทฺวยนฺติ เภทนํ ฉฑฺฑนฺจ. กุมฺภิชชฺชรกรเณนาติ ปุณฺณกุมฺภิยา ชชฺชรกรเณน. มาติกาอุชุกรเณนาติ อุทกปุณฺณาย มาติกาย อุชุกรเณน. เอกลกฺขณนฺติ เภทนํ กุมฺภิยา ชชฺชรกรเณน, ฉฑฺฑนํ มาติกาย อุชุกรเณน จ สทฺธึ เอกสภาวํ. ปจฺฉิมํ ปน ทฺวยนฺติ ฌาปนํ อปริโภคกรณฺจ. เอตฺถ เอวํ วินิจฺฉยํ วทนฺตีติ เอตสฺมึ มหาอฏฺกถายํ วุตฺเต อตฺเถ เอเก อาจริยา เอวํ วินิจฺฉยํ วทนฺติ. ปจฺฉิมทฺวยํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เอตฺถ ปุริมปททฺวเย วินิจฺฉโย เหฏฺา วุตฺตานุสาเรน สกฺกา วิฺาตุนฺติ ตตฺถ กิฺจิ อวตฺวา ปจฺฉิมปททฺวยํ สนฺธาย ‘‘านาจาวนสฺส นตฺถิตาย ทุกฺกฏ’’นฺติ อิทํ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย ¶ . เถยฺยจิตฺเตนาติ อตฺตโน วา ปรสฺส วา กาตุกามตาวเสน อุปฺปนฺนเถยฺยจิตฺเตน. วินาเสตุกามตายาติ หตฺถปาทาทีนิ ฉินฺทนฺโต วิย เกวลํ วินาเสตุกามตาย. วุตฺตนเยน ภินฺทนฺตสฺส วา ฉฑฺเฑนฺตสฺส วาติ มุคฺคเรน โปเถตฺวา ภินฺทนฺตสฺส วา อุทกํ วา วาลิกํ วา อากิริตฺวา อุตฺตราเปนฺตสฺส วาติ อตฺโถ. อยุตฺตนฺติ เจติ ปาฬิยํ ปุริมทฺวเยปิ ทุกฺกฏสฺเสว วุตฺตตฺตา ‘‘ปุริมทฺวเย ปาราชิก’’นฺติ อิทํ อยุตฺตนฺติ ยทิ ตุมฺหากํ สิยาติ อตฺโถ. นาติ อยุตฺตภาวํ นิเสเธตฺวา ตตฺถ การณมาห ‘‘อฺถา คเหตพฺพตฺถโต’’ติ.
เอวเมเก วทนฺตีติ เหฏฺา วุตฺตสฺส อตฺถนยสฺส อตฺตนา อนภิมตภาวํ ทสฺเสตฺวา สยํ อฺถาปิ ปาฬึ อฏฺกถฺจ สํสนฺทิตฺวา อตฺถํ ทสฺเสตุกาโม ¶ อยํ ปเนตฺถ สาโรติอาทิมาห. อจาเวตุกาโมวาติ เถยฺยจิตฺเตน านา อจาเวตุกาโมว. อฉฑฺเฑตุกาโมเยวาติ เอตฺถาปิ เถยฺยจิตฺเตนาติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. อิทฺหิ เถยฺยจิตฺตปกฺขํ สนฺธาย วุตฺตํ นาเสตุกามตาปกฺขสฺส วกฺขมานตฺตา. เตเนวาห นาเสตุกามตาปกฺเข ปนาติอาทิ. อิตรถาปิ ยุชฺชตีติ เถยฺยจิตฺตาภาวา านา จาเวตุกามสฺสาปิ ทุกฺกฏํ ยุชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ.
ภูมฏฺกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
อากาสฏฺกถาวณฺณนา
๙๖. อากาสฏฺกถายํ อนฺโตวตฺถุมฺหีติ ปริกฺขิตฺตสฺส วตฺถุสฺส อนฺโต. อนฺโตคาเมติ ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อนฺโต. อปริกฺขิตฺเต ปน วตฺถุมฺหิ คาเม วา ิตฏฺานเมว านํ. อฏวิมุขํ กโรติ…เป… รกฺขตีติ เตน ปโยเคน ตสฺส อิจฺฉิตฏฺานํ อาคตตฺตา รกฺขติ. คามโต นิกฺขนฺตสฺสาติ ปริกฺขิตฺตคามโต นิกฺขนฺตสฺส. กปิฺชโร นาม อฺมฺํ ยุชฺฌาปนตฺถาย พาลชเนหิ โปสาวนิยปกฺขิชาติ.
เวหาสฏฺกถาวณฺณนา
๙๗. เวหาสฏฺกถายํ ฉินฺนมตฺเต มุตฺตมตฺเตติ ยถา ฉินฺนํ มุตฺตฺจ ปกติฏฺาเน น ติฏฺติ, ตถา เฉทนํ โมจนฺจ สนฺธาย วุตฺตํ.
อุทกฏฺกถาวณฺณนา
๙๘. อุทกฏฺกถายํ ¶ สนฺทมานอุทเก นิกฺขิตฺตํ น ติฏฺตีติ อาห ‘‘อสนฺทนเก อุทเก’’ติ. อนาปตฺตีติ หตฺถวารปทวาเรสุ ทุกฺกฏาปตฺติยา อภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. กฑฺฒตีติ เหฏฺโต โอสาเรติ. สกลมุทกนฺติ ทณฺเฑน ผุฏฺโกาสคตํ สกลมุทกํ. น อุทกํ านนฺติ อตฺตนา กตฏฺานสฺส อฏฺานตฺตา. ปทุมินิยนฺติ ปทุมคจฺเฉ. กลาปพนฺธนฺติ หตฺถกวเสน ขุทฺทกํ กตฺวา พทฺธํ กลาปพทฺธํ. ภารพทฺธํ นาม สีสภาราทิวเสน พทฺธํ. มุฬาลนฺติ กนฺทํ. ปตฺตํ วา ปุปฺผํ วาติ อิทํ กทฺทมสฺส อนฺโต ¶ ปวิสิตฺวา ิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. นิทฺธมนตุมฺพนฺติ วาปิยา อุทกสฺส นิกฺขมนนาฬํ. อุทกวาหกนฺติ มหามาติกํ. อวหาเรน โส น กาเรตพฺโพติ อิมินา ปาณํ ชีวิตา โวโรปเน อาปตฺติยา สพฺพตฺถ น มุจฺจตีติ ทีเปติ. มาติกํ อาโรเปตฺวาติ ขุทฺทกมาติกํ อาโรเปตฺวา. มริตฺวา…เป… ติฏฺนฺตีติ เอตฺถ มตมจฺฉานํเยว เตสํ สนฺตกตฺตา อมเต คณฺหนฺตสฺส นตฺถิ อวหาโร.
นาวฏฺกถาวณฺณนา
๙๙. นาวฏฺกถายํ ถุลฺลจฺจยมฺปิ ปาราชิกมฺปิ โหตีติ เอตฺถ ปมํ านา อจาเวตฺวา มุตฺเต ถุลฺลจฺจยํ, ปมํ ปน านา จาเวตฺวา มุตฺเต ปาราชิกนฺติ เวทิตพฺพํ. ปาเส พทฺธสูกโร วิยาติอาทินา วุตฺตํ สนฺธายาห ‘‘ตตฺถ ยุตฺติ ปุพฺเพ วุตฺตาเอวา’’ติ. วิปนฺนฏฺนาวาติ วิสมวาเตหิ เทสนฺตรํ ปลาตา, ภิชฺชิตฺวา วา วินาสํ ปตฺวา อุทเก นิมุชฺชิตฺวา เหฏฺา ภูมิตลํ อปฺปตฺวา สามิเกหิ จ อปริจฺจตฺตาลยา วุจฺจติ. พลวา จ วาโต อาคมฺมาติ อิมินา อสติ วาเต อยํ ปโยโค กโตติ ทสฺเสติ. ปุคฺคลสฺส นตฺถิ อวหาโรติ สุกฺขมาติกายํ อุชุกรณนเยน วุตฺตํ. ตํ อตฺตโน ปาเทน อนกฺกมิตฺวา หตฺเถน จ อนุกฺขิปิตฺวา อฺสฺมึ ทณฺฑาทีสุ พนฺธิตฺวา ปิเต ยุชฺชติ, อตฺตโน ปาเทน อกฺกมิตฺวา หตฺเถน จ อุกฺขิปิตฺวา ิตสฺส ปน พลววาเตน ฉตฺตจีวราทีสุ ปหเฏสุ ปกตึ วิชหิตฺวา ทฬฺหตรํ อกฺกมนคหณาทิปโยโค อภินโว กาตพฺโพ สิยา. อิตรถา ฉตฺตจีวราทีนิ วา วิคจฺฉนฺติ, อวหารโก วา สยํ ปติสฺสติ, นาวา จ ตทา น คมิสฺสติ. ตสฺมา อีทิเส อภินวปฺปโยเค สติ อวหาเรน ภวิตพฺพํ. สุกฺขมาติกายํ อุชุกตาย อุทกาคมนกาเล กาตพฺพกิจฺจํ นตฺถีติ ตํ อิธ นิทสฺสนํ น โหติ. ทาสํ ปน ปกติยา ปลายนฺตํ ‘‘สีฆํ ยาหี’’ติ วตฺวา ปกติคมนโต ตุริตคมนุปฺปาทนาทินา อิธ นิทสฺสเนน ภวิตพฺพนฺติ อมฺหากํ ขนฺติ ¶ , วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. วาเต อาคเตปิ ยตฺถ อติลหุกตฺตา นาวาย กฺจิ ปโยคํ อกตฺวา ปกติยา อวหารโก ติฏฺติ, ตตฺถิทํ อฏฺกถายํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
ยานฏฺกถาวณฺณนา
๑๐๐. ยานฏฺกถายํ ¶ อุโภสุ ปสฺเสสูติ จตุนฺนํ ถมฺภานํ อุปริ จตุรสฺสํ ทารุสงฺฆาฏํ อาโรเปตฺวา ตสฺส วามทกฺขิณปสฺเสสุ อุโภสุ วาตาตปาทิปริสฺสยวิโนทนตฺถํ ครุฬปกฺขิโน อุโภ ปกฺขา วิย กตา สนฺทมานิกา. ทุกยุตฺตสฺสาติ ทฺวีหิ โคเณหิ ยุตฺตสฺส. อยุตฺตกนฺติ โคเณหิ อยุตฺตํ. กปฺปกตาติ ทฺวินฺนํ สิขานํ สนฺธิฏฺาเน โคสิงฺคานิ วิย ทฺเว โกฏิโย เปตฺวา อุปตฺถมฺภนี กปฺปกตา นาม, สา ทฺวีหิปิ โกฏีหิ ภูมิยํ ปติฏฺาติ, เตนาห ‘‘ฉ านานี’’ติ. ตีณิ วา จตฺตาริ วา านานีติ อกปฺปกตาย อุปตฺถมฺภนิยา จ ทฺวินฺนํ จกฺกานฺจ วเสน ตีณิ านานิ, กปฺปกตาย วเสน จตฺตาริ านานิ, ตถา ปถวิยํ ปิตสฺส ตีณิ านานีติ สมฺพนฺโธ. อกฺขสีเสหีติ อกฺขทารุโน ทฺวีหิ โกฏีหิ. อกฺขุทฺธีหีติ อกฺขทารุนา สมฺปฏิจฺฉกา เหฏฺิมภาเค กปฺปกตา ทฺเว ทารุขณฺฑา อกฺขุทฺธิโย นาม, ตาสํ กปฺปกตานํ ทฺวินฺนํ กปฺปสีสานิ จตฺตาริ อิธ ‘‘อกฺขุทฺธิโย’’ติ วุจฺจนฺติ, เตนาห ‘‘จตูหิ จ อกฺขุทฺธีหี’’ติ. ตาหิ ปติฏฺิตาหิ ปติฏฺิตฏฺานานิ จตฺตาริ ธุเรน ปติฏฺิตฏฺานํ เอกนฺติ ปฺจ านานิ โหนฺติ. อุทฺธิโยว ‘‘อุทฺธิขาณุกา’’ติ วุตฺตา, อุทฺธิขาณุกานํ อภาเว อกฺขสีสานํ ปติฏฺาโนกาสํ ทสฺเสนฺโต อาห สมเมว พาหํ กตฺวาติอาทิ. ตตฺถ สมเมวาติ อุทฺธิโย เหฏฺา อโนลมฺเพตฺวา พาหุโน เหฏฺิมภาคํ สมํ กตฺวา ทฺวินฺนํ พาหุทารูนํ มชฺเฌ อกฺขสีสปฺปมาเณน ฉิทฺทํ กตฺวา ตตฺถ อกฺขสีสานิ ปเวสิตานิ โหนฺติ, เตน พาหานํ เหฏฺาภาคํ สพฺพํ ภูมึ ผุสิตฺวา ติฏฺติ, เตนาห ‘‘สพฺพํ ปถวึ ผุสิตฺวา ติฏฺตี’’ติ. เสสํ นาวายํ วุตฺตสทิสนฺติ อิมินา ยทิ ปน ตํ เอวํ คจฺฉนฺตํ ปกติคมนํ ปจฺฉินฺทิตฺวา อฺํ ทิสาภาคํ เนติ, ปาราชิกํ. สยเมว ยํ กิฺจิ านํ สมฺปตฺตํ านา อจาเลนฺโตว วิกฺกิณิตฺวา คจฺฉติ, เนวตฺถิ อวหาโร, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหตีติ อิมํ นยํ อติทิสติ.
ภารฏฺกถาวณฺณนา
๑๐๑. ภารฏฺกถายํ ภารฏฺนฺติ มาติกาปทสฺส ภาโร นามาติ อิทํ อตฺถทสฺสนนฺติ อาห ‘‘ภาโรเยว ภารฏฺ’’นฺติ. ปุริมคเลติ คลสฺส ปุริมภาเค. คลวาฏโกติ คีวาย อุปริมคลวาฏโก. อุรปริจฺเฉทมชฺเฌติ ¶ อุรปริยนฺตสฺส มชฺเฌ. สามิเกหิ อนาณตฺโตติ อิทํ ยทิ ¶ สามิเกหิ ‘‘อิมํ ภารํ เนตฺวา อสุกฏฺาเน เทหี’’ติ อาณตฺโต ภเวยฺย, ตทา เตน คหิตภณฺฑํ อุปนิกฺขิตฺตํ สิยา, ตฺจ เถยฺยจิตฺเตน สีสาทิโต โอโรเปนฺตสฺสาปิ อวหาโร น สิยา, สามิกานํ ปน ธุรนิกฺเขเป เอว สิยาติ ตโต อุปนิกฺขิตฺตภณฺฑภาวโต วิโยเชตุํ วุตฺตํ, เตเนว วกฺขติ ‘‘เตหิ ปน อนาณตฺตตฺตา ปาราชิก’’นฺติ. ฆํสนฺโตติ สีสโต อนุกฺขิปนฺโต, ยทิ อุกฺขิเปยฺย, อุกฺขิตฺตมตฺเต ปาราชิกํ, เตนาห สีสโต เกสคฺคมตฺตมฺปีติอาทิ. โย จายนฺติ โย อยํ วินิจฺฉโย.
อารามฏฺกถาวณฺณนา
๑๐๒. อารามฏฺกถายํ อารามํ อภิยฺุชตีติ อิทํ อภิโยคกรณํ ปเรสํ ภูมฏฺภณฺฑาทีสุปิ กาตุํ วฏฺฏติเยว. อารามาทิถาวเรสุ ปน เยภุยฺเยน อภิโยควเสเนว คหณสมฺภวโต เอตฺเถว ปาฬิยํ อภิโยโค วุตฺโต, อิติ อิมินา นเยน สพฺพตฺถาปิ สกฺกา าตุนฺติ คเหตพฺพํ. อทินฺนาทานสฺส ปโยคตฺตาติ สหปโยคมาห. วตฺถุมฺหิเยว กตปโยคตฺตา สหปโยควเสน เหตํ ทุกฺกฏํ. สยมฺปีติ อภิยฺุชโกปิ. ‘‘กึ กโรมิ กึ กโรมี’’ติ เอวํ กิงฺการเมว ปฏิสฺสุณนฺโต วิย จรตีติ กิงฺการปฏิสฺสาวี, ตสฺส ภาโว กิงฺการปฏิสฺสาวิภาโว, ตสฺมึ, อตฺตโน วสวตฺติภาเวติ วุตฺตํ โหติ. อุกฺโกจนฺติ ลฺชํ. สพฺเพสํ ปาราชิกนฺติ กูฏวินิจฺฉยิกาทีนํ. อยํ วตฺถุสามีติอาทิกสฺส อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขปกรณเหตุโน ปโยคสฺส กรณกฺขเณว ปาราชิกํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. สเจ ปน สามิกสฺส วิมติ จ ธุรนิกฺเขโป จ กเมน อุปฺปชฺชนฺติ, ปโยคสมุฏฺาปกจิตฺตกฺขเณ ปาราชิกเมว โหติ, น ถุลฺลจฺจยํ. ยทิ วิมติเยว อุปฺปชฺชติ, ตทา ถุลฺลจฺจยเมวาติ เวทิตพฺพํ, อยํ นโย สพฺพตฺถ ยถานุรูปํ คเหตพฺโพ. ธุรนิกฺเขปวเสเนว ปราชโยติ สามิโก ‘‘อหํ น มุจฺจามี’’ติ ธุรํ อนิกฺขิปนฺโต อฏฺโฏ ปราชิโต นาม น โหตีติ ทสฺเสติ.
วิหารฏฺกถาวณฺณนา
๑๐๓. วิหารฏฺกถายํ ¶ วิหารนฺติ อุปจารสีมาสงฺขาตํ สกลํ วิหารํ. ปริเวณนฺติ ตสฺส วิหารสฺส อพฺภนฺตเร วิสุํ วิสุํ ปาการาทิปริจฺฉินฺนฏฺานํ. อาวาสนฺติ เอกํ อาวสถมตฺตํ. คณสนฺตเก ปริจฺฉินฺนสามิกตฺตา สกฺกา ธุรํ นิกฺขิปาเปตุนฺติ อาห ‘‘ทีฆภาณกาทิเภทสฺส ปน คณสฺสา’’ติ. อิธาปิ สเจ เอโกปิ ธุรํ น นิกฺขิปติ, รกฺขติเยว. เอส นโย พหูนํ สนฺตเก สพฺพตฺถ.
เขตฺตฏฺกถาวณฺณนา
๑๐๔. เขตฺตฏฺกถายํ ¶ นิรุมฺภิตฺวา วาติอาทีสุ คณฺหนฺตสฺสาติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ, ตตฺถ นิรุมฺภิตฺวา คหณํ นาม วีหิสีสํ อจฺฉินฺทิตฺวา ยถาิตเมว หตฺเถน คเหตฺวา อากฑฺฒิตฺวา พีชมตฺตสฺเสว คหณํ. เอกเมกนฺติ เอกํ วีหิสีสํ. ยสฺมึ พีเช วาติอาทิ นิรุมฺภิตฺวา คหณาทีสุ ยถากฺกมํ โยเชตพฺพํ. ‘‘ตสฺมึ พนฺธนา โมจิตมตฺเต’’ติ วจนโต ตสฺมึ พีชาทิมฺหิ พนฺธนา มุตฺเต สติ ตโต อนปนีเตปิ านนฺตรสฺส อภาวา ปาราชิกเมว. ยสฺส ปน สีสาทิกสฺส สนฺตราทินา สห สํสิพฺพนํ วา เอกาพทฺธตา วา โหติ, ตสฺส พนฺธนา โมจิเต ถุลฺลจฺจยํ, อิตรฏฺานโต โมจิเต ปาราชิกนฺติ คเหตพฺพํ, เตนาห วีหินาฬนฺติอาทิ. สภุสนฺติ ปลาลสหิตํ. ขีเลนาติ ขาณุเกน. เอตฺถ จ ขีลสงฺกมนาทีสุ สหปโยโค ธุรนิกฺเขโป จาติ อุภยํ สมฺภวติ. ขีลสงฺกมนาทิ เอตฺถ สหปโยโค. ตสฺมิฺจ กเต ยทิ สามิกา ธุรํ น นิกฺขิปนฺติ ปุน คณฺหิตุกามาว โหนฺติ, น ตาว อวหาโร, ‘‘ขีลํ สงฺกาเมตฺวา เขตฺตาทึ อสุโก ราชวลฺลโภ ภิกฺขุ คณฺหิตุกาโม’’ติ ตฺวา ตสฺส พลํ กกฺขฬาทิภาวฺจ นิสฺสาย ขีลสงฺกมนาทิกิริยานิฏฺานโต ปมเมว สามิกา ธุรํ นิกฺขิปนฺติ, น อวหาโร เอตสฺส ปโยคนิฏฺานโต ปุเรตรเมว ธุรสฺส นิกฺขิตฺตตฺตา. ยทา ปน ขีลสงฺกมนาทิปโยเคเนว ธุรนิกฺเขโป โหติ, ตทาเยว อวหาโร, เตเนเวตฺถ ‘‘ตฺจ โข สามิกานํ ธุรนิกฺเขเปนา’’ติ วุตฺตํ. ขีลาทีนํ สงฺกมิตภาวํ อชานิตฺวา สามิกานํ สมฺปฏิจฺฉนมฺเปตฺถ ธุรนิกฺเขโปติ เวทิตพฺโพ. เอวํ สพฺพตฺถาติ ยถาวุตฺตมตฺถํ รชฺชุสงฺกมนาทีสุปิ อติทิสติ. ยฏฺินฺติ มานทณฺฑํ. เอกสฺมึ อนาคเต ถุลฺลจฺจยํ, ตสฺมึ อาคเต ปาราชิกนฺติ ¶ สเจ ทารูนิ นิขณิตฺวา ตตฺตเกเนว คณฺหิตุกาโม โหติ, อวสาเน ทารุมฺหิ ปาราชิกํ. สเจ ตตฺถ กณฺฏกสาขาทีหิ ปาทานํ อนฺตรํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา กสฺสจิ อปฺปเวสารหํ กตฺวา คเหตุกาโม โหติ, อวสานสาขาย ปาราชิกํ, เตนาห ‘‘สาขาปริวาเรเนว อตฺตโน กาตุํ สกฺโกตี’’ติ, ทารูนิ จ นิขณิตฺวา สาขาปริวารฺจ กตฺวา เอว อตฺตโน สนฺตกํ กาตุํ สกฺโกตีติ อตฺโถ. เขตฺตมริยาทนฺติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘เกทารปาฬิ’’นฺติ วุตฺตํ. อิทฺจ ขีลสงฺกมนาทินา คหณํ อารามาทีสุปิ ลพฺภเตว.
วตฺถุฏฺกถาวณฺณนา
๑๐๕. วตฺถุฏฺกถายํ ติณฺณํ ปาการานนฺติ อิฏฺกสิลาทารูนํ วเสน ติณฺณํ ปาการานํ.
๑๐๖. คามฏฺกถายํ ¶ ‘‘คาโม นามา’’ติ ปาฬิยํ น วุตฺตํ สพฺพโส คามลกฺขณสฺส ปุพฺเพ วุตฺตตฺตา.
อรฺฏฺกถาวณฺณนา
๑๐๗. อรฺฏฺกถายํ วินิวิชฺฌิตฺวาติ อุชุกเมว วินิวิชฺฌิตฺวา. ลกฺขณจฺฉินฺนสฺสาติ อรฺสามิกานํ หตฺถโต กิณิตฺวา คณฺหนฺเตหิ กตอกฺขราทิสฺาณสฺส. ฉลฺลิยา ปริโยนทฺธนฺติ อิมินา สามิกานํ นิราเปกฺขตาย จิรฉฑฺฑิตภาวํ ทีเปติ, เตนาห ‘‘คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ยทิ สามิกานํ สาเปกฺขตา อตฺถิ, น วฏฺฏติ. ตานิ กตานิ อชฺฌาวุตฺถานิ จ โหนฺตีติ ตานิ เคหาทีนิ กตานิ ปรินิฏฺิตานิ มนุสฺเสหิ จ อชฺฌาวุตฺถานิ จ โหนฺติ. ทารูนีติ เคหาทีนํ กตตฺตา อวสิฏฺทารูนิ. คเหตุํ วฏฺฏตีติ สามิกานํ อนาลยตฺตา วุตฺตํ, เต จ ยทิ คหณกาเล ทิสฺวา สาลยา หุตฺวา วาเรนฺติ, คเหตุํ น วฏฺฏติเยว. ‘‘เทหี’’ติ วุตฺเต ทาตพฺพเมวาติ ‘‘เทหี’’ติ วุตฺเต ‘‘ทสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ‘‘เทหี’’ติ อวุตฺเต อทตฺวา คมเน อาปตฺติ นตฺถิ. ปจฺฉาปิ เตหิ โจทิเต ทาตพฺพเมว.
อทิสฺวา คจฺฉติ, ภณฺฑเทยฺยนฺติ สุทฺธจิตฺเตน คตสฺส ภณฺฑเทยฺยํ. อารกฺขฏฺานมฺปิ สุทฺธจิตฺเตน อติกฺกมิตฺวา เถยฺยจิตฺเต อุปฺปนฺเนปิ อวหาโร นตฺถิ ¶ อารกฺขฏฺานสฺส อติกฺกนฺตตฺตา. เกจิ ปน ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ นีตานมฺปิ ทารูนํ อรฺสามิกานฺเว สนฺตกตฺตา ปุน เถยฺยจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา คจฺฉติ, ปาราชิกเมวา’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ ‘‘อารกฺขฏฺานํ ปตฺวา…เป… อสฺสติยา อติกฺกมตี’’ติ, สหสา ตํ านํ อติกฺกมตีติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๗) จ อารกฺขฏฺานาติกฺกเมเยว อาปตฺติยา วุจฺจมานตฺตา, อารกฺขฏฺานาติกฺกมเมว สนฺธาย ‘‘อิทํ ปน เถยฺยจิตฺเตน ปริหรนฺตสฺส อากาเสน คจฺฉโตปิ ปาราชิกเมวา’’ติ วุตฺตํ. ยฺจ ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ นีตานมฺปิ ทารูนํ อรฺสามิกานฺเว สนฺตกตฺตา’’ติ การณํ วุตฺตํ, ตมฺปิ อารกฺขฏฺานโต พหิ ปาราชิกาปชฺชนสฺส การณํ น โหติ ภณฺฑเทยฺยภาวสฺเสว การณตฺตา. เตสํ สนฺตกตฺเตเนว หิ พหิ กตสฺสาปิ ภณฺฑเทยฺยํ ชาตํ, อิตรถา จ ภณฺฑเทยฺยมฺปิ น สิยา สุงฺกฆาตาติกฺกเม วิย. อทฺธิเกหิ ทินฺนเมว สุงฺกิกานํ สนฺตกํ โหติ, นาทินฺนํ, เตน ตํ านํ ยโต กุโตจิ ปจฺจยโต สุทฺธจิตฺเตน อติกฺกนฺตสฺส ภณฺฑเทยฺยมฺปิ น โหติ. อิธ ปน อรฺสามิกานํ สนฺตกตฺตา สพฺพตฺถาปิ ภณฺฑเทยฺยเมว โหติ, เตเนเวตํ อรฺเ อารกฺขฏฺานํ สุงฺกฆาตโตปิ ครุตรํ ¶ ชาตํ. ยทิ หิ อารกฺขฏฺานโต พหิปิ เถยฺยจิตฺเต สติ อวหาโร ภเวยฺย, อารกฺขฏฺานํ ปตฺวาติอาทินา านนิยโม นิรตฺถโก สิยา ยตฺถ กตฺถจิ เถยฺยจิตฺเต อุปฺปนฺเน ปาราชิกนฺติ วตฺตพฺพโต. ตสฺมา อารกฺขฏฺานโต พหิ เถยฺยจิตฺเตน คจฺฉนฺตสฺส อวหาโร น ภวติ เอวาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. อิทํ ปน เถยฺยจิตฺเตน ปริหรนฺตสฺสาติ ยสฺมึ ปเทเส อติกฺกนฺเต เตสํ อรฺํ อารกฺขฏฺานฺจ อติกฺกนฺโต นาม โหติ, ตํ ปเทสํ อากาเสนาปิ อติกฺกมนวเสน คจฺฉนฺตสฺสาปีติ อตฺโถ.
อุทกกถาวณฺณนา
๑๐๘. อุทกกถายํ มหากุจฺฉิกา อุทกจาฏิ อุทกมณิโก, ‘‘สเมขลา จาฏิ อุทกมณิโก’’ติปิ วทนฺติ. ตตฺถาติ เตสุ ภาชเนสุ. ภูตคาเมน สทฺธิมฺปีติ ปิ-สทฺเทน อกปฺปิยปถวิมฺปิ สงฺคณฺหาติ. ตฬากรกฺขณตฺถายาติ ‘‘มโหทกํ อาคนฺตฺวา ตฬากมริยาทํ มา ฉินฺที’’ติ ตฬากรกฺขณตฺถํ. นิพฺพหนอุทกนฺติ เอตฺถ ตฬากสฺส เอเกน อุนฺนเตน ปสฺเสน อธิกชลํ นิพฺพหติ นิคจฺฉติ เอเตนาติ ‘‘นิพฺพหน’’นฺติ อธิกชลนิกฺขมนมาติกา ¶ วุจฺจติ. ตตฺถ คจฺฉมานํ อุทกํ นิพฺพหนอุทกํ นาม. นิทฺธมนตุมฺพนฺติ สสฺสาทีนํ อตฺถาย อิฏฺกาทีหิ กตํ อุทกนิกฺขมนปนาฬิ. มริยาทํ ทุพฺพลํ กตฺวาติ เอตฺถ ทุพฺพลํ อกตฺวาปิ ยถาวุตฺตปฺปโยเค กเต มริยาทํ ฉินฺทิตฺวา นิกฺขนฺตอุทกคฺฆานุรูเปน อวหาเรน กตฺตพฺพเมว. ยตฺตกํ ตปฺปจฺจยา สสฺสํ อุปฺปชฺชตีติ พีชกสิกมฺมาทิพฺพยํ เปตฺวา ยํ อธิกลาภํ อุปฺปชฺชติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. น หิ เตหิ กาตพฺพํ วยกรณมฺปิ เอตสฺส ทาตพฺพํ. อิทฺจ ตรุณสสฺเส ชาเต อุทกํ วินาเสนฺตสฺส ยุชฺชติ, สสฺเส ปน สพฺพถา อกเตเยว อุทกํ วินาเสนฺเตน จ อุทกคฺฆเมว ทาตพฺพํ, น ตปฺปจฺจยา สกลํ สสฺสํ เตน วินาสิตภณฺฑสฺเสว ภณฺฑเทยฺยตฺตา, อิตรถา วาณิชฺชาทิอตฺถาย ปเรหิ ปิตภณฺฑํ อวหรนฺตสฺส ตทุภยมฺปิ คเหตฺวา ภณฺฑคฺฆํ กาตพฺพํ สิยา, ตฺจ น ยุตฺตนฺติ อมฺหากํ ขนฺติ. สามิกานํ ธุรนิกฺเขเปนาติ เอตฺถ เอกสฺส สนฺตเก ตฬาเก เขตฺเต จ ชาเต ตสฺเสว ธุรนิกฺเขเปน ปาราชิกํ, ยทิ ปน ตํ ตฬากํ สพฺพสาธารณํ, เขตฺตานิ ปาฏิปุคฺคลิกานิ, ตสฺส ตสฺส ปุคฺคลสฺเสว ธุรนิกฺเขเป อวหาโร, อถ เขตฺตานิปิ สพฺพสาธารณานิ, สพฺเพสํ ธุรนิกฺเขเปเยว ปาราชิกํ, นาสตีติ ทฏฺพฺพํ.
อนิคฺคเตติ อนิกฺขนฺเต, ตฬาเกเยว ิเตติ อตฺโถ. ปเรสํ มาติกามุขนฺติ ขุทฺทกมาติกามุขํ. อสมฺปตฺเตวาติ ตฬากโต นิกฺขมิตฺวา มหามาติกายํ เอว ิเต. อนิกฺขนฺเต พทฺธา สุพทฺธาติ ตฬากโต อนิกฺขนฺเต ภณฺฑเทยฺยมฺปิ น โหติ สพฺพสาธารณตฺตา อุทกสฺสาติ ¶ อธิปฺปาโย. นิกฺขนฺเต ปน ปาฏิปุคฺคลิกํ โหตีติ อาห ‘‘นิกฺขนฺเต พทฺธา ภณฺฑเทยฺย’’นฺติ. อิธ ปน ขุทฺทกมาติกายํ อปฺปวิฏฺตฺตา อวหาโร น ชาโต, ‘‘ตฬากโต อนิคฺคเต ปเรสํ มาติกามุขํ อสมฺปตฺเตวา’’ติ เหฏฺา วุตฺตสฺส วิกปฺปทฺวยสฺส ‘‘อนิกฺขนฺเต พทฺธา สุพทฺธา, นิกฺขนฺเต พทฺธา ภณฺฑเทยฺย’’นฺติ อิทํ ทฺวยํ ยถากฺกเมน โยชนตฺถํ วุตฺตํ. นตฺถิ อวหาโรติ เอตฺถ ‘‘อวหาโร นตฺถิ, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหตี’’ติ เกจิ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ. วตฺถุํ…เป… น สเมตีติ เอตฺถ ตฬากคตอุทกสฺส สพฺพสาธารณตฺตา ปรสนฺตกวตฺถุ น โหตีติ อธิปฺปาโย.
ทนฺตโปนกถาวณฺณนา
๑๐๙. ทนฺตกฏฺกถายํ ¶ ตโต ปฏฺาย อวหาโร นตฺถีติ ‘‘ยถาสุขํ ภิกฺขุสงฺโฆ ปริภฺุชตู’’ติ อภาเชตฺวาว ยาวทิจฺฉกํ คหณตฺถเมว ปิตตฺตา อรกฺขิตตฺตา สพฺพสาธารณตฺตา จ อฺํ สงฺฆิกํ วิย น โหตีติ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺตสฺสาปิ นตฺถิ อวหาโร. ขาทนฺตุ, ปุน สามเณรา อาหริสฺสนฺตีติ เกจิ เถรา วเทยฺยุนฺติ โยเชตพฺพํ.
วนปฺปติกถาวณฺณนา
๑๑๐. วนปฺปติกถายํ สนฺธาริตตฺตาติ ฉินฺนสฺส รุกฺขสฺส ปติตุํ อารทฺธสฺส สนฺธารณมตฺเตน วุตฺตํ, น ปน มริจวลฺลิอาทีหิ ปุพฺเพ เวเตฺวา ิตภาเวน. ตาทิเส หิ ฉินฺเนปิ อวหาโร นตฺถิ อรฺฏฺกถายํ เวิตวลฺลิยํ วิย. อุชุกเมว ติฏฺตีติ อิมินา สพฺพโส ฉินฺทนเมว วลฺลิอาทีหิ อสมฺพทฺธสฺส รุกฺขสฺส านาจาวนํ ปุพฺเพ วิย อากาสาทีสุ ผุฏฺสกลปเทสโต โมจนนฺติ อาเวณิกมิธ านาจาวนํ ทสฺเสติ. เกจิ ปน ‘‘รุกฺขภาเรน กิฺจิเทว ภสฺสิตฺวา ิตตฺตา โหติเยว านาจาวน’’นฺติ วทนฺติ, ตนฺน, รุกฺเขน ผุฏฺสฺส สกลสฺส อากาสปเทสสฺส ปฺจหิ ฉหิ วา อากาเรหิ อนติกฺกมิตตฺตา. วาตมุขํ โสเธตีติ ยถา วาโต อาคนฺตฺวา รุกฺขํ ปาเตติ, เอวํ วาตสฺส อาคมนมคฺคํ รุนฺธิตฺวา ิตานิ สาขาคุมฺพาทีนิ ฉินฺทิตฺวา อปเนนฺโต โสเธติ. มณฺฑูกกณฺฏกํ วาติ มณฺฑูกานํ นงฺคุฏฺเ อคฺคโกฏิยํ ิตกณฺฏกนฺติ วทนฺติ, เอเก ‘‘วิสมจฺฉกณฺฏก’’นฺติปิ วทนฺติ.
หรณกกถาวณฺณนา
๑๑๑. หรณกกถายํ ¶ หรณกนฺติ วตฺถุสามินา หริยมานํ. โส จ ปาทํ อคฺฆติ, ปาราชิกเมวาติ ‘‘อนฺตํ น คณฺหิสฺสามี’’ติ อสลฺลกฺขิตตฺตา สามฺโต ‘‘คณฺหิสฺสามิ เอต’’นฺติ สลฺลกฺขิตสฺเสว ปฏสฺส เอกเทสตาย ตมฺปิ คณฺหิตุกาโมวาติ ปาราชิกํ วุตฺตํ. สภณฺฑหารกนฺติ สหภณฺฑหารกํ, สการาเทสสฺส วิกปฺปตฺตา สห สทฺโทว ิโต, ภณฺฑหารเกน สห ตํ ภณฺฑนฺติ อตฺโถ. สาสงฺโกติ ‘‘ยทิ อุปสงฺกมิตฺวา ¶ ภณฺฑํ คณฺหิสฺสามิ, อาวุเธน มํ ปหเรยฺยา’’ติ ภเยน สฺชาตาสงฺโก. เอกมนฺตํ ปฏิกฺกมฺมาติ ภเยเนว อนุปคนฺตฺวา มคฺคโต สยํ ปฏิกฺกมฺม. สนฺตชฺเชตฺวาติ ผรุสวาจาย เจว อาวุธปริวตฺตนาทิกายวิกาเรน จ สนฺตชฺเชตฺวา. อนชฺฌาวุตฺถกนฺติ อปริคฺคหิตกํ. อาลเยน อนธิมุตฺตมฺปิ ภณฺฑํ อนชฺฌาวุตฺถกํ นาม โหตีติ อาห ‘‘อาหราเปนฺเต ทาตพฺพ’’นฺติ, อิมินา ปมํ ปริจฺจตฺตาลยานมฺปิ ยทิ ปจฺฉาปิ สกสฺา อุปฺปชฺชติ, เตสฺเว ตํ ภณฺฑํ โหติ, พลกฺกาเรนาปิ สกสฺาย ตสฺส คหเณ โทโส นตฺถิ, อททนฺตสฺเสว อวหาโรติ ทสฺเสติ. ยทิ ปน สามิโน ‘‘ปริจฺจตฺตํ มยา ปมํ, อิทานิ มม สนฺตกํ วา เอตํ, โน’’ติ อาสงฺกา โหติ, พลกฺกาเรน คเหตุํ น วฏฺฏติ สกสฺาพเลเนว ปุน คเหตพฺพภาวสฺส อาปนฺนตฺตา. ‘‘อเทนฺตสฺส ปาราชิก’’นฺติ วจนโต โจรสฺส สกสฺาย วิชฺชมานายปิ สามิเกสุ สาลเยสุ อทาตุํ น วฏฺฏตีติ ทีปิตํ โหติ. อฺเสูติ มหาปจฺจริยาทีสุ. วิจารณาเยว นตฺถีติ อิมินา ตตฺถาปิ ปฏิกฺเขปาภาวโต อยเมว อตฺโถติ ทสฺเสติ.
อุปนิธิกถาวณฺณนา
๑๑๒. อุปนิธิกถายํ สงฺโคปนตฺถาย อตฺตโน หตฺเถ นิกฺขิตฺตสฺส ภณฺฑสฺส คุตฺตฏฺาเน ปฏิสามนปฺปโยคํ วินา นาหํ คณฺหามีติอาทินา อฺสฺมึ ปโยเค อกเต รชฺชสงฺโขภาทิกาเล ‘‘น ทานิ ตสฺส ทสฺสามิ, น มยฺหํ ทานิ ทสฺสตี’’ติ อุโภหิปิ สกสกฏฺาเน นิสีทิตฺวา ธุรนิกฺเขเป กเตปิ อวหาโร นตฺถิ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘ปาราชิกเมว ปฏิสามนปฺปโยคสฺส กตตฺตา’’ติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ, น สารโต ปจฺเจตพฺพํ. ปฏิสามนกาเล หิสฺส เถยฺยจิตฺตํ นตฺถิ, ‘‘น ทานิ ตสฺส ทสฺสามี’’ติ เถยฺยจิตฺตุปฺปตฺติกฺขเณ ปน สามิโน ธุรนิกฺเขปจิตฺตุปฺปตฺติยา เหตุภูโต กายวจีปโยโค นตฺถิ, เยน โส อาปตฺตึ อาปชฺเชยฺย. น หิ อกิริยสมุฏฺานายํ อาปตฺตีติ. ทาเน สอุสฺสาโห, รกฺขติ ตาวาติ อวหารํ สนฺธาย อวุตฺตตฺตา นาหํ คณฺหามีติอาทินา มุสาวาทกรเณ ปาจิตฺติยเมว โหติ, น ทุกฺกฏํ ¶ เถยฺยจิตฺตาภาเวน สหปโยคสฺสาปิ อภาวโตติ คเหตพฺพํ. ยทิปิ มุเขน ทสฺสามีติ วทติ…เป… ปาราชิกนฺติ เอตฺถ กตรปโยเคน อาปตฺติ, น ตาว ปเมน ภณฺฑปฏิสามนปฺปโยเคน ตทา เถยฺยจิตฺตาภาวา, นาปิ ‘‘ทสฺสามี’’ติ ¶ กถนปฺปโยเคน ตทา เถยฺยจิตฺเต วิชฺชมาเนปิ ปโยคสฺส กปฺปิยตฺตาติ? วุจฺจเต – สามินา ‘‘เทหี’’ติ พหุโส ยาจิยมาโนปิ อทตฺวา เยน ปโยเคน อตฺตโน อทาตุกามตํ สามิกสฺส าเปติ, เยน จ โส ‘‘อทาตุกาโม อยํ วิกฺขิปตี’’ติ ตฺวา ธุรํ นิกฺขิปติ, เตเนว ปโยเคนสฺส อาปตฺติ. น เหตฺถ อุปนิกฺขิตฺตภณฺเฑ ปริยาเยน มุตฺติ อตฺถิ. อทาตุกามตาย หิ กทา เต ทินฺนํ, กตฺถ เต ทินฺนนฺติอาทิปริยายวจเนนาปิ สามิกสฺส ธุเร นิกฺขิปาปิเต อาปตฺติเยว. เตเนว อฏฺกถายํ วุตฺตํ – ‘‘กึ ตุมฺเห ภณถ…เป… เอวํ อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเปน ภิกฺขุโน ปาราชิก’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๑). ปรสนฺตกสฺส ปเรหิ คณฺหาปเน เอว ปริยายโต มุตฺติ, น สพฺพตฺถาติ คเหตพฺพํ. อตฺตโน หตฺเถ นิกฺขิตฺตตฺตาติ เอตฺถ อตฺตโน หตฺเถ สามินา ทินฺนตาย ภณฺฑาคาริกฏฺาเน ิตตฺตา จ านาจาวเนปิ นตฺถิ อวหาโร, เถยฺยจิตฺเตน ปน คหเณ ทุกฺกฏโต น มุจฺจตีติ เวทิตพฺพํ.
เอเสว นโยติ อุทฺธาเรเยว โจรสฺส ปาราชิกํ, กสฺมา? อฺเหิ สาธารณสฺส อภิฺาณสฺส วุตฺตตฺตา. อฺํ ตาทิสเมว คณฺหนฺเต ยุชฺชตีติ สฺาณโต โอกาสโต จ เตน สทิสเมว อฺํ คณฺหนฺเต ยุชฺชติ, โจเรน สลฺลกฺขิตปฺปเทสโต ตํ อปเนตฺวา เกหิจิ ตตฺถ ตาทิเส อฺสฺมึ ปตฺเต ปิเต ตํ คณฺหนฺเตเยว ยุชฺชตีติ อธิปฺปาโย, เตน โจเรน ทิวา สลฺลกฺขิตปตฺตํ อฺตฺถ อปเนตฺวา ตทฺเ ตาทิเส ปตฺเต ตตฺถ ปิเตปิ โจรสฺส ปจฺฉา รตฺติภาเค อุปฺปชฺชมานํ เถยฺยจิตฺตํ ทิวา สลฺลกฺขิตปฺปเทเส ปิตํ อฺํ ตาทิสํ ปตฺตเมว อาลมฺพิตฺวา อุปฺปชฺชตีติ ทสฺสิตํ โหติ. ปทวาเรนาติ เถเรน นีหริตฺวา ทินฺนํ ปตฺตํ คเหตฺวา คจฺฉโต โจรสฺส ปทวาเรน. อตาทิสเมว คณฺหนฺเต ยุชฺชตีติ อตาทิสสฺส เถเรน คหณกฺขเณ อวหาราภาวโต ปจฺฉา หตฺถปตฺตํ ‘‘ต’’นฺติ วา ‘‘อฺ’’นฺติ วา สฺาย ‘‘อิทํ คเหตฺวา คจฺฉามี’’ติ คมเน ปทวาเรเนว อวหาโร ยุชฺชตีติ อธิปฺปาโย.
ปาราชิกํ นตฺถีติ ปทวาเรปิ ปาราชิกํ นตฺถิ อุปนิธิภณฺเฑ วิยาติ คเหตพฺพํ. คามทฺวารนฺติ พหิคาเม วิหารสฺส ปติฏฺิตตฺตา คามปฺปเวสสฺส อารมฺภปฺปเทสทสฺสนวเสน วุตฺตํ, อนฺโตคามนฺติ อตฺโถ. ทฺวินฺนมฺปิ อุทฺธาเรเยว ¶ ปาราชิกนฺติ เถรสฺส อภณฺฑาคาริกตฺตา วุตฺตํ. ยทิ หิ โส ภณฺฑาคาริโก ภเวยฺย, สพฺพมฺปิ อุปนิกฺขิตฺตเมว สิยา, อุปนิกฺขิตฺตภณฺเฑ จ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหโตปิ น ตาว เถรสฺส อวหาโร โหติ, โจรสฺเสว อวหาโร. อุภินฺนมฺปิ ทุกฺกฏนฺติ ¶ เถรสฺส อตฺตโน สนฺตกตาย โจรสฺส สามิเกน ทินฺนตฺตา อวหาโร น ชาโต, อุภินฺนมฺปิ อสุทฺธจิตฺเตน คหิตตฺตา ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ.
อาณตฺติยา คหิตตฺตาติ ‘‘ปตฺตจีวรํ คณฺหา’’ติ เอวํ เถเรน กตอาณตฺติยา คหิตตฺตา. อฏวึ ปวิสติ, ปทวาเรน กาเรตพฺโพติ ‘‘ปตฺตจีวรํ คณฺห, อสุกํ นาม คามํ คนฺตฺวา ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติ เถเรน วิหารโต ปฏฺาย คามมคฺเคปิ สกเลปิ คาเม วิจรณสฺส นิยมิตตฺตา มคฺคโต โอกฺกมฺม คจฺฉนฺตสฺเสว ปทวาเรน อาปตฺติ วุตฺตา. วิหารสฺส หิ ปรภาเค อุปจารโต ปฏฺาย ยาว ตสฺส คามสฺส ปรโต อุปจาโร, ตาว สพฺพํ ทหรสฺส เถราณตฺติยา สฺจรณูปจาโรว โหติ, น ปน ตโต ปรํ. เตเนว ‘‘อุปจาราติกฺกเม ปาราชิกํ. คามูปจาราติกฺกเม ปาราชิก’’นฺติ จ วุตฺตํ. ปฏินิวตฺตเน จีวรโธวนาทิอตฺถาย เปสเนปิ เอเสว นโย. อฏฺตฺวา อนิสีทิตฺวาติ เอตฺถ วิหารํ ปวิสิตฺวา สีสาทีสุ ภารํ ภูมิยํ อนิกฺขิปิตฺวา ติฏฺนฺโต วา นิสีทนฺโต วา วิสฺสมิตฺวา เถยฺยจิตฺเต วูปสนฺเต ปุน เถยฺยจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา คจฺฉติ เจ, ปาทุทฺธาเรน กาเรตพฺโพ. สเจ ภูมิยํ นิกฺขิปิตฺวา ปุน ตํ คเหตฺวา คจฺฉติ, อุทฺธาเรน กาเรตพฺโพ. กสฺมา? อาณาปกสฺส อาณตฺติยา ยํ กตฺตพฺพํ, ตสฺส ตาวตา ปรินิฏฺิตตฺตา. ‘‘อสุกํ นาม คาม’’นฺติ อนิยเมตฺวา ‘‘อนฺโตคามํ คมิสฺสามา’’ติ อวิเสเสน วุตฺเต วิหารสามนฺตา ปุพฺเพ ปิณฺฑาย ปวิฏฺปุพฺพา สพฺเพ โคจรคามาปิ เขตฺตเมวาติ วทนฺติ. เสสนฺติ มคฺคุกฺกมนวิหาราภิมุขคมนาทิ สพฺพํ. ปุริมสทิสเมวาติ อนาณตฺติยา คหิเตปิ สามิกสฺส กเถตฺวา คหิตตฺตา เหฏฺา วุตฺตวิหารูปจาราทิ สพฺพํ เขตฺตเมวาติ กตฺวา วุตฺตํ. เอเสว นโยติ อนฺตรามคฺเค เถยฺยจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวาติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๒) วุตฺตํ นยํ อติทิสติ.
นิมิตฺเต วา กเตติ จีวรํ เม กิลิฏฺํ, โก นุ โข รชิตฺวา ทสฺสตีติอาทินา นิมิตฺเต กเต. วุตฺตนเยเนวาติ อนาณตฺตสฺส เถเรน ¶ สทฺธึ ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา คมนวาเร วุตฺตนเยเนว. เอกปสฺเสติ วิหารสฺส มหนฺตตาย อตฺตานํ อทสฺเสตฺวา เอกสฺมึ ปสฺเส. เถยฺยจิตฺเตน ปริภฺุชนฺโต ชีราเปตีติ เถยฺยจิตฺเต อุปฺปนฺเน านาจาวนํ อกตฺวา นิวตฺถปารุตนีหาเรเนว ปริภฺุชนฺโต ชีราเปติ, านา จาเวนฺตสฺส ปน เถยฺยจิตฺเต สติ ปาราชิกเมว สีเส ภารํ ขนฺเธ กรณาทีสุ วิย (ปารา. ๑๐๑). ยถา วา ตถา วา นสฺสตีติ อคฺคิอาทินา นสฺสติ, อฺโ วา โกจีติ อิมินา เยน ปิตํ, โสปิ สงฺคหิโตติ เวทิตพฺพํ.
อิตรสฺสาติ ¶ โจรสฺส. อิตรํ คณฺหโต อุทฺธาเร ปาราชิกนฺติ เอตฺถ ‘‘ปวิสิตฺวา ตว สาฏกํ คณฺหาหี’’ติ อิมินาว อุปนิธิภาวโต โมจิตตฺตา, สามิกสฺส อิตรํ คณฺหโต อตฺตโน สาฏเก อาลยสฺส สพฺภาวโต จ ‘‘อุทฺธาเร ปาราชิก’’นฺติ วุตฺตํ. สามิโก เจ ‘‘มม สนฺตกํ อิทํ วา โหตุ, อฺํ วา, กึ เตน, อลํ มยฺหํ อิมินา’’ติ เอวํ สุฏฺุ นิราลโย โหติ, โจรสฺส ปาราชิกํ นตฺถีติ คเหตพฺพํ. น ชานนฺตีติ เตน วุตฺตวจนํ อสุณนฺตา น ชานนฺติ. เอเสว นโยติ เอตฺถ สเจ ชานิตฺวาปิ จิตฺเตน น สมฺปฏิจฺฉนฺติ, เอเสว นโยติ ทฏฺพฺพํ. ปฏิกฺขิปนฺตีติ เอตฺถ จิตฺเตน ปฏิกฺเขโปปิ สงฺคหิโตวาติ เวทิตพฺพํ. อุปจาเร วิชฺชมาเนติ ภณฺฑาคารสฺส สมีเป อุจฺจารปสฺสาวฏฺาเน วิชฺชมาเน. มยิ จ มเต สงฺฆสฺส จ เสนาสเน วินฏฺเติ เอตฺถ ‘‘ตํ มาเรสฺสามา’’ติ เอตฺตเก วุตฺเตปิ วิวริตุํ วฏฺฏติ คิลานปกฺเข ิตตฺตา อวิสโยติ วุตฺตตฺตา. มรณโต หิ ปรํ เคลฺํ อวิสยตฺตฺจ นตฺถิ. ‘‘ทฺวารํ ฉินฺทิตฺวา ปริกฺขารํ หริสฺสามา’’ติ เอตฺตเก วุตฺเตปิ วิวริตุํ วฏฺฏติเยว. สหาเยหิ ภวิตพฺพนฺติ เตหิปิ ภิกฺขาจาราทีหิ ปริเยสิตฺวา อตฺตโน สนฺตเกปิ กิฺจิ กิฺจิ ทาตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. อยํ สามีจีติ ภณฺฑาคาเร วสนฺตานํ อิทํ วตฺตํ.
โลลมหาเถโรติ มนฺโท โมมูโห อากิณฺณวิหารี. อิตเรหีติ ตสฺมึเยว คพฺเภ วสนฺเตหิ อิตรภิกฺขูหิ. วิหารรกฺขณวาเร นิยุตฺโต วิหารวาริโก, วุฑฺฒปฏิปาฏิยา อตฺตโน วาเร วิหารรกฺขณโก. นิวาปนฺติ ภตฺตเวตนํ. โจรานํ ปฏิปถํ คเตสูติ โจรานํ อาคมนํ ตฺวา ‘‘ปมตรฺเว คนฺตฺวา สทฺทํ กริสฺสามา’’ติ โจรานํ อภิมุขํ ¶ คเตสุ, ‘‘โจเรหิ หฏภณฺฑํ อาหริสฺสามา’’ติ ตทนุปถํ คเตสุปิ เอเสว นโย. นิพทฺธํ กตฺวาติ ‘‘อสุกกุเล ยาคุภตฺตํ วิหารวาริกานฺเวา’’ติ เอวํ นิยมนํ กตฺวา. ทฺเว ติสฺโส ยาคุสลากา จตฺตาริ ปฺจ สลากภตฺตานิ จ ลภมาโนวาติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ, ตโต อูนํ วา โหตุ อธิกํ วา อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺส จ ยาปนมตฺตํ ลภนเมว ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ. นิสฺสิตเก ชคฺเคนฺตีติ เตหิ วิหารํ ชคฺคาเปนฺตีติ อตฺโถ. อสหายกสฺสาติ สหายรหิตสฺส. อตฺตทุติยสฺสาติ อปฺปิจฺฉสฺส อตฺตา สรีรเมว ทุติโย อสฺส นาฺโติ อตฺตทุติโย. ตทุภยสฺสาปิ อตฺถสฺส วิภาวนํ ยสฺสาติอาทิ, เอเตน สพฺเพน เอเกกสฺส วาโร น ปาเปตพฺโพติ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปากวตฺตตฺถายาติ นิจฺจํ ปจิตพฺพยาคุภตฺตสงฺขาตวตฺตตฺถาย. เปนฺตีติ ทายกา เปนฺติ. ตํ คเหตฺวาติ ตํ อารามิกาทีหิ ทิยฺยมานํ ภาคํ คเหตฺวา. น คาหาเปตพฺโพติ เอตฺถ อพฺโภกาสิกสฺสาปิ อตฺตโน อธิกปริกฺขาโร วา ปิโต อตฺถิ, จีวราทิสงฺฆิกภาเคปิ อาลโย วา อตฺถิ, โสปิ คาหาเปตพฺโพว. ทิคุณนฺติ อฺเหิ ลพฺภมานโต ทิคุณํ. ปกฺขวาเรนาติ อฑฺฒมาสวาเรน.
สุงฺกฆาตกถาวณฺณนา
๑๑๓. สุงฺกฆาตกถายํ ¶ สุงฺกํ ยตฺถ ราชปุริสา หนนฺติ อททนฺตานํ สนฺตกํ อจฺฉินฺทิตฺวาปิ คณฺหนฺติ, ตํ านํ สุงฺกฆาตนฺติ เอวมฺปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏํ กาตุํ ตฺหีติอาทิ วุตฺตํ. ทุติยํ ปาทํ อติกฺกาเมตีติ เอตฺถ ปมปาทํ ปริจฺเฉทโต พหิ เปตฺวา ทุติยปาเท อุทฺธฏมตฺเต ปาราชิกํ. อุทฺธริตฺวา พหิ อฏฺปิเตปิ พหิ ิโต เอว นาม โหตีติ กตฺวา เอวํ สพฺพตฺถ ปทวาเรสุปีติ ทฏฺพฺพํ. ปริวตฺติตฺวา อพฺภนฺตริมํ พหิ เปติ, ปาราชิกนฺติ อิทํ สยํ พหิ ตฺวา ปมํ อพฺภนฺตริมํ อุกฺขิปิตฺวา วา สมกํ อุกฺขิปิตฺวา วา ปริวตฺตนํ สนฺธาย วุตฺตํ. พหิ ตฺวา อุกฺขิตฺตมตฺเต หิ สพฺพํ พหิคตเมว โหตีติ. สเจ ปน โส พหิ ตฺวาปิ พาหิรปุฏกํ ปมํ อนฺโต เปตฺวา ปจฺฉา อพฺภนฺตริมํ อุกฺขิปิตฺวา พหิ เปติ, ตทาปิ เอกาพทฺธตาย อวิชหิตตฺตา อวหาโร น ทิสฺสติ. เกจิ ปน ‘‘ภูมิยํ ปติตฺวา วตฺตนฺตํ ปุน อนฺโต ปวิสติ, ปาราชิกเมวาติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๓) วุตฺตตฺตา พาหิรปุฏเก ¶ อนฺโตปวิฏฺเปิ พหิคตภาวโต น มุจฺจติ, อนฺโตคตํ ปน ปุฏกํ ปมํ, ปจฺฉา เอว วา พหิ ปิตมตฺเต วา ปาราชิกเมวา’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ. พหิ ภูมิยํ ปาติตสฺส เกนจิ สทฺธึ เอกาพทฺธตาย อภาเวน อนฺโตปวิฏฺเปิ ปาราชิกเมวาติ วตฺตุํ ยุตฺตํ, อิทํ ปน เอกาพทฺธตฺตา เตน สทฺธึ น สเมติ. ตสฺมา ยถา อนฺโตภูมิคเตน เอกาพทฺธตา น โหติ, เอวํ อุภยสฺสาปิ พหิคตภาเว สาธิเตเยว อวหาโรติ วิฺายติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. เย ปน ปริวตฺติตฺวาติ อิมสฺส นิวตฺติตฺวาติ อตฺถํ วทนฺติ, เตหิ ปน อพฺภนฺตริมํ พหิ เปตีติ อยมตฺโถ คหิโต โหตีติ ตตฺถ สงฺกาเยว นตฺถิ. เอกาพทฺธนฺติ กาชโกฏิยํ รชฺชุยา พนฺธนํ สนฺธาย วุตฺตํ. อพนฺธิตฺวา กาชโกฏิยํ ปิตมตฺตเมว โหติ, ปาราชิกนฺติ พหิ คหิตกาชโกฏิยํ ปิตํ ยทิ ปาทํ อคฺฆติ, ปาราชิกเมว, อนฺโตปิเตน เอกาพทฺธตาย อภาวาติ อธิปฺปาโย. คจฺฉนฺเต ยาเน วา…เป… เปตีติ สุงฺกฆาตํ ปวิสิตฺวา อปฺปวิสิตฺวา วา เปติ. สุงฺกฏฺานสฺส พหิ ิตนฺติ ยานาทีหิ นีหฏตฺตา พหิ ิตํ. เกจิ ปน ‘‘พหิ ปิต’’นฺติ ปาํ วิกปฺเปตฺวา สุงฺกฏฺานโต ปุพฺเพว พหิ ปิตนฺติ อตฺถํ วทนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ; สุงฺกฏฺาเน ปวิสิตฺวา ยาเน ปิเตปิ ปวตฺติตฺวา คเต วิย โทสาภาวโต. โย ปน สุงฺกฏฺานสฺส อนฺโตว ปวิสิตฺวา ‘‘สุงฺกฏฺาน’’นฺติ ตฺวา เถยฺยจิตฺเตน อาคตมคฺเคน ปฏินิวตฺติตฺวา คจฺฉติ, ตสฺสาปิ ยทิ เตน ทิสาภาเคน คจฺฉนฺตานมฺปิ หตฺถโต สุงฺกํ คณฺหนฺติ, ปาราชิกเมว. อิมสฺมึ าเนติ ยานาทีหิ นีหรเณ. ตตฺราติ ตสฺมึ เอฬกโลมสิกฺขาปเท (ปารา. ๕๗๑ อาทโย).
ปาณกถาวณฺณนา
๑๑๔. ปาณกถายํ ¶ อาปิโตติ มาตาปิตูหิ อิณํ คณฺหนฺเตหิ ‘‘ยาว อิณทานา อยํ ตุมฺหากํ สนฺติเก โหตู’’ติ อิณทายกานํ นิยฺยาติโต. อวหาโร นตฺถีติ มาตาปิตูหิ ปุตฺตสฺส อปริจฺจตฺตตฺตา มาตาปิตูนฺจ อสนฺตกตฺตา อวหาโร นตฺถิ. ธนํ ปน คตฏฺาเน วฑฺฒตีติ อิมินา อาเปตฺวา คหิตธนํ วฑฺฒิยา สห อาปิตปุตฺตหารกสฺส คีวาติ ทสฺสิตนฺติ วทนฺติ. ทาสสฺส ชาโตติ อุกฺกฏฺลกฺขณํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ทาสิกุจฺฉิยํ ปน อทาสสฺส ชาโตปิ เอตฺเถว สงฺคหิโต ¶ . ปรเทสโต ปหริตฺวาติ ปรเทสวิลุมฺปเกหิ ราชโจราทีหิ ปหริตฺวา. สุขํ ชีวาติ วทตีติ เถยฺยจิตฺเตน สามิกานํ สนฺติกโต ปลาเปตุกามตาย วทติ, ตถา ปน อจินฺเตตฺวา การฺุเน ‘‘สุขํ คนฺตฺวา ชีวา’’ติ วทนฺตสฺส นตฺถิ อวหาโร, คีวา ปน โหติ. ทุติยปทวาเรติ ยทิ ทุติยปทํ อวสฺสํ อุทฺธริสฺสติ, ภิกฺขุสฺส ‘‘ปลายิตฺวา สุขํ ชีวา’’ติ วจนกฺขเณเยว ปาราชิกํ. อนาปตฺติ ปาราชิกสฺสาติ ตสฺส วจเนน เวควฑฺฒเน อกเตปิ ทุกฺกฏา น มุจฺจตีติ ทสฺเสติ. ‘‘อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิเยยฺยา’’ติ (ปารา. ๘๙, ๙๑) อาทานสฺเสว วุตฺตตฺตา วุตฺตปริยาเยน มุจฺจตีติ.
จตุปฺปทกถาวณฺณนา
๑๑๗. จตุปฺปทกถายํ ปาฬิยํ อาคตาวเสสาติ ปาฬิยํ อาคเตหิ หตฺถิ อาทีหิ อฺเ ปสุ-สทฺทสฺส สพฺพสาธารณตฺตา. ภิงฺกจฺฉาปนฺติ ‘‘ภิงฺกา ภิงฺกา’’ติ สทฺทายนโต เอวํ ลทฺธนามํ หตฺถิโปตกํ. อนฺโตวตฺถุมฺหีติ ปริกฺขิตฺเต. พหินคเร ิตสฺสาติ ปริกฺขิตฺตนครํ สนฺธาย วุตฺตํ, อปริกฺขิตฺตนคเร ปน อนฺโตนคเร ิตสฺสาปิ ิตฏฺานเมว านํ. ขณฺฑทฺวารนฺติ อตฺตนา ขณฺฑิตทฺวารํ. เอโก นิปนฺโนติ เอตฺถาปิ พนฺโธติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ, เตนาห ‘‘นิปนฺนสฺส ทฺเว’’ติ. ฆาเตตีติ เอตฺถ เถยฺยจิตฺเตน วินาเสนฺตสฺส สหปโยคตฺตา ทุกฺกฏเมวาติ วทนฺติ.
โอจรกกถาวณฺณนา
๑๑๘. โอจรกกถายํ ปริยาเยน หิ อทินฺนาทานโต มุจฺจตีติ อิทํ อาณตฺติกปโยคํ สนฺธาย วุตฺตํ, สยเมว ปน อภิยฺุชนาทีสุ ปริยาเยนปิ โมกฺโข นตฺถิ.
โอณิรกฺขกถาวณฺณนา
โอณิรกฺขกถายํ ¶ โอณินฺติ โอณีตํ, อานีตนฺติ อตฺโถ. โอณิรกฺขสฺส สนฺติเก ปิตภณฺฑํ อุปนิธิ (ปารา. ๑๑๒) วิย คุตฺตฏฺาเน เปตฺวา สงฺโคปนตฺถาย อนิกฺขิปิตฺวา ยถาปิตฏฺาเน เอว มุหุตฺตมตฺตํ โอโลกนตฺถาย ปิตตฺตา ตสฺส ภณฺฑสฺส านาจาวนมตฺเตน โอณิรกฺขกสฺส ปาราชิกํ โหติ.
สํวิทาวหารกถาวณฺณนา
สํวิทาวหารกถายํ ¶ สํวิธายาติ สํวิทหิตฺวา. เตน เนสํ ทุกฺกฏาปตฺติโยติ อาณตฺติวเสน ปาราชิกาปตฺติยา อสมฺภเว สตีติ วุตฺตํ. ยทิ หิ เตน อาณตฺตา ยถาณตฺติวเสน หรนฺติ, อาณตฺติกฺขเณ เอว ปาราชิกาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ. ปาฬิยํ ‘‘สมฺพหุลา สํวิทหิตฺวา เอโก ภณฺฑํ อวหรติ, อาปตฺติ สพฺเพสํ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๑๘) เอตฺถาปิ อาณาปกานํ อาณตฺติกฺขเณเยว อาปตฺติ, อวหารกสฺส อุทฺธาเรติ คเหตพฺโพ. สมฺพหุลา ภิกฺขู เอกํ อาณาเปนฺติ ‘คจฺเฉตํ อาหรา’ติ, ตสฺสุทฺธาเร สพฺเพสํ ปาราชิกนฺติอาทีสุปิ เอวเมว อตฺโถ คเหตพฺโพ. สาหตฺถิกํ วา อาณตฺติกสฺส อาณตฺติกํ วา สาหตฺถิกสฺส องฺคํ น โหตีติ ภินฺนกาลิกตฺตา อฺมฺสฺส องฺคํ น โหติ. ตถา หิ สหตฺถา อวหรนฺตสฺส านาจาวนกฺขเณ อาปตฺติ, อาณตฺติยา ปน อาณตฺติกฺขเณเยวาติ ภินฺนกาลิกตฺตา อาปตฺติโยติ.
สงฺเกตกมฺมกถาวณฺณนา
๑๑๙. สงฺเกตกมฺมกถายํ โอจรเก วุตฺตนเยเนวาติ เอตฺถ อวสฺสํ หาริเย ภณฺเฑติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๘) วุตฺตนเยเนว. ปาฬิยํ ‘‘ตํ สงฺเกตํ ปุเร วา ปจฺฉา วา’’ติ ตสฺส สงฺเกตสฺส ปุเร วา ปจฺฉา วาติ อตฺโถ. ‘‘ตํ นิมิตฺตํ ปุเร วา ปจฺฉา วา’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
นิมิตฺตกมฺมกถาวณฺณนา
๑๒๐. นิมิตฺตกมฺมกถายํ อกฺขินิขณนาทินิมิตฺตกมฺมํ ปน ลหุกํ อิตฺตรกาลํ, ตสฺมา ตงฺขเณเยว ตํ ภณฺฑํ อวหริตุํ น สกฺกา. นิมิตฺตกมฺมานนฺตรเมว คณฺหิตุํ อารทฺธตฺตา เตเนว ¶ นิมิตฺเตน อวหรตีติ วุจฺจติ. ยทิ เอวํ ปุเรภตฺตปฺปโยโคว เอโสติ วาโท ปมาณภาวํ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ. น หิ สงฺเกตกมฺมํ (ปารา. ๑๑๙) วิย นิมิตฺตกมฺมํ กาลปริจฺเฉทยุตฺตํ. กาลวเสน หิ สงฺเกตกมฺมํ วุตฺตํ, กิริยาวเสน นิมิตฺตกมฺมนฺติ อยเมว เตสํ วิเสโส. ‘‘ตํ นิมิตฺตํ ปุเร วา ปจฺฉา วา ตํ ภณฺฑํ อวหรติ, มูลฏฺสฺส อนาปตฺตี’’ติ อิทํ ปน นิมิตฺตกรณโต ปุเร ¶ คณฺหนฺตสฺส เจว นิมิตฺตกมฺเม จ กเตปิ คณฺหิตุํ อนารภิตฺวา ปจฺฉา สยเมว คณฺหนฺตสฺส จ วเสน วุตฺตํ.
อาณตฺติกถาวณฺณนา
๑๒๑. อาณตฺติกถายํ อสมฺโมหตฺถนฺติ ยสฺมา สงฺเกตกมฺมนิมิตฺตกมฺมานิ กโรนฺโต น เกวลํ ปุเรภตฺตาทิกาลสงฺเกตกมฺมํ อกฺขินิขณนาทินิมิตฺตกมฺมเมว วา กโรติ, อถ โข เอวํวณฺณสณฺานภณฺฑํ คณฺหาติ, ภณฺฑนิยมมฺปิ กโรติ, ตฺวํ อิตฺถนฺนามสฺส ปาวท, โส อฺสฺส ปาวทตูติอาทินา ปุคฺคลปฏิปาฏิยา จ อาณาเปติ, ตสฺมา ปุพฺพณฺหาทิกาลวเสน อกฺขินิขณนาทิกิริยาวเสน ภณฺฑปุคฺคลปฏิปาฏิวเสน จ อาณตฺเต เอเตสุ สงฺเกตกมฺมนิมิตฺตกมฺเมสุ วิสงฺเกตา วิสงฺเกตภาเว สมฺโมโห ชายติ, ตทปคเมน อสมฺโมหตฺถํ. ยํ อาณาปเกน นิมิตฺตสฺํ กตฺวา วุตฺตนฺติ ปุพฺพณฺหาทีสุ อกฺขินิขณนาทีสุ วา คหณตฺถํ อาณาเปนฺเตน อีทิสวณฺณสณฺานาทิยุตฺตํ คณฺหาติ เอวํ คหณสฺส นิมิตฺตภูตสฺาณํ กตฺวา ยํ ภณฺฑํ วุตฺตํ. อยํ ยุตฺติ สพฺพตฺถาติ เหฏฺา วุตฺเตสุ อุปริ วกฺขมาเนสุ จ สพฺพตฺถ อาณตฺติปฺปสงฺเคสุ อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิกาทีนํ ภาวสงฺขาตา วินยยุตฺติ, สา จ อาณตฺตสฺส กิริยานิฏฺาปนกฺขเณ อาณาปกสฺส ปโยเค เถยฺยจิตฺตานํ อภาวา อาณตฺติกฺขเณ เอกา เอว อาปตฺติ โหตีติ เอวํ อุปปตฺติยา ปวตฺตตฺตา ยุตฺตีติ วุตฺตา. ‘‘มูลฏฺสฺส ถุลฺลจฺจย’’นฺติ วุตฺตตฺตา สงฺฆรกฺขิเตน ปฏิคฺคหิเตปิ พุทฺธรกฺขิตธมฺมรกฺขิตานํ ทุกฺกฏเมว, กสฺมา ปเนตฺถ อาจริยสฺส ถุลฺลจฺจยนฺติ อาห ‘‘มหาชโน หี’’ติอาทิ. มหาชโนติ จ พุทฺธรกฺขิตธมฺมรกฺขิตสงฺฆรกฺขิเต สนฺธาย วุตฺตํ. มูลฏฺสฺเสว ทุกฺกฏนฺติ พุทฺธรกฺขิตสฺส ทุกฺกฏํ. อิทฺจ มูลฏฺสฺส ถุลฺลจฺจยาภาวทสฺสนตฺถํ ปมํ อาณตฺติกฺขเณ ทุกฺกฏํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ปน สงฺฆรกฺขิตสฺส ปฏิคฺคหณปจฺจยา ปุน ทุกฺกฏสมฺภวํ สนฺธาย. น หิ โส เอกปโยเคน ทุกฺกฏทฺวยํ อาปชฺชติ. เกจิ ปน ‘‘วิสงฺเกตตฺตา ปาฬิยํ ‘มูลฏฺสฺสา’ติ อวตฺวา ‘ปฏิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’ติ สามฺเน วุตฺตตฺตา อิทํ สงฺฆรกฺขิตสฺส ทุกฺกฏํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ กิฺจาปิ อฏฺกถาย น สเมติ, ปาฬิโต ปน ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ. น หิ ตสฺส ปฏิคฺคหณปฺปโยเค อนาปตฺติ โหตีติ. อิมินาว เหฏฺา อาคตวาเรสุปิ ปฏิคฺคณฺหนฺตานํ ¶ ¶ ทุกฺกฏํ เวทิตพฺพํ. ‘‘ปณฺเณ วา สิลาทีสุ วา ‘โจริยํ กาตพฺพ’นฺติ ลิขิตฺวา ปิเต ปาราชิกเมวา’’ติ เกจิ วทนฺติ, ตํ ปน ‘‘อสุกสฺส เคเห ภณฺฑ’’นฺติ เอวํ นิยเมตฺวา ลิขิเต ยุชฺชติ, น อนิยเมตฺวา ลิขิเตติ วีมํสิตพฺพํ. มคฺคานนฺตรผลสทิสาติ อิมินา ยถา อริยปุคฺคลานํ มคฺคานนฺตเร ผเล อุปฺปนฺเน กิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธิปริโยสานํ ภาวนากิจฺจํ นิปฺผนฺนํ นาม โหติ, เอวเมติสฺสา อตฺถสาธกเจตนาย อุปฺปนฺนาย อาณตฺติกิจฺจํ นิปฺผนฺนเมวาติ ทสฺเสติ, เตนาห ‘‘ตสฺมา อยํ อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิโก’’ติ, อาณตฺติวจีปโยคสมุฏฺาปกเจตนากฺขเณเยว ปาราชิโก โหตีติ อตฺโถ.
อาณตฺติกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
อาปตฺติเภทวณฺณนา
๑๒๒. ตตฺถ ตตฺถาติ ภูมฏฺถลฏฺาทีสุ. ปาฬิยํ มนุสฺสปริคฺคหิตํ สนฺธาย ‘‘ปรปริคฺคหิต’’นฺติ วุตฺตํ. อามสติ ผนฺทาเปติ านา จาเวตีติ อิเมหิ ตีหิ ปเทหิ ปุพฺพปโยคสหิตํ ปฺจมํ อวหารงฺคํ วุตฺตํ, านา จาเวตีติ จ อิทํ อุปลกฺขณมตฺตํ. อาณตฺติกาทโย สพฺเพปิ ปโยคา ธุรนิกฺเขโป จ อิธ สงฺคเหตพฺพาวาติ ทฏฺพฺพํ.
๑๒๕. านาจาวนนฺติ อิทํ ปาฬิอนุสารโต วุตฺตํ ธุรนิกฺเขปสฺสาปิ สงฺคเหตพฺพโต. เอส นโย อุปริปิ สพฺพตฺถ. ตตฺถ หิ น จ สกสฺีติ อิมินา ปรปริคฺคหิตตา วุตฺตา, น จ วิสฺสาสคฺคาหี น จ ตาวกาลิกนฺติ อิเมหิ ปรปริคฺคหิตสฺิตา, ตีหิ วา เอเตหิ ปรปริคฺคหิตตา ปรปริคฺคหิตสฺิตา จ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อนชฺฌาวุตฺถกนฺติ ‘‘มเมท’’นฺติ ปริคฺคหวเสน อนชฺฌาวุตฺถกํ อรฺเ ทารุติณปณฺณาทิ. ฉฑฺฑิตนฺติ ปมํ ปริคฺคเหตฺวา ปจฺฉา อนตฺถิกตาย ฉฑฺฑิตํ ยํ กิฺจิ. ฉินฺนมูลกนฺติ นฏฺํ ปริเยสิตฺวา อาลยสงฺขาตสฺส มูลสฺส ฉินฺนตฺตา ฉินฺนมูลกํ. อสฺสามิกนฺติ อนชฺฌาวุตฺถกาทีหิ ตีหิ อากาเรหิ ทสฺสิตํ อสฺสามิกวตฺถุ. อุภยมฺปีติ อสฺสามิกํ อตฺตโน สนฺตกฺจ.
อนาปตฺติเภทวณฺณนา
๑๓๑. ตสฺมึเยว ¶ อตฺตภาเว นิพฺพตฺตาติ ตสฺมึเยว มตสรีเร เปตตฺตภาเวน นิพฺพตฺตา. รุกฺขาทีสุ ลคฺคิตสาฏเก วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ มนุสฺเสหิ อโคปิตํ สนฺธาย วุตฺตํ, สเจ ปเนตํ เทวาลยเจติยรุกฺขาทีสุ ¶ นิยุตฺเตหิ ปุริเสหิ รกฺขิตโคปิตํ โหติ, คเหตุํ น วฏฺฏติ. โถเก ขายิเต…เป… คเหตุํ วฏฺฏตีติ อิทํ อทินฺนาทานาภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ชิฆจฺฉิตปาณินา ขาทิยมานมํสสฺส อจฺฉินฺทิตฺวา ขาทนํ นาม การฺุหานิโต โลลภาวโต จ อสารุปฺปเมว. เตเนว หิ อริยวํสิกา อตฺตโน ปตฺเต ภตฺตํ ขาทนฺตมฺปิ สุนขาทึ ตชฺเชตฺวา น วาเรนฺติ, ติรจฺฉานานํ อามิสทาเน กุสลํ วิย เตสํ อามิสสฺส อจฺฉินฺทเนปิ อกุสลเมวาติ คเหตพฺพํ, เตเนว วกฺขติ ‘‘ปรานุทฺทยตาย จ น คเหตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๔๐).
ปกิณฺณกกถาวณฺณนา
พหุ เอกโต ทารุอาทิภาริยสฺส เอกสฺส ภณฺฑสฺส อุกฺขิปนกาเล ‘‘คณฺหถ อุกฺขิปถา’’ติ วจีปโยเคน สทฺธึ กายปโยคสพฺภาวฏฺานํ สนฺธาย ‘‘สาหตฺถิกาณตฺติก’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘ตฺวํ เอตํ วตฺถุํ คณฺห, อหํ อฺ’’นฺติ เอวํ ปวตฺเต ปน อวหาเร อตฺตนา คหิตํ สาหตฺถิกเมว, ปเรน คาหาปิตํ อาณตฺติกเมว, เตเนว ตทุภยคฺเฆน ปฺจมาเสปิ ปาราชิกํ น โหติ, เอเกกภณฺฑคฺฆวเสน ถุลฺลจฺจยาทิเมว โหติ. วุตฺตฺหิ ‘‘สาหตฺถิกํ วา อาณตฺติกสฺส องฺคํ น โหตี’’ติอาทิ. อุปนิกฺขิตฺตภณฺฑํ ภณฺฑเทยฺยฺจ อทาตุกามตาย ‘‘เทมิ ทมฺมี’’ติ วิกฺขิปนฺโต ตุณฺหีภาเวน วิเหเนฺโตปิ เตน เตน กายวิการาทิกิริยาย ปรสฺส ธุรํ นิกฺขิปาเปสีติ ‘‘กิริยาสมุฏฺานฺจา’’ติ วุตฺตํ.
ปทภาชนียวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
วินีตวตฺถุวณฺณนา
๑๓๕. วินีตวตฺถูสุ ¶ นิรุตฺติเยว ตํตํอตฺถคฺคหณสฺส อุปายตาย ปโถติ นิรุตฺติปโถ, เตเนวาห ‘‘โวหารวจนมตฺเต’’ติ. ยถากมฺมํ คโตติ ตโต เปตตฺตภาวโต มตภาวํ ทสฺเสติ. อพฺภุณฺเหติ อาสนฺนมรณตาย สรีรสฺส อุณฺหสมงฺคิตํ ทสฺเสติ, เตเนวาห ‘‘อลฺลสรีเร’’ติ. กุณปภาวํ อุปคตมฺปิ ภินฺนเมว อลฺลภาวโต ภินฺนตฺตา. วิสภาคสรีเรติ อิตฺถิสรีเร. สีเส วาติอาทิ อธกฺขเก อุพฺภชาณุมณฺฑเล ปเทเส จิตฺตวิการปฺปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ, ยตฺถ กตฺถจิ อนามสนฺเตน กตํ สุกตเมว. มตสรีรมฺปิ หิ เยน เกนจิ อากาเรน สฺจิจฺจ ผุสนฺตสฺส อนามาสทุกฺกฏเมวาติ วทนฺติ, ตํ ยุตฺตเมว. น หิ อปาราชิกวตฺถุเกปิ จิตฺตาทิอิตฺถิรูเป ภวนฺตํ ทุกฺกฏํ ปาราชิกวตฺถุภูเต มติตฺถิสรีเร นิวตฺตติ.
กุสสงฺกามนวตฺถุกถาวณฺณนา
๑๓๘. พลสาติ ¶ พเลน. สาฏโก ภวิสฺสติ, คณฺหิสฺสามีติ อนาคตวจนํ ปสิพฺพกคฺคหณโต ปุเรตรํ สมุปฺปนฺนปริกปฺปทสฺสนวเสน วุตฺตํ. คหณกฺขเณ ปน ‘‘สาฏโก เจ, คณฺหามี’’ติ ปสิพฺพกํ คณฺหาตีติ เอวเมตฺถ อธิปฺปาโย คเหตพฺโพ, น ปน พหิ นีหริตฺวา สาฏกภาวํ ตฺวา คเหสฺสามีติ, เตนาห ‘‘อุทฺธาเรเยว ปาราชิก’’นฺติ. อิตรถา ‘‘อิทานิ น คณฺหามิ, ปจฺฉา อนฺธกาเร ชาเต วิชานนกาเล วา คณฺหิสฺสามิ, อิทานิ โอโลเกนฺโต วิย หตฺถคตํ กโรมี’’ติ คณฺหนฺตสฺสาปิ คหณกฺขเณ อวหาโร ภเวยฺย, น จ ตํ ยุตฺตํ ตทา คหเณ สนฺนิฏฺานาภาวา. สนฺนิฏฺาปกเจตนาย เอว หิ ปาณาติปาตาทิอกุสลํ วิย. น หิ ‘‘ปจฺฉา วธิสฺสามี’’ติ ปาณํ คณฺหนฺตสฺส ตเทว ตสฺมึ มเตปิ ปาณาติปาโต โหติ วธกเจตนาย ปโยคสฺส อกตตฺตา, เอวมิธาปิ อตฺถงฺคเต สูริเย อวหริสฺสามีติอาทินา กาลปริกปฺปนวเสน านา จาวิเตปิ ตทาปิ อวหาโร น โหติ โอกาสปริกปฺเป (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๓๘) วิย, ตสฺมึ ปน ยถาปริกปฺปิตฏฺาเน กาเล อาคเต ภณฺฑํ ภูมิยํ อนิกฺขิปิตฺวาปิ เถยฺยจิตฺเตน คจฺฉโต ปทวาเรน อวหาโรติ ขายติ. ตสฺมา ภณฺฑปริกปฺโป โอกาสปริกปฺโป กาลปริกปฺโปติ ติวิโธปิ ปริกปฺโป ¶ คเหตพฺโพ. อฏฺกถายํ ปน โอกาสปริกปฺเป สโมธาเนตฺวา กาลปริกปฺโป วิสุํ น วุตฺโตติ อมฺหากํ ขนฺติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. ปทวาเรน กาเรตพฺโพติ ภูมิยํ อนิกฺขิปิตฺวา วีมํสิตตฺตา วุตฺตํ. ปริยุฏฺิโตติ อนุพทฺโธ.
ปริกปฺโป ทิสฺสตีติ คหณกฺขเณ ปริกปฺโป ทิสฺสติ, น ตทา เตสํ มเตน อวหาโรติ ทสฺเสติ. ทิสฺวา หฏตฺตา ปริกปฺปาวหาโร น ทิสฺสตีติ ปจฺฉา ปน พหิ วีมํสิตฺวา สาฏกภาวํ ตฺวา ตโต ปจฺฉา เถยฺยจิตฺเตน หฏตฺตา ปุพฺเพ กตสฺส ปริกปฺปสฺส อวหารานงฺคตฺตา ‘‘สุตฺต’’นฺติ ตฺวา หรเณ วิย เถยฺยาวหาโร เอว สิยา. ตสฺมา ปริกปฺปาวหาโร น ทิสฺสติ. สาฏโก เจ ภวิสฺสตีติอาทิกสฺส ปริกปฺปสฺส ตทา อวิชฺชมานตฺตา เกวลํ อวหาโร เอว, น ปริกปฺปาวหาโรติ อธิปฺปาโย, เตน ภณฺฑปริกปฺปาวหารสฺส ‘‘สาฏโก เจ ภวิสฺสติ, คเหสฺสามี’’ติ เอวํ ภณฺฑสนฺนิฏฺานาภาวกฺขเณเยว ปวตฺตึ ทสฺเสติ, เตนาห ‘‘ยํ ปริกปฺปิตํ, ตํ อทิฏฺํ ปริกปฺปิตภาเว ิตํเยว อุทฺธรนฺตสฺส อวหาโร’’ติ. ยทิ เอวํ กสฺมา โอกาสปอปฺปาวหาโร ภณฺฑํ ทิสฺวา อวหรนฺตสฺส ปริกปฺปาวหาโร สิยาติ? นายํ โทโส อภณฺฑวิสยตฺตา ตสฺส ปริกปฺปสฺส, ปุพฺเพว ทิสฺวา าตภณฺฑสฺเสว หิ โอกาสปริกปฺโป วุตฺโต. ตํ มฺมาโน ตํ อวหรีติ อิทํ สุตฺตํ กิฺจาปิ ‘‘ตฺเเวต’’นฺติ นิยเมตฺวา คณฺหนฺตสฺส ¶ วเสน วุตฺตํ, ตถาปิ ‘‘ตฺเจ คณฺหิสฺสามี’’ติ เอวํ ปวตฺเต อิมสฺมึ ปริกปฺเปปิ ‘‘คณฺหิสฺสามี’’ติ คหเณ นิยมสพฺภาวา อวหารตฺถสาธกํ โหตีติ อุทฺธฏํ, เตเนว ‘‘สเมตี’’ติ วุตฺตํ.
เกจีติ มหาอฏฺกถายเมว เอกจฺเจ อาจริยา. มหาปจฺจริยํ ปนาติอาทินาปิ เกจิวาโท คารยฺโห, มหาอฏฺกถาวาโทว ยุตฺตตโรติ ทสฺเสติ.
อลงฺการภณฺฑนฺติ องฺคุลิมุทฺทิกาทิ. กุสํ ปาเตตฺวาติ วิลีวมยํ วา ตาลปณฺณาทิมยํ วา กตสฺาณํ ปาเตตฺวา. ปรโกฏฺาสโต กุเส อุทฺธเฏปิ น ตาว กุสสฺส ปริวตฺตนํ ชาตนฺติ วุตฺตํ ‘‘อุทฺธาเร รกฺขตี’’ติ. หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกนฺติ อิมินา านาจาวนํ ธุรนิกฺเขปฺจ วินา กุสสงฺกามนํ นาม วิสุํ เอโกยํ อวหาโรติ ทสฺเสติ. สพฺเพปิ หิ อวหารา ¶ สาหตฺถิกาณตฺติกาธิปฺปายโยเคหิ นิปฺผาทิยมานา อตฺถโต านาจาวนธุรนิกฺเขปกุสสงฺกามเนสุ ตีสุ สโมสรนฺตีติ ทฏฺพฺพํ. อิตโร ตสฺส ภาคํ อุทฺธรติ, อุทฺธาเร ปาราชิกนฺติ ปุริมสฺส อตฺตโน โกฏฺาเส อาลยสฺส อวิคตตฺตา วุตฺตํ, อาลเย ปน สพฺพถา อสติ อวหาโร น โหติ, เตนาห ‘‘วิจินิตาวเสสํ คณฺหนฺตสฺสาปิ อวหาโร นตฺเถวา’’ติ.
นายํ มมาติ ชานนฺโตปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺเทน ตตฺถ เวมติโกปิ หุตฺวา เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺโตปิ สงฺคยฺหติ. สิเวยฺยกนฺติ สิวิรฏฺเ ชาตํ.
๑๔๐-๑. กปฺปิยํ การาเปตฺวาติ ปจาเปตฺวา. ตสฺมึ ปาจิตฺติยนฺติ อทินฺนาทานภาเวน สหปโยคสฺสาปิ อภาวา ทุกฺกฏํ น วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อาณตฺเตหีติ สมฺมเตน อาณตฺเตหิ. อาณตฺเตนาติ สามิเกหิ อาณตฺเตน. ภณฺฑเทยฺยนฺติ สมฺมตาทีหิ ทินฺนตฺตา น ปราชิกํ ชาตํ, อสนฺตํ ปุคฺคลํ วตฺวา คหิตตฺตา ปน ภณฺฑเทยฺยํ วุตฺตํ. อฺเน ทิยฺยมานนฺติ สมฺมตาทีหิ จตูหิ อฺเน ทิยฺยมานํ. คณฺหนฺโตติ ‘‘อปรสฺส ภาคํ เทหี’’ติ วตฺวา คณฺหนฺโต. อปรสฺสาติ อสนฺตํ ปุคฺคลํ อทสฺเสตฺวา ปน ‘‘อปรํ ภาคํ เทหี’’ติ วา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา วา คณฺหโต คิหิสนฺตเก สามินา จ ‘‘อิมสฺส เทหี’’ติ เอวํ อาณตฺเตน จ ทินฺเน ภณฺฑเทยฺยมฺปิ น โหติ, สงฺฆสนฺตเก ปน โหตีติ อิมํ วิเสสํ ทสฺเสตุํ อสมฺมเตน วา อนาณตฺเตน วาติอาทิ ปุน วุตฺตํ. อิตเรหิ ทิยฺยมานนฺติ สมฺมเตน อาณตฺเตน วา ทิยฺยมานํ. เอวํ คณฺหโตติ ‘‘อปรมฺปิ ภาคํ เทหี’’ติ วตฺวา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา วา คณฺหโต. สามิเกน ปนาติ เอตฺถ ปน-สทฺโท วิเสสตฺถโชตโก, เตน ‘‘อปรมฺปิ ภาคํ เทหี’’ติ วา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา วา คณฺหนฺเต สามิเกน สยํ เทนฺเต วา ทาเปนฺเต วา วิเสโส อตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. สุทินฺนนฺติ ภณฺฑเทยฺยํ น โหตีติ อธิปฺปาโย. เหฏฺา ปน สามิเกน เตน อาณตฺเตน วา ทิยฺยมานํ คิหิสนฺตกํ ‘‘อปรสฺส ภาคํ เทหี’’ติ วตฺวา คณฺหโต อปรสฺส อภาวโต สามิสนฺตกเมว โหตีติ ภณฺฑเทยฺยํ ชาตํ, อิธ ปน เตหิเยว ทิยฺยมานํ ‘‘อปรมฺปิ ภาคํ เทหี’’ติ วตฺวา วา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา ¶ วา คณฺหโต ‘‘เทหี’’ติ วุตฺตตฺตา ¶ อฺาตกวิฺตฺติมตฺตํ เปตฺวา ภณฺฑเทยฺยํ น โหตีติ สุทินฺนเมวาติ วุตฺตํ. อสฺสามิเกน ปน อาณตฺเตน ทินฺนํ ภณฺฑํ คณฺหโต ภณฺฑเทยฺยเมวาติ วทนฺติ, ปตฺตจตุกฺเก วิย อวหารตาเวตฺถ ยุตฺตา, สงฺฆสนฺตเก ปน ‘‘เทหี’’ติ วุตฺเตปิ สามิกสฺส กสฺสจิ อภาวา สมฺมเตน ทินฺเนปิ ภณฺฑเทยฺยํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
๑๔๖-๙. อาหราเปนฺเตสุ ภณฺฑเทยฺยนฺติ ‘‘คหิเต อตฺตมโน โหตี’’ติ วจนโต อนตฺตมนสฺส สนฺตกํ คหิตมฺปิ ปุน ทาตพฺพเมวาติ วุตฺตํ. ‘‘สมฺมุขีภูเตหิ ภาเชตพฺพ’’นฺติ วจนโต ภาชนียภณฺฑํ อุปจารสีมฏฺานเมว ปาปุณาตีติ อาห ‘‘อนฺโตอุปจารสีมายํ ิตสฺเสว คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ภณฺฑเทยฺยนฺติ อุภินฺนํ สาลยภาเวปิ โจรสฺส อทตฺวา สามิกสฺเสว ทาตพฺพํ โจเรนาปิ สามิกสฺเสว ทาตพฺพโต. เอเสว นโยติ ปํสุกูลสฺาย คหิเต ภณฺฑเทยฺยํ, เถยฺยจิตฺเตน ปาราชิกนฺติ อตฺโถ.
วุฏฺหนฺเตสูติ คามํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลายนฺเตสุ. อวิเสเสนาติ สอุสฺสาหตาทิวิเสสํ อปรามสิตฺวา สามฺโต. สอุสฺสาหมตฺตเมว อาปตฺติภาวสฺส ปมาณํ สามิกานํ ปริจฺฉินฺนภาวโต. ตโตติ คณสนฺตกาทิโต. กุลสงฺคหณตฺถาย เทตีติ ปํสุกูลวิสฺสาสิกาทิสฺาย คเหตฺวา เทติ, ตทา กุลสงฺคหปจฺจยา จ ทุกฺกฏํ ภณฺฑเทยฺยฺจ, เถยฺยจิตฺเต ปน สติ กุลสงฺคหณตฺถาย คณฺหโตปิ ปาราชิกเมว. อูนปฺจมาสกาทีสุ กุลทูสกทุกฺกเฏน สทฺธึ ถุลฺลจฺจยทุกฺกฏานิ. เสนาสนตฺถาย นิยมิตนฺติ อิทํ อิสฺสรวตาย ททโต ถุลฺลจฺจยทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อิตรปจฺจยตฺถาย ทินฺนมฺปิ อเถยฺยจิตฺเตน อิสฺสรวตาย กุลสงฺคหณตฺถาย วา าตกาทีนํ วา ททโต ทุกฺกฏํ ภณฺฑเทยฺยฺจ โหเตว. อิสฺสรวตายาติ ‘‘มยิ เทนฺเต โก นิวาเรสฺสติ, อหเมเวตฺถ ปมาณ’’นฺติ เอวํ อตฺตโน อิสฺสริยภาเวน. ถุลฺลจฺจยนฺติ กุลสงฺคหณตฺถาย วา อฺถา วา การเณน ททโต เสนาสนตฺถาย นิยมิตสฺส ครุภณฺฑตาย ถุลฺลจฺจยํ ภณฺฑเทยฺยฺจ. คีวาติ เอตฺถ เสนาสนตฺถาย นิยมิเต ถุลฺลจฺจเยน สทฺธึ คีวา, อิตรสฺมึ ทุกฺกเฏน สทฺธินฺติ เวทิตพฺพํ. สุขาทิตเมวาติ อนฺโตอุปจารสีมายํ ตฺวา ภาเชตฺวา อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา ขาทิตตฺตา วุตฺตํ. สงฺฆิกฺหิ วิหารปฏิพทฺธํ ¶ เวภงฺคิยํ พหิอุปจารสีมฏฺํ ภณฺฑํ ¶ อนฺโตอุปจารฏฺเหิ ภิกฺขูหิ เอว ภาเชตพฺพํ, น พหิ ิเตหิ อุปจารสีมาย ภาเชตพฺพนฺติ.
๑๕๐. ‘‘วุตฺโต วชฺเชมี’’ติ วุตฺตภิกฺขุสฺมึ ‘‘วุตฺโต วชฺเชหี’’ติ วุตฺตสฺส ปจฺฉา อุปฺปชฺชนกปาราชิกาทิโทสาโรปนโต, คหฏฺานํ วา ‘‘ภทนฺตา อปริจฺเฉทํ กตฺวา วทนฺตี’’ติ เอวํ โทสาโรปนโต.
๑๕๓-๕. ฉาตชฺฌตฺตนฺติ เตน ฉาเตน ชิฆจฺฉาย อุทรคฺคินา ฌตฺตํ, ทฑฺฒํ ปีฬิตนฺติ อตฺโถ. ธนุกนฺติ ขุทฺทกธนุสณฺานํ ลคฺคนกทณฺฑํ. มทฺทนฺโต คจฺฉติ, ภณฺฑเทยฺยนฺติ เอตฺถ เอกสูกรคฺฆนกภณฺฑํ ทาตพฺพํ เอกสฺมึ พนฺเธ อฺเสํ ตตฺถ อพชฺฌนโต. อทูหลนฺติ ยนฺตปาสาโณ, เยน อชฺโฌตฺถฏตฺตา มิคา ปลายิตุํ น สกฺโกนฺติ. ปจฺฉา คจฺฉตีติ เตน กตปโยเคน อคนฺตฺวา ปจฺฉา สยเมว คจฺฉติ, เหฏฺา วุตฺเตสุปิ อีทิเสสุ าเนสุ เอเสว นโย. รกฺขํ ยาจิตฺวาติ ราชปุริสานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา อนุทฺทิสฺส รกฺขํ ยาจิตฺวา. กุมีนมุขนฺติ กุมีนสฺส อนฺโต มจฺฉานํ ปวิสนมุขํ.
๑๕๖. เถรานนฺติ อาคนฺตุกตฺเถรานํ. เตสมฺปีติ อาวาสิกภิกฺขูนมฺปิ. ปริโภคตฺถายาติ สงฺฆิเก กตฺตพฺพวิธึ กตฺวา ปริภฺุชนตฺถาย. คหเณติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ. ยตฺถาติ ยสฺมึ อาวาเส. อฺเสนฺติ อฺเสํ อาคนฺตุกานํ. เตสุปิ อาคนฺตุกา อนิสฺสราติ เสนาสเน นิรนฺตรํ วสนฺตานํ จีวรตฺถาย ทายเกหิ ภิกฺขูหิ วา นิยเมตฺวา ทินฺนตฺตา ภาเชตฺวา ขาทิตุํ อนิสฺสรา, อาคนฺตุเกหิปิ อิจฺฉนฺเตหิ ตสฺมึ วิหาเร วสฺสานาทีสุ ปวิสิตฺวา จีวรตฺถาย คเหตพฺพํ. เตสํ กติกาย าตพฺพนฺติ สพฺพานิ ผลาผลานิ อภาเชตฺวา ‘‘เอตฺตเกสุ รุกฺเขสุ ผลานิ ภาเชตฺวา ปริภฺุชิสฺสาม, อฺเสุ ผลาผเลหิ เสนาสนานิ ปฏิชคฺคิสฺสามา’’ติ วา, ‘‘ปิณฺฑปาตาทิปจฺจยํ สมฺปาเทสฺสามา’’ติ วา, ‘‘กิฺจิปิ อภาเชตฺวา จตุปจฺจยตฺถาเยว อุปเนมา’’ติ วา เอวํ สมฺมา อุปเนนฺตานํ อาวาสิกานํ กติกาย อาคนฺตุเกหิ าตพฺพํ. มหาอฏฺกถายํ ‘‘อนิสฺสรา’’ติ วจเนน ทีปิโต เอว อตฺโถ, มหาปจฺจริยํ จตุนฺนํ ปจฺจยานนฺติอาทินา วิตฺถาเรตฺวา ทสฺสิโต. ปริโภควเสเนวาติ เอตฺถ เอว-สทฺโท อฏฺานปฺปยุตฺโต, ปริโภควเสน ตเมว ภาเชตฺวาติ โยเชตพฺพํ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ วิหาเร, รฏฺเ วา.
เสนาสนปจฺจยนฺติ ¶ เสนาสนฺจ ตทตฺถาย นิยเมตฺวา ปิตฺจ. เอกํ วา ทฺเว วา วรเสนาสนานิ เปตฺวาติ วุตฺตเมวตฺถํ ปุน พฺยติเรกมุเขน ทสฺเสตุํ ‘‘มูลวตฺถุจฺเฉทํ ปน กตฺวา น อุปเนตพฺพ’’นฺติ ¶ วุตฺตํ, เสนาสนสงฺขาตวตฺถุโน มูลจฺเฉทํ กตฺวา สพฺพานิ เสนาสนานิ น วิสฺสชฺเชตพฺพานีติ อตฺโถ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘เอกํ วา ทฺเว วา วรเสนาสนานิ เปตฺวา ลามกโต ปฏฺาย วิสฺสชฺเชนฺเตหิปิ เสนาสนภูมิโย น วิสฺสชฺเชตพฺพาติ อยมตฺโถ วุตฺโต’’ติ วทนฺติ, ตมฺปิ ยุตฺตเมว อิมสฺสาปิ อตฺถสฺส อวสฺสํ วตฺตพฺพโต, อิตรถา เกจิ สห วตฺถุนาปิ วิสฺสชฺเชตพฺพํ มฺเยฺยุํ.
ปณฺณํ อาโรเปตฺวาติ ‘‘เอตฺตเก รุกฺเข รกฺขิตฺวา ตโต เอตฺตกํ คเหตพฺพ’’นฺติ ปณฺณํ อาโรเปตฺวา. นิมิตฺตสฺํ กตฺวาติ สงฺเกตํ กตฺวา. ทารกาติ เตสํ ปุตฺตนตฺตาทโย เย เกจิ โคเปนฺติ, เต สพฺเพปิ อิธ ‘‘ทารกา’’ติ วุตฺตา. ตโตติ ยถาวุตฺตทารุสมฺภารโต. อาปุจฺฉิตฺวาติ การกสงฺฆํ อาปุจฺฉิตฺวา. ตํ สพฺพมฺปิ อาหริตฺวาติ อนาปุจฺฉิตฺวาปิ ตาวกาลิกํ อาหริตฺวา. อยเมว ภิกฺขุ อิสฺสโรติอาทิโต ปฏฺาย อตฺตโน สนฺตเกหิ ทารุสมฺภาราทีหิ จ การาปิตตฺตา ปฏิชคฺคิตตฺตา จ สงฺฆิกเสนาสเน ภาคิตาย จ อยเมว อิสฺสโร, น จ โส ตโต วุฏฺาเปตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ. อุทกปูชนฺติ เจติยงฺคเณ สิฺจนาทิปูชํ. วตฺตสีเสนาติ เกวลํ สทฺธาย, น เวตนาทิอตฺถาย. สวตฺถุกนฺติ สห ภูมิยา. กุฏฺฏนฺติ เคหภิตฺตึ. ปาการนฺติ ปริกฺเขปปาการํ. ตโตติ ฉฑฺฑิตวิหารโต. ตโต อาหริตฺวา เสนาสนํ กตํ โหตีติ สามนฺตคามวาสีหิ ภิกฺขูหิ ฉฑฺฑิตวิหารโต ทารุสมฺภาราทึ อาหริตฺวา เสนาสนํ กตํ โหติ.
๑๕๗. ‘‘ปุคฺคลิกปริโภเคน ปริภฺุชตี’’ติ วุตฺตมตฺถํเยว ปากฏํ กาตุํ ‘‘อาคตาคตานํ วุฑฺฒตรานํ น เทตี’’ติ วุตฺตํ. จตุภาคอุทกสมฺภินฺเนติ จตุตฺถภาเคน สมฺภินฺเน. ปาฬิยํ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๕๗) สามิเกหิ ถุลฺลนนฺทํ อุทฺทิสฺส เอติสฺสา หตฺเถ ทินฺนตฺตา, อเถยฺยจิตฺเตน ปริภฺุชิตตฺตา จ วุตฺตํ. เถยฺยจิตฺเตน ปริภุตฺเตปิ จสฺสา ภณฺฑเทยฺยเมว อุปนิกฺขิตฺตภณฺฑฏฺานิยตฺตา. โอทนภาชนียวตฺถุสฺมินฺติ ‘‘อปรสฺส ภาคํ เทหี’’ติ อาคตวตฺถุสฺมึ (ปารา. ๑๔๑).
๑๕๙. ตสฺส ¶ กุลสฺส อนุกมฺปาย ปสาทานุรกฺขณตฺถายาติอาทินา กุลสงฺคหตฺถํ นากาสีติ ทสฺเสติ. ‘‘ยาว ทารกา ปาสาทํ อาโรหนฺติ, ตาว ปาสาโท เตสํ สนฺติเก โหตู’’ติ ปุพฺเพ กาลปริจฺเฉทํ กตฺวา อธิฏฺิตตฺตา เอว ยถากาลปริจฺเฉทเมว ตตฺถ ติฏฺติ, ตโต ปรํ ปาสาโท สยเมว ยถาานํ คจฺฉติ, ตถาคมนฺจ อิทฺธิวิสฺสชฺชเนน สฺชาตํ วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘เถโร อิทฺธึ ปฏิสํหรี’’ติ. ยสฺมา เอวํ อิทฺธิวิธาเณน กโรนฺตสฺส กายวจีปโยคา ¶ น สนฺติ เถยฺยจิตฺตฺจ นตฺถิ ปาสาทสฺเสว วิจาริตตฺตา, ตสฺมา ‘‘เอตฺถ อวหาโร นตฺถี’’ติ เถโร เอวมกาสีติ ทฏฺพฺพํ. อถ วา ทารเกสุ อนุกมฺปาย อานยนตฺถเมว ปาสาเท อุปนีเต ปาเส พทฺธสูกราทีนํ อามิสํ ทสฺเสตฺวา านาจาวนํ วิย กรมรานีเตสุ ทารเกสุ ปาสาทํ อารุฬฺเหสุปิ ปุน ปฏิสํหรเณ จ อิธ อวหาโร นตฺถิ การฺุาธิปฺปายตฺตา, ภณฺฑเทยฺยมฺปิ น โหติ กายวจีปโยคาภาวา. กายวจีปโยเค สติเยว หิ อาปตฺติ ภณฺฑเทยฺยํ วา โหติ, เตเนว ภควา ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, อเถยฺยจิตฺตสฺสา’’ติอาทึ อวตฺวา ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, อิทฺธิมสฺส อิทฺธิวิสเย’’ติ (ปารา. ๑๕๙) เอตฺตกเมว อโวจ. อิทฺธิวิสเยติ เจตฺถ ปรภณฺฑาทายกกายวจีปโยคาสมุฏฺาปกสฺส เกวลํ มโนทฺวาริกสฺส อเถยฺยจิตฺตภูตสฺส อิทฺธิจิตฺตสฺส วิสเย อาปตฺติ นาม นตฺถีติ อธิปฺปาโย คเหตพฺโพ. กึ ปน ปฏิกฺขิตฺตํ อิทฺธิปาฏิหาริยํ กาตุํ วฏฺฏตีติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘อีทิสาย อธิฏฺานิทฺธิยา อนาปตฺตี’’ติ. ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, อิทฺธิมสฺส อิทฺธิวิสเย’’ติ หิ อิมินาเยว สุตฺเตน อธิฏฺานิทฺธิยา อปฺปฏิกฺขิตฺตภาโว สิชฺฌติ. อตฺตโน ปกติวณฺณํ อวิชหิตฺวา พหิทฺธา หตฺถิอาทิทสฺสนํ, ‘‘เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๓๘, ๒๓๙; ม. นิ. ๑.๑๔๗; ปฏิ. ม. ๑.๑๐๒) อาคตฺจ อธิฏฺานวเสน นิปฺผนฺนตฺตา อธิฏฺานิทฺธิ นาม, ‘‘โส ปกติวณฺณํ วิชหิตฺวา กุมารกวณฺณํ วา ทสฺเสติ, นาควณฺณํ…เป… วิวิธมฺปิ เสนาพฺยูหํ ทสฺเสตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๓.๑๓) เอวํ อาคตา อิทฺธิ ปกติวณฺณวิชหนวิการวเสน ปวตฺตตฺตา วิกุพฺพนิทฺธิ นาม. อตฺตโน ปน ปกติรูปํ ยถาสภาเวน เปตฺวาว พหิ หตฺถิอาทิทสฺสนํ วิกุพฺพนิทฺธิ นาม น โหติ, อตฺตโน รูปเมว หตฺถิอาทิรูเปน นิมฺมานํ วิกุพฺพนิทฺธีติ เวทิตพฺพํ.
ปราชิตกิเลเสนาติ ¶ วิชิตกิเลเสน, นิกฺกิเลเสนาติ อตฺโถ. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน, เตน ทุติยปาราชิกสิกฺขาปเทน สมํ อฺํ อเนกนยโวกิณฺณํ คมฺภีรตฺถวินิจฺฉยํ กิฺจิ สิกฺขาปทํ น วิชฺชตีติ โยชนา. ตตฺถ อตฺโถ นาม ปาฬิอตฺโถ, วินิจฺฉโย ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย, เต คมฺภีรา ยสฺมึ, ตํ คมฺภีรตฺถวินิจฺฉยํ. วตฺถุมฺหิ โอติณฺเณติ โจทนาวเสน วา อตฺตนาว อตฺตโน วีติกฺกมาโรจนวเสน วา สงฺฆมชฺเฌ อทินฺนาทานวตฺถุสฺมึ โอติณฺเณ. เอตฺถาติ โอติณฺณวตฺถุมฺหิ. วินิจฺฉโยติ อาปตฺตานาปตฺตินิยมนํ. กปฺปิเยปิ จ วตฺถุสฺมินฺติ อตฺตนา คเหตุํ ยุตฺเต มาตาปิตาทีนํ สนฺตเกปิ.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
ทุติยปาราชิกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๓. ตติยปาราชิกํ
ตีหีติ ¶ กายวจีมโนทฺวาเรหิ.
ปมปฺตฺตินิทานวณฺณนา
๑๖๒. ยา อยํ เหฏฺา ตํ ปเนตํ พุทฺธกาเล จ จกฺกวตฺติกาเล จ นครํ โหตีติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๔) ราชคหสฺส พุทฺธุปฺปาเทเยว เวปุลฺลปฺปตฺติ วุตฺตา, สา เอตฺถาปิ สมานาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อิทมฺปิ จ นคร’’นฺติ วุตฺตํ, เตน จ น เกวลํ ราชคหาทโย เอวาติ ทสฺเสติ. มหาวนํ นามาติอาทิ มชฺฌิมภาณกสํยุตฺตภาณกานํ มเตน วุตฺตํ, ทีฆภาณกา ปน ‘‘หิมวนฺเตน สทฺธึ เอกาพทฺธํ หุตฺวา ิตํ มหาวน’’นฺติ วทนฺติ. หํสวฏฺฏกจฺฉทเนนาติ หํสวฏฺฏกปฏิจฺฉนฺเนน, หํสมณฺฑลากาเรนาติ อตฺโถ. กายวิจฺฉนฺทนิยกถนฺติ กรชกาเย วิราคุปฺปาทนกถํ. ฉนฺโทติ ทุพฺพลราโค. ราโคติ พลวราโค. ‘‘เกสโลมาทิ’’นฺติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิภาเคน ทสฺเสตุํ เยปิ หีติอาทิ วุตฺตํ. ปฺจปฺจปฺปเภเทนาติ เอตฺถ ปฺจ ปฺจ ปเภทา เอตสฺส ปริยายสฺสาติ ปฺจปฺจปฺปเภโท ¶ , เตน ปฺจปฺจปฺปเภเทนาติ เอวํ พาหิรตฺถสมาสวเสน ปริยายวิเสสนตา ทฏฺพฺพา.
อสุภายาติ อสุภมาติกาย. วณฺเณตพฺพมาติกฺหิ อเปกฺขิตฺวา อิตฺถิลิงฺเค สามิวจนํ, เตนาห มาติกํ นิกฺขิปิตฺวาติอาทิ. ตํ วิภชนฺโตติ มาติกํ วิภชนฺโต. ผาติกมฺมนฺติ นิปฺผตฺติกรณํ. ปฺจงฺควิปฺปหีนนฺติ กามจฺฉนฺทาทิปฺจนีวรณงฺควิคเมน ปฺจงฺควิปฺปหีนตา, อปฺปนาปฺปตฺตวิตกฺกาทิชฺฌานงฺคานํ อุปฺปตฺติวเสน ปฺจงฺคสมนฺนาคตตา จ เวทิตพฺพา. ติวิธกลฺยาณํ ทสลกฺขณสมฺปนฺนนฺติ เอตฺถ ปน ฌานสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานานํ วเสน ติวิธกลฺยาณตา, เตสํเยว อาทิมชฺฌปริโยสานานํ ลกฺขณวเสน ทสลกฺขณสมฺปนฺนตา จ เวทิตพฺพา. อฏฺกถายํ ปน ‘‘ทสลกฺขณวิภาวเนเนว ตนฺนิสฺสยภูตา ติวิธกลฺยาณตาปิ ฌานสฺส ปากฏา โหตีติ ตตฺริมานีติอาทิ วุตฺตํ.
ตตฺรายํ ¶ ปาฬีติ ตสฺมึ ทสลกฺขณวิภาวนวิสเย อยํ ปาฬิ. ปฏิปทาวิสุทฺธีติ โคตฺรภุปริโยสานาย ปุพฺพภาคปฏิปทาย ฌานสฺส นีวรณาทิปริพนฺธโต วิสุทฺธิ, สายํ ยสฺมา อุเปกฺขานุพฺรูหนาทีนมฺปิ ปจฺจยตฺเตน ปธานา ปุริมการณสิทฺธา จ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาที’’ติ. อุเปกฺขานุพฺรูหนาติ วิโสเธตพฺพตาทีนํ อภาวโต ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจนิปฺผตฺติยา อนุพฺรูหนา, สา ปน ปริพนฺธวิสุทฺธิสมกาลวิภาวินีปิ ตพฺพิสุทฺธิยาว นิปฺผนฺนาติ ทีปนตฺถมาห ‘‘อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ’’ติ. สมฺปหํสนาติ วตฺถุธมฺมาทีนํ อนติวตฺตนาทิสาธกสฺส าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน ปริโยทปนา, สา ปน ยสฺมา กตฺตพฺพสฺส สพฺพกิจฺจสฺส นิปฺผตฺติยาว สิทฺธา นาม โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สมฺปหํสนา ปริโยสาน’’นฺติ. ตีณิปิ เจตานิ กลฺยาณานิ เอกกฺขเณ ลพฺภมานานิปิ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนตาทิวเสน ปวตฺตนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ อาทิมชฺฌปริโยสานภาเวน วุตฺตานิ, น ปน ฌานสฺส อุปฺปาทาทิกฺขณตฺตเย ยถากฺกมํ ลพฺภมานตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. มชฺฌิมํ สมาธินิมิตฺตํ ปฏิปชฺชตีติอาทีสุ มชฺฌิมํ สมาธินิมิตฺตํ นาม สมปฺปวตฺโต อปฺปนาสมาธิเยว. โส หิ ลีนุทฺธจฺจสงฺขาตานํ อุภินฺนํ อนฺตานํ อนุปคมเนน มชฺฌิโม, สวิเสสํ จิตฺตสฺส เอกตฺตารมฺมเณ ปนโต สมาธิเยว อุปริวิเสสานํ การณภาวโต ‘‘สมาธินิมิตฺต’’นฺติ วุจฺจติ, ตํ ปฏิปชฺชติ ปฏิลพฺภตีติ อตฺโถ. เอวํ ¶ ปฏิปนฺนตฺตา มชฺฌิเมน สมาธินิมิตฺเตน ตตฺถ เอกตฺตารมฺมเณ อปฺปนาโคจเร ปกฺขนฺทติ อุปติฏฺติ, เอวํ วิสุทฺธสฺส ปน ตสฺส จิตฺตสฺส ปุน วิโสเธตพฺพาภาวโต วิโสธเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต ปุคฺคโล วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. สมถภาวูปคมเนน สมถปฏิปนฺนสฺส ปุน สมาธาเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต สมถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ, สมถปฏิปนฺนภาวโต เอวมสฺส กิเลสสํสคฺคํ ปหาย เอกตฺเตน อุปฏฺิตสฺส ปุน เอกตฺตุปฏฺาเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม.
ตตฺถ ชาตานนฺติอาทีสุ เย ปน เต เอวํ อุเปกฺขานุพฺรูหิเต ตสฺมึ ฌานจิตฺเต ชาตา สมาธิปฺาสงฺขาตา ยุคนทฺธธมฺมา, เตสํ อฺมฺํ อนติวตฺตนสภาเวน สมฺปหํสนา วิโสธนา ปริโยทปนา จ, สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ กิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติรเสน เอกรสตาย สมฺปหํสนา จ, ยฺเจตํ ตทุปคํ เตสํ อนติวตฺตนเอกรสภาวานํ อนุจฺฉวิกํ วีริยํ, ตสฺส ตทุปควีริยสฺส วาหนฏฺเน ปวตฺตนฏฺเน สมฺปหํสนา จ, ตสฺมึ ขเณ ยถาวุตฺตธมฺมานํ อาเสวนฏฺเน สมฺปหํสนา จ, ปริโยทปนา จ ปริโยทปนกสฺส าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติวเสเนว อิชฺฌตีติ เวทิตพฺพํ. เอวํ ติวิธตฺตคตํ จิตฺตนฺติอาทีนิ ตสฺเสว จิตฺตสฺส โถมนวจนานิ. วิตกฺกสมฺปนฺนนฺติ วิตกฺกงฺเคน สุนฺทรภาวมุปคตํ. จิตฺตสฺส อธิฏฺานสมฺปนฺนนฺติ ตสฺมิฺเว อารมฺมเณ ¶ จิตฺตสฺส นิรนฺตรปฺปวตฺติสงฺขาเตน สมาธินา สมฺปนฺนํ, อิทํ ฌานงฺควเสน วุตฺตํ. สมาธิสมฺปนฺนนฺติ อิทํ ปน อินฺทฺริยวเสนาติ เวทิตพฺพํ.
ปฏิกุฏตีติ สงฺกุจติ. ปฏิวฏฺฏตีติ ปฏินิวฏฺฏติ. นฺหารุททฺทุลนฺติ นฺหารุขณฺฑํ. ปยุตฺตวาจนฺติ ปจฺจยปริเยสเน นิยุตฺตวาจํ. ทณฺฑวาคุราหีติ ทณฺฑปฏิพทฺธาหิ ทีฆชาลสงฺขาตาหิ วาคุราหิ.
สมณกุตฺตโกติ กาสายนิวาสนาทิสมณกิจฺจโก. วคฺคุมุทาติ เอตฺถ ‘‘วคฺคุมตา’’ติ วตฺตพฺเพ โลกิกา ‘‘มุทา’’ติ โวหรึสูติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วคฺคุมตา’’ติ. ‘‘วคฺคู’’ติ มตา, สุทฺธสมฺมตาติ อตฺโถ, เตนาห ‘‘ปฺุสมฺมตา’’ติ. สตฺตานํ ปาปุนเนน โสธเนน สา ปฺุสมฺมตา.
๑๖๓. มารสฺส เธยฺยํ านํ, วตฺถุ วา นิวาโส มารเธยฺยํ, โส อตฺถโต เตภูมกธมฺมา เอว, อิธ ปน ปฺจ กามคุณา อธิปฺเปตา, ตํ มารเธยฺยํ ¶ . ‘‘อยํ สมณกุตฺตโก ยถาสมุปฺปนฺนสํเวคมูลเกน สมณภาวูปคมเนน อติกฺกมิตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา อโวจ, น ปน ‘‘อรหตฺตปฺปตฺติยา ตีสุ ภเวสุ อปฺปฏิสนฺธิกตาย ตํ อติกฺกมิตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ มรเณเนว สตฺตานํ สํสารโมจนลทฺธิกตฺตา เทวตาย. น หิ มตานํ กตฺถจิ ปฏิสนฺธิ คจฺฉติ. อิมินา อตฺเถน เอวเมว ภวิตพฺพนฺติ อิมินา ปเรสํ ชีวิตา โวโรปนตฺเถน เอวเมว สํสารโมจนสภาเวเนว ภวิตพฺพํ. ‘‘อตฺตนาปิ อตฺตานํ ชีวิตา โวโรเปนฺติ, อฺมฺมฺปิ ชีวิตา โวโรเปนฺตี’’ติ (ปารา. ๑๖๒) วุตฺตตฺตา สพฺพานิปิ ตานิ ปฺจภิกฺขุสตานิ ชีวิตา โวโรเปสีติ อิทํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. ตสฺมา เย อตฺตนาปิ อตฺตานํ อฺมฺฺจ ชีวิตา โวโรเปสุํ, เต ปุถุชฺชนภิกฺขู เปตฺวา ตทวเสเส จ ปุถุชฺชนภิกฺขู, สพฺเพ จ อริเย อยํ ชีวิตา โวโรเปสีติ เวทิตพฺพํ.
๑๖๔. เอกีภาวโตติ ปวิเวกโต. อุทฺเทสํ ปริปุจฺฉํ คณฺหนฺตีติ อตฺตโน อตฺตโน อาจริยานํ สนฺติเก คณฺหนฺติ, คเหตฺวา จ อาจริเยหิ สทฺธึ ภควนฺตํ อุปฏฺหนฺติ. ตทา ปน อุทฺเทสาทิทายกา ตนุภูเตหิ ภิกฺขูหิ ภควนฺตํ อุปคตา, ตํ สนฺธาย ภควา ปุจฺฉติ.
อานาปานสฺสติสมาธิกถาวณฺณนา
๑๖๕. ทสานุสฺสตีสุ ¶ อนฺโตคธาปิ อานาปานสฺสติ ตทา ภิกฺขูนํ พหูนํ สปฺปายตํ ทสฺเสตุํ ปุน คหิตา. ตถา หิ ตํ ภควา เตสํ เทเสสิ. อาหาเร ปฏิกฺกูลสฺา อสุภกมฺมฏฺานสทิสา, จตฺตาโร ปน อารุปฺปา อาทิกมฺมิกานํ อนนุรูปาติ เตสํ อิธ อคฺคหณํ ทฏฺพฺพํ. อฺํ ปริยายนฺติ อรหตฺตาธิคมตฺถาย อฺํ การณํ. อตฺถโยชนากฺกมนฺติ อตฺถฺจ โยชนากฺกมฺจ. อสฺสาสวเสนาติ อสฺสาสํ อารมฺมณํ กตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อุปฏฺานํ สตีติ อปฺปมุสฺสนตาย ตเมว อสฺสาสํ ปสฺสาสฺจ อุปคนฺตฺวา านํ, ตถา ติฏฺนกธมฺโม สติ นามาติ อตฺโถ. อิทานิ สติวเสเนว ปุคฺคลํ นิทฺทิสิตุกาเมน โย อสฺสสตีติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โย อสฺสสติ, ตสฺส สติ อสฺสาสํ อุปคนฺตฺวา ติฏฺตีติอาทินา อตฺโถ คเหตพฺโพ. อโกสลฺลสมฺภูเตติ อวิชฺชาสมฺภูเต ¶ . ขเณเนวาติ อตฺตโน ปวตฺติกฺขเณเนว. อริยมคฺคสฺส ปาทกภูโต อยํ สมาธิ อนุกฺกเมน วฑฺฒิตฺวา อริยมคฺคภาวํ อุปคโต วิย โหตีติ อาห ‘‘อริยมคฺควุฑฺฒิปฺปตฺโต’’ติ. โอปมฺมนิทสฺสนนฺติ เอตฺถ อุปมาว โอปมฺมํ, ตสฺส นิทสฺสนํ.
พาหิรกา อานาปานสฺสตึ ชานนฺตา อาทิโต จตุปฺปการเมว ชานนฺติ, น สพฺพํ โสฬสปฺปการนฺติ อาห สพฺพปฺปการอิจฺจาทิ. เอวมสฺเสตํ เสนาสนนฺติ เอตฺถ เอวนฺติ ภาวนาสติยา ยถาวุตฺตนเยน อารมฺมเณ จิตฺตสฺส นิพนฺธเน สติเยว, นาสตีติ อตฺโถ, เตน มุฏฺสฺสติสฺส อรฺวาโส นิรตฺถโก อนนุรูโปติ ทสฺเสติ. อวเสสสตฺตวิธเสนาสนนฺติ ‘‘ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปฺุช’’นฺติ (วิภ. ๕๐๘) เอวํ วุตฺตํ. อุตุตฺตยานุกูลํ ธาตุจริยานุกูลนฺติ คิมฺหานาทิอุตุตฺตยสฺส เสมฺหาทิธาตุตฺตยสฺส โมหาทิจริยตฺตยสฺส จ อนุกูลํ. นิสชฺชาย ทฬฺหภาวํ ปลฺลงฺกาภุชเนน, อสฺสาสปสฺสาสานํ ปวตฺตนสุขตํ อุปริมกายสฺส อุชุกํ ปเนน, อารมฺมณปริคฺคหูปายํ ปริมุขํ สติยา ปเนน อุปทิสนฺโต. น ปณมนฺตีติ น โอณมนฺติ. ปริคฺคหิตนิยฺยานํ สตินฺติ สพฺพถา คหิตํ สมฺโมสปฏิปกฺขโต นิคฺคมนสงฺขาตํ สตึ กตฺวา, ปรมํ สติเนปกฺกํ อุปฏฺเปตฺวาติ อตฺโถ.
สโตวาติ สติยา สมนฺนาคโต เอว. พาตฺตึสาย อากาเรหีติ จตูสุ จตุกฺเกสุ อาคตานิ ทีฆรสฺสาทีนิ โสฬส ปทานิ อสฺสาสปสฺสาสวเสน ทฺวิธา วิภชิตฺวา วุตฺเตหิ ทฺวตฺตึสากาเรหิ. ทีฆํอสฺสาสวเสนาติ ทีฆอสฺสาสวเสน, วิภตฺติอโลปํ กตฺวา นิทฺเทโส, ทีฆนฺติ วา ภควตา วุตฺตอสฺสาสวเสน. จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปนฺติ วิกฺเขปปฏิปกฺขภาวโต ‘‘อวิกฺเขโป’’ติ ลทฺธนามํ จิตฺตสฺส เอกคฺคภาวํ ปชานโต. ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสาสวเสนาติ ¶ ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี หุตฺวา อสฺสาสวเสน, ‘‘ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสิอสฺสาสนวเสนา’’ติ วา ปาโ, ตสฺส ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสิโน อสฺสาสวเสนาติ อตฺโถ. อา ปมํ พหิมุขํ สสนํ อสฺสาโส, ตโต อนฺโตมุขํ ปฏิสสนํ ปสฺสาโสติ อาห อสฺสาโสติ พหินิกฺขมนวาโตติอาทิ, สุตฺตนฺตฏฺกถาสุ ปน อากฑฺฒนวเสน อนฺโต สสนํ อสฺสาโส, พหิ ปฏิสสนํ ปสฺสาโสติ กตฺวา อุปฺปฏิปาฏิยา วุตฺตํ.
ตตฺถาติ ¶ พหินิกฺขมนอนฺโตปวิสนวาเตสุ, ตสฺส จ ปมํ อพฺภนฺตรวาโต นิกฺขมตีติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘สพฺเพสมฺปิ คพฺภเสยฺยกานนฺติอาทินา ทารกานํ ปวตฺติกฺกเมน อสฺสาโส พหินิกฺขมนวาโตติ คเหตพฺพนฺติ ทีเปตี’’ติ เกจิ วทนฺติ. สุตฺตนโย เอว เจตฺถ ‘‘อสฺสาสาทิมชฺฌปริโยสานํ สติยา อนุคจฺฉโต อชฺฌตฺตํ วิกฺเขปคเตน จิตฺเตน กาโยปิ จิตฺตมฺปิ สารทฺธา จ โหนฺติ อิฺชิตา จ ผนฺทิตา จ ปสฺสาสาทิมชฺฌปริโยสานํ สติยา อนุคจฺฉโต พหิทฺธา วิกฺเขปคเตน จิตฺเตน กาโยปิ จิตฺตมฺปิ สารทฺธา จ โหนฺติ อิฺชิตา จ ผนฺทิตา จา’’ติ อิมาย ปาฬิยา สเมตีติ คเหตพฺพํ. อทฺธานวเสนาติ กาลทฺธานวเสน. อยฺหิ อทฺธาน-สทฺโท กาลสฺส เทสสฺส จ วาจโก. ตตฺถ ยถา หีติอาทินา เทสทฺธานํ อุปมาวเสน ทสฺสิตํ. อิทานิ ตพฺพิสิฏฺกาลทฺธานวเสน อสฺสาสปสฺสาสานํ ทีฆรสฺสตํ อุปเมยฺยวเสน วิภาเวตุํ เอวนฺติอาทิ วุตฺตํ. จุณฺณวิจุณฺณา อเนกกลาปภาเวน. เอตฺถ จ หตฺถิอาทิสรีเร สุนขาทิสรีเร จ อสฺสาสปสฺสาสานํ เทสทฺธานวิสิฏฺกาลทฺธานวเสเนว ทีฆรสฺสตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา อตฺตภาวสงฺขาตํ ทีฆํ อทฺธานํ สณิกํ ปูเรตฺวาติอาทิวจนโต. เตสนฺติ สตฺตานํ. เตติ อสฺสาสปสฺสาสา. อิตฺตรมทฺธานนฺติ อปฺปกํ กาลํ. นวหากาเรหีติ ภาวนมนุยฺุชนฺตสฺส ปุพฺเพนาปรํ อลทฺธวิเสสสฺส เกวลํ อทฺธานวเสน อาทิโต วุตฺตา ตโย อาการา, เต จ กสฺสจิ อสฺสาโสว, กสฺสจิ ปสฺสาโสว, กสฺสจิ ตทุภยมฺปิ อุปฏฺาตีติ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ วเสน วุตฺตา, ตถา ฉนฺทวเสน ตโย, ตถา ปาโมชฺชวเสนาติ อิเมหิ นวหิ อากาเรหิ. เอเกนากาเรนาติ ทีฆํ อสฺสาสาทีสุ เอเกนากาเรน.
อทฺธานสงฺขาเตติ ทีเฆ โอกาสทฺธานสงฺขาเต อตฺตภาเว กาลทฺธาเนปิ วา, เอวํ อุปริ อิตฺตรสงฺขาเตติ เอตฺถาปิ. ฉนฺโท อุปฺปชฺชตีติ ภาวนาย ปุพฺเพนาปรํ วิเสสํ อาวหนฺติยา ลทฺธสฺสาทตฺตา ตตฺถ สาติสโย กตฺตุกามตาลกฺขโณ กุสลจฺฉนฺโท อุปฺปชฺชติ. ฉนฺทวเสนาติ ตถาปวตฺตฉนฺทสฺส วเสน. ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชตีติ อสฺสาสปสฺสาสานํ สุขุมตรภาเว อารมฺมณสฺส สนฺตตรตาย, กมฺมฏฺานสฺส จ วีถิปฏิปนฺนตาย ภาวนาจิตฺตสหคโต ปโมโท ขุทฺทกาทิเภทา ตรุณา ปีติ อุปฺปชฺชติ. จิตฺตํ วิวตฺตตีติ ปฏิภาคนิมิตฺเต อุปฺปนฺเน ¶ ปกติอสฺสาสปสฺสาสโต ¶ จิตฺตํ นิวตฺตติ. อุเปกฺขา สณฺาตีติ ตสฺมึ ปฏิภาคนิมิตฺเต อุปจารปฺปนาเภเท สมาธิมฺหิ อุปฺปนฺเน ปุน ฌานนิพฺพตฺตนตฺถํ พฺยาปาราภาวโต อชฺฌุเปกฺขนํ โหติ, สา ปนายํ อุเปกฺขา ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาติ เวทิตพฺพา. อนุปสฺสนาาณนฺติ สมถวเสน นิมิตฺตสฺส อนุปสฺสนา, วิปสฺสนาวเสน อสฺสาสปสฺสาสมุเขน ตนฺนิสฺสยนามรูปสฺส อนุปสฺสนา จ าณํ. กาโย อุปฏฺานนฺติ อสฺสาสปสฺสาสสงฺขาโต กาโย อุปคนฺตฺวา ติฏฺติ เอตฺถ สตีติ อุปฏฺานํ, โน สติ, สติ ปน สรสโต อุปติฏฺนฏฺเน สรณฏฺเน จ อุปฏฺานฺเจว สติ จ. เตน วุจฺจตีติอาทีสุ ยา อยํ ยถาวุตฺตอสฺสาสปสฺสาสกาเย, ตนฺนิสฺสยภูเต กรชกาเย จ กายสฺเสว อนุปสฺสนา นิจฺจาทิภาวํ วา อิตฺถิปุริสสตฺตชีวาทิภาวํ วา อนนุปสฺสิตฺวา อสฺสาสปสฺสาสกายมตฺตสฺเสว อนิจฺจาทิภาวสฺส จ อนุปสฺสนา, ตาย กายานุปสฺสนาย สติสงฺขาตสฺส ปฏฺานสฺส ภาวนา วฑฺฒนา กาเย กายานุปสฺสนา สติปฏฺานภาวนาติ อยํ สงฺเขปตฺโถ.
อิตฺตรวเสนาติ ปริตฺตกาลวเสน. ตาทิโสติ ทีโฆ รสฺโส จ. วณฺณาติ ทีฆาทิอาการา. นาสิกคฺเคว ภิกฺขุโนติ นาสิกคฺเค วา, วา-สทฺเทน อุตฺตโรฏฺเ วาติ อตฺโถ. ตสฺมาติ ยสฺมา ‘‘อาทิมชฺฌปริโยสานวเสน สพฺพํ อสฺสาสปสฺสาสกายํ วิทิตํ ปากฏํ กริสฺสามี’’ติ ปุพฺเพ ปวตฺตอาโภควเสน ปจฺฉา ตถา สมุปฺปนฺเนน าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน ตํ อสฺสาสปสฺสาสกายํ เอวํ วิทิตํ ปากฏํ กโรนฺโต อสฺสสติ เจว ปสฺสสติ จ, ตสฺมา เอวํภูโต สพฺพกายปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ นาม, น ปน ‘‘อนาคเต เอวํ กริสฺสามี’’ติ จินฺตนมตฺเตน โส เอวํ วุจฺจตีติ อธิปฺปาโย. ตถาภูตสฺสาติ อาทิมชฺฌปริโยสานํ วิทิตํ กโรนฺตสฺส. สํวโรติ สติ วีริยมฺปิ วา. น อฺํ กิฺจีติ สพฺพกายํ วิทิตํ กริสฺสามีติอาทิกํ ปุพฺพาโภคํ สนฺธาย วทติ. าณุปฺปาทนาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน กายสงฺขารปสฺสมฺภนปีติปฏิสํเวทนาทึ สงฺคณฺหาติ. กายสงฺขารนฺติ อสฺสาสปสฺสาสํ. โส หิ จิตฺตสมุฏฺาโนปิ สมาโน กรชกายปฏิพทฺธวุตฺติตาย เตน สงฺขรียตีติ กายสงฺขาโรติ วุจฺจติ. อปริคฺคหิตกาเลติ กมฺมฏฺานสฺส อนารทฺธกาเล, ตทารมฺภตฺถาย กายจิตฺตานมฺปิ อปริคฺคหิตกาเลติ อตฺโถ. นิสีทติ ปลฺลงฺกํ ¶ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธายาติ หิ อิมินา กายปริคฺคโห, ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวาติ อิมินา จิตฺตปริคฺคโห วุตฺโต. อธิมตฺตนฺติ พลวํ โอฬาริกํ, ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ. กายสงฺขาโร หิ อธิปฺเปโต. อธิมตฺตํ หุตฺวา ปวตฺตตีติ กิริยาวิเสสนํ วา เอตํ. สพฺเพสํเยวาติ อุภเยสมฺปิ.
มหาภูตปริคฺคเห สุขุโมติ จตุธาตุมุเขน วิปสฺสนาภินิเวสํ สนฺธาย วุตฺตํ. ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนายาติ ¶ กลาปสมฺมสนมาห. นิพฺพิทานุปสฺสนโต ปฏฺาย พลววิปสฺสนา, ตโต โอรํ ทุพฺพลวิปสฺสนา. ปุพฺเพ วุตฺตนเยนาติ อปริคฺคหิตกาเลติอาทินา สมถนเย วุตฺตนเยน.
โจทนาโสธนาหีติ อนุโยคปริหาเรหิ. กถนฺติอาทิ ปฏิสมฺภิทาปาฬิ, ตตฺถ กถํ สิกฺขตีติ สมฺพนฺโธ. อิติ กิราติอาทิ โจทกวจนํ. อิติ กิราติ เอวฺเจติ อตฺโถ. อสฺสาสปสฺสาโส สพฺพถา อภาวํ อุปเนติ เจติ โจทกสฺส อธิปฺปาโย. วาตูปลทฺธิยาติ อสฺสาสปสฺสาสวาตสฺส อภาเวน ตพฺพิสยาย อุปลทฺธิยา ภาวนาจิตฺตสฺส อุปฺปาโท วฑฺฒิ จ น โหตีติ อตฺโถ. น จ นนฺติ เอตฺถ นนฺติ นิปาตมตฺตํ. ปุน อิติ กิราติอาทิ ยถาวุตฺตาย โจทนาย วิสฺสชฺชนา, ตตฺถ อิติ กิร สิกฺขตีติ มยา วุตฺตากาเรน ยทิ สิกฺขตีติ อตฺโถ. ปภาวนา โหตีติ ยทิปิ โอฬาริกา กายสงฺขารา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, สุขุมา ปน อตฺเถวาติ ภาวนายปิ วฑฺฒิ โหเตวาติ อธิปฺปาโย. กํเสติ กํสภาชเน. นิมิตฺตนฺติ นิมิตฺตสฺส, เตสํ สทฺทานํ ปวตฺติอาการสฺสาติ อตฺโถ. สุขุมกา สทฺทาติ อนุรเว อาห. สุขุมสทฺทนิมิตฺตารมฺมณตาปีติ สุขุโม สทฺโทว นิมิตฺตํ ตทารมฺมณตายปิ.
อาภิสมาจาริกสีลนฺติ เอตฺถ อภิสมาจาโรติ อุตฺตมสมาจาโร, ตเทว อาภิสมาจาริกํ สีลํ, ขนฺธกวตฺตปริยาปนฺนสฺส สีลสฺเสตํ อธิวจนํ. อหํ สีลํ รกฺขามีติ อุภโตวิภงฺคปริยาปนฺนํ สีลํ สนฺธาย วุตฺตํ. อาวาโสติ อาวาสปลิโพโธ. กุลนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. กมฺมนฺติ นวกมฺมํ. อิทฺธีติ โปถุชฺชนิกา อิทฺธิ, สา วิปสฺสนาย ปลิโพโธ. โส อุปจฺฉินฺทิตพฺโพติ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๔๑) วุตฺเตน ตสฺส ¶ ตสฺส ปลิโพธสฺส อุปจฺเฉทปฺปกาเรน อุปจฺฉินฺทิตพฺโพ. โยคานุโยโคติ โยคสฺส ภาวนาย อนุยฺุชนํ. อฏฺตึสารมฺมเณสูติ อาโลกากาสกสิณทฺวยํ วชฺเชตฺวา ปาฬิยํ อาคตานํ อฏฺนฺนํ กสิณานํ วเสน วุตฺตํ, จตฺตารีสฺเว ปน กมฺมฏฺานานิ. ยถาวุตฺเตเนว นเยนาติ โยคานุโยคกมฺมสฺส ปทฏฺานตฺตาติ อิมมตฺถํ อติทิสติ. อิมินาว กมฺมฏฺาเนนาติ อิมินา อานาปานสฺสติกมฺมฏฺาเนน. มหาหตฺถิปถํ นีหรนฺโต วิยาติ กมฺมฏฺานวีถึ มหาหตฺถิมคฺคํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต วิย.
วุตฺตปฺปการมาจริยนฺติ ‘‘อิมินาว กมฺมฏฺาเนน จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตสฺสา’’ติอาทินา เหฏฺา วุตฺตปฺปการํ อาจริยํ. ‘‘ปิโย ครุ ภาวนีโย’’ติอาทินา (อ. นิ. ๗.๓๗; เนตฺติ. ๑๑๓; มิ. ป. ๖.๑.๑๐) วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๔๒) วุตฺตปฺปการมาจริยนฺติปิ ¶ วทนฺติ. ปฺจสนฺธิกนฺติ ปฺจปพฺพํ, ปฺจภาคนฺติ อตฺโถ. กมฺมฏฺานสฺส อุคฺคณฺหนนฺติ กมฺมฏฺานคนฺถสฺส อุคฺคณฺหนํ. ตทตฺถปริปุจฺฉา กมฺมฏฺานสฺส ปริปุจฺฉา, ตตฺถ สํสยปริปุจฺฉา วา. กมฺมฏฺานสฺส อุปฏฺานนฺติ เอวํ ภาวนมนุยฺุชนฺตสฺส เอวมิธ นิมิตฺตํ อุปติฏฺตีติ อุปธารณํ. ตถา กมฺมฏฺานปฺปนา เอวํ ฌานมปฺเปตีติ. กมฺมฏฺานสฺส ลกฺขณนฺติ คณนานุพนฺธนาผุสนานํ วเสน ภาวนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา ปนาวเสน มตฺถกปฺปตฺติ อิธ ภาวนาติ กมฺมฏฺานสภาวสฺส สลฺลกฺขณํ, เตนาห ‘‘กมฺมฏฺานสภาวูปธารณนฺติ วุตฺตํ โหตี’’ติ.
อฏฺารสเสนาสนโทสวิวชฺชิตนฺติ มหตฺตํ นวตฺตํ ชิณฺณตฺตํ ปนฺถนิสฺสิตตฺตํ โสณฺฑิปณฺณปุปฺผผลยุตฺตตา ปตฺถนียตา นครทารุเขตฺตสนฺนิสฺสิตตา วิสภาคานํ ปุคฺคลานํ อตฺถิตา ปฏฺฏนสนฺนิสฺสิตตา ปจฺจนฺตสนฺนิสฺสิตตา รชฺชสีมสนฺนิสฺสิตตา อสปฺปายตา กลฺยาณมิตฺตานํ อลาโภติ อิเมหิ อฏฺารสหิ เสนาสนโทเสหิ วิวชฺชิตํ. ปฺจเสนาสนงฺคสมนฺนาคตนฺติ –
‘‘อิธ, ภิกฺขเว, เสนาสนํ นาติทูรํ โหติ นาจฺจาสนฺนํ คมนาคมนสมฺปนฺนํ ทิวา อปฺปากิณฺณํ รตฺตึ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสํ อปฺปฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสํ, ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน วิหรนฺตสฺส อปฺปกสิเรน อุปฺปชฺชนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา, ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน ¶ เถรา ภิกฺขู วิหรนฺติ …เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, เสนาสนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑๑) –
เอวํ ภควตา วุตฺเตหิ ปฺจหิ เสนาสนงฺเคหิ สมนฺนาคตํ, เอตฺถ จ นาติทูรตาทิ เอกํ, ทิวา อปฺปากิณฺณตาทิ เอกํ, อปฺปฑํสาทิตา เอกํ, จีวราทิลาโภ เอกํ, เถรานํ ภิกฺขูนํ นิวาโส เอกนฺติ เอวํ ปฺจงฺคานิ เวทิตพฺพานิ.
อุปจฺฉินฺนขุทฺทกปลิโพเธนาติ ทีฆานํ เกสาทีนํ หรเณน ปตฺตจีวราทีนํ ปจนตุนฺนกรณรชนาทิกรเณหิ จ อุปจฺฉินฺนา ขุทฺทกา ปลิโพธา เยน, เตน. ภตฺตสมฺมทนฺติ โภชนนิมิตฺตํ ปริสฺสมํ. อาจริยโต อุคฺคโห อาจริยุคฺคโห, สพฺโพปิ กมฺมฏฺานวิธิ, น ปุพฺเพ วุตฺตอุคฺคหมตฺตํ, ตโต. เอกปทมฺปีติ เอกโกฏฺาสมฺปิ.
อนุวหนาติ อสฺสาสปสฺสาสานํ อนุคมนวเสน สติยา นิรนฺตรํ อนุปฺปวตฺตนา. ยสฺมา ปน คณนาทิวเสน วิย ผุสนาวเสน วิสุํ มนสิกาโร นตฺถิ, ผุฏฺผุฏฺฏฺาเน เอว คณนาทิ กาตพฺพนฺติ ¶ ทสฺเสตุํ อิธ ผุสนาคหณนฺติ ทีเปนฺโต ‘‘ผุสนาติ ผุฏฺฏฺาน’’นฺติ อาห. ปนาติ สมาธานํ, สมาธิปฺปธานา ปน อปฺปนาติ อาห ‘‘ปนาติ อปฺปนา’’ติ. อนิจฺจตาทีนํ ลกฺขณโต สลฺลกฺขณา วิปสฺสนา. ปวตฺตโต นิมิตฺตโต จ วินิวฏฺฏนโต วินิวฏฺฏนา มคฺโค. กิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธิภาวโต ปาริสุทฺธิ ผลํ. เตสนฺติ วินิวฏฺฏนาปาริสุทฺธีนํ. ขณฺฑนฺติ ‘‘เอกํ ตีณิ ปฺจา’’ติ เอกนฺตริกาทิภาเวน คณนาย ขณฺฑนํ. อถ วา ขณฺฑนฺติ อนฺตรนฺตรา กติปยกาลํ อคเณตฺวา ปุน คณนวเสน อนฺตรา โอธิปริจฺเฉโท น ทสฺเสตพฺโพ. ตถา ขณฺฑํ ทสฺเสนฺตสฺส หิ ‘‘กมฺมฏฺานนินฺนํ ปวตฺตติ นุ โข เม จิตฺตํ, โน’’ติ วีมํสุปฺปตฺติยา วิกฺเขโป โหติ, เตนาห สิขาปฺปตฺตํ นุ โข เมติอาทิ, อิทฺจ เอวํ ขณฺฑํ ทสฺเสตฺวา จิรตรํ คณนาย มนสิกโรนฺตสฺส วเสน วุตฺตํ. โส หิ ตถา ลทฺธํ อวิกฺเขปมตฺตํ นิสฺสาย เอวํ มฺเยฺย. โย อุปฏฺาติ, ตํ คเหตฺวาติ อิทํ อสฺสาสปสฺสาเสสุ ยสฺส เอโกว ปมํ อุปฏฺาติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ, ยสฺส ปน อุโภปิ อุปฏฺหนฺติ, เตน อุภยมฺปิ คเหตฺวา คณิตพฺพํ. โย อุปฏฺาตีติ อิมินาว ทฺวีสุ นาสาปุฏวาเตสุ โย ปากโฏ โหติ, โส คเหตพฺโพติ ¶ อยมฺปิ อตฺโถ ทีปิโตติ คเหตพฺพํ. ปมํ เอเกกสฺมึ อุปฏฺิเตปิ อุปลกฺเขตฺวา คณนฺตสฺเสว กเมน อุโภปิ ปากฏา โหนฺตีติ อาห ‘‘อสฺสาสปสฺสาสา ปากฏา โหนฺตี’’ติ. เอวํ สีฆํ สีฆํ คเณตพฺพเมวาติ สมฺพนฺโธ. เอวํ สีฆคณนารมฺภสฺส โอกาสํ ทสฺเสตุํ อิมสฺสาปิ ปุริมนเยน คณยโตติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปุริมนเยนาติ ทนฺธคณนาย, ปากฏา หุตฺวาติ อิมินา ทนฺธคณนาย อารทฺธกาเล จิตฺตสฺส อวิสทตาย สุขุมสฺสาสาทีนํ อปากฏตํ, ปจฺฉา วิสทกาเล ปากฏตฺจ เตสุ จ ปากเฏสุ ทนฺธคณนํ ปหาย สีฆคณนา กาตพฺพาติ ทสฺเสติ. สีฆคณนาย นิปฺปริยายโต นิรนฺตรปฺปวตฺติ อปฺปนาวีถิยเมว, น กามาวจเร ภวงฺคนฺตริกตฺตาติ อาห ‘‘นิรนฺตรปฺปวตฺตํ วิยา’’ติ. ปุริมนเยเนวาติ สีฆคณนาย. อนฺโต ปวิสนฺตํ วาตํ มนสิกโรนฺโต อนฺโต จิตฺตํ ปเวเสติ นาม.
เอตนฺติ เอตํ อสฺสาสปสฺสาสชาตํ. อนุคมนนฺติ ผุฏฺฏฺาเน มนสิกรณเมว, น อสฺสาสปสฺสาสานํ อนุวตฺตนํ, เตนาห – ‘‘ตฺจ โข น อาทิมชฺฌปริโยสานานุคมนวเสนา’’ติ. ผุสนาปนาวเสน วิสุํ มนสิกาโร นตฺถีติ อิมินา ยถา คณนาย ผุสนาย จ มนสิกโรติ, เอวํ อนุพนฺธนํ วินา เกวลํ ปนาย จ ผุสนาย จ มนสิกาโรปิ นตฺถีติ ทสฺเสนฺเตน คณนํ ปฏิสํหริตฺวา ยาว อปฺปนา อุปฺปชฺชติ, ตาว อนุพนฺธนาย จ ผุสนาย จ มนสิกโรติ, อปฺปนาย ปน อุปฺปนฺนาย อนุพนฺธนาย ปนาย จ มนสิกโรติ นามาติ ทีปิตํ โหติ, อฏฺกถายํ ปน อนุพนฺธนาย วินา ปนาย มนสิกาโร นตฺถีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อนุพนฺธนาย จ ผุสนาย จ ปนาย จ มนสิกโรตีติ วุจฺจตี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ ¶ . ยา อจฺจนฺตาย น มิโนติ น วินิจฺฉนติ, สา มานสฺส สมีเปติ อุปมานํ สิทฺธสาทิเสน สาธฺยสาธนํ ยถา โค วิย ควโยติ. ปงฺคุโฬติ ปีสปฺปี. โทลาติ เปงฺโขโล. กีฬตนฺติ กีฬนฺตานํ. อุปนิพนฺธนตฺถมฺภมูเลติ นาสิกคฺคํ มุขนิมิตฺตฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. อาทิโต ปภุตีติ อุปเมยฺยตฺถทสฺสนโต ปฏฺาย. นิมิตฺตนฺติ อุปนิพนฺธนนิมิตฺตํ นาสิกคฺคํ, มุขนิมิตฺตํ วา. อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺสาติ อสฺสาสปสฺสาสานํ เอกกฺขเณ อปฺปวตฺตนโต เอกสฺส จิตฺตสฺส ตโยปิ อารมฺมณํ น โหนฺติ, นิมิตฺเตน สห อสฺสาโส ปสฺสาโส วาติ ทฺเวเยว เอกกฺขเณ อารมฺมณํ ¶ โหนฺตีติ อตฺโถ. อชานโต จ ตโย ธมฺเมติ นิมิตฺตํ อสฺสาโส ปสฺสาโสติ อิเม ตโย ธมฺเม อารมฺมณกรณวเสน อวินฺทนฺตสฺส, จ-สทฺโท พฺยติเรโก, เตน เอวฺจ สติ อยํ อนิฏฺปฺปสงฺโคติ พฺยติเรกํ ทสฺเสติ. ภาวนาติ อานาปานสฺสติภาวนา.
กถํ อิเม…เป… วิเสสมธิคจฺฉตีติ อิทํ ปริหารคาถาย วุตฺตเมวตฺถํ กกโจปมาย (ม. นิ. ๑.๒๒๒ อาทโย) วิวริตุํ ปุจฺฉาปนํ. ตตฺถ กถํ-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ ‘‘กถมิเม อวิทิตา…เป… กถํ วิเสสมธิคจฺฉตี’’ติ. ปธานนฺติ ภาวนานิปฺผาทกํ วีริยํ. ปโยคนฺติ นีวรณวิกฺขมฺภกํ ภาวนานุโยคํ. วิเสสนฺติ อรหตฺตปริโยสานวิเสสํ. ปธานนฺติ รุกฺขสฺส เฉทนวีริยํ. ปโยคนฺติ ตสฺเสว เฉทนกกิริยํ. กิฺจาเปตฺถ ‘‘วิเสสมธิคจฺฉตี’’ติ อุปมายํ น วุตฺตํ, ตถาปิ อตฺถโต โยเชตพฺพเมว. ยถา รุกฺโขติอาทิ อุปมาสํสนฺทนํ. นาสิกคฺเค วา มุขนิมิตฺเต วาติ ทีฆนาสิโก นาสิกคฺเค, อิตโร มุขํ นิมิยติ ฉาทิยติ เอเตนาติ มุขนิมิตฺตนฺติ ลทฺธนาเม อุตฺตโรฏฺเ.
อิทํ ปธานนฺติ เยน วีริยารมฺเภน กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ภาวนากมฺมสฺส อรหํ อิธ ปธานนฺติ ผเลน เหตุํ ทสฺเสติ. อุปกฺกิเลสาติ นีวรณา. วิตกฺกาติ กามวิตกฺกาทิมิจฺฉาวิตกฺกา, นีวรณปฺปหาเนน วา ปมชฺฌานาธิคมํ ทสฺเสตฺวา วิตกฺกูปสมาปเทเสน ทุติยชฺฌานาทีนมธิคมมาห. อยํ ปโยโคติ อยํ ฌานาธิคมสฺส เหตุภูโต กมฺมฏฺานานุโยคสงฺขาโต ปโยโค. สํโยชนา ปหียนฺตีติ ทสปิ สํโยชนานิ มคฺคปอปาฏิยา สมุจฺเฉทวเสน ปหียนฺติ. พฺยนฺตี โหนฺตีติ ตถา สตฺตปิ อนุสยา ภงฺคมตฺตสฺสปิ อนวเสสโต วิคตนฺตา โหนฺติ. อยํ วิเสโสติ อิมํ สมาธึ นิสฺสาย อนุกฺกเมน ลพฺภมาโน อยํ สํโยชนปฺปหานาทิโก อิมสฺส สมาธิสฺส วิเสโสติ อตฺโถ. เอวํ อิเม ตโย ธมฺมาติอาทิ นิคมนวจนํ. ปริปุณฺณาติ โสฬสนฺนํ วตฺถูนํ ปาริปูริยา สพฺพโส ปุณฺณา. อนุปุพฺพนฺติ อนุกฺกเมน. ปริจิตาติ ปริจิณฺณา. อิมํ โลกนฺติ ขนฺธาทิโลกํ ปฺาปภาเสน ปภาเสติ.
อิธาติ ¶ อิมสฺมึ าเน. อสฺสาติ อุปมาภูตสฺส กกจสฺส. อานยเน ปโยชนนฺติ โยเชตพฺพํ. นิมิตฺตนฺติ ปฏิภาคนิมิตฺตํ. อวเสสฌานงฺคปฏิมณฺฑิตาติ วิตกฺกาทิอวเสสฌานงฺคปฏิมณฺฑิตาติ วทนฺติ. วิจาราทีหีติ ¶ ปน วตฺตพฺพํ นิปฺปริยาเยน วิตกฺกสฺส อปฺปนาภาวโต. โส หิ ‘‘อปฺปนา พฺยปฺปนา’’ติ นิทฺทิฏฺโ. เอวฺหิ สติ อวเสส-สทฺโท อุปปนฺโน โหติ, วิตกฺกสมฺปโยคโต วา ฌานงฺเคสุ ปธานภูโต สมาธิ อปฺปนาติ กตฺวา ‘‘อวเสสฌานงฺคปฏิมณฺฑิตา อปฺปนาสงฺขาตา ปนา จ สมฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. กสฺสจิ ปน คณนาวเสเนว มนสิการกาลโต ปภุตีติ เอตฺถ ‘‘อนุกฺกมโต…เป… ปตฺตํ วิย โหตี’’ติ อุปริ วกฺขมาโน คนฺโถ ปุราณโปตฺถเกสุ ทิสฺสติ, ตสฺมา อยํ ปาโ เอตฺถาปิ ลิขิตพฺโพ, เลขกานํ ปน โทเสน คฬิโตติ เวทิตพฺโพ.
โอฬาริเก อสฺสาสปสฺสาเส นิรุทฺเธติอาทิ เหฏฺา วุตฺตนยมฺปิ วิเจตพฺพาการปฺปตฺตสฺส กายสงฺขารสฺส วิจยนวิธึ ทสฺเสตุํ อานีตํ. เทสโตติ ปุพฺเพ ผุสนวเสน คหิตฏฺานโต. นิมิตฺตํ ปฏฺเปตพฺพนฺติ ปุพฺเพ คหิตาการนิมิตฺตคฺคาหิกา สฺา ผุสนฏฺาเน ปฏฺเปตพฺพา. อิมเมว หิ อตฺถวสนฺติ อิมํ อนุปฏฺหนฺตสฺส อารมฺมณสฺส อุปฏฺานวิธิสงฺขาตํ การณํ ปฏิจฺจ. อิโตติ อานาปานกมฺมฏฺานโต. ครุกตา จ ภาวนาทุกฺกรตายาติ อาห ‘‘ครุกภาวน’’นฺติ. จริตฺวาติ โคจรํ คเหตฺวา. นิมิตฺตนฺติ อุคฺคหนิมิตฺตํ, ปฏิภาคนิมิตฺตํ วา. อุภยมฺปิ หิ อิธ เอกชฺฌํ วุตฺตํ. ตถา หิ ตูลปิจุอาทิอุปมตฺตยํ อุคฺคเห ยุชฺชติ, เสสํ อุภยตฺถ.
ตารกรูปํ วิยาติ ตารกาย สรูปํ วิย. สฺานานตายาติ นิมิตฺตุปฏฺานโต ปุพฺเพ ปวตฺตสฺานํ นานตาย. สฺชนฺติ ภาวนาสฺาย ปริกปฺปิตํ, น อุปฺปาทิตํ อวิชฺชมานตฺตา, เตนาห ‘‘นานโต อุปฏฺาตี’’ติ. เอวํ โหตีติ ภาวนมนุยุตฺตสฺส เอวํ อุปฏฺาติ. เอวนฺติ เอวํ สติ, ยถาวุตฺตนเยน นิมิตฺเต เอว จิตฺตสฺส ปเน สตีติ อตฺโถ. อิโต ปภุตีติ อิโต ปฏิภาคนิมิตฺตุปฺปตฺติโต ปฏฺาย. นิมิตฺเตติ ปฏิภาคนิมิตฺเต. ปยนฺติ ปนาวเสน จิตฺตํ ปนฺโต. นานาการนฺติ ‘‘จตฺตาโร วณฺณา’’ติ เอวํ วุตฺตํ นานาการํ. วิภาวยนฺติ วิภาเวนฺโต อนฺตรธาเปนฺโต. นิมิตฺตุปฺปตฺติโต ปฏฺาย หิ เต อาการา อมนสิกโรโต อนฺตรหิตา วิย โหนฺติ. อสฺสาสปสฺสาเสติ อสฺสาเส ปสฺสาเส จ โย นานากาโร, ตํ วิภาวยํ อสฺสาสปสฺสาสสมฺภูเต วา นิมิตฺเต จิตฺตํ ปยํ สกํ จิตฺตํ นิพนฺธติ นามาติ ¶ โยชนา. เกจิ ปน วิภาวยนฺติ เอตสฺส วิภาเวนฺโต วิทิตํ ปากฏํ กโรนฺโตติ อตฺถํ วทนฺติ, ตํ ปุพฺพภาควเสน ยุชฺเชยฺย. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – อสฺสาสปสฺสาเส นานาการํ ¶ วิภาเวนฺโต ปชานนฺโต ตตฺถ ยํ ลทฺธํ นิมิตฺตํ, ตสฺมึ จิตฺตํ เปนฺโต อนุกฺกเมน สกํ จิตฺตํ นิพนฺธติ อปฺเปตีติ.
กิเลสาติ อวเสสกิเลสา. สนฺนิสินฺนาเยวาติ อลทฺธนีวรณสหายา โอลีนาเยว. อุปจารภูมิยนฺติ อุปจาราวตฺถายํ. ลกฺขณโตติ วิกฺขมฺภนาทิสภาวโต วา อนิจฺจาทิสภาวโต วา. โคจโรติ ภิกฺขาจารคาโม. ยตฺถ ทุลฺลภา สปฺปายภิกฺขา, โส อสปฺปาโย, อิตโร สปฺปาโย. ภสฺสนฺติ ทสกถาวตฺถุนิสฺสิตํ ภสฺสํ, ตํ สปฺปายํ, อิตรมสปฺปายํ. เสเสสุ อาวาสาทีสุ ยตฺถ ยตฺถ อสมาหิตํ จิตฺตํ สมาธิยติ, ตํ ตํ สปฺปายํ, อิตรมสปฺปายนฺติ คเหตพฺพํ. ยสฺส ปน เอวํ สตฺตวิธํ อสปฺปายํ วชฺเชตฺวา สปฺปายเมว เสวนฺตสฺสปิ อปฺปนา น โหติ, เตน สมฺปาเทตพฺพํ ทสวิธํ อปฺปนาโกสลฺลํ ทสฺเสนฺโต วตฺถุวิสทกิริยาติอาทิมาห. ตตฺถ วตฺถุวิสทกิริยา นาม เกสนขจฺเฉทนาทีหิ อชฺฌตฺติกสฺส สรีรวตฺถุสฺส, จีวรเสนาสนาทิโธวนปริกมฺมาทีหิ พาหิรวตฺถุสฺส จ วิสทภาวกรณํ. เอวฺหิ าณมฺปิ วิสทกิจฺจนิปฺผตฺติกรํ โหติ. อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนตา นาม สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ สมภาวกรณํ. นิมิตฺตกุสลตา นาม ภาวนาย ลทฺธนิมิตฺตสฺส รกฺขณโกสลฺลํ. ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคเหตพฺพนฺติอาทีสุ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ อจฺจารทฺธตาทีหิ การเณหิ อุทฺธตตาย นิคฺคเหตพฺพํ, ตทา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทโย ตโย อภาเวตฺวา ปสฺสทฺธาทีนํ ติณฺณํ ภาวเนน จิตฺตสฺส นิคฺคณฺหนา โหติ. ยทาสฺส จิตฺตํ อติสิถิลวีริยตาทีหิ ลีนตาย ปคฺคเหตพฺพํ, ตทา ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคาทโย ตโย อภาเวตฺวา ธมฺมวิจยาทีนํ ติณฺณํ ภาวเนน จิตฺตสฺส ปคฺคณฺหนํ โหติ. ยทาสฺส ปฺาปโยคมนฺทตาทีหิ นิรสฺสาทํ จิตฺตํ โหติ, ตทา ตสฺส จิตฺตสฺส อฏฺสํเวควตฺถุปจฺจเวกฺขณาทินา (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๔๑๘) สมฺปหํสนสงฺขาตา สํเวชนา โหติ. ยทา ปนสฺส เอวํ ปฏิปชฺชนโต อลีนํ อนุทฺธตํ อนิรสฺสาทํ อารมฺมเณ สมปฺปวตฺตํ สมถวีถิปฏิปนฺนฺจ จิตฺตํ โหติ, ตทา ตสฺส ปคฺคหนิคฺคหสมฺปหํสเนสุ อพฺยาปารตาสมาปชฺชเนน อชฺฌุเปกฺขนา โหติ.
ตทธิมุตฺตตา ¶ นาม สมาธิอธิมุตฺตตา, สมาธินินฺนโปณปพฺภารตาติ อตฺโถ. เอตฺถาติ เอติสฺสํ กายานุปสฺสนายํ.
ปาริสุทฺธึ ปตฺตุกาโมติ ผลํ อธิคนฺตุกาโม สมาปชฺชิตุกาโม จ. ตตฺถ สลฺลกฺขณาวิวฏฺฏนาวเสน ปมํ มคฺคานนฺตรผลํ อธิคนฺตุกาโม. ตโต ปรํ สลฺลกฺขณวเสน ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตุกาโมปีติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. อาวชฺชนสมาปชฺชน…เป… วสิปฺปตฺตนฺติ ¶ เอตฺถ ปฏิลทฺธฌานโต วุฏฺาย วิตกฺกาทีสุ ฌานงฺเคสุ เอเกกํ อาวชฺชยโต ภวงฺคํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา อุปฺปนฺนาวชฺชนานนฺตรํ วิตกฺกาทีสุ ยถาวชฺชิตฌานงฺคารมฺมณานิ กามาวจรชวนานิ ภวงฺคนฺตริตานิ ยทา นิรนฺตรํ ปวตฺตนฺติ, อถสฺส อาวชฺชนวสี สิทฺธา โหติ. ตํ ปน ฌานํ สมาปชฺชิตุกามตานนฺตรํ สีฆํ สมาปชฺชนสมตฺถตา สมาปชฺชนวสี นาม. อจฺฉรามตฺตํ วา ทสจฺฉรามตฺตํ วา ขณํ ฌานํ เปตุํ สมตฺถตา อธิฏฺานวสี นาม. ตเถว ลหุํ ขณํ ฌานสมงฺคี หุตฺวา ฌานโต ภวงฺคุปฺปตฺติวเสน วุฏฺาตุํ สมตฺถตา วุฏฺานวสี นาม. ‘‘เอตฺตกเมว ขณํ สมาปชฺชิสฺสามี’’ติ, ‘‘เอตฺตกเมว ขณํ ฌานสมงฺคี หุตฺวา ฌานโต วุฏฺหิสฺสามี’’ติ จ ปวตฺตปุพฺพปริกมฺมเภเทเนตฺถ อธิฏฺานวุฏฺานวสิโย ภินฺนา, น สรูปเภเทน, ยา ‘‘สมาปตฺติกุสลตา, วุฏฺานกุสลตา’’ติ วุจฺจนฺติ. ปจฺจเวกฺขณวสี ปน อาวชฺชนวสิยา เอว วุตฺตา. ปจฺจเวกฺขณวีถิยฺหิ สีฆํ อาวชฺชนุปฺปตฺติยา อาวชฺชนวสี ตทนนฺตรานํ ชวนานํ สมุปฺปตฺติยา ปจฺจเวกฺขณวสีติ อาวชฺชนวสีสิทฺธิยาว ปจฺจเวกฺขณวสี สิทฺธา เอว โหตีติ เวทิตพฺพา. ฌานงฺคานิ ปริคฺคเหตฺวาติ ฌานจิตฺตสมฺปยุตฺตานิ ฌานงฺคานิ ลกฺขณาทิวเสน ปริคฺคเหตฺวา. เตสฺจ นิสฺสยนฺติ เตสํ วตฺถุนิสฺสยานํ ภูตานํ นิสฺสยํ. อิทฺจ กรชกายสฺส วตฺถุทสกสฺส ภูตนิสฺสยตฺตา สุตฺตนฺตนเยน วุตฺตํ, น ปฏฺานนเยน. น หิ กลาปนฺตรคตานิ ภูตานิ กลาปนฺตรคตานํ ภูตานํ นิสฺสยปจฺจยา โหนฺติ, สุตฺตนฺตนเยน ปน อุปนิสฺสยปจฺจโยติ เวทิตพฺพานิ. ปฏฺาเน หิ อสงฺคหิตา สพฺเพ ปจฺจยา สุตฺตนฺติกนเยน อุปนิสฺสยปจฺจเย สงฺคยฺหนฺตีติ เวทิตพฺพํ. ตํนิสฺสิตรูปานีติ อุปาทารูปานิ. ยถาปริคฺคหิตรูปวตฺถุทฺวารารมฺมณํ วาติ เอตฺถ ยถาปริคฺคหิตเกสาทิรูปารมฺมณํ ตโต ปุพฺเพ วุตฺตนยวตฺถารมฺมณฺจ ตนฺนิสฺสยกรชกายปอคฺคหมุเขน ¶ อุปฏฺิตจกฺขาทิทฺวารฺจ สสมฺปยุตฺตธมฺมวิฺาณํ วาติ โยเชตพฺพํ. กมฺมารคคฺครีติ กมฺมารานํ อคฺคิธมนภสฺตา. ตชฺชนฺติ ตทนุรูปํ. ตสฺสาติ นามรูปสฺส. ตํ ทิสฺวาติ อวิชฺชาตณฺหาทิปจฺจยํ ทิสฺวา. กงฺขํ วิตรตีติ อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธานนฺติอาทินยปฺปวตฺตํ (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐) โสฬสวตฺถุกํ วิจิกิจฺฉํ อติกฺกมติ. กลาปสมฺมสนวเสนาติ ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนนฺติอาทินา (ม. นิ. ๑.๓๖๑; ๓.๘๖, ๘๙; อ. นิ. ๔.๑๘๑) ปฺจสุ ขนฺเธสุ อตีตาทิโกฏฺาสํ เอเกกกลาปโต คเหตฺวา อนิจฺจาทิวเสน สมฺมสนํ กลาปสมฺมสนํ, ตสฺส วเสน. ปุพฺพภาเคติ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิปริยาปนฺนาย อุทยพฺพยานุปสฺสนาย ปุพฺพภาเค. โอภาสาทโยติ โอภาโส าณํ ปีติ ปสฺสทฺธิ สุขํ อธิโมกฺโข ปคฺคโห อุเปกฺขา อุปฏฺานํ นิกนฺติ จ. ตตฺถ อธิโมกฺโขติ สทฺธา. อุปฏฺานนฺติ สติ. อุเปกฺขาติ ตตฺรมชฺฌตฺตตา. เอตฺถ จ โอภาสาทโย นว นิกนฺติสงฺขาตตณฺหุปกฺกิเลสวตฺถุตาย อุปกฺกิเลสา วุตฺตา ¶ , นิกนฺติ ปน อุปกฺกิเลสตาย ตพฺพตฺถุตาย จ. นิพฺพินฺทนฺโต อาทีนวานุปสฺสนาปุพฺพงฺคมาย นิพฺพิทานุปสฺสนาย นิพฺพินฺทนฺโต. มฺุจิตุกมฺยตาปฏิสงฺขานุปสฺสนาสงฺขารุเปกฺขานุโลมาณานํ จิณฺณปริยนฺเต อุปฺปนฺนโคตฺรภุาณานนฺตรํ อุปฺปนฺเนน มคฺคาเณน สพฺพสงฺขาเรสุ วิรชฺชนฺโต วิมุจฺจนฺโต. ผลกฺขเณ หิ วิมุตฺโต นาม วุจฺจติ, มคฺคกฺขเณ วิมุจฺจนฺโตติ. เอกูนวีสติเภทสฺสาติ จตุนฺนํ มคฺควีถีนํ อนนฺตรํ ปจฺเจกํ อุปฺปชฺชนฺตสฺส มคฺคผลนิพฺพานปหีนาวสิฏฺกิเลสานํ ปฺจนฺนํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพานํ วเสน เอกูนวีสติเภทสฺส. อรหโต หิ อวสิฏฺกิเลสาภาเวน เอกูนวีสติตา. อสฺสาติ อานาปานกมฺมฏฺานิกสฺส.
สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเนติ ปีติสหคตานิ จตุกฺกนเย ทฺเว ปมทุติยชฺฌานานิ. ตสฺสาติ เตน โยคินา. สมาปตฺติกฺขเณติ สมาปนฺนกฺขเณ. อารมฺมณโตติ ปฏิภาคารมฺมณคฺคหณมุเขน ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ, อารมฺมณสฺส ปฏิสํวิทิตตฺตา. อารมฺมเณ หิ วิทิเต ตพฺพิสยา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา สยํ อตฺตโน ปฏิสํวิทิตา นาม โหติ สลกฺขณโต สามฺลกฺขณโต จ ปจฺฉา คหเณ สนฺเทหาภาวโต. วิปสฺสนากฺขเณติ วิปสฺสนาปฺาย วิสยโต ทสฺสนกฺขเณ. เอวํ ปีตึ อนิจฺจาทิวเสน คหณเมว อสมฺโมหโต ปีติปฏิสํเวทนํ นาม.
ทีฆํ ¶ อสฺสาสวเสนาติ ทีฆสฺส อสฺสาสสฺส อารมฺมณภูตสฺส วเสน, ปชานโต สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหตีติ สมฺพนฺโธ. จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโตติ ฌานปริยาปนฺนํ อวิกฺเขปาปนฺนํ นาม จิตฺตสฺเสกคฺคตํ ตํสมฺปยุตฺตาย ปฺาย ปชานโต. ยเถว หิ อารมฺมณมุเขน ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ, เอวํ ตํสมฺปยุตฺตธมฺมาปิ ปฏิสํวิทิตา เอว โหนฺตีติ. สติ อุปฏฺิตา โหตีติ ทีฆํ อสฺสาสวเสน ฌานสมฺปยุตฺตา สติ ตสฺส อารมฺมเณ อุปฏฺิตา ตทารมฺมณชฺฌาเนปิ อุปฏฺิตา นาม โหตีติ. ทีฆํ ปสฺสาสวเสนาติอาทีสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวํ ทสฺสิตํ ปีติปฏิสํเวทนํ อารมฺมณโต อสมฺโมหโต จ วิภาคโต ทสฺเสตุํ อาวชฺชโตติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาวชฺชโตติ ฌานํ อาวชฺชนฺตสฺส. สา ปีตีติ สา ฌานปริยาปนฺนา ปีติ. ชานโตติ สมาปนฺนกฺขเณ อารมฺมณมุเขน ชานโต, ตสฺส สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหตีติ สมฺพนฺโธ. ปสฺสโตติ ทสฺสนภูเตน าเณน ฌานโต วุฏฺาย ปสฺสนฺตสฺส. ปจฺจเวกฺขโตติ ฌานํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส. จิตฺตํ อธิฏฺหโตติ ‘‘เอตฺตกํ เวลํ ฌานสมงฺคี ภวิสฺสามี’’ติ ฌานจิตฺตํ อธิฏฺหนฺตสฺส. เอวํ ปฺจนฺนํ วสิภาวานํ วเสน ฌานสฺส ปชานนมุเขน อารมฺมณโต ปีติยา ปฏิสํเวทนา ทสฺสิตา. อธิมุจฺจโตติ สทฺทหนฺตสฺส, สมถวิปสฺสนาวเสนาติ อธิปฺปาโย. วีริยํ ปคฺคณฺหโตติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อภิฺเยฺยนฺติ วิสิฏฺาย ปฺาย ชานิตพฺพํ จตุสจฺจํ วิปสฺสนาปฺาปุพฺพงฺคมาย มคฺคปฺาย ¶ อภิชานโตติอาทิ โยชนา. เอวํ ปริฺเยฺยนฺติอาทีสุปิ ปริชานโตติอาทินา โยชนา เวทิตพฺพา. ตตฺถ ปริฺเยฺยนฺติ ทุกฺขสจฺจํ. อวเสสปทานีติ สุขปฏิสํเวที จิตฺตสงฺขารปฏิสํเวทีติ ปทานิ.
เวทนาทโยติ อาทิ-สทฺเทน สฺา คหิตา, เตนาห ‘‘ทฺเว ขนฺธา’’ติ. วิปสฺสนาภูมิทสฺสนตฺถนฺติ กายิกสุขาทิสีเสน ปกิณฺณกสงฺขารทสฺสนโต วุตฺตํ สมเถ กายิกสุขาภาวโต. โสติ ปสฺสมฺภนปริยาเยน วุตฺโต นิโรโธ. วุตฺตนเยนาติ อิมสฺส หิ ภิกฺขุโน ปุพฺเพ อปริคฺคหิตกาเลติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๖๕) กายสงฺขาเร วุตฺตนเยน. ปีติสีเสน เวทนา วุตฺตาติ ปีติอปเทเสน เวทนา วุตฺตา, สุขคฺคหณโต ¶ เวทนานุปสฺสนาปสงฺคโตติ อธิปฺปาโย. ทฺวีสุ จิตฺตสงฺขารปเทสูติ ‘‘จิตฺตสงฺขารปฏิสํเวที ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขาร’’นฺติ อิเมสุ ทฺวีสุ โกฏฺาเสสุ. สฺาสมฺปยุตฺตา เวทนาติ เวทนานุปสฺสนาภาวโต วุตฺตํ. จิตฺตปฏิสํเวทิตา เวทิตพฺพาติ อารมฺมณโต อสมฺโมหโตติอาทินา วุตฺตนยํ สนฺธาย วุตฺตํ. จิตฺตนฺติ ฌานสมฺปยุตฺตํ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตฺจ จิตฺตํ. อาโมเทตีติ สมฺปยุตฺตาย ปีติยา ฌานวิสยาย โมเทติ. วิปสฺสนากฺขเณติอาทินา วุตฺตภงฺคานุปสฺสนกฺขเณ.
อานาปานสฺสติสมาธิกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๑๖๗. ยทิปิ อริยา เนว อตฺตนาว อตฺตานํ อฺมฺํ วา ชีวิตา โวโรเปนฺติ, นาปิ ปเรหิ สมาทเปนฺติ, ตถาปิ ยถาวุตฺเตหิ ตีหิ ปกาเรหิ มตานํ ปุถุชฺชนานํ อนฺตเร มิคลณฺฑิเกน มาริตานํ อริยปุคฺคลานมฺปิ อตฺถิตาย ‘‘อริยปุคฺคลมิสฺสกตฺตา’’ติ วุตฺตํ. อถ วา ปุถุชฺชนกาเล อตฺตนาว อตฺตานํ ฆาเตตฺวา มรณสมเย วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อริยมคฺคํ ปฏิลภิตฺวา มตานมฺปิ สพฺภาวโต เอวํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
ปทภาชนียวณฺณนา
๑๗๒. พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวาติ ชานิตฺวา สฺชานิตฺวาติอาทินา พฺยฺชนานุรูปํ อวุตฺตตฺตา วุตฺตํ. ปาโณติ ชานนฺโตติ อิทํ มนุสฺโสติ อชานิตฺวาปิ เกวลํ สตฺตสฺาย เอว ปาราชิกภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. วธกเจตนาวเสน เจเตตฺวาติ ‘‘อิมํ มาเรมี’’ติ วธกเจตนาย จินฺเตตฺวา. ปกปฺเปตฺวาติ ‘‘วธามิ น’’นฺติ เอวํ จิตฺเตน ปริจฺฉินฺทิตฺวา. อภิวิตริตฺวาติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา, เตนาห ‘‘นิราสงฺกจิตฺตํ เปเสตฺวา’’ติ. สิขาปฺปตฺโต อตฺโถติ สฺจิจฺจาติ ปุพฺพกาลกิริยาวเสน ¶ วุตฺตสฺสปิ วีติกฺกมภูตสฺส อปรกาลกิริยายุตฺตทสฺสเนน โกฏิปฺปตฺโต อตฺโถ. ชาติอุณฺณา นาม ตทหุชาตเอฬกสฺส โลมํ. เอวํ วณฺณปฺปฏิภาคนฺติ เอวํ วณฺณสณฺานํ. ตโต วา อุทฺธนฺติ ทุติยสตฺตาหาทีสุ อพฺพุทาทิภาวปฺปตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปริหีนเวคสฺส สนฺตานสฺส ปจฺจโย โหตีติ ¶ สหการีปจฺจโย โหติ, น ชนโก. กมฺมเมว หิ ขเณ ขเณ อุปฺปชฺชมานานํ กมฺมชรูปานํ ชนกปจฺจโย, ตฺจ ปวตฺติยํ ปุพฺเพ อุปฺปชฺชิตฺวา ิตํ อนุปหตํ จตุสนฺตติรูปํ สหการีปจฺจยํ ลภิตฺวาว กาตุํ สกฺโกติ, น อฺถา, เยน เกนจิ วิโรธิปจฺจเยน นิรุทฺธจกฺขาทิปฺปสาทานํ ปุคฺคลานํ วิชฺชมานมฺปิ กมฺมํ จกฺขาทิกํ ชเนตุํ น สกฺโกตีติ สิทฺธเมว โหติ.
อติปาเตนฺโตติ อติปาเตนฺโต วินาเสนฺโต. วุตฺตปการเมวาติ ชีวิตินฺทฺริยาติปาตนวิธานํ วุตฺตปฺปการเมว. สรเสเนว ปตนสภาวสฺส สณิกํ ปติตุํ อทตฺวา อตีว ปาตนํ สีฆปาตนํ อติปาโต, ปาณสฺส อติปาโต ปาณาติปาโต. อาถพฺพณิกาติ อถพฺพณเวทิโน. อถพฺพณนฺติ อถพฺพณเวทวิหิตํ. มนฺตํ ปโยเชนฺตีติ อโลณโภชนทพฺพสยนสุสานคมนาทีหิ ปโยเคหิ มนฺตํ ปริวตฺเตนฺติ, เตน ยถิจฺฉิตปาณวธาทิผลํ อุปปชฺชติ, ตสฺมา ตํ กายวจีกมฺเมสุ ปวิฏฺํ. อีตินฺติ ปีฬํ. อุปทฺทวนฺติ ตโต อธิกตรํ ปีฬํ. ปชฺชรกนฺติ วิสมชฺชรํ. สูจิกนฺติ สูจีหิ วิย วิชฺฌมานํ สูลํ. วิสูจิกนฺติ สสูลํ อามาติสารํ. ปกฺขนฺทิยนฺติ รตฺตาติสารํ. วิชฺชํ ปริวตฺเตตฺวาติ คนฺธารวิชฺชาทิกํ อตฺตโน วิชฺชํ กตูปจารํ มนฺตปนกฺกเมน ปริชปฺปิตฺวา. เตหีติ เตหิ วตฺถูหิ. ปโยชนนฺติ ปวตฺตนํ. อโห วตายนฺติ อยํ ตํ กุจฺฉิคตํ. คพฺภนฺติ อิทํ กุจฺฉิคตํ คพฺภํ. กุลุมฺพสฺสาติ คพฺภสฺส, กุลสฺเสว วา, กุฏุมฺพสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. ภาวนามยิทฺธิยาติ อธิฏฺานิทฺธึ สนฺธาย วุตฺตํ. ตํ เตสํ อิจฺฉามตฺตนฺติ สุตฺตตฺถโต น สเมตีติ อธิปฺปาโย. อถพฺพณิทฺธิวเสเนว หิ สุตฺเต ‘‘อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต’’ติ วุตฺตํ, น ภาวนามยิทฺธิวเสนาติ ทฏฺพฺพํ.
อิตรถาติ ปริเยเสยฺยาติ ปทสฺส คเวสนมตฺตเมว ยถารุตวเสน อตฺโถ สิยา, ตทา ปริยิฏฺมตฺเตน ปริเยสิตฺวา สตฺถาทีนํ ลทฺธมตฺเตนาติ อตฺโถ. สสนฺติ หึสนฺติ เอเตนาติ สตฺถนฺติ วโธปกรณสฺส ปาสาณรชฺชุอาทิโน สพฺพสฺสาปิ นามนฺติ อาห ลคุฬาติอาทิ. ลคุฬนฺติ มุคฺครสฺเสตํ อธิวจนํ. สตฺถสงฺคโหติ มาติกายํ สตฺถหารกนฺติ เอตฺถ วุตฺตสตฺถสงฺคโห. ปรโต วุตฺตนยตฺตาติ ปรโต ¶ นิคมนวเสน วุตฺตสฺส ทุติยปทสฺส ปทภาชเน วุตฺตนยตฺตา. จิตฺตสทฺทสฺส อตฺถทีปนตฺถํ วุตฺโตติ จิตฺต-สทฺทสฺส วิจิตฺตาทิอเนกตฺถวิสยตฺตา อิตเรหิ นิวตฺเตตฺวา วิฺาณตฺถํ นิยเมตุํ วุตฺโต.
๑๗๔. กมฺมุนา ¶ พชฺฌตีติ ปาณาติปาตกมฺมุนา พชฺฌติ, ตํ กมฺมมสฺส สิทฺธนฺติ อตฺโถ. อุภยถาปีติ อุทฺทิสกานุทฺทิสกวเสน. ปจฺฉา วา เตน โรเคนาติ เอเตน อนาคตมฺปิ ชีวิตินฺทฺริยํ อารพฺภ ปาณาติปาตสฺส ปวตฺตึ ทสฺเสติ. เอวฺจ ‘‘ยทา สกฺโกติ, ตทา ตํ ชีวิตา โวโรเปหี’’ติ อาณตฺติยา จิเรน สมิทฺธิยมฺปิ อาณตฺติกฺขเณเยว ปาณาติปาโต. โอปาตขณนาทิถาวรปโยเคสุ ปโยคกรณโต ปจฺฉา คหิตปฏิสนฺธิกสฺสาปิ สตฺตสฺส มรเณ ปาณาติปาโต จ อนาคตารมฺมโณ อุปปนฺโน โหติ. ยํ ปน สิกฺขาปทวิภงฺเค ‘‘ปฺจ สิกฺขาปทานิ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาเยวา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ปาณาติปาตาทิโต วิรตึ สนฺธาย วุตฺตํ, น ปาณาติปาตาทินฺติ คเหตพฺพํ. อฺจิตฺเตนาติ อมาเรตุกามตาจิตฺเตน. ทุติยปฺปหาเรน มรตีติ ปมปฺปหารํ วินา ทุติเยเนว มรตีติ อตฺโถ. ปมปฺปหาเรเนวาติ ปมปฺปหารสมุฏฺาปกเจตนากฺขเณเยวาติ อตฺโถ. กิฺจาปิ ปมปฺปหาโร สยเมว น สกฺโกติ มาเรตุํ, ทุติยํ ปน ลภิตฺวา สกฺโกนฺโต ชีวิตวินาสเหตุ โหติ, ตสฺมา ปมปฺปหารํ วินา มรณสฺส อสิทฺธตฺตา ‘‘ปโยโค เตน จ มรณ’’นฺติ อิมินา สํสนฺทนโต ปมปฺปหาเรเนว กมฺมพทฺโธ ยุตฺโต, น ทุติเยน ตสฺส อฺจิตฺเตน ทินฺนตฺตา. ยถา เจตฺถ, เอวํ อฺเน ปุคฺคเลน ทุติยปฺปหารทานาทีสุ วิย. ยทิ ปน ทุติยปฺปหารทายกสฺสาปิ ปุคฺคลสฺส วธกเจตนา อตฺถิ, ตสฺสาปิ อตฺตโน ปโยเคนาปิ มตตฺตา ปโยคกฺขเณ ปาณาติปาโตติ เวทิตพฺพํ.
กมฺมาปตฺติพฺยตฺติภาวตฺถนฺติ อานนฺตริยาทิกมฺมวิภาคสฺส ปาราชิกาทิอาปตฺติวิภาคสฺส จ ปากฏภาวตฺถํ. ‘‘เอฬกํ มาเรมี’’ติ วิปรีตคฺคหเณปิ ‘‘อิม’’นฺติ ยถานิปนฺนสฺเสว ปรมตฺถโต คหิตตฺตา ยถาวตฺถุกํ กมฺมพทฺโธ โหติเยวาติ อาห อิมํ วตฺถุนฺติอาทิ. ฆาตโก จ โหตีติ ปาณาติปาตกมฺเมน พทฺโธติ อตฺโถ. มาตาทิคุณมหนฺเต อารพฺภ ปวตฺตวธกเจตนาย ¶ มหาสาวชฺชตาย วุตฺตํ ‘‘อิธ ปน เจตนา ทารุณา โหตี’’ติ.
โลหิตกนฺติ โลหิตมกฺขิตํ. กมฺมํ กโรนฺเตติ ยุทฺธกมฺมํ กโรนฺเต. ยถาธิปฺปายํ คเตติ โยธํ วิชฺฌิตฺวา ปิตริ วิทฺเธ, โยธํ ปน อวิชฺฌิตฺวา เกวลํ ปิตริ วิทฺเธปิ วิสงฺเกโต นตฺถิเยว ปิตริปิ วธกจิตฺตสฺส อตฺถิตาย, เกวลํ โยเธ วิทฺเธปิ เอเสว นโย. อานนฺตริยํ ปน นตฺถีติ ปิตุวิสยํ ปาณาติปาตกมฺมํ นตฺถีติ อตฺโถ.
เอวํ วิชฺฌาติ เอวํ ปาเทหิ ภูมิยํ ตฺวา เอวํ ธนุํ คเหตฺวา อากฑฺฒิตฺวาติอาทินา วิชฺฌนปฺปการสิกฺขาปนมุเขน อาณาเปตีติ อตฺโถ. เอวํ ปหราติ ทฬฺหํ อสึ คเหตฺวา เอวํ ปหร. เอวํ ฆาเตหีติ เอวํ กมฺมการณํ กตฺวา มาเรหิ. ตตฺตกา อุภินฺนํ ปาณาติปาตาติ อนุทฺทิสิตฺวา ¶ เยสํ เกสฺจิ มารณตฺถาย อุโภหิ ปโยคสฺส กตตฺตา วุตฺตํ. สเจ หิ อาณาปโก ‘‘เอวํ วิทฺเธ อสุโก เอวํ มรตี’’ติ สฺาย ‘‘เอวํ วิชฺฌา’’ติ อาณาเปติ, นิยมิตสฺเสว มรเณ อาณาปกสฺส กมฺมพทฺโธติ วทนฺติ. สเจ อาณตฺโต ‘‘อสุก’’นฺติ นิยเมตฺวา อุทฺทิสฺส สรํ ขิปติ, อาณาปโก อนิยเมตฺวา อาณาเปติ, อาณาปกสฺส เยสํ เกสฺจิ มรเณปิ กมฺมพทฺโธ, อาณตฺตสฺส ปน นิยมิตมรเณเยวาติ เวทิตพฺพํ. มชฺเฌติ หตฺถิโน ปิฏฺิโน มชฺเฌ. เอเตนาติ อธิฏฺหิตฺวา อาณาเปตีติอาทิปาฬิวจเนน. ตตฺถาติ อาณตฺติกปโยเค.
กิฺจาปิ กิริยาวิเสโส อฏฺกถาสุ อนาคโต, ปาฬิยํ ปน ‘‘เอวํ วิชฺฌ, เอวํ ปหร, เอวํ ฆาเตหี’’ติ (ปารา. ๑๗๔) กิริยาวิเสสสฺส ปรามฏฺตฺตา อาจริยปรมฺปรา อาคตํ กิริยาวิเสสมฺปิ ปาฬิสํสนฺทนโต คเหตฺวา ทสฺเสนฺโต อปโร นโยติอาทิมาห. วิชฺฌนนฺติ อุสุสตฺติอาทีหิ วิชฺฌนํ. เฉทนนฺติ อสิอาทีหิ หตฺถปาทาทิจฺเฉทนํ. เภทนนฺติ มุคฺคราทีหิ สีสาทิเภทนํ ทฺวิธากรณํ. สงฺขมุณฺฑกนฺติ สีสกฏาเห จมฺมํ สห เกเสหิ อุปฺปาเฏตฺวา ถูลสกฺขราหิ สีสกฏาหํ ฆํสิตฺวา สงฺขวณฺณกรณวเสน สงฺขมุณฺฑกมฺมกรณํ. เอวมาทีติ อาทิ-สทฺเทน พิฬงฺคถาลิกาทึ สงฺคณฺหาติ. อุเร ปหริตฺวา ปิฏฺิยํ ปหริตฺวา คีวายํ ปหริตฺวาติอาทินา สรีราวยวปฺปเทเสสุ ปหรณวิชฺฌนาทินิยโมปิ กิริยาวิเสเสเยว สงฺคยฺหติ อฏฺกถาสุ สงฺขมุณฺฑกาทิสรีรปฺปเทสวิสยายปิ ฆาตนาย ตตฺถ ¶ ปเวสิตตฺตา, ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๑๗๔ ปโยคกถาวณฺณนา) ปุรโต ปหริตฺวา มาเรหีติอาทิกสฺส อฏฺกถาปาสฺส ‘‘ปุริมปสฺสาทีนมฺปิ วตฺถุสภาคโต วตฺถุคฺคหเณเนว คหณนฺติ อาห ปุรโต ปหริตฺวาติอาที’’ติ เอวมธิปฺปายกถนํ, ตํ สงฺขมุณฺฑกาทิกสฺส สรีรปฺปเทเส กมฺมการณากรณสฺส อฏฺกถาย กิริยาวิเสสวิสเย วุตฺตตฺตา น ยุชฺชติ. ยถาณตฺตํ มฺุจิตฺวา ปุคฺคลนฺตรมารณเมว หิ วตฺถุวิสํวาโท, น ปหริตุํ อาณตฺตํ สรีรปฺปเทสวิสํวาทนํ, เตนาห ‘‘วตฺถุํ วิสํ วาเทตฺวา…เป… ตโต อฺํ มาเรติ. ปุรโต ปหริตฺวา มาเรหีติ วา…เป… นตฺถิ กมฺมพทฺโธ’’ติ, อิทํ ปน ยถาณตฺตวตฺถุสฺมิมฺปิ กิริยาวิเสสวิสงฺเกเตน กมฺมพทฺธาภาวํ ทสฺเสตุํ วุตฺตนฺติ ปฺายติ. เตน ‘‘วตฺถุํ อวิสํวาเทตฺวา มาเรนฺตี’’ติ เอตฺตกเมว อวตฺวา ‘‘ยถาณตฺติยา’’ติ กิริยาวิเสสนิยโมปิ ทสฺสิโต, อิตรถา ยถาณตฺติยาติ วจนสฺส นิรตฺถกตาปตฺติโต. วตฺถุนิทฺเทเส จ ‘‘วตฺถูติ มาเรตพฺโพ สตฺโต’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๔) เอตฺตกเมว วุตฺตํ, น ปน ‘‘ยถาณตฺตสฺส ปหริตพฺพสรีรปฺปเทโสปี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา ปุรโต ปหรณาทิปิ กิริยาวิเสเส เอว สงฺคยฺหตีติ อมฺหากํ ขนฺติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. วตฺถุวิเสเสนาติ มาตุอาทิมตสตฺตวิเสเสน. ¶ กมฺมวิเสโสติ อานนฺตริยาทิกมฺมวิเสโส. อาปตฺติวิเสโสติ ปาราชิกาทิอาปตฺติวิเสโส.
ยทา กทาจิ ปุพฺพณฺเหติ อาณตฺตทิวสโต อฺสฺสปิ ยสฺส กสฺสจิ ทิวสสฺส ปุพฺพณฺเห. เอตํ คาเม ิตนฺติ คาโม ปุคฺคลนิยมนตฺถํ วุตฺโต, น โอกาสนิยมนตฺถํ, ตสฺมา ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ มาเรติ, นตฺถิ วิสงฺเกโต’’ติ วุตฺตํ, เอเตน กาโลกาสอาวุธอิอยาปถกิริยาวิเสสานํ นิยมิจฺฉาย อสติ เยน เกนจิ ปกาเรน มรณเมว อิจฺฉนฺตสฺส อาณาปกสฺส มุขารุฬฺหวเสน วุตฺตสฺส เทสกาลาทินิยมสฺส วิสงฺเกเตปิ กมฺมพทฺโธเยวาติ าปิตํ โหติ. โย ปน จิตฺเตน ยตฺถ กตฺถจิ ยทา กทาจิ เยน เกนจิ ปกาเรน มรณเมว อิจฺฉนฺโตปิ กาลาทิวิสงฺเกเตน อกุสลโต โจทนโต วา มุจฺจิตุกาโม เลเสน กาลาทินิยมํ กโรติ, ตสฺส มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกโต ปริยาเยน อมุจฺจนโต กาลาทิวิสงฺเกเตปิ กมฺมพทฺโธวาติ คเหตฺวา วิจารณโต คเหตพฺพํ, เกจิ ปเนตํ น อิจฺฉนฺติ, วีมํสิตพฺพํ. ตุณฺเฑนาติ ¶ อคฺคโกฏิยา. ถรุนาติ ขคฺคมุฏฺินา. เอตํ คจฺฉนฺตนฺติ คมเนน ปุคฺคโลว นิยมิโต, น อิริยาปโถ, เตนาห ‘‘นตฺถิ วิสงฺเกต’’นฺติ.
‘‘ทีฆํ มาเรหี’’ติ วุตฺเตปิ ทีฆสณฺานานํ พหุภาวโต ‘‘อิตฺถนฺนามํ เอวรูปฺจ ทีฆ’’นฺติ อฺเสํ อสาธารณลกฺขเณน อนิทฺทิฏฺตฺตา ‘‘อนิยเมตฺวา อาณาเปตี’’ติ วุตฺตํ, เตเนวาห ‘‘ยํ กิฺจิ ตาทิสํ มาเรมี’’ติ. เอตฺถ จ จิตฺเตน พหูสุ ทีฆสณฺาเนสุ เอกํ นิยเมตฺวา วุตฺเตปิ วาจาย อนิยมิตตฺตา อฺสฺมึ ตาทิเส มาริเต นตฺถิ วิสงฺเกโตติ วทนฺติ. อตฺตานํ มฺุจิตฺวา ปรปาณิมฺหิ ปาณสฺิตาลกฺขณสฺส องฺคสฺส อภาวโต เนวตฺถิ ปาณาติปาโตติ อาห ‘‘อาณาปโก มุจฺจตี’’ติ. อตฺตานํ อุทฺทิสฺส ‘‘อสุกฏฺาเน นิสินฺน’’นฺติ โอกาสนิยเม ตสฺมึ ปเทเส นิสินฺนสฺส ยสฺส กสฺสจิ ชีวิตินฺทฺริยํ อารพฺภ วธกจิตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ วุตฺตํ ‘‘เนว วธโก มุจฺจติ น อาณาปโก’’ติ. โอกาสฺหิ นิยเมตฺวา นิทฺทิสนฺโต ตสฺมึ โอกาเส นิสินฺนํ มาเรตุกาโม โหติ, สยํ ปน ตทา ตตฺถ นตฺถิ, ตสฺมา โอกาเสน สห ตตฺถ นิสินฺนสฺเสว ชีวิตินฺทฺริยํ อารมฺมณํ โหติ, น อตฺตโนติ คเหตพฺพํ. สเจ ปน สยํ ตตฺเถว นิสีทิตฺวา อตฺตโน นิสินฺนฏฺานเมว นิยเมตฺวา ‘‘มาเรหี’’ติ วุตฺเตปิ อฺโ ตตฺถ นิสินฺโน มาริยติ, ตสฺสาปิ อตฺตโนปิ ชีวิตํ อารพฺภ วธกเจตนา ปวตฺตติ, ปรสฺมึ ตตฺถ มาริเต อาณาปกสฺส กมฺมพทฺโธติ คเหตพฺพํ. เอวรูเป าเน จิตฺตปฺปวตฺตินิยโม พุทฺธวิสโย, น อฺเสํ วิสโยติ อาห ‘‘ตสฺมา เอตฺถ น อนาทริยํ กาตพฺพ’’นฺติ.
เอวํ ¶ อาณาเปนฺตสฺส อาจริยสฺส ตาว ทุกฺกฏนฺติ สเจ อาณตฺติโก ยถาธิปฺปายํ น คจฺฉติ, อาจริยสฺส อาณตฺติกฺขเณ ทุกฺกฏํ. สเจ ปน โส ยถาธิปฺปายํ คจฺฉติ, ยํ ปรโต ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ, อาณตฺติกฺขเณ ตเทว โหติ. อถ โส อวสฺสํ ฆาเตติ, ยํ ปรโต ‘‘อาปตฺติ สพฺเพสํ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๗๔) วุตฺตํ, ตโต อิมสฺส อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิกํ โหติ, น ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยานีติ คเหตพฺพํ. เตสมฺปิ ทุกฺกฏนฺติ พุทฺธรกฺขิตาทีนมฺปิ อาโรจนปจฺจยา ทุกฺกฏํ, อิทฺจ ยถาณตฺติวเสน สงฺฆรกฺขิตสฺส ชีวิตา โวโรปเน อสติ ยุชฺชติ, โวโรปเน สติ เตสมฺปิ อาโรจนกฺขเณเยว ปาราชิกํ. ปฏิคฺคหิตมตฺเตติ อิทํ อวสฺสํ ปฏิคฺคหณสภาวทีปนตฺถํ วุตฺตํ, น ปฏิคฺคหิตกฺขเณเยว ถุลฺลจฺจยนฺติ ¶ ทสฺสนตฺถํ. สเจ หิ โส อวสฺสํ ปฏิคฺคเหสฺสติ, กมฺมํ ปน น นิปฺผาเทสฺสติ, ตทา อาจริยสฺส อาณตฺติกฺขเณเยว ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
มูลฏฺสฺเสว ทุกฺกฏนฺติ อิทํ มหาอฏฺกถายํ อาคตนยทสฺสนมตฺตํ, น ปเนตํ อตฺตนา อธิปฺเปตํ, เตนาห เอวํ สนฺเตติอาทิ, เอวํ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตนเยน อตฺเถ สตีติ อตฺโถ. ปฏิคฺคหเณ อาปตฺติเยว น สิยาติ วธกสฺส ‘‘สาธุ สุฏฺู’’ติ มรณปฏิคฺคหเณ ทุกฺกฏาปตฺติ เนว สิยา, เอวํ อโนฬาริกวิสเยปิ ตาว ทุกฺกฏํ, กิมงฺคํ ปน มรณปฏิคฺคหเณติ ทสฺสนตฺถํ สฺจริตฺตปฏิคฺคหณาทิ นิทสฺสิตํ. ‘‘อโห วต อิตฺถนฺนาโม หโต อสฺสา’’ติ เอวํ มรณาภินนฺทนทสฺสนตฺถํ สฺจริตฺตปฏิคฺคหณาทิภินนฺทเน ทุกฺกเฏ สติ ปเคว ‘‘อหํ ตํ มาเรสฺสามี’’ติ มรณปฏิคฺคหเณติ อธิปฺปาโย. ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺเสเวตํ ทุกฺกฏนฺติ อวธารเณน สงฺฆรกฺขิตสฺส ปฏิคฺคหณปจฺจยา มูลฏฺสฺส นตฺเถว อาปตฺตีติ ทสฺเสติ, วิสงฺเกตตฺตา ปมํ อาณตฺตทุกฺกฏเมวสฺส โหติ. เกจิ ปน ‘‘มูลฏฺสฺสาปิ ทุกฺกฏเมวา’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ เอเกน ปโยเคน ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏานํ อสมฺภวา. ปุริมนเยติ สมนนฺตราตีเต อวิสกฺกิยทูตนิทฺเทเส. เอตนฺติ ทุกฺกฏํ. โอกาสาภาเวนาติ มูลฏฺสฺส ถุลฺลจฺจยสฺส วุจฺจมานตฺตา ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏํ น วุตฺตํ โอกาสาภาเวน, น ปน อาปตฺติอภาวโตติ อธิปฺปาโย.
๑๗๕. สยํ สงฺฆตฺเถรตฺตา ‘‘อุปฏฺานกาเล’’ติ วุตฺตํ. วาจาย วาจาย ทุกฺกฏนฺติ ‘‘โย โกจิ มม วจนํ สุตฺวา อิมํ มาเรตู’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน อวตฺวา เกวลํ มรณาภินนฺทนวเสเนว วุตฺตตฺตา โจราปิ นาม ตํ น หนนฺตีติอาทิวาจายปิ ทุกฺกฏเมว วุตฺตํ. ทฺวินฺนํ อุทฺทิสฺสาติ ทฺเว อุทฺทิสฺส, ทฺวินฺนํ วา มรณํ อุทฺทิสฺส. อุโภ อุทฺทิสฺส มรณํ สํวณฺเณนฺตสฺส ปโยคสมุฏฺาปิกาย เจตนาย เอกตฺเตปิ ‘‘ทฺเว ปาณาติปาตา’’ติ วตฺตพฺพตาสงฺขาตํ พลวภาวํ อาปชฺชิตฺวา ปฏิสนฺธิปวตฺตีสุ มหาวิปากตฺตา ‘‘อกุสลราสี’’ติ วุตฺตํ, พหู อุทฺทิสฺส มรณสํวณฺณเนปิ ¶ เอเสว นโย. ตตฺตกา ปาณาติปาตาติ ยตฺตกา สํวณฺณนํ สุตฺวา มริสฺสนฺติ, ตตฺตกานมฺปิ วตฺตมานํ อนาคตฺจ ชีวิตินฺทฺริยํ สพฺพํ อาลมฺพิตฺวาว เจตนาย ปวตฺตนโต ¶ ตตฺตกา ปาณาติปาตา โหนฺติ, ตตฺตกาหิ เจตนาหิ ทาตพฺพํ ปวตฺติวิปากํ เอกาว สา เจตนา ทาตุํ สกฺโกตีติ อตฺโถ, ปฏิสนฺธิวิปากํ ปน สยฺจ ปุพฺพาปรเจตนา จ เอเกกเมว ทาตุํ สกฺโกตีติ คเหตพฺพํ.
๑๗๖. เยสํ หตฺถโตติ เยสํ าตกปวาริตาทีนํ หตฺถโต, อิทฺจ ภิกฺขุโน รูปิยมูลสฺส อภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ, อตฺตโนว ธนฺเจ, สยเมว มูลํ คเหตฺวา มฺุจติ, มูลํ ปน อคฺคเหตฺวาปิ โปตฺถกสฺส โปตฺถกสามิโน สนฺตกตฺตาปาทนเมเวตฺถ ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ. เลขาทสฺสนโกตูหลกาติ สุนฺทรกฺขรํ ทิสฺวา วา ‘‘กีทิสํ นุ โข โปตฺถก’’นฺติ วา โอโลเกตุกามา.
ปาณาติปาตสฺส ปโยคตฺตาติ สรีรโต ปาณวิโยชนสฺส นิฏฺาปกปโยคตฺตา. โอปาตขณนตฺถํ ปน กุทาลาทิอตฺถาย อโยพีชสมุฏฺาปนตฺถํ อกปฺปิยปถวึ วา กุทาลทณฺฑาทีนํ อตฺถาย ภูตคามํ วิโกเปนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว. ปาณาติปาตปโยคตฺตาภาวา อทินฺนาทานปุพฺพปยโอเค วิย ทุติยปริเยสนาทีสุปิ เอตฺถ ทุกฺกฏฏฺาเน ทุกฺกฏํ, มุสาวาทาทิปาจิตฺติยฏฺาเน ปาจิตฺติยเมวาติ คเหตพฺพํ. ปมาเณติ อตฺตนา สลฺลกฺขิเต ปมาเณ. ตจฺเฉตฺวาติ อุนฺนตปฺปเทสํ ตจฺเฉตฺวา. ปํสุปจฺฉินฺติ สพฺพนฺติมํ ปํสุปจฺฉึ. เอตฺตกํ อลนฺติ นิฏฺาเปตุกามตาย สพฺพนฺติมปยโอคสาธิกา เจตนา สนฺนิฏฺาปกเจตนา, มหาอฏฺกถายํ ‘‘เอกสฺมึ ทิวเส อวูปสนฺเตเนว ปโยเคน ขณิตฺวา นิฏฺาเปนฺตํ สนฺธาย สพฺพนฺติมา สนฺนิฏฺาปกเจตนา วุตฺตา, อิตราสุ ปน อฏฺกถาสุ ‘‘อิมสฺมึ ปติตฺวา มรนฺตู’’ติ อธิปฺปาเยน เอกสฺมึ ทิวเส กิฺจิ ขณิตฺวา อปรสฺมิมฺปิ ทิวเส ตโต กิฺจิ กิฺจิ ขณิตฺวา นิฏฺาเปนฺตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เอวํ อฏฺกถานํ อฺมฺวิโรโธ าตพฺโพ. อตฺตโน ธมฺมตายาติ อชานิตฺวา, ปกฺขลิตฺวา วา. อรหนฺตาปิ สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ อฺเหิ ปาติยมานานํ อมริตุกามานมฺปิ อรหนฺตานํ มรณํ สมฺภวตีติ วุตฺตํ. ปุริมนเยติ ‘‘มริตุกามา อิธ มริสฺสนฺตี’’ติ วุตฺตนเย. วิสงฺเกโตติ มริตุกามานํ มาเรตุกามานฺจ อุทฺทิสฺส ขตตฺตา อมริตุกามานํ มรเณ กมฺมพทฺโธ นตฺถีติ อตฺโถ.
ตตฺถ ¶ ปติตํ พหิ นีหริตฺวาติ อิทํ ตตฺถ ปตนปจฺจยา มรณสฺส ปวตฺตตฺตา วุตฺตํ. อาวาเฏ ปติตฺวา โถกํ จิรายิตฺวา คจฺฉนฺตํ คเหตฺวา มาริเต ตตฺถ ปติตโรเคน ปีฬิตสฺส คจฺฉโต ¶ ปกฺขลิตฺวา ปาสาณาทีสุ ปตเนนาปิ มรเณปิ โอปาตขณโก น มุจฺจตีติ เวทิตพฺพํ. อมริตุกามา วาติ อธิปฺปายสฺส สมฺภวโต โอปปาติเก อุตฺตริตุํ อสกฺกุณิตฺวา มเตปิ ปาราชิกํ วุตฺตํ. ‘‘นิพฺพตฺติตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา ปตนํ น ทิสฺสตีติ เจ? ตตฺถสฺส นิพฺพตฺติเยว ปตนนฺติ นตฺถิ วิโรโธ. ยสฺมา มาตุยา ปติตฺวา ปริวตฺติตลิงฺคาย มตาย โส มาตุฆาตโก โหติ, น เกวลํ มนุสฺสปุริสฆาตโก, ตสฺมา ปติตสฺเสว วเสน อาปตฺตีติ อธิปฺปาเยน ‘‘ปตนรูปํ ปมาณ’’นฺติ วุตฺตํ, อิทํ ปน อการณํ ‘‘ลิงฺเค ปริวตฺเตปิ เอกสนฺตานตฺตสฺส อวิคตตฺตา. มนุสฺสภูตํ มาตรํ วา ปิตรํ วา อปิ ปริวตฺตลิงฺคํ ชีวิตา โวโรเปนฺตสฺส กมฺมํ อานนฺตริย’’นฺติ หิ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. เยน ปน สภาเวน สตฺตา ชายนฺติ, เตเนว มรนฺติ, โสว เตสํ รูปนฺตรคฺคหเณปิ สภาโวติ ‘‘มรณรูปเมว ปมาณํ, ตสฺมา ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺโต. ปจฺฉิโม วาโท ปมาณํ, เอวํ สนฺเต ปาฬิยํ ‘‘ยกฺโข วา เปโต วา ติรจฺฉานคตมนุสฺสวิคฺคโห วา ตสฺมึ ปตติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ปติเต ทุกฺขา เวทนา อุปฺปชฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. มรติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ เจ? นายํ โทโส. ‘‘ยกฺโข วา เปโต วา’’ติ หิ ปมํ สกรูปํ ทสฺเสตฺวา รูปนฺตรํ คเหตฺวาปิ ิเตเยว ยกฺขเปเต ทสฺเสตุํ ‘‘ติรจฺฉานคตมนุสฺสวิคฺคโห วา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา ติรจฺฉานคตวิคฺคโห มนุสฺสวิคฺคโห วา ยกฺโข วา เปโต วาติ เอวเมตฺถ โยชนา กาตพฺพา. เกจิ ปน ‘‘มนุสฺสวิคฺคเหน ิตติรจฺฉานคตานํ อาเวณิกํ กตฺวา ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ วิย ทิสฺสตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ ติรจฺฉาโน วา มนุสฺสวิคฺคโหติ วตฺตพฺพโต, อฏฺกถาสุ จ อิมสฺส วิเสสสฺส อวุตฺตตฺตา. ยกฺขเปตรูเปน มเตปิ เอเสว นโยติ อิมินา มรณรูปสฺเสว ปมาณตฺตา ถุลฺลจฺจยํ อติทิสติ.
มุธาติ อมูเลน. โส นิทฺโทโสติ เตน ตตฺถ กตปโยคสฺส อภาวโต, ยทิ ปน โสปิ ตตฺถ กิฺจิ กโรติ, น มุจฺจติ เอวาติ ทสฺเสนฺโต เอวํ ปติตาติอาทิมาห. ตตฺถ เอวนฺติ เอวํ มยา กเตติ อตฺโถ ¶ . น นสฺสิสฺสนฺตีติ อทสฺสนํ น คมิสฺสนฺติ, น ปลายิสฺสนฺตีติ อธิปฺปาโย. สุอุทฺธรา วา ภวิสฺสนฺตีติ อิทํ คมฺภีรสฺส โอปาตสฺส ปูรเณ ปโยชนทสฺสนํ. อุตฺตาเน กเต โอปาเต สีฆํ อมฺเหหิ คเหตฺวา มาเรตุํ สุอุทฺธรา ภวิสฺสนฺตีติ อธิปฺปาโย. วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเนติ มูลฏฺํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยทิ ปน ปจฺฉิโมปิ ลภิตฺวา ตตฺถ วุตฺตปฺปการํ กิฺจิ กตฺวา ปุน วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน เอวํ กโรติ, ตสฺสาปิ เอเสว นโย. ชาตปถวี ชาตาติ อีทิเส ปุน อฺเน โอปาเต ขเต ตทา มุจฺจตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, ชาตปถวีสทิสํ กตฺวา ปุน สุฏฺุ โกฏฺเฏตฺวา ทฬฺหตรํ ปูริเตปิ มุจฺจติเยวาติ คเหตพฺพํ.
ถทฺธตรนฺติ ¶ ถิรกรณตฺถํ อปราปราย ปาสยฏฺิยา สทฺธึ พนฺธิตฺวา วา ตเมว วา สิถิลภูตปาสํ ถทฺธตรํ พนฺธิตฺวา เปติ. ขาณุกนฺติ ปาสยฏฺิพนฺธนขาณุกํ. ตตฺถชาตกยฏฺึ ฉินฺทิตฺวา มุจฺจตีติ อิทํ อรฺเ ยถาิตเมว ทณฺฑํ มูเล อจฺฉินฺทิตฺวา ปาสพนฺธนโยคฺคํ กตฺวา ปิตตฺตา ตตฺถ อฺโปิ โกจิ ปาสํ พนฺเธยฺย, มูลฏฺโ น มุจฺจติ, ตํ ปน มูเลปิ ฉินฺทิตฺวา ขณฺฑาขณฺฑํ กตฺวา มุจฺจตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. รชฺชุเกติ วาเกหิ เอกวารํ วฏฺฏิตรชฺชุเก. สยํ วฏฺฏิตนฺติ ตนุกวฏฺฏิตํ ทิคุณติคุณตาปาทเนน อตฺตนา วฏฺฏิตํ. อุพฺพฏฺเฏตฺวาติ ปากติกํ กตฺวา. โคเปนฺโตปีติ หีรํ หีรํ กตฺวา โคเปนฺโตปิ.
๑๗๗. อาลมฺพนรุกฺโข วาติ ตตฺถชาตกํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตทตฺถเมว กตฺวาติ มารณตฺถเมว อโยพีชสมุฏฺาปนาทินา วาสิอาทึ สตฺถํ กาเรตฺวา. ปากติกนฺติ อฺเหิ กตํ ปกติสตฺถเมว ลภิตฺวา มูลฏฺเน ปิตํ โหตีติ อตฺโถ. มุจฺจตีติ มูลฏฺโ มุจฺจติ. วิสมณฺฑลนฺติ มฺจปีาทีสุ อาลิตฺตํ วิสมณฺฑลํ.
วตฺวา อสึ อุปนิกฺขิปตีติ เอตฺถ มุเขน อวตฺวา มนสาว จินฺเตตฺวา อุปนิกฺขิปเนปิ เอเสว นโย. ปุริมนเยนาติ เยสํ หตฺถโต มูลํ คหิตนฺติอาทินา. วิสภาคโรโค นาม กุฏฺาทิวิรูปภาวโต, คณฺฑปีฬกาทิ วา ชีวิตปฺปวตฺติยา ปจฺจนีกตฺตา.
๑๗๘. มนาปิเยปิ เอเสว นโยติ เอเตน มนาปิยํ รูปํ อุปสํหรตีติ เอตฺถ ยํ วา มนาปรูปํ, ตสฺส สมีเป เปติ, อตฺตนา วา มนาปิเยน รูเปน ¶ สมนฺนาคโต ติฏฺตีติอาทิ โยเชตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. อลงฺกริตฺวา อุปสํหรตีติ ‘‘อลาภเกน สุสฺสิตฺวา มรตู’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน อุปสํหรติ, เตเนว ‘‘สเจ อุตฺตสิตฺวา มรติ, วิสงฺเกโต’’ติ วุตฺตํ. อลาภเกน สุสฺสิตฺวา มรตีติ เอตฺถ ปาราชิโกติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ. มหากจฺฉุ นาม วลฺลิผลวิเสโส, ยสฺส มชฺชารปาทสฺเสว สณฺานํ ทุกฺขสมฺผสฺสานิ สุขุมโลมานิ จ โหนฺติ. หํสปุปฺผนฺติ หํสาทีนํ ปกฺขโลมํ สนฺธาย วทนฺติ. อตฺตโน ธมฺมตาย มรติ, อนาปตฺตีติ ปาราชิกํ สนฺธาย วุตฺตํ ทุกฺกฏา น มุจฺจนโต.
๑๗๙. อสฺจิจฺจาติ อิทํ มรณสํวตฺตนิกอุปกฺกมสฺส อสลฺลกฺขณํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อาห อิมินา อุปกฺกเมนาติอาทิ. อชานนฺตสฺสาติ อิทํ ปน มรณสํวตฺตนิกวิสาทิอุปกฺกมกรณสฺส อชานนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อาห อิมินา อยํ มริสฺสตีติอาทิ. น มรณาธิปฺปายสฺสาติ อิทํ ทุกฺขุปฺปาทกํ อุปกฺกมนฺติ ชานนฺตสฺสาปิ มรณาธิปฺปายสฺส อภาวํ สนฺธาย ¶ วุตฺตนฺติ อาห มรณํ อนิจฺฉนฺตสฺสาติอาทิ. อนุปฺปพนฺธาภาวาติ โทมนสฺสวีถีนํ นิรนฺตรปฺปวตฺติอภาวา.
ปทภาชนียวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
วินีตวตฺถุวณฺณนา
๑๘๐. โวหารวเสนาติ ปุพฺพภาคโวหารวเสน, มรณาธิปฺปายสฺส สนฺนิฏฺาปกเจตนากฺขเณ กรุณาย อภาวโต การฺุเน ปาเส พทฺธสูกรโมจนํ (ปารา. ๑๕๓) วิย น โหตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ยถายุนา’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ ‘‘ยถานุสนฺธินา’’ติ ปริยายนฺตเรน วุตฺตํ. เหฏฺา กิสฺมิฺจิ วิชฺชมาเน สาฏกํ วลึ คณฺหาตีติ อาห ‘‘ยสฺมึ วลิ น ปฺายตี’’ติ. ปฏิเวกฺขณฺเจตํ คิหีนํ สนฺตเก เอวาติ ทฏฺพฺพํ. ปาฬิยํ มุสเล อุสฺสิเตติ อฺมฺํ อุปตฺถมฺเภตฺวา ทฺวีสุ มุสเลสุ ภิตฺตึ อปสฺสาย ปิเตสูติ อตฺโถ. อุทุกฺขลภณฺฑิกนฺติ อุทุกฺขลตฺถาย อานีตํ ทารุภณฺฑํ. ปริพนฺธนฺติ โภชนปริพนฺธํ, โภชนนฺตรายนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๑๘๑. อคฺคการิกนฺติ ¶ เอตฺถ การิก-สทฺทสฺส ภาววจนตฺตา ‘‘อคฺคกิริย’’นฺติ อตฺถํ วตฺวาปิ ยสฺมา กิริยํ ทาตุํ น สกฺกา, ตสฺมา ทานสงฺขาตาย อคฺคกิริยาย ยุตฺตปิณฺฑปาตเมว อิธ อุปจารยุตฺติยา อคฺคกิริยาติ คเหตพฺพนฺติ อาห ปมํ ลทฺธปิณฺฑปาตนฺติอาทิ.
๑๘๒-๓. ทณฺฑมุคฺครนิขาทนเวมาทีนํ วเสนาติ เอตฺถ ทณฺโฑ นาม ทีฆทณฺโฑ. มุคฺคโร นาม รสฺโส. เวมํ นาม ตนฺตวายานํ วตฺถวายนอุปกรณํ, เยน วีตํ ตนฺตํ ฆฏฺเฏนฺติ. วิภตฺติพฺยตฺตเยนาติ วิภตฺติวิปริณาเมน. วิเสสาธิคโมติ สมาธิ วิปสฺสนา จ. วิเสสาธิคมนฺติ โลกุตฺตรธมฺมปฏิลาภํ. พฺยากริตฺวาติ อาโรเจตฺวา, อิทฺจ วิเสสสฺส อธิคตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อธิคตวิเสสา หิ ทิฏฺานุคติอาปชฺชนตฺถํ ลชฺชีภิกฺขูนํ อวสฺสํ อธิคมํ พฺยากโรนฺติ, อธิคตวิเสเสน ปน อพฺยากริตฺวาปิ อาหารํ อุปจฺฉินฺทิตุํ น วฏฺฏติ, อธิคมนฺตรายวิโนทนตฺถเมว อาหารูปจฺเฉทสฺส อนฺุาตตฺตา ตทธิคเม โส น กาตพฺโพว. กึ ปนาธิคมํ อาโรเจตุํ วฏฺฏตีติ อาห สภาคานนฺติอาทิ. ภณฺฑกํ วา โธวนฺตาติ จีวรํ วา โธวนฺตา. โธวนทณฺฑกนฺติ จีวรโธวนทณฺฑํ.
๑๘๕. มทฺทาเปตฺวา ปาเตติ, วิสงฺเกโตติ ยถาณตฺติยา อกตตฺตา วุตฺตํ, ยทิ ปน อาณาปโก ¶ มทฺทนมฺปิ มทฺทาปนมฺปิ สนฺธาย โวหารวเสน ‘‘มทฺทิตฺวา ปาเตหี’’ติ วทติ, วิสงฺเกโต นตฺถีติ เวทิตพฺพํ. ‘‘มรณวณฺณํ วา สํวณฺเณยฺยา’’ติ (ปารา. ๑๗๑) วุตฺตตฺตา อาห ‘‘ปริยาโย นาม นตฺถี’’ติ, ปริยาเยน อาปตฺติโมกฺโข น โหตีติ อธิปฺปาโย. อวิชายนตฺถาย คพฺภคฺคหณโต ปุเรตรเมว เภสชฺชํ เทนฺตสฺส กุจฺฉิยํ อุปฺปชฺชิตฺวา คพฺโภ วินสฺสตีติ อิมินา อธิปฺปาเยน ทินฺเน ตถามรนฺตานํ วเสน กมฺมพทฺโธ, กุจฺฉิยํ น อุปฺปชฺชิสฺสตีติ อิมินา อธิปฺปาเยน ทินฺเน อุปฺปชฺชิตฺวา มรตุ วา มา วา, เนวตฺถิ กมฺมพทฺโธ.
สหธมฺมิกานนฺติ เอกสฺส สตฺถุ สาสเน สหสิกฺขมานธมฺมานํ, สหธมฺเม วา สิกฺขาปเท สิกฺขนภาเวน นิยุตฺตานํ. สมสีลสทฺธานนฺติอาทินา ทุสฺสีลานํ ภินฺนลทฺธิกานฺจ อกาตุมฺปิ ลพฺภตีติ ทสฺเสติ. าตกปวาริตฏฺานโตติ ¶ อตฺตโน เตสํ วา าตกปวาริตฏฺานโต. อริเยหิ อกตา อยุตฺตวเสน อกตปุพฺพา วิฺตฺติ อกตวิฺตฺติ.
ปฏิยาทิยตีติ สมฺปาทิยติ. อกาตุํ น วฏฺฏตีติ เอตฺถ ทุกฺกฏํ วทนฺติ, อยุตฺตตาวเสเนว ปเนตฺถ อกรณปฏิกฺเขโป ยุตฺโต, น อาปตฺติวเสนาติ คเหตพฺพํ. ยาว าตกา ปสฺสนฺตีติ ยาว ตสฺส าตกา ปสฺสนฺติ.
ปิตุภคินี ปิตุจฺฉา. มาตุภาตา มาตุโล. นปฺปโหนฺตีติ กาตุํ น สกฺโกนฺติ. น ยาจนฺตีติ ลชฺชาย น ยาจนฺติ. ‘‘อาโภคํ กตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา อฺถา เทนฺตสฺส อาปตฺติเยว. เกจิ ปน ‘‘อาโภคํ อกตฺวาปิ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ เภสชฺชกรณสฺส ปาฬิยํ ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ ปาราชิกสฺส, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๘๗) เอวํ อนฺตราปตฺติทสฺสนวเสน สามฺโต ปฏิกฺขิตฺตตฺตา, อฏฺกถายํ อวุตฺตปฺปกาเรน กโรนฺตสฺส สุตฺเตเนว อาปตฺติ สิทฺธาติ ทฏฺพฺพา, เตเนว อฏฺกถายมฺปิ ‘‘เตสฺเว สนฺตก’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อฺเสนฺติ อสาโลหิตานํ, เตนาห เอเตสํ ปุตฺตปรมฺปรายาติอาทิ. กุลปริวฏฺโฏติ กุลสฺมึ าติปรมฺปรา. เภสชฺชํ กโรนฺตสฺสาติ ยถาวุตฺตวิธินา กโรนฺตสฺส, ‘‘ตาวกาลิกํ ทสฺสามี’’ติ อาโภคํ อกตฺวา เทนฺตสฺสาปิ ปน อนฺตราปตฺติ ทุกฺกฏํ วินา มิจฺฉาชีวํ วา กุลทูสนํ วา น โหติเยว, เตนาห – ‘‘เวชฺชกมฺมํ วา กุลทูสกาปตฺติ วา น โหตี’’ติ. าตกานฺหิ สนฺตกํ ยาจิตฺวาปิ คเหตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ตตฺถ กุลทูสนาทิ น สิยา. สพฺพปเทสูติ ‘‘จูฬมาตุยา’’ติอาทีสุ สพฺพปเทสุ.
อุปชฺฌายสฺส ¶ อาหรามาติ อิทํ อุปชฺฌาเยน ‘‘มม าตกานํ เภสชฺชํ อาหรถา’’ติ อาณตฺเตหิ กตฺตพฺพวิธิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, อิมินา จ สามเณราทีนํ อปจฺจาสายปิ ปรชนสฺส เภสชฺชกรณํ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. วุตฺตนเยน ปริเยสิตฺวาติ อิมินา ‘‘ภิกฺขาจารวตฺเตน วา’’ติ อิมินา, ‘‘าติสามเณเรหี’’ติ อิมินา จ วุตฺตมตฺถํ อติทิสติ. อปจฺจาสีสนฺเตนาติ อาคนฺตุกโจราทีนํ กโรนฺเตนาปิ ‘‘มนุสฺสา นาม อุปการกา โหนฺตี’’ติ อตฺตโน เตหิ ลาภํ อปตฺถยนฺเตน. ปจฺจาสาย กโรนฺตสฺส ปน เวชฺชกมฺมกุลทูสนาทิโทโส โหตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘เอวํ อุปกาเร กเต สาสนคุณํ ¶ ตฺวา ปสีทนฺติ, สงฺฆสฺส วา อุปการกา โหนฺตี’’ติ กรเณ ปน โทโส นตฺถิ. เกจิ ปน ‘‘อปจฺจาสีสนฺเตน อาคนฺตุกาทีนํ ปฏิกฺขิตฺตปุคฺคลาทีนมฺปิ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ กตฺตพฺพากตฺตพฺพฏฺานวิภาคสฺสนิรตฺถกตฺตปฺปสงฺคโต ‘‘อปจฺจาสีสนฺเตน สพฺเพสํ ทาตุํ กาตฺุจ วฏฺฏตี’’ติ เอตฺตกมตฺตสฺเสว วตฺตพฺพโต. อปจฺจาสีสนฺจ มิจฺฉาชีวกุลทูสนาทิโทสนิเสธนตฺถเมว วุตฺตํ เภสชฺชกรณสงฺขตาย อิมิสฺสา อนฺตราปตฺติยา มุจฺจนตฺถํ อาคนฺตุกโจราทีนํ อนฺุาตานํ ทาเนเนว ตาย อาปตฺติยา มุจฺจนโตติ คเหตพฺพํ. เตเนว อปจฺจาสีสนฺเตนาปิ อกาตพฺพฏฺานํ ทสฺเสตุํ สทฺธํ กุลนฺติอาทิ วุตฺตํ. ปุจฺฉนฺตีติ อิมินา ทิฏฺทิฏฺโรคีนํ ปริยาเยนาปิ วตฺวา วิจรณํ อยุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. ปุจฺฉิตสฺสาปิ ปน ปจฺจาสีสนฺตสฺส ปริยายกถาปิ น วฏฺฏตีติ วทนฺติ.
สมุลฺลเปสีติ อปจฺจาสีสนฺโต เอวํ อฺมฺํ กถํ สมุฏฺาเปสิ. อาจริยภาโคติ วินยาจารํ อโกเปตฺวา เภสชฺชาจิกฺขเณน เวชฺชาจริยภาโคติ อตฺโถ. ปุปฺผปูชนตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิยมานํ รูปิยํ อตฺตโน สนฺตกตฺตภชเนน นิสฺสคฺคิยเมวาติ อาห ‘‘กปฺปิยวเสน คาหาเปตฺวา’’ติ, ‘‘อมฺหากํ รูปิยํ น วฏฺฏติ, ปุปฺผปูชนตฺถํ ปุปฺผํ วฏฺฏตี’’ติอาทินา ปฏิกฺขิปิตฺวา กปฺปิเยน กมฺเมน คาหาเปตฺวาติ อตฺโถ.
ยทิ ‘‘ปริตฺตํ กโรถา’’ติ วุตฺเต กโรนฺติ, เภสชฺชกรณํ วิย คิหิกมฺมํ วิย โหตีติ ‘‘น กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘ปริตฺตํ ภณถา’’ติ วุตฺเต ปน ธมฺมชฺเฌสนตฺตา อนชฺฌิฏฺเนปิ ภณิตพฺโพ ธมฺโม, ปเคว อชฺฌิฏฺเนาปีติ ‘‘กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. จาเลตฺวา สุตฺตํ ปริมชฺชิตฺวาติ อิทํ ‘‘ปริตฺตาณํ เอตฺถ ปเวเสมี’’ติ จิตฺเตน เอวํ กเต ปริตฺตาณา ตตฺถ ปเวสิตา นาม โหตีติ วุตฺตํ. วิหารโต…เป… ทุกฺกฏนฺติ อิทํ อฺาตกคหฏฺเ สนฺธาย วุตฺตนฺติ วทนฺติ. ปาเทสุ อุทกํ อากิริตฺวาติ อิทํ ตสฺมึ เทเส จาริตฺตวเสน วุตฺตํ. วุตฺตฺหิ ‘‘ตตฺถ ปาฬิยา นิสินฺนานํ ภิกฺขูนํ ปาเทสุ โรควูปสมนาทิอตฺถาย อุทกํ สิฺจิตฺวา ปริตฺตํ กาตุํ สุตฺตฺจ เปตฺวา ‘ปริตฺตํ ¶ ภณถา’ติ วตฺวา คจฺฉนฺติ. เอวฺหิ กริยมาเน ยทิ ปาเท อปเนนฺติ, มนุสฺสา ตํ อวมงฺคลนฺติ มฺนฺติ, โรโค วา น วูปสมิสฺสตี’’ติ. เตนาห ‘‘น ปาทา อปเนตพฺพา’’ติ. มตสรีรทสฺสเน วิย เกวลํ สุสานทสฺสเนปิ ‘‘อิทํ ชาตานํ สตฺตานํ ขยคมนฏฺาน’’นฺติ มรณสฺา อุปฺปชฺชตีติ ¶ อาห ‘‘สีวถิกทสฺสเน…เป… ‘มรณสฺสตึ ปฏิลภิสฺสามา’ติ กมฺมฏฺานสีเสน คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ. เลสกปฺปํ อกตฺวา สมุปฺปนฺนสุทฺธจิตฺเตน ‘‘ปริวารตฺถาย อาคจฺฉนฺตู’’ติ วุตฺเตปิ คนฺตุํ วฏฺฏติ.
อนามฏฺปิณฺฑปาโตติ อคฺคหิตอคฺโค, อปริภุตฺโตติ อตฺโถ. กหาปณคฺฆนโก โหตีติ อิมินา ทายเกหิ พหุพฺยฺชเนน สมฺปาเทตฺวา สกฺกจฺจํ ทินฺนภาวํ ทีเปติ. ถาลเกติ สงฺฆิเก กํสาทิมเย ถาลเก, ปตฺโตปิ เอตฺถ สงฺคยฺหติ. น วฏฺฏตีติ อิมินา ทุกฺกฏนฺติ ทสฺเสติ. ทามริกโจรสฺสาติ รชฺชํ ปตฺเถนฺตสฺส ปากฏโจรสฺส. อทียมาเนปิ ‘‘น เทนฺตี’’ติ กุชฺฌนฺตีติ สมฺพนฺโธ. อามิสสฺส ธมฺมสฺส จ อลาเภน อตฺตโน ปรสฺส จ อนฺตเร สมฺภวนฺตสฺส ฉิทฺทสฺส จ วิวรสฺส ปฏิสนฺถรณํ ปิทหนํ ปฏิสนฺถาโร, โส ปน ธมฺมามิสวเสน ทุวิโธ. ตตฺถ อามิสปฏิสนฺถารํ สนฺธาย ‘‘กสฺส กาตพฺโพ, กสฺส น กาตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อาคนฺตุกสฺส วา…เป… กตฺตพฺโพ เยวา’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ ปากฏํ กาตุํ อาคนฺตุกํ ตาวาติอาทิมาห. ขีณปริพฺพยนฺติ อิมินา อคติภาวํ การฺุภาชนตฺจ ทสฺเสติ, เตน จ ตพฺพิธุรานํ สมิทฺธานํ ทายกาทีนํ อาคนฺตุกตฺเตปิ ทาตุํ น วฏฺฏตีติ สิทฺธํ โหติ. ตณฺฑุลาทิมฺหิ ทาตพฺเพ สติ ‘‘อเวลายํ…เป… น วตฺตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อปจฺจาสีสนฺเตนา’’ติ วตฺวา ปจฺจาสีสนปฺปการํ ทสฺเสตุํ มนุสฺสา นามาติอาทิ วุตฺตํ. อนนฺุาตานํ ปน อปจฺจาสีสนฺเตนาปิ ทาตุํ น วฏฺฏติ สทฺธาเทยฺยวินิปาตตฺตา, ปจฺจาสีสาย ปน สติ กุลทูสนมฺปิ โหติ.
อุพฺพาเสตฺวาติ สมนฺตโต ติโยชนํ วิลุมฺปนฺเต มนุสฺเส ปลาเปตฺวา. วรโปตฺถกจิตฺตตฺถรณนฺติ อเนกปฺปการอิตฺถิปุริสาทิอุตฺตมรูปวิจิตฺตํ อตฺถรณํ.
๑๘๗. สตฺตรสวคฺคิเยสุ ปุพฺเพ เอกสฺส องฺคุลิปโตทเกน มาริตตฺตา เสเสสุ โสฬสชเนสุ อุทรํ อารุหิตฺวา นิสินฺนเมกํ เปตฺวา ‘‘เสสาปิ ปนฺนรส ชนา’’ติ วุตฺตํ. อทูหลปาสาณา วิยาติ อทูหเล อาโรปิตปาสาณา วิย. กมฺมาธิปฺปายาติ ตชฺชนียาทิกมฺมกรณาธิปฺปายา.
อาวาเหตฺวาติ ¶ ¶ อาวิสาเปตฺวา. รูปํ กตฺวา หตฺถปาทาทีนิ ฉินฺทนฺตีติ ตสฺมึ ปิฏฺาทิมเย รูเป อมนุสฺสํ อาวาเหตฺวา ตสฺส หตฺถปาทาทีนิ ฉินฺทนฺติ. สกฺกํ เทวราชานํ มาเรยฺยาติ อิทํ สมฺภาวนวเสน วุตฺตํ. น หิ ตาทิสา มหานุภาวา ยกฺขา สตฺถฆาตารหา โหนฺติ เทวาสุรยุทฺเธปิ เตสํ สตฺถปฺปหาเรน มรณาภาวา.
๑๘๘. ปหาโร น ทาตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. อมนุสฺสํ โกธจิตฺเตน ปหรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. จิกิจฺฉาธิปฺปาเยน ปหรนฺตสฺส อนาจาโรติ คเหตพฺโพ. ตาลปณฺณํ…เป… พนฺธิตพฺพนฺติ อมนุสฺสา ตาลปณฺณพนฺธเนน ปลายนฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ, อิทฺจ คิหีนํ เวชฺชกมฺมวเสน กาตุํ น วฏฺฏติ.
๑๘๙. โย รุกฺเขน โอตฺถโตปิ น มรตีติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ภูตคามสิกฺขาปทฏฺกถายํ สยเมว วกฺขติ, ตํ ตตฺเถว คเหตพฺพํ.
๑๙๐. ทพฺพูปกรณานีติ เกหิจิ ฉินฺทิตฺวา ปิตานิ สปริคฺคหิตานิ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ หิ านาจาวนาภาเวน วินาสาธิปฺปายสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. ขิฑฺฑาธิปฺปาเยนาปิ ทุกฺกฏนฺติ สุกฺขติณาทีสุ อคฺคิกรณํ สนฺธาย วุตฺตํ, อลฺเลสุ ปน กีฬาธิปฺปาเยนปิ กโรนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว. ปฏิปกฺขภูโต, ปฏิมุขํ คจฺฉนฺโต วา อคฺคิ ปฏคฺคิ, ตสฺส อลฺลติณาทีสุปิ ทานํ อนฺุาตํ, ตํ เทนฺเตน ทูรโต อาคจฺฉนฺตํ ทาวคฺคึ ทิสฺวา วิหารสฺส สมนฺตโต เอกกฺขเณ อทตฺวา เอกเทสโต ปฏฺาย วิหารสฺส สมนฺตโต สณิกํ ฌาเปตฺวา ยถา มหนฺโตปิ อคฺคิ วิหารํ ปาปุณิตุํ น สกฺโกติ, เอวํ วิหารสฺส สมนฺตา อพฺโภกาสํ กตฺวา ปฏคฺคิ ทาตพฺโพ, โส ทาวคฺคิโน ปฏิปถํ คนฺตฺวา เอกโต หุตฺวา เตน สห นิพฺพาติ. ปริตฺตกรณนฺติ สมนฺตา รุกฺขติณาทิจฺเฉทนปริขาขณนาทิอารกฺขกรณํ, เตนาห ติณกุฏิกานํ สมนฺตา ภูมิตจฺฉนนฺติอาทิ.
๑๙๑. เขตฺตเมว โอติณฺณตฺตา ปาราชิกนฺติ ทฺวีสุ เอกสฺสาปิ อนฺโตคธตฺตา ‘‘ทฺวีหี’’ติ วุตฺตเขตฺเต เอกสฺสาปิ โอติณฺณตฺตา ปาราชิกํ, ‘‘ทฺวีหิ เอว มาเรหิ น เอเกนา’’ติ นิยมิเต ปน เอเกเนว มาริเต นตฺถิ ปาราชิกนฺติ วทนฺติ, เอวํ ทฺเว เอว ปุริสาติอาทีสุปิ. ปุพฺเพ กตสีสจฺเฉทปโยคโต อฺโ ปโยโค ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทโก น อุปลพฺภติ, ปเมน ปโยเคนสฺส ¶ ชีวิตินฺทฺริยํ อุปจฺฉิชฺชตีติ ‘‘สีสจฺเฉทกสฺสา’’ติ วุตฺตํ, ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ ‘‘ชีวิตินฺทฺริยสฺส อวิชฺชมานตฺตา’’ติ การณํ วุตฺตํ, ตํ อการณํ ชีวิตินฺทฺริยสนฺนิสฺสิตจิตฺตสนฺตตึ ¶ วินา อุกฺขิปนสนฺนิรุชฺฌนาทิวสปฺปวตฺตสฺส คมนสฺส อสมฺภวโต. น หิ วายุเวเคน ปณฺณปฏาทโย วิย กาโย คจฺฉติ, น จ อุกฺขิปเน ปวตฺตาว จิตฺตชวิฺตฺติอาทโยว นิกฺขิปนาทิโนปิ เหตุภูตาติ สกฺกา วตฺตุํ วิจฺฉินฺทิตฺวา ปวตฺตนโต. ปุพฺเพ อนาหิตเวคาปิ หิ กาจิ สรีสปชาติ ทฺวิธา ฉินฺนา เฉทนมตฺตา ทฺวีหิ วิภาเคหิ กติปยกฺขณํ ทฺวีสุ ทิสาสุ คจฺฉติ, ตตฺถ จ ยสฺมึ ภาเค หทยวตฺถุ ติฏฺติ, ตตฺรฏฺํ ปฺจทฺวาราวชฺชนจิตฺตํ ทฺวีสุปิ ภาเคสุ กายปฺปสาเท ฆฏฺฏิตํ โผฏฺพฺพํ อาลมฺพิตฺวา อุปฺปชฺชติ, ตโต ตทารมฺมณเมว ยถารหเมกสฺมึ ภาเค เอกทา อฺสฺมึ อฺทาติ เอวํ ปริยาเยน กายวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตโต หทยวตฺถุสฺมึเยว สมฺปฏิจฺฉนาทิวีถิจิตฺตานิ ภวงฺคนฺตริตานิ มโนทฺวารวีถิวิฺาณานิ จ วิฺตฺติชนกานิ อุปฺปชฺชนฺติ, เย หิ อุภยภาคา คจฺฉนฺติ วา จลนฺติ วา ผนฺทนฺติ วา. จิตฺตสฺส ปน ลหุปริวตฺติยา เอกกฺขเณ อุภยภาคาปิ จลนฺตา วิย อุปฏฺหนฺติ, เสยฺยถาปิ นาม กุกฺกุฬาทินรเกสุ นิมุคฺคสกลสรีรสฺส สตฺตสฺส เอกสฺมึ ขเณ สกลสรีเรปิ กายวิฺาณทุกฺขํ อุปฺปชฺชมานํ วิย อุปฏฺาติ, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ, ตโต ปน ยสฺมึ ภาเค ชีวิตินฺทฺริยํ สเสสกมฺมชรูปํ นิรุชฺฌติ, ตตฺถ กายวิฺาณํ นปฺปวตฺตติ, หทยวตฺถุสหิตภาเคเยว ยาว ชีวิตินฺทฺริยนิโรธา ปวตฺตติ.
นนุ นรกาทีสุ เอกาพทฺเธ สรีเร สพฺพตฺถ ปริยาเยน กายวิฺาณสมุปฺปตฺติ ยุตฺตา โหตุ, ทฺวิธา หุตฺวา วิจฺฉินฺเน ปน ภาคทฺวเย กถนฺติ? นายํ โทโส. สรีเร หิ เอกาพทฺธตา นาม ปรมตฺถธมฺมพฺยติริตฺตา กาจิ นตฺถิ ปรวาทีนํ อวยวีอาทิ วิย, กมฺมาทิเอกการณปฺุชายตฺตตาย พหูนํ สหุปฺปตฺติเยว เอกาพทฺธตา. ตตฺถ จ สตฺถปฺปหาราทิวิรุทฺธปจฺจโยปนิปาเตน วิภินฺนานมฺปิ กมฺมาทิเอกการณานํ ปฺุชายตฺตตา น วิคจฺฉติ, ยาว สา น วิคจฺฉติ, ตาว อวิจฺฉินฺนาว ตตฺถ วิฺาณปฺปวตฺติ. วิภินฺนานํ ปน กมฺมชรูปานํ อฺเสฺจ เสสติสนฺตติรูปานฺจ อุปตฺถมฺภนภาเวน จิรํ ปวตฺติตุํ น สกฺโกนฺติ, ยาว จ ธรนฺติ, ตาว วิฺาณปจฺจยา โหนฺติ, วิฺาเณน จ เตสํ ¶ จลนคมนาทิเทสนฺตรุปฺปตฺติ. ตสฺมา กพนฺธสฺสปิ ธาวกฺขเณ สวิฺาณชีวิตินฺทฺริยํ อตฺเถว, ตฺจ สีสจฺเฉทกปฺปโยเคเนว สีฆํ ปตติ, ตโต อฺปฺปโยคสฺส สรีเร วิเสสุปฺปาทนโต ปุเรตรเมว ปเมเนว กิจฺจนิปฺผตฺติโต สีสจฺเฉทกสฺเสว กมฺมพทฺโธติ คเหตพฺโพ. เอวรูปานีติ กพนฺธวตฺถุสทิสานิ. อิมสฺส วตฺถุสฺสาติ อาฆาตนวตฺถุสฺส. อตฺถทีปเนติ เอเกน ปุริเสน ปโยเคน วา มาริตตาสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส ทีปเน.
๑๙๒. ปานปริโภเคน ¶ วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. เอวํ ปน วุตฺตตฺตา ‘‘โลณโสวีรกํ ยามกาลิก’’นฺติ เกจิ วทนฺติ, เกจิ ปน ‘‘คิลานานํ ปากติกเมว, อคิลานานํ ปน อุทกสมฺภินฺน’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘คุฬํ วิย สตฺตาหกาลิก’’นฺติ.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
ตติยปาราชิกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๔. จตุตฺถปาราชิกํ
วคฺคุมุทาตีริยภิกฺขุวตฺถุวณฺณนา
๑๙๓. อธิฏฺเมาติ ¶ สํวิทหาม. อิริยาปถํ สณฺเปตฺวาติ ปธานานุรูปํ กตฺวา. อนาคตสมฺพนฺเธ ปน อสตีติ ภาสิโต ภวิสฺสตีติ ปาเสสํ กตฺวา อนาคตสมฺพนฺเธ อสติ. ภาสิโตติ อตีตวจนํ กถํ อนาคตวจเนน สมฺพนฺธมุปคจฺฉตีติ อาห ลกฺขณํ ปนาติอาทิ. อีทิเส หิ าเน ธาตุสมฺพนฺเธ ปจฺจยาติ อิมินา ลกฺขเณน ธาตฺวตฺถสมฺพนฺเธ สติ อยถากาลวิหิตาปิ ปจฺจยา สาธโว ภวนฺตีติ สทฺทสตฺถวิทู วทนฺติ.
๑๙๔. วณฺณวาติ อิมินา อภินวุปฺปนฺนวณฺณตา วุตฺตา. ปสนฺนมุขวณฺณาติ อิมินา มุขวณฺณสฺส อติปณีตตา วุตฺตา. วิปฺปสนฺนจฺฉวิวณฺณาติ อิมินา ปกติสรีรวณฺณสฺเสว ยถาวุตฺตนเยน วิปฺปสนฺนตา วุตฺตา. ยสฺมา อินฺทฺริยานํ อุปาทารูปตฺตา นิสฺสยวเสเนว ปีณนนฺติ อาห ‘‘อภินิวิฏฺโกาสสฺส ปริปุณฺณตฺตา’’ติ. ปฺจปฺปสาทานํ วิย หทยรูปสฺสาปิ ปริปุณฺณตา วุตฺตาเยวาติ ¶ อาห ‘‘มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยาน’’นฺติ. อุทฺเทสํ ปริปุจฺฉํ อนุยฺุชนฺตา อิมํ สรีรโสภํ เนว ปาปุณึสูติ สมฺพนฺโธ. ยถา ตนฺติ เอตฺถ ตนฺติ นิปาตมตฺตํ. จตุจกฺกนฺติ เอตฺถ ปวตฺตนฏฺเน อิริยาปโถว จกฺกนฺติ วุตฺโต.
๑๙๕. อุปลพฺภนฺตีติ ทิสฺสนฺติ, ายนฺตีติ อตฺโถ. ปจนฺโตติ ปีเฬนฺโต, เคหาทีนิ วา สยํ ฑหนฺโต, อฺเหิ วา ปาเจนฺโต. อุทฺธเตติ อุทฺธจฺจปกติเก. อุนฺนเฬติ อุคฺคตนฬสทิเสน อุคฺคตตุจฺฉมาเนน สหิเต. จปเลติ ปตฺตจีวรมณฺฑนาทินา จาปลฺเลน ยุตฺเต. มุขเรติ ขรวจเน. ปากตินฺทฺริเยติ อสํวุตตฺตา คิหิกาเล วิย ปกติยํ ิตินฺทฺริเย. อิริยาปถสณฺปนาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน ปจฺจยปฏิเสวนสามนฺตชปฺปานํ คหณํ เวทิตพฺพํ. ปรมสลฺเลขวุตฺตีหิ มหาอริยวํเสหิ ภิกฺขูหิ นิวุตฺถเสนาสนานิ โลกสมฺมตเสนาสนานิ นาม. ปริปาเจตุนฺติ วิมฺหาปนวเสน ปริณาเมตุํ. ภิกฺขาจาเร อสมฺปชฺชมาเนติ อิทํ ชนปทจาริกํ ¶ จรนฺตีติ อิมินา สมฺพนฺธิตพฺพํ, น ปน ปาฬึ วาเจนฺโตติอาทีหิ, ตานิ ปน ปทานิ อตฺตโน นิรนฺตรวาสฏฺาเนปิ ชนปเทสุปิ กตฺตพฺพกิจฺจทสฺสนวเสน วุตฺตานิ, ตานิ จ เต วตฺตสีเสน กโรนฺติ, น ลาภนิมิตฺตํ, เตนาห ตนฺตีติอาทิ. กิจฺเฉนาติ อิมสฺเสว เววจนํ กสิเรนาติ. ตทุภยมฺปิ ปารมีปูรณวายามํ สนฺธาย วุตฺตํ. สาธารณปริกฺขารภาเวนาติ สงฺฆิกปริกฺขารภาเวน. ตถาภาวโต เถเนตฺวาติ อวิสฺสชฺชิยอเวภงฺคิยภาวโต เถเนตฺวา, น านาจาวนวเสนาติ อธิปฺปาโย, เตนาห ‘‘กุลทูสกทุกฺกฏํ อาปชฺชตี’’ติ. อสนฺตนฺติ อิมสฺส อภูตนฺติ อิทํ การณวจนํ, อนุปฺปนฺนตฺตา อวิชฺชมานนฺติ อตฺโถ. กิตวสฺเสวาติ กิตวสฺส สกุณคหณมิว. เกราฏิกสฺสาติ สสฺส. สมโณติ โคตฺตมตฺตํ อนุโภนฺติ ธาเรนฺตีติ โคตฺรภุโน, นามมตฺตสมณาติ อตฺโถ. ทุชฺชานปริจฺเฉทนฺติ อนนฺตทุกฺขตฺตา ‘‘เอตฺตกํ ทุกฺข’’นฺติ สงฺขฺยาวเสน ปริจฺฉินฺทิตฺวา าตุํ สพฺพฺุตฺาเณนาปิ ทุกฺกรํ, น ปน สรูปวเสน าตุํ พุทฺธาณสฺส อวิสยภาวา.
อธิมานวตฺถุวณฺณนา
๑๙๖. อรหตฺเตติ อคฺคผเล. าณจกฺขุนาติ ปจฺจเวกฺขณาณสงฺขาเตน จกฺขุนา, อถ วา ผลจิตฺตสมฺปยุตฺเตเนว าณจกฺขุนา. อตฺตนา สมฺปยุตฺเตนาปิ ¶ หิ าเณน อสมฺโมหโต สยํ ทิฏฺํ นาม โหติ, ตถา ตสฺมึ อทิฏฺเติ อตฺโถ. สพฺเพสํ กิเลสานํ ปหายกวเสน อาชานาติ, สมนฺตโต สพฺเพน วา ปกาเรน ชานาตีติ ‘‘อฺา’’ติ อคฺคมคฺโค วุจฺจติ, ตทุปจาเรน ปน ตปฺผลมฺปีติ อาห ‘‘อฺํ พฺยากรึสูติ อรหตฺตํ พฺยากรึสู’’ติ. อนฺตรา เปตีติ เสขภูมิยํ อธิมาโน เปติ. กิเลสสมุทาจารํ อปสฺสนฺโตติ ปุริมมคฺคตฺตยวชฺฌานํเยว กิเลสานํ วเสน วุตฺตํ, น ภวราคาทีนํ.
สวิภงฺคสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๙๗. ปกติมนุสฺเสหิ อุตฺตริตรานํ พุทฺธาทิอุตฺตมปุริสานํ อธิคมธมฺโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺโมติ อาห อุตฺตริมนุสฺสานนฺติอาทิ. ปาฬิยํ (ปารา. ๑๙๘) ‘‘อตฺถิ จ เม เอเต ธมฺมา มยี’’ติ เอตฺถ เมติ อิทํ ปทปูรณมตฺตํ. อธิคนฺตพฺพโต อธิคมสงฺขาตสฺส ฌานาทิโน ปุจฺฉา อธิคมปุจฺฉา, สา จ ฌานาทีสุ สามฺโต ปวตฺตาติ อิทานิ ตตฺถ ปมชฺฌานํ วา ทุติยาทีสุ อฺตรํ วา ตตฺถาปิ กสิณาทิอารมฺมเณสุ กตรมารมฺมณํ ฌานํ วา โลกุตฺตเรสุ จ โสตาปตฺติมคฺคํ วา สกทาคามิมคฺคาทีสุ อฺตรํ วา ตตฺถาปิ สฺุตวิโมกฺขํ ¶ วา อปฺปณิหิตวิโมกฺขาทีสุ อฺตรํ วาติ เอวํ ปจฺเจกํ เภทนิทฺธารณวเสน ปุจฺฉนาการํ ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ (ปารา. ๑๙๘) ‘‘ปุน กตเมสํ ตฺวํ ธมฺมานํ ลาภี’’ติ อยํ ปุจฺฉา ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพา, เตนาห ปมมคฺคาทีสูติอาทิ. ยาย อนุกฺกมปฏิปตฺติยา โลกุตฺตโร อธิคโม อาคจฺฉติ, สา ปุพฺพภาคปฏิปตฺติ อาคมนปฏิปทา. น สุชฺฌตีติ ปุจฺฉิยมาโน ปฏิปตฺติกฺกมํ อุลฺลงฺฆิตฺวา กเถติ. อปเนตพฺโพติ ตยา วุตฺตกฺกเมนายํ น สกฺกา อธิคนฺตุนฺติ อธิคตมานโต อปเนตพฺโพ. สนฺนิหิเตสุ กปฺปิเยสุปิ จตูสุ ปจฺจเยสุ อลคฺคตฺตา ‘‘อากาเส ปาณิสเมน เจตสา’’ติ วุตฺตํ. วุตฺตสทิสํ พฺยากรณํ โหตีติ โยชนา. ขีณาสวปฏิปตฺติสทิสา ปฏิปทา โหติ สุวิกฺขมฺภิตกิเลสตฺตา. อิทฺจ อรหตฺตํ ปฏิชานนฺตสฺส วเสน วุตฺตํ, เตนาห ขีณาสวสฺส นามาติอาทิ. เอวํ สุวิกฺขมฺภิตกิเลสสฺส วตฺตนเสกฺขธมฺมปฏิชานนํ อิมินา ภยุปฺปาทเนน, อมฺพิลาทิทสฺสเน เขฬุปฺปาทาทินา จ น สกฺกา วีมํสิตุํ, ตสฺมา ตสฺส วจเนเนว ตํ สทฺธาตพฺพํ. อยํ ภิกฺขุ สมฺปนฺนพฺยากรโณติ ¶ อิทํ น เกวลํ อภายนกเมว สนฺธาย วุตฺตํ เอกจฺจสฺส สูรชาติกสฺส ปุถุชฺชนสฺสาปิ อภายนโต, รชฺชนียารมฺมณานํ พทรสาฬวาทิอมฺพิลมทฺทนาทีนํ อุปนยเนปิ เขฬุปฺปาทาทิตณฺหาปวตฺตรหิตํ สพฺพถา สุโสธิตเมว สนฺธาย วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
อสนฺตคุณสมฺภาวนลกฺขณา ปาปิจฺฉาติ อาห ยา สา อิเธกจฺโจติอาทิ. อาทิ-สทฺเทน อสฺสทฺโธติอาทิปาํ สงฺคณฺหาติ. สามฺํ ทุปฺปรามฏฺนฺติ สมณธมฺมสงฺขาตํ สามฺํ ขณฺฑสีลาทิตาย ทุปฺปรามฏฺํ ทุฏฺุ คหิตํ นิรยาย นิรยทุกฺขาย ตํ ปุคฺคลํ ตตฺถ นิรเย อุปกฑฺฒติ นิพฺพตฺตาเปตีติ อตฺโถ. สิถิโลติ โอลียิตฺวา กรเณน สิถิลคาเหน กโต, สเถน วา สาเยฺเยน อาทิณฺโณ สิถิโล. ปริพฺพโชติ สมณภาโว. ภิยฺโยติ ปุพฺเพ วิชฺชมานานํ ราครชาทีนํ อุปริ อปรมฺปิ รชํ อากิรตีติ อตฺโถ. ภิกฺขุภาโวติ อธมฺมิกปฏิฺามตฺตสิทฺโธ ภิกฺขุภาโว. อชานเมวาติ เอตฺถ เอว-สทฺโท อวธารเณ อชานนฺโต เอวาติ, ‘‘อชานเมว’’นฺติปิ ปาโ, ตตฺถ ปน เอวํ ชานามิ เอวํ ปสฺสามีติ โยเชตพฺพํ.
ปทภาชนียวณฺณนา
๑๙๙. เอวนฺติ จ ปมชฺฌานาทิปรามสนํ ปมชฺฌานํ ชานามิ ทุติยาทิฌานนฺติ. อสุภชฺฌานาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน กายคตาสติชฺฌานํ กสิณชฺฌานํ กสิณมูลกานิ อารุปฺปชฺฌานานิ จ สงฺคณฺหาติ. วิโมกฺโขติ จตุพฺพิโธ มคฺโค, ตสฺส สคุณโต สฺุตาทินามํ ทสฺเสนฺโต อาห โส ปนายนฺติอาทิ. มคฺโค หิ นาม ปฺจหิ การเณหิ นามํ ลภติ ¶ สรเสน วา ปจฺจนีเกน วา สคุเณน วา อารมฺมเณน วา อาคมเนน วา. สเจ หิ สงฺขารุเปกฺขา อนิจฺจโต สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ, มคฺโค อนิมิตฺตวิโมกฺเขน วิมุจฺจติ. สเจ ทุกฺขโต สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ, อปฺปณิหิตวิโมกฺเขน วิมุจฺจติ. สเจ อนตฺตโต สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ, สฺุตวิโมกฺเขน วิมุจฺจติ, อิทํ สรสโต นามํ นาม. ยสฺมา ปเนส สงฺขาเรสุ อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจนิมิตฺตํ ปชหนฺโต อาคโต, ตสฺมา อนิมิตฺโต. ทุกฺขานุปสฺสนาย สุขสฺํ ปณิธึ ปตฺถนํ ปหาย อาคตตฺตา อปฺปณิหิโต. อนตฺตานุปสฺสนาย อตฺตสฺํ ปหาย อตฺตสฺุตาทสฺสนวเสน สฺุตา โหติ, อิทํ ปจฺจนีกโต นามํ นาม. ราคาทีหิ ¶ ปเนส สฺุตตฺตา สฺุโต, รูปนิมิตฺตาทีนํ, ราคนิมิตฺตาทีนํ เอว วา อภาเวน อนิมิตฺโต, ราคปณิธิอาทีนํ อภาวโต อปฺปณิหิโตติ วุจฺจติ, อิทํ อสฺส สคุณโต นามํ. ราคาทิสฺุํ อนิมิตฺตํ อปฺปณิหิตฺจ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรตีติ สฺุโต อนิมิตฺโต อปฺปณิหิโตติ วุจฺจติ, อิทมสฺส อารมฺมณโต นามํ. อาคมนํ ปน ทุวิธํ วิปสฺสนาคมนํ มคฺคาคมนฺจ. ตตฺถ มคฺเค วิปสฺสนาคมนเมว, ผเล ปน มคฺคานนฺตเร มคฺคาคมนํ, ผลสมาปตฺติยํ วิปสฺสนาคมนมฺปิ. อนตฺตานุปสฺสนาวเสน มคฺโค สฺุโต อนิจฺจทุกฺขานุปสฺสนาหิ อนิมิตฺโต อปฺปณิหิโตติ เอวํ วิปสฺสนา อตฺตโน นามํ มคฺคสฺส เทติ, มคฺโค ผลสฺสาติ อิทํ อาคมนโต นามํ.
สฺุตฺตาติ วิวิตฺตตฺตา. ราคาทโยว ปติฏฺานฏฺเน ปณิธีติ อาห ‘‘ราคโทสโมหปณิธีน’’นฺติ. อิมิสฺสา วิชฺชายาติ ทิพฺพจกฺขุวิชฺชายาติอาทินา เอเกกวิชฺชํ สนฺธาย วทนฺติ. เอวํ เอกิสฺสาปิ นามํ อคฺคเหตฺวาปิ ตา เอว สนฺธาย ‘‘วิชฺชานํ ลาภิมฺหี’’ติ ภณนฺโตปิ ปาราชิโก โหตีติ สงฺเขปฏฺกถายํ อธิปฺปาโย. วตฺถุวิชฺชาทีนิ ปน สนฺธาย วทนฺโต น โหติ. เอเกกโกฏฺาสวเสนาติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตนเยน โลกุตฺตรวิเสสํ อกตฺวา เกวลํ ‘‘สติปฏฺานานํ ลาภี’’ติ เอเกกโกฏฺาสวเสนาติ อธิปฺปาโย. ตตฺถาติ เตสุ โกฏฺาเสสุ. กิเลสานํ ปหานํ นาม อภาวมตฺตมฺปิ โลกุตฺตรกิจฺจตฺตา โลกุตฺตรนฺติ สมตฺเถตุํ ตํ ปนาติอาทิ วุตฺตํ. ราคา จิตฺตํ วินีวรณตาติ ราคโต จิตฺตสฺส วินีวรณตา, ตโต ราคโต วิมุตฺตตฺตา เอว วีตราคนีวรณตาติ อตฺโถ, ยา จ ปฺจ วิชฺชาติ โยเชตพฺพํ. น อาคตาติ อิธ ปทภาชเน ‘‘าณนฺติ ติสฺโส วิชฺชา’’ติ (ปารา. ๑๙๙) วุตฺตตฺตา เสสา ปฺจ วิชฺชา น อาคตาติ อตฺโถ. นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรตฺตาติ โลกิยธมฺมสาธารณสงฺขตสฺสาปิ อภาวา โลกิเยหิ สพฺพถา อสมฺมิสฺสโลกุตฺตรตฺตา. อฺนฺติ สงฺเขปฏฺกถาทึ วทนฺติ, ตมฺปิ ตตฺเถว ปฏิกฺขิตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ.
๒๐๐. ปุน ¶ อาเนตฺวา ปมชฺฌานาทีหิ น โยชิตนฺติ เอตฺถ ‘‘ปมชฺฌาเนนาติ ปาโ’’ติ เกจิ วทนฺติ, ตํ ยุตฺตเมว อาทิ-สทฺเทน คเหตพฺพสฺส ¶ ฌานสฺส อภาวา. ปมชฺฌานมูลกฺหิ เอกเมว ขณฺฑจกฺกํ. กตฺตุสาธโนปิ ภณิต-สทฺโท โหตีติ อาห อถ วาติอาทิ. เยน จิตฺเตน มุสา ภณติ, เตเนว จิตฺเตน น สกฺกา ‘‘มุสา ภณามี’’ติ ชานิตุํ, อนฺตรนฺตรา ปน อฺาหิ มโนทฺวารวีถีหิ ‘‘มุสา ภณามี’’ติ ชานาตีติ วุตฺตํ ‘‘ภณนฺตสฺส โหติ มุสา ภณามี’’ติ. อยเมตฺถ อตฺโถ ทสฺสิโตติ ตีหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต มุสาวาโทติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต. ทวาติ สหสา. รวาติ อฺํ วตฺตุกามสฺส ขลิตฺวา อฺภณนํ. ตํ ชานาตีติ ตําณํ, ตสฺส ภาโว ตําณตา, าณสฺส วิสยวิสยีภาเวน อตฺตสํเวทนนฺติ อตฺโถ. าณสโมธานนฺติ พหูนํ าณานํ เอกสฺมึ ขเณ สโมธานํ, สหุปฺปตฺตีติ อตฺโถ. เยน จิตฺเตน ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ ชานาตีติ อิทํ ปุพฺพภาคเจตนฺจ สนฺนิฏฺานเจตนฺจ เอกโต กตฺวา วุตฺตํ. เยน จิตฺเตน ปุพฺพภาคเจตนาภูเตน สนฺนิฏฺานเจตนาภูเตน จ วิสํวาทิตพฺพสตฺตสงฺขาเร ชานาติ, เยน จิตฺเตน มุสา ภณิสฺสนฺติ อตฺโถ. เตเนว…เป… ปริจฺจชิตพฺพาติ เตเนว จิตฺเตน ‘‘เอวํ อหํ มุสา ภณามี’’ติ วา ‘‘ภณิต’’นฺติ วา ตเทว มุสาวาทจิตฺตมารมฺมณํ กตฺวา ภิกฺขุ ชานาตีติ เอวํ ปุพฺพาปรสนฺนิฏฺานเจตนากฺขเณสุ ตีสุ เอเกเนว จิตฺเตน าณวิสยฺจ าณฺจาติ อุภยมฺปิ เอกกฺขเณ ปุคฺคโล ชานาตีติ อยํ ตําณตา ปริจฺจชิตพฺพา วิสยสฺเสว ตทา ปกาสนโตติ อธิปฺปาโย, เตนาห น หีติอาทิ. ยทิ าณสฺส อตฺตโน สรูปํ น ายติ, กถํ ปจฺฉิมํ จิตฺตํ ชานาตีติ อาห ปุริมํ ปุริมนฺติอาทิ. ตตฺถ ภณิสฺสามีติอาทินา ตีสุ กาเลสุ อุปฺปนฺนํ ปุริมปุริมจิตฺตํ อตฺตานํ วิสยํ กตฺวา อุปฺปชฺชมานสฺส ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส จิตฺตสฺส ตถา อุปฺปตฺติยา ปจฺจโย โหตีติ อตฺโถ. เตนาติ เยน การเณน ตีสุ ขเณสุ จิตฺตานิ ตทฺเเหว จิตฺเตหิ ชานิตพฺพานิ, ตานิ จ ปุริมปุริมจิตฺเตเนว อวสฺสํ อุปฺปชฺชนฺติ, เตน การเณนาติ อตฺโถ. ตสฺมึ สตีติ ภณิสฺสามีติ ปุพฺพภาเค สติ. เสสทฺวยนฺติ ภณามิ, ภณิตนฺติ อิทํ ทฺวยํ น เหสฺสตีติ เอตํ นตฺถีติ โยชนา โหติเยวาติ อตฺโถ. เอกํ วิย ปกาสตีติ ภินฺนกฺขณานมฺปิ นิรนฺตรุปฺปตฺติยา ‘‘ตเทเวท’’นฺติ คเหตพฺพตํ สนฺธาย วทติ.
พลวธมฺมวินิธานวเสนาติ ¶ พลวคาหสฺส วินิธานวเสน. ทุพฺพลทุพฺพลานนฺติ ทุพฺพลทุพฺพลานํ คาหานํ. สกภาวปริจฺจชนวเสนาติ อตฺตโน สนฺตกภาวสฺส ปริจฺจชนวเสน.
๒๐๗. อุตฺตาสิตตฺตาติ ภยํ ชเนตฺวา วิย ปลาปิตตฺตา. เอวํ ปลาปิโต น ปุน ตํ านํ อาคจฺฉตีติ อาห ‘‘ปุน อนลฺลียนภาวทสฺสนวเสนา’’ติ. เขฏ-สทฺทํ สทฺทตฺถวิทู อุตฺตาสตฺเถ ¶ ปนฺตีติ อาห สฺวายมตฺโถติอาทิ. อณุ เอว อณุสหคตํ, อณุตฺเตน วา ยุตฺตนฺติ อตฺโถ.
วตฺตุกามวารกถาวณฺณนา
๒๑๕. เกวลฺหิยนฺติ เกวลฺหิ อยํ วาโรติ อชฺฌาหริตพฺพํ. ตงฺขณฺเว ชานาตีติ ปกติยา วจนานนฺตรํ วิชานนํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอวํ ปน วจีเภทํ อกตฺวา ‘‘โย อิมมฺหา อาวาสา ปมํ ปกฺกมิสฺสติ, นํ มยํ ‘อรหา’ติ ชานิสฺสามา’’ติ เอวํ กตสงฺเกตา วิหารา ปมํ ปกฺกมเนน ตสฺมึ ขเณ อวีติวตฺเตปิ นิกฺขนฺตมตฺเตปิ ปาราชิกํ อฺตโร ภิกฺขุ ‘‘มํ ‘อรหา’ติ ชานนฺตู’’ติ ตมฺหา อาวาสา ปมํ ปกฺกามีติ อาคตวตฺถุมฺหิ (ปารา. ๒๒๗) วิย. วิฺตฺติปเถติ กายวจีวิฺตฺตีนํ คหณโยคฺเค ปเทเส, เตน วิฺตฺติปถํ อติกฺกมิตฺวา ิโต โกจิ ทิพฺเพน จกฺขุนา กายวิการํ ทิสฺวา ทิพฺพาย โสตธาตุยา วจีเภทฺจ สุตฺวา ชานาติ, น ปาราชิกนฺติ ทีเปติ. ปาฬิยํ ‘‘ปฏิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๑๕) อิมสฺมึ ปฏิวิชานนวาเร ยสฺมึ อกฺขเร วา อุจฺจาริเต กายปฺปโยเค วา กเตเยว อยํ ปมชฺฌานํ สมาปนฺโนติอาทิอตฺถํ ปโร วิชานาติ, ตโต ปุริเมสุ อกฺขรุจฺจารณาทิปฺปโยเคสุ ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชิตฺวา ปจฺฉิเมว ปฏิวิชานนปโยคกฺขเณ ปาราชิกํ อาปชฺชตีติ เวทิตพฺพํ ถุลฺลจฺจยสฺเสเวตฺถ สามนฺตตฺตา, เตเนว พุทฺธทตฺตาจริเยน –
‘‘ทุกฺกฏํ ปมสฺเสว, สามนฺตมิติ วณฺณิตํ;
เสสานํ ปน ติณฺณมฺปิ, ถุลฺลจฺจยมุทีริต’’นฺติ –
วุตฺตํ ¶ , อยฺจตฺโถ ‘‘น ปฏิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ อิมินา สุตฺเตน สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺโพ. อุคฺคหปริปุจฺฉาทิวเสนาติอาทินา ฌานสมาธิอาทิสทฺทานมตฺเถสุ ปุพฺเพ อกตปริจยตฺตา สุตฺวา ‘‘อตฺถํ อีทิส’’นฺติ อชานิตฺวา เกวลํ ‘‘วิสิฏฺโ โกจิ สมณคุโณ อเนน ลทฺโธ’’ติ ปเรน าเตปิ ปาราชิกเมวาติ ทสฺเสติ.
อนาปตฺติเภทกถาวณฺณนา
๒๒๐. อนุลฺลปนาธิปฺปายสฺสาติ ‘‘เอวํ วุตฺเต อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม มยา ปกาสิโต โหตี’’ติ ¶ อมนสิกตฺวา ‘‘นาหํ, อาวุโส, มจฺจุโน ภายามี’’ติอาทิกํ กเถนฺตสฺส. เอวํ กเถนฺโต จ โวหารโต อฺํ พฺยากโรนฺโต นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อฺํ พฺยากโรนฺตสฺสา’’ติ. ภายนฺโตติ ‘‘ตฺวา ครหนฺติ นุ โข’’ติ ภายนฺโต.
ปทภาชนียวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
วินีตวตฺถุวณฺณนา
๒๒๓. เสกฺขภูมิยนฺติ อิมินา ฌานภูมิมฺปิ สงฺคณฺหาติ. ติณฺณํ วิเวกานนฺติ กายจิตฺตอุปธิวิเวกานํ. ปิณฺฑาย จรณสฺส โภชนปริโยสานตาย วุตฺตํ ‘‘ยาว โภชนปอโยสาน’’นฺติ. อนฺตรฆเร ภุตฺวา อาคจฺฉนฺตสฺสาปิ วุตฺตนเยเนว สมฺภาวนิจฺฉาย จีวรสณฺาปนาทีนิ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว, ปาฬิยํ ปน ทุกฺกราทิวตฺถูสุ ‘‘อนาปตฺติ อนุลฺลปนาธิปฺปายสฺสา’’ติ อิทํ ถุลฺลจฺจเยนาปิ อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อุลฺลปนาธิปฺปายสฺสาปิ หิ ‘‘นาวุโส, ทุกฺกรํ อฺํ พฺยากาตุ’’นฺติ วุตฺเต ถุลฺลจฺจยเมว อตฺตุปนายิกตฺตาภาวโตติ ทฏฺพฺพํ.
๒๒๗. น ทานาหํ ตตฺถ คมิสฺสามีติ ปุน ตตฺถ วสิตฏฺาเน น คมิสฺสามิ, เอวํ สติ ปมํ คโต อยํ ปุน จ นาคโต, ตสฺมา อรหาติ มฺิสฺสนฺตีติ อธิปฺปาโย. ตํ านนฺติ อาวาสํ วาติอาทินา ปุพฺเพ ปริจฺฉินฺนฏฺานํ. ปทสา คมนํ สนฺธาย กติกาย กตตฺตา ยาเนนาติอาทิ วุตฺตํ. วิชฺชามยิทฺธึ สนฺธาย ‘‘อิทฺธิยา’’ติ วุตฺตํ อุลฺลปนาธิปฺปายสฺส อภิฺิทฺธิยา อสมฺภวโต. อฺมฺํ รกฺขนฺตีติ อุลฺลปนาธิปฺปาเย ¶ สติปิ เอกสฺสาปิ ปมคมนาภาวา รกฺขนฺติ. สเจ ปน กติกํ กตฺวา นิสินฺเนสุ เอกํ ทฺเว เปตฺวา อวเสสา อุลฺลปนาธิปฺปาเยน เอกโต คจฺฉนฺติ, คตานํ สพฺเพสํ ปาราชิกเมว. เตสุ ยสฺส อุลฺลปนาธิปฺปาโย นตฺถิ, ตสฺส อนาปตฺติ. เอตนฺติ เหฏฺา วุตฺตํ สพฺพํ กติกวตฺตํ. นานาเวรชฺชกาติ นานาชนปทวาสิโน. สงฺฆลาโภติ ยถาวุฑฺฒํ ปาปุณนกโกฏฺาโส. อยฺจ ปฏิกฺเขโป อวิเสเสตฺวา กรณํ สนฺธาย กโต, วิเสเสตฺวา ปน ‘‘เอตฺตโก อสุกสฺสา’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา อปโลเกตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ.
๒๒๘. ธมฺมธาตูติ สพฺพฺุตฺาณํ, ธมฺมานํ สภาโว วา. อุปปตฺตีติ อตฺตภาวํ สนฺธาย วทติ. ทุสฺสทฺธาปยา โหนฺตีติ ปุถุชฺชเน สนฺธาย วุตฺตํ, น ลกฺขณตฺเถราทิเก อริยปุคฺคเล ¶ . วิตุเฑนฺตีติ วินิวิชฺฌิตฺวา เฑนฺติ คจฺฉนฺติ, ผาสุฬนฺตริกาโย ฉิทฺทาวฉิทฺทํ กตฺวา ตาหิ คจฺฉนฺตีติ นิสฺสกฺกวเสน อตฺโถ. วิตุเทนฺตีติ ปาเ ผาสุฬนฺตริกาหีติ อาธารตฺเถ นิสฺสกฺกวจนํ. โลหตุณฺเฑหีติ กาฬโลหมเยหิ ตุณฺเฑหิ. อจฺฉริยํ วตาติ ครหิตพฺพตาย อจฺฉรํ ปหริตุํ ยุตฺตรูปํ. จกฺขุภูตาติ โลกสฺส จกฺขุ วิย ภูตา สฺชาตา, จกฺขุสทิสาติปิ อตฺโถ. ตสฺเสว กมฺมสฺสาติ เยน โคฆาตกกมฺเมเนว นิรเย นิพฺพตฺโต, ตสฺเสวาติ อตฺเถ คยฺหมาเน เอกาย เจตนาย พหุปฏิสนฺธิโย โหนฺตีติ อาปชฺชติ, น เจตํ ยุตฺตํ เอกสฺส อมฺพาทิพีชสฺส อเนกงฺกุรุปฺปตฺติ วิยาติ ตํ ปริหรนฺโต อาห ตสฺส นานาเจตนาหิ อายูหิตสฺสาติอาทิ, เตน โคฆาตกกมฺมกฺขเณ ปุพฺพเจตนา อปรเจตนา สนฺนิฏฺาปกเจตนาติ เอกสฺมิมฺปิ ปาณาติปาเต พหู เจตนา โหนฺติ, นานาปาณาติปาเตสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ตตฺถ เอกาย เจตนาย นรเก ปจิตฺวา ตทฺเจตนาสุ เอกาย อปราปริยเจตนาย อิมสฺมึ เปตตฺตภาเว นิพฺพตฺโตติ ทสฺเสติ, เตนาห ‘‘อวเสสกมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา’’ติ. เอตฺถ จ กมฺมสริกฺขวิปากุปฺปตฺตึ สนฺธาย กมฺมกมฺมนิมิตฺตานเมว คหณํ กตํ, น คตินิมิตฺตสฺส, เตนาห ‘‘อฏฺิราสิเยว นิมิตฺตํ อโหสี’’ติ. ปาฬิยํ วิตจฺเฉนฺตีติ ตุณฺเฑหิ ตจฺเฉนฺโต วิย ลฺุจนฺติ. วิราเชนฺตีติ วิลิขนฺติ.
๒๒๙. วลฺลูรวิกฺกเยนาติ ¶ สุกฺขาปิตมํสวิกฺกเยน. นิปฺปกฺขจมฺเมติ วิคตปกฺขโลมจมฺเม. เอกํ มิคนฺติ ทีปกมิคํ. การณาหีติ ฆาตนาหิ. ตฺวาติ กมฺมฏฺานํ ตฺวา.
๒๓๐. มงฺคนวเสน อุลตีติ มงฺคุลิ, วิรูปพีภจฺฉภาเวน ปวตฺตตีติ อตฺโถ. จิตฺตเกฬินฺติ จิตฺตรุจิยํ อนาจารกีฬํ.
๒๓๑. นิสฺเสวาลปณกกทฺทโมติ ติลพีชกาทิเสวาเลน นีลมณฺฑูกปิฏฺิวณฺเณน อุทกปิฏฺเ อุทกํ นีลวณฺณํ กุรุมาเนน ปณเกน กทฺทเมน จ วิรหิโต. อุณฺหภาเวน ตปนโต ตปํ อุทกํ อสฺสาติ ตโปทกาติ วตฺตพฺเพ ก-การโลปํ กตฺวา ‘‘ตโปทา’’ติ วุจฺจติ. เปตโลโกติ ปกฏฺเน อกุสลกมฺเมน สุคติโต ทุคฺคตึ อิตานํ คตานํ โลโก สมูโห, นิวาสฏฺานํ วา. กตหตฺถาติ ธนุสิปฺเป สุฏฺุ สิกฺขิตหตฺถา, อวิรชฺฌนลกฺขเวธาติ อตฺโถ. สิปฺปทสฺสนวเสน ราชกุลาทีสุ ราชสมูหํ อุเปจฺจ กตํ อสนํ สรกฺเขโป เอเตสนฺติ กตุปาสนา, สพฺพตฺถ ทสฺสิตสิปฺปาติ อตฺโถ. ปภคฺโคติ ปภฺชิโต, ปราชิโตติ อตฺโถ.
๒๓๒. อาเนฺชสมาธินฺติ ¶ อรูปสมาปตฺติยํ นิรุทฺเธ สติปิ สทฺทกณฺฏเกน อุฏฺานารโห รูปาวจรสมาธิเยว อิธ วตฺตพฺโพติ อาห อเนชํ อจลนฺติอาทิ. สมาธิปริปนฺถเกติ วิตกฺกาทิเก สนฺธาย วทติ, อิทํ ปน ปมโพธิยํ อุปฺปนฺนมฺปิ วตฺถุํ อนาจารมตฺตวเสน ภิกฺขูหิ โจทิเตปิ ภควตา ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, โมคฺคลฺลานสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๒๘) เอวํ อายตึ อตฺตนา ปฺปิยมานปาราชิกานุคุณํ ตทา เอว วินีตนฺติ ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปจฺฉา ปฺตฺตสฺส อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส วินีตวตฺถุภาเวน สงฺคหมาโรปิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สาวกานํ อุปฺปฏิปาฏิยา อนุสฺสรณาภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘น อุปฺปฏิปาฏิยา’’ติ วุตฺตํ. ทุกฺกรํ กตนฺติ อนนฺตเร ปฺจกปฺปสติเก กาเล วิฺาณสนฺตตึ อทิสฺวาปิ อสมฺมุยฺหิตฺวา ปรโต ตติยตฺตภาเว ทิฏฺจุติจิตฺเตน สทฺธึ วตฺตมานภวปฏิสนฺธิยา อนุมาเนนาปิ การิยการณาภาวคหณํ นาม สาวกานํ ทุกฺกรตฺตา วุตฺตํ. ปฏิวิทฺธาติ ¶ ปฏิวิทฺธสทิสา. ยถา นาม สตฺตธา ผาลิตสฺส จามรวาลโลมสฺส เอกาย อคฺคโกฏิยา อปรสฺส วาลโลมํสุโน โกฏึ ทูเร ตฺวา วิชฺเฌยฺย อาวุนนฺโต วิย ปฏิปาเทยฺย, เอวเมว อิมินาปิ ทุกฺกรํ กตนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอตทคฺคนฺติ เอโส อคฺโค. ยทิทนฺติ โย อยํ.
นิคมนวณฺณนา
๒๓๓. อิธาติ ภิกฺขุวิภงฺเค. อุทฺทิฏฺปาราชิกปริทีปนนฺติ สิกฺขาปเทสุ ปาติโมกฺขุทฺเทสวเสน อุทฺทิฏฺปาราชิกปริทีปนํ, น ปน สพฺพสฺมึ ปาราชิกวิภงฺเค อาคตอาปตฺติปริทีปนํ ตตฺถ ถุลฺลจฺจยาทีนมฺปิ อาคตตฺตา เตเนว อุทฺทิฏฺ-สทฺเทน วุตฺตวิภงฺคสฺส นิทฺเทสตฺตา. ภิกฺขุนีนํ อสาธารณานิ จตฺตารีติ อุพฺภชาณุมณฺฑลิกา (ปาจิ. ๖๕๘) วชฺชปฺปฏิจฺฉาทิกา (ปาจิ. ๖๖๕) อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา (ปาจิ. ๖๖๙) อฏฺวตฺถุกาติ (ปาจิ. ๖๗๕) อิมานิ ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ ภิกฺขุนีนํ เอว ปฺตฺตานิ ปาราชิกานีติ อตฺโถ. วตฺถุวิปนฺนาติ ปพฺพชฺชุปสมฺปทานํ วตฺถุภาโว วตฺถุ นาม, เตน วตฺถุมตฺเตน วิปนฺนา, วิปนฺนวตฺถุกาติ อตฺโถ. อเหตุกปฏิสนฺธิกาติ มคฺคานุปฺปตฺติการณมาห. กิฺจาปิ ทุเหตุกานมฺปิ มคฺโค นุปฺปชฺชติ, เต ปน ปพฺพชฺชุปสมฺปทาสุ ตฺวา อายตึ มคฺคเหตุํ สมฺปาเทตุํ สกฺโกนฺติ, อเหตุกา ปน ปริสุทฺเธ จตุปาริสุทฺธิสีเล ตฺวา สมฺปาเทตุํ น สกฺโกนฺติ, ตสฺมา เต ตมฺปิ ปฏิจฺจ วตฺถุวิปนฺนาวาติ เวทิตพฺพา. ปาราชิกาติ กมฺมวิปตฺติยา ปฏิสนฺธิกฺขเณเยว ปราชยํ อาปนฺนา. เถยฺยสํวาสกาทีนํ คิหิภาเว ตฺวา วิปสฺสนาย วายมนฺตานมฺปิ ตสฺมึ อตฺตภาเว มคฺคุปฺปตฺติอภาวโต ‘‘มคฺโค ปน วาริโต’’ติ วุตฺตํ. ทีฆตาย ลมฺพมานํ องฺคชาตํ ลมฺพํ นาม, ตํ ยสฺส อตฺถิ โส ลมฺพี. โส เอตฺตาวตา น ปาราชิโก, ตํ ปน ทีฆํ องฺคชาตํ ¶ อตฺตโน มุเข วา วจฺจมคฺเค วา เสวนาธิปฺปาเยน ปเวเสนฺโตว ปาราชิโก, อิธ ปน วจฺจมคฺเค ปเวเสนฺโตว อธิปฺเปโต มุทุปิฏฺิเกเนว มุเข ปเวสนสฺส วุตฺตตฺตา. โสปิ หิ กตปริกมฺมตาย มุทุภูตาย ปิฏฺิยา โอนมิตฺวา อตฺตโน องฺคชาตํ มุเขน คณฺหนฺโตว ปาราชิโก โหติ, น เกวโล. โย ปน มุเขน อตฺตโน วจฺจมคฺคํ วา ปเรสํ วจฺจมคฺคมุขํ วา อิตฺถีนํ ปสฺสาวมคฺคํ วา คณฺหาติ, ตสฺส จ ปุริสนิมิตฺเตน ปุริสนิมิตฺตํ ฉุปนฺตสฺส จ มคฺเคน มคฺคปฏิปาทเนปิ ปาราชิกํ น โหติ ปุริสนิมิตฺเตน ตทิตรมคฺคสมฺปฏิปาทเนเนว เมถุนธมฺมโวหารโต ¶ . ปรสฺส องฺคชาเต อภินิสีทตีติ ปรสฺส อุตฺตานํ สยนฺตสฺส กมฺมนิเย องฺคชาเต อตฺตโน วจฺจมคฺคํ ปเวเสนฺโต ตสฺสูปริ นิสีทติ, อิทฺจ อุปลกฺขณมตฺตํ ปเรสํ องฺคชาตํ วจฺจมคฺเค ปเวเสนฺโต สาทิยนฺโตปิ ปาราชิโกว, พลกฺกาเรน ปน วจฺจมคฺเค วา มุเข วา ปเรน ปเวสิยมาโน ยทิ น สาทิยติ, อนาปตฺติโกว. เอตฺถ อสาทิยนํ นาม ทุกฺกรํ วิรชฺชิตพฺพโต. เอตฺถ จ อนุปสมฺปนฺนภาเว ตฺวา มาตุปิตุอรหนฺเตสุ อฺตรํ ฆาเตนฺโต ภิกฺขุนึ ทูเสนฺโต จ สามเณรปพฺพชฺชมฺปิ น ลภตีติ ทสฺสนตฺถํ วิสุํ คหิตตฺตา มาตุฆาตกาทีนํ จตุนฺนํ ตติยปมปาราชิเกสุ อนฺโตคธตา เวทิตพฺพา. ยถา เอตฺถ, เอวํ คิหิภาเว ตฺวา โลหิตุปฺปาทํ กโรนฺโต โลหิตุปฺปาทโกวาติ คเหตพฺพํ. เอเตน ปริยาเยนาติ อุภินฺนํ ราคปริยุฏฺานสงฺขาเตน ปริยาเยน. ทุติยวิกปฺเป กจฺจิ อตฺถาติ ปทจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
จตุตฺถปาราชิกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
นิฏฺิโต จ ปาราชิกกณฺฑวณฺณนานโย.
๒. สงฺฆาทิเสสกณฺโฑ
๑. สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๓๔. เตรสกสฺสาติ ¶ ¶ เตรส สิกฺขาปทานิ ปริมาณานิ อสฺสาติ เตรสโก, กณฺโฑ, ตสฺส. สมเถ วิปสฺสนาย วา อภิรติรหิโต อิธ อนภิรโต, น ปพฺพชฺชายาติ อาห ‘‘วิกฺขิตฺตจิตฺโต’’ติ. วิกฺขิตฺตตาย การณมาห กามราคาอิจฺจาทิ.
๒๓๕. อพฺโพหาริกาติ สีลวิปตฺติโวหารํ นารหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. อกุสลภาเว ปนสฺสา อพฺโพหารตา นตฺถิ.
๒๓๖-๗. เจตนา-สทฺทโต วิสุํ สํ-สทฺทสฺส อตฺถาภาวํ อิก-ปจฺจยสฺส จ อตฺถวนฺตตํ ทสฺเสตุํ สฺเจตนา วาติอาทิ ทุติยวิกปฺโป วุตฺโต. สิขาปฺปตฺโต อตฺโถติ อธิปฺเปตตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. อาสยเภทโตติ ปิตฺตเสมฺหปุพฺพโลหิตานํ จตุนฺนํ อาสยานํ เภเทน. ธาตุนานตฺตโตติ รสรุหิราทีนํ สตฺตนฺนํ, ปถวาทีนํ วา จตุนฺนํ ธาตูนํ นานตฺเตน. วตฺถิสีสนฺติ มุตฺตวตฺถิโต มตฺถกปสฺสํ. หตฺถิมทจลนํ นามฺจ สมฺภโวติ อาห ‘‘สมฺภโว นิกฺขมตี’’ติ. สมฺภวเวคนฺติ สมฺภวสฺส านโต จวิตฺวา ทกโสตาภิมุขํ โอตรเณน สฺชาตสรีรกฺโขภเวคํ. พาหุสีสนฺติ ขนฺธปฺปเทสํ. ทสฺเสสีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท เหตุตฺโถ, เตน ยสฺมา กณฺณจูฬิกาหิ สมฺภโว นิกฺขมติ…เป… สมฺภวฺจ ทสฺเสสิ, ตสฺมา ตติยสฺส ภาสิตํ สุภาสิตนฺติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. ทกโสตนฺติ มุตฺตสฺส วตฺถิโต นิกฺขมนมคฺคํ, องฺคชาตปฺปเทสนฺติ วุตฺตํ โหติ. สุกฺกฺจ นาเมตํ รสรุหิราทิสตฺตเทหธาตูสุ มชฺฌิมธาตุจตุชํ อฏฺิมิฺชาทิ วิย ปถวีธาตุสงฺคหิตํ อาหารูปชีวีนํ สกลกายคตํ อติทหรทารกานมฺปิ อตฺเถว, ตํ ปน ปนฺนรสโสฬสวสฺสุทฺเทสโต ปฏฺาย สตฺตานํ สมุปฺปชฺชนกกามราเคเหว านโต จลติ, จลิตฺจ อาโปธาตุภาเวน จิตฺตชเมว หุตฺวา ทกโสตํ โอตรติ, ทกโสตโต ปน ปฏฺาย ¶ จิตฺตปจฺจยอุตุชํ โหติ มตฺถลุงฺคโต จลิตสิงฺฆาณิกา วิย. เยสํ ปน สมุจฺเฉทนวิกฺขมฺภนาทีหิ ราคปริยุฏฺานํ นตฺถิ ¶ , เตสํ สุกฺกวิสฺสฏฺิ น สิยา. อิติ ยถาานโต สุกฺกสฺส วิสฺสฏฺิเยว ราคจิตฺตสมุฏฺานา, น ปกติรูปํ, เตเนว กถาวตฺถุอฏฺกถายํ (กถา. อฏฺ. ๓๐๗) ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺิ นาม ราคสมุฏฺานา โหตี’’ติ สุกฺกสฺส วิสฺสฏฺิ เอว ราคสมุฏฺานา วุตฺตา, น ปกติรูปํ. ฉนฺนํ ปน กามาวจรเทวานํ วิชฺชมานาปิ สุกฺกธาตุ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติวเสน ปริยุฏฺิตราเคนาปิ านโต น คฬติ, ยถาาเน เอว ตฺวา กิฺจิ วิการํ อาปชฺชมานา ตงฺขณิกปริฬาหวูปสมาวหา เมถุนกิจฺจนิฏฺาปิตา โหตีติ เวทิตพฺพํ. เกจิ ปน ‘‘กายสมฺผสฺสสุขเมว เตสํ กามกิจฺจ’’นฺติ วทนฺติ. ขีณาสวานํ ปน อนาคามีนฺจ สพฺพโส กามราคาภาเวน สุกฺกธาตุวิการมฺปิ นาปชฺชตีติ เวทิตพฺพํ. รูปีพฺรหฺมานํ ปน วิกฺขมฺภิตกามราเคน ชนิตตฺตา อนาหารูปชีวิตตฺตา จ สพฺพถา สุกฺกธาตุปิ นตฺเถว. ตเถวาติ โมจนสฺสาเทน นิมิตฺเต อุปกฺกมโตติอาทึ อติทิสติ. ‘‘วิสฺสฏฺีติ านาจาวนา วุจฺจตี’’ติ ปทภาชเน (ปารา. ๒๓๗) วุตฺตตฺตา ‘‘ทกโสตํ โอติณฺณมตฺเต’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ทกโสโตโรหณฺเจตฺถาติอาทิ. เอตฺถาติ ตีสุปิ วาเทสุ. อธิวาเสตฺวาติ นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา ปุน วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน โมจนสฺสาทํ วิโนเทตฺวา. อนฺตรา นิวาเรตุนฺติ อตฺตโน นิมิตฺเต กตูปกฺกเมน านา จุตํ ทกโสตํ โอตริตุํ อทตฺวา อนฺตรา นิวาเรตุํ. โมจนสฺสาเทน หตฺถปริกมฺมาทึ กโรนฺตสฺส มุตฺเตปิ ทุกฺกฏเมว, นิมิตฺเต อุปกฺกมาภาวโต ปน สงฺฆาทิเสโส น โหตีติ อาห ‘‘หตฺถ…เป… อนาปตฺตี’’ติ. ทกโสโตโรหณฺเจตฺถาติอาทินา วุตฺตวินิจฺฉยํ สนฺธาย ‘‘อยํ สพฺพาจริยสาธารณวินิจฺฉโย’’ติ วุตฺตํ.
โขภกรณปจฺจโย นาม วิสภาคเภสชฺชเสนาสนาหาราทิปจฺจโย. นานาวิธํ สุปินนฺติ ขุภิตวาตาทิธาตูนํ อนุคุณํ. อนุภูตปุพฺพนฺติ ปุพฺเพ ภูตปุพฺพํ มนสา ปริกปฺปิตปุพฺพฺจ. สคฺคนรกเทสนฺตราทีนมฺปิ หิ สงฺคเหตฺวา วุตฺตํ. อตฺถกามตาย วา อนตฺถกามตาย วาติ อิทํ เทวตานํ หิตาหิตาธิปฺปายตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. อตฺถาย วา อนตฺถาย วาติ สภาวโต ภวิตพฺพํ หิตาหิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. นนุ เทวตาหิ อุปสํหริยมานานิ อารมฺมณานิ ปรมตฺถโต นตฺถิ, กถํ ตานิ ปุริโส ปสฺสติ, เทวตา วา ตานิ อวิชฺชมานานิ อุปสํหรนฺตีติ โจทนํ มนสิ กตฺวา ¶ อาห โส ตาสนฺติอาทิ. เตน ‘‘เอวเมโส ปริกปฺปตู’’ติ เทวตาหิ จินฺติตมตฺเตน สุปนฺตสฺส จิตฺตํ ภวงฺคสนฺตติโต นิปติตฺวา เทวตาหิ จินฺติตนิยาเมเนว ปริกปฺปมานํ ปวตฺตติ, เอวํ เตน ปริกปฺปมานานิ อารมฺมณานิ เทวตาหิ อุปสํหฏานิ นาม โหนฺติ, ตานิ จ โส เทวตานุภาเวน ปสฺสติ นามาติ ทสฺเสติ. โพธิสตฺตมาตา วิย ปุตฺตปฏิลาภนิมิตฺตนฺติอาทีสุ ¶ โพธิสตฺตสฺส คพฺโภกฺกนฺติทิวเส มหามายาเทวิยา อตฺตโน ทกฺขิณปสฺเสน เอกสฺส เสตวรวารณสฺส อนฺโตกุจฺฉิปวิฏฺภาวทสฺสนํ ปุตฺตปฏิลาภนิมิตฺตํ สุปินํ นาม. อมฺหากํ ปน โพธิสตฺตสฺส ‘‘สฺเว พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ จาตุทฺทสิยํ ปกฺขสฺส รตฺติวิภายนกาเล หิมวนฺตํ พิพฺโพหนํ กตฺวา ปุรตฺถิมปจฺฉิมสมุทฺเทสุ วามทกฺขิณหตฺเถ ทกฺขิณสมุทฺเท ปาเท จ โอทหิตฺวา มหาปถวิยา สยนํ เอโก, ทพฺพติณสงฺขาตาย ติริยา นาม ติณชาติยา นงฺคลมตฺตรตฺตทณฺฑาย นาภิโต อุคฺคตาย ขเณน อเนกโยชนสหสฺสํ นภํ อาหจฺจ านํ เอโก, เสตานํ กณฺหสีสานํ กิมีนํ ปาเทหิ อุสฺสกฺกิตฺวา ยาว ชาณุมณฺฑลํ อาหจฺจ านํ เอโก, นานาวณฺณานํ จตุนฺนํ สกุณานํ จตูหิ ทิสาหิ อาคนฺตฺวา ปาทมูเล เสตวณฺณตาปชฺชนํ เอโก, โพธิสตฺตสฺส มหโต มีฬฺหปพฺพตสฺส อุปริ อลิมฺปมานสฺส จงฺกมนํ เอโกติ อิเม ปฺจ มหาสุปินา นาม, อิเม จ ยถากฺกมํ สมฺโพธิยา, เทวมนุสฺเสสุ อริยมคฺคปฺปกาสนสฺส, คิหีนฺจ สรณูปคมนสฺส, ขตฺติยาทิจตุวณฺณานํ ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตปฏิลาภสฺส, จตุนฺนํ ปจฺจยานํ ลาเภ อลิตฺตภาวสฺส จ ปุพฺพนิมิตฺตานีติ เวทิตพฺพํ. โสฬส สุปินา ปากฏา เอว. เอกนฺตสจฺจเมวาติ ผลนิยมุปฺปตฺติโต วุตฺตํ. ทสฺสนํ ปน สพฺพตฺถ วิปลฺลตฺถเมว. ธาตุกฺโขภาทีสุ จตูสุ มูลการเณสุ ทฺวีหิ ตีหิปิ การเณหิ กทาจิ สุปินํ ปสฺสนฺตีติ อาห ‘‘สํสคฺคเภทโต’’ติ. สุปินเภโทติ สจฺจาสจฺจตฺถตาเภโท.
รูปนิมิตฺตาทิอารมฺมณนฺติ เอตฺถ กมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตโต อฺรูปเมว วิฺาณสฺส นิมิตฺตนฺติ รูปนิมิตฺตํ, ตํ อาทิ เยสํ สตฺตนิมิตฺตาทีนํ ตานิ รูปนิมิตฺตาทีนิ อารมฺมณานิ ยสฺส ภวงฺคจิตฺตสฺส ตํ รูปนิมิตฺตาทิอารมฺมณํ. อีทิสานีติ รูปนิมิตฺตาทิอารมฺมณานิ ราคาทิสมฺปยุตฺตานิ จ. สพฺโพหาริกจิตฺเตนาติ ปฏิพุทฺธสฺส ปกติวีถิจิตฺเตน. โก นาม ปสฺสตีติ สุตฺตปฏิพุทฺธภาววิยุตฺตาย ¶ จิตฺตปฺปวตฺติยา อภาวโต สุปินํ ปสฺสนฺโต นาม น สิยาติ อธิปฺปาโย, เตนาห ‘‘สุปินสฺส อภาโวว อาปชฺชตี’’ติ. กปิมิทฺธปเรโตติ อิมินา นิทฺทาวเสน ปวตฺตมานภวงฺคสนฺตติพฺยวหิตาย กุสลากุสลาย มโนทฺวารวีถิยา จ ปสฺสตีติ ทสฺเสติ, เตนาห ยา นิทฺทาติอาทิ. ทฺวีหิ อนฺเตหิ มุตฺโตติ กุสลากุสลสงฺขาเตหิ ทฺวีหิ อนฺเตหิ มุตฺโต. อาวชฺชนตทารมฺมณกฺขเณติ สุปิเน ปฺจทฺวารวีถิยา อภาวโต มโนทฺวาเร อุปฺปชฺชนารหํ คเหตฺวา วุตฺตํ.
เอตฺถ จ สุปินนฺเตปิ ตทารมฺมณวจนโต อนุภูเตสุ สุตปุพฺเพสุ วา รูปาทีสุ ปุราปตฺติภาเวน ปริกปฺเปตฺวา วิปลฺลาสโต ปวตฺตมานาปิ กามาวจรวิปากธมฺมา ปริตฺตธมฺเม นิสฺสาย ปริกปฺเปตฺวา ปวตฺตตฺตา ปริตฺตารมฺมณา วุตฺตา, น ปน สรูปโต ปริตฺตธมฺเม คเหตฺวา ปวตฺตตฺตา ¶ เอวาติ คเหตพฺพํ. เอวฺจ อิตฺถิปุริสาทิอาการํ อาโรเปตฺวา ปวตฺตมานานํ ราคาทิสวิปากธมฺมานมฺปิ เตสํ อารมฺมณํ คเหตฺวา อุปฺปนฺนานํ ปฏิสนฺธาทิวิปากานมฺปิ ปริตฺตารมฺมณตา กมฺมนิมิตฺตารมฺมณตา จ อุปปนฺนา เอว โหติ. วตฺถุธมฺมวินิมุตฺตํ ปน สมฺมุติภูตํ กสิณาทิปฏิภาคารมฺมณํ คเหตฺวา อุปฺปนฺนา อุปจารปฺปนาทิวสปฺปวตฺตา จิตฺตเจตสิกธมฺมา เอว ปริตฺตตฺติเก (ธ. ส. ติกมาติกา ๑๒) น วตฺตพฺพารมฺมณาติ คเหตพฺพา.
สฺวายนฺติ สุปิโน. วิปลฺลาเสน ปริกปฺปิตปริตฺตารมฺมณตฺตา ‘‘ทุพฺพลวตฺถุกตฺตา’’ติ วุตฺตํ, อวิชฺชมานารมฺมเณ อวสวตฺติโตติ อธิปฺปาโย, เตนาห อวิสเย อุปฺปนฺนตฺตาติอาทิ.
อาปตฺตินิกายสฺสาติ อิทํ สงฺฆาทิเสโสติ ปุลฺลิงฺค-สทฺทสฺส อนุรูปวเสน วุตฺตํ. อสฺสาติ อสฺส อาปตฺตินิกายสฺส, วุฏฺาเปตุํ อิจฺฉิตสฺสาติ อตฺโถ, เตนาห กึ วุตฺตนฺติอาทิ. รุฬฺหิสทฺเทนาติ เอตฺถ สมุทาเย นิปฺผนฺนสฺสาปิ สทฺทสฺส ตเทกเทเสปิ ปสิทฺธิ อิธ รุฬฺหี นาม, ตาย รุฬฺหิยา ยุตฺโต สทฺโท รุฬฺหีสทฺโท, เตน. รุฬฺหิยา การณมาห อวยเวอิจฺจาทินา.
กาลฺจาติ ‘‘ราคูปตฺถมฺเภ’’ติอาทินา ทสฺสิตกาลฺจ, ‘‘ราคูปตฺถมฺเภ’’ติ วุตฺเต ราคูปตฺถมฺเภ ชาเต ตสฺมึ กาเล โมเจตีติ อตฺถโต ¶ กาโล คมฺมติ. นวมสฺส อธิปฺปายสฺสาติ วีมํสาธิปฺปายสฺส. วตฺถูติ วิสยํ.
๒๓๘. โลมา เอเตสํ สนฺตีติ โลมสา, พหุโลมปาณกา.
๒๓๙. โมจเนนาติ โมจนปฺปโยเคน. โมจนสฺสาทสมฺปยุตฺตายาติ เอตฺถ โมจนิจฺฉาว โมจนสฺสาโท, เตน สมฺปยุตฺตา เจตนา โมจนสฺสาทเจตนาติ อตฺโถ, น ปน โมจเน อสฺสาทํ สุขํ ปตฺเถนฺติยา เจตนายาติ เอวํ อตฺโถ คเหตพฺโพ, อิตรถา สุขตฺถาย โมเจนฺตสฺเสว อาปตฺติ, น อาโรคฺยาทิอตฺถายาติ อาปชฺชติ. ตสฺมา อาโรคฺยาทีสุ เยน เกนจิ อธิปฺปาเยน โมจนิจฺฉาย เจตนายาติ อตฺโถว คเหตพฺโพ.
๒๔๐. วายมโตติ องฺคชาเต กาเยน อุปกฺกมโต. ทฺเว อาปตฺติสหสฺสานีติ ขณฺฑจกฺกาทีนิ อนามสิตฺวาว วุตฺตํ, อิจฺฉนฺเตน ปน ขณฺฑจกฺกาทิเภเทนาปิ คณนา กาตพฺพา. เอเกน ปเทนาติ เคหสิตเปมปเทน. ตเถวาติ โมจนสฺสาทเจตนาย เอว คาฬฺหํ ปีฬนาทิปฺปโยคํ ¶ อวิชหิตฺวา สุปเนน สงฺฆาทิเสโสติ วุตฺตํ. สุทฺธจิตฺโตติ โมจนสฺสาทสฺส นิมิตฺเต อูรุอาทีหิ กตอุปกฺกมสฺส วิชหนํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตน อสุภมนสิการาภาเวปิ ปโยคาภาเวเนว โมจเนปิ อนาปตฺติ ทีปิตาติ เวทิตพฺพา.
เตน อุปกฺกเมน มุตฺเตติ มุจฺจมานํ วินา อฺสฺมิมฺปิ สุกฺเก านโต มุตฺเต. ยทิ ปน อุปกฺกเม กเตปิ มุจฺจมานเมว ทกโสตํ โอตรติ, ถุลฺลจฺจยเมว ปโยเคน มุตฺตสฺส อภาวา. ชคฺคนตฺถายาติ จีวราทีสุ ลิมฺปนปริหาราย หตฺเถน องฺคชาตคฺคหณํ วฏฺฏติ, ตปฺปโยโค น โหตีติ อธิปฺปาโย. อโนกาสนฺติ องฺคชาตปฺปเทสํ.
๒๖๒. สุปินนฺเตน การเณนาติ สุปินนฺเต ปวตฺตอุปกฺกมเหตุนา. อาปตฺติฏฺาเนเยว หิ อยํ อนาปตฺติ อวิสยตฺตา วุตฺตา. เตนาห ‘‘สจสฺส วิสโย โหติ นิจฺจเลน ภวิตพฺพ’’นฺติอาทิ.
๒๖๓. วินีตวตฺถุปาฬิยํ ¶ อณฺฑกณฺฑุวนวตฺถุสฺมึ โมจนาธิปฺปาเยน อณฺฑจลเนน องฺคชาตสฺสาปิ จลนโต นิมิตฺเต อุปกฺกโม โหตีติ สงฺฆาทิเสโส วุตฺโต. ยถา ปน องฺคชาตํ น จลติ, เอวํ อณฺฑเมว กณฺฑุวเนน ผุสนฺตสฺส มุตฺเตปิ อนาปตฺติ อณฺฑสฺส อนงฺคชาตตฺตา.
๒๖๔. วตฺถินฺติ องฺคชาตสีสจฺฉาทกจมฺมํ. อุทรํ ตาเปนฺตสฺส…เป… อนาปตฺติเยวาติ อุทรตาปเนน องฺคชาเตปิ ตตฺเต ตาวตฺตเกน นิมิตฺเต อุปกฺกโม กโต นาม น โหตีติ วุตฺตํ.
๒๖๕. เอหิ เม ตฺวํ, อาวุโส, สามเณราติ วตฺถุสฺมึ อฺํ อาณาเปตุ, เตน กริยมานสฺส องฺคชาตจลนสฺส โมจนสฺสาเทน สาทิยนโต ตํ จลนํ ภิกฺขุสฺส สาทิยนจิตฺตสมุฏฺิตมฺปิ โหตีติ สุกฺกวิสฺสฏฺิปจฺจยสฺส องฺคชาตจลนสฺส เหตุภูตา อสฺสาทเจตนาว อาปตฺติยา องฺคํ โหติ, น อาณาปนวาจา ตสฺสา ปวตฺติกฺขเณ สงฺฆาทิเสสสฺส อสิชฺฌนโต. เอวํ อาณาเปตฺวาปิ โยนิโสมนสิกาเรน โมจนสฺสาทํ ปฏิวิโนเทนฺตสฺส อาปตฺติอสมฺภวโต อิทํ สิกฺขาปทํ อนาณตฺติกํ, กายกมฺมํ, กิริยสมุฏฺานฺจ ชาตนฺติ คเหตพฺพํ, อาณาปนวาจาย ปน ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. โย ปน ปเรน อนาณตฺเตน พลกฺกาเรนาปิ กริยมานปฺปโยคํ โมจนสฺสาเทน สาทิยติ, ตสฺสาปิ มุตฺเต ปมปาราชิเก วิย สงฺฆาทิเสโสว, อมุตฺเต ถุลฺลจฺจยํ. โมจนสฺสาเท เจตนาย ปน อสติ กายสํสคฺคราเคน ¶ สาทิยนฺตสฺสาปิ มุตฺเตปิ สงฺฆาทิเสเสน อนาปตฺตีติ อาจริยา วทนฺติ, ตฺจ ยุตฺตเมว.
๒๖๖. กายตฺถมฺภนวตฺถุสฺมึ จลนวเสน ยถา องฺคชาเต อุปกฺกโม สมฺภวติ, ตถา วิชมฺภิตตฺตา อาปตฺติ วุตฺตา.
อุปนิชฺฌายนวตฺถุสฺมึ องฺคชาตนฺติ ชีวมานอิตฺถีนํ ปสฺสาวมคฺโคว อธิปฺเปโต, เนตโร.
๒๖๗. ปุปฺผาวลีติ กีฬาวิเสโส. ตํ กิร กีฬนฺตา นทีอาทีสุ ฉินฺนตฏํ อุทเกน จิกฺขลฺลํ กตฺวา ตตฺถ อุโภ ปาเท ปสาเรตฺวา นิสินฺนา ปตนฺติ ¶ , ‘‘ปุปฺผาวลิย’’นฺติปิ ปาโ. ปเวเสนฺตสฺสาติ ปโยชกตฺเตน ทฺวิกมฺมิกตฺตา ‘‘วาลิกํ องฺคชาต’’นฺติ อุภยตฺถาปิ อุปโยควจนํ กตํ. เจตนา, อุปกฺกโม, มุจฺจนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ เวทิตพฺพานิ.
สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๖๙. ทุติเย เกสุจิ วาตปาเนสุ วิวเฏสุ พหิปิ อนฺธการตฺตา อาโลโก น ปวิสติ, วิวฏกวาเฏน อฺโต อาคจฺฉนฺตสฺส อาโลกสฺส นิวารณโต กวาฏสฺส ปิฏฺิปสฺเส ฆนนฺธกาโรว โหติ, ตาทิสานิ สนฺธาย ‘‘เยสุ วิวเฏสุ อนฺธกาโร โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ.
พฺราหฺมณี อตฺตโน องฺคมงฺคานํ ปรามสนกฺขเณ อนาจารานุกูลา หุตฺวา น กิฺจิ วตฺวา ภิกฺขุโน วณฺณภณนกฺขเณ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘ปพฺพชิตุกาโม มฺเติ สลฺลกฺเขตฺวา’’ติ, ปพฺพชิตุกาโม วิยาติ สลฺลกฺเขตฺวาติ อตฺโถ. กุลิตฺถีนํ เอวํ ปเรหิ อภิภวนํ นาม อจฺจนฺตาวมาโนติ อาห ‘‘อตฺตโน วิปฺปการ’’นฺติ.
๒๗๐. โอติณฺณสทฺทสฺส กมฺมสาธนปกฺขํ สนฺธาย ‘‘ยกฺขาทีหี’’ติอาทิ วุตฺตํ, กตฺตุสาธนปกฺขํ สนฺธาย ‘‘กูปาทีนี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺมึ วตฺถุสฺมินฺติ อิตฺถิสรีรสงฺขาเต วตฺถุสฺมึ.
๒๗๑. อสฺสาติ หตฺถคฺคาหาทิกสฺส สพฺพสฺส.
๒๗๓. เอเตสํ ¶ ปทานนฺติ อามสนาทิปทานํ. อิตฺถิสฺีติ มนุสฺสิตฺถิสฺี. นํ-สทฺทสฺส กายวิเสสนภาเวน เอตํ กายนฺติ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. โอมสนฺโต…เป… เอกาว อาปตฺตีติ อนิวตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ, น นิวตฺถํ. สนิวตฺถาย ปน มตฺถกโต ปฏฺาย หตฺถํ โอตาเรนฺตสฺส นิวตฺถสาฏโกปริ หตฺเถ อารุฬฺเห ถุลฺลจฺจยํ. สาฏกโต หตฺถํ โอตาราเปตฺวา ชงฺฆโต ปฏฺาย โอมสนฺตสฺส ปุน สงฺฆาทิเสโส.
ยถานิทฺทิฏฺนิทฺเทเสติ ¶ ยถาวุตฺตกายสํสคฺคนิทฺเทเส. เตนาติ เยน การเณน วตฺถุสฺาทโย โหนฺติ, เตน การเณน. ยถาวุตฺตสิกฺขาปทนิทฺเทเส วุตฺตํ ครุกํ ภิกฺขุโน กเรยฺย ปกาเสยฺยาติ โยชนา.
สฺาย วิราคิตมฺหีติ สฺาย วิรทฺธาย. อิทํ นาม วตฺถุนฺติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อาคตํ, อนาคตฺจ ยํ กิฺจิ สวิฺาณกาวิฺาณกํ ผุสนฺตสฺส อนาปตฺติอภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ.
สารตฺตนฺติ กายสํสคฺคราเคเนว สารตฺตํ. วิรตฺตนฺติ กายสํสคฺคราครหิตํ มาตุอาทึ สนฺธาย วทติ. ทุกฺกฏนฺติ มาตุเปมาทิวเสน คณฺหนฺตสฺส วเสน วุตฺตํ, วิรตฺตมฺปิ อิตฺถึ กายสํสคฺคราเคน คณฺหนฺตสฺส ปน สงฺฆาทิเสโส เอว. อิมาย ปาฬิยา สเมตีติ สมฺพนฺโธ. กถํ สเมตีติ เจ? ยทิ หิ ‘‘อิตฺถิยา กายปฺปฏิพทฺธํ คณฺหิสฺสามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺเน อิตฺถิสฺา วิราคิตา ภเวยฺย. กายปฺปฏิพทฺธคฺคหเณปิ ถุลฺลจฺจเยนาปิ น ภวิตพฺพํ อิตฺถิสฺาย เอว ปาฬิยํ (ปารา. ๒๗๖) ถุลฺลจฺจยสฺส วุตฺตตฺตา, ตสฺมา ‘‘อิตฺถิยา กายปฺปฏิพทฺธํ คณฺหิสฺสามีติ กายํ คณฺหนฺตสฺส อิตฺถิสฺา วิราคิตา นาม น โหตีติ กายปฺปฏิพทฺธํ คณฺหิสฺสามีติ กายํ คณฺหโต อิตฺถิสฺาย เจว กายสํสคฺคราคสฺส จ กายคฺคหณสฺส จ สมฺภวา ยถาวตฺถุกํ สงฺฆาทิเสสเมว อาปชฺชตี’’ติ มหาสุมตฺเถเรน วุตฺตวาโทว อิมาย ปาฬิยา สเมติ. อฏฺกถายฺหิ ‘‘สมฺพหุลา อิตฺถิโย พาหาหิ ปริกฺขิปิตฺวา คณฺหามี’’ติ สฺาย ปริกฺขิปโต มชฺฌคตานํ วเสน ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ. น หิ ตสฺส ‘‘มชฺฌคตา อิตฺถิโย กายปฺปฏิพทฺเธน คณฺหามี’’ติ สฺา อตฺถิ, ตสฺมา อฏฺกถายปิ สเมตีติ คเหตพฺพํ. นีเลน ทุวิฺเยฺยภาวโต กาฬิตฺถี วุตฺตา.
๒๗๙. เสวนาธิปฺปาโยติ ¶ ผสฺสสุขเสวนาธิปฺปาโย. กายปฺปฏิพทฺธามสนวาเร กายปฺปฏิพทฺธวเสน ผสฺสปฏิวิชานนํ เวทิตพฺพํ. จิตฺตุปฺปาทมตฺเต อาปตฺติยาภาวโต อนาปตฺตีติ อิทํ กายสํสคฺคราคมตฺเตน กายจลนสฺส อนุปฺปตฺติโต อิตฺถิยา กริยมานกายจลนํ สาทิยโตปิ ปโยคาภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปมปาราชิเก ปน ปเรหิ อุปกฺกมิยมานสฺส อภาวโต เสวนาธิปฺปาเย อุปฺปนฺเน เตน อธิปฺปาเยน องฺคชาตกฺโขโภ ¶ สยเมว อวสฺสํ สฺชายติ, โส จ เตน กโต นาม โหตีติ ปาราชิกํ วุตฺตํ, เตเนว นเยน ปมสงฺฆาทิเสเสปิ ปเรน กริยมานปโยคสาทิยมาเนปิ องฺคชาตกฺโขภสมฺภเวน อาปตฺติ โหตีติ เวทิตพฺพํ. จตุตฺเถติ ‘‘น จ กาเยน วายมติ, น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาตี’’ติ อิมสฺมึ วาเร. ผสฺสปฏิวิชานนมฺปีติ อปิ-สทฺเทน ตติยวาเร วิย วายาโมปิ นตฺถีติ ทสฺเสติ. นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยามสเน วิยาติ อิทํ ปน ผสฺสปฏิวิชานนาภาวมตฺตสฺเสว นิทสฺสนํ, น ปโยคาภาวสฺสาติ ทฏฺพฺพํ. โมกฺขาธิปฺปาโยติ เอตฺถ จิตฺตสฺส ลหุปริวตฺติตาย อนฺตรนฺตรา กายสํสคฺคราเค สมุปฺปนฺเนปิ โมกฺขาธิปฺปายสฺส อวิจฺฉินฺนตาย อนาปตฺติเยว, วิจฺฉินฺเน ปน ตสฺมึ อาปตฺติ เอว.
ปทภาชนียวณฺณนานโย.
๒๘๑. เอตฺถ คณฺหาหีติ น วตฺตพฺพาติ เคหสิตเปเมน กายปฺปฏิพทฺเธน ผุสเน ทุกฺกฏํ สนฺธาย วุตฺตํ, การฺุเน ปน วตฺถาทึ คเหตุํ อสกฺโกนฺตึ ‘‘คณฺหา’’ติ วทนฺตสฺสาปิ อวสสภาวปฺปตฺตํ อุทเก นิมุชฺชนฺตึ การฺุเน สหสา อนามาสนฺติ อจินฺเตตฺวา เกสาทีสุ คเหตฺวา โมกฺขาธิปฺปาเยน อากฑฺฒโตปิ อนาปตฺติเยว. น หิ มียมานํ มาตรํ อุกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ. อฺาติกาย อิตฺถิยาปิ เอเสว นโย. อุกฺกฏฺาย มาตุยาปิ อามาโส น วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘มาตร’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺสา กาตพฺพํ ปน อฺาสมฺปิ อิตฺถีนํ กโรนฺตสฺสาปิ อนาปตฺติเยว อนามาสตฺเต วิเสสาภาวา.
ติณณฺฑุปกนฺติ หิริเวราทิมูเลหิ เกสาลงฺการตฺถาย กตจุมฺพฏกํ. ปริวตฺเตตฺวาติ อตฺตโน นิวาสนาทิภาวโต อปเนตฺวา. ปูชาทิอตฺถํ ปน ตาวกาลิกมฺปิ อามสิตุํ วฏฺฏติ. สีสปสาธนกทนฺตสูจิอาทีติ อิทํ สีสาลงฺการตฺถาย ปฏปิโลติกาทีหิ กตํ สีสปสาธนกฺเจว ทนฺตสูจิอาทิ จาติ ทฺวิธา โยเชตฺวา สีสปสาธนํ สิปาฏิโกปกรณตฺถาย เจว ทนฺตสูจิอุปกรณตฺถาย จ คเหตพฺพนฺติ ยถากฺกมํ อตฺถํ ทสฺเสติ. เกสกลาปํ พนฺธิตฺวา ตตฺถ ติริยํ ปเวสนตฺถาย กตา ทนฺตสูจิ เอว สีสปสาธนกทนฺตสูจีติ เอกเมว กตฺวา สิปาฏิกาย ¶ ปกฺขิปิตฺวา ปริหริตพฺพสูจิเยว ตสฺส ตสฺส กิจฺจสฺส อุปกรณนฺติ สิปาฏิกาสูจิอุปกรณนฺติ เอวํ วา โยชนา กาตพฺพา ¶ . โปตฺถกรูปนฺติ สุธาทีหิ กตํ, ปาราชิกวตฺถุภูตานํ ติรจฺฉานคติตฺถีนํ สณฺาเนน กตมฺปิ อนามาสเมว. อิตฺถิรูปาทีนิ ทสฺเสตฺวา กตํ, วตฺถภิตฺติอาทิฺจ อิตฺถิรูปํ อนามสิตฺวา วฬฺเชตุํ วฏฺฏติ. เอวรูเปหิ อนามาเส กายสํสคฺคราเค อสติ กายปฺปฏิพทฺเธน อามสโต โทโส นตฺถิ. ภินฺทิตฺวาติ เอตฺถ อนามาสมฺปิ ทณฺฑปาสาณาทีหิ เภทนสฺส อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา, ปาฬิยมฺปิ อาปทาสุ โมกฺขาธิปฺปายสฺส อามสเนปิ อนาปตฺติยา วุตฺตตฺตา จ. สปฺปินีอาทีหิ วาฬมิคีหิ จ คหิตปาณกานํ โมจนตฺถาย ตํ สปฺปินีอาทึ วตฺถทณฺฑาทีหิ ปริกฺขิปิตฺวา คเหตุํ, มาตุอาทึ อุทเก มียมานํ วตฺถาทีหิ คเหตุํ, อสกฺโกนฺตึ เกสาทีสุ คเหตฺวา การฺุเน อุกฺขิปิตุํ วฏฺฏตีติ อยมตฺโถ คเหตพฺโพว. อฏฺกถายํ ‘‘น ตฺเวว อามสิตพฺพา’’ติ อิทํ ปน วจนํ อมียมานวตฺถุํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อยํ อมฺหากํ ขนฺติ.
มคฺคํ อธิฏฺายาติ ‘‘มคฺโค อย’’นฺติ มคฺคสฺํ อุปฺปาเทตฺวาติ อตฺโถ. ปฺเปตฺวา เทนฺตีติ อิทํ สามีจิวเสน วุตฺตํ, เตหิ ปน อาสนํ อปฺเปตฺวาว นิสีทถาติ วุตฺเต สยเมว ปฺเปตฺวา นิสีทิตุมฺปิ วฏฺฏติ. ตตฺถชาตกานีติ อจฺฉินฺทิตฺวา ภูตคามภาเวเนว ิตานิ. กีฬนฺเตนาติ วุตฺตตฺตา สติ ปจฺจเย อามสนฺตสฺส อนาปตฺติ. ภิกฺขุสนฺตกํ ปน ปริโภคารหํ สพฺพถา อามสิตุํ น วฏฺฏติ ทุรุปจิณฺณตฺตา. อนุปสมฺปนฺนานํ ทสฺสามีติ อิทํ อปฺปฏิคฺคเหตฺวา คหณํ สนฺธาย วุตฺตํ. อตฺตโนปิ อตฺถาย ปฏิคฺคเหตฺวา คหเณ โทโส นตฺถิ อนามาสตฺตาภาวา.
มณีติ เวฬุริยาทิโต อฺโ โชติรสาทิเภโท สพฺโพปิ มณิ. เวฬุริโยติ อลฺลเวฬุวณฺโณมณิ, ‘‘มชฺชารกฺขิ มณฺฑลวณฺโณ’’ติปิ วทนฺติ. สิลาติ มุคฺคมาสวณฺณา อติสินิทฺธา กาฬสิลา, มณิโวหารํ อาคตา รตฺตเสตาทิวณฺณา สุมฏฺาปิ สิลา อนามาสา เอวาติ วทนฺติ. รชตนฺติ กหาปณมาสาทิเภทํ ชตุมาสาทึ อุปาทาย สพฺพํ วุตฺตาวเสสํ รูปิยํ คหิตํ. โลหิตงฺโกติ รตฺตมณิ. มสารคลฺลนฺติ กพรวณฺโณ มณิ, ‘‘มรกต’’นฺติปิ วทนฺติ. เภสชฺชตฺถาย ปิสิตฺวา โยชิตานํ มุตฺตานํ รตนภาววิรหโต คหณกฺขเณปิ รตนากาเรน อเปกฺขิตาภาวา ‘‘เภสชฺชตฺถาย ปน วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ยาว ปน ¶ ตา มุตฺตา รตนรูเปน ติฏฺนฺติ, ตาว อามสิตุํ น วฏฺฏติ เอว. เอวํ อฺมฺปิ รตนปาสาณํ ปิสิตฺวา เภสชฺเช โยชนตฺถาย คเหตุํ วฏฺฏติ เอว, ชาตรูปรชตํ ปน ปิสิตฺวา โยชนเภสชฺชตฺถายปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ, คหฏฺเหิ โยเชตฺวา ทินฺนมฺปิ ยทิ เภสชฺเช สุวณฺณาทิรูเปน ติฏฺติ, วิโยเชตฺุจ สกฺกา, ตาทิสํ เภสชฺชมฺปิ น วฏฺฏติ. ตํ อพฺโพหาริกตฺตํ คตํ เจ, วฏฺฏติ. ‘‘ชาติผลิกํ ¶ อุปาทายา’’ติ วุตฺตตฺตา, สูริยกนฺตจนฺทกนฺตาทิกํ ชาติปาสาณํ มณิมฺหิ เอว สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ธมนสงฺโข จ โธตวิทฺโธ จ รตนมิสฺโส จาติ โยเชตพฺพํ. วิทฺโธติ มณิอาทิภาเวน กตฉิทฺโท.
รตนมิสฺโสติ กฺจนลตาทิวิจิตฺโต, มุตฺตาทิรตนขจิโต จ, เอเตน ธมนสงฺขโต อฺโ รตนมิสฺโสว อนามาโสติ ทสฺเสติ. สิลายมฺปิ เอเสว นโย. ปานียสงฺโขติ อิมินาว ถาลกาทิอากาเรน กตสงฺขมยภาชนานิ ภิกฺขูนํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตีติ สิทฺธํ. เสสาติ รตนสํยุตฺตํ เปตฺวา อวเสสา.
พีชโต ปฏฺายาติ ธาตุปาสาณโต ปฏฺาย. ปฏิกฺขิปีติ สุวณฺณมยธาตุกรณฺฑกสฺส, พุทฺธรูปาทิสฺส จ อตฺตโน สนฺตกกรเณ นิสฺสคฺคิยตฺตา วุตฺตํ. ‘‘รูปิยฉฑฺฑกฏฺาเน’’ติ วุตฺตตฺตา รูปิยฉฑฺฑกสฺส ชาตรูปรชตํ อามสิตฺวา ฉฑฺเฑตุํ วฏฺฏตีติ สิทฺธํ. เกฬาปยิตุนฺติ อามสิตฺวา อิโต จิโต จ สฺจาเรตุํ. วุตฺตนฺติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. กจวรเมว หริตุํ วฏฺฏตีติ โคปกา วา โหนฺตุ อฺเ วา, หตฺเถน ปฺุฉิตฺวา กจวรํ อปเนตุํ วฏฺฏติ, มลมฺปิ ปมชฺชิตุํ วฏฺฏติ เอวาติ วทนฺติ, ตํ อฏฺกถาย น สเมติ เกฬายนสทิสตฺตา. อารกูฏโลหนฺติ สุวณฺณวณฺโณ กิตฺติมโลหวิเสโส. ติวิธฺหิ กิตฺติมโลหํ กํสโลหํ วฏฺฏโลหํ หารกูฏโลหนฺติ. ตตฺถ ติปุตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ กํสโลหํ นาม. สีสตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ วฏฺฏโลหํ. รสตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ หารกูฏโลหํ นาม. ตํ ปน ‘‘ชาตรูปคติก’’นฺติ วุตฺตตฺตา อุคฺคณฺหโต นิสฺสคฺคิยมฺปิ โหตีติ เกจิ วทนฺติ. รูปิเยสุ ปน อคณิตตฺตา นิสฺสคฺคิยํ น โหติ, อามสเน, สมฺปฏิจฺฉเน จ ทุกฺกฏเมวาติ เวทิตพฺพํ. สพฺพกปฺปิโยติ ยถาวุตฺตสุวณฺณาทิมยานํ ¶ เสนาสนปริกฺขารานํ อามสนโคปนาทิวเสน ปริโภโค สพฺพถา กปฺปิโยติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. ‘‘ภิกฺขูนํ ธมฺมวินยวณฺณนฏฺาเน’’ติ วุตฺตตฺตา สงฺฆิกเมว สุวณฺณาทิมยํ เสนาสนํ, เสนาสนปริกฺขารา จ วฏฺฏนฺติ, น ปุคฺคลิกานีติ คเหตพฺพํ.
ภินฺทิตฺวาติ ปมเมว อนามสิตฺวา ปาสาณาทินา กิฺจิมตฺตํ เภทํ กตฺวา ปจฺฉา กปฺปิยภณฺฑตฺถาย อธิฏฺหิตฺวา หตฺเถน คเหตุํ วฏฺฏติ. เตนาห ‘‘กปฺปิยภณฺฑํ กริสฺสามีติ สพฺพมฺปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. เอตฺถาปิ กิฺจิ ภินฺทิตฺวา, วิโยเชตฺวา วา อามสิตพฺพ.
ผลกชาลิกาทีนีติ เอตฺถ สรปริตฺตาณาย หตฺเถน คเหตพฺพํ กิฏิกาผลกํ อกฺขิรกฺขณตฺถาย อยโลหาทีหิ ชาลากาเรน กตฺวา สีสาทีสุ ปฏิมฺุจิตพฺพํ ชาลิกํ นาม ¶ . อาทิ-สทฺเทน กวจาทึ สงฺคณฺหาติ. อนามาสานีติ มจฺฉชาลาทิปรูปโรธกํ สนฺธาย วุตฺตํ, น สรปริตฺตาณํ ตสฺส อาวุธภณฺฑตฺตาภาวา. เตเนว วกฺขติ ‘‘ปรูปโรธนิวารณํ หี’’ติอาทิ. อาสนสฺสาติ เจติยสฺส สมนฺตา กตปริภณฺฑสฺส. พนฺธิสฺสามีติ กากาทีหิ อทูสนตฺถาย พนฺธิสฺสามิ.
‘‘เภริสงฺฆาโฏติ สงฺฆฏิตจมฺมเภรี. วีณาสงฺฆาโฏติ สงฺฆฏิตจมฺมวีณา’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๒๘๑) วุตฺตํ. ‘‘จมฺมวินทฺธานิ วีณาเภริอาทีนี’’ติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตวจนโต วิเสสาภาวา, ‘‘กุรุนฺทิยํ ปนา’’ติอาทินา ตโต วิเสสสฺส วตฺตุมารทฺธตฺตา จ เภริอาทีนํ วินทฺธโนปกรณสมูโห เภริวีณาสงฺฆาโฏติ เวทิตพฺพํ สงฺฆฏิตพฺโพติ สงฺฆาโฏติ กตฺวา. ตุจฺฉโปกฺขรนฺติ อวินทฺธจมฺมเภริวีณานํ โปกฺขรํ. อาโรปิตจมฺมนฺติ ปุพฺเพ อาโรปิตํ หุตฺวา ปจฺฉา ตโต อปเนตฺวา วิสุํ ปิตมุขจมฺมมตฺตํ, น เสโสปกรณสหิตํ. สหิตํ ปน สงฺฆาโฏติ อยํ วิเสโส. โอนหิตุนฺติ เภริโปกฺขราทีนิ จมฺมํ อาโรเปตฺวา จมฺมวฏฺฏิอาทีหิ สพฺเพหิ อุปกรเณหิ วินนฺธิตุํ.
ปาฬิยํ ปณฺฑกสฺสาติ ปณฺฑเกน. ปาราชิกปฺปโหนกกาเลติ อกุถิตกาเล. กายสํสคฺคราคาทิภาเว สพฺพาวตฺถายปิ อิตฺถิยา สณฺาเน ¶ ปฺายมาเน อนามาสทุกฺกฏํ น วิคจฺฉตีติ ทฏฺพฺพํ. สงฺกมาทีนํ านาจาวนวเสน อจาเลตพฺพตาย น กายปฺปฏิพทฺธโวหาโรติ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ.
๒๘๒. เอกปทิกสงฺกโมติ ตนุกเสตุ. ‘‘อาวิฺฉนฺโต’’ติ วุตฺตตฺตา จาเลตุํ ยุตฺตาย เอว รชฺชุยา ถุลฺลจฺจยํ, น อิตราย ภิตฺติถมฺภาทิคติกตฺตาติ อาห ‘‘ยา มหารชฺชุ โหตี’’ติอาทิ. เตน จาเลตุํ ยุตฺเต ตนุกรชฺชุทณฺฑเก อจาเลตฺวา ผุสนฺตสฺสาปิ ถุลฺลจฺจยเมวาติ ทีปิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปฏิจฺฉาเทตพฺพาติ ฉาทนาทิวเสน คูหิตพฺพา. มนุสฺสิตฺถี, มนุสฺสิตฺถิสฺิตา, กายสํสคฺคราโค, วายาโม, เตน หตฺถาทีสุ ผุสนนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๘๕. ตติเย อสทฺธมฺมปฏิสฺุตฺตนฺติ เมถุนธมฺมปฏิสํยุตฺตํ. พาลาติ สุภาสิตทุพฺภาสิตํ อชานนฺตี ¶ , สุรามทมตฺตตาย อุมฺมตฺตกาทิภาเวน จ อชานนฺตีปิ เอตฺเถว สงฺคยฺหติ. น ตาว สีสํ เอตีติ สงฺฆาทิเสสปจฺจยตฺตสงฺขาตํ มตฺถกํ ปาริปูริ น โหติ, มคฺคเมถุเนหิ อฆฏิตตฺตา ทุกฺกฏํ ปน โหติ เอว.
อปสาเทตีติ อปสาทกรวจนํ กโรติ. โทสํ เทตีติ โทสํ ปติฏฺาเปติ. ตีหีติ อนิมิตฺตาสีติอาทีนํ ปทานํ อทุฏฺุลฺลภาเวนาปิ อตฺถโยชนารหตฺตา ปสฺสาวมคฺคาทิปฏิสฺุตฺตตานิยโม นตฺถีติ วุตฺตํ, เตหิ ปน อฏฺหิ ปเทหิ ปริพฺพาชิกาวตฺถุสฺมึ (ปารา. ๒๘๙) วิย ถุลฺลจฺจยนฺติ เวทิตพฺพํ.
กฺุจิกปนาฬิมตฺตนฺติ กฺุจิกาฉิทฺทมตฺตํ. สุกฺขโสตาติ ทกโสตสฺส สุกฺขตาย โลหิตวณฺณวิคโม โหตีติ วุตฺตํ.
สุทฺธานีติ เมถุนาทิปเทหิ อโยชิตานิปิ. เมถุนธมฺเมน ฆฏิตาเนวาติ อิทํ อุปลกฺขณมตฺตํ, วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺเคหิปิ อนิมิตฺเต ‘‘ตว ¶ วจฺจมคฺโค, ปสฺสาวมคฺโค วา อีทิโส’’ติอาทินา ฆฏิเตปิ อาปตฺติกราเนว.
๒๘๖. ครุกาปตฺตินฺติ ภิกฺขุนิยา อุพฺภชาณุมณฺฑลิกาย ปาราชิกาปตฺตึ สนฺธาย วทติ.
๒๘๗. หสนฺโต หสนฺโตติ อุปลกฺขณมตฺตํ, อหสนฺโตปิ เยน เกนจิ อากาเรน อตฺตโน วิปริณตจิตฺตตํ อิตฺถิยา ปกาเสนฺโต วทติ, อาปตฺติเยว.
กายจิตฺตโตติ หตฺถมุทฺทาย โอภาเสนฺตสฺส กายจิตฺตโต สมุฏฺาติ.
๒๘๘. ตสฺมา ทุกฺกฏนฺติ อปฺปฏิวิชานนโต ทุกฺกฏํ, ปฏิวิชานเน ปน สติ ถุลฺลจฺจยเมว ปริพฺพาชิกาวตฺถุสฺมึ (ปารา. ๒๘๙) วิย อเขตฺตปทตฺตา. เขตฺตปเท หิ ปฏิวิชานนฺติยา สงฺฆาทิเสโสว สิยา เมถุนธมฺมยาจนวตฺถุทฺวเย (ปารา. ๒๘๙) วิย, ตํ ปน วตฺถุทฺวยํ เมถุนยาจนโต จตุตฺถสงฺฆาทิเสเส วตฺตพฺพมฺปิ ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาทมตฺเตน ปวตฺตตฺตา อิธ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ เขตฺตปเทน วทนฺตสฺส อิตฺถิยา อปฺปฏิวิชานนฺติยา กึ โหตีติ? กิฺจาปิ อยํ นาม อาปตฺตีติ ปาฬิอฏฺกถาสุ น วุตฺตํ, อถ โข ถุลฺลจฺจเยเนเวตฺถ ภวิตพฺพํ ¶ . ตถา หิ อเขตฺตปเท อปฺปฏิวิชานนฺติยา ทุกฺกฏํ, ปฏิวิชานนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ. เขตฺตปเท ปน ปฏิวิชานเน สงฺฆาทิเสโสว วุตฺโต, อปฺปฏิวิชานเน ถุลฺลจฺจยเมว ภวิตุํ ยุตฺตํ, น ทุกฺกฏํ, อเขตฺตปทโต วิเสสาภาวปฺปสงฺโคติ คเหตพฺพํ. ยถา เจตฺถ, เอวํ จตุตฺถสิกฺขาปเทปิ อเขตฺตปเท ปฏิวิชานนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, อปฺปฏิวิชานนฺติยา ทุกฺกฏํ, เขตฺตปเท ปน อปฺปฏิวิชานนฺติยา ถุลฺลจฺจยนฺติ เวทิตพฺพํ. ปาฬิยํ นวาวุตนฺติ นววีตํ.
๒๘๘. อสทฺธมฺมํ สนฺธายาติ เมถุนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตฺหิ ปุตฺตสมุปฺปตฺติยา พีชนิกฺเขปโต วปฺปปริยายํ ลภตีติ.
สํสีทตีติ วหติ, สํสรียตีติ วา อตฺโถ. มนุสฺสิตฺถี, ตถาสฺิตา, ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาทราโค, เตน โอภาสนํ, ตงฺขณวิชานนนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๙๐. จตุตฺเถ ¶ ปเรหิ ปตฺเต ปาติยมานานํ ภิกฺขาปิณฺฑานํ ปาโต สนฺนิปาโตติ ปิณฺฑปาโตติ ภิกฺขาหาโร วุจฺจติ, ตํสทิสตาย อฺโปิ โย โกจิ ภิกฺขาจริยํ วินา ภิกฺขูหิ ลทฺโธ ปิณฺฑปาโตตฺเวว วุจฺจติ. ปติ เอติ เอตสฺมาติ ปจฺจโยติ อาห ‘‘ปติกรณฏฺเน ปจฺจโย’’ติ. โรคทุกฺขานํ วา ปฏิปกฺขภาเวน อยติ ปวตฺตตีติ ปจฺจโย. สปฺปายสฺสาติ หิตสฺส. นครปริกฺขาเรหีติ นครํ ปริวาเรตฺวา รกฺขณเกหิ. ราชูนํ เคหปริกฺเขโป ปริขา อุทฺทาโป ปากาโร เอสิกา ปลิโฆ อฏฺโฏติ อิเม สตฺต นครปริกฺขาราติ วทนฺติ. เสตปริกฺขาโรติ วิสุทฺธิสีลาลงฺกาโร. อริยมคฺโค หิ อิธ ‘‘รโถ’’ติ อธิปฺเปโต, ตสฺส จ สมฺมาวาจาทโย อลงฺการฏฺเน ‘‘ปริกฺขารา’’ติ วุตฺตา. จกฺกวีริโยติ วีริยจกฺโก. ชีวิตปริกฺขาราติ ชีวิตสฺส ปวตฺติการณานิ. สมุทาเนตพฺพาติ สมฺมา อุทฺธํ อาเนตพฺพา ปริเยสิตพฺพา.
๒๙๑. อุปจาเรติ ยตฺถ ิโต วิฺาเปตุํ สกฺโกติ, ตาทิเส าเน. กาโม เจว เหตุ จ ปาริจริยา จ อตฺโถติ ปาฬิยํ ‘‘อตฺตโน กามํ, อตฺตโน เหตุํ, อตฺตโน อธิปฺปายํ, อตฺตโน ปาริจริย’’นฺติ (ปารา. ๒๙๒) วุตฺเตสุ อิเมสุ จตูสุ ปเทสุ กาโม, เหตุ, ปาริจริยา ¶ จ อฏฺกถายํ วุตฺเต ปเม อตฺถวิกปฺเป วิคฺคหวากฺยาธิปฺปายสูจนโต อตฺโถ. เสสนฺติ อธิปฺปายปทเมกํ. พฺยฺชนนฺติ พฺยฺชนมตฺตํ, ปมวิกปฺปานุปโยคิตาย วจนมตฺตนฺติ อตฺโถ. ทุติเย อตฺถวิกปฺเปปิ เอเสว นโย.
ยถาวุตฺตเมว อตฺถํ ปทภาชเนน สํสนฺทิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺตโน กามํ อตฺตโน เหตุํ อตฺตโน ปาริจริยนฺติ หิ วุตฺเต ชานิสฺสนฺติ ปณฺฑิตา’’ติอาทิ อารทฺธํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อตฺตโน เหตุ’’นฺติ วุตฺเต อตฺตโน อตฺถายาติ อยมตฺโถ วิฺายติ, ‘‘อตฺตโน กามํ อตฺตโน ปาริจริย’’นฺติ วุตฺเต กาเมน ปาริจริยาติ อยมตฺโถ วิฺายติ. ตสฺมา อิเมหิ ตีหิ ปเทหิ อตฺตโน อตฺถาย กาเมน ปาริจริยา อตฺตกามปาริจริยาติ อิมํ อตฺถวิกปฺปํ วิฺู ชานิสฺสนฺติ. ‘‘อตฺตโน ¶ อธิปฺปาย’’นฺติ วุตฺเต ปน อธิปฺปาย-สทฺทสฺส กามิต-สทฺเทน สมานตฺถภาวโต อตฺตนา อธิปฺเปตกามิตฏฺเน อตฺตกามปาริจริยาติ อิมมตฺถํ วิกปฺปํ วิฺู ชานิสฺสนฺติ.
เอตทคฺคนฺติ เอสา อคฺคา. ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปเทปิ (ปารา. ๒๘๕) กามํ ‘‘ยาจติปิ อายาจติปี’’ติ เอวํ เมถุนยาจนํ อาคตํ, ตํ ปน ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาทราควเสน วุตฺตํ, อิธ ปน อตฺตโน เมถุนสฺสาทราควเสนาติ อยํ วิเสโส.
วินีตวตฺถูสุ ‘‘อคฺคทานํ เทหี’’ติ อิทํ อตฺตโน อตฺถาย วุตฺตํ, ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปเท ปน ปรตฺถายปิ วุตฺเต สีสํ เอตีติ เวทิตพฺพํ. สุภคาติ อิสฺสริยาทีหิ สุนฺทเรหิ ภเคหิ สมนฺนาคตา. มนุสฺสิตฺถี, ตถาสฺิตา, อตฺตกามปาริจริยาย ราโค, เตน กามปาริจริยยาจนํ, ตงฺขณวิชานนนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สฺจริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๙๖. ปฺจเม ปณฺฑิจฺเจนาติ สภาวาเณน. คติมนฺตาติ สภาวาณคติยุตฺตา. เวยฺยตฺติเยนาติ อิตฺถิกตฺตพฺเพสุ สิกฺขิตาเณน. เมธายาติ อสิกฺขิเตสุปิ ตํอิตฺถิกตฺตพฺเพสุ านุปฺปตฺติยา ปฺาย. เฉกาติ กาเยน ปจนาทิกุสลา.
อาวหนํ ¶ อาวาโห, ทาริกาย คหณํ. วิธินา ปรกุเล วหนํ เปสนํ วิวาโห, ทาริกาย ทานํ.
๒๙๗. รนฺธาปนํ ภตฺตปจาปนํ. พฺยฺชนาทิสมฺปาทนํ ปจาปนํ. น อุปาหฏนฺติ น ทินฺนํ. กโย นาม คหณํ. วิกฺกโย นาม ทานํ. ตทุภยํ สงฺคเหตฺวา ‘‘โวหาโร’’ติ วุตฺตํ.
๓๐๐. ‘‘อพฺภุตํ กาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ อิมินา ทุกฺกฏํ โหตีติ ทีเปติ. ‘‘ปราชิเตน ทาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตตฺตา อเทนฺโต ธุรนิกฺเขเปน กาเรตพฺโพ. อจิรกาเล ¶ อธิกาโร เอตสฺส อตฺถีติ อจิรกาลาธิการิกํ, สฺจริตฺตํ. ‘‘อจิรกาลาจาริก’’นฺติ วา ปาโ. อจิรกาเล อาจาโร อชฺฌาจาโร เอตสฺสาติ โยชนา.
๓๐๑. กิฺจาปิ เอหิภิกฺขุอาทิกาปิ สฺจริตฺตาทิปณฺณตฺติวชฺชํ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ, เตสํ ปน อสพฺพกาลิกตฺตา, อปฺปกตฺตา จ อิธาปิ ตฺติจตุตฺเถเนว กมฺเมน อุปสมฺปนฺนํ สนฺธาย ‘‘ยฺวาย’’นฺติอาทิปทภาชนมาห. สฺจรณํ สฺจโร, โส เอตสฺส อตฺถีติ สฺจรี, ตสฺส ภาโว สฺจริตฺตํ. เตนาห ‘‘สฺจรณภาว’’นฺติ. สฺจรตีติ สฺจรโณ, ปุคฺคโล, ตสฺส ภาโว สฺจรณภาโว, ตํ อิตฺถิปุริสานํ อนฺตเร สฺจรณภาวนฺติ อตฺโถ.
ชายาภาเวติ ภริยภาวาย. ชารภาเวติ สามิภาวาย, ตํนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. นิมิตฺตตฺเถ หิ เอตํ ภุมฺมวจนํ. กิฺจาปิ ‘‘ชารตฺตเน’’ติ ปทสฺส ปทภาชเน ‘‘ชารี ภวิสฺสสี’’ติ (ปารา. ๓๐๒) อิตฺถิลิงฺควเสน ปทภาชนํ วุตฺตํ, ‘‘สฺจริตฺตํ สมาปชฺเชยฺยา’’ติ ปทสฺส ปน นิทฺเทเส ‘‘อิตฺถิยา วา ปหิโต ปุริสสฺส สนฺติเก คจฺฉติ, ปุริเสน วา ปหิโต อิตฺถิยา สนฺติเก คจฺฉตี’’ติ วุตฺตตฺตา ปุริสสฺสาปิ สนฺติเก วตฺตพฺพาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘ชารตฺตเน’’ติ นิทฺเทสสฺส อิตฺถิปุริสสาธารณตฺตา ‘‘อิตฺถิยา มตึ ปุริสสฺส อาโรเจนฺโต ชารตฺตเน อาโรเจตี’’ติ วุตฺตํ. ปาฬิยํ ปน ปุริสสฺส มตึ อิตฺถิยา อาโรจนวเสเนว ปททฺวเยปิ โยชนา กตา, ตทนุสาเรน อิตฺถิยา มตึ ปุริสสฺส อาโรจนากาโรปิ สกฺกา วิฺาตุนฺติ.
อิทานิ ปาฬิยํ วุตฺตนเยนาปิ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. ‘‘ปติ ภวิสฺสสี’’ติ อิทํ ชายาสทฺทสฺส อิตฺถิลิงฺคนิยมโต ปุริสปริยาเยน วุตฺตํ, นิพทฺธสามิโก ภวิสฺสสีติ อตฺโถ. ชาโร ภวิสฺสสีติ มิจฺฉาจารภาเวน อุปคจฺฉนโก ภวิสฺสสีติ อธิปฺปาโย.
๓๐๓. เสริวิหารนฺติ ¶ สจฺฉนฺทจารํ. อตฺตโน วสนฺติ อตฺตโน อาณํ. โคตฺตวนฺเตสุ โคตฺต-สทฺโท, ธมฺมจารีสุ จ ธมฺม-สทฺโท วตฺตตีติ อาห ‘‘สโคตฺเตหี’’ติอาทิ. ตตฺถ สโคตฺเตหีติ สมานโคตฺเตหิ. สหธมฺมิเกหีติ เอกสฺส สตฺถุ สาสเน สหจริตพฺพธมฺเมหิ, สมานกุลธมฺเมหิ ¶ วา. เตเนวาห ‘‘เอกํ สตฺถาร’’นฺติอาทิ. เอกคณปริยาปนฺเนหีติ มาลาการาทิเอกคณปริยาปนฺเนหิ.
สสฺสามิกา สารกฺขา. ยสฺสา คมเน รฺา ทณฺโฑ ปิโต, สา สปริทณฺฑา. ปจฺฉิมานํ ทฺวินฺนนฺติ สารกฺขสปริทณฺฑานํ. มิจฺฉาจาโร โหตีติ ตาสุ คตปุริสานํ วิย ตาสมฺปิ มิจฺฉาจาโร โหติ สสฺสามิกภาวโต. น อิตราสนฺติ มาตุรกฺขิตาทีนํ อฏฺนฺนํ มิจฺฉาจาโร นตฺถิ อสฺสามิกตฺตา, ตาสุ คตานํ ปุริสานเมว มิจฺฉาจาโร โหติ มาตาทีหิ รกฺขิตตฺตา. ปุริสา หิ ปเรหิ เยหิ เกหิจิ โคปิตํ อิตฺถึ คนฺตุํ น ลภนฺติ, อิตฺถิโย ปน เกนจิ ปุริเสน ภริยาภาเวน คหิตาว ปุริสนฺตรํ คนฺตุํ น ลภนฺติ, น อิตรา อตฺตโน ผสฺสสฺส สยํ สามิกตฺตา. น หิ มาตาทโย สยํ ตาสํ ผสฺสานุภวนตฺถํ ตา รกฺขนฺติ, เกวลํ ปุริสคมนเมว ตาสํ วาเรนฺติ. ตสฺมา เกนจิ อปริคฺคหิตผสฺสตฺตา, อตฺตโน ผสฺสตฺตา จ อิตฺถีนํ น มิจฺฉาจาโร, ปุริสานํ ปน ปเรหิ วาริเต อตฺตโน อสนฺตกฏฺาเน ปวิฏฺตฺตา มิจฺฉาจาโรติ เวทิตพฺโพ.
โภเคนาติ โภคเหตุ. อุทปตฺตํ อามสิตฺวา คหิตา โอทปตฺตกินี. ธช-สทฺเทน เสนา เอว อุปลกฺขิตาติ อาห ‘‘อุสฺสิตทฺธชายา’’ติอาทิ.
๓๐๕. พหิทฺธา วิมฏฺนฺติ อฺตฺถ อาโรจิตํ. ตํ กิริยํ สมฺปาเทสฺสตีติ ตสฺสา อาโรเจตฺวา ตํ กิจฺจํ สมฺปาเทตุ วา มา วา, ตํ กิริยํ สมฺปาทเน สามตฺถิยํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทารกํ, ทาริกฺจ อชานาเปตฺวา มาตาปิตุอาทีหิ มาตาปิตุอาทีนฺเว สนฺติกํ สาสเน เปสิเตปิ ปฏิคฺคณฺหนวีมํสนปจฺจาหรณสงฺขาตาย ติวงฺคสมฺปตฺติยา สงฺฆาทิเสโส โหติ เอวาติ ทฏฺพฺพํ.
ยํ อุทฺทิสฺส สาสนํ เปสิตํ, ตํ เอว สนฺธาย ตสฺสา มาตุอาทีนํ อาโรจิเตปิ เขตฺตเมว โอติณฺณภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทิ อุทาหฏํ, อิทฺจ วจนพฺยตฺตยเหตุพฺยตฺตยานํ เภเทปิ พฺยตฺตยสามฺโต อุทาหฏนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตมฺปิ อุทาหรณโทสํ ปริหริตฺวา สุตฺตานุโลมตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิมินา สเมตีติ เอตฺถายมธิปฺปาโย ¶ – ยถา สยํ อนาโรเจตฺวา ¶ อฺเสํ อนฺเตวาสิกาทีนํ วตฺวา วีมํสาเปตฺวา ปจฺจาหรนฺตสฺส นตฺถิ วิสงฺเกโต, เอวํ ตสฺสา สยํ อนาโรเจตฺวา อาโรจนตฺถํ มาตุอาทีนํ วทนฺตสฺสาปิ มาตุอาทโย ตํ กิริยํ สมฺปาเทนฺตุ วา มา วา. ยทิ หิ เตสํ มาตุอาทีนํ ตุณฺหีภูตภาวมฺปิ ปจฺจาหรติ, วิสงฺเกโต นตฺถีติ.
ฆรกิจฺจํ เนตีติ ฆรณี. อฺตรํ วทนฺตสฺส วิสงฺเกตํ อทินฺนาทานาทีสุ อาณตฺติยํ วตฺถุสงฺเกโต วิยาติ อธิปฺปาโย. มูลฏฺานฺจ วเสนาติ เอตฺถ ปุริสสฺส มาตุอาทโย สาสนเปสเน มูลภูตตฺตา ‘‘มูลฏฺา’’ติ วุตฺตา.
๓๒๒. ปาฬิยํ มาตุรกฺขิตาย มาตา ภิกฺขุํ ปหิณตีติ เอตฺถ อตฺตโน วา ธีตุ สนฺติกํ ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา โหตู’’ติ ภิกฺขุํ ปหิณติ, ปุริสสฺส วา ตสฺส าตกานํ วา สนฺติกํ ‘‘มม ธีตา อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา โหตู’’ติ ปหิณตีติ คเหตพฺพํ. เอเสว นโย เสเสสุปิ. ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตาติ ปมสงฺฆาทิเสเส วุตฺตนยตฺตา.
๓๓๘. อนฺเต เอเกนาติ เอเกน ปเทน. เอตฺโตว ปกฺกมตีติ อปจฺจาหริตฺวา ตโตว ปกฺกมติ. ‘‘อนภินนฺทิตฺวา’’ติ อิทํ ตถา ปฏิปชฺชมานํ สนฺธาย วุตฺตํ. สติปิ อภินนฺทเน สาสนํ อนาโรเจนฺโต ปน น วีมํสติ นาม. ตติยปเท วุตฺตนเยนาติ ‘‘โส ตสฺสา วจนํ อนภินนฺทิตฺวา’’ติอาทินา วุตฺตนเยน. ปาฬิยํ อนฺเตวาสึ วีมํสาเปตฺวาติ ‘‘อยํ เตสํ วตฺตุํ สมตฺโถ’’ติ อนฺเตวาสินา วีมํสาเปตฺวา. สเจ ปน โส อนฺเตวาสิโก ตํ วจนํ อาทิยิตฺวา ตุณฺหี โหติ, ตสฺสาปิ ตํ ปวตฺตึ ปจฺจาหรนฺตสฺส อาจริยสฺส สงฺฆาทิเสโสว มาตุอาทีสุ ตุณฺหีภูเตสุ เตสํ ตุณฺหิภาวํ ปจฺจาหรนฺตสฺส วิยาติ ทฏฺพฺพํ.
ปาฬิยํ จตุตฺถวาเร อสติปิ คจฺฉนฺโต สมฺปาเทติ, อาคจฺฉนฺโต วิสํวาเทติ อนาปตฺตีติ อตฺถโต อาปนฺนเมวาติกตฺวา วุตฺตํ ‘‘จตุตฺเถ อนาปตฺตี’’ติ.
๓๔๐. การุกานนฺติ ¶ วฑฺฒกีอาทีนํ ตจฺฉกอโยการตนฺตวายรชกนฺหาปิตกา ปฺจ การโว ‘‘การุกา’’ติ วุจฺจนฺติ. เอวรูเปน…เป… อนาปตฺตีติ ตาทิสํ คิหิเวยฺยาวจฺจมฺปิ น โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ.
กายโต สมุฏฺาตีติ ปณฺณตฺตึ วา อลํวจนียภาวํ วา ตทุภยํ วา อชานนฺตสฺส กายโต ¶ สมุฏฺาติ. เอส นโย อิตรทฺวเยปิ. อลํวจนียา โหนฺตีติ อิตฺถี วา ปุริโส วา อุโภปิ วา ชายาภาเว, สามิกภาเว จ นิกฺขิตฺตฉนฺทตาย อจฺจนฺตวิยุตฺตตฺตา ปุน อฺมฺํ สมาคมตฺถํ ‘‘มา เอวํ อกริตฺถา’’ติอาทินา วจนียตาย วตฺตพฺพตาย อลํ อรหาติ อลํวจนียา, อลํ วา กตฺตุํ อรหํ สนฺธานวจนเมเตสุ อิตฺถิปุริเสสูติ อลํวจนียา, สนฺธานการสฺส วจนํ วินา อสงฺคจฺฉนกา ปริจฺจตฺตาเยวาติ อธิปฺปาโย.
ปณฺณตฺตึ ปน ชานิตฺวาติ เอตฺถ อลํวจนียภาวํ วาติ วตฺตพฺพํ. เตเนว มาติกาฏฺกถายฺจ ‘‘ตทุภยํ ปน ชานิตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภิกฺขุํ อชานาเปตฺวา อตฺตโน อธิปฺปายํ ปณฺเณ ลิขิตฺวา ‘‘อิมํ ปณฺณํ อสุกสฺส เทหี’’ติ ทินฺนํ หรนฺตสฺส สฺจริตฺตํ น โหติ. ปณฺณตฺติอลํวจนียภาวอชานนวเสเนว หิ อิมํ สิกฺขาปทํ อจิตฺตกํ, น สพฺเพน สพฺพํ สฺจรณภาวมฺปิ อชานนวเสน, ปาฬิยฺจ อฏฺกถายฺจ อาโรจนเมว ทสฺสิตํ. ตสฺมา สนฺทสฺสนตฺถํ ตฺวา ปณฺณสนฺทสฺสนวเสนาปิ กาเยน วา วาจาย วา อาโรเจนฺตสฺเสว อาปตฺติ โหตีติ คเหตพฺพํ.
๓๔๑. ยถา ยถา เยสุ เยสุ ชนปเทสูติ ปริจฺจตฺตภาวปฺปกาสนตฺถํ กตฺตพฺพํ ปณฺณทานาติชนิสฺสราทิชานาปนาทิตํตํเทสนิยตํ ปการํ ทสฺเสติ, อิทฺจ นิพทฺธภริยาภาเวน คหิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อตฺตโน รุจิยา สงฺคตานํ ปน อิตฺถีนํ, มุหุตฺติกาย จ ปุริเส จิตฺตสฺส วิรชฺชนเมว อลํวจนียภาเว การณนฺติ ทฏฺพฺพํ. ทุฏฺุลฺลาทีสุปีติ อาทิ-สทฺเทน อตฺตกามสฺจริตฺตานิ สงฺคณฺหาติ, เอตฺถ ปน ปาฬิยํ กิฺจาปิ ‘‘อิตฺถี นาม มนุสฺสิตฺถี น ยกฺขี’’ติอาทินา มนุสฺสิตฺถิปุริสา น ทสฺสิตา, ตถาปิ ‘‘ทส อิตฺถิโย มาตุรกฺขิตา’’ติอาทินา มนุสฺสิตฺถีนฺเว ทสฺสิตตฺตา ปุริสานมฺปิ ตทนุคุณานเมว คเหตพฺพโต มนุสฺสชาติกาว ¶ อิตฺถิปุริสา อิธาธิปฺเปตา. ตสฺมา เยสุ สฺจริตฺตํ สมาปชฺชติ, เตสํ มนุสฺสชาติกตา, น นาลํวจนียตา, ปฏิคฺคณฺหน, วีมํสน, ปจฺจาหรณานีติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
สฺจริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. กุฏิการสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๔๒. ฉฏฺเ เอตฺตเกนาติ เอตฺตเกน ทารุอาทินา. อปริจฺฉินฺนปฺปมาณาโยติ อปริจฺฉินฺนทารุอาทิปมาณาโย. มูลจฺเฉชฺชายาติ ปรสนฺตกภาวโต โมเจตฺวา อตฺตโน เอว สนฺตกกรณวเสนาติ ¶ อตฺโถ. เอวํ ยาจโต อฺาตกวิฺตฺติทุกฺกฏฺเจว ทาสปฏิคฺคหณทุกฺกฏฺจ โหติ ‘‘ทาสิทาสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๐, ๑๙๔) วจนํ นิสฺสาย อฏฺกถาสุ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา. สกกมฺมนฺติ ปาณวธกมฺมํ. อิทฺจ ปาณาติปาตโทสปริหาราย ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, น วิฺตฺติปริหาราย. อนิยเมตฺวาปิ น ยาจิตพฺพาติ สามีจิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, สุทฺธจิตฺเตน ปน หตฺถกมฺมํ ยาจนฺตสฺส อาปตฺติ นาม นตฺถิ. ยทิจฺฉกํ การาเปตุํ วฏฺฏตีติ ‘‘หตฺถกมฺมํ ยาจามิ, เทถา’’ติอาทินา อยาจิตฺวาปิ วฏฺฏติ. สกิจฺจปสุตมฺปิ เอวํ การาเปนฺตสฺส วิฺตฺติ นตฺถิ เอว, สามีจิทสฺสนตฺถํ ปน วิภชิตฺวา วุตฺตํ.
สพฺพกปฺปิยภาวทีปนตฺถนฺติ สพฺพโส กปฺปิยภาวทีปนตฺถํ. มูลํ เทถาติ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ ‘‘มูลํ ทสฺสามา’’ติ ปมํ วุตฺตตฺตา วิฺตฺติ วา มูลนฺติ วจนสฺส กปฺปิยากปฺปิยวตฺถุสามฺวจนตฺเตปิ นิฏฺิตภติกิจฺจานํ ทาปนโต อกปฺปิยวตฺถุสาทิยนํ วา น โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. อนชฺฌาวุตฺถกนฺติ อปริคฺคหิตํ.
มฺจ…เป… จีวราทีนิ การาเปตุกาเมนาปีติอาทีสุ จีวรํ การาเปตุกามสฺส อฺาตกอปฺปวาริตตนฺตวาเยหิ หตฺถกมฺมยาจนวเสน วายาปเน วิฺตฺติปจฺจยา ทุกฺกฏาภาเวปิ จีวรวายาปนสิกฺขาปเทน ยถารหํ ปาจิตฺติยทุกฺกฏานิ โหนฺตีติ เวทิตพฺพํ. อกปฺปิยกหาปณาทิ น ทาตพฺพนฺติ กปฺปิยมุเขน ลทฺธมฺปิ หตฺถกมฺมกรณตฺถาย อิมสฺส ¶ กหาปณํ เทหีติ วตฺวา ทานํ น วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. ปุพฺเพ กตกมฺมสฺส ทาปเน กิฺจาปิ โทโส น ทิสฺสติ, ตถาปิ อสารุปฺปเมวาติ วทนฺติ. กตกมฺมตฺถายปิ กาตพฺพกมฺมตฺถายปิ กปฺปิยโวหาเรน ปริยายโต ภตึ ทาเปนฺตสฺส นตฺถิ โทโส. วตฺตนฺติ จาริตฺตํ, อาปตฺติ น โหตีติ อธิปฺปาโย.
กปฺปิยํ การาเปตฺวา ปฏิคฺคเหตพฺพานีติ สาขาย มกฺขิกพีชเนน ปณฺณาทิจฺเฉเท พีชคามโกปนสฺส เจว ตตฺถ ลคฺครชาทิอปฺปฏิคฺคหิตสฺส จ ปริหารตฺถาย วุตฺตํ. ตทุภยาสงฺกาย อสติ ตถา อกรเณ โทโส นตฺถิ. นทียาทีสุ อุทกสฺส อปริคฺคหิตตาย ‘‘อาหราติ วตฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘น อาหฏํ ปริภฺุชิตุ’’นฺติ วจนโต วิฺตฺติยา อาปนฺนํ ทุกฺกฏํ เทเสตฺวาปิ ตํ วตฺถุํ ปริภฺุชนฺตสฺส ปุน ปริโภเค ทุกฺกฏเมว, ปฺจนฺนมฺปิ สหธมฺมิกานํ น วฏฺฏติ. ‘‘อลชฺชีหิ ปน ภิกฺขูหิ วา สามเณเรหิ วา หตฺถกมฺมํ น กาเรตพฺพ’’นฺติ สามฺโต วุตฺตตฺตา อตฺตโน อตฺถาย ยํกิฺจิ หตฺถกมฺมํ กาเรตุํ น วฏฺฏติ. ยํ ปน ¶ อลชฺชี นิวาริยมาโนปิ พีชนาทึ กโรติ, ตตฺถ โทโส นตฺถิ. เจติยกมฺมาทีนิ ปน เตหิ การาเปตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ จ ‘‘อลชฺชีหิ สามเณเรหี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘สฺจิจฺจ อาปตฺตึ อาปชฺชตี’’ติอาทิ (ปริ. ๓๕๙) อลชฺชีลกฺขณํ อุกฺกฏฺวเสน อุปสมฺปนฺเน ปฏิจฺจ อุปลกฺขณโต วุตฺตนฺติ ตํลกฺขณวิรหิตานํ สามเณราทีนํ ลิงฺคตฺเถนกโคตฺรภุปริโยสานานํ ภิกฺขุปฏิฺานํ ทุสฺสีลานมฺปิ สาธารณวเสน อลชฺชิตาลกฺขณํ ยถาวิหิตปฏิปตฺติยํ สฺจิจฺจ อติฏฺนเมวาติ คเหตพฺพํ.
อาหราเปนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ วิฺตฺติกฺขเณ วิฺตฺติปจฺจยา, ปฏิลาภกฺขเณ โคณานํ สาทิยนปจฺจยา จ ทุกฺกฏํ. โคณฺหิ อตฺตโน อตฺถาย อวิฺตฺติยา ลทฺธมฺปิ สาทิตุํ น วฏฺฏติ ‘‘หตฺถิควสฺสวฬวปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๐, ๑๙๔) วุตฺตตฺตา. เตเนวาห ‘‘าติปวาริตฏฺานโตปิ มูลจฺเฉชฺชาย ยาจิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ. เอตฺถ จ วิฺตฺติทุกฺกฏาภาเวปิ อกปฺปิยวตฺถุยาจเนปิ ปฏิคฺคหเณปิ ทุกฺกฏเมว. รกฺขิตฺวาติ โจราทิอุปทฺทวโต รกฺขิตฺวา. ชคฺคิตฺวาติ ติณทานาทีหิ โปเสตฺวา.
าติปวาริตฏฺาเน ปน วฏฺฏตีติ สกฏสฺส สมฺปฏิจฺฉิตพฺพตฺตา มูลจฺเฉชฺชวเสน ยาจิตุํ วฏฺฏติ. ตาวกาลิกํ วฏฺฏตีติ อุภยตฺถาปิ วฏฺฏตีติ อตฺโถ ¶ . วาสิอาทีนิ ปุคฺคลิกานิปิ วฏฺฏนฺตีติ อาห ‘‘เอส นโย วาสี’’ติอาทิ. วลฺลิอาทีสุ จ ปรปริคฺคหิเตสุ จ เอเสว นโยติ โยเชตพฺพํ. ‘‘ครุภณฺฑปฺปโหนเกสุเยวา’’ติ อิทํ วิฺตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. อทินฺนาทาเน ปน ติณสลากํ อุปาทาย ปรปริคฺคหิตํ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหโต อวหาโร เอว, ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. วลฺลิอาทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปาฬิอาคตานํ (ปารา. ๓๔๙) เวฬุอาทีนํ สงฺคโห. ตตฺถ ยสฺมึ ปเทเส หริตาลชาติหิงฺคุลาทิ อปฺปกมฺปิ มหคฺฆํ โหติ, ตตฺถ ตํ ตาลปกฺกปมาณโต อูนมฺปิ ครุภณฺฑเมว, วิฺาเปตฺุจ น วฏฺฏติ.
สาติ วิฺตฺติ. ปริกถาทีสุ ‘‘เสนาสนํ สมฺพาธ’’นฺติอาทินา (วิสุทฺธิ. ๑.๑๙) ปริยาเยน กถนํ ปริกถา นาม. อุชุกเมว อกเถตฺวา ‘‘ภิกฺขูนํ กึ ปาสาโท น วฏฺฏตี’’ติอาทินา (วิสุทฺธิ. ๑.๑๙) อธิปฺปาโย ยถาวิภูโต โหติ, เอวํ ภาสนํ โอภาโส นาม. เสนาสนาทิอตฺถํ ภูมิปริกมฺมาทิกรณวเสน ปจฺจยุปฺปาทาย นิมิตฺตกรณํ นิมิตฺตกมฺมํ นาม. อุกฺกมนฺตีติ อปคจฺฉนฺติ.
๓๔๔. มณิ กณฺเ อสฺสาติ มณิกณฺโ. เทววณฺณนฺติ เทวตฺตภาวํ.
๓๔๕. ปาฬิยํ ¶ ปตฺเตน เม อตฺโถติ (ปารา. ๓๔๕) อนตฺถิกมฺปิ ปตฺเตน ภิกฺขุํ เอวํ วทาเปนฺโต ภควา โสตฺถิยา มนฺตปทวเสน วทาเปสิ. โสปิ ภิกฺขุ ภควตา อาณตฺตวจนํ วเทมีติ อโวจ, เตนสฺส มุสา น โหติ. อถ วา ‘‘ปตฺเตน เม อตฺโถ’’ติ อิทํ ‘‘ปตฺตํ ททนฺตู’’ติ อิมินา สมานตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอส นโย มณินา เม อตฺโถติ เอตฺถาปิ. ตสฺมา อฺเสมฺปิ เอวรูปํ กเถนฺตสฺส, กถาเปนฺตสฺส จ วจนโทโส นตฺถีติ คเหตพฺพํ.
๓๔๙. อุทฺธํมุขํ ลิตฺตา อุลฺลิตฺตา, ฉทนสฺส อนฺโต ลิมฺปนฺตา หิ เยภุยฺเยน อุทฺธํมุขา ลิมฺปนฺติ. เตนาห ‘‘อนฺโตลิตฺตา’’ติ. อโธมุขํ ลิตฺตา อวลิตฺตา. พหิ ลิมฺปนฺตา หิ เยภุยฺเยน อโธมุขา ลิมฺปนฺติ. เตนาห ‘‘พหิลิตฺตา’’ติ.
พฺยฺชนํ วิโลมิตํ ภเวยฺยาติ ยสฺมา ‘‘การยมาเนนา’’ติ อิมสฺส เหตุกตฺตุวจนสฺส ‘‘กโรนฺเตนา’’ติ อิทํ สุทฺธกตฺตุวจนํ ปริยายวจนํ น ¶ โหติ, ตสฺมา ‘‘กโรนฺเตน วา การาเปนฺเตน วา’’ติ การยมาเนนาติ พหุอุทฺเทสปทานุคุณํ กรณวจเนเนว ปทตฺถํ กตฺวา นิทฺเทเส กเต พฺยฺชนํ วิรุทฺธํ ภเวยฺย, ตถา ปน ปทตฺถวเสน อทสฺเสตฺวา สามตฺถิยโต สิทฺธเมวตฺถํ ทสฺเสตุํ ปจฺจตฺตวเสน ‘‘กโรนฺโต วา การาเปนฺโต วา’’ติ ปทภาชนํ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘อตฺถมตฺตเมวา’’ติอาทิ. ปทตฺถโต, สามตฺถิยโต จ ลพฺภมานํ อตฺถมตฺตเมวาติ อตฺโถ. ยฺหิ การยมาเนน ปฏิปชฺชิตพฺพํ, ตํ กโรนฺเตนาปิ ปฏิปชฺชิตพฺพเมวาติ อิทเมตฺถ สามตฺถิยํ ทฏฺพฺพํ.
อุทฺเทโสติ สามิภาเวน อุทฺทิสิตพฺโพ. เสตกมฺมนฺติ เสตวณฺณกรณตฺถํ เสตวณฺณมตฺติกาย วา สุธาย วา กตตนุกเลโป, เตน ปน สห มินิยมาเน ปมาณาติกฺกนฺตํ โหตีติ สงฺกานิวารณตฺถํ อาห ‘‘อพฺโพหาริก’’นฺติ. เตน ปมาณาติกฺกนฺตโวหารํ น คจฺฉติ กุฏิยา อนงฺคตฺตาติ อธิปฺปาโย.
ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส วุตฺตนยํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘อายามโต จ วิตฺถารโต จา’’ติ อวตฺวา ‘‘อายามโต วา วิตฺถารโต วา’’ติ วิกปฺปตฺถสฺส วา-สทฺทสฺส วุตฺตตฺตา เอกโตภาเค วฑฺฒิเตปิ อาปตฺตีติ ปกาสิตนฺติ อธิปฺปาโย. ติหตฺถาติ ปกติหตฺเถน ติหตฺถา, ‘‘วฑฺฒกีหตฺเถนา’’ติปิ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๓๔๘-๓๔๙) วทนฺติ, ตํ ‘‘ยตฺถ…เป… อยํ กุฏีติ สงฺขฺยํ น คจฺฉตี’’ติ อิมินา วิรุชฺฌติ วฑฺฒกีหตฺเถน ติหตฺถายปิ กุฏิยา ปมาณยุตฺตสฺส มฺจสฺส สุเขน ปริวตฺตนโต. ‘‘อูนกจตุหตฺถา วา’’ติ อิทฺจ ปจฺฉิมปฺปมาณยุตฺตสฺส ¶ มฺจสฺส อปริวตฺตนารหํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยทิ หิ ปกติหตฺเถน จตุหตฺถายปิ กุฏิยา ปมาณยุตฺโต มฺโจ น ปริวตฺตติ, สา อกุฏีเยว, ตสฺมา มฺจปริวตฺตนมตฺเตเนว ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ. ปมาณยุตฺโต มฺโจติ สพฺพปจฺฉิมปฺปมาณยุตฺโต มฺโจ. โส หิ ปกติวิทตฺถิยา นววิทตฺถิโก, อฏฺวิทตฺถิโก วา โหติ, ตโต ขุทฺทโก มฺโจ สีสูปธานํ เปตฺวา ปาทํ ปสาเรตฺวา นิปชฺชิตุํ น ปโหติ. ปมาณโต อูนตรมฺปีติ อุกฺกฏฺปฺปมาณโต อูนตรมฺปิ, อิทฺจ เหฏฺิมปฺปมาณยุตฺตายปิ วตฺถุเทสนา กาตพฺพา, น วาติ สนฺเทหนิวตฺตนตฺถํ วุตฺตํ.
กลลเลโปติ ¶ เกนจิ สิเลเสน กตเลโป, เสตรตฺตาทิวณฺณกรณตฺถํ กตตมฺพมตฺติกาทิกลลเลโป วา. เตนาห ‘‘อเลโป เอวา’’ติ. เตน ตฬากาทีสุ ฆเนน กลเลน กตพหลเลโป มตฺติกาเลปเน เอว ปวิสติ เลปโวหารคมนโตติ ทสฺเสติ. ปิฏฺสงฺฆาโฏ นาม ทฺวารพาหสงฺขาโต จตุรสฺสทารุสงฺฆาโฏ, ยตฺถ สอุตฺตรปาสํ กวาฏํ อปสฺสาย ทฺวารํ ปิทหนฺติ.
โอโลเกตฺวาปีติ อปโลเกตฺวาปิ, อปโลกนกมฺมวเสนาปีติ อตฺโถ, อปสทฺทสฺสาปิ โออาเทโส กโตติ ทฏฺพฺโพ.
๓๕๓. นิพทฺธโคจรฏฺานมฺปีติ เอตฺถ โคจราย ปกฺกมนฺตานํ หตฺถีนํ นิพทฺธคมนมคฺโคปิ สงฺคยฺหติ. เอเตสนฺติ สีหาทีนํ. โคจรภูมีติ อามิสคฺคหณฏฺานํ. น คหิตาติ ปฏิกฺขิปิตพฺพภาเวน น คหิตา, น วาริตาติ อตฺโถ. สีหาทีนฺหิ โคจรคฺคหณฏฺานํ หตฺถีนํ วิย นิพทฺธํ น โหติ, ยตฺถ ปน โคมหึสาทิปาณกา สนฺติ, ทูรมฺปิ ตํ านํ สีฆํ คนฺตฺวา โคจรํ คณฺหนฺติ. ตสฺมา เตสํ ตํ น วาริตํ, นิพทฺธคมนมคฺโคว วาริโต อาสยโต คมนมคฺคสฺส นิพทฺธตฺตา. อฺเสมฺปิ วาฬานนฺติ อรฺมหึสาทีนํ. อาโรคฺยตฺถายาติ นิรุปทฺทวาย. เสสานีติ ปุพฺพณฺณนิสฺสิตาทีนิ โสฬส. ตานิ จ ชนสมฺมทฺทมหาสมฺมทฺทกุฏิวิโลปสรีรปีฬาทิอุปทฺทเวหิ สอุปทฺทวานีติ เวทิตพฺพานิ. อภิหนนฺติ เอตฺถาติ อพฺภาฆาตํ. ‘‘เวริฆร’’นฺติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘โจรานํ มารณตฺถาย กต’’นฺติ วุตฺตํ.
ธมฺมคนฺธิกาติ ธมฺเมน ทณฺฑนีติยา หตฺถปาทาทิจฺฉินฺทนคนฺธิกา. คนฺธิกาติ จ ยสฺส อุปริ หตฺถาทึ เปตฺวา ฉินฺทนฺติ, ตาทิสํ ทารุขณฺฑผลกาติ วุจฺจติ, เตน จ อุปลกฺขิตํ านํ. ปาฬิยํ รจฺฉานิสฺสิตนฺติ รถิกานิสฺสิตํ. จจฺจรนิสฺสิตนฺติ จตุนฺนํ รถิกานํ สนฺธินิสฺสิตํ. สกเฏนาติ อิฏฺกสุธาทิภณฺฑาหรณสกเฏน.
ปาจินนฺติ ¶ เสนาสนสฺส ภูมิโต ปฏฺาย ยาว ตลาวสานํ จินิตพฺพวตฺถุกํ อธิฏฺานํ, ยสฺส อุปริ ภิตฺติถมฺภาทีนิ จ ปติฏฺเปนฺติ. เตนาห ‘‘ตโต ปฏฺายา’’ติอาทิ. กิฺจาปิ อิธ ปุพฺพปโยคสหปโยคานํ อทินฺนาทาเน วิย วิเสโส นตฺถิ, ตถาปิ เตสํ วิภาเคน ทสฺสนํ ¶ ภินฺทิตฺวา วา ปุน กาตพฺพาติ เอตฺถ กุฏิยา เภเทน ปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ กตํ. ตทตฺถายาติ ตจฺฉนตฺถาย. เอวํ กตนฺติ อเทสิตวตฺถุกํ ปมาณาติกฺกนฺตํ วา กตํ. ปณฺณสาลนฺติ ปณฺณกุฏิยา ติณปณฺณจุณฺณสฺส อปริปตนตฺถาย อนฺโต จ พหิ จ ลิมฺปนฺติ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ปณฺณสาลํ ลิมฺปตี’’ติ.
อนฺโตเลเปเนว นิฏฺาเปตุกามํ สนฺธาย ‘‘อนฺโตเลเป วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. พหิเลเป วาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ตสฺมินฺติ ทฺวารพนฺเธ วา วาตปาเน วา ปิเตติ โยเชตพฺพํ. ตสฺโสกาสนฺติ ตสฺส ทฺวารพนฺธาทิสฺส โอกาสภูตํ ฉิทฺทํ. ปุน วฑฺเฒตฺวาติ ปุพฺเพ ปิโตกาสํ ขุทฺทกํ เจ, ตํ ทฺวารวาตปานจฺฉิทฺทเภทเนน ปุน วฑฺเฒตฺวา. ปิเตติ ทฺวารพนฺเธ วา ควกฺขสงฺฆาเฏ วา อาเนตฺวา ตสฺมึ วฑฺฒิเต วา อวฑฺฒิเต วา ฉิทฺเท ปติฏฺาปิเต. เลโป น ฆฏียตีติ สมนฺตโต ทินฺโน เลโป ตถา ปิเตน ทฺวารพนฺธเนน วา วาตปาเนน วา สทฺธึ น ฆฏียติ, เอกาพทฺธํ น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ตนฺติ ทฺวารพนฺธํ วา วาตปานํ วา. ปมเมว สงฺฆาทิเสโสติ เตสํ สมนฺตโต ปุพฺเพว เลปสฺส ฆเฏตฺวา นิฏฺาปิตตฺตา ทฺวารพนฺธวาตปานานํ ปนโต ปุพฺเพ เอว สงฺฆาทิเสโส.
เลปฆฏเนเนวาติ อิฏฺกาหิ กตวาตปานาทีนิ วินา สมนฺตา เลปฆฏเนเนว อาปตฺติ วาตปานาทีนํ อเลโปกาสตฺตา, อิฏฺกาหิ กตตฺตา วา, วาตปานาทีสุปิ เลปสฺส ภิตฺติเลเปน สทฺธึ ฆฏเนเนวาติปิ อตฺถํ วทนฺติ. ตตฺถาติ ปณฺณสาลายํ. อาโลกตฺถาย อฏฺงฺคุลมตฺตํ เปตฺวา ลิมฺปตีติ ทารุกุฏฺฏสฺส ทารูนมนฺตรา อฏฺงฺคุลมตฺตํ วิวรํ ยาว ลิมฺปติ, ตาว อาโลกตฺถาย เปตฺวา อวเสสํ สกุฏฺฏจฺฉทนํ ลิมฺปติ, ปจฺฉา เอตํ วิวรํ ลิมฺปิสฺสามีติ เอวํ ปเน อนาปตฺตีติ อธิปฺปาโย. สเจ ปน เอวํ อกตฺวา สพฺพทาปิ อาโลกตฺถาย วาตปานวเสน เปติ, วาตปานทฺวารสงฺฆาเฏ ฆฏิเต เลโป จ ฆฏียติ, ปมเมว สงฺฆาทิเสโสติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สเจ’’ติอาทิ. มตฺติกากุฏฺฏเมว มตฺติกาเลปสงฺขฺยํ คจฺฉตีติ อาห ‘‘สเจ มตฺติกาย กุฏฺฏํ กโรติ, ฉทนเลเปน สทฺธึ ฆฏเน อาปตฺตี’’ติ. อุภินฺนํ อนาปตฺตีติ ปุริมสฺส เลปสฺส อฆฏิตตฺตา ทุติยสฺส อตฺตุทฺเทสิกตาย อสมฺภวโต.
๓๕๔. อาปตฺติเภททสฺสนตฺถนฺติ ¶ ตตฺถ ‘‘สารมฺเภ จ อปริกฺกมเน จ ทุกฺกฏํ อเทสิตวตฺถุกตาย ¶ , ปมาณาติกฺกนฺตตาย จ สงฺฆาทิเสโส’’ติ เอวํ อาปตฺติเยว วิภาคทสฺสนตฺถํ.
๓๖๑. อนิฏฺิเต กุฏิกมฺเมติ เลปปริโยสาเน กุฏิกมฺเม เอกปิณฺฑมตฺเตนปิ อนิฏฺิเต. ‘‘อฺสฺส ปุคฺคลสฺส วา’’ติ อิทํ มูลฏฺสฺส อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เยน ปน ลทฺธํ, ตสฺสาปิ ตํ นิฏฺาเปนฺตสฺส ‘‘ปเรหิ วิปฺปกตํ อตฺตนา ปริโยสาเปติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติอาทิวจนโต (ปารา. ๓๖๓) อาปตฺติเยว. ปุพฺเพ กตกมฺมมฺปิ ลทฺธกาลโต ปฏฺาย อตฺตโน อตฺถาเยว กตํ นาม โหติ, ตสฺมา เตนาปิ สงฺฆสฺส วา สามเณราทีนํ วา ทตฺวา นิฏฺาเปตพฺพํ. ‘‘อฺสฺส วา’’ติ อิทํ อนุปสมฺปนฺนํเยว สนฺธาย วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ, เกจิ ปน ‘‘ปรโต ลทฺธาย กุฏิยา นิฏฺาปเน อนาปตฺติอาทิโต ปฏฺาย อตฺตโน อตฺถาย อกตตฺตา’’ติ วทนฺติ. อปจินิตพฺพาติ ยาว ปาจินา วิทฺธํเสตพฺพา. ภูมิสมํ กตฺวาติ ปาจินตลาวสานํ กตฺวา.
๓๖๔. เลณนฺติ ปพฺพตเลณํ. น เหตฺถ เลโป ฆฏียตีติ ฉทนเลปสฺส อภาวโต วุตฺตํ, วิสุํ เอว วา อนฺุาตตฺตา. สเจ เลณสฺส อนฺโต อุปริภาเค จิตฺตกมฺมาทิกรณตฺถํ เลปํ เทนฺติ, อุลฺลิตฺตกุฏิสงฺขฺยํ น คจฺฉติ, วฏฺฏติ เอว. อิฏฺกาทีหิ กตํ จตุรสฺสกูฏาคารสณฺานํ เอกกณฺณิกาพทฺธํ นาติอุจฺจํ ปฏิสฺสยวิเสสํ ‘‘คุหา’’ติ วทนฺติ, ตาทิสํ มหนฺตมฺปิ อุลฺลิตฺตาวลิตฺตํ กโรนฺตสฺส อนาปตฺติ. ภูมิคุหนฺติ อุมงฺคคุหํ.
อฏฺกถาสูติ กุกฺกุฏจฺฉิกเคหนฺติอาทีสุ อฏฺกถาสุ ติณกุฏิกา กุกฺกุฏจฺฉิกเคหนฺติ วตฺวา ปุน ตํ วิวรนฺเตหิ อฏฺกถาจริเยหิ ฉทนํ ทณฺฑเกหิ…เป… วุตฺตาติ โยชนา ทฏฺพฺพา. ตตฺถ ทณฺฑเกหิ ชาลพทฺธํ กตฺวาติ ทีฆโต, ติริยโต จ เปตฺวา วลฺลิยาทีหิ พทฺธทณฺฑเกหิ ชาลํ วิย กตฺวา. โส จาติ อุลฺลิตฺตาทิภาโว. ฉทนเมว สนฺธาย วุตฺโตติ ฉทนสฺส อนฺโต จ พหิ จ ลิมฺปนเมว สนฺธาย วุตฺโต. มตฺติกากุฏฺเฏ ภิตฺติเลปํ วินาปิ ภิตฺติยา สทฺธึ ¶ ฉทนเลปสฺส ฆฏนมตฺเตนาปิ อาปตฺติสมฺภวโต ฉทนเลโปว ปธานนฺติ เวทิตพฺพํ. กิฺจาปิ เอวํ, อถ โข ‘‘อุปจิกาโมจนตฺถเมว เหฏฺา ปาสาณกุฏฺฏํ กตฺวา ตํ อลิมฺปิตฺวา อุปริ ลิมฺปติ, เลโป น ฆฏียติ นาม, อนาปตฺติเยวา’’ติอาทิวจนโต ปน ฉทนเลปฆฏนตฺถํ สกลายปิ ภิตฺติยา เลโป อวสฺสํ อิจฺฉิตพฺโพว ตสฺสา เอกเทสสฺส อเลเปปิ ฉทนเลปสฺส อฆฏนโต. เตนาห ‘‘เลโป น ฆฏียตี’’ติ. เอตฺถาติ ติณกุฏิกายํ. น เกวลฺจ ติณกุฏิกายํ เอว, เลณคุหาทีสุปิ สารมฺภาปริกฺกมนปจฺจยาปิ อนาปตฺติ เอว, อิมินา ¶ ปน นเยน อฺสฺสตฺถาย กุฏึ กโรนฺตสฺสาปิ สารมฺภาทิปจฺจยาปิ อนาปตฺติภาโว อตฺถโต ทสฺสิโต เอว โหตีติ.
ตตฺถ ปาฬิวิโรธํ ปริหริตุํ ‘‘ยํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – อฺสฺส อุปชฺฌายาทิโน อตฺถาย กโรนฺตสฺส สารมฺภาทิปจฺจยาปิ อนาปตฺติ เอว, ยํ ปน ปาฬิยํ ‘‘อาปตฺติการุกานํ ติณฺณํ ทุกฺกฏาน’’นฺติอาทิวจนํ, ตํ อฺสฺสตฺถาย กโรนฺตสฺส, น สารมฺภาทิปจฺจยา อาปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, กิฺจรหิ ยถาสมาทิฏฺาย กุฏิยา อกรณปจฺจยา อาปตฺติทสฺสนตฺถนฺติ. ตตฺถ ยถาสมาทิฏฺายาติ ‘‘ภิกฺขุ สมาทิสิตฺวา ปกฺกมติ, ‘กุฏึ เม กโรถา’ติ สมาทิสติ จ, เทสิตวตฺถุกา จ โหตุ อนารมฺภา จ สปริกฺกมนา จา’’ติ เอวํ การาปเกน อาณตฺติกฺกมํ มฺุจิตฺวา กรณปจฺจยาติ อธิปฺปาโย. กตฺถจิ ปน โปตฺถเก ‘‘กุฏิลกฺขณปฺปตฺตมฺปิ กุฏึ อฺสฺส…เป… กโรนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ อิมสฺส ปาสฺส อนนฺตรํ ‘‘ยํ ปน อาปตฺติ การุกาน’’นฺติอาทิปาโ ทิสฺสติ, โสว ยุตฺตตโร. เอวฺหิ สติ ตตฺถ อธิปฺปาโย ปากโฏ โหติ.
อนาปตฺตีติ วตฺวาติ วาสาคารตฺถาย เอว อนิยมิตตฺตา อนาปตฺตีติ วตฺวา. อเทสาเปตฺวา กโรโตติ ปมาณยุตฺตมฺปิ กโรโต. อจิตฺตกนฺติ ปณฺณตฺติอชานนจิตฺเตน อจิตฺตกํ. อุลฺลิตฺตาทีนํ อฺตรตา, เหฏฺิมปฺปมาณสมฺภโว, อเทสิตวตฺถุกตา, ปมาณาติกฺกนฺตตา, อตฺตุทฺเทสิกตา, วาสาคารตา, เลปฆฏนาติ สตฺต วา ปมาณยุตฺตงฺคาทีสุ ฉ วา องฺคานิ.
กุฏิการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. วิหารการสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๖๕. สตฺตเม ¶ ปูชาวจนปฺปโยเค กตฺตริ สามิวจนสฺสปิ อิจฺฉิตตฺตา ‘‘คามสฺส วา ปูชิต’’นฺติ วุตฺตํ. รูปินฺทฺริเยสุ วิชฺชมานํ สนฺธาย เอกินฺทฺริยตา วุจฺจตีติ อาห ‘‘กายินฺทฺริยํ สนฺธายา’’ติ. เต หิ มนินฺทฺริยมฺปิ ภูตคามานํ อิจฺฉนฺติ.
๓๖๖. กิริยโต สมุฏฺานาภาโวติ วตฺถุโน อเทสนาสงฺขาตํ อกิริยํ วินา น เกวลํ กิริยาย สมุฏฺานภาโว. กิริยากิริยโต หิ อิทํ สมุฏฺาติ. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ภิกฺขู วา ¶ อนภิเนยฺยาติ เอตฺถ วา-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ, เตน ‘‘มหลฺลกฺจ วิหารํ กเรยฺย, ภิกฺขู จ อนภิเนยฺยา’’ติ กิริยฺจ อกิริยฺจ สมุจฺจิโนติ.
วิหารการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ปมทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๘๐. อฏฺเม ปากาเรน จ ปริกฺขิตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. โคปุรฏฺฏาลกยุตฺตนฺติ เอตฺถ ปากาเรสุ ยุทฺธตฺถาย กโต วงฺกสณฺาโน สรกฺเขปฉิทฺทสหิโต ปติสฺสยวิเสโส อฏฺฏาลโก นาม.
โสฬสวิธสฺสาติ จตูหิ มคฺเคหิ ปจฺเจกํ จตูสุ สจฺเจสุ กตฺตพฺพสฺส ปริฺาปหานสจฺฉิกิริยาภาวนาสงฺขาตสฺส โสฬสวิธสฺส. เต คารเวนาติ เต กิลนฺตรูปา ภิกฺขู ภตฺตุทฺเทสกฏฺาเน สนฺนิปติตานํ ภิกฺขูนํ ปุรโต อตฺตโน กิลนฺตสรีรํ ทสฺเสตฺวา อุทฺทิสาปเน คารเวน, ลชฺชายาติ อตฺโถ. เตรสปีติ ภตฺตุทฺเทสกเสนาสนคาหาปกภณฺฑาคาริกจีวรปฏิคฺคาหกจีวรภาชกยาคุภาชกผลภาชกขชฺชภาชกอปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชกสาฏิยคาหาปกปตฺตคาหาปกอารามิกเปสกสามเณรเปสกสมฺมุตีนํ วเสน เตรสปิ.
ปาฬิยํ ‘‘อปิสู’’ติ อิทํ ‘‘อปิจา’’ติ อิมินา สมานตฺโถ นิปาโต. เอวํ สพฺพปเทสูติ ปีาทีสุ เสนาสนสาธารเณสุ, กติกสณฺานปเวสนิกฺขมนกาลาทีสุ ปน วิสุํ วิสุํ อธิฏฺหิตฺวา กถาเปตีติ เวทิตพฺพํ ¶ . อยฺหิ นิมฺมิตานํ ธมฺมตาติ อนิยเมตฺวา นิมฺมิตานํ วเสน วุตฺตํ, นิยเมตฺวา ปน ‘‘เอตฺตกา อิทฺจิทฺจ กเถนฺตุ, เอตฺตกา ตุณฺหี ภวนฺตุ, นานาปฺปการํ อิริยาปถํ, กิริยฺจ กปฺเปนฺตุ, นานาวณฺณสณฺานวโยนิยมา จ โหนฺตู’’ติ ปริกมฺมํ กตฺวา สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อธิฏฺิเต อิจฺฉิติจฺฉิตปฺปการา อฺมฺมฺปิ วิสทิสาว โหนฺติ. อวตฺถุกวจนนฺติ นิรตฺถกวจนํ.
๓๘๓. เอกจาริกภตฺตนฺติ อติมนาปตฺตา สพฺเพสมฺปิ ปฏิลาภตฺถาย วิสุํ ิติกาย ปาเปตพฺพภตฺตํ. ตทฺธิตโวหาเรนาติ จตฺตาริ ปมาณมสฺส จตุกฺกนฺติ เอวํ ตทฺธิตโวหาเรน. ภโวติ ภวิตพฺโพ. อตีตํ ทิวสภาคนฺติ ตสฺมิฺเว ทิวเส สลากทานกฺขณํ สนฺธาย วุตฺตํ. หิยฺโยติ อิมสฺส อชฺช อิจฺเจว อตฺโถ. เตเนวาหํสุ ‘‘สฺเว อมฺเห’’ติอาทิ. ปธูปายนฺตาติ ปุนปฺปุนํ ¶ อุปฺปชฺชนโกธวเสน ปธูปายนฺตา. ปาฬิยํ กิสฺส มนฺติ เกน การเณน มยาติ อตฺโถ.
๓๘๔. ‘‘สรสิ ตฺว’’นฺติ อิทํ เอกํ วากฺยํ กตฺวา, ‘‘กตฺตา’’ติ อิทฺจ กตฺตริ ริตุปจฺจยนฺตํ กตฺวา, ‘‘อสี’’ติ อชฺฌาหารปเทน สห เอกวากฺยํ กตฺวา, ‘‘เอวรูป’’นฺติ อิทํ, ‘‘ยถายํ ภิกฺขุนี อาหา’’ติ อิทฺจ ทฺวีสุ วากฺเยสุ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. อุชุกเมวาติ ตฺวา-ปจฺจยนฺตวเสน ปมํ อตฺถคฺคหณํ อุชุกนฺติ อธิปฺปาโย.
ทุติโย ทพฺพ-สทฺโท ปณฺฑิตาทิวจโนติ อาห ‘‘น โข ทพฺพ ทพฺพา ปณฺฑิตา’’ติ. นิพฺเพเนฺตีติ โทสโต โมเจนฺติ. วินยลกฺขเณ ตนฺตินฺติ วินยวินิจฺฉยลกฺขณวิสเย อาคมํ เปนฺโต. ปาฬิยํ ยโต อหนฺติอาทีสุ ยสฺมึ กาเล อหํ ชาโต, ตโต ปภุติ สุปินนฺเตนปิ เมถุนํ ธมฺมํ นาภิชานามิ, น จ ตสฺส เมถุนธมฺมสฺส ปฏิเสวิตา อโหสินฺติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เตนาห ‘‘สุปินนฺเตนปี’’ติอาทิ. อิทานิ เอกวากฺยวเสน โยชนํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. น ฆฏตีติ ยสฺมา ขีณาสวสฺส วจเนน เอติสฺสา วจนํ น สเมติ, ตฺจ น ฆฏนํ ยสฺมา ปุพฺเพ ภิกฺขูสุ ปสิทฺธาย เอว อจฺจนฺตทุสฺสีลตาย เอว อโหสิ, ตสฺมา เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถาติ อธิปฺปาโย.
จร ปิเรติ จร คจฺฉ ปิเร ปร อมามก ตฺวํ. วินสฺสาติ อทสฺสนํ คจฺฉ. อการิกาติ อมูลเกน โจทนาย น การิกา. การโก โหตีติ ¶ ‘‘อยฺเยนมฺหิ ทูสิตา’’ติ อิมาย ปฏิฺาย ยทิ นาสิตา, ตทา เถโร ภิกฺขุนีทูสกตฺตสิทฺธิโต ตสฺส โทสสฺส การโก โหติ. อการโก โหตีติ ตาย กตปฏิฺํ อนเปกฺขิตฺวา สามฺโต ‘‘เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถา’’ติ ภควตา วุตฺตตฺตา อการโก โหติ. ยทิ หิ เถโร การโก ภเวยฺย, อวสฺสํ ตเมว โทสํ อปทิสิตฺวา อิมินา นาม การเณน ‘‘เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถา’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา, ตถา อวุตฺตตฺตา, ‘‘ทพฺพฺจ อนุยฺุชถา’’ติ อวตฺวา ‘‘อิเม จ ภิกฺขู อนุยฺุชถา’’ติ วุตฺตตฺตา จ สามตฺถิยโต เมตฺติยาย ภิกฺขุนิยา อฺเน โทเสน นาสนารหตา, วตฺถุสฺส จ อมูลกภาโว, เถรสฺส อการกภาโว จ สิทฺโธ โหตีติ อธิปฺปาโย.
อตฺตโน สุตฺตนฺติ ‘‘สกาย ปฏิฺายา’’ติ อิมินา ปกฺเขปวจเนน สหิตํ กูฏสุตฺตํ. เถโร ¶ การโก โหตีติ เอตฺถ อยมธิปฺปาโย – ‘‘สกาย ปฏิฺายา’’ติ อวตฺวา สามฺโต ‘‘เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถา’’ติ โอติณฺณวตฺถุสฺมึเยว ตสฺสา นาสนา วิหิตาติ ตุมฺหากํ วาเท เถโร การโก โหติ, ‘‘สกาย ปฏิฺายา’’ติ ปน วุตฺเต ปุพฺเพเยว สิทฺธสฺส ปาราชิกสฺส สุจิกาย อสฺสา สกาย ปฏิฺาย นาเสถาติ สิชฺฌนโต อมฺหากํ วาเท เถโร อการโก โหตีติ. มหาวิหารวาสีนมฺปิ ปน ‘‘สกาย ปฏิฺายา’’ติ วุตฺเต โอติณฺณวตฺถุสฺมึเยว ตสฺสา นาสนา วิหิตา โหติ, น สามฺโตติ อธิปฺปาโย. เอตฺถาติ อิเมสุ ทฺวีสุ วาเทสุ, สุตฺเตสุ วา. ยํ ปจฺฉา วุตฺตนฺติ มหาวิหารวาสีหิ ยํ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตนฺติ อตฺโถ. วิจาริตํ เหตนฺติ เอตํ ปจฺฉิมสฺส ยุตฺตตฺตํ วิจาริตํ, ‘‘ตตฺร สงฺฆาทิเสโส วุฏฺานคามินี…เป… อสุทฺธตาเยว นาเสสี’’ติ วกฺขมานนเยน วินิจฺฉิตนฺติ อตฺโถ. ‘‘ภิกฺขุนึ อนุทฺธํเสติ ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินา มหาอฏฺกถาวาโท ทสฺสิโต.
ตตฺราติ เตสุ ทุกฺกฏปาจิตฺติเยสุ. ทุกฺกฏนฺติ วุตฺตมหาอฏฺกถาวาทสฺส อธิปฺปายํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ปาจิตฺติย’’นฺติ ปวตฺตสฺส กุรุนฺทิวาทสฺส อธิปฺปายํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปจฺฉิมนเยปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. วจนปฺปมาณโตติ วิสํวาทนาธิปฺปาเย สมาเนปิ อนุทฺธํสนาทิวิเสเส สงฺฆาทิเสสาทิโน วิธายกวจนพเลนาติ อตฺโถ. ภิกฺขุสฺส ปน ภิกฺขุนิยา ทุกฺกฏนฺติ ภิกฺขุนึ อนุทฺธํเสนฺตสฺส ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏํ.
เอวํ ¶ ทฺวีสุปิ อฏฺกถาวจเนสุ อธิปฺปายํ วิภาเวตฺวา อิทานิ ปจฺฉิเม ปาจิตฺติยวาเท โทสํ ทสฺเสตฺวา ปุริมทุกฺกฏวาทเมว ปติฏฺาเปตุํ ‘‘ตตฺร ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ วิสุนฺติ สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยโต (ปาจิ. ๑) วิสุํ ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ, ตตฺถ อนนฺโตคธภาวาติ อธิปฺปาโย. ตสฺมาติ ยสฺมา อมูลกานุทฺธํสเน วิสฺุเว ปาจิตฺติยํ ปฺตฺตํ, ตสฺมา ปุริมนโยติ ทุกฺกฏวาโท. เอวํ อนฺตรา ปวิฏฺํ ทุกฺกฏปาจิตฺติยวาทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปากฏเมว อตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘ตถา ภิกฺขุนี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตถาติ ยถา ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุํ, ภิกฺขุนิฺจ อนุทฺธํเสนฺตสฺส สงฺฆาทิเสสทุกฺกฏานิ วุตฺตานิ, ตถาติ อตฺโถ. เอเตหิ นาสนา นตฺถีติ สามฺโต วุตฺตํ, ทุกฺกเฏน อิมิสฺสา ปน นาสนา นตฺถีติ อธิปฺปาโย. ทุสฺสีลาติ ปาราชิกา.
๓๘๖. อาการนานตฺเตนาติ ทูสิตาการสฺส, ทูสกาการสฺส จ นานตฺเตน. อนภิรทฺโธติ อตุฏฺโ. เตนาห ‘‘น สุขิโต’’ติ. น ปสาทิโตติ อนุปฺปาทิตปฺปสาโท. ขีล-สทฺโท ถทฺธภาววจโน ¶ , กจวรปริยาโย จ โหตีติ อาห ‘‘จิตฺต…เป… ขีล’’นฺติ. นปฺปตีโตติ ปีติสุขาทีหิ น อภิคโต น อุปคโต. เตนาห ‘‘น อภิสโฏ’’ติ.
เยน ทุฏฺโติ จ กุปิโตติ จ วุตฺโตติ เอตฺถ เยน ทุฏฺโติ จ วุตฺโต เยน กุปิโตติ จ วุตฺโต, ตํ มาติกายฺจ ปทภาชเน (ปารา. ๓๘๖) จ วุตฺตํ อุภยมฺเปตนฺติ โยเชตพฺพํ. ทฺวีหีติ ‘‘เตน จ โกเปน, เตน จ โทเสนา’’ติ วุตฺตโกปโทสปเทหิ ทฺวีหิ, อตฺถโต ปน ทฺวีหิปิ โทโสว ทสฺสิโตติ อาห ‘‘สงฺขารกฺขนฺธเมว ทสฺเสตี’’ติ. ยายาติ อนตฺตมนตาย.
น จุทิตกวเสนาติ ยทิ จุทิตกวเสนาปิ อมูลกํ อธิปฺเปตํ สิยา, อมูลกํ นาม อนชฺฌาปนฺนนฺติ ปทภาชนํ วเทยฺยาติ อธิปฺปาโย. ยํ ปาราชิกนฺติ ภิกฺขุโน อนุรูเปสุ เอกูนวีสติยา ปาราชิเกสุ อฺตรํ. ปทภาชเน (ปารา. ๓๘๖) ปน ภิกฺขุวิภงฺเค อาคตาเนว คเหตฺวา ‘‘จตุนฺนํ อฺตเรนา’’ติ วุตฺตํ. เอตํ อิธ อปฺปมาณนฺติ เอตํ อาปนฺนานาปนฺนตํ อิธานุทฺธํสเน ¶ อาปตฺติยา อนงฺคํ, อาปตฺตึ ปน อาปนฺเน วา อนาปนฺเน วา ปุคฺคเล ‘‘อนาปนฺโน เอโส สุทฺโธ’’ติ สุทฺธสฺาย วา วิมติยา วา จาวนาธิปฺปาโยว อิธ องฺคนฺติ อธิปฺปาโย.
ตเถวาติ ปสาทโสเตน, ทิพฺพโสเตน วาติ อิมมตฺถํ อติทิสติ. ทิฏฺานุสาเรเนว สมุปฺปนฺนา ปริสงฺกาว ทิฏฺปริสงฺกิตํ นาม. เอวํ เสเสสุปิ. ‘‘อทิสฺวา วา’’ติ อิทํ อุกฺกฏฺวเสน วุตฺตํ, ทิสฺวา ปกฺกนฺเตสุปิ โทโส นตฺถิเยว. อิเมสนฺติ อิเมหิ. กริสฺสนฺตีติ ตสฺมึ ขเณ อุปฺปชฺชนาการทสฺสนํ, ปจฺฉา ปน เอตฺตเกน กาเลน กตํ วาติ สงฺกาย โจเทติ. น หิ กริสฺสนฺตีติ โจทนา อตฺถิ. ‘‘อริฏฺํ ปีต’’นฺติ อิทํ มุเข สุราคนฺธวายนนิมิตฺตทสฺสนํ. อริฏฺฺหิ สุราสทิสวณฺณคนฺธํ กปฺปิยเภสชฺชํ.
ทิฏฺํ อตฺถิ สมูลกนฺติอาทีสุ อชฺฌาจารสฺส สมฺภวาสมฺภวานํ มูลามูลภาวทสฺสนํ. อตฺถิ สฺาสมูลกนฺติอาทิ ปน ทิฏฺสฺาย สมฺภวาสมฺภวานํ มูลามูลภาวทสฺสนํ. ทิสฺวาว ทิฏฺสฺี หุตฺวา โจเทตีติ เอตฺถ ยํ โจเทติ, ตโต อฺํ ปุคฺคลํ วีติกฺกมนฺตํ, ปฏิจฺฉนฺโนกาสโต นิกฺขมนฺตํ วา ทิสฺวา ‘‘อยํ โส’’ติ สฺาย โจเทนฺโตปิ สงฺคยฺหติ. เอส นโย สุตาทีสุปิ. สมูลเกน วา สฺาสมูลเกน วาติ เอตฺถ ปาราชิกมาปนฺนํ ทิฏฺาทิมูลเกน จ ‘‘อยํ อาปนฺโน’’ติ อสุทฺธสฺาย โจเทนฺโต สมูลเกน โจเทติ นาม. สฺาสมูลกตฺเต เอว อนาปตฺติสมฺภวโต อาปนฺเน วา อนาปนฺเน วา ปุคฺคเล อาปนฺนสฺี ทิฏฺาทีสุ ¶ , อทิฏฺาทีสุ วา มูเลสุ ทิฏฺสุตาทิสฺี เตน ทิฏฺาทิมูลเกน ตํ ปุคฺคลํ โจเทนฺโต สฺาสมูลเกน โจเทติ นาม. อิเมสํ อนาปตฺติ, วุตฺตวิปริยาเยน อาปตฺติวาเร อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
สมีเป ตฺวาติ หตฺถวิการวจีโฆสานํ โจทนาวเสน ปวตฺติยมานานํ ทสฺสนสวนูปจาเร ตฺวาติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเร ตฺวา’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๓๘๕-๓๘๖) วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ. ปรโต พฺยติเรกโต อนาปตฺตึ ทสฺเสนฺเตน ‘‘ทูตํ วา ปณฺณํ วา สาสนํ วา เปเสตฺวา’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, น ปน ‘‘ทฺวาทสหตฺถํ มฺุจิตฺวา โจเทนฺตสฺส สีสํ น เอตี’’ติ วุตฺตํ. วาจาย วาจายาติ สกึ อาณตฺตสฺส สกลมฺปิ ทิวสํ วทโต วาจาย ¶ วาจาย โจทาปกสฺเสว อาปตฺติ. โสปีติ อาณตฺโตปิ. ตสฺส จ ‘‘มยาปิ ทิฏฺ’’นฺติอาทึ อวตฺวาปิ ‘‘อมูลก’’นฺติ สฺาย จาวนาธิปฺปาเยน ‘‘ตฺวํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนสี’’ติ อิทเมว วาจํ ปรสฺส วจนํ วิย อกตฺวา สามฺโต วทนฺตสฺสาปิ สงฺฆาทิเสโส เอว. สติปิ ปน อนุทฺธํสนาธิปฺปาเย ‘‘อสุเกน เอวํ วุตฺต’’นฺติ ปเรน วุตฺตเมว วทนฺตสฺส นตฺถิ สงฺฆาทิเสโส. สเจ ปน ปเรน อวุตฺตมฺปิ วุตฺตนฺติ วทติ, อาปตฺติ เอว.
สมฺพหุลา สมฺพหุเล สมฺพหุเลหิ วตฺถูหีติ เอตฺถ สมฺพหุเลติ จุทิตกพหุตฺตนิทฺเทเสน ปุริเมสุ ตีสุ วาเรสุ จุทิตกพหุตฺเตนาปิ วารเภทสพฺภาวํ าเปติ. เอกสฺมิฺหิ จุทิตกวตฺถุโจทกเภเทน อิทํ จตุกฺกํ วุตฺตํ, จุทิตกพหุตฺเตนาปิ จตุกฺกนฺตรํ ลพฺภตีติ อฏฺกํ โหติ เอว.
อมูลกโจทนาปสงฺเคน สมูลกโจทนาลกฺขณาทึ ทสฺเสตุํ ‘‘โจเทตุํ ปน โก ลภตี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ภิกฺขุสฺส สุตฺวา โจเทตีติอาทิ สุตฺตํ ยสฺมา เย โจทกสฺส อฺเสํ วิปตฺตึ ปกาเสนฺติ, เตปิ ตสฺมึ ขเณ โจทกภาเว ตฺวาว ปกาเสนฺติ, เตสฺจ วจนํ คเหตฺวา อิตโรปิ ยสฺมา โจเทตฺุจ อสมฺปฏิจฺฉนฺตํ เตหิ ติตฺถิยสาวกปริโยสาเนหิ ปมโจทเกหิ สมฺปฏิจฺฉาเปตฺุจ ลภติ, ตสฺมา อิธ สาวกภาเวน อุทฺธฏนฺติ เวทิตพฺพํ.
ทูตํ วาติอาทีสุ ‘‘ตฺวํ เอวํ คนฺตฺวา โจเทหี’’ติ ทูตํ วา เปเสตฺวา โย โจเทตุํ สกฺโกติ, ตสฺส ปณฺณํ, มูลสาสนํ วา เปเสตฺวา. สมเยนาติ ปกติยา ชานนกฺขเณ.
ครุกานํ ทฺวินฺนนฺติ ปาราชิกสงฺฆาทิเสสานํ. มิจฺฉาทิฏฺิ นาม ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตา (ม. นิ. ๑.๔๔๕; ๒.๙๔, ๙๕, ๒๒๕; ๓.๙๑, ๑๑๖, ๑๓๖; สํ. นิ. ๓.๒๑๐) ทสวตฺถุกา ¶ ทิฏฺิ, สสฺสตุจฺเฉทสงฺขาตํ อนฺตํ คณฺหาปกทิฏฺิ อนฺตคฺคาหิกา นาม. อาชีวเหตุ ปฺตฺตานํ ฉนฺนนฺติ อาชีวเหตุปิ อาปชฺชิตพฺพานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมปาราชิกํ (ปารา. ๑๙๕), สฺจริตฺเต (ปารา. ๓๐๑, ๓๐๒) สงฺฆาทิเสโส, ‘‘โย เต วิหาเร วสติ, โส อรหา’’ติ (ปารา. ๒๒๐) ปริยาเยน ถุลฺลจฺจยํ, ภิกฺขุสฺส ปณีตโภชนวิฺตฺติยา ปาจิตฺติยํ (ปาจิ. ๒๕๗), ภิกฺขุนิยาปณีตโภชนวิฺตฺติยา ¶ ปาฏิเทสนียํ (ปาจิ. ๑๒๓๖), สูโปทนวิฺตฺติยา (ปาจิ. ๖๑๒-๖๑๓) ทุกฺกฏนฺติ อิเมสํ ปริวาเร (ปริ. ๒๘๗) วุตฺตานํ ฉนฺนํ. น เหตา อาปตฺติโย อาชีวเหตุ เอว ปฺตฺตา สฺจริตฺตาทีนํ อฺถาปิ อาปชฺชิตพฺพโต. อาชีวเหตุปิ เอตาสํ อาปชฺชนํ สนฺธาย เอวํ วุตฺตํ, อาชีวเหตุปิ ปฺตฺตานนฺติ อตฺโถ. น เกวลฺจ เอตา เอว, อฺาปิ อทินฺนาทานกุลทูสนปาณวธเวชฺชกมฺมาทิวเสน อาชีวเหตุ อาปชฺชิตพฺพาปิ สนฺติ, ตา ปน อาปตฺติสภอาคตาย ปาราชิกาทีสุ ฉสุ เอว สงฺคยฺหนฺตีติ วิสุํ น วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
เอตฺตาวตา ปน สีสํ น เอตีติ สงฺฆาทิเสสํ สนฺธาย วุตฺตํ, โจทนา ปน กตา เอว โหติ. ตึสานีติ ตึสํ เอเตสมตฺถีติ ตึสานิ, ตึสาธิกานีติ วุตฺตํ โหติ. นวุตานีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
อตฺตาทานํ อาทาตุกาเมนาติ เอตฺถ อตฺตนา อาทาตพฺพโต ทิฏฺาทิมูลเกหิ คเหตพฺพโต ปรสฺส วิปฺผนฺทิตุํ อทตฺวา ปคฺคณฺหนโต อตฺตาทานนฺติ โจทนา วุจฺจติ, ตํ อาทาตุกาเมน, โจทนํ กตฺตุกาเมนาติ อตฺโถ.
อุพฺพาหิกายาติ อุพฺพหนฺติ วิโยเชนฺติ เอตาย อลชฺชีนํ ตชฺชนึ วา กลหํ วาติ อุพฺพาหิกา, สงฺฆสมฺมุติ, ตาย. วินิจฺฉินนํ นาม ตาย สมฺมตภิกฺขูหิ วินิจฺฉนนเมว. อลชฺชุสฺสนฺนาย หิ ปริสาย สมถกฺขนฺธเก (จูฬว. ๒๒๗) อาคเตหิ ทสงฺเคหิ สมนฺนาคตา ทฺเว ตโย ภิกฺขู ตตฺเถว วุตฺตาย ตฺติทุติยกมฺมวาจาย สมฺมนฺนิตพฺพา, เตหิ จ สมฺมเตหิ วิสุํ วา นิสีทิตฺวา, ตสฺสา เอว วา ปริสาย ‘‘อฺเหิ น กิฺจิ กเถตพฺพ’’นฺติ สาเวตฺวา ตํ อธิกรณํ วินิจฺฉิตพฺพํ.
กิมฺหีติ กิสฺมึ วตฺถุสฺมึ, กตรวิปตฺติยนฺติ อตฺโถ. ‘‘กิมฺหิ นํ นามา’’ติ อิทํ ‘‘กตราย วิปตฺติยา เอตํ โจเทสี’’ติ ยาย กายจิ วิฺายมานาย ภาสาย วุตฺเตปิ โจทกสฺส วินเย อปกตฺุตาย ‘‘สีลาจารทิฏฺิอาชีววิปตฺตีสุ กตรายาติ มํ ปุจฺฉตี’’ติ ¶ าตุํ อสกฺโกนฺตสฺส ปุจฺฉา, น ปน กิมฺหีติอาทิปทตฺถมตฺตํ อชานนฺตสฺส. น หิ อนุวิชฺชโก โจทกํ พาลํ อปริจิตภาสาย ‘‘กิมฺหิ น’’นฺติ ปุจฺฉติ. ‘‘กิมฺหิ นมฺปิ น ชานาสี’’ติ อิทมฺปิ วจนมตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ น โหติ, ‘‘กตรวิปตฺติยา’’ติ ¶ วุตฺเต ‘‘อสุกาย วิปตฺติยา’’ติ วตฺตุมฺปิ น ชานาสีติ วจนสฺส อธิปฺปายเมว สนฺธาย วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘พาลสฺส ลชฺชิสฺส นโย ทาตพฺโพ’’ติ วตฺวา จ ‘‘กิมฺหิ นํ โจเทสีติ สีลวิปตฺติยา’’ติอาทิ อธิปฺปายปฺปกาสนเมว นยทานํ วุตฺตํ, น ปน กิมฺหิ-นํ-ปทานํ ปริยายมตฺตทสฺสนํ. น หิ พาโล ‘‘กตรวิปตฺติยํ นํ โจเทสี’’ติ อิมสฺส วจนสฺส อตฺเถ าเตปิ วิปตฺติปฺปเภทนํ, อตฺตนา โจทิยมานํ วิปตฺติสรูปฺจ ชานิตุํ สกฺโกติ, ตสฺมา เตเนว อชานเนน อลชฺชี อปสาเทตพฺโพ. ‘‘กิมฺหิ น’’นฺติ อิทมฺปิ อุปลกฺขณมตฺตํ, อฺเน วา เยน เกนจิ อากาเรน อวิฺุตํ ปกาเสตฺวา วิสฺสชฺเชตพฺโพว.
‘‘ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหายา’’ติอาทิวจนโต (ปารา. ๓๙; ปริ. ๒) ‘‘อลชฺชีนิคฺคหตฺถาย…เป… ปฺตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. เอหิตีติ หิ-กาโร เอตฺถ อาคโม ทฏฺพฺโพ, อาคมิสฺสตีติ อตฺโถ. ทิฏฺสนฺตาเนนาติ ทิฏฺนิยาเมน. อลชฺชิสฺส ปฏิฺาย เอว กาตพฺพนฺติ วจนปฏิวจนกฺกเมเนว โทเส อาวิภูเตปิ อลชฺชิสฺส ‘‘อสุทฺโธห’’นฺติ โทสสมฺปฏิจฺฉนปอฺาย เอว อาปตฺติยา กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘อลชฺชิสฺส เอตํ นตฺถีติ สุทฺธปฏิฺาย เอว อนาปตฺติยา กาตพฺพนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ สงฺคหิโต’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ อนุวิชฺชกสฺเสว นิรตฺถกตฺตาปตฺติโต โจทเกเนว อลชฺชิปฏิฺาย าตพฺพโต. โทสาปคมปฏิฺา เอว หิ อิธ ปฏิฺาติ อธิปฺเปตา. เตเนว วกฺขติ ‘‘เอตมฺปิ นตฺถีติ ปฏิฺํ น เทตี’’ติอาทิ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๘๕-๓๘๖).
ตทตฺถทีปนตฺถนฺติ อลชฺชิสฺส โทเส อาวิภูเตปิ ตสฺส โทสาปคมปฏิฺาย เอว กาตพฺพตาทีปนตฺถํ. วิวาทวตฺถุสงฺขาเต อตฺเถ ปจฺจตฺถิกา อตฺถปจฺจตฺถิกา. สฺํ ทตฺวาติ เนสํ กถาปจฺเฉทตฺถํ, อภิมุขกรณตฺถฺจ สทฺทํ กตฺวา. วินิจฺฉินิตุํ อนนุจฺฉวิโกติ ‘‘อสุทฺโธ’’ติ สฺาย โจทกปกฺเข ปวิฏฺตฺตา อนุวิชฺชกภาวโต พหิภูตตฺตา อนุวิชฺชิตุํ อสกฺกุเณยฺยตํ สนฺธาย วุตฺตํ. สนฺเทเห เอว หิ สติ อนุวิชฺชิตุํ สกฺกา, อสุทฺธทิฏฺิยา ปน สติ จุทิตเกน วุตฺตํ สพฺพํ อสจฺจโตปิ ปฏิภาติ, กถํ ตตฺถ อนุวิชฺชนา สิยาติ.
‘‘ตถา ¶ นาสิตโกว ภวิสฺสตี’’ติ อิมินา วินิจฺฉยํ อทตฺวา สงฺฆโต วิโยชนํ นาม ลิงฺคนาสนา วิย อยมฺปิ เอโก นาสนปฺปกาโรติ ทสฺเสติ. วิรทฺธํ โหตีติ สฺจิจฺจ อาปตฺตึ ¶ สหสา อาปนฺโน โหติ. ‘‘อาทิโต ปฏฺาย อลชฺชี นาม นตฺถี’’ติ อิทํ ‘‘ปกฺขานุรกฺขณตฺถาย ปฏิฺํ น เทตี’’ติ อิมสฺส อลชฺชิลกฺขณสมฺภวสฺส การณวจนํ. ปฏิจฺฉาทิตกาลโต ปฏฺาย อลชฺชี นาม เอว, ปุริโม ลชฺชิภาโว น รกฺขตีติ อตฺโถ. ปฏิฺํ น เทตีติ สเจ มยา กตโทสํ วกฺขามิ, มยฺหํ อนุวตฺตกา ภิชฺชิสฺสนฺตีติ ปฏิฺํ น เทติ. าเน น ติฏฺตีติ ลชฺชิฏฺาเน น ติฏฺติ, กายวาจาสุ วีติกฺกโม โหติ เอวาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘วินิจฺฉโย น ทาตพฺโพ’’ติ, ปุพฺเพ ปกฺขิกานํ ปฏิฺาย วูปสมิตสฺสาปิ อธิกรณสฺส ทุวูปสนฺตตาย อยมฺปิ ตถา นาสิตโกว ภวิสฺสตีติ อธิปฺปาโย.
จุทิตกโจทเกสุ ปฏิปตฺตึ ตฺวาติ ‘‘ตุมฺเห อมฺหากํ วินิจฺฉเยน ตุฏฺา ภวิสฺสถา’’ติอาทินา วุตฺตํ จุทิตกโจทเกสุ อนุวิชฺชเกน ปฏิปชฺชิตพฺพกมฺมํ ตฺวา. วินิจฺฉโย มชฺเฌติ อาปตฺตีติ วา อนาปตฺตีติ วา วินิจฺฉยปริโยสานอนุวิชฺชนานํ มชฺฌํ นามาติ อตฺโถ.
อมูลกมฺปิ สมูลกํ กตฺวา วทนฺตีติ อาห ‘‘ทฺเว มูลานี’’ติ. กาเลน วกฺขามีติอาทีสุ โอกาสํ การาเปตฺวา วทนฺโต กาเลน วทติ นาม. สลากคฺคยาคุอคฺคภิกฺขาจารฏฺานาทีสุ โจเทนฺโต อกาเลน วทติ นาม. โทสโต วุฏฺาเปตุกามตาย วทนฺโต อตฺถสํหิเตน วทติ นาม. โทสนฺตโรติ โทสจิตฺโต. ปนฺนรสสุ ธมฺเมสูติ ‘‘ปริสุทฺธกายสมอาจารตา, ตถา วจีสมาจารตา, สพฺรหฺมจารีสุ เมตฺตจิตฺตตา, พหุสฺสุตตา, อุภินฺนํ ปาติโมกฺขานํ สฺวาคตาทิตา, กาเลน วกฺขามี’’ติอาทินา (ปริ. ๓๖๒) วุตฺตปฺจธมฺมา จ การฺุตา, หิเตสิตา, อนุกมฺปตา, อาปตฺติวุฏฺานตา, วินยปุเรกฺขารตาติ (จูฬว. ๔๐๑) อิเมสุ ปนฺนรสสุ. ตตฺถ ‘‘การฺุตา’’ติ อิมินา กรุณา ทสฺสิตา. หิเตสิตาติ หิตคเวสนตา. อนุกมฺปตาติ เตน หิเตน สํโยชนตา, อิเมหิ ทฺวีหิปิ เมตฺตา ทสฺสิตา. อาปตฺติวุฏฺานตาติ สุทฺธนฺเต ปติฏฺาปนตา. วตฺถุํ โจเทตฺวา สาเรตฺวา ปฏิฺํ อาโรเปตฺวา ยถาปฏิฺาย กมฺมกรณํ วินยปุเรกฺขารตา นาม.
อธิกรณฏฺเนาติ ¶ อธิกาตพฺพฏฺเน, สมเถหิ วูปสเมตพฺพฏฺเนาติ อตฺโถ. ตํ นานตฺตํ ทสฺเสตุนฺติ อิธ อนธิปฺเปตมฺปิ อตฺถุทฺธารวเสน ตํ นานตฺตํ ทสฺเสตุนฺติ อธิปฺปาโย. เตเนว วกฺขติ ‘‘เสสานิ อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตานี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๘๕-๓๘๖). ยํ อธิกิจฺจาติอาทินา อธิกรณสทฺทสฺส กมฺมสาธนตา วุตฺตา.
คาหนฺติ ¶ ‘‘อสุกํ โจเทสฺสามี’’ติ มนสา โจทนาการสฺส คหณํ. เจตนนฺติ ‘‘โจเทสฺสามี’’ติ อุปฺปนฺนจิตฺตพฺยาปารสงฺขาตํ จิตฺตกมฺมํ. อกฺขนฺตินฺติ จุทิตกสฺส วิปตฺตึ ทิสฺวา อุปฺปนฺนํ โกธํ อสหนํ, ตถา ปวตฺตํ วา ยํ กิฺจิ จิตฺตเจตสิกราสึ. โวหารนฺติ โจทนาวสปฺปวตฺตวจนํ. ปณฺณตฺตินฺติ โจทนาวสปฺปวตฺตํ มนสา ปริกปฺปิตํ นามปณฺณตฺตึ. อตฺตาทานํ คเหตฺวาติ โจทนํ มนสา คเหตฺวา. ตํ อธิกรณนฺติ ตํ คาหลกฺขณํ อธิกรณํ. นิรุชฺฌติ เจตนาย ขณิกตฺตา, สา จ สมถปฺปตฺตา โหตีติ เอวเมตฺถ อนิฏฺปฺปสงฺโค เวทิตพฺโพ. เอวํ อุปริปิ ‘‘ตุณฺหี โหตี’’ติ อิมินา โวหารวจนสฺส นิโรธํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ตํ อธิกรณํ สมถปฺปตฺตํ ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘ตสฺมา ปณฺณตฺติ อธิกรณ’’นฺติ อฏฺกถาสุ กตสนฺนิฏฺานํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตสฺสาปิ เอกจฺเจหิ ปฏิกฺขิตฺตภาวํ ทสฺเสตฺวา ปุน ตมฺปิ ปฏิเสเธตฺวา อฏฺกถาสุ วุตฺตปณฺณตฺติยา เอว อธิกรณตํ สมตฺเถตุํ ‘‘ตํ ปเนต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ตํ ปเนตนฺติ ปณฺณตฺติ อธิกรณนฺติ เอตํ คหณํ วิรุชฺฌตีติ สมฺพนฺโธ. ปาราชิกาทิอาปตฺติ เอกนฺตอกุสลสภาวา วา อพฺยากตสภาวา วา โหตีติ สฺาย ‘‘เมถุนธมฺมปาราชิกาปตฺตี’’ติอาทิกํ สุตฺตํ ปณฺณตฺติอธิกรณวาเทน วิรุชฺฌตีติ ทสฺเสตุํ อุทฺธฏํ. เตนาห ‘‘น หิ เต…เป… อจฺจนฺตอกุสลตฺตา’’ติอาทิ. เตติ อฏฺกถาจริยา.
อมูลกฺเจว ตํ อธิกรณนฺติ เอตฺถ อมูลกปาราชิกเมว อธิกรณ-สทฺเทน อธิปฺเปตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยฺเจต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺมา ปนาติอาทิ ปน อิธาธิปฺเปตาย อมูลกปาราชิกาปตฺติยา เอว ปณฺณตฺติภาโว ยุชฺชตีติ ทสฺเสตุํ อารทฺธํ. ตตฺถ ยาย ปณฺณตฺติยาติ สภาวโต ปริสุทฺเธปิ ปุคฺคเล ‘‘ปาราชิโก’’ติอาทินา โจทเกน ปวตฺติตํ นามปณฺณตฺตึ สนฺธาย วทติ. ปฺตฺโตติ กถิโต. อธิกรเณ ปวตฺตตฺตาติ อวิชฺชมาเนปิ ¶ มนสา อาโรปิตมตฺเต อาปตฺตาธิกรเณ วาจกภาเวน ปวตฺตตฺตา.
เอวํ นามปณฺณตฺติวเสน อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อาปตฺตาธิกรณสฺส ปฺตฺติภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺถปณฺณตฺติวเสนาปิ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมา วาย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ปฺตฺติมตฺตเมวาติ อวิชฺชมานสฺส วิชฺชมานากาเรน มนสา อาโรปิตอตฺถปณฺณตฺติมตฺตเมวาติ อตฺโถ. ตฺจ โข อิเธวาติ ตฺจ ยถาวุตฺตปริยาเยน ปณฺณตฺติยา อธิกรณตฺตํ อิเธว อิมสฺมึ เอว สิกฺขาปเท. เอเกติ เกจิ. ตํ น ยุตฺตนฺติ ยํ เอกจฺเจหิ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ, อธิกรณสฺส ปณฺณตฺติภาวํ นิเสเธตฺวา กุสลาทิปรมตฺถภาวํ สาเธตุํ ‘‘ตํ ปเนตํ เมถุนธมฺมปาราชิกาปตฺตี’’ติอาทินา ปปฺจโต ทสฺสิโต, ตํ น ยุตฺตนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ การณมาห ‘‘อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติอาทินา, เตน จ ตสฺมึ วาเท ยทิ อาปตฺติ นาม อกุสลา วา อพฺยากตา วา ภเวยฺย, กถํ อาทิกมฺมิกสฺส ¶ อนาปตฺติ ภเวยฺย? ตสฺสาปิ อกุสลาทีนํ อุปฺปนฺนตฺตา ภควโต สิกฺขาปทปฺตฺติโต ปฏฺาย ยาว อาปตฺตีติปิ น สกฺกา วตฺตุํ, เมถุนาทีสุ อกุสลาทีนํ สิกฺขาปทปฺตฺติโต ปุพฺเพปิ สมุปฺปตฺติโต. ตโต เอว อนุปสมฺปนฺนานมฺปิ อาปตฺติปฺปสงฺโค, คิลานาทีนํ อุปฺปนฺนตฺตา อนุปฺตฺติยาปิ อนาปตฺติอภาวปฺปสงฺโค จ สิยา. อถ มตํ ‘‘น เกวลํ อกุสลาทิ เอว, อถ โข ภควตา ปฏิกฺขิตฺตภาวํ ชานนฺตสฺส สมุปฺปชฺชมานา เอว อกุสลาทโย อาปตฺตี’’ติ, ตมฺปิ อสารํ, สิกฺขาปทปฺตฺตึ อชานิตฺวา วีติกฺกมนฺตสฺส เมถุนาทีสุ อนาปตฺติปฺปสงฺคโต, อกุสลาทิสภาวาย จ อาปตฺติยา เอกปโยคาทีสุ เอกตฺตาทิปิ น สิยา. น หิ สกลมฺปิ ทิวสํ อิตฺถึ กายโต อโมเจตฺวา ผุสนฺตสฺส เอกเมวากุสลํ อุปฺปชฺชติ, พหู วา อิตฺถิโย ผุสิตฺวา อปคจฺฉนฺตสฺส พหูนิ, เยนาปตฺติยา เอกตฺตํ, พหุตฺตํ วา สิยาติ เอวมาทิกํ อยุตฺตึ สงฺคเหตฺวา ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ วตฺถฺุจาติ วีติกฺกโม. ตฺหิ อาปตฺติสมฺมุติปฺาปนสฺส โอกาสฏฺเน ‘‘วตฺถู’’ติ วุจฺจติ. โคตฺตนฺติ อทินฺนาทานาทิโต พุทฺธิสทฺทนิวตฺตนฏฺเน ปริกปฺปิตสามฺากาโร โคตฺตํ. นามนฺติ อวิชฺชมานนามปฺตฺติ. ตสฺส ปน ปาราชิกนฺติ นามสฺส อตฺถภูตา อาปตฺติ อตฺถปฺตฺติ เอวาติ ทฏฺพฺพํ ¶ . ยํ ปน ‘‘วิวาทาธิกรณํ สิยา กุสล’’นฺติอาทิ (จูฬว. ๒๒๐; ปริ. ๓๐๓), ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสล’’นฺติอาทิ (จูฬว. ๒๒๒) จ สุตฺตํ เตหิ สมุทฺธฏํ, ตมฺปิ น วิวาทาทีนํ กุสลาทิภาวสฺส ปริยายเทสิตตฺตาติ ยํ เอตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา ปมปาราชิกสมุฏฺานาทิวณฺณนาย สารตฺถทีปนิยํ วิรทฺธฏฺานโสธนตฺถํ วิตฺถารโต วุตฺตนฺติ ตตฺเถว ตํ คเหตพฺพํ, สารตฺถทีปนีการกสฺส อกุสลาทิรูปาว อาปตฺตีติ ลทฺธิ, เตเนว โส อิธาปิ ‘‘ตสฺมา ปณฺณตฺติอธิกรณนฺติ อฏฺกถาสุ กตสนฺนิฏฺานํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตมฺปิ น ยุตฺตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘ตํ ปเนต’นฺติอาทิมาหา’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๓๘๕-๓๘๖) เอวํ อตฺตโน ลทฺธึ อฏฺกถาจริยสฺสปิ ลทฺธึ กตฺวา คนฺถวิโรธมฺปิ อโนโลเกตฺวา ทสฺเสสิ. น เหตฺถ พุทฺธโฆสาจริโย อฏฺกถาวาทํ อยุตฺตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ ปเนต’’นฺติอาทิมารภิ ‘‘ปณฺณตฺติมตฺตเมว อาปตฺตาธิกรณนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติ สยเมว อุปริ กถนโต, อถ โข ทุลฺลทฺธิกานํ เอกจฺจานํ ตตฺถ วิปฺปฏิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา ปุน ตํ ปฏิเสเธตุกาโม อารภิ, เตเนว อนฺเต ‘‘เอเก’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. วิวาทาทีนํ กุสลาทิกตฺเต ตํสมถานมฺปิ ตพฺภาโว อาปชฺชติ ปรมตฺเถสุ ปณฺณตฺติยา สมถาโยคาติ อาห ‘‘กุสลาทิสมเถหี’’ติ. ปฺตฺติสภาวานเมว จตุนฺนํ อธิกรณานํ สมเถหิ อธิกรณียตา, น ปน กุสลาทิปรมตฺถรูปานํ เตสํ เตสํ ขณิกตาย สยเมว สมถปฺปตฺติโตติ เหฏฺา สมตฺถิตมตฺถํ นิคมนวเสน ทสฺเสนฺเตน ‘‘อิติ อิมินา อธิกรณฏฺเนา’’ติ วุตฺตํ, ตสฺส ยถาวุตฺตนเยน ¶ สมเถหิ อธิกรณียตายาติ อตฺโถ. ‘‘อิเธกจฺโจ’’ติ อิมินา อิธาธิปฺเปตํ วิวาทํ นิวตฺเตติ.
อนุวาโทติ วิปตฺตีหิ อุปวทนา เจว โจทนา จ. ตตฺถ อุปวทนา นาม ครหา, อกฺโกโส จ. ปฺจปีติ มาติกาปริยาปนฺนาปตฺติโย สนฺธาย วุตฺตํ. กิจฺจยตาติ กตฺตพฺพตา. สปทานุกฺกมนิทฺเทสสฺสาติ เอตฺถ ปทานุกฺกมนิทฺเทโสติ ปทภาชนํ วุจฺจติ, เตน สหิตสฺส สิกฺขาปทสฺสาติ อตฺโถ.
๓๘๗. อสฺสาติ กตฺตุอตฺเถ สามิวจนนฺติ อาห ‘‘เอเตน โจทเกนา’’ติอาทิ. ทิฏฺมูลเก ปนาติ ‘‘ทิฏฺสฺส โหติ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชนฺโต’’ติอาทิ ¶ (ปารา. ๓๘๗) ปาฬิวารํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ อิตฺถิยา สทฺธึ รโหนิสชฺชาทิทสฺสนมตฺตวเสน ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชนฺโต ปุคฺคโล เตน ทิฏฺโ, น ปน มคฺเคน มคฺคปฺปฏิปาทนาทิทสฺสนวเสน. ยทิ หิ เตน โส ตถา ทิฏฺโ ภเวยฺย, อสุทฺธสฺี เอวายํ ตสฺมึ ปุคฺคเล สิยา, อสุทฺธสฺาย จ สุทฺธํ วา อสุทฺธํ วา โจเทนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส น สิยา ‘‘อนาปตฺติ สุทฺเธ อสุทฺธทิฏฺิสฺส, อสุทฺเธ อสุทฺธทิฏฺิสฺสา’’ติอาทิวจนโต (ปารา. ๓๙๐). ตสฺมา อิตฺถิยา สทฺธึ รโหนิสชฺชาทิมตฺตเมว ทิสฺวาปิ ‘‘สทฺโธ กุลปุตฺโต, นายํ ปาราชิกํ อาปชฺชตี’’ติ ตสฺมึ สุทฺธสฺิสฺส วา เวมติกสฺส วา ‘‘สุโต มยา ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชนฺโต’’ติอาทินา นิยเมตฺวา โจเทนฺตสฺเสว สงฺฆาทิเสโส, น อสุทฺธสฺิสฺส, ตสฺส ปน ทิฏฺํ สุตนฺติ มุสาวาทาทิปจฺจยา ลหุกาปตฺติ เอวาติ เวทิตพฺพํ. ยทิ ปน โส ตสฺมึ สุทฺธทิฏฺิจาวนาธิปฺปาโยปิ ทิฏฺํ รโหนิสชฺชาทิมตฺตเมว วทติ, อทิฏฺํ ปน มคฺเคนมคฺคปฺปฏิปาทนาทิปาราชิกวตฺถุํ วา ‘‘อสฺสมโณสี’’ติอาทิกํ วา น วทติ, ตสฺส อนาปตฺติ. อธิกํ วทนฺตสฺส ปน อาปตฺติเยว ‘‘อทิฏฺํ ทิฏฺ’’นฺติ (ปารา. ๓๘๖-๓๘๗) วุตฺตตฺตา. โย ปน ทิฏฺเน รโหนิสชฺชาทินา ปมปาราชิเกน อสุทฺธสฺี หุตฺวา จาวนาธิปฺปาโย อทินฺนาทานํ อชฺฌาปชฺชนฺโต ‘‘ทิฏฺโ’’ติ วา ‘‘สุโต’’ติ วา อาทึ วทติ, ตสฺสาปิ น สงฺฆาทิเสโส อสุทฺเธ อสุทฺธทิฏฺิตายาติ เกจิ วทนฺติ. อฺเ ปน ‘‘เยน ปาราชิเกน โจเทติ, เตน สุทฺธสฺาภาวา อาปตฺติเยวา’’ติ วทนฺติ, อิทํ ยุตฺตํ. ตถา หิ วุตฺตํ มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘เยน ปาราชิเกน โจเทติ, ตํ ‘อยํ อนชฺฌาปนฺโน’ติ ตฺวา จาวนาธิปฺปาเยน…เป… สงฺฆาทิเสโส’’ติ. อิมินา นเยน สุตาทิมูลเกสุปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อฺตฺร อาคเตสูติ โอมสวาทาทีสุ อาคเตสุ. อวสฺสุโตติ ¶ ตีหิปิ ทฺวาเรหิ ปาราชิกวตฺถุภูตทุจฺจริตานุวสฺสเนน ตินฺโต. กสมฺพุชาโตติ กจวรภูโต, นิสฺสาโรติ อตฺโถ.
โกณฺโติ โจโร, ทุสฺสีโลติ อตฺโถ. เชฏฺพฺพติโกติ กาฬกณฺณิเทวีวเต นิยุตฺโต ติตฺถิโยติ วทติ, สา กิร กาฬกณฺณิสิริเทวิยา เชฏฺาติ วุตฺตา. ยทคฺเคนาติ เยน การเณน, ยตฺตเกนาติ อตฺโถ ¶ . ตทคฺเคนาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. โน กปฺเปตีติอาทิ เวมติกภาวทีปนตฺถเมว วุตฺตนฺติ มหาปทุมตฺเถรสฺส อธิปฺปาโย.
๓๘๙. เอตฺถาติ โจทนายํ. ตชฺชนียาทิกมฺมํ กริสฺสามีติอาปตฺติยา โจเทนฺตสฺส อธิปฺปาโย กมฺมาธิปฺปาโย นาม. ปริวาสทานาทิกฺกเมน อาปตฺติโต วุฏฺาเปตุํ อาปตฺติยา โจเทนฺตสฺส อธิปฺปาโย วุฏฺานาธิปฺปาโย. อุโปสถํ, ปวารณํ วา สงฺเฆ กาตุํ อทานตฺถาย อาปตฺติยา โจทยโต อธิปฺปาโย อุโปสถปวารณฏฺปนาธิปฺปาโย. อสมฺมุขา…เป… ทุกฺกฏนฺติ อนุทฺธํเสนฺตสฺสปิ อกฺโกสนฺตสฺสปิ ทุกฺกฏํ.
สพฺพตฺเถวาติ สพฺพาสุ อฏฺกถาสุ. อุโปสถปวารณานํ ตฺติกมฺมภาวโต ตฺติยา วตฺตมานาย เอว อุโปสถปวารณฏฺปนํ โหติ, น นิฏฺิตาย, สา จ ยฺย-กาเร ปตฺเต นิฏฺิตา นาม โหตีติ อาห ‘‘ยฺย-กาเร ปตฺเต น ลพฺภตี’’ติ.
อนุปาสโกติ อุปาสโกปิ โส ภิกฺขุ น โหติ สรณคมนสฺสาปิ ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตาติ วทนฺติ. ‘‘อโนทิสฺส ธมฺมํ กเถนฺตสฺสา’’ติ อิมินา โอทิสฺส กเถนฺเตน โอกาสํ กาเรตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. อาปตฺตึ เทเสตฺวาติ โอกาสาการาปนาปตฺตึ เทเสตฺวา. ยํ โจเทติ, ตสฺส อุปสมฺปนฺโนติ สงฺขฺยุปคมนํ, ตสฺมึ สุทฺธสฺิตา เวมติกตา วา, เยน ปาราชิเกน โจเทติ, ตสฺส ทิฏฺาทิวเสน อมูลกตา, จาวนาธิปฺปาเยน ‘‘ตฺวํ ปาราชิโก’’ติอาทินา นิยเมตฺวา สมฺมุขา โจทนา โจทาปนา, ตสฺส ตงฺขณวิชานนนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
ปมทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ทุติยทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๙๑. นวเม เมตฺติยํ ภิกฺขุนินฺติ ลิงฺคนาสนาย นาสิตายปิ ตสฺสา ภูตปุพฺพโวหารํ คเหตฺวา ¶ วุตฺตํ. อฺภาคสฺสาติ เถรสฺส มนุสฺสชาติภิกฺขุภาวโต อฺสฺส ติรจฺฉานชาติฉคลกภาวสงฺขาตสฺส โกฏฺาสสฺส. อิทนฺติ สามฺโต นปุํสกลิงฺเคน วุตฺตํ, อยํ ¶ ฉคลโกติ อตฺโถ. อฺภาโคติ ยถาวุตฺตติรจฺฉานชาติฉคลกภาวสงฺขาโต อฺโ โกฏฺาโส, อฺภาคสฺส อิทนฺติ อฺภาคิยนฺติ ปมวิคฺคหสฺส อตฺโถ, อฺภาคมตฺถีติ ทุติยวิคฺคหสฺส, ทฺวีหิปิ ฉคลโกว วุตฺโต. อิทานิ ทฺวีหิปิ วิคฺคเหหิ วุตฺตเมวตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต ‘‘โย หิ โส’’ติอาทิมาห. ตตฺถ โย หิ โส ฉคลโก วุตฺโต, โส อฺสฺส ภาคสฺส โหตีติ จ อฺภาคิยสงฺขฺยํ ลภตีติ จ โยชนา. ทุติยวิคฺคหสฺส อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘โส วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อธิกรณนฺติ เวทิตพฺโพติ เอตฺถาปิ โย หิ โส ‘‘ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต นามา’’ติ ฉคลโก วุตฺโต, โสติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตฺหิ สนฺธายาติ ‘‘ทพฺโพ’’ติ นามกรณสฺส อธิฏฺานภูตํ ฉคลกํ สนฺธาย. เต ภิกฺขูติ เต อนุยฺุชนฺตา ภิกฺขู. อาปตฺติยาปิ ปุคฺคลาธิฏฺานตฺตา ‘‘ปุคฺคลานํเยว เลสา’’ติ วุตฺตํ.
๓๙๓. ยา จ สา อวสาเน…เป… โจทนา วุตฺตาติ ‘‘ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสํ อชฺฌาปชฺชนฺโต ทิฏฺโ โหติ สงฺฆาทิเสเส สงฺฆาทิเสสทิฏฺิ โหติ, ตฺเจ ปาราชิเกน โจเทตี’’ติอาทึ (ปารา. ๔๐๗) โจทนาเภทํ สนฺธาย วทติ. สตฺตนฺนมฺปิ อาปตฺตีนํ ปจฺเจกํ ปาราชิกตฺตาทิสามฺเปิ เมถุนาทินฺนาทานาทิวตฺถุโต, ราคโทสตฺตาทิสภาวโต จ วิสภาคตาปิ อตฺถีติ อาห ‘‘ยสฺมา ปน…เป… น โหตี’’ติ.
วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘สภาควิสภาควตฺถุโต’’ติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๙๓) วุตฺตนเยน. กมฺมลกฺขณํ, ตํมนสิกาโร จ อวิปนฺนกมฺมสฺส นิมิตฺตโต ผลูปจาเรน กมฺมนฺติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘ตํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโต’’ติ. ปริวาสาทึ นิสฺสาย มานตฺตาทีนํ อุปฺปชฺชนโต ‘‘ปุริมํ ปุริม’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
๓๙๕. สวตฺถุกํ กตฺวาติ ปุคฺคลาธิฏฺานํ กตฺวา. ทีฆาทิโนติ ทีฆรสฺสาทิลิงฺคสฺส. ทิฏฺาทิโนติ ทิฏฺปุพฺพาทิโน.
๔๐๘. เอวํ ตถาสฺีติ อฺสฺส เมถุนาทิกิริยํ ทิสฺวา ‘‘อยํ โส’’ติ เอวํ ตถาสฺี. องฺคานิ ปมทุฏฺโทเส วุตฺตสทิสานิ, อิธ ปน กิฺจิเทสํ เลสมตฺตํ อุปาทิยนา อธิกา.
ทุติยทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ปมสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๑๐. ทสเม ¶ ¶ พหูนนฺติ ทุพฺพลตาย อรฺาทิเสวาย จิตฺตํ สมาหิตํ กาตุํ อสกฺโกนฺตานํ. ทุกฺขสฺสนฺตกิริยาย ตสฺมึ อตฺตภาเว พุทฺธวจนคฺคหณธารณาทิสงฺขาตํ พฺยฺชนปทเมว ปรมํ อสฺส, น มคฺคลาโภติ ปทปรโม. อภิสมฺภุณิตฺวาติ นิปฺผาเทตฺวา. ธมฺมโต อเปตํ อุทฺธมฺมํ. ปฏิกฺขิตฺตเมวาติ ‘‘น, ภิกฺขเว, อเสนาสนิเกน วสฺสํ อุปคนฺตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๒๐๔) วจนโต วุตฺตํ, อิทเมว วจนํ สนฺธาย ปาฬิยมฺปิ ‘‘อฏฺ มาเส’’ติอาทิ (ปารา. ๔๐๙) วุตฺตํ.
ตีหิ โกฏีหีติ อสุทฺธมูเลหิ. เอตฺถ จ ภิกฺขูนํ จตูสุ กุเลสุ ปกฺกปิณฺฑิยาโลปโภชนนิสฺสิตตาย, มจฺฉมํสโภชนวิรหิตสฺส จ กุลสฺส ทุลฺลภตาย ตตฺถ ลทฺเธสุ ภตฺตพฺยฺชเนสุ มจฺฉมํสสํสคฺคสงฺกาย, ทุนฺนิวารณตาย จ ภิกฺขูนํ สรีรยาปนมฺปิ น สิยาติ ภควตา มจฺฉมํสํ สพฺพถา อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา ตีหิ โกฏีหิ อปริสุทฺธเมว ปฏิกฺขิตฺตํ. ยทิ หิ ตํ ภควา สพฺพถา ปฏิกฺขิเปยฺย, ภิกฺขู มรมานาปิ มจฺฉาทิสํสคฺคสงฺกิตํ ภตฺตํ น ภฺุเชยฺยุํ, ตโต ตณฺฑุลธฺาทึ ปฏิคฺคเหตฺวา นิทหิตฺวา สยํ ปจิตฺวา ภฺุชิตุํ ตทุปกรณภูตํ ทาสิทาสํ, อุทุกฺขลมุสลาทิกฺจ ภิกฺขูนํ ปตฺตาทิ วิย อวสฺสํ คเหตุํ อนุชานิตพฺพํ สิยาติ ติตฺถิยานํ วิย คหฏฺาวาโส เอว สิยา, น ภิกฺขุอาวาโสติ เวทิตพฺพํ. ชาลํ มจฺฉพนฺธนํ. วาคุรา มิคพนฺธนี. กปฺปตีติ ยทิ เตสํ วจเนน สงฺกา น วตฺตติ, วฏฺฏติ, น ตํ วจนํ เลสกปฺปํ กาตุํ วฏฺฏติ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ยตฺถ จ นิพฺเพมติโก โหติ, ตํ สพฺพํ กปฺปตี’’ติ.
ปวตฺตมํสนฺติ อาปณาทีสุ ปวตฺตํ วิกฺกายิกํ มตมํสํ. ภิกฺขูนํเยว อตฺถาย อกตนฺติ เอตฺถ อฏฺานปฺปยุตฺโต เอว-สทฺโท, ภิกฺขูนํ อตฺถาย อกตเมวาติ สมฺพนฺธิตพฺพํ, ตสฺมา ภิกฺขูนฺจ มงฺคลาทีนฺจาติ มิสฺเสตฺวา กตมฺปิ น วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. เกจิ ปน ยถาิตวเสน อวธารณํ คเหตฺวา ‘‘วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. ‘‘วตฺต’’นฺติ อิมินา อาปตฺติ นตฺถีติ ทสฺเสติ.
กปฺปนฺติ อสงฺเขยฺยกปฺปํ, ‘‘อายุกปฺป’’นฺติปิ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๑๐) เกจิ. มหากปฺปสฺส หิ จตุตฺถภาโค อสงฺเขยฺยกปฺโป, ตโต วีสติโม ภาโค สงฺฆเภทกสฺส ¶ อายุกปฺปนฺติ วทนฺติ, ตํ อฏฺกถาสุ กปฺปฏฺกถาย น สเมติ ‘‘กปฺปวินาเส เอว มุจฺจตี’’ติอาทิ (วิภ. อฏฺ. ๘๐๙) ¶ วจนโต. พฺรหฺมํ ปฺุนฺติ เสฏฺํ ปฺุํ. กปฺปํ สคฺคมฺหีติ เอตฺถ ปฏิสนฺธิปรมฺปราย กปฺปฏฺตา เวทิตพฺพา.
๔๑๑. ลทฺธินานาสํวาสเกนาติ อุกฺขิตฺตานุวตฺตกภาเวน ภาวปฺปธานตฺตา นิทฺเทสสฺส. กมฺมนานาสํวาสเกนาติ อุกฺขิตฺตภาเวน. ‘‘เภทาย ปรกฺกเมยฺยา’’ติ วิสุํ วุตฺตตฺตา เภทนสํวตฺตนิกสฺส อธิกรณสฺส สมาทาย ปคฺคณฺหนโต ปุพฺเพปิ ปกฺขปริเยสนาทิวเสน สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนฺตสฺส สมนุภาสนกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. โยปิ จายํ สงฺฆเภโท โหตีติ สมฺพนฺโธ.
กมฺเมนาติ อปโลกนาทินา. อุทฺเทเสนาติ ปาติโมกฺขุทฺเทเสน. โวหาเรนาติ ตาหิ ตาหิ อุปปตฺตีหิ ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติอาทินา (อ. นิ. ๓.๑๐-๓๙, ๔๒; จูฬว. ๓๕๒) โวหาเรน, ปเรสํ ปฺาปเนนาติ อตฺโถ. อนุสาวนายาติ อตฺตโน ลทฺธิยา คหณตฺถเมว อนุ ปุนปฺปุนํ กณฺณมูเล มนฺตสาวนาย, กถเนนาติ อตฺโถ. สลากคฺคาเหนาติ เอวํ อนุสาวนาย เตสํ จิตฺตํ อุปตฺถมฺเภตฺวา อตฺตโน ปกฺเข ปวิฏฺภาวสฺส สฺาณตฺถํ ‘‘คณฺหถ อิมํ สลาก’’นฺติ สลากคฺคาเหน. เอตฺถ จ กมฺมเมว, อุทฺเทโส วา สงฺฆเภเท ปธานํ การณํ, โวหาราทโย ปน สงฺฆเภทสฺส ปุพฺพภาคาติ เวทิตพฺพา. อพฺภุสฺสิตนฺติ อพฺภุคฺคตํ. อจฺเฉยฺยาติ วิหเรยฺย.
‘‘ลชฺชี รกฺขิสฺสตี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๒; ปารา. อฏฺ. ๑.๔๕) วจนโต อาปตฺติภเยน อาโรจนํ ลชฺชีนํ เอว ภาโรติ อาห ‘‘ลชฺชีหิ ภิกฺขูหี’’ติ, อลชฺชิสฺสปิ อนาโรเจนฺตสฺส อาปตฺติเยว. อปฺปฏินิสฺสชฺชโต ทุกฺกฏนฺติ วิสุํ วิสุํ วทนฺตานํ คณนาย ทุกฺกฏํ. ปโหนฺเตนาติ คนฺตุํ สมตฺเถน, อิจฺฉนฺเตนาติ อตฺโถ. อาปตฺติ ปน อฑฺฒโยชนพฺภนฺตเรเนว อคิลานสฺส วเสน เวทิตพฺพา.
๔๑๖. ตฺติยาทีหิ ทุกฺกฏาทิสพฺภาวํ สนฺธาย ‘‘สงฺฆาทิเสเสน อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. อสฺสาติ เทวทตฺตสฺส. อปฺตฺเต สิกฺขาปเท สมนุภาสนกมฺมสฺเสว อภาวโต ‘‘น หิ ปฺตฺตํ สิกฺขาปทํ วีติกฺกมนฺตสฺสา’’ติ วุตฺตํ. สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺเตเนว หิ สมนุภาสนกมฺมํ อนฺุาตํ. อุทฺทิสฺส อนฺุาตโตติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โรมนฺถกสฺส โรมนฺถน’’นฺติอาทึ ¶ (จูฬว. ๒๗๓) อุทฺทิสฺสานฺุาตํ สนฺธาย วทติ. อนาปตฺติยนฺติ อนาปตฺติวาเร. อาปตฺตึ โรเปตพฺโพติ สมนุภาสนาย ปาจิตฺติยอาปตฺตึ โรเปตพฺโพ. อาปตฺติเยว น ชาตาติ สงฺฆาทิเสสาปตฺติ น ชาตา เอว.
‘‘น ¶ ปฏินิสฺสชฺชามี’’ติ สฺาย อภาเวน มุจฺจนโต สฺาวิโมกฺขํ. สจิตฺตกนฺติ ‘‘น ปฏินิสฺสชฺชามี’’ติ ชานนจิตฺเตน สจิตฺตกํ. โย วิสฺี วา ภีโต วา วิกฺขิตฺโต วา ‘‘ปฏินิสฺสชฺชิตพฺพ’’นฺติปิ, ‘‘กมฺมํ กริสฺสตี’’ติ วา น ชานาติ, ตสฺส อนาปตฺติ. เภทาย ปรกฺกมนํ, ธมฺมกมฺเมน สมนุภาสนํ, กมฺมวาจาปริโยสานํ, น ปฏินิสฺสชฺชามีติ จิตฺเตน อปฺปฏินิสฺสชฺชนนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
ปมสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. ทุติยสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๑๘. เอกาทสเม ยสฺมา อุพฺพาหิกาทิสมฺมุติกมฺมํ พหูนมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘น หิ สงฺโฆ สงฺฆสฺส กมฺมํ กโรตี’’ติ อิทํ นิคฺคหวเสน กตฺตพฺพกมฺมํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. องฺคานิ ปเนตฺถ เภทาย ปรกฺกมนํ ปหาย อนุวตฺตนํ ปกฺขิปิตฺวา เหฏฺา วุตฺตสทิสาเนว คเหตพฺพานิ.
ทุติยสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. ทุพฺพจสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๒๔. ทฺวาทสเม วมฺภนวจนนฺติ ครหวจนํ. สฏ-สทฺโท ปติตสทฺเทน สมานตฺโถ, ตสฺส จ วิเสสนสฺส ปรนิปาโตติ อาห ‘‘ตตฺถ ตตฺถ ปติตํ ติณกฏฺปณฺณ’’นฺติ. เกนาปีติ วาตาทิสทิเสน อุปชฺฌายาทินา.
๔๒๖. จิตฺตปริโยนาโห ทฬฺหโกโธว อุปนาโห. ตโตปิ พลวตโร ทุมฺโมจนีโย โกธาภิสงฺโค. โจทกํ ปฏิปฺผรณตาติ โจทกสฺส ¶ ปฏิวิรุทฺโธ หุตฺวา อวฏฺานํ. โจทกํ อปสาทนาติ วาจาย ฆฏฺฏนา. ปจฺจาโรปนาติ ‘‘ตฺวมฺปิ สาปตฺติโก’’ติ โจทกสฺส อาปตฺติอาโรปนา. ปฏิจรณตาติ ปฏิจฺฉาทนตา. อปทาเนนาติ อตฺตโน จริยาย. น สมฺปายนตาติ ‘‘ยํ ตฺวํ โจทโก วเทสิ ‘มยา เอส อาปตฺตึ อาปนฺโน ทิฏฺโ’ติ, ตฺวํ ตสฺมึ สมเย กึ กโรสิ, อยํ กึ กโรติ, กตฺถ จ ตฺวํ อโหสิ, กตฺถ อย’’นฺติอาทินา นเยน จริยํ ปุฏฺเน สมฺปาเทตฺวา อกถนํ.
‘‘ยสฺส ¶ สิยา อาปตฺตี’’ติ (มหาว. ๑๓๔) อิมินา นิทานวจเนน สพฺพาปิ อาปตฺติโย สงฺคหิตาติ อาห ‘‘ยสฺส สิยา’’ติอาทิ. องฺคานิ เจตฺถ ปมสงฺฆเภทสทิสานิ, อยํ ปน วิเสโส ยถา ตตฺถ เภทาย ปรกฺกมนํ, อิธ อวจนียกรณตา ทฏฺพฺพา.
ทุพฺพจสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. กุลทูสกสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๓๑. เตรสเม กีฏาคิรีติ ตสฺส นิคมสฺส นามํ. ตฺหิ สนฺธาย ปรโต ‘‘น อสฺสชิปุนพฺพสุเกหิ ภิกฺขูหิ กีฏาคิริสฺมึ วตฺถพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, คามนิคมโต จ ปพฺพาชนํ, น ชนปทโต. เตน ปน โยคโต ชนปโทปิ ‘‘กีฏาคิริ’’อิจฺเจว สงฺขฺยํ คโตติ อาห ‘‘เอวํนามเก ชนปเท’’ติ.
ตตฺราติ สาวตฺถิยํ. ธุรฏฺาเนติ อภิมุขฏฺาเน, เชตวนทฺวารสมีเปติ อตฺโถ. ทฺวีหิ เมเฆหีติ วสฺสิเกน, เหมนฺติเกน จาติ ทฺวีหิ เมเฆหิ. คณาจริเยหิ ฉหิ อธิกตาย ‘‘สมธิก’’นฺติ วุตฺตํ.
อุทกสฺสาติ อกปฺปิยอุทกสฺส ‘‘กปฺปิยอุทกสิฺจน’’นฺติ วิสุํ วกฺขมานตฺตา, ตฺจ ‘‘อารามาทิอตฺถาย รุกฺขโรปเน อกปฺปิยโวหาเรสุปิ กปฺปิยอุทกสิฺจนาทิ วฏฺฏตี’’ติ วกฺขมานตฺตา อิธาปิ วิภาคํ กตฺวา กปฺปิยอุทกสิฺจนาทิ ¶ วิสุํ ทสฺสิตํ. ยถา โกฏฺฏนขณนาทิกายิกกิริยาปิ อกปฺปิยโวหาเร สงฺคหิตา, เอวํ มาติกาอุชุกรณาทิกปฺปิยโวหาเรปีติ อาห ‘‘สุกฺขมาติกาย อุชุกรณ’’นฺติ. เอตฺถ ปุราณปณฺณาทิหรณมฺปิ สงฺคยฺหติ. มหาปจฺจริยวาโทว ปมาณตฺตา ปจฺฉา วุตฺโต. อกปฺปิยโวหาเรปิ เอกจฺจํ วฏฺฏตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘น เกวลฺจ เสส’’นฺติอาทิมาห. ยํกิฺจิ มาติกนฺติ สุกฺขํ วา อสุกฺขํ วา. ตตฺถาติ อารามาทิอตฺถาย รุกฺขโรปเน. ตถาติ กปฺปิยโวหารปริยายาทีหิ คนฺถาปนํ สนฺธาย วุตฺตํ. อิมินา จ กุลสงฺคหตฺถาย คนฺถาปนาทิปิ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ.
วตฺถุปูชนตฺถาย สยํ คนฺถนํ กสฺมา น วฏฺฏตีติ โจเทนฺโต ‘‘นนุ จา’’ติอาทิมาห. ยถา อารามาทิอตฺถํ กปฺปิยปถวิยํ สยํ โรเปตุมฺปิ วฏฺฏติ, ตถา วตฺถุปูชนตฺถาย สยํ คนฺถนมฺปิ กสฺมา น วฏฺฏตีติ โจทกสฺส อธิปฺปาโย. วุตฺตนฺติอาทิ ปริหาโร. อถ ‘‘น ปน มหาอฏฺกถาย’’นฺติ ¶ กสฺมา วทติ? มหาปจฺจริอาทีสุ วุตฺตมฺปิ หิ ปมาณเมวาติ นายํ วิโรโธ, มหาอฏฺกถายํ อวุตฺตสฺส สยํ โรปนสฺส ตตฺเถว วุตฺเตน อุทกสิฺจเนน สห สํสนฺทนนยทสฺสนมุเขน ปมาณเมวาติ ปติฏฺาเปตุํ วุตฺตตฺตา. ‘‘มฺเยฺยาสี’’ติ ปทํ ‘‘ตํ กถ’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตตฺถายํ อธิปฺปาโย – กิฺจาปิ มหาอฏฺกถายํ สยํ โรปนํ น วุตฺตํ, กปฺปิยอุทกสฺส สยํ อาสิฺจนํ วุตฺตเมว, ตสฺมา ยถา อารามาทิอตฺถาย กปฺปิยอุทกํ สยํ สิฺจิตุมฺปิ วฏฺฏติ, ตถา วตฺถุปูชนตฺถาย คนฺถนมฺปิ กสฺมา น วฏฺฏตีติ. ตมฺปิ น วิรุชฺฌตีติ ยเทตํ วตฺถุปูชนตฺถายปิ คนฺถนาทึ ปฏิกฺขิปิตฺวา อารามาทิอตฺถาย สยํ โรปนสิฺจนํ วุตฺตํ, ตมฺปิ ปาฬิยา สํสนฺทนโต ปุพฺพาปรํ น วิรุชฺฌติ.
ตํ กถํ น วิรุชฺฌตีติ อาห ‘‘ตตฺร หี’’ติอาทิ. ตตฺราติ โรปนสิฺจนวิสเย. ปุปฺผาทีหิ กุลสงฺคหปฺปสงฺเค ‘‘มาลาวจฺฉ’’นฺติ วิเสสิตตฺตา กุลสงฺคหตฺถเมว โรปนํ อธิปฺเปตนฺติ วิฺายตีติ อาห ‘‘มาลาวจฺฉนฺติ วทนฺโต’’ติอาทิ. เอตํ วุตฺตนฺติ ‘‘มาลาวจฺฉํ โรเปนฺติปิ โรปาเปนฺติปิ, สิฺจนฺติปิ สิฺจาเปนฺติปี’’ติ เอตํ วุตฺตํ. อฺตฺร ปนาติ อารามาทิอตฺถาย มาลาวจฺฉาทีนํ โรปเน ปน. ปริยาโยติ สยํกรณการาปนสงฺขาโต ปริยาโย โวหาโร อตฺถวิเสโสติ อตฺโถ อตฺถิ อุปลพฺภติ ¶ , กุลสงฺคหตฺถตฺตาภาวาติ อธิปฺปาโย. เอวเมตฺถ ปริยายสทฺทสฺส กรณการาปนวเสน อตฺเถ คยฺหมาเน ‘‘คนฺเถนฺติปิ คนฺถาเปนฺติปี’’ติ ปาฬิยํ ปฏิกฺขิตฺตคนฺถนคนฺถาปนํ เปตฺวา ยํ ปรโต ‘‘เอวํ ชาน, เอวํ กเต โสเภยฺยา’’ติอาทิกปฺปิยวจเนหิ คนฺถาปนํ วุตฺตํ, ตตฺถ โทสาภาโว สมตฺถิโต โหติ, ‘‘คนฺเถหี’’ติ อาณตฺติยา การาปนสฺเสว คนฺถาปนนฺติ อธิปฺเปตตฺตา. ตตฺถ ปริยายํ อิธ จ ปริยายาภาวํ ตฺวาติ ตตฺถ ‘‘มาลาวจฺฉํ โรเปนฺตี’’ติอาทีสุ ‘‘มาลาวจฺฉ’’นฺติ กุลสงฺคหตฺถตาสูจนกสฺส วิเสสนสฺส สพฺภาวโต กรณการาปนสงฺขาตปริยายสพฺภาวํ. อิธ ‘‘คนฺเถนฺตี’’ติอาทีสุ ตถาวิธวิเสสวจนาภาวโต ตสฺส ปริยายสฺส อภาวฺจ ตฺวา. ตํ สุวุตฺตเมวาติ เวทิตพฺพนฺติ โยชนา.
สพฺพํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ อฏฺกถาสุ อาคตนเยเนว โรปนาทิ, คนฺถาปนาทิ จ สพฺพํ เวทิตพฺพํ. น เหตฺถ สนฺเทโห กาตพฺโพติ นิคเมติ.
หรณาทีสูติ วตฺถุปูชนตฺถาย หรณาทีสุ. กุลิตฺถิอาทีนํ อตฺถาย หรณโตติ กุลิตฺถิอาทีนํ หรณสฺเสว วิเสเสตฺวา ปฏิกฺขิตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘หรณาธิกาเร หี’’ติอาทิ. มฺชรีติ ปุปฺผโคจฺฉํ. วฏํสโกติ กณฺณสฺส อุปริ ปิฬนฺธนตฺถํ กตปุปฺผวิกติ ¶ , โส จ ‘‘วฏํโส’’ติ วุจฺจติ. กณฺณิกาติ พหูนํ ปุปฺผานํ วา มาลานํ วา เอกโต พนฺธิตสฺส นามํ, ‘‘กณฺณาภรณ’’นฺติปิ วทนฺติ. หารสทิสนฺติ มุตฺตาหารสทิสํ.
กปฺปิเยนาติ กปฺปิยอุทเกน. เตสํเยว ทฺวินฺนนฺติ กุลทูสนปริโภคานํ ทฺวินฺนํ. ทุกฺกฏนฺติ กุลสงฺคหตฺถาย สยํ สิฺจเน, กปฺปิยโวหาเรน วา อกปฺปิยโวหาเรน วา สิฺจาปเน จ ทุกฺกฏํ, ปริโภคตฺถาย ปน สยํ สิฺจเน, อกปฺปิยโวหาเรน สิฺจาปเน จ ทุกฺกฏํ. ปโยคพหุลตายาติ สยํ กรเณ, กายปโยคสฺส การาปเน จ วจีปโยคสฺส จ พหุตฺเตน.
คนฺเถน นิพฺพตฺตํ ทามํ คนฺถิมํ. เอเสว นโย เสเสสุปิ. น วฏฺฏตีติ วตฺถุปูชนตฺถายปิ น วฏฺฏติ, ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ. วฏฺฏตีติ วตฺถุปูชนตฺถาย วฏฺฏติ, กุลสงฺคหตฺถาย ปน กปฺปิยโวหาเรน การาเปนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว.
นีปปุปฺผํ ¶ นาม กทมฺพปุปฺผํ. ปุริมนเยเนวาติ ‘‘ภิกฺขุสฺส วา’’ติอาทินา วุตฺตนเยน.
กทลิกฺขนฺธมฺหีติอาทินา วุตฺตํ สพฺพเมว สนฺธาย ‘‘ตํ อติโอฬาริกเมวา’’ติ วุตฺตํ, สพฺพตฺถ กรเณ, อกปฺปิยวจเนน การาปเน จ ทุกฺกฏเมวาติ อตฺโถ. ‘‘ปุปฺผวิชฺฌนตฺถํ กณฺฏกํ พนฺธิตุมฺปิ น วฏฺฏตี’’ติ อิมสฺส อุปลกฺขณตฺตา ปุปฺผทาโมลมฺพนาทิอตฺถาย รชฺชุพนฺธนาทิปิ น วฏฺฏตีติ เกจิ วทนฺติ, อฺเ ปน ‘‘ปุปฺผวิชฺฌนตฺถํ กณฺฏกนฺติ วิเสสิตตฺตา ตทตฺถํ กณฺฏกเมว พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ, ตฺจ อฏฺกถาปมาเณนา’’ติ วทนฺติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. ปุปฺผปฏิจฺฉกํ นาม ทณฺฑาทีหิ กตํ ปุปฺผาธานํ, เอตมฺปิ นาคทนฺตกมฺปิ สฉิทฺทกเมว คเหตพฺพํ. อโสกปิณฺฑิยาติ อโสกสาขานํ, ปุปฺผานํ วา สมูเห. ธมฺมรชฺชุ นาม เจติยาทีนิ ปริกฺขิปิตฺวา เตสฺจ รชฺชุยา จ อนฺตรา ปุปฺผปฺปเวสนตฺถาย พนฺธรชฺชุ. ‘‘สิถิลวฏฺฏิตา วา รชฺชุวฏฺฏิอนฺตเร ปุปฺผปฺปเวสนตฺถาย เอวํ พนฺธา’’ติปิ วทนฺติ.
มตฺถกทามนฺติ ธมฺมาสนาทิมตฺถกลมฺพกทามํ. เตสํเยวาติ อุปฺปลาทีนํ เอว. วาเกน วา ทณฺฑเกน วาติ ปุปฺผนาฬํ ผาเลตฺวา ปุปฺเผน เอกาพทฺธํ ิตวาเกน, ทณฺฑเกน จ เอกพนฺธเนเนว, เอเตน ปุปฺผํ พีชคาเม สงฺคหํ น คจฺฉติ ปฺจสุ พีเชสุ อปฺปวิฏฺตฺตา ปณฺณํ วิย, ตสฺมา กปฺปิยํ อการาเปตฺวาปิ โกปเน โทโส นตฺถิ. ยฺจ ฉินฺนสฺสาปิ มกุฬสฺส วิกสนํ, ตมฺปิ อติตรุณสฺส อภาวา วุฑฺฒิลกฺขณํ น โหติ, ปริณตสฺส ปน มกุฬสฺส ปตฺตานํ สิเนเห ปริยาทานํ คเต วิสุํภาโว เอว วิกาโส, เตเนว ฉินฺนมกุฬวิกาโส อจฺฉินฺนมกุฬวิกาสโต ปริหีโน ¶ , มิลาตยุตฺโต วา ทิสฺสติ. ยฺจ มิลาตสฺส อุทกสฺโเค อมิลานตาปชฺชนํ, ตมฺปิ ตมฺพุลปณฺณาทีสุ สมานนฺติ วุฑฺฒิลกฺขณํ น โหติ, ปาฬิอฏฺกถาทีสุ จ น กตฺถจิ ปุปฺผานํ กปฺปิยกรณํ อาคตํ, ตสฺมา ปุปฺผํ สพฺพถา อพีชเมวาติ วิฺายติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. ‘‘ปสิพฺพเก วิยา’’ติ วุตฺตตฺตา ปุปฺผปสิพฺพเก วา ปสิพฺพกสทิสพนฺเธ วา ยตฺถ กตฺถจิ จีวเร วา ปกฺขิปิตุํ วฏฺฏตีติ สิทฺธํ. พนฺธิตุํ น วฏฺฏตีติ รชฺชุอาทีหิ พนฺธนํ สนฺธาย วุตฺตํ, ปุปฺผสฺเสว ปน อจฺฉินฺนทณฺฑวาเกหิ พนฺธิตุํ วฏฺฏติ เอว.
ปุปฺผปเฏ ¶ จ ทฏฺพฺพนฺติ ปุปฺผปฏํ กโรนฺตสฺส ทีฆโต ปุปฺผทามสฺส หรณปจฺจาหรณวเสน ปูรณํ สนฺธาย วุตฺตํ, ติริยโต หรณํ ปน วายิมํ นาม โหติ, น ปูริมํ. ‘‘ปุริมฏฺานํ อติกฺกาเมตี’’ติ สามฺโต วุตฺตตฺตา ปุริมํ ปุปฺผโกฏึ ผุสาเปตฺวา วา อผุสาเปตฺวา วา ปริกฺขิปนวเสน ปน อติกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติเยว. พนฺธิตุํ วฏฺฏตีติ ปุปฺผรหิตาย สุตฺตวากโกฏิยา พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘เอกวารํ หริตฺวา วา ปริกฺขิปิตฺวา วา’’ติ อิทํ ปุพฺเพ วุตฺตเจติยาทิปริกฺเขปํ, ปุปฺผปฏกรณฺจ สนฺธาย วุตฺตํ.
ปเรหิ ปูริตนฺติ ทีฆโต ปสาริตํ. วายิตุนฺติ ติริยโต หริตุํ, ตํ ปน เอกวารมฺปิ น ลพฺภติ. ปุปฺผานิ เปนฺเตนาติ อคนฺถิตปุปฺผานิ อฺมฺํ ผุสาเปตฺวาปิ เปนฺเตน. ฆฏิกทามโอลมฺพโกติ เหฏฺาภาเค ฆฏิกาการยุตฺโต, ทารุฆฏิกากาโร วา โอลมฺพโก. สุตฺตมยํ เคณฺฑุกํ นาม. สพฺพตฺถาติ คนฺถิมาทีสุ สพฺพตฺถ.
เรจกนฺติ อภินยํ, ‘‘เอวํ นจฺจาหี’’ติ นฏนาการทสฺสนนฺติ อตฺโถ, ‘‘จกฺกํ วิย อตฺตานํ ภมาปน’’นฺติปิ เกจิ. อากาเสเยว กีฬนฺตีติ ‘‘อยํ สารี อสุกปทํ มยา นีตา’’ติ เอวํ มุเขเนว อุโภปิ วทนฺตา กีฬนฺติ. ชูตผลเกติ ชูตมณฺฑเล. ปาสกกีฬายาติ ทฺวินฺนํ ติวงฺคุลปฺปมาณานํ ทารุทนฺตาทิมยานํ ปาสกานํ จตูสุ ปสฺเสสุ เอกกาทิวเสน พินฺทูนิ กตฺวา ผลเก ขิปิตฺวา อุปริภาเค ทิฏฺพินฺทูนํ วเสน สาริโย อปเนตฺวา กีฬนกชูตกีฬาย.
มฺชฏฺิ นาม มฺชฏฺรุกฺขสารกสาวํ. สลากหตฺถนฺติ นาฬิเกรหีราทีนํ กลาปสฺเสตํ นามํ. ปาฬิยํ ถรุสฺมินฺติ ขคฺเค. อุสฺเสเฬนฺตีติ มุเขน อุสฺเสฬนสทฺทํ ปมฺุจนฺติ, มหนฺตํ อพฺยตฺตสทฺทํ ปวตฺเตนฺตีติ อตฺโถ. อปฺโผเฏนฺตีติ ทฺวิคุณิตวามหตฺเถ ทกฺขิณหตฺเถน ตาเฬตฺวา สทฺทํ กโรนฺติ. มุขฑิณฺฑิมนฺติ มุขเภรี.
๔๓๒. เตสนฺติ ¶ สมาเส คุณีภูตานิ ปพฺพานิปิ ปรามสติ. โพนฺโทติ โลโล, มนฺทธาตุโกติ อตฺโถ. ภกุฏึ กตฺวาติ ภมุกเภทํ กตฺวา. เนลาติ นิทฺโทสา.
๔๓๓. ปาฬิยํ ¶ ‘‘สาริปุตฺตา’’ติ อิทํ เอกเสสนเยน สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานานํ อุภินฺนํ อาลปนํ, เตเนว พหุวจนนิทฺเทโส กโต.
๔๓๕. อฏฺารส วตฺตานีติ ‘‘น อุปสมฺปาเทตพฺพ’’นฺติอาทีนิ ‘‘น ภิกฺขูหิ สมฺปโยเชตพฺพ’’นฺติ ปริโยสานานิ กมฺมกฺขนฺธเก (จูฬว. ๗) อาคตานิ อฏฺารส วตฺตานิ. น ปนฺนโลมาติ น ปติตมานโลมา, อนนุกูลวตฺติโนติ อตฺโถ.
๔๓๗. ปรสนฺตกํ เทติ ทุกฺกฏเมวาติ วิสฺสาสคาเหน ทานํ สนฺธาย วุตฺตํ. ถุลฺลจฺจยนฺติ เอตฺถ ภณฺฑเทยฺยมฺปิ โหติ เอว.
ตฺจ โข วตฺถุปูชนตฺถายาติ มาตาปิตูนมฺปิ ปุปฺผํ เทนฺเตน วตฺถุปูชนตฺถาเยว ทาตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. มณฺฑนตฺถาย ปน สิวลิงฺคาทิปูชนตฺถายาติ เอตฺตกเมว วุตฺตตฺตา ‘‘อิมํ วิกฺกิณิตฺวา ชีวิสฺสนฺตี’’ติ มาตาปิตูนํ ทาตุํ วฏฺฏติ, เสสาตีนํ ปน ตาวกาลิกเมว ทาตุํ วฏฺฏติ. าติสามเณเรเหวาติ เตสํ คิหิกมฺมปริโมจนตฺถํ วุตฺตํ. อิตเรติ อฺาตกา, เตหิปิ สามเณเรหิ อาจริยุปชฺฌายานํ วตฺตสีเสน หริตพฺพํ. จูฬกนฺติ อุปฑฺฒภาคโตปิ อุปฑฺฒํ.
สามเณรา…เป… เปนฺตีติ อรกฺขิตาโคปิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ มคฺเค วา เจติยงฺคเณ วา. ‘‘สามเณเรหิ ทาเปตุํ น ลภนฺตี’’ติ อิทํ สามเณเรหิ คิหีนํ กมฺมํ การิตํ วิย โหตีติ วุตฺตํ, น ปน ปุปฺผทานํ โหตีติ สามเณรานมฺปิ น วฏฺฏนโต. วุตฺตฺจ ‘‘สยเมวา’’ติอาทิ. ‘‘อวิเสเสน วุตฺต’’นฺติ อิมินา สพฺเพสมฺปิ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ.
ขีณปริพฺพยานนฺติ อาคนฺตุเก สนฺธาย วุตฺตํ. ปริจฺฉินฺเนสุปิ รุกฺเขสุ ‘‘อิธ ผลานิ สุนฺทรานี’’ติอาทึ วทนฺเตน กุลสงฺคโห กโต นาม โหตีติ อาห ‘‘เอวํ ปน น วตฺตพฺพ’’นฺติ.
รุกฺขจฺฉลฺลีติ รุกฺขตฺตโจ. อภาชนียตฺตา ครุภณฺฑํ วุตฺตํ. วุตฺตนเยนาติ ปณฺณทานมฺปิ ปุปฺผผลาทีสุ วุตฺตนเยน กุลสงฺคโห โหตีติ ทสฺเสติ.
ปุพฺเพ ¶ วุตฺตปฺปการนฺติ มม วจเนน ภควโต ปาเท วนฺทถาติอาทินา วุตฺตปฺปการสิกฺขาปเท ปมํ วุตฺตํ. ‘‘ปกฺกมตายสฺมา’’ติ อิทํ ปพฺพาชนียกมฺมวเสน ¶ วุตฺตํ. ปุน ‘‘ปกฺกมตายสฺมา’’ติ อิทมฺปิ ปพฺพาชนียกมฺมกตสฺส วตฺตวเสน วุตฺตํ. เอตฺถ จ อสฺสชิปุนพฺพสุเกหิ อาจริเยสุ อเนกวิเธสุ อนาจาเรสุ ปฺเปตพฺพา อาปตฺติโย สิกฺขาปทนฺตเรสุ ปฺตฺตา เอวาติ ตา อิธ อปฺเปตฺวา กุลทูสกานํ ปพฺพาชนียกมฺมวเสน นิคฺคหํ กาตุํ ตตฺเถว สมฺมา อวตฺติตฺวา การกสงฺฆํ ฉนฺทคามิตาทีหิ ปาเปนฺตานํ สมนุภาสนาย สงฺฆาทิเสสํ อาโรปิตฺจ อิทํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปมสงฺฆเภทสทิสาเนวาติ เอตฺถ องฺเคสุปิ ยถา ตตฺถ ปรกฺกมนํ, เอวมิธ ฉนฺทาทีหิ ปาปนํ ทฏฺพฺพํ. เสสํ ตาทิสเมวาติ.
กุลทูสกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิคมนวณฺณนา
๔๔๒. อิตเร ปน ยาวตติยกาติ เวทิตพฺพาติ สมฺพนฺโธ. โย หิ ชโร เอกสฺมึ ทิวเส อาคนฺตฺวาปิ คโต อนนฺตเรสุ ทฺวีสุ ทิวเสสุ อนุปฺปชฺชิตฺวา ตติเย ทิวเส อุปฺปชฺชติ, โส ตติยโก. โย ปน ตติเยปิ อนุปฺปชฺชิตฺวา จตุตฺเถ เอว ทิวเส อุปฺปชฺชติ, โส จตุตฺถโก จาติ วุจฺจติ. ตํ สนฺธายาห ‘‘ยถา ตติเย’’ติอาทิ. ‘‘อกาเมน อวเสนา’’ติ อิมินา อปฺปฏิกมฺมกรณํ นาม ยสฺมา อลชฺชิลกฺขณํ, สคฺคโมกฺขาวรณฺจ, ตสฺมา อาปนฺโน ปุคฺคโล ‘‘ปจฺฉา ปริวสิสฺสามี’’ติ วิกฺขิปิตุํ น ลภติ, สงฺเฆน จ อนิจฺฉนฺตสฺเสว ปริวาโส ทาตพฺโพติ ทสฺเสติ. ปาฬิยํ จิณฺณมานตฺโต ภิกฺขุ…เป… อพฺเภตพฺโพติ เอตฺถ โย ภิกฺขุ จิณฺณมานตฺโต, โส ภิกฺขุ อพฺเภตพฺโพติ เอวํ ภิกฺขุสทฺททฺวยสฺส โยชนา เวทิตพฺพา. เต จ ภิกฺขู คารยฺหาติ อูนภาวํ ตฺวา อพฺเภนฺติ, ทุกฺกฏาปชฺชเนน ครหิตพฺพา. สามีจีติ วตฺตํ.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
เตรสกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๓. อนิยตกณฺโฑ
๑. ปมอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๔๓. ปุตฺตสทฺเทน ¶ ¶ สามฺนิทฺเทสโต, เอกเสสนเยน วา ปุตฺตีปิ คหิตาติ อาห ‘‘พหู ธีตโร จา’’ติ. ตทนนฺตรนฺติ ภิกฺขูนํ โภชนานนฺตรํ.
๔๔๔-๕. ตํ กมฺมนฺติ ตํ เมถุนาทิอชฺฌาจารกมฺมํ. ปาฬิยํ ‘‘โสตสฺส รโห’’ติ อิทํ อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตํ, อุปริ สิกฺขาปเท ‘‘น เหว โข ปน ปฏิจฺฉนฺน’’นฺติอาทินา (ปารา. ๔๕๔) เอตสฺส สิกฺขาปทสฺส วิสยํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘อลฺจ โข โหติ มาตุคามํ ทุฏฺุลฺลาหิ วาจาหิ โอภาสิตุ’’นฺติ วิสยนฺตรภูตโสตรหสฺส วิสุํ วกฺขมานตฺตา, อิธ ปน จกฺขุรโหว อธิปฺเปโต ‘‘ปฏิจฺฉนฺเน อาสเน’’ติอาทิวจนโต, ‘‘สกฺกา โหติ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตุ’’นฺติ วุตฺตตฺตา จ. เตนาห ‘‘กิฺจาปี’’ติอาทิ. ปริจฺเฉโทติ รโหนิสชฺชาปตฺติยา ววตฺถานํ.
อิทานิ จกฺขุรเหเนว อาปตฺตึ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘สเจปิ หี’’ติอาทิมาห. ‘‘ปิหิตกวาฏสฺสา’’ติ อิมินา ปฏิจฺฉนฺนภาวโต จกฺขุสฺส รโหว อธิปฺเปโต, น โสตสฺส รโหติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘อปิหิตกวาฏสฺส…เป… อนาปตฺติ’’นฺติ. น หิ กวาฏปิทหเนน โสตสฺส รโห วิคจฺฉติ, จกฺขุสฺส รโห เอว ปน วิคจฺฉติ. ‘‘อนฺโตทฺวาทสหตฺเถปี’’ติ อิทํ ทุติยสิกฺขาปเท อาคตโสตสฺส รเหน อาปชฺชิตพฺพทุฏฺุลฺลวาจาปตฺติยา สพฺพถา อนาปตฺติภาวํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ทฺวาทสหตฺถโต พหิ นิสินฺโน หิ ตตฺถ โสตสฺส รหสพฺภาวโต ทุฏฺุลฺลวาจาปตฺติยา อนาปตฺตึ น กโรติ, ตถา จ ‘‘อนาปตฺตึ น กโรตี’’ติ สามฺโต น วตฺตพฺพํ สิยา, ‘‘เมถุนกายสํสคฺคาปตฺตีหิ อนาปตฺตึ กโรตี’’ติ วิเสเสตฺวา วตฺตพฺพํ ภเวยฺย. ตสฺมา ตถา ตํ อวตฺวา สพฺพถา อนาปตฺตึ ทสฺเสตุเมว ‘‘ทฺวาทสหตฺเถ’’ติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. ยทิ หิ จกฺขุสฺเสว ¶ รหภาวํ สนฺธาย วเทยฺย, ‘‘อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ’’ติ น วเทยฺย อปฺปฏิจฺฉนฺเน ตโต ทูเร นิสินฺเนปิ จกฺขุสฺส รหาสมฺภวโต ¶ . ยสฺมา นิสีทิตฺวา นิทฺทายนฺโต กปิมิทฺธปเรโต กิฺจิ กาลํ จกฺขูนิ อุมฺมีเลติ, กิฺจิ กาลํ นิมฺมีเลติ. ตสฺมา ‘‘นิทฺทายนฺโตปิ อนาปตฺตึ กโรตี’’ติ วุตฺตํ.
ปฏิลทฺธโสตาปตฺติผลาติ อนฺติมปริจฺเฉทโต วุตฺตํ. นิสชฺชํ ปฏิชานมาโนติ เมถุนกายสํสคฺคาทิวเสน รโห นิสชฺชํ ปฏิชานมาโนติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปาราชิเกน วา’’ติอาทิ. น อปฺปฏิชานมาโนติ อลชฺชีปิ อปฺปฏิชานมาโน อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพว. โส หิ ยาว โทสํ น ปฏิชานาติ, ตาว ‘‘เนว สุทฺโธ, นาสุทฺโธ’’ติ วา วตฺตพฺโพ, วตฺตานุสนฺธินา ปน กาเรตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘ปฏิฺา ลชฺชีสุ กตา, อลชฺชีสุ เอวํ น วิชฺชติ;
พหุมฺปิ อลชฺชี ภาเสยฺย, วตฺตานุสนฺธิเตน การเย’’ติ. (ปริ. ๓๕๙);
นิสชฺชาทีสุ…เป… ปฏิชานมาโนว เตน โส ภิกฺขุ กาเรตพฺโพติ เอตฺถ ปฏิชานมาโนติ ปาฬิยํ อนาคตมฺปิ อธิการโต อาคตเมวาติ กตฺวา วุตฺตํ.
วทาเปถาติ ตสฺส อิทฺธิยา วิคตาสงฺโกปิ ตํ โอวทนฺโต อาห, อนุปปริกฺขิตฺวา อเทเส นิสินฺนา ‘‘มาตุคาเมน สทฺธึ เอกาสเน เถโร รโห นิสินฺโน’’ติ เอวํ มาทิเสหิปิ ตุมฺเห ตุมฺหากํ อวณฺณํ วทาเปถ กถาปยิตฺถ, มา ปุน เอวํ กริตฺถาติ อธิปฺปาโย. เอวมกาสินฺติ นิคูหิตพฺพมฺปิ อิมํ วิเสสาธิคมํ ปกาเสนฺโต ตํ สทฺธาเปตุเมว เอวมกาสินฺติ อตฺโถ. รกฺเขยฺยาสิมนฺติ อิมํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อฺเสํ มา ปกาสยิ.
๔๕๑. นิสชฺชาย ปาจิตฺติยนฺติ รโหนิสชฺชสฺสาเท วตฺตมาเน ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน โส รโหนิสชฺชสฺสาทํ ปฏิวิโนเทตฺวา กมฺมฏฺานมนสิการาทินา อฺวิหิโต, นิทฺทูปคโต วา อนาปตฺติ เอว. เตนาห ‘‘อสฺสาเท อุปฺปนฺเน’’ติ. ‘‘นิสินฺนาย อิตฺถิยา’’ติ อิมินา นิสีทนกฺขเณ อสฺสาทาภาวํ ทสฺเสติ. ยทิ หิ นิสีทนกฺขเณ อสฺสาโท อุปฺปชฺเชยฺย, เตน อุฏฺาตพฺพํ. อิตรถา อาปตฺติ เอว อิตฺถิยา อุฏฺายุฏฺาย ปุนปฺปุนํ นิสีทเน วิย, ตตฺถาปิ ภิกฺขุสฺส ¶ อุฏฺหโต อนาปตฺติ, เตน รโหนิสชฺชาปตฺติ อกิริยสมุฏฺานาปิ โหตีติ วทนฺติ. อิทํ ปน อนิยตสิกฺขาปทํ, อนนฺตรฺจาติ ทฺเวปิ วิสุํ อาปตฺติปฺาปนวเสน ปฺตฺตานิ น ¶ โหนฺติ รโหนิสชฺชาทีสุ อาปตฺติยา สิกฺขาปทนฺตเรสุ ปฺตฺตตฺตา. ปาราชิกาทิอาปตฺตีหิ ปน เกนจิ โจทิตสฺส อนุวิชฺชเกหิ วินิจฺฉยการณนยทสฺสนตฺถํ เอวํ วตฺถุวเสน ทฺวิธา วิภชิตฺวา ปฺตฺตานิ, อิมาเนว จ ยสฺมา ภิกฺขุนีนมฺปิ วินิจฺฉยนยคฺคหณาย อลํ, ตสฺมา ตาสํ วิสุํ น วุตฺตานีติ เวทิตพฺพํ. ยํ ปน อาปตฺตึ ปฏิชานาติ, ตสฺส วเสเนตฺถ องฺคเภโท เวทิตพฺโพ. เตเนว ‘‘อยํ ธมฺโม อนิยโต’’ติ วุตฺตํ.
อิธ อนิยตวเสน วุตฺตานํ ปาราชิกสงฺฆาทิเสสปาจิตฺติยานํ ติณฺณมฺปิ อฺมฺํ สทิสสมุฏฺานาทิตาย วุตฺตํ ‘‘สมุฏฺานาทีนิ ปมปาราชิกสทิสาเนวา’’ติ.
ปมอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุติยอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๕๒. ‘‘น ลภติ มาตุคาเมน สทฺธึ เอโก เอกาย…เป… นิสชฺชํ กปฺเปตุ’’นฺติ อวตฺวา ‘‘ปฏิกฺขิตฺตํ มาตุคาเมนา’’ติอาทินา วุตฺตตฺตา ‘‘เอโก’’ติ ปจฺจตฺตปทํ ปฏิกฺขิตฺตปเทน น สเมติ, ‘‘เอกสฺสา’’ติ วตฺตพฺโพติ สาเธนฺโต อาห ‘‘อิตรถา หี’’ติอาทิ.
๔๕๓. ปริเวณงฺคณาทีติ ปริเวณสฺส มาฬกํ. อาทิ-สทฺเทน ปาการาทิปริกฺขิตฺตํ เจติยมาฬกาทึ สงฺคณฺหาติ. อนฺโตคธนฺติ อปฺปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน เอว ปริยาปนฺนํ. อิธ อิตฺถีปิ อนาปตฺตึ กโรตีติ สมฺพนฺโธ. กสฺมา ปน อิตฺถี อิเธว อนาปตฺตึ กโรติ, น ปุริมสิกฺขาปเทติ? อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส เมถุนํ วินา ทุฏฺุลฺลวาจาย วเสน อาคตตฺตา. เมถุนเมว หิ อิตฺถิโย อฺมฺํ ปฏิจฺฉาเทนฺติ มหาวเน ทฺวารํ วิวริตฺวา นิทฺทูปคตมฺหิ ภิกฺขุมฺหิ วิย. ทุฏฺุลฺลํ ปน น ปฏิจฺฉาเทนฺติ, เตเนว ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปเท ‘‘ยา ตา อิตฺถิโย หิริมนา, ตา นิกฺขมิตฺวา ภิกฺขู อุชฺฌาเปสุ’’นฺติ (ปารา. ๒๘๓) วุตฺตํ, ตสฺมา ¶ ‘‘อิตฺถีปิ อนาปตฺตึ กโรตี’’ติ วุตฺตํ, ‘‘อปฺปฏิจฺฉนฺนฏฺานตฺตา’’ติปิ การณํ วทนฺติ.
กาเยนาปิ ทุฏฺุลฺโลภาสสมฺภวโต อิมสฺมึ สิกฺขาปเท จกฺขุสฺส รโห, โสตสฺส รโห จ อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘อนนฺโธ อพธิโร’’ติอาทิ. เกจิ ปน วิภงฺเค ‘‘นาลํ กมฺมนิยนฺติ น สกฺกา โหติ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตุ’นฺติ (ปารา. ๔๕๔) เอตฺตกเมว วตฺวา ‘น สกฺกา โหติ กายสํสคฺคํ สมาปชฺชิตุ’นฺติ อวุตฺตตฺตา อปฺปฏิจฺฉนฺเนปิ าเน รโห อฺเสํ อภาวํ ทิสฺวา เอกาย ¶ อิตฺถิยา กายสํสคฺโคปิ สกฺกา อาปชฺชิตุนฺติ อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ สวนูปจาเร ิโต อพธิโรปิ อนฺโธ กายสํสคฺคสฺสาปิ สพฺภาวาภาวํ น ชานาตีติ กาเยน ทุฏฺุลฺโลภาสนสพฺภาวํ อมนสิกตฺวาปิ กายสํสคฺคาปตฺติยาปิ ปริหาราย อนนฺโธ อพธิโรติอาทิ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ ‘‘กายสํสคฺควเสน อนนฺโธ วุตฺโต’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๕๓) วุตฺตํ, ตํ ปน กาเยน ทุฏฺุลฺโลภาสนสมฺภวํ อมนสิกตฺวา วุตฺตํ, กายสํสคฺควเสนาปีติ คเหตพฺพํ. เตเนว ‘‘อิมสฺมึ สิกฺขาปเท โสตสฺส รโห เอว อธิปฺเปโต…เป… เกนจิ ปน ‘ทฺเวปิ รหา อิธ อธิปฺเปตา’ติ วุตฺตํ, ตํ น คเหตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ยํ ปน จกฺขุสฺส รหาภาวสาธนตฺถํ ‘‘น หิ อปฺปฏิจฺฉนฺเน โอกาเส จกฺขุสฺส รโห สมฺภวตี’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ น ยุตฺตํ อติทูรตเร ิตสฺส กาเยน โอภาสนมฺปิ หตฺถคฺคาหาทีนิปิ สลฺลกฺเขตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา. เตเนว ปาฬิยํ ‘‘จกฺขุสฺส รโห’’ติ วุตฺตํ, อฏฺกถายํ อปฺปฏิกฺขิตฺตํ. น เกวลฺจ อปฺปฏิกฺขิตฺตํ, อถ โข ‘‘อนนฺโธ พธิโรติ จ อนฺโธ วา อพธิโรปิ น กโรตี’’ติ จ วุตฺตํ, ตสฺมา ทฺเวปิ รหา อิธ คเหตพฺพา. ‘‘อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ’’ติอิมินา โสตสฺส รโห ทฺวาทสหตฺเถน ปริจฺฉินฺโนติ อิทํ ทสฺเสติ. จกฺขุสฺส รโห ปน ยตฺถ ิตสฺส กายวิการาทโย น ปฺายนฺติ, เตน ปริจฺฉินฺทิตพฺโพติ ทฏฺพฺพํ. พธิโร ปน จกฺขุมาปีติ ทุฏฺุลฺลวาจาสงฺฆาทิเสสํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทุฏฺุลฺลาปตฺติ วุตฺตาติ ปุริมสิกฺขาปเท วุตฺเตหิ อธิกวเสน ทุฏฺุลฺลาปตฺติ จ วุตฺตาติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ, น ปน ทุฏฺุลฺลาปตฺติ เอวาติ กายสํสคฺคสฺสาปิ อิธ คเหตพฺพโต. เตเนว ‘‘ปาราชิกาปตฺติฺจ ปริหาเปตฺวา’’ติ ¶ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, อิตรถา ‘‘กายสํสคฺคฺจา’’ติ วตฺตพฺพํ ภเวยฺย.
ติสมุฏฺานนฺติอาทิ ปน ปุริมสิกฺขาปเท อาคเตหิ อธิกสฺส ทุฏฺุลฺลวาจาสงฺฆาทิเสสสฺส วเสน วุตฺตํ กายสํสคฺคาทีนมฺปิ ปุริมสิกฺขาปเท เอว วุตฺตตฺตา, อิธ ปน น วุตฺตนฺติปิ วทนฺติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.
ทุติยอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต อนิยตวณฺณนานโย.
๔. นิสฺสคฺคิยกณฺโฑ
๑. จีวรวคฺโค
๑. ปมกถินสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๕๙. สมิตาวินาติ ¶ ¶ สมิตปาเปน. โคตมกเจติยํ นาม โคตมยกฺขสฺส เจติยฏฺาเน กตวิหาโร วุจฺจติ.
๔๖๑. นวมํ วา ทสมํ วาติ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ. สเจ ภเวยฺยาติ สเจ กสฺสจิ กงฺขา ภเวยฺย. วุตฺตสทิสนฺติ ทสมํ วาติ วุตฺตสทิสํ ปริจฺเฉทสทิสํ, ‘‘วุตฺตสทิสเมวา’’ติปิ ลิขนฺติ. ธาเรตุนฺติ เอตฺถ อาหาติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ.
๔๖๓. สูจิยา ปฏิสามนนฺติ สูจิฆเร สํโคปนํ, อิทฺจ สูจิกมฺมสฺส สพฺพสฺส ปรินิฏฺิตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เอตนฺติ นฏฺจีวรํ. เอเตสมฺปีติ นฏฺจีวราทีนิ ปรามสติ, เตน จีวรปลิโพธาภาวํ ทสฺเสติ. ทุติยสฺส ปลิโพธสฺสาติ อาวาสปลิโพธสฺส. เอตฺถ จ นิฏฺิตจีวรสฺมึ, อุพฺภตสฺมึ กถิเนติ ทฺวีหิ ปเทหิ ทฺวินฺนํ ปลิโพธานํ อภาวทสฺสเนน อตฺถตกถินสฺส ปฺจมาสพฺภนฺตเร ยาว จีวรปลิโพธอาวาสปลิโพเธสุ อฺตรํ น อุปจฺฉิชฺชติ, ตาว อติเรกจีวรํ ธาเรตุํ วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ปกฺกมนํ อนฺโต อสฺสาติ ปกฺกมนนฺติกา, เอวํ เสสาปิ เวทิตพฺพา. วิตฺถาโร ปเนตฺถ อาคตฏฺาเน อาวิ ภวิสฺสติ.
ทสาหปรมํ กาลนฺติ อจฺจนฺตสํโยควจนํ. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ…เป… ทสาหปรมภาโวติ อิทํ ทสาหปรมตาปทสฺส อตฺถมตฺตทสฺสนํ, ทสาหปรมภาโวติ อิทฺหิ วุตฺตํ โหตีติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา. อยมตฺโถติอาทิ ทสาหปรมปทสฺเสว อธิปฺเปตตฺถทสฺสนวเสน ¶ วุตฺตํ. ตตฺถ เอตฺตโก กาโลติ ‘‘ทสาหปรมตา’’ติ วุตฺโต โย กาโล, โส เอตฺตโก กาโลติ อตฺโถ.
โขมนฺติ โขมสุตฺเตหิ วายิตํ โขมปฏจีวรํ, ตํ วากมยนฺติ วทนฺติ. กปฺปาสสุตฺเตหิ วายิตํ กปฺปาสิกํ, เอวํ เสสานิปิ. กมฺพลนฺติ เอฬกาทีนํ โลมมยสุตฺเตน วายิตปฏํ. ภงฺคนฺติ โขมสุตฺตาทีนิ สพฺพานิ, เอกจฺจานิ วา มิสฺเสตฺวา วายิตํ จีวรํ. ภงฺคมฺปิ วากมยเมวาติ เกจิ. ทุกูลํ ปตฺตุณฺณํ โสมารปฏํ จีนปฏํ อิทฺธิชํ เทวทินฺนนฺติ อิมานิ ปน ฉ จีวรานิ เอเตสฺเว ¶ อนุโลมานีติ วิสุํ น วุตฺตานิ. ทุกูลฺหิ สาณสฺส อนุโลมํ วากมยตฺตา. ‘‘ปตฺตุณฺณํ โกเสยฺยวิเสโส’’ติ อภิธานโกเส วุตฺตํ. โสมารเทเส, จีนเทเส จ ชาตวตฺถานิ โสมารจีนปฏานิ. ปตฺตุณฺณาทีนิ ตีณิ โกเสยฺยสฺส อนุโลมานิ ปาณเกหิ กตสุตฺตมยตฺตา. อิทฺธิชนฺติ เอหิภิกฺขูนํ ปฺุิทฺธิยา นิพฺพตฺตจีวรํ. กปฺปรุกฺเข นิพฺพตฺตํ, เทวทินฺนฺจ โขมาทีนํ อฺตรํ โหตีติ เตสํ สพฺเพสํ อนุโลมานิ. มนุสฺสานํ ปกติวิทตฺถึ สนฺธาย ‘‘ทฺเว วิทตฺถิโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิมินา ทีฆโต วฑฺฒกีหตฺถปฺปมาณํ วิตฺถารโต ตโต อุปฑฺฒปฺปมาณํ วิกปฺปนุปคนฺติ ทสฺเสติ. ตถา หิ ‘‘สุคตวิทตฺถิ นาม อิทานิ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ติสฺโส วิทตฺถิโย, วฑฺฒกีหตฺเถน ทิยฑฺโฒ หตฺโถ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๘-๓๔๙) กุฏิการสิกฺขาปทฏฺกถายํ วุตฺตํ, ตสฺมา สุคตงฺคุเลน ทฺวาทสงฺคุลา สุคตวิทตฺถิ วฑฺฒกีหตฺเถน ทิยฑฺโฒ หตฺโถติ สิทฺธํ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘สุคตงฺคุเลน อฏฺงฺคุลํ วฑฺฒกีหตฺถปฺปมาณ’’นฺติ อาคตฏฺาเนหิ จ สเมติ.
ตํ อติกฺกามยโตติ เอตฺถ ตนฺติ จีวรํ, กาลํ วา ปรามสติ. ตสฺส โย อรุโณติ จีวรุปฺปาททิวสสฺส โย อติกฺกนฺโต อรุโณ. จีวรุปฺปาททิวเสน สทฺธินฺติ จีวรุปฺปาททิวสสฺส อาทิภูเตน อติกฺกนฺตอรุเณน สทฺธินฺติ อตฺโถ, อิทฺจ ภควตา ‘‘ทสาหปรม’’นฺติ วตฺวา ปุน ‘‘เอกาทเส อรุณุคฺคมเน’’ติ วุตฺตตฺตา ปุพฺพาปรสํสนฺทนตฺถํ สทฺทโต คมฺมมานมฺปิ ‘‘จีวรุปฺปาททิวเสน สทฺธิ’’นฺติ เอวํ วุตฺตํ. ‘‘ทสเม อรุเณ’’ติ วุตฺเต เอว หิ ทสาหปรเมน สทฺธึ สเมติ. ทิวสปริโยสานสฺส อวธิภูตอนาคตารุณวเสน หิ ทิวสํ อติกฺกนฺตํ นาม โหติ, น ปน ทิวสสฺส อาทิภูตารุณวเสน ปริวาสาทีสุ ตถา อคฺคหณโต, อิธ ปน ภควตา ทิวสสฺส อาทิอนฺตปริจฺเฉททสฺสนวเสน ‘‘เอกาทเส อรุณุคฺคมเน’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา อฏฺกถายํ ทิวสสฺส อาทิภูตํ ตํทิวสนิสฺสิตมฺปิ อรุณํ คเหตฺวา ‘‘เอกาทเส อรุณุคฺคมเน นิสฺสคฺคิยํ โหตี’’ติ วุตฺตํ. อรุโณติ เจตฺถ สูริยุคฺคมนสฺส ปุเรจโร วฑฺฒนฆนรตฺโต ปภาวิเสโสติ ทฏฺพฺโพ.
วจนีโยติ ¶ สงฺฆาเปกฺโข. วจนเภโทติ ‘‘ตฺติยํ ทฺเว อาปตฺติโย สรตี’’ติอาทินา วตฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.
๔๖๘. ‘‘น ¶ อิธ สฺา รกฺขตี’’ติ อิทํ เวมติกฺจ อนติกฺกนฺตสฺฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. โยปิ เอวํสฺี ตสฺสปีติ โย อนติกฺกนฺตสฺี, เวมติโก วา, ตสฺสปีติ อตฺโถ. อนฏฺโต อวิลุตฺตสฺส วิเสสมาห ‘‘ปสยฺหาวหารวเสนา’’ติ. เถยฺยาวหารวเสน คหิตมฺปิ อิธ นฏฺํ.
อนาปตฺติ อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวาติอาทิ นิสีทนสนฺถตํ สนฺธาย วุตฺตํ. เยน หิ ปุราณสนฺถตสฺส สามนฺตา สุคตวิทตฺถึ อนาทิยิตฺวา นวํ นิสีทนสนฺถตํ กตํ, ตสฺส ตํ นิสฺสคฺคิยมฺปิ ตโต อฺสฺส ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติกรนฺติ สิชฺฌนโต อยมตฺโถ สพฺพนิสฺสคฺคิเยสุปิ สิชฺฌติ.
๔๖๙. ติจีวรํ อธิฏฺาตุนฺติ สงฺฆาฏิอาทินาเมน อธิฏฺาตุํ. ‘‘น วิกปฺเปตุ’’นฺติ อิมินา นาเมน น วิกปฺเปตุํ, เอเตน วิกปฺปิตติจีวโร เตจีวริโก น โหติ. ตสฺส ตสฺมึ อธิฏฺิตติจีวเร วิย อวิปฺปวาสาทินา กตฺตพฺพวิธิ น กาตพฺโพติ ทสฺเสติ, น ปน วิกปฺปเน โทโสติ. ตโต ปรนฺติ จตุมาสโต ปรํ วิกปฺเปตฺวา ปริภฺุชิตุํ อนฺุาตนฺติ เกจิ วทนฺติ, อฺเ ปน ‘‘วิกปฺเปตฺวา ยาว อาคามิวสฺสานํ, ตาว เปตุเมว วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, อปเร ปน ‘‘วิกปฺปเน น โทโส, ตถา วิกปฺปิตํ ปริกฺขาราทินาเมน อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชิตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ.
มุฏฺิปฺจกนฺติ มุฏฺิยา อุปลกฺขิตํ ปฺจกํ, จตุหตฺเถ มินิตฺวา ปฺจมํ หตฺถํ มุฏฺึ กตฺวา มินิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. เกจิ ปน ‘‘มุฏฺิหตฺถานํ ปฺจกํ มุฏฺิปฺจกํ, ตสฺมา ปฺจปิ หตฺเถ มุฏฺึ กตฺวาว มินิตพฺพา’’ติ วทนฺติ. มุฏฺิตฺติกนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ทฺวิหตฺเถน อนฺตรวาสเกน ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตุํ สกฺกาติ อาห ‘‘ปารุปเนนา’’ติอาทิ. อติเรกนฺติ สุคตจีวรปฺปมาณโต อธิกํ. อูนกนฺติ มุฏฺิปฺจกาทิโต อูนกํ, เตน จ เตสุ ติจีวราธิฏฺานํ น รุหตีติ ทสฺเสติ.
อิมํ สงฺฆาฏึ ปจฺจุทฺธรามีติ อิมํ สงฺฆาฏิอธิฏฺานํ อุกฺขิปามิ ปริจฺจชามีติ อตฺโถ. กายวิการํ กโรนฺเตนาติ หตฺเถน จีวรํ ปรามสนฺเตน, จาเลนฺเตน วา. วาจาย อธิฏฺาตพฺพาติ เอตฺถ ¶ กาเยนปิ จาเลตฺวา วาจมฺปิ ภินฺทิตฺวา กายวาจาหิ อธิฏฺานมฺปิ สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ ‘‘กาเยน อผุสิตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา. ทุวิธนฺติ อหตฺถปาสหตฺถปาสวเสน ทุวิธํ. ตตฺถ หตฺถปาโส นาม อฑฺฒเตยฺยหตฺโถ วุจฺจติ. ทฺวาทสหตฺถนฺติ เกจิ วทนฺติ ¶ , ตํ อิธ น สเมติ. ‘‘สามนฺตวิหาเร’’ติ อิทํ ปิตฏฺานสลฺลกฺขณโยคฺเค ิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตโต ทูเร ิตมฺปิ ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขนฺเตน อธิฏฺาตพฺพเมว. ตตฺถปิ จีวรสฺส ปิตภาวสลฺลกฺขณเมว ปมาณํ. น หิ สกฺกา สพฺพถา านํ สลฺลกฺเขตุํ. เอกสฺมึ วิหาเร เปตฺวา ตโต อฺสฺมึ ปิตนฺติ อธิฏฺาตุํ น วฏฺฏติ. เกจิ ปน ‘‘ตถาปิ อธิฏฺิเต น โทโส’’ติ วทนฺติ, ตํ อฏฺกถาย น สเมติ, วีมํสิตพฺพํ. อธิฏฺหิตฺวา ปิตวตฺเถหีติ ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺหิตฺวา ปิตวตฺเถหิ, เตเนว ‘‘อิมํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ ปริกฺขารโจฬสฺส ปจฺจุทฺธารํ ทสฺเสติ. เอเตน จ เตจีวรธุตงฺคํ ปริหรนฺเตน ปํสุกูลาทิวเสน ลทฺธํ วตฺถํ ทสาหพฺภนฺตเร กตฺวา รชิตฺวา ปารุปิตุํ อสกฺโกนฺเตน ปริกฺขารโจฬวเสน อธิฏฺหิตฺวาว ทสาหํ อติกฺกเมตพฺพํ, อิตรถา นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ ทสฺเสติ. เตเนว ‘‘รชิตกาลโต ปน ปฏฺาย นิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ, ธุตงฺคโจโร นาม โหตี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๒๕) วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตํ. ‘‘ปุน อธิฏฺาตพฺพานี’’ติ อิทฺจ สงฺฆาฏิอาทิติจีวรนาเมน อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชิตุกามสฺส วเสน วุตฺตํ, อิตรสฺส ปน ปุริมาธิฏฺานเมว อลนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ปุน อธิฏฺาตพฺพ’’นฺติ อิมินา กปฺปพินฺทุปิ ทาตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.
พทฺธสีมายํ อวิปฺปวาสสีมาสมฺมุติสมฺภวโต น ตตฺถ ทุปฺปริหารตาติ อาห ‘‘อพทฺธสีมายํ ทุปฺปริหาร’’นฺติ.
อติริตฺตปฺปมาณาย เฉทนกํ ปาจิตฺติยนฺติ อาห ‘‘อนติริตฺตปฺปมาณา’’ติ. ตโต ปรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพาติ วสฺสิกมาสโต ปรํ อธิฏฺานํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพา, อิมินา จตุนฺนํ วสฺสิกมาสานํ อุปริ อธิฏฺานํ ติฏฺตีติ วิฺายติ ตโต ปจฺจุทฺธราโยคา. ยฺจ มาติกาฏฺกถายํ ‘‘วสฺสิกสาฏิกา วสฺสานมาสาติกฺกเมนาปิ, กณฺฑุปฏิจฺฉาทิ อาพาธวูปสเมนาปิ อธิฏฺานํ วิชหตี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. กถินสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ, ตํ สมนฺตปาสาทิกายํ นตฺถิ. ปริวารฏฺกถายฺจ ‘‘อตฺถาปตฺติ เหมนฺเต อาปชฺชติ, โน คิมฺเห’’ติ เอตฺถ อิทํ วุตฺตํ ‘‘กตฺติกปุณฺณมาสิยา ปจฺฉิเม ปาฏิปททิวเส วิกปฺเปตฺวา ปิตํ วสฺสิกสาฏิกํ นิวาเสนฺโต เหมนฺเต อาปชฺชติ, กุรุนฺทิยํ ปน ‘กตฺติกปุณฺณมทิวเส อปจฺจุทฺธริตฺวา เหมนฺเต อาปชฺชตี’ติ วุตฺตํ, ตมฺปิ สุวุตฺตํ, ‘จตุมาสํ อธิฏฺาตุํ ตโต ปรํ วิกปฺเปตุ’นฺติ ¶ หิ วุตฺต’’นฺติ (ปริ. อฏฺ. ๓๒๓). ตตฺถ มหาอฏฺกถายํ นิวาสนปจฺจยา ทุกฺกฏํ ¶ วุตฺตํ, กุรุนฺทฏฺกถายํ ปน อปจฺจุทฺธารปจฺจยา, ตสฺมา กุรุนฺทิยํ วุตฺตนเยนาปิ วสฺสิกสาฏิกา วสฺสานมาสาติกฺกเมปิ อธิฏฺานํ น วิชหตีติ ปฺายติ. อธิฏฺานวิชหเนสุ จ วสฺสานมาสอาพาธานํ วิคเมน วิชหนํ มาติกาฏฺกถายมฺปิ น อุทฺธฏํ, ตสฺมา สมนฺตปาสาทิกายํ อาคตนเยน ยาว ปจฺจุทฺธารา อธิฏฺานํ ติฏฺตีติ คเหตพฺพํ. นหานตฺถาย อนฺุาตตฺตา ‘‘วณฺณเภทมตฺตรตฺตาปิ เจสา วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ทฺเว ปน น วฏฺฏนฺตี’’ติ อิมินา สงฺฆาฏิอาทีสุ วิย ทุติเย อธิฏฺานํ น รุหติ, อติเรกจีวรํ โหตีติ ทสฺเสติ. มหาปจฺจริยํ จีวรวเสน ปริโภคกิจฺจสฺส อภาวํ สนฺธาย อนาปตฺติ วุตฺตา เสนาสนปริกฺขารตฺถาย ทินฺนปจฺจตฺถรเณ วิย. ยํ ปน ‘‘ปจฺจตฺถรณมฺปิ อธิฏฺาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ เสนาสนตฺถาเยวาติ นิยมิตํ น โหติ นวสุ จีวเรสุ คหิตตฺตา, ตสฺมา อตฺตโน นาเมน อธิฏฺหิตฺวา นิทหิตฺวา ปริกฺขารโจฬํ วิย ยถา ตถา วินิยุชฺชิตพฺพเมวาติ คเหตพฺพํ. ปาวาโร โกชโวติ อิเมสมฺปิ ปจฺจตฺถรณาทีนํ โลเกปิ โวหรณโต เสนาสนปริกฺขารตฺถาย ทินฺนปจฺจตฺถรณโต วิสุํ คหณํ กตํ.
‘‘หีนายาวตฺตเนนา’’ติ อิทํ อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปชฺชิตฺวา ภิกฺขุปฏิฺาย ิตสฺส เจว ติตฺถิยปกฺกนฺตสฺส จ ภิกฺขุนิยา จ ภิกฺขุนิภาเว นิรเปกฺขตาย คิหิลิงฺคติตฺถิยลิงฺคคฺคหณํ สนฺธาย วุตฺตํ. สิกฺขํ อปจฺจกฺขาย คิหิภาวูปคมนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เกจิ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ ตทาปิสฺส อุปสมฺปนฺนตฺตา, จีวรสฺส จ ตสฺส สนฺตกตฺตาวิชหนโต. ปมาณจีวรสฺสาติ ปจฺฉิมปฺปมาณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทฺเว จีวรานิ ปารุปนฺตสฺสาติ คามปฺปเวเส ทิคุณํ กตฺวา สงฺฆาฏิโย ปารุปนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘เอส นโย’’ติ อิมินา ปมาณยุตฺเตสุ ยตฺถ กตฺถจิ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ วิชหตีติอาทิอตฺถํ สงฺคณฺหาติ.
อฺํ ปจฺฉิมปฺปมาณํ นาม นตฺถีติ สุตฺเต อาคตํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. อิทานิ ตเมว วิภาเวตุํ ‘‘ยฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ น สเมติ, สงฺฆาฏิอาทีนํ มุฏฺิปฺจกาทิเหฏฺิมปฺปมาณสฺส สุตฺเต อนาคตตฺตาติ อธิปฺปาโย.
มหนฺตํ วา ขุทฺทกํ กโรตีติ เอตฺถ อติมหนฺตํ จีวรํ มุฏฺิปฺจกาทิปจฺฉิมปฺปมาณยุตฺตํ กตฺวา สมนฺตโต ฉินฺทเนนาปิ วิจฺฉินฺทนกาเล ฉิชฺชมานฏฺานํ ฉิทฺทสงฺขฺยํ ¶ น คจฺฉติ อธิฏฺานํ น วิชหติ เอวาติ สิชฺฌติ, ‘‘ฆเฏตฺวา ฉินฺทติ, น ภิชฺชตี’’ติ วจเนน จ สเมติ. ปริกฺขารโจฬํ ปน วิกปฺปนุปคปจฺฉิมปฺปมาณโต อูนํ กตฺวา ฉินฺนํ อธิฏฺานํ วิชหติ อธิฏฺานสฺส อนิสฺสยตฺตา. ตานิ ปุน พทฺธานิ ฆฏิตานิ อธิฏฺาตพฺพเมวาติ เวทิตพฺพํ ¶ . เกจิ ปน ‘‘วสฺสิกสาฏิกจีวเร ทฺวิธา ฉินฺเน ยทิปิ เอเกกํ ขณฺฑํ ปจฺฉิมปจฺฉิมปฺปมาณํ ปโหติ, เอกสฺมึเยว ขณฺเฑ อธิฏฺานํ ติฏฺติ, น อิตเร, ‘‘ทฺเว ปน น วฏฺฏนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา. นิสีทนกณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทีสุปิ เอเสว นโยติ วทนฺติ.
สมฺมุเข ปวตฺตา สมฺมุขาติ ปจฺจตฺตวจนํ, ตฺจ วิกปฺปนวิเสสนํ, ตสฺมา ‘‘สมฺมุเข’’ติ ภุมฺมตฺเถ นิสฺสกฺกวจนํ กตฺวาปิ อตฺถํ วทนฺติ, อภิมุเขติ อตฺโถ. อถ วา สมฺมุเขน อตฺตโน วาจาย เอว วิกปฺปนา สมฺมุขาวิกปฺปนา. ปรมฺมุเขน วิกปฺปนา ปรมฺมุขาวิกปฺปนาติ กรณตฺเถนาปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ, อยเมว ปาฬิยา สเมติ. สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวนฺติ อาสนฺนทูรภาวํ. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏตีติ เอตฺตเกเนว วิกปฺปนากิจฺจสฺส นิฏฺิตตฺตา, อติเรกจีวรํ น โหตีติ ทสาหาติกฺกเม น นิสฺสคฺคิยํ ชเนตีติ อธิปฺปาโย. ปริภฺุชิตุํ…เป… น วฏฺฏตีติ สยํ อปจฺจุทฺธรณํ ปริภฺุชเน ปาจิตฺติยํ, อธิฏฺาเน ปเรสํ วิสฺสชฺชเน ทุกฺกฏฺจ สนฺธาย วุตฺตํ.
ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺตีติ ปริโภควิสฺสชฺชนอธิฏฺานานิปิ. อปิ-สทฺเทน นิเธตุมฺปิ วฏฺฏตีติ อตฺโถ, เอเตน จ ปจฺจุทฺธาเรปิ กเต จีวรมฺปิ วิกปฺปิตจีวรเมว โหติ, น อติเรกจีวรํ. ตํ ปน ติจีวราทินาเมน อธิฏฺาตุกาเมน อธิฏฺหิตพฺพํ, อิตเรน วิกปฺปิตจีวรเมว กตฺวา ปริภฺุชิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. เกจิ ปน ‘‘ยํ วิกปฺปิตจีวรํ, ตํ ยาว อปริโภคกาลา อปจฺจุทฺธราเปตฺวาว นิทหิตพฺพํ, ปริโภคกาเล ปน สมฺปตฺเต ปจฺจุทฺธราเปตฺวา อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ. ยทิ หิ ตโต ปุเรปิ ปจฺจุทฺธราเปยฺย, ปจฺจุทฺธาเรเนว วิกปฺปนาย วิคตตฺตา อติเรกจีวรํ นาม โหติ, ทสาหาติกฺกเม จ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. ตสฺมา ยํ อปริภฺุชิตฺวาว เปตพฺพํ, ตเทว วิกปฺเปตพฺพํ, ปจฺจุทฺธาเร จ กเต อนฺโตทสาเหเยว อธิฏฺาตพฺพํ. ยฺจ อฏฺกถายํ ‘ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺตี’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ ปาฬิยา วิรุชฺฌตี’’ติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตเมว. ปาฬิยฺหิ ¶ ‘‘อนฺโตทสาหํ อธิฏฺเติ, วิกปฺเปตี’’ติ (ปารา. ๔๖๙) จ ‘‘สามํ จีวรํ วิกปฺเปตฺวา อปจฺจุทฺธารณํ ปริภฺุเชยฺย ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๓๗๓) จ ‘‘อนาปตฺติ โส วา เทติ, ตสฺส วา วิสฺสาสนฺโต ปริภฺุชตี’’ติ (ปาจิ. ๓๗๔) จ สามฺโต วุตฺตตฺตา, อฏฺกถายฺจ ‘‘อิมํ จีวรํ วา วิกปฺปนํ วา ปจฺจุทฺธรามี’’ติอาทินา ปจฺจุทฺธารํ อทสฺเสตฺวา ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ ปริภฺุช วา วิสฺสชฺเชหิ วา’’ติ เอวํ อตฺตโน สนฺตกตฺตํ อโมเจตฺวาว ปริโภคาทิวเสเนว ปจฺจุทฺธารสฺส วุตฺตตฺตา, ‘‘ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺตี’’ติ อธิฏฺานํ วินาปิ วิสุํ ปริโภคสฺส, นิทหนสฺส จ วุตฺตตฺตา วิกปฺปนานนฺตรเมว ปจฺจุทฺธราเปตฺวา อนธิฏฺหิตฺวา เอว ติจีวรวิรหิตํ ¶ วิกปฺปนารหํ จีวรํ ปริภฺุชิตุํ, นิทหิตฺุจ อิทํ ปาเฏกฺกํ วินยกมฺมนฺติ ขายติ. อปิจ พหูนํ ปตฺตานํ วิกปฺเปตุํ, ปจฺจุทฺธาเรตฺุจ วุตฺตตฺตา ปจฺจุทฺธาเรน เตสํ อติเรกปตฺตตา ทสฺสิตาติ สิชฺฌติ เตสุ เอกสฺเสว อธิฏฺาตพฺพโต. ตสฺมา อฏฺกถายํ อาคตนเยเนว คเหตพฺพํ.
ปฺตฺติโกวิโท น โหตีติ เอวํ วิกปฺปิเต ‘‘อนนฺตรเมว เอวํ ปจฺจุทฺธริตพฺพ’’นฺติ วินยกมฺมํ น ชานาติ. เตนาห ‘‘น ชานาติ ปจฺจุทฺธริตุ’’นฺติ, อิมินาปิ เจตํ เวทิตพฺพํ ‘‘วิกปฺปนานนฺตรเมว ปจฺจุทฺธาโร กาตพฺโพ’’ติ.
อวิเสเสน วุตฺตวจนนฺติ ติจีวราทีนํ สาธารณวจเนน วุตฺตวจนํ. ยํ ปเนตฺถ ‘‘วิรุทฺธํ วิย ทิสฺสตี’’ติ วตฺวา ตํ วิโรธาสงฺกํ นิวตฺเตตุํ ‘‘ติจีวรสงฺเขเปน…เป… วิกปฺปนาย โอกาโส ทินฺโน โหตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ‘‘อธิฏฺเติ วิกปฺเปตี’’ติ สามฺโต วุตฺเตปิ ติจีวรมฺปิ วิกปฺเปตีติ อยมตฺโถ น สิชฺฌติ, ‘‘ติจีวรํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘) วิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา. ยํ ปน อธิฏฺาตพฺพํ, ตํ อธิฏฺาติ. ยํ ติจีวรวิรหิตํ, ตํ วิกปฺเปตพฺพํ, ตํ วิกปฺเปตีติ เอวมตฺโถ สิชฺฌตีติ. ตสฺมา เอตฺถ ปุพฺพาปรวิโรโธ น ทิสฺสติ สามฺวจนสฺส วุตฺตาวเสเสเยว อวติฏฺนโต. ยํ ปเนตฺถ ติจีวรสฺสาปิ วิกปฺปนวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘ติจีวรํ ติจีวรสงฺเขเปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ติจีวรสงฺเขเปน ปริหริยมาเนสุ เอกมฺปิ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตุํ น วฏฺฏติ, ติจีวรโต ปน เอกํ วา สกลเมว วา อปเนตฺวา อปรํ ติจีวรํ ติจีวรสงฺเขเปน ปริหริตุกามสฺส วา ติจีวราธิฏฺานํ มฺุจิตฺวา ปริกฺขารโจฬวเสเนว สพฺพจีวรํ ปริภฺุชิตุกามสฺส ¶ วา ปุริมํ อธิฏฺิตจีวรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตุํ วฏฺฏตีติ เอวมธิปฺปาเยน ‘‘ติจีวเร เอเกน จีวเรน วิปฺปวสิตุกาโม โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ สิยา, อิจฺเจตํ ปาฬิยา สทฺธึ สเมติ. อถ ปุนปิ ตเทว ติจีวราธิฏฺาเนน อธิฏฺาตุกาโม หุตฺวา วิปฺปวาสสุขตฺถํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตีติ อิมินา อธิปฺปาเยน วุตฺตํ สิยา, ตํ ‘‘ติจีวรํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘) อิมินา วจเนน น สเมติ. ยทิ หิ เสสจีวรานิ วิย ติจีวรมฺปิ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพํ สิยา, ‘‘ติจีวรํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุ’’นฺติ อิทํ วจนเมว นิรตฺถกํ สิยา เสสจีวเรหิ ติจีวรสฺส วิเสสาภาวา. ตสฺมา ‘‘วิกปฺเปตี’’ติ อิทํ ติจีวรวิรหิตเมว สนฺธาย วุตฺตํ. ติจีวรํ ปน วิกปฺเปตุํ น วฏฺฏตีติ วิฺายติ, เตเนว ทุติยกถินสิกฺขาปทสฺส อนาปตฺติวาเร ‘‘วิกปฺเปตี’’ติ อิทํ น วุตฺตํ, วีมํสิตฺวา ยถา ปาฬิยา สทฺธึ น วิรุชฺฌติ, ตถา เอตฺถ อธิปฺปาโย คเหตพฺโพ.
ตุยฺหํ ¶ เทมีติอาทีสุ ปริจฺจตฺตตฺตา มนสา อสมฺปฏิจฺฉนฺเตปิ สมฺปทานภูตสฺเสว สนฺตกํ โหติ, โส อิจฺฉิตกฺขเณ คเหตุํ ลภติ. อิตฺถนฺนามสฺสาติ ปรมฺมุเข ิตํ สนฺธาย วทติ. ยสฺส ปน รุจฺจตีติอาทิ อุโภหิปิ ปริจฺจตฺตตาย อสฺสามิกตํ สนฺธาย วุตฺตํ.
‘‘ตํ น ยุชฺชตี’’ติ อิทํ อนฺโตทสาเห เอว วิสฺสาสคฺคหณํ สนฺธาย อนาปตฺติวารสฺส อาคตตฺตา, อิธ นิสฺสคฺคิยจีวรสฺส กปฺปิยภาวกรณตฺถํ เลเสน คหิตตฺตา จ วุตฺตํ, เกจิ ปน ‘‘ปเรหิ สภาเคน อจฺฉินฺเน, วิสฺสาสคฺคหิเต จ ปุน ลทฺเธ โทโส น ทิสฺสตี’’ติ วทนฺติ. อนธิฏฺาเนนาติ กายวาจาหิ กตฺตพฺพสฺส อกรเณนาติ อธิปฺปาโย. จีวรสฺส อตฺตโน สนฺตกตา, ชาติปมาณยุตฺตตา, ฉินฺนปลิโพธภาโว, อติเรกจีวรตา, ทสาหาติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
ปมกถินสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๗๓. ทุติเย อวิปฺปวาเสติ อวิปฺปวาเส นิปฺผาเทตพฺเพ, วิปฺปวาสโทสาภาเว สาเธตพฺเพ กตฺตพฺพา สมฺมุตีติ อตฺโถ.
๔๗๕. ปฏิสิทฺธปริยาปนฺเนนาติ ¶ วิปฺปวสิตุํ ปฏิสิทฺเธสุ ตีสุ จีวเรสุ อนฺโตคเธน, เอเกน จ อวยเว สมุทาโยปจารํ ทสฺเสติ.
๔๗๘-๙. เอตฺตาวตาติ ‘‘ปริกฺขิตฺโต’’ติ อิมินา. ‘‘สภาเยติ ลิงฺคพฺยตฺตเยน สภา วุตฺตา’’ติ วตฺวา ปุน สยมฺปิ ‘‘สภาเย’’ติ อิมินา โวหรนฺโต สภา-สทฺทสฺส ปริยาโย สภาย-สทฺโท นปุํสกลิงฺคยุตฺโต อตฺถีติ ทสฺเสติ. ‘‘สภายนฺติ ลิงฺคพฺยตฺตเยน สภา วุตฺตา’’ติ วา ปาโ. ลิงฺคพฺยตฺตเยน สภาติ จ ลิงฺคนฺตรยุตฺโต สภาสทฺทปริยาโย สภายสทฺโทติ อตฺโถ.
สภายํ คจฺฉตีติ สภํ คจฺฉติ. วสิตพฺพํ นตฺถีติ จีวรหตฺถปาเสเยว วสิตพฺพํ นตฺถีติ อตฺโถ. ตสฺสาติ วีถิยา. สภายสฺส จ ทฺวารสฺส จ หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพนฺติ เอตฺถ สภายทฺวารานมนฺตเร วีถิ เคหาปิ คหิตา เอว โหนฺติ อาทิปริโยสานานํ คหิตตฺตา. เอตฺถ จ ทฺวารวีถิฆเรสุ วสนฺเตน คามปฺปเวสนสหเสยฺยาทิโทสํ ปริหริตฺวา สุปฏิจฺฉนฺนตาทิยุตฺเตเนว ภวิตพฺพํ ¶ , สภา ปน ยทิ สพฺเพสํ วสนตฺถาย สาลาสทิสา กตา, อนฺตราราเม วิย ยถาสุขํ วสิตุํ วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. ปริกฺขิตฺตตาย จ เอกูปจารตํ, อปริกฺขิตฺตตาย นานูปจารตฺจ นิเวสนาทีสุปิ อติทิสนฺโต อาห ‘‘เอเตเนวูปาเยนา’’ติอาทิ. นิเวสนาทีนิ พหิคามโต สนฺนิวิฏฺานิ คหิตานิ อนฺโตคาเม ิตานํ คามคฺคหเณเนว คหิตตฺตา. สพฺพตฺถาติ คามนิคมนิเวสนาทีสุ ปนฺนรสสุ. ปริกฺเขปาทีติ อาทิ-สทฺเทน อปริกฺเขปสฺเสว คหณํ, น เอกกุลาทีนมฺปิ เตสํ เอกูปจารตานานูปจารตานิมิตฺตตาภาวา. เอตฺถ จ สตฺถสฺส กติปาหํ กตฺถจิ นิวิฏฺสฺเสว ปริกฺเขโป โหติ, น คจฺฉนฺตสฺส.
๔๘๒-๗. คามโต พหิ อิสฺสรานํ สมุทฺทตีราทีสุ กตภณฺฑสาลา อุโทสิโตติ อาห ‘‘ยานาทีน’’นฺติอาทิ. มุณฺฑจฺฉทนปาสาโทติ นาติอุจฺโจ จนฺทิกงฺคณยุตฺโต สิขรกูฏมาลาทิวิรหิโต ปาสาโท.
๔๘๙. ปริยาทิยิตฺวาติ อชฺโฌตฺถริตฺวา. นทีปริหาโรติ วิสุํคามาทีนํ วิย นทีปริหารสฺส อวุตฺตตฺตา จีวรหตฺถปาโส เอวาติ วทนฺติ, อฺเ ปน ‘‘อิมินา อฏฺกถาวจเนน นทีปริหาโรปิ วิสุํ สิทฺโธ, นทิยา ¶ หตฺถปาโส น วิชหิตพฺโพ’’ติ วทนฺติ. วิหารสีมนฺติ อวิปฺปวาสสีมํ สนฺธายาห. เอตฺถ จ วิหารสฺส นานากุลสนฺตกภาเวปิ อวิปฺปวาสสีมาปริจฺเฉทพฺภนฺตเร สพฺพตฺถ จีวรอวิปฺปวาสสมฺภวโต ตสฺสา ปธานตฺตา ตตฺถ สตฺถปริหาโร น ลพฺภตีติ ‘‘วิหารํ คนฺตฺวา วสิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘สตฺถสมีเป’’ติ อิทํ ยถาวุตฺตํ อพฺภนฺตรปริจฺเฉทวเสน วุตฺตํ. ปาฬิยํ นานากุลสฺส สตฺโถ โหติ, สตฺเถ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพนฺติ เอตฺถ สตฺถหตฺถปาโส คหิโต.
๔๙๐. เอกกุลสฺส เขตฺเตติ อปริกฺขิตฺตํ สนฺธาย วทติ.
๔๙๑-๔. วิหาโร นาม อุปจารสีมา. ตตฺถ ยสฺมึ วิหาเรติ ตสฺส อนฺโตปริเวณาทึ สนฺธาย วุตฺตํ, เอกกุลาทิสนฺตกตา เจตฺถ การาปกานํ วเสน. ฉายาย ผุฏฺโกาสสฺสาติ อุชุกํ อวกฺขิตฺตเลฑฺฑุปาตพฺภนฺตรํ สนฺธาย วทติ.
อคมนปเถติ ตทเหว คนฺตฺวา นิวตฺเตตุํ น สกฺกุเณยฺยเก สมุทฺทมชฺเฌ เย ทีปกา, เตสูติ โยชนา. อิตรสฺมินฺติ ปุรตฺถิมทิสาย จีวเร. ‘‘อุโปสถกาเล…เป… วฑฺฒตี’’ติ อิมินา จีวรวิปฺปวาสสตฺตพฺภนฺตรโต สมานสํวาสาย สตฺตพฺภนฺตรสีมาย อจฺจนฺตวิสทิสตํ ทสฺเสติ ¶ . ตถา หิ พหูสุ ภิกฺขูสุ เอกโต นิสีทิตฺวา สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรปริจฺเฉเทสุ ยถาสกํ จีวรํ เปตฺวา ปริหรนฺเตสุ เอเกกสฺส ภิกฺขุโน นิสินฺโนกาสโต ปฏฺาย ปจฺเจกํ สตฺตพฺภนฺตรสฺส ปริจฺเฉโท อฺมฺวิสทิโส อเนกวิโธ โหติ, น เอโก ปริสปริยนฺตโต ปฏฺาย อนิมิตพฺพตฺตา. เตเนว ตตฺถ ปริสวเสน วุฑฺฒิ, หานิ วา น โหติ, น เอวํ สตฺตพฺภนฺตรสีมาย. สา หิ โยชนิกายปิ ปริสปริยนฺตโตว ปฏฺาย สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรปอจฺฉินฺนา เอกาว โหติ. เตเนว สา ปริสวเสน วฑฺฒติ, หายติ จ, ตสฺมา อฺาว สตฺตพฺภนฺตรสีมา อฺโ สตฺตพฺภนฺตรโต ปริจฺฉินฺโน จีวรวิปฺปวาสปริหาโร อพฺโภกาโสติ เวทิตพฺพํ. ยฺเจตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ ขนฺธเก สีมากถายเมว (มหาว. ๑๔๓) วกฺขาม.
๔๙๕. นทึ ¶ โอตรตีติ หตฺถปาสํ มฺุจิตฺวา โอตรติ. พหิคาเม เปตฺวาติ อปารุปิตพฺพตาย วุตฺตํ. วินยกมฺมํ กาตพฺพนฺติ อุตฺตราสงฺเค จ พหิคาเม ปิตสงฺฆาฏิยฺจ ปมํ วินยกมฺมํ กตฺวา ปจฺฉา อุตฺตราสงฺคํ นิวาเสตฺวา อนฺตรวาสเก กาตพฺพํ. เอตฺถ จ พหิคาเม ปิตสฺสาปิ วินยกมฺมวจนโต ปรมฺมุขาปิ ิตํ วิสฺสชฺชิตุํ, นิสฺสฏฺํ ทาตฺุจ วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. ทหรานํ คมเน สอุสฺสาหตฺตา ‘‘นิสฺสโย ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภตี’’ติ วุตฺตํ. มุหุตฺตํ…เป… ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ สอุสฺสาหตฺเต คมนสฺส อุปจฺฉินฺนตฺตา วุตฺตํ. เตสํ ปน ปุรารุณาว อุฏฺหิตฺวา สอุสฺสาเหน คจฺฉนฺตานํ อรุเณ อนฺตรา อุฏฺิเตปิ น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ ‘‘ยาว อรุณุคฺคมนา สยนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา. เตเนว ‘‘คามํ ปวิสิตฺวา…เป… น ปฏิปฺปสฺสมฺภตี’’ติ วุตฺตํ. อฺมฺสฺส วจนํ อคฺคเหตฺวาติอาทิมฺหิ สอุสฺสาหตฺตา คมนกฺขเณ ปฏิปฺปสฺสทฺธิ น วุตฺตา. เธนุภเยนาติ ตรุณวจฺฉคาวีนํ อภิธาวิตฺวา สิงฺเคน ปหรณภเยน. นิสฺสโย จ ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ เอตฺถ เธนุภยาทีหิ ิตานํ ยาว ภยวูปสมา าตพฺพโต ‘‘อนฺโตอรุเณเยว คมิสฺสามี’’ติ นิยเมตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา วุตฺตํ. ยตฺถ ปน เอวํ นิยเมตุํ สกฺกา, ตตฺถ อนฺตรารุเณ อุคฺคเตปิ นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ เภสชฺชตฺถาย คามปฺปวิฏฺทหรานํ วิย. อนฺโตสีมายํ คามนฺติ อวิปฺปวาสสีมาสมฺมุติโต ปจฺฉา ปติฏฺาปิตคามํ สนฺธาย วทติ คามฺจ คามูปจารฺจ เปตฺวา สมฺมนฺนิตพฺพโต. ปวิฏฺานนฺติ อาจริยนฺเตวาสิกานํ วิสุํ วิสุํ คตานํ อวิปฺปวาสสีมตฺตา เนว จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, สอุสฺสาหตาย นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อนฺตรามคฺเคติ ธมฺมํ สุตฺวา อาคจฺฉนฺตานํ อนฺตรามคฺเค.
‘‘อิธ อปจฺจุทฺธรณ’’นฺติ อิมินา อธิฏฺานวิกปฺปนานิ วิย ปจฺจุทฺธรณมฺปิ กาเยน วา วาจาย วา กตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. กายวาจาหิ กตฺตพฺพสฺส อกรณโตติ อิทํ กายวาจาสมุฏฺานํ ¶ วุตฺตํ. อธิฏฺิตติจีวรตา, อนตฺถตกถินตา, อลทฺธสมฺมุติตา, รตฺติวิปฺปวาโสติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ตติยกถินสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๙๗. ตติเย ¶ ปาฬิยํ จีวรปจฺจาสา นิกฺขิปิตุนฺติ จีวรปจฺจาสาย สติยา นิกฺขิปิตุนฺติ อตฺโถ. นิฏฺิตจีวรสฺมึ ภิกฺขุนาติ เอตฺถ ทุติยกถิเน วิย สามิวเสเนว กรณวจนสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๔๙๙-๕๐๐. ตุยฺหํ ทมฺมีติ ทินฺนนฺติ ‘‘ตุยฺหํ, ภนฺเต, อกาลจีวรํ ทมฺมี’’ติ เอวํ ทินฺนํ, เอตมฺปิ กาเล อาทิสฺส ทินฺนํ นาม โหตีติ อธิปฺปาโย. อิทํ ปน อฏฺกถาวจนํ, ปาฬิยํ ‘‘กาเลปิ อาทิสฺส ทินฺน’’นฺติ อิทฺจ ‘‘อกาลจีวร’’นฺติ วจนสามฺโต ลพฺภมานํ สพฺพมฺปิ ทสฺเสตุํ อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตํ ปมอนิยเต โสตสฺส รโห วิย. สงฺฆสฺส หิ กาเลปิ อาทิสฺส ทินฺนํ อกาเล อุปฺปนฺนจีวรํ วิย สมฺมุขีภูเตหิ วุตฺถวสฺเสหิ, อวุตฺถวสฺเสหิ จ สพฺเพหิปิ ภาเชตพฺพตาสามฺเน อกาลจีวรํ นาม โหตีติ ทสฺสนตฺถํ อตฺถุทฺธารวเสน ปาฬิยํ ‘‘กาเลปิ อาทิสฺส ทินฺน’’นฺติ วุตฺตํ, น ปน ‘‘ตโต ภาเชตฺวา ลทฺธจีวรมฺปิ อกาเล ลทฺธจีวรมฺปิ วุตฺถวสฺสานํ เอกมาสปริหารํ, ปฺจมาสปริหารํ วา น ลภติ, ปจฺจาสาจีวเร อสติ ทสาหปริหารเมว ลภตี’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, อฏฺกถายมฺปิ ‘‘อาทิสฺส ทินฺน’’นฺติ วจนสามฺโต ลพฺภมานํ สพฺพํ อตฺถุทฺธารวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘เอกปุคฺคลสฺส วา อิทํ ตุยฺหํ ทมฺมีติ ทินฺน’’นฺติ วุตฺตํ, น ปน ตถาลทฺธํ วา อกาเล ลทฺธํ วา อนตฺถตกถินานํ ทสาหพฺภนฺตเร อธิฏฺาตพฺพนฺติ ทสฺเสตุนฺติ เวทิตพฺพํ อิตรถา ปาฬิอฏฺกถาหิ วิรุชฺฌนโต. ตถา หิ อจฺเจกจีวรสิกฺขาปเท อกาเล อุปฺปนฺนมฺปิ อจฺเจกจีวรํ ‘‘ยาวจีวรกาลสมยํ นิกฺขิปิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๖๔๘) วุตฺตํ, ตสฺส อฏฺกถายฺจ ‘‘ปวารณมาสสฺส ชุณฺหปกฺขปฺจมิยํ อุปฺปนฺนสฺส อจฺเจกจีวรสฺส อนตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิโก มาโส, อตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิกา ปฺจ มาสา จ ปริหาโร วุตฺโต, ตเมว ปริหารํ สนฺธาย ‘ฉฏฺิโต ปฏฺาย ปน อุปฺปนฺนํ อนจฺเจกจีวรมฺปิ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปิตจีวรมฺปิ เอตํ ปริหารํ ลภติเยวา’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๔๖-๖๔๙) วุตฺตํ. ตสฺมา กาเลปิ อกาเลปิ จ ยถาตถา ลทฺธํ ¶ อติเรกจีวรํ วุตฺถวสฺสานํ เอกมาสํ, ปฺจมาสํ วา ยถารหํ ปริหารํ ลภติ เอวาติ คเหตพฺพํ.
เอวํ ปน อวตฺวา ปทภาชนํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ เอวนฺติ ยํ อฏฺกถายํ ‘‘ตโต เจ อุตฺตรี’’ติ อิมสฺส มาสปรมโต อุตฺตรีติ ¶ อตฺโถ วุตฺโต, ตํ ปรามสติ. ปทภาชนิยํ เอวมตฺถํ อวตฺวา อฺถา อตฺโถ วุตฺโตติ อธิปฺปาโย. ตาว อุปฺปนฺนํ ปจฺจาสาจีวรนฺติ ปจฺจตฺตวจนํ. ‘‘มูลจีวร’’นฺติ อิทํ อุปโยควจนํ. อตฺตโน คติกํ กโรตีติ อนนฺตรา ทุติยทิวสาทีสุ อุปฺปนฺนํ ปจฺจาสาจีวรํ มาสปรมํ มูลจีวรํ เปตุํ อทตฺวา อตฺตโน ทสาหปรมตาย เอว ปติฏฺาเปตีติ อตฺตโน คติกํ กโรตีติ. ตโต อุทฺธํ มูลจีวรนฺติ เอตฺถ ปน มูลจีวรนฺติ ปจฺจตฺตวจนํ. ตฺหิ วีสติมทิวสโต อุทฺธํ ทฺวาวีสติมทิวสาทีสุ อุปฺปนฺนํ ปจฺจาสาจีวรํ อตฺตนา สทฺธึ เอกโต สิพฺเพตฺวา ฆฏิตํ ทสาหปรมํ คนฺตุํ อทตฺวา นวาหปรมตาทิวเสน อตฺตโน คติกํ กโรติ, เอกโต อสิพฺเพตฺวา วิสุํ ปิตํ ปน ปจฺจาสาจีวรํ ทสาหปรมเมว.
ปาฬิยํ ทสาหาติ ทสาเหน. เอกาทเส อุปฺปนฺเนติอาทีสุ เอกาทสาเห อุปฺปนฺเนติอาทินา อตฺโถ, อยเมว วา ปาโ คเหตพฺโพ. เอกวีเส อุปฺปนฺเน…เป… นวาหา กาเรตพฺพนฺติอาทิ ปจฺจาสาจีวรสฺส อุปฺปนฺนทิวสํ เปตฺวา วุตฺตํ. เตเนว ‘‘ตึเส…เป… ตทเหว อธิฏฺาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อฺํ ปจฺจาสาจีวรํ…เป… กาเรตพฺพ’’นฺติ อิทํ สติยา เอว ปจฺจาสาย วุตฺตํ. สเจ ปน ‘‘อิโต ปฏฺาย จีวรํ น ลภิสฺสามี’’ติ อิจฺฉิตฏฺานโต ปจฺจาสาย อุปจฺฉินฺนาย อฺตฺถาปิ เยน เกนจิ อุปาเยน ปจฺจาสํ อุปฺปาเทติ, มูลจีวรํ น อธิฏฺาตพฺพํ, สพฺพถา ปจฺจาสาย อุปจฺฉินฺนาย ทสาหาติกฺกนฺตํ มูลจีวรํ ตทเหว อธิฏฺาตพฺพํ. ปจฺจาสาจีวรมฺปิ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตพฺพนฺติ ปมตรํ อุปฺปนฺนํ วิสภาคํ สนฺธาย วทติ. อฺมฺนฺติ อฺํ อฺํ, อยเมว วา ปาโ. องฺคํ ปเนตฺถ ปมกถิเน วุตฺตสทิสเมว. เกวลฺหิ ตตฺถ ทสาหาติกฺกโม, อิธ มาสาติกฺกโมติ อยํ วิเสโส.
ตติยกถินสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปุราณจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๐๓-๕. จตุตฺเถ ปาฬิยํ ภตฺตวิสฺสคฺคนฺติ ภตฺตสฺส อุทเร วิสฺสชฺชนํ, ปเวสนํ อชฺโฌหรณํ ¶ ภตฺตกิจฺจนฺติ อตฺโถ, โภชนปริโยสาเนน ภตฺตสฺส วิสฺสชฺชนนฺติปิ ¶ วทนฺติ. ตตฺถ นาม ตฺวนฺติ โส นาม ตฺวํ, ตาย นาม ตฺวนฺติ วา อตฺโถ. ปิตา จ มาตา จ ปิตโร, ปิตูนํ ปิตา จ มาตา จ ปิตามหา, เต เอว ยุคฬฏฺเน ยุโค, ตสฺมา ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา ปิตามหาวฏฺฏาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอวฺหิ ปิตามหคฺคหเณน มาตามโห จ ปิตามหี มาตามหี จ คหิตาว โหนฺติ. สตฺตมยุคโต ปรํ ‘‘อฺาตกา’’ติ เวทิตพฺพํ. ยาติ ภิกฺขุนี. ปิตุ มาตา ปิตามหี, มาตุ ปิตา มาตามโห.
ปโยเค ปโยเค ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏนฺติ ‘‘โธวา’’ติ อาณาปนวาจาย เอกาย เอว ตทนุคุณสฺส สพฺพสฺสาปิ ปโยคสฺส อาณตฺตตฺตา วุตฺตํ.
๕๐๖. ตทวินาภาวโต โธวนสฺส ‘‘กายวิการํ กตฺวา’’ติ จ ‘‘อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ’’ติ จ วุตฺตตฺตา กาเยน โธวาเปตุกามตํ อปฺปกาเสตฺวา ทานขิปนเปสนาทึ กโรนฺตสฺส จ ทฺวาทสหตฺถํ อุปจารํ มฺุจิตฺวา พหิ ตฺวา กายวาจาหิ อาณาเปตฺวา ขิปนเปสนาทึ กโรนฺตสฺส จ อนาปตฺติ เอว.
เอเกน วตฺถุนาติ ปมกเตน. ปฺจสตานิ ปมาณํ เอตาสนฺติ ปฺจสตา. ภิกฺขุภาวโต ปริวตฺตลิงฺคาปิ ภิกฺขุนี ภิกฺขูนํ สนฺติเก เอกโตอุปสมฺปนฺนา เอว.
๕๐๗. ตาวกาลิกํ คเหตฺวาติ อตฺตนา กติปาหํ ปารุปนาทิอตฺถาย ตาวกาลิกํ ยาจิตฺวา. ปุราณจีวรตา, อุปจาเร ตฺวา อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา อาณาปนํ, ตสฺสา โธวาปนาทีนิ จาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
ปุราณจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จีวรปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๐๘. ปฺจเม ¶ อปฺตฺเต สิกฺขาปเทติ คณมฺหา โอหียนสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๖๙๑-๖๙๒) อปฺตฺเต. โกฏฺาสสมฺปตฺตีติ เกสาทิปฺจโกฏฺาสานํ กลฺยาณตา. หตฺถตเลเยว ทสฺเสตฺวาติ หตฺถตลโต เสสกายสฺส อทสฺสนํ ทีเปติ.
๕๑๐. วิหตฺถตายาติ ¶ วิหตตาย, อมิสฺสิตตาย อปฏิสรณตายาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘สมภิตุนฺนตฺตา’’ติ, พฺยธิตตฺตาติ อตฺโถ. ปริวตฺเตตพฺพํ ปริวตฺตํ, ตเทว ปาริวตฺตกํ, ปริวตฺเตตฺวา ทิยฺยมานนฺติ อตฺโถ.
ปุริมสิกฺขาปเท วิย อิธ ทฺวาทสหตฺโถ อุปจารนิยโม นตฺถีติ อาห ‘‘อุปจารํ มฺุจิตฺวา’’ติ. อฺตฺร ปาริวตฺตกาติ ยํ อนฺตมโส หรีฏกขณฺฑมฺปิ ทตฺวา วา ‘‘ทสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา วา ปริวตฺตกํ คณฺหาติ, ตํ เปตฺวา. ‘‘ตํ อจิตฺตกภาเวน น สเมตี’’ติ อิมินา าติภาวาชานนาทีสุ วิย ภิกฺขุนีภาวาชานนาทิวเสนาปิ อจิตฺตกตํ ปกาเสติ.
๕๑๓-๔. ติกฺจ ตํ ปาจิตฺติยฺจาติ ติกปาจิตฺติยํ, ปาจิตฺติยติกนฺติ อตฺโถ. ปตฺตตฺถวิกาทีติ อนธิฏฺานุปคํ สนฺธาย วทติ. โก ปน วาโท ปตฺตตฺถวิกาทีสูติ มหติยาปิ ตาว ภิสิจฺฉวิยา อนธิฏฺานุปคตฺตา อนาปตฺติ, วิกปฺปนุปคปจฺฉิมปฺปมาณวิรหิตตาย อนธิฏฺาตพฺเพสุ กิเมว วตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. ปตฺตตฺถวิกาทีนิ ปน วิกปฺปนุปคปจฺฉิมานิ คณฺหิตุํ น วฏฺฏติ เอว. ปฏิคฺคหณํ กิริยา, อปริวตฺตนํ อกิริยา. วิกปฺปนุปคจีวรตา, ปาริวตฺตกาภาโว, อฺาติกาย หตฺถโต คหณนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
จีวรปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๑๕. ฉฏฺเ ¶ ปฏุ เอว ปฏฺโฏ. ปาฬิยํ ธมฺมนิมนฺตนาติ สมเณสุ วตฺตพฺพาจารธมฺมมตฺตวเสน นิมนฺตนา, ทาตุกามตาย กตนิมนฺตนา น โหตีติ อตฺโถ. เตเนว ‘‘วิฺาเปสฺสตี’’ติ วุตฺตํ. อฺาตกอปฺปวาริตโต หิ วิฺตฺติ นาม โหติ.
๕๑๗. ‘‘ติเณน วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาคนฺตพฺพ’’นฺติ อิมินา ภูตคามวิโกปนํ อนฺุาตนฺติ อาห ‘‘เนว ภูตคามปาตพฺยตายา’’ติอาทิ. ปมํ สุทฺธจิตฺเตน ลิงฺคํ คเหตฺวา ปจฺฉา ลทฺธึ คณฺหนฺโตปิ ติตฺถิยปกฺกนฺตโก เอวาติ อาห ‘‘นิวาเสตฺวาปิ ลทฺธิ น คเหตพฺพา’’ติ.
ยํ อาวาสํ ปมํ อุปคจฺฉตีติ เอตฺถาปิ วิหารจีวราทิอตฺถาย ปวิสนฺเตนปิ ติณาทีหิ ปฏิจฺฉาเทตฺวาว ¶ คนฺตพฺพํ, น ตฺเวว นคฺเคน อาคนฺตพฺพนฺติ สามฺโต ทุกฺกฏสฺส วุตฺตตฺตา. จิมิลิกาหีติ ปฏปิโลติกาหิ. ปริโภเคเนวาติ อฺํ จีวรํ อลภิตฺวา ปริภฺุชเนน. ปริโภคชิณฺณนฺติ ยถา ตํ จีวรํ ปริภฺุชิยมานํ โอภคฺควิภคฺคตาย อสารุปฺปํ โหติ, เอวํ ชิณฺณํ.
๕๒๑. อฺสฺสตฺถายาติ เอตฺถาปิ ‘‘าตกานํ ปวาริตาน’’นฺติ อิทํ อนุวตฺตติ เอวาติ อาห ‘‘อตฺตโน าตกปวาริเต’’ติอาทิ. อิธ ปน อฺสฺส อจฺฉินฺนนฏฺจีวรสฺส อตฺถาย อฺาตกอปฺปวาริเต วิฺาเปนฺตสฺส นิสฺสคฺคิเยน อนาปตฺตีติ อตฺโถ คเหตพฺโพ, อิตรถา ‘‘าตกานํ ปวาริตาน’’นฺติ อิมินา วิเสโส น ภเวยฺย. เตเนว อนนฺตรสิกฺขาปเท วกฺขติ ‘‘อฏฺกถาสุ ปน าตกปริวาตฏฺาเน…เป… ปมาณเมว วฏฺฏตีติ วุตฺตํ, ตํ ปาฬิยา น สเมตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๒๖) จ ‘‘ยสฺมา ปนิทํ สิกฺขาปทํ อฺสฺสตฺถาย วิฺาปนวตฺถุสฺมึเยว ปฺตฺตํ, ตสฺมา อิธ ‘อฺสฺสตฺถายา’ติ น วุตฺต’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๒๖) จ. วิกปฺปนุปคจีวรตา, สมยาภาโว, อฺาตกวิฺตฺติ, ตาย ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๒๒-๕๒๔. สตฺตเม ¶ ปาฬิยํ ปคฺคาหิกสาลนฺติ ทุสฺสาปณํ. ตฺหิ วาณิชเกหิ ทุสฺสานิ ปคฺคเหตฺวา ทสฺสนฏฺานตาย ‘‘ปคฺคาหิกสาลา’’ติ วุจฺจติ. อสฺส จีวรสฺสาติ สาทิตพฺพจีวรสฺส. ‘‘ติจีวริเกนา’’ติ อิมินา อจฺฉินฺนติจีวรโต อฺสฺส วิหาราทีสุ นิหิตสฺส จีวรสฺส อภาวํ ทสฺเสติ. ยทิ ภเวยฺย, วิฺาเปตุํ น วฏฺเฏยฺย. ตาวกาลิกํ นิวาเสตฺวา อตฺตโน จีวรํ คาเหตพฺพํ, ตาวกาลิกมฺปิ อลภนฺตสฺส ภูตคามวิโกปนํ กตฺวา ติณปณฺเณหิ ฉทนํ วิย วิฺาปนมฺปิ วฏฺฏติ เอว. อฺเนาติ อจฺฉินฺนอสพฺพจีวเรน. ทฺเว นฏฺานีติ อธิการโต วุตฺตํ ‘‘ทฺเว สาทิตพฺพานี’’ติ.
๕๒๖. ปาฬิยา น สเมตีติ ‘‘อนาปตฺติ าตกานํ ปวาริตาน’’นฺติ อิมาย ปาฬิยา น สเมติ ตตุตฺตริวิฺาปนอาปตฺติปฺปสงฺเค เอว วุตฺตตฺตา. ‘‘อฺสฺสตฺถายาติ น วุตฺต’’นฺติ อิทํ อฺสฺสตฺถาย ตตุตฺตริ วิฺาปเน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ โหตีติ อิมมตฺถํ ทีเปติ, ตฺจ ปาจิตฺติยํ เยสํ อตฺถาย วิฺาเปติ, เตสํ วา สิยา, วิฺาปกสฺเสว วา, น ตาว เตสํ เตหิ ¶ อวิฺาปิตตฺตา, นาปิ วิฺาปกสฺส อตฺตานํ อุทฺทิสฺส อวิฺาปิตตฺตา. ตสฺมา อฺสฺสตฺถาย วิฺาเปนฺตสฺสาปิ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ น ทิสฺสติ. ปาฬิยํ ปน อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส อตฺตโน สาทิยนปฏิพทฺธตาวเสน ปวตฺตตฺตา ‘‘อฺสฺสตฺถายา’’ติ อนาปตฺติวาเร น วุตฺตนฺติ วทนฺติ, ตฺจ ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. ตตุตฺตริจีวรตา, อจฺฉินฺนาทิการณตา, อฺาตกวิฺตฺติ, ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ปมอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๒๘-๕๓๑. อฏฺเม โย กตฺตาติ ทายกํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปโฏ เอว ปฏโก. ‘‘อปฺปคฺฆํ เจตาเปตี’’ติ อิทํ นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยา อนาปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ, วิฺตฺติปจฺจยา ปน ทุกฺกฏเมว. ‘‘ปุพฺเพ อปฺปวาริโต’’ติ หิ สุตฺเต ¶ วิฺตฺติการณํ วุตฺตํ. มาติกาฏฺกถายมฺปิ ‘‘จีวเร ภิยฺโยกมฺยตา, อฺาตกวิฺตฺติ, ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. อุปกฺขฏสิกฺขาปท) อฺาตกวิฺตฺติตา ปกาสิตา, เกจิ ปน ‘‘ทายเกน ทาตุกาโมมฺหีติ อตฺตโน สนฺติเก อวุตฺเตปิ ยทคฺฆนกํ โส ทาตุกาโม, ตทคฺฆนกํ อาหราเปตุํ วฏฺฏติ เอวา’’ติ วทนฺติ, ตํ ราชสิกฺขาปทฏฺกถายปิ น สเมติ, ทูเตน วา ทายเกน วา ‘‘อายสฺมนฺตํ อุทฺทิสฺส จีวรเจตาปนฺนํ อาภต’’นฺติ อาโรจิเตปิ มุขเววฏิยกปฺปิยการกาทีนํ สนฺติกา อาหราปนสฺส ตตฺถ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘อิเม ทฺเว อนิทฺทิฏฺกปฺปิยการกา นาม, เอเตสุ อฺาตกอปฺปวาริเตสุ วิย ปฏิปชฺชิตพฺพํ…เป… น กิฺจิ วตฺตพฺพา. เทสนามตฺตเมว เจตํ ‘ทูเตน จีวรเจตาปนฺนํ ปหิเณยฺยา’ติ สยํ อาหริตฺวาปิ ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถาย ททนฺเตสุปิ เอเสว นโย’’ติ. มุขเววฏิยกปฺปิยการกาทโย หิ ทายเกน ปริจฺจตฺเตปิ วตฺถุมฺหิ ‘‘อสุกสฺส สนฺติเก จีวรปิณฺฑปาตาทึ คณฺหถา’’ติ อนิทฺทิฏฺตฺตา เอว ‘‘น กิฺจิ วตฺตพฺพา’’ติ วุตฺตํ, น ปน ตสฺส วตฺถุโน มุขเววฏิยาทีนํ สนฺตกตฺตา, ตสฺมา อิธาปิ ทายเกน วา ทูเตน วา ‘‘ยํ อิจฺฉถ, ตํ วทถา’’ติ อปฺปวาริตสฺส วทโต ทุกฺกฏเมว. อคฺฆวฑฺฒนกนฺติ จีวเร อคฺฆวฑฺฒนกํ นิสฺสาย ปวตฺตํ อิทํ สิกฺขาปทํ, น ปิณฺฑปาตาทีสุ เตสุ อคฺฆวฑฺฒนสฺส ทุกฺกฏมตฺตตฺตา, ปณีตปิณฺฑปาเต สุทฺธิกปาจิตฺติยตฺตา จาติ คเหตพฺพํ. เตเนว ‘‘จีวเร ภิยฺโยกมฺยตา’’ติ องฺคํ วุตฺตํ.
ปมอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ทุติยอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๓๓. นวเม ¶ ปาฬิยํ ปจฺเจกจีวรเจตาปนฺนาติ ปจฺเจกํ นิยเมตฺวา จีวรเจตาปนฺนา, เอเกเกน วิสุํ วิสุํ นิยมิตา จีวรเจตาปนฺนาติ อตฺโถ. อุโภว สนฺตา เอเกนาติ อุโภ เอกโตว สนฺตา, อุโภ เอกโต หุตฺวาติ อตฺโถ.
ทุติยอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ราชสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๓๗. ทสเม ¶ ‘‘อชฺชณฺโห’’ติ ‘‘อชฺช โน’’ติ วตฺตพฺเพ ห-การาคมํ, น-การสฺส จ ณ-การํ กตฺวา วุตฺโตติ อาห ‘‘อชฺช เอกทิวสํ อมฺหาก’’นฺติ.
๕๓๘-๙. ยํ วุตฺตํ มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ราชสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘อิมินา จีวรเจตาปนฺเนน จีวรํ เจตาเปตฺวา อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวเรน อจฺฉาเทหีติ อิทํ อาคมนสุทฺธึ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ, สเจ หิ ‘อิทํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน เทหี’ติ เปเสยฺย, อาคมนสฺส อสุทฺธตฺตา อกปฺปิยวตฺถุํ อารพฺภ ภิกฺขุนา กปฺปิยการโกปิ นิทฺทิสิตพฺโพ น ภเวยฺยา’’ติ, ตํ นิสฺสคฺคิยวตฺถุทุกฺกฏวตฺถุภูตํ อกปฺปิยจีวรเจตาปนฺนํ ‘‘อสุกสฺส ภิกฺขุโน เทหี’’ติ เอวํ อาคมนสุทฺธิยา อสติ, สิกฺขาปเท อาคตนเยน ทูตวจเน จ อสุทฺเธ สพฺพถา ปฏิกฺเขโป เอว กาตุํ วฏฺฏติ, น ปน ‘‘จีวรฺจ โข มยํ ปฏิคฺคณฺหามา’’ติ วตฺตุํ, ตทนุสาเรน น เวยฺยาวจฺจกรฺจ นิทฺทิสิตุํ อาคมนทูตวจนานํ อุภินฺนํ อสุทฺธตฺตา. ปาฬิยํ อาคตนเยน ปน อาคมนสุทฺธิยา สติ ทูตวจเน อสุทฺเธปิ สิกฺขาปเท อาคตนเยน สพฺพํ กาตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เตน จ ยถา ทูตวจนาสุทฺธิยมฺปิ อาคมเน สุทฺเธ เวยฺยาวจฺจกรมฺปิ นิทฺทิสิตุํ วฏฺฏติ, เอวํ อาคมนาสุทฺธิยมฺปิ ทูตวจเน สุทฺเธ วฏฺฏติ เอวาติ อยมตฺโถ อตฺถโต สิทฺโธว โหติ, อุภยสุทฺธิยํ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อุภยาสุทฺธิปกฺขเมว สนฺธาย มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ราชสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘กปฺปิยการโกปิ นิทฺทิสิตพฺโพ น ภเวยฺยา’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ยํ ปเนตฺถ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๕๓๗-๕๓๙) ‘‘อาคมนสฺส สุทฺธิยา วา อสุทฺธิยา วา วิเสสปฺปโยชนํ น ทิสฺสตี’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ มาติกาฏฺกถาวจนสฺส อธิปฺปายํ ¶ อสลฺลกฺเขตฺวา วุตฺตํ ยถาวุตฺตนเยน อาคมนสุทฺธิอาทินา สปฺปโยชนตฺตา. โย ปเนตฺถ ‘‘มูลสามิเกน กปฺปิยโวหารวเสน, เปสิตสฺส ทูตสฺส อกปฺปิยโวหารวเสน จ วทโตปิ กปฺปิยการโก นิทฺทิสิตพฺโพ ภเวยฺยา’’ติ อนิฏฺปฺปสงฺโค วุตฺโต, โส อนิฏฺปฺปสงฺโค เอว น โหติ อภิมตตฺตา. ตถา หิ สิกฺขาปเท เอว ‘‘ปฏิคฺคณฺหาตุ อายสฺมา จีวรเจตาปนฺน’’นฺติ อกปฺปิยโวหาเรน วทโต ทูตสฺส กปฺปิเยน ¶ กมฺเมน เวยฺยาวจฺจกโร นิทฺทิสิตพฺโพ วุตฺโต อาคมนสฺส สุทฺธตฺตา, อาคมนสฺสาปิ อสุทฺธิยํ ปน กปฺปิเยนาปิ กมฺเมน เวยฺยาวจฺจกโร น นิทฺทิสิตพฺโพติ อตฺเถว อาคมนสฺส สุทฺธิอสุทฺธีสุ ปโยชนํ. กถํ ปน ทูตวจเนน อาคมนสุทฺธิ วิฺายตีติ? นายํ ภาโร. ทูเตน หิ อกปฺปิยโวหาเรเนว วุตฺเต เอว อาคมนสุทฺธิ คเวสิตพฺพา, น อิตรถา, ตตฺถ จ ตสฺส วจนกฺกเมน ปุจฺฉิตฺวา จ ยุตฺติอาทีหิ จ สกฺกา วิฺาตุํ. อิธาปิ หิ สิกฺขาปเท ‘‘จีวรเจตาปนฺนํ อาภต’’นฺติ ทูตวจเนเนว จีวรํ กิณิตฺวา ทาตุํ เปสิตภาโว วิฺายติ. ยทิ หิ สพฺพถา อาคมนสุทฺธิ น วิฺายติ, ปฏิกฺเขโป เอว กตฺตพฺโพติ.
ปาฬิยฺจ ‘‘จีวรฺจ โข มยํ ปฏิคฺคณฺหามา’’ติอาทิ ทูตวจนสฺส อกปฺปิยตฺเตปิ อาคมนสุทฺธิยา สติ ปฏิปชฺชนวิธิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘เอโส โข…เป… น วตฺตพฺโพ ‘ตสฺส เทหี’’’ติอาทิ อกปฺปิยวตฺถุสาทิยนปริโมจนตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘สฺตฺโต’’ติอาทิ ‘‘เอวํ ทูเตน ปุน วุตฺเต เอว โจเทตุํ วฏฺฏติ, น อิตรถา’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘น วตฺตพฺโพ ‘เทหิ เม จีวรํ…เป… เจตาเปหิ เม จีวร’’’นฺติ อิทํ ทูเตนาภตรูปิยํ ปฏิคฺคเหตุํ อตฺตนา นิทฺทิฏฺกปฺปิยการกตฺตาว ‘‘เทหิ เม จีวรํ…เป… เจตาเปหิ เม จีวร’’นฺติ วทนฺโต รูปิยสฺส ปกตตฺตา เตน รูปิเยน ปริวตฺเตตฺวา ‘‘เทหิ เจตาเปหี’’ติ รูปิยสํโวหารํ สมาปชฺชนฺโต นาม โหตีติ ตํ โทสํ ทูรโต ปริวชฺเชตุํ วุตฺตํ รูปิยปฏิคฺคหเณน สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสฏฺรูปิเย วิย. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘น วตฺตพฺโพ อิมํ วา อิมํ วา อาหรา’’ติ. ตสฺมา น อิทํ วิฺตฺติโทสํ ปริวชฺเชตุํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ, ‘‘อตฺโถ เม, อาวุโส, จีวเรนา’’ติปิ อวตฺตพฺพตาปสงฺคโต, เตเนว ทูตนิทฺทิฏฺเสุ รูปิยสํโวหารสงฺกาภาวโต อฺํ กปฺปิยการกํ เปตฺวาปิ อาหราเปตพฺพนฺติ วุตฺตํ. ตตฺถาปิ ‘‘ทูเตน ปิตรูปิเยน เจตาเปตฺวา จีวรํ อาหราเปหี’’ติ อวตฺวา เกวลํ ‘‘จีวรํ อาหราเปหี’’ติ เอวํ อาหราเปตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย คเหตพฺโพ. านํ ภฺชตีติ เอตฺถ านนฺติ ิติยา จ การณสฺส จ นามํ, ตสฺมา อาสเน นิสีทเนน านมฺปิ กุปฺปติ, อาคตการณมฺปิ เตสํ น วิฺายติ. ิตํ ปน อโกเปตฺวา อามิสปฏิคฺคหณาทีสุ อาคตการณเมว ภฺชติ, น านํ. เตนาห ‘‘อาคตการณํ ภฺชตี’’ติ ¶ . เกจิ ปน ‘‘อามิสปฏิคฺคหณาทินา านมฺปิ ภฺชตี’’ติ วทนฺติ, ตํ อฏฺกถาย น สเมติ.
ยตสฺส ¶ จีวรเจตาปนฺนนฺติอาทิ เยน อตฺตนา เวยฺยาวจฺจกโร นิทฺทิฏฺโ, จีวรฺจ อนิปฺผาทิตํ, ตสฺส กตฺตพฺพวิธิทสฺสนํ. เอวํ ภิกฺขุนา วตฺถุสามิกานํ วุตฺเต เต โจเทตฺวา เทนฺติ, วฏฺฏติ ‘‘สามิกา โจเทตฺวา เทนฺตี’’ติ อนาปตฺติยํ วุตฺตตฺตา. เตน จ โย สยํ อโจเทตฺวา อุปาสกาทีหิ ปริยาเยน วตฺวา โจทาเปติ, เตสุ สตฺตกฺขตฺตุมฺปิ โจเทตฺวา จีวรํ ทาเปนฺเตสุ ตสฺส อนาปตฺติ สิทฺธา โหติ สิกฺขาปทสฺส อนาณตฺติกตฺตา.
เกนจิ อนิทฺทิฏฺโ อตฺตโน มุเขเนว พฺยาวฏภาวํ เวยฺยาวจฺจกรตฺตํ ปตฺโต มุขเววฏิโก. ‘‘อวิจาเรตุกามตายา’’ติ อิมินา วิชฺชมานมฺปิ ทาตุํ อนิจฺฉนฺตา อริยาปิ วฺจนาธิปฺปายํ วินา โวหารโต นตฺถีติ วทนฺตีติ ทสฺเสติ. เภสชฺชกฺขนฺธเก เมณฺฑกเสฏฺิวตฺถุมฺหิ (มหาว. ๒๙๙) วุตฺตํ ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว’’ติอาทิวจนเมว (มหาว. ๒๙๙) เมณฺฑกสิกฺขาปทํ นาม. กปฺปิยการกานํ หตฺเถติ ทูเตน นิทฺทิฏฺกปฺปิยการเก สนฺธาย วุตฺตํ, น ปน ภิกฺขุนา นิทฺทิฏฺเ, อนิทฺทิฏฺเ วาติ. เตนาห ‘‘เอตฺถ จ โจทนาย ปมาณํ นตฺถี’’ติอาทิ.
สยํ อาหริตฺวา ททนฺเตสูติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถายา’’ติ อิมินา จีวรตฺถาเยว น โหตีติ ทสฺเสติ. ‘‘เอเสว นโย’’ติ อิมินา วตฺถุสามินา นิทฺทิฏฺกปฺปิยการกเภเทสุปิ ปิณฺฑปาตาทีนมฺปิ อตฺถาย ทินฺเน จ านโจทนาทิ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว กาตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.
‘‘สงฺฆํ วา…เป… อนามสิตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘สงฺฆสฺส วิหารตฺถาย เทมา’’ติอาทินา อามสิตฺวา วทนฺเตสุ ปฏิกฺขิปิตพฺพเมว. ‘‘สงฺโฆ สมฺปฏิจฺฉตี’’ติ อิทํ อุกฺกฏฺวเสน วุตฺตํ, คณาทีสุปิ สงฺฆสฺสตฺถาย สมฺปฏิจฺฉนฺเตสุปิ ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ ทุกฺกฏเมว. สารตฺถทีปนิยํ ‘‘ปฏิคฺคหเณ ปาจิตฺติย’’นฺติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๕๓๗-๕๓๙) วุตฺตํ, ตํ น ยุตฺตํ สงฺฆเจติยาทีนํ อตฺถาย ทุกฺกฏสฺส วุตฺตตฺตา. โจเทตีติ ตสฺส โทสาภาวํ ตฺวาปิ โกเธน วา โลเภน วา ภณฺฑเทยฺยนฺติ โจเทติ. โส เอว หิ มุสาวาทาทิปจฺจยา ปาจิตฺติยทุกฺกฏาทิอาปตฺตีหิ สาปตฺติโก โหติ, คีวาติสฺาย ปน วตฺวา นิทฺโทสภาวํ ตฺวา วิรมนฺตสฺส นตฺถิ อาปตฺติ.
ตฬากํ ¶ ¶ เขตฺเต ปวิฏฺตฺตา ‘‘น สมฺปฏิจฺฉิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. จตฺตาโร ปจฺจเย สงฺโฆ ปริภฺุชตูติ เทติ, วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จตุปจฺจยปริโภคตฺถาย ตฬากํ ทมฺมี’’ติ วา ‘‘ภิกฺขุสงฺโฆ จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภฺุชิตุํ ตฬากํ ทมฺมี’’ติ วา ‘‘อิโต ตฬากโต อุปฺปนฺเน จตฺตาโร ปจฺจเย ทมฺมี’’ติ วา วตฺตุมฺปิ วฏฺฏติ, อิทฺจ สงฺฆสฺส ปริโภคตฺถาย ทิยฺยมานฺเว สนฺธาย วุตฺตํ, ปุคฺคลสฺส ปน เอวมฺปิ ทินฺนํ ตฬากเขตฺตาทิ น วฏฺฏติ. สุทฺธจิตฺตสฺส ปน อุทกปริโภคตฺถํ กูปโปกฺขรณีอาทโย วฏฺฏนฺติ. ‘‘สงฺฆสฺส ตฬากํ อตฺถิ, ตํ กถ’’นฺติ หิ อาทินา สพฺพตฺถ สงฺฆวเสเนว วุตฺตํ. หตฺเถติ วเส.
‘‘เปถาติ วุตฺเต’’ติ อิทํ สามีจิวเสน วุตฺตํ, อวุตฺเตปิ เปนฺตสฺส โทโส นตฺถิ. เตนาห ‘‘อุทกํ วาเรตุํ ลพฺภตี’’ติ. สสฺสกาเลปิ ตาเสตฺวา มฺุจิตุํ วฏฺฏติ, อมฺุจโต ปน ภณฺฑเทยฺยํ. ปุน เทตีติ อจฺฉินฺทิตฺวา ปุน เทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. อิมินา ‘‘เยน เกนจิ อิสฺสเรน ‘ปริจฺจตฺตมิทํ ภิกฺขูหิ, อสฺสามิก’นฺติสฺาย อตฺตนา คเหตฺวา ทินฺนํ วฏฺฏตี’’ติ ทสฺเสติ. กปฺปิยโวหาเรปิ วินิจฺฉยํ วกฺขามาติ ปาเสโส.
อุทกวเสนาติ อุทกปริโภคตฺถํ. ‘‘สุทฺธจิตฺตาน’’นฺติ อิทํ สหตฺเถน จ อกปฺปิยโวหาเรน จ กโรนฺเต สนฺธาย วุตฺตํ. สสฺสสมฺปาทนตฺถนฺติ เอวํ อสุทฺธจิตฺตานมฺปิ ปน สยํ อกตฺวา กปฺปิยโวหาเรน อาณาเปตุํ วฏฺฏติ เอว. ‘‘กปฺปิยการกํ เปตุํ น วฏฺฏตี’’ติ อิทํ สหตฺถาทินา กตตฬากตฺตา ‘‘อสารุปฺป’’นฺติ วุตฺตํ, เปนฺตสฺส, ปน ตํ ปจฺจยํ ปริภฺุชนฺตสฺสปิ วา สงฺฆสฺส อาปตฺติ น วิฺายติ, อฏฺกถาปมาเณน วา เอตฺถ อาปตฺติ คเหตพฺพา. ลชฺชิภิกฺขุนาติ ลชฺชินาปิ, ปเคว อลชฺชินา มตฺติกุทฺธรณาทีสุ การาปิเตสูติ อธิปฺปาโย. นวสสฺเสติ อกตปุพฺเพ เกทาเร. ‘‘กหาปเณ’’ติ อิมินา ธฺุฏฺาปเน ตสฺเสว อกปฺปิยนฺติ ทสฺเสติ, ธฺุฏฺาปเน จสฺส ปโยเคปิ ทุกฺกฏเมว, น กหาปณุฏฺาปเน วิย.
‘‘กสถ วปถา’’ติ วจเน สพฺเพสมฺปิ อกปฺปิยํ สิยาติ อาห ‘‘อวตฺวา’’ติ. เอตฺตโก นาม ภาโคติ เอตฺถ เอตฺตโก กหาปโณติ อิทมฺปิ สนฺธาย วทติ. ตถา วุตฺเตปิ หิ ตทา กหาปณานํ อวิชฺชมานตฺตา ¶ อายตึ อุปฺปนฺนํ อฺเสํ วฏฺฏติ เอว. เตนาห ‘‘ตสฺเสว ตํ อกปฺปิย’’นฺติ. ตสฺส ปน สพฺพปโยเคสุ, ปริโภเคสุปิ ทุกฺกฏํ. เกจิ ปน ‘‘ธฺปริโภเค เอว อาปตฺติ, น ปุพฺพปโยเค’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ, เยน มินนรกฺขณาทิปโยเคน ปจฺฉา ธฺปริโภเค อาปตฺติ โหติ, ตสฺส ปโยคสฺส กรเณ อนาปตฺติยา อยุตฺตตฺตา. ปริยายกถาย ปน สพฺพตฺถ อนาปตฺติ. เตเนว ‘‘เอตฺตเกหิ วีหีหิ อิทฺจิทฺจ อาหรถา’’ติ นิยมวจเน อกปฺปิยํ ¶ วุตฺตํ, กหาปณวิจารเณปิ เอเสว นโย. วตฺถุ จ เอวรูปํ นาม สํวิชฺชติ, กปฺปิยการโก นตฺถีติ วตฺตพฺพนฺติอาทิวจนฺเจตฺถ สาธกํ.
วนํ ทมฺมิ…เป… วฏฺฏตีติ เอตฺถ นิวาสฏฺานตฺตา ปุคฺคลสฺสาปิ สุทฺธจิตฺเตน คเหตุํ วฏฺฏติ. สีมํ เทมาติ วิหารสีมาทิสาธารณวจเนน วุตฺตตฺตา ‘‘วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ.
‘‘เวยฺยาวจฺจกร’’นฺติอาทินา วุตฺเตปิ ปุคฺคลสฺสปิ ทาสํ คเหตุํ วฏฺฏติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อารามิก’’นฺติ (ปารา. ๖๑๙; มหาว. ๒๗๐) วิเสเสตฺวา อนฺุาตตฺตา, ตฺจ โข ปิลินฺทวจฺเฉน คหิตปริภุตฺตกฺกเมน, น คหฏฺานํ ทาสปริโภคกฺกเมน. เขตฺตาทโย ปน สพฺเพ สงฺฆสฺเสว วฏฺฏนฺติ ปาฬิยํ ปุคฺคลิกวเสน คเหตุํ อนนฺุาตตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. วิหารสฺส เทมาติ สงฺฆิกวิหารํ สนฺธาย วุตฺตํ, ‘‘เขตฺตวตฺถุปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๑๐, ๑๙๔) สุตฺตนฺเตสุ อาคตปฏิกฺเขโป ภควตา อาปตฺติยาปิ เหตุภาเวน กโตติ ภควโต อธิปฺปายํ ชานนฺเตหิ สงฺคีติมหาเถเรหิ เขตฺตปฏิคฺคหณาทินิสฺสิโต อยํ สพฺโพปิ ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉโย วุตฺโตติ คเหตพฺโพ. กปฺปิยการกสฺส นิทฺทิฏฺภาโว, ทูเตน อปฺปิตตา, ตตุตฺตริ วายาโม, เตน ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
ราชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต จีวรวคฺโค ปโม.
๒. โกสิยวคฺโค
๑. โกสิยสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๔๒. ทุติยสฺส ¶ ¶ ปเม ปาฬิยํ โกสิยการเกติ โกสการกปาณานํ โกสโต นิพฺพตฺตตฺตา โกสิเยน สุตฺเตน วตฺถาทึ กโรนฺเต. สงฺฆาตนฺติ วินาสํ.
๕๔๔. ‘‘อวายิม’’นฺติ วุตฺตตฺตา วายิตฺวา กรเณ อนาปตฺติ. มิสฺเสตฺวาติ เอฬกโลเมหิ มิสฺเสตฺวา. ปฏิลาเภนาติ ปรินิฏฺาเนน ‘‘ปริโยสาเปติ, นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๕๔๕) วุตฺตตฺตา, โกสิยมิสฺสกตา, อตฺตโน อตฺถาย สนฺถตสฺส กรณการาปนํ, ปฏิลาโภ จาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
โกสิยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕๔๗-๕๕๒. ทุติยฺจ ตติยฺจ อุตฺตานเมว. ตตฺถ ปน โอทาตาทิมิสฺสกสฺาย สุทฺธกาฬกานฺเว สนฺถตสฺส กรณวเสน เจตฺถ ทฺเวภาคโต อธิเกสุ สุทฺธกาฬเกสุ อนธิกสฺาย สนฺถตสฺส กรณวเสน จ อจิตฺตกตา เวทิตพฺพา.
๔. ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๕๗. จตุตฺเถ หท กรีสุสฺสคฺเค, มิห เสจเนติ ธาตุอตฺถํ สนฺธายาห ‘‘วจฺจมฺปิ ปสฺสาวมฺปิ กโรนฺตี’’ติ. อูนกฉพฺพสฺเสสุ อติเรกฉพฺพสฺสสงฺกิตาทิวเสเนตฺถ อจิตฺตกตา เวทิตพฺพา.
ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๖๕. ปฺจเม ¶ ¶ ตตฺถ สนฺทิสฺสิสฺสตีติ สกาย กติกาย อยุตฺตการิตาวเสน วิฺูหิ สนฺทิสฺสิสฺสตีติ อตฺโถ. อรฺกงฺคาทีนิ ตีณิ ปาฬิยํ เสนาสนาทิปจฺจยตฺตยสฺส อาทิองฺควเสน วุตฺตานิ, เสสานิปิ เต สมาทิยึสุ เอวาติ เวทิตพฺพํ.
๕๖๖. ปิหยนฺตาติ ปตฺถยนฺตา. สนฺถตสฺส อวายิมตฺตา, เสนาสนปริกฺขารตฺตา จ จีวรตา, อธิฏฺาตพฺพตา จ นตฺถีติ อาห ‘‘จตุตฺถจีวรสฺิตายา’’ติ, วิปลฺลาสสฺายาติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘อิทํ นิสีทนสนฺถตํ นาม นวสุ จีวเรสุ นิสีทนจีวรเมว, นาฺํ. นิสีทนสิกฺขาปเทปิ (ปาจิ. ๕๓๑ อาทโย) อิมสฺมึ สิกฺขาปเท วิย ‘นิสีทนํ นาม สทสํ วุจฺจตี’ติ จ อฏฺกถายฺจสฺส ‘สนฺถตสทิสํ สนฺถริตฺวา เอกสฺมึ อนฺเต สุคตวิทตฺถิยา วิทตฺถิมตฺเต ปเทเส ทฺวีสุ าเนสุ ผาเลตฺวา ติสฺโส ทสา กรียนฺติ, ตาหิ ทสาหิ สทสํ นาม วุจฺจตี’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๓๑) จ วุตฺตตฺตา’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ อิธ ปมาณนิยมสฺส อวุตฺตตฺตา, สนฺถตสฺส จ อวายิมจีวรตฺตา, อธิฏฺานุปคตฺตาภาวา อฏฺกถายํ อวุตฺตตฺตา จ. นิสีทนจีวรํ ปน ฉนฺนํ จีวรานํ ขณฺฑปิโลติกานิ ปมาณยุตฺตเมว สนฺถริตฺวา สนฺถตํ วิย กโรนฺติ. เตเนว ‘‘สนฺถตสทิส’’นฺติ สทิสคฺคหณํ กตํ, ตสฺมา ตเทว จีวรํ อธิฏฺานุปคฺจ, น อิทนฺติ คเหตพฺพํ.
๕๖๗. สุคตวิทตฺถิกํ อนาทาย อาทิยนฺติสฺาย, สุคตวิทตฺถิอูเน อนูนนฺติสฺาย จ วเสเนตฺถ อจิตฺตกตา เวทิตพฺพา. วิตานาทีนฺเว อตฺถาย กรเณ อนาปตฺติวจนโต นิปชฺชนตฺถาย กโรโตปิ อาปตฺติ เอว. ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏตีติ โกสิเยสุ สุทฺธกาฬกานฺจ วตฺถูนํ อกปฺปิยตฺตา วุตฺตํ. เตเนว ปาฬิยํ ‘‘อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๔๕, ๕๕๐) ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตํ, อิตเรสุ ปน ทฺวีสุ ‘‘อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ จตุตฺเถ อฺสฺสตฺถาย กรเณปิ อนาปตฺติ, ปฺจเม ตตฺถ ทุกฺกฏนฺติ ทฏฺพฺพํ. นิสฺสฏฺทานวจนโต ปน คหเณ โทโส นตฺถิ, ปริภฺุชเน จ วิชเฏตฺวา กปฺปิยวเสน กเต น โทโส.
นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. เอฬกโลมสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๗๒. ฉฏฺเ ¶ ¶ ปาฬิยํ ‘‘อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนสฺสา’’ติ อิทํ วตฺถุวเสน วุตฺตํ. นิวาสฏฺาเน ลทฺธานิปิ ติโยชนโต ปรํ หริตุํ น วฏฺฏติ เอว. อสนฺเต หารเกติ อนุรูปโต วุตฺตํ. สนฺเตปิ หารเก หรโต นตฺถิ โทโส. อาปตฺติเยวาติ อนาณตฺเตน หฏตฺตา. ปกฺขทฺวยสฺสปิ การณมาห ‘‘สอุสฺสาหตฺตา’’ติ, อนุปรตคมนิจฺฉตฺตาติ อตฺโถ. สุทฺธจิตฺตปกฺขสฺเสว การณมาห ‘‘อจิตฺตกตฺตา’’ติ. น สเมตีติ ‘‘อนาปตฺติ, อฺํ หราเปตี’’ติ เอตฺตกสฺเสว ปริหรเณ วุตฺตตฺตา. อคจฺฉนฺเตติ ิเต. เหฏฺาติ ภูมิยา.
๕๗๕. ตํ หรนฺตสฺสาติ ปมํ ปฏิลาภฏฺานโต ปฏฺาย ติโยชนโต อุทฺธํ หรนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ตถา หรนฺตสฺส หิ โจเรหิ อจฺฉินฺทิตฺวา ปุน ทินฺนฏฺานโต ติโยชนํ หริตุํ วฏฺฏติ. เกจิ ปน ‘‘มาติกาฏฺกถายํ องฺเคสุ ‘ปมปฺปฏิลาโภ’ติ วุตฺตตฺตา ทุติยปฏิลาภฏฺานโต ติโยชนาติกฺกเมปิ อนาปตฺตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ, ทุติยปฏิลาภสฺสาปิ ปฏิลาภฏฺาเน ปวิสนโต วาสตฺถาย คมนฏฺานโต ปุน คมเน วิย. กายพนฺธนาทีนนฺติ ทฺวิปฏลกายพนฺธนาทีนํ อนฺตเร ปกฺขิตฺตํ ปสิพฺพเก ปกฺขิตฺตสทิสํ, น กตภณฺฑนฺติ วุตฺตํ, ตถา นิธานมุขนฺติ. อกตภณฺฑตา, ปมปฺปฏิลาโภ, ติโยชนาติกฺกมนํ, อาหรณปจฺจาหรณํ, อวาสาธิปฺปายตาติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
เอฬกโลมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. เอฬกโลมโธวาปนสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๘๑. สตฺตเม ปาฬิยํ อนาปตฺติวาเร อปริภุตฺตํ กตภณฺฑํ โธวาเปตีติ เอตฺถ ปริภุตฺตสฺส กมฺพลาทิกตภณฺฑสฺส โธวาปนํ ปุราณจีวรโธวาปนสิกฺขาปเทน อาปตฺติกรนฺติ ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘อปริภุตฺตํ กตภณฺฑ’’นฺติ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.
เอฬกโลมโธวาปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. รูปิยสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๘๓-๔. อฏฺเม ¶ ¶ สุวณฺณมยกหาปเณน กหาปโณปิ รชเต เอว สงฺคยฺหตีติ อาห ‘‘โสวณฺณมโย วา’’ติ. รูปิยมโย วาติ รชเตน รูปํ สมุฏฺเปตฺวา กตกหาปโณ. ปากติโก นาม เอตรหิ ปกติกหาปโณ.
อิจฺเจตํ สพฺพมฺปีติ สิกฺขาปเทน, วิภงฺเคน จ วุตฺตํ สพฺพมฺปิ นิทสฺเสติ. ตสฺส จตุพฺพิธํ นิสฺสคฺคิยวตฺถูติ อิมินาว สมฺพนฺโธ, น ปน อนนฺตเรน ‘‘รชต’’นฺติ ปเทน. อิทานิ ตํ จตุพฺพิธํ นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ สรูปโต ทสฺเสนฺโต ‘‘รชต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ กิฺจาปิ เหฏฺา รชตมาสโกว วุตฺโต, น เกวลํ รชตํ, ตถาปิ สิกฺขาปเท ‘‘ชาตรูปรชต’’นฺติ ปเทเนว วุตฺตนฺติ ตมฺปิ ทสฺเสตุํ ‘‘รชต’’นฺติ อิทํ วิสุํ วุตฺตํ. ปทภาชเน ปน มาติกาปเทเนว สิทฺธตฺตา ตํ อวตฺวา เตน สห สงฺคยฺหมานเมว ทสฺเสตุํ ‘‘รชตํ นาม กหาปโณ’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ชาตรูปมาสโกติ สุวณฺณมยกหาปโณ. วุตฺตปฺปเภโทติ ‘‘รูปิยมโย วา ปากติโก วา’’ติอาทินา วุตฺตปฺปเภโท. ปโฏว ปฏโก, วตฺถํ. ทุกฺกฏเมวาติ ปฏิคฺคาหกสฺเสว ปฏิคฺคหณปจฺจยา ทุกฺกฏํ, ปริโภเค ปน ปฺจสหธมฺมิเกหิ ปฏิคฺคหิตานํ ธฺวิรหิตมุตฺตาทีนํ การณา อุปฺปนฺนปจฺจยํ ปริภฺุชนฺตานํ สพฺเพสมฺปิ ทุกฺกฏเมว. เกจิ ปน ‘‘ธฺมฺปิ ปฺจสหธมฺมิเกหิ ปฏิคฺคหิตํ มุตฺตาทิเขตฺตาทิ วิย สพฺเพสมฺปิ ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏติ, เกวลํ สงฺฆิกภูมิยํ กปฺปิยโวหาเรน จ อุปฺปนฺนสฺส ธฺสฺส วิจารณเมว สนฺธาย ‘ตสฺเสเวตํ อกปฺปิย’นฺติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ.
เอโก สตํ วา สหสฺสํ วาติอาทิ รูปิเย เหฏฺิมโกฏิยา ปวตฺตนาการํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ, น ปน ‘‘เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพเมวา’’ติ ทสฺเสตุํ. ‘‘อิธ นิกฺขิปาหี’’ติ วุตฺเต อุคฺคณฺหาปนํ โหตีติ อาห ‘‘อิธ นิกฺขิปาหีติ น วตฺตพฺพ’’นฺติ. กปฺปิยฺจ…เป… โหตีติ ยสฺมา อสาทิตตฺตา ตโต อุปฺปนฺนปจฺจยา วฏฺฏนฺติ, ตสฺมา กปฺปิยํ นิสฺสาย ิตํ. ยสฺมา ปน ทุพฺพิจารณาย สติ ตโต อุปฺปนฺนมฺปิ น กปฺปติ, ตสฺมา อกปฺปิยํ นิสฺสาย ิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
‘‘น เตน กิฺจิ กปฺปิยภณฺฑํ เจตาปิต’’นฺติ อิมินา เจตาปิตํ เจ, นตฺถิ ปริโภคูปาโย อุคฺคเหตฺวา อนิสฺสฏฺรูปิเยน เจตาปิตตฺตา. อีทิสฺหิ สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสชฺชนํ กตฺวาว ฉฑฺเฑตฺวา ปาจิตฺติยํ เทเสตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. เกจิ ¶ ปน ‘‘ยสฺมา นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ ปฏิคฺคเหตฺวาปิ เจตาปิตํ ¶ กปฺปิยภณฺฑํ สงฺเฆ นิสฺสฏฺํ กปฺปิยการเกหิ นิสฺสฏฺรูปิยํ ปริวตฺเตตฺวา อานีตกปฺปิยภณฺฑสทิสํ โหติ, ตสฺมา วินาว อุปายํ ภาเชตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ ปตฺตจตุกฺกาทิกถาย (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๙) น สเมติ. ตตฺถ รูปิเยน ปริวตฺติตปตฺตสฺส อปริโภโคว ทสฺสิโต, น นิสฺสชฺชนวิธานนฺติ. อุปนิกฺเขปํ เปตฺวาติ กปฺปิยการเกหิ วฑฺฒิยา ปโยชนํ สนฺธาย วุตฺตํ. อกปฺปิยนฺติ เตน วตฺถุนา คหิตตฺตา วุตฺตํ.
๕๘๕. ‘‘ปติโตกาสํ อสมนฺนาหรนฺเตนา’’ติ อิทํ นิรเปกฺขภาวทสฺสนปรนฺติ เวทิตพฺพํ. อสนฺตสมฺภาวนายาติ ปริยายาทินา อภูตาโรจนํ สนฺธาย วุตฺตํ. เถยฺยปริโภโคติ ปจฺจยสามินา ภควตา อนนฺุาตตฺตา วุตฺตํ. อิณปริโภโคติ ภควตา อนฺุาตมฺปิ กตฺตพฺพํ อกตฺวา ปริภฺุชนโต วุตฺตํ, เตน จ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ วิปชฺชตีติ ทสฺเสติ. ปริโภเค ปริโภเคติ กายโต โมเจตฺวา โมเจตฺวา ปริโภเค. ปจฺฉิมยาเมสุ ปจฺจเวกฺขิตพฺพนฺติ โยชนา. อิณปริโภคฏฺาเน ติฏฺตีติ เอตฺถ ‘‘หิยฺโย ยํ มยา จีวรํ ปริภุตฺต’’นฺติอาทินาปิ อตีตปจฺจเวกฺขณา วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ปริโภเค ปริโภเคติ อุทกปตนฏฺานโต อนฺโตปเวสเนสุ, นิสีทนสยเนสุ จ. สติปจฺจยตา วฏฺฏตีติ ปจฺจเวกฺขณสติยา ปจฺจยตฺตํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ. ปฏิคฺคหเณ จ ปริโภเค จ ปจฺจเวกฺขณาสติ อวสฺสํ ลทฺธพฺพาติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘สตึ กตฺวา’’ติอาทิ. เกจิ ปน ‘‘สติปจฺจยตา ปจฺจเย สติ เภสชฺชปริโภคสฺส การเณ สตี’’ติ เอวมฺปิ อตฺถํ วทนฺติ, เตสมฺปิ ปจฺจเย สตีติ ปจฺจยสพฺภาวสลฺลกฺขเณ สตีติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ ปจฺจยสพฺภาวมตฺเตน สีลสฺส อสุชฺฌนโต. ‘‘ปริโภเค อกโรนฺตสฺเสว อาปตฺตี’’ติ อิมินา ปาติโมกฺขสํวรสีลสฺส เภโท ทสฺสิโต, น ปจฺจยสนฺนิสฺสฺสิสีลสฺส, ตสฺส อตีตปจฺจเวกฺขณาย วิสุชฺฌนโต. เอตสฺมึ, ปน เสสปจฺจเยสุ จ อิณปริโภคาทิวจเนน ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสฺเสว เภโทติ เอวมิเมสํ นานากรณํ เวทิตพฺพํ.
เอวํ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสฺส วิสุทฺธึ ทสฺเสตฺวา เตเนว ปสงฺเคน สพฺพาปิ วิสุทฺธิโย ทสฺเสตุํ ‘‘จตุพฺพิธา หิ สุทฺธี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุชฺฌติ ¶ เทสนาทีหิ, โสธียตีติ วา สุทฺธิ, จตุพฺพิธสีลํ. เตนาห ‘‘เทสนาย สุชฺฌนโต’’ติอาทิ. เอตฺถ เทสนาคฺคหเณน วุฏฺานมฺปิ ฉินฺนมูลานํ อภิกฺขุตาปฏิฺาปิ สงฺคหิตา. ฉินฺนมูลานมฺปิ หิ ปาราชิกาปตฺติวุฏฺาเนน เหฏฺา ปริรกฺขิตํ ภิกฺขุสีลํ วิสุทฺธํ นาม โหติ, เตน เตสํ มคฺคปฏิลาโภปิ สมฺปชฺชติ.
ทาตพฺพฏฺเน ทายํ, ตํ อาทิยนฺตีติ ทายาทา. สตฺตนฺนํ เสกฺขานนฺติ เอตฺถ กลฺยาณปุถุชฺชนาปิ สงฺคหิตา เตสํ อาณณฺยปริโภคสฺส ทายชฺชปริโภเค สงฺคหิตตฺตาติ เวทิตพฺพํ ¶ . ธมฺมทายาทสุตฺตนฺติ ‘‘ธมฺมทายาทา เม, ภิกฺขเว, ภวถ, มา อามิสทายาทา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๙) ปวตฺตํ สุตฺตํ. ตตฺถ มา เม อามิสทายาทาติ เอวํ เม-สทฺทํ อาเนตฺวา อตฺโถ คเหตพฺโพ. เอวฺหิ ตถา วุตฺตตฺถสาธกํ โหติ.
ลชฺชินา สทฺธึ ปริโภโคติ ธมฺมามิสวเสน มิสฺสภาโว. อลชฺชินา สทฺธินฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ‘‘อาทิโต ปฏฺาย หิ อลชฺชี นาม นตฺถี’’ติ อิมินา ทิฏฺทิฏฺเสุ อาสงฺกา นาม น กาตพฺพา, ทิฏฺสุตาทิการเณ สติ เอว กาตพฺพาติ ทสฺเสติ. อตฺตโน ภารภูตา สทฺธิวิหาริกาทโย. สเจ น โอรมตีติ อคติคมเนน ธมฺมามิสปริโภคโต น โอรมติ. ‘‘อาปตฺติ นาม นตฺถี’’ติ อิทํ อลชฺชีนํ ธมฺเมน อุปฺปนฺนปจฺจยํ, ธมฺมกมฺมฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. เตสมฺปิ หิ กุลทูสนาทิสมุปฺปนฺนปจฺจยํ ปริภฺุชนฺตานํ, วคฺคกมฺมาทึ กโรนฺตานฺจ อาปตฺติ เอว.
‘‘ธมฺมิยาธมฺมิยปริโภโค ปจฺจยวเสน เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา เหฏฺา ลชฺชิปริโภโค ปจฺจยวเสน จ เอกกมฺมาทิวเสน จ วุตฺโต เอวาติ เวทิตพฺพํ. เตเนว ทุฏฺโทสสิกฺขาปทฏฺกถายํ โจทกจุทิตกภาเว ิตา ทฺเว อลชฺชิโน ธมฺมปริโภคมฺปิ สนฺธาย ‘‘เอกสมฺโภคปริโภคา หุตฺวา ชีวถา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๘๕-๓๘๖) วุตฺตา เตสํ อฺมฺํ ธมฺมามิสปริโภเค วิโรธาภาวา. ลชฺชีนเมว หิ อลชฺชินา สห ตทุภยปริโภคา น วฏฺฏนฺตีติ.
ธมฺมปริโภโคติ ‘‘เอกกมฺมํ เอกุทฺเทโส’’ติอาทินา (ปารา. ๕๕, ๙๒, ๑๗๒) วุตฺตสํวาโส เจว นิสฺสยคฺคหณทานาทิโก สพฺโพ นิรามิสปริโภโค จ เวทิตพฺโพ ¶ . ‘‘น โส อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา ลชฺชิโน อลชฺชิปคฺคเห อาปตฺตีติ เวทิตพฺพํ. อิตโรปีติ ลชฺชีปิ. ตสฺสาปิ อตฺตานํ ปคฺคณฺหนฺตสฺส อลชฺชิโน, อิมินา จ ลชฺชิโน วณฺณภณนาทิลาภํ ปฏิจฺจ อามิสครุกตาย วา เคหสิตเปเมน วา ตํ อลชฺชึ ปคฺคณฺหนฺโต ลชฺชี สาสนํ อนฺตรธาเปติ นามาติ ทสฺเสติ. เอวํ คหฏฺาทีสุ อุปตฺถมฺภิโต อลชฺชี พลํ ลภิตฺวา เปสเล อภิภวิตฺวา นจิรสฺเสว สาสนํ อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ กโรตีติ.
‘‘ธมฺมปริโภโคปิ ตตฺถ วฏฺฏตี’’ติ อิมินา อามิสปริโภคโต ธมฺมปริโภโคว ครุโก, ตสฺมา อติวิย อลชฺชิวิเวเกน กาตพฺโพติ ทสฺเสติ. ‘‘ธมฺมานุคฺคเหน อุคฺคณฺหิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา อลชฺชุสฺสนฺนตาย สาสเน โอสกฺกนฺเต, ลชฺชีสุ จ อปฺปโหนฺเตสุ อลชฺชิมฺปิ ปกตตฺตํ คณปูรกํ ¶ คเหตฺวา อุปสมฺปทาทิกรเณน เจว เกจิ อลชฺชิโน ธมฺมามิสปริโภเคน สงฺคเหตฺวา เสสาลชฺชิคณสฺส นิคฺคเหน จ สาสนํ ปคฺคณฺหิตุํ วฏฺฏติ เอว.
เกจิ ปน ‘‘โกฏิยํ ิโต คนฺโถติ วุตฺตตฺตา คนฺถปริยาปุณนเมว ธมฺมปริโภโค, น เอกกมฺมาทิ. ตสฺมา อลชฺชีหิปิ สทฺธึ อุโปสถาทิกํ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ, อาปตฺติ นตฺถี’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ, เอกกมฺมาทีสุ พหูสุ ธมฺมปริโภเคสุ อลชฺชินาปิ สทฺธึ กตฺตพฺพาวตฺถายุตฺตํ ธมฺมปริโภคํ ทสฺเสตุํ อิธ นิทสฺสนวเสน คนฺถสฺเสว สมุทฺธฏตฺตา. น หิ เอกกมฺมาทิโก วิธิ ธมฺมปริโภโค น โหตีติ สกฺกา วตฺตุํ อนามิสตฺตา ธมฺมามิเสสุ อปริยาปนฺนสฺส กสฺสจิ อภาวา. เตเนว อฏฺสาลินิยํ ธมฺมปฏิสนฺธารกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๓๕๑)‘‘กมฺมฏฺานํ กเถตพฺพํ, ธมฺโม วาเจตพฺโพ…เป… อพฺภานวุฏฺานมานตฺตปริวาสา ทาตพฺพา, ปพฺพชฺชารโห ปพฺพาเชตพฺโพ, อุปสมฺปทารโห อุปสมฺปาเทตพฺโพ…เป… อยํ ธมฺมปฏิสนฺธาโร นามา’’ติ เอวํ สงฺฆกมฺมาทิปิ ธมฺมโกฏฺาเส ทสฺสิตํ. เตสุ ปน ธมฺมโกฏฺาเสสุ ยํ คณปูรณาทิวเสน อลชฺชิโน อเปกฺขิตฺวา อุโปสถาทิ วา เตสํ สนฺติกา ธมฺมุคฺคหณนิสฺสยคฺคหณาทิ วา กรียติ, ตํ ธมฺโม เจว ปริโภโค จาติ ธมฺมปริโภโคติ วุจฺจติ, เอตํ ตถารูปปจฺจยํ วินา กาตุํ น วฏฺฏติ, กโรนฺตสฺส อลชฺชิปริโภโค จ โหติ ทุกฺกฏฺจ. ยํ ปน อลชฺชิสตํ อนเปกฺขิตฺวา ตชฺชนียาทินิคฺคหกมฺมํ ¶ วา ปริวาสาทิอุปการกมฺมํ วา อุคฺคหปริปุจฺฉาทานาทิ วา กรียติ, ตํ ธมฺโม เอว, โน ปริโภโค. เอตํ อนุรูปานํ กาตุํ วฏฺฏติ, อามิสทานํ วิย อาปตฺติ นตฺถิ. นิสฺสยทานมฺปิ เตรสสมฺมุติทานาทิ จ วตฺตปฏิวตฺตสาทิยนาทิปริโภคสฺสาปิ เหตุตฺตา น วฏฺฏติ.
โย ปน มหาอลชฺชี อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุ สาสนํ กโรติ, ตสฺส สทฺธิวิหาริกาทีนํ อุปสมฺปทาทิอุปการกมฺมมฺปิ อุคฺคหปริปุจฺฉาทานาทิ จ กาตุํ น วฏฺฏติ, อาปตฺติ เอว โหติ, นิคฺคหกมฺมเมว กาตพฺพํ. เตเนว อลชฺชิปคฺคโหปิ ปฏิกฺขิตฺโต. ธมฺมามิสปริโภควิวชฺชเนนาปิ หิ ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคโห อธิปฺเปโต, โส จ เปสลานํ ผาสุวิหารสทฺธมฺมฏฺิติวินยานุคฺคหาทิอตฺถาย เอตทตฺถตฺตา สิกฺขาปทปฺตฺติยา. ตสฺมา ยํ ยํ ทุมฺมงฺกูนํ อุปตฺถมฺภาย เปสลานํ อผาสุวิหาราย สทฺธมฺมปริหานาทิอตฺถาย โหติ, ตํ สพฺพมฺปิ ปริโภโค วา โหตุ อปริโภโค วา กาตุํ น วฏฺฏติ, เอวํ กโรนฺตา สาสนํ อนฺตรธาเปนฺติ, อาปตฺติฺจ อาปชฺชนฺติ. ธมฺมามิสปริโภเคสุ เจตฺถ อลชฺชีหิ เอกกมฺมาทิธมฺมปริโภโค เอว เปสลานํ อผาสุวิหารสทฺธมฺมปริหานาทิอตฺถาย โหติ, น ตถา อามิสปริโภโค. น หิ อลชฺชีนํ ปจฺจยปริโภคมตฺเตน เปสลานํ อผาสุวิหาราทิ โหติ, ยถาวุตฺตธมฺมปริโภเคน ปน โหติ ¶ , ตปฺปริวชฺชเนน จ ผาสุวิหาราทโย. ตถา หิ กตสิกฺขาปทวีติกฺกมา อลชฺชิปุคฺคลา อุโปสถาทีสุ ปวิฏฺา ‘‘ตุมฺเห กายทฺวาเร, วจีทฺวาเร จ วีติกฺกมํ กโรถา’’ติอาทินา ภิกฺขูหิ วตฺตพฺพา โหนฺติ, ยถา วินยฺจ อติฏฺนฺตา สงฺฆโต พหิกรณาทิวเสน สุฏฺุ นิคฺคเหตพฺพา, ตถา อกตฺวา เตหิ สห สํวสนฺตาปิ อลชฺชิโนว โหนฺติ ‘‘เอโกปิ อลชฺชี อลชฺชิสตมฺปิ กโรตี’’ติอาทิวจนโต (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๕). ยทิ หิ เต เอวํ น นิคฺคหิตา สิยุํ, สงฺเฆ กลหาทึ วฑฺเฒตฺวา อุโปสถาทิสามคฺคีกมฺมปฏิพาหนาทินา เปสลานํ อผาสุํ กตฺวา กเมน เต เทวทตฺตวชฺชิปุตฺตกาทโย วิย ปริสํ วฑฺเฒตฺวา อตฺตโน วิปฺปฏิปตฺตึ ธมฺมโต วินยโต ทีเปนฺตา สงฺฆเภทาทิมฺปิ กตฺวา นจิรสฺเสว สาสนํ อนฺตรธาเปยฺยุํ, เตสุ ปน สงฺฆโต พหิกรณาทิวเสน นิคฺคหิเตสุ สพฺโพปายํ อุปทฺทโว น โหติ. วุตฺตฺหิ –
‘‘ทุสฺสีลปุคฺคเล ¶ นิสฺสาย อุโปสโถ น ติฏฺติ, ปวารณา น ติฏฺติ, สงฺฆกมฺมานิ นปฺปวตฺตนฺติ, สามคฺคี น โหติ…เป… ทุสฺสีเลสุ ปน นิคฺคหิเตสุ สพฺโพปิ อยํ อุปทฺทโว น โหติ, ตโต เปสลา ภิกฺขู ผาสุ วิหรนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๓๙).
ตสฺมา เอกกมฺมาทิธมฺมปริโภโคว อามิสปริโภคโตปิ อติวิย อลชฺชิวิเวเกน กาตพฺโพ, อาปตฺติกโร จ สทฺธมฺมปริหานิเหตุตฺตาติ เวทิตพฺพํ.
อปิจ อุโปสโถ น ติฏฺติ, ปวารณา น ติฏฺติ, สงฺฆกมฺมานิ นปฺปวตฺตนฺตีติ เอวํ อลชฺชีหิ สทฺธึ สงฺฆกมฺมากรณสฺส อฏฺกถายํ ปกาสิตตฺตาปิ เจตํ สิชฺฌติ, ตถา ปริวตฺตลิงฺคสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขุนุปสฺสยํ คจฺฉนฺตสฺส ปฏิปตฺติกถายํ ‘‘อาราธิกา จ โหนฺติ สงฺคาหิกา ลชฺชินิโย, ตา โกเปตฺวา อฺตฺถ น คนฺตพฺพํ. คจฺฉติ เจ, คามนฺตรนทีปารรตฺติวิปฺปวาสคณโอหียนาปตฺตีหิ น มุจฺจติ…เป… อลชฺชินิโย โหนฺติ, สงฺคหํ ปน กโรนฺติ, ตาปิ ปริจฺจชิตฺวา อฺตฺถ คนฺตุํ ลพฺภตี’’ติ เอวํ อลชฺชินีสุ ทุติยิกาคหณาทีสุ สํวาสาปตฺติปริหาราย นทีปารคมนาทิครุกาปตฺติฏฺานานํ อนฺุาตตฺตา ตโตปิ อลชฺชิสํวาสาปตฺติ เอว สทฺธมฺมปริหานิเหตุโต ครุกตราติ วิฺายติ. น หิ ลหุกาปตฺติฏฺานํ, อนาปตฺติฏฺานํ วา ปริหริตุํ ครุกาปตฺติฏฺานวีติกฺกมํ อาจริยา อนุชานนฺติ, ตถา อสํวาสปทสฺส อฏฺกถายํ ‘‘สพฺเพหิปิ ลชฺชิปุคฺคเลหิ สมํ สิกฺขิตพฺพภาวโต สมสิกฺขาตา นาม. เอตฺถ ยสฺมา สพฺเพปิ ลชฺชิโน เอเตสุ กมฺมาทีสุ สห ¶ วสนฺติ, น เอโกปิ ตโต พหิทฺธา สนฺทิสฺสติ, ตสฺมา ตานิ สพฺพานิปิ คเหตฺวา เอโส สํวาโส นามา’’ติ เอวํ ลชฺชีเหว เอกกมฺมาทิสํวาโส วฏฺฏตีติ ปกาสิโต.
ยทิ เอวํ, กสฺมา อสํวาสิเกสุ อลชฺชี น คณิโตติ? นายํ วิโรโธ, เย คณปูรเก กตฺวา กตํ กมฺมํ กุปฺปติ, เตสํ ปาราชิกาทิอปกตตฺตานฺเว อสํวาสิกตฺเต คหิตตฺตา. อลชฺชิโน ปน ปกตตฺตภูตาปิ สนฺติ, เต เจ คณปูรณา หุตฺวา กมฺมํ สาเธนฺติ, เกวลํ กตฺวา อคติคมเนน กโรนฺตานํ อาปตฺติกรา โหนฺติ สภาคาปตฺติอาปนฺนา ¶ วิย อฺมฺํ. ยสฺมา อลชฺชิตฺจ ลชฺชิตฺจ ปุถุชฺชนานํ จิตฺตกฺขณปฏิพทฺธํ, น สพฺพกาลิกํ. สฺจิจฺจ หิ วีติกฺกมจิตฺเต อุปฺปนฺเน อลชฺชิโน ‘‘น ปุน อีทิสํ กริสฺสามี’’ติ จิตฺเตน ลชฺชิโน จ โหนฺติ, เตสุ จ เย เปสเลหิ โอวทิยมานาปิ น โอรมนฺติ, ปุนปฺปุนํ วีติกฺกมนฺติ, เต เอว อสํวสิตพฺพา, น อิตเร ลชฺชิธมฺเม โอกฺกนฺตตฺตา. ตสฺมาปิ อลชฺชิโน อสํวาสิเกสุ อคเณตฺวา ตปฺปริวชฺชนตฺถํ โสเธตฺวาว อุโปสถาทิกรณํ อนฺุาตํ. ตถา หิ ‘‘ปาริสุทฺธึ อายสฺมนฺโต อาโรเจถ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิสฺสามี’’ติอาทินา (มหาว. ๑๓๔) อปริสุทฺธาย ปริสาย อุโปสถกรณสฺส อยุตฺตตา ปกาสิตา, ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺติ โส อาวิกเรยฺย…เป… ผาสุ โหตี’’ติ (มหาว. ๑๓๔) เอวํ อลชฺชิมฺปิ ลชฺชิธมฺเม ปติฏฺาเปตฺวา อุโปสถกรณปฺปกาโร จ วุตฺโต, ‘‘กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธา…เป… ปริสุทฺเธตฺถายสฺมนฺโต’’ติ (ปารา. ๔๔๒, ๔๕๘, ๖๖๒; ปาจิ. ๕๕๑, ๕๗๕, ๖๕๕) จ ปาริสุทฺธิอุโปสเถ ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ ภนฺเต, ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถา’’ติ (มหาว. ๑๖๘) จ เอวํ อุโปสถํ กโรนฺตานํ ปริสุทฺธตา จ ปกาสิตา, วจนมตฺเตน อโนรมนฺตานฺจ อุโปสถปวอารณฏฺปนวิธิ จ วุตฺตา, สพฺพถา ลชฺชิธมฺมํ อโนกฺกมนฺเตหิ สํวาสสฺส อยุตฺตตาย นิสฺสยทานคฺคหณปฏิกฺเขโป, ตชฺชนียาทินิคฺคหกมฺมกรณฺจ อุกฺเขปนียกมฺมกรเณน สานุวตฺตกปริสสฺส อลชฺชิสฺส อสํวาสิกตฺตปาปนวิธิ จ วุตฺตา. ตสฺมา ยถาวุตฺเตหิ สุตฺตนเยหิ, อฏฺกถาวจเนหิ จ ปกตตฺเตหิปิ อปกตตฺเตหิปิ สพฺเพหิ อลชฺชีหิ เอกกมฺมาทิสํวาโส น วฏฺฏติ, กโรนฺตานํ อาปตฺติ เอว ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหตฺถาเยว สพฺพสิกฺขาปทานํ ปฺตฺตตฺตาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. เตเนว ทุติยสงฺคีติยํ ปกตตฺตาปิ อลชฺชิโน วชฺชิปุตฺตกา ยสตฺเถราทีหิ มหนฺเตน วายาเมน สงฺฆโต วิโยชิตา. น หิ เตสุ ปาราชิกาทิอสํวาสิกา อตฺถิ เตหิ ทีปิตานํ ทสนฺนํ วตฺถูนํ (จูฬว. ๔๕๒) ลหุกาปตฺติวิสยตฺตา.
ตสฺส ปน สนฺติเกติ มหารกฺขิตตฺเถรสฺส สนฺติเก. ขรปตฺตนฺติ ขรสงฺขาตํ สุวณฺณปติรูปกํ ¶ วตฺถุ. ทายเกหิ อสติยา ทินฺนํ รูปิยํ เตหิ ปุน สกสฺาย คณฺหนฺเต อทาตุํ, นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ คณฺหาหีติ ทาตฺุจ ¶ น วฏฺฏตีติ อาห ‘‘ตว โจฬกํ ปสฺสาหี’’ติ. เอวํ วตฺวาปิ ปน นฏฺวตฺถุสฺมึ วิย นิสฺสชฺชิตพฺพาภาเวปิ อาปตฺติ เทเสตพฺพาว. อสติยาปิ หิ ตํ วตฺถุํ วตฺถาทินา สหตฺเถน คเหตฺวา ‘‘อิทํ เทมี’’ติ ทินฺนํ, ตทา ปริจฺจาคสพฺภาวโต ทานเมว โหติ ‘‘อปฺปคฺฆํ ทสฺสามี’’ติ มหคฺฆสฺส ทาเน วิย. ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส จ อสติยา ทิยฺยมานตฺเต าเตปิ อทินฺนาทานํ น โหติ ทายเกหิ ทินฺนตฺตา, ตสฺมา รูปิยํ นิสฺสคฺคิยเมว โหติ. เกจิ ปน ‘‘อีทิสํ นาม น โหติ, เตเนว เจตฺถ ‘ตว โจฬกํ ปสฺสา’ติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ โน นกฺขมติ, วีมํสิตพฺพํ.
๕๘๖. เอกปริจฺเฉทานีติ สิยา กิริยตฺตํ, สิยา อกิริยตฺตฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. ชาตรูปรชตภาโว, อตฺตุทฺเทสิกตา, คหณาทีสุ อฺตรภาโวติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
รูปิยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๘๗. นวเม ชาตรูปาทิจตุพฺพิธนิสฺสคฺคิยวตฺถุ อิธ รูปิยคฺคหเณเนว คหิตนฺติ อาห ‘‘ชาตรูปรชตปริวตฺตน’’นฺติ. ปฏิคฺคหิตปริวตฺตเนติ กปฺปิยโวหาเรน, อกปฺปิยโวหาเรน วา ปฏิคฺคหิตสฺส รูปิยสฺส ปริวตฺตเน.
๕๘๙. ปาฬิยํ ฆนกตนฺติ อิฏฺกาทิ. รูปิยํ นาม สตฺถุวณฺโณติอาทีสุ กิฺจาปิ เกวลํ รชตํ น คหิตํ, ตถาปิ รูปิยปเทเนว ตํ คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สุทฺโธ รูปิยสํโวหาโร เอว วุตฺโตติ อชฺฌาหริตพฺพํ. รูปิเย รูปิยสฺีติอาทิมฺหิ วินิจฺฉยํ วกฺขามาติ ปาเสโส.
๕๙๑. ปาฬิยํ รูปิเย รูปิยสฺีติ อตฺตนา ทิยฺยมานํ สกสนฺตกํ สนฺธาย วุตฺตํ. รูปิยํ เจตาเปตีติ ปรสนฺตกํ. เอส นโย เสเสสุปิ. ตตฺถ อรูปิย-สทฺเทน ทุกฺกฏวตฺถุมฺปิ สงฺคณฺหาติ. ปจฺฉิเม ปน ติเก ‘‘อรูปิเย รูปิยสฺี อรูปิยํ เจตาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ อิมินา นเยน สพฺพตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา. อิมสฺมิฺจ ติเก อรูปิย-สทฺเทน กปฺปิยวตฺถุเยว คหิตํ, น มุตฺตาทิทุกฺกฏวตฺถุ อนฺเต ‘‘ปฺจนฺนํ สห อนาปตฺตี’’ติ ¶ วุตฺตตฺตา. กิฺจาปิ ¶ ทุกฺกฏวตฺถุ น คหิตํ, ตถาปิ ทุกฺกฏวตฺถุนา ทุกฺกฏวตฺถุํ, กปฺปิยวตฺถุนา ทุกฺกฏวตฺถฺุจ ปริวตฺตยโต ทุกฺกฏํ, นยโต สิทฺธเมว โหติ. ตฺจ ทุกฺกฏวตฺถุมฺหิ ตถสฺาย วา อตถสฺาย วา วิมติยา วา ปริวตฺเตนฺตสฺสปิ โหติเยว อจิตฺตกตฺตา อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส. ปฺจนฺนํ สหาติ ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ สห.
อิทานิ ‘‘นิสฺสคฺคิยวตฺถุนา ทุกฺกฏวตฺถุํ วา’’ติอาทินา วุตฺตสฺส อตฺถสฺส ปาฬิยํ สรูเปน อนาคตตฺเตปิ นยโต ลพฺภมานตํ ทสฺเสตุํ ‘‘โย หิ อย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ยสฺมา รูปิเยน ปริวตฺติตํ อรูปิยํ นิสฺสฏฺมฺปิ สพฺเพสมฺปิ อกปฺปิยตฺตา นิสฺสคฺคิยเมว น โหติ นิสฺสชฺชิตฺวา ปริภฺุชิตพฺพสฺเสว นิสฺสชฺชิตพฺพโต, เกวลํ ปน อิทํ ฉฑฺเฑตฺวา ปาจิตฺติยเมว ปริวตฺตเกน เทเสตพฺพํ, ตสฺมา ‘‘รูปิเย รูปิยสฺี อรูปิยํ เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติอาทิ ติโก ภควตา น วุตฺโต, ตีสุปิ ปเทสุ ปริวตฺติยมานสฺส อรูปิยตฺเตน นิสฺสคฺคิยวจนาโยคา รูปิยสฺเสว นิสฺสชฺชิตพฺพโต. รูปิยสฺเสว หิ นิสฺสฏฺสฺส อารามิกาทีหิ ปฏิปชฺชนวิธิ ปาฬิยํ ทสฺสิโต, น อรูปิยสฺส. ตสฺมา ปาจิตฺติยมตฺตสมฺภวทสฺสนตฺถเมว ปเนตฺถ อฏฺกถายํ ‘‘อวุตฺโตปิ อยํ…เป… ติโก เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ, น ปน ตสฺส วตฺถุโน นิสฺสคฺคิยตาทสฺสนตฺถํ. เตเนว ปตฺตจตุกฺเก ‘‘น สกฺกา เกนจิ อุปาเยน กปฺปิยํ กาตุ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อยํ อมฺหากํ ขนฺติ. อตฺตโน วา หีติอาทิ ทุติยติกานุโลเมเนว ตติยตฺติกสฺส สิชฺฌนปฺปการํ สมตฺเถตุํ วุตฺตํ. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – ยสฺมา หิ ยถา อตฺตโน อรูปิเยน ปรสฺส รูปิยํ เจตาเปนฺตสฺส เอกสฺมึ อนฺเต รูปิยสมฺภวโต ‘‘รูปิยสํโวหาโร กโต เอว โหตี’’ติ ทุติยตฺติโก วุตฺโต, เอวํ อตฺตโน รูปิเยน ปรสฺส อรูปิยํ เจตาเปนฺตสฺสาปิ โหตีติ ตติโย ติโก วตฺตพฺโพ ภเวยฺย, โส ปน ทุติยตฺติเกเนว เอกโต รูปิยปกฺขสามฺเน สิชฺฌตีติ ปาฬิยํ น วุตฺโตติ. ตตฺถ เอกนฺเตน รูปิยปกฺเขติ เอเกน อนฺเตน รูปิยปกฺเข, ‘‘เอกโต รูปิยปกฺเข’’ติ วา ปาโ.
อิทานิ ทุติยตฺติเก อรูปิยปทสฺส อตฺถภูเตสุ ทุกฺกฏวตฺถุกปฺปิยวตฺถูสุ ทุกฺกฏวตฺถุนา รูปิยาทิปริวตฺตเน อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทุกฺกฏวตฺถุนา’’ติอาทิ ¶ อารทฺธํ. ทุกฺกฏวตฺถุนา ทุกฺกฏวตฺถุนฺติอาทิ ปน ทุกฺกฏวตฺถุนา ปริวตฺตนปฺปสงฺเค ปาฬิยํ อวุตฺตสฺสาปิ อตฺถสฺส นยโต ลพฺภมานตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ อิมินาติ รูปิยสํโวหารสิกฺขาปเทน, เตน จ ทุกฺกฏสฺส อจิตฺตกตมฺปิ ทสฺเสติ. อฺตฺร สหธมฺมิเกหีติ ‘‘ปฺจนฺนํ สห อนาปตฺตี’’ติ วจนโต วุตฺตํ, เตนาปิ กยวิกฺกยสิกฺขาปทสฺส กปฺปิยวตฺถุนิสฺสิตตํ เอว สาเธติ. อิมํ…เป… รูปิยเจตาปนฺจ ¶ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ปกเตน สมฺพนฺโธ. อิธาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. ตตฺถาติ กยวิกฺกยสิกฺขาปเท (ปารา. ๕๙๓).
เอวํ ทุกฺกฏวตฺถุนา รูปิยาทิปริวตฺตเน อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ กปฺปิยวตฺถุนาปิ ทสฺเสตุํ ‘‘กปฺปิยวตฺถุนา ปนา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เตเนวาติ กปฺปิยวตฺถุนา เอว. ‘‘รูปิยํ อุคฺคณฺหิตฺวา’’ติ อิทํ อุกฺกฏฺวเสน วุตฺตํ. มุตฺตาทิทุกฺกฏวตฺถุมฺปิ อุคฺคเหตฺวา การิตมฺปิ ปฺจนฺนมฺปิ น วฏฺฏติ เอว. สมุฏฺาเปตีติ สยํ คนฺตฺวา, ‘‘อิมํ กหาปณาทึ กมฺมการานํ ทตฺวา พีชํ สมุฏฺาเปหี’’ติ เอวํ อฺํ อาณาเปตฺวา วา สมุฏฺาเปติ. มหาอกปฺปิโยติ อตฺตนาว พีชโต ปฏฺาย ทูสิตตฺตา อฺสฺส มูลสามิกสฺส อภาวโต วุตฺตํ. โส หิ โจเรหิ อจฺฉินฺโนปิ ปุน ลทฺโธ ชานนฺตสฺส กสฺสจิปิ น วฏฺฏติ. ยทิ หิ วฏฺเฏยฺย, ตฬากาทีสุ วิย อจฺฉินฺโน วฏฺฏตีติ อาจริยา วเทยฺยุํ. น สกฺกา เกนจิ อุปาเยนาติ สงฺเฆ นิสฺสชฺชเนน, โจราทิอจฺฉินฺทนาทินา จ กปฺปิยํ กาตุํ น สกฺกา, อิทฺจ เตน รูเปน ิตํ, ตมฺมูลิเกน วตฺถุมุตฺตาทิรูเปน ิตฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. ทุกฺกฏวตฺถุมฺปิ หิ ตมฺมูลิกกปฺปิยวตฺถฺุจ น สกฺกา เกนจิ อุปาเยน เตน รูเปน กปฺปิยํ กาตุํ. ยทิ ปน โส ภิกฺขุ เตน กปฺปิยวตฺถุทุกฺกฏวตฺถุนา ปุน รูปิยํ เจตาเปยฺย, ตํ รูปิยํ นิสฺสชฺชาเปตฺวา อฺเสํ กปฺปิยํ กาตุมฺปิ สกฺกา ภเวยฺยาติ ทฏฺพฺพํ.
ปตฺตํ กิณาตีติ เอตฺถ ‘‘อิมินา กหาปณาทินา กมฺมารกุลโต ปตฺตํ กิณิตฺวา เอหี’’ติ อารามิกาทีหิ กิณาปนมฺปิ สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. เตเนว ราชสิกฺขาปทฏฺกถายํ ‘‘เอตฺตเกหิ กหาปเณหิ สาฏเก อาหร, เอตฺตเกหิ ยาคุอาทีนิ สมฺปาเทหีติ วทติ, ยํ เต อาหรนฺติ, สพฺเพสํ อกปฺปิยํ. กสฺมา? กหาปณานํ วิจาริตตฺตา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙) วุตฺตํ ¶ . อิมินา ปน วจเนน ยํ มาติกาฏฺกถายํ รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทํ ‘‘อนาณตฺติก’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ น สเมติ. น เกวลฺจ อิมินา, ปาฬิยาปิ ตํ น สเมติ. ปาฬิยฺหิ นิสฺสฏฺรูปิเยน อารามิกาทีหิ สปฺปิยาทึ ปริวตฺตาเปตุํ ‘‘โส วตฺตพฺโพ ‘อาวุโส, อิมํ ชานาหี’ติ. สเจ โส ภณติ ‘อิมินา กึ อาหรียตู’ติ, น วตฺตพฺโพ ‘อิมํ วา อิมํ วา อาหรา’ติ. กปฺปิยํ อาจิกฺขิตพฺพํ ‘สปฺปิ วา’’’ติอาทินา รูปิยสํโวหารํ ปริโมเจตฺวาว วุตฺตํ. ‘‘อิมินา รูปิเยน กึ อาหรียตู’’ติ ปุจฺฉนฺโต ‘‘อิมํ อาหรา’’ติ วุตฺเตปิ อธิการโต ‘‘อิมินา รูปิเยน อิมํ อาหรา’’ติ ภิกฺขูหิ อาณตฺโต เอว โหตีติ ตํ รูปิยสํโวหารํ ปริวชฺเชตุํ ‘‘น วตฺตพฺโพ ‘อิมํ วา อิมํ วา อาหรา’’’ติ ปฏิกฺเขโป กโต, อนาปตฺติวาเรปิ ‘‘กปฺปิยการกสฺส ¶ อาจิกฺขตี’’ติ น วุตฺตํ. กยวิกฺกยสิกฺขาปเท (ปารา. ๕๙๕) ปน ตถา วุตฺตํ, ตสฺมา อิทํ สาณตฺติกํ กยวิกฺกยเมว อนาณตฺติกนฺติ คเหตพฺพํ.
มูลสฺส อนิสฺสฏฺตฺตาติ เยน อุคฺคหิตมูเลน ปตฺโต กีโต, ตสฺส มูลสฺส สงฺฆมชฺเฌ อนิสฺสฏฺตฺตา, เอเตน รูปิยเมว นิสฺสชฺชิตพฺพํ, น ตมฺมูลิกํ อรูปิยนฺติ ทสฺเสติ. ยทิ หิ เตน รูปิเยน อฺํ รูปิยํ เจตาเปยฺย, ตํ รูปิยสํโวหารสิกฺขาปเท อาคตนเยเนว นิสฺสชฺชาเปตฺวา เสเสหิ ปริภฺุชิตพฺพํ ภเวยฺยาติ. ‘‘มูลสฺส อสมฺปฏิจฺฉิตตฺตา’’ติ อิมินา มูลสฺส คิหิสนฺตกตฺตํ, เตเนว ปตฺตสฺส รูปิยสํโวหารานุปฺปนฺนตฺจ ทสฺเสติ. ปฺจสหธมฺมิกสนฺตเกเนว หิ รูปิยสํโวหารโทโส. ตตฺถ จ อตฺตโน สนฺตเก ปาจิตฺติยํ, อิตรตฺถ ทุกฺกฏํ.
นิสฺสชฺชีติ ทานวเสน วุตฺตํ, น วินยกมฺมวเสน. เตเนว ‘‘สปฺปิสฺส ปูเรตฺวา’’ติ วุตฺตํ. ยํ อตฺตโน ธเนน ปริวตฺเตติ, ตสฺส วา ธนสฺส รูปิยภาโว, ปริวตฺตนปริวตฺตาปเนสุ อฺตรภาโว จาติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.
รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. กยวิกฺกยสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๙๓-๕. ทสเม ¶ ปาฬิยํ ชานาหีติ อิทาเนว อุปธาเรหิ, อิทํ ปจฺฉา ฉฑฺเฑตุํ น สกฺกาติ อธิปฺปาโย. อิมินาติ ภิกฺขุนา ทิยฺยมานํ วุตฺตํ. อิมนฺติ ปเรน ปฏิทิยฺยมานํ. เสสาตเกสุ สทฺธาเทยฺยวินิปาตสมฺภวโต ตทภาวฏฺานมฺปิ ทสฺเสตุํ ‘‘มาตรํ ปน ปิตรํ วา’’ติ วุตฺตํ. น สกฺกา ตํ ปฏิกฺขิปิตุนฺติ เอตฺถ ยถา รูปิยํ ภตกานํ ทตฺวา อสฺสามิกภูมิยํ อโยพีชสมุฏฺาปเน ภติยา ขณนฺตานํ สนฺติกา คหิตภณฺฑกภาเวปิ ปาจิตฺติยํ โหติ, เอวมิธาปีติ เกจิ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ. ยฺหิ อสฺสามิกภูมึ ขณิตฺวา สมุฏฺาปิตํ อโยพีชํ, ตํ ภตกานํ สนฺตกํ นาม โหติ, ตทตฺถฺจ เตสํ รูปิยํ เทนฺตสฺส รูปิยสํโวหาโรว โหติ อกปฺปิยโวหาเรน รชนจฺฉลฺลิอาทีนํ อาหราปเน กยวิกฺกโย วิย, ตาทิสมฺปิ ปรภณฺฑํ อิธ วตฺถโธวนาทีสุ นตฺถิ, ตสฺมา อฏฺกถาปมาเณเนเวตฺถ ปาจิตฺติยํ คเหตพฺพํ.
๕๙๗. ปฺุํ ¶ ภวิสฺสตีติ เทตีติ เอตฺถ สเจ ภิกฺขุ อตฺตโน ภณฺฑสฺส อปฺปคฺฆตํ ตฺวาปิ อกเถตฺวา ‘‘อิทาเนว อุปปริกฺขิตฺวา คณฺห, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสารี โหหี’’ติ วทติ, อิตโร จ อตฺตโน ทิยฺยมานสฺส มหคฺฆตํ อชานนฺโต ‘‘อูนํ วา อธิกํ วา ตุมฺหากเมวา’’ติ ทตฺวา คจฺฉติ, ภิกฺขุสฺส อนาปตฺติ อุปนนฺทสฺส วิย ปริพฺพาชกวตฺถุคฺคหเณ. วิปฺปฏิสาริสฺส ปุน สกสฺาย อาคตสฺส ยํ อธิกํ คหิตํ, ตํ ทาตพฺพํ. เยน ยํ ปริวตฺเตติ, เตสํ อุภินฺนํ กปฺปิยวตฺถุตา, อสหธมฺมิกตา, กยวิกฺกยาปชฺชนฺจาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
กยวิกฺกยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต โกสิยวคฺโค ทุติโย.
๓. ปตฺตวคฺโค
๑. ปตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๐๒. ตติยวคฺคสฺส ¶ ปเม อฑฺฒเตรสปลาติ มาคธิกาย มานตุลาย อฑฺฒเตรสปลปริมิตํ อุทกํ คณฺหนฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตถา ¶ ปริมิตํ ยวมาสาทึ คณฺหนฺตึ สนฺธายาติ เกจิ. อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน ปน ‘‘ปกติจตุมุฏฺิกํ กุฑุวํ, จตุกุฑุวํ นาฬิ, ตาย นาฬิยา โสฬส นาฬิโย โทณํ, ตํ ปน มคธนาฬิยา ทฺวาทส นาฬิโย โหนฺตีติ วทนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ทมิฬนาฬีติ ปุราณนาฬึ สนฺธาย วุตฺตํ. สา จ จตุมุฏฺิเกหิ กุฑุเวหิ อฏฺ กุฑุวา, ตาย นาฬิยา ทฺเว นาฬิโย มคธนาฬึ คณฺหาติ. ปุราณา ปน ‘‘สีหฬนาฬิ ติสฺโส นาฬิโย คณฺหาตี’’ติ วทนฺติ, เตสํ มเตน มคธนาฬิ อิทานิ ปวตฺตมานาย จตุกุฑุวาย ทมิฬนาฬิยา จตุนาฬิกา โหติ, ตโต มคธนาฬิโต อุปฑฺฒฺจ ปุราณทมิฬนาฬิสงฺขาตํ ปตฺถํ นาม โหติ, เอเตน จ ‘‘โอมโก นาม ปตฺโต ปตฺโถทนํ คณฺหาตี’’ติ ปาฬิวจนฺจ สเมติ, โลกิเยหิปิ –
‘‘โลกิยํ มคธฺเจติ, ปตฺถทฺวยมุทาหฏํ;
โลกิยํ โสฬสปลํ, มาคธํ ทิคุณํ มต’’นฺติ. –
เอวํ โลเก นาฬิยา มคธนาฬิ ทิคุณาติ ทสฺสิตา, เอวฺจ คยฺหมาเน โอมกปตฺตสฺส จ ยาปนมตฺโตทนคาหิกา จ สิทฺธา โหติ. น หิ สกฺกา อฏฺกุฑุวโต อูโนทนคาหินา ปตฺเตน อถูปีกตํ ปิณฺฑปาตํ ปริเยสิตฺวา ยาเปตุํ. เตเนว เวรฺชกณฺฑฏฺกถายํ ‘‘ปตฺโถ นาม นาฬิมตฺตํ โหติ เอกสฺส ปุริสสฺส อลํ ยาปนาย. วุตฺตมฺปิ เหตํ ‘ปตฺโถทโน นาลมยํ ทุวินฺน’’’นฺติ (ชา. ๒.๒๑.๑๙๒) วุตฺตํ, ‘‘เอเกกสฺส ทฺวินฺนํ ติณฺณํ ปโหตี’’ติ จ อาคหํ, ตสฺมา อิธ วุตฺตนยานุสาเรเนว คเหตพฺพํ.
อาโลปสฺส ¶ อนุรูปนฺติ เอตฺถ ‘‘พฺยฺชนสฺส มตฺตา นาม โอทนโต จตุตฺถภาโค’’ติ (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๓๘๗) พฺรหฺมายุสุตฺตฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา อาโลปสฺส จตุตฺถภาคเมว พฺยฺชนํ อนุรูปนฺติ ทฏฺพฺพํ. โอทนคติกาเนวาติ โอทนสฺส อนฺโต เอว ปวิสนสีลานิ สิยุํ, อตฺตโน โอกาสํ น คเวสนฺตีติ อตฺโถ. นามมตฺเตติ ‘‘มชฺฌิโม ปตฺโต มชฺฌิโมมโก’’ติอาทินามมตฺเต.
๖๐๗-๘. เอวํ ปโยเค ปโยเคติ ปริโยสานาโลปชฺโฌหรณปโยเค ปโยเค, อาโลเป อาโลเปติ อตฺโถ. กตฺวาติ ปากปริโยสานํ กตฺวา. ปจิตฺวา เปสฺสามีติ กาฬวณฺณปากํ สนฺธาย ¶ วุตฺตํ. ฉิทฺทนฺติ มุขวฏฺฏิโต ทฺวงฺคุลสฺส เหฏฺาฉิทฺทํ วุตฺตํ. เสสํ ปมกถิเน วุตฺตนยเมว.
ปตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อูนปฺจพนฺธนสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๐๙-๖๑๓. ทุติเย ปาฬิยํ อหํ ปตฺเตน เต ภิกฺขู สนฺตเปสฺสามีติ เสโส. ‘‘อปตฺโต’’ติ อิมินา อธิฏฺานวิชหนมฺปิ ทสฺเสติ. ปฺจพนฺธเนปิ ปตฺเต อปริปุณฺณปาเก ปตฺเต วิย อธิฏฺานํ น รุหติ. ‘‘ติปุปฏฺฏเกน วา’’ติ วุตฺตตฺตา ตมฺพโลหาทีหิ กปฺปิยโลเหหิ อโยปตฺตสฺส ฉิทฺทํ ฉาเทตุํ วฏฺฏติ. เตเนว ‘‘โลหมณฺฑลเกนา’’ติ วุตฺตํ. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อกาฬวณฺณมฺปิ กปฺปิยปตฺตํ วิฺาเปนฺตสฺส อาปตฺติ เอวาติ ทฏฺพฺพํ. อธิฏฺานุปคปตฺตสฺส อูนปฺจพนฺธนตา, อตฺตุทฺเทสิกตา, อกตวิฺตฺติ, ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
อูนปฺจพนฺธนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๑๘-๖๒๑. ตติเย ปาฬิยํ ปิลินฺทวจฺฉตฺเถเรน ‘‘น โข, มหาราช, ภควตา อารามิโก อนฺุาโต’’ติ ปมํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อารามิก’’นฺติ ปุคฺคลานมฺปิ อารามิกนาเมน ทาสคฺคหเณ อนฺุาเต เอว อารามิกานํ คหิตตฺตา เขตฺตวตฺถาทีนิ กปฺปิยโวหาเรนปิ ปุคฺคลานํ คเหตุํ น วฏฺฏติ, ตถา อนนฺุาตตฺตาติ วิฺายติ. ‘‘เขตฺตวตฺถุปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๑๐, ๑๙๔) หิ ¶ ปฏิกฺขิตฺเตสุ เอกสฺเสว ปุคฺคลิกวเสน คหเณ อนฺุาเต อิตรีตรานํ ตถา น คเหตพฺพตา สิทฺธาว โหติ. ยฺจ ปิลินฺทวจฺฉตฺเถเรน ทายกกุลสฺส ทาริกาย สุวณฺณมาลาวเสน ติณณฺฑุปกสฺส นิมฺมานํ, ตํ ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, อิทฺธิมสฺส อิทฺธิวิสเย’’ติ (ปารา. ๑๕๙) วจนโต กุลสงฺคหาทิ น โหตีติ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ, เกจิ ปน ‘‘ขีณาสวานํ ลาภิจฺฉาย อภาวโต กุลสงฺคเหปิ ¶ อาชีวโกโป นตฺถี’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ ขีณาสวานมฺปิ อาชีววิปตฺติเหตูนํ ปิณฺฑปาตาทีนํ ปริวชฺเชตพฺพโต. วุตฺตฺหิ ธมฺมเสนาปตินา ‘‘เนว ภินฺเทยฺยมาชีวํ, จชมาโนปิ ชีวิต’’นฺติ (มิ. ป. ๖.๑.๕). ภควตา จ ‘‘คาถาภิคีตํ เม อโภชนีย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ (สุ. นิ. ๘๑, ๔๘๔; มิ. ป. ๔.๕.๙; สํ. นิ. ๑.๑๙๗).
๖๒๒. อุคฺคหิตกนฺติ ปริโภคตฺถาย สยํ คหิตํ. สยํ กโรตีติ ปจิตฺวา กโรติ. ปุเรภตฺตนฺติ ตทหุปุเรภตฺตเมว วฏฺฏติ สวตฺถุกปฏิคฺคหิตตฺตา. สยํกตนฺติ ขีรนวนีตํ ปจิตฺวา กตํ. นิรามิสเมวาติ ตทหุปุเรภตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อชฺช สยํกตํ นิรามิสเมว ภฺุชนฺตสฺส กสฺมา สามปาโก น โหตีติ อาห ‘‘นวนีตํ ตาเปนฺตสฺสา’’ติอาทิ. ปฏิคฺคหิเตหีติ ขีรทธีนิ สนฺธาย วุตฺตํ. อุคฺคหิตเกหิ กตํ อพฺภฺชนาทีสุ อุปเนตพฺพนฺติ โยชนา. เอเสว นโยติ นิสฺสคฺคิยาปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. อกปฺปิยมํสสปฺปิมฺหีติ หตฺถิอาทีนํ สปฺปิมฺหิ.
เอตฺถ ปนาติ นวนีเต วิเสโส อตฺถีติ อตฺโถ. โธตํ วฏฺฏตีติ โธตเมว ปฏิคฺคหิตุมฺปิ น วฏฺฏติ, อิตรถา สวตฺถุกปฏิคฺคหิตํ โหตีติ เถรานํ อธิปฺปาโย.
มหาสิวตฺเถรสฺส ปน วตฺถุโน วิโยชิตตฺตา ทธิคุฬิกาทีหิ ยุตฺตตามตฺเตน สวตฺถุกปฏิคฺคหิตํ นาม น โหติ, ตสฺมา ตกฺกโต อุทฺธฏมตฺตเมว ปฏิคฺคเหตฺวา โธวิตฺวา, ปจิตฺวา วา นิรามิสเมว กตฺวา ปริภฺุชึสูติ อธิปฺปาโย, น ปน ทธิคุฬิกาทีหิ สห วิกาเล ภฺุชึสุ. เตนาห ‘‘ตสฺมา นวนีตํ ปริภฺุชนฺเตน…เป… สวตฺถุกปฏิคฺคหิตํ นาม น โหตี’’ติ. ตตฺถ อโธตํ ปฏิคฺคเหตฺวาปิ ตํ นวนีตํ ปริภฺุชนฺเตน ทธิอาทีนิ อปเนตฺวา ปริภฺุชิตพฺพนฺติ อตฺโถ. ขยํ คมิสฺสตีติ นิรามิสํ โหติ, ตสฺมา วิกาเลปิ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. เอตฺตาวตาติ นวนีเต ลคฺคมตฺเตน วิสุํ ทธิอาทิโวหารํ อลทฺเธน อปฺปมตฺเตน ทธิอาทินาติ อตฺโถ, เอเตน วิสุํ ปฏิคฺคหิตทธิอาทีหิ สห ปกฺกํ สวตฺถุกปฏิคฺคหิตสงฺขฺยเมว คจฺฉตีติ ทสฺเสติ. ตสฺมิมฺปีติ นิรามิสภูเตปิ. กุกฺกุจฺจกานํ ปน อยํ อธิปฺปาโย – ปฏิคฺคหเณ ตาว ทธิอาทีหิ อสมฺภินฺนรสตฺตา ภตฺเตน สหิเตน คุฬปิณฺฑาทิ ¶ วิย สวตฺถุกปฏิคฺคหิตํ นาม น โหติ, ตํ ¶ ปน ปจนฺเตน โธวิตฺวาว ปจิตพฺพํ, อิตรถา ปจนกฺขเณ ปจฺจมานทธิคุฬิกาทีหิ สมฺภินฺนรสตาย สามํปกฺกํ ชาตํ, เตสุ ขีเณสุ สามํปกฺกเมว โหติ, ตสฺมา นิรามิสเมว ปจิตพฺพนฺติ. เตเนว ‘‘อามิเสน สห ปกฺกตฺตา’’ติ การณํ วุตฺตํ.
เอตฺถ จายํ วิจารณา – สวตฺถุกปฏิคฺคหิตตฺตาภาเว อามิเสน สห ภิกฺขุนา ปกฺกสฺส สยํปากโทโส วา ปริสงฺกียติ ยาวกาลิกตา วา, ตตฺถ น ตาว สยํปากโทโส เอตฺถ สมฺภวติ สตฺตาหกาลิกตฺตา. ยฺหิ ตตฺถ ทธิอาทิ อามิสคตํ, ตํ ปริกฺขีณนฺติ. อถ ปฏิคฺคหิตทธิคุฬิกาทินา สห อตฺตนา ปกฺกตฺตา สวตฺถุกปกฺกํ วิย ภเวยฺยาติ ปริสงฺกียติ, ตทา อามิเสน สห ปฏิคฺคหิตตฺตาติ การณํ วตฺตพฺพํ, น ปน ปกฺกตฺตาติ. ตถา จ อุปฑฺฒตฺเถรานํ มตเมว องฺคี กตํ สิยา. ตตฺถ จ สามเณราทีหิ ปกฺกมฺปิ ยาวกาลิกเมว สิยา ปฏิคฺคหิตขีราทึ ปจิตฺวา อนุปสมฺปนฺเนหิ กตสปฺปิอาทิ วิย จ, น จ ตํ ยุตฺตํ, ภิกฺขาจาเรน ลทฺธนวนีตาทีนํ ตกฺกาทิอามิสสํสคฺคสมฺภเวน อปริภฺุชิตพฺพตาปสงฺคโต. น หิ คหฏฺา โธวิตฺวา, โสเธตฺวา วา ปตฺเต อากิรนฺตีติ นิยโม อตฺถิ, อฏฺกถายฺจ ‘‘ยถา ตตฺถ ปติตตณฺฑุลกณาทโย น ปจฺจนฺติ, เอวํ…เป… ปุน ปจิตฺวา เทติ, ปุริมนเยเนว สตฺตาหํ วฏฺฏตี’’ติ อิมินา วจเนนเปตํ วิรุชฺฌติ, ตสฺมา อิธ กุกฺกุจฺจกานํ กุกฺกุจฺจุปฺปตฺติยา นิมิตฺตเมว น ทิสฺสติ. ยถา เจตฺถ, เอวํ ‘‘ลชฺชี สามเณโร ยถา ตตฺถ ปติตตณฺฑุลกณาทโย น ปจฺจนฺติ, เอวํ สามิสปากํ โมเจนฺโต อคฺคิมฺหิ วิลียาเปตฺวา…เป… วฏฺฏตี’’ติ วจนสฺสาปิ นิมิตฺตํ น ทิสฺสติ. ยทิ หิ เอตํ ยาวกาลิกสํสคฺคปริหาราย วุตฺตํ สิยา, อตฺตนาปิ ตถา กาตพฺพํ ภเวยฺย. คหฏฺเหิ ทินฺนสปฺปิอาทีสุ จ อามิสสํสคฺคสงฺกา น วิคจฺเฉยฺย. น หิ คหฏฺา เอวํ วิลียาเปตฺวา ปน ตณฺฑุลาทึ อปเนตฺวา ปุน ปจนฺติ, อปิจ เภสชฺเชหิ สทฺธึ ขีราทึ ปกฺขิปิตฺวา ยถา ขีราทิ ขยํ คจฺฉติ, เอวํ ปเรหิ ปกฺกเภสชฺชเตลาทิปิ ยาวกาลิกเมว สิยา, น จ ตมฺปิ ยุตฺตํ ทธิอาทิขยกรณตฺถํ ‘‘ปุน ปจิตฺวา เทตี’’ติ วุตฺตตฺตา. ตสฺมา มหาสิวตฺเถรวาเท กุกฺกุจฺจํ อกตฺวา อโธตมฺปิ นวนีตํ ตทหุปิ ปุนทิวสาทีสุปิ ปจิตุํ, ตณฺฑุลาทิมิสฺสํ สปฺปิอาทึ อตฺตนาปิ อคฺคิมฺหิ วิลียาเปตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา ปุน ตกฺกาทิขยตฺถํ ปจิตฺุจ วฏฺฏติ.
ตตฺถ ¶ วิชฺชมานสฺสปิ ปจฺจมานกฺขเณ สมฺภินฺนรสสฺส ยาวกาลิกสฺส อพฺโพหาริกตฺเตน สวตฺถุกปฏิคฺคหิตปุเรปฏิคฺคหิตานมฺปิ อพฺโพหาริกโตติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพนฺติ. เตเนว ‘‘เอตฺตาวตา ¶ สวตฺถุกปฏิคฺคหิตํ นาม น โหตี’’ติ วุตฺตํ. วิสุํ ปฏิคฺคหิเตน ปน ขีราทิอามิเสน นวนีตาทึ มิสฺเสตฺวา ภิกฺขุนา วา อฺเหิ วา ปกฺกเตลาทิเภสชฺชํ สวตฺถุกปฏิคฺคหิตสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตตฺถ ปวิฏฺยาวกาลิกสฺส อพฺโพหาริกตฺตาภาวา. ยํ ปน ปุเรปริคฺคหิตเภสชฺเชหิ อปฺปฏิคฺคหิตํ ขีราทึ ปกฺขิปิตฺวา ปกฺกเตลาทิกํ อนุปสมฺปนฺเนเหว ปกฺกมฺปิ สวตฺถุกปฏิคฺคหิตมฺปิ สนฺนิธิปิ น โหติ, ตตฺถ ปกฺขิตฺตขีราทิกสฺสปิ ตสฺมึ ขเณ สมฺภินฺนรสตาย ปุเรปฏิคฺคหิตตฺตาปตฺติโต. สเจ ปน อปฺปฏิคฺคหิเตเหว, อฺเหิ วา ปกฺกเตลาทีสุปิ สเจ อามิสรโส ปฺายติ, ตํ ยาวกาลิกเมว โหตีติ เวทิตพฺพํ. อุคฺคเหตฺวาติ สยเมว คเหตฺวา.
ปริสฺสาเวตฺวา คหิตนฺติ ตณฺฑุลาทิวิคมตฺถํ ปริสฺสาเวตฺวา, ตกฺกาทิวิคมตฺถํ ปุน ปจิตฺวา คหิตนฺติ อตฺโถ. ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตเภสชฺเชหีติ อติเรกสตฺตาหปฏิคฺคหิเตหิ, เอเตน เตหิ ยุตฺตมฺปิ สปฺปิอาทิ อติเรกสตฺตาหปฏิคฺคหิตํ น โหตีติ ทสฺเสติ. วทฺทลิสมเยติ วสฺสกาลสมเย, อนาตปกาเลติ อตฺโถ.
นิพฺพฏฺฏิตตฺตาติ ยาวกาลิกวตฺถุโต วิเวจิตตฺตา, เอเตน เตเล สภาวโต ยาวกาลิกตฺตาภาวํ, ภิกฺขุโน สวตฺถุกปฏิคฺคหเณน ยาวกาลิกตฺตุปคมนฺจ ทสฺเสติ. อุภยมฺปีติ อตฺตนา, อฺเหิ จ กตํ.
๖๒๓. อจฺฉวสนฺติ ทุกฺกฏวตฺถูนฺเว อุปลกฺขณนฺติ อาห ‘‘เปตฺวา มนุสฺสวส’’นฺติ. สํสฏฺนฺติ ปริสฺสาวิตํ. ติณฺณํ ทุกฺกฏานนฺติ อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ตีณิ ทุกฺกฏานิ สนฺธาย วุตฺตํ. กิฺจาปิ ปริโภคตฺถาย วิกาเล ปฏิคฺคหณปจนปริสฺสาวนาทีสุ ปุพฺพปโยเคสุ ปาฬิยํ, อฏฺกถายฺจ อาปตฺติ น วุตฺตา, ตถาปิ เอตฺถ อาปตฺติยา เอว ภวิตพฺพํ ปฏิกฺขิตฺตสฺส กรณโต อาหารตฺถาย วิกาเล ยามกาลิกาทีนํ ปฏิคฺคหเณ วิย. ยสฺมา ขีราทึ ปกฺขิปิตฺวา ปกฺกเภสชฺชเตเล กสฏํ อามิสคติกํ, เตน สห เตลํ ปฏิคฺคเหตุํ, ปจิตุํ วา ภิกฺขุโน น วฏฺฏติ. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปกฺกเตลกสเฏ วิย กุกฺกุจฺจายตี’’ติ. สเจ วสาย สห ปกฺกตฺตา น วฏฺฏติ, อิทํ กสฺมา น วฏฺฏตีติ ปุจฺฉนฺตา ‘‘ภนฺเต ¶ …เป… วฏฺฏตี’’ติ อาหํสุ. เถโร อติกุกฺกุจฺจตาย จ ‘‘เอตมฺปิ, อาวุโส, น วฏฺฏตี’’ติ อาห. โรคนิคฺคหตฺถาย เอว วสาย อนฺุาตตฺตํ สลฺลกฺเขตฺวา ปจฺฉา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ.
‘‘มธุกรีหิ นาม มธุมกฺขิกาหี’’ติ อิทํ ขุทฺทกภมรานํ ทฺวินฺนํ เอว วิเสสนนฺติ เกจิ วทนฺติ ¶ , อฺเ ปน ‘‘ทณฺฑเกสุ มธุการิกา มธุกรีมกฺขิกา นาม, ตาหิ สห ติสฺโส มธุมกฺขิกาชาติโย’’ติ วทนฺติ. ภมรมกฺขิกาติ มหาปฏลการิกา. สิเลสสทิสนฺติ สุกฺขตาย วา ปกฺกตาย วา ฆนีภูตํ. อิตรนฺติ ตนุกมธุ.
อุจฺฉุรสํ อุปาทายาติ นิกฺกสฏรสสฺสปิ สตฺตาหกาลิกตํ ทสฺเสติ ‘‘อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺต’’นฺติ ปาฬิยํ สามฺโต วุตฺตตฺตา. ยํ ปน สุตฺตนฺตฏฺกถายํ ‘‘อุจฺฉุ เจ, ยาวกาลิโก. อุจฺฉุรโส เจ, ยามกาลิโก. ผาณิตํ เจ, สตฺตาหกาลิกํ. ตโจ เจ, ยาวชีวโก’’ติ วุตฺตํ, ตํ อมฺพผลรสาทิมิสฺสตาย ยามกาลิกตฺตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ, อวินยวจนตฺตา ตํ อปฺปมาณนฺติ. เตเนว ‘‘ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิเตน อปริสฺสาวิตอุจฺฉุรเสนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นิรามิสเมว วฏฺฏติ ตตฺถ ปวิฏฺยาวกาลิกสฺส อพฺโพหาริกตฺตาติ อิทํ คุเฬ กเต ตตฺถ วิชฺชมานมฺปิ กสฏํ ปาเกน สุกฺขตาย ยาวชีวิกตฺตํ ภชตีติ วุตฺตํ. ตสฺส ยาวกาลิกตฺเต หิ สามํปาเกน ปุเรภตฺเตปิ อนชฺโฌหรณียํ สิยาติ. ‘‘สวตฺถุกปฏิคฺคหิตตฺตา’’ติ อิทํ อุจฺฉุรเส จุณฺณวิจุณฺณํ หุตฺวา ิตกสฏํ สนฺธาย วุตฺตํ, เตน จ อปริสฺสาวิเตน อปฺปฏิคฺคหิเตน อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ สตฺตาหํ วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. ฌามอุจฺฉุผาณิตนฺติ อคฺคิมฺหิ อุจฺฉุํ ตาเปตฺวา กตํ. โกฏฺฏิตอุจฺฉุผาณิตนฺติ ขุทฺทานุขุทฺทกํ ฉินฺทิตฺวา โกฏฺเฏตฺวา นิปฺปีเฬตฺวา ปกฺกํ.
ตํ ตตฺถ วิชฺชมานมฺปิ กสฏํ ปกฺกกาเล ยาวกาลิกตฺตํ วิชหตีติ อาห ‘‘ตํ ยุตฺต’’นฺติ. สีโตทเกน กตนฺติ มธุกปุปฺผานิ สีโตทเกน มทฺทิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา ปจิตฺวา กตํ, อมทฺทิตฺวา กตนฺติ เกจิ, ตตฺถ การณํ น ทิสฺสติ. ขีรชลฺลิกนฺติ ขีรเผณํ. มธุกปุปฺผํ ปนาติอาทิ ยาวกาลิกรูเปน ิตสฺสปิ อวฏฺฏนกเมรยพีชวตฺถุํ ทสฺเสตุํ อารทฺธํ.
สพฺพานิปีติ ¶ สปฺปิอาทีนิ ปฺจปิ. อาหารกิจฺจํ กโรนฺตานิ เอตานิ กสฺมา เอวํ ปริภฺุชิตพฺพานีติ โจทนาปริหาราย เภสชฺโชทิสฺสํ ทสฺเสนฺเตน ตปฺปสงฺเคน สพฺพานิปิ โอทิสฺสกานิ เอกโต ทสฺเสตุํ ‘‘สตฺตวิธํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อปกติเภสชฺชตฺตา วิกฏานิ วิรูปานิ วิสหรณโต มหาวิสยตฺตา มหนฺตานิ จาติ มหาวิกฏานิ. อุปสมฺปทาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน คณงฺคณูปาหนาทึ สงฺคณฺหาติ.
อธิฏฺเตีติ พาหิรปริโภคตฺถเมตนฺติ จิตฺตํ อุปฺปาเทติ, เอวํ ปริโภเค อนเปกฺขตาย ปฏิคฺคหณํ วิชหตีติ อธิปฺปาโย. เอวํ อฺเสุปิ กาลิเกสุ อนชฺโฌหริตุกามตาย สุทฺธจิตฺเตน ¶ พาหิรปริโภคตฺถาย นิยเมปิ ปฏิคฺคหณํ วิชหตีติ อิทมฺปิ วิสุํ เอกํ ปฏิคฺคหณวิชหนการณนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๖๒๕. สเจ ทฺวินฺนํ…เป… น วฏฺฏตีติ เอตฺถ ปาโ คฬิโต, เอวํ ปเนตฺถ ปาโ เวทิตพฺโพ ‘‘สเจ ทฺวินฺนํ สนฺตกํ เอเกน ปฏิคฺคหิตํ อวิภตฺตํ โหติ, สตฺตาหาติกฺกเม ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺติ, ปริภฺุชิตุํ ปน น วฏฺฏตี’’ติ. อฺถา หิ สทฺทปฺปโยโคปิ น สงฺคหํ คจฺฉติ. ‘‘คณฺิปเทปิ จ อยเมว ปาโ ทสฺสิโต’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๖๒๕) สารตฺถทีปนิยํ วุตฺตํ. ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺตีติ อวิภตฺตตฺตา วุตฺตํ. ‘‘ปริภฺุชิตุํ ปน น วฏฺฏตี’’ติ อิทํ ‘‘สตฺตาหปรมํ สนฺนิธิการกํ ปริภฺุชิตพฺพ’’นฺติ วจนโต วุตฺตํ. ‘‘เยน ปฏิคฺคหิตํ, เตน วิสฺสชฺชิตตฺตา’’ติ อิมินา อุปสมฺปนฺนสฺส ทานมฺปิ สนฺธาย ‘‘วิสฺสชฺเชตี’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. อุปสมฺปนฺนสฺส นิรเปกฺขทินฺนวตฺถุมฺหิ ปฏิคฺคหณสฺส อวิคตตฺเตปิ สกสนฺตกตา วิคตาว โหติ, เตน นิสฺสคฺคิยํ น โหติ. อตฺตนาว ปฏิคฺคหิตตฺตํ, สกสนฺตกตฺตฺจาติ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, น เอเกน. อนุปสมฺปนฺนสฺส นิรเปกฺขทาเน ปน ตทุภยมฺปิ วิชหติ, ปริโภโคเปตฺถ วฏฺฏติ, น สาเปกฺขทาเน ทานลกฺขณาภาวโต. ‘‘วิสฺสชฺเชตี’’ติ เอตสฺมิฺจ ปาฬิปเท กสฺสจิ อทตฺวา อนเปกฺขตาย ฉฑฺฑนมฺปิ สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘อนเปกฺโข ทตฺวา’’ติ อิทฺจ ปฏิคฺคหณวิชหนวิธิทสฺสนตฺถเมว วุตฺตํ. ปฏิคฺคหเณ หิ วิชหิเต ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ปริโภโค สยเมว วฏฺฏิสฺสติ, ตพฺพิชหนฺจ วตฺถุโน สกสนฺตกตาปริจฺจาเคน โหตีติ, เอเตน จ วตฺถุมฺหิ อชฺโฌหรณาเปกฺขาย สติ ปฏิคฺคหณวิสฺสชฺชนํ นาม วิสุํ น ลพฺภตีติ สิชฺฌติ. อิตรถา หิ ‘‘ปฏิคฺคหเณ อนเปกฺโขว ¶ ปฏิคฺคหณํ วิสฺสชฺเชตฺวา ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ภฺุชตี’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา. ‘‘อปฺปฏิคฺคหิตตฺตา’’ติ อิมินา เอกสฺส สนฺตกํ อฺเน ปฏิคฺคหิตมฺปิ นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ ทสฺเสติ.
เอวนฺติ ‘‘ปุน คเหสฺสามี’’ติ อเปกฺขํ อกตฺวา สุทฺธจิตฺเตน ปริจฺจตฺตตํ ปรามสติ. ปริภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติทสฺสนตฺถนฺติ นิสฺสคฺคิยมูลิกาหิ ปาจิตฺติยาทิอาปตฺตีหิ อนาปตฺติทสฺสนตฺถนฺติ อธิปฺปาโย. ปริโภเค อนาปตฺติทสฺสนตฺถนฺติ เอตฺถ ปน นิสฺสฏฺปฏิลทฺธสฺส กายิกปริโภคาทีสุ ยา ทุกฺกฏาปตฺติ วุตฺตา, ตาย อนาปตฺติทสฺสนตฺถนฺติ อธิปฺปาโย. สปฺปิอาทีนํ ปฏิคฺคหิตภาโว, อตฺตโน สนฺตกตา, สตฺตาหาติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๒๘. จตุตฺเถ ¶ เชฏฺมูลปุณฺณมาสิยา…เป… กรณกฺเขตฺตฺจาติ ปมทฺธมาสมฺปิ กรณกฺเขตฺตํ วุตฺตํ. ตํ ‘‘กตฺวา นิวาเสตพฺพ’’นฺติ อิมสฺส ปุริมทฺธมาเส วา ปจฺฉิมทฺธมาเส วา กตฺวา ปจฺฉิมมาเสว นิวาเสตพฺพนฺติ เอวมตฺถํ คเหตฺวา วุตฺตํ นิวาสเนเยว อาปตฺติยา วุตฺตตฺตาติ. ยํ ปน มาติกาฏฺกถายํ ‘‘คิมฺหานํ ปจฺฉิโม มาโส ปริเยสนกฺเขตฺตํ, ปจฺฉิโม อทฺธมาโส กรณนิวาสนกฺเขตฺตมฺปี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ, ตํ ตสฺมึเยว อทฺธมาเส กตฺวา นิวาเสตพฺพนฺติ เอวมตฺถํ คเหตฺวา วุตฺตํ. อิธ วุตฺตนเยเนว อตฺเถ คหิเต วิโรโธ นตฺถิ.
‘‘วตฺตเภเท ทุกฺกฏ’’นฺติ อิทํ วสฺสิกสาฏิกอทินฺนปุพฺเพ สนฺธาย วุตฺตํ. เตนาห ‘‘เย มนุสฺสา’’ติอาทิ. ปกติยา วสฺสิกสาฏิกทายกา นาม สงฺฆํ วา อตฺตานํ วา อปฺปวาเรตฺวาว อนุสํวจฺฉรํ ทายกา.
๖๓๐. ‘‘ฉ มาเส ปริหารํ ลภตี’’ติ เอเตน อนฺโตวสฺเสปิ ยาว วสฺสานสฺส ปจฺฉิมทิวสา อกตา ปริหารํ ลภตีติ ทีปิตํ โหติ. เอกมาสนฺติ เหมนฺตสฺส ปจฺฉิมุโปสเถน สห คเณตฺวา วุตฺตํ. ตสฺมึ อุโปสถทิวเส ¶ เอว หิ ตํ มูลจีวรํ กาตพฺพํ, อิตรถา หิ นิสฺสคฺคิยโต. เอกาหทฺวีหาทิวเสน…เป… ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จาติ เอตฺถ เอกาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ ทฺวีหานาคตาย…เป… ทสาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ, อนฺโตวสฺเส วา ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตตฺถ อาสฬฺหีมาสสฺส ชุณฺหปกฺขปุณฺณมิยํ ลทฺธา, ตทเหว รชนกปฺปปริโยสาเนหิ นิฏฺิตา จ วสฺสิกสาฏิกา ‘‘เอกาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จา’’ติ วุจฺจติ. เอเตเนว นเยน ชุณฺหปกฺขสฺส ฉฏฺิยํ ลทฺธา, นิฏฺิตา จ ‘‘ทสาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จา’’ติ วุจฺจติ. ยาว ปมกตฺติกเตมาสิปุณฺณมา, ตาว ลทฺธา, นิฏฺิตา จ ‘‘อนฺโตวสฺเส ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จา’’ติ วุจฺจติ. ปมกตฺติกเตมาสิปุณฺณมิโต ปรํ ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ ยาว จีวรกาโล นาติกฺกมติ, ตาว อนธิฏฺหิตฺวาปิ เปตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย.
เอตฺถ จ ‘‘ตสฺมึเยว อนฺโตทสาเห อธิฏฺาตพฺพา’’ติ อวิเสเสน วุตฺเตปิ วสฺสานโต ปุพฺเพ เอกาหทฺวีหาทิวเสน อนาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เตหิ ทิวเสหิ ทสาหํ อนติกฺกมนฺเตน ¶ วสฺสูปนายิกทิวสโต ปฏฺาย อธิฏฺานกฺเขตฺตํ สมฺปตฺตา เอว อธิฏฺาตพฺพา, ตโต ปน ปุพฺเพ ทสาหาติกฺกเมน นิฏฺิตาปิ น อธิฏฺาตพฺพา อธิฏฺานสฺส อเขตฺตตฺตา. ตาทิสา ปน วสฺสูปนายิกทิวเส เอว อธิฏฺาตพฺพา, อนธิฏฺหโต อรุณุคฺคมเนน นิสฺสคฺคิยํ โหติ. ยทิ เอวํ ‘‘ทสาหานาคตายา’’ติ อิมินา กึ ปโยชนนฺติ เจ? วสฺสานโต ปุพฺเพ เอว ทสาเห อติกฺกนฺเต นิฏฺิตา วสฺสูปนายิกทิวเส เอว อธิฏฺาตพฺพาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘ทสาหาติกฺกเม นิฏฺิตา ตทเหว อธิฏฺาตพฺพา’’ติ.
ทสาเห อปฺปโหนฺเต จีวรกาลํ นาติกฺกเมตพฺพาติ เตมาสพฺภนฺตเร ทสาเห อปฺปโหนฺเต นวาหานาคตาย กตฺติกเตมาสิปุณฺณมาย สตฺตมิโต ปฏฺาย ลทฺธา, นิฏฺิตา จ จีวรกาลํ นาติกฺกเมตพฺพาติ อตฺโถ. ตถา หิ ‘‘มาโส เสโส คิมฺหานนฺติ ภิกฺขุนา วสฺสิกสาฏิกจีวรํ ปริเยสิตพฺพ’’นฺติ ปริเยสนกฺเขตฺตํ วตฺวา ‘‘วสฺสิกสาฏิกํ วสฺสานํ จาตุมาสํ อธิฏฺาตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘) วุตฺตตฺตา กตายปิ อกตายปิ ¶ มาสมตฺตํ อนธิฏฺาตพฺพตา สิทฺธา. ยสฺมา จ อกตา วสฺสิกสาฏิกสงฺขฺยํ น คจฺฉติ, อกรณฺจ เกนจิ เวกลฺเลน, น อนาทเรน, ตสฺมา จาตุมาสํ อกตตฺตา เอว ปริหารํ ลภติ, กตา ปน อธิฏฺานกฺเขตฺเต, อกตา จ จีวรกาเล ทสาหปรมสิกฺขาปเทเนว ปริหารํ ลภตีติ อยมตฺโถ ลพฺภติ. กสฺมาติ อตฺตโน มติยา การณปุจฺฉา. ตสฺมาติ วสฺสาเนเยว วสฺสิกสาฏิกาย อธิฏฺาตพฺพตาวจนโต. ‘‘ติจีวรํ อธิฏฺาตุ’’นฺติ สุตฺตํ ปเนตฺถ เสสจีวรานํ เอวํ กาลนิยมาภาวํ สาเธตุํ อุทฺธฏํ. น หิ เตเนตฺถ อฺํ ปโยชนํ อตฺถิ.
กทา อธิฏฺาตพฺพาติอาทิกุรุนฺทิวจเนนาปิ ‘‘ยทา วา ตทา วา อธิฏฺาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิทํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ทสาหพฺภนฺตเร เอว กตาย อธิฏฺาตพฺพตํ ทสฺเสติ.
ปาฬิยํ อจฺฉินฺนจีวรสฺสาติอาทีสุ อจฺฉินฺนเสสจีวรสฺส นฏฺเสสจีวรสฺส. เอเตสฺหิ อสมเย ปริเยสนนิวาสนาปตฺติยา เอว อนาปตฺติ วุตฺตา. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺส วา นฏฺจีวรสฺส วา อนิวตฺถํ โจรา หรนฺตีติ เอวํ อาปทาสุ วา นิวาสยโต อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺตี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ, อิธ ปน สมนฺตปาสาทิกายํ อยํ นิสฺสคฺคิยา อนาปตฺติ ปาฬิโต สยเมว สิชฺฌตีติ อิมํ อทสฺเสตฺวา อสิชฺฌมานํ นคฺคสฺส นฺหายโต ทุกฺกฏาปตฺติยา เอว อนาปตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. น หิ เอสา อนาปตฺติ อวุตฺเต สิชฺฌตีติ. วสฺสิกสาฏิกาย อตฺตุทฺเทสิกตา, อสมเย ปริเยสนตา, ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมานิ ¶ ตาว ปริเยสนาปตฺติยา ตีณิ องฺคานิ. นิวาสนาปตฺติยา ปน สจีวรตา, อาปทาภาโว, วสฺสิกสาฏิกาย สกภาโว, อสมเย นิวาสนนฺติ จตฺตาริ องฺคานิ.
วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๓๑. ปฺจเม ¶ ยมฺปิ…เป… อจฺฉินฺทีติ เอตฺถ ยํ เต อหํ จีวรํ อทาสึ, ตํ ‘‘มยา สทฺธึ ปกฺกมิสฺสตี’’ติ สฺาย อทาสึ, น อฺถาติ กุปิโต อจฺฉินฺทีติ เอวํ อชฺฌาหริตฺวา โยเชตพฺพํ.
๖๓๓. เอกํ ทุกฺกฏนฺติ ยทิ อาณตฺโต อวสฺสํ อจฺฉินฺทติ, อาณตฺติกฺขเณ ปาจิตฺติยเมว. ยทิ น อจฺฉินฺทติ, ตทา เอว ทุกฺกฏนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอกวาจาย สมฺพหุลา อาปตฺติโยติ ยทิ อาณตฺโต อนนฺตราเยน อจฺฉินฺทติ, อาณตฺติกฺขเณเยว วตฺถุคณนาย ปาจิตฺติยอาปตฺติโย ปโยคกรณกฺขเณเยว อาปตฺติยา อาปชฺชิตพฺพโต, จีวรํ ปน อจฺฉินฺเนเยว นิสฺสคฺคิยํ โหติ. ยทิ โส น อจฺฉินฺทติ, อาณตฺติกฺขเณ เอกเมว ทุกฺกฏนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอวํ อฺตฺถาปิ อีทิเสสุ นโย าตพฺโพ.
๖๓๕. อุปชฺฌํ คณฺหิสฺสตีติ สามเณรสฺส ทานํ ทีเปติ, เตน จ สามเณรกาเล ทตฺวา อุปสมฺปนฺนกาเล อจฺฉินฺทโตปิ ปาจิตฺติยํ ทีเปติ. ‘‘ภิกฺขุสฺส สามํ จีวรํ ทตฺวา’’ติ อิทํ อุกฺกฏฺวเสน วุตฺตํ. อาหราเปตุํ ปน วฏฺฏตีติ กมฺเม อกเต ภติสทิสตฺตา วุตฺตํ. วิกปฺปนุปคปจฺฉิมจีวรตา, สามํ ทินฺนตา, สกสฺิตา, อุปสมฺปนฺนตา, โกธวเสน อจฺฉินฺทนํ วา อจฺฉินฺทาปนํ วาติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. สุตฺตวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๓๖. ฉฏฺเ วีตวีตฏฺานํ ยสฺมึ จตุรสฺสทารุมฺหิ ปลิเวเนฺติ, ตสฺส ตุรีติ นามํ. วายนฺตา ¶ ติริยํ สุตฺตํ ปเวเสตฺวา เยน อาโกเฏนฺตา วตฺเถ ฆนภาวํ อาปาเทนฺติ, ตํ ‘‘เวม’’นฺติ วุจฺจติ.
‘‘อิตรสฺมึ ตเถว ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินา วายิตุํ อารทฺธกาลโต ปฏฺาย ยถาวุตฺตปริจฺเฉทนิฏฺิเตเยว ทุกฺกฏมฺปิ โหติ, น ตโต ปุพฺเพ วายนปโยเคสูติ ทสฺเสติ.
ตนฺเต ¶ ิตํเยว อธิฏฺาตพฺพนฺติ เอตฺถ เอกวารํ อธิฏฺิเต ปจฺฉา วีตํ อธิฏฺิตคติกเมว โหติ, ปุน อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ. สเจ ปน อนฺตรนฺตรา ทสา เปตฺวา วิสุํ วิสุํ สปริจฺเฉทํ วีตํ โหติ, ปจฺเจกํ อธิฏฺาตพฺพเมวาติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ กปฺปิยสุตฺตํ คเหตฺวา อฺาตกอปฺปวาริเตนาปิ อกปฺปิยตนฺตวาเยน ‘‘สุตฺตมตฺถิ, วายนฺโต นตฺถี’’ติอาทิปริยายมุเขน วายาเปนฺตสฺส อนาปตฺติ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. สุตฺตวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘วายาเปยฺยา’’ติ ปทสฺส ‘‘จีวรํ เม, อาวุโส, วายถาติ อกปฺปิยวิฺตฺติยา วายาเปยฺยา’’ติ อตฺโถ วุตฺโต, เอวํ วทนฺโต อกปฺปิยตนฺตวาเยน วายาเปติ นาม, นาฺถา.
๖๔๐. อนาปตฺติ จีวรํ สิพฺเพตุนฺติอาทีสุ อิมินา สิกฺขาปเทเนว อนาปตฺติ, อกตวิฺตฺติปจฺจยา ปน ทุกฺกฏเมวาติ วทนฺติ. อกปฺปิยสุตฺตตา, อตฺตุทฺเทสิกตา, อกปฺปิยตนฺตวาเยน อกปฺปิยวิฺตฺติยา วายาปนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
สุตฺตวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. มหาเปสการสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๔๒. สตฺตเม ‘‘กิฺจิมตฺตํ อนุปทชฺเชยฺยา’’ติ อิทํ ปโยคเภททสฺสนํ, ทานํ ปเนตฺถ องฺคํ น โหติ. เตเนว ตสฺส วิภงฺเค ‘‘อนฺตมโส ธมฺมมฺปิ ภณตี’’ติ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อฺาตกอปฺปวาริตานํ ตนฺตวาเย อุปสงฺกมิตฺวา วิกปฺปมาปชฺชนตา, จีวรสฺส อตฺตุทฺเทสิกตา, ตสฺส วจเนน สุตฺตวฑฺฒนํ, จีวรปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
มหาเปสการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๔๖. อฏฺเม ¶ ¶ ฉฏฺิยํ อุปฺปนฺนจีวรสฺส เอกาทสมารุโณ จีวรกาเล อุฏฺาตีติ อาห ‘‘ฉฏฺิโต ปฏฺายา’’ติอาทิ, เตน จ ‘‘ทสาหานาคต’’นฺติ วุตฺตตฺตา ปฺจมิโต ปฏฺาย ปุณฺณมิโต ปุพฺเพ ทสสุ อรุเณสุ อุฏฺิเตสุปิ จีวรํ นิสฺสคฺคิยํ น โหติ. ปุณฺณมิยา สห เอกาทส ทิวสา ลพฺภนฺตีติ เอตฺตกเมว อิมินา สิกฺขาปเทน ลทฺธํ, ฉฏฺิโต ปฏฺาย อุปฺปนฺนํ สพฺพจีวรํ ปมกถินสิกฺขาปทวเสเนว ยาว จีวรกาลํ นิสฺสคฺคิยํ น โหตีติ ทสฺเสติ.
๖๕๐. อิทานิ ปมกถินาทิสิกฺขาปเทหิ ตสฺส ตสฺส จีวรสฺส ลพฺภมานํ ปริหารํ อิเธว เอกโต สมฺปิณฺเฑตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อติเรกจีวรสฺสา’’ติอาทิมาห. ‘‘อนตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิโก มาโส, อตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิกา ปฺจ มาสา’’ติ อยเมว ปาโ ปาฬิยา สเมติ. เกจิ ปน ‘‘ทสทิวสาธิโก มาโส, ทสทิวสาธิกา ปฺจ มาสาติ ปาเน ภวิตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ, อฺถา ‘‘นวาหานาคต’’นฺติ วตฺตพฺพโต. ยํ ปเนตฺถ มาติกาฏฺกถายฺจ ‘‘กามฺเจส ‘ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพ’นฺติ อิมินาว สิทฺโธ, อฏฺุปฺปตฺติวเสน ปน อปุพฺพํ วิย อตฺถํ ทสฺเสตฺวา สิกฺขาปทํ ปิต’’นฺติ (กงฺขา. อฏฺ. อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา) ลิขนฺติ, ตํ ปมาทลิขิตํ ‘‘ปวารณมาสสฺส ชุณฺหปกฺขปฺจมิโต ปฏฺาย อุปฺปนฺนสฺส จีวรสฺส นิธานกาโล ทสฺสิโต โหตี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตตฺตา. อิมเมว จ ปมาทลิขิตํ คเหตฺวา ภทนฺตพุทฺธทตฺตาจริเยน จ ‘‘ปริหาเรกมาโสว, ทสาหปรโม มโต’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
อจฺเจกจีวรสทิเส อฺสฺมินฺติ ปุพฺเพ อธิฏฺิเต อุปฺปนฺนกาลาการาทิ สาทิเสน อจฺเจกจีวรสทิเส อฺสฺมึ จีวเร อจฺเจกจีวรสฺาย จีวรกาลํ อติกฺกเมตีติ อตฺโถ. เตเนเวตฺถ ทุกฺกฏํ, อนาปตฺติ จ วุตฺตา, อิตรถา ตีสุปิ ปเทสุ ปาจิตฺติยสฺเสว วตฺตพฺพโต. อนจฺเจกจีวรมฺปิ หิ จีวรกาลํ อติกฺกมยโต ปาจิตฺติยเมว อจฺเจกจีวรตฺติเก วิยาติ ทฏฺพฺพํ. วิกปฺปนุปคปจฺฉิมปฺปมาณสฺส อจฺเจกจีวรสฺส อตฺตโน สนฺตกตา ¶ , ทสาหานาคตาย กตฺติกเตมาสิปุณฺณมาย อุปฺปนฺนภาโว, อนธิฏฺิตอวิกปฺปิตตา, จีวรกาลาติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๕๒-๓. นวเม ¶ อนฺตรนฺตรา ฆรเมตฺถาติ อนฺตรฆรนฺติ คาโม วุตฺโตติ อาห ‘‘อนฺโตคาเม’’ติ. ‘‘ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (วิภ. ๖๒๔) อิมสฺส วิภงฺเค ‘‘อุปสมฺปชฺช’’นฺติ สานุสารํ อุทฺธฏํ. ตํ สนฺธายาห ‘‘อุปสมฺปชฺชนฺติอาทีสุ วิยา’’ติ. ตสฺสาปีติ ‘‘วุตฺถวสฺสาน’’นฺติ วิภงฺคปทสฺสปิ. วุตฺถวสฺสานนฺติ จ นิทฺธารเณ สามิวจนํ, เอเตน จ ปุริมสิกฺขาปเท อนตฺถตกถินานํ กถินมาเสปิ อสมาทานจาโร น ลพฺภตีติ สิทฺธํ โหติ, อิตรถา สิกฺขาปทสฺเสว นิรตฺถกตฺตาติ ทฏฺพฺพํ.
ปริกฺเขปารหฏฺานโตติ เอตฺถ คามปริยนฺเต ิตฆรูปจารโต ปฏฺาย เอโก เลฑฺฑุปาโต ปริกฺเขปารหฏฺานํ นาม. วิสุทฺธิมคฺเคปิ ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส ปมเลฑฺฑุปาตโต ปฏฺายา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๓๑) วุตฺตํ. ตนฺติ ตํ ปมเสนาสนาทึ. มชฺฌิมนิกายฏฺกถายํ ปน วิหารสฺสปิ คามสฺเสว อุปจารํ นีหริตฺวา อุภินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺตรา มินิตพฺพนฺติ วุตฺตํ.
‘‘โกสมฺพิยํ อฺตโร ภิกฺขุ คิลาโน โหตี’’ติ อาคตตฺตา ‘‘โกสมฺพกสมฺมุติ อนฺุาตา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อยฺจ ปจฺฉิมทิสํ คโต โหตี’’ติ อิมินา อนฺตรฆเร จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺมึ วิหาเร วสนฺตสฺส สกลมฺปิ จีวรมาสํ วิปฺปวสิตุํ วฏฺฏติ, ตโต อฺตฺถ คมนกิจฺเจ สติ วิหารโต พหิ ฉารตฺตํ วิปฺปวาโส อนฺุาโตติ ทีเปติ. เตนาห ‘‘เสนาสนํ อาคนฺตฺวา สตฺตมํ อรุณํ อุฏฺาเปตุ’’นฺติอาทิ. วสิตฺวาติ อรุณํ อุฏฺาเปตฺวา. ตตฺเถวาติ ตสฺมิฺเว คตฏฺาเน. องฺคานิ ปเนตฺถ อฏฺกถายเมว วุตฺตานิ.
สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ปริณตสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๖๐. ทสเม ¶ โรปิตมาลวจฺฉโตติ เกนจิ นิยเมตฺวา โรปิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อโนจิตํ มิลายมานํ โอจินิตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ ปูเชตุํ วฏฺฏติ. ิตํ ทิสฺวาติ เสสกํ คเหตฺวา ิตํ ทิสฺวา. ยตฺถ อิจฺฉถ, ตตฺถ เทถาติ เอตฺถ นิยเมตฺวา ‘‘อสุกสฺส เทหี’’ติ วุตฺเตปิ ¶ โทโส นตฺถิ ‘‘ตุมฺหากํ รุจิยา’’ติ วุตฺตตฺตา. สงฺเฆ ปริณตภาโว, ตํ ตฺวา อตฺตโน ปริณามนํ, ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
ปริณตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต ปตฺตวคฺโค ตติโย.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
ตึสกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
ปโม ภาโค นิฏฺิโต.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
วินยปิฏเก
วิมติวิโนทนี-ฏีกา (ทุติโย ภาโค)
๕. ปาจิตฺติยกณฺฑํ
๑. มุสาวาทวคฺโค
๑. มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา
๑. มุสาวาทวคฺคสฺส ¶ ¶ ปมสิกฺขาปเท ขุทฺทกานนฺติ เอตฺถ ‘‘ขุทฺทก-สทฺโท พหุ-สทฺทปริยาโย’’ติ วทนฺติ. ตตฺถาติ เตสุ วคฺเคสุ, ขุทฺทเกสุ วา. ‘‘ชานิตพฺพโต’’ติ เหตุโน วิปกฺเขปิ นิพฺพาเน วตฺตนโต อเนกนฺติกตฺเต ปเรหิ วุตฺเต ‘‘น มยา อยํ เหตุ วุตฺโต’’ติ ¶ ตํ การณํ ปฏิจฺฉาเทตุํ ปุน ‘‘ชาติธมฺมโตติ มยา วุตฺต’’นฺติอาทีนิ วทติ. ‘‘สมฺปชาน’’นฺติ วตฺตพฺเพ อนุนาสิกโลเปน นิทฺเทโสติ อาห ‘‘ชานนฺโต’’ติ.
๒. สมฺปชานมุสาวาเทติ อตฺตนา วุจฺจมานสฺส อตฺถสฺส วิตถภาวํ ปุพฺเพปิ ชานิตฺวา, วจนกฺขเณ จ ชานนฺตสฺส มุสาวาทภณเน. เตนาห ‘‘ชานิตฺวา’’ติอาทิ. มุสาวาเทติ จ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, ตสฺมา มุสาภณนนิมิตฺตํ ปาจิตฺติยนฺติ เอวเมตฺถ, อิโต ปเรสุปิ อีทิเสสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๓. วทนฺติ ¶ เอตายาติ วาจาติ อาห ‘‘มิจฺฉา’’ติอาทิ. ‘‘ธนุนา วิชฺฌตี’’ติอาทีสุ วิย ‘‘จกฺขุนา ทิฏฺ’’นฺติ ปากฏวเสน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘โอฬาริเกนา’’ติ.
๑๑. คโต ภวิสฺสตีติ เอตฺถาปิ สนฺนิฏฺานโต วุตฺตตฺตา มุสาวาโท ชาโต. อาปตฺตินฺติ ปาจิตฺติยาปตฺตึ, น ทุพฺภาสิตํ. ชาติอาทีหิ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ ปรํ ทวา วทนฺตสฺส หิ ตํ โหติ. จาเรสุนฺติ อุปเนสุํ. วตฺถุวิปรีตตา, วิสํวาทนปุเรกฺขารตา, ยมตฺถํ วตฺถุกาโม, ตสฺส ปุคฺคลสฺส วิฺาปนปโยโค จาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. วตฺถุวิปรีตตาย หิ อสติ วิสํวาทนปุเรกฺขารตาย วิฺาปิเตปิ มุสาวาโท น โหติ, ทุกฺกฏมตฺตเมว โหติ. ตสฺมา สาปิ องฺคเมวาติ คเหตพฺพํ. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนตฺถํ มุสา ภณนฺตสฺส ปาราชิกํ, ปริยาเยน ถุลฺลจฺจยํ, อมูลเกน ปาราชิเกน อนุทฺธํสนตฺถํ สงฺฆาทิเสโส, สงฺฆาทิเสเสนานุทฺธํสนโอมสวาทาทีสุ ปาจิตฺติยํ, อนุปสมฺปนฺเนสุ ทุกฺกฏํ, อุกฺกฏฺหีนชาติอาทีหิ ทวา อกฺโกสนฺตสฺส ทุพฺภาสิตํ, เกวลํ มุสา ภณนฺตสฺส อิธ ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ.
มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. โอมสวาทสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๓. ทุติเย ปุพฺเพ ปติฏฺิตารปฺปเทสํ ปุน อเร ปตฺเตติ ปมํ ภูมิยํ ปติฏฺิตเนมิปฺปเทเส ปริวตฺเตตฺวา ปุน ภูมิยํ ปติฏฺิเตติ อตฺโถ.
๑๕. ปุพฺเพติ อฏฺุปฺปตฺติยํ. ปุปฺผฉฑฺฑกา นาม คพฺภมลาทิหารกา. ตจฺฉกกมฺมนฺติ ปาสาณโกฏฺฏนาทิวฑฺฒกีกมฺมํ ¶ . หตฺถมุทฺทาคณนาติ องฺคุลิสงฺโกจเนเนว คณนา. อจฺฉิทฺทกคณนา นาม เอกฏฺานทสฏฺานาทีสุ สาริโย เปตฺวา อนุกฺกเมน คณนา. อาทิ-สทฺเทน สงฺกลนปฏอุปฺปาทนโวกฺลนภาคหาราทิวเสน ปวตฺตา ปิณฺฑคณนา คหิตา. ยสฺส สา ปคุณา, โส รุกฺขมฺปิ ทิสฺวา ‘‘เอตฺตกานิ เอตฺถ ปณฺณานี’’ติ ¶ ชานาติ. ยภ-เมถุเนติ วจนโต อาห ‘‘ย-การ-ภ-กาเร’’ติอาทิ.
๑๖. น ปุริเมนาติ มุสาวาทสิกฺขาปเทน. โสปิ อาปตฺติยาติ อุปสคฺคาทิวิสิฏฺเหิปิ วทนฺโต ปาจิตฺติยาปตฺติยาว กาเรตพฺโพ.
๒๖. ทุพฺภาสิตนฺติ สามฺโต วุตฺตตฺตา ปาฬิยํ อนาคเตหิปิ ปรมฺมุขา วทนฺตสฺสปิ ทุพฺภาสิตเมวาติ อาจริยา วทนฺติ ตโต ลามกาปตฺติยา อภาวา, อนาปตฺติยาเปตฺถ ภวิตุํ อยุตฺตตฺตา. สพฺพสตฺตาติ เอตฺถ วจนตฺถวิทูหิ ติรจฺฉานาทโยปิ คหิตา.
๓๕. อนุสาสนีปุเรกฺขารตาย วา ปาปครหิตาย วา วทนฺตานํ จิตฺตสฺส ลหุปริวตฺติภาวโต อนฺตรนฺตรา โกเป อุปฺปนฺเนปิ อนาปตฺติ. กายวิการมตฺเตนปิ โอมสนสมฺภวโต ‘‘ติสมุฏฺานํ, กายกมฺม’’นฺติ จ วุตฺตํ. ปริวาเร ปน ‘‘จตุตฺเถน อาปตฺติสมุฏฺาเนน…เป… ทุพฺภาสิตํ อาปชฺเชยฺยาติ. น หีติ วตฺตพฺพ’’นฺติอาทินา (ปริ. ๒๗๖) อิตรานิ สมุฏฺานานิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปฺจมสฺเสว วุตฺตตฺตา อาห ‘‘ทุพฺภาสิตาปตฺติ ปเนตฺถ วาจาจิตฺตโต สมุฏฺาตี’’ติ. ทวกมฺยตาย หิ กายวาจาจิตฺเตหิ โอมสนฺตสฺสปิ วาจาจิตฺตเมว อาปตฺติยา องฺคํ โหติ, น ปน กาโย วิชฺชมาโนปิ ธมฺมเทสนาปตฺติ วิย เกวลํ กายวิกาเรเนว. โอมสนฺตสฺส ปน กิฺจาปิ อิธ ทุพฺภาสิตาปตฺติยา อนาปตฺติ, อถ โข กายกีฬาปฏิกฺเขปสิกฺขาปเทน ทุกฺกฏเมวาติ ทฏฺพฺพํ. อุปสมฺปนฺนํ ชาติอาทีหิ อนฺาปเทเสน อกฺโกสนํ, ตสฺส ชานนํ, อตฺถปุเรกฺขารตาทีนํ อภาโวติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
โอมสวาทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. เปสฺุสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๖. ตติเย ภณฺฑนํ ชาตํ เอเตสนฺติ ภณฺฑนชาตา. ปิสตีติ ปิสุณา, วาจา, สมคฺเค ภินฺเน ¶ กโรตีติ อตฺโถ. ตาย วาจาย สมนฺนาคโต ปิสุโณ, ตสฺส กมฺมํ เปสฺุนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อิธาปิ ¶ ชาติอาทีหิ ทสหิ วตฺถูหิ เปสฺุํ อุปสํหรนฺตสฺเสว ปาจิตฺติยํ, อิตเรหิ อกฺโกสวตฺถูหิ ทุกฺกฏํ. อนกฺโกสวตฺถูหิ ปน อุปสํหรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมวาติ วทนฺติ. ชาติอาทีหิ อนฺาปเทเสน อกฺโกสนฺตสฺส ภิกฺขุโน สุตฺวา ภิกฺขุสฺส อุปสํหรณํ, ปิยกมฺยตาเภทาธิปฺปาเยสุ อฺตรตา, ตสฺส วิชานนาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
เปสฺุสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปทโสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๕. จตุตฺเถ ปุริมพฺยฺชเนน สทิสนฺติ ‘‘รูปํ อนิจฺจ’’นฺติ เอตฺถ อนิจฺจ-สทฺเทน สทิสํ ‘‘เวทนา อนิจฺจา’’ติ เอตฺถ อนิจฺจ-สทฺทํ วทติ. อกฺขรสมูโหติ อวิภตฺติโก วุตฺโต. ปทนฺติ วิภตฺติอนฺตํ วุตฺตํ.
เอกํ ปทนฺติ คาถาปทเมว สนฺธาย วทติ. ปทคณนายาติ คาถาปทคณนาย. อปาปุณิตฺวาติ สทฺธึ อกเถตฺวา. เอเตน คาถาย ปจฺฉิมปาเท วุจฺจมาเน สามเณโร ปมปาทาทึ วทติ, อาปตฺติเยว, ตสฺมึ นิสฺสทฺเท เอว อิตเรน วตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.
อฏฺกถานิสฺสิโตติ สงฺคีติตฺตยารุฬฺหํ โปราณฏฺกถํ สนฺธาย วทติ. อิทานิปิ ‘‘ยถาปิ ทีปิโก นาม, นิลียิตฺวา คณฺหเต มิเค’’ติ (มิ. ป. ๖.๑.๕; วิสุทฺธิ. ๑.๒๑๗; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๔; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๗; ปารา. อฏฺ. ๒.๑๖๕; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๖๓) เอวมาทิกํ อฏฺกถาวจนํ อตฺเถว, พุทฺธโฆสาจริยาทีหิ โปราณฏฺกถานเยน วุตฺตมฺปิ อิธ สงฺคเหตพฺพนฺติ วทนฺติ. ปาฬินิสฺสิโตติ อุทานวคฺคสงฺคหาทิโก. วิวฏฺฏูปนิสฺสิตนฺติ นิพฺพานนิสฺสิตํ. เถรสฺสาติ นาคเสนตฺเถรสฺส. มคฺคกถาทีนิ ปกรณานิ.
๔๖. ปาฬิยํ อกฺขรายาติอาทิ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ, อกฺขเรนาติอาทินา อตฺโถ คเหตพฺโพ.
๔๘. อุปจารํ ¶ มฺุจิตฺวาติ ปริสาย ทฺวาทสหตฺถํ มฺุจิตฺวา เอกโต ิตสฺส วา นิสินฺนสฺส วา อนุปสมฺปนฺนสฺส อกเถตฺวา อฺเ อุทฺทิสฺส ภณนฺตสฺสาปิ ¶ อนาปตฺติ. สเจ ปน ทูเร นิสินฺนมฺปิ อุทฺทิสฺส ภณติ, อาปตฺติ เอว. โอปาเตตีติ สทฺธึ กเถติ. อนุปสมฺปนฺนตา, วุตฺตลกฺขณธมฺมํ ปทโส วาจนตา, เอกโต ภณนฺจาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
ปทโสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๐-๕๑. ปฺจเม ตตฺริทํ นิทสฺสนนฺติ เสโส. ทิรตฺตติรตฺตนฺติ เอตฺถ ทิรตฺตคฺคหณํ วจนาลงฺการตฺถํ, นิรนฺตรํ ติสฺโสว รตฺติโย วสิตฺวา จตุตฺถทิวสาทีสุ สยนฺตสฺเสว อาปตฺติ, น เอกนฺตริกาทิวเสน สยนฺตสฺสาติ ทสฺสนตฺถมฺปีติ ทฏฺพฺพํ. ทิรตฺตวิสิฏฺฺหิ ติรตฺตํ วุจฺจมานํ, เตน อนนฺตริกเมว ติรตฺตํ ทีเปตีติ. ปฺจหิ ฉทเนหีติ อิฏฺกสิลาสุธาติณปณฺเณหิ. วาจุคฺคตวเสนาติ ปคุณวเสน. ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพโธ วฑฺฒกีหตฺเถน คเหตพฺโพ. เอกูปจาโร เอเกน มคฺเคน ปวิสิตฺวา อพฺโภกาสํ อนุกฺกมิตฺวา สพฺพตฺถ อนุปริคมนโยคฺโค, เอตํ พหุทฺวารมฺปิ เอกูปจาโรว. ตตฺถ ปน กุฏฺฏาทีหิ รุนฺธิตฺวา วิสุํ ทฺวารํ โยเชนฺติ, นานูปจาโร โหติ. สเจ ปน รุนฺธติ เอว, วิสุํ ทฺวารํ น โยเชนฺติ, ‘‘เอตมฺปิ เอกูปจารเมว มตฺติกาทีหิ ปิหิตทฺวาโร วิย คพฺโภ’’ติ คเหตพฺพํ. อฺถา คพฺเภ ปวิสิตฺวา ปมุขาทีสุ นิปนฺนานุปสมฺปนฺเนหิ สหเสยฺยาปริมุตฺติยา คพฺภทฺวารํ มตฺติกาทีหิ ปิทหาเปตฺวา อุฏฺิเต อรุเณ วิวราเปนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ ภเวยฺยาติ.
เตสํ ปโยเค ปโยเค ภิกฺขุสฺส อาปตฺตีติ เอตฺถ เกจิ ‘‘อนุฏฺหเนน อกิริยสมุฏฺานา อาปตฺติ วุตฺตา ตสฺมึ ขเณ สยนฺตสฺส กิริยาภาวา. อิทฺหิ สิกฺขาปทํ สิยา กิริยาย สมุฏฺาติ, สิยา อกิริยาย สมุฏฺาติ. กิริยาสมุฏฺานตา จสฺส ตพฺพหุลวเสน วุตฺตาติ วทติ. ยถา เจตํ, เอวํ ทิวาสยนมฺปิ. อนุฏฺหเนน, หิ ทฺวาราสํวรเณน เจตํ อกิริยสมอุฏฺานมฺปิ โหตี’’ติ วทนฺติ. อิทฺจ ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.
‘‘อุปริมตเลน ¶ สทฺธึ อสมฺพทฺธภิตฺติกสฺสา’’ติ อิทํ สมฺพทฺธภิตฺติเก วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อุปริมตเล สยิตสฺส สงฺกา เอว นตฺถีติ ‘‘เหฏฺาปาสาเท’’ติอาทิ วุตฺตํ. นานูปจาเรติ พหิ นิสฺเสณิยา อาโรหณีเย.
สภาสงฺเขเปนาติ ¶ สภากาเรน. ‘‘อฑฺฒกุฏฺฏเก’’ติ อิมินา สณฺานํ ทสฺเสติ. ยตฺถ ตีสุ ทฺวีสุ วา ปสฺเสสุ ภิตฺติโย พทฺธา, ฉทนํ วา อสมฺปตฺตา อฑฺฒภิตฺติ, อิทํ อฑฺฒกุฏฺฏกํ นาม. วาฬสงฺฆาโฏ นาม ปริกฺเขปสฺส อนฺโต ถมฺภาทีนํ อุปริ วาฬรูเปหิ กตสงฺฆาโฏ. ปริกฺเขปสฺส พหิคเตติ เอตฺถ ยสฺมึ ปสฺเส ปริกฺเขโป นตฺถิ, ตตฺถ สเจ ภูมิโต วตฺถุ อุจฺจํ โหติ, อุภโต อุจฺจวตฺถุโต เหฏฺา ภูมิยํ นิพฺพโกสพฺภนฺตเรปิ อนาปตฺติ เอว ตตฺถ เสนาสนโวหาราภาวโต. อถ วตฺถุ นีจํ ภูมิสมเมว เสนาสนสฺส เหฏฺิมตเล ติฏฺติ, ตตฺถ ปริกฺเขปรหิตทิสาย นิพฺพโกสพฺภนฺตเร สพฺพตฺถ อาปตฺติ โหติ, ปริจฺเฉทาภาวโต ปริกฺเขปสฺส พหิ เอว อนาปตฺตีติ ทฏฺพฺพํ. ปริมณฺฑลํ วาติอาทิ มชฺเฌ อุทกปตนตฺถาย อากาสงฺคณวนฺตํ เสนาสนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ อปริจฺฉินฺนคพฺภูปจาเรติ เอเกกคพฺภสฺส ทฺวีสุ ปสฺเสสุ ปมุเขน คมนํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพธโต อนูนํ กุฏฺฏํ กตฺวา อากาสงฺคเณน ปเวสํ กโรนฺติ, เอวํ อกโตติ อตฺโถ. คพฺภปริกฺเขโปติ จตุรสฺสปาสาทาทีสุ สมนฺตา ิตคพฺภภิตฺติโย สนฺธาย วุตฺตํ.
ปาเฏกฺกสนฺนิเวสาติ เอเกกทิสาย คพฺภปาฬิโย อิตรทิสาสุ คพฺภปาฬีนํ อภาเวน, ภาเวปิ วา อฺมฺภิตฺติจฺฉทเนหิ อสมฺพนฺธตาย ปาเฏกฺกสนฺนิเวสา นาม วุจฺจติ. ตํ…เป… สนฺธาย วุตฺตนฺติ ตตฺถ ปาจิตฺติเยน อนาปตฺตีติ วุตฺตํ, น ทุกฺกเฏน. ตาทิสาย หิ คพฺภปาฬิยา ปมุขํ ตีสุ ทิสาสุ ภิตฺตีนํ อภาเวน เอกทิสาย คพฺภภิตฺติมตฺเตน สพฺพจฺฉนฺนํ จูฬปริจฺฉนฺนํ นาม โหติ. ตสฺมา ทุกฺกฏเมว. ยทิ ปน ตสฺส ปมุขสฺส อิตรทิสาสุปิ เอกิสฺสํ, สพฺพาสุ วา ภิตฺตึ กโรนฺติ, ตทา สพฺพจฺฉนฺนอุปฑฺฒปริจฺฉนฺนาทิภาวโต ปาจิตฺติยเมว โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ภูมิยํ วินา ชคติยา ปมุขํ สนฺธายาติ เอตฺถ อุจฺจวตฺถุํ อกตฺวา ภูมิยํ กตเคหสฺส ปมุขํ สนฺธาย อปริกฺขิตฺเต ปาจิตฺติเยน อนาปตฺตีติ อิทํ กถิตํ ¶ . อุจฺจวตฺถุกํ เจ ปมุขํ โหติ, เตน วตฺถุนา ปริกฺขิตฺตสงฺขฺยเมว ปมุขํ คจฺฉตีติ อธิปฺปาโย. ตตฺถาติ อนฺธกฏฺกถายํ. ชคติยา ปมาณํ วตฺวาติ ปกติภูมิยา นิปนฺโน ยถา ชคติยา อุปริ สยิตํ น ปสฺสติ, เอวํ อุจฺจาติอุจฺจวตฺถุสฺส อุพฺเพธปฺปมาณํ วตฺวา. เอกทิสาย อุชุกเมว ทีฆํ กตฺวา สนฺนิเวสิโต ปาสาโท เอกสาลสนฺนิเวโส. ทฺวีสุ, ตีสุ วา จตูสุปิ วา ทิสาสุ สิงฺฆาฏกสณฺานาทิวเสน กตา ทฺวิสาลาทิสนฺนิเวสา เวทิตพฺพา. สาลปฺปเภททีปนเมว เจตฺถ ปุริมโต วิเสโสติ. ปริกฺเขโป วิทฺธสฺโตติ ปมุขสฺส ปริกฺเขปํ สนฺธาย วทติ.
๕๓. อุปฑฺฒจฺฉนฺนอุปฑฺฒปริจฺฉนฺนํ เสนาสนํ ทุกฺกฏสฺส อาทึ วตฺวา ปาฬิยํ ทสฺสิตตฺตา ตโต ¶ อธิกํ สพฺพจฺฉนฺนอุปฑฺฒปริจฺฉนฺนาทิกมฺปิ สพฺพํ ปาฬิยํ อวุตฺตมฺปิ ปาจิตฺติยสฺเสว วตฺถุภาเวน ทสฺสิตํ สิกฺขาปทสฺส ปณฺณตฺติวชฺชตฺตา, ครุเก าตพฺพโต จาติ เวทิตพฺพํ. สตฺต ปาจิตฺติยานีติ ปาฬิยํ วุตฺตปาจิตฺติยทฺวยํ สามฺโต เอกตฺเตน คเหตฺวา วุตฺตํ.
๕๔. ปาฬิยํ ‘‘ตติยาย รตฺติยา ปุรารุณา นิกฺขมิตฺวา ปุน วสตี’’ติ อิทํ อุกฺกฏฺวเสน วุตฺตํ, อนิกฺขมิตฺวา ปน ปุรารุณา อุฏฺหิตฺวา อนฺโตฉทเน นิสินฺนสฺสาปิ ปุนทิวเส สหเสยฺเยน อนาปตฺติ เอว. เสนมฺพมณฺฑปวณฺณํ โหตีติ สีหฬทีเป กิร อุจฺจวตฺถุโก สพฺพจฺฉนฺโน สพฺพอปริจฺฉนฺโน เอวํนามโก สนฺนิปาตมณฺฑโป อตฺถิ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เอตฺถ จตุตฺถภาโค จูฬกํ, ทฺเว ภาคา อุปฑฺฒํ, ตีสุ ภาเคสุ ทฺเว ภาคา เยภุยฺยนฺติ อิมินา นเยน จูฬกจฺฉนฺนปริจฺฉนฺนตาทีนิ เวทิตพฺพานิ. ปาจิตฺติยวตฺถุกเสนาสนํ, ตตฺถ อนุปสมฺปนฺเนน สห นิปชฺชนํ, จตุตฺถทิวเส สูริยตฺถงฺคมนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
สหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ทุติยสหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๕. ฉฏฺเ มาตุคาเมน สทฺธึ จตุตฺถทิวเส สยนฺตสฺสาปิ อิมินา สิกฺขาปเทน เอกาว อาปตฺติ. เกจิ ปน ปุริมสิกฺขาปเทนาปีติ ทฺเว อาปตฺติโย วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ ‘‘อนุปสมฺปนฺเนนา’’ติ อนิตฺถิลิงฺเคน วุตฺตตฺตา นปุํสเกน ¶ ปน จตุตฺถทิวเส สยนฺตสฺส สทุกฺกฏปาจิตฺติยํ วตฺตุํ ยุตฺตํ. กิฺจาเปตฺถ ปาฬิยํ ปณฺฑกวเสเนว ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, ตทนุโลมิกา ปน ปุริสอุภโตพฺยฺชนเกน สห สยนฺตสฺส อิมินา ทุกฺกฏํ, ปุริเมน จตุตฺถทิวเส สทุกฺกฏปาจิตฺติยํ. อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนโก อิตฺถิคติโกวาติ อยํ อมฺหากํ ขนฺติ. มติตฺถิยา อนาปตฺตีติ วทนฺติ. ปาจิตฺติยวตฺถุกเสนาสนํ, ตตฺถ มาตุคาเมน สทฺธึ นิปชฺชนํ, สูริยตฺถงฺคมนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
ทุติยสหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ธมฺมเทสนาสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๐. สตฺตเม น ยกฺเขนาติอาทีนํ ‘‘อฺตฺร วิฺุนา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อฺตฺร วิฺุนา ¶ ปุริสวิคฺคเหน, น ยกฺขาทินาปีติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพติ อธิปฺปาโย. ตาทิเสนปิ หิ สห ิตาย เทเสตุํ น วฏฺฏติ. ตํตํเทสภาสาย อตฺถํ ยถารุจิ วฏฺฏติ เอว.
อิริยาปถาปริวตฺตนํ, ปุริสํ วา ทฺวาทสหตฺถูปจาเร อปกฺโกสาปนํ เอตฺถ อกิริยา. วุตฺตลกฺขณสฺส ธมฺมสฺส ฉนฺนํ วาจานํ อุปริ เทสนา, วุตฺตลกฺขโณ มาตุคาโม, อิริยาปถปอวตฺตนาภาโว, วิฺูปุริสาภาโว, อปฺหวิสฺสชฺชนาติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
ธมฺมเทสนาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ภูตาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๗. อฏฺเม อนฺตราติ ปรินิพฺพานกาลโต ปุพฺเพปิ. อติกฑฺฒิยมาเนนาติ ‘‘วทถ, ภนฺเต, กึ ตุมฺเหหิ อธิคต’’นฺติ เอวํ นิปฺปีฬิยมาเนน อติพทฺธิยมาเนน. ตถารูเป ปจฺจเย สติ วตฺตพฺพเมว. สุตปริยตฺติสีลคุณนฺติ เอตฺถ อตฺถกุสลตา สุตคุโณ, ปาฬิปากุสลตา ปริยตฺติคุโณติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘จิตฺตกฺเขปสฺส วา อภาวา’’ติ อิมินา ขิตฺตจิตฺตเวทนาฏฺฏตาปิ อริยานํ นตฺถีติ ทสฺเสติ.
ปุพฺเพ ¶ อวุตฺเตหีติ จตุตฺถปาราชิเก อวุตฺเตหิ. อิทฺจ สิกฺขาปทํ ปณฺณตฺติอชอานนวเสน เอกนฺตโต อจิตฺตกสมุฏฺานเมว โหติ อริยานํ ปณฺณตฺติวีติกฺกมาภาวา. ฌานลาภีนฺจ สตฺถุ อาณาวีติกฺกมปฏิฆจิตฺตสฺส ฌานปริหานโต ภูตาโรจนํ น สมฺภวติ. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส ภูตตา, อนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรจนํ, ตงฺขณวิชานนา, อนฺาปเทโสติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
ภูตาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ทุฏฺุลฺลาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๘. นวเม ตตฺถ ภเวยฺยาติ ตตฺถ กสฺสจิ มติ เอวํ ภเวยฺย. อฏฺกถาวจนเมว อุปปตฺติโต ทฬฺหํ กตฺวา ปติฏฺเปนฺโต ‘‘อิมินาปิ เจต’’นฺติอาทิมาห.
๘๒. อาทิโต ปฺจ สิกฺขาปทานีติ ปาณาติปาตาทีนิ ปฺจ. เสสานีติ วิกาลโภชนาทีนิ ¶ . สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทิ อชฺฌาจาโรว. อนฺติมวตฺถุํ อนชฺฌาปนฺนสฺส ภิกฺขุโน สวตฺถุโก สงฺฆาทิเสโส, อนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรจนํ, ภิกฺขุสมฺมุติยา อภาโวติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
ทุฏฺุลฺลาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ปถวีขณนสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๖. ทสเม อปฺปปํสุมตฺติกาย ปถวิยา อนาปตฺติวตฺถุภาเวน วุตฺตตฺตา อุปฑฺฒปํสุมตฺติกายปิ ปาจิตฺติยเมวาติ คเหตพฺพํ. น เหตํ ทุกฺกฏวตฺถูติ สกฺกา วตฺตุํ ชาตาชาตวินิมุตฺตาย ตติยปถวิยา อภาวโต.
วฏฺฏตีติ อิมสฺมึ าเน โปกฺขรณึ ขณาติ โอกาสสฺส อนิยมิตตฺตา วฏฺฏติ. อิมํ วลฺลึ ขณาติ ปถวีขณนํ สนฺธาย วุตฺตตฺตา อิมินาว สิกฺขาปเทน อาปตฺติ, น ภูตคามสิกฺขาปเทน. อุภยมฺปิ ¶ สนฺธาย วุตฺเต ปน ทฺเวปิ ปาจิตฺติยา โหนฺติ. อุทกปปฺปฏโกติ อุทเก อนฺโตภูมิยํ ปวิฏฺเ ตสฺส อุปริภาคํ ฉาเทตฺวา ตนุกปํสุ วา มตฺติกา วา ปฏลํ หุตฺวา ปตมานา ติฏฺติ, ตสฺมึ อุทเก สุกฺเขปิ ตํ ปฏลํ วาเตน จลมานา ติฏฺติ, ตํ อุทกปปฺปฏโก นาม.
อกตปพฺภาเรติ อวฬฺชนฏฺานทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตาทิเส เอว หิ วมฺมิกสฺส สมฺภโวติ. มูสิกุกฺกรํ นาม มูสิกาหิ ขนิตฺวา พหิ กตปํสุราสิ. อจฺฉทนนฺติอาทิวุตฺตตฺตา อุชุกํ อากาสโต ปติตวสฺโสทเกน โอวฏฺเมว ชาตปถวี โหติ, น ฉทนาทีสุ ปติตฺวา ตโต ปวตฺตอุทเกน ตินฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. มณฺฑปตฺถมฺภนฺติ สาขามณฺฑปตฺถมฺภํ. อุจฺจาเลตฺวาติ อุกฺขิปิตฺวา. ตโตติ ปุราณเสนาสนโต.
๘๘. มหามตฺติกนฺติ ภิตฺติเลปนํ. ชาตปถวิตา, ตถาสฺิตา, ขณนขณาปนานํ อฺตรนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
ปถวีขณนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต มุสาวาทวคฺโค ปโม.
๒. ภูตคามวคฺโค
๑. ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๙. ทุติยวคฺคสฺส ¶ ปเม นิคฺคเหตุํ อสกฺโกนฺโตติ สาขฏฺกวิมาเน สาขาย ฉิชฺชมานาย ฉิชฺชนฺเต ตตฺถ อเฉทนตฺถาย เทวตาย อุปนีตํ ปุตฺตํ ทิสฺวาปิ กุารินิกฺเขปเวคํ นิวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโตติ อตฺโถ. รุกฺขธมฺเมติ รุกฺขสฺส ปวตฺติยํ. รุกฺขานํ วิย เฉทนาทีสุ อกุปฺปนฺหิ รุกฺขธมฺโม นาม.
อุปฺปติตนฺติ อุปฺปนฺนํ. ภนฺตนฺติ ธาวนฺตํ. วารเยติ นิคฺคณฺเหยฺย. อิตโรติ อุปฺปนฺนํ โกธํ อนิคฺคณฺหนฺโต ราชอุปราชาทีนํ รสฺมิมตฺตคฺคาหกชโน วิย น อุตฺตมสารถีติ อตฺโถ. วิสฏํ สปฺปวิสนฺติ สรีเร ทาาวณานุสาเรน วิตฺถิณฺณํ พฺยาเปตฺวา ิตํ กณฺหสปฺปวิสํ วิย. ชหาติ โอรปารนฺติ ปฺโจรมฺภาคิยสฺโชนานิ ตติยมคฺเคน ชหาติ. ‘‘โอรปาร’’นฺติ หิ โอริมตีรํ วุจฺจติ ¶ . อถ วา โสติ ตติยมคฺเคน โกธํ วิเนตฺวา ิโต ภิกฺขุ อรหตฺตมคฺเคน โอรปารํ ชหาตีติ อตฺโถ. ตตฺถ โอรํ นาม สกตฺตภาโว, อชฺฌตฺติกานิ วา อายตนานิ. ปารํ นาม ปรอตฺตภาโว, พาหิรานิ วา อายตนานิ. ตทุภเย ปน ฉนฺทราคํ ชหนฺโต ‘‘ชหาติ โอริมปาร’’นฺติ วุจฺจติ.
๙๐. ภวนฺตีติ วฑฺฒนฺติ. อหุวุนฺตีติ พภูวุ. เตนาห ‘‘ชาตา วฑฺฒิตา’’ติ. ภูตานํ คาโมติ มหาภูตานํ หริตติณาทิภาเวน สมคฺคานํ สมูโห. ตพฺพินิมุตฺตสฺส คามสฺส อภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภูตา เอว วา คาโม’’ติ วุตฺตํ. ปาตพฺย-สทฺทสฺส ปา ปาเนติ ธาตฺวตฺถํ สนฺธายาห ‘‘ปริภฺุชิตพฺพตา’’ติ. สา จ ปาตพฺยตา เฉทนาทิ เอว โหตีติ อาห ‘‘ตสฺสา…เป… ภูตคามสฺส ชาตา เฉทนาทิปจฺจยา’’ติ.
๙๑. ชาต-สทฺโท เอตฺถ วิชาตปริยาโยติ ‘‘ปุตฺตํ วิชาตา อิตฺถี’’ติอาทีสุ วิย ปสูตวจโนติ อาห ‘‘ปสูตานี’’ติ, นิพฺพตฺตปณฺณมูลานีติ อตฺโถ.
ตานิ ¶ ทสฺเสนฺโตติ ตานิ พีชานิ ทสฺเสนฺโต. การิยทสฺสนมุเขเนว การณฺจ คหิตนฺติ อาห ‘‘พีชโต นิพฺพตฺเตน พีชํ ทสฺสิต’’นฺติ.
๙๒. ‘‘พีชโต สมฺภูโต ภูตคาโม พีช’’นฺติ อิมินา อุตฺตรปทโลเปน ‘‘ปทุมคจฺฉโต นิพฺพตฺตํ ปุปฺผํ ปทุม’’นฺติอาทีสุ วิยายํ โวหาโรติ ทสฺเสติ. ยํ พีชํ ภูตคาโม นาม โหตีติ นิพฺพตฺตปณฺณมูลํ สนฺธาย วทติ. ยถารุตนฺติ ยถาปาํ.
‘‘สฺจิจฺจา’’ติ วุตฺตตฺตา สรีเร ลคฺคภาวํ ตฺวาปิ อุฏฺหติ, ‘‘ตํ อุทฺธริสฺสามี’’ติสฺาย อภาวโต วฏฺฏติ. อนนฺตก-คฺคหเณน สาสปมตฺติกา คหิตา, นามฺเหตํ ตสฺสา เสวาลชาติยา. มูลปณฺณานํ อภาเวน ‘‘อสมฺปุณฺณภูตคาโม นามา’’ติ วุตฺตํ. โส พีชคาเมน สงฺคหิโตติ. อวฑฺฒมาเนปิ ภูตคามมูลกตฺตา วุตฺตํ ‘‘อมูลกภูตคาเม สงฺคหํ คจฺฉตี’’ติ. นาฬิเกรสฺส อาเวณิกํ กตฺวา วทติ.
เสเลยฺยกํ ¶ นาม สิลาย สมฺภูตา เอกา คนฺธชาติ. ปุปฺผิตกาลโต ปฏฺายาติ วิกสิตกาลโต ปภุติ. ฉตฺตกํ คณฺหนฺโตติ วิกสิตํ คณฺหนฺโต. มกุฬํ ปน รุกฺขตฺตจํ อโกเปนฺเตนปิ คเหตุํ น วฏฺฏติ, ผุลฺลํ วฏฺฏติ. หตฺถกุกฺกุจฺเจนาติ หตฺถจาปลฺเลน.
‘‘ปานียํ น วาเสตพฺพ’’นฺติ อิทํ อตฺตโน ปิวนปานียํ สนฺธาย วุตฺตํ, อฺเสํ ปน วฏฺฏติ อนุคฺคหิตตฺตา. เตนาห ‘‘อตฺตนา ขาทิตุกาเมนา’’ติ. เยสํ รุกฺขานํ สาขา รุหตีติ มูลํ อโนตาเรตฺวา ปณฺณมตฺตนิคฺคมนมตฺเตนปิ วฑฺฒติ. ตตฺถ กปฺปิยมฺปิ อกโรนฺโต ฉินฺนนาฬิเกรเวฬุทณฺฑาทโย โกเปตุํ วฏฺฏติ.
‘‘จงฺกมิตฏฺานํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ วุตฺตตฺตา เกวลํ จงฺกมนาธิปฺปาเยน วา มคฺคคมนาธิปฺปาเยน วา อกฺกมนฺตสฺส, ติณานํ อุปริ นิสีทนาธิปฺปาเยน นิสีทนฺตสฺส จ โทโส นตฺถิ.
สมณกปฺเปหีติ สมณานํ กปฺปิยโวหาเรหิ, อพีชนิพฺพฏฺฏพีชานิปิ กปฺปิยภาวโต ‘‘สมณกปฺปานี’’ติ วุตฺตานิ. อพีชํ นาม ตรุณอมฺพผลาทีนิ. นิพฺพฏฺเฏตพฺพํ วิโยเชตพฺพํ พีชํ ยสฺมึ, ตํ ปนสาทิ นิพฺพฏฺฏพีชํ นาม. กปฺปิยนฺติ วตฺวาวาติ ปุพฺพกาลกิริยาวเสน วุตฺเตปิ วจนกฺขเณว อคฺคิสตฺถาทินา พีชคาเม วณํ กาตพฺพนฺติ วจนโต ปน ปุพฺเพ กาตุํ น วฏฺฏติ, ตฺจ ทฺวิธา อกตฺวา เฉทนเภทนเมว ทสฺเสตพฺพํ. กโรนฺเตน จ ภิกฺขุนา ‘‘กปฺปิยํ กโรหี’’ติ ¶ ยาย กายจิ ภาสาย วุตฺเตเยว กาตพฺพํ. พีชคามปริโมจนตฺถํ ปุน กปฺปิยํ กาเรตพฺพนฺติ การาปนสฺส ปมเมว อธิกตตฺตา. ‘‘กฏาเหปิ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา กฏาหโต นีหตาย มิฺชาย วา พีเช วา ยตฺถ กตฺถจิ วิชฺฌิตุํ วฏฺฏติ เอว. ภูตคาโม, ภูตคามสฺิตา, วิโกปนํ วา วิโกปาปนํ วาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อฺวาทกสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๔. ทุติเย อฺํ วจนนฺติ ยํ โทสวิภาวนตฺถํ ปเรหิ วุตฺตวจนํ ตํ ตสฺส อนนุจฺฉวิเกน อฺเน วจเนน ปฏิจรติ.
๙๘. ยเทตํ ¶ อฺเนฺํ ปฏิจรณวเสน ปวตฺตวจนํ, ตเทว ปุจฺฉิตมตฺถํ เปตฺวา อฺํ วทติ ปกาเสตีติ อฺวาทกนฺติ อาห ‘‘อฺเนฺํ ปฏิจรณสฺเสตํ นาม’’นฺติ. ตุณฺหีภูตสฺเสตํ นามนฺติ ตุณฺหีภาวสฺเสตํ นามํ, อยเมว วา ปาโ. อฺวาทกํ อาโรเปตุนฺติ อฺวาเท อาโรเปตุํ. วิเหสกนฺติ วิเหสกตฺตํ.
๙๙. ปาฬิยํ น อุคฺฆาเฏตุกาโมติ ปฏิจฺฉาเทตุกาโม.
๑๐๐. อนาโรปิเต อฺวาทเกติ วุตฺตทุกฺกฏํ ปาฬิยํ อาคตอฺเนฺปฏิจรณวเสน ยุชฺชติ, อฏฺกถายํ อาคตนเยน ปน มุสาวาเทน อฺเนฺํ ปฏิจรนฺตสฺส ปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏํ, อาโรปิเต อิมินาว ปาจิตฺติยํ. เกจิ ปน ‘‘มุสาวาทปาจิตฺติเยน สทฺธึ ปาจิตฺติยทฺวย’’นฺติ วทนฺติ, วีมํสิตพฺพํ. อาทิกมฺมิกสฺสปิ มุสาวาเท อิมินาว อนาปตฺตีติ ทฏฺพฺพํ. ธมฺมกมฺเมน อาโรปิตตา, อาปตฺติยา วา วตฺถุนา วา อนุยฺุชิยมานตา, ฉาเทตุกามตาย อฺเนฺํ ปฏิจรณํ, ตุณฺหีภาโว จาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
อฺวาทกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๐๓. ตติเย ¶ จินฺตายนตฺถสฺส เฌ-ธาตุสฺส อเนกตฺถตาย โอโลกนตฺถสมฺภวโต วุตฺตํ ‘‘โอโลกาเปนฺตี’’ติ. ฉนฺทายาติ ลิงฺควิปลฺลาโสติ อาห ‘‘ฉนฺเทนา’’ติ.
๑๐๕. ภิกฺขุํ ลามกโต จินฺตาปนตฺถํ อฺเสํ ตํ อวณฺณกถนํ อุชฺฌาปนํ นาม. อฺเสํ ปน อวตฺวา อฺมฺํ สมุลฺลปนวเสน ภิกฺขุโน โทสปฺปกาสนํ ขิยฺยนํ นามาติ อยเมเตสํ เภโท.
๑๐๖. อฺํ อนุปสมฺปนฺนํ อุชฺฌาเปตีติ อฺเน อนุปสมฺปนฺเนน อุชฺฌาเปติ. ตสฺส วา ตํ สนฺติเกติ ตสฺส อนุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก ตํ สงฺเฆน สมฺมตํ อุปสมฺปนฺนํ ขิยฺยติ. อิธาปิ มุสาวาเทน อุชฺฌาปนาทีนํ สมฺภวโต ทุกฺกฏฏฺานานิ จ อาทิกมฺมิกสฺส อนาปตฺติ จ อิมินา เอว สิกฺขาปเทน วุตฺตาติ ¶ เวทิตพฺพํ สพฺพตฺถ มุสาวาทปาจิตฺติยสฺส อนิวตฺติโต. ธมฺมกมฺเมน สมฺมตตา, อุปสมฺปนฺนตา, อคติคมนาภาโว, ตสฺส อวณฺณกามตา, ยสฺส สนฺติเก วทติ. ตสฺส อุปสมฺปนฺนตา, อุชฺฌาปนํ วา ขิยฺยนํ วาติ อิมาเนตฺถ ฉ องฺคานิ.
อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๑๐. จตุตฺเถ อปฺาเตติ อปฺปสิทฺเธ. อิมํ ปน อฏฺ มาเส มณฺฑปาทีสุ ปนสงฺขาตํ อตฺถวิเสสํ คเหตฺวา ภควตา ปมเมว สิกฺขาปทํ ปฺตฺตนฺติ อธิปฺปายํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฏฺมาเส’’ติอาทิวจเนน อนุปฺตฺติสทิเสน ปกาเสตฺวา วิสุํ อนุปฺตฺติ น วุตฺตา. ปริวาเร ปเนตํ อนุชานนวจนํ อนุปฺตฺติฏฺานนฺติ ‘‘เอกา อนุปฺตฺตี’’ติ (ปริ. ๖๕-๖๗) วุตฺตํ.
นววายิโมติ อธุนา สุตฺเตน วีตกจฺเฉน ปลิเวิตมฺโจ. โอนทฺโธติ กปฺปิยจมฺเมน โอนทฺโธ. เต หิ วสฺเสน สีฆํ น นสฺสนฺติ. ‘‘อุกฺกฏฺอพฺโภกาสิโก’’ติ อิทํ ตสฺส สุขปฏิปตฺติทสฺสนมตฺตํ, อุกฺกฏฺสฺสาปิ ปน จีวรกุฏิ วฏฺฏเตว. กายานุคติกตฺตาติ ภิกฺขุโน ตตฺเถว นิสีทนภาวํ ทีเปติ, เตน จ วสฺสภเยน สยํ อฺตฺถ คจฺฉนฺตสฺส อาปตฺตีติ ทสฺเสติ ¶ . อพฺโภกาสิกานํ เตมนตฺถาย นิยเมตฺวา ทายเกหิ ทินฺนมฺปิ อตฺตานํ รกฺขนฺเตน รกฺขิตพฺพเมว.
‘‘วลาหกานํ อนุฏฺิตภาวํ สลฺลกฺเขตฺวา’’ติ อิมินา คิมฺหาเนปิ เมเฆ อุฏฺิเต อพฺโภกาเส นิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ตตฺร ตตฺราติ เจติยงฺคณาทิเก ตสฺมึ ตสฺมึ อพฺโภกาเส นิยเมตฺวา นิกฺขิตฺตา. มชฺฌโต ปฏฺาย ปาทฏฺานาภิมุขาติ ยตฺถ สมนฺตโต สมฺมชฺชิตฺวา องฺคณมชฺเฌ สพฺพทา กจวรสฺส สงฺกฑฺฒเนน มชฺเฌ วาลิกา สฺจิตา โหติ. ตตฺถ กตฺตพฺพวิธิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อุจฺจวตฺถุปาทฏฺานาภิมุขํ วา วาลิกา หริตพฺพา. ยตฺถ วา ปน โกเณสุ วาลิกา สฺจิตา, ตตฺถ ตโต ปฏฺาย อปรทิสาภิมุขา หริตพฺพาติ เกจิ อตฺถํ วทนฺติ. เกจิ ปน ‘‘สมฺมฏฺฏฺานสฺส ¶ ปทวฬฺเชน อวิโกปนตฺถาย สยํ อสมฺมฏฺฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน ปาทาภิมุขํ วาลิกา หริตพฺพาติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตตฺถ ‘‘มชฺฌโต ปฏฺายา’’ติ วจนสฺส ปโยชนํ น ทิสฺสติ.
๑๑๑. วงฺกปาทตามตฺเตน กุฬีรปาทกสฺส เสเสหิ วิเสโส, น อฏนีสุ ปาทปฺปเวสนวิเสเสนาติ ทสฺเสตุํ ‘‘โย วา ปน โกจี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสาติ อุปสมฺปนฺนสฺเสว.
นิสีทิตฺวา…เป… ปาจิตฺติยนฺติ เอตฺถ เมฆุฏฺานาภาวํ ตฺวา ‘‘ปจฺฉา อาคนฺตฺวา อุทฺธริสฺสามี’’ติ อาโภเคน คจฺฉนฺตสฺส อนาปตฺติ, เตน ปุนาคนฺตพฺพเมว. กปฺปํ ลภิตฺวาติ ‘‘คจฺฉ, มา อิธ ติฏฺา’’ติ วุตฺตวจนํ ลภิตฺวา.
อาวาสิกานํเยว ปลิโพโธติ อาคนฺตุเกสุ กิฺจิ อวตฺวา นิสีทิตฺวา ‘‘อาวาสิกา เอว อุทฺธริสฺสนฺตี’’ติ คเตสุปิ อาวาสิกานเมว ปลิโพโธ. มหาปจฺจริวาเท ปน ‘‘อิทํ อมฺหาก’’นฺติ อวตฺวาปิ นิสินฺนานเมวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา’’ติ วุตฺตตฺตา อนาณตฺติยา ปฺาปิตตฺตาปิ ทุกฺกเฏ การณํ วุตฺตํ. อุสฺสารโกติ สรภาณโก. โส หิ อุทฺธํ อุทฺธํ ปาฬิปาํ สาเรติ ปวตฺเตตีติ อุสฺสารโกติ วุจฺจติ.
๑๑๒. วณฺณานุรกฺขณตฺถํ กตาติ ปฏขณฺฑาทีหิ สิพฺพิตฺวา กตา. ภูมิยํ อตฺถริตพฺพาติ จิมิลิกาย สติ ตสฺสา อุปริ, อสติ สุทฺธภูมิยํ อตฺถริตพฺพา. ‘‘สีหจมฺมาทีนํ ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป’’ติ อิมินา มฺจปีาทีสุ อตฺถริตฺวา ปุน สํหริตฺวา ปนาทิวเสน ¶ อตฺตโน อตฺถาย ปริหรณเมว น วฏฺฏติ, ภูมตฺถรณาทิวเสน ปริโภโค ปน อตฺตโน ปริหรณํ น โหตีติ ทสฺเสติ. ขนฺธเก หิ ‘‘อนฺโตปิ มฺเจ ปฺตฺตานิ โหนฺติ, พหิปิ มฺเจ ปฺตฺตานิ โหนฺตี’’ติ เอวํ อตฺตโน อตฺตโน อตฺถาย มฺจาทีสุ ปฺเปตฺวา ปริหรณวตฺถุสฺมึ –
‘‘น, ภิกฺขเว, มหาจมฺมานิ ธาเรตพฺพานิ สีหจมฺมํ พฺยคฺฆจมฺมํ ทีปิจมฺมํ. โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๕) –
ปฏิกฺเขโป ¶ กโต. ตสฺมา วุตฺตนเยเนเวตฺถ อธิปฺปาโย ทฏฺพฺโพ. ทารุมยปีนฺติ ผลกมยปีเมว. ปาทกถลิกนฺติ อโธตปาทํ ยสฺมึ ฆํสนฺตา โธวนฺติ, ตํ ทารุผลกาทิ.
๑๑๓. ‘‘อาคนฺตฺวา อุทฺธริสฺสามีติ คจฺฉตี’’ติ วุตฺตตฺตา อฺเนปิ การเณน อโนตาเปนฺตสฺสปิ อาคมเน สาเปกฺขสฺส อนาปตฺติ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ ‘‘มฺจาทีนํ สงฺฆิกตา, วุตฺตลกฺขเณ เทเส สนฺถรณํ วา สนฺถราปนํ วา, อปลิพุทฺธตา, อาปทาย อภาโว, นิรเปกฺขตา, เลฑฺฑุปาตาติกฺกโม’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ปมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา) เอวเมตฺถ นิรเปกฺขตาย สทฺธึ ฉ องฺคานิ วุตฺตานิ.
ปมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๑๖. ปฺจเม ปาวาโร โกชโวติ ปจฺจตฺถรณตฺถาเยว ปิตา อุคฺคตโลมา อตฺถรณวิเสสา. เอตฺตกเมว วุตฺตนฺติ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ. เสนาสนโตติ สพฺพปจฺฉิมเสนาสนโต.
๑๑๗. กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตเมวตฺถํ สวิเสสํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘กิฺจาปิ วุตฺโต’’ติอาทิ อารทฺธํ. วตฺตพฺพํ นตฺถีติ รุกฺขมูลสฺส ปากฏตฺตา วุตฺตํ. ปลุชฺชตีติ วินสฺสติ.
๑๑๘. เยน มฺจํ วา ปีํ วา วีนนฺติ, ตํ มฺจปีกวานํ. สิลุจฺจยเลณนฺติ ปพฺพตคุหา. ‘‘อาปุจฺฉนํ ปน วตฺต’’นฺติ อิมินา อาปตฺติ นตฺถีติ ทสฺเสติ. วุตฺตลกฺขณเสยฺยา, ตสฺสา ¶ สงฺฆิกตา, วุตฺตลกฺขเณ วิหาเร สนฺถรณํ วา สนฺถราปนํ วา, อปลิพุทฺธตา, อาปทาย อภาโว, อนเปกฺขสฺส ทิสาปกฺกมนํ, อุปจารสีมาติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ สตฺต องฺคานิ.
ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๑๙. ฉฏฺเ ¶ อนุปวิสิตฺวาติ สมีปํ ปวิสิตฺวา.
๑๒๒. อุปจารํ เปตฺวาติ ทิยฑฺฒหตฺถูปจารํ เปตฺวา. สงฺฆิกวิหารตา, อนุฏฺาปนียภาวชานนํ, สมฺพาเธตุกามตา, อุปจาเร นิสีทนํ วา นิปชฺชนํ วาติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๒๖. สตฺตเม โกฏฺกานีติ ทฺวารโกฏฺกานิ.
๑๒๘. ‘‘สกลสงฺฆารามโต นิกฺกฑฺฒิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ อิทํ อนนุรูปโต วุตฺตํ. ปาปครหิตาย หิ อกุปิตจิตฺเตน นิกฺกฑฺฒาเปนฺตสฺส อิมินา สิกฺขาปเทน อาปตฺติ นตฺถิ ‘‘กุปิโต อนตฺตมโน’’ติ วุตฺตตฺตา. อฺาเปกฺขา อาปตฺติ น ทิสฺสติ. ปาฬิยํ ‘‘อลชฺชึ นิกฺกฑฺฒตี’’ติอาทีสุ จิตฺตสฺส ลหุปริวตฺติตาย อนฺตรนฺตรา โกเป อุปฺปนฺเนปิ อนาปตฺติ อลชฺชิตาทิปจฺจเยเนว นิกฺกฑฺฒนสฺส อารทฺธตฺตา. สงฺฆิกวิหาโร, อุปสมฺปนฺนสฺส ภณฺฑนการกภาวาทิวินิมุตฺตตา, โกเปน นิกฺกฑฺฒนํ วา นิกฺกฑฺฒาปนํ วาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. เวหาสกุฏิสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๒๙. อฏฺมํ ¶ อุตฺตานเมว. สงฺฆิโก วิหาโร, อสีสฆฏฺฏเวหาสกุฏิ, เหฏฺาปริโภคตา, อปฏาณิทินฺเน อาหจฺจปาทเก นิสีทนํ วา นิปชฺชนํ วาติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
เวหาสกุฏิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๓๕. นวเม ¶ ‘‘มหลฺลโก นาม วิหาโร สสฺสามิโก’’ติ วุตฺตตฺตา สฺาจิกาย กุฏิยา อนาปตฺตีติ วทนฺติ. ยสฺสาติ วิหารสฺส. สา อปริปูรูปจาราปิ โหตีติ วิวริยมานํ กวาฏํ ยํ ภิตฺตึ อาหนติ, สา สามนฺตา กวาฏวิตฺถารปฺปมาณา อุปจารรหิตาปิ โหตีติ อตฺโถ. อาโลกํ วาตปานํ สนฺเธติ ฆฏยตีติ อาโลกสนฺธีติ กวาฏํ วุจฺจติ. ทฺวารวาตปานูปจารโต อฺตฺถ ปุนปฺปุนํ ลิมฺปนาทึ กโรนฺตสฺส ปิณฺฑคณนาย ปาจิตฺติยํ.
เกจิ ปน ‘‘ปาฬิยํ ปาจิตฺติยสฺส อวุตฺตตฺตา ทุกฺกฏ’’นฺติ วทนฺติ. อธิฏฺาตพฺพนฺติ สํวิธาตพฺพํ. หริเต ิโต อธิฏฺาติ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ หริตยุตฺเต เขตฺเต ตฺวา ฉาเทนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘ตาทิเส เขตฺเต วิหารํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ วทนฺติ, ตํ ปาฬิยา น สเมติ.
๑๓๖. อุชุกเมว ฉาทนนฺติ ฉาทนมุขวฏฺฏิโต ปฏฺาย ยาว ปิฏฺิวํสกูฏาคารกณฺณิกาทิ, ตาว อิฏฺกาทีหิ อุชุกํ ฉาทนํ. อิมินา ปน เยน สพฺพสฺมึ วิหาเร เอกวารํ ฉาทิเต ตํ ฉาทนํ เอกมคฺคนฺติ คเหตฺวา ปาฬิยํ ‘‘ทฺเว มคฺเค’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริยาเยน ฉาทนมฺปิ อิมินาว นเยน โยเชตพฺพนฺติ วทนฺติ, ตํ ‘‘ปุนปฺปุนํ ฉาทาเปสี’’ติ อิมาย ปาฬิยา จ ‘‘สพฺพมฺปิ เจตํ ฉทนํ ฉทนูปริ เวทิตพฺพ’’นฺติ อิมินา อฏฺกถาวจเนน จ สเมติ.
ปาฬิยํ ‘‘มคฺเคน ฉาเทนฺตสฺส ปริยาเยน ฉาเทนฺตสฺสา’’ติ อิทฺจ อิฏฺกาทีหิ, ติณปณฺเณหิ จ ฉาทนปฺปการเภททสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘ปนฺติยา ฉาทิตสฺส ฉทนสฺส อุปริ ฉทนมุขวฏฺฏิโต ปฏฺาย อุทฺธํ อุชุกเมว เอกวารํ ฉาทนํ เอกมคฺคนฺติ คเหตฺวา ‘ทฺเว มคฺเค’ติอาทิ ¶ วุตฺตํ, น ปน สกลวิหารฉาทนํ. เอส นโย ปริยาเยน ฉาทเนปี’’ติ วทนฺติ, ตํ ปาฬิอฏฺกถาหิ น สเมติ.
ตติยาย มคฺคนฺติ เอตฺถ ตติยายาติ อุปโยคตฺเถ สมฺปทานวจนํ, ตติยํ มคฺคนฺติ อตฺโถ. อยเมว วา ปาโ. ติณปณฺเณหิ ลพฺภตีติ ติณปณฺเณหิ ฉาเทตฺวา อุปริ อุลฺลิตฺตาวลิตฺตกรณํ สนฺธาย วุตฺตํ. เกวลํ ¶ ติณกุฏิยา หิ อนาปตฺติ วุตฺตา. ติณฺณํ มคฺคานนฺติ มคฺควเสน ฉาทิตานํ ติณฺณํ ฉทนานํ. ติณฺณํ ปริยายานนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. มหลฺลกวิหารตา, อตฺตโน วาสาคารตา, อุตฺตริ อธิฏฺานนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๔๐. ทสเม มาติกายํ สปฺปาณกอุทกํ ติเณน วา มตฺติกาย วา สิฺเจยฺย, ฉฑฺเฑยฺยาติ อตฺโถ. อถ วา อุทกํ คเหตฺวา พหิ สิฺเจยฺย, ตสฺมิฺจ อุทเก ติณํ วา มตฺติกํ วา อาหริตฺวา ปกฺขิเปยฺยาติ อชฺฌาหริตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เตนาห ‘‘สกฏภารมตฺตฺเจปี’’ติอาทิ. อิทนฺติ ติณมตฺติกปกฺขิปนวิธานํ. วุตฺตนฺติ มาติกายํ ‘‘ติณํ วา มตฺติกํ วา’’ติ เอวํ วุตฺตํ, อฏฺกถาสุ วา วุตฺตํ.
อิทฺจ สิกฺขาปทํ พาหิรปริโภคํ สนฺธาย วตฺถุวเสน วุตฺตํ อพฺภนฺตรปริโภคสฺส วิสุํ วกฺขมานตฺตา. ตทุภยมฺปิ ‘‘สปฺปาณก’’นฺติ กตฺวา วธกจิตฺตํ วินาว สิฺจเน ปฺตฺตตฺตา ‘‘ปณฺณตฺติวชฺช’’นฺติ วุตฺตํ. วธกจิตฺเต ปน สติ สิกฺขาปทนฺตเรเนว ปาจิตฺติยํ, น อิมินาติ ทฏฺพฺพํ. อุทกสฺส สปฺปาณกตา, ‘‘สิฺจเนน ปาณกา มริสฺสนฺตี’’ติ ชานนํ, ตาทิสเมว จ อุทกํ วินา วธกเจตนาย เกนจิเทว กรณีเยน ติณาทีนํ สิฺจนนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต เสนาสนวคฺโค ทุติโย.
‘‘ภูตคามวคฺโค’’ติปิ เอตสฺเสว นามํ.
๓. โอวาทวคฺโค
๑. โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๔๔. ตติยวคฺคสฺส ¶ ¶ ปเม ติรจฺฉานภูตนฺติ ติโรกรณภูตํ, พาหิรภูตนฺติ อตฺโถ. สมิทฺโธติ ปริปุณฺโณ. สหิตตฺโถ อตฺถยุตฺโต. อตฺถคมฺภีรตาทินา คมฺภีโร.
๑๔๕-๑๔๗. ปรโตติ อุตฺตริ. กโรนฺโตวาติ ปริพาหิเร กโรนฺโต. วิภงฺเคติ ฌานวิภงฺเค. จรณนฺติ นิพฺพานคมนาย ปาทํ.
ยทสฺสาติ ยํ อสฺส. ธาเรตีติ อวินสฺสมานํ ธาเรติ. ปริกถนตฺถนฺติ ปกิณฺณกกถาวเสน ปริจฺฉินฺนธมฺมกถนตฺถํ. ติสฺโส อนุโมทนาติ สงฺฆภตฺตาทีสุ ทานานิสํสปฺปฏิสํยุตฺตา นิธิกุณฺฑสุตฺตาทิ (ขุ. ปา. ๘.๑ อาทโย) -อนุโมทนา, เคหปฺปเวสมงฺคลาทีสุ มงฺคลสุตฺตาทิ (ขุ. ปา. ๕.๑ อาทโย; สุ. นิ. มงฺคลสุตฺต) -อนุโมทนา, มตกภตฺตาทิอมงฺคเลสุ ติโรกุฏฺฏาทิ (ขุ. ปา. ๗.๑ อาทโย; เป. ว. ๑๔ อาทโย) -อนุโมทนาติ อิมา ติสฺโส อนุโมทนา. กมฺมากมฺมวินิจฺฉโยติ ปริวาราวสาเน กมฺมวคฺเค (ปริ. ๔๘๒ อาทโย) วุตฺตวินิจฺฉโย. สมาธิวเสนาติ สมถปุพฺพกวเสน. วิปสฺสนาวเสน วาติ ทิฏฺิวิสุทฺธิอาทิกาย สุกฺขวิปสฺสนาย วเสน. อตฺตโน สีลรกฺขณตฺถํ อปรานเปกฺขตาย เยน กามํ คนฺตุํ จตสฺโส ทิสา อรหติ, อสฺส วา สนฺติ, ตาสุ วา สาธูติ จาตุทฺทิโส.
อภิวินเยติ ปาติโมกฺขสํวรสงฺขาเต สํวรวินเย, ตปฺปกาสเก วา วินยปิฏเก. วิเนตุนฺติ สิกฺขาเปตุํ ปกาเสตุํ. ปคุณา วาจุคฺคตาติ ปาโต จ อตฺถโต จ ปคุณา มุเข สนฺนิธาปนวเสน วาจุคฺคตา กาตพฺพา. อตฺถมตฺตวเสนเปตฺถ โยชนํ กโรนฺติ. อภิธมฺเมติ ลกฺขณรสาทิวเสน ปริจฺฉินฺเน นามรูปธมฺเม. ปุพฺเพ กิร มหาเถรา ปริยตฺติอนนฺตรธานาย เอเกกสฺส คณสฺส ทีฆนิกายาทิเอเกกธมฺมโกฏฺาสํ นิยฺยาเตนฺตา ‘‘ตุมฺเห เอตํ ปาฬิโต จ อฏฺกถาโต จ ปริหรถ, สกฺโกนฺตา อุตฺตริปิ อุคฺคณฺหถา’’ติ เอวํ สกลธมฺมํ คนฺถวเสน นิยฺยาเตนฺติ, ตตฺถ เต จ ภิกฺขู คนฺถนาเมน ทีฆภาณกา มชฺฌิมภาณกาติ โวหรียนฺติ, เต จ ¶ อตฺตโน ภารภูตํ โกฏฺาสํ ปริจฺจชิตฺวา อฺํ ¶ อุคฺคเหตุํ น ลภนฺติ. ตํ สนฺธายาห ‘‘สเจ มชฺฌิมภาณโก โหตี’’ติอาทิ.
ตตฺถ เหฏฺิมา วา ตโย วคฺคาติ มหาวคฺคโต เหฏฺิมา สคาถกวคฺโค (สํ. นิ. ๑.๑ อาทโย), นิทานวคฺโค (สํ. นิ. ๒.๑ อาทโย), ขนฺธวคฺโคติ (สํ. นิ. ๓.๑ อาทิโย) อิเม ตโย วคฺคา. ติกนิปาตโต ปฏฺาย เหฏฺาติ เอกกนิปาตทุกนิปาเต สนฺธาย วุตฺตํ. ธมฺมปทมฺปิ สห วตฺถุนา ชาตกภาณเกน อตฺตโน ชาตเกน สทฺธึ อุคฺคเหตพฺพํ. ตโต โอรํ น วฏฺฏตีติ มหาปจฺจริวาทสฺส อธิปฺปาโย. ตโต ตโตติ ทีฆนิกายาทิโต. อุจฺจินิตฺวา อุคฺคหิตํ สทฺธมฺมสฺส ิติยา, ภิกฺขุโนปิ ปุพฺพาปรานุสนฺธิอาทิกุสลตาย จ น โหตีติ ‘‘ตํ น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตํ. อภิธมฺเม กิฺจิ อุคฺคเหตพฺพนฺติ น วุตฺตนฺติ เอตฺถ ยสฺมา วินเย กุสลตฺติกาทิวิภาโค, สุตฺตนฺเตสุ สมถวิปสฺสนามคฺโค จ อภิธมฺมปาํ วินา น วิฺายติ, อนฺธกาเร ปวิฏฺกาโล วิย โหติ, ตสฺมา สุตฺตวินยานํ คหณวเสน อภิธมฺมคฺคหณํ วุตฺตเมวาติ วิสุํ น วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยถา ‘‘โภชนํ ภฺุชิตพฺพ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘พฺยฺชนํ ขาทิตพฺพ’’นฺติ อวุตฺตมฺปิ วุตฺตเมว โหติ ตทวินาภาวโต, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.
ปริมณฺฑลปทพฺยฺชนายาติ ปริมณฺฑลานิ ปริปุณฺณานิ ปเทสุ สิถิลธนิตาทิพฺยฺชนานิ ยสฺสํ, ตาย. ปุรสฺส เอสาติ โปรี, นครวาสีนํ กถาติ อตฺโถ. อเนลคฬายาติ เอตฺถ เอลาติ เขฬํ ตคฺคฬนวิรหิตาย. กลฺยาณวากฺกรโณติ เอตฺถ วาจา เอว วากฺกรณํ, อุทาหรณโฆโส. กลฺยาณํ มธุรํ วากฺกรณมสฺสาติ กลฺยาณวากฺกรโณ. อุปสมฺปนฺนาย เมถุเนเนว อภพฺโพ โหติ, น สิกฺขมานาสามเณรีสูติ อาห ‘‘ภิกฺขุนิยา กายสํสคฺคํ วา’’ติอาทิ.
๑๔๘. ครุเกหีติ ครุกภณฺเฑหิ. เอกโตอุปสมฺปนฺนายาติ อุปโยคตฺเถ ภุมฺมวจนํ. ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนา นาม ปริวตฺตลิงฺคา วา ปฺจสตสากิยานิโย วา. เอตา ปน เอกโตอุปสมฺปนฺนา โอวทนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว.
๑๔๙. น นิมนฺติตา หุตฺวา คนฺตุกามาติ นิมนฺติตา หุตฺวา โภชนปริโยสาเน คนฺตุกามา น โหนฺติ, ตตฺเถว วสิตุกามา โหนฺตีติ ¶ อตฺโถ. ยโตติ ภิกฺขุนุปสฺสยโต. ยาจิตฺวาติ ‘‘ตุมฺเหหิ อานีตโอวาเทเนว มยมฺปิ วสิสฺสามา’’ติ ยาจิตฺวา. ตตฺถาติ ตสฺมึ ภิกฺขุนุปสฺสเย. อภิกฺขุกาวาเส วสฺสํ วสนฺติยา ปาจิตฺติยํ, อปคจฺฉนฺติยา ทุกฺกฏํ.
อิมาสุ ¶ กตราปตฺติ ปริหริตพฺพาติ โจทนํ ปริหรนฺโต อาห ‘‘สา รกฺขิตพฺพา’’ติ. สา วสฺสานุคมนมูลิกา อาปตฺติ รกฺขิตพฺพา, อิตราย อนาปตฺติการณํ อตฺถีติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘อาปทาสุ หี’’ติอาทิ.
โอวาทตฺถายาติ โอวาเท ยาจนตฺถาย. ทฺเว ติสฺโสติ ทฺวีหิ ตีหิ, กรณตฺเถ เจตํ ปจฺจตฺตวจนํ. ปาสาทิเกนาติ ปสาทชนเกน กายกมฺมาทินา. สมฺปาเทตูติ ติวิธํ สิกฺขํ สมฺปาเทตุ. อสมฺมตตา, ภิกฺขุนิยา ปริปุณฺณูปสมฺปนฺนตา, โอวาทวเสน อฏฺครุธมฺมทานนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อตฺถงฺคตสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๕๓. ทุติเย โกกนทนฺติ ปทุมวิเสสํ, ตํ กิร พหุปตฺตํ วณฺณสมฺปนฺนํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ยถา โกกนทสงฺขาตํ ปทุมํ, เอวํ ผุลฺลมุขปทุมํ อวีตคุณคนฺธํ นิมฺมเล อนฺตลิกฺเข อาทิจฺจํ วิย จ อตฺตโน เตชสา ตปนฺตํ ตโต เอว วิโรจมานํ องฺเคหิ นิจฺฉรณกชุติยา องฺคีรสํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ปสฺสาติ. รโชหรณนฺติ สรีเร รชํ ปฺุฉตีติ รโชหรณนฺติ ปฺุฉนโจฬสฺส นามํ. โอภาสวิสฺสชฺชนปุพฺพกา ภาสิตคาถา โอภาสคาถา นาม. วิสุทฺธิมคฺคาทีสุ (วิสุทฺธิ. ๒.๓๘๖) ปน ‘‘ราโค รโช น จ ปน เรณุ วุจฺจตี’’ติอาทิ โอภาสคาถา วุตฺตา, น ปเนสา ‘‘อธิเจตโส’’ติ คาถา. อยฺจ จูฬปนฺถกตฺเถรสฺส อุทานคาถาติ อุทานปาฬิยํ นตฺถิ, เอกุทานิยตฺเถรสฺส (เถรคา. ๑.๖๗ เอกุทานิยตฺเถรคาถาวณฺณนา) นายํ อุทานคาถาติ ตตฺถ วุตฺตํ. อิธ ปน ปาฬิยา เอว วุตฺตตฺตา เถรสฺสาปิ อุทานคาถาติ คเหตพฺพํ. อิธ จ อครุธมฺเมนาปิ โอวทโต ¶ ปาจิตฺติยเมว. อตฺถงฺคตสูริยตา, ปริปุณฺณูปสมฺปนฺนตา, โอวทนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
อตฺถงฺคตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ภิกฺขุนุปสฺสยสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๖๒. ตติยํ ¶ อุตฺตานเมว. อุปสฺสยูปคมนํ, ปริปุณฺณูปสมฺปนฺนตา, สมยาภาโว, ครุธมฺเมหิ โอวทนนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
ภิกฺขุนุปสฺสยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อามิสสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๖๔. จตุตฺเถ อามิสนิรเปกฺขมฺปิ อามิสเหตุ โอวทตีติสฺาย ภณนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ สจิตฺตกตฺตา สิกฺขาปทสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อุปสมฺปนฺนตา, ธมฺเมน ลทฺธสมฺมุติตา, อนามิสนฺตรตา, อวณฺณกามตาย เอวํ ภณนนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
อามิสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๖๙. ปฺจมํ จีวรทานสิกฺขาปทํ อุตฺตานเมว.
๖. จีวรสิพฺพนสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๗๖. ฉฏฺเ กถินวตฺตนฺติ กถินมาเส จีวรํ กโรนฺตานํ สพฺรหฺมจารีนํ สหายภาวูปคมนํ สนฺธาย วุตฺตํ. วฺเจตฺวาติ ‘‘ตว าติกายา’’ติ อวตฺวา ‘‘เอกิสฺสา ภิกฺขุนิยา’’ติ เอตฺตกเมว วตฺวา ‘‘เอกิสฺสา ภิกฺขุนิยา’’ติ สุตฺวา เต อฺาติกสฺิโน อเหสุนฺติ อาห ‘‘อกปฺปิเย นิโยชิตตฺตา’’ติ. อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา สนฺตกตา, นิวาสนปารุปนูปคตา, วุตฺตนเยน สิพฺพนํ วา สิพฺพาปนํ วาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
จีวรสิพฺพนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สํวิธานสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๘๓. สตฺตเม ¶ ปาฬิยํ คจฺฉาม ภคินิ คจฺฉามายฺยาติ ภิกฺขุปุพฺพกํ สํวิธานํ, อิตรํ ภิกฺขุนิปุพฺพกํ ¶ . เอกทฺธานมคฺคนฺติ เอกโต อทฺธานสงฺขาตํ มคฺคํ. หิยฺโยติ สุเว. ปเรติ ตติเย ทิวเส.
ทฺวิธา วุตฺตปฺปกาโรติ ปาทคมเน ปกฺขคมเนติ ทฺวิธา วุตฺตปฺปกาโร. อุปจาโร น ลพฺภตีติ โย ปริกฺขิตฺตาทิคามสฺส เอกเลฑฺฑุปาตาทิอุปจาโร วุตฺโต, โส อิธ น ลพฺภติ อาสนฺนตฺตา. เอเตน จ อนฺตรฆเรเยเวตฺถ คาโมติ อธิปฺเปโต, น สกลํ คามเขตฺตํ. ตตฺถาปิ ยตฺถ อุปจาโร ลพฺภติ, ตตฺถ อุปจาโรกฺกมเน เอว อาปตฺตีติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘รตนมตฺตนฺตโร’’ติอาทิ. อุปจาโรกฺกมนฺเจตฺถ อุปจารพฺภนฺตเร ปวิสนเมว โหติ. ตตฺถ อปฺปวิสิตฺวาปิ อุปจารโต พหิ อทฺธโยชนพฺภนฺตรคเตน มคฺเคน คจฺฉนฺโตปิ มคฺคสฺส ทฺวีสุ ปสฺเสสุ อทฺธโยชนพฺภนฺตรคตํ คามูปจารํ สพฺพํ โอกฺกมิตฺวา คจฺฉติจฺเจว วุจฺจติ. อทฺธโยชนโต พหิ คเตน มคฺเคน คจฺฉนฺโต น คามูปจารคณนาย กาเรตพฺโพ, อทฺธโยชนคณนาเยว กาเรตพฺโพ. เอวฺจ สติ อนนฺตรสิกฺขาปเท นาวาเยว คามตีรปสฺเสน คจฺฉนฺตสฺส คามูปจารคณนาย อาปตฺติ สมตฺถิตา โหติ. น หิ สกฺกา นาวาย คามูปจารพฺภนฺตเร ปวิสิตุํ. ติณฺณํ มคฺคานํ สมฺพนฺธฏฺานํ สิงฺฆาฏกํ. เอตฺถนฺตเร สํวิทหิเตติ เอตฺถ น เกวลํ ยถาวุตฺตรถิกาทีสุ เอว สํวิทหเน ทุกฺกฏํ, อนฺตรามคฺเคปีติ อธิปฺปาโย.
อทฺธโยชนํ อติกฺกมนฺตสฺสาติ อสติ คาเม อทฺธโยชนํ อติกฺกมนฺตสฺส. ยสฺมิฺหิ คามเขตฺตภูเตปิ อรฺเ อทฺธโยชนพฺภนฺตเร คาโม น โหติ, ตมฺปิ อิธ อคามกํ อรฺนฺติ อธิปฺเปตํ, น วิฺฌาฏวาทโย.
๑๘๕. รฏฺเภเทติ รฏฺวิโลเป. จกฺกสมารุฬฺหาติ อิริยาปถจกฺกํ, สกฏจกฺกํ วา สมารุฬฺหา. ทฺวินฺนมฺปิ สํวิทหิตฺวา มคฺคปฺปฏิปตฺติ, อวิสงฺเกตํ, สมยาภาโว, อนาปทา, คามนฺตโรกฺกมนํ วา อทฺธโยชนาติกฺกโม วาติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ. เอกโตอุปสมฺปนฺนาทีหิ สทฺธึ สํวิธาย คจฺฉนฺตสฺส ปน มาตุคามสิกฺขาปเทน อาปตฺติ.
สํวิธานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. นาวาภิรุหนสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๘๙. อฏฺเม ¶ เอกํ ตีรํ…เป… นิรนฺตรนฺติ นทิโต อทฺธโยชนพฺภนฺตเร ปเทเส นิวิฏฺคาเมหิ ¶ นิรนฺตรตา วุตฺตา. เอกํ อคามกํ อรฺนฺติ ตถา นิวิฏฺคามาภาเวน วุตฺตํ. อคามกตีรปสฺเสนาติอาทิ ปน อติเรกอทฺธโยชนวิตฺถตํ นทึ สนฺธาย วุตฺตํ. ตโต อูนวิตฺถาราย หิ นทิยา มชฺเฌนาปิ คมเน ตีรทฺวยสฺสาปิ อทฺธโยชนพฺภนฺตเร คตตฺตา คามนฺตรคณนาย, อทฺธโยชนคณนาย จ อาปตฺติโย ปริจฺฉินฺทิตพฺพา. เตเนว ‘‘โยชนวิตฺถตา…เป… อทฺธโยชนคณนาย ปาจิตฺติยานี’’ติ วุตฺตํ. เตเนว หิ โยชนโต อูนาย นทิยา อทฺธโยชนพฺภนฺตรคตตีรวเสเนว อาปตฺติคณนํ วุตฺตเมว โหติ. ‘‘สพฺพอฏฺกถาสู’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ สมตฺเถติ. ตตฺถ กิฺจาปิ สมุทฺทตฬากาทีสุ ปาจิตฺติยํ น วุตฺตํ, ตถาปิ กีฬาปุเรกฺขารสฺส ตตฺถ ทุกฺกฏเมวาติ คเหตพฺพํ, ปมํ กีฬาปุเรกฺขารสฺสาปิ ปจฺฉา นาวาย นิทฺทุปคตสฺส, โยนิโส วา มนสิ กโรนฺตสฺส คามนฺตโรกฺกมนาทีสุปิ อาปตฺติสมฺภวโต ปณฺณตฺติวชฺชตา, ติจิตฺตตา จสฺส สิกฺขาปทสฺส วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
นาวาภิรุหนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปริปาจิตสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๙๗. นวเม ปาฬิยํ ‘‘สิกฺขมานา…เป… ปฺจ โภชนานิ เปตฺวา สพฺพตฺถ อนาปตฺตี’’ติ อิทํ อิมินา สิกฺขาปเทน อนาปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ กตวิฺตฺติปริกถาทีหิ อุปฺปนฺนํ ปริภฺุชนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. ภิกฺขุนิยา ปริปาจิตตา, ตถา ชานนํ, คิหิสมารมฺภาภาโว, โภชนตา, ตสฺส อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
ปริปาจิตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. รโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๙๘. ทสเม ¶ อุปนนฺทสฺส จตุตฺถสิกฺขาปเทนาติ มาตุคาเมน รโหนิสชฺชสิกฺขาปทํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตํ ปน อเจลกวคฺเค ปฺจมมฺปิ อุปนนฺทํ อารพฺภ ปฺตฺเตสุ จตุตฺถตฺตา เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
รโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต โอวาทวคฺโค ตติโย.
๔. โภชนวคฺโค
๑. อาวสถปิณฺฑสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๐๖. จตุตฺถวคฺคสฺส ¶ ปเม อิเมสํเยวาติ อิเมสํ ปาสณฺฑานํเยว. เอตฺตกานนฺติ อิมสฺมึ ปาสณฺเฑ เอตฺตกานํ.
๒๐๘. ‘‘คจฺฉนฺโต วา อาคจฺฉนฺโต วา’’ติ อิทํ อทฺธโยชนวเสน คเหตพฺพํ. อฺเ อุทฺทิสฺส ปฺตฺตฺจ ภิกฺขูสุ อปฺปสนฺเนหิ ติตฺถิเยหิ สามฺโตปิ ปฺตฺตมฺปิ ภิกฺขูนํ น วฏฺฏติ เอว. อาวสถปิณฺฑตา, อคิลานตา, อนุวสิตฺวา โภชนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
อาวสถปิณฺฑสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. คณโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๐๙. ทุติเย อภิมาเรติ อภิภวิตฺวา ภควนฺตํ มารณตฺถาย ปโยชิเต ธนุธเร. นนุ ‘‘ราชานมฺปิ มาราเปสี’’ติ วจนโต อิทํ สิกฺขาปทํ อชาตสตฺตุโน กาเล ปฺตฺตนฺติ สิทฺธํ, เอวฺจ สติ ปาฬิยํ ‘‘เตน โข ปน สมเยน รฺโ มาคธสฺส…เป… าติสาโลหิโต อาชีวเกสุ ปพฺพชิโต โหติ…เป… พิมฺพิสารํ เอตทโวจา’’ติอาทิ วิรุชฺฌตีติ? น วิรุชฺฌติ. โส กิร อาชีวโก พิมฺพิสารกาลโต ปภุติ อนฺตรนฺตรา ภิกฺขู นิมนฺเตตฺวา ทานํ เทนฺโต อชาตสตฺตุกาเลปิ สิกฺขาปเท ปฺตฺเตปิ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ทูตํ ปาเหสิ, ภิกฺขู จ กุกฺกุจฺจายนฺตา นิวาเรสุํ. ตสฺมา อาทิโต ปฏฺาย ตํ วตฺถุ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๒๑๕. อฺมฺํ ¶ วิสทิสํ รชฺชํ วิรชฺชํ, วิรชฺชโต อาคตา เวรชฺชกา. เต จ ยสฺมา ชาติโคตฺตาทิโต นานาวิธา, ตสฺมา นานาเวรชฺชเกติปิ อตฺโถ.
๒๑๗-๘. อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส วตฺถุวเสเนว วิฺตฺติโต คณโภชนตฺถตา สิทฺธาติ ตํ อวตฺวา ปทภาชเน อสิทฺธเมว นิมนฺตนโต คณโภชนํ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. เตนาห ‘‘ทฺวีหากาเรหี’’ติอาทิ. ¶ ‘‘เยน เกนจิ เววจเนนา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘โภชนํ คณฺหถา’’ติอาทิสามฺนาเมนาปิ คณโภชนํ โหติ. ยํ ปน ปาฬิยํ อทฺธานคมนาทิวตฺถูสุ ‘‘อิเธว ภฺุชถา’’ติ วุตฺตวจนสฺส กุกฺกุจฺจายนํ, ตมฺปิ โอทนาทินามํ คเหตฺวา วุตฺตตฺตา เอว กตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอกโต คณฺหนฺตีติ อฺมฺสฺส ทฺวาทสหตฺถํ อมฺุจิตฺวา เอกโต ตฺวา คณฺหนฺติ.
‘‘อมฺหากํ จตุนฺนมฺปิ ภตฺตํ เทหี’’ติ วุตฺตตฺตา ปาฬิ (วณฺณนา) ยํ ‘‘ตฺวํ เอกสฺส ภิกฺขุโน ภตฺตํ เทหี’’ติอาทิโน วุตฺตตฺตา จ โภชนนาเมน วิฺตฺตเมว คณโภชนํ โหติ, ตฺจ อฺเน วิฺตฺตมฺปิ เอกโต คณฺหนฺตานํ สพฺเพสมฺปิ โหตีติ ทฏฺพฺพํ. วิสุํ คหิตํ ปน วิฺตฺตํ ภฺุชโต ปณีตโภชนาทิสิกฺขาปเทหิ อาปตฺติ เอว.
อาคนฺตุกปฏฺฏนฺติ อจฺฉินฺทิตฺวา อนฺวาธึ อาโรเปตฺวา กรณจีวรํ สนฺธาย วุตฺตํ. เปตีติ เอกํ อนฺตํ จีวเร พนฺธนวเสน เปติ. ปจฺจาคตํ สิพฺพตีติ ตสฺเสว ทุติยอนฺตํ ปริวตฺติตฺวา อาหตํ สิพฺพติ. อาคนฺตุกปฏฺฏํ พนฺธตีติ จีวเรน ลคฺคํ กโรนฺโต ปุนปฺปุนํ ตตฺถ ตตฺถ สุตฺเตน พนฺธติ. ฆฏฺเฏตีติ ปมาเณน คเหตฺวา ทณฺฑาทีหิ ฆฏฺเฏติ. สุตฺตํ กโรตีติ คุณาทิภาเวน วฏฺเฏติ. วเลตีติ อเนกคุณสุตฺตํ หตฺเถน วา จกฺกทณฺเฑน วา วฏฺเฏติ เอกตฺตํ กโรติ. ปริวตฺตนํ กโรตีติ ปริวตฺตนทณฺฑยนฺตกํ กโรติ, ยสฺมึ สุตฺตคุฬํ ปเวเสตฺวา เวฬุนาฬิกาทีสุ เปตฺวา ปริพฺภมาเปตฺวา สุตฺตโกฏิโต ปฏฺาย อากฑฺฒนฺติ.
๒๒๐. อนิมนฺติตจตุตฺถนฺติ อนิมนฺติโต จตุตฺโถ ยสฺส ภิกฺขุจตุกฺกสฺส, ตํ อนิมนฺติตจตุตฺถํ. เอวํ เสเสสุปิ. เตนาห ‘‘ปฺจนฺนํ จตุกฺกาน’’นฺติ. สมฺปเวเสตฺวาติ เตหิ โยเชตฺวา. คโณ ภิชฺชตีติ นิมนฺติตสงฺโฆ น โหตีติ อตฺโถ.
อธิวาเสตฺวา ¶ คเตสูติ เอตฺถ อกปฺปิยนิมนฺตนาธิวาสนกฺขเณ ปุพฺพปโยเค ทุกฺกฏมฺปิ นตฺถิ, วิฺตฺติโต ปสวเน ปน วิฺตฺติกฺขเณ อิตรสิกฺขาปเทหิ ทุกฺกฏํ โหตีติ คเหตพฺพํ. นิมนฺตนํ สาทิยถาติ นิมนฺตนภตฺตํ ปฏิคฺคณฺหถ. ตานิ จาติ กุมฺมาสาทีนิ จ เตหิ ภิกฺขูหิ เอเกน ปจฺฉา คหิตตฺตา เอกโต น คหิตานิ.
‘‘ภตฺตุทฺเทสเกน ปณฺฑิเตน ภวิตพฺพํ…เป… โมเจตพฺพา’’ติ เอเตน ภตฺตุทฺเทสเกน อกปฺปิยนิมนฺตเน สาทิเต สพฺเพสมฺปิ สาทิตํ โหติ. เอกโต คณฺหนฺตานํ คณโภชนาปตฺติ จ โหตีติ ¶ ทสฺเสติ. ทูตสฺส ทฺวาเร อาคนฺตฺวา ปุน ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วจนภเยน ‘‘คามทฺวาเร อฏฺตฺวา’’ติ วุตฺตํ. คณโภชนตา, สมยาภาโว, อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
คณโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๒๑. ตติเย ปาฬิยํ ภตฺตปฏิปาฏิ อฏฺิตาติ กุลปฏิปาฏิยา ทาตพฺพา ภตฺตปฏิปาฏิ อฏฺิตา น ิตา, อพฺโพจฺฉินฺนา นิรนฺตรปฺปวตฺตาติ อตฺโถ. พทรผลานิ ปกฺขิปิตฺวา ปกฺกยาคุอาทิกํ ‘‘พทรสาฬว’’นฺติ วุจฺจติ.
ปาฬิยํ ปรมฺปรโภชเนติ เยน ปมํ นิมนฺติโต, ตสฺส โภชนโต ปรสฺส โภชนสฺส ภฺุชเน. วิกปฺปนาว อิธ อนุปฺตฺติวเสน มาติกายํ อนาโรปิตาปิ ปริวาเร ‘‘จตสฺโส อนุปฺตฺติโย’’ติ (ปริ. ๘๖) อนุปฺตฺติยํ คณิตา. ตตฺถ กิฺจาปิ อฏฺกถายํ มหาปจฺจริวาทสฺส ปจฺฉา กถเนน ปรมฺมุขาวิกปฺปนา ปติฏฺปิตา, ตถาปิ สมฺมุขาวิกปฺปนาปิ คเหตพฺพาว. เตเนว มาติกาฏฺกถายมฺปิ ‘‘โย ภิกฺขุ ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ อฺตรสฺส ‘มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสํ ตุยฺหํ ทมฺมี’ติ วา ‘วิกปฺเปมี’ติ วา เอวํ สมฺมุขา’’ติอาทิ (กงฺขา. อฏฺ. ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ.
๒๒๙. ขีรํ วา รสํ วาติ ปฺจโภชนามิสํ ภตฺตโต อุปริ ิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตฺหิ อโภชนตฺตา อุปฺปฏิปาฏิยา ปิวโตปิ อนาปตฺติ. เตนาห ‘‘ภฺุชนฺเตนา’’ติอาทิ.
วิกปฺปนาย ¶ อกรณโต อกิริยาวเสน อิทํ วาจายปิ สมุฏฺิตนฺติ อาห ‘‘วจีกมฺม’’นฺติ. ปรมฺปรโภชนตา, สมยาภาโว, อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. กาณมาตาสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๓๑. จตุตฺเถ ปาฬิยํ ปฏิยาโลกนฺติ ปจฺฉิมทิสํ, ปจฺฉาทิสนฺติ อตฺโถ. อปาเถยฺยาทิอตฺถาย ¶ ปฏิยาทิตนฺติสฺาย คณฺหนฺตสฺสาปิ อาปตฺติ เอว อจิตฺตกตฺตา สิกฺขาปทสฺส. อตฺตโน อตฺถาย ‘‘อิมสฺส หตฺเถ เทหี’’ติ วจเนนาปิ อาปชฺชนโต ‘‘วจีกมฺม’’นฺติ วุตฺตํ. วุตฺตลกฺขณปูวมนฺถตา, อเสสกตา, อปฺปฏิปฺปสฺสทฺธคมนตา, อฺาตกาทิตา, อติเรกปฏิคฺคหณนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
กาณมาตาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ปมปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๓๗. ปฺจเม ‘‘ติ-การํ อวตฺวา’’ติ อิมินา กาตพฺพสทฺทสามตฺถิยา ลทฺธํ อิติ-ปทํ กตกาเล น วตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. อิธ ปน อชานนฺเตหิ อิติ-สทฺเท ปยุตฺเตปิ อติริตฺตํ กตเมว โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
๒๓๘-๙. ‘‘ปวาริโต’’ติ อิทฺจ กตฺตุอตฺเถ นิปฺผนฺนนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘กตปวารโณ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภุตฺตาวี-ปทสฺส นิรตฺถกภาวเมว สาเธตุํ ‘‘วุตฺตมฺปิ เจต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตาหีติ ปุถุกาหิ. สตฺตุโมทโกติ สตฺตุํ เตเมตฺวา กโต อปกฺโก. สตฺตุํ ปน ปิสิตฺวา ปิฏฺํ กตฺวา เตเมตฺวา ปูวํ กตฺวา ปจนฺติ, ตํ น ปวาเรติ. ‘‘ปฏิกฺขิปิตพฺพฏฺาเน ิตเมว ปฏิกฺขิปติ นามา’’ติ วุตฺตตฺตา ยํ ยํ อลชฺชิสนฺตกํ วา อตฺตโน อปาปุณกสงฺฆิกาทึ วา ปฏิกฺเขปโต ปวารณา น โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
อาสนฺนตรํ องฺคนฺติ หตฺถปาสโต พหิ ตฺวา โอนมิตฺวา เทนฺตสฺส สีสํ อาสนฺนตรํ โหติ, ตสฺส โอริมนฺเตน ปริจฺฉินฺทิตพฺพํ.
อปนาเมตฺวาติ ¶ อภิมุขํ หริตฺวา. ‘‘อิมํ ภตฺตํ คณฺหา’’ติ วทตีติ กิฺจิ อนาเมตฺวา วทติ. เกวลํ วาจาภิหารสฺส อนธิปฺเปตตฺตา คณฺหถาติ คเหตุํ อารทฺธํ กฏจฺฉุนา อนุกฺขิตฺตมฺปิ ปุพฺเพปิ เอวํ อภิหฏตฺตา ปวารณา โหตีติ ‘‘อภิหฏาว โหตี’’ติ วุตฺตํ. อุทฺธฏมตฺเตติ ภาชนโต วิโยชิตมตฺเต. ทฺวินฺนํ สมภาเรปีติ ปริเวสกสฺส จ อฺสฺส จ ภตฺตปจฺฉิภาชนวหเน สมเกปีติ อตฺโถ.
รสํ คณฺหถาติ เอตฺถ เกวลํ มํสรสสฺส อปวารณาชนกสฺส นาเมน วุตฺตตฺตา ปฏิกฺขิปโต ¶ ปวารณา น โหติ. มจฺฉรสนฺติอาทีสุ มจฺโฉ จ รสฺจาติ อตฺถสฺส สมฺภวโต วตฺถุโนปิ ตาทิสตฺตา ปวารณา โหติ, ‘‘อิทํ คณฺหถา’’ติปิ อวตฺวา ตุณฺหีภาเวน อภิหฏํ ปฏิกฺขิปโตปิ โหติ เอว. กรมฺพโกติ มิสฺสกาธิวจนเมตํ. ยฺหิ พหูหิ มิสฺเสตฺวา กโรนฺติ, โส ‘‘กรมฺพโก’’ติ วุจฺจติ.
‘‘อุทฺทิสฺส กต’’นฺติ มฺมาโนติ เอตฺถ วตฺถุโน กปฺปิยตฺตา ‘‘ปวาริโตว โหตี’’ติ วุตฺตํ. ตฺเจ อุทฺทิสฺส กตเมว โหติ, ปฏิกฺเขโป นตฺถิ. อยเมตฺถ อธิปฺปาโยติ ‘‘เยนาปุจฺฉิโต’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ สนฺธาย วทติ. การณํ ปเนตฺถ ทุทฺทสนฺติ ภตฺตสฺส พหุตรภาเวน ปวารณาสมฺภวการณํ ทุทฺทสํ, อฺถา กรมฺพเกปิ มจฺฉาทิพหุภาเว ปวารณา ภเวยฺยาติ อธิปฺปาโย. ยถา เจตฺถ การณํ ทุทฺทสํ, เอวํ ปรโต ‘‘มิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ เอตฺถาปิ การณํ ทุทฺทสเมวาติ ทฏฺพฺพํ. ยฺจ ‘‘อิทํ ปน ภตฺตมิสฺสกเมวา’’ติอาทิ การณํ วุตฺตํ, ตมฺปิ ‘‘อปฺปตรํ น ปวาเรตี’’ติ วจเนน น สเมติ. วิสุํ กตฺวา เทตีติ ‘‘รสํ คณฺหถา’’ติอาทินา วาจาย วิสุํ กตฺวา เทตีติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. น ปน กาเยน รสาทึ วิโยเชตฺวาติ. ตถา อวิโยชิเตปิ ปฏิกฺขิปโต ปวารณาย อสมฺภวโต อปฺปวารณาปโหณกสฺส นาเมน วุตฺตตฺตา ภตฺตมิสฺสกยาคุํ อาหริตฺวา ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ วุตฺตฏฺานาทีสุ วิย, อฺถา วา เอตฺถ ยถา ปุพฺพาปรํ น วิรุชฺฌติ, ตถา อธิปฺปาโย คเหตพฺโพ.
นาวา วา เสตุ วาติอาทิมฺหิ นาวาทิอภิรุหนาทิกฺขเณ กิฺจิ ตฺวาปิ อภิรุหนาทิกาตพฺพตฺเตปิ คมนตปฺปรตาย านํ นาม น โหติ, ชนสมฺมทฺเทน ปน อโนกาสาทิภาเวน กาตุํ น วฏฺฏติ. อจาเลตฺวาติ วุตฺตฏฺานโต ¶ อฺสฺมิมฺปิ ปเทเส วา อุทฺธํ วา อเปเสตฺวา ตสฺมึ เอว ปน าเน ปริวตฺเตตุํ ลภติ. เตนาห ‘‘เยน ปสฺเสนา’’ติอาทิ.
อกปฺปิยโภชนํ วาติ กุลทูสนาทินา อุปฺปนฺนํ, ตํ ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ อิมินา เตน มิสฺสํ โอทนาทิ อติริตฺตํ โหติ เอวาติ ทสฺเสติ. ตสฺมา ยํ ตตฺถ อกปฺปกตํ กนฺทผลาทิ, ตํ อปเนตฺวา เสสํ ภฺุชิตพฺพเมว.
โส ปุน กาตุํ น ลภตีติ ตสฺมิฺเว ภาชเน กริยมานํ ปมกเตน สทฺธึ กตํ โหตีติ ปุน โส เอว กาตุํ น ลภติ, อฺโ ลภติ. อฺเน หิ กตโต อฺโ ปุน กาตุํ ¶ ลภติ. อฺสฺมึ ปน ภาชเน เตน วา อฺเน วา กาตุํ วฏฺฏติ. เตนาห ‘‘เยน อกตํ, เตน กาตพฺพํ, ยฺจ อกตํ, ตํ กาตพฺพ’’นฺติ. เอวํ กตนฺติ อฺสฺมึ ภาชเน กตํ. สเจ ปน อามิสสํสฏฺานีติ เอตฺถ มุขาทีสุ ลคฺคมฺปิ อามิสํ โสเธตฺวาว อติริตฺตํ ภฺุชิตพฺพนฺติ เวทิตพฺพํ.
๒๔๑. วาจาย อาณาเปตฺวา อติริตฺตํ อการาปนโต อกิริยสมุฏฺานนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปวาริตภาโว, อามิสสฺส อนติริตฺตตา, กาเล อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
ปมปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ทุติยปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๔๓. ฉฏฺเ ‘‘ภุตฺตสฺมิ’’นฺติ มาติกายํ วุตฺตตฺตา โภชนปริโยสาเน ปาจิตฺติยํ. ปวาริตตา, ตถาสฺิตา, อาสาทนาเปกฺขตา, อนติริตฺเตน อภิหฏปวารณา, โภชนปอโยสานนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
ทุติยปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. วิกาลโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๔๗. สตฺตเม นฏานํ นาฏกาติ นฏนาฏกา, สีตาหรณาทีนิ.
๒๔๘-๙. ขาทนีเย ขาทนียตฺถนฺติ ปูวาทิขาทนีเย วิชฺชมานขาทนียกิจฺจํ ขาทนีเยหิ กาตพฺพํ ชิฆจฺฉาหรณสงฺขาตํ อตฺถํ ปโยชนํ เนว ผรนฺติ ¶ น นิปฺผาเทนฺติ. เอกสฺมึ เทเส อาหารกิจฺจํ สาเธนฺตํ วา อฺสฺมึ เทเส อุฏฺิตภูมิรสาทิเภเทน อาหารกิจฺจํ อสาเธนฺตมฺปิ วา สมฺภเวยฺยาติ อาห ‘‘เตสุ เตสุ ชนปเทสู’’ติอาทิ. เกจิ ปน ‘‘เอกสฺมึ ชนปเท อาหารกิจฺจํ สาเธนฺตํ เสสชนปเทสุปิ วิกาเล น กปฺปติ เอวาติ ทสฺสนตฺถํ อิทํ วุตฺต’’นฺติปิ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติยกณฺฑ ๓.๒๔๘-๒๔๙) วทนฺติ. ปกติอาหารวเสนาติ อฺเหิ ยาวกาลิเกหิ อโยชิตํ อตฺตโน ปกติยาว อาหารกิจฺจกรณวเสน. สมฺโมโหเยว โหตีติ ¶ อเนกตฺถานํ นามานํ, อปฺปสิทฺธานฺจ สมฺภวโต สมฺโมโห เอว สิยา. เตเนเวตฺถ มยมฺปิ มูลกมูลาทีนํ ปริยายนฺตรทสฺสเนน อทสฺสนํ กริมฺห อุปเทสโตว คเหตพฺพโต.
ยนฺติ วฏฺฏกนฺทํ. มุฬาลนฺติ ถูลตรุณมูลเมว, รุกฺขวลฺลิอาทีนํ มตฺถโกติ เหฏฺา วุตฺตเมว สมฺปิณฺเฑตฺวา วุตฺตํ. อจฺฉิวาทีนํ อปริปกฺกาเนว ผลานิ ยาวชีวิกานีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปริปกฺกานี’’ติ วุตฺตํ. หรีตกาทีนํ อฏฺีนีติ เอตฺถ มิฺชํ ยาวกาลิกนฺติ เกจิ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ อฏฺกถายํ อวุตฺตตฺตา.
หิงฺคุรุกฺขโต ปคฺฆริตนิยฺยาโส หิงฺคุ นาม. หิงฺคุชตุอาทโย จ หิงฺคุวิกติโยว. ตตฺถ หิงฺคุชตุ นาม หิงฺคุรุกฺขสฺส ทณฺฑปตฺตานิ ปจิตฺวา กตนิยฺยาโส. หิงฺคุสิปาฏิกา นาม หิงฺคุปตฺตานิ ปจิตฺวา กตนิยฺยาโส. อฺเน มิสฺเสตฺวา กโตติปิ วทนฺติ. ตกนฺติ อคฺคโกฏิยา นิกฺขนฺตสิเลโส. ตกปตฺตินฺติ ปตฺตโต นิกฺขนฺตสิเลโส. ตกปณฺณินฺติ ปลาเส ภชฺชิตฺวา กตสิเลโส. ทณฺฑโต นิกฺขนฺตสิเลโสติปิ วทนฺติ. วิกาลตา, ยาวกาลิกตา, อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
วิกาลโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๕๒-๓. อฏฺเม ตาทิสนฺติ อสูปพฺยฺชนํ. ยาวกาลิกํ วา ยามกาลิกํ วา…เป… ปาจิตฺติยนฺติ เอตฺถ กิฺจาปิ ปาฬิยํ ขาทนียโภชนียปเทหิ ยาวกาลิกเมว สงฺคหิตํ, น ยามกาลิกํ. ตถาปิ ‘‘อนาปตฺติ ยามกาลิกํ ยาเม นิทหิตฺวา ภฺุชตี’’ติ อิธ เจว –
‘‘ยามกาลิเกน ¶ , ภิกฺขเว, สตฺตาหกาลิกํ…เป… ยาวชีวิกํ ตทหุปฏิคฺคหิตํ ยาเม กปฺปติ, ยามาติกฺกนฺเต น กปฺปตี’’ติ (มหาว. ๓๐๕) –
อฺตฺถ จ วุตฺตตฺตา, ‘‘ยามกาลิก’’นฺติ วจนสามตฺถิยโต จ ภควโต อธิปฺปายฺูหิ อฏฺกถาจริเยหิ ยามกาลิกํ สนฺนิธิการกกตํ ปาจิตฺติยวตฺถุเมว วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยนฺติ ปตฺตํ, ฆํสนกิริยาเปกฺขาย เจตํ อุปโยควจนํ. องฺคุลิเลขา ปฺายตีติ สิเนหาภาเวปิ ปตฺตสฺส สุจฺฉวิตาย ปฺายติ. ยนฺติ ยาวกาลิกํ, ยามกาลิกฺจ. อปริจฺจตฺตเมวาติ นิรเปกฺขตาย ¶ อนุปสมฺปนฺนสฺส อทินฺนํ, อปริจฺจตฺตฺจ ยาวกาลิกาทิวตฺถุเมว สนฺธาย วทติ, น ปน ตคฺคตปฏิคฺคหณํ. น หิ วตฺถุํ อปริจฺจชิตฺวา ตตฺถคตปฏิคฺคหณํ ปริจฺจชิตุํ สกฺกา, น จ ตาทิสํ วจนมตฺถิ. ยทิ ภเวยฺย, ‘‘สเจ ปตฺโต ทุทฺโธโต โหติ…เป… ภฺุชนฺตสฺส ปาจิตฺติย’’นฺติ วจนํ วิรุชฺเฌยฺย. น หิ โธวเนน อามิสํ อปเนตุํ วายมนฺตสฺส ปฏิคฺคหเณ อเปกฺขา วตฺตติ. เยน ปุนทิวเส ภฺุชโต ปาจิตฺติยํ ชเนยฺย, ปตฺเต ปน วตฺตมานา อเปกฺขา ตคฺคติเก อามิเสปิ วตฺตติ เอวนามาติ อามิเส อนเปกฺขตา เอตฺถ น ลพฺภติ, ตโต อามิเส อวิชหิตปฏิคฺคหณํ ปุนทิวเส ปาจิตฺติยํ ชเนตีติ อิทํ วุตฺตํ. อถ มตํ ‘‘ยทคฺเคเนตฺถ อามิสานเปกฺขตา น ลพฺภติ. ตทคฺเคน ปฏิคฺคหณานเปกฺขาปิ น ลพฺภตี’’ติ. ตถา สติ ยตฺถ อามิสาเปกฺขา อตฺถิ, ตตฺถ ปฏิคฺคหณาเปกฺขาปิ น วิคจฺฉตีติ อาปนฺนํ, เอวฺจ ปฏิคฺคหเณ อนเปกฺขวิสฺสชฺชนํ วิสุํ น วตฺตพฺพํ สิยา. อฏฺกถายฺเจตมฺปิ ปฏิคฺคหณวิชหนการณตฺเตน อภิมตํ สิยา, อิทํ สุฏฺุตรํ กตฺวา วิสุํ วตฺตพฺพํ จีวราเปกฺขาย วตฺตมานายปิ ปจฺจุทฺธาเรน อธิฏฺานวิชหนํ วิย. เอตสฺมิฺจ อุปาเย สติ คณฺิกาหตปตฺเตสุ อวฏฺฏนตา นาม น สิยาติ วุตฺโตวายมตฺโถ. ตสฺมา ยํ วุตฺตํ สารตฺถทีปนิยํ ‘‘ยํ ปรสฺส ปริจฺจชิตฺวา อทินฺนมฺปิ สเจ ปฏิคฺคหเณ นิรเปกฺขนิสฺสชฺชเนน วิชหิตปฏิคฺคหณํ โหติ, ตมฺปิ ทุติยทิวเส วฏฺฏตี’’ติอาทิ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติยกณฺฑ ๓.๒๕๒-๒๕๓), ตํ น สารโต ปจฺเจตพฺพํ.
ปกติอามิเสติ โอทนาทิกปฺปิยยาวกาลิเก. ทฺเวติ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ยามกาลิกํ ปุเรภตฺตํ สามิเสน มุเขน ภฺุชโต สนฺนิธิปจฺจยา เอกํ, ยามกาลิกสํสฏฺตาย ยาวกาลิกตฺตภชเนน อนติริตฺตปจฺจยา ¶ เอกนฺติ ทฺเว ปาจิตฺติยานิ. วิกปฺปทฺวเยติ สามิสนิรามิสปกฺขทฺวเย. ถุลฺลจฺจยฺจ ทุกฺกฏฺจาติ มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจยํ, เสเสสุ ทุกฺกฏํ. ยาวกาลิกยามกาลิกตา, สนฺนิธิภาโว, ตสฺส อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปณีตโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๕๙. นวเม ปณีตสํสฏฺานิ โภชนานิ ปณีตโภชนานีติ ปาฬิยํ ปน โภชนานิ ปุพฺเพ วุตฺตตฺตา ปากฏานีติ อทสฺสิตานิ, ตาทิเสหิ ปณีเตหิ มิสฺสตฺตา ปณีตโภชนานิ นาม โหนฺติ. เตสํ ปเภททสฺสนตฺถํ ‘‘เสยฺยถิทํ สปฺปิ นวนีต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. สปฺปิภตฺตนฺติ เอตฺถ กิฺจาปิ ¶ สปฺปินา สํสฏฺํ ภตฺตํ, สปฺปิ จ ภตฺตฺจาติปิ อตฺโถ วิฺายติ, อฏฺกถายํ ปน ‘‘สาลิภตฺตํ วิย สปฺปิภตฺตํ นาม นตฺถี’’ติอาทินา วุตฺตตฺตา น สกฺกา อฺํ วตฺถุํ. อฏฺกถาจริยา เอว หิ อีทิเสสุ าเนสุ ปมาณํ.
มูลนฺติ กปฺปิยภณฺฑํ วุตฺตํ. ตสฺมา อนาปตฺตีติ เอตฺถ วิสงฺเกเตน ปาจิตฺติยาภาเวปิ สูโปทนทุกฺกฏา น มุจฺจตีติ วทนฺติ. ‘‘กปฺปิยสปฺปินา, อกปฺปิยสปฺปินา’’ติ จ อิทํ กปฺปิยากปฺปิยมํสสตฺตานํ วเสน วุตฺตํ.
๒๖๑. มหานามสิกฺขาปทํ นาม อุปริ จาตุมาสปจฺจยปวารณาสิกฺขาปทํ (ปาจิ. ๓๐๓ อาทโย). อคิลาโน หิ อปฺปวาริตฏฺาเน วิฺาเปนฺโตปิ กาลปริจฺเฉทํ, เภสชฺชปริจฺเฉทํ วา กตฺวา สงฺฆวเสน ปวาริตฏฺานโต ตทุตฺตริ วิฺาเปนฺเตน, ปริจฺเฉทพฺภนฺตเรปิ น เภสชฺชกรณีเยน โรเคน เภสชฺชํ วิฺาเปนฺเตน จ สโม โหตีติ ‘‘มหานามสิกฺขาปเทน กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ปณีตโภชนตา, อคิลานตา, อกตวิฺตฺติยา ปฏิลาโภ, อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
ปณีตโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๖๓. ทสเม ¶ ฆนพทฺโธติ ฆนมํเสน สมฺพทฺโธ, กถินสํหตสรีโรติ อตฺโถ.
๒๖๔. มุขทฺวารนฺติ มุขโต เหฏฺา ทฺวารํ มุขทฺวารํ, คลนาฬิกนฺติ อตฺโถ. เอวฺจ นาสิกาย ปวิฏฺมฺปิ มุขทฺวารํ ปวิฏฺเมว โหติ, มุเข ปกฺขิตฺตมตฺตฺจ อปฺปวิฏฺํ. อาหารนฺติ อชฺโฌหริตพฺพํ กาลิกํ อธิปฺเปตํ, น อุทกํ. ตฺหิ เภสชฺชสงฺคหิตมฺปิ อกาลิกเมว ปฏิคฺคหิตสฺเสว กาลิกตฺตา. อุทเก หิ ปฏิคฺคหณํ น รุหติ. เตเนว ภิกฺขุนา ตาปิเตน อุทเกน จิรปฏิคฺคหิเตน จ อกปฺปิยกุฏิยํ วุตฺเถน จ สห อามิสํ ภฺุชนฺตสฺสาปิ สามปากาทิโทโส น โหติ. วกฺขติ หิ ‘‘ภิกฺขุ ยาคุอตฺถาย…เป… อุทกํ ตาเปติ, วฏฺฏตี’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕). ภิกฺขู ปน เอตํ อธิปฺปายํ ตทา น ชานึสุ. เตนาห ‘‘สมฺมา อตฺถํ อสลฺลกฺเขตฺวา’’ติอาทิ.
๒๖๕. รถเรณุมฺปีติ ¶ รเถ คจฺฉนฺเต อุฏฺหนเรณุสทิสเรณุํ. เตน ตโต สุขุมํ อากาเส ปริพฺภมนกํ ทิสฺสมานมฺปิ อพฺโพหาริกนฺติ ทสฺเสติ. อกลฺลโกติ คิลาโน.
‘‘คเหตุํ วา…เป… ตสฺส โอริมนฺเตนา’’ติ อิมินา อากาเส อุชุํ ตฺวา ปเรน อุกฺขิตฺตํ คณฺหนฺตสฺสาปิ อาสนฺนงฺคภูตปาทตลโต ปฏฺาย หตฺถปาโส ปริจฺฉินฺทิตพฺโพ, น ปน สีสนฺตโต ปฏฺายาติ ทสฺเสติ. ตตฺถ ‘‘โอริมนฺเตนา’’ติ อิมสฺส เหฏฺิมนฺเตนาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ.
เอตฺถ จ ปวารณาสิกฺขาปทฏฺกถายํ ‘‘สเจ ภิกฺขุ นิสินฺโน โหติ, อาสนสฺส ปจฺฉิมนฺตโต ปฏฺายา’’ติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙) ปฏิคฺคาหกานํ อาสนฺนงฺคสฺส ปาริมนฺตโต ปฏฺาย ปริจฺเฉทสฺส ทสฺสิตตฺตา อิธาปิ อากาเส ิตสฺส ปฏิคฺคาหกสฺส อาสนฺนงฺคภูตปาทงฺคุลสฺส ปาริมนฺตภูตโต ปณฺหิปริยนฺตสฺส เหฏฺิมตลโต ปฏฺาย, ทายกสฺส ปน โอริมนฺตภูตโต ปาทงฺคุลสฺส เหฏฺิมตลโต ปฏฺาย หตฺถปาโส ปริจฺฉินฺทิตพฺโพติ ทฏฺพฺพํ. อิมินาว นเยน ภูมิยํ นิปชฺชิตฺวา อุสฺสีเส นิสินฺนสฺส หตฺถโต ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺสปิ อาสนฺนสีสงฺคสฺส ปาริมนฺตภูตโต คีวนฺตโต ปฏฺาเยว ¶ หตฺถปาโส มินิตพฺโพ, น ปาทตลโต ปฏฺาย. เอวํ นิปชฺชิตฺวา ทาเนปิ ยถานุรูปํ เวทิตพฺพํ. ‘‘ยํ อาสนฺนตรํ องฺค’’นฺติ หิ วุตฺตํ.
ปฏิคฺคหณสฺายาติ ‘‘มฺจาทินา ปฏิคฺคเหสฺสามี’’ติ อุปฺปาทิตสฺาย. อิมินา ‘‘ปฏิคฺคณฺหามี’’ติ วาจาย วตฺตพฺพกิจฺจํ นตฺถีติ ทสฺเสติ. กตฺถจิ อฏฺกถาสุ, ปเทเสสุ วา. อสํหาริเม ผลเกติ ถามมชฺฌิเมน ปุริเสน อสํหาริเย. ปฺุฉิตฺวา ปฏิคฺคเหตฺวาติ ปฺุฉิเตปิ รชนจุณฺณสงฺกาย สติ ปฏิคฺคหณตฺถาย วุตฺตํ, นาสติ. ตํ ปนาติ ปติตรชํ อปฺปฏิคฺคเหตฺวา อุปริ คหิตปิณฺฑปาตํ. อนาปตฺตีติ ทุรุปจิณฺณาทิโทโส นตฺถิ. ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส ทสฺสามี’’ติอาทิปิ วินยทุกฺกฏปริหาราย วุตฺตํ. ตถา อกตฺวา คหิเตปิ ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชโต อนาปตฺติ เอว. ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส ทตฺวา’’ติ อิทมฺปิ ปุริมาโภคานุคุณตาย วุตฺตํ.
จรุเกนาติ ขุทฺทกภาชเนน. อภิหฏตฺตาติ ทิยฺยมานกฺขณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทตฺวา อปนยนกาเล ปน ฉาริกา วา พินฺทูนิ วา ปตนฺติ, ปุน ปฏิคฺคเหตพฺพํ อภิหารสฺส วิคตตฺตาติ วทนฺติ. ตํ ยถา น ปตติ, ตถา อปเนสฺสามีติ ปริหรนฺเต ยุชฺชติ. ปกติสฺาย อปเนนฺเต อภิหาโร น ฉิชฺชติ, ตํ ปฏิคฺคหิตเมว โหติ. มุขวฏฺฏิยาปิ คเหตุํ ¶ วฏฺฏตีติ อภิหริยมานสฺส ปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิยา อุปริภาเค หตฺถํ ปสาเรตฺวา ผุสิตุํ วฏฺฏติ.
ปาเทน เปลฺเลตฺวาติ ‘‘ปาเทน ปฏิคฺคเหสฺสามี’’ติสฺาย อกฺกมิตฺวา. เกจีติ อภยคิริวาสิโน. วจนมตฺตเมวาติ ปฏิพทฺธปฺปฏิพทฺธนฺติ สทฺทมตฺตเมว นานํ, กายปฏิพทฺธเมว โหติ. ตสฺมา เตสํ วจนํ น คเหตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.
เตน อาหราเปตุนฺติ ยสฺส ภิกฺขุโน สนฺติกํ คตํ, ตํ อิธ อาเนหีติ อาณาเปตฺวา เตน อาหราเปตุํ อิตรสฺส วฏฺฏตีติ อตฺโถ. น ตโต ปรนฺติ ตทเหว สามํ อปฺปฏิคฺคหิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตทเหว ปฏิคฺคหิตํ ปน ปุนทิวสาทีสุ อปฺปฏิคฺคเหตฺวาปิ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ.
ขิยฺยนฺตีติ ขยํ คจฺฉนฺติ, เตสํ จุณฺเณหิ ถุลฺลจฺจยอปฺปฏิคฺคหณาปตฺติโย น โหนฺตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘นวสมุฏฺิต’’นฺติ เอเตเนว อุจฺฉุอาทีสุ ¶ อภินวลคฺคตฺตา อพฺโพหาริกํ น โหตีติ ทสฺเสติ. เอเสว นโยติ สนฺนิธิโทสาทึ สนฺธาย วทติ. เตนาห ‘‘น หี’’ติอาทิ. เตน จ ปฏิคฺคหณงฺเคสุ ปฺจสุปิ สมิทฺเธสุ อชฺโฌหริตุกามตาย คหิตเมว ปฏิคฺคหิตํ นาม โหติ อชฺโฌหริตพฺเพสุ เอว ปฏิคฺคหณสฺส อนฺุาตตฺตาติ ทสฺเสติ. ตถา พาหิรปริโภคตฺถาย คเหตฺวา ปิตเตลาทึ อชฺโฌหริตุกามตาย สติ ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
เกสฺจีติอาทีสุ อนุปสมฺปนฺนานํ อตฺถาย กตฺถจิ ปิยมานมฺปิ หตฺถโต มุตฺตมตฺเต เอว ปฏิคฺคหณํ น วิชหติ, อถ โข ภาชเน ปติตเมว ปฏิคฺคหณํ วิชหติ. ภาชนฺจ ภิกฺขุนา ปุนทิวสตฺถาย อเปกฺขิตเมวาติ ตคฺคตมฺปิ อามิสํ ทุทฺโธตปตฺตคตํ วิย ปฏิคฺคหณํ น วิชหตีติ อาสงฺกาย ‘‘สามเณรสฺส หตฺเถ ปกฺขิปิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อีทิเสสุ หิ ยุตฺติ น คเวสิตพฺพา, วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ. ‘‘ปตฺตคตา ยาคู’’ติ อิมินา ปตฺตมุขวฏฺฏิยา ผุฏฺเปิ กูเฏ ยาคุ ปฏิคฺคหิตา, อุคฺคหิตา วา น โหติ ภิกฺขุโน อนิจฺฉาย ผุฏฺตฺตาติ ทสฺเสติ. อาโรเปตีติ หตฺถํ ผุสาเปติ. ปฏิคฺคหณูปคํ ภารํ นาม มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส อุกฺเขปารหํ. น ปิทหิตพฺพนฺติ หตฺถโต มุตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, หตฺถคตํ ปน อิตเรน หตฺเถน ปิทหโต, หตฺถโต มุตฺตมฺปิ วา อผุสิตฺวา อุปริปิธานํ ปาเตนฺตสฺส น โทโส.
ปฏิคฺคณฺหาตีติ ¶ ฉายตฺถาย อุปริ ธารยมานา มหาสาขา เยน เกนจิ ฉิชฺเชยฺย, ตตฺถ ลคฺครชํ มุเข ปาเตยฺย จาติ กปฺปิยํ การาเปตฺวา ปฏิคฺคณฺหาติ. กุณฺฑเกติ มหาฆเฏ. ตสฺมิมฺปีติ จาฏิฆเฏปิ. คาหาเปตฺวาติ อปฺปฏิคฺคหิตํ กาลิกํ คาหาเปตฺวา.
ทุติยตฺเถรสฺสาติ ‘‘เถรสฺส ปตฺตํ มยฺหํ เทถา’’ติ เตน อตฺตโน ปริจฺจชาเปตฺวา ทุติยตฺเถรสฺส เทติ. เอตฺถ ปนาติ ปตฺตปริวตฺตเน. การณนฺติ เอตฺถ ยถา ‘‘สามเณรา อิโต อมฺหากมฺปิ เทนฺตี’’ติ วิตกฺโก อุปฺปชฺชติ, น ตถาติ การณํ วทนฺติ, ตฺจ ยุตฺตํ. ยสฺส ปน ตาทิโส วิตกฺโก นตฺถิ, เตน อปริวตฺเตตฺวาปิ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
นิจฺจาเลตุนฺติ ¶ จาเลตฺวา ปาสาณสกฺขราทิอปนยํ กาตุํ. อุทฺธนํ อาโรเปตพฺพนฺติ อนคฺคิกํ อุทฺธนํ สนฺธาย วุตฺตํ. อุทฺธเน ปจฺจมานสฺส อาลุฬเน อุปริ อปกฺกตณฺฑุลา เหฏฺา ปวิสิตฺวา ปจฺจตีติ อาห ‘‘สามํปากฺเจว โหตี’’ติ.
อาธารเก ปตฺโต ปิโตติ อปฺปฏิคฺคหิตามิโส ปตฺโต ปุน ปฏิคฺคหณตฺถาย ปิโต. เอกคฺคหเณเนวาติ สามเณรานํ คหิตสฺส ปุน อจฺฉฑฺฑนวเสน คหเณน. ภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ ธูมวฏฺฏิยา ตทหุปฏิคฺคหิตตฺตา วุตฺตํ. ภตฺตุคฺคาโรติอาทิ อพฺโพหาริกปฺปสงฺเคน วิกาลโภชนวินิจฺฉยทสฺสนํ. สมุทฺโททเกนาติ อปฺปฏิคฺคหิเตน. หิมกรกา นาม กทาจิ วสฺโสทเกน สห ปตนกา ปาสาณเลขา วิย ฆนีภูตอุทกวิเสสา, เตสุ ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. เตนาห ‘‘อุทกคติกา เอวา’’ติ. ปุเรภตฺตเมว วฏฺฏตีติ อปฺปฏิคฺคหิตาปตฺตีหิ อพฺโพหาริกมฺปิ วิกาลโภชนาปตฺตีหิ สพฺโพหาริกนฺติ ทสฺเสติ.
ลคฺคตีติ มุเข จ หตฺเถ จ มตฺติกาวณฺณํ ทสฺเสติ. พหลนฺติ หตฺถมุเขสุ อลคฺคนกมฺปิ ปฏิคฺคเหตพฺพํ. วาสมตฺตนฺติ เรณุขีราภาวํ ทสฺเสติ. อากิรติ ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ ปุปฺผรสสฺส ปฺายนโต วุตฺตํ.
มหาภูเตสูติ ปาณสรีรสนฺนิสฺสิเตสุ ปถวีอาทิมหาภูเตสุ. สพฺพํ วฏฺฏตีติ อตฺตโน, ปเรสฺจ สรีรนิสฺสิตํ สพฺพํ วฏฺฏติ. อกปฺปิยมํสานุโลมตาย ถุลฺลจฺจยาทึ น ชเนตีติ อธิปฺปาโย. ปตตีติ อตฺตโน สรีรโต วิจฺฉินฺทิตฺวา ปตติ. ‘‘รุกฺขโต ฉินฺทิตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา มตฺติกตฺถาย ปถวึ ขณิตุํ, อฺมฺปิ ยํกิฺจิ มูลปณฺณาทิวิสเภสชฺชํ ฉินฺทิตฺวา ฉาริกํ ¶ อกตฺวาปิ อปฺปฏิคฺคหิตมฺปิ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ ทฏฺพฺพํ. อปฺปฏิคฺคหิตตา, อนนฺุาตตา, ธูมาทิอพฺโพหาริกตาภาโว, อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต โภชนวคฺโค จตุตฺโถ.
๕. อเจลกวคฺโค
๑. อเจลกสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๗๓. ปฺจมวคฺคสฺส ¶ ปเม มยฺหํ นามาติ ภิกฺขุนา ภูมิยํ เปตฺวา ทินฺนมฺปิ สนฺธาย วทติ. อฺติตฺถิยตา, อนนฺุาตตา, อชฺโฌหรณียตา, อชฺโฌหรณตฺถาย สหตฺถา อนิกฺขิตฺตภาชเน ทานนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
อเจลกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อุยฺโยชนสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๗๔. ทุติเย อนาจารํ อาจริตุกามตา, ตทตฺถเมว อุปสมฺปนฺนสฺส อุยฺโยชนา, ตสฺส อุปจาราติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
อุยฺโยชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๘๑. ตติเย ปาฬิยํ ขุทฺทเก ฆเรติ เอตฺถ ขุทฺทกํ ฆรํ นาม ปฺจหตฺถโต อูนกวิตฺถารํ อธิปฺเปตํ. ตตฺถ จ ปิฏฺสงฺฆาฏโต หตฺถปาเส อวิชหิเตปิ ปิฏฺิวํสาติกฺกโม โหตีติ อาห ‘‘ปิฏฺิวํสํ อติกฺกมิตฺวา’’ติ. ยถา ตถา วา กตสฺสาติ ปิฏฺิวํสํ อาโรเปตฺวา วา อนาโรเปตฺวา วา กตสฺส.
๒๘๓. ปาฬิยํ ¶ วีตราคาติ อปริยุฏฺิตราคานํ, อนาคามีนฺจ สงฺคโห. สจิตฺตกนฺติ อนุปวิสิตฺวา นิสีทนจิตฺเตน สจิตฺตกํ. ปริยุฏฺิตราคชายมฺปติกานํ สนฺนิหิตตา, สยนิฆรตา, ทุติยสฺส ภิกฺขุโน อภาโว, อนุปขชฺช นิสีทนนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
สโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๘๔-๒๘๙. จตุตฺถปฺจมานิ วุตฺตตฺถานิ.
๖. จาริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๙๘. ฉฏฺเ ¶ ‘‘ปริเยสิตฺวา อาโรจนกิจฺจํ นาม นตฺถี’’ติ วุตฺตตฺตา โย อปริเยสิตพฺโพ อุปสงฺกมิตุํ ยุตฺตฏฺาเน ทิสฺสติ, โส สเจปิ ปกติวจนสฺส สวนูปจารํ อติกฺกมฺม ิโต อุปคนฺตฺวา อาปุจฺฉิตพฺโพ. เตนาห ‘‘อปิ จ…เป… ยํ ปสฺสติ, โส อาปุจฺฉิตพฺโพ’’ติอาทิ.
๓๐๒. อนาปตฺติวาเร เจตฺถ อนฺตรารามาทีนฺเว วุตฺตตฺตา วิหารโต คามวีถึ อนฺุาตการณํ วินา อติกฺกมนฺตสฺสาปิ อาปตฺติ โหติ, น ปน ฆรูปจารํ อติกฺกมนฺตสฺเสว.
ยํ ปน ปาฬิยํ ‘‘อฺสฺส ฆรูปจารํ โอกฺกมนฺตสฺส…เป… ปมํ ปาทํ อุมฺมารํ อติกฺกาเมตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตํ คาเม ปวิฏฺํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตถาปิ อฺสฺส ฆรูปจารํ อโนกฺกมิตฺวา วีถิมชฺเฌเนว คนฺตฺวา อิจฺฉิติจฺฉิตฆรทฺวาราภิมุเข ตฺวา มนุสฺเส โอโลเกตฺวา คจฺฉนฺตสฺสาปิ ปาจิตฺติยเมว. ตตฺถ เกจิ ‘‘วีถิยํ อติกฺกมนฺตสฺส ฆรูปจารคณนาย อาปตฺติโย’’ติ วทนฺติ. อฺเ ปน ‘‘ยานิ กุลานิ อุทฺทิสฺส คโต, เตสํ คณนายา’’ติ. ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรน นิมนฺตนสาทิยนํ, สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉนา, ภตฺติยฆรโต อฺฆรูปสงฺกมนํ, มชฺฌนฺหิกานติกฺกโม, สมยาปทานํ อภาโวติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
จาริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. มหานามสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๐๓. สตฺตเม ¶ มหานาโมติ สุกฺโกทนสฺส ปุตฺโต อนุรุทฺธตฺเถรสฺส, สตฺถุ จ เชฏฺภาตา. อานนฺทตฺเถโร อมิโตทนสฺส ปุตฺโต, นนฺทตฺเถโร ปน สุทฺโธทนสฺเสว.
๓๐๕. ปาฬิยํ กาลํ อาหริสฺสถาติ อชฺชตนํ กาลํ วีตินาเมสฺสถ, สฺเว เภสชฺชํ หริสฺสถาติ วา อตฺโถ. ‘‘อตฺถิ ปวารณา เภสชฺชปริยนฺตา จ รตฺติปริยนฺตา จา’’ติ ตติยโกฏฺาเส นิยมิตเมว เภสชฺชํ นิยมิตกาลนฺตเรเยว คเหตพฺพํ, น ตโต พหิ. อิตรถา ¶ วิสุํ ปโยชนํ นตฺถีติ ทฏฺพฺพํ. สปริยนฺตา สงฺฆปวารณา, ตทุตฺตริ เภสชฺชวิฺตฺติ, อคิลานตาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
มหานามสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๑๕. อฏฺเม เอกเมกนฺติ เอตฺถ ทุวงฺคินีปิ ติวงฺคินีปิ เสนา สงฺคยฺหติ. อุยฺยุตฺตจตุรงฺคเสนาทสฺสนาย ตถารูปปจฺจยาทึ วินา คมนํ, อนนฺุาโตกาเส ทสฺสนนฺติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.
อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. เสนาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๑๙. นวเม เสนาย จตุตฺโถ สูริยตฺถงฺคโม, อคิลานตาติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.
เสนาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อุยฺโยธิกสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๒๒. ทสเม ปาฬิยํ กติ เต ลกฺขานิ ลทฺธานีติ กิตฺตกา ตยา ลทฺธาติ อตฺโถ. อุยฺโยธิกาทิทสฺสนาย ¶ ตถารูปปจฺจยํ วินา คมนํ, อนนฺุาโตกาเส ทสฺสนนฺติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.
อุยฺโยธิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต อเจลกวคฺโค ปฺจโม.
๖. สุราปานวคฺโค
๑. สุราปานสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๒๘. ฉฏฺวคฺคสฺส ¶ ปเม ปาฬิยํ กิณฺณปกฺขิตฺตาติ ปิฏฺปูวาทึ อปกฺขิปิตฺวา กิณฺณสงฺขาตํ ธฺงฺกุราทิสุราพีชํ ปกฺขิปิตฺวา กตา. สมฺภารสํยุตฺตาติ สาสปาทิอเนกสมฺภาเรหิ สฺุตฺตา.
มธุกตาลนาฬิเกราทิปุปฺผาทิรโส จิรปริวาสิโต ปุปฺผาสโว นาม. ตถา ปนสาทิ ผลาสโว. มุทฺทิกรโส มธฺวาสโว. อุจฺฉุรโส คุฬาสโว. ติผลติกฏุกาทินานาสมฺภารานํ รโส จิรปริวาสิโต สมฺภารสํยุตฺโต. พีชโต ปฏฺายาติ ยถาวุตฺตานํ ปิฏฺาทีนํ มชฺชตฺถาย ภาชเน ปกฺขิตฺตกาลโต ปฏฺาย.
๓๒๙. โลณโสวีรกํ สุตฺตฺจ อเนเกหิ ทพฺพสมฺภาเรหิ อภิสงฺขโต เภสชฺชวิเสโส. อุยฺยุตฺตสิกฺขาปทานํ อจิตฺตกโลกวชฺเชสุ โลกวชฺชตา ปุพฺเพ วุตฺตนยาวาติ ตตฺถ กิฺจิปิ อวตฺวา อิธ เตหิ อสาธารณวตฺถุวิเสสสิทฺธาย อจิตฺตกปกฺเขปิ อกุสลจิตฺตตาย ตํ โลกวชฺชตาทิวิเสสํ ทสฺเสตุเมว ‘‘วตฺถุอชานนตาย เจตฺถา’’ติอาทินา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ ปมปาราชิกวณฺณนายํ วิตฺถารโต สารตฺถทีปนิยํ วิรทฺธฏฺานวิโสธนวเสน วุตฺตนฺติ ตตฺเถว คเหตพฺพํ. มชฺชภาโว, ตสฺส ปานฺจาติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.
สุราปานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. องฺคุลิปโตทกสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๓๐. ทุติเย ¶ หสาธิปฺปายตา, อุปสมฺปนฺนสฺส กาเยน กายามสนนฺติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.
องฺคุลิปโตทกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. หสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๓๘. ตติเย ¶ ปาฬิยํ หสธมฺเม หสธมฺมสฺีติอาทีสุ อุปฺลวาทิมตฺตํ กึ หสธมฺโม โหตีติ คหณวเสน สติ กรณีเย กริยมานํ หสธมฺมํ หสธมฺโมติ คหณวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อุสฺสาเรนฺโตติ อุทเก ิตํ นาวํ ตีเร อาโรเปนฺโต.
ปตนุปฺปตนวาเรสูติ อุทกสฺส อุปริตเล มณฺฑูกคติยา ปตนุปฺปตนวเสน คมนตฺถํ ขิตฺตาย เอกิสฺสา กถลาย วเสน วุตฺตํ. อุทกสฺส อุปริโคปฺผกตา, หสาธิปฺปาเยน กีฬนนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
หสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อนาทริยสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๔๔. จตุตฺเถ สุตฺตานุโลมนฺติ มหาปเทสา. อฏฺกถาติปิ วทนฺติ. อุปสมฺปนฺนสฺส ปฺตฺเตน วจนํ, อนาทริยกรณนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
อนาทริยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ภึสาปนสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๔๕. ปฺจเม อุปสมฺปนฺนตา, ตสฺส ทสฺสนสวนวิสเย ภึสาเปตุกามตาย วายมนนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
ภึสาปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. โชติสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๕๔. ฉฏฺเ ¶ อลาตํ ปติตนฺติ อคฺคิกปาลโต พหิ ปติตํ. วิชฺฌาตนฺติ วิชฺฌาตํ อลาตํ กปาลคฺคิมฺหิ ปกฺขิปิตฺวา ชาเลนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, ตถา เกวลํ อินฺธนํ ปาเตนฺตสฺสปิ วิชฺฌาตํ กปาลคฺคึ มุขวาตาทินา อุชฺชาเลนฺตสฺสปิ. คิลานตาทิการณาภาโว, วิสิพฺเพตุกามตา, สมาทหนนฺติ ตีณิ องฺคานิ.
โชติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. นหานสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๕๗. สตฺตเม ¶ ปาฬิยํ นคเร ถกิเตติ เอตฺถ รฺา จิรํ นหายิตุกาเมน ‘‘อหํ พหิ อุยฺยาเน กตารกฺโข วสิสฺสามิ, นครํ ถเกตฺวา โคเปถา’’ติ อนฺุาตา, เต ถกึสูติ ทฏฺพฺพํ. อสมฺภินฺเนนาติ อนฏฺเน, ตํ ทิวสํ ปุน อคฺคหิตาลงฺกาเรน ปพุทฺธมตฺเตนาติ อธิปฺปาโย. มชฺฌิมเทเส อูนกทฺธมาสนหานํ, สมยาทีนํ อภาโวติ ทฺเว องฺคานิ.
นหานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๖๘. อฏฺเม ปฏิลทฺธนวจีวเรนาติ เอตฺถ ปุพฺเพ อกตกปฺปํ กติปาหํ นิวาสนตฺถาย ตาวกาลิกวเสน ลทฺธมฺปิ สงฺคยฺหตีติ วทนฺติ.
๓๖๙. ‘‘นวํ นาม อกตกปฺป’’นฺติ สามฺโต วุตฺตตฺตา อฺเน ภิกฺขุนา กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา ปริภุตฺตํ จีวรํ, เตน วา, ตโต ลภิตฺวา อฺเน วา เกนจิ ทินฺนมฺปิ กตกปฺปเมว นวํ นาม น โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘นิวาเสตุํ วา ปารุปิตุํ วา’’ติ วุตฺตตฺตา อํสพทฺธกาสาวมฺปิ ปารุปิตพฺพโต กปฺปํ กาตพฺพนฺติ วทนฺติ. จมฺมการนีลํ นาม จมฺมํ นีลวณฺณํ กาตุํ โยชิยมานํ นีลํ. ปกตินีลเมวาติ เกจิ. ยถาวุตฺตจีวรสฺส อกตกปฺปตา, อนฏฺจีวราทิตา, นิวาสนาทิตาติ ตีณิ องฺคานิ.
ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. วิกปฺปนสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๗๔. นวเม ¶ เยนาติ เยน สทฺธึ, ยสฺส สนฺติเกติ อตฺโถ. สามํ วิกปฺปิตสฺส อปจฺจุทฺธาโร, วิกปฺปนุปคจีวรตา, อวิสฺสาเสน ปริโภโคติ ตีณิ องฺคานิ.
วิกปฺปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. จีวรอปนิธานสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๗๘. ทสเม ¶ ปาฬิยํ อนฺตมโส หสาเปกฺโขปีติ อปิ-สทฺเทน อเถยฺยจิตฺตํ โกเธน ทุกฺขาเปตุกามํ, อวณฺณํ ปกาเสตุกามฺจ สงฺคยฺหติ. เตเนว ‘‘ติเวทน’’นฺติ วุตฺตํ. อุปสมฺปนฺนสฺส ปตฺตาทีนํ อปนิธานํ, วิเหเสตุกามตาทีติ ทฺเว องฺคานิ.
จีวรอปนิธานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต สุราปานวคฺโค ฉฏฺโ.
๗. สปฺปาณกวคฺโค
๑. สฺจิจฺจปาณสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๘๒. สตฺตมสฺส ปเม อุสุํ สรํ อสติ ขิปตีติ อิสฺสาโส. น เหตฺถ กิฺจิ ชีวิตํ นาม วิสุํ ติฏฺตีติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ ปาเณติ สตฺเต. อปฺปมตฺเตน วตฺตํ กาตพฺพนฺติ ยถา ปาณกานํ วิเหสาปิ น โหติ, เอวํ สลฺลกฺเขตฺวา โอตาปนสมฺมชฺชนาทิวตฺตํ กาตพฺพํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
สฺจิจฺจปาณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๘๗. ทุติเย ¶ อุทกสณฺานกปฺปเทเสติ กทฺทมปาสาณาทิภูมิยํ. ตตฺถาติ อาสิตฺเต กปฺปิยอุทเก. เสสํ วุตฺตนยเมว.
สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อุกฺโกฏนสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๙๒. ตติเย ‘‘ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺติกํ คนฺตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา ยสฺส อธิกรณํ สงฺฆกมฺเมน นิหตํ, ตสฺส สมฺมุเข เอว อุกฺโกเฏนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. ปรมฺมุเข ปน ทุกฺกฏเมว.
๓๙๕. ‘‘ธมฺมกมฺเม ¶ อธมฺมกมฺมสฺี อุกฺโกเฏติ, อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา อนาทริยตาทิ วิย อุกฺโกฏนํ สยํ อกุสลํ น โหติ, ธมฺมกมฺมสฺาย, ปน วิมติยา จ อุกฺโกฏเนเนว อกุสลํ โหติ. ยถาธมฺมํ นิหตตา, ชานนา, อุกฺโกฏนาติ ตีณิ องฺคานิ.
อุกฺโกฏนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ทุฏฺุลฺลสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๙๙. จตุตฺเถ อาปตฺตึ อาปชฺชติเยวาติ ธุรนิกฺเขปปกฺเข วุตฺตํ. วตฺถุปุคฺคโลติ อาปนฺนปุคฺคโล. ฉาเทตุกามตาย หิ สติ เอว อวสฺสํ อฺสฺส อาโรจนํ วุตฺตํ, วตฺถุปุคฺคลสฺส จ อาโรจนา นาม น โหตีติ ปฏิจฺฉาทนเมวาติ อธิปฺปาโย. โกฏิ ฉินฺนา โหตีติ ฉาเทสฺสามีติ ธุรนิกฺเขเป สติปิ ปุคฺคลปรมฺปราย คจฺฉนฺตี อาปตฺติโกฏิ ฉิชฺชติ.
๔๐๐. ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺิ จ กายสํสคฺโค จาติ อยํ ทุฏฺุลฺลอชฺฌาจาโร นามา’’ติ อิทํ ทุฏฺุลฺลาโรจนสิกฺขาปทฏฺกถายํ ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส…เป… อาทิโต ปฺจ สิกฺขาปทานิ ทุฏฺุลฺโล นาม อชฺฌาจาโร, เสสานิ อทุฏฺุลฺโล. สุกฺกวิสฺสฏฺิกายสํสคฺคทุฏฺุลฺลอตฺตกามา ปนสฺส อชฺฌาจาโร นามา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒) อิมินา วจเนน วิรุชฺฌตีติ วีมํสิตพฺพํ. ปุคฺคลเปเมน ฉาทยโต เจตฺถ ‘‘อฺเ ครหิสฺสนฺตี’’ติ ภยวเสน ฉาทนกฺขเณ ¶ ปฏิโฆว อุปฺปชฺชตีติ ‘‘ทุกฺขเวทน’’นฺติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อุปสมฺปนฺนสฺส ทุฏฺุลฺลาปตฺติชานนํ, ปฏิจฺฉาเทตุกามตาย ธุรนิกฺเขโปติ ทฺเว องฺคานิ.
ทุฏฺุลฺลสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อูนวีสติวสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๐๒. ปฺจเม รูปสิปฺปนฺติ เหรฺิกสิปฺปํ. คพฺเภ สยิตกาเลน สทฺธึ วีสติมํ วสฺสํ ปริปุณฺณมสฺสาติ คพฺภวีโส.
๔๐๔. นิกฺขมนียปุณฺณมาสีติ ¶ สาวณมาสสฺส ปุณฺณมิยา อาสาฬฺหีปุณฺณมิยา อนนฺตรปุณฺณมี. ปาฏิปททิวเสติ ปจฺฉิมิกาย วสฺสูปนายิกาย. ทฺวาทส มาเส มาตุ กุจฺฉิสฺมึ วสิตฺวา มหาปวารณาย ชาตํ อุปสมฺปาเทนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘ตึส รตฺตินฺทิโว มาโส, ทฺวาทสมาสิโก สํวจฺฉโร’’ติ (อ. นิ. ๓.๗๑; ๘.๔๓; วิภ. ๑๐๒๓) วจนโต ‘‘จตฺตาโร มาสา ปริหายนฺตี’’ติ วุตฺตํ. วสฺสํ อุกฺกฑฺฒนฺตีติ วสฺสํ อุทฺธํ กฑฺฒนฺติ, ‘‘เอกมาสํ อธิกมาโส’’ติ ฉฑฺเฑตฺวา วสฺสํ อุปคจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. ตสฺมา ตติโย ตติโย สํวจฺฉโร เตรสมาสิโก โหติ. เต ทฺเว มาเส คเหตฺวาติ นิกฺขมนียปุณฺณมาสโต ยาว ชาตทิวสภูตา มหาปวารณา. ตาว เย ทฺเว มาสา อนาคตา, เตสํ อตฺถาย อธิกมาสโต ลทฺเธ ทฺเว มาเส คเหตฺวา. เตนาห ‘‘โย ปวาเรตฺวา วีสติวสฺโส ภวิสฺสตี’’ติอาทิ. ‘‘นิกฺกงฺขา หุตฺวา’’ติ อิทํ อฏฺารสนฺนํ วสฺสานํ เอกอธิกมาเส คเหตฺวา ตโต วีสติยา วสฺเสสุปิ จาตุทฺทสีอตฺถาย จตุนฺนํ มาสานํ ปริหาปเนน สพฺพทา ปริปุณฺณวีสติวสฺสตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปวาเรตฺวา วีสติวสฺโส ภวิสฺสตีติ มหาปวารณาทิวเส อติกฺกนฺเต คพฺภวสฺเสน สห วีสติวสฺโส ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. ตสฺมาติ ยสฺมา คพฺภมาสาปิ คณนูปคา โหนฺติ, ตสฺมา. เอกวีสติวสฺโสติ ชาติยา วีสติวสฺสํ สนฺธาย วุตฺตํ.
๔๐๖. อฺํ อุปสมฺปาเทตีติ อุปชฺฌาโย, อาจริโย วา หุตฺวา อุปสมฺปาเทติ. โสปีติ อุปสมฺปาเทนฺโตปิ อนุปสมฺปนฺโน. อูนวีสติวสฺสตา, ตํ ตฺวา อุปชฺฌาเยน หุตฺวา อุปสมฺปาทนนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
อูนวีสติวสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. เถยฺยสตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๐๙. ฉฏฺเ ¶ เถยฺยสตฺถภาโว, ตฺวา สํวิธานํ, อวิสงฺเกเตน คมนนฺติ ตีณิ องฺคานิ.
เถยฺยสตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อริฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๑๗. อฏฺเม ¶ อนฺตรายนฺติ อนฺตรา เวมชฺเฌ เอติ อาคจฺฉตีติ อนฺตราโย, ทิฏฺธมฺมิกาทิอนตฺโถ. อานนฺตริยธมฺมาติ อนนฺตเร ภเว ผลนิพฺพตฺตเน นิยุตฺตา เจตนาทิธมฺมาติ อตฺโถ. ‘‘น สคฺคสฺสา’’ติ อิทํ ภิกฺขุนิทูสนกมฺมสฺส อานนฺตริยตฺตาภาวโต วุตฺตํ. อริยสาวิกาสุ, ปน กลฺยาณปุถุชฺชนภูตาย จ พลกฺกาเรน ทูเสนฺตสฺส อานนฺตริยสอสเมว. โมกฺขนฺตรายิกตา ปน โลลายปิ ปกตตฺตภิกฺขุนิยา ทูสกสฺส ตสฺมึ อตฺตภาเว มคฺคุปฺปตฺติยา อภาวโต วุตฺตา.
ตสฺมึ อตฺตภาเว อนิวตฺตนกา อเหตุกอกิริยนตฺถิกทิฏฺิโยว นิยตมิจฺฉาทิฏฺิธมฺมา. ปณฺฑกาทีนํ คหณํ นิทสฺสนมตฺตํ. สพฺพาปิ ทุเหตุกาเหตุกปฏิสนฺธิโย วิปากนฺตรายิกาว ทุเหตุกานมฺปิ มคฺคานุปฺปตฺติโต.
อยนฺติ อริฏฺโ. รเสน รสนฺติ อนวชฺเชน ปจฺจยปริภฺุชนรเสน ปฺจกามคุณปอโภครสํ สมาเนตฺวา. อุปเนนฺโต วิยาติ ฆเฏนฺโต วิย, โส เอว วา ปาโ.
อฏฺิกงฺกลูปมาติ เอตฺถ อฏฺิ เอว นิมฺมํสตาย กงฺกลนฺติ จ วุจฺจติ. ปลิภฺชนฏฺเนาติ อวสฺสํ ปตนฏฺเน. อธิกุฏฺฏนฏฺเนาติ อติ วิย กุฏฺฏนฏฺเน. ปาฬิยํ ‘‘ตถาหํ ภควตา…เป… นาลํ อนฺตรายายา’’ติ อิทํ วตฺถุอนุรูปโต วุตฺตํ. เอวํ ปน อคฺคเหตฺวา อฺเนปิ อากาเรน ยํ กิฺจิ ภควตา วุตฺตํ วิปรีตโต คเหตฺวา ปเรหิ วุตฺเตปิ อมฺุจิตฺวา โวหรนฺตสฺสาปิ วุตฺตนยานุสาเรน ตทนุคุณํ สมนุภาสนกมฺมวาจํ โยเชตฺวา อาปตฺติยา อาโรเปตุํ, อาปตฺติยา อทสฺสนาทีสุ ตีสุ ยํ กิฺจิ อภิรุจิตํ นิมิตฺตํ กตฺวา อุกฺเขปนียกมฺมํ ¶ กาตฺุจ ลพฺภติ. สมนุภาสนํ อกตฺวาปิ ‘‘มายสฺมา เอวํ อวจา’’ติ ภิกฺขูหิ วุตฺตมตฺเต ลทฺธิยา อปฺปฏินิสฺสชฺชนปจฺจยาย ทุกฺกฏาปตฺติยาปิ อุกฺเขปนียกมฺมํ กาตุมฺปิ วฏฺฏเตวาติ ทฏฺพฺพํ. ธมฺมกมฺมตา, สมนุภาสนาย อปฺปฏินิสฺสชฺชนนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
อริฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อุกฺขิตฺตสมฺโภคสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๒๔. นวเม ¶ ‘‘อุกฺขิตฺโต อโนสาริโต’’ติ วุตฺตตฺตา อริฏฺสฺส อุกฺเขปนียกมฺมํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๔๒๕. ปาฬิยํ ‘‘เอกจฺฉนฺเน’’ติ สามฺโต วุตฺตตฺตา นานูปจาเรปิ เอกจฺฉนฺเน นิปชฺชเน ปณฺณตฺตึ อชานนฺตสฺส อรหโตปิ อุกฺขิตฺตานุวตฺตกานมฺปิ ปาจิตฺติยเมว. อกตานุธมฺมตา, ตฺวา สมฺโภคาทิกรณนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
อุกฺขิตฺตสมฺโภคสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. กณฺฏกสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๒๘. ทสเม ปิเรติ สมฺโพธนตฺเถ นิปาตปทํ. เสสํ อนนฺตรสิกฺขาปททฺวเย วุตฺตนยเมว.
กณฺฏกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต สปฺปาณกวคฺโค สตฺตโม.
๘. สหธมฺมิกวคฺโค
๑. สหธมฺมิกสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๓๔. อฏฺมวคฺคสฺส ¶ ปเม อุปสมฺปนฺนสฺส ปฺตฺเตน วจนํ, อสิกฺขิตุกามสฺส เลเสน เอวํ วจนนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
สหธมฺมิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. วิเลขนสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๓๘. ทุติเย อลชฺชิตาติ อลชฺชิตาย. เอวํ เสเสสุปิ. สฺจิจฺจ อาปตฺตึ อาปชฺชตีติอาทิ ภิกฺขุภิกฺขุนีนฺเว วุตฺตํ อลชฺชิลกฺขณํ, สามเณราทีนํ, ปน คหฏฺานฺจ สาธารณวเสน ยถาสกํ สิกฺขาปทวีติกฺกมนปฏิคูหนาทิโต เวทิตพฺพํ. ลชฺชิลกฺขเณปิ เอเสว นโย. กิฺจาปิ ¶ กุกฺกุจฺเจ อุปฺปนฺเนปิ มทฺทิตฺวา กโรนฺโต, กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตาย กโรนฺโตปิ ตงฺขณิกาย อลชฺชิตาย เอวํ กโรนฺติ. ตถาปิ กุกฺกุจฺจาทิเภเท วิสุํ คหิตาติ ทฏฺพฺพํ.
วชฺชิปุตฺตกา ทสวตฺถุทีปกา. ปรูปหารอฺาณกงฺขาปรวิตารณาทิวาทาติ เอตฺถ อรหตฺตํ ปฏิชานนฺตานํ กุหกานํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ ทิสฺวา ‘‘มารกายิกา เทวตา อสุจึ อุปสํหรนฺตี’’ติคาหิโน ปรูปหารวาทา นาม. อรหโต สพฺเพสํ อิตฺถิปุริสาทีนํ นามาทิอชานเน อฺาณํ, ตตฺถ สนฺนิฏฺานภาเวน กงฺขา, ปรโต สุตฺวา นามาทิชานเนน ปรวิตารโณ อตฺถีติวาทิโน อฺาณวาทา, กงฺขาวาทา, ปรวิตารณวาทา จ เตสํ, มหาสงฺฆิกาทีนฺจ วิภาโค กถาวตฺถุปฺปกรเณ วุตฺโต.
จตฺตาโร มคฺคา จ ผลานิ จาติ เอตฺถ จ-กาเรน อภิฺาปฏิสมฺภิทาปิ สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพํ. เกจีติ ปริยตฺติธรา ธมฺมกถิกา. ปุน เกจีติ ปฏิปตฺติธรา ปํสุกูลิกตฺเถรา. อิตเร ปนาติอาทีสุ อยํ อธิปฺปาโย – ธมฺมกถิกตฺเถรา ปน ปํสุกูลิกตฺเถเรหิ อาภตํ สุตฺตํ สุตฺวา –
‘‘ยาว ¶ ติฏฺนฺติ สุตฺตนฺตา, วินโย ยาว ทิปฺปติ;
ตาว ทกฺขนฺติ อาโลกํ, สูริเย อพฺภุฏฺิเต ยถา.
‘‘สุตฺตนฺเตสุ อสนฺเตสุ, ปมุฏฺเ วินยมฺหิ จ;
ตโม ภวิสฺสติ โลเก, สูริเย อตฺถงฺคเต ยถา.
‘‘สุตฺตนฺเต รกฺขิเต สนฺเต, ปฏิปตฺติ โหติ รกฺขิตา;
ปฏิปตฺติยํ ิโต ธีโร, โยคกฺเขมา น ธํสตี’’ติ. (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑๓๐) –
อิทํ สุตฺตํ อาหริตฺวา อตฺตโนว วาทํ ปติฏฺเปนฺตา ปาราชิกานาปชฺชนวเสน ิตา ปฏิปตฺติสงฺคหิตา ปริยตฺติเยว มูลนฺติ อาหํสูติ. เตนาห ‘‘สเจ ปฺจ ภิกฺขู จตฺตาริ ปาราชิกานิ รกฺขณกา…เป… สาสนํ วุฑฺฒึ วิรุฬฺหึ คมยิสฺสนฺตี’’ติ. เอเตน จ ปริกฺขีเณ กาเล ลชฺชิคณํ อลภนฺเตน วินยธเรน อลชฺชิโนปิ ปกตตฺเต สงฺคเหตฺวา เตหิ สห ธมฺมามิสสมฺโภคํ สํวาสํ กโรนฺเตน พหู กุลปุตฺเต อุปสมฺปาเทตฺวา สาสนํ ¶ ปคฺคเหตุํ วฏฺฏตีติ อิทํ สิชฺฌตีติ ทฏฺพฺพํ. ครหิตุกามตา, อุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก สิกฺขาปทวิวณฺณนนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
วิเลขนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. โมหนสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๔๔. ตติเย ปาฬิยํ โก ปน วาโท ภิยฺโยติ เตหิ อฺเหิ ภิกฺขูหิ ทิฏฺทฺวตฺติวารโต ภิยฺโย ปน วิตฺถาเรน อุทฺทิสิยมาเน ปาติโมกฺเข นิสินฺนปุพฺพตา อตฺถิ เจ, ตตฺถ กิเมว วตฺตพฺพํ, อาปตฺติโมกฺโข นตฺถิ เอวาติ อธิปฺปาโย. ตฺจ ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพติ ตนฺติ การณตฺเถ อุปโยควจนํ, ตายาติ อตฺโถ. ยถา ธมฺโม จ วินโย จ ิโต, ตถา ตาย อาปตฺติยา กาเรตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ. โมหาโรปนํ, ติกฺขตฺตุํ สุตภาโว, โมเหตุกามสฺส โมหนนฺติ ตีณิ องฺคานิ.
โมหนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปหารสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๕๑. จตุตฺเถ ¶ ปาฬิยํ กายปฏิพทฺเธน วาติ เอตฺถ ปาสาณาทินิสฺสคฺคิยปหาโรปิ สงฺคหิโต.
๔๕๒. รตฺตจิตฺโตติ กายสํสคฺคราเคน วุตฺตํ. เมถุนราเคน ปน ปหารโต ปุริสาทีสุ ทุกฺกฏเมว. โมกฺขาธิปฺปาเยน ทณฺฑโกฏิยา สปฺปาทึ ฆฏฺเฏตฺวา มณฺฑูกาทึ โมเจนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ เอว. กุปิตตา, อุปสมฺปนฺนสฺส น โมกฺขาธิปฺปาเยน ปหาโรติ ทฺเว องฺคานิ.
ปหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ตลสตฺติกสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๕๗. ปฺจเม ¶ น ปหริตุกามตาย ทินฺนตฺตา ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถ กิมิทํ ทุกฺกฏํ, ปหารปจฺจยา, อุทาหุ อุคฺคิรณปจฺจยาติ? อุคฺคิรณปจฺจยาว, น ปหารปจฺจยา. น หิ ปหริตุกามตาย อสติ ตปฺปจฺจยา กาจิ อาปตฺติ ยุตฺตา, อุคฺคิรณสฺส ปน อตฺตโน สภาเวน อสณฺิตตฺตา ตปฺปจฺจยา ปาจิตฺติยํ น ชาตํ, อสุทฺธจิตฺเตน กตปโยคตฺตา จ เอตฺถ อนาปตฺติ น ยุตฺตาติ ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
๔๕๘. ปุพฺเพติ อนนฺตรสิกฺขาปเท. เสสํ อนนฺตรสทิสเมว.
ตลสตฺติกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อมูลกสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๕๙. ฉฏฺเ ‘‘อตฺตปริตฺตาณํ กโรนฺตา’’ติ อิทํ น จ เวรมูลิกา อนุทฺธํสนาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อนุทฺธํสนกฺขเณ ปน โกปจิตฺตเมว อุปฺปชฺชติ. เตเนว ‘‘ทุกฺขเวทน’’นฺติ วุตฺตํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
อมูลกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. กุกฺกุจฺจุปฺปาทนสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๖๔. สตฺตเม ¶ อุปสมฺปนฺนสฺส อผาสุกามตา, กุกฺกุจฺจุปฺปาทนนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
กุกฺกุจฺจุปฺปาทนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อุปสฺสุติสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๗๑. อฏฺเม สุยฺยตีติ สุติ, วจนํ. ตสฺสา สมีปํ อุปสฺสุติ. สุยฺยติ เอตฺถาติ สุตีติ เอวฺหิ อตฺเถ คยฺหมาเน สวนฏฺานสมีเป อฺสฺมึ อสฺสวนฏฺาเน ติฏฺตีติ อาปชฺชติ. อฏฺกถายฺจ อุปสฺสุติ-สทฺทสฺเสว อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยตฺถ ตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ, น สุติ-สทฺทมตฺตสฺส.
๔๗๓. เอกปริจฺเฉทานีติ ¶ กทาจิ อกิริยโต, กทาจิ กิริยโต สมุฏฺานสามฺเน วุตฺตํ. อุปสมฺปนฺเนน โจทนาธิปฺปาโย, สวนนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
อุปสฺสุติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ขิยฺยนสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๗๔. นวเม ธมฺมกมฺมตา, ชานนํ, ฉนฺทํ ทตฺวา ขิยฺยนนฺติ ตีณิ องฺคานิ.
ขิยฺยนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ปกฺกมนสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๘๑. ทสเม วินิจฺฉยกถาย ธมฺมิกตา, ตํ ตฺวา กมฺมโต ปฏฺาย เอกสีมฏฺสฺส สมานสํวาสิกสฺส หตฺถปาสวิชหนนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
ปกฺกมนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. ทุพฺพลสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๘๔. เอกาทสเม ¶ อุปสมฺปนฺนสฺส ธมฺเมน ลทฺธสมฺมุติตา, สงฺเฆน สทฺธึ จีวรํ ทตฺวา ขิยฺยิตุกามตาย ขิยฺยนนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
ทุพฺพลสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต สหธมฺมิกวคฺโค อฏฺโม.
๙. ราชวคฺโค
๑. อนฺเตปุรสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๙๙. นวมวคฺคสฺส ¶ ปเม ปาฬิยํ สํสุทฺธคหณิโกติ เอตฺถ คหณีติ คพฺภาสยสฺิโต มาตุ กุจฺฉิปฺปเทโส, ปุริสนฺตรสุกฺกาสมฺผุฏฺตาย สํสุทฺธคหณิโก. อภิสิตฺตขตฺติยตา, อุภินฺนมฺปิ สยนิฆรโต อนิกฺขนฺตตา, อปฺปฏิสํวิทิตสฺส อินฺทขีลาติกฺกโมติ ตีณิ องฺคานิ.
อนฺเตปุรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. รตนสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๐๖. ทุติเย อาวสถสฺสาติ เอตฺถ อนฺโตอาราเม วา โหตุ อฺตฺถ วา, ยตฺถ กตฺถจิ อตฺตโน วสนฏฺานํ อาวสโถ นาม. ฉนฺเทนปิ ภเยนปีติ วฑฺฒกิอาทีสุ ฉนฺเทน, ราชวลฺลเภสุ ภเยน. อากิณฺณมนุสฺเสปิ ชาเต…เป… อาสงฺกนฺตีติ ตสฺมึ นิมฺมนุสฺสฏฺาเน ปจฺฉา อากิณฺณมนุสฺเส ชาเตปิ วิสริตฺวา คมนกาเล อฺสฺส อทิฏฺตฺตา ตเมว ภิกฺขุํ อาสงฺกนฺติ. ปติรูปํ นาม กปฺปิยภณฺเฑ สยํ ปํสุกูลํ คเหตฺวา อกปฺปิยภณฺเฑ ปติรูปานํ อุปาสกาทีนํ ¶ ทสฺเสตฺวา เจติยาทิปฺุเ นิโยชนํ วา ทาเปตฺวา นิรเปกฺขคมนํ วา. สมาทเปตฺวาติ ยาจิตฺวา. ปรสนฺตกตา, วิสฺสาสคฺคาหปํสุกูลสฺานํ อภาโว, อนนฺุาตการณา อุคฺคหณาทิ จาติ ตีณิ องฺคานิ.
รตนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. วิกาลคามปฺปวิสนสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๐๘. ตติเย ปาฬิยํ ภยกถนฺติ ราชโจราทิภยํ วา โรคามนุสฺสทุพฺภิกฺขกนฺตาราทิภยํ วา อารพฺภ ปวตฺตํ. วิสิขากถนฺติ สุนิวิฏฺาทิวีถิกถํ. กุมฺภฏฺานกถนฺติ อุทกติตฺถกถํ, กุมฺภทาสีกถํ วา. ปุพฺพเปตกถนฺติ อตีตาติกถํ. นานตฺตกถนฺติ วุตฺตาหิ, วกฺขมานาหิ จ วิมุตฺตํ นานาสภาวํ ¶ นิรตฺถกกถํ. โลกกฺขายิกนฺติ ‘‘อยํ โลโก เกน นิมฺมิโต’’ติอาทินา โลกสภาวกฺขานวเสน ปวตฺตนกถา. เอวํ สมุทฺทกฺขายิกา เวทิตพฺพา. อิติ ภโว อิติ อภโวติ ยํ วา ตํ วา นิรตฺถกการณํ วตฺวา ปวตฺติตกถา อิติภวาภวกถา. เอตฺถ จ ภโว สสฺสตํ, วุฑฺฒิ, กามสุขฺจาติ ติวิโธ, อภโว ตพฺพิปรีตวเสน. อิติ อิมาย ฉพฺพิธาย อิติภวาภวกถาย สทฺธึ ทฺวตฺตึสติรจฺฉานกถา นาม โหนฺติ. อถ วา ปาฬิยํ สรูปโต อนาคตาปิ อรฺปพฺพตนทีทีปกถา อิติ-สทฺเทน สงฺคเหตฺวา ทฺวตฺตึสติรจฺฉานกถาติ วุจฺจนฺติ. อิติ วาติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ปการตฺเถ. วา-สทฺโท วิกปฺปตฺเถ. ตสฺมา เอวํ ปการํ อิโต อฺํ วา ตาทิสํ นิรตฺถกกถํ กเถตีติ อตฺโถ คเหตพฺโพ.
๕๑๒. อุสฺสาหํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตฺวา วิหารํ คจฺฉนฺตาติ เอตฺถ คามูปจารโต พหิ นิกฺขนฺเต อนฺตรารามาทีนมุปจารํ ปวิฏฺเ สนฺธาย วุตฺตํ. คามูปจารพฺภนฺตเร ปน ปฏิปสฺสทฺธุสฺสาหานมฺปิ ปุน ตเมว วา อฺํ วา คามํ ปวิสิตุกามตาย สติ อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ. ‘‘กุลฆเร วา…เป… คนฺตพฺพ’’นฺติ อิทํ ปน ปุเรภตฺตํ ปวิฏฺานํ วิกาเล สฺชาเต วิกาเล คามปฺปเวสสฺส อาปุจฺฉิตพฺพตาย วุตฺตํ. อทินฺนาทาเน วุตฺตนเยนาติ ทุติยเลฑฺฑุปาตํ สนฺธาย วุตฺตํ.
๕๑๕. อนฺตรารามนฺติอาทีสูติ เอตฺถ อุสฺสวทิวสาทีสุ มนุสฺเสหิ คาเม ปทกฺขิณํ กาเรนฺตํ ชินพิมฺพาทึ ปูเชตุกาเมหิ วา โรควูปสมาทิยตฺถํ มนุสฺเสหิ ยาจิเตหิ วา ภิกฺขูหิ สุปฺปฏิจฺฉนฺนาทิวิธึ อกตฺวาปิ วีถิมชฺเฌเนว คามํ ปทกฺขิณํ กาตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ, ตํ น ¶ คเหตพฺพํ อนาปตฺติวาเร อวุตฺตตฺตา, ‘‘มคฺคา อโนกฺกมิตฺวา…เป… ปาจิตฺติย’’นฺติ (กงฺขา. อฏฺ. วิกาลคามปฺปเวสนสิกฺขาปทวณฺณนา) ปฏิกฺขิตฺตตฺตา จ. เวสาลึ อนุปริยายิตฺวา ปริตฺตํ กโรนฺเตนาปิ อานนฺทตฺเถเรน สุปฺปฏิจฺฉนฺนตาทึ อโกเปนฺเตเนว, อปฺตฺเต วา สิกฺขาปเท กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เกจิ ปน ‘‘อนฺตรารามาทิคามนฺตเร ิเตหิ ครุฏฺานียานํ ปจฺจุคฺคมนานุคฺคมนาทิวเสน คามวีถึ โอตริตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตมฺปิ อนฺตรฆรํ ปวิสนฺตํ ปติ กาตุํ น วฏฺฏติ เอว. อนฺตรารามาทิกปฺปิยภูมึ ปน อุทฺทิสฺส คจฺฉนฺตํ ปติ กาตุํ วฏฺฏตีติ ขายติ, วีมํสิตพฺพํ. สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉนา ¶ , อนนฺุาตการณา วิกาเล คามปฺปเวโสติ ทฺเว องฺคานิ.
วิกาลคามปฺปวิสนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สูจิฆรสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๒๐. จตุตฺเถ ปาฬิยํ วาสิชเฏติ วาสิทณฺฑเก. อฏฺิมยาทิสูจิฆรตา, กรณการาปนาทิวเสน อตฺตโน ปฏิลาโภติ ทฺเว องฺคานิ.
สูจิฆรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. มฺจปีสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๒๑. ปฺจเม ปาฬิยํ อาสยโต, ภิกฺขเว, โมฆปุริโส เวทิตพฺโพติ หีนชฺฌาสยวเสน อยํ ตุจฺฉปุริโสติ าตพฺโพ, หีนาย ปจฺจเย โลลตาย ปุคฺคลสฺส ตุจฺฉตา าตพฺพาติ อธิปฺปาโย. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท, อิโต ปเรสุ จ ปฺจสุ อตฺตนา การาปิตสฺส ปฏิลาเภ เอว ปาจิตฺติยํ. ปริโภเค ปนสฺส, อฺเสฺจ ทุกฺกฏเมว. ปมาณาติกฺกนฺตมฺจปีตา, อตฺตโน กรณการาปนวเสน ปฏิลาโภติ ทฺเว องฺคานิ.
มฺจปีสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ตูโลนทฺธสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๒๖. ฉฏฺเ ¶ โปฏกิตูลนฺติ ติณคจฺฉชาติกานํ ตูลํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
ตูโลนทฺธสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. นิสีทนสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๓๑-๕๓๖. สตฺตเม ¶ นิสีทนสฺส ปมาณาติกฺกนฺตตา, อตฺตโน กรณาทินา ปฏิลาโภติ ทฺเว องฺคานิ.
นิสีทนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕๓๗-๕๔๗. อิมินา นเยน อฏฺมนวมทสเมสุปิ องฺคานิ เวทิตพฺพานิ. เสสํ สพฺพตฺถ สุวิฺเยฺยเมวาติ.
นิฏฺิโต ราชวคฺโค นวโม.
ขุทฺทกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๖. ปาฏิเทสนียกณฺฑํ
๑. ปมปาฏิเทสนียสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๕๓. ปาฏิเทสนีเยสุ ¶ ¶ ปเม ปฏิเทเสตพฺพาการทสฺสนนฺติ เอวํ อาปตฺตึ นวกสฺส สนฺติเก เทเสตพฺพาการทสฺสนํ. อิมินา ลกฺขเณน สมฺพหุลานํ อาปตฺตีนมฺปิ วุฑฺฒสฺส สนฺติเก จ เทเสตพฺพากาโร สกฺกา วิฺาตุนฺติ. ตตฺรายํ นโย – ‘‘คารยฺเห, อาวุโส, ธมฺเม อาปชฺชึ อสปฺปาเย ปาฏิเทสนีเย’’ติ เอวํ สมฺพหุลาสุ. วุฑฺฒสฺส ปน สนฺติเก ‘‘คารยฺหํ, ภนฺเต, ธมฺมํ…เป… คารยฺเห, ภนฺเต, ธมฺเม’’ติ โยชนา เวทิตพฺพา. ตตฺถ อสปฺปายนฺติ สคฺคโมกฺขนฺตรายกรนฺติ อตฺโถ. อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา อนฺตรฆเร ิตาย หตฺถโต สหตฺถา ยาวกาลิกคฺคหณํ, อชฺโฌหรณนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
ปมปาฏิเทสนียสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕๕๘. ทุติเย ปริปุณฺณูปสมฺปนฺนาย อนนฺุาตากาเรน โวสาสนา, อนิวาเรตฺวา โภชนชฺโฌหาโรติ ทฺเว องฺคานิ.
๕๖๓. ตติเย เสกฺขสมฺมตตา, ฆรูปจาเร อนิมนฺติตตา, คิลานสฺส อนิจฺจภตฺตาทึ คเหตฺวา ภฺุชนนฺติ ตีณิ องฺคานิ.
๕๗๐. จตุตฺเถ สาสงฺการฺเสนาสนตา, อนนฺุาตํ ยาวกาลิกํ อปฺปฏิสํวิทิตํ อชฺฌาราเม ปฏิคฺคเหตฺวา อคิลานสฺส อชฺโฌหรณนฺติ ทฺเว องฺคานิ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ปาฏิเทสนียวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๗. เสขิยกณฺฑํ
๑. ปริมณฺฑลวคฺควณฺณนา
๕๗๖. เสขิเยสุ ¶ ¶ ยสฺมา วตฺตกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๕๖ อาทโย) วุตฺตวตฺตานิปิ สิกฺขิตพฺพตฺตา เสขิยาเนว, ตสฺมา ปาราชิกาทีสุ วิเยตฺถ ปาฬิยํ ปริจฺเฉโท น กโต. จาริตฺตนยทสฺสนตฺถฺจ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ โอลมฺเพนฺโต นิวาเสยฺย, ทุกฺกฏ’’นฺติ อวตฺวา ‘‘สิกฺขา กรณียา’’ติ สพฺพตฺถ ปาฬิ อาโรปิตา. ปทภาชเน ปน ‘‘อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา สพฺพตฺถ อนาทริยกรเณ ทุกฺกฏํ เวทิตพฺพํ.
อฏฺงฺคุลมตฺตนฺติ มตฺต-สทฺเทน ตโต กิฺจิ อธิกํ, อูนมฺปิ สงฺคณฺหาติ. เตเนว นิสินฺนสฺส จตุรงฺคุลมตฺตมฺปิ วุตฺตํ. น หิ นิสินฺนสฺส จตุรงฺคุลปฺปมาณํ, ิตสฺส อฏฺงฺคุลเมวาติ สกฺกา นิยเมตุํ อูนาธิกตฺตสมฺภวโต. ตสฺมา ยถา สารุปฺปํ โหติ เอวํ อฏฺงฺคุลานุสาเรน นิวาสนฺเว อธิปฺเปตนฺติ คเหตพฺพํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ สุกฺขชงฺโฆ วา’’ติอาทิ. กุรุนฺทิยํ ‘‘อชานนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ อาทรํ กตฺวา อุคฺคณฺหนฺตสฺสาปิ อชานนํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตนาปิ นิรนฺตรํ นิวาสนปารุปนวตฺตํ สิกฺขิตพฺพํ, อสิกฺขิโต อนาทริยเมว. ปริมณฺฑลคฺคหเณน อุกฺขิปิตฺวา นิวาสนมฺปิ ปฏิกฺขิตฺตนฺติ อาห ‘‘อุกฺขิปิตฺวา วา โอตาเรตฺวา วา’’ติ.
สจิตฺตกนฺติ วตฺถุวิชานนจิตฺเตน สจิตฺตกํ. สารตฺถทีปนิยํ ปน อุปติสฺสตฺเถรวาทนเยน โลกวชฺชตฺตํ คเหตฺวา ‘‘วตฺถุวิชานนจิตฺเตน, ปณฺณตฺติวิชานนจิตฺเตน จ สจิตฺตก’’นฺติ (สารตฺถ. ฏี. เสขิยกณฺฑ ๓.๕๗๖) วุตฺตํ. ตตฺถ จ วตฺถุวิชานนํ วิสุํ น วตฺตพฺพํ. ปณฺณตฺติวิชานเนน ตสฺสาปิ อนฺโตคธภาวโต อิทํ วตฺถุํ เอวํ วีติกฺกมนฺตสฺส อาปตฺตีติ วิชานนฺโต หิ ปณฺณตฺตึ วิชานาตีติ วุจฺจติ. อุปติสฺสตฺเถรวาเท เจตฺถ ปณฺณตฺตึ อชานิตฺวา อปริมณฺฑลนิวาสนาทิวตฺถุเมว ¶ ชานนฺตสฺส ปณฺณตฺติวีติกฺกมานาทริยาภาวา สพฺพเสขิเยสุ อนาปตฺติ เอว อภิมตา, ตฺจ น ยุตฺตํ โกสมฺพกฺขนฺธเก (มหาว. ๔๕๑ อาทโย) วจฺจกุฏิยํ อุทกาวเสสํ เปนฺตสฺส ปณฺณตฺติวิชานนาภาเวปิ อาปตฺติยา วุตฺตตฺตา. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ อาปตฺตึ อาปนฺโน โหติ ¶ …เป… โส อปเรน สมเยน ตสฺสา อาปตฺติยา อนาปตฺติทิฏฺิ โหตี’’ติอาทิ (มหาว. ๔๕๑). อฏฺกถายฺจสฺส ‘‘ตฺวํ เอตฺถ อาปตฺติภาวํ น ชานาสีติ, อาม น ชานามีติ. โหตุ อาวุโส, เอตฺถ อาปตฺตีติ, สเจ โหติ, เทเสสฺสามีติ. สเจ ปน เต, อาวุโส, อสฺจิจฺจ อสติยา กตํ, นตฺถิ อาปตฺตีติ. โส ตสฺสา อาปตฺติยา อนาปตฺติทิฏฺิ อโหสี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๔๕๑) วุตฺตํ, ตถา ‘‘อธมฺมวาทีติ อุกฺขิตฺตานุวตฺตเกสุ อฺตโร’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๔๕๗-๔๕๘) จ วุตฺตํ. ขนฺธกวตฺตานฺหิ เสขิยตฺตา ตตฺถ วุตฺโต นโย อิเมสํ, อิธ วุตฺโต จ เตสํ สาธารโณว โหตีติ. เตเนว ‘‘อสฺจิจฺจ อสติยา กตํ, นตฺถิ อาปตฺตี’’ติ เอวํ อิธ วุตฺโต อาปตฺตินโย ตตฺถาปิ ทสฺสิโต. ตสฺมา ผุสฺสเทวตฺเถรวาเท เอว ตฺวา วตฺถุวิชานนจิตฺเตเนว สพฺพเสขิยานิ สจิตฺตกานิ, น ปณฺณตฺติวิชานนจิตฺเตน. ภิยฺโยกมฺยตายสูปพฺยฺชนปฏิจฺฉาทนอุชฺฌานสฺีติ ทฺเว สิกฺขาปทานิ โลกวชฺชานิ อกุสลจิตฺตานิ, เสสานิ ปณฺณตฺติวชฺชานิ, ติจิตฺตานิ, ติเวทนานิ จาติ คหณเมว ยุตฺตตรํ ทิสฺสติ. เตเนเวตฺถ ‘‘อสฺจิจฺจาติ ปุรโต วา ปจฺฉโต วา โอลมฺเพตฺวา นิวาเสสฺสามีติ เอวํ อสฺจิจฺจา’’ติอาทินา วตฺถุอชานนวเสเนว อนาปตฺติวณฺณนา กตา, น ปณฺณตฺติวิชานนจิตฺตวเสน.
อปิจ ‘‘ยสฺส สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว โหติ, ตํ โลกวชฺช’’นฺติ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) อิมินา ลกฺขณวจเนนาปิ เจตํ สิชฺฌติ. วตฺถุวิชานนจิตฺตวเสเนว เหตฺถ ‘‘สจิตฺตกปกฺเข’’ติ วุตฺตํ. อิตรถา ปณฺณตฺติวิชานนจิตฺตวเสน สพฺพสิกฺขาปทานมฺปิ สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตสฺส อกุสลตฺตนิยเมน โลกวชฺชตฺตปฺปสงฺคโต ปณฺณตฺติวชฺชเมว น สิยา, อิทฺจ วจนํ นิรตฺถกํ สิยา อิมินา วจเนน นิวตฺเตตพฺพสฺส สิกฺขาปทสฺส อภาวา. น จ เสขิเยสุ วตฺถุวิชานนจิตฺเตน สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ ปาณาติปาตาทีสุ วิย อกุสลเมวาติ นิยโม อตฺถิ, เยเนตฺถ โลกวชฺชตา ปสชฺเชยฺย, ‘‘อนาทริยํ ปฏิจฺจา’’ติ เจตํ ปาฬิวจนํ วตฺถุํ ชานิตฺวา ตีหิ จิตฺเตหิ วีติกฺกมเมว อนาทริยํ กตฺวา วุตฺตํ, น ปณฺณตฺตึ ชานิตฺวา อกุสลจิตฺเตเนว วีติกฺกมนฺติ คเหตพฺพํ. อฺถา ขนฺธกปาฬิยา, อฏฺกถายฺจ ปุพฺพาปรฺจ วิรุชฺฌนโตติ อมฺหากํ ขนฺติ. ยถา วา น วิรุชฺฌติ, ตถา เอตฺถ อธิปฺปาโย คเวสิตพฺโพ. อนาทริยํ, อนาปตฺติการณาภาโว ¶ , อปริมณฺฑลนิวาสนนฺติ ¶ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. ยถา เจตฺถ, เอวํ สพฺพตฺถ. เกวลํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตปฏิปกฺขกรณวเสน ตติยงฺคโยชนเมว วิเสโส.
๕๗๗. ทุติยาทีสุ คิหิปารุตนฺติ เสตปฏปารุตาทิ. วิหาเรปีติ สงฺฆสนฺนิปาตพุทฺธุปฏฺานาทิกาลํ สนฺธาย วุตฺตํ.
๕๗๘. คณฺิกํ ปฏิมฺุจิตฺวาติอาทิ ปฏิจฺฉาทนวิธิทสฺสนํ. คีวํ ปฏิจฺฉาเทตฺวาติอาทินา วุตฺตตฺตา สฺจิจฺจ คีวํ, มณิพนฺธนฺจ อปฺปฏิจฺฉาเทนฺตสฺส อาปตฺติ. เอตฺถาปิ ปริมณฺฑลสิกฺขาปทสฺส สาธารณตฺตา ชาณุมณฺฑลโต เหฏฺา จตุรงฺคุลมตฺตํ โอตาเรตฺวา อโนลมฺเพตฺวา ปริมณฺฑลเมว ปารุปิตพฺพํ.
๕๗๙. วิวริตฺวา นิสีทโตติ วิหาเร วิย เอกํสปารุปนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘วาสตฺถาย อุปคตสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา วาสาธิปฺปายํ วินา ธมฺมเทสนปริตฺตภณนาทิอตฺถาย สุจิรมฺปิ นิสีทนฺเตน สพฺพํ อนฺตรฆรวตฺตํ ปูเรนฺเตเนว นิสีทิตพฺพํ. นิสีทนปฏิสํยุตฺเตสุ เอว จ สิกฺขาปเทสุ ‘‘วาสูปคตสฺสา’’ติ อนาปตฺติยา วุตฺตตฺตา วาสตฺถาย อนฺตรฆรํ อุปคจฺฉนฺเตนาปิ สุปฺปฏิจฺฉนฺนตาทิสพฺพํ อโกเปนฺเตเนว คนฺตพฺพํ. ‘‘วาสูปคตสฺสา’’ติ หิ วุตฺตํ, น ปน อุปคจฺฉมานสฺสาติ. เกจิ ปน ‘‘เอเกกสฺมึ ปมํ คนฺตฺวา วาสปริคฺคเห กเต ตโต อฺเหิ ยถาสุขํ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. อปเร ปน ‘‘เคหสฺสามิเกหิ ‘ยาว ตุมฺเห นิวสิสฺสถ, ตาว ตุมฺหากํ อิมํ เคหํ เทมี’ติ ทินฺเน อฺเหิ อวาสาธิปฺปาเยหิ อนฺตราราเม วิย ยถาสุขํ คนฺตุํ, นิสีทิตฺุจ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ สพฺพํ น คเหตพฺพํ ตถาวจนาภาวา, ทานลกฺขณาภาวา, ตาวตฺตเกน วิหารสงฺขฺยานุปคมนโต จ. ‘‘ยาว นิสีทิสฺสถ, ตาว ตุมฺหากํ อิมํ เคหํ เทมี’’ติ เทนฺโตปิ หิ ตาวกาลิกเมว เทติ วตฺถุปริจฺจาคลกฺขณตฺตา ทานสฺส.
๕๘๒. จตุหตฺถปฺปมาณนฺติ วฑฺฒกีหตฺถํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ วทนฺติ.
๕๘๔. อุกฺขิตฺตจีวโร ¶ หุตฺวาติ กฏิโต อุทฺธํ กายพนฺธนาทิทสฺสนวเสเนวุกฺขิปนํ สนฺธาย วุตฺตํ ปิณฺฑาย จรโต ปตฺตคฺคหณาทิมตฺตสฺส อนฺุาตตฺตา. เตเนว ‘‘นิสินฺนกาเล ปน ธมกรณ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. นิสินฺนกาเล หิ ขนฺเธ ลคฺคปตฺตตฺถวิกาทิโต ธมกรณํ นีหรนฺตสฺส กฏิโต อุทฺธมฺปิ ทิสฺสติ, ตถา อทสฺเสตฺวา นีหริตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. อาสเน นิสีทนฺตสฺสาปิ ¶ จ ปารุปิตจีวรํ กิฺจิ อุกฺขิปิตฺวา สงฺฆาฏึ ชงฺฆปิณฺเฑหิ อนุกฺขิปิตฺวาว นิสีทิตพฺพํ. อิมสฺมิฺเว ปน สิกฺขาปเท ‘‘วาสูปคตสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา นิสีทนปฏิสํยุตฺเตสุ ฉฏฺอฏฺเมสุ อวุตฺตตฺตา วาสูปคเตนาปิ สุสํวุเตน โอกฺขิตฺตจกฺขุนาว นิสีทิตพฺพํ. เตเนว มาติกาฏฺกถายมฺปิ เตสํ วิเสสํ อวตฺวา อิเธว ‘‘วาสูปคตสฺส ปน อนาปตฺตี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. อุกฺขิตฺตกสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตา.
ปริมณฺฑลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อุชฺชคฺฆิกวคฺควณฺณนา
๕๘๖. ทุติยวคฺคาทิอุชฺชคฺฆิกอปฺปสทฺเทสุ นิสีทนปฏิสํยุตฺเตสุปิ วาสูปคตสฺส อนาปตฺติ น วุตฺตา, กายปฺปจาลกาทีสุ เอว ปน วุตฺตา. ปาฬิโปตฺถเกสุ ปเนตํ เกสุจิ เปยฺยาเลน พฺยาโมหิตตฺตา น สุฏฺุ วิฺายติ. ยตฺถ จ อนฺตรฆเร ธมฺมํ วา เทเสนฺตสฺส, ปาติโมกฺขํ วา อุทฺทิสนฺตสฺส มหาสทฺเทน ยาวปริสสาวเนปิ อนาปตฺติ เอวาติ ทฏฺพฺพํ ตถา อานนฺทตฺเถรมหินฺทตฺเถราทีหิ อาจริตตฺตา.
อุชฺชคฺฆิกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ขมฺภกตวคฺควณฺณนา
๖๐๓. ปตฺเต คหณสฺา อสฺส อตฺถีติ ปตฺตสฺีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปตฺเต สฺํ กตฺวา’’ติ วุตฺตํ.
๖๐๔. โอโลณีติ เอกา พฺยฺชนวิกติ. กฺชิกตกฺกาทิรโสติ เกจิ. มํสรสาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน อวเสสา สพฺพาปิ พฺยฺชนวิกติ สงฺคหิตา.
๖๐๕. สมภริตนฺติ ¶ รจิตํ. เหฏฺา โอโรหตีติ สมนฺตา โอกาสสมฺภวโต หตฺเถน สมํ กริยมานํ เหฏฺา ภสฺสติ. ปตฺตมตฺถเก ปิตานิ ปูวานิ เอว วฏํสกากาเรน ปิตตฺตา ‘‘ปูววฏํสก’’นฺติ วุตฺตานิ. เกจิ ปน ‘‘ปตฺตํ คเหตฺวา ถูปีกตํ ปิณฺฑปาตํ รจิตฺวา ทิยฺยมานเมว คณฺหโต อาปตฺติ, หตฺถคเต เอว ปน ปตฺเต ทิยฺยมาเน ถูปีกตมฺปิ คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ ¶ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพเมว ‘‘สมติตฺติก’’นฺติ ภาวนปุํสกวเสน สามฺโต วุตฺตตฺตา.
ขมฺภกตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สกฺกจฺจวคฺควณฺณนา
๖๐๘. จตุตฺถวคฺคาทีสุ สปทานนฺติ เอตฺถ ทานํ วุจฺจติ อวขณฺฑนํ, อเปตํ ทานโต อปทานํ, สห อปทาเนน สปทานํ, อวขณฺฑนวิรหิตํ อนุปฏิปาฏิยาติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘ตตฺถ ตตฺถ โอธึ อกตฺวา’’ติอาทิ.
๖๑๑. วิฺตฺติยนฺติ สูโปทนวิฺตฺติสิกฺขาปทํ สนฺธาย วทติ. ‘‘วตฺตพฺพํ นตฺถี’’ติ อิมินา ปาฬิยาว สพฺพํ วิฺายตีติ ทสฺเสติ. ตตฺถ ปาฬิยํ อสฺจิจฺจาติอาทีสุ วตฺถุมตฺตํ ตฺวา ภฺุชเนน อาปตฺตึ อาปชฺชนฺตสฺเสว ปุน ปณฺณตฺตึ ตฺวา มุขคตํ ฉฑฺเฑตุกามสฺส ยํ อรุจิยา ปวิฏฺํ, ตํ อสฺจิจฺจ ปวิฏฺํ นาม, ตตฺถ อนาปตฺติ. ตเทว ปุน อฺวิหิตตาย วา อวิฺตฺตมิทนฺติสฺาย วา ภฺุชเน ‘‘อสติยา’’ติ วุจฺจติ.
๖๑๓. ‘‘อฺสฺสตฺถายา’’ติ อิทมสฺส สิกฺขาปทสฺส อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา สยํ ภฺุชเน เอว ปฺตฺตตฺตา อิมินา สิกฺขาปเทน อนาปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. ปฺจสหธมฺมิกานํ ปน อตฺถาย อฺาตกอปฺปวาริตฏฺาเน วิฺาเปนฺโต วิฺตฺติกฺขเณ อฏฺกถาสุ สุตฺตานุโลมโต วุตฺตอกตวิฺตฺติทุกฺกฏโต น มุจฺจติ. สฺจิจฺจ ภฺุชนกฺขเณ สยฺจ อฺเ จ มิจฺฉาชีวโต น มุจฺจนฺตีติ คเหตพฺพํ.
๖๑๕. ‘‘กุกฺกุฏณฺฑํ อติขุทฺทก’’นฺติ อิทํ อสารุปฺปวเสน วุตฺตํ, อติมหนฺเต เอว อาปตฺตีติ ทฏฺพฺพํ. ภฺุชนฺเตน ปน โจราทิภยํ ปฏิจฺจ มหนฺตมฺปิ อปริมณฺฑลมฺปิ ¶ กตฺวา สีฆํ ภฺุชนวเสเนตฺถ อาปทา. เอวมฺเสุปิ ยถานุรูปํ ทฏฺพฺพํ.
สกฺกจฺจวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. กพฬวคฺควณฺณนา
๖๑๗. อนาหเฏ ¶ กพเฬ มุขทฺวารวิวรเณ ปน ปโยชนาภาวา ‘‘อาปทาสู’’ติ น วุตฺตํ. เอวมฺเสุปิ อีทิเสสุ.
๖๑๘. สพฺพํ หตฺถนฺติ หตฺเถกเทสา องฺคุลิโย วุตฺตา ‘‘หตฺถมุทฺทา’’ติอาทีสุ วิย, ตสฺมา เอกงฺคุลิมฺปิ มุเข ปกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ.
กพฬวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. สุรุสุรุวคฺควณฺณนา
๖๒๗. ปาฬิยํ สีตีกโตติ สีตปีฬิโต. สิลกพุทฺโธติ ปริหาสวจนเมตํ. สิลกฺหิ กิฺจิ ทิสฺวา ‘‘พุทฺโธ อย’’นฺติ โวหรนฺติ.
๖๒๘. ‘‘องฺคุลิโย มุเข ปเวเสตฺวา ภฺุชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิมินา สพฺพํ หตฺถํ อนฺโตมุเข ปกฺขิปนสิกฺขาปทสฺสปิ ปวิฏฺงฺคุลินิลฺเลหเนน อิมสฺสปิ สิกฺขาปทสฺส อนาปตฺตึ ทสฺเสติ. เอเสว นโยติ ฆนยาคุอาทีสุ ปตฺตํ หตฺเถน, โอฏฺฺจ ชิวฺหาย นิลฺเลหิตุํ วฏฺฏตีติ อติทิสติ. ตสฺมาติ ยสฺมา ฆนยาคุอาทิวิรหิตํ นิลฺเลหิตุํ น วฏฺฏติ.
๖๓๔. วิลีวจฺฉตฺตนฺติ เวณุเปสิกาหิ กตํ. มณฺฑลพทฺธานีติ ทีฆสลากาสุ ติริยํ วลยากาเรน สลากํ เปตฺวา สุตฺเตหิ พทฺธานิ ทีฆฺจ ติริยฺจ อุชุกเมว สลากาโย เปตฺวา ทฬฺหพทฺธานิ เจว ติริยํ เปตฺวา ทีฆทณฺฑเกเหว สงฺโกจารหํ กตฺวา สุตฺเตเหว ติริยํ พทฺธานิ. ตตฺถชาตกทณฺฑเกน กตนฺติ สห ทณฺฑเกน ฉินฺนตาลปณฺณาทีหิ กตํ. ฉตฺตปาทุกายาติ ยสฺมึ ฉตฺตทณฺฑโกฏึ ปเวเสตฺวา ฉตฺตํ อุชุกํ เปตฺวา เหฏฺา ฉายาย นิสีทนฺติ, ติฏฺนฺติ วา, ตาทิเส ฉตฺตาธาเร.
๖๓๗. จาโปติ ¶ มชฺเฌ วงฺกกาชทณฺฑสทิสา ธนุวิกติ. โกทณฺโฑติ วิทฺธทณฺฑา ธนุวิกติ.
สุรุสุรุวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ปาทุกวคฺควณฺณนา
๖๔๗. สตฺตมวคฺเค ¶ รุกฺขโต ปติโตติ เอกํ โอลมฺพนสาขํ คเหตฺวา ปติโต. ปาฬิยาติ อตฺตโน อาจารปฺปกาสกคนฺถสฺส. ธีรตฺถูติ ธี อตฺถุ, นินฺทา โหตูติ อตฺโถ. วินิปาตนเหตุนาติ วินิปาตนสฺส เหตุภาเวน. ตฺวนฺติ อุปโยคตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ, ตํ อิจฺเจว วา ปาโ. อสฺมาติ ปาสาโณ.
๖๔๙. น กเถตพฺพนฺติ เถเรน อตฺตโน กงฺขาฏฺานสฺส ปุจฺฉิตตฺตา วุตฺตํ. ทหรสฺส อตฺถโกสลฺลํ าตุํ ปุจฺฉิเตน อุจฺจาสเน นิสินฺนสฺส อาจริยสฺส อนุโยคทานนเยน วตฺตุํ วฏฺฏติ.
๖๕๒. เขเฬน เจตฺถ สิงฺฆาณิกาปิ สงฺคหิตาติ เอตฺถ อุทกคณฺฑุสกํ กตฺวา อุจฺฉุกจวราทิฺจ มุเขเนว หริตุํ อุทเกสุ ฉฑฺเฑตุํ วฏฺฏตีติ ทฏฺพฺพํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว.
ปาทุกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
เสขิยวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๖๕๕. อธิกรณสมเถสุ จ อิธ วตฺตพฺพํ นตฺถิ.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
ภิกฺขุวิภงฺควณฺณนานโย นิฏฺิโต.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ภิกฺขุนีวิภงฺควณฺณนา
๑. ปาราชิกกณฺฑํ
๑. อุพฺภชาณุมณฺฑลิกสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๕๖. ภิกฺขุนีวิภงฺเค ¶ ¶ มิคารมาตุยาติ มิคารมาตุ, วิสาขายาติ อตฺโถ. ปาฬิยํ ‘‘เอหิ ภิกฺขุนีติ ภิกฺขุนี, ตีหิ สรณคมเนหิ อุปสมฺปนฺนาติ ภิกฺขุนี’’ติ อิทํ ภิกฺขุวิภงฺคปาฬิยา สมทสฺสนตฺถํ อฏฺครุธมฺมปฺปฏิคฺคหเณน ลทฺธูปสมฺปทํ มหาปชาปติโคตมิฺเจว ตาย สห นิกฺขนฺตา ภควโต อาณาย ภิกฺขูนฺเว สนฺติเก เอกโตอุปสมฺปนฺนา ปฺจสตสากิยานิโย จ สนฺธาย วุตฺตํ. ตา หิ ภควตา อานนฺทตฺเถรสฺส ยาจนาย ปพฺพชฺชํ อนุชานนฺเตน ‘‘เอถ ภิกฺขุนิโย, มม สาสเน ตุมฺเหปิ ปวิสถา’’ติ วุตฺตา วิย ชาตา. สากิยานิโย เอว สรณสีลานิ ทตฺวา กมฺมวาจาย อุปสมฺปาทิตตฺตา ‘‘ตีหิ สรณคมเนหิ อุปสมฺปนฺนา’’ติ วุตฺตา. น หิ เอตาหิ อฺา เอหิภิกฺขุนิภาวาทินา อุปสมฺปนฺนา นาม สนฺติ. ยํ ปน เถรีคาถาสุ ภทฺทาย กุณฺฑลเกสิยา –
‘‘นิหจฺจ ¶ ชาณุํ วนฺทิตฺวา, สมฺมุขา อฺชลึ อกํ;
‘เอหิ ภทฺเท’ติ มํ อโวจ, สา เม อาสูปสมฺปทา’’ติ. (เถรีคา. ๑๐๙) –
วุตฺตํ. ยฺจ อปทาเนปิ –
‘‘อายาจิโต ตทา อาห, ‘เอหิ ภทฺเท’ติ นายโก;
ตทาหํ อุปสมฺปนฺนา, ปริตฺตํ โตยมทฺทส’’นฺติ. (อป. เถรี ๒.๓.๔๔) –
วุตฺตํ. ตมฺปิ ‘‘เอหิ ตฺวํ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อุปสมฺปทฺจ คณฺหาหี’’ติ ภควโต อาณา อุปสมฺปทาย การณตฺตา อุปสมฺปทา อโหสีติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตถา หิ วุตฺตํ เถรีคาถาฏฺกถายํ ‘‘เอหิ ภทฺเท, ภิกฺขุนุปสฺสยํ ¶ คนฺตฺวา ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ปพฺพชฺช อุปสมฺปชฺชสฺสูติ มํ อวจ อาณาเปสิ, สา สตฺถุ อาณา มยฺหํ อุปสมฺปทาย การณตฺตา อุปสมฺปทา อาสิ อโหสี’’ติ (เถรีคา. อฏฺ. ๑๑๑).
๖๕๗. สาธารณปาราชิเกหีติ เมถุนาทีหิ จตูหิ. ตานิ, ปน อฺานิ จ สาธารณสิกฺขาปทานิ ยสฺมา ภิกฺขุวิภงฺเค วุตฺตนิทานวตฺถาทีสุ เอว สาธารณวเสน ปฺตฺตานิ, ปจฺฉา ปน ตานิ ภิกฺขุนีนํ ปาติโมกฺขุทฺเทสํ อนุชานนฺเตน ภควตา ตาสํ สิกฺขาปจฺจกฺขานาภาเวน ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ฉนฺทโส เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺยา’’ติอาทินา ตทนุรูปวเสน ปริวตฺเตตฺวา อสาธารณสิกฺขาปเทหิ สทฺธึ สํสนฺเทตฺวา ภิกฺขุนิปาติโมกฺขุทฺเทสวเสน เอกโต สงฺคหิตานิ. ยสฺมา จ เนสํ ภิกฺขุวิภงฺเค (ปารา. ๔๔ อาทโย) วุตฺตนเยเนว สพฺโพปิ วินิจฺฉโย สกฺกา าตุํ, ตสฺมา ตานิ วชฺเชตฺวา อสาธารณานํ เอว อิธ วิภงฺโค วุตฺโตติ เวทิตพฺพํ.
๖๕๙. ภิกฺขูนํ ‘‘กายสํสคฺคํ สาทิเยยฺยา’’ติ อวตฺวา ‘‘สมาปชฺเชยฺยา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ภิกฺขุ อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ตพฺพหุลนเยนาติ กิริยาสมุฏฺานสฺเสว พหุลภาวโต, เอเตน อกิริยาสมุฏฺานาปิ อยํ อาปตฺติ โหตีติ ทสฺเสติ. กิฺจาปิ ทสฺเสติ, มยํ ปเนตฺถ เอวํ ตกฺกยาม ‘‘กายสํสคฺคกฺขเณ สาทิยนฺติยา กิริยาย อภาเวปิ ตโต ปุพฺเพ ปวตฺติตานํ ปฏิจฺฉนฺนฏฺานคมนอิงฺคิตาการทสฺสนาทิกิริยานํ วเสเนว กิริยาสมอุฏฺานเมว, ปเรหิ มคฺเค กริยมานุปกฺกเมน นิจฺจลสฺส สาทิยโต สุกฺกวิสฺสฏฺิ วิย ปุพฺพปโยคาภาเวปิ ¶ วา ตสฺมิฺเว ขเณ ปรูปกฺกเมน ชนิยมานาย อตฺตโน กายจลนาทิสงฺขาตาย กิริยาย, สา หิ สาทิยมาเนน ตสฺสา จิตฺเตนาปิ สมุฏฺิตา กิริยา นาม โหติ อวายมิตฺวา ปรูปกฺกเมน เมถุนสาทิยเน วิย, ภิกฺขูนํ ปน ปรูปกฺกมชนิตํ กิริยํ อพฺโพหาริกํ กตฺวา อตฺตนา กริยมานปโยควเสเนว ‘กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยา’ติ เอวํ วิเสเสตฺวาว สิกฺขาปทสฺส ปฺตฺตตฺตา สาทิยมาเนปิ น โทโส. อิตรถา หิ ตพฺพหุลนเยเนตฺถ กิริยตฺเต คยฺหมาเน อฺเสมฺปิ กิริยากิริยสิกฺขาปทานํ กิริยตฺตคฺคหณปฺปสงฺโค สิยา’’ติ. ตสฺมา ¶ วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. สาติ กิริยาสมุฏฺานตา. ตเถวาติ กายสํสคฺคราคี เอว.
อุพฺภชาณุมณฺฑลิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. วชฺชปฏิจฺฉาทิกสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๖๖. ทุติเย ปุริเมนาติอาทิ สุนฺทรีนนฺทาย วชฺชปฏิจฺฉาทเน ปฺตฺตตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘อฏฺนฺน’’นฺติ วุตฺตตฺตา วชฺชปฏิจฺฉาทนสฺสาปิ ปฏิจฺฉาทเน ปาราชิกเมวาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ธุรํ นิกฺขิตฺตมตฺเต’’ติ วุตฺตตฺตา ปณฺณตฺตึ อชานนฺติยาปิ ‘‘อิทํ วชฺชํ น ปกาเสสฺสามี’’ติ ฉนฺเทน ธุรํ นิกฺเขปกฺขเณ ปาราชิกนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตํ ปน ปฏิจฺฉาทนํ ยสฺมา ‘‘เปสลา ตฺวา ครหิสฺสนฺตี’’ติ ภเยเนว โหติ, ภยฺจ โกธจิตฺตสมฺปยุตฺตํ, ตสฺมา อิทํ ‘‘ทุกฺขเวทน’’นฺติ วุตฺตํ. ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๓.๖๖๖) ‘‘กิฺจาปิ วชฺชปฏิจฺฉาทนํ เปมวเสน โหติ, ตถาปิ สิกฺขาปทวีติกฺกมจิตฺตํ โทมนสฺสิตเมว โหตี’’ติ เอวํ ปณฺณตฺติวีติกฺกมจิตฺเตเนว ฉาทนํ โทมนสฺสตฺเต การณํ วุตฺตํ, ตํ อการณํ ปณฺณตฺติวิชานนํ วินาปิ อาปชฺชิตพฺพโตว.
วชฺชปฏิจฺฉาทิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อฏฺวตฺถุกสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๗๕. จตุตฺเถ ¶ โลกสฺสาทสงฺขาตํ มิตฺเตหิ อฺมฺํ กาตพฺพํ สนฺถวํ. วุตฺตเมวตฺถํ ปริยายนฺตเรน ทสฺเสตุํ ‘‘กายสํสคฺคราเคนา’’ติ วุตฺตํ.
ติสฺสิตฺถิโย เมถุนํ ตํ น เสเวติ ยา ติสฺโส อิตฺถิโย, ตาสุ วุตฺตํ ตํ เมถุนํ น เสเวยฺย. อนริยปณฺฑเกติ ตโย อนริเย, ตโย ปณฺฑเก จ อุปสงฺกมิตฺวา เมถุนํ น เสเวติ อตฺโถ. อนริยาติ ¶ เจตฺถ อุภโตพฺยฺชนกา อธิปฺเปตา. พฺยฺชนสฺมินฺติ อตฺตโน วจฺจมุขมคฺเคปิ. เฉโท เอว เฉชฺชํ, ปาราชิกํ.
วณฺณาวณฺโณติ ทฺวีหิ สุกฺกวิสฺสฏฺิ วุตฺตา. คมนุปฺปาทนนฺติ สฺจริตฺตํ. ‘‘เมถุนธมฺมสฺส ปุพฺพภาคตฺตา ปจฺจโย โหตี’’ติ อิมินา การิโยปจาเรน กายสํสคฺโค เมถุนธมฺโมติ วุตฺโตติ ทสฺเสติ. สพฺพปเทสูติ สงฺฆาฏิกณฺณคฺคหณาทิปเทสุ. กายสํสคฺคราโค, สอุสฺสาหตา, อฏฺมวตฺถุสฺส ปูรณนฺติ ตีเณตฺถ องฺคานิ.
อฏฺวตฺถุกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปาราชิกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๒. สงฺฆาทิเสสกณฺฑํ
๑. ปมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๗๙. สงฺฆาทิเสสกณฺเฑ ¶ ¶ ‘‘ทุติยสฺส อาโรเจตี’’ติ เอตฺถาปิ ทฺวีสุปิ อฑฺฑการเกสุ ยสฺส กสฺสจิ ทุติยสฺส กถํ โย โกจิ อาโรเจตีติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพติ อาห ‘‘เอเสว นโย’’ติ.
คติคตนฺติ จิรกาลปฺปวตฺตํ. อาปตฺตีติ อาปชฺชนํ. ‘‘นิสฺสารณีย’’นฺติ อิทํ กตฺตุอตฺเถ สิทฺธนฺติ อาห ‘‘นิสฺสาเรตี’’ติ. อาปนฺนํ ภิกฺขุนึ สงฺฆโต วิโยเชติ, วิโยชนเหตุ โหตีติ อตฺโถ.
คีวาเยวาติ อาณตฺติยา อภาวโต. เตสํ อนตฺถกามตายาติ ‘‘โจโร’’ติ วุตฺตํ มม วจนํ สุตฺวา เกจิ ทณฺฑิสฺสนฺติ ชีวิตา โวโรเปสฺสนฺตีติ เอวํ สฺาย. เอเตน เกวลํ ภเยน วา ปริกฺขารคฺคหณตฺถํ วา สหสา ‘‘โจโร’’ติ วุตฺเต ทณฺฑิเตปิ น โทโสติ ทสฺเสติ. ราชปุริสานฺหิ ‘‘โจโร อย’’นฺติ อุทฺทิสฺส กถเน เอว คีวา, ภิกฺขูนํ, ปน อารามิกาทีนํ วา สมฺมุขา ‘‘อสุโก โจโร เอวมกาสี’’ติ เกนจิ วุตฺตวจนํ นิสฺสาย อารามิกาทีสุ ราชปุริสานํ วตฺวา ทณฺฑาเปนฺเตสุปิ ภิกฺขุสฺส น คีวา ราชปุริสานํ อวุตฺตตฺตา. เยสฺจ วุตฺตํ, เตหิ สยํ โจรสฺส อทณฺฑิตตฺตาติ คเหตพฺพํ. ‘‘ตฺวํ เอตสฺส สนฺตกํ อจฺฉินฺทา’’ติ อาณตฺโตปิ หิ สเจ อฺเน อจฺฉินฺทาเปติ, อาณาปกสฺส อนาปตฺติ วิสงฺเกตตฺตา. ‘‘อตฺตโน วจนกร’’นฺติ อิทํ สามีจิวเสน วุตฺตํ. วจนํ อกโรนฺตานํ ราชปุริสานมฺปิ ‘‘อิมินา คหิตปริกฺขารํ อาหราเปหิ, มา จสฺส ทณฺฑํ กโรหี’’ติ อุทฺทิสฺส วทนฺตสฺสาปิ ทณฺเฑ คหิเตปิ น คีวา เอว ทณฺฑคฺคหณสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา, ‘‘อสุกภณฺฑํ อวหรา’’ติ อาณาเปตฺวา วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน ปุน ปฏิกฺขิปเน (ปารา. ๑๒๑) วิย.
ทาสาทีนํ ¶ สมฺปฏิจฺฉเน วิย ตทตฺถาย อฑฺฑกรเณ ภิกฺขูนมฺปิ ทุกฺกฏนฺติ อาห ‘‘อกปฺปิยอฑฺโฑ นาม น วฏฺฏตี’’ติ. เกนจิ ปน ภิกฺขุนา เขตฺตาทิอตฺถาย โวหาริกานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา อฑฺเฑ กเตปิ ตํ เขตฺตาทิสมฺปฏิจฺฉเน วิย สพฺเพสํ อกปฺปิยํ น โหติ ปุพฺเพ เอว สงฺฆสฺส สนฺตกตฺตา ¶ , ภิกฺขุสฺเสว ปน ปโยควเสน อาปตฺติโย โหนฺติ. ทาสาทีนมฺปิ ปน อตฺถาย รกฺขํ ยาจิตุํ โวหาริเกน ปุฏฺเน สงฺฆสฺส อุปฺปนฺนํ กปฺปิยกฺกมํ วตฺตุํ, อารามิกาทีหิ จ อฑฺฑํ การาเปตฺุจ วฏฺฏติ เอว. วิหารวตฺถาทิกปฺปิยอฑฺฑํ ปน ภิกฺขุโน สยมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ.
ภิกฺขุนีนํ วุตฺโตติ รกฺขํ ยาจนฺตีนํ ภิกฺขุนีนํ วุตฺโต อุทฺทิสฺสอนุทฺทิสฺสวเสน รกฺขายาจนวินิจฺฉโย, น สพฺโพ สิกฺขาปทวินิจฺฉโย อสาธารณตฺตา สิกฺขาปทสฺส. เตนาห ‘‘ภิกฺขุโนปี’’ติอาทิ. อนากฑฺฒิตาย อฑฺฑกรณํ, อฑฺฑปริโยสานนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
ปมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุติยสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๘๓. ปาฬิยํ ทุติเย มลฺลคณภฏิปุตฺตคณาทิกนฺติอาทีสุ มลฺลราชูนํ คโณ มลฺลคโณ. ภฏิปุตฺตา นาม เกจิ คณราชาโน, เตสํ คโณ. เกจิ ปน ‘‘นารายนภตฺติโก ปฺุการคโณ มลฺลคโณ. ตถา กุมารภตฺติโก จ คโณ ภฏิปุตฺตคโณ’’ติปิ (สารตฺถ. ฏี. สํฆาทิเสสกณฺฑ ๓.๖๘๓) วทนฺติ. ธมฺมคโณติ สาสเน, โลเก วา อเนกปฺปการปฺุการโก คโณ. คนฺธวิกติการโก คโณ คนฺธิกเสณี. เปสการาทิคโณ ทุสฺสิกเสณี. กปฺปคติกนฺติ กปฺปิยภาวคตํ, ปพฺพชิตปุพฺพนฺติ อตฺโถ.
๖๘๕. ปาฬิยํ วุฏฺาเปตีติ อุปสมฺปาเทติ. อกปฺปคตมฺปิ ปพฺพาเชนฺติยา ทุกฺกฏนฺติ วทนฺติ. ขีณาสวายปิ อาปชฺชิตพฺพโต ‘‘ติจิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. โจริตา, ตํ ตฺวา อนนฺุาตการณา วุฏฺาปนนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
ทุติยสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ตติยสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๙๒. ตติเย ¶ ¶ ปริกฺเขปํ อติกฺกาเมนฺติยาติ คามนฺตรสฺส ปริกฺเขปํ อติกฺกาเมนฺติยา. ‘‘คามนฺตรํ คจฺเฉยฺยา’’ติ หิ วุตฺตํ. วิกาลคามปฺปเวสนสิกฺขาปเท วิย ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส อุปจารํ โอกฺกมนฺติยา’’ติ อวตฺวา ‘‘อติกฺกาเมนฺติยา’’ติ ปาฬิยํ วุตฺตตฺตา คามํ ปวิสนฺติยา ฆรูปจาเร ิตสฺส ทุติยเลฑฺฑุปาตสงฺขาตสฺส อุปจารสฺส อติกฺกโม นาม ปมเลฑฺฑุปาตฏฺานสงฺขาตสฺส ปริกฺเขปารหฏฺานสฺส อติกฺกโม เอวาติ อาห ‘‘ปริกฺเขปารหฏฺานํ เอเกน ปาเทน อติกฺกมตี’’ติ.
มชฺเฌติ คามมชฺเฌ. ปจฺฉาติ อปรกาเล. ‘‘จตุคามสาธารณตฺตา’’ติ อิมินา วิหารโต จตูสุ คาเมสุ ยตฺถ กตฺถจิ ปวิสิตุํ วฏฺฏตีติ เอตฺถ การณมาห.
ปรตีรเมว อกฺกมนฺติยาติ นทึ อโนตริตฺวา โอริมตีรโต ลงฺฆิตฺวา วา อากาสาทินา วา ปรตีรเมว อติกฺกาเมนฺติยา. โอริมตีรเมว อาคจฺฉติ, อาปตฺตีติ ปารคมนาย โอติณฺณตฺตา วุตฺตํ.
ตาทิเส อรฺเติ อินฺทขีลโต พหิภาวลกฺขเณ อรฺเ. ‘‘เตเนวา’’ติอาทินา ทสฺสนูปจาเร วิรหิเต สวนูปจารสฺส วิชฺชมานตฺเตปิ อาปตฺติ โหตีติ ทสฺเสติ. อฺํ มคฺคํ คณฺหาตีติ มคฺคมูฬฺหตฺตา คณฺหาติ, น ทุติยิกํ โอหิยิตุํ. ตสฺมา อนาปตฺติ. อนนฺตราเยน เอกภาโว, อนาปทาย คามนฺตรคมนาทีสุ เอกนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
ตติยสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. จตุตฺถสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๙๔. จตุตฺเถ การกคณสฺสาติ อิมสฺส กมฺมํ กาตพฺพนฺติ เยหิ สนฺนิฏฺานํ กตํ, เต สนฺธาย วุตฺตํ. กมฺมวาจกฺขเณ สหิเตติ เกจิ. เนตฺถารวตฺเตติ นิตฺถรณเหตุมฺหิ วตฺเต.
๖๙๘. ปาฬิยํ ¶ อสนฺเต การกสงฺเฆติ เอตฺถ วิชฺชมานํ สุทูรมฺปิ คนฺตฺวา อาปุจฺฉิตพฺพํ ¶ . อนฺตราเย ปน สติ สมฺมา วตฺตนฺตํ โอสาเรตุํ วฏฺฏตีติ. ธมฺมกมฺเมน อุกฺขิตฺตตา, อนนฺุาตการณา โอสารณนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
จตุตฺถสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ปฺจมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๐๑. ปฺจเม ตนฺติ มหาอฏฺกถายํ อวจนํ ‘‘อนวสฺสุโตติ ชานนฺตี ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติอาทิ ปาฬิยา สเมติ. อุภโต อวสฺสุตภาโว, อุทกทนฺตโปนโต อฺํ สหตฺถา คเหตฺวา อชฺโฌหรณนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
ปฺจมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ฉฏฺสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๐๕. ฉฏฺเ ปฏิคฺคโห เตน น วิชฺชตีติ เตเนว ‘‘น เทตี’’ติ วุตฺตการเณน อุยฺโยชิตาย หตฺถโต อิตราย ปฏิคฺคโหปิ นตฺถิ. ปริโภคปจฺจยาติ อุยฺโยชิตาย โภชนปริโยสานปจฺจยาติ อตฺโถ. มนุสฺสปุริสสฺส อวสฺสุตตา, ตํ ตฺวา อนนฺุาตการณา อุยฺโยชนา, เตน อิตริสฺสา คเหตฺวา โภชนปริโยสานนฺติ ตีณิ องฺคานิ.
ฉฏฺสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗๐๙-๗๒๗. สตฺตมโต ยาวทสมปริโยสานานิ อุตฺตานาเนว.
สงฺฆาทิเสสวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๓. นิสฺสคฺคิยกณฺฑํ
๒. ทุติยนิสฺสคฺคิยาทิปาจิตฺติยสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๓๓. นิสฺสคฺคิเยสุปิ ¶ ¶ ปมํ อุตฺตานเมว.
๗๔๐. ทุติเย อยฺยาย ทมฺมีติ เอวํ ปฏิลทฺธนฺติ นิสฺสฏฺปฏิลทฺธํ, นิสฺสฏฺํ ปฏิลภิตฺวาปิ ยํ อุทฺทิสฺส ทายเกหิ ทินฺนํ, ตตฺเถว ทาตพฺพํ. เตนาห ‘‘ยถาทาเนเยว อุปเนตพฺพ’’นฺติ. อกาลจีวรตา, ตํ ตฺวา กาลจีวรนฺติ เลเสน ภาชาปนํ, ปฏิลาโภติ ตีณิ องฺคานิ.
๗๔๓. ตติเย เมตนฺติ มเมเวตํ จีวรํ. อุปสมฺปนฺนตา, ปริวตฺติตวิกปฺปนุปคจีวรสฺส สกสฺาย อจฺฉินฺทนาทีติ ทฺเว องฺคานิ.
๗๔๘-๗๕๒. จตุตฺเถ อาหฏสปฺปึ ทตฺวาติ อตฺตโน ทตฺวา. ยมกํ ปจิตพฺพนฺติ สปฺปิฺจ เตลฺจ เอกโต ปจิตพฺพํ. เลเสน คเหตุกามตา, อฺสฺส วิฺตฺติ, ปฏิลาโภติ ตีณิ องฺคานิ.
๗๕๓. ปฺจเม สาติ ถุลฺลนนฺทา. อยนฺติ สิกฺขมานา. เจตาเปตฺวาติ ชานาเปตฺวาติ อิธ วุตฺตํ, มาติกาฏฺกถายํ ปน ‘‘อตฺตโน กปฺปิยภณฺเฑน ‘อิทํ นาม อาหรา’ติ อฺํ ปริวตฺตาเปตฺวา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. อฺเจตาปนสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ.
๗๕๘. ฉฏฺเ ปาวาริกสฺสาติ ทุสฺสวาณิชกสฺส.
๗๖๔. สตฺตเม ¶ สฺาจิตเกนาติ สยํ ยาจิตเกนปีติ อตฺโถ.
๗๖๙-๗๘๙. อฏฺมโต ยาวทฺวาทสมา อุตฺตานเมว.
นิสฺสคฺคิยวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๔. ปาจิตฺติยกณฺฑํ
๑. ลสุณวคฺโค
๑. ปมลสุณาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๙๗. ปาจิตฺติเยสุ ¶ ¶ ลสุณวคฺคสฺส ปเม พทรสาฬวํ นาม พทรผลานิ สุกฺขาเปตฺวา เตหิ กตฺตพฺพพฺยฺชนวิกติ. อามกมาคธลสุณฺเจว, อชฺโฌหรณฺจาติ ทฺเว องฺคานิ.
๗๙๙-๘๑๒. ทุติยาทีนิ อุตฺตานตฺถานิ.
๘๑๕. ฉฏฺเ ปาฬิยํ อาสุมฺภิตฺวาติ ปาเตตฺวา.
๘๑๗. ทธิมตฺถูติ ทธิมฺหิ ปสนฺโนทกํ. รสขีราทีนนฺติ มํสรสขีราทีนํ. ภฺุชนฺตสฺส ภิกฺขุโน หตฺถปาเส านํ, ปานียสฺส วา วิธูปนสฺส วา คหณนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
๘๒๒. สตฺตเม อวิฺตฺติยา ลทฺธนฺติ อตฺตโน วิฺตฺตึ วินา ลทฺธํ. ปุพฺพาปรวิรุทฺธนฺติ สยํ กรเณ ปาจิตฺติยนฺติ อิทํ การาปเน ทุกฺกฏวจเนน วิรุชฺฌนํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตนาห ‘‘น หี’’ติอาทิ, ‘‘อวิฺตฺติยา ลทฺธ’’นฺติอาทิวจเนน วา วิรุชฺฌนํ สนฺธาย วุตฺตํ. อฺาย วิฺตฺติปิ หิ อิมิสฺสา อวิฺตฺติยา ลทฺธเมวาติ. อามกธฺวิฺาปนาทิ, ตํ ภชฺชนาทินา อชฺโฌหรณนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
๘๒๔. อฏฺเม นิพฺพิฏฺโติ ลทฺโธ. เกณีติ รฺโ ทาตพฺโพ อาโย, อายุปฺปตฺติฏฺานนฺติ อตฺโถ ¶ . เตนาห ‘‘เอกํ านนฺตร’’นฺติอาทิ. านนฺตรนฺติ จ คามชนปทาณายตฺตํ. วฬฺชิยมานติโรกุฏฺฏาทิตา, อนปโลเกตฺวา อุจฺจาราทีนํ ฉฑฺฑนาทีติ ทฺเว องฺคานิ.
๘๓๐. นวเม ‘‘มตฺถกจฺฉินฺนนาฬิเกรมฺปี’’ติ วุตฺตตฺตา หริตูปริ ฉฑฺฑนเมว ปฏิกฺขิตฺตํ. เตนาห ‘‘อนิกฺขิตฺตพีเชสู’’ติอาทิ. ยตฺถ จ ฉฑฺเฑตุํ วฏฺฏติ, ตตฺถ หริเต วจฺจาทึ กาตุมฺปิ วฏฺฏติ เอว. สพฺเพสนฺติ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ.
๘๓๖-๗. ทสเม ¶ เตสํเยวาติ เยสํ นิจฺจํ ปสฺสติ. อาราเม ตฺวาติ ิตนิสนฺนฏฺาเน เอว ตฺวา สมนฺตโต คีวํ ปริวตฺเตตฺวาปิ ปสฺสติ, อนาปตฺติ. ิตฏฺานโต คนฺตฺวา ปสฺสิตุํ น วฏฺฏติ. เกจิ ปน ‘‘วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. ตํ ปน ‘‘ทสฺสนาย คจฺเฉยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ สามฺโต คมนสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา, อนาปตฺติยมฺปิ คมนาย อวุตฺตตฺตา จ น คเหตพฺพํ. นจฺจาทิตา, อนนฺุาตการณา คมนํ, ทสฺสนาทิ จาติ ตีณิ องฺคานิ.
นิฏฺิโต ลสุณวคฺโค ปโม.
๒. อนฺธการวคฺโค
๑. ปมาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๔๑. ทุติยวคฺคสฺส ปเม ทาเน วาติ ทานนิมิตฺตํ. รตฺตนฺธกาเร ปุริสสฺส หตฺถปาเส านาทิ, รโหเปกฺขา, สหายาภาโวติ ตีณิ องฺคานิ.
๘๔๒-๘๕๐. ทุติยาทีนิ อุตฺตานานิ.
๘๕๔. ปฺจเม ปลฺลงฺกสฺส อโนกาเสติ อูรุพทฺธาสนสฺส อปฺปโหนเก. ปุเรภตฺตํ อนฺตรฆเร ปลฺลงฺกปฺปโหนกาสเน นิสชฺชา, อนนฺุาตการณา อนาปุจฺฉา วุตฺตปริจฺเฉทาติกฺกโมติ ทฺเว องฺคานิ.
๘๖๐-๘๗๙. ฉฏฺาทีนิ ¶ อุตฺตานานิ.
นิฏฺิโต อนฺธการวคฺโค ทุติโย.
๓. นคฺควคฺโค
๑. ปมาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
๘๘๓-๘๘๗. ตติยวคฺคสฺส ปมทุติยานิ อุตฺตานานิ.
๘๙๓. ตติเย วิสิพฺเพตฺวาติ วิชเฏตฺวา. ธุรํ นิกฺขิตฺตมตฺเตติ วิสิพฺพนทิวสโต ปฺจ ทิวเส อติกฺกาเมตฺวา ธุรํ นิกฺขิตฺตมตฺเต. อนฺโตปฺจาเห ปน ธุรนิกฺเขเปปิ อนาปตฺติ เอว ‘‘อฺตฺร จตูหปฺจาหา’’ติ วุตฺตตฺตา ¶ . อุปสมฺปนฺนาย จีวรํ สิพฺพนตฺถาย วิสิพฺเพตฺวา ปฺจหาติกฺกโม, อนนฺุาตการณา ธุรนิกฺเขโปติ ทฺเว องฺคานิ.
๙๐๐. จตุตฺเถ ปฺจนฺนํ จีวรานํ อปริวตฺตนํ, อนนฺุาตการณา ปฺจาหาติกฺกโมติ ทฺเว องฺคานิ.
๙๐๙. ฉฏฺเ วิกปฺปนุปคสฺส สงฺเฆ ปริณตตา, วินา อานิสํสทสฺสเนน อนฺตรายกรณนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
๙๑๖. อฏฺเม กุมฺภถูณํ นาม กุมฺภสทฺโท, เตน กีฬนฺตีติ กุมฺภถูณิกา. เตนาห ‘‘ฆฏเกน กีฬนกา’’ติ. ทีฆนิกายฏฺกถายํ ปน ‘‘จตุรสฺสอมฺพณกตาฬ’’นฺติ วุตฺตํ. ตฺหิ รุกฺขสาราทิมยํ อนฺโตฉิทฺทํ จตูสุ ปสฺเสสุ จมฺโมนทฺธํ วาทิตภณฺฑํ, ยํ ‘‘พิมฺพิสก’’นฺติปิ วุจฺจติ, ตํ วาเทนฺตาปิ กุมฺภถูณิกา. เตนาห ‘‘พิมฺพิสกวาทิตกาติปิ วทนฺตี’’ติ.
๙๑๘. ปาฬิยํ ¶ กปฺปกตนฺติ กปฺปกตํ นิวาสนปารุปนูปคํ. สมณจีวรตา, อนนฺุาตานํ ทานนฺติ ทฺเว องฺคานิ.
๙๒๑-๙๓๑. นวมทสมานิ อุตฺตานาเนว.
นิฏฺิโต นคฺควคฺโค ตติโย.
๔. ตุวฏฺฏวคฺโค
๑๐. ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๗๖. ตุวฏฺฏวคฺคสฺส ทสเม จาริกาย อปกฺกมนํ ปณฺณตฺติวชฺชเมว. ปณฺณตฺติวิชานนจิตฺเตน สจิตฺตกตํ สนฺธาย ปเนตฺถ ‘‘โลกวชฺช’’นฺติ ทฏฺพฺพํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว.
นิฏฺิโต ตุวฏฺฏวคฺโค จตุตฺโถ.
๕. จิตฺตาคารวคฺโค
๑. ปมาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
๙๗๘. จิตฺตาคารวคฺคสฺส ¶ ปเม ปาเฏกฺกา อาปตฺติโยติ คีวาย ปริวตฺตนปฺปโยคคณนาย.
๑๐๑๕. นวเม หตฺถิอาทีสุ สิปฺป-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ, ตถา อาถพฺพณาทีสุ มนฺต-สทฺโท. ตตฺถ อาถพฺพณมนฺโต นาม อาถพฺพณเวทวิหิโต ปรูปฆาตกโร มนฺโต. ขีลนมนฺโต นาม เวริมารณตฺถาย สารทารุมยํ ขีลํ มนฺเตตฺวา ปถวิยํ อาโกฏนมนฺโต. อคทปฺปโยโค วิสปฺปโยชนํ. นาคมณฺฑลนฺติ สปฺปานํ ปเวสนิวารณตฺถํ มณฺฑลพนฺธมนฺโต. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว.
นิฏฺิโต จิตฺตาคารวคฺโค ปฺจโม.
๑๐๒๕-๑๑๑๖. อารามวคฺเค ¶ , คพฺภินิวคฺเค จ สพฺพํ อุตฺตานเมว.
๘. กุมาริภูตวคฺโค
๑. ปมาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๑๑๙. อฏฺมวคฺคสฺส ปเม สพฺพปมา ทฺเว มหาสิกฺขมานาติ คพฺภินิวคฺเค (ปาจิ. ๑๐๖๗ อาทโย) สพฺพปมํ วุตฺตา ทฺเว. สิกฺขมานา อิจฺเจว วตฺตพฺพาติ สมฺมุติกมฺมาทีสุ อฺถา วุตฺเต กมฺมํ กุปฺปตีติ อธิปฺปาโย.
๑๑๖๗. เอกาทสเม ปาริวาสิเยน ฉนฺททาเนนาติ ปริวุตฺเถน นวิกปฺปวุตฺเถน วิคเตน ฉนฺททาเนนาติ อตฺโถ, ฉนฺทวิสฺสชฺชนมตฺเตน วา.
๑๑๖๘. ‘‘วุฏฺิตายา’’ติ เอเตน ‘‘อิทานิ กมฺมํ น กริสฺสามา’’ติ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา กาเยน อวุฏฺหิตฺวา นิสินฺนายปิ ปริสาย กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ฉนฺทํ อวิสฺสชฺเชตฺวา อวุฏฺิตายา’’ติ. ปาฬิยํ ปน ‘‘อนาปตฺติ อวุฏฺิตาย ปริสายา’’ติ สามฺโต วุตฺตตฺตา ¶ , อุโปสถกฺขนฺธเก จ ‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิกปาริสุทฺธิทาเนน อุโปสโถ กาตพฺโพ อฺตฺร อวุฏฺิตาย ปริสายา’’ติ (มหาว. ๑๘๓) วุตฺตตฺตา, ตทฏฺกถายมฺปิ ‘‘ปาริวาสิยปาริสุทฺธิทานํ นาม ปริสาย วุฏฺิตกาลโต ปฏฺาย น วฏฺฏติ, อวุฏฺิตาย ปน วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๘๓) วุตฺตตฺตา จ ‘‘กมฺมํ น กริสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา นิสินฺนายปิ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตีติ คเหตพฺพํ. เสสํ อุตฺตานเมว.
นิฏฺิโต กุมาริภูตวคฺโค อฏฺโม.
ขุทฺทกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๕. ปาฏิเทสนียกณฺฑํ
ปาฏิเทสนียสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๒๒๘. ปาฏิเทสนียาทีสุ ¶ ¶ ปาฬิวินิมุตฺตเกสูติ ปาฬิยํ อนาคเตสุ สปฺปิอาทีสุ.
สตฺตาธิกรณวฺหยาติ สตฺตาธิกรณสมถนามกา. ตํ อตฺถวินิจฺฉยํ ตาทิสํเยว ยสฺมา วิทู วทนฺตีติ อตฺโถ. ยถา นิฏฺิตาติ สมฺพนฺโธ. สพฺพาสวปหนฺติ สพฺพาสววิฆาตกํ อรหตฺตมคฺคํ. ปสฺสนฺตุ นิพฺพุตินฺติ มคฺคาเณน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรนฺตุ, ปปฺโปนฺตูติ วา ปาโ. ตตฺถ นิพฺพุตินฺติ ขนฺธปรินิพฺพานํ คเหตพฺพํ.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
ภิกฺขุนีวิภงฺควณฺณนานโย นิฏฺิโต.
อุภโตวิภงฺคฏฺกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
มหาวคฺควณฺณนา
๑. มหาขนฺธโก
โพธิกถาวณฺณนา
มหาวคฺเค ¶ ¶ อุภินฺนํ ปาติโมกฺขานนฺติ อุภินฺนํ ปาติโมกฺขวิภงฺคานํ. ยํ ขนฺธกํ สงฺคายึสูติ สมฺพนฺโธ. ขนฺธานํ สมูโห, ขนฺธานํ วา ปกาสนโต ขนฺธโก. ขนฺธาติ เจตฺถ ปพฺพชฺชาทิจาริตฺตวาริตฺตสิกฺขาปทปฺตฺติสมูโห อธิปฺเปโต. ปทภาชนีเย เยสํ ปทานํ อตฺถา เยหิ อฏฺกถานเยหิ ปกาสิตาติ โยชนา. อถ วา เย อตฺถาติ โยเชตพฺพํ. หิ-สทฺโท เจตฺถ ปทปูรเณ ทฏฺพฺโพ.
๑. วิเสสการณนฺติ ‘‘เยน สมเยน อายสฺมโต สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สิกฺขาปทปฺตฺติยาจนเหตุภูโต ¶ ปริวิตกฺโก อุทปาทิ, เตน สมเยนา’’ติอาทินา วุตฺตการณํ วิย วิเสสการณํ ภุมฺมวจนนิวตฺตนกการณนฺติ อตฺโถ. เอตสฺสาติ อภิสมฺโพธิโต ปฏฺาย สตฺถุ จริยาวิภาวนสฺส วินยปฺตฺติยํ กึ ปโยชนํ? ยทิ วิเสสการณํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. นิทานทสฺสนํ ปโยชนนฺติ โยชนา. นิทานนฺติเจตฺถ สิกฺขาปทปฺตฺติเหตุภูตํ วตฺถุปุคฺคลาทิการณํ อธิปฺเปตํ, น ปฺตฺติฏฺานเมว. เตนาห ‘‘ยา หี’’ติอาทิ.
อุรุเวลายนฺติ เอตฺถ อุรุ-สทฺโท มหนฺตวาจี. เวลา-สทฺโท ตีรปริยาโย. อุนฺนตตฺตาทินา เวลา วิย เวลา. อุรุ มหนฺตี เวลา อุรุเวลา, ตสฺสํ. เตนาห ‘‘มหาเวลาย’’นฺติอาทิ. มริยาทาติ สีลาทิคุณสีมา. ปตฺตปุเฏนาติ ตาลาทีนํ ปณฺณปุเฏน.
‘‘ปมาภิสมฺพุทฺโธ’’ติ อนุนาสิกโลเปนายํ นิทฺเทโสติ อาห ‘‘ปมํ อภิสมฺพุทฺโธ’’ติ. ปมนฺติ จ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส. ตสฺมา อภิสมฺพุทฺโธ ¶ หุตฺวา สพฺพปมํ โพธิรุกฺขมูเล วิหรตีติ โยชนา ทฏฺพฺพา.
ปาฬิยํ อถ โขติ เอตฺถ อถาติ เอตสฺมึ สมเยติ อตฺโถ อเนกตฺถตฺตา นิปาตานํ. สตฺตาหนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค เอตํ อุปโยควจนํ. อถ โขติ อธิการนฺตรทสฺสเน นิปาโต. เตน วิมุตฺติสุขปฏิสํเวทนํ ปหาย ปฏิจฺจสมุปฺปาทมนสิกาเร อธิกตภาวํ ทสฺเสติ. ปฏิจฺจาติ ปฏิมุขํ คนฺตฺวา, อฺมฺํ อเปกฺขิตฺวาติ อตฺโถ. เอเตน การณพหุตา ทสฺสิตา. สหิเตติ การิยพหุตา. อนุโลมนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส. สฺเววาติ โส เอว ปจฺจยากาโร. ปุริมนเยน วา วุตฺโตติ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทินา นเยน วุตฺโต ปจฺจยากาโร. ปวตฺติยาติ สํสารปฺปวตฺติยา.
ปาฬิยํ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา’’ติอาทีสุ ทุกฺขาทีสุ อฺาณํ อวิชฺชา. โลกิยกุสลากุสลเจตนา สงฺขารา. โลกิยวิปากเมว วิฺาณํ. โลกิยเวทนาทิกฺขนฺธตฺตยํ นามํ, ภูตุปาทายเภทํ รูปํ. ปสาทวิฺาณเภทํ สฬายตนํ. วิปากภูโต สพฺโพ ผสฺโส, เวทนา จ. ราโค ตณฺหา. พลวราโค, ติวิธา จ ทิฏฺิ อุปาทานํ. ภโว ปน ทุวิโธ กมฺมภโว, อุปปตฺติภโว จ. ตตฺถ กมฺมภโว สาสวกุสลากุสลเจตนาว, อุปปตฺติภโว อุปาทินฺนกกฺขนฺธา. เตสํ อุปปตฺติ ชาติ. ปาโก ชรา. เภโท มรณํ. เต เอว นิสฺสาย โสจนํ โสโก. กนฺทนํ ปริเทโว. ทุกฺขํ กายิกํ. โทมนสฺสํ เจตสิกํ. อติวิย โสโก อุปายาโส.
ปจฺเจกฺจ ¶ สมฺภวติ-สทฺโท โยเชตพฺโพ. เตนาห ‘‘อิมินา นเยนา’’ติอาทิ. ‘‘ทุกฺขราสิสฺสา’’ติ อิมินา น สตฺตสฺส. นาปิ สุภสุขาทีนนฺติ ทสฺเสติ.
หเวติ พฺยตฺตนฺติ อิมสฺมึ อตฺเถ นิปาโต. ‘‘อนุโลมปจฺจยาการปฏิเวธสาธกา โพธิปกฺขิยธมฺมา’’ติ อิทํ ปมวาเร กิฺจาปิ ‘‘อวิชฺชายตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา’’ติอาทินา ปฏิโลมปจฺจยากาโรปิ อาคโต, ตถาปิ ‘‘ยโต ปชานาติ สเหตุธมฺม’’นฺติ อนุโลมปจฺจยาการปฏิเวธสฺเสว การณตฺเตน วุตฺตนฺติ. ยถา เจตฺถ, เอวํ ทุติยวาเรปิ ‘‘ยโต ขยํ ปจฺจยานํ อเวที’’ติ คาถาย วุตฺตตฺตา ‘‘ปจฺจยานํ ขยสงฺขาต’’นฺติอาทิ ¶ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. โน กลฺโล ปฺโหติ อยุตฺโต น พฺยากาตพฺโพ, อวิชฺชมานํ อตฺตานํ สิทฺธํ กตฺวา ‘‘โก ผุสตี’’ติ ตสฺส กิริยาย ปุฏฺตฺตา ‘‘โก วฺฌาปุตฺโต ผุสตี’’ติอาทิ วิยาติ อธิปฺปาโย. โสฬส กงฺขาติ ‘‘อโหสึ นุ โข อหมตีตมทฺธานํ, นนุ โข อโหสึ, กึ นุ โข อโหสึ, กถํ นุ โข อโหสึ, กึ หุตฺวา กึ อโหสึ นุ โข อหมตีตมทฺธานํ, ภวิสฺสามิ นุ โข อหํ อนาคตมทฺธานํ, นนุ โข ภวิสฺสามิ, กึ นุ โข ภวิสฺสามิ, กถํ นุ โข ภวิสฺสามิ, กึ หุตฺวา กึ ภวิสฺสามิ นุ โข อหํ อนาคตมทฺธานํ, อหํ นุ โขสฺมิ, โน นุ โขสฺมิ, กึ นุ โขสฺมิ, กถํ นุ โขสฺมิ, อยํ นุ โข สตฺโต กุโต อาคโต, โส กุหึ คามี ภวิสฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐) เอวํ อาคตา อตีเต ปฺจ, อนาคเต ปฺจ, ปจฺจุปฺปนฺเน ฉาติ โสฬสวิธา กงฺขา.
ตตฺถ กึ นุ โขติ มนุสฺสเทวาทีสุ, ขตฺติยาทีสุ วา อฺตรํ นิสฺสาย กงฺขติ. กถํ นุ โขติ ปน สณฺานาการาทีสุ อิสฺสราทิชนกํ, การณํ วา นิสฺสาย. กึ หุตฺวา กึ อโหสินฺติ จ มนุสฺสาทีสุ ปมํ กึ หุตฺวา ปจฺฉา กึ อโหสินฺติ กงฺขติ. อหํ นุ โขสฺมีติอาทิ อิทานิ อตฺตโน วิชฺชมานาวิชฺชมานตํ, สรูปปการาทิกฺจ กงฺขติ. วปยนฺตีติ วิอปยนฺติ พฺยปคจฺฉนฺติ. เตนาห ‘‘อปคจฺฉนฺติ นิรุชฺฌนฺตี’’ติ.
๓. ตสฺส วเสนาติ ตสฺส ปจฺจยาการปชานนสฺส, ปจฺจยกฺขยาธิคมสฺส จ วเสน. เอเกกเมว โกฏฺาสนฺติ อนุโลมปฏิโลมโต เอเกกเมว โกฏฺาสํ. ปาฏิปทรตฺติยา เอวํ มนสากาสีติ รตฺติยา ตีสุปิ ยาเมสุ เอวํ อิธ ขนฺธกปาฬิยา อาคตนเยน อนุโลมปฏิโลมํเยว มนสากาสิ.
อชปาลกถาวณฺณนา
๔. ตสฺส ¶ สตฺตาหสฺส อจฺจเยนาติ ปลฺลงฺกสตฺตาหสฺส อปคมเนน. ตมฺหา สมาธิมฺหาติ อรหตฺตผลสมาปตฺติสมาธิมฺหา. อนฺตรนฺตรา เอว หิ ปจฺจยาการมนสิกาโร. อวเสสกาลํ ปน สพฺพํ ภควา ผลสมาปตฺติยาปิ วีตินาเมสิ. ตํ สนฺธาย ‘‘ตมฺหา สมาธิมฺหา’’ติ วุตฺตํ. รตนจงฺกเมติ ¶ ภควโต จิรํ ิตสฺส จงฺกมนาธิปฺปายํ ตฺวา เทวตาหิ มาปิเต รตนจงฺกเม. รตนฆรนฺติ ภควโต นิสีทนาธิปฺปายํ ตฺวา เทวตาหิ มาปิตํ รตนมยํ เคหํ.
ตตฺราปีติ น เกวลํ รตนฆเรเยว. ตตฺราปิ อชปาลนิคฺโรธมูเลปิ อภิธมฺมํ วิจินนฺโต เอว อนฺตรนฺตรา วิมุตฺติสุขํ ปฏิสํเวเทนฺโตติ อตฺโถ. ตตฺถาปิ หิ อนนฺตนยสมนฺตปฏฺานํ สมฺมสโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปีติสมุฏฺิตา ฉพฺพณฺณา พุทฺธรสฺมิโย รตนฆเร วิย นิจฺฉรึสุ เอว. ‘‘หุํหุ’’นฺติ กโรนฺโตติ ‘‘สพฺเพ หีนชาติกา มํ มา อุปคจฺฉนฺตู’’ติ มานวเสน, สมีปํ อุปคเตสุ โกธวเสน จ ‘‘อเปถา’’ติ อธิปฺปายนิจฺฉาริตํ หุํหุํการํ กโรนฺโต.
พฺรหฺมฺนฺติ พฺราหฺมณตฺตํ. อนฺตนฺติ นิพฺพานํ. เทวานํ วา อนฺตนฺติ มคฺคาณานํ วา อนฺตภูตํ อรหตฺตผลํ.
มุจลินฺทกถาวณฺณนา
๕. มุจลินฺทมูเลติ เอตฺถ จ มุจลินฺโท วุจฺจติ นีปรุกฺโข, โย ‘‘นิจุโล’’ติปิ วุจฺจติ. อุปฺปนฺนเมโฆติ สกลจกฺกวาฬคพฺภํ ปูเรตฺวา อุปฺปนฺโน มหาเมโฆ. วทฺทลิกาติ วุฏฺิยา เอว อิตฺถิลิงฺควเสน นามํ. ยา จ สตฺตาหํ ปวตฺตตฺตา สตฺตาหวทฺทลิกาติ วุตฺตาติ อาห ‘‘สตฺตาหํ อวิจฺฉินฺนวุฏฺิกา อโหสี’’ติ. สีตวาเตน ทูสิตํ ทินเมติสฺสา วทฺทลิกายาติ สีตวาตทุทฺทินีติ อาห ‘‘อุทกผุสิตสมฺมิสฺเสนา’’ติอาทิ. อุพฺพิทฺธตา นาม ทูรภาเวน อุปฏฺานนฺติ อาห ‘‘เมฆวิคเมน ทูรีภูต’’นฺติ. อินฺทนีลมณิ วิย ทิพฺพติ โชเตตีติ เทโว, อากาโส.
เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ วิเวกสฺส สุขภาวํ วิทิตฺวา. สพฺพโส อสนฺตุฏฺิสมุจฺเฉทกตฺตา มคฺคาณานํ ‘‘จตุมคฺคาณสนฺโตเสนา’’ติ วุตฺตํ. อกุปฺปนภาโวติ อกุชฺฌนสภาโว.
ราชายตนกถาวณฺณนา
๖. ปจฺจคฺเฆติ ¶ อภินเว. อยเมว อตฺโถ ปสตฺโถ, น ปุริโม. น หิ พุทฺธา มหคฺฆํ ปตฺตํ ปริภฺุชนฺติ.
พฺรหฺมยาจนกถาวณฺณนา
๗. อาลียนฺติ ¶ เสวียนฺตีติ อาลยา. ปฺจ กามคุณาติ อาห ‘‘สตฺตา…เป… วุจฺจนฺตี’’ติ. สุฏฺุ มุทิตาติ อติวิย ปมุทิตา. านํ สนฺธายาติ าน-สทฺทํ อเปกฺขิตฺวา. อิเมสนฺติ สงฺขาราทีนํ ผลานํ. ปาฬิยํ สพฺพสงฺขารสมโถติอาทีนิ นิพฺพานเววจนานิ. อปิสฺสูติ สมฺปิณฺฑนตฺเถ นิปาโต. น เกวลํ เอตทโหสิ, อิมาปิ คาถา ปฏิภํสูติ อตฺโถ.
กิจฺเฉน เม อธิคตนฺติ ปารมิปูรณํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ทุกฺขาปฏิปทํ. พุทฺธานฺหิ จตฺตาโร มคฺคา สุขาปฏิปทาว โหนฺติ. ห-อิติ พฺยตฺตํ, เอกํสนฺติ ทฺวีสุ อตฺเถสุ นิปาโต, พฺยตฺตํ, เอกํเสน วา อลนฺติ วิโยเชนฺติ. หลนฺติ วา เอโก นิปาโต.
๘. ปาฬิยํ สหมฺปติสฺสาติ โส กิร กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน สหโก นาม เถโร ปมชฺฌานภูมิยํ พฺรหฺมปติ หุตฺวา นิพฺพตฺโต, เตน นํ ‘‘สหมฺปตี’’ติ สฺชานึสุ. อสฺสวนตาติ อสฺสวนตาย, อสฺสวเนนาติ อตฺโถ. สวนเมว หิ สวนตา ยถา เทวตาติ.
ธมฺโม อสุทฺโธติ มิจฺฉาทิฏฺิธมฺโม. สมเลหีติ ปูรณกสฺสปาทีหิ ฉหิ สตฺถาเรหิ. อปาปุราติ เทสนาหตฺเถน วิวร. ทฺวารนฺติ อริยมคฺคํ สนฺธาย วทติ.
เสเลติ ฆนสิลามเย. ตถูปมนฺติ เอตฺถ ตถา-สทฺโท ตํ-สทฺทตฺเถ ทฏฺพฺโพ. เตน โส เสลปพฺพโต อุปมา ยสฺส. ตํ ตถูปมนฺติ อตฺโถ. เตน วา ปพฺพตาทินา ปกาเรน อุปมา อสฺสาติปิ อตฺโถ. ธมฺมมยนฺติ โลกุตฺตรธมฺมภูตํ. อุฏฺาหีติ ธมฺมเทสนตฺถาย จาริกจรณตฺถํ อิมมฺหา อาสนา กาเยน, อปฺโปสฺสุกฺกภาวโต วา จิตฺเตน อุฏฺเหิ, อยเมว วา ปาโ. เตเนว ‘‘วิจร, เทสสฺสู’’ติ ทุวิเธปิ กายจิตฺตปโยเค นิโยเชสิ. วีราติอาทิ จตฺตาริ ถุติวเสน สมฺโพธนานิ.
๙. พุทฺธจกฺขุนาติ ¶ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาเณน, อาสยานุสยาเณน จ. อิเมสฺหิ ทฺวินฺนํ ‘‘พุทฺธจกฺขู’’ติ นามํ. สฺวาการาติ สทฺธินฺทฺริยาทโยว อาการา ¶ สุนฺทรา เยสํ, เต สฺวาการา, สุวิฺาปยา, ปรโลกฺจ วชฺชฺจ ภยโต ทสฺสนสีลา จาติ ทฏฺพฺพํ. อุปฺปลานิ เอตฺถ สนฺตีติ อุปฺปลินีติ คจฺฉลตาปิ โปกฺขรณีปิ วุจฺจติ. อิธ ปน โปกฺขรณี. เอวมิตเรสุปิ. อุทกานุคฺคตานีติ อุทกโต อนุคฺคตานิ. อนฺโต นิมุคฺคาเนว หุตฺวา ปุสนฺติ วฑฺฒนฺติ, ตานิ อนฺโตนิมุคฺคโปสีนิ. อจฺจุคฺคมฺมาติ อุทกํ อติกฺกมนวเสน อุคฺคนฺตฺวา.
อปารุตาติ วิวฏา. เตสนฺติ สอุปนิสฺสยานํ สตฺตานํ. ทฺวาราติ อริยมคฺคทฺวารานิ. อิทฺจ อตฺตโน สยมฺภุาเณน สอุปนิสฺสยานํ เตสํ มคฺคุปฺปตฺติทิฏฺตํ สนฺธาย วทติ. วิหึสสฺีติอาทีสุ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ – ‘‘อหฺหิ อตฺตโน ปคุณํ สุปฺปวตฺติตมฺปิ อิมํ ปณีตํ ธมฺมํ อชานนฺเตสุ มนุเชสุ เทสนาย วิหึสา กายวาจากิลมโถ โหตี’’ติ เอวํ วิหึสสฺี หุตฺวา น ภาสึ ภาสิตุํ น อิจฺฉึ. อิทานิ ปน เหตุสมฺปนฺนา อตฺตโน สทฺธาภาชนํ วิวรนฺตุ, ปูเรสฺสามิ เนสํ สงฺกปฺปนฺติ.
ปฺจวคฺคิยกถาวณฺณนา
๑๐. อาฬาโรติ นามํ. กาลาโมติ โคตฺตํ. ภควโตปิ โข าณํ อุทปาทีติ กึ อิทาเนว อุทปาทิ, นนุ โพธิมูเล เตกาลิกา, กาลวินิมุตฺตา จ สพฺเพ ธมฺมา สพฺพาการโต ทิฏฺาติ? สจฺจํ ทิฏฺา, ตถาปิ นามาทิวเสน อวิกปฺปิตา เอกจิตฺตกฺขณิกตฺตา สพฺพฺุตฺาณสฺส. น หิ เอเกน จิตฺเตน สพฺพธมฺมานํ นามชาติอาทิกํ ปจฺเจกํ อนนฺตํ วิภาคํ วิกปฺเปตุํ สกฺกา วิกปฺปานํ วิรุทฺธานํ สหานุปฺปตฺติโต, สพฺพวิกปฺปารหธมฺมทสฺสนเมว ปนาเนน สกฺกา กาตุํ. ยถา ทิฏฺเสุ ปน ยถิจฺฉิตาการํ อารพฺภ วิกปฺโป อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาเณน ทิฏฺเ จิตฺตปเฏ วิย. อิธาปิ อาฬารํ นิสฺสาย อาวชฺชนานนฺตรเมว สพฺพาการาณํ อุทปาทิ. น เกวลฺจ ตํ, อถ โข ปฺจวคฺคิยา เอว ปมํ ธมฺมํ ชานิสฺสนฺติ, ตปฺปมุขา จ เทวตา, อาฬาโร กาลํ กตฺวา อากิฺจฺายตเน, อุทโก จ เนวสฺานาสฺายตเน นิพฺพตฺโตติ เอวมาทิกํ สพฺพมฺปิ นิสฺสาย าณํ อุปฺปชฺชติ เอว. ตํ ปน ขณสมฺปตฺติยา ทุลฺลภภาวํ ทสฺเสตุํ กเมน โอโลเกตฺวา เทวตาย วุตฺเต าณํ วิย กตฺวา ¶ วุตฺตํ. สทฺทคติยา หิ พนฺธตฺตา เอเกน าเณน าตมฺปิ วุจฺจมานํ กเมน าตํ วิย ปฏิภาติ, เทวตาปิ จ ภควตา าตเมวตฺถํ อาโรเจสิ. เตเนว ‘‘ภควโตปิ โข าณํ อุทปาที’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอวมฺตฺถาปิ อีทิเสสุ ‘‘โลกํ โวโลเกนฺโต อสุกํ อทฺทส, ตตฺถ ¶ มยิ คเต กึ ภวิสฺสตี’’ติ เอวมาทินา สตฺถุ หิเตสิตาสนฺทสฺสนวสปฺปวตฺเตสุ. สพฺพตฺถ วจนคติยํ กมวุตฺติเต ปฺายมาเนปิ เอเกเนว าเณน สกลาวโพโธ เวทิตพฺโพ. พหุการา โข เม ปฺจวคฺคิยาติ อุปการสฺสาปิ วิชฺชมานตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ปน ธมฺมเทสนาย การณตฺเตน อนุปการานมฺปิ เทสนโต.
๑๑. อนฺตรา จ คยํ อนฺตรา จ โพธินฺติ คยาย, โพธิสฺส จ อนฺตเร ติคาวุเต าเน.
สพฺพาภิภูติ สพฺพํ เตภูมกธมฺมํ อภิภวิตฺวา ิโต. อนูปลิตฺโตติ กิเลสเลเปน อลิตฺโต. ตโต เอว สพฺพฺชโห. ตณฺหกฺขเย วิมุตฺโตติ ตณฺหกฺขเย นิพฺพาเน อารมฺมณกรณวสเอน วิมุตฺโต. เอวํ สยํ สพฺพธมฺเม อตฺตนาว ชานิตฺวา. กมุทฺทิเสยฺยนฺติ กํ อฺํ ‘‘อยํ เม อาจริโย’’ติ อุทฺทิเสยฺยํ.
กาสินํ ปุรนฺติ พาราณสึ. อาหฺฉนฺติ อาหนิสฺสามิ. อมตาธิคมาย อุคฺโฆสนโต อมตทุนฺทุภินฺติ สตฺถุ ธมฺมเทสนา วุตฺตา, ‘‘อมตเภรึ ปหริสฺสามี’’ติ คจฺฉามีติ อตฺโถ.
อรหสิ อนนฺตชิโนติ อนนฺตชิโนปิ ภวิตุํ ยุตฺโตติ อตฺโถ. อนนฺตาณตาย อนนฺโต ชิโน จ, อนนฺเตน วา าเณน, อนนฺตํ วา โทสํ ชิตวา, อุปฺปาทวยนฺตรหิตตาย วา อนนฺตํ นิพฺพานํ อชินิ กิเลสารโย มทฺทิตฺวา คณฺหีติปิ อนนฺตชิโน.
หุเปยฺยาปีติ เอวมฺปิ ภเวยฺย, เอวํวิเธ รูปกายรตเน อีทิเสน าเณน ภวิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. เอวํ นาม กถนฺหิสฺส อุปนิสฺสยสมฺปนฺนสฺส อปรกาเล ทุกฺขปฺปตฺตสฺส ภควนฺตํ อุปคมฺม ปพฺพชิตฺวา มคฺคผลปฏิเวธาย ปจฺจโย ชาโต. ตถาเหส ภควา เตน สมาคมตฺถํ ปทสาว มคฺคํ ปฏิปชฺชิ.
๑๒. พาหุลฺลิโกติ ¶ ปจฺจยพาหุลฺลิโก. ปธานวิพฺภนฺโตติ ปธานโต ทุกฺกรจรณโต ปริหีโน. นตฺถิ เอตฺถ อคาริยํ, อคารสฺส หิตํ กสิโครกฺขาทิกมฺมนฺติ อนคาริยา, ปพฺพชฺชา, ตํ อนคาริยํ. ปพฺพชนฺตีติ อุปคจฺฉนฺติ. ตทนุตฺตรนฺติ ตํ อนุตฺตรํ. พฺรหฺมจริยปริโยสานนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส ปริโยสานํ, อรหตฺตผลนฺติ อตฺโถ. ตสฺส หิ อตฺถาย กุลปุตฺตา ปพฺพชนฺติ. ทิฏฺเว ธมฺเมติ อิมสฺมึ ปจฺจกฺเข อตฺตภาเว. สยนฺติ อปรปฺปจฺจยา ¶ . อภิฺา สจฺฉิกตฺวาติ อตฺตโนว าเณน ปจฺจกฺขํ กตฺวา. อุปสมฺปชฺชาติ ปาปุณิตฺวา.
อิริยายาติ ทุกฺกรอิริยาย. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาติอาทีสุ มนุสฺสธมฺมโต โลกิยาณโต อุปริ อริยํ กาตุํ อลํ สมตฺโถ อลมริโย. าณทสฺสนวิเสโสติ สพฺพฺุตฺาณสฺส ปุพฺพภาคํ อธิปฺเปตํ. โนติ นุ. ภาสิตเมตนฺติ เอวรูปเมตํ วากฺยเภทนฺติ อตฺโถ. เต จ ‘‘ยทิ เอส ปธานกาเล ‘อหํ อรหา’ติ วเทยฺย, มยฺจ สทฺทหาม, น จาเนน ตทา วุตฺตํ. อิทานิ ปน วิชฺชมานเมว คุณํ วทตี’’ติ เอกปเทน สตึ ลภิตฺวา ‘‘พุทฺโธ ชาโต’’ติ อุปฺปนฺนคารวา อาวุโสวาทํ ปหาย ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’ติ อาหํสุ. อฺา จิตฺตนฺติ อฺาย อรหตฺตปฺปตฺติยา จิตฺตํ.
๑๓. อนฺตาติ โกฏฺาสา ทฺเว ภาคา. กาเมสุ กามสุขลฺลิกานุโยโคติ วตฺถุกาเมสุ กิเลสกามสุขสฺส อนุภโว. กิเลสกามา เอว วา อามิสสุเขน อลฺลียนโต กามสุขลฺลิกาติ วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา. คมฺโมติ คามวาสีนํ สนฺตโก. อตฺตกิลมถานุโยโคติ อตฺตโน กิลมถสฺส กณฺฏกเสยฺยาทิทุกฺขสฺส อนุโยโค. อุโภ อนฺเตติ ยถาวุตฺเต โลโภ วา สสฺสโต วา เอโก อนฺโต, โทโส วา อุจฺเฉโท วา เอโกติ เวทิตพฺโพ.
จกฺขุกรณีติอาทีสุ อตฺตนา สมฺปยุตฺตาณจกฺขุํ กโรตีติ จกฺขุกรณี. ทุติยํ ตสฺเสว เววจนํ. อุปสโมติ กิเลสุปสโม. อภิฺา, สมฺโพโธ จ จตุสจฺจปฏิเวโธว. นิพฺพานํ อสงฺขตธาตุ. เอเตสมฺปิ อตฺถาย สํวตฺตตีติ ปฏิปทํ โถเมติ. สมฺมาทิฏฺีติ าณํ. สมฺมาสงฺกปฺโปติ วิตกฺโก. เสสํ ธมฺมโต สุวิฺเยฺยเมว.
๑๔. เอวํ ¶ จตฺตาโรปิ มคฺเค เอกโต ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตหิ มคฺเคหิ ปฏิวิชฺฌิตพฺพานิ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ ทสฺเสตุํ ‘‘อิทํ โข ปน, ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. ชาติปิ ทุกฺขาติอาทีสุ ตตฺถ ตตฺถ ภเว นิพฺพตฺตมานานํ สตฺตานํ สพฺพปมํ รูปารูปธมฺมปฺปวตฺติ อิธ ชาติ นาม, สา จ ตตฺถ ตตฺถ ภเวสุ อุปลพฺภมานานํ ทุกฺขาทีนํ วตฺถุภาวโต ทุกฺขา, เอวํ ชราทีสุ ทุกฺขวตฺถุกตาย ทุกฺขตา เวทิตพฺพา. ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ปน ทุกฺขทุกฺขวิปริณามทุกฺขสงฺขารทุกฺขวเสน ทุกฺขา เอว. โปโนภวิกาติ ปุนพฺภวกรณํ ปุนพฺภโว อุตฺตรปทโลเปน, ปุนพฺภโว สีลเมติสฺสาติ โปโนภวิกา. นนฺทิราคสหคตาติ เอตฺถ รูปาทีสุ นนฺทติ ปิยายตีติ นนฺที, สา เอว ราโคติ นนฺทิราโคติ ภาวปฺปธาโนยํ นิทฺเทโส, นนฺทิราคตฺตนฺติ ¶ อตฺโถ. เตน สหคตานิ นนฺทิราคสหคตา. ตตฺร ตตฺราติ ตสฺมึ ตสฺมึ ภเว. รูปาทีสุ ฉสุ อารมฺมเณสุ กามสฺสาทนวเสน ปวตฺตา กามตณฺหา นาม. สสฺสตทิฏฺิยา สห ปวตฺตา ภวตณฺหา. อุจฺเฉททิฏฺิยา สห ปวตฺตา วิภวตณฺหา. อเสสวิราคนิโรโธติอาทินา นิพฺพานเมว วุจฺจติ. ตตฺถ วิรชฺชนํ วิคมนํ วิราโค. นิรุชฺฌนํ นิโรโธ. อุภเยนาปิ สุฏฺุ วิคโมว วุจฺจติ. อเสสายปิ ตณฺหาย วิราโค, นิโรโธ จ เยน โหติ, โส อเสสวิราคนิโรโธ, นิพฺพานเมว. ยสฺมา จ ตํ อาคมฺม ตณฺหํ, วฏฺฏฺจ จชนฺติ ปฏินิสฺสชฺชนฺติ วิมุจฺจนฺติ น อลฺลียนฺติ, ตสฺมา จาโค ปฏินิสฺสคฺโค มุตฺติ อนาลโยติ วุจฺจติ.
๑๕. จกฺขุนฺติอาทีนิ าณเววจนาเนว.
๑๖. ยาวกีวฺจาติ ยตฺตกํ กาลํ. ติปริวฏฺฏนฺติ สจฺจาณ, กิจฺจาณ, กตาณสงฺขาตานํ ติณฺณํ ปริวฏฺฏานํ วเสน ติปริวฏฺฏํ าณทสฺสนํ. เอตฺถ จ ‘‘อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ, อิทํ ทุกฺขสมุทย’’นฺติ เอวํ จตูสุ สจฺเจสุ ยถาภูตาณํ สจฺจาณํ นาม. เตสุ เอว ‘‘ปริฺเยฺยํ ปหาตพฺพํ สจฺฉิกาตพฺพํ ภาเวตพฺพ’’นฺติ เอวํ กตฺตพฺพกิจฺจชานนาณํ กิจฺจาณํ นาม. ‘‘ปริฺาตํ ปหีนํ สจฺฉิกตํ ภาวิต’’นฺติ ตสฺส กิจฺจสฺส กตภาวชานนาณํ กตาณํ นาม. ทฺวาทสาการนฺติ เตสเมว เอเกกสฺมึ สจฺเจ ติณฺณํ ติณฺณํ อาการานํ วเสน ทฺวาทสาการํ.
อภิสมฺพุทฺโธติ ปจฺจฺาสินฺติ อภิสมฺพุทฺโธ อรหตฺตํ ปตฺโตติ เอวํ น ปฏิชานึ. ยโต จ โขติ ยโต โพธิมูเล นิสินฺนกาลโต ปฏฺาย ¶ . อถาหนฺติ ตโต ปรํ อหํ. าณฺจ ปน เมติ ปจฺจเวกฺขณาณํ สนฺธาย วทติ. อกุปฺปา เมติอาทิ ตสฺส ปวตฺติอาการทสฺสนํ. ตตฺถ อกุปฺปา เม วิมุตฺตีติ อรหตฺตผลํ ตสฺส มคฺคสงฺขาตการณโต จ อารมฺมณโต จ อกุปฺปตา เวทิตพฺพา.
อิมสฺมึ ปน เวยฺยากรณสฺมินฺติ นิคฺคาถสุตฺเต. ภฺมาเนติ ภณิยมาเน. ธมฺมจกฺขุนฺติ อิธ จตุสจฺจธมฺเมสุ จกฺขุกิจฺจกรณโต โสตาปตฺติมคฺโค อธิปฺเปโต. ยํ กิฺจีติอาทิ นิพฺพานารมฺมณตฺเตปิ กิจฺจวเสน อสมฺโมหโต ปวตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.
๑๗. ธมฺมจกฺกนฺติ ปฏิเวธาณธมฺมฺเจว เทสนาาณธมฺมฺจ ปวตฺตนฏฺเน จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกํ ¶ . โอภาโสติ สพฺพฺุตฺาณานุภาเวน ปวตฺโต จิตฺตปจฺจยอุตุสมุฏฺาโน ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ผริตฺวา ิโต โอภาโส.
๑๘. ทิฏฺโ อริยสจฺจธมฺโม เอเตนาติ ทิฏฺธมฺโม. เอส นโย เสเสสุปิ. อตฺตโน ปจฺจกฺขโต อธิคตตฺตา น ปรํ ปจฺเจติ, ปรสฺส สทฺธาย เอตฺถ น ปวตฺตตีติ อปรปฺปจฺจโย. เอหิ ภิกฺขูติ เอตฺตเก วุตฺตมตฺเต ปพฺพชฺชา, อุปสมฺปทา จ สิชฺฌติ, เตเนว ตตฺถ อิติ-สทฺเทน ปริจฺเฉโท ทสฺสิโตติ วทนฺติ. เกจิ ปน ‘‘สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายาติ วจนปริโยสาเน เอว อุปสมฺปทา สิชฺฌติ, อฏฺกถายํ ปน ‘เอหิ ภิกฺขูติ ภควโต วจเนนา’ติ อิทํ เอหิภิกฺขุสทฺโทปลกฺขิตวจนํ เอหิภิกฺขุวจนนฺติอาทิปทวเสน วุตฺตํ มุสาวาทวคฺโคติอาทีสุ วิยา’’ติ วทนฺติ, ตเทตํ ปมปาราชิกฏฺกถายํ ‘‘ภควา หิ…เป… เอหิ ภิกฺขุ, จร พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๔๕ ภิกฺขูปทภาชนียวณฺณนา) อิมินา วจเนน สเมติ. ยตฺตกฺหิ ภควตา นิยเมน วุจฺจติ, ตตฺตกํ สพฺพมฺปิ องฺคเมว. เสกฺขปุถุชฺชนานฺหิ เอตํ ปริปุณฺณํ วุจฺจติ, อเสกฺขานํ ปน ‘‘จร พฺรหฺมจริย’’นฺติ ปริโยสานนฺติ ทฏฺพฺพํ สิกฺขตฺตยสมิทฺธิโต. โลกิยสมฺปทาหิ อุปริภูตา เสฏฺภูตา สมฺปทาติ อุปสมฺปทา.
๑๙-๒๑. นีหารภตฺโตติ ภิกฺขูหิ คามโต นีหริตฺวา ทินฺนภตฺโต. กลฺลํ นูติ ยุตฺตํ นุ. เอตํ มมาติอาทิ ยถากฺกมํ ตณฺหามานทิฏฺิคาหานํ ทสฺสนํ.
๒๒-๒๓. ตสฺมา ¶ ติหาติ เอตฺถ ติหาติ นิปาตมตฺตํ, ตสฺมาติ อตฺโถ. นิพฺพินฺทตีติ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาวเสน อุกฺกณฺติ. วิรชฺชตีติ จตุนฺนํ มคฺคานํ วเสน น รชฺชติ. วิมุจฺจตีติ ผลวเสน วิมุจฺจติ. วิมุตฺตสฺมินฺติอาทิ ปจฺจเวกฺขณาณทสฺสนํ. พฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ. กรณียํ จตูสุ สจฺเจสุ จตูหิ มคฺเคหิ ปจฺเจกํ กตฺตพฺพํ ปริฺาทิวเสน โสฬสวิธํ กิจฺจํ. นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ อิตฺถภาวาย โสฬสกิจฺจภาวาย, กิเลสกฺขยาย วา อปรํ ปุน มคฺคภาวนากิจฺจํ เม นตฺถีติ ปชานาติ. อถ วา อิตฺถตฺตายาติ อิตฺถภาวโต วตฺตมานกฺขนฺธสนฺตานโต อปรํ ขนฺธสนฺตานํ มยฺหํ น ภวิสฺสตีติ อตฺโถ.
ปพฺพชฺชากถาวณฺณนา
๑๕. อาฬมฺพรนฺติ ปณวํ. วิเกสิกนฺติ วิปฺปกิณฺณเกสํ. วิกฺเขฬิกนฺติ วิสฺสนฺทมานลาลํ ¶ . สุสานํ มฺเติ สุสานํ วิย อทฺทส สกํ ปริชนนฺติ สมฺพนฺโธ. อุทานํ อุทาเนสีติ สํเวควสปฺปวตฺตํ วจนํ นิจฺฉาเรสิ. อุปสฺสฏฺนฺติ ทุกฺเขน สมฺมิสฺสํ, ทุกฺโขติณฺณํ สพฺพสตฺตกายชาตนฺติ อตฺโถ.
๒๖. อิทํ โข ยสาติ ภควา นิพฺพานํ สนฺธายาห. อนุปุพฺพึ กถนฺติ อนุปฏิปาฏิกถํ. อาทีนวนฺติ โทสํ. โอการนฺติ นิหีนตา นิหีนชนเสวิตตฺตา. สํกิเลสนฺติ เตหิ สตฺตานํ สํกิเลสนํ, สํกิเลสวิสยนฺติ วา อตฺโถ. กลฺลจิตฺตนฺติ อโรคจิตฺตํ. สามํ อตฺตนาว อุกฺกํโส อุกฺขิปนํ เอติสฺสนฺติ สามุกฺกํสิกา, สจฺจเทสนา. ตสฺสา สรูปทสฺสนํ ‘‘ทุกฺข’’นฺติอาทิ.
๒๗. อสฺสทูเตติ อสฺสอารุฬฺเห ทูเต. อิทฺธาภิสงฺขารนฺติ อิทฺธิกิริยํ. อภิสงฺขเรสิ อกาสิ.
๒๘. ยถาทิฏฺนฺติ ปมมคฺเคน ทิฏฺํ จตุสฺสจฺจภูมึ เสสมคฺคตฺตเยน ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส, ปสฺสนฺตสฺสาติ อตฺโถ. มาตุ โน ชีวิตนฺติ เอตฺถ โนติ นิปาตมตฺตํ, มาตุ ชีวิตนฺติ อตฺโถ. ยสสฺส ขีณาสวตฺตา ‘‘เอหิ ภิกฺขุ, สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จร พฺรหฺมจริย’’นฺติ เอตฺตเกเนว ภควา อุปสมฺปทํ อทาสิ. ขีณาสวานฺหิ เอตฺตเกเนว อุปสมฺปทา อนฺุาตา ปุพฺเพว ทุกฺขสฺส ปริกฺขีณตฺตา. จร พฺรหฺมจริยนฺติ สาสนพฺรหฺมจริยสงฺขาตํ สิกฺขาปทปูรณํ สนฺธาย วุตฺตํ, น มคฺคพฺรหฺมจริยํ.
๓๐. เสฏฺานุเสฏฺีนนฺติ ¶ เสฏฺิโน จ อนุเสฏฺิโน จ ปเวณีวเสน อาคตา เยสํ กุลานํ สนฺติ, เตสํ เสฏฺานุเสฏฺีนํ กุลานํ. โอรโกติ ลามโก.
๓๒-๓๓. มา เอเกน ทฺเวติ เอเกน มคฺเคน ทฺเว ภิกฺขู มา อคมิตฺถ. วิสุทฺเธ สตฺเต, คุเณ วา มาเรตีติ มาโร. ปาเป นิยุตฺโต ปาปิมา.
สพฺพปาเสหีติ สพฺพกิเลสปาเสหิ. เย ทิพฺพา เย จ มานุสาติ เย ทิพฺพกามคุณนิสฺสิตา, มานุสกกามคุณนิสฺสิตา จ กิเลสปาสา นาม อตฺถิ, สพฺเพหิ เตหิ. ‘‘ตฺวํ พุทฺโธ’’ติ เทวมนุสฺเสหิ กริยมานสกฺการสมฺปฏิจฺฉนํ สนฺธาย วทติ.
อนฺตลิกฺเข ¶ จรนฺเต ปฺจาภิฺเปิ พนฺธตีติ อนฺตลิกฺขจโร, ราคปาโส. มาโร ปน ปาสมฺปิ อนฺตลิกฺขจรํ มฺติ. มานโสติ มโนสมฺปยุตฺโต.
ชานาติ มนฺติ โส กิร ‘‘มหานุภาโว อฺโ เทวปุตฺโต นิวาเรตีติ ภีโต นิวตฺติสฺสติ นุ โข’’ติสฺาย วตฺวา ‘‘นิหโต ตฺวมสิ อนฺตกา’’ติ วุตฺเต ‘‘ชานาติ ม’’นฺติ ทุมฺมโน ปลายิ.
๓๔. ปริวิตกฺโก อุทปาทีติ ยสฺมา เอหิภิกฺขุภาวาย อุปนิสฺสยรหิตานมฺปิ ปพฺพชิตุกามตา อุปฺปชฺชิสฺสติ, พุทฺธา จ เต น ปพฺพาเชนฺติ, ตสฺมา เตสมฺปิ ปพฺพชฺชาวิธึ ทสฺเสนฺโต เอวํ ปริวิตกฺเกสีติ ทฏฺพฺพํ. อุปนิสฺสยสมฺปนฺนา ปน ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอหิภิกฺขุภาเวเนว ปพฺพชนฺติ. เย ปฏิกฺขิตฺตปุคฺคลาติ สมฺพนฺโธ. สยํ ปพฺพาเชตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา’’ติอาทิวจนโต เกสจฺเฉทนกาสายจฺฉาทนสรณทานานิ ปพฺพชฺชา นาม, เตสุ ปจฺฉิมทฺวยํ ภิกฺขูหิ เอว กาตพฺพํ, กาเรตพฺพํ วา. ‘‘ปพฺพาเชหี’’ติ อิทํ ติวิธมฺปิ สนฺธาย วุตฺตํ. ขณฺฑสีมํ เนตฺวาติ ภณฺฑุกมฺมาโรจนปริหรณตฺถํ. ภิกฺขูนฺหิ อนาโรเจตฺวา เอกสีมาย ‘‘เอตสฺส เกเส ฉินฺทา’’ติ อฺํ อาณาเปตุมฺปิ น วฏฺฏติ. ปพฺพาเชตฺวาติ เกสาทิจฺเฉทนเมว สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘กาสายานิ อจฺฉาเทตฺวา’’ติ วิสุํ วุตฺตตฺตา. ปพฺพาเชตุํ น ลภตีติ สรณทานํ สนฺธาย วุตฺตํ, อนุปสมฺปนฺเนน ภิกฺขุอาณตฺติยา ทินฺนมฺปิ สรณํ น รุหติ.
ยสสฺสีติ ปริวารสมฺปนฺโน. นิชฺชีวนิสฺสตฺตภาวนฺติ ‘‘เกสา นาม อิมสฺมึ สรีเร ปาฏิเยกฺโก โกฏฺาโส อเจตโน อพฺยากโต สฺุโ ¶ นิสฺสตฺโต ถทฺโธ ปถวีธาตู’’ติอาทินยํ สงฺคณฺหาติ, สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๓๑๑) อาคตนเยน คเหตพฺพํ. ปุพฺเพติ ปุพฺพพุทฺธุปฺปาเทสุ. มทฺทิตสงฺขาโรติ วิปสฺสนาวเสน วุตฺตํ. ภาวิตภาวโนติ สมถวเสนาปิ.
กาสายานิ ติกฺขตฺตุํ วา…เป… ปฏิคฺคาหาเปตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘สพฺพทุกฺขนิสฺสรณตฺถาย อิมํ กาสาวํ คเหตฺวา’’ติ วา ‘‘ตํ กาสาวํ ทตฺวา’’ติ วา วตฺวา ‘‘ปพฺพาเชถ มํ, ภนฺเต, อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ เอวํ ยาจนปุพฺพกํ จีวรํ ปฏิจฺฉาเปติ. อถาปีติอาทิ ติกฺขตฺตุํ ปฏิคฺคาหาปนโต ปรํ กตฺตพฺพวิธิทสฺสนํ. อถาปีติ ตโต ปรมฺปีติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘จีวรํ อปฺปฏิคฺคาหาเปตฺวา ปพฺพชนปฺปการเภททสฺสนตฺถํ ‘‘อถาปี’’ติ วุตฺตํ, อถาปีติ จ อถ วาติ อตฺโถ’’ติ วทนฺติ. ‘‘อทินฺนํ น วฏฺฏตี’’ติ อิมินา ปพฺพชฺชา น รุหตีติ ทสฺเสติ.
ปาเท ¶ วนฺทาเปตฺวาติ ปาทาภิมุขํ นมาเปตฺวา. ทูเร วนฺทนฺโตปิ หิ ปาเท วนฺทตีติ วุจฺจติ. อุปชฺฌาเยน วาติ เอตฺถ ยสฺส สนฺติเก อุปชฺฌํ คณฺหาติ, อยํ อุปชฺฌาโย. อาภิสมาจาริเกสุ วินยนตฺถํ ยํ อาจริยํ กตฺวา นิยฺยาเตนฺติ, อยํ อาจริโย. สเจ ปน อุปชฺฌาโย สยเมว สพฺพํ สิกฺขาเปติ, อฺสฺมึ น นิยฺยาเตติ, อุปชฺฌาโยวสฺส อาจริโยปิ โหติ, ยถา อุปสมฺปทากาเล สยเมว กมฺมวาจํ วาเจนฺโต อุปชฺฌาโยว กมฺมวาจาจริโยปิ โหติ.
อนุนาสิกนฺตํ กตฺวา ทานกาเล อนฺตรา วิจฺเฉโท น กาตพฺโพติ อาห ‘‘เอกสมฺพนฺธานี’’ติ.
‘‘อาภิสมาจาริเกสุ วิเนตพฺโพ’’ติ อิมินา เสขิยวตฺตขนฺธกวตฺเตสุ, อฺเสุ
จ สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทิโลกวชฺชสิกฺขาปเทสุ สามเณเรหิ วตฺติตพฺพํ, ตตฺถ อวตฺตมาโน อลชฺชี, ทณฺฑกมฺมารโห จ โหตีติ ทสฺเสติ.
ปพฺพชฺชากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุติยมารกถาวณฺณนา
๓๕. ปาฬิยํ ¶ อนุตฺตรํ วิมุตฺตึ อนุปาปุณาถาติ ‘‘ขีณาสวา มยํ, กึ อมฺหากํ ปธาเนนา’’ติ วาสนาโทเสน โวสานํ อนาปชฺชิตฺวา ปนฺเตสุ เสนาสเนสุ ผลสมาปตฺติยาว วีตินามนตฺถํ, ตํ ทิสฺวา อฺเสมฺปิ ทิฏฺานุคติสมาปชฺชนตฺถฺจ โอวทตีติ เวทิตพฺพํ.
ทุติยมารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภทฺทวคฺคิยกถาวณฺณนา
๓๖. อิทํ เนสํ ปุพฺพกมฺมนฺติ เตสํ ตึสชนานํ เอกโต อภิสมยสฺส ปุพฺพกมฺมํ. อฺมฺปิ เตสํ ปจฺเจกํ ปุพฺพพุทฺธุปฺปาเทสุ สทฺธมฺมสฺสวนสรณคมนทานสีลสมาธิวิปสฺสนาสมาโยควเสน พหุํ วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อตฺเถวาติ คเหตพฺพํ. อิตรถา หิ ตทเหว ปฏิเวโธ, เอหิภิกฺขุภาวาทิวิเสโส จ น สมฺปชฺเชยฺย.
ภทฺทวคฺคิยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุรุเวลปาฏิหาริยกถาวณฺณนา
๓๗-๓๘. ปาฬิยํ ¶ อครูติ ภาริยํ น สิยาติ อตฺโถ. อุภินฺนํ สโชติภูตานนฺติ อุโภสุ สโชติภูเตสุ. ปตฺเต ปกฺขิปีติ ตํ นาคํ นิหตเตชํ ธมฺมเทสนาย สนฺตปฺเปตฺวา สรณสีลานิ ทตฺวา สกลรตฺตึ ภควนฺตํ ปยิรุปาสิตฺวา ิตํ ชฏิลานํ ทสฺสนตฺถํ ปตฺเต ปกฺขิปิ, น อหิตุณฺฑิโก วิย พลกฺกาเรนาติ เวทิตพฺพํ. ยตฺร หิ นามาติ โย นาม.
๓๙. อชฺชณฺโหติ อชฺช เอกทิวสํ. อคฺคิสาลมฺหีติ อคฺยาคาเร. สุมนานํ พุทฺธานํ มนสา สทิโส มโน อสฺสาติ สุมนมนโส. อธิจิตฺโตติ มหากรุณาทีหิ อธิจิตฺโต. อุทิจฺฉเรติ อุลฺโลเกสุํ, ปริวาเรสุนฺติ อตฺโถ. อเนกวณฺณา อจฺจิโยติ ฉพฺพณฺณรํสิโย วุตฺตา. อหํ เต ธุวภตฺเตน ปฏิมานนํ กริสฺสามีติ เสโส.
๔๐. อภิกฺกนฺตาย ¶ รตฺติยาติ ปริกฺขีณาย รตฺติยา, มชฺฌรตฺติสมเยติ อตฺโถ. อภิกฺกนฺตวณฺณาติ อภิรูปจฺฉวิวณฺณา. เกวลกปฺปนฺติ เอตฺถ เกวล-สทฺทสฺส อนวเสสตฺโถ, กปฺป-สทฺทสฺส สมนฺตภาโว, ตสฺมา อนวเสสํ สมนฺตโต วนสณฺฑนฺติ อตฺโถ. จตุทฺทิสาติ จตูสุ ทิสาสุ. ยตฺร หิ นามาติ ยํ นาม.
๔๓. องฺคมคธาติ องฺคมคธรฏฺวาสิโน. อิทฺธิปาฏิหาริยนฺติ อภิฺิทฺธิเยว ปฏิปกฺขานํ ติตฺถิยานํ, เวเนยฺยสตฺตคตโทสานฺจ หรณโต อปนยนโต ปาฏิหาริยํ, ตํ ตํ วา สตฺตหิตํ ปฏิจฺจ หริตพฺพํ ปวตฺเตตพฺพนฺติ ปฏิหาริยํ, ตเทว ปาฏิหาริยํ. อิทฺธิ เอว ปาฏิหาริยํ อิทฺธิปาฏิหาริยํ.
๔๔. ปํสุกูลํ อุปฺปนฺนํ โหตีติ ปุณฺณาย ทาสิยา สรีรํ ปริกฺขิปิตฺวา ฉฑฺฑิตํ สาณมยํ กิมิกุลากุลํ ปริเยสนวเสน อุปฺปนฺนํ โหติ, ยํ ภควา ภูมึ กมฺเปนฺโต ปารุปิตฺวา ปจฺฉา มหากสฺสปตฺเถรสฺส อทาสิ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตนฺติ วทนฺติ. กตฺถ นุ โขติอาทิปริวิตกฺโก ชฏิลานํ วิวิธปาฏิหาริยทสฺสนตฺถํ กโต. ปาณินา ขณนฺโต วิย อิทฺธิยา มตฺติกํ อปเนตฺวา ทินฺนตฺตา วุตฺตํ ‘‘ปาณินา โปกฺขรณึ ขณิตฺวา’’ติ.
๔๖. ผาลิยนฺตุ, กสฺสป, กฏฺานีติ อุรุเวลกสฺสเปน นิเวทิเต เอวมโวจาติ ทฏฺพฺพํ. เอวํ เสเสสุปิ.
๔๙. อนฺตรฏฺกาสุ ¶ หิมปาตสมเยติ เอตฺถ มาฆมาสสฺส อวสาเน จตสฺโส, ผคฺคุณมาสสฺส อาทิมฺหิ จตสฺโสติ เอวํ อุภินฺนํ มาสานํ อนฺตเร อฏฺรตฺติโย อนฺตรฏฺกา นาม. ตาสุ อนฺตรฏฺกาสุ รตฺตีสุ หิมปาตกาเล. อุมฺมุชฺชนนิมุชฺชนมฺปิ สหสา ตทุภยกรณวเสน วุตฺตํ.
๕๐. อุทกวาหโกติ อุทโกโฆ. เรณุหตายาติ รโชกิณฺณาย, อตินฺตายาติ อตฺโถ. นาวายาติ กุลฺเลน. อิทํ นุ ตฺวํ มหาสมณาติ อิธ นุ ตฺวํ. ธ-การสฺส ท-การํ, อนุสารฺจ กตฺวา ‘‘อิทํ นู’’ติ วุตฺตํ ‘‘เอกมิทาห’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๑๖๕, ๒๖๕) วิย. ‘‘อิมสฺมึ ปเทเส ตฺวํ นุ โข ิโตสี’’ติ ปุจฺฉิ. อยมหมสฺมีติ อยมหํ อิธ ิโตสฺมีติ อตฺโถ.
๕๑. จิรปฏิกาติ ¶ จิรกาลโต ปฏฺาย. เกสมิสฺสํ สพฺพํ ปริกฺขารํ อุทเก ปวาเหตฺวาติปิ โยเชตพฺพํ. อรณิกมณฺฑลุอาทิกา ตาปสปริกฺขารา ขารี นาม, ตํหรณกกาชํ ขาริกาชํ นาม. อคฺคิหุตมิสฺสนฺติ อคฺคิปูโชปกรณสหิตํ.
๕๒-๓. อุปสคฺโคติ อุปทฺทโว. ‘‘อฑฺฒุฑฺฒานิ ปาฏิหาริยสหสฺสานี’’ติ อิทํ นาคทมนาทีนิ ปนฺนรส ปาฏิหาริยานิ วชฺเชตฺวา วุตฺตํ อปฺปกมธิกํ คณนูปคํ น โหตีติ.
๕๔. คยายนฺติ คยานามิกาย นทิยา อทูรภวตฺตา คาโม อิตฺถิลิงฺควเสน คยา นาม ชาโต, ตสฺสํ. คยาสีเสติ เอวํนามเก ปิฏฺิปาสาเณ.
‘‘ยมิทํ จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา…เป… สุขํ วา’’ติอาทินา จกฺขุวิฺาณวีถิจิตฺเตสุ โสมนสฺสโทมนสฺสอุเปกฺขาเวทนามุเขน เสสารูปกฺขนฺธานมฺปิ อาทิตฺตตํ ทสฺเสติ. เอส นโย เสเสสุปิ. มโนติ ภวงฺคจิตฺตํ มโนทฺวารสฺส อธิปฺเปตตฺตา. มโนวิฺาณนฺติ มโนทฺวารวีถิปอยาปนฺนเมว คหิตํ.
อุรุเวลปาฏิหาริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
พิมฺพิสารสมาคมกถาวณฺณนา
๕๕. ยฺา ¶ อภิวทนฺตีติ ยาคเหตุ อิชฺฌนฺตีติ วทนฺติ. อุปธีสูติ เอตฺถ ทุกฺขสุขาทีนํ อธิฏฺานฏฺเน จตฺตาโร อุปธี กามขนฺธกิเลสอภิสงฺขารูปธีนํ วเสน. เตสุ ขนฺธูปธิ อิธาธิปฺเปโตติ อาห ‘‘ขนฺธูปธีสุ มลนฺติ ตฺวา’’ติ. ยฺาติ ยฺเหตุ. ยิฏฺเติ มหายาเค. หุเตติ ทิวเส ทิวเส กตฺตพฺเพ อคฺคิปริจรเณ. กึ วกฺขามีติ กถํ วกฺขามิ.
๕๗-๘. อาสีสนาติ มโนรถา. สิงฺคีสุวณฺณนิกฺเขนาติ สิงฺคีสุวณฺณสฺส ราสินา. สุวณฺเณสุ หิ ยุตฺติกตํ หีนํ. ตโต รสวิทฺธํ เสฏฺํ, ตโต อากรุปฺปนฺนํ เสฏฺํ, ตโต ยํกิฺจิ ทิพฺพสุวณฺณํ เสฏฺํ ¶ , ตตฺราปิ จามีกรํ, ตโต สาตกุมฺภํ, ตโต ชมฺพุนทํ, ตโตปิ สิงฺคีสุวณฺณํ เสฏฺํ. ตสฺส นิกฺขํ นาม ปฺจสุวณฺณปริมาณํ. อฏฺสุวณฺณาทิเภทํ อเนกวิธมฺปิ วทนฺติ. ทสสุ อริยวาเสสูติ –
‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต เอการกฺโข จตุราปสฺเสโน ปณุนฺนปจฺเจกสจฺโจ สมวยสฏฺเสโน อนาวิลสงฺกปฺโป ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร สุวิมุตฺตจิตฺโต สุวิมุตฺตปฺโ’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๔๘, ๓๖๐; อ. นิ. ๑๐.๑๙) –
เอวมาคเตสุ ทสสุ อริยวาเสสุ. ตตฺถ ปฺจงฺควิปฺปหีโนติ ปฺจนีวรเณหิ วิปฺปยุตฺตตา วุตฺตา. ฉฬงฺคสมนฺนาคโตติ อิฏฺาทีสุ ฉสุ อารมฺมเณสุ โสมนสฺสิตาทิปฏิปกฺขา ฉฬงฺคุเปกฺขา วุตฺตา. เอการกฺโขติ อุปฏฺิตสติตา. สงฺขายเสวนา อธิวาสนา ปริวชฺชนา วิโนทนาสงฺขาตานิ จตฺตาริ อปสฺเสนา นิสฺสยา เอตสฺสาติ จตุราปสฺเสโน, เอเตน จ เต นิสฺสยา ทสฺสิตา. ปณุนฺนานิ อปนีตานิ ทิฏฺิคติเกหิ ปจฺเจกํ คหิตานิ ทิฏฺิสจฺจานิ ยสฺส, โส ปณุนฺนปจฺเจกสจฺโจ, เตน โลกิยาเณน ทิฏฺิปฺปหานํ วุตฺตํ. กาเมสนา ภเวสนาพฺรหฺมจริเยสนาสงฺขาตา เอสนา สมฺมเทว อวยา อนูนา สฏฺา นิสฏฺา อเนนาติ สมวยสฏฺเสโน. เอเตน ติณฺณํ เอสนานํ อภาโว วุตฺโต. ‘‘อนาวิลสงฺกปฺโป’’ติ อิมินา กามวิตกฺกาทีหิ อนาวิลจิตฺตตา. ‘‘ปสฺสทฺธกายสงฺขาโร’’ติ อิมินา จตุตฺถชฺฌานสมาโยเคน วิคตทรถตา วุตฺตา. ‘‘สุวิมุตฺตจิตฺโต’’ติ อิมินา มคฺโค. ‘‘สุวิมุตฺตปฺโ’’ติ อิมินา ปจฺจเวกฺขณาณมุเขน ผลาณํ วุตฺตํ. เอเต หิ อริยา วสนฺติ เอตฺถาติ อริยวาสาติ วุจฺจนฺติ ¶ . เต ปน วาสา วุตฺถา วสิตา สมฺปาทิตา เยน, โส วุตฺถวาโส, ภควา. ทสพโลติ ทสหิ กายพเลหิ, าณพเลหิ จ อุเปโต. ยานิ เหตานิ –
‘‘กาฬาวกฺจ คงฺเคยฺยํ, ปณฺฑรํ ตมฺพปิงฺคลํ;
คนฺธมงฺคลเหมฺจ, อุโปสถฉทฺทนฺติเม ทสา’’ติ. (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๔๘; สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๒๒; อ. นิ. อฏฺ. ๓.๑๐.๒๑; วิภ. อฏฺ. ๗๖๐; อุทา. อฏฺ. ๗๕; พุ. ว. อฏฺ. ๑.๓๙; จูฬนิ. อฏฺ. ๘๑; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๒.๔๔) –
เอวํ ¶ วุตฺตานิ ทสหตฺถิกุลานิ ปุริมปุริมโต ทสพลคุโณเปตานิ, เตสุ สพฺพเชฏฺานํ ทสนฺนํ ฉทฺทนฺตานํ พลานิ ภควโต กายสฺส ทสพลานิ นาม. ตฺจ กาฬาวกสงฺขาตานํ ปกติหตฺถีนํ โกฏิสหสฺสสฺส, มชฺฌิมปุริสานํ ปน ทสนฺนํ โกฏิสหสฺสานฺจ พลํ โหติ, ตํ ‘‘นารายนสงฺฆาตพล’’นฺติปิ วุจฺจติ.
ยานิ ปเนตานิ ปาฬิยํ ‘‘อิธ, สาริปุตฺต, ตถาคโต านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๑๔๘; อ. นิ. ๑๐.๒๑; วิภ. ๗๖๐; ปฏิ. ม. ๒.๔๔) วุตฺตานิ านาานาณพลํ, กมฺมวิปากาณพลํ, สพฺพตฺถคามินิปฏิปทาาณพลํ, อเนกธาตุนานาธาตุโลกาณพลํ, สตฺตานํ นานาธิมุตฺติกตาาณพลํ, อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณพลํ, ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนํ สํกิเลสโวทานวุฏฺานาณพลํ, ปุพฺเพนิวาสาณพลํ, ทิพฺพจกฺขุาณพลํ, อาสวกฺขยาณพลนฺติ ทสพลาณานิ, อิมานิ ภควโต ทสพลานิ นาม. ทสหิ อเสกฺเขหิ องฺเคหีติ อรหตฺตผลสมฺปยุตฺเตหิ ปาฬิยํ ‘‘อเสกฺขา สมฺมาทิฏฺิ…เป… อเสกฺโข สมฺมาสมาธิ, อเสกฺขํ สมฺมาาณํ, อเสกฺขา สมฺมาวิมุตฺตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๔๘, ๓๖๐) เอวํ วุตฺเตหิ ทสหิ อเสกฺขธมฺเมหิ สมนฺนาคโต. เอตฺถ จ ทสฺสนฏฺเน วุตฺตา สมฺมาทิฏฺิ เอว ชานนฏฺเน สมฺมาาณนฺติปิ วุตฺตา, วุตฺตาวเสสา ปน ผลจิตฺตสมฺปยุตฺตา สพฺเพ ผสฺสาทิธมฺมา สมฺมาวิมุตฺตีติ วุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ.
พิมฺพิสารสมาคมกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปพฺพชฺชากถาวณฺณนา
๖๐. สารีพฺราหฺมณิยา ¶ ปุตฺโต สาริปุตฺโต. โมคฺคลีพฺราหฺมณิยา ปุตฺโต โมคฺคลฺลาโน. ฉนฺนปริพฺพาชกสฺสาติ เสตวตฺเถน หิริโกปีนํ ฉาเทตฺวา วิจรณกปริพฺพาชกสฺส, เตน ‘‘นายํ นคฺคปริพฺพาชโก’’ติ ทสฺเสติ. ‘‘อุปฺาต’’นฺติ อิมสฺส วิวรณํ าโต เจวาติ. ‘‘มคฺค’’นฺติ อิมสฺส วิวรณํ อุปคโต จ มคฺโคติ. เตน จ อุปฺาตนฺติ เอตฺถ าต-สทฺโท าณปริยาโย. มคฺคนฺติ ลิงฺควิปลฺลาเสน มคฺโคว วุตฺโต. อุปสทฺโท จ อุปคมนตฺโถ มคฺคสทฺเทนปิ สมฺพนฺธิตพฺโพติ ทสฺเสติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยสฺมา ¶ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธนํ นาม อตฺถิเกหิ อุปฺาตํ อุปคตาณฺเจว โหติ, เตหิ อุปคโต ปฏิปนฺโน มคฺโค จ, ตสฺมา ยํนูนาหํ อนุพนฺเธยฺยนฺติ. อุปฺาตํ นิพฺพานนฺติ อุปปตฺติยา อนุมาเนน าตํ นิพฺพานํ. ‘‘มคฺค’’นฺติ อิมสฺส วิวรณํ มคฺคนฺโตติ, อนุมาเนน าตํ ปจฺจกฺขโต ทสฺสนตฺถาย คเวสนฺโตติ อตฺโถ.
นิโรโธ จ นิโรธูปาโย จ เอกเสเสน นิโรโธติ วุตฺโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. ปฏิปาเทนฺโตติ นิคเมนฺโต.
อิโต อุตฺตรีติ อิโต มยา ลทฺธโสตาปตฺติโต อุตฺตริ อิตรมคฺคตฺตยํ ยทิปิ นตฺถิ, ตถาปิ เอโส เอว มยา คเวสิโต นิพฺพานธมฺโมติ อตฺโถ.
๖๒-๓. ตทารมฺมณายาติ นิพฺพานารมฺมณาย โสตาปตฺติผลวิมุตฺติยา. เตสํ อายสฺมนฺตานนฺติ สปริสานํ เตสํ ทฺวินฺนํ ปริสานํ ตสฺมึเยว ขเณ ภควโต ธมฺมํ สุตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ, อคฺคสาวกา ปน อตฺตโน าณกิจฺจสฺส มหนฺตตาย กติปาหจฺจเยน. เตนาห ‘‘เอว’’นฺติอาทิ. อุสูยนกิริยาย กมฺมภาวํ สนฺธาย ‘‘อุปโยคตฺเถวา’’ติ วุตฺตํ.
สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปพฺพชฺชากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุปชฺฌายวตฺตกถาวณฺณนา
๖๔. วชฺชาวชฺชนฺติ ขุทฺทกํ, มหนฺตฺจ วชฺชํ. อุตฺติฏฺปตฺตนฺติ เอตฺถ อุตฺติฏฺํ นาม ปิณฺฑาย จรณํ วุจฺจติ ‘‘อุตฺติฏฺเ นปฺปมชฺเชยฺยา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๖๘) วิย. อุตฺติฏฺตฺถาย ¶ คหิตํ ปตฺตํ อุตฺติฏฺปตฺตํ, เตนาห ‘‘ปิณฺฑาย จรณกปตฺต’’นฺติ. ตสฺส อุปนาเม โก โทโสติ อาห ‘‘ตสฺมึ หี’’ติอาทิ. ตสฺมาติ ยสฺมา มนุสฺสา เอตสฺมึเยว เอเต ภฺุชนฺตีติ อุตฺติฏฺปตฺเต อุจฺฉิฏฺสฺิโน, ตสฺมา อุตฺติฏฺปตฺตนฺติ วุตฺตํ อุตฺติฏฺ-สทฺเทเนว มนุสฺสานํ สฺาย อุจฺฉิฏฺตาปิ คมฺมตีติ. เกจิ ปน ‘‘อุจฺฉิฏฺสทฺเทน สมานตฺโถ อุตฺติฏฺสทฺโท’’ติ วทนฺติ. ‘‘อุตฺติฏฺา’’ติ ตฺวาปจฺจยนฺโตปิ โหตีติ อาห ‘‘อุฏฺหิตฺวา’’ติ. อุปชฺฌายํ คเหตุนฺติ อุปชฺฌายตฺตํ ¶ มนสา คเหตุํ, ยาจนวจเนน ตสฺส อนุมตึ คเหตุนฺติ วา อตฺโถ.
๖๕. ปติสฺสยนํ ปติสฺโส, ครุํ นิสฺสาย วตฺตนภาโว, ยํกิฺจิ คารวนฺติ อตฺโถ. สห ปติสฺเสน สปฺปติสฺโส, ปรํ เชฏฺํ กตฺวา ตสฺโสวาเท วตฺตนตาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘เชฏฺกภาวฺจ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ. สาหูติ สาธุ สุนฺทรํ. ลหูติ อครุ, สุภรตาติ อตฺโถ. โอปายิกนฺติ อุปายปฏิสํยุตฺตํ, เอวํ ปฏิปชฺชนํ นิตฺถรณูปาโยติ อตฺโถ. ปติรูปนฺติ สามีจิกมฺมมิทนฺติ อตฺโถ. ปาสาทิเกนาติ ปสาทาวเหน กายวจีปโยเคน สมฺปาเทหีติ อตฺโถ. กาเยนาติ เอตทตฺถวิฺาปกํ หตฺถมุทฺทาทึ ทสฺเสนฺโต กาเยน วิฺาเปติ. สาธูติ สมฺปฏิจฺฉนํ สนฺธายาติ อุปชฺฌาเยน ‘‘สาหู’’ติอาทีสุ วุตฺเตสุ สทฺธิวิหาริกสฺส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉนํ วจนํ สนฺธาย ‘‘กาเยน วิฺาเปตี’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. อายาจนทานมตฺเตนาติ สทฺธิวิหาริกสฺส ปมํ อายาจนมตฺเตน, ตโต อุปชฺฌายสฺส จ ‘‘สาหู’’ติอาทินา วจนมตฺเตนาติ อตฺโถ.
๖๖. อสฺสาติ สทฺธิวิหาริกสฺส. ทฺเว จีวรานีติ อุตฺตราสงฺคํ, สงฺฆาฏิฺจ สนฺธาย วทติ. อิโต ปฏฺายาติ ‘‘น อุปชฺฌายสฺส ภณมานสฺสา’’ติ เอตฺถ น-การโต ปฏฺาย, เตน ‘‘นาติทูเร’’ติอาทีสุ น-การปฏิสิทฺเธสุ อาปตฺติ นตฺถีติ ทสฺเสติ. สพฺพตฺถ ทุกฺกฏาปตฺตีติ อาปทาอุมฺมตฺตขิตฺตจิตฺตเวทนฏฺฏตาทีหิ วินา ปณฺณตฺตึ อชานิตฺวาปิ วทนฺตสฺส คิลานสฺสปิ ทุกฺกฏเมว. อาปทาสุ หิ อนฺตรนฺตรา กถา วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอวมฺเสุปิ น-การปฏิสิทฺเธสุ อีทิเสสุ, อิตเรสุ ปน คิลาโนปิ น มุจฺจติ. ปาฬิยํ ‘‘เหฏฺาปีํ วา ปรามสิตฺวา’’ติ อิทํ ปุพฺเพ ตตฺถ ปิตปตฺตาทินา อสงฺฆฏฺฏนตฺถาย วุตฺตํ, จกฺขุนา โอโลเกตฺวาปิ อฺเสํ อภาวํ ตฺวาปิ เปตุํ วฏฺฏติ เอว. อาปตฺติยา อาสนฺนนฺติ อาปตฺติกรณเมว.
คาเมติ อนฺโตคาเม ตาทิเส มณฺฑปาทิมฺหิ. อนฺตรฆเรติ อนฺโตเคเห. ปฏิกฺกมเนติ อาสนสาลายํ. โธตวาลิกายาติ อุทเกน คตฏฺาเน นิรชาย ปริสุทฺธวาลิกาย. นิทฺธูเมติ ชนฺตาฆเร ชลิยมานอคฺคิธูมรหิเต. ชนฺตาฆรฺหิ นาม หิมปาตพหุเลสุ เทเสสุ ตปฺปจฺจยโรคปีฬาทินิวารณตฺถํ ¶ ¶ สรีรเสทาปนฏฺานํ. ตตฺถ กิร อนฺธการปฏิจฺฉนฺนตาย พหูปิ เอกโต ปวิสิตฺวา จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อคฺคิตาปปริหาราย มตฺติกาย มุขํ ลิมฺปิตฺวา สรีรํ ยาวทตฺถํ เสเทตฺวา จุณฺณาทีหิ อุพฺพฏฺเฏตฺวา นหายนฺติ. เตเนว ปาฬิยํ ‘‘จุณฺณํ สนฺเนตพฺพ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อุลฺโลกนฺติ อุทฺธํ โอโลกนฏฺานํ. อุปริภาคนฺติ อตฺโถ.
อฺตฺถ เนตพฺโพติ ยตฺถ วิหรโต สาสเน อนภิรติ อุปฺปนฺนา, ตโต อฺตฺถ กลฺยาณมิตฺตาทิสมฺปตฺติยุตฺตฏฺาเน เนตพฺโพ. วิสภาคปุคฺคลานนฺติ ลชฺชิโน วา อลชฺชิโน วา อุปชฺฌายสฺส อวฑฺฒิกาเม สนฺธาย วุตฺตํ. สเจ ปน อุปชฺฌาโย อลชฺชี โอวาทมฺปิ น คณฺหาติ, ลชฺชิโน จ เอตสฺส วิสภาคา โหนฺติ, ตตฺถ อุปชฺฌายํ วิหาย ลชฺชีเหว สทฺธึ อามิสาทิปริโภโค กาตพฺโพ. อุปชฺฌายาทิภาโว เหตฺถ น ปมาณนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปริเวณํ คนฺตฺวาติ อุปชฺฌายสฺส ปริเวณํ คนฺตฺวา. ‘‘น สุสาน’’นฺติ อิทํ อุปลกฺขณํ, อุปจารสีมโต พหิ คนฺตุกาเมน อนาปุจฺฉา คนฺตุํ น วฏฺฏติ.
อุปชฺฌายวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สทฺธิวิหาริกวตฺตกถาวณฺณนา
๖๗. สทฺธิวิหาริกวตฺตกถายํ สงฺคเหตพฺโพ อนุคฺคเหตพฺโพติอาทีสุ อนาทริยํ ปฏิจฺจ ธมฺมามิเสหิ อสงฺคณฺหนฺตานํ อาจริยุปชฺฌายานํ ทุกฺกฏํ วตฺตเภทตฺตา. เตเนว ปริวาเรปิ ‘‘นเทนฺโต อาปชฺชตี’’ติ (ปริ. ๓๒๒) วุตฺตํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
สทฺธิวิหาริกวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นสมฺมาวตฺตนาทิกถาวณฺณนา
๖๘. นสมฺมาวตฺตนาทิกถายํ วตฺตํ น ปูเรยฺยาติ ‘‘วตฺตกรณกาโล’’ติ วตฺถุวิชานนวเสน ตฺวา มานโกสชฺชาทิวเสน วา อุปชฺฌายาทีสุ ¶ อนาทเรน วา ‘‘อกาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ อชานนตาย วา น กเรยฺย, ทุกฺกฏเมว. อสฺจิจฺจ อสติยาติอาทีหิ จ อกโรนฺตสฺส ปน อนาปตฺติ. สพฺพานิ หิ วตฺตานิ เสขิยาเนว, ตสฺมา เสขิเยสุ วุตฺตนเยเนเวตฺถ สพฺโพปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. เคหสฺสิตเปมนฺติ เมตฺตาเปมํ.
สาทิยนํ ¶ วา อสาทิยนํ วา น ชานาตีติ ‘‘มยิ สาทิยนฺเต อกโรนฺตานํ อาปตฺติ โหติ, ปฏิกฺขิปิตฺวา อสาทิยนฺเต อาปตฺติ น โหตี’’ติ เอวํ น ชานาตีติ อตฺโถ. ‘‘เตสุ เอโก วตฺตสมฺปนฺโน ภิกฺขุ…เป… เตสํ อนาปตฺตี’’ติ วจนโต สเจ โกจิ ‘‘ตุมฺหากํ สทฺธิวิหาริเก, อนฺเตวาสิเก วา คิลาเน อุปฏฺหิสฺสามิ, โอวาทานุสาสนิอาทิกํ สพฺพํ กตฺตพฺพํ กริสฺสามี’’ติ วทติ, เต วา สทฺธิวิหาริกาทโย ‘‘อปฺโปสฺสุกฺกา โหถา’’ติ วทนฺติ, วตฺตํ วา น สาทิยนฺติ, อาจริยุปชฺฌายานมฺปิ อนาปตฺติ.
นสมฺมาวตฺตนาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ราธพฺราหฺมณวตฺถุกถาวณฺณนา
๖๙. ราธพฺราหฺมณวตฺถุสฺมึ ปาฬิยํ อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโตติ สกลสรีเร สฺชาตปณฺฑุวณฺโณ. ปณฺฑุวณฺณสฺส สกลสรีเร พฺยาปิตภาวทสฺสนตฺถฺหิ วิจฺฉาวจนํ กตํ. อธิการนฺติ อุปการํ. กตเวทิโนติ อตฺตโน กตํ อุปการํ ปฏิกิริยาย าปกา. อุปสมฺปทากมฺมวาจาย ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปริโยสาเน วกฺขาม. ปริมณฺฑเลหีติ ปริปุณฺเณหิ.
๗๑-๗๓. ปณฺณตฺติวีติกฺกมนฺติ สิกฺขาปทวีติกฺกมํ. ปาฬิยํ ปิณฺฑิยาโลปโภชนนฺติ ชงฺฆปิณฺฑิมํสพเลน จริตฺวา อาโลปาโลปวเสน ปริยิฏฺโภชนํ. อติเรกลาโภติ ภิกฺขาหารโต อธิกลาโภ. สงฺฆภตฺตาทีนํ วิภาโค เสนาสนกฺขนฺธเก อาวิ ภวิสฺสติ. วิหาโรติ ติณกุฏิกาทิสหิโต ปาการปริจฺฉินฺโน สกโล สงฺฆาราโม. อฑฺฒโยโคติ เอกสาโล ทีฆปาสาโท. หตฺถิปิฏฺิครุฬสณฺาโน ทีฆปาสาโทติปิ วทนฺติ. ปาสาโทติ จตุรสฺโส อุจฺโจ ¶ อเนกภูมกปาสาโท. หมฺมิยนฺติ มุณฺฑจฺฉทโน จนฺทิกงฺคณยุตฺโต นาติอุจฺโจ ปาสาโท. คุหาติ ปพฺพตคุหา. ปูติมุตฺตนฺติ โคมุตฺตํ.
ราธพฺราหฺมณวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อาจริยวตฺตกถาวณฺณนา
๗๖. สหธมฺมิกํ วุจฺจมาโนติ ‘‘เอวํ นิวาเสตพฺพ’’นฺติอาทินา สิกฺขาปเทน โอวทิยมาโน. วาทํ อาโรเปตฺวาติ ‘‘โอลมฺพิตฺวา นิวาสนาทีสุ โก โทโส? ยทิ โทโส ภเวยฺย ¶ , ปริมณฺฑลนิวาสนาทีสุปิ โทโส สิยา’’ติอาทินา นิคฺคหํ อาโรเปตฺวา. ตํเยว ติตฺถายตนนฺติ ทิฏฺิสงฺขาตติตฺถเมว อายตนํ ทุกฺขุปฺปตฺติฏฺานนฺติ ติตฺถายตนํ. อายสฺมโต นิสฺสาย วจฺฉามีติ อายสฺมนฺตํ นิสฺสาย วสิสฺสามีติ อตฺโถ.
อาจริยวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปณามนาขมาปนากถาวณฺณนา
๘๐. ยํ ปุพฺเพ ลกฺขณํ วุตฺตํ, เตเนว ลกฺขเณน นิสฺสยนฺเตวาสิกสฺส อาปตฺติ น เวทิตพฺพาติ สมฺพนฺธโยชนา ทฏฺพฺพา. โปตฺถเกสุ ปน ‘‘น เตเนว ลกฺขเณนา’’ติ เอตฺถ น-การํ ฉฑฺเฑตฺวา ‘‘เตเนว ลกฺขเณน นิสฺสยนฺเตวาสิกสฺส อาปตฺติ เวทิตพฺพา’’ติ ลิขนฺติ, ตํ ปมาทลิขิตํ. ตถา หิ เตเนว ลกฺขเณน อาปตฺติภาเว คยฺหมาเน นิสฺสยมุตฺตกสฺสาปิ อมุตฺตกสฺสาปิ อาปตฺติ เอวาติ วุตฺตลกฺขเณน อาปตฺตึ อาปชฺเชยฺย. ตถา จ ‘‘นิสฺสยนฺเตวาสิเกน หิ ยาว อาจริยํ นิสฺสาย วสติ, ตาว สพฺพํ อาจริยวตฺตํ กาตพฺพ’’นฺติ อิมินา อนนฺตรวจเนน วิโรโธ สิยา. วิสุทฺธิมคฺเคปิ จ –
‘‘นิสฺสยาจริย, อุทฺเทสาจริย, นิสฺสยนฺเตวาสิก, อุทฺเทสนฺเตวาสิก, สมานาจริยกา ปน ยาว นิสฺสยอุทฺเทสา อนุปจฺฉินฺนา. ตาว ปฏิชคฺคิตพฺพา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๑) –
วุตฺตํ ¶ . ตสฺมา วุตฺตนเยน อิธ ปริคฬิตํ น-การํ อาเนตฺวา เตเนว สทฺธิวิหาริกสฺส วุตฺเตเนว ลกฺขเณน นิสฺสยนฺเตวาสิกสฺส อาปตฺติ น เวทิตพฺพาติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ.
ปณามนาขมาปนากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิกถาวณฺณนา
๘๓. นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิกถายํ ‘‘โย วา เอกสมฺโภคปริโภโค, ตสฺส สนฺติเก นิสฺสโย คเหตพฺโพ’’ติ อิมินา ลชฺชีสุ เอว นิสฺสยคฺคหณํ นิโยเชติ อลชฺชีสุ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา. เอตฺถ จ ปริโภคสทฺเทน เอกกมฺมาทิโก สํวาโส คหิโต ปจฺจยปริโภคสฺส สมฺโภค-สทฺเทน คหิตตฺตา, เอเตน ¶ จ สมฺโภคสํวาสานํ อลชฺชีหิ สทฺธึ น กตฺตพฺพตํ ทสฺเสติ. ปริหาโร นตฺถีติ อาปตฺติปริหาโร นตฺถิ. ตาทิโสติ ยตฺถ นิสฺสโย คหิตปุพฺโพ, โย จ เอกสมฺโภคปริโภโค, ตาทิโส. ตถา วุตฺตนฺติ ‘‘ลหุํ อาคมิสฺสามี’’ติ วุตฺตฺเจติ อตฺโถ. ‘‘จตฺตาริ ปฺจ ทิวสานี’’ติ อิทํ อุปลกฺขณมตฺตํ. ยทิ เอกาหทฺวีเหน สภาคตา ปฺายติ, าตทิวเสน คเหตพฺโพว. อถาปิ จตุปฺจาเหนาปิ น ปฺายติ, ยตฺตเกหิ ทิวเสหิ ปฺายติ, ตตฺตกานิ อติกฺกเมตพฺพานิ. สภาคตํ โอโลเกมีติ ปน เลโส น กาตพฺโพ.
ทหรา สุณนฺตีติ เอตฺถ อสุตฺวาปิ อาคมิสฺสติ, เกนจิ อนฺตราเยน จิรายตีติ สฺาย สติ ลพฺภเตว ปริหาโร. เตนาห ‘‘อิเธวาหํ วสิสฺสามีติ ปหิณติ, ปริหาโร นตฺถี’’ติ.
เอกทิวสมฺปิ ปริหาโร นตฺถีติ คมเน นิรุสฺสาหํ สนฺธาย วุตฺตํ. สอุสฺสาหสฺส ปน เสนาสนปฏิสามนาทิวเสน กติปาเห คเตปิ น โทโส.
ตตฺเรว วสิตพฺพนฺติ ตตฺร สภาคฏฺาเน เอว นิสฺสยํ คเหตฺวา วสิตพฺพํ. ‘‘ตํเยว วิหารํ…เป… วสิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิมินา อุปชฺฌาเย สงฺคณฺหนฺเตเยว ตํสโมธาเน นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิ วุตฺตา, ตสฺมึ ปน โกเธน ¶ วา คณนิรเปกฺขตาย วา อสงฺคณฺหนฺเต อฺเสุ คหิโต นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ ทสฺเสติ.
อาจริยมฺหา นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิยํ วุตฺโต ‘‘โกจิ อาจริโย’’ติอาทิโก นโย อุปชฺฌายปกฺกมนาทีสุปิ เนตฺวา ตตฺถ จ วุตฺโต อิธาปิ เนตฺวา ยถารหํ โยเชตพฺโพ.
ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมฺม อฺสฺมึ วิหาเร วสนฺตีติ อุปจารสีมโต พหิ อฺสฺมึ วิหาเร อนฺเตวาสิกานํ วสนฏฺานโต ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมฺม วสนฺติ. เตน พหิอุปจาเรปิ อนฺเตวาสิกาทีนํ วสนฏฺานโต ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺตเร อาสนฺนปเทเส วสติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ ทสฺเสติ. อนฺโตอุปจารสีมายํ ปน ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมิตฺวา วสโต นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภเตว.
นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุปสมฺปาเทตพฺพปฺจกกถาวณฺณนา
๘๔. อุปชฺฌาจริยลกฺขณกถายํ ¶ น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพติ อุปชฺฌาเยน หุตฺวา น ปพฺพาเชตพฺโพ. อเสกฺขสฺส อยนฺติ อเสกฺโข, โลกิยโลกุตฺตโร สีลกฺขนฺโธ.
อนฺตคฺคาหิกายาติ สสฺสตุจฺเฉทโกฏฺาสคฺคาหิกาย. ปจฺฉิมานิ ทฺเวติ อปฺปสฺสุโต โหติ, ทุปฺปฺโ โหตีติ อิมานิ ทฺเว องฺคานิ. ปจฺฉิมานิ ตีณีติ น ปฏิพโล อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ ธมฺมโต วิโนเทตุํ, อาปตฺตึ น ชานาติ, อาปตฺติยา วุฏฺานํ น ชานาตีติ อิมานิ ตีณิ. กุกฺกุจฺจสฺส หิ ปาฬิอฏฺกถานยสงฺขาตธมฺมโต วิโนเทตุํ อปฏิพลตา นาม อพฺยตฺตตา เอว โหตีติ สาปิ อาปตฺติองฺคเมว วุตฺตา.
อภิวิสิฏฺโ อุตฺตโม สมาจาโร อาภิสมาจาโร, วตฺตปฏิวตฺตสีลํ. ตํ อารพฺภ ปฺตฺตา ขนฺธกสิกฺขาปทสงฺขาตา สิกฺขา อาภิสมาจาริกา. สิกฺขาปทมฺปิ หิ ตํ ตตฺถ ปฏิปูรณตฺถิเกหิ อุคฺคหณาทิวเสน สิกฺขิตพฺพโต ‘‘สิกฺขา’’ติ วุจฺจติ. มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตา การณภูตาติ อาทิพฺรหฺมจริยกา สิกฺขา, อุภโตวิภงฺคปริยาปนฺนสิกฺขาปทํ. เตเนว ¶ วิสุทฺธิมคฺเคปิ ‘‘อุภโตวิภงฺคปริยาปนฺนสิกฺขาปทํ อาทิพฺรหฺมจริยกํ, ขนฺธกวตฺตปอยาปนฺนํ อาภิสมาจาริก’’นฺติ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๑) วุตฺตํ. ตสฺมา เสกฺขปณฺณตฺติย’’นฺติ เอตฺถ สิกฺขิตพฺพโต เสกฺขา, ภควตา ปฺตฺตตฺตา ปณฺณตฺติ. สพฺพาปิ อุภโตวิภงฺคปริยาปนฺนา สิกฺขาปทปณฺณตฺติ ‘‘เสกฺขปณฺณตฺตี’’ติ วุตฺตาติ คเหตพฺพา. นามรูปปริจฺเฉเทติ เอตฺถ กุสลตฺติกาทีหิ วุตฺตํ ชาติภูมิปุคฺคลสมฺปโยควตฺถารมฺมณกมฺมทฺวารลกฺขณรสาทิเภเทหิ เวทนากฺขนฺธาทิจตุพฺพิธํ สนิพฺพานํ นามํ, ภูตุปาทายเภทํ รูปฺจ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ชานนปฺา, ตปฺปกาสโก จ คนฺโถ นามรูปปริจฺเฉโท นาม. อิมินา อภิธมฺมตฺถกุสเลน ภวิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. สิกฺขาเปตุนฺติ อุคฺคณฺหาเปตุํ.
อุปสมฺปาเทตพฺพปฺจกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อฺติตฺถิยปุพฺพวตฺถุกถาวณฺณนา
๘๖. ติตฺถิยปริวาสกถายํ อาชีวกสฺส วาติอาทีสุ อกิริยวาที อาชีวโก นาม, กิริยวาทิโน ปน นิคณฺาปิ อฺเปิ นคฺคติตฺถิกา อเจลกปเท สงฺคหิตา. สพฺพถา นคฺคสฺเสว ¶ ติตฺถิยปริวาโส วิหิโต. โส จ เตเนว นคฺคเวเสน ภิกฺขูนํ สนฺติกํ อาคตสฺส, น ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาคตสฺสาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ โสปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โสปีติ อาชีวโก.
อามิสกิฺจิกฺขสมฺปทานํ นาม อปฺปมตฺตกสฺส เทยฺยธมฺมสฺส อนุปฺปทานํ. รูปูปชีวิกาติ อตฺตโน รูปเมว นิสฺสาย ชีวนฺติโย. เวสิยา โคจโร พหุลํ ปวตฺติฏฺานํ อสฺสาติ เวสิยาโคจโร. เอส นโย สพฺพตฺถ. โยพฺพนฺนาตีตาติ อนิวิทฺธา เอว มหลฺลิกภาวํ ปตฺตา ถุลฺลกุมารี เอวาติ วุตฺตํ. อาทายสฺสาติ อาทานสฺส คหณสฺส.
อฺติตฺถิยปุพฺพวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจาพาธวตฺถุกถาวณฺณนา
๘๘-๙. ปฺจาพาธาทิวตฺถูสุ ¶ ปาฬิยํ โสมฺหิ อโรโค, วิพฺภมิสฺสามีติ โส อหํ อโรโค, วิพฺภมิสฺสามีติ อตฺโถ. นขปิฏฺิปฺปมาณนฺติ กนิฏฺงฺคุลินขปิฏฺิ อธิปฺเปตา. ‘‘ปฏิจฺฉนฺเน าเน นขปิฏฺิปฺปมาณํ อวฑฺฒนกปกฺเข ิตํ โหติ, วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา อปฺปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน ตาทิสมฺปิ น วฏฺฏติ, ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเนปิ จ วฑฺฒนกปกฺเข ิโตปิ น วฏฺฏตีติ สิทฺธเมว โหติ. ปากฏฏฺาเนปิ ปน นขปิฏฺิปฺปมาณโต อูนตรํ อวฑฺฒนกํ วฏฺฏตีติ เย คณฺเหยฺยุํ, เตสํ ตํ คหณํ ปฏิเสเธตุํ ‘‘มุเข ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
โกลฏฺิมตฺตโกปีติ พทรฏฺิปฺปมาโณปิ. อวฑฺฒนกปกฺเข ิโตปิ น วฏฺฏตีติ เอตฺถ ปิ-สทฺเทน โกลฏฺิมตฺตโต ขุทฺทกตโรปิ คณฺโฑ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘สจฺฉวึ กาเรตฺวา’’ติ, วิชฺชมานจฺฉวึ กตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘สฺฉวิ’’นฺติ วา ปาโ, สฺชาตจฺฉวินฺติ อตฺโถ. คณฺฑาทีสุ วูปสนฺเตสุปิ คณฺฑานํ วิวณฺณมฺปิ โหติ, ตํ วฏฺฏติ.
ปทุมปุณฺฑรีกปตฺตวณฺณนฺติ รตฺตปทุมเสตปทุมปุปฺผทลวณฺณํ. กุฏฺเ วุตฺตนเยเนวาติ ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน อวฑฺฒนกํ วฏฺฏติ, อฺตฺถ น กิฺจิปิ วฏฺฏตีติ วุตฺตนยํ ทสฺเสติ. โสสพฺยาธีติ ขยโรโค. ยกฺขุมฺมาโรติ กทาจิ กทาจิ อาคนฺตฺวา ภูมิยํ ปาเตตฺวา หตฺถมุขาทิกํ อวยวํ ภูมิยํ ฆํสนโก ยกฺโขว โรโค.
ปฺจาพาธวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ราชภฏวตฺถุกถาวณฺณนา
๙๐. น ¶ ทานาหํ เทวสฺส ภโฏติ อาปุจฺฉตีติ รฺา เอว ทินฺนฏฺานนฺตรํ สนฺธาย วุตฺตํ. โย ปน ราชกมฺมิเกหิ อมจฺจาทีหิ ปิโต, อมจฺจาทีนํ เอว วา ภโฏ โหติ, เตน ตํ ตํ อมจฺจาทิมฺปิ อาปุจฺฉิตุํ วฏฺฏติ.
ราชภฏวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
โจรวตฺถุกถาวณฺณนา
๙๑. ตสฺมาติ ¶ ภควา สยํ ยสฺมา ธมฺมสฺสามี, ตสฺมา องฺคุลิมาลํ เอหิภิกฺขุภาเวน ปพฺพาเชสิ, ภิกฺขูนํ ปน สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺโต เอวมาหาติ อธิปฺปาโย. เอวํ ชานนฺตีติ สีลวา ชาโตติ ชานนฺติ.
๙๒. อุปรมนฺติ วิรมนฺติ. ภินฺทิตฺวาติ อนฺทุพนฺธนํ ภินฺทิตฺวา. ฉินฺทิตฺวาติ สงฺขลิกํ ฉินฺทิตฺวา. มฺุจิตฺวาติ รชฺชุพนฺธนํ มฺุจิตฺวา. วิวริตฺวาติ คามพนฺธนาทีสุ คามทฺวาราทีนํ วิวริตฺวา. อปสฺสมานานนฺติ ปุริสคุตฺติยํ โคปกานํ อปสฺสนฺตานํ.
๙๕. ปุริมนเยเนวาติ ‘‘กสาหโต กตทณฺฑกมฺโม’’ติ เอตฺถ วุตฺตนเยเนว.
โจรวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิณายิกวตฺถุกถาวณฺณนา
๙๖. ปลาโตปีติ อิณสามิกานํ อาคมนํ ตฺวา ภเยน ปลาโต. คีวา โหตีติ อิณายิกภาวํ ตฺวา อนาทเรน อิณมุตฺตเก ภิกฺขุภาเว ปเวสิตตฺตา. อุปฑฺฒุปฑฺฒนฺติ โถกโถกํ. ทาตพฺพเมวาติ อิณายิเกน ธนํ สมฺปฏิจฺฉตุ วา มา วา, ทาเน สอุสฺสาเหเนว ภวิตพฺพํ. อฺเหิ จ ภิกฺขูหิ ‘‘มา ธุรํ นิกฺขิปาหี’’ติ วตฺวา สหายเกหิ ภวิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. ธุรนิกฺเขเปน หิสฺส ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺพตา สิยาติ.
อิณายิกวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทาสวตฺถุกถาวณฺณนา
๙๗. ‘‘ทาสจาริตฺตํ ¶ อาโรเปตฺวา กีโต’’ติ อิมินา ทาสภาวปริโมจนตฺถาย กีตกํ นิวตฺเตติ. ตาทิโส หิ ธนกฺกีโตปิ อทาโส เอว. ตตฺถ ตตฺถ จาริตฺตวเสนาติ ตสฺมึ ตสฺมึ ชนปเท ทาสปณฺณชฺฌาปนาทินา ¶ อทาสกรณนิยาเมน. อภิเสกาทีสุ สพฺพพนฺธนานิ โมจาเปนฺติ, ตํ สนฺธาย ‘‘สพฺพสาธารเณนา’’ติ วุตฺตํ.
สยเมว ปณฺณํ อาโรเปนฺติ, น วฏฺฏตีติ ตา ภุชิสฺสิตฺถิโย ‘‘มยมฺปิ วณฺณทาสิโย โหมา’’ติ อตฺตโน รกฺขณตฺถาย สยเมว ราชูนํ ทาสิปณฺเณ อตฺตโน นามํ ลิขาเปนฺติ, ตาสํ ปุตฺตาปิ ราชทาสาว โหนฺติ, ตสฺมา เต ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. เตหิ อทินฺนา น ปพฺพาเชตพฺพาติ ยตฺตกา เตสํ สามิโน, เตสุ เอเกน อทินฺเนปิ น ปพฺพาเชตพฺพา.
ภุชิสฺเส ปน กตฺวา ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตีติ ยสฺส วิหารสฺส เต อารามิกา ทินฺนา, ตสฺมึ วิหาเร สงฺฆํ าเปตฺวา ผาติกมฺเมน ธนานิ ทตฺวา ภุชิสฺเส กตฺวา ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. ตกฺกํ สีเส อาสิตฺตกสทิสาว โหนฺตีติ เกสุจิ ชนปเทสุ อทาเส กโรนฺตา ตกฺกํ สีเส อาสิฺจนฺติ, เตน กิร เต อทาสา โหนฺติ, เอวมิทมฺปิ อารามิกวจเนน ทานมฺปีติ อธิปฺปาโย. ตถา ทินฺเนปิ สงฺฆสฺส อารามิกทาโส เอวาติ ‘‘เนว ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ตาวกาลิโก นามา’’ติ วุตฺตตฺตา กาลปริจฺเฉทํ กตฺวา วา ปจฺฉาปิ คเหตุกามตาย วา ทินฺนํ สพฺพํ ตาวกาลิกเมวาติ คเหตพฺพํ. นิสฺสามิกทาโส นาม ยสฺส สามิกุลํ อฺาติกํ มรเณน ปริกฺขีณํ, น โกจิ ตสฺส ทายาโท, โส ปน สมานชาติเกหิ วา นิวาสคามวาสีหิ วา อิสฺสเรหิ วา ภุชิสฺโส กโตว ปพฺพาเชตพฺโพ. เทวทาสาปิ ทาสา เอว. เต หิ กตฺถจิ เทเส ราชทาสา โหนฺติ, กตฺถจิ วิหารทาสา, ตสฺมา ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. ทาสมฺปิ ปพฺพาเชตฺวา สามิเก ทิสฺวา ปฏิจฺฉาทนตฺถํ อปเนนฺโต ปทวาเรน อทินฺนาทานาปตฺติยา กาเรตพฺโพ, ทาสสฺส ปน ปลายโต อนาปตฺติ.
ทาสวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
กมฺมารภณฺฑุวตฺถาทิกถาวณฺณนา
๙๘. ภณฺฑุกมฺมาปุจฺฉานาทิกถายํ กมฺมารภณฺฑูติ ทหรตาย อโมฬิพนฺโธ มุณฺฑิกสีโส กมฺมารทารโก ¶ เอว วุตฺโต. ตุลาธารมุณฺฑโกติ เอตฺถ ตุลาธาราติ ตมฺพสุวณฺณาทีนํ ตุลํ หตฺเถน ธาเรตีติ ¶ กมฺมารา ‘‘ตุลาธารา’’ติ วุตฺตา, เตสุ เอโก มุณฺฑิกสีโส ทหโรติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปฺจสิโข ตรุณทารโก’’ติ. เอกาว สิขา ปฺจ เวณิโย กตฺวา พนฺธเนน ปฺจสิขาติ วุจฺจติ, สา เอตสฺส อตฺถีติ ปฺจสิโข, ตสฺส สิขํ ฉินฺทนฺตา กฺจิ ภิกฺขุํ อชานาเปตฺวาว ปพฺพาเชสุํ. เตน ภณฺฑุกมฺมาปโลกนํ อนฺุาตํ. สีมาปริยาปนฺเนติ พทฺธสีมาย สติ ตทนฺโตคเธ, อสติ อุปจารสีมนฺโตคเธติ อตฺโถ. เอตฺถ จ กิฺจาปิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สงฺฆํ อปโลเกตุํ ภณฺฑุกมฺมายา’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, น ปน อนปโลเกนฺตสฺส อาปตฺติ วุตฺตา, ตถาปิ อฏฺกถายํ ‘‘สพฺเพ อาปุจฺฉิตา อมฺเหหีติสฺิโน…เป… ปพฺพาเชนฺตสฺสปิ อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา สฺจิจฺจ อนาปุจฺฉา เกเส โอหาเรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมวาติ ทฏฺพฺพํ. เกโสโรปนมฺปิ สมณปพฺพชนโวหารํ ลภตีติ อาห ‘‘อิมสฺส สมณกรณ’’นฺติอาทิ. เอกสิขามตฺตธโรติ เอตฺถ เอเกน เกเสน สิขา เอกสิขาติ วทนฺติ, อปฺปเกสาว สิขา เอวํ วุตฺตาติ คเหตพฺพา. เอกเกสมฺปิ ปน อนาปุจฺฉา ฉินฺทิตุํ น วฏฺฏติเยว.
๑๐๐. วามหตฺเถนาติ ทกฺขิณหตฺเถน ภฺุชนโต วุตฺตํ.
๑๐๓-๔. นิสฺสยมุจฺจนกสฺส วตฺเตสุ ปฺจกฉกฺเกสุ ปน ‘‘อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ…เป… อนุพฺยฺชนโส’’ติ เอตฺถ สพฺโพปิ จายํ ปเภโท มาติกาฏฺกถายํ าตายํ าโต โหติ. ‘‘อาปตฺตึ ชานาติ, อนาปตฺตึ ชานาตี’’ติ อิทฺจ อตฺตนา าตฏฺาเนสุ อาปตฺตาทึ สนฺธาย วุตฺตนฺติ น คเหตพฺพํ.
กมฺมารภณฺฑุวตฺถาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ราหุลวตฺถุกถาวณฺณนา
๑๐๕. โปกฺขรวสฺสนฺติ โปกฺขเร ปทุมคจฺเฉ วิย อเตมิตุกามานํ สรีรโต ปวฏฺฏนกวสฺสํ. ตสฺมึ กิร วสฺสนฺเต เตมิตุกามาว เตเมนฺติ, น อิตเร. ‘‘ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา คโต นาม นตฺถีติ อตฺตโน สนฺตเก รชฺเช สพฺพมฺปิ สาปเตยฺยํ สยเมว ปริภฺุชิสฺสตีติ คารเวน ¶ สุทฺโธทนมหาราชาปิ น นิมนฺเตสิ, คนฺตฺวา ปน เคเห สกลรตฺตึ มหาทานฺเจว พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส อาสนปฺตฺติฏฺานาลงฺการฺจ สํวิทหนฺโตว วีตินาเมสิ.
น ¶ โกจิ…เป… ปตฺตํ วา อคฺคเหสีติ ภควา อตฺตโน ปิตุ นิเวสนเมว คมิสฺสตีติสฺาย นคฺคเหสิ. กุลนคเรติ าติกุลนฺตเก นคเร. ปิณฺฑจาริยวตฺตนฺติ อตฺตโน าติคาเมสุปิ สปทานจาริกวตฺตํ. ภิกฺขาย จาโร จรณํ เอตสฺสาติ ภิกฺขาจาโร, ขตฺติโย.
อุตฺติฏฺเติ อุตฺติฏฺิตฺวา ปเรสํ ฆรทฺวาเร อุทฺทิสฺส ตฺวา คเหตพฺพปิณฺเฑ. นปฺปมชฺเชยฺยาติ นิมนฺตนาทิวเสน ลพฺภมานปณีตโภชนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปิณฺฑาย จรณวเสน ตตฺถ นปฺปมชฺเชยฺย. ธมฺมนฺติ อเนสนํ ปหาย สปทานํ จรนฺโต ตเมว ภิกฺขาจริยธมฺมํ สุจริตํ จเรยฺย. สุขํ เสตีติ จตูหิ อิริยาปเถหิ สุขํ วิหรตีติ อตฺโถ.
ทุติยคาถายํ น นํ ทุจฺจริตนฺติ เวสิยาทิเภเท อโคจเร จรณวเสน ตํ ยถาวุตฺตํ ธมฺมํ ทุจฺจริตํ น จ จเร. เสสํ วุตฺตนยเมว. อิมํ ปน คาถํ สุตฺวาติ นิเวสเน นิสินฺเนน ภควตา าติสมาคเม อตฺตโน ปิณฺฑาย จรณํ นิสฺสาย ปวตฺตาย คาถาย วุตฺตํ อิมํ ทุติยคาถํ สุตฺวา.
ธมฺมปาลชาตกนฺติอาทีสุ ปน ตโต ปรกาเลสุปิ รฺโ ปวตฺติ ปรินิพฺพานํ ปาเปตฺวา ยถาปสงฺควเสน ทสฺเสตุํ วุตฺตา. เตนาห ‘‘โสตาปตฺติผลํ สจฺฉิกตฺวา’’ติอาทิ. สิริคพฺภํ คนฺตฺวาติ เอตฺถ ยทิ หิ ภควา ตทเหว คนฺตฺวา น ปสฺเสยฺย, สา หทเยน ผลิเตน มเรยฺยาติ อคมาสีติ ทฏฺพฺพํ.
ตํ ทิวสเมวาติ ตสฺมึ ราหุลมาตุทสฺสนทิวเสเยว. ธมฺมปทฏฺกถายํ ปน ‘‘สตฺถา กปิลปุรํ คนฺตฺวา ตติยทิวเส นนฺทํ ปพฺพาเชสี’’ติ (ธ. ป. อฏฺ. ๑.๑๒ นนฺทตฺเถรวตฺถุ) วุตฺตํ. เกสวิสฺสชฺชนนฺติ ราชโมฬิพนฺธนตฺถํ กุมารกาเล พนฺธิตสิขาเวณิโมจนํ, ตํ กิร กโรนฺตา มงฺคลํ กโรนฺติ. สารตฺถทีปนิยํ ปน ‘‘เกสวิสฺสชฺชนนฺติ กุลมริยาทวเสน เกโสโรปน’’นฺติ (สารตฺถ. ฏี. มหาวคฺค ๓.๑๐๕) วุตฺตํ. ปฏฺฏพนฺโธติ ‘‘อสุกราชา’’ติ นฬาเฏ สุวณฺณปฏฺฏพนฺธนํ. อภินวปาสาทปฺปเวสมงฺคลํ ฆรมงฺคลํ. ฉตฺตุสฺสาปเน มงฺคลํ ฉตฺตมงฺคลํ. ชนปทกลฺยาณีติ ¶ ชนปทมฺหิ กลฺยาณี ปเรหิ อสาธารเณหิ ปฺจกลฺยาณาทีหิ สหิตตฺตา สา เอวํ วุตฺตา. ตุวฏนฺติ สีฆํ. อนิจฺฉมานนฺติ มนสา อโรเจนฺตํ, วาจาย ปน ภควตา ‘‘ปพฺพชิสฺสสิ นนฺทา’’ติ วุตฺเต คารเวน ปฏิกฺขิปิตุํ อวิสหนฺโต ‘‘อามา’’ติ อโวจ. ภควา จ เอเตน เลเสน ปพฺพาเชสิ.
พฺรหฺมรูปวณฺณนฺติ ¶ พฺรหฺมรูปสมานรูปํ. ตฺยสฺสาติ เต อสฺส. นิวตฺเตตุํ น วิสหีติ ‘‘มา นํ นิวตฺตยิตฺถา’’ติ ภควตา วุตฺตตฺตา นาสกฺขิ. สตฺตวิธํ อริยธนนฺติ –
‘‘สทฺธาธนํ สีลธนํ, หิริโอตฺตปฺปิยํ ธนํ;
สุตธนฺจ จาโค จ, ปฺา เว สตฺตมํ ธน’’นฺติ. (อ. นิ. ๗.๕, ๖) –
เอวํ วุตฺตํ สตฺตวิธํ อริยธนํ. อธิมตฺตํ ราหุเลติ ราหุเล ปพฺพชิเต นนฺทปพฺพชฺชาย อุปฺปนฺนทุกฺขโตปิ อธิกตรํ ทุกฺขํ อโหสีติ อตฺโถ. อิโต ปจฺฉาติ อิโต วุตฺตโสกุปฺปตฺติโต อปรทิวเสสุ อนาคามีนํ าติสิเนหปฏิฆจิตฺตุปฺปาทาภาวา. ปาฬิยํ ปุตฺตเปมนฺติอาทิ รฺา ปุตฺตสิเนหสฺส ติพฺพภาวํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ปุตฺตสิเนโห หิ อตฺตนา สหชาตปีติเวคสมุฏฺิตานํ รูปธมฺมานํ สกลสรีรํ โขเภตฺวา ปวตฺตนวเสน ‘‘ฉวึ…เป… อฏฺิมิฺชํ อาหจฺจ ติฏฺตี’’ติ วุตฺโต. อตฺตโน ปิยตราติ ภควนฺตํ สนฺธาย วทติ. ปุตฺเตติ ราหุลํ. สทฺทหนฺเตนาติ ตสฺส วจเนน อเวมติเกนาติ อตฺโถ. วิมติยา สติ อาปตฺติ เอว.
ราหุลวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สิกฺขาปททณฺฑกมฺมวตฺถุกถาวณฺณนา
๑๐๖. สามเณรสิกฺขาปทาทีสุ ปาฬิยํ สิกฺขาปทานีติ สิกฺขาโกฏฺาสา. อธิสีลสิกฺขานํ วา อธิคมูปายา. ปาโณติ ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ. ตสฺส อติปาตนํ ปพนฺธวเสน ปวตฺติตุํ อทตฺวา สตฺถาทีหิ อติกฺกมฺม อภิภวิตฺวา ปาตนํ ปาณาติปาโต. ปาณวโธติ อตฺโถ. โส ¶ ปน อตฺถโต ปาเณ ปาณสฺิโน ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทกอุปกฺกมสมุฏฺาปิกา วธกเจตนาว. ตสฺมา ปาณาติปาตา เวรมณิ, เวรเหตุตาย เวรสงฺขาตํ ปาณาติปาตาทิปาปธมฺมํ มณติ นีหรตีติ วิรติ ‘‘เวรมณี’’ติ วุจฺจติ, วิรมติ เอตายาติ วา ‘‘วิรมณี’’ติ วตฺตพฺเพ นิรุตฺตินเยน ‘‘เวรมณี’’ติ สมาทานวิรติ วุตฺตา. เอส นโย เสเสสุปิ.
อทินฺนสฺส อาทานํ อทินฺนาทานํ, เถยฺยเจตนาว. อพฺรหฺมจริยนฺติ อเสฏฺจริยํ, มคฺเคน มคฺคปฏิปตฺติสมุฏฺาปิกา เมถุนเจตนา. มุสาติ อภูตวตฺถุ, ตสฺส วาโท อภูตตํ ตฺวาว ภูตโต ¶ วิฺาปนเจตนา มุสาวาโท. ปิฏฺปูวาทินิพฺพตฺตสุรา เจว ปุปฺผาสวาทิเภทํ เมรยฺจ สุราเมรยํ. ตเทว มทนียฏฺเน มชฺชฺเจว ปมาทการณฏฺเน ปมาทฏฺานฺจ, ตํ ยาย เจตนาย ปิวติ, ตสฺส เอตํ อธิวจนํ.
อรุณุคฺคมนโต ปฏฺาย ยาว มชฺฌนฺหิกา อยํ อริยานํ โภชนสฺส กาโล นาม, ตทฺโ วิกาโล. ภฺุชิตพฺพฏฺเน โภชนนฺติ อิธ สพฺพํ ยาวกาลิกํ วุจฺจติ, ตสฺส อชฺโฌหรณํ อิธ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘โภชน’’นฺติ อธิปฺเปตํ. วิกาเล โภชนํ อชฺโฌหรณํ วิกาลโภชนํ, วิกาเล วา ยาวกาลิกสฺส โภชนํ อชฺโฌหรณํ วิกาลโภชนนฺติปิ อตฺโถ คเหตพฺโพ, อตฺถโต วิกาเล ยาวกาลิกอชฺโฌหรณเจตนาว.
สาสนสฺส อนนุโลมตฺตา วิสูกํ ปฏาณีภูตํ ทสฺสนํ วิสูกทสฺสนํ, นจฺจคีตาทิทสฺสนสวนานฺเจว วฏฺฏกยุทฺธชูตกีฬาทิสพฺพกีฬานฺจ นามํ. ทสฺสนนฺติ เจตฺถ ปฺจนฺนมฺปิ วิฺาณานํ ยถาสกํ วิสยสฺส อาโลจนสภาวตาย ทสฺสน-สทฺเทน สงฺคเหตพฺพตฺตา สวนมฺปิ สงฺคหิตํ. นจฺจคีตวาทิต-สทฺเทหิ เจตฺถ อตฺตโน นจฺจนคายนาทีนิปิ สงฺคหิตานีติ ทฏฺพฺพํ.
มาลาติ พทฺธมพทฺธํ วา อนฺตมโส สุตฺตาทิมยมฺปิ อลงฺการตฺถาย ปิฬนฺธิยมานํ ‘‘มาลา’’ตฺเวว วุจฺจติ. คนฺธนฺติ วาสจุณฺณาทิวิเลปนโต อฺํ ยํ กิฺจิ คนฺธชาตํ. วิเลปนนฺติ ปิสิตฺวา คหิตํ ฉวิราคกรณฺเจว คนฺธชาตฺจ. ธารณํ นาม ปิฬนฺธนํ. มณฺฑนํ นาม อูนฏฺานปูรณํ. คนฺธวเสน, ฉวิราควเสน จ สาทิยนํ วิภูสนํ นาม. มาลาทีสุ วา ธารณาทีนิ ยถากฺกมํ ¶ โยเชตพฺพานิ. เตสํ ธารณาทีนํ านํ การณํ วีติกฺกมเจตนา.
อุจฺจาติ อุจฺจ-สทฺเทน สมานตฺโถ นิปาโต, อุจฺจาสยนํ วุจฺจติ ปมาณาติกฺกนฺตํ อาสนฺทาทิ. มหาสยนํ อกปฺปิยตฺถรเณหิ อตฺถตํ, สโลหิตวิตานฺจ. เอเตสุ หิ อาสนํ, สยนฺจ อุจฺจาสยนมหาสยน-สทฺเทหิ คหิตานิ อุตฺตรปทโลเปน. ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ รชต-สทฺเทน ทารุมาสกาทิ สพฺพํ รูปิยํ สงฺคหิตํ, มุตฺตามณิอาทโยเปตฺถ ธฺเขตฺตวตฺถาทโย จ สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา. ปฏิคฺคหณ-สทฺเทน ปฏิคฺคาหาปนสาทิยนานิ สงฺคหิตานิ. นาสนวตฺถูติ ปาราชิกฏฺานตาย ลิงฺคนาสนาย การณํ.
๑๐๗. ปาฬิยํ สพฺพํ สงฺฆารามํ อาวรณํ กโรนฺตีติ สพฺพสงฺฆาราเม ปเวสนิวารณํ กโรนฺติ. สงฺฆาราโม อาวรณํ กาตพฺโพติ สงฺฆาราโม อาวรโณ กาตพฺโพ, สงฺฆาราเม วา อาวรณํ ¶ กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. เตเนว ‘‘ตตฺถ อาวรณํ กาตุ’’นฺติ ภุมฺมวเสน วุตฺตํ. อาหารํ อาวรณนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ‘‘ยตฺถ วา วสตี’’ติ อิมินา สามเณรสฺส วสฺสคฺเคน ลทฺธํ วา สกสนฺตกเมว วา นิพทฺธวสนกเสนาสนํ วุตฺตํ. ยตฺถ วา ปฏิกฺกมตีติ อาจริยุปชฺฌายานํ วสนฏฺานํ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘อตฺตโน’’ติอาทิ. อตฺตโนติ หิ สยํ, อาจริยสฺส, อุปชฺฌายสฺส วาติ อตฺโถ. ทณฺเฑนฺติ วิเนนฺติ เอเตนาติ ทณฺโฑ, โส เอว กตฺตพฺพตฺตา กมฺมนฺติ ทณฺฑกมฺมํ, อาวรณาทิ. อุทกํ วา ปเวเสตุนฺติ โปกฺขรณีอาทิอุทเก ปเวเสตุํ.
สิกฺขาปททณฺฑกมฺมวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อนาปุจฺฉาวรณวตฺถุอาทิกถาวณฺณนา
๑๐๘. สทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกานมฺปีติ อุปสมฺปนฺเน สนฺธาย วุตฺตํ. เตสุปิ หิ อาจริยุปชฺฌาเยสุ ยถา โอรมนฺติ, ตถา เตสํ นิคฺคหํ อกโรนฺเตสุ อฺเหิ อาวรณาทินิคฺคหกมฺมํ กาตพฺพเมว. สงฺคณฺหนฺตีติ ‘‘ปรปริสโต ภินฺทิตฺวา คณฺหิสฺสามี’’ติ ทานาทิจตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ (ที. นิ. ๓.๒๑๐; อ. นิ. ๔.๓๒, ๒๕๖) อุปลาฬนวเสน ¶ สงฺคณฺหนฺติ. โส ภิชฺชตุ วา มา วา, สงฺคณฺหนฺตสฺส ปโยเค อาปตฺติ เอว. ภินฺทิตฺวา คณฺหิตุํ น วฏฺฏตีติ ภินฺทิตุมฺปิ น วฏฺฏติ, คณฺหิตุมฺปิ น วฏฺฏตีติ อตฺโถ. อาทีนวํ ปน วตฺตุํ วฏฺฏตีติ สาสนคารเวน วา ปรานุทฺทยตาย วา วตฺตุํ วฏฺฏติ, น ปริสโลลตาย.
‘‘เสนาสนคฺคาโห จ ปฏิปฺปสฺสมฺภตี’’ติ อิมินา วสฺสจฺเฉทํ ทสฺเสติ. อุปสมฺปนฺนานมฺปิ ปาราชิกสมาปตฺติยา สรณคมนาทิสามเณรภาวสฺสาปิ วินสฺสนโต เสนาสนคฺคาโห จ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, สงฺฆลาภมฺปิ เต น ลภนฺตีติ เวทิตพฺพํ. ปุริมิกาย ปุน สรณานิ คหิตานีติ สรณคฺคหเณน สห ตทเหวสฺส วสฺสูปคมนมฺปิ ทสฺเสติ. ปจฺฉิมิกาย วสฺสาวาสิกนฺติ วสฺสาวาสิกลาภคฺคหณทสฺสนมตฺตเมเวตํ, ตโต ปุเรปิ, ปจฺฉาปิ วา วสฺสาวาสิกฺจ จีวรมาเสสุ สงฺเฆ อุปฺปนฺนํ กาลจีวรฺจ ปุริมิกาย อุปคนฺตฺวา อวิปนฺนสีโล สามเณโร ลภติ เอว. สเจ ปจฺฉิมิกาย คหิตานีติ ปจฺฉิมิกาย วสฺสูปคมนฺจ ฉินฺนวสฺสตฺจ ทสฺเสติ. ตสฺส หิ กาลจีวเร ภาโค น ปาปุณาติ. ตสฺมา ‘‘อปโลเกตฺวา ลาโภ ทาตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ.
วสฺสาวาสิกลาโภ ¶ ปน ยทิ เสนาสนสามิกา ทายกา เสนาสนคุตฺตตฺถาย ปจฺฉิมิกาย อุปคนฺตฺวา วตฺตํ กตฺวา อตฺตโน เสนาสเน วสนฺตสฺสปิ วสฺสาวาสิกํ ทาตพฺพนฺติ วทนฺติ, อนปโลเกตฺวาปิ ทาตพฺโพว. ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ ‘‘ปจฺฉิมิกาย วสฺสาวาสิกํ ลจฺฉตีติ ปจฺฉิมิกาย ปุน วสฺสํ อุปคตตฺตา ลจฺฉตี’’ติ (สารตฺถ. ฏี. มหาวคฺค ๓.๑๐๘) วุตฺตํ, ตมฺปิ วสฺสาวาสิเก ทายกานํ อิมํ อธิปฺปายํ นิสฺสาย วุตฺตฺเจ, สุนฺทรํ. สงฺฆิกํ, กาลจีวรมฺปิ สนฺธาย วุตฺตฺเจ, น ยุชฺชตีติ เวทิตพฺพํ.
น อชานิตฺวาติ ‘‘สุรา’’ติ อชานิตฺวา ปิวโต ปาณาติปาตเวรมณิอาทิสพฺพสีลเภทํ, สรณเภทฺจ น อาปชฺชติ, อกุสลํ ปน สุราปานเวรมณิสีลเภโท จ โหติ มาลาทิธารณาทีสุ วิยาติ ทฏฺพฺพํ. อิตรานีติ วิกาลโภชนเวรมณิอาทีนิ. ตานิปิ หิ สฺจิจฺจ วีติกฺกมนฺตสฺส ตํ ตํ ภิชฺชติ เอว, อิตรีตเรสํ ปน อภิชฺชมาเนน นาสนงฺคานิ น โหนฺติ. เตเนว ‘‘เตสุ ภินฺเนสู’’ติ เภทวจนํ วุตฺตํ.
อจฺจยํ ¶ เทสาเปตพฺโพติ ‘‘อจฺจโย มํ, ภนฺเต, อจฺจคมา’’ติอาทินา สงฺฆมชฺเฌ เทสาเปตฺวา สรณสีลํ ทาตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย ปาราชิกตฺตา เตสํ. เตนาห ‘‘ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺโพ’’ติ. อยเมว หิ นาสนา อิธ อธิปฺเปตาติ ลิงฺคนาสนาการเณหิ ปาณาติปาตาทีหิ อวณฺณภาสนาทีนํ สห ปติตตฺตา วุตฺตํ.
นนุ จ กณฺฏกสามเณโรปิ มิจฺฉาทิฏฺิโก เอว, ตสฺส จ เหฏฺา ทณฺฑกมฺมนาสนาว วุตฺตา. อิธ ปน มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส ลิงฺคนาสนา วุจฺจติ, โก อิเมสํ เภโทติ โจทนํ มนสิ นิธายาห ‘‘สสฺสตุจฺเฉทานฺหิ อฺตรทิฏฺิโก’’ติ. เอตฺถ จายมธิปฺปาโย – โย หิ ‘‘อตฺตา อิสฺสโร วา นิจฺโจ ธุโว’’ติอาทินา วา ‘‘อตฺตา อุจฺฉิชฺชิสฺสติ วินสฺสิสฺสตี’’ติอาทินา วา ติตฺถิยปริกปฺปิตํ ยํ กิฺจิ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺึ ทฬฺหํ คเหตฺวา โวหรติ, ตสฺส สา ปาราชิกฏฺานํ โหติ. โส จ ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺโพ. โย ปน อีทิสํ ทิฏฺึ อคฺคเหตฺวา สาสนิโกว หุตฺวา เกวลํ พุทฺธวจนาธิปฺปายํ วิปรีตโต คเหตฺวา ภิกฺขูหิ โอวทิยมาโนปิ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา โวหรติ, ตสฺส สา ทิฏฺิ ปาราชิกํ น โหติ, โส ปน กณฺฏกนาสนาย เอว นาเสตพฺโพติ.
อนาปุจฺฉาวรณวตฺถุอาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑกวตฺถุกถาวณฺณนา
๑๐๙. ปณฺฑกวตฺถุสฺมึ ¶ อาสิตฺตอุสูยปกฺขปณฺฑกา ตโยปิ ปุริสภาวลิงฺคาทิยุตฺตา อเหตุกปฏิสนฺธิกา, เต จ กิเลสปริยุฏฺานสฺส พลวตาย นปุํสกปณฺฑกสทิสตฺตา ‘‘ปณฺฑกา’’ติ วุตฺตา. เตสุ อาสิตฺตอุสูยปณฺฑกานํ ทฺวินฺนํ กิเลสปริยุฏฺานํ โยนิโสมนสิการาทีหิ วีติกฺกมโต นิวาเรตุมฺปิ สกฺกา, เตน เต ปพฺพาเชตพฺพา วุตฺตา. ปกฺขปณฺฑกสฺส ปน กาฬปกฺเขสุ อุมฺมาโท วิย กิเลสปริฬาโห อวตฺถรนฺโต อาคจฺฉติ, วีติกฺกมํ ปตฺวา เอว จ นิวตฺตติ. ตสฺมา โส ตสฺมึ ปกฺเข น ปพฺพาเชตพฺโพติ วุตฺโต. ตเทตํ วิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺส ปเรส’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาสิตฺตสฺสาติ มุเข อาสิตฺตสฺส อตฺตโนปิ อสุจิมุจฺจเนน ¶ ปริฬาโห วูปสมฺมติ. อุสูยาย อุปฺปนฺนายาติ อุสูยาย วเสน อตฺตโน เสเวตุกามตาราเค อุปฺปนฺเน อสุจิมุตฺติยา ปริฬาโห วูปสมฺมติ.
‘‘พีชานิ อปนีตานี’’ติ วุตฺตตฺตา พีเชสุ ิเตสุ นิมิตฺตมตฺเต อปนีเต ปณฺฑโก น โหติ. ภิกฺขุโนปิ อนาพาธปจฺจยา ตทปนยเน ถุลฺลจฺจยเมว, น ปน ปณฺฑกตฺตํ, พีเชสุ ปน อปนีเตสุ องฺคชาตมฺปิ ราเคน กมฺมนิยํ น โหติ, ปุมภาโว วิคจฺฉติ, มสฺสุอาทิปุริสลิงฺคมฺปิ อุปสมฺปทาปิ วิคจฺฉติ, กิเลสปริฬาโหปิ ทุนฺนิวารวีติกฺกโม โหติ นปุํสกปณฺฑกสฺส วิย. ตสฺมา อีทิโส อุปสมฺปนฺโนปิ นาเสตพฺโพติ วทนฺติ. ยทิ เอวํ กสฺมา พีชุทฺธรเณ ปาราชิกํ น ปฺตฺตนฺติ? เอตฺถ ตาว เกจิ วทนฺติ ‘‘ปฺตฺตเมเวตํ ภควตา ‘ปณฺฑโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’ติ วุตฺตตฺตา’’ติ. เกจิ ปน ‘‘ยสฺมา พีชุทฺธรณกฺขเณ ปณฺฑโก น โหติ, ตสฺมา ตสฺมึ ขเณ ปาราชิกํ น ปฺตฺตํ. ยสฺมา ปน โส อุทฺธฏพีโช ภิกฺขุ อปเรน สมเยน วุตฺตนเยน ปณฺฑกตฺตํ อาปชฺชติ, อภาวโก โหติ, อุปสมฺปทาย อวตฺถุ, ตโต เอว จสฺส อุปสมฺปทา วิคจฺฉติ, ตสฺมา เอส ปณฺฑกตฺตุปคมนกาลโต ปฏฺาย ชาติยา นปุํสกปณฺฑเกน สทฺธึ โยเชตฺวา ‘อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’ติ อภพฺโพติ วุตฺโต, น ตโต ปุพฺเพ. อยฺจ กิฺจาปิ สเหตุโก, ภาวกฺขเยน ปนสฺส อเหตุกสทิสตาย มคฺโคปิ น อุปฺปชฺชตี’’ติ วทนฺติ. อปเร ปน ‘‘ปพฺพชฺชโต ปุพฺเพ อุปกฺกเมน ปณฺฑกภาวมาปนฺนํ สนฺธาย ‘อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’ติ วุตฺตํ, อุปสมฺปนฺนสฺส ปน ปจฺฉา อุปกฺกเมน อุปสมฺปทาปิ น วิคจฺฉตี’’ติ, ตํ น ยุตฺตํ. ยทคฺเคน หิ ปพฺพชฺชโต ปุพฺเพ อุปกฺกเมน อภพฺโพ โหติ, ตทคฺเคน ปจฺฉาปิ โหตีติ วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.
อิตฺถตฺตาทิ ¶ ภาโว นตฺถิ เอตสฺสาติ อภาวโก. ปพฺพชฺชา น วาริตาติ เอตฺถ ปพฺพชฺชาคหเณเนว อุปสมฺปทาปิ คหิตา. เตนาห ‘‘ยสฺส เจตฺถ ปพฺพชฺชา วาริตา’’ติอาทิ. ตสฺมึเยวสฺส ปกฺเข ปพฺพชฺชา วาริตาติ เอตฺถ ปน อปณฺฑกปกฺเขปิ ปพฺพชฺชามตฺตเมว ลภติ, อุปสมฺปทา ปน ตทาปิ น วฏฺฏติ, ปณฺฑกปกฺเข ปน อาคเต ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺโพติ เวทิตพฺพํ.
ปณฺฑกวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เถยฺยสํวาสกวตฺถุกถาวณฺณนา
๑๑๐. เถยฺยสํวาสกวตฺถุมฺหิ ¶ โกลฺาติ กุเล ชาตา, ตตฺถ วา วิทิตา าตา ปสิทฺธา, ตํ วา ชานนฺติ โกลฺาติ าตกานํ นามํ. เถยฺยาย ลิงฺคคฺคหณมตฺตมฺปิ อิธ สํวาโส เอวาติ อาห ‘‘ตโย เถยฺยสํวาสกา’’ติ. น ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนนฺติ ภิกฺขูนํ, สามเณรานํ วา วนฺทนํ น สาทิยติ.
ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนนฺติ อตฺตนา มุสาวาเทน ทสฺสิตวสฺสกฺกเมน ภิกฺขูนํ วนฺทนํ สาทิยติ, ทหรสามเณโร ปน วุฑฺฒสามเณรานํ, ทหรภิกฺขุ จ วุฑฺฒานํ วนฺทนํ สาทิยนฺโตปิ เถยฺยสํวาสโก น โหติ. อิมสฺมึ อตฺเถติ สํวาสตฺเถนกตฺเถ.
‘‘ภิกฺขุวสฺสานี’’ติ อิทํ สํวาสตฺเถนเก วุตฺตปาวเสน วุตฺตํ, สยเมว ปน ปพฺพชิตฺวา สามเณรวสฺสานิ คเณนฺโตปิ อุภยตฺเถนโก เอว. น เกวลฺจ ปุริโสว, อิตฺถีปิ ภิกฺขุนีสุ เอวํ ปฏิปชฺชติ, เถยฺยสํวาสิกาว. อาทิกมฺมิกาปิ เจตฺถ น มุจฺจนฺติ, อุปสมฺปนฺเนสุ เอว ปฺตฺตาปตฺตึ ปฏิจฺจ อาทิกมฺมิกา วุตฺตา, เตเนเวตฺถ อาทิกมฺมิโกปิ น มุตฺโต.
ราช…เป… ภเยนาติ เอตฺถ ภย-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ยาว โส สุทฺธมานโสติ ‘‘อิมินา ลิงฺเคน ภิกฺขู วฺเจตฺวา เตหิ สํวสิสฺสามี’’ติ อสุทฺธจิตฺตาภาเวน สุทฺธจิตฺโต. เตน หิ อสุทฺธจิตฺเตน ลิงฺเค คหิตมตฺเต ปจฺฉา ภิกฺขูหิ สห สํวสตุ วา มา วา, ลิงฺคตฺเถนโก โหติ. ปจฺฉา สํวสนฺโตปิ อภพฺโพ หุตฺวา สํวสติ. ตสฺมา อุภยตฺเถนโกปิ ลิงฺคตฺเถนเก เอว ปวิสตีติ เวทิตพฺพํ. โย ปน ราชาทิภเยน สุทฺธจิตฺโตว ลิงฺคํ คเหตฺวา วิจรนฺโต ปจฺฉา ‘‘ภิกฺขุวสฺสานิ คเณตฺวา ชีวิสฺสามี’’ติ อสุทฺธจิตฺตํ อุปฺปาเทติ, โส จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน เถยฺยสํวาสโกปิ น โหติ สุทฺธจิตฺเตน คหิตลิงฺคตฺตา. สเจ ปน โส ภิกฺขูนํ สนฺติกํ ¶ คนฺตฺวา สามเณรวสฺสคณนาทึ กโรติ, ตทา สํวาสตฺเถนโก, อุภยตฺเถนโก วา โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ยํ ปน ปรโต สห ธุรนิกฺเขเปน ‘‘อยมฺปิ เถยฺยสํวาสโก, วา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ภิกฺขูหิ สงฺคมฺม สํวาสาธิวาสนวเสน ธุรนิกฺเขปํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สํวาสํ นาธิวาเสติ ยาวา’’ติ. ตสฺส ตาว เถยฺยสํวาสโก นาม น วุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ ทฏฺพฺโพ. เอตฺถ จ โจราทิภยํ ¶ วินาปิ กีฬาธิปฺปาเยน ลิงฺคํ คเหตฺวา ภิกฺขูนํ สนฺติเก ปพฺพชิตาลยํ ทสฺเสตฺวา วนฺทนาทึ อสาทิยนฺโตปิ ‘‘โสภติ นุ โข เม ปพฺพชิตลิงฺค’’นฺติอาทินา สุทฺธจิตฺเตน คณฺหนฺโตปิ เถยฺยสํวาสโก น โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
สพฺพปาสณฺฑิยภตฺตานีติ สพฺพสามยิกานํ สาธารณํ กตฺวา ปฺตฺตภตฺตานิ, อิทฺจ ภิกฺขูนฺเว นิยมิตภตฺตคหเณ สํวาโสปิ สมฺภเวยฺยาติ สพฺพสาธารณภตฺตํ วุตฺตํ. สํวาสํ ปน อสาทิยิตฺวา อภิกฺขุกวิหาราทีสุ วิหารภตฺตาทีนิ ภฺุชนฺโตปิ เถยฺยสํวาสโก น โหติ เอว. กมฺมนฺตานุฏฺาเนนาติ กสิอาทิกมฺมกรเณน. ปตฺตจีวรํ อาทายาติ ภิกฺขุลิงฺคเวเสน สรีเรน ธาเรตฺวา.
‘‘โย เอวํ ปพฺพชติ, โส เถยฺยสํวาสโก นาม โหตี’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ, ‘‘เถยฺยสํวาสโก’’ติ ปน นามํ อชานนฺโตปิ ‘‘เอวํ กาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วา ‘‘เอวํ กโรนฺโต สมโณ นาม น โหตี’’ติ วา ‘‘ยทิ อาโรเจสฺสามิ, ฉฑฺเฑสฺสนฺติ ม’’นฺติ วา ‘‘เยน เกนจิ ปพฺพชฺชา เม น รุหตี’’ติ ชานาติ, เถยฺยสํวาสโก โหติ. โย ปน ปมํ ‘‘ปพฺพชฺชา เอวํ เม คหิตา’’ติสฺี เกวลํ อนฺตรา อตฺตโน เสตวตฺถนิวาสนาทิวิปฺปการํ ปกาเสตุํ ลชฺชนฺโต น กเถติ, โส เถยฺยสํวาสโก น โหติ. อนุปสมฺปนฺนกาเลเยวาติ เอตฺถ อวธารเณน อุปสมฺปนฺนกาเล เถยฺยสํวาสกลกฺขณํ ตฺวา วฺจนายปิ นาโรเจติ, เถยฺยสํวาสโก น โหตีติ ทีเปติ. โส ปริสุทฺธจิตฺเตน คหิตลิงฺคตฺตา ลิงฺคตฺเถนโก น โหติ, ลทฺธูปสมฺปทตฺตา ตทนุคุณสฺเสว สํวาสสฺส สาทิตตฺตา สํวาสตฺเถนโกปิ น โหติ. อนุปสมฺปนฺโน ปน ลิงฺคตฺเถนโก โหติ, สํวาสารหสฺส ลิงฺคสฺส คหิตตฺตา สํวาสสาทิยนมตฺเตน สํวาสตฺเถนโก โหติ.
สลิงฺเค ิโตติ สลิงฺคภาเว ิโต. เถยฺยสํวาสโก น โหตีติ ภิกฺขูหิ ทินฺนลิงฺคสฺส อปริจฺจตฺตตฺตา ลิงฺคตฺเถนโก น โหติ, ภิกฺขุปฏิฺาย อปริจฺจตฺตตฺตา สํวาสตฺเถนโก น โหตีติ. ยํ ปน มาติกาฏฺกถายํ ‘‘ลิงฺคานุรูปสฺส สํวาสสฺส สาทิตตฺตา น สํวาสตฺเถนโก’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) การณํ วุตฺตํ, ตมฺปิ อิทเมว การณํ สนฺธาย วุตฺตํ. อิตรถา ¶ ¶ สามเณรสฺสปิ ภิกฺขุวสฺสคณนาทีสุ ลิงฺคานุรูปสํวาโส เอว สาทิโตติ สํวาสตฺเถนกตา น สิยา ภิกฺขูหิ ทินฺนลิงฺคสฺส อุภินฺนมฺปิ สาธารณตฺตา. ยถา เจตฺถ ภิกฺขุ, เอวํ สามเณโรปิ ปาราชิกํ สมาปนฺโน สามเณรปฏิฺาย อปริจฺจตฺตตฺตา สํวาสตฺเถนโก น โหตีติ เวทิตพฺโพ. โสภตีติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวาติ กาสาวธารเณ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา คิหิภาวํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา.
โย โกจิ วุฑฺฒปพฺพชิโตติ สามเณรํ สนฺธาย วุตฺตํ. มหาเปฬาทีสูติ วิลีวาทิมเยสุ ฆรทฺวาเรสุ ปิตภตฺตภาชนวิเสเสสุ, เอเตน วิหาเร ภิกฺขูหิ สทฺธึ วสฺสคณนาทีนํ อกรณํ ทสฺเสติ.
เถยฺยสํวาสกวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถาวณฺณนา
ติตฺถิยปกฺกนฺตกาทิกถาสุ เตสํ ลิงฺเค อาทินฺนมตฺเตติ วีมํสาทิอธิปฺปายํ วินา ‘‘ติตฺถิโย ภวิสฺสามี’’ติ สนฺนิฏฺานวเสน ลิงฺเค กาเยน ธาริตมตฺเต. สยเมวาติ ติตฺถิยานํ สนฺติกํ อคนฺตฺวา สยเมว สงฺฆาราเมปิ กุสจีราทีนิ นิวาเสติ. อาชีวโก ภวิสฺสามิ…เป… คจฺฉตีติ อาชีวกานํ สนฺติเก เตสํ ปพฺพชนวิธินา ‘‘อาชีวโก ภวิสฺสามี’’ติ คจฺฉติ. ตสฺส หิ ติตฺถิยภาวูปคมนํ ปติ สนฺนิฏฺาเน วิชฺชมาเนปิ ‘‘คนฺตฺวา ภวิสฺสามี’’ติ ปริกปฺปิตตฺตา ปทวาเร ทุกฺกฏเมว วุตฺตํ. ทุกฺกฏนฺติ ปาฬิยา อวุตฺเตปิ เมถุนาทีสุ วุตฺตปุพฺพปโยคทุกฺกฏานุโลมโต วุตฺตํ. เอเตน จ สนฺนิฏฺานวเสน ลิงฺเค สมฺปฏิจฺฉิเต ปาราชิกํ, ตโต ปุริมปโยเค ถุลฺลจฺจยฺจ วตฺตพฺพเมว, ถุลฺลจฺจยกฺขเณ นิวตฺตนฺโตปิ อาปตฺตึ เทสาเปตฺวา มุจฺจติ เอวาติ ทฏฺพฺพํ. ยถา เจตฺถ, เอวํ สงฺฆเภเทปิ โลหิตุปฺปาเทปิ ภิกฺขูนํ ปุพฺพปโยคาทีสุ ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยปาราชิกาหิ มุจฺจนสีมา จ เวทิตพฺพา. สาสนวิรุทฺธตาเยตฺถ อาทิกมฺมิกานมฺปิ อนาปตฺติ น วุตฺตา. ปพฺพชฺชายปิ อภพฺพตาทสฺสนตฺถํ ปเนเต, อฺเ จ ปาราชิกกณฺเฑ วิสุํ สิกฺขาปเทน ปาราชิกาทึ อทสฺเสตฺวา อิธ อภพฺเพสุ เอว วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ.
ตํ ¶ ลทฺธินฺติ ติตฺถิยเวเส เสฏฺภาวคฺคหณเมว สนฺธาย วุตฺตํ. เตสฺหิ ติตฺถิยานํ สสฺสตาทิคฺคาหํ คณฺหนฺโตปิ ลิงฺเค อสมฺปฏิจฺฉิเต ติตฺถิยปกฺกนฺตโก น โหติ, ตํ ลทฺธึ อคฺคเหตฺวาปิ ‘‘เอเตสํ วตจริยา สุนฺทรา’’ติ ลิงฺคํ สมฺปฏิจฺฉนฺโต ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ เอว ¶ . ลทฺธิยา อภาเวนาติ ภิกฺขุภาเว สาลยตาย ติตฺถิยภาวูปคมนลทฺธิยา อภาเวน, เอเตน จ อาปทาสุ กุสจีราทึ ปารุปนฺตสฺสาปิ นคฺคสฺส วิย อนาปตฺตึ ทสฺเสติ.
อุปสมฺปนฺนภิกฺขุนา กถิโตติ เอตฺถ สงฺฆเภทโกปิ อุปสมฺปนฺนภิกฺขุนาว กถิโต, มาตุฆาตกาทโย ปน อนุปสมฺปนฺเนนาปีติ ทฏฺพฺพํ.
ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ติรจฺฉานวตฺถุกถาวณฺณนา
๑๑๑. อุทกสฺจาริกํ มณฺฑูกภกฺขํ นาคสรีรนฺติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. วิสฺสรภเยนาติ นาคสฺส สรีรํ ทิสฺวา ภิกฺขุโน วิรวนภเยน. กปิมิทฺธาทีสุ นาคสรีรํ นุปฺปชฺชตีติ ตทุปฺปตฺติสีมํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วิสฺสฏฺโ’’ติอาทิ.
ติรจฺฉานวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
มาตุฆาตกาทิกถาวณฺณนา
๑๑๒. อปวาหนนฺติ โสธนํ. ติรจฺฉานาทิอมนุสฺสชาติโต มนุสฺสชาติกานฺเว ปุตฺเตสุ เมตฺตาทโยปิ ติกฺขวิสทา โหนฺติ โลกุตฺตรคุณา วิยาติ อาห ‘‘มนุสฺสิตฺถิภูตา ชนิกา มาตา’’ติ. ยถา มนุสฺสานฺเว กุสลปฺปวตฺติ ติกฺขวิสทา, เอวํ อกุสลปฺปวตฺติปีติ อาห ‘‘สยมฺปิ มนุสฺสชาติเกเนวา’’ติอาทิ. อานนฺตริเยนาติ เอตฺถ จุติอนนฺตรํ นิรเย ปฏิสนฺธิผลํ อนนฺตรํ นาม, ตสฺมึ อนนฺตเร ชนกตฺเตน นิยุตฺตํ อานนฺตริยํ, เตน. เวสิยา ปุตฺโตติ อุปลกฺขณมตฺตํ, กุลิตฺถิยา อติจารินิยา ปุตฺโตปิ อตฺตโน ปิตรํ อชานิตฺวา ฆาเตนฺโต ปิตุฆาตโกว โหติ.
๑๑๔. อวเสสนฺติ ¶ อนาคามิอาทิกํ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ มนุสฺสวิคฺคหปาราชิเก วุตฺตเมว.
๑๑๕. อยํ สงฺฆเภทโกติ ปกตตฺตํ ภิกฺขุํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปุพฺเพ เอว ปาราชิกํ สมาปนฺโน ¶ วา วตฺถาทิโทเสน วิปนฺโนปสมฺปโท วา สงฺฆํ ภินฺทนฺโตปิ อนนฺตริยํ น ผุสติ, สงฺโฆ ปน ภินฺโนว โหติ, ปพฺพชฺชา จสฺส น วาริตาติ ทฏฺพฺพํ.
‘‘ทุฏฺจิตฺเตนา’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวติ ‘‘วธกจิตฺเตนา’’ติ. โลหิตํ อุปฺปาเทตีติ ตถาคตสฺส เวรีหิ อเภชฺชกายตาย เกนจิ พลกฺกาเรน จมฺมาทิเฉทํ กตฺวา พหิ โลหิตํ ปคฺฆราเปตุํ น สกฺกา, อาวุธาทิปหาเรน ปน โลหิตํ านโต จลิตฺวา กุปฺปมานํ เอกตฺถ สฺจิตํ โหติ, เอตฺตเกน ปน ปหารทายโก โลหิตุปฺปาทโก นาม โหติ เทวทตฺโต วิย. เจติยํ ปน โพธึ วา ปฏิมาทึ วา ภินฺทโต อานนฺตริยํ น โหติ, อานนฺตริยสทิสํ มหาสาวชฺชํ โหติ. โพธิรุกฺขสฺส ปน โอโชหรณสาขา เจว สธาตุกํ เจติยํ พาธยมานา จ ฉินฺทิตพฺพา, ปฺุเมเวตฺถ โหติ.
มาตุฆาตกาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุภโตพฺยฺชนกวตฺถุกถาวณฺณนา
๑๑๖. อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนโกติ อิตฺถินฺทฺริยยุตฺโต, อิตโร ปน ปุริสินฺทฺริยยุตฺโต. เอกสฺส หิ ภาวทฺวยํ สห นุปฺปชฺชติ ยมเก (ยม. ๓.อินฺทฺริยยมก.๑๘๘) ปฏิกฺขิตฺตตฺตา. ทุติยพฺยฺชนํ ปน กมฺมสหาเยน อกุสลจิตฺเตเนว ภาววิรหิตํ อุปฺปชฺชติ. ปกติตฺถิปุริสานมฺปิ กมฺมเมว พฺยฺชนลิงฺคานํ การณํ, น ภาโว ตสฺส เกนจิ ปจฺจเยน ปจฺจยตฺตสฺส ปฏฺาเน อวุตฺตตฺตา. เกวลํ ภาวสหิตานํเยว พฺยฺชนลิงฺคานํ ปวตฺติทสฺสนตฺถํ อฏฺกถาสุ ‘‘อิตฺถินฺทฺริยํ ปฏิจฺจ อิตฺถิลิงฺคาทีนี’’ติอาทินา (ธ. ส. อฏฺ. ๖๓๒) อินฺทฺริยํ พฺยฺชนกอารณตฺเตน วุตฺตํ, อิธ ปน อกุสลพเลน อินฺทฺริยํ วินาปิ พฺยฺชนํ อุปฺปชฺชตีติ วุตฺตํ. อุภินฺนมฺปิ เจสํ อุภโตพฺยฺชนกานํ ยทา อิตฺถิยา ราโค อุปฺปชฺชติ, ตทา ปุริสพฺยฺชนํ ปากฏํ โหติ, อิตรํ ปฏิจฺฉนฺนํ. ยทา ปุริเส ราโค อุปฺปชฺชติ, ตทา อิตฺถิพฺยฺชนํ ¶ ปากฏํ โหติ, อิตรํ ปฏิจฺฉนฺนํ. ตตฺถ วิจารณกฺกโมติ ปฏิสนฺธิกฺขเณ เอว อิตฺถิปุริสลิงฺคานมฺปิ ปาตุภาวปฺปกาสเก กุรุนฺทิวจเน อยุตฺตตาปกาสนตฺถํ อตฺถวิจารณกฺกโม. อฏฺสาลินิยฺหิ ‘‘อิตฺถิลิงฺคาทีนิ ปน อิตฺถินฺทฺริยํ ปฏิจฺจ ปวตฺเต สมุฏฺิตานี’’ติอาทิ (ธ. ส. อฏฺ. ๖๓๒) วุตฺตํ. เนวสฺส ปพฺพชฺชา อตฺถีติ โยชนา. โย จ ปฏิกฺขิตฺเต อภพฺเพ, ภพฺเพ จ ปุคฺคเล ตฺวา ปพฺพาเชติ, อุปสมฺปาเทติ วา, ทุกฺกฏํ. อชานนฺตสฺส สพฺพตฺถ อนาปตฺตีติ เวทิตพฺพํ.
อุภโตพฺยฺชนกวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อนุปชฺฌายกาทิวตฺถุกถาวณฺณนา
๑๑๗. อนุปชฺฌายาทิวตฺถูสุ ¶ สิกฺขาปทํ อปฺตฺตนฺติ ‘‘น, ภิกฺขเว, อนุปชฺฌายโก อุปสมฺปาเทตพฺโพ’’ติ อิเธว ปฺาปิยมานสิกฺขาปทํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘กมฺมํ ปน น กุปฺปตี’’ติ อิทํ อุปชฺฌายาภาเวปิ ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข, อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยนา’’ติ มตสฺส วา วิพฺภมนฺตสฺส วา ปุราณอุปชฺฌายสฺส, อฺสฺส วา ยสฺส กสฺสจิ อวิชฺชมานสฺสาปิ นาเมน สพฺพตฺถ อุปชฺฌายกิตฺตนสฺส กตตฺตา วุตฺตํ. ยทิ หิ อุปชฺฌายกิตฺตนํ น กเรยฺย, ‘‘ปุคฺคลํ น ปรามสตี’’ติ วุตฺตกมฺมวิปตฺติ เอว สิยา. เตเนว ปาฬิยํ ‘‘อนุปชฺฌายก’’นฺติ วุตฺตํ. อฏฺกถายมฺปิสฺส ‘‘อุปชฺฌายํ อกิตฺเตตฺวา’’ติ อวตฺวา ‘‘อุปชฺฌายํ อคาหาเปตฺวา สพฺเพน สพฺพํ อุปชฺฌายวิรหิตํ’’อิจฺเจว อตฺโถติ วุตฺโต. ปาฬิยํ สงฺเฆน อุปชฺฌาเยนาติ ‘‘อยํ อิตฺถนฺนาโม สงฺฆสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข, อิตฺถนฺนาโม สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจติ สงฺเฆน อุปชฺฌาเยนา’’ติ เอวํ กมฺมวาจาย สงฺฆเมว อุปชฺฌายํ กิตฺเตตฺวาติ อตฺโถ. เอวํ คเณน อุปชฺฌาเยนาติ เอตฺถาปิ ‘‘อยํ อิตฺถนฺนาโม คณสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติอาทินา โยชนา เวทิตพฺพา, เอวํ วุตฺเตปิ กมฺมํ น กุปฺปติ เอว ทุกฺกฏสฺเสว วุตฺตตฺตา. อฺถา ‘‘โส จ ปุคฺคโล อนุปสมฺปนฺโน’’ติ วเทยฺย. เตนาห ‘‘สงฺเฆนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ปณฺฑกาทีหิ อุปชฺฌาเยหิ กริยมาเนสุ กมฺเมสุ ปณฺฑกาทิเก วินาว ยทิ ปฺจวคฺคาทิคโณ ปูรติ, กมฺมํ น กุปฺปติ, อิตรถา กุปฺปตีติ เวทิตพฺพํ.
อนุปชฺฌายกาทิวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อปตฺตกาทิวตฺถุกถาวณฺณนา
๑๑๘. อปตฺตจีวรวตฺถูสุปิ ¶ ปตฺตจีวรานํ อภาเวปิ ‘‘ปริปุณฺณสฺส ปตฺตจีวร’’นฺติ กมฺมวาจาย สาวิตตฺตา กมฺมโกปํ อวตฺวา ทุกฺกฏเมว วุตฺตํ. อิตรถา สาวนาย หาปนโต กมฺมโกโป เอว สิยา. เกจิ ปน ‘‘ปมํ อนฺุาตกมฺมวาจาย อุปสมฺปนฺนา วิย อิทานิปิ ‘ปริปุณฺณสฺส ปตฺตจีวร’นฺติ อวตฺวา กมฺมวาจาย อุปสมฺปนฺนาปิ สูปสมฺปนฺนาเอวา’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ. อนฺุาตกาลโต ปฏฺาย หิ อปรามสนํ สาวนาย หาปนวิปตฺติ เอว โหติ ‘‘อิตฺถนฺนาโม สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจตี’’ติ ปทสฺส หาปเน วิย. ตมฺปิ หิ ปจฺฉา อนฺุาตํ, ‘‘สงฺฆํ, ภนฺเต, อุปสมฺปทํ ยาจามี’’ติอาทิวากฺเยน อยาเจตฺวา ตมฺปิ อุปสมฺปาเทนฺโต ‘‘อยํ อิตฺถนฺนาโม สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจตี’’ติ วตฺวาว ยทิ กมฺมวาจํ กโรติ, กมฺมํ สุกตเมว โหติ ¶ , โน เจ วิปนฺนํ. สพฺพปจฺฉา หิ อนฺุาตกมฺมวาจโต กิฺจิปิ ปริหาเปตุํ น วฏฺฏติ, สาวนาย หาปนเมว โหติ. อฺเ วา ภิกฺขู ทาตุกามา โหนฺตีติ สมฺพนฺโธ.
อนามฏฺปิณฺฑปาตนฺติ ภิกฺขูหิ ลทฺธภิกฺขโต อคฺคหิตคฺคํ ปิณฺฑปาตํ. สามเณรภาคสมโกติ เอตฺถ กิฺจาปิ สามเณรานมฺปิ อามิสภาคสฺส สมกเมว ทิยฺยมานตฺตา วิสุํ สามเณรภาโค นาม นตฺถิ, ปตฺตจีวรปริกมฺมมตฺตปฏิพทฺธปพฺพชฺชตาย ปน สามเณรสทิสา เอเต ปณฺฑุปลาสาติ ทสฺสนตฺถํ เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. นิยตาสนฺนปพฺพชฺชสฺเสว จายํ ภาโค ทียติ. เตเนว ‘‘ยาว ปตฺโต ปจฺจตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อามิสภาโคติ วิหาเร ทินฺนํ สงฺฆภตฺตํ, ตตฺรุปฺปาทฺจ สนฺธาย วุตฺตํ, น ทายกานํ เคเหสุ เตหิ ทิยฺยมานํ. เตเนว สลากภตฺตาทิ ปฏิกฺขิตฺตํ, ทายกา วิปฺปฏิสาริโน โหนฺตีติ. เภสชฺชนฺติอาทินา ปน คิหีนํ เภสชฺชกรณาทิโทโส เอตฺถ น โหตีติ ทสฺเสติ.
อปตฺตกาทิวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
หตฺถจฺฉินฺนาทิวตฺถุกถาวณฺณนา
๑๑๙. หตฺถจฺฉินฺนาทิวตฺถูสุ ¶ กณฺณมูเลติ สกลสฺส กณฺณสฺส เฉทํ สนฺธาย วุตฺตํ. กณฺณสกฺขลิกายาติ กณฺณจูฬิกาย. ยสฺส ปน กณฺณาวิทฺเธติ เหฏฺา กุณฺฑลาทิปนจฺฉิทฺทํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตฺหิ สงฺฆฏนกฺขมํ. อชปทเกติ อชปทนาสิกฏฺิโกฏิยํ. ตโต หิ อุทฺธํ น วิจฺฉินฺทติ. สกฺกา โหติ สนฺเธตุนฺติ อวิรูปสณฺานํ สนฺธาย วุตฺตํ, วิรูปํ ปน ปริสทูสกตํ อาปาเทติ.
ขุชฺชสรีโรติ วงฺกสรีโร. พฺรหฺมุโน วิย อุชุกํ คตฺตํ สรีรํ ยสฺส, โส พฺรหฺมุชฺชุคตฺโต, ภควา.
ปริวฏุโมติ สมนฺตโต วฏฺฏกาโย, เอเตน เอวรูปา เอว วามนกา น วฏฺฏนฺตีติ ทสฺเสติ.
กูฏกูฏสีโสติ อเนเกสุ าเนสุ ปิณฺฑิกมํสตํ ทสฺเสตุํ อาเมฑิตํ กตํ. เตนาห ‘‘ตาลผลปิณฺฑิสทิเสนา’’ติ, ตาลผลานํ มฺชรี ปิณฺฑิ นาม. อนุปุพฺพตนุเกน สีเสนาติ เจติยถูปิกา ¶ วิย กเมน กิเสน สีเสน, ถูลเวฬุปพฺพํ วิย อาทิโต ปฏฺาย ยาวปริโยสานํ สมถูเลน อุจฺเจน สีเสน สมนฺนาคโต นาฬิสีโส นาม. กปฺปสีโสติ คชมตฺถกํ วิย ทฺวิธา ภินฺนสีโส. ‘‘กณฺณิกเกโส วา’’ติ อิมสฺส วิวรณํ ‘‘ปาณเกหี’’ติอาทิ. มกฺกฏสฺเสว นฬาเฏปิ เกสานํ อุฏฺิตภาวํ สนฺธายาห ‘‘สีสโลเมหี’’ติอาทิ.
มกฺกฏภมุโกติ นฬาฏโลเมหิ อวิภตฺตโลมภมุโก. อกฺขิจกฺกเลหีติ กณฺหมณฺฑเลหิ. เกกโรติ ติริยํ ปสฺสนโก. อุทกตารกาติ โอโลเกนฺตานํ อุทเก ปฏิพิมฺพิกจฺฉายา, อุทกปุพฺพุฬนฺติ เกจิ. อกฺขิตารกาติ อภิมุเข ิตานํ ฉายา, อกฺขิคณฺฑกาติปิ วทนฺติ. อติปิงฺคลกฺขีติ มชฺชารกฺขิ. มธุปิงฺคลนฺติ มธุวณฺณปิงฺคลํ. นิปฺปขุมกฺขีติ เอตฺถ ปขุม-สทฺโท อกฺขิทลโลเมสุ นิรูฬฺโห, ตทภาวา นิปฺปขุมกฺขิ. อกฺขิปาเกนาติ อกฺขิทล ปริยนฺเตสุ ปูติภาวาปชฺชนโรเคน.
จิปิฏนาสิโกติ ¶ อนุนฺนตนาสิโก. ปฏงฺคมณฺฑูโก นาม มหามุขมณฺฑูโก. ภินฺนมุโขติ อุปกฺกมุขปริโยสาโน, สพฺพทา วิวฏมุโข วา. วงฺกมุโขติ เอกปสฺเส อปกฺกมฺม ิตเหฏฺิมหนุกฏฺิโก. โอฏฺจฺฉินฺนโกติ อุโภสุ โอฏฺเสุ ยตฺถ กตฺถจิ ชาติยา วา ปจฺฉา วา สตฺถาทินา อปนีตมํเสน โอฏฺเน สมนฺนาคโต. เอฬมุโขติ นิจฺจปคฺฆริตลาลามุโข.
ภินฺนคโลติ อวนตคโต. ภินฺนอุโรติ อตินินฺนอุรมชฺโฌ. เอวํ ภินฺนปิฏฺิปิ. สพฺพฺเจตนฺติ ‘‘กจฺฉุคตฺโต’’ติอาทึ สนฺธาย วุตฺตํ. เอตฺถ จ วินิจฺฉโย กุฏฺาทีสุ วุตฺโต เอวาติ อาห ‘‘วินิจฺฉโย’’ติอาทิ.
วาตณฺฑิโกติ อณฺฑวาตโรเคน อุทฺธุตพีชณฺฑโกเสน สมนฺนาคโต, ยสฺส นิวาสเนน ปฏิจฺฉนฺนมฺปิ อุนฺนตํ ปกาสติ, โสว น ปพฺพาเชตพฺโพ. วิกโฏติ ติริยํคมนปาโท, ยสฺส จงฺกมโต ชาณุกา พหิ นิคจฺฉนฺติ. ปณฺโหติ ปจฺฉโต ปริวตฺตนกปาโท, ยสฺส จงฺกมโต ชาณุกา อนฺโต ปวิสนฺติ. มหาชงฺโฆติ ถูลชงฺโฆ. มหาปาโทติ มหนฺเตน ปาทตเลน ยุตฺโต. ปาทเวมชฺเฌติ ปิฏฺิปาทเวมชฺเฌ, เอเตน อคฺคปาโท จ ปณฺหิ จ สทิโสติ ทสฺเสติ.
มชฺเฌ สงฺกุฏิตปาทตฺตาติ กุณฺฑปาทตาย การณวิภาวนํ. อคฺเค สงฺกุฏิตปาทตฺตาติ กุณฺฑปาทตาย สกุณปาทสฺเสว คมนวิภาวนํ. ปิฏฺิปาทคฺเคน จงฺกมนฺโตติ ‘‘ปาทสฺส พาหิรนฺเตนาติ ¶ จ อพฺภนฺตรนฺเตนา’’ติ จ อิทํ ปาทตลสฺส อุโภหิ ปริยนฺเตหิ จงฺกมนํ สนฺธาย วุตฺตํ.
มมฺมนนฺติ านกรณวิสุทฺธิยา อภาเวน อยุตฺตกฺขรวจนํ. วจนานุกรเณน หิ โส มมฺมโน วุตฺโต. โย จ กรณสมฺปนฺโนปิ เอกเมวกฺขรํ หิกฺการพหุโส วทติ, โสปิ อิเธว สงฺคยฺหติ. โย วา ปน หิกฺกํ นิคฺคเหตฺวาปิ อนาเมฑิตกฺขรเมว สิลิฏฺวจนํ วตฺตุํ สมตฺโถ, โส ปพฺพาเชตพฺโพ.
อาปตฺติโต น มุจฺจตีติ ตฺวา กโรนฺโตว น มุจฺจติ. ชีวิตนฺตรายาทิอาปทาสุ อรุจิยา กายสามคฺคึ เทนฺตสฺส อนาปตฺติ. อปฺปตฺโต โอสารณนฺติ โอสารณาย อนรโหติ อตฺโถ.
หตฺถจฺฉินฺนาทิวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อลชฺชินิสฺสยวตฺถุกถาวณฺณนา
๑๒๐. นิสฺสยปฏิสํยุตฺตวตฺถูสุ ¶ ภิกฺขูหิ สมาโน ภาโค ทิฏฺิสีลาทิคุณโกฏฺาโส อสฺสาติ ภิกฺขุสภาโค, ตสฺส ภาโว ภิกฺขุสภาคตา.
อลชฺชินิสฺสยวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
คมิกาทินิสฺสยวตฺถุกถาวณฺณนา
๑๒๑. นิสฺสยกรณีโยติ เอตฺถ นิสฺสยคฺคหณํ นิสฺสโย, โส กรณีโย ยสฺสาติ วิเสสนสฺส ปรนิปาโต ทฏฺพฺโพ. วิสฺสเมนฺโต วา…เป… อนาปตฺตีติ คมนสอุสฺสาหตาย ตถา วสนฺโตปิ อทฺธิโก เอว, ตตฺถ นิสฺสยทายเก อสติ อนาปตฺตีติ อธิปฺปาโย. เอเตน จ ปริสฺสมาทิอภาเว เสนาสนาทิสมฺปทํ ปฏิจฺจ วสโต อาปตฺตีติ ทสฺเสติ. ตฺจ อคมนปจฺจยา ทิวเส ทิวเส อาปชฺชตีติ วทนฺติ. จีวรรชนาทิกิจฺจตฺถาย ครูหิ เปสิตสฺสาปิ กิจฺจปริโยสานเมว วสิตพฺพํ, น ตโต ปรํ. ครูหิปิ ตาวกาลิกกิจฺจตฺถเมว เปสลทหรา เปสิตพฺพา, น นิจฺจกาลกิจฺจตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘นาวาย คจฺฉนฺตสฺส…เป… อนาปตฺตี’’ติ ¶ วุตฺตตฺตา เอวรูปํ อวิเธยฺยตํ วินา นิสฺสยทายกรหิตฏฺาเน วสฺสํ อุปคนฺตุํ น วฏฺฏตีติ ทฏฺพฺพํ.
ตสฺส นิสฺสายาติ ตํ นิสฺสาย. อาสาฬฺหีมาเส…เป… ตตฺถ คนฺตพฺพนฺติ เอตฺถ ปน สเจปิ ‘‘อสุโก เถโร เอตฺถ อาคมิสฺสติ อาคมิสฺสตี’’ติ อาคเมนฺตสฺเสว วสฺสูปนายิกทิวโส โหติ. โหตุ, วสิตฏฺาเน วสฺสํ อนุปคมฺม ยตฺถ นิสฺสโย ลพฺภติ, ทูเรปิ ตตฺถ คนฺตฺวา ปจฺฉิมิกาย อุปคนฺตพฺพํ.
๑๒๒. โคตฺเตนปีติ ‘‘อายสฺมโต ปิปฺปลิสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ เอวํ นามํ อวตฺวา โคตฺตนาเมนปีติ อตฺโถ, เตน ‘‘โกนาโม เต อุปชฺฌาโย’’ติ ปุฏฺเน โคตฺตนาเมน ‘‘อายสฺมา กสฺสโป’’ติ วตฺตพฺพนฺติ สิทฺธํ โหติ. ตสฺมา อฺมฺปิ กิฺจิ ตสฺส นามํ ปสิทฺธํ, ตสฺมึ วา ขเณ สุขคฺคหณตฺถํ นามํ ปฺาปิตํ, ตํ สพฺพํ คเหตฺวาปิ อนุสฺสาวนา กาตพฺพา. ยถา ¶ อุปชฺฌายสฺส, เอวํ อุปสมฺปทาเปกฺขสฺสปิ โคตฺตาทินาเมน, ตงฺขณิกนาเมน จ อนุสฺสาวนํ กาตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมิมฺปิ ขเณ ‘‘อยํ ติสฺโส’’ติ วา ‘‘นาโค’’ติ วา นามํ กโรนฺเตหิ อนุสาสกสมฺมุติโต ปมเมว กาตพฺพํ, เอวํ กตฺวาปิ อนฺตรายิกธมฺมานุสาสนปุจฺฉนกาเลสุ ‘‘กินฺนาโมสิ, อหํ ภนฺเต นาโค นาม, โกนาโม เต อุปชฺฌาโย, อุปชฺฌาโย เม ภนฺเต ติสฺโส นามา’’ติอาทินา วิฺาเปนฺเตน อุภินฺนมฺปิ จิตฺเต ‘‘มเมทํ นาม’’นฺติ ยถา สฺา อุปฺปชฺชติ, เอวํ วิฺาเปตพฺพํ. สเจ ปน ตสฺมึ ขเณ ปกตินาเมน วตฺวา ปจฺฉา ติสฺส-นามาทิอปุพฺพนาเมน อนุสฺสาเวติ, น วฏฺฏติ.
ตตฺถ จ กิฺจาปิ อุปชฺฌายสฺเสว นามํ อคฺคเหตฺวา เยน เกนจิ นาเมน ‘‘ติสฺสสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติอาทินาปิ ปุคฺคเล ปรามฏฺเ กมฺมํ สุกตเมว โหติ อนุปชฺฌายกาทีนํ อุปสมฺปทากมฺมํ วิย อุปชฺฌายสฺส อภาเวปิ อภพฺพตฺเตปิ กมฺมวาจาย ปุคฺคเล ปรามฏฺเ กมฺมสฺส สิชฺฌนโต. อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส ปน ยถาสกํ นามํ วินา อฺเน นาเมน อนุสฺสาวิเต กมฺมํ กุปฺปติ, โส อนุปสมฺปนฺโนว โหติ. ตตฺถ ิโต อฺโ อนุปสมฺปนฺโน วิย คหิตนามสฺส วตฺถุปุคฺคลสฺส ตตฺถ อภาวา, เอตสฺส จ นามสฺส อนุสฺสาวนาย อวุตฺตตฺตา. ตสฺมา อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส ปกตินามํ ปริวตฺเตตฺวา อนุปุพฺเพน นาคาทินาเมน อนุสฺสาเวตุกาเมน ปฏิกจฺเจว ‘‘ตฺวํ นาโค’’ติอาทินา วิฺาเปตฺวา อนุสาสนอนฺตรายิกธมฺมปุจฺฉนกฺขเณสุปิ ตสฺส จ สงฺฆสฺส จ ยถา ปากฏํ โหติ, ตถา ปกาเสตฺวาว นาคาทินาเมน อนุสฺสาเวตพฺพํ. เอกสฺส พหูนิ นามานิ โหนฺติ, เตสุ เอกํ คเหตุํ วฏฺฏติ.
ยํ ¶ ปน อุปสมฺปทาเปกฺขอุปชฺฌายานํ เอกตฺถ คหิตํ นามํ, ตเทว ตฺติยา, สพฺพตฺถ อนุสฺสาวนาสุ จ คเหตพฺพํ. คหิตโต หิ อฺสฺมึ คหิเต พฺยฺชนํ ภินฺนํ นาม โหติ, กมฺมํ วิปชฺชติ. อตฺถโต, หิ พฺยฺชนโต จ อภินฺนา เอว ตฺติ, อนุสฺสาวนา จ วฏฺฏนฺติ, อุปชฺฌายนามสฺส ปน ปุรโต ‘‘อายสฺมโต ติสฺสสฺสา’’ติอาทินา อายสฺมนฺต-ปทํ สพฺพตฺถ โยเชตฺวาปิ อนุสฺสาเวติ, ตถา อโยชิเตปิ โทโส นตฺถิ.
ปาฬิยํ ปน กิฺจาปิ ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต’’ติ ปจฺฉโต ‘‘อายสฺมโต’’ติ ปทํ วุตฺตํ, ตถาปิ ‘‘อายสฺมา สาริปุตฺโต อตฺถกุสโล’’ติอาทินา ¶ นามสฺส ปุรโต อายสฺมนฺต-ปทโยคสฺส ทสฺสนโต ปุรโตว ปโยโค ยุตฺตตโร. ตฺจ เอกตฺถ โยเชตฺวา อฺตฺถ อโยชิเตปิ เอกตฺถ ปุรโต โยเชตฺวา อฺตฺถ ปจฺฉโต โยชเนปิ สาวนาย หาปนํ นาม น โหติ นามสฺส อหาปิตตฺตา. เตเนว ปาฬิยมฺปิ ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต’’ติ เอกตฺถ โยเชตฺวา ‘‘อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยนา’’ติอาทีสุ ‘‘อายสฺมโต’’ติ น โยชิตนฺติ วทนฺติ. ตฺจ กิฺจาปิ เอวํ, ตถาปิ สพฺพฏฺาเนปิ เอเกเนว ปกาเรน โยเชตฺวา เอว วา อโยเชตฺวา วา อนุสฺสาวนํ ปสตฺถตรนฺติ คเหตพฺพํ.
คมิกาทินิสฺสยวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทฺเวอุปสมฺปทาเปกฺขาทิวตฺถุกถาวณฺณนา
๑๒๓. เอกโต สเหว เอกสฺมึ ขเณ อนุสฺสาวนํ เอเตสนฺติ เอกานุสฺสาวนา, อุปสมฺปทาเปกฺขา, เอเต เอกานุสฺสาวเน กาตุํ. เตนาห ‘‘เอกานุสฺสาวเน กาตุ’’นฺติ, อิทฺจ เอกํ ปทํ วิภตฺติอโลเปน ทฏฺพฺพํ. เอเกน วาติ ทฺวินฺนมฺปิ เอกสฺมึ ขเณ เอกาย เอว กมฺมวาจาย อนุสฺสาวเน เอเกนาจริเยนาติ อตฺโถ. ‘‘อยํ พุทฺธรกฺขิโต จ อยํ ธมฺมรกฺขิโต จ อายสฺมโต สงฺฆรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติอาทินา นเยน เอเกน อาจริเยน ทฺวินฺนํ เอกสฺมึ ขเณ อนุสฺสาวนนโย ทฏฺพฺโพ. อิมินาว นเยน ติณฺณมฺปิ เอเกน อาจริเยน เอกกฺขเณ อนุสฺสาวนํ ทฏฺพฺพํ.
ปุริมนเยเนว เอกโต อนุสฺสาวเน กาตุนฺติ ‘‘เอเกน เอกสฺส, อฺเน อิตรสฺสา’’ติอาทินา ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ทฺวินฺนํ ทฺวีหิ วา, ติณฺณํ ตีหิ วา อาจริเยหิ, เอกเกน วา อาจริเยน ตโยปิ เอกโต อนุสฺสาวเน กาตุนฺติ อตฺโถ, ตฺจ โข เอเกน อุปชฺฌาเยน. ‘‘น ตฺเวว นานุปชฺฌาเยนา’’ติ อิทํ เอเกน อาจริเยน ทฺวีหิ วา ตีหิ วา อุปชฺฌาเยหิ ¶ ทฺเว วา ตโย วา อุปสมฺปทาเปกฺเข เอกกฺขเณ เอกาย อนุสฺสาวนาย เอกานุสฺสาวเน กาตุํ น วฏฺฏตีติ ปฏิกฺเขปปทํ. น ปน นานาจริเยหิ นานุปชฺฌาเยหิ ตโย เอกานุสฺสาวเน กาตุํ น วฏฺฏตีติ อาห ‘‘สเจ ปน นานาจริยา นานุปชฺฌายา…เป… วฏฺฏตี’’ติ. ยฺเจตฺถ ¶ ‘‘ติสฺสตฺเถโร สุมนตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ, สุมนตฺเถโร ติสฺสตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริก’’นฺติ เอวํ อุปชฺฌาเยหิ อฺมฺํ สทฺธิวิหาริกานํ อนุสฺสาวนกรณํ วุตฺตํ, ตํ อุปลกฺขณมตฺตํ. ตสฺมา สเจ ติสฺสตฺเถโร สุมนตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ, สุมนตฺเถโร นนฺทตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ อนุสฺสาเวติ, อฺมฺฺจ คณปูรกา โหนฺติ, วฏฺฏติ เอว. สเจ ปน อุปชฺฌาโย สยเมว อตฺตโน สทฺธิวิหาริกํ อนุสฺสาเวตีติ เอตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, กมฺมํ สุกตเมว โหติ. อนุปชฺฌายกสฺสปิ เยน เกนจิ อนุสฺสาวิเต อุปสมฺปทา โหติ, กิมงฺคํ ปน สอุปชฺฌายกสฺส อุปชฺฌาเยเนว อนุสฺสาวเนติ ทฏฺพฺพํ. เตเนว นวฏฺฏนปกฺขํ ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิมาห.
ทฺเวอุปสมฺปทาเปกฺขาทิวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุปสมฺปทาวิธิกถาวณฺณนา
๑๒๖. อุปชฺฌาติ อุปชฺฌาย-สทฺทสมานตฺโถ อาการนฺโต อุปชฺฌาสทฺโทติ ทสฺเสติ. อุปชฺฌาย-สทฺโท เอว วา อุปชฺฌา อุปโยคปจฺจตฺตวจเนสุ ย-การโลปํ กตฺวา เอวํ วุตฺโต กรณวจนาทีสุ อุปชฺฌา-สทฺทสฺส ปโยคาภาวาติ ทฏฺพฺพํ. ปาฬิยํ อตฺตนาว อตฺตานํ สมฺมนฺนิตพฺพนฺติ อตฺตนาว กตฺตุภูเตน กรณภูเตน อตฺตานเมว กมฺมภูตํ ปติ สมฺมนนกิจฺจํ กาตพฺพํ. อตฺตานนฺติ วา ปจฺจตฺเต อุปโยควจนํ, อตฺตนาว อตฺตา สมฺมนฺนิตพฺโพติ อตฺโถ. น เกวลฺจ เอตฺเถว, อฺตฺราปิ เตรสสมฺมุติอาทีสุ อิมินาว ลกฺขเณน อตฺตนาว อตฺตา สมฺมนฺนิตพฺโพว. อปิจ สยํ กมฺมารหตฺตา อตฺตานํ มฺุจิตฺวา จตุวคฺคาทิโก คโณ สพฺพตฺถ อิจฺฉิตพฺโพ.
สจฺจกาโลติ ‘‘นิคูหิสฺสามี’’ติ วฺจนํ ปหาย สจฺจสฺเสว เต อิจฺฉิตพฺพกาโล. ภูตกาโลติ วฺจนาย อภาเวปิ มนุสฺสตฺตาทิวตฺถุโน ภูตตาย อวสฺสํ อิจฺฉิตพฺพกาโล, อิตรถา กมฺมโกปาทิอนฺตราโย โหตีติ อธิปฺปาโย. มงฺกูติ อโธมุโข. อุทฺธรตูติ อนุปสมฺปนฺนภาวโต อุปสมฺปตฺติยํ ปติฏฺเปตูติ อตฺโถ.
สพฺพกมฺมวาจาสุ ¶ อตฺถโกสลฺลตฺถํ ปเนตฺถ อุปสมฺปทากมฺมวาจาย เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ – สุณาตูติ สวนาณตฺติยํ ปมปุริเสกวจนํ. ตฺจ ¶ กิฺจาปิ โย สงฺโฆ สวนกิริยาย นิโยชียติ, ตสฺส สมฺมุขตฺตา ‘‘สุณาหี’’ติ มชฺฌิมปุริเสกวจเนน วตฺตพฺพํ, ตถาปิ ยสฺมา สงฺฆ-สทฺทสนฺนิธาเน ปมปุริสปโยโคว สทฺทวิธูหิ สมาจิณฺโณ ภควนฺตอายสฺมนฺตาทิสทฺทสนฺนิธาเนสุ วิย ‘‘อธิวาเสตุ เม ภวํ โคตโม (ปารา. ๒๒). เอตสฺส สุคต กาโล, ยํ ภควา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปยฺย (ปารา. ๒๑). ปกฺกมตายสฺมา (ปารา. ๔๓๖). สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺโต’’ติอาทีสุ วิย. ตสฺมา อิธ ปมปุริสปโยโค กโต. อถ วา คารววเสเนเวตํ วุตฺตํ. ครุฏฺานีเยสุ หิ คารววเสน มชฺฌิมปุริสปโยคุปฺปตฺติยมฺปิ ปมปุริสปโยคํ ปยุชฺชนฺติ ‘‘เทเสตุ สุคโต ธมฺม’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๖๖; ม. นิ. ๒.๓๓๘; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๘) วิยาติ ทฏฺพฺพํ. เกจิ ปน ‘‘ภนฺเต, อาวุโสติ สทฺเท อเปกฺขิตฺวา อิธ ปมปุริสปโยโค’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ ‘‘อาจริโย เม ภนฺเต โหหิ, (มหาว. ๗๗) อิงฺฆาวุโส อุปาลิ, อิมํ ปพฺพชิตํ อนุยฺุชาหี’’ติอาทีสุ (ปารา. ๕๑๗) ตปฺปโยเคปิ มชฺฌิมปุริสปโยคสฺเสว ทสฺสนโต.
เมติ โย สาเวติ, ตสฺส อตฺตนิทฺเทเส สามิวจนํ. ภนฺเตติ อาลปนตฺเถ วุฑฺเฒสุ สคารววจนํ. ‘‘อาวุโส’’ติ ปทํ ปน นวเกสุ. ตทุภยมฺปิ นิปาโต ‘‘ตุมฺเห ภนฺเต, ตุมฺเห อาวุโส’’ติ พหูสุปิ สมานรูปตฺตา. สงฺโฆติ อวิเสสโต จตุวคฺคาทิเก ปกตตฺตปุคฺคลสมูเห วตฺตติ. อิธ ปน ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ ปฺจวคฺคโต ปฏฺาย, มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ ทสวคฺคโต ปฏฺาย สงฺโฆติ คเหตพฺโพ. ตตฺรายํ ปิณฺฑตฺโถ – ภนฺเต, สงฺโฆ มม วจนํ สุณาตูติ. อิทฺจ นวกตเรน วตฺตพฺพวจนํ. สเจ ปน อนุสฺสาวโก สพฺเพหิ ภิกฺขูหิ วุฑฺฒตโร โหติ, ‘‘สุณาตุ เม, อาวุโส, สงฺโฆ’’ติ วตฺตพฺพํ. โสปิ เจ ‘‘ภนฺเต’’ติ วเทยฺย, นวกตโร วา ‘‘อาวุโส’’ติ, กมฺมโกโป นตฺถิ. เกจิ ปน ‘‘เอกตฺถ ‘อาวุโส’ติ วตฺวา อฺตฺถ ‘ภนฺเต’ติ วุตฺเตปิ นตฺถิ โทโส อุภเยนาปิ อาลปนสฺส สิชฺฌนโต’’ติ วทนฺติ.
อิทานิ ยมตฺถํ าเปตุกาโม ‘‘สุณาตู’’ติ สงฺฆํ สวเน นิโยเชติ, ตํ าเปนฺโต ‘‘อยํ อิตฺถนฺนาโม’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อยนฺติ ¶ อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส หตฺถปาเส สนฺนิหิตภาวทสฺสนํ. เตน จ หตฺถปาเส ิตสฺเสว อุปสมฺปทา รุหตีติ สิชฺฌติ หตฺถปาสโต พหิ ิตสฺส ‘‘อย’’นฺติ น วตฺตพฺพโต. เตเนว อนุสาสกสมฺมุติยํ โส หตฺถปาสโต พหิ ิตตฺตา ‘‘อย’’นฺติ น วุตฺโต. ตสฺมา อุปสมฺปทาเปกฺโข อนุปสมฺปนฺโน หตฺถปาเส เปตพฺโพ. อยํ อิตฺถนฺนาโมติ อยํ-สทฺโท จ อวสฺสํ ปยุชฺชิตพฺโพ. โส จ อิมสฺมึ ปมนามปโยเค เอวาติ คเหตพฺพํ ¶ . ‘‘อิตฺถนฺนาโม’’ติ อิทํ อนิยมโต ตสฺส นามทสฺสนํ. อุภเยนปิ อยํ พุทฺธรกฺขิโตติอาทินามํ ทสฺเสติ. ‘‘อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ ภินฺนาธิกรณวิสเย พหุพฺพีหิสมอาโส, อุปสมฺปทํ เม สงฺโฆ อเปกฺขมาโนติ อตฺโถ. ตสฺส จ อุปชฺฌายตํ สมงฺคิภาเวน ทสฺเสตุํ ‘‘อิตฺถนฺนมสฺส อายสฺมโต’’ติ วุตฺตํ. เอเตน ‘‘อยํ พุทฺธรกฺขิโต อายสฺมโต ธมฺมรกฺขิตสฺส สทฺธิวิหาริกภูโต อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ เอวมาทินา นเยน นามโยชนาย สห อตฺโถ ทสฺสิโตติ. เอตฺถ จ ‘‘อายสฺมโต’’ติ ปทํ อวตฺวาปิ ‘‘อยํ พุทฺธรกฺขิโต ธมฺมรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เตเนว ปาฬิยํ ‘‘อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยนา’’ติ เอตฺถ ‘‘อายสฺมโต’’ติ ปทํ น วุตฺตํ. ยฺเจตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว.
นนุ เจตฺถ อุปชฺฌาโยปิ อุปสมฺปทาเปกฺโข วิย หตฺถปาเส ิโต เอว อิจฺฉิตพฺโพ, อถ กสฺมา ‘‘อยํ อิตฺถนฺนาโม อิมสฺส อิตฺถนฺนามสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ เอวํ อุปชฺฌายปรามสเนปิ อิม-สทฺทสฺส ปโยโค น กโตติ? นายํ วิโรโธ อุปชฺฌายสฺส อภาเวปิ กมฺมโกปาภาวโต. เกวลฺหิ กมฺมนิปฺผตฺติยา สนฺตปทวเสน อวิชฺชมานสฺสปิ อุปชฺฌายสฺส นามกิตฺตนํ อนุปชฺฌายสฺส อุปสมฺปทาทีสุปิ กรียติ. ตสฺมา อุปชฺฌายสฺส อสนฺนิหิตตายปิ ตปฺปรามสนมตฺเตเนว กมฺมสิทฺธิโต ‘‘อิมสฺสา’’ติ นิทฺทิสิตุํ น วฏฺฏติ.
ปริสุทฺโธ อนฺตรายิเกหิ ธมฺเมหีติ อภพฺพตาทิเกหิ อุปสมฺปทาย อวตฺถุกเรหิ เจว ปฺจาพาธหตฺถจฺฉินฺนาทีหิ จ อาปตฺติมตฺตกเรหิ อนฺตรายิเกหิ สภาเวหิ ปริมุตฺโต. เอวํ วุตฺโต เอว จ อาปตฺติมตฺตกเรหิ ปฺจาพาธาทีหิ อปริมุตฺตสฺสปิ อุปสมฺปทา รุหติ, นาฺถา. ปริปุณฺณสฺส ปตฺตจีวรนฺติ ปริปุณฺณมสฺส อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส ปตฺตจีวรํ. เอวํ วุตฺเต เอว อปตฺตจีวรสฺสาปิ อุปสมฺปทา รุหติ, นาฺถา. อุปสมฺปทํ ยาจตีติ ¶ ‘‘สงฺฆํ, ภนฺเต, อุปสมฺปทํ ยาจามี’’ติอาทินา (มหาว. ๗๑, ๑๒๖) ยาจิตภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอวํ เตน สงฺเฆ อยาจิเตปิ ‘‘อิตฺถนฺนาโม สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจตี’’ติ วุตฺเต เอว กมฺมํ อวิปนฺนํ โหติ, นาฺถา. อุปชฺฌาเยนาติ อุปชฺฌาเยน กรณภูเตน อิตฺถนฺนามํ อุปชฺฌายํ กตฺวา กมฺมภูตํ อุปสมฺปทํ ทาตุํ นิปฺผาเทตุํ กตฺตุภูตํ สงฺฆํ ยาจตีติ อตฺโถ. ยาจธาตุโน ปน ทฺวิกมฺมกตฺตา ‘‘สงฺฆํ, อุปสมฺปท’’นฺติ ทฺเว กมฺมปทานิ วุตฺตานิ.
ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลนฺติ เอตฺถ ปตฺโต กาโล อิมสฺสาติ ปตฺตกาลํ, อปโลกนาทิจตุพฺพิธสงฺฆกมฺมํ, ตเทว สกตฺเถ ย-ปจฺจเยน ‘‘ปตฺตกลฺล’’นฺติ วุจฺจติ. อิธ ปน ตฺติจตุตฺถอุปสมฺปทากมฺมํ อธิปฺเปตํ, ตํ กาตุํ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ ชาตํ. ยทีติ อนุมติคหณวเสน กมฺมสฺส ¶ ปตฺตกลฺลตํ าเปติ. โย หิ โกจิ ตตฺถ อปตฺตกลฺลตํ มฺิสฺสติ, โส วกฺขติ. อิมเมว หิ อตฺถํ สนฺธาย อนุสฺสาวนาสุ ‘‘ยสฺสายสฺมโต ขมติ…เป… โส ภาเสยฺยา’’ติ (มหาว. ๑๒๗) วุตฺตํ. ตํ ปเนตํ ปตฺตกลฺลํ วตฺถุสมฺปทา, อนฺตรายิเกหิ ธมฺเมหิ จสฺส ปริสุทฺธตา, สีมาสมฺปทา, ปริสสมฺปทา, ปุพฺพกิจฺจนิฏฺาปนนฺติ อิเมหิ ปฺจหิ องฺเคหิ สงฺคหิตํ.
ตตฺถ วตฺถุสมฺปทา นาม ยถาวุตฺเตหิ เอกาทสหิ อภพฺพปุคฺคเลหิ เจว อนฺติมวตฺถุอชฺฌาปนฺเนหิ จ อฺโ ปริปุณฺณวีสติวสฺโส อนุปสมฺปนฺนภูโต มนุสฺสปุริโส, เอตสฺมึ ปุคฺคเล สติ เอว อิทํ สงฺฆสฺส อุปสมฺปทากมฺมํ ปตฺตกลฺลํ นาม โหติ, นาสติ. กตฺจ กุปฺปเมว โหติ.
อนฺตรายิเกหิ ธมฺเมหิ จสฺส ปริสุทฺธตา นาม ยถาวุตฺตสฺเสว อุปสมฺปทาวตฺถุภูตสฺส ปุคฺคลสฺส เย อิเม ภควตา ปฏิกฺขิตฺตา ปฺจาพาธผุฏฺตาทโย มาตาปิตูหิ อนนฺุาตตาปริโยสานา เจว หตฺถจฺฉินฺนตาทโย จ โทสธมฺมา การกสงฺฆสฺส อาปตฺตาทิอนฺตรายเหตุตาย ‘‘อนฺตรายิกา’’ติ วุจฺจนฺติ เตหิ อนฺตรายิเกหิ โทสธมฺเมหิ ปริมุตฺตตฺตา, อิมิสฺสา จ สติ เอว อิทํ กมฺมํ ปตฺตกลฺลํ นาม โหติ, นาสติ. กตํ ปน กมฺมํ สุกตเมว โหติ เปตฺวา อูนวีสติวสฺสปุคฺคลํ.
สีมาสมฺปทา ¶ ปน อุโปสถกฺขนฺธเก (มหาว. ๑๔๗-๑๔๘) วกฺขมานนเยน สพฺพโทสวิรหิตาย พทฺธาพทฺธวเสน ทุวิธาย สีมาย วเสเนว เวทิตพฺพา. ตาทิสาย หิ สีมาย สติ เอว อิทํ กมฺมํ ปตฺตกลฺลํ นาม โหติ, นาสติ. กตฺจ กมฺมํ วิปชฺชติ.
ปริสสมฺปทา ปน เย อิเม อุปสมฺปทากมฺมสฺส สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน กมฺมปฺปตฺตา ทสหิ วา ปฺจหิ วา อนูนา ปาราชิกํ อนาปนฺนา, อนุกฺขิตฺตา จ สมานสํวาสกา ภิกฺขู, เตสํ เอกสีมายํ หตฺถปาสํ อวิชหิตฺวา านํ, ฉนฺทารหานฺจ ฉนฺทสฺส อานยนํ, สมฺมุขีภูตานฺจ อปฺปฏิกฺโกสนํ, อุปสมฺปทาเปกฺขรหิตานํ อุโปสถกฺขนฺธเก ปฏิกฺขิตฺตานํ คหฏฺาทิอนอุปสมฺปนฺนานฺเจว ปาราชิกุกฺขิตฺตกนานาสํวาสกภิกฺขุนีนฺจ วชฺชนียปุคฺคลานํ สงฺฆสฺส หตฺถปาเส อภาโว จาติ อิเมหิ จตูหิ องฺเคหิ สงฺคหิตา. เอวรูปาย จ ปริสสมฺปทาย สติ เอว อิทํ ปตฺตกลฺลํ นาม โหติ, นาสติ. ตตฺถ ปุริมานํ ติณฺณํ องฺคานํ อฺตรสฺสปิ อภาเว กตํ กมฺมํ วิปชฺชติ, น ปจฺฉิมสฺส.
ปุพฺพกิจฺจนิฏฺาปนํ ¶ นาม ยานิมานิ ‘‘ปมํ อุปชฺฌํ คาหาเปตพฺโพ’’ติอาทินา ปาฬิยํ วุตฺตานิ ‘‘อุปชฺฌํ คาหาปนํ, ปตฺตจีวราจิกฺขนํ, ตโต ตํ หตฺถปาสโต พหิ เปตฺวา อนุสาสกสมฺมุติกมฺมกรณํ, สมฺมเตน จ คนฺตฺวา อนุสาสนํ, เตน จ ปมตรํ อาคนฺตฺวา สงฺฆสฺส าเปตฺวา อุปสมฺปทาเปกฺขํ ‘อาคจฺฉาหี’ติ หตฺถปาเส เอว อพฺภานํ, เตน จ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทาเปตฺวา อุปสมฺปทายาจาปนํ, ตโต อนฺตรายิกธมฺมปุจฺฉกสมฺมุติกรณํ, สมฺมเตน จ ปุจฺฉน’’นฺติ อิมานิ อฏฺ ปุพฺพกิจฺจานิ, เตสํ สพฺเพสํ ยาถาวโต กรเณน นิฏฺาปนํ. เอตสฺมิฺจ ปุพฺพกมฺมนิฏฺาปเน สติ เอว อิทํ สงฺฆสฺส อุปสมฺปทากมฺมํ ปตฺตกลฺลํ นาม โหติ, นาสติ. เอเตสุ ปน ปุพฺพกมฺเมสุ อกเตสุปิ กตํ กมฺมํ ยถาวุตฺตวตฺถุสมฺปตฺติอาทีสุ วิชฺชมาเนสุ อกุปฺปเมว โหติ. ตเทวเมตฺถ ปตฺตกลฺลํ อิเมหิ ปฺจหิ องฺเคหิ สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิมินาว นเยน เหฏฺา วุตฺเตสุ, วกฺขมาเนสุ จ สพฺเพสุ กมฺเมสุ ปตฺตกลฺลตา ยถารหํ โยเชตฺวา าตพฺพา.
อิตฺถนฺนามํ ¶ อุปสมฺปาเทยฺยาติ อุปสมฺปทานิปฺผาทเนน ตํสมงฺคึ กเรยฺย กโรตูติ ปตฺถนายํ, วิธิมฺหิ วา อิทํ ทฏฺพฺพํ. ยถา หิ ‘‘เทวทตฺตํ สุขาเปยฺยา’’ติ วุตฺเต สุขมสฺส นิปฺผาเทตฺวา ตํ สุขสมงฺคินํ กเรยฺยาติ อตฺโถ โหติ, เอวมิธาปิ อุปสมฺปทมสฺส นิปฺผาเทตฺวา ตํ อุปสมฺปทาสมงฺคินํ กเรยฺยาติ อตฺโถ. ปโยชกพฺยาปาเร เจตํ ยถา สุขยนฺตํ กฺจิ สุทฺธกตฺตารํ โกจิ เหตุกตฺตา สุขเหตุนิปฺผาทเนน สุขาเปยฺยาติ วุจฺจติ, เอวมิธาปิ อุปสมฺปชฺชนฺตํ สุทฺธกตฺตารํ ปุคฺคลํ เหตุกตฺตุภูโต สงฺโฆ อุปสมฺปทาเหตุนิปฺผาทเนน อุปสมฺปาเทยฺยาติ วุตฺโต. เอเตน จ สุขํ วิย สุขทายเกน สงฺเฆน ปุคฺคลสฺส ทิยฺยมานา ตถาปวตฺตปรมตฺถธมฺเม อุปาทาย อริยชนปฺตฺตา อุปสมฺปทา นาม สมฺมุติสจฺจตา อตฺถีติ สมตฺถิตํ โหติ. เอตฺถ จ ‘‘อิตฺถนฺนาโม สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจตี’’ติ วุตฺตตฺตา ปริวาสาทีสุ วิย ยาจนานุคุณํ ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส อุปสมฺปทํ ทเทยฺยา’’ติ อวตฺวา ‘‘อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทยฺยา’’ติ วุตฺตตฺตา อิทํ อุปสมฺปทากมฺมํ ทาเน อสงฺคเหตฺวา กมฺมลกฺขเณ เอว สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อิมินา นเยน ‘‘อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทติ, อุปสมฺปนฺโน สงฺเฆนา’’ติ เอตฺถาปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เกวลฺหิ ตตฺถ วตฺตมานกาลอตีตกาลวเสน, อิธ ปน อนามฏฺกาลวเสนาติ เอตฺตกเมว วิเสโส.
เอสา ตฺตีติ ‘‘สงฺโฆ าเปตพฺโพ’’ติ วุตฺตาปนา เอสา. อิทฺจ อนุสฺสาวนานมฺปิ สพฺภาวสูจนตฺถํ วุจฺจติ. อวสฺสฺเจตํ วตฺตพฺพเมว, ตฺติกมฺเม เอว ตํ น วตฺตพฺพํ. ตตฺถ ปน ยฺย-กาเร วุตฺตมตฺเต เอว ตฺติกมฺมํ นิฏฺิตํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ขมตีติ รุจฺจติ. อุปสมฺปทาติ สงฺเฆน ทิยฺยมานา นิปฺผาทิยมานา อุปสมฺปทา ยสฺส ขมติ. โส ตุณฺหสฺสาติ โยชนา. ตุณฺหีติ ¶ จ อกถนตฺเถ นิปาโต, อกถนโก อสฺส ภเวยฺยาติ อตฺโถ. ขมติ สงฺฆสฺส อิตฺถนฺนามสฺส อุปสมฺปทาติ ปกเตน สมฺพนฺโธ. ตตฺถ การณมาห ‘‘ตสฺมา ตุณฺหี’’ติ. ตตฺถ ‘‘อาสี’’ติ เสโส. ยสฺมา ‘‘ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยา’’ติ ติกฺขตฺตุํ วุจฺจมาโนปิ สงฺโฆ ตุณฺหี นิรโว อโหสิ, ตสฺมา ขมติ สงฺฆสฺสาติ อตฺโถ. เอวนฺติ อิมินา ปกาเรน. ตุณฺหีภาเวเนเวตํ สงฺฆสฺส รุจฺจนภาวํ ธารยามิ พุชฺฌามิ ปชานามีติ อตฺโถ. อิติ-สทฺโท ปริสมาปนตฺเถ กโต, โส จ กมฺมวาจาย อนงฺคํ. ตสฺมา อนุสฺสาวเกน ‘‘ธารยามี’’ติ เอตฺถ มิ-การปริโยสานเมว ¶ วตฺวา นิฏฺาเปตพฺพํ, อิติ-สทฺโท น ปยุชฺชิตพฺโพติ ทฏฺพฺพํ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ กมฺมวาจานมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อุปสมฺปทาวิธิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตฺตาโรนิสฺสยาทิกถาวณฺณนา
๑๒๘. เอกโปริสา วาติอาทิ สตฺตานํ สรีรจฺฉายํ ปาเทหิ มินิตฺวา ชานนปฺปการทสฺสนํ. ฉสตฺตปทปรมตา หิ ฉายา ‘‘โปริสา’’ติ วุจฺจติ. อิทฺจ อุตุปฺปมาณาจิกฺขนาทิ จ อาคนฺตุเกหิ สทฺธึ วีมํสิตฺวา วุฑฺฒนวภาวํ ตฺวา วนฺทนวนฺทาปนาทิกรณตฺถํ วุตฺตํ. เอติ อาคจฺฉติ, คจฺฉติ จาติ อุตุ, โสว ปมิยเต อเนน สํวจฺฉรนฺติ ปมาณนฺติ อาห ‘‘อุตุเยว อุตุปฺปมาณ’’นฺติ. อปริปุณฺณาติ อุปสมฺปทาทิวเสน อปริปุณฺณา. ยทิ อุตุเวมชฺเฌ อุปสมฺปาทิโต, ตทา ตสฺมึ อุตุมฺหิ อวสิฏฺทิวสาจิกฺขนํ ‘‘ทิวสภาคาจิกฺขน’’นฺติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ยตฺตเกหิ ทิวเสหิ ยสฺส โย อุตุ อปริปุณฺโณ, เต ทิวเส’’ติ. ตตฺถ ยสฺส ตํ ขณํ ลทฺธูปสมฺปทสฺส ปุคฺคลสฺส สมฺพนฺธี โย อุตุ ยตฺตเกหิ ทิวเสหิ อปริปุณฺโณ, เต ทิวเสติ โยชนา.
ฉายาทิกเมว สพฺพํ สงฺคเหตฺวา คายิตพฺพโต กเถตพฺพโต สงฺคีตีติ อาห ‘‘อิทเมวา’’ติอาทิ. ตตฺถ เอกโต กตฺวา อาจิกฺขิตพฺพํ. ตฺวํ กึ ลภสีติ ตฺวํ อุปสมฺปาทนกาเล กตรวสฺสํ, กตรอุตฺุจ ลภสิ, กตรสฺมึ เต อุปสมฺปทา ลทฺธาติ อตฺโถ. วสฺสนฺติ วสฺสานอุตุ. อิทฺจ สํวจฺฉราจิกฺขนํ วินา วุตฺตมฺปิ น ายตีติ อิมินา อุตุอาจิกฺขเนเนว สาสนวสฺเสสุ วา กลิยุควสฺสาทีสุ วา สหสฺสิเม วา สติเม วา อสุกํ อุตุํ ลภามีติ ทสฺสิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ฉายา’’ติ อิทํ ปาฬิยํ อาคตปฏิปาฏึ สนฺธาย วุตฺตํ. วตฺตพฺพกมโต ปน กลิยุควสฺสาทีสุ สพฺพเทสปสิทฺเธสุ อสุกวสฺเส อสุกอุตุมฺหิ อสุกมาเส ¶ อสุเก กณฺเห วา สุกฺเก วา ปกฺเข อสุกติถิวารวิเสสยุตฺเต นกฺขตฺเต ปุพฺพณฺหาทิทิวสภาเค เอตฺตเก ฉายาปมาเณ, นาฑิกาปมาเณ วา มยา อุปสมฺปทา ลทฺธาติ วเทยฺยาสีติ เอวํ อาจิกฺขิตพฺพํ. ‘‘อิทํ สุฏฺุ อุคฺคเหตฺวา อาคนฺตุเกหิ ¶ วุฑฺฒปฏิปาฏึ ตฺวา ปฏิปชฺชาหี’’ติ วตฺตพฺพํ. ปาฬิยํ กิสฺส ตฺวนฺติ กึ ตฺวํ เอตฺตกํ กาลํ อกาสีติ อตฺโถ.
๑๓๐. อุปสมฺปทํ ยาจีติ ปพฺพชฺชฺจ อุปสมฺปทฺจ ยาจีติ อตฺโถ. ปสฺสิสฺสามีติ เอตฺถ วทตีติ เสโส, เอวํ อุปริปิ. ‘‘โอสาเรตพฺโพ’’ติ อิมินา ปุริโม อุกฺขิตฺตภาโว วิพฺภมิตฺวา ปุน ลทฺธูปสมฺปทมฺปิ น มฺุจติ. เตน จ สมฺภฺุชนาทีสุปิ ภิกฺขูนํ ปาจิตฺติยเมวาติ ทสฺเสติ. อนาปตฺติ สมฺโภเค สํวาเสติ เอตฺถ สหเสยฺยาปิ สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จายมธิปฺปาโย – ยสฺมา อยํ โอสาริตตฺตา ปกตตฺโต, ตสฺมา อุกฺขิตฺตสมฺโภคาทิปจฺจเยน ปาจิตฺติเยเนตฺถ อนาปตฺตีติ. โย ปน อาปตฺติฏฺาเน อนาปตฺติทิฏฺิตาย อาปตฺตึ น ปสฺสติ, เตเนว ปฏิกมฺมมฺปิ น กโรติ, โส ยสฺมา เอตฺตาวตา อลชฺชี นาม น โหติ. ปณฺณตฺตึ ตฺวา วีติกฺกมํ กโรนฺโต เอว หิ อลชฺชี นาม โหติ. ‘‘สฺจิจฺจ อาปตฺตึ อาปชฺชตี’’ติอาทิ (ปริ. ๓๕๙) หิ วุตฺตํ. ตสฺมา เอตฺถ อลชฺชิสมฺโภคาทิปจฺจยา ทุกฺกฏาปตฺตินิยโม นตฺถิ. เตน สาเปตฺถ อาปตฺติ น วุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. โย ปเนตฺถ อิมํ อธิปฺปายํ อสลฺลกฺเขนฺเตน เกนจิ ‘‘อนาปตฺติ สมฺโภเค สํวาเส’’ติ อิมินา ปาจิตฺติเยน อนาปตฺติ วุตฺตา, อลชฺชิสมฺโภคปจฺจยา ทุกฺกฏํ ปน อาปชฺชติ เอวาติ อาปตฺตินิยโม วุตฺโต, โส อลชฺชิตฺเต สติ เอว วุตฺโต, นาสตีติ ทฏฺพฺพํ.
๑๓๑. วินยมฺหีติอาทิคาถาสุ นิคฺคหานนฺติ นิคฺคหกรเณสุ. ปาปิจฺเฉติ ปาปปุคฺคลานํ นิคฺคหกรเณสุ, ลชฺชีนํ ปคฺคเหสุ จ เปสลานํ สุขาวเห มหนฺเต วินยมฺหิ ยถา อตฺถการี อตฺถานุคุณํ กโรนฺโตว ยสฺมา โยนิโส ปฏิปชฺชติ นาม โหติ, ตสฺมา อุทฺทานํ ปวกฺขามีติ สมฺพนฺธโยชนา ทฏฺพฺพา. เสสํ สพฺพตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.
จตฺตาโรนิสฺสยาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
มหาขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๒. อุโปสถกฺขนฺธโก
สนฺนิปาตานุชานนาทิกถาวณฺณนา
๑๓๒. อุโปสถกฺขนฺธเก ¶ ¶ ตรนฺติ โอตรนฺติ เอตฺถาติ ติตฺถํ, ลทฺธิ. อิโตติ สาสนลทฺธิโต.
๑๓๕. อาปชฺชิตฺวา วา วุฏฺิโตติ เอตฺถ เทสนาโรจนานมฺปิ สงฺคโห. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ ‘‘วุฏฺิตา วา เทสิตา วา อาโรจิตา วา อาปตฺติ…เป… อสนฺตี นาม โหตี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา) วุตฺตํ.
มนุเชนาติ อาสนฺเนน สห. ปเรติ ทูรฏฺเปิ ปรปุคฺคเล สนฺธาย คิรํ โน จ ภเณยฺยาติ โยชนา.
‘‘อาวิกตา หิสฺส ผาสุ โหตี’’ติ (มหาว. ๑๓๔) วุตฺตตฺตา ครุกาปตฺติปิ อาวิกรณมตฺเตน วุฏฺาตีติ เกจิ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ ปริวาสาทิวิธานสุตฺเตหิ วิรุชฺฌนโต. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย – ยถาภูตฺหิ อตฺตานมาวิกโรนฺตํ เปสลา ภิกฺขู ‘‘อกามา ปริวตฺถพฺพ’’นฺติอาทิวจนํ นิสฺสาย อนิจฺฉมานมฺปิ นํ อุปาเยน ปริวาสาทีนิ ทตฺวา อวสฺสํ สุทฺธนฺเต ปติฏฺาเปสฺสนฺติ, ตโต ตสฺส อวิปฺปฏิสาราทีนํ วเสน ผาสุ โหติ. ปมํ ปาติโมกฺขุทฺเทสนฺติ นิทานุทฺเทสํ ทสฺเสติ. ปุพฺเพ อวิชฺชมานํ ปฺาเปสีติ. น เกวลฺจ เอตํ, ปุพฺเพ ปฺตฺตมฺปิ ปน ปาราชิกาทิสิกฺขาปทํ สพฺพํ ภควา ‘‘ตตฺริเม จตฺตาโร ปาราชิกา ธมฺมา อุทฺเทสํ อาคจฺฉนฺตี’’ติอาทินา ปาราชิกุทฺเทสาทิวเสน วินยมาติกํ กตฺวา นิทานุทฺเทเสน สห สยเมว สงฺคเหตฺวา ‘‘ปาติโมกฺข’’นฺติ ปฺาเปสีติ ทฏฺพฺพํ. ตเทตํ สพฺพมฺปิ สนฺธาย ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๓๓) วุตฺตํ.
๑๓๖. เอตํ ๓๔ เวทิตพฺพนฺติ ยสฺมึ ตสฺมึ จาตุทฺทเส วา ปนฺนรเส วาติ เอวํ อตฺถชาตํ.
สนฺนิปาตานุชานนาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สีมานุชานนกถาวณฺณนา
๑๓๘. ‘‘ปุรตฺถิมาย ¶ ทิสายา’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ. ตสฺสํ ปน ทิสายํ นิมิตฺเต อสติ ยตฺถ อตฺถิ, ตโต ปฏฺาย ปมํ ‘‘ปุรตฺถิมาย อนุทิสาย, ทกฺขิณาย ทิสายา’’ติอาทินา สมนฺตา วิชฺชมานฏฺาเนสุ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา ปุน ‘‘ปุรตฺถิมาย อนุทิสายา’’ติ ปมกิตฺติตํ กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ, ตีหิ นิมิตฺเตหิ สิงฺฆาฏกสณฺานายปิ สีมาย สมฺมนฺนิตพฺพโต. ติกฺขตฺตุํ สีมามณฺฑลํ สมฺพนฺธนฺเตนาติ วินยธเรน สยํ เอกสฺมึเยว าเน ตฺวา เกวลํ นิมิตฺตกิตฺตนวจเนเนว สีมามณฺฑลํ สมนฺตา นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ พนฺธนฺเตนาติ อตฺโถ. ตํ ตํ นิมิตฺตฏฺานํ อคนฺตฺวาปิ หิ กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. ติโยชนปรมาย สีมาย สมนฺตโต ติกฺขตฺตุํ อนุปริคมนสฺส เอกทิวเสน ทุกฺกรตฺตา วินยธเรน สยํ อทิฏฺมฺปิ ปุพฺเพ ภิกฺขูหิ ยถาววตฺถิตํ นิมิตฺตํ ‘‘ปาสาโณ ภนฺเต’’ติอาทินา เกนจิ วุตฺตานุสาเรน สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘เอโส ปาสาโณ นิมิตฺต’’นฺติอาทินา กิตฺเตตุมฺปิ วฏฺฏติ เอว.
สุทฺธปํสุปพฺพโตติ น เกนจิ กโต สยํชาโตว วุตฺโต. ตถา เสสาปิ. อิตโรปีติ สุทฺธปํสุปพฺพตาทิโกปิ ปพฺพโต. หตฺถิปฺปมาณโตติ เอตฺถ ภูมิโต อุคฺคตปฺปเทเสน หตฺถิปฺปมาณํ คเหตพฺพํ. จตูหิ วา ตีหิ วาติ สีมาภูมิยํ จตูสุ, ตีสุ วา ทิสาสุ ิเตหิ. เอกิสฺสา เอว ปน ทิสาย ิเตหิ ตโต พหูหิปิ สมฺมนฺนิตุํ น วฏฺฏติ. ทฺวีหิ ปน ทฺวีสุ ทิสาสุ ิเตหิปิ น วฏฺฏติ. ตสฺมาติ ยสฺมา เอเกน น วฏฺฏติ, ตสฺมา. ตํ พหิทฺธา กตฺวาติ กิตฺติตนิมิตฺตสฺส อสีมตฺตา อนฺโตสีมาย กรณํ อยุตฺตนฺติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘สเจ’’ติอาทิ.
ทฺวตฺตึสปลคุฬปิณฺฑปฺปมาณตา สณฺานโต คเหตพฺพา, น ตุลคณนาวเสน, ภารโต ปลปริมาณฺจ มคธตุลาย คเหตพฺพํ. สา จ โลกิยตุลาย ทฺวิคุณาติ วทนฺติ. อติมหนฺโตปีติ ภูมิโต หตฺถิปฺปมาณํ อนุคฺคนฺตฺวา เหฏฺาภูมิยํ โอติณฺณฆนโต อเนกโยชนปฺปมาโณปิ. สเจ หิ ตโต หตฺถิปฺปมาณํ กูฏํ อุคฺคจฺฉติ, ปพฺพตสงฺขฺยเมว คจฺฉติ.
อนฺโตสารานนฺติ ¶ ตสฺมึ ขเณ ตรุณตาย สาเร อวิชฺชมาเนปิ ปริณาเมน ภวิสฺสมานสาเรปิ สนฺธาย วุตฺตํ. ตาทิสานฺหิ สูจิทณฺฑกปฺปมาณปริณาหานํ จตุปฺจมตฺตมฺปิ วนํ วฏฺฏติ. อนฺโตสารมิสฺสกานนฺติ อนฺโตสาเรหิ ¶ รุกฺเขหิ สมฺมิสฺสานํ. เอเตน จ สารรุกฺขมิสฺสมฺปิ วนํ วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. จตุปฺจรุกฺขมตฺตมฺปีติ สารรุกฺเข สนฺธาย วุตฺตํ. วนมชฺเฌ วิหารํ กโรนฺตีติ รุกฺขฆฏาย อนฺตเร รุกฺเข อจฺฉินฺทิตฺวา วติอาทีหิ วิหารปริจฺเฉทํ กตฺวาว อนฺโตรุกฺขนฺตเรสุ เอว ปริเวณปณฺณสาลาทีนํ กรณวเสน ยถา อนฺโตวิหารมฺปิ วนเมว โหติ, เอวํ วิหารํ กโรนฺตีติ อตฺโถ. ยทิ หิ สพฺพํ รุกฺขํ ฉินฺทิตฺวา วิหารํ กเรยฺยุํ, วิหารสฺส อวนตฺตา ตํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตํ วนํ เอกตฺถ กิตฺเตตพฺพํ สิยา. อิธ ปน อนฺโตปิ วนตฺตา ‘‘วนํ น กิตฺเตตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. สเจ หิ ตํ กิตฺเตนฺติ, ‘‘นิมิตฺตสฺส อุปริ วิหาโร โหตี’’ติอาทินา อนนฺตเร วุตฺตโทสํ อาปชฺชติ. เอกเทสนฺติ วเนกเทสํ, รุกฺขวิรหิตฏฺาเน กตวิหารสฺส เอกปสฺเส ิตวนสฺส เอกเทสนฺติ อตฺโถ.
สูจิทณฺฑกปฺปมาโณติ วํสทณฺฑปฺปมาโณ. เลขนิทณฺฑปฺปมาโณติ เกจิ. มาติกาฏฺกถายํ ปน อเวภงฺคิยวินิจฺฉเย ‘‘โย โกจิ อฏฺงฺคุลสูจิทณฺฑกมตฺโตปิ เวฬุ…เป… ครุภณฺฑ’’นฺติ (กงฺขา. อฏฺ. ทุพฺพตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตตฺตา ตนุตโร เวฬุทณฺโฑติ จ สูจิทณฺโฑติ จ คเหตพฺพํ. วํสนฬกสราวาทีสูติ เวฬุปพฺเพ วา นฬปพฺเพ วา กปลฺลกาทิมตฺติกภาชเนสุ วาติ อตฺโถ. ตงฺขณมฺปีติ ตรุณโปตเก อมิลายิตฺวา วิรุหนชาติเก สนฺธาย วุตฺตํ. เย ปน ปริณตา สมูลํ อุทฺธริตฺวา โรปิตาปิ ฉินฺนสาขา วิย มิลายิตฺวา จิเรน นวมูลงฺกุรุปฺปตฺติยา ชีวนฺติ, มียนฺติเยว วา, ตาทิเส กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ. เอตนฺติ นวมูลสาขานิคฺคมนํ.
มชฺเฌติ สีมาย มหาทิสานํ อนฺโต. โกณนฺติ สีมาย จตูสุ โกเณสุ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ มคฺคานํ สมฺพนฺธฏฺานํ. ปรภาเค กิตฺเตตุํ วฏฺฏตีติ เตสํ จตุนฺนํ โกณานํ พหิ นิกฺขมิตฺวา ิเตสุ มคฺเคสุ เอกิสฺสา ทิสาย เอกํ, อฺิสฺสา ทิสาย จาปรนฺติ เอวํ จตฺตาโรปิ มคฺคา จตูสุ ทิสาสุ กิตฺเตตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. เอวํ ปน กิตฺติตมตฺเตน กถํ เอกาพทฺธตา วิคจฺฉตีติ วิฺายตีติ. ปรโต คตฏฺาเนปิ เอเต เอว เต จตฺตาโร มคฺคา. ‘‘จตูสุ ทิสาสุ คจฺฉนฺตี’’ติ หิ วุตฺตํ. ตสฺมา เอตฺถ การณํ วิจินิตพฺพํ.
‘‘อุตฺตรนฺติยา ภิกฺขุนิยา’’ติ อิทฺจ ปาฬิยํ (ปาจิ. ๖๙๒) ภิกฺขุนีนํ นทีปารคมเน นทิลกฺขณสฺส อาคตตฺตา วุตฺตํ. ภิกฺขูนํ อนฺตรวาสกเตมนมตฺตมฺปิ วฏฺฏติ เอว ¶ . ‘‘นทิจตุกฺเกปิ เอเสว นโย’’ติ อิมินา เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ ปรโต คตฏฺาเนปิ กิตฺเตตุํ ¶ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. เตเนว จ ‘‘อสฺสมฺมิสฺสนทิโย จตสฺโสปิ กิตฺเตตุํ วฏฺฏตี’’ติ อสมฺมิสฺส-คฺคหณํ กตํ. มูเลติ อาทิกาเล. นทึ ภินฺทิตฺวาติ ยถา อุทกํ อนิจฺฉนฺเตหิ กสฺสเกหิ มโหเฆ นิวตฺเตตุํ น สกฺกา, เอวํ นทิกูลํ ภินฺทิตฺวา.
อุกฺเขปิมนฺติ ทีฆรชฺชุนา กุเฏน อุสฺสิฺจนียํ.
อสมฺมิสฺเสหีติ สพฺพทิสาสุ ิตปพฺพเตหิ เอว, ปาสาณาทีสุ อฺตเรหิ วา นิมิตฺตนฺตราพฺยวหิเตหิ. สมฺมิสฺเสหีติ เอกตฺถ ปพฺพโต, อฺตฺถ ปาสาโณติ เอวํ ิเตหิ อฏฺหิปิ. ‘‘นิมิตฺตานํ สเตนาปี’’ติ อิมินา เอกิสฺสาย เอว ทิสาย พหุนิมิตฺตานิ ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺตํ? ปพฺพโต ภนฺเต. ปุน ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺตํ? ปาสาโณ ภนฺเต’’ติอาทินา กิตฺเตตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. สิงฺฆาฏกสณฺานาติ ติโกณา. จตุรสฺสาติ สมจตุรสฺสา, มุทิงฺคสณฺานา ปน อายตจตุรสฺสา. เอกโกฏิยํ สงฺโกจิตา, ตทฺาย วิตฺถิณฺณา วา โหตีติ. สีมาย อุปจารํ เปตฺวาติ อายตึ พนฺธิตพฺพาย สีมาย เนสํ วิหารานํ ปริจฺเฉทโต พหิ สีมนฺตริกปฺปโหนกํ อุปจารํ เปตฺวา. พทฺธา สีมา เยสุ วิหาเรสุ, เต พทฺธสีมา. ปาเฏกฺกนฺติ ปจฺเจกํ. พทฺธสีมาสทิสานีติ ยถา พทฺธสีมาสุ ิตา อฺมฺํ ฉนฺทาทึ อนเปกฺขิตฺวา ปจฺเจกํ กมฺมํ กาตุํ ลภนฺติ, เอวํ คามสีมาสุ ิตาปีติ ทสฺเสติ. อาคนฺตพฺพนฺติ สามีจิมตฺตวเสน วุตฺตํ. เตนาห ‘‘อาคมนมฺปี’’ติอาทิ.
ปพฺพชฺชูปสมฺปทาทีนนฺติ เอตฺถ ภณฺฑุกมฺมาปุจฺฉนํ สนฺธาย ปพฺพชฺชาคหณํ. เอกวีสติ ภิกฺขูติ นิสินฺเน สนฺธาย วุตฺตํ. อิทฺจ กมฺมารเหน สห อพฺภานการกานมฺปิ ปโหนกตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘นิมิตฺตุปคา ปาสาณา เปตพฺพา’’ติ อิทํ ยถารุจิตฏฺาเน รุกฺขนิมิตฺตาทีนํ ทุลฺลภตาย วฑฺฒิตฺวา อุภินฺนํ พทฺธสีมานํ สงฺกรกรณโต จ ปาสาณนิมิตฺตสฺส จ ตทภาวโต ยตฺถ กตฺถจิ อาเนตฺวา เปตุํ สุกรตาย จ วุตฺตํ. ตถา สีมนฺตริกปาสาณา เปตพฺพาติ เอตฺถาปิ. จตุรงฺคุลปฺปมาณาปีติ ยถา ขนฺธสีมาปริจฺเฉทโต พหิ นิมิตฺตปาสาณานํ จตุรงฺคุลมตฺตฏฺานํ สมนฺตา นิคจฺฉติ, อวเสสํ านํ อนฺโตขนฺธสีมาย โหติเยว, เอวํ เตสุปิ ปิเตสุ จตุรงฺคุลมตฺตา สีมนฺตริกา โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
สีมนฺตริกปาสาณาติ ¶ สีมนฺตริกาย ปิตนิมิตฺตปาสาณา. เต ปน กิตฺเตนฺเตน ปทกฺขิณโต อนุปริยายนฺเตเนว กิตฺเตตพฺพา. กถํ? ขณฺฑสีมโต หิ ปจฺฉิมาย ทิสาย ปุรตฺถาภิมุเขน ตฺวา ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺต’’นฺติ ตตฺถ สพฺพานิ นิมิตฺตานิ อนุกฺกเมน ¶ กิตฺเตตฺวา ตถา อุตฺตราย ทิสาย ทกฺขิณาภิมุเขน ตฺวา ‘‘ทกฺขิณาย ทิสาย กึ นิมิตฺต’’นฺติ อนุกฺกเมน กิตฺเตตฺวา ตถา ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปจฺฉิมาภิมุเขน ตฺวา ‘‘ปจฺฉิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺต’’นฺติ อนุกฺกเมน กิตฺเตตฺวา ตถา ทกฺขิณาย ทิสาย อุตฺตราภิมุเขน ตฺวา ‘‘อุตฺตราย ทิสาย กึ นิมิตฺต’’นฺติ ตตฺถ สพฺพานิ นิมิตฺตานิ อนุกฺกเมน กิตฺเตตฺวา ปุน ปจฺฉิมาย ทิสาย ปุรตฺถาภิมุเขน ตฺวา ปุริมกิตฺติตํ วุตฺตนเยน ปุน กิตฺเตตพฺพํ. เอวํ พหูนมฺปิ ขณฺฑสีมานํ สีมนฺตริกปาสาณา ปจฺเจกํ กิตฺเตตพฺพา. ตโตติ ปจฺฉา. อวเสสนิมิตฺตานีติ มหาสีมาย พาหิรนฺตเรสุ อวเสสนิมิตฺตานิ. อุภินฺนมฺปิ น โกเปนฺตีติ อุภินฺนมฺปิ กมฺมํ น โกเปนฺติ.
กุฏิเคเหติ ภูมิยํ กตติณกุฏิยํ. อุทุกฺขลนฺติ อุทุกฺขลาวาฏสทิสขุทฺทกาวาฏํ. นิมิตฺตํ น กาตพฺพนฺติ ตํ ราชึ วา อุทุกฺขลํ วา นิมิตฺตํ น กาตพฺพํ. อิทฺจ ยถาวุตฺเตสุ นิมิตฺเตสุ อนาคตตฺเตน น วฏฺฏตีติ สิทฺธมฺปิ อวินสฺสกสฺาย โกจิ โมเหน นิมิตฺตํ กเรยฺยาติ ทูรโตปิ วิปตฺติปริหารตฺถํ วุตฺตํ. เอวํ อุปริ ‘‘ภิตฺตึ อกิตฺเตตฺวา’’ติอาทีสุปิ สิทฺธเมวตฺถํ ปุนปฺปุนํ กถเน การณํ เวทิตพฺพํ. สีมาวิปตฺติ หิ อุปสมฺปทาทิสพฺพกมฺมวิปตฺติมูลนฺติ ตสฺสา สพฺพํ ทฺวารํ สพฺพถา ปิทหนวเสน วตฺตพฺพํ. สพฺพํ วตฺวาว อิธ อาจริยา วินิจฺฉยํ เปสุนฺติ ทฏฺพฺพํ.
ภิตฺตินฺติ อิฏฺกทารุมตฺติกามยํ. สิลามยาย ปน ภิตฺติยา นิมิตฺตุปคํ เอกํ ปาสาณํ ตํตํทิสาย กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. อเนกสิลาหิ จินิตํ สกลภิตฺตึ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ ‘‘เอโส ปาสาโณ นิมิตฺต’’นฺติ เอกวจเนน วตฺตพฺพโต. อนฺโตกุฏฺฏเมวาติ เอตฺถ อนฺโตกุฏฺเฏปิ นิมิตฺตานํ ิโตกาสโต อนฺโต เอว สีมาติ คเหตพฺพํ. ปมุเข นิมิตฺตปาสาเณ เปตฺวาติ คพฺภาภิมุเขปิ พหิปมุเข คพฺภวิตฺถารปฺปมาเณ าเน ปาสาเณ เปตฺวา สมฺมนฺนิตพฺพา. เอวฺหิ คพฺภปมุขานํ อนฺตเร ิตกุฏฺฏมฺปิ อุปาทาย อนฺโต จ พหิ จ จตุรสฺสสณฺานาว สีมา โหติ. พหีติ สกลสฺส กุฏิเคหสฺส สมนฺตโต พหิ.
อนฺโต ¶ จ พหิ จ สีมา โหตีติ มชฺเฌ ิตภิตฺติยา สห จตุรสฺสสีมา โหติ.
‘‘อุปริปาสาเทเยว โหตี’’ติ อิมินา คพฺภสฺส จ ปมุขสฺส จ อนฺตรา ิตภิตฺติยา เอกตฺตา ตตฺถ จ เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาสาภาเวน เหฏฺา น โอตรติ, อุปริภิตฺติ ปน สีมฏฺาว โหตีติ ทสฺเสติ. เหฏฺิมตเล กุฏฺโฏติ เหฏฺิมตเล จตูสุ ทิสาสุ ิตกุฏฺโฏ. สเจ หิ ¶ ทฺวีสุ, ตีสุ วา ทิสาสุ เอว กุฏฺโฏ ติฏฺเยฺย, เหฏฺา น โอตรติ. เหฏฺาปิ โอตรตีติ จตุนฺนมฺปิ ภิตฺตีนํ อนฺโต ภิตฺตีหิ สห เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ ปโหนกตฺตา วุตฺตํ. โอตรมานา จ อุปริสีมปฺปมาเณน โอตรติ, จตุนฺนํ ปน ภิตฺตีนํ พาหิรนฺตรปริจฺเฉเท เหฏฺาภูมิภาเค อุทกปริยนฺตํ กตฺวา โอตรติ. น ปน ภิตฺตีนํ พหิ เกสคฺคมตฺตมฺปิ านํ. ปาสาทภิตฺติโตติ อุปริตเล ภิตฺติโต. โอตรณาโนตรณํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ อุปริสีมปฺปมาณสฺส อนฺโตคธานํ เหฏฺิมตเล จตูสุ ทิสาสุ กุฏฺฏานํ ตุลารุกฺเขหิ เอกสมฺพนฺธตํ ตทนฺโต ปจฺฉิมสีมปฺปมาณตาทิฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. กิฺจาเปตฺถ นิยฺยูหกาทโย นิมิตฺตานํ ิโตกาสตาย พชฺฌมานกฺขเณ สีมา น โหนฺติ, พทฺธาย ปน สีมาย สีมฏฺาว โหนฺตีติ ทฏฺพฺพา. ปริยนฺตถมฺภานนฺติ นิมิตฺตคตปาสาณตฺถมฺเภ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘อุปริมตเลน สมฺพทฺโธ โหตี’’ติ อิทํ กุฏฺฏานํ อนฺตรา สีมฏฺานํ ถมฺภานํ อภาวโต วุตฺตํ. ยทิ หิ ภเวยฺยุํ, กุฏฺเฏ อุปริมตเลน อสมฺพนฺเธปิ สีมฏฺตฺถมฺภานํ อุปริ ิโต ปาสาโท สีมฏฺโว โหติ.
สเจ ปน พหูนํ ถมฺภปนฺตีนํ อุปริ กตปาสาทสฺส เหฏฺา ปถวิยํ สพฺพพาหิราย ถมฺภปนฺติยา อนฺโต นิมิตฺตปาสาเณ เปตฺวา สีมา พทฺธา โหติ, เอตฺถ กถนฺติ? เอตฺถาปิ ยํ ตาว สีมฏฺตฺถมฺเภเหว ธาริยมานานํ ตุลานํ อุปริมตลํ, สพฺพํ ตํ สีมฏฺเมว, เอตฺถ วิวาโท นตฺถิ. ยํ ปน สีมฏฺตฺถมฺภปนฺติยา, อสีมฏฺาย พาหิรตฺถมฺภปนฺติยา จ สมธุรํ ธาริยมานานํ ตุลานํ อุปริมตลํ, ตตฺถ อุปฑฺฒํ สีมาติ เกจิ วทนฺติ. สกลมฺปิ คามสีมาติ อปเร. พทฺธสีมา เอวาติ อฺเ. ตสฺมา กมฺมํ กโรนฺเตหิ ครุเก นิราสงฺกฏฺาเน ตฺวา สพฺพํ ตํ อาสงฺกฏฺานํ โสเธตฺวาว กมฺมํ กาตพฺพํ, สนฺนิฏฺานการณํ วา คเวสิตฺวา ตทนุคุณํ กาตพฺพํ.
ตาลมูลกปพฺพเตติ ¶ ตาลกฺขนฺธมูลสทิเส เหฏฺา ถูโล หุตฺวา กเมน กิโส หุตฺวา อุคฺคโต หิ ตาลสทิโส นาม โหติ. วิตานสณฺาโนติ อหิจฺฉตฺตกสณฺาโน. ปณวสณฺาโนติ มชฺเฌ ตนุโก เหฏฺา จ อุปริ จ วิตฺถิณฺโณ. เหฏฺา วา มชฺเฌ วาติ มุทิงฺคสณฺานสฺส เหฏฺา, ปณวสณฺานสฺส มชฺเฌ.
สปฺปผณสทิโส ปพฺพโตติ สปฺปผโณ วิย ขุชฺโช, มูลฏฺานโต อฺตฺถ อวนตสีโสติ อตฺโถ. อากาสปพฺภารนฺติ ภิตฺติยา อปริกฺขิตฺตปพฺภารํ. สีมปฺปมาโณติ อนฺโตอากาเสน สทฺธึ ปจฺฉิมสีมปฺปมาโณ. ‘‘โส จ ปาสาโณ สีมฏฺโ’’ติ อิมินา อีทิเสหิ สุสิรปาสาณเลณกุฏฺฏาทีหิ ปริจฺฉินฺเน ภูมิภาเค เอว สีมา ปติฏฺาติ, น อปริจฺฉินฺเน. เต ปน สีมฏฺตฺตา สีมา โหนฺติ, น สรูเปน สีมฏฺมฺจาทิ วิยาติ ทสฺเสติ. สเจ ปน โส สุสิรปาสาโณ ¶ ภูมึ อนาหจฺจ อากาสคโตว โอลมฺพติ, สีมา น โอตรติ. สุสิรปาสาณา ปน สยํ สีมาปฏิพทฺธตฺตา สีมา โหนฺติ. กถํ ปน ปจฺฉิมปฺปมาณรหิเตหิ เอเตหิ สุสิรปาสาณาทีหิ สีมา น โอตรตีติ อิทํ สทฺธาตพฺพนฺติ? อฏฺกถาปมาณโต.
อปิเจตฺถ สุสิรปาสาณภิตฺติอนุสาเรน มูสิกาทีนํ วิย สีมาย เหฏฺิมตเล โอตรณกิจฺจํ นตฺถิ. เหฏฺา ปน ปจฺฉิมสีมปฺปมาเณ อากาเส ทฺวงฺคุลมตฺตพหเลหิ ปาสาณภิตฺติอาทีหิปิ อุปริมตลํ อาหจฺจ ิเตหิ สพฺพโส, เยภุยฺเยน วา ปริจฺฉินฺเน สติ อุปริ พชฺฌมานา สีมา เตหิ ปาสาณาทีหิ อนฺตริตาย ตปฺปริจฺฉินฺนาย เหฏฺาภูมิยาปิ อุปริมตเลน สทฺธึ เอกกฺขเณ ปติฏฺาติ นทิปารสีมา วิย นทิอนฺตริเตสุ อุโภสุ ตีเรสุ, เลณาทีสุ อปนีเตสุปิ เหฏฺา โอติณฺณา สีมา ยาว สาสนนฺตรธานา น วิคจฺฉติ. ปมํ ปน อุปริ สีมาย พทฺธาย ปจฺฉา เลณาทีสุ กเตสุปิ เหฏฺาภูมิยํ สีมา โอตรติ เอว. เกจิ ตํ น อิจฺฉนฺติ. เอวํ อุภยตฺถ ปติฏฺิตา จ สา สีมา เอกาว โหติ โคตฺตาทิชาติ วิย พฺยตฺติเภเทสูติ คเหตพฺพํ. สพฺพา เอว หิ พทฺธสีมา, อพทฺธสีมา จ อตฺตโน อตฺตโน ปกตินิสฺสยภูเต คามารฺนทิอาทิเก เขตฺเต ยถาปริจฺเฉทํ สพฺพตฺถ สากลฺเยน เอกสฺมึ ขเณ พฺยาปินี ปรมตฺถโต อวิชฺชมานาปิ เต เต นิสฺสยภูเต ปรมตฺถธมฺเม, ตํ ตํ กิริยาวิเสสมฺปิ วา อุปาทาย โลกิเยหิ, สาสนิเกหิ ¶ จ ยถารหํ เอกตฺเตน ปฺตฺตตาย นิสฺสเยกรูปา เอว. ตถา หิ เอโก คาโม อรฺํ นที ชาตสฺสโร สมุทฺโทติ เอวํ โลเก,
‘‘สมฺมตา สา สีมา สงฺเฆน (มหาว. ๑๔๓). อคามเก เจ, ภิกฺขเว, อรฺเ สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรา, อยํ ตตฺถ สมานสํวาสา เอกูโปสถา. สมนฺตา อุทกุกฺเขปา, อยํ ตตฺถ สมานสํวาสา เอกูโปสถา’’ติ (มหาว. ๑๔๗) –
อาทินา สาสเน จ เอกโวหาโร ทิสฺสติ. น หิ ปรมตฺถโต เอกสฺส อเนกธมฺเมสุ พฺยาปนมตฺถิ. กสิเณกเทสาทิวิกปฺปาสมานตาย เอกตฺตหานิโตติ อยํ โน มติ.
อสฺส เหฏฺาติ สปฺปผณปพฺพตสฺส เหฏฺา อากาสปพฺภาเร. เลณสฺสาติ เลณฺเจ กตํ, ตสฺส เลณสฺสาติ อตฺโถ. ตเมว ปุน เลณํ ปฺจหิ ปกาเรหิ วิกปฺเปตฺวา โอตรณาโนตรณวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุํ อาห ‘‘สเจ ปน เหฏฺา’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘เหฏฺา’’ติ อิมสฺส ‘‘เลณํ โหตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. เหฏฺา เลณฺจ เอกสฺมึ ปเทเสติ อาห ‘‘อนฺโต’’ติ, ปพฺพตสฺส อนฺโต, ปพฺพตมูเลติ อตฺโถ. ตเมว อนฺโต-สทฺทํ สีมาปริจฺเฉเทน วิเสเสตุํ ‘‘อุปริมสฺส สีมาปริจฺเฉทสฺส ปารโต’’ติ วุตฺตํ ¶ . ปพฺพตปาทํ ปน อเปกฺขิตฺวา ‘‘โอรโต’’ติ วตฺตพฺเพปิ สีมานิสฺสยํ ปพฺพตคฺคํ สนฺธาย ‘‘ปารโต’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เตเนว ‘‘พหิเลณ’’นฺติ เอตฺถ พหิ-สทฺทํ วิเสเสนฺโต ‘‘อุปริมสฺส สีมาปริจฺเฉทสฺส โอรโต’’ติ อาห. พหิ สีมา น โอตรตีติ เอตฺถ พหีติ ปพฺพตปาเท เลณํ สนฺธาย วุตฺตํ, เลณสฺส พหิภูเต อุปริสีมาปริจฺเฉทสฺส เหฏฺาภาเค สีมา น โอตรตีติ อตฺโถ. อนฺโต สีมาติ เลณสฺส จ ปพฺพตปาทสฺส จ อนฺโต อตฺตโน โอตรณารหฏฺาเน น โอตรตีติ อตฺโถ. ‘‘พหิ สีมา น โอตรติ, อนฺโต สีมา น โอตรตี’’ติ เจตฺถ อตฺตโน โอตรณารหฏฺาเน เลณาภาเวน สีมาย สพฺพถา อโนตรณเมว ทสฺสิตนฺติ คเหตพฺพํ. ตตฺถาปิ อโนตรนฺตี อุปริ เอว โหตีติ. ‘‘พหิ ปติตํ อสีมา’’ติอาทินา อุปริปาสาทาทีสุ อถิรนิสฺสเยสุ ิตา สีมาปิ เตสํ วินาเสน วินสฺสตีติ ทสฺสิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
โปกฺขรณึ ¶ ขณนฺติ, สีมาเยวาติ เอตฺถ สเจ เหฏฺา อุมงฺคนทิสีมปฺปมาณโต อนูนา ปมเมว จ ปวตฺตา โหติ. สีมา จ ปจฺฉา พทฺธา นทิโต อุปริ เอว โหติ, นทึ อาหจฺจ โปกฺขรณิยา จ ขตาย สีมา วินสฺสตีติ ทฏฺพฺพํ. เหฏฺาปถวิตเลติ อนฺตรา ภูมิวิวเร.
สีมามาฬเกติ ขณฺฑสีมงฺคเณ. ‘‘วฏรุกฺโข’’ติ อิทํ ปาโรโหปตฺถมฺเภน อติทูรมฺปิ คนฺตุํ สมตฺถสาขาสมงฺคิตาย วุตฺตํ. สพฺพรุกฺขลตาทีนมฺปิ สมฺพนฺโธ น วฏฺฏติ เอว. เตเนว นาวารชฺชุเสตุสมฺพนฺโธปิ ปฏิกฺขิตฺโต. ตโตติ สาขโต. มหาสีมาย ปถวิตลนฺติ เอตฺถ อาสนฺนตรมฺปิ คามสีมํ อคฺคเหตฺวา พทฺธสีมาย เอว คหิตตฺตา คามสีมาพทฺธสีมานํ อฺมฺํ รุกฺขาทิสมฺพนฺเธปิ สมฺเภทโทโส นตฺถิ, อฺมฺํ นิสฺสยนิสฺสิตภาเวน ปวตฺติโตติ คเหตพฺพํ. ยทิ หิ ตาสมฺปิ สมฺพนฺธโทโส ภเวยฺย, กถํ คามสีมาย พทฺธสีมา สมฺมนฺนิตพฺพา สิยา? ยสฺสา หิ สีมาย สทฺธึ สมฺพนฺเธ โทโส ภเวยฺย, สา ตตฺถ พนฺธิตุเมว น วฏฺฏติ, พทฺธสีมาอุทกุกฺเขปสีมาสุ พทฺธสีมา วิย, อตฺตโน นิสฺสยภูตคามสีมาทีสุ อุทกุกฺเขปสีมา วิย จ. เตเนว ‘‘สเจ ปน รุกฺขสฺส สาขา วา ตโต นิกฺขนฺตปาโรโห วา พหินทิตีเร วิหารสีมาย วา คามสีมาย วา ปติฏฺิโต’’ติอาทินา (มหาว. อฏฺ. ๑๔๗) อุทกุกฺเขปสีมาย อตฺตโน อนิสฺสยภูตคามสีมาทีหิ เอว สมฺพนฺธโทโส ทสฺสิโต, น นทิสีมายํ. เอวมิธาปีติ ทฏฺพฺพํ. อยฺจตฺโถ อุปริ ปากโฏ ภวิสฺสติ. อาหจฺจาติ ผุสิตฺวา.
มหาสีมํ วา โสเธตฺวาติ มหาสีมาคตานํ สพฺเพสํ ภิกฺขูนํ หตฺถปาสานยนพหิกรณาทิวเสน ¶ สกลํ มหาสีมํ โสเธตฺวา. เอเตน สพฺพวิปตฺติโย โมเจตฺวา ปุพฺเพ สุฏฺุ พทฺธานมฺปิ ทฺวินฺนํ พทฺธสีมานํ ปจฺฉา รุกฺขาทิสมฺพนฺเธน อุปฺปชฺชนโก อีทิโส ปาฬิมุตฺตโก สมฺเภทโทโส อตฺถีติ ทสฺเสติ. โส จ ‘‘น, ภิกฺขเว, สีมาย สีมา สมฺภินฺทิตพฺพา’’ติอาทินา พทฺธสีมานํ อฺมฺํ สมฺเภทชฺโฌตฺถรณํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สีมํ สมฺมนฺนนฺเตน สีมนฺตริกํ เปตฺวา สีมํ สมฺมนฺนิตุ’’นฺติ อุภินฺนํ (มหาว. ๑๔๘) พทฺธสีมานมนฺตรา สีมนฺตริกํ เปตฺวาว พนฺธิตุํ อนุชานนฺเตน สมฺเภทชฺโฌตฺถรณํ วิย ตาสํ อฺมฺํ ผุสิตฺวา ติฏฺนวเสน พนฺธนมฺปิ น วฏฺฏตีติ สิทฺธตฺตา พทฺธานมฺปิ ตาสํ ปจฺฉา อฺมฺํ เอกรุกฺขาทีหิ ¶ ผุสิตฺวา านมฺปิ น วฏฺฏตีติ ภควโต อธิปฺปายฺูหิ สงฺคีติการเกหิ นิทฺธาริโต. พนฺธนกาเล ปฏิกฺขิตฺตสฺส สมฺพนฺธโทสสฺส อนุโลเมน อกปฺปิยานุโลมตฺตา.
อยํ ปน สมฺพนฺธโทโส – ปุพฺเพ สุฏฺุ พทฺธานํ ปจฺฉา สฺชาตตฺตา พชฺฌมานกฺขเณ วิย อสีมตฺตํ กาตุํ น สกฺโกติ. ตสฺมา รุกฺขาทิสมฺพนฺเธ อปนีตมตฺเต ตา สีมา ปากติกา โหนฺติ. ยถา จายํ ปจฺฉา น วฏฺฏติ, เอวํ พชฺฌมานกฺขเณปิ ตาสํ รุกฺขาทิสมฺพนฺเธ สติ ตา พนฺธิตุํ น วฏฺฏตีติ ทฏฺพฺพํ.
เกจิ ปน ‘‘มหาสีมํ วา โสเธตฺวาติ เอตฺถ มหาสีมาคตา ภิกฺขู ยถา ตํ สาขํ วา ปาโรหํ วา กายปฏิพทฺเธหิ น ผุสนฺติ, เอวํ โสธนเมว อิธาธิปฺเปตํ, น สกลสีมาโสธน’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ อฏฺกถาย วิรุชฺฌนโต. ตถา หิ ‘‘มหาสีมาย ปถวิตลํ วา ตตฺถชาตรุกฺขาทีนิ วา อาหจฺจ ติฏฺตี’’ติ เอวํ สาขาปาโรหานํ มหาสีมํ ผุสิตฺวา านเมว สมฺพนฺธโทเส การณตฺเตน วุตฺตํ, น ปน ตตฺถ ิตภิกฺขูหิ สาขาทีนํ ผุสนํ. ยทิ หิ ภิกฺขูนํ สาขาทิ ผุสิตฺวา านเมว การณํ สิยา, ตสฺส สาขํ วา ตโต นิคฺคตปาโรหํ วา มหาสีมาย ปวิฏฺํ ตตฺรฏฺโ โกจิ ภิกฺขุ ผุสิตฺวา ติฏฺตีติ ภิกฺขุผุสนเมว วตฺตพฺพํ สิยา. ยฺหิ ตตฺถ มหาสีมาโสธเน การณํ, ตเทว ตสฺมึ วากฺเย ปธานโต ทสฺเสตพฺพํ. น หิ อาหจฺจ ิตเมว สาขาทึ ผุสิตฺวา ิโต ภิกฺขุ โสเธตพฺโพ อากาสฏฺสาขาทึ ผุสิตฺวา ิตสฺสาปิ โสเธตพฺพโต, กึ นิรตฺถเกน อาหจฺจฏฺานวจเนน. อากาสฏฺสาขาสุ จ ภิกฺขุโน ผุสนเมว การณตฺเตน วุตฺตํ, โสธนฺจ ตสฺเสว ภิกฺขุสฺส หตฺถปาสานยนาทิวเสน โสธนํ วุตฺตํ. อิธ ปน ‘‘มหาสีมํ โสเธตฺวา’’ติ สกลสีมาสาธารณวจเนน โสธนํ วุตฺตํ.
อปิจ สาขาทึ ผุสิตฺวา ิตภิกฺขุมตฺตโสธเน อภิมเต ‘‘มหาสีมาย ปถวิตล’’นฺติ วิเสสสีโมปาทานํ ¶ นิรตฺถกํ สิยา ยตฺถ กตฺถจิ อนฺตมโส อากาเสปิ ตฺวา สาขาทึ ผุสิตฺวา ิตสฺส วิโสเธตพฺพโต. ฉินฺทิตฺวา ¶ พหิฏฺกา กาตพฺพาติ ตตฺถ ปติฏฺิตภาววิโยชนวจนโต จ วิสภาคสีมานํ ผุสเนเนว สกลสีมาโสธนเหตุโก อฏฺกถาสิทฺโธยํ เอโก สมฺพนฺธโทโส อตฺเถวาติ คเหตพฺโพ. เตเนว อุทกุกฺเขปสีมากถายมฺปิ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๗) ‘‘วิหารสีมาย วา คามสีมาย วา ปติฏฺิโต’’ติ จ ‘‘นทิตีเร ปน ขาณุกํ โกฏฺเฏตฺวา ตตฺถ พทฺธนาวาย น วฏฺฏตี’’ติ จ ‘‘สเจ ปน เสตุ วา เสตุปาทา วา พหิตีเร ปติฏฺิตา, กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ จ เอวํ วิสภาคาสุ คามสีมาสุ สาขาทีนํ ผุสนเมว สงฺกรโทสการณตฺเตน วุตฺตํ, น ภิกฺขุผุสนํ. ตถา หิ ‘‘อนฺโตนทิยํ ชาตรุกฺเข พนฺธิตฺวา กมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติ นทิยํ นาวาพนฺธนํ อนฺุาตํ อุทกุกฺเขปนิสฺสยตฺเตน นทิสีมาย สภาคตฺตา. ยทิ หิ ภิกฺขูนํ ผุสนเมว ปฏิจฺจ สพฺพตฺถ สมฺพนฺธโทโส วุตฺโต สิยา, นทิยมฺปิ พนฺธนํ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ ภเวยฺย. ตตฺถาปิ หิ ภิกฺขุผุสนํ กมฺมโกปการณํ โหติ, ตสฺมา สภาคสีมาสุ ปวิสิตฺวา ภูมิอาทึ ผุสิตฺวา วา อผุสิตฺวา วา สาขาทิมฺหิ ิเต ตํ สาขาทึ ผุสนฺโตว ภิกฺขุ โสเธตพฺโพ. วิสภาคสีมาสุ ปน สาขาทิมฺหิ ผุสิตฺวา ิเต ตํ สาขาทึ อผุสนฺตาปิ สพฺเพ ภิกฺขู โสเธตพฺพา. อผุสิตฺวา ิเต ปน ตํ สาขาทึ ผุสนฺโตว ภิกฺขุ โสเธตพฺโพติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.
ยํ ปเนตฺถ เกจิ ‘‘พทฺธสีมานํ ทฺวินฺนํ อฺมฺํ วิย พทฺธสีมาคามสีมานมฺปิ ตทฺาสมฺปิ สพฺพาสํ สมานสํวาสกสีมานํ อฺมฺํ รุกฺขาทิสมฺพนฺเธ สติ ตทุภยมฺปิ เอกสีมํ วิย โสเธตฺวา เอกตฺเถว กมฺมํ กาตพฺพํ, อฺตฺถ กตํ กมฺมํ วิปชฺชติ, นตฺเถตฺถ สภาควิสภาคเภโท’’ติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ, สภาคสีมานํ อฺมฺํ สมฺเภทโทสาภาวสฺส วิสภาคสีมานเมว ตพฺภาวสฺส สุตฺตสุตฺตานุโลมาทิวินยนเยหิ สิทฺธตฺตา. ตถา หิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สีมํ สมฺมนฺนิตุ’’นฺติ คามสีมายเมว พทฺธสีมํ สมฺมนฺนิตุํ อนฺุาตํ. ตาสํ นิสฺสยนิสฺสิตภาเวน สภาคตา, สมฺเภทชฺโฌตฺถรณาทิโทสาภาโว จ สุตฺตโตว สิทฺโธ. พนฺธนกาเล ปน อนฺุาตสฺส สมฺพนฺธสฺส อนุโลมโต ปจฺฉา สฺชาตรุกฺขาทิสมฺพนฺโธปิ ตาสํ วฏฺฏติ เอว. ‘‘ยํ, ภิกฺขเว…เป… กปฺปิยํ อนุโลเมติ อกปฺปิยํ ปฏิพาหติ. ตํ โว กปฺปตี’’ติ (มหาว. ๓๐๕) วุตฺตตฺตา. เอวํ ตาว พทฺธสีมาคามสีมานํ อฺมฺํ สภาคตา, สมฺเภทาทิโทสาภาโว จ ¶ สุตฺตสุตฺตานุโลมโต สิทฺโธ. อิมินา เอว นเยน อรฺสีมาสตฺตพฺภนฺตรสีมานํ, นทิอาทิอุทกุกฺเขปสีมานฺจ สุตฺตสุตฺตานุโลมโต อฺมฺํ สภาคตา, สมฺเภทาทิโทสาภาโว จ สิทฺโธติ เวทิตพฺโพ.
พทฺธสีมาย ¶ ปน อฺาย พทฺธสีมาย, นทิอาทิสีมาสุ จ พนฺธิตุํ ปฏิกฺเขปสิทฺธิโต เจว อุทกุกฺเขปสตฺตพฺภนฺตรสีมานํ นทิอาทีสุ เอว กาตุํ นิยมนสุตฺตสามตฺถิเยน พทฺธสีมาคามสีมาทีสุ กรณปฏิกฺเขปสิทฺธิโต จ ตาสํ อฺมฺํ วิสภาคตา, อุปฺปตฺติกฺขเณ, ปจฺฉา จ รุกฺขาทีหิ สมฺเภทาทิโทสสมฺภโว จ วุตฺตนเยน สุตฺตสุตฺตานุโลมโต จ สิชฺฌนฺติ. เตเนว อฏฺกถายํ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๘) วิสภาคสีมานเมว วฏรุกฺขาทิวจเนหิ สมฺพนฺธโทสํ ทสฺเสตฺวา สภาคานํ พทฺธสีมาคามสีมาทีนํ สมฺพนฺธโทโส น ทสฺสิโต, น เกวลฺจ น ทสฺสิโต, อถ โข ตาสํ สภาคสีมานํ รุกฺขาทิสมฺพนฺเธปิ โทสาภาโว ปาฬิอฏฺกถาสุ าปิโต เอว. ตถา หิ ปาฬิยํ ‘‘ปพฺพตนิมิตฺตํ ปาสาณนิมิตฺตํ วนนิมิตฺตํ รุกฺขนิมิตฺต’’นฺติอาทินา วฑฺฒนกนิมิตฺตานิ อนฺุาตานิ. เตน เนสํ รุกฺขาทีนํ นิมิตฺตานํ วฑฺฒเนปิ พทฺธสีมาคามสีมานํ สงฺกรโทสาภาโว าปิโตว โหติ. ทฺวินฺนํ ปน พทฺธสีมานํ อีทิโส สมฺพนฺโธ น วฏฺฏติ. วุตฺตฺหิ ‘‘เอกรุกฺโขปิ จ ทฺวินฺนํ สีมานํ นิมิตฺตํ โหติ, โส ปน วฑฺฒนฺโต สีมาสงฺกรํ กโรติ, ตสฺมา น กาตพฺโพ’’ติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติโยชนปรมํ สีมํ สมฺมนฺนิตุ’’นฺติ วจนโตปิ จายํ าปิโต. ติโยชนปรมาย หิ สีมาย สมนฺตา ปริยนฺเตสุ รุกฺขลตาคุมฺพาทีหิ พทฺธสีมาคามสีมานํ นิยเมน อฺมฺํ สมฺพนฺธสฺส สมฺภวโต ‘‘อีทิสํ สมฺพนฺธนํ วินาเสตฺวาว สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา’’ติ อฏฺกถายมฺปิ น วุตฺตํ.
ยทิ เจตฺถ รุกฺขาทิสมฺพนฺเธน กมฺมวิปตฺติ ภเวยฺย, อวสฺสเมว วตฺตพฺพํ สิยา. วิปตฺติปริหารตฺถฺหิ อาจริยา นิราสงฺกฏฺาเนสุปิ ‘‘ภิตฺตึ อกิตฺเตตฺวา’’ติอาทินา สิทฺธเมวตฺถํ ปุนปฺปุนํ อโวจุํ. อิธ ปน ‘‘วนมชฺเฌ วิหารํ กโรนฺติ, วนํ น กิตฺเตตพฺพ’’นฺติอาทิรุกฺขลตาทีหิ นิรนฺตเร วนมชฺเฌปิ สีมาพนฺธนเมว อโวจุํ. ตถา ถมฺภานํ อุปริ กตปาสาทาทีสุ เหฏฺา ถมฺภาทีหิ เอกาพทฺเธสุ อุปริมตลาทีสุ สีมาพนฺธนํ พหุธา วุตฺตํ. ตสฺมา พทฺธสีมาคามสีมานํ รุกฺขาทิสมฺพนฺโธ เตหิ มุขโตว วิหิโต. อปิจ คามสีมานมฺปิ ปาเฏกฺกํ พทฺธสีมาสทิสตาย เอกิสฺสา คามสีมาย กมฺมํ ¶ กโรนฺเตหิ ทพฺพติณมตฺเตนาปิ สมฺพนฺธา คามนฺตรปรมฺปรา อรฺนทิสมุทฺทา จ โสเธตพฺพาติ สกลทีปํ โสเธตฺวาว กาตพฺพํ สิยา. เอวํ ปน อโสเธตฺวา ปมมหาสงฺคีติกาลโต ปภุติ กตานํ อุปสมฺปทาทิกมฺมานํ, สีมาสมฺมุตีนฺจ วิปชฺชนโต สพฺเพสมฺปิ ภิกฺขูนํ อนุปสมฺปนฺนสงฺกาปสงฺโค จ ทุนฺนิวาโร โหติ. น เจตํ ยุตฺตํ. ตสฺมา วุตฺตนเยเนว วิสภาคสีมานเมว รุกฺขาทีหิ สมฺพนฺธโทโส, น พทฺธสีมาคามสีมาทีนํ สภาคสีมานนฺติ คเหตพฺพํ.
มหาสีมาโสธนสฺส ทุกฺกรตาย ขณฺฑสีมายเมว เยภุยฺเยน สงฺฆกมฺมกรณนฺติ อาห ‘‘สีมามาฬเก’’ติอาทิ ¶ . มหาสงฺฆสนฺนิปาเต ปน ขณฺฑสีมาย อปฺปโหนกตาย มหาสีมาย กมฺเม กริยมาเนปิ อยํ นโย คเหตพฺโพว.
‘‘อุกฺขิปาเปตฺวา’’ติ อิมินา กายปฏิพทฺเธนปิ สีมํ ผุสนฺโต สีมฏฺโว โหตีติ ทสฺเสติ. ปุริมนเยปีติ ขณฺฑสีมโต มหาสีมํ ปวิฏฺสาขานเยปิ. สีมฏฺรุกฺขสาขาย นิสินฺโน สีมฏฺโว โหตีติ อาห ‘‘หตฺถปาสเมว อาเนตพฺโพ’’ติ. เอตฺถ จ รุกฺขสาขาทีหิ อฺมฺํ สมฺพนฺธาสุ เอตาสุ ขนฺธสีมายํ ตโย ภิกฺขู, มหาสีมายํ ทฺเวติ เอวํ ทฺวีสุ สีมาสุ สีมนฺตริกํ อผุสิตฺวา, หตฺถปาสฺจ อวิชหิตฺวา ิเตหิ ปฺจหิ ภิกฺขูหิ อุปสมฺปทาทิกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตีติ เกจิ วทนฺติ. ตํ น ยุตฺตํ ‘‘นานาสีมาย ิตจตุตฺโถ กมฺมํ กเรยฺย, อกมฺมํ, น จ กรณีย’’นฺติอาทิ (มหาว. ๓๘๙) วจนโต. เตเนเวตฺถาปิ มหาสีมํ โสเธตฺวา มาฬกสีมายเมว กมฺมกรณํ วิหิตํ. อฺถา ภินฺนสีมฏฺตาย ตตฺรฏฺสฺส คณปูรกตฺตาภาวา กมฺมโกโปว โหตีติ.
ยทิ เอวํ กถํ ฉนฺทปาริสุทฺธิอาหรณวเสน มหาสีมาโสธนนฺติ? ตมฺปิ วินยฺู น อิจฺฉนฺติ, หตฺถปาสานยนพหิสีมากรณวเสเนว ปเนตฺถ โสธนํ อิจฺฉนฺติ, ทินฺนสฺสาปิ ฉนฺทสฺส อนาคมเนน มหาสีมฏฺโ กมฺมํ โกเปตีติ. ยทิ จสฺส ฉนฺทาทิ นาคจฺฉติ, กถํ โส กมฺมํ โกเปสฺสตีติ? ทฺวินฺนํ วิสภาคสีมานํ สมฺพนฺธโทสโต. โส จ สมฺพนฺธโทโส อฏฺกถาวจนปฺปมาณโต. น หิ วินเย สพฺพตฺถ ยุตฺติ สกฺกา าตุํ พุทฺธโคจรตฺตาติ เวทิตพฺพํ. เกจิ ปน ‘‘สเจ ทฺเวปิ สีมาโย ปูเรตฺวา นิรนฺตรํ ¶ ิเตสุ ภิกฺขูสุ กมฺมํ กโรนฺเตสุ เอกิสฺสา เอว สีมาย คโณ จ อุปสมฺปทาเปกฺโข จ อนุสฺสาวโก จ เอกโต ติฏฺติ, กมฺมํ สุกตเมว โหติ. สเจ ปน กมฺมารโห วา อนุสฺสาวโก วา สีมนฺตรฏฺโ โหติ, กมฺมํ วิปชฺชตี’’ติ วทนฺติ, ตฺจ พทฺธสีมาคามสีมาทิสภาคสีมาสุ เอว ยุชฺชติ, ยาสุ อฺมฺํ รุกฺขาทิสมฺพนฺเธสุปิ โทโส นตฺถิ. ยาสุ ปน อตฺถิ, น ตาสุ วิสภาคสีมาสุ รุกฺขาทิสมฺพนฺเธ สติ เอกตฺถ ิโต อิตรฏฺานํ กมฺมํ โกเปติ เอว อฏฺกถายํ สามฺโต โสธนสฺส วุตฺตตฺตาติ อมฺหากํ ขนฺติ. วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.
น โอตรตีติ ปณวสณฺานปพฺพตาทีสุ เหฏฺา ปมาณรหิตฏฺานํ น โอตรติ. กิฺจาปิ ปเนตฺถ พชฺฌมานกฺขเณ อุทฺธมฺปิ ปมาณรหิตํ ปพฺพตาทีนิ นาโรหติ, ตถาปิ ตํ ปจฺฉา สีมฏฺตาย สีมา โหติ. เหฏฺา ปณวสณฺานาทิ ปน อุปริ พทฺธายปิ สีมาย สีมาสงฺขฺยํ น คจฺฉติ, ตสฺส วเสน น โอตรตีติ วุตฺตํ, อิตรถา โอโรหณาโรหณานํ สาธารณวเสน ‘‘น โอตรตี’’ติอาทินา ¶ วตฺตพฺพโต. ยํ กิฺจีติ นิฏฺิตสีมาย อุปริ ชาตํ วิชฺชมานํ ปุพฺเพ ิตํ, ปจฺฉา สฺชาตํ, ปวิฏฺฺจ ยํกิฺจิ สวิฺาณกาวิฺาณกํ สพฺพมฺปีติ อตฺโถ. อนฺโตสีมาย หิ หตฺถิกฺขนฺธาทิสวิฺาณเกสุ นิสินฺโนปิ ภิกฺขุ สีมฏฺโว โหติ. ‘‘พทฺธสีมายา’’ติ อิทฺจ ปกรณวเสน อุปลกฺขณโต วุตฺตํ. อพทฺธสีมาสุปิ สพฺพาสุ ิตํ ตํ สีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ.
เอกสมฺพทฺเธน คตนฺติ รุกฺขลตาทิตตฺรชาตเมว สนฺธาย วุตฺตํ. ตาทิสมฺปิ ‘‘อิโต คต’’นฺติ วตฺตพฺพตํ อรหติ. ยํ ปน ‘‘อิโต คต’’นฺติ วา ‘‘ตโต อาคต’’นฺติ วา วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺยํ อุโภสุ พทฺธสีมาคามสีมาสุ, อุทกุกฺเขปนทิอาทีสุ จ ติริยํ ปติตรชฺชุทณฺฑาทิ, ตตฺถ กึ กาตพฺพนฺติ? เอตฺถ ปน พทฺธสีมาย ปติฏฺิตภาโค พทฺธสีมา, อพทฺธคามสีมาย ปติฏฺิตภาโค คามสีมา ตทุภยสีมฏฺปพฺพตาทิ วิย. พทฺธสีมโต อุฏฺิตวฏรุกฺขสฺส ปาโรเห, คามสีมาย คามสีมโต อุฏฺิตวฏรุกฺขสฺส ปาโรเห จ พทฺธสีมาย ปติฏฺิเตปิ เอเสว นโย. มูลปติฏฺิตกาลโต หิ ปฏฺาย ‘‘อิโต คตํ, ตโต อาคต’’นฺติ วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺยโต โส ภาโค ยถาปวิฏฺสีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, เตสํ รุกฺขปาโรหานํ อนฺตรา ปน อากาสฏฺสาขา ภูมิยํ สีมาปริจฺเฉทปฺปมาเณน ¶ ตทุภยสีมา โหตีติ เกจิ วทนฺติ. ยสฺมา ปนสฺส สาขาย ปาโรโห ปวิฏฺสีมาย ปถวิยํ มูเลหิ ปติฏฺหิตฺวาปิ ยาว สาขํ วินา าตุํ น สกฺโกติ, ตาว มูลสีมฏฺตํ น วิชหติ. ยทา ปน วินา าตุํ สกฺโกติ, ตทาปิ ปาโรหมตฺตเมว ปวิฏฺสีมฏฺตํ สมุเปติ. ตสฺมา สพฺโพปิ อากาสฏฺสาขาภาโค ปุริมสีมฏฺตํ น วิชหติ, ตโต อาคตภาคสฺส อวิชหิตตฺตาติ อมฺหากํ ขนฺติ. อุทกุกฺเขปนทิอาทีสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ จ วิสภาคสีมาย เอวํ ปวิฏฺเ สกลสีมาโสธนํ, สภาคาย ปวิฏฺเ ผุสิตฺวา ิตมตฺตภิกฺขุโสธนฺจ สพฺพํ ปุพฺเพ วุตฺตนยเมว.
๑๔๐. ปารยตีติ อชฺโฌตฺถรติ, นทิยา อุโภสุ ตีเรสุ ปติฏฺมานา สีมา นทิอชฺโฌตฺถรา นาม โหตีติ อาห ‘‘นทึอชฺโฌตฺถรมาน’’นฺติ. อนฺโตนทิยฺหิ สีมา น โอตรติ. นทิลกฺขเณ ปน อสติ โอตรติ, สา จ ตทา นทิปารสีมา น โหตีติ อาห ‘‘นทิยา ลกฺขณํ นทินิมิตฺเต วุตฺตนยเมวา’’ติ. อสฺสาติ ภเวยฺย. อวสฺสํ ลพฺภเนยฺยา ปน ธุวนาวาว โหตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘น นาวายา’’ติ อิมินา นาวํ วินาปิ สีมา พทฺธา สุพทฺธา เอว โหติ, อาปตฺติปริหารตฺถา นาวาติ ทสฺเสติ.
รุกฺขสงฺฆาฏมโยติ ¶ อเนกรุกฺเข เอกโต ฆเฏตฺวา กตเสตุ. รุกฺขํ ฉินฺทิตฺวา กโตติ ปาเสโส. ‘‘สพฺพนิมิตฺตานํ อนฺโต ิเต ภิกฺขู หตฺถปาสคเต กตฺวา’’ติ อิทํ อุภินฺนํ ตีรานํ เอกคามเขตฺตภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปพฺพตสณฺานาติ เอกโต อุคฺคตทีปสิขรตฺตา วุตฺตํ.
สีมานุชานนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุโปสถาคาราทิกถาวณฺณนา
๑๔๑. สมูหนิตฺวาติ วินาเสตฺวา, อุทฺธริตฺวาติ อตฺโถ. อิทฺจ อาปตฺติปริหารตฺถํ วุตฺตํ.
๑๔๒. ยานิ กานิจีติ อิธ นิมิตฺตานํ สีมาย ปาฬิยํ สรูปโต อวุตฺตตฺตา วุตฺตํ.
อุโปสถาคาราทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อวิปฺปวาสสีมานุชานนกถาวณฺณนา
๑๔๓. อฏฺารสาติ ¶ อนฺธกวินฺทวิหารมฺปิ อุปาทาย วุจฺจติ. เนสํ สีมาติ เตสุ มหาวิหาเรสุ. ‘‘มน’’นฺติ อิมสฺส วิวรณํ อีสกนฺติ, อีสกํ วุฬฺโหติ อตฺโถ. อิมเมวตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปฺปตฺตวุฬฺหภาโว อโหสี’’ติ วุตฺตํ. อมนสิกโรนฺโตติ อิทฺธิยา อนติกฺกมสฺส การณํ วุตฺตํ.
๑๔๔. โสติ ภิกฺขุนิสงฺโฆ. ทฺเวปีติ ทฺเว สมานสํวาสอวิปฺปวาสาโย. อวิปฺปวาสสีมาติ มหาสีมํ สนฺธาย วทติ. ตตฺเถว เยภุยฺเยน อวิปฺปวาสาติ.
‘‘อวิปฺปวาสํ อชานนฺตาปี’’ติ อิทํ มหาสีมาย วิชฺชมานาวิชฺชมานตฺตํ, ตสฺสา พาหิรปริจฺเฉทฺจ อชานนฺตานํ วเสน วุตฺตํ. เอวํ อชานนฺเตหิปิ อนฺโตสีมาย ตฺวา กมฺมวาจาย กตาย สา สีมา สมูหตาว โหตีติ อาห ‘‘สมูหนิตฺุเจว พนฺธิตฺุจ สกฺขิสฺสนฺตี’’ติ. นิราสงฺกฏฺาเนติ ขณฺฑสีมารหิตฏฺาเน. อิทฺจ มหาสีมาย วิชฺชมานายปิ กมฺมกรณสุขตฺถํ ขณฺฑสีมา อิจฺฉิตาติ ตํ เจติยงฺคณาทิพหุสนฺนิปาตฏฺาเน น พนฺธตีติ วุตฺตํ. ตตฺถาปิ ¶ สา พทฺธา สุพทฺธา เอว มหาสีมา วิย. ‘‘ปฏิพนฺธิตุํ ปน น สกฺขิสฺสนฺเตวา’’ติ อิทํ ขณฺฑสีมาย อสมูหตตฺตา, ตสฺสา อวิชฺชมานตฺตสฺส อชานนโต จ มหาสีมาพนฺธนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ขณฺฑสีมํ ปน นิราสงฺกฏฺาเน พนฺธิตุํ สกฺขิสฺสนฺเตว. สีมาสมฺเภทํ กตฺวาติ ขณฺฑสีมาย วิชฺชมานปกฺเข สีมาย สีมํ อชฺโฌตฺถรณสมฺเภทํ กตฺวา อวิชฺชมานปกฺเขปิ สมฺเภทสงฺกาย อนิวตฺตเนน สมฺเภทสงฺกํ กตฺวา. อวิหารํ กเรยฺยุนฺติ สงฺฆกมฺมานารหํ กเรยฺยุํ. ปุพฺเพ หิ เจติยงฺคณาทินิราสงฺกฏฺาเน กมฺมํ กาตุํ สกฺกา, อิทานิ ตมฺปิ วินาสิตนฺติ อธิปฺปาโย. น สมูหนิตพฺพาติ ขณฺฑสีมํ อชานนฺเตหิ น สมูหนิตพฺพา. อุโภปิ น ชานนฺตีติ อุภินฺนํ ปเทสนิยมํ วา ตาสํ ทฺวินฺนมฺปิ วา อฺตราย วา วิชฺชมานตํ วา อวิชฺชมานตํ วา น ชานนฺติ, สพฺพตฺถ สงฺกา เอว โหติ. ‘‘เนว สมูหนิตุํ, น พนฺธิตุํ สกฺขิสฺสนฺตี’’ติ อิทํ นิราสงฺกฏฺาเน ตฺวา สมูหนิตุํ สกฺโกนฺโตปิ มหาสีมํ ปฏิพนฺธิตุํ น สกฺโกนฺตีติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘น จ สกฺกา…เป… กมฺมวาจํ กาตุ’’นฺติ อิทํ สีมาพนฺธนกมฺมวาจํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตสฺมาติ ยสฺมา พนฺธิตุํ น สกฺกา, ตสฺมา น สมูหนิตพฺพาติ อตฺโถ.
เกจิ ¶ ปน ‘‘อีทิเสสุ วิหาเรสุ ฉปฺจมตฺเต ภิกฺขู คเหตฺวา วิหารโกฏิโต ปฏฺาย วิหารปริกฺเขปสฺส อนฺโต จ พหิ จ สมนฺตา เลฑฺฑุปาเต สพฺพตฺถ มฺจปฺปมาเณ โอกาเส นิรนฺตรํ ตฺวา ปมํ อวิปฺปวาสสีมํ, ตโต สมานสํวาสกสีมฺจ สมูหนนวเสน สีมาย สมุคฺฆาเต กเต ตสฺมึ วิหาเร ขณฺฑสีมาย, มหาสีมายปิ วา วิชฺชมานตฺเต สติ อวสฺสํ เอกสฺมึ มฺจฏฺาเน ตาสํ มชฺฌคตา เต ภิกฺขู ตา สมูหเนยฺยุํ, ตโต คามสีมา เอว อวสิสฺเสยฺย. น เหตฺถ สีมาย, ตปฺปริจฺเฉทสฺส วา ชานนํ องฺคํ. สีมาย ปน อนฺโตานํ, ‘‘สมูหนิสฺสามา’’ติ กมฺมวาจาย กรณฺเจตฺถ องฺคํ. อฏฺกถายํ ‘ขณฺฑสีมํ ปน ชานนฺตา อวิปฺปวาสํ อชานนฺตาปิ สมูหนิตฺุเจว พนฺธิตฺุจ สกฺขิสฺสนฺตี’ติ เอวํ มหาสีมาย ปริจฺเฉทสฺส อชานเนปิ สมูหนสฺส วุตฺตตฺตา. คามสีมาย เอว จ อวสิฏฺาย ตตฺถ ยถารุจิ ทุวิธมฺปิ สีมํ พนฺธิตฺุเจว อุปสมฺปทาทิกมฺมํ กาตฺุจ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ. วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.
อวิปฺปวาสสีมานุชานนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
คามสีมาทิกถาวณฺณนา
๑๔๗. ปาฬิยํ ¶ ‘‘อสมฺมตาย, ภิกฺขเว, สีมายา’’ติอาทินา คามสีมา เอว พทฺธสีมาย เขตฺตํ, อรฺนทิอาทโย วิย สตฺตพฺภนฺตรอุทกุกฺเขปาทีนํ. สา จ คามสีมา พทฺธสีมาวิรหิตฏฺาเน สยเมว สมานสํวาสา โหตีติ ทสฺเสติ. ยา ตสฺส วา คามสฺส คามสีมาติ เอตฺถ คามสีมาปริจฺเฉทสฺส อนฺโต จ พหิ จ เขตฺตวตฺถุอรฺปพฺพตาทิกํ สพฺพํ คามเขตฺตํ สนฺธาย ‘‘คามสฺสา’’ติ วุตฺตํ, น อนฺตรฆรเมว. ตสฺมา ตสฺส สกลสฺส คามเขตฺตสฺส สมฺพนฺธนียา คามสีมาติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. โย หิ โส อนฺตรฆรเขตฺตาทีสุ อเนเกสุ ภูมิภาเคสุ ‘‘คาโม’’ติ เอกตฺเตน โลกชเนหิ ปฺตฺโต คามโวหาโร, โสว อิธ ‘‘คามสีมา’’ติปิ วุจฺจตีติ อธิปฺปาโย, คาโม เอว หิ คามสีมา. อิมินาว นเยน อุปริ อรฺํ นที สมุทฺโท ชาตสฺสโรติ เอวํ เตสุ ภูมิปฺปเทเสสุ เอกตฺเตน โลกชนปฺตฺตานเมว อรฺาทีนํ อรฺสีมาทิภาโว เวทิตพฺโพ. โลเก ปน คามสีมาทิโวหาโร คามาทีนํ ¶ มริยาทายเมว วตฺตุํ วฏฺฏติ, น คามเขตฺตาทีสุ สพฺพตฺถ. สาสเน ปน เต คามาทโย อิตรนิวตฺติอตฺเถน สยเมว อตฺตโน มริยาทาติ กตฺวา คาโม เอว คามสีมา, อรฺเมว อรฺสีมา…เป… สมุทฺโท เอว สมุทฺทสีมาติ สีมาโวหาเรน วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
‘‘นิคมสฺส วา’’ติ อิทํ คามสีมปฺปเภทํ สพฺพํ อุปลกฺขณวเสน ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘นครมฺปิ คหิตเมวา’’ติ. ‘‘พลึ ลภนฺตี’’ติ อิทํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ, ‘‘อยํ คาโม เอตฺตโก กรีสภาโค’’ติอาทินา ปน ราชปณฺเณสุ อาโรปิเตสุ ภูมิภาเคสุ ยสฺมึ ยสฺมึ ตฬากมาติกาสุสานปพฺพตาทิเก ปเทเส พลึ น คณฺหนฺติ, โสปิ คามสีมา เอว. ราชาทีหิ ปริจฺฉินฺนภูมิภาโค หิ สพฺโพว เปตฺวา นทิโลณิชาตสฺสเร คามสีมาติ เวทิตพฺโพ. เตนาห ‘‘ปริจฺฉินฺทิตฺวา ราชา กสฺสจิ เทตี’’ติ. สเจ ปน ตตฺถ ราชา กฺจิ ปเทสํ คามนฺตเรน โยเชติ, โส ปวิฏฺคามสีมตํ เอว ภชติ, นทิชาตสฺสเรสุ วินาเสตฺวา ตฬากาทิภาวํ วา ปูเรตฺวา เขตฺตาทิภาวํ วา ปาปิเตสุปิ เอเสว นโย.
เย ปน คามา ราชโจราทิภยปีฬิเตหิ มนุสฺเสหิ ฉฑฺฑิตา จิรมฺปิ นิมฺมนุสฺสา ติฏฺนฺติ, สมนฺตา ปน คามา สนฺติ, เตปิ ปาเฏกฺกํ คามสีมาว. เตสุ หิ ราชาโน สมนฺตคามวาสีหิ กสาเปตฺวา วา เยหิ เกหิจิ กสิตฏฺานํ ลิขิตฺวา วา พลึ คณฺหนฺติ, อฺเน วา คาเมน เอกีภาวํ วา อุปเนนฺติ. เย ปน คามา ราชูหิปิ ปริจฺจตฺตา คามเขตฺตานนฺตริกา มหารฺเน เอกีภูตา, เต อคามการฺสีมตํ ปาปุณนฺติ, ปุริมา คามสีมา ¶ วินสฺสติ. ราชาโน ปน เอกสฺมึ อรฺาทิปฺปเทเส มหนฺตํ คามํ กตฺวา อเนกสหสฺสานิ กุลานิ วาสาเปตฺวา ตตฺถ วาสีนํ โภคคามาติ สมนฺตา ภูตคาเม ปริจฺฉินฺทิตฺวา เทนฺติ. ปุราณนามํ, ปน ปริจฺเฉทฺจ น วินาเสนฺติ, เตปิ ปจฺเจกํ คามสีมา เอว. เอตฺตาวตา ปุริมคามสีมตฺตํ น วิชหนฺติ. สา จ อิตรา จาติอาทิ ‘‘สมานสํวาสา เอกูโปสถา’’ติ ปาฬิปทสฺส อธิปฺปายวิวรณํ. ตตฺถ หิ สา จ ราชิจฺฉาวเสน ปริวตฺติตฺวา สมุปฺปนฺนา อภินวา, อิตรา จ อปริวตฺตา ปกติคามสีมา, ยถา พทฺธสีมาย สพฺพํ สงฺฆกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ, เอวเมตาปิ สพฺพกมฺมารหตาสทิเสน พทฺธสีมาสทิสา, สา สมานสํวาสา เอกูโปสถาติ ¶ อธิปฺปาโย. สามฺโต ‘‘พทฺธสีมาสทิสา’’ติ วุตฺเต ติจีวราวิปฺปวาสสีมํ พทฺธสีมํ เอว มฺนฺตีติ ตํสทิสตานิวตฺตนมุเขน อุปริ สตฺตพฺภนฺตรสีมาย ตํสทิสตาปิ อตฺถีติ ทสฺสนนยสฺส อิเธว ปสงฺคํ ทสฺเสตุํ ‘‘เกวล’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
วิฺฌาฏวิสทิเส อรฺเติ ยตฺถ ‘‘อสุกคามสฺส อิทํ เขตฺต’’นฺติ คามโวหาโร นตฺถิ, ยตฺถ จ น กสนฺติ น วปนฺติ, ตาทิเส อรฺเ. มจฺฉพนฺธานํ อคมนปถา นิมฺมนุสฺสาวาสา สมุทฺทนฺตรทีปกาปิ เอตฺเถว สงฺคยฺหนฺติ. ยํ ยฺหิ อคามเขตฺตภูตํ นทิสมุทฺทชาตสฺสรวิรหิตํ ปเทสํ, ตํ สพฺพํ อรฺสีมาติ เวทิตพฺพํ. สา จ สตฺตพฺภนฺตรสีมํ วินาว สยเมว สมานสํวาสา พทฺธสีมาสทิสา. นทิอาทิสีมาสุ วิย สพฺพเมตฺถ สงฺฆกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. นทิสมุทฺทชาตสฺสรานํ ตาว อฏฺกถายํ ‘‘อตฺตโน สภาเวเนว พทฺธสีมาสทิสา’’ติอาทินา วุตฺตตฺตา สีมตา สิทฺธา. อรฺสฺส ปน สีมตา กถนฺติ? สตฺตพฺภนฺตรสีมานุชานนสุตฺตาทิสามตฺถิยโต. ยถา หิ คามสีมาย วคฺคกมฺมปริหารตฺถํ พหู พทฺธสีมาโย อนฺุาตา, ตาสฺจ ทฺวินฺนมนฺตรา อฺมฺํ อสมฺเภทตฺถํ สีมนฺตริกา อนฺุาตา, เอวมิธารฺเปิ สตฺตพฺภนฺตรสีมา. ตาสฺจ ทฺวินฺนํ อนฺตรา สีมนฺตริกาย ปาฬิอฏฺกถาสุปิ วิธานสามตฺถิยโต อรฺสฺสปิ สภาเวเนว นทิอาทีนํ วิย สีมาภาโว ตตฺถ วคฺคกมฺมปริหารตฺถเมว สตฺตพฺภนฺตรสีมาย อนฺุาตตฺตาว สิทฺโธติ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ สีมายเมว หิ ิตา สีมฏฺานํ วคฺคกมฺมํ กโรนฺติ, น อสีมายํ อากาเส ิตา วิย อากาสฏฺานํ. เอวเมว หิ สามตฺถิยํ คเหตฺวา ‘‘สพฺพา, ภิกฺขเว, นที อสีมา’’ติอาทินา ปฏิกฺขิตฺตพทฺธสีมานมฺปิ นทิสมุทฺทชาตสฺสรานํ อตฺตโน สภาเวเนว สีมาภาโว อฏฺกถายํ วุตฺโตติ คเหตพฺโพ.
อถสฺส ิโตกาสโตติ อสฺส ภิกฺขุสฺส ิโตกาสโต. สเจปิ หิ ภิกฺขุสหสฺสํ ติฏฺติ, ตสฺส ิโตกาสสฺส พาหิรนฺตโต ปฏฺาย ภิกฺขูนํ วคฺคกมฺมปริหารตฺถํ สีมาเปกฺขาย อุปฺปนฺนาย ¶ ตาย สห สยเมว สฺชาตา สตฺตพฺภนฺตรสีมา สมานสํวาสาติ อธิปฺปาโย. ยตฺถ ปน ขุทฺทเก อรฺเ มหนฺเตหิ ภิกฺขูหิ ปริปุณฺณตาย วคฺคกมฺมสงฺกาภาเวน สตฺตพฺภนฺตรสีมาเปกฺขา นตฺถิ, ตตฺถ สตฺตพฺภนฺตรสีมา น อุปฺปชฺชติ, เกวลารฺสีมายเมว, ตตฺถ สงฺเฆน กมฺมํ กาตพฺพํ. นทิอาทีสุปิ เอเสว นโย. วกฺขติ หิ ‘‘สเจ นที นาติทีฆา โหติ, ปภวโต ¶ ปฏฺาย ยาว มุขทฺวารา สพฺพตฺถ สงฺโฆ นิสีทติ, อุทกุกฺเขปสีมากมฺมํ นตฺถี’’ติอาทิ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๗). อิมินา เอว จ วจเนน วคฺคกมฺมปริหารตฺถํ สีมาเปกฺขาย สติ เอว อุทกุกฺเขปสตฺตพฺภนฺตรสีมา อุปฺปชฺชนฺติ, นาสตีติ ทฏฺพฺพํ.
เกจิ ปน ‘‘สมนฺตา อพฺภนฺตรํ มินิตฺวา ปริจฺเฉทกรเณเนว สีมา สฺชายติ, น สยเมวา’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. ยทิ หิ อพฺภนฺตรปริจฺเฉทกรณปฺปกาเรน สีมา อุปฺปชฺเชยฺย, อพทฺธสีมา จ น สิยา ภิกฺขูนํ กิริยาปการสิทฺธิโต. อปิจ วฑฺฒกีหตฺถานํ, ปกติหตฺถานฺจ โลเก อเนกวิธตฺตา, วินเย อีทิสํ หตฺถปฺปมาณนฺติ อวุตฺตตฺตา จ เยน เกนจิ มินิเต จ ภควตา อนฺุาเตน นุ โข หตฺเถน มินิตํ, น นุ โขติ สีมาย วิปตฺติสงฺกา ภเวยฺย. มินนฺเตหิ จ อณุมตฺตมฺปิ อูนมธิกํ อกตฺวา มินิตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย วิปตฺติ เอว สิยา. ปริสวเสน จายํ วฑฺฒมานา เตสํ มินเนน วฑฺฒติ วา หายติ วา. สงฺเฆ จ กมฺมํ กตฺวา คเต อยํ ภิกฺขูนํ ปโยเคน สมุปฺปนฺนสีมา เตสํ ปโยเคน วิคจฺฉติ น วิคจฺฉติ จ. กถํ พทฺธสีมา วิย ยาว สาสนนฺตรธานา น ติฏฺเยฺย, ิติยา จ ปุราณวิหาเรสุ วิย สกเลปิ อรฺเ กถํ สีมาสมฺเภทสงฺกา น ภเวยฺย. ตสฺมา สีมาเปกฺขาย เอว สมุปฺปชฺชติ, ตพฺพิคเมน วิคจฺฉตีติ คเหตพฺพํ. ยถา เจตฺถ, เอวํ อุทกุกฺเขปสีมายมฺปิ นทิอาทีสุปิ.
ตตฺถาปิ หิ มชฺฌิมปุริโส น ายติ. ตถา สพฺพถาเมน ขิปนํ อุภยตฺถาปิ จ ยสฺสํ ทิสายํ สตฺตพฺภนฺตรสฺส, อุทกุกฺเขปสฺส วา โอกาโส น ปโหติ, ตตฺถ กถํ มินนํ, ขิปนํ วา ภเวยฺย? คามเขตฺตาทีสุ ปวิสนโต อเขตฺเต สีมา ปวิฏฺา นามาติ สีมา วิปชฺเชยฺย. อเปกฺขาย สีมุปฺปตฺติยํ ปน ยโต ปโหติ, ตตฺถ สตฺตพฺภนฺตรอุทกุกฺเขปสีมา สยเมว ปริปุณฺณา ชายนฺติ. ยโต ปน น ปโหติ, ตตฺถ อตฺตโน เขตฺตปฺปมาเณเนว ชายนฺติ, น พหิ. ยํ ปเนตฺถ อพฺภนฺตรมินนปมาณสฺส, วาลุกาทิขิปนกมฺมสฺส จ ทสฺสนํ, ตํ สฺชาตสีมานํ ิตฏฺานสฺส ปริจฺเฉทนตฺถํ กตํ คามูปจารฆรูปจารชานนตฺถํ เลฑฺฑุสุปฺปาทิขิปนวิธานทสฺสนํ วิย. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ ‘‘สีมํ วา สมฺมนฺนติ อุทกุกฺเขปํ วา ปริจฺฉินฺทตี’’ติ วุตฺตํ (กงฺขา. อฏฺ. อูนวีสติวสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา). เอวํ กเตปิ ตสฺส ¶ ปริจฺเฉทสฺส ยาถาวโต าตุํ ¶ อสกฺกุเณยฺยตฺเตน ปุถุลโต ตฺวา อนฺโต ติฏฺนฺเตหิ นิราสงฺกฏฺาเน าตพฺพํ, อฺํ พหิ กโรนฺเตหิ อติทูเร นิราสงฺกฏฺาเน เปเสตพฺพํ.
อปเร ปน ‘‘สีมาเปกฺขาย กิจฺจํ นตฺถิ, มคฺคคมนนหานาทิอตฺเถหิ เอกภิกฺขุสฺมิมฺปิ อรฺเ วา นทิอาทีสุ วา ปวิฏฺเ ตํ ปริกฺขิปิตฺวา สตฺตพฺภนฺตรอุทกุกฺเขปสีมา สยเมว ปภา วิย ปทีปสฺส สมุปฺปชฺชติ, คามเขตฺตาทีสุ ตสฺมึ โอติณฺณมตฺเต วิคจฺฉติ. เตเนว เจตฺถ ทฺวินฺนํ สงฺฆานํ วิสุํ กมฺมํ กโรนฺตานํ สีมาทฺวยสฺส อนฺตรา สีมนฺตริกา อฺํ สตฺตพฺภนฺตรํ, อุทกุกฺเขปฺจ เปตุํ อนฺุาตํ, สีมาปริยนฺเต หิ เกนจิ กมฺเมน เปสิตสฺส ภิกฺขุโน สมนฺตา สฺชาตสีมา อิตเรสํ สีมาย ผุสิตฺวา สีมาสมฺเภทํ กเรยฺย, โส มา โหตูติ, อิตรถา หตฺถจตุรงฺคุลมตฺตายเปตฺถ สีมนฺตริกาย อนุชานิตพฺพโต. อปิจ สีมนฺตริกาย ิตสฺสาปิ อุภยตฺถ กมฺมโกปวจนโตปิ เจตํ สิชฺฌติ. ตมฺปิ ปริกฺขิปิตฺวา สยเมว สฺชาตาย สีมาย อุภินฺนมฺปิ สีมานํ, เอกาย เอว วา สงฺกรโต. อิตรถา ตสฺส กมฺมโกปวจนํ น ยุชฺเชยฺย. วุตฺตฺหิ มาติกาฏฺกถายํ ‘ปริจฺเฉทพฺภนฺตเร หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา ิโตปิ ปริจฺเฉทโต พหิ อฺํ ตตฺตกํเยว ปริจฺเฉทํ อนติกฺกมิตฺวา ิโตปิ กมฺมํ โกเปตี’ติ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา). กิฺจ อคามการฺเ ิตสฺส กมฺมกรณิจฺฉาวิรหิตสฺสาปิ ภิกฺขุโน สตฺตพฺภนฺตรปริจฺฉินฺเน อชฺโฌกาเส จีวรวิปฺปวาโส ภควตา อนฺุาโต, โส จ ปริจฺเฉโท สีมา. เอวํ อเปกฺขํ วินา สมุปฺปนฺนา. เตเนเวตฺถ ‘อยํ สีมา ติจีวรวิปฺปวาสปริหารมฺปิ ลภตี’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๗) วุตฺตํ. ตสฺมา กมฺมกรณิจฺฉํ วินาปิ วุตฺตนเยน สมุปฺปตฺติ คเหตพฺพา’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ ปทีปสฺส ปภา วิย สพฺพปุคฺคลานมฺปิ ปจฺเจกํ สีมาสมฺภเวน สงฺเฆ, คเณ วา กมฺมํ กโรนฺเต ตตฺรฏฺานํ ภิกฺขูนํ สมนฺตา ปจฺเจกํ สมุปฺปนฺนานํ อเนกสีมานํ อฺมฺํ สงฺกรโทสปฺปสงฺคโต. ปริสวเสน จสฺสา วฑฺฒิ, หานิ จ สมฺภวติ. ปจฺฉา อาคตานํ อภินวสีมนฺตรุปฺปตฺติ เอว, คตานํ สมนฺตา ิตสีมาปิ วินาโส จ ภเวยฺย.
ปาฬิยํ ปน ‘‘สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรา, อยํ ตตฺถ สมานสํวาสา’’ติอาทินา (มหาว. ๑๔๗) เอกา เอว สตฺตพฺภนฺตรา, อุทกุกฺเขปา จ อนฺุาตา, น เจสา สีมา สภาเวน, การณสามตฺถิเยน วา ปภา วิย ปทีปสฺส อุปฺปชฺชติ. กินฺตุ ¶ ภควโต อนุชานเนเนว, ภควา จ อิมาโย อนุชานนฺโต ภิกฺขูนํ วคฺคกมฺมปริหาเรน กมฺมกรณสุขตฺถเมว อนฺุาสีติ กถํ นหานาทิกิจฺเจน ปวิฏฺานมฺปิ สมนฺตา ตาสํ สีมานํ สมุปฺปตฺติ ปโยชนาภาวา? ปโยชเน จ เอกํ เอว ปโยชนนฺติ กถํ ปจฺเจกํ ภิกฺขุคณนาย อเนกสีมาสมุปฺปตฺติ ¶ ? ‘‘เอกสีมายํ หตฺถปาสํ อวิชหิตฺวา ิตา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา) วุตฺตํ. ยํ ปน ทฺวินฺนํ สีมานํ อนฺตรา ตตฺตกปริจฺเฉเทเนว สีมนฺตริกฏฺปนวจนํ, ตตฺถ ิตานํ กมฺมโกปวจนฺจ, ตมฺปิ อิมาสํ สีมานํ ปริจฺเฉทสฺส ทุพฺโพธตาย สีมาย สมฺเภทสงฺกํ, กมฺมโกปสงฺกฺจ ทูรโต ปริหริตุํ วุตฺตํ.
โย จ จีวราวิปฺปวาสตฺถํ ภควตา อพฺโภกาเส ทสฺสิโต สตฺตพฺภนฺตรปริจฺเฉโท, โส สีมา เอว น โหติ, เขตฺตตฬากาทิปริจฺเฉโท วิย อยเมตฺถ เอโก ปริจฺเฉโทว. ตตฺถ จ พหูสุ ภิกฺขูสุ เอกโต ิเตสุ เตสํ วิสุํ วิสุํ อตฺตโน ิตฏฺานโต ปฏฺาย สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรปริจฺเฉทพฺภนฺตเร เอว จีวรํ เปตพฺพํ. น ปริสปริยนฺตโต ปฏฺาย. ปริสปริยนฺตโต ปฏฺาย หิ อพฺภนฺตเร คยฺหมาเน อพฺภนฺตรปริโยสาเน ปิตจีวรํ มชฺเฌ ิตสฺส อพฺภนฺตรโต พหิ โหตีติ ตํ อรุณุคฺคมเน นิสฺสคฺคิยํ สิยา. สีมา ปน ปริสปริยนฺตโตว คเหตพฺพา. จีวรวิปฺปวาสปริหาโรเปตฺถ อพฺโภกาสปริจฺเฉทสฺส วิชฺชมานตฺตา วุตฺโต, น ปน ยาว สีมาปริจฺเฉทํ ลพฺภมานตฺตา มหาสีมาย อวิปฺปวาสสีมาโวหาโร วิย. มหาสีมายมฺปิ หิ คามคามูปจาเรสุ จีวรํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ. อิธาปิ มชฺเฌ ิตสฺส สีมาปริยนฺเต นิสฺสคฺคิยํ โหติ. ตสฺมา ยถาวุตฺตสีมาเปกฺขวเสเนเวตาสํ สตฺตพฺภนฺตรอุทกุกฺเขปสีมานํ อุปฺปตฺติ, ตพฺพิคเมน วินาโส จ คเหตพฺพาติ อมฺหากํ ขนฺติ. วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. อฺโ วา ปกาโร อิโต ยุตฺตตโร คเวสิตพฺโพ.
อิธ ปน ‘‘อรฺเ สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรา’’ติ เอวํ ปาฬิยํ วิฺฌาฏวิสทิเส อรฺเ สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตราติ อฏฺกถายฺจ รุกฺขาทินิรนฺตเรปิ อรฺเ สตฺตพฺภนฺตรสีมาย วิหิตตฺตา อตฺตโน นิสฺสยภูตาย อรฺสีมาย สห เอตสฺสา รุกฺขาทิสมฺพนฺเธ โทสาภาโว ปเคว อคามเก รุกฺเขติ นิสฺสิเตปิ ปเทเส จีวรวิปฺปวาสสฺส รุกฺขปริหารํ วินาว อพฺโภกาสปริหาโรว อนุมโตติ สิทฺโธติ เวทิตพฺโพ.
อุปจารตฺถายาติ ¶ สีมนฺตริกตฺถาย สตฺตพฺภนฺตรโต อธิกํ วฏฺฏติ. อูนกํ ปน น วฏฺฏติ เอว สตฺตพฺภนฺตรปริจฺเฉทสฺส ทุพฺพิชานตฺตา. ตสฺมา สงฺฆํ วินา เอเกนาปิ ภิกฺขุนา พหิ ติฏฺนฺเตน อฺํ สตฺตพฺภนฺตรํ อติกฺกมิตฺวา อติทูเร เอว าตพฺพํ, อิตรถา กมฺมโกปสงฺกโต. อุทกุกฺเขเปปิ เอเสว นโย. เตเนว วกฺขติ ‘‘อูนกํ ปน น วฏฺฏตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๗). อิทฺเจตฺถ สีมนฺตริกวิธานํ ทฺวินฺนํ พทฺธสีมานํ สีมนฺตริกานุชานนสุตฺตานุโลมโต สิทฺธนฺติ ทฏฺพฺพํ. กิฺจาปิ หิ ภควตา นิทานวเสน เอกคามสีมานิสฺสิตานํ ¶ , เอกสภาคานฺจ ทฺวินฺนํ พทฺธสีมานเมว อฺมฺํ สมฺเภทชฺโฌตฺถรณโทสปริหาราย สีมนฺตริกา อนฺุาตา, ตถาปิ ตทนุโลมโต เอกอรฺสีมานทิอาทิสีมฺจ นิสฺสิตานํ เอกสภาคานํ ทฺวินฺนํ สตฺตพฺภนฺตรสีมานมฺปิ อุทกุกฺเขปสีมานมฺปิ อฺมฺํ สมฺเภทชฺโฌตฺถรณํ, สีมนฺตริกํ วินา อพฺยวธาเนน านฺจ ภควตา อนภิมตเมวาติ ตฺวา อฏฺกถาจริยา อิธาปิ สีมนฺตริกวิธานมกํสุ. วิสภาคสีมานมฺปิ หิ เอกสีมานิสฺสิตตฺตํ, เอกสภาคตฺตฺจาติ ทฺวีหงฺเคหิ สมนฺนาคเต สติ เอกํ สีมนฺตริกํ วินา านํ สมฺเภทาย โหติ, นาสตีติ ทฏฺพฺพํ. สีมนฺตริกวิธานสามตฺถิเยเนว เจตาสํ รุกฺขาทิสมฺพนฺโธปิ พทฺธสีมานํ วิย อฺมฺํ น วฏฺฏตีติ อยมฺปิ นยโต ทสฺสิโต เอวาติ คเหตพฺพํ.
‘‘สภาเวเนวา’’ติ อิมินา คามสีมา วิย อพทฺธสีมาติ ทสฺเสติ. สพฺพเมตฺถ สงฺฆกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตีติ สมานสํวาสา เอกูโปสถาติ ทสฺเสติ. เยน เกนจีติ อนฺตมโส สูกราทินา สตฺเตน. มโหเฆน ปน อุนฺนตฏฺานโต นินฺนฏฺาเน ปตนฺเตน ขโต ขุทฺทโก วา มหนฺโต วา ลกฺขณยุตฺโต ชาตสฺสโรว. เอตฺถาปิ ขุทฺทเก อุทกุกฺเขปกิจฺจํ นตฺถิ, สมุทฺเท ปน สพฺพถา อุทกุกฺเขปสีมายเมว กมฺมํ กาตพฺพํ โสเธตุํ ทุกฺกรตฺตา.
ปุน ตตฺถาติ โลกโวหารสิทฺธาสุ เอตาสุ นทิอาทีสุ ตีสุ อพทฺธสีมาสุ ปุน วคฺคกมฺมปริหารตฺถํ สาสนโวหารสิทฺธาย อพทฺธสีมาย ปริจฺเฉทํ ทสฺเสนฺโตติ อธิปฺปาโย. ปาฬิยํ ยํ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺสาติอาทีสุ อุทกํ อุกฺขิปิตฺวา ขิปียติ เอตฺถาติ อุทกุกฺเขโป, อุทกสฺส ปตโนกาโส, ตสฺมา อุทกุกฺเขปา. อยฺเหตฺถ ปทสมฺพนฺธวเสน อตฺโถ – ปริสปริยนฺตโต ปฏฺาย สมนฺตา ยาว มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ¶ อุทกุกฺเขโป อุทกปตนฏฺานํ, ตาว ยํ ตํ ปริจฺฉินฺนฏฺานํ, อยํ ตตฺถ นทิอาทีสุ อปรา สมานสํวาสา อุทกุกฺเขปสีมาติ.
ตสฺส อนฺโตติ ตสฺส อุทกุกฺเขปปริจฺฉินฺนสฺส านสฺส อนฺโต. น เกวลฺจ ตสฺเสว อนฺโต, ตโต พหิปิ, เอกสฺส อุทกุกฺเขปสฺส อนฺโต าตุํ น วฏฺฏตีติ วจนํ อุทกุกฺเขปปริจฺเฉทสฺส ทุพฺพิชานโต กมฺมโกปสงฺกา โหตีติ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ ‘‘ปริจฺเฉทพฺภนฺตเร หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา ิโตปิ ปริจฺเฉทโต พหิ อฺํ ตตฺตกํเยว ปริจฺเฉทํ อนติกฺกมิตฺวา ิโตปิ กมฺมํ โกเปติ อิทํ สพฺพอฏฺกถาสุ สนฺนิฏฺาน’’นฺติ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา) วุตฺตํ. ยํ ปเนตฺถ สารตฺถทีปนิยํ ‘‘ตสฺส อนฺโต หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา ิโต กมฺมํ ¶ โกเปตีติ อิมินา พหิปริจฺเฉทโต ยตฺถ กตฺถจิ ิโต กมฺมํ น โกเปตี’’ติ (สารตฺถ. ฏี. มหาวคฺค ๓.๑๔๗) วตฺวา มาติกาฏฺกถาวจนมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘เนว ปาฬิยํ น อฏฺกถายํ อุปลพฺภตี’’ติอาทิ พหุ ปปฺจิตํ, ตํ น สุนฺทรํ อิธ อฏฺกถาวจเนน มาติกาฏฺกถาวจนสฺส นยโต สํสนฺทนโต สงฺฆฏนโต. ตถา หิ ทฺวินฺนํ อุทกุกฺเขปปริจฺเฉทานมนฺตรา วิทตฺถิจตุรงฺคุลมตฺตมฺปิ สีมนฺตริกํ อฏฺเปตฺวา ‘‘อฺโ อุทกุกฺเขโป สีมนฺตริกาย เปตพฺโพ, ตโต อธิกํ วฏฺฏติ เอว, อูนกํ ปน น วฏฺฏตี’’ติ เอวํ อิเธว วุตฺเตน อิมินา อฏฺกถาวจเนน สีมนฺตริโกปจาเรน อุทกุกฺเขปโต อูนเก ปิเต สีมาย สีมาสมฺเภทโต กมฺมโกโปปิ วุตฺโต เอว. ยทคฺเคน จ เอวํ วุตฺโต, ตทคฺเคน ตตฺถ เอกภิกฺขุโน ปเวเสปิ สติ ตสฺส สีมฏฺภาวโต กมฺมโกโป วุตฺโต เอว โหติ. อฏฺกถายํ ‘‘อูนกํ ปน น วฏฺฏตี’’ติ กถนฺเจตํ อุทกุกฺเขปปริจฺเฉทสฺส ทุพฺพิชานนฺเตนปิ สีมาสมฺเภทสงฺกอาปริหารตฺถํ วุตฺตํ. สตฺตพฺภนฺตรสีมานมนฺตรา ตตฺตกปริจฺเฉเทเนว สีมนฺตริกวิธานวจนโตปิ เอตาสํ ทุพฺพิชานปริจฺเฉทตา, ตตฺถ จ ิตานํ กมฺมโกปสงฺกา สิชฺฌติ. กมฺมโกปสงฺกฏฺานมฺปิ อาจริยา ทูรโต ปริหารตฺถํ กมฺมโกปฏฺานนฺติ วตฺวาว เปสุนฺติ คเหตพฺพํ.
ตนฺติ สีมํ. ‘‘สีฆเมว อติกฺกาเมตี’’ติ อิมินา ตํ อนติกฺกมิตฺวา อนฺโต เอว ปริวตฺตมานาย กาตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. เอตทตฺถเมว หิ วาลุกาทีหิ สีมาปริจฺฉินฺทนํ, อิตรถา พหิ ปริวตฺตา นุ โข, โน วาติ กมฺมโกปสงฺกา ภเวยฺยาติ. อฺิสฺสา อนุสฺสาวนาติ เกวลาย นทิสีมาย อนุสฺสาวนา ¶ . อนฺโตนทิยํ ชาตรุกฺเข วาติ อุทกุกฺเขปปริจฺเฉทสฺส พหิ ิเต รุกฺเขปิ วา. พหินทิตีรเมว หิ วิสภาคสีมตฺตา อพนฺธิตพฺพฏฺานํ, น อนฺโตนที นิสฺสยตฺเตน สภาคตฺตา. เตเนว ‘‘พหินทิตีเร วิหารสีมาย วา’’ติอาทินา ตีรเมว อพนฺธิตพฺพฏฺานตฺเตน ทสฺสิตํ, น ปน นที. ‘‘รุกฺเขปิ ิเตหี’’ติ อิทํ อนฺโตอุทกุกฺเขปฏฺํ สนฺธาย วุตฺตํ. น หิ พหิอุทกุกฺเขเป ภิกฺขูนํ าตุํ วฏฺฏติ.
รุกฺขสฺสาติ ตสฺเสว อนฺโตอุทกุกฺเขปฏฺสฺส รุกฺขสฺส. สีมํ วา โสเธตฺวาติ ยถาวุตฺตํ วิหาเร พทฺธสีมํ, คามสีมฺจ ตตฺถ ิตภิกฺขูนํ หตฺถปาสานยนพหิสีมากรณวเสเนว โสเธตฺวา. ยถา จ อุทกุกฺเขปสีมายํ กมฺมํ กโรนฺเตหิ, เอวํ พทฺธสีมายํ, คามสีมายํ วา กมฺมํ กโรนฺเตหิปิ อุทกุกฺเขปสีมฏฺเ โสเธตฺวาว กาตพฺพํ. เอเตเนว สตฺตพฺภนฺตรอรฺสีมาหิปิ อุทกุกฺเขปสีมาย, อิมาย จ สทฺธึ ตาสํ รุกฺขาทิสมฺพนฺธโทโสปิ นยโต ทสฺสิโตว โหติ. อิมินาว นเยน สตฺตพฺภนฺตรสีมาย พทฺธสีมาคามสีมาหิปิ สทฺธึ, เอตาสฺจ สตฺตพฺภนฺตรสีมาย ¶ สทฺธึ สมฺพนฺธโทโส าตพฺโพ. อฏฺกถายํ ปเนตํ สพฺพํ วุตฺตนยโต สกฺกา าตุนฺติ อฺมฺสมาสนฺนานเมเวตฺถ ทสฺสิตํ.
ตตฺริทํ สุตฺตานุโลมโต นยคฺคหณมุขํ – ยถา หิ พทฺธสีมายํ สมฺมตา วิปตฺติสีมา โหตีติ ตาสํ อฺมฺํ รุกฺขาทิสมฺพนฺโธ น วฏฺฏติ, เอวํ นทิอาทีสุ สมฺมตาปิ พทฺธสีมา วิปตฺติสีมาว โหตีติ ตาหิปิ สทฺธึ ตสฺสา รุกฺขาทิสมฺพนฺโธ น วฏฺฏตีติ สิชฺฌติ. อิมินา นเยน สตฺตพฺภนฺตรสีมาย คามนทิอาทีหิ สทฺธึ, อุทกุกฺเขปสีมาย จ อรฺาทีหิ สทฺธึ รุกฺขาทิสมฺพนฺธสฺส น วฏฺฏนกภาโว าตพฺโพ, เอวเมตา ภควตา อนฺุาตา พทฺธสีมา สตฺตพฺภนฺตรอุทกุกฺเขปสีมา อฺมฺฺเจว อตฺตโน นิสฺสยวิรหิตาหิ อิตรีตราสํ นิสฺสยสีมาหิ จ รุกฺขาทิสมฺพนฺเธ สติ สมฺเภทโทสมาปชฺชตีติ สุตฺตานุโลมนโย าตพฺโพว.
อตฺตโน อตฺตโน ปน นิสฺสยภูตคามาทีหิ สทฺธึ พทฺธสีมาทีนํ ติสฺสนฺนํ อุปฺปตฺติกาเล ภควตา อนฺุาตสฺส สมฺเภทชฺโฌตฺถรณสฺส อนุโลมโต รุกฺขาทิสมฺพนฺโธปิ อนฺุาโตว โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ยทิ เอวํ อุทกุกฺเขปพทฺธสีมาทีนํ อนฺตรา กสฺมา สีมนฺตริกา น วิหิตาติ? นิสฺสยเภทสภาวเภเทหิ ¶ สยเมว ภินฺนตฺตา. เอกนิสฺสยเอกสภาวานเมว หิ สีมนฺตริกาย วินาสํ กโรตีติ วุตฺโตวายมตฺโถ. เอเตเนว นทินิมิตฺตํ กตฺวา พทฺธาย สีมาย สงฺเฆ กมฺมํ กโรนฺเต นทิยมฺปิ ยาว คามเขตฺตํ อาหจฺจ ิตาย อุทกุกฺเขปสีมาย อฺเสํ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตีติ สิทฺธํ โหติ. ยา ปเนตา โลกโวหารสิทฺธา คามารฺนทิสมุทฺทชาตสฺสรสีมา ปฺจ, ตา อฺมฺรุกฺขาทิสมฺพนฺเธปิ สมฺเภทโทสํ นาปชฺชติ, ตถา โลกโวหาราภาวโต. น หิ คามาทโย คามนฺตราทีหิ, นทิอาทีหิ จ รุกฺขาทิสมฺพนฺธมตฺเตน สมฺภินฺนาติ โลเก โวหรนฺติ. โลกโวหารสิทฺธานฺจ โลกโวหารโตว สมฺเภโท วา อสมฺเภโท วา คเหตพฺโพ, นาฺโต. เตเนว อฏฺกถายํ ตาสํ อฺมฺํ กตฺถจิปิ สมฺเภทนโย น ทสฺสิโต, สาสนโวหารสิทฺโธเยว ทสฺสิโตติ.
เอตฺถ ปน พทฺธสีมาย ตาว ‘‘เหฏฺา ปถวีสนฺธารกํ อุทกปริยนฺตํ กตฺวา สีมาคตา โหตี’’ติอาทินา (มหาว. อฏฺ. ๑๓๘) อโธภาคปริจฺเฉโท อฏฺกถายํ สพฺพถา ทสฺสิโต. คามสีมาทีนํ ปน น ทสฺสิโต. กถมยํ ชานิตพฺโพติ? เกจิ ตาเวตฺถ ‘‘คามสีมาทโยปิ พทฺธสีมา วิย ปถวีสนฺธารกํ อุทกํ อาหจฺจ ติฏฺตี’’ติ วทนฺติ.
เกจิ ¶ ปน ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘นทิสมุทฺทชาตสฺสรสีมา, ตาว ตนฺนิสฺสิตอุทกุกฺเขปสีมา จ ปถวิยา อุปริตเล, เหฏฺา จ อุทกชฺโฌตฺถรณปฺปเทเส เอว ติฏฺนฺติ, น ตโต เหฏฺา อุทกสฺส อชฺโฌตฺถรณาภาวา. สเจ ปน อุทโกฆาทินา โยชนปฺปมาณมฺปิ นินฺนฏฺานํ โหติ, นทิสีมาทโยว โหนฺติ, น ตโต เหฏฺา. ตสฺมา นทิอาทีนํ เหฏฺา พหิตีรมุเขน อุมงฺเคน, อิทฺธิยา วา ปวิฏฺโ ภิกฺขุ นทิยํ ิตานํ กมฺมํ น โกเปติ. โส ปน อาสนฺนคาเม ภิกฺขูนํ กมฺมํ โกเปติ. สเจ ปน โส อุภินฺนํ ตีรคามานํ มชฺเฌ นิสินฺโน โหติ, อุภยคามฏฺานํ กมฺมํ โกเปติ. สเจ ปน ตีรํ คามเขตฺตํ น โหติ, อคามการฺเมว. ตตฺถ ปน ตีรทฺวเยปิ สตฺตพฺภนฺตรสีมํ วินา เกวลาย ขุทฺทการฺสีมาย กมฺมํ กโรนฺตานํ กมฺมํ โกเปติ. สเจ สตฺตพฺภนฺตรสีมายํ กโรนฺติ, ตทา ยทิ เตสํ สตฺตพฺภนฺตรสีมาย ปริจฺเฉโท เอตสฺส นิสินฺโนกาสสฺส ปรโต เอกํ สตฺตพฺภนฺตรํ อติกฺกมิตฺวา ิโต น กมฺมโกโป ¶ . โน เจ, กมฺมโกโป. คามสีมายํ ปน อนฺโตอุมงฺเค วา พิเล วา ยตฺถ ปวิสิตุํ สกฺกา, ยตฺถ วา สุวณฺณมณิอาทึ ขณิตฺวา คณฺหนฺติ, คเหตุํ สกฺกาติ วา สมฺภาวนา โหติ, ตตฺตกํ เหฏฺาปิ คามสีมา, ตตฺถ อิทฺธิยา อนฺโต นิสินฺโนปิ กมฺมํ โกเปติ. ยตฺถ ปน ปกติมนุสฺสานํ ปเวสสมฺภาวนาปิ นตฺถิ, ตํ สพฺพํ ยาว ปถวิสนฺธารกอุทกา อรฺสีมาว, น คามสีมา. อรฺสีมายมฺปิ เอเสว นโย. ตตฺถปิ หิ ยตฺตเก ปเทเส ปเวสสมฺภาวนา, ตตฺตกเมว อุปริตเล อรฺสีมา ปวตฺตติ. ตโต ปน เหฏฺา น อรฺสีมา, ตตฺถ อุปริตเลน สห เอการฺโวหาราภาวโต. น หิ ตตฺถ ปวิฏฺํ อรฺํ ปวิฏฺโ ติ โวหรนฺติ. ตสฺมา ตตฺรฏฺโ อุปริ อรฺฏฺานํ กมฺมํ น โกเปติ อุมงฺคนทิยํ ิโต วิย อุปรินทิยํ ิตานํ. เอกสฺมิฺหิ จกฺกวาเฬ คามนทิสมุทฺทชาตสฺสเร มฺุจิตฺวา ตทวเสสํ อมนุสฺสาวาสํ เทวพฺรหฺมโลกํ อุปาทาย สพฺพํ อรฺเมว. ‘คามา วา อรฺา วา’ติ วุตฺตตฺตา หิ นทิสมุทฺทชาตสฺสราทิปิ อรฺเมว. อิธ ปน นทิอาทีนํ วิสุํ สีมาภาเวน คหิตตฺตา ตทวเสสเมว อรฺํ คเหตพฺพํ. ตตฺถ จ ยตฺตเก ปเทเส เอกํ ‘อรฺ’นฺติ โวหรนฺติ, อยเมการฺสีมา. อินฺทปุรฺหิ สพฺพํ เอการฺสีมา. ตถา อสุรยกฺขปุราทิ. อากาสฏฺเทวพฺรหฺมวิมานานิ ปน สมนฺตา อากาสปริจฺฉินฺนานิ ปจฺเจกํ อรฺสีมา สมุทฺทมชฺเฌ ปพฺพตทีปกา วิย. ตตฺถ สพฺพตฺถ สตฺตพฺภนฺตรสีมายํ, อรฺสีมายเมว วาติ กมฺมํ กาตพฺพํ. ตสฺมา อิธาปิ อุปริอรฺตเลน สทฺธึ เหฏฺาปถวิยา อรฺโวหาราภาวา วิสุํ อรฺสีมาติ คเหตพฺพํ. เตเนเวตฺถ คามนทิอาทิสีมากถาย อฏฺกถายํ ‘อิทฺธิมา ภิกฺขุ เหฏฺาปถวิตเล ิโต กมฺมํ โกเปตี’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๓๘) พทฺธสีมายํ ทสฺสิตนโย น ทสฺสิโต’’ติ วทนฺติ.
อิทฺเจตาสํ ¶ คามสีมาทีนํ เหฏฺาปมาณทสฺสนํ สุตฺตาทิวิโรธาภาวา ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ. วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. เอวํ คหเณ จ คามสีมายํ สมฺมตา พทฺธสีมา อุปริ คามสีมํ, เหฏฺา อุทกปริยนฺตํ อรฺสีมฺจ อวตฺถรตีติ ตสฺสา อรฺสีมาปิ เขตฺตนฺติ สิชฺฌติ. ภควตา จ ‘‘สพฺพา, ภิกฺขเว, นที อสีมา’’ติอาทินา (มหาว. อฏฺ. ๑๔๗) นทิสมุทฺทชาตสฺสรา พทฺธสีมาย อเขตฺตภาเวน วุตฺตา, น ปน อรฺํ. ตสฺมา อรฺมฺปิ ¶ พทฺธสีมาย เขตฺตเมวาติ คเหตพฺพํ. ยทิ เอวํ กสฺมา ตตฺถ สา น พชฺฌตีติ? ปโยชนาภาวา. สีมาเปกฺขานนฺตรเมว สตฺตพฺภนฺตรสีมาย สมฺภวโต. ตสฺสา จ อุปริ สมฺมตาย พทฺธสีมาย สมฺเภทชฺโฌตฺถรณานุโลมโต วิปตฺติสีมา เอว สิยา. คามเขตฺเต ปน ตฺวา อคามการฺเกเทสมฺปิ อนฺโตกริตฺวา สมฺมตา กิฺจาปิ สุสมฺมตา, อคามการฺเ ภควตา วิหิตาย สตฺตพฺภนฺตรสีมายปิ อนิวตฺติโต. ตตฺถ ปน กมฺมํ กาตุํ ปวิฏฺานมฺปิ ตโต พหิ เกวลารฺเ กโรนฺตานมฺปิ อนฺตรา ตีณิ สตฺตพฺภนฺตรานิ เปตพฺพานิ, อฺถา วิปตฺติ เอว สิยาติ สพฺพถา นิรตฺถกเมว อคามการฺเ พทฺธสีมากรณนฺติ เวทิตพฺพํ.
อนฺโตนทิยํ ปวิฏฺสาขายาติ นทิยา ปถวิตลํ อาหจฺจ ิตาย สาขายปิ, ปเคว อนาหจฺจ ิตาย. ปาโรเหปิ เอเสว นโย. เอเตน สภาคํ นทิสีมํ ผุสิตฺวา ิเตนปิ วิสภาคสีมาสมฺพนฺธสาขาทินา อุทกุกฺเขปสีมาย สมฺพนฺโธ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. เอเตเนว มหาสีมํ, คามสีมฺจ ผุสิตฺวา ิเตน สาขาทินา มาฬกสีมาย สมฺพนฺโธ น วฏฺฏตีติ าปิโตติ ทฏฺพฺโพ.
อนฺโตนทิยํเยวาติ เสตุปาทานํ ตีรฏฺตํ นิวตฺเตติ. เตน อุทกุกฺเขปปริจฺเฉทโต พหิ นทิยํ ปติฏฺิตตฺเตปิ สมฺเภทาภาวํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘พหิตีเร ปติฏฺิตา’’ติอาทิ. ยทิ หิ อุทกุกฺเขปโต พหิ อนฺโตนทิยมฺปิ ปติฏฺิตตฺเต สมฺเภโท ภเวยฺย, ตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ ภเวยฺย กมฺมโกปสฺส สมานตฺตา, น จ ปฏิกฺขิตฺตํ. ตสฺมา สพฺพตฺถ อตฺตโน นิสฺสยสีมาย สมฺเภทโทโส นตฺเถวาติ คเหตพฺพํ.
อาวรเณน วาติ ทารุอาทึ นิขณิตฺวา อุทกนิวารเณน. โกฏฺฏกพนฺธเนน วาติ มตฺติกาทีหิ ปูเรตฺวา กตเสตุพนฺเธน. อุภเยนาปิ อาวรณเมว ทสฺเสติ. ‘‘นทึ วินาเสตฺวา’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวติ ‘‘เหฏฺา ปาฬิ พทฺธา’’ติ, เหฏฺา นทึ อาวริตฺวา ปาฬิ พทฺธาติ อตฺโถ. ฉฑฺฑิตโมทกนฺติ อติริตฺโตทกํ. ‘‘นทึ โอตฺถริตฺวา สนฺทนฏฺานโต’’ติ อิมินา ตฬากนทีนํ อนฺตรา ¶ ปวตฺตนฏฺาเน น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. อุปฺปติตฺวาติ ตีราทิภินฺทนวเสน วิปุลา หุตฺวา. วิหารสีมนฺติ พทฺธสีมํ.
อคมนปเถติ ¶ ตทเหว คนฺตฺวา นิวตฺติตุํ อสกฺกุเณยฺเย. อรฺสีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉตีติ โลกโวหารสิทฺธํ อคามการฺสีมํ สนฺธาย วทติ. ตตฺถาติ ปกติยา มจฺฉพนฺธานํ คมนปเถสุ ทีปเกสุ.
ตํ านนฺติ อาวาฏาทีนํ กตฏฺานเมว, น อกตนฺติ อตฺโถ. โลณีติ สมุทฺโททกสฺส อุปฺปตฺติเวคนินฺโน มาติกากาเรน ปวตฺตนโก.
๑๔๘. สมฺภินฺทนฺตีติ ยตฺถ จตูหิ ภิกฺขูหิ นิสีทิตุํ น สกฺกา, ตตฺตกโต ปฏฺาย ยาว เกสคฺคมตฺตมฺปิ อนฺโตสีมาย กโรนฺโต สมฺภินฺทติ. จตุนฺนํ ภิกฺขูนํ ปโหนกโต ปฏฺาย ยาว สกลมฺปิ อนฺโต กโรนฺโต อชฺโฌตฺถรนฺตีติ เวทิตพฺพํ. สํสฏฺวิฏปาติ อฺมฺํ สิพฺพิตฺวา ิตมหาสาขมูลา, เอเตน อฺมฺสฺส อจฺจาสนฺนตํ ทีเปติ. สาขาย สาขํ ผุสนฺตา หิ ทูรฏฺาปิ สิยฺยุํ, ตโต เอกํสโต สมฺเภทลกฺขณํ ทสฺสิตํ น สิยาติ ตํ ทสฺเสตุํ วิฏปคฺคหณํ กตํ. เอวฺหิ ภิกฺขูนํ นิสีทิตุํ อปฺปโหนกฏฺานํ อตฺตโน สีมาย อนฺโตสีมฏฺํ กริตฺวา ปุราณวิหารํ กโรนฺโต สีมาย สีมํ สมฺภินฺทติ นาม, น ตโต ปรนฺติ ทสฺสิตเมว โหติ. พทฺธา โหตีติ โปราณกวิหารสีมํ สนฺธาย วุตฺตํ. อมฺพนฺติ อปเรน สมเยน ปุราณวิหารปริกฺเขปาทีนํ วินฏฺตฺตา อชานนฺตานํ ตํ ปุราณสีมาย นิมิตฺตภูตํ อมฺพํ. อตฺตโน สีมาย อนฺโตสีมฏฺํ กริตฺวา ปุราณวิหารสีมฏฺํ ชมฺพุํ กิตฺเตตฺวา อมฺพชมฺพูนํ อนฺตเร ยํ านํ, ตํ อตฺตโน สีมาย ปเวเสตฺวา พนฺธนฺตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ปุราณสีมาย นิมิตฺตภูตสฺส คามฏฺสฺส อมฺพรุกฺขสฺส อนฺโตสีมฏฺาย ชมฺพุยา สห สํสฏฺวิฏปตฺเตปิ สีมาย พนฺธนกาเล วิปตฺติ วา ปจฺฉา คามสีมาย สห สมฺเภโท วา กมฺมวิปตฺติ วา น โหตีติ มุขโตว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ปเทสนฺติ สงฺฆสฺส นิสีทนปฺปโหนกปฺปเทสํ. ‘‘สีมนฺตริกํ เปตฺวา’’ติอาทินา สมฺเภทชฺโฌตฺถรณํ อกตฺวา พทฺธสีมาหิ อฺมฺํ ผุสาเปตฺวา อพฺยวธาเนน พทฺธาปิ สีมา อสีมา เอวาติ ทสฺเสติ. ตสฺมา เอกทฺวงฺคุลมตฺตาปิ สีมนฺตริกา วฏฺฏติ เอว. สา ปน ทุพฺโพธาติ อฏฺกถาสุ จตุรงฺคุลาทิกา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. ทฺวินฺนํ สีมานนฺติ ทฺวินฺนํ พทฺธสีมานํ. นิมิตฺตํ โหตีติ นิมิตฺตสฺส สีมโต พาหิรตฺตา พนฺธนกาเล ตาว สมฺเภทโทโส นตฺถีติ อธิปฺปาโย ¶ . น เกวลฺจ นิมิตฺตกตฺตา เอว สงฺกรํ กโรติ ¶ , อถ โข สีมนฺตริกาย ิโต อฺโปิ รุกฺโข กโรติ เอว. ตสฺมา อปฺปมตฺติกาย สีมนฺตริกาย วฑฺฒนกา รุกฺขาทโย น วฏฺฏนฺติ เอว. เอตฺถ จ อุปริ ทิสฺสมานขนฺธสาขาทิปเวเส เอว สงฺกรโทสสฺส สพฺพตฺถ ทสฺสิตตฺตา อทิสฺสมานานํ มูลานํ ปเวเสปิ ภูมิคติกตฺตา โทโส นตฺถีติ สิชฺฌติ. สเจ ปน มูลานิปิ ทิสฺสมานาเนว ปวิสนฺติ, สงฺกโรว. ปพฺพตปาสาณา ปน ทิสฺสมานาปิ ภูมิคติกา เอว. ยทิ ปน พนฺธนกาเล เอว เอโก ถูลรุกฺโข อุภยมฺปิ สีมํ อาหจฺจ ติฏฺติ, ปจฺฉา พทฺธา อสีมา โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
สีมาสงฺกรนฺติ สีมาสมฺเภทํ. ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ วุตฺตํ ‘‘สีมาสงฺกรํ กโรตีติ วฑฺฒิตฺวา สีมปฺปเทสํ ปวิฏฺเ ทฺวินฺนํ สีมานํ คตฏฺานสฺส ทุวิฺเยฺยตฺตา วุตฺต’’นฺติ (สารตฺถ. ฏี. มหาวคฺค ๓.๑๔๘), ตํ น ยุตฺตํ คามสีมายปิ สห สงฺกรํ กโรตีติ วตฺตพฺพโต. ตตฺถาปิ หิ นิมิตฺเต วฑฺฒิเต คามสีมาพทฺธสีมานํ คตฏฺานํ ทุพฺพิฺเยฺยเมว โหติ, ตตฺถ ปน อวตฺวา ทฺวินฺนํ พทฺธสีมานเมว สงฺกรสฺส วุตฺตตฺตา ยถาวุตฺตสมฺพทฺธโทโสว สงฺกร-สทฺเทน วุตฺโตติ คเหตพฺพํ. ปาฬิยํ ปน นิทานวเสน ‘‘เยสํ, ภิกฺขเว, สีมา ปจฺฉา สมฺมตา, เตสํ ตํ กมฺมํ อธมฺมิก’’นฺติอาทินา (มหาว. ๑๔๘) ปจฺฉา สมฺมตาย อสีมตฺเต วุตฺเตปิ ทฺวีสุ คามสีมาสุ ตฺวา ทฺวีหิ สงฺเฆหิ สมฺเภทํ วา อชฺโฌตฺถรณํ วา กตฺวา สีมนฺตริกํ อฏฺเปตฺวา วา รุกฺขปาโรหาทิสมฺพนฺธํ อวิโยเชตฺวา วา เอกสฺมึ ขเณ กมฺมวาจานิฏฺาปนวเสน เอกโต สมฺมตานํ ทฺวินฺนํ สีมานมฺปิ อสีมตา ปกาสิตาติ เวทิตพฺพํ.
คามสีมาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุโปสถเภทาทิกถาวณฺณนา
๑๔๙. อธมฺเมน วคฺคนฺติ เอตฺถ เอกสีมาย จตูสุ ภิกฺขูสุ วิชฺชมาเนสุ ปาติโมกฺขุทฺเทโสว อนฺุาโต, ตีสุ, ทฺวีสุ จ ปาริสุทฺธิอุโปสโถว. อิธ ปน ตถา อกตตฺตา ‘‘อธมฺเมนา’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ฉนฺทปาริสุทฺธิ สงฺเฆ เอว อาคจฺฉติ, น คเณ, น ปุคฺคเล, ตสฺมา ‘‘วคฺค’’นฺติ วุตฺตนฺติ.
สเจ ¶ ปน ทฺเว สงฺฆา เอกสีมาย อฺมฺํ ฉนฺทํ อาหริตฺวา เอกสฺมึ ขเณ วิสุํ สงฺฆกมฺมํ กโรนฺติ, เอตฺถ กถนฺติ? เกจิ ปเนตํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ วคฺคกมฺมตฺตา ¶ . กมฺมํ กโรนฺตานฺหิ ฉนฺทปาริสุทฺธิ อฺตฺถ น คจฺฉติ ตถา วจนาภาวา, วิสุํ วิสุํ กมฺมกรณตฺถเมว สีมาย อนฺุาตตฺตา จาติ คเหตพฺพํ. วิหารสีมายํ ปน สงฺเฆ วิชฺชมาเนปิ เกนจิ ปจฺจเยน ขนฺธสีมายํ ตีสุ, ทฺวีสุ วา ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺเตสุ กมฺมํ ธมฺเมน สมคฺคเมว ภินฺนสีมฏฺตฺตาติ ทฏฺพฺพํ.
อุโปสถเภทาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปาติโมกฺขุทฺเทสกถาวณฺณนา
๑๕๐. เอวเมตํ ธารยามีติ. สุตา โข ปนายสฺมนฺเตหีติ เอตฺถ ‘‘เอวเมตํ ธารยามี’’ติ วตฺวา ‘‘อุทฺทิฏฺํ โข อายสฺมนฺโต นิทานํ, สุตา โข ปนายสฺมนฺเตหิ จตฺตาโร ปาราชิกา ธมฺมา’’ติอาทินา วตฺตพฺพํ. มาติกาฏฺกถายมฺปิ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา) เอวเมว วุตฺตํ. สุเตนาติ สุตปเทน.
สวรภยนฺติ วนจรกภยํ. เตนาห ‘‘อฏวิมนุสฺสภย’’นฺติ. นิทานุทฺเทเส อนิฏฺิเต ปาติโมกฺขํ นิทฺทิฏฺํ นาม น โหตีติ อาห ‘‘ทุติยาทีสุ อุทฺเทเสสู’’ติอาทิ. ตีหิปิ วิธีหีติ โอสารณกถนสรภฺเหิ. เอตฺถ จ อตฺถํ ภณิตุกามตาย วา ภณาเปตุกามตาย วา สุตฺตสฺส โอสารณํ โอสารณํ นาม. ตสฺเสว อตฺถปฺปกาสนา กถนํ นาม. เกวลํ ปาสฺเสว สเรน ภณนํ สรภฺํ นาม. สชฺฌายํ อธิฏฺหิตฺวาติ ‘‘สชฺฌายํ กโรมี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา. โอสาเรตฺวา ปน กเถนฺเตนาติ สยเมว ปาํ วตฺวา ปจฺฉา อตฺถํ กเถนฺเตน.
ปาติโมกฺขุทฺเทสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อธมฺมกมฺมปฏิกฺโกสนาทิกถาวณฺณนา
๑๕๕. นววิธนฺติ สงฺฆคณปุคฺคเลสุ ตโย, สุตฺตุทฺเทสปาริสุทฺธิอธิฏฺานวเสน ตโย, จาตุทฺทสีปนฺนรสีสามคฺคีวเสน ตโยติ นววิธํ. จตุพฺพิธนฺติ ¶ อธมฺเมนวคฺคาทิ จตุพฺพิธํ. ทุวิธนฺติ ภิกฺขุภิกฺขุนิปาติโมกฺขวเสน ทุวิธํ ปาติโมกฺขํ. นววิธนฺติ ภิกฺขูนํ ปฺจ, ภิกฺขุนีนํ จตฺตาโรติ นววิธํ ปาติโมกฺขุทฺเทสํ.
อธมฺมกมฺมปฏิกฺโกสนาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปกฺขคณนาทิอุคฺคหณานุชานนกถาทิวณฺณนา
๑๕๖. กติมีติ ¶ ติถิ-สทฺทาเปกฺขํ อิตฺถิลิงฺคํ ทฏฺพฺพํ.
๑๖๓. อุตุวสฺเสเยวาติ เหมนฺตคิมฺเหสุเยว.
๑๖๔. วิฺาเปตีติ เอตฺถ มนสา จินฺเตตฺวา กายวิการกรณเมว วิฺาปนนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปาฬิยํ อฺสฺส ทาตพฺพา ปาริสุทฺธีติ ปาริสุทฺธิทายเกน ปุน อฺสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก ทาตพฺพา. ‘‘ภูตํเยว วา สามเณรภาวํ อาโรเจตี’’ติ วุตฺตตฺตา อูนวีสติวสฺสกาเล อุปสมฺปนฺนสฺส, อนฺติมวตฺถุอชฺฌาปนฺนสิกฺขาปจฺจกฺขาตาทีนํ วา ยาว ภิกฺขุปฏิฺา วตฺตติ, ตาว เตหิ อาหฏาปิ ฉนฺทปาริสุทฺธิ อาคจฺฉติ. ยทา ปน เต อตฺตโน สามเณราทิภาวํ ปฏิชานนฺติ, ตโต ปฏฺาเยว นาคจฺฉตีติ ทสฺสิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปาฬิยมฺปิ หิ ‘‘ทินฺนาย ปาริสุทฺธิยา สงฺฆปฺปตฺโต วิพฺภมติ…เป… ปณฺฑโก ปฏิชานาติ. ติรจฺฉานคโต ปฏิชานาติ. อุภโตพฺยฺชนโก ปฏิชานาติ, อาหฏา โหติ ปาริสุทฺธี’’ติ วุตฺตตฺตา ปณฺฑกาทีนมฺปิ ภิกฺขุปฏิฺาย วตฺตมานกาเลสุ ฉนฺทปาริสุทฺธิยา อาคมนํ สิทฺธเมว. เตนาห ‘‘เอส นโย สพฺพตฺถา’’ติ. อุมฺมตฺตกขิตฺตจิตฺตเวทนาฏฺฏานํ ปน ปกตตฺตา อนฺตรามคฺเค อุมฺมตฺตกาทิภาเว ปฏิฺาเตปิ เตสํ สงฺฆปฺปตฺตมตฺเตเนว ฉนฺทาทิ อาคจฺฉตีติ ทฏฺพฺพํ.
‘‘ภิกฺขูนํ หตฺถปาส’’นฺติ อิมินา คณปุคฺคเลสุ ฉนฺทปาริสุทฺธิยา อนาคมนํ ทสฺเสติ. ‘‘สงฺฆปฺปตฺโต’’ติ หิ ปาฬิยํ วุตฺตํ. พิฬาลสงฺขลิกปาริสุทฺธีติ พิฬาลคีวาย พนฺธนสงฺขลิกสทิสา ปาริสุทฺธิ นาม, ยถา สงฺขลิกา พิฬาเล อาคจฺฉนฺเต เอว อาคจฺฉติ, น อนาคจฺฉนฺเต ตปฺปฏิพทฺธตฺตา, เอวมยํ ปาริสุทฺธิปีติ อตฺโถ. อถ วา ยถา สงฺขลิกาย ปมวลยํ ทุติยวลยํ ¶ ปาปุณาติ, น ตติยวลยํ, เอวมยมฺปีติ อธิปฺปาโย. อุปลกฺขณมตฺตฺเจตฺถ พิฬาล-คฺคหณํ ทฏฺพฺพํ.
ปกฺขคณนาทิอุคฺคหณานุชานนกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ฉนฺททานกถาทิวณฺณนา
๑๖๕. ปาฬิยํ ¶ ‘‘สนฺติ สงฺฆสฺส กรณียานี’’ติ วตฺตพฺเพ วจนวิปลฺลาเสน ‘‘กรณีย’’นฺติ วุตฺตํ.
๑๖๗. ‘‘ตสฺส สมฺมุติทานกิจฺจํ นตฺถี’’ติ อิทํ ปาฬิยํ เอกทา สรนฺตสฺเสว สมฺมุติทานสฺส วุตฺตตฺตา เอกทา อสรนฺตสฺส สมฺมุติอภาเวปิ ตสฺส อนาคมนํ วคฺคกมฺมาย น โหตีติ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘โสปิ หตฺถปาเสว อาเนตพฺโพ’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ.
๑๖๘. สงฺฆสนฺนิปาตโต ปมํ กาตพฺพํ ปุพฺพกรณํ. สงฺฆสนฺนิปาเต กาตพฺพํ ปุพฺพกิจฺจนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปาฬิยํ โน เจ อธิฏฺเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอตฺถ อสฺจิจฺจ อสติยา อนาปตฺติ. ยถา เจตฺถ, เอวํ อุปริปิ. ยตฺถ ปน อจิตฺตกาปตฺติ อตฺถิ, ตตฺถ วกฺขาม.
๑๖๙. ‘‘ปฺตฺตํ โหตี’’ติ อิมินา ‘‘น สาปตฺติเกน อุโปสโถ กาตพฺโพ’’ติ วิสุํ ปฏิกฺเขปาภาเวปิ ยถาวุตฺตสุตฺตสามตฺถิยโต ปฺตฺตเมวาติ ทสฺเสติ. อิมินา เอว นเยน –
‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส ยํ ตถาคโต อปริสุทฺธาย ปริสาย อุโปสถํ กเรยฺย, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยา’’ติ (จูฬว. ๓๘๖; อ. นิ. ๘.๒๐; อุทา. ๔๕) –
อาทิสุตฺตนยโต จ อลชฺชีหิปิ สทฺธึ อุโปสถกรณมฺปิ ปฏิกฺขิตฺตเมว อลชฺชินิคฺคหตฺถตฺตา สพฺพสิกฺขาปทานนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ปาริสุทฺธิทานปฺาปเนนา’’ติ อิมินา สาปตฺติเกน ปาริสุทฺธิปิ น ทาตพฺพาติ ทีปิตํ โหติ. อุโภปิ ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถ สภาคาปตฺติภาวํ อชานิตฺวา เกวลํ อาปตฺตินาเมเนว เทเสนฺตสฺส ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส อจิตฺตกเมว ทุกฺกฏํ โหตีติ วทนฺติ ¶ . ยถา สงฺโฆ สภาคาปตฺตึ อาปนฺโน ตฺตึ เปตฺวา อุโปสถํ กาตุํ ลภติ, เอวํ ตโยปิ ‘‘สุณนฺตุ เม, อายสฺมนฺตา, อิเม ภิกฺขู สภาคํ อาปตฺตึ อาปนฺนา’’ติอาทินา วุตฺตนยานุสาเรเนว คณตฺตึ เปตฺวา ทฺวีหิ อฺมฺํ อาโรเจตฺวา อุโปสถํ กาตุํ วฏฺฏติ. เอเกน ปน สาปตฺติเกน ทูรํ คนฺตฺวาปิ ปฏิกาตุเมว วฏฺฏติ, อสมฺปาปุณนฺเตน ‘‘ภิกฺขุํ ลภิตฺวา ปฏิกริสฺสามี’’ติ อุโปสโถ กาตพฺโพ, ปฏิกริตฺวา จ ปุน อุโปสโถ กตฺตพฺโพ.
ฉนฺททานกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
อนาปตฺติปนฺนรสกาทิกถาวณฺณนา
๑๗๒. เกนจิ ๖๓ กรณีเยน คนฺตฺวาติ สีมาปริจฺเฉทโต พหิภูตํ คามํ วา อรฺํ วา คนฺตฺวาติ อตฺโถ. เอเตเนว อุโปสถตฺติยา ปนกาเล สมคฺคา เอว เต ตฺตึ เปสุนฺติ สิทฺธํ. เตเนว ปาฬิยํ ‘‘อุทฺทิฏฺํ สุอุทฺทิฏฺ’’นฺติ สพฺพปนฺนรสเกสุปิ วุตฺตํ. วคฺคา สมคฺคสฺิโนติอาทิ ปน ตฺติยา นิฏฺิตาย ‘‘กึ สงฺฆสฺส ปุพฺพกิจฺจ’’นฺติอาทีนํ (มหาว. ๑๓๔) วจนกฺขเณ พหิคตานํ ภิกฺขูนํ สีมาย ปวิฏฺตฺตา ภิกฺขู ตสฺมึ ขเณ วคฺคา โหนฺตีติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘เตสํ สีมํ โอกฺกนฺตตฺตา วคฺคา’’ติอาทิ, เอเตน ปาราชิกุทฺเทสาทิกฺขเณปิ วคฺคสฺีนํ อุทฺทิสนฺตานํ อาปตฺติ เอว, ตฺติยา ปน ปุพฺเพ นิฏฺิตตฺตา กมฺมโกโป นตฺถีติ ทสฺสิตเมว โหติ. เอวํ อุปริปิ สพฺพวาเรสุ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ.
เอตฺถ จ ปาฬิยํ ‘‘สพฺพาย วุฏฺิตาย…เป… เตสํ สนฺติเก ปาริสุทฺธิ อาโรเจตพฺพา’’ติ (มหาว. ๑๗๔) วุตฺตตฺตา พหิสีมาคตาย ปริสาย เตสุ ยสฺส กสฺสจิ สนฺติเก อนธิฏฺิเตหิ ปาริสุทฺธึ อาโรเจตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ.
อนาปตฺติปนฺนรสกาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ลิงฺคาทิทสฺสนกถาทิวณฺณนา
๑๗๙. อฺาตกํ ¶ นาม อทิฏฺปุพฺพนฺติ อาห ‘‘อฺเสํ สนฺตก’’นฺติ. อฺเสนฺติ อตฺตนา อทิฏฺปุพฺพานํ. นานาสํวาสกภาวนฺติ ลทฺธินานาสํวาสกภาวํ.
๑๘๐. ปาฬิยํ อภิวิตรนฺติ สมานสํวาสกาภาวํ นิจฺฉินนฺติ.
๑๘๑. อุโปสถการกาติ สงฺฆุโปสถการกา. เตเนว ‘‘อฺตฺร สงฺเฆนา’’ติ วุตฺตํ. สงฺฆุโปสถฏฺานโต หิ คจฺฉนฺเตน อตฺตจตุตฺเถเนว คนฺตพฺพํ, ติณฺณํ ภิกฺขูนํ นิสินฺนฏฺานโต ปน คจฺฉนฺเตน เอเกน ภิกฺขุนาปิ สห คนฺตุมฺปิ วฏฺฏติ. ปาฬิยํ ‘‘อภิกฺขุโก อาวาโส’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ, สงฺฆุโปสถฏฺานโต คณปุคฺคเลหิ สภิกฺขุโกปิ อาวาโส น คนฺตพฺโพ ‘‘อฺตฺร สงฺเฆนา’’ติ วุตฺตตฺตาติ วทนฺติ. อุโปสถํ กโรนฺตีติ สงฺฆุโปสถํ วา คณุโปสถํ วา. ‘‘ตสฺส สนฺติก’’นฺติ อิทํ คณุโปสถฏฺานโต คจฺฉนฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, อฺถา ‘‘สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน อตฺตจตุตฺเถน ¶ วา’’ติ วจเนน วิรุชฺฌนโต. อารฺเกนาติ เอกจารินา. อุโปสถนฺตราโยติ อตฺตโน อุโปสถนฺตราโย.
๑๘๓. ปาฬิยํ ภิกฺขุนิยา นิสินฺนปริสายาติอาทีสุ ภิกฺขุนิยาติอาทิ กรณตฺเถ สามิวจนํ.
ลิงฺคาทิทสฺสนกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุโปสถกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๓. วสฺสูปนายิกกฺขนฺธโก
วสฺสูปนายิกอนุชานนกถาทิวณฺณนา
๑๘๔. วสฺสูปนายิกกฺขนฺธเก ¶ ¶ อปรสฺมึ ทิวเสติ ทุติเย ปาฏิปททิวเส.
๑๘๕. อฺตฺถ อรุณํ อุฏฺาปเนน วาติ สาเปกฺขสฺส อกรณีเยน คนฺตฺวา อฺตฺถ อรุณํ อุฏฺาปเนน วา. ปริหานีติ คุณปริหานิ.
๑๘๗. ปาฬิยํ สตฺตาหํ สนฺนิวตฺโต กาตพฺโพติ สกลํ สตฺตาหํ พหิ เอว อวีตินาเมตฺวา สตฺตาหปริโยสานภูตํ อรุณุฏฺานกาลํ ปุน วิหาเรว สมฺพนฺธวเสน สตฺตาหํ วิหาเร สนฺนิวตฺตํ กาตพฺพํ. สตฺตาหปริโยสานกาโล หิ อิธ สตฺตาห-สทฺเทน วุตฺโต, ตทเปกฺขาย จ ‘‘สนฺนิวตฺโต’’ติ ปุลฺลิงฺเคน วุตฺตํ. ตีณิ ปริหีนานีติ ภิกฺขุนีนํ วจฺจกุฏิอาทีนํ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ปริหีนานิ.
๑๘๙. น ปลุชฺชตีติ อฺเสํ อปฺปคุณตฺตา, มม จ มรเณน น วินสฺสติ.
วสฺสูปนายิกอนุชานนกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปหิเตเยวอนุชานนกถาวณฺณนา
๑๙๙. ภิกฺขูหิ สทฺธึ วสนกปุริโสติ อนฺคติโกติ ทสฺเสติ. คนฺตพฺพนฺติ สงฺฆกรณีเยน อปฺปหิเตปิ คนฺตพฺพํ. เอตฺถ จ อนุปาสเกหิปิ สาสนภาวํ าตุกาเมหิ ปหิเต เตสํ ปสาทวฑฺฒึ สมฺปสฺสนฺเตหิปิ สตฺตาหกรณีเยน คนฺตุํ วฏฺฏตีติ คเหตพฺพํ.
รตฺติจฺเฉทวินิจฺฉโยติ ¶ สตฺตาหกรณีเยน คนฺตฺวา พหิทฺธา อรุณุฏฺาปนสงฺขาตสฺส รตฺติจฺเฉทสฺส วินิจฺฉโย. คนฺตุํ วฏฺฏตีติ อนฺโตอุปจารสีมายํ ิเตเนว สตฺตาหกรณียนิมิตฺตํ สลฺลกฺเขตฺวา อิมินา นิมิตฺเตน คนฺตฺวา ‘‘อนฺโตสตฺตาเห อาคจฺฉิสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ. ปุริมกฺขเณ อาโภคํ กตฺวา คมนกฺขเณ วิสฺสริตฺวา คเตปิ โทโส ¶ นตฺถิ ‘‘สกรณีโย ปกฺกมตี’’ติ (มหาว. ๒๐๗) วุตฺตตฺตา. สพฺพถา ปน อาโภคํ อกตฺวา คตสฺส วสฺสจฺเฉโทติ วทนฺติ. โย ปน สตฺตาหกรณียนิมิตฺตาภาเวปิ ‘‘สตฺตาหพฺภนฺตเร อาคมิสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา คนฺตฺวา สตฺตาหพฺภนฺตเร อาคจฺฉติ, ตสฺส อาปตฺติเยว, วสฺสจฺเฉโท นตฺถิ สตฺตาหสฺส สนฺนิวตฺตตฺตาติ วทนฺติ. วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. ภณฺฑกนฺติ จีวรภณฺฑํ. สมฺปาปุณิตุํ น สกฺโกติ, วฏฺฏตีติ ตทเหว อาคมเน สอุสฺสาหตฺตา วสฺสจฺเฉโท วา อาปตฺติ วา น โหตีติ อธิปฺปาโย. อาจริยนฺติ อคิลานมฺปิ นิสฺสยาจริยฺจ ธมฺมาจริยฺจ, ปเคว อุปสมฺปทาจริยอุปชฺฌาเยสุ. วทติ, วฏฺฏตีติ สตฺตาหาติกฺกเม อาปตฺติอภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ, วสฺสจฺเฉโท ปน โหติ เอว.
ปหิเตเยวอนุชานนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อนฺตราเยอนาปตฺติวสฺสจฺเฉทกถาวณฺณนา
๒๐๐. ปาฬิยํ คณฺหึสูติ คเหตฺวา ขาทึสุ. ปริปาตึสูติ ปลาเปสุํ, อนุพนฺธึสูติ อตฺโถ.
๒๐๑. สตฺตาหวาเรน อรุโณ อุฏฺาเปตพฺโพติ เอตฺถ ฉทิวสานิ พหิทฺธา วีตินาเมตฺวา สตฺตเม ทิวเส ปุรารุณา เอว อนฺโตอุปจารสีมาย ปวิสิตฺวา อรุณํ อุฏฺาเปตฺวา ปุนทิวเส สตฺตาหํ อธิฏฺาย คนฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. เกจิ ปน ‘‘สตฺตเม ทิวเส อาคนฺตฺวา อรุณํ อนุฏฺาเปตฺวา ตทเหว ทิวสภาเคปิ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ ‘‘อรุโณ อุฏฺาเปตพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา. สตฺตเม ทิวเส ตตฺถ อรุณุฏฺาปนเมว หิ สนฺธาย ปาฬิยมฺปิ ‘‘สตฺตาหํ สนฺนิวตฺโต กาตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. อรุณํ อนุฏฺาเปตฺวา คจฺฉนฺโต อนฺโต อปฺปวิสิตฺวา พหิทฺธาว สตฺตาหํ วีตินาเมนฺเตน สมุจฺฉินฺนวสฺโส เอว ภวิสฺสติ อรุณสฺส พหิ เอว อุฏฺาปิตตฺตา. อิตรถา ‘‘อรุโณ อุฏฺาเปตพฺโพ’’ติ วจนํ นิรตฺถกํ สิยา ‘‘สตฺตาหวาเรน อนฺโตวิหาเร ปวิสิตฺวา อรุณํ อนุฏฺาเปตฺวาปิ คนฺตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพโต. อฺเสุ จ าเนสุ อรุณุฏฺาปนเมว ¶ วุจฺจติ. วกฺขติ หิ จีวรกฺขนฺธเก ‘‘เอกสฺมึ วิหาเร วสนฺโต อิตรสฺมึ สตฺตาหวาเรน อรุณเมว อุฏฺาเปตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๖๔).
อถาปิ ¶ ยํ เต วเทยฺยุํ ‘‘สตฺตเม ทิวเส ยทา กทาจิ ปวิฏฺเน ตํทิวสนิสฺสิโต อตีตอรุโณ อุฏฺาปิโต นาม โหตีติ อิมมตฺถํ สนฺธาย อฏฺกถายํ วุตฺต’’นฺติ, ตํ สทฺทคติยาปิ น สเมติ. น หิ อุฏฺิเต อรุเณ ปจฺฉา ปวิฏฺโ ตสฺส ปโยชโก อุฏฺาปโก ภวิตุมรหติ. ยทิ ภเวยฺย, วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปนสฺส อรุณํ อนุฏฺาเปตฺวา ตทเหว สตฺตาหกรณีเยน ปกฺกนฺตสฺสาปีติ เอตฺถ ‘‘อรุณํ อนุฏฺาเปตฺวา’’ติ วจนํ วิรุชฺเฌยฺย, เตนปิ ตํทิวสสนฺนิสฺสิตสฺส อรุณสฺส อุฏฺาปิตตฺตา. อารฺกสฺสาปิ หิ ภิกฺขุโน สายนฺหสมเย องฺคยุตฺตํ อรฺฏฺานํ คนฺตฺวา ตทา เอว นิวตฺตนฺตสฺส อรุโณ อุฏฺาปิโต ธุตงฺคฺจ วิโสธิตํ สิยา, น เจตํ ยุตฺตํ อรุณุคฺคมนกาเล เอว อรุณุฏฺาปนสฺส วุตฺตตฺตา. วุตฺตฺหิ ‘‘กาลสฺเสว ปน นิกฺขมิตฺวา องฺคยุตฺเต าเน อรุณํ อุฏฺาเปตพฺพํ. สเจ อรุณุฏฺานเวลายํ เตสํ อาพาโธ วฑฺฒติ, เตสํ เอว กิจฺจํ กาตพฺพํ, น ธุตงฺควิสุทฺธิเกน ภวิตพฺพ’’นฺติ (วิสุทฺธิ. ๑.๓๑). ตถา ปาริวาสิกาทีนมฺปิ อรุณํ อนุฏฺาเปตฺวา วตฺตํ นิกฺขิปนฺตานํ รตฺติจฺเฉโท วุตฺโต. ‘‘อุคฺคเต อรุเณ นิกฺขิปิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๙๗) หิ วุตฺตํ. สหเสยฺยสิกฺขาปเทปิ อนุปสมฺปนฺเนหิ สห นิวุตฺถภาวปริโมจนตฺถํ ‘‘ปุรารุณา นิกฺขมิตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอวํ จีวรวิปฺปวาสาทีสุ จ สพฺพตฺถ รตฺติปริโยสาเน อาคามิอรุณวเสเนว อรุณุฏฺาปนํ ทสฺสิตํ, น อตีตารุณวเสน. ตสฺมา วุตฺตนเยเนเวตฺถ อรุณุฏฺาปนํ เวทิตพฺพํ อฺถา วสฺสจฺเฉทตฺตา.
ยํ ปน วสฺสํ อุปคตสฺส ตทเหว อรุณํ อนุฏฺาเปตฺวา สกรณียสฺส ปกฺกมนวจนํ, ตํ วสฺสํ อุปคตกาลโต ปฏฺาย ยทา กทาจิ นิมิตฺเต สติ คมนสฺส อนฺุาตตฺตา ยุตฺตํ, น ปน สตฺตาหวาเรน คตสฺส อรุณํ อนุฏฺาเปตฺวา ตทเหว คมนํ ‘‘อรุโณ อุฏฺาเปตพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา เอว. ยถา วา ‘‘สตฺตาหํ อนาคตาย ปวารณาย สกรณีโย ปกฺกมติ, อาคจฺเฉยฺย วา โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ตํ อาวาสํ, น วา อาคจฺเฉยฺยา’’ติอาทินา (มหาว. ๒๐๗) ปจฺฉิมสตฺตาเห อนาคมเน อนฺุาเตปิ อฺสตฺตาเหสุ น วฏฺฏติ. เอวํ ปมสตฺตาเห อรุณํ อนุฏฺาเปตฺวา คมเน อนฺุาเตปิ ตโต ปเรสุ สตฺตาเหสุ อาคตสฺส อรุณํ อนุฏฺาเปตฺวา ¶ คมนํ น วฏฺฏตีติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. อิธ อาหฏนฺติ วิหารโต พหิ อาคตฏฺาเน อานีตํ.
อนฺตราเยอนาปตฺติวสฺสจฺเฉทกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
วชาทีสุ วสฺสูปคมนกถาวณฺณนา
๒๐๓. อุปคนฺตุํ ๖๘ น วฏฺฏตีติ กุฏิกาทีนํ อภาเวน ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ เอวํ วจีเภทํ กตฺวา อุปคนฺตุํ น วฏฺฏติ.
๒๐๔. ปาฬิยํ ปิสาจิลฺลิกาติ ปิสาจทารกา. ปวิสนทฺวารํ โยเชตฺวาติ สกวาฏทฺวารํ กตฺวา. รุกฺขํ ฉินฺทิตฺวาติ สุสิรฏฺานสฺส อุปริภาคํ ฉินฺทิตฺวา. ขาณุมตฺถเกติ สุสิรขาณุมตฺถเก. ฏงฺกิตมฺโจ นาม ทีเฆ มฺจปาเท วิชฺฌิตฺวา อฏนิโย ปเวเสตฺวา กโต, โส เหฏฺุปริยวเสน ปฺตฺโตปิ ปุริมสทิโสว โหติ, ตํ สุสาเน, เทวตาาเน จ เปนฺติ. จตุนฺนํ ปาสาณานํ อุปริ ปาสาณผลเก อตฺถริตฺวา กตเคหมฺปิ ‘‘ฏงฺกิตมฺโจ’’ติ วุจฺจติ.
วชาทีสุวสฺสูปคมนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อธมฺมิกกติกาทิกถาวณฺณนา
๒๐๕. มหาวิภงฺเคติ จตุตฺถปาราชิกวณฺณนายํ. ปรโต เสนาสนกฺขนฺธเกปิ อธมฺมิกํ กติกวตฺตํ อาวิ ภวิสฺสติ เอว.
๒๐๗. ยสฺมา นานาสีมายํ ทฺวีสุ อาวาเสสุ วสฺสํ อุปคจฺฉนฺตสฺส ‘‘ทุติเย วสิสฺสามี’’ติ อุปจารโต นิกฺขนฺตมตฺเต ปโม เสนาสนคฺคาโห ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. ตสฺมา ปาฬิยํ ‘‘ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปุริมิกา จ น ปฺายตี’’ติ ปมํ เสนาสนคฺคาหํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทุติเย เสนาสนคฺคาเห ปน ปุริมิกา ปฺายเตว, ตตฺเถว เตมาสํ วสนฺโต ปุริมวสฺสํวุตฺโถ ¶ เอว โหติ, ตโต วา ปน ทุติยทิวสาทีสุ ‘‘ปมเสนาสเน วสิสฺสามี’’ติ อุปจาราติกฺกเม ปุริมิกาปิ น ปฺายตีติ ทฏฺพฺพํ.
๒๐๘. ปาฬิยํ ‘‘โส สตฺตาหํ อนาคตาย ปวารณาย สกรณีโย ปกฺกมตี’’ติ วุตฺตตฺตา ปวารณาทิวเสปิ สตฺตาหกรณียํ วินา คนฺตุํ น วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. โกมุทิยา จาตุมาสินิยาติ ¶ ปจฺฉิม-กตฺติกปุณฺณมาย. สา หิ ตสฺมึ กาเล กุมุทานํ อตฺถิตาย โกมุที, จตุนฺนํ วสฺสิกมาสานํ ปริโยสานตฺตา จาตุมาสินีติ จ วุจฺจติ.
อธมฺมิกกติกาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
วสฺสูปนายิกกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๔. ปวารณากฺขนฺธโก
อผาสุวิหารกถาทิวณฺณนา
๒๐๙. ปวารณากฺขนฺธเก ¶ ¶ ปาฬิยํ ปิณฺฑาย ปฏิกฺกเมยฺยาติ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปฏิกฺกเมยฺย. อวกฺการปาตินฺติ อติเรกปิณฺฑปาตปนกํ เอกํ ภาชนํ. อวิสยฺหนฺติ อุกฺขิปิตุํ อสกฺกุเณยฺยํ. วิลงฺฆนํ อุกฺขิปนํ วิลงฺโฆ, โส เอว วิลงฺฆโก, หตฺเถหิ วิลงฺฆโก หตฺถวิลงฺฆโกติ อาห ‘‘หตฺถุกฺเขปเกนา’’ติ. อถ วา วิลงฺฆเกน อุกฺเขปเกน หตฺเถนาติปิ อตฺโถ, อฺมฺํ สํสิพฺพิตหตฺเถหีติ วุตฺตํ โหติ.
๒๑๓. สเจ ปน วุฑฺฒตโร โหตีติ ปวารณาทายโก ภิกฺขุ วุฑฺฒตโร โหติ. เอวฺหิ เตน ตสฺสตฺถาย ปวาริตํ โหตีติ เอตฺถ เอวํ เตน อปฺปวาริโตปิ ตสฺส สงฺฆปฺปตฺติมตฺเตน สงฺฆปวารณากมฺมํ สมคฺคกมฺมเมว โหตีติ ทฏฺพฺพํ. เตน จ ภิกฺขุนาติ ปวารณาทายเกน ภิกฺขุนา.
๒๓๔. พหูปิ สมานวสฺสา เอกโต ปวาเรตุํ ลภนฺตีติ เอกสฺมึ สํวจฺฉเร ลทฺธูปสมฺปทตาย สมานุปสมฺปนฺนวสฺสา สพฺเพ เอกโต ปวาเรตุํ ลภนฺตีติ อตฺโถ.
๒๓๗. ปาฬิยํ มิจฺฉาทิฏฺีติ ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิ (ที. นิ. ๑.๑๗๑; ม. นิ. ๑.๔๔๕; ๒.๙๔, ๙๕, ๒๒๕; ๓.๙๑, ๑๑๖, ๑๓๖; สํ. นิ. ๓.๒๑๐; ธ. ส. ๑๒๒๑) นยปฺปวตฺตา. อนฺตคฺคาหิกาติ สสฺสตุจฺเฉทสงฺขาตสฺส อนฺตสฺส คาหิกา. ยํ โข ตฺวนฺติอาทีสุ ยํ ปวารณํ เปสิ, ตํ ทิฏฺเน เปสีติ ตํ-สทฺทํ อชฺฌาหริตฺวา โยเชตพฺพํ.
๒๓๙. วตฺถุํ ปกาเสนฺโตติ ปุคฺคเล ปริสงฺกุปฺปตฺติยา นิมิตฺตภูตํ วตฺถุมตฺตํเยว สนฺธาย วุตฺตํ ¶ . ยํ ปน วตฺถุํ สนฺธาย ‘‘ปุคฺคโล ปฺายติ, น วตฺถู’’ติ อาห, น ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ยทิ ปน ตสฺส ภิกฺขุโน วสนฏฺาเน โปกฺขรณิโต มจฺฉคฺคหณาทิ ทิสฺเสยฺย, ตทา ‘‘วตฺถุ จ ปุคฺคโล จ ปฺายตี’’ติ วตฺตพฺพํ ภเวยฺย. เตนาห ‘‘ปุริมนเยเนว โจเรหี’’ติอาทิ. ภิกฺขุโน สรีเร มาลาคนฺธฺจ อริฏฺคนฺธฺจ ทิสฺวา เอวํ ‘‘วตฺถุ จ ปุคฺคโล จ ปฺายตี’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อผาสุวิหารกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภณฺฑนการกวตฺถุกถาวณฺณนา
๒๔๐. ทฺเว ¶ จาตุทฺทสิกา โหนฺตีติ ตติยปกฺเข จาตุทฺทสิยา สทฺธึ ทฺเว จาตุทฺทสิกา โหนฺติ. ‘‘ภณฺฑนการกานํ เตรเส วา จาตุทฺทเส วา อิเม ปนฺนรสีปวารณํ ปวาเรสฺสนฺตี’’ติ อิมินา ยถาสกํ อุโปสถกรณทิวสโต ปฏฺาย ภิกฺขูนํ จาตุทฺทสีปนฺนรสีโวหาโร, น จนฺทคติสิทฺธิยา ติถิยา วเสนาติ ทสฺเสติ. กิฺจาปิ เอวํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ราชูนํ อนุวตฺติตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๘๖) วจนโต ปเนตฺถ โลกิยานํ ติถึ อนุวตฺตนฺเตหิปิ อตฺตโน อุโปสถกฺกเมน จาตุทฺทสึ ปนฺนรสึ วา, ปนฺนรสึ จาตุทฺทสึ วา กโรนฺเตเหว อนุวตฺติตพฺพํ, น ปน โสฬสมทิวสํ วา เตรสมทิวสํ วา อุโปสถทิวสํ กโรนฺเตหิ. เตเนว ปาฬิยมฺปิ ‘‘ทฺเว ตโย อุโปสเถ จาตุทฺทสิเก กาตุ’’นฺติ วุตฺตํ. อฺถา ทฺวาทสิยํ, เตรสิยํ วา อุโปสโถ กาตพฺโพติ วตฺตพฺพโต. ‘‘สกึ ปกฺขสฺส จาตุทฺทเส, ปนฺนรเส วา’’ติอาทิวจนมฺปิ อุปวุตฺถกฺกเมเนว วุตฺตํ, น ติถิกฺกเมนาติ คเหตพฺพํ.
ภณฺฑนการกวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปวารณาสงฺคหกถาวณฺณนา
๒๔๑. ‘‘ปวาเรตฺวา ปน อนฺตราปิ จาริกํ ปกฺกมิตุํ ลภนฺตี’’ติ อิมินา ปวารณาสงฺคเห กเต อนฺตรา ปกฺกมิตุกามา สงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ปวาเรตุํ ลภนฺตีติ ทสฺเสติ.
ปวารณาสงฺคหกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปวารณากฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๕. จมฺมกฺขนฺธโก
โสณโกฬิวิสกถาทิวณฺณนา
๒๔๒. จมฺมกฺขนฺธเก ¶ ¶ อุณฺณปาวารณนฺติ อุภโต โลมานิ อุฏฺาเปตฺวา กตํ อุณฺณมยํ ปาวารณํ, อุภโต กปฺปาสปิจุํ อุฏฺาเปตฺวา วีตปาวาโรปิ อตฺถิ, ตโต นิวตฺตนตฺถํ ‘‘อุณฺณปาวารณ’’นฺติ วุตฺตํ.
อฑฺฒจนฺทปาสาเณติ โสปานมูเล อุปฑฺฒํ อนฺโต ปเวเสตฺวา ปิเต อฑฺฒปาสาเณ. ปาฬิยํ วิหารปจฺฉายายนฺติ วิหารปจฺจนฺเต ฉายาย, วิหารสฺส วฑฺฒมานจฺฉายายนฺติปิ วทนฺติ.
๒๔๓. โภคาติ อุปโยคตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ. อจฺจายตาติ อติอายตา ขรมุจฺฉนา. สรวตีติ มธุรสรสํยุตฺตา. อติสิถิลา มนฺทมุจฺฉนา. วีริยสมถนฺติ วีริยสมฺปยุตฺตสมถํ. ตตฺถ จ นิมิตฺตํ คณฺหาหีติ ตสฺมิฺจ สมภาเว สติ ยํ อาทาเส มุขนิมิตฺตํ วิย นิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตํ สมถนิมิตฺตํ, วิปสฺสนานิมิตฺตํ, มคฺคนิมิตฺตํ, ผลนิมิตฺตฺจ คณฺหาหิ นิพฺพตฺเตหีติ, เอวมสฺส อรหตฺตปริโยสานํ กมฺมฏฺานํ กถิตํ.
๒๔๔. ฉานานีติ ฉ การณานิ. อธิมุตฺโตติ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิโต. เนกฺขมฺมาธิมุตฺโตติอาทิ สพฺพํ อรหตฺตวเสน วุตฺตํ. อรหตฺตฺหิ สพฺพกิเลเสหิ นิกฺขนฺตตฺตา เนกฺขมฺมํ, เตเหว จ ปวิวิตฺตตฺตา ปวิเวโก, พฺยาปชฺชาภาวโต อพฺยาปชฺชํ, อุปาทานสฺส ขยนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา อุปาทานกฺขโย, ตณฺหกฺขยนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา ตณฺหกฺขโย, สมฺโมหาภาวโต อสมฺโมโหติ จ วุจฺจติ.
เกวลํ สทฺธามตฺตกนฺติ เกวลํ ปฏิเวธปฺาย อสมฺมิสฺสํ สทฺธามตฺตกํ. ปฏิจยนฺติ ปุนปฺปุนํ ¶ กรเณน วฑฺฒึ. วีตราคตฺตาติ มคฺคปฏิเวเธน ราคสฺส วิคตตฺตา เอว เนกฺขมฺมสงฺขาตํ อรหตฺตํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา สจฺฉิกตฺวา ิโต โหติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ปวิเวกาธิมุตฺโตติ ‘‘ปวิเวเก อธิมุตฺโต อห’’นฺติ เอวํ อรหตฺตํ พฺยากโรตีติ อตฺโถ.
สีลพฺพตปรามาสนฺติ สีลฺจ วตฺจ ปรามสิตฺวา คหิตคฺคหณมตฺตํ. สารโต ปจฺจาคจฺฉนฺโตติ สารภาเวน ชานนฺโต. อพฺยาปชฺชาธิมุตฺโตติ อพฺยาปชฺชํ อรหตฺตํ พฺยากโรติ.
อมิสฺสีกตนฺติ ¶ อมิสฺสกตํ. กิเลสา หิ อารมฺมเณน สทฺธึ จิตฺตํ มิสฺสํ กโรนฺติ, เตสํ อภาวา อมิสฺสีกตํ. ภุสา วาตวุฏฺีติ พลววาตกฺขนฺโธ.
อุปาทานกฺขยสฺส จาติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. ทิสฺวา อายตนุปฺปาทนฺติ จกฺขาทิอายตนานํ อุปฺปาทฺจ วยฺจ ทิสฺวา. จิตฺตํ วิมุจฺจตีติ อิมาย วิปสฺสนาปฏิปตฺติยา ผลสมาปตฺติวเสน จิตฺตํ วิมุจฺจติ.
โสณโกฬิวิสกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทิคุณาทิอุปาหนปฏิกฺเขปกถาวณฺณนา
๒๔๕. สกฏวาเหติ ทฺวีหิ สกเฏหิ ปริจฺฉินฺเน วาเห. ‘‘วาเห’’ติ พหุวจนสฺส หิรฺวิเสสนตฺเตปิ สามฺาเปกฺขาย ‘‘หิรฺ’’นฺติ เอกวจนํ กตํ.
๒๔๖. อทฺทาริฏฺกวณฺณาติ อลฺลาริฏฺผลวณฺณา, ตินฺตกากปกฺขวณฺณาติปิ วทนฺติ. รชนนฺติ อุปลิตฺตํ นีลาทิวณฺณํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตนาห ‘‘โจฬเกน ปฺุฉิตฺวา’’ติ. ตฺหิ ตถา ปฺุฉิเต วิคจฺฉติ. ยํ ปน จมฺมสฺส ทุคฺคนฺธาปนยนตฺถํ กาฬรตฺตาทิรชเนหิ รฺชิตตฺตา กาฬรตฺตาทิวณฺณํ โหติ, ตํ โจฬาทีหิ อปเนตุํ น สกฺกา จมฺมคติกเมว, ตสฺมา ตํ วฏฺฏตีติ ทฏฺพฺพํ.
ขลฺลกนฺติ สพฺพปณฺหิปิธานจมฺมํ, อปริคฬนตฺถํ ปณฺหิอุปริภาเค อปิธาย อาโรปนพนฺธนมตฺตํ วฏฺฏติ. วิจิตฺราติ สณฺานโต วิจิตฺรปฏา อธิปฺเปตา, น วณฺณโต สพฺพโส อปเนตพฺเพสุ ¶ ขลฺลกาทีสุ ปวิฏฺตฺตา. พิฬาลสทิสมุขตฺตา มหาอุลูกา ‘‘ปกฺขิพิฬาลา’’ติ วุจฺจติ, เตสํ จมฺมํ นาม ปกฺขโลมเมว.
ทิคุณาทิอุปาหนปฏิกฺเขปกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อชฺฌาราเมอุปาหนปฏิกฺเขปกถาทิวณฺณนา
๒๕๑. อุณฺณาหิ ¶ กตปาทุกาติ เอตฺถ อุณฺณามยกมฺพเลหิ กตา ปาทุกา สงฺคยฺหนฺติ.
๒๕๓. คงฺคามหกีฬิกายาติ คงฺคามเห กีฬิกาย. ตตฺถ หิ อิตฺถิปุริสา ยาเนหิ อุทกกีฬํ คจฺฉนฺติ. ปีกสิวิกนฺติ ผลกาทินา กตํ ปีกยานํ. ปฏโปตลิกํ อนฺโทลิกา. สพฺพมฺปิ ยานํ อุปาหเนนปิ คนฺตุํ อสมตฺถสฺส คิลานสฺส อนฺุาตํ.
๒๕๔. วาฬรูปานีติ อาหริมานิ วาฬรูปานิ. จตุรงฺคุลาธิกานีติ อุทฺทโลมีเอกนฺตโลมีหิ วิเสสทสฺสนํ. จตุรงฺคุลโต หิ อูนานิ กิร อุทฺทโลมีอาทีสุ ปวิสนฺติ. วานจิตฺโร อุณฺณามยตฺถรโณติ นานาวณฺเณหิ อุณฺณามยสุตฺเตหิ ภิตฺติจฺเฉทาทิวเสน วายิตฺวา กตจิตฺตตฺถรโณ. ฆนปุปฺผโกติ พหลราโค. ปกติตูลิกาติ ตูลปุณฺณา ภิสิ. วิกติกาติ สีหรูปาทิวเสน วานจิตฺราว คยฺหติ. อุทฺทโลมีติ ‘‘อุภโตทสํ อุณฺณามยตฺถรณ’’นฺติ ทีฆนิกายฏฺกถายํ วุตฺตํ. โกเสยฺยกฏฺฏิสฺสมยนฺติ โกสิยสุตฺตานํ อนฺตรา สุวณฺณมยสุตฺตานิ ปเวเสตฺวา วีตํ. สุวณฺณสุตฺตํ กิร ‘‘กฏฺฏิสฺสํ, กสฏ’’นฺติ จ วุจฺจติ. เตเนว ‘‘โกเสยฺยกสฏมย’’นฺติ อาจริย-ธมฺมปาลตฺเถเรน วุตฺตนฺติ วทนฺติ. รตนปริสิพฺพิตนฺติ สุวณฺณลิตฺตํ. สุทฺธโกเสยฺยนฺติ รตนปริสิพฺพนรหิตํ.
อชินมิคจมฺมานํ อติสุขุมตฺตา ทุปฏฺฏติปฏฺฏานิ กตฺวา สิพฺพนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘อชินปฺปเวณี’’ติ. รตฺตวิตาเนนาติ สพฺพรตฺเตน วิตาเนน. ยํ ปน นานาวณฺณํ วานจิตฺตํ วา เลปจิตฺตํ วา, ตํ วฏฺฏติ. อุภโตโลหิตกูปธาเนปิ เอเสว นโย. ‘‘จิตฺรํ วา’’ติ อิทํ ปน สพฺพถา กปฺปิยตฺตา วุตฺตํ, น ปน อุภโตอุปธาเนสุ อกปฺปิยตฺตา. น หิ โลหิตก-สทฺโท จิตฺเต วตฺตติ, ปฏลิคฺคหเณเนว จิตฺตกสฺสปิ อตฺถรณสฺส สงฺคเหตพฺพปฺปสงฺคโต, กาสาวํ ปน โลหิตกโวหารํ น คจฺฉติ. ตสฺมา วิตาเนปิ อุภโตอุปธาเนปิ วฏฺฏติ. สเจ ปมาณยุตฺตนฺติอาทิ อฺปฺปมาณาติกฺกนฺตสฺส พิพฺโพหนสฺส ปฏิกฺขิตฺตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น ปน ¶ อุจฺจาสยนมหาสยนภาวทสฺสนตฺถํ ตถา อวุตฺตตฺตา. ตํ ปน อุปธานํ อุโปสถิกานํ ¶ คหฏฺานํ วฏฺฏติ. อุจฺจาสยนมหาสยนเมว หิ ตทา เตสํ น วฏฺฏติ. ทีฆนิกายฏฺกถาทีสุ กิฺจาปิ ‘‘เปตฺวา ตูลิกํ สพฺพาเนว โคนกาทีนิ รตนปริสิพฺพิตานิ วฏฺฏนฺตี’’ติอาทิ วุตฺตํ, วินยฏฺกถาเยว กปฺปิยากปฺปิยภาเว ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ.
อชฺฌาราเมอุปาหนปฏิกฺเขปกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
คิหิวิกตานฺุาตาทิกถาวณฺณนา
๒๕๖. อภินิสฺสายาติ อปสฺสาย. วิสุกายิกวิปฺผนฺทิตานนฺติ ปฏิปกฺขภูตานํ ทิฏฺิจิตฺตวิปฺผนฺทิตานนฺติ อตฺโถ.
๒๕๗. ยตินฺทฺริยนฺติ มนินฺทฺริยวเสน สฺตินฺทฺริยํ.
๒๕๘. ปาฬิยํ อฏฺกวคฺคิกานีติ สุตฺตนิปาเต (สุ. นิ. ๗๗๒ อาทโย) อฏฺกวคฺคภูตานิ โสฬส สุตฺตานิ. เอวํ จิรํ อกาสีติ เอวํ จิรกาลํ ปพฺพชฺชํ อนุปคนฺตฺวา อคารมชฺเฌ เกน การเณน วาสมกาสีติ อตฺโถ. โส กิร มชฺฌิมวเย ปพฺพชิโต, เตน ภควา เอวมาห. เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ กาเมสุ ทิฏฺาทีนวา จิรายิตฺวาปิ ฆราวาเสน ปกฺขนฺทนฺตีติ เอตมตฺถํ สพฺพาการโต วิทิตฺวา.
อาทีนวํ โลเกติ สงฺขารโลเก อนิจฺจตาทิอาทีนวํ. นิรุปธินฺติ นิพฺพานํ. ‘‘อริโย น รมตี ปาเป’’ติ อิมสฺส เหตุมาห ‘‘ปาเป น รมตี สุจี’’ติ. ตตฺถ สุจีติ วิสุทฺธปุคฺคโล.
๒๕๙. กาฬสีโหติ กาฬมุขวานรชาติ. จมฺมํ น วฏฺฏตีติ นิสีทนตฺถรณํ กาตุํ น วฏฺฏติ, ภูมตฺถรณาทิวเสน เสนาสนปริโภโค วฏฺฏเตว.
คิหิวิกตานฺุาตาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
จมฺมกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๖. เภสชฺชกฺขนฺธโก
ปฺจเภสชฺชาทิกถาวณฺณนา
๒๖๐. เภสชฺชกฺขนฺธเก ¶ ¶ ปิตฺตํ โกฏฺพฺภนฺตรคตํ โหตีติ พหิสรีเร พฺยาเปตฺวา ิตํ อพทฺธปิตฺตํ โกฏฺพฺภนฺตรคตํ โหติ, เตน ปิตฺตํ กุปิตํ โหตีติ อธิปฺปาโย.
๒๖๑-๒. ปาฬิยํ นจฺฉาเทนฺตีติ รุจึ น อุปฺปาเทนฺติ. สุสุกาติ สมุทฺเท เอกา มจฺฉชาติ, กุมฺภิลาติปิ วทนฺติ. สํสฏฺนฺติ ปริสฺสาวิตํ.
๒๖๓. ปิฏฺเหีติ ปิสิเตหิ. กสาเวหีติ ตจาทีนิ อุทเก ตาเปตฺวา คหิตอูสเรหิ. อุพฺภิทนฺติ อูสรปํสุมยํ. โลณพิลนฺติ โลณวิเสโส.
๒๖๔-๕. ฉกณนฺติ โคมยํ. ปากติกจุณฺณนฺติ อปกฺกกสาวจุณฺณํ, คนฺธจุณฺณํ ปน น วฏฺฏติ. ปาฬิยํ จุณฺณจาลินินฺติ อุทุกฺขเล โกฏฺฏิตจุณฺณปริสฺสาวนึ. สุวณฺณเครุโกติ สุวณฺณตุตฺถาทิ. ปาฬิยํ อฺชนูปปิสนนฺติ อฺชเน อุปเนตุํ ปิสิตพฺพเภสชฺชํ.
๒๖๗-๙. กพฬิกาติ อุปนาหเภสชฺชํ. ฆรทินฺนกาพาโธ นาม ฆรณิยา ทินฺนวสีกรณเภสชฺชสมุฏฺิตอาพาโธ. ตาย ฉาริกาย ปคฺฆริตํ ขาโรทกนฺติ ปริสฺสาวเน ตจฺฉาริกํ ปกฺขิปิตฺวา อุทเก อภิสิฺจิเต ตโต ฉาริกโต เหฏฺา ปคฺฆริตํ ขาโรทกํ. ปาฬิยํ อกฏยูเสนาติ อนภิสงฺขเตน มุคฺคยูเสน. กฏากเฏนาติ มุคฺเค ปจิตฺวา อจาเลตฺวา ปริสฺสาวิเตน มุคฺคยูเสนาติ วทนฺติ.
ปฺจเภสชฺชาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
คุฬาทิอนุชานนกถาวณฺณนา
๒๗๒-๔. คุฬกรณนฺติ ¶ ¶ อุจฺฉุสาลํ. อวิสฺสตฺถาติ สาสงฺกา.
๒๗๖. อปฺปมตฺตเกปิ วาเรนฺตีติ อปฺปมตฺตเก ทินฺเน ทายกานํ ปีฬาติ ปฏิกฺขิปนฺติ. ปฏิสงฺขาปีติ เอตฺตเกนปิ ยาเปตุํ สกฺกา, ‘‘อวเสสํ อฺเสํ โหตู’’ติ สลฺลกฺเขตฺวาปิ ปฏิกฺขิปนฺติ.
๒๗๙. วตฺถิปีฬนนฺติ ยถา วตฺถิคตเตลาทิ อนฺโตสรีเร อาโรหนฺติ, เอวํ หตฺเถน วตฺถิมทฺทนํ. สมฺพาเธ สตฺถกมฺมวตฺถิกมฺมานเมว ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ทหนกมฺมํ วฏฺฏติ เอว.
คุฬาทิอนุชานนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ยาคุมธุโคฬกาทิกถาวณฺณนา
๒๘๒-๓. ปาฬิยํ ทสสฺส านานีติ อสฺส ปฏิคฺคาหกสฺส ทส านานิ การณานิ ธมฺเมนาติ อตฺโถ. อนุปฺปเวจฺฉตีติ เทติ. วาตฺจ พฺยปเนตีติ สมฺพนฺโธ, วาตฺจ อนุโลเมตีติ อตฺโถ. สคฺคา เต อารทฺธาติ ตยา เทวโลกา อาราธิตา.
ยาคุมธุโคฬกาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปาฏลิคามวตฺถุกถาวณฺณนา
๒๘๖. ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺตีติ ปาฏลิคามสฺส สมีเป ตสฺเสว คามเขตฺตภูเต มหนฺเต อรฺปฺปเทเส ปาฏลิปุตฺตํ นาม นครํ มาเปนฺติ. ยาวตา อริยํ อายตนนฺติ ยตฺตกํ อริยมนุสฺสานํ โอสรณฏฺานํ. ยาวตา วณิปฺปโถติ ยตฺตกํ วาณิชานํ ภณฺฑวิกฺกีณนฏฺานํ, วสนฏฺานํ วา, อิทํ เตสํ สพฺเพสํ อคฺคนครํ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. ปุฏเภทนนฺติ สกฏาทีหิ นานาเทสโต อาหฏานํ ภณฺฑปุฏานํ วิกฺกีณนตฺถาย โมจนฏฺานํ. สรนฺติ ตฬากาทีสุปิ วตฺตติ ¶ , ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ¶ ‘‘สรนฺติ อิธ นที อธิปฺเปตา’’ติ วุตฺตํ สรติ สนฺทตีติ กตฺวา. วินา เอว กุลฺเลน ติณฺณาติ อิทํ อปฺปมตฺตกอุทกมฺปิ อผุสิตฺวา วินา กุลฺเลน ปารปฺปตฺตา.
ปาฏลิคามวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
โกฏิคาเมสจฺจกถาวณฺณนา
๒๘๗. ปาฬิยํ สนฺธาวิตนฺติ ภวโต ภวํ ปฏิสนฺธิคฺคหณวเสน สนฺธาวนํ กตํ. สํสริตนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. มมฺเจว ตุมฺหากฺจาติ มยา จ ตุมฺเหหิ จ, สามิวเสเนว วา มม จ ตุมฺหากฺจ สนฺธาวนํ อโหสีติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. สํสริตนฺติ สํสริ. ภวตณฺหา เอว ภวโต ภวํ เนตีติ ภวเนตฺตีติ วุตฺตา.
๒๘๙. ‘‘นีลา โหนฺตี’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ วิวริตุํ ‘‘นีลวณฺณา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นีลวณฺณาติ นีลวิเลปนา. เอส นโย สพฺพตฺถ. ปฏิวฏฺเฏสีติ ปหริ. อมฺพกายาติ อมฺพาย. อุปจารวจนฺเหตํ, มาตุคาเมนาติ อตฺโถ. อุปสํหรถาติ อุปเนถ, ‘‘อีทิสา ตาวตึสา’’ติ ปริกปฺเปถาติ อตฺโถ. อิทฺจ ภิกฺขูนํ สํเวคชนนตฺถํ วุตฺตํ, น นิมิตฺตคฺคาหตฺถํ. ลิจฺฉวิราชาโน หิ สพฺเพ น จิรสฺเสว อชาตสตฺตุนา วินาสํ ปาปุณิสฺสนฺติ.
โกฏิคาเมสจฺจกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สีหเสนาปติวตฺถุอาทิกถาวณฺณนา
๒๙๐. สนฺธาคาเรติ ราชกิจฺจสฺส สนฺธารณตฺถาย นิจฺฉิทฺทํ กตฺวา วิจารณตฺถาย กตมหาสภาย. คมิกาภิสงฺขาโรติ คมเน วายาโม. ธมฺมสฺส จ อนุธมฺมนฺติ ตุมฺเหหิ วุตฺตสฺส การณสฺส อนุการณํ, ตุมฺเหหิ วุตฺตสฺส อตฺถสฺส อนุรูปเมวาติ อธิปฺปาโย. สหธมฺมิโก วาทานุวาโทติ ปเรหิ วุตฺตการเณน สการโณ หุตฺวา ตุมฺหากํ วาโท วา ¶ อิโต ปรํ ตสฺส อนุวาโท วา. โกจิ อปฺปมตฺตโกปิ คารยฺหํ านํ น อาคจฺฉตีติ กึ ตว วาเท คารยฺหการณํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ.
๒๙๓. อนุวิจฺจการนฺติ อนุวิทิตาการํ. รตนตฺตยสฺส สรณคมนาทิกิริยํ กโรติ. สหสา ¶ กตฺวา มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสารี อโหสีติ อตฺโถ. ปฏากํ ปริหเรยฺยุนฺติ ธชปฏากํ อุกฺขิปิตฺวา ‘‘อีทิโส อมฺหากํ สรณํ คโต สาวโก ชาโต’’ติ นคเร โฆเสนฺตา อาหิณฺฑนฺติ.
๒๙๔. นิมิตฺตกมฺมสฺสาติ มํสขาทนนิมิตฺเตน อุปฺปนฺนปาณาติปาตกมฺมสฺส.
สีหเสนาปติวตฺถุอาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
กปฺปิยภูมิอนุชานนกถาวณฺณนา
๒๙๕. อนุปฺปเค เอวาติ ปาโตว. โอรวสทฺทนฺติ มหาสทฺทํ. ตํ ปน อวตฺวาปีติ ปิ-สทฺเทน ตถาวจนมฺปิ อนุชานาติ. อฏฺกถาสูติ อนฺธกฏฺกถาวิรหิตาสุ เสสฏฺกถาสุ. สาธารณลกฺขณนฺติ อนฺธกฏฺกถาย สห สพฺพฏฺกถานํ สมานํ.
จยนฺติ อธิฏฺานอุจฺจวตฺถุํ. ยโต ปฏฺายาติ ยโต อิฏฺกาทิโต ปฏฺาย, ยํ อาทึ กตฺวา ภิตฺตึ อุฏฺาเปตุกามาติ อตฺโถ. ‘‘ถมฺภา ปน อุปริ อุคฺคจฺฉนฺติ, ตสฺมา วฏฺฏนฺตี’’ติ เอเตน อิฏฺกปาสาณา เหฏฺา ปติฏฺาปิตาปิ ยทิ จยโต, ภูมิโต วา เอกงฺคุลมตฺตมฺปิ อุคฺคตา ติฏฺนฺติ, วฏฺฏนฺตีติ สิทฺธํ โหติ.
อาราโมติ อุปจารสีมาปริจฺฉินฺโน สกโล วิหาโร. เสนาสนานีติ วิหารสฺส อนฺโต ติณกุฏิอาทิกานิ สงฺฆสฺส นิวาสเคหานิ. วิหารโคนิสาทิกา นามาติ เสนาสนโคนิสาทิกา. เสนาสนานิ หิ สยํ ปริกฺขิตฺตานิปิ อารามปริกฺเขปาภาเวน ‘‘โคนิสาทิกานี’’ติ วุตฺตานิ. ‘‘อุปฑฺฒปริกฺขิตฺโตปี’’ติ อิมินา ตโต อูนปริกฺขิตฺโต เยภุยฺเยน อปริกฺขิตฺโต นาม, ตสฺมา อปริกฺขิตฺตสงฺขฺยเมว คจฺฉตีติ ทสฺเสติ. เอตฺถาติ อุปฑฺฒาทิปริกฺขิตฺเต. กปฺปิยกุฏึ ลทฺธุํ วฏฺฏตีติ โคนิสาทิยา ¶ อภาเวน เสสกปฺปิยกุฏีสุ ตีสุ ยา กาจิ กปฺปิยกุฏิ กาตพฺพาติ อตฺโถ.
เตสํ เคหานีติ เอตฺถ ภิกฺขูนํ วาสตฺถาย กตมฺปิ ยาว น เทนฺติ, ตาว เตสํ สนฺตกํเยว ภวิสฺสตีติ ทฏฺพฺพํ. วิหารํ เปตฺวาติ อุปสมฺปนฺนานํ วาสตฺถาย กตเคหํ เปตฺวาติ อตฺโถ. เคหนฺติ นิวาสเคหํ, ตทฺํ ปน อุโปสถาคาราทิ สพฺพํ อนิวาสเคหํ จตุกปฺปิยภูมิวิมุตฺตา ปฺจมี กปฺปิยภูมิ. สงฺฆสนฺตเกปิ หิ เอตาทิเส เคเห สุฏฺุ ปริกฺขิตฺตารามตฺเตปิ ¶ อพฺโภกาเส วิย อนฺโตวุตฺถาทิโทโส นตฺถิ. เยน เกนจิ ฉนฺเน, ปริจฺฉนฺเน จ สหเสยฺยปฺปโหนเก ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิวาสเคเห อนฺโตวุตฺถาทิโทโส, น อฺตฺถ. เตนาห ‘‘ยํ ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘สงฺฆิกํ วา ปุคฺคลิกํ วา’’ติ อิทํ กิฺจาปิ ภิกฺขุนีนํ สามฺโต วุตฺตํ, ภิกฺขูนํ ปน สงฺฆิกํ ปุคฺคลิกฺจ ภิกฺขุนีนํ, ตาสํ สงฺฆิกํ ปุคฺคลิกฺจ ภิกฺขูนํ คิหิสนฺตกฏฺาเน ติฏฺตีติ เวทิตพฺพํ.
มุขสนฺนิธีติ อนฺโตสนฺนิหิตโทโส หิ มุขปฺปเวสนนิมิตฺตํ อาปตฺตึ กโรติ, นาฺถา. ตสฺมา ‘‘มุขสนฺนิธี’’ติ วุตฺโต.
ตตฺถ ตตฺถ ขณฺฑา โหนฺตีติ อุปฑฺฒโต อธิกํ ขณฺฑา โหนฺติ. สพฺพสฺมึ ฉทเน วินฏฺเติ ติณปณฺณาทิวสฺสปริตฺตายเก ฉทเน วินฏฺเ. โคปานสีนํ ปน อุปริ วลฺลีหิ พทฺธทณฺเฑสุ ิเตสุปิ ชหิตวตฺถุกา โหนฺติ เอว. ปกฺขปาสกมณฺฑลนฺติ เอกสฺมึ ปสฺเส ติณฺณํ โคปานสีนํ อุปริ ิตติณปณฺณาทิจฺฉทนํ วุจฺจติ.
อนุปสมฺปนฺนสฺส ทาตพฺโพ อสฺสาติอาทินา อกปฺปิยกุฏิยํ วุตฺถมฺปิ อนุปสมฺปนฺนสฺส ทินฺเน กปฺปิยํ โหติ, สาเปกฺขทานฺเจตฺถ วฏฺฏติ, ปฏิคฺคหณํ วิย น โหตีติ ทสฺเสติ.
๒๙๙. ปาฬิยํ กนฺตาเร สมฺภาเวสีติ อปฺปภกฺขกนฺตาเร สมฺปาปุณิ.
กปฺปิยภูมิอนุชานนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เกณิยชฏิลวตฺถุกถาวณฺณนา
๓๐๐. ชฏิโลติ ¶ อาหริมชฏาธโร ตาปสเวสธารโก ยฺยุตฺโต โลกปูชิโต พฺราหฺมโณ. ปวตฺตาโร ปาวจนวเสน วตฺตาโร. เยสํ สนฺตกมิทํ, เยหิ วา อิทํ คีตนฺติ อตฺโถ. คีตํ ปวุตฺตํ สมิหิตนฺติ อฺมฺสฺส ปริยายวจนํ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. ตทนุคายนฺตีติ ตํ เตหิ ปุพฺเพ คีตํ อนุคายนฺติ. เอวํ เสเสสุ จ.
ยาวกาลิกปกฺกานนฺติ ปกฺเก สนฺธาย วุตฺตํ, อามานิ ปน อนุปสมฺปนฺเนหิ สีตุทเก มทฺทิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา ทินฺนปานํ ปจฺฉาภตฺตมฺปิ กปฺปติ เอว. อยฺจ อตฺโถ มหาอฏฺกถายํ สรูปโต ¶ อวุตฺโตติ อาห ‘‘กุรุนฺทิยํ ปนา’’ติอาทิ. ‘‘อุจฺฉุรโส นิกสโฏ’’ติ อิทํ ปาตพฺพสามฺเน ยามกาลิกกถายํ วุตฺตํ, ตํ ปน สตฺตาหกาลิกเมวาติ คเหตพฺพํ. อิเม จตฺตาโร รสาติ ผลปตฺตปุปฺผอุจฺฉุรสา จตฺตาโร.
ปาฬิยํ อคฺคิหุตฺตมุขาติ อคฺคิชุหนปุพฺพกา. ฉนฺทโสติ เวทสฺส. สาวิตฺตี มุขํ ปมํ สชฺฌายิตพฺพาติ อตฺโถ. ตปตนฺติ วิโชตนฺตานํ.
เกณิยชฏิลวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
โรชมลฺลาทิวตฺถุกถาวณฺณนา
๓๐๑. พหุกโต พุทฺเธ วาติ พุทฺเธ กตพหุมาโนติ อตฺโถ. โส โข อหํ, ภนฺเต อานนฺท, าตีนํ ทณฺฑภยตชฺชิโต อโหสินฺติ เสโส. เอวฺหิ สติ ‘‘เอวาห’’นฺติ ปุน อหํ-คหณํ ยุชฺชติ. วิวรีติ ‘‘วิวรตู’’ติ จินฺตามตฺเตน วิวริ, น อุฏฺาย หตฺเถน.
๓๐๓. อฺตโรติ สุภทฺโท วุฑฺฒปพฺพชิโต. ทฺเว ทารกาติ สามเณรภูมิยํ ิตา ทฺเว ปุตฺตา. นาฬิยาวาปเกนาติ นาฬิยา เจว ถวิกาย จ. สํหรถ อิเมหิ ภาชเนหิ ตณฺฑุลาทีนิ สงฺกฑฺฒถาติ อตฺโถ. ภุสาคาเรติ ปลาลมเย อคาเร, ปลาลปฺุชํ อพฺภนฺตรโต ปลาลํ สงฺกฑฺฒิตฺวา อคารํ กตํ โหติ, ตตฺถาติ อตฺโถ.
โรชมลฺลาทิวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุมหาปเทสกถาวณฺณนา
๓๐๕. ปริมทฺทนฺตาติ ¶ อุปปริกฺขนฺตา. ทฺเว ปฏา เทสนาเมเนว วุตฺตาติ เตสํ สรูปทสฺสนปทเมตํ. นาฺนิวตฺตนปทํ ปตฺตุณฺณปฏสฺสาปิ เทสนาเมน วุตฺตตฺตา.
ตุมฺพาติ ภาชนานิ. ผลตุมฺโพ นาม ลาพุอาทิ. อุทกตุมฺโพ อุทกฆโฏ. กิลฺชจฺฉตฺตนฺติ เวฬุวิลีเวหิ วายิตฺวา กตฉตฺตํ. สมฺภินฺนรสนฺติ มิสฺสีภูตรสํ.
จตุมหาปเทสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เภสชฺชกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๗. กถินกฺขนฺธโก
กถินานุชานนกถาวณฺณนา
๓๐๖. กถินกฺขนฺธเก ¶ ¶ สีสวเสนาติ ปธานวเสน. กถินนฺติ ปฺจานิสํเส อนฺโตกรณสมตฺถตาย ถิรนฺติ อตฺโถ. โส เนสํ ภวิสฺสตีติ ยุชฺชตีติ ‘‘โส ตุมฺหาก’’นฺติ อวตฺวา ‘‘เนส’’นฺติ วจนํ ยุชฺชติ. เย อตฺถตกถินาติ น เกวลํ ตุมฺหากเมว, เย อฺเปิ อตฺถตกถินา, เตสํ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. อถ วา โวติ ตทา สมฺมุขีภูเตหิ สทฺธึ อสมฺมุขีภูเต จ อนาคเต จ ภิกฺขู สพฺเพ เอกโต สมฺปิณฺเฑตฺวา วุตฺตํ, ตุมฺหากนฺติ อตฺโถ. โส เนสนฺติ เอตฺถ โส เตสนฺติ โยเชตพฺพํ. เตนาห ‘‘อตฺถตกถินานํ โว, ภิกฺขเว, อิมานิ ปฺจ กปฺปิสฺสนฺตี’’ติ. มตกจีวรนฺติ มตสฺส จีวรํ. ‘‘วุตฺถวสฺสวเสนา’’ติ อิทํ ปจฺฉิมวสฺสํวุตฺถานมฺปิ สาธารณนฺติ อาห ‘‘ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปมปวารณาย ปวาริตา ลภนฺตี’’ติ. อุปคตา วา น ลภนฺตีติ ปจฺฉิมิกาย วุตฺถวสฺเสปิ สนฺธาย วุตฺตํ.
ขลิมกฺขิตสาฏโกติ อหตวตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘อกาตุํ น ลพฺภตี’’ติ อิมินา อนาทริเย สติ ทุกฺกฏนฺติ ทีเปติ.
‘‘อปโลเกตฺวา’’ติ อิทํ อฺเสํ วสฺสํวุตฺถภิกฺขูนํ อทตฺวา ทาตุกาเมหิ กตฺตพฺพวิธิทสฺสนํ. ยทิ เอวํ กมฺมวาจาย เอว ทานํ อวุตฺตนฺติ อาห ‘‘กมฺมวาจา ปนา’’ติอาทิ. กถินจีวรํ วิย กมฺมวาจาย ทาตุํ น วฏฺฏตีติ อปโลเกตฺวาว ทาตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.
๓๐๘. มหาภูมิกนฺติ มหาวิสยํ, จตุวีสติอาการวนฺตตาย มหาวิตฺถาริกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปฺจกนฺติ ปฺจขณฺฑํ. เอเสว นโย เสเสสุปิ. ปมจิมิลิกาติ กถินวตฺถโต อฺา ¶ อตฺตโน ปกติจิมิลิกา. กุจฺฉิจิมิลิกํ กตฺวา สิพฺพิตมตฺเตนาติ ถิรชิณฺณานํ จิมิลิกานํ เอกโต กตฺวา สิพฺพนสฺเสตํ อธิวจนนฺติ วทนฺติ. มหาปจฺจริยํ, กุรุนฺทิยฺจ วุตฺตวจนนฺติ ทสฺสนํ, พฺยฺชนโต เอว เภโท, น อตฺถโตติ ทสฺสนตฺถํ กตนฺติปิ วทนฺติ. ปิฏฺิอนุวาตาโรปนมตฺเตนาติ ทีฆโต อนุวาตสฺส อาโรปนมตฺเตน. กุจฺฉิอนุวาตาโรปนมตฺเตนาติ ปุถุลโต อนุวาตสฺส อาโรปนมตฺเตน. รตฺตินิสฺสคฺคิเยนาติ รตฺติอติกฺกนฺเตน.
๓๐๙. หตวตฺถกสาฏเกนาติ ¶ อติชิณฺณสาฏโก. น หิ เตนาติอาทีสุ เตน ปริวาราคตปาเน อิธ อาเนตฺวา อวุจฺจมาเนน กถินตฺถารกสฺส ชานิตพฺเพสุ น กิฺจิ ปริหายติ, ตสฺส สพฺพสฺส อิเธว วุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย.
๓๑๐. มาตา วิยาติ มาติกา, อิวตฺเถ ก-ปจฺจโย ทฏฺพฺโพ. เตน สิทฺธมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘มาติกาติ มาตโร’’ติอาทิ. อสฺสาติ เอติสฺสา มาติกาย. ปกฺกมนนฺติโก กถินุพฺภาโร เอว หิ สยํ อตฺตโน อุปฺปชฺชตีติ เอวมเภทูปจาเรน ‘‘มาติกา’’ติ วุตฺโต อุพฺภารสฺเสว ปกฺกมนนฺเต สมุปฺปตฺติโต, ตพฺพินิมุตฺตาย จ มาติกาย อภาวา, ตปฺปกาสิกาปิ เจตฺถ ปาฬิ ‘‘มาติกา’’ติ วตฺตุํ ยุชฺชติ. สาปิ หิ ปกฺกมนนฺติกุพฺภารปฺปกาสเนน ‘‘ปกฺกมนนฺติกา’’ติ วุตฺตา. เอเสว นโย เสสุพฺภาเรสุปิ. ปกฺกมนนฺติ เจตฺถ อุปจารสีมาติกฺกมนํ ทฏฺพฺพํ.
กถินานุชานนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อาทายสตฺตกกถาวณฺณนา
๓๑๑. ‘‘น ปุน อาคมิสฺส’’นฺติ อิทํ อาวาสปลิโพธุปจฺเฉทการณทสฺสนํ. ปฺจสุ หิ จีวรมาเสสุ ยทา กทาจิ น ปจฺเจสฺสนฺติ จิตฺเตน อุปจารสีมาติกฺกเมน อาวาสปลิโพโธ ฉิชฺชติ. ปจฺเจสฺสนฺติ พหิอุปจารคตสฺส ปน ยตฺถ กตฺถจิ น ปจฺเจสฺสนฺติ จิตฺเต อุปฺปนฺนมตฺเต ฉิชฺชติ. ปมํ จีวรปลิโพโธ ฉิชฺชตีติ น ปจฺเจสฺสนฺติ ปกฺกมนโต ปุเรตรเมว จีวรสฺส นิฏฺิตตฺตา วุตฺตํ. ‘‘กตจีวรมาทายา’’ติ หิ วุตฺตํ. อตฺถตกถินสฺส หิ ภิกฺขุโน ยาว ‘‘สงฺฆโต วา ทายกกุลาทิโต วา จีวรํ ลภิสฺสามี’’ติ จีวราสา วา ลทฺธวตฺถานํ สหายสมฺปทาทิโยคํ ลภิตฺวา สงฺฆาฏิอาทิภาเวน ‘‘ฉินฺทิตฺวา กริสฺสามี’’ติ กรณิจฺฉา วา ปวตฺตติ, ตาว จีวรปลิโพโธ อนุปจฺฉินฺโน เอว. ยทา ปน ยถาปตฺถิตฏฺานโต จีวราทีนํ สพฺพถา ¶ อลาเภน วา จีวราสา เจว ลทฺธานํ กตฺวา นิฏฺาเนน วา นฏฺวินฏฺาทิภาเวน วา จีวเร นิรเปกฺขตาย วา กรณิจฺฉา จ วิคจฺฉติ, ตทา จีวรปลิโพโธ อุปจฺฉินฺโน โหติ.
โส ¶ จ อิธ ‘‘กตจีวรํ อาทายา’’ติ วจเนน ปกาสิโต. เอวํ อุปริ สพฺพตฺถ ปาฬิวจนกฺกมํ นิสฺสาย เนสํ ปมํ, ปจฺฉา จ อุปจฺฉิชฺชนํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สพฺพถาปิ จ อิเมสํ อุภินฺนํ ปลิโพธานํ อุปจฺเฉเทเนว กถินุพฺภาโร, น เอกสฺส. เตสฺจ ปุพฺพาปริเยน, เอกกฺขเณ จ อุปจฺฉิชฺชนํ ทสฺเสตุํ อิมา อฏฺ มาติกา ปิตาติ เวทิตพฺพา. อนฺโตสีมายนฺติ จีวรนิฏฺานกฺขเณเยว ฉินฺนตฺตา วุตฺตํ. เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสนฺติ จีวเร อเปกฺขาย วิคตตฺตา กรณปลิโพธสฺสาปิ อุปจฺฉินฺนตํ ทสฺเสติ. โย ปน อปฺปิจฺฉตาย วา อนตฺถิกตาย วา สพฺพถา จีวรํ น สมฺปฏิจฺฉติ, ตสฺส พหิสีมาคตสฺส สพฺพถาปิ จีวรปลิโพธาภาเวน น ปจฺเจสฺสนฺติ สนฺนิฏฺานมตฺเตน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุพฺภาโร เวทิตพฺโพ. โส ปนาติ ปลิโพธุปจฺเฉโท. อยํ ปนาติ อาสาวจฺเฉทโก กถินุพฺภาโร วิสุํ วิตฺถาเรตฺวา วุตฺโต, อิธ น วุตฺโตติ สมฺพนฺโธ.
อนาสาย ลภตีติ ‘‘ยสฺมึ กุเล จีวรํ ลภิสฺสามา’’ติ อาสา อนุปฺปนฺนปุพฺพา, ตตฺถ จีวราสาย อนุปฺปนฺนฏฺาเน ยตฺถ กตฺถจิ ลภตีติ อตฺโถ. อาสาย น ลภตีติ อาสีสิตฏฺาเน น ลภตีติ อตฺโถ. อิธ น วุตฺโตติ อิธ สวนนฺติกานนฺตเร น วุตฺโต. ตตฺถาติ ตสฺมึ สีมาติกฺกนฺติเก. สีมาติกฺกนฺติโก นาม จีวรมาสานํ ปริยนฺตทิวสสงฺขาตาย สีมาย อติกฺกมนโต สฺชาโต. เกจิ ‘‘พหิสีมาย กาลาติกฺกโม สีมาติกฺกโม’’ติ มฺนฺติ, เตสํ อนฺโตอุปจาเร จีวรกาลาติกฺกเมปิ กถินุพฺภาโร อสมฺมโต นาม สิยาติ น เจตํ ยุตฺตํ. ตสฺมา ยตฺถ กตฺถจิ กาลาติกฺกโม สีมาติกฺกโมติ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ ปาฬิยํ ‘‘กตจีวโร’’ติ อิทํ อุปลกฺขณมตฺตํ, อกตจีวรสฺสปิ กาลาติกฺกเมน สีมาติกฺกนฺติโก โหติ, ทฺเว จ ปลิโพธา เอกโต ฉิชฺชนฺติ. เอวํ อฺตฺถาปิ ยถาสมฺภวํ ตํตํ วิเสสนาภาเวปิ กถินุพฺภารตา, ปลิโพธุปจฺเฉทปฺปกาโร จ เวทิตพฺโพ. ‘‘สหุพฺภาเร ทฺเวปิ ปลิโพธา อปุพฺพํ อจริมํ ฉิชฺชนฺตี’’ติ อิทํ อกตจีวรสฺส ปจฺเจสฺสนฺติ อธิฏฺานสมฺภวปกฺขํ สนฺธาย วุตฺตํ, เตสุ อฺตราภาเวปิ สหุพฺภาโรว โหติ.
๓๑๒-๓๒๕. สมาทายวาโร อาทายวารสทิโสว. อุปสคฺคเมเวตฺถ วิเสโส. เตนาห ‘‘ปุน สมาทายวาเรปิ…เป… เตเยว ทสฺสิตา’’ติ ¶ . วิปฺปกตจีวเร ปกฺกมนนฺติกสฺส อภาวโต ‘‘ยถาสมฺภว’’นฺติ วุตฺตํ. เตเนว วิปฺปกตจีวรวาเร ฉเฬว อุพฺภารา วุตฺตา, จีวเร หตฺถคเต ¶ จ อาสาวจฺเฉทิกสฺส อสมฺภวา, โส เอเตสุ วาเรสุ ยตฺถ กตฺถจิ น วุตฺโต, วิสฺุเว วุตฺโต. วิปฺปกตวาเร เจตฺถ อาทายวารสมาทายวารวเสน ทฺเว ฉกฺกวารา วุตฺตา.
ตโต ปรํ นิฏฺานสนฺนิฏฺานนาสนนฺติกานํ วเสน ตีณิ ติกานิ ทสฺสิตานิ. ตตฺถ ตติยตฺติเก อนธิฏฺิเตนาติ ‘‘ปจฺเจสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ เอวํ อนธิฏฺิเตน, น เอวํ มนสิกตฺวาติ อตฺโถ. ตติยตฺติกโต ปน ปรํ เอกํ ฉกฺกํ ทสฺสิตํ. เอวํ ตีณิ ติกานิ, เอกํ ฉกฺกฺจาติ ปมํ ปนฺนรสกํ วุตฺตํ, อิมินา นเยน ทุติยปนฺนรสกาทีนิ เวทิตพฺพานิ.
ปาฬิยํ อาสาทฺวาทสเก พหิสีมาคตสฺส กถินุทฺธาเรสุ เตสมฺปิ จีวราสาทิวเสน จีวรปลิโพโธ ยาว จีวรนิฏฺานา ติฏฺตีติ อาห ‘‘โส พหิสีมาคโต สุณาติ ‘อุพฺภตํ กิร ตสฺมึ อาวาเส กถินนฺติ…เป… สวนนฺติโก กถินุทฺธาโร’’’ติ. เอตฺถ จ สวนกฺขเณ อาวาสปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ, นิฏฺิเต จีวรปลิโพโธติ เวทิตพฺโพ.
ทิสํคมิกนวเก ทิสํคมิโก ปกฺกมตีติ น ปจฺเจสฺสนฺติ ปกฺกมติ, อิมินา อาวาสปลิโพธาภาโว ทสฺสิโต โหติ. เตเนว วสฺสํวุตฺถาวาเส ปุน คนฺตฺวา จีวรนิฏฺาปิตมตฺเต นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร วุตฺโต. ‘‘จีวรปฏิวิสํ อปวิลายมาโน’’ติ อิมินา จีวรปลิโพธสมงฺคิกตฺตมสฺส ทสฺเสติ, อปวิลายมาโนติ อากงฺขมาโน. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
อาทายสตฺตกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
กถินกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๘. จีวรกฺขนฺธโก
ชีวกวตฺถุกถาทิวณฺณนา
๓๒๙. จีวรกฺขนฺธเก ¶ ¶ กมฺมวิปากนฺติ กมฺมปจฺจยอุตุจิตฺตาหารสมุฏฺิตํ อปฺปฏิพาหิยโรคํ สนฺธาย วุตฺตํ กมฺมชสฺส โรคสฺส อภาวา.
๓๓๐. ปาฬิยํ สํยมสฺสาติ สงฺคหณสฺส. อวิสชฺชนสฺสาติ อตฺโถ ‘‘โย สํยโม โส วินาโส’’ติอาทีสุ (เป. ว. ๒๓๗) วิย. เอตสฺส สํยมสฺส ผลํ อุปชานามาติ โยชนา. ตเมว ผลํ ทสฺเสนฺตี อาห ‘‘วรเมตํ…เป… อาสิตฺต’’นฺติ. เกจิ ปน ‘‘สํยมสฺสาติ อานิสํสสฺส, อุปโยคตฺเถ เจตํ สามิวจน’’นฺติ (สารตฺถ. ฏี. มหาวคฺค ๓.๓๒๙-๓๓๐) อตฺถํ วทนฺติ.
๓๓๖. อุสฺสนฺนโทโสติ สฺชาตปิตฺตาทิโทโส. สพฺพตฺถาติ สกลสรีเร.
๓๓๗. มหาปิฏฺิยโกชวนฺติ หตฺถิปิฏฺิยํ อตฺถริตพฺพตาย ‘‘มหาปิฏฺิย’’นฺติ ลทฺธสมฺํ อุณฺณามยตฺถรณํ.
๓๓๘-๙. อุปฑฺฒกาสินํ ขมมานนฺติ อฑฺฒกาสิอคฺฆนกํ. ปาฬิยํ กึ นุ โขติ กตมํ นุ โข.
๓๔๐-๓๔๒. อุปจาเรติ สุสานสฺส อาสนฺเน ปเทเส. ฉฑฺเฑตฺวา คตาติ กิฺจิ อวตฺวา เอว ฉฑฺเฑตฺวา คตา, เอเตน ‘‘ภิกฺขู คณฺหนฺตู’’ติ ฉฑฺฑิเต เอว อกามา ภาคทานํ วิหิตํ, เกวลํ ฉฑฺฑิเต ปน กติกาย อสติ เอกโต พหูสุ ปวิฏฺเสุ เยน คหิตํ, เตน อกามภาโค น ¶ ทาตพฺโพติ ทสฺเสติ. สมานา ทิสา ปุรตฺถิมาทิเภทา เอเตสนฺติ สทิสาติ อาห ‘‘เอกทิสาย วา โอกฺกมึสู’’ติ. ธุรวิหารฏฺาเนติ วิหารสฺส สมฺมุขฏฺาเน.
ชีวกวตฺถุกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภณฺฑาคารสมฺมุติอาทิกถาวณฺณนา
๓๔๓. วิหารมชฺเฌติ ¶ สพฺเพสํ ชานนตฺถาย วุตฺตํ. วณฺณาวณฺณํ กตฺวาติ ปฏิวีสปฺปโหนกตาชานนตฺถํ หลิทฺทิยาทีหิ ขุทฺทกมหนฺตวณฺเณหิ ยุตฺเต สเม โกฏฺาเส กตฺวา. เตนาห ‘‘สเม ปฏิวีเส เปตฺวา’’ติ. อิทนฺติ สามเณรานํ อุปฑฺฒปฏิวีสทานํ. ผาติกมฺมนฺติ ปโหนกกมฺมํ. ยตฺตเกน วินยาคเตน สมฺมฺุชนีพนฺธนาทิหตฺถกมฺเมน วิหารสฺส อูนกตา น โหติ, ตตฺตกํ กตฺวาติ อตฺโถ. สพฺเพสนฺติ ตตฺรุปฺปาทวสฺสาวาสิกํ คณฺหนฺตานํ สพฺเพสํ ภิกฺขูนํ, สามเณรานฺจ. ภณฺฑาคาริกจีวเรปีติ อกาลจีวรํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอตนฺติ อุกฺกุฏฺิยา กตาย สมภาคทานํ. วิรชฺฌิตฺวา กโรนฺตีติ กตฺตพฺพกาเลสุ อกตฺวา ยถารุจิตกฺขเณ กโรนฺติ.
เอตฺตเกน มม จีวรํ ปโหตีติ ทฺวาทสคฺฆนเกเนว มม จีวรํ ปริปุณฺณํ โหติ, น ตโต อูเนนาติ สพฺพํ คเหตุกาโมติ อตฺโถ.
ภณฺฑาคารสมฺมุติอาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
จีวรรชนกถาทิวณฺณนา
๓๔๔. เอวฺหิ กเตติ วฏฺฏาธารสฺส อนฺโต รชโนทกํ, พหิ ฉลฺลิกฺจ กตฺวา วิโยชเน กเต. น อุตฺตรตีติ เกวลํ อุทกโต เผณุฏฺานาภาวา น อุตฺตรติ. รชนกุณฺฑนฺติ ปกฺกรชนฏฺปนกํ มหาฆฏํ.
๓๔๕. อนุวาตาทีนํ ทีฆปตฺตานนฺติ อายามโต, วิตฺถารโต จ อนุวาตํ. อาทิ-สทฺเทน ทฺวินฺนํ ขนฺธานํ อนฺตรา มาติกากาเรน ปิตปตฺตฺจ ‘‘ทีฆปตฺต’’นฺติ ทฏฺพฺพํ. อาคนฺตุกปตฺตนฺติ ทิคุณจีวรสฺส อุปริ อฺํ ปฏฺฏํ อปฺเปนฺติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตํ กิร อิทานิ น กโรนฺติ.
๓๔๖. ปาฬิยํ ¶ นนฺทิมุขิยาติ ตุฏฺิมุขิยา, ปสนฺนทิสามุขายาติ อตฺโถ.
๓๔๘. อจฺฉุเปยฺยนฺติ ปติฏฺเปยฺยํ. หตวตฺถกานนฺติ ปุราณวตฺถานํ. อนุทฺธริตฺวาวาติ อคฺคเฬ วิย ทุพฺพลฏฺานํ อนปเนตฺวาว.
๓๔๙-๓๕๑. วิสาขวตฺถุมฺหิ ¶ กลฺลกายาติ อกิลนฺตกายา. คตีติ าณคติ อธิคโม. อภิสมฺปราโยติ ‘‘สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรตี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๑๐๔๘) วุตฺโต าณาภิสมฺปราโย, มคฺคาณยุตฺเตหิ คนฺตพฺพคติวิเสโสติ อตฺโถ. ตํ ภควา พฺยากริสฺสติ. ‘‘ททาติ ทาน’’นฺติ อิทํ อนฺนปานวิรหิตานํ เสสปจฺจยานํ ทานวเสน วุตฺตํ. โสวคฺคิกนฺติ สคฺคสํวตฺตนิกํ.
๓๕๙. อฏฺปทกจฺฉนฺเนนาติ อฏฺปทกสงฺขาตชูตผลกเลขาสณฺาเนน.
๓๖๒. ปาฬิยํ นทีปารํ คนฺตุนฺติ ภิกฺขุโน นทีปารคมนํ โหตีติ อตฺโถ. อคฺคฬคุตฺติเยว ปมาณนฺติ อิเมหิ จตูหิ นิกฺเขปการเณหิ เปนฺเตนปิ อคฺคฬคุตฺติวิหาเร เอว เปตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. นิสฺสีมาคตนฺติ วสฺสานสงฺขาตํ กาลสีมํ อติกฺกนฺตํ, ตํ วสฺสิกสาฏิกจีวรํ น โหตีติ อตฺโถ.
จีวรรชนกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
สงฺฆิกจีวรุปฺปาทกถาวณฺณนา
๓๖๓. ปฺจ มาเสติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. วฑฺฒึ ปโยเชตฺวา ปิตอุปนิกฺเขปโตติ วสฺสาวาสิกสฺสตฺถาย ทายเกหิ วฑฺฒึ ปโยเชตฺวา ปิตอุปนิกฺเขปโต. ‘‘อิธ วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺสา’’ติ อิทํ อภิลาปมตฺตํ. อิธ-สทฺทํ ปน วินา ‘‘วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส เทมา’’ติ วุตฺเตปิ โส เอว นโย. อนตฺถตกถินสฺสาปิ ปฺจ มาเส ปาปุณาตีติ วสฺสาวาสิกลาภวเสน อุปฺปนฺนตฺตา อนตฺถตกถินสฺสาปิ วุตฺถวสฺสสฺส ปฺจ มาเส ปาปุณาติ. วกฺขติ หิ ‘‘จีวรมาสโต ปฏฺาย ยาว เหมนฺตสฺส ปจฺฉิโม ทิวโส, ตาว วสฺสาวาสิกํ เทมาติ วุตฺเต กถินํ อตฺถตํ วา โหตุ อนตฺถตํ วา, อตีตวสฺสํวุตฺถานเมว ปาปุณาตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙). ตโต ปรนฺติ ปฺจมาสโต ปรํ, คิมฺหานสฺส ปมทิวสโต ปฏฺายาติ ¶ อตฺโถ. ‘‘กสฺมา? ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนตฺตา’’ติ อิทํ ‘‘อุทาหุ อนาคตวสฺเส’’ติ ¶ อิมสฺสานนฺตรํ ทฏฺพฺพํ. โปตฺถเกสุ ปน ‘‘อนตฺถตกถินสฺสาปิ ปฺจ มาเส ปาปุณาตี’’ติ อิมสฺสานนฺตรํ ‘‘กสฺมา ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนตฺตา’’ติ อิทํ ลิขนฺติ, ตํ ปมาทลิขิตํ ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนํ สนฺธาย ‘‘อนตฺถตกถินสฺสาปี’’ติ วตฺตพฺพโต. วุตฺถวสฺเส หิ สนฺธาย ‘‘อนตฺถตกถินสฺสาปี’’ติ วุตฺตํ, น จ ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนํ วุตฺถวสฺสสฺเสว ปาปุณาตีติ สมฺมุขีภูตานํ สพฺเพสมฺปิ ปาปุณนโต. เตเนว วกฺขติ ‘‘สเจ ปน คิมฺหานํ ปมทิวสโต ปฏฺาย เอวํ วทติ, ตตฺร สมฺมุขีภูตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ. กสฺมา? ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนตฺตา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๑๗๙).
ทุคฺคหิตานีติ อคฺคหิตานิ. สงฺฆิกาเนวาติ อตฺโถ. อิโตวาติ เถรานํ ทาตพฺพโตว, อิทาเนวาติ วา อตฺโถ.
สงฺฆิกจีวรุปฺปาทกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุปนนฺทสกฺยปุตฺตวตฺถุกถาวณฺณนา
๓๖๔. ‘‘สตฺตาหวาเรน อรุณเมว อุฏฺาเปตี’’ติ อิทํ นานาสีมาวิหาเรสุ กตฺตพฺพนเยน เอกสฺมิมฺปิ วิหาเร ทฺวีสุ เสนาสเนสุ นิวุตฺถภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, อรุณุฏฺาปเนเนว ตตฺถ วุตฺโถ โหติ, น ปน วสฺสจฺเฉทปริหาราย. อนฺโตอุปจารสีมายปิ ยตฺถ กตฺถจิ อรุณํ อุฏฺาเปนฺโต อตฺตนา คหิตเสนาสนํ อปฺปวิฏฺโปิ วุตฺถวสฺโส เอว โหติ, คหิตเสนาสเน ปน นิวุตฺโถ นาม น โหติ, ตตฺถ จ อรุณุฏฺาปเน ปน สติ โหติ. เตนาห ‘‘ปุริมสฺมึ พหุตรํ นิวสติ นามา’’ติ, เอเตน จ อิตรสฺมึ สตฺตาหวาเรนาปิ อรุณุฏฺาปเน สติ เอว อปฺปกตรํ นิวสติ นาม โหติ, นาสตีติ ทีปิตํ โหติ. นานาลาเภหีติ วิสุํ วิสุํ นิพทฺธวสฺสาวาสิกลาเภหิ. นานูปจาเรหีติ นานาปริกฺเขปนานาทฺวาเรหิ. เอกสีมาวิหาเรหีติ ทฺวินฺนํ วิหารานํ เอเกน ปากาเรน ปริกฺขิตฺตตฺตา เอกาย อุปจารสีมาย อนฺโตคเตหิ ทฺวีหิ วิหาเรหิ. เสนาสนคฺคาโห ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ ปมํ คหิโต ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. ตตฺถาติ ยตฺถ เสนาสนคฺคาโห ปฏิปฺปสฺสทฺโธ, ตตฺถ.
อุปนนฺทสกฺยปุตฺตวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
คิลานวตฺถุกถาวณฺณนา
๓๖๕-๖. ภูมิยํ ¶ ¶ ปริภณฺฑํ อกาสีติ คิลาเนน นิปนฺนภูมิยํ กิลิฏฺฏฺานํ โธวิตฺวา หริตูปลิตฺตํ กาเรสีติ อตฺโถ. เภสชฺชํ โยเชตุํ อสมตฺโถติ ปเรหิ วุตฺตวิธิมฺปิ กาตุํ อสมตฺโถ. ปาฬิยํ คิลานุปฏฺากานํ จีวรทาเน สามเณรานํ ติจีวราธิฏฺานาภาวา ‘‘จีวรฺจ ปตฺตฺจา’’ติอาทิ สพฺพตฺถ วุตฺตํ. สเจปิ สหสฺสํ อคฺฆติ, คิลานุปฏฺากานฺเว ทาตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ.
คิลานวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
มตสนฺตกกถาทิวณฺณนา
๓๖๙. อฺนฺติ จีวรปตฺตโต อฺํ. อปฺปคฺฆนฺติ อติชิณฺณาทิภาเวน นิหีนํ. ตโตติ อวเสสปริกฺขารโต. สพฺพนฺติ ปตฺตํ, ติจีวรฺจ.
ตตฺถ ตตฺถ สงฺฆสฺเสวาติ ตสฺมึ ตสฺมึ วิหาเร สงฺฆสฺเสว. ปาฬิยํ อวิสฺสชฺชิกํ อเวภงฺคิกนฺติ อาคตานาคตสฺส จาตุทฺทิสสฺส สงฺฆสฺเสว สนฺตกํ หุตฺวา กสฺสจิ อวิสฺสชฺชิกํ อเวภงฺคิกํ ภวิตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ.
๓๗๑-๒. อกฺกนาฬมยนฺติ อกฺกทณฺฑมยํ. อกฺกทุสฺสานีติ อกฺกวาเกน กตทุสฺสานิ, โปตฺถกคติกานิ ทุกฺกฏวตฺถุกานีติ อตฺโถ. ทุปฏฺฏจีวรสฺส วา มชฺเฌติ ยํ นิฏฺิเต ติปฏฺฏจีวรํ โหติ, ตสฺส มชฺเฌ ปฏลํ กตฺวา ทาตพฺพานีติ อตฺโถ.
๓๗๔. ‘‘สนฺเต ปติรูเป คาหเก’’ติ วุตฺตตฺตา คาหเก อสติ อทตฺวา ภาชิเตปิ สุภาชิตเมวาติ ทฏฺพฺพํ.
๓๗๖. ทกฺขิโณทกํ ปมาณนฺติ ‘‘เอตฺตกานิ จีวรานิ ทสฺสามี’’ติ ปมํ อุทกํ ปาเตตฺวา ปจฺฉา เทนฺติ. ตํ เยหิ คหิตํ, เต ภาคิโนว โหนฺตีติ ¶ อธิปฺปาโย. ปรสมุทฺเทติ ชมฺพุทีเป. ตมฺพปณฺณิทีปฺหิ อุปาทาเยส เอวํ วุตฺโต.
มตสนฺตกกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
อฏฺจีวรมาติกากถาวณฺณนา
๓๗๙. ปุคฺคลาธิฏฺานนเยน ¶ วุตฺตนฺติ ‘‘สีมาย ทาน’’นฺติอาทินา วตฺตพฺเพ ‘‘สีมาย เทตี’’ติอาทิ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน วุตฺตํ. ‘‘อปิจา’’ติอาทินา ปมเลฑฺฑุปาตภูตปริกฺเขปารหฏฺานโต พหิ ทุติยเลฑฺฑุปาโตปิ อุปจารสีมา เอวาติ ทสฺเสติ. ธุวสนฺนิปาตฏฺานาทิกมฺปิ ปริยนฺเต ิตเมว คเหตพฺพํ. โลเก คามสีมาทโย วิย ลาภสีมา นาม วิสุํ ปสิทฺธา นาม นตฺถิ, เกนายํ อนฺุาตาติ อาห ‘‘เนว สมฺมาสมฺพุทฺเธนา’’ติอาทิ. เอเตน นายํ สาสนโวหารสิทฺธา, โลกโวหารสิทฺธา เอวาติ ทสฺเสติ. ‘‘ชนปทปริจฺเฉโท’’ติ อิทํ โลกปสิทฺธสีมาสทฺทตฺถวเสน วุตฺตํ. ปริจฺเฉทพฺภนฺตรํ ปน สพฺพํ ชนปทสีมาติ คเหตพฺพํ, ชนปโท เอว ชนปทสีมา. เอวํ รฏฺสีมาทีสุปิ. เตนาห ‘‘อาณาปวตฺติฏฺาน’’นฺติอาทิ.
ปถวีเวมชฺเฌ คตสฺสาติ ยาว อุทกปริยนฺตา ขณฺฑสีมตฺตา วุตฺตํ, อุปจารสีมาทีสุ ปน อพทฺธสีมาสุ เหฏฺาปถวิยํ สพฺพตฺถ ิตานํ น ปาปุณาติ, กูปาทิปเวสารหฏฺาเน ิตานฺเว ปาปุณาตีติ เหฏฺา สีมากถายํ วุตฺตนเยน ตํตํสีมฏฺภาโว เวทิตพฺโพ. จกฺกวาฬสีมาย ปน ทินฺนํ ปถวีสนฺธารกอุทกฏฺาเนปิ ิตานํ ปาปุณาติ สพฺพตฺถ จกฺกวาฬโวหารตฺตา.
พุทฺธาธิวุตฺโถติ พุทฺเธน ภควตา นิวุตฺโถ. ปากวฏฺฏนฺติ นิพทฺธทานํ. วตฺตตีติ ปวตฺตติ. เตหีติ เยสํ สมฺมุเข เอส เทติ, เตหิ ภิกฺขูหิ. ทุติยภาเค ปน เถราสนํ อารุฬฺเหติ ยาว สงฺฆนวกา เอกวารํ สพฺเพสํ ภาคํ ทตฺวา จีวเร อปริกฺขีเณ ปุน สพฺเพสํ ทาตุํ ทุติยภาเค เถรสฺส ทินฺเนติ อตฺโถ. ปํสุกูลิกานมฺปิ วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘ตุยฺหํ เทมา’’ติ อวุตฺตตฺตาติ การณํ วทนฺติ. ยทิ เอวํ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ วุตฺเตปิ ¶ วฏฺเฏยฺย, ‘‘ภิกฺขูนํ เทม, เถรานํ เทม, สงฺฆสฺส เทมา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙) วจนโต เภโท น ทิสฺสติ. วีมํสิตพฺพเมตฺถ การณํ.
ปารุปิตุํ วฏฺฏตีติ ปํสุกูลิกานํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนฺจ ทมฺมีติ วุตฺเต ปน น มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา ทาตพฺพนฺติ เอตฺถ ยสฺมา ภิกฺขุนิปกฺเข สงฺฆสฺส ปจฺเจกํ อปรามฏฺตฺตา ภิกฺขุนีนํ คณนาย ภาโค ทาตพฺโพติ ทายกสฺส อธิปฺปาโยติ สิชฺฌติ, ตถา ทานฺจ ภิกฺขูปิ คเณตฺวา ทินฺเน เอว ยุชฺชติ. อิตรถา หิ กิตฺตกํ ภิกฺขูนํ ทาตพฺพํ, กิตฺตกํ ภิกฺขุนีนนฺติ น วิฺายติ, ตสฺมา ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺสา’’ติ วุตฺตวจนมฺปิ ‘‘ภิกฺขูน’’นฺติ วุตฺตวจนสทิสเมวาติ อาห ‘‘ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา ทาตพฺพ’’นฺติ. เตนาห ‘‘ปุคฺคโล ¶ …เป… ภิกฺขุสงฺฆคฺคหเณน อคฺคหิตตฺตา’’ติ. ภิกฺขุสงฺฆ-สทฺเทน ภิกฺขูนฺเว คหิตตฺตา, ปุคฺคลสฺส ปน ‘‘ตุยฺหฺจา’’ติ วิสุํ คหิตตฺตา จ ตตฺถสฺส อคฺคหิตตา ทฏฺพฺพา, ‘‘ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺตฏฺานสทิสตฺตาติ อธิปฺปาโย. ปุคฺคลปฺปธาโน เหตฺถ สงฺฆ-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. เกจิ ปน ‘‘ภิกฺขุสงฺฆคฺคหเณน คหิตตฺตา’’ติ (สารตฺถ. ฏี. มหาวคฺค ๓.๓๗๙) ปาํ ลิขนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ ตสฺส วิสุํ ลาภคฺคหเณ การณวจนตฺตา. ตถา หิ วิสุํ สงฺฆคฺคหเณน คหิตตฺตาติ วิสุํ ปุคฺคลสฺสปิ ภาคคฺคหเณ การณํ วุตฺตํ. ยถา เจตฺถ ปุคฺคลสฺส อคฺคหณํ, เอวํ อุปริ ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจา’’ติอาทีสุปิ สงฺฆาทิ-สทฺเทหิ ปุคฺคลสฺส อคฺคหณํ ทฏฺพฺพํ. ยทิ หิ คหณํ สิยา, สงฺฆโตปิ, วิสุมฺปีติ ภาคทฺวยํ ลเภยฺย อุภยตฺถ คหิตตฺตา.
ปูเชตพฺพนฺติอาทิ คิหิกมฺมํ น โหตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส หรา’’ติ อิทํ ปิณฺฑปาตหรณํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ภฺุชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘อนฺโตเหมนฺเต’’ติ อิมินา อนตฺถเต กถิเน วสฺสานํ ปจฺฉิเม มาเส ทินฺนํ ปุริมวสฺสํวุตฺถานฺเว ปาปุณาติ, ตโต ปรํ เหมนฺเต ทินฺนํ ปจฺฉิมวสฺสํวุตฺถานมฺปิ วุตฺถวสฺสตฺตา ปาปุณาติ. เหมนฺตโต ปน ปรํ ปิฏฺิสมเย ‘‘วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺสา’’ติ เอวํ วตฺวา ทินฺนํ อนนฺตเร วสฺเส วา ตโต ปเรสุ วา ยตฺถ กตฺถจิ ตสฺมึ วุตฺถวสฺสานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ. เย ปน สพฺพถา อวุตฺถวสฺสา, เตสํ น ปาปุณาตีติ ทสฺเสติ. สพฺเพสมฺปีติ หิ ตสฺมึ ภิกฺขุภาเว วุตฺถวสฺสานํ สพฺเพสมฺปีติ อตฺโถ ¶ ทฏฺพฺโพ. ‘‘วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา สมฺมุขีภูตานํ สพฺเพสนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อตีตวสฺสนฺติ อนนฺตราตีตวสฺสํ.
อุทฺเทสํ คเหตุํ อาคโตติ อุทฺเทเส อคฺคหิเตปิ อนฺเตวาสิโกวาติ วุตฺตํ. คเหตฺวา คจฺฉนฺโตติ ปรินิฏฺิตอุทฺเทโส หุตฺวา คจฺฉนฺโต. ‘‘วตฺตํ กตฺวา อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนิ คเหตฺวา วิจรนฺตาน’’นฺติ อิทํ ‘‘อุทฺเทสนฺเตวาสิกาน’’นฺติ อิมสฺเสว วิเสสนํ, เตน อุทฺเทสกาเล อาคนฺตฺวา อุทฺเทสํ คเหตฺวา คนฺตฺวา อฺตฺถ นิวสนฺเต อนิพทฺธจาริเก นิวตฺเตติ.
อฏฺจีวรมาติกากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
จีวรกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๙. จมฺเปยฺยกฺขนฺธโก
กสฺสปโคตฺตภิกฺขุวตฺถุกถาทิวณฺณนา
๓๘๐. จมฺเปยฺยกฺขนฺธเก ¶ ¶ ตนฺติพทฺโธติ ตนฺติ วุจฺจติ พฺยาปาโร, ตตฺถ พทฺโธ, อุสฺสุกฺกํ อาปนฺโนติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ตสฺมึ อาวาเส’’ติอาทิ.
๓๘๗-๘. หาปนํ วา อฺถา กรณํ วา นตฺถีติ ตฺติกมฺมสฺส ตฺติยา เอกตฺตา หาปนํ น สมฺภวติ, ตสฺสา เอกตฺตา เอว ปจฺฉา ตฺติปนวเสน, ทฺวิกฺขตฺตุํ ปนวเสน จ อฺถา กรณํ นตฺถิ. ปรโตติ ปริวาเร. ตนฺติ ปพฺพาชนียกมฺมํ, ตสฺสาติ อตฺโถ.
กสฺสปโคตฺตภิกฺขุวตฺถุกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทฺเวนิสฺสรณาทิกถาวณฺณนา
๓๙๕. เอสาติ ‘‘พาโล’’ติอาทินา นิทฺทิฏฺปุคฺคโล, อปฺปตฺโตติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ การณมาห ‘‘ยสฺมา’’ติอาทิ. ตตฺถ อาเวณิเกน ลกฺขเณนาติ ปพฺพาชนียกมฺมสฺส นิมิตฺตภาเวน ปาฬิยํ วุตฺตตฺตา อสาธารณภูเตน กุลทูสกภาเวน. ยทิ เหส ตํ กมฺมํ อปฺปตฺโต, กถํ ปน สุนิสฺสาริโตติ อาห ‘‘ยสฺมา ปนสฺส อากงฺขมาโน สงฺโฆ ปพฺพาชนียกมฺมํ กเรยฺยาติ วุตฺตํ, ตสฺมา สุนิสฺสาริโต’’ติ. ตตฺถ วุตฺตนฺติ กมฺมกฺขนฺธเก (จูฬว. ๒๗) วุตฺตํ.
เอตฺถ ปน กุลทูสกกมฺมํ กตฺวา ปพฺพาชนียกมฺมกตสฺส เตรสกกณฺฑกฏฺกถายํ ‘‘ยสฺมึ วิหาเร วสนฺเตน ยสฺมึ คาเม กุลทูสกกมฺมํ กตํ โหติ, ตสฺมึ วิหาเร วา ตสฺมึ คาเม วา น วสิตพฺพ’’นฺติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๓) ยา สมฺมาวตฺตนา วุตฺตา, สา อิตเรนาปิ ¶ ปูเรตพฺพา. ยํ ปน ปฏิปฺปสฺสทฺธกมฺมสฺส กุลทูสกสฺส ตตฺเถว อฏฺกถายํ ‘‘เยสุ กุเลสุ กุลทูสกกมฺมํ กตํ, ตโต ปจฺจยา น คเหตพฺพา’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ น ปูเรตพฺพํ กุลสงฺคหสฺส อกตตฺตา. เอวํ เสสกมฺเมสุปิ. ยทิ เอวํ ‘‘ตชฺชนียกมฺมารหสฺส ¶ นิยสกมฺมํ กโรติ…เป… เอวํ โข, อุปาลิ, อธมฺมกมฺมํ โหตี’’ติอาทิวจนํ (มหาว. ๔๐๒) วิรุชฺฌตีติ? น วิรุชฺฌติ สงฺฆสนฺนิฏฺานวเสน ตชฺชนียาทิกมฺมารหตฺตสฺส สิชฺฌนโต. ยสฺส หิ สงฺโฆ ‘‘ตชฺชนียกมฺมํ กโรมา’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา กมฺมวาจํ สาเวนฺโต ปพฺพาชนียกมฺมวาจํ สาเวติ, ตสฺส กมฺมํ อธมฺมกมฺมํ โหติ. สเจ ปน ‘‘ตสฺเสว ปพฺพาชนียกมฺมเมว กโรมา’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา ตเทว กโรติ, ตสฺส ตํ กมฺมํ ธมฺมกมฺมนฺติ เวทิตพฺพํ.
เอวมิธ ‘‘นิสฺสารณ’’นฺติ อธิปฺเปตสฺส ปพฺพาชนียกมฺมสฺส วเสน อตฺถํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตทฺเสํ ตชฺชนียาทีนํ วเสน นิสฺสารเณ อธิปฺเปเต ‘‘อปฺปตฺโต นิสฺสารณ’’นฺติ อิมสฺส ปฏิปกฺขวเสน สมฺปตฺโต นิสฺสารณํ, ‘‘ตฺเจ สงฺโฆ นิสฺสาเรติ. สุนิสฺสาริโต’’ติ อตฺถสมฺภวํ ทสฺเสตุํ ปุน ‘‘ตฺเจ สงฺโฆ นิสฺสาเรตีติ สเจ สงฺโฆ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตชฺชนียาทิกมฺมวิสเย, เอเกนาปิ องฺเคน นิสฺสารณา อนฺุาตาติ โยชนา. ปาฬิยํ อปฺปตฺโต นิสฺสารณนฺติ เอตฺถ อาปนฺโน อาเวณิกวเสน ตชฺชนียาทิสงฺขาตํ นิสฺสารณํ ปตฺโตติ อตฺโถ คเหตพฺโพ.
ทฺเวนิสฺสรณาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
จมฺเปยฺยกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๑๐. โกสมฺพกกฺขนฺธโก
โกสมฺพกวิวาทกถาวณฺณนา
๔๕๑. โกสมฺพกกฺขนฺธเก ¶ ¶ สเจ โหติ, เทเสสฺสามีติ วินยธรสฺส วจเนน อาปตฺติทิฏฺึ ปฏิลภิตฺวา เอวมาห. เตเนว ปาฬิยํ ‘‘โส ตสฺสา อาปตฺติยา อนาปตฺติทิฏฺิ โหตี’’ติ วุตฺตํ. นตฺถิ อาปตฺตีติ อุทกสฺส ปนภาวํ อชานิตฺวา วา ปิตํ ฉฑฺเฑตฺวา วิสฺสริตฺวา วา คมเน อสฺจิจฺจ อสติยา อนาปตฺติปกฺโขปิ สมฺภวตีติ วินยธโร ตตฺถ อนาปตฺติทิฏฺึ ปฏิลภิตฺวา เอวมาห. เตเนว ปาฬิยํ ‘‘อฺเ ภิกฺขู ตสฺส อาปตฺติยา อนาปตฺติทิฏฺิโน โหนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ปริสายปิสฺส อนาปตฺติทิฏฺิยา อุปฺปนฺนตฺตา ‘‘อฺเ’’ติ พหุวจนํ กตํ. อนาปตฺติทิฏฺิ อโหสีติ สุตฺตนฺติกตฺเถรสฺส วินเย อปกตฺุตาย วินยธรสฺส วจนมตฺเตน โส เอวมโหสิ, สา ปนสฺส อาปตฺติ เอว อุทกาวเสสสฺส ปนภาวํ ตฺวา ปิตตฺตา. วตฺถุมตฺตชานเน เอว หิ เสขิยา สจิตฺตกา, น ปณฺณตฺติวิชานเน. เตเนว ปาฬิยํ ‘‘ตสฺสา อาปตฺติยา อนาปตฺติทิฏฺิ โหตี’’ติ สพฺพตฺถ อาปตฺติ อิจฺเจว วุตฺตํ. ‘‘อาปตฺตึ อาปชฺชมาโน’’ติ อิทํ วินยธรตฺเถโร ‘‘ตยา อิทํ อุทกํ ปิต’’นฺติ อตฺตนา ปุฏฺเน สุตฺตนฺติกตฺเถเรน ‘‘อามาวุโส’’ติ วุตฺตวจนํ สริตฺวา ปณฺณตฺติอโกวิทตาย สฺจิจฺเจว อกาสีติ อาปตฺติทิฏฺิ หุตฺวาว อโวจ. เตเนว ปาฬิยํ ‘‘อฺเ ภิกฺขู ตสฺสา อาปตฺติยา อาปตฺติทิฏฺิโน โหนฺตี’’ติ วุตฺตํ.
๔๕๓. ‘‘น ตาว ภินฺโน’’ติ อิทํ อุกฺขิปนตทนุวตฺตนมตฺเตน สงฺโฆ ภินฺโน นาม น โหติ, ตํ นิสฺสาย ปน อุภยปกฺขิกานํ ปกฺขํ ปริเยสิตฺวา อฺมฺํ โกธวเสน กายวจีกลหวฑฺฒเนเนว โหตีติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตนาห ‘‘โส จ โข กลหวเสนา’’ติ. สมฺภมอตฺถวเสนาติ ตุริตตฺถวเสน.
๔๕๔. อการเณติอาทิ ¶ อนุกฺขิปิตฺวาว อุปาเยน สฺาเปตฺวา หิเตสิตาย อาปตฺติโต โมเจตุํ ยุตฺตฏฺาเน โกธจิตฺตวเสน วิเหนตฺถาย กตภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ปน กมฺมงฺคสฺส อภาวํ สนฺธาย. เตเนว ¶ ปาฬิยํ ‘‘อาปตฺติ เอสา, ภิกฺขเว, เนสา อนาปตฺติ…เป… อุกฺขิตฺโต เอโส ภิกฺขู’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๔๕๕. ‘‘อธมฺมวาทีนํ ปกฺเข นิสินฺโน’’ติ อิทํ อุปลกฺขณมตฺตํ, ธมฺมวาทีนํ ปกฺเข นิสีทิตฺวา อธมฺมวาทีนํ ลทฺธึ คณฺหนฺโตปิ ธมฺมวาทีนํ นานาสํวาสโก โหติ เอว. กมฺมํ โกเปตีติ ตํ วินา คณสฺส อปูรณปกฺขํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยตฺถ วา ตตฺถ วาติ ธมฺมวาทีนํ ปกฺเข วา อธมฺมวาทีนํ ปกฺเข วาติ อตฺโถ. อิเม ธมฺมวาทิโนติ คณฺหาตีติ ตํตํปกฺขคเต ภิกฺขู ยาถาวโต วา อยาถาวโต วา ‘‘อิเม ธมฺมวาทิโน’’ติ คณฺหาติ, อยํ ตํตํปกฺขคตานํ อตฺตานํ สมานสํวาสกํ กโรติ.
๔๕๖. อุปทํเสนฺตีติ ปวตฺเตนฺติ. ปาฬิยํ เอตฺตาวตาติ ‘‘เอตฺตกปเทสํ มฺุจิตฺวา นิสินฺนา มยํ โกธจิตฺเต อุปฺปนฺเนปิ อฺมฺํ อนนุโลมิกํ กายกมฺมาทึ ปวตฺเตตุํ น สกฺขิสฺสามา’’ติ สลฺเลกฺเขตฺวา ทูเร นิสีทิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘อุปจารํ มฺุจิตฺวา’’ติ.
๔๕๗. ปาฬิยํ ภณฺฑนชาตาติอาทีสุ กลหสฺส ปุพฺพภาโค ภณฺฑนํ นาม. หตฺถปรามาสาทิ กลโห นาม. วิรุทฺธวาโท วิวาโท นาม.
๔๕๘. ปริปุณฺณโกสโกฏฺาคาโรติ เอตฺถ โกโส นาม สุวณฺณมณิอาทิภณฺฑาคารสารคพฺโภ. โกฏฺํ วุจฺจติ ธฺสฺส อาวสนฏฺานํ, โกฏฺภูตํ อคารํ โกฏฺาคารํ, ธฺสงฺคหฏฺานํ. อพฺภุยฺยาสีติ ยุทฺธาย อภิมุโข นิกฺขมีติ อตฺโถ. เอกสงฺฆาตมฺปีติ เอกยุทฺธมฺปิ. โธวนนฺติ โธวนุทกํ.
๔๖๓. ปริยาทินฺนรูปาติ โกธจิตฺเตน ปริคฺคหิตสภาวา.
๔๖๔. ตํ น ชานนฺตีติ ตํ กลหํ น ชานนฺติ. เย อุปนยฺหนฺตีติ ยถาวุตฺตํ โกธาการํ จิตฺเต พนฺธนฺติ. ปากฏปริสฺสเยติ สีหาทิเก. ปฏิจฺฉนฺนปริสฺสเยติ ราคาทิเก. ปาฬิยํ นตฺถิ พาเล ๙๗ สหายตาติ พาลํ นิสฺสาย สีลาทิคุณสงฺขาตา สหายตา นตฺถิ, น สกฺกา ลทฺธุนฺติ อตฺโถ.
๔๖๖. อตฺตกามรูปาติ ¶ อตฺตโน หิตกามยมานสภาวา. อนุรุทฺธาติ เอกเสสนเยน ติณฺณมฺปิ กุลปุตฺตานํ อาลปนํ, เตเนว พหุวจนนิทฺเทโส กโต. ขมนียํ สรีรํ ยาปนียํ ชีวิตํ ‘‘กจฺจิ โว สรีรฺจ ธาเรตุํ, ชีวิตฺจ ยาเปตุํ สกฺกา’’ติ ปุจฺฉติ. ตคฺฆาติ เอกํสตฺเถ นิปาโต, เอกํเสน มยํ ภนฺเตติ อตฺโถ. ยถา กถนฺติ เอตฺถ ยถาติ นิปาตมตฺตํ, ยถากถนฺติ วา เอโก นิปาโต การณปุจฺฉนตฺโถ, เกน ปกาเรนาติ อตฺโถ. เอกฺจ ปน มฺเ จิตฺตนฺติ เอกสฺส จิตฺตวเสน อิตเรสมฺปิ ปวตฺตนโต สพฺเพสํ โน เอกํ วิย จิตฺตนฺติ อตฺโถ. กจฺจิ ปน โว อนุรุทฺธาติ เอตฺถ โวติ นิปาตมตฺตํ, ปจฺจตฺตวจนํ วา, กจฺจิ ตุมฺเหติ อตฺโถ. อมฺหากนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ, อมฺเหสุ ตีสุ โย ปมํ ปฏิกฺกมตีติ อตฺโถ.
โกสมฺพกวิวาทกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปาลิเลยฺยกคมนกถาวณฺณนา
๔๖๗. เยน ปาลิเลยฺยกนฺติ ปจฺจตฺเต อุปโยควจนํ, ยตฺถ ปาลิเลยฺยโก คาโม, ตตฺถ อวสรีติ อตฺโถ. ทหรโปตเกหีติ ภิงฺกจฺฉาเปหิ. ‘‘โอคาหิ’’นฺติปิ ปาโ, นหานโปกฺขรณินฺติ อตฺโถ.
อุทานคาถายํ ปน – รถอีสสทิสทนฺตสฺส นาคสฺส หตฺถิโน เอตํ วิเวกนินฺนํ จิตฺตํ นาเคน พุทฺธนาคสฺส วิเวกนินฺนจิตฺเตน สเมติ. กสฺมา? ยํ ยสฺมา เอโกว รมติ วเน, ตสฺมา เอวํ โยชนา ทฏฺพฺพา.
ปาลิเลยฺยกคมนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อฏฺารสวตฺถุกถาวณฺณนา
๔๖๘. ยถา ธมฺโม ตถา ติฏฺาหีติ ยถา ธมฺโม จ วินโย จ ิโต, ตถา ติฏฺ, ธมฺมวาทีปกฺเข ติฏฺาติ อตฺโถ.
๔๗๓. ‘‘โย ¶ ปฏิพาเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ อิทํ สามคฺคีเภทสฺส อการเก สนฺธาย วุตฺตํ. เย ปน เภทการกา วิรุทฺธา อลชฺชิโน ¶ , เตสํ ปฏิพาหิตุํ วฏฺฏติ เตสํ สนฺตกสฺสปิ เสนาสนสฺส วินาสนวจนโต. ‘‘วิวิตฺตํ กตฺวาปิ ทาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ปน ยถาวุฑฺฒํ วรเสนาสนํ อทตฺวา วุฑฺฒานมฺปิ อสฺตานํ สฺเตหิ วิวิตฺตํ กตฺวา ทาตพฺพนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๔๗๕. กมฺมวาจาย โอสาเรตฺวาติ เอตฺถ อุกฺขิตฺตสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺติยาปนฺนภาวํ ปฏิชานิตฺวา สมฺมาวตฺตเนน อุกฺเขปกานํ สมุปฺปนฺนโอสารณจฺฉนฺทสฺส ปเคว าตตฺตา ปฏิปฺปสฺสมฺภนกมฺมวาจาย อุกฺขิตฺตานุวตฺตกา สยเมว นํ โอสาเรสุนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๔๗๖. อตฺถโต อปคตาติ สามคฺคีอตฺถวิรหิตา, ตุจฺฉพฺยฺชนาติ อตฺโถ.
๔๗๗. อปฺปฏิจฺฉนฺนาจาโรติ อปฺปฏิจฺฉาเทตพฺพสุนฺทราจาโร. อนปคตนฺติ การณโต อนเปตํ. อาทาตพฺพโต คเหตพฺพโต อาทายนฺติ อาจริยวาโท วุตฺโตติ อาห ‘‘อาทายํ อตฺตโน อาจริยวาท’’นฺติ.
อฏฺหิ ทูตงฺเคหีติ ‘‘โสตา จ โหติ สาเวตา จ อุคฺคเหตา จ ธาเรตา จ วิฺาตา จ วิฺาเปตา จ กุสโล จ สหิตาสหิตสฺส โน จ กลหการโก’’ติ (อ. นิ. ๘.๑๖) เอวํ วุตฺเตหิ อฏฺหิ ทูตงฺเคหิ. เสสเมตฺถ, เหฏฺา จ สพฺพตฺถ สุวิฺเยฺยเมวาติ.
อฏฺารสวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
โกสมฺพกกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
มหาวคฺควณฺณนานโย นิฏฺิโต.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
จูฬวคฺควณฺณนา
๑. กมฺมกฺขนฺธโก
ตชฺชนียกมฺมกถาวณฺณนา
๑. จูฬวคฺคสฺส ¶ ¶ ปเม กมฺมกฺขนฺธเก ตาว ‘‘พลวาพลว’’นฺติ อิทํ เอกปทํ. ‘‘พลวพลว’’นฺติ วตฺตพฺเพ อาการํ กตฺวา ‘‘พลวาพลว’’นฺติ วุตฺตํ. ตฺจ ‘‘ทุกฺขทุกฺข’’นฺติอาทีสุ วิย อติสยตฺเถ วตฺตตีติ อาห ‘‘สุฏฺุ พลวํ ปฏิวทถา’’ติ, อติ วิย พลวํ กตฺวา ปฏิวจนํ เทถาติ อตฺโถ.
๒. ปาฬิยํ อาปตฺติ อาโรเปตพฺพาติ เอตฺถ กิฺจาปิ ‘‘มา โข ตุมฺเห อายสฺมนฺโต เอโส อเชสี’’ติอาทิเก ภณฺฑนาทิชนเก วจเน ปฺตฺตา กาจิ อาปตฺติ นาม นตฺถิ มุสาเปสฺุาทีสุ เอตสฺส อปฺปวิฏฺตฺตา, ตถาปิ ภิกฺขูหิ วิสุํ, สงฺฆมชฺเฌ จ ‘‘มา, อาวุโส, ภิกฺขู ¶ อฺมฺํ ปโยเชตฺวา ภณฺฑนาทึ อกาสิ, เนทํ อปฺปิจฺฉตาทีนํ อตฺถาย วตฺตตี’’ติ เอวํ อปฺตฺเตน วุจฺจมานสฺส ภิกฺขุโน อนาทริเยน อโนรมนปจฺจยา วา อฺวาทวิเหสาทิกรณปจฺจยา วา ยา อาปตฺติ โหติ, สา อาปตฺติ อาโรเปตพฺพา ทิฏฺิวิปนฺนสฺส วิยาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
ยสฺส ปน อิทํ วจนํ วินาว กายวาจาหิ อาปนฺนา ลหุกาปตฺติ อตฺถิ, ตสฺสปิ อาโรเปตพฺพาว. ยํ ปน กมฺมวาจาย ‘‘อตฺตนา ภณฺฑนการกา’’ติ อตฺตนา-สทฺทคฺคหณํ, ‘‘เยปิ จฺเ ภิกฺขู ภณฺฑนการกา…เป… เต อุปสงฺกมิตฺวา’’ติอาทิวจนฺจ, ตํ วตฺถุวเสน คหิตํ. โย ปน สยเมว ภณฺฑนการโก โหติ, อฺเ ปน ภณฺฑนการเก อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘มา โข ตุมฺเห’’ติอาทิวจนํ น วทติ, ตสฺสาเปตํ กมฺมํ กาตพฺพเมว. กโรนฺเตหิ จ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ¶ ภิกฺขุ ภณฺฑนการโก…เป… สงฺเฆ อธิกรณการโก. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺล’’นฺติอาทินาว กมฺมวาจา กาตพฺพา. โย จ อฺเปิ ภิกฺขู กลหาย สมาทเปติ, ตสฺสาปิ เอวเมว กมฺมวาจํ กาตุํ วฏฺฏติ อฺเสํ สมาทาปนสฺสปิ ภณฺฑนการกตฺเต เอว ปวิสนโต. อฺเสํ สมาทาปนาการมฺปิ วตฺวาว, กมฺมวาจํ กาตุกาเมนปิ จ เตหิ วุตฺตวจนตฺถเมว คเหตฺวา ตทนุคุณํ โยเชตฺวาว กาตพฺพํ, น อิธาคตวเสเนว สพฺเพสมฺปิ อิธาคตวเสเนว วจนาสมฺภวา. ภูเตน วตฺถุนา กตเมว หิ อวิปนฺนํ โหติ, นาฺนฺติ คเหตพฺพํ. เอส นโย นิยสฺสกมฺมาทีสุปิ.
ตชฺชนียกมฺมกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อธมฺมกมฺมทฺวาทสกกถาทิวณฺณนา
๔. อปฺปฏิฺาย กตนฺติ วตฺถุํ วา อาปตฺตึ วา อสมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา กตํ. โย ปน สพฺเพสํ ปสฺสนฺตานํ เอว วตฺถุวีติกฺกมํ กตฺวา ปจฺฉา กมฺมกรณภเยน ‘‘น กโรมี’’ติ มุสา วทติ, ตสฺส ภิกฺขูนํ สมฺมุเข วีติกฺกมกรณเมว ปฏิฺา. ตถโต ชานนตฺถเมว ปฏิฺาย กรณํ อนฺุาตํ. ยตฺถ ปน สนฺเทโห โหติ, ตตฺถ สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวาว กตฺตพฺพนฺติ คเหตพฺพํ.
‘‘ปาราชิกาปตฺติยา วา’’ติ อิทํ ลิงฺคนาสนนิมิตฺตตาย ปาราชิกสฺส กมฺเมน อติกิจฺฉนียโต วุตฺตํ. ‘‘สงฺฆาทิเสสาปตฺติยา วา’’ติ อิทํ ปน ปริวาสาทินิสฺสารณกมฺมสฺส อาเวณิกสฺส ¶ วิชฺชมานตฺตา วุตฺตํ. ยํ ปน ปรโต ‘‘อธิสีเล สีลวิปนฺโน โหติ…เป… ตชฺชนียกมฺมํ กเรยฺยา’’ติ (จูฬว. ๖) วุตฺตํ, ตํ ‘‘อายตึ สํวเร ตฺวา วุฏฺานํ กโรหี’’ติ โอวทิยมานสฺส อนาทริยาทิปจฺจยลหุกาปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. สีลวิปตฺติมูลกฺหิ ลหุกาปตฺตึ อาปนฺโน อิธ อเภทูปจาเรน ‘‘อธิสีเล สีลวิปนฺโน’’ติ วุตฺโต ‘‘อติทิฏฺิยา ทิฏฺิวิปนฺโน’’ติ เอตฺถ วิย.
ยถา จ ทิฏฺึ คเหตฺวา โวหรนฺตสฺส ‘‘อิโต ทิฏฺิโต โอรมาหี’’ติ อวตฺวา กตกมฺมํ เกวลาย ทิฏฺิวิปตฺติยา กตตฺตา อนาปตฺติยา กตํ นาม อธมฺมกมฺมํ โหติ, เอวํ สีลวิปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ลชฺชิธมฺเม ¶ โอกฺกนฺเต ยถาธมฺมํ วุฏฺาย สํวเร าตุกามสฺส กตํ ตชฺชนียาทิกมฺมํ เกวลาย สีลวิปตฺติยา กตตฺตา อเทสนาคามินิยา กตํ นาม อธมฺมกมฺมํ โหติ. เตเนว นิยสฺสกมฺเมปิ ‘‘อปิสฺสุ ภิกฺขู ปกตา ปริวาสํ เทนฺตา’’ติอาทินา สํวเร อฏฺานเมว กมฺมนิมิตฺตภาเวน วุตฺตํ. อทนฺตํ ทมนตฺถเมว หิ ตชฺชนียาทิกมฺมานิ อนฺุาตานีติ. เกจิ ปน ‘‘อเทสนาคามินิยาติ อิทํ ปาราชิกาปตฺตึเยว สนฺธาย วุตฺตํ, น สงฺฆาทิเสส’’นฺติ (สารตฺถ. ฏี. จูฬวคฺค ๓.๔) วทนฺติ, ตํ สุกฺกปกฺเข ‘‘เทสนาคามินิยา อาปตฺติยา กตํ โหตี’’ติ อิมินา วจเนน วิรุชฺฌติ. สงฺฆาทิเสสสฺสาปิ จ ปริยายโต เทสนาคามินิโวหาเร คยฺหมาเน ‘‘อาปตฺติยา กตํ โหตี’’ติ วุตฺตวารโต อิมสฺส วารสฺส วิเสโส น สิยา, อฏฺกถายมฺเปตฺถ วิเสสภาโว น ทสฺสิโต. ตสฺมา วุตฺตนเยเนเวตฺถ อธิปฺปาโย คเหตพฺโพ.
๖. สพฺพานิปีติ ตชฺชนียนิยสฺสปพฺพาชนียกมฺมานิ ตีณิปิ. อฺกมฺมสฺส วตฺถุนาติ ตชฺชนียโต อฺสฺส กมฺมสฺส วตฺถุนา อฺกมฺมกรณํ นาม โกจิ โทโสปิ น โหตีติ อธิปฺปาโย. การณมาห ‘‘กสฺมา’’ติอาทินา.
อธมฺมกมฺมทฺวาทสกกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิยสฺสกมฺมกถาทิวณฺณนา
๑๑. นิยสฺสกมฺเม ปาฬิยํ อปิสฺสูติ อปิจาติ อิมสฺมึ อตฺเถ นิปาตสมุทาโย. นิสฺสาย ¶ เต วตฺถพฺพนฺติ เอตฺถ เกจิ กลฺยาณมิตฺตายตฺตวุตฺติตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ วทนฺติ, อฺเ ปน นิสฺสยคฺคหณเมวาติ, อุภเยนปิสฺส เสริวิหาโร น วฏฺฏตีติ ทีปิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๒๑. ปพฺพาชนียกมฺเม ‘‘ปพฺพาชนียกมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตู’’ติ อิทํ ปกฺกมนาทึ อกตฺวา สมฺมาวตฺตนฺตานํ วเสน วุตฺตํ.
๓๓. ปฏิสารณียกมฺเม ¶ เนว ภิกฺขุวจนํ, น คิหิวจนนฺติ เอตฺถ ปริยายโตปิ ภิกฺขู ปรขุํสนํ น วทนฺติ, คหฏฺา ปน สรูเปเนว อกฺโกสิตุํ สมตฺถาปิ อุปการีสุ อการณํ เอวรูปํ น วทนฺติ, ตฺวํ คิหิคุณโตปิ ปริหีโนติ อธิปฺปาโย.
๓๙. ‘‘องฺคสมนฺนาคโม ปุริเมหิ อสทิโส’’ติ อิมินา ตชฺชนียาทีนํ วุตฺตการณมตฺเตน อิทํ กาตุํ น วฏฺฏตีติ ทีเปติ. อิธ วุตฺเตน ปน คิหีนํ อลาภาย ปริสกฺกนาทินา องฺเคน ตานิปิ กาตุํ วฏฺฏตีติ คเหตพฺพํ. เอตฺถ จ ‘‘สทฺธํ ปสนฺนํ ทายกํ การกํ สงฺฆุปฏฺากํ หีเนน ขุํเสตี’’ติ วุตฺตตฺตา ตาทิเสสุ คิหีสุ ขุํสนาทีหิ คิหิปฏิสํยุตฺเตหิ เอว องฺเคหิ กมฺมารหตา, น อารามิกเจฏกาทีสุ ขุํสนาทีหิ. ตตฺถาปิ ทายกาทีสุ ขมาปิเตสุ กมฺมารหตา นตฺถิ, อาปตฺติ จ ยตฺถ กตฺถจิ เทเสตุํ วฏฺฏติ. โย เจ ติกฺขตฺตุํ ขมาปิยมาโนปิ น ขมติ, อกตกมฺเมนปิ ทสฺสนูปจาเร อาปตฺติ เทเสตพฺพา. โส เจ กาลกโต โหติ, เทสนฺตรํ วา คโต, คตทิสา น ายติ, อนฺตรามคฺเค วา ชีวิตนฺตราโย โหติ, กตกมฺเมนปิ อกตกมฺเมนปิ สงฺฆมชฺเฌ ยถาภูตํ วิฺาเปตฺวา ขมาเปตฺวา อาปตฺติ เทเสตพฺพาติ วทนฺติ. ธมฺมิกปฏิสฺสวสฺส อสจฺจาปเน ปน เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘มยา อสมเวกฺขิตฺวา ปฏิสฺสวํ กตฺวา โส น สจฺจาปิโต, ตํ เม ขมถา’’ติอาทินา ขมาปเน วจนกฺกโม าเปตพฺโพ.
๔๑. ปาฬิยํ มงฺกุภูโต นาสกฺขิ จิตฺตํ คหปตึ ขมาเปตุนฺติ ตึสโยชนมคฺคํ ปุน คนฺตฺวาปิ มานถทฺธตาย ยถาภูตํ โทสํ อาวิกตฺวา อขมาปเนน ‘‘นาหํ ขมามี’’ติ เตน ปฏิกฺขิตฺโต มงฺกุภูโต ขมาเปตุํ น สกฺขิ, โส ปุนเทว สาวตฺถึ ปจฺจาคนฺตฺวาปิ มานนิคฺคหตฺถาเยว ปุนปิ สตฺถารา เปสิโต ปุริมนเยเนว ขมาเปตุํ อสกฺโกนฺโต ปุนาคจฺฉิ. อถสฺส ภควา ‘‘อสนฺตํ ภาวนมิจฺเฉยฺยา’’ติอาทินาว (ธ. ป. ๗๓) ธมฺมํ เทเสตฺวา มานนิมฺมถนํ กตฺวา อนุทูตทานํ อนฺุาสีติ ทฏฺพฺพํ.
๔๒. ‘‘โน ¶ เจ ขมติ…เป… อาปตฺตึ เทสาเปตพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา ปเคว คหฏฺโ ขมติ เจ, ทสฺสนูปจาเร อาปตฺติเทสนากิจฺจํ นตฺถีติ คเหตพฺพํ.
๔๖. อุกฺเขปนียกมฺเมสุ ¶ ตีสุ อริฏฺวตฺถุสฺมึ อาปตฺตึ อาโรเปตฺวาติ วิสุํ สงฺฆมชฺเฌว ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสชฺชนปจฺจยา ทุกฺกฏํ, สมนุภาสนปริโยสาเน ปาจิตฺติยํ วา อาปตฺตึ อาโรเปตฺวา. เอตฺถาปิ กมฺมวาจาย ‘‘ตถาหํ ภควตา’’ติอาทิ วตฺถุวเสน วุตฺตํ. เยน เยน ปกาเรน ทิฏฺิคติกา โวหรึสุ, เตน เตน ปกาเรน โยเชตฺวา กมฺมวาจา กาตพฺพา. คหณาการํ ปน วินาปิ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ปาปิกํ ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ, โส ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺล’’นฺติ เอวํ สามฺโตปิ กมฺมวาจํ กาตุํ วฏฺฏติ.
๖๕. ‘‘ยํ ทิฏฺึ นิสฺสาย ภณฺฑนาทีนิ กโรตี’’ติ อิมินา ทิฏฺึ นิสฺสาย อุปฺปนฺนานิ เอว ภณฺฑนาทีนิ อิธ อธิปฺเปตานิ, น เกวลานีติ ทสฺเสติ. โย ปน ‘‘ภณฺฑนาทีนํ กรเณ โทโส นตฺถี’’ติ ทิฏฺิโก หุตฺวา ภณฺฑนาทึ กโรติ, สาปิสฺส ทิฏฺิ เอว โหติ, ตสฺสปิ อปฺปฏินิสฺสคฺเค กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ.
นิยสฺสกมฺมกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
กมฺมกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๒. ปาริวาสิกกฺขนฺธโก
ปาริวาสิกวตฺตกถาวณฺณนา
๗๕. ปาริวาสิกกฺขนฺธเก ¶ ¶ อนฺตมโส มูลายปฏิกสฺสนารหาทีนมฺปีติ อาทิ-สทฺเทน มานตฺตารหมานตฺตจาริกอพฺภานารเห สงฺคณฺหาติ. เต หิ ปาริวาสิกานํ, ปาริวาสิกา จ เตสํ ปกตตฺตฏฺาเน เอว ติฏฺนฺติ. อโธตปาทฏฺปนกนฺติ ยตฺถ ตฺวา ปาเท โธวนฺติ, ตาทิสํ ทารุผลกขณฺฑาทึ. ปาทฆํสนนฺติ สกฺขรกถลาทึ. ‘‘วตฺตํ กโรนฺตี’’ติ เอตฺตกมตฺตสฺเสว วุตฺตตฺตา สทฺธิวิหาริกาทีหิปิ อภิวาทนาทึ กาตุํ น วฏฺฏติ.
‘‘ปาริสุทฺธิอุโปสเถ กริยมาเน’’ติ อิทํ ปวารณาทิวเสสุ สงฺเฆ ปวาเรนฺเต อนุปคตฉินฺนวสฺสาทีหิ กริยมานปาริสุทฺธิอุโปสถมฺปิ สนฺธาย วุตฺตํ. อตฺตโน ปาฬิยาติ นวกานํ ปุรโต.
‘‘ปาริวาสิกสฺเสวา’’ติ อิทํ อพฺภานารหปริโยสาเน สพฺเพ ครุกฏฺเ สนฺธาย วุตฺตํ. เตสมฺปิ ปจฺเจกํ โอโณชนสฺส อนฺุาตตฺตา ตทวเสสา ปกตตฺตา เอว ตํ น ลภนฺติ.
จตุสฺสาลภตฺตนฺติ โภชนสาลาย ปฏิปาฏิยา ทิยฺยมานภตฺตํ. หตฺถปาเส ิเตนาติ ทายกสฺส หตฺถปาเส ปฏิคฺคหณรุหนฏฺาเนติ อธิปฺปาโย. มหาเปฬภตฺเตปีติ มหนฺเตสุ ภตฺตปจฺฉิอาทิภาชเนสุ เปตฺวา ทิยฺยมานภตฺเตสุปิ.
๗๖. ปาปิฏฺตราติ ปาราชิกาปตฺตีติ อุกฺกํสวเสน วุตฺตํ. สฺจริตฺตาทิปณฺณตฺติวชฺชโต ปน สุกฺกวิสฺสฏฺาทิกา โลกวชฺชาว, ตตฺถาปิ สงฺฆเภทาทิกา ปาปิฏฺตรา เอว.
‘‘กมฺมนฺติ ¶ ปาริวาสิกกมฺมวาจา’’ติ เอเตน กมฺมภูตา วาจาติ กมฺมวาจา-สทฺทสฺส อตฺโถปิ สิทฺโธติ เวทิตพฺโพ. สวจนียนฺติ เอตฺถ ‘‘สโทส’’นฺติ (สารตฺถ. ฏี. จูฬวคฺค. ๓.๗๖) อตฺถํ วทติ. อตฺตโน วจเน ปวตฺตนกมฺมนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ, ‘‘มา ปกฺกมาหี’’ติ วา ‘‘เอหิ วินยธรานํ สมฺมุขีภาว’’นฺติ วา ¶ เอวํ อตฺตโน อาณาย ปวตฺตนกกมฺมํ น กาตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. เอวฺหิ เกนจิ สวจนีเย กเต อนาทเรน อติกฺกมิตุํ น วฏฺฏติ, พุทฺธสฺส สงฺฆสฺส อาณา อติกฺกนฺตา นาม โหติ.
รโชหตภูมีติ ปณฺณสาลาวิเสสนํ. ปจฺจยนฺติ วสฺสาวาสิกจีวรํ. เสนาสนํ น ลภตีติ วสฺสคฺเคน น ลภติ.
อปณฺณกปฏิปทาติ อวิรทฺธปฏิปทา. สเจ วายมนฺโตปีติ เอตฺถ อวิสยภาวํ ตฺวา อวายมนฺโตปิ สงฺคยฺหติ.
๘๑. อวิเสเสนาติ ปาริวาสิกุกฺขิตฺตกานํ สามฺเน. ปฺจวณฺณจฺฉทนพทฺธฏฺาเนสูติ ปฺจปฺปการจฺฉทเนหิ ฉนฺนฏฺาเนสุ.
โอพทฺธนฺติ อุฏฺานาทิพฺยาปารปฏิพทฺธํ. ปีฬิตนฺติ อตฺโถ. มฺเจ วา ปีเ วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ, เตน ตฏฺฏิกาจมฺมขณฺฑาทีสุ ทีฆาสเนสุปิ นิสีทิตุํ น วฏฺฏตีติ ทีปิตํ โหติ.
น วตฺตเภททุกฺกฏนฺติ วุฑฺฒตรสฺส ชานนฺตสฺสาปิ วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ นตฺถีติ ทสฺเสติ. ‘‘วตฺตํ นิกฺขิปาเปตฺวา’’ติ อิทํ ปาริวาสาทิเมว สนฺธาย วุตฺตํ.
ปาริวาสิกวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปาริวาสิกกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๓. สมุจฺจยกฺขนฺธโก
สุกฺกวิสฺสฏฺิกถาวณฺณนา
๙๗. สมุจฺจยกฺขนฺธเก ¶ ¶ เวทยามหนฺติ ชานาเปมิ อหํ, อาโรเจมีติอตฺโถ. อนุภวามีติปิสฺส อตฺถํ วทนฺติ. ปุริมํ ปน ปสํสนฺติ อาโรปนวจนตฺตา. อาโรเจตฺวา นิกฺขิปิตพฺพนฺติ ทุกฺกฏปริโมจนตฺถํ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘ตทเหว ปุน วตฺตํ สมาทิยิตฺวา อรุณํ อุฏฺาเปตุกามสฺส รตฺติจฺเฉทปริหารตฺถมฺปี’’ติ วทนฺติ.
‘‘สภาคา ภิกฺขู วสนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา วิสภาคานํ วสนฏฺาเน วตฺตํ อสมาทิยิตฺวา พหิ เอว กาตุมฺปิ วฏฺฏตีติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมิตฺวา’’ติ อิทํ วิหาเร ภิกฺขูนํ สชฺฌายาทิสทฺทสวนูปจารวิชหนตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘มหามคฺคโต โอกฺกมฺมา’’ติ อิทํ มคฺคปฏิปนฺนานํ ภิกฺขูนํ อุปจาราติกฺกมนตฺถํ วุตฺตํ. คุมฺเพน วาติอาทิ ทสฺสนูปจารวิชหนตฺถํ.
‘‘โสปิ เกนจิ กมฺเมน ปุเร อรุเณ เอว คจฺฉตี’’ติ อิมินา อาโรจนาย กตาย สพฺเพสุปิ ภิกฺขูสุ วิหารคเตสุ อูเน คเณ จรณโทโส วา วิปฺปวาสโทโส วา น โหติ อาโรจิตตฺตา สหวาสสฺสาติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘อยฺจา’’ ติอาทิ. อพฺภานํ กาตุํ น วฏฺฏตีติ กตมฺปิ อกตเมว โหตีติ อตฺโถ.
สุกฺกวิสฺสฏฺิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฏิจฺฉนฺนปริวาสกถาวณฺณนา
๑๐๒. สุทฺธสฺสาติ สภาคสงฺฆาทิเสสํ อนาปนฺนสฺส, ตโต วุฏฺิตสฺส วา. อฺสฺมินฺติ สุทฺธนฺตปริวาสวเสน ¶ อาปตฺติวุฏฺานโต อฺสฺมึ อาปตฺติวุฏฺาเน. ปาฬิยํ ‘‘ปฏิกสฺสิโต สงฺเฆน อุทายิ ภิกฺขุ อนฺตรา เอกิสฺสา อาปตฺติยา…เป… มูลายปฏิกสฺสนา’’ติ อิทํ กรณวเสน วิปริณาเมตฺวา มูลายปฏิกสฺสนาย ปฏิกสฺสิโตติ โยเชตพฺพํ. อถ วา ‘‘มูลาย ปฏิกสฺสนา ขมติ สงฺฆสฺสา’’ติ อุตฺตรปเทน สห ปจฺจตฺตวเสเนว โยเชตุมฺปิ วฏฺฏติ.
‘‘อุทายึ ¶ ภิกฺขุํ อนฺตรา เอกิสฺสา อาปตฺติยา…เป… มูลาย ปฏิกสฺสิตฺวา’’ติ เอตฺถ อนฺตรา เอกิสฺสา อาปตฺติยา เหตุภูตาย อุทายึ ภิกฺขุํ มูลาย ปฏิกสฺสิตฺวา มูลทิวเส อากฑฺฒิตฺวา ตสฺสา อนฺตราปตฺติยา สโมธานปริวาสํ เทตูติ โยชนา. อาวิการาเปตฺวา วิสฺสชฺเชตพฺโพติ ตสฺส อเตกิจฺฉภาวํ เตเนว สงฺฆสฺส ปากฏํ กาเรตฺวา ลชฺชิคณโต วิโยชนวเสน วิสฺสชฺเชตพฺโพ.
สตํ อาปตฺติโยติ กายสํสคฺคาทิวเสน เอกทิวเส อาปนฺนา สตํ อาปตฺติโย. ทสสตนฺติ สหสฺสา อาปตฺติโย. รตฺติสตํ ฉาทยิตฺวานาติ โยเชตพฺโพ. สพฺพปริวาสกมฺมวาจาวสาเนติ เหฏฺา ทสฺสิตานํ ทฺวินฺนํ สุทฺธนฺตปริวาสานํ, ติณฺณํ สโมธานปริวาสานฺจาติ อิเมสํ สพฺเพสํ ปริวาสานํ กมฺมวาจาปริโยสาเน. ปุริมนเยเนวาติ ปฏิจฺฉนฺนปริวาเส วุตฺตนเยน.
วิหารูปจารโตปีติ พหิคาเม ภิกฺขูนํ วิหารูปจารโตปิ. ‘‘ทฺเว เลฑฺฑุปาตา อติกฺกมิตพฺพา’’ติ อิทํ ภิกฺขูนํ สวนูปจาราติกฺกมนํ วุตฺตํ. คามสฺสาติ น วุตฺตนฺติ คามสฺส อุปจารํ มฺุจิตุํ วฏฺฏตีติ น วุตฺตํ. เตน คามูปจาเร ิตาปิ ตตฺถ ทสฺสนสวนูปจาเร อติกฺกมิตฺวา ิตา ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ ตสฺสา รตฺติจฺเฉทํ น กโรนฺตีติ ทีเปติ.
อนิกฺขิตฺตวตฺตภิกฺขูนํ วุตฺตนเยเนวาติ อุปจารสีมาย ปวิฏฺานํ วเสน รตฺติจฺเฉทํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตสฺมึ คาเมติ ภิกฺขุนีนํ นิวาสนคาเม. อตฺตานํ ทสฺเสตฺวาติ ยถา อาโรเจตุํ สกฺกา, ตถา ทสฺเสตฺวา. ‘‘สมฺมนฺนิตฺวา ทาตพฺพา’’ติ อิมินา สมฺมตาย สหวาเสปิ รตฺติจฺเฉโท น โหตีติ ทสฺเสติ.
มูลายปฏิกสฺสิตสฺสาติ มูลายปฏิกสฺสิตสฺส ปุน ปริวุตฺถปริวาสสฺสาติ อตฺโถ. ติสฺสนฺนนฺติ มูลาปตฺติยา สห ทฺวินฺนํ อนฺตราปตฺตีนฺจ.
๑๐๘. สเจ ¶ ปฏิจฺฉนฺนาติ นิกฺขิตฺตวตฺเตนาปนฺนาปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. ปาฬิยํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนวาเร อนฺตราปตฺติกถายํ ‘‘เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, ฉารตฺตํ มานตฺตํ ทาตพฺพ’’นฺติ อิทํ มูลายปฏิกสฺสนากมฺมวาจานนฺตรเมว ทาตุํ วุตฺตํ น โหติ. มูลายปฏิกสฺสิตสฺส ปน ปฺจทิวสานิ ปริวสิตฺวา ยาจิตสฺส ¶ มานตฺตจรณกาเล อาปนฺนาย ตติยาย อนฺตราปตฺติยา อปฺปฏิจฺฉนฺนาย มานตฺตทานํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอวฺจ ทินฺนมานตฺตสฺส เอเกน ฉารตฺเตน ปุพฺเพ ทินฺนมานตฺตาหิ ตีหิ อาปตฺตีหิ สห จตสฺสนฺนมฺปิ อาปตฺตีนํ มานตฺตํ จิณฺณเมว โหติ. อิมินา ปน นเยน อพฺภานารหกาเล อาปนฺนาย อนฺตราปตฺติยา, ปกฺขปฺปฏิจฺฉนฺนวาเร อนฺตราปตฺตีสุ จ ปฏิปชฺชนํ เวทิตพฺพํ. ‘‘เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาทิวเสน ปฺจา’’ติ อิทํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาทีนํ จตุนฺนํ ปจฺเจกปริวาสทานมานตฺตทานอพฺภานานิ เอเกกํ กตฺวา วุตฺตํ. ‘‘อนฺตราปตฺติวเสน จตสฺโส’’ติ อิทมฺปิ มานตฺตทานอพฺภานานิ ตสฺมึ ตสฺมึ มูลายปฏิกสฺสเน เอกตฺตํ อาโรเปตฺวา วุตฺตํ.
ปฏิจฺฉนฺนปริวาสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สโมธานปริวาสกถาวณฺณนา
๑๒๕. ‘‘ยสฺมา ปฏิจฺฉนฺนา อนฺตราปตฺตี’’ติ อิทํ สโมธานปริวาสทานสฺส การณวจนํ, น ปน จิณฺณปริวุตฺถทิวสานํ มกฺขิตภาวสฺส, อปฺปฏิจฺฉนฺนาย อนฺตราปตฺติยา มูลายปฏิกสฺสเน กเตปิ เตสํ มกฺขิตภาวสมฺภวโต. ตสฺมา ‘‘มานตฺตจิณฺณทิวสาปิ ปริวุตฺถทิวสาปิ สพฺเพ มกฺขิตาว โหนฺตี’’ติ อิมสฺสานนฺตรํ ‘‘สโมธานปริวาโส จสฺส ทาตพฺโพ’’ติ เอวเมตฺถ โยชนา กาตพฺพา. เตนาห ‘‘เตเนวา’’ติอาทิ.
สโมธานปริวาสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อคฺฆสโมธานปริวาสกถาวณฺณนา
๑๓๔. ‘‘เอกาปตฺติมูลกฺจา’’ติ อิมินา ‘‘เอกา อาปตฺติ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนา, เอกา อาปตฺติ ทฺวีหปฺปฏิจฺฉนฺนา’’ติอาทินยํ ทสฺเสติ. อปฺปฏิจฺฉนฺนภาวํ ทสฺเสตุนฺติ อชานนาทินา ปฏิจฺฉนฺนายปิ อาปตฺติยา มานตฺตารหตาวจเนน อปฺปฏิจฺฉนฺนภาวํ ทสฺเสตุํ. ‘‘เอกสฺส, อาวุโส, มาสสฺส ภิกฺขุ มานตฺตารโห’’ติ ¶ (จูฬว. ๑๕๓) หิ วุตฺตํ. เอตฺถ เอกสฺส อชานนปฏิจฺฉนฺนมาสสฺส ¶ ปริวาสารโห น โหติ, เกวลํ อาปตฺติยา อปฺปฏิจฺฉนฺนตฺตา มานตฺตารโห โหตีติ อธิปฺปาโย. ปาฬิยํ มกฺขธมฺโมติ มทฺทิตุกามตา. สงฺฆาทิเสสานํ ปริวาสทานาทิสพฺพวินิจฺฉยสฺส สมุจฺจยตฺตา ปเนส สมุจฺจยกฺขนฺธโกติ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
อคฺฆสโมธานปริวาสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมุจฺจยกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๔. สมถกฺขนฺธโก
สติวินยกถาทิวณฺณนา
๑๙๕. สมถกฺขนฺธเก ¶ ¶ ขีณาสวสฺส วิปุลสตึ นิสฺสาย ทาตพฺโพ วินโย โจทนาทิอสารุปฺปานํ วินยนุปาโย สติวินโย.
๑๙๖. จิตฺตวิปริยาสกโตติ กตจิตฺตวิปริยาโส. คคฺคํ ภิกฺขุํ…เป… โจเทนฺตีติ เอตฺถ ปน อุมฺมตฺตกสฺส อิทํ อุมฺมตฺตกํ, อชฺฌาจิณฺณํ. ตเทว จิตฺตวิปริยาเสน กตนฺติ จิตฺตวิปริยาสกตํ. เตน อุมฺมตฺตเกน จิตฺตวิปริยาสกเตน อชฺฌาจิณฺเณน อนาจาเรน อาปนฺนาย อาปตฺติยา คคฺคํ ภิกฺขุํ โจเทนฺตีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ปมํ มูฬฺโห หุตฺวา ปจฺฉา อมูฬฺหภาวํ อุปคตสฺส ทาตพฺโพ วินโย อมูฬฺหวินโย.
๒๐๒. ธมฺมวาทีนํ เยภุยฺยภาวสมฺปาทิกา กิริยา เยภุยฺยสิกาติ อิมสฺมึ อตฺเถ ส-การาคมสหิโต อิก-ปจฺจยนฺโตยํ สทฺโทติ ทสฺเสตุํ อาห ‘‘ยสฺสา’’ติอาทิ. ตตฺถ ยสฺสา กิริยายาติ คูฬฺหกวิวฏฺฏกาทินา สลากคฺคาหาปกกิริยาย. เยภุยฺยภาวํ นิสฺสิตสมถกิริยา เยภุยฺยสิกาติ เอวํ เยภุยฺยสิกาสทฺทสฺส อตฺโถ คเหตพฺโพ. เอวฺหิ อยํ อธิกรณสมโถ นาม โหติ. ยถาวุตฺตสลากคฺคาเหน หิ ธมฺมวาทีนํ เยภุยฺยภาเว สิทฺเธ ปจฺฉา ตํ เยภุยฺยภาวํ นิสฺสาเยว อธิกรณวูปสโม โหติ, น ธมฺมวาทีนํ พหุตรภาวสาธกกิริยามตฺเตน.
๒๐๗. ‘‘เสสเมตฺถ ตชฺชนียาทีสุ วุตฺตนยเมวา’’ติ เอเตน ตชฺชนียาทิสตฺตกมฺมานิ วิย อิทมฺปิ ตสฺสปาปิยสิกากมฺมํ อสุจิภาวาทิโทสยุตฺตสฺส, สงฺฆสฺส จ วินิจฺฉเย อติฏฺมานสฺส กตฺตพฺพํ วิสุํ เอกํ นิคฺคหกมฺมนฺติ ทสฺเสติ. เอตสฺมิฺหิ นิคฺคหกมฺเม กเต โส ปุคฺคโล ‘‘อหํ ¶ สุทฺโธ’’ติ อตฺตโน สุทฺธิยา สาธนตฺถํ สงฺฆมชฺฌํ โอตริตุํ, สงฺโฆ จสฺส วินิจฺฉยํ ทาตุํ น ลภติ, ตํ กมฺมกรณมตฺเตเนว จ ตํ อธิกรณํ วูปสนฺตํ โหติ.
กถํ ปเนตํ กมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ? เกจิ ปเนตฺถ ‘‘โส ตถา นิคฺคหิโต นิคฺคหิโตว โหติ, โอสารณํ น ลภติ. เตเนว ปาฬิยํ ¶ โอสารณา น วุตฺตา’’ติ วทนฺติ. อฺเ ปน ‘‘ปาฬิยํ น อุปสมฺปาเทตพฺพนฺติอาทินา สมฺมาวตฺตนสฺส วุตฺตตฺตา สมฺมาวตฺติตฺวา ลชฺชิธมฺเม โอกฺกนฺตสฺส โอสารณา อวุตฺตาปิ ตชฺชนียาทีสุ วิย นยโต กมฺมวาจํ โยเชตฺวา โอสารณา กาตพฺพา เอวา’’ติ วทนฺติ, อิทํ ยุตฺตํ. เตเนว อฏฺกถายํ วกฺขติ ‘‘สเจ สีลวา ภวิสฺสติ, วตฺตํ ปริปูเรตฺวา ปฏิปฺปสฺสทฺธึ ลภิสฺสติ. โน เจ, ตถานาสิตโกว ภวิสฺสตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๓๘). ตสฺสปาปิยสิกากมฺมนฺติ จ อลุตฺตสมาโสเยว. เตนาห ‘‘อิทํ หี’’ติ อาทิ.
สติวินยกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
อธิกรณกถาวณฺณนา
๒๑๕. วิรูปโต วิปริณามฏฺเน จิตฺตํ ทุกฺขํ วิปจฺจตีติ อาห ‘‘จิตฺตทุกฺขตฺถํ โวหาโร’’ติอาทิ. อุปวทนาติ โจทนา. ตตฺเถวาติ อนุวทเน.
อาทิโต ปฏฺาย จ ตสฺส ตสฺส กมฺมสฺส วิฺาตตฺตาติ วิตฺถารโต อาคตกมฺมวคฺคสฺส อาทิโต ปฏฺาย วณฺณนามุเขน วิฺาตตฺตา วินิจฺฉโย ภวิสฺสตีติ โยชนา.
๒๑๖. ปาฬิยํ อชฺฌตฺตํ วาติ อตฺตนิ วา อตฺตโน ปริสาย วา. พหิทฺธา วาติ ปรสฺมึ วา ปรสฺส ปริสาย วา. อนวสฺสวายาติ อนุปฺปาทาย.
๒๒๐. ‘‘วิวาทาธิกรณํ กุสลํ อกุสลํ อพฺยากต’’นฺติ อิทํ ปุจฺฉาวจนํ. วิวาทาธิกรณํ สิยา กุสลนฺติอาทิ วิสชฺชนํ. เอส นโย เสเสสุปิ.
๒๒๒. สมฺมุติสภาวายปิ อาปตฺติยา การณูปจาเรน อกุสลาพฺยากตภาเวน วุจฺจมาเน กุสลสฺสาปิ อาปตฺติการณตฺตา ตทุปจาเรน ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา กุสล’’นฺติ วตฺตพฺพํ ภเวยฺย ¶ , ตถา ¶ อวตฺวา ‘‘นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ เอวํวจนสฺส การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ สนฺธายภาสิตวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถ จายมธิปฺปาโย – ยทิ หิ อาปตฺติ นาม ปรมตฺถธมฺมสภาวา ภเวยฺย, ตทา ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสล’’นฺติอาทิวจนํ ยุชฺเชยฺย. ยสฺมา ทุฏฺโทสสิกฺขาปทฏฺกถาทีสุ ทสฺสิตโทสปฺปสงฺคโต ปรมตฺถสภอาวตา น ยุตฺตา, เอกนฺตสมฺมุติสภาวา เอว สา โหติ, ตสฺมา ‘‘สิยา อกุสลํ สิยา อพฺยากต’’นฺติปิ นิปฺปริยายโต น วตฺตพฺพา. ยทิ ปน อกุสลอพฺยากตธมฺมสมุฏฺิตตฺตเมว อุปาทาย ปริยายโต ‘‘สิยา อกุสลํ สิยา อพฺยากต’’นฺติ วุตฺตํ. ตทา กุสลธมฺมสมอุฏฺิตตฺตมฺปิ อุปาทาย ปริยายโต ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา กุสล’’นฺติปิ วตฺตพฺพํ ภเวยฺย. ยโต เจตํ วจนํ อาปตฺติยา อกุสลาพฺยากตูปจารารหตฺตสฺส กุสลูปจารานารหตฺตสฺส วิสุํ การณสพฺภาวํ สนฺธาย ภาสิตํ, ตสฺมา ยํ ตํ การณวิเสสํ สนฺธาย อิทํ ภาสิตํ, ตสฺส วเสเนเวตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อิทานิ ปน โย องฺคปฺปโหนกจิตฺตเมว สนฺธาย อาปตฺติยา อกุสลาทิภาโว วุตฺโต, นาฺํ วิเสสการณํ สนฺธายาติ คณฺเหยฺย, ตสฺส คาเห โทสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยสฺมึ หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปถวีขณนาทิเกติ ปถวีขณนาทินิมิตฺเต ปณฺณตฺติวชฺเช. อาปตฺตาธิกรเณ กุสลจิตฺตํ องฺคนฺติ ปณฺณตฺตึ อชานิตฺวา กุสลจิตฺเตน เจติยงฺคณาทีสุ ภูมิโสธนาทิวเสน ปถวีภูตคามวิโกปนาทิกาเล กุสลจิตฺตํ การณํ โหติ. ตสฺมึ สตีติ ตสฺมึ อาปตฺตาธิกรเณ วิชฺชมาเน กุสลจิตฺตสมุฏฺิตตฺเตน กุสลโวหารารหาย อาปตฺติยา วิชฺชมานายาติ อธิปฺปาโย. สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. จูฬวคฺค ๓.๒๒๒) ปน ‘‘ตสฺมึ สตี’’ติ อิมสฺส ‘‘ตสฺมึ กุสลจิตฺเต อาปตฺติภาเวน คหิเต’’ติ อตฺโถ วุตฺโต, ตํ น ยุชฺชติ ‘‘ยสฺมิ’’นฺติ ย-สทฺเทน ปรามฏฺสฺเสว อาปตฺตาธิกรณสฺส ‘‘ตสฺมิ’’นฺติ ปรามสิตพฺพโต.
น สกฺกา วตฺตุนฺติ ยทิ สมฺมุติสภาวายปิ อาปตฺติยา อกุสลาทิสมุฏฺิตตฺเตน อกุสลาทิโวหาโร กรียติ, ตทา กุสลโวหาโรปิ กตฺตพฺโพติ ‘‘นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ น สกฺกา วตฺตุํ, อฺถา อกุสลาทิภาโวปิสฺส ปฏิกฺขิปิตพฺโพติ อธิปฺปาโย. ตสฺมาติ ¶ ยสฺมา กุสลาทีนํ ติณฺณํ สมาเนปิ อาปตฺติยา องฺคปฺปโหนกตฺเต กุสลโวหาโรว อาปตฺติยา ปฏิกฺขิตฺโต, น อกุสลาทิโวหาโร, ตสฺมา นยิทํ องฺคปฺปโหนกํ จิตฺตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ สิยา อพฺยากตํ, นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ อิทํ อาปตฺติยา สมุฏฺาปกตฺเตน องฺคปฺปโหนกํ การณภูตํ จิตฺตมตฺตํ สนฺธาย น วุตฺตํ ¶ , อฺถา ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา กุสล’’นฺติปิ วตฺตพฺพโตติ อธิปฺปาโย. เอเตน อาปตฺติยา อกุสลาทิภาโวปิ เกนจิ นิมิตฺเตน ปริยายโตว วุตฺโต, น ปรมตฺถโตติ ทสฺเสติ. ยถาห ‘‘ยํ กุสลจิตฺเตน อาปชฺชติ, ตํ กุสลํ, อิตเรหิ อิตร’’นฺติ.
อิทํ ปนาติอาทีสุ อยํ อธิปฺปาโย – ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ สิยา อพฺยากต’’นฺติ อิทฺหิ ยํ กิฺจิ กทาจิ กตฺถจิ การณํ ภวนฺตํ อนิยตการณํ สนฺธาย วุตฺตํ น โหติ. ยํ ปน สพฺพสิกฺขาปเทสุ อาปตฺติยา การณํ ภวิตุมรหติ, อิทเมว การณํ สนฺธาย วุตฺตํ. อกุสลฺหิ ปณฺณตฺตึ ตฺวา วีติกฺกมนฺตสฺส สพฺพาปตฺติยา การณํ โหติ, โลกวชฺชาปตฺติยา ปน ปณฺณตฺตึ อชานนฺตสฺสปิ การณํ โหติ. เกวลํ ปณฺณตฺติวชฺชาปตฺตีสุ กุสลาพฺยากตจิตฺตปวตฺติกฺขเณ เอว อกุสลํ น วตฺตติ, ตทฺตฺถ สยเมว ปวตฺตติ. อพฺยากตํ ปน กายวจีภูตํ กุสลากุสลาทีนํ ปวตฺติกฺขเณ นิโรธสมาปนฺนสฺส สหเสยฺยาปตฺติยนฺติ สพฺพาปตฺติยา องฺคเมว โหติ ฉนฺนํ อาปตฺติสมุฏฺานานํ กายวาจงฺควิรหิตตฺตาภาวา. ตสฺมา อิเมสํ อกุสลาพฺยากตานํ สพฺพาปตฺติมูลกตฺตเมว สนฺธาย อิทํ อาปตฺติยา อกุสลตฺตํ, อพฺยากตตฺตฺจ วุตฺตํ. ยตฺถ ปน ปถวีขณนาทีสุ กุสลมฺปิ อาปตฺติยา การณํ โหติ, ตตฺถาปิ อาปตฺติยา ตทุปจาเรน กุสลตฺตโวหาโร อยุตฺโต สาวชฺชานวชฺชานํ เอกตฺตโวหารสฺส วิรุทฺธตฺตา. ยทคฺเคน อฺมฺํ วิรุทฺธา, ตทคฺเคน การณการิยโวหาโรปิ เนสํ อยุตฺโต. ตสฺมา ตตฺถ วิชฺชมานมฺปิ กุสลํ อพฺโพหาริกํ, กายวจีทฺวารเมว อาเวณิกํ การณนฺติ.
ตตฺถ เอกนฺตโต อกุสลเมวาติ อกุสลจิตฺเตน สมุฏฺหนโต การณูปจารโต เอวํ วุตฺตํ. ตตฺถาติ โลกวชฺเช. วิกปฺโป นตฺถีติ สิยา-สทฺทสฺส วิกปฺปนตฺถตํ ทสฺเสติ. อกุสลํ โหตีติ อกุสลสมุฏฺิตาย การณูปจาเรน อกุสลํ โหติ. สหเสยฺยาทิวเสน อาปชฺชนโต ¶ อพฺยากตํ โหตีติ อิตฺถิยาทีหิ สห ปิฏฺิปสารณวสปฺปวตฺตกายทฺวารสงฺขาตรูปาพฺยากตวเสเนว อาปชฺชิตพฺพโต การณูปจาเรเนว อาปตฺติ อพฺยากตํ โหติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ปณฺณตฺติวชฺชาปตฺตาธิกรเณ. สฺจิจฺจาสฺจิจฺจวเสนาติ ปณฺณตฺตึ ตฺวา, อฺตฺวา จ อาปชฺชนวเสน อิมํ วิกปฺปภาวํ สนฺธาย อกุสลตฺตอพฺยากตตฺตสงฺขาตํ ยถาวุตฺตํ อิมํ วิกปฺปสภาวํ สนฺธาย อิทํ วจนํ วุตฺตํ.
ยทิ เอวํ อสฺจิจฺจาปชฺชนปกฺเข กุสเลนาปิ อาปชฺชนโต ตมฺปิ วิกปฺปํ สนฺธาย ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา กุสล’’นฺติปิ กสฺมา น วุตฺตนฺติ อาห ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิ. ‘‘อจิตฺตกาน’’นฺติ ¶ วุตฺตเมวตฺถํ สมุฏฺานวเสน วิภาเวตุํ ‘‘เอฬกโลมปทโสธมฺมาทิสมุฏฺานานมฺปี’’ติ วุตฺตํ. อจิตฺตกสมุฏฺานานํ ‘‘กุสลจิตฺตํ อาปชฺเชยฺยา’’ติ เอเตน สาวชฺชภูตาย อาปตฺติยา การณูปจาเรนาปิ อนวชฺชภูตกุสลโวหาโร อยุตฺโตติ ทสฺเสติ. ‘‘น จ ตตฺถา’’ติอาทินา กุสลสฺส อาปตฺติยา การณตฺตํ วิชฺชมานมฺปิ ตถา โวหริตุํ อยุตฺตนฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา กายวาจาสงฺขาตํ อพฺยากตสฺเสว การณตฺตํ ทสฺเสติ. ตตฺถ จลิตปฺปวตฺตานนฺติ จลิตานํ, ปวตฺตานฺจ. จลิโต หิ กาโย, ปวตฺตา วาจา. เอตฺถ จ กายวาจานมฺตรเมว องฺคํ. ตฺจ…เป… อพฺยากตนฺติ เอวํ อพฺยากตสฺส อาปตฺติการณภาเวเนว วุตฺตตฺตา. ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ สิยา อพฺยากต’’นฺติ อิทํ การณูปจาเรน ปริยายโต วุตฺตํ, น นิปฺปริยายโตติ สิชฺฌติ.
ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. จูฬว. ๓.๒๒๒) อาปตฺติยา นิปฺปริยายโตว อกุสลาทิสภาวตํ สมตฺเถตุํ พหุํ ปปฺจิตํ, ตํ น สารโต ปจฺเจตพฺพํ ทุฏฺโทสสิกฺขาปทฏฺกถายเมว ปฏิกฺขิตฺตตฺตา. เตเนเวตฺถาปิ ‘‘ยํ จิตฺตํ อาปตฺติยา องฺคํ โหตี’’ติอาทินา อกุสลจิตฺตสฺสาปิ อาปตฺติยา การณตฺเตน ภินฺนตาว ทสฺสิตา. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา ทสฺสิตเมวาติ อิธ น วิตฺถารยิมฺห. เอวํ วีติกฺกมโต โย วีติกฺกโมติ เอตฺถ อกุสลจิตฺเตน ตฺวา วีติกฺกมนฺตสฺส กายวจีวีติกฺกมสมุฏฺิตา อาปตฺติวีติกฺกโมติ วุตฺโต. เอส นโย อพฺยากตวาเรปิ.
อธิกรณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อธิกรณวูปสมนสมถกถาทิวณฺณนา
๒๒๘. ปาฬิยํ ¶ วิวาทาธิกรณํ เอกํ สมถํ อนาคมฺมาติอาทิ ปุจฺฉา. สิยาติอาทิ วิสฺสชฺชนํ. สิยาติสฺส วจนียนฺติ เอเตเนว วูปสมํ สิยาติ วตฺตพฺพํ ภเวยฺยาติ อตฺโถ. สมฺมุขาวินยสฺมินฺติ สมฺมุขาวินยตฺตสฺมินฺติ ภาวปฺปธาโน นิทฺเทโส ทฏฺพฺโพ. เอวํ สพฺพวาเรสุ. ‘‘การโก อุกฺโกเฏตี’’ติ อิทํ อุปลกฺขณมตฺตํ, ยสฺส กสฺสจิ อุกฺโกเฏนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว. อุพฺพาหิกาย ขียนเก ปาจิตฺติยํ น วุตฺตํ ตตฺถ ฉนฺททานสฺส นตฺถิตาย.
๒๓๕. วณฺณาวณฺณาโย กตฺวาติ ขุทฺทกมหนฺเตหิ สฺาเณหิ ยุตฺตาโย กตฺวา. เตนาห ‘‘นิมิตฺตสฺํ อาโรเปตฺวา’’ติ.
๒๔๒. กิจฺจาธิกรณํ ¶ …เป… สมฺมตีติ เอตฺถ สมฺมุขาวินเยน อปโลกนาทิกมฺมํ สมฺปชฺชตีติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
อธิกรณวูปสมนสมถกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมถกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๕. ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธโก
ขุทฺทกวตฺถุกถาวณฺณนา
๒๔๓. ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธเก ¶ ¶ อฏฺปทากาเรนาติ ชูตผลเก อฏฺคพฺภราชิอากาเรน. มลฺลกมูลสณฺาเนนาติ เขฬมลฺลกมูลสณฺาเนน. อิทฺจ วฏฺฏาธารกํ สนฺธาย วุตฺตํ, กณฺฏเก อุฏฺาเปตฺวา กตวฏฺฏกปาลสฺเสตํ อธิวจนํ.
๒๔๔. ปุถุปาณิกนฺติ มุฏฺึ อกตฺวา วิกสิตหตฺถตเลหิ ปิฏฺิปริกมฺมํ วุจฺจติ. เอตเมว สนฺธาย ‘‘หตฺถปริกมฺม’’นฺติ วุตฺตํ.
๒๔๕. มุตฺโตลมฺพกาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน กุณฺฑลาทึ สงฺคณฺหาติ. ปลมฺพกสุตฺตนฺติ พฺราหฺมณานํ ยฺโปจิตสุตฺตาทิอาการํ วุจฺจติ. วลยนฺติ หตฺถปาทวลยํ.
๒๔๖. ทฺวงฺคุเลติ อุปโยคพหุวจนํ, ทฺวงฺคุลปฺปมาณํ อติกฺกาเมตุํ น วฏฺฏตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ทุมาสสฺส วา ทฺวงฺคุลสฺส วา อติกฺกนฺตภาวํ อชานนฺตสฺสาปิ เกสมสฺสุคณนาย อจิตฺตกาปตฺติโย โหนฺตีติ วทนฺติ.
โกจฺเฉนาติ อุสีรติณาทีนิ พนฺธิตฺวา สมํ ฉินฺทิตฺวา คหิตโกจฺเฉน. จิกฺกเลนาติ สิเลสยุตฺตเตเลน. อุณฺหาภิตตฺตรชสิรานมฺปีติ อุณฺหาภิตตฺตานํ รโชกิณฺณสิรานํ. อทฺทหตฺเถนาติ อลฺลหตฺเถน.
๒๔๘-๙. สาธุคีตนฺติ อนิจฺจตาทิปฏิสฺุตฺตํ คีตํ. จตุรสฺเสน วตฺเตนาติ ปริปุณฺเณน อุจฺจารณวตฺเตน. ตรงฺควตฺตาทีนํ สพฺเพสมฺปิ สามฺลกฺขณํ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺเพสํ…เป… ลกฺขณ’’นฺติ ¶ วุตฺตํ. ยตฺตกาหิ มตฺตาหิ อกฺขรํ ปริปุณฺณํ โหติ, ตโตปิ อธิกมตฺตายุตฺตํ กตฺวา กถนํ วิการกถนํ นาม, ตถา อกตฺวา กถนเมว ลกฺขณนฺติ อตฺโถ. พาหิรโลมินฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส, ยถา พหิทฺธา โลมานิ ทิสฺสนฺติ, เอวํ ธาเรนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ.
๒๕๐. ปาฬิยํ ¶ ตรุณฺเว อมฺพนฺติ ตรุณํ อสฺชาตพีชํ เอว อมฺพผลํ. ปาตาเปตฺวาติ ฉินฺทาเปตฺวาว. ‘‘มตฺตาวณฺณิตา’’ติ อิทํ ‘‘ปเร นินฺทนฺตี’’ติ สาสนหิเตสิตาย วุตฺตํ. น ปริยาปุณึสูติ นาสิกฺขึสุ.
๒๕๑. จตฺตาริ อหิราชกุลานีติ สพฺเพสํ อหิเภทานํ จตูสุ เอว สงฺคหโต วุตฺตํ. อตฺตปริตฺตํ กาตุนฺติ อตฺตโน ปริตฺตาณํ กาตุํ.
วิรูปกฺเขหิ เม เมตฺตนฺติ วิรูปกฺขชาติเกหิ นาเคหิ สห มยฺหํ มิตฺตภาโว โหตุ, เมตฺตา โหตูติ อตฺโถ, เต สุขิตา นิทฺทุกฺขา อเวรา โหนฺตูติ อธิปฺปาโย. เอวฺหิ เมตฺตาผรณํ โหติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อปาทเกหีติ อหิกุเลหิ สห สพฺพสตฺเตสุ โอธิโส เมตฺตาผรณทสฺสนํ. มา มํ อปาทโก หึสีติ ตาย เมตฺตาย อตฺตรกฺขาวิธานทสฺสนํ.
สพฺเพ สตฺตาติอาทิ อตฺตานํ อุปมํ กตฺวา สพฺพสตฺเตสุ อโนธิโส เมตฺตาผรณทสฺสนํ. ตตฺถ มา กฺจิ ปาปมาคมาติ กฺจิ สตฺตํ ลามกํ ทุกฺขเหตุ, ทุกฺขฺจ มา อาคจฺฉตุ.
เอวํ เมตฺตาย อตฺตคุตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ รตนตฺตยานุสฺสรเณน ทสฺเสตุํ ‘‘อปฺปมาโณ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปมาณกรธมฺมา อกุสลา, ตพฺพิปากา จ ปมาณา, ตปฺปฏิปกฺขา สีลาทโย คุณา, ตพฺพิปากา จ โลกิยโลกุตฺตรผลานิ อปฺปมาณา, เต อสฺส อตฺถีติ อปฺปมาโณ, อปฺปมาณา วา อปริเมยฺยคุณา อสฺสาติปิ อปฺปมาโณ. ปมาณวนฺตานีติ ยถาวุตฺตปมาณกรธมฺมยุตฺตานิ. อหิวิจฺฉิกาติ สรีสปานฺเว ปเภททสฺสนํ. อุณฺณนาภีติ โลมสนาภิโก มกฺกโฏ. สรพูติ ฆรโคฬิกา.
ปฏิกฺกมนฺตูติ อปคจฺฉนฺตุ, มา มํ วิเหสยึสูติ อตฺโถ. โสหํ นโมติ เอตฺถ ‘‘กโรมี’’ติ ปาเสโส. ยสฺมา มยา เมตฺตาทีหิ ตุมฺหากฺจ มยฺหฺจ รกฺขา กตา, ยสฺมา จ โสหํ ภควโต นโม กโรมิ, วิปสฺสีอาทีนํ สตฺตนฺนมฺปิ นโม กโรมิ, ตสฺมา ปฏิกฺกมนฺตุ ภูตานีติ โยชนา.
อฺมฺหีติ ¶ กามราเค อสุภมนสิการาทินา เฉตพฺเพติ อตฺโถ. องฺคชาตนฺติ พีชวิรหิตํ ปุริสนิมิตฺตํ. พีเช หิ ฉินฺเน โอปกฺกมิกปณฺฑโก นาม อภพฺโพ โหตีติ วทนฺติ. เอเก ปน ‘‘พีชสฺสาปิ เฉทนกฺขเณ ¶ ทุกฺกฏาปตฺติ เอว กเมน ปุริสินฺทฺริยาทิเก อนฺตรหิเต ปณฺฑโก นาม อภพฺโพ โหติ, ตทา ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺโพ’’ติ วทนฺติ. ตาทิสํ วา ทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺตสฺสาติ มุฏฺิปฺปหาราทีหิ อตฺตโน ทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺตสฺส.
๒๕๒. ปาฬิยํ ตุยฺเหโส ปตฺโตติ ‘‘โย จ อรหา เจว อิทฺธิมา จ, ตสฺส ทินฺนเมวา’’ติ เสฏฺินา วุตฺตํ, ตํ สนฺธาย วทติ. ตํ ปตฺตํ คเหตฺวา ติกฺขตฺตุํ ราชคหํ อนุปริยายีติ เอตฺถ เวฬุปรมฺปราย พทฺธปตฺตสฺส อุปริภาเค อากาเส นครํ ติกฺขตฺตุํ อนุปริยายิตฺวา ิตภาวํ สนฺธาย ‘‘ปตฺตํ คเหตฺวา’’ติ วุตฺตํ, น ปน เถโร หตฺเถน ปตฺตํ สยเมว อคฺคเหสิ. เกจิ ปน วทนฺติ ‘‘อิทฺธิพเลน ตํ ปตฺตํ เวฬุปรมฺปรโต มฺุจิตฺวา เถรํ อนุพนฺธมาโน อฏฺาสิ, โส จ อเนน หตฺเถน คหิโต วิย อโหสี’’ติ. ตถา ิตเมว ปน สนฺธาย ‘‘ภารทฺวาชสฺส หตฺถโต ปตฺตํ คเหตฺวา’’ติ วุตฺตํ. เต จ มนุสฺสา…เป… อนุพนฺธึสูติ เย จ มนุสฺสา ปมํ ปาฏิหาริยํ นาทฺทสํสุ, เต อมฺหากมฺปิ ปาฏิหาริยํ ทสฺเสหีติ เถรมนุพนฺธึสุ. เถโร จ สีหพฺยคฺฆาทิรูปํ คเหตฺวา วิกุพฺพนิทฺธึ ทสฺเสติ, เต จ อจฺฉริยพฺภุตชาตา อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา อเหสุํ. เตนาห ‘‘กึ นุ โข โส, อานนฺท, อุจฺจาสทฺโท มหาสทฺโท’’ติ. อิทฺธิปาฏิหาริยํ น ทสฺเสตพฺพนฺติ เอตฺถ ‘‘โย ปกติวณฺณํ วิชหิตฺวา กุมารวณฺณํ วา ทสฺเสติ, นาควณฺณํ วา…เป… วิวิธมฺปิ เสนาพฺยูหํ ทสฺเสตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๓.๑๓) เอวมาคตา อตฺตโน สรีรสฺส วิการาปาทนวสปฺปวตฺตา วิกุพฺพนิทฺธิ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘อธิฏฺานิทฺธิ ปน อปฺปฏิกฺขิตฺตา’’ติ. ปกติยา เอโก พหุกํ อาวชฺชติ, สตํ วา สหสฺสํ วา สตสหสฺสํ วา อาวชฺเชตฺวา าเณน อธิฏฺาติ ‘‘พหุโก โหมี’’ติ (ปฏิ. ม. ๓.๑๐) เอวํ ทสฺสิตา อธิฏฺานวเสน นิปฺผนฺนา อธิฏฺานิทฺธิ นาม. คิหิวิกฏานีติ คิหิสนฺตกานิ.
๒๕๓. ปาฬิยํ น อจฺฉุปิยนฺตีติ น ผุสิตานิ โหนฺติ. รูปกากิณฺณานีติ อิตฺถิรูปาทีหิ อากิณฺณานิ.
๒๕๔. ภูมิอาธารเกติ ทนฺตาทีหิ กเต วลยาธารเก. เอตสฺส วลยาธารกสฺส อนุจฺจตาย ปิตา ปตฺตา น ปริปตนฺตีติ ‘‘ตโย ปตฺเต ¶ เปตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อนุจฺจตฺหิ สนฺธาย อยํ ‘‘ภูมิอาธารโก’’ติ วุตฺโต. ทารุอาธารกทณฺฑาธารเกสูติ เอกทารุนา ¶ กตอาธารเก, พหูหิ ทณฺเฑหิ กตอาธารเก จ. เอเต จ อุจฺจตรา โหนฺติ ปตฺเตหิ สห ปตนสภาวา. เตน ‘‘สุสชฺชิเตสู’’ติ วุตฺตํ. ภมโกฏิสทิโสติ ยตฺถ ธมกรณาทึ ปเวเสตฺวา ลิขนฺติ, ตสฺส ภมกสฺส โกฏิยา สทิโส. ตาทิสสฺส ทารุอาธารกสฺส อวิตฺถิณฺณตาย ปิโตปิ ปตฺโต ปตตีติ ‘‘อโนกาโส’’ติ วุตฺโต.
อาลินฺทกมิฑฺฒิกาทีนนฺติ ปมุขมิฑฺฒิกาทีนํ, อุจฺจวตฺถุกานนฺติ อตฺโถ. พาหิรปสฺเสติ ปาสาทาทีนํ พหิกุฏฺเฏ. ตนุกมิฑฺฒิกายาติ เวทิกาย. สพฺพตฺถ ปน หตฺถปฺปมาณโต อพฺภนฺตเร เปตุํ วฏฺฏติ. อาธาเร ปน ตโต พหิปิ วฏฺฏติ.
ปาฬิยํ โอฏฺโติ มุขวฏฺฏิ. ปตฺตมาฬกนฺติ อุปจิกานํ อนุฏฺหนตฺถาย ภูมิโต อุจฺจตรํ กตํ เวทิกาการมาฬกํ. มหามุขกุณฺฑสณฺานาติ มหามุขจาฏิสณฺานา. ลคฺเคนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ เกวลํ ปตฺตํ ลคฺเคนฺตสฺส, น ถวิกาย ลคฺเคนฺตสฺสาติ วทนฺติ. วีมํสิตพฺพํ. อฺเน ปน ภณฺฑเกนาติ อฺเน ภารพนฺธเนน ภณฺฑเกน. ‘‘พนฺธิตฺวา โอลมฺเพตุ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ปตฺตตฺถวิกาย อํสพทฺธโก ยถา ลคฺคิตฏฺานโต น ปริคฬติ, ตถา สพฺพถาปิ พนฺธิตฺวา เปตุํ วฏฺฏติ. พนฺธิตฺวาปิ อุปริ เปตุํ น วฏฺฏตีติ อุปริ นิสีทนฺตา โอตฺถริตฺวา ภินฺทนฺตีติ วุตฺตํ. ตตฺถ เปตุํ วฏฺฏตีติ นิสีทนสงฺกาภาวโต วุตฺตํ. พนฺธิตฺวา วาติ พนฺธิตฺวา ปิตฉตฺเต วา. โย โกจีติ ภตฺตปูโรปิ ตุจฺฉปตฺโตปิ.
๒๕๕. ปริหริตุนฺติ ทิวเส ทิวเส ปิณฺฑาย จรณตฺถาย เปตุํ. ปตฺตํ อลภนฺเตน ปน เอกทิวสํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ภฺุชิตฺวา ฉฑฺเฑตุํ วฏฺฏติ. เตนาห ‘‘ตาวกาลิกํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ปณฺณปุฏาทีสุปิ เอเสว นโย. อภุํ เมติ อภูติ มยฺหํ, วินาโส มยฺหนฺติ อตฺโถ. ปาฬิยํ ปิสาโจ วตมนฺติ ปิสาโจ วตายํ, อยเมว วา ปาโ. ปิสาจิลฺลิกาติ ปิสาจทารกา. ฉวสีสสฺส ปตฺโตติ ฉวสีสมโย ปตฺโต. ปกติวิการสมฺพนฺเธ เจตํ สามิวจนํ.
จพฺเพตฺวาติ ¶ นิฏฺุภิตฺวา. ‘‘ปฏิคฺคหํ กตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา อุจฺฉิฏฺหตฺเถน อุทกํ คเหตฺวา ปตฺตํ ปริปฺโผสิตฺวา โธวนฆํสนวเสน หตฺถํ โธวิตุํ วฏฺฏติ, เอตฺตเกน ปตฺตํ ปฏิคฺคหํ กตฺวา หตฺโถ โธวิโต นาม น โหติ. เอกํ อุทกคณฺฑุสํ คเหตฺวาติ ปตฺตํ อผุสิตฺวา ตตฺถ อุทกเมว อุจฺฉิฏฺหตฺเถน อุกฺขิปิตฺวา คณฺฑุสํ กตฺวา, วามหตฺเถเนว วา ปตฺตํ อุกฺขิปิตฺวา มุเขน คณฺฑุสํ คเหตุมฺปิ วฏฺฏติ. พหิ อุทเกน วิกฺขาเลตฺวาติ ทฺวีสุ องฺคุลีสุ อามิสมตฺตํ วิกฺขาเลตฺวา พหิ คเหตุมฺปิ วฏฺฏติ. ปฏิขาทิตุกาโมติ เอตฺถ น สยํ ขาทิตุกาโมปิ อฺเสํ ขาทนารหํ เปตุํ ลภติ ¶ . ตตฺเถว กตฺวาติ ปตฺเตเยว ยถาปิตฏฺานโต อนุทฺธริตฺวา. ลฺุจิตฺวาติ ตโต มํสเมว นิรวเสสํ อุปฺปฏฺเฏตฺวา.
๒๕๖. กิณฺณจุณฺเณนาติ สุรากิณฺณจุณฺเณน. มกฺเขตุนฺติ สูจึ มกฺเขตุํ. นิสฺเสณิมฺปีติ จตูหิ ทณฺเฑหิ จีวรปฺปมาเณน อายตจตุรสฺสํ กตฺวา พทฺธปฏลมฺปิ. เอตฺถ หิ จีวรโกฏิโย สมกํ พนฺธิตฺวา จีวรํ ยถาสุขํ สิพฺพนฺติ. ตตฺถ อตฺถริตพฺพนฺติ ตสฺสา นิสฺเสณิยา อุปริ จีวรสฺส อุปตฺถมฺภนตฺถาย อตฺถริตพฺพํ. กถินสงฺขาตาย นิสฺเสณิยา จีวรสฺส พนฺธนกรชฺชุ กถินรชฺชูติ มชฺฌิมปทโลปีสมาโสติ อาห ‘‘ยายา’’ติอาทิ. ตตฺถ ยสฺมา ทฺวินฺนํ ปฏลานํ เอกสฺมึ อธิเก ชาเต ตตฺถ วลิโย โหนฺติ, ตสฺมา ทุปฏฺฏจีวรสฺส ปฏลทฺวยมฺปิ สมกํ กตฺวา พนฺธนกรชฺชุ กถินรชฺชูติ เวทิตพฺพํ.
ปาฬิยํ กถินสฺส อนฺโต ชีรตีติ กถิเน พทฺธสฺส จีวรสฺส ปริยนฺโต ชีรติ. กถินนิสฺสิตฺหิ จีวรํ อิธ นิสฺสยโวหาเรน ‘‘กถิน’’นฺติ วุตฺตํ ‘‘มฺจา โฆสนฺตี’’ติอาทีสุ วิย. อนุวาตํ ปริภณฺฑนฺติ กถิเน พนฺธนรชฺชูหิ จีวรสฺส สมนฺตา ปริยนฺตสฺส อชีรณตฺถํ เยหิ เกหิจิ โจฬเกหิ ทีฆโต อนุวาตํ, ติริยโต ปริภณฺฑฺจ สิพฺพิตฺวา กาตุํ ยตฺถ รชฺชุเก ปเวเสตฺวา ทณฺเฑสุ ปลิเวเตฺวา จีวรสมกํ อากฑฺฒิตุํ สกฺกา, ตาทิสนฺติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘กถินสงฺขาเตสุ กิลฺชาทีสุ เอว อชีรณตฺถาย อนุวาตปริภณฺฑกรณํ อนฺุาต’’นฺติ วทนฺติ. ตสฺส มชฺเฌติ ปุราณกถินสฺเสว อนฺโต. ภิกฺขุโน ปมาเณนาติ ภิกฺขุโน จีวรสฺส ปมาเณน. อฺํ นิสฺเสณินฺติ ทีฆโต จ ติริยโต จ อฺํ ทณฺฑํ เปตฺวา พนฺธิตุํ.
พิทลกนฺติ ¶ ทิคุณกรณสงฺขาตกิริยาวิเสสสฺส อธิวจนํ. เตนาห ‘‘ทุคุณกรณ’’นฺติ. ปเวสนสลากนฺติ วลีนํ อคฺคหณตฺถาย ปเวสนกเวฬุสลากาทิ. ปาฬิยํ ปฏิคฺคหนฺติ องฺคุลิกฺจุกํ.
๒๕๗. ปาติ นาม ภณฺฑฏฺปนโก ภาชนวิเสโส. ปาฬิยํ ปฏิคฺคหถวิกนฺติ ปาติอาทิภาชนตฺถวิกํ. จินิตุนฺติ อุจฺจวตฺถุปริยนฺตสฺส อปตนตฺถาย อิฏฺกาทีหิ จินิตุํ. อาลมฺพนพาหนฺติ อาลมฺพนรชฺชุทณฺฑาทิ. ปริภิชฺชตีติ กฏสาราทิกํ กถินมชฺเฌ ภงฺคํ โหติ. อุสฺสาเปตฺวาติ ทณฺฑกถินํ สนฺธาย วุตฺตํ.
๒๕๘-๙. อุทกํ ¶ อกปฺปิยนฺติ สปฺปาณกํ. อุปนนฺธีติ เวรํ พนฺธิ. อทฺธานมคฺโค ปฏิปชฺชิตพฺโพติ เอตฺถ อทฺธโยชนํ อทฺธานมคฺโค นาม, ตํ ปฏิปชฺชิตุกามสฺส สฺจิจฺจ วิหารูปจาราติกฺกมเน อาปตฺติ. อสฺจิจฺจ คตสฺส ปน ยตฺถ สรติ, ตตฺถ ตฺวา สงฺฆาฏิกณฺณาทึ อนธิฏฺหิตฺวา คมเน ปทวาเรน อาปตฺตีติ เวทิตพฺพํ. น สมฺมตีติ น ปโหติ.
๒๖๐. อภิสนฺนกายาติ เสมฺหาทิโทสสนฺนิจิตกายา. ตตฺถ มชฺเฌติ อคฺคฬปาสกสฺส มชฺเฌ. อุปรีติ อคฺคฬปาสกสฺส อุปริภาเค. อุทกฏฺปนฏฺานนฺติ อุทกฏฺปนตฺถาย ปริจฺฉินฺทิตฺวา กตฏฺานํ.
๒๖๑. ปาฬิยํ อุทปานนฺติ กูปํ. นีจวตฺถุโกติ กูปสฺส สมนฺตา กูลฏฺานํ, ภูมิสมํ ติฏฺตีติ อตฺโถ. อุทเกน โอตฺถริยฺยตีติ สมนฺตา วสฺโสทกํ อาคนฺตฺวา กูเป ปตตีติ อตฺโถ.
๒๖๒. วาเหนฺตีติ อุสฺสิฺจนฺติ. อรหฏฆฏิยนฺตํ นาม จกฺกสณฺานํ อเนการํ อเร อเร ฆฏิกานิ พนฺธิตฺวา เอเกน, ทฺวีหิ วา ปริพฺภมิยมานยนฺตํ.
๒๖๓. อาวิทฺธปกฺขปาสกนฺติ กณฺณิกมณฺฑลสฺส สมนฺตา ปิตปกฺขปาสกํ. มณฺฑเลติ กณฺณิกมณฺฑเล. ปกฺขปาสเก เปตฺวาติ สมนฺตา จตุรสฺสากาเรน ผลกาทีนิ เปตฺวา.
๒๖๔. นมตกํ ¶ นาม สนฺถตสทิสนฺติ เกจิ วทนฺติ. เกจิ ปน ‘‘รุกฺขตจมย’’นฺติ. จมฺมขณฺฑปริหาเรนาติ อนธิฏฺหิตฺวา สยนาสนวิธินาติ อตฺโถ. เปฬายาติ อฏฺํสโสฬสํสาทิอากาเรน กตาย ภาชนาการาย เปฬาย. ยตฺถ อุณฺหปายาสาทึ ปกฺขิปิตฺวา อุปริ โภชนปาตึ เปนฺติ ภตฺตสฺส อุณฺหภาวาวิคมนตฺถํ, ตาทิสสฺส ภาชนาการสฺส อาธารสฺเสตํ อธิวจนํ. เตเนว ปาฬิยํ ‘‘อาสิตฺตกูปธาน’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺส จ ปายาสาทีหิ อาสิตฺตกาธาโรติ อตฺโถ. อิทฺจ อาสิตฺตกูปธานํ ปจฺจนฺเตสุ น ชานนฺติ กาตุํ, มชฺฌิมเทเสเยว กโรนฺติ. เกจิ ปน ‘‘คิหิปริโภโค อโยมยาทิ สพฺโพปิ อาธาโร อาสิตฺตกูปธานเมว อนุโลเมตี’’ติ วทนฺติ, เอเก ปน ‘‘กปฺปิยโลหมโย อาธาโร มโฬริกเมว อนุโลเมตี’’ติ. วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. ปุพฺเพ ปตฺตคุตฺติยา อาธาโร อนฺุาโต. อิทานิ ภฺุชิตุํ มโฬริกา อนฺุาตา. ฉิทฺทนฺติ ฉิทฺทยุตฺตํ. วิทฺธนฺติ อนฺโตวินิวิทฺธฉิทฺทํ. อาวิทฺธนฺติ สมนฺตโต ฉิทฺทํ.
๒๖๕. ปตฺตํ นิกฺกุชฺชิตุนฺติ เอตฺถ กมฺมวาจาย อสมฺโภคกรณวเสเนว นิกฺกุชฺชนํ, น ปตฺตานํ ¶ อโธมุขฏฺปเนน. เตนาห ‘‘อสมฺโภคํ สงฺเฆน กโรตู’’ติอาทิ, ตํ วฑฺฒํ กมฺมวาจาย สงฺเฆน สทฺธึ อสมฺโภคํ สงฺโฆ กโรตูติ อตฺโถ.
ปตฺตํ นิกฺกุชฺเชยฺยาติ วฑฺฒสฺส ปตฺตนิกฺกุชฺชนทณฺฑกมฺมํ กเรยฺย. อสมฺโภคํ สงฺเฆน กรณนฺติ สงฺเฆน วฑฺฒสฺส อสมฺโภคกรณํ. ยถา อสมฺโภโค โหติ, ตถา กรณนฺติ อตฺโถ. นิกฺกุชฺชิโต…เป… อสมฺโภคํ สงฺเฆนาติ เอตฺถ สงฺเฆน อสมฺโภโค โหตีติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอวํ ภควตา อสมฺโภคกรณสฺส อาณตฺตตฺตา, กมฺมวาจาย จ สาวิตตฺตา, อฏฺกถายฺจ ‘‘โกจิ เทยฺยธมฺโม น คเหตพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา ปตฺเต นิกฺกุชฺชิเต ตสฺส สนฺตกํ ตฺวา คณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏเมวาติ คเหตพฺพํ.
อจฺจโยติ ายปฺปฏิปตฺตึ อติกฺกมิตฺวา ปวตฺติ, อปราโธติ อตฺโถ. มํ อจฺจคมาติ มํ อติกฺกมฺม ปวตฺโต. ตํ เต มยํ ปฏิคฺคณฺหามาติ ตํ เต อปราธํ มยํ ขมาม. ภิกฺขูนํ อลาภาย ปริสกฺกตีติอาทีสุ อลาภาย ¶ ปริสกฺกนาทิโต วิรโตติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. อสมฺโภคํ ภิกฺขุสงฺเฆนาติ เอตฺถ ‘‘กโต’’ติ ปาเสโส.
๒๖๘. ยาว ปจฺฉิมา โสปานกเฬวราติ ปมโสปานผลกํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตฺหิ ปจฺฉา ทุสฺเสน สนฺถตตฺตา เอว วุตฺตํ. ‘‘ปจฺฉิมํ ชนตํ ตถาคโต อนุกมฺปตี’’ติ อิทํ เถโร อนาคเต ภิกฺขูนํ เจลปฏิกสฺส อกฺกมนปจฺจยา อปวาทํ สิกฺขาปทปฺตฺติยา นิวารเณน ภควโต อนุกมฺปํ สนฺธายาห. อปคตคพฺภาติ วิชาตปุตฺตา. เตนาห ‘‘มงฺคลตฺถายา’’ติ.
๒๖๙-๒๗๐. พีชนินฺติ จตุรสฺสพีชนึ. เอกปณฺณจฺฉตฺตนฺติ ตาลปณฺณาทินา เอเกน ปตฺเตน กตฉตฺตํ.
๒๗๔-๕. อนุรกฺขณตฺถนฺติ ปริคฺคเหตฺวา โคปนตฺถํ. ทีฆํ กาเรนฺตีติ เกเสหิ สทฺธึ อจฺฉินฺทิตฺวา ปาเปนฺติ. จตุโกณนฺติ ยถา อุปริ นลาฏนฺเตสุ ทฺเว, เหฏฺา หนุกปสฺเส ทฺเวติ จตฺตาโร โกณา ปฺายนฺติ, เอวํ จตุรสฺสํ กตฺวา กปฺปาปนํ. ปาฬิยํ ทาิกํ ปาเปนฺตีติ อุตฺตโรฏฺเ มสฺสุํ อจฺฉินฺทิตฺวา ปาเปนฺติ. รุธีติ ขุทฺทกวณํ.
๒๗๗. ปาฬิยํ โลหภณฺฑกํสภณฺฑสนฺนิจโยติ โลหภณฺฑสฺส, กํสภณฺฑสฺส จ สนฺนิจโยติ ¶ อตฺโถ. พนฺธนมตฺตนฺติ วาสิทณฺฑาทีนํ โกฏีสุ อปาตนตฺถํ โลเหหิ พนฺธนํ. ตนฺตกนฺติ อาโยควายนตฺถํ ตทากาเรน ปสาริตตนฺตํ.
๒๗๘. ‘‘ยตฺถ สรติ, ตตฺถ พนฺธิตพฺพ’’นฺติ เอเตน อสฺจิจฺจ กายพนฺธนํ อพนฺธิตฺวา ปวิฏฺสฺส อนาปตฺตีติ ทสฺเสติ. มุรชวฏฺฏิสณฺานํ เวเตฺวา กตนฺติ เอวํ พหุรชฺชุเก เอกโต กตฺวา นานาวณฺเณหิ สุตฺเตหิ กตนฺติ เกจิ วทนฺติ. เอกวณฺณสุตฺเตนาปิ วลยฆฏกาทิวิการํ ทสฺเสตฺวา เวิตมฺปิ มุรชเมว. วิการํ ปน อทสฺเสตฺวา มฏฺํ กตฺวา นิรนฺตรํ เวิตํ วฏฺฏติ. เตเนว ทุติยปาราชิกสํวณฺณนายํ วุตฺตํ ‘‘พหุรชฺชุเก เอกโต กตฺวา เอเกน นิรนฺตรํ เวเตฺวา กตํ ‘พหุรชฺชุก’นฺติ น วตฺตพฺพํ, วฏฺฏตี’’ติ. มุทฺทิกกายพนฺธนํ นาม จตุรสฺสํ อกตฺวา ¶ สชฺชิตํ. ปามงฺคทสา จตุรสฺสา. มุทิงฺคสณฺาเนนาติ วรกสีสากาเรน. ปาสนฺโตติ ทสาปริโยสานํ.
๒๗๙. ปาฬิยํ คณฺิกผลกํ ปาสกผลกนฺติ เอตฺถ ทารุทนฺตาทิมเยสุ ผลเกสุ คณฺิกปาสกานิ อปฺเปตฺวา จีวเร เปตุํ อนฺุาตํ. โกฏฺโฏ วิวริยตีติ อนุวาโต วิวริยติ.
๒๘๐-๑. ปาฬิการโกติ ภิกฺขูนํ ยถาวุฑฺฒํ ปาฬิยา ปติฏฺาปโก. ตสฺสาปิ ตถา ปารุปิตุํ น วฏฺฏติ. ปาฬิยํ มุณฺฑวฏฺฏีติ มลฺลาทโย.
๒๘๒. ปมาณงฺคุเลนาติ วฑฺฒกีองฺคุเลน. เกจิ ปน ‘‘ปกติองฺคุเลนา’’ติ วทนฺติ, ตํ จตุรงฺคุลปจฺฉิมกวจเนน น สเมติ. น หิ ปกตงฺคุเลน จตุรงฺคุลปฺปมาณํ ทนฺตกฏฺํ กณฺเ อวิลคฺคํ ขาทิตุํ สกาติ.
๒๘๕. ปาฬิยํ สกาย นิรุตฺติยา พุทฺธวจนํ ทูเสนฺตีติ มาคธภาสาย สพฺเพสํ วตฺตุํ สุกรตาย หีนชจฺจาปิ อุคฺคณฺหนฺตา ทูเสนฺตีติ อตฺโถ.
๒๘๙. มา ภิกฺขู พฺยาพาธยึสูติ ลสุณคนฺเธน ภิกฺขู มา พาธยึสุ.
๒๙๑. อวเลขนปีโรติ ¶ อวเลขนกฏฺานํ ปนภาชนวิเสโส. อปิธานนฺติ ปิธานผลกาทิ.
ขุทฺทกวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๖. เสนาสนกฺขนฺธโก
วิหารานุชานนกถาวณฺณนา
๒๙๕. เสนาสนกฺขนฺธเก ¶ ¶ สิสิเรติ สิสิรกาเล หิมปาตวเสน สตฺตาหวทฺทลิกาทิวสฺสปาตวสฺเสน จ อุปฺปนฺโน ขโร สีตสมฺผสฺโส อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘สมฺผุสิตโก’’ติ. ‘‘ตโต’’ติ อิทํ กตฺตุอตฺเถ นิสฺสกฺกวจนํ, เตน จ วิหาเรน วาตาตโป ปฏิหฺตีติ อตฺโถติ อาห ‘‘วิหาเรน ปฏิหฺตี’’ติ.
๒๙๖. อาวิฺฉนฉิทฺทนฺติ ยตฺถ องฺคุลึ วา รชฺชุสงฺขลิกาทึ วา ปเวเสตฺวา กวาฏํ อากฑฺฒนฺตา ทฺวารพาหํ ผุสาเปนฺติ, ตสฺเสตํ อธิวจนํ. เสนาสนปริโภเค อกปฺปิยํ นาม นตฺถีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘สเจปิ ทีปินงฺคุฏฺเนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เจติเย เวทิกาสทิสนฺติ วาตปานทารุํ วา ชาลํ วา อฏฺเปตฺวา ทารุฏฺาเน เจติเย เวทิกาย ปฏฺฏาทีนิ วิย อิฏฺกาทีหิ อุทฺธํ, ติริยฺจ ปฏฺฏิกาทโย ทสฺเสตฺวา จตุฉิทฺทยุตฺตํ กตํ. ถมฺภกวาตปานํ นาม ติริยํ ทารูนิ อทตฺวา อุทฺธํ ปิตทารูหิ เอว กตํ. โจฬกปาทปฺุฉนํ พนฺธิตุนฺติ วาตปานปฺปมาเณน ปาทปฺุฉนสทิสํ โจฬกาทินา พนฺธิตฺวา วคฺคุลิอาทิปฺปเวสนนิวารณตฺถํ, กเถตุนฺติ อตฺโถ. มิฑฺฒกนฺติ มฺจากาเรน กฏฺมตฺติกาทีหิ กตเวทิกาการํ.
๒๙๗. จตุรสฺสปีนฺติ สมจตุรสฺสํ. อฏฺงฺคุลปาทกํ วฏฺฏตีติ อฏฺงฺคุลปาทกเมว วฏฺฏติ. ปมาณาติกฺกนฺโตปิ วฏฺฏตีติ สมจตุรสฺสเมว สนฺธาย วุตฺตํ. อายตจตุรสฺสา ปน สตฺตงฺคปฺจงฺคาปิ อุจฺจปาทา น วฏฺฏนฺติ. เวตฺเตเหว จตุรสฺสาทิอากาเรน กตํ ภทฺทปีนฺติ อาห ‘‘เวตฺตมยํ ปี’’นฺติ. ทารุปฏฺฏิกาย อุปรีติ อฏนิอากาเรน ิตทารุปฏลสฺส เหฏฺา อุทฺธํ ปาทํ กตฺวา. ปเวสนกาลฺหิ สนฺธาย ‘‘อุปรี’’ติ วุตฺตํ. เอฬกสฺส ปจฺฉิมปาททฺวยํ วิย วงฺกากาเรน ิตตฺตา ปเนตํ ‘‘เอฬกปาทปี’’นฺติ วุตฺตํ. ปโลเนฺตีติ สห มฺเจหิ ปวฏฺเฏนฺติ. รุกฺเข ¶ , ลตา จ มฺุจิตฺวา อวเสสํ คจฺฉาทิกํ สพฺพมฺปิ ติณชาติ เอวาติ อาห ‘‘เยสํ เกสฺจิ ติณชาติกาน’’นฺติอาทิ.
อุปทหนฺตีติ ¶ เปนฺติ. สีสปฺปมาณํ นาม ยตฺถ คีวาย สห สกลํ สีสํ เปตุํ สกฺกา, ตสฺส จ มุฏฺิรตนํ วิตฺถารปฺปมาณนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิตฺถารโต’’ติอาทิมาห. อิทฺจ พิมฺโพหนสฺส อุโภสุ อนฺเตสุ เปตพฺพโจฬปฺปมาณทสฺสนํ. ตสฺส วเสน พิมฺโพหนสฺส วิตฺถารปฺปมาณํ ปริจฺฉิชฺชติ, ตํ วฏฺฏํ วา จตุรสฺสํ วา กตฺวา สิพฺพิตํ ยถา โกฏิโต โกฏิ วิตฺถารโต ปุถุลฏฺานํ มุฏฺิรตนปฺปมาณํ โหติ, เอวํ สิพฺพิตพฺพํ. อิโต อธิกํ น วฏฺฏติ, ตํ ปน อนฺเตสุ ปิตโจฬํ โกฏิยา โกฏึ อาหจฺจ ทิคุณํ กตํ ติกณฺณํ โหติ. เตสุ ตีสุ กณฺเณสุ ทฺวินฺนํ กณฺณานมนฺตรํ วิทตฺถิจตุรงฺคุลํ โหติ, มชฺฌฏฺานํ โกฏิโต โกฏึ อาหจฺจ มุฏฺิรตนํ โหติ, อิทมสฺส อุกฺกฏฺปฺปมาณํ. เตนาห ‘‘ตีสุ กณฺเณสู’’ติอาทิ.
‘‘กมฺพลเมว…เป… อุณฺณภิสิสงฺขฺยเมว คจฺฉตี’’ติ สามฺโต วุตฺตตฺตา โคนกาทิอกปฺปิยมฺปิ อุณฺณมยตฺถรณํ ภิสิยํ ปกฺขิปิตฺวา สยิตุํ วฏฺฏตีติ ทฏฺพฺพํ.
มสูรเกติ จมฺมมยภิสิยํ. จมฺมมยํ ปน พิมฺโพหนํ ตูลปุณฺณมฺปิ น วฏฺฏติ. ปาฬิยํ เสนาสนปริกฺขารทุสฺสนฺติ เสนาสนปริกฺขารกรณตฺถาย ทุสฺสํ. ภิสึ โอนนฺธิตุนฺติ ภิสิตฺถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา พนฺธิตุํ. ปริภิชฺชตีติ มฺจาทิโต สาริยมานา ปีโกฏิอาทีสุ นิสีทนฺเตหิ ฆํสิยมานา ภิสิ ปริภิชฺชติ. โอนทฺธมฺจนฺติ ภิสึ เอกาพทฺธํ กตฺวา พทฺธมฺจํ. ปาฬิยํ ฉวึ อุปฺปาเฏตฺวา หรนฺตีติ ภิสิจฺฉวึ โจรา หรนฺติ. โผสิตุนฺติ โจเรหิ หริตสฺส ปจฺฉา หริตสฺาณผุสิตพินฺทูนิ ทาตุํ. ภิตฺติกมฺมนฺติ นานาวณฺเณหิ วิภิตฺติราชิกรณํ. หตฺถกมฺมนฺติ หตฺเถน ยํ กิฺจิ สฺากรณํ.
๒๙๘. ปาฬิยํ น นิปตตีติ น อลฺลียติ. ปฏิพาเหตฺวาติ ฆํสิตฺวา. น นิพนฺธตีติ อนิพนฺธนีโย, น ลคฺคนโกติ อตฺโถ.
๒๙๙. ‘‘กโรหี’’ติ วตฺตุมฺปิ น ลพฺภตีติ อาณตฺติยา เอว ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ทฺวารปาลํ ‘‘กึ น กโรสี’’ติอาทินา ปริยาเยน วตฺตุํ วฏฺฏติ. ชาตกปกรณนฺติ ชาตกปฏิสํยุตฺตํ อิตฺถิปุริสาทิ ยํ กิฺจิ รูปํ อธิปฺเปตํ. ‘‘ปเรหิ การาเปตุ’’นฺติ วุตฺตตฺตา พุทฺธรูปมฺปิ สยํ กาตุํ น ลภติ. ปาฬิยํ ปฺจปฏิกนฺติ ชาติอาทิปฺจปฺปการวณฺณมฏฺํ.
๓๐๐. อุปจาโร ¶ ¶ น โหตีติ คพฺภสฺส พหิ สมนฺตา อนุปริคมนสฺส โอกาโส นปฺปโหติ. รุกฺขํ วิชฺฌิตฺวาติ ตจฺฉิตสารทารุํ อคฺคสมีเป วิชฺฌิตฺวา. กตฺวาติ ฉิทฺเท กตฺวา. กปฺปกตํ วิย สารขาณุเก อาโกเฏตฺวา เอวํ กตเมว ‘‘อาหริมํ ภิตฺติปาท’’นฺติ วุตฺตํ. อุปตฺถมฺภนตฺถํ ภูมิยํ ปติฏฺาเปตุนฺติ ชิณฺณภิตฺติปาเทน พหิ สมานภารํ ขาณุกปฺปสีเสน อุสฺสาเปตฺวา มูเลน ภูมิยํ ปติฏฺาเปตุํ. ปริตฺตาณตฺถนฺติ อุลฺลิตฺตาวลิตฺตกุฏิยา โอวสฺสนฏฺานสฺส ปริตฺตาณตฺถํ. กิฏิกนฺติ ตาลปณฺณาทีหิ กตปทลํ. มทฺทิตมตฺติกนฺติ โอวสฺสนฉิทฺทสฺส ปิทหนตฺถํ วุตฺตํ.
อุภโตกุฏฺฏํ นีหริตฺวา กตปเทสสฺสาติ ยถา พหิ ิตา อุชุกํ อนฺโต นิสินฺเน น ปสฺสนฺติ, เอวํ ทฺวาราภิมุขํ ปิทหนวเสน ภิตฺติฺจ อฺโต ทฺวารฺจ โยเชตฺวา กตฏฺานํ วทติ. สมนฺตา ปริยาคาโรติ สมนฺตโต อาวิทฺธปมุขํ. วํสํ ทตฺวาติ ปุริสปฺปมาเณ ปาเท นิขณิตฺวา เตสํ อุปริ ปิฏฺิวํสสทิสํ ปสฺสวํสํ เปตฺวา โอสาเรตฺวา. เอกํ ทณฺฑโกฏึ อติอุจฺจาย วิหารภิตฺติโกฏิยา เอกํ โกฏึ นีเจ วํสปิฏฺิยํ ปนวเสน ทณฺฑเก ปสาเรตฺวา. จกฺกลยุตฺโต กิฏิโกติ กวาฏํ วิย วิวรณถกนสุขตฺถํ จกฺกลพนฺธกิฏิกํ. ปาฬิยํ อุคฺฆาฏนกิฏิกนฺติ อาปณาทีสุ อนตฺถิกกาเล อุกฺขิปิตฺวา, อุปริ จ พนฺธิตฺวา ปจฺฉา โอตรณกิฏิกํ, กปฺปสีเสหิ วา อุปตฺถมฺภนีหิ อุกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา โอตรณกิฏิกมฺปิ.
๓๐๑. ปานียํ โอตปฺปตีติ ปานียภาชเนสุ ปิตปานียํ อาตเปน สนฺตปฺปติ.
๓๐๓. ตโย วาเฏติ ตโย ปริกฺเขเป. เวฬุวาฏนฺติ สพฺพํ ทารุปริกฺเขปํ สงฺคณฺหาติ. กณฺฏกวาฏนฺติ สพฺพสาขาปริกฺเขปํ.
๓๐๕. อาโลโก อนฺตรธายีติ โย พุทฺธารมฺมณาย ปีติยา อานุภาเวน มหนฺโต โอภาโส อโหสิ, เยน จสฺส ปทีปสหสฺเสน วิย วิคตนฺธกาโร มคฺโค อโหสิ, โส พหินคเร ฉวสรีรสมากุลํ ทุคฺคนฺธํ พีภจฺฉํ อามกสุสานํ ปตฺตสฺส ภเยน ปีติเวเค มนฺทีภูเต อนฺตรธายิ.
สตํ ¶ หตฺถีติ คาถาย หตฺถิโน สตสหสฺสานีติ เอวํ ปจฺเจกํ สหสฺส-สทฺเทน โยเชตฺวา อตฺโถ าตพฺโพ. ปทวีติหารสฺสาติ ‘‘พุทฺธํ วนฺทิสฺสามี’’ติ รตนตฺตยํ อุทฺทิสฺส คจฺฉโต เอกปทวีติหารสฺส ¶ , ตปฺปจฺจยกุสลผลสฺสาติ อตฺโถ. ตสฺส โสฬสโม ภาโค กลํ นาม, ตํ โสฬสึ กลํ ยถาวุตฺตา หตฺถิอาทโย สพฺเพ นาคฺฆนฺติ นารหนฺติ, นิทสฺสนมตฺตฺเจตํ. อเนกสตสหสฺสภาคมฺปิ นาคฺฆนฺติ.
อนฺธกาโร อนฺตรธายีติ ปุน พลวปีติยา อาโลเก สมุปฺปนฺเน อนฺตรธายิ. อาสตฺติโยติ ตณฺหาโย. วยกรณนฺติ เทยฺยธมฺมมูลํ นวกมฺมํ.
๓๐๙. ทเทยฺยาติ นวกมฺมํ อธิฏฺาตุํ วิหาเร อิสฺสริยํ ทเทยฺยาติ อตฺโถ. ทินฺโนติ นวกมฺมํ กาตุํ วิหาโร ทินฺโน, วิหาเร นวกมฺมํ ทินฺนนฺติ วา อตฺโถ.
๓๑๓-๔. สนฺถาคาเรติ สนฺนิปาตมณฺฑเป. โอกาเสติ นิวาโสกาเส. อุทฺทิสฺส กตนฺติ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส กตํ. คิหิวิกฏนฺติ คิหีหิ กตํ ปฺตฺตํ, คิหิสนฺตกนฺติ อตฺโถ.
วิหารานุชานนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เสนาสนคฺคาหกถาวณฺณนา
๓๑๘. ‘‘ฉมาสจฺจเยน ฉมาสจฺจเยนา’’ติ อิทํ ทฺวิกฺขตฺตุํ ปจฺจยทานกาลปริจฺเฉททสฺสนํ, เอวํ อุปริปิ. ‘‘ตํ น คาเหตพฺพ’’นฺติ วจนสฺส การณมาห ‘‘ปจฺจเยเนว หิ ต’’นฺติอาทินา, ปจฺจยฺเว นิสฺสาย ตตฺถ วสิตฺวา ปฏิชคฺคนา ภวิสฺสนฺตีติ อธิปฺปาโย.
อุพฺภณฺฑิกาติ อุกฺขิตฺตภณฺฑา ภวิสฺสนฺติ. ทีฆสาลาติ จงฺกมนสาลา. มณฺฑลมาโฬติ อุปฏฺานสาลา. อนุทหตีติ ปีเฬติ. ‘‘อทาตุํ น ลพฺภตี’’ติ อิมินา สฺจิจฺจ อททนฺตสฺส ปฏิพาหเน ปวิสนโต ทุกฺกฏนฺติ ทีเปติ.
‘‘น ¶ โคจรคาโม ฆฏฺเฏตพฺโพ’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘น ตตฺถ มนุสฺสา วตฺตพฺพา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิตกฺกํ ฉินฺทิตฺวาติ ‘‘อิมินา นีหาเรน คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา นิวาเรตฺวา ปจฺจเย ทสฺสนฺตี’’ติ เอวรูปํ วิตกฺกํ อนุปฺปาเทตฺวา. ภณฺฑปฺปฏิจฺฉาทนนฺติ ปฏิจฺฉาทนภณฺฑํ. สรีรปฺปฏิจฺฉาทนจีวรนฺติ อตฺโถ. ‘‘สุทฺธจิตฺตตฺตาว อนวชฺช’’นฺติ อิทํ ปุจฺฉิตกฺขเณ การณาจิกฺขนํ ¶ สนฺธาย วุตฺตํ น โหติ อสุทฺธจิตฺตสฺสปิ ปุจฺฉิตปฺหวิสชฺชเน โทสาภาวา. เอวํ ปน คเต มํ ปุจฺฉิสฺสนฺตีติสฺาย อคมนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
ปฏิชคฺคิตพฺพานีติ ขณฺฑผุลฺลปฏิสงฺขรณสมฺมชฺชนาทีหิ ปฏิชคฺคิตพฺพานิ. มุทฺทเวทิกายาติ เจติยสฺส หมฺมิยเวทิกาย ฆฏาการสฺส อุปริ จตุรสฺสเวทิกาย. กสฺมา ปุจฺฉิตพฺพนฺติอาทิ ยโต ปกติยา ลภติ. ตตฺถาปิ ปุจฺฉนสฺส การณสนฺทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.
ปฏิกฺกมฺมาติ วิหารโต อปสกฺกิตฺวา. ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โยชนทฺวิโยชนนฺตเร โหตี’’ติ อาห. อุปนิกฺเขปํ เปตฺวาติ วฑฺฒิยา กหาปณาทึ เปตฺวา, เขตฺตาทีนิ วา นิยเมตฺวา. อิติ สทฺธาเทยฺเยติ เอวํ เหฏฺา วุตฺตนเยน สทฺธาย ทาตพฺเพ วสฺสาวาสิกลาภวิสเยติ อตฺโถ.
วตฺถุ ปนาติ ตตฺรุปฺปาเท อุปฺปนฺนรูปิยํ, ตฺจ ‘‘ตโต จตุปจฺจยํ ปริภฺุชถา’’ติ ทินฺนเขตฺตาทิโต อุปฺปนฺนตฺตา กปฺปิยการกานํ หตฺเถ ‘‘กปฺปิยภณฺฑํ ปริภฺุชถา’’ติ ทายเกหิ ทินฺนวตฺถุสทิสํ โหตีติ อาห ‘‘กปฺปิยการกานํ หี’’ติอาทิ.
สงฺฆสุฏฺุตายาติ สงฺฆสฺส หิตาย. ปุคฺคลวเสนาติ ‘‘ภิกฺขู จีวเรน กิลมนฺตี’’ติ เอวํ ปุคฺคลปรามาสวเสน, น ‘‘สงฺโฆ กิลมตี’’ติ เอวํ สงฺฆปรามาสวเสน.
‘‘กปฺปิยภณฺฑวเสนา’’ติ สามฺโต วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘จีวรตณฺฑุลาทิวเสเนว จา’’ติ วุตฺตํ. จ-กาโร เจตฺถ ปน-สทฺทตฺเถ วตฺตติ, น สมุจฺจยตฺเถติ ทฏฺพฺพํ. ปุคฺคลวเสเนว, กปฺปิยภณฺฑวเสน จ อปโลกนปฺปการํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ ปน เอวํ กตฺตพฺพ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
จีวรปจฺจยํ สลฺลกฺเขตฺวาติ สทฺธาเทยฺยตตฺรุปฺปาทาทิวเสน ตสฺมึ วสฺสาวาเส ลพฺภมานํ จีวรสงฺขาตํ ปจฺจยํ ‘‘เอตฺตก’’นฺติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา. เสนาสนสฺสาติ เสนาสนคฺคาหาปนสฺส. ‘‘นวโก วุฑฺฒตรสฺส, วุฑฺโฒ จ ¶ นวกสฺสา’’ติ อิทํ เสนาสนคฺคาหสฺส อตฺตนาว อตฺตโน คหณํ อสารุปฺปนฺติ วุตฺตํ, ทฺเว อฺมฺํ คาเหสฺสนฺตีติ อธิปฺปาโย. อฏฺปิ โสฬสปิ ชเน สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏตีติ เอกกมฺมวาจาย สพฺเพปิ เอกโต สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏติ. นิคฺคหกมฺมเมว หิ สงฺโฆ สงฺฆสฺส น กโรติ. เตเนว สตฺตสติกกฺขนฺธเก ‘‘อุพฺพาหิกกมฺมสมฺมุติยํ อฏฺปิ ชนา เอกโตว สมฺมตาติ.
อาสนฆรนฺติ ¶ ปฏิมาฆรํ. มคฺโคติ อุปจารสีมพฺภนฺตรคเต คามาภิมุขมคฺเค กตสาลา วุจฺจติ. เอวํ โปกฺขรณีรุกฺขมูลาทีสุปิ.
ลภนฺตีติ ตตฺรวาสิโน ภิกฺขู ลภนฺติ. วิชเฏตฺวาติ ‘‘เอเกกสฺส ปโหนกปฺปมาเณน วิโยเชตฺวา. อาวาเสสุ ปกฺขิปิตฺวาติ ‘‘อิโต อุปฺปนฺนํ อสุกสฺมึ อสุกสฺมิฺจ อาวาเส วสนฺตา ปาเปตฺวา คณฺหนฺตู’’ติ วาจาย อุปสํหริตฺวา. ปวิสิตพฺพนฺติ มหาลาเภ ปริเวเณ วสิตฺวาว ลาโภ คเหตพฺโพติ อธิปฺปาโย.
อยมฺปีติ เอตฺถ โย ปํสุกูลิโก ปจฺจยํ วิสฺสชฺเชติ. เตเนว วิสฺสฏฺโ อยํ จีวรปจฺจโยปีติ โยชนา. ปาทมูเล เปตฺวา สาฏกํ เทนฺตีติ ปจฺจยทายกา เทนฺติ. เอเตน คหฏฺเหิ ปาทมูเล เปตฺวา ทินฺนมฺปิ ปํสุกูลิกานมฺปิ วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. อถ วสฺสาวาสิกํ เทมาติ วทนฺตีติ เอตฺถ ปํสุกูลิกานํ น วฏฺฏตีติ อชฺฌาหริตฺวา โยเชตพฺพํ. วสฺสํวุตฺถภิกฺขูนนฺติ ปํสุกูลิกโต อฺเสํ ภิกฺขูนํ.
อุปนิพนฺธิตฺวา คาหาเปตพฺพนฺติ อิธ รุกฺขาทีสุ วสิตฺวา จีวรํ คณฺหถาติ ปฏิพนฺธํ กตฺวา คาเหตพฺพํ.
ปาฏิปทอรุณโตติอาทิ วสฺสูปนายิกทิวสํ สนฺธาย วุตฺตํ. อนฺตรามุตฺตกํ ปน ปาฏิปทํ อติกฺกมิตฺวาปิ คาเหตุํ วฏฺฏติ. นิพทฺธวตฺตํ เปตฺวาติ สชฺฌายมนสิการาทีสุ นิรนฺตรกรณีเยสุ กตฺตพฺพํ กติกวตฺตํ กตฺวา. กสาวปริภณฺฑนฺติ กสาวรเสหิ ภูมิปริกมฺมํ.
ติวิธมฺปีติ ปริยตฺติปฏิปตฺติปฏิเวธวเสน ติวิธมฺปิ. โสเธตฺวาติ อาจาราทีสุ อุปปริกฺขิตฺวา. เอกจาริกวตฺตนฺติ ภาวนากมฺมํ. ตฺหิ คณสงฺคณิกํ ปหาย เอกจาริเกเนว วตฺติตพฺพตฺตา เอวํ วุตฺตํ. ทสวตฺถุกกถา ¶ นาม อปฺปิจฺฉกถา, สนฺตุฏฺิ, ปวิเวก, อสํสคฺค, วีริยารมฺภ, สีล, สมาธิ, ปฺา, วิมุตฺติ, วิมุตฺติาณทสฺสนกถาติ อิมา ทส.
ทนฺตกฏฺขาทนวตฺตนฺติ ทนฺตกฏฺมาฬเก นิกฺขิตฺเตสุ ทนฺตกฏฺเสุ ‘‘ทิวเส ทิวเส เอกเมว ทนฺตกฏฺํ คเหตพฺพ’’นฺติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๙) อทินฺนาทาเน ทนฺตโปนกถายํ วุตฺตํ วตฺตํ. ปตฺตํ วา…เป… น กเถตพฺพนฺติ ปตฺตคุตฺตตฺถาย วุตฺตํ. วิสภาคกถาติ ติรจฺฉานกถา. ขนฺธกวตฺตนฺติ ¶ วตฺตกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๖๕) อาคตํ ปิณฺฑจาริกวตฺตโต อวสิฏฺวตฺตํ ตสฺส ‘‘ภิกฺขาจารวตฺต’’นฺติ วิสุํ คหิตตฺตา.
อิทานิ ยํ ทายกา ปจฺฉิมวสฺสํวุตฺถานํ วสฺสาวาสิกํ เทนฺติ, ตตฺถ ปฏิปชฺชนวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘ปจฺฉิมวสฺสูปนายิกทิวเส ปนา’’ติ อารทฺธํ. อาคนฺตุโก สเจ ภิกฺขูติ จีวเร คาหิเต ปจฺฉา อาคโต อาคนฺตุโก ภิกฺขุ. ปตฺตฏฺาเนติ วสฺสคฺเคน ปตฺตฏฺาเน. ปมวสฺสูปคตาติ อาคนฺตุกสฺส อาคมนโต ปุเรตรเมว ปจฺฉิมิกาย วสฺสูปนายิกาย วสฺสูปคตา. ลทฺธํ ลทฺธนฺติ ปุนปฺปุนํ ทายกานํ สนฺติกา อาคตาคตสาฏกํ.
เนว วสฺสาวาสิกสฺส สามิโนติ ฉินฺนวสฺสตฺตา วุตฺตํ. ปมเมว กติกาย กตตฺตา ‘‘เนว อทาตุํ ลภนฺตี’’ติ วุตฺตํ, ทาตพฺพํ วาเรนฺตานํ คีวา โหตีติ อธิปฺปาโย. เตสเมว ทาตพฺพนฺติ วสฺสูปคเตสุ อลทฺธวสฺสาวาสิกานํ เอกจฺจานเมว ทาตพฺพํ.
ภตินิวิฏฺนฺติ ปานียุปฏฺานาทิภตึ กตฺวา ลทฺธํ. สงฺฆิกํ ปนาติอาทิ เกสฺจิ วาททสฺสนํ. ตตฺถ อปโลกนกมฺมํ กตฺวา คาหิตนฺติ ‘‘ฉินฺนวสฺสานํ วสฺสาวาสิกฺจ อิทานิ อุปฺปชฺชนกวสฺสาวาสิกฺจ อิเมสํ ทาตุํ รุจฺจตี’’ติ อนนฺตเร วุตฺตนเยน อปโลกนํ กตฺวา คาหิตํ สงฺเฆน ทินฺนตฺตา วิพฺภนฺโตปิ ลภติ. ปเคว ฉินฺนวสฺโส. ปจฺจยวเสน คาหิตํ ปน เตมาสํ วสิตฺวา คเหตุํ อตฺตนา, ทายเกหิ จ อนุมตตฺตา ภตินิวิฏฺมฺปิ ฉินฺนวสฺโสปิ วิพฺภนฺโตปิ น ลภตีติ เกจิ อาจริยา วทนฺติ. อิทฺจ ปจฺฉา วุตฺตตฺตา ปมาณํ. เตเนว วสฺสูปนายิกทิวเส เอว ทายเกหิ ทินฺนวสฺสาวาสิกํ คหิตภิกฺขุโน วสฺสจฺเฉทํ อกตฺวา วาโสว เหฏฺา วิหิโต, น ปานียุปฏฺานาทิภติกรณวตฺตํ. ยทิ หิ ตํ ¶ นิวิฏฺเมว สิยา, ภติกรณเมว วิธาตพฺพํ. ตสฺมา วสฺสคฺเคน คาหิตํ ฉินฺนวสฺสาทโย น ลภนฺตีติ เวทิตพฺพํ.
‘‘สงฺฆิกํ โหตี’’ติ เอเตน วุตฺถวสฺสานมฺปิ วสฺสาวาสิกภาโค สงฺฆิกโต อโมจิโต เตสํ วิพฺภเมน สงฺฆิโก โหตีติ ทสฺเสติ. ลภตีติ ‘‘มม ปตฺตภาคํ เอตสฺส เทถา’’ติ ทายเก สมฺปฏิจฺฉาเปนฺเตเนว สงฺฆิกโต วิโยชิตํ โหตีติ วุตฺตํ.
วรภาคํ สามเณรสฺสาติ ตสฺส ปมคาหตฺตา, เถเรน ปุพฺเพ ปมภาคสฺส คหิตตฺตา, อิทานิ คยฺหมานสฺส ทุติยภาคตฺตา จ วุตฺตํ.
เสนาสนคฺคาหกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุปนนฺทวตฺถุกถาวณฺณนา
๓๑๙. ปาฬิยํ ¶ อุภยตฺถ ปริพาหิโรติ กเมน อุภยสฺสปิ มุตฺตตฺตา วุตฺตํ, น สพฺพถา อุภยโต ปริพาหิรตฺตา. เตนาห ‘‘ปจฺฉิเม…เป… ติฏฺตี’’ติ.
๓๒๐. ยํ ติณฺณํ ปโหตีติ มฺจปีวินิมุตฺตํ ยํ อาสนํ ติณฺณํ สุขํ นิสีทิตุํ ปโหติ, อิทํ ปจฺฉิมทีฆาสนํ. เอตฺถ มฺจปีรหิเตสุ อสมานาสนิกาปิ ตโย นิสีทิตุํ ลภนฺติ. มฺจปีเสุ ปน ทฺเว. อทีฆาสเนสุ มฺจปีเสุ สมานาสนิกา เอว ทฺเว นิสีทิตุํ ลภนฺติ ทุวคฺคสฺเสว อนฺุาตตฺตา.
หตฺถินโข เหฏฺาภาเค เอตสฺส อตฺถีติ หตฺถินโข, ปาสาโท. ปาสาทสฺส นโข นาม เหฏฺิมภาโค ปาทนขสทิสตฺตา, โส สพฺพทิสาสุ อเนเกหิ หตฺถิรูเปหิ สมลงฺกโต ิโต. ตสฺสูปริ กโต ปาสาโท หตฺถิกุมฺเภ ปติฏฺิโต วิย โหตีติ อาห ‘‘หตฺถิกุมฺเภ ปติฏฺิต’’นฺติ. สุวณฺณรชตาทิวิจิตฺรานีติ สงฺฆิกเสนาสนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปุคฺคลิกํ ปน สุวณฺณาทิวิจิตฺรํ ภิกฺขุสฺส สมฺปฏิจฺฉิตุเมว น วฏฺฏติ ‘‘น เกนจิ ปริยาเยน ชาตรูปรชตํ สาทิตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๒๙๙) วุตฺตตฺตา. เตเนเวตฺถ อฏฺกถายํ ‘‘สงฺฆิกวิหาเร วา ปุคฺคลิกวิหาเร วา’’ติ น ¶ วุตฺตํ, โคนกาทิอกปฺปิยภณฺฑวิสเย เอว วุตฺตํ เอกภิกฺขุสฺสาปิ เตสํ คหเณ โทสาภาวา. คิหิวิกฏนีหาเรนาติ คิหีหิ กตนีหาเรน, คิหีหิ อตฺตโน สนฺตกํ อตฺถริตฺวา ทินฺนนิยาเมนาติ อตฺโถ. ลพฺภนฺตีติ นิสีทิตุํ ลพฺภนฺติ.
อุปนนฺทวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อวิสฺสชฺชิยวตฺถุกถาวณฺณนา
๓๒๑. อรฺชโรติ พหุอุทกคณฺหนิกา มหาจาฏิ, ชลํ คณฺหิตุมลนฺติ อรฺชโร.
ถาวเรน จ ถาวรนฺติอาทีสุ ปฺจสุ โกฏฺาเสสุ ปุริมทฺวยํ ถาวรํ, ปจฺฉิมตฺตยํ ครุภณฺฑนฺติ เวทิตพฺพํ. สมกเมว เทตีติ เอตฺถ อูนกํ เทนฺตมฺปิ วิหารวตฺถุสามนฺตํ คเหตฺวา ทูรตรํ ทุกฺขโคปํ วิสฺสชฺเชตุํ วฏฺฏตีติ ทฏฺพฺพํ. วกฺขติ หิ ‘‘ภิกฺขูนํ เจ มหคฺฆตรํ…เป… สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑). ชานาเปตฺวาติ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ¶ ชานาเปตฺวา, อปโลเกตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘นนุ ตุมฺหากํ พหุตรา รุกฺขาติ วตฺตพฺพ’’นฺติ อิทํ สามิเกสุ อตฺตโน ภณฺฑสฺส มหคฺฆตํ อชานิตฺวา เทนฺเตสุ ตํ ตฺวา เถยฺยจิตฺเตน คณฺหโต อวหาโร โหตีติ วุตฺตํ.
วิหาเรน วิหาโร ปริวตฺเตตพฺโพติ สวตฺถุเกน อฺเสํ ภูมิยํ กตปาสาทาทินา, อวตฺถุเกน วา สวตฺถุกํ ปริวตฺเตตพฺพํ. อวตฺถุกํ ปน อวตฺถุเกเนว ปริวตฺเตตพฺพํ. เกวลํ ปาสาทสฺส ภูมิโต อถาวรตฺตา. เอวํ ถาวเรสุปิ ถาวรวิภาคํ ตฺวาว ปริวตฺเตตพฺพํ.
‘‘กปฺปิยมฺจา สมฺปฏิจฺฉิตพฺพา’’ติ อิมินา สุวณฺณาทิวิจิตฺตํ อกปฺปิยมฺจํ ‘‘สงฺฆสฺสา’’ติ วุตฺเตปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. ‘‘วิหารสฺส เทมา’’ติ วุตฺเต สงฺฆสฺส วฏฺฏติ, น ปุคฺคลสฺส เขตฺตาทิ วิยาติ ทฏฺพฺพํ. เอเตสูติ มฺจาทีสุ. กปฺปิยากปฺปิยํ วุตฺตนยเมวาติ อาสนฺทีตูลิกาทิวินิจฺฉเยสุ วุตฺตนยเมว. อกปฺปิยํ วาติ อาสนฺทีอาทิ, ปมาณาติกฺกนฺตํ ¶ พิมฺโพหนาทิ จ. มหคฺฆํ กปฺปิยํ วาติ สุวณฺณาทิวิจิตฺตํ กปฺปิยโวหาเรน ทินฺนํ.
‘‘กาฬโลห…เป… ภาเชตพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา วฏฺฏกํสโลหมยมฺปิ ภาชนํ ปุคฺคลิกมฺปิ สมฺปฏิจฺฉิตุมฺปิ ปริหริตุมฺปิ วฏฺฏติ ปุคฺคลปริหริตพฺพสฺเสว ภาเชตพฺพตฺตาติ วทนฺติ. ตํ อุปริ ‘‘กํสโลหวฏฺฏโลหภาชนวิกติ สงฺฆิกปริโภเคน วา คิหิวิกฏา วา วฏฺฏตี’’ติอาทิเกน มหาปจฺจริวจเนน วิรุชฺฌติ. อิมสฺส หิ ‘‘วฏฺฏโลหกํสโลหานํ เยน เกนจิ กโต สีหฬทีเป ปาทคฺคณฺหนโก ภาเชตพฺโพ’’ติ วุตฺตสฺส มหาอฏฺกถาวจนสฺส ปฏิกฺเขปาย ตํ มหาปจฺจริวจนํ ปจฺฉา ทสฺสิตํ. ตสฺมา วฏฺฏโลหกํสโลหมยํ ยํ กิฺจิ ปาทคฺคณฺหนกวารกมฺปิ อุปาทาย อภาชนียเมว. คิหีหิ ทิยฺยมานมฺปิ ปุคฺคลสฺส สมฺปฏิจฺฉิตุมฺปิ น วฏฺฏติ. ปาริหาริยํ น วฏฺฏตีติ ปตฺตาทิปริกฺขารํ วิย สยเมว ปฏิสาเมตฺวา ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏติ. คิหิสนฺตกํ วิย อารามิกาทโย เจ สยเมว โคเปตฺวา วินิโยคกาเล อาเนตฺวา ปฏิเนนฺติ, ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ปฏิสาเมตฺวา ภิกฺขูนํ เทถา’’ติ วตฺตุมฺปิ วฏฺฏติ.
ปณฺณสูจิ นาม เลขนีติ วทนฺติ. ‘‘อตฺตนา ลทฺธานิปี’’ติอาทินา ปฏิคฺคหเณ โทโส นตฺถิ, ปริหริตฺวา ปริโภโคว อาปตฺติกโรติ ทสฺเสติ. ยถา เจตฺถ, เอวํ อุปริ อภาชนียวาสิอาทีสุ อตฺตโน สนฺตเกสุปิ.
อนามาสมฺปีติ ¶ สุวณฺณาทิมยมฺปิ สพฺพํ ตํ อามสิตฺวาปิ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. อุปกฺขเรติ อุปกรเณ. อฑฺฒพาหุปฺปมาณา นาม อฑฺฒพาหุมตฺตา. อฑฺฒพฺยามมตฺตาติปิ วทนฺติ. โยตฺตานีติ จมฺมรชฺชุกา.
อฏฺงฺคุลสูจิทณฺฑมตฺโตปีติ ตสรทณฺฑาทิสูจิอาการตนุทณฺฑกมตฺโตปิ. ริตฺตโปตฺถโกปีติ อลิขิตโปตฺถโก. อิทฺจ ปณฺณปฺปสงฺเคน วุตฺตํ.
‘‘ฆฏฺฏนผลกํ ฆฏฺฏนมุคฺคโร’’ติ อิทํ รชิตจีวรํ เอกสฺมึ มฏฺเ ทณฺฑมุคฺคเร เวเตฺวา เอกสฺส มฏฺผลกสฺส อุปริ เปตฺวา อุปริ อปเรน มฏฺผลเกน นิกุชฺชิตฺวา เอโก อุปริ อกฺกมิตฺวา ติฏฺติ. ทฺเว ชนา อุปริ ผลกํ ทฺวีสุ โกฏีสุ คเหตฺวา อปราปรํ อากฑฺฒนวิกฑฺฒนํ กโรนฺติ, เอตํ สนฺธาย วุตฺตํ. หตฺเถ ปาเปตฺวา หตฺเถน ปหรณํ ปน ¶ นิฏฺิตรชนสฺส จีวรสฺส อลฺลกาเล กาตพฺพํ. อิทํ ปน ผลกมุคฺคเรหิ ฆฏฺฏนํ สุกฺขกาเล ถทฺธภาววิโมจนตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ. อมฺพณนฺติ เอกโทณิกนาวาผลเกหิ โปกฺขรณีสทิสํ กตํ. ปานียภาชนนฺติปิ วทนฺติ. รชนโทณีติ เอกทารุนาว กตํ รชนภาชนํ. อุทกโทณีปิ เอกทารุนาว กตํ อุทกภาชนํ.
ภูมตฺถรณํ กาตุํ วฏฺฏตีติ อกปฺปิยจมฺมํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ ภูมตฺถรณสงฺเขเปน สยิตุมฺปิ วฏฺฏติเยว. ‘‘ปจฺจตฺถรณคติก’’นฺติ อิมินา มฺจาทีสุ อตฺถริตพฺพํ มหาจมฺมํ เอฬกจมฺมํ นามาติ ทสฺเสติ.
ฉตฺตมุฏฺิปณฺณนฺติ ตาลปณฺณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปตฺตกฏาหนฺติ ปตฺตปจนกฏาหํ.
อวิสฺสชฺชิยวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นวกมฺมทานกถาวณฺณนา
๓๒๓. ปาฬิยํ ปิณฺฑนิกฺเขปนมตฺเตนาติอาทีสุ ขณฺฑผุลฺลฏฺาเน มตฺติกาปิณฺฑฏฺปนํ ปิณฺฑนิกฺเขปนํ นาม. นวกมฺมนฺติ นวกมฺมสมฺมุติ. อคฺคฬวฏฺฏิ นาม กวาฏพนฺโธ. ฉาทนํ นาม ติณาทีหิ เคหจฺฉาทนํ. พนฺธนํ นาม ทณฺฑวลฺลิอาทีหิ ฉทนพนฺธนเมว. จตุหตฺถวิหาเรติ วิตฺถารปฺปมาณโต วุตฺตํ. อุพฺเพธโต ปน อเนกภูมกตฺตา วฑฺฒกีหตฺเถน วีสติหตฺโถปิ ¶ นานาสณฺานวิจิตฺโตปิ โหติ. เตนสฺส จตุวสฺสิกํ นวกมฺมํ วุตฺตํ. เอวํ เสเสสุปิ.
ปาฬิยํ สพฺเพ วิหาเรติ ภุมฺมตฺเถ อุปโยคพหุวจนํ. เอกสฺส สพฺเพสุ วิหาเรสุ นวกมฺมํ เทตีติ อตฺโถ. สพฺพกาลํ ปฏิพาหนฺตีติ นวกมฺมิกา อตฺตโน คาหิตํ วรเสยฺยํ สมฺปตฺตานํ ยถาวุฑฺฒํ อกตฺวา อุตุกาเลปิ ปฏิพาหนฺติ.
‘‘สเจ โส อาวาโส ชีรตี’’ติอาทิ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย. มฺจฏฺานํ ทตฺวาติ มฺจฏฺานํ ปุคฺคลิกํ ทตฺวา. ติภาคนฺติ ตติยภาคํ. เอวํ วิสฺสชฺชนมฺปิ ถาวเรน ถาวรปริวตฺตนฏฺาเน เอว ปวิสติ, น อิตรถา สพฺพเสนาสนานํ ¶ วินสฺสนโต. สเจ สทฺธิวิหาริกานํ ทาตุกาโม โหตีติ สเจ โส สงฺฆสฺส ภณฺฑกฏฺปนฏฺานํ วา อฺเสํ ภิกฺขูนํ วสนฏฺานํ วา ทาตุํ น อิจฺฉติ, อตฺตโน สทฺธิวิหาริกานฺเว ทาตุกาโม โหติ, ตาทิสสฺส ตุยฺหํ ปุคฺคลิกเมว กตฺวา ชคฺคาติ น สพฺพํ ตสฺส ทาตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ ปน กตฺตพฺพวิธึ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘กมฺม’’นฺติอาทิ. เอวฺหีติอาทิมฺหิ วยานุรูปํ ตติยภาเค วา อุปฑฺฒภาเค วา คหิเต ตํ ภาคํ ทาตุํ ลภตีติ อตฺโถ.
เยนาติ เตสุ ทฺวีสุ ภิกฺขูสุ เยน. โส สามีติ ตสฺสา ภูมิยา วิหารกรเณ โสว สามี, ตํ ปฏิพาหิตฺวา อิตเรน น กาตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. โส หิ ปมํ คหิโต. อกตฏฺาเนติ จยาทีนํ อกตปุพฺพฏฺาเน. จยํ วา ปมุขํ วาติ สงฺฆิกเสนาสนํ นิสฺสาย ตโต พหิ จยํ พนฺธิตฺวา, เอกํ เสนาสนํ วา. พหิกุฏฺเฏติ กุฏฺฏโต พหิ, อตฺตโน กตฏฺาเนติ อตฺโถ.
นวกมฺมทานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อฺตฺรปริโภคปฏิกฺเขปาทิกถาวณฺณนา
๓๒๔. วฑฺฒิกมฺมตฺถายาติ ยถา ตมฺมูลคฺฆโต น ปริหายติ, เอวํ กตฺตพฺพสฺส เอวํ นิปฺผาเทตพฺพสฺส มฺจปีาทิโน อตฺถาย.
จกฺกลิกนฺติ ปาทปฺุฉนตฺถํ จกฺกากาเรน กตํ. ปริภณฺฑกตภูมิ วาติ กาฬวณฺณาทิกตสณฺหภูมิ วา. เสนาสนํ วาติ มฺจปีาทิ วา.
‘‘ตเถว ¶ วฬฺเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิมินา เนวาสิเกหิ โธตปาทาทีหิ วฬฺชนฏฺาเน สฺจิจฺจ อโธตปาทาทีหิ วฬฺชนฺตสฺเสว อาปตฺติ ปฺตฺตาติ ทสฺเสติ.
‘‘ทฺวารมฺปี’’ติอาทินา สามฺโต วุตฺตตฺตา ทฺวารวาตปานาทโย อปริกมฺมกตาปิ น อปสฺสยิตพฺพา. อชานิตฺวา อปสฺสยนฺตสฺสปิ อิธ โลมคณนาย อาปตฺติ.
อฺตฺรปริโภคปฏิกฺเขปาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สงฺฆภตฺตาทิอนุชานนกถาวณฺณนา
๓๒๕. อุทฺเทสภตฺตํ ¶ นิมนฺตนนฺติ อิมํ โวหารํ ปตฺตานีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, อุทฺเทสภตฺตํ นิมนฺตนนฺติอาทิโวหารํ ปตฺตานีติ อตฺโถ. ตมฺปีติ สงฺฆภตฺตมฺปิ.
สงฺฆภตฺตาทิอนุชานนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุทฺเทสภตฺตกถาวณฺณนา
โภชนสาลายาติ ภตฺตุทฺเทสฏฺานํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอกวฬฺชนฺติ เอกทฺวาเรน วฬฺชิตพฺพํ. นานานิเวสเนสูติ นานากุลสฺส นานูปจาเรสุ นิเวสเนสุ.
นิสินฺนสฺสปิ นิทฺทายนฺตสฺสปีติ อนาทเร สามิวจนํ, วุฑฺฒตเร นิทฺทายนฺเต นวกสฺส คาหิตํ สุคฺคหิตนฺติ อตฺโถ.
วิสฺสฏฺทูโตติ ยถารุจิ วตฺตุํ ลภนโต นิราสงฺกทูโต. ปุจฺฉาสภาเคนาติ ปุจฺฉาวจนปฏิภาเคน. ‘‘เอกา กูฏฏฺิติกา นามา’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘รฺโ วา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ.
สพฺพํ ปตฺตสฺสามิกสฺส โหตีติ จีวราทิกมฺปิ สพฺพํ ปตฺตสฺสามิกสฺเสว โหติ, มยา ภตฺตเมว สนฺธาย วุตฺตํ, น จีวราทินฺติ วตฺวา คเหตุํ น วฏฺฏตีติ อตฺโถ.
อกตภาโคนามาติ ¶ อาคนฺตุกภาโค นาม, อทินฺนปุพฺพภาโคติ อตฺโถ.
กึ อาหรียตีติ อวตฺวาติ ‘‘กตรภตฺตํ วา ตยา อาหรียตี’’ติ ทายกํ อปุจฺฉิตฺวา. ปกติฏฺิติกายาติ อุทฺเทสภตฺตฏฺิติกาย.
อุทฺเทสภตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิมนฺตนภตฺตกถาวณฺณนา
วิจฺฉินฺทิตฺวาติ ¶ ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ ปทํ อวตฺวา. เตเนวาห ‘‘ภตฺตนฺติ อวทนฺเตนา’’ติ.
อาโลปสงฺเขเปนาติ เอเกกปิณฺฑวเสน, เอวฺจ ภาชนํ อุทฺเทสภตฺเต น วฏฺฏติ. ตตฺถ หิ เอกสฺส ปโหนกปฺปมาเณเนว ภาเชตพฺพํ.
อารุฬฺหาเยว มาติกํ, สงฺฆโต อฏฺ ภิกฺขูติ เอตฺถ เย มาติกํ อารุฬฺหา, เต อฏฺ ภิกฺขูติ โยเชตพฺพํ. อุทฺเทสภตฺตนิมนฺตนภตฺตาทิสงฺฆิกภตฺตมาติกาสุ นิมนฺตนภตฺตมาติกาย ิติวเสน อารุฬฺเห ภตฺตุทฺเทสเกน วา สยํ วา สงฺฆโต อุทฺทิสาเปตฺวา คเหตฺวา คนฺตพฺพํ, น อตฺตโน รุจิเต คเหตฺวาติ อธิปฺปาโย. มาติกํ อาโรเปตฺวาติ ‘‘สงฺฆโต คณฺหามี’’ติอาทินา วุตฺตมาติกาเภทํ ทายกสฺส วิฺาเปตฺวาติ อตฺโถ.
ปฏิพทฺธกาลโต ปน ปฏฺายาติ ตตฺเถว วาสสฺส นิพทฺธกาลโต ปฏฺาย.
นิมนฺตนภตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สลากภตฺตกถาวณฺณนา
อุปนิพนฺธิตฺวาติ ลิขิตฺวา. คามวเสนปีติ เยภุยฺเยน สมลาภคามวเสนปิ. พหูนิ สลากภตฺตานีติ ตึสํ วา จตฺตารีสํ วา ภตฺตานิ. ‘‘สเจ โหนฺตี’’ติ อชฺฌาหริตฺวา โยเชตพฺพํ.
สลฺลกฺเขตฺวาติ ¶ ตานิ ภตฺตานิ ปมาณวเสน สลฺลกฺเขตฺวา. นิคฺคเหน ทตฺวาติ ทูรํ คนฺตุํ อนิจฺฉนฺตสฺส นิคฺคเหน สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา ทตฺวา. ปุน วิหารํ อาคนฺตฺวาติ เอตฺถ วิหารํ อนาคนฺตฺวา ภตฺตํ คเหตฺวา ปจฺฉา วิหาเร อตฺตโน ปาเปตฺวา ภฺุชิตุมฺปิ วฏฺฏติ.
เอกเคหวเสนาติ วีถิยมฺปิ เอกปสฺเส ฆรปาฬิยา วเสน. อุทฺทิสิตฺวาปีติ อสุกกุเล สลากภตฺตานิ ตุยฺหํ ปาปุณนฺตีติ วตฺวา.
วารคาเมติ ¶ อติทูรตฺตา วาเรน คนฺตพฺพคาเม. สฏฺิโต วา ปณฺณาสโต วาติ ทณฺฑกมฺมตฺถาย อุทกฆฏํ สนฺธาย วุตฺตํ. วิหารวาโรติ สพฺพภิกฺขูสุ ภิกฺขตฺถาย คเตสุ วิหารรกฺขณวาโร.
เตสนฺติ วิหารวาริกานํ. ผาติกมฺมเมวาติ วิหารรกฺขณกิจฺจสฺส ปโหนกปฏิปาทนเมว. เอกสฺเสว ปาปุณนฺตีติ ทิวเส ทิวเส เอเกกสฺเสว ปาปิตานีติ อตฺโถ.
รสสลากนฺติ อุจฺฉุรสสลากํ. ‘‘สลากวเสน คาหิตตฺตา ปน น สาทิตพฺพา’’ติ อิทํ อสารุปฺปวเสน วุตฺตํ, น ธุตงฺคเภทวเสน. ‘‘สงฺฆโต นิรามิสสลากา…เป… วฏฺฏติเยวา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๒๖) หิ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตํ. อคฺคภิกฺขามตฺตนฺติ เอกกฏจฺฉุภิกฺขามตฺตํ. ลทฺธา วา อลทฺธา วา สฺเวปิ คณฺเหยฺยาสีติ ลทฺเธปิ อปฺปมตฺตตาย วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ยาวทตฺถํ ลภติ…เป… อลภิตฺวา ‘สฺเว คณฺเหยฺยาสี’ติ วตฺตพฺโพ’’ติ.
ตตฺถาติ ตสฺมึ ทิสาภาเค. ตํ คเหตฺวาติ ตํ วารคาเม สลากํ อตฺตโน คเหตฺวา. เตนาติ ทิสํคมิกโต อฺเน ตสฺมึ ทิสํคมิเก. เทวสิกํ ปาเปตพฺพาติ อุปจารสีมาย ิตสฺส ยสฺส กสฺสจิ วสฺสคฺเคน ปาเปตพฺพา. เอวํ เอเตสุ อคเตสุ อาสนฺนวิหาเร ภิกฺขูนํ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ อิตรถา สงฺฆิกโต.
อมฺหากํ โคจรคาเมวาติ สลากภตฺตทายกานํ คามํ สนฺธาย วุตฺตํ. วิหาเร เถรสฺส ปตฺตสลากภตฺตนฺติ วิหาเร เอเกกสฺเสว โอหีนตฺเถรสฺส สพฺพสลากานํ อตฺตโน ปาปนวเสน ปตฺตสลากภตฺตํ.
สลากภตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปกฺขิกภตฺตาทิกถาวณฺณนา
‘‘สฺเว ¶ ปกฺโข’’ติ อชฺช ปกฺขิกํ น คาเหตพฺพนฺติ อฏฺมิยา ภฺุชิตพฺพํ สตฺตมิยา ภฺุชนตฺถาย น คาเหตพฺพํ, ทายเกหิ นิยมิตทิวเสเนว คาเหตพฺพนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิ. สฺเว ลูขนฺติ อชฺช อาวาหมงฺคลาทิกรณโต อติปณีตโภชนํ กรียติ, สฺเว ตถา น ภวิสฺสติ, อชฺเชว ภิกฺขู โภเชสฺสามีติ อธิปฺปาโย.
ปกฺขิกภตฺตโต ¶ อุโปสถิกสฺส เภทํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อุโปสถงฺคานิ สมาทิยิตฺวา’’ติอาทิ. นิพนฺธาปิตนฺติ ‘‘อสุกวิหาเร อาคนฺตุกา ภฺุชนฺตู’’ติ นิยมิตํ.
คมิโก อาคนฺตุกภตฺตมฺปีติ คามนฺตรโต อาคนฺตฺวา อวูปสนฺเตน คมิกจิตฺเตน วสิตฺวา ปุน อฺตฺถ คจฺฉนฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อาวาสิกสฺส ปน คนฺตุกามสฺส คมิกภตฺตเมว ลพฺภติ. ‘‘เลสํ โอฑฺเฑตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา เลสาภาเว ยาว คมนปริพนฺโธ วิคจฺฉติ, ตาว ภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ าปิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
ตณฺฑุลาทีนิ เปเสนฺติ…เป… วฏฺฏตีติ อภิหฏภิกฺขตฺตา วฏฺฏติ. ตถา ปฏิคฺคหิตตฺตาติ ภิกฺขานาเมน ปฏิคฺคหิตตฺตา.
อวิภตฺตํ สงฺฆิกํ ภณฺฑนฺติ กุกฺกุจฺจุปฺปตฺติอาการทสฺสนํ. เอวํ กุกฺกุจฺจํ กตฺวา ปุจฺฉิตพฺพกิจฺจํ นตฺถิ, อปุจฺฉิตฺวา ทาตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.
ปกฺขิกภตฺตาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เสนาสนกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๗. สงฺฆเภทกกฺขนฺธโก
ฉสกฺยปพฺพชฺชากถาทิวณฺณนา
๓๓๐. สงฺฆเภทกกฺขนฺธเก ¶ ¶ ปาฬิยํ อนุปิยํ นามาติ อนุปิยา นาม. เหฏฺา ปาสาทาติ ปาสาทโต เหฏฺา เหฏฺิมตลํ, ‘‘เหฏฺาปาสาท’’นฺติปิ ปาโ. อภิเนตพฺพนฺติ วปิตเขตฺเตสุ ปเวเสตพฺพํ. นินฺเนตพฺพนฺติ ตโต นีหริตพฺพํ. นิทฺธาเปตพฺพนฺติ สสฺสทูสกติณาทีนิ อุทฺธริตพฺพํ. อุชุํ การาเปตพฺพนฺติ ปฺุชํ การาเปตพฺพํ, อยเมว วา ปาโ.
๓๓๒. ปรทตฺโตติ ปเรหิ ทินฺนปจฺจเยหิ ปวตฺตมาโน. มิคภูเตน เจตสาติ กตฺถจิ อลคฺคตาย มิคสฺส วิย ชาเตน จิตฺเตน.
๓๓๓. มโนมยํ กายนฺติ ฌานมเนน นิพฺพตฺตํ พฺรหฺมกายํ, ‘‘กึ นุ โข อหํ ปสาเทยฺยํ, ยสฺมึ เม ปสนฺเน พหุลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ ปมํ อุปฺปนฺนปริวิตกฺกสฺส มนฺทปริยุฏฺานตาย เทวทตฺตสฺส ตสฺมึ ขเณ ฌานปริหานิ นาโหสิ, ปจฺฉา เอว อโหสีติ ทฏฺพฺพํ. เตนาห ‘‘สห จิตฺตุปฺปาทา’’ติอาทิ. ทฺเว วา ตีณิ วา มาคธกานิ คามเขตฺตานีติ เอตฺถ มคธรฏฺเ ขุทฺทกํ คามเขตฺตํ คาวุตมตฺตํ, มชฺฌิมํ ปน ทิยฑฺฒคาวุตมตฺตํ, มหนฺตํ อเนกโยชนมฺปิ โหติ. เตสุ มชฺฌิเมน คามเขตฺเตน ทฺเว วา ขุทฺทเกน ตีณิ วา คามเขตฺตานิ, ตสฺส สรีรํ ติคาวุตปฺปมาโณ อตฺตภาโวติ วุตฺตํ โหติ.
๓๓๔. สตฺถาโรติ คณสตฺถาโร. นาสฺสสฺสาติ น เอตสฺส ภเวยฺย. ตนฺติ สตฺถารํ. เตนาติ อมนาเปน. สมฺมนฺนตีติ จีวราทินา อมฺหากํ สมฺมานํ กโรติ, ปเรหิ วา อยํ สตฺถา สมฺมานียตีติ อตฺโถ.
๓๓๕. นาสาย ¶ ปิตฺตํ ภินฺเทยฺยุนฺติ อจฺฉปิตฺตํ วา มจฺฉปิตฺตํ วา นาสาปุเฏ ปกฺขิเปยฺยุํ. อสฺสตรีติ วฬวาย กุจฺฉิสฺมึ คทฺรภสฺส ชาตา. ตสฺสา หิ คหิตคพฺภาย วิชายิตุมสกฺโกนฺติยา อุทรํ ผาเลตฺวา โปตกํ นีหรนฺติ. เตนาห ‘‘อตฺตวธาย คพฺภํ คณฺหาตี’’ติ.
๓๓๙. โปตฺถนิกนฺติ ฉุริกํ, ‘‘ขร’’นฺติปิ วุจฺจติ.
๓๔๒. มา ¶ กฺุชร นาคมาสโทติ เห กฺุชร พุทฺธนาคํ วธกจิตฺเตน มา อุปคจฺฉ. ทุกฺขนฺติ ทุกฺขการณตฺตา ทุกฺขํ. อิโตติ อิโต ชาติโต. ยโตติ ยสฺมา, ยนฺตสฺส วา, คจฺฉนฺตสฺสาติ อตฺโถ. มา จ มโทติ มโท ตยา น กาตพฺโพติ อตฺโถ.
๓๔๓. ติกโภชนนฺติ ตีหิ ภฺุชิตพฺพํ โภชนํ, ตโต อธิเกหิ เอกโต ปฏิคฺคเหตฺวา ภฺุชิตุํ น วฏฺฏนกํ คณโภชนปฏิปกฺขํ โภชนนฺติ อตฺโถ. โกกาลิโกติอาทีนิ เทวทตฺตปริสาย คณปาโมกฺขานํ นามานิ. กปฺปนฺติ มหานิรเย อายุกปฺปํ, ตํ อนฺตรกปฺปนฺติ เกจิ. เกจิ ปน ‘‘อสงฺขฺเยยฺยกปฺป’’นฺติ.
ฉสกฺยปพฺพชฺชากถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
สงฺฆเภทกกถาวณฺณนา
๓๔๕. ปรสฺส จิตฺตํ ตฺวา กถนํ อาเทสนาปาฏิหาริยํ. เกวลํ ธมฺมเทสนา อนุสาสนีปาฏิหาริยํ. ตทุภยมฺปิ ธมฺมี กถา นาม. ตาย เถโร โอวทิ. อิทฺธิวิธํ อิทฺธิปาฏิหาริยํ นาม. เตน สหิตา อนุสาสนี เอว ธมฺมี กถา. ตาย เถโร โอวทิ.
‘‘ถุลฺลจฺจยํ เทสาเปหี’’ติ อิทํ เภทปุเรกฺขารสฺส อุโปสถาทิกรเณ ถุลฺลจฺจยสฺส อุโปสถกฺขนฺธกาทีสุ ปมเมว ปฺตฺตตฺตา วุตฺตํ, อิตรถา เอเตสํ อาทิกมฺมิกตฺตา อนาปตฺติเยว สิยา.
๓๔๖. สรสีติ สโร. มหึ วิกฺรุพฺพโตติ มหึ ทนฺเตหิ วิลิขนฺตสฺส. อิทฺจ หตฺถีนํ สภาวทสฺสนํ. นทีสูติ สเรสุ. ภิสํ ฆสมานสฺสาติ โยชนา. ชคฺคโตติ ยูถํ ปาเลนฺตสฺส.
๓๔๗. ทูเตยฺยํ ¶ คนฺตุนฺติ ทูตกมฺมํ ปตฺตุํ, ทูตกมฺมํ กาตุนฺติ อตฺโถ. สหิตาสหิตสฺสาติ ยุตฺตายุตฺตสฺส, ยํ วตฺตุํ, กาตฺุจ ยุตฺตํ, ตตฺถ กุสโล. อถ วา อธิปฺเปตานาธิปฺเปตสฺส วจนสฺส กุสโล, พฺยฺชนมตฺเต น ติฏฺติ, อธิปฺเปตตฺถเมว อาโรเจตีติ อตฺโถ.
๓๕๐. คาถาสุ ¶ ชาตูติ เอกํเสน. มา อุทปชฺชถ มา โหตูติ อตฺโถ. ปาปิจฺฉานํ ยถาคตีติ ปาปิจฺฉานํ ปุคฺคลานํ ยาทิสี คติ อภิสมฺปราโย. ตํ อตฺถชาตํ. อิมินาปิ การเณน ชานาถาติ เทวทตฺตสฺส ‘‘ปณฺฑิโต’’ติอาทินา อุปริ วกฺขมานาการํ ทสฺเสติ.
ปมาทํ อนุจิณฺโณติ ปมาทํ อาปนฺโน. อาสีสายนฺติ อวสฺสํภาวีอตฺถสิทฺธิยํ. สา หิ อิธ อาสีสาติ อธิปฺเปตา, น ปตฺถนา. อีทิเส อนาคตตฺเถ อตีตวจนํ สทฺทวิทู อิจฺฉนฺติ.
ทุพฺเภติ ทุพฺเภยฺย. วิสกุมฺเภนาติ เอเกน วิสปุณฺณกุมฺเภน. โสติ โส ปุคฺคโล. น ปทูเสยฺย วิสมิสฺสํ กาตุํ น สกฺโกตีติ อตฺโถ. ภยานโกติ วิปุลคมฺภีรภาเวน ภยานโก. เตนาปิ ทูเสตุํ น สกฺกุเณยฺยตํ ทสฺเสติ. วาเทนาติ โทสกถเนน. อุปหึสตีติ พาธติ.
สงฺฆเภทกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุปาลิปฺหากถาวณฺณนา
๓๕๑. น ปน เอตฺตาวตา สงฺโฆ ภินฺโน โหตีติ สลากคฺคาหาปนมตฺเตน สงฺฆเภทานิพฺพตฺติโต วุตฺตํ. อุโปสถาทิสงฺฆกมฺเม กเต เอว หิ สงฺโฆ ภินฺโน โหติ. ตตฺถ จ อุโปสถปวารณาสุ ตฺตินิฏฺาเนน, เสสกมฺเมสุ อปโลกนาทิกมฺมปริโยสาเนน สงฺฆเภโท สมตฺโถติ ทฏฺพฺโพ.
‘‘อภพฺพตา น วุตฺตา’’ติ อิทํ ‘‘ภิกฺขเว, เทวทตฺเตน ปมํ อานนฺตริยกมฺมํ อุปจิต’’นฺติอาทินา อานนฺตริยตฺตํ วทตา ภควตา ตสฺส อภพฺพตาสงฺขาตา ปาราชิกตา น ปฺตฺตา. เอเตน อาปตฺติ วิย อภพฺพตาปิ ปฺตฺติอนนฺตรเมว โหติ, น ตโต ปุเรติ ทสฺเสติ. อิธ ปน อาทิกมฺมิกสฺสปิ อนาปตฺติยา อวุตฺตตฺตา เทวทตฺตาทโยปิ น มุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ.
ตโย สติปฏฺานาติอาทีสุ ตโย เอว สติปฏฺานา, น ตโต ปรนฺติ เอกสฺส สติปฏฺานสฺส ¶ ปฏิกฺเขโปว อิธ อธมฺโม, น ปน ติณฺณํ สติปฏฺานตฺตวิธานํ ¶ ตสฺส ธมฺมตฺตา. เอวํ เสเสสุปิ หาปนโกฏฺาเสสุ. วฑฺฒเนสุ ปน ฉ อินฺทฺริยานีติ อนินฺทฺริยสฺสปิ เอกสฺส อินฺทฺริยตฺตวิธานเมว อธมฺโม. เอวํ เสเสสุปิ. น เกวลฺจ เอเตว, ‘‘จตฺตาโร ขนฺธา, เตรสายตนานี’’ติอาทินา ยตฺถ กตฺถจิ วิปรีตโต ปกาสนํ สพฺพํ อธมฺโม. ยาถาวโต ปกาสนฺจ สพฺพํ ธมฺโมติ ทฏฺพฺพํ. ปกาสนนฺติ เจตฺถ ตถา ตถา กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา อรูปกฺขนฺธาว อธิปฺเปตา, เอวเมตฺถ ทสกุสลกมฺมปถาทีสุ อนวชฺชฏฺเน สรูปโต ธมฺเมสุ, อกุสลกมฺมปถาทีสุ สาวชฺชฏฺเน สรูปโต อธมฺเมสุ จ ตทฺเสุ จ อพฺยากเตสุ ยสฺส กสฺสจิ โกฏฺาสสฺส ภควตา ปฺตฺตกฺกเมเนว ปกาสนํ ‘‘ธมฺโม’’ติ จ วิปรีตโต ปกาสนํ ‘‘อธมฺโม’’ติ จ ทสฺสิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. กามฺเจตฺถ วินยาทโยปิ ยถาภูตโต, อยถาภูตโต จ ปกาสนวเสน ธมฺมาธมฺเมสุ เอว ปวิสนฺติ, วินยาทินาเมน ปน วิเสเสตฺวา วิสุํ คหิตตฺตา ตทวเสสเมว ธมฺมาธมฺมโกฏฺาเส ปวิสตีติ ทฏฺพฺพํ.
อิมํ อธมฺมํ ธมฺโมติ กริสฺสามาติอาทิ ธมฺมฺจ อธมฺมฺจ ยาถาวโต ตฺวาว ปาปิจฺฉํ นิสฺสาย วิปรีตโต ปกาเสนฺตสฺเสว สงฺฆเภโท โหติ, น ปน ตถาสฺาย ปกาเสนฺตสฺสาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เอส นโย ‘‘อวินยํ วินโยติ ทีเปนฺตี’’ติอาทีสุปิ. ตตฺถ นิยฺยานิกนฺติ อุกฺกฏฺนฺติ อตฺโถ. ‘‘ตเถวา’’ติ อิมินา ‘‘เอวํ อมฺหากํ อาจริยกุล’’นฺติอาทินา วุตฺตมตฺถํ อากฑฺฒติ.
สํวโร ปหานํ ปฏิสงฺขาติ สํวรวินโย, ปหานวินโย, ปฏิสงฺขาวินโย จ วุตฺโต. เตนาห ‘‘อยํ วินโย’’ติ. ‘‘ปฺตฺตํ อปฺตฺต’’นฺติ ทุกํ ‘‘ภาสิตํ อภาสิต’’นฺติ ทุเกน อตฺถโต สมานเมว, ตถา ทุฏฺุลฺลทุกํ ครุกทุเกน. เตเนว เตสํ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา…เป… อิทํ อปฺตฺตํ นามา’’ติอาทินา สทิสนิทฺเทโส กโต. สาวเสสาปตฺตินฺติ อวเสสสีเลหิ สหิตาปตฺตึ. นตฺถิ เอติสฺสํ อาปนฺนายํ สีลาวเสสาติ อนวเสสาปตฺติ.
๓๕๔. ปาฬิยํ สมคฺคานฺจ อนุคฺคโหติ ยถา สมคฺคานํ สามคฺคี น ภิชฺชติ, เอวํ อนุคฺคหณํ อนุพลปฺปทานํ.
๓๕๕. สิยา ¶ นุ โขติ สมฺภเวยฺย นุ โข. ตสฺมึ อธมฺมทิฏฺีติ อตฺตโน ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติ เอตสฺมึ ทีปเน อยุตฺตทิฏฺิ. เภเท อธมฺมทิฏฺีติ ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติ ทีเปตฺวา อนุสฺสาวนสลากคฺคาหาปนาทินา อตฺตานํ มฺุจิตฺวา จตุวคฺคาทิกํ สงฺฆํ เอกสีมายเมว ิตโต ¶ จตุวคฺคาทิสงฺฆโต วิโยเชตฺวา เอกกมฺมาทินิปฺผาทนวเสน สงฺฆเภทกรเณ อธมฺมทิฏฺิโก หุตฺวาติ อตฺโถ. วินิธาย ทิฏฺินฺติ ยา ตสฺมึ ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติ ทีปเน อตฺตโน อธมฺมทิฏฺิ อุปฺปชฺชติ, ตํ วินิธาย ปฏิจฺฉาเทตฺวา ‘‘ธมฺโม เอวาย’’นฺติ วิปรีตโต ปกาเสตฺวาติ อตฺโถ. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
เภเท ธมฺมทิฏฺีติ ยถาวุตฺตนเยน สงฺฆเภทเน โทโส นตฺถีติ ลทฺธิโก. อยํ ปน ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติ ทีปเน อธมฺมทิฏฺิโก หุตฺวาปิ ตํ ทิฏฺึ วินิธาย กรเณน สงฺฆเภทโก อเตกิจฺโฉ ชาโต. เอวํ เภเท เวมติโกติ อิมสฺส ปน เภเท เวมติกทิฏฺิยา วินิธานมฺปิ อตฺถิ. เสสํ สมเมว. ตสฺมึ ธมฺมทิฏฺิเภเท อธมฺมทิฏฺีติ อยํ ปน เภเท อธมฺมทิฏฺึ วินิธาย กตตฺตา สงฺฆเภทโก อเตกิจฺโฉ ชาโต. สุกฺกปกฺเข ปน สพฺพตฺถ ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติอาทิทีปเน วา เภเท วา ธมฺมทิฏฺิตาย ทิฏฺึ อวินิธาเยว กตตฺตา สงฺฆเภทโกปิ สเตกิจฺโฉ ชาโต. ตสฺมา ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติอาทิทีปเน วา สงฺฆเภเท วา อุโภสุปิ วา อธมฺมทิฏฺิ วา เวมติโก วา หุตฺวา ตํ ทิฏฺึ, วิมติฺจ วินิธาย ‘‘ธมฺโม’’ติ ปกาเสตฺวา วุตฺตนเยน สงฺฆเภทํ กโรนฺตสฺเสว อานนฺตริยํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.
อุปาลิปฺหากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สงฺฆเภทกกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๘. วตฺตกฺขนฺธโก
อาคนฺตุกวตฺตกถาวณฺณนา
๓๕๗. วตฺตกฺขนฺธเก ¶ ¶ ปตฺถริตพฺพนฺติ อาตเป ปตฺถริตพฺพํ. ปาฬิยํ อภิวาทาเปตพฺโพติ วนฺทนตฺถาย วสฺสํ ปุจฺฉเนน นวโก สยเมว วนฺทตีติ วุตฺตํ. นิลฺโลเกตพฺโพติ โอโลเกตพฺโพ.
อาคนฺตุกวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อาวาสิกวตฺตกถาวณฺณนา
๓๕๙. ‘‘ยถาภาค’’นฺติ ปิตฏฺานํ อนติกฺกมิตฺวา มฺจปีาทึ ปปฺโผเฏตฺวา ปตฺถริตฺวา อุปริ ปจฺจตฺถรณํ ทตฺวา ทานมฺปิ เสนาสนปฺาปนเมวาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ปปฺโผเฏตฺวา หิ ปตฺถริตุํ ปน วฏฺฏติเยวา’’ติ.
อาวาสิกวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อนุโมทนวตฺตกถาวณฺณนา
๓๖๒. ปฺจเม นิสินฺเนติ อนุโมทนตฺถาย นิสินฺเน. น มหาเถรสฺส ภาโร โหตีติ อนุโมทกํ อาคเมตุํ น ภาโร. อชฺฌิฏฺโว อาคเมตพฺโพติ อตฺตนา อชฺฌิฏฺเหิ ภิกฺขูหิ อนุโมทนฺเตเยว นิสีทิตพฺพนฺติ อตฺโถ.
อนุโมทนวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภตฺตคฺควตฺตกถาวณฺณนา
๓๖๔. มนุสฺสานํ ¶ ปริวิสนฏฺานนฺติ ยตฺถ อนฺโตวิหาเรปิ มนุสฺสา สปุตฺตทารา อาวสิตฺวา ภิกฺขู เนตฺวา โภเชนฺติ. อาสเนสุ สตีติ นิสีทนฏฺาเนสุ ¶ สนฺเตสุ. อิทํ, ภนฺเต, อาสนํ อุจฺจนฺติ อาสนฺเน สมภูมิภาเค ปฺตฺตํ เถราสเนน สมกํ อาสนํ สนฺธาย วุตฺตํ, เถราสนโต ปน อุจฺจตเร อาปุจฺฉิตฺวาปิ นิสีทิตุํ น วฏฺฏติ. ยทิ ตํ อาสนฺนมฺปิ นีจตรํ โหติ, อนาปุจฺฉาปิ นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. มหาเถรสฺเสว อาปตฺตีติ อาสเนน ปฏิพาหนาปตฺติยา อาปตฺติ. อวตฺถริตฺวาติ ปารุตสงฺฆาฏึ อวตฺถริตฺวา, อนุกฺขิปิตฺวาติ อตฺโถ.
ปาฬิยํ ‘‘อุโภหิ หตฺเถหิ…เป… โอทโน ปฏิคฺคเหตพฺโพ’’ติ อิทํ หตฺถตเล วา ปจฺฉิปิฏฺิอาทิทุสฺสณฺิตาธาเร วา ปตฺตํ เปตฺวา โอทนสฺส คหณกาเล ปตฺตสฺส อปตนตฺถาย วุตฺตํ, สุสชฺชิเต ปน อาธาเร ปตฺตํ เปตฺวา เอเกน หตฺเถน ตํ ปรามสิตฺวาปิ โอทนํ ปฏิคฺคเหตุํ วฏฺฏติ เอว. อุโภหิ หตฺเถหิ…เป… อุทกํ ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
หตฺถโธวนอุทกนฺติ โภชนาวสาเน อุทกํ. เตนาห ‘‘ปานียํ ปิวิตฺวา หตฺถา โธวิตพฺพา’’ติ. เตน ปริโยสาเน โธวนเมว ปฏิกฺขิตฺตํ, โภชนนฺตเร ปน ปานียปิวนาทินา นเยน หตฺถํ โธวิตฺวา ปุน ภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. โปตฺถเกสุ ปน ‘‘ปานียํ ปิวิตฺวา หตฺถา น โธวิตพฺพา’’ติ ลิขนฺติ, ตํ ปุริมวจเนน น สเมติ ปริโยสาเน อุทกสฺเสว ‘‘หตฺถโธวนอุทก’’นฺติ วุตฺตตฺตา. สเจ มนุสฺสา โธวถ, ภนฺเตติอาทิ นิฏฺิตภตฺตํ นิสินฺนํ เถรํ สนฺธาย วุตฺตํ. ธุเร ทฺวารสมีเป.
ภตฺตคฺควตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปิณฺฑจาริกวตฺตกถาทิวณฺณนา
๓๖๖. ปาฬิยํ าเปติ วาติ ติฏฺ ภนฺเตติ วทนฺติ.
๓๖๗. อตฺถิ, ภนฺเต, นกฺขตฺตปทานีติ นกฺขตฺตปทวิสยานิ าตานิ อตฺถิ, อสฺสยุชาทินกฺขตฺตํ ชานาถาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘น ชานาม, อาวุโส’’ติ. อตฺถิ, ภนฺเต ¶ , ทิสาภาคนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เกนชฺช, ภนฺเต, ยุตฺตนฺติ เกน นกฺขตฺเตน จนฺโท ยุตฺโตติ อตฺโถ.
๓๖๙. องฺคเณติ ¶ อพฺโภกาเส. เอวเมว ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ อุทฺเทสทานาทิ อาปุจฺฉิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.
๓๗๔. นิพทฺธคมนตฺถายาติ อตฺตโนว นิรนฺตรคมนตฺถาย. อูหทิตาติ เอตฺถ หท-ธาตุสฺส วจฺจวิสฺสชฺชนตฺถตายาห ‘‘พหิ วจฺจมกฺขิตา’’ติ.
ปิณฺฑจาริกวตฺตกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
วตฺตกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๙. ปาติโมกฺขฏฺปนกฺขนฺธโก
ปาติโมกฺขุทฺเทสยาจนกถาวณฺณนา
๓๘๓. ปาติโมกฺขฏฺปนกฺขนฺธเก ¶ ¶ ปาฬิยํ นนฺทิมุขิยาติ โอทาตทิสามุขตาย ตุฏฺมุขิยา. ‘‘อุทฺธสฺตํ อรุณ’’นฺติ วตฺวาปิ ‘‘อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา’’ติ ปาติโมกฺขุทฺเทสยาจนํ อนุโปสเถ อุโปสถกรณปฏิกฺเขปสฺส สิกฺขาปทสฺส อปฺตฺตตฺตา เถเรน กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. กสฺมา ปน ภควา เอวํ ตุณฺหีภูโตว ติยามรตฺตึ วีตินาเมสีติ? อปริสุทฺธาย ปริสาย อุโปสถาทิสํวาสกรณสฺส สาวชฺชตํ ภิกฺขุสงฺเฆ ปากฏํ กาตุํ, ตฺจ อายตึ ภิกฺขูนํ ตถาปฏิปชฺชนตฺถํ สิกฺขาปทํ าเปตุํ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘อปริสุทฺธมฺปิ ปุคฺคลํ ตสฺส สมฺมุขา ‘อปริสุทฺโธ’ติ วตฺตุํ มหากรุณาย อวิสหนฺโต ภควา ตถา นิสีที’’ติ การณํ วทนฺติ. ตํ อการณํ ปจฺฉาปิ อวตฺตพฺพโต, มหาโมคฺคลฺลานตฺเถเรนาปิ ตํ พาหายํ คเหตฺวา พหิ นีหรณสฺส อกตฺตพฺพตาปสงฺคโต. ตสฺมา ยถาวุตฺตเมเวตฺถ การณนฺติ. เตเนว ‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ ตถาคโต อปริสุทฺธาย ปริสาย อุโปสถํ กเรยฺย, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยา’’ติ (อ. นิ. ๘.๒๐; จูฬว. ๓๘๖; อุทา. ๔๕) วตฺวา ‘‘น จ, ภิกฺขเว, สาปตฺติเกน ปาติโมกฺขํ โสตพฺพ’’นฺติอาทินา (จูฬว. ๓๘๖) สาปตฺติกปริสาย กตฺตพฺพวิธิ ทสฺสิโต.
สงฺกสฺสรสมาจารนฺติ กิฺจิเทว อสารุปฺปํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ อิมินา กตํ ภวิสฺสตี’’ติ ปเรหิ สงฺกาย สริตพฺพสมาจารํ, อตฺตนา วา ‘‘มม อนาจารํ เอเต ชานนฺตี’’ติ สงฺกาย สริตพฺพสมาจารํ. สมณเวสธารเณน, สงฺฆิกปจฺจยภาคคหณาทินา จ ชีวิกํ กปฺเปนฺโต ‘‘อหํ สมโณ’’ติ ปฏิฺํ อเทนฺโตปิ อตฺถโต เทนฺโต วิย โหตีติ ‘‘สมณปฏิฺํ พฺรหฺมจาริปฏิฺ’’นฺติ วุตฺตํ. อวสฺสุตนฺติ กิเลสาวสฺสเนน ตินฺตํ. สฺชาตทุสฺสิลฺยกจวรตฺตา กสมฺพุชาตํ ¶ , อสารตาย วา กสมฺพุ วิย ชาตํ. พหิทฺวารโกฏฺกา นิกฺขาเมตฺวาติ ทฺวารสาลโต พหิ นิกฺขมาเปตฺวา.
๓๘๔. มหาสมุทฺเท ¶ อภิรมนฺตีติ พหุโส ทสฺสนปวิสนาทินา มหาสมุทฺเท อภิรตึ วินฺทนฺติ. น อายตเกเนว ปปาโตติ ฉินฺนตฏมหาโสพฺโภ วิย น อาทิโตว นินฺโนติ อตฺโถ. ิตธมฺโมติ อวฏฺิตสภาโว. ปูรตฺตนฺติ ปุณฺณตฺตํ. นาคาติ สปฺปชาติกา.
ปาติโมกฺขุทฺเทสยาจนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปาติโมกฺขสวนารหกถาทิวณฺณนา
๓๘๖. อุทาหริตพฺพนฺติ ปาฬิยา อวตฺวา ตมตฺถํ ยาย กายจิ ภาสาย อุทาหฏมฺปิ อุทาหฏเมวาติ ทฏฺพฺพํ.
ปุเร วา ปจฺฉา วาติ ตฺติอารมฺภโต ปุพฺเพ วา ตฺตินิฏฺานโต ปจฺฉา วา.
๓๘๗. กตฺจ อกตฺจ อุภยํ คเหตฺวาติ ยสฺส กตาปิ อตฺถิ อกตาปิ. ตสฺส ตทุภยํ คเหตฺวา. ธมฺมิกํ สามคฺคินฺติ ธมฺมิกํ สมคฺคกมฺมํ. ปจฺจาทิยตีติ อุกฺโกฏนาธิปฺปาเยน ปุน กาตุํ อาทิยติ.
๓๘๘. อาการาทิสฺา เวทิตพฺพาติ อาการลิงฺคนิมิตฺตนามานิ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ.
ปาติโมกฺขสวนารหกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
อตฺตาทานองฺคกถาทิวณฺณนา
๓๙๘. ปุน โจเทตุํ อตฺตนา อาทาตพฺพํ คเหตพฺพํ อธิกรณํ อตฺตาทานนฺติ อาห ‘‘สาสนํ โสเธตุกาโม’’ติอาทิ. วสฺสารตฺโตติ วสฺสกาโล. โสปิ หิ ทุพฺภิกฺขาทิกาโล วิย อธิกรณวูปสมตฺถํ ลชฺชิปริสาย ทูรโต อานยนสฺส, อาคตานฺจ ปิณฺฑาย จรณาทิสมาจารสฺส ทุกฺกรตฺตา อกาโล เอว.
สมนุสฺสรณกรณนฺติ ¶ อนุสฺสริตานุสฺสริตกฺขเณ ปีติปาโมชฺชชนนโต อนุสฺสรณุปฺปาทกํ. วิคตูปกฺกิเลส…เป… สํวตฺตตีติ เอตฺถ ยถา ¶ อพฺภหิมาทิอุปกฺกิเลสวิรหิตานํ จนฺทิมสูริยานํ สสฺสิรีกตา โหติ, เอวมสฺสาปิ โจทกสฺส ปาปปุคฺคลูปกฺกิเลสวิคเมน สสฺสิรีกตา โหตีติ อธิปฺปาโย.
๓๙๙. อธิคตํ เมตฺตจิตฺตนฺติ อปฺปนาปฺปตฺตํ เมตฺตฌานํ.
๔๐๐-๑. ‘‘โทสนฺตโร’’ติ เอตฺถ อนฺตร-สทฺโท จิตฺตปริยาโยติ อาห ‘‘น ทุฏฺจิตฺโต หุตฺวา’’ติ.
การฺุํ นาม กรุณา เอวาติ อาห ‘‘การฺุตาติ กรุณาภาโว’’ติ. กรุณนฺติ อปฺปนาปฺปตฺตํ วทติ. ตถา เมตฺตนฺติ.
อตฺตาทานองฺคกถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปาติโมกฺขฏฺปนกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๑๐. ภิกฺขุนิกฺขนฺธโก
มหาปชาปติโคตมีวตฺถุกถาวณฺณนา
๔๐๓. ภิกฺขุนิกฺขนฺธเก ¶ ¶ ‘‘มาตุคามสฺส ปพฺพชิตตฺตา’’ติ อิทํ ปฺจวสฺสสตโต อุทฺธํ สทฺธมฺมสฺส อปฺปวตฺตนการณทสฺสนํ. สุกฺขวิปสฺสกขีณาสววเสน วสฺสสหสฺสนฺติอาทิ ขนฺธกภาณกานํ มตํ คเหตฺวา วุตฺตํ. ทีฆนิกายฏฺกถายํ ปน ‘‘ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺเตหิ วสฺสสหสฺสํ อฏฺาสิ, ฉฬภิฺเหิ วสฺสสหสฺสํ, เตวิชฺเชหิ วสฺสสหสฺสํ, สุกฺขวิปสฺสเกหิ วสฺสสหสฺสํ, ปาติโมกฺเขหิ วสฺสสหสฺสํ อฏฺาสี’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๑๖๑) วุตฺตํ. องฺคุตฺตร (อ. นิ. อฏฺ. ๓.๘.๕๑) -สํยุตฺตฏฺกถาสุปิ (สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๑๕๖) อฺถาว วุตฺตํ, ตํ สพฺพํ อฺมฺวิรุทฺธมฺปิ ตํตํภาณกานํ มเตน ลิขิตสีหฬฏฺกถาสุ อาคตนยเมว คเหตฺวา อาจริเยน ลิขิตํ อีทิเส กถาวิโรเธ สาสนปริหานิยา อภาวโต, โสธนุปายาภาวา จ. ปรมตฺถวิโรโธ เอว หิ สุตฺตาทินเยน โสธนีโย, น กถามคฺควิโรโธติ.
มหาปชาปติโคตมีวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภิกฺขุนีอุปสมฺปทานุชานนกถาวณฺณนา
๔๐๔-๘. ปาฬิยํ ยทคฺเคนาติ ยสฺมึ ทิวเส. ตทาติ ตสฺมึเยว ทิวเส. วิมาเนตฺวาติ อวมานํ กตฺวา.
๔๑๐-๑. อาปตฺติคามินิโยติ อาปตฺตึ อาปนฺนาโย. กมฺมวิภงฺเคติ ปริวาเร กมฺมวิภงฺเค (ปริ. ๔๘๒ อาทโย).
๔๑๓-๕. ปาฬิยํ ¶ ทฺเว ติสฺโส ภิกฺขุนิโยติ ทฺวีหิ ตีหิ ภิกฺขุนีหิ. น อาโรเจนฺตีติ ปาติโมกฺขุทฺเทสกสฺส น อาโรเจนฺติ.
๔๑๖. ทุสฺสเวณิยาติ อเนกทุสฺสปฏฺเฏ เอกโต กตฺวา กตเวณิยา.
๔๑๗. วิเสสกนฺติ ¶ ปตฺตเลขาทิวณฺณวิเสสํ. ปกิณนฺตีติ วิกฺกิณนฺติ. นมนกนฺติ ปาสุกฏฺินมนกพนฺธนํ.
๔๒๒-๕. สํเวลฺลิยนฺติ กจฺฉํ พนฺธิตฺวา นิวาสนํ. ตโย นิสฺสเยติ รุกฺขมูลเสนาสนสฺส ตาสํ อลพฺภนโต วุตฺตํ.
๔๒๖-๘. อฏฺเว ภิกฺขุนิโย ยถาวุฑฺฒํ ปฏิพาหนฺตีติ อฏฺ ภิกฺขุนิโย วุฑฺฒปฏิปาฏิยาว คณฺหนฺติโย อาคตปฏิปาฏึ ปฏิพาหนฺติ, นาฺาติ อตฺโถ. อนุวาทํ ปฏฺเปนฺตีติ อิสฺสริยํ ปวตฺเตนฺตีติ อตฺถํ วทนฺติ.
๔๓๐. ภิกฺขุทูเตนาติ ภิกฺขุนา ทูตภูเตน. สิกฺขมานทูเตนาติ สิกฺขมานาย ทูตาย.
๔๓๑. น สมฺมตีติ นปฺปโหติ. นวกมฺมนฺติ ‘‘นวกมฺมํ กตฺวา วสตู’’ติ อปโลเกตฺวา สงฺฆิกภูมิยา โอกาสทานํ.
๔๓๒-๖. สนฺนิสินฺนคพฺภาติ ทุวิฺเยฺยคพฺภา. มหิลาติตฺเถติ อิตฺถีนํ สาธารณติตฺเถ.
ภิกฺขุนีอุปสมฺปทานุชานนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภิกฺขุนิกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๑๑. ปฺจสติกกฺขนฺธโก
ขุทฺทานุขุทฺทกสิกฺขาปทกถาวณฺณนา
๔๓๗. ปฺจสติกกฺขนฺธเก ¶ ¶ ปาฬิยํ ‘‘อปาวุโส, อมฺหากํ สตฺถารํ ชานาสี’’ติ อิทํ เถโร สยํ ภควโต ปรินิพฺพุตภาวํ ชานนฺโตปิ อตฺตนา สหคตภิกฺขุปริสาย าปนตฺถเมว, สุภทฺทสฺส วุฑฺฒปพฺพชิตสฺส สาสนสฺส ปฏิปกฺขวจนํ ภิกฺขูนํ วิฺาปนตฺถฺจ เอวํ ปุจฺฉิ. สุภทฺโท หิ กุสินารายํ ภควติ อภิปฺปสนฺนาย ขตฺติยาทิคหฏฺปริสาย มชฺเฌ ภควโต ปรินิพฺพานํ สุตฺวา หฏฺปหฏฺโปิ ภเยน ปหฏฺาการํ วาจาย ปกาเสตุํ น สกฺขิสฺสติ, อิเธว ปน วิชนปเทเส สุตฺวา ยถาชฺฌาสยํ อตฺตโน ปาปลทฺธึ ปกาเสสฺสติ, ตโต ตเมว ปจฺจยํ ทสฺเสตฺวา ภิกฺขู สมุสฺสาเหตฺวา ธมฺมวินยสงฺคหํ กาเรตฺวา เอตสฺส ปาปภิกฺขุสฺส, อฺเสฺจ อีทิสานํ มโนรถวิฆาตํ, สาสนฏฺิติฺจ กริสฺสามีติ ชานนฺโตว ตํ ปุจฺฉีติ เวทิตพฺพํ. เตเนว เถโร ‘‘เอกมิทาหํ, อาวุโส, สมย’’นฺติอาทินา สุภทฺทวจนเมว ทสฺเสตฺวา ธมฺมวินยํ สงฺคายาเปสิ. นานาภาโวติ สรีเรน นานาเทสภาโว, วิปฺปวาโสติ อตฺโถ. วินาภาโวติ มรเณน วิยุชฺชนํ. อฺถาภาโวติ ภวนฺตรูปคมเนน อฺาการปฺปตฺติ.
๔๔๑. ‘‘อากงฺขมาโน…เป… สมูหเนยฺยา’’ติ อิทํ ภควา มยา ‘‘อากงฺขมาโน’’ติ วุตฺตตฺตา เอกสิกฺขาปทมฺปิ สมูหนิตพฺพํ อปสฺสนฺตา, สมูหเน จ โทสํ ทิสฺวา ธมฺมสงฺคหกา ภิกฺขู ‘‘อปฺตฺตํ น ปฺาเปสฺสาม, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทิสฺสามา’’ติอาทินา ปุน ‘‘ปฺตฺติสทิสาย อกุปฺปาย กมฺมวาจาย สาเวตฺวา สมาทาย วตฺติสฺสนฺติ, ตโต ยาว สาสนนฺตรธานา อปฺปฏิพาหิยานิ สิกฺขาปทานิ ภวิสฺสนฺตี’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน อโวจาติ ทฏฺพฺพํ. เตเนว มหาเถราปิ ตเถว ปฏิปชฺชึสุ.
คิหิคตานีติ ¶ คิหีสุ คตานิ. ขตฺติยมหาสาราทิคิหีหิ าตานีติ อตฺโถ. จิตกธูมกาโล อตฺตโน ปวตฺติปริโยสานภูโต เอตสฺสาติ ธูมกาลิกํ.
๔๔๓. โอฬาริเก ¶ นิมิตฺเต กริยมาเนปีติ ‘‘อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา’’ติ เอวํ ถูลตเร ‘‘ติฏฺตุ, ภควา, กปฺป’’นฺติ ยาจนเหตุภูเต โอกาสนิมิตฺเต กมฺเม กริยมาเน. มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺโตติ มาเรน อาวิฏฺจิตฺโต.
๔๔๕. อุชฺชวนิกายาติ ปฏิโสตคามินิยา. กุจฺฉิโต ลโว เฉโท วินาโส กุลโว, นิรตฺถกวินิโยโค. ตํ น คจฺฉนฺตีติ น กุลวํ คเมนฺติ.
ขุทฺทานุขุทฺทกสิกฺขาปทกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจสติกกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๑๒. สตฺตสติกกฺขนฺธโก
ทสวตฺถุกถาวณฺณนา
๔๔๖. สตฺตสติกกฺขนฺธเก ¶ ¶ ภิกฺขคฺเคนาติ ภิกฺขุคณนาย. มหีติ หิมํ.
๔๔๗. อวิชฺชานิวุตาติ อวิชฺชานีวรเณน นิวุตา ปฏิจฺฉนฺนา. อวิทฺทสูติ อฺาณิโน. อุปกฺกิเลสา วุตฺตาติ เตสํ สมณพฺราหฺมณานํ เอเต สุราปานาทโย อุปกฺกิเลสาติ วุตฺตา. เนตฺติยา ตณฺหาย สหิตา สเนตฺติกา.
๔๕๐-๑. อโหคงฺโคติ ตสฺส ปพฺพตสฺส นามํ. ปฏิกจฺเจว คจฺเฉยฺยนฺติ ยตฺถ นํ อธิกรณํ วูปสมิตุํ ภิกฺขู สนฺนิปติสฺสนฺติ, ตตฺถาหํ ปมเมว คจฺเฉยฺยํ. สมฺภาเวสุนฺติ สมฺปาปุณึสุ.
๔๕๒. อโลณิกนฺติ โลณรหิตํ ภตฺตํ, พฺยฺชนํ วา. อาสุตาติ สพฺพสมฺภารสชฺชิตา, ‘‘อสุตฺตา’’ติ วา ปาโ.
๔๕๓. อุชฺชวึสูติ นาวาย ปฏิโสตํ คจฺฉึสุ. ปาจีนกาติ ปุรตฺถิมทิสาย ชาตตฺตา วชฺชิปุตฺตเก สนฺธาย วุตฺตํ. ปาเวยฺยกาติ ปาเวยฺยเทสวาสิโน.
๔๕๔. นนุ ตฺวํ, อาวุโส, วุฑฺโฒติ นนุ ตฺวํ เถโร นิสฺสยมุตฺโต, กสฺมา ตํ เถโร ปณาเมสีติ เภทวจนํ วทนฺติ. ครุนิสฺสยํ คณฺหามาติ นิสฺสยมุตฺตาปิ มยํ เอกํ สมฺภาวนียครุํ นิสฺสยภูตํ คเหตฺวาว วสิสฺสามาติ อธิปฺปาโย.
๔๕๕. มูลาทายกาติ ปมํ ทสวตฺถูนํ ทายกา, อาวาสิกาติ อตฺโถ. ปถพฺยา สงฺฆตฺเถโรติ ¶ โลเก สพฺพภิกฺขูนํ ตทา อุปสมฺปทาย วุฑฺโฒ. สฺุตาวิหาเรนาติ สฺุตามุเขน อธิคตผลสมาปตฺตึ สนฺธาย วทติ.
๔๕๗. สุตฺตวิภงฺเคติ ปทภาชนีเย. อิทฺจ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ สนฺนิธิการกํ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา’’ติ (ปาจิ. ๒๕๓) สุตฺเต ยาวกาลิกสฺเสว ปรามฏฺตฺตา ¶ สิงฺคีโลณสฺส ยาวชีวิกสฺส สนฺนิธิกตสฺส อามิเสน สทฺธึ ปริโภเค ปาจิตฺติยํ วิภงฺคนเยเนว สิชฺฌตีติ วุตฺตํ, ตํ ปน ปาจิตฺติยํ วิภงฺเค อาคตภาวํ สาเธตุํ ‘‘กถํ สุตฺตวิภงฺเค’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ หิ โลณเมตฺถ สนฺนิธิกตํ, น ขาทนียํ โภชนียนฺติ โลณมิสฺสโภชเน วชฺชิปุตฺตกา อนวชฺชสฺิโน อเหสุํ. ตถาสฺีนมฺปิ เนสํ อาปตฺติทสฺสนตฺถํ ‘‘สนฺนิธิกาเร อสนฺนิธิการสฺี’’ติ อิทํ สุตฺตวิภงฺคํ อุทฺธฏนฺติ เวทิตพฺพํ.
เตน สทฺธินฺติ ปุเรปฏิคฺคหิตโลเณน สทฺธึ. ทุกฺกเฏเนตฺถ ภวิตพฺพนฺติ ‘‘ยาวกาลิเกน, ภิกฺขเว, ยาวชีวิกํ ปฏิคฺคหิต’’นฺติ อวตฺวา ‘‘ตทหุปฏิคฺคหิต’’นฺติ วจนสามตฺถิยโต ปุเรปฏิคฺคหิตํ ยาวชีวิกํ ยาวกาลิเกน สทฺธึ สมฺภินฺนรสํ กาเลปิ น กปฺปตีติ สิชฺฌติ, ตตฺถ ทุกฺกเฏน ภวิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. ทุกฺกเฏนปิ น ภวิตพฺพนฺติ ยทิ หิ สนฺนิธิการปจฺจยา ทุกฺกฏํ มฺถ, ยาวชีวิกสฺส โลณสฺส สนฺนิธิโทสาภาวา ทุกฺกเฏน น ภวิตพฺพํ, อถ อามิเสน สมฺภินฺนรสสฺส ตสฺส อามิสคติกตฺตา ทุกฺกฏํ มา มฺถ. ตทา จ หิ ปาจิตฺติเยเนว ภวิตพฺพํ อามิสตฺตุปคมนโตติ อธิปฺปาโย. น หิ เอตฺถ ยาวชีวิกนฺติอาทินาปิ ทุกฺกฏาภาวํ สมตฺเถติ.
ปาฬิยํ ราชคเห สุตฺตวิภงฺเคติอาทีสุ สพฺพตฺถ สุตฺเต จ วิภงฺเค จาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ตสฺส ตสฺส วิกาลโภชนาทิโน สุตฺเตปิ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา วินยสฺส อติสรณํ อติกฺกโม วินยาติสาโร. ‘‘นิสีทนํ นาม สทสํ วุจฺจตีติ อาคต’’นฺติ อิทํ วิภงฺเค จ อาคตทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตํ ปมาณํ กโรนฺตสฺสาติ สุคตวิทตฺถิยา วิทตฺถิตฺตยปฺปมาณํ กโรนฺตสฺส, ทสาย ปน วิทตฺถิทฺวยปฺปมาณํ กตํ. อทสกมฺปิ นิสีทนํ วฏฺฏติ เอวาติ อธิปฺปาโย. เสสมิธ เหฏฺา สพฺพตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.
ทสวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สตฺตสติกกฺขนฺธกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
จูฬวคฺควณฺณนานโย นิฏฺิโต.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ปริวารวณฺณนา
มหาวคฺโค
ปฺตฺติวารวณฺณนา
๑. วิสุทฺธปริวารสฺส ¶ ¶ สีลกฺขนฺธาทิธมฺมกฺขนฺธสรีรสฺส ภควโต วินยปริยตฺติสาสเน ขนฺธกานํ อนนฺตรํ ปริวาโรติ โย วินโย สงฺคหํ สมารุฬฺโห, ตสฺส ทานิ อนุตฺตานตฺถวณฺณนํ กริสฺสามีติ โยชนา.
สมนฺตจกฺขุนาติ สพฺพฺุตฺาเณน. อติวิสุทฺเธน มํสจกฺขุนาติ รตฺตินฺทิวํ สมนฺตา โยชนปฺปมาเณ อติสุขุมานิปิ รูปานิ ปสฺสนโต อติวิย ปริสุทฺเธน ปสาทจกฺขุนา. ‘‘อตฺถิ ตตฺถ ปฺตฺตี’’ติอาทีสุ อตฺถิ นุ โข ตตฺถ ปฺตฺตีติอาทินา อตฺโถ คเหตพฺโพติ อาห ‘‘ตตฺถ ปฺตฺติ…เป… เกนาภตนฺติ ปุจฺฉา’’ติ.
๒. ปุจฺฉาวิสฺสชฺชเนติ ¶ ปุจฺฉาย วิสฺสชฺชเน. วินีตกถาติ วินีตวตฺถุกถา, อยเมว วา ปาโ.
ทฺวงฺคิเกน เอเกน สมุฏฺาเนนาติ องฺคทฺวยสมุทายภูเตน เอเกน. องฺคทฺวยวิมุตฺตสฺส สมุฏฺานสฺส อภาเวปิ เตสุ เอเกนงฺเคน วินา อยํ อาปตฺติ น โหตีติ ทสฺสนตฺถเมว ‘‘เอเกน สมุฏฺาเนนา’’ติ วุตฺตํ. อิทานิ เตสุ ทฺวีสุ องฺเคสุ ปธานงฺคํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอตฺถ หิ จิตฺตํ องฺคํ โหตี’’ติอาทิ. ยสฺมา ปน มคฺเคนมคฺคปฺปฏิปตฺติสงฺขาตาย กายวิฺตฺติยา เสวนจิตฺเตเนว สมฺภเว สติ อยํ ตํ องฺคทฺวยํ อุปาทาย ภควตา ปฺตฺตา อาปตฺติสมฺมุติ โหติ, นาสติ. ตสฺมา ตํ จิตฺตํ กายวิฺตฺติสงฺขาตสฺส กายสฺส องฺคํ การณํ โหติ, น อาปตฺติยา. ตสฺส ปน ตํสมุฏฺิตกาโย เอว องฺคํ อพฺยวหิตการณํ, จิตฺตํ ปน การณการณนฺติ อธิปฺปาโย. เอวํ อุปริปิ สพฺพตฺถ จิตฺตงฺคยุตฺตสมุฏฺาเนสุ อธิปฺปาโย ¶ เวทิตพฺโพ. ‘‘เอเกน สมุฏฺาเนน สมุฏฺาตี’’ติอาทิปริวารวจเนเนว อาปตฺติยา อกุสลาทิปรมตฺถสภาวตา ปาฬิอฏฺกถาสุ ปริยายโตว วุตฺตา, สมฺมุติสภาวา เอว อาปตฺตีติ สิชฺฌติ สมุฏฺานสมุฏฺิตานํ เภทสิทฺธิโตติ คเหตพฺพํ. อิมมตฺถํ สนฺธายาติ อาปนฺนาย ปาราชิกาปตฺติยา เกหิจิปิ สมเถหิ อนาปตฺติภาวาปาทนสฺส อสกฺกุเณยฺยตฺตสงฺขาตมตฺถํ สนฺธาย.
๓. โปราณเกหิ มหาเถเรหีติ สงฺคีติตฺตยโต ปจฺฉา โปตฺถกสงฺคีติการเกหิ ฉฬภิฺาปอสมฺภิทาทิคุณสมุชฺชเลหิ มหาเถเรหิ. จตุตฺถสงฺคีติสทิสา หิ โปตฺถกาโรหสงฺคีติ.
๑๘๘. มหาวิภงฺเคติ ภิกฺขุวิภงฺเค. โสฬส วารา ทสฺสิตาติ เยหิ วาเรหิ อาทิภูเตหิ อุปลกฺขิตตฺตา อยํ สกโลปิ ปริวาโร โสฬสปริวาโรติ โวหรียติ, เต สนฺธาย วทติ.
ปฺตฺติวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมุฏฺานสีสวณฺณนา
๒๕๗. ปาฬิยํ นิพฺพานฺเจว ปฺตฺตีติ เอตฺถ ยสฺมา สงฺขตธมฺเม อุปาทาย ปฺตฺตา สมฺมุติสจฺจภูตา ปุคฺคลาทิปฺตฺติ ปรมตฺถโต อวิชฺชมานตฺตา อุปฺปตฺติวินาสยุตฺตวตฺถุธมฺมนิยเตน อนิจฺจทุกฺขลกฺขณทฺวเยน ยุตฺตาติ วตฺตุํ อยุตฺตา, การกเวทกาทิรูเปน ปน ปริกปฺปิเตน อตฺตสภาเวน วิรหิตตฺตา ‘‘อนตฺตา’’ติ วตฺตุํ ยุตฺตา. ตสฺมา อยํ ปฺตฺติปิ อสงฺขตตฺตสามฺโต ¶ วตฺถุภูเตน นิพฺพาเนน สห ‘‘อนตฺตา อิติ นิจฺฉยา’’ติ วุตฺตา. อวิชฺชมานาปิ หิ สมฺมุติ เกนจิ ปจฺจเยน อกตตฺตา อสงฺขตา เอวาติ.
กรุณาสีตลตฺตํ, ปฺาปภาสิตตฺตฺจ ภควโต ทสฺเสตุํ ‘‘พุทฺธจนฺเท, พุทฺธาทิจฺเจ’’ติ เอตํ อุภยํ วุตฺตํ. หายติ เอเตนาติ หานิ, ทุกฺขสฺส หานิ ทุกฺขหานิ, สพฺพทุกฺขาปนูทนการณนฺติ อตฺโถ. ปิฏเก ตีณิ เทสยีติ ยสฺมา อฺเปิ มหาวีรา สมฺมาสมฺพุทฺธา สทฺธมฺมํ เทสยนฺติ, ตสฺมา ¶ องฺคีรโส ปิฏกานิ ตีณิ เทสยีติ โยชนา. มหาคุณนฺติ มหานิสํสํ. เอวํ นียติ สทฺธมฺโมติ ยทิ วินยปริยตฺติ อปริหีนา ติฏฺติ, เอวํ สติ ปฏิปตฺติปฏิเวธสทฺธมฺโมปิ นียติ ปวตฺตียติ, น ปริหายตีติ อตฺโถ.
วินยปริยตฺติ ปน กถํ ติฏฺตีติ อาห ‘‘อุภโต จา’’ติอาทิ. ปริวาเรน คนฺถิตา ติฏฺตีติ โยเชตพฺพํ. ตสฺเสว ปริวารสฺสาติ ตสฺมึ เอว ปริวาเร. สมุฏฺานํ นิยโต กตนฺติ เอกจฺจํ สมุฏฺาเนน นิยตํ กตํ. ตสฺมึ ปริวาเร กิฺจิ สิกฺขาปทํ นิยตสมุฏฺานํ อฺเหิ อสาธารณํ, ตํ ปกาสิตนฺติ อตฺโถ.
สมฺเภทํ นิทานฺจฺนฺติ สมฺเภโท สิกฺขาปทานํ อฺมฺสมุฏฺาเนน สํกิณฺณตา, นิทานฺจ ปฺตฺติฏฺานํ, อฺํ ปุคฺคลาทิวตฺถาทิ จ. สุตฺเต ทิสฺสนฺติ อุปรีติ เหฏฺา วุตฺเต, อุปริ วกฺขมาเน จ ปริวารสุตฺเต เอว ทิสฺสนฺติ. ยสฺมา จ เอวํ, ตสฺมา สกลสาสนาธารสฺส วินยสฺส ิติเหตุภูตํ ปริวารํ สิกฺเขติ, เอวเมตฺถ โยชนา ทฏฺพฺพา.
สมฺภินฺนสมุฏฺานานีติ อฺเหิ สาธารณสมุฏฺานานิ. อาทิมฺหิ ตาว ปุริมนเยติ สพฺพปเม ปฺตฺติวาเร อาคตนยํ สนฺธาย วทติ, ตตฺถ ปน ปฺตฺติวาเร ‘‘ปมํ ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺตนฺติ, เวสาลิยํ ปฺตฺต’’นฺติอาทินา (ปริ. ๑) นิทานมฺปิ ทิสฺสติ เอว. ปรโตติ อาคตภาวํ ปน สนฺธาย ปรโต อาคเต สุตฺเต ทิสฺสตีติ เวทิตพฺพนฺติ วุตฺตํ. ตสฺสาติ อุภโตวิภงฺคปริยาปนฺนสฺส สิกฺขาปทสฺส.
๒๕๘. อนิยตา ปมิกาติ อาปตฺตึ อเปกฺขิตฺวาว อิตฺถิลิงฺคํ กตํ, ปมานิยตํ สิกฺขาปทนฺติ อตฺโถ. ปาฬิยํ นานุพนฺเธ ปวตฺตินินฺติ วุฏฺาปิตํ ปวตฺตินึ อนนุพนฺธนสิกฺขาปทํ.
๒๖๐. เอฬกโลมสิกฺขาปทวตฺถุสฺมึ ¶ ‘‘ภิกฺขุนิโย เอฬกโลมานิ โธวนฺติโย รชนฺติโย วิชเฏนฺติโย ริฺจนฺติ อุทฺเทสํ ปริปุจฺฉ’’นฺติ (ปารา. ๕๗๖) อาคตตฺตา อิมํ ริฺจนฺติ-ปทํ คเหตฺวา สิกฺขาปทํ อุปลกฺขิตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิภงฺเค ‘ริฺจนฺติ อุทฺเทส’นฺติ อาคตํ เอฬกโลมโธวาปนสิกฺขาปท’’นฺติ อาห.
วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทนฺติ ¶ อสมเย วสฺสิกสาฏิกปริเยสนสิกฺขาปทํ (ปารา. ๖๒๖ อาทโย). รตนสิกฺขาปทนฺติ รตนํ วา รตนสมฺมตํ วา ปฏิสามนสิกฺขาปทํ (ปาจิ. ๕๐๒ อาทโย).
๒๖๕. ปาฬิยํ พุทฺธาเณนาติ ปฏิวิทฺธสพฺพฺุตฺาเณน.
๒๖๗. ‘‘น เทเสนฺติ ตถาคตา’’ติ เอเตน ฉตฺตปาณิสฺส ธมฺมเทสนาปฏิกฺเขปํ ทสฺเสติ.
๒๖๙. อกตนฺติ อฺเหิ อมิสฺสีกตํ, นิยตสมุฏฺานนฺติ อตฺโถ. อกตนฺติ วา ปุพฺเพ อนาคตํ, อภินวนฺติ อตฺโถ.
๒๗๐. สมุฏฺานฺหิ สงฺเขปนฺติ เอตฺถ สงฺขิปนฺติ สงฺคยฺหนฺติ สทิสสมุฏฺานานิ เอตฺถาติ สงฺเขโป, สมุฏฺานสีสํ. เนติ วิเนติ กายวจีทุจฺจริตนฺติ เนตฺติ, วินยปาฬิ, สา เอว ธมฺโมติ เนตฺติธมฺโมติ อาห ‘‘วินยปาฬิธมฺมสฺสา’’ติ.
สมุฏฺานสีสวณฺณนา นิฏฺิตา.
อนฺตรเปยฺยาลํ
กติปุจฺฉาวารวณฺณนา
๒๗๑. กติ ¶ อาปตฺติโยติ ปาราชิกาทีสุ ปฺจสุ อาปตฺตีสุ เมถุนาทินฺนาทานาทิอนฺโตคธเภทํ อเปกฺขิตฺวา ชาติวเสน เอกตฺตํ อาโรเปตฺวา ปุจฺฉา กตา. กติ อาปตฺติกฺขนฺธาติ อนฺโตคธเภทํ อเปกฺขิตฺวา ปจฺเจกํ ราสฏฺเนาติ เอตฺตกเมเวตฺถ เภโท. วินีตานิเยว ¶ วินีตวตฺถูนีติ อาปตฺติโต วิรมณานิ เอว อวิปฺปฏิสารปาโมชฺชาทิธมฺมานํ การณตฺตา วตฺถูนีติ วินีตวตฺถูนิ, ตานิ เอตฺถ อตฺถโต วิรติอาทิอนวชฺชธมฺมา เอว. เวรํ มณตีติ เวรเหตุตฺตา ‘‘เวร’’นฺติ ลทฺธนามํ ราคาทิอกุสลปกฺขํ วินาเสติ.
ธมฺมสฺสวนคฺคํ ภินฺทิตฺวา คจฺฉตีติ พหูสุ เอกโต นิสีทิตฺวา ธมฺมํ สุณนฺเตสุ ตํ ธมฺมสฺสวนสมาคมํ โกเปตฺวา อุฏฺาย คจฺฉติ. อนาทโรวาติ ตุสฺสิตพฺพฏฺาเน ตุฏฺึ, สํวิชิตพฺพฏฺาเน สํเวคฺจ อปเวเทนฺโต เอว. กายปาคพฺภิยนฺติ อุนฺนติวเสน ปวตฺตนกายานาจารํ.
๒๗๔. เมตฺตาย สมฺภูตํ เมตฺตํ, กายกมฺมํ. อุภเยหิปีติ นวเกหิ, เถเรหิ จ. ปิยํ กโรตีติ ตํ ปุคฺคลํ เปมฏฺานํ กโรติ, เกสนฺติ อาห ‘‘สพฺรหฺมจารีน’’นฺติ.
ปุคฺคลํ ปฏิวิภชิตฺวา ภฺุชตีติ ปกเตน สมฺพนฺโธ. ตเมว ปุคฺคลปฏิวิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘อสุกสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ภุชิสฺสภาวกรณโตติ ตณฺหาทาสพฺยโต โมเจตฺวา สมถวิปสฺสนาสุ เสริวิหาริตากรณโตติ อตฺโถ. นิยฺยาตีติ ปวตฺตติ. สมฺมาทุกฺขกฺขยาย สํวตฺตตีติ อตฺโถ.
กติปุจฺฉาวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
ฉอาปตฺติสมุฏฺานวารวณฺณนา
๒๗๖. ปเมน อาปตฺติสมุฏฺาเนนาติ เกวลํ กาเยน. ปาราชิกาปตฺติยา เอกนฺตสจิตฺตกสมุฏฺานตฺตา ‘‘น หีติ วตฺตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. สงฺฆาทิเสสาทีนํ ¶ ทุกฺกฏปริโยสานานํ ปฺจนฺนํ อจิตฺตกานมฺปิ สมฺภวโต ‘‘สิยา’’ติ วุตฺตํ, อาปชฺชนํ สิยา ภเวยฺยาติ อตฺโถ. หีนุกฺกฏฺเหิ ชาติอาทีหิ โอมสเน เอว ทุพฺภาสิตสฺส ปฺตฺตตฺตา สา เอกนฺตวาจาจิตฺตสมุฏฺานา เอวาติ.
ทุติยสมุฏฺานนเย วาจาย เอว สมาปชฺชิตพฺพปาฏิเทสนียสฺส อภาวา ‘‘น หี’’ติ วุตฺตํ.
ตติเย ¶ ปน โวสาสมานรูปํ ภิกฺขุนึ กายวาจาหิ อนปสาทนปจฺจยา ปาฏิเทสนียสมฺภวโต ‘‘สิยา’’ติ วุตฺตํ.
โอมสเน ปาจิตฺติยสฺส อทินฺนาทานสมุฏฺานตฺเตปิ ตปฺปจฺจยา ปฺตฺตสฺส ทุพฺภาสิตสฺส ปฺจเมเนว สมุปฺปตฺตีติ ทสฺเสตุํ จตุตฺถวาเร ‘‘ทุพฺภาสิตํ อาปชฺเชยฺยาติ น หีติ วตฺตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ปฺจมวาเร ‘‘สิยาติ วตฺตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. กายวิกาเรเนว โอมสนฺตสฺส ปเนตฺถ ทุพฺภาสิตภาเวปิ กายกีฬาภาวาภาวโต ทุกฺกฏเมวาติ ทฏฺพฺพํ.
ฉฏฺวาเร ปน วิชฺชมาโนปิ กาโย ทุพฺภาสิตสฺส องฺคํ น โหติ, ปฺจมสมุฏฺาเน เอว ฉฏฺมฺปิ ปวิสตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘น หี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตํ, น ปน ตตฺถ สพฺพถา ทุพฺภาสิเตน อนาปตฺตีติ ทสฺเสตุํ. น หิ ทวกมฺยตาย กายวาจาหิ โอมสนฺตสฺส ทุพฺภาสิตาปตฺติ น สมฺภวติ. ยฺหิ ปฺจเมเนว สมาปชฺชติ, ตํ ฉฏฺเนปิ สมาปชฺชติ เอว ธมฺมเทสนาปตฺติ วิยาติ คเหตพฺพํ. เสสํ สมุฏฺานวาเร สุวิฺเยฺยเมว.
ฉอาปตฺติสมุฏฺานวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
กตาปตฺติวารวณฺณนา
๒๗๗. ทุติเย ปน กติวาเร ปมสมุฏฺาเนน อาปชฺชิตพฺพานํ อาปตฺตีนํ ลหุทสฺสนสุขตฺถํ กุฏิการาทีนิ เอว สมุทฺธฏานิ, น อฺเสํ อภาวา, สฺจริตฺตาทีนมฺปิ วิชฺชมานตฺตา. เอวํ ทุติยสมุฏฺานาทีสุปิ. ‘‘กปฺปิยสฺี’’ติ อิมินา อจิตฺตกตฺตํ ทสฺเสติ. ‘‘กุฏึ กโรตี’’ติ อิมินา วจีปโยคาภาวํ. อุภเยนาปิ เกวลํ กาเยเนว ทุกฺกฏาทีนํ สมฺภวํ ทสฺเสติ. เอวํ อุปริปิ ยถานุรูปํ กาตพฺพํ.
‘‘เอเกน ¶ สมุฏฺาเนน สมุฏฺหนฺตี’’ติ อิทํ อิธ วิเสเสตฺวา ทสฺสิตานํ กายโตว สมุฏฺิตานํ วเสน วุตฺตํ, อวิเสสโต ปน ตา อาปตฺติโย อิตรสมุฏฺาเนหิปิ ยถารหํ สมุฏฺหนฺติ เอว. เอวํ อุปริปิ.
‘‘ติณวตฺถารเกน จา’’ติ อิทํ สงฺฆาทิเสสวชฺชิตานํ จตุนฺนํ อาปตฺตีนํ วเสน วุตฺตํ.
๒๗๙. สํวิทหิตฺวา ¶ กุฏึ กโรตีติ วาจาย สํวิทหติ, สยฺจ กาเยน กโรตีติ อตฺโถ.
กตาปตฺติวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
อาปตฺติสมุฏฺานคาถาวณฺณนา
๒๘๓. ตติโย ปน คาถาวาโร ทุติยวาเรน วุตฺตเมวตฺถํ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสตุํ วุตฺโต. ตตฺถ กาโยว กายิโกติ วตฺตพฺเพ วจนวิปลฺลาเสน ‘‘กายิกา’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘เตน สมุฏฺิตา’’ติ, กาโย สมุฏฺานํ อกฺขาโตติ อตฺโถ.
วิเวกทสฺสินาติ สพฺพสงฺขตวิวิตฺตตฺตา, ตโต วิวิตฺตเหตุตฺตา จ นีวรณวิเวกฺจ นิพฺพานฺจ ทสฺสนสีเลน. วิภงฺคโกวิทาติ อุภโตวิภงฺคกุสลาติ อาลปนํ. อิธ ปเนวํ อฺโ ปุจฺฉนฺโต นาม นตฺถิ, อุปาลิตฺเถโร สยเมว อตฺถํ ปากฏํ กาตุํ ปุจฺฉาวิสชฺชนฺจ อกาสีติ อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อาปตฺติสมุฏฺานคาถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
วิปตฺติปจฺจยวารวณฺณนา
๒๘๔. จตุตฺเถ ปน วิปตฺติปจฺจยวาเร สีลวิปตฺติปจฺจยาติ สีลวิปตฺติปอจฺฉาทนปจฺจยา.
๒๘๖. ทิฏฺิวิปตฺติปจฺจยาติ ทิฏฺิวิปตฺติยา อปฺปฏินิสฺสชฺชนปจฺจยา.
๒๘๗. อาชีววิปตฺติปจฺจยาติ ¶ เอตฺถ อาคมฺม ชีวนฺติ เอเตนาติ อาชีโว, จตุปจฺจโย, โสว มิจฺฉาปตฺติยา วิปนฺนตฺตา วิปตฺตีติ อาชีววิปตฺติ, ตสฺสา อาชีววิปตฺติยา เหตุ, ตทุปฺปาทนตปริโภคนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ.
วิปตฺติปจฺจยวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
อธิกรณปจฺจยวารวณฺณนา
๒๙๑. ปฺจเม ¶ อธิกรณปจฺจยวาเร กิจฺจาธิกรณปจฺจยาติ อปโลกนวจนตฺติกมฺมวาจาสงฺขตกมฺมวาจาปจฺจยา. ปฺจาติ เอตฺถ อธมฺมิกกติกาทึ อปโลเกตฺวา กโรนฺตานํ อนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. ปฺจเม อธิกรณปจฺจยวาเร กิจฺจาธิกรณปจฺจยา อปโลกนาวสาเน ทุกฺกฏํ, อธิปฺปายาทินา ตฺติกมฺมาทึ กโรนฺตานํ ถุลฺลจฺจยาทิ จ สงฺคยฺหตีติ ทฏฺพฺพํ. อวเสสา อาปตฺติโยติ โสตาปตฺติผลสมาปตฺติอาทโย. ‘‘นตฺถฺา อาปตฺติโย’’ติ อิทํ วิปตฺติอาทิภาคินิโย สาวชฺชาปตฺติโย สนฺธาย วุตฺตํ.
อธิกรณปจฺจยวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมถเภทํ
อธิกรณปริยายวารวณฺณนา
๒๙๓. ฉฏฺเ ¶ ปริยายวาเร อโลโภ ปุพฺพงฺคโมติอาทิ สาสนฏฺิติยา อวิปรีตโต ธมฺมวาทิสฺส วิวาทํ สนฺธาย วุตฺตํ. อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ านานีติ ธมฺมาทีสุ อธมฺโมติอาทินา คเหตฺวา ทีปนานิ อิเธว เภทกรวตฺถูนิ, ตานิ เอว กายกลหาทิวิวาทสฺส การณตฺตา านานิ, โอกาสตฺตา วตฺถูนิ, อาธารตฺตา ภูมิโยติ จ วุตฺตานิ. อพฺยากตเหตูติ อเสกฺขานํ วิวาทํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทฺวาทส มูลานีติ โกโธ อุปนาโห, มกฺโข ปลาโส, อิสฺสา มจฺฉริยํ, มายา สาเยฺยํ, ปาปิจฺฉตา มหิจฺฉตา, สนฺทิฏฺิปรามาสิตา อาธานคฺคาหีทุปฺปฏินิสฺสชฺชิตานีติ อิเมสํ ฉนฺนํ ยุคฬานํ วเสน ฉ ธมฺมา เจว โลภาทโย ฉ เหตู จาติ ทฺวาทส ธมฺมา วิวาทาธิกรณสฺส มูลานิ.
๒๙๔. จุทฺทส มูลานีติ ตาเนว ทฺวาทส กายวาจาหิ สทฺธึ จุทฺทส อนุวาทาธิกรณสฺส มูลานิ.
๒๙๕. ปถวีขณนาทีสุ ปณฺณตฺติวชฺเชสุ กุสลาพฺยากตจิตฺตมูลิกา อาปตฺติ โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อโลโภ ปุพฺพงฺคโม’’ติอาทิ วุตฺตํ. สตฺต อาปตฺติกฺขนฺธา านานีติอาทิ สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ ¶ ปฏิจฺฉาทนปจฺจยา อาปตฺติสมฺภวโต วุตฺตํ. ‘‘อาปตฺตาธิกรณปจฺจยา จตสฺโส อาปตฺติโย อาปชฺชตี’’ติ (ปริ. ๒๙๐) หิ วุตฺตํ. ‘‘ฉ เหตู’’ติ อิทํ กุสลานํ อาปตฺติเหตุโวหารสฺส อยุตฺตตาย วุตฺตํ, น ปน กุสลเหตูนํ อภาวโต. ‘‘อโลโภ ปุพฺพงฺคโม’’ติ หิ อาทิ วุตฺตํ. อาปตฺติเหตโว เอว หิ ปุพฺพงฺคมนาเมน วุตฺตา.
๒๙๖. จตฺตาริ กมฺมานิ านานีติอาทีสุ อปโลกนวาจา, ตฺติอาทิวาจาโย จ กมฺมานีติ วุตฺตํ. ตา เอว หิ เอกสีมายํ สามคฺคิมุปคตานํ กมฺมปฺปตฺตานํ อนุมติยา สาวนกิริยานิปฺผตฺติสงฺขาตสฺส สงฺฆคณกิจฺจสภาวสฺส กิจฺจาธิกรณสฺส อธิฏฺานาภาเวน ‘‘านวตฺถุภูมิโย’’ติ วุจฺจนฺติ. เอกํ มูลํ สงฺโฆติ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ. คณตฺติอปโลกนานฺหิ ¶ คโณปิ มูลนฺติ. ตฺติโต วาติ ตฺติตฺติทุติยตฺติจตุตฺถกมฺมวาจานํ ตฺติรูปตฺตา, ตฺติปุพฺพกตฺตา จ วุตฺตํ. กมฺมตฺติกมฺมวาจาตฺติวเสน หิ ทุวิธาสุ ตฺตีสุ อนุสฺสาวนาปิ กมฺมมูลกนฺตฺเวว สงฺคยฺหนฺติ. ตฺติวิภาโค จายํ อุปริ อาวิ ภวิสฺสติ.
‘‘อิเม สตฺต สมถา…เป… ปริยาเยนา’’ติ อิทํ ปุจฺฉาวจนํ. ‘‘สิยา’’ติ อิทํ วิสชฺชนํ. ‘‘กถฺจ สิยา’’ติ อิทํ ปุน ปุจฺฉา. วิวาทาธิกรณสฺส ทฺเว สมถาติอาทิ ปุน วิสชฺชนํ. ตตฺถ ‘‘วตฺถุวเสนา’’ติ อิทํ ‘‘สตฺต สมถา ทส สมถา โหนฺตี’’ติ อิมสฺส การณวจนํ. ‘‘ปริยาเยนา’’ติ อิทํ ‘‘ทส สมถา สตฺต สมถา โหนฺตี’’ติ อิมสฺส การณวจนํ. จตุพฺพิธาธิกรณสงฺขาตวตฺถุวเสน จ เทสนากฺกมสงฺขาตปริยายวเสน จาติ อตฺโถ.
อธิกรณปริยายวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
สาธารณวาราทิวณฺณนา
๒๙๗. สตฺตเม สาธารณวาเร สาธารณาติ วิวาทาธิกรณสฺส วูปสมนกิจฺจสาธารณา. เอวํ สพฺพตฺถ.
๒๙๘. อฏฺเม ตพฺภาคิยวาเร ตพฺภาคิยาติ วิวาทาธิกรณสฺส วูปสมนโต ตปฺปกฺขิกา.
สาธารณวาราทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมถาสมถสฺสสาธารณวารวณฺณนา
๒๙๙. นวเม ¶ สมถาสมถสาธารณวาเร ‘‘สพฺเพ สมถา เอกโตว อธิกรณํ สเมนฺติ อุทาหุ นานา’’ติ ปุจฺฉนฺเตน ‘‘สมถา สมถสฺส สาธารณา, สมถา สมถสฺส อสาธารณา’’ติ วุตฺตํ. วิวาทาทิอธิกรณกฺกเมน ตพฺพูปสมเหตุภูเต สมเถ อุทฺธรนฺโต ‘‘เยภุยฺยสิกา’’ติอาทิมาห. สมฺมุขาวินยํ วินา กสฺสจิ สมถสฺส อสมฺภวา เสสา ฉปิ สมถา สมฺมุขาวินยสฺส สาธารณา วุตฺตา, เตสํ ¶ ปน ฉนฺนํ อฺมฺาเปกฺขาภาวโต เต อฺมฺํ อสาธารณา วุตฺตา. ตพฺภาคิยวาเรปิ เอเสว นโย.
สมถาสมถสฺสสาธารณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมถสมฺมุขาวินยวาราทิวณฺณนา
๓๐๑-๓. เอกาทสมวาเรปิ สมฺมุขาวินโยติอาทิ ปุจฺฉา. เยภุยฺยสิกา สติวินโยติอาทิ วิสชฺชนํ. เอวํ วินยวาเร กุสล-วาเร ตโต ปเรสุปิ ปุจฺฉาวิสชฺชนปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ สมฺมุขาวินโย สิยา กุสโลติอาทีสุ ตสฺมึ ตสฺมึ วินยกมฺเม, วิวาทาทิมฺหิ จ นิยุตฺตปุคฺคลานํ สมุปฺปชฺชนกกุสลาทีนํ วเสน สมฺมุขาวินยาทีนํ, วิวาทาทีนฺจ กุสลาทิภาโว เตน เตน อุปจาเรน วุตฺโต. ยสฺมา ปเนตสฺส สมฺมุขาวินโย นาม สงฺฆสมฺมุขตาทโย โหนฺติ, เตสฺจ อนวชฺชสภาวตฺตา อกุสเล วิชฺชมาเนปิ อกุสลตฺตูปจาโร น ยุตฺโต อาปตฺตาธิกรณสฺส อกุสลตฺตูปจาโร วิย, ตสฺมา นตฺถิ สมฺมุขาวินโย อกุสโลติ อตฺโถ.
๓๐๔. ตโต ปเรสุ ยตฺถ เยภุยฺยสิกา ลพฺภติ, ตตฺถ สมฺมุขาวินโย ลพฺภตีติอาทิ สมฺมุขาวินยสฺส อิตเรหิ สมเถหิ นิยเมน สํสฏฺตํ, อิตเรสํ ปน ฉนฺนํ อฺมฺํ สํสคฺคาภาวฺจ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ.
สมถสมฺมุขาวินยวาราทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
สํสฏฺวาราทิวณฺณนา
๓๐๖. อธิกรณนฺติ ¶ วา สมถาติ วา อิเม ธมฺมา สํสฏฺาติอาทิ สมถานํ อธิกรเณสุ เอว ยถารหํ ปวตฺตึ, อธิกรณานิ วินา เตสํ วิสุํ อฏฺานฺจ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. วินิพฺภุชิตฺวา นานากรณํ ปฺาเปตุนฺติ อธิกรณโต สมเถหิ วิโยเชตฺวา อสํสฏฺเ กตฺวา นานากรณํ อฺมฺํ อสํสฏฺตาย ิตภาวสงฺขาตํ นานตฺตํ ปฺาเปตุํ อธิกรณวูปสมกฺขเณ เอว เตสํ อสํสคฺคํ ปฺาเปตุํ กึ สกฺกาติ ปุจฺฉติ.
อธิกรณนฺติอาทิ ¶ คารยฺหวาททสฺสนํ. โส มา เหวนฺติ โย เอวํ วทติ, โส ‘‘มา เอวํ วทา’’ติ วจนีโย อสฺส, น จ ลพฺภติ สมถานํ อฺตฺร อธิกรณา วูปสมลกฺขณนฺติ ปหานาวตฺถานสงฺขาตํ นานากรณํ ปฏิกฺขิปติ. ลกฺขณโต ปน อธิกรเณหิ สมถานํ นานากรณํ อตฺเถวาติ ทฏฺพฺพํ. สมถา อธิกรเณหิ สมฺมนฺตีติ อปโลกนาทีหิ จตูหิ กิจฺจาธิกรเณหิ สพฺเพปิ สมถา นิฏฺานํ คจฺฉนฺติ, นาฺเหีติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘สมฺมุขาวินโย วิวาทาธิกรเณน น สมฺมติ. อนุวาท…เป… อาปตฺตาธิกรเณน น สมฺมติ, กิจฺจาธิกรเณน สมฺมตี’’ติอาทิ (ปริ. ๓๑๑).
๓๐๗-๓๑๓. วิวาทาธิกรณํ กติหิ สมเถหิ สมฺมตีติอาทิโก สมฺมติวาโร. ตทนนฺตโร สมฺมตินสมฺมติวาโร จ อธิกรเณหิ สมถานํ สํสฏฺตํ, วิสํสฏฺตฺจ ทสฺเสตุํ วุตฺโต. สมถา สมเถหิ สมฺมนฺตีติอาทิโก สมถาธิกรณวาโร สมถานํ อฺมฺํ, อธิกรเณหิ จ อธิกรณานฺจ อฺมฺํ, สมเถหิ จ วูปสมาวูปสมํ ทสฺเสตุํ วุตฺโต.
๓๑๔. สมุฏฺาเปติวาโร ปน อธิกรเณหิ อธิกรณานํ อุปฺปตฺติปฺปการทสฺสนตฺถํ วุตฺโต. น กตมํ อธิกรณนฺติ อตฺตโน สมฺภวมตฺเตน เอกมฺปิ อธิกรณํ น สมุฏฺาเปตีติ อตฺโถ. กถฺจรหิ สมุฏฺาเปตีติ อาห ‘‘อปิ จา’’ติอาทิ. ตตฺถ ชายนฺตีติ อนนฺตรเมว อนุปฺปชฺชิตฺวา ปรมฺปรปจฺจยา ชายนฺตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ธมฺโม อธมฺโม’’ติอาทินา อุภินฺนํ ปุคฺคลานํ วิวาทปจฺจยา อฺมฺเขมภงฺคา โหนฺติ, ตปฺปจฺจยา เตสํ ปกฺขํ ปริเยสเนน กลหํ วฑฺฒนฺตานํ วิวาโท กฺจิ มหาปริสํ สงฺฆปริณายกํ ลชฺชึ อาคมฺม วูปสมํ คจฺฉติ. ตถา อวูปสมนฺเต ปน วิวาโท กเมน วฑฺฒิตฺวา สกเลปิ สงฺเฆ วิวาทํ สมุฏฺาเปติ, ตโต อนุวาทาทีนีติ เอวํ ปรมฺปรกฺกเมน วูปสมการณาภาเว จตฺตาริ อธิกรณานิ ชายนฺติ. ตํ สนฺธายาห ¶ ‘‘สงฺโฆ วิวทติ วิวาทาธิกรณ’’นฺติ. สงฺฆสฺส วิวทโต โย วิวาโท, ตํ วิวาทาธิกรณํ โหตีติ อตฺโถ. เอส นโย เสเสสุปิ.
สํสฏฺวาราทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภชติวารวณฺณนา
๓๑๘. ตทนนฺตรวาเร ¶ ปน วิวาทาธิกรณํ จตุนฺนํ อธิกรณานนฺติอาทิ อธิกรณานํ วุตฺตนเยน อฺมฺปจฺจยตฺเตปิ สํสคฺคภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. วิวาทาธิกรณํ จตุนฺนํ อธิกรณานํ วิวาทาธิกรณํ ภชตีติอาทีสุ วิวาทาธิกรณํ จตูสุ อธิกรเณสุ วิวาทาธิกรณภาวเมว ภชติ, นาฺาธิกรณภาวํ, จตูสุ อธิกรเณสุ วิวาทาธิกรณตฺตเมว นิสฺสิตํ วิวาทาธิกรณเมว ปริยาปนฺนํ วิวาทาธิกรณภาเวเนว สงฺคหิตนฺติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ.
๓๑๙. วิวาทาธิกรณํ สตฺตนฺนํ สมถานํ กติ สมเถ ภชตีติอาทิ ปน จตุนฺนํ อธิกรณานํ วูปสมเน สติ นิยตสมเถ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ กติ สมเถ ภชตีติ อตฺตโน อุปสมตฺถาย กิตฺตเก สมเถ อุปคจฺฉติ, กิตฺตเก สมเถ อาคมฺม วูปสมํ คจฺฉตีติ อตฺโถ. กติ สมถปริยาปนฺนนฺติ อตฺตานํ วูปสเมตุํ กติสุ สมเถสุ เตหิ สมานวเสน ปวิฏฺํ. กติหิ สมเถหิ สงฺคหิตนฺติ วูปสมํ กโรนฺเตหิ กติหิ สมเถหิ วูปสมกรณตฺถํ สงฺคหิตํ.
ภชติวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
ขนฺธกปุจฺฉาวาโร
ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนาวณฺณนา
๓๒๐. อุปสมฺปทกฺขนฺธกนฺติ ¶ ปพฺพชฺชาขนฺธกํ (มหาว. ๘๔). สห นิทฺเทเสนาติ สนิทฺเทสํ. ‘‘สนฺนิทฺเทส’’นฺติ วา ปาโ, โส เอวตฺโถ. นิทาเนน จ นิทฺเทเสน จ สทฺธินฺติ เอตฺถ ปฺตฺติฏฺานปุคฺคลาทิปฺปกาสกํ นิทานวจนํ นิทานํ นาม, ตนฺนิทานํ ปฏิจฺจ นิทฺทิฏฺสิกฺขาปทานิ ¶ นิทฺเทโส นาม, เตหิ อวยวภูเตหิ สหิตํ ตํสมุทายภูตํ ขนฺธกํ ปุจฺฉามีติ อตฺโถ. อุตฺตมานิ ปทานีติ อาปตฺติปฺาปกานิ วจนานิ อธิปฺเปตานิ. เตสํ…เป… กติ อาปตฺติโย โหนฺตีติ เตหิ วจเนหิ ปฺตฺตา กติ อาปตฺติกฺขนฺธา โหนฺตีติ อตฺโถ. นนุ อาปตฺติโย นาม ปุคฺคลานฺเว โหนฺติ, น ปทานํ, กสฺมา ปน ‘‘สมุกฺกฏฺปทานํ กติ อาปตฺติโย’’ติ สามิวเสน นิทฺเทโส กโตติ อาห ‘‘เยน เยน หิ ปเทนา’’ติอาทิ. ปาฬิยํ อุโปสถนฺติอาทิ อุโปสถกฺขนฺธกาทีนฺเว (มหาว. ๑๓๒ อาทโย) คหณํ.
ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เอกุตฺตริกนยํ
เอกกวารวณฺณนา
๓๒๑. เอกุตฺตริกนเย ¶ ปน อชานนฺเตน วีติกฺกนฺตาติ ปณฺณตฺตึ วา วตฺถุํ วา อชานนฺเตน วีติกฺกนฺตา ปถวีขณนสหเสยฺยาทิกา, สาปิ ปจฺฉา อาปนฺนภาวํ ตฺวา ปฏิกมฺมํ อกโรนฺตสฺส อนฺตรายิกาว โหติ.
ปาริวาสิกาทีหิ ปจฺฉา อาปนฺนาติ วตฺตเภเทสุ ทุกฺกฏานิ สนฺธาย วุตฺตํ. ตสฺมึ ขเณ อาปชฺชิตพฺพอนฺตราปตฺติโย สนฺธายาติ เกจิ วทนฺติ, ตสฺส ปุพฺพาปตฺตีนํอนฺตราปตฺติ-ปเทเนว วกฺขมานตฺตา ปุริมเมว ยุตฺตตรํ. มูลวิสุทฺธิยา อนฺตราปตฺตีติ มูลายปฏิกสฺสนาทีนิ อกตฺวา สพฺพปมํ ทินฺนปริวาสมานตฺตวิสุทฺธิยา จรณกาเล อาปนฺนอนฺตราปตฺติสงฺขาตสงฺฆาทิเสโส. อคฺฆวิสุทฺธิยาติ อนฺตราปตฺตึ อาปนฺนสฺส มูลาย ปฏิกสฺสิตฺวา โอธานสโมธานวเสน โอธุนิตฺวา ปุริมาปตฺติยา สโมธาย ตทคฺฆวเสน ปุน ทินฺนปริวาสาทิสุทฺธิยา จรณกาเล ปุน อาปนฺนา อนฺตราปตฺติ.
สอุสฺสาเหเนวาติ ปุนปิ ตํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตุกามตาจิตฺเตน, เอวํ เทสิตาปิ อาปตฺติ น วุฏฺาตีติ อธิปฺปาโย. ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวา อาปชฺชเน สิขาปฺปตฺตโทสํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อฏฺเม วตฺถุสฺมึ ภิกฺขุนิยา ปาราชิกเมวา’’ติ. น เกวลฺจ ภิกฺขุนิยา เอว, ภิกฺขูนมฺปิ ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวา โถกํ โถกํ สปฺปิอาทิกํ เถยฺยาย คณฺหนฺตานํ ปาทคฺฆนเก ปุณฺเณ ปาราชิกเมว. เกจิ ปน ‘‘อฏฺเม วตฺถุสฺมึ ภิกฺขุนิยา ปาราชิกเมว ¶ โหตีติ วุตฺตตฺตา อฏฺวตฺถุกเมเวตํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ.
ธมฺมิกสฺส ปฏิสฺสวสฺสาติ ‘‘อิธ วสฺสํ วสิสฺสามี’’ติอาทินา คิหีนํ สมฺมุขา กตสฺส ธมฺมิกสฺส ปฏิสฺสวสฺส, อธมฺมิกสฺส ปน ‘‘อสุกํ ปหริสฺสามี’’ติอาทิกสฺส ปฏิสฺสวสฺส อสจฺจาปเนน อาปตฺติ นตฺถิ.
ตถา โจทิโตติ อธมฺเมน โจทิโต, สยํ สจฺเจ, อกุปฺเป จ อฏฺตฺวา ปฏิจฺฉาเทนฺโตปิ อธมฺมจุทิตโก เอว. ปฺจานนฺตริยนิยตมิจฺฉาทิฏฺิเยว มิจฺฉตฺตนิยตา นาม. จตฺตาโร มคฺคา สมฺมตฺตนิยตา นาม.
เอกกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุกวารวณฺณนา
๓๒๒. ทุเกสุ ¶ สยเมว สปุคฺคโลติ อาห ‘‘มุทุปิฏฺิกสฺสา’’ติอาทิ. อาทิ-สทฺเทน องฺคชาตจฺเฉทอตฺตฆาตาทิอาปตฺติโย สงฺคหิตา.
ภณฺฑาคาริกจิตฺตกมฺมานิ วาติ คหฏฺานํ ภณฺฑปฏิสามนํ, อิตฺถิปุริสาทิปฏิภานจิตฺตกมฺมานิ วา. ‘‘จีวราทีนิ อเทนฺโต อาปชฺชตี’’ติ อิทํ ‘‘อุปชฺฌาเยน, ภิกฺขเว, สทฺธิวิหาริโก สงฺคเหตพฺโพ อนุคฺคเหตพฺโพ…เป… ปตฺโต ทาตพฺโพ’’ติอาทิ (มหาว. ๖๗) วจนโต อนาทริเยน อามิสสงฺคหํ อกโรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ภิกฺขุนิยา ปาจิตฺติยฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. นิสฺสฏฺจีวราทีนํ อทานอาปตฺติปิ เอตฺเถว สงฺคหิตา.
ปาฬิยํ เทเสนฺโตติ สภาคาปตฺตึ, อเทสนาคามินิอาทิฺจ เทเสนฺโต. นิทานุทฺเทเส อาปตฺตึ อนาวิกโรนฺโต, น เทเสนฺโต จ อาปชฺชติ นาม. โอวาทํ อคณฺหนฺโตติ ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนิโอวาทตฺถาย วุตฺตํ วจนํ อคณฺหนฺโต พาลคิลานคมิยวิวชฺชิโต. อตฺตโน ปริโภคตฺถํ ทินฺนํ อฺสฺส ทาเน, สงฺฆาฏึ อปารุปิตฺวา สนฺตรุตฺตเรน คามปฺปเวสนาทีสุ จ อาปตฺติโยปิ อปริโภเคน อาปชฺชิตพฺพาปตฺติโยว. ปมาณนฺติ สงฺฆเภทานนฺตริยนิปฺผตฺติยา ลกฺขณํ. พาลสฺสาติ นิสฺสยคฺคหณวิธึ อชานนฺตสฺส ลชฺชิพาลสฺเสว. ลชฺชิสฺสาติ พฺยตฺตสฺส นิสฺสยทายกสภาคตํ ¶ ปริวีมํสนฺตสฺส. วินเย อาคตา อตฺถา เวนยิกาติ อาห ‘‘ทฺเว อตฺถา วินยสิทฺธา’’ติ.
ปาฬิยํ อปฺปตฺโต นิสฺสารณนฺติ เอตฺถ ปพฺพาชนียกมฺมํ วิหารโต นิสฺสารณตฺตา นิสฺสารณนฺติ อธิปฺเปตํ, ตฺจ ยสฺมา กุลทูสกํ อกโรนฺโต ปุคฺคโล อาปตฺติพหุโลปิ อาเวณิกลกฺขเณน อปฺปตฺโต นาม โหติ, ตสฺมา อปฺปตฺโต นิสฺสารณํ. ยสฺมา ปน อาปตฺตาทิพหุลสฺสาปิ ‘‘อากงฺขมาโน สงฺโฆ ปพฺพาชนียกมฺมํ กเรยฺยา’’ติ (จูฬว. ๒๗) วุตฺตํ, ตสฺมา สุนิสฺสาริโต, สพฺพถา ปน สุทฺโธ นิราปตฺติโก ทุนฺนิสฺสาริโตติ ทฏฺพฺโพ.
อปฺปตฺโต โอสารณนฺติอาทีสุ อุปสมฺปทากมฺมํ เอตฺถ โอสารณํ อธิปฺเปตํ, ตฺจ หตฺถจฺฉินฺนาทิโก เอกจฺโจ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา อปฺปตฺโตปิ โสสาริโต, ปณฺฑกาทิโก โทสาริโตติ อตฺโถ.
ทุกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
ติกวารวณฺณนา
๓๒๓. ติเกสุ ¶ โลหิตุปฺปาทาปตฺตินฺติ ปาราชิกาปตฺตึ. อาวุโสวาเทนาติ ‘‘อาวุโส’’ติ อาลปเนน. อาปตฺตินฺติ ทุกฺกฏาปตฺตึ. เสสา รตฺติฺเจว ทิวา จาติ เอตฺถ อรุณุคฺคมเน อาปชฺชิตพฺพา ปมกถินาที (ปารา. ๔๕๙) สพฺพา อาปตฺติโยปิ รตฺตินฺทิวานํ เวมชฺเฌเยว อาปชฺชิตพฺพตฺตา ตติยโกฏฺาสฺเว ปวิฏฺาติ ทฏฺพฺพา. อถ วา อุทฺธสฺเต อรุเณ อาปชฺชิตพฺพตฺตา ทิวา อาปชฺชิตพฺเพสุ เอว ปวิฏฺาติ ทฏฺพฺพา, อตฺถงฺคเต สูริเย ภิกฺขุนิโย โอวาทนาปตฺติโย, ปน รตฺตนฺธกาเร ปุริเสน สทฺธึ สนฺติฏฺนาปตฺติ จ รตฺติยฺเว อาปชฺชิตพฺพา.
ปุเรภตฺตํ กุลานิ อุปสงฺกมนอนติริตฺตโภชนาทีนิ ทิวา เอว อาปชฺชิตพฺพานิ. เกจิ ปน ‘‘โภชนปฏิสํยุตฺตานิ เสขิยานิ, คณโภชนาทีนิ จ ทิวา เอว อาปชฺชิตพฺพานี’’ติ วทนฺติ. ตสฺมา อีทิสา อาปตฺติโย มฺุจิตฺวา เสสาว ตติยโกฏฺาสํ ภชนฺตีติ เวทิตพฺพํ.
น อูนทสวสฺโสติ ทสวสฺสสฺส พาลสฺเสว ปฺตฺตสิกฺขาปทตฺตา วุตฺตํ. สทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิเกสุ ¶ อสมฺมาวตฺตนาปตฺตึ, อลชฺชีนํ นิสฺสยทานาทิมฺปิ ทสวสฺโสว อาปชฺชติ, วุฏฺาปินึ ทฺเว วสฺสานิ อนนุพนฺธาทิมฺปิ อูนทสวสฺสา อาปชฺชนฺติ. อพฺยากตจิตฺโตติ สุปนฺตสฺส ภวงฺคจิตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ.
อปฺปวาเรนฺโตติ อนาทริเยน อปฺปวาเรนฺโต เกนจิ ปจฺจเยน อปฺปวาเรตฺวา กาฬปกฺขจาตุทฺทเส สงฺเฆ ปวาเรนฺเต ตตฺถ อนาทริเยน อปฺปวาเรนฺโต ตเมว อาปตฺตึ กาเฬปิ อาปชฺชตีติ ชุณฺเห เอวาติ นิยโม น ทิสฺสติ, ปจฺฉิมวสฺสํวุตฺโถ ปน ปจฺฉิมกตฺติกปุณฺณมิยเมว ปวาเรตุํ ลพฺภตีติ ตตฺถ อปฺปวารณาปจฺจยา อาปตฺตึ อาปชฺชมาโน เอว ชุณฺเห อาปชฺชตีติ นิยเมตพฺโพติ ทฏฺพฺพํ. ชุณฺเห กปฺปตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
‘‘อปจฺจุทฺธริตฺวา เหมนฺเต อาปชฺชตี’’ติ อิมินา ‘‘วสฺสานํ จาตุมาสํ อธิฏฺาตุ’’นฺติ นิยมวจเนเนว อปจฺจุทฺธรนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ ทสฺเสติ. วสฺสานุปคมนอกรณีเยน ปกฺกมาทโยปิ วสฺเส เอว อาปชฺชติ. วตฺถิกมฺมาทิมฺปิ คิลาโน เอว. อโธตปาเทหิ อกฺกมนาทีนิปิ อนฺโต เอว อาปชฺชติ ¶ . ภิกฺขุนิยา อนาปุจฺฉา อารามปฺปเวสนาทิ จ อนฺโตสีมายเมว. นิสฺสยปฏิปนฺนสฺส อนาปุจฺฉาทิสาปกฺกมนาทิ จ พหิสีมายเมว. ปาติโมกฺขุทฺเทเส สนฺติยา อาปตฺติยา อนาวิกรณาปตฺติสมนุภาสนอูนวีสติวสฺสูปสมฺปาทนาทิสพฺพอธมฺมกมฺมาปตฺติโยปิ สงฺเฆ เอว. อธมฺเมน คณุโปสถาทีสุปิ คณาทิมชฺเฌ เอว. อลชฺชิสฺส สนฺติเก นิสฺสยคฺคหณาทิปิ ปุคฺคลสฺส สนฺติเก เอว อาปชฺชติ.
ตีณิ อธมฺมิกานิ อมูฬฺหวินยสฺส ทานานีติ โย อุมฺมตฺตโกปิ วีติกฺกมกาเล, อนุมฺมตฺโต สฺจิจฺเจว อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ภิกฺขูหิ ปจฺฉา โจทิโต สรมาโน เอว ‘‘น สรามี’’ติ วทติ, โย จ ‘‘สุปินํ วิย สรามี’’ติ วา มุสา วทติ, โย จ อุมฺมตฺตกกาเล กตํ สพฺพมฺปิ สพฺเพสํ วฏฺฏตีติ วทติ, อิเมสํ ติณฺณํ ทินฺนานิ ตีณิ อมูฬฺหวินยสฺส ทานานิ อธมฺมิกานิ.
อปกตตฺโตติ วินเย อปกตฺู. เตนาห ‘‘อาปตฺตานาปตฺตึ น ชานาตี’’ติ (ปริ. ๓๒๕). ‘‘ทิฏฺิฺจ อนิสฺสชฺชนฺตานํเยว กมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติ อิทํ ภิกฺขูหิ โอวทิยมานสฺส ทิฏฺิยา อนิสฺสชฺชนปจฺจยา ทุกฺกฏํ, ปาจิตฺติยมฺปิ วา อวสฺสเมว สมฺภวตีติ วุตฺตํ.
มุขาลมฺพรกรณาทิเภโทติ ¶ มุขเภรีวาทนาทิปฺปเภโท. อุปฆาเตตีติ วินาเสติ. พีชนิคฺคาหาทิเกติ จิตฺตํ พีชนึ คาเหตฺวา อนุโมทนาทิกรเณติ อตฺโถ.
ติกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุกฺกวารวณฺณนา
๓๒๔. จตุกฺเกสุ โสติ คิหิปริกฺขาโร. อวาปุรณํ ทาตุนฺติ คพฺภํ วิวริตฺวา อนฺโต ปริกฺขารฏฺปนตฺถาย วิวรณกฺุจิกํ ทาตุํ. สงฺฆตฺถาย อุปนีตํ สยเมว อนฺโต ปฏิสามิตุมฺปิ วฏฺฏติ. เตนาห ‘‘อนฺโต ปาเปตฺุจ วฏฺฏตี’’ติ.
อาทิกมฺมิเกสุ ปมํ ปุริสลิงฺคํ อุปฺปชฺชตีติ อาห ‘‘ปมํ อุปฺปนฺนวเสนา’’ติ. ปาฬิยํ อนาปตฺติ วสฺสจฺเฉทสฺสาติ วสฺสจฺเฉทสมฺพนฺธินิยา อนาปตฺติยา ¶ เอวมตฺโถ. มนฺตภาสาติ มนฺตาย ปฺาย กถนํ. ‘‘นวมภิกฺขุนิโต ปฏฺายา’’ติ อิทํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฏฺนฺนํ ภิกฺขุนีนํ ยถาวุฑฺฒํ อวเสสานํ ยถากติก’’นฺติ (จูฬว. ๔๒๖) วจนโต อาทิโต อฏฺนฺนํ ภิกฺขุนีนํ ปจฺจุฏฺาตพฺพตฺตา วุตฺตํ.
‘‘อิธ น กปฺปนฺตีติ วทนฺโตปิ ปจฺจนฺติเมสุ อาปชฺชตี’’ติอาทินา สฺจิจฺจ กปฺปิยํ อกปฺปิยนฺติ วา อกปฺปิยํ กปฺปิยนฺติ วา กเถนฺตสฺส สพฺพตฺถ ทุกฺกฏนฺติ ทสฺเสติ.
ปุพฺพกรณนฺติ วุจฺจตีติ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ, ตานิ อิธ ปริวาเร อุทฺธฏานีติ อธิปฺปาโย. อิธาธิปฺเปตานิ ปน ทสฺเสนฺโต ‘‘ฉนฺทปาริสุทฺธี’’ติอาทิมาห.
จตุกฺกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจกวารวณฺณนา
๓๒๕. ปฺจเกสุ อาปุจฺฉิตฺวา จารสฺส อภาโวติ ปิณฺฑปาติกสฺส ‘‘นิมนฺติโต สภตฺโต’’ติ อิมสฺส องฺคสฺส อภาวา เตน สิกฺขาปเทน ตสฺส สพฺพถา อนาปตฺตีติ อธิปฺปาโย ¶ . สุสานํ เนตฺวา ปุน อานีตกนฺติ สุสาเน เปตกิจฺจํ กตฺวา นิกฺขนฺเตหิ นฺหตฺวา ฉฑฺฑิตานิ นิวตฺถปารุตวตฺถานิ เอวํ วุจฺจนฺติ.
ปาฬิยํ ปฺจหากาเรหีติ ปฺจหิ อวหารงฺเคหิ. วตฺถุโต ปน ครุกลหุกเภเทน ปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกฏานิ วุตฺตานิ. อิตฺถิปุริสสํโยคาทิกํ กิเลสสมุทาจารเหตุกํ ปฏิภานจิตฺตกมฺมํ นาม. ปฺหาสหสฺสํ ปุจฺฉีติ สมถวิปสฺสนากมฺมฏฺาเนสุ ปฺหาสหสฺสํ สมฺมชฺชิตฺวา ิตํ ทหรํ ปุจฺฉิ. อิตโรปิ ทหโร อตฺตโน คตมคฺคตฺตา สพฺพํ วิสฺสชฺเชสิ, เตน เถโร ปสีทิ. วตฺตํ ปริจฺฉินฺทีติ วตฺตํ นิฏฺาเปสิ. กึ ตฺวํ อาวุโสติอาทิกํ เถโร ขีณาสโว สมฺมชฺชนานิสํสํ สพฺเพสํ ปากฏํ กาตุํ อโวจาติ ทฏฺพฺพํ.
‘‘ชณฺณุเกหิ ¶ ปติฏฺาย ปทเจติย’’นฺติ ปาเสโส. โจทนํ กาเรสฺสามีติ ภควตา อตฺตานํ โจทาเปสฺสามิ, อตฺตานํ นิคฺคณฺหาเปสฺสามีติ อตฺโถ.
เอตฺตกํ คยฺหูปคนฺติ เอตฺตกํ อธิกรณวูปสมตฺถาย คเหตพฺพวจนนฺติ ยถา สุตฺวา วิฺาตุํ สกฺโกติ, เอวํ อนุคฺคณฺหนฺโตติ โยชนา. เอตฺถ จ ‘‘อตฺตโน ภาสปริยนฺตํ อนุคฺคเหตฺวา ปรสฺส ภาสปริยนฺตํ อนุคฺคเหตฺวา’’ติ เอกํ, ‘‘อธมฺเมน กโรตี’’ติ เอกํ, ‘‘อปฺปฏิฺายา’’ติ เอกฺจ กตฺวา ปุริเมหิ ทฺวีหิ ปฺจงฺคานิ เวทิตพฺพานิ. วตฺถุนฺติ เมถุนาทิวีติกฺกมํ. กถานุสนฺธิวินิจฺฉยานุโลมสนฺธิวเสน วตฺถุํ น ชานาตีติ โจทเกน วา จุทิตเกน วา วุตฺตกถานุสนฺธินา เตสํ วจนปฏิวจนานุรูเปน วทนฺโต กถานุสนฺธินา วตฺถุํ น ชานาติ นาม, ตฺจ สุตฺตวิภงฺเค วินีตวตฺถุสงฺขาเตน วินิจฺฉยานุโลเมเนว วทนฺโต วินิจฺฉยานุโลมสนฺธิวเสน วตฺถุํ น ชานาติ นาม. ตฺติกมฺมํ นาม โหตีติ ตฺติกมฺมํ นิฏฺิตํ นาม โหตีติ น ชานาตีติ สมฺพนฺโธ. ตฺติยา กมฺมปฺปตฺโตติ ตฺติยา นิฏฺิตายปิ กมฺมปฺปตฺโต เอว โหติ. อนุสฺสาวนฏฺาเน เอว กมฺมํ นิฏฺิตํ โหตีติ ตฺติกมฺมํ นิฏฺิตํ นาม โหติ, ตํ ตฺติยา การณํ น ชานาตีติ อตฺโถ.
ปาฬิยํ ปฺจ วิสุทฺธิโยติ อาปตฺติโต วิสุทฺธิเหตุตฺตา, วิสุทฺเธหิ กตฺตพฺพโต จ ปาติโมกฺขุทฺเทสา วุตฺตา.
ปฺจกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
ฉกฺกวาราทิวณฺณนา
๓๒๖. ฉกฺกาทีสุ ¶ ปาฬิยํ ฉ อคารวาติ พุทฺธธมฺมสงฺฆสิกฺขาสุ, อปฺปมาเท, ปฏิสนฺถาเร จ ฉ อคารวา, เตสุ เอว จ ฉ คารวา เวทิตพฺพา. ‘‘ฉพฺพสฺสปรมตา ธาเรตพฺพ’’นฺติ อิทํ วิภงฺเค อาคตสฺส ปรมสฺส ทสฺสนํ.
๓๒๘. ปาฬิยํ อาคเตหิ สตฺตหีติ ‘‘ปุพฺเพวสฺส โหติ มุสา ภณิสฺส’’นฺติอาทินา มุสาวาทสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๔) อาคเตหิ สตฺตหิ.
๓๒๙. ตํ ¶ กุเตตฺถ ลพฺภาติ ตํ อนตฺถสฺส อจรณํ เอตฺถ เอตสฺมึ ปุคฺคเล, โลกสนฺนิวาเส วา กุโต เกน การเณน สกฺกา ลทฺธุนฺติ อาฆาตํ ปฏิวิเนติ.
๓๓๐. สสฺสโต โลโกติอาทินา วเสนาติ ‘‘สสฺสโต โลโก, อสสฺสโต โลโก. อนฺตวา โลโก, อนนฺตวา โลโก. ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ วา, อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรนฺติ วา. โหติ ตถาคโต ปรมฺมรณา, น โหติ ตถาคโต ปรมฺมรณา. โหติ จ น โหติ จ ตถาคโต ปรมฺมรณา, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรมฺมรณา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๖๙) เอวํ อาคตา ทส อนฺตคฺคาหิกา ทิฏฺิโย สนฺธาย วุตฺตํ. มิจฺฉาทิฏฺิอาทโยติ มิจฺฉาทิฏฺิมิจฺฉาสงฺกปฺปาทโย อฏฺมิจฺฉาาณมิจฺฉาวิมุตฺตีหิ สทฺธึ ทส มิจฺฉตฺตา. ตตฺถ มิจฺฉาาณนฺติ มิจฺฉาทิฏฺิสมฺปยุตฺโต โมโห. อวิมุตฺตสฺเสว วิมุตฺตสฺิตา มิจฺฉาวิมุตฺติ นาม.
วิปรีตาติ สมฺมาทิฏฺิอาทโย สมฺมาาณสมฺมาวิมุตฺติปริโยสานา ทส. ตตฺถ สมฺมาวิมุตฺติ อรหตฺตผลํ, ตํสมฺปยุตฺตํ ปน าณํ วา ปจฺจเวกฺขณาณํ วา สมฺมาาณนฺติ เวทิตพฺพํ.
เอกุตฺตริกนโย นิฏฺิโต.
อุโปสถาทิปุจฺฉาวิสฺสชฺชนาวณฺณนา
๓๓๒. อุโปสถาทิปุจฺฉาสุ ¶ ปวารณคาถาติ ทิฏฺาทีหิ ตีหิ าเนหิ ปวารณาวาจา เอว. เอวํ วุตฺตานํ ปน ฉนฺโทวิจิติลกฺขเณน วุตฺตชาติเภทา คาถา.
ฉกฺกวาราทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
มหาวคฺควณฺณนานโย นิฏฺิโต.
ปฺตฺติวคฺโค
ปมคาถาสงฺคณิกํ
สตฺตนคเรสุ ปฺตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๓๕. อฑฺฒุฑฺฒสตานีติ ¶ ¶ ปฺาสาธิกานิ ตีณิ สตานิ. วิคฺคหปเทน มนุสฺสวิคฺคหํ วุตฺตํ.
อติเรกนฺติ ปมกถินํ. กาฬกนฺติ สุทฺธกาฬกํ. ภูตนฺติ ภูตาโรจนํ. ภิกฺขุนีสุ จ อกฺโกโสติ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ภิกฺขุํ อกฺโกเสยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๐๒๙) วุตฺตํ สิกฺขาปทํ.
ทฺเวปิ จ เภทาติ ทฺเว สงฺฆเภทสิกฺขาปทานิ. อนฺตรวาสกนาเมน อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา หตฺถโต จีวรปฏิคฺคหณํ วุตฺตํ. สุตฺตนฺติ สุตฺตํ วิฺาเปตฺวา วายาปนํ. วิกาเลติ วิกาลโภชนํ. จาริตฺตนฺติ ปุเรภตฺตํ ปจฺฉาภตฺตํ จาริตฺตํ. นหานนฺติ โอเรนทฺธมาสนหานํ.
จีวรํ ทตฺวาติ สมคฺเคน สงฺเฆน จีวรํ ทตฺวา ขิยฺยนํ. คิรคฺคนฺติ นจฺจคีตํ. จริยาติ อนฺโตวสฺสํ จาริกจรณํ. ตตฺเถวาติ วสฺสํวุตฺถาย จาริกํ อปกฺกมิตฺวา ตตฺเถว นิวาสนํ ปฏิจฺจ ปฺตฺตสิกฺขาปทํ. ฉนฺททาเนนาติ ปาริวาสิเกน ฉนฺททาเนน.
ปาราชิกานิ จตฺตารีติ ภิกฺขุนีนํ อสาธารณานิ. โสฬสาติ อาทิโต ปฺจ สิกฺขาปทานิ, กุลทูสนฺจาติ ฉ, ภิกฺขุนีนํ อสาธารณานิ ทส นิสฺสคฺคิยานิ.
จตุตฺตึสาติ ปมกถินสุทฺธกาฬกจีวรปฏิคฺคหณรูปิยจีวรวายาปนโกเสยฺยมิสฺสกเอฬกโลมโธวาปนทุติยปตฺตวชฺชิตานิ ¶ ภิกฺขุวิภงฺเค ทฺวาวีสติ, ภิกฺขุนีนํ อสาธารณานิ ทฺวาทส จาติ จตุตฺตึส. ฉปฺาสสตนฺติ เวสาลิยาทีสุ ปฺตฺตานิ ทฺวตฺตึสสิกฺขาปทานิ เปตฺวา เสสา ฉปฺาสสตํ.
ทส ¶ คารยฺหาติ โวสาสอปฺปฏิสํ วิทิตสิกฺขาปททฺวยฺจ เปตฺวา เสสานิ ทส ปาฏิเทสนียานิ. ทฺเว สตฺตติ เสขิยานิ สุรุสุรุการกสามิเสนหตฺเถนปานียถาลกปฏิคฺคหณสสิตฺถกปตฺตโธวนานิ ตีณิ เปตฺวา เสสานิ เสขิยานิ.
เสยฺยาติ อนุปสมฺปนฺเนน สหเสยฺยสิกฺขาปทํ. ขณเนติ ปถวีขณนํ. คจฺฉ เทวเตติ ภูตคามสิกฺขาปทํ วุตฺตํ. สปฺปาณกํ สิฺจนฺติ สปฺปาโณทกสิฺจนํ. มหาวิหาโรติ มหลฺลกวิหาโร.
อฺนฺติ อฺวาทกํ. ทฺวารนฺติ ยาว ทฺวารโกสา อคฺคฬฏฺปนํ. สหธมฺโมติ สหธมฺมิกํ วุจฺจมาโน. ปโยปานนฺติ สุรุสุรุการกสิกฺขาปทํ.
เอฬกโลโมติ เอฬกโลมโธวาปนํ. ปตฺโต จาติ ทุติยปตฺโต. โอวาโทติ ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปสงฺกมิตฺวา โอวาโท. เภสชฺชนฺติ จตุมาสปจฺจยปวารณาสิกฺขาปทํ. อารฺิโกติ จตุตฺถปาฏิเทสนียํ. โอวาโทติ โอวาทาย วา สํวาสาย วา อคมนํ.
๓๓๗. ‘‘เย จ ยาวตติยกา’’ติ ปฺหสฺส ‘‘อิเม โข ยาวตติยกา’’ติ วิสฺสชฺชนํ วตฺวา ตทนนฺตรํ ‘‘สาธารณํ อสาธารณ’’นฺติอาทิปฺหานํ วิสฺสชฺชเน วตฺตพฺเพ ยสฺมา ตํ อวตฺวา ‘‘กติ เฉทนกานี’’ติอาทิเก อฏฺ ปฺเห อนฺตรา วิสฺสชฺเชตฺวา เตสํ อนนฺตรา ‘‘วีสํ ทฺเว สตานิ ภิกฺขูนํ…เป… ฉจตฺตารีสา ภิกฺขูนํ, ภิกฺขุนีหิ อสาธารณา’’ติอาทินา อุกฺกเมเนว สาธารณาทิปฺหา วิสฺสชฺชิตา, ตสฺมา ตํ อุกฺกมวิสฺสชฺชนการณํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมา ปน เย จ ยาวตติยกาติ อยํ ปฺโห’’ติอาทิมาห.
๓๓๘. โธวนฺจ ปฏิคฺคโหติอาทิคาถา อฏฺกถาจริยานํ คาถาว. ฉพฺพสฺสานิ นิสีทนนฺติ ทฺเว สิกฺขาปทานิ. ทฺเว โลมาติ ติโยชนาติกฺกมโธวาปนวเสน ทฺเว เอฬกโลมสิกฺขาปทานิ. วสฺสิกา อารฺเกน จาติ วสฺสิกสาฏิกา ปริเยสนอรฺเกสุ เสนาสเนสุ วิหรณสิกฺขาปเทน สห.
ปณีตนฺติ ¶ ปณีตโภชนวิฺาปนํ. อูนนฺติ อูนวีสติวสฺสูปสมฺปาทนํ. มาตุคาเมน สทฺธินฺติ สํวิธาย คมนํ วุตฺตํ. ยา สิกฺขาติ ยํ สิกฺขาปทํ. นิสีทเน ¶ จ ยา สิกฺขาติ ปมาณาติกฺกนฺตนิสีทนการาปเน ยํ สิกฺขาปทํ. ตถา วสฺสิกา ยา จ สาฏิกาติ เอตฺถาปิ.
ปาฬิยํ สตํ สตฺตติ ฉจฺเจวิเม โหนฺติ อุภินฺนํ อสาธารณาติ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีหิ อสาธารณา ฉจตฺตารีส, ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูหิ อสาธารณา ตึสาธิกํ สตฺจาติ เอวํ อุภินฺนํ อสาธารณา จ ฉสตฺตติอธิกํ สตํ สิกฺขาปทานีติ อตฺโถ. สตํ สตฺตติ จตฺตารีติ อุภินฺนํ สาธารณสิกฺขานํ คณนา จตุสตฺตติอธิกํ สตํ สิกฺขาปทานีติ อตฺโถ.
วิภตฺติโยติ อาปตฺติกฺขนฺธา เจว อุโปสถปวารณาทโย จ อธิปฺเปตา. เต หิ ปาราชิกาทิเภเทน, ภิกฺขุอุโปสถาทิเภเทน จ วิภชียนฺติ. เตนาห ‘‘วิภตฺติโย’’ติอาทิ. เตสนฺติ อฏฺนฺนํ ปาราชิกาทีนํ. ทฺวีหีติอาทิ วิวาทาธิกรณาทีนํ สมเถหิ วูปสมทสฺสนํ.
สตฺตนคเรสุ ปฺตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปาราชิกาทิอาปตฺติวณฺณนา
๓๓๙. อิทนฺติ ‘‘ปาราชิกนฺติ ยํ วุตฺต’’นฺติอาทินา วุตฺตํ วจนํ สนฺธาย วทติ. อิทฺหิ เหฏฺา ‘‘ครุก ลหุก’’นฺติอาทินา อุทฺธฏปฺเหสุ อนาคตมฺปิ ‘‘สพฺพานิเปตานิ วิยากโรหิ, หนฺท วากฺยํ สุโณม เต’’ติ เอตฺถ ยถาวุตฺตานิ อฺานิปิ ‘‘สพฺพานิเปตานิ วิยากโรหิ, หนฺท วากฺยํ สุโณมา’’ติ เอวํ คหิตเมวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมินา ปน อายาจนวจเนน สงฺคหิตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
อติวสฺสตีติ โอวสฺสติ, วสฺโสทกํ ปวิสตีติ อตฺโถ. ธมฺมานนฺติ ยถา จตุปจฺจเย ธารยตีติ ธมฺโม, เตสํ. เตนาห ‘‘สงฺขตธมฺมาน’’นฺติ. คาถาสงฺคณิกนฺติ คาถาสงฺคโห, เต เต อตฺถา คาถาหิ สงฺคเหตฺวา คณียนฺติ กถียนฺติ เอตฺถาติ หิ คาถาสงฺคณิกํ.
ปาราชิกาทิอาปตฺติวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปมคาถาสงฺคณิกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
อธิกรณเภทํ
อุกฺโกฏนเภทาทิกถาวณฺณนา
๓๔๑. ‘‘อลํ ¶ ¶ อาวุโส’’ติ อตฺตปจฺจตฺถิเก สฺาเปตฺวาติ ปตฺตจีวราทิอตฺถาย อลํ ภณฺฑนาทิกรณนฺติ วิวาทาทีสุ โทสทสฺสนมตฺเตน สฺาเปตฺวา อฺมฺํ ขมาเปตฺวา วูปสเมนฺติ, น ปน อฺมฺํ อาปตฺตานาปตฺติทสฺสนวเสนาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉเยเนวา’’ติ.
วิสมานิ กายกมฺมาทีนิ นิสฺสิโต ภิกฺขุ วิสมนิสฺสิโต นาม, มิจฺฉาทิฏฺินิสฺสิโต คหนนิสฺสิโต, พลวนฺเต ปุริเส นิสฺสิโต พลวนิสฺสิโต นามาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอโก วิสมานี’’ติอาทิมาห.
อุกฺโกฏนเภทาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อธิกรณนิทานาทิวณฺณนา
๓๔๒. อาปตฺตึ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกอาปตฺติวเสนาติ ปเรสํ, อตฺตโน จ อาปตฺตึ ปฏิจฺฉาเทนฺตานํ วชฺชปฏิจฺฉาทีนํ ปาราชิกาทิอาปตฺติเมว สนฺธาย วุตฺตํ, น สพฺพาปตฺติโย. กิจฺจํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกกิจฺจานนฺติ อุกฺเขปนียาทิกมฺมํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกานํ ตทนุวตฺติกาย ภิกฺขุนิยา ยาวตติยานุสฺสาวนานํ กิจฺจานํ วเสน, น สพฺเพสํ กิจฺจานํ วเสนาติ.
๓๔๔. ปาฬิยํ ‘‘กติหิ อธิกรเณหี’’ติ ปุจฺฉาย ‘‘เอเกน อธิกรเณน กิจฺจาธิกรเณนา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘กติสุ าเนสู’’ติ ปุจฺฉาย ‘‘ตีสุ าเนสุ สงฺฆมชฺเฌ, คณมชฺเฌ, ปุคฺคลสฺส สนฺติเก’’ติ วุตฺตํ. ‘‘กติหิ สมเถหี’’ติ ปุจฺฉาย ‘‘ตีหิ สมเถหี’’ติ วุตฺตํ. ตีหิปิ เอเตหิ เอโก วูปสมนปฺปกาโรว ปุจฺฉิโต, วิสฺสชฺชิโต จาติ เวทิตพฺโพ.
๓๔๘. วิวาทาธิกรณํ ¶ โหติ อนุวาทาธิกรณนฺติอาทีสุ วิวาทาธิกรณเมว อนุวาทาธิกรณาทิปิ โหตีติ ปุจฺฉาย วิวาทาธิกรณํ วิวาทาธิกรณเมว โหติ, อนุวาทาทโย น โหตีติ วิสฺสชฺชนํ.
อธิกรณนิทานาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
สตฺตสมถนานาตฺถาทิวณฺณนา
๓๕๔. อธิกรณปุจฺฉาวิสฺสชฺชเน ¶ ปาฬิยํ วิปจฺจยตาย โวหาโรติ วิรูปวิปากาย อฺมฺํ ทุกฺขุปฺปาทนาย กายวจีโวหาโร. เมธคนฺติ วุทฺธิปฺปตฺโต กลโห.
อนุสมฺปวงฺกตาติ วิปตฺติโจทนาย อนุ อนุ สํยุชฺชนวเสน นินฺนตา.
อพฺภุสฺสหนตาติ อติวิย สฺชาตุสฺสาหตา. อนุพลปฺปทานนฺติ โจทกานมฺปิ อุปตฺถมฺภกรณํ. กมฺมสงฺคหาภาเวนาติ สงฺฆสมฺมุขตาทิมตฺตสฺส สมฺมุขาวินยสฺส สงฺฆาทีหิ กตฺตพฺพกิจฺเจสุ สงฺคหาภาวา.
สตฺตสมถนานาตฺถาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
อธิกรณเภทวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
ทุติยคาถาสงฺคณิกํ
โจทนาทิปุจฺฉาวิสฺสชฺชนาวณฺณนา
๓๕๙. ทุติยคาถาสงฺคณิกาย ¶ ‘‘โจทนา กิมตฺถายา’’ติอาทิกา ปุจฺฉา อุปาลิตฺเถเรน กตา. ‘‘โจทนา สารณตฺถายา’’ติอาทิวิสฺสชฺชนํ ภควตา วุตฺตํ. อุปาลิตฺเถโร สยเมว ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ อกาสีติปิ วทนฺติ.
มนฺตคฺคหณนฺติ เตสํ วิจารณาคหณํ, สุตฺตนฺติกตฺเถรานํ, วินยธรตฺเถรานฺจ อธิปฺปายคหณนฺติ ¶ อตฺโถ. ปาเฏกฺกํ วินิจฺฉยสนฺนิฏฺาปนตฺถนฺติ เตสํ ปจฺเจกํ อธิปฺปายํ ตฺวา เตหิ สมุฏฺาปิตนยมฺปิ คเหตฺวา วินิจฺฉยปริโยสาปนตฺถนฺติ อธิปฺปาโย.
‘‘มา โข ตุริโต อภณี’’ติอาทินา อภิมุเข ิตํ กฺจิ อนุวิชฺชกํ โอวทนฺเตน วิย เถเรน อนุวิชฺชกวตฺตํ กถิตํ.
อนุยฺุชนวตฺตนฺติ อนุยุชฺชนกฺกมํ, ตํ ปน ยสฺมา สพฺพสิกฺขาปทวีติกฺกมวิสเยปิ ตํตํสิกฺขาปทานุโลเมน กตฺตพฺพํ, ตสฺมา ‘‘สิกฺขาปทานุโลมิก’’นฺติ วุตฺตํ. อตฺตโน คตึ นาเสตีติ อตฺตโน สุคติคมนํ วินาเสติ.
อนุสนฺธิต-สทฺโท ภาวสาธโนติ อาห ‘‘อนุสนฺธิตนฺติ กถานุสนฺธี’’ติ. วตฺตานุสนฺธิเตนาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. วตฺตานุสนฺธิเตนาติ อาจารานุสนฺธินา, อาจาเรน สทฺธึ สเมนฺติยา ปฏิฺายาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ยา อสฺส วตฺเตนา’’ติอาทิ.
ปาฬิยํ สฺจิจฺจ อาปตฺตินฺติอาทิ อลชฺชิลชฺชิลกฺขณํ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ วเสน วุตฺตํ เตสฺเว สพฺพปฺปการโต สิกฺขาปทาธิการตฺตา. สามเณราทีนมฺปิ สาธารณวเสน ปน สฺจิจฺจ ยถาสกํ สิกฺขาปทวีติกฺกมนาทิกํ อลชฺชิลชฺชิลกฺขณํ เวทิตพฺพํ.
กถานุสนฺธิวจนนฺติ จุทิตกอนุวิชฺชกานํ กถาย อนุสนฺธิยุตฺตํ วจนํ น ชานาติ, เตหิ เอกสฺมึ การเณ วุตฺเต สยํ ตํ อสลฺลกฺเขตฺวา อตฺตโน อภิรุจิตเมว อสมฺพนฺธิตตฺถนฺติ อตฺโถ. วินิจฺฉยานุสนฺธิวจนฺจาติ อนุวิชฺชเกน กตสฺส อาปตฺตานาปตฺติวินิจฺฉยสฺส อนุคุณํ, สมฺพนฺธวจนฺจ.
โจทนาทิปุจฺฉาวิสฺสชฺชนาวณฺณนา นิฏฺิตา.
โจทนากณฺฑํ
อนุวิชฺชกกิจฺจวณฺณนา
๓๖๐. ปาฬิยํ ¶ ¶ ยํ โข ตฺวนฺติอาทีสุ ตฺวํ, อาวุโส, ยํ อิมํ ภิกฺขุํ โจเทสิ, ตํ กิมฺหิ โทเส โจเทสิ, กตราย วิปตฺติยา โจเทสีติ อตฺโถ. เอวํ สพฺพตฺถ.
๓๖๑. อสุทฺธปริสงฺกิโตติ อสุทฺธาย อฏฺาเน อุปฺปนฺนาย ปริสงฺกาย ปริสงฺกิโต. เตนาห ‘‘อมูลกปริสงฺกิโต’’ติ.
๓๖๔. ปาฬิยํ อุโปสโถ สามคฺคตฺถายาติ วิสุทฺธานํ ภิกฺขูนํ อฺโฺนิรเปกฺโข อหุตฺวา อุโปสโถ อุโปสถฏฺานํ สนฺนิปติตฺวา ‘‘ปาริสุทฺธึ อายสฺมนฺโต อาโรเจถ, ปริสุทฺเธตฺถายสฺมนฺโต, ปริสุทฺโธ อหํ อาวุโส’’ติอาทินา อฺมฺํ ปริสุทฺธิวีมํสนาโรจนวเสน อยุตฺเต วิวชฺเชตฺวา ยุตฺเตเหว กายจิตฺตสามคฺคีกรณตฺถาย.
วิสุทฺธาย ปวารณาติ ทิฏฺสุตาทีหิ อฺมฺํ กถาเปตฺวา วิสุทฺธิสมฺปาทนตฺถายาติ อตฺโถ. อุโภ เอเตติ อามิสปุคฺคลนิสฺสยเน เอเต อุโภ.
อนุวิชฺชกกิจฺจวณฺณนา นิฏฺิตา.
จูฬสงฺคามํ
อนุวิชฺชกสฺส ปฏิปตฺติวณฺณนา
๓๖๕. ตตฺร ¶ หีติ ตสฺมึ สนฺนิปาเต. อตฺตปจฺจตฺถิกาติ ลชฺชิเปสลสฺส โจทกปาปครหีปุคฺคลสฺส อนตฺถกามา เวรีปุคฺคลา. สาสนปจฺจตฺถิกาติ อตฺตโน อนาจารานุคุณํ พุทฺธวจนํ ปกาเสนฺโต ตณฺหาคติกา, ทิฏฺิคติกา จ. อชฺโฌคาเหตฺวาติ อลชฺชิอภิภวนวเสน ¶ สงฺฆมชฺฌํ ปวิสิตฺวา. โส สงฺคามาวจโรติ โส โจทโก สงฺคามาวจโร นาม. ทิฏฺสุตมุตมฺปิ ราชกถาทิกนฺติ ทิฏฺสุตวเสเนว ราชโจราทิกถํ, มุตวเสนปิ อนฺนาทิกถฺจ อกเถนฺเตนาติ โยเชตพฺพํ. กปฺปิยากปฺปิยนิสฺสิตา วาติอาทีสุ รูปารูปปฏิจฺเฉทปเทน สกลอภิธมฺมตฺถปิฏกตฺตํ ทสฺเสติ. สมถาจาราทีหิ ปฏิสํยุตฺตนฺติ สกลสุตฺตนฺตปิฏกตฺตํ. ตตฺถ สมถาจาโร นาม สมถภาวนากฺกโม. ตถา วิปสฺสนาจาโร. านนิสชฺชวตฺตาทินิสฺสิตาติ สงฺฆมชฺฌาทีสุ ครุจิตฺตีการํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา านาทิกฺกมนิสฺสิตา เจว จุทฺทสมหาวตฺตาทิวตฺตนิสฺสิตา จ, อาทิ-สทฺเทน อปฺปิจฺฉตาทินิสฺสิตา จาติ อตฺโถ. ปฺเห อุปฺปนฺเนติ เกนจิ อุปฺปนฺเน ปฺเห ปุจฺฉิเต. อิทฺจ อุปลกฺขณมตฺตํ, ยํ กิฺจิ อุปฏฺิตํ ธมฺมํ ภาสสฺสูติ อธิปฺปาโย.
กุลปเทโส นาม ขตฺติยาทิชาติยมฺปิ กาสิกราชกุลาทิกุลวิเสโส. เอตเมวาห ‘‘กุลปเทโส ขตฺติยกุลาทิวเสเนว เวทิตพฺโพ’’ติ. สนฺนิปาตมณฺฑเลติ อตฺตโน อนุวิชฺชมานปฺปการํ สงฺฆสฺส าปนตฺถํ อุฏฺาย สงฺฆสนฺนิปาตมชฺเฌ อิโต จิโต จ ปเรสํ มุขํ โอโลเกนฺเตน น จริตพฺพํ. ยถานิสินฺเนเนว ธมฺมวินยานุคุณํ วินิจฺฉยํ ยถา สพฺเพ สุณนฺติ, ตถา วตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ.
ปาฬิยํ อจณฺฑิกเตนาติ อกตจณฺฑภาเวน, อผรุเสนาติ อตฺโถ. ‘‘หิตานุกมฺปินา’’ติ เอเตน เมตฺตาปุพฺพภาโค วุตฺโต. ‘‘การุณิเกน ภวิตพฺพ’’นฺติ อิมินา อปฺปนาปฺปตฺตกรุณา วุตฺตา. ‘‘หิตปริสกฺกินา’’ติ อิมินา กรุณาปุพฺพภาโค. เตนาห ‘‘กรุณา จ กรุณาปุพฺพภาโค จ อุปฏฺาเปตพฺโพติ อยํ ปททฺวเยปิ อธิปฺปาโย’’ติ. ลชฺชิยาติ ลชฺชินี.
อนุโยควตฺตํ ¶ กถาเปตฺวาติ ‘‘กาเลน วกฺขามี’’ติอาทินา (ปริ. ๓๖๒) วุตฺตวตฺตํ. อนุยฺุชนาจารกฺกเมเนว อนุยฺุชนํ อนุโยควตฺตํ นาม, ตํ กถาเปตฺวา เตเนว กเมน อนุยฺุชาเปตฺวาติ อตฺโถ. อุชุมทฺทเวนาติ เอตฺถ อชฺฌาหริตพฺพปทํ ทสฺเสติ ‘‘อุปจริตพฺโพ’’ติ. ‘‘ธมฺเมสุ จ ปุคฺคเลสุ จา’’ติ อิทํ ‘‘มชฺฌตฺเตน ภวิตพฺพ’’นฺติ ปกเตน สมฺพนฺธิตพฺพนฺติ อาห ‘‘ธมฺเมสุ จ ปุคฺคเลสุ จ…เป… มชฺฌตฺโตติ เวทิตพฺโพ’’ติ. ยฺหิ ยตฺถ กตฺถจิ กตฺตพฺพํ, ตํ ตตฺถ อติกฺกมนฺโต มชฺฌตฺโต นาม น โหติ, ธมฺเมสุ จ คารโว กตฺตพฺโพ. ปุคฺคเลสุ ปน เมตฺตาภาเวน ปกฺขปาตคารโว. ตสฺมา อิมํ วิธึ อนติกฺกนฺโตว เตสุ มชฺฌตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
๓๖๖. สํสนฺทนตฺถนฺติ อาปตฺติ วา อนาปตฺติ วาติ สํสเย ชาเต สํสนฺทิตฺวา นิจฺฉยกรณตฺถํ ¶ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. อตฺถทสฺสนายาติ สาเธตพฺพสฺส อาปตฺตาทิอุปเมยฺยตฺถสฺส โจทกจุทิตเก อตฺตโน ปฏิฺาย เอว สรูปวิภาวนตฺถํ. อตฺโถ ชานาปนตฺถายาติ เอวํ วิภาวิโต อตฺโถ โจทกจุทิตกสงฺฆานํ าปนตฺถาย นิชฺฌาปนตฺถาย, สมฺปฏิจฺฉาปนตฺถายาติ อตฺโถ. ปุคฺคลสฺส ปนตฺถายาติ โจทกจุทิตเก อตฺตโน ปฏิฺาย เอว อาปตฺติยํ, อนาปตฺติยํ วา ปติฏฺาปนตฺถาย. สารณตฺถายาติ ปมุฏฺสราปนตฺถาย. สวจนียกรณตฺถายาติ โทเส สาริเตปิ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปฏิกมฺมํ อกโรนฺตสฺส สวจนียกรณตฺถาย. ‘‘น เต อปสาเทตพฺพา’’ติ อิทํ อธิปฺเปตตฺถทสฺสนํ. ตตฺถ อวิสํวาทกฏฺาเน ิตา เอว น อปสาเทตพฺพา, น อิตเรติ ทฏฺพฺพํ.
อปฺปจฺจยปรินิพฺพานตฺถายาติ อายตึ ปฏิสนฺธิยา อการณภูตปรินิพฺพานตฺถาย. ปรินิพฺพานฺหิ นาม ขีณาสวานํ สพฺพปจฺฉิมา จุติจิตฺตกมฺมชรูปสงฺขาตา ขนฺธา, เต จ สพฺพาการโต สมุจฺฉินฺนานุสยตาย ปุนพฺภวาย อนนฺตราทิปจฺจยา น โหนฺติ อฺเหิ จ ตณฺหาทิปจฺจเยหิ วิรหิตตฺตา. ตสฺมา ‘‘อปฺปจฺจยปรินิพฺพาน’’นฺติ วุจฺจติ. ตนฺติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ. เตเนวาห ‘‘ตสฺมิ’’นฺติ. วินยมนฺตนาติ วินยวินิจฺฉโย. โสตาวธานนฺติ โสตสฺส โอทหนํ, สวนนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ยํ อุปฺปชฺชติ าณ’’นฺติ. ยถาวุตฺตาย วินยสํวราทิการณปรมฺปราย วิมุตฺติยา เอว ปธานตฺตา สา ปุน จิตฺตสฺส วิโมกฺโขติ อุทฺธโฏติ อาห ‘‘อรหตฺตผลสงฺขาโต วิโมกฺโข’’ติ. อถ วา โย ยํ กิฺจิ ธมฺมํ อนุปาทิยิตฺวา ¶ ปรินิพฺพานวเสน จิตฺตสฺส จิตฺตสนฺตติยา, ตปฺปฏิพทฺธกมฺมชรูปสนฺตติยา จ วิโมกฺโข วิมุจฺจนํ อปุนปฺปวตฺติวเสน วิคโม, เอตทตฺถาย เอตสฺส วิคมสฺสตฺถาย เอวาติ เอวํ นิคมนวเสนเปตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๓๖๗. อนุโยควตฺตคาถาสุ กุสเลน พุทฺธิมตาติ สมฺมาสมฺพุทฺเธน. กตนฺติ นิพฺพตฺติตํ, ปกาสิตนฺติ อตฺโถ. เตเนวาติอาทีสุ เตเนว กตากตสฺส อชานเนว ปุพฺพาปรํ อชานนสฺส, อฺสฺสปิ ภิกฺขุโน ยํ กตากตํ โหติ, ตมฺปิ น ชานาตีติ อตฺโถ. อตฺตโน สทิสายาติ ยถาวุตฺเตหิ โทเสหิ ยุตฺตตาย อตฺตนา สทิสาย.
อนุวิชฺชกสฺส ปฏิปตฺติวณฺณนา นิฏฺิตา.
มหาสงฺคามํ
โวหรนฺเตน ชานิตพฺพาทิวณฺณนา
๓๖๘-๓๗๔. มหาสงฺคาเม ¶ ¶ ปาฬิยํ สงฺคามาวจเรนาติ อนุวิชฺชกํ สนฺธาย วุตฺตํ. วตฺถูติ เมถุนาทิวีติกฺกโม. นิทานนฺติ เวสาลิอาทิปฺตฺติฏฺานํ. ปุคฺคโล อการโก ชานิตพฺโพติ เอตฺถ สงฺเฆ วา คเณ วา ปริณายกภูโต ปุคฺคโลติ ทฏฺพฺพํ.
๓๗๕. วิสฺสฏฺิสิกฺขาปทนฺติ นีลาทิทสนฺนํ สุกฺกานํ โมจนวเสน วุตฺตํ สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทํ. ตฺหิ เตลาทิมนฺทวณฺณานํ นีลาทิปจุรวณฺณานํ วเสน ‘‘วณฺณาวณฺณา’’ติ วุตฺตํ. ปจุรตฺเถ หิ อิธ อวณฺโณติ อ-กาโร.
๓๗๙. ยาว อกนิฏฺพฺรหฺมาโน ทฺวิธา โหนฺตีติ เอตฺถ อวิหาทิสุทฺธาวาสิกา อฺภูมีสุ อริยา ธมฺมวาทีปกฺขํ เอว ภชนฺติ, อิตเร ทุวิธมฺปีติ ทฏฺพฺพํ.
โวหรนฺเตน ชานิตพฺพาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
กถินเภทํ
กถินอตฺถตาทิวณฺณนา
๔๐๔. กถิเน ¶ อนาคตวเสนาติ อุทกาหรณาทิปโยเค อุปฺปนฺเน ปจฺฉา โธวนาทิปุพฺพกรณสฺส อุปฺปตฺติโต ตปฺปโยคสฺส อนาคตวเสเนว อนนฺตรปจฺจโย. ปจฺจยตฺตฺจสฺส การิยภูตสฺส ยสฺมา นิปฺผาเทตพฺพตํ นิสฺสาย ปจฺจยา ปวตฺตา, น วินา เตน, ตสฺมา เตน ปริยาเยน วุตฺตํ, น สภาวโต สพฺพตฺถ. เตนาห ‘‘ปโยคสฺส หี’’ติอาทิ. ตตฺถ ปโยคสฺส สตฺตวิธมฺปิ ปุพฺพกรณํ ปจฺจโย โหตีติ สมฺพนฺโธ. การณมาห ‘‘ยสฺมา’’ติอาทิ. ปุพฺพกรณสฺสตฺถายาติ ปุพฺพกรณสฺส นิปฺผาทนตฺถาย. ปุเรชาตปจฺจเยติ ปุเรชาตปจฺจยสฺส ¶ วิสเย. เอสาติ ปโยโค. โธวนาทิธมฺเมสุ เอกมฺปิ อตฺตโน ปุเรชาตปจฺจยภูตํ ธมฺมํ น ลภติ, อตฺตโน อุปฺปตฺติโต ปุเรชาตสฺส ปุพฺพกรณสฺส อภาวาติ อตฺโถ. ลภตีติ ปจฺฉาชาตปจฺจยํ ปุพฺพกรณํ ลภติ, ปจฺฉาชาตปจฺจโย โหตีติ อตฺโถ.
ปาฬิยํ ปนฺนรส ธมฺมา สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโยติ เอตฺถ ปุพฺพกรณสฺสาติ วา ปโยคสฺสาติ วา อฺสฺส กสฺสจิ ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส อปรามฏฺตฺตา ปนฺนรส ธมฺมา สยํ อฺมฺสหชาตปจฺจเยน ปจฺจโยติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ, เตหิ สห อุปฺปชฺชนกสฺส อฺสฺส อภาวา. เอวํ อุปริ สพฺพตฺถ. เตนาห ‘‘สหชาตปจฺจยํ ปนา’’ติอาทิ. มาติกา จ ปลิโพธา จาติ เอตฺถ จ-สทฺเทน ปฺจานิสํสานิ คหิตานีติ ทฏฺพฺพํ. เอวํ มาติกานฺจ ปลิโพธานฺจาติ เอตฺถาปิ. เตหิปิ อตฺโถ อนนฺตรเมว มาติกาทีหิ สห ชายนฺติ. เตเนว ‘‘ปนฺนรส ธมฺมา สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วุตฺตา. อาสาติ จีวราสา. วตฺถูติ อาสาย นิมิตฺตภูตํ อนุปฺปนฺนจีวรํ. ‘‘ทสฺสาม กริสฺสามา’’ติ หิ ทายเกหิ ปฏิฺาตจีวรํ นิสฺสาย อนนฺตรํ อุปฺปชฺชมานา จีวราสา อนนฺตรปจฺจยาทิภาเวน วุตฺตา. อาสานฺจ อนาสานฺจาติ ลพฺภมานกจีวเร อุปฺปชฺชนกจีวราสานฺเจว อลพฺภมาเน จีวเร อุปฺปชฺชนกอนาสานฺจ, อาสานํ, ตพฺพิคมานฺจาติ อตฺโถ. ขเณ ขเณ อุปฺปตฺติเภทํ สนฺธาย ‘‘อาสาน’’นฺติ พหุวจนํ กตํ, อาสาย ¶ , อนาสาย จาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อาสา จ อนาสา จา’’ติ.
กถินอตฺถตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปุพฺพกรณนิทานาทิวิภาควณฺณนา
๔๐๖-๗. ฉ จีวรานีติ โขมาทีสุ ฉสุ อฺตรํ สนฺธาย วุตฺตํ. สพฺพสงฺคาหิกวเสน ปน ‘‘จีวรานี’’ติ พหุวจนํ กตํ. ปาฬิยํ ปเนตฺถ วตฺถุ, อาสา จ อนาสา จาติอาทีสุ อตฺถเต กถิเน อานิสํสวเสน อุปฺปชฺชนกปจฺจาสาจีวรํ ‘‘วตฺถู’’ติ วุตฺตํ. กถินจีวรํ เหตุปจฺจย-สทฺเทหิ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๔๐๘. ปจฺจุทฺธาโร ตีหิ ธมฺเมหีติอาทิ กถินตฺถารตฺถาย ติจีวรโต อฺํ วสฺสิกสาฏิกาทึ ปจฺจุทฺธริตุํ, อธิฏฺหิตฺวา อตฺถริตฺุจ น วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘วจีเภเทนา’’ติ เอเตน เกวลํ กาเยน กถินตฺถาโร น รุหตีติ ทสฺเสติ.
ปุพฺพกรณนิทานาทิวิภาควณฺณนา นิฏฺิตา.
กถินาทิชานิตพฺพวิภาควณฺณนา
๔๑๒. เยสุ ¶ รูปาทิธมฺเมสูติ ‘‘ปุริมวสฺสํวุตฺถา ภิกฺขู, ปฺจหิ อนูโน สงฺโฆ, จีวรมาโส, ธมฺเมน สเมน สมุปฺปนฺนํ จีวร’’นฺติ เอวมาทีสุ เยสุ รูปารูปธมฺเมสุ. สตีติ สนฺเตสุ. มิสฺสีภาโวติ สํสคฺคตา สมูหปฺตฺติมตฺตํ. เตนาห ‘‘น ปรมตฺถโต เอโก ธมฺโม อตฺถี’’ติ.
๔๑๖. เอกโต อุปฺปชฺชนฺตีติ กถินุทฺธาเรน สห อุปฺปชฺชมานารหา โหนฺตีติ อตฺโถ. กถินตฺถารโต หิ ปภุติ สพฺเพ กถินุทฺธารา ตํ ตํ การณนฺตรมาคมฺม อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา สพฺเพ เอกุปฺปาทา นาม ชาตา. เตสุ อนฺตรุพฺภารสหุพฺภารา ทฺเว เอว ตํ วิหารํ อนตฺถตกถินวิหารสทิสํ กโรนฺตา สยํ สกเลน กถินตฺถาเรน สห นิรุชฺฌนฺติ อุทฺธารภาวํ ปาปุณนฺติ ¶ . อวเสสา ปน ตํ ตํ ปาฏิปุคฺคลิกเมว กถินตฺถารํ ทฺวินฺนํ ปลิโพธานํ อุปจฺฉินฺทนวเสน นิโรเธนฺตา สยํ อุทฺธารภาวํ ปาปุณนฺติ, น สกลํ กถินตฺถารํ. กถินุทฺธารานฺจ นิโรโธ นาม ตํ ตํ การณมาคมฺม อุทฺธารภาวปฺปตฺติ, เอวฺจ อุปฺปตฺติ นาม กถินุทฺธาโร เอว. เตนาห ‘‘สพฺเพปิ อตฺถาเรน สทฺธึ เอกโต อุปฺปชฺชนฺตี’’ติอาทิ. ตตฺถ ปุริมา ทฺเวติ ‘‘เอกุปฺปาทา เอกนิโรธา’’ติ ปาฬิยํ ปมํ วุตฺตา อนฺตรุพฺภารสหุพฺภารา ทฺเว. เตสูติ ปกฺกมนนฺติกาทีสุ. อุทฺธารภาวํ ปตฺเตสูติ อุทฺธารภาวปฺปตฺติสงฺขาตนิโรธํ ปตฺเตสูติ อตฺโถ. อตฺถาโร ติฏฺตีติ กตจีวรํ อาทาย ปกฺกนฺตาทิปุคฺคลํ เปตฺวา ตทวเสสานํ ปลิโพธสพฺภาวโต กถินตฺถาโร ติฏฺติ.
กถินาทิชานิตพฺพวิภาควณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺตฺติวคฺควณฺณนานโย นิฏฺิโต.
สงฺคหวคฺโค
อุปาลิปฺจกํ
นปฺปฏิปฺปสฺสมฺภนวคฺควณฺณนา
๔๒๑. สมคฺเคหิ ¶ ¶ กรณียานีติ วิวาทาธิกรเณหิ ปุพฺเพ อสมคฺคา หุตฺวา ปจฺฉา สามคฺคึ อุปคเตหิ กตฺตพฺพานิ. กึ ปน อสฺตมิสฺสปริสาย สทฺธึ ลชฺชิโน สามคฺคึ กโรนฺตีติ อาห ‘‘อุโปสถปวารณาทีสุ หี’’ติอาทิ. ตตฺถ ิตาสูติ อุโปสถปวารณาสุ อปฺปวตฺตีสุ. อุปตฺถมฺโภ น ทาตพฺโพติ อุปรูปริ อปฺปวตฺตนตฺถาย มยมฺปิ อุโปสถํ น กริสฺสามาติอาทินา กลหสฺส อุปตฺถมฺโภ น ทาตพฺโพ, ธมฺเมน วินเยน สามคฺคึ กตฺวา สมคฺเคเหว อสฺตา ภิกฺขู วิเนตพฺพาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘สเจ สงฺโฆ อจฺจยํ เทสาเปตฺวา’’ติอาทิ. ภิกฺขุโน นกฺขมตีติ เกสุจิ ปุคฺคเลสุ อปฺปมตฺตกโทสทสฺสเนน น รุจฺจติ. ทิฏฺาวิกมฺมมฺปิ กตฺวาติ ‘‘น เมตํ ขมตี’’ติ สภาคสฺส ภิกฺขุโน อตฺตโน ทิฏฺึ อาวิกตฺวา. อุเปตพฺพาติ สาสนหานิยา อภาวา สามคฺคึ อโกเปตฺวา กายสามคฺคี ทาตพฺพา, อีทิเส าเน อลชฺชิปริโภโค อาปตฺติกโร น โหติ, วฏฺฏติเยว. เย ปน สาสนวินาสาย ปฏิปนฺนา, เตหิ สห น วตฺตติ, อาปตฺติ เอว โหติ สาสนวินาโส จ. เตนาห ‘‘ยตฺร ปน อุทฺธมฺม’’นฺติอาทิ. ‘‘ทิฏฺาวิกมฺมํ น วฏฺฏตี’’ติ อิมินา ทิฏฺิยา อาวิกตายปิ อาปตฺตึ ทสฺเสติ.
๔๒๒. กณฺหวาโจติ ราคโทสาทีหิ กิลิฏฺวจโน. อนตฺถกวจนสฺส ทีปนํ ปกาสนํ อสฺสาติ อนตฺถกทีปโน. มานํ นิสฺสายาติ วินิจฺฉยกรณํ ตว ภาโรติ สงฺเฆน ภาเร อกเตปิ ‘‘อหเมเวตฺถ โวหริตุํ อรหรูโป’’ติ มานํ นิสฺสาย. ยถาทิฏฺิยาติ อนุรูปลทฺธิยา. ยสฺส หิ อตฺถสฺส ยาทิสี ทิฏฺิ อนุรูปา, ตํ คเหตฺวา น พฺยากตาติ อตฺโถ ¶ .อสฺส อตฺตโนติ อธมฺมาทิอตฺถํ สนฺธาย วทติ, น ปุคฺคลํ, อสฺส อธมฺมาทิอตฺถสงฺขาตสฺส อตฺตโน สรูปสฺส ยา อนุรูปา ทิฏฺีติ ¶ อตฺโถ. ลทฺธึ นิกฺขิปิตฺวาติ อนุรูปลทฺธึ ฉฑฺเฑตฺวา, อคฺคเหตฺวาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อธมฺมาทีสุ ธมฺมาทิลทฺธิโก หุตฺวา’’ติ. อถ วา อตฺตโน ลทฺธึ นิคูหิตฺวา ปุคฺคลานุคุณํ ตถา พฺยากโรนฺโต น ยถาทิฏฺิยา พฺยากตา นาม. อิมสฺมึ ปกฺเข อธมฺมาทีสุ ธมฺมาทิลทฺธิโก หุตฺวาติ เอตฺถ อธมฺมาทีสุ ธมฺมาทิลทฺธิโก วิย หุตฺวาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ.
นปฺปฏิปฺปสฺสมฺภนวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
โวหารวคฺคาทิวณฺณนา
๔๒๔. กมฺมตฺตีติ กมฺมภูตา ตฺติ. อนุสฺสาวนนิรเปกฺขา ตฺติกมฺมภูตา ตฺตีติ อตฺโถ. กมฺมปาทตฺติ นาม ตฺติทุติยกมฺมาทีสุ อนุสฺสาวนกมฺมสฺส ปาทภูตา อธิฏฺานภูตา ตฺติ. นวสุ าเนสูติ โอสารณาทีสุ นวสุ าเนสุ. ทฺวีสุ าเนสูติ ตฺติทุติยตฺติจตุตฺถกมฺเมสุ.
สุตฺตานุโลมนฺติ อุภโตวิภงฺเค สุตฺตานุโลมภูเต มหาปเทเส สนฺธาย วุตฺตํ. วินยานุโลมนฺติ ขนฺธกปริวารานุโลมภูเต มหาปเทเส. สุตฺตนฺติเก จตฺตาโร มหาปเทเสติ สุตฺตาภิธมฺมปิฏเกสุ อนฺุาตปฏิกฺขิตฺตสุตฺตานุโลมวเสน นยโต คเหตพฺเพ จตฺตาโร อตฺเถ.
๔๒๕. ทิฏฺีนํ อาวิกมฺมานีติ อาปตฺติลทฺธีนํ ปกาสนานิ, อาปตฺติเทสนากมฺมานีติ อตฺโถ.
ยถา จตูหิ ปฺจหิ ทิฏฺิ อาวิกตา โหตีติ ยถา อาวิกเต จตูหิ ปฺจหิ เอกีภูเตหิ เอกสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺติเก อาปตฺติ เทสิตา นาม โหติ, เอวํ เทเสตีติ อตฺโถ. เอวํ เทเสนฺโต จ อตฺตนา สทฺธึ ตโย วา จตฺตาโร วา ภิกฺขู คเหตฺวา เอกสฺส สนฺติเก เทเสติ. เอวํ เทเสตุํ น วฏฺฏติ. เทสิตา จ อาปตฺติ น วุฏฺาติ, เทสนาปจฺจยา ทุกฺกฏฺจ โหติ. ทฺวินฺนํ ติณฺณํ ปน เอกโต เทเสตุํ วฏฺฏติ.
๔๔๔. อทสฺสเนนาติ อิมสฺส อกปฺปิยํ ปริวชฺเชนฺตานํ วินยธรานํ ปฏิปตฺติยา อทสฺสเนน ¶ , เตสํ ทิฏฺานุคตึ อนาปชฺชเนนาติปิ อตฺโถ คเหตพฺโพ. อกปฺปิเย กปฺปิยสอตายาติ รชตาทิอกปฺปิเย ติปุอาทิสฺิตาย ¶ . ปุจฺฉิตฺวา วา อฺเสํ วา วุจฺจมานํ อสุณนฺโต อาปชฺชตีติ เอตฺถ ปุจฺฉิตฺวา อสุณนฺโต วา ปุจฺฉิยมานํ อสุณนฺโต วาติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. เอกรตฺตาติกฺกมาทิวเสนาติ อธิฏฺิตจีวเรน วิปฺปวสิตฺวา เอกรตฺตาติกฺกเมน ปาจิตฺติยํ อาปชฺชติ. อาทิ-สทฺเทน ฉรตฺตาติกฺกมาทีนํ สงฺคโห.
๔๕๐. อนตฺถํ กลิสาสนนฺติ อนตฺถาวหํ โกธวจนํ อาโรเปนฺโต โทสํ อาโรเปนฺโต อุปทฺทวาย ปริสกฺกตีติ อตฺโถ.
๔๕๔. โวหารนิรุตฺติยนฺติ ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส วาจกสทฺเท ปเภทคตาณปฺปตฺโต น โหตีติ อตฺโถ.
๔๕๕. ปริมณฺฑลพฺยฺชนาโรปเน กุสโล น โหตีติ ปริมณฺฑเลน ปทพฺยฺชเนน วตฺถุํ, ปเรหิ วุตฺตํ ชานิตฺุจ อสมตฺโถติ อตฺโถ.
๔๕๘. อนุสฺสาวเนนาติ อนุ อนุ กถเนน. เตนาห ‘‘นนุ ตุมฺเห’’ติอาทิ, ยํ อโวจุมฺห, สฺวายํ ปกาสิโตติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ ยนฺติ อิทํ ยสฺมา วจนาเปกฺขํ น โหติ, วจนตฺถาเปกฺขเมว, ตสฺมา เตน วจเนน นานากรณาภาวํ ปกาสยิสฺสามาติ ยมตฺถํ อโวจุมฺหาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. เตเนว ‘‘สฺวาย’’นฺติ ปุลฺลิงฺควเสน ปฏินิทฺเทโส กโต, ตสฺส โส อยํ นานากรณาภาโวติ อตฺโถ.
๔๖๗. มฺจปทาทีสุปิ นฬาฏํ ปฏิหฺเยฺยาติ อนฺธกาเร จมฺมขณฺฑํ ปฺเปตฺวา วนฺทิตุํ โอนมนฺตสฺส นฬาฏํ วา อกฺขิ วา มฺจาทีสุ ปฏิหฺติ. เอเตน วนฺทโตปิ อาปตฺติอภาวํ วตฺวา วนฺทนาย สพฺพถา ปฏิกฺเขปาภาวฺจ ทีเปติ. เอวํ สพฺพตฺถ สุตฺตนฺตเรหิ อปฺปฏิกฺขิตฺเตสุ. นคฺคาทีสุ ปน วนฺทิตุํ น วฏฺฏตีติ. เอกโต อาวฏฺโฏติ เอกสฺมึ โทสาคติปกฺเข ปริวตฺโต ปวิฏฺโติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘สปตฺตปกฺเข ิโต’’ติ. วนฺทิยมาโนติ โอนมิตฺวา วนฺทิยมาโน. วนฺทิตพฺเพสุ อุทฺเทสาจริโย, นิสฺสยาจริโย จ ยสฺมา นวกาปิ โหนฺติ, ตสฺมา เต วุฑฺฒา เอว วนฺทิยาติ เวทิตพฺพา.
๔๗๐. ปุพฺเพ ¶ วุตฺตเมวาติ สหเสยฺยาทิปณฺณตฺติวชฺชํ. อิตรนฺติ สจิตฺตกํ.
โวหารวคฺคาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
อปรทุติยคาถาสงฺคณิกํ
กายิกาทิอาปตฺติวณฺณนา
๔๗๔. ‘‘กติ ¶ อาปตฺติโย’’ติอาทินา อุปาลิตฺเถเรน วินยสฺส ปาฏวตฺถํ สยเมว ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ กตํ. ภิกฺขุนีนํเยว…เป… อฏฺวตฺถุกา นามาติ ภิกฺขุนีนํ ปฺตฺตา เอกา เอว อาปตฺติ อฏฺวตฺถุกา นามาติ อตฺโถ.
๔๗๕. กมฺมฺจ กมฺมปาทกา จาติ เอตฺถ ยสฺมา ตฺติกมฺเมสุ ตฺติ สยเมว กมฺมํ โหติ, ตฺติทุติยตฺติจตุตฺเถสุ กมฺเมสุ อนุสฺสาวนสงฺขาตสฺส กมฺมสฺส ตฺติปาทกภาเวน ติฏฺติ, ตสฺมา อิมานิ ทฺเว ‘‘ตฺติกิจฺจานี’’ติ วุตฺตานิ.
ปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏา กตาติ ทสสุปิ สิกฺขาปเทสุ เอกโตอุปสมฺปนฺนาย วเสน วุตฺตทุกฺกฏํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปมสิกฺขาปทมฺหีติ ภิกฺขุโนวาทวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปทวิภงฺเค (ปาจิ. ๑๔๔ อาทโย). อธมฺมกมฺเมติ ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติกมฺเม อธมฺมกมฺเม ชาเต อาปชฺชิตพฺพา ทฺเว อาปตฺตินวกา, ธมฺมกมฺเม ทฺเว อาปตฺตินวกาติ จตฺตาโร นวกา วุตฺตา. อามกธฺํ วิฺาเปตฺวา ภฺุชนฺติยา วิฺาปนาทิปุพฺพปโยเค ทุกฺกฏํ, อชฺโฌหาเร ปาจิตฺติยํ. ปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏา กตาเยวาติ วุตฺตํ.
วิชหนฺตี ติฏฺตีติอาทีสุ ยทา ภิกฺขุนิยา เอเกน ปาเทน หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา ตฺวา กิฺจิ กมฺมํ กตฺวา ตโต อปเรน ปาเทน วิชหิตฺวา าตุกามตา อุปฺปชฺชติ, ตทา สา ยถากฺกมํ ‘‘วิชหนฺตี ติฏฺติ, วิชหิตฺวา ติฏฺตี’’ติ อิมํ โวหารํ ลภติ. อฺถา หิสฺสา คามูปจารโมกฺกนฺติยา วิเสโส น สิยา หตฺถปาสวิชหนสฺสาปิ คมนตฺตา. นิสีทติ วา นิปชฺชติ วาติ เอตฺถาปิ ยถาวุตฺตาธิปฺปาเยน อทฺธาสเนน หตฺถปาสํ วิชหนฺตี นิสีทติ, สกเลน ¶ วา อาสเนน วิชหิตฺวา นิสีทติ, อทฺธสรีเรน วิชหนฺตี นิปชฺชติ, สกเลน สรีเรน วิชหิตฺวา นิปชฺชตีติ โยเชตพฺพํ.
กายิกาทิอาปตฺติวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปาจิตฺติยวณฺณนา
๔๗๖. สพฺพานิ ¶ นานาวตฺถุกานีติ สปฺปินวนีตาทีนํ ปฺจนฺนํ วตฺถูนํ เภเทน ปาจิตฺติยานิ ปฺจ นานาวตฺถุกานิ. เอส นโย ปณีตโภชนวิสเย นว ปาจิตฺติยานีติอาทีสุปิ. เอเตน เภสชฺชปณีตโภชนสิกฺขาปทานิ เอเกกสิกฺขาปทวเสน ปฺตฺตานิปิ วตฺถุเภเทน ปจฺเจกํ ปฺจสิกฺขาปทนวสิกฺขาปทสทิสานิ ภิกฺขุนีนํ ปาฏิเทสนียาปตฺติโย วิยาติ ทสฺเสติ. เตเนว ‘‘นานาวตฺถุกานี’’ติ วุตฺตํ. สปฺปึ เอว ปฏิคฺคเหตฺวา อเนกภาชเนสุ เปตฺวา สตฺตาหํ อติกฺกาเมนฺตสฺส ภาชนคณนาย สมฺภวนฺติโย พหุกาปิ อาปตฺติโย เอกวตฺถุกา เอว โหนฺติ, เอวํ สปฺปิโภชนเมว พหูสุ าเนสุ วิฺาเปตฺวา เอกโต วา วิสุํ วิสุเมว วา ภฺุชนฺตสฺส อาปตฺติโย เอกวตฺถุกา เอวาติ ทฏฺพฺพา.
ปาฬิยํ เอกวาจาย เทเสยฺย, วุตฺตา อาทิจฺจพนฺธุนาติ เอตฺถ ‘‘เทเสยฺยาติ วุตฺตา’’ติ อิติ-สทฺทํ อชฺฌาหริตฺวา โยเชตพฺพํ. เอวํ เสเสสุปิ.
เภทานุวตฺตกานนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ยาวตติยกา จ สพฺเพ อุภโตวิภงฺเค อาคตา, สงฺฆาทิเสสสามฺเน เอกํ, ปาจิตฺติยสามฺเน จ เอกํ กตฺวา ‘‘ยาวตติยเก ติสฺโส’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ ตฺติยา ทุกฺกฏํ, ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจยาปิ สนฺติ เอว. ตานิ มาติกาย น อาคตานิ. มาติกาคตวเสน เหตฺถ ‘‘ติสฺโส’’ติ วุตฺตํ.
สงฺฆาทีหีติ สงฺฆคณปุคฺคเลหิ การณภูเตหิ. อพฺภุณฺหสีโลติ ปริสุทฺธภาวูปคมเนน อภินวุปฺปนฺนสีโล. อภินวุปฺปนฺนฺหิ ‘‘อพฺภุณฺห’’นฺติ วุจฺจติ, ปริสุทฺธสีโลติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปากติโก’’ติ.
‘‘โกสมฺพกกฺขนฺธเก วุตฺตานิสํเส’’ติ อิทํ โกสมฺพกกฺขนฺธเก ‘‘สเจ มํ อิเม ภิกฺขู อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺขิปิสฺสนฺติ, น มยา สทฺธึ อุโปสถํ กริสฺสนฺตี’’ติอาทินา อาปตฺติยา ¶ อทสฺสเน อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา ปเรสมฺปิ สทฺธาย อาปตฺติเทสนาวิธานมุเขน สามตฺถิยโต ปกาสิโต. เอกโต อุโปสถกรณ, ปวารณากรณ, สงฺฆกมฺมกรณ, อาสเนนิสีทน, ยาคุปาเนนิสีทน, ภตฺตคฺเคนิสีทน, เอกจฺฉนฺเนสยน, ยถาวุฑฺฒอภิวาทนาทิกรณสงฺขาเต อฏฺานิสํเส สนฺธาย วุตฺตํ.
จตุนฺนนฺติ ¶ วินยปิฏเก อาคตานํ วเสน วุตฺตํ. กตมา ปน สาติ สา จตุพฺพิธา อจฺจยเทสนา กตมาติ อตฺโถ. อภิมารานนฺติ มารณตฺถาย ปโยชิตธนุคฺคหานํ. อุปฏฺายิกายาติ สหเสยฺยสิกฺขาปทวตฺถุสฺมึ อาคตาย.
อฏฺนฺนํ ภิกฺขุนีนนฺติ เถราสนโต ปฏฺาย อฏฺหิ ภิกฺขุนีหิ อิตราย อาคตาย วุฑฺฒาย ภิกฺขุนิยา อาสนํ ทาตพฺพํ. อฏฺนฺนํ ปน ภิกฺขุนีนํ นวกาย อาคตาย อทาตุมฺปิ วฏฺฏติ. ตาย ปน สงฺฆนวกาสเน ลทฺโธกาเส นิสีทิตพฺพํ. อถ วา อฏฺนฺนํ วุฑฺฒานํ ภิกฺขุนีนํ อิตราย นวกตราย อาสนํ ทาตพฺพํ. กมฺมานิ นวาติ โอสารณาทีนิ นว เอว.
ปาจิตฺติยวณฺณนา นิฏฺิตา.
อวนฺทนียปุคฺคลาทิวณฺณนา
๔๗๗. ทส ชนาติ ‘‘ทส อิเม, ภิกฺขเว, อวนฺทิยา’’ติอาทินา (ปริ. ๓๓๐) วุตฺตา นวกอนุปสมฺปนฺนนานาสํวาสกมาตุคามปณฺฑกา ปฺจ, ปาริวาสิกาทโย จ ปฺจาติ ทส ชนา.
ทฺวาทส กมฺมโทสาติ โทสยุตฺตกมฺมานิ ทฺวาทสาติ อตฺโถ. กมฺมสมฺปตฺติโยติ สมฺปนฺนกมฺมานิ, วิสุทฺธกมฺมานีติ อตฺโถ. เอตเทวาติ ธมฺเมน สมคฺคเมว.
อนนฺตํ นิพฺพานํ อชินิ ชินิตฺวา ปฏิลภตีติ อนนฺตชิโนติ อาห ‘‘ปริยนฺต’’อิจฺจาทิ. สฺเววาติ โส เอว ภควา.
‘‘วินยํ ปฏิชานนฺตสฺส, วินยานิ สุโณม เต’’ติอาทินา อุปาลิตฺเถเรเนว เอกํ วินยธรํ สมฺมุเข ¶ ิตํ ปุจฺฉนฺเตน วิย ปุจฺฉิตฺวา เตน วิสฺสชฺชิตํ วิย วิสฺสชฺชนํ กตํ. ตตฺถ วินยํ ปฏิชานนฺตสฺสาติ วินยํ ชานามีติ ปฏิชานนฺตสฺส. วินยานีติ วินเย ตยา วุจฺจมาเน สุโณม.
๔๗๘. ปาฬิยํ ปาราชิกาติอาทิ อุภโตวิภงฺเคสุ อาคเตสุ อคฺคหิตคฺคหณวเสน วุตฺตํ.
อวนฺทนียปุคฺคลาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
เสทโมจนคาถา
อวิปฺปวาสปฺหาวณฺณนา
๔๗๙. เสทโมจนคาถาสุ ¶ อกปฺปิยสมฺโภโคติ อนุปสมฺปนฺเนหิ สทฺธึ กาตุํ ปฏิกฺขิตฺโต อุโปสถาทิสํวาโส เอว วุตฺโต. ปฺหา เมสาติ เอตฺถ ม-กาโร ปทสนฺธิกโร. เอสาติ จ ลิงฺควิปลฺลาสวเสน วุตฺตํ, ปฺโห เอโสติ อตฺโถ. ปฺห-สทฺโท วา ทฺวิลิงฺโค ทฏฺพฺโพ. เตนาห ‘‘เอสา ปฺหา’’ติอาทิ.
ครุภณฺฑํ สนฺธายาติ ครุภณฺเฑน ครุภณฺฑปริวตฺตนํ สนฺธาย. ทสาติ ทส อวนฺทิยปุคฺคเล. เอกาทเสติ อภพฺพปุคฺคเล. สิกฺขาย อสาธารโณติ ขุรภณฺฑํ ธาเรตุํ อนฺุาตสิกฺขาปเทน ภิกฺขูหิ อสาธารณสิกฺขาปโทติ อตฺโถ.
อุพฺภกฺขเก น วทามีติ อกฺขโต อุทฺธํ สีเส ิตมุขมคฺเคปิ ปาราชิกํ สนฺธาย น วทามิ. อโธนาภินฺติ นาภิโต เหฏฺา ิตวจฺจปสฺสาวมคฺเคปิ วิวชฺชิย อฺสฺมึ สรีรปฺปเทเส เมถุนธมฺมปจฺจยา กถํ ปาราชิโก สิยาติ อตฺโถ.
เฉชฺชวตฺถุนฺติ ปาราชิกํ.
อวิปฺปวาสปฺหาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปาราชิกาทิปฺหาวณฺณนา
๔๘๐. ทุสฺสกุฏิอาทีนีติ ¶ อาทิ-สทฺเทน อจฺฉตรติปุปฏฺฏาทีหิ, ติณปณฺณาทีหิ จ ปฏิจฺฉนฺนกุฏิโย สงฺคณฺหาติ. ตาทิสาย หิ กุฏิยา พหิ ตฺวา อนฺโต ิตาย อิตฺถิยา มคฺเค ทุสฺสาทินา สนฺถตํ กตฺวา ปเวเสนฺโตปิ ปาราชิโก สิยา. ลิงฺคปริวตฺตํ สนฺธาย วุตฺตาติ ลิงฺเค ปริวตฺเต ปฏิคฺคหณสฺส วิชหนโต ปุน อปฺปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชนาปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ.
ปาฬิยํ ภิกฺขู สิยา วีสติยา สมาคตาติ วีสติยา สงฺขาตาย ภิกฺขู สมาคตา, เอเตน สพฺพกมฺมารหตํ สงฺฆสฺส ทสฺเสติ.
นิวตฺโถติ ¶ คาถาย อนฺตรวาสเกน นิวตฺโถ อุตฺตราสงฺเคน ทิคุณํ กตฺวา ปารุตสงฺฆาฏิโย. อิติ ตานิ ตีณิปิ จีวรานิ กาเย คตาเนว ภิกฺขุนิยา พินฺทุมตฺตํ กาฬกํ อุทเกน โธวิตมตฺเต นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺตีติ อตฺโถ.
อิตฺถึ หเนติ คาถาย น มาตุภูตํ อิตฺถึ หเนยฺย, น ปิตุภูตํ ปุริสํ หเนยฺย. อนริยนฺติ ตฺจ อนรหนฺตเมว หเนยฺย, เอเตน อรหนฺตฆาตโกปิ น โหตีติ ทสฺเสติ. อนนฺตรํ ผุเสติ อานนฺตริยํ ผุสตีติ อตฺโถ.
๔๘๑. สุปฺปติฏฺิต-นิคฺโรธสทิสนฺติ โยชนวิตฺถตํ รุกฺขํ สนฺธาย วุตฺตํ.
สตฺตรสเกสูติ ภิกฺขุนีนํ ปฺตฺตสตฺตรสสงฺฆาทิเสเสสุ.
ปาราชิกาทิปฺหาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจวคฺโค
กมฺมวคฺควณฺณนา
๔๘๓. กมฺมวคฺเค ¶ ¶ ปิตอุโปสถปวารณานํ กตฺติกมาเส สามคฺคิยา กตาย สามคฺคีปวารณํ มฺุจิตฺวา อุโปสถํ กาตุํ น วฏฺฏตีติ อาห ‘‘เปตฺวา กตฺติกมาส’’นฺติ. สเจ ปน เตสํ นานาสีมาสุ มหาปวารณาย วิสุํ ปวาริตานํ กตฺติกมาสพฺภนฺตเร สามคฺคี โหติ, สามคฺคีอุโปสโถ เอว เตหิ กตฺตพฺโพ, น ปวารณา. เอกสฺมึ วสฺเส กตปวารณานํ ปุน ปวารณาย อวิหิตตฺตา. สามคฺคีทิวโสติ อนุโปสถทิวเส สามคฺคีกรณํ สนฺธาย วุตฺตํ. สเจ ปน จาตุทฺทสิยํ, ปนฺนรสิยํ วา สงฺโฆ สามคฺคึ กโรติ, ตทา สามคฺคีอุโปสถทิวโส น โหติ, จาตุทฺทสีปนฺนรสีอุโปสโถว โหติ. อุปริ ปวารณายปิ เอเสว นโย.
ปจฺจุกฺกฑฺฒิตฺวา ปิตทิวโสติ ภณฺฑนการเกหิ อุปทฺทุตา วา เกนจิเทว กรณีเยน ปวารณาสงฺคหํ วา กตฺวา ปิโต กาฬปกฺขจาตุทฺทสีทิวโสว. ทฺเว จ ปุณฺณมาสิโยติ ปุพฺพ-กตฺติกปุณฺณมา, ปจฺฉิมกตฺติกปุณฺณมา จาติ ทฺเว ปุณฺณมาสิโย. เอวํ จตุพฺพิธมฺปีติ ปุณฺณมาสีทฺวเยน สทฺธึ สามคฺคีปวารณํ, จาตุทฺทสีปวารณฺจ สมฺปิณฺเฑตฺวา วุตฺตํ. อิทฺจ ปกติจาริตฺตวเสน วุตฺตํ. ตถารูปปจฺจเย ปน สติ อุภินฺนํ ปุณฺณมาสีนํ ปุริมา ทฺเว จาตุทฺทสิโยปิ กาฬปกฺขจาตุทฺทสิยา อนนฺตรา ปนฺนรสีปีติ อิเมปิ ตโย ทิวสา ปวารณาทิวสา เอวาติ อิมํ สตฺตวิธมฺปิ ปวารณาทิวสํ เปตฺวา อฺสฺมึ ทิวเส ปวาเรตุํ น วฏฺฏติ.
๔๘๔. อนุสฺสาวนกมฺมํ กตฺวาติ ปมํ อนุสฺสาวนํ สาเวตฺวา ‘‘เอสา ตฺตี’’ติ อนุสฺสาวนานนฺตรเมว สกลํ ตฺตึ วตฺวา, ปริโยสาเน ‘‘เอสา ตฺตี’’ติ วตฺวาติ อธิปฺปาโย.
๔๘๕. ยฺวายนฺติ ¶ พฺยฺชนปฺปเภโท อธิปฺเปโต. ทสธา พฺยฺชนพุทฺธิยา ปเภโทติ เอตฺถ ทสธา ทสวิเธน พฺยฺชนานํ ปเภโทติ โยเชตพฺพํ. เกนายํ ปเภโทติ อาห ‘‘พฺยฺชนพุทฺธิยา’’ติ. ยถาธิปฺเปตตฺถพฺยฺชนโต พฺยฺชนสงฺขาตานํ อกฺขรานํ ชนิกา พุทฺธิ พฺยฺชนพุทฺธิ, ตาย พฺยฺชนพุทฺธิยา ¶ , อกฺขรสมุฏฺาปกจิตฺตเภเทเนวาติ อตฺโถ. ยํ วา สํโยคปรํ กตฺวา วุจฺจติ, อิทมฺปิ ครุกนฺติ โยชนา.
ตตฺถ อายสฺมโตติอาทีสุ ยานิ อนนฺตริตานิ ส-การม-การาทิพฺยฺชนานิ ‘‘สํโยโค’’ติ วุจฺจนฺติ, โส สํโยโค ปโร ยสฺส อ-การาทิโน, โส สํโยคปโร นาม. รสฺสนฺติ อการาทิพฺยฺชนรหิตํ สรํ. อสํโยคปรนฺติ ‘‘ยสฺส นกฺขมตี’’ติอาทีสุ ย-การ น-การาทิพฺยฺชนสหิตสรํ สนฺธาย วุตฺตํ. ต-การสฺส ถ-การํ อกตฺวา วคฺคนฺตเร สิถิลเมว กตฺวา ‘‘สุณาฏุ เม’’ติอาทึ วทนฺโตปิ ทุรุตฺตํ กโรติเยว เปตฺวา อนุรูปํ อาเทสํ. ยฺหิ ‘‘สจฺจิกตฺถปรมตฺเถนา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สจฺจิกฏฺปรมฏฺเนา’’ติ จ ‘‘อตฺถกถา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘อฏฺกถา’’ติ จ ตตฺถ ตตฺถ วุจฺจติ, ตาทิสํ ปาฬิอฏฺกถาสุ ทิฏฺปโยคํ, ตทนุรูปฺจ วตฺตุํ วฏฺฏติ, ตโต อฺํ น วฏฺฏติ. เตนาห ‘‘อนุกฺกมาคตํ ปเวณึ อวินาเสนฺเตนา’’ติอาทิ.
ทีเฆ วตฺตพฺเพ รสฺสนฺติอาทีสุ ‘‘ภิกฺขูน’’นฺติ วตฺตพฺเพ ‘‘ภิกฺขุน’’นฺติ วา ‘‘พหูสู’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘พหุสู’’ติ วา ‘‘นกฺขมตี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘น ขมตี’’ติ วา ‘‘อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘อุปสมฺปทาเปโข’’ติ วา เอวํ อนุรูปฏฺาเนสุ เอว ทีฆรสฺสาทิ รสฺสทีฆาทิวเสน ปริวตฺเตตุํ วฏฺฏติ, น ปน ‘‘นาโค’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘นโค’’ติ วา ‘‘สงฺโฆ’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สโฆ’’ติ วา ‘‘ติสฺโส’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ติโส’’ติ วา ‘‘ยาจตี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ยาจนฺตี’’ติ วา เอวํ อนนุรูปฏฺาเนสุ วตฺตุํ. สมฺพนฺธํ, ปน ววตฺถานฺจ สพฺพถาปิ วฏฺฏตีติ คเหตพฺพํ.
๔๘๖. เสสสีมาสุปีติ อติมหตีอาทีสุ ทสสุปิ.
๔๘๘. จตุวคฺคกรเณติ จตุวคฺเคน สงฺเฆน กตฺตพฺเพ. อนิสฺสาริตาติ อุโปสถฏฺปนาทินา วา ลทฺธินานาสํวาสกภาเวน วา น พหิกตา. อฏฺกถายฺหิ ‘‘อปกตตฺตสฺสาติ อุกฺขิตฺตกสฺส วา, ยสฺส วา อุโปสถปวารณา ปิตา โหนฺตี’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๔๒๕) วุตฺตตฺตา ปิตอุโปสถปวารโณ ภิกฺขุ อปกตตฺโต เอวาติ คเหตพฺพํ. ปริสุทฺธสีลาติ ปาราชิกํ อนาปนฺนา อธิปฺเปตา. ปริวาสาทิกมฺเมสุ ปน ครุกฏฺาปิ อปกตตฺตา เอวาติ คเหตพฺพํ ¶ . อวเสสา…เป… ฉนฺทารหาว โหนฺตีติ สงฺฆโต ¶ หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา ิเต สนฺธาย วุตฺตํ. อวิชหิตฺวา ิตา ปน ฉนฺทารหา น โหนฺติ, เตปิ จตุวคฺคาทิโต อธิกา หตฺถปาสํ วิชหิตฺวาว ฉนฺทารหา โหนฺติ. ตสฺมา สงฺฆโต หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา ิเตเนว ฉนฺโท วา ปาริสุทฺธิ วา ทาตพฺพา.
กมฺมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
อปโลกนกมฺมกถาวณฺณนา
๔๙๖. เอตรหิ สเจปิ สามเณโรติอาทีสุ พุทฺธาทีนํ อวณฺณภาสนมฺปิ อกปฺปิยาทึ กปฺปิยาทิภาเวน ทีปนมฺปิ ทิฏฺิวิปตฺติยฺเว ปวิสติ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ตํ ลทฺธึ นิสฺสชฺชาเปตพฺโพ’’ติ. ภิกฺขูนมฺปิ เอเสว นโย. มิจฺฉาทิฏฺิโกติ พุทฺธวจนาธิปฺปายํ วิปรีตโต คณฺหนฺโต, โส เอว อนฺตคฺคาหิกาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคโตติ จ วุตฺโต. เกจิ ปน ‘‘สสฺสตุจฺเฉทานํ อฺตรทิฏฺิยา สมนฺนาคโต’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ, สสฺสตุจฺเฉทคฺคาหสฺส สามเณรานํ ลิงฺคนาสนาย การณตฺเตน เหฏฺา อฏฺกถายเมว (มหาว. อฏฺ. ๑๐๘) วุตฺตตฺตา, อิธ จ ทณฺฑกมฺมนาสนาย เอว อธิปฺเปตตฺตา.
ตสฺสาปิ ทาตพฺโพติ วิชฺชมานํ มุขราทิภาวํ นิสฺสาย อปฺปฏิปุจฺฉิตฺวาปิ ปฏิฺํ อคฺคเหตฺวาปิ อาปตฺตึ อนาโรเปตฺวาปิ เทสิตายปิ อาปตฺติยา ขุํสนาทิโต อโนรมนฺตสฺส ทาตพฺโพว. โอรมนฺตสฺส ปน ขมาเปนฺตสฺส น ทาตพฺโพ.
พฺรหฺมทณฺฑสฺส ทานนฺติ ขรทณฺฑสฺส อุกฺกฏฺทณฺฑสฺส ทานํ. ตชฺชนียาทิกมฺเม หิ กเต โอวาทานุสาสนิปฺปทานปฏิกฺเขโป นตฺถิ. ทินฺนพฺรหฺมทณฺเฑ ปน ตสฺมึ สทฺธึ ตชฺชนียาทิกมฺมกเตหิ ปฏิกฺขิตฺตมฺปิ กาตุํ น วฏฺฏติ, ‘‘เนว วตฺตพฺโพ’’ติอาทินา อาลาปสลฺลาปาทิมตฺตสฺสาปิ นกาเรน ปฏิกฺขิตฺตตฺตา. ตฺหิ ทิสฺวา ภิกฺขู คีวํ ปริวตฺเตตฺวา โอโลกนมตฺตมฺปิ น กโรนฺติ, เอวํ วิวชฺเชตพฺพํ นิมฺมทนกรณตฺถเมว ตสฺส ทณฺฑสฺส อนฺุาตตฺตา. เตเนว ฉนฺนตฺเถโรปิ อุกฺเขปนียาทิกมฺมกโตปิ อภายิตฺวา พฺรหฺมทณฺเฑ ทินฺเน ‘‘สงฺเฆนาหํ สพฺพถา วิวชฺชิโต’’ติ มุจฺฉิโต ปปติ. โย ปน พฺรหฺมทณฺฑกเตน สทฺธึ ตฺวา สํสฏฺโ อวิวชฺเชตฺวา วิหรติ, ตสฺส ทุกฺกฏเมวาติ คเหตพฺพํ อฺถา พฺรหฺมทณฺฑวิธานสฺส ¶ นิรตฺถกตาปสงฺคโต. เตนาติ พฺรหฺมทณฺฑกเตน. ยถา ตชฺชนียาทิกมฺมกเตหิ, เอวเมว ตโต อธิกมฺปิ ¶ สงฺฆํอาราเธนฺเตน สมฺมาวตฺติตพฺพํ. ตฺจ ‘‘โสรโต นิวาตวุตฺตี’’ติอาทินา สรูปโต ทสฺสิตเมว. เตนาห ‘‘สมฺมาวตฺติตฺวา ขมาเปนฺตสฺส พฺรหฺมทณฺโฑ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺโพ’’ติ.
ยํ ตํ ภควตา อวนฺทิยกมฺมํ อนฺุาตนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตสฺส ภิกฺขุโน ทณฺฑกมฺมํ กาตุ’’นฺติ สามฺโต อนฺุาตปฺปการํ ทสฺเสตฺวา ปุน วิเสสโต อนฺุาตปฺปการํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ โข’’ติอาทิปาฬิ อุทฺธฏาติ เวทิตพฺพํ. อิมสฺส อปโลกนกมฺมสฺส านํ โหตีติ อปโลกนกมฺมสฺส สามฺสฺส ปวตฺติฏฺานํ โหตีติ. วิเสสพฺยติเรเกน อวิชฺชมานมฺปิ ตทฺตฺถ อปฺปวตฺตึ ทสฺเสตุํ วิเสสนิสฺสิตํ วิย โวหรียติ. ‘‘กมฺมฺเว ลกฺขณ’’นฺติ อิมินา โอสารณาทิวเสน คหิตาวเสสานํ สพฺเพสํ อปโลกนกมฺมสฺส สามฺลกฺขณวเสน คหิตตฺตา กมฺมฺเว ลกฺขณมสฺสาติ กมฺมลกฺขณนฺติ นิพฺพจนํ ทสฺเสติ. อิทฺจ วุตฺตาวเสสานํ กมฺมานํ นิฏฺานฏฺานํ, สงฺขารกฺขนฺธธมฺมายตนานิ วิย วุตฺตาวเสสขนฺธายตนานนฺติ ทฏฺพฺพํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘อยํ ปเนตฺถ ปาฬิมุตฺตโกปิ กมฺมลกฺขณวินิจฺฉโย’’ติอาทิ (ปริ. อฏฺ. ๔๙๕-๔๙๖). ยถา เจตฺถ, เอวํ อุปริ ตฺติกมฺมาทีสุปิ กมฺมลกฺขณํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตสฺส กรณนฺติ อวนฺทิยกมฺมสฺส กรณวิธานํ.
‘‘น วนฺทิตพฺโพ’’ติ อิมินา วนฺทนฺติยา ทุกฺกฏนฺติ ทสฺเสตีติ ทฏฺพฺพํ. สงฺเฆน กตํ กติกํ ตฺวา มทฺทนํ วิย หิ สงฺฆสมฺมุตึ อนาทเรน อติกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ เอว โหติ.
ภิกฺขุสงฺฆสฺสาปิ ปเนตํ ลพฺภติเยวาติ อวนฺทิยกมฺมสฺส อุปลกฺขณมตฺเตน คหิตตฺตา ภิกฺขุสงฺฆสฺสาปิ กมฺมลกฺขณํ ลพฺภติ เอว.
สลากทานฏฺานํ สลากคฺคํ นาม. ยาคุภตฺตานํ ภาชนฏฺานานิ ยาคคฺคภตฺตคฺคานิ นาม. เอเตสุปิ หิ าเนสุ สพฺโพ สงฺโฆ อุโปสเถ วิย สนฺนิปติโต, กมฺมฺจ วคฺคกมฺมํ น โหติ, ‘‘มยเมตํ น ชานิมฺหา’’ติ ปจฺฉา ขิยฺยนฺตาปิ น โหนฺติ. ขณฺฑสีมาย ปน กเต ขิยฺยนฺติ. สงฺฆิกปจฺจยฺหิ อจฺฉินฺนจีวราทีนํ ทาตุํ อปโลเกนฺเตหิ อุปจารสีมฏฺานํ สพฺเพสํ ¶ อนุมตึ คเหตฺวาว กาตพฺพํ. โย ปน วิสภาคปุคฺคโล ธมฺมิกํ อปโลกนํ ปฏิพาหติ, ตํ อุปาเยน พหิอุปจารสีมาคตํ วา กตฺวา ขณฺฑสีมํ วา ปวิสิตฺวา กาตุํ วฏฺฏติ.
ยํ สนฺธาย ‘‘อปโลกนกมฺมํ กโรตี’’ติ สามฺโต ทสฺเสติ, ตํ อปโลกนกมฺมํ สรูปโต ¶ ทสฺเสตุมาห ‘‘อจฺฉินฺนจีวรํ’’อิจฺจาทิ. ยทิ อปโลเกตฺวาว จีวรํ ทาตพฺพํ, กึ ปน อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชกสมฺมุติยาติ อาห ‘‘อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชนเกน ปนา’’ติอาทิ. นาฬิ วา อุปฑฺฒนาฬิ วาติ ทิวเส ทิวเส อปโลเกตฺวา ทาตพฺพสฺส ปมาณทสฺสนํ. เตน ยาปนมตฺตเมว อปโลเกตพฺพํ, น อธิกนฺติ ทสฺเสติ. เอกทิวสํเยว วาติอาทิ ทสวีสติทิวสานํ เอกสฺมึ ทิวเสเยว ทาตพฺพปริจฺเฉททสฺสนํ, เตน ยาว ชีวนฺติ วา ยาว โรคา วุฏฺหตีติ วา เอวํ อปโลเกตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. อิณปลิโพธนฺติ อิณวตฺถุํ ทาตุํ วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. ตฺจ อิณายิเกหิ ปลิพุทฺธสฺส ลชฺชิเปสลสฺส สาสนุปการกสฺส ปมาณยุตฺตเมว กปฺปิยภณฺฑํ นิยเมตฺวา อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ, น ปน สหสฺสํ วา สตสหสฺสํ วา มหาอิณํ. ตาทิสฺหิ ภิกฺขาจริยวตฺเตน สพฺเพหิ ภิกฺขูหิ ตาทิสสฺส ภิกฺขุโน ปริเยสิตฺวา ทาตพฺพํ.
อุปนิกฺเขปโตติ เจติยปฏิชคฺคนตฺถาย วฑฺฒิยา ปโยเชตฺวา กปฺปิยการเกหิ ปิตวตฺถุโต. สงฺฆิเกนปีติ น เกวลฺจ ตตฺรุปฺปาทโต ปจฺจยทายเกหิ จตุปจฺจยตฺถาย สงฺฆสฺส ทินฺนวตฺถุนาปีติ อตฺโถ.
สงฺฆภตฺตํ กาตุํ น วฏฺฏตีติ มหาทานํ เทนฺเตหิปิ กริยมานํ สงฺฆภตฺตํ วิย กาเรตุํ น วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย.
‘‘ยถาสุขํ ปริภฺุชิตุํ รุจฺจตี’’ติ วุตฺตตฺตา อตฺตโน ปริโภคปฺปโหนกํ อปฺปํ วา พหุํ วา คเหตพฺพํ, อธิกํ ปน คเหตุํ น ลภติ. อุโปสถทิวเสติ นิทสฺสนมตฺตํ, ยสฺมึ กิสฺมิฺจิ ทิวเสปิ กตํ สุกตเมว โหติ. กโรนฺเตน ‘‘ยํ อิมสฺมึ วิหาเร อนฺโตสีมาย สงฺฆสนฺตกํ…เป… ยถาสุขํ ปริภฺุชิตุํ มยฺหํ รุจฺจตี’’ติ เอวํ กติกา กาตพฺพา, ตถา ทฺวีหิ ตีหิปิ ‘‘อายสฺมนฺตานํ รุจฺจตี’’ติ วจนเมว เหตฺถ วิเสโส. เตสมฺปีติ รุกฺขานํ. สา เอว กติกาติ วิสุํ กติกา น กาตพฺพาติ อตฺโถ.
เตสนฺติ ¶ รุกฺขานํ. สงฺโฆ สามีติ สมฺพนฺโธ. ปุริมวิหาเรติ ปุริเม ยถาสุขํ ปริโภคตฺถาย กตกติเก วิหาเร. ปริเวณานิ กตฺวา ชคฺคนฺตีติ ยตฺถ อรกฺขิยมาเน ผลาผลานิ, รุกฺขา จ วินสฺสนฺติ, ตาทิสํ านํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตตฺถ สงฺฆสฺส กติกา น ปวตฺตีติ อธิปฺปาโย. เย ปน รุกฺขา พีชานิ โรเปตฺวา อาทิโต ปฏฺาย ปฏิชคฺคิตา, เตปิ ทสมภาคํ ทตฺวา โรปเกเหว ปริภฺุชิตพฺพา. เตหีติ ชคฺคเกหิ.
ตตฺถาติ ¶ ตสฺมึ วิหาเร. มูเลติ อาทิกาเล, ปุพฺเพติ อตฺโถ. ทีฆา กติกาติ อปริจฺฉินฺนกาลา ยถาสุขํ ปริโภคตฺถาย กติกา. นิกฺกุกฺกุจฺเจนาติ ‘‘อภาชิตมิท’’นฺติ กุกฺกุจฺจํ อกตฺวาติ อตฺโถ. ขิยฺยนมตฺตเมเวตนฺติ เตน ขิยฺยเนน พหุํ ขาทนฺตานํ โทโส นตฺถิ อตฺตโน ปริโภคปฺปมาณสฺเสว คหิตตฺตา, ขิยฺยนฺเตปิ อตฺตโน ปโหนกํ คเหตฺวา ขาทิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.
คณฺหถาติ น วตฺตพฺพาติ ตถาวุตฺเต เตเนว ภิกฺขุนา ทินฺนํ วิย มฺเยฺยุํ, ตํ นิสฺสาย มิจฺฉาชีวสมฺภโว โหตีติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘อนุวิจริตฺวา’’ติอาทิ. อุปฑฺฒภาโคติ เอกภิกฺขุโน ปฏิวีสโต อุปฑฺฒภาโค. เทนฺเตน จ ‘‘เอตฺตกํ ทาตุํ สงฺโฆ อนฺุาสี’’ติ เอวํ อตฺตานํ ปริโมเจตฺวา ยถา เต สงฺเฆ เอว ปสีทนฺติ, เอวํ วตฺวา ทาตพฺพํ.
อปจฺจาสีสนฺเตนาติ คิลานคมิกิสฺสราทีนํ อนฺุาตปุคฺคลานมฺปิ อตฺตโน สนฺตกํ เทนฺเตน อปจฺจาสีสนฺเตเนว ทาตพฺพํ, อนนฺุาตปุคฺคลานํ ปน อปจฺจาสีสนฺเตนาปิ ทาตุํ น วฏฺฏตีติ. สงฺฆิกเมว ยถากติตาย ทาเปตพฺพํ. อตฺตโน สนฺตกมฺปิ ปจฺจยทายกาที สยเมว วิสฺสาเสน คณฺหนฺติ, น วาเรตพฺพา, ลทฺธกปฺปิยนฺติ ตุณฺหี ภวิตพฺพํ. ปุพฺเพ วุตฺตเมวาติ ‘‘กุทฺโธ หิ โส รุกฺเขปิ ฉินฺเทยฺยา’’ติอาทินา ตุณฺหีภาเว การณํ ปุพฺเพ วุตฺตเมว. เตหิ กตอนตฺถาภาเวปิ การฺุเน ตุณฺหี ภวิตุํ วฏฺฏติ, ‘‘คณฺหถา’’ติอาทิ ปน วตฺตุํ น วฏฺฏติ.
ครุภณฺฑตฺตา…เป… น ทาตพฺพนฺติ ชีวรุกฺขานํ อารามฏฺานียตฺตา, ทารูนฺจ เคหสมฺภารานุปคตตฺตา ‘‘สพฺพํ ตฺวเมว คณฺหา’’ติ ทาตุํ น วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. อกตาวาสํ วา กตฺวาติ ปุพฺเพ อวิชฺชมานํ เสนาสนํ กตฺวา ชคฺคิตกาเล ผลวาเร สมฺปตฺเต.
อปโลกนกมฺมกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อตฺถวสวคฺคาทิวณฺณนา
๔๙๘. วิปากทุกฺขสงฺขาตานํ ¶ สมฺปรายิกเวรานนฺติ เอตฺถ ปาณาติปาตาทิเวเรน นิพฺพตฺตตฺตา, เวรปฺปตฺติยา เหตุตฺตา จ ‘‘วิปากทุกฺขเวทนา’’ติ วุตฺตา. ปาณาติปาตาทิปฺจเวรวินิมุตฺตานมฺปิ อกุสลานํ เวเรหิ สห เอกโต สงฺคณฺหนตฺถํ ‘‘ทสอกุสลกมฺมปถปฺปเภทาน’’นฺติ ปุน วุตฺตํ.
๔๙๙-๕๐๐. ตํ ¶ กมฺมนฺติ ตชฺชนียาทิกมฺมเมว, สตฺตา อาปตฺติกฺขนฺธา ปฺตฺตํ นามาติ สมฺพนฺโธ. อนฺตรา เกนจิ อปฺตฺเต สิกฺขาปเทติ อิมสฺมึ กปฺเป อาทิโต ปฏฺาย ยาว อมฺหากํ ภควโต อภิสมฺโพธิ, ตาว อนฺตรากาเล กกุสนฺธาทึ เปตฺวา เกนจิ อปฺตฺเต สิกฺขาปเทติ อตฺโถ. วินีตกถา สิกฺขาปทนฺติ วินีตวตฺถูนิ เอว. ตานิ หิ ตํตํสิกฺขาโกฏฺาสานํ ปกาสนโต ‘‘สิกฺขาปท’’นฺติ จ อาปตฺติอนาปตฺตีนํ อนุปฺาปนโต ‘‘อนุปฺตฺต’’นฺติ จ วุจฺจนฺติ.
อตฺถวสวคฺคาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
สงฺคหวคฺควณฺณนานโย นิฏฺิโต.
อิติ มหาวคฺโค, ปฺตฺติวคฺโค, สงฺคหวคฺโคติ ตีหิ มหาวคฺเคหิ ปฏิมณฺฑิโต ปริวาโรติ เวทิตพฺโพ.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
ปริวารวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
นิคมนกถาวณฺณนา
อวสานคาถาสุ ¶ อุภโตวิภงฺค-ขนฺธก-ปริวาเรหิ วิภตฺตตฺตา วิภาคปฏิเทสนา ยสฺมึ วินยปิฏเก. โส อุภโตวิภงฺค-ขนฺธก-ปริวารวิภตฺตเทสโน อาหาติ โยชนา. ตสฺสาติ วินยปิฏกสฺส.
สตฺถุ มหาโพธีติ ทกฺขิณสาขํ สนฺธาย วทติ. ยํ ปธานฆรํ นาม ปริเวณํ, ตตฺถ จารุปากาเรน สฺจิตํ ปริกฺขิตฺตํ ยํ ปาสาทํ การยิ, ตตฺร ตสฺมึ มหานิคมสามิโน ปาสาเท วสตาติ โยเชตพฺพา.
พุทฺธสิรึ อุทฺทิสิตฺวา นิสฺสาย, ตสฺส วา อชฺเฌสนมฺปิ ปฏิจฺจ ยา อิทฺธา ปริปุณฺณวินิจฺฉยตาย สมิทฺธา วินยสํวณฺณนา อารทฺธาติ โยชนา.
สิรินิวาสสฺสาติ สิริยา นิวาสนฏฺานภูตสฺส สิริปาลนามกสฺส รฺโ. ชยสํวจฺฉเรติ วิชยยุตฺเต สํวจฺฉเร. อารทฺธกาลทสฺสนตฺถํ ปุน ‘‘ชยสํวจฺฉเร อยํ อารทฺธา’’ติ วุตฺตํ.
กาเล ¶ วสฺสนฺติ ยุตฺตกาเล วสฺสนสีโล. เทโวติ เมโฆ.
นิคมนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิคมนกถา
เอตฺตาวตา ¶ จ อารทฺธา, วินยฏฺกถาย ยา;
วณฺณนา นาติวิตฺถิณฺณา, ปริปุณฺณวินิจฺฉยา.
ปฺาสภาณวาราย, ตนฺติยา ปริมาณโต;
สมิชฺฌนิฏฺิปรมา, ยา วิมติวิโนทนี.
อนนฺตราเยน กตา, อยํ นิฏฺมุปาคตา;
ยํ ตํ นิฏฺํ ตถา สพฺเพ, ปาณิโน สมโนรถา.
เถเรหิ วินยฺูหิ, สุจิสลฺเลขวุตฺติหิ;
อวิสฺสตฺถาติวิตฺถิณฺณ-คนฺถภีรู หิปตฺถิตํ.
กโรนฺเตน มยา เอวํ, วินยอตฺถวณฺณนํ;
ยํ ปตฺตํ กุสลํ เตน, ปตฺวา สมฺโพธิมุตฺตมํ.
วินยตฺถํ ปกาเสตฺวา, โย โสปาเยน ลกฺขณํ;
โสปายํ วิมติจฺเฉท-าณจกฺขุปทายกํ.
วิรทฺธตฺถวิปลฺลาส-คนฺถวิตฺถารหานิยา;
วิสุทฺธึ ปาปยิสฺสามิ, สตฺเต สํสารทุกฺขโต.
โลกิเยหิ จ โภเคหิ, คุเณหิ นิขิลา ปชา;
สพฺเพหิ สหิตา โหนฺตุ, รตา สมฺพุทฺธสาสเนติ.
วิมติวิโนทนีฏีกา นิฏฺิตา.