📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
วินยปิฏเก
วิมติวิโนทนี-ฏีกา (ปโม ภาโค)
คนฺถารมฺภกถา
กรุณาปุณฺณหทยํ ¶ ¶ , สุคตํ หิตทายกํ;
นตฺวา ธมฺมฺจ วิมลํ, สงฺฆฺจ คุณสมฺปทํ.
วณฺณนา นิปุณาเหสุํ, วินยฏฺกถาย ยา;
ปุพฺพเกหิ กตา เนกา, นานานยสมากุลา.
ตตฺถ ¶ กาจิ สุวิตฺถิณฺณา, ทุกฺโขคาหา จ คนฺถโต;
วิรทฺธา อตฺถโต จาปิ, สทฺทโต จาปิ กตฺถจิ.
กาจิ กตฺถจิ อปุณฺณา, กาจิ สมฺโมหการินี;
ตสฺมา ตาหิ สมาทาย, สารํ สงฺเขปรูปโต.
ลีนตฺถฺจ ปกาเสนฺโต, วิรทฺธฺจ วิโสธยํ;
อุปฏฺิตนยฺจาปิ, ตตฺถ ตตฺถ ปกาสยํ.
วินเย วิมตึ เฉตุํ, ภิกฺขูนํ ลหุวุตฺตินํ;
สงฺเขเปน ลิขิสฺสามิ, ตสฺสา ลีนตฺถวณฺณนํ.
คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา
วินยสํวณฺณนารมฺเภ รตนตฺตยํ นมสฺสิตุกาโม ตสฺส วิสิฏฺคุณโยคสนฺทสฺสนตฺถํ โย กปฺปโกฏีหิปีติอาทิมาห. วิสิฏฺคุณโยเคน หิ วนฺทนารหภาโว, วนฺทนารเห จ กตา วนฺทนา ยถาธิปฺเปตมตฺถํ สาเธติ ¶ . เอตฺถ จ สํวณฺณนารมฺเภ รตนตฺตยปณามกรณปฺปโยชนํ ตตฺถ ตตฺถ พหุธา ปปฺเจนฺติ อาจริยา, มยํ ปน อิธาธิปฺเปตเมว ปโยชนํ ทสฺสยิสฺสาม. ตสฺมา สํวณฺณนารมฺเภ รตนตฺตยปณามกรณํ ยถาปฏิฺาตสํวณฺณนาย อนนฺตราเยน ปริสมาปนตฺถนฺติ เวทิตพฺพํ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ตสฺสานุภาเวน หตนฺตราโย’’ติ. รตนตฺตยปณามกรเณน หิ ราคาทิโทสวิคมโต ปฺาทิคุณปาฏวโต อายุอาทิวฑฺฒนโต ปฺุาติสยภาวาทิโต จ โหเตว ยถาปฏิฺาตสํวณฺณนาย อนนฺตราเยน ปริสมาปนํ.
ตตฺถ ปมํ ตาว ภควโต วนฺทนํ กตฺตุกาโม ‘‘โย กปฺปโกฏีหิปิ…เป… ตสฺสา’’ติ อาห. อิมิสฺสา ปน วินยเทสนาย กรุณาปฺปธานาณสมุฏฺิตตาย กรุณาปฺปธานเมว โถมนํ อารทฺธํ. เอสา หิ อาจริยสฺส ปกติ, ยทิทํ อารมฺภานุรูปโถมนา. กรุณาคฺคหเณน เจตฺถ อปริเมยฺยปฺปภาวา สพฺเพปิ พุทฺธคุณา นยโต สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา ตํมูลกตฺตา เสสพุทฺธคุณานํ. ตตฺถ โยติ อิมสฺส อนิยมวจนสฺส นาโถติ อิมินา สมฺพนฺโธ. กปฺปโกฏีหิปิ อปฺปเมยฺยํ กาลนฺติ ¶ กปฺปโกฏิคณนาวเสนปิ ‘‘เอตฺตกา กปฺปโกฏิโย’’ติ ปเมตุํ อสกฺกุเณยฺยํ กาลํ. อปิ-สทฺเทน ปเคว วสฺสคณนายาติ ทสฺเสติ. อปฺปเมยฺยํ กาลนฺติ จ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ, เตน กปฺปโกฏิคณนาวเสน ปริจฺฉินฺทิตุมสกฺกุเณยฺยมปิ, อสงฺขฺเยยฺยวเสน ปน ปริจฺฉินฺทิตพฺพโต สลกฺขํ จตุรสงฺขฺเยยฺยกปฺปกาลํ อจฺจนฺตเมว นิรนฺตรํ ปฺจมหาปอจฺจาคาทิอติทุกฺกรานิ กโรนฺโต เขทํ กายิกํ ปริสฺสมํ ปตฺโตติ ทสฺเสติ.
โลกหิตายาติ สตฺตโลกสฺส หิตาย. นาถตีติ นาโถ, เวเนยฺยานํ หิตสุขํ อาสีสตีติ อตฺโถ. อถ วา นาถติ เวเนยฺยคเต กิเลเส อุปตาเปติ, นาถติ วา ยาจติ เวเนยฺเย อตฺตโน หิตกรเณ ยาจิตฺวาปิ นิโยเชตีติ นาโถ, โลกปฏิสรโณ โลกสามี โลกนายโกติ วุตฺตํ โหติ. มหาการุณิกสฺสาติ โย กรุณาย กมฺปิตหทยตฺตา โลกหิตตฺถํ อติทุกฺกรกิริยาย อเนกปฺปการํ ตาทิสํ ทุกฺขํ อนุภวิตฺวา อาคโต, ตสฺส มหาการุณิกสฺสาติ อตฺโถ. ตตฺถ กิรตีติ กรุณา, ปรทุกฺขํ วิกฺขิปติ อปเนตีติ อตฺโถ. ทุกฺขิเตสุ วา กิริยติ ปสาริยตีติ กรุณา. อถ วา กิณาตีติ กรุณา, ปรทุกฺเข สติ การุณิกํ ¶ หึสติ วิพาเธติ, วินาเสติ วา ปรสฺส ทุกฺขนฺติ อตฺโถ. ปรทุกฺเข สติ สาธูนํ กมฺปนํ หทยเขทํ กโรตีติ วา กรุณา. อถ วา กมิติ สุขํ, ตํ รุนฺธตีติ กรุณา. เอสา หิ ปรทุกฺขาปนยนกามตาลกฺขณา อตฺตสุขนิรเปกฺขตาย การุณิกานํ สุขํ รุนฺธติ วิพาเธติ. กรุณาย นิยุตฺโต การุณิโก, มหนฺโต การุณิโก มหาการุณิโก, ตสฺส นโม อตฺถูติ ปาเสโส.
เอวํ กรุณามุเขน สงฺเขปโต สกลสพฺพฺุคุเณหิ ภควนฺตํ โถเมตฺวา อิทานิ สทฺธมฺมํ โถเมตุํ อสมฺพุธนฺติอาทิมาห. ตตฺถ พุทฺธนิเสวิตํ ยํ อสมฺพุธํ ชีวโลโก ภวา ภวํ คจฺฉติ, ตสฺส ธมฺมวรสฺส นโมติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ อสมฺพุธนฺติ อสมฺพุชฺฌนฺโต, ยถาสภาวํ อปฺปฏิวิชฺฌนโตติ วุตฺตํ โหติ. เหตุอตฺโถ เหตฺถ อนฺตปจฺจโย. ยนฺติ อนิยมโต สปริยตฺติโก นวโลกุตฺตรธมฺโม กมฺมภาเวน นิทฺทิฏฺโ. พุทฺธนิเสวิตนฺติ ตสฺเสว วิเสสนํ, สมฺมาสมฺพุทฺเธน, ปจฺเจกพุทฺธสาวกพุทฺเธหิปิ วา โคจราเสวนภาวนาเสวนาหิ ยถารหํ นิเสวิตํ, อชหิตนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ ปริยตฺติผลนิพฺพานานิ โคจราเสวนวเสเนว นิเสวิตานิ, มคฺโค ปน ภาวนาเสวนวเสนาปิ ปจฺจเวกฺขณาณาทิวเสน โคจราเสวนวเสนาปิ นิเสวิโต. ภวาภวนฺติ ภวโต ภวํ. อถ วา หีนปณีตาทิวเสน ขุทฺทกํ มหนฺตฺจ ภวนฺติ อตฺโถ. วุฑฺฒตฺโถปิ หิ อ-กาโร ทิสฺสติ อเสกฺขา ธมฺมาติอาทีสุ (ธ. ส. ติกมาติกา ๑๑) วิย. อถ วา ภโวติ วุฑฺฒิ, อภโวติ หานิ. ภโวติ วา สสฺสตทิฏฺิ, อภโวติ อุจฺเฉททิฏฺิ ¶ . วุตฺตปฺปกาโร ภโว จ อภโว จ ภวาภโว, ตํ ภวาภวํ. คจฺฉตีติ อุปคจฺฉติ. ชีวโลโกติ สตฺตโลโก. อวิชฺชาทิกิเลสชาลวิทฺธํสิโนติ ธมฺมวิเสสนํ. ตตฺถ น วิทติ ธมฺมานํ ยถาสภาวํ น วิชานาตีติ อวิชฺชา, อฺาณํ. สา อาทิ เยสํ ตณฺหาทีนํ, เตเยว กิลิสฺสนฺติ เอเตหิ สตฺตาติ กิเลสา, เตเยว จ สตฺตานํ วิพาธนฏฺเน ชาลสทิสาติ ชาลํ, ตํ วิทฺธํเสติ สพฺพโส วินาเสติ สีเลนาติ อวิชฺชาทิกิเลสชาลวิทฺธํสี, ตสฺส.
นนุ เจตฺถ สปริยตฺติโก นวโลกุตฺตรธมฺโม อธิปฺเปโต, ตตฺถ จ มคฺโคเยว กิเลเส วิทฺธํเสติ, เนตเรติ เจ? วุจฺจเต – มคฺคสฺสาปิ นิพฺพานมาคมฺม ¶ กิเลสวิทฺธํสนโต นิพฺพานมฺปิ กิเลเส วิทฺธํเสติ นาม, มคฺคสฺส กิเลสวิทฺธํสนกิจฺจํ ผเลน นิฏฺิตนฺติ ผลมฺปิ ‘‘กิเลสวิทฺธํสี’’ติ วุจฺจติ, ปริยตฺติธมฺโมปิ กิเลสวิทฺธํสนสฺส อุปนิสฺสยปจฺจยตฺตา ‘‘กิเลสวิทฺธํสี’’ติ วตฺตุํ อรหตีติ น โกจิ โทโส. ธมฺมวรสฺส ตสฺสาติ ปุพฺเพ อนิยมิตสฺส นิยามกวจนํ. ตตฺถ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน จตูสุ อปาเยสุ สํสารทุกฺเข จ อปตมาเน ธาเรตีติ ธมฺโม. วุตฺตปฺปกาโร ธมฺโม เอว อตฺตโน อุตฺตริตราภาเวน วโร ปวโร อนุตฺตโรติ ธมฺมวโร, ตสฺส ธมฺมวรสฺส นโม อตฺถูติ อตฺโถ.
เอวํ สงฺเขปนเยเนว สพฺพธมฺมคุเณหิ สทฺธมฺมํ โถเมตฺวา อิทานิ อริยสงฺฆํ โถเมตุํ คุเณหีติอาทิมาห. ตตฺถ คุเณหิ โย ยุตฺโต, ตมริยสงฺฆํ นมามีติ สมฺพนฺโธ. สีลาทโย คุณา เจตฺถ โลกิยโลกุตฺตรา อธิปฺเปตา. ‘‘วิมุตฺติวิมุตฺติาณ’’นฺติ วตฺตพฺเพ เอกเทสสรูเปกเสสนเยน ‘‘วิมุตฺติาณ’’นฺติ วุตฺตํ, อาทิสทฺทปริยาเยน ปภุติสทฺเทน วา วิมุตฺติคฺคหณํ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ วิมุตฺตีติ ผลํ. วิมุตฺติาณนฺติ ปจฺจเวกฺขณาณํ. ปภุติ-สทฺเทน ฉฬภิฺาจตุปฏิสมฺภิทาทโย คุณา สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา. กุสลตฺถิกานํ ชนานํ ปฺุาติสยวุฑฺฒิยา เขตฺตสทิสตฺตา เขตฺตนฺติ อาห ‘‘เขตฺตํ ชนานํ กุสลตฺถิกาน’’นฺติ. ขิตฺตํ พีชํ มหปฺผลภาวกรเณน ตายตีติ หิ เขตฺตํ. อริยสงฺฆนฺติ เอตฺถ อารกตฺตา กิเลเสหิ, อนเย น อิริยนโต, อเย จ อิริยนโต, สเทวเกน โลเกน ‘‘สรณ’’นฺติ อรณียโต อุปคนฺตพฺพโต, อุปคตานฺจ ตทตฺถสิทฺธิโต อริยา, อฏฺ อริยปุคฺคลา, อริยานํ สงฺโฆ สมูโหติ อริยสงฺโฆ, ตํ อริยสงฺฆํ.
อิทานิ รตนตฺตยปณามชนิตํ กุสลาภิสนฺทํ ยถาธิปฺเปเต ปโยชเน นิโยเชตฺวา อตฺตนา สํวณฺณิยมานสฺส วินยสฺส สกลสาสนมูลภาวทสฺสนมุเขน สํวณฺณนากรณสฺสาปิ สาสนมูลตํ ¶ ทสฺเสตุํ อิจฺเจวมิจฺจาทิคาถาทฺวยมาห. ปฺุาภิสนฺทนฺติ ปฺุโฆํ, ปฺุปฺปวาหํ ปฺุราสินฺติ อตฺโถ. ตสฺสานุภาเวนาติ ตสฺส ยถาวุตฺตสฺส ปฺุปฺปวาหสฺส อานุภาเวน พเลน หตนฺตราโย วินยํ วณฺณยิสฺสนฺติ สมฺพนฺโธ.
อฏฺิตสฺส สุสณฺิตสฺส ภควโต สาสนํ ยสฺมึ ิเต ปติฏฺิตํ โหตีติ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ ยสฺมินฺติ ยสฺมึ วินยปิฏเก. ิเตติ ปาฬิโต จ อตฺถโต จ อนูนํ หุตฺวา ลชฺชีปุคฺคเลสุ ปวตฺตนฏฺเน ิเต. สาสนนฺติ ¶ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ สาสนํ. อฏฺิตสฺสาติ กามสุขลฺลิกตฺตกิลมถานุโยคสงฺขาเต อนฺตทฺวเย อฏฺิตสฺส, ‘‘ปรินิพฺพุตสฺสปิ ภควโต’’ติปิ วทนฺติ. สุสณฺิตสฺสาติ อนฺตทฺวยวิรหิตาย มชฺฌิมาย ปฏิปทาย สุฏฺุ ิตสฺส. อมิสฺสนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส, นิกายนฺตรลทฺธีหิ อสมฺมิสฺสํ กตฺวา อนากุลํ กตฺวา วณฺณยิสฺสนฺติ วุตฺตํ โหติ. นิสฺสาย ปุพฺพาจริยานุภาวนฺติ ปุพฺพาจริเยหิ สํวณฺณิตํ อฏฺกถํ นิสฺสาย, น อตฺตโน พเลนาติ อธิปฺปาโย.
อถ โปราณฏฺกถาสุ วิชฺชมานาสุ ปุน วินยสํวณฺณนา กึปโยชนาติ? อาห กามฺจาติอาทิ. ตตฺถ กามนฺติ เอกนฺเตน, ยถิจฺฉกํ วา, สพฺพโสติ วุตฺตํ โหติ, ตสฺส สํวณฺณิโตยํ วินโยติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ปุพฺพาจริยาสเภหีติ มหากสฺสปตฺเถราทโย ปุพฺพาจริยา เอว อกมฺปิยฏฺเน อุตฺตมฏฺเน จ อาสภา, เตหิ ปุพฺพาจริยวเรหีติ วุตฺตํ โหติ. กีทิสา ปน เต ปุพฺพาจริยาติ? อาห าณมฺพูติอาทิ. อคฺคมคฺคาณสงฺขาเตน อมฺพุนา สลิเลน นิทฺโธตานิ นิสฺเสสโต อายตึ อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทเนน โธตานิ วิโสธิตานิ ราคาทีนิ ตีณิ มลานิ กามาสวาทโย จ จตฺตาโร อาสวา เยหิ เต าณมฺพุนิทฺโธตมลาสวา, เตหิ ขีณาสเวหีติ อตฺโถ. ขีณาสวภาเวปิ น เอเต สุกฺขวิปสฺสกาติ อาห ‘‘วิสุทฺธวิชฺชาปฏิสมฺภิเทหี’’ติ. ตตฺถ วิชฺชาติ ติสฺโส วิชฺชา, อฏฺ วิชฺชา วา. ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺเตสุปิ มหากสฺสปตฺเถราทีนํ อุจฺจินิตฺวา คหิตตาย เตสํ สทฺธมฺมสํวณฺณเน สามตฺถิยํ สาติสยนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สทฺธมฺมสํวณฺณนโกวิเทหี’’ติ.
กิเลสชาตํ, ปริกฺขารพาหุลฺลํ วา สลฺลิขติ ตนุํ กโรตีติ สลฺเลโข, อปฺปิจฺฉตาทิคุณสมูโห, อิธ ปน ขีณาสวาธิการตฺตา ปริกฺขารพาหุลฺลสฺส สลฺลิขนวเสเนว อตฺโถ คเหตพฺโพ. สลฺเลเขน นิพฺพตฺตํ สลฺเลขิยํ, ตสฺมึ สลฺเลขิเย, ธุตงฺคปริหรณาทิสลฺเลขปอปตฺติยนฺติ วุตฺตํ โหติ. โนสุลภูปเมหีติ สลฺเลขปฏิปตฺติยา ‘‘อสุกสทิสา’’ติ นตฺถิ สุลภา อุปมา เอเตสนฺติ โนสุลภูปมา, เตหิ. มหาวิหารสฺสาติ อิมินา นิกายนฺตรํ ปฏิกฺขิปติ ¶ . วิหารสีเสน เหตฺถ ตตฺถ นิวาสีนฺเจว เตหิ สมลทฺธิกานฺจ สพฺเพสํ ภิกฺขูนํ คหณํ ทฏฺพฺพํ. ตสฺมา เตสํ มหาวิหารวาสีนํ ทิฏฺิสีลวิสุทฺธิยา ปภวตฺเตน สฺาณภูตตฺตา ¶ ธมฺมสงฺคาหกา มหากสฺสปตฺเถราทโย ‘‘มหาวิหารสฺส ธชูปมา’’ติ วุตฺตา, เตหิ อยํ วินโย สํวณฺณิโต สมฺมา อนูนํ กตฺวา วณฺณิโต. กถนฺติ อาห ‘‘จิตฺเตหิ นเยหี’’ติ. วิจิตฺเตหิ นเยหิ สมฺพุทฺธวรนฺวเยหิ สพฺพฺุพุทฺธวรํ อนุคเตหิ, ภควโต อธิปฺปายานุคเตหิ นเยหีติ วุตฺตํ โหติ.
เอวํ โปราณฏฺกถาย อนูนภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺตโน สํวณฺณนาย ปโยชนวิเสสํ อชฺเฌสกฺจ ทสฺเสตุํ สํวณฺณนาติอาทิมาห. ตตฺถ สงฺขตตฺตาติ รจิตตฺตา. น กฺจิ อตฺถํ อภิสมฺภุณาตีติ น กฺจิ อตฺถํ สาเธติ.
สํวณฺณนํ ตฺจาติอาทินา อตฺตโน สํวณฺณนาย กรณปฺปการํ ทสฺเสติ. ตตฺถ ตฺจ อิทานิ วุจฺจมานํ สํวณฺณนํ สมารภนฺโต สกลายปิ มหาอฏฺกถาย อิธ คเหตพฺพโต มหาอฏฺกถํ ตสฺสา อิทานิ วุจฺจมานาย สํวณฺณนาย สรีรํ กตฺวา มหาปจฺจริยํ โย วินิจฺฉโย วุตฺโต, ตเถว กุรุนฺทีนามาทีสุ วิสฺสุตาสุ อฏฺกถาสุ โย วินิจฺฉโย วุตฺโต, ตโตปิ วินิจฺฉยโต ยุตฺตมตฺถํ อปริจฺจชนฺโต อนฺโตคธตฺเถรวาทํ กตฺวา สํวณฺณนํ สมฺมา สมารภิสฺสนฺติ ปทตฺถสมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ อตฺโถ กถียติ เอตายาติ อฏฺกถา ตฺถ-การสฺส ฏฺ-การํ กตฺวา. มหาปจฺจริยนฺติ มหาปจฺจรีนามิกํ. เอตฺถ จ ปจฺจรีติ อุฬุมฺปํ วุจฺจติ, ตสฺมึ นิสีทิตฺวา กตตฺตา ตเมว นามํ ชาตํ. ‘‘กุรุนฺทีวลฺลิวิหาโร นาม อตฺถิ, ตตฺถ กตตฺตา ‘กุรุนฺที’ติ นามํ ชาต’’นฺติ วทนฺติ. อาทิสทฺเทน อนฺธกฏฺกถํ สงฺเขปฏฺกถฺจ สงฺคณฺหาติ.
ยุตฺตมตฺถนฺติ มหาอฏฺกถานเยน, จตุพฺพิธวินยยุตฺติยา วา ยุตฺตมตฺถํ. ‘‘อฏฺกถํเยว คเหตฺวา สํวณฺณนํ กริสฺสามี’’ติ วุตฺเต อฏฺกถาสุ วุตฺตตฺเถรวาทานํ พาหิรภาโว สิยาติ เตปิ อนฺโตกตฺตุกาโม ‘‘อนฺโตคธเถรวาท’’นฺติ อาห, เถรวาเทปิ อนฺโตกตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.
ตํ เมติ คาถาย โสตูหิ ปฏิปชฺชิตพฺพวิธึ ทสฺเสติ. ตตฺถ ธมฺมปฺปทีปสฺสาติ ธมฺโม เอว โมหนฺธการวิทฺธํสนโต ปทีปสทิสตฺตา ปทีโป อสฺสาติ ธมฺมปฺปทีโป, ภควา, ตสฺส. ปติมานยนฺตาติ ปูเชนฺตา มนสา ครุํ กโรนฺตา นิสาเมนฺตุ สุณนฺตุ.
พุทฺเธนาติอาทินา ¶ อตฺตโน สํวณฺณนาย อาคมนสุทฺธิทสฺสนมุเขน ปมาณภาวํ ทสฺเสตฺวา อนุสิกฺขิตพฺพตํ ¶ ทสฺเสติ. ตตฺถ ยเถว พุทฺเธน โย ธมฺโม วินโย จ วุตฺโต, โส ตสฺส พุทฺธสฺส เยหิ ปุตฺเตหิ มหากสฺสปตฺเถราทีหิ ตเถว าโต, เตสํ พุทฺธปุตฺตานํ มติมจฺจชนฺตา สีหฬฏฺกถาจริยา ยสฺมา ปุเร อฏฺกถา อกํสูติ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ธมฺโมติ สุตฺตาภิธมฺเม สงฺคณฺหาติ. วินโยติ สกลํ วินยปิฏกํ. วุตฺโตติ ปาฬิโต จ อตฺถโต จ พุทฺเธน ภควตา วุตฺโต. น หิ ภควตา อพฺยากตํ นาม ตนฺติปทํ อตฺถิ, ตตฺถ ตตฺถ ภควตา ปวตฺติตปกิณฺณกเทสนาเยว หิ อฏฺกถา. ตเถว าโตติ ยเถว พุทฺเธน วุตฺโต, ตเถว เอกปทมฺปิ เอกกฺขรมฺปิ อวินาเสตฺวา อธิปฺปายฺจ อวิโกเปตฺวา าโต วิทิโตติ อตฺโถ. เตสํ มติมจฺจชนฺตาติ เตสํ พุทฺธปุตฺตานํ มติสงฺขาตํ เถรปรมฺปราย อุคฺคเหตฺวา อาภตํ อพฺโพจฺฉินฺนํ ปาฬิวณฺณนาวเสน เจว ปาฬิมุตฺตกวเสน จ ปวตฺตํ สพฺพํ อฏฺกถาวินิจฺฉยํ อปริจฺจชนฺตา. อฏฺกถา อกํสูติ มหาอฏฺกถามหาปจฺจริอาทิกา สีหฬฏฺกถาโย อกํสุ. ‘‘อฏฺกถามกํสู’’ติปิ ปาโ, ตตฺถาปิ โสเยวตฺโถ.
ตสฺมาติ ยสฺมา เตสํ พุทฺธปุตฺตานํ อธิปฺปายํ อวิโกเปตฺวา ปุเร อฏฺกถา อกํสุ, ตสฺมา. ยํ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ, ตํ สพฺพมฺปิ ปมาณนฺติ โยชนา. หีติ นิปาตมตฺตํ เหตุอตฺถสฺส ตสฺมาติ อิมินาเยว ปกาสิตตฺตา, อวธารณตฺโถ วา, ปมาณเมวาติ. ยทิ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ สพฺพมฺปิ ปมาณํ, เอวํ สติ ตตฺถ ปมาทเลขาปิ ปมาณํ สิยาติ อาห ‘‘วชฺชยิตฺวาน ปมาทเลข’’นฺติ, อปราปรํ ลิขนฺเตหิ ปมาเทน สตึ อปจฺจุปฏฺเปตฺวา อฺตฺถ ลิขิตพฺพํ อฺตฺถ ลิขนาทิวเสน ปวตฺติตา ปมาทเลขา นาม, สา จ สมนฺตปาสาทิกายํ ตตฺถ ตตฺถ สยเมว อาวิภวิสฺสติ. ปุน ยสฺมาติ ปทสฺส สมฺพนฺธทสฺสนวเสน อยํ อตฺถโยชนา – ยสฺมา อฏฺกถาสุ วุตฺตํ อิธ อิมสฺมึ สาสเน สิกฺขาสุ สคารวานํ ปณฺฑิตานํ ปมาณเมว, ยสฺมา จ อยํ วณฺณนาปิ ภาสนฺตรปริจฺจาคาทิมตฺตวิสิฏฺตาย อตฺถโต อภินฺนา, ตโต เอว ปมาณภูตาว เหสฺสติ, ตสฺมา อนุสิกฺขิตพฺพาติ.
ตโตติ ตาหิ อฏฺกถาหิ. ภาสนฺตรเมว หิตฺวาติ สีหฬภาสํเยว อปเนตฺวา. วิตฺถารมคฺคฺจ สมาสยิตฺวาติ โปราณฏฺกถาสุ ยถาาเน ¶ วตฺตพฺพมฺปิ ปทตฺถวินิจฺฉยาทิกํ อติวิตฺถิณฺเณน วจนกฺกเมน เจว วุตฺตเมว อตฺถนยํ อปฺปมตฺตกวิเสเสน ปุนปฺปุนํ กถเนน จ ตตฺถ ตตฺถ ปปฺจิตํ ตาทิสํ วิตฺถารมคฺคํ ปหาย สลฺลหุเกน อตฺถวิฺาปเกน ปทกฺกเมน เจว วุตฺตนยสทิสํ วตฺตพฺพํ อติทิสิตฺวา จ สงฺเขปนเยเนว วณฺณยิสฺสามาติ อธิปฺปาโย. สารตฺถทีปนิยํ ปน วินยฏีกายํ ‘‘โปราณฏฺกถาสุ อุปริ วุจฺจมานมฺปิ อาเนตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ปปฺจิตํ ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน…เป… อุปสมฺปนฺโนติ ภิกฺขูติ เอตฺถ อปโลกนาทีนํ จตุนฺนมฺปิ ¶ กมฺมานํ วิตฺถารกถา วิย ตาทิสํ วิตฺถารมคฺคํ สงฺขิปิตฺวา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ตนฺติกฺกมํ กฺจิ อโวกฺกมิตฺวาติ เอตฺเถว วตฺตุํ ยุตฺตํ. อฺตฺถ ปาฬิยา วตฺตพฺพํ อฺตฺถ กถนฺหิ ตนฺติกฺกมํ โวกฺกมิตฺวา กถนํ นาม. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ตเถว วณฺณิตุํ ยุตฺตรูปํ หุตฺวา อนุกฺกเมน อาคตํ ปาฬึ ปริจฺจชิตฺวา สํวณฺณนโต สีหฬฏฺกถาสุ อยุตฺตฏฺาเน วณฺณิตํ ยถาาเนเยว วณฺณนโต จ วุตฺตํ ‘ตนฺติกฺกมํ กฺจิ อโวกฺกมิตฺวา’’’ติ. ตสฺมา ยถาวุตฺตนเยเนว อตฺโถ คเหตพฺโพ. กถํ ปน วิตฺถารมคฺคสฺส สงฺขิปเน วินิจฺฉโย น หียตีติ? อาห ‘‘วินิจฺฉยํ สพฺพมเสสยิตฺวา’’ติ. สงฺขิปนฺโตปิ ปุนปฺปุนํ วจนาทิเมว สงฺขิปนฺโต, วินิจฺฉยํ ปน อฏฺกถาสุ สพฺพาสุปิ วุตฺตํ สพฺพมฺปิ อเสสยิตฺวา, กิฺจิมตฺตมฺปิ อปริหาเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ตนฺติกฺกมํ กฺจิ อโวกฺกมิตฺวาติ กฺจิ ปาฬิกฺกมํ อนติกฺกมิตฺวา, อนุกฺกเมเนว ปาฬึ วณฺณยิสฺสามาติ อตฺโถ.
สุตฺตนฺติกานํ วจนานมตฺถนฺติ เวรฺชกณฺฑาทีสุ อาคตานํ ฌานกถาทีนํ สุตฺตนฺตวจนานํ สีหฬฏฺกถาสุ ‘‘สุตฺตนฺติกานํ ภาโร’’ติ วตฺวา อวณฺณิตพฺพฏฺานํ อตฺถํ ตํตํสุตฺตานุรูปํ สพฺพโส ปริทีปยิสฺสามาติ อธิปฺปาโย. เหสฺสตีติ ภวิสฺสติ, กรียิสฺสตีติ วา อตฺโถ. เอตฺถ จ ปมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป ‘‘ภาสนฺตรปริจฺจาคาทิกํ จตุพฺพิธํ กิจฺจํ นิปฺผาเทตฺวา สุตฺตนฺติกานํ วจนานมตฺถํ ปริทีปยนฺตี อยํ วณฺณนา ภวิสฺสตี’’ติ วณฺณนาวเสน สมานกตฺตุกตา เวทิตพฺพา. ปจฺฉิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป ปน ‘‘เหฏฺา วุตฺตภาสนฺตรปริจฺจาคาทิกํ กตฺวา สุตฺตนฺติกานํ วจนานมตฺถํ ปริทีปยนฺตี อยํ วณฺณนา อมฺเหหิ กรียิสฺสตี’’ติ เอวํ อาจริยวเสน สมานกตฺตุกตา เวทิตพฺพา.
คนฺถารมฺภกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
พาหิรนิทานกถา
อิทานิ ¶ สํวรวินยปหานวินยาทีสุ พหูสุ วินเยสุ อตฺตนา ‘‘ตํ วณฺณยิสฺสํ วินย’’นฺติ เอวํ สํวณฺเณตพฺพภาเวน ปฏิฺาตํ วินยํ ทสฺเสนฺโต อาห ตตฺถาติอาทิ. ตตฺถ ตตฺถาติ ยถาวุตฺตาสุ คาถาสุ. ตาว-สทฺโท ปมนฺติ อิมสฺมึ อตฺเถ ทฏฺพฺโพ, เตน ปมํ วินยํ ววตฺถเปตฺวา ¶ ปจฺฉา ตสฺส วณฺณนํ กริสฺสามาติ ทีเปติ. ววตฺถเปตพฺโพติ นิยเมตพฺโพ. เตเนตํ วุจฺจตีติ ยสฺมา ววตฺถเปตพฺโพ, เตน เหตุนา เอตํ วินโย นามาติอาทิกํ นิยามกวจนํ วุจฺจตีติ อตฺโถ. อสฺสาติ วินยสฺส. มาติกาติ อุทฺเทโส. โส หิ นิทฺเทสปทานํ ชนนีาเน ิตตฺตา มาตา วิยาติ ‘‘มาติกา’’ติ วุจฺจติ.
อิทานิ สํวณฺเณตพฺพมตฺถํ มาติกํ ปฏฺเปตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห วุตฺตํ เยนาติอาทิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เอตํ เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา เวรฺชายํ วิหรตีติอาทินิทานวจนปฏิมณฺฑิตํ วินยปิฏกํ เยน ปุคฺคเลน วุตฺตํ, ยสฺมึ กาเล วุตฺตํ, ยสฺมา การณา วุตฺตํ, เยน ธาริตํ, เยน จ อาภตํ, เยสุ ปติฏฺิตํ, เอตํ ยถาวุตฺตวิธานํ วตฺวา ตโต เตน สมเยนาติอาทิปาสฺส อตฺถํ อเนกปฺปการโต ทสฺเสนฺโต วินยสฺส อตฺถวณฺณนํ กริสฺสามีติ.
เอตฺถ จ วุตฺตํ เยน ยทา ยสฺมาติ อิทํ วจนํ เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติอาทินิทานวจนมตฺตํ อเปกฺขิตฺวา วตฺตุกาโมปิ วิสุํ อวตฺวา ‘‘นิทาเนน อาทิกลฺยาณํ, อิทมโวจาติ นิคมเนน ปริโยสานกลฺยาณ’’นฺติ วจนโต นิทานนิคมนานิปิ สตฺถุเทสนาย อนุวิธานตฺตา ตทนฺโตคธาเนวาติ นิทานสฺสาปิ วินยปาฬิยํเยว อนฺโตคธตฺตา วุตฺตํ เยน ยทา ยสฺมาติ อิทมฺปิ วินยปิฏกสมฺพนฺธํเยว กตฺวา มาติกํ เปติ. มาติกาย หิ เอตนฺติ วุตฺตํ วินยปิฏกํเยว สามฺโต สพฺพตฺถ สมฺพนฺธมุปคจฺฉติ.
อิทานิ ปน ตํ วิสุํ นีหริตฺวา ทสฺเสนฺโต ตตฺถ วุตฺตํ เยนาติอาทิมาห. ตตฺถาติ เตสุ มาติกาปเทสุ. อิทนฺติ เตน สมเยนาติอาทินิทานวจนํ. หิ-สทฺโท ยสฺมาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ, ยสฺมา พุทฺธสฺส ภควโต อตฺตปจฺจกฺขวจนํ น โหติ, ตสฺมาติ วุตฺตํ โหติ. อตฺตปจฺจกฺขวจนํ น โหตีติ อตฺตนา ปจฺจกฺขํ กตฺวา วุตฺตวจนํ น โหติ. อถ ¶ วา อตฺตโน ปจฺจกฺขกาเล ธรมานกาเล วุตฺตวจนํ น โหติ. ตทุภเยนาปิ ภควโต วุตฺตวจนํ น โหตีติ อตฺโถ.
ปมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนา
ปมมหาสงฺคีติ นาม เจสาติ เอตฺถ จ-สทฺโท วตฺตพฺพสมฺปิณฺฑนตฺโถ, อุปฺาสตฺโถ วา, อุปฺาโสติ จ วากฺยารมฺโภ วุจฺจติ. เอสา หิ คนฺถการานํ ปกติ, ยทิทํ กิฺจิ วตฺวา ปุน อปรํ วตฺตุมารภนฺตานํ จ-สทฺทปฺปโยโค. ยถาปจฺจยํ ตตฺถ ตตฺถ เทสิตตฺตา วิปฺปกิณฺณานํ ธมฺมวินยานํ ¶ สภาคตฺถวเสน สงฺคเหตฺวา คายนํ กถนํ สงฺคีติ, มหาวิสยตฺตา ปูชนียตฺตา จ มหตี สงฺคีติ มหาสงฺคีติ. ทุติยาทึ อุปาทาย เจสา ‘‘ปมมหาสงฺคีตี’’ติ วุตฺตา. นิททาติ เทสนํ เทสกาลาทิวเสน อวิทิตํ วิทิตํ กตฺวา นิทสฺเสตีติ นิทานํ, ตตฺถ โกสลฺลตฺถํ.
เวเนยฺยานํ มคฺคผลุปฺปตฺติเหตุภูตาว กิริยา นิปฺปริยาเยน พุทฺธกิจฺจนฺติ อาห ‘‘ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนฺหิ อาทึ กตฺวา’’ติ. ตตฺถ สติปฏฺานาทิธมฺโม เอว ปวตฺตนฏฺเน จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกํ, จกฺกนฺติ วา อาณา, ตํ ธมฺมโต อนเปตตฺตา ธมฺมจกฺกํ, ธมฺเมน าเยน จกฺกนฺติปิ ธมฺมจกฺกํ. กตพุทฺธกิจฺเจติ นิฏฺิตพุทฺธกิจฺเจ ภควติ โลกนาเถติ สมฺพนฺโธ. กุสินารายนฺติ สมีปตฺเถ เอตํ ภุมฺมวจนํ. อุปวตฺตเน มลฺลานํ สาลวเนติ ตสฺส นครสฺส อุปวตฺตนภูตํ มลฺลราชูนํ สาลวนุยฺยานํ ทสฺเสติ. ตตฺถ นครํ ปวิสนฺตา อุยฺยานโต อุเปจฺจ วตฺตนฺติ คจฺฉนฺติ เอเตนาติ ‘‘อุปวตฺตน’’นฺติ อุยฺยานสฺส จ นครสฺส จ มชฺเฌ สาลวนํ วุจฺจติ. กุสินาราย หิ ทกฺขิณปจฺฉิมทิสาย ตํ อุยฺยานํ โหติ, ตโต อุยฺยานโต สาลวนราชิวิราชิโต มคฺโค ปาจีนาภิมุโข คนฺตฺวา นครสฺส ทกฺขิณทฺวาราภิมุโข อุตฺตเรน นิวตฺโต, เตน มคฺเคน มนุสฺสา นครํ ปวิสนฺติ, ตสฺมา ตํ ‘‘อุปวตฺตน’’นฺติ วุจฺจติ. ตตฺถ กิร อุปวตฺตเน อฺมฺสํสฏฺวิฏปานํ สมฺปนฺนฉายานํ สาลปนฺตีนมนฺตเร ภควโต ปรินิพฺพานมฺโจ ปฺตฺโต, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ยมกสาลานมนฺตเร’’ติ. อุปาทียติ กมฺมกิเลเสหีติ อุปาทิ, วิปากกฺขนฺธา กฏตฺตา จ รูปํ. ตเทว กมฺมกิเลเสหิ สมฺมา อปฺปหีนตาย เสโส, นตฺถิ เอตฺถ อุปาทิเสโสติ อนุปาทิเสสา, นิพฺพานธาตุ, ตาย. อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ ¶ จายํ กรณนิทฺเทโส. ปรินิพฺพาเนติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, ปรินิพฺพานเหตุ ตสฺมึ าเน สนฺนิปติตานนฺติ อตฺโถ. สงฺฆสฺส เถโร เชฏฺโ สงฺฆตฺเถโร. เอตฺถ จ สงฺฆสทฺทสฺส ภิกฺขุสตสหสฺสสทฺทสาเปกฺขตฺเตปิ คมกตฺตา เถรสทฺเทน สมาโส ยถา เทวทตฺตสฺส ครุกุลนฺติ. อายสฺมา มหากสฺสโป ธมฺมวินยสงฺคายนตฺถํ ภิกฺขูนํ อุสฺสาหํ ชเนสีติ สมฺพนฺโธ.
ตถา อุสฺสาหํ ชนนสฺส การณมาห สตฺตาหปรินิพฺพุเตติอาทิ. สตฺต อหานิ สมาหฏานิ สตฺตาหํ, สตฺตาหํ ปรินิพฺพุตสฺส อสฺสาติ สตฺตาหปรินิพฺพุโต, สตฺตาหปรินิพฺพุเต สุภทฺเทน วุฑฺฒปพฺพชิเตน วุตฺตวจนมนุสฺสรนฺโตติ สมฺพนฺโธ. อลํ, อาวุโสติอาทินา เตน วุตฺตวจนํ ทสฺเสติ. ตตฺถ อลนฺติ ปฏิกฺเขปวจนํ. เตน มหาสมเณนาติ นิสฺสกฺเก กรณวจนํ, ตโต มหาสมณโต สุฏฺุ มุตฺตา มยนฺติ อตฺโถ, อุปทฺทุตา จ โหม ตทาติ อธิปฺปาโย, โหมาติ วา อตีตตฺเถ วตฺตมานวจนํ, อหุมฺหาติ อตฺโถ. านํ โข ปเนตํ วิชฺชตีติ ติฏฺติ เอตฺถ ผลํ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ ¶ านํ, เหตุ. โขติ อวธารเณ, เอตํ การณํ วิชฺชเตว, โน น วิชฺชตีติ อตฺโถ. กึ ตํ การณนฺติ? อาห ยํ ปาปภิกฺขูติอาทิ. เอตฺถ ยนฺติ นิปาตมตฺตํ, การณนิทฺเทโส วา, เยน การเณน อนฺตรธาเปยฺยุํ, ตเทตํ การณํ วิชฺชตีติ อตฺโถ. อตีโต อติกฺกนฺโต สตฺถา เอตฺถ, เอตสฺสาติ วา อตีตสตฺถุกํ, ปาวจนํ. ปธานํ วจนํ ปาวจนํ, ธมฺมวินยนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปกฺขํ ลภิตฺวาติ อลชฺชีปกฺขํ ลภิตฺวา. น จิรสฺเสวาติ น จิเรเนว. ยาว จ ธมฺมวินโย ติฏฺตีติ ยตฺตกํ กาลํ ธมฺโม จ วินโย จ ลชฺชีปุคฺคเลสุ ติฏฺติ.
วุตฺตฺเหตํ ภควตาติ ปรินิพฺพานมฺเจ นิปนฺเนน ภควตา วุตฺตนฺติ อตฺโถ. เทสิโต ปฺตฺโตติ สุตฺตาภิธมฺมปิฏกสงฺคหิตสฺส ธมฺมสฺส เจว วินยปิฏกสงฺคหิตสฺส วินยสฺส จ อติสชฺชนํ ปโพธนํ เทสนา. ตสฺเสว ปการโต าปนํ อสงฺกรโต ปนํ ปฺาปนํ. โส โว มมจฺจเยน สตฺถาติ โส ธมฺมวินโย ตุมฺหากํ มมจฺจเยน สตฺถา มยิ ปรินิพฺพุเต สตฺถุกิจฺจํ สาเธสฺสติ. สาสนนฺติ ปริยตฺติปฏิปตฺติปฏิเวธวเสน ติวิธํ สาสนํ, นิปฺปริยายโต ปน สตฺตตฺตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา. อทฺธนิยนฺติ อทฺธานกฺขมํ, ตเทว จิรฏฺิติกํ อสฺส ภเวยฺยาติ สมฺพนฺโธ.
อิทานิ ¶ สมฺมาสมฺพุทฺเธน อตฺตโน กตํ อนุคฺคหวิเสสํ วิภาเวนฺโต อาห ยฺจาหํ ภควตาติอาทิ. ตตฺถ ยฺจาหนฺติ เอตสฺส อนุคฺคหิโตติ เอเตน สมฺพนฺโธ. ตตฺถ ยนฺติ ยสฺมา, เยน การเณนาติ วุตฺตํ โหติ. กิริยาปรามสนํ วา เอตํ, เตน อนุคฺคหิโตติ เอตฺถ อนุคฺคหณํ ปรามสติ. ธาเรสฺสสีติอาทิกํ ภควตา มหากสฺสปตฺเถเรน สทฺธึ จีวรปริวตฺตนํ กาตุกาเมน วุตฺตวจนํ. ธาเรสฺสสิ ปน เม ตฺวํ กสฺสปาติ ‘‘กสฺสป, ตฺวํ อิมานิ ปริโภคชิณฺณานิ ปํสุกูลานิ ปารุปิตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ วทติ, ตฺจ โข น กายพลํ สนฺธาย, ปฏิปตฺติปูรณํ ปน สนฺธาย เอวมาห. สาณานิ ปํสุกูลานีติ มตกเฬวรํ ปลิเวเตฺวา ฉฑฺฑิตานิ ตุมฺพมตฺเต กิมโย ปปฺโผเฏตฺวา คหิตานิ สาณวากมยานิ ปํสุกูลจีวรานิ. รถิกาทีนํ ยตฺถ กตฺถจิ ปํสูนํ อุปริ ิตตฺตา อพฺภุคฺคตฏฺเน เตสุ กูลมิวาติ ปํสุกูลํ. อถ วา ปํสุ วิย กุจฺฉิตภาวํ อุลติ คจฺฉตีติ ปํสุกูลนฺติ ปํสุกูลสทฺทสฺส อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. นิพฺพสนานีติ นิฏฺิตวสนกิจฺจานิ, ปริโภคชิณฺณานีติ อตฺโถ. เอกเมว ตํ จีวรํ อเนกาวยวตฺตา พหุวจนํ กตํ. สาธารณปริโภเคนาติ อตฺตนา สมานปริโภเคน, สาธารณปริโภเคน จ สมสมฏฺปเนน จ อนุคฺคหิโตติ สมฺพนฺโธ.
อิทานิ ¶ นวานุปุพฺพวิหารฉฬภิฺาปฺปเภเท อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม อตฺตนา สมสมฏฺปนตฺถาย ภควตา วุตฺตํ กสฺสปสํยุตฺเต (สํ. นิ. ๒.๑๕๒) อาคตํ ปาฬึ เปยฺยาลมุเขน อาทิคฺคหเณน จ สงฺขิปิตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห อหํ, ภิกฺขเวติอาทิ. ตตฺถ ยาวเท อากงฺขามีติ ยาวเทว อากงฺขามิ, ยตฺตกํ กาลํ อิจฺฉามีติ อตฺโถ, ‘‘ยาวเทวา’’ติปิ ปาโ. นวานุปุพฺพวิหารฉฬภิฺาปฺปเภเทติ เอตฺถ นวานุปุพฺพวิหาโร นาม อนุปฏิปาฏิยา สมาปชฺชิตพฺพภาวโต เอวํสฺิตา นิโรธสมาปตฺติยา สห อฏฺ รูปารูปสมาปตฺติโย. ฉฬภิฺา นาม อาสวกฺขยาเณน สทฺธึ ปฺจาภิฺาโย. อตฺตนา สมสมฏฺปเนนาติ ‘‘อหํ ยตฺตกํ กาลํ ยตฺตเก สมาปตฺติวิหาเร อภิฺาโย จ วฬฺเชมิ, ตถา กสฺสโปปี’’ติ เอวํ ยถาวุตฺตอุตฺตริมนุสฺสธมฺเม อตฺตนา สมสมํ กตฺวา ปเนน, อิทฺจ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสามฺเน เถรสฺส ปสํสามตฺเตน วุตฺตํ, น ¶ ภควตา สทฺธึ สพฺพถา สมตาย. ภควโต หิ คุณวิเสสํ อุปาทาย สาวกา ปจฺเจกพุทฺธา จ กลมฺปิ กลภาคมฺปิ น อุเปนฺติ, ตสฺส กิมฺํ อาณณฺยํ ภวิสฺสติ อฺตฺร ธมฺมวินยสงฺคายนาติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ ตสฺสาติ ตสฺส อนุคฺคหสฺส, ตสฺส เมติ วา อตฺโถ คเหตพฺโพ. โปตฺถเกสุ หิ เกสุจิ ‘‘ตสฺส เม’’ติ ปาโ ทิสฺสติ. อาณณฺยํ อณณภาโว. สกกวจอิสฺสริยานุปฺปทาเนนาติ เอตฺถ จีวรสฺส นิทสฺสนวเสน กวจสฺเสว คหณํ กตํ, สมาปตฺติยา นิทสฺสนวเสน อิสฺสริยํ คหิตํ.
อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ ปาฬิยา วิภาเวนฺโต อาห ยถาหาติอาทิ. ตตฺถ เอกมิทาหนฺติ เอตฺถ อิทนฺติ นิปาตมตฺตํ. เอกํ สมยนฺติ เอกสฺมึ สมเยติ อตฺโถ. ปาวายาติ ปาวานครโต. อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโนติ ทีฆมคฺคปฺปฏิปนฺโน. ทีฆปริยาโย เหตฺถ อทฺธานสทฺโท. สพฺพํ สุภทฺทกณฺฑํ วิตฺถารโต เวทิตพฺพนฺติ ปฺจสติกกฺขนฺธเก อาคตํ สุภทฺทกณฺฑํ อิธ อาเนตฺวา วิตฺถาเรตพฺพํ.
ตโต ปรนฺติ สุภทฺทกณฺฑโต ปรํ. สพฺพํ สุภทฺทกณฺฑํ วิตฺถารโต เวทิตพฺพนฺติ อิมินา ‘‘ยํ น อิจฺฉิสฺสาม, น ตํ กริสฺสามา’’ติ เอตํ ปริยนฺตํ สุภทฺทกณฺฑปาฬึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อวเสสํ อุสฺสาหชนนปฺปการปฺปวตฺตํ ปาฬิเมว ทสฺเสนฺโต หนฺท มยํ อาวุโสติอาทิมาห. ตตฺถ ปุเร อธมฺโม ทิปฺปตีติ เอตฺถ ‘‘อธมฺโม นาม ทสกุสลกมฺมปถปฏิปกฺขภูโต อธมฺโม’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนา) วุตฺตํ. ธมฺมสงฺคหณตฺถํ อุสฺสาหชนนปฺปสงฺคตฺตา ปน ธมฺมวินยานํ อสงฺคายนเหตุโทสคโณ สมฺภวติ, โส เอว เอตฺถ อธมฺโม ทิปฺปติ ตปฺปฏิปกฺโข ธมฺโม จ ปฏิพาหียตีติ วตฺตพฺพํ. อปิ จ ‘‘อธมฺมวาทิโน พลวนฺโต โหนฺติ ธมฺมวาทิโน ทุพฺพลา โหนฺตี’’ติ วุจฺจมานตฺตา เยน อธมฺเมน เต สุภทฺทวชฺชิปุตฺตกาทโย อธมฺมวาทิโน, เยน จ ธมฺเมน อิตเร ธมฺมวาทิโนว โหนฺติ. เตเยว อิธ ‘‘อธมฺโม’’ ¶ ‘‘ธมฺโม’’ติ จ วตฺตพฺพา. ตสฺมา สีลวิปตฺติอาทิเหตุโก ปาปิจฺฉตาทิโทสคโณ อธมฺโม, ตปฺปฏิปกฺโข สีลสมฺปทาทิเหตุโก อปฺปิจฺฉตาทิคุณสมูโห ธมฺโมติ จ คเหตพฺพํ. ปุเร ทิปฺปตีติ อปิ นาม ทิปฺปติ. อถ วา ยาว อธมฺโม ธมฺมํ ปฏิพาหิตุํ สมตฺโถ โหติ, ตโต ปุเรตรเมวาติ ¶ อตฺโถ. ทิปฺปตีติ ทิปฺปิสฺสติ. ปุเรสทฺทโยเคน หิ อนาคตตฺเถ อยํ วตฺตมานปฺปโยโค, ยถา ปุรา วสฺสติ เทโวติ. อวินโยติ ปหานวินยาทีนํ ปฏิปกฺขภูโต อวินโย.
เตน หีติ อุยฺโยชนตฺเถ นิปาโต. สกลนวงฺคสตฺถุสาสนปริยตฺติธเรติ สกลํ สุตฺตเคยฺยาทินวงฺคํ เอตฺถ, เอตสฺส วา อตฺถีติ สกลนวงฺคํ, สตฺถุสาสนํ. อตฺถกาเมน ปริยาปุณิตพฺพโต ทิฏฺธมฺมิกาทิปุริสตฺถปริยตฺติภาวโต จ ‘‘ปริยตฺตี’’ติ ตีณิ ปิฏกานิ วุจฺจนฺติ, ตํ สกลนวงฺคสตฺถุสาสนสงฺขาตํ ปริยตฺตึ ธาเรนฺตีติ สกลนวงฺคสตฺถุสาสนปอยตฺติธรา, ตาทิเสติ อตฺโถ. สมถภาวนาสิเนหาภาเวน สุกฺขา ลูขา อสินิทฺธา วิปสฺสนา เอเตสนฺติ สุกฺขวิปสฺสกา. ติปิฏกสพฺพปริยตฺติปฺปเภทธเรติ ติณฺณํ ปิฏกานํ สมาหาโร ติปิฏกํ, ตเทว นวงฺคาทิวเสน อเนกเภทภินฺนํ สพฺพํ ปริยตฺติปฺปเภทํ ธาเรนฺตีติ ติปิฏกสพฺพปริยตฺติปฺปเภทธรา.
กิสฺส ปนาติ กสฺมา ปน. สิกฺขตีติ เสกฺโข. ตเมวาห ‘‘สกรณีโย’’ติ. อุปริมคฺคตฺตยกิจฺจสฺส อปริโยสิตตฺตา สกิจฺโจติ อตฺโถ. อสฺสาติ อเนน. พหุการตฺตาติ พหุปการตฺตา. อสฺสาติ ภเวยฺย. อติวิย วิสฺสตฺโถติ อติวิย วิสฺสาสิโก. นนฺติ อานนฺทตฺเถรํ โอวทตีติ สมฺพนฺโธ. อานนฺทตฺเถรสฺส กทาจิ อสฺตาย นวกาย สทฺธิวิหาริกปริสาย ชนปทจาริกาจรณํ, เตสฺจ สทฺธิวิหาริกานํ เอกกฺขเณ อุปฺปพฺพชฺชนฺจ ปฏิจฺจ มหากสฺสปตฺเถโร ตํ นิคฺคณฺหนฺโต เอวมาห ‘‘น วายํ กุมารโก มตฺตมฺาสี’’ติ. เอตฺถ จ วา-สทฺโท ปทปูรโณ, อยํ กุมาโร อตฺตโน ปมาณํ น ปฏิชานาตีติ เถรํ ตชฺเชนฺโต อาห. ตตฺราติ เอวํ สติ.
กิฺจาปิ เสกฺโขติ อิทํ น เสกฺขานํ อคติคมนสพฺภาเวน วุตฺตํ, อเสกฺขานฺเว ปน อุจฺจินิตฺวา คหิตตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. ตสฺมา ‘‘กิฺจาปิ เสกฺโข, ตถาปิ เถโร อายสฺมนฺตมฺปิ อานนฺทํ อุจฺจินตู’’ติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ, น ปน กิฺจาปิ เสกฺโข, ตถาปิ อภพฺโพ อคตึ คนฺตุนฺติ โยเชตพฺพํ. อภพฺโพติอาทิ ปนสฺส สภาวกถนํ. ตตฺถ ¶ ฉนฺทาติ ฉนฺเทน สิเนเหน. อคตึ คนฺตุนฺติ อกตฺตพฺพํ กาตุํ. ปริยตฺโตติ อธีโต อุคฺคหิโต.
ราชคหํ ¶ โข มหาโคจรนฺติ เอตฺถ คาโว จรนฺติ เอตฺถาติ โคจโร, คุนฺนํ โคจรฏฺานํ. โคจโร วิยาติ โคจโร, ภิกฺขาจรณฏฺานํ. โส มหนฺโต อสฺสาติ มหาโคจรํ, ราชคหํ. อุกฺโกเฏยฺยาติ นิวาเรยฺย.
สตฺตสุ สาธุกีฬนทิวเสสูติ เอตฺถ สํเวควตฺถุํ กิตฺเตตฺวา กิตฺเตตฺวา สาธุกํ เอว ปูชาวเสน กีฬนโต สาธุกีฬนํ. อุปกฏฺาติ อาสนฺนา. วสฺสํ อุปเนติ อุปคจฺฉติ เอตฺถาติ วสฺสูปนายิกา.
ตตฺร สุทนฺติ ตสฺสํ สาวตฺถิยํ, สุทนฺติ นิปาตมตฺตํ. อุสฺสนฺนธาตุกนฺติ อุปจิตปิตฺตเสมฺหาทิธาตุกํ. สมสฺสาเสตุนฺติ สนฺตปฺเปตุํ. ทุติยทิวเสติ เชตวนวิหารํ ปวิฏฺทิวสโต ทุติยทิวเสติ วทนฺติ. วิริจฺจติ เอเตนาติ วิเรจนํ. โอสธปริภาวิตํ ขีรเมว วิเรจนนฺติ ขีรวิเรจนํ. ยํ สนฺธายาติ ยํ เภสชฺชปานํ สนฺธาย วุตฺตํ. เภสชฺชมตฺตาติ อปฺปมตฺตกํ เภสชฺชํ. อปฺปตฺโถ หิ อยํ มตฺตา-สทฺโท มตฺตา สุขปริจฺจาคาติอาทีสุ (ธ. ป. ๒๙๐) วิย.
ขณฺฑผุลฺลปฺปฏิสงฺขรณนฺติ เอตฺถ ขณฺฑนฺติ ฉินฺนํ, ผุลฺลนฺติ ภินฺนํ, เตสํ ปฏิสงฺขรณํ อภินวกรณํ.
ปริจฺเฉทวเสน เวทิยติ ทิสฺสตีติ ปริเวณํ. ตตฺถาติ เตสุ วิหาเรสุ ขณฺฑผุลฺลปฺปฏิสงฺขรณนฺติ สมฺพนฺโธ. ปมํ มาสนฺติ วสฺสานสฺส ปมํ มาสํ, อจฺจนฺตสํโยเค เจตํ อุปโยควจนํ. เสนาสนวตฺตานํ พหูนํ ปฺตฺตตฺตา, เสนาสนกฺขนฺธเก (จูฬว. ๒๙๔ อาทโย) เสนาสนปฏิพทฺธานํ พหูนํ กมฺมานํ วิหิตตฺตา ‘‘ภควตา…เป… วณฺณิต’’นฺติ วุตฺตํ.
ทุติยทิวเสติ ‘‘ขณฺฑผุลฺลปฺปฏิสงฺขรณํ กโรมา’’ติ จินฺติตทิวสโต ทุติยทิวเส. วสฺสูปนายิกทิวเสเยว เต เอวํ จินฺเตสุํ. สิริยา นิเกตนมิวาติ สิริยา นิวาสนฏฺานํ วิย. เอกสฺมึ ปานียติตฺเถ สนฺนิปตนฺตา ปกฺขิโน วิย สพฺเพสํ ชนานํ จกฺขูนิ มณฺฑเปเยว นิปตนฺตีติ วุตฺตํ ‘เอกนิปาตติตฺถมิว จ เทวมนุสฺสนยนวิหงฺคาน’’นฺติ. โลกรามเณยฺยกนฺติ โลเก รมณียภาวํ, รมณํ อรหตีติ วา โลกรามเณยฺยกํ ¶ . ทฏฺพฺพสารมณฺฑนฺติ ทฏฺพฺเพสุ สารํ ทฏฺพฺพสารํ, ตโต วิปฺปสนฺนนฺติ ทฏฺพฺพสารมณฺฑํ. อถ วา ทฏฺพฺโพ สารภูโต วิสิฏฺตโร มณฺโฑ ¶ มณฺฑนํ อลงฺกาโร เอตสฺสาติ ทฏฺพฺพสารมณฺโฑ, มณฺฑโป. มณฺฑํ สูริยรสฺมึ ปาติ นิวาเรตีติ มณฺฑโป. วิวิธานิ กุสุมทามานิ เจว มุตฺโตลมฺพกานิ จ วินิคฺคลนฺตํ วเมนฺตํ นิกฺขาเมนฺตมิว จารุ โสภนํ วิตานํ เอตฺถาติ วิวิธกุสุมทาโมลมฺพกวินิคฺคลนฺตจารุวิตาโน. นานาปุปฺผูปหารวิจิตฺตสุปรินิฏฺิตภูมิกมฺมตฺตา เอว ‘‘รตนวิจิตฺตมณิโกฏฺฏิมตลมิวา’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถ จ มณิโย โกฏฺเฏตฺวา กตตลํ มณิโกฏฺฏิมตลํ นาม, ตมิวาติ วุตฺตํ โหติ. อาสนารหนฺติ นิสีทนารหํ. ทนฺตขจิตนฺติ ทนฺเตหิ ขจิตํ.
อาวชฺเชสีติ อุปนาเมสิ. อนุปาทายาติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน กฺจิ ธมฺมํ อคฺคเหตฺวา. กถาโทโสติ กถาย อสจฺจํ นาม นตฺถิ.
ยถาวุฑฺฒนฺติ วุฑฺฒปฏิปาฏึ อนติกฺกมิตฺวา. เอเกติ มชฺฌิมภาณกานํเยว เอเก. ปุพฺเพ วุตฺตมฺปิ หิ สพฺพํ มชฺฌิมภาณกา วทนฺติเยวาติ เวทิตพฺพํ. ทีฆภาณกา ปน ‘‘ปทสาว เถโร สนฺนิปาตมาคโต’’ติ วทนฺติ. เตสุ เกจิ ‘‘อากาเสนา’’ติ, ‘‘เต สพฺเพปิ ตถา ตถา อาคตทิวสานมฺปิ อตฺถิตาย เอกเมกํ คเหตฺวา ตถา ตถา วทึสู’’ติ วทนฺติ.
กํ ธุรํ กตฺวาติ กํ เชฏฺกํ กตฺวา. พีชนึ คเหตฺวาติ เอตฺถ พีชนีคหณํ ปริสาย ธมฺมกถิกานํ หตฺถกุกฺกุจฺจวิโนทนมุขวิการปฏิจฺฉาทนตฺถํ ธมฺมตาวเสน อาจิณฺณนฺติ เวทิตพฺพํ. เตเนว หิ อจฺจนฺตสฺตปฺปตฺตา พุทฺธาปิ สาวกาปิ ธมฺมกถิกานํ ธมฺมตาทสฺสนตฺถเมว จิตฺตพีชนึ คณฺหนฺติ. ปมํ, อาวุโส อุปาลิ, ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺตนฺติ เอตฺถ กถํ สงฺคีติยา ปุพฺเพ ปมภาโว สิทฺโธติ? ปาติโมกฺขุทฺเทสานุกฺกมาทินา ปุพฺเพ ปมภาวสฺส สิทฺธตฺตา. เยภุยฺเยน หิ ตีณิ ปิฏกานิ ภควโต ธรมานกาเลเยว อิมินา อนุกฺกเมน สชฺฌายิตานิ, เตเนว กเมน ปจฺฉาปิ สงฺคีตานิ วิเสสโต วินยาภิธมฺมปิฏกานีติ ทฏฺพฺพํ. กิสฺมึ วตฺถุสฺมินฺติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ. อนฺตรา จ, ภนฺเต, ราชคหํ อนฺตรา จ นาฬนฺทนฺติ ราชคหสฺส จ นาฬนฺทาย จ อนฺตรา, วิวเร มชฺเฌติ อตฺโถ. อนฺตรา-สทฺเทน ปน ยุตฺตตฺตา ¶ อุปโยควจนํ กตํ. ราชาคารเกติ รฺโ กีฬนตฺถาย กเต อคารเก. อมฺพลฏฺิกายนฺติ รฺโ เอวํนามกํ อุยฺยานํ. เกน สทฺธินฺติ อิธ กสฺมา วุตฺตนฺติ? ยสฺมา ปเนตํ น ภควตา เอว วุตฺตํ, รฺาปิ กิฺจิ กิฺจิ วุตฺตมตฺถิ, ตสฺมา ‘‘กมารพฺภา’’ติ อวตฺวา เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เวเทหิปุตฺเตนาติ อยํ โกสลรฺโ ธีตาย ปุตฺโต, น วิเทหรฺโ ธีตาย. ยสฺมา มาตา ปนสฺส ปณฺฑิตา, ตสฺมา สา เวเทน าเณน อีหติ ฆฏติ วายมตีติ ‘‘เวเทหี’’ติ ปากฏนามา ชาตาติ เวทิตพฺพา.
เอวํ ¶ นิมิตฺตปโยชนกาลเทสเทสกการกกรณปฺปกาเรหิ ปมมหาสงฺคีตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตตฺถ ววตฺถาปิเตสุ ธมฺมวินเยสุ นานปฺปการโกสลฺลตฺถํ เอกวิธาทิเภเท ทสฺเสตุํ ตเทตํ สพฺพมฺปีติอาทิมาห. ตตฺถ อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธินฺติ เอตฺถ อนาวรณาณปทฏฺานํ มคฺคาณํ, มคฺคาณปทฏฺานฺจ อนาวรณาณํ ‘‘สมฺมาสมฺโพธี’’ติ วุจฺจติ. ปจฺจเวกฺขนฺเตน วาติ อุทานาทิวเสน ปวตฺตธมฺมํ สนฺธายาห. วิมุตฺติรสนฺติ อรหตฺตผลสฺสาทํ, วิมุตฺติสมฺปตฺติกํ วา อคฺคผลนิปฺผาทนโต, วิมุตฺติกิจฺจํ วา กิเลสานํ อจฺจนฺตวิมุตฺติสมฺปาทนโต. อวเสสํ พุทฺธวจนํ ธมฺโมติ เอตฺถ ยทิปิ ธมฺโม เอว วินโยปิ ปริยตฺติยาทิภาวโต, ตถาปิ วินยสทฺทสนฺนิธาเนน ภินฺนาธิกรณภาเวน ปยุตฺโต ธมฺม-สทฺโท วินยตนฺติวิรหิตํ ตนฺตึ ทีเปติ, ยถา ปฺุาณสมฺภาโร โคพลิพทฺทนฺติอาทิ.
อเนกชาติสํสารนฺติ อิมิสฺสา คาถาย อยํ สงฺเขปตฺโถ – อหํ อิมสฺส อตฺตภาวเคหสฺส การกํ ตณฺหาวฑฺฒกึ คเวสนฺโต เยน าเณน ตํ ทฏฺุํ สกฺกา, ตํ โพธิาณํ อนิพฺพิสํ อลภนฺโต เอว อภินีหารโต ปภุติ เอตฺตกํ กาลํ อเนกชาติสตสหสฺสสงฺขฺยํ อิมํ สํสารวฏฺฏํ สนฺธาวิสฺสํ สํสรึ, ยสฺมา ชราพฺยาธิมรณมิสฺสตาย ชาติ นาเมสา ปุนปฺปุนํ อุปคนฺตุํ ทุกฺขา, น จ สา ตสฺมึ อทิฏฺเ นิวตฺตติ, ตสฺมา ตํ คเวสนฺโต สนฺธาวิสฺสนฺติ อตฺโถ. ทิฏฺโสีติ อิทานิ มยา สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌนฺเตน ทิฏฺโ อสิ. ปุน เคหนฺติ ปุน อิมํ อตฺตภาวสงฺขาตํ มม เคหํ. น กาหสีติ น กริสฺสสิ. การณมาห สพฺพา เตติอาทิ. ตว สพฺพา อวเสสกิเลสผาสุกา มยา ภคฺคา. อิมสฺส ตยา กตสฺส อตฺตภาวเคหสฺส อวิชฺชาสงฺขาตํ กูฏํ กณฺณิกมณฺฑลํ ¶ วิสงฺขตํ วิทฺธํสิตํ. วิสงฺขารํ นิพฺพานํ อารมฺมณกรณวเสน คตํ มม จิตฺตํ. อหฺจ ตณฺหานํ ขยสงฺขาตํ อรหตฺตมคฺคผลํ อชฺฌคา ปตฺโตสฺมีติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘วิสงฺขารคตํ จิตฺตเมว ตณฺหานํ ขยํ อชฺฌคา’’ติ เอวมฺปิ อตฺถํ วทนฺติ.
เกจีติ ขนฺธกภาณกา. ปาฏิปททิวเสติ อิทํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อุปฺปนฺนาติ เอเตน สมฺพนฺธิตพฺพํ, น สพฺพฺุภาวปฺปตฺตสฺสาติ เอเตน. โสมนสฺสมยาเณนาติ โสมนสฺสสมฺปยุตฺตาเณน. อามนฺตยามีติ นิเวทยามิ, โพเธมีติ อตฺโถ. อนฺตเรติ อนฺตราเฬ, เวมชฺเฌติ อตฺโถ.
สุตฺตนฺตปิฏกนฺติ ยถา กมฺมเมว กมฺมนฺตํ, เอวํ สุตฺตเมว สุตฺตนฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อสงฺคีตนฺติ สงฺคีติกฺขนฺธก (จูฬว. ๔๓๗ อาทโย) กถาวตฺถุปฺปกรณาทิกํ. โสฬสหิ วาเรหิ ¶ อุปลกฺขิตตฺตา ‘‘โสฬส ปริวารา’’ติ วุตฺตํ. ตถา หิ ปริวารปาฬิยํ (ปริ. ๑ อาทโย) ปมํ ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺตนฺติอาทินา วุตฺตํ. ปฺตฺติวาโร กถาปตฺติวาโร วิปตฺติวาโร สงฺคหวาโร สมุฏฺานวาโร อธิกรณวาโร สมถวาโร สมุจฺจยวาโรติ อิเม อฏฺ วารา, ตทนนฺตรํ ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนปจฺจยา ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺต’’นฺติ (ปริ. ๑๘๘) เอวํ ปจฺจยมตฺตวิเสเสน ปุน วุตฺตา เตเยว อฏฺ วารา จาติ อิเมสํ โสฬสนฺนํ วารานํ วเสน ภิกฺขุวิภงฺคสฺส จ ภิกฺขุนีวิภงฺคสฺส จ ปกาสิตตฺตา โสฬสหิ วาเรหิ อุปลกฺขิโต ปริวาโร ‘‘โสฬสปริวาโร’’ติ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
ทฬฺหีกมฺมสิถิลกรณปฺปโยชนาติ อิทํ โลกวชฺชปณฺณตฺติวชฺเชสุ ยถากฺกมํ โยเชตพฺพํ. สฺมเวลํ อภิภวิตฺวา ปวตฺโต อาจาโร อชฺฌาจาโร, วีติกฺกโม. เตนาติ วิวิธนยตฺตาทิเหตุนา. เอตนฺติ วิวิธวิเสสนยตฺตาติอาทิคาถาวจนํ. เอตสฺสาติ วินยสฺส.
อิตรํ ปนาติ สุตฺตํ. อตฺตตฺถปรตฺถาทิเภเทติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกตฺเถ โลกิยโลกุตฺตราทิอตฺเถ จ สงฺคณฺหาติ. เวเนยชฺฌาสยานุโลเมน วุตฺตตฺตาติ วินยํ วิย อิสฺสรภาวโต อาณาปติฏฺาปนวเสน อเทเสตฺวา เวเนยฺยานํ อชฺฌาสยานุโลเมน จริตานุรูปํ วุตฺตตฺตา. อนุปุพฺพสิกฺขาทิวเสน อเทเสตฺวา เวเนยฺยานํ ¶ กาลนฺตเร อภินิพฺพตฺตึ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สสฺสมิว ผล’’นฺติ. อุปายสมงฺคีนํเยว นิปฺปชฺชนภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เธนุ วิย ขีร’’นฺติ อาห. น หิ เธนุํ วิสาณาทีสุ, อกาเล วา อวิชาตํ วา โทหนฺโต ขีรํ ปฏิลภติ.
ยนฺติ ยสฺมา. เอตฺถาติ อภิธมฺเม. อภิธมฺเมติ สุปินนฺเตน สุกฺกวิสฺสฏฺิยา อนาปตฺติภาเวปิ อกุสลเจตนา อุปลพฺภตีติอาทินา วินยปฺตฺติยา สงฺกรวิรหิเต ธมฺเม, ‘‘ปุพฺพาปรวิโรธาภาวโต สงฺกรวิรหิเต ธมฺเม’’ติปิ วทนฺติ. อารมฺมณาทีหีติ อารมฺมณสมฺปยุตฺตกมฺมทฺวารปฏิปทาทีหิ. ลกฺขณียตฺตาติ สฺชานิตพฺพตฺตา. ยํ ปเนตฺถ อวิสิฏฺนฺติ เอตฺถ วินยปิฏกนฺติอาทีสุ ตีสุ สทฺเทสุ ยํ อวิสิฏฺํ สมานํ, ตํ ปิฏกสทฺทนฺติ อตฺโถ. มา ปิฏกสมฺปทาเนนาติ ปาฬิสมฺปทานวเสน มา คณฺหิตฺถาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาวุตฺเตนาติ เอวํ ทุวิธตฺเถนาติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรน.
เทสนาสาสนกถาเภทนฺติ เอตฺถ เทสนาเภทํ สาสนเภทํ กถาเภทนฺติ เภทสทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. เภทนฺติ จ นานตฺตนฺติ อตฺโถ. เตสูติ ปิฏเกสุ. สิกฺขา จ ปหานานิ จ คมฺภีรภาโว ¶ จ สิกฺขาปหานคมฺภีรภาโว, ตฺจ ยถารหํ ปริทีปเยติ อตฺโถ. ปริยตฺติเภทนฺติ ปริยาปุณนเภทํ วิภาวเยติ สมฺพนฺโธ. ยหึ ยสฺมึ วินยาทิเก ยํ สมฺปตฺติฺจ วิปตฺติฺจ ยถา ปาปุณาติ, ตมฺปิ สพฺพํ วิภาวเยติ สมฺพนฺโธ. อถ วา ยํ ปริยตฺติเภทํ สมฺปตฺตึ วิปตฺติฺจ ยหึ ยถา ปาปุณาติ, ตมฺปิ สพฺพํ วิภาวเยติ โยเชตพฺพํ. ปริทีปนา วิภาวนา จาติ เหฏฺา คาถาสุ วุตฺตสฺส อนุรูปโต วุตฺตํ, อตฺถโต ปน เอกเมว.
อาณารเหนาติ อาณํ ปเณตุํ อรหตีติ อาณารโห, ภควา สมฺมาสมฺพุทฺธตฺตา. โส หิ มหาการุณิกตาย จ อวิปรีตโต เทสกภาเวน ปมาณวจนตฺตา จ อาณํ ปเณตุํ อรหติ. โวหารปรมตฺถานมฺปิ สมฺภวโต อาห ‘‘อาณาพาหุลฺลโต’’ติ. อิโต ปเรสุปิ เอเสว นโย. ปมนฺติ วินยปิฏกํ. ปจุราปราธา เสยฺยสกตฺเถราทโย. เต หิ โทสพาหุลฺลโต ‘‘ปจุราปราธา’’ติ วุตฺตา ¶ . ปจุโร พหุโก พหุโล อปราโธ โทโส วีติกฺกโม เยสนฺเต ปจุราปราธา. อเนกชฺฌาสยาติอาทีสุ อาสโยว อชฺฌาสโย, โส จ อตฺถโต ทิฏฺิ าณฺจ. จริยาติ ราคจริยาทิกา ฉ มูลจริยา. อถ วา จริยาติ จริตํ, ตํ สุจริตทุจฺจริตวเสน ทุวิธํ. อธิมุตฺติ นาม สตฺตานํ ปุพฺพปริจยวเสน อภิรุจิ, สา ทุวิธา หีนปณีตเภเทน. ยถานุโลมนฺติ อชฺฌาสยาทีนํ อนุรูปํ. ยถาธมฺมนฺติ ธมฺมสภาวานุรูปํ.
สํวราสํวโรติ เอตฺถ ขุทฺทโก มหนฺโต จ สํวโรติ อตฺโถ. วุฑฺฒิอตฺโถ เหตฺถ อ-กาโร. ทิฏฺิวินิเวนาติ ทิฏฺิยา วิโมจนํ. สุตฺตนฺตปาฬิยํ วิวิจฺเจว กาเมหีติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๒๖; สํ. นิ. ๒.๑๕๒) สมาธิเทสนาพาหุลฺลโต สุตฺตนฺตปิฏเก ‘‘อธิจิตฺตสิกฺขา’’ติ วุตฺตํ. วีติกฺกมปฺปหานํ กิเลสานนฺติ สํกิเลสธมฺมานํ, กมฺมกิเลสานํ วา โย กายวจีทฺวาเรหิ วีติกฺกโม, ตสฺส ปหานํ. อนุสยวเสน สนฺตานมนุวตฺตนฺตา กิเลสา ปริยุฏฺิตาปิ สีลเภทวเสน วีติกฺกมิตุํ น ลภนฺตีติ อาห ‘‘วีติกฺกมปฏิปกฺขตฺตา สีลสฺสา’’ติ. ปริยุฏฺานปฺปหานนฺติ โอกาสทานวเสน จิตฺเต กุสลปฺปวตฺตึ ปริยาทิยิตฺวา สมุปฺปตฺติวเสน านํ ปริยุฏฺานํ, ตสฺส ปหานํ. อนุสยปฺปหานนฺติ อริยมคฺเคน อปฺปหีนภาเวน สนฺตาเน การณลาเภ อุปฺปชฺชนารหา ถามคตา กามราคาทโย สตฺต กิเลสา สนฺตาเน อนุ อนุ สยนโต อนุสยา นาม, เตสํ ปหานํ.
ตทงฺคปฺปหานนฺติ เตน เตน ทานสีลาทิกุสลงฺเคน ตสฺส ตสฺส อกุสลงฺคสฺส ปหานํ ตทงฺคปฺปหานํ. ทุจฺจริตสํกิเลสสฺส ปหานนฺติ กายวจีทุจฺจริตเมว ยตฺถ อุปฺปชฺชติ, ตํ สนฺตานํ สมฺมา ¶ กิเลเสติ อุปตาเปตีติ สํกิเลโส, ตสฺส ตทงฺควเสน ปหานํ. สมาธิสฺส กามจฺฉนฺทปฏิปกฺขตฺตา สุตฺตนฺตปิฏเก ตณฺหาสํกิเลสสฺส ปหานํ วุตฺตํ. อตฺตาทิสฺุสภาวธมฺมปฺปกาสนโต อภิธมฺมปิฏเก ทิฏฺิสํกิเลสสฺส ปหานํ วุตฺตํ.
เอกเมกสฺมิฺเจตฺถาติ เอตฺถ เอเตสุ ตีสุ ปิฏเกสุ เอเกกสฺมึ ปิฏเกติ อตฺโถ. ธมฺโมติ ปาฬีติ เอตฺถ ธมฺมสฺส สีลาทิวิสิฏฺตฺถโยคโต, พุทฺธานํ สภาวนิรุตฺติภาวโต จ ปกฏฺานํ อุกฺกฏฺานํ วจนปฺปพนฺธานํ ¶ อาฬิ ปนฺตีติ ปาฬิ, ปริยตฺติธมฺโม. สมฺมุติปรมตฺถเภทสฺส อตฺถสฺส อนุรูปวาจกภาเวน ปรมตฺถสทฺเทสุ เอกนฺเตน ภควตา มนสา ววตฺถาปิโต นามปฺตฺติปฺปพนฺโธ ปาฬิธมฺโม นาม. เทสนาย ธมฺมสฺส จ โก วิเสโสติ เจ? ยถาวุตฺตนเยน มนสา ววตฺถาปิตธมฺมสฺส ปเรสํ โพธนภาเวน อติสชฺชนา วาจาย ปกาสนา ‘‘เทสนา’’ติ เวทิตพฺพา. เตนาห – ‘‘เทสนาติ ตสฺสา มนสา ววตฺถาปิตาย ปาฬิยา เทสนา’’ติ. ตทุภยมฺปิ ปน ปรมตฺถโต สทฺโท เอว ปรมตฺถวินิมุตฺตาย สมฺมุติยา อภาวา. อิมเมว นยํ คเหตฺวา เกจิ อาจริยา ‘‘ธมฺโม จ เทสนา จ ปรมตฺถโต สทฺโท เอวา’’ติ โวหรนฺติ, เตปิ อนุปวชฺชาเยว. ยถา ‘‘กามาวจรปฏิสนฺธิวิปากา ปริตฺตารมฺมณา’’ติ วุจฺจนฺติ, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. น หิ ‘‘กามาวจรปฏิสนฺธิวิปากา นิพฺพตฺติตปรมตฺถวิสยาเยวา’’ติ สกฺกา วตฺตุํ อิตฺถิปุริสาทิอาการปริวิตกฺกปุพฺพกานํ ราคาทิอกุสลานํ เมตฺตาทิกุสลานฺจ อารมฺมณํ คเหตฺวาปิ สมุปฺปชฺชนโต. ปรมตฺถธมฺมมูลกตฺตา ปนสฺส ปริกปฺปสฺส ปรมตฺถวิสยตา สกฺกา ปฺเปตุํ, เอวมิธาปีติ ทฏฺพฺพํ. ตีสุปิ เจเตสุ เอเต ธมฺมตฺถเทสนาปฏิเวธา คมฺภีราติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถ จ ปิฏกาวยวานํ ธมฺมาทีนํ วุจฺจมาโน คมฺภีรภาโว ตํสมุทายสฺส ปิฏกสฺสาปิ วุตฺโต เยวาติ ทฏฺพฺโพ. ทุกฺเขน โอคยฺหนฺติ, ทุกฺโข วา โอคาโห โอคาหนํ อนฺโตปวิสนเมเตสูติ ทุกฺโขคาหา. เอตฺถาติ เอเตสุ ปิฏเกสุ, นิทฺธารเณ เจตํ ภุมฺมวจนํ.
เหตุโน ผลํ เหตุผลํ. ธมฺมาภิลาโปติ อตฺถพฺยฺชนโก อวิปรีตาภิลาโป. วิสยโต อสมฺโมหโต จาติ โลกิยโลกุตฺตรานํ ยถากฺกมํ อวโพธปฺปการทสฺสนํ, เอตสฺส อวโพโธติ อิมินา สมฺพนฺโธ. โลกิโย หิ ธมฺมตฺถาทึ อาลมฺพิตฺวาว ปวตฺตนโต วิสยโต อวโพโธติ วุจฺจติ. โลกุตฺตโร ปน นิพฺพานารมฺมณตาย ตํ อนาลมฺพมาโนปิ ตพฺพิสยโมหวิทฺธํสเนน ธมฺมาทีสุ ปวตฺตนโต อสมฺโมหโต อวโพโธติ วุจฺจติ. อตฺถานุรูปํ ธมฺเมสูติ การิยานุรูปํ การเณสูติ อตฺโถ. ปฺตฺติปถานุรูปํ ปฺตฺตีสูติ ฉพฺพิธนามปฺตฺติยา ปโถ ปฺตฺติปโถ, ตสฺส อนุรูปํ ปฺตฺตีสูติ อตฺโถ.
ธมฺมชาตนฺติ ¶ ¶ การณปฺปเภโท การณเมว วา. อตฺถชาตนฺติ การิยปฺปเภโท, การิยเมว วา. ยา จายํ เทสนาติ สมฺพนฺโธ. โย เจตฺถาติ เอตาสุ ธมฺมตฺถเทสนาสุ โย ปฏิเวโธติ อตฺโถ. เอตฺถาติ เอเตสุ ตีสุ ปิฏเกสุ.
อลคทฺทูปมาติ เอตฺถ อลคทฺทสทฺเทน อลคทฺทคฺคหณํ วุจฺจติ วีณาวาทนํ วีณาติอาทีสุ วิย, คหณฺเจตฺถ ยถา ฑํสติ, ตถา ทุคฺคหณํ ทฏฺพฺพํ, อิตรคฺคหเณ วิโรธาภาวา. ตสฺมา อลคทฺทสฺส คหณํ อุปมา เอติสฺสาติ อลคทฺทูปมา. อลคทฺโทติ เจตฺถ อาสิวิโส วุจฺจติ. โส หิ อลํ ปริยตฺโต, ชีวิตหรณสมตฺโถ วา วิสสงฺขาโต คโท อสฺสาติ ‘‘อลํคโท’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘อลคทฺโท’’ติ วุจฺจติ.
วฏฺฏโต นิสฺสรณํ อตฺโถ ปโยชนํ เอติสฺสาติ นิสฺสรณตฺถา. ภณฺฑาคาริโก วิยาติ ภณฺฑาคาริโก, ธมฺมรตนานุปาลโก, ตสฺส อตฺถนิรเปกฺขสฺส ปริยตฺติ ภณฺฑาคาริกปริยตฺติ. ทุคฺคหิตานีติ ทุฏฺุ คหิตานิ. เตนาห ‘‘อุปารมฺภาทิเหตุ ปริยาปุฏา’’ติ. เอตฺถ จ อุปารมฺโภ นาม ปริยตฺตึ นิสฺสาย ปรวมฺภนํ. อาทิ-สทฺเทน อิติวาทปฺปโมกฺขลาภสกฺการาทึ สงฺคณฺหาติ. ยํ สนฺธายาติ ยํ ปริยตฺติทุคฺคหณํ สนฺธาย. วุตฺตนฺติ อลคทฺทูปมสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๒๓๘) วุตฺตํ. ตฺจสฺส อตฺถํ นานุโภนฺตีติ ตฺจ อสฺส ธมฺมสฺส สีลปริปูรณาทิสงฺขาตํ อตฺถํ เอเต ทุคฺคหิตคาหิโน นานุโภนฺติ น วินฺทนฺติ. ปฏิวิทฺธากุปฺโปติ ปฏิวิทฺธอรหตฺตผโล.
อิทานิ ตีสุ ปิฏเกสุ ยถารหํ สมฺปตฺติวิปตฺติโย นิทฺธาเรตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห วินเย ปนาติอาทิ. ตตฺถ ตาสํเยวาติ อวธารณํ ฉฬภิฺาจตุปฏิสมฺภิทานํ วินเย ปเภทวจนาภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. เวรฺชกณฺเฑ (ปารา. ๑๒) หิ ติสฺโส วิชฺชาว วิภตฺตา. ทุติเย ตาสํเยวาติ อวธารณํ จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา อเปกฺขิตฺวา กตํ ติสฺสนฺนมฺปิ วิชฺชานํ ฉสุ อภิฺาสุ อนฺโตปวิฏฺตฺตา. ตาสฺจาติ เอตฺถ จ-สทฺเทน เสสานมฺปิ ตตฺถ อตฺถิภาวํ ทีเปติ. อภิธมฺมปิฏเก หิ ติสฺโส วิชฺชา ฉ อภิฺา จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา จ วุตฺตา เอว. ปฏิสมฺภิทานํ ตตฺเถว สมฺมา วิภตฺตภาวํ ทีเปตุํ ตตฺเถวาติ อวธารณํ กตํ. อุปาทินฺนผสฺโสติ มคฺเคน มคฺคปฏิปาทนผสฺโส. เตสนฺติ เตสํ ปิฏกานํ. เอตนฺติ เอตํ พุทฺธวจนํ.
จตุตฺตึเสว ¶ สุตฺตนฺตาติ คาถาย อยมตฺถโยชนา – ยสฺส นิกายสฺส สุตฺตคณนโต จตุตฺตึเสว สุตฺตนฺตา วคฺคสงฺคหวเสน ตโย วคฺคา ยสฺส สงฺคหสฺสาติ ติวคฺโค สงฺคโห, เอส ปโม นิกาโย อิธ ทีฆนิกาโยติ. อนุโลมิโกติ อปจฺจนีโก, อตฺถานุโลมนโต อนฺวตฺถนาโมติ ¶ วุตฺตํ โหติ. เอกนิกายมฺปีติ เอกสมูหมฺปิ. เอวํ จิตฺตนฺติ เอวํ วิจิตฺตํ. ยถยิทนฺติ ยถา อิเม. โปณิกจิกฺขลฺลิกา ขตฺติยา, เตสํ นิวาโส ‘‘โปณิกนิกาโย จิกฺขลฺลิกนิกาโย’’ติ วุจฺจติ. ปฺจทสวคฺคปริคฺคโหติ ปฺจทสหิ วคฺเคหิ ปริคฺคหิโต. สุตฺตนฺตานํ สหสฺสานิ สตฺต สุตฺตสตานิ จาติ ปาเ สุตฺตนฺตานํ สตฺตสหสฺสานิ สตฺต สุตฺตสตานิ จาติ โยเชตพฺพํ. กตฺถจิ ปน ‘‘สตฺต สุตฺตสหสฺสานิ, สตฺต สุตฺตสตานิ จา’’ติ ปาโ. ปุพฺเพ นิทสฺสิตาติ สุตฺตนฺตปิฏกนิทฺเทเส นิทสฺสิตา.
เวทนฺติ าณํ. ตุฏฺินฺติ ปีตึ. ธมฺมกฺขนฺธวเสนาติ ธมฺมราสิวเสน. ทฺวาสีติสหสฺสานิ พุทฺธโต คณฺหินฺติ สมฺพนฺโธ. ทฺเว สหสฺสานิ ภิกฺขุโตติ ธมฺมเสนาปติอาทีนํ ภิกฺขูนํ สนฺติกา เตหิเยว เทสิตานิ ทฺเว สหสฺสานิ คณฺหึ. เมติ มม หทเย, อิติ อานนฺทตฺเถโร อตฺตานํ นิทฺทิสติ. เย ธมฺมา มม หทเย ปวตฺติโน, เต จตุราสีติสหสฺสานีติ โยชนา. อิทฺจ ภควโต ธรมานกาเล อุคฺคหิตธมฺมกฺขนฺธวเสน วุตฺตํ, ปรินิพฺพุเต ปน ภควติ อานนฺทตฺเถเรน เทสิตานํ สุภสุตฺต(ทอี. นิ. ๑.๔๔๔ อาทโย) โคปกโมคฺคลฺลานสุตฺตานํ (ม. นิ. ๓.๗๙ อาทโย), ตติยสงฺคีติยํ โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถเรน กถิตกถาวตฺถุปฺปกรณสฺส จ วเสน ธมฺมกฺขนฺธานํ จตุราสีติสหสฺสโตปิ อธิกตา เวทิตพฺพา.
เอกานุสนฺธิกํ สุตฺตนฺติ สติปฏฺานาทิ (ที. นิ. ๒.๓๗๒ อาทโย; ม. นิ. ๑.๑๐๕ อาทโย). อเนกานุสนฺธิกนฺติ ปรินิพฺพานสุตฺตาทิ (ที. นิ. ๒.๑๓๔ อาทโย). ตฺหิ นานาาเนสุ นานาธมฺมเทสนานํ วเสน ปวตฺตํ. ติกทุกภาชนํ ธมฺมสงฺคณิยํ นิกฺเขปกณฺฑ(ธ. ส. ๙๘๕ อาทโย) อฏฺกถากณฺฑวเสน (ธ. ส. ๑๓๘๔ อาทโย) คเหตพฺพํ. จิตฺตวารภาชนนฺติ อิทํ จิตฺตุปฺปาทกณฺฑวเสน (ธ. ส. ๑ อาทโย) วุตฺตํ. อตฺถิ วตฺถูติอาทีสุ วตฺถุ นาม สุทินฺนกณฺฑาทิ (ปารา. ๒๔ อาทโย). มาติกาติ สิกฺขาปทํ. อนฺตราปตฺตีติ สิกฺขาปทนฺตเรสุ อฺสฺมึ วตฺถุสฺมึ ปฺตฺตา อาปตฺติ. ติกจฺเฉโทติ ติกปาจิตฺติยาทิติกปริจฺเฉโท ¶ . พุทฺธวจนํ สงฺคหิตนฺติ สมฺพนฺโธ. อสฺสาติ พุทฺธวจนสฺส. สงฺคีติปริโยสาเน สาธุการํ ททมานา วิยาติ สมฺพนฺโธ. อจฺฉรํ ปหริตุํ ยุตฺตานิ อจฺฉริยานิ, ปุปฺผวสฺสเจลุกฺเขปาทีนิ. ยา ‘‘ปฺจสตา’’ติ จ ‘‘เถริกา’’ติ จ ปวุจฺจติ, อยํ ปมมหาสงฺคีติ นามาติ สมฺพนฺโธ.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
ปมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
ทุติยสงฺคีติกถาวณฺณนา
เอวํ ¶ ปมมหาสงฺคีตึ ทสฺเสตฺวา ยทตฺถํ สา อิธ ทสฺสิตา, ตํ นิคมนวเสน ทสฺเสนฺโต อิมิสฺสาติอาทิมาห. ตตฺรายํ อาจริยปรมฺปราติ ตสฺมึ ชมฺพุทีเป อยํ อาจริยานํ ปเวณี ปฏิปาฏิ. วิชิตาวิโนติ วิชิตสพฺพกิเลสปฏิปกฺขตฺตา วิชิตวนฺโต. ชมฺพุสิริวฺหเยติ ชมฺพุสทิโส สิริมนฺโต อวฺหโย นามํ ยสฺส ทีปสฺส, ตสฺมึ ชมฺพุทีเปติ วุตฺตํ โหติ. มหนฺเตน หิ ชมฺพุรุกฺเขน อภิลกฺขิตตฺตา ทีโปปิ ‘‘ชมฺพู’’ติ วุจฺจติ. อจฺฉิชฺชมานํ อวินสฺสมานํ กตฺวา. วินยวํสนฺติอาทีหิ ตีหิ วินยปาฬิเยว กถิตา ปริยายวจนตฺตา เตสํ. ปกตฺุตนฺติ เวยฺยตฺติยํ, ปฏุภาวนฺติ วุตฺตํ โหติ. ธุรคฺคาโหติ ปธานคฺคาหี, สพฺเพสํ ปาโมกฺโข หุตฺวา คณฺหีติ วุตฺตํ โหติ. ภิกฺขูนํ สมุทาโย สมูโห ภิกฺขุสมุทาโย.
ยทาติ นิพฺพายึสูติ สมฺพนฺโธ. โชตยิตฺวา จ สพฺพธีติ ตเมว สทฺธมฺมํ สพฺพตฺถ ปกาสยิตฺวา. ชุติมนฺโตติ ปฺาชุติยา ยุตฺตา, เตชวนฺโต วา, มหานุภาวาติ อตฺโถ. นิพฺพายึสูติ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา นิพฺพายึสุ. อนาลยาติ อสงฺคา.
อถาติ ปจฺฉา, ยทา ปรินิพฺพายึสุ, ตโต ปรนฺติ อตฺโถ. กปฺปติ สิงฺคีโลณกปฺโปติ เอตฺถ กปฺป-สทฺโท วิกปฺปตฺโถ, เตน สิงฺคีโลณวิกปฺโปปิ กปฺปติ. อิทมฺปิ ปกฺขนฺตรํ กปฺปตีติ อตฺโถ, เอวํ สพฺพตฺถ. ตตฺถ สิงฺเคน โลณํ ปริหริตฺวา อโลณกปิณฺฑปาเตน สทฺธึ ภฺุชิตุํ กปฺปติ ¶ , สนฺนิธึ น กโรตีติ อธิปฺปาโย. กปฺปติ ทฺวงฺคุลกปฺโปติ ทฺวงฺคุลํ อติกฺกนฺตาย ฉายาย วิกาเล โภชนํ ภฺุชิตุํ กปฺปตีติ อตฺโถ. กปฺปติ คามนฺตรกปฺโปติ ‘‘คามนฺตรํ คมิสฺสามี’’ติ ปวาริเตน อนติริตฺตโภชนํ ภฺุชิตุํ กปฺปตีติ อตฺโถ. กปฺปติ อาวาสกปฺโปติ เอกสีมาย นานาเสนาสเนสุ วิสุํ วิสุํ อุโปสถาทีนิ สงฺฆกมฺมานิ กาตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. กปฺปติ อนุมติกปฺโปติ ‘‘อนาคตานํ อาคตกาเล อนุมตึ คเหสฺสามา’’ติ เตสุ อนาคเตสุเยว วคฺเคน สงฺเฆน กมฺมํ กตฺวา ปจฺฉา อนุมตึ คเหตุํ กปฺปติ, วคฺคกมฺมํ น โหตีติ อธิปฺปาโย. กปฺปติ อาจิณฺณกปฺโปติ อาจริยุปชฺฌาเยหิ อาจิณฺโณ กปฺปตีติ อตฺโถ. โส ปน เอกจฺโจ กปฺปติ ธมฺมิโก, เอกจฺโจ น กปฺปติ อธมฺมิโกติ เวทิตพฺโพ. กปฺปติ อมถิตกปฺโปติ ยํ ขีรํ ขีรภาวํ วิชหิตํ ทธิภาวํ อสมฺปตฺตํ, ตํ ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อนติริตฺตํ ภฺุชิตุํ กปฺปตีติ อตฺโถ. กปฺปติ ชโฬคึ ปาตุนฺติ เอตฺถ ชโฬคีติ ตรุณสุรา, ยํ มชฺชสมฺภารํ เอกโต กตํ มชฺชภาวมสมฺปตฺตํ, ตํ ปาตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. ชาตรูปรชตนฺติ เอตฺถ สรสโต วิการํ อนาปชฺชิตฺวา สพฺพทา ชาตรูปเมว โหตีติ ชาตํ รูปํ ¶ เอตสฺสาติ ชาตรูปํ, สุวณฺณํ. ธวลสภาวตาย ราชตีติ รชตํ, รูปิยํ. สุสุนาคปุตฺโตติ สุสุนาคสฺส ปุตฺโต. กากณฺฑกปุตฺโตติ กากณฺฑกสฺส พฺราหฺมณสฺส ปุตฺโต. วชฺชีสูติ ชนปทนามตฺตา พหุวจนํ กตํ.
ตทหุโปสเถติ เอตฺถ ตทหูติ ตสฺมึ อหนิ. อุปวสนฺติ เอตฺถาติ อุโปสโถ, อุปวสนฺตีติ จ สีลสมาทาเนน วา อนสนาทินา วา อุเปตา หุตฺวา วสนฺตีติ อตฺโถ. กํสปาตินฺติ สุวณฺณปาตึ. มาสกรูปนฺติ มาสโก เอว. สพฺพํ ตาว วตฺตพฺพนฺติ อิมินา สตฺตสติกกฺขนฺธเก (จูฬว. ๔๔๖ อาทโย) อาคตา สพฺพาปิ ปาฬิ อิธ อาเนตฺวา วตฺตพฺพาติ ทสฺเสติ. สงฺคายิตสทิสเมว สงฺคายึสูติ สมฺพนฺโธ.
สา ปนายํ สงฺคีตีติ สมฺพนฺโธ. เตสูติ เตสุ สงฺคีติการเกสุ เถเรสุ. วิสฺสุตา เอเต สทฺธิวิหาริกา เยฺยาติ สมฺพนฺโธ. สาณสมฺภูโตติ สาณเทสวาสี สมฺภูตตฺเถโร. ทุติโย สงฺคโหติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. ปนฺนภาราติ ปติตกฺขนฺธภารา.
อพฺพุทนฺติ ¶ อุปทฺทวํ วทนฺติ. ‘‘ภควโต วจนํ เถเนตฺวา อตฺตโน วจนสฺส ทีปนโต อพฺพุทนฺติ โจรกมฺม’’นฺติ เอเก. อิทนฺติ วกฺขมานนิทสฺสนํ. สนฺทิสฺสมานา มุขา สมฺมุขา. ภาวิตมคฺคนฺติ อุปฺปาทิตชฺฌานํ. สาธุ สปฺปุริสาติ เอตฺถ สาธูติ อายาจนตฺเถ นิปาโต, ตํ ยาจามีติ อตฺโถ. หฏฺปหฏฺโติ ปุนปฺปุนํ สนฺตุฏฺโ. อุทคฺคุทคฺโคติ สรีรวิการุปฺปาทนปีติวเสน อุทคฺคุทคฺโค, ปีติมา หิ ปุคฺคโล กายจิตฺตานํ อุคฺคตตฺตา ‘‘อุทคฺคุทคฺโค’’ติ วุจฺจติ.
เตน โข ปน สมเยนาติ ยสฺมึ สมเย ทุติยํ สงฺคีตึ อกรึสุ, ตสฺมึ สมเยติ อตฺโถ. ตํ อธิกรณํ น สมฺปาปุณึสูติ ตํ วชฺชิปุตฺตเกหิ อุปฺปาทิตํ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตุํ น สมฺปาปุณึสุ นาคมึสุ. โน อหุวตฺถาติ สมฺพนฺโธ. ยาวตายุกํ ตฺวา ปรินิพฺพุตาติ สมฺพนฺโธ. กึ ปน กตฺวา เถรา ปรินิพฺพุตาติ? อาห ทุติยํ สงฺคหํ กตฺวาติอาทิ. อนิจฺจตาวสนฺติ อนิจฺจตาธีนตํ. ชมฺมินฺติ ลามกํ. ทุรภิสมฺภวํ อนภิภวนียํ อติกฺกมิตุํ อสกฺกุเณยฺยํ อนิจฺจตํ เอวํ ตฺวาติ สมฺพนฺโธ.
ทุติยสงฺคีติกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
ตติยสงฺคีติกถาวณฺณนา
สตฺต ¶ วสฺสานีติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. อติจฺฉถาติ อติกฺกมิตฺวา อิจฺฉถ, อิโต อฺตฺถ คนฺตฺวา ภิกฺขํ ปริเยสถาติ อตฺโถ. ภตฺตวิสฺสคฺคกรณตฺถายาติ ภตฺตสฺส อชฺโฌหรณกิจฺจตฺถาย, ภฺุชนตฺถายาติ อตฺโถ. ‘‘โสฬสวสฺโส’’ติ อุทฺเทโส กถนํ อสฺส อตฺถีติ โสฬสวสฺสุทฺเทสิโก, ‘‘โสฬสวสฺสิโก’’ติ อตฺโถ.
ตีสุ เวเทสูติอาทีสุ อิรุเวทยชุเวทสามเวทสงฺขาเตสุ ตีสุ เวเทสุ. ตโย เอว กิร เวทา อฏฺกาทีหิ ธมฺมิเกหิ อิสีหิ โลกสฺส สคฺคมคฺควิภาวนตฺถาย กตา. เตเนว หิ เต เตหิ วุจฺจนฺติ. อาถพฺพณเวโท ปน ปจฺฉา อธมฺมิเกหิ พฺราหฺมเณหิ ปาณวธาทิอตฺถาย กโต. ปุริเมสุ จ ตีสุ เวเทสุ เตเหว ธมฺมิกสาขาโย อปเนตฺวา ยาควธาทิทีปิกา อธมฺมิกสาขา ปกฺขิตฺตาติ เวทิตพฺพา. นิฆณฺฑูติ รุกฺขาทีนํ เววจนปฺปกาสกํ ปริยายนามานุรูปํ สตฺถํ. ตฺหิ โลเก ‘‘นิฆณฺฑู’’ติ ¶ วุจฺจติ. เกฏุภนฺติ กิฏติ คเมติ กิริยาทิวิภาคนฺติ เกฏุภํ, กิริยากปฺปวิกปฺโป กวีนํ อุปการสตฺถํ. เอตฺถ จ กิริยากปฺปวิกปฺโปติ วจีเภทาทิลกฺขณา กิริยา กปฺปียติ วิกปฺปียติ เอเตนาติ กิริยากปฺโป, โส ปน วณฺณปทพนฺธปทตฺถาทิวิภาคโต พหุวิกปฺโปติ ‘‘กิริยากปฺปวิกปฺโป’’ติ วุจฺจติ. อิทฺจ มูลกิริยากปฺปคนฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. สห นิฆณฺฑุนา เกฏุเภน จ สนิฆณฺฑุเกฏุภา, ตโย เวทา, เตสุ สนิฆณฺฑุเกฏุเภสุ. านกรณาทิวิภาคโต จ นิพฺพจนวิภาคโต จ อกฺขรา ปเภทียนฺติ เอเตนาติ อกฺขรปฺปเภโท, สิกฺขา จ นิรุตฺติ จ. สห อกฺขรปฺปเภเทนาติ สากฺขรปฺปเภทา, เตสุ สากฺขรปฺปเภเทสุ. อาถพฺพณเวทํ จตุตฺถํ กตฺวา ‘‘อิติห อาส อิติห อาสา’’ติ อีทิสวจนปฏิสํยุตฺโต โปราณกถาสงฺขาโต อิติหาโส ปฺจโม เอเตสนฺติ อิติหาสปฺจมา, ตโย เวทา, เตสุ อิติหาสปฺจเมสุ.
ยสฺส จิตฺตนฺติอาทิ ปฺหทฺวยํ ขีณาสวานํ จุติจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ ปมปฺเห อุปฺปชฺชตีติ อุปฺปาทกฺขณสมงฺคิตาย อุปฺปชฺชติ. น นิรุชฺฌตีติ นิโรธกฺขณํ อปฺปตฺตตาย น นิรุชฺฌติ. ตสฺส จิตฺตนฺติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส ตํ จิตฺตํ กึ นิรุชฺฌิสฺสติ อายติฺจ นุปฺปชฺชิสฺสตีติ ปุจฺฉา, ตสฺสา จ วิภชฺชพฺยากรณียตาย เอวเมตฺถ วิสฺสชฺชนํ เวทิตพฺพํ. อรหโต ปจฺฉิมจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ตสฺส จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, น นิรุชฺฌติ, อายติฺจ นุปฺปชฺชิสฺสติ, อวสฺสเมว นิโรธกฺขณํ ปตฺวา นิรุชฺฌิสฺสติ, ตโต อปฺปฏิสนฺธิกตฺตา อฺํ นุปฺปชฺชิสฺสติ. เปตฺวา ปน ปจฺฉิมจิตฺตสมงฺคึ ขีณาสวํ อิตเรสํ อุปฺปาทกฺขณสมงฺคิจิตฺตํ ¶ อุปฺปาทกฺขณสมงฺคิตาย อุปฺปชฺชติ ภงฺคํ อปฺปตฺตตาย น นิรุชฺฌติ, ภงฺคํ ปน ปตฺวา นิรุชฺฌิสฺสเตว, อฺํ ปน ตสฺมึ วา อฺสฺมึ วา อตฺตภาเว อุปฺปชฺชิสฺสติ เจว นิรุชฺฌิสฺสติ จาติ. ยสฺส วา ปนาติอาทิ ทุติยปฺเห ปน นิรุชฺฌิสฺสติ นุปฺปชฺชิสฺสตีติ ยสฺส จิตฺตํ อุปฺปาทกฺขณสมงฺคิตาย ภงฺคกฺขณํ ปตฺวา นิรุชฺฌิสฺสติ อปฺปฏิสนฺธิกตาย นุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺส ขีณาสวสฺส ตํ จิตฺตํ กึ อุปฺปชฺชติ น นิรุชฺฌตีติ ปุจฺฉา, ตสฺสา เอกํสพฺยากรณียตาย ‘‘อามนฺตา’’ติ วิสฺสชฺชนํ เวทิตพฺพํ. อุทฺธํ วา อโธ วา หริตุํ อสกฺโกนฺโตติ อุปริมปเท วา เหฏฺิมปทํ เหฏฺิมปเท วา อุปริมปทํ อตฺถโต สมนฺนาหริตุํ ฆเฏตุํ ปุพฺเพนาปรํ โยเชตฺวา อตฺถํ ปริจฺฉินฺทิตุํ อสกฺโกนฺโตติ อตฺโถ.
โสตาปนฺนานํ ¶ สีเลสุ ปริปูรการิตาย สมาทินฺนสีลโต นตฺถิ ปริหานีติ อาห ‘‘อภพฺโพ ทานิ สาสนโต นิวตฺติตุ’’นฺติ. วฑฺเฒตฺวาติ อุปริมคฺคตฺถาย กมฺมฏฺานํ วฑฺเฒตฺวา. ทนฺเต ปุนนฺติ วิโสเธนฺติ เอเตนาติ ทนฺตโปนํ วุจฺจติ ทนฺตกฏฺํ. อภินวานํ อาคนฺตุกานํ ลชฺชีสภาวํ ขนฺติเมตฺตาทิคุณสมงฺคิตฺจ กติปาหํ สุฏฺุ วีมํสิตฺวาว หตฺถกมฺมาทิสมฺปฏิจฺฉนํ สงฺคหกรณฺจ ยุตฺตนฺติ สามเณรสฺส เจว อฺเสฺจ ภิกฺขูนํ ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺตานํ าปนตฺถํ เถโร ตสฺส ภพฺพรูปตํ อภิฺาย ตฺวาปิ ปุน สมฺมชฺชนาทึ อกาสิ. ‘‘ตสฺส จิตฺตทมนตฺถ’’นฺติปิ วทนฺติ. พุทฺธวจนํ ปฏฺเปสีติ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหาเปตุํ อารภิ. สกลวินยาจารปฏิปตฺติ อุปสมฺปนฺนานเมว วิหิตาติ ตปฺปริยาปุณนมปิ เตสฺเว อนุรูปนฺติ อาห ‘‘เปตฺวา วินยปิฏก’’นฺติ. ตสฺส จิตฺเต ปิตมฺปิ พุทฺธวจนํ สงฺโคปนตฺถาย นิยฺยาติตภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘หตฺเถ ปติฏฺาเปตฺวา’’ติ วุตฺตํ.
เอกรชฺชาภิเสกนฺติ สกลชมฺพุทีเป เอกาธิปจฺจวเสน กริยมานํ อภิเสกํ. ราชิทฺธิโยติ ราชานุภาวานุคตปฺปภาวา. ยโตติ ยโต โสฬสฆฏโต. เทวตา เอว ทิวเส ทิวเส อาหรนฺตีติ สมฺพนฺโธ. เทวสิกนฺติ ทิวเส ทิวเส. อคทามลกนฺติ อปฺปเกเนว สรีรโสธนาทิสมตฺถํ สพฺพโทสหรํ โอสธามลกํ. ฉทฺทนฺตทหโตติ ฉทฺทนฺตทหสมีเป ิตเทววิมานโต, กปฺปรุกฺขโต วา, ตตฺถ ตาทิสา กปฺปรุกฺขวิเสสา สนฺติ, ตโต วา อาหรนฺตีติ อตฺโถ. อสุตฺตมยิกนฺติ สุตฺเตหิ อพทฺธํ ทิพฺพสุมนปุปฺเผเหว กตํ สุมนปุปฺผปฏํ. อุฏฺิตสฺส สาลิโนติ สยํชาตสาลิโน, สมุทายาเปกฺขฺเจตฺถ เอกวจนํ, สาลีนนฺติ อตฺโถ. นว วาหสหสฺสานีติ เอตฺถ จตสฺโส มุฏฺิโย เอโก กุฑุโว, จตฺตาโร กุฑุวา เอโก ปตฺโถ, จตฺตาโร ปตฺถา เอโก อาฬฺหโก, จตฺตาโร อาฬฺหกา เอกํ โทณํ, จตฺตาริ โทณานิ เอกา มานิกา ¶ , จตสฺโส มานิกา เอกา ขารี, วีสติ ขาริกา เอโก วาโห, ตเทว ‘‘เอกํ สกฏ’’นฺติ สุตฺตนิปาตฏฺกถาทีสุ (สุ. นิ. อฏฺ. ๒.โกกาลิกสุตฺตวณฺณนา) วุตฺตํ. นิตฺถุสกเณ กโรนฺตีติ ถุสกุณฺฑกรหิเต กโรนฺติ. เตน นิมฺมิตํ พุทฺธรูปํ ปสฺสนฺโตติ สมฺพนฺโธ. ปฺุปฺปภาวนิพฺพตฺตคฺคหณํ นาคราชนิมฺมิตานํ ปฺุปฺปภาวนิพฺพตฺเตหิ สทิสตาย กตํ. วิมลเกตุมาลาติ เอตฺถ เกตุมาลา นาม สีสโต นิกฺขมิตฺวา อุปริมุทฺธนิ ปฺุโช หุตฺวา ทิสฺสมานรสฺมิราสีติ วทนฺติ.
พาหิรกปาสณฺฑนฺติ ¶ พาหิรกปฺปเวทิตํ สมยวาทํ. ปริคฺคณฺหีติ วีมํสมาโน ปริคฺคเหสิ. ภทฺทปีเกสูติ เวตฺตมยปีเสุ. สาโรติ คุณสาโร. สีหปฺชเรติ มหาวาตปานสมีเป. กิเลสวิปฺผนฺทรหิตจิตฺตตาย ทนฺตํ. นิจฺจํ ปจฺจุปฏฺิตสตารกฺขตาย คุตฺตํ. ขุรคฺเคเยวาติ เกโสโรปนาวสาเน. อติวิย โสภตีติ สมฺพนฺโธ. วาณิชโก อโหสีติ มธุวาณิชโก อโหสิ.
ปุพฺเพ ว สนฺนิวาเสนาติ ปุพฺเพ วา ปุพฺพชาติยํ วา สหวาเสนาติ อตฺโถ. ปจฺจุปฺปนฺนหิเตน วาติ วตฺตมานภเว หิตจรเณน วา. เอวํ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ ตํ สิเนหสงฺขาตํ เปมํ ชายเต. กึ วิยาติ? อาห ‘‘อุปฺปลํ ว ยโถทเก’’ติ. อุปฺปลํ วาติ รสฺสกโต วา-สทฺโท อวุตฺตสมฺปิณฺฑนตฺโถ. ยถา-สทฺโท อุปมายํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา อุปฺปลฺจ เสสฺจ ปทุมาทิ อุทเก ชายมานํ ทฺเว การณานิ นิสฺสาย ชายติ อุทกฺเจว กลลฺจ, เอวํ เปมมฺปีติ (ชา. อฏฺ. ๒.๒.๑๗๔).
ธุวภตฺตานีติ นิจฺจภตฺตานิ. วชฺชาวชฺชนฺติ ขุทฺทกํ มหนฺตฺจ วชฺชํ. โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถรสฺส ภารมกาสีติ เถรสฺส มหานุภาวตํ, ตทา สาสนกิจฺจสฺส นายกภาเวน สงฺฆปริณายกตฺจ รฺโ าเปตุํ สงฺโฆ ตสฺส ภารมกาสีติ เวทิตพฺพํ, น อฺเสํ อชานนตาย. สาสนสฺส ทายาโทติ สาสนสฺส อพฺภนฺตโร าตโก โหมิ น โหมีติ อตฺโถ. เย สาสเน ปพฺพชิตุํ ปุตฺตธีตโร ปริจฺจชนฺติ, เต พุทฺธสาสเน สาโลหิตาตกา นาม โหนฺติ, สกลสาสนธารเณ สมตฺถานํ อตฺตโน โอรสปุตฺตานํ ปริจฺจตฺตตฺตา น ปจฺจยมตฺตทายกาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย เถโร ‘‘น โข, มหาราช, เอตฺตาวตา สาสนสฺส ทายาโท โหตี’’ติ อาห. กถฺจรหีติ เอตฺถ จรหีติ นิปาโต อกฺขนฺตึ ทีเปติ. ติสฺสกุมารสฺสาติ รฺโ เอกมาตุกสฺส กนิฏฺสฺส. สกฺขสีติ สกฺขิสฺสสิ. สิกฺขาย ปติฏฺาเปสุนฺติ ปาณาติปาตา เวรมณิอาทีสุ วิกาลโภชนา เวรมณิปริโยสานาสุ ฉสุ สิกฺขาสุ ปาณาติปาตา เวรมณึ ทฺเว ¶ วสฺสานิ อวีติกฺกมฺม สมาทานํ สมาทิยามีติอาทินา (ปาจิ. ๑๐๗๙) สมาทานวเสน สิกฺขาสมฺมุติทานานนฺตรํ สิกฺขาย ปติฏฺาเปสุํ. ฉ วสฺสานิ อภิเสกสฺส อสฺสาติ ฉวสฺสาภิเสโก.
สพฺพํ ¶ เถรวาทนฺติ ทฺเว สงฺคีติโย อารุฬฺหา ปาฬิ. สา หิ มหาสงฺฆิกาทิภินฺนลทฺธิกาหิ วิเวเจตุํ ‘‘เถรวาโท’’ติ วุตฺตา. อยฺหิ วิภชฺชวาโท มหากสฺสปตฺเถราทีหิ อสงฺกรโต รกฺขิโต อานีโต จาติ ‘‘เถรวาโท’’ติ วุจฺจติ, ‘‘สเถรวาท’’นฺติปิ ลิขนฺติ. ตตฺถ ‘‘อฏฺกถาสุ อาคตเถรวาทสหิตํ สาฏฺกถํ ติปิฏกสงฺคหิตํ พุทฺธวจน’’นฺติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวาติ เตโชกสิณารมฺมณํ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา.
สภายนฺติ นครมชฺเฌ วินิจฺฉยสาลายํ. ทิฏฺิคตานีติ ทิฏฺิโยว. น โข ปเนตํ สกฺกา อิเมสํ มชฺเฌ วสนฺเตน วูปสเมตุนฺติ เตสฺหิ มชฺเฌ วสนฺโต เตสุเยว อนฺโตคธตฺตา อาเทยฺยวจโน น โหติ, ตสฺมา เอวํ จินฺเตสิ. อโหคงฺคปพฺพตนฺติ เอวํนามกํ ปพฺพตํ. ‘‘อโธคงฺคาปพฺพต’’นฺติปิ ลิขนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. ปฺจาตเปน ตปฺเปนฺตีติ จตูสุ าเนสุ อคฺคึ ชาเลตฺวา มชฺเฌ ตฺวา สูริยมณฺฑลํ อุลฺโลเกนฺตา สูริยาตเปน ตปฺเปนฺติ. อาทิจฺจํ อนุปริวตฺตนฺตีติ อุทยกาลโต ปภุติ สูริยํ โอโลกยมานา ยาว อตฺถงฺคมนา สูริยาภิมุขาว ปริวตฺตนฺติ. โวภินฺทิสฺสามาติ ปคฺคณฺหึสูติ วินาเสสฺสามาติ อุสฺสาหมกํสุ.
วิสฺสฏฺโติ มรณสงฺการหิโต, นิพฺภโยติ อตฺโถ. มิควํ นิกฺขมิตฺวาติ อรฺเ วิจริตฺวา มิคมารณกีฬา มิควํ, ตํ อุทฺทิสฺส นิกฺขมิตฺวา มิควธตฺถํ นิกฺขมิตฺวาติ อตฺโถ. อหินาคาทิโต วิเสสนตฺถํ ‘‘หตฺถินาเคนา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสวาติ อนาทเร สามิวจนํ, ตสฺมึ ปสฺสนฺเตเยวาติ อตฺโถ. อากาเส อุปฺปติตฺวาติ เอตฺถ อยํ วิกุพฺพนิทฺธิ น โหตีติ คิหิสฺสาปิ อิมํ อิทฺธึ ทสฺเสสิ อธิฏฺานิทฺธิยา อปฺปฏิกฺขิตฺตตฺตา. ปกติวณฺณฺหิ วิชหิตฺวา นาควณฺณาทิทสฺสนํ วิกุพฺพนิทฺธิ. ฉณเวสนฺติ อุสฺสวเวสํ. ปธานฆรนฺติ ภาวนานุโยควเสน วีริยารมฺภสฺส อนุรูปํ วิวิตฺตเสนาสนํ. โสปีติ รฺโ ภาคิเนยฺยํ สนฺธาย วุตฺตํ.
กุสลาธิปฺปาโยติ มนาปชฺฌาสโย. ทฺเวฬฺหกชาโตติ สํสยมาปนฺโน. เอเกกํ ภิกฺขุสหสฺสปริวารนฺติ เอตฺถ ‘‘คณฺหิตฺวา อาคจฺฉถา’’ติ อาณากาเรน วุตฺเตปิ เถรา ภิกฺขู สาสนหิตตฺตา คตา. กปฺปิยสาสนฺเหตํ, น คิหีนํ คิหิกมฺมปฏิสํยุตฺตํ. เถโร นาคจฺฉีติ กิฺจาปิ ¶ ‘‘ราชา ¶ ปกฺโกสตี’’ติ วุตฺเตปิ ธมฺมกมฺมตฺถาย อาคนฺตุํ วฏฺฏติ, ทฺวิกฺขตฺตุํ ปน เปสิเตปิ ‘‘อนนุรูปา ยาจนา’’ติ นาคโต, ‘‘มหานุภาโว เถโร ยถานุสิฏฺํ ปฏิปตฺติโก ปมาณภูโต’’ติ รฺโ เจว อุภยปกฺขิกานฺจ อตฺตนิ พหุมานุปฺปาทนวเสน อุทฺธํ กตฺตพฺพกมฺมสิทฺธึ อากงฺขนฺโต อสารุปฺปวจนเลเสน นาคจฺฉิ. เอกโต สงฺฆฏิตา นาวา นาวาสงฺฆาฏํ. สาสนปจฺจตฺถิกานํ พหุภาวโต อาห ‘‘อารกฺขํ สํวิธายา’’ติ. ยนฺติ ยสฺมา. อพฺพาหึสูติ อากฑฺฒึสุ. พาหิรโตติ อุยฺยานสฺส พาหิรโต. ปสฺสนฺตานํ อติทุกฺกรภาเวน อุปฏฺานํ สนฺธาย ‘‘ปเทสปถวีกมฺปนํ ทุกฺกร’’นฺติ อาห. อธิฏฺาเน ปเนตฺถ วิสุํ ทุกฺกรตา นาม นตฺถิ.
ทีปกติตฺติโรติ สากุณิเกหิ สมชาติกานํ คหณตฺถาย โปเสตฺวา สิกฺเขตฺวา ปาสฏฺาเน ปนกติตฺติโร. น ปฏิจฺจ กมฺมํ ผุสตีติ คาถาย ยทิ ตว ปาปกิริยาย มโน นปฺปทุสฺสติ, ลุทฺเทน ตํ นิสฺสาย กตมฺปิ ปาปกมฺมํ ตํ น ผุสติ. ปาปกิริยาย หิ อปฺโปสฺสุกฺกสฺส นิราลยสฺส ภทฺรสฺส สโต ตว ตํ ปาปํ น อุปลิมฺปติ, ตว จิตฺตํ น อลฺลียตีติ อตฺโถ.
กึ วทติ สีเลนาติ กึวาที. อถ วา โก กตโม วาโท กึวาโท, โส เอตสฺส อตฺถีติ กึวาที. อตฺตานฺจ โลกฺจ สสฺสโตติ วาโท เอเตสนฺติ สสฺสตวาทิโน. สตฺเตสุ สงฺขาเรสุ วา เอกจฺจํ สสฺสตนฺติ ปวตฺโต วาโท เอกจฺจสสฺสโต, ตสฺมึ นิยุตฺตา เอกจฺจสสฺสติกา. ‘‘อนฺโต, อนนฺโต, อนฺตานนฺโต, เนวนฺโต นานนฺโต’’ติ เอวํ อนฺตานนฺตํ อารพฺภ ปวตฺตา จตฺตาโร วาทา อนฺตานนฺตา, เตสุ นิยุตฺตา อนฺตานนฺติกา. น มรติ น อุปจฺฉิชฺชตีติ อมรา, เอวนฺติปิ เม โน, ตถาติปิ เม โนติอาทินา (ที. นิ. ๑.๖๒) ปวตฺตา ทิฏฺิ เจว วาจา จ, ตสฺสา วิกฺเขโป เอเตสนฺติ อมราวิกฺเขปิกา. อถ วา อมรา นาม มจฺฉชาติ ทุคฺคหา โหติ, ตสฺสา อมราย วิย วิกฺเขโป เอเตสนฺติ อมราวิกฺเขปิกา. อธิจฺจ ยทิจฺฉกํ ยํ กิฺจิ การณํ อนเปกฺขิตฺวา สมุปฺปนฺโน อตฺตา จ โลโก จาติ วาเท นิยุตฺตา อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา. สฺี อตฺตาติ วาโท เยสนฺเต สฺีวาทา. เอวํ อสฺีวาทา เนวสฺีนาสฺีวาทาติ เอตฺถาปิ. ‘‘กายสฺส เภทา สตฺโต อุจฺฉิชฺชตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๘๕-๘๖) เอวํ ¶ อุจฺเฉทํ วทนฺตีติ อุจฺเฉทวาทา. ทิฏฺธมฺโมติ ปจฺจกฺโข ยถาสกํ อตฺตภาโว, ตสฺมึเยว ยถากามํ ปฺจกามคุณปริโภเคน นิพฺพานํ ทุกฺขูปสมํ วทนฺตีติ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา. วิภชิตฺวา วาโท เอตสฺสาติ วิภชฺชวาที, ภควา. สพฺพํ เอกรูเปน อวตฺวา ยถาธมฺมํ วิภชิตฺวา นิชฺชฏํ นิคุมฺพํ กตฺวา ยถา ทิฏฺิสนฺเทหาทโย วิคจฺฉนฺติ, สมฺมุติปรมตฺถา ¶ จ ธมฺมา อสงฺกรา ปฏิภนฺติ, เอวํ เอกนฺตวิภชนสีโลติ วุตฺตํ โหติ. ปรปฺปวาทํ มทฺทมาโนติ ตสฺมึ กาเล อุปฺปนฺนํ, อายตึ อุปฺปชฺชนกฺจ สพฺพํ ปรวาทํ กถาวตฺถุมาติกาวิวรณมุเขน นิมฺมทฺทนํ กโรนฺโตติ อตฺโถ.
ตติยสงฺคีติกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
อาจริยปรมฺปรกถาวณฺณนา
เกนาภตนฺติ อิมํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺเตน ชมฺพุทีเป ตาว ยาว ตติยสงฺคีติ, ตาว ทสฺเสตฺวา อิทานิ สีหฬทีเป อาจริยปรมฺปรํ ทสฺเสตุํ ตติยสงฺคหโต ปน อุทฺธนฺติอาทิ อารทฺธํ. อิมํ ทีปนฺติ ตมฺพปณฺณิทีปํ. ตสฺมึ ทีเป นิสีทิตฺวา อาจริเยน อฏฺกถาย กตตฺตา ‘‘อิมํ ทีป’’นฺติ วุตฺตํ. กฺจิ กาลนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ, กิสฺมิฺจิ กาเลติ อตฺโถ. โปราณาติ สีหฬทีเป สีหฬฏฺกถาการกา. ภทฺทนาโมติ ภทฺทสาลตฺเถโร. อาคุํ ปาปํ น กโรนฺตีติ นาคา. วินยปิฏกํ วาจยึสูติ สมฺพนฺโธ. ตมฺพปณฺณิยาติ ภุมฺมวจนํ. นิกาเย ปฺจาติ วินยาภิธมฺมานํ วิสุํ คหิตตฺตา ตพฺพินิมุตฺตา ปฺจ นิกายา คเหตพฺพา. ปกรเณติ อภิธมฺมปกรเณ วาเจสุนฺติ โยชนา. ตีณิ ปิฏกานิ สฺวาคตานิ อสฺสาติ ‘‘เตปิฏโก’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ติเปฏโก’’ติ ฉนฺทานุรกฺขณตฺถํ วุตฺตํ. ตารกราชาติ จนฺทิมา. ปุปฺผนาโมติ เอตฺถ มหาปทุมตฺเถโร สุมนตฺเถโร จ าตพฺโพติ ทฺวิกฺขตฺตุํ ‘‘ปุปฺผนาโม’’ติ วุตฺตํ.
วนวาสินฺติ วนวาสีรฏฺํ. กรกวสฺสนฺติ หิมปาตนกวสฺสํ, กรกธาราสทิสํ วา วสฺสํ. หราเปตฺวาติ อุทโกเฆน หราเปตฺวา. ฉินฺนภินฺนปฏธโรติ สตฺถเกน ฉินฺนํ รงฺเคน ภินฺนํ ปฏํ ธารณโก. ภณฺฑูติ มุณฺฑโก. มกฺขํ อสหมาโนติ เถรสฺส อานุภาวํ ปฏิจฺจ อตฺตโน ¶ อุปฺปนฺนํ ปเรสํ คุณมกฺขนลกฺขณํ มกฺขํ ตถา ปวตฺตํ โกธํ อสหมาโน. อสนิโย ผลนฺตีติ คชฺชนฺตา ปตนฺติ. เม มม ภยเภรวํ ชเนตุํ ปฏิพโล น อสฺส น ภเวยฺยาติ โยชนา. อฺทตฺถูติ เอกํเสน. กสฺมีรคนฺธาราติ กสฺมีรคนฺธารรฏฺวาสิโน. อิสิวาตปฏิวาตาติ ภิกฺขูนํ จีวรจลนกายจลเนหิ สฺชนิตวาเตหิ ปริโต สมนฺตโต พีชยมานา อเหสุํ. ธมฺมจกฺขุนฺติ เหฏฺามคฺคตฺตเย าณํ. อนมตคฺคิยนฺติ อนมตคฺคสํยุตฺตํ (สํ. นิ. ๒.๑๒๔ อาทโย). สมธิกานีติ สาธิกานิ. ปฺจ รฏฺานีติ ปฺจ จินรฏฺานิ. เวคสาติ เวเคน. สมนฺตโต รกฺขํ เปสีติ เตสํ อปฺปเวสนตฺถาย อธิฏฺานวเสน รกฺขํ เปสิ. อฑฺฒุฑฺฒานิ สหสฺสานีติ อฑฺเฒน จตุตฺถานิ อฑฺฒุฑฺฒานิ, อติเรกปฺจสตานิ ตีณิ สหสฺสานีติ อตฺโถ. ทิยฑฺฒสหสฺสนฺติ ¶ อฑฺเฒน ทุติยํ ทิยฑฺฒํ, อติเรกปฺจสติกํ สหสฺสนฺติ อตฺโถ. นิทฺธเมตฺวานาติ ปลาเปตฺวา.
ราชคหนครปริวตฺตเกนาติ ราชคหนครํ ปริวตฺเตตฺวา ตโต พหิ ตํ ปทกฺขิณํ กตฺวา คตมคฺเคน, คมเนน วา. อาโรเปสีติ ปฏิปาเทสิ. ปฬินาติ อากาสํ ปกฺขนฺทึสุ. นคุตฺตเมติ เจติยคิริมาห. ปุรโตติ ปาจีนทิสาภาเค. ปุรเสฏฺสฺสาติ เสฏฺสฺส อนุราธปุรสฺส. สิลกูฏมฺหีติ เอวํนามเก ปพฺพตกูเฏ. สีหกุมารสฺส ปุตฺโตติ เอตฺถ ‘‘กลิงฺคราชธีตุ กุจฺฉิสฺมึ สีหสฺส ชาโต สีหกุมาโร’’ติ วทนฺติ. เชฏฺมาสสฺส ปุณฺณมิยํ เชฏฺนกฺขตฺตํ วา มูลนกฺขตฺตํ วา โหตีติ อาห ‘‘เชฏฺมูลนกฺขตฺตํ นาม โหตี’’ติ. มิคานํ วานโต หึสนโต พาธนโต มิควํ, มิควิชฺฌนกีฬา. โรหิตมิครูปนฺติ โคกณฺณมิคเวสํ. รถยฏฺิปฺปมาณาติ รถปโตทปฺปมาณา. เอกา ลตายฏฺิ นามาติ เอกา รชตมยา กฺจนลตาย ปฏิมณฺฑิตตฺตา เอวํ ลทฺธนามา. ปุปฺผยฏฺิยํ นีลาทีนิ ปุปฺผานิ, สกุณยฏฺิยํ นานปฺปการา มิคปกฺขิโน วิจิตฺตกมฺมกตา วิย ขายนฺตีติ ทฏฺพฺพํ. ราชกกุธภณฺฑานีติ ราชารหอุตฺตมภณฺฑานิ. สงฺขนฺติ ทกฺขิณาวฏฺฏํ อภิเสกสงฺขํ. วฑฺฒมานนฺติ อลงฺการจุณฺณํ, ‘‘นหานจุณฺณ’’นฺติ เกจิ. วฏํสกนฺติ กณฺณปิฬนฺธนํ วฏํสกนฺติ วุตฺตํ โหติ. นนฺทิยาวฏฺฏนฺติ นนฺทิยาวฏฺฏปุปฺผากาเรน มงฺคลตฺถํ สุวณฺเณน กตํ. กฺนฺติ ขตฺติยกุมารึ. หตฺถปฺุฉนนฺติ ปีตวณฺณํ มหคฺฆหตฺถปฺุฉนวตฺถํ. อรุณวณฺณมตฺติกนฺติ นาคภวนสมฺภวํ. วตฺถโกฏิกนฺติ วตฺถยุคเมว. นาคมาหฏนฺติ นาเคหิ ¶ อาหฏํ. อมโตสธนฺติ เอวํนามิกา คุฬิกชาติ. อมตสทิสกิจฺจตฺตา เอวํ วุจฺจติ. ภูมตฺถรณสงฺเขเปนาติ ภูมตฺถรณากาเรน. อุปฺปาตปากาติ นิมิตฺตปากา. อลํ คจฺฉามาติ ‘‘ปุรสฺส อจฺจาสนฺนตฺตา สารุปฺปํ น โหตี’’ติ ปฏิกฺขิปนฺโต อาห. อฑฺฒนวมานํ ปาณสหสฺสานนฺติ (อ. นิ. ๖.๕๓) ปฺจสตาธิกานํ อฏฺนฺนํ ปาณสหสฺสานํ. อปฺปมาทสุตฺตนฺติ องฺคุตฺตรนิกาเย มหาอปฺปมาทสุตฺตํ, ราโชวาทสุตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ.
มหจฺจาติ มหตา. อุปสงฺกมนฺโตติ อติวิย กิลนฺตรูโป หุตฺวา อุปสงฺกมีติ อตฺโถ. ตุมฺเห ชานนตฺถนฺติ สมฺพนฺโธ. ปฺจปณฺณาสายาติ เอตฺถ ‘‘จตุปฺาสายาติ วตฺตพฺพํ. เอวฺหิ สติ อุปริ วุจฺจมานํ ทฺวาสฏฺิ อรหนฺโตติ วจนํ สเมตี’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๑.อาจริยปรมฺปรกถาวณฺณนา) วุตฺตํ. ทสภาติกสมากุลนฺติ มุฏสิวสฺส ปุตฺเตหิ เทวานํปิยติสฺสาทีหิ ทสหิ ภาติเกหิ สมากิณฺณํ. จิรทิฏฺโ สมฺมาสมฺพุทฺโธติ ธาตุโย สนฺธายาห. สพฺพตาฬาวจเรติ สพฺพานิ ตุริยภณฺฑานิ, ตํสหจริเต วา วาทเก. อุปฏฺาเปตฺวาติ อุปหารการาปนวเสน สนฺนิปาเตตฺวา. วฑฺฒมานกจฺฉายายาติ ปจฺฉาภตฺตํ. โปกฺขรวสฺสนฺติ โปกฺขรปตฺเต ¶ วิย อเตมิตุกามานํ อุปริ อเตเมตฺวา ปวตฺตนกวสฺสํ. มหาวีโรติ สตฺถุโวหาเรน ธาตุ เอว วุตฺตา. ปจฺฉิมทิสาภิมุโขว หุตฺวา อปสกฺกนฺโตติ เอตฺถ ปุรตฺถาภิมุโข ิโตว ปิฏฺิโต อปสกฺกเนน ปจฺฉิมทิสาย คจฺฉนฺโต ตาทิโสปสงฺกมนํ สนฺธาย ‘‘ปจฺฉิมทิสาภิมุโข’’ติ วุตฺโต. ‘‘มเหชวตฺถุ นาม เอวํนามกํ เทวฏฺาน’’นฺติ วทนฺติ.
ปชฺชรเกนาติ อมนุสฺสสมุฏฺาปิเตน ปชฺชรกโรเคน. เทโวติ เมโฆ. อนุปฺปเวจฺฉีติ วิมุจฺจิ. วิวาโท โหตีติ เอตฺถ กิริยากาลมเปกฺขิตฺวา วตฺตมานปฺปโยโค ทฏฺพฺโพ. เอวํ อีทิเสสุ สพฺพตฺถ. ตเทตนฺติ านํ ติฏฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ฉนฺนํ วณฺณานํ สมฺพนฺธภูตานํ รํสิโย จา’’ติ อชฺฌาหริตพฺพํ, ‘‘ฉนฺนํ วณฺณานํ อุทกธารา จา’’ติ เอวมฺเปตฺถ สมฺพนฺธํ วทนฺติ. ปรินิพฺพุเตปิ ภควติ ตสฺสานุภาเวน เอวรูปํ ปาฏิหาริยํ อโหสิ เอวาติ ทสฺเสตุํ เอวํ อจินฺติยาติอาทิคาถมาห. รกฺขํ กโรนฺโตติ อตฺตนา อุปาเยน ปลาปิตานํ ยกฺขานํ ปุน อปฺปวิสนตฺถาย ปริตฺตานํ กโรนฺโต. อาวิชฺชีติ ปริยายิ.
รฺโ ¶ ภาตาติ รฺโ กนิฏฺภาตา. อนุฬาเทวี นาม รฺโ เชฏฺภาตุ ชายา. สรสรํสิชาลวิสฺสชฺชนเกนาติ สินิทฺธตาย รสวนฺตํ โอชวนฺตํ รํสิชาลํ วิสฺสชฺเชนฺเตน. เอกทิวเสน อคมาสีติ สมฺพนฺโธ. อปฺเปสีติ เลขสาสนํ ปติฏฺาเปสิ. อุทิกฺขตีติ อเปกฺขติ ปตฺเถติ. ภาริยนฺติ ครุกํ, อนติกฺกมนียนฺติ อตฺโถ. มํ ปฏิมาเนตีติ มํ อุทิกฺขติ. กมฺมารวณฺณนฺติ รฺโ ปกติสุวณฺณการวณฺณํ. ติหตฺถวิกฺขมฺภนฺติ ติหตฺถวิตฺถารํ. สกลชมฺพุทีปรชฺเชนาติ เอตฺถ รฺโ อิทนฺติ รชฺชํ, สกลชมฺพุทีปโต อุปฺปชฺชนกอาโย เจว อาณาทโย จ, เตน ปูเชมีติ อตฺโถ, น สกลปถวีปาสาทาทิวตฺถุนา ตสฺส สตฺตาหํ เทมีติอาทินา กาลปริจฺเฉทํ กตฺวา ทาตุํ อยุตฺตตฺตา. เอวฺหิ เทนฺโต ตาวกาลิกํ เทติ นาม วตฺถุปริจฺจาคลกฺขณตฺตา ทานสฺส, ปถวาทิวตฺถุปริจฺจาเคน จ ปุน คหณสฺส อยุตฺตตฺตา. นิยมิตกาเล ปน อายาทโย ปริจฺจตฺตา เอวาติ ตโต ปรํ อปริจฺจตฺตตฺตา คเหตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมา วุตฺตนเยเนตฺถ อิโต ปรมฺปิ อายาทิทานวเสเนว รชฺชทานํ เวทิตพฺพํ. ปุปฺผุฬกา หุตฺวาติ เกตกีปาโรหงฺกุรา วิย อุทกปุปฺผุฬกาการา หุตฺวา. ควกฺขชาลสทิสนฺติ ภาวนปุํสกํ, วาตปาเนสุ ชาลากาเรน ปิตทารุปฏสทิสนฺติ อตฺโถ, ควกฺเขน จ สุตฺตาทิมยชาเลน จ สทิสนฺติ วา อตฺโถ.
เทวทุนฺทุภิโยติ เอตฺถ เทโวติ เมโฆ, ตสฺส อจฺฉสุกฺขตาย อากาสมิว ขายมานสฺส อนิมิตฺตคชฺชิตํ เทวทุนฺทุภิ นาม, ยํ ‘‘อากาสทุนฺทุภี’’ติปิ วทนฺติ. ผลึสูติ ถนึสุ. ปพฺพตานํ ¶ นจฺเจหีติ ปถวีกมฺเปน อิโต จิโต จ ภมนฺตานํ ปพฺพตานํ นจฺเจหิ. วิมฺหยชาตา ยกฺขา ‘‘หิ’’นฺติสทฺทํ นิจฺฉาเรนฺตีติ อาห ‘‘ยกฺขานํ หิงฺกาเรหี’’ติ. สกสกปฏิภาเนหีติ อตฺตโน อตฺตโน สิปฺปโกสลฺเลหิ. อภิเสกํ ทตฺวาติ อโนตตฺตทโหทเกน อภิเสกํ ทตฺวา.
เทวตากุลานีติ มหาโพธึ ปริวาเรตฺวา ิตนาคยกฺขาทิเทวตากุลานิ ทตฺวาติ สมฺพนฺโธ. โคปกราชกมฺมิโน ตถา ‘‘ตรจฺฉา’’ติ วทนฺติ. อิมินา ปริวาเรนาติ สหตฺเถ กรณวจนํ, อิมินา ปริวาเรน สหาติ อตฺโถ. ตามลิตฺตินฺติ เอวํนามกํ สมุทฺทตีเร ปฏฺฏนํ. อิทมสฺส ตติยนฺติ สุวณฺณกฏาเห ปติฏฺิตสาขาโพธิยา รชฺชสมฺปทานํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตโต ปน ปุพฺเพ เอกวารํ รชฺชสมฺปทานํ อจฺฉินฺนาย สาขาย มหาโพธิยา เอว กตํ, เตน ¶ สทฺธึ จตุกฺขตฺตุํ ราชา รชฺเชน ปูเชสิ. รชฺเชน ปูชิตทิวเสสุ กิร สกลทีปโต อุปฺปนฺนํ อายํ คเหตฺวา มหาโพธิเมว ปูเชสิ.
ปมปาฏิปททิวเสติ สุกฺกปกฺขปาฏิปททิวเส. ตฺหิ กณฺหปกฺขปาฏิปททิวสํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘ปมปาฏิปททิวส’’นฺติ วุตฺตํ, อิทฺจ ตสฺมึ ตมฺพปณฺณิทีเป โวหารํ คเหตฺวา วุตฺตํ, อิธ ปน ปุณฺณมิโต ปฏฺาย ยาว อปรา ปุณฺณมี, ตาว เอโก มาโสติ โวหาโร. ตสฺมา อิมินา โวหาเรน ‘‘ทุติยปาฏิปททิวเส’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา กณฺหปกฺขปาฏิปทสฺส อิธ ปมปาฏิปทตฺตา. คจฺฉติ วตเรติ เอตฺถ อเรติ เขเท. สมนฺตาโยชนนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ, โยชนปฺปมาเณ ปเทเส สพฺพตฺถาติ อตฺโถ. สุปณฺณรูเปนาติ มหาโพธึ พลกฺกาเรน คเหตฺวา นาคภวนํ เนตุกามานิ นาคราชกุลานิ อิทฺธิยา คหิเตน ครุฬรูเปน สนฺตาเสติ. ตํ วิภูตึ ปสฺสิตฺวาติ เทวตาทีหิ กรียมานํ ปูชามหตฺตํ, มหาโพธิยา จ อานุภาวมหตฺตํ ทิสฺวา สยมฺปิ ตถา ปูเชตุกามา เถรึ ยาจิตฺวาติ โยชนา. สมุทฺทสาลวตฺถุสฺมินฺติ ยสฺมึ ปเทเส ตฺวา ราชา สมุทฺเท อาคจฺฉนฺตํ โพธึ เถรานุภาเวน อทฺทส, ยตฺถ จ ปจฺฉา สมุทฺทสฺส ทิฏฺฏฺานนฺติ ปกาเสตุํ สมุทฺทสาลํ นาม สาลํ อกํสุ, ตสฺมึ สมุทฺทสาลาย วตฺถุภูเต ปเทเส. เถรสฺสาติ มหามหินฺทตฺเถรสฺส. ปุปฺผอคฺฆิยานีติ กูฏาคารสทิสานิ ปุปฺผเจติยานิ. อาคโต วตเรติ เอตฺถ อเรติ ปโมเท. อฏฺหิ อมจฺจกุเลหิ อฏฺหิ พฺราหฺมณกุเลหิ จาติ โสฬสหิ ชาติสมฺปนฺนกุเลหิ. รชฺชํ วิจาเรสีติ รชฺชํ วิจาเรตุํ วิสฺสชฺเชสิ. ราชวตฺถุทฺวารโกฏฺกฏฺาเนติ ราชุยฺยานสฺส ทฺวารโกฏฺกฏฺาเน. อนุปุพฺพวิปสฺสนนฺติ อุทยพฺพยาทิอนุปุพฺพวิปสฺสนํ. ‘‘สห โพธิปติฏฺาเนนา’’ติ กรณวจเนน วตฺตพฺเพ วิภตฺติปริณาเมน ‘‘สห โพธิปติฏฺานา’’ติ นิสฺสกฺกวจนํ กตํ. สติ หิ สหสทฺทปฺปโยเค กรณวจเนเนว ภวิตพฺพํ. ทสฺสึสูติ ปฺายึสุ. มหาอาสนฏฺาเนติ ปุพฺพปสฺเส มหาสิลาสเนน ปติฏฺิตฏฺาเน. ปูเชตฺวา วนฺทีติ อาคามินํ ¶ มหาเจติยํ วนฺทิ. ปุริเม ปน มหาวิหารฏฺาเน ปูชามตฺตสฺเสว กตตฺตา อนาคเต สงฺฆสฺสปิ นวกตา อวนฺทิตพฺพตา จ ปกาสิตาติ เวทิตพฺพา. อนาคเต ปน เมตฺเตยฺยาทิพุทฺธา ปจฺเจกพุทฺธา จ พุทฺธภาวกฺขณํ อุทฺทิสฺส วนฺทิตพฺพาว สภาเวน วิสิฏฺปุคฺคลตฺตาติ คเหตพฺพํ.
มหาอริฏฺโติ ¶ ปฺจปฺาสาย ภาตุเกหิ สทฺธึ เจติยคิริมฺหิ ปพฺพชิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. เมฆวณฺณาภยอมจฺจสฺส ปริเวณฏฺาเนติ เมฆวณฺณอภยสฺส รฺโ อมจฺเจน กตฺตพฺพสฺส ปริเวณสฺส วตฺถุภูเต าเน. มงฺคลนิมิตฺตภาเวน อากาเส สมุปฺปนฺโน มโนหรสทฺโท อากาสสฺส รโว วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อากาสํ มหาวิรวํ รวี’’ติ. น หิ อากาโส นาม โกจิ ธมฺโม อตฺถิ, โย สทฺทํ สมุฏฺาเปยฺย, อากาสคตอุตุวิเสสสมุฏฺิโตว โส สทฺโทติ คเหตพฺโพ. ปมกตฺติกปวารณทิวเส…เป… วินยปิฏกํ ปกาเสสีติ อิทํ วินยํ วาเจตุํ อารทฺธทิวสํ สนฺธาย วุตฺตํ. อนุสิฏฺิกรานนฺติ อนุสาสนีกรานํ. ราชิโนติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ, เทวานํปิยติสฺสราชานนฺติ อตฺโถ. อฺเปีติ มหินฺทาทีหิ อฏฺสฏฺิมหาเถเรหิ อฺเปิ, เตสํ สรูปํ ทสฺเสนฺโต อาห เตสํ เถรานนฺติอาทิ. ตตฺถ เตสํ เถรานํ อนฺเตวาสิกาติ มหินฺทตฺเถราทีนํ อฏฺสฏฺิมหาเถรานํ อริฏฺาทโย อนฺเตวาสิกา จ มหาอริฏฺตฺเถรสฺส อนฺเตวาสิกา ติสฺสทตฺตกาฬสุมนาทโย จาติ โยเชตพฺพํ. อนฺเตวาสิกานํ อนฺเตวาสิกาติ อุภยตฺถ วุตฺตอนฺเตวาสิกานํ อนฺเตวาสิกปรมฺปรา จาติ อตฺโถ. ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการาติ มหินฺโท อิฏฺฏิโย อุตฺติโยติอาทิคาถาหิ (ปารา. อฏฺ. ๑.ตติยสงฺคีติกถา) ปกาสิตา อาจริยปรมฺปรา.
น ปคฺฆรตีติ น คฬติ, น ปมุสฺสตีติ อตฺโถ. สติคติธิติมนฺเตสูติ เอตฺถ สตีติ อุคฺคหธารเณ สติ. คตีติ สทฺทตฺถวิภาคคฺคหเณ าณํ. ธิตีติ อุคฺคหปริหรณาทีสุ วีริยํ. กุกฺกุจฺจเกสูติ ‘‘กปฺปติ น กปฺปตี’’ติ วีมํสกุกฺกุจฺจการีสุ. มาตาปิตุฏฺานิโยติ วตฺวา ตเมวตฺถํ สมตฺเถตุํ อาห ตทายตฺตาหีติอาทิ. วินยปริยตฺตึ นิสฺสายาติ วินยปิฏกปริยาปุณนํ นิสฺสาย. อตฺตโน สีลกฺขนฺโธ สุคุตฺโตติ ลชฺชิโน วินยธารณสฺส อลชฺชิอฺาณตาทีหิ ฉหิ อากาเรหิ อาปตฺติยา อนาปชฺชนโต อตฺตโน สีลกฺขนฺโธ ขณฺฑาทิโทสวิรหิโต สุคุตฺโต สุรกฺขิโต โหติ. กุกฺกุจฺจปกตานนฺติ กปฺปิยากปฺปิยํ นิสฺสาย อุปฺปนฺเนน กุกฺกุจฺเจน ปกตานํ อุปทฺทุตานํ อภิภูตานํ ยถาวินยํ กุกฺกุจฺจํ วิโนเทตฺวา สุทฺธนฺเต ปติฏฺาปเนน ปฏิสรณํ โหติ. วิคโต สารโท ภยเมตสฺสาติ วิสารโท. ‘‘เอวํ กเถนฺตสฺส โทโส เอวํ น โทโส’’ติ ตฺวาว กถนโต นิพฺภโยว สงฺฆมชฺเฌ โวหรติ ¶ . ปจฺจตฺถิเกติ อตฺตปจฺจตฺถิเก เจว วชฺชิปุตฺตกาทิสาสนปจฺจตฺถิเก จ. สหธมฺเมนาติ สการเณน วจเนน สิกฺขาปทํ ทสฺเสตฺวา ยถา เต อสทฺธมฺมํ ปติฏฺาเปตุํ น สกฺโกนฺติ, เอวํ สุนิคฺคหิตํ กตฺวา นิคฺคณฺหาติ. สทฺธมฺมฏฺิติยาติ ¶ ปริยตฺติปฏิปตฺติปฏิเวธสงฺขาตสฺส ติวิธสฺสาปิ สทฺธมฺมสฺส ิติยา, ปวตฺติยาติ อตฺโถ.
วินโย สํวรตฺถายาติอาทีสุ วินยปริยาปุณนํ วินโย, วินยปฺตฺติ วา กายวจีทฺวารสํวรตฺถาย. อวิปฺปฏิสาโรติ กตากตํ นิสฺสาย วิปฺปฏิสาราภาโว สนฺตาปาภาโว. ปาโมชฺชํ ตรุณปีติ. ปีติ นาม พลวปีติ. ปสฺสทฺธีติ กายจิตฺตปสฺสทฺธิ. ยถาภูตาณทสฺสนนฺติ สปฺปจฺจยนามรูปปริคฺคโห. นิพฺพิทาติ วิปสฺสนา. วิราโคติ อริยมคฺโค. วิมุตฺตีติ อคฺคผลํ. วิมุตฺติาณทสฺสนนฺติ ปจฺจเวกฺขณาณํ. อนุปาทาติ กฺจิ ธมฺมํ อนุปาทิยิตฺวา ปริจฺจชิตฺวา. ปรินิพฺพานตฺถายาติ ปจฺจเวกฺขณาเณ อนุปฺปนฺเน อนฺตรา ปรินิพฺพานาภาเวน ตํปรินิพฺพานตฺถายาติ ปจฺจยตฺเตน วุตฺตํ อนนฺตราทิปจฺจยตฺตา. เอตทตฺถา กถาติ อยํ วินยกถา นาม เอตสฺส อนุปาทาปรินิพฺพานสฺส อตฺถายาติ อตฺโถ. มนฺตนาติ วินยมนฺตนาเยว, ภิกฺขูนํ ‘‘เอวํ กริสฺสาม, เอวํ น กริสฺสามา’’ติ วินยปฏิพทฺธมนฺตนา. อุปนิสาติ อุปนิสีทติ เอตฺถ ผลนฺติ อุปนิสา, การณํ. วินโย สํวรตฺถายาติอาทิการณปรมฺปราปิ เอตทตฺถาติ อตฺโถ. โสตาวธานนฺติ อิมิสฺสา ปรมฺปรปจฺจยกถาย อตฺตานํ สมนตฺถาย โสตาวธานํ, ตมฺปิ เอตมตฺถํ. ยทิทนฺติ นิปาโต. โย อยํ จตูหิ อุปาทาเนหิ อนุปาทิยิตฺวา จิตฺตสฺส อรหตฺตมคฺคสงฺขาโต, ตปฺผลสงฺขาโต วา วิโมกฺโข, โสปิ เอตทตฺถาย อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถาย. อถ วา โย อยํ กฺจิ ธมฺมํ อนุปาทาจิตฺตสฺส วิโมกฺโข วิมุจฺจนํ วิคโม ปรินิพฺพานํ เอตทตฺถา กถาติ เอวํ อุปสํหรณวเสน โยเชตุมฺปิ วฏฺฏติ มคฺคผลวิโมกฺขสฺส ปุพฺเพ วุตฺตตฺตา. อาโยโคติ อุคฺคหณาทิวเสน ปุนปฺปุนํ อภิโยโค.
อาจริยปรมฺปรกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
พาหิรนิทานกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
เวรฺชกณฺฑวณฺณนา
เสยฺยถิทนฺติ ¶ ¶ ตํ กตมํ, ตํ กถนฺติ วา อตฺโถ. อนิยมนิทฺเทสวจนนฺติ อตฺตโน อตฺถํ สรูเปน นิยเมตฺวา นิทฺทิสตีติ นิยมนิทฺเทโส, น นิยมนิทฺเทโส อนิยมนิทฺเทโส. โสว วุจฺจเต อเนนาติ วจนนฺติ อนิยมนิทฺเทสวจนํ. ตสฺสาติ เตนาติปทสฺส. ปริวิตกฺโกติ ‘‘กตเมสานํ โข พุทฺธานํ ภควนฺตานํ พฺรหฺมจริยํ น จิรฏฺิติกํ อโหสี’’ติอาทินา (ปารา. ๑๘) ปวตฺโต. ปุพฺเพ วา ปจฺฉา วาติ เตนาติปทโต เหฏฺา วุตฺตปาเ วา อุปริ วกฺขมานปาเ วาติ อตฺโถ. อตฺถโต สิทฺเธนาติ สามตฺถิยโต สิทฺเธน. ตตฺริทํ มุขมตฺตนิทสฺสนนฺติ ตสฺสา ยถาวุตฺตยุตฺติยา ปริทีปเน อิทํ อุปายมตฺตนิทสฺสนํ. มุขํ ทฺวารํ อุปาโยติ หิ อตฺถโต เอกํ.
สมยสทฺโท ทิสฺสตีติ สมฺพนฺโธ. อสฺสาติ สมยสทฺทสฺส สมวาโย อตฺโถติ สมฺพนฺโธ. กาลฺจ สมยฺจ อุปาทายาติ เอตฺถ กาโล นาม อุปสงฺกมนสฺส ยุตฺตกาโล, สมโย นาม สรีรพลาทิการณสมวาโย, เต อุปาทาย ปฏิจฺจาติ อตฺโถ. ขโณติ โอกาโส. พุทฺธุปฺปาทาทโย หิ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส โอกาโส. โส เอว สมโย. เตเนว ‘‘เอโกวา’’ติ วุตฺตํ. มหาสมโยติ มหาสมูโห. ปวนสฺมินฺติ วนสณฺเฑ. สมโยปิ โข เต ภทฺทาลีติ เอตฺถ สมโยติ สิกฺขาปทาวิลงฺฆนสฺส เหตุ, โก โส? อตฺตโน วิปฺปฏิปตฺติยา ภควโต ชานนํ, โส สมยสงฺขาโต เหตุ ตสฺสา อปฺปฏิวิทฺโธติ อตฺโถ. ภควาติอาทิ ตสฺส ปฏิวิชฺฌนาการทสฺสนํ. อุคฺคหมาโนติ กิฺจิ กิฺจิ อุคฺคเหตุํ สมตฺถตาย อุคฺคหมาโน, สุมนปริพฺพาชกสฺเสเวตํ นามํ. สมยํ ทิฏฺึ ปวทนฺติ เอตฺถาติ สมยปฺปวาทโก, มลฺลิกาย อาราโม. สฺเวว ตินฺทุกาจีรสงฺขาตาย ติมฺพรุรุกฺขปนฺติยา ปริกฺขิตฺตตฺตา ‘‘ตินฺทุกาจีร’’นฺติ จ, เอกาว นิวาสา สาลา เอตฺถาติ ‘‘เอกสาลโก’’ติ จ วุจฺจติ. อตฺถาภิสมยาติ ยถาวุตฺตสฺส ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกสฺส อตฺถสฺส หิตสฺส ปฏิลาภโต. มานาภิสมยาติ มานปฺปหานา. ปีฬนฏฺโติ ปีฬนํ ตํสมงฺคิโน หึสนํ, อวิปฺผาริกตากรณํ, ปีฬนเมว อตฺโถ ปีฬนฏฺโ ¶ . สนฺตาโปติ ทุกฺขทุกฺขตาทิวเสน สนฺตาปนํ. วิปริณาโมติ ชราย มรเณน จาติ ทฺวิธา ¶ วิปริณาเมตพฺพตา อภิสเมตพฺโพ ปฏิวิชฺฌิตพฺโพติ อภิสมโย, โสว อภิสมยฏฺโ, ปีฬนาทีนิ.
เอตฺถ จ อุปสคฺคานํ โชตกมตฺตตฺตา สมยสทฺทสฺส อตฺถุทฺธาเรปิ สอุปสคฺโค อภิสมยสทฺโท อุทฺธโฏ. ตตฺถ สงฺคมวเสน ปจฺจยานํ ผลุปฺปาทนํ ปฏิ อยนํ เอกโต ปวตฺติ เอตฺถาติ สมโย, สมวาโย. วิวฏฺฏูปนิสฺสยสงฺคเม สติ เอนฺติ เอตฺถ สตฺตา ปวตฺตนฺตีติ สมโย, ขโณ. สเมติ เอตฺถ สงฺขตธมฺโม, สยํ วา เอติ อาคจฺฉติ วิคจฺฉติ จาติ สมโย, กาโล. สเมนฺติ อวยวา เอตสฺมึ, สยํ วา เตสูติ สมโย, สมูโห. ปจฺจยนฺตรสงฺคเม เอติ อาคจฺฉติ เอตสฺมา ผลนฺติ สมโย, เหตุ. สฺาวเสน วิปลฺลาสโต ธมฺเมสุ เอติ อภินิวิสตีติ สมโย, ทิฏฺิ. สมีปํ อยนํ อุปคมนํ สมโย, ปฏิลาโภ. สมฺมเทว สหิตานํ วาจานํ อยนํ วิคโมติ สมโย, ปหานํ. สมฺมเทว, สหิตานํ วา สจฺจานํ อยนํ ชานนนฺติ สมโย, ปฏิเวโธ. เอวํ ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺเถ สมยสทฺทสฺส ปวตฺติ เวทิตพฺพา.
เอตฺถ จ สมยสทฺทสฺส สามฺเน อเนกตฺถตา วุตฺตา. น หิ เอกสฺมึ อตฺถวิเสเส วตฺตมาโน สทฺโท ตทฺเปิ วตฺตติ. ตสฺมา อตฺถา วิย ตํตํวาจกา สมยสทฺทาปิ ภินฺนา เอวาติ คเหตพฺพา. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺถุทฺธาเรสุ.
ตตฺถ ตถาติ เตสุ สุตฺตาภิธมฺเมสุ อุปโยคภุมฺมวจเนหิ. อิธาติ วินเย, อฺถาติ กรณวจเนน. อจฺจนฺตเมวาติ นิรนฺตรเมว. ภาโว นาม กิริยา, กิริยาย กิริยนฺตรูปลกฺขณํ ภาเวนภาวลกฺขณํ, ยถา อุทเย สติ จนฺเท ชาโต ราชปุตฺโตติ. อธิกรณฺหีติอาทิ อภิธมฺเม สมยสทฺโท กาลสมูหขณสมวายเหตุสงฺขาเตสุ ปฺจสุ อตฺเถสุ วตฺตติ, น วินเย วิย กาเล เอว, เตสุ จ กาลสมูหตฺถา ทฺเว ตตฺถ วุตฺตานํ ผสฺสาทิธมฺมานํ อธิกรณภาเวน นิทฺทิสิตุํ ยุตฺตา. ขณสมวายเหตุอตฺถา ปน ตโยปิ อตฺตโน ภาเวน ผสฺสาทีนํ ภาวสฺส อุปลกฺขณภาเวน ¶ นิทฺทิสิตุํ ยุตฺตาติ วิภาวนมุเขน ยถาวุตฺตมตฺถํ สมตฺเถตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺมิฺหิ กาเล, ธมฺมสมูเห วา สมเย อธิกรณภูเต กุสลํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺมิฺเว กาเล, ธมฺมสมูเห วา สมเย ผสฺสาทโย โหนฺตีติ เอวํ อธิกรณตฺถโยชนา, ยสฺมึ ปน ขเณ, สมวาเย เหตุมฺหิ วา สมเย สติ วิชฺชมาเน กุสลํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺมิฺเว ขณาทิมฺหิ สมเยปิ วิชฺชมาเน ผสฺสาทโย โหนฺตีติ ภาเวนภาวลกฺขณตฺถโยชนา จ เวทิตพฺพา.
โหติ ¶ เจตฺถาติ เอตฺถ ยถาวุตฺตอตฺถวิสเย สงฺคหคาถา โหติ. อฺตฺราติ สุตฺตาภิธมฺเมสุ. อภิลาปมตฺตเภโทติ เทสนาวิลาสโต สทฺทมตฺเตเนว เภโท, น อตฺถโต.
อวิเสเสนาติ สามฺเน. อิริยาปโถติอาทีสุ อิริยาย สพฺพทฺวาริกกิริยาย ปโถ ปวตฺตนฏฺานํ ตพฺพินิมุตฺตกมฺมสฺส อภาวาติ านาทโย อิริยาปโถ, โสว วิหาโร. พฺรหฺมภูตา เสฏฺภูตา ปรหิตจิตฺตาทิวสปฺปวตฺติโต เมตฺตาทโย พฺรหฺมวิหาโร นาม. ตทวเสสา ปน มหคฺคตา สพฺพนีวรณวิคมนาทิสิทฺเธน โชตนาทิอตฺเถน ทิพฺพวิหาโร นาม. พฺรหฺมวิหารภาเวน วิสุํ คหิตตฺตา เมตฺตาทโย อิธ อสงฺคหิตา. อริยานเมว วิหาโรติ ผลสมาปตฺติโย อริยวิหาโร นาม.
รุกฺขาทิมูเลเยว มูลสทฺทสฺส นิรุฬฺหภาวํ ทสฺเสตุํ อปเรน มูลสทฺเทน วิเสเสตฺวา ‘‘มูลมูเล’’ติ วุตฺตํ, ยถา ทุกฺขทุกฺขนฺติ (วิภ. อฏฺ. ๑๙๐). โลภาทีนํ โทสมูลาทิจิตฺตาสาธารณตฺตา ‘‘อสาธารณเหตุมฺหี’’ติ วุตฺตํ.
ตตฺถ สิยาติ ตตฺถ เวรฺชายนฺติอาทีสุ ปเทสุ กสฺสจิ โจทนา สิยาติ อตฺโถ. อุภยถา นิทานกิตฺตนสฺส ปน กึ ปโยชนนฺติ? อาห โคจรคามนิทสฺสนตฺถนฺติอาทิ. ตตฺถ อสฺสาติ ภควโต.
กิลโมว กิลมโถ, อตฺตโน อตฺตภาวสฺส กิลมโถ อตฺตกิลมโถ, ตสฺส อนุ อนุ โยโค ปุนปฺปุนํ ปวตฺตนํ อตฺตกิลมถานุโยโค. วตฺถุกามารมฺมเณ สุเข สมฺปโยควเสน ลีนา ยุตฺตา, กามตณฺหา ¶ , ตํสหจริเต กาเม สุเข วา อารมฺมณภูเต อลฺลีนา ปวตฺตตีติ กามสุขลฺลิกา ตณฺหา, ตสฺสา กามสุขลฺลิกาย อนุ อนุ โยโค กามสุขลฺลิกานุโยโค. โลเก สํวฑฺฒภาวนฺติ อามิโสปโภเคน สํวฑฺฒิตภาวํ. อุปฺปชฺชมาโน พหุชนหิตาทิอตฺถาเยว อุปฺปชฺชตีติ โยชนา.
ทิฏฺิสีลสามฺเน สํหตตฺตา สงฺโฆติ อิมมตฺถํ วิภาเวนฺโต อาห ทิฏฺีติอาทิ. เอตฺถ จ ‘‘ยายํ ทิฏฺิ อริยา นิยฺยานิกา นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย, ตถารูปาย ทิฏฺิยา ทิฏฺิสามฺคโต วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๒๔, ๓๕๖; ม. นิ. ๑.๔๙๒; ๓.๕๔; อ. นิ. ๖.๑๒; ปริ. ๒๗๔) เอวํ วุตฺตาย ทิฏฺิยา. ‘‘ยานิ ตานิ สีลานิ อขณฺฑานิ…เป… สมาธิสํวตฺตนิกานิ, ตถารูเปสุ สีเลสุ สีลสามฺคโต วิหรตี’’ติ ¶ (ที. นิ. ๓.๓๒๔, ๓๕๖; ม. นิ. ๑.๔๙๒; ๓.๕๔; อ. นิ. ๖.๑๒; ปริ. ๒๗๔) เอวํ วุตฺตานฺจ สีลานํ สามฺสงฺขาเตน สงฺฆาโต สงฺฆฏิโต สมณคโณ, เตนาติ อตฺโถ. ‘‘ทิฏฺิสีลสามฺสงฺฆาตสงฺฆาเตนา’’ติ วา ปาเเนตฺถ ภวิตพฺพํ, ตสฺส ทิฏฺิสีลสามฺภูเตน สํหนเนน สงฺฆาโต สมณคโณ, เตนาติ อตฺโถ. เอวฺหิ ปาเ สทฺทโต อตฺโถ ยุตฺตตโร โหติ. อสฺสาติ มหโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส.
พฺรหฺมํ อณตีติ เอตฺถ พฺรหฺม-สทฺเทน เวโท วุจฺจติ, โส มนฺตพฺรหฺมกปฺปวเสน ติวิโธ. ตตฺถ อิรุเวทาทโย ตโย เวทา มนฺตา, เต จ ปธานา, อิตเร ปน สนฺนิสฺสิตา, เตน ปธานสฺเสว คหณํ. มนฺเต สชฺฌายตีติ อิรุเวทาทิเก มนฺตสตฺเถ สชฺฌายตีติ อตฺโถ. อิรุเวทาทโย หิ คุตฺตภาสิตพฺพตาย ‘‘มนฺตา’’ติ วุจฺจนฺติ. ‘‘พาหิตปาปตฺตา พฺราหฺมโณ, สมิตปาปตฺตา สมโณ’’ติ ยถาวุตฺตมตฺถทฺวยํ อุทาหรณทฺวเยน วิภาเวตุํ วุตฺตฺเหตนฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘สมิตตฺตา หิ ปาปานํ ‘สมโณ’ติ ปวุจฺจตี’’ติ หิ อิทํ วจนํ คเหตฺวา ‘‘สมิตปาปตฺตา ‘สมโณ’ติ วุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ, พาหิตปาโปติ อิทํ ปน อฺสฺมึ คาถาพนฺเธ วุตฺตวจนํ. ยถาภุจฺจคุณาธิคตนฺติ ยถาภูตคุณาธิคตํ. สกิฺจโนติ สโทโส.
โคตฺตวเสนาติ เอตฺถ คํ ตายตีติ โคตฺตํ, โค-สทฺเทน เจตฺถ อภิธานํ พุทฺธิ จ วุจฺจติ. เกนจิ ปาริชฺุเนาติ าติปาริชฺุาทินา เกนจิ ปาริชฺุเน ¶ , ปริหานิยาติ อตฺโถ. ตโต ปรนฺติ เวรฺชายนฺติอาทิวจนํ. อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อิตฺถํ อิมํ ปการํ ภูโต อาปนฺโนติ อิตฺถมฺภูโต, ตสฺส อาขฺยานํ อิตฺถมฺภูตาขฺยานํ, โสเยวตฺโถ อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺโถ. อถ วา ‘‘อิตฺถํ เอวํปกาโร ภูโต ชาโต’’ติ เอวํ กถนตฺโถ อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺโถ, ตสฺมึ อุปโยควจนนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ อพฺภุคฺคโตติ เอตฺถ อภิ-สทฺโท อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺถโชตโก อภิภวิตฺวา อุคฺคมนปฺปการสฺส ทีปนโต, เตน โยคโต ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมนฺติ อิทํ อุปโยควจนํ สามิอตฺเถปิ สมาเน อิตฺถมฺภูตาขฺยานทีปนโต ‘‘อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ’’ติ วุตฺตํ, เตเนวาห ‘‘ตสฺส โข ปน โภโต โคตมสฺสาติ อตฺโถ’’ติ.
อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา สาธุ เทวทตฺโต มาตรมภีติ เอตฺถ อภิสทฺทโยคโต อิตฺถมฺภูตาขฺยาเน อุปโยควจนํ กตํ, เอวมิธาปิ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ อภิ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อุคฺคโตติ อภิสทฺทโยคโต อิตฺถมฺภูตาขฺยาเน อุปโยควจนนฺติ. สาธุ เทวทตฺโต มาตรมภีติ เอตฺถ หิ ‘‘เทวทตฺโต มาตรมภิ มาตริ วิสเย มาตุยา วา สาธู’’ติ เอวํ อธิกรณตฺเถ วา สามิอตฺเถ วา ภุมฺมวจนสฺส สามิวจนสฺส วา ปสงฺเค อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺถโชตเกน ¶ อภิสทฺเทน โยเค อุปโยควจนํ กตํ, ยถา เจตฺถ เทวทตฺโต มาตุวิสเย มาตุสมฺพนฺธี วา โส วุตฺตปฺปการปฺปตฺโตติ อยมตฺโถ วิฺายติ, เอวมิธาปิ โภโต โคตมสฺส สมฺพนฺธี กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต อภิภวิตฺวา อุคฺคมนปการปฺปตฺโตติ อยมตฺโถ วิฺายติ. ตตฺถ หิ เทวทตฺตคฺคหณํ วิย อิธ กิตฺติสทฺทคฺคหณํ, ตตฺถ มาตรนฺติ วจนํ วิย อิธ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมนฺติ วจนํ, ตตฺถ สาธุสทฺทคฺคหณํ วิย อิธ อุคฺคตสทฺทคฺคหณํ เวทิตพฺพํ. กิตฺติสทฺโทติ กิตฺติภูโต สทฺโท, น เกวโลติ ทสฺสนตฺถํ วิเสสิตนฺติ อาห ‘‘กิตฺติ เอวา’’ติ. ตโต กิตฺตีติ ถุติ, ตสฺสา ปกาสโก สทฺโท กิตฺติสทฺโทติ ทสฺเสตุํ ‘‘ถุติโฆโส วา’’ติ วุตฺตํ.
โส ภควาติ เอตฺถ โสติ ปสิทฺธิยํ, โย โส สมตฺตึส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพกิเลเส ภฺชิตฺวา ทสสหสฺสิโลกธาตุํ กมฺเปนฺโต อนุตฺตรํ ¶ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ, โส โลเก อติปากโฏติ ‘‘โส ภควา’’ติ วุตฺตํ. ภควาติ จ อิทํ สตฺถุ นามกิตฺตนํ, น คุณกิตฺตนํ. ปรโต ปน ภควาติ คุณกิตฺตนเมว. อิมินา จ อิมินา จาติ เอเตน อรหนฺติอาทิปทานํ ปจฺเจกํ อเนกคุณคณํ ปฏิจฺจ ปวตฺตภาวํ ทสฺเสติ.
สุวิทูรวิทูเรติ ทฺวีหิ สทฺเทหิ อติวิย ทูเรติ ทสฺเสติ, สุวิทูรตา เอว หิ วิทูรตา. สวาสนานํ กิเลสานํ วิทฺธํสิตตฺตาติ อิมินา ปจฺเจกพุทฺธาทีหิ อสาธารณํ ภควโต อรหตฺตนฺติ ทสฺเสติ เตสํ วาสนาย อปฺปหีนตฺตา, วาสนา จ นาม นิกฺกิเลสสฺสาปิ สกลเยฺยานวโพธาทิทฺวารตฺตยปฺปโยควิคุณตาเหตุภูโต กิเลสนิหิโต อากาโร จิรนิคฬิตปาทานํ นิคฬโมกฺเขปิ สงฺกุจิตตาคมนเหตุโก นิคฬนิหิโต อากาโร วิย. ยาย ปิลินฺทวจฺฉาทีนํ วสลโวหาราทิวิคุณตา โหติ, อยํ วาสนาติ คเหตพฺพา. อารกาติ เอตฺถ อาการสฺส รสฺสตฺตํ ก-การสฺส จ ห-การํ สานุสฺสรํ กตฺวา นิรุตฺตินเยน ‘‘อรห’’นฺติ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. เอวํ อุปริปิ ยถารหํ นิรุตฺตินเยน ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. ยฺเจตํ สํสารจกฺกนฺติ สมฺพนฺโธ. ปฺุาทีติ อาทิ-สทฺเทน อปฺุาภิสงฺขารอาเนฺชาภิสงฺขาเร สงฺคณฺหาติ. อาสวา เอว อวิชฺชาทีนํ การณตฺตา สมุทโยติ อาห ‘‘อาสวสมุทยมเยนา’’ติ. ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๓) หิ วุตฺตํ. วิปากกฏตฺตารูปปฺปเภโท ติภโว เอว รโถ, ตสฺมึ ติภวรเถ. สํสารจกฺกนฺติ ยถาวุตฺตกิเลสกมฺมวิปากสมุทโย.
‘‘ขนฺธานฺจ ¶ ปฏิปาฏิ, ธาตุอายตนาน จ;
อพฺโพจฺฉินฺนํ วตฺตมานา, ‘สํสาโร’ติ ปวุจฺจตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๒.๖๑๘; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๙๕ อปสาทนาวณฺณนา; สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๖๐; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๔.๑๙๙; ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา; วิภ. อฏฺ. ๒๒๖ สงฺขารปทนิทฺเทส; สุ. นิ. อฏฺ. ๒.๕๒๓; อุทา. อฏฺ. ๓๙; อิติวุ. อฏฺ. ๑๔, ๕๘; เถรคา. อฏฺ. ๑.๖๗, ๙๙; พุ. วํ. อฏฺ. ๕๘; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๑๗; จูฬนิ. อฏฺ. ๖) –
เอวํ วุตฺโต สํสาโรว จกฺกํ วิย ปริพฺภมนโต จกฺกํ, ตสฺส จกฺกสฺส สพฺเพ อรา หตาติ สมฺพนฺโธ. อเนนาติ ภควตา. โพธีติ าณํ, ตํ ¶ เอตฺถ มณฺฑํ ปสนฺนํ ชาตนฺติ โพธิมณฺโฑ. กมฺมกฺขยกรํ าณผรสุนฺติ อรหตฺตมคฺคาณํ วุตฺตํ, ตํ ฉินฺทิตพฺพํ อภิสงฺขารสงฺขาตํ กมฺมํ ปริจฺฉินฺทตีติ ทสฺเสตุํ กมฺมกฺขยกรวิเสสนวิสิฏฺํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
เอวํ กติปยงฺเคหิ สํสารจกฺกํ ตทวเสสงฺเคหิ ผลภูตนามรูปธมฺเมหิ ติภวรถฺจ ตสฺมึ รเถ โยชิตสํสารจกฺการานํ หนนปฺปการฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สพฺเพหิปิ ทฺวาทสหิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺเคหิ รถวิรหิตเมว เกวลํ สํสารจกฺกํ, ตสฺส อรฆาตนปฺปการเภทฺจ ทสฺเสตุํ อถวาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อนมตคฺคนฺติ อนุ อนุ อมตคฺคํ, สพฺพถา อนุคจฺฉนฺเตหิปิ อวิฺาตโกฏิกนฺติ อตฺโถ. อวิชฺชามูลกตฺตา ชรามรณปริโยสานตฺตาติ อิทํ สงฺขาราทีนํ ทสนฺนํ อรภาเวน เอกตฺตํ สมาโรเปตฺวาติ วุตฺตํ. น หิ เตสํ ปจฺเจกํ อวิชฺชามูลกตา ชรามรณปริโยสานตา จ อตฺถิ ตถา ปฏิจฺจสมุปฺปาทปาฬิยํ อวุตฺตตฺตา. อถ วา เตสมฺปิ ยถารหํ อตฺถโต อวิชฺชามูลกตฺตํ, อตฺตโน อตฺตโน ลกฺขณภูตขณิกชรามรณวเสน ตปฺปริโยสานตฺจ สนฺธาเยตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวฺจ เตสํ ปจฺเจกํ อรภาโว สิทฺโธ โหติ.
เอวํ สพฺพาการํ สํสารจกฺกเมว ทสฺเสตฺวา อิทานิ เยน าเณน อิมสฺส สํสารจกฺกสฺส อรานํ เฉโท ภควโต สิทฺโธ, ตสฺส ธมฺมฏฺิติาณสฺส ‘‘ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา ธมฺมฏฺิติาณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๔; ๑.๔๕) มาติกา วุตฺตตฺตา ภวจกฺกาวยเวสุ อวิชฺชาทีสุ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนตฺตา ปริคฺคหวเสน ปวตฺติอาการํ ทสฺเสตฺวา ปรโต ตสฺส อตฺถสฺส นิคมนวเสน วุตฺเตน เอวมยํ อวิชฺชาเหตูติอาทิเกน ปฏิสมฺภิทาปาฬิสหิเตน (ปฏิ. ม. ๑.๔๕) ปาเน ¶ สรูปโต ธมฺมฏฺิติาณํ, ตสฺส จ เตสุเยว อวิชฺชาทีสุ จตุสงฺเขปาทิวเสน ปวตฺติวิภาคฺจ ทสฺเสตฺวา ตโต ปรํ อิติ ภควาติอาทิปาเน ภควโต เตน ธมฺมฏฺิติาเณน ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส สพฺพาการโต ปฏิวิทฺธภาวํ ทสฺเสตฺวา ปุน อิมินา ธมฺมฏฺิติาเณนาติอาทินา ภควโต เตน าเณน สํสารจกฺการานํ วิทฺธํสิตภาวํ ทสฺเสตุํ ตตฺถ ทุกฺขาทีสุ อฺาณํ อวิชฺชาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ติณฺณํ อายตนานนฺติ จกฺขุโสตมนายตนานํ ติณฺณํ. เอส นโย ติณฺณํ ผสฺสานนฺติอาทีสุปิ. รูปตณฺหาทิวเสน ฉ ตณฺหากายา เอว เวทิตพฺพา.
สคฺคสมฺปตฺตินฺติ ¶ กามสุคตีสุ สมฺปตฺตึ. ตเถวาติ กามุปาทานปจฺจยา เอว. พฺรหฺมโลกสมฺปตฺตินฺติ รูปีพฺรหฺมโลกสมฺปตฺตึ. เตภูมกธมฺมวิสยสฺส สพฺพสฺสาปิ ราคสฺส กิเลสกามภาวโต ภวราโคปิ กามุปาทานเมวาติ อาห ‘‘กามุปาทานปจฺจยาเยว เมตฺตํ ภาเวตี’’ติ. เสสุปาทานมูลิกาสุปีติ ทิฏฺุปาทานสีลพฺพตุปาทานอตฺตวาทุปาทานมูลิกาสุปิ โยชนาสุ. ตตฺรายํ โยชนานโย – อิเธกจฺโจ ‘‘นตฺถิ ปรโลโก อุจฺฉิชฺชติ อตฺตา’’ติ (ที. นิ. ๑.๘๕-๘๖ อตฺถโต สมานํ) ทิฏฺึ คณฺหาติ, โส ทิฏฺุปาทานปจฺจยา กาเยน ทุจฺจริตํ จรตีติอาทินา, อปโร ‘‘อสุกสฺมึ ภเว อตฺตา อุจฺฉิชฺชตี’’ติ ทิฏฺึ คเหตฺวา กามรูปารูปภวูปปตฺติยา ตํ ตํ กุสลํ กโรตีติอาทินา จ ทิฏฺุปาทานมูลิกา โยชนา, อิมินาว นเยน อตฺตวาทุปาทานมูลิกา โยชนา เวทิตพฺพา. อปโร ‘‘สีเลน สุทฺธิ วเตน สุทฺธี’’ติ อสุทฺธิมคฺคํ ‘‘สุทฺธิมคฺโค’’ติ ปรามสนฺโต สีลพฺพตุปาทานปจฺจยา กาเยน ทุจฺจริตํ จรตีติอาทินา สพฺพภเวสุ สีลพฺพตุปาทานมูลิกา โยชนา เวทิตพฺพา.
อิทานิ ยสฺส สํสารจกฺการานํ ฆาตนสมตฺถสฺส ธมฺมฏฺิติาณสฺส อวิชฺชาทิปจฺจยปอคฺคหาการํ ทสฺเสตุํ กามภเว จ อวิชฺชา กามภเว สงฺขารานํ ปจฺจโย โหตีติอาทินา อวิชฺชาทีนํ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาโว ทสฺสิโต, ตเมว าณํ อวิชฺชาทีสุ ปวตฺติอากาเรน สทฺธึ ปฏิสมฺภิทามคฺคปาฬึ อาเนตฺวา นิคมนวเสน ทสฺเสนฺโต เอวมยนฺติอาทิมาห. วิสุทฺธิมคฺคฏีกายํ ปน ‘‘อิทานิ ยฺวายํ สํสารจกฺกํ ทสฺเสนฺเตน กามภเว อวิชฺชา กามภเว สงฺขารานํ ปจฺจโย โหตีติอาทินา อวิชฺชาทีนํ ปจฺจยภาโว สงฺขาราทีนํ ปจฺจยุปฺปนฺนภาโว ทสฺสิโต, ตเมว ปฏิสมฺภิทามคฺคปาฬึ อาเนตฺวา นิคมนวเสน ทสฺเสนฺโต เอวมยนฺติอาทิมาหา’’ติ วุตฺตํ. สารตฺถทีปนิยา วินยฏีกายปิ อยเมว ปาโ ลิขิโต. ตตฺถ จ กามภเว จ อวิชฺชาติอาทินา อวิชฺชาทีนํ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาโว สํสารจกฺกํ ทสฺเสนฺเตน วุตฺโต น โหติ ตสฺส จ อวิชฺชา นาภิ, มูลตฺตาติอาทินา ปุพฺเพว ทสฺสิตตฺตา อุปริ จกฺกรูปโต ¶ ปโยคตฺเตน อุปสํหาราภาวา จ. ‘‘อปิ จ ตเมว ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาวํ นิคมนวเสน ทสฺเสนฺโต’’ติ จ วุตฺตํ, น เจตฺถ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาโว นิคมนวเสน ปธานตฺเตน ทสฺสิโต, อถ โข ปจฺจยปริคฺคหวสปฺปวตฺตํ ธมฺมฏฺิติาณเมว ¶ ยถาวุตฺตปจฺจยปริคฺคหาการสฺส นิคมนวเสน ทสฺสิตํ. ตถา หิ ‘‘เอวมยํ อวิชฺชา เหตุ, สงฺขารา เหตุสมุปฺปนฺนา, อุโภเปเต ธมฺมา เหตุสมุปฺปนฺนาติ ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา ธมฺมฏฺิติาณํ. อตีตมฺปิ อทฺธานํ. อนาคตมฺปิ อทฺธานํ อวิชฺชา เหตุ…เป… ธมฺมฏฺิติาณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๖) ธมฺมฏฺิติาณเมว ปธานตฺเตน ทสฺสิตํ. ‘‘อวิชฺชา เหตุ, สงฺขารา เหตุสมุปฺปนฺนา’’ติอาทิ ปน ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา ธมฺมฏฺิติาณนฺติ (ปฏิ. ม. มาติกา ๔; ๑.๔๕) วุจฺจมานตฺตา ตสฺส ปจฺจยปริคฺคหาการปริทีปนตฺถํ วิสยตฺเตน วุตฺตํ, น ปธานตฺเตน.
อยฺเหตฺถ อตฺโถ – เอวนฺติ อนนฺตเร วุตฺตนเยน อยํ อวิชฺชา สงฺขารานํ เหตุ, สงฺขารา จ เตน เหตุนา สมุปฺปนฺนา. อุโภเปเตติ ยสฺมา อยํ อวิชฺชา ปรปริกปฺปิตปกติอิสฺสราทิ วิย อเหตุกา นิจฺจา ธุวา น โหติ, อถ โข ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๓) วจนโต สยมฺปิ สเหตุกา สงฺขตา อนิจฺจาเยว โหติ, ตสฺมา อุโภเปเต อวิชฺชาสงฺขารา เหตุสมุปฺปนฺนาเยว. อิตีติ เอวํ ยถาวุตฺตนเยน ปจฺจยปริคฺคณฺหเน ยา ปฺา, ตํ ธมฺมานํ ิติสงฺขาเต การเณ ยาถาวโต ปวตฺตตฺตา ธมฺมฏฺิติาณํ นามาติ.
เอตฺถ หิ าณสฺส วิสยวิภาวนวเสเนว อวิชฺชาทีนํ ปจฺจยาทิภาโว วุตฺโต, น ปธานตฺเตน, าณเมว ปเนตฺถ ปธานโต วุตฺตํ, ตสฺมา เอตสฺส าณสฺส ปจฺจยปริคฺคหาการทสฺสนตฺถเมว เหฏฺาปิ กามภเว จ อวิชฺชาติอาทินา อวิชฺชาทีนํ ปจฺจยาทิภาโว วุตฺโต, อิธาปิ นิคมนวเสน อุปสํหโฏ, น ภวจกฺกทสฺสนตฺถนฺติ อยเมตฺถ อตฺตโน มติ.
ตตฺถ จ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺเมสุ อทิฏฺเสุ เหตูนํ ปจฺจยภาโวปิ น สกฺกา ทฏฺุนฺติ ‘‘สงฺขารา เหตุสมุปฺปนฺนา’’ติ ปจฺจยปริคฺคหาณนิทฺเทเส (ปฏิ. ม. ๑.๔๕) ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมานมฺปิ คหณํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอเตน นเยนาติ อวิชฺชายํ วุตฺตนเยน สงฺขารา เหตุ, วิฺาณํ เหตุสมุปฺปนฺนนฺติอาทินา สพฺพานิ ชาติปริโยสานานิ ปทานิ วิตฺถาเรตพฺพานิ.
เอวํ ปฏิสมฺภิทามคฺคปาฬิยา ธมฺมฏฺิติาณสฺส อวิชฺชาทีสุ ปวตฺติอาการํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตสฺส เตสุ ปจฺจเยสุ อฺเหิปิ อากาเรหิ ปวตฺติอาการํ ¶ ทสฺเสตุํ ตตฺถาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺเคสุ. สงฺขิปฺปนฺติ เอตฺถ อวิชฺชาทโย เหตุสามฺเน ผลสามฺเน ¶ วาติ สงฺเขโป, สงฺคโห, โกฏฺาโส ราสีติ อตฺโถ. โส ปน ชาติโต ทุวิโธปิ กาลเภทวเสน จตุพฺพิโธ ชาโต. ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธาติ อนุวตฺตติ. ตณฺหุปาทานภวา คหิตา กิเลสกมฺมสามฺโต ตทวินาภาวโต จ. อวิชฺชาทิกิเลสวฏฺฏมฺปิ วิปากธมฺมธมฺมตาสริกฺขตาย อิธ กมฺมวฏฺฏเมวาติ อาห อิเม ปฺจ ธมฺมาติอาทิ. วิปากา ธมฺมาติอาทีสุ กมฺมชอรูปกฺขนฺธานเมว วิปากสทฺทวจนียตฺเตปิ นามรูปาทิปเทสุ รูปมิสฺสมฺปิ ผลปฺจกํ อรูปปฺปธานตาย จ ตพฺพหุลตาย จ ‘‘วิปากวฏฺฏ’’นฺติ วุตฺตํ. วิปากปฺปธานํ วฏฺฏํ, วิปากพหุลํ วา วฏฺฏนฺติ อตฺโถ. กมฺมชปริยาโย วา เอตฺถ วิปาก-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. ชาติชรามรณาปเทเสนาติ ปรมตฺถธมฺมวินิมุตฺตชาติชรามรณํ นาม นตฺถีติ ตทปเทเสน เตสํ กถเนน ตํมุเขนาติ อตฺโถ. อากิรียนฺติ ปกาสียนฺตีติ อาการา, อวิชฺชาทิสรูปา, ตโต ปจฺจยาการโตติ อตฺโถ. เอโก สนฺธีติ อวิจฺเฉทปฺปวตฺติเหตุภูโต เหตุผลสนฺธิ, ทุติโย ผลเหตุสนฺธิ, ตติโย เหตุผลสนฺธีติ ทฏฺพฺพํ.
เอวํ ธมฺมฏฺิติาณสฺส อวิชฺชาทีสุ อเนเกหิ ปกาเรหิ ปวตฺติอาการํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตหิ, อวุตฺเตหิ จ สพฺเพหิ อากาเรหิ ภควโต ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส ปฏิวิทฺธภาวํ, ตสฺส จ าณสฺส ธมฺมฏฺิติาณสทฺทปฺปวตฺตินิมิตฺตตํ ปฏิสมฺภิทาปาฬินเยน ทสฺเสตุํ อุปสํหารวเสน อิติ ภควาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อิตีติ วุตฺตปฺปการปรามสนํ, เตนาห จตุสงฺเขปนฺติอาทิ. สพฺพาการโตติ อิธ กามภเว จ อวิชฺชา กามภเว สงฺขารานํ ปจฺจโยติอาทินา อิธ วุตฺเตหิ จ อวุตฺเตหิ จ ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺคาทีสุ (วิภ. ๒๒๕ อาทโย) อาคเตหิ สพฺเพหิ ปกาเรหิ ปฏิวิชฺฌติ. ตนฺติ เยน าเณน ภควา เอวํ ชานาติ, ตํ าณํ. าตฏฺเนาติ ชานนฏฺเน. ปชานนฏฺเนาติ ปฏิวิชฺฌนฏฺเน.
อิทานิ ยมิทํ ธมฺมฏฺิติาณํ ปจฺจยปริคฺคหาการเภเทหิ สทฺธึ ปปฺจโต ทสฺสิตํ, ตสฺมึ อรฆาเต เอตสฺส อุปโยคิตํ ทสฺเสตุํ อิมินา ธมฺมฏฺิติาเณนาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ธมฺมฏฺิติาเณน อเร หนีติ สมฺพนฺโธ. กถนฺติ? อาห ‘‘เต ธมฺเม’’ติอาทิ. เต อวิชฺชาทิเก ธมฺเม มหาวชิราณาวุเธน ¶ เตน ธมฺมฏฺิติาเณน ยถาภูตํ ตฺวา เตน พลววิปสฺสนาวุเธน นิพฺพินฺทนฺโต อริยมคฺคาวุเธน วิรชฺชนฺโต วิมุจฺจนฺโต อเร หนีติ โยชนา. อริยมคฺคาณมฺปิ หิ กิจฺจโต สมุทยสจฺจาทิโพธโต ‘‘ธมฺมฏฺิติาณ’’นฺติ วุจฺจติ.
เอเกกํ ธมฺมกฺขนฺธํ เอเกกวิหาเรน ปูเชมีติ ธมฺมกฺขนฺธํ อารพฺภ ปวตฺตาปิ วิหารกรณปูชา ภควติ เปเมเนว ปวตฺตตฺตา สธาตุกาทิเจติยปฏิมณฺฑิตตฺตา จ ภควโตว ปูชาติ ¶ อาห ภควนฺตํ อุทฺทิสฺสาติอาทิ. กิเลสารีน โส มุนีติ เอตฺถ นิคฺคหีตโลโป, กิเลสารีนํ หตตฺตาติ อตฺโถ. ปจฺจยาทีน จารโหติ เอตฺถาปิ นิคฺคหีตโลโป ทฏฺพฺโพ.
สมฺมาสมฺพุทฺโธติ เอตฺถ สํ-สทฺโท สยนฺติ อตฺเถ ปวตฺตตีติ อาห ‘‘สาม’’นฺติ, อปรเนยฺโย หุตฺวาติ อตฺโถ. สพฺพธมฺมานนฺติ อิทํ กสฺสจิ วิสยวิเสสสฺส อคฺคหิตตฺตา สิทฺธํ. ปเทสคฺคหเณ หิ อสติ คเหตพฺพสฺส นิปฺปเทสตาว วิฺายติ, ยถา ทิกฺขิโต น ททาตีติ. เอวฺจ กตฺวา อตฺถวิเสสานเปกฺขา กตฺตริเยว พุทฺธ-สทฺทสิทฺธิ เวทิตพฺพา กมฺมวจนิจฺฉาย อภาวโต. ‘‘สมฺมา สามํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ เอตฺตกเมว หิ อิธ สทฺทโต ลพฺภติ. สพฺพธมฺมานนฺติ อิทํ ปน อตฺถโต ลพฺภมานํ คเหตฺวา วุตฺตํ, น หิ พุชฺฌนกิริยา อวิสยา ยุชฺชติ. อภิฺเยฺเยติ ลกฺขณาทิโต อนิจฺจาทิโต จ อภิวิสิฏฺเน โลกิยโลกุตฺตราเณน ชานิตพฺเพ จตุสจฺจธมฺเม. ปริฺเยฺเยติ อนิจฺจาทิวเสน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ชานิตพฺพํ ทุกฺขํ อริยสจฺจมาห. ปหาตพฺเพติ สมุทยสจฺจํ. สจฺฉิกาตพฺเพติ นิโรธสจฺจํ. พหุวจนนิทฺเทโส ปเนตฺถ โสปาทิเสสาทิกํ ปริยายสิทฺธํ เภทํ อเปกฺขิตฺวา กโต.
อภิฺเยฺยนฺติ คาถาย ปหาตพฺพภาเวตพฺพานํ สมุทยมคฺคสจฺจานํ เหตุธมฺมานํ คหเณเนว ตปฺผลานํ ทุกฺขสจฺจนิโรธสจฺจานมฺปิ สิทฺธิโต ปริฺาตพฺพฺจ ปริฺาตํ สจฺฉิกาตพฺพฺจ สจฺฉิกตนฺติ อิทมฺเปตฺถ สงฺคหิตเมวาติ ทฏฺพฺพํ, เตนาห ‘‘ตสฺมา พุทฺโธสฺมี’’ติ. ยสฺมา จตฺตาริปิ สจฺจานิ มยา พุทฺธานิ, ตสฺมา สพฺพมฺปิ เยฺยํ พุทฺโธสฺมิ, อพฺภฺาสินฺติ อตฺโถ.
วิจิตฺตวิสยปตฺถนาการปฺปวตฺติยา ตณฺหา ทุกฺขวิจิตฺตตาย ปธานการณนฺติ อาห ‘‘มูลการณภาเวนา’’ติ. อุภินฺนนฺติ จกฺขุสฺส ตํสมุทยสฺส จ. อปฺปวตฺตีติ อปฺปวตฺตินิมิตฺตํ, น อภาวมตฺตํ. ตสฺส อวตฺถุตฺตา ¶ สปฺปจฺจยตฺตาทิอเนกเภทา สพฺพสงฺคหิตา. นิโรธปฺปชานนาติ สจฺฉิกิริยาภิสมยวเสน นิโรธสฺส ปฏิวิชฺฌนา. เอเกกปทุทฺธาเรนาปีติ จกฺขุ จกฺขุสมุทโยติอาทินา เอเกกโกฏฺาสนิทฺธารเณนาปิ, น ทุกฺขสจฺจาทิสามฺโต เอวาติ อธิปฺปาโย. ตณฺหายปิ สงฺขารทุกฺขปริยาปนฺนตาย ปริฺเยฺยตฺตา ทุกฺขสจฺจภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ฉ ตณฺหากายา’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมึ ปน อตฺตภาเว สา อุปฺปชฺชติ, ตสฺส มูลการณภาเวน สมุฏฺาปิกา ปุริมภวสิทฺธา ตณฺหา สมุทยสจฺจนฺติ คเหตพฺพา. กสิณานีติ กสิณารมฺมณานิ ฌานานิ. ทฺวตฺตึสาการาติ เกสาทโย ตทารมฺมณชฺฌานานิ จ. นว ภวาติ กามภวาทโย ตโย สฺีภวาทโย ตโย เอกโวการภวาทโย ตโย จาติ นว ภวา. จตฺตาริ ฌานานีติ อารมฺมณวิเสสํ อนเปกฺขิตฺวา สามฺโต จตฺตาริ ฌานานิ วุตฺตานิ. วิปากกิริยานมฺปิ ยถารหํ ¶ สพฺพตฺถ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. เอตฺถ จ กุสลธมฺมานํ อุปนิสฺสยภูตา ตณฺหาสมุฏฺาปิกาติ เวทิตพฺพา, กิริยธมฺมานํ ปน ตสฺส อตฺตภาวสฺส การณภูตา ตณฺหา. อนุโลมโตติ เอตฺถ อวิชฺชา ทุกฺขสจฺจํ, ตํสมุฏฺาปิกา ปุริมตณฺหา อาสวา สมุทยสจฺจนฺติ โยเชตพฺพํ. สงฺขาราทีสุ ปน อวิชฺชาทโยว สมุทยสจฺจภาเวน โยเชตพฺพา. เตนาติ ตสฺมา.
วิชฺชาติ อตฺตโน วิสยํ วิทิตํ กโรตีติ วิชฺชา. สมฺปนฺนตฺตาติ สมนฺนาคตตฺตา, สมฺปุณฺณตฺตา วา. ตตฺราติ อมฺพฏฺสุตฺเต. มโนมยิทฺธิยาติ เอตฺถ ‘‘อิธ ภิกฺขุ อิมมฺหา กายา อฺํ กายํ อภินิมฺมินาตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๓๖) วุตฺตตฺตา สรีรพฺภนฺตรฌานมเนน อฺสฺส สรีรสฺส นิพฺพตฺติวเสน ปวตฺตา มโนมยิทฺธิ นาม, สา อตฺถโต ฌานสมฺปยุตฺตา ปฺาเยว. สตฺต สทฺธมฺมา นาม สทฺธา หิรี โอตฺตปฺปํ พาหุสจฺจํ วีริยํ สติ ปฺา จ. คจฺฉติ อมตํ ทิสนฺติ ทุกฺขนิตฺถรณตฺถิเกหิ ทฏฺพฺพโต อมตํ นิพฺพานเมว ทิสํ คจฺฉติ, อิมินา จ จรณานํ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตอริยมคฺคภาวโต นิพฺพานตฺถิเกหิ เอกํเสน อิจฺฉิตพฺพตํ ทสฺเสติ. อิทานิสฺสา วิชฺชาจรณสมฺปทาย สาวกาทิอสาธารณตํ ทสฺเสตุํ ตตฺถ วิชฺชาสมฺปทาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาสวกฺขยวิชฺชาวเสน สพฺพฺุตา สิชฺฌติ, จรณธมฺมภูเตสุ ฌาเนสุ ¶ อนฺโตคธาย มหากรุณาสมาปตฺติยา วเสน มหาการุณิกตา สิชฺฌตีติ อาห ‘‘วิชฺชา…เป… มหาการุณิกต’’นฺติ. ยถา ตนฺติ เอตฺถ ตนฺติ นิปาตมตฺตํ, ยถา อฺโปิ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน พุทฺโธ นิโยเชติ, ตถา อยมฺปีติ อตฺโถ. เตนาติ อนตฺถปริวชฺชนอตฺถนิโยชเนน. อตฺตนฺตปาทโยติ อาทิ-สทฺเทน ปรนฺตปอุภยนฺตปา คหิตา. อสชฺชมาโน ภเวสุ อปจฺจาคจฺฉนฺโตติ ปหีนานํ ปุนานุปฺปตฺติโต น ปุน อุปคจฺฉนฺโต.
ตตฺราติ ยุตฺตวาจาภาสเน สาเธตพฺเพ เจตํ ภุมฺมํ. อภูตนฺติ อภูตตฺถํ. อตจฺฉนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. อนตฺถสํหิตนฺติ ปิสุณาทิโทสยุตฺตํ. สมฺมาคทตฺตาติ สุนฺทรวจนตฺตา, คทนํ คโท, กถนนฺติ อตฺโถ. สุนฺทโร คโท วจนมสฺสาติ ‘‘สุคโท’’ติ วตฺตพฺเพ นิรุตฺตินเยน ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา ‘‘สุคโต’’ติ วุตฺตํ.
สภาวโตติ ทุกฺขสภาวโต. โลกนฺติ ขนฺธาทิโลกํ. ยถาวุตฺตมตฺถํ สุตฺตโต อาห ยตฺถาติอาทิ. ตตฺถ ยตฺถาติ ยสฺมึ โลกนฺตสงฺขาเต นิพฺพาเน. ตนฺติ โลกสฺสนฺตํ, โอกาสโลเก กายคมเนน าตพฺพํ ปตฺตพฺพนฺติ นาหํ วทามีติ โยชนา. อิทฺจ โรหิตเทวปุตฺเตน โลกสฺส กายคติวเสน อนฺตคมนสฺส ปุจฺฉิตตฺตา วุตฺตํ. อปฺปตฺวา โลกสฺสนฺตนฺติ ขนฺธาทิโลกํ สนฺธาย วุตฺตํ.
กินฺเต ¶ ปทสา โอกาสโลกปริพฺภมเนน, ปริมิตฏฺาเน เอว ตํ าณคมเนน คจฺฉนฺตานํ ทสฺเสมีติ ทสฺเสนฺโต อปิ จาติอาทิมาห. ตตฺถ พฺยามมตฺเต กเฬวเรติ สรีเร. เตน รูปกฺขนฺธํ ทสฺเสติ. สสฺิมฺหีติ สฺาสีเสน เวทนาทโย ตโย ขนฺเธ. สมนเกติ วิฺาณกฺขนฺธํ. โลกนฺติ ขนฺธาทิโลกํ, ทุกฺขนฺติ อตฺโถ. โลกนิโรธนฺติ นิพฺพาเนน โลกสฺส นิรุชฺฌนํ, นิพฺพานเมว วา. อเทสมฺปิ หิ นิพฺพานํ เยสํ นิโรธาย โหติ, อุปจารโต ตนฺนิสฺสิตํ วิย โหตีติ ‘‘พฺยามมตฺเต กเฬวเร โลกนิโรธมฺปิ ปฺเปมี’’ติ วุตฺตํ, จกฺขุ โลเก ปิยรูปํ, สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌตีติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๔๐๑; วิภ. ๒๐๔) วิย. กุทาจนนฺติ กทาจิปิ. อปฺปตฺวาติ อคฺคมคฺเคน อนธิคนฺตฺวา. ตสฺมาติ ยสฺมา ตํ คมเนน ปตฺตุํ น สกฺกา, ตสฺมา. หเวติ นิปาตมตฺตํ, เอกํสตฺเถ วา ¶ . โลกวิทูติ สภาวาทิโต ขนฺธาทิชานนโก. จตุสจฺจธมฺมานํ อภิสมิตตฺตา สมิตาวี, สมิตกิเลโสติ วา อตฺโถ. นาสีสติ น ปตฺเถติ อปฺปฏิสนฺธิกตฺตา.
เอวํ สงฺเขปโต โลกํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิตฺถารโต ตํ ทสฺเสตุํ อปิ จ ตโย โลกาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อินฺทฺริยพทฺธานํ ขนฺธานํ สมูหสนฺตานภูโต สตฺตโลโก. โส หิ รูปาทีสุ สตฺตวิสตฺตตาย ‘‘สตฺโต’’ติ จ, โลกิยนฺติ เอตฺถ กมฺมกิเลสา ตพฺพิปากา จาติ ‘‘โลโก’’ติ จ วุจฺจติ. อนินฺทฺริยพทฺธานํ อุตุชรูปานํ สมูหสนฺตานภูโต โอกาสโลโก. โส หิ สตฺตสงฺขารานํ อาธารโต ‘‘โอกาโส’’ติ จ, โลกิยนฺติ เอตฺถ ตสฺสาธารา จ อาเธยฺยภูตาติ ‘‘โลโก’’ติ จ ปวุจฺจติ. อินฺทฺริยานินฺทฺริยพทฺธา ปน สพฺเพว อุปาทานกฺขนฺธา ปจฺจเยหิ สงฺขตฏฺเน ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน จ ‘‘สงฺขารโลโก’’ติ จ วุจฺจติ. อาหรติ อตฺตโน ผลนฺติ อาหาโร, ปจฺจโย. เตน ติฏฺนสีลา อุปฺปชฺชิตฺวา ยาว ภงฺคา ปวตฺตนสีลาติ อาหารฏฺิติกา, สพฺเพ สงฺขตธมฺมา. สพฺเพ สตฺตาติ จ อิมินาปิ เวเนยฺยานุรูปโต ปุคฺคลาธิฏฺานตฺตา เทสนาย สงฺขาราว คหิตา.
ยาวตา จนฺทิมสูริยา ปริหรนฺตีติ ยตฺตเก าเน จนฺทิมสูริยา ปริวตฺตนฺติ ปวตฺตนฺติ. วิโรจนาติ เตสํ วิโรจนเหตุ โอภาสนเหตูติ เหตุมฺหิ นิสฺสกฺกวจนํ. ทิสา ภนฺตีติ สพฺพา ทิสา ยาวตา วิคตนฺธการา ปฺายนฺติ. อถ วา ทิสาติ อุปโยคพหุวจนํ. ตสฺมา วิโรจมานา จนฺทิมสูริยา ยตฺตกา ทิสา ภนฺติ โอภาเสนฺตีติ อตฺโถ. ตาว สหสฺสธา โลโกติ ตตฺตเกน ปมาเณน สหสฺสปฺปกาโร โอกาสโลโก, สหสฺสจกฺกวาฬานีติ อตฺโถ. เอตฺถาติ สหสฺสจกฺกวาเฬ. วโสติ อิทฺธิสงฺขาโต วโส วตฺตตีติ อตฺโถ.
ตมฺปีติ ¶ ติวิธมฺปิ โลกํ. อสฺสาติ อเนน ภควตา สงฺขารโลโกปิ สพฺพถา วิทิโตติ สมฺพนฺโธ. เอโก โลโกติ ยฺวายํ เหฏฺา วุตฺตนเยน สพฺพสงฺขตานํ ปจฺจยายตฺตวุตฺติโต เตน สามฺเน สงฺขารโลโก เอโก เอกวิโธ, เอส นโย เสเสสุปิ. สพฺพตฺถาปิ โลกิยธมฺมาว โลโกติ อธิปฺเปตา โลกุตฺตรานํ ปริฺเยฺยตฺตาภาวา. อุปาทานานํ อารมฺมณภูตา ขนฺธา อุปาทานกฺขนฺธา. สตฺต วิฺาณฏฺิติโยติ ¶ ตถา ตถา สมุปฺปนฺนา ปชาเยว วุจฺจนฺติ. นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เอกตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, เอกตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เหฏฺิมา จ ตโย อารุปฺปาติ อิมา สตฺตวิธา ปชาเยว วิฺาณํ ติฏฺติ เอตฺถาติ วิฺาณฏฺิติโย นาม. ตตฺถ นานตฺตํ กาโย เอเตสมตฺถีติ นานตฺตกายา. นานตฺตํ สฺา เอเตสนฺติ นานตฺตสฺิโน. สฺาสีเสเนตฺถ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ คหิตํ, เอส นโย เสเสสุปิ.
ตตฺถ สพฺพมนุสฺสา จ ฉ กามาวจรเทวา จ นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน นาม. เตสฺหิ อฺมฺํ วิสทิสตาย นานา กาโย, ปฏิสนฺธิสฺา จ นววิธตาย นานา. ตีสุ ปมชฺฌานภูมีสุ พฺรหฺมกายิกา เจว จตูสุ อปาเยสุ สตฺตา จ นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน นาม. เตสุ หิ พฺรหฺมปาริสชฺชาทีนํ ติณฺณมฺปิ สรีรํ อฺมฺํ วิสทิสํ, ปฏิสนฺธิสฺา ปน ปมชฺฌานวิปากวเสน เอกาว, ตถา อาปายิกานมฺปิ, เตสํ ปน สพฺเพสํ อกุสลวิปากาเหตุกาว ปฏิสนฺธิสฺา. ทุติยชฺฌานภูมิกา จ ปริตฺตาภ อปฺปมาณาภ อาภสฺสรา เอกตฺตกายา นานตฺตสฺิโน นาม. เตสฺหิ สพฺเพสํ เอกปฺปมาโณว กาโย, ปฏิสนฺธิสฺา ปน ทุติยตติยชฺฌานวิปากวเสน นานา โหติ. ตติยชฺฌานภูมิยํ ปริตฺตสุภาทโย ตโย, จตุตฺถชฺฌานภูมิยํ อสฺสตฺตวชฺชิตา เวหปฺผลา, ปฺจ จ สุทฺธาวาสาติ นวสุ ภูมีสุ สตฺตา เอกตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน นาม. อาภานานตฺเตน ปน สพฺพตฺถ กายนานตฺตํ น คยฺหติ, สณฺานนานตฺเตเนว คยฺหตีติ. อสฺสตฺตา วิฺาณาภาเวน วิฺาณฏฺิติสงฺขฺยํ น คจฺฉนฺติ. เนวสฺา นาสฺายตนํ ปน ยถา สฺาย, เอวํ วิฺาณสฺสาปิ สุขุมตฺตา เนววิฺาณํ นาวิฺาณํ, ตสฺมา ปริพฺยตฺตวิฺาณกิจฺจวนฺเตสุ วิฺาณฏฺิตีสุ น คยฺหติ. ตสฺมา เสสานิ อากาสานฺจายตนาทีนิ ตีณิเยว คหิตานิ, เตหิ สทฺธึ อิมา สตฺต วิฺาณฏฺิติโยติ เวทิตพฺพา.
อฏฺ โลกธมฺมาติ ลาโภ อลาโภ ยโส อยโส นินฺทา ปสํสา สุขํ ทุกฺขนฺติ อิเม อฏฺ โลกสฺส สภาวตฺตา โลกธมฺมา. ลาภาลาภาทิปจฺจยา อุปฺปชฺชนกา ปเนตฺถ อนุโรธวิโรธา วา ลาภาทิสทฺเทหิ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. นว สตฺตาวาสาติ เหฏฺา วุตฺตา สตฺต วิฺาณฏฺิติโย ¶ เอว ¶ อสฺสตฺตจตุตฺถารุปฺเปหิ สทฺธึ ‘‘นว สตฺตาวาสา’’ติ วุจฺจนฺติ. สตฺตา อาวสนฺติ เอตฺถาติ สตฺตาวาสา, สตฺตนิกาโย, อตฺถโต ตถา ปวตฺตา ปชา เอว อิธ สงฺขารโลกภาเวน คยฺหนฺตีติ เวทิตพฺพา. ทสายตนานีติ ธมฺมายตนมนายตนวชฺชิตานิ ทส.
เอตฺถ จ ตีสุ ภเวสุ อสฺสาททสฺสนวเสน ติสฺโส เวทนาว โลกภาเวน วุตฺตา, ตถา ปจฺจยทสฺสนวเสน จตฺตาโรว อาหารา. อตฺตคฺคาหนิมิตฺตทสฺสนวเสน ฉ อชฺฌตฺติกาเนว อายตนานิ. ถูลสฺีภวทสฺสนวเสน สตฺต วิฺาณฏฺิติโยว, อนุโรธวิโรธทสฺสนวเสน อฏฺ โลกธมฺมา วา, ถูลายตนทสฺสนวเสน ทสายตนาเนว โลกภาเวน วุตฺตานิ. เตสํ คหเณเนว ตนฺนิสฺสยตปฺปฏิพทฺธา ตทารมฺมณา สพฺเพ เตภูมกา นามรูปธมฺมา อตฺถโต คหิตา เอว โหนฺติ. เสเสหิ ปน เอกวิธาทิโกฏฺาเสหิ สรูเปเนว เต คหิตาติ เวทิตพฺพํ.
อาสยํ ชานาตีติอาทีสุ อาหจฺจ จิตฺตํ เอตฺถ เสตีติ อาสโย, อฺสฺมึ วิสเย ปวตฺติตฺวาปิ จิตฺตํ ยตฺถ สรเสน ปวิสิตฺวา ติฏฺติ, โส วฏฺฏาสโย วิวฏฺฏาสโยติ ทุวิโธ. ตตฺถ วฏฺฏาสโยปิ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิวเสน ทุวิโธ. วิวฏฺฏาสโย ปน วิปสฺสนาสงฺขาตา อนุโลมิกา ขนฺติ, มคฺคสงฺขาตํ ยถาภูตาณฺจาติ ทุวิโธ. ยถาห –
‘‘สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิ จ, ขนฺติ เจวานุโลมิกํ;
ยถาภูตฺจ ยํ าณํ, เอตํ อาสยสทฺทิต’’นฺติ. (สารตฺถ. ฏี. ๑.เวรฺชกณฺฑวณฺณนา);
เอตํ ทุวิธมฺปิ อาสยํ สตฺตานํ อปฺปวตฺติกฺขเณเยว ภควา สพฺพถา ชานาติ. อนุสยนฺติ กามราคานุสยาทิวเสน สตฺตวิธํ อนุสยํ. จริตนฺติ ‘‘สุจริตทุจฺจริต’’นฺติ นิทฺเทเส วุตฺตํ. อถ วา จริตนฺติ จริยา, เต ราคาทโย ฉ มูลจริยา, สํสคฺคสนฺนิปาตวเสน อเนกวิธา โหนฺติ. อธิมุตฺตินฺติ อชฺฌาสยธาตุํ, ตตฺถ ตตฺถ จิตฺตสฺส อภิรุจิวเสน นินฺนตา, สา ทุวิธา หีนาธิมุตฺติ ปณีตาธิมุตฺตีติ. ยาย ทุสฺสีลาทิเก หีนาธิมุตฺติเก ¶ เสวนฺติ, สา หีนาธิมุตฺติ. ยาย ปณีตาธิมุตฺติเก เสวนฺติ, สา ปณีตาธิมุตฺติ. ตํ ทุวิธมฺปิ อธิมุตฺตึ ภควา สพฺพาการโต ชานาติ. อปฺปํ ราคาทิรชํ เอเตสนฺติ อปฺปรชกฺขา, อนุสฺสทราคาทิโทสา. อุสฺสทราคาทิโทสา มหารชกฺขา. อุปนิสฺสยภูเตหิ ติกฺเขหิ สทฺธาทิอินฺทฺริเยหิ มุทุเกหิ จ สมนฺนาคตา ติกฺขินฺทฺริยา มุทินฺทฺริยา จ. เหฏฺา วุตฺเตหิ อาสยาทีหิ สุนฺทเรหิ อสุนฺทเรหิ จ สมนฺนาคตา สฺวาการา ทฺวาการา จ เวทิตพฺพา. สมฺมตฺตนิยามํ ¶ วิฺาเปตุํ สุกรา สุวิฺาปยา, วิปรีตา ทุวิฺาปยา. มคฺคผลปฏิเวธาย อุปนิสฺสยสมฺปนฺนา ภพฺพา, วิปรีตา อภพฺพา. เอวํ สตฺตสนฺตานคตธมฺมวิเสสชานเนเนว สตฺตโลโกปิ วิทิโต ธมฺมวินิมุตฺตสฺส สตฺตสฺส อภาวาติ เวทิตพฺพํ.
เอกํ จกฺกวาฬํ…เป… ปฺาสฺจ โยชนานีติ เอตฺถ โหตีติ เสโส. ปริกฺเขปโต ปมาณํ วุจฺจตีติ เสโส. จกฺกวาฬสฺส สพฺพํ ปริมณฺฑลํ ฉตฺตึส สตสหสฺสานิ…เป… สตานิ จ โหนฺตีติ โยเชตพฺพํ. ตตฺถาติ จกฺกวาเฬ, ทฺเว สตสหสฺสานิ จตฺตาริ นหุตานิ จ โยชนานิ ยานิ เอตฺตกํ เอตฺตกปฺปมาณํ พหลตฺเตน อยํ วสุนฺธรา สงฺขาตาติ โยชนา. ตตฺถ เอตฺตกนฺติ กิริยาวิเสสนํ ทฏฺพฺพํ. สนฺธารกํ ชลํ เอตฺตกํ เอตฺตกปฺปมาณํ หุตฺวา ปติฏฺิตนฺติ โยชนา. เอตฺถาติ จกฺกวาเฬ. อชฺโฌคาฬฺหุคฺคตาติ อชฺโฌคาฬฺหา จ อุคฺคตา จ. พฺรหาติ มหนฺตา. โยชนานํ สตานุจฺโจ, หิมวา ปฺจาติ โยชนานํ ปฺจสตานิ อุจฺโจ อุพฺเพโธ. ติปฺจโยชนกฺขนฺธปริกฺเขปาติ ปนฺนรสโยชนปฺปมาณกฺขนฺธปริณาหา. นควฺหยาติ รุกฺขาภิธานา ชมฺพูติ โยชนา. สมนฺตโตติ สพฺพโสภาเคน, อายามโต จ วิตฺถารโต จ สตโยชนวิตฺถาราติ อตฺโถ. ยสฺสานุภาเวนาติ ยสฺสา มหนฺตตากปฺปฏฺายิกาทิปฺปกาเรน ปภาเวน. ปริกฺขิปิตฺวา ตํ สพฺพํ, โลกธาตุมยํ ิโตติ เหฏฺา วุตฺตํ สพฺพมฺปิ ตํ ปริกฺขิปิตฺวา จกฺกวาฬสิลุจฺจโย ิโต, อยํ เอกา โลกธาตุ นามาติ อตฺโถ, ม-กาโร ปทสนฺธิวเสน วุตฺโต. อถ วา ตํ สพฺพํ โลกธาตุํ ปริกฺขิปิตฺวา อยํ จกฺกวาฬสิลุจฺจโย ิโตติ โยเชตพฺพํ.
ตตฺถาติ ¶ ตสฺสํ โลกธาตุยํ. ตาวตึสภวนนฺติ ติทสปุรํ. อสุรภวนนฺติ อสุรปุรํ. อวีจิมหานิรโย จ ตถา ทสสหสฺสโยชโน, โส ปน จตุนฺนํ โลหภิตฺตีนมนฺตรา โยชนสตายามวิตฺถาโรปิ สมนฺตา โสฬสหิ อุสฺสทนิรเยหิ สทฺธึ ทสสหสฺสโยชโน วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. ตทนนฺตเรสูติ เตสํ จกฺกวาฬานํ อนฺตเรสุ. โลกานํ จกฺกวาฬานํ อนฺตเร วิวเร ภวตฺตา โลกนฺตริกา. ติณฺณฺหิ สกฏจกฺกานํ ปตฺตานํ วา อาสนฺนฏฺปิตานํ อนฺตรสทิเส ติณฺณํ ติณฺณํ จกฺกวาฬานํ อนฺตเรสุ เอเกโก โลกนฺตริกนิรโย อฏฺโยชนสหสฺสปฺปมาโณ สีตนรโก สตฺตานํ อกุสลวิปาเกน นิพฺพตฺตติ. อนนฺตานีติ ติริยํ อฏฺสุ ทิสาสุ จกฺกวาฬานิ อากาโส วิย อนนฺตานิ. อุทฺธํ ปน อโธ จ อนฺตาเนว. อนนฺเตน พุทฺธาเณนาติ เอตฺถ อนนฺตเยฺยปฏิเวธสามตฺถิยโยคโตว าณํ ‘‘อนนฺต’’นฺติ เวทิตพฺพํ.
อตฺตโนติ นิสฺสกฺเก สามิวจนเมตํ, อตฺตโตติ อตฺโถ. คุเณหิ อตฺตโน วิสิฏฺตรสฺสาติ ¶ สมฺพนฺโธ, ตรคฺคหณฺเจตฺถ อนุตฺตโรติ ปทสฺส อตฺถนิทฺเทสวเสน กตํ, น วิสิฏฺสฺส กสฺสจิ อตฺถิตาย. สเทวเก หิ โลเก สทิสกปฺโปปิ นาม โกจิ ตถาคตสฺส นตฺถิ, กุโต สทิโส, เตนาห สีลคุเณนาปิ อสโมติอาทิ. ตตฺถ อสเมหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ สโม อสมสโม. นตฺถิ ปฏิมา เอตสฺสาติ อปฺปฏิโม. เอส นโย เสเสสุปิ. ตตฺถ อุปมามตฺตํ ปฏิมา, สทิสูปมา ปฏิภาโค. ยุคคฺคาหวเสน ิโต ปฏิโม ปุคฺคโลติ เวทิตพฺโพ. อตฺตนาติ อตฺตโต. ปุริสทมฺเมติอาทีสุ ทมิตพฺพา ทมฺมา, ‘‘ทมฺมปุริสา’’ติ วตฺตพฺเพ วิเสสนสฺส ปรนิปาตํ กตฺวา ‘‘ปุริสทมฺมา’’ติ วุตฺตํ, ปุริสคฺคหณฺเจตฺถ อุกฺกฏฺวเสน อิตฺถีนมฺปิ ทเมตพฺพโต. นิพฺพิสา กตา โทสวิสสฺส วิโนทเนน. อตฺถปทนฺติ อตฺถาภิพฺยฺชนกํ ปทํ, วากฺยนฺติ อตฺโถ. เอกปทภาเวน จ อนฺสาธารโณ สตฺถุ ปุริสทมฺมสารถิภาโว ทสฺสิโต โหติ, เตนาห ภควา หีติอาทิ. อฏฺ ทิสาติ อฏฺ สมาปตฺติโย. อสชฺชมานาติ วสีภาวปฺปตฺติยา นิสฺสงฺคจารา.
ทิฏฺธมฺโม วุจฺจติ ปจฺจกฺโข อตฺตภาโว, ตตฺถ นิยุตฺโตติ ทิฏฺธมฺมิโก, อิธโลกตฺโถ. กมฺมกิเลสวเสน สมฺปเรตพฺพโต สมาคนฺตพฺพโต สมฺปราโย ¶ , ปรโลโก, ตตฺถ นิยุตฺโตติ สมฺปรายิโก, ปรโลกตฺโถ. ปรโม อุตฺตโม อตฺโถ ปรมตฺโถ, นิพฺพานํ. สห อตฺเถน วตฺตตีติ สตฺโถ, ภณฺฑมูเลน วาณิชฺชาย เทสนฺตรํ คจฺฉนฺโต ชนสมูโห. โส อสฺส อตฺถีติ สตฺถา, สตฺถวาโหติ นิรุตฺตินเยน. โส วิย ภควาติ อาห ‘‘สตฺถา, ภควา สตฺถวาโห’’ติ. อิทานิ ตมตฺถํ นิทฺเทสปาฬินเยน ทสฺเสตุํ ยถา สตฺถวาโหติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สตฺเถติ สตฺถิเก ชเน. กํ อุทกํ ตาเรนฺติ เอตฺถาติ กนฺตาโร, นิรุทโก อรฺปฺปเทโส. โจราทีหิ อธิฏฺิตอรฺปฺปเทสาปิ ทุคฺคมนฏฺเน ตํสทิสตาย กนฺตาราตฺเวว นิรุฬฺหาติ สามฺโต ‘‘กนฺตารํ ตาเรตี’’ติ วตฺวา ตํ วิวรนฺโต โจรกนฺตารนฺติอาทิมาห.
ภควโตติ นิสฺสกฺเก สามิวจนํ, ภควนฺตโต ธมฺมสฺสวเนนาติ อตฺโถ. ยถา ‘‘อุปชฺฌายโต อชฺเฌตี’’ติ, ภควโต สนฺติเกติ วา อตฺโถ. สเร นิมิตฺตํ อคฺคเหสีติ ปุพฺพพุทฺธุปฺปาเทสุ สทฺธมฺมสฺสวนปริจเยน ‘‘ธมฺโม เอโส วุจฺจตี’’ติ สเร อาการํ คณฺหิ. ปุพฺพาภิโยควเสเนว หิ อีทิสานํ ติรจฺฉานานํ ธมฺมสฺสวนาทีสุ ปสาโท อุปฺปชฺชติ วคฺคุลิอาทีนํ วิย. อิตรถา สพฺพติรจฺฉานานมฺปิ ตถา ปสาทุปฺปตฺติปฺปสงฺคโต. ยทิ หิ อุปฺปชฺเชยฺย, ภควา อนนฺตจกฺกวาเฬสุ สพฺพสตฺตานมฺปิ เอกกฺขเณ สปฺปาฏิหาริยธมฺมํ สาเวตุํ สกฺโกตีติ สพฺพสตฺตานมฺปิ อิโต ปุพฺเพว วิมุตฺติปฺปสงฺโค สิยา. เย ปน เทวมนุสฺสนาคสุปณฺณาทโย ปกติยาว กมฺมสฺสกตฺาณาทิยุตฺตา โหนฺติ, เตเยว ปุพฺเพ อนุปนิสฺสยาปิ ¶ ภควโต สทฺธมฺมสฺสวนาทินา ปมํ วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ ปสาทํ อุปฺปาเทตุํ สกฺโกนฺติ, น อิตเรติ คเหตพฺพํ. อเร อหมฺปิ นามาติ เอตฺถ ‘‘กุโตหํ อิธ นิพฺพตฺโตติ โอโลเกตฺวา มณฺฑูกภาวโตติ ตฺวา’’ติ อิทํ เอตฺตกมฺปิ อเร อหมฺปิ นามาติ วิมฺหยวจเนเนว สิชฺฌตีติ อวุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ชลนฺติ ชลนฺโต วิชฺโชตมาโน. มณฺฑูโกหนฺติ คาถาย อุทเกติ สฺชาตฏฺานทสฺสนํ, เตน ถลมณฺฑูกตา นิวตฺตนํ กตํ โหติ. อุทเก ชาตานมฺปิ กจฺฉปาทีนํ ถลโคจรตาปิ อตฺถีติ ตํ นิวตฺตนตฺถํ ‘‘วาริโคจโร’’ติ วุตฺตํ, อุทกสฺจารีติ อตฺโถ.
วิโมกฺขนฺติกาณวเสนาติ เอตฺถ สพฺพโส กิเลเสหิ วิมุจฺจตีติ วิโมกฺโข, อคฺคมคฺโค, ตสฺส อนฺโต, อคฺคผลํ, ตตฺถ ภวํ วิโมกฺขนฺติกํ, สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ สพฺพมฺปิ พุทฺธาณํ. อิทานิ สมฺมาสมฺพุทฺธปทโต พุทฺธปทสฺส ¶ วิเสสํ ทสฺเสตุํ ยสฺมา วาติอาทิ วุตฺตํ. สมฺมาสมฺพุทฺธปเทน หิ สตฺถุ ปฏิเวธาณานุภาโว วุตฺโต, อิมินา ปน พุทฺธปเทน เทสนาาณานุภาโวปิ, เตนาห อฺเปิ สตฺเต โพเธสีติอาทิ.
คุณวิสิฏฺสตฺตุตฺตมครุคารวาธิวจนนฺติ สพฺเพหิ สีลาทิคุเณหิ วิสิฏฺสฺส ตโต เอว สพฺพสตฺเตหิ อุตฺตมสฺส ครุโน คารววเสน วุจฺจมานวจนมิทํ ภควาติ. เสฏฺนฺติ เสฏฺวาจกํ วจนํ เสฏฺคุณสหจรณโต. อถ วา วุจฺจตีติ วจนํ, อตฺโถ, โส เสฏฺโติ อตฺโถ. อุตฺตมนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ครุคารวยุตฺโตติ เอตฺถ ครุภาโว คารวํ, ครุคุณโยคโต ครุกรณํ วา คารวํ, เตน สาวกาทีนํ อสาธารณตาย ครุภูเตน มหนฺเตน คารเวน ยุตฺโตติ ครุคารวยุตฺโต. อถ วา ครุ จ สพฺพโลกสฺส สิกฺขกตฺตา เตเนว คารวยุตฺโต จาติปิ โยเชตพฺพํ.
อวตฺถาย วิทิตํ อาวตฺถิกํ. เอวํ ลิงฺคิกํ. นิมิตฺตโต อาคตํ เนมิตฺติกํ. อธิจฺจ ยํกิฺจิ นิมิตฺตํ อธิวจนวเสน อนเปกฺขิตฺวา ปวตฺตํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ, เตนาห ‘‘วจนตฺถมนเปกฺขิตฺวา’’ติ. ยทิจฺฉาย อาคตํ ยาทิจฺฉกํ. เอตฺถ จ พาหิรํ ทณฺฑาทิ ลิงฺคํ, อพฺภนฺตรํ เตวิชฺชาทิ นิมิตฺตํ. ปจุรชนวิสยํ วา ทิสฺสมานํ ลิงฺคํ, ตพฺพิปรีตํ นิมิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สจฺฉิกาปฺตฺตีติ สพฺพธมฺมานํ สจฺฉิกิริยานิมิตฺตา ปฺตฺติ. อถ วา สจฺฉิกาปฺตฺตีติ ปจฺจกฺขสิทฺธา ปฺตฺติ. ยํคุณนิมิตฺตา หิ สา, เต คุณา สตฺถุ ปจฺจกฺขภูตาติ คุณา วิย สาปิ สจฺฉิกตา เอว นาม โหติ, น ปเรสํ, โวหารมตฺเตนาติ อธิปฺปาโย. ยํคุณเนมิตฺติกนฺติ เยหิ คุเณหิ นิมิตฺตภูเตหิ เอตํ นามํ เนมิตฺติกฺจ ชาตํ. วทนฺตีติ ธมฺมเสนาปติสฺส ครุภาวโต พหุวจเนนาห, สงฺคีติกาเรหิ วา กตมนุวาทํ สนฺธาย.
อิสฺสริยาทิเภโท ¶ ภโค อสฺส อตฺถีติ ภคี. มคฺคผลาทิอริยคุณํ อรฺาทิวิเวกฏฺานฺจ ภชิ เสวิ สีเลนาติ ภชี. จีวราทิปจฺจยานํ อตฺถรสาทีนฺจ สีลาทิคุณานฺจ ภาคี, ทายาโทติ อตฺโถ. วิภชิ อุทฺเทสนิทฺเทสาทิปฺปกาเรหิ ธมฺมรตนํ ปวิภชีติ วิภตฺตวา. ราคาทิปาปธมฺมํ ภคฺคํ อกาสีติ ภควาติ วุจฺจตีติ สพฺพตฺถ สมฺพนฺโธ. ครุปิ โลเก ภควาติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘ครู’’ติ, ยสฺมา ครุ, ตสฺมาปิ ภควาติ อตฺโถ. ปารมิตาสงฺขาตํ ¶ ภคฺยมสฺส อตฺถีติ ภคฺยวา. พหูหิ าเยหีติ กายภาวนาทิเกหิ อเนเกหิ ภาวนากฺกเมหิ. สุภาวิตตฺตโนติ ปจฺจตฺเต เอตํ สามิวจนํ, เตน สุภาวิตสภาโวติ อตฺโถ. ภวานํ อนฺตํ นิพฺพานํ คโตติ ภวนฺตโค. ตตฺถ ตตฺถ ภควาติ สทฺทสิทฺธิ นิรุตฺตินเยเนว เวทิตพฺพา.
อิทานิ ภคี ภชีติ นิทฺเทสคาถาย นวหิ ปเทหิ ทสฺสิตมตฺถํ ภคฺยวาติ คาถาย ฉหิ ปเทหิ สงฺคเหตฺวา ปทสิทฺธึ อตฺถโยชนานยเภเทหิ สทฺธึ ทสฺเสตุํ อยํ ปน อปโร นโยติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ วณฺณวิปริยโยติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, เตเนว วณฺณวิกาโร วณฺณโลโป ธาตุอตฺเถน นิโยชนฺจาติ อิมํ ติวิธํ ลกฺขณํ สงฺคณฺหาติ. สทฺทนเยนาติ สทฺทลกฺขณนเยน. ปิโสทราทีนํ สทฺทานํ อากติคณภาวโต วุตฺตํ ‘‘ปิโสทราทิปกฺเขปลกฺขณํ คเหตฺวา’’ติ. ปกฺขิปนเมว ลกฺขณํ. ตปฺปริยาปนฺนตากรณฺหิ ปกฺขิปนํ. ภคฺยนฺติ กุสลํ.
โลภาทโย จตฺตาโร โทสา เอกกวเสน คหิตา. อหิริกาทโย ทุกวเสน. อกฺโกจฺฉิมนฺติอาทินา (ธ. ป. ๓-๔) ปุนปฺปุนํ กุชฺฌนวเสน จิตฺตปริโยนนฺธโน โกโธว อุปนาโห. ปเรสํ ปุพฺพการิตาลกฺขณสฺส คุณสฺส นิปฺุฉโน มกฺโข นาม. พหุสฺสุตาทีหิ สทฺธึ ยุคคฺคาโห อตฺตโน สมกรณํ ปลาโส. อตฺตโน วิชฺชมานโทสปฏิจฺฉาทนา มายา. อวิชฺชมานคุณปฺปกาสนํ สาเยฺยํ. ครูสุปิ ถทฺธตา อโนนตตา ถมฺโภ. ตทุตฺตริกรณลกฺขโณ สารมฺโภ. ชาติอาทึ นิสฺสาย อุนฺนติลกฺขโณ มาโน. อพฺภุนฺนติลกฺขโณ อติมาโน. ชาติอาทึ นิสฺสาย มชฺชนาการปฺปตฺโต มาโนว มโท นาม. โส สตฺตวีสติวิโธ. กามคุเณสุ จิตฺตสฺส โวสฺสคฺโค ปมาโท. กายทุจฺจริตาทีนิ ติวิธทุจฺจริตานิ. ตณฺหาทิฏฺิทุจฺจริตวเสน ติวิธสํกิเลสา. ราคโทสโมหาว มลานิ. เตเยว กายทุจฺจริตาทโย จ ติวิธวิสมานิ. กามพฺยาปาทวิหึสาสฺา ติวิธสฺา นาม. เตเยว วิตกฺกา. ตณฺหาทิฏฺิมานา ปปฺจา. สุภสุขนิจฺจอตฺตวิปริเยสา จตุพฺพิธวิปริเยสา. ฉนฺทาทโย อคติ. จีวราทีสุ ปจฺจเยสุ โลภา จตฺตาโร ตณฺหุปาทา. พุทฺธธมฺมสงฺฆสิกฺขาสุ กงฺขา, สพฺรหฺมจารีสุ โกโป จ ¶ ปฺจ เจโตขีลา. กาเม กาเย รูเป จ อวีตราคตา, ยาวทตฺถํ ภฺุชิตฺวา เสยฺยสุขาทิอนุโยโค, อฺตรํ ¶ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยจรณฺจ ปฺจ เจโตวินิพนฺธา. รูปาภินนฺทนาทโย ปฺจ อภินนฺทนา. โกธมกฺขอิสฺสาสาเยฺยปาปิจฺฉตาสนฺทิฏฺิปรามาสา ฉ วิวาทมูลานิ. รูปตณฺหาทโย ฉ ตณฺหากายา. มิจฺฉาทิฏฺิอาทโย อฏฺมคฺคงฺคปฏิปกฺขา มิจฺฉตฺตา. ตณฺหํ ปฏิจฺจ ปริเยสนา, ปริเยสนํ ปฏิจฺจ ลาโภ, ลาภํ ปฏิจฺจ วินิจฺฉโย, ตํ ปฏิจฺจ ฉนฺทราโค, ตํ ปฏิจฺจ อชฺโฌสานํ, ตํ ปฏิจฺจ ปริคฺคโห, ตํ ปฏิจฺจ มจฺฉริยํ, ตํ ปฏิจฺจ อารกฺขา, อารกฺขาธิกรณํ ทณฺฑาทานาทิอเนกากุสลราสีติ นว ตณฺหามูลกา ธมฺมา. ปาณาติปาตาทโย ทส อกุสลกมฺมปถา. จตฺตาโร สสฺสตวาทา ตถา เอกจฺจสสฺสตวาทา อนฺตานนฺติกา อมราวิกฺเขปิกา ทฺเว อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา โสฬส สฺีวาทา อฏฺ อสฺีวาทา อฏฺ เนวสฺีนาสฺีวาทา สตฺต อุจฺเฉทวาทา ปฺจ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทาติ เอตานิ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ. รูปตณฺหาทิฉตณฺหา เอว ปจฺเจกํ กามตณฺหาภวตณฺหาวิภวตณฺหาวเสน อฏฺารส โหนฺติ, ตา อชฺฌตฺตพหิทฺธรูปาทีสุ ปวตฺติวเสน ฉตฺตึส, ปุน กาลตฺตยวเสน อฏฺสตตณฺหาวิจริตานิ โหนฺติ. ปเภท-สทฺทํ ปจฺเจกํ สมฺพนฺธิตฺวา โลภปฺปเภโทติอาทินา โยเชตพฺพํ. สพฺพทรถปริฬาหกิเลสสตสหสฺสานีติ สพฺพานิ สตฺตานํ ทรถสงฺขาตปริฬาหกรานิ กิเลสานํ อเนกานิ สตสหสฺสานิ, อารมฺมณาทิวิภาคโต ปวตฺติอาการวิภาคโต จ เนสํ เอวํ ปเภโท เวทิตพฺโพ. ปฺจ มาเร อภฺชีติ สมฺพนฺโธ. ปริสฺสยานนฺติ อุปทฺทวานํ.
เอวํ ภคฺยวา ภคฺควาติ ทฺวินฺนํ ปทานํ อตฺถํ วิภชิตฺวา อิทานิ เตหิ ทฺวีหิ คหิตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ภคฺยวนฺตตาย จสฺสาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สตปฺุชลกฺขณธรสฺสาติ อเนกสตปฺุนิพฺพตฺตมหาปุริสลกฺขณธรสฺส ภควโต. สกจิตฺเต อิสฺสริยํ นาม ปฏิกฺกูลาทีสุ อปฺปฏิกฺกูลสฺิตาทิวสปฺปวตฺติยา เจว เจโตสมาธิวเสน จ อตฺตโน จิตฺตสฺส วสีภาวาปาทนเมว. อณิมา ลฆิมาทิกนฺติ อาทิ-สทฺเทน มหิมา ปตฺติ ปากมฺมํ อีสิตา วสิตา ยตฺถกามาวสายิตาติ อิเม ฉปิ สงฺคหิตา. ตตฺถ กายสฺส อณุภาวกรณํ อณิมา. อากาเส ปทสา ¶ คมนาทิอรหภาเวน ลหุภาโว ลฆิมา. กายสฺส มหนฺตตาปาทนํ มหิมา. อิฏฺเทสสฺส ปาปุณนํ ปตฺติ. อธิฏฺานาทิวเสน อิจฺฉิตตฺถนิปฺผาทนํ ปากมฺมํ. สยํวสิตา อิสฺสรภาโว อีสิตา. อิทฺธิวิเธ วสีภาโว วสิตา. อากาเสน วา คจฺฉโต, อฺํ วา กิฺจิ กโรโต ยตฺถ กตฺถจิ โวสานปฺปตฺติ ยตฺถกามาวสายิตา, ‘‘กุมารกรูปาทิทสฺสน’’นฺติปิ วทนฺติ. สพฺพงฺคปจฺจงฺคสิรีติ สพฺเพสํ องฺคปจฺจงฺคานํ โสภา. อตฺถีติ อนุวตฺตติ. ลหุสาธนํ ตํ ตํ กาลิกํ อิจฺฉิตํ, ครุสาธนํ จิรกาลิกํ พุทฺธตฺตาทิปตฺถิตํ ¶ . ภคา อสฺส สนฺตีติ ภควาติ อิทํ สทฺทสตฺถนเยน สิทฺธํ, เสสํ สพฺพํ นิรุตฺตินเยน สิทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ.
ปีฬนสงฺขตสนฺตาปวิปริณามฏฺเนาติอาทีสุ ปีฬนฏฺโ สงฺขตฏฺโติอาทินา อตฺถ-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ตตฺถ อตฺตโน สภาเวน ปีฬนลกฺขณํ ทุกฺขํ. ตสฺส โย ปีฬนเมว อตฺโถ ‘‘ปีฬนฏฺโ’’ติ วุจฺจติ, โส สภาโว. ยสฺมา ปน ตํสมุทเยน สงฺขตํ, ตสฺมา สงฺขตฏฺโ สมุทยทสฺสเนน อาวิภูโต. ยสฺมา จ มคฺโค กิเลสสนฺตาปหรตฺตา สุสีตโล, ตสฺมาสฺส มคฺคทสฺสเนน สนฺตาปฏฺโ อาวิภูโต ตปฺปฏิโยคตฺตา. อวิปริณามธมฺมสฺส ปน นิโรธสฺส ทสฺสเนน วิปริณามฏฺโ อาวิภูโตติ. เอกสฺเสว สภาวธมฺมสฺส สกภาวโต อิตรสจฺจตฺตยนิวตฺติโต จ ปริกปฺเปตพฺพตฺตา จตฺตาโร อตฺถา วุตฺตา. สมุทยสฺส ปน ราสิกรณโต อายูหนฏฺโ สภาโว, ตสฺเสว ทุกฺขทสฺสเนน นิทานฏฺโ อาวิภูโต. วิสํโยคภูตสฺส นิโรธสฺส ทสฺสเนน สํโยคฏฺโ. นิยฺยานภูตสฺส มคฺคสฺส ทสฺสเนน ปลิโพธฏฺโ อาวิภูโต.
นิโรธสฺส ปน นิสฺสรณฏฺโ สภาโว, ตสฺเสว สมุทยทสฺสเนน วิเวกฏฺโ อาวิภูโต. สงฺขตสฺส มคฺคสฺส ทสฺสเนน อสงฺขตฏฺโ, วิสยภูตสฺส มรณธมฺมสฺส วา ทุกฺขสฺส ทสฺสเนน อมตฏฺโ. มคฺคสฺส ปน นิยฺยานฏฺโ สภาโว, ตสฺเสว สมุทยทสฺสเนน ทุกฺขสฺเสวายํ เหตุ, นิพฺพานปฺปตฺติยา ปน อยเมว เหตูติ เหตฺวฏฺโ, อติสุขุมนิโรธทสฺสเนน อิธเมว ทสฺสนนฺติ ทสฺสนฏฺโ, อธิกปณสฺส ทุกฺขสฺส ทสฺสเนน อธิปเตยฺยฏฺโ อาวิภูโต. เอเต เอว จ ปีฬนาทโย โสฬส อาการาติ วุจฺจนฺติ.
กาเมหิ ¶ วิเวกฏฺกายตา กายวิเวโก. นีวรณาทีหิ วิวิตฺตา อฏฺ สมาปตฺติโย จิตฺตวิเวโก. อุปธียนฺติ เอตฺถ ยถาสกํ ผลานีติ อุปธโย, ปฺจกามคุณสงฺขาตกามขนฺธกิเลสอภิสงฺขารา, เตหิ จตูหิ วิวิตฺตํ นิพฺพานํ อุปธิวิเวโก นาม.
อนตฺตานุปสฺสนาย ปฏิลทฺโธ ทุกฺขานิจฺจานุปสฺสนาหิ จ ปฏิลทฺโธ อริยมคฺโค อาคมนวเสน ยถากฺกมํ สฺุตอปฺปณิหิตอนิมิตฺตวิโมกฺขสฺํ ปฏิลภติ, กิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา หิ เอส วิโมกฺโขติ.
ยถา โลเก เอเกกปทโต เอเกกมกฺขรํ คเหตฺวา ‘‘เมขลา’’ติ วุตฺตํ, เอวมิธาปีติ อตฺโถ. เมหนสฺสาติ คุยฺหปฺปเทสสฺส. ขสฺสาติ โอกาสสฺส.
สห ¶ เทเวหีติอาทีสุ สห เทเวหิ วตฺตตีติ สเทวโก โลโก. ตํ สเทวกนฺติอาทินา โยชนา เวทิตพฺพา. สเทวกวจเนนาติ สเทวก-สทฺเท วิเสสนภาเวน ิตเทววจเนน. ตสฺสาปิ สเทวกปเท อนฺโตภูตตฺตา อวยเว สมุทาโยปจารวเสน โวหาโร กโต. อิตรถา เตน เทววิสิฏฺโลกสฺเสว คหณโต ปฺจกามาวจรเทวคฺคหณํ น สิยา, เอวํ อุปริปิ. สมารกวจเนน มารสทฺเทน เตน สหจริตา สพฺเพ วสวตฺติเทวา จ คหิตาติ อาห ‘‘ฉฏฺกามาวจรเทวคฺคหณ’’นฺติ. พฺรหฺมกายิกา นาม ปมชฺฌานภูมิกา. เต อาทิ เยสํ อารุปฺปปริยนฺตานํ พฺรหฺมานํ เตสํ พฺรหฺมานํ คหณํ พฺรหฺมกายิกาทิพฺรหฺมคฺคหณํ. โลก-สทฺทสฺส โอกาสโลกาทีนมฺปิ สาธารณตฺตา สตฺตโลกาเวณิกเมว ปชาคหณํ กตนฺติ อาห ‘‘ปชาวจเนน สตฺตโลกคฺคหณ’’นฺติ. สเทวกาทิวจเนน อุปปตฺติเทวานํ, สสฺสมณวจเนน วิสุทฺธิเทวานฺจ คหิตตฺตา อาห ‘‘สเทวมนุสฺสวจเนน สมฺมุติเทวอวเสสมนุสฺสคฺคหณ’’นฺติ. ตตฺถ สมฺมุติเทวา ราชาโน, อวเสสมนุสฺสา สมฺมุติเทวสมณพฺราหฺมเณหิ อวสิฏฺา. สตฺตโลกาเวณิกสฺส ปชาสทฺทสฺส วิสุํ คหิตตฺตา สเทวกํ โลกนฺติ เอตฺถ โลกสทฺทคฺคหณํ โอกาสโลกเมว นิยเมตีติ อาห ‘‘ตีหิ ปเทหิ โอกาสโลโก’’ติ. อิทฺจ สเทวกาทิปทตฺตยวจนียสฺส ปธานตฺถสฺส วเสน วุตฺตํ. โอกาสโลกวิเสสนสฺส ปเนตฺถ เทวมาราทิสตฺตโลกสฺสาปิ คหณํ เวทิตพฺพํ ¶ สามตฺถิยโต คมฺยมานตฺตา สปุตฺโต อาคโตติอาทีสุ ปุตฺตาทีนํ วิย. อิมสฺมิฺจ นเย สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ โอกาสโลกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ สเทวมนุสฺสํ ปชฺจาติ จ-การํ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ, โอกาสสตฺตโลกานํ คหเณน เจตฺถ ตทุภยสมฺมุตินิมิตฺตภูโต สงฺขารโลโกปิ ตทวินาภาวโต คหิโต เอวาติ ทฏฺพฺโพ. อปเร ปน ‘‘สเทวกนฺติอาทีหิ ปฺจหิ ปเทหิ สตฺตโลโกว อตฺตโน อวยวภูตเทวาทิวิเสสเนหิ วิเสเสตฺวา คหิโต, ตคฺคหเณน ตทาธาโร โอกาสโลโก, ตทุภยปฺตฺติวิสโย สงฺขารโลโก จ คหิตา เอว โหนฺตี’’ติ วทนฺติ. เตสฺจ ปชนฺติ อิทํ โลกสทฺทสฺส วิเสสนํ กตฺวา สเทวกํ ปชํ โลกํ…เป… สเทวมนุสฺสํ ปชํ โลกนฺติ โยเชตพฺพํ.
อรูปาวจรโลโก คหิโต ปาริเสสาเยน อิตเรสํ ปทนฺตเรหิ คหิตตฺตา. มารคฺคหเณน ตปฺปธานา ตํสทิสา จ อุปปตฺติเทวา สงฺคยฺหนฺตีติ อาห ‘‘ฉกามาวจรเทวโลโก’’ติ. ขตฺติยปริสา พฺราหฺมณคหปติสมณจาตุมหาราชิกตาวตึสมารพฺรหฺมปริสาติ อิมาสุ อฏฺสุ ปริสาสุ จาตุมหาราชิกาทีนํ จตุนฺนํ ปริสานํ สเทวกาทิปเทหิ สงฺคหิตตฺตา อิธ สสฺสมณพฺราหฺมณินฺติ อิมินา สมณปริสา พฺราหฺมณปริสา จ, สเทวมนุสฺสนฺติ อิมินา ขตฺติยปริสา คหปติปริสา จ วุตฺตาติ อาห ‘‘จตุปริสวเสนา’’ติ. ตสฺส มนุสฺสโลโก คหิโตติ ¶ อิมินา สมฺพนฺโธ. ตตฺถ มนุสฺสโลโกติ มนุสฺสสมูโห, เตนาห ‘‘อวเสสสพฺพสตฺตโลโก วา’’ติ.
วิกปฺปนฺตรํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สมฺมุติเทเวหิ วา สห มนุสฺสโลโก’’ติ. เทวปเทน สมฺมุติเทวา, สมณพฺราหฺมณมนุสฺสปเทหิ เสสมนุสฺสา จ คหิตาติ เอวํ วิกปฺปทฺวเยปิ มนุสฺสํ ปชํ มนุสฺสึ ปชนฺติ ปชา-สทฺทํ มนุสฺส-สทฺเทน วิเสเสตฺวา ตํ ปุน สห เทเวหิ วตฺตตีติ สเทวา, ปชา. สเทวา จ สา มนุสฺสา จาติ สเทวมนุสฺสา, ตํ สเทวมนุสฺสํ ปชํ. ปุน กึ ภูตํ สสฺสมณพฺราหฺมณินฺติ เอวํ ยถา ปชาสทฺเทน มนุสฺสานฺเว คหณํ สิยา, ตถา นิพฺพจนํ กาตพฺพํ, อิตรถา มนุสฺสานฺเว คหณํ น สมฺปชฺชติ สพฺพมนุสฺสานํ วิเสสนภาเวน คหิตตฺตา อฺปทตฺถภูตสฺส กสฺสจิ มนุสฺสสฺส อภาวา. อิทานิ ปชนฺติ อิมินา ¶ อวเสสนาคาทิสตฺเตปิ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสตุกาโม อาห ‘‘อวเสสสพฺพสตฺตโลโก วา’’ติ. เอตฺถาปิ จตุปริสวเสน อวเสสสพฺพสตฺตโลโก สมฺมุติเทวมนุสฺเสหิ วา สห อวเสสสพฺพสตฺตโลโกติ โยเชตพฺพํ.
เอตฺตาวตา ภาคโส โลกํ คเหตฺวา โยชนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เอเกกปเทน อภาคโส สพฺพโลกานํ คหณปกฺเขปิ ตสฺส ตสฺส วิเสสนสฺส สปฺผลตํ ทสฺเสตุํ อปิ เจตฺถาติอาทิ วุตฺตํ. อุกฺกฏฺปริจฺเฉทโตติ อุกฺกฏฺานํ เทวคติปริยาปนฺนานํ ปริจฺฉินฺนวเสน ชานนวเสน กิตฺติสทฺโท สยํ อตฺตโน อวยวภูเตน สเทวกวจเนน ตํ สุณนฺตานํ สาเวนฺโต อพฺภุคฺคโตติ โยชนา. อนุสนฺธิกฺกโมติ อตฺถานฺเจว ปทานฺจ อนุสนฺธานกฺกโม, ชานนกฺกโมติ อตฺโถ.
อภิฺาติ ย-การโลเปน นิทฺเทโสติ อาห ‘‘อภิฺายา’’ติ. สมนฺตภทฺรกตฺตาติ สพฺพภาเคหิ สุนฺทรตฺตา. สาสนธมฺโมติ ปฏิปตฺติปฏิเวธสาสนสฺส ปกาสโก ปริยตฺติธมฺโม. พุทฺธสุโพธิตตายาติ อิทํ ติกํ ธมฺมสฺส เหตุสรูปผลวเสน วุตฺตํ, ตถา นาถปภวตฺติกมฺปิ. มชฺเฌ ติกทฺวยํ ผลวเสเนว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. กิจฺจสุทฺธิยาติ ธมฺมํ สุตฺวา ยถาสุตวเสน ปฏิปชฺชนฺตานํ สุปฺปฏิปตฺติสงฺขาตกิจฺจสุทฺธิยา.
อิทานิ อาทิกลฺยาณาทิปฺปการเมว ธมฺมํ เทเสนฺโต ภควา โสตูนํ ยํ สาสนพฺรหฺมจริยํ มคฺคพฺรหฺมจริยฺจ ปกาเสติ, ตปฺปกาสกสฺส พฺรหฺมจริยปทสฺส สาตฺถนฺติอาทีนิ ปทานิ วิเสสนภาเวน วุตฺตานิ, น ธมฺมปทสฺสาติ ทสฺสนมุเขน นานปฺปการโต อตฺถํ วิวริตุกาโม สาตฺถํ สพฺยฺชนนฺติ เอวมาทีสุ ปนาติอาทิมาห. ตตฺถ ติสฺโส สิกฺขา สกโล จ ตนฺติธมฺโม สาสนพฺรหฺมจริยํ ¶ นาม. ภควา หิ ธมฺมํ เทเสนฺโต สีลาทิเก วิย ตปฺปกาสกํ ตนฺติธมฺมมฺปิ ปกาเสติ เอว สทฺทตฺถสมุทายตฺตา ปริยตฺติธมฺมสฺส. ยถานุรูปนฺติ ยถารหํ. สิกฺขตฺตยสงฺคหิตฺหิ สาสนพฺรหฺมจริยํ มคฺคพฺรหฺมจริยฺจ อตฺถสมฺปตฺติยา สมฺปนฺนตฺถตาย, อุปรูปริ อธิคนฺตพฺพวิเสสสงฺขาตอตฺถสมฺปตฺติยา จ สห อตฺเถน ปโยชเนน วตฺตตีติ สาตฺถเมว, น ตุ สพฺยฺชนํ, ตนฺติธมฺมสงฺขาตํ สาสนพฺรหฺมจริยํ ยถาวุตฺเตน อตฺเถน สาตฺถํ สพฺยฺชนฺจ. กิราตาทิมิลกฺขวจนานมฺปิ สาตฺถสพฺยฺชนตฺเต สมาเนปิ วิสิฏฺตฺถพฺยฺชนโยคํ สนฺธาย สหตฺโถ ¶ เทวทตฺโต สวิตฺโตติอาทิ วิย ‘‘สาตฺถํ สพฺยฺชน’’นฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อตฺถสมฺปตฺติยา สาตฺถํ, พฺยฺชนสมฺปตฺติยา สพฺยฺชน’’นฺติ. ตตฺถ ยํ อตฺถํ สุตฺวา ตถา ปฏิปชฺชนฺตา สพฺพทุกฺขกฺขยํ ปาปุณนฺติ, ตสฺส ตาทิสสมฺปตฺติ อตฺถสมฺปตฺติ นาม, สมฺปนฺนตฺถตาติ อตฺโถ. พฺยฺชนสมฺปตฺติ นาม สิถิลธนิตาทิพฺยฺชนปริปุณฺณาย มาคธิกาย สภาวนิรุตฺติยา คมฺภีรมฺปิ อตฺถํ อุตฺตานํ กตฺวา ทสฺสนสมตฺถตา สมฺปนฺนพฺยฺชนตาติ อตฺโถ.
อิทานิ เนตฺติปฺปกรณนเยนาปิ (เนตฺติ ๔ ทฺวาทสปท) อตฺถํ ทสฺเสตุํ สงฺกาสนาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สงฺเขปโต กาสียติ ทีปียตีติ สงฺกาสนนฺติ กมฺมสาธนวเสน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ, เอวํ เสเสสุปิ. ปมํ กาสนํ ปกาสนํ. อุภยมฺเปตํ อุทฺเทสตฺถวจนสงฺขาตสฺส วิตฺถารวจนํ. สกึ วุตฺตสฺส ปุน วจนฺจ วิวรณวิภชนานิ. อุภยมฺเปตํ นิทฺเทสตฺถวจนํ. วิวฏสฺส วิตฺถารตราภิธานํ วิภตฺตสฺส จ ปกาเรหิ าปนํ อุตฺตานีกรณปฺตฺติโย. อุภยมฺเปตํ ปฏินิทฺเทสตฺถวจนสงฺขาตสฺส วิตฺถารวจนํ. อตฺถปทสมาโยคโตติ ยถาวุตฺตานิ เอว ฉ ปทานิ ปริยตฺติยา อตฺถวิภาคตฺตา อตฺถปทานิ, เตหิ สหิตตาย อตฺถโกฏฺาสยุตฺตตฺตาติ อตฺโถ. อปริโยสิเต ปเท อาทิมชฺฌคตวณฺโณ อกฺขรํ, เอกกฺขรํ, ปทํ วา อกฺขรํ. วิภตฺติยนฺตํ ปทํ. ปทาภิหิตํ อตฺถํ พฺยฺเชตีติ พฺยฺชนํ, วากฺยํ. กถิตสฺเสวตฺถสฺส อเนกวิเธน วิภาคกรณํ อากาโร นาม. อาการาภิหิตสฺส นิพฺพจนํ นิรุตฺติ. นิพฺพจนตฺถวิตฺถาโร นิทฺเทโส. อถ วา ‘‘อกฺขเรหิ สงฺกาเสติ, ปเทหิ ปกาเสติ, พฺยฺชเนหิ วิวรติ, อากาเรหิ วิภชติ, นิรุตฺตีหิ อุตฺตานึ กโรติ, นิทฺเทเสหิ ปฺเปตี’’ติ วจนโต สงฺกาสนปกาสนสงฺขอาตอุทฺเทสตฺถวาจกานิ วจนานิ อกฺขรปทานิ นาม. วิวรณวิภชนสงฺขาตนิทฺเทสตฺถวาจกานิ วจนานิ พฺยฺชนาการา นาม. อุตฺตานีกรณปฺตฺติสงฺขาตปฏินิทฺเทสตฺถวาจกานิ วจนานิ นิรุตฺตินิทฺเทสา นาม, เตสํ สมฺปตฺติยา สพฺยฺชนนฺติ อตฺโถ.
อตฺถคมฺภีรตาติอาทีสุ อตฺโถ นาม ตนฺติอตฺโถ, เหตุผลํ วา. ธมฺโม นาม ตนฺติ, เหตุ วา. เทสนา นาม ยถาธมฺมํ ธมฺมาภิลาโป. ปฏิเวโธ นาม ยถาวุตฺตอตฺถาทีนํ อวิปรีตาวโพโธ. เต ¶ ปเนเต อตฺถาทโย ยสฺมา สสาทีหิ วิย มหาสมุทฺโท มนฺทพุทฺธีหิ ทุกฺโขคาหา อลพฺภเนยฺยปติฏฺา จ, ตสฺมา คมฺภีรา. เตสุ ปฏิเวธสฺสาปิ อตฺถสนฺนิสฺสิตตฺตา ¶ อตฺถสภาคตฺตา จ วุตฺตํ ‘‘อตฺถคมฺภีรตาปฏิเวธคมฺภีรตาหิ สาตฺถ’’นฺติ. ธมฺมเทสนานํ อตฺถสนฺนิสฺสิตตฺเตปิ สยํ พฺยฺชนรูปตฺตา วุตฺตํ ‘‘ธมฺมคมฺภีรตาเทสนาคมฺภีรตาหิ สพฺยฺชน’’นฺติ. ยถาวุตฺตอตฺถาทีสุ ปเภทคตานิ าณานิ อตฺถปฏิสมฺภิทาทโย. ตตฺถ นิรุตฺตีติ ตนฺติปทานํ นิทฺธาเรตฺวา วจนํ, นิพฺพจนนฺติ อตฺโถ. ตีสุ ปฏิสมฺภิทาสุ าณํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทา. โลกิยา สทฺเธยฺยวจนมุเขเนว อตฺเถสุ ปสีทนฺติ, น อตฺถมุเขนาติ อาห สทฺเธยฺยโตติอาทิ. เกวลสทฺโท สกลาธิวจนนฺติ อาห ‘‘สกลปริปุณฺณภาเวนา’’ติ. พฺรหฺมจริย-สทฺโท อิธ สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สกลํ สาสนํ ทีเปตีติ อาห สิกฺขตฺตยปริคฺคหิตตฺตาติอาทิ.
ยถาวุตฺตเมวตฺถํ อปเรนาปิ ปริยาเยน ทสฺเสตุํ อปิ จาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สนิทานนฺติ เทสกาลาทิทีปเกน นิทานวจเนน สนิทานํ. สอุปฺปตฺติกนฺติ อฏฺุปฺปตฺติอาทิยุตฺติยุตฺตํ. ตตฺรายํ ปาฬิโยชนากฺกโม – ‘‘เวรฺโช พฺราหฺมโณ สมโณ ขลุ โภ…เป… วิหรตี’’ติ จ, ‘‘ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ ‘อิติปิ โส…เป… ปเวเทตี’ติ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต’’ติ จ, ‘‘โส ธมฺมํ เทเสติ…เป… ปริโยสานกลฺยาณํ, เทเสนฺโต จ สาตฺถสพฺยฺชนาทิคุณสํยุตฺตํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตี’’ติ จ, ‘‘สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ จ อสฺโสสิ, สุตฺวา จ อถ โข เวรฺโช พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ.
อฏฺกถายํ ปน กิฺจาปิ ‘‘ทสฺสนมตฺตมฺปิ สาธุ โหตีติ เอวํ อชฺฌาสยํ กตฺวา อถ โข เวรฺโช…เป… อุปสงฺกมี’’ติ เอวํ สาธุ โข ปนาติอาทิปาสฺส พฺราหฺมณสฺส ปริวิตกฺกนภาเวน วุตฺตตฺตา พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตีติ ปทานนฺตรเมว อสฺโสสีติ ปทํ สมฺพนฺธิตพฺพํ วิย ปฺายติ, ตถาปิ ‘‘สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ เอวํ ยถาวุตฺตนิทสฺสนตฺเถน อิติ-สทฺเทน ปริจฺฉินฺทิตฺวา วุตฺตตฺตา ปน อฺตฺถ อิติ-สทฺทสฺส อทสฺสนโต จ อถ โข เวรฺโชติอาทินา กตฺตพฺพนฺตรทสฺสนมุเขน ปาฬิยา ปการนฺตเร ปวตฺติโต จ ยถาวุตฺตวเสเนว ‘‘สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ วจนานนฺตรเมว อสฺโสสีติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธนํ ยุตฺตํ. อฏฺกถาจริเยน หิ พฺราหฺมณสฺส อตฺตนา สุตวเสเนว อชฺฌาสโย อุปฺปชฺชตีติ ¶ อุปสงฺกมนเหตุทสฺสนมุเขน ทสฺสนมตฺตมฺปิ สาธุ โหตีติ เอวํ อชฺฌาสยํ กตฺวาติอาทิ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
๒. สีโตทกํ ¶ วิย อุณฺโหทเกนาติ อิทํ อุกฺกเมน มุขารุฬฺหวเสน วุตฺตํ, อนุปสนฺตสภาวตาย พฺราหฺมณสฺเสว อุณฺโหทกํ วิย สีโตทเกนาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ, าณเตชยุตฺตตาย วา ภควา อุณฺโหทโกปโมติ กตฺวา ตพฺพิรหิตํ พฺราหฺมณํ สีโตทกํ วิย กตฺวา ตถา วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. เอกีภาวนฺติ สมฺโมทนกิริยาย เอกรูปตํ. ยายาติอาทีสุ ยาย กถาย สมฺโมทิ พฺราหฺมโณ, ตํ สมฺโมทนียํ กถนฺติ โยชนา. ตตฺถ ขมนียนฺติ ทุกฺขพหุลํ อิทํ สรีรํ, กจฺจิ ขมิตุํ สกฺกุเณยฺยํ. ยาปนียนฺติ จิรปฺปพนฺธสงฺขาตาย ยาปนาย ยาเปตุํ สกฺกุเณยฺยํ. โรคาภาเวน อปฺปาพาธํ. ทุกฺขชีวิตาภาเวน อปฺปาตงฺกํ. ตํตํกิจฺจกรณตฺถาย ลหุํ อกิจฺเฉน อุฏฺาตุํ โยคฺคตาย ลหุฏฺานํ. พลนฺติ สรีรสฺส สพฺพกิจฺจกฺขมํ พลํ กจฺจิ อตฺถีติ ปุจฺฉติ. ผาสุวิหาโรติ สุขวิหาโร. สรณียเมว ทีฆํ กตฺวา ‘‘สารณีย’’นฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘สริตพฺพภาวโต จ สารณีย’’นฺติ. ปริยาเยหีติ การเณหิ.
ภาโวติ กิริยา, ตสฺมึ วตฺตมาโน นปุํสก-สทฺโท ภาวนปุํสกนิทฺเทโส นาม, กิริยาวิเสสนสทฺโทติ อตฺโถ. เอกมนฺเต เอกสฺมึ อนฺเต ยุตฺตปฺปเทเสติ อตฺโถ. ขณฺฑิจฺจาทิภาวนฺติ ขณฺฑิตทนฺตปลิตเกสาทิภาวํ. ราชปริวฏฺเฏติ ราชูนํ ปริวตฺตนํ, ปฏิปาฏิโยติ อตฺโถ. ปุราตนุจฺจกุลปฺปสุตตาย ชิณฺณตา, น วยสาติ อาห ‘‘จิรกาลปฺปวตฺตกุลนฺวเย’’ติ. วิภวานํ มหนฺตตฺตํ ลาติ คณฺหาตีติ มหลฺลโกติ อาห ‘‘วิภวมหตฺตตาย สมนฺนาคเต’’ติ. วิภาวเน นาม อตฺเถติ ปกติวิภาวนสงฺขาเต อตฺเถ. น อภิวาเทติ วาติ อภิวาเทตพฺพนฺติ น สลฺลกฺเขติ, เอวํ อสลฺลกฺขณปกติโกติ วุตฺตํ โหติ. รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วาติ เอตฺถาปิ นิจฺจปกติกํ อนิจฺจปกติกํ วาติ อตฺโถ. อนิจฺจํ วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท อวธารณตฺโถ.
สมฺปติชาโตติ มุหุตฺตชาโต, ชาตสมนนฺตรเมวาติ อตฺโถ. สตฺตปทวีติหาเรน คนฺตฺวา…เป… โอโลเกสีติ เอตฺถ ทฺวารํ ปิธาย นิกฺขนฺโตติอาทีสุ วิย คมนโต ปุเร กตมฺปิ โอโลกนํ ปจฺฉา กตํ ¶ วิย วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. โอโลเกสินฺติ จ โลกวิวรณปาฏิหาริเย ชาเต มํสจกฺขุนา โวโลเกสีติ อตฺโถ. เสฏฺโติ ปสตฺถตโร. ปติมาเนสีติ ปูเชสิ. อาสภินฺติ อุตฺตมํ.
๓. ตํ วจนนฺติ นาหํ ตํ พฺราหฺมณาติอาทิวจนํ. อฺาย สณฺเหยฺยาติ อรหตฺเต ปติฏฺเหยฺย. ชาติวเสนาติ ขตฺติยาทิชาติวเสน. อุปปตฺติวเสนาติ เทเวสุ อุปปตฺติวเสน. อาวิฺฉนฺตีติ ¶ อากฑฺฒนฺติ. ยสฺส อภิวาทาทิกรณสงฺขาตสฺส สามคฺคิรสสฺส ภควติ อภาวํ มฺมาโน พฺราหฺมโณ ‘‘อรสรูโป’’ติ อาห, ตพฺพิธุรสฺส รูปตณฺหาทิกสฺเสว สามคฺคิรสสฺส อภาเวน ภควา ‘‘อรสรูโป’’ติ ทสฺเสตุํ สามคฺคิรสสทฺทสฺส รูปรสาทีสุ วตฺตนปฺปการํ ทสฺเสนฺโต อาห วตฺถารมฺมณาทีติอาทิ.
ตาลาวตฺถุกตาติ อุจฺฉินฺนมูลานํ ตาลานํ วตฺถุ วิย เนสํ รูปรสาทีนํ วตฺถุ จิตฺตสนฺตานํ กตนฺติ อิมสฺมึ อตฺเถ มชฺเฌปทโลปํ ทีฆฺจ กตฺวา นิทฺเทโสติ อาห ตาลวตฺถุ วิยาติอาทิ. ตาลวตฺถุ วิย เยสํ วตฺถุ กตํ เต ตาลาวตฺถุกตาติ วิเสสนสฺส ปรนิปาโต ทฏฺพฺโพ, กตตาลวตฺถุกาติ อตฺโถ. มตฺถกจฺฉินฺนตาโลเยว ปตฺตผลาทีนํ อการณตาย อวตฺถูติ ตาลาวตฺถุ, ตํ วิย เยสํ วตฺถุ กตํ เต รูปรสาทโย ตาลาวตฺถุกตา, อยํ อฺปทตฺถวเสน อตฺถคฺคาโห เหฏฺา วุตฺตนเยน สุคโมติ วิเสสมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘มตฺถกจฺฉินฺนตาโล วิย กตา’’ติ. เอวฺจ มตฺถกสทิเสสุ รูปรสาทีสุ ราเคสุ ฉินฺเนสุปิ ตพฺพตฺถุภูตสฺส ตาลาวตฺถุสทิสสฺส จิตฺตสนฺตานสฺส ยาว ปรินิพฺพานฏฺานํ อุปปนฺนเมว โหติ. ยถารุตโต ปน วิเสสนสมาสวเสน อตฺเถ คยฺหมาเน รูปรสาทีนํ ตาลาวตฺถุสทิสตาย านํ อาปชฺชติ. ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๑.๓) เอตํ โทสํ ปริหริตุํ รูปรสาทีนํ กุสลากุสลตฺตํ วุตฺตํ, ตํ เต ตถาคตสฺส ปหีนาติอาทิปาฬิยา, กามสุขสฺสาทสงฺขาตา รูปรสาติอาทิอฏฺกถาย จ น สเมติ, ขีณาสวานมฺปิ ยาว ปรินิพฺพานา กุสลากุสลานํ ผลุปฺปตฺติโต เตสํ มตฺถกจฺฉินฺนตาลสทิสตาปิ น ยุตฺตาติ คเหตพฺพํ. อถ วา มตฺถกจฺฉินฺนตาลสฺส ิตํ อฏฺิตฺจ อมนสิกตฺวา ปุน อนุปฺปตฺติธมฺมตาสทิสมตฺตํ อุปเมตฺวา ตาลาวตฺถุ วิย กตาติ วิเสสนสมาสวเสน ¶ อตฺถคฺคหเณปิ น โกจิ โทโส. อนุ-สทฺโท ปจฺฉาติ อตฺเถ วตฺตตีติ อาห ปจฺฉาภาโว น โหตีติอาทิ. อนุ อภาวํ คตาติ ปจฺฉา อนุปฺปตฺติธมฺมตาวเสน อภาวํ คตา. อนจฺฉริยาติ อนุ อนุ อุปรูปริ วิมฺหยกตาติ อตฺโถ. ยฺจ โข ตฺวํ วเทสีติ ยํ วนฺทนาทิสามคฺคีรสาภาวสงฺขาตํ การณํ อรสรูปตาย วเทสิ, ตํ การณํ น วิชฺชตีติ อตฺโถ.
๔. สนฺธาย ภาสิตมตฺถนฺติ ยํ อตฺถํ สนฺธาย พฺราหฺมโณ นิพฺโภโค ภวํ โคตโมติอาทิมาห, ภควา จ ยํ สนฺธาย นิพฺโภคตาทึ อตฺตนิ อนุชานาติ, ตํ สนฺธาย ภาสิตมตฺถํ.
๕. กุลสมุทาจารกมฺมนฺติ ¶ กุลาจารกมฺมํ. กายโต กายทฺวารโต ปวตฺตํ ทุจฺจริตํ กายทุจฺจริตํ. อเนกวิหิตาติ อเนกปฺปการา.
๖. ปฺจกามคุณิกราคสฺสาติ รูปาทีสุ ปฺจสุ กามโกฏฺาเสสุ อติวิย สงฺควเสน นิยุตฺตสฺส กามราคสฺส, เอเตน อนาคามีนํ วตฺถาภรณาทีสุ สงฺคนิกนฺติวเสน อุปฺปชฺชนกามราคสฺส กามราคตาภาวํ ทสฺเสติ ตสฺส รูปราคาทีสุ สงฺคหโต. อวเสสานนฺติ เอตฺถ สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉานํ ปเมน มคฺเคน, เสสานํ จตูหิปิ อุจฺเฉทํ วทติ, เตนาห ‘‘ยถานุรูป’’นฺติ.
๗. ชิคุจฺฉติ มฺเติ ชิคุจฺฉติ วิย, ‘‘ชิคุจฺฉตี’’ติ วา สลฺลกฺเขมิ. อโกสลฺลสมฺภูตฏฺเนาติ อฺาณสมฺภูตฏฺเน.
๘-๑๐. ตตฺราติ ยถาวุตฺเตสุ ทฺวีสุ อตฺถวิกปฺเปสุ. ปฏิสนฺธิปริยาโยปิ อิธ คพฺภสทฺโทติ อาห ‘‘เทวโลกปฏิสนฺธิปฏิลาภายา’’ติ. อปุนพฺภวภูตาติ ขเณ ขเณ อุปฺปชฺชมานานํ ธมฺมานํ อภินิพฺพตฺติ.
๑๑. ธมฺมธาตุนฺติ สพฺพฺุตฺาณํ. ตฺหิ ธมฺเม ยาถาวโต ธาเรติ อุปธาเรตีติ ‘‘ธมฺมธาตู’’ติ วุจฺจติ. เทสนาวิลาสปฺปตฺโตติ อภิรุจิวเสน ปริวตฺเตตฺวา เทเสตุํ สมตฺถตา เทสนาวิลาโส, ตํ ปตฺโต. กรุณาวิปฺผารนฺติ สพฺพสตฺเตสุ มหากรุณาย ผรณํ. ตาทิคุณลกฺขณเมว อุปมาย วิภาเวนฺโต อาห ‘‘ปถวีสมจิตฺตต’’นฺติ. ตโตเยว ¶ อกุชฺฌนสภาวโต อกุปฺปธมฺมตา. ชาติยา อนุคตนฺติ ชาติยา อนุพทฺธํ. ชราย อนุสฏนฺติ ชราย ปลิเวิตํ. วฏฺฏขาณุภูตนฺติ วฏฺฏโต อุทฺธริตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย วฏฺเฏ นิจฺจลภาเวน ิตํ ขาณุ วิย ภูตํ. ชาตานํ มจฺจานํ นิจฺจํ มรณโต ภยนฺติ อาห อชฺช มริตฺวาติอาทิ. อปฺปฏิสมํ ปุเรชาตภาวนฺติ อสทิสํ อริยาย ชาติยา ปมชาตภาวํ, สพฺพเชฏฺภาวนฺติ อตฺโถ.
‘‘อปี’’ติ อวตฺวา ‘‘ปี’’ติ วทนฺโต ปิ-สทฺโท วิสุํ อตฺถิ นิปาโตติ ทสฺเสติ. สมฺมา อธิสยิตานีติ ปาทาทีหิ อุปฆาตํ อกโรนฺติยา สมฺมเทว อุปริ สยิตานิ, อกมฺมกสฺสาปิ สยติธาตุโน อธิปุพฺพตาย สกมฺมกตา ทฏฺพฺพา. นขสิขาติ นขคฺคานิ. สกุณานํ ¶ ปกฺขา หตฺถปาทฏฺานิยาติ อาห ‘‘สงฺกุฏิตหตฺถปาทา’’ติ. เอตฺถาติ อาโลกฏฺาเน. นิกฺขมนฺตานนฺติ นิกฺขมนฺเตสุ, นิทฺธารเณ เหตํ สามิวจนํ. อณฺฑโกสนฺติ อณฺฑกปาลํ.
โลโกเยว โลกสนฺนิวาโส. อพุชฺฌิ เอตฺถาติ รุกฺโข โพธิ, สยํ พุชฺฌติ, พุชฺฌนฺติ วา เตนาติ มคฺโคปิ สพฺพฺุตฺาณมฺปิ โพธิ. พุชฺฌียตีติ นิพฺพานํ โพธิ. อนฺตรา จ โพธินฺติ ทุติยมุทาหรณํ วินาปิ รุกฺข-สทฺเทน โพธิ-สทฺทสฺส รุกฺขปฺปวตฺติทสฺสนตฺถํ. วรภูริเมธโสติ มหาปถวี วิย ปตฺถฏปฺโติ อตฺโถ. ติสฺโส วิชฺชาติ อรหตฺตมคฺโค อตฺตนา สห วตฺตมานํ สมฺมาทิฏฺิสงฺขาตํ อาสวกฺขยาณฺเจว อิตรา ทฺเว มหคฺคตวิชฺชา จ ตพฺพินิพนฺธกกิเลสวิทฺธํสนวเสน อุปฺปาทนโต ‘‘ติสฺโส วิชฺชา’’ติ วุจฺจติ. ฉ อภิฺาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สาวกปารมีาณนฺติ อคฺคสาวเกหิ ปฏิลภิตพฺพํ สพฺพเมว โลกิยโลกุตฺตราณํ. ปจฺเจกโพธิาณนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
โอปมฺมสมฺปฏิปาทนนฺติ โอปมฺมตฺถสฺส อุปเมยฺเยน สมํ ปฏิปาทนํ. อตฺเถนาติ อุปเมยฺยตฺเถน. ติกฺขขรวิปฺปสนฺนสูรภาโวติ อิมินา สงฺขารุเปกฺขาปตฺตตํ วิปสฺสนาย ทสฺเสติ. ปริณามกาโลติ อิมินา วุฏฺานคามินิภาวาปตฺตึ. ตทา จ สา มคฺคาณคพฺภํ ธาเรนฺตี วิย โหตีติ อาห ‘‘คพฺภคฺคหณกาโล’’ติ. อนุปุพฺพาธิคเตนาติ ปมมคฺคาทิปฏิปาฏิยา อธิคเตน. จตุรงฺคสมนฺนาคตนฺติ ‘‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ จ อฏฺิ จ อวสิสฺสตุ ¶ (ม. นิ. ๒.๑๘๔; สํ. นิ. ๒.๒๒; อ. นิ. ๒.๕; มหานิ. ๑๙๖), สรีเร อุปสุสฺสตุ มํสโลหิต’’นฺติ เอวํ วุตฺตจตุรงฺคสมนฺนาคตํ วีริยํ.
ฉนฺโท กาโมติอาทีสุ ปตฺถนากาเรน ปวตฺโต ทุพฺพโล โลโภ อิจฺฉนฏฺเน ฉนฺโท. ตโต พลวา รฺชนฏฺเน ราโค. ตโตปิ พลวตโร ฉนฺทราโค. นิมิตฺตานุพฺยฺชนสงฺกปฺปวเสน ปวตฺโต สงฺกปฺโป. ตโตปิ พลวสงฺกปฺปวเสเนว ปวตฺโต ราโค. ตโตปิ พลวตโร สงฺกปฺปราโค. สฺวายํ ปเภโท เอกสฺเสว โลภสฺส ปวตฺติอาการเภเทน อวตฺถาเภเทน จ วุตฺโต.
ปมชฺฌานกถาวณฺณนา
เสยฺยถิทนฺติ ตํ กถนฺติ อตฺโถ. เอตนฺติ ปุพฺพปเทเยว อวธารณกรณํ, เอตํ อตฺถชาตํ วา. ตนฺนิสฺสรณโตติ เตสํ กามานํ นิสฺสรณตฺตา. เอสาติ เอว-กาโร. กามธาตุ นาม กามภโว, เนกฺขมฺมนฺติ ปมชฺฌานํ. เอสาติ นิยโม. ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณวิเวกา ¶ ตทงฺควิเวกาทโย. กายจิตฺตอุปธิวิเวกา กายวิเวกาทโย, ตโย เอว อิธ ฌานกถาย, สมุจฺเฉทวิเวกาทีนํ อสมฺภวา. นิทฺเทเสติ มหานิทฺเทเส. ตตฺเถวาติ มหานิทฺเทเส เอว. วิภงฺเคติ ฌานวิภงฺเค. เอวฺหิ สตีติ อุภเยสมฺปิ กามานํ สงฺคเห สติ.
ปุริเมนาติ กายวิเวเกน. เอตฺถาติ เอตสฺมึ กายจิตฺตวิเวกทฺวเย. ทุติเยนาติ จิตฺตวิเวเกน. เอเตสนฺติ ยถาวุตฺตนเยน วตฺถุกามกิเลสกามวิเวกทฺวยสฺส วาจกภูตานํ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหีติ อิเมสํ ปทานํ, นิทฺธารเณ เจตํ สามิวจนํ. พาลภาวสฺส เหตุปริจฺจาโคติ อนุวตฺตติ. อกุสลธมฺโม หิ พาลภาวสฺส เหตุ. อาสยโปสนนฺติ อาสยสฺส วิโสธนํ วฑฺฒนฺจ. วิภงฺเค นีวรณาเนว วุตฺตานีติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ การณมาห ‘‘อุปริฌานงฺคปจฺจนีกปฏิปกฺขภาวทสฺสนโต’’ติ. ตตฺถ อุปริ สวิตกฺกนฺติอาทินา วุจฺจมานานิ ฌานงฺคานิ, เตสํ อตฺตโน ปจฺจนีกานํ ปฏิปกฺขภาวทสฺสนโตติ อตฺโถ. อุปริฌานงฺคานํ ปจฺจนีกปฏิปกฺขภาวสฺส ทสฺสนโตติปิ ปาโ. ตตฺถ ‘‘อุปริ วุจฺจมานฌานงฺคานํ อุชุวิปจฺจนีกวเสน ปฏิปกฺขภาวทสฺสนโต’’ติ ‘‘นีวรณานํ ตาเนว วิภงฺเค วุตฺตานี’’ติปิ อตฺถํ วทนฺติ ¶ . เปฏเกติ มหากจฺจายนตฺเถเรน กตํ เนตฺติปฺปกรณนยานุสาริปกรณํ, ตํ ปน ปิฏกานํ วณฺณนาภูตตฺตา ‘‘เปฏก’’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺมินฺติ อตฺโถ.
วิตกฺกนํ นาม อารมฺมณปริกปฺปนนฺติ อาห ‘‘อูหน’’นฺติ. รูปํ รูปนฺติอาทินา วิสเย อาโกเฏนฺตสฺส วิสยปฺปวตฺติอาหนนํ อุปริ อาหนนนฺติ เวทิตพฺพํ. อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อานยนํ นาม อารมฺมณาภิมุขกรณํ. อนุสฺจรณนฺติ อนุปริพฺภมนํ, ตฺจ ขณนฺตรสฺส ตถากาเรน อุปฺปาทนเมว, น หิ ปรมตฺถโต เอกสฺส สฺจรณมตฺถิ, เอวมฺตฺถาปิ อีทิเสสุ. อนุมชฺชนนฺติ ปริมชฺชนํ. ตตฺถาติ อารมฺมเณ. สหชาตานุโยชนํ สกิจฺจานุวตฺติตากรเณน. กตฺถจีติ ทุติยชฺฌานวิรหิเตสุ สวิจารจิตฺเตสุ สพฺพตฺถาติ อตฺโถ. วิจาเรน สห อุปฺปชฺชมาโนปิ วิตกฺโก อารมฺมเณ อภินิโรปนากาเรน ปวตฺตึ สนฺธาย ‘‘ปมาภินิปาโต’’ติ วุตฺโต. วิปฺผารวาติ อวูปสนฺตสภาวตาย เวควา, เตเนเวส ทุติยชฺฌาเน ปหานงฺคํ ชาตํ. ปมทุติยชฺฌาเนสูติ ปฺจกนยํ สนฺธาย วุตฺตํ. องฺควินิมุตฺตสฺส ฌานสฺส อภาวํ ทสฺเสนฺโต รุกฺโข วิยาติอาทิมาห.
วิเวก-สทฺทสฺส ภาวสาธนปกฺเข ‘‘ตสฺมา วิเวกา’’ติ วุตฺตํ, อิตรปกฺเข ‘‘ตสฺมึ วิเวเก’’ติ. ปินยตีติ ตปฺเปติ, วฑฺเฒติ วา. ผรณรสาติ ปณีตรูเปหิ กาเย พฺยาปนรสา. สาตลกฺขณนฺติ ¶ อิฏฺสภาวํ, มธุรนฺติ อตฺโถ. สมฺปยุตฺตานํ ปีฬนชฺฌุเปกฺขนํ อกตฺวา อนุ อนุ คณฺหนํ อุปการิตา วา อนุคฺคโห. วนเมว วนนฺตํ. อุทกเมว อุทกนฺตํ. ตสฺมึ ตสฺมึ สมเย ปากฏภาวโตติ อิมินา อิฏฺารมฺมณาทิปฏิลาภสมเยปิ สุขํ วิชฺชมานมฺปิ อปากฏํ, ปีติเยว ตตฺถ ปากฏา, ปฏิลทฺธรสานุภวนสมเย จ วิชฺชมานปีติโตปิ สุขเมว ปากฏตรนฺติ ทสฺเสติ. เอตฺถ จ เจตสิกสุขวเสเนว ปฏิลทฺธรสานุภวนํ เวทิตพฺพํ, น กายิกสุขวเสน ตสฺส ปีติสมฺปโยคสฺเสว อภาเวน อิธานธิปฺเปตตฺตา. อยฺจ ปีตีติอาทิ อฺปทตฺถสมอาสทสฺสนํ, อสฺสตฺถิปกฺเข ตทฺธิตปจฺจยทสฺสนํ วา. ทุติยวิกปฺเปน อฺปทตฺถสมาสวเสเนว ‘‘วิเวกชํ ปีติสุข’’นฺติ อิทํ เอกํ ปทนฺติ ทสฺเสติ, วิภตฺติยา จ อโลปํ.
คณนานุปุพฺพตาติ ¶ เทสนากฺกมํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปมํ สมาปชฺชตีติ อิทํ อาทิกมฺมิกวเสน วุตฺตํ, จิณฺณวสีนํ ปน โยคีนํ อุปฺปฏิปาฏิยาปิ ฌานํ อุปฺปชฺชเตว. ฌาเปตีติ ทหติ. อนิจฺจาทิลกฺขณวิสยาย วิปสฺสนาย อุปนิชฺฌายนํ กถํ นิพฺพานาลมฺพนสฺส มคฺคสฺส โหตีติ อาห วิปสฺสนายาติอาทิ. ตตฺถ มคฺเคน สิชฺฌตีติ นิจฺจาทิวิปลฺลาสปฺปหายเกน สห มคฺเคเนว ตํ ลกฺขณูปนิชฺฌานํ อสมฺโมหโต อตฺตโน สิชฺฌติ. อถ วา มคฺเคนาติ มคฺคกิจฺเจน, วิปลฺลาสปฺปหาเนนาติ อตฺโถ.
อฺโติ สตฺโต. อวุตฺตตฺตาติ ‘‘สจิตฺเตกคฺคต’’นฺติ ฌานปาฬิยํ (วิภ. ๕๐๘ อาทโย) อวุตฺตตฺตา. วุตฺตตฺตาติ ตสฺสา ฌานปาฬิยา วิภงฺเค วุตฺตตฺตา.
ทุติยชฺฌานกถาวณฺณนา
อชฺฌตฺตนฺติ ฌานวิเสสนตฺตา วุตฺตํ ‘‘อิธ นิยกชฺฌตฺตมธิปฺเปต’’นฺติ. ฌานฺหิ อชฺฌตฺตชฺฌตฺตํ น โหติ ฉฬินฺทฺริยานเมว ตพฺภาวโต. ขุทฺทกา อูมิโย วีจิโย. มหติโย ตรงฺคา. สนฺตา โหนฺติ สมิตาติอาทีนิ อฺมฺเววจนานิ, ฌานพเลน สมติกฺกนฺตาติ อธิปฺปาโย. อปฺปิตาติ คมิตา วินาสํ ปาปิตา. ปริยาโยติ ฌานปริกฺขาเร ฌานโวหารตฺตา อปรมตฺถโต.
ตติยชฺฌานกถาวณฺณนา
ตทธิคมายาติ ตติยมคฺคาธิคมาย. อุปปตฺติโต อิกฺขตีติ ปฺาย สหจรณปริจเยน ยถา ¶ สมวาหิภาโว โหติ, เอวํ ยุตฺติโต ปสฺสติ. วิปุลายาติ มหคฺคตภาวปฺปตฺตาย. ถามคตายาติ วิตกฺกวิจารปีติวิคเมน ถิรภาวปฺปตฺติยา, เตเนว วกฺขติ ‘‘วิตกฺกวิจารปีตีหิ อนภิภูตตฺตา’’ติอาทิ. (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑ ตติยชฺฌานกถา). อุเปกฺขาเภทํ ทสฺเสตฺวา อิธาธิปฺเปตํ อุเปกฺขํ ปกาเสตุํ อุเปกฺขา ปนาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺรมชฺฌตฺตตาว ขีณาสวานํ อิฏฺานิฏฺฉฬารมฺมณาปาเถ ปริสุทฺธปกติภาวาวิชหนากาเรน อชฺฌุเปกฺขนโต ‘‘ฉฬงฺคุเปกฺขา’’ติ จ, สตฺเตสุ มชฺฌตฺตาการปฺปวตฺตตฺตา ‘‘พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา’’ติ จ, สหชาตธมฺมานํ มชฺฌตฺตาการภูตา ‘‘โพชฺฌงฺคุเปกฺขา’’ติ จ, เกวลา ‘‘ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา’’ติ ¶ จ, ตติยชฺฌานสหคตา อคฺคสุเขปิ ตสฺมึ อปกฺขปาตภูตา ‘‘ฌานุเปกฺขา’’ติ จ, จตุตฺถชฺฌานสหคตา สพฺพปจฺจนีกปริสุทฺธิตาย ‘‘ปาริสุทฺธุเปกฺขา’’ติ จ เตน เตน อวตฺถาเภเทน ฉธา วุตฺตา.
วีริยเมว ปน อนจฺจารทฺธอนติสิถิเลสุ สหชาเตสุ สงฺขาเรสุ อุเปกฺขนากาเรน ปวตฺตํ ‘‘วีริยุเปกฺขา’’ติ วุตฺตํ. อฏฺนฺนํ รูปารูปชฺฌานานํ ปฏิลาภโต ปุพฺพภาเค เอว นีวรณวิตกฺกวิจาราทีนํ ปหานาภิมุขีภูตตฺตา เตสํ ปหาเนปิ อพฺยาปารภาวูปคมเนน มชฺฌตฺตาการปฺปวตฺตา สมาธิวเสน อุปฺปนฺนา อฏฺ ปฺา เจว อุปาทานกฺขนฺธภูเตสุ สงฺขาเรสุ อชฺฌุเปกฺขนาการปฺปวตฺตา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปนฺนา จตุนฺนํ มคฺคานํ ปุพฺพภาเค ตสฺส ตสฺส อธิคมาย จตสฺโส จตุนฺนํ ผลสมาปตฺตีนํ ปุพฺพภาเค ตสฺส ตสฺส อธิคมาย อปฺปณิหิตวิโมกฺขวเสน ปวตฺตา จตสฺโส สฺุตอนิมิตฺตวิโมกฺขวเสน ทฺเวติ ทส ปฺา จาติ อิเม อฏฺารส ปฺา สงฺขารุเปกฺขา นาม. ยถาวุตฺตวิปสฺสนาปฺาว ลกฺขณวิจินเนปิ มชฺฌตฺตภูตา วิปสฺสนุเปกฺขา นาม. อทุกฺขมสุขเวทนา เวทนุเปกฺขา นาม. อิมาสํ ปน ทสนฺนมฺปิ อุเปกฺขานํ ‘‘ตตฺถ ตตฺถ อาคตนยโต วิภาโค ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ’’ติ ทสฺเสนฺโต อาห เอวมยํ ทสวิธาปีติอาทิ. ตตฺถ ตตฺถ อาคตนยโตติ อิทมฺปิ หิ ตาสํ วิภาคทสฺสนสฺส ภูมิปุคฺคลาทิปทํ วิย วิสุํ มาติกาปทวเสน วุตฺตํ, น ปน ภูมิปุคฺคลาทิวเสน วิภาคทสฺสนสฺส อาคตฏฺานปรามสนํ อาคตฏฺานสฺส อฏฺสาลินิยาติอาทินา วุตฺตตฺตา, ตสฺมา สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๑.๑๑ ตติยชฺฌานกถา) ยํ วุตฺตํ ‘‘อิมาสํ ปน ทสนฺนมฺปิ อุเปกฺขานํ ภูมิปุคฺคลาทิวเสน วิภาโค ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต อาห เอวมยํ ทสวิธาติอาที’’ติ, ตํ อมนสิกตฺวา วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. ตตฺถ ตตฺถ อาคตนยโตติ ‘‘อิธ (ขีณาสโว) ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ, น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๓๔๘; อ. นิ. ๖.๑) ฉฬงฺคุเปกฺขา อาคตา, ‘‘อุเปกฺขาสหคเตน ¶ เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๐๘; ม. นิ. ๑.๗๗; ๒.๓๐๙; ๓.๒๓๐) เอวํ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา อาคตาติ อิมินา นเยน ¶ ทสนฺนมฺปิ อุเปกฺขานํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตปเทเสสุ อาคตนยทสฺสนโต จ อยํ ทสวิธาปิ อุเปกฺขา ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพาติ สมฺพนฺโธ.
ภูมีติอาทีสุ ปน ฉฬงฺคุเปกฺขา กามาวจรา, พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา รูปาวจราติอาทินา ภูมิโต จ, ฉฬงฺคุเปกฺขา อเสกฺขานเมว, พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา ปุถุชฺชนาทีนํ ติณฺณมฺปิ ปุคฺคลานนฺติอาทินา ปุคฺคลโต จ, ฉฬงฺคุเปกฺขา โสมนสฺสุเปกฺขาสหคตจิตฺตสมฺปยุตฺตาติอาทินา จิตฺตโต จ, ฉฬงฺคุเปกฺขา ฉฬารมฺมณาติอาทินา อารมฺมณโต จ, ‘‘เวทนุเปกฺขา เวทนากฺขนฺเธน สงฺคหิตา, อิตรา นว สงฺขารกฺขนฺเธนา’’ติ ขนฺธสงฺคหวเสน จ, ‘‘ฉฬงฺคุเปกฺขา พฺรหฺมวิหารโพชฺฌงฺคฌาน ปาริสุทฺธิตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา จ อตฺถโต เอกา. ตสฺมา เอกกฺขเณ จ ตาสุ เอกาย สติ อิตรา น อุปฺปชฺชนฺติ, ตถา สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนุเปกฺขาปิ เวทิตพฺพา. เวทนาวีริยุเปกฺขานเมกกฺขเณ สิยา อุปฺปตฺตี’’ติ เอกกฺขณวเสน จ, ‘‘ฉฬงฺคุเปกฺขา อพฺยากตา พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา กุสลาพฺยากตา, ตถา เสสา. เวทนุเปกฺขา ปน สิยา อกุสลาปี’’ติ เอวํ กุสลตฺติกวเสน จ, ‘‘สงฺเขปโต จตฺตาโร จ ธมฺมา วีริยเวทนาตตฺรมชฺฌตฺตตาาณวเสนา’’ติ เอวํ สงฺเขปวเสน จ อยํ ทสวิธาปิ อุเปกฺขา ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพาติ โยชนา.
เอตฺถ เจตา กิฺจาปิ อฏฺสาลินิยํ ภูมิปุคฺคลาทิวเสน สรูปโต อุทฺธริตฺวา น วุตฺตา, ตถาปิ ตตฺถ วุตฺตปฺปกาเรเหว ตาสํ ภูมิปุคฺคลาทิวิภาโค นยโต อุทฺธริตฺวา สกฺกา าตุนฺติ ตตฺถ สรูปโต วุตฺตฺจ อวุตฺตฺจ เอกโต สงฺคเหตฺวา ตตฺถ ตตฺถ อาคตนยโตติอาทีหิ นวหิ ปกาเรหิ อติเทโส กโต, เตเนว ‘‘ธมฺมสงฺคหฏฺกถายํ วุตฺตวเสนา’’ติ อวตฺวา ‘‘วุตฺตนเยเนวา’’ติ วุตฺตํ. ตถาหิ ขีณาสโว ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ อาทิมฺหิ วุตฺเต ฉฬงฺคุเปกฺขา รูปาทิอารมฺมณตาย ภูมิโต กามาวจรา จ ปุคฺคลโต อเสกฺขานเมว จ อุปฺปชฺชติ, จิตฺตโต โสมนสฺสุเปกฺขาจิตฺตสมฺปยุตฺตา, อารมฺมณโต ฉฬารมฺมณา, กุสลตฺติกโต อพฺยากตา จาติ ปณฺฑิเตหิ สกฺกา ¶ าตุํ, ตถา ฉฬงฺคุเปกฺขา จ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา จ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา จ ฌานุเปกฺขา จ ปาริสุทฺธุเปกฺขา จ อตฺถโต เอกาติอาทิมฺหิ วุตฺเต ปนสฺส สงฺขารกฺขนฺธสงฺคหิตตฺตา พฺรหฺมวิหารุเปกฺขาทีหิ สห เอกกฺขเณ อนุปฺปตฺติอาทโย จ สกฺกา าตุํ, ยถา จ ฉฬงฺคุเปกฺขา, เอวํ เสสานมฺปิ ยถารหํ อฏฺสาลินิยํ วุตฺตนยโต ภูมิอาทิวิภาคุทฺธารนโย ¶ าตพฺโพ. อนาโภครสาติ ปณีตสุเขปิ ตสฺมึ อวนติปฏิปกฺขกิจฺจาติ อตฺโถ.
ปุคฺคเลนาติ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน. กิเลเสหิ สมฺปยุตฺตานํ อารกฺขา. ตีรณํ กิจฺจสฺส ปารคมนํ. ปวิจโย วีมํสา. อิทนฺติ สติสมฺปชฺํ. ยสฺมา ตสฺส นามกาเยน สมฺปยุตฺตํ สุขนฺติ อิมสฺส ตสฺมา เอตมตฺถนฺติอาทินา สมฺพนฺโธ. ตสฺสาติ ฌานสมงฺคิโน. ตํสมุฏฺาเนนาติ ตํ ยถาวุตฺตนามกายสมฺปยุตฺตํ สุขํ สมุฏฺานํ การณํ ยสฺส รูปสฺส เตน ตํสมุฏฺาเนน รูเปน. อสฺสาติ โยคิโน. ยสฺสาติ รูปกายสฺส. ผุฏตฺตาติ อติปณีเตน รูเปน ผุฏตฺตา. เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโตติ กายิกสุขเหตุภูตรูปสมุฏฺาปกนามกายสุขํ ปฏิสํเวทิยมาโน เอว ฌานสมงฺคิตากรเณ การิโยปจารโต ‘‘สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตี’’ติ วุจฺจตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโตติ อตฺโถ. ยนฺติ เหตุอตฺเถ นิปาโตติ อาห ‘‘ยํฌานเหตู’’ติ. สุขปารมิปฺปตฺเตติ สุขสฺส อุกฺกํสปริยนฺตํ ปตฺเต. เอวเมเตสํ ปหานํ เวทิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. อถ กสฺมา ฌาเนสฺเวว นิโรโธ วุตฺโตติ สมฺพนฺโธ.
จตุตฺถชฺฌานกถาวณฺณนา
กตฺถ จุปฺปนฺนนฺติ เอตฺถ กตฺถาติ เหตุมฺหิ ภุมฺมํ, กสฺมึ เหตุมฺหิ สตีติ อตฺโถ. นานาวชฺชเนติ อปฺปนาวีถิอาวชฺชนโต นานา ภินฺนํ ปุริมวีถีสุ อาวชฺชนํ ยสฺส อุปจารสฺส, ตสฺมึ นานาวชฺชเน. วิสมนิสชฺชาย อุปฺปนฺนกิลมโถ วิสมาสนุปตาโป. อุปจาเร วาติอาทิ ปกฺขนฺตรทสฺสนํ เอกาวชฺชนูปจาเรปิ วาติ อตฺโถ. ปีติผรเณนาติ อิมินา อปฺปนาวีถิยา วิย เอกวีถิยมฺปิ กามาวจรปีติยา ผรณมตฺตสฺส อภาวํ ทสฺเสติ. โทมนสฺสินฺทฺริยสฺส อสฺส สิยา อุปฺปตฺตีติ สมฺพนฺโธ. เอตนฺติ โทมนสฺสินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชตีติ สมฺพนฺโธ. วิตกฺกวิจารปฺปจฺจเยปีติ ปิ-สทฺโท อฏฺานปฺปยุตฺโต. โส ‘‘ปหีนสฺสา’’ติ เหฏฺา วุตฺตปทานนฺตรํ โยเชตพฺโพ ¶ ‘‘ปหีนสฺสาปิ โทมนสฺสินฺทฺริยสฺสา’’ติ. วิตกฺกวิจารภาเวติ เอตฺถ ‘‘อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสินฺทฺริย’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. นิมิตฺตตฺเถ เจตํ ภุมฺมํ, วิตกฺกวิจารภาวเหตูติ อตฺโถ. วิตกฺกวิจาราติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ตสฺมาติ เอตสฺมึ อตฺเถ ทฏฺพฺโพ, เตน ยสฺมา เอตํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ วิตกฺกวิจารปจฺจเย…เป… เนว อุปฺปชฺชติ, ยตฺถ ปน อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ วิตกฺกวิจารภาเวเยว อุปฺปชฺชติ. ยสฺมา จ อปฺปหีนาเยว ทุติยชฺฌานูปจาเร วิตกฺกวิจารา, ตสฺมา ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺตีติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา.
ตตฺถาติ ¶ ทุติยชฺฌานูปจาเร. อสฺสาติ โทมนสฺสินฺทฺริยสฺส. สิยา อุปฺปตฺตีติ อิทฺจ ปจฺจยมตฺตทสฺสเนน สมฺภาวนมตฺตโต วุตฺตํ. โทมนสฺสุปฺปตฺติสมฺภาวนาปิ หิ อุปจารกฺขเณเยว กาตุํ ยุตฺตา, วิตกฺกวิจารรหิเต ปน ทุติยชฺฌานกฺขเณ ตทุปฺปตฺติสมฺภาวนาปิ น ยุตฺตา กาตุนฺติ. อิตรถา กุสลจิตฺตกฺขเณ อกุสลโทมนสฺสุปฺปตฺติยา อสมฺภวโต ‘‘ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺตี’’ติ น วตฺตพฺพํ สิยา. สมีปตฺเถ วา เอตํ ภุมฺมํ, อุปจารชฺฌานานนฺตรวีถีสูติ อตฺโถ. ทุติยชฺฌาเนติ เอตฺถาปิ อนนฺตรวีถีสุปิ น ตฺเวว อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ, เอวํ อุปริ สุขินฺทฺริเยปิ. โสมนสฺสินฺทฺริยสฺส อุปฺปตฺตีติ สมฺพนฺโธ. ปหีนาติ วุตฺตาติ อิทํ ‘‘ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา’’ติ วุตฺตตฺตา วุตฺตํ. ทุกฺขาภาเวนาติ ทุกฺขตาภาเวน. เอวํ สุขาภาเวนาติ เอตฺถาปิ. เอเตนาติ ทุกฺขสุขปฏิกฺเขปวจเนน. อิฏฺานิฏฺวิปรีตานุภวนลกฺขณาติ อติอิฏฺอติอนิฏฺานํ วิปรีตสฺส มชฺฌตฺตารมฺมณสฺส อนุภวนลกฺขณา, มชฺฌตฺตารมฺมณมฺปิ หิ อิฏฺานิฏฺเสุ เอว ปวิฏฺํ ตพฺพินิมุตฺตสฺส อภาวา.
ฌานจตุกฺกกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
ปุพฺเพนิวาสกถาวณฺณนา
๑๒. อรูปชฺฌานานมฺปิ องฺคสมตาย จตุตฺถชฺฌาเน สงฺคโหติ อาห เกสฺจิ อภิฺาปาทกานีติอาทิ, เตเนว วกฺขติ ‘‘อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา’’ติอาทิ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๒). เตสุ จ จตุตฺถชฺฌานเมว อภิฺาปาทกํ นิโรธปาทกํ ¶ โหติ, น อิตรานิ. ทูรการณตํ ปน สนฺธาย ‘‘จตฺตาริ ฌานานี’’ติ เนสมฺปิ เอกโต คหณํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. จิตฺเตกคฺคตตฺถานีติ อิทํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อาห ขีณาสวานนฺติอาทิ. สพฺพกิจฺจสาธกนฺติ ทิพฺพวิหาราทิสพฺพพุทฺธกิจฺจสาธกํ. สพฺพโลกิยโลกุตฺตรคุณทายกนฺติ อิมินา ยถาวุตฺตํ วิปสฺสนาปาทกตฺตาทิสพฺพํ สมฺปิณฺเฑติ. อิทฺหิ ฌานํ ภควโต สพฺพพุทฺธคุณทายกสฺส มคฺคาณสฺส ปทฏฺานตฺตา เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยถยิทนฺติ ยถา อิทํ. อภินีหารกฺขมนฺติ อิทฺธิวิธาทิอตฺถํ ตทภิมุขํ นีหรณโยคฺคํ.
ฌานปฺปฏิลาภปจฺจยานนฺติ ฌานปฺปฏิลาภเหตุกานํ ฌานปฺปฏิลาภํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกานํ. ปาปกานนฺติ ลามกานํ. อิจฺฉาวจรานนฺติ อิจฺฉาย วเสน โอติณฺณานํ นีวรณภาวํ ตเทกฏฺตฺจ อปฺปตฺตานํ อตฺตุกฺกํสนาทิวสปฺปวตฺตานํ อโห วต มเมว สตฺถา ปฏิปุจฺฉิตฺวา ภิกฺขูนํ เอวรูปํ ธมฺมํ เทเสยฺยาติอาทินยปฺปวตฺตานํ มานาทีนํ. โปตฺถเกสุ ปน ‘‘ฌานปฺปฏิลาภปจฺจนีกาน’’นฺติปิ ¶ ปาํ ลิขนฺติ, โส ปมาทปาโติ คเหตพฺโพ ‘‘ฌานปฺปฏิลาภปจฺจนีกานํ นีวรณานํ อภาวสฺส นีวรณทูรีภาเวน ปริสุทฺโธ’’ติ เอวํ ปุพฺเพ ปริสุทฺธปเทเยว วุตฺตตฺตา. สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๑.๑๒) ปน ‘‘อิจฺฉาวจรานนฺติ อิจฺฉาย อวจรานํ อิจฺฉาวเสน โอติณฺณานํ ปวตฺตานํ นานปฺปการานํ โกปอปฺปจฺจยานนฺติ อตฺโถติ อยมฺปิ ปาโ อยุตฺโต เอวาติ คเหตพฺพํ. ตโต เอว จ วิสุทฺธิมคฺเค อยํ ปาโ สพฺเพน สพฺพํ น ทสฺสิโต’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ จ นานปฺปการานํ โกปอปฺปจฺจยานนฺติ เอวํ นีวรณภาวปฺปตฺตโทสานํ ปรามฏฺตฺตา อยํ ปาโ ปฏิกฺขิตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
อภิชฺฌาทีนนฺติ เอตฺถ อภิชฺฌา-สทฺเทน จ อนีวรณสภาวสฺเสว โลภสฺส มานาทีนฺจ คหณํ ฌานปฺปฏิลาภปจฺจยานนฺติ อนุวตฺตมานตฺตา. อุภยมฺปีติ อนงฺคณตฺตํ วิคตูปกฺกิเลสตฺตฺจาติ เอตํ อุภยมฺปิ ยถากฺกมํ อนงฺคณสุตฺตวตฺถสุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ. เตสุ จ สุตฺเตสุ กิฺจาปิ นีวรณสภาวปฺปตฺตา ถูลโทสาปิ วุตฺตา, ตถาปิ อธิคตจตอุตฺถชฺฌานสฺส วเสน วุตฺตตฺตา อิธ สุขุมา เอว เต คหิตา. องฺคณุปกฺกิเลสสามฺเน ปเนตฺถ สุตฺตานํ อปทิสนํ. ตถา หิ ‘‘สุตฺตานุสาเรนา’’ติ วุตฺตํ, น ปน สุตฺตวเสนาติ.
ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติยํ ¶ าณํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณนฺติ นิพฺพจนํ ทสฺเสนฺโต อาห ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติมฺหีติอาทิ. อิทานิ ปุพฺเพนิวาสํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสตึ ตตฺถ าณฺจ วิภาคโต ทสฺเสตุํ ตตฺถาติอาทิ วุตฺตํ. ปุพฺพ-สทฺโท อตีตภววิสโย, นิวาส-สทฺโท จ กมฺมสาธโนติ อาห ‘‘ปุพฺเพ อตีตชาตีสุ นิวุตฺถกฺขนฺธา’’ติ. นิวุตฺถตา เจตฺถ สกสนฺตาเน ปวตฺตตา, เตนาห อนุภูตาติอาทิ. อิทานิ สปรสนฺตานสาธนวเสน นิวาส-สทฺทสฺส อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘นิวุตฺถธมฺมา วา นิวุตฺถา’’ติ วตฺวา ตํ วิวริตุํ โคจรนิวาเสนาติอาทิ วุตฺตํ. โคจรภูตาปิ หิ ธมฺมา าเณน นิวุตฺถา นาม โหนฺติ, เต ปน สปรวิฺาณโคจรตาย ทุวิธาติ ทสฺเสตุํ อตฺตโนติอาทิ วุตฺตํ. ปรวิฺาณวิฺาตาปิ วา นิวุตฺถาติ สมฺพนฺโธ. อิธาปิ ปริจฺฉินฺนาติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. อนมตคฺเคปิ หิ สํสาเร อตฺตนา อวิฺาตปุพฺพานํ สตฺตานํ ขนฺธา ปเรเหว เกหิจิ วิฺาตตฺตา ปรวิฺาณวิฺาตา นาม วุตฺตา, เตสํ อนุสฺสรณํ ปุริมโต ทุกฺกรํ เยหิ ปเรหิ วิฺาตตาย เต ปรวิฺาณวิฺาตา นาม ชาตา, เตสํ วตฺตมานสนฺตานานุสาเรน วิฺาตพฺพโต. เต จ ปรวิฺาณวิฺาตา ทุวิธา ปรินิพฺพุตา อปรินิพฺพุตาติ. เตสุ จ ปรินิพฺพุตานุสฺสรณํ ทุกฺกรํ สพฺพโส สุสมุจฺฉินฺนสนฺตานตฺตา. ตํ ปน สิขาปฺปตฺตปรวิฺาตํ ปุพฺเพนิวาสํ ทสฺเสตุํ ‘‘ฉินฺนวฏุมกานุสฺสรณาทีสู’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ฉินฺนวฏุมกา อตีเต ปรินิพฺพุตา ขีณาสวา ฉินฺนสํสารมคฺคตฺตา ¶ . อาทิ-สทฺเทน อปรินิพฺพุตานํ ปรวิฺาณวิฺาตานมฺปิ สีโหกฺกนฺติกวสเอน อนุสฺสรณํ คหิตํ. ยาย สติยา ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, สา ปุพฺเพนิวาสานุสฺสตีติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ.
วิหิต-สทฺโท วิธ-สทฺทปริยาโยติ อาห ‘‘อเนกวิธ’’นฺติ, ภวโยนิอาทิวเสน พหุวิธนฺติ อตฺโถ. วิหิตนฺติ วา ปยุตฺตํ วณฺณิตนฺติ อตฺถํ คเหตฺวา ‘‘อเนเกหิ ปกาเรหิ วิหิต’’นฺติ วตฺตพฺเพ มชฺเฌปทโลปํ กตฺวา นิทฺทิฏฺนฺติ อาห ‘‘อเนเกหิ…เป… สํวณฺณิต’’นฺติ. ปกาเรหีติ นามโคตฺตาทิปกาเรหิ. สํวณฺณิตนฺติ พุทฺธาทีหิ กถิตํ. อนุ-สทฺโท อนนฺตรตฺถทีปโกติ อาห ‘‘อภินินฺนามิตมตฺเต เอวา’’ติ, เอเตน จ ปริกมฺมสฺส อารทฺธตํ ทสฺเสติ. ปูริตปารมีนฺหีติอาทินา ปริกมฺมํ วินาปิ สิทฺธึ ทสฺเสติ.
อารทฺธปฺปการทสฺสนตฺเถติ ¶ อนุสฺสริตุํ อารทฺธานํ ปุพฺเพ นิวุตฺถกฺขนฺธานํ ทสฺสนตฺเถ. ชายตีติ ชาติ, ภโว. โส เอกกมฺมมูลโก อาทานนิกฺเขปปริจฺฉินฺโน ขนฺธปฺปพนฺโธ อิธ ‘‘ชาตี’’ติ อธิปฺเปโตติ อาห เอกมฺปีติอาทิ. กปฺโปติ อสงฺขฺเยยฺยกปฺโป, โส ปน อตฺถโต กาโล ตถาปวตฺตธมฺมมุปาทาย ปฺตฺโต, เตสํ วเสนสฺส ปริหานิ จ วฑฺฒิ จ เวทิตพฺพา. สํวฏฺโฏ สํวฏฺฏนํ วินาโส อสฺส อตฺถีติ สํวฏฺโฏ, อสงฺขฺเยยฺยกปฺโป. สํวฏฺเฏน วินาเสน สห ติฏฺติ สีเลนาติ สํวฏฺฏฏฺายี. เอวํ วิวฏฺโฏติอาทีสุปิ. ตตฺถ วิวฏฺฏนํ วิวฏฺโฏ, อุปฺปตฺติ, วฑฺฒิ วา. เตเชน วินาโส เตโชสํวฏฺโฏ. วิตฺถารโต ปนาติ ปุถุลโต ปน สํวฏฺฏสีมาเภโท นตฺถิ, เตนาห ‘‘สทาปี’’ติ. เอกนคริยา วิย อสฺส ชาตกฺขเณ วิการาปชฺชนโต ชาติกฺเขตฺตโวหาโรติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฏิสนฺธิอาทีสุ กมฺปตี’’ติ วุตฺตํ. อานุภาโว ปวตฺตตีติ ตทนฺโตคธานํ สพฺเพสํ สตฺตานํ โรคาทิอุปทฺทโว วูปสมฺมตีติ อธิปฺปาโย. ยํ ยาวตา วา ปน อากงฺเขยฺยาติ วุตฺตนฺติ ยํ วิสยกฺเขตฺตํ สนฺธาย เอกสฺมึ เอว ขเณ สพฺพตฺถ สเรน อภิวิฺาปนํ, อตฺตโน รูปกายทสฺสนฺจ ปฏิชานนฺเตน ภควตา ‘‘ยาวตา วา ปน อากงฺเขยฺยา’’ติ วุตฺตํ.
เอเตสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ปวตฺตผลโภชโนติ สยํปติตผลาหาโร, อิทฺจ ตาปสกาลํ สนฺธาย วุตฺตํ. อิธูปปตฺติยาติ อิธ จริมภเว อุปปตฺติยา. เอกโคตฺโตติ ตุสิตโคตฺเตน เอกโคตฺโต. อิตเรติ วณฺณาทโย. ติตฺถิยาติ กมฺมผลวาทิโน. อภินีหาโรติ อภินีหาโรปลกฺขิโต ปฺุาณสมฺภรณกาโล วุตฺโต. จุติปฏิสนฺธิวเสนาติ อตฺตโน ปรสฺส วา ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺตภาเว จุตึ ทิสฺวา อนฺตรา กิฺจิ อนามสิตฺวา ปฏิสนฺธิยา เอว คหณวเสน เอวํ ชานนํ อิจฺฉิตปฺปเทโสกฺกมนนฺติ อาห เตสฺหีติอาทิ. อุภยถาปีติ ขนฺธปฏิปาฏิยาปิ ¶ จุติปฏิสนฺธิวเสนปิ. สีโหกฺกนฺตวเสนปีติ สีหนิปาตวเสนปิ. กิเลสานํ อาตาปนปริตาปนฏฺเน วีริยํ อาตาโปติ อาห ‘‘วีริยาตาเปนา’’ติ.
ทิพฺพจกฺขุาณกถาวณฺณนา
๑๓. ทิวิ ¶ ภวตฺตา ทิพฺพนฺติ เทวานํ ปสาทจกฺขุ วุจฺจตีติ อาห ‘‘ทิพฺพสทิสตฺตา’’ติ. ทูเรปีติ ปิ-สทฺเทน สุขุมสฺสาปิ อารมฺมณสฺส คหณํ. วีริยารมฺภวเสน อิชฺฌนโต สพฺพาปิ ภาวนา, ปธานสงฺขารสมนฺนาคโต วา อิทฺธิปาทภาวนาวิเสสโต วีริยภาวนาติ อาห ‘‘วีริยภาวนาพลนิพฺพตฺต’’นฺติ. ทิพฺพวิหารวเสนาติ กสิณาทิชฺฌานจตอุกฺกวเสน. อิมินา ทูรการณตฺเถ อสฺส ทิพฺพภาวมาห. ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสิตตฺตาติ อิมินา อาสนฺนการณภูตปาทกชฺฌานโต นิพฺพตฺตนฺติ ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสิตตฺตาติ อิมสฺส ทิพฺพวิหารปอยาปนฺนํ อตฺตนา สมฺปยุตฺตํ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานํ นิสฺสยปจฺจยภูตํ นิสฺสาย ทิพฺพจกฺขุาณสฺส ปวตฺตตฺตาติปิ อตฺโถ. ทิวุธาตุสฺส ชุติคติโยคํ สนฺธาย อาโลกปอคฺคเหนาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาโลกปริคฺคเหนาติ กสิณาโลกปริคฺคหวเสน. ทสฺสนฏฺเนาติ รูปทสฺสนภาเวน, อิมินา ‘‘จกฺขติ รูปํ วิภาเวตี’’ติ นิพฺพจนโต จกฺขุตฺตํ ทสฺเสติ. จกฺขุกิจฺจกรเณนาติ อิทํ จกฺขุมิว จกฺขูติ อุปมาย สทิสนิมิตฺตทสฺสนํ, สมวิสมาทิทสฺสนสงฺขาตสฺส จกฺขุกิจฺจสฺส กรณโตติ อตฺโถ.
ยถาหาติ อุปกฺกิเลสสุตฺตปฺปเทสํ (ม. นิ. ๓.๒๔๒) นิทสฺเสติ. ตตฺถ วิจิกิจฺฉาติอาทีสุ ภควโต โพธิมูเล อนภิสมฺพุทฺธสฺเสว ทิพฺพจกฺขุนา นานาวิธานิ รูปานิ ปสฺสนฺตสฺส ‘‘อิทํ นุ โข กึ, อิทํ นุ โข กิ’’นฺติ วิจิกิจฺฉา อุปฺปนฺนา, ตโต ปน วิจิกิจฺฉานิวตฺตนตฺถํ ตานิ รูปานิ อมนสิกโรโต อมนสิกโรนฺตสฺส ถินมิทฺธํ อุปฺปนฺนํ, ตโต นิวตฺตนตฺถํ ปุน สพฺพรูปานิ มนสิกโรโต รกฺขสาทีสุ ฉมฺภิตตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ‘‘กิเมตฺถ ภายิตพฺพ’’นฺติ ภยวิโนทนวเสน มนสิกโรโต อตฺตโน มนสิการโกสลฺลํ ปฏิจฺจ อุปฺปิลสงฺขาตา สมาธิทูสิกา เคหสิตปีติ อุปฺปนฺนา, ตนฺนิเสธาย มนสิการวีริยํ สิถิลํ กโรนฺตสฺส กายาลสิยสงฺขาตํ ทุฏฺุลฺลํ, ตนฺนิเสธาย ปุน วีริยํ ปคฺคณฺหโต อจฺจารทฺธวีริยํ, ปุน ตนฺนิเสธาย วีริยํ สิถิลยโต อติลีนวีริยํ อุปฺปนฺนํ, ตนฺนิเสเธตฺวา ทิพฺพรูปานิ ปสฺสโต อภิชปฺปาสงฺขาตา ตณฺหา อุปฺปนฺนา, ตนฺนิเสธาย หีนาทินานารูปานิ มนสิกโรโต นานารมฺมณวิกฺเขปสงฺขาตา นานตฺตสฺา อุปฺปนฺนา. ปุน ตํ วิหาย เอกเมว มนสิกโรโต อตินิชฺฌายิตตฺตํ รูปานํ อติวิย ¶ จินฺตนํ อุปฺปนฺนํ. โอภาสนฺติ ปริกมฺมสมุฏฺิตํ โอภาสํ ¶ . น จ รูปานิ ปสฺสามีติ ‘‘ปริกมฺโมภาสมนสิการปสุตตาย ทิพฺพจกฺขุนา รูปานิ น ปสฺสามี’’ติ เอวํ อุปฺปตฺติกฺกมสหิโต อตฺโถ เวทิตพฺโพ, มนุสฺสานํ อิทนฺติ มานุสกํ มานุสกจกฺขุโคจรํ ถูลรูปํ วุจฺจติ. ตเทว มนุสฺสานํ ทสฺสนูปจารตฺตา มนุสฺสูปจาโรติ อาห ‘‘มนุสฺสูปจารํ อติกฺกมิตฺวา’’ติ. รูปทสฺสเนนาติ ทูรสุขุมาทิรูปทสฺสเนน.
ยสฺมา นิยเมน ปุเรชาตฏฺิตรูปารมฺมณํ ทิพฺพจกฺขุาณํ อาวชฺชนปริกมฺเมหิ วินา น อุปฺปชฺชติ, น จ อุปฺปชฺชมานํ ภิชฺชมานํ รูปมสฺส อารมฺมณํ โหติ ทุพฺพลตฺตา, จุติจิตฺตฺจ กมฺมชรูปสฺส ภงฺคกฺขเณ เอว อุปฺปชฺชติ, ปฏิสนฺธิจิตฺตฺจ อุปปตฺติกฺขเณ, ตสฺมา อาห จุติกฺขเณติอาทิ. รูปทสฺสนเมเวตฺถ สตฺตทสฺสนนฺติ จวมาเนติอาทินา ปุคฺคลาธิฏฺาเนน วุตฺตํ. อภิรูเป วิรูเปติปีติ อิทํ วณฺณ-สทฺทสฺส สณฺานวาจกตํ สนฺธาย วุตฺตํ มหนฺตํ หตฺถิราชวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวาติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๓๘) วิย. สุนฺทรํ คตึ คตา สุคตาติ อาห ‘‘สุคติคเต’’ติ. อิมินา ปน ปเทนาติ ยถากมฺมุปเคติ อิมินา ปเทน.
เนรยิกานํ อคฺคิชาลสตฺถนิปาตาทีหิ วิภินฺนสรีรวณฺณํ ทิสฺวา ตทนนฺตเรหิ กามาวจรชวเนเหว าตํ เตสํ ทุกฺขานุภวนมฺปิ ทสฺสนผลายตฺตตาย ‘‘ทิพฺพจกฺขุกิจฺจเมวา’’ติ วุตฺตํ. เอวํ มนสิกโรตีติ เตสํ กมฺมสฺส าตุกามตาวเสน ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ปริกมฺมวเสน กินฺนุ โขติอาทินา มนสิกโรติ. อถสฺส ตํ กมฺมํ อารมฺมณํ กตฺวา อาวชฺชนปริกมฺมาทีนํ อุปริ อุปฺปนฺเนน รูปาวจรจตุตฺถชฺฌาเนน สมฺปยุตฺตํ ยํ าณํ อุปฺปชฺชติ, อิทํ ยถากมฺมุปคาณํ นามาติ โยชนา. เทวานํ ทสฺสเนปิ เอเสว นโย. วิสุํ ปริกมฺมนฺติ ปุพฺเพนิวาสาทีนํ วิย ทิพฺพจกฺขุาณปริกมฺมํ วินา วิสุํ ปริกมฺมํ นตฺถิ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘ปาทกชฺฌานสมาปชฺชนปริกมฺเมหิ กิจฺจํ นตฺถิ, กินฺนุ โข กมฺมนฺติอาทิมนสิการานนฺตรเมว กมฺมํ. กมฺมสีเสน ตํสมฺปยุตฺเต จ ธมฺเม อารมฺมณํ กตฺวา อปฺปนาวีถิ อุปฺปชฺชติ. เอวมนาคตํสาเณปิ, เตเนว วิสุํ ปริกมฺมํ นาม นตฺถิ…เป… ทิพฺพจกฺขุนา สเหว อิชฺฌนฺตีติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. ตํ น คเหตพฺพํ วสีภูตานมฺปิ อภิฺานํ ปาทกชฺฌานาทิปริกมฺมํ วินา อนุปฺปตฺติโต. ปาทกชฺฌานาทิมตฺเตน จ วิสุํ ปริกมฺมํ นาม น โหตีติ ทิพฺพจกฺขุนาว เอตานิ าณานิ ¶ สิทฺธานีติ คเหตพฺพํ. เอวํ อนาคตํสาณสฺสาปีติ ทิพฺพจกฺขุนา ทิฏฺสฺส สตฺตสฺส อนาคเต ปวตฺตึ าตุกามตาย ปาทกชฺฌานาทีนมนนฺตรํ าณพลานุรูปํ อนาคเตสุ อเนกกปฺเปสุ อุปฺปชฺชนารเห ปุพฺเพ อตฺตภาวปริยาปนฺเน ¶ ปฺจกฺขนฺเธ ตปฺปฏิพทฺเธ ตทารมฺมเณ จ สพฺเพ โลกิยโลกุตฺตรธมฺเม สมฺมุติฺจ เอกกฺขเณ อาลมฺพิตฺวา อุปฺปชฺชนกสฺส จตุตฺถชฺฌานสมฺปยุตฺตสฺส อนาคตํสอาณสฺสาปิ วิสุํ ปริกมฺมํ นาม นตฺถีติ โยชนา.
เกจิ ปเนตฺถ ‘‘ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติยํ วิย นามโคตฺตาทิคหณมฺปิ อตฺเถว, ตฺจ น อภิฺากฺขเณ, อถ โข ตทนนฺตเรสุ กามาวจรชวนกฺขเณสุ เอว โหติ นามปริกปฺปกาเล อิตรปริกปฺปาสมฺภวา กมฺเมนุปฺปตฺติยฺจ ปริยนฺตาภาวา. สพฺพปริกมฺมนิมิตฺเตสุ ปน ธมฺเมสุ อตฺเถสุปิ เอกกฺขเณ อภิฺาย ทิฏฺเสุ ยถารุจิวเสน ปจฺฉา เอวํนาโมติอาทินา กามาวจรจิตฺเตน วิกปฺโป อุปฺปชฺชติ จกฺขุนา ทิฏฺเสุ พหูสุ รูเปสุ ถมฺภกุมฺภาทิวิกปฺโป วิย. ยฺจ กตฺถ อวิกปฺปิตํ, ตมฺปิ วิกปฺปนารหนฺติ สพฺพํ นามโคตฺตาทิโต วิกปฺปิตเมว โหติ. ยถา เจตฺถ, เอวํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติยมฺปิ ปริกปฺปารหตมฺปิ สนฺธาย ปาฬิยํ เอวํนาโมติอาทินา อปเทสสหิตเมว วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. อฺเ ปน ‘‘นามโคตฺตาทิกํ สพฺพมฺปิ เอกกฺขเณ ปฺายติ, อภิรุจิตํ ปน วจสา โวหรนฺตี’’ติ วทนฺติ, เตปิ อตฺถโต ปุริเมหิ สทิสา เอว, ปุพฺเพ ทิฏฺสฺส ปุน โวหารกาเลปิ ปริกปฺเปตพฺพโต ปริกปฺปารหธมฺมทสฺสนเมว เตหิปิ อตฺถโต อุปคตํ. เอเก ปน ‘‘โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทินฺติอาทิวจนโต กเมเนว อตีตานาคตธมฺมชานเนน นามโคตฺตาทีหิ สทฺธึ คหณํ สุกร’’นฺติ วทนฺติ, ตํ อยุตฺตเมว พุทฺธานมฺปิ สพฺพํ าตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย สพฺพฺุตาหานิปฺปสงฺคโต. ปาฬิยํ อิเม วต โภนฺโตติอาทิ ยถากมฺมุปคาณสฺส ปวตฺติอาการทสฺสนํ. กายวาจาทิ เจตฺถ กายวจีวิฺตฺติโย.
ภาริยนฺติ อานนฺตริยสทิสตฺตา วุตฺตํ. ขมาปเน หิ อสติ อานนฺตริยเมว. ตสฺสาติ ภาริยสภาวสฺส อุปวาทสฺส. มหลฺลโกติ เกวลํ วยสาว มหลฺลโก, น าเณน, ‘‘นายํ กิฺจิ โลกโวหารมตฺตมฺปิ ชานาติ, ปริสทูสโก เอว อมฺหากํ ลชฺชิตพฺพสฺส กรณโต’’ติ อธิปฺปาเยน หีเฬตฺวา วุตฺตตฺตา คุณปริธํสเนน อุปวทตีติ เวทิตพฺพํ. อาวุโสติอาทินา ¶ เถโร อุปริมคฺคุปฺปตฺติมสฺส อากงฺขนฺโต กรุณาย อตฺตานมาวิกาสิ. ปากติกํ อโหสีติ มคฺคาวรณํ นาโหสีติ อธิปฺปาโย. อตฺตนา วุฑฺฒตโรติ สยมฺปิ วุฑฺโฒ. เอตฺถาปิ ‘‘อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา’’ติ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตํ. อนาคามี อรหา จ อายตึ สํวรตฺถาย น ขเมยฺยุํ, เสสา โทเสนปีติ อาห ‘‘สเจ โส น ขมตี’’ติ.
เย จ…เป… สมาทเปนฺติ, เตปิ มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานาติ โยเชตพฺพํ. สีลสมฺปนฺโนติอาทีสุ ¶ นิปฺปริยายโต อคฺคมคฺคฏฺโ อธิปฺเปโต ตสฺเสว อฺาราธนา นิยมโต, เสสาปิ วา ปจฺฉิมภวิกา สีลาทีสุ ิตา เตสมฺปิ อฺุปฺปตฺตินิยมโต. อฺนฺติ อรหตฺตผลํ. เอวํ สมฺปทนฺติ เอวํ นิพฺพตฺติกํ. ยถา ตํ อวิรชฺฌนกนิพฺพตฺติกํ, เอวมิทมฺปิ เอตสฺส นิรเย นิพฺพตฺตนนฺติ อตฺโถ. ยํ สนฺธาย ‘‘เอวํสมฺปทมิท’’นฺติ นิทฺทิฏฺํ, ตํ ทสฺเสตุํ ตํ วาจนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตํ วาจนฺติ อริยูปวาทํ. จิตฺตนฺติ อริยูปวาทกจิตฺตํ. ทิฏฺินฺติ อริยูปวาเท โทสาภาวทสฺสนทิฏฺึ. ‘‘สพฺพเมตํ ปชหิสฺสามี’’ติ จิตฺเตน อจฺจยํ เทเสตฺวา ขมาปนวเสน อปฺปหาย อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา. ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเยติ ยถา นิรยปาเลหิ อาหริตฺวา นิรเย ปิโต, เอวํ นิรเย ปิโต เอว, อริยูปวาเทเนวสฺส อิทํ นิยเมน นิรเย นิพฺพตฺตนํ ยถา มคฺเคน ผลํ สมฺปชฺชติ, เอวํ สมฺปชฺชนกนฺติ อธิปฺปาโย.
มิจฺฉาทิฏฺิ สพฺพปาปมูลตฺตา ปรมา ปธานา เยสํ วชฺชานํ ตานิ มิจฺฉาทิฏฺิปรมานิ วชฺชานิ, สพฺพวชฺเชหิ มิจฺฉาทิฏฺิเยว ปรมํ วชฺชนฺติ อตฺโถ. อวีตราคสฺส มรณโต ปรํ นาม ภวนฺตรุปาทานเมวาติ อาห ‘‘ปรํ มรณาติ ตทนนฺตรํ อภินิพฺพตฺตกฺขนฺธคฺคหเณ’’ติ. เยน ติฏฺติ, ตสฺส อุปจฺเฉเทเนว กาโย ภิชฺชตีติ อาห ‘‘กายสฺส เภทาติ ชีวิตินฺทฺริยสฺสุปจฺเฉทา’’ติ. เอติ เอตสฺมา สุขนฺติ อโย, ปฺุํ. อายสฺสาติ อาคมนสฺส, เหตุสฺส วา. อยติ อิฏฺารมฺมณาทีหิ ปวตฺตตีติ อาโย, อสฺสาโท. อสุรสทิสนฺติ เปตาสุรสทิสํ.
อาสวกฺขยาณกถาวณฺณนา
๑๔. สรสลกฺขณปฏิเวเธนาติ ¶ สภาวสงฺขาตสฺส ลกฺขณสฺส อสมฺโมหโต ปฏิวิชฺฌเนน. นิพฺพตฺติกนฺติ นิปฺผาทนํ. ยํ านํ ปตฺวาติ ยํ นิพฺพานํ มคฺคสฺส อารมฺมณปจฺจยฏฺเน านํ การณภูตํ อาคมฺม. อปฺปวตฺตินฺติ อปฺปวตฺติเหตุํ. กิเลสวเสนาติ เยสํ อาสวานํ เขปเนน อิทํ าณํ อาสวกฺขยาณํ ชาตํ, เตสํ กิเลสานํ วเสน, เตสํ อาสวานํ วเสน สพฺพกิเลสานํ สงฺคหณโต ปริยายโต ปการนฺตรโตติ อตฺโถ. ปาฬิยํ อตีตกาลวเสน ‘‘อพฺภฺาสิ’’นฺติ วตฺวาปิ อภิสมยกาเล ตสฺส ตสฺส ชานนสฺส ปจฺจุปฺปนฺนตํ อุปาทาย ‘‘เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต’’ติ วตฺตมานกาเลน นิทฺเทโส กโต. กามาสวาทีนํ วิมุจฺจเนเนว ตทวินาภาวโต ทิฏฺาสวสฺสาปิ วิมุตฺติ เวทิตพฺพา.
‘‘ขีณา ชาตี’’ติ ชานนํ กิเลสกฺขยปจฺจเวกฺขณวเสน, วุสิตํ พฺรหฺมจริยนฺติอาทิชานนํ ¶ มคฺคผลนิพฺพานปจฺจเวกฺขณวเสน โหตีติ อาห ‘‘ขีณา ชาตีติอาทีหิ ตสฺส ภูมิ’’นฺติ. ตตฺถ ภูมินฺติ วิสยํ, ตีสุ กาเลสุปิ ชาติกฺขยํ ปติ อุชุกเมว วายามาสมฺภเวปิ ตํ ปติ วายามกรณสฺส สาตฺถกตํ, ตสฺส อนาคตกฺขนฺธานุปฺปตฺติผลตฺจ ทสฺเสตุํ ยา ปนาติอาทิ วุตฺตํ. ยา ปน มคฺคสฺส อภาวิตตฺตาติอาทินา หิ มคฺเคนาวิหตกิเลเสเหว อายตึ ขนฺธานํ ชาติ เหสฺสติ, เตสฺจ กิเลสานํ มคฺเคน วินาเส สติ ขนฺธา น ชายิสฺสนฺติ, กิเลสานฺจ เตกาลิกตาย ชาติยํ วุตฺตนเยน เกนจิ ปจฺจเยน วินาสโยเคปิ จิตฺตสนฺตาเน กิเลสวิรุทฺธอริยมคฺคกฺขณุปฺปาทนเมว ตพฺพินาโส วิรุทฺธปจฺจโยปนิปาเตน อายตึ อนุปฺปชฺชนโต พีชสนฺตาเน อคฺคิกฺขนฺโธปนิปาเตน อายตึ พีชตฺตานุปฺปตฺติ วิย, อิติ มคฺคกฺขณุปฺปตฺติสงฺขาตกิเลสาภาเวน กิเลสผลานํ ขนฺธานํ อายตึ อนุปฺปตฺติเยว ชาติกฺขโยติ อยมตฺโถ วิภาวียติ, เตนาห ‘‘มคฺคสฺส ภาวิตตฺตา อนุปฺปาทธมฺมตํ อาปชฺชเนน ขีณา’’ติ. เอตฺถ จายมตฺโถ กิเลสาภาวสงฺขาตสฺส มคฺคสฺส ภาวิตตฺตา อุปฺปาทิตตฺตา ปจฺจยาภาเวน อนุปฺปชฺชนฺตี ขนฺธานํ ชาติ เตน อายตึ อนุปฺปชฺชนสงฺขาเตน อนุปฺปาทธมฺมตํ อาปชฺชเนน โวหารโต ขีณา เม ชาตีติ. น หิ สงฺขตธมฺมานํ ปจฺจยนฺตเรน วินาโส สมฺภวติ, สมฺภเว จ ¶ ตสฺส ปจฺจยนฺตรตาทิปฺปสงฺคโต. ตพฺพิรุทฺธกฺขณุปฺปาทนเมว ตพฺพินาสุปฺปาทนํ. ตนฺติ ขีณชาตึ อพฺภฺาสินฺติ สมฺพนฺโธ. อิตฺถตฺตายาติ อิเม ปการา อิตฺถํ, ตพฺภาโว อิตฺถตฺตํ, ตทตฺถาย. ทสฺเสนฺโตติ นิคมนวเสน ทสฺเสนฺโตติ.
วิชฺชาตฺตยกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
อุปาสกตฺตปฏิเวทนากถาวณฺณนา
๑๕. อฺาณนฺติ ธิ-สทฺทโยเคน สามิอตฺเถ อุปโยควจนํ. ปาทานีติ ปาเท. ยสสาติ ปริวาเรน. โกตูหลจฺฉเรติ โกตูหเล อจฺฉเร จ. อยนฺติ อมิกฺกนฺต-สทฺโท. นยิทํ อาเมฑิตวเสน ทฺวิกฺขตฺตุํ, อถ โข อตฺถทฺวยวเสนาติ ทสฺเสนฺโต อถ วาติอาทิมาห. อวิเสเสน อตฺถสามฺเน นิปฺผนฺโน อภิกฺกนฺตนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส, เทสนาปสาทาทิวิเสสาเปกฺขายปิ ตเถว ติฏฺติ ปุพฺเพ นิปฺผนฺนตฺตาติ อาห ‘‘อภิกฺกนฺตํ…เป… ปสาโท’’ติ. อโธมุขปิตํ เกนจิ. เหฏฺามุขชาตํ สยเมว. ปริยาเยหีติ ปกาเรหิ, อรสรูปตฺตาทิปฏิปาทกการเณหิ วา.
คมุธาตุสฺส ¶ ทฺวิกมฺมกตฺตาภาวา โคตมํ สรณนฺติ อิทํ ปททฺวยมฺปิ น อุปโยควจนํ. อปิ จ โข ปุริมเมว, ปจฺฉิมํ ปน ปจฺจตฺตวจนนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘โคตมํ สรณนฺติ คจฺฉามี’’ติ วุตฺตํ. เตน จ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ ทสฺเสติ. อฆสฺสาติ อฆโต ปาปโต. ตาตาติ หิ ปทํ อเปกฺขิตฺวา นิสฺสกฺกสฺเสว ยุตฺตตฺตา. อธิคตมคฺเค สจฺฉิกตนิโรเธติ ปททฺวเยนาปิ ผลฏฺา เอว ทสฺสิตา, น มคฺคฏฺาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน จา’’ติ อาห. วิตฺถาโรติ อิมินา ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อิติวุ. ๙๐; อ. นิ. ๔.๓๔) วุตฺตปทํ สงฺคณฺหาติ. อเนชนฺติ นิตฺตณฺหํ. อปฺปฏิกูลนฺติ อวิโรธตฺถทีปนโต อวิรุทฺธสุจึ ปณีตํ วา. วาจาย ปคุณีกตฺตพฺพโต, ปกฏฺเหิ สทฺทตฺถคุเณหิ โยคโต วา ปคุณํ. สํหโตติ ฆฏิโต สเมโต ¶ . ยตฺถาติ เยสุ ปุริสยุเคสูติ สมฺพนฺโธ. อฏฺ จ ปุคฺคลธมฺมทสา เตติ เต อฏฺ ปุคฺคลา อริยธมฺมสฺส ทิฏฺตฺตา ธมฺมทสา.
สรณนฺติอาทีสุ อยํ สงฺเขปตฺโถ – ภยหึสนาทิอตฺเถน รตนตฺตยํ สรณํ นาม, ตเทว เม รตนตฺตยํ ตาณํ เลณํ ปรายณนฺติ พุทฺธสุพุทฺธตาทิคุณวเสน ตปฺปรายณตาการปฺปวตฺโต จิตฺตุปฺปาโท สรณคมนํ นาม. ยถาวุตฺเตน อิมินา จิตฺตุปฺปาเทน สมนฺนาคโต สรณํ คจฺฉติ นาม. เอตสฺส จ สรณคมนสฺส โลกิยโลกุตฺตรวเสน ทุวิโธ ปเภโท. ตตฺถ โลกุตฺตรํ สรณคมนูปกฺกิเลสสมุจฺเฉเทน มคฺคกฺขเณเยว สิชฺฌติ. โลกิยสรณคมนํ จตุธา ปวตฺตติ อหํ อตฺตานํ พุทฺธสฺส ปริจฺจชามีติอาทินา อตฺตนิยฺยาตเนน, ยถาวุตฺตตปฺปรายณตาย, สิสฺสภาวูปคมเนน, ปณิปาเตน จาติ. สพฺพตฺถาปิ เจตฺถ เสฏฺทกฺขิเณยฺยภาววเสเนว สรณคมนํ โหติ, น าติภยาจริยาทิวเสนาติ เวทิตพฺพํ. เอวํ าติอาทิวเสน ติตฺถิยํ วนฺทโต สรณํ น ภิชฺชติ, ทกฺขิเณยฺยภาเวน อฺํ วนฺทโต สรณํ ภิชฺชติ. โลกิยสฺส สรณคมนสฺส นิพฺพานปฺปตฺตินิยมํ สทิสผลํ สรณคตสฺส อนาคเต นิพฺพานปฺปตฺตินิยมโต. สพฺพโลกิยสมฺปตฺติสมธิคโม ปน อปายทุกฺขาทิสมติกฺกโม จ อานิสํสผลํ. ตีสุ วตฺถูสุ จสฺส สํสยมิจฺฉาาณาทิ สํกิเลโส. เภโทปิสฺส สาวชฺชานวชฺชวเสน ทุวิโธ. ตตฺถ ปโม มิจฺฉาทิฏฺิปุพฺพเกหิ ติตฺถิยปณิปาตาทีหิ โหติ, โส จ อนิฏฺผลตฺตา สาวชฺโช. อนวชฺโช ปน กาลกิริยาย โหติ. โลกุตฺตรสรณคมนสฺส สพฺพถา สํกิเลโส วา เภโท วา นตฺถีติ เวทิตพฺพํ.
โก อุปาสโกติอาทิ อุปาสกตฺตสรูปการณาทิปุจฺฉา. ตตฺถ โย คหฏฺโ มนุสฺโส วา อมนุสฺโส วา วุตฺตนเยน ติสรณํ คโต, อยํ อุปาสโก. โย จ สรณคมนาทิกิริยาย รตนตฺตยํ ¶ อุปาสนโต ‘‘อุปาสโก’’ติ วุจฺจติ. ปฺจ เวรมณิโย จสฺส สีลํ. ปฺจมิจฺฉาวาณิชฺชาทิปาปาชีวํ ปหาย ธมฺเมน สเมน ชีวิตกปฺปนมสฺส อาชีโว. อสฺสทฺธิยทุสฺสีลตาทโย อุปาสกตฺตสฺส วิปตฺติ, ตทภาโว สมฺปตฺตีติ เวทิตพฺพา.
วิหารคฺเคนาติ ¶ โอวรกาทิวสนฏฺานโกฏฺาเสน. อชฺชภาวนฺติ อสฺมึ อหนิ ปวตฺตํ ปสาทาทึ. กายวิฺตฺติเหตุโก สรีราวยโว กายงฺคํ. วจีวิฺตฺติเหตุกํ โอฏฺชิวฺหาทิ วาจงฺคํ. อโจเปตฺวาติ อจาเลตฺวา. เอเตน จ วจีปวตฺติยา ปุพฺพภาเค านกรณานํ จลนปจฺจโย วาโยธาตุยา วิการากาโร วิสุํ กายวิฺตฺติ น โหติ, เตน วิสุํ วิฺาเปตพฺพสฺส อธิปฺปายสฺส อภาวา วจีวิฺตฺติยเมว สงฺคยฺหติ ตทุปการตฺตา. ยถา กาเยน กายกณฺฑุยนาทีสุ สทฺทุปฺปตฺติเหตุภูโต ปถวีธาตุยา อาการวิกาโร วิสุํ อธิปฺปายสฺส อวิฺาปนโต วจีวิฺตฺติ น โหติ, เอวมยมฺปีติ ทสฺเสติ. อธิปฺปายวิฺาปนโต เหตา วิฺตฺติโย นาม ชาตา, น เกวลํ วายุปถวีนํ จลนสทฺทุปฺปตฺติปจฺจยภูตวิการาการมตฺตตาย. เอวฺจ พหิทฺธา รุกฺขาทีสุ จลนสทฺทุปฺปตฺติปจฺจยานํ ยถาวุตฺตปฺปการานํ วิการาการานํ อวิฺตฺติตา สมตฺถิตา โหตีติ เวทิตพฺพา. เกจิ วาจงฺคนฺติ ‘‘โหตุ สาธู’’ติ เอวมาทิวาจาย อวยวนฺติอาทึ วทนฺติ, ตํ อโจเปตฺวาติ อิมินา น สเมติ. ขนฺตึ จาเรตฺวาติ อนุมตึ ปวตฺเตตฺวา. ‘‘ขนฺตึ ธาเรตฺวา’’ติปิ ปาโ, พหิ อนิกฺขมนวเสน คณฺหิตฺวาติ อตฺโถ. ปฏิมุโขติ ภควติ ปฏินิวตฺตมุโข, เตนาห ‘‘อปกฺกมิตฺวา’’ติ.
๑๖. ยาจธาตุสฺส ทฺวิกมฺมกตฺตา ‘‘ภควา วสฺสาวาสํ ยาจิโต’’ติ วุตฺตํ. สุสสฺสกาเลปีติ วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏํ กาตุํ ‘‘อติสมคฺเฆปี’’ติ วุตฺตํ. อติวิย อปฺปคฺเฆปิ ยทา กิฺจิเทว ทตฺวา พหุํ ปุพฺพณฺณาปรณฺณํ คณฺหนฺติ, ตาทิเส กาเลปีติ อตฺโถ. ภิกฺขมานาติ ยาจมานา. วุตฺตสสฺสนฺติ วปิตสสฺสํ. ตตฺถาติ เวรฺชายํ, เอเตน ‘‘วุตฺตํ สลากา เอว โหติ เอตฺถาติ สลากาวุตฺตา’’ติ วิเสสนสฺส ปรนิปาเตน นิพฺพจนํ ทสฺเสติ. อถ วา ‘‘สพฺพํ สสฺสํ สลากามตฺตเมว วุตฺตํ นิพฺพตฺตํ สมฺปนฺนํ เอตฺถาติ สลากาวุตฺตา’’ติปิ นิพฺพจนํ ทฏฺพฺพํ, เตนาห ‘‘สลากา เอว สมฺปชฺชตี’’ติ. ‘‘สลากาย วุตฺตํ ชีวิกา เอติสฺสนฺติ สลากาวุตฺตา’’ติปิ นิพฺพจนํ ทสฺเสตุํ สลากาย วาติอาทิ วุตฺตํ. ธฺกรณฏฺาเนติ ธฺมินนฏฺาเน. วณฺณชฺฌกฺขนฺติ กหาปณปริกฺขกํ.
อฺุเฉน ปคฺคเหนาติ เอตฺถ ปคฺคเหนาติ ปตฺเตน, ตํ คเหตฺวาติ อตฺโถ. ปคฺคยฺหติ เอเตน ภิกฺขาติ ¶ หิ ปคฺคโห, ปตฺโต. เตนาห ปคฺคเหน ¶ โย อฺุโฉติอาทิ. อถ วา ปคฺคเหนาติ คหเณน, อฺุฉตฺถาย คเหตพฺโพ ปตฺโตติ สิชฺฌตีติ อาห ‘‘ปตฺตํ คเหตฺวา’’ติ.
คงฺคาย อุตฺตรทิสาปเทโส อุตฺตราปโถ, โส นิวาโส เอเตสํ, ตโต วา อาคตาติ อุตฺตราปถกา, เตนาห อุตฺตราปถวาสิกาติอาทิ. ‘‘อุตฺตราหกา’’ติปิ ปาโ, โส เอว อตฺโถ นิรุตฺตินเยน. มนฺทิรนฺติ อสฺสสาลํ. ‘‘มนฺทร’’นฺติปิ ลิขนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. สา จ มนฺทิรา ยสฺมา ปริมณฺฑลากาเรน พหุวิธา จ กตา, ตสฺมา ‘‘อสฺสมณฺฑลิกาโย’’ติ วุตฺตา.
คงฺคาย ทกฺขิณาย ทิสาย เทโส ทกฺขิณาปโถ, ตตฺถ ชาตา มนุสฺสา ทกฺขิณาปถมนุสฺสา. พุทฺธํ มมายนฺติ มเมวายนฺติ คณฺหนสีลา พุทฺธมามกา, เอวํ เสเสสุปิ. เอวนฺติ ปจฺฉา วุตฺตนเยน อตฺเถ คยฺหมาเน. ปฏิวีสนฺติ โกฏฺาสํ. ตทุปิยนฺติ ตทนุรูปํ ตปฺปโหนกํ. ลทฺธาติ ลภิตฺวา โน โหตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ลทฺโธ’’ติ วา ปาโ, อุปฏฺากฏฺานํ เนว ลภินฺติ อตฺโถ. าติ จ ปสตฺถตมคุณโยคโต เสฏฺโ จาติ าติเสฏฺโ. เอวรูเปสุ าเนสุ อยเมว ปติรูโปติ อามิสสฺส ทุลฺลภกาเลสุ ปริกโถภาสาทึ อกตฺวา ปรมสลฺเลขวุตฺติยา อาชีวสุทฺธิยํ ตฺวา ภควโต อธิปฺปายานุคุณํ อามิสํ วิจาเรนฺเตน นาม าติสิเนหยุตฺเตน อริยสาวเกเนว กาตุํ ยุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.
มาราวฏฺฏนายาติ มาเรน กตจิตฺตปริวฏฺฏเนน, จิตฺตสมฺโมหเนนาติ อตฺโถ. ตมฺปีติ อุตฺตรกุรุํ วา ติทสปุรํ วา อาวฏฺเฏยฺย.
‘‘ผุสฺสสฺสาหํ ปาวจเน, สาวเก ปริภาสยึ;
ยวํ ขาทถ ภฺุชถ, มา จ ภฺุชถ สาลโย’’ติ. (อป. เถร ๑.๓๙.๘๘) –
อปทาเน วุตฺตสฺส อกุสลสฺส ตทา โอกาสกตตฺตา. นิพทฺธทานสฺสาติ ‘‘ทสฺสามา’’ติ วาจาย นิยมิตทานสฺส. อปฺปิตวตฺตสฺสาติ กาเยน อติหริตฺวา ทินฺนวตฺถุโนปิ. วิสหตีติ สกฺโกติ. สงฺเขเปนาติ นีหาเรน. พฺยามปฺปภายาติ สมนฺตโต เหฏฺา จ อุปริ จ อสีติหตฺถมตฺเต าเน ฆนีภูตาย ฉพฺพณฺณาย ปภาย, ยโต ฉพฺพณฺณรํสิโย ตฬากโต มาติกาโย วิย นิกฺขมิตฺวา ทสสุ ทิสาสุ ¶ ธาวนฺติ, สา ยสฺมา พฺยามมตฺตา วิย ขายติ, ตสฺมา ‘‘พฺยามปฺปภา’’ติ วุจฺจติ. ยสฺมา อนุพฺยฺชนานิ จ ปจฺเจกํ ภควโต สรีเร ปภาสมฺปตฺติยุตฺตา ¶ อากาเส จนฺทสูริยาทโย วิย วิภาตา วิโรจนฺติ, ตสฺมา ตานิ พฺยามปฺปภาย สห เกนจิ อนภิภวนียานิ วุตฺตานิ.
อนตฺถสฺหิเตติ ฆาตาเปกฺขํ สามิอตฺเถ ภุมฺมวจนํ, เตนาห ‘‘ตาทิสสฺส วจนสฺส ฆาโต’’ติ. อตฺโถ ธมฺมเทสนาย เหตุ อุปฺปชฺชติ เอตฺถ, ธมฺมเทสนาทิโก วา อตฺโถ อุปฺปชฺชติ เอตายาติ อฏฺุปฺปตฺติ, ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุ.
เอกํ คเหตฺวาติ ธมฺมเทสนาสิกฺขาปทปฺตฺติสงฺขาเตสุ ทฺวีสุ ธมฺมเทสนาการณํ คเหตฺวา. รตฺติจฺเฉโท วาติ สตฺตาหกรณียวเสน คนฺตฺวา พหิ อรุณุฏฺาปนวเสน วุตฺโต, น วสฺสจฺเฉทวเสน ตสฺส วิสุํ วุจฺจมานตฺตา. เอเตน จ วสฺสจฺเฉทปจฺจเย สตฺตาหกรณีเยน คมนํ อนฺุาตนฺติ เวทิตพฺพํ. น กิสฺมิฺจีติ กิสฺมิฺจิ คุเณ สมฺภาวนาวเสน น มฺนฺติ. ปจฺฉา สีลํ อธิฏฺเหยฺยามาติ อาชีวเหตุ สนฺตคุณปฺปกาสเนน อาชีววิปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. อติมฺิสฺสตีติ อวมฺิสฺสติ.
๑๗. ‘‘อายสฺมาติ ปิยวจนเมต’’นฺติ อุจฺจนีจชนสามฺวเสน วตฺวา ปุน อุจฺจชนาเวณิกวเสเนว ทสฺเสนฺโต ‘‘ครุคารวสปฺปติสฺสาธิวจน’’นฺติ อาห. ตตฺถ สห ปติสฺสเยน นิสฺสเยนาติ สปฺปติสฺโส, สนิสฺสโย, ตสฺส ครุคุณยุตฺเตสุ คารววจนนฺติ อตฺโถ. อิธ ปน วจนเมว อธิวจนํ. ปปฺปฏโกชนฺติ อาทิกปฺเป อุทกูปริ ปมํ ปถวีภาเวน สฺชาตํ นวนีตปิณฺฑสทิสํ อุทเกปิ อุปฺปิลนสภาวํ อวิลียนกํ อติสินิทฺธมธุรํ อเนกโยชนสหสฺสพหลํ รสาตลสงฺขาตํ ปถโวชํ. ยํ อาทิกปฺปิเกหิ มนุสฺเสหิ รสตณฺหาย คเหตฺวา ภฺุชมานํ เตสํ กมฺมพเลน อุปริภาเค กกฺขฬภาวํ อาปชฺชิตฺวา เหฏฺา ปุริมากาเรเนว ิตํ, ยสฺส จ พเลน อยํ มหาปถวี สปพฺพตสมุทฺทกานนา เหฏฺาอุทเก อนิมุชฺชมานา อวิกิริยมานา กุลฺลุปริ วิย นิจฺจลา ติฏฺติ, ตํ ปถวีสารมณฺฑนฺติ อตฺโถ, เตนาห ปถวีมณฺโฑติอาทิ. สมฺปนฺนนฺติ มธุรรเสน อุเปตํ, เตนาห ‘‘สาทุรส’’นฺติ. อุปปนฺนผโลติ ¶ พหุผโล. ‘‘นิมฺมกฺขิก’’นฺติ วตฺวา ปุน ‘‘นิมฺมกฺขิกณฺฑ’’นฺติ มกฺขิกณฺฑานมฺปิ อภาวํ ทสฺเสติ. เย ปถวีนิสฺสิตา ปาณา, เต ตตฺถ สงฺกาเมสฺสามีติ เอตฺถ มนุสฺสามนุสฺสติรจฺฉานคติตฺถีนมฺปิ หตฺถสงฺกามเน กึ อนามาสโทโส น โหตีติ? น โหติ, กสฺมา? ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, อิทฺธิมสฺส อิทฺธิวิสเย’’ติ (ปารา. ๑๕๙) วจนโต, เตเนว ภควาปิ อนามาสโทสํ อทสฺเสตฺวา ‘‘วิปลฺลาสมฺปิ สตฺตา ปฏิลเภยฺยุ’’นฺติ อาห, ขุทฺทโก คาโม. มหนฺโต สาปโณ นิคโม. ปทวีติหาเรนาติ ปทนิกฺเขเปน.
วินยปฺตฺติยาจนกถาวณฺณนา
๑๘. วินยปฺตฺติยา ¶ มูลโต ปภุตีติ ปาราชิกาทิครุกานํ, ตทฺเสฺจ สิกฺขาปทานํ ปาติโมกฺขุทฺเทสกฺกเมน เยภุยฺเยน อปฺตฺตตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น สพฺเพน สพฺพํ อปฺตฺตตาย. เตเนว เถโร ภควนฺตํ ‘‘สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปยฺย อุทฺทิเสยฺย ปาติโมกฺข’’นฺติ ปาติโมกฺขุทฺเทเสน สห สิกฺขาปทปฺตฺตึ ยาจิ. ขนฺธเก หิ อานนฺทตฺเถราทีนํ ปพฺพชฺชโต ปุเรตรเมว ราหุลภทฺทสฺส ปพฺพชฺชาย ‘‘น, ภิกฺขเว, อนนฺุาโต มาตาปิตูหิ ปุตฺโต ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๐๕) ปฺตฺตสิกฺขาปทํ ทิสฺสติ. อิเธว อฏฺกถายมฺปิ ‘‘สามมฺปิ ปจนํ…เป… น วฏฺฏตี’’ติ จ, ‘‘รตฺติจฺเฉโท วสฺสจฺเฉโท วา น กโต’’ติ จ วุตฺตตฺตา ปุพฺเพว สามปากาทิปฏิกฺเขโป อตฺถีติ ปฺายติ. เอวํ กติปยสิกฺขาปทานํ ปฺตฺติสพฺภาเวปิ อปฺตฺตปาราชิกาทิเก สนฺธาย ‘‘น ตาว, สาริปุตฺต, สตฺถา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปตี’’ติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. ปุถุตฺตารมฺมณโต ปฏินิวตฺติตฺวา สมฺมเทว เอการมฺมเณ จิตฺเตน ลีโน ปฏิสลฺลีโน นามาติ อาห ‘‘เอกีภาวํ คตสฺสา’’ติ, จิตฺตวิเวกํ คตสฺสาติ อตฺโถ. จิรนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ.
โสฬสวิธาย ปฺายาติ มชฺฌิมนิกาเย อนุปทสุตฺตนฺตเทสนายํ ‘‘มหาปฺโ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต ปุถุปฺโ หาสปฺโ ชวนปฺโ ติกฺขปฺโ นิพฺเพธิกปฺโ’’ติ อาคตา ฉ ปฺา จ นวานุปุพฺพวิหารสมาปตฺติปฺา จ อรหตฺตมคฺคปฺา จาติ เอวํ โสฬสวิเธน อาคตาย ปฺาย. เยสํ พุทฺธานํ สาวกา สุทฺธาวาเสสุ สนฺทิสฺสนฺติ, เตเยว ¶ โลเก ปากฏาติ วิปสฺสีอาทโยว อิธ อุทฺธฏา, น อิตเร ปุพฺพพุทฺธา. เตเนว อาฏานาฏิยสุตฺเต (ที. นิ. ๓.๒๗๕ อาทโย) เทวาปิ อตฺตโน ปากฏานํ เตสฺเว คหณํ อกํสุ, นาฺเสนฺติ เวทิตพฺพํ.
๑๙. กิลาสุโนติ อปฺโปสฺสุกฺกา ปโยชนาภาเวน นิรุสฺสาหา อเหสุํ, น อาลสิเยน, เตนาห น อาลสิยกิลาสุโนติอาทิ. นิทฺโทสตายาติ กายวจีวีติกฺกมสมุฏฺาปกโทสาภาวา. ปาณํ น หเน น จาทินฺนมาทิเยติอาทินา (สุ. นิ. ๔๐๒) โอวาทสิกฺขาปทานํ วิชฺชมานตฺตา วุตฺตํ สตฺตาปตฺติกฺขนฺธวเสนาติอาทิ. ฉนฺนํ ฉนฺนํ วสฺสานํ โอสานทิวสํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘สกึ สกิ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ตทเปกฺขเมตฺถ สามิวจนํ. สกลชมฺพุทีเป สพฺโพปิ ภิกฺขุสงฺโฆ อุโปสถํ อกาสีติ สมฺพนฺโธ.
ขนฺตี ปรมนฺติอาทีสุ ติติกฺขาสงฺขาตา ขนฺติ สตฺตสงฺขาเรหิ นิพฺพตฺตานิฏฺาขมนกิเลสตปนโต ปรมํ ตโป นาม. วานสงฺขาตาย ตณฺหาย นิกฺขนฺตตฺตา นิพฺพานํ สพฺพธมฺเมหิ ปรมํ อุตฺตมนฺติ พุทฺธา วทนฺติ. ยถาวุตฺตขนฺติยา อภาเวน ปาณวธํ วา เฉทนตาฬนาทึ วา กโรนฺโต ปรูปฆาตี ปรสฺสหรณปรทาราติกฺกมนาทีหิ มุสาเปสฺุผรุสาทีหิ จ ปรํ วิเหยนฺโต จ พาหิตปาปตาย อภาเวน ปพฺพชิโต วา สมิตปาปตาย อภาเวน สมโณ วา น โหตีติ อตฺโถ. สีลสํวเรน สพฺพปาปสฺส อนุปฺปาทนํ โลกิยสมาธิวิปสฺสนาหิ กุสลสฺส อุปสมฺปาทนํ นิปฺผาทนํ สพฺเพหิ มคฺคผเลหิ อตฺตโน จิตฺตสฺส ปริโสธนํ ปภสฺสรภาวกรณํ ยํ, ตเมตํ พุทฺธานํ สาสนํ อนุสิฏฺิ. อนุปวาโทติ วาจาย กสฺสจิ อนุปวทนํ. อนุปฆาโตติ กาเยน กสฺสจิ อุปฆาตากรณํ วุตฺตาวเสเส จ ปาติโมกฺขสงฺขาเต สีเล อตฺตานํ สํวรณํ. ภตฺตสฺมึ มตฺตฺุตาสงฺขาตอาชีวปาริสุทฺธิปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสมาโยโค ตมฺมุเขน อินฺทฺริยสํวโร ปนฺตเสนาสนสงฺขาตํ อรฺวาสํ ตมฺมุเขน ปกาสิเต จตุปจฺจยสนฺโตสภาวนารามตาสงฺขาตมหาอริยวํเส ปติฏฺานฺจ อธิจิตฺตสงฺขาเต โลกิยโลกุตฺตรสมาธิมฺหิ ตทุปฺปาทนวเสน อาโยโค อนุโยโค จ ยํ, ตเมตํ พุทฺธานํ อนุสิฏฺีติ โยชนา.
‘‘ยาว ¶ สาสนปริยนฺตา’’ติ อาณาปาติโมกฺขสฺส อภาวโต วุตฺตํ. ปรินิพฺพานโต ปน อุทฺธํ โอวาทปาติโมกฺขุทฺเทโสปิ นตฺเถว, พุทฺธา เอว หิ ตํ อุทฺทิสนฺติ, น สาวกา. ปมโพธิยนฺติ โพธิโต วีสติวสฺสปริจฺฉินฺเน กาเล, อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน ปน ‘‘ปฺจจตฺตาลีสาย วสฺเสสุ อาทิโต ปนฺนรส วสฺสานิ ปมโพธี’’ติ วุตฺตํ, สิกฺขาปทปฺตฺติกอาลโต ปน ปภุติ อาณาปาติโมกฺขเมว อุทฺทิสนฺตีติ อิทํ ปาติโมกฺขุทฺเทสกฺกเมเนว ปริปุณฺณํ กตฺวา สิกฺขาปทปฺตฺติกาลํ สนฺธาย วุตฺตํ. อฏฺานํ อนวกาโสติ ยถากฺกมํ เหตุปจฺจยปฏิกฺเขปวเสน การณปฏิกฺเขโป. ยนฺติ เยน การเณน. อปริสุทฺธาย ปริสายาติ อลชฺชีปุคฺคเลหิ โวมิสฺสตาย อสุทฺธาย ปริสาย, น เกวลํ พุทฺธานฺเว อปริสุทฺธาย ปริสาย ปาติโมกฺขุทฺเทโส อยุตฺโต, อถ โข สาวกานมฺปิ. โจทนาสารณาทิวเสน ปน โสเธตฺวา สํวาสกรณํ สาวกานฺเว ภาโร, พุทฺธา ปน สิกฺขาปทานิ ปฺเปตฺวา อุโปสถาทิกรณวิธานํ สิกฺขาเปตฺวา วิสฺสชฺเชนฺติ, โจทนาสารณาทีนิ น กโรนฺติ, เตเนว ภควา อสุทฺธาย ปริสาย ปาติโมกฺขํ อนุทฺทิสิตฺวา สกลรตฺตึ ตุณฺหีภูโต นิสีทิ. ภิกฺขู จ ภควโต อธิปฺปายํ ตฺวา อสุทฺธปุคฺคลํ พหิ นีหรึสุ. ตสฺมา สาวกานมฺปิ อสุทฺธาย ปริสาย ตฺวา อุโปสถาทิสงฺฆกมฺมกรณํ พฺรหฺมจริยนฺตรายกรณํ วินา น วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ.
สมฺมุขสาวกานนฺติ ¶ พุทฺธานํ สมฺมุเข ธรมานกาเล ปพฺพชิตานํ สพฺพนฺติมานํ สาวกานํ. อุฬาราติสยโชตนตฺถํ ‘‘อุฬารุฬารโภคาทิกุลวเสน วา’’ติ ปุน อุฬารสทฺทคฺคหณํ กตํ. อาทิ-สทฺเทน อุฬารมชฺฌตฺตอนุฬาราทีนํ คหณํ เวทิตพฺพํ. เต ปจฺฉิมา สาวกา อนฺตรธาเปสุนฺติ สมฺพนฺโธ.
อปฺตฺเตปิ สิกฺขาปเท ยทิ สาวกา สมานชาติอาทิกา สิยุํ, อตฺตโน กุลานุคตคนฺถํ วิย ภควโต วจนํ น นาเสยฺยุํ. ยสฺมา ปน สิกฺขาปทฺจ น ปฺตฺตํ, อิเม จ ภิกฺขู น สมานชาติอาทิกา, ตสฺมา วินาเสสุนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ยสฺมา เอกนามา…เป… ตสฺมา อฺมฺํ วิเหเนฺตาติอาทิ วุตฺตํ. จิรฏฺิติกวาเร ปน สาวกานํ นานาชจฺจาทิภาเว สมาเนปิ สิกฺขาปทปฺตฺติยา ปริปุณฺณตาย สาสนสฺส จิรปฺปวตฺติ เวทิตพฺพา. ยทิ เอวํ กสฺมา สพฺเพปิ พุทฺธา สิกฺขาปทานิ น ปฺเปนฺตีติ? ยสฺมา ¶ จ สาสนสฺส จิรปฺปวตฺติยา น เกวลํ สิกฺขาปทปฺตฺติเยว เหตุ, อถ โข อายตึ ธมฺมวินยํ คเหตฺวา สาวเกหิ วิเนตพฺพปุคฺคลานํ สมฺภโวปิ, ตสฺมา เตสํ สมฺภเว สติ พุทฺธา สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺติ, นาสตีติ ปริปุณฺณาปฺตฺติเยว เวเนยฺยสมฺภวสฺสาปิ สูจนโต สาสนสฺส จิรปฺปวตฺติยา เหตุ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. ปาฬิยํ สหสฺสํ ภิกฺขุสงฺฆํ…เป… โอวทตีติ เอตฺถ สหสฺสสงฺขฺยาปริจฺฉินฺโน สงฺโฆ สหสฺโส สหสฺสิโลกธาตูติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๑๘) วิย. ตํ สหสฺสํ ภิกฺขุสงฺฆนฺติ โยชนา. สหสฺสสทฺทสฺส เอกวจนนฺตตาย ‘‘ภิกฺขุสหสฺสสฺสา’’ติ วตฺวา อวยวาเปกฺขาย ‘‘โอวทิยมานาน’’นฺติ พหุวจนนิทฺเทโส กโตติ ทฏฺพฺโพ.
อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสูติ เอตฺถ อาสเวหีติ กตฺตุอตฺเถ กรณวจนํ. จิตฺตานีติ ปจฺจตฺตพหุวจนํ. วิมุจฺจึสูติ กมฺมสาธนํ. ตสฺมา อาสเวหิ กตฺตุภูเตหิ อนุปาทาย อารมฺมณกรณวเสน อคฺคเหตฺวา จิตฺตานิ วิโมจิตานีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ คเหตพฺโพติ อาห เตสฺหิ จิตฺตานีติอาทิ. เยหิ อาสเวหีติ เอตฺถาปิ กตฺตุอตฺเถ เอว กรณวจนํ. วิมุจฺจึสูติ กมฺมสาธนํ. เตติ อาสวา. ตานีติ จิตฺตานิ, อุปโยคพหุวจนฺเจตํ. วิมุจฺจึสูติ กตฺตุสาธนํ, วิโมเจสุนฺติ อตฺโถ. อคฺคเหตฺวา วิมุจฺจึสูติ อารมฺมณวเสน ตานิ จิตฺตานิ อคฺคเหตฺวา อาสวา เตหิ จิตฺเตหิ มุตฺตวนฺโต อเหสุนฺติ อตฺโถ. อถ วา อาสเวหีติ นิสฺสกฺกวจนํ, วิมุจฺจึสูติ กตฺตุสาธนํ. ตสฺมา กฺจิ สงฺขตธมฺมํ ตณฺหาทิวเสน อนุปาทิยิตฺวา จิตฺตานิ วิมุตฺตวนฺตานิ อเหสุนฺติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ปุริมวจนาเปกฺขนฺติ อฺตรสฺมึ ภึสนเก วนสณฺเฑติ วุตฺตวจนสฺส อเปกฺขนํ ตสฺมึ ปุริมวจเนติ เอวํ อเปกฺขนนฺติ อตฺโถ, เตนาห ยํ วุตฺตนฺติอาทิ. ภึสนสฺส ภยสฺส กตํ กรณํ ¶ กิริยา ภึสนกตํ, ตสฺมึ ภึสนกิริยายาติ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ภึสนกิริยายา’’ติ. ภึสยตีติ ภึสโน, โสว ภึสนโก, ตสฺส ภาโว ‘‘ภึสนกตฺต’’นฺติ วตฺตพฺเพ ต-การสฺส โลปํ กตฺวา วุตฺตนฺติ ปการนฺตเรน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อถ วา’’ติอาทิ. พหุตรานํ สตฺตานํ วาติ เยภุยฺเยนาติ ปทสฺส อตฺถทสฺสนํ. เตน จ โย โกจีติ ปทสฺสาปิ โย โย ¶ ปวิสตีติ วิจฺฉาวเสน นานตฺเถน อตฺโถ คเหตพฺโพติ ทสฺเสติ, โย โย ปวิสติ, เตสุ พหุตรานนฺติ อตฺถสมฺภวโต.
นิคมนนฺติ ปกเต อตฺเถ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส อุปสํหาโร. อยฺเหตฺถ นิคมนกฺกโม – ยา หิ, สาริปุตฺต, วิปสฺสีอาทีนํ ติณฺณํ พุทฺธานํ อตฺตโน ปรินิพฺพานโต อุปริ ปริยตฺติวเสน วิเนตพฺพานํ ปุคฺคลานํ อภาเวน เตสํ อตฺถาย วิตฺถารโต สิกฺขาปทปฺตฺติยํ กิลาสุตา อปฺโปสฺสุกฺกตา, ยา จ อุปนิสฺสยสมฺปนฺนานํ เวเนยฺยานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ภึสนกวนสณฺเฑปิ คนฺตฺวา โอวทนฺตานํ เตสํ มคฺคผลุปฺปาทนตฺถาย ธมฺมเทสนาย เอว อกิลาสุตา สอุสฺสาหตา, น วิตฺถารโต ธมฺมวินยเทสนาย, อยํ โข, สาริปุตฺต, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน วิปสฺสีอาทีนํ ติณฺณํ พุทฺธานํ พฺรหฺมจริยํ น จิรฏฺิติกํ อโหสีติ. ปุริสยุควเสนาติ ปุริสานํ ยุคํ ปวตฺติกาโล, ตสฺส วเสน, ปุริสวเสนาติ อตฺโถ. สพฺพปจฺฉิมโกติ ปรินิพฺพานทิวเส ปพฺพชิโต สุภทฺทสทิโส. สตสหสฺสํ สฏฺิมตฺตานิ จ วสฺสสหสฺสานีติ อิทํ ภควโต ชาติโต ปฏฺาย วุตฺตํ, โพธิโต ปฏฺาย ปน คณิยมานํ อูนํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ทฺเวเยวาติ ธรมาเน ภควติ เอกํ, ปรินิพฺพุเต เอกนฺติ ทฺเว เอว ปุริสยุคานิ.
๒๐-๑. อสมฺภุณนฺเตนาติ อปาปุณนฺเตน. โก อนุสนฺธีติ ปุริมกถาย อิมสฺส โก สมฺพนฺโธติ อตฺโถ. ยํ วุตฺตนฺติ ยํ ยาจิตนฺติ อตฺโถ. เยสูติ วีติกฺกมธมฺเมสุ. เนสนฺติ ทิฏฺธมฺมิกาทิอาสวานํ. เตติ วีติกฺกมธมฺมา. าติเยว ปิตามหปิตุปุตฺตาทิวเสน ปริวฏฺฏนโต ปริวฏฺโฏติ าติปริวฏฺโฏ. โลกามิสภูตนฺติ โลกปริยาปนฺนํ หุตฺวา กิเลเสหิ อามสิตพฺพโต โลกามิสภูตํ. ปพฺพชฺชาสงฺเขเปเนวาติ ทสสิกฺขาปททานาทิปพฺพชฺชามุเขน. เอตนฺติ เมถุนาทีนํ อกรณํ. ถามนฺติ สิกฺขาปทปฺาปนสามตฺถิยํ. สฺฉวินฺติ สุกฺกจฺฉวึ ปกติจฺฉวึ, สุนฺทรจฺฉวึ วา. เสสนฺติ เสสปทโยชนทสฺสนํ. อิทานิ อตฺถโยชนํ ทสฺเสนฺโต อาห อยํ วา เหตฺถาติอาทิ. ตตฺถ วา-สทฺโท อวธารเณ. หิ-สทฺโท ปสิทฺธิยํ, อยเมว เหตฺถาติ อตฺโถ. อถ สตฺถาติ ปทสฺส อตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘ตทา สตฺถา’’ติ. โรเปตฺวาติ ผาลิตฏฺาเน ¶ นินฺนํ มํสํ สมํ วฑฺเฒตฺวา. สเก อาจริยเกติ อตฺตโน อาจริยภาเว, อาจริยกมฺเม วา.
วิปุลภาเวนาติ ¶ พหุภาเวน. อโยนิโส อุมฺมุชฺชมานาติ อนุปาเยน อภินิวิสมานา, วิปรีตโต ชานมานาติ อตฺโถ. รเสน รสํ สํสนฺทิตฺวาติ อนวชฺชสภาเวน สาวชฺชสภาวํ สมฺมิสฺเสตฺวา. อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยนฺติ อุคฺคตธมฺมํ อุคฺคตวินยฺจ, ยถา ธมฺโม จ วินโย จ วินสฺสิสฺสติ, เอวํ กตฺวาติ อตฺโถ. อิมสฺมึ อตฺเถติ อิมสฺมึ สงฺฆาธิกาเร. ปภสฺสโรติ ปภาสนสีโล. เอวํนาโม เอวํโคตฺโตติ โสยมายสฺมา โสตาปนฺโนตินามโคตฺเตน สมนฺนาคโต, อยํ วุจฺจติ โสตาปนฺโนติ ปกเตน สมฺพนฺโธ. อวินิปาตธมฺโมติ เอตฺถ ธมฺม-สทฺโท สภาววาจี, โส จ อตฺถโต อปาเยสุ ขิปนโก ทิฏฺิอาทิอกุสลธมฺโม เอวาติ อาห ‘‘เย ธมฺมา’’ติอาทิ. อิทานิ สภาววเสเนว อตฺถํ ทสฺเสตุํ วินิปตนํ วาติอาทิ วุตฺตํ. นิยโตติ สตฺตภวพฺภนฺตเร นิยตกฺขนฺธปรินิพฺพาโน. ตสฺส การณมาห ‘‘สมฺโพธิปรายโณ’’ติ.
๒๒. อนุธมฺมตาติ โลกุตฺตรธมฺมานุคโต สภาโว. ปวารณาสงฺคหํ ทตฺวาติ ‘‘อาคามินิยา ปุณฺณมิยา ปวาเรสฺสามา’’ติ อนุมติทานวเสน ทตฺวา, ปวารณํ อุกฺกฑฺฒิตฺวาติ อตฺโถ, เอเตน นเยน เกนจิ ปจฺจเยน ปวารณุกฺกฑฺฒนํ กาตุํ วฏฺฏตีติ ทีปิตํ โหติ. มาคสิรสฺส ปมทิวเสติ จนฺทมาสวเสน วุตฺตํ, อปรกตฺติกปุณฺณมาย อนนฺตเร ปาฏิปททิวเสติ อตฺโถ. ผุสฺสมาสสฺส ปมทิวเสติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อิทฺจ นิทสฺสนมตฺตํ เวเนยฺยานํ อปริปากํ ปฏิจฺจ ผุสฺสมาสโต ปรฺจ เอกทฺวิติจตุมาสมฺปิ ตตฺเถว วสิตฺวา เสสมาเสหิ จาริกาย ปริโยสาปนโต. ทสสหสฺสจกฺกวาเฬติ อิทํ เทวพฺรหฺมานํ วเสน วุตฺตํ. มนุสฺสา ปน อิมสฺมึเยว จกฺกวาเฬ โพธเนยฺยา โหนฺติ. อิตรจกฺกวาเฬสุ ปน มนุสฺสานํ อิมสฺมึ จกฺกวาเฬ อุปฺปตฺติยา ฉนฺทุปฺปาทนตฺถํ อนนฺตมฺปิ จกฺกวาฬํ โอโลเกตฺวา ตทนุคุณานุสาสนี ปาฏิหาริยํ กโรนฺติเยว.
อายามาติ ¶ เอตฺถ อา-สทฺโท อาคจฺฉาติ อิมินา สมานตฺโถติ อาห ‘‘อาคจฺฉ ยามา’’ติ, เอหิ คจฺฉามาติ อตฺโถ. สุวณฺณรสปิฺชราหีติ วิลีนสุวณฺณชลํ วิย ปิฺชราหิ สุวณฺณวณฺณาหีติ อตฺโถ. ปาฬิยํ นิมนฺติตมฺหาติอาทีสุ ‘‘นิมนฺติตา วสฺสํวุตฺถา อมฺหา’’ติ จ, ‘‘นิมนฺติตา วสฺสํวุตฺถา อตฺถา’’ติ จ สมฺพนฺโธ.
ยนฺติ เทยฺยธมฺมชาตํ, ยํ กิฺจีติ อตฺโถ. โน นตฺถีติ อมฺหากํ นตฺถิ, โนติ วา เอตสฺส วิวรณํ นตฺถีติ. เอตฺถาติ ฆราวาเส. ตนฺติ ตํ การณํ, กิจฺจํ วา. กุโตติ กตรเหตุโต. ยนฺติ เยน การเณน, กิจฺเจน วา. ทุติเย อตฺถวิกปฺเป เอตฺถาติ อิมสฺส วิวรณํ อิมสฺมึ เตมาสพฺภนฺตเรติ. ตนฺติ ตํ เทยฺยธมฺมํ.
ตตฺถ ¶ จาติ กุสเล. ติกฺขวิสทภาวาปาทเนน สมุตฺเตเชตฺวา. วสฺเสตฺวาติ อายตึ วาสนาภาคิยํ ธมฺมรตนวสฺสํ โอตาเรตฺวา. ยํ ทิวสนฺติ ยสฺมึ ทิวเส.
๒๓. ปตฺตุณฺณปตฺตปเฏ จาติ ปตฺตุณฺณปเฏ จีนปเฏ จ. ตุมฺพานีติ จมฺมมยเตลภาชนานิ. อนุพนฺธิตฺวาติ อนุปคมนํ กตฺวา. อภิรนฺต-สทฺโท อิธ อภิรุจิปริยาโยติ อาห ‘‘ยถาชฺฌาสย’’นฺติอาทิ. โสเรยฺยาทีนิ มหามณฺฑลจาริกาย มคฺคภูตานิ โสเรยฺยนคราทีนิ. ปยาคปติฏฺานนฺติ คงฺคาย เอกสฺส ติตฺถวิเสสสฺสาปิ, ตํสมีเป คามสฺสาปิ นามํ. สมนฺตปาสาทิกายาติ สมนฺตโต สพฺพโส ปสาทํ ชเนตีติ สมนฺตปาสาทิกา, ตสฺสา.
เย ปน ปกาเร สนฺธาย ‘‘สมนฺตโต’’ติ วุจฺจติ, เต ปกาเร วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสตุํ ตตฺริทนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘สมนฺตปาสาทิกา’’ติ ยา สํวณฺณนา วุตฺตา, ตตฺร ตสฺสํ สมนฺตปาสาทิกายํ สมนฺตปสาทิกภาเว อิทํ วกฺขมานคาถาวจนํ โหตีติ โยชนา. พาหิรนิทานอพฺภนฺตรนิทานสิกฺขาปทนิทานานํ วเสน นิทานปฺปเภททีปนํ เวทิตพฺพํ. ‘‘เถรวาทปฺปกาสนํ วตฺถุปฺปเภททีปน’’นฺติปิ วทนฺติ. ‘‘สิกฺขาปทานํ ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุปฺปเภททีปน’’นฺติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. สิกฺขาปทนิทานนฺติ ปน เวสาลีอาทิ สิกฺขาปทปฺตฺติยา ¶ การณภูตเทสวิเสโส เวทิตพฺโพ. เอตฺถาติ สมนฺตปาสาทิกาย. สมฺปสฺสตํ วิฺูนนฺติ สมฺพนฺโธ, ตสฺมา อยํ สมนฺตปาสาทิกาตฺเวว ปวตฺตาติ โยเชตพฺพา.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
เวรฺชกณฺฑวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๑. ปาราชิกกณฺโฑ
๑. ปมปาราชิกํ
สุทินฺนภาณวารวณฺณนา
๒๔. วิกฺกายิกภณฺฑสฺส ¶ ¶ วิกฺกิณนํ อิณทานฺจ ภณฺฑปฺปโยชนํ นาม. เอวํ ปโยชิตสฺส มูลสฺส สห วฑฺฒิยา คหณวายาโม อุทฺธาโร นาม. อสุกทิวเส ทินฺนนฺติอาทินา ปมุฏฺสฺส สตุปฺปาทนาทิ สารณํ นาม. จตุพฺพิธายาติ ขตฺติยพฺราหฺมณคหปติสมณานํ วเสน, ภิกฺขุอาทีนํ วา วเสน จตุพฺพิธาย. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสีติ เหตุอตฺเถ อยํ ทิสฺวาน-สทฺโท อสมานกตฺตุกตฺตา, ยถา ฆตํ ปิวิตฺวา พลํ โหตีติ, เอวมฺตฺถาปิ เอวรูเปสุ. ภพฺพกุลปุตฺโตติ อุปนิสฺสยมตฺตสภาเวน วุตฺตํ, น ปจฺฉิมภวิกตาย. เตเนวสฺส มาตาทิอกลฺยาณมิตฺตสมาโยเคน กตวีติกฺกมนํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนวิปฺปฏิสาเรน อธิคมนฺตราโย ชาโต. ปจฺฉิมภวิกานํ ปุพฺพพุทฺธุปฺปาเทสุ ลทฺธพฺยากรณานํ น สกฺกา เกนจิ อนฺตรายํ กาตุํ. เตเนว องฺคุลิมาลตฺเถราทโย อกุสลํ กตฺวาปิ อธิคมสมฺปนฺนา เอว อเหสุนฺติ. จริมกจิตฺตนฺติ จุติจิตฺตํ. สงฺขํ วิย ลิขิตํ ฆํสิตฺวา โธวิตํ สงฺขลิขิตนฺติ อาห โธตอิจฺจาทิ. อชฺฌาวสตาติ อธิ-สทฺทโยเคน อคารนฺติ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘อคารมชฺเฌ’’ติ. กสายรสรตฺตานิ กาสายานีติ อาห ‘‘กสายรสปีตตายา’’ติ. กสายโต นิพฺพตฺตตาย จ หิ รโสปิ ‘‘กสายรโส’’ติ วุจฺจติ.
๒๖. ยทา ชานาติ-สทฺโท โพธนตฺโถ น โหติ, ตทา ตสฺส ปโยเค สปฺปิโน ชานาติ มธุโน ชานาตีติอาทีสุ วิย กรณตฺเถ สามิวจนํ สทฺทสตฺถวิทู อิจฺฉนฺตีติ อาห ‘‘กิฺจิ ทุกฺเขน นานุโภสี’’ติ. เกนจิ ทุกฺเขน นานุโภสีติ อตฺโถ, กิฺจีติ เอตฺถาปิ หิ กรณตฺเถ สามิวจนสฺส โลโป กโต, เตเนว วกฺขติ ‘‘วิกปฺปทฺวเยปิ ปุริมปทสฺส อุตฺตรปเทน สมานวิภตฺติโลโป ¶ ทฏฺพฺโพ’’ติ. ยทา ปน ชานาติ-สทฺโท สรณตฺโถ โหติ, ตทา มาตุ สรตีติอาทีสุ วิย อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ ¶ สทฺทสตฺถวิทู วทนฺตีติ อาห ‘‘อถ วา กิฺจิ ทุกฺขํ นสฺสรตีติ อตฺโถ’’ติ, กสฺสจิ ทุกฺขสฺส อนนุภูตตาย นสฺสรตีติ อตฺโถ. วิกปฺปทฺวเยปีติ อนุภวนสรณตฺถวเสน วุตฺเต ทุติยตติยวิกปฺปทฺวเย. ปุริมปทสฺสาติ กิฺจีติ ปทสฺส. อุตฺตรปเทนาติ ทุกฺขสฺสาติปเทน. สมานาย สามิวจนภูตาย วิภตฺติยา ‘‘กสฺสจิ ทุกฺขสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘กิฺจิ ทุกฺขสฺสา’’ติ โลโปติ ทฏฺพฺโพ. มรเณนปิ มยํ เตติ เอตฺถ เตติ ปทสฺส สหตฺเถ กรณวเสนปิ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ตยา วิโยคํ วา ปาปุณิสฺสามาติ อตฺถนฺตรํ วุตฺตํ.
๒๘. คนฺธพฺพา นาม คายนกา. นฏา นาม รงฺคนฏา. นาฏกา ลงฺฆนกาทโย. สุขูปกรเณหิ อตฺตโน ปริจรณํ กโรนฺโต ยสฺมา ลฬนฺโต กีฬนฺโต นาม โหติ, ตสฺมา ทุติเย อตฺถวิกปฺเป ลฬาติอาทิ วุตฺตํ. ทานปฺปทานาทีนีติ เอตฺถ นิจฺจทานํ ทานํ นาม, วิเสสทานํ ปทานํ นาม, อาทิ-สทฺเทน สีลาทีนิ สงฺคณฺหาติ.
๓๐. จุทฺทส ภตฺตานีติ สงฺฆภตฺตํ อุทฺเทสภตฺตํ นิมนฺตนํ สลากํ ปกฺขิกํ อุโปสถิกํ ปาฏิปทิกํ อาคนฺตุกํ คมิกํ คิลานํ คิลานุปฏฺากํ วิหาร-ธุร-วารภตฺตนฺติ อิมานิ จุทฺทส ภตฺตานิ. เอตฺถ จ เสนาสนาทิปจฺจยตฺตยนิสฺสิเตสุ อารฺกงฺคาทิปธานงฺคานํ คหณวเสน เสสธุตงฺคานิปิ คหิตาเนว โหนฺตีติ เวทิตพฺพํ. วชฺชีนนฺติ วชฺชีราชูนํ. วชฺชีสูติ ชนปทาเปกฺขํ พหุวจนํ, วชฺชีนามเก ชนปเทติ อตฺโถ. ปฺจกามคุณาเยว อุปภฺุชิตพฺพโต ปริภฺุชิตพฺพโต จ อุปโภคปริโภคา, อิตฺถิวตฺถาทีนิ จ ตทุปกรณานีติ อาห ‘‘เยหิ เตส’’นฺติอาทิ. อุกฺกฏฺปิณฺฑปาติกตฺตาติ เสสธุตงฺคปริวาริเตน อุกฺกฏฺปิณฺฑปาติกธุตงฺเคน สมนฺนาคตตฺตา, เตนาห ‘‘สปทานจารํ จริตุกาโม’’ติ.
๓๑. โทสาติ รตฺติ. ตตฺถ อภิวุตฺถํ ปริวุสิตํ อาภิโทสิกํ, อภิโทสํ วา ปจฺจูสกาลํ คโต ปตฺโต อติกฺกนฺโต อาภิโทสิโก, เตนาห เอกรตฺตาติกฺกนฺตสฺส วาติอาทิ.
๓๒. อุทกกฺชิยนฺติ ปานียปริโภชนียอุทกฺจ ยาคุ จ. ตถาติ สมุจฺจยตฺเถ.อโนกปฺปนํ อสทฺทหนํ, อมริสนํ อสหนํ.
๓๔. ตทฺธิตโลปนฺติ ¶ ปิตามหโต อาคตํ ‘‘เปตามห’’นฺติ วตฺตพฺเพ ตทฺธิตปจฺจยนิมิตฺตสฺส ¶ เอ-การสฺส โลปํ กตฺวาติ อตฺโถ. เยสํ สนฺตกํ ธนํ คหิตํ, เต อิณายิกา. ปลิพุทฺโธติ ‘มา คจฺฉ มา ภฺุชา’ติอาทินา กตาวรโณ, ปีฬิโตติ อตฺโถ.
๓๕. อตฺตนาติ สยํ. สปติโน ธนสามิโน อิทํ สาปเตยฺยํ, ธนํ. ตเทว วิภโว.
๓๖. ภิชฺชนฺตีติ อคหิตปุพฺพา เอว ภิชฺชนฺติ. ทินฺนาปิ ปฏิสนฺธีติ ปิตรา ทินฺนํ สุกฺกํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนสฺส สตฺตสฺส ปฏิสนฺธิปิ เตน ทินฺนา นาม โหตีติ วุตฺตํ. สุกฺกเมว วา อิธ ปฏิสนฺธินิสฺสยตฺตา ‘‘ปฏิสนฺธี’’ติ วุตฺตํ, เตนาห ‘‘ขิปฺปํ ปติฏฺาตี’’ติ. น หิ ปิตุ สํโยคกฺขเณเยว สตฺตสฺส อุปฺปตฺตินิยโม อตฺถิ สุกฺกเมว ตถา ปติฏฺานนิยมโต. สุกฺเก ปน ปติฏฺิเต ยาว สตฺต ทิวสานิ, อฑฺฒมาสมตฺตํ วา, ตํ คพฺภสณฺานสฺส เขตฺตเมว โหติ มาตุ มํสสฺส โลหิตเลสสฺส สพฺพทาปิ วิชฺชมานตฺตา. ปุพฺเพปิ ปฺตฺตสิกฺขาปทานํ สพฺภาวโต อปฺตฺเต สิกฺขาปเทติ อิมสฺส ปมปาราชิกสิกฺขาปเท อฏฺปิเตติ อตฺโถ วุตฺโต. เอวรูปนฺติ เอวํ ครุกสภาวํ, ปาราชิกสงฺฆาทิเสสวตฺถุภูตนฺติ อตฺโถ, เตนาห ‘‘อวเสเส ปฺจขุทฺทกาปตฺติกฺขนฺเธ เอว ปฺเปสี’’ติ. ยํ อาทีนวนฺติ สมฺพนฺโธ. กายวิฺตฺติโจปนโตติ กายวิฺตฺติยา นิพฺพตฺตจลนโต.
เตเนวาติ อวธารเณน ยานิ คพฺภคฺคหณการณานิ นิวตฺติตานิ, ตานิปิ ทสฺเสตุํ กึ ปนาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุภเยสํ ฉนฺทราควเสน กายสํสคฺโค วุตฺโต. อิตฺถิยา เอว ฉนฺทราควเสน นาภิปรามสนํ วิสุํ วุตฺตํ. สามปณฺฑิตสฺส หิ มาตา ปุตฺตุปฺปตฺติยา สฺชาตาทรา นาภิปรามสนกาเล กามราคสมากุลจิตฺตา อโหสิ, อิตรถา ปุตฺตุปฺปตฺติยา เอว อสมฺภวโต. ‘‘สกฺโก จสฺสา กามราคสมุปฺปตฺตินิมิตฺตานิ อกาสี’’ติปิ วทนฺติ, วตฺถุวเสน วา เอตํ นาภิปรามสนํ กายสํสคฺคโต วิสุํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. มาตงฺคปณฺฑิตสฺส ทิฏฺมงฺคลิกาย นาภิปรามสเนน มณฺฑพฺยสฺส นิพฺพตฺติ อโหสิ. จณฺฑปชฺโชตมาตุ นาภิยํ วิจฺฉิกา ผริตฺวา ¶ คตา, เตน จณฺฑปชฺโชตสฺส นิพฺพตฺติ อโหสีติ อาห เอเตเนว นเยนาติอาทิ.
อยนฺติ สุทินฺนสฺส ปุราณทุติยิกา. ยํ สนฺธายาติ ยํ อชฺฌาจารํ สนฺธาย. มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺตีติ อิมินา สุกฺกสฺส สมฺภวํ ทีเปติ, มาตา จ อุตุนี โหตีติ อิมินา โสณิตสฺส. คนฺธพฺโพติ ตตฺรุปโค สตฺโต อธิปฺเปโต, คนฺตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ, ต-การสฺส เจตฺถ ธ-กาโร กโต. อถ วา คนฺธพฺพา นาม รงฺคนฏา, เต วิย ตตฺร ตตฺร ภเวสุ นานาเวสคฺคหณโต อยมฺปิ ‘‘คนฺธพฺโพ’’ติ วุตฺโต, โส มาตาปิตูนํ สนฺนิปาตกฺขณโต ปจฺฉาปิ สตฺตาหพฺภนฺตเร ¶ ตตฺร อุปปนฺโน ‘‘ปจฺจุปฏฺิโต’’ติ วุตฺโต. คพฺภสฺสาติ กลลรูปสหิตสฺส ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส. ตฺหิ อิธ ‘‘คพฺโภ’’ติ อธิปฺเปตํ สา เตน คพฺภํ คณฺหีติอาทีสุ (ปารา. ๓๖) วิย. อสฺส ตํ อชฺฌาจารนฺติ สมฺพนฺโธ. ปาฬิยํ นิรพฺพุโท วต โภ ภิกฺขุสงฺโฆ นิราทีนโวติ อิมสฺส อนนฺตรํ ตสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆติ อชฺฌาหริตฺวา สุทินฺเนน…เป… อาทีนโว อุปฺปาทิโตติ โยชนา เวทิตพฺพา. อิติหาติ นิปาตสมุทายสฺส เอวนฺติ อิทํ อตฺถภวนํ. มุหุตฺเตนาติ อิทํ ขเณนาติ ปทสฺส เววจนํ. ยาว พฺรหฺมโลกา อพฺภุคฺคโตปิ เทวานํ ตาวมหนฺโต สทฺโท เตสํ รูปํ วิย มนุสฺสานํ โคจโร น โหติ. ตสฺมา ปจฺฉา สุทินฺเนน วุตฺเต เอว ชานึสูติ ทฏฺพฺพํ.
๓๗. มคฺคพฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคปทฏฺานํ สิกฺขตฺตยเมว อุปจารโต วุตฺตํ ตสฺเสว ยาวชีวํ จริตพฺพตฺตา. อวิปฺผาริโกติ อุทฺเทสาทีสุ อพฺยาวโฏ. วหจฺฉินฺโนติ ฉินฺนปาโท, ฉินฺนขนฺโธ วา. จินฺตยีติ อิมินา ปชฺฌายีติ ปทสฺส กิริยาปทตฺตํ ทสฺเสติ. เตน ‘‘กิโส อโหสิ…เป… ปชฺฌายิ จา’’ติ จ-การํ อาเนตฺวา ปาฬิโยชนา กาตพฺพา.
๓๘. คเณ ชนสมาคเม สนฺนิปาตนํ คณสงฺคณิกา, สาว ปปฺจา, เตน คณสงฺคณิกาปปฺเจน. ยสฺสาติ เย อสฺส. กถาผาสุกาติ วิสฺสาสิกภาเวน ผาสุกกถา, สุขสมฺภาสาติ อตฺโถ. อุปาทารูปํ ภูตรูปมุเขเนว มนฺทนํ ปีนนฺจ โหตีติ อาห ปสาทอิจฺจาทิ. ทานีติ นิปาโต อิธ ปน-สทฺทตฺเถ วตฺตติ ตกฺกาลวาจิโน เอตรหิ-ปทสฺส วิสุํ วุจฺจมานตฺตาติ อาห ‘‘โส ปน ตฺว’’นฺติ. โน-สทฺโทปิ นุ-สทฺโท วิย ¶ ปุจฺฉนตฺโถติ อาห ‘‘กจฺจิ นุ ตฺว’’นฺติ. ตเมวาติ คิหิภาวปตฺถนาลกฺขณเมว. อนภิรติเมวาติ เอว-กาเรน นิวตฺติตาย ปน ตทฺาย อนภิรติยา วิชฺชมานตฺตํ ทสฺเสตุํ อธิกุสลานนฺติอาทิ วุตฺตํ, สมถวิปสฺสนา อธิกุสลา นาม. อิทํ ปนาติอาทิ อุปริ วตฺตพฺพวิเสสทสฺสนํ. ปริยายวจนมตฺตนฺติ สทฺทตฺถกถนมตฺตํ.
ตสฺมินฺติ ธมฺเม, เอวํ วิราคาย เทสิเต สตีติ อตฺโถ. นามาติ ครหายํ. โลกุตฺตรนิพฺพานนฺติ วิราคายาติอาทินา วุตฺตกิเลสกฺขยนิพฺพานโต วิเสเสติ. ชาตึ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกมาโน เอว มทชนนฏฺเน มโทติ มานมโท. ‘‘อหํ ปุริโส’’ติ ปวตฺโต มาโน ปุริสมโท. ‘‘อสทฺธมฺมเสวนาสมตฺถตํ นิสฺสาย มาโน, ราโค เอว วา ปุริสมโท’’ติ เกจิ. อาทิ-สทฺเทน พลมทาทึ สงฺคณฺหาติ. เตภูมกวฏฺฏนฺติ ตีสุ ภูมีสุ กมฺมกิเลสวิปากา ปวตฺตนฏฺเน ¶ วฏฺฏํ. วิรชฺชตีติ วิคจฺฉติ. โยนิโยติ อณฺฑชาทโย, ตา ปน ยวนฺติ ตาหิ สตฺตา อมิสฺสิตาปิ สมานชาติตาย มิสฺสิตา โหนฺตีติ ‘‘โยนิโย’’ติ วุตฺตา.
าตตีรณปหานวเสนาติ เอตฺถ ลกฺขณาทิวเสน สปฺปจฺจยนามรูปปริคฺคโห าตปริฺา นาม. กลาปสมฺมสนาทิวเสน ปวตฺตา โลกิยวิปสฺสนา ตีรณปริฺา นาม. อริยมคฺโค ปหานปริฺา นาม. อิธ ปน าตตีรณกิจฺจานมฺปิ อสมฺโมหโต มคฺคกฺขเณ สิชฺฌนโต อริยมคฺคเมว สนฺธาย ติวิธาปิ ปริฺา วุตฺตา, เตเนว ‘‘โลกุตฺตรมคฺโคว กถิโต’’ติ วุตฺตํ. กาเมสุ ปาตพฺยตานนฺติ วตฺถุกาเมสุ ปาตพฺยตาสงฺขาตานํ สุภาทิอาการานํ ตทาการคาหิกานํ ตณฺหานนฺติ อตฺโถ. วิสยมุเขน เหตฺถ วิสยิโน คหิตา. ตีสุ าเนสูติ ‘‘วิราคาย ธมฺโม เทสิโต…เป… โน สอุปาทานายา’’ติ เอวํ วุตฺเตสุ.
๓๙. กลิสาสนาโรปนตฺถายาติ โทสาโรปนตฺถาย. กลีติ โกธสฺส นามํ, ตสฺส สาสนํ กลิสาสนํ, โกธวเสน วุจฺจมานา ครหา. อชฺฌาจาโรว วีติกฺกโม. สมณกรณานํ ธมฺมานนฺติ สมณภาวกรานํ หิโรตฺตปฺปาทิธมฺมานํ. ปาฬิยํ กถํ-สทฺทโยเคน น สกฺขิสฺสสีติ อนาคตวจนํ กตํ, ‘‘นาม-สทฺทโยเคนา’’ติปิ วทนฺติ. อติวิย ทุกฺขวิปากนฺติ ¶ คหฏฺานํ นาติสาวชฺชมฺปิ กมฺมํ ปพฺพชิตานํ ภควโต อาณาวีติกฺกมโต เจว สมาทินฺนสิกฺขตฺตยวินาสนโต จ มหาสาวชฺชํ โหตีติ วุตฺตํ. อุทเก ภวํ โอทกํ, โธวนกิจฺจนฺติ อาห อุทกกิจฺจนฺติอาทิ. สมาปชฺชิสฺสสีติ อนาคตวจนํ นาม-สทฺทโยเคน กตนฺติ อาห ‘‘นาม-สทฺเทน โยเชตพฺพ’’นฺติ. ทุพฺภรตาทีนํ เหตุภูโต อสํวโร อิธ ทุพฺภรตาทิ-สทฺเทน วุตฺโต การเณ การิโยปจาเรนาติ อาห ‘‘ทุพฺภรตาทีนํ วตฺถุภูตสฺส อสํวรสฺสา’’ติ. อตฺตาติ อตฺตภาโว. ทุพฺภรตนฺติ อตฺตนา อุปฏฺาเกหิ จ ทุกฺเขน ภริตพฺพตํ. สตฺเตหิ กิเลเสหิ จ สงฺคณนํ สโมธานํ สงฺคณิกาติ อาห คณสงฺคณิกายาติอาทิ. อฏฺกุสีตวตฺถุปาริปูริยาติ เอตฺถ กมฺมํ กาตพฺพนฺติ เอกํ, ตถา อกาสินฺติ, มคฺโค คนฺตพฺโพติ อคมาสินฺติ, นาลตฺถํ โภชนสฺส ปาริปูรินฺติ, อลตฺถนฺติ, อุปฺปนฺโน เม อาพาโธติ, อจิรวุฏฺิโต เคลฺาติ เอกนฺติ อิมานิ อฏฺ กุสีตวตฺถูนิ นาม. เอตฺถ จ โกสชฺชํ กุสีต-สทฺเทน วุตฺตํ. วินาปิ หิ ภาวโชตนปจฺจยํ ภาวตฺโถ วิฺายติ ยถา ปฏสฺส สุกฺกนฺติ. สพฺพกิเลสาปจยภูตาย วิวฏฺฏายาติ ราคาทิสพฺพกิเลสานํ อปจยเหตุภูตาย นิพฺพานาย, นิพฺพานตฺถนฺติ อตฺโถ. สํวรปฺปหานปฏิสํยุตฺตนฺติ สีลสํวราทีหิ ปฺจหิ สํวเรหิ เจว ตทงฺคปฺปหานาทีหิ ปฺจหิ ปหาเนหิ จ อุเปตํ. อสุตฺตนฺต วินิพทฺธนฺติ ตีสุ ปิฏเกสุ ปาฬิสงฺขาตสุตฺตนฺตวเสน อรจิตํ, สงฺคีติกาเรหิ จ อนาโรปิตํ, เตนาห ‘‘ปาฬิวินิมุตฺต’’นฺติ. เตน จ อฏฺกถาสุ ยถานุรูปํ สงฺคหิตนฺติ ¶ ทสฺเสติ. เอวรูปา หิ ปกิณฺณกเทสนา อฏฺกถาย มูลํ. โอกฺกนฺติกธมฺมเทสนา นาม ตสฺมึ ตสฺมึ ปสงฺเค โอตาเรตฺวา โอตาเรตฺวา นานานเยหิ กถิยมานา ธมฺมเทสนา, เตนาห ภควา กิราติอาทิ. ปฏิกฺขิปนาธิปฺปายาติ ปฺตฺตมฺปิ สิกฺขาปทํ ‘‘กิเมเตนา’’ติ มทฺทนจิตฺตา.
วุตฺตตฺถวเสนาติ ปติฏฺาอธิคมุปายวเสน. สิกฺขาปทวิภงฺเค ยา ตสฺมึ สมเย กาเมสุมิจฺฉาจารา อารติ วิรตีติอาทินา (วิภ. ๗๐๖) นิทฺทิฏฺวิรติโย เจว, ยา ตสฺมึ สมเย เจตนา สฺเจตนาติอาทินา (วิภ. ๗๐๔) นิทฺทิฏฺเจตนา จ, กาเมสุมิจฺฉาจารา วิรมนฺตสฺส ผสฺโส…เป… อวิกฺเขโปติอาทินา (วิภ. ๗๐๕) นิทฺทิฏฺผสฺสาทิธมฺมา จ สิกฺขาปทนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อยฺจ อตฺโถ ¶ สิกฺขาปทวิภงฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ‘‘โย ตตฺถ นามกาโย ปทกาโยติ อิทํ มหาอฏฺกถายํ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. นามกาโยติ นามสมูโห นามปฺตฺติเยว, เสสานิปิ ตสฺเสว เววจนานิ. สิกฺขาโกฏฺาโสติ วิรติอาทโย วุตฺตา ตปฺปกาสกฺจ วจนํ.
อตฺถวเสติ หิตวิเสเส อานิสํสวิเสเส, เต จ สิกฺขาปทปฺตฺติยา เหตูติ อาห ‘‘การณวเส’’ติ. สุขวิหาราภาเว สหชีวนสฺส อภาวโต สหชีวิตาติ สุขวิหาโรว วุตฺโต. ทุสฺสีลปุคฺคลาติ นิสฺสีลา ทูสิตสีลา จ. ปาราชิกสิกฺขาปทปฺปสงฺเค หิ นิสฺสีลา อธิปฺเปตา, เสสสิกฺขาปทปสงฺเค เตหิ เตหิ วีติกฺกเมหิ ขณฺฑฉิทฺทาทิภาวปฺปตฺติยา ทูสิตสีลา อธิปฺเปตา. อุภเยนปิ อลชฺชิโนว อิธ ‘‘ทุสฺสีลา’’ติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. สพฺพสิกฺขาปทานมฺปิ ทส อตฺถวเส ปฏิจฺเจว ปฺตฺตตฺตา อุปริ ทุสฺสีลปุคฺคเล นิสฺสายาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย, เตเนว ‘‘เย มงฺกุตํ…เป… นิคฺคเหสฺสตี’’ติ สพฺพสิกฺขาปทสาธารณวเสน อตฺโถ วุตฺโต. ตตฺถ มงฺกุตนฺติ นิตฺเตชตํ อโธมุขตํ. ธมฺเมนาติอาทีสุ ธมฺโมติ ภูตํ วตฺถุ. วินโยติ โจทนา เจว สารณา จ. สตฺถุสาสนนฺติ ตฺติสมฺปทา เจว อนุสาวนสมฺปทา จ. สนฺทิฏฺมานาติ สํสยํ อาปชฺชมานา. อุพฺพาฬฺหาติ ปีฬิตา. ทุสฺสีลปุคฺคเล นิสฺสาย หิ อุโปสโถ น ติฏฺติ, ปวารณา น ติฏฺติ, สงฺฆกมฺมานิ นปฺปวตฺตนฺติ, สามคฺคี น โหตีติ อิมินา อลชฺชีหิ สทฺธึ อุโปสถาทิสกลสงฺฆกมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ ธมฺมปริโภคตฺตาติ ทสฺเสติ. อุโปสถปวารณานํ นิยตกาลิกตาย จ อวสฺสํ กตฺตพฺพตฺตา สงฺฆกมฺมโต วิสุํ คหณํ เวทิตพฺพํ. อกิตฺติ ครหา. อยโส ปริวารหานิ.
จุทฺทส ขนฺธกวตฺตานิ นาม วตฺตกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๕๖ อาทโย) วุตฺตานิ อาคนฺตุกวตฺตํ ¶ อาวาสิกคมิกอนุโมทนภตฺตคฺคปิณฺฑจาริกอารฺกเสนาสนชนฺตาฆรวจฺจกุฏิอุปชฺฌายสทฺธิวิหาริกอาจริยอนฺเตวาสิกวตฺตนฺติ อิมานิ จุทฺทส วตฺตานิ, เอตานิ จ สพฺเพสํ ภิกฺขูนํ สพฺพทา จ ยถารหํ จริตพฺพานิ. ทฺเว อสีติ มหาวตฺตานิ ปน ตชฺชนียกมฺมกตาทิกาเลเยว จริตพฺพานิ, น สพฺพทา. ตสฺมา วิสุํ คณิตานิ. ตานิ ปน ‘‘ปาริวาสิกานํ ภิกฺขูนํ วตฺตํ ปฺเปสฺสามี’’ติ (จูฬว. ๗๕) อารภิตฺวา ‘‘น อุปสมฺปาเทตพฺพํ…เป… น ฉมาย จงฺกมนฺเต ¶ จงฺกเม จงฺกมิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตาวสานานิ ฉสฏฺิ, ตโต ปรํ ‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปาริวาสิเกน วุฑฺฒตเรน ภิกฺขุนา สทฺธึ, มูลายปฏิกสฺสนารเหน, มานตฺตจาริเกน, มานตฺตารเหน, อพฺภานารเหน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน อาวาเส วตฺถพฺพ’’นฺติอาทินา (จูฬว. ๘๒) วุตฺตวตฺตานิ ปกตตฺเตน จริตพฺเพหิ อนฺตฺตา วิสุํ อคเณตฺวา ปาริวาสิกวุฑฺฒตราทีสุ ปุคฺคลนฺตเรสุ จริตพฺพตฺตา เตสํ วเสน สมฺปิณฺเฑตฺวา เอเกกํ กตฺวา คณิตานิ ปฺจาติ เอกสตฺตติวตฺตานิ จ อุกฺเขปนียกมฺมกตวตฺเตสุ จ วุตฺตํ ‘‘น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ…เป… นหาเน ปิฏฺิปริกมฺมํ สาทิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๘๖) อิทํ อภิวาทนาทีนํ อสาทิยนํ เอกํ, ‘‘น ปกตตฺโต ภิกฺขุ สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตพฺโพ’’ติอาทีนิ (จูฬว. ๕๑) จ ทสาติ เอวํ ทฺวาสีติ วตฺตานิ โหนฺติ, เอเตสฺเวว ปน กานิจิ ตชฺชนียกมฺมาทิวตฺตานิ กานิจิ ปาริวาสิกาทิวตฺตานีติ อคฺคหิตคฺคหเณน ทฺวาสีติเยว. อฺตฺถ ปน อฏฺกถาปเทเส อปฺปกํ อูนมธิกํ วา คณนูปคํ น โหตีติ อสีติขนฺธกวตฺตานีติ อาคตํ. อถ วา ปุริเมหิ จุทฺทสวตฺเตหิ อสงฺคหิตานิ วินยาคตานิ สพฺพานิ วตฺตานิ ยถา ทฺวาสีติ วตฺตานิ, อสีติ วตฺตานิ เอว วา โหนฺติ, ตถา สงฺคเหตฺวา าตพฺพานิ.
สํวรวินโยติ สีลสํวโร สติสํวโร าณสํวโร ขนฺติสํวโร วีริยสํวโรติ ปฺจวิโธปิ สํวโร ยถาสกํ สํวริตพฺพานํ วิเนตพฺพานฺจ กายทุจฺจริตาทีนํ สํวรณโต สํวโร, วินยนโต วินโยติ วุจฺจติ. ปหานวินโยติ ตทงฺคปฺปหานํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ สมุจฺเฉทปฺปหานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ นิสฺสรณปฺปหานนฺติ ปฺจวิธมฺปิ ปหานํ, ยสฺมา จาคฏฺเน ปหานํ, วินยนฏฺเน วินโย, ตสฺมา ‘‘ปหานวินโย’’ติ วุจฺจติ. สมถวินโยติ สตฺต อธิกรณสมถา. ปฺตฺติวินโยติ สิกฺขาปทเมว. ตมฺปิ หิ ภควโต สิกฺขาปทปฺตฺติยาว อนุคฺคหิตํ โหติ ตพฺภาเว เอว ภาวโต. สงฺขลิกนยํ กตฺวา ทสกฺขตฺตุํ โยชนฺจ กตฺวา ยํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ ปุริมปุริมปทสฺส อนนฺตรปเทเนว โยชิตตฺตา อโยสงฺขลิกสทิสนฺติ ‘‘สงฺขลิกนย’’นฺติ วุตฺตํ. ทสสุ ปเทสุ เอกเมกํ ปทํ ตทวเสเสหิ นวนวปเทหิ โยชิตตฺตา ‘‘เอเกกปทมูลิก’’นฺติ วุตฺตํ.
อตฺถสตํ ¶ ¶ ธมฺมสตนฺติ เอตฺถ โย หิ โส ปริวาเร (ปริ. ๓๓๔) ยํ สงฺฆสุฏฺุ, ตํ สงฺฆผาสูติ อาทึกตฺวา ยํ สทฺธมฺมฏฺิติยา, ตํ วินยานุคฺคหายาติ ปริโยสานํ ขณฺฑจกฺกวเสเนว สงฺขลิกนโย วุตฺโต, ตสฺมึ เอกมูลกนเย อาคตพทฺธจกฺกนเยน ยํ วินยานุคฺคหาย, ตํ สงฺฆสุฏฺูติ อิทมฺปิ โยเชตฺวา พทฺธจกฺเก กเต ปุริมปุริมานิ ทส ธมฺมปทานิ, ปจฺฉิมปจฺฉิมานิ ทส อตฺถปทานิ จาติ วีสติ ปทานิ โหนฺติ. เอกมูลกนเย ปน เอกสฺมึ วาเร นเวว อตฺถปทานิ ลพฺภนฺติ. เอวํ ทสหิ วาเรหิ นวุติ อตฺถปทานิ นวุติ ธมฺมปทานิ จ โหนฺติ, ตานิ สงฺขลิกนเย วุตฺเตหิ ทสหิ อตฺถปเทหิ ทสหิ ธมฺมปเทหิ จ สทฺธึ โยชิตานิ ยถาวุตฺตํ อตฺถสตํ ธมฺมสตฺจ โหนฺตีติ เวทิตพฺพํ. ยํ ปเนตฺถ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๓๙) สงฺขลิกนเยปิ เอกมูลกนเยปิ ปจฺเจกํ อตฺถสตสฺส ธมฺมสตสฺส โยชนามุขํ วุตฺตํ, ตํ ตถา สิทฺเธปิ อตฺถสตํ ธมฺมสตนฺติ (ปริ. ๓๓๔) คาถาย น สเมติ ทฺเว อตฺถสตานิ ทฺเว ธมฺมสตานิ จตฺตาริ นิรุตฺติสตานิ อฏฺ าณสตานีติ วตฺตพฺพโต. ตสฺมา อิธ วุตฺตนเยเนว อตฺถสตํ ธมฺมสตนฺติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. ทฺเว จ นิรุตฺติสตานีติ อตฺถโชติกานํ นิรุตฺตีนํ วเสน นิรุตฺติสตํ, ธมฺมภูตานํ นิรุตฺตีนฺจ วเสน นิรุตฺติสตนฺติ ทฺเว นิรุตฺติสตานิ. จตฺตาริ จ าณสตานีติ อตฺถสเต าณสตํ, ธมฺมสเต าณสตํ, ทฺวีสุ นิรุตฺติสเตสุ ทฺเว าณสตานีติ จตฺตาริ าณสตานิ. อติเรกานยนตฺโถติ อวุตฺตสมุจฺจยตฺโถ.
ปมปฺตฺติกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
สุทินฺนภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
มกฺกฏีวตฺถุกถาวณฺณนา
๔๐. ปจุรตฺเถ หิ วตฺตมานวจนนฺติ เอกทา ปฏิเสวิตฺวา ปจฺฉา อโนรมิตฺวา ทิวเส ทิวเส เสวนิจฺฉาย วตฺตมานตฺตา เสวนาย อภาวกฺขเณปิ อิห มลฺลา ยุชฺฌนฺตีติอาทีสุ วิย อพฺโพจฺฉินฺนตํ พาหุลฺลวุตฺติตฺจ อุปาทาย ปฏิเสวตีติ วตฺตมานวจนํ กตนฺติ อตฺโถ. อาหิณฺฑนฺตาติ วิจรนฺตา.
๔๑. สโหฑฺฒคฺคหิโตติ ¶ สภณฺฑคฺคหิโต, อยเมว วา ปาโ. ตํ สิกฺขาปทํ ตเถว โหตีติ มนุสฺสามนุสฺสาทิปุคฺคลวิเสสํ กิฺจิ อนุปาทิยิตฺวา สามฺโต ‘‘โย ปน ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺยา’’ติ (ปารา. ๓๙) วุตฺตตฺตา มนุสฺสามนุสฺสติรจฺฉานคตานํ อิตฺถิปุริสปณฺฑกอุภโตพฺยฺชนานํ ¶ ตึสวิเธปิ มคฺเค เมถุนํ เสวนฺตสฺส ตํ สิกฺขาปทํ มูลจฺเฉชฺชกรํ โหติ เอวาติ อธิปฺปาโย. เอเตน ยํ อนุปฺตฺติมูลปฺตฺติยา เอว อธิปฺปายปฺปกาสนวเสน สุโพธตฺถาย วตฺถุวเสน ปวตฺตานํ วิเสสตฺถโชตกวเสนาติ ทสฺสิตํ โหติ. อามสนํ อามฏฺมตฺตํ. ตโต ทฬฺหตรํ ผุสนํ. ฆฏฺฏนํ ปน ตโต ทฬฺหตรํ กตฺวา สรีเรน สรีรสฺส สงฺฆฏฺฏนํ. ตํ สพฺพมฺปีติ อนุราเคน ปวตฺติตํ ทสฺสนาทิสพฺพมฺปิ.
๔๒. ปาณาติปาตาทิสจิตฺตกสิกฺขาปทานํ สุราปานาทิอจิตฺตกสิกฺขาปทานฺจ (ปาจิ. ๓๒๖ อาทโย) เอเกเนว ลกฺขณวจเนน โลกวชฺชตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺส สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว โหติ, ตํ โลกวชฺชํ นามา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ สจิตฺตกปกฺเขติ อิทํ กิฺจาปิ อจิตฺตกสิกฺขาปทํ สนฺธาเยว วตฺตุํ ยุตฺตํ ตสฺเสว สจิตฺตกปกฺขสมฺภวโต, ตถาปิ สจิตฺตกสิกฺขาปทานมฺปิ อสฺจิจฺจ จงฺกมนาทีสุ โลเก ปาณฆาตโวหารสมฺภเวน อจิตฺตกปกฺขํ ปริกปฺเปตฺวา อุภินฺนมฺปิ สจิตฺตกาจิตฺตกสิกฺขาปทานํ สาธารณวเสน ‘‘สจิตฺตกปกฺเข’’ติ วุตฺตํ. อิตรถา สจิตฺตกสิกฺขาปทานํ อิมสฺมึ วากฺเย โลกวชฺชตาลกฺขณํ น วุตฺตํ สิยา. ‘‘สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมวา’’ติ วุตฺเต ปน สจิตฺตกสิกฺขาปทานํ จิตฺตํ อกุสลเมว, อิตเรสํ สจิตฺตกปกฺเขเยว อกุสลนิยโม, น อจิตฺตกปกฺเข. ตตฺถ ปน ยถาสมฺภวํ กุสลํ วา สิยา, อกุสลํ วา, อพฺยากตํ วาติ อยมตฺโถ สามตฺถิยโต สิชฺฌตีติ เวทิตพฺพํ. สจิตฺตกปกฺเขติ วตฺถุวีติกฺกมวิชานนจิตฺเตน สจิตฺตกปกฺเขติ คเหตพฺพํ, น ปณฺณตฺติวิชานนจิตฺเตน ตถา สติ สพฺพสิกฺขาปทานมฺปิ โลกวชฺชตาปสงฺคโต. ‘‘ปฏิกฺขิตฺตมิทํ กาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ ชานนฺตสฺส หิ ปณฺณตฺติวชฺเชปิ อนาทริยวเสน ปฏิฆจิตฺตเมว อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา อิทํ วากฺยํ นิรตฺถกเมว สิยา สพฺพสิกฺขาปทานิปิ โลกวชฺชานีติ เอตฺตกมตฺตสฺเสว วตฺตพฺพตาปสงฺคโต.
เอตฺถ ¶ จ สจิตฺตกปกฺเขเยว จิตฺตํ อกุสลนฺติ นิยมสฺส อกตตฺตา สุราปานาทีสุ อจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลํ น โหเตวาติ น สกฺกา นิยเมตุํ, เกวลํ ปน สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว, น กุสลาทีติ เอวเมตฺถ นิยโม สิชฺฌติ, เอวฺจ สุราติ อชานิตฺวา ปิวนฺตานมฺปิ อกุสลจิตฺเตเนว ปานํ คนฺธวณฺณกาทิภาวํ อชานิตฺวา ลิมฺปนฺตีนํ ภิกฺขุนีนํ วินาปิ อกุสลจิตฺเตน ลิมฺปนฺจ, อุภยตฺถาปิ อาปตฺติสมฺภโว จ สมตฺถิโต โหติ. ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๔๒) ‘‘สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมวาติ วจนโต อจิตฺตกสฺส วตฺถุอชานนวเสน อจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมวาติ อยํ นิยโม นตฺถีติ วิฺายตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ น ยุตฺตํ ¶ . อจิตฺตเกสุ หิ เตรสสุ โลกวชฺเชสุ สุราปานสฺเสว อจิตฺตกปกฺเขปิ อกุสลจิตฺตนิยโม, น อิตเรสํ ทฺวาทสนฺนํ อกุสลาทิจิตฺเตนาปิ อาปชฺชิตพฺพโต. ยํ ปน เอวํ เกนจิ อนิจฺฉมานํ สทฺทโตปิ อปตียมานมิมํ นิยมํ ปราธิปฺปายํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ยทิ หิ อจิตฺตกสฺส อจิตฺตกปกฺเขปิ จิตฺตํ อกุสลเมว สิยา, สจิตฺตกปกฺเขติ อิทํ วิเสสนํ นิรตฺถกํ สิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ นิรตฺถกเมว เอวํ นิยมสฺส เกนจิ อนธิปฺเปตตฺตา. น หิ โกจิ สทฺทสตฺถวิทู นิยมํ อิจฺฉติ, เยน สจิตฺตกปกฺเขติ อิทํ วิเสสนํ นิรตฺถกํ สิยาติอาทิ วุตฺตํ ภเวยฺย, กินฺตุ สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว, อจิตฺตกปกฺเข ปน จิตฺตํ อนิยตํ อกุสลเมว วา สิยา, กุสลาทีสุ วา อฺตรนฺติ เอวเมว อิจฺฉติ. เตน สจิตฺตกปกฺเขติ วิเสสนมฺปิ สาตฺถกํ สิยา. อจิตฺตกสิกฺขาปทานํ สจิตฺตกปกฺเขสุ อกุสลนิยเมน โลกวชฺชตา จ สิชฺฌติ. เตสุ จ สุราปานสฺเสว อจิตฺตกปกฺเขปิ โลกวชฺชตา อกุสลจิตฺตตา จ, อิตเรสํ ปน สจิตฺตกปกฺเข เอวาติ วาโทปิ น วิรุชฺฌตีติ น กิฺเจตฺถ อนุปปนฺนํ นาม.
ยํ ปเนตฺถ ‘‘สุราติ อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺส…เป… วินาปิ อกุสลจิตฺเตน อาปตฺติสมฺภวโต…เป… สุราปานาทิอจิตฺตกสิกฺขาปทานํ โลกวชฺชตา น สิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยฺจ ตมตฺถํ สาเธตุํ คณฺิปเทสุ อาคตวจนํ ทสฺเสตฺวา พหุํ ปปฺจิตํ, ตํ น สารโต ปจฺเจตพฺพํ อฏฺกถาหิ วิรุทฺธตฺตา. ตถา หิ ‘‘วตฺถุอชานนตาย เจตฺถ อจิตฺตกตา เวทิตพฺพา อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย โลกวชฺชตา’’ติ วุตฺตํ. ยฺเจตสฺส ‘‘สจิตฺตกปกฺเข ¶ อกุสเลเนว ปาตพฺพโต โลกวชฺชตา’’ติ วุตฺตํ อฏฺกถาวจนํ, ตํ น สุนฺทรํ. ‘‘สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมวา’’ติ สพฺเพสํ โลกวชฺชานํ อิเธว ปาราชิกฏฺกถาย สามฺโต วตฺวา สุราปานสิกฺขาปทฏฺกถายํ ‘‘อกุสเลเนว ปาตพฺพตายา’’ติ เอวํ อจิตฺตกปกฺเขปิ อกุสลจิตฺตตาย วิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา. น หิ ‘‘สามฺโต อิธ วุตฺโตว อตฺโถ ปุน สุราปานฏฺกถายมฺปิ วุตฺโต’’ติ สกฺกา วตฺตุํ วุตฺตสฺเสว ปุน วจเน ปโยชนาภาวา, ตทฺเสุปิ อจิตฺตกโลกวชฺเชสุ วตฺตพฺพตาปสงฺคโต จ, นาปิ เอกตฺถ วุตฺโต นโย ตทฺเสุปิ เอกลกฺขณตาย วุตฺโต เอว โหตีติ ‘‘สุราปานสิกฺขาปเทเยว (ปาจิ. ๓๒๖ อาทโย) วุตฺโต’’ติ สกฺกา วตฺตุํ อจิตฺตกโลกวชฺชานํ สพฺพปเม อุยฺยุตฺตสิกฺขาปเทเยว (ปาจิ. ๓๑๑ อาทโย) วตฺตพฺพโต, สุราปานสิกฺขาปเทเยว วา วตฺวา เอเสว นโย เสเสสุ อจิตฺตกโลกวชฺเชสุปีติ อติทิสิตพฺพโต จ.
อปิจ วุตฺตเมวตฺถํ วทนฺเตน ‘‘สจิตฺตกปกฺเข อกุสเลเนว ปาตพฺพตายา’’ติ ปุพฺเพ วุตฺตกฺกเมเนว ¶ วตฺตพฺพํ สนฺเทหาทิวิคมตฺถตฺตา ปุน วจนสฺส. สิกฺขาปทวิสเย จ วิเสสิตพฺพํ วิเสเสตฺวาว วุจฺจติ, อิตรถา อาปตฺตานาปตฺตาทิเภทสฺส ทุวิฺเยฺยตฺตา. ตถา หิ ภิกฺขุนีวิภงฺคฏฺกถายํ ‘‘วินาปิ จิตฺเตน อาปชฺชิตพฺพตฺตา อจิตฺตกานิ, จิตฺเต ปน สติ อกุสเลเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตา โลกวชฺชานิ เจว อกุสลจิตฺตานิ จา’’ติ คิรคฺคสมชฺชาทีนํ สจิตฺตกปกฺเข เอว โลกวชฺชตา อกุสลจิตฺตตา จ วิเสเสตฺวา วุตฺตา, น เอวํ สุราปานสฺส. ตสฺส ปน ปกฺขทฺวยสฺสาปิ สาธารณวเสน ‘‘อกุสเลเนว ปาตพฺพตายา’’ติ วุตฺตํ, น ปน ‘‘สจิตฺตกปกฺเข’’ติ วิเสเสตฺวา. ตสฺมา อิทํ สุราปานํ สจิตฺตกาจิตฺตกปกฺขทฺวเยปิ โลกวชฺชํ อกุสลจิตฺตฺจาติ ทสฺเสตุเมว ‘‘อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย โลกวชฺชตา’’ติ วิสุํ วุตฺตนฺติ สุฏฺุ สิชฺฌติ. เอเตเนว ยํ สารตฺถทีปนิยํ ‘‘สจิตฺตกปกฺเข อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย โลกวชฺชตา’’ติ วุตฺตสฺส อิมสฺเสว อธิปฺปายสฺส ปฏิปาทกเมตนฺติ สฺาย อิมินา เอว หิ อธิปฺปาเยน อฺเสุปิ โลกวชฺเชสุ อจิตฺตกสิกฺขาปเทสุ อกุสลจิตฺตตา เอว วุตฺตา, น ปน ติจิตฺตตา. เตเนว ภิกฺขุนีวิภงฺคฏฺกถายํ ¶ วุตฺตํ ‘‘คิรคฺคสมชฺชํ จิตฺตาคารสิกฺขาปทํ สงฺฆาณิ อิตฺถาลงฺกาโร คนฺธวณฺณโก วาสิตกปิฺาโก ภิกฺขุนีอาทีหิ อุมฺมทฺทนปริมทฺทนานีติ อิมานิ ทส สิกฺขาปทานิ อจิตฺตกานิ อกุสลจิตฺตานิ, อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย วินาปิ จิตฺเตน อาปชฺชิตพฺพตฺตา อจิตฺตกานิ, จิตฺเต ปน สติ อกุสเลเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตา โลกวชฺชานิ เจว อกุสลจิตฺตานิ จา’’ติ วุตฺตํ, ตมฺปิ ปฏิสิทฺธํ โหติ ตพฺพิปรีตสฺเสว อตฺถสฺส ยถาวุตฺตนเยน สาธนโต. ตสฺมา สุราปานสฺส อจิตฺตกปกฺเขปิ จิตฺตํ อกุสลเมวาติ อิมํ วิเสสํ ทสฺเสตุเมว อิทํ วจนํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ วตฺถุอชานนตาย เจตฺถาติ เอตฺถ จ-กาโร วิเสสตฺถโชตโก อปิจาติ อิมินา สมานตฺโถ. ตสฺมา ยทิทํ อฺเสุ อจิตฺตกโลกวชฺเชสุ วินาปิ จิตฺเตน อาปชฺชิตพฺพตฺตา อจิตฺตกานิ, จิตฺเต ปน สติ อกุสเลเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตา โลกวชฺชานิ เจว อกุสลจิตฺตานิ จาติ โลกวชฺชตาย อกุสลจิตฺตตาย จ ลกฺขณํ วุจฺจติ, ตํ เอตฺถ สุราปานสิกฺขาปเท นาคจฺฉติ, อิธ ปน วิเสโส อตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. โส กตโรติ เจ? วตฺถุอชานนตาย เอว วตฺถุชานนจิตฺเตน วินาปิ อาปชฺชิตพฺพตาย เอว อจิตฺตกตา เวทิตพฺพา, นตฺเถตฺถ อจิตฺตกตาย วิเสโส. กินฺตุ วตฺถุอชานนสงฺขาตอจิตฺตกปกฺเขปิ อกุสลจิตฺเตเนว สุราเมรยสฺส อชฺโฌหริตพฺพตายาติ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส สจิตฺตกปกฺเขปิ อจิตฺตกปกฺเขปิ โลกวชฺชตา อกุสลจิตฺตตา จ เวทิตพฺพาติ อยเมตฺถ วิเสโส. อิธ หิ ‘‘จิตฺเต ปน สตี’’ติ อวิเสเสตฺวา ‘‘อกุสเลเนวา’’ติ สามฺโต วุตฺตตฺตา อุภยปกฺเขปิ โลกวชฺชตา อกุสลจิตฺตตา จ สิทฺธาติ เวทิตพฺพา. เตเนว ปรมตฺถโชติกาย (ขุ. ปา. อฏฺ. ๒.ปจฺฉิมปฺจสิกฺขาปทวณฺณนา) ขุทฺทกฏฺกถาย สิกฺขาปทวณฺณนาย ‘‘สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานํ ¶ กายโต จ กายจิตฺตโต จาติ ทฺวิสมุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. สุราติ ชานนจิตฺตาภาเวเนว เหตฺถ จิตฺตงฺควิรหิโต เกวโลปิ กาโย เอกสมุฏฺานํ วุตฺโต, ตสฺมิฺจ เอกสมุฏฺานกฺขเณปิ ยาย เจตนาย ปิวติ, สา เอกนฺตอกุสลา เอว โหติ. เตเนว ตตฺเถว อฏฺกถายํ ‘‘ปมา เจตฺถ ปฺจ เอกนฺตอกุสลจิตฺตสมุฏฺานตฺตา ปาณาติปาตาทีนํ ปกติวชฺชโต เวรมณิโย, เสสา ปณฺณตฺติวชฺชโต’’ติ เอวํ ปฺจนฺนมฺปิ สามฺโต อกุสลจิตฺตตา โลกวชฺชตาสงฺขาตา ปกติวชฺชตา จ วุตฺตา. องฺเคสุ จ ชานนงฺคํ น วุตฺตํ. ตถา หิ ‘‘สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานสฺส ¶ ปน สุราทีนํ อฺตรํ โหติ มทนียํ, ปาตุกามตาจิตฺตฺจ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ, ตชฺชฺจ วายามํ อาปชฺชติ, ปีเต จ ปวิสตีติ อิมานิ จตฺตาริ องฺคานี’’ติ วุตฺตํ, น ปน สุราติ ชานนงฺเคน สทฺธึ ปฺจาติ. ยทิ หิ สุราติ ชานนมฺปิ องฺคํ สิยา, อวสฺสเมว ตํ วตฺตพฺพํ สิยา, น จ วุตฺตํ. ยถา เจตฺถ, เอวํ อฺาสุปิ สุตฺตปิฏกาทิอฏฺกถาสุ กตฺถจิ ชานนงฺคํ น วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย โลกวชฺชตา’’ติ อิมสฺส อฏฺกถาปาสฺส อจิตฺตกปกฺเขปิ ‘‘อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย โลกวชฺชตา’’ติ เอวเมว อตฺโถติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.
อปิจ ยํ คณฺิปเทสุ ‘‘เอตํ สตฺตํ มาเรสฺสามีติ ตสฺมึเยว ปเทเส นิปนฺนํ อฺํ มาเรนฺตสฺส ปาณสามฺสฺส อตฺถิตาย ยถา ปาณาติปาโต โหติ, เอวํ เอตํ มชฺชํ ปิวิสฺสามีติ อฺํ มชฺชํ ปิวนฺตสฺส มชฺชสามฺสฺส อตฺถิตาย อกุสลเมว โหติ, ยถา ปน กฏฺสฺาย สปฺปํ ฆาเตนฺตสฺส ปาณาติปาโต น โหติ, เอวํ นาฬิเกรปานสฺาย มชฺชํ ปิวนฺตสฺส อกุสลํ น โหตี’’ติ ปาณาติปาเตน สทฺธึ สพฺพถา สมานตฺเตน อุปเมตฺวา วุตฺตํ, ตํ อติวิย อยุตฺตํ สพฺเพสํ สิกฺขาปทานํ ปาณาติปาตาทิอกุสลานฺจ อฺมฺํ สมานตาย นิยมาภาวา. ปาณาติปาโต หิ ปริยาเยนาปิ สิชฺฌติ, น ตถา อทินฺนาทานํ. ตํ ปน อาณตฺติยาปิ สิชฺฌติ, น จ เมถุนาทีสุ. ตสฺมา ปโยคงฺคาทีหิปิ ภินฺนานเมว สํสฏฺํ สพฺพถา สมีกรณํ อยุตฺตเมว. ‘‘ปาณาติปาโต วิย อทินฺนาทานเมถุนาทีนิปิ ปริยายกถาทีหิ สิชฺฌนฺตี’’ติ เกนจิ วุตฺเต ตํ กินฺติ น คยฺหติ ตถา วจนาภาวาติ เจ? อิธาปิ ‘‘ตถา ปาณาติปาตสทิสํ สุราปาน’’นฺติ วจนาภาวา อิทมฺปิ น คเหตพฺพเมว. กิฺจิ อฏฺกถาวจเนเนว สิทฺธเมวตฺถํ ปฏิพาหนฺเตน วินยฺุนา สุตฺตสุตฺตานุโลมาทีหิ ตสฺส วิโรธํ ทสฺเสตฺวา ปฏิพาเหตพฺพํ, น ปน ปโยคงฺคาทีหิ อจฺจนฺตวิภินฺเนน สิกฺขาปทนฺตเรน สห สมีกรณมตฺเตน. น หิ ‘‘สุราติ อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺสาปิ อกุสลเมวา’’ติ เอตฺถ สุตฺตาทิวิโรโธ อตฺถิ, วินยปิฏเก ตาว เอตสฺส อตฺถสฺส วิรุทฺธํ สุตฺตาทิกํ น ทิสฺสติ, นาปิ สุตฺตปิฏกาทีสุ.
ยํ ¶ ปเนตฺถ เกจิ วทนฺติ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมาติ (ธ. ป. ๑, ๒) วุตฺตตฺตา สพฺพานิ อกุสลานิ ปุพฺเพ วีติกฺกมวตฺถุํ ชานนฺตสฺเสว โหนฺตี’’ติ. ตํ เตสํ สุตฺตาธิปฺปายานภิฺาตเมว ¶ ปกาเสติ. น หิ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ อิทํ วจนํ ปุพฺเพ วีติกฺกมวตฺถุํ ชานนฺตสฺเสว อกุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺตีติ อิมมตฺถํ ทีเปติ, อถ โข กุสลากุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปาทปจฺจยฏฺเน ปุพฺพงฺคมภูตํ สหชาตจิตฺตํ นิสฺสาเยว อุปฺปชฺชนฺติ, น วินา จิตฺเตนาติ อิมมตฺถํ ทีเปติ. น เหตฺถ ‘‘สุราติ อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺส อกุสลเมวา’’ติ วุตฺเต สหชาตจิตฺตํ วินาปิ โลภาทิอกุสลเจตสิกา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺตีติ อยมตฺโถ อาปชฺชติ. เยน ตํ นิเสธาย อิทํ สุตฺตํ อาหรณียํ สิยา, อภิธมฺมวิโรโธเปตฺถ นตฺถิ ปุพฺเพ นามชาติอาทิวเสน อชานนฺตสฺเสว ปฺจวิฺาณวีถิยํ กุสลากุสลชวนุปฺปตฺติวจนโต.
อปิจ พาลปุถุชฺชนานํ ฉสุ ทฺวาเรสุ อุปฺปชฺชมานานิ ชวนานิ เยภุยฺเยน อกุสลาเนว อุปฺปชฺชนฺติ. กุสลานิ ปน เตสํ กลฺยาณมิตฺตาทิอุปนิสฺสยพเลน อปฺปกาเนว อุปฺปชฺชนฺติ, ตุณฺหีภูตานมฺปิ นิทฺทายิตฺวา สุปินํ ปสฺสนฺตานมฺปิ อุทฺธจฺจาทิอกุสลชวนสฺเสว เยภุยฺยปฺปวตฺติโต กุสลากุสลวิรหิตสฺส ชวนสฺส เตสํ อภาวา. อกุสลา หิ วิสยานุคุณํ วาสนานุคุณฺจ ยถาปจฺจยํ สมุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ กึ ปุพฺเพ ชานนาชานนนิพทฺเธน. เย ปน ชานนาทิองฺคสมฺปนฺนา ปาณาติปาตาทโย, เย จ ชานนาทึ วินาปิ สิชฺฌมานา สุราปานมิจฺฉาทิฏฺิอาทโย, เต เต ตถา ตถา ยาถาวโต ตฺวา สมฺมาสมฺพุทฺเธน นิทฺทิฏฺา, เตสฺจ ยถานิทฺทิฏฺวเสน คหเณ โก นาม อภิธมฺมวิโรโธ. เอวํ สุตฺตาทิวิโรธาภาวโต, อฏฺกถาย จ วุตฺตตฺตา ยถาวุตฺตวเสเนเวตฺถ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ยทิ เอวํ กสฺมา ‘‘สามเณโร ชานิตฺวา ปิวนฺโต สีลเภทํ อาปชฺชติ, น อชานิตฺวา’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตนฺติ? นายํ โทโส สีลเภทสฺส ภควโต อาณายตฺตตฺตา อุกฺขิตฺตานุวตฺติกาทีนํ สีลเภโท วิย. น หิ ตาสํ อกุสลุปฺปตฺติยา เอว สีลเภโท โหติ สงฺฆายตฺตสมนุภาสนานนฺตเรเยว วิหิตตฺตา. เอวมิธาปิ ชานิตฺวา ปิวเน เอว วิหิโต, น อชานิตฺวา ปิวเน. อฺโ หิ สิกฺขาปทวิสโย, อฺโ อกุสลวิสโย. เตเนว สามเณรานํ ปุริเมสุ ปฺจสุ สิกฺขาปเทสุ เอกสฺมึ ภินฺเน สพฺพานิปิ สิกฺขาปทานิ ภิชฺชนฺติ. อกุสลํ ปน ยํ ภินฺนํ, เตน เอเกเนว โหติ, นาฺเหิ. ตสฺมา สามเณรสฺส ¶ อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺส สีลเภทาภาเวปิ กมฺมปถปฺปตฺตํ อกุสลเมวาติ คเหตพฺพํ.
ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๔๒) ‘‘สามเณรสฺส สุราติ อชานิตฺวา ¶ ปิวนฺตสฺส ปาราชิกํ นตฺถิ, อกุสลํ ปน โหตี’’ติ เกหิจิ วุตฺตวจนํ ‘‘ตํ เตสํ มติมตฺต’’นฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘ภิกฺขุโน อชานิตฺวาปิ พีชโต ปฏฺาย มชฺชํ ปิวนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. สามเณโร ชานิตฺวา ปิวนฺโต สีลเภทํ อาปชฺชติ, น อชานิตฺวาติ เอตฺตกเมว หิ อฏฺกถายํ วุตฺตํ, อกุสลํ ปน โหตีติ น วุตฺต’’นฺติ ตตฺถ การณํ วุตฺตํ, ตํ อการณํ. น หิ อฏฺกถายํ สามเณรานํ ชานิตฺวา ปิวเน เอว สีลเภโท, น อชานิตฺวาติ สีลเภทกถนฏฺาเน อกุสลํ ปน โหตีติ อวจนํ อชานนปกฺเข อกุสลาภาวสฺส การณํ โหติ, ตตฺถ ปสงฺคาภาวา, วตฺตพฺพฏฺาเน เอว ‘‘อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย โลกวชฺชตา’’ติ วุตฺตตฺตา จ. น จ เต ‘‘อกุสลํ ปน โหตี’’ติ วทนฺตา อาจริยา อิมํ สามเณรานํ สีลเภทปฺปกาสกํ ขนฺธกฏฺกถาปาเมว คเหตฺวา อโวจุํ, เยน ‘‘เอตฺตกเมว อฏฺกถายํ วุตฺต’’นฺติ วตฺตพฺพํ สิยา, อถ โข สุราปานฏฺกถาคตํ สุตฺตปิฏกฏฺกถาคตฺจ อเนกวิธํ วจนํ, มหาวิหารวาสีนํ ปรมฺปโรปเทสฺจ คเหตฺวา อโวจุํ. ภินฺนลทฺธิกานํ อภยคิริกาทีนํ มตฺเหตํ, ยทิทํ ชานิตฺวา ปิวนฺตสฺเสว อกุสลนฺติ คหณํ. ตสฺมา ยํ วุตฺตํ เกหิจิ ‘‘สามเณรสฺส สุราติ อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺส ปาราชิกํ นตฺถิ, อกุสลํ ปน โหตี’’ติ, ตํ สุวุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
ยฺจ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๔๒) ‘‘อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺสาปิ โสตาปนฺนสฺส มุขํ สุรา น ปวิสติ กมฺมปถปฺปตฺตอกุสลจิตฺเตเนว ปาตพฺพโต’’ติ เกหิจิ วุตฺตวจนํ ‘‘น สุนฺทร’’นฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘โพธิสตฺเต กุจฺฉิคเต โพธิสตฺตมาตุ สีลํ วิย หิ อิทมฺปิ อริยสาวกานํ ธมฺมตาสิทฺธนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ธมฺมตาสิทฺธตฺตํเยว สมตฺเถตุํ ‘‘ภวนฺตเรปิ หิ อริยสาวโก ชีวิตเหตุปิ เนว ปาณํ หนติ, น สุรํ ปิวติ. สเจ ปิสฺส สุรฺจ ขีรฺจ มิสฺเสตฺวา มุเข ปกฺขิปนฺติ, ขีรเมว ปวิสติ, น สุรา. ยถา กึ? ยถา โกฺจสกุณานํ ขีรมิสฺสเก อุทเก ขีรเมว ปวิสติ, น อุทกํ. อิทํ โยนิสิทฺธนฺติ เจ, อิทมฺปิ ธมฺมตาสิทฺธนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติ อิทํ อฏฺกถาวจนํ ทสฺสิตํ, ตมฺปิ น ยุตฺตเมว. ยถา หิ โพธิสตฺตมาตุ สีลํ วิย อริยสาวกานํ ธมฺมตาสิทฺธนฺติ เอตฺถ ¶ โพธิสตฺตมาตุ ธมฺมตา นาม โพธิสตฺตสฺส จ อตฺตโน จ ปารมิตานุภาเวน อกุสลานุปฺปตฺตินิยโม เอว. ตถา อริยสาวกานมฺปิ ภวนฺตเร ปาณาติปาตาทีนํ ทสนฺนํ กมฺมปถานํ อฺเสฺจ อปายเหตุกานํ อกุสลานํ อจฺจนฺตปฺปหายกสฺส มคฺคสฺส อานุภาเวน ตํตํสีลวีติกฺกมเหตุกสฺส อกุสลสฺส อนุปฺปตฺตินิยโม เอว ธมฺมตา. น หิ สภาววาทีนํ ธมฺมตา วิย อเหตุกตา อิธ ธมฺมตา นาม. ยถา วา เอวํธมฺมตานเย การณสฺส ภาเว อภาเว จ การิยสฺส ภาโว อภาโว จ ธมฺมตา, น อเหตุอปฺปจฺจยาภาวาภาโว, เอวมิธาปิ ปาณาติปาตาทิกมฺมปถานํ เหตุภูตสฺส กิเลสสฺส อจฺจนฺตาภาเวน เตสํ อภาโว, ตทวเสสานํ อกุสลานํ เหตุโน ภาเวน ภาโว จ ธมฺมตา ¶ , น อเหตุกตา. ตสฺมา อปายเหตุโน ราคสฺส อภาเวเนว อริยานํ อชานิตฺวาปิ สุราย อนชฺโฌหรณนฺติ สุวุตฺตเมวิทํ เกหิจิ ‘‘อชานิตฺวา ปิวนฺตสฺสาปิ โสตาปนฺนสฺส มุขํ สุรา น ปวิสติ กมฺมปถปฺปตฺตอกุสลจิตฺเตเนว ปาตพฺพโต’’ติ, ตํ เกน เหตุนา น สุนฺทรํ ชาตนฺติ น ายติ, ธมฺมตาสิทฺธนฺติ วา กถเนน กถํ ตํ ปฏิกฺขิตฺตนฺติ.
ยมฺปิ ทีฆนิกายฏฺกถายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๓๕๒) ‘‘สุรฺจ ขีรฺจ มิสฺเสตฺวา…เป… อิทํ ธมฺมตาสิทฺธ’’นฺติ วจนํ, ตมฺปิ สุราปานสฺส อจิตฺตกปกฺเขปิ อกุสลจิตฺตฺเว สาเธติ. ตถา หิ ‘‘ภวนฺตเรปิ หิ อริยสาวโก ชีวิตเหตุปิ ปาณํ น หนติ, นาทินฺนํ อาทิยติ…เป… น สุรํ ปิวตี’’ติ วุตฺเต ‘‘ปุริมานํ ตาว จตุนฺนํ กมฺมปถานํ สจิตฺตกตฺตา วิรมณํ สุกรํ, ปจฺฉิมสฺส ปน สุราปานสฺส อจิตฺตกตฺตา กถํ วิรมณํ ภเวยฺยา’’ติ โจทนาสมฺภวํ มนสิกตฺวา วตฺถุอชานนวเสน อจิตฺตกตฺเตปิ ยสฺมา กมฺมปถปฺปตฺตอกุสเลเนว สุรา อชฺโฌหริตพฺพา, ตาทิสี จ อกุสลปฺปวตฺติ อริยสาวกสฺส มคฺเคเนว หตา, ตสฺมาสฺส ปรคลํ สุราย ปวิสนํ นตฺถีติ อตฺถโต คมฺยมานตฺถํ ปริหารวจนํ วทตา ‘‘สเจ ปิสฺส สุรฺจ ขีรฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ขีรเมว ปวิสติ, น สุราติ อิทํ สุราย สพฺพถาปิ ปรคลปฺปเวสาภาวทสฺสนปรํ, น ปน สุรามิสฺสขีรสฺส สุราย วิโยชนสามตฺถิยทสฺสนปรํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – ยทิ หิ สุรามิสฺเส ขีเร กิฺจิ ปวิเสยฺย, ขีรเมว ปวิเสยฺย, น สุรา. ขีเร ปน สุราย อวิยุตฺเต น กิฺจิ ปวิสตีติ ¶ . อิทํ โยนิสิทฺธนฺติ อุทกสฺส มุเข อปฺปวิสนํ โยนิสิทฺธํ. โยนีติ เจตฺถ ชาติ อธิปฺเปตา. ตสฺมา โกฺจชาติกานํ มุขตุณฺฑสงฺขาตานํ รูปธมฺมานํ ขีรมิสฺสอุทกชฺโฌหรณเหตุตฺตาภาเวน ตํ อปฺปวิสนํ สิทฺธนฺติ อตฺโถ. อิทมฺปิ หิ ขีรมิสฺสาย สุราย ขีเร ปวิสนฺเตปิ ปรคลาปวิสนนฺติ. ธมฺมตาสิทฺธนฺติ อริยสาวกสฺส อรูปธมฺมานํ สุราปิวนเหตุภูตกิเลสสหิตตฺตาภาวสงฺขาตาย ธมฺมตาย สิทฺธํ. เอวเมตฺถ อจิตฺตกปกฺเขปิ สุราย อกุสลจิตฺเตเนว ปาตพฺพโต อริยสาวกานํ อปิวนํ สมตฺถิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อถาปิ สิยา อชานนปกฺเข อกุสลจิตฺเตน วินาว ปาตพฺพตฺเตปิ สุราย อปิวนํ อริยานํ ธมฺมตาติ ¶ สมตฺถนปรเมตนฺติ, ตํ น, อฏฺกถาวจนนฺตเรหิ วิรุชฺฌนโต. ยถา หิ วจนนฺตเรหิ น วิรุชฺฌติ, ตถาเยว อตฺโถ คเหตพฺโพ.
อปิจ ปาณาติปาตาทีนํ ปฺจนฺนํ กมฺมปถานํ ภวนฺตเรปิ อกรณํ อริยานํ ธมฺมตาสีลเมว, เตสฺจ ยทิ สจิตฺตกตํ สมานํ. สุราปานํ วิย อิตรานิปิ จตฺตาริ อชานนฺเตนาปิ อริยสาวเกน น กตฺตพฺพานิ สิยุํ, ตถา จ อชานนฺตานํ อริยานํ กุสลาพฺยากตจิตฺเตหิปิ วิรมณปรมารณปรสนฺตกคหณาทีสุ กายวจีปวตฺติ น สมฺปชฺเชยฺย, โน เจ สมฺปชฺชติ, จกฺขุปาลตฺเถรสฺส จงฺกมเนน ปาณวิโยคสฺส, อุปฺปลวณฺณตฺเถริยา พลกฺกาเรน มคฺเคนมคฺคผุสนสฺส จ ปวตฺตตฺตา. ตสฺมา สุราปานสฺส อจิตฺตกปกฺเขปิ อกุสเลเนว ปาตพฺพตาย สุรา อริยานํ ปรคลํ น ปวิสตีติ วิเสเสตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
นนุ วตฺถุํ ชานนฺตสฺเสว สพฺเพ กมฺมปถา วุตฺตาติ? น, มิจฺฉาทิฏฺิยา วิปรีตคฺคหเณเนว ปวตฺตตฺตา. กถฺหิ นาม อสพฺพฺุํ สพฺพฺุโต, อนิจฺจาทึ นิจฺจาทิโต จ คหณนฺตี ทิฏฺิ วตฺถุํ วิชานาติ. ยทิ หิ ชาเนยฺย, มิจฺฉาทิฏฺิเยว น สิยา. สา จ กมฺมปเถสุ คณิตาติ กุโต ชานนฺตสฺเสว กมฺมปถปฺปวตฺตินิยโม. อถ สพฺพฺุํ สพฺพฺูติ คณฺหนฺตีปิ ‘‘อยํ สตฺโต’’ติ ตสฺส สรูปคฺคหณโต ทิฏฺิปิ วตฺถุํ วิชานาตีติ เจ? น, สุราปานสฺสปิ ‘‘อยํ น สุรา’’ติ สรูปคฺคหณสฺส สมานตฺตา. ‘‘อย’’นฺติ จ วตฺถุปรามสเนปิ ‘‘สุรา’’ติ วิเสสวิชานนาภาวา น ชานาตีติ เจ? ‘‘อย’’นฺติ ปุคฺคลตฺตํ ชานนฺตีปิ ‘‘อสพฺพฺู’’ติปิ วิเสสชานนาภาวา ทิฏฺิปิ วตฺถุํ น ชานาตีติ สมานเมว. เอวฺหิ เตสํ ¶ พุทฺธาติ อหิโตติ อหิตํ วา ปูรณกสฺสปาทึ หิโต ปฏิฆสฺส วา อนุนยสฺส วา อุปฺปาทเนปิ เอเสว นโย. วิปลฺลาสปุพฺพกฺหิ สพฺพํ อกุสลํ.
อปิจ สุราย ปียมานาย นิยเมน อกุสลุปฺปาทนํ สภาโว ปีตาย วิย. ขีราทิสฺาย ปีตสุรสฺส ปุคฺคลสฺส มาตุภคินิอาทีสุปิ ราคโทสาทิอกุสลปฺปพนฺโธ วตฺถุสภาเวเนว อุปฺปชฺชติ, เอวํ ปียมานกฺขเณปิ ติขิโณ ราโค อุปฺปชฺชเตว, เตเนว สาคตตฺเถรสฺส อชานิตฺวา ปิวนกาเล ปฺจาภิฺาทิฌานปริหานิ, ปจฺฉา จ พุทฺธาทีสุ อคารวาทิอกุสลปฺปพนฺโธ ยาว สุราวิคมา ปวตฺติตฺถ. เตเนว ภควาปิ ตสฺส อคารวาทิอกอุสลปฺปวตฺติทสฺสนมุเขน สุราโทสํ ปกาเสตฺวา สิกฺขาปทํ ปฺเปสิ. น หิ ปฺจนีวรณุปฺปตฺตึ วินา ฌานปริหานิ โหติ. ตสฺมา อชานนฺตสฺสาปิ สุรา ปียมานา ปีตา จ อตฺตโน สภาเวเนว อกุสลุปฺปาทิกาติ อยมตฺโถ สาคตตฺเถรสฺส ฌานปริหานิยา อนฺวยโตปิ, อริยานํ กิเลสาภาเวน มุเขน สุราย อปฺปเวสสงฺขาตพฺยติเรกโตปิ สิชฺฌตีติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ, เอวํ คหณเมว หิ วิภชฺชวาทีมตานุสารํ.
ยํ ปน ‘‘ชานิตฺวา ปิวนฺตสฺเสว อกุสล’’นฺติ คหณํ, ตํ ภินฺนลทฺธิกานํ อภยคิริกาทีนเมว ¶ มตํ, ตํ ปน คณฺิปทการกาทีหิ ‘‘ปรวาโท’’ติ อชานนฺเตหิ อตฺตโน มติยา สํสนฺทิตฺวา ลิขิตํ วิภชฺชวาทีมณฺฑลมฺปิ ปวิสิตฺวา ยาวชฺชตนา สาสนํ ทูเสติ, ปุราปิ กิร อิมสฺมิมฺปิ ทมิฬรฏฺเ โกจิ ภินฺนลทฺธิโก นาคเสโน นาม เถโร กุณฺฑลเกสีวตฺถุํ ปรวาทมถนนยทสฺสนตฺถํ ทมิฬกพฺพรูเปน กาเรนฺโต ‘‘อิมํ สุราปานสฺส ชานิตฺวาว ปิวเน อกุสลนยํ, อฺฺจ เทสกาลาทิเภเทน อนนฺตมฺปิ เยฺยํ สพฺพฺุตฺาณํ สลกฺขณวเสเนว าตุํ น สกฺโกติ าเณน ปริจฺฉินฺนตฺเตน เยฺยสฺส อนนฺตตฺตหานิปฺปสงฺคโต. อนิจฺจาทิสามฺลกฺขณวเสเนว ปน าตุํ สกฺโกตี’’ติ จ, ‘‘ปรมตฺถธมฺเมสุ นามรูปนฺติอาทิเภโท วิย ปุคฺคลาทิสมฺมุติปิ วิสุํ วตฺถุเภโท เอวา’’ติ จ เอวมาทิกํ พหุํ วิปรีตตฺถนยํ กพฺพาการสฺส กวิโน อุปทิสิตฺวา ตสฺมึ ปพนฺเธ การณาภาเสหิ สตึ สมฺโมเหตฺวา ปพนฺธาเปสิ, ตฺจ กพฺพํ นิสฺสาย อิมํ ภินฺนลทฺธิกมตํ อิธ วิภชฺชวาทีมเต ¶ สมฺมิสฺสํ จิรํ ปวตฺติตฺถ. ตํ ปน ปจฺฉา อาจริยพุทฺธปฺปิยมหาเถเรน พาหิรพฺภริกํ ทิฏฺิชาลํ วิฆาเฏตฺวา อิธ ปริสุทฺธํ สาสนํ ปติฏฺาเปนฺเตน โสธิตมฺปิ สารตฺถทีปนิยา (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๔๒) วินยฏีกาย สุราปานสฺส สจิตฺตกปกฺเขเยว จิตฺตํ อกุสลนฺติ สมตฺถนวจนํ นิสฺสาย เกหิจิ วิปลฺลตฺตจิตฺเตหิ ปุน อุกฺขิตฺตสิรํ ชาตํ, ตฺจ มหาเถเรหิ วินิจฺฉินิตฺวา คารยฺหวาทํ กตฺวา มทฺทิตฺวา ลทฺธิคาหเก จ ภิกฺขู วิโยเชตฺวา ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน จิเรเนว วูปสมิตํ. เตเนเวตฺถ มยํ เอวํ วิตฺถารโต อิทํ ปฏิกฺขิปิมฺห ‘‘มา อฺเปิ วิภชฺชวาทิโน อยํ ลทฺธิ ทูเสสี’’ติ. ตสฺมา อิธ วุตฺตานิ อวุตฺตานิ จ การณานิ สุฏฺุ สลฺลกฺเขตฺวา ยถา อาคมวิโรโธ น โหติ, ตถา อตฺโถ คเหตพฺโพ.
เสสนฺติ ยสฺส วตฺถุวิชานนจิตฺเตน สจิตฺตกปกฺเขปิ จิตฺตํ อกุสลเมวาติ นิยโม นตฺถิ, ตํ สพฺพนฺติ อตฺโถ. รุนฺธนฺตีติ ‘‘ติรจฺฉานคติตฺถิยา โทโส นตฺถี’’ติอาทินา อนาปตฺติยา เลสคฺคหณํ นิวาเรนฺตี. ทฺวารํ ปิทหนฺตีติ ‘‘ตฺจ โข มนุสฺสิตฺถิยา’’ติอาทินา (ปารา. ๔๑) เลสคฺคหณสฺส การณสงฺขาตํ ทฺวารํ ปิทหนฺตี. โสตํ ปจฺฉินฺทมานาติ ตทุภยเลสคฺคหณทฺวารานํ วเสน อวิจฺฉินฺนํ วีติกฺกมโสตํ ปจฺฉินฺทมานา. คาฬฺหตรํ กโรนฺตีติ ยถาวุตฺเตหิ การเณหิ ปมปฺตฺติสิทฺธํ อาปตฺติฺเว ทฬฺหํ กโรนฺตี, อนาปตฺติยา โอกาสํ อททมานาติ อตฺโถ. สา จ ยสฺมา วีติกฺกมาภาเว, อวิสยตาย อพฺโพหาริเก วีติกฺกเม จ โลกวชฺเชปิ สิถิลํ กโรนฺตี อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ตถา อุปฺปตฺตึ อุปฺปตฺติการณฺจ ทสฺเสนฺโต อาห อฺตฺร อธิมานาติอาทิ. อฺตฺร อธิมานาติ อิมิสฺสา อนุปฺตฺติยา ‘‘วีติกฺกมาภาวา’’ติ การณํ วุตฺตํ. อฺตฺร สุปินนฺตาติ อิมิสฺสา ‘‘อพฺโพหาริกตฺตา’’ติ การณํ วุตฺตํ. ตตฺถ วีติกฺกมาภาวาติ ปาปิจฺฉาย อวิชฺชมานสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส วิชฺชมานโต ¶ ปกาสนวสปฺปวตฺตวิสํวาทนาธิปฺปายสงฺขาตสฺส วีติกฺกมสฺส อภาวโต. อธิมานิกสฺส หิ อนธิคเต อธิคตสฺิตาย ยถาวุตฺตวีติกฺกโม นตฺถิ. อพฺโพหาริกตฺตาติ ‘‘อตฺเถสา, ภิกฺขเว, เจตนา, สา จ โข อพฺโพหาริกา’’ติ (ปารา. ๒๓๕) วจนโต โมจนสฺสาทเจตนาย อุปกฺกมนสฺส จ วิชฺชมานตฺเตปิ ถินมิทฺเธน อภิภูตตาย ¶ อวสตฺเตน อพฺโพหาริกตฺตา, อาปตฺติการณโวหาราภาวาติ อตฺโถ. วา-สทฺโท เจตฺถ สมุจฺจยตฺโถ ทฏฺพฺโพ, ‘‘อพฺโพหาริกตฺตา จา’’ติ วา ปาโ. วุตฺตาติ ทุวิธาปิ เจสา อนุปฺตฺติ อนาปตฺติกรา วุตฺตาติ อธิปฺปาโย.
อกเต วีติกฺกเมติ อาปทาสุปิ ภิกฺขูหิ สิกฺขาปทวีติกฺกเม อกเต, กุกฺกุจฺจา น ภฺุชึสูติอาทีสุ วิย วีติกฺกมํ อกตฺวา ภิกฺขูหิ อตฺตโน ทุกฺขุปฺปตฺติยา อาโรจิตายาติ อตฺโถ. สิถิลํ กโรนฺตีติ ปมํ สามฺโต พทฺธสิกฺขาปทํ โมเจตฺวา อตฺตโน วิสเย อนาปตฺติกรณวเสน สิถิลํ กโรนฺตี. ทฺวารํ ททมานาติ อนาปตฺติยา ทฺวารํ ททมานา. อปราปรมฺปิ อนาปตฺตึ กุรุมานาติ ทินฺเนน เตน ทฺวาเรน อุปรูปริ อนาปตฺติภาวํ ทีเปนฺตี. ปฺตฺเตปิ สิกฺขาปเท อุทายินา ‘‘มุหุตฺติกาย เวสิยา น โทโส’’ติ เลเสน วีติกฺกมิตฺวา สฺจริตฺตาปชฺชนวตฺถุสฺมึ (ปารา. ๒๙๖ อาทโย) ปฺตฺตตฺตา ‘‘กเต วีติกฺกเม’’ติ วุตฺตํ. ปฺตฺติคติกาติ อตฺถโต มูลปฺตฺติเยวาติ อธิปฺปาโย.
มกฺกฏีวตฺถุกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
สนฺถตภาณวาโร
วชฺชิปุตฺตกวตฺถุกถาวณฺณนา
๔๓-๔๔. วชฺชิปุตฺตกวตฺถุกถาย ปาฬิยํ ‘‘เวสาลิกา…เป… เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวึสู’’ติ เอตฺถ เต าติกุลํ คนฺตฺวา คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา ‘‘คิหิภูตา มย’’นฺติ สฺาย เมถุนํ ปฏิเสวึสูติ คเหตพฺพํ, เตนาห าติพฺยสเนนปิ ผุฏฺาติอาทิ. าตีนํ วินาโส ราชทณฺฑาทิการเณน โหตีติ อาห ราชทณฺฑอิจฺจาทิ. ธฺหิรฺทาสิทาสโคมหึสาทิธนานิ โภคา นาม, เตสมฺปิ ราชทณฺฑาทินาว วินาโสติ อาห ‘‘เอส นโย ทุติยปเทปี’’ติ. น สพฺพฺุพุทฺโธติอาทินา ¶ ตีสุ วตฺถูสุ อปฺปสนฺนาว สาสเน อภพฺพาติ สฺาย อตฺตโน ภพฺพตํ ปกาเสนฺตา น มยนฺติอาทิมาหํสูติ เวทิตพฺพํ. ‘‘อฏฺตึสารมฺมเณสู’’ติ ปาฬิยํ อนาคเต อาโลกากาสกสิเณ วชฺเชตฺวา วุตฺตํ, เตหิ ปน ¶ สทฺธึ จตฺตาลีส โหนฺติ. วิภตฺตา กุสลา ธมฺมาติ ‘‘อิมสฺมึ อารมฺมเณ อิทํ โหตี’’ติ วิภาคโส ทสฺสิตา สอุปจารชฺฌานา มหคฺคตกุสลา ธมฺมา. คิหิปลิโพธนฺติ สหโสกิตาทิวเสน คิหีสุ พฺยาวฏตํ. อาวาสปลิโพธนฺติ เสนาสเนสุ นวกมฺมาทิวเสน นิจฺจพฺยาวฏตํ. ทุปฺปริจฺจาคานํ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปลิโพธานํ วเสน สพฺเพปิ ปลิโพธา สงฺคหิตา เอวาติ เวทิตพฺพํ.
เยนาติ การเณน. อสํวาโสติ อิทํ ตสฺมึ อตฺตภาเว เกนจิปิ ปริยาเยน ภิกฺขุ หุตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาสํ นารหตีติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อสํวาโส’’ติ. ปฺตฺตํ สมูหเนยฺยาติ ‘‘โส อาคโต น ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ อวตฺวา ‘‘น อุปสมฺปาเทตพฺโพ’’ติ เอตฺตกสฺเสว วุตฺตตฺตา ปาราชิกสฺส สามเณรภูมิ อนฺุาตาติ วิฺายติ, เตนาห สามเณรภูมิยํ ปน ิโตติอาทิ. ‘‘โย ปน ภิกฺขู’’ติ วุตฺตตฺตา (ปารา. ๓๙) ปจฺจกฺขาตสิกฺโข ยสฺมา ภิกฺขุ น โหติ, เมถุนเสวเน จ ปาราชิกํ นาปชฺชติ, ตสฺมาสฺส ‘‘อาคโต อุปสมฺปาเทตพฺโพ’’ติ อุปสมฺปทํ อนุชานนฺโต ปาราชิกํ น สมูหนติ นาม, เตนาห ‘‘ภิกฺขุภาเว ตฺวา อวิปนฺนสีลตายา’’ติ. อุตฺตมตฺถํ อรหตฺตํ, นิพฺพานเมว วา.
จตุพฺพิธวินยาทิกถาวณฺณนา
๔๕. นีหริตฺวาติ ปาฬิโต อุทฺธริตฺวา, ตถา หิ ‘‘ปฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นานุยฺุชิตพฺพํ. กตเมหิ ปฺจหิ? สุตฺตํ น ชานาติ, สุตฺตานุโลมํ น ชานาตี’’ติอาทิปาฬิโต สุตฺตํ สุตฺตานุโลมฺจ นีหรึสุ. ‘‘อนาปตฺติ เอวํ อมฺหากํ อาจริยานํ อุคฺคโห ปริปุจฺฉาติ ภณตี’’ติ เอวมาทิโต อาจริยวาทํ. ‘‘อายสฺมา อุปาลิ เอวมาห – ‘อนาปตฺติ, อาวุโส, สุปินนฺเตนา’ติ’’ เอวมาทิโต อตฺตโน มตึ นีหรึสุ, สา จ เถรสฺส อตฺตโนมติ สุตฺเตน สงฺคหิตตฺตา สุตฺตํ ชาตํ, เอวมฺาปิ สุตฺตาทีหิ สงฺคหิตาว คเหตพฺพา, เนตราติ เวทิตพฺพํ. อถ วา นีหริตฺวาติ วิภชิตฺวา สาฏฺกถํ สกลํ วินยปิฏกํ สุตฺตาทีสุ จตูสุ ปเทเสสุ ปกฺขิปิตฺวา จตุธา วิภชิตฺวา วินยํ ปกาเสสุํ ¶ ตพฺพินิมุตฺตสฺส อภาวาติ อธิปฺปาโย. วุตฺตนฺติ นาคเสนตฺเถเรน มิลินฺทปฺเห วุตฺตํ. กณฺาทิวณฺณุปฺปตฺติฏฺานกรณาทีหิ อาหริตฺวา อตฺตโน วจีวิฺตฺติยาว ภาสิตวจนํ อาหจฺจปทํ. รโสติ สาโร ‘‘ปตฺตรโส’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๖๒๘-๖๓๐) วิย, ปฏิกฺขิตฺตอนฺุาตสุตฺตสาโรติ ¶ อตฺโถ, รโสติ วา ลกฺขณํ ปฏิวตฺถุกํ อนุทฺธริตฺวา ลกฺขณานุโลเมน วุตฺตตฺตา. ธมฺมสงฺคาหกาทิอาจริยวํเสน อาภตา อฏฺกถา อาจริยวํโสติ อาห ‘‘อาจริยวํโสติ อาจริยวาโท’’ติ.
วินยปิฏเก ปาฬีติ อิธ อธิการวเสน วุตฺตํ. เสสปิฏเกสุปิ สุตฺตาทิจตุนยา ยถานุรูปํ ลพฺภนฺเตว. มหาปเทสาติ มหาโอกาสา มหาวิสยา, เต อตฺถโต ‘‘ยํ, ภิกฺขเว’’ติอาทิปาฬิวเสน อกปฺปิยานุโลมโต กปฺปิยานุโลมโต จ ปุคฺคเลหิ นยโต ตถา ตถา คยฺหมานา อตฺถนยา เอว. เต หิ ภควตา สรูปโต อวุตฺเตสุปิ ปฏิกฺขิตฺตานุโลเมสุ, อนฺุาตานุโลเมสุ จ เสเสสุ กิจฺเจสุ นิวตฺติปวตฺติเหตุตาย มหาโคจราติ ‘‘มหาปเทสา’’ติ วุตฺตา, น ปน ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, มยา อิทํ น กปฺปตี’’ติอาทินา วุตฺตา สาธิปฺปายา ปาฬิเยว ตสฺสา สุตฺเต ปวิฏฺตฺตา. ‘‘สุตฺตานุโลมมฺปิ สุตฺเต โอตาเรตพฺพํ…เป… สุตฺตเมว พลวตร’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๔๕) หิ วุตฺตํ, น เหสา สาธิปฺปายา ปาฬิ สุตฺเต โอตาเรตพฺพา, น คเหตพฺพา วา โหติ, เยนายํ สุตฺตานุโลมํ สิยา. ตสฺมา อิมํ ปาฬิอธิปฺปายํ นิสฺสาย ปุคฺคเลหิ คหิตา ยถาวุตฺตอตฺถาว สุตฺตานุโลมํ. ตปฺปกาสกตฺตา ปน อยํ ปาฬิปิ สุตฺตานุโลมนฺติ คเหตพฺพํ, เตนาห เย ภควตา เอวํ วุตฺตาติอาทิ. ยํ ภิกฺขเวติอาทิปาฬินเยน หิ ปุคฺคเลหิ คเหตพฺพา เย อกปฺปิยานุโลมาทโย อตฺถา วุตฺตา, เต มหาปเทสาติ อตฺโถ.
ภควโต ปกิณฺณกเทสนาภูตา จ สุตฺตานุโลมภูตา จ อฏฺกถา. ยสฺมา ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปาฬิวณฺณนากฺกเมน สงฺคเหตฺวา วุตฺตา, ตสฺมา ‘‘อาจริยวาโท’’ติ วุตฺตา, เอเตน จ อฏฺกถา สุตฺตสุตฺตานุโลเมสุ อตฺถโต สงฺคยฺหตีติ เวทิตพฺพา. ยถา จ เอสา, เอวํ อตฺตโนมติปิ ปมาณภูตา. น หิ ภควโต วจนํ วจนานุโลมฺจ อนิสฺสาย อคฺคสาวกาทโยปิ อตฺตโน าณพเลน สุตฺตาภิธมฺมวินเยสุ ¶ กฺจิ สมฺมุติปรมตฺถเภทํ อตฺถํ วตฺตุํ สกฺโกนฺติ, ตสฺมา สพฺพมฺปิ วจนํ สุตฺเต สุตฺตานุโลเม จ สงฺคยฺหติ. วิสุํ ปน อฏฺกถาทีนํ สงฺคหิตตฺตา ตทวเสสํ สุตฺตสุตฺตานุโลมโต คเหตฺวา จตุธา วินโย นิทฺทิฏฺโ. สุตฺตาทโย นิสฺสาเยว ปวตฺตาปิ อตฺตโนมติ เตสุ สรูเปน อนาคตตฺตา วุตฺตํ ‘‘สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาเท มฺุจิตฺวา’’ติ, เตนาห ‘‘อนุพุทฺธิยา นยคฺคาเหนา’’ติ. ตตฺถ สุตฺตาทีนิ อนุคตาย เอว พุทฺธิยา เตหิ ลทฺธนยคฺคาเหน จาติ อตฺโถ.
เถรวาโทติ มหาสุมตฺเถราทีนํ คาโห. สุตฺตาทึ นิสฺสาเยว วิปรีตโตปิ อตฺตโนมติ อุปฺปชฺชตีติ ¶ อาห ตํ ปนาติอาทิ. อตฺเถนาติ อตฺตนา นยคฺคหิเตน อตฺเถน. ปาฬินฺติ อตฺตโน คาหสฺส นิสฺสยภูตํ สาฏฺกถํ ปาฬึ. ปาฬิยาติ ตปฺปฏิกฺเขปตฺถํ ปเรนาหฏาย สาฏฺกถาย ปาฬิยา, อตฺตนา คหิตํ อตฺถํ นิสฺสาย ปาฬิฺจ สํสนฺทิตฺวาติ อตฺโถ. อาจริยวาเทติ อตฺตนา ปเรน จ สมุทฺธฏอฏฺกถาย. โอตรติ เจว สเมติ จาติ อตฺตนา อุทฺธเฏหิ สํสนฺทนวเสน โอตรติ, ปเรน อุทฺธเฏน สเมติ. สพฺพทุพฺพลาติ อสพฺพฺุปุคฺคลสฺส โทสวาสนาย ยาถาวโต อตฺถสมฺปฏิปตฺติอภาวโต วุตฺตํ. ปมาทปาวเสน อาจริยวาทสฺส สุตฺตานุโลเมน อสํสนฺทนาปิ สิยาติ อาห ‘‘อิตโร น คเหตพฺโพ’’ติ.
สเมนฺตเมว คเหตพฺพนฺติ เย สุตฺเตน สํสนฺทนฺติ, เอวรูปาว อตฺถา มหาปเทสโต อุทฺธริตพฺพาติ ทสฺเสติ ตถา ตถา อุทฺธฏอตฺถานเมว สุตฺตานุโลมตฺตา, เตนาห ‘‘สุตฺตานุโลมโต หิ สุตฺตเมว พลวตร’’นฺติ. อปฺปฏิวตฺติยนฺติ อปฺปฏิพาหิยํ. การกสงฺฆสทิสนฺติ ปมาณตฺตา สงฺคีติการกสงฺฆสทิสํ. พุทฺธานํ ิตกาลสทิสนฺติ ธรมานกพุทฺธสทิสนฺติ อตฺโถ. สกวาที สุตฺตํ คเหตฺวา กเถตีติอาทีสุ โย ยถาภูตมตฺถํ คเหตฺวา กถนสีโล, โส สกวาที. สุตฺตนฺติ สงฺคีติตฺตยารุฬฺหํ ปาฬิวจนํ. ปรวาทีติ มหาวิหารวาสี วา โหตุ อฺนิกายวาสี วา, โย วิปรีตโต อตฺถํ คเหตฺวา กถนสีโล, โสว อิธ ‘‘ปรวาที’’ติ วุตฺโต. สุตฺตานุโลมนฺติ สงฺคีติตฺตยารุฬฺหํ วา อนารุฬฺหํ วา ยํกิฺจิ วิปลฺลาสโต วา วฺจนาย วา ‘‘สงฺคีติตฺตยาคตมิท’’นฺติ ทสฺสิยมานํ สุตฺตานุโลมํ. เกจิ ‘‘อฺนิกาเย สุตฺตานุโลม’’นฺติ ¶ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ สกวาทีปรวาทีนํ อุภินฺนมฺปิ สงฺคีติตฺตยารุฬฺหสุตฺตาทีนํ เอว คเหตพฺพโต. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺหํ ปาฬิอาคตํ ปฺายติ, คเหตพฺพ’’นฺติอาทิ. น หิ สกวาที อฺนิกายสุตฺตาทึ ปมาณโต คณฺหาติ, เยน เตสุ สุตฺตาทีสุ ทสฺสิเตสุ ตตฺถ าตพฺพํ ภเวยฺย, วกฺขติ จ ‘‘ปโร ตสฺส อกปฺปิยภาวสาธกํ สุตฺตโต พหุํ การณฺจ วินิจฺฉยฺจ ทสฺเสติ…เป… ‘สาธู’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อกปฺปิเยเยว าตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๔๕). ตสฺมา ปรวาทินาปิ สงฺคีติตฺตเย อนารุฬฺหมฺปิ อนารุฬฺหมิจฺเจว ทสฺสียติ, เกวลํ ตสฺส ตสฺส สุตฺตาทิโน สงฺคีติตฺตเย อนาคตสฺส กูฏตา, อาคตสฺส จ พฺยฺชนจฺฉายาย อฺถา อธิปฺปายโยชนา จ วิเสโส. ตตฺถ จ ยํ กูฏํ, ตํ อปนียติ. ยํ อฺถา โยชิตํ, ตสฺส วิปรีตตาสนฺทสฺสนตฺถํ ตทฺเน สุตฺตาทินา สํสนฺทนา กรียติ. โย ปน ปรวาทินา คหิโต อธิปฺปาโย สุตฺตนฺตาทินา สํสนฺทติ, โส สกวาทินาปิ อตฺตโน คาหํ วิสฺสชฺเชตฺวา คเหตพฺโพติ อุภินฺนมฺปิ สงฺคีติตฺตยาคตเมว สุตฺตาทิปมาณนฺติ เวทิตพฺพํ. เตเนว กถาวตฺถุปฺปกรเณ สกวาเท ปฺจ สุตฺตสตานิ ปรวาเท ปฺจาติ (ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา; กถา. อฏฺ. นิทานกถา) ¶ สุตฺตสหสฺสมฺปิ อธิปฺปายคฺคหณนานตฺเตน สงฺคีติตฺตยาคตเมว คหิตํ, น นิกายนฺตเร กิฺจีติ.
เขปนฺติ ‘‘กึ อิมินา’’ติ ปฏิกฺเขปํ ฉฑฺฑนํ. ครหนฺติ ‘‘กิเมส พาโล ชานาตี’’ติ นินฺทนํ. สุตฺเต โอตาเรตพฺพนฺติ ยสฺส สุตฺตสฺส อนุโลมนโต อิทํ สุตฺตานุโลมํ อกาสิ, ตสฺมึ, ตทนุรูเป วา อฺตรสฺมึ สุตฺเต อตฺตนา คหิตํ สุตฺตานุโลมํ อตฺถโต สํสนฺทนวเสน โอตาเรตพฺพํ, ‘‘อิมินา จ อิมินา จ การเณน อิมสฺมึ สุตฺเต สํสนฺทตี’’ติ สํสนฺทิตฺวา ทสฺเสตพฺพนฺติ อตฺโถ. อยนฺติ สกวาที. ปโรติ ปรวาที. อาจริยวาโท สุตฺเต โอตาเรตพฺโพติ ยสฺส สุตฺตสฺส วณฺณนาวเสน อยํ อาจริยวาโท ปวตฺโต, ตสฺมึ, ตาทิเส จ อฺตรสฺมึ สุตฺเต ปุพฺพาปรอตฺถสํสนฺทนวเสน โอตาเรตพฺพํ. คารยฺหาจริยวาโทติ ปมาทลิขิโต, ภินฺนลทฺธิเกหิ วา ปิโต, เอส นโย สพฺพตฺถ.
ยํ กิฺจิ กูฏสุตฺตํ พาหิรกสุตฺตาทิวจนํ น คเหตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ สุตฺตํ สุตฺตานุโลเม โอตาเรตพฺพนฺติอาทิ วุตฺตํ. คุฬฺหเวสฺสนฺตราทีนิ มหาสงฺฆิกาทิภินฺนลทฺธิกานํ ปกรณานิ. อาทิ-สทฺเทน คุฬฺหอุมฺมคฺคาทีนํ คหณํ ¶ . สกวาที สุตฺตํ คเหตฺวา กเถติ, ปรวาทีปิ สุตฺตนฺติอาทินา อฺเปิ วาทาลมฺพนา วุตฺตนเยน สกฺกา าตุนฺติ อิธ น วุตฺตา.
เอวํ สุตฺตสุตฺตานุโลมาทิมุเขน สามฺโต วิวาทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิเสสโต วิวาทวตฺถุํ ตพฺพินิจฺฉยมุเขน สุตฺตาทีนฺจ ทสฺเสตุํ อถ ปนายํ กปฺปิยนฺติอาทิ วุตฺตํ. สุตฺเต จ สุตฺตานุโลเม จาติ เอตฺถ จ-กาโร วิกปฺปตฺโถ, เตน อาจริยวาทาทีนมฺปิ สงฺคโห, เตนาห ‘‘การณฺจ วินิจฺฉยฺจ ทสฺเสตี’’ติ. ตตฺถ การณนฺติ สุตฺตาทินยํ นิสฺสาย อตฺตโนมติยา อุทฺธฏํ เหตุํ. วินิจฺฉยนฺติ อฏฺกถาวินิจฺฉยํ. การณจฺฉายาติ สุตฺตาทีสุ ‘‘กปฺปิย’’นฺติ คาหสฺส, ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ คาหสฺส จ นิมิตฺตภูตํ กิจฺเฉน ปฏิปาทนียํ อวิภูตการณํ การณจฺฉายา, การณปติรูปกนฺติ อตฺโถ. วินยฺหิ ปตฺวาติ อิมสฺส วิวรณํ กปฺปิยากปฺปิยวิจารณมาคมฺมาติ. รุนฺธิตพฺพนฺติ กปฺปิยสฺาย วีติกฺกมกรณํ รุนฺธิตพฺพํ, ตํนิวารณจิตฺตํ ทฬฺหตรํ กาตพฺพํ. โสตํ ปจฺฉินฺทิตพฺพนฺติ ตตฺถ วีติกฺกมปฺปวตฺติ ปจฺฉินฺทิตพฺพา. ครุกภาเวติ อกปฺปิยภาเว. สุตฺตวินิจฺฉยการเณหีติ สุตฺเตน อฏฺกถาวินิจฺฉเยน จ ลทฺธการเณหิ. เอวนฺติอาทิ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส นิคมนวจนํ. อติเรกการณนฺติ สุตฺตาทีสุ ปุริมํ ปุริมํ อติเรกการณํ นาม, พหุการณํ วา.
วาจุคฺคตนฺติ ¶ วาจาย อุคฺคตํ, ตตฺถ นิรนฺตรํ ิตนฺติ อตฺโถ. ‘‘สุตฺตํ นาม สกลํ วินยปิฏก’’นฺติ วุตฺตตฺตา ปุน สุตฺตโตติ ตทตฺถปฏิปาทกํ สุตฺตาภิธมฺมปาฬิวจนํ อธิปฺเปตํ. อนุพฺยฺชนโตติ อิมสฺส วิวรณํ ปริปุจฺฉโต จ อฏฺกถาโต จาติ. ตตฺถ ปริปุจฺฉาติ อาจริยสฺส สนฺติกา ปาฬิยา อตฺถสวนํ. อฏฺกถาติ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย. ตทุภยมฺปิ หิ ปาฬึ อนุคนฺตฺวา อตฺถสฺส พฺยฺชนโต ‘‘อนุพฺยฺชน’’นฺติ วุตฺตํ. วินเยติ วินยาจาเร, เตเนว วกฺขติ วินยํ อวิชหนฺโต อโวกฺกมนฺโตติอาทิ. ตตฺถ ปติฏฺานํ นาม สฺจิจฺจ อาปตฺติยา อนาปชฺชนาทิ โหตีติ อาห ‘‘ลชฺชีภาเวน ปติฏฺิโต’’ติ, เตน ลชฺชี โหตีติ วุตฺตํ โหติ. วินยธรสฺส ลกฺขเณ วตฺตพฺเพ กึ อิมินา ลชฺชีภาเวนาติ อาห อลชฺชี หีติอาทิ. ตตฺถ พหุสฺสุโตปีติ อิมินา ปมลกฺขณสมนฺนาคมํ ทสฺเสติ. ลาภครุตายาติอาทินา วินเย ิตตาย อภาเว ปมลกฺขณโยโค กิจฺจกโร น โหติ, อถ ¶ โข อกิจฺจกโร อนตฺถกโร เอวาติ ทสฺเสติ. สงฺฆเภทสฺส ปุพฺพภาโค กลโห สงฺฆราชิ.
วิตฺถุนตีติ วิตฺถมฺภติ, นิตฺถุนติ วา สนฺติฏฺิตุํ น สกฺโกติ, เตนาห ยํ ยนฺติอาทิ. อาจริยปรมฺปราติ อาจริยานํ วินิจฺฉยปรมฺปรา, เตเนว วกฺขติ ‘‘อตฺตโน มตึ ปหาย…เป… ยถา อาจริโย จ อาจริยาจริโย จ ปาฬิฺจ ปริปุจฺฉฺจ วทนฺติ, ตถา าตุํ วฏฺฏตี’’ติ. น หิ อาจริยานํ นามมตฺตโต ปรมฺปราชานเน ปโยชนมตฺถิ. ปุพฺพาปรานุสนฺธิโตติ ปุพฺพวจนสฺส อปรวจเนน สห อตฺถสมฺพนฺธชานนโต. อตฺถโตติ ปทตฺถปิณฺฑตฺถอธิปฺเปตตฺถาทิโต. การณโตติ ตทตฺถุปปตฺติโต. เถรวาทงฺคนฺติ เถรวาทปฏิปาฏึ, เตสํ วินิจฺฉยปฏิปาฏินฺติ อตฺโถ.
อิเมหิ จ ปน ตีหิ ลกฺขเณหีติ เอตฺถ ปเมน ลกฺขเณน วินยสฺส สุฏฺุ อุคฺคหิตภาโว วุตฺโต. ทุติเยนสฺส ลชฺชีภาเวน เจว อจลตาย จ ปติฏฺิตตา. ตติเยน ปาฬิอฏฺกถาสุ อนุรูเปน อนาคตมฺปิ ตทนุโลมโต อาจริเยหิ ทินฺนนยโต วินิจฺฉินิตุํ สมตฺถตา. โอติณฺเณ วตฺถุสฺมินฺติ โจทนาวเสน วีติกฺกมวตฺถุสฺมึ สงฺฆมชฺเฌ โอติณฺเณ. โจทเกน จุทิตเกน จ วุตฺเต วตฺตพฺเพติ เอวํ โอติณฺเณ วตฺถุํ นิสฺสาย โจทเกน ‘‘ทิฏฺํ สุต’’นฺติอาทินา จุทิตเกน ‘‘อตฺถิ นตฺถี’’ติอาทินา จ ยํ วตฺตพฺพํ, ตสฺมึ วตฺตพฺเพ วุตฺเตติ อตฺโถ. ถุลฺลจฺจยทุพฺภาสิตานํ มาติกาย อนาคตตฺตา ‘‘ปฺจนฺนํ อาปตฺตีน’’นฺติ วุตฺตํ. ติกทุกฺกฏนฺติ ‘‘อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี อุชฺฌายติ วา ขียติ วา อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๑๐๖ โถกํ วิสทิสํ) อาคตํ ติกทุกฺกฏํ. อฺตรํ วา อาปตฺตินฺติ ‘‘กาเล วิกาลสฺี อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส, กาเล เวมติโก อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิกํ (ปาจิ. ๒๕๐) ทุกทุกฺกฏํ ¶ สนฺธาย วุตฺตํ. อนฺตราปตฺตินฺติ ตสฺมึ ตสฺมึ สิกฺขาปเท อาคตวตฺถุวีติกฺกมํ วินา อฺสฺมึ วตฺถุวีติกฺกเม นิทานโต ปภุติ วินีตวตฺถุปริโยสานา อนฺตรนฺตรา วุตฺตํ อาปตฺตึ. อิธ ปน ‘‘วตฺถุํ โอโลเกตี’’ติ วิสุํ คหิตตฺตา ตทวเสสา อนฺตราปตฺตีติ คหิตา. ปฏิลาตํ อุกฺขิปตีติ อิทํ วิสิพฺพนสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๓๕๐-๓๕๑) อาคตํ. ตตฺถ ฑยฺหมานํ อลาตํ อคฺคิกปาลาทิโต พหิ ปติตํ อวิชฺฌาตเมว ปฏิอุกฺขิปติ ¶ , ปุน ยถาาเน เปตีติ อตฺโถ. วิชฺฌาตํ ปน ปกฺขิปนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว. อนาปตฺตินฺติ เอตฺถ อนฺตรนฺตรา วุตฺตา อนาปตฺติปิ อตฺถิ, ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, อิทฺธิมสฺส อิทฺธิวิสเย’’ติอาทิ (ปารา. ๑๕๙) วิย สาปิ สงฺคยฺหติ.
ปาราชิกาปตฺตีติ น ตาว วตฺตพฺพนฺติ อิทํ อาปนฺนปุคฺคเลน ลชฺชีธมฺเม ตฺวา ยถาภูตํ อาวิกรเณปิ ทุพฺพินิจฺฉยํ อทินฺนาทานาทึ สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ ปน เมถุนาทีสุ วิชานนํ, ตํ วตฺตพฺพเมว, เตนาห เมถุนธมฺมวีติกฺกโม หีติอาทิ. โย ปน อลชฺชิตาย ปฏิฺํ อทตฺวา วิกฺเขปํ กโรติ, ตสฺส อาปตฺติ น สกฺกา โอฬาริกาปิ วินิจฺฉินิตุํ, ยาว โส ยถาภูตํ นาวิ กโรติ, สงฺฆสฺส จ อาปตฺติสนฺเทโห น วิคจฺฉติ, ตาว นาสิตโกว ภวิสฺสติ. สุขุมาติ จิตฺตปริวตฺติยา สุขุมตาย สุขุมา. เตนาห ‘‘จิตฺตลหุกา’’ติ, จิตฺตํ ตสฺส ลหุกนฺติ อตฺโถ. เตติ วีติกฺกเม. ตํวตฺถุกนฺติ อทินฺนาทานาทิมูลกํ. ยํ อาจริโย ภณติ, ตํ กโรหีติอาทิ สพฺพํ ลชฺชีเปสลํ กุกฺกุจฺจกเมว สนฺธาย วุตฺตํ. โย ยาถาวโต ปกาเสตฺวา สุทฺธิเมว คเวสติ, เตนาปิ, ปาราชิโกสีติ น วตฺตพฺโพติ อนาปตฺติโกฏิยาปิ สงฺกิยมานตฺตา วุตฺตํ, เตเนว ‘‘ปาราชิกจฺฉายา’’ติ วุตฺตํ. สีลานิ โสเธตฺวาติ ยสฺมึ วีติกฺกเม ปาราชิกาสงฺกา วตฺตติ, ตตฺถ ปาราชิกาภาวปกฺขํ คเหตฺวา เทสนาวุฏฺานคามินีนํ อาปตฺตีนํ โสธนวเสน สีลานิ โสเธตฺวา. ทฺวตฺตึสาการนฺติ ปากฏภาวโต อุปลกฺขณวเสน วุตฺตํ, ยํ กิฺจิ อภิรุจิตํ มนสิกาตุํ วฏฺฏเตว. กมฺมฏฺานํ ฆฏิยตีติ วิปฺปฏิสารมูลเกน วิกฺเขเปน อนฺตรนฺตรา ขณฺฑํ อทสฺเสตฺวา ปพนฺธวเสน จิตฺเตน สงฺฆฏิยติ. สงฺขาราติ วิปสฺสนากมฺมฏฺานวเสน วุตฺตํ. สาปตฺติกสฺส หิ ปคุณมฺปิ กมฺมฏฺานํ น สุฏฺุ อุปฏฺาติ, ปเคว ปาราชิกสฺส. ตสฺส หิ วิปฺปฏิสารนินฺนตาย จิตฺตํ เอกคฺคํ น โหติ. เอกสฺส ปน วิตกฺกวิกฺเขปาทิพหุลสฺส สุทฺธสีลสฺสปิ จิตฺตํ น สมาธิยติ, ตํ อิธ ปาราชิกมูลกนฺติ น คเหตพฺพํ. กตปาปมูลเกน วิปฺปฏิสาเรเนเวตฺถ จิตฺตสฺส อสมาธิยนํ สนฺธาย ‘‘กมฺมฏฺานํ น ฆฏิยตี’’ติ วุตฺตํ, เตนาห วิปฺปฏิสารคฺคินาติอาทิ. อตฺตนาติ จิตฺเตน กรณภูเตน ปุคฺคโล กตฺตา ชานาติ, ปจฺจตฺเต วา กรณวจนํ, อตฺตา สยํ ปชานาตีติ อตฺโถ.
จตุพฺพิธวินยาทิกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
ปทภาชนียวณฺณนา
โย ¶ ¶ วิย ทิสฺสตีติ ยาทิโส, ยํ-สทฺทตฺเถ ยถา-สทฺโท วตฺตตีติ อาห ‘‘เยน วา เตน วา ยุตฺโต’’ติ. เยน เตนาติ หิ ปททฺวเยน อนิยมโต ยํ-สทฺทตฺโถว ทสฺสิโต. วาสธุรยุตฺโตติ วิปสฺสนาธุรยุตฺโต. ยา ชาติ อสฺสาติ ยํชาติ, ปุคฺคโล, โสว ยํชจฺโจ สกตฺเถ ยปจฺจยํ กตฺวา. โคตฺตวเสน เยน วา เตน วา โคตฺเตน ยถาโคตฺโต วา ตถาโคตฺโต วา โหตูติ สมฺพนฺโธ. สีเลสูติ ปกตีสุ. อถ โขติ อิทํ กินฺตูติ อิมสฺมึ อตฺเถ. กึ วุตฺตํ โหตีติ อตฺโถ. อิมสฺมึ อตฺเถติ อิมสฺมึ ปาราชิกวิสเย. เอโสติ ยถาวุตฺเตหิ ปกาเรหิ ยุตฺโต. อริยายาติ ‘‘อุทฺทิสฺส อริยา ติฏฺนฺติ, เอสา อริยานํ ยาจนา’’ติ เอวํ วุตฺตาย, น, ‘‘เทหิ เม’’ติ กปณาย. ลิงฺคสมฺปฏิจฺฉเนนาติ ‘‘ภิกฺขํ จริสฺสามี’’ติ จิตฺตาภาเวปิ ภิกฺขาหารนิสฺสิตปพฺพชฺชาลิงฺคสฺส สมฺปฏิจฺฉเนน. กาชภตฺตนฺติ กาเชหิ อานีตภตฺตํ. อธมฺมิกายาติ อธิสีลสิกฺขาทิภิกฺขุคุณาภาวโต วุตฺตํ, เตนาห ‘‘อภูตายา’’ติ. ‘‘มยํ ภิกฺขู’’ติ วทนฺตา ปฏิฺามตฺเตเนว ภิกฺขู, น อตฺถโตติ อตฺโถ. อิทฺจ ‘‘มยํ ภิกฺขู’’ติ ปฏิชานนสฺสาปิ สมฺภวโต วุตฺตํ. ‘‘มยํ ภิกฺขู’’ติ อปฺปฏิชานนฺตาปิ หิ ภิกฺขุโวหารนิมิตฺตสฺส ลิงฺคสฺส คหเณน เจว ภิกฺขูนํ ทินฺนปจฺจยภาคคฺคหณาทินา จ ภิกฺขุปฏิฺา เอว นาม โหนฺติ. ตถา หิ วุตฺตํ ปุคฺคลปฺตฺติอฏฺกถายํ –
‘‘‘อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ’ติ อฺเ พฺรหฺมจาริโน สุนิวตฺเถ สุปารุเต สุมฺภกปตฺตธเร คามนิคมชนปทราชธานีสุ ปิณฺฑาย จริตฺวา ชีวิกํ กปฺเปนฺเต ทิสฺวา สยมฺปิ ตาทิเสน อากาเรน ตถา ปฏิปชฺชนโต ‘อหํ พฺรหฺมจารี’ติ ปฏิฺํ เทนฺโต วิย โหติ. ‘อหํ ภิกฺขู’ติ วตฺวา อุโปสถคฺคาทีนิ ปวิสนฺโต ปน พฺรหฺมจาริปฏิฺโ โหติเยว, ตถา สงฺฆิกํ ลาภํ คณฺหนฺโต’’ติ (ปุ. ป. อฏฺ. ๙๑).
ตสฺมา เอวรูเปหิ ปฏิฺาย ภิกฺขูหิ โคตฺรภุปริโยสาเนหิ สทฺธึ สมฺโภคปริโภโค น วฏฺฏติ, อลชฺชีปริโภโคว โหติ. สฺจิจฺจ อาปตฺติอาปชฺชนาทิอลชฺชีลกฺขณํ ปน อุกฺกฏฺานํ ภิกฺขูนํ วเสน วุตฺตํ สามเณราทีนมฺปิ ¶ อลชฺชีโวหารทสฺสนโต. ‘‘อลชฺชีสามเณเรหิ หตฺถกมฺมมฺปิ น กาเรตพฺพ’’นฺติ หิ วุตฺตํ. ยถาวิหิตปฏิปตฺติยํ อติฏฺนฺหิ สพฺพสาธารณํ อลชฺชีลกฺขณํ. ทุสฺสีลา ลิงฺคคฺคหณโต ปฏฺาย ยถาวิหิตปฏิปตฺติยา อภาวโต เอกนฺตา ลชฺชิโนว มหาสงฺฆิกาทินิกายนฺตริกา วิย, ลิงฺคตฺเถนกาทโย วิย, จ. ยาว ๑๑ จ เตสํ ภิกฺขุปฏิฺา อนุวตฺตติ, ตาว ภิกฺขุ เอว, เตหิ จ ปริโภโค อลชฺชิปอโภโคว, เตสฺจ ภิกฺขุสงฺฆสฺาย ทินฺนํ สงฺเฆ ทินฺนํ นาม โหติ. วุตฺตฺหิ ภควตา –
‘‘ภวิสฺสนฺติ โข ปนานนฺท, อนาคตมทฺธานํ โคตฺรภุโน กาสาวกณฺา ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา, เตสุ ทุสฺสีเลสุ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ทานํ ทสฺสนฺติ, ตทาปาหํ, อานนฺท, สงฺฆคตํ ทกฺขิณํ อสงฺขฺเยยฺยํ อปฺปเมยฺยํ วทามี’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๘๐).
ภควโต สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ทินฺนตฺตา ทกฺขิณา อสงฺขฺเยยฺยา อปฺปเมยฺยา ชาตา. ทุสฺสีลานํ ทินฺนตฺตา นาติ เจ? น, เตสุ สงฺฆํ อุทฺทิสฺสาติ โคตฺรภูนํ ปฏิคฺคาหกตฺเตน ปรามฏฺตฺตา, อิตรถา ‘‘เยสุ เกสุจิ คหฏฺเสุ วา ปพฺพชิเตสุ วา สงฺฆํ อุทฺทิสฺสา’’ติ วตฺตพฺพตาปสงฺคโต, ตถา จ ‘‘ตทาปาหํ, อานนฺทา’’ติ เหฏฺิมโกฏิทสฺสนสฺส ปโยชนํ น สิยา. ตสฺมา โคตฺรภูนมฺปิ อภาเว สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ทานํ นตฺถิ, เหฏฺิมโกฏิยา เตสุปิ ทินฺนา สงฺฆคตา ทกฺขิณา อสงฺขฺเยยฺยา, น ตโต ปรํ สิชฺฌตีติ เตปิ ปฏิฺาย ภิกฺขุ เอวาติ คเหตพฺพํ.
พฺรหฺมโฆสนฺติ อุตฺตมโฆสํ, พฺรหฺมุโน โฆสสทิสํ วา โฆสํ. เอหิ ภิกฺขูติ ‘‘ภิกฺขู’’ติสมฺโพธนํ. สํสาเร ภยอิกฺขก ตสฺส ภยสฺส สพฺพโส วินาสนตฺถํ ติสรณํ, สาสนํ วา เอหิ มนสา ‘‘ตาณํ เลณ’’นฺติ ปวิส อุปคจฺฉ. อุปคนฺตฺวาปิ จร พฺรหฺมจริยนฺติ สาสนพฺรหฺมจริยํ มคฺคพฺรหฺมจริยฺจ จรสฺสุ. ภณฺฑูติ มุณฺฑิตเกโส. วาสีติ ทนฺตกฏฺาทิจฺเฉทนวาสิ. พนฺธนนฺติ กายพนฺธนํ. ยุตฺโต โยโค สมาธิปฺาวเสน โส ยุตฺตโยโค, ตสฺส อฏฺเเต ปริกฺขาราติ เสโส. สรีเร ปฏิมุกฺเกหิเยว อุปลกฺขิโตติ เสโส. ‘‘ตีณิ สตานี’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธสุขตฺถํ ‘‘ตีณิ สต’’นฺติ วุตฺตํ.
ตสฺมาติ ¶ ภควา เหฏฺา วุตฺตํ ปรามสติ. เหฏฺา หิ ‘‘อหํ โข ปน, กสฺสป, ชานฺเว วทามิ ‘ชานามี’ติ, ปสฺสฺเว วทามิ ‘ปสฺสามี’’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔) วุตฺตํ, ตํ ปรามสติ, ยสฺมา อหํ ชานํ วทามิ, ตสฺมาติ อตฺโถ. อิหาติ อิมสฺมึ สาสเน. ติพฺพนฺติ มหนฺตํ. ปจฺจุปฏฺิตํ ภวิสฺสตีติ เถราทิอุปสงฺกมนโต ปุเรตรเมว เตสุ ยํนูน เม หิโรตฺตปฺปํ อุปฏฺิตํ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. กุสลูปสํหิตนฺติ อนวชฺชธมฺมนิสฺสิตํ. อฏฺึ กตฺวาติ อตฺตานํ เตน ธมฺเมน อฏฺิกํ กตฺวา, ตํ วา ธมฺมํ ‘‘เอส เม อตฺโถ’’ติ อตฺถํ กตฺวา. โอหิตโสโตติ ธมฺเม นิหิตโสโต. เอวฺหิ เต, กสฺสป, สิกฺขิตพฺพนฺติ าณโสตฺจ ปสาทโสตฺจ โอทหิตฺวา ‘‘ธมฺมํ สกฺกจฺจเมว สุณิสฺสามี’’ติ เอวเมว ตยา สิกฺขิตพฺพํ. สาตสหคตา จ เม กายคตาสตีติ ¶ อสุเภสุ เจว อานาปาเน จ ปมชฺฌานวเสน สุขสมฺปยุตฺตกายคตาสติ. ยํ ปเนตสฺส โอวาทสฺส สกฺกจฺจปฏิคฺคหณํ, อยเมว เถรสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ อโหสิ (สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๑๕๔).
อุทฺธุมาตกปฏิภาคารมฺมณํ ฌานํ อุทฺธุมาตกสฺา. กสิณารมฺมณํ รูปาวจรชฺฌานํ รูปสฺา. อิเมติ สฺาสีเสน นิทฺทิฏฺา อิเม ทฺเว ฌานธมฺมา. โสปาโก จ ภควตา ปุฏฺโ ‘‘รูปาวจรภาเวน เอกตฺถา, พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ อาห. อารทฺธจิตฺโตติ อาราธิตจิตฺโต. ครุธมฺมปฏิคฺคหณาทิอุปสมฺปทา อุปริ สยเมว อาวิ ภวิสฺสติ.
สพฺพนฺติเมน ปริยาเยนาติ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน. ตฺติจตุตฺถา กมฺมวาจา อุปสมฺปทากมฺมสฺส การณตฺตา านํ, ตสฺส านสฺส อรหํ อนุจฺฉวิกนฺติ วตฺถุโทสาทิวินิมุตฺตกมฺมํ ‘‘านารห’’นฺติ วุตฺตํ วตฺถาทิโทสยุตฺตสฺส กมฺมสฺส สภาวโต กมฺมวาจารหตฺตาภาวา. อถ วา านนฺติ นิพฺพานปฺปตฺติเหตุโต สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สาสนํ วุจฺจติ, ตสฺส อนุจฺฉวิกํ กมฺมํ านารหํ. ยถาวิหิตลกฺขเณน หิ กมฺเมน อุปสมฺปนฺโนว สกลํ สาสนํ สมาทาย ปริปูเรตุมรหติ. ตสฺมา ปริสุทฺธกมฺมวาจาปริโยสานํ สพฺพํ สงฺฆกิจฺจํ านารหํ นาม, เตนาห ‘‘สตฺถุสาสนารเหนา’’ติ, สีลาทิสกลสาสนปริปุณฺณสฺส อนุจฺฉวิเกนาติ อตฺโถ. อยํ อิมสฺมึ อตฺเถติ ตฺติจตุตฺถกมฺเมน อุปสมฺปนฺนสฺเสว สพฺพสิกฺขาปเทสุ วุตฺตตฺตา กิฺจาปิ เอหิภิกฺขูปสมฺปทาทีหิ อุปสมฺปนฺนานํ สุทฺธสตฺตานํ ปณฺณตฺติวชฺชสิกฺขาปทวีติกฺกเมปิ อภพฺพตา วา โทสาภาโว วา ¶ สทฺทโต ปฺายติ, ตถาปิ อตฺถโต เตสมฺปิ ปณฺณตฺติวชฺเชสุ, โลกวชฺเชสุปิ วา สุราปานาทิลหุเกสุ มคฺคุปฺปตฺติโต ปุพฺเพ อสฺจิจฺจาทินา อาปตฺติอาปชฺชนํ สิชฺฌติเยว. ตถา หิ ‘‘ทฺเว ปุคฺคลา อภพฺพา อาปตฺตึ อาปชฺชิตุํ พุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ. ทฺเว ปุคฺคลา ภพฺพา อาปตฺตึ อาปชฺชิตุํ ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จา’’ติ (ปริ. ๓๒๒) วุตฺตํ. ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน อุปสมฺปนฺโนติ อิทํ ปน สพฺพสิกฺขาปทวีติกฺกมารเห สพฺพกาลิเก จ ภิกฺขู คเหตฺวา เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ. นิรุตฺติวเสนาติ นิพฺพจนวเสน. อภิลาปวเสนาติ โวหารวเสน. คุณวเสนาติ ภิกฺขุโวหารนิมิตฺตานํ คุณานํ วเสน.
สาชีวปทภาชนียวณฺณนา
วิวฏฺฏูปนิสฺสยา สีลาทโย โลกิเยหิ อภิวิสิฏฺตฺตา อธิสีลาทิโวหาเรน วุตฺตาติ ทสฺเสตุํ ¶ กตมํ ปนาติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ปฺจงฺคทสงฺคสีลนฺติ อพุทฺธุปฺปาทกาเล สีลํ สนฺธาย วุตฺตํ ตสฺส วิวฏฺฏูปนิสฺสยตฺตาภาวา. ยํ ปน พุทฺธุปฺปาเท รตนตฺตยคุณํ ตถโต ตฺวา สาสเน สุนิวิฏฺสทฺธาหิ อุปาสโกปาสิกาหิ เจว สามเณรสิกฺขมานาหิ จ รกฺขิยมานํ ปฺจงฺคอฏฺงฺคทสงฺคสีลํ, ตมฺปิ อธิสีลเมว มคฺคุปฺปตฺติเหตุโต. วิปสฺสนามคฺคุปฺปตฺตินิมิตฺตตาย หิ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ โลกิยานํ สีเลหิ อธิสีลํ ชาตํ อธิจิตฺตํ วิย. น หิ วิปสฺสนามคฺคนิมิตฺตตํ มฺุจิตฺวา โลกิยจิตฺตโต อธิจิตฺตสฺส อฺโ โกจิ วิเสโส อุปลพฺภติ, ตทุภยฺจ อนาทิมโต สํสารวฏฺฏสฺส อตฺตาทิสารวิรหิตตาย ติลกฺขณพฺภาหตตฺตํ, ‘‘อหํ มมา’’ติ อากาเรน ปวตฺตอวิชฺชาตณฺหาทิโทสมูลกตฺตฺจ, ตํโทสมูลวิทฺธํสนสมตฺถาย สีลจิตฺตพโลปตฺถทฺธาย วิปสฺสนาย อุกฺกํเสเนว ตสฺส สํสารวฏฺฏสฺส วิคมฺจ, ตทุปเทสกสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สพฺพฺุตาทิอปริมิตคุณคณโยเคน อวิปรีตสทฺธมฺมเทสกตฺตฺจ ยาถาวโต ตฺวา ปฏิปนฺเนน สมาทาย สิกฺขิตพฺพตาย วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ ชาตํ, น อฺเน การเณน, ตฺจ วิวฏฺฏูปนิสฺสยตฺตํ ยทิ สาสเน ปฺจสีลาทิสฺสาปิ สมานํ, กิมิทํ อธิสีลํ น สิยา. ปฺจสีลาทิมตฺเต ิตานฺหิ อนาถปิณฺฑิกาทีนํ คหฏฺานมฺปิ มคฺโค อุปฺปชฺชติ. น หิ อธิสีลาธิจิตฺตํ วินา มคฺคุปฺปตฺติ โหติ, ตฺจ กิฺจาปิ เกสฺจิ ¶ อนุปนิสฺสยตาย ตสฺมึ อตฺตภาเว มคฺคุปฺปตฺติยา เหตุ น โหติ, ตถาปิ ภวนฺตเร อวสฺสํ โหเตวาติ อธิสีลเมว กาลํ กโรนฺตานํ กลฺยาณปุถุชฺชนานํ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ วิย, เตนาห พุทฺธุปฺปาเทเยว จ ปวตฺตตีติอาทิ. วิวฏฺฏํ ปตฺเถตฺวา รกฺขิยมานมฺปิ ปฺจสีลาทิ พุทฺธุปฺปาเทเยว ปวตฺตติ. น หิ ตํ ปฺตฺตินฺติอาทิ ปน อุกฺกฏฺวเสน สพฺพํ ปาติโมกฺขํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตเทกเทสภูตมฺปิ หิ ปาณาติปาตาทินฺนาทานาทิคหฏฺสีลมฺปิ. พุทฺธาเยว วินเย ปาราชิกสุตฺตวิภงฺคาทีสุ อาคตวเสน สพฺพโส กายวจีทฺวาเรสุ มคฺคุปฺปตฺติยา วิพนฺธกอชฺฌาจารโสตํ วิจฺฉินฺทิตฺวา มคฺคุปฺปตฺติยา ปทฏฺานภาเวน ปฺเปตุํ สกฺโกนฺติ, น อฺเ. มคฺคุปฺปตฺตึ สนฺธาย หิสฺส อธิสีลตา วุตฺตา. เตนาห ‘‘ปาติโมกฺขสํวรโตปิ จ มคฺคผลสมฺปยุตฺตเมว สีลํ อธิสีล’’นฺติ. ตสฺเสว หิ อธิสีลนฺติ อพฺยวธาเนน มคฺคาธิฏฺานาติ. อิธ อนธิปฺเปตนฺติ อิมสฺมึ ปมปาราชิกวิสเย ‘‘สิกฺขา’’ติ อนธิปฺเปตํ.
โลกิยอฏฺสมาปตฺติจิตฺตานีติ สาสนสภาวํ อชานนฺเตหิ โลกิยชเนหิ สมาปชฺชิตพฺพานิ อฏฺ รูปารูปชฺฌานสมฺปยุตฺตจิตฺตานิ สนฺธาย วุตฺตํ. น หิ มหคฺคเตสุ โลกิยโลกุตฺตรเภโท อตฺถิ, เยน โลกิยวิเสสนํ โลกุตฺตรนิวตฺตนํ สิยา. ตสฺมา สาสนิเกหิ สมาปชฺชิตพฺพมหคฺคตชฺฌานนิวตฺตนเมว โลกิยวิเสสนํ กตํ. ยถา เจตฺถ, เอวํ กามาวจรานิ ปน อฏฺ กุสลจิตฺตานีติ เอตฺถาปิ โลกิยวิเสสนํ กาตพฺพเมว. อยเมว หิ อธิจิตฺตโต ¶ จิตฺตสฺส เภโท, ยํ สาสนํ อชานนฺตสฺส ปุคฺคลสฺส สมุปฺปชฺชนํ. เอวฺจ อพุทฺธุปฺปาเทปิ สาสนสภาวํ ชานนฺตานํ ปจฺเจกพุทฺธาทีนมฺปิ สีลจิตฺตานํ อธิสีลาธิจิตฺตตา สมตฺถิตา โหติ. น วินา พุทฺธุปฺปาทาติ อิทํ ปน อฺเสํ อภิสมยเหตุภาเวน ปจฺเจกพุทฺธโพธิสตฺตาทีนํ เทสนาสามตฺถิยาภาวโต วุตฺตํ. อายตึ วาสนาเหตุํ ปน สีลจิตฺตํ เตปิ เทเสนฺติเยว, ตฺจ มคฺคเหตุตาย อธิสีลาธิจิตฺตมฺปิ โหนฺตํ อปฺปกตาย วิปฺผาริกตาพาหุชฺตฺตาภาเวน อพฺโพหาริกนฺติ ‘‘พุทฺธุปฺปาเทเยวา’’ติ อวธารณํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. น หิ ตํสมาปนฺโนติอาทิอฏฺกถาวจเนหิ อิธ อธิจิตฺตนิทฺเทเส, อุปริ อธิปฺานิทฺเทเส จ มคฺคผลสมฺปยุตฺตอธิจิตฺตอธิปฺานเมว ปฏิกฺเขปโต โลกิยาธิจิตฺตาธิปฺานํ ¶ อิธ อธิปฺเปตตา, ตํ ทฺวยํ สมาปนฺนสฺสาปิ เมถุนธมฺมสมาปชฺชนสภาโว จ วิฺายติ, ปาฬิยํ ปน ‘‘ยายํ อธิสีลสิกฺขา, อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปตา สิกฺขา’’ติ วุตฺตตฺตา โลกิยาปิ อธิจิตฺตาธิปฺา อนธิปฺเปตาติ วิฺายติ. ตสฺมา ปาฬิยํ อฏฺกถายฺจ เอวมธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ – ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิสฺสามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺนมตฺเต โลกิยํ อธิจิตฺตํ อธิปฺา จ ปริหายติ, อธิสีลํ ปน จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน น ปริหายตีติ ปาฬิยํ อธิสีลสิกฺขาว วุตฺตา. อฏฺกถายํ ปน ปฏิลทฺธโลกุตฺตรมคฺคสฺส ภิกฺขุโน ‘‘เมถุนํ ปฏิเสวิสฺสามี’’ติ จิตฺตมฺปิ น อุปฺปชฺชติ สพฺพโส อกุปฺปธมฺมตฺตา, ปุถุชฺชนานํ สมาปตฺติลาภีนมฺปิ เกนจิ การเณน อุปฺปชฺชติ กุปฺปธมฺมตฺตาติ อิมํ วิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘น หิ ตํสมาปนฺโน’’ติ โลกุตฺตราว ปฏิกฺขิตฺตาติ เวทิตพฺพํ.
อตฺถิ ทินฺนนฺติ เอตฺถ ทินฺนนฺติ ทานเจตนา อธิปฺเปตา, ตสฺส ทินฺนสฺส ผลํ อตฺถีติ อตฺโถ. เอส นโย อตฺถิ ยิฏฺนฺติ เอตฺถาปิ. อาทิ-สทฺเทน หุตาทีนํ สงฺคโห. ตตฺถ ยิฏฺนฺติ มหายาโค สพฺพสาธารณํ มหาทานเมว. หุตนฺติ ปโหนกสกฺกาโร, อตฺตโน วา โหตุ, ปเรสํ วา ทส อกุสลกมฺมปถา, สพฺเพปิ วา อกุสลา ธมฺมา อนตฺถุปฺปาทนโต น สกํ กมฺมํ นาม, ตพฺพิปรีตา กุสลา ธมฺมา สกํ นาม, ตทุภยมฺปิ วา กุสลากุสลํ กมฺมสฺสโกมฺหีติอาทิวจนโต สติ สํสารปฺปวตฺติยํ อธิมุจฺจนฏฺเน สตฺตานํ สกนฺติ เอวํ กมฺมสฺสกตาย สกภาเว อตฺตโน สนฺตกตาย อุปฺปชฺชนกาณํ กมฺมสฺสกตฺาณํ, อุปลกฺขณมตฺตฺเจตํ. สาสนนิสฺสิตา ปน สพฺพาปิ วฏฺฏคามินิกุสลปฺา กมฺมสฺสกตฺาเณ ปวิฏฺา. สาสนนิสฺสิตา หิ วิวฏฺฏคามินี สพฺพาปิ ปฺา ‘‘สจฺจานุโลมิกาณ’’นฺติ วุจฺจติ. สา เอว จ อธิปฺา ตทวเสสํ สพฺพํ กมฺมสฺสกตฺาณนฺติ เวทิตพฺพํ, เตเนว ภควา ‘‘กมฺมสฺสกตฺาณํ สจฺจานุโลมิกาณํ มคฺคสมงฺคิสฺส าณํ ผลสมงฺคิสฺส าณ’’นฺติ สพฺพมฺปิ าณจตุกฺเกเยว สงฺคเหสิ. ติลกฺขณาการปริจฺเฉทกํ ปน วิปสฺสนาาณนฺติ อิทํ ปน มคฺคสฺส ¶ อาสนฺนปจฺจยตาย อุกฺกฏฺวเสน วุตฺตํ. ตทิตราสฺหิ รตนตฺตยานุสฺสรณาทิปฺานมฺปิ มคฺคเหตุตาย อธิปฺตา สมานาวาติ คเหตพฺพํ.
สาชีวปทภาชนียวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
ปจฺจกฺขานวิภงฺควณฺณนา
ทุพฺพลฺเย ¶ อาวิกเตติ ยํนูนาหํ พุทฺธํ ปจฺจกฺเขยฺยนฺติอาทินา ทุพฺพลภาเว ปกาสิเต. มุขารุฬฺหตาติ โลกชนานํ สตฺตฏฺาติอาทีสุ มุขารุฬฺหาเยนาติ อธิปฺปาโย. ทิรตฺตติรตฺตนฺติ (ปาจิ. ๕๒) เอตฺถ ยถา อนฺตรนฺตรา สหเสยฺยาวเสน ติรตฺตํ อคฺคเหตฺวา นิรนฺตรเมว ติสฺโส รตฺติโย อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ สหเสยฺยาย อรุณุฏฺาปนวเสน ติรตฺตคฺคหณตฺถํ ‘‘ทิรตฺตติรตฺต’’นฺติ อพฺยวธาเนน วุตฺตนฺติ ทิรตฺตคฺคหณสฺส ปโยชนมฺปิ สกฺกา คเหตุํ, เอวมิธาปิ ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวาติ อิมสฺสาปิ คหณสฺส ปโยชนมตฺเถวาติ ทสฺเสตุํ ยสฺมา วา สิกฺขาปจฺจกฺขานสฺสาติอาทิ วุตฺตํ.
อิทานิ ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวาติ อิมสฺส ปุริมปทสฺเสว วิวรณภาวํ วินาปิ วิสุํ อตฺถสพฺภาวํ ทสฺเสตุํ อปิจาติอาทิ วุตฺตํ. วิเสสาวิเสสนฺติ เอตฺถ เยน วากฺเยน ทุพฺพลฺยาวิกมฺมเมว โหติ, น สิกฺขาปจฺจกฺขานํ, ตตฺถ สิกฺขาปจฺจกฺขานทุพฺพลฺยาวิกมฺมานํ อฺมฺํ วิเสโส โหติ. เยน ปน วจเนน ตทุภยมฺปิ โหติ, ตตฺถ เนวตฺถิ วิเสโส อวิเสโสปิ, ตํ วิเสสาวิเสสํ. ‘‘ก กิจฺฉชีวเน’’ติ ธาตูสุ ปิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘กิจฺฉชีวิกปฺปตฺโต’’ติ. อุกฺกณฺนฺหิ อุกฺกณฺา, ตํ อิโต คโตติ อุกฺกณฺิโต, กิจฺฉชีวิกํ ปตฺโตติ อตฺโถ. อุทฺธํ คโต กณฺโ เอติสฺสาติ อุกฺกณฺา, อนภิรติยา วเช นิรุทฺธโคคโณ วิย คมนมคฺคํ คเวสนฺโต ปุคฺคโล อุกฺกณฺโ โหติ, ตํ อุกฺกณฺํ. อนภิรตึ อิโตติปิ อุกฺกณฺิโตติ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘อุทฺธํ กณฺํ กตฺวา วิหรมาโน’’ติ. สา จ อุกฺกณฺตา วิกฺเขเปเนวาติ วิกฺขิตฺโตติอาทิ วุตฺตํ.
สมณภาวโตติ อุปสมฺปทโต. ภาววิกปฺปากาเรนาติ ภิกฺขุภาวโต จวิตฺวา ยํ ยํ คิหิอาทิภาวํ ปตฺตุกาโม ‘‘อหํ อสฺส’’นฺติ อตฺตโน ภวนํ วิกปฺเปติ, เตน เตน คิหิอาทิอากาเรน, อตฺตโน ภวนสฺส วิกปฺปนากาเรนาติ อธิปฺปาโย.
๔๖. ปาฬิยํ ¶ ยทิ ปนาหนฺติ อหํ ยทิ พุทฺธํ ปจฺจกฺเขยฺยํ, สาธุ วตสฺสาติ อตฺโถ. อปาหํ, หนฺทาหนฺติ เอตฺถาปิ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ คเหตพฺโพ. ‘‘โหติ เม พุทฺธํ ปจฺจกฺเขยฺย’’นฺติ มม จิตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ วทติ.
๕๐. น ¶ รมามีติ ปพฺพชฺชาย ทุกฺขพหุลตาย สุขาภาวํ ทสฺเสติ. นาภิรมามีติ ปพฺพชฺชาย วิชฺชมาเนปิ อนวชฺชสุเข อตฺตโน อภิรติอภาวํ ทสฺเสติ.
๕๑. เตเนว วจีเภเทนาติ วจีเภทํ กตฺวาปิ อฺเน กายปฺปโยเคน วิฺาปนํ นิวตฺเตติ. อยํ สาสนํ ชหิตุกาโมติอาทินา ภาสาโกสลฺลาภาเวน สพฺพโส ปทตฺถาวโพธาภาเวปิ ‘‘อยํ อตฺตโน ปพฺพชิตภาวํ ชหิตุกาโม อิมํ วากฺยเภทํ กโรตี’’ติ เอตฺตกํ อธิปฺเปตตฺถมตฺตํ เจปิ โส ตาว ชานาติ, ปจฺจกฺขานเมว โหตีติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘เอตฺตกมตฺตมฺปิ ชานาตี’’ติ. ปทปจฺฉาภฏฺนฺติ ปทปราวตฺติ, มาคธภาสโต อวสิฏฺา สพฺพาปิ ภาสา ‘‘มิลกฺขภาสา’’ติ เวทิตพฺพา. เขตฺตเมว โอติณฺณนฺติ สิกฺขาปจฺจกฺขานสฺส รุหนฏฺานภูตํ เขตฺตเมว โอติณฺณํ.
ทูตนฺติ มุขสาสนํ. สาสนนฺติ ปณฺณสาสนํ, ภิตฺติถมฺภาทีสุ อกฺขรํ วา ฉินฺทิตฺวา ทสฺเสติ. ปจฺจกฺขาตุกามตาจิตฺเต ธรนฺเตเยว วจีเภทสมุปฺปตฺตึ สนฺธาย ‘‘จิตฺตสมฺปยุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ, จิตฺตสมุฏฺานนฺติ อตฺโถ. นิยมิตานิยมิตวเสน วิชานนเภทํ ทสฺเสตุมาห ยทิ อยเมว ชานาตูติอาทิ. อยฺจ วิภาโค วทติ วิฺาเปตีติ เอตฺถ ยสฺส วทติ, ตสฺเสว วิชานนํ อธิปฺเปตนฺติ อิมินา วุตฺตนเยน ลทฺโธติ ทฏฺพฺพํ, น เหตฺถ เอกสฺส วทติ อฺสฺส วิฺาเปตีติ อยมตฺโถ สมฺภวติ. ‘‘เตสุ เอกสฺมึ ชานนฺเตปี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ทฺเวเยว ชานนฺตุ เอโก มา ชานาตู’’ติ เอวํ ทฺวินฺนมฺปิ ชนานํ นิยเมตฺวา อาโรจิเตปิ เตสุ เอกสฺมิมฺปิ ชานนฺเต ปจฺจกฺขานํ โหติเยวาติ คเหตพฺพํ. ปริสงฺกมาโนติ ‘‘วาเรสฺสนฺตี’’ติ อาสงฺกมาโน. สมยฺูติ สาสนสงฺเกตฺู, อิธ ปน อธิปฺปายมตฺตชานเนนาปิ สมยฺู นาม โหติ, เตนาห อุกฺกณฺิโตติอาทิ. ตสฺมา พุทฺธํ ปจฺจกฺขามีติอาทิเขตฺตปทานํ สพฺพโส อตฺถํ ตฺวาปิ สเจ ‘‘ภิกฺขุภาวโต จวิตุกามตาย เอส วทตี’’ติ อธิปฺปายํ น ชานาติ, อปฺปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. อตฺถํ ปน อชานิตฺวาปิ ‘‘อุกฺกณฺิโต วทตี’’ติ ตํ ชานาติ, ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. โสตวิฺาณวีถิยา สทฺทมตฺตคฺคหณเมว, อตฺถคฺคหณํ ปน มโนวิฺาณวีถิปรมฺปรายาติ อาห ตงฺขณฺเวาติอาทิ.
๕๓. วณฺณปฏฺานนฺติ ¶ ¶ สตฺถุคุณวณฺณปฺปกาสกํ ปกรณํ. อุปาลิคาถาสูติ อุปาลิสุตฺเต อุปาลิคหปตินา ธีรสฺส วิคตโมหสฺสาติอาทินา วุตฺตคาถาสุ. ยถารุตนฺติ ปาฬิยํ วุตฺตเมวาติ อตฺโถ. อนนฺตพุทฺธีติอาทีนิ วณฺณปฏฺาเน อาคตนามานิ. ธีรนฺติอาทีนิ (ม. นิ. ๒.๗๖) ปน อุปาลิคาถาสุ. ตตฺถ โพธิ วุจฺจติ สพฺพฺุตฺาณํ, สา ชานนเหตุตฺตา ปฺาณํ เอตสฺสาติ โพธิปฺาโณ. สฺวากฺขาตํ ธมฺมนฺติอาทีสุ ธมฺม-สทฺโท สฺวากฺขาตาทิปทานํ ธมฺมเววจนภาวํ ทสฺเสตุํ วุตฺโต. ตสฺมา สฺวากฺขาตํ ปจฺจกฺขามีติอาทินา วุตฺเตเยว เววจเนน ปจฺจกฺขานํ นาม โหติ. ธมฺม-สทฺเทน สห โยเชตฺวา วุตฺเต ปน ยถารุตวเสน ปจฺจกฺขานนฺติ เวทิตพฺพํ. สุปฺปฏิปนฺนํ สงฺฆนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. กุสลํ ธมฺมนฺติอาทีนิปิ กุสลา ธมฺมา อกุสลา ธมฺมาติอาทิธมฺมเมว (ธ. ส. ติกมาติกา ๑) สนฺธาย วุตฺตนามานิ, อิตรถา อกุสลธมฺมปจฺจกฺขาเน โทสาภาวปฺปสงฺคโตติ, เตนาห จตุราสีติธมฺมกฺขนฺธสหสฺเสสูติอาทิ. ปมปาราชิกนฺติอาทินา สิกฺขาปทานํเยว คหณํ เวทิตพฺพํ, น อาปตฺตีนํ.
ยสฺส มูเลนาติ ยสฺส สนฺติเก. อาจริยเววจเนสุ โย อุปชฺฌํ อทตฺวา อาจริโยว หุตฺวา ปพฺพาเชสิ, ตํ สนฺธาย ‘‘โย มํ ปพฺพาเชสี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺส มูเลนาติ ตสฺส สนฺติเก. โอกลฺลโกติ ขุปฺปิปาสาทิทุกฺขาตุรานํ กิสลูขสรีรเวสานํ คหฏฺมนุสฺสานํ อธิวจนํ. โมฬิพทฺโธติ พทฺธเกสกลาโป คหฏฺโ. กุมารโกติ กุมาราวตฺโถ อติวิย ทหโร สามเณโร. เจลฺลโกติ ตโต กิฺจิ มหนฺโต. เจฏโกติ มชฺฌิโม. โมฬิคลฺโลติ มหาสามเณโร. สมณุทฺเทโสติ อวิเสสโต สามเณราธิวจนํ. อสุจิสงฺกสฺสรสมาจาโรติ อสุจิ หุตฺวา ‘‘มยา กตํ ปเร ชานนฺติ นุ โข, น นุ โข’’ติ อตฺตนา, ‘‘อสุเกน นุ โข อิทํ กต’’นฺติ ปเรหิ จ สงฺกาย สริตพฺเพน อนุสฺสริตพฺเพน สมาจาเรน ยุตฺโต. สฺชาตราคาทิกจวรตฺตา กสมฺพุชาโต. โกณฺโติ ทุสฺสีลาธิวจนเมตํ.
๕๔. ติเหตุกปฏิสนฺธิกาติ อติขิปฺปํ ชานนสมตฺเถ สนฺธาย วุตฺตํ, น ทุเหตุกานํ ตตฺถ อสมฺภวโต. สภาคสฺสาติ ปุริสสฺส. วิสภาคสฺสาติ มาตุคามสฺส. โปตฺถกรูปสทิสสฺสาติ มตฺติกาทีหิ กตรูปสทิสสฺส ¶ . ครุเมธสฺสาติ อารมฺมเณสุ ลหุปฺปวตฺติยา อภาวโต ทนฺธคติกตาย ครุปฺสฺส, มนฺทปฺสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.
อิทาเนตฺถ สิกฺขาปจฺจกฺขานวารสฺส ปาฬิยํ อฏฺกถายฺจ วุตฺตนยานํ สมฺปิณฺฑนตฺถวเสน เอวํ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ – ตตฺถ หิ สามฺา จวิตุกาโมติอาทีหิ ปเทหิ จิตฺตนิยมํ ทสฺเสติ. พุทฺธนฺติอาทีหิ ปเทหิ เขตฺตนิยมํ, ปจฺจกฺขามิ ธาเรตีติ เอเตน กาลนิยมํ, วทตีติ ¶ อิมินา ปโยคนิยมํ, อลํ เม พุทฺเธน, กึ นุ เม, น มมตฺโถ, สุมุตฺตาหนฺติอาทีหิ อนามฏฺกาลวเสนปิ ปจฺจกฺขานํ โหตีติ ทสฺเสติ, วิฺาเปตีติ อิมินา วิชานนนิยมํ, อุมฺมตฺตโก สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ อุมฺมตฺตกสฺส สนฺติเกติอาทีหิ ปุคฺคลนิยมํ, โส จ นปฺปฏิวิชานาตีติอาทีหิ วิชานนนิยมาภาเวน ปจฺจกฺขานาภาวํ ทสฺเสติ, ทวายาติอาทีหิ จิตฺตนิยมาภาเวน, สาเวตุกาโม น สาเวตีติ อิมินา ปโยคนิยมาภาเวน, อวิฺุสฺส สาเวติ วิฺุสฺส น สาเวตีติ เอเตหิ ยํ ปุคฺคลํ อุทฺทิสฺส สาเวติ, ตสฺเสว สวเน สีสํ เอติ, นาฺสฺสาติ. สพฺพโส วา ปน น สาเวติ อปฺปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขาติ อิทํ ปน จิตฺตาทินิยเมเนว สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น อฺถาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตสฺมา จิตฺตเขตฺตกาลปโยคปุคฺคลวิชานนวเสน สิกฺขาย ปจฺจกฺขานํ ตฺวา ตทภาเวน อปฺปจฺจกฺขานํ เวทิตพฺพํ.
กถํ? อุปสมฺปนฺนภาวโต จวิตุกามตาจิตฺเตเนว หิ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ทวา วา รวา วา ภณนฺตสฺส. เอวํ จิตฺตวเสน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน. ตถา พุทฺธํ ปจฺจกฺขามีติอาทินา วุตฺตานํ พุทฺธาทีนํ สพฺรหฺมจาริปริโยสานานํ จตุทฺทสนฺนฺเจว คิหีติ มํ ธาเรหีติอาทินา วุตฺตานํ คิหิอาทีนํ อสกฺยปุตฺติยปริโยสานานํ อฏฺนฺนฺจาติ อิเมสํ ทฺวาวีสติยา เขตฺตปทานํ ยสฺส กสฺสจิ สเววจนสฺส วเสน เตสุ ยํ กิฺจิ วตฺตุกามสฺส ยํ กิฺจิ วทโตปิ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ. เอวํ เขตฺตวเสน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน. ตตฺถ ยเทตํ ‘‘ปจฺจกฺขามีติ จ มํ ธาเรหีติ จา’’ติ วุตฺตํ วตฺตมานกาลวจนํ, ยานิ จ ‘‘อลํ เม พุทฺเธน, กึ นุ เม พุทฺเธน, น มมตฺโถ พุทฺเธน, สุมุตฺตาหํ พุทฺเธนา’’ติอาทินา นเยน อาขฺยาตวเสน กาลํ อนามสิตฺวา ปุริเมหิ จุทฺทสหิ ปเทหิ สทฺธึ โยเชตฺวา วุตฺตานิ อลํ เมติอาทีนิ จตฺตาริ ปทานิ, เตสํเยว จ สเววจนานํ วเสน ¶ ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ปน ‘‘ปจฺจกฺขาสิ’’นฺติ วา, ‘‘ปจฺจกฺขิสฺส’’นฺติ วา, ‘‘มํ ธาเรสี’’ติ วา, ‘‘มํ ธาเรสฺสสี’’ติ วา, ‘‘ยํนูน ปจฺจกฺเขยฺย’’นฺติ วาติอาทีนิ อตีตานาคตปริกปฺปวจนานิ ภณนฺตสฺส. เอวํ วตฺตมานกาลวเสน เจว อนามฏฺกาลวเสน จ ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน. ปโยโค ปน ทุวิโธ กายิโก วาจสิโก, ตตฺถ พุทฺธํ ปจฺจกฺขามีติอาทินา นเยน ยาย กายจิ ภาสาย วจีเภทํ กตฺวา วาจสิกปโยเคเนว ปจฺจกฺขานํ โหติ, น อกฺขรลิขนํ วา หตฺถมุทฺทาทิทสฺสนํ วา กายปโยคํ กโรนฺตสฺส. เอวํ วาจสิกปโยเคเนว ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.
ปุคฺคโล ¶ ปน ทุวิโธ โย จ ปจฺจกฺขาติ, ยสฺส จ ปจฺจกฺขาติ, ตตฺถ โย ปจฺจกฺขาติ, โส สเจ อุมฺมตฺตกขิตฺตจิตฺตเวทนฏฺฏานํ อฺตโร น โหติ, ยสฺส ปน ปจฺจกฺขาติ, โส สเจ มนุสฺสชาติโก โหติ, น จ อุมฺมตฺตกาทีนํ อฺตโร สมฺมุขีภูโต จ, สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ. น หิ อสมฺมุขีภูตสฺส ทูเตน วา ปณฺเณน วา อาโรจนํ รุหติ. เอวํ ยถาวุตฺตปุคฺคลวเสน ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน. วิชานนมฺปิ นิยมิตานิยมิตวเสน ทุวิธํ. ตตฺถ ยสฺส เยสํ วา นิยเมตฺวา อิมสฺส อิเมสํ วา อาโรเจมีติ วทติ, สเจ เต ยถา ปกติยา โลเก มนุสฺสา วจนํ สุตฺวา อาวชฺชนสมเย ชานนฺติ, เอวํ ตสฺส วจนานนฺตรเมว ‘‘อยํ อุกฺกณฺิโต’’ติ วา, ‘‘คิหิภาวํ ปตฺถยตี’’ติ วา เยน เกนจิ อากาเรน มนุสฺสชาติโก วจนตฺถํ ชานาติ, ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. อถ อปรภาเค ‘‘กึ อิมินา วุตฺต’’นฺติ จินฺเตตฺวา ชานนฺติ, อฺเ วา ชานนฺติ, อปฺปจฺจกฺขาตาว โหติ. อนิยเมตฺวา อาโรเจนฺตสฺส ปน สเจ วุตฺตนเยน โย โกจิ มนุสฺสชาติโก วจนตฺถํ ชานาติ, ปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา, เอวํ ชานนวเสน ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน. อิติ อิเมสํ วุตฺตปฺปการานํ จิตฺตาทีนํ วเสเนว สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น อฺถาติ ทฏฺพฺพํ.
สิกฺขาปจฺจกฺขานวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
มูลปฺตฺติวณฺณนา
๕๕. อิโต ¶ ปฏฺายาติ ทุฏฺุลฺลปทโต ปฏฺาย. เมถุนธมฺโม ยถา สรูเปเนว ทุฏฺุลฺลํ, เอวํ ทสฺสนาทิทุฏฺุลฺลธมฺมปริวารตฺตาปิ ทุฏฺุลฺลนฺติ ทสฺเสตุํ ยสฺมาติอาทิ วุตฺตํ. อวสฺสุตานนฺติ เมถุนราเคน ตินฺตานํ. ปริยุฏฺิตานนฺติ เมถุนราเคน อภิภูตจิตฺตานํ. เมถุน-สทฺทสฺส สทิสสทฺทปอยายตฺตา วุตฺตํ ‘‘สทิสาน’’นฺติ, รตฺตตาทีหิ สทิสานนฺติ อตฺโถ. อิทฺจ เยภุยฺยโต วุตฺตํ อุโภสุ อฺตรสฺส ราคาภาเวปิ อิตรสฺส เมถุนเสวนสํสิทฺธิโต. เมถุน-สทฺโท วา อุภยสทฺทปอยาโย, เมถุนํ ยุคฬํ ยมกํ อุภยนฺติ หิ อตฺถโต เอกํ, เตนาห ‘‘อุภินฺนํ รตฺตาน’’นฺติ. ‘‘ทฺวยํทฺวยสมาปตฺตี’’ติ หิ ปาฬิยมฺปิ วุตฺตํ. นิมิตฺเตนาติ ภุมฺมตฺเถ กรณวจนํ, อิตฺถินิมิตฺเต อตฺตโน นิมิตฺตํ ปเวเสตีติ อตฺโถ. นิมิตฺตํ องฺคชาตนฺติ อตฺถโต เอกํ. ติลผลนฺติ สาสปมตฺตํ ติลพีชํ อธิปฺเปตํ, น โกสสหิตํ ผลนฺติ อาห ‘‘ติลพีชมตฺตมฺปี’’ติ. อลฺโลกาเสติ สภาเวน ปิหิตสฺส นิมิตฺตสฺส ปกติวาเตน อสมฺผุฏฺเ ตินฺตปฺปเทเส. ตาทิโส ปเทโส ¶ สเจปิ เกนจิ วาตาทิวิกาเรน สุกฺขติ, ตถาปิ อนลฺโลกาโสติ อุปกฺกมโต ปาราชิกเมว.
เวมชฺฌนฺติ ยถา จตฺตาริ ปสฺสานิ อผุสนฺโต ปเวเสติ, เอวํ กตวิวรสฺส อิตฺถินิมิตฺตสฺส อพฺภนฺตรตลํ วุจฺจติ. ปุริสนิมิตฺเต ปน มชฺฌนฺติ อคฺคโกฏึ สนฺธาย วทติ. อุปรีติ มชฺฌิมปพฺเพน สมิฺชิตฺวา ปเวสิยมานสฺส องฺคชาตสฺส สมิฺชิตงฺคุลิยา มชฺฌิมปพฺพปิฏฺิสทิสอคฺคโกฏิเยว. เหฏฺา ปเวเสนฺโตติ อิตฺถินิมิตฺตสฺส เหฏฺาภาเคน ฉุปิยมานํ ปเวเสนฺโต, ยถา อิตฺถินิมิตฺตสฺส อลฺโลกาสํ เหฏฺิมตลํ ติลพีชมตฺตมฺปิ อตฺตโน นิมิตฺเตน ฉุปติ, เอวํ ปเวเสนฺโตติ อตฺโถ. ฉุปนเมว เหตฺถ ปเวสนํ, เอวํ เสเสสุปิ. มชฺเฌน ปเวเสนฺโตติ อพฺภนฺตรตเลน ฉุปิยมานํ ปเวเสนฺโต, ยถา อพฺภนฺตรตลํ ฉุปติ, เอวํ ปเวเสนฺโตติ อตฺโถ. กตฺถจิ อจฺฉุปนฺตํ ปเวเสตฺวา อากาสคตเมว นีหรนฺตสฺส นตฺถิ ปาราชิกํ, ทุกฺกฏํ ปน โหติ ฉินฺนสีสวตฺถุสฺมึ (ปารา. ๗๓) วิย. มชฺเฌเนว ฉุปนฺตํ ปเวเสนฺโตติ อคฺคโกฏิยา ฉุปนฺตํ ปเวเสนฺโต. มชฺฌิมปพฺพปิฏฺิยา สงฺโกเจตฺวาติ นิมิตฺตํ อตฺตโน มชฺฌิมปพฺพปิฏฺิยา ¶ สมิฺชิตฺวา อุปริภาเคน ฉุปนฺตํ ปเวเสนฺโตปิ. กึ วิย? สมิฺชิตงฺคุลิ วิยาติ โยชนา. อถ วา มชฺฌิมปพฺพปิฏฺิยา สมิฺชิตงฺคุลิ วิยาติ สมฺพนฺโธ, สมิฺชิตงฺคุลึ วา มชฺฌิมปพฺพปิฏฺิยา ปเวเสนฺโต วิยาติปิ โยเชตพฺพํ. อุปริภาเคนาติ สงฺโกจิตสฺส นิมิตฺตสฺส อุปริโกฏิยา.
อิทานิ ปุริสนิมิตฺตสฺส เหฏฺา วุตฺเตสุ ฉสุ ‘‘อุปรี’’ติ วุตฺตสฺส ฉฏฺสฺส านสฺส วเสน วิสุํ จตฺตาริ ปสฺสานิ คเหตฺวา ปุริสนิมิตฺเต ทสฏฺานเภทํ ทสฺเสนฺโต ตตฺถาติอาทิมาห. เหฏฺา ปน อคหิตคฺคหณวเสน ฉ านานิ วุตฺตานิ. ตุลาทณฺฑสทิสํ ปเวเสนฺตสฺสาปีติ อสมิฺชิตฺวา อุชุกํ ปเวเสนฺตสฺส. จมฺมขีลนฺติ เอฬกาทีนํ คีวาย วิย นิมิตฺเต ชาตํ จมฺมงฺกุรํ, ‘‘อุณฺณิคณฺโฑ’’ติปิ วทนฺติ. ‘‘อุปหตกายปฺปสาท’’นฺติ อวตฺวา นฏฺกายปฺปสาทนฺติ วจเนน อุปาทินฺนภาเว สติ เกนจิ ปจฺจเยน อุปหเตปิ กายปฺปสาเท อุปหตินฺทฺริยวตฺถุสฺมึ (ปารา. ๗๓) วิย ปาราชิกเมวาติ ทสฺเสติ. อิตฺถินิมิตฺตสฺส ปน นฏฺเปิ อุปาทินฺนภาเว สติ มตสรีเร วิย ปาราชิกกฺเขตฺตตา น วิชหตีติ เวทิตพฺพา. เมถุนสฺสาเทนาติ อิทํ กายสํสคฺคราเค สติ สงฺฆาทิเสโส โหตีติ วุตฺตํ. พีชานีติ อณฺฑานิ.
มุขํ อปิธายาติ ปมาเทน สมุปฺปนฺนมฺปิ หาสํ พีชนิยา ปฏิจฺฉาทนมฺปิ อกตฺวา นิสีทนํ อคารวนฺติ วุตฺตํ. อถ วา อปิธายาติ ปิทหิตฺวา, พีชนิยา มุขํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา หสมาเนน ¶ น นิสีทิตพฺพนฺติ อตฺโถ. ทนฺตวิทํสกนฺติ ทนฺเต ทสฺเสตฺวา. คพฺภิเตนาติ ‘‘อยุตฺตกถา’’ติ สงฺโกจํ อนาปชฺชนฺเตน, นิรวเสสาธิปฺปายกถเน สฺชาตุสฺสาเหนาติ อตฺโถ.
อนุปฺตฺติวณฺณนา
ปาราชิกวตฺถุภูตาติ เยสํ ตีสุ มคฺเคสุ ติลพีชมตฺตมฺปิ นิมิตฺตสฺส ปเวโสกาโส โหติ, เต อิตฺถิปุริสาทิเภทา สพฺเพ สงฺคยฺหนฺติ, น อิตเร. อิธ ปน ติรจฺฉานคตายาติ-ปาฬิปทานุรูปโต น สพฺพาติอาทินา อิตฺถิลิงฺควเสน วุตฺตํ. โคนสาติ สปฺปวิเสสา, เยสํ ปิฏฺีสุ มหนฺตมหนฺตานิ มณฺฑลานิ โหนฺติ. กจฺฉปมณฺฑูกานํ จตุปฺปทตฺเตปิ โอทกตาสามฺเน ¶ อปเทหิ สห คหณํ. มุขสณฺานนฺติ โอฏฺจมฺมสณฺานํ. วณสงฺเขปนฺติ วณสงฺคหํ. วเณ ถุลฺลจฺจยฺจ ‘‘อมคฺเคน อมคฺคํ ปเวเสติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๖๖) อิมสฺส สุตฺตสฺส วเสน เวทิตพฺพํ. มงฺคุสาติ นกุลา. เอตเมว หิ อตฺถนฺติ โย นํ อชฺฌาปชฺชติ, ตํ ปราเชตีติ อิมมตฺถํ วุตฺตานํเยว ปาราชิกาทิสทฺทานํ นิพฺพจนปฺปสงฺเค อิมิสฺสา ปริวารคาถาย ปวตฺตตฺตา. ภฏฺโติ สาสนโต ปริหีโน. นิรงฺกโตติ นิรากโต. เอตนฺติ อาปตฺติรูปํ ปาราชิกํ. ฉินฺโนติ อนฺตราขณฺฑิโต.
ปกตตฺเตหิ ภิกฺขูหีติ เอตฺถ ปกตตฺตา นาม ปาราชิกํ อนาปนฺนา อนุกฺขิตฺตา จ. เกจิ ปน ‘‘ปกตตฺเตหิ ภิกฺขูหิ เอกโต กตฺตพฺพตฺตาติ อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา ปกตตฺตภูเตหิ อลชฺชีหิปิ สทฺธึ อุโปสถาทิสงฺฆกมฺมกรเณ โทโส นตฺถี’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ, อิมินา วจเนน ตสฺส อตฺถสฺส อสิชฺฌนโต. ยทิ หิ สงฺฆกมฺมํ กรียติ, ปกตตฺเตเหว กรียติ, น อปกตตฺเตหีติ เอวํ อปกตตฺเตหิ สหสํวาสปฏิกฺเขปปรํ อิทํ วจนํ, น ปน ปกตตฺเตหิ สพฺเพหิ อลชฺชีอาทีหิ เอกโต สงฺฆกมฺมํ กตฺตพฺพเมวาติ. เอวํ สํวาสวิธานปรํ ปกตตฺเตสุปิ สภาคาปตฺตึ อาปนฺเนหิ อฺมฺฺจ อลชฺชีหิ จ สทฺธึ เอกโต กมฺมกรณสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา. วุตฺตฺหิ ‘‘สเจ สพฺโพ สงฺโฆ สภาคาปตฺติยา สติ วุตฺตวิธึ อกตฺวา อุโปสถํ กโรติ, วุตฺตนเยเนว สพฺโพ สงฺโฆ อาปตฺตึ อาปชฺชตี’’ติอาทิ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา). ‘‘ยตฺถ อามิสปริโภโค วฏฺฏติ, ธมฺมปริโภโคปิ ตตฺถ วฏฺฏตี’’ติ อลชฺชีหิ สห ปริโภโค จ อฏฺกถายํ ปฏิกฺขิตฺโต เอกโต กมฺมกรณสฺสาปิ ธมฺมปริโภคตฺตา. ตสฺมา ยถา หิ ปาฬิยํ ปาราชิกาปตฺติอาปชฺชนกปุคฺคลนิยมตฺถํ ยฺวายํ ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน…เป… อุปสมฺปนฺโน, อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปโต ภิกฺขูติ อิมสฺมึ วจเน สพฺเพปิ ตฺติจตุตฺถกมฺเมน อุปสมฺปนฺนา ปาราชิกาปชฺชนกปุคฺคลาเยวาติ นิยโม น สิชฺฌติ ¶ ปาราชิกานาปชฺชนกานมฺปิ เสกฺขาทีนํ สมฺภวา, อถ โข ตฺติจตุตฺถกมฺเมน อุปสมฺปนฺเนสุเยว ปาราชิกาปตฺติอาปชฺชนกา อลชฺชี พาลปุถุชฺชนา ลพฺภนฺติ, น ปน เอหิภิกฺขุอาทีสูติ เอวํ นิยโม สิชฺฌติ, เอวมิธาปิ ปกตตฺเตสุเยว เอกโต กมฺมกรณารหา อนาปตฺติกา ลชฺชี กุกฺกุจฺจกา สิกฺขากามา อุปลพฺภนฺติ ¶ , น อปกตตฺเตสูติ เอวเมว นิยโม สิชฺฌติ อปกตตฺตานํ คณปูรณตฺตาภาเวน อสํวาสิกตฺตนิยมโต. อลชฺชิโน ปน คณปูรกา หุตฺวา กมฺมสฺส สาธนโต อสํวาสิเกสุ น คหิตา กตฺตพฺพวิธึ อกตฺวา เตหิ สห มทฺทิตฺวา กมฺมํ กโรนฺตานํ อาปตฺติ อลชฺชิตา จ น วิคจฺฉตีติ เวทิตพฺพํ. ‘‘เอโก อลชฺชี อลชฺชีสตมฺปิ กโรตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๕) หิ วุตฺตํ, เตเนว วกฺขติ ‘‘สพฺเพปิ ลชฺชิโน เอเตสุ กมฺมาทีสุ สห วสนฺตี’’ติอาทิ. อยฺจตฺโถ อุปริ วิตฺถารโต อาวิ ภวิสฺสติ.
ตถาติ สีมาปริจฺฉินฺเนหีติอาทึ ปรามสติ. เอกโต วนฺทนภฺุชนคามปฺปเวสนวตฺตาปฏิวตฺตกรณอุคฺคหปริปุจฺฉาสชฺฌายกรณาทิสามคฺคิกิริยาวเสน ภควตา ปฺตฺตสิกฺขาปทสิกฺขนํ สมสิกฺขตา นาม, ตฺจ ลชฺชีเหว สมํ สิกฺขิตพฺพํ, น อลชฺชีหีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฺตฺตํ ปน…เป… สมสิกฺขตา นามา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อนติกฺกมนวเสน อุคฺคหปริปุจฺฉาทิวเสน จ ลชฺชีปุคฺคเลหิ สมํ เอกโต สิกฺขิตพฺพา สมสิกฺขาติ สิกฺขาปทานิ วุตฺตานิ, ตาสํ สมสิกฺขนํ ยถาวุตฺตนเยน ลชฺชีหิ สิกฺขิตพฺพภาโว สมสิกฺขตา นามาติ อธิปฺปาโย. ยถาวุตฺเตสุ เอกกมฺมาทีสุ อลชฺชีนํ ลชฺชิธมฺเม อโนกฺกนฺเต ลชฺชีหิ สห สํวาโส นตฺถิ, ตโต พหิเยว เต สนฺทิสฺสนฺตีติ อาห สพฺเพปิ ลชฺชิโนติอาทิ.
๕๖. ยํ ตํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. วตฺถุเมว น โหตีติ สุวณฺณาทีหิ กตอิตฺถิรูปานํ องฺคชาเตสุปิ นิมิตฺตโวหารทสฺสนโต ตตฺถ ปาราชิกาสงฺกานิวตฺตนตฺถํ วุตฺตํ. เตเนว วินีตวตฺถูสุ เลปจิตฺตาทิวตฺถูสุ สฺชาตกุกฺกุจฺจสฺส ปาราชิเกน อนาปตฺติ วุตฺตา.
ปมจตุกฺกวณฺณนา
๕๗. อสฺสาติ อาขฺยาตปทนฺติ ตสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โหตี’’ติ อาห, ภเวยฺยาติ อตฺโถ, โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ทุติเย อตฺถวิกปฺเป ‘‘โหตี’’ติ อิทํ วจนเสโส.
๕๘. สาทิยนฺตสฺเสวาติ ¶ เอตฺถ สาทิยนํ นาม เสเวตุกามตาจิตฺตสฺส อุปฺปาทนเมวาติ อาห ‘‘ปฏิเสวนจิตฺตสมงฺคิสฺสา’’ติ. ปฏิปกฺขนฺติ อนิฏฺํ ¶ อหิตํ. ‘‘ภิกฺขูนํ ปจฺจตฺถิกา ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา’’ติ วุตฺเต อุปริ วุจฺจมานา ราชปจฺจตฺถิกาทโยปิ อิเธว ปวิสนฺตีติ ตํ นิวตฺตนตฺถํ ภิกฺขู เอว ปจฺจตฺถิกาติ ราชปจฺจตฺถิกานุรูเปน อตฺโถ ทสฺสิโต. ตสฺมึ ขเณติ ปเวสนกฺขเณ. อคฺคโต หิ ยาว มูลา ปเวสนกิริยาย วตฺตมานกาโล ปเวสนกฺขโณ นาม. ปวิฏฺกาเลติ องฺคชาตสฺส ยตฺตกํ านํ ปเวสนารหํ, ตตฺตกํ อนวเสสโต ปวิฏฺกาเล, ปเวสนกิริยาย นิฏฺิตกฺขเณติ อตฺโถ. เอวํ ปวิฏฺสฺส อุทฺธรณารมฺภโต อนฺตรา ิตกาเล ิตํ องฺคชาตํ, ตสฺส ิติ วา ิตํ นาม, อฏฺกถายํ ปน มาตุคามสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺึ ปตฺวา สพฺพถา วายามโต โอรมิตฺวา ิตกาลํ สนฺธาย ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺิสมเย’’ติ วุตฺตํ, ตทุภยมฺปิ ิตเมวาติ คเหตพฺพํ. อุทฺธรณํ นาม ยาว อคฺคา นีหรณกิริยาย วตฺตมานกาโลติ อาห ‘‘นีหรณกาเล ปฏิเสวนจิตฺตํ อุปฏฺาเปตี’’ติ.
เอตฺถ จ ยสฺมา ปเรหิ อุปกฺกมิยมานสฺส องฺคชาตาทิกายจลนสฺส วิชฺชมานตฺตา เสวนจิตฺเต อุปฏฺิตมตฺเต ตสฺมึ ขเณ จิตฺตชรูเปน สฺชายมานํ องฺคชาตาทิจลนํ อิมินา เสวนจิตฺเตน อุปฺปาทิตเมว โหติ. อปิจ เสวนจิตฺเต อุปฺปนฺเน ปเรหิ อนุปกฺกมิยมานสฺสาปิ องฺคชาเต จลนํ โหเตว, ตฺจ เตน กตํ นาม โหติ, ตสฺมา กายจิตฺตโต สมุฏฺิตํ ปาราชิกาปตฺตึ โส อาปชฺชติเยว อุพฺภชาณุมณฺฑลิกา (ปาจิ. ๖๕๗-๖๕๘) วิย. ตตฺถาปิ หิ ‘‘อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑลํ อามสนํ วา…เป… ปฏิปีฬนํ วา สาทิเยยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๖๕๗) สาทิยนมตฺเตเยว อาปตฺติ วุตฺตา, ภิกฺขุโน กายสํสคฺเค ปน ‘‘กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยา’’ติ (ปารา. ๒๗๐) อตฺตโน อุปกฺกมสฺส อาปตฺตินิมิตฺตภาเวน วุตฺตตฺตา อิตฺถิยา ผุสิยมานสฺส กายสํสคฺคราเค จ อิตฺถิยา สฺชนิตกายจลเน จ วิชฺชมาเนปิ อตฺตโน ปโยคาภาเวน อนาปตฺติเยว วุตฺตาติ คเหตพฺพํ. เกจิ ปน ‘‘ปมสงฺฆาทิเสสวิสเยปิ ปเรหิ พลกฺกาเรน หตฺถาทีหิ อุปกฺกมิยมานสฺส โมจนสฺสาโท จ อุปฺปชฺชติ, เตน จ อสุจิมฺหิ มุตฺเต สงฺฆาทิเสโส, อมุตฺเต ถุลฺลจฺจยํ เอวา’’ติ วทนฺติ. องฺคารกาสุนฺติ องฺคารราสึ, องฺคารปุณฺณาวาฏํ วา. อิตฺถิยา อุปกฺกมิยมาเน อสาทิยนํ นาม น สพฺเพสํ วิสโยติ ¶ อาห อิมฺหีติอาทิ. เอกาทสหิ อคฺคีหีติ ราคโทสโมหชาติชรามรณโสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสสงฺขาเตหิ เอกาทสคฺคีหิ. อสฺสาติ อสาทิยนฺตสฺส. จตุกฺกํ นีหริตฺวา เปสีติ เอตฺถ เอกปุคฺคลวิสยตาย เอโกปิ อนาปตฺติวาโร ปเวสนปวิฏฺิตอุทฺธรณสงฺขอาตานํ จตุนฺนํ ปทานํ วเสน ‘‘จตุกฺก’’นฺติ วุตฺโต. ปมจตุกฺกกถาติ เอตฺถ ปน อนาปตฺติวาเรน สทฺธึ ปฺจนฺนํ วารานํ วุตฺตนเยน ‘‘ปฺจ จตุกฺกา’’ติ วตฺตพฺเพปิ เอกมคฺควิสยตาย ¶ เตสํ เอกตฺตํ อาโรเปตฺวา ปมจตุกฺกตา วุตฺตา. เตเนว วกฺขติ ติณฺณํ มคฺคานํ วเสน ตีณิ สุทฺธิกจตุกฺกานีติอาทิ.
เอกูนสตฺตติทฺวิสตจตุกฺกกถาวณฺณนา
๕๙-๖๐. มตฺตนฺติ สุราทีหิ มตฺตํ. อกฺขายิตนิมิตฺตา อิธ อุตฺตรปทโลเปน อกฺขายิตสทฺเทน วุตฺตาติ อาห ‘‘อกฺขายิตนิมิตฺต’’นฺติ. ชาครนฺตินฺติอาทิ วิเสสนรหิตตฺตา ‘‘สุทฺธิกจตุกฺกานี’’ติ วุตฺตํ. สมานาจริยกาเถราติ เอกาจริยสฺส อุทฺเทสนฺเตวาสิกา. คงฺคาย อปรภาโค อปรคงฺคํ. วตเรติ ครหตฺเถ นิปาโต. เอวํ วินยครุกานนฺติ อิมินา อุปริ อุปติสฺสตฺเถเรน วุจฺจมานวินิจฺฉยสฺส ครุกรณียตาย การณํ วุตฺตํ. สพฺพํ ปริยาทิยิตฺวาติ สพฺพํ ปาราชิกเขตฺตํ อนวเสสโต คเหตฺวา. ยทิ หิ สาวเสสํ กตฺวา ปฺเปยฺย, อลชฺชีนํ ตตฺถ เลเสน อชฺฌาจารโสโต ปวตฺตตีติ อาห ‘‘โสตํ ฉินฺทิตฺวา’’ติ. สหเสยฺยาทิปณฺณตฺติวชฺชสิกฺขาปเทสุเยว (ปาจิ. ๔๙-๕๑) สาวเสสํ กตฺวาปิ ปฺาปนํ สมฺภวติ, น โลกวชฺเชสูติ อาห อิทฺหีติอาทิ. สหเสยฺยสิกฺขาปเท หิ (ปาจิ. ๔๙ อาทโย) กิฺจาปิ เยภุยฺยจฺฉนฺเน เยภุยฺยปริจฺฉนฺเน เหฏฺิมปริจฺเฉทโต ปาจิตฺติยํ ทสฺสิตํ, อุปฑฺฒจฺฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, ตถาปิ สาวเสสตฺตา ปฺตฺติยา เยภุยฺยจฺฉนฺนอุปฑฺฒปริจฺฉนฺนาทีสุปิ อฏฺกถายํ ปาจิตฺติยเมว ทสฺสิตํ. อิธ ปน นิรวเสสตฺตา ปฺตฺติยา ภควตา ทสฺสิตํ เยภุยฺเยน อกฺขายิตนิมิตฺตโต เหฏฺา ปาราชิกกฺเขตฺตํ นตฺถิ, ถุลฺลจฺจยาทิเมว ตตฺถ ลพฺภติ.
อุปติสฺสตฺเถเรน วุตฺตสฺเสว วินิจฺฉยสฺส อฺมฺปิ อุปตฺถมฺภการณํ ทสฺเสนฺโต อปิจาติอาทิมาห. นิมิตฺเต อปฺปมตฺติกาปิ มํสราชิ สเจ อวสิฏฺา ¶ โหติ, ตํ เยภุยฺยกฺขายิตเมว โหติ, ตโต ปรํ ปน สพฺพโส ขายิเต นิมิตฺเต ทุกฺกฏเมวาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตโต ปรํ ถุลฺลจฺจยํ นตฺถี’’ติ. เกจิ ปเนตฺถ วจฺจมคฺคาทึ จตฺตาโร โกฏฺาเส กตฺวา ‘‘เตสุ ทฺเว โกฏฺาเส อติกฺกมฺม ยาว ตติยโกฏฺาสสฺส ปริโยสานา ขายิตํ เยภุยฺยกฺขายิตํ นาม, ตโต ปรํ ถุลฺลจฺจยํ นตฺถิ, ยาว จตุตฺถโกฏฺาสสฺส ปริโยสานา ขายิตํ, ตมฺปิ ทุกฺกฏวตฺถุเยวา’’ติ จ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ. มตสรีรสฺมึเยว เวทิตพฺพนฺติ มตํ เยภุยฺเยน อกฺขายิตนฺติอาทิวจนโต วุตฺตํ. ยทิปิ นิมิตฺตนฺติอาทิ ชีวมานกสรีรเมว สนฺธาย วุตฺตํ ตสฺเสว อธิกตตฺตา. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) ‘‘ชีวมานกสรีรสฺส วุตฺตปฺปกาเร มคฺเค สเจปิ ตจาทีนิ อนวเสเสตฺวา สพฺพโส ฉินฺเน’’ติอาทิ ¶ วุตฺตํ. สพฺพโส ขายิตนฺติ นิมิตฺตมํสํ สพฺพํ ฉินฺนนฺติ อตฺโถ. นิมิตฺตสณฺานนฺติ ฉินฺนมํสสฺส อนฺโต ยาว มุตฺตวตฺถิโกสา ฉิทฺทากาโร อพฺภนฺตรฉวิจมฺมมตฺโต อิตฺถินิมิตฺตากาโร, เตนาห ‘‘ปเวสนํ ชายตี’’ติ. นิมิตฺตสณฺานํ ปน อนวเสเสตฺวาติ ปเวสนารหฉิทฺทากาเรน ิตอพฺภนฺตรมํสาทึ อนวเสเสตฺวา. เอเตน ยาว ปเวโส ลพฺภติ, ตาว มคฺโคเยวาติ ทสฺเสติ. นิมิตฺตโต ปติตาย มํสเปสิยาติ อิทํ นิมิตฺตสณฺานวิรหิตํ อพฺภนฺตรมํสขณฺฑํ สนฺธาย วุตฺตํ. นิมิตฺตสณฺานํ อโกเปตฺวา สมนฺตโต ฉินฺทิตฺวา อุทฺธฏมํสเปสิยา ปน มตสรีเร เยภุยฺเยน อกฺขายิตนิมิตฺเต วิย อุปกฺกมนฺตสฺส ปาราชิกเมว.
เอวํ ชีวมานกมนุสฺสสรีเร ลพฺภมานวิเสสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ มตสรีเร ทสฺเสตุํ มตสรีเร ปนาติอาทิมาห. วตฺถิโกเสสูติ ปุริสานํ องฺคชาตโกสจมฺเมสุ. ‘‘นวทฺวาโร มหาวโณ’’ติอาทิ (มิ. ป. ๒.๖.๑) วจนโต มนุสฺสานํ อกฺขินาสาทีนิ วณสงฺเขเปน ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺตานีติ เตสุปิ ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ, เอวํ มนุสฺสานํ มตสรีเรปิ, เตนาห มเต อลฺลสรีเรติอาทิ. ตตฺถ อลฺลสรีเรติ อกุถิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปาราชิกกฺเขตฺเตติ เยภุยฺเยน อกฺขายิตมฺปิ สนฺธาย วุตฺตํ. ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเตติ อุปฑฺฒกฺขายิตาทิมฺปิ สนฺธาย วุตฺตํ. เอตฺถ จ อกฺขินาสาทิถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเตสุ เยภุยฺเยน อกฺขายิเตสุปิ ถุลฺลจฺจยํ, อุปฑฺฒกฺขายิตาทีสุ ทุกฺกฏนฺติ เวทิตพฺพํ. สพฺเพสมฺปีติ ยถาวุตฺตหตฺถิอาทีหิ อฺเสํ ติรจฺฉานานํ ¶ สงฺคณฺหนตฺถํ วุตฺตํ. ติรจฺฉานคตานํ อกฺขิกณฺณวเณสุ ทุกฺกฏํ ปน อฏฺกถาปฺปมาเณน คเหตพฺพํ, ‘‘อมคฺเคน อมคฺคํ ปเวเสติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๖๖) หิ สามฺโต วุตฺตํ, น ปน มนุสฺสานนฺติ วิเสเสตฺวา. ยทิ หิ มนุสฺสานฺเว วเณสุ ถุลฺลจฺจยํ สิยา, หตฺถิอสฺสาทีนํ นาสวตฺถิโกเสสุปิ ปฏงฺคมุขมณฺฑูกสฺส มุขสณฺาเนปิ จ วณสงฺเขปโต ถุลฺลจฺจยํ น วตฺตพฺพํ สิยา, วุตฺตฺจ. ตสฺมา อฏฺกถาจริยา เอเวตฺถ ปมาณํ. มตานํ ติรจฺฉานคตานนฺติ มตเกน สมฺพนฺโธ.
เมถุนราเคน วตฺถิโกสํ ปเวเสนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘วตฺถิโกสํ อปฺปเวเสนฺโต’’ติ. เมถุนราโค จ นาม กายสํสคฺคราคํ โมจนสฺสาทฺจ มฺุจิตฺวา วิสุํ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติยา ราโค, โส จ ปุริสาทีสุปิ อุปฺปชฺชติ, เตน จ อปาราชิกกฺเขตฺเต อิตฺถิสรีเรปิ อุปกฺกมนฺตสฺส อสุจิมฺหิ มุตฺเตปิ สงฺฆาทิเสโส น โหติ, เขตฺตานุรูปํ ถุลฺลจฺจยทุกฺกฏเมว โหตีติ เวทิตพฺพํ. อปฺปเวเสนฺโตติ อิมินา ตีสุ มคฺเคสุ ปเวสนาธิปฺปาเย อสติปิ เมถุนราเคน พหิ ฆฏฺฏนํ สมฺภวตีติ ทสฺเสติ, เตเนว ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ, อิตรถา ปเวสนาธิปฺปาเยน ¶ พหิ ฉุปนฺตสฺส เมถุนสฺส ปุพฺพปโยคตฺตา ทุกฺกฏเมว วตฺตพฺพํ สิยา. นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฉุปติ ถุลฺลจฺจยนฺติ อิทฺจ ‘‘น จ, ภิกฺขเว, รตฺตจิตฺเตน องฺคชาตํ ฉุปิตพฺพํ, โย ฉุเปยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๒) อิมสฺส จมฺมกฺขนฺธเก อาคตสฺส สุตฺตสฺส วเสน วุตฺตํ. ตตฺถ จ เกสฺจิ อฺถาปิ อตฺถวิกปฺปสฺส พีชํ ทสฺเสนฺโต มหาอฏฺกถายํ ปนาติอาทิมาห. มุเขเนว ฉุปนํ สนฺธายาติ โอฏฺชิวฺหาทิมุขาวยเวน ฉุปนํ สนฺธาย. โอฬาริกตฺตาติ อชฺฌาจารสฺส ถุลฺลตฺตา. ตํ สนฺธายภาสิตนฺติ ตํ ยถาวุตฺตสุตฺตํ. สุตฺตฺหิ อชฺฌาจารํ สนฺธาย ปฏิจฺจ วุตฺตตฺตา ‘‘สนฺธายภาสิต’’นฺติ วุจฺจติ. สุฏฺุสลฺลกฺเขตฺวาติ ปิฏฺึ อภิรุหนฺตานํ องฺคชาตมุเขเนว นิมิตฺตฉุปนสฺส สมฺภวํ เมถุนราคีนฺจ องฺคชาเตน ฉุปนสฺเสว อนุรูปตฺจ สุตฺเต จ ‘‘มุเขนา’’ติ อวุตฺตตฺจ อฺฺจ นยํ ยถาพลํ สุฏฺุ สลฺลกฺเขตฺวาติ อตฺโถ. สงฺฆาทิเสโสติ มนุสฺสิตฺถึ สนฺธาย วุตฺตํ. ปสฺสาวมคฺคนฺติ อิทํ จมฺมกฺขนฺธเก นิทานวเสน วุตฺตํ. อิตรมคฺคทฺวยํ ปน นิมิตฺตมุเขน ฉุปนฺตสฺส วณสงฺเขเปน ถุลฺลจฺจยเมว. วุตฺตนเยเนวาติ เมถุนราเคเนว. นิมิตฺตมุเขน ปน วินา เมถุนราเคน มนุสฺสิตฺถิยา วา ติรจฺฉานคติตฺถิยา วา ปสฺสาวมคฺคํ ¶ ปกติมุเขน ฉุปนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว ปกติมุเขน ปกติมุขฉุปเน วิย, อิตรถา ตตฺถาปิ ถุลฺลจฺจเยน ภวิตพฺพํ, ตฺจ น ยุตฺตํ ขนฺธกสุตฺเตปิ ตถา อวุตฺตตฺตา. กายสํสคฺคราเคน ทุกฺกฏนฺติ นิมิตฺตมุเขน วา ปกติมุขาทึ อิตรกาเยน วา กายสํสคฺคราเคน ฉุปนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว.
เอตฺถ จ กายสํสคฺคราเคน พหินิมิตฺเต อุปกฺกมโต อชานนฺตสฺเสว องฺคชาตํ ยทิ ปาราชิกกฺเขตฺตํ ฉุปติ, ตตฺถ กึ โหตีติ? เกจิ ตาว ‘‘เมถุนราคสฺส อภาวา มนุสฺสิตฺถิยา สงฺฆาทิเสโส, เสเสสุ วตฺถุวเสน ถุลฺลจฺจยทุกฺกฏานี’’ติ วทนฺติ. อฺเ ปน ‘‘ปเวสนกฺขเณ ผสฺสสฺส สาทิยนสมฺภวโต พลกฺกาเรน อุปกฺกมนกฺขเณ วิย ปาราชิกเมวา’’ติ วทนฺติ, อิทเมว ยุตฺตตรํ. มคฺคตฺตยโต หิ อฺสฺมึ ปเทเสเยว กายสํสคฺคาทิราคเภทโต อาปตฺติเภโท ลพฺภติ, น มคฺคตฺตเย. ตตฺถ ปน เยน เกนจิ อากาเรน ผสฺสสฺส สาทิยนกฺขเณ ปาราชิกเมว, เตเนว ปโรปกฺกเมน ปเวสนาทีสุ ราคเภทํ อนุทฺธริตฺวา สาทิยนมตฺเตน ปาราชิกํ วุตฺตํ.
สนฺถตจตุกฺกเภทกถาวณฺณนา
๖๑-๒. ปฏิปนฺนกสฺสาติ อารทฺธวิปสฺสกสฺส. อุปาทินฺนกนฺติ กายินฺทฺริยํ สนฺธาย วุตฺตํ. อุปาทินฺนเกน ผุสตีติ อุปาทินฺนกสรีเรน ผุสียตีติ กมฺมสาธเนน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อถ วา เอวํ ¶ กโรนฺโต ภิกฺขุ กิฺจิ อุปาทินฺนกํ อุปาทินฺนเกน น ผุสตีติ อตฺโถ. เลสํ โอฑฺเฑสฺสนฺตีติ เลสํ เปสฺสนฺติ, ปริกปฺเปสฺสนฺตีติ อตฺโถ. สนฺถตาทิเภเทหิ ภินฺทิตฺวาติ สนฺถตาทิวิเสสเนหิ วิเสเสตฺวา. สนฺถตายาติ สมุทาเย เอกเทสโวหาโร ทฑฺฒสฺส ปฏสฺส ฉิทฺทนฺติอาทีสุ วิย. ยถา หิ ปฏสฺส เอกเทโสว วตฺถโต ทฑฺโฒติ วุจฺจติ, ตํ เอกเทสโวหารํ สมุทาเย ปเฏ อุปจารโต อาโรเปตฺวา ปุน ตํ สมุทายํ ทฑฺฒปฺปเทสสงฺขาตฉิทฺทสมฺพนฺธีภาเวน ‘‘ทฑฺฒสฺส ปฏสฺส ฉิทฺท’’นฺติ โวหรนฺติ, เอวมิธาปิ อิตฺถิยา มคฺคปฺปเทสโวหารํ สมุทายภูตาย อิตฺถิยา อาโรเปตฺวา ปุน ตํ อิตฺถึ สนฺถตมคฺคสมฺพนฺธินึ กตฺวา สนฺถตาย อิตฺถิยา วจฺจมคฺเคนาติอาทิ วุตฺตํ. สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๖๑-๖๒) ปเนตฺถ ‘‘เอกเทเส สมุทายโวหาโร’’ติ วุตฺตํ, ตํ น ¶ ยุตฺตํ อวยวโวหาเรน สมุทายสฺเสว ปตียมานตฺตา. อิตรถา หิ สนฺถตาย วจฺจมคฺเคนาติ อิตฺถิลิงฺคตา มคฺคสมฺพนฺธิตา จ น สิยา, เอกเทเส สมุทาโยปจารสฺส ปน เอกเทโสว อตฺโถ สาขาย ฉิชฺชมานาย รุกฺโข ฉิชฺชตีติอาทีสุ วิย.
วตฺถาทีนิ มคฺคสฺส อนฺโต อปฺปเวเสตฺวา พหิเยว เวนํ สนฺธาย ‘‘ปลิเวเตฺวา’’ติ วุตฺตํ. สมุทาเย อวยวูปจาเรเนว ภิกฺขุปิ สนฺถโต นามาติอาทิ วุตฺตํ. ยตฺตเก ปวิฏฺเติ ติลพีชมตฺเต ปวิฏฺเ. อกฺขินาสาทีนํ สนฺถตตฺเตปิ ยถาวตฺถุกเมวาติ อาห ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเต ถุลฺลจฺจยนฺติอาทิ. ขาณุํ ฆฏฺเฏนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ อิตฺถินิมิตฺตสฺส อนฺโต ขาณุํ ปเวเสตฺวา สมตลํ, อติริตฺตํ วา ิตํ ขาณุํ สเจ ฆฏฺเฏติ, ฆฏฺเฏนฺตสฺส ทุกฺกฏํ ปเวสาภาวโต. สเจ ปน อีสกํ อนฺโต อลฺโลกาเส ปเวเสตฺวา ิตํ อนุปาทินฺนเมว ขาณุสีสํ องฺคชาเตน ฉุปติ, ปาราชิกเมว. ตสฺส ตลนฺติ เวฬุนฬาทิกสฺส อนฺโตตลํ. พหิทฺธา ขาณุเกติ อนฺโต ปเวสิตเวฬุปพฺพาทิกสฺส พหิ นิกฺขนฺตสีสํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยถา จ อิตฺถินิมิตฺเตติอาทีสุ ยถา อิตฺถิยา ปสฺสาวมคฺเค ขาณุํ กตฺวา ฆฏฺฏนาทิกํ วุตฺตํ, เอวํ สพฺพตฺถ วจฺจมคฺคาทีสุปิ ลกฺขณํ เวทิตพฺพนฺติ อตฺโถ.
ราชปจฺจตฺถิกาทิจตุกฺกเภทกถาวณฺณนา
๖๕. เกราฏิกาติ วฺจกา. ปมํ อิตฺถิธุตฺตเมว ทสฺเสตฺวา อิทานิ อิตรธุตฺเตปิ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อิตฺถิธุตฺตสุราธุตฺตาทโย วา’’ติ วุตฺตํ.
อาปตฺตานาปตฺติวารวณฺณนา
๖๖. ปฏิฺาตกรณํ ¶ นตฺถิ เสเวตุกามตา มคฺเคน มคฺคปฺปฏิปตฺตีติ ทฺวินฺนํ องฺคานํ สิทฺธตฺตา. ทูสิตสฺส ปน มคฺเคน มคฺคปฺปฏิปตฺติ เอวเมกํ องฺคํ สิทฺธํ, เสเวตุกามตาสงฺขาตํ สาทิยนํ อสิทฺธํ. ตสฺมา โส ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สาทิยิ’’นฺติ วุตฺตปฏิฺาย นาเสตพฺโพ. ตตฺเถวาติ เวสาลิยํ มหาวเน เอว. สพฺพงฺคคตนฺติ สพฺพกายคตํ. ‘‘โลหิตํ วิยา’’ติ วุตฺตตฺตา เกสาทีนํ วินิมุตฺตฏฺาเน สพฺพตฺถาติ คเหตพฺพํ. นิจฺจเมว อุมฺมตฺตโก โหตีติ ¶ ยสฺส ปิตฺตโกสโต ปิตฺตํ จลิตฺวา สพฺพทา พหิ นิกฺขนฺตํ โหติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยสฺส ปน ปิตฺตํ จลิตฺวา ปิตฺตโกเสเยว ิตํ โหติ, กทาจิ วา นิกฺขนฺตํ ปุน นิกฺขมติ, โสปิ อนฺตรนฺตรา สฺํ ปฏิลภติ เภสชฺเชน จ ปกติอาโรคฺยํ ปฏิลภตีติ เวทิตพฺพํ.
ปทภาชนียวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
ปกิณฺณกกถาวณฺณนา
ปกิณฺณกนฺติ โวมิสฺสกนยํ. สมุฏฺานนฺติ อุปฺปตฺติการณํ. กิริยาติอาทิ นิทสฺสนมตฺตํ อกิริยาทีนมฺปิ สงฺคหโต. เวทนาย สห กุสลฺจ เวทิตพฺพนฺติ โยเชตพฺพํ. สพฺพสงฺคาหกวเสนาติ สพฺเพสํ สิกฺขาปทานํ สงฺคาหกวเสน ‘‘กาโย วาจา กายวาจา กายจิตฺตํ วาจาจิตฺตํ กายวาจาจิตฺต’’นฺติ เอวํ วุตฺตานิ ฉ อาปตฺติสมุฏฺานานิ. สมุฏฺานาทโย หิ อาปตฺติยา เอว โหนฺติ, น สิกฺขาปทสฺส. ตํตํสิกฺขาปทสฺส นิยตอาปตฺติยา เอว คหณตฺถํ ปน สิกฺขาปทสีเสน สมุฏฺานาทีนํ กถนํ. เอวฺหิ อาปตฺติวิเสโส ปฺายติ อาปตฺติ-สทฺทสฺส สพฺพาปตฺติสาธารณตฺตา, อิเมสุ ปน ฉสุ สมุฏฺาเนสุ ปุริมานิ ตีณิ อจิตฺตกานิ, ปจฺฉิมานิ สจิตฺตกานิ. สมาสโต ตํ อิมํ ปกิณฺณกํ วิทิตฺวา เวทิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ฉ สมุฏฺานานิ เอตสฺสาติ ฉสมุฏฺานํ. เอวํ เสเสสุปิ.
อตฺถิ กถินสมุฏฺานนฺติอาทิ สมุฏฺานสีสวเสน ทฺวิสมุฏฺานเอกสมุฏฺานานํ ทสฺสนํ. เตรส หิ สมุฏฺานสีสานิ ปมปาราชิกสมุฏฺานํ อทินฺนาทานสมุฏฺานํ สฺจริตฺตสมุฏฺานํ สมนุภาสนสมุฏฺานํ กถินสมุฏฺานํ เอฬกโลมสมุฏฺานํ ปทโสธมฺมสมุฏฺานํ อทฺธานสมุฏฺานํ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ ธมฺมเทสนาสมุฏฺานํ ภูตาโรจนสมุฏฺานํ โจรีวุฏฺาปนสมุฏฺานํ อนนฺุาตสมอุฏฺานนฺติ. ตตฺถ อตฺถิ ฉสมุฏฺานนฺติ อิมินา สฺจริตฺตสมุฏฺานํ วุตฺตํ, ปฺจสมุฏฺานสฺส อภาวโต ¶ ‘‘อตฺถิ ปฺจสมุฏฺาน’’นฺติ อวตฺวา ‘‘อตฺถิ จตุสมุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ, อิมินา จ อทฺธานสมุฏฺานํ อนนฺุาตสมุฏฺานฺจ สงฺคหิตํ. ยฺหิ ปมตติยจตุตฺถฉฏฺเหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺาติ ¶ , อิทํ อทฺธานสมุฏฺานํ. ยํ ปน ทุติยตติยปฺจมฉฏฺเหิ สมุฏฺาติ, อิทํ อนนฺุาตสมุฏฺานํ. อตฺถิ ติสมุฏฺานนฺติ อิมินา อทินฺนาทานสมุฏฺานํ ภูตาโรจนสมุฏฺานฺจ สงฺคหิตํ. ยฺหิ สจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฏฺาติ, อิทํ อทินฺนาทานสมุฏฺานํ. ยํ ปน อจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฏฺาติ, อิทํ ภูตาโรจนสมุฏฺานํ. อตฺถิ กถินสมุฏฺานนฺติอาทินา ปน อวเสสสมอุฏฺานสีสวเสน ทฺวิสมุฏฺานํ เอกสมุฏฺานฺจ สงฺคณฺหาติ. ตตฺถ หิ ยํ ตติยฉฏฺเหิ สมุฏฺาติ, อิทํ กถินสมุฏฺานํ นาม. ยํ ปน ปมจตุตฺเถหิ สมุฏฺาติ, อิทํ เอฬกโลมสมุฏฺานํ. ยํ ฉฏฺเเนว สมุฏฺาติ, อิทํ ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ, ‘‘สมนุภาสนสมอุฏฺาน’’นฺติปิ ตสฺเสว นามํ. อิติ สรูเปน อฏฺ อาปตฺติสีสานิ ทสฺสิตานิ. อาทิสทฺเทน ปเนตฺถ อวเสสานิ ปมปาราชิกสมุฏฺานปทโสธมฺมเถยฺยสตฺถธมฺมเทสนาโจรีวุฏฺาปนสมุฏฺานานิ ปฺจปิ สมุฏฺานสีสานิ สงฺคหิตานิ. ตตฺถ ยํ กายจิตฺตโต สมุฏฺาติ, อิทํ ปมปาราชิกสมุฏฺานํ. ยํ ทุติยปฺจเมหิ สมุฏฺาติ, อิทํ ปทโสธมฺมสมุฏฺานํ. ยํ จตุตฺถฉฏฺเหิ สมุฏฺาติ, อิทํ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ. ยํ ปฺจเมเนว สมุฏฺาติ, อิทํ ธมฺมเทสนาสมอุฏฺานํ. ยํ ปฺจมฉฏฺเหิ สมุฏฺาติ, อิทํ โจรีวุฏฺาปนสมุฏฺานํ. เอตฺถ จ ปจฺฉิเมสุ ตีสุ สจิตฺตกสมุฏฺาเนสุ เอเกกสมุฏฺานวเสน เอกสมุฏฺานานิ ติวิธานิ. ทฺวิสมุฏฺานานิ ปน ปมจตุตฺเถหิ วา ทุติยปฺจเมหิ วา ตติยฉฏฺเหิ วา จตุตฺถฉฏฺเหิ วา ปฺจมฉฏฺเหิ วา สมุฏฺานวเสน ปฺจวิธานีติ เวทิตพฺพานิ.
เอวํ สมุฏฺานวเสน สพฺพสิกฺขาปทานิ เตรสธา ทสฺเสตฺวา อิทานิ กิริยาวเสน ปฺจธา ทสฺเสตุํ ตตฺราปีติอาทิ วุตฺตํ. กิฺจีติ สิกฺขาปทํ. กิริยโตติ ปถวีขณนาทิ (ปาจิ. ๘๔-๘๕) วิย กายวจีวิฺตฺติชนิตกมฺมโต. อกิริยโตติ ปมกถินาทิ (ปารา. ๔๕๙ อาทโย) วิย กตฺตพฺพสฺส อกรเณเนว. กิริยากิริยโตติ อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา หตฺถโต จีวรปฏิคฺคหณาทิ (ปารา. ๕๐๘ อาทโย) วิย. สิยา กิริยโต, สิยา อกิริยโต รูปิยปฏิคฺคหณาทิ (ปารา. ๕๘๒ อาทโย) วิย, สิยา กิริยโต, สิยา กิริยากิริยโต กุฏิการาทิ (ปารา. ๓๔๒) วิย. วีติกฺกมสฺาย อภาเวน วิโมกฺโข อสฺสาติ สฺาวิโมกฺขนฺติ มชฺเฌปทโลปีสมาโส ทฏฺพฺโพ. จิตฺตงฺคํ ลภติ สจิตฺตกสมุฏฺาเนเหว ¶ สมุฏฺหนโต. อิตรนฺติ ยสฺส จิตฺตงฺคนิยโม นตฺถิ, ตํ, อนาปตฺติมุเขน เจตํ สฺาทุกํ วุตฺตํ, อาปตฺติมุเขน สจิตฺตกทุกนฺติ เอตฺตกเมว วิเสโส, อตฺถโต สมานาว.
กายวจีทฺวาเรหิ ¶ อาปชฺชิตพฺพมฺปิ กายกมฺเม วา วจีกมฺเม วา สงฺคยฺหติ. ตตฺถ พาหุลฺลวุตฺติโต อทินฺนาทานมุสาวาทาทโย วิยาติ อตฺถิ สิกฺขาปทํ กายกมฺมนฺติอาทินา กายกมฺมํ วจีกมฺมฺจาติ ทุกเมว วุตฺตํ, วิภาคโต ปน กายวจีกมฺเมน สทฺธึ ติกเมว โหติ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘สพฺพา จ กายกมฺมวจีกมฺมตทุภยวเสน ติวิธา โหนฺตี’’ติ. ตโตเยว อิธาปิ อทินฺนาทานาทีสุ (ปารา. ๘๙) กายกมฺมวจีกมฺมนฺติ ตทุภยวเสน ทสฺสิตํ. อตฺถิ ปน สิกฺขาปทํ กุสลนฺติอาทิ อาปตฺติสมุฏฺาปกจิตฺตวเสน การิเย การโณปจาเรน วุตฺตํ, น ปน อาปตฺติยา กุสลาทิปรมตฺถธมฺมตาวเสน อาปตฺติยา สมฺมุติสภาวตฺตา. กุสลากุสลาทิปรมตฺถธมฺเม อุปาทาย หิ ภควตา อาปตฺติสมฺมุติ ปฺตฺตา. วกฺขติ หิ ‘‘ยํ กุสลจิตฺเตน อาปชฺชติ, ตํ กุสล’’นฺติอาทิ (ปารา. อฏฺ. ๑.๖๖ ปกณฺณกกถา). น หิ ภควโต อาณายตฺตา อาปตฺติ กุสลาทิปรมตฺถสภาวา โหติ อนุปสมฺปนฺนานํ อาทิกมฺมิกานฺจ อาปตฺติปฺปสงฺคโต, ตสฺสา เทสนาทีหิ วิสุทฺธิอภาวปฺปสงฺคโต จ. น หิ การณพเลน อุปฺปชฺชมานา กุสลาทิสภาวา อาปตฺติ อนุปสมฺปนฺนาทีสุ นิวตฺตติ, อุปฺปนฺนาย จ ตสฺสา เกนจิ วินาโส น สมฺภวติ. สรสวินาสโต เทสนาทินา จ อาปตฺติ วิคจฺฉตีติ วจนมตฺถิ, น ปน เตน อกุสลาทิ วิคจฺฉติ. ปิตุฆาตาทิกมฺเมน หิ ปาราชิกํ อาปนฺนสฺส ภิกฺขุโน คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา ภิกฺขุภาวปริจฺจาเคน ปาราชิกาปตฺติ วิคจฺฉติ, น ปาณาติปาตาทิอกุสลํ อานนฺตริยาทิภาวโต. ตสฺมา ทุมฺมงฺกูนํ นิคฺคหาทิทสอตฺถวเส (ปารา. ๓๙; ปริ. ๒) ปฏิจฺจ ภควตา ยถาปจฺจยํ สมุปฺปชฺชมาเน กุสลากุสลาทินามรูปธมฺเม อุปาทาย ปฺตฺตา สมฺมุติเยว อาปตฺติ, สา จ ยถาวิธิปฏิกมฺมกรเณน วิคตา นาม โหตีติ เวทิตพฺพํ, เตนาห ทฺวตฺตึเสว หิ อาปตฺติสมุฏฺาปกจิตฺตานีติอาทิ. อาปตฺติสมุฏฺาปกตฺเตเนว เหตฺถ กุสลาทีนํ อาปตฺติโต เภโท สิทฺโธ. น ¶ หิ ตํสมุฏฺิตสฺส ตโต อเภโท ยุตฺโต สมุฏฺานสมุฏฺิตเภทพฺยวหารุปจฺเฉทปฺปสงฺคโต. สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๖๖ ปกิณฺณกกถาวณฺณนา) ปน อาปตฺติยา ปรมตฺถโต กุสลตฺตเมว น สมฺภวติ ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ, สิยา อพฺยากตํ, นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ วจนโต, ‘‘อกุสลตฺตํ ปน อพฺยากตตฺตฺจ อาปตฺติยา สมฺภวตี’’ติ สฺาย กุสลจิตฺตสมุฏฺานกฺขเณปิ รูปาพฺยากตตฺตํ อาปตฺติยา สมตฺเถตุํ ยํ กุสลจิตฺเตน อาปชฺชติ, ตํ กุสลํ, อิตเรหิ อิตรนฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๖๖ ปกิณฺณกกถา) อิมํ อฏฺกถาวจนํ นิสฺสาย วุตฺตํ ‘‘ยํ กุสลจิตฺเตน อาปชฺชตีติ ยํ สิกฺขาปทสีเส คหิตํ อาปตฺตึ กุสลจิตฺตสมงฺคี อาปชฺชติ, อิมินา ปน วจเนน ตํ กุสลนฺติ อาปตฺติยา วุจฺจมาโน กุสลภาโว ปริยายโต, น ปรมตฺถโตติ ทสฺเสติ. กุสลจิตฺเตน หิ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต สวิฺตฺติกํ ¶ อวิฺตฺติกํ วา สิกฺขาปทวีติกฺกมาการปฺปวตฺตํ รูปกฺขนฺธสงฺขาตํ อพฺยากตาปตฺตึ อาปชฺชตี’’ติ. ตตฺถ ยํ กุสลจิตฺเตน อาปชฺชตีติ อิมํ วจนํ อุทฺทิสฺส ‘‘อิมินา ปน วจเนน ตํ กุสลนฺติ อาปตฺติยา วุจฺจมาโน กุสลภาโว ปริยายโต, น ปรมตฺถโตติ ทสฺเสตี’’ติ วุตฺตํ, เอวํ อิตเรหิ อิตรนฺติ วจเนน ‘‘ยํ อกุสลจิตฺเตน อาปชฺชหิ, ตํ อกุสลํ, ยํ อพฺยากตจิตฺเตน อาปชฺชติ, ตํ อพฺยากต’’นฺติ อิมสฺส อตฺถสฺส วุตฺตตฺตา อิตเรหีติ วจนํ อุทฺทิสฺส ‘‘อิมินาปิ วจเนน อิตรนฺติ อาปตฺติยา วุจฺจมาโน อกุสลภาโว อพฺยากตภาโว จ ปริยายโต ทสฺเสตี’’ติ วตฺตพฺพํ. เอวํ อวตฺวา กุสลปกฺเข เอว กถนสฺส การณํ น ปสฺสาม. ยํ ปน อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลนฺติอาทิวจนํ การณตฺเตน วุตฺตํ, ตมฺปิ อการณํ ยํ อกุสลจิตฺเตน อาปชฺชติ, ตํ อกุสลนฺติอาทินา เหฏฺา วุตฺตนเยน อกุสลาทิภาวสฺส ปริยายเทสิตตฺตา, อาปตฺติยา กุสลโวหารสฺส อยุตฺตตาย นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสลนฺติ วุตฺตตฺตา จ. อาปตฺติยา หิ กุสลจิตฺตสมุฏฺิตตฺเตปิ ภควตา ปฏิกฺขิตฺตภาเวน สาวชฺชธมฺมตฺตา การณูปจาเรนาปิ อนวชฺชกุสลโวหาโร น ยุตฺโต สาวชฺชานวชฺชานํ อฺมฺวิรุทฺธตฺตา. ยถา อากาสาทิสมฺมุติสจฺจานํ อุปฺปนฺนตาทิโวหาโร วิย ชาติชราภงฺคานํ อุปฺปนฺนตาทิโวหาโร อนวฏฺานาทิเทสโต อยุตฺโต, เอวมิธาปิ กุสลโวหาโร อยุตฺโต วิรุทฺธตฺตา. อกุสลาทิโวหาโร ปน ยุตฺโต ¶ , การณูปจาเรน ปน อกุสลาทิสภาวตา ยถาวุตฺตโทสานติวตฺตนโต. สุตฺตสฺสาปิ หิ ยถา สุตฺตสุตฺตานุโลมาทีหิ วิโรโธ น โหติ, ตเถว อตฺโถ คเหตพฺโพ.
ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘กุสลจิตฺเตน หิ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต…เป… รูปกฺขนฺธสงฺขาตํ อพฺยากตาปตฺตึ อาปชฺชตี’’ติ, ตํ อยุตฺตเมว รูปกฺขนฺธสฺส ขณิกตาย อาปตฺติยาปิ เทสนาทิปฏิกมฺมํ วินาว ปฏิปสฺสทฺธิปฺปสงฺคโต. รูปปรมฺปรา อาปตฺตีติ เจ? ตนฺน, ปฏิกมฺเมนาปิ อวิคมปฺปสงฺคโต. น หิ รูปสนฺตติเทสนาทีหิ วิคจฺฉติ สการณายตฺตตฺตา, อิติ สพฺพถา อาปตฺติยา ปรมตฺถตา อยุตฺตา, เอเตเนว ยํ วุตฺตํ ‘‘นิปชฺชิตฺวา นิโรธสมาปนฺนสฺส สหเสยฺยวเสน ตถาการปฺปวตฺตรูปธมฺมสฺเสว อาปตฺติภาวโต’’ติอาทิ, ตมฺปิ ปฏิสิทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ. อิธ ปน นิโรธสมาปนฺนานํ รูปธมฺมเมว ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนตฺตา อาปตฺติ อจิตฺตา อเวทนา, อฺตฺถ ปน สจิตฺตา สเวทนาว, สพฺพตฺถาปิ ปฺตฺติสภาวาติ เวทิตพฺพา. เตเนว ทุฏฺโทสสิกฺขาปทฏฺกถายํ อาปตฺติยา อกุสลาทิสภาวํ ปรปริกปฺปิตํ นิเสเธตุํ ‘‘อาทิกมฺมิกสฺส อนาปตฺติวจนโต…เป… ปณฺณตฺติมตฺตเมว อาปตฺตาธิกรณนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติ สยเมว วกฺขติ, ตสฺมา ‘‘ตํตํกุสลาทิธมฺมสมุปฺปตฺติยา ภควตา ปฺตฺตา อาปตฺติสมฺมุติ สมุฏฺิตา’’ติ จ, ‘‘ยาว ปฏิปฺปสฺสทฺธิการณา ติฏฺตี’’ติ จ, ‘‘ปฏิปฺปสฺสทฺธิการเณหิ ¶ วินสฺสตี’’ติ จ โวหรียติ. อาปตฺติยา จ สมฺมุติสภาวตฺเตปิ หิ สฺจิจฺจ ตํ อาปชฺชนฺตสฺส, ปฏิกิริยํ อกโรนฺตสฺส จ อนาทเร อกุสลราสิ เจว สคฺคมคฺคนฺตราโย จ โหตีติ ลชฺชิโน ยถาวิธึ นาติกฺกมนฺติ, อนติกฺกมนปฺปจฺจยา จ เตสํ อนนฺตปฺปเภทา สีลาทโย ธมฺมา ปริวฑฺฒนฺตีติ คเหตพฺพํ. ทฺวตฺตึเสวาติ นิยโม อาปตฺตินิมิตฺตานํ กายวจีวิฺตฺตีนํ เอเตเหว สมุปฺปชฺชนโต กโต, น ปน สพฺพาปตฺตีนมฺปิ เอเตเหว สมุปฺปชฺชนโต. นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺตานฺหิ ฌานนิโรธสมาปนฺนานฺจ อวิฺตฺติชนเกหิ วิปากอปฺปนาจิตฺเตหิ เจว รูปธมฺเมหิ จ สหเสยฺยาทิอาปตฺติ สมฺภวติ.
ทสาติ กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุทฺวเยน สห อฏฺ มหากิริยจิตฺตานิ. ปฺตฺตึ อชานิตฺวา อิทฺธิวิกุพฺพนาทีสุ อภิฺานํ อาปตฺติสมุฏฺาปกตฺตํ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ จ กิฺจิ สิกฺขาปทํ อกุสลจิตฺตเมว, กิฺจิ ¶ กุสลาพฺยากตวเสน ทฺวิจิตฺตํ, กิฺจิ ติจิตฺตนฺติ อยเมว เภโท ลพฺภติ, นาฺโติ เวทิตพฺพํ. กิริยาสมุฏฺานนฺติ ปรูปกฺกเมน ชายมานํ องฺคชาตาทิจลนํ สาทิยนจิตฺตสงฺขาเต เสวนจิตฺเต อุปฺปนฺเน เตน จิตฺเตน สมุปฺปาทิตเมว โหตีติ วุตฺตํ อิตรถา ‘‘สิยา กิริยสมุฏฺานํ, สิยา อกิริยสมุฏฺาน’’นฺติ วตฺตพฺพโต.
ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๖๖ ปกิณฺณกกถาวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘กิริยสมุฏฺานนฺติ อิทํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ ปรูปกฺกเม สติ สาทิยนฺตสฺส อกิริยสมุฏฺานภาวโต’’ติอาทิ, ตํ น คเหตพฺพํ ปมปาราชิกสฺส อกิริยสมุฏฺานตาย ปาฬิอฏฺกถาสุ อวุตฺตตฺตา. ‘‘มโนทฺวาเร อาปตฺติ นาม นตฺถี’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา; ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๔) หิ วุตฺตํ. กถฺหิ นาม ปรูปกฺกเมน เมถุนํ สาทิยนฺโต อตฺตโน องฺคชาตาทิกายจลนํ น สาทิเยยฺย, สาทิยนจิตฺตานุคุณเมว ปน สกลสรีเร จิตฺตชรูปสมุปฺปตฺติยา วิฺตฺติปิ สุขุมา สมุปฺปนฺนา เอว โหตีติ ทฏฺพฺพํ, เตนาห กายทฺวาเรเนว สมุฏฺานโต กายกมฺมนฺติอาทิ. จิตฺตํ ปเนตฺถ องฺคมตฺตํ โหตีติ กายวิฺตฺติ เอว กายกมฺมภาเว การณํ, น จิตฺตํ. ตํ ปเนตฺถ กายสงฺขาตาย วิฺตฺติยาเยว องฺคมตฺตํ, น กายกมฺมภาวสฺส, อิตรถา เมถุนสฺส ‘‘มโนกมฺม’’นฺติ วตฺตพฺพโต, เตนาห ‘‘น ตสฺส วเสน กมฺมภาโว ลพฺภตี’’ติ. กมฺมภาโวติ กายกมฺมภาโว. สพฺพฺเจตนฺติ เอตํ สมุฏฺานาทิกํ. สิกฺขาปทสีเสนาติ ตํตํสิกฺขาปทนิยตอาปตฺติยา เอว คหณตฺถํ สิกฺขาปทมุเขน.
ปกิณฺณกกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
วินีตวตฺถุวณฺณนา
อิทํ ¶ กินฺติ กเถตุกามตาปุจฺฉา. อิมาติอาทิ วิสฺสชฺชนํ. วินีตานิ อาปตฺตึ ตฺวํ ภิกฺขุ อาปนฺโนติอาทินา (ปารา. ๖๗) ภควตา วินิจฺฉินิตานิ วตฺถูนิ วินีตวตฺถูนิ. ตํ ตํ วตฺถุํ อุทฺธริตฺวา ทานโต ทสฺสนโต อุทฺทานภูตา คาถา อุทฺทานคาถา, สงฺคหคาถา, อุทฺเทสคาถาติ วุตฺตํ โหติ. วตฺถุ คาถาติ เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขูติอาทิกา วินีตวตฺถุปาฬิเยว เตสํ เตสํ วินีตวตฺถูนํ คนฺถนโต ‘‘วตฺถุคาถา’’ติ วุตฺตา ¶ , น ฉนฺโทวิจิติลกฺขเณน. อุทฺทานคาถานํ วตฺถุ วตฺถุคาถาติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอตฺถาติ วินีตวตฺถูสุ. ทุติยาทีนนฺติ ทุติยปาราชิกาทีนํ. ยํ ปสฺสิตฺวา จิตฺตการาทโย สิปฺปิกา จิตฺตกมฺมาทีนิ สิกฺขนฺติ, ตํ ปฏิจฺฉนฺนกรูปํ, ปฏิมารูปนฺติ อตฺโถ.
๖๗. ปุริมานิ ทฺเวติ มกฺกฏีวชฺชิปุตฺตกวตฺถูนิ ทฺเว. ตานิปิ ภควตา วินีตภาเวน ปุน วินีตวตฺถูสุ ปกฺขิตฺตานิ. ตตฺถ ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสีติอาทิ ปน กิฺจาปิ เตสํ ปมํ กุกฺกุจฺจํ น อุปฺปนฺนํ, ภิกฺขูหิ ปน ภควตา จ ครหิตฺวา วุตฺตวจนํ สนฺธาย ปจฺฉา อุปฺปนฺนตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุนฺติอาทิ จ ภิกฺขูหิ อานนฺทตฺเถเรน จ ปมํ ภควโต อาโรจิเต, ภควตา จ เตสํ ปาราชิกตฺเต ปกาสิเต ภีตา เต สยมฺปิ คนฺตฺวา อตฺตโน กุกฺกุจฺจํ ปจฺฉา อาโรเจนฺติ เอว. ‘‘สจฺจํ กิร ตฺว’’นฺติอาทินา ภควตา ปุฏฺา ปน ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติ ปฏิชานนวเสนาปิ อาโรเจนฺติ. ภควาปิ อาปตฺตึ ตฺวนฺติอาทินา เตสํ ปาราชิกตฺตํ วินิจฺฉิโนติ เอว. อนุปฺตฺติกถายํ ปน ตํ สพฺพํ อวตฺวา อนุปฺตฺติยา อนุคุณเมว กิฺจิมตฺตํ วุตฺตํ, อิธาปิ เตสํ วตฺถูนํ ภควตา วินีตภาวทสฺสนตฺถํ เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เกจิ อิมํ อธิปฺปายํ อมนสิกตฺวา ‘‘อฺาเนเวตานิ วตฺถูนี’’ติ วทนฺติ. กุเสติ กุสติณานิ. เกเสหีติ มนุสฺสเกเสหิ.
๖๘. วณฺณโปกฺขรตายาติ เอตฺถ โปกฺขลํ นาม สมิทฺธํ สุนฺทรฺจ, ตสฺส ภาโว ‘‘โปกฺขรตา’’ติ ร-การํ กตฺวา วุตฺโต, สมิทฺธตา สุนฺทรตาติ อตฺโถ. ปธํเสสีติ อภิภวิ. น ลิมฺปตีติ น อลฺลียติ.
๖๙. เอวรูปา ปริวตฺตลิงฺคา ภิกฺขุนิโย อตฺถโต เอกโต อุปสมฺปนฺนาปิ อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนาสุเยว สงฺคยฺหนฺติ ภิกฺขูปสมฺปทาย ภิกฺขุนีอุปสมฺปทโตปิ อุกฺกฏฺตฺตา. ปาฬิยํ ‘‘ตาหิ อาปตฺตีหิ อนาปตฺติ’’นฺติ อุปโยควจนํ กตฺวา อนุชานามีติ ปเทน สมฺพนฺธิตพฺพํ. อิตฺถิลิงฺคนฺติ ¶ ถนาทิกํ อิตฺถิสณฺานํ วุตฺตนฺติ อาห – ‘‘ปุริส…เป… อิตฺถิสณฺานํ อุปฺปนฺน’’นฺติ. ตํ นานนฺตริกโต ปน ‘‘ปุริสินฺทฺริยมฺปิ อนฺตรหิตํ, อิตฺถินฺทฺริยฺจ อุปฺปนฺน’’นฺติ วุตฺตเมว โหติ, เอวํ อุปริปิ ลิงฺคคฺคหเณเนว อิตฺถินฺทฺริยาทิคฺคหณํ เวทิตพฺพํ. ตาติ อาปตฺติโย, ตสฺส วุฏฺาตุนฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ, ตาหิ อาปตฺตีหิ วุฏฺาเปตุนฺติ ¶ อตฺโถ. กถนฺติ อาห ตา สพฺพาปิ ภิกฺขุนีหิ กาตพฺพนฺติอาทิ. เตน ปฏิจฺฉนฺนายปิ อปฺปฏิจฺฉนฺนายปิ ครุกาปตฺติยา ปกฺขมานตฺตจรณาทิกํ วิธึ ทสฺเสติ.
โอกฺกนฺติกวินิจฺฉโยติ ปสงฺคานุคุณํ โอตรณกวินิจฺฉโย. พลวอกุสเลนาติ ปรทาริกกมฺมาทินา. ทุพฺพลกุสเลนาติ ยถาวุตฺตพลวากุสโลปหตสตฺตินา ตโต เอว ทุพฺพลภูเตน กุสเลน. ทุพฺพลอกุสเลนาติ ปุริสภาวุปฺปาทกพฺรหฺมจริยาทิพลวกุสโลปหตสตฺตินา ตโต เอว ทุพฺพลภูเตน ปรทาริกาทิอกุสเลน. สุคติยํ ภาวทฺวยสฺส กุสลกมฺมชตฺตา อกุสเลเนว วินาโส กุสเลเนว อุปฺปตฺตีติ อาห อุภยมฺปีติอาทิ. ทุคฺคติยํ ปน อกุสเลเนว อุภินฺนมฺปิ อุปฺปตฺติ จ วินาโส จ, ตตฺถ ทุพฺพลพลวภาโวว วิเสโส.
‘‘เอหิ มยํ คมิสฺสามา’’ติ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิธาย เอกทฺธานคมเน ปาจิตฺติยาปตฺติปริหารตฺถํ วุตฺตํ ‘‘สํวิทหนํ ปริโมเจตฺวา’’ติ. เตน เอกคามกฺเขตฺเตปิ พหิคามโต อนฺตรฆรํ สํวิธาย คมนมฺปิ อาปตฺติกรเมวาติ ทสฺเสติ. ปริโมจนวิธึ ทสฺเสนฺโต อาห มยนฺติอาทิ. พหิคาเมติ คามนฺตเร. ทุติยิกา ภิกฺขุนี ปกฺกนฺตา วา โหตีติอาทินา (ปาจิ. ๖๙๓) วุตฺตอนาปตฺติลกฺขณํ อนุโลเมตีติ วุตฺตํ ‘‘คามนฺตร…เป… อนาปตฺตี’’ติ. โกเปตฺวาติ ปริจฺจชิตฺวา. ลชฺชินิโย…เป… ลพฺภตีติ ลิงฺคปริวตฺตนทุกฺขปีฬิตสฺส สงฺคเหปิ อสติ หีนายาวตฺตนมฺปิ ภเวยฺยาติ ‘‘อาปทาสู’’ติ วุตฺตอนาปตฺติอนุโลเมน วุตฺตํ. ตาย ทุติยิกํ คเหตฺวาว คนฺตพฺพํ. อลชฺชินิโย…เป… ลพฺภตีติ อลชฺชินีหิ สทฺธึ เอกกมฺมาทิสํวาเส อาปตฺติสมฺภวโต ตา อสนฺตปกฺขํ ภชนฺตีติ วุตฺตํ, อิมินาเปตํ เวทิตพฺพํ ‘‘อลชฺชินีหิ สทฺธึ ปริโภโค น วฏฺฏตี’’ติ. ยทิ หิ วฏฺเฏยฺย, ตโตปิ ทุติยิกํ วินา คามนฺตรคมนาทีสุ อาปตฺติ เอว สิยา สงฺคาหิกตฺตา ตาสํ สงฺคาหิกลชฺชินิคณโต วิย. าติกา น โหนฺติ…เป… วฏฺฏตีติ วทนฺตีติ อิมินา อฏฺกถาสุ อนาคตภาวํ ทีเปติ. ตตฺถาปิ วิสฺสาสิกาติกภิกฺขุนิโย วินา ภิกฺขุนิภาเว อรมนฺตสฺส มานปกติกสฺส อาปทาฏฺานสมฺภเวน ตํ วจนํ อปฺปฏิกฺขิตฺตมฺปิ ตทฺเสํ น วฏฺฏติเยวาติ คเหตพฺพํ. ภิกฺขุภาเวปีติ ภิกฺขุกาเลปิ ¶ . ตํ นิสฺสายาติ ตํ นิสฺสยาจริยํ กตฺวา. อุปชฺฌา คเหตพฺพาติ อุปสมฺปทาคหณตฺถํ อุปชฺฌา คเหตพฺพา.
วินยกมฺมนฺติ ¶ วิกปฺปนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปุน กาตพฺพนฺติ ปุน วิกปฺเปตพฺพํ. ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ วฏฺฏตีติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนีนํ สนฺนิธึ ภิกฺขูหิ, ภิกฺขูนํ สนฺนิธึ ภิกฺขุนีหิ จ ปฏิคฺคาหาเปตฺวา ปริภฺุชิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๔๒๑) วจนโต ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. สตฺตเม ทิวเสติ อิทฺจ นิสฺสคฺคิยํ อนาปชฺชิตฺวาว ปุนปิ สตฺตาหํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ปกตตฺโตติ อปริวตฺตลิงฺโค. รกฺขตีติ ตํ ปฏิคฺคหณวิชหนโต รกฺขติ, อวิภตฺตตาย ปฏิคฺคหณํ น วิชหตีติ อธิปฺปาโย.
สามํ คเหตฺวาน นิกฺขิเปยฺยาติ สหตฺเถน ปฏิคฺคเหตฺวาน นิกฺขิเปยฺย. ปริภฺุชนฺตสฺส อาปตฺตีติ ลิงฺคปริวตฺเต ชาเต ปุน อปฺปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส อาปตฺติ.
หีนายาวตฺตเนนาติ เอตฺถ เกจิ ‘‘ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย ‘คิหี ภวิสฺสามี’ติ คิหิลิงฺคคฺคหณํ หีนายาวตฺตน’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ ตตฺตเกน ภิกฺขุภาวสฺส อวิชหนโต. อฺเ ปน ‘‘ปาราชิกํ อาปนฺนสฺส ภิกฺขุปฏิฺํ ปหาย คิหิลิงฺคภาวูปคมนมฺปิ หีนายาวตฺตน’’นฺติ วทนฺติ, ตํ ยุตฺตเมว. ปาราชิกํ อาปนฺโน หิ ตํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ยาว ภิกฺขุปฏิฺโ โหติ, ตาว ภิกฺขุ เอว โหติ ภิกฺขูนเมว ปาราชิกสฺส ปฺตฺตตฺตา. ‘‘โย ปน ภิกฺขู’’ติ หิ วุตฺตํ. ตถา หิ โส สํวาสํ สาทิยนฺโตปิ เถยฺยสํวาสโก น โหติ, สหเสยฺยาทิอาปตฺติฺจ น ชเนติ, อตฺตานํ โอมสนฺตสฺส ปาจิตฺติยฺจ ชเนติ. วุตฺตฺหิ –
‘‘อสุทฺโธ โหติ ปุคฺคโล อฺตรํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน, ตฺเจ สุทฺธทิฏฺิ สมาโน โอกาสํ การาเปตฺวา อกฺโกสาธิปฺปาโย วเทติ, อาปตฺติ โอมสวาทสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๘๙).
เอเก ปน ‘‘ปาราชิกํ อาปนฺนานํ โทสํ ปฏิชานิตฺวา คิหิลิงฺคคฺคหณํ นาม สิกฺขาปจฺจกฺขาเน สโมธานํ คจฺฉติ เตนาปิ ปฏิฺาย ภิกฺขุภาวสฺส วิชหนโต. เตเนว วินยวินิจฺฉยาทีสุ หีนายาวตฺตนํ สิกฺขาปจฺจกฺขาเน สโมธาเนตฺวา ¶ วิสุํ ตํ น วุตฺตํ. ตสฺมา ภิกฺขุนีนํ วิพฺภมิตุกามตาย คิหิลิงฺคคฺคหณํ อิธ หีนายาวตฺตนํ ตาสํ สิกฺขาปจฺจกฺขานสฺส อภาวโต. ตาสํ ปฏิคฺคหณวิชหนสฺสาปิ สพฺพโส วตฺตพฺพตฺตา’’ติ วทนฺติ, ตมฺปิ อปฺปฏิพาหิยเมว. ตสฺมา ปาราชิกานํ ภิกฺขุนีนฺจ ‘‘อุปฺปพฺพชิสฺสามี’’ติ คิหิลิงฺคคฺคหณํ ¶ หีนายาวตฺตนนฺติ คเหตพฺพํ. วิพฺภโมติปิ เอตสฺเสว นามํ, เตเนว ตํ ขุทฺทสิกฺขายํ ‘‘อจฺเฉทวิสฺสชฺชนคาหวิพฺภมา’’ติ อธิฏฺานวิชหเน วิพฺภมนาเมน วุตฺตํ.
อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนนาติ อฺสฺส อทตฺวาว อนตฺถิกสฺเสว ปฏิคฺคหิตวตฺถูนํ พหิ ฉฑฺฑเนน. เกจิ ‘‘ปฏิคฺคหิตวตฺถูสุ สาเปกฺขสฺส ปุเร ปฏิคฺคหิตภาวโต ปริโมจนตฺถํ ตตฺถ ปฏิคฺคหมตฺตสฺส วิสฺสชฺชนมฺปิ อนเปกฺขวิสฺสชฺชนเมว จีวราทิอธิฏฺานปจฺจุทฺธาโร วิยา’’ติ วทนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ ตถาวจนาภาวา. ยเถว หิ จีวราทีสุ อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนน อธิฏฺานวิชหนํ วตฺวาปิ วิสุํ ปจฺจุทฺธาโร จ วุตฺโต, เอวมิธาปิ วตฺตพฺพํ, ยถา จ จีวราทีสุ กายปฏิพทฺเธสุปิ ปจฺจุทฺธาเรน อธิฏฺานํ วิคจฺฉติ, น เอวมิธ. อิธ ปน ปฏิคฺคหิตวตฺถุสฺมึ อนเปกฺขสฺสาปิ กายโต มุตฺเตเยว ตสฺมึ ปฏิคฺคหณํ วิชหติ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘สตกฺขตฺตุมฺปิ ปริจฺจชตุ, ยาว อตฺตโน หตฺถคตํ ปฏิคฺคหิตเมวา’’ติ. อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนนาติ เอตฺถ จ ‘‘อนเปกฺขายา’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ อนเปกฺขตํ มฺุจิตฺวา อิธ วิสุํ วิสฺสชฺชนสฺส อภาวา. น เหตฺถ ปจฺจุทฺธาเร วิย วิสฺสชฺชนวิธานมตฺถิ. อปิจ ปฏิคฺคหณมตฺตวิสฺสชฺชเน สติ ปุเร ปฏิคฺคหิโตปิ อาหาโร ภฺุชิตุกมฺยตาย อุปฺปนฺนาย ปฏิคฺคหณมตฺตํ วิสฺสชฺเชตฺวา ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ยถาสุขํ ภฺุชิตพฺโพ สิยาติ, ตถา จ สนฺนิธิการกสิกฺขาปเท วุตฺตา สพฺพาปิ วินิจฺฉยเภทา นิรตฺถกา เอว สิยุํ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ –
‘‘คณฺิกปตฺตสฺส วา คณฺิกนฺตเร สฺเนโห ปวิฏฺโ โหติ…เป… ตาทิเส ปตฺเตปิ ปุนทิวเส ภฺุชนฺตสฺส ปาจิตฺติย’’นฺติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๓).
ตตฺถ ปน ‘‘ปฏิคฺคหณํ อนเปกฺขจิตฺเตน วิสฺสชฺเชตฺวา ภฺุชิตพฺพ’’นฺติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ, น จ วุตฺตํ. กตฺถจิ อีทิเสสุ จ คณฺิกปตฺตาทีสุ ปฏิคฺคหเณ อเปกฺขา กสฺสจิปิ นตฺเถว ตปฺปหานาย วายามโต, ตถาปิ ตตฺถคตอามิเส ปฏิคฺคหณํ น วิคจฺฉติ. กสฺมา? ภิกฺขุสฺส ปตฺเต ปุน ภฺุชิตุกามตาเปกฺขาย ¶ วิชฺชมานตฺตา ปตฺตคติเก อาหาเรปิ ตสฺสา วตฺตนโต. น หิ ปตฺตํ อวิสฺสชฺเชตฺวา ตคฺคติกํ อาหารํ วิสฺสชฺเชตุํ สกฺกา, นาปิ อาหารํ อวิสฺสชฺเชตฺวา ตคฺคติกํ ปฏิคฺคหณํ วิสฺสชฺเชตุํ. ตสฺมา วตฺถุโน วิสฺสชฺชนเมว อนเปกฺขวิสฺสชฺชนํ, น ปฏิคฺคหณสฺสาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. เตเนว สนฺนิธิสิกฺขาปทสฺส อนาปตฺติวาเร –
‘‘อนฺโตสตฺตาหํ ¶ อธิฏฺเติ, วิสฺสชฺเชติ, นสฺสติ, วินสฺสติ, ฑยฺหติ, อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺติ, วิสฺสาสํ คณฺหนฺติ, อนุปสมฺปนฺนสฺส จตฺเตน วนฺเตน มุตฺเตน อนเปกฺโข ทตฺวา ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชตี’’ติ –
เอวํ สพฺพตฺถ วตฺถุวิสฺสชฺชนเมว วุตฺตํ. เอตฺถ จ ‘‘อนฺโตสตฺตาหํ อธิฏฺเตี’’ติ พาหิรปริโภคาย อธิฏฺานวจนโต วตฺถุํ อวิสฺสชฺเชตฺวาปิ เกวลํ อนชฺโฌหริตุกามตาย สุทฺธจิตฺเตน พาหิรปริโภคตฺถาย นิยมนมฺปิ วิสุํ เอกํ ปฏิคฺคหณวิชหนการณเมว, อิทฺจ สนฺธาย ปฏิคฺคหณมตฺตวิสฺสชฺชนํ วุตฺตํ สิยา, สุวุตฺตเมว สิยา, ตถา จ ‘‘ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิสฺสามี’’ติ ปฏิคฺคหณวิสฺสชฺชนํ น วตฺตพฺพํ สิยา พาหิรปริโภคาธิฏฺานสฺส อิธาธิปฺเปตตฺตา.
สารตฺถทีปนิยฺหิ (สารตฺถ. ที. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๖๙) ‘‘อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนนาติ เอตฺถ อฺสฺส อทตฺวาว อนตฺถิกตาย ‘นตฺถิ อิมินา กมฺมํ น ทานิ นํ ปริภฺุชิสฺสามี’ติ วตฺถูสุ วา, ‘ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ปฏิภฺุชิสฺสามี’ติ ปฏิคฺคหเณ วา อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนนา’’ติ เอวํ ปริภฺุชิตุกามสฺเสว ปฏิคฺคหณมตฺตวิสฺสชฺชนมฺปิ ปฏิคฺคหณวิชหนการณํ วุตฺตํ, ตํ น คเหตพฺพํ. ปุริมเมว ปน พาหิรปริโภคาธิฏฺานํ คเหตพฺพํ. อิทํ ปน อฏฺกถาสุ ‘‘อนเปกฺขวิสฺสชฺชนสงฺขาเต วิสฺสชฺเชตี’’ติ วุตฺตปาฬิปทตฺเถ สงฺคเหตฺวา วิสุํ น วุตฺตํ. นสฺสติ, วินสฺสติ, ฑยฺหติ, วิสฺสาสํ วา คณฺหนฺตีติ อิมานิ ปน ปทานิ อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺตีติ อิมสฺมึ ปเท สงฺคหิตานีติ เวทิตพฺพํ.
อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณนาติ อนุปสมฺปนฺนานํ พลกฺการาทินา อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณน. อุปสมฺปนฺนานฺหิ อจฺฉินฺทนวิสฺสาสคฺคาเหสุ ปฏิคฺคหณํ น วิชหติ. เอตฺถาติ ภิกฺขุวิหาเร. อุปโรปกาติ เตน โรปิตา รุกฺขคจฺฉา. เตรสสุ ¶ สมฺมุตีสูติ ภตฺตุทฺเทสกเสนาสนปฺาปกภณฺฑาคาริกจีวรปฏิคฺคาหกจีวรภาชกยาคุภาชกผลภาชกขชฺชภาชกอปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชกสาทิยคาหาปกปตฺตคาหาปกอารามิกเปสกสามเณรเปสกสมฺมุติสงฺขาตาสุ เตรสสุ สมฺมุตีสุ.
ปจฺฉิมิกาย เสนาสนคฺคาเห ปฏิปฺปสฺสทฺเธปิ อปฺปฏิปฺปสฺสทฺเธปิ กถินตฺถารสฺส, ตมฺมูลกานํ ปฺจานิสํสานฺจ อภาวสฺส สมานตฺตา ตตฺถ วิชฺชมานมฺปิ เสนาสนคฺคาหปฏิปฺปสฺสทฺธึ อทสฺเสตฺวา ตตฺถ ภิกฺขูหิ กตฺตพฺพํ สงฺคหเมว ทสฺเสตุํ สเจ ปจฺฉิมิกายาติอาทิ วุตฺตํ. สเจ อกุสลวิปาเก ¶ …เป… ฉารตฺตํ มานตฺตเมว ทาตพฺพนฺติ อิทํ ปฏิจฺฉนฺนาย สาธารณาปตฺติยา ปริวสนฺตสฺส อสมาทินฺนปริวาสสฺส วา ลิงฺเค ปริวตฺเต ปกฺขมานตฺตํ จรนฺตสฺส วเสน วุตฺตํ. สเจ ปนสฺส ปกฺขมานตฺเต อสมาทินฺเน เอว ปุน ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, ปริวาสํ ทตฺวา ปริวุตฺถปริวาสสฺเสว ฉารตฺตํ มานตฺตํ ทาตพฺพํ. ปริวาสทานํ นตฺถิ ภิกฺขุกาเล อปฺปฏิจฺฉนฺนภาวโต. สเจ ปน ภิกฺขุกาเลปิ สฺจิจฺจ นาโรเจติ, อาปตฺติ ปฏิจฺฉนฺนาว โหติ, อาปตฺติปฏิจฺฉนฺนภาวโต ปริวาโส จ ทาตพฺโพติ วทนฺติ. ปาราชิกํ อาปนฺนานํ อิตฺถิปุริสานํ ลิงฺเค ปริวตฺเตปิ ปาราชิกตฺตสฺส เอกสฺมึ อตฺตภาเว อวิชหนโต ปุน อุปสมฺปทา น ทาตพฺพาติ คเหตพฺพํ. เตเนว เตสํ สีสจฺฉินฺนปุริสาทโย นิทสฺสิตา.
๗๑. ตเถวาติ มุจฺจตุ วา มา วาติ อิมมตฺถํ อติทิสติ. อฺเสนฺติ ปุถุชฺชเน สนฺธาย วุตฺตํ. เตสฺหิ อีทิเส าเน อสาทิยนํ ทุกฺกรํ โสตาปนฺนาทิอริยานํ ตตฺถ ทุกฺกรตฺตาภาวา. น หิ อริยา ปาราชิกาทิโลกวชฺชาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ.
๗๓. สุผุสิตาติ อุปริมาย ทนฺตปนฺติยา เหฏฺิมา ทนฺตปนฺติ อาหจฺจ ิตา, อวิวฏาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อนฺโตมุเข โอกาโส นตฺถี’’ติ. อุปฺปาฏิเต ปน โอฏฺมํเส ทนฺเต สุเยว อุปกฺกมนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยนฺติ นิมิตฺเตน พหินิมิตฺเต ฉุปนตฺตา วุตฺตํ. พหินิกฺขนฺตทนฺตชิวฺหาสุปิ เอเสว นโย. นิชฺฌามตณฺหิกา นาม โลมกูเปหิ สมุฏฺิตอคฺคิชาลาหิ ทฑฺฒสรีรตาย อติวิย ตสิตรูปา. อาทิ-สทฺเทน ขุปฺปิปาสาสุรา อฏฺิจมฺมาวสิฏฺา ภยานกสรีรา เปติโย สงฺคหิตา. วิสฺํ กตฺวาติ ยถา โส กตมฺปิ ¶ อุปกฺกมํ น ชานาติ, เอวํ กตฺวา. เตน จ วิสฺี อหุตฺวา สาทิยนฺตสฺส ปาราชิกเมวาติ ทสฺเสติ. อุปหตกายปฺปสาโทติ วาตปิตฺตาทิโทเสหิ กายวิฺาณานุปฺปาทกภาเวน ทูสิตกายปฺปสาโท, น ปน วินฏฺกายปฺปสาโท. สีเส ปตฺเตติ มคฺเคน มคฺคปฺปฏิปาทเน ชาเต. อปฺปเวเสตุกามตาย เอว นิมิตฺเตน นิมิตฺตฉุปเน ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ, เสเวตุกามสฺส ปน ตตฺถาปิ ทุกฺกฏเมวาติ อาห ‘‘ทุกฺขฏเมว สามนฺต’’นฺติ.
๗๔. ชาติ-สทฺเทน สุมนปุปฺผปริยาเยน ตนฺนิสฺสโย คุมฺโพ อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘ชาติปุปฺผคุมฺพาน’’นฺติ. เตน จ ชาติยา อุปลกฺขิตํ วนํ ชาติยาวนนฺติ อลุตฺตสมาโสติ ทสฺเสติ. เอกรสนฺติ วีถิจิตฺเตหิ อสมฺมิสฺสํ.
๗๗. อุปฺปนฺเน วตฺถุมฺหีติ อิตฺถีหิ กตอชฺฌาจารวตฺถุสฺมึ. รุกฺขสูจิกณฺฏกทฺวารนฺติ รุกฺขสูจิทฺวารํ ¶ กณฺฏกทฺวารํ, เอวเมว วา ปาโ. ตตฺถ ยํ อุโภสุ ปสฺเสสุ รุกฺขถมฺเภ นิขนิตฺวา ตตฺถ มชฺเฌ วิชฺฌิตฺวา ทฺเว ติสฺโส รุกฺขสูจิโย ปเวเสตฺวา กโรนฺติ, ตํ รุกฺขสูจิทฺวารํ นาม. ปเวสนนิกฺขมนกาเล ปน อปเนตฺวา ถกนกโยคฺเคน กณฺฏกสาขาปฏเลน ยุตฺตํ ทฺวารํ กณฺฏกทฺวารํ นาม. คามทฺวารสฺส ปิธานตฺถํ ปทเรน กณฺฏกสาขาทีหิ วา กตสฺส กวาฏสฺส อุทุกฺขลปาสรหิตตาย เอเกน สํวริตุํ วิวริตฺุจ อสกฺกุเณยฺยสฺส เหฏฺา เอกํ จกฺกํ โยเชนฺติ, เยน ปริวตฺตมาเนน ตํ กวาฏํ สุขถกนํ โหติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘จกฺกลกยุตฺตทฺวาร’’นฺติ. จกฺกเมว หิ ลาตพฺพฏฺเน สํวรณวิวรณตฺถาย คเหตพฺพฏฺเน จกฺกลกํ, เตน ยุตฺตมฺปิ กวาฏํ จกฺกลกํ นาม, เตน ยุตฺตํ ทฺวารํ จกฺกลกยุตฺตทฺวารํ. มหาทฺวาเรสุ ปน ทฺเว ตีณิปิ จกฺกลกานิ โยเชนฺตีติ อาห ผลเกสูติอาทิ. กิฏิกาสูติ เวฬุเปสิกาหิ กณฺฏกสาขาทีหิ จ กตถกนเกสุ. สํสรณกิฏิกทฺวารนฺติ จกฺกลกยนฺเตน สํสรณกิฏิกายุตฺตมหาทฺวารํ. โคปฺเผตฺวาติ อาวุณิตฺวา, รชฺชูหิ คนฺเถตฺวา วา. เอกํ ทุสฺสสาณิทฺวารเมวาติ เอตฺถ กิลฺชสาณิทฺวารมฺปิ สงฺคหํ คจฺฉติ ตคฺคติกตฺตา. อถ ภิกฺขู…เป… นิสินฺนา โหนฺตีติ อิทํ ภิกฺขูนํ สนฺนิหิตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. นิปนฺเนปิ อาโภคํ กาตุํ วฏฺฏติ, นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺเต ปน อาโภคํ กาตุํ น วฏฺฏติ อสนฺตปกฺเข ิตตฺตา. รโห ¶ นิสชฺชาย วิย ทฺวารสํวรณํ นาม มาตุคามานํ ปเวสนนิวารณตฺถํ อนฺุาตนฺติ อาห ภิกฺขุนึ วาติอาทิ. นิสฺเสณึ อาโรเปตฺวาติ อิทํ เหฏฺิมตลสฺส สทฺวารพนฺธตาย วุตฺตํ. จตูสุ ทิสาสุ ปริกฺขิตฺตสฺส กุฏฺฏสฺส เอกาพทฺธตาย ‘‘เอกกุฏฺฏเก’’ติ วุตฺตํ. ปจฺฉิมานํ ภาโรติ ปาฬิยา อาคจฺฉนฺเต สนฺธาย วุตฺตํ. เยน เกนจิ ปริกฺขิตฺเตติ เอตฺถ ปริกฺเขปสฺส อุพฺเพธโต ปมาณํ สหเสยฺยปฺปโหนเก วุตฺตสทิสเมว.
มหาปริเวณนฺติ มหนฺตํ องฺคณํ, เตน จ พหุชนสฺจารํ ทสฺเสติ, เตนาห มหาโพธีติอาทิ. อรุเณ อุคฺคเต วุฏฺหติ, อนาปตฺติ อนาปตฺติเขตฺตภูตาย รตฺติยา สุทฺธจิตฺเตน นิปนฺนตฺตา. ปพุชฺฌิตฺวา ปุน สุปติ อาปตฺตีติ อรุเณ อุคฺคเต ปพุชฺฌิตฺวา อรุณุคฺคมนํ ตฺวา วา อตฺวา วา อนุฏฺหิตฺวา สยิตสนฺตาเนน สุปติ อุฏฺหิตฺวา กตฺตพฺพสฺส ทฺวารสํวรณาทิโน อกตตฺตา อกิริยสมุฏฺานา อาปตฺติ โหติ อนาปตฺติเขตฺเต กตนิปชฺชนกิริยาย อนงฺคตฺตา. อยฺหิ อาปตฺติ อีทิเส าเน อกิริยา, ทิวา อสํวริตฺวา นิปชฺชนกฺขเณ กิริยา จ อจิตฺตกา จาติ เวทิตพฺพา. ปุรารุณา ปพุชฺฌิตฺวาปิ ยาว อรุณุคฺคมนา สยนฺตสฺสาปิ ปุริมนเยน อาปตฺติเยว. อรุเณ อุคฺคเต วุฏฺหิสฺสามีติ…เป… อาปตฺติเยวาติ เอตฺถ กทา ตสฺส อาปตฺตีติ? วุจฺจเต – น ตาว รตฺติยํ ‘‘ทิวา อาปชฺชติ โน รตฺติ’’นฺติ (ปริ. ๓๒๓) วุตฺตตฺตา. ‘‘อนาทริยทุกฺกฏา น มุจฺจตี’’ติ วุตฺตทุกฺกฏํ ปน ทิวาสยนทุกฺกฏเมว น ¶ โหติ อนาทริยทุกฺกฏตฺตา. เอวํ อรุณุคฺคมเน ปน อจิตฺตกํ อกิริยสมุฏฺานํ อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ เวทิตพฺพํ. โส สเจ ทฺวารํ สํวริตฺวา ‘‘อรุเณ อุคฺคเต วุฏฺหิสฺสามี’’ติ นิปชฺชติ, ทฺวาเร จ อฺเหิ อรุณุคฺคมนกาเล วิวเฏปิ ตสฺส อนาปตฺติเยว ทฺวารปิทหนสฺส รตฺติทิวาภาเคสุ วิเสสาภาวา. อาปตฺติอาปชฺชนสฺเสว กาลวิเสโส อิจฺฉิตพฺโพ, น ตปฺปริหารสฺสาติ คเหตพฺพํ, ‘‘ทฺวารํ อสํวริตฺวา รตฺตึ นิปชฺชตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๗๗) หิ วุตฺตํ. ทิวา สํวริตฺวา นิปนฺนสฺส เกนจิ วิวเฏปิ ทฺวาเร อนาปตฺติเยว. อตฺตนาปิ อนุฏฺหิตฺวาว สติ ปจฺจเย วิวเฏปิ อนาปตฺตีติ วทนฺติ. ยถาปริจฺเฉทเมว จ น วุฏฺาตีติ อรุเณ อุคฺคเตเยว อุฏฺาติ. อาปตฺติเยวาติ มูลาปตฺตึเยว สนฺธาย วุตฺตํ, อนาทริยอาปตฺติ ปน ปุรารุณา อุฏฺิตสฺสาปิ ตสฺส โหเตว ‘‘ทุกฺกฏา ¶ น มุจฺจตี’’ติ วุตฺตตฺตา, ทุกฺกฏา น มุจฺจตีติ จ ปุรารุณา อุฏฺหิตฺวา มูลาปตฺติยา มุตฺโตปิ อนาทริยทุกฺกฏา น มุจฺจตีติ อธิปฺปาโย.
นิทฺทาวเสน นิปชฺชตีติ โวหารวเสน วุตฺตํ, ปาทานํ ปน ภูมิโต อโมจิตตฺตา อยํ นิปนฺโน นาม น โหติ, เตเนว อนาปตฺติ วุตฺตา. อปสฺสาย สุปนฺตสฺสาติ กฏิฏฺิโต อุทฺธํ ปิฏฺิกณฺฏเก อปฺปมตฺตกมฺปิ ปเทสํ ภูมึ อผุสาเปตฺวา ถมฺภาทึ อปสฺสาย สุปนฺตสฺส. กฏิฏฺึ ปน ภูมึ ผุสาเปนฺตสฺส สยนํ นาม โหติ. ปิฏฺิปสารณลกฺขณา หิ เสยฺยา. ทีฆวนฺทนาทีสุปิ ติริยํ ปิฏฺิกณฺฏกานํ ปสาริตตฺตา นิปชฺชนเมวาติ อาปตฺติ ปริหริตพฺพาว ‘‘วนฺทามีติ ปาทมูเล นิปชฺชี’’ติอาทีสุ นิปชฺชนสฺเสว วุตฺตตฺตา. ตสฺสาปิ อนาปตฺติ ปตนกฺขเณ อวิสยตฺตา, วิสเย ชาเต สหสา วุฏฺิตตฺตา จ. ยสฺส ปน วิสฺิตาย ปจฺฉาปิ อวิสโย, เอตสฺส อนาปตฺติเยว ปติตกฺขเณ วิย. ตตฺเถว สยติ น วุฏฺาตีติ อิมินา วิสเยปิ อกรณํ ทสฺเสติ, เตเนว ‘‘ตสฺส อาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ.
เอกภงฺเคนาติ อุโภ ปาเท ภูมิโต อโมเจตฺวาว เอกปสฺเสน สรีรํ ภฺชิตฺวา นิปนฺโน. มหาอฏฺกถายํ ปน มหาปทุมตฺเถเรน วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ, เตน ‘‘มหาอฏฺกถาย ลิขิตมหาปทุมตฺเถรวาโท อย’’นฺติ ทสฺเสติ. ตตฺถ สุปนฺตสฺสาปิ อวิสยตฺตมตฺถีติ มหาปทุมตฺเถเรน ‘‘อวิสยตฺตา ปน อาปตฺติ น ทิสฺสตี’’ติ วุตฺตํ. อาจริยา ปน สุปนฺตสฺส วิสฺตฺตาภาเวน วิสยตฺตา อนาปตฺตึ น กถยนฺติ. วิสฺตฺเต สติ อนาปตฺติเยว. ทฺเว ปน ชนาติอาทิปิ มหาอฏฺกถายเมว วจนํ, ตเทว ปจฺฉา วุตฺตตฺตา ปมาณํ. ยกฺขคหิตคฺคหเณเนว เจตฺถ วิสฺีภูโตปิ สงฺคหิโต. เอกภงฺเคน นิปนฺโน ปน อนิปนฺนตฺตา อาปตฺติโต มุจฺจติเยวาติ คเหตพฺพํ.
๗๘. อปเทติ ¶ อากาเส. ปทนฺติ ปทวฬฺชํ, เตนาห ‘‘อากาเส ปท’’นฺติ. เอตทคฺคนฺติ เอโส อคฺโค. ยทิทนฺติ โย อยํ. เสสํ อุตฺตานเมว.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย วิมติวิโนทนิยํ
ปมปาราชิกวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
๒. ทุติยปาราชิกํ
อทุติเยนาติ ¶ ¶ อสทิเสน ชิเนน ยํ ทุติยํ ปาราชิกํ ปกาสิตํ, ตสฺส อิทานิ ยสฺมา สํวณฺณนากฺกโม ปตฺโต, ตสฺมา อสฺส ทุติยสฺส อยํ สํวณฺณนา โหตีติ โยชนา.
ธนิยวตฺถุวณฺณนา
๘๔. ราชูหิ คหิตนฺติ ราชคหนฺติ อาห ‘‘มนฺธาตู’’ติ. ราชปุโรหิเตน ปริคฺคหิตมฺปิ ราชปริคฺคหิตเมวาติ มหาโควินฺทคฺคหณํ, นครสทฺทาเปกฺขาย เจตฺถ ‘‘ราชคห’’นฺติ นปุํสกนิทฺเทโส. อฺเเปตฺถ ปกาเรติ สุสํวิหิตารกฺขตฺตา ราชูนํ คหํ เคหภูตนฺติ ราชคหนฺติอาทิเก ปกาเร. วสนฺตวนนฺติ กีฬาวนํ, วสนฺตกาเล กีฬาย เยภุยฺยตฺตา ปน วสนฺตวนนฺติ วุตฺตํ.
สทฺวารพนฺธาติ วสฺสูปคมนโยคฺคตาทสฺสนํ. นาลกปฏิปทนฺติ สุตฺตนิปาเต (สุ. นิ. ๖๘๔ อาทโย) นาลกตฺเถรสฺส เทสิตํ โมเนยฺยปฏิปทํ. ปฺจนฺนํ ฉทนานนฺติ ติณปณฺณอิฏฺกสิลาสุธาสงฺขาตานํ ปฺจนฺนํ. โน เจ ลภติ…เป… สามมฺปิ กาตพฺพนฺติ อิมินา นาวาสตฺถวเช เปตฺวา อฺตฺถ ‘‘อเสนาสนิโก อห’’นฺติ อาลยกรณมตฺเตน อุปคมนํ น วฏฺฏติ. เสนาสนํ ปริเยสิตฺวา วจีเภทํ กตฺวา วสฺสํ อุปคนฺตพฺพเมวาติ ทสฺเสติ. ‘‘น, ภิกฺขเว, อเสนาสนิเกนา’’ติอาทินา (มหาว. ๒๐๔) หิ ปาฬิยํ ‘‘นาลกปฏิปทํ ปฏิปนฺเนนาปี’’ติ อฏฺกถายฺจ อวิเสเสน ทฬฺหํ กตฺวา วุตฺตํ, นาวาสตฺถวเชสุเยว จ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นาวาย วสฺสํ อุปคนฺตุ’’นฺติอาทินา (มหาว. ๒๐๓) อสติปิ เสนาสเน อาลยกรณวเสน วสฺสูปคมนํ อนฺุาตํ, นาฺตฺถาติ คเหตพฺพํ. อยมนุธมฺมตาติ สามีจิวตฺตํ. กติกวตฺตานีติ ภสฺสารามตาทึ วิหาย สพฺพทา อปฺปมตฺเตหิ ภวิตพฺพนฺติอาทิกติกวตฺตานิ. ขนฺธกวตฺตานีติ ‘‘อาคนฺตุกาทิขนฺธกวตฺตํ ปูเรตพฺพ’’นฺติ เอวํ ขนฺธกวตฺตานิ จ อธิฏฺหิตฺวา.
วสฺสํวุตฺถาติ ปทสฺส อฏฺกถายํ ‘‘ปุริมิกาย อุปคตา มหาปวารณาย ปวาริตา ปาฏิปททิวสโต ¶ ปฏฺาย ‘วุตฺถวสฺสา’ติ วุจฺจนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา มหาปวารณาทิวเส ปวาเรตฺวา วา อปฺปวาเรตฺวา วา อฺตฺถ คจฺฉนฺเตหิ ¶ สตฺตาหกรณียนิมิตฺเต สติ เอว คนฺตพฺพํ, นาสติ, อิตรถา วสฺสจฺเฉโท ทุกฺกฏฺจ โหตีติ เวทิตพฺพํ. ‘‘อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมี’’ติ หิ ‘‘น, ภิกฺขเว, วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปุริมํ วา เตมาสํ ปจฺฉิมํ วา เตมาสํ อวสิตฺวา จาริกา ปกฺกมิตพฺพา’’ติ (มหาว. ๑๘๕) จ วุตฺตํ. อิเธว จ วสฺสํวุตฺถา เตมาสจฺจเยน…เป… ปกฺกมึสูติ วุตฺตํ. ปวารณาทิวโสปิ เตมาสปริยาปนฺโนว. เกจิ ปน ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสํวุตฺถานํ ภิกฺขูนํ ตีหิ าเนหิ ปวาเรตุนฺติ (มหาว. ๒๐๙) ปวารณากมฺมสฺส ปุพฺเพเยว วสฺสํวุตฺถานนฺติ วุตฺถวสฺสตาย วุตฺตตฺตา มหาปวารณาทิวเส สตฺตาหกรณียนิมิตฺตํ วินาปิ ยถาสุขํ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ, วุตฺถวสฺสานฺหิ ปวารณานุชานนํ อนุปคตฉินฺนวสฺสาทีนํ นิวตฺตนตฺถํ กตํ, น ปน ปวารณาทิวเส อวสิตฺวา ปกฺกมิตพฺพนฺติ ทสฺสนตฺถํ ตทตฺถสฺส อิธ ปสงฺคาภาวา, ปวารณํ กาตุํ อนุจฺฉวิกานํ ปวารณา อิธ วิธียติ, เย จ วสฺสํ อุปคนฺตฺวา วสฺสจฺเฉทฺจ อกตฺวา ยาว ปวารณาทิวสา วสึสุ, เต ตตฺตเกน ปวารณากมฺมํ ปติ ปริยายโต วุตฺถวสฺสาติ วุจฺจนฺติ, อปฺปกํ อูนมธิกํ วา คณนูปคํ น โหตีติ ายโต, น กถินกมฺมํ ปติ เตมาสสฺส อปริปุณฺณตฺตา, อิตรถา ตสฺมึ มหาปวารณาทิวเสปิ กถินตฺถารปฺปสงฺคโต. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสํวุตฺถานํ ภิกฺขูนํ กถินํ อตฺถริตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๐๖) อิทํ ปน ‘‘น, ภิกฺขเว, วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปุริมํ วา เตมาสํ ปจฺฉิมํ วา เตมาสํ อวสิตฺวา จาริกา ปกฺกมิตพฺพา’’ติอาทิ (มหาว. ๑๘๕) จ นิปฺปริยายโต มหาปวารณาย อนนฺตรปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย กถินตฺถารํ ปกฺกมนฺจ สนฺธาย วุตฺตํ, ปริวาเร จ ‘‘กถินสฺส อตฺถารมาโส ชานิตพฺโพ’’ติ (ปริ. ๔๑๒) วตฺวา ‘‘วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส ชานิตพฺโพ’’ติ (ปริ. ๔๑๒) วุตฺตํ. โย หิ กถินตฺถารสฺส กาโล, ตโต ปฏฺาเยว จาริกาปกฺกมนสฺสาปิ กาโล, น ตโต ปุเร วสฺสํวุตฺถานํเยว กถินตฺถารารหตฺตา. ยทคฺเคน หิ ปวารณาทิวเส กถินตฺถาโร น วฏฺฏติ, ตทคฺเคน ภิกฺขูปิ วุตฺถวสฺสา น โหนฺติ ปวารณาทิวสสฺส อวุตฺถตฺตา.
ยํ ปน สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๘๔) ‘‘เอกเทเสน อวุตฺถมฺปิ ตํ ทิวสํ วุตฺถภาคาเปกฺขาย วุตฺถเมว โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ น ยุตฺตํ, ตํทิวสปริโยสาเน อรุณุคฺคมนกาเล วสนฺโตว หิ ตํ ทิวสํ วุตฺโถ นาม โหติ ¶ ปริวาสอรฺวาสาทีสุ วิย, อยฺจ วิจารณา อุปริ วสฺสูปนายิกกฺขนฺธเก อาวิ ภวิสฺสตีติ ตตฺเถว ตํ ปากฏํ กริสฺสาม.
มหาปวารณาย ¶ ปวาริตาติ ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา อจฺฉินฺนวสฺสตาทสฺสนปรํ เอตํ เกนจิ อนฺตราเยน อปฺปวาริตานมฺปิ วุตฺถวสฺสตฺตา. น โอวสฺสิยตีติ อโนวสฺสกนฺติ กมฺมสาธนํ ทฏฺพฺพํ, ยถา น เตมิยติ, ตถา กตฺวาติ อตฺโถ. อนวโยติ เอตฺถ อนุสทฺโท วิจฺฉายํ วตฺตตีติ อาห อนุ อนุ อวโยติอาทิ. อาจริยสฺส กมฺมํ อาจริยกนฺติ อาห ‘‘อาจริยกมฺเม’’ติ. กฏฺกมฺมํ ถมฺภาทิ. เตลตมฺพมตฺติกายาติ เตลมิสฺสาย ตมฺพมตฺติกาย.
๘๕. กุฏิกาย กรณภาวนฺติ กุฏิยา กตภาวํ. กึ-สทฺทปฺปโยเค อนาคตปฺปจฺจยวิธานํ สนฺธาย ตสฺส ลกฺขณนฺติอาทิ วุตฺตํ. กิฺจาปิ เถรสฺส ปาณฆาตาธิปฺปาโย นตฺถิ, อนุปปริกฺขิตฺวา กรเณน ปน พหูนํ ปาณานํ มรณตฺตา ปาเณ พฺยาพาเธนฺตสฺสาติอาทิ วุตฺตํ. ปาตพฺยภาวนฺติ วินาเสตพฺพตํ. ปาณาติปาตํ กโรนฺตานนฺติ เถเรน อกเตปิ ปาณาติปาเต ปาณกานํ มรณมตฺเตน ปจฺฉิมานํ เลเสน คหณาการํ ทสฺเสติ, เตน จ ‘‘มม ตาทิสํ อกุสลํ นตฺถี’’ติ ปจฺฉิมานํ วิปลฺลาสเลสคฺคหณนิมิตฺตกิจฺจํ น กตฺตพฺพนฺติ ทีปิตํ โหติ. ทิฏฺานุคตินฺติ ทิฏฺสฺส กมฺมสฺส อนุปคมนํ อนุกิริยํ, ทิฏฺิยา วา ลทฺธิยา อนุคมนํ คาหํ. ฆํสิตพฺเพติ มทฺทิตพฺเพ, วินาสิตพฺเพติ อตฺโถ. กตํ ลภิตฺวา ตตฺถ วสนฺตานมฺปิ ทุกฺกฏเมวาติ อิทํ ภควตา กุฏิยา เภทาปนวจเนน สิทฺธํ, สาปิ ติณทพฺพสมฺภาเรหิ ตุลาถมฺภาทีหิ อมิสฺสา สุทฺธมตฺติกามยาปิ อิฏฺกาหิ กตา วฏฺฏติ. เกจิ หิ อิฏฺกาหิเยว ถมฺเภ จินิตฺวา ตทุปริ อิฏฺกาหิเยว วิตานาทิสณฺาเนน ตุลาทิทารุสมฺภารวิรหิตํ ฉทนมฺปิ พนฺธิตฺวา อิฏฺกามยเมว อาวสถํ กโรนฺติ, ตาทิสํ วฏฺฏติ. คิฺชกาวสถสงฺเขเปน กตาติ เอตฺถ คิฺชกา วุจฺจนฺติ อิฏฺกา, ตาหิเยว กโต อาวสโถ คิฺชกาวสโถ. วยกมฺมมฺปีติ มตฺติกุทฺธารณอิฏฺกทารุจฺเฉทนาทิการกานํ ทินฺนภตฺตเวตฺตนาทิวตฺถุพฺพเยน นิปฺผนฺนกมฺมมฺปิ อตฺถิ, เอเตน กุฏิเภทกานํ คีวาทิภาวํ ปริสงฺกติ. ติตฺถิยธโชติ ติตฺถิยานเมว สฺาณภูตตฺตา วุตฺตํ. เต หิ อีทิเสสุ จาฏิอาทีสุ วสนฺติ. อฺานิปีติ ปิ-สทฺเทน อตฺตนา วุตฺตการณทฺวยมฺปิ มหาอฏฺกถายเมว วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. ยสฺมา สพฺพมตฺติกามยา ¶ กุฏิ สีตกาเล อติสีตา อุณฺหกาเล จ อุณฺหา สุกรา จ โหติ โจเรหิ ภินฺทิตุํ, ตสฺมา ตตฺถ ปิตปตฺตจีวราทิกํ สีตุณฺหโจราทีหิ วินสฺสตีติ วุตฺตํ ‘‘ปตฺตจีวรคุตฺตตฺถายา’’ติ. ฉินฺทาเปยฺย วา ภินฺทาเปยฺย วา อนุปวชฺโชติ อิทํ อยํ กุฏิ วิย สพฺพถา อนุปโยคารหํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ ปน ปฺจวณฺณสุตฺเตหิ วินทฺธฉตฺตาทิกํ, ตตฺถ อกปฺปิยภาโคว ฉินฺทิตพฺโพ, น ตทวเสโส ตสฺส กปฺปิยตฺตา, ตํ ฉินฺทนฺโต อุปวชฺโชว โหติ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ฆฏกมฺปิ วาฬรูปมฺปิ ภินฺทิตฺวา ธาเรตพฺพ’’นฺติอาทิ.
ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉยวณฺณนา
ฉตฺตทณฺฑคฺคาหกํ ¶ สลากปฺชรนฺติ เอตฺถ โย ปฺชรสลากานํ มชฺฌฏฺโ พุนฺเท ปุถุโล อหิจฺฉตฺตกสทิโส อคฺเค สฉิทฺโท ยตฺถ ทณฺฑนฺตรํ ปเวเสตฺวา ฉตฺตํ คณฺหนฺติ, โย วา สยเมว ทีฆตาย คหณทณฺโฑ โหติ, อยํ ฉตฺตทณฺโฑ นาม, ตสฺส อปริคฬนตฺถาย ฉตฺตสลากานํ มูลปฺปเทสทณฺฑสฺส สมนฺตโต ทฬฺหปฺชรํ กตฺวา สุตฺเตหิ วินนฺธนฺติ, โส ปเทโส ฉตฺตทณฺฑคาหกสลากปฺชรํ นาม, ตํ วินนฺธิตุํ วฏฺฏติ. น วณฺณมฏฺตฺถายาติ อิมินา ถิรกรณตฺถเมว เอกวณฺณสุตฺเตน วินนฺธิยมานํ ยทิ วณฺณมฏฺํ โหติ, น ตตฺถ โทโสติ ทสฺเสติ. อารคฺเคนาติ นิขาทนมุเขน. ทณฺฑพุนฺเทติ ทณฺฑมูเล โกฏิยํ. ฉตฺตมณฺฑลิกนฺติ ฉตฺตปฺชเร มณฺฑลากาเรน พทฺธทณฺฑวลยํ. อุกฺกิริตฺวาติ นินฺนํ, อุนฺนตํ วา กตฺวา.
นานาสุตฺตเกหีติ นานาวณฺเณหิ สุตฺเตหิ. อิทฺจ ตถา กโรนฺตานํ วเสน วุตฺตํ, เอกวณฺณสุตฺตเกนาปิ น วฏฺฏติเยว, ‘‘ปกติสูจิกมฺมเมว วฏฺฏตี’’ติ หิ วุตฺตํ. ปฏฺฏมุเขติ ทฺวินฺนํ ปฏฺฏานํ สงฺฆฏิตฏฺานํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ปริยนฺเตติ จีวรปริยนฺเต, อนุวาตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เวณินฺติ วรกสีสากาเรน สิพฺพนํ. สงฺขลิกนฺติ ทิคุณสงฺขลิกากาเรน สิพฺพนํ, เวณึ วา สงฺขลิกํ วา กโรนฺตีติ ปกเตน สมฺพนฺโธ. อคฺฆิยํ นาม เจติยสณฺานํ, ยํ อคฺฆิยตฺถมฺโภติ วทนฺติ. อุกฺกิรนฺตีติ อุฏฺเปนฺติ. จตุโกณเมว วฏฺฏตีติ คณฺิกปาสกปฏฺฏานิ สนฺธาย วุตฺตํ. โกณสุตฺตปิฬกาติ คณฺิกปาสกปฏฺฏานํ โกเณหิ พหิ นิคฺคตสุตฺตานํ ¶ ปิฬกากาเรน ปิตโกฏิโยติ เกจิ วทนฺติ, เต ปิฬเก ฉินฺทิตฺวา ทุวิฺเยฺยา กาตพฺพาติ เตสํ อธิปฺปาโย. เกจิ ปน ‘‘โกณสุตฺตา จ ปิฬกาติ ทฺเวเยวา’’ติ วทนฺติ, เตสํ มเตน คณฺิกปาสกปฏฺฏานํ โกณโต โกเณหิ นีหตสุตฺตา โกณสุตฺตา นาม. สมนฺตโต ปน ปริยนฺเตน กตา จตุรสฺสสุตฺตา ปิฬกา นาม. ตํ ทุวิธมฺปิ เกจิ จีวรโต วิสุํ ปฺายนตฺถาย วิการยุตฺตํ กโรนฺติ, ตํ นิเสธาย ‘‘ทุวิฺเยฺยรูปา วฏฺฏนฺตี’’ติ วุตฺตํ, น ปน สพฺพถา อจกฺขุโคจรภาเวน สิพฺพนตฺถาย ตถาสิพฺพนสฺส อสกฺกุเณยฺยตฺตา. ยถา ปกติจีวรโต วิกาโร น ปฺายติ, เอวํ สิพฺพิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. รชนกมฺมโต ปุพฺเพ ปฺายมาโนปิ วิเสโส จีวเร รตฺเต เอกวณฺณตาย น ปฺายตีติ อาห ‘‘จีวเร รตฺเต’’ติ. มณินาติ นีลมณิอาทิมฏฺปาสาเณน, อํสวทฺธกกายพนฺธนาทิกํ ปน อจีวรตฺตา สงฺขาทีหิ ฆํสิตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. กณฺณสุตฺตกนฺติ จีวรสฺส ทีฆโต ติริยฺจ สิพฺพิตานํ จตูสุ กณฺเณสุ โกเณสุ จ นิกฺขนฺตานํ สุตฺตสีสานเมตํ นามํ, ตํ ฉินฺทิตฺวาว ปารุปิตพฺพํ, เตนาห ‘‘รชิตกาเล ฉินฺทิตพฺพ’’นฺติ. ภควตา อนฺุาตํ เอกํ กณฺณสุตฺตมฺปิ อตฺถิ, ตํ ปน นาเมน ¶ สทิสมฺปิ อิโต อฺเมวาติ ทสฺเสตุํ ยํ ปนาติอาทิ วุตฺตํ. ลคฺคนตฺถายาติ จีวรรชฺชุยํ จีวรพนฺธนตฺถาย. คณฺิเกติ ทนฺตาทิมเย. ปีฬกาติ พินฺทุํ พินฺทุํ กตฺวา อุฏฺาเปตพฺพปีฬกา.
ถาลเก วาติ ตมฺพาทิมเย ปุคฺคลิเก ติวิเธปิ กปฺปิยถาลเก. น วฏฺฏตีติ มณิวณฺณกรณปฺปโยโค น วฏฺฏติ, เตลวณฺณกรณตฺถํ ปน วฏฺฏติ. ปตฺตมณฺฑเลติ ติปุสีสาทิมเย. ‘‘น, ภิกฺขเว, จิตฺตานิ ปตฺตมณฺฑลานิ ธาเรตพฺพานิ รูปกากิณฺณานิ ภิตฺติกมฺมกตานี’’ติ (จูฬว. ๒๕๓) วุตฺตตฺตา ‘‘ภิตฺติกมฺมํ น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มกรทนฺตกํ ฉินฺทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๓) วุตฺตตฺตา ‘‘มกรทนฺตกํ ปน วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ, อิทํ ปน ปาฬิยา ลทฺธมฺปิ อิธ ปาฬิยา มุตฺตตฺตา ปาฬิมุตฺตกนเย วุตฺตํ. เอวมฺมฺปิ อีทิสํ.
เลขา น วฏฺฏตีติ อารคฺเคน ทินฺนเลขาว น วฏฺฏติ, ชาติหิงฺคุลิกาทิวณฺเณหิ กตเลขา วฏฺฏติ. ฉตฺตมุขวฏฺฏิยนฺติ ธมกรณสฺส หตฺเถน คหณฉตฺตาการสฺส ¶ มุขวฏฺฏิยํ, ‘‘ปริสฺสาวนโจฬพนฺธนฏฺาเน’’ติ เกจิ.
เทฑฺฑุภสีสนฺติ อุทกสปฺปสีสํ. อจฺฉีนีติ กฺุชรจฺฉิสณฺานานิ. เอกเมว วฏฺฏตีติ เอตฺถ เอกรชฺชุกํ ทิคุณํ ติคุณํ กตฺวาปิ พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ, เอกเมว ปน สตวารมฺปิ สรีรํ ปริกฺขิปิตฺวา พนฺธิตุํ วฏฺฏติ, พหุรชฺชุเก เอกโต กตฺวา เอเกน นิรนฺตรํ เวเตฺวา กตํ ‘‘พหุรชฺชุก’’นฺติ น วตฺตพฺพํ ‘‘วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา, ตํ มุรชสงฺขํ น คจฺฉตีติ เวทิตพฺพํ. มุรชฺหิ นานาวณฺเณหิ สุตฺเตหิ มุรชวฏฺฏิสณฺานํ เวเตฺวา กตํ, อิทํ ปน มุรชํ มทฺทวีณสงฺขาตํ ปามงฺคสณฺานฺจ ทสาสุ วฏฺฏติ ‘‘กายพนฺธนสฺส ทสา ชีรนฺติ; อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มุรชํ มทฺทวีณ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๘) วุตฺตตฺตา.
วิเธติ ทสาปริโยสาเน ถิรภาวาย ทนฺตวิสาณสุตฺตาทีหิ กตฺตพฺเพ วิเธ. อฏฺ มงฺคลานิ นาม สงฺโข จกฺกํ ปุณฺณกุมฺโภ คยา สิรีวจฺโฉ องฺกุโส ธชํ โสวตฺติกนฺติ วทนฺติ. มจฺฉยุคฬฉตฺตนนฺทิยาวฏฺฏาทิวเสนปิ วทนฺติ. ปริจฺเฉทเลขามตฺตนฺติ ทนฺตาทีหิ กตวิธสฺส อุโภสุ โกฏีสุ กตปริจฺเฉทราชิมตฺตํ.
‘‘อุชุกเมวา’’ติ วุตฺตตฺตา จตุรสฺสาทิสณฺานาปิ อฺชนี วงฺกคติกา น วฏฺฏติ. สิปาฏิกายาติ ¶ วาสิอาทิภณฺฑนิกฺขิปนปสิพฺพเก. อารกณฺฏกํ นาม โปตฺถกาทิออสงฺขารณตฺถํ กตทีฆมุขสตฺถกนฺติ วทนฺติ. ‘‘ภมการานํ ทารุอาทิลิขนสตฺถก’’นฺติ เกจิ. วฏฺฏมณิกนฺติ วฏฺฏํ กตฺวา อุฏฺเปตพฺพํ ปุปฺผุฬกํ. อฺนฺติ อิมินา ปิฬกาทึ สงฺคณฺหาติ. ปิปฺผลิเกติ ยํ กิฺจิ เฉทนเก ขุทฺทกสตฺเถ. วลิตกนฺติ นขจฺเฉทนกาเล ทฬฺหคฺคหณตฺถํ วลีหิ ยุตฺตเมว กโรนฺติ. ตสฺมา ตํ วฏฺฏตีติ อิมินา ยํ อฺมฺปิ วิการํ ทฬฺหีกมฺมาทิอตฺถาย กโรนฺติ, น วณฺณมฏฺตฺถาย, ตํ วฏฺฏตีติ ทีปิตํ, เตน จ กตฺตรทณฺฑโกฏิยํ อฺมฺมฺปิ ฆฏฺฏเนน สทฺทนิจฺฉรณตฺถาย กตํ อโยวลยาทิกํ สํยุตฺตมฺปิ กปฺปิยโต อุปปนฺนํ โหติ. มณฺฑลนฺติ อุตฺตรารณิยา ปเวสนตฺถํ อาวาฏมณฺฑลํ โหติ. อุชุกเมว พนฺธิตุนฺติ สมฺพนฺโธ, อุโภสุ วา ปสฺเสสุ เอกปสฺเส วาติ วจนเสโส. วาสิทณฺฑสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ ทณฺฑโกฏีนํ อจลนตฺถํ พนฺธิตุนฺติ อตฺโถ.
อามณฺฑสารเกติ ¶ อามลกผลานิ ปิสิตฺวา เตน กกฺเกน กตเตลภาชเน. ตตฺถ กิร ปกฺขิตฺตํ เตลํ สีตลํ โหติ. ภูมตฺถรเณติ กฏสาราทิมเย ปริกมฺมกตาย ภูมิยา อตฺถริตพฺพอตฺถรเณ. ปานียฆเฏติ สพฺพํ ภาชนวิกตึ สงฺคณฺหาติ. สพฺพํ…เป… วฏฺฏตีติ ยถาวุตฺเตสุ มฺจาทีสุ อิตฺถิปุริสรูปมฺปิ วฏฺฏติ เตลภาชเนสุเยว อิตฺถิปุริสรูปานํ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา, เตลภาชเนน สห อคเณตฺวา วิสุํ มฺจาทีนํ คหิตตฺตา จาติ วทนฺติ, กิฺจาปิ วทนฺติ, เอเตสํ ปน มฺจาทีนํ หตฺเถน อามสิตพฺพภณฺฑตฺตา อิตฺถิรูปเมเวตฺถ น วฏฺฏตีติ คเหตพฺพํ. อฺเสนฺติ สีมสามิกานํ. ราชวลฺลเภหีติ ลชฺชีเปสลาทีนํ อุโปสถาทิอนฺตรายกรา อลชฺชิโน ภินฺนลทฺธิกา จ ภิกฺขู อธิปฺเปตา เตหิ สห อุโปสถาทิกรณาโยคา, เตเนว ‘‘สีมายา’’ติ วุตฺตํ. เตสํ ลชฺชีปริสาติ เตสํ สีมาสามิกานํ อนุพลํ ทาตุํ สมตฺถา ลชฺชีปริสา. ภิกฺขูหิ กตนฺติ ยํ อลชฺชีนํ เสนาสนเภทนาทิกํ ลชฺชีภิกฺขูหิ กตํ, สพฺพฺเจตํ สุกตเมว อลชฺชีนิคฺคหตฺถาย ปวตฺติตพฺพโต.
๘๘. อวชฺฌายนฺตีติ นีจโต จินฺเตนฺติ. อุชฺฌายนตฺโถติ ภิกฺขุโน เถยฺยกมฺมนินฺทนตฺโถ ‘‘กถฺหิ นาม อทินฺนํ อาทิยิสฺสตี’’ติ, น ปน ทารุ-สทฺทวิเสสนตฺโถ ตสฺส พหุวจนตฺตา. วจนเภเทติ เอกวจนพหุวจนานํ เภเท. สพฺพาวนฺตนฺติ ภิกฺขุภิกฺขุนีอาทิสพฺพาวยววนฺตํ. พิมฺพิสาโรติ ตสฺส นามนฺติ เอตฺถ พิมฺพีติ สุวณฺณํ. ตสฺมา สารสุวณฺณสทิสวณฺณตาย ‘‘พิมฺพิสาโร’’ติ วุจฺจตีติ เวทิตพฺพํ. โปราณสตฺถานุรูปํ อุปฺปาทิโต วีสติมาสปฺปมาณอุตฺตมสุวณฺณคฺฆนโก ลกฺขณสมฺปนฺโน นีลกหาปโณติ เวทิตพฺโพ. รุทฺรทาเมน นาม เกนจิ อุปฺปาทิโต รุทฺรทามโก. โส กิร นีลกหาปณสฺส ติภาคํ อคฺฆติ. ยสฺมึ ปน เทเส นีลกหาปณา ¶ น สนฺติ, ตตฺถาปิ กาฬกวิรหิตสฺส นิทฺธนฺตสุวณฺณสฺส ปฺจมาสคฺฆนเกน ภณฺเฑน ปาทปริจฺเฉโท กาตพฺโพ. เตนาติ นีลกหาปณสฺส จตุตฺถภาคภูเตน. ปาราชิกวตฺถุมฺหิ วาติอาทิ ปาราชิกานํ สพฺพพุทฺเธหิ ปฺตฺตภาเวน วุตฺตํ, สงฺฆาทิเสสาทีสุ ปน อิตราปตฺตีสุปิ ตพฺพตฺถูสุ จ นานตฺตํ นตฺเถว, เกวลํ เกจิ สพฺพากาเรน ปฺเปนฺติ, เกจิ เอกเทเสนาติ เอตฺตกเมว วิเสโส. น หิ กทาจิปิ สมฺมาสมฺพุทฺธา ยถาปราธํ อติกฺกมฺม อูนมธิกํ วา สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺติ.
ปทภาชนียวณฺณนา
๙๒. ปุนปิ ¶ ‘‘อาคนฺตุกามา’’ติ วุตฺตตฺตา จ สพฺพถา มนุสฺเสหิ อนิวุตฺถปุพฺเพ อภินวมาปิเต, ‘‘ปุน น ปวิสิสฺสามา’’ติ นิราลเยหิ ปริจฺจตฺเต จ คาเม คามโวหาราภาวา คามปฺปเวสนาปุจฺฉนาทิกิจฺจํ นตฺถีติ เวทิตพฺพํ. อรฺปริจฺเฉททสฺสนตฺถนฺติ คามคามูปจาเรสุ ทสฺสิเตสุ ตทฺํ อรฺนฺติ อรฺปริจฺเฉโท สกฺกา าตุนฺติ วุตฺตํ. มาติกายํ ปน คามคฺคหเณเนว คามูปจาโรปิ คหิโตติ ทฏฺพฺโพ. อินฺทขีเลติ อุมฺมาเร. อรฺสงฺเขปํ คจฺฉติ ตถา อภิธมฺเม วุตฺตตฺตา. อสติปิ อินฺทขีเล อินฺทขีลฏฺานิยตฺตา ‘‘เวมชฺฌเมว อินฺทขีโลติ วุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. ยตฺถ ปน ทฺวารพาหาปิ นตฺถิ, ตตฺถ ปาการเวมชฺฌเมว อินฺทขีโลติ คเหตพฺพํ. ลุิตฺวาติ ปวฏฺฏิตฺวา.
มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สุปฺปปาโต วาติอาทิ มาตุคามสฺส กากุฏฺาปนวเสน คเหตพฺพํ, น พลทสฺสนวเสน ‘‘มาตุคาโม ภาชนโธวนอุทกํ ฉฑฺเฑตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๒) อุปริ วุจฺจมานตฺตา, เตเนว ‘‘เลฑฺฑุปาโต’’ติ อวตฺวา สุปฺปปาโตติอาทิ วุตฺตํ. กุรุนฺทฏฺกถายํ มหาปจฺจริยฺจ ฆรูปจาโรว คาโมติ อธิปฺปาเยน ‘‘ฆรูปจาเร ิตสฺส เลฑฺฑุปาโต คามูปจาโร’’ติ วุตฺตํ. กตปริกฺเขโปติ อิมินา ปริกฺเขปโต พหิ อุปจาโร น คเหตพฺโพติ ทสฺเสติ. สุปฺปมุสลปาโตปิ อปริกฺขิตฺตเคหสฺเสว, โส จ ยโต ปโหติ, ตตฺเถว คเหตพฺโพ, อปฺปโหนฏฺาเน ปน วิชฺชมานฏฺานเมว คเหตพฺพํ. ยสฺส ปน ฆรสฺส สมนฺตโต ปาการาทีหิ ปริกฺเขโป กโต โหติ, ตตฺถ โสว ปริกฺเขโป ฆรูปจาโรติ คเหตพฺพํ.
ปุพฺเพ วุตฺตนเยนาติ ปริกฺขิตฺตคาเม วุตฺตนเยน. สงฺกรียตีติ มิสฺสียติ. วิกาเล คามปฺปเวสเน ‘‘ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ปริกฺเขปํ อติกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ โอกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๕๑๓) วุตฺตตฺตา ¶ คามคามูปจารานํ อสงฺกรตา อิจฺฉิตพฺพาติ อาห อสงฺกรโต จาติอาทิ. เกจิ ปเนตฺถ ปาฬิยํ ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ โอกฺกมนฺตสฺสาติ อิทํ ปริกฺเขปารหฏฺานํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ตโต ปรํ เอกเลฑฺฑุปาตปริจฺฉินฺนํ อุปจารํ ¶ . ตสฺมา ปริกฺเขปารหฏฺานสงฺขาตํ คามํ โอกฺกมนฺตสฺเสว อาปตฺติ, น อุปจาร’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ ‘‘ฆรูปจาเร ิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาตพฺภนฺตรํ คาโม นาม. ตโต อฺสฺส เลฑฺฑุปาตสฺส อพฺภนฺตรํ คามูปจาโร นามา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๒) อิเธว อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา. วิกาเล คามปฺปเวสนสิกฺขาปทฏฺกถายฺหิ อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจาโร อทินฺนาทาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑๒) อยเมว นโย อติทิสิโต. เตเนว มาติกาฏฺกถายมฺปิ ‘‘ยฺวายํ อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจาโร ทสฺสิโต, ตสฺส วเสน วิกาเล คามปฺปเวสนาทีสุ อาปตฺติ ปริจฺฉินฺทิตพฺพา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ทุติยปาราชิกวณฺณนา) วุตฺตํ, ตสฺมา ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ปริกฺเขปํ อติกฺกมนฺตสฺส, อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ฆรูปจารโต ปฏฺาย ทุติยเลฑฺฑุปาตสงฺขาตํ คามูปจารํ โอกฺกมนฺตสฺส วิกาเล คามปฺปเวสนาปตฺติ โหติ, มาติกายฺจ วิกาเล คามํ ปวิเสยฺยาติ คามคฺคหเณเนว คามูปจาโรปิ คหิโตติ เวทิตพฺพํ. วิกาเล คามปฺปเวสนาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน ฆรฆรูปจาราทีสุ ิตานํ อุปฺปนฺนลาภภาชนาทึ สงฺคณฺหาติ.
นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลาติ อินฺทขีลโต พหิ นิกฺขมิตฺวา ิตํ ยํ านํ สพฺพเมตํ อรฺนฺติ โยชนา. อาจริยธนุ นาม ปกติหตฺเถน นววิทตฺถิปมาณํ, ชิยาย ปน อาโรปิตาย สตฺตฏฺวิทตฺถิมตฺตนฺติ วทนฺติ.
กปฺปิยนฺติ อนุรูปวเสน วุตฺตํ อกปฺปิยสฺสาปิ อปฺปฏิคฺคหิตสฺส ปริโภเค ปาจิตฺติยตฺตา. ปริจฺจาคาทิมฺหิ อกเต ‘‘อิทํ มยฺหํ สนฺตก’’นฺติ วตฺถุสามินา อวิทิตมฺปิ ปริคฺคหิตเมว พาลุมฺมตฺตาทีนํ สนฺตกํ วิย, ตาทิสํ อวหรนฺโตปิ าตกาทีหิ ปจฺฉา ตฺวา วตฺถุสามินา จ อนุพนฺธิตพฺพโต ปาราชิโกว โหติ. ยสฺส วเสน ปุริโส เถโน โหติ, ตํ เถยฺยนฺติ อาห ‘‘อวหรณจิตฺตสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ. ปปฺจสงฺขาติ ตณฺหามานทิฏฺิสงฺขาตา ปปฺจโกฏฺาสา. เอโก จิตฺตโกฏฺาโสติ านาจาวนปโยคสมุฏฺาปโก เอโก จิตฺตโกฏฺาโสติ อตฺโถ.
อภิโยควเสนาติ อฏฺฏกรณวเสน. สวิฺาณเกเนวาติ อิทํ สวิฺาณกานฺเว อาเวณิกวินิจฺฉยํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปาโณ อปทนฺติอาทีสุ หิ ‘‘ปทสา เนสฺสามี’’ติ ปมํ ปาทํ ¶ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสาติอาทินา ปาฬิยํ (ปารา. ๑๑๑), ภิกฺขุ ทาสํ ทิสฺวา สุขทุกฺขํ ปุจฺฉิตฺวา ¶ วา อปุจฺฉิตฺวา วา ‘‘คจฺฉ, ปลายิตฺวา สุขํ ชีวา’’ติ วทติ, โส เจ ปลายติ, ทุติยปทวาเร ปาราชิกนฺติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๔) อฏฺกถายฺจ โย สวิฺาณกานฺเว อาเวณิโก วินิจฺฉโย วุตฺโต, โส อารามาทิอวิฺาณเกสุ น ลพฺภตีติ ตาทิสํ สนฺธาย ‘‘สวิฺาณเกเนวา’’ติ วุตฺตํ. โย ปน วินิจฺฉโย อารามาทิอวิฺาณเกสุ ลพฺภติ, โส ยสฺมา สวิฺาณเกสุ อลพฺภนโก นาม นตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘นานาภณฺฑวเสน สวิฺาณกาวิฺาณกมิสฺสเกนา’’ติ. สวิฺาณเกน จ อวิฺาณเกน จาติ อตฺโถ. ยสฺมา เจตฺถ อวิฺาณเกเนว อาทิยนาทีนิ ฉปิ ปทานิ น สกฺกา โยเชตุํ อิริยาปถวิโกปนสฺส สวิฺาณกวเสเนว โยเชตพฺพโต, ตสฺมา ‘‘อวิฺาณเกเนวา’’ติ ตติยํ ปการํ น วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
อารามนฺติ อิทํ อุปลกฺขณมตฺตํ ทาสาทิสวิฺาณกสฺสาปิ อิธ สงฺคเหตพฺพโต, นานาภณฺฑวเสน เหตฺถ โยชนา ทสฺสิยติ. ปริกปฺปิตฏฺานนฺติ ปริกปฺปิโตกาสํ. สุงฺกฆาตนฺติ เอตฺถ มคฺคํ คจฺฉนฺเตหิ สตฺถิเกหิ อตฺตนา นียมานภณฺฑโต รฺโ ทาตพฺพภาโค สุงฺโก นาม, โส เอตฺถ หฺติ อทตฺวา คจฺฉนฺเตหิ อวหรียติ, ตํ วา หนฺติ เอตฺถ ราชปุริสา อททนฺตานํ สนฺตกํ พลกฺกาเรนาติ สุงฺกฆาโต, ‘‘เอตฺถ ปวิฏฺเหิ สุงฺโก ทาตพฺโพ’’ติ รุกฺขปพฺพตาทิสฺาเณน นิยมิตปฺปเทสสฺเสตํ อธิวจนํ.
ปฺจวีสติอวหารกถาวณฺณนา
กตฺถจีติ เอกิสฺสา อฏฺกถายํ. เอกํ ปฺจกํ ทสฺสิตนฺติ ‘‘ปรปริคฺคหิตฺจ โหติ, ปรปริคฺคหิตสฺี จ, ครุโก จ โหติ ปริกฺขาโร ปฺจมาสโก วา อติเรกปฺจมาสโก วา, เถยฺยจิตฺตฺจ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ, านา จาเวตี’’ติ (ปารา. ๑๒๒) วุตฺตปฺจอวหารงฺคานิ เอกํ ปฺจกนฺติ ทสฺสิตํ. ทฺเว ปฺจกานิ ทสฺสิตานีติ ‘‘ฉหิ อากาเรหิ อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺส. น จ สกสฺี, น จ วิสฺสาสคฺคาหี, น จ ตาวกาลิกํ, ครุโก จ โหติ ปริกฺขาโร ปฺจมาสโก วา อติเรกปฺจมาสโก วา, เถยฺยจิตฺตฺจ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ, านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๒๕) เอวํ วุตฺเตสุ ฉสุ ปเทสุ เอกํ อปเนตฺวา เสสานิ ¶ ปฺจ ปทานิ เอกํ ปฺจกํ กตฺวา เหฏฺา วุตฺตปฺจกฺจ คเหตฺวา ทฺเว ปฺจกานิ ทสฺสิตานิ. เอตฺถ ปนาติ ปฺจหากาเรหีติอาทีสุ. สพฺเพหิปิ ปเทหีติ ปรปริคฺคหิตฺจ โหตีติอาทีหิ สพฺเพหิ ปฺจหิ ปเทหิ.
ปฺจนฺนํ ¶ อวหารานํ สมูโห ปฺจกํ. สโก หตฺโถ สหตฺโถ, เตน นิพฺพตฺโต, ตสฺส วา สมฺพนฺธีติ สาหตฺถิโก, อวหาโร. สาหตฺถิกาทิ ปฺจกํ สาหตฺถิกปฺจกนฺติอาทิปทวเสน นามลาโภ ทฏฺพฺโพ. เอวํ เสเสสุปิ. ตติยปฺจเมสุ ปฺจเกสูติ สาหตฺถิกปฺจกเถยฺยาวหารปฺจเกสุ. ลพฺภมานปทวเสนาติ สาหตฺถิกปฺจเก ลพฺภมานสฺส นิสฺสคฺคิยาวหารปทสฺส วเสน, เถยฺยาวหารปฺจเก ลพฺภมานสฺส ปริกปฺปาวหารปทสฺส จ วเสน โยเชตพฺพนฺติ อตฺโถ.
นิสฺสคฺคิโย นาม…เป… ปาราชิกสฺสาติ อิมินา พหิสุงฺกฆาตปาตนํ นิสฺสคฺคิยปโยโคติ ทสฺเสติ. ‘‘หตฺเถ ภารํ เถยฺยจิตฺโต ภูมิยํ นิกฺขิปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๐๑) วุตฺตตฺตา ปน สุทฺธจิตฺเตน คหิตปรภณฺฑสฺส เถยฺยจิตฺเตน คุมฺพาทิปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน ขิปนมฺปิ อิมสฺมึ นิสฺสคฺคิยปโยเค สงฺคยฺหตีติ ทฏฺพฺพํ. กิริยาสิทฺธิโต ปุเรตรเมว ปาราชิกาปตฺติสงฺขาตํ อตฺถํ สาเธตีติ อตฺถสาธโก. อถ วา อตฺตโน วตฺตมานกฺขเณ อวิชฺชมานมฺปิ กิริยาสิทฺธิสงฺขาตํ อตฺถํ อวสฺสํ อาปตฺตึ สาเธตีติปิ อตฺถสาธโก. อสุกํ นาม ภณฺฑํ ยทา สกฺโกสีติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ ปรสฺส เตลกุมฺภิยา อุปาหนาทีนํ นิกฺเขปปโยคสฺสาปิ อตฺถสาธกตฺตา. ตถา หิ วุตฺตํ มาติกาฏฺกถายํ –
‘‘อตฺถสาธโก นาม ‘อสุกสฺส ภณฺฑํ ยทา สกฺโกติ, ตทา ตํ อวหรา’ติ อฺํ อาณาเปติ. ตตฺถ สเจ ปโร อนนฺตรายิโก หุตฺวา ตํ อวหรติ, อาณาปกสฺส อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิกํ. ปรสฺส วา ปน เตลกุมฺภิยา ปาทคฺฆนกเตลํ อวสฺสํ ปิวนกานิ อุปาหนาทีนิ ปกฺขิปติ, หตฺถโต มุตฺตมตฺเตเยว ปาราชิก’’นฺติ (กงฺขา. อฏฺ. ทุติยปาราชิกวณฺณนา).
อิมสฺส ¶ อตฺถสาธกสฺส อาณตฺติยา จ โก วิเสโสติ? ตงฺขณฺเว คหเณ นิยฺุชนํ อาณตฺติกปโยโค, กาลนฺตเรน คหณตฺถํ นิโยโค อตฺถสาธโกติ อยํ เนสํ วิเสโส. เตเนวาห ‘‘อสุกํ นาม ภณฺฑํ ยทา สกฺโกสี’’ติอาทิ. ธุรนิกฺเขโป ปน อุปนิกฺขิตฺตภณฺฑวเสน เวทิตพฺโพติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ, อารามาภิยฺุชนาทีสุปิ ตาวกาลิกภณฺฑเทยฺยานํ อทาเนปิ เอเสว นโย. ภณฺฑคฺคหณปฺปโยคโต อาณตฺติยา ปุพฺพตฺตา อาห ‘‘อาณตฺติวเสน ปุพฺพปโยโค เวทิตพฺโพ’’ติ. ปโยเคน สห วตฺตมาโน อวหาโร สหปโยโคติ อาห ‘‘านาจาวนวเสนา’’ติ, อิทฺจ นิทสฺสนมตฺตํ ขีลสงฺกมนาทีสุปิ อสติ านาจาวเน สหปโยคตฺตา. วุตฺตฺหิ ¶ มาติกาฏฺกถายํ ‘‘านาจาวนวเสน ขีลาทีนิ สงฺกาเมตฺวา เขตฺตาทิคฺคหณวเสน จ สหปโยโค เวทิตพฺโพ’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ทุติยปาราชิกวณฺณนา).
ตุลยิตฺวาติ อุปปริกฺขิตฺวา. สามีจีติ วตฺตํ. สกสฺาย อเทนฺตสฺส อาปตฺติ นตฺถีติ วทนฺติ. สมฺมทฺโทติ นิวิทฺธตาสงฺโขโภ. ภฏฺเ ชนกาเยติ อปคเต ชนสมูเห. อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา เอตสฺเสว ภิกฺขุโน เทหีติ อิทํ อุภินฺนมฺปิ กุกฺกุจฺจวิโนทนตฺถํ วุตฺตํ. อวหารกสฺส หิ ‘‘มยา สหตฺเถน น ทินฺนํ, ภณฺฑเทยฺยํ เอต’’นฺติ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปชฺเชยฺย, อิตรสฺส จ ‘‘มยา ปมํ ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา ปจฺฉา อทินฺนํ คหิต’’นฺติ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปชฺเชยฺยาติ.
สมคฺฆนฺติ อปฺปคฺฆํ. ทารุอตฺถํ ผรตีติ ทารูหิ กตฺตพฺพกิจฺจํ สาเธติ. เอกทิวสํ ทนฺตกฏฺจฺเฉทนาทินา ยา อยํ อคฺฆหานิ วุตฺตา, สา สพฺพา ภณฺฑสามินา กิณิตฺวา คหิตเมว สนฺธาย วุตฺตา. สพฺพํ ปเนตํ อฏฺกถาจริยปฺปมาเณน เวทิตพฺพํ. ปาสาณฺจ สกฺขรฺจ ปาสาณสกฺขรํ.
อกฺขทสฺสาติ เอตฺถ อกฺข-สทฺเทน กิร วินิจฺฉยสาลา วุจฺจติ, ตตฺถ นิสีทิตฺวา วชฺชาวชฺชํ นิรูปยนฺตีติ ‘‘อกฺขทสฺสา’’ติ วุจฺจนฺติ ธมฺมวินิจฺฉนกา. หนนํ นาม หตฺถปาทาทีหิ โปถนฺเจว หตฺถนาสาทิจฺเฉทนฺจ โหตีติ อาห ‘‘หเนยฺยุนฺติ โปเถยฺยฺุเจว ฉินฺเทยฺยฺุจา’’ติ.
ปทภาชนียฺจ ‘‘หตฺเถน วา ปาเทน วา กสาย วา เวตฺเตน วา อฑฺฒทณฺฑเกน วา ฉชฺชาย วา หเนยฺยุ’’นฺติ (ปารา. ๙๒) วุตฺตํ. ตตฺถ อฑฺฒทณฺฑเกนาติ ทฺวิหตฺถปฺปมาเณน ¶ รสฺสมุคฺคเรน, เวฬุเปสิกาย วา. เฉชฺชาย วาติ หตฺถาทีนํ เฉทเนน. ฉินฺทนฺติ เอตาย หตฺถปาทาทีนีติ เฉชฺชา, สตฺถํ, เตน สตฺเถนาติปิ อตฺโถ. นีหเรยฺยุนฺติ รฏฺโต นีหเรยฺยุํ. ‘‘โจโรสิ…เป… เถโนสี’’ติ เอตฺถ ปริภาเสยฺยุนฺติ ปทํ อชฺฌาหริตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘โจโรสิ…เป… ปริภาเสยฺยุ’’นฺติ. ยํ ตํ ภณฺฑํ ทสฺสิตนฺติ สมฺพนฺโธ.
๙๓. ยตฺถ ยตฺถ ิตนฺติ ภูมิยาทีสุ ยตฺถ ยตฺถ ิตํ. ยถา ยถา อาทานํ คจฺฉตีติ เยน เยน อากาเรน คหณํ อุปคจฺฉติ.
ภูมฏฺกถาวณฺณนา
๙๔. วาจาย ¶ วาจายาติ เอเกกตฺถทีปิกาย วาจาย วาจาย. อุปลทฺโธติ าโต. ปาฬิยํ เสสอฏฺกถาสุ จ กุทาลํ วา ปิฏกํ วาติ อิทเมว ทฺวยํ วตฺวา วาสิผรสูนํ อวุตฺตตฺตา เตสมฺปิ สงฺเขปฏฺกถาทีสุ อาคตภาวํ ทสฺเสตุํ สงฺเขปฏฺกถายนฺติอาทิ วุตฺตํ. เถยฺยจิตฺเตน กตตฺตา ‘‘ทุกฺกเฏหิ สทฺธึ ปาจิตฺติยานี’’ติ วุตฺตํ.
อฏฺวิธํ เหตนฺติอาทีสุ เอตํ ทุกฺกฏํ นาม เถเรหิ ธมฺมสงฺคาหเกหิ อิมสฺมึ าเน สโมธาเนตฺวา อฏฺวิธนฺติ ทสฺสิตนฺติ โยชนา. สพฺเพสมฺปิ ทุกฺกฏานํ อิเมสุเยว อฏฺสุ สงฺคเหตพฺพภาวโต ปน อิตเรหิ สตฺตหิ ทุกฺกเฏหิ วินิมุตฺตํ วินยทุกฺกเฏเยว สงฺคเหตพฺพํ. ทสวิธํ รตนนฺติ ‘‘มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตโก มสารคลฺล’’นฺติ เอวมาคตํ ทสวิธํ รตนํ.
‘‘มุตฺตา มณิ เวฬุริโย จ สงฺโข,
สิลา ปวาฬํ รชตฺจ เหมํ;
โลหิตกฺจ มสารคลฺลํ,
ทเสเต ธีโร รตนานิ ชฺา’’ติ. –
หิ วุตฺตํ. สตฺตวิธํ ธฺนฺติ สาลิ วีหิ ยโว กงฺคุ กุทฺรูสํ วรโก โคธุโมติ อิมํ สตฺตวิธํ ธฺํ. อาวุธภณฺฑาทินฺติ อาทิ-สทฺเทน ตุริยภณฺฑอิตฺถิรูปาทึ สงฺคณฺหาติ. อนามสิตพฺเพ วตฺถุมฺหิ ทุกฺกฏํ อนามาสทุกฺกฏํ. ทุรูปจิณฺณทุกฺกฏนฺติ ‘‘อกตฺตพฺพ’’นฺติ วาริตสฺส กตตฺตา ทุฏฺุ ¶ อุปจิณฺณํ จริตนฺติ ทุรูปจิณฺณํ, ตสฺมึ ทุกฺกฏํ ทุรูปจิณฺณทุกฺกฏํ. วินเย ปฺตฺตํ อวเสสํ ทุกฺกฏํ วินยทุกฺกฏํ. เอกาทส สมนุภาสนา นาม ภิกฺขุปาติโมกฺเข จตฺตาโร ยาวตติยกา สงฺฆาทิเสสา อริฏฺสิกฺขาปทนฺติ ปฺจ, ภิกฺขุนีปาติโมกฺเข เอกํ ยาวตติยกปาราชิกํ จตฺตาโร สงฺฆาทิเสสา จณฺฑกาฬีสิกฺขาปทนฺติ ฉ.
สหปโยคโต ปฏฺาย เจตฺถ ปุริมปุริมา อาปตฺติโย ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ อาห อถ ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวาติอาทิ. ‘‘ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา ปุน ขณนฺตสฺส ปุริมาปตฺติโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ วทนฺติ. ‘‘เฉทนปจฺจยา ทุกฺกฏํ เทเสตฺวา มุจฺจตี’’ติ ¶ วตฺวา ปุพฺพปโยเค อาปตฺตีนํ เทเสตพฺพตาย อวุตฺตตฺตา สหปโยเค ปตฺเต ปุพฺพปโยเค อาปตฺติโย ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ เวทิตพฺพํ.
อปรทฺธํ วิรทฺธํ ขลิตนฺติ สพฺพเมตํ ยฺจ ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถ วุตฺตสฺส ทุกฺกฏสฺส ปริยายวจนํ, ยํ มนุสฺโส กเรติอาทิ ปเนตฺถ โอปมฺมนิทสฺสนํ. สํโยคภาโวติ ทฺวิตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, เตน รสฺสตฺตสฺสาปิ นิมิตฺตํ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอกสฺส มูเลติ เอกสฺส สนฺติเก. สพฺพตฺถาปิ อามสเน ทุกฺกฏํ, ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยฺจ วิสุํ วิสุํ อามสนผนฺทาปนปโยคํ กโรนฺตสฺเสว โหติ, เอกปโยเคน คณฺหนฺตสฺส ปน อุทฺธาเร ปาราชิกเมว, น ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยานีติ วทนฺติ, เอกปโยเคน คณฺหนฺตสฺสาปิ อามสนผนฺทาปนานมฺปิ ลพฺภมานตฺตา ตํ น คเหตพฺพํ. น หิ สกฺกา อนามสิตฺวา อผนฺทาเปตฺวา จ กิฺจิ คเหตุํ. ‘‘เอกเมว เทเสตฺวา มุจฺจตี’’ติ ปํสุขณนาทิสมานปโยเคปิ ปุริมา อาปตฺติ อุตฺตรมุตฺตรํ อาปตฺตึ ปตฺวา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ สฺาย กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตํ, อิตรฏฺกถาสุ ปน ขณนปโยคเภเทหิ ปโยเค ปโยเค อาปนฺนา อาปตฺติโย อุตฺตรมุตฺตรํ ปตฺวา น ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ อฺมฺํ สทิสตฺตา วิยูหนํ ปตฺวา ตา สพฺพาปิ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ วิสทิสปโยคตฺตาติ อิมินา อธิปฺปาเยน ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิธานํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิมินา หิ อวหารกสฺส อาสนฺนํ โอริมนฺตํ ปรามสติ.
ตตฺเถวาติ มุขวฏฺฏิยเมว. พุนฺเทนาติ กุมฺภิยา เหฏฺิมตเลน. เอกฏฺาเน ิตาย กุมฺภิยา านา จาวนํ ฉหิ อากาเรหิ เวทิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. เอกฏฺาเนติ จ สงฺขลิกพทฺธภาเวน เอกสฺมึ ปติฏฺิโตกาสฏฺาเนติ ¶ อตฺโถ. ขาณุกํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ านา จาเวตีติ ขาณุกํ อตฺตโน ปติฏฺิตฏฺานโต ปฺจหิ อากาเรหิ านา จาเวติ. ฉินฺนมตฺเต ปาราชิกนฺติ อวสฺสํ เจ ปตติ, ฉินฺนมตฺเต ปาราชิกํ. ปริจฺเฉโทติ ปฺจมาสกาทิครุภาวปริจฺเฉโท. อปพฺยูหนฺโตติ ิตฏฺานโต อปนยนวเสน วิยูหนฺโต ราสึ กโรนฺโต. เอวํ กตฺวาติ ภาชนมุขวฏฺฏิยา กุมฺภิคเตน ภาชนคตสฺส เอกาพทฺธภาวํ วิโยเชตฺวาติ อตฺโถ. อุปฑฺฒกุมฺภียนฺติ อุปฑฺฒปุณฺณาย กุมฺภิยา. วินยธมฺมตาติ อธิกการณาลาเภ วินยวินิจฺฉยธมฺมตาติ อธิปฺปาโย. น เกวลฺเจตฺถ ครุกตาว, สุตฺตานุคมนมฺปิ อตฺถีติ ทสฺเสนฺโต อปิจาติอาทิมาห. กณฺเน ปน ปริจฺฉินฺนกาเลติ มุขคตํ อชฺโฌหฏกาเลติ อตฺโถ. อชฺโฌหรณเมว เหตฺถ ปริจฺฉินฺทนํ, น กณฺปิทหนํ. จิกฺกนนฺติ ถทฺธํ, พหลํ ฆนนฺติ อตฺโถ.
โยปิ เถยฺยจิตฺเตน ปรสฺส กุมฺภิยา ปาทคฺฆนกํ สปฺปึ วา เตลํ วา อวสฺสํ ปิวนกํ ยํ กิฺจิ ¶ ทุกูลสาฏกํ วา จมฺมขณฺฑาทีนํ วา อฺตรํ ปกฺขิปติ, หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกนฺติ เอตฺถ อวหาโร วีมํสิตพฺโพ. ยทิ จ ทุกูลาทีสุ สปฺปิเตลานํ ปวิสนํ สนฺธาย ปาราชิกํ ภเวยฺย, ตตฺถ ปวิฏฺเตลาทิโน กุมฺภิคเตน เอกาพทฺธตาย น ตาว อวหาโร ภาชนนฺตรํ ปเวเสตฺวา คหณกาเล วิย. ตถา หิ วุตฺตํ – ‘‘ภาชนํ ปน นิมุชฺชาเปตฺวา คณฺหนฺตสฺส ยาว เอกาพทฺธํ โหติ, ตาว รกฺขตี’’ติอาทิ. อถ เตลาทิวินาเสน ปาราชิกํ ภเวยฺย, ตทาปิ ติณชฺฌาปนาทีสุ วิย อวหาโร นตฺถิ, ทุกฺกเฏน สทฺธึ ภณฺฑเทยฺยเมว โหติ, ตถา จ ปาทคฺฆนกํ เตลาทึ ปีตํ ทุกูลาทึ อุทฺธรนฺตสฺสาปิ ปาราชิกํ น สิยา ตตฺถ ปวิฏฺสฺส เตลาทิโน วินฏฺฏฺเน คหณกฺขเณ อวิชฺชมานตฺตา, วิชฺชมานตฺเตน จ อุทฺธาเรเยว ปาราชิกํ วตฺตพฺพํ, น หตฺถโต มุตฺตมตฺเตติ. สพฺพอฏฺกถาสุ จ ทุกูลาทีนํ ปกฺขิปเน หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกสฺส วุตฺตตฺตา น ตํ ปฏิกฺขิปิตุํ สกฺกา. อฏฺกถาปฺปมาเณน ปเนตํ คเหตพฺพํ, ยุตฺติ ปเนตฺถ ปณฺฑิเตหิ ปุพฺพาปรํ สํสนฺทิตฺวา อุทฺธาเรตพฺพา.
ปลิพุชฺฌิสฺสตีติ นิวาเรสฺสติ. วุตฺตนเยน ปาราชิกนฺติ หตฺถโต มุตฺตมตฺเตเยว ปาราชิกํ. เนว อวหาโร, น คีวาติ อตฺตโน ภาชนตฺตา ¶ วุตฺตํ, อนาปตฺติมตฺตเมว วุตฺตํ, น ปน เอวํ วิจาริตนฺติ อธิปฺปาโย. พหิคตํ นาม โหตีติ ตโต ปฏฺาย เตลสฺส อฏฺานโต อโธมุขภาวโต จ พหิคตํ นาม โหติ. อนฺโต ปฏฺาย ฉิทฺเท กริยมาเน เตลสฺส นิกฺขมิตฺวา คตคตฏฺานํ ภาชนสงฺขฺยเมว คจฺฉตีติ อาห ‘‘พาหิรนฺตโต ปาทคฺฆนเก คฬิเต ปาราชิก’’นฺติ. ยถา ตถา วา กตสฺสาติ พาหิรนฺตโต วา อพฺภนฺตรนฺตโต วา ปฏฺาย กตสฺส. มชฺเฌ เปตฺวา กตฉิทฺเทติ มชฺเฌ โถกํ กปาลํ เปตฺวา ปจฺฉา ตํ ฉินฺทนฺเตน กตฉิทฺเท.
ปตฺถีนสฺส ขาทนํ อิตรสฺส ปานฺจ สปฺปิอาทีนํ ปริโภโคติ อาห ‘‘อขาทิตพฺพํ วา อปาตพฺพํ วา กโรตี’’ติ. กสฺมา ปเนตฺถ ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘านาจาวนสฺส นตฺถิตาย ทุกฺกฏ’’นฺติ. ปุริมทฺวยนฺติ เภทนํ ฉฑฺฑนฺจ. กุมฺภิชชฺชรกรเณนาติ ปุณฺณกุมฺภิยา ชชฺชรกรเณน. มาติกาอุชุกรเณนาติ อุทกปุณฺณาย มาติกาย อุชุกรเณน. เอกลกฺขณนฺติ เภทนํ กุมฺภิยา ชชฺชรกรเณน, ฉฑฺฑนํ มาติกาย อุชุกรเณน จ สทฺธึ เอกสภาวํ. ปจฺฉิมํ ปน ทฺวยนฺติ ฌาปนํ อปริโภคกรณฺจ. เอตฺถ เอวํ วินิจฺฉยํ วทนฺตีติ เอตสฺมึ มหาอฏฺกถายํ วุตฺเต อตฺเถ เอเก อาจริยา เอวํ วินิจฺฉยํ วทนฺติ. ปจฺฉิมทฺวยํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เอตฺถ ปุริมปททฺวเย วินิจฺฉโย เหฏฺา วุตฺตานุสาเรน สกฺกา วิฺาตุนฺติ ตตฺถ กิฺจิ อวตฺวา ปจฺฉิมปททฺวยํ สนฺธาย ‘‘านาจาวนสฺส นตฺถิตาย ทุกฺกฏ’’นฺติ อิทํ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย ¶ . เถยฺยจิตฺเตนาติ อตฺตโน วา ปรสฺส วา กาตุกามตาวเสน อุปฺปนฺนเถยฺยจิตฺเตน. วินาเสตุกามตายาติ หตฺถปาทาทีนิ ฉินฺทนฺโต วิย เกวลํ วินาเสตุกามตาย. วุตฺตนเยน ภินฺทนฺตสฺส วา ฉฑฺเฑนฺตสฺส วาติ มุคฺคเรน โปเถตฺวา ภินฺทนฺตสฺส วา อุทกํ วา วาลิกํ วา อากิริตฺวา อุตฺตราเปนฺตสฺส วาติ อตฺโถ. อยุตฺตนฺติ เจติ ปาฬิยํ ปุริมทฺวเยปิ ทุกฺกฏสฺเสว วุตฺตตฺตา ‘‘ปุริมทฺวเย ปาราชิก’’นฺติ อิทํ อยุตฺตนฺติ ยทิ ตุมฺหากํ สิยาติ อตฺโถ. นาติ อยุตฺตภาวํ นิเสเธตฺวา ตตฺถ การณมาห ‘‘อฺถา คเหตพฺพตฺถโต’’ติ.
เอวเมเก วทนฺตีติ เหฏฺา วุตฺตสฺส อตฺถนยสฺส อตฺตนา อนภิมตภาวํ ทสฺเสตฺวา สยํ อฺถาปิ ปาฬึ อฏฺกถฺจ สํสนฺทิตฺวา อตฺถํ ทสฺเสตุกาโม ¶ อยํ ปเนตฺถ สาโรติอาทิมาห. อจาเวตุกาโมวาติ เถยฺยจิตฺเตน านา อจาเวตุกาโมว. อฉฑฺเฑตุกาโมเยวาติ เอตฺถาปิ เถยฺยจิตฺเตนาติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. อิทฺหิ เถยฺยจิตฺตปกฺขํ สนฺธาย วุตฺตํ นาเสตุกามตาปกฺขสฺส วกฺขมานตฺตา. เตเนวาห นาเสตุกามตาปกฺเข ปนาติอาทิ. อิตรถาปิ ยุชฺชตีติ เถยฺยจิตฺตาภาวา านา จาเวตุกามสฺสาปิ ทุกฺกฏํ ยุชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ.
ภูมฏฺกถาวณฺณนานโย นิฏฺิโต.
อากาสฏฺกถาวณฺณนา
๙๖. อากาสฏฺกถายํ อนฺโตวตฺถุมฺหีติ ปริกฺขิตฺตสฺส วตฺถุสฺส อนฺโต. อนฺโตคาเมติ ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อนฺโต. อปริกฺขิตฺเต ปน วตฺถุมฺหิ คาเม วา ิตฏฺานเมว านํ. อฏวิมุขํ กโรติ…เป… รกฺขตีติ เตน ปโยเคน ตสฺส อิจฺฉิตฏฺานํ อาคตตฺตา รกฺขติ. คามโต นิกฺขนฺตสฺสาติ ปริกฺขิตฺตคามโต นิกฺขนฺตสฺส. กปิฺชโร นาม อฺมฺํ ยุชฺฌาปนตฺถาย พาลชเนหิ โปสาวนิยปกฺขิชาติ.
เวหาสฏฺกถาวณฺณนา
๙๗. เวหาสฏฺกถายํ ฉินฺนมตฺเต มุตฺตมตฺเตติ ยถา ฉินฺนํ มุตฺตฺจ ปกติฏฺาเน น ติฏฺติ, ตถา เฉทนํ โมจนฺจ สนฺธาย วุตฺตํ.
อุทกฏฺกถาวณฺณนา
๙๘. อุทกฏฺกถายํ ¶ สนฺทมานอุทเก นิกฺขิตฺตํ น ติฏฺตีติ อาห ‘‘อสนฺทนเก อุทเก’’ติ. อนาปตฺตีติ หตฺถวารปทวาเรสุ ทุกฺกฏาปตฺติยา อภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. กฑฺฒตีติ เหฏฺโต โอสาเรติ. สกลมุทกนฺติ ทณฺเฑน ผุฏฺโกาสคตํ สกลมุทกํ. น อุทกํ านนฺติ อตฺตนา กตฏฺานสฺส อฏฺานตฺตา. ปทุมินิยนฺติ ปทุมคจฺเฉ. กลาปพนฺธนฺติ หตฺถกวเสน ขุทฺทกํ กตฺวา พทฺธํ กลาปพทฺธํ. ภารพทฺธํ นาม สีสภาราทิวเสน พทฺธํ. มุฬาลนฺติ กนฺทํ. ปตฺตํ วา ปุปฺผํ วาติ อิทํ กทฺทมสฺส อนฺโต ¶ ปวิสิตฺวา ิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. นิทฺธมนตุมฺพนฺติ วาปิยา อุทกสฺส นิกฺขมนนาฬํ. อุทกวาหกนฺติ มหามาติกํ. อวหาเรน โส น กาเรตพฺโพติ อิมินา ปาณํ ชีวิตา โวโรปเน อาปตฺติยา สพฺพตฺถ น มุจฺจตีติ ทีเปติ. มาติกํ อาโรเปตฺวาติ ขุทฺทกมาติกํ อาโรเปตฺวา. มริตฺวา…เป… ติฏฺนฺตีติ เอตฺถ มตมจฺฉานํเยว เตสํ สนฺตกตฺตา อมเต คณฺหนฺตสฺส นตฺถิ อวหาโร.
นาวฏฺกถาวณฺณนา
๙๙. นาวฏฺกถายํ ถุลฺลจฺจยมฺปิ ปาราชิกมฺปิ โหตีติ เอตฺถ ปมํ านา อจาเวตฺวา มุตฺเต ถุลฺลจฺจยํ, ปมํ ปน านา จาเวตฺวา มุตฺเต ปาราชิกนฺติ เวทิตพฺพํ. ปาเส พทฺธสูกโร วิยาติอาทินา วุตฺตํ สนฺธายาห ‘‘ตตฺถ ยุตฺติ ปุพฺเพ วุตฺตาเอวา’’ติ. วิปนฺนฏฺนาวาติ วิสมวาเตหิ เทสนฺตรํ ปลาตา, ภิชฺชิตฺวา วา วินาสํ ปตฺวา อุทเก นิมุชฺชิตฺวา เหฏฺา ภูมิตลํ อปฺปตฺวา สามิเกหิ จ อปริจฺจตฺตาลยา วุจฺจติ. พลวา จ วาโต อาคมฺมาติ อิมินา อสติ วาเต อยํ ปโยโค กโตติ ทสฺเสติ. ปุคฺคลสฺส นตฺถิ อวหาโรติ สุกฺขมาติกายํ อุชุกรณนเยน วุตฺตํ. ตํ อตฺตโน ปาเทน อนกฺกมิตฺวา หตฺเถน จ อนุกฺขิปิตฺวา อฺสฺมึ ทณฺฑาทีสุ พนฺธิตฺวา ปิเต ยุชฺชติ, อตฺตโน ปาเทน อกฺกมิตฺวา หตฺเถน จ อุกฺขิปิตฺวา ิตสฺส ปน พลววาเตน ฉตฺตจีวราทีสุ ปหเฏสุ ปกตึ วิชหิตฺวา ทฬฺหตรํ อกฺกมนคหณาทิปโยโค อภินโว กาตพฺโพ สิยา. อิตรถา ฉตฺตจีวราทีนิ วา วิคจฺฉนฺติ, อวหารโก วา สยํ ปติสฺสติ, นาวา จ ตทา น คมิสฺสติ. ตสฺมา อีทิเส อภินวปฺปโยเค สติ อวหาเรน ภวิตพฺพํ. สุกฺขมาติกายํ อุชุกตาย อุทกาคมนกาเล กาตพฺพกิจฺจํ นตฺถีติ ตํ อิธ นิทสฺสนํ น โหติ. ทาสํ ปน ปกติยา ปลายนฺตํ ‘‘สีฆํ ยาหี’’ติ วตฺวา ปกติคมนโต ตุริตคมนุปฺปาทนาทินา อิธ นิทสฺสเนน ภวิตพฺพนฺติ อมฺหากํ ขนฺติ ¶ , วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. วาเต อาคเตปิ ยตฺถ อติลหุกตฺตา นาวาย กฺจิ ปโยคํ อกตฺวา ปกติยา อวหารโก ติฏฺติ, ตตฺถิทํ อฏฺกถายํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
ยานฏฺกถาวณฺณนา
๑๐๐. ยานฏฺกถายํ ¶ อุโภสุ ปสฺเสสูติ จตุนฺนํ ถมฺภานํ อุปริ จตุรสฺสํ ทารุสงฺฆาฏํ อาโรเปตฺวา ตสฺส วามทกฺขิณปสฺเสสุ อุโภสุ วาตาตปาทิปริสฺสยวิโนทนตฺถํ ครุฬปกฺขิโน อุโภ ปกฺขา วิย กตา สนฺทมานิกา. ทุกยุตฺตสฺสาติ ทฺวีหิ โคเณหิ ยุตฺตสฺส. อยุตฺตกนฺติ โคเณหิ อยุตฺตํ. กปฺปกตาติ ทฺวินฺนํ สิขานํ สนฺธิฏฺาเน โคสิงฺคานิ วิย ทฺเว โกฏิโย เปตฺวา อุปตฺถมฺภนี กปฺปกตา นาม, สา ทฺวีหิปิ โกฏีหิ ภูมิยํ ปติฏฺาติ, เตนาห ‘‘ฉ านานี’’ติ. ตีณิ วา จตฺตาริ วา านานีติ อกปฺปกตาย อุปตฺถมฺภนิยา จ ทฺวินฺนํ จกฺกานฺจ วเสน ตีณิ านานิ, กปฺปกตาย วเสน จตฺตาริ านานิ, ตถา ปถวิยํ ปิตสฺส ตีณิ านานีติ สมฺพนฺโธ. อกฺขสีเสหีติ อกฺขทารุโน ทฺวีหิ โกฏีหิ. อกฺขุทฺธีหีติ อกฺขทารุนา สมฺปฏิจฺฉกา เหฏฺิมภาเค กปฺปกตา ทฺเว ทารุขณฺฑา อกฺขุทฺธิโย นาม, ตาสํ กปฺปกตานํ ทฺวินฺนํ กปฺปสีสานิ จตฺตาริ อิธ ‘‘อกฺขุทฺธิโย’’ติ วุจฺจนฺติ, เตนาห ‘‘จตูหิ จ อกฺขุทฺธีหี’’ติ. ตาหิ ปติฏฺิตาหิ ปติฏฺิตฏฺานานิ จตฺตาริ ธุเรน ปติฏฺิตฏฺานํ เอกนฺติ ปฺจ านานิ โหนฺติ. อุทฺธิโยว ‘‘อุทฺธิขาณุกา’’ติ วุตฺตา, อุทฺธิขาณุกานํ อภาเว อกฺขสีสานํ ปติฏฺาโนกาสํ ทสฺเสนฺโต อาห สมเมว พาหํ กตฺวาติอาทิ. ตตฺถ สมเมวาติ อุทฺธิโย เหฏฺา อโนลมฺเพตฺวา พาหุโน เหฏฺิมภาคํ สมํ กตฺวา ทฺวินฺนํ พาหุทารูนํ มชฺเฌ อกฺขสีสปฺปมาเณน ฉิทฺทํ กตฺวา ตตฺถ อกฺขสีสานิ ปเวสิตานิ โหนฺติ, เตน พาหานํ เหฏฺาภาคํ สพฺพํ ภูมึ ผุสิตฺวา ติฏฺติ, เตนาห ‘‘สพฺพํ ปถวึ ผุสิตฺวา ติฏฺตี’’ติ. เสสํ นาวายํ วุตฺตสทิสนฺติ อิมินา ยทิ ปน ตํ เอวํ คจฺฉนฺตํ ปกติคมนํ ปจฺฉินฺทิตฺวา อฺํ ทิสาภาคํ เนติ, ปาราชิกํ. สยเมว ยํ กิฺจิ านํ สมฺปตฺตํ านา อจาเลนฺโตว วิกฺกิณิตฺวา คจฺฉติ, เนวตฺถิ อวหาโร, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหตีติ อิมํ นยํ อติทิสติ.
ภารฏฺกถาวณฺณนา
๑๐๑. ภารฏฺกถายํ ภารฏฺนฺติ มาติกาปทสฺส ภาโร นามาติ อิทํ อตฺถทสฺสนนฺติ อาห ‘‘ภาโรเยว ภารฏฺ’’นฺติ. ปุริมคเลติ คลสฺส ปุริมภาเค. คลวาฏโกติ คีวาย อุปริมคลวาฏโก. อุรปริจฺเฉทมชฺเฌติ ¶ อุรปริยนฺตสฺส มชฺเฌ. สามิเกหิ อนาณตฺโตติ อิทํ ยทิ ¶ สามิเกหิ ‘‘อิมํ ภารํ เนตฺวา อสุกฏฺาเน เทหี’’ติ อาณตฺโต ภเวยฺย, ตทา เตน คหิตภณฺฑํ อุปนิกฺขิตฺตํ สิยา, ตฺจ เถยฺยจิตฺเตน สีสาทิโต โอโรเปนฺตสฺสาปิ อวหาโร น สิยา, สามิกานํ ปน ธุรนิกฺเขเป เอว สิยาติ ตโต อุปนิกฺขิตฺตภณฺฑภาวโต วิโยเชตุํ วุตฺตํ, เตเนว วกฺขติ ‘‘เตหิ ปน อนาณตฺตตฺตา ปาราชิก’’นฺติ. ฆํสนฺโตติ สีสโต อนุกฺขิปนฺโต, ยทิ อุกฺขิเปยฺย, อุกฺขิตฺตมตฺเต ปาราชิกํ, เตนาห สีสโต เกสคฺคมตฺตมฺปีติอาทิ. โย จายนฺติ โย อยํ วินิจฺฉโย.
อารามฏฺกถาวณฺณนา
๑๐๒. อารามฏฺกถายํ อารามํ อภิยฺุชตีติ อิทํ อภิโยคกรณํ ปเรสํ ภูมฏฺภณฺฑาทีสุปิ กาตุํ วฏฺฏติเยว. อารามาทิถาวเรสุ ปน เยภุยฺเยน อภิโยควเสเนว คหณสมฺภวโต เอตฺเถว ปาฬิยํ อภิโยโค วุตฺโต, อิติ อิมินา นเยน สพฺพตฺถาปิ สกฺกา าตุนฺติ คเหตพฺพํ. อทินฺนาทานสฺส ปโยคตฺตาติ สหปโยคมาห. วตฺถุมฺหิเยว กตปโยคตฺตา สหปโยควเสน เหตํ ทุกฺกฏํ. สยมฺปีติ อภิยฺุชโกปิ. ‘‘กึ กโรมิ กึ กโรมี’’ติ เอวํ กิงฺการเมว ปฏิสฺสุณนฺโต วิย จรตีติ กิงฺการปฏิสฺสาวี, ตสฺส ภาโว กิงฺการปฏิสฺสาวิภาโว, ตสฺมึ, อตฺตโน วสวตฺติภาเวติ วุตฺตํ โหติ. อุกฺโกจนฺติ ลฺชํ. สพฺเพสํ ปาราชิกนฺติ กูฏวินิจฺฉยิกาทีนํ. อยํ วตฺถุสามีติอาทิกสฺส อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขปกรณเหตุโน ปโยคสฺส กรณกฺขเณว ปาราชิกํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. สเจ ปน สามิกสฺส วิมติ จ ธุรนิกฺเขโป จ กเมน อุปฺปชฺชนฺติ, ปโยคสมุฏฺาปกจิตฺตกฺขเณ ปาราชิกเมว โหติ, น ถุลฺลจฺจยํ. ยทิ วิมติเยว อุปฺปชฺชติ, ตทา ถุลฺลจฺจยเมวาติ เวทิตพฺพํ, อยํ นโย สพฺพตฺถ ยถานุรูปํ คเหตพฺโพ. ธุรนิกฺเขปวเสเนว ปราชโยติ สามิโก ‘‘อหํ น มุจฺจามี’’ติ ธุรํ อนิกฺขิปนฺโต อฏฺโฏ ปราชิโต นาม น โหตีติ ทสฺเสติ.
วิหารฏฺกถาวณฺณนา
๑๐๓. วิหารฏฺกถายํ ¶ วิหารนฺติ อุปจารสีมาสงฺขาตํ สกลํ วิหารํ. ปริเวณนฺติ ตสฺส วิหารสฺส อพฺภนฺตเร วิสุํ วิสุํ ปาการาทิปริจฺฉินฺนฏฺานํ. อาวาสนฺติ เอกํ อาวสถมตฺตํ. คณสนฺตเก ปริจฺฉินฺนสามิกตฺตา สกฺกา ธุรํ นิกฺขิปาเปตุนฺติ อาห ‘‘ทีฆภาณกาทิเภทสฺส ปน คณสฺสา’’ติ. อิธาปิ สเจ เอโกปิ ธุรํ น นิกฺขิปติ, รกฺขติเยว. เอส นโย พหูนํ สนฺตเก สพฺพตฺถ.
เขตฺตฏฺกถาวณฺณนา
๑๐๔. เขตฺตฏฺกถายํ ¶ นิรุมฺภิตฺวา วาติอาทีสุ คณฺหนฺตสฺสาติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ, ตตฺถ นิรุมฺภิตฺวา คหณํ นาม วีหิสีสํ อจฺฉินฺทิตฺวา ยถาิตเมว หตฺเถน คเหตฺวา อากฑฺฒิตฺวา พีชมตฺตสฺเสว คหณํ. เอกเมกนฺติ เอกํ วีหิสีสํ. ยสฺมึ พีเช วาติอาทิ นิรุมฺภิตฺวา คหณาทีสุ ยถากฺกมํ โยเชตพฺพํ. ‘‘ตสฺมึ พนฺธนา โมจิตมตฺเต’’ติ วจนโต ตสฺมึ พีชาทิมฺหิ พนฺธนา มุตฺเต สติ ตโต อนปนีเตปิ านนฺตรสฺส อภาวา ปาราชิกเมว. ยสฺส ปน สีสาทิกสฺส สนฺตราทินา สห สํสิพฺพนํ วา เอกาพทฺธตา วา โหติ, ตสฺส พนฺธนา โมจิเต ถุลฺลจฺจยํ, อิตรฏฺานโต โมจิเต ปาราชิกนฺติ คเหตพฺพํ, เตนาห วีหินาฬนฺติอาทิ. สภุสนฺติ ปลาลสหิตํ. ขีเลนาติ ขาณุเกน. เอตฺถ จ ขีลสงฺกมนาทีสุ สหปโยโค ธุรนิกฺเขโป จาติ อุภยํ สมฺภวติ. ขีลสงฺกมนาทิ เอตฺถ สหปโยโค. ตสฺมิฺจ กเต ยทิ สามิกา ธุรํ น นิกฺขิปนฺติ ปุน คณฺหิตุกามาว โหนฺติ, น ตาว อวหาโร, ‘‘ขีลํ สงฺกาเมตฺวา เขตฺตาทึ อสุโก ราชวลฺลโภ ภิกฺขุ คณฺหิตุกาโม’’ติ ตฺวา ตสฺส พลํ กกฺขฬาทิภาวฺจ นิสฺสาย ขีลสงฺกมนาทิกิริยานิฏฺานโต ปมเมว สามิกา ธุรํ นิกฺขิปนฺติ, น อวหาโร เอตสฺส ปโยคนิฏฺานโต ปุเรตรเมว ธุรสฺส นิกฺขิตฺตตฺตา. ยทา ปน ขีลสงฺกมนาทิปโยเคเนว ธุรนิกฺเขโป โหติ, ตทาเยว อวหาโร, เตเนเวตฺถ ‘‘ตฺจ โข สามิกานํ ธุรนิกฺเขเปนา’’ติ วุตฺตํ. ขีลาทีนํ สงฺกมิตภาวํ อชานิตฺวา สามิกานํ สมฺปฏิจฺฉนมฺเปตฺถ ธุรนิกฺเขโปติ เวทิตพฺโพ. เอวํ สพฺพตฺถาติ ยถาวุตฺตมตฺถํ รชฺชุสงฺกมนาทีสุปิ อติทิสติ. ยฏฺินฺติ มานทณฺฑํ. เอกสฺมึ อนาคเต ถุลฺลจฺจยํ, ตสฺมึ อาคเต ปาราชิกนฺติ ¶ สเจ ทารูนิ นิขณิตฺวา ตตฺตเกเนว คณฺหิตุกาโม โหติ, อวสาเน ทารุมฺหิ ปาราชิกํ. สเจ ตตฺถ กณฺฏกสาขาทีหิ ปาทานํ อนฺตรํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา กสฺสจิ อปฺปเวสารหํ กตฺวา คเหตุกาโม โหติ, อวสานสาขาย ปาราชิกํ, เตนาห ‘‘สาขาปริวาเรเนว อตฺตโน กาตุํ สกฺโกตี’’ติ, ทารูนิ จ นิขณิตฺวา สาขาปริวารฺจ กตฺวา เอว อตฺตโน สนฺตกํ กาตุํ สกฺโกตีติ อตฺโถ. เขตฺตมริยาทนฺติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘เกทารปาฬิ’’นฺติ วุตฺตํ. อิทฺจ ขีลสงฺกมนาทินา คหณํ อารามาทีสุปิ ลพฺภเตว.
วตฺถุฏฺกถาวณฺณนา
๑๐๕. วตฺถุฏฺกถายํ ติณฺณํ ปาการานนฺติ อิฏฺกสิลาทารูนํ วเสน ติณฺณํ ปาการานํ.
๑๐๖. คามฏฺกถายํ ¶ ‘‘คาโม นามา’’ติ ปาฬิยํ น วุตฺตํ สพฺพโส คามลกฺขณสฺส ปุพฺเพ วุตฺตตฺตา.
อรฺฏฺกถาวณฺณนา
๑๐๗. อรฺฏฺกถายํ วินิวิชฺฌิตฺวาติ อุชุกเมว วินิวิชฺฌิตฺวา. ลกฺขณจฺฉินฺนสฺสาติ อรฺสามิกานํ หตฺถโต กิณิตฺวา คณฺหนฺเตหิ กตอกฺขราทิสฺาณสฺส. ฉลฺลิยา ปริโยนทฺธนฺติ อิมินา สามิกานํ นิราเปกฺขตาย จิรฉฑฺฑิตภาวํ ทีเปติ, เตนาห ‘‘คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ยทิ สามิกานํ สาเปกฺขตา อตฺถิ, น วฏฺฏติ. ตานิ กตานิ อชฺฌาวุตฺถานิ จ โหนฺตีติ ตานิ เคหาทีนิ กตานิ ปรินิฏฺิตานิ มนุสฺเสหิ จ อชฺฌาวุตฺถานิ จ โหนฺติ. ทารูนีติ เคหาทีนํ กตตฺตา อวสิฏฺทารูนิ. คเหตุํ วฏฺฏตีติ สามิกานํ อนาลยตฺตา วุตฺตํ, เต จ ยทิ คหณกาเล ทิสฺวา สาลยา หุตฺวา วาเรนฺติ, คเหตุํ น วฏฺฏติเยว. ‘‘เทหี’’ติ วุตฺเต ทาตพฺพเมวาติ ‘‘เทหี’’ติ วุตฺเต ‘‘ทสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ‘‘เทหี’’ติ อวุตฺเต อทตฺวา คมเน อาปตฺติ นตฺถิ. ปจฺฉาปิ เตหิ โจทิเต ทาตพฺพเมว.
อทิสฺวา คจฺฉติ, ภณฺฑเทยฺยนฺติ สุทฺธจิตฺเตน คตสฺส ภณฺฑเทยฺยํ. อารกฺขฏฺานมฺปิ สุทฺธจิตฺเตน อติกฺกมิตฺวา เถยฺยจิตฺเต อุปฺปนฺเนปิ อวหาโร นตฺถิ ¶ อารกฺขฏฺานสฺส อติกฺกนฺตตฺตา. เกจิ ปน ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ นีตานมฺปิ ทารูนํ อรฺสามิกานฺเว สนฺตกตฺตา ปุน เถยฺยจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา คจฺฉติ, ปาราชิกเมวา’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ ‘‘อารกฺขฏฺานํ ปตฺวา…เป… อสฺสติยา อติกฺกมตี’’ติ, สหสา ตํ านํ อติกฺกมตีติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๐๗) จ อารกฺขฏฺานาติกฺกเมเยว อาปตฺติยา วุจฺจมานตฺตา, อารกฺขฏฺานาติกฺกมเมว สนฺธาย ‘‘อิทํ ปน เถยฺยจิตฺเตน ปริหรนฺตสฺส อากาเสน คจฺฉโตปิ ปาราชิกเมวา’’ติ วุตฺตํ. ยฺจ ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ นีตานมฺปิ ทารูนํ อรฺสามิกานฺเว สนฺตกตฺตา’’ติ การณํ วุตฺตํ, ตมฺปิ อารกฺขฏฺานโต พหิ ปาราชิกาปชฺชนสฺส การณํ น โหติ ภณฺฑเทยฺยภาวสฺเสว การณตฺตา. เตสํ สนฺตกตฺเตเนว หิ พหิ กตสฺสาปิ ภณฺฑเทยฺยํ ชาตํ, อิตรถา จ ภณฺฑเทยฺยมฺปิ น สิยา สุงฺกฆาตาติกฺกเม วิย. อทฺธิเกหิ ทินฺนเมว สุงฺกิกานํ สนฺตกํ โหติ, นาทินฺนํ, เตน ตํ านํ ยโต กุโตจิ ปจฺจยโต สุทฺธจิตฺเตน อติกฺกนฺตสฺส ภณฺฑเทยฺยมฺปิ น โหติ. อิธ ปน อรฺสามิกานํ สนฺตกตฺตา สพฺพตฺถาปิ ภณฺฑเทยฺยเมว โหติ, เตเนเวตํ อรฺเ อารกฺขฏฺานํ สุงฺกฆาตโตปิ ครุตรํ ¶ ชาตํ. ยทิ หิ อารกฺขฏฺานโต พหิปิ เถยฺยจิตฺเต สติ อวหาโร ภเวยฺย, อารกฺขฏฺานํ ปตฺวาติอาทินา านนิยโม นิรตฺถโก สิยา ยตฺถ กตฺถจิ เถยฺยจิตฺเต อุปฺปนฺเน ปาราชิกนฺติ วตฺตพฺพโต. ตสฺมา อารกฺขฏฺานโต พหิ เถยฺยจิตฺเตน คจฺฉนฺตสฺส อวหาโร น ภวติ เอวาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. อิทํ ปน เถยฺยจิตฺเตน ปริหรนฺตสฺสาติ ยสฺมึ ปเทเส อติกฺกนฺเต เตสํ อรฺํ อารกฺขฏฺานฺจ อติกฺกนฺโต นาม โหติ, ตํ ปเทสํ อากาเสนาปิ อติกฺกมนวเสน คจฺฉนฺตสฺสาปีติ อตฺโถ.
อุทกกถาวณฺณนา
๑๐๘. อุทกกถายํ มหากุจฺฉิกา อุทกจาฏิ อุทกมณิโก, ‘‘สเมขลา จาฏิ อุทกมณิโก’’ติปิ วทนฺติ. ตตฺถาติ เตสุ ภาชเนสุ. ภูตคาเมน สทฺธิมฺปีติ ปิ-สทฺเทน อกปฺปิยปถวิมฺปิ สงฺคณฺหาติ. ตฬากรกฺขณตฺถายาติ ‘‘มโหทกํ อาคนฺตฺวา ตฬากมริยาทํ มา ฉินฺที’’ติ ตฬากรกฺขณตฺถํ. นิพฺพหนอุทกนฺติ เอตฺถ ตฬากสฺส เอเกน อุนฺนเตน ปสฺเสน อธิกชลํ นิพฺพหติ นิคจฺฉติ เอเตนาติ ‘‘นิพฺพหน’’นฺติ อธิกชลนิกฺขมนมาติกา ¶ วุจฺจติ. ตตฺถ คจฺฉมานํ อุทกํ นิพฺพหนอุทกํ นาม. นิทฺธมนตุมฺพนฺติ สสฺสาทีนํ อตฺถาย อิฏฺกาทีหิ กตํ อุทกนิกฺขมนปนาฬิ. มริยาทํ ทุพฺพลํ กตฺวาติ เอตฺถ ทุพฺพลํ อกตฺวาปิ ยถาวุตฺตปฺปโยเค กเต มริยาทํ ฉินฺทิตฺวา นิกฺขนฺตอุทกคฺฆานุรูเปน อวหาเรน กตฺตพฺพเมว. ยตฺตกํ ตปฺปจฺจยา สสฺสํ อุปฺปชฺชตีติ พีชกสิกมฺมาทิพฺพยํ เปตฺวา ยํ อธิกลาภํ อุปฺปชฺชติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. น หิ เตหิ กาตพฺพํ วยกรณมฺปิ เอตสฺส ทาตพฺพํ. อิทฺจ ตรุณสสฺเส ชาเต อุทกํ วินาเสนฺตสฺส ยุชฺชติ, สสฺเส ปน สพฺพถา อกเตเยว อุทกํ วินาเสนฺเตน จ อุทกคฺฆเมว ทาตพฺพํ, น ตปฺปจฺจยา สกลํ สสฺสํ เตน วินาสิตภณฺฑสฺเสว ภณฺฑเทยฺยตฺตา, อิตรถา วาณิชฺชาทิอตฺถาย ปเรหิ ปิตภณฺฑํ อวหรนฺตสฺส ตทุภยมฺปิ คเหตฺวา ภณฺฑคฺฆํ กาตพฺพํ สิยา, ตฺจ น ยุตฺตนฺติ อมฺหากํ ขนฺติ. สามิกานํ ธุรนิกฺเขเปนาติ เอตฺถ เอกสฺส สนฺตเก ตฬาเก เขตฺเต จ ชาเต ตสฺเสว ธุรนิกฺเขเปน ปาราชิกํ, ยทิ ปน ตํ ตฬากํ สพฺพสาธารณํ, เขตฺตานิ ปาฏิปุคฺคลิกานิ, ตสฺส ตสฺส ปุคฺคลสฺเสว ธุรนิกฺเขเป อวหาโร, อถ เขตฺตานิปิ สพฺพสาธารณานิ, สพฺเพสํ ธุรนิกฺเขเปเยว ปาราชิกํ, นาสตีติ ทฏฺพฺพํ.
อนิคฺคเตติ อนิกฺขนฺเต, ตฬาเกเยว ิเตติ อตฺโถ. ปเรสํ มาติกามุขนฺติ ขุทฺทกมาติกามุขํ. อสมฺปตฺเตวาติ ตฬากโต นิกฺขมิตฺวา มหามาติกายํ เอว ิเต. อนิกฺขนฺเต พทฺธา สุพทฺธาติ ตฬากโต อนิกฺขนฺเต ภณฺฑเทยฺยมฺปิ น โหติ สพฺพสาธารณตฺตา อุทกสฺสาติ ¶ อธิปฺปาโย. นิกฺขนฺเต ปน ปาฏิปุคฺคลิกํ โหตีติ อาห ‘‘นิกฺขนฺเต พทฺธา ภณฺฑเทยฺย’’นฺติ. อิธ ปน ขุทฺทกมาติกายํ อปฺปวิฏฺตฺตา อวหาโร น ชาโต, ‘‘ตฬากโต อนิคฺคเต ปเรสํ มาติกามุขํ อสมฺปตฺเตวา’’ติ เหฏฺา วุตฺตสฺส วิกปฺปทฺวยสฺส ‘‘อนิกฺขนฺเต พทฺธา สุพทฺธา, นิกฺขนฺเต พทฺธา ภณฺฑเทยฺย’’นฺติ อิทํ ทฺวยํ ยถากฺกเมน โยชนตฺถํ วุตฺตํ. นตฺถิ อวหาโรติ เอตฺถ ‘‘อวหาโร นตฺถิ, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหตี’’ติ เกจิ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ. วตฺถุํ…เป… น สเมตีติ เอตฺถ ตฬากคตอุทกสฺส สพฺพสาธารณตฺตา ปรสนฺตกวตฺถุ น โหตีติ อธิปฺปาโย.
ทนฺตโปนกถาวณฺณนา
๑๐๙. ทนฺตกฏฺกถายํ ¶ ตโต ปฏฺาย อวหาโร นตฺถีติ ‘‘ยถาสุขํ ภิกฺขุสงฺโฆ ปริภฺุชตู’’ติ อภาเชตฺวาว ยาวทิจฺฉกํ คหณตฺถเมว ปิตตฺตา อรกฺขิตตฺตา สพฺพสาธารณตฺตา จ อฺํ สงฺฆิกํ วิย น โหตีติ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺตสฺสาปิ นตฺถิ อวหาโร. ขาทนฺตุ, ปุน สามเณรา อาหริสฺสนฺตีติ เกจิ เถรา วเทยฺยุนฺติ โยเชตพฺพํ.
วนปฺปติกถาวณฺณนา
๑๑๐. วนปฺปติกถายํ สนฺธาริตตฺตาติ ฉินฺนสฺส รุกฺขสฺส ปติตุํ อารทฺธสฺส สนฺธารณมตฺเตน วุตฺตํ, น ปน มริจวลฺลิอาทีหิ ปุพฺเพ เวเตฺวา ิตภาเวน. ตาทิเส หิ ฉินฺเนปิ อวหาโร นตฺถิ อรฺฏฺกถายํ เวิตวลฺลิยํ วิย. อุชุกเมว ติฏฺตีติ อิมินา สพฺพโส ฉินฺทนเมว วลฺลิอาทีหิ อสมฺพทฺธสฺส รุกฺขสฺส านาจาวนํ ปุพฺเพ วิย อากาสาทีสุ ผุฏฺสกลปเทสโต โมจนนฺติ อาเวณิกมิธ านาจาวนํ ทสฺเสติ. เกจิ ปน ‘‘รุกฺขภาเรน กิฺจิเทว ภสฺสิตฺวา ิตตฺตา โหติเยว านาจาวน’’นฺติ วทนฺติ, ตนฺน, รุกฺเขน ผุฏฺสฺส สกลสฺส อากาสปเทสสฺส ปฺจหิ ฉหิ วา อากาเรหิ อนติกฺกมิตตฺตา. วาตมุขํ โสเธตีติ ยถา วาโต อาคนฺตฺวา รุกฺขํ ปาเตติ, เอวํ วาตสฺส อาคมนมคฺคํ รุนฺธิตฺวา ิตานิ สาขาคุมฺพาทีนิ ฉินฺทิตฺวา อปเนนฺโต โสเธติ. มณฺฑูกกณฺฏกํ วาติ มณฺฑูกานํ นงฺคุฏฺเ อคฺคโกฏิยํ ิตกณฺฏกนฺติ วทนฺติ, เอเก ‘‘วิสมจฺฉกณฺฏก’’นฺติปิ วทนฺติ.
หรณกกถาวณฺณนา
๑๑๑. หรณกกถายํ ¶ หรณกนฺติ วตฺถุสามินา หริยมานํ. โส จ ปาทํ อคฺฆติ, ปาราชิกเมวาติ ‘‘อนฺตํ น คณฺหิสฺสามี’’ติ อสลฺลกฺขิตตฺตา สามฺโต ‘‘คณฺหิสฺสามิ เอต’’นฺติ สลฺลกฺขิตสฺเสว ปฏสฺส เอกเทสตาย ตมฺปิ คณฺหิตุกาโมวาติ ปาราชิกํ วุตฺตํ. สภณฺฑหารกนฺติ สหภณฺฑหารกํ, สการาเทสสฺส วิกปฺปตฺตา สห สทฺโทว ิโต, ภณฺฑหารเกน สห ตํ ภณฺฑนฺติ อตฺโถ. สาสงฺโกติ ‘‘ยทิ อุปสงฺกมิตฺวา ¶ ภณฺฑํ คณฺหิสฺสามิ, อาวุเธน มํ ปหเรยฺยา’’ติ ภเยน สฺชาตาสงฺโก. เอกมนฺตํ ปฏิกฺกมฺมาติ ภเยเนว อนุปคนฺตฺวา มคฺคโต สยํ ปฏิกฺกมฺม. สนฺตชฺเชตฺวาติ ผรุสวาจาย เจว อาวุธปริวตฺตนาทิกายวิกาเรน จ สนฺตชฺเชตฺวา. อนชฺฌาวุตฺถกนฺติ อปริคฺคหิตกํ. อาลเยน อนธิมุตฺตมฺปิ ภณฺฑํ อนชฺฌาวุตฺถกํ นาม โหตีติ อาห ‘‘อาหราเปนฺเต ทาตพฺพ’’นฺติ, อิมินา ปมํ ปริจฺจตฺตาลยานมฺปิ ยทิ ปจฺฉาปิ สกสฺา อุปฺปชฺชติ, เตสฺเว ตํ ภณฺฑํ โหติ, พลกฺกาเรนาปิ สกสฺาย ตสฺส คหเณ โทโส นตฺถิ, อททนฺตสฺเสว อวหาโรติ ทสฺเสติ. ยทิ ปน สามิโน ‘‘ปริจฺจตฺตํ มยา ปมํ, อิทานิ มม สนฺตกํ วา เอตํ, โน’’ติ อาสงฺกา โหติ, พลกฺกาเรน คเหตุํ น วฏฺฏติ สกสฺาพเลเนว ปุน คเหตพฺพภาวสฺส อาปนฺนตฺตา. ‘‘อเทนฺตสฺส ปาราชิก’’นฺติ วจนโต โจรสฺส สกสฺาย วิชฺชมานายปิ สามิเกสุ สาลเยสุ อทาตุํ น วฏฺฏตีติ ทีปิตํ โหติ. อฺเสูติ มหาปจฺจริยาทีสุ. วิจารณาเยว นตฺถีติ อิมินา ตตฺถาปิ ปฏิกฺเขปาภาวโต อยเมว อตฺโถติ ทสฺเสติ.
อุปนิธิกถาวณฺณนา
๑๑๒. อุปนิธิกถายํ สงฺโคปนตฺถาย อตฺตโน หตฺเถ นิกฺขิตฺตสฺส ภณฺฑสฺส คุตฺตฏฺาเน ปฏิสามนปฺปโยคํ วินา นาหํ คณฺหามีติอาทินา อฺสฺมึ ปโยเค อกเต รชฺชสงฺโขภาทิกาเล ‘‘น ทานิ ตสฺส ทสฺสามิ, น มยฺหํ ทานิ ทสฺสตี’’ติ อุโภหิปิ สกสกฏฺาเน นิสีทิตฺวา ธุรนิกฺเขเป กเตปิ อวหาโร นตฺถิ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘ปาราชิกเมว ปฏิสามนปฺปโยคสฺส กตตฺตา’’ติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ, น สารโต ปจฺเจตพฺพํ. ปฏิสามนกาเล หิสฺส เถยฺยจิตฺตํ นตฺถิ, ‘‘น ทานิ ตสฺส ทสฺสามี’’ติ เถยฺยจิตฺตุปฺปตฺติกฺขเณ ปน สามิโน ธุรนิกฺเขปจิตฺตุปฺปตฺติยา เหตุภูโต กายวจีปโยโค นตฺถิ, เยน โส อาปตฺตึ อาปชฺเชยฺย. น หิ อกิริยสมุฏฺานายํ อาปตฺตีติ. ทาเน สอุสฺสาโห, รกฺขติ ตาวาติ อวหารํ สนฺธาย อวุตฺตตฺตา นาหํ คณฺหามีติอาทินา มุสาวาทกรเณ ปาจิตฺติยเมว โหติ, น ทุกฺกฏํ ¶ เถยฺยจิตฺตาภาเวน สหปโยคสฺสาปิ อภาวโตติ คเหตพฺพํ. ยทิปิ มุเขน ทสฺสามีติ วทติ…เป… ปาราชิกนฺติ เอตฺถ กตรปโยเคน อาปตฺติ, น ตาว ปเมน ภณฺฑปฏิสามนปฺปโยเคน ตทา เถยฺยจิตฺตาภาวา, นาปิ ‘‘ทสฺสามี’’ติ ¶ กถนปฺปโยเคน ตทา เถยฺยจิตฺเต วิชฺชมาเนปิ ปโยคสฺส กปฺปิยตฺตาติ? วุจฺจเต – สามินา ‘‘เทหี’’ติ พหุโส ยาจิยมาโนปิ อทตฺวา เยน ปโยเคน อตฺตโน อทาตุกามตํ สามิกสฺส าเปติ, เยน จ โส ‘‘อทาตุกาโม อยํ วิกฺขิปตี’’ติ ตฺวา ธุรํ นิกฺขิปติ, เตเนว ปโยเคนสฺส อาปตฺติ. น เหตฺถ อุปนิกฺขิตฺตภณฺเฑ ปริยาเยน มุตฺติ อตฺถิ. อทาตุกามตาย หิ กทา เต ทินฺนํ, กตฺถ เต ทินฺนนฺติอาทิปริยายวจเนนาปิ สามิกสฺส ธุเร นิกฺขิปาปิเต อาปตฺติเยว. เตเนว อฏฺกถายํ วุตฺตํ – ‘‘กึ ตุมฺเห ภณถ…เป… เอวํ อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเปน ภิกฺขุโน ปาราชิก’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๑๑). ปรสนฺตกสฺส ปเรหิ คณฺหาปเน เอว ปริยายโต มุตฺติ, น สพฺพตฺถาติ คเหตพฺพํ. อตฺตโน หตฺเถ นิกฺขิตฺตตฺตาติ เอตฺถ อตฺตโน หตฺเถ สามินา ทินฺนตาย ภณฺฑาคาริกฏฺาเน ิตตฺตา จ านาจาวเนปิ นตฺถิ อวหาโร, เถยฺยจิตฺเตน ปน คหเณ ทุกฺกฏโต น มุจฺจตีติ เวทิตพฺพํ.
เอเสว นโยติ อุทฺธาเรเยว โจรสฺส ปาราชิกํ, กสฺมา? อฺเหิ สาธารณสฺส อภิฺาณสฺส วุตฺตตฺตา. อฺํ ตาทิสเมว คณฺหนฺเต ยุชฺชตีติ สฺาณโต โอกาสโต จ เตน สทิสเมว อฺํ คณฺหนฺเต ยุชฺชติ, โจเรน สลฺลกฺขิตปฺปเทสโต ตํ อปเนตฺวา เกหิจิ ตตฺถ ตาทิเส อฺสฺมึ ปตฺเต ปิเต ตํ คณฺหนฺเตเยว ยุชฺชตีติ อธิปฺปาโย, เตน โจเรน ทิวา สลฺลกฺขิตปตฺตํ อฺตฺถ อปเนตฺวา ตทฺเ ตาทิเส ปตฺเต ตตฺถ ปิเตปิ โจรสฺส ปจฺฉา รตฺติภาเค อุปฺปชฺชมานํ เถยฺยจิตฺตํ ทิวา สลฺลกฺขิตปฺปเทเส ปิตํ อฺํ ตาทิสํ ปตฺตเมว อาลมฺพิตฺวา อุปฺปชฺชตีติ ทสฺสิตํ โหติ. ปทวาเรนาติ เถเรน นีหริตฺวา ทินฺนํ ปตฺตํ คเหตฺวา คจฺฉโต โจรสฺส ปทวาเรน. อตาทิสเมว คณฺหนฺเต ยุชฺชตีติ อตาทิสสฺส เถเรน คหณกฺขเณ อวหาราภาวโต ปจฺฉา หตฺถปตฺตํ ‘‘ต’’นฺติ วา ‘‘อฺ’’นฺติ วา สฺาย ‘‘อิทํ คเหตฺวา คจฺฉามี’’ติ คมเน ปทวาเรเนว อวหาโร ยุชฺชตีติ อธิปฺปาโย.
ปาราชิกํ นตฺถีติ ปทวาเรปิ ปาราชิกํ นตฺถิ อุปนิธิภณฺเฑ วิยาติ คเหตพฺพํ. คามทฺวารนฺติ พหิคาเม วิหารสฺส ปติฏฺิตตฺตา คามปฺปเวสสฺส อารมฺภปฺปเทสทสฺสนวเสน วุตฺตํ, อนฺโตคามนฺติ อตฺโถ. ทฺวินฺนมฺปิ อุทฺธาเรเยว ¶ ปาราชิกนฺติ เถรสฺส อภณฺฑาคาริกตฺตา วุตฺตํ. ยทิ หิ โส ภณฺฑาคาริโก ภเวยฺย, สพฺพมฺปิ อุปนิกฺขิตฺตเมว สิยา, อุปนิกฺขิตฺตภณฺเฑ จ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหโตปิ น ตาว เถรสฺส อวหาโร โหติ, โจรสฺเสว อวหาโร. อุภินฺนมฺปิ ทุกฺกฏนฺติ ¶ เถรสฺส อตฺตโน สนฺตกตาย โจรสฺส สามิเกน ทินฺนตฺตา อวหาโร น ชาโต, อุภินฺนมฺปิ อสุทฺธจิตฺเตน คหิตตฺตา ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ.
อาณตฺติยา คหิตตฺตาติ ‘‘ปตฺตจีวรํ คณฺหา’’ติ เอวํ เถเรน กตอาณตฺติยา คหิตตฺตา. อฏวึ ปวิสติ, ปทวาเรน กาเรตพฺโพติ ‘‘ปตฺตจีวรํ คณฺห, อสุกํ นาม คามํ คนฺตฺวา ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติ เถเรน วิหารโต ปฏฺาย คามมคฺเคปิ สกเลปิ คาเม วิจรณสฺส นิยมิตตฺตา มคฺคโต โอกฺกมฺม คจฺฉนฺตสฺเสว ปทวาเรน อาปตฺติ วุตฺตา. วิหารสฺส หิ ปรภาเค อุปจารโต ปฏฺาย ยาว ตสฺส คามสฺส ปรโต อุปจาโร, ตาว สพฺพํ ทหรสฺส เถราณตฺติยา สฺจรณูปจาโรว โหติ, น ปน ตโต ปรํ. เตเนว ‘‘อุปจาราติกฺกเม ปาราชิกํ. คามูปจาราติกฺกเม ปาราชิก’’นฺติ จ วุตฺตํ. ปฏินิวตฺตเน จีวรโธวนาทิอตฺถาย เปสเนปิ เอเสว นโย. อฏฺตฺวา อนิสีทิตฺวาติ เอตฺถ วิหารํ ปวิสิตฺวา สีสาทีสุ ภารํ ภูมิยํ อนิกฺขิปิตฺวา ติฏฺนฺโต วา นิสีทนฺโต วา วิสฺสมิตฺวา เถยฺยจิตฺเต วูปสนฺเต ปุน เถยฺยจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา คจฺฉติ เจ, ปาทุทฺธาเรน กาเรตพฺโพ. สเจ ภูมิยํ นิกฺขิปิตฺวา ปุน ตํ คเหตฺวา คจฺฉติ, อุทฺธาเรน กาเรตพฺโพ. กสฺมา? อาณาปกสฺส อาณตฺติยา ยํ กตฺตพฺพํ, ตสฺส ตาวตา ปรินิฏฺิตตฺตา. ‘‘อสุกํ นาม คาม’’นฺติ อนิยเมตฺวา ‘‘อนฺโตคามํ คมิสฺสามา’’ติ อวิเสเสน วุตฺเต วิหารสามนฺตา ปุพฺเพ ปิณฺฑาย ปวิฏฺปุพฺพา สพฺเพ โคจรคามาปิ เขตฺตเมวาติ วทนฺติ. เสสนฺติ มคฺคุกฺกมนวิหาราภิมุขคมนาทิ สพ